Ca re e r fi l e
REAL
DESIGN W I LL
N E VER DIE ชนะชัย จรียะธนา เรื่อง รัชชา ภาพ สุทธิวัฒน์
0048
เกื อ บ 30 ปี ที่ โ ลดแล่ น ในแวดวงแฟชั่ น สิ ท ธิ์ - ชนะชั ย จรี ย ะธนา ฝากผลงานใน ฐานะดีไซเนอร์และคอสตูมสไตลิสต์ไว้ได้ อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่การอยู่เบื้องหลัง คอนเสิรต์ ดัง รายการประกวดร้องเพลงมีชอื่ และที่ ส� ำ คั ญ คื อ การเป็ น เจ้ า ของแบรนด์ เสื้อผ้า Time’s End ก่อนจะพัฒนามาเป็น FRI 27 NOV. ในปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าอาจจะมี ช่วงที่ต้องพลิกผันระหว่างจุดสูงสุดและจุด เกือบต�่ำสุดของชีวิตอยู่บ้าง แต่ด้วยใจรัก ในสายงานที่ท�ำอย่างแท้จริง ชื่อของเขาจึง ยังปรากฏในวงการ และเป็นทีย่ อมรับอย่าง กว้างขวางมาจวบจนทุกวันนี้ “จุดเริม่ ต้นการเป็นดีไซเนอร์ของผมเกิดขึน้ ตัง้ แต่ตอนยังเป็นนักศึกษาอยูท่ ศี่ ลิ ปากร พอดีมี การประกวดยังก์ดไี ซเนอร์ของนิตยสารเล่มหนึง่ ก็ลองส่งไปทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าแฟชั่นคืออะไร แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะได้หรอก แต่ปรากฏว่าได้ เข้ารอบ 1 ใน 10 จากนั้นก็เลยเข้าใกล้ทางสาย แฟชั่นมาเรื่อยๆ จนเรียนจบจึงได้ไปท�ำสไตลิ่ง เสื้อผ้าให้ศิลปินที่แกรมมี่ …แต่ทำ� ได้ 2 เดือนแล้วรูส้ กึ ว่าไม่ใช่ตวั เอง เท่าไร ที่ต้องตื่นมาตอกบัตร ท�ำงานเป็นตาราง เวลาเหมือนกันทุกวัน เลยตัดสินใจออกมาท�ำ อะไรที่อยากท�ำจริงๆ ดีกว่า ก็ออกมาเปิดร้าน ของตัวเองชื่อ Time’s End เป็นที่มาของการได้ ท�ำเสื้อผ้าจริงๆ จังๆ ซึ่งเริ่มจากไม่ได้มีอะไรมาก หรอก แค่รู้สึกว่าอยากท�ำ ก็ลงมือท�ำทันที ยังจ�ำ ได้ว่าสนุกสุดๆ เพราะตอนนั้นยังเด็ก ยังไฟแรง แล้วแบรนด์ก็ไปได้ดีด้วย ช่วงนั้นเหมือนกราฟ ชีวติ พุง่ ขึน้ ตลอด เราก็เลยมองไปข้างหน้าตลอด จนไม่ได้เอะใจหรือวางแผนเผื่อภาวะฉุกเฉินไว้ เลย ได้เงินมาก็เอาไปขยายธุรกิจ ซื้อออฟฟิศ หรือผ่อนรถเสียเกือบหมด …แต่ ต ่ อ มาก็ เ กิ ด ปั ญ หาเศรษฐกิ จ ฟอง สบู ่ แ ตก แล้ ว ไม่ น านก็ เ กิ ด วิ ก ฤตจากการที่ สยามเซ็นเตอร์อันเป็นที่ตั้งของร้านถูกไฟไหม้ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมืองซ�้ำ ตามมาอี ก บอกตามตรงว่ า ตอนนั้ น รู ้ สึ ก แย่ มาก เหมือนทุกอย่างดับสูญ มองไปทางไหนก็ รู้สึกเหนื่อย ท้อไปหมด จนเกือบจะเลิกท�ำแล้ว เหมือนกัน แต่โชคดีได้กลับไปท�ำงานที่แกรมมี่ครับ ท�ำให้ยังได้อยู่ในแวดวงการออกแบบ เสื้อผ้า ประกอบกับได้มีเวลาให้คิดทบทวน คิด หาทางเริ่มต้นใหม่ให้กับชีวิต” แล้วชนะชัยก็ได้เริ่มต้นใหม่จริงๆ หลังจาก ค้ นพบแรงบันดาลใจผ่า นนั กศึก ษารุ่น น้ องที่
