BLAST MAGAZINE ISSUE 19 JAN 2018

I S S U E

19 JANUARY 2

0

1

8

P P ’ D R E A M S ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

01

02

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

03

CONTENTS

016-025

030-031

032-033

034-035

038-039

042-045

036

08 010 012 014 016-025 026-028 030-031

04

- BLAST

magazine -

EDITOR‘S NOTE PRODUCT TEST BLAST FROM THE PAST BUILD TO BLAST COVER STORY BLAST OFF OLD RECORD STILL ALIVE

032-033 034-035 036 038-039 040-041 042-045

BLAST SPECIAL MOVIES SPECIAL INTERVIEW ALBUM REVIEW BLAST TRIP COVER STORY (ปกหลัง)

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

05

06

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

07

EDITOR ‘S NOTE

ข่าวการปิดตัวนิตยสารมีมาไม่เว้นแต่ละเดือน ถ้าตามติดมา ตัง้ แต่ปที แี่ ล้ว นิตยสารรุน่ พีห่ ลายหัวก็ถงึ คราวทยอยอ�าลาจากแผง จะด้วยเหตุผลเรือ่ งเวลา การเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมผูอ้ า่ น ก็เป็น ปัจจัยหลักทีท่ า� ให้ธรุ กิจสิง่ พิมพ์ตอ้ งปรับตัวให้ทนั ไม่เพียงเฉพาะ แค่สงิ่ พิมพ์ ช่องทางโทรทัศน์ ฟรีทวี ี ดิจทิ ลั ทีว ี ก็ตอ้ งดิน้ รนอย่าง หนัก เพราะเทคโนโลยีโทรศัพท์มอื ถือน�าความสะดวกสบายจน พฤติกรรมการเสพเปลีย่ นไปโดยสิน้ เชิง มือไม่ถอื กระดาษ ตาไม่ได้ เสพโทรทัศน์ ไม่ตอ้ งค�านึงถึงเวลา เดีย๋ วย้อนหลังได้ ไม่ชอบก็กดทิง้ กดลบ แค่นี้ ยุคทีอ่ ตุ สาหกรรมดนตรีเจอสกุลไฟล์ทชี่ อื่ MP3 ทุกคนที่ เกีย่ วข้องต่างท�าใจในเรือ่ งการละเมิด ครัง้ แรกทีม่ กี ารแชร์เพลงเป็น ไฟล์ดจิ ทิ ลั บนโลกออนไลน์ เรียกว่าไม่มีใครหยุดยัง้ ได้จริง ๆ ในบ้าน เราเอง เห็นกันให้เกลือ่ น Vampire เจ้าดังหรือ “ประเทือง” ผูร้ วม เพลงฮิตติดใจผูฟ้ งั ทุนน้อย แต่ไม่ถกู ใจเจ้าของค่ายเพลงและศิลปิน บางวงเพิง่ จะท�าไฟล์เพลงในห้องอัด ยังไม่ทนั ได้ปล่อย วันถัดมา โดนรวมอยู่ในแผ่นผีเสียแล้ว น่าฉงน ? ทุกวันนี ้ ยีห่ อ้ ผีดบิ ก็ยงั ทน กระแส “ฟรี เว่อร์” ไม่ไหว ในเมือ่ ฟอร์แมทแผ่นซีดมี นั กลายเป็น ของเกะกะรกตาของใครหลายคน การหันไปพึง่ YouTube ฟังฟรี เป็นเพลง ๆ บ้างก็มคี นท�าเซ็ทรวมไว้ให้ เปิดไหล ๆ แบบเสียค่าไฟ เล็กน้อย ตัวเลขการใช้งาน YouTube เพิม่ ขึน้ ทุกปี ๆ ในปี 2016 เพิม่ ขึน้ 90% และ 62% ใช้ดวู ดิ โี อมากกว่าโทรทัศน์ ผูบ้ ริหารในวงการ โทรทัศน์เคยหล่นค�าสัมภาษณ์ไว้วา่ “ไม่คอ่ ยมีผลกระทบเสียเท่า ไหร่” ตอนนีน้ า่ จะเป็นค�าให้การทีผ่ ใู้ ห้สมั ภาษณ์คดิ ผิดจนแทบนอน ก่ายหน้าผาก ตัวเลขการโฆษณาจากเอเยนซี ่ ยูทปู มีตวั เลขที่ สวยไม่ใช่ยอ่ ย ปี ๆ หนึง่ ได้หลักร้อยล้าน แบรนด์สนิ ค้าต่าง ๆ ท�า โฆษณาทีม่ คี วามยาวได้ เล่าเรือ่ งครบ คอนเทนต์ปงั ปัง ยอดวิวท่วม จดจ�าตราสินค้าได้ สูตรไม่ใหม่ของคนท�าโฆษณาและเจ้าของแบรนด์ แค่ใช้งบโฆษณาน้อยกว่าไปซือ้ เวลาทางโทรทัศน์ ได้ผลดีกว่า เพราะ ตัวเลขการประเมินผูใ้ ช้งานช่องทางนีม้ นั มีแต่เพิม่ เพิม่ เสียจนท�าให้ การหาผูอ้ ปุ ถัมภ์หรือสปอนเซอร์ยากส์เป็นเงาตามตัว ไม่ใช่แค่ โฆษณาบนโทรทัศน์ทยี่ ากส์ สิง่ พิมพ์นถี่ กู จัดล�าดับท้ายสุดทีเ่ จ้าของ สินค้าจะแลเห็น แม่งน่าเศร้าจริง ๆ (ขออนุญาตสบถ) ฉบับนี ้ เปา เปา จิรพงษ์ มากเพชร หรือ PP’DREAMS ฉายา ในวงการฮิพฮอพ อยู่ในวงการมานาน แต่ดว้ ยเจ้าตัวทิง้ ห่างการท�า อัลบัม้ เป็นปี ๆ ไม่กไ็ ปเล่นละครทีว ี ไม่กไ็ ปช่วยงานจัดงานดนตรี และด้วยเป็นคนทีถ่ า้ ยังไม่อยากท�างานเพลงก็จะวางไว้จนกว่าจะว่าง และ อัลบัม้ ล่าสุด “กูกแ็ ค่ก”ู ก็โผล่ออกมาในรอบหลายปี ส่วนปก ท้าย กลุม่ ฮิพฮอพจากนครสวรรค์ River Rhyme ก�าลังไปได้สวยบน เส้นทาง ไม่พลาดจกตัวมาสัมภาษณ์และขึน้ ปกให้เท่หร์ ะเบิดกัน สวัสดีป ี 2561 ปีนนี้ า่ จะเป็นปีทสี่ ดใสไฉไลกว่าหลาย ๆ ปีที่ ผ่านมา ภาวนาอย่างนัน้

08

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 / JANUARY 2018

BLAST‘S TEAM Founder & Editor : ศรันยพงศ สุขภานนท Art Director : กฤษณะ โชคเชาววฒ ั น Photographer : เตชนันท จิรโชติระวี กฤษฎาพันธ กิจพิทกั ษ Editorial Staff : กชกร มุสกิ รัตน Digital Media : ณรงคพล เกสรประทุม พิสจู น อกั ษร : ลลนี เสียงลํา้ Contributor : บอบู / สุวาทินทร วัฒนวิทกู รู / อัษฏา อาทรไผท / ไผ A.M.P / เทพ ปลนั ธน พงษพานิช / ฐิตวิ ฒ ั น บุญวิวฒ ั น / พอล โซลิส / กบ Bra Branner / ปเตอร เดอะ อีแรง / นิพนธ ยิม้ ประเสริฐ / จักรธิป ปุญญทลังค / ฐานิศ ชาตะธนะบุ / จันทนี ปนทรสเพิม่ / มิกข วรนิสรา / ศรัณยู ตรีสคุ นธ / รัฐพงศ เทียมทองใบ / วรัญู ศิรเิ คารพ / วัชตรี บัวสาย / ชานนท บุญญศิริ ติดต อลงโฆษณา : ศรันยพงศ สุขภานนท 08-1692-3961 พิมพ ที่ : คอสมิคพริน้ ทแอนดดไี ซน จํากัด โทรศัพท 02-417-7783 ขอเขียน รูปภาพ และพืน้ ทีโ่ ฆษณาทัง้ หมดในนิตยสารบลาสต สงวนสิทธิต์ าม กฎหมาย หากจะนําไปเผยแพรซาํ้ ไมวา จะเปนบางสวนหรือทัง้ หมด ตองไดรบั การ ยินยอมเปนลายลักษณอกั ษรจาก บริษทั บลาสต เดอะ บีท จํากัด