เหมือนกระจกสะท้อนให้กับตัวเขาเอง จนเป็น ทีม่ าของแบรนด์เสือ้ ผ้าใหม่ทมี่ ชี อื่ ตรงกับวันเกิด ของชนะชัยว่า FRI 27 NOV. ซึง่ สือ่ นัยถึงการเริม่ ต้นอีกครัง้ พร้อมปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ทงั้ หมด ทว่า ในเรือ่ งของการดีไซน์นนั้ ความประณีตในทุกชิน้ งานจนเป็นซิกเนเจอร์ คือสิ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยน “ครั้งหนึ่งมีอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เชิญผมไปพูดแนะแนวให้นักศึกษา เป็นวิชา เกี่ยวกับว่าเรียนจบแล้วจะไปท� ำอะไร อยาก ไปท�ำห้องเสื้อไหน ให้เด็กทุกคนเลือกแล้วก็ไป ศึกษาแบรนด์นั้นๆ มา แน่นอน นักศึกษาหลาย คนก็เลือกแบรนด์ดงั ๆ ทีก่ �ำลังเป็นทีร่ จู้ กั และพอ มีการเลือกซ�ำ้ อาจารย์กเ็ สนอเด็กไปว่า ลองไปดู งานของพีส่ ทิ ธิไ์ หมล่ะ ซึง่ ผมยังจ�ำได้ดวี า่ เด็กคน นั้นได้ยินแล้วเขาท�ำหน้านิ่งมากๆ …ท�ำให้ผมรู้สึกว่าเจ็บปวดเหมือนกัน คิด ว่าคงหายไปจากวงการแฟชั่นแล้ว เลยกลับ มาถามตัวเองว่ายังรัก ยังรู้สึกว่านี่คืออาชีพที่ อยากท�ำอยู่หรือเปล่า ซึ่งก็ได้ค�ำตอบว่าใช่ แต่ ก็คิดว่าถ้าจะรีแบรนด์ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีก ครั้งคงยากมาก เพราะเหมือนคนอาจจะยังติด กับความเป็นเก่าๆ อยู่ เลยล้มซะ แล้วเริ่มต้น เดินนับหนึ่งใหม่เลย ท�ำคอนเซ็ปต์ใหม่ ขอพื้นที่ เปิดร้านใหม่ และคราวนีผ้ มก็มองเผือ่ ในบทบาท เจ้าของกิจการมากขึ้น เพราะโตขึ้น และเคยมี ประสบการณ์จากความผิดพลาดมาแล้ว …ตอนแรกผมเปิดเป็นแบรนด์ 27 Friday ก่อน เป็นเสื้อผ้าผู้หญิง พอไปได้ดี ประกอบกับ ได้พื้นที่ใหม่ที่สยามเซ็นเตอร์ เลยเปิดเพิ่มเป็น 27 November เป็นเสื้อผ้าผู้ชายขึ้นมา จากนั้น พอสยามเซ็นเตอร์มีการปรับปรุง ก็เลยจับทั้ง สองอย่างมารวมกัน กลายเป็น FRI 27 NOV. ครับ โดยคอนเซ็ปต์หลักของร้านจริงๆ แล้วไม่ ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหญิงหรือชาย จะโดดเด่นด้วย การเป็นงานฝีมือ คือเป็นเสื้อผ้าแฮนด์เมดที่มี โครงซิลลูเอตต์ธรรมดานี่แหละ แต่ว่าจะมีการ ประดิดประดอยลูกเล่นความคิดสร้างสรรค์เพิ่ม เติมเข้าไป เช่น การปัก หรือการเพ้นต์ลายต่างๆ …เสือ้ สูทเป็นหนึง่ ซิกเนเจอร์ทขี่ ายดีตอนนี้ เพราะที่ร้านเรามีกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจ มากกว่าสูททั่วไป คล้ายๆ เป็นผลงานศิลปะจึง ดูคลาสสิกด้วย ท�ำให้เวลาผ่านไปกี่ปีก็สามารถ เอามาใส่ได้ใหม่ ซึ่งในปีหน้า FRI 27 NOV. ก็ แพลนไว้วา่ จะมีโครงการรับตัดสูทตัวแรกเพิม่ ขึน้ ครับ โดยได้แรงบันดาลใจจากลูกน้องในบริษทั นี่ แหละทีจ่ ะรับปริญญาแล้วหาร้านตัดสูททีถ่ กู ใจ ไม่ได้ หรือที่ดีก็แพงเกินไป ดังนั้น เมื่อหลายๆ