C O N TA C T

บริษัท บลาสต เดอะ บีท จํากัด

116 ซอยเทียนทะเล 24 ถนนบางขุนเทียน – ชายทะเล แขวงทาขาม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร.02-451-1324 แฟกซ 02-451-1325 blastmagth

WHERE TO FIND

รานอุปกรณดนตรีชั้นนํา Music Collection 13 สาขา / Music City 3 สาขา / Music Concept / Rock Planet / Beatspot /Music Society / Music Center / CMC / VRK Sport and Music / Super8 / อินเตอร มิวสิค / เอเชีย มิวสิค / ธีระ มิวสิค / ย งเส็ง / VEE Music ฟ วเจอร พาร ค รังสิต ชั้น 3 / Music Store เมกา บางนา ชั้น 2 / ร านสินธ ทอง หลังกระทรวง / กีตาร โปร หลังกระทรวง /M.I. Engineering / มิวสิค ซิตี้ เซ็นทรัล เวสต เกต บางใหญ / ฟอร เต มิวสิค เซ็นทรัล พระราม 9 / และร านจําหน ายอุปกรณ ดนตรีทั่วประเทศ สถาบันสอนดนตรี Rockademy / Overtone หองบันทึกเสียง หองซอมดนตรีชั้นนํา และ รานกาแฟตาง ๆ A.M.P. สวนจตุจักร / US And Them สวนจตุจักร / ร านน องท าพระจันทร / ร าน Grahm สยามพารากอน / ร าน Burgundy Dipper สาขาแยกรัชดา-ลาดพร าว และสาขา สถานีรถไฟฟ า MRT พหลโยธิน

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

09

product test

POP UNCOMPRESSED

MAD PROFESSOR 1 สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อน ๆ น่าจะหาย เหนื่อยกันไปไม่มากก็น้อย ส�ำหรับ เพื่อน ๆ ที่ได้หยุดยาวเที่ยวช่วงปีใหม่ ในวันนี้ผมขอน�ำเสนออะไรเอาฤกษ์ เอาชัย ทั้งเสียงดีชื่อดี และ คอนเซ็ปท์ ชัดเจน Effect ตัวนี้มาจากค่ายทาง Finland ที่งานดีมาก ๆ จากหนึ่งใน นักออกแบบ effect pedal คนหนึ่ง ของโลก อย่าง Bjorn กับค่าย Mad Professor ซึ่งก็สมชื่อครับการออกแบบ effect ที่บ้าบิ่น แต่ของดีย์ จริง ๆ กล้า ใส่คอนเซ็ปท์ประหลาด ๆ ที่ ใช้งานได้ จริงเข้าไป โดยที่วันนี้ ผมขอน�ำเสนอ “1”

ที่เสียงและ Harmonic ความเด้งต่าง ๆ มันใช่ การตอบสนองต่อ volume ของ กีตาร์ และ dynamic ของคนเล่นที่ ท�ำให้สามารถสร้างเสียง clean ได้แบบ Marshall แบบ non master volume แท้ ๆ Presence นั้น มีไว้เพื่อเพิ่มย่าน สูงมาก ๆ ของตู้แอมป์ ซึ่งสามารถ ช่วยให้ เสียงแตกจาก 1 นั้น cut band mixed ได้อย่างสบาย ๆ แม้ว่า “1” นั้นจะไม่มี Tone ไว้ปรับทุ้มแหลม เพื่อ Balance กับเสียง Clean แต่ผม ไม่ได้ติดใจอะไรเลยกับเสียงที่ได้ของ Cranked Marshall ที่มัน Balance มา ดีอยู่แล้ว พอต้องการ clean ก็ใช้การ ลด volume ที่กีตาร์เอาเพราะฉะนั้น เราจะ set sound โดยรวมของ 1 นั้น “1” จากหน้าตู้ได้เลย ซึ่งการที่ลด volume Sound Guitar เสียงแตก 1 ใน เป็น Clean นั้น การที่มี built in เสียงที่ได้รับการกล่าวถึงและเป็น Reverb มาให้ในตัวนั้นช่วยได้มาก ๆ ต�ำนานนั้น คงหนีไม่พ้น Brown Sound หรือแม้แต่ ตอน Solo หรือ Rhythm ที่ ต้นแบบของ Modern Hi Gain ใน เราใส่เพื่อเพิ่ม มิติ ได้เช่นกัน เหมือน ปัจจุบัน เสียงกีตาร์ สุดแสบสันต์ กับ เสียงกีตาร์ของ Van Halen ของ Eddie Van Halen ใน อัลบั้ม สรุปว่ามัน Perfect ขนาดนั้น สมชื่อ ที่ “1” ซึ่ง ส�ำหรับ Effect จาก Mad “1” Professor นี้ก็เช่นกันที่พยายามท�ำ ก็ใช่ครับและไม่ใช่ ด้วยการตี Sound นั้นให้ได้ โจทย์แปลก ๆ ของผู้ผลิต Brown นั้น Features มิได้เพิ่มแตกมากแตกน้อยแต่เพิ่ม 1 นั้นมี Knob ให้ปรับ 4 อันซึ่ง การ compressed และ harmonic ก็คือ Level, Presence, Brown และ content ที่ท�ำให้เสียงเด้งขึ้น และมี Reverb.....ถูกต้องแล้วครับ 1 นั้นมี harmonic เหมือนตู้แอมป์ที่ฟังแล้ว Reverb ในตัวเพื่อเพิ่มมิติมาด้วยและ Rich ขึ้นมาก ๆ นั้น และการที่มี Built นอกจากนั้น ด้านในวงจรยังมี internal in Reverb ในก้อนเสียงแตก ก็เป็นการ trim pot ที่ปรับแต่ง ลักษณะของ คิดที่แปลก แต่ลงตัวเช่นกัน ท�ำให้การ Reverb ได้อีกด้วย พกก้อนนี้ไปไหนมาไหน ผมสามารถพา มันไป แค่ “1” ก้อนก็เพียงพอกับการ Sound and Performance เล่นเพลง Hard Rock ไปจนถึง Djent “1”นั้นให้เสียงไปทาง Marshall สบาย ๆ เลยหล่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะ อย่างเห็นได้ชัดทั้งความรู้สึก และเสียง ไม่มีข้อเสียเลย ส�ำหรับคนที่ จะเอาไป ที่ได้ โดยที่มันให้ความรู้สึกตอบสนอง Balance กับเสียงอื่นหรือก้อนอื่น ๆ เหมือน Amp จริง ๆ ซึ่งสิ่งที่สุดยอด นั้นท�ำได้ล�ำบากมาก เพราะว่าเสียงของ ของ “1” คือ ผมตั้งทุกค่าไว้ตรงกลาง ตัวมันเองค่อนข้างแหลมน�ำ ตาม Style หมดเสียงที่ผมได้ คือ Marshall แท้ ๆ Marshall การที่ “1” ไม่มี Tone มา