คนบอกว่าร้านเราเก่งสูท เลยอยากรับตัดสูท รับปริญญาให้สวยแล้วสามารถน�ำไปใช้ในการ สมัครงานหรือใส่ในวาระส�ำคัญต่อไปได้ และ แน่นอนว่าเมื่อเป็นสูทตัวแรก ราคาก็ต้องสัมผัส ได้ไม่ยากครับ” บนเส้นทางทีก่ ำ� ลังไปได้สวยและเติบโตขึน้ เรื่อยๆ ตอนนี้ FRI 27 NOV. พาชนะชัยกลับมา ยืนในจุดที่เคยยืนได้แล้วอย่างเต็มภาคภูมิใจ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงไม่คิดจะหยุดนิ่ง และ มุ่งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เสมอ “ดีไซเนอร์จริงๆ แล้วต้องวิ่ง ต้องมองหา อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ก็ต้องยังคงจุดแข็งที่ มีไว้ด้วย เพราะถ้ายังอยากอยู่ในโลกของแฟชั่น ได้ตลอด ไม่ตายไป ยังอยากเห็นคนสนใจและ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เรา เราก็ต้องทันสมัยและมี เอกลักษณ์ชัดเจน ส่วนตัวผมคิดว่าสิ่งที่ท�ำให้ ผมอยู่ในแวดวงแฟชั่นมาได้นานขนาดนี้ คือ ความเป็นตัวตนที่สะท้อนลงบนเสื้อผ้าทุกชิ้น และทุกวันนี้ยังมีคนมาบอกว่าเขายังเก็บเสื้อผ้า Time’s End อยู่เลยนะ ซึ่งผมก็รู้สึกดีใจ เพราะ แปลว่าเสื้อเรามีคุณค่า และพอมาท�ำตรงนี้แม้ เปลี่ยนชื่อแบรนด์ไปก็จริง แต่ตัวตนเราก็ยังคง อยู่ ยังมีความน่าประทับใจที่ผมอยากส่งต่อให้ ทุกคนไปเรื่อยๆ ครับ …อาชีพนี้เหนื่อยนะ (หัวเราะ) แต่มีความ สุข เนื่องจากทุกครั้งที่ท�ำส�ำเร็จ ทั้งเสื้อผ้าแต่ละ ชิ้นหรือในแฟชั่นโชว์ หัวใจเราจะพองโต แล้ว มันก็สอนอะไรให้เราได้เยอะมากจริงๆ แต่ผมก็ ไม่ได้ท�ำแค่เพราะรู้สึกว่าสนุกหรือเพื่อความสุข เท่านัน้ หรอก แต่เพราะรักทีจ่ ะสร้างสรรค์เสือ้ ผ้า ดีๆ ให้เกิดขึ้นจริง ...ผมอยากให้คนซือ้ เพราะชอบ เพราะของ เรามีคุณภาพ และมองว่าการท�ำ เสื้อผ้าเป็น ศิลปะมากกว่าการท�ำธุรกิจ ประกอบกับปรัชญา ในการท�ำงานของผมคือความรักและการให้ดว้ ย ตามอย่างหนังสือเล่มหนึง่ ทีพ่ ดู ถึงร้านอาหารดัง ในนิวยอร์ก ซึ่งมีตอนหนึ่งที่ผมชอบมากคือตอน ที่เชฟพูดว่าร้านอร่อยแถวนี้หาได้เยอะแยะ แต่ ว่าความใส่ใจ การให้ ถ้าเราให้ใจลงไปในอาหาร ทุกจาน เชื่อสิว่าคนกินเขาจะสัมผัสได้ ...ก็คงเหมือนกันกับการท�ำเสื้อผ้านั่น แหละครั บ ถ้ า เราท� ำ ด้ ว ยใจปรารถนาว่ า อยากให้สวยและดีจริงๆ โดยไม่ต้องคิดถึง ก�ำไรขาดทุนเป็นหลักมากเกินไป ลูกค้าก็ จะรู้ได้ในสักวันหนึ่ง”
0049