010

- BLAST

magazine -

ให้ปรับเลยเป็นข้อดีและข้อเสียใหญ่ ๆ เช่นกัน ส่วนเสียงนั้นก็ท�ำได้ดีมาก ๆ เหมือน Amp Cranked Marshall จริง ๆ แต่ถ้าคุณมองหาเสียงแนวอื่น หรือ Marshall ที่ไม่ดุดันมาก ๆ หล่ะก็ คุณอาจต้องมองไปที่อื่นทันทีเช่นกัน “1” นั้นส�ำหรับผมเป็นก้อนที่ ให้ เสียงและ feel ในการเล่นแทบจะ เต็ม 10 เลยทีเดียว สามารถพกก้อนนี้ไป ก้อนเดียว ไปซ้อมหรือเล่น โดยที่จะ

แปลงร่าง Amp ที่คุณเสียบเข้าไป ให้กลายเป็น Cranked Marshall ได้ สบาย ๆ ถ้าคุณอยากจะ Rock ใน Style 80 แล้วหล่ะก็ “1” เป็นหนึ่งใน ตัวเลือกที่อาจเป็นค�ำตอบสุดท้ายของ คุณก็เป็นได้ ใครสนใจฟังเสียงและ Review เต็ม ๆ นั้น สามารถเข้าไปดูได้ ใน youtube.com/uncompressedth โชคดีครับ

ISSUE 19 - JANUARY 2018

VOX

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

011

Blast from the past

ฐิติวัฒน์ บุญวิวัฒน์

ALT-J LIVE IN BANGKOK

เรียบหรูดงั่ งานศิลปะชัน้ เลิศ

CAT EXPO 4 คนเล็ก เพลงโต

งานแมว ๆ ทีห่ ลายคนยังคงนึกว่าเป็นงานเทศกาลแมว ทีเ่ ป็นการรวมพล คนรักแมวมาอยู่ในงานเดียวกัน แมว!!! เมีย๊ ~~~ววววว จะว่าไปแล้ว งาน Cat Expo มันก็คอื การกลับชาติมาเกิดใหม่ของ Fat Festival นัน่ แหละ ศิลปินหลากหลายแนว กว่า 100 ศิลปิน 4 เวทีหลัก 2 เวทียอ่ ย ใครชอบใครก็ไปดูคนนัน้ แต่ดเู หมือนว่าใน ปีนี้ไฮไลท์จะตกไปอยูท่ โี่ ชว์ของสาว ๆ วัยกระเตาะอย่าง BNK48 ทีข่ นึ้ เล่นในเวทีหนึง่ จักรวาล โดยมีวง Brandnew Sunset เล่นเป็นวงเปิดให้ ฮร่าาา... จากการสอบ ถามตูนนักร้องน�ำ ซึง่ เขาก็ได้กล่าวไว้วา่ บางทีค่ นเรามันก็ตอ้ งมีมมุ อ่อนโยนกันบ้าง นับว่านีอ่ าจจะเป็นโชว์ทคี่ นดูเยอะทีส่ ดุ ของ BNS เลยก็วา่ เหล่าโอตะยืนมึนงงกับ Circle Pit ของชาวร็อก ส่วนชาวร็อกต่างก็เต็มใจเต้นโอนิกริ กิ นั อย่างพร้อมเพรียง ไปกับเพลง คุกกีเ้ สีย่ งทาย BNS48 มัย๊ ล่ะมรึง!!! มีความแคปเฌอไปอีก๊ กกก... ส่วนโชว์ทเี่ ราคิดว่าดีทสี่ ดุ ในงานนี้ (เท่าที่ได้ด)ู น่าจะเป็น S.O.L.E แต่เรากลับชอบ โชว์ของ ฮิวโก้ มากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าเราเคยฟังเพลงของ ฮิวโก้ มามากกว่า ก็เท่านัน้ เอง เราชอบสถานทีจ่ ดั งานนะ ด้วยบรรยากาศและอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ขอ้ เสียหลักเลยคือทีจ่ อดรถน้อยมากกก และการเดินทางมาทีน่ คี่ อ่ นข้างจะ ล�ำบาก ยิง่ ถ้าใครอยูด่ จู นจบแล้วไม่มรี ถมาเองนีบ่ นั เทิงแน่นอน

ไม่บอ่ ยครัง้ นักทีเ่ ราก�ำลังรูส้ กึ เหมือนตกอยู่ในภวังค์ทศี่ ลิ ปินก�ำลังรังสรรค์ ปัน้ แต่งดินแดนแห่งจินตนาการของพวกเค้า คอนเสิรต์ Alt-J Live In Bangkok ท�ำให้เรารูส้ กึ เช่นนัน้ อย่างสนิทใจ ฉาก แสง สี เสียง ไม่ตา่ งกับการพาเดินออก ไปท่องในพิพธิ ภัณฑ์ชมงานศิลปะชัน้ เลิศ จอแอลอีดที ถี่ กู วางอย่างสะเปะสะปะ เสาไฟทีแ่ สดงแอเรียของแต่ละสมาชิก ทัง้ หมดนัน้ เป็นการถูกคิดมาเป็นอย่างดี บวกเข้ากับบทเพลงของพวกเค้าแล้ว มันยิง่ ท�ำให้เราค่อย ๆ ซึมซับกับงานศิลปะ ชิน้ นี้ไปโดยไม่รตู้ วั จะว่าไป...เพลงแนวนีเ้ ราไม่คอ่ ยอินเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ทาง แต่แค่เพลงแรก 3WW ก็ทำ� เอาเรารูส้ กึ ตืน่ เต้นไปกับ Lighting ทีเ่ สาไฟแต่ละเสา แสดงจังหวะทีเ่ ข้ากันได้ดเี หลือเกินกับตัวดนตรี In Cold Blood , Dissolve Me, Tessellate , Every Other Freckle, Matilda, Taro , Deadcrush, Adeline, Pleader, Fitzpleasure, An Awesome Wave, Left Hand Free, Breezeblocks ตามมาติดๆซัดกันแบบยาว ๆ จนเวลาล่วงผ่านไป 1 ชัว่ โมง เราไม่แน่ใจว่านีเ่ รา ก�ำลังดูคอนเสิรต์ อยูห่ รือว่าก�ำลังชมภาพวาดงานศิลป์อยูก่ นั แน่ ความรูส้ กึ เรา สับสนไปหมด ณ ตอนนัน้ บอกได้เลยว่า เราลอยไปแล้ว ซาวด์ดนตรีทชี่ วนเพ้อ ฝัน มันสามารถสร้างจินตนาการได้ลำ�้ ลึกดีจริง ๆ

ED SHEERAN

OD ROCK FEST LIVE IN BANGKOK

ได้ดกู นั ซักทีนะ หลังจากทีเ่ ปิดขายบัตรล่วงหน้านานเกือบครึง่ ปี และ ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศทีส่ องทีเ่ อ็ดได้ขนึ้ เล่นคอนเสิรต์ หลังจากทีก่ อ่ นหน้า นัน้ นางประสบอุบตั เิ หตุจากการขีจ่ กั รยานล้มจนหมอต้องสัง่ พักกิจกรรมทุกสิง่ อย่างทีต่ อ้ งใช้แขน คนทีก่ ดบัตรทันก็ลนุ้ ตุม้ ๆ ต่อม ๆ ว่าจะได้ดมู ยั้ สุดท้ายใน ค�ำ่ คืนวันที่ 16 พ.ย. เราก็ได้เห็นเอ็ดมายืนบนเวทีอมิ แพคจนได้ ก่อนทีเ่ อ็ดจะขึน้ เล่น สาว ๆ ด้านล่างก็ได้ฟนิ กันก่อนกับวงน้องใหม่อย่าง Lauv ทีเ่ ราว่าก็เล่นได้ดพี อตัว เลยทีเดียวล่ะ ทางด้าน Ed Sheeran ถ้าไม่พดู ถึงในเรือ่ งของเพลง ว่ากันด้วย โปรดักชัน่ ล้วน ๆ คือ...วิชวลนีด่ งี ามขัน้ สุด จอด้านหลังโค้งมนเข้าด้านในท�ำให้ไม่ ว่าจะอยูม่ มุ ไหนในอิมแพคก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน Castle On The Hill เป็น เพลงทีเ่ ราชอบมากทีส่ ดุ ถูกน�ำมาเล่นเป็นแรก แต่ไฮไลท์เราว่าน่าจะอยูท่ เี่ พลง Perfect ทีด่ า้ นบนอิมแพคมีการขอแต่งงานกันด้วย เสียงโห่รอ้ งทีด่ งั อือ้ อึงท�ำให้เอ็ด ต้องหันขึน้ ไปมองเลยทีเดียว ความเพลิดเพลินกับวิชวลบางทีมนั ก็ทำ� ให้เราลืมสนใจ โชว์ไปชัว่ ขณะเหมือนกัน 012

- BLAST

magazine -

SEPULTURA

LIVE IN BANGKOK

เมือ่ หลายปีกอ่ นเราได้มโี อกาสชมคอนเสิรต์ ของ Soulfly ทีม่ ี Max Cavalera อดีตฟร้อนต์แมนของ Sepultura เป็นนักร้องน�ำ และหลายต่อหลาย ครัง้ ทีม่ วยคูน่ จี้ ะถูกน�ำมาเปรียบเทียบกันเสมอ ๆ แต่เราไม่ได้สนใจเรือ่ งนีเ้ ท่าไหร่ นัก แค่รวู้ า่ Sepultura จะมาไทยเราก็ไปดูแล้ว และด้วยค�ำว่า Rock Fest ท�ำให้ ต้องมีหลาย ๆ วงร่วมสังฆกรรมในครัง้ นีด้ ว้ ยกัน 6 วง ไล่มาตัง้ แต่ Dose, Hopeless, Carnivola, Ebola, Dezember และ Retrospect ทีข่ นึ้ เวทีกนั ตัง้ แต่ 6 โมงจนถึง 4 ทุม่ ครึง่ แต่งานนีท้ ตี่ อ้ งนับถือผูจ้ ดั เลยคือ งานแทบไม่ เลทเลย Sepultura ขึน้ เวทีในเวลา 5 ทุม่ ครึง่ เปิดฉากเพลงแรกกันด้วย I Am The Enemy เพลงฮิต ๆ มีให้ฟงั กันเยอะประมาณนึง ทัง้ Inner Self, Arise, Territory, Refuse Resist, Troops Of Doom, Biotech Is Godzilla และทีจ่ ะขาด ไปไม่ได้เลยคือ Roots Bloody Roots ถึงแม้ชอื่ เสียงของวงจะลดลงไปเยอะ แต่ เราก็ยงั ประทับใจโชว์นขี้ องพวกเขาทีก่ รุงเทพอยูด่ ี

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

013

Build To Blast

JACKASS

ก�ำตังค์ ไปดู “โมโตจีพี” ที่บุรีรัมย์กันเถอะ ช่วงกลางปี 2017 มีขา่ วส�ำคัญเกิดขึน้ ในวงการกีฬาประเทศไทย เมือ่ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ ดอร์นา สปอร์ต บริษทั ผูด้ แู ลกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับ โลก ตกลงท�ำสัญญามอบหมายให้ ประเทศไทย รับหน้าเสือ่ เป็นเจ้าภาพศึกรถจักรยานยนต์ชงิ แชมป์โลก “โมโตจีพ”ี ฤดูกาล 2018 ซึง่ จะมีขนึ้ ในวันที่ 5-7 ตุลาคม ปี หน้า อันเป็นช่วงเวลาทีก่ ารแข่งขันก�ำลังวนเวียนมาจัดแถบเอเชีย หรือเรียกว่า “เอเชียน ซีซนั่ ” พอดิบพอดี และได้จดั ถึง 3 ปีคอื 2018-2020 นับเป็นเรื่องน่ายินดีส�ำหรับ แฟนความเร็วนะครับ โดยเฉพาะ ประเทศไทย ทีม่ คี นใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะมากที่สุดเป็นล�ำดับต้น ๆ ของประเทศ พอ ๆ กับ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย อีกอย่างบ้านเรานี่ ก็ห่างหายจากการเป็นเจ้าภาพกีฬา ระดับโลกไปนานมากทีเดียว ตัวผม เองก็อดตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกันที่จะ ได้เห็นบรรดานักแข่งชั้นน�ำที่ติดตาม มาตั้งแต่เด็กอย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ แชมป์โลก 9 สมัย และดาวรุ่งพุ่ง แรง มาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลกคน ปัจจุบัน มาโชว์ลีลาให้ดูถึงที่ ปกติแล้วเวลาเราอยากดู โมโต จีพี ประเทศใกล้เคียงที่สุดที่สามารถ เดินทางไปชมได้ก็มีแค่ มาเลเซีย ที่นี่ เขาเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพี มาตั้งแต่ปี 1991 มีแฟน ๆ สองล้อในประเทศ เดินทางไปชมกันมากมายเพราะที่นี่ เขาก็ฮิตขี่มอเตอร์ไซค์กันอยู่แล้ว จน ผ่านมา 26 ปี ก็ยังได้รับความนิยม อย่างสูง ตั๋วขายหมดเกือบทุกปี มี ชาวต่างชาติมาดูเพียบ แฟน ๆ ที่ เมืองไทยก็เช่นกัน บ้างก็นั่งเครื่องบิน มา ไม่ก็แว้นมอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศ มาดูกันเป็นหมู่คณะ ขณะที่ ฟอร์มูล่า วัน มาเลเซีย เพิ่งยกเลิกสัญญาเป็น เจ้าภาพไปเพราะขาดทุนย่อยยับ คน ที่นี่ไม่ค่อยดู บัตรแพงด้วย ส�ำหรับใครที่ตั้งใจว่าจะไปดู โมโตจีพี ที่บุรีรัมย์ ปีหน้า คงก�ำลัง สงสัยว่า “ฉันควรเตรียมเงินไปเท่า ไหร่ดี” เพราะตอนนี้ทางทีมงานของ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชัน่ แนล เซอร์กติ ก�ำลังพิจารณาเรื่องตั๋วเข้าชมอยู่ว่า จะคิดค่าตั๋วเท่าไหร่ดี ถึงขนาดท�ำ 014

- BLAST

magazine -

แบบสอบถามแฟน ๆ กันเลย ขณะ เดียวกันก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เรา ต้องเตรียมไปส�ำหรับทริปนี้ทั้งค่า โรงแรมที่พัก, ค่าเดินทาง, ค่ากิน ไหนจะของที่ระลึกที่ยั่วยวนกระเป๋า เงินเหลือเกิน ในฐานะที่ท�ำงานอยู่ ในสายกีฬา เลยขออนุญาตวิเคราะห์ เรื่องนี้สักหน่อย โดยเปรียบเทียบกับ ราคาตั๋วที่ มาเลเซีย ซึ่งเคยไปดูมา แล้ว และมีมาตรฐานการจัดการที่ดี

ตั๋วแพ็คเกจส�ำหรับแฟน ๆ ของสอง นักบิดดังอย่าง วาเลนติโน รอสซี่ กับ มาร์ค มาร์เกวซ ได้จับกลุ่มเชียร์กัน เป็นกลุ่มก้อน ซึ่งตั๋วของแต่ละคนก็ จะราคาแพงขึ้นมาอีกนิดอย่าง “โซน รอสซี” ราคา 1,380 บาท ส่วน “โซนมาร์เกวซ” ราคา 2,170 บาท และตั๋วแพงที่สุดสามารถเดินชมได้ ทุกแห่งหนที่ได้รับอนุญาต พร้อม บริการพิเศษจากทางสนาม ก็อยู่

กันใกล้เต็มแล้ว ทางเลือกของแฟน ๆ ที่ยังไม่มีที่พักคือต้องไปนอนโรงแรม จังหวัดใกล้เคียงเช่น นครราชสีมา หรือ สุรินทร์ ซึ่งราคาที่พักเป็นสิ่งที่ ควบคุมไม่ได้ ยิ่งเฉพาะมีอีเวนต์อย่าง โมโตจีพี ค่าโรงแรมต้องถีบตัวสูงขึ้น กว่าเดิมแน่ ดังนั้นลองเตรียมเผื่อ ๆ ไว้หน่อยสัก 3,000-4,000 บาท หรือ ถ้าใครมีญาติอยู่ในบุรีรัมย์ ก็ไปขอ นอนด้วยได้เลย ประหยัดไปอีก ปิดท้ายที่เรื่องของการเดินทาง คนที่มีรถขับไปเองคงไม่มีปัญหาที่จะ ขับจากที่พักไปยังสนามแข่งได้ง่าย ๆ แต่ส�ำหรับใครที่นั่งรถทัวร์มาล่ะ? ถ้า ออกจากโรงแรมแล้วจะไปที่สนามยัง ไง? จะเรียกใช้ขนส่งสาธารณะก็มี สิทธิ์ถูกขูดรีดอีก อย่างไรก็ตาม การ หารือจากวงในระบุว่าทาง บุรีรัมย์ ก�ำลังพิจารณาเรื่องจัดรถ ชัตเทิ้ลบัส รับนักท่องเที่ยวไปส่งถึงสนาม ซึ่งเป็น โมเดลแบบเดียวกับที่ มาเลเซีย ท�ำ มาตลอดคือมีรถไปรับ-ส่งแฟน ๆ ถึงที่ ซึ่งค่าตั๋วของที่นั่นราคาอยู่ที่ 160 บาท ต่อ 1 รอบ แต่ถ้าไป-กลับ ก็อยู่ จนน่าประทับใจ ที่ 2,670 บาท ดังนั้นค่าตั๋ว โมโตจีพี ที่ 300 บาท คนที่ไม่มีรถขับไปสนาม มาเริ่มกันที่ค่าตั๋วเข้าชมกัน ที่เมืองไทยหากเคาะออกมาแล้วควร ก็ลอง ๆ เตรียมไว้สัก 500 บาทดูนะ ก่อน ที่ มาเลเซีย ตั๋วราคาถูกสุดอยู่ อยู่ในระดับนี้หรือไม่สูงไปกว่า ดังนั้น สรุปแล้ว หากคุณจะไปดู โมโต ที่ 400 บาท แต่ด้วยราคาถูกเช่นนี้ ที่ สรุปว่าค่าตั๋ว ควรเตรียมไปเผื่อ ๆ จีพี ที่ บุรีรัมย์ ปีหน้า อย่างน้อยควร นั่งของคุณคงไม่ได้เห็นนักบิดขวัญใจ สัก 2,000-3,500 บาท ก�ำลังดี มีเงินติดตัวในกระเป๋าอย่างน้อย ๆ ของคุณแบบชัดเจนนักหรอก แต่ถ้า มาต่อกันที่โรงแรมที่พัก ซึ่งดูท่าจะไม่ สัก 7,000-8,000 บาท อย่างน้อย เอาแค่เป็นประสบการณ์ก็ถือว่าดี เพียงพอแน่เพราะโรงแรมส่วนใหญ่ หากใช้ไม่หมดก็ยังเอาไปซื้อของที่ ส�ำหรับคนงบน้อย ขณะที่บริเวณ ที่อยู่ใกล้สนาม บุรีรัมย์ ทีมงานต้อง ระลึกเช่นเสื้อยืด พวงกุญแจ หรือ แกรนด์สแตนด์ ที่เห็นได้ชัดสุดและอยู่ จับจองเอาไว้ให้เหล่านักบิดซูเปอร์ สินค้าของนักบิดดัง ๆ หน้าสนามได้ ทีเ่ ส้นชัย ราคาเริม่ ต้นที ่ 1,680 บาท สตาร์ และทีมช่างกว่า 20 ชีวิตของ ด้วย มีเวลาเก็บเงินอีกเหลือเฟือ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์รองลงมา แต่ละทีม เข้าพักกันไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมกันไว้แล้ว คือ 700 บาท ด้วยกัน ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าโรงแรมโซน รอต้อนรับ โมโตจีพี 2018 ที่ เท่านั้นไม่พอ ที่ มาเลเซีย ยังมี อื่น ๆ ที่อยู่รอบนอกของจังหวัดก็จอง เมืองไทยกัน ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

015

COVER STORY

016

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ชายร่างท่วมตัวใหญ่คนนี้ ชือ่ จิรพงษ์ มากเพชร บอกชือ่ จริงไม่เห็นหน้า นึกไม่ออก ถ้าบอก “เปา บ้านนีม้ รี กั ” ร้อง อ้อ กันบ้างละ หลายคน อาจจะไม่รวู้ า่ งานการทีเ่ ล่นละครคือส่วนหนึง่ ในการหาเลีย้ งชีพ จุนเจือชีวติ ให้อยูร่ อด เปาเป็นแร็ปเปอร์รนุ่ แรก ๆ ในสายแก็งสเตอร์ อีกทัง้ เป็น ผูจ้ ดั งาน ฮิปฮอป กับ วงเมทัล มาหลายงาน จัดไปเจ๊งไปแต่เอาสะใจ และเป็นงานแรก ๆ ทีส่ ร้างสีสนั ให้กบั วงการเพลงทางเลือกเมือ่ เกือบสิบ ปีทแี่ ล้ว ผลงานเพลงออกมาแล้ว 2 ชุด Still Alive From Another Side กับ Change For Better และล่าสุดห่างไปหลายปี “กูกแ็ ค่ก”ู ผล งานท�ำเอง เจ๊งเอง พับปกเอง ส่งขายเองทุกกระบวนการ ช่วงนีฮ้ พิ ฮอพกลับมาได้รบั ความนิยม อย่าลืมชายร่างท้วมสายแก็งค์คนนี้ ผูข้ บั เคลือ่ นอีกทางเลือกของดนตรีอนั เดอร์กราวด์ฮพิ ฮอพไทย

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

017

ช่วงนี้วงการฮิปฮอป แร็ปเปอร์ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่นี่คึกคักกันน่าดูเลยนะครับ รู้สึกยังไงกับความเคลื่อนไหวอันคึกคักตอนนี้ ? เปา : ล่าสุดผมไปงาน Rap Is Now Awards ที่ผ่านมา ผมได้เห็น ศิลปินได้ร้องเพลงของกันและกันได้ ซึ่งมันต่างจากยุคสมัยของผมตอน วัยรุ่น มันแบ่งแยกแตกพวกกัน แล้วปัจจุบันพอเห็นแบบนี้รู้สึกดีครับ ทุก คนรักกันไม่ได้เกลียดกันแบบเมื่อก่อน อย่างนี้เมื่อก่อนยุคแรก ๆ ก็จะเหยียดด่ากันแรง ? เปา : ก็ไม่เชิงครับ อารมณ์ประมาณยุคนั้นกูท�ำได้ มึงก็ท�ำได้ มึง ก็เจ๋งกูก็เจ๋งมันไม่ยอมกันมากกว่า มีเรื่องกันตามผับไปเล่นที่ไหนนี่ปิด ล้อมกันเลย เล่น ๆ กันอยู่ทิ้งไมค์ลงไปต่อยกันเลย อย่างพีคครับตอน นั้น ถ้างั้นทุกวันนี้มูลค่าของวงการฮิปฮอปในบ้านเรามันก็ต้องเพิ่มมากขึ้นไป ด้วยใช่ ไหมครับ ? เปา : มันเพิ่มขึ้นมากเลยครับ อย่างรุ่นใหม่ ๆ ทั้ง Yongbong, Youngohm หรือ Miyalab ทุกคนมีงานโชว์มากขึ้น มีคนพร้อมจ่าย ให้คุณไปเล่นในงานปาร์ตี้ มันดีกว่าเมื่อก่อนที่หลายคนก็อยู่แค่ในค่าย ใหญ่ ๆ หรือมีตัวเฮด ๆ ไม่กี่คน แต่ตอนนี้มันกว้างขึ้น คนอยากฟังมาก ขึ้น เงินมันก็กระจายไปสู่วงเล็ก ๆ ผมมั่นใจว่าอย่างผมเนี้ย ยูทูปมันก็ ไม่ได้ท�ำเงินให้เราได้มหาศาล มันเป็นช่องทางเผยแพร่แล้วไปต่อกันได้ มากกว่า แล้วคอนเสิร์ตนี่ก็ท�ำรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยดีที่สุด ดีกว่าไป ปล่อยขายเป็นซิงเกิ้ลตามช่องทางสตรีม ซึ่งคนก็ไม่ได้ไปซื้อเลยนะ ถ้ามี ซื้อก็น้อยอะ เปาก็อยู่ในวงการฮิปฮอปมานาน แต่จังหวะเดินของเปานี่มีหาย ๆ ไปบ่อย เหมือนกันนะครับ เปา : ก็อยู่กับพวกพี่นานนี่แหละ ฮาฮา อยู่กับชาวร็อกซะเยอะ ฮา ก็หลัก ๆ ที่ผมไม่ค่อยได้ท�ำอะไรบ่อยมากคือ ผมไม่ค่อยเป็นเรื่อง โซเชียล ผมไม่ค่อยเล่นกับมันมาก แล้วพอผมไม่ได้ยุ่งกับมันเนี้ยผมก็ เลยรู้สึกว่าถ้าท�ำเพลงนึงแล้วมาปล่อยลงยูทูปทีละเพลง ผมก็ไม่รู้ว่าจะ ท�ำไปท�ำไม ผมมองเป็นอัลบั้ม ๆ ออกมาเลย แล้วตอนนั้นก็มีงานทั้ง ละคร ท�ำออฟฟิศ จัดอีเว้นท์ มันเลยหายไปกันทีสามปีอย่างชุดแรกนี่ หายไปเกือบห้าปี ชุดสองสามปี คือหายไปนานอะ ที่นานก็เพราะผม ท�ำเองทุกอย่างเลย ว่างก็ท�ำ ไม่ว่างก็ไม่ท�ำ ไม่มีอารมณ์ก็หยุดท�ำ แล้ว เพลงผมก็ไม่ได้อยู่ในกระแสเลย เหมือนฮิปฮอปทางเลือกซะมากกว่า มันเป็นจุดต่างกว่าเพลงฮิปฮอปทั่วไป เลยมันไม่จ�ำเป็นที่จะต้องเข็นงาน ออกมาบ่อย ๆ คนที่อยากฟังเขาก็คงรอได้ มั่งครับ ฮา ฮา อย่างสไตล์ของเปาจะเป็นแบบไหน ? เปา : แตกต่างเป็นอีกกลุ่มเลยครับ ก็ประมาณพวกเม็กซิกัน สไตล์ แกงค์สเตอร์ แกงค์สตาแร็พ มันไม่ได้เป็นเพลงอย่างปัจจุบัน เนื้อหาที่ร้องก็เป็นเล่าเรื่องเสียส่วนใหญ่

018

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine -

019

อัลบั้มชุดใหม่ “กูก็แค่กู” ที่ปล่อยเพลง “นนทบุรี” กับ Underground Tattoo ท�ำไมต้อง “นนทบุรี” ? เปา : คือมันเริ่มมาจากอัลบั้มแรกที่มีเพลงชื่อ Homie แล้วเพลงนี้มัน ก็พูดถึงแถวบ้านเลยเอาน้อง ๆ มาร่วมร้องกัน ผมรู้สึกอยากท�ำเพลงที่เกี่ยว กับแถวบ้านอีกก็เลยขยายให้มันเป็น นนทบุรี ไปเลยดีกว่า พอจะท�ำก็หา ข้อมูลอ้างอิงว่าจะท�ำยังไงให้มันรู้สึกเป็นเพลง นนทบุรี จริง ๆ ผมเลยเอา เพลงประจ�ำจังหวัดมานั่งฟัง แล้วก็เอาท่อนร้องของเขามาท่อนนึงมาบิดเป็น เมโลดี้เพลง แล้วก็ร้องเข้าไป ถ้าไหน ๆ มาขนาดนี้แล้วก็เลยไปดิวศิลปินใน นนทบุรี มาร่วมแจมกันอย่างที่เห็น 020

- BLAST

magazine -

อันนี้รวมถึง Way-G (ปืน) , VKL (มิก วงษ์ค�ำเหลา) ก็อยู่ย่าน ๆ เดียวกัน ? เปา : ผมก็รู้จักกันจากเพื่อน ๆ อีกที อย่างปืนนี่ลุยมาด้วย กันแต่เริ่มเลย ก็เหมือนต่างคนต่างช่วยดันกัน พอได้ร่วมงานกับรุ่นใหม่ ๆ อย่าง VKL นี่เป็นยังไงครับ ความคิด ความอ่าน ? เปา : เฟี้ยวครับ อย่างเพลงที่ผมปล่อยแล้วมีคอมเม้นท์ใต้ เพลง ส่วนใหญ่ก็มาเขียนบอก “ลูกพี่หม�่ำก็ร้องตรงบีทนี่หว่า” คือ ISSUE 19 - JANUARY 2018

“

ผมเองไม่เคยซ้อมแล้วมาแร็พหน้า กระจก หรือเวลาพูดจะออกแร็พ ตลอดกับเพื่อน ผมไม่เคยท�ำ ผมฝึกตัวเองด้วยการออกไปเจอ ประสบการณ์ ไปหาเรื่องราวที่จะเล่า กลับมาแล้วก็มาตั้งคอนเซ็ปท์

“

ไปเจอประสบการณ์ไปหาเรื่องราวที่จะเล่า กลับมาแล้วก็มาตั้ง คอนเซ็ปท์ บังเอิญผมเองก็เป็นนักดนตรีผมก็เลยท�ำความเข้าใจใน วิธีการท�ำเพลงของตัวเองก่อนที่จะถ่ายทอดออกมา มันก็เลยเล่า เรื่องแบบง่าย ๆ ได้ มันไม่จ�ำเป็นต้องมานั่งฝึกแบบนั่งเล่นดนตรี เพราะสุดท้ายแล้วเราก็คิดแล้วเขียนออกมา ไม่ใช่ว่าท�ำเมโลดี้ ก่อนแล้วยัดเนื้อ คือผมมาแบบกูจะร้องแบบนี้ ผมก็เขียนออกมา เป็นประโยคออกมาเลยแล่นเลย แล้วมาดูย้อนหลังว่าท่อนไหนไม่ ลื่นแก้ ไม่ติดปากแก้เลย งั้นจุดเริ่มของเปาท�ำไมถึงมาเริ่มเป็นแร็ปเปอร์ละ มุ่งมาทางนี้ ไม่ เลี้ยวไปทางอื่นเหรอ อาจจะสบายกว่านะ ? เปา : เออเนอะ ฮาฮา มันเป็นเรื่องของความชอบอะครับ คนเราไม่จ�ำเป็นต้องไปเหมือนกันหมดเนอะ เรามีลายเซ็นของตัว เองได้ เรามีสิ่งที่ทุกคนจดจ�ำได้ด้วยตัวเอง มันไม่จ�ำเป็นต้องไป เหมือน ถ้าจะถามว่าสมัยนี้เพลงฮิปฮอปที่ร้องกันทั่วไปที่มีหลาย คนโคตรจะเหมือนกันเลย ถ้าพี่เอาเพลงพวกนั้นมาเรียงต่อกันจะ โคตรเหมือนกันหมด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดความแตกต่างอะไร อย่าง ผมก็แค่เป็นผมอย่างที่เคยเป็น ยืนอยู่จุดที่เรารู้สึกว่าเรายังท�ำต่อ ได้ไปต่อได้ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ก็เลยอยู่อย่างนี้แหละ มีคนฟัง เพิ่มก็ดีใจ ไม่มีใครฟังก็ไม่เป็นไร

ผมแค่รู้สึกว่าเพลงสมัยใหม่ที่คุณฟังกันมันโยน เขาไม่ได้ท�ำดนตรีให้มารู้สึก ว่ามันลงนะ มันบิดกันนิดเดียวคนมันก็เลยรู้สึกว่าโห้ มันร้องไม่ตรง ร้อง คร่อมนี่หว่า แล้วพอมาเจอเพลงผมจังหวะ 4/4 ง่าย ๆ เลย โห้มันร้องตรง แหะ ตอนที่มิกมาอัดนี่ผมรู้สึกว่า โห้มิก ถ้ามิกกลับมาร้องบีทโอลด์สคูลนะ มึงแม่งเฟี้ยวเลย ไม่ต้องไปดิ้น swag กับคนอื่นเลย กลับมาร้องโอลด์สคูล แม่งโคตรดีเลย ฮาฮา อย่างแร็ปเปอร์มันต้องฝึกฝนยังไงกับการที่จะเป็นแร็ปเปอร์ที่ดี ยากส์ ไหม ? เปา : เอาของผมนะ ผมเองไม่เคยซ้อมแล้วมาแร็พหน้ากระจก หรือ เวลาพูดจะออกแร็พตลอดกับเพื่อน ผมไม่เคยท�ำ ผมฝึกตัวเองด้วยการออก ISSUE 19 - JANUARY 2018

สด กับ จด ท�ำไมยังทะเลาะกันอยู่ ท�ำไมยังรับกันไม่ ได้? เปา : มันก็กลับไปค�ำเดิมแหละพี่ กูเจ๋งมึงไม่เจ๋ง ทุกคนก็ ยกตัวเองว่าดีหมดอะ ทุกคนก็พยายามบอกว่าตัวเองเจ๋ง อย่าง หนึ่ง B-King หยิบของขึ้นมาชิ้นนึงแล้วแร็พ มันก็จะเล่ากับของ ชิ้นนี้แบบสด ๆ แต่ถามว่าไอ้สดของมันนั้นดีไหม ก็ดีบ้างไม่ดี บ้างปะปนกันไปแล้วแต่สมองของเขาในตอนนั้น คนท�ำการบ้าน มามีค�ำเด็ด ๆ อยู่ในหัวแค่หยิบออกมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลามันก็ดี สุดท้ายแล้วคนที่ร้องสดโดยที่เคยจดเอาไว้ใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาแม่ง ก็เจ๋งอยู่ดี ไม่มีผิดถูกหรอกครับ เด็กมันก็แค่ต้องการหาค�ำตอบ ท�ำความเข้าใจกับมันก็ไม่ได้ยากอะไรเลย - BLAST

magazine -

021

จะมีรายการแข่งแร็ปเปอร์เฟ้นหานักร้องสายนี้ขึ้นมาประดับวงการ เปามีความคิดเห็นอย่างไรครับ หรือจะไปสมัครแข่งไหม ? เปา : ไปสมัครแข่งเหรอ ก็น่าจะได้นะ ยังไงผมก็ยังยืนยันค�ำเดิม ผมเองก็ไม่ได้ชอบการประกวดดนตรีซะเท่าไหร่ คือ การประกวดมันสร้างเม็ดเงินให้กับเจ้าของรายการ สปอนเซอร์ สร้างเม็ดเงินให้แค่กลุ่มบุคคลไม่กี่คนแต่ก็ไม่ได้ท�ำอะไรให้ วงการมันดีขึ้น ตอนนี้ทีวีทุกช่องมีรายการประกวดหมดแล้วทุกคนก็หันมาเล่นดราม่าเพราะมันได้เรตติ้ง ทุกอย่างก็แค่ท�ำเพื่อ เงินไม่ใช่เพื่อวงการ ถ้าจะบอกว่าคนไทยร้องเพลงเป็นทุกคน ใช่ ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป ก็หยิบกันมาดึงออกมาให้เป็นส่วน หนึ่งให้ทุกคนได้สนุกและให้คนได้ดู ดังก็โชคดีไปไม่ดังก็ช่างแม่ง ผมก็ว่ามันเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ท�ำอะไรให้วงการดีขึ้นเพราะคน พวกนั้นก็ไม่ได้ออกผลงานเป็นอัลบั้ม ต่อให้ออกอัลบั้มก็ไม่ดังมีเยอะแยะไป ความรู้สึกผมคิดว่ามันอาจจะเป็นแรงจูงใจให้กับ เด็กบางคนได้แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเรานั้นจะยืนหยัดอยู่ในวงการนี้ได้ สุดท้ายก็กลับมาที่คนฟัง มึงไม่ได้ซื้อเพลง ซื้อ ซีดีหรือโหลดแบบเสียเงินสนับสนุนกันเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าเราท�ำไม่ได้วงการมันก็ไม่ได้โตขึ้น อย่างวงการเพลงที่มันโตขึ้นจาก เมื่อก่อนมันคือยุคที่เราซื้อเทปซื้อซีดีกัน อันเนี้ยมันเห็นผล คนมันถูกสร้างให้มันกลายเป็นแบบ ศิลปินได้ ค่ายได้ ทุกอย่างได้ มันได้จริง มันพากันไปได้จริง ๆ ล้านตลับล้านแผ่น สิบกว่าล้านวิวนี่ขนาดเพลงวัยระเริงของผมนี่มันก็ไม่ได้อะไร ยังต้องมา เปิดร้านเบอร์เกอร์ขายอยู่เลย ฮา ฮา อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะ La’Zaro Records กับร้าน Criminal Burger เป็นยังไงบ้างครับตอนนี้ เปา : ก็เรื่อย ๆ ชิว ๆ ท�ำจน ๆ ต่อไป มีเงินก็ท�ำต่อ ก็มีวงเหลืออยู่วงนึง แล้วก็มี ปืน เนติ แล้วก็มีผมกับอัลบั้ม “กูก็แค่ กู” นี่แหละครับ ยังไงก็ฝากผลงานนี้ไว้ด้วยนะครับ ท�ำเอง พับปกเอง ควบคุมการผลิตเองทั้งหมดแล้วส่งไปท�ำมาสเตอร์ ขอ เล่านิดนึงตอนท�ำอัลบั้มนี้ผมมีปัญหาเรื่องจิตใจนิดหน่อย แล้วจากการป่วยตรงนี้ท�ำให้ผมเขียนเนื้อเพลงออกมาในแง่มุมของ ผมหมดเลยจนแอบคิดว่าน่าจะเป็นงานชุดสุดท้ายละ มันเหมือนไม่ได้เล่าแล้ว ได้ฟังงานคนอื่นใหม่ ๆ จนผมก็คงไม่ต้องเล่า เรื่องอะไรของผมอีก ยังไงอุดหนุนกันนะครับ

022

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 023

รู้ก็ ได้ ไม่รู้ก็ ได้ • ลงมือท�ำอัลบั้ม “กูก็แค่กู” ก็เป็นโรคซึมเศร้า

PICK IT UP BY

Sir Poppa Lot Weird

024

- BLAST

magazine -

Noah Cyrus Make Me Cry

PP’DREAMS Suicide Boy Live

Yokee Playboy อีกแล้ว

PP’DREAMS กูกแ็ ค่กู

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 025

BLAST OFF

BLAST TEAM

กรกฎ ตรีราภี (กด) - ร้องน�ำ / กีตาร์ พนา แก่นเพ็ชร์ (ปุย้ ) - กีตาร์ นลินี ตรีราภี (นานี)่ - กลอง https://www.facebook.com/blackciety แทรช เมทัล สุดขยันของวงการทีเ่ ปลีย่ นสมาชิกบ่อยยิง่ กว่าพนักงาน 7-11 ก่อตัง้ วงมาก็เกือบจะสิบปี ผลงานเป็น ชิน้ เป็นอันมีเพียบ ท�ำเพลงออกมาเหมือนง่ายดัง่ ปัน้ บัวลอย นีแ่ หละคนจริงกับผูช้ ายชือ่ กด หัวหน้าวงขับเคลือ่ นให้ตวั เองได้ทำ� เพลงทีร่ กั เข้าเส้น ทางวงเองก็เคยให้แผ่นมารีววิ ซึง่ ก็ไม่ผดิ หวัง เน้นความดิบ สะใจใส่กอ้ ยสด ยกซดกันให้ชนื่ ใจ มีงานเมทัลเมือ่ ไหร่ ต้องมีชอื่ วงนีอ้ ยู่ในลิส หากใครยัง ไม่รจู้ กั แนะน�ำให้คลิก๊ ไปทีเ่ วบฯเพจของวง หาฟังเพลงกัน ง่าย ๆ ว่าแต่วงนี้ใช้แรงงานสุภาพสตรีคมุ้ เกินไปหน่อย นานี่ เล่นกีตาร์กอ่ นทีจ่ ะโดนโยกให้ไปฝึกเล่นกลอง แล้วก็ทำ� ได้ดี ซะด้วย

FA L L I N G I N B E T W E E N ณัฐพงษ์ สุขอุดม– ร้องน�ำ วิสยั ทัศน์ ไชยบัวรินทร์ – กีตาร์ เขมทัศน์ เสนะคุณ - กีตาร์ อธิชยั หาวิทย์ – เบส นพพล ฤทธิธ์ าอภินนั ท์ – กลอง https://www.facebook.com/FallinginbetweenTh วงเมทัล คอร์ สุดโหดทีร่ อ้ งน�ำวงป้วนเปีย้ นอยู่ใน วงการเพลงทางเลือก ด้วยหน้าตาหล่อเหล่าสักลาย พร้อย มีความโดดเด่นทัง้ ภายนอกและเสียงส�ำรอก ทีมเวิรค์ เยีย่ มอัดแน่นด้วยขุมพลังทวินแคม 16 ว้าว !! ก่อตัง้ มาได้สองปีเศษมีเพลงปล่อยให้ฟงั A New Beginning กับ Never Look Back ให้ได้หย่องกัน สนุกสนาน หากได้ไปดูเล่นสด รับประกันความเดือด สุดลิม่ ทิม่ ประตูหลังจ่ะ

026

- BLAST

magazine -

สนใจอยากลงโปรโมทวง ไม่จำ� กัดแนวทาง จะเดีย่ ว จะเป็นวง มาได้หมด ส่งอีเมลมาได้ที่ leesic@gmail.com ยินดีนำ� เสนอเผยแพร่ให้รจู้ กั กว้างมากขึน้

B L A C K ‘ C I E T Y

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 027

BLAST OFF

BLAST TEAM

B บลาสต์Lแม็กกาซีAน ร่วมกัSบ ร้านน้Tองท่าพระจันทร์&ช่างชุย่ และ Nบีเอฟ ซาวนด์ O ซสิ เต็Nม น�ำเสนอG มินิ มิวสิค Fเฟสติวลั ขนาดเล็ E กSเพือ่ การT

กุศล “BLAST & NONG FEST” รวมวงดนตรีรอ็ กทางเลือกมาร่วมสร้างความสนุกพร้อมได้บญ ุ ถึง 18 วง พร้อมวงร็อกรับเชิญจากประเทศ ฟิลปิ ปินส์ Typecast และ Valley Of Chrome ประเทศสเปน Berri Txarrak มาชมความสนุกภายใต้บรรยากาศชิว ๆ สบาย ๆ กับ 2 เวที “เวทีชา่ งเชือ่ ม” และ “เวทีดจู ติ ” ณ “ช่างชุย่ ” ถนนสิรนิ ธร เริม่ 16.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 200 บาท (ดูได้ทงั้ สองเวที) รายได้หกั ค่าใช้จา่ ย มอบให้องค์กรการกุศล และก่อนจะไปสนุกกัน จะขอแนะน�ำวงให้ เป็นทีร่ จู้ กั กันซะหน่อย

Typecast

เป็นวงเก่าเก็บระดับบิก๊ สายร็อก อีโม ยุคแรก ๆ ของฟิลปิ ปินส์กนั เลยทีเดียวเชียว หลายคนในบ้านเราก็รจู้ กั วงนี้ เพลงดังอมตะ นิรนั ดิก์ าล Will You Ever Learn เมือ่ ครัง้ วง Brandnew Sunset ไปเล่นทีน่ นั่ วงนีก้ เ็ คย มาเล่นเปิดให้ ครัง้ นีถ้ อื ว่าสลับกันละ มาเยือนไทยครัง้ แรกอย่างแท้ทรู ฮาฮา

Valley Of Chrome

เมทัล คอร์ระดับเอกอุจากฟิลปิ ปินส์ ครัง้ นี้ แพ็คทัวร์ในชือ่ Crows&Vikings Tour กับรุน่ พี่ ด้านบน และเมืองไทยก็อยู่ในลิสทัวร์ครัง้ นีด้ ว้ ย นัน่ ท�ำให้เราจะได้ชมวงฝีมอื วงนีเ้ ป็นครัง้ ที่ 2 (เคยมาเล่นไทยเมือ่ ปีทแี่ ล้ว) เมโลดีเ้ พลงจัด จ้านชวนโยก เนือ้ ร้องอาจจะมึนนิดส�ำหรับผู้ ไม่รภู้ าษาตากาล็อก

Berri Txarrak

วงร็อกสามชิน้ จากประเทศสเปนวงนี้ ท�ำเอา มึนเพราะไม่เคยได้ฟงั มาก่อน จัดว่าเป็นวงดังใน บ้านตัวเองและเคยขึน้ เล่นมิวสิค เฟสติวลั ขนาด ใหญ่อย่าง Resurrection Fest แน่นอนว่าเนือ้ ร้องต้องเป็นสแปนนิชแน่นอน เมโลดีเ้ พลงมีทงั้ หนักเลือดสาดยันป็อป ร็อกแน่น ๆ กันเลยเชียว ต้องมาดูเล่นสดเท่านัน้ ฮาฮา

สรุปรายชือ่ วงรายชือ่ วงทีจ่ ะมาร่วมกิจกรรมการกุศลและเมามันส์ ตามนีเ้ ลยจ่ะ วงไทยแต่วงก็คนุ้ ชือ่ กันดี Typecast / Valley Of Chrome / Berri Txarrak / Brandnew Sunset / Break The Kids / Ugoslabier / The Rocket Whale / Stray Wolves / Bra Branner / The Worst in Me / The Darkest Romance / Nerve / Wednesday / Hope The Flowers / Sinners Turned Saints / Cold Black Vines / Bleed / Phongfod

028

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 029

OLD RECORD STILL ALIVE

(1)

กล่าวได้ว่าในช่วงก่อนปี 2000 (พ.ศ. 2543) แวดวงการเพลงเมทัล อันเดอร์กราวน์ดในบ้านเรานั้นเริ่มที่จะ มีความมัน่ คงมากขึน้ อย่างช้า ๆ วงเมทัล ระดับหัวแถวหลายวงต่างก็ได้โอกาส ร่วมงานกับสังกัดเมเจอร์หลาย ๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็น “ดอนผีบิน” ที่ได้ออก อัลบั้มกับทาง Warner Music รวมไป ถึง Dezember ที่ได้โอกาสร่วมงานกับ Sony Music และ Silly Fools ที่ผละ จากอ้อมกอดของเบเกอรี่ไปสู่สังกัดมอร์ มิวสิค ขณะที่วงดนตรีอย่าง “อีโบล่า”, “โคค�าราม” และ “พล่าน” ต่างก็เพิ่งจะ ออกอัลบั้มแรกกันได้ไม่นานเท่าใดนัก อย่างไรก็ดีหากมองภาพรวมทั้งหมดเรา ก็จะพบว่าแนวเพลงที่แต่ละวงน�าเสนอ นั้นยังไม่หลากหลายเท่าใดนัก จวบจน กระทั่งการถั่งโถมก้าวเข้ามาของกระแส 030

- BLAST

magazine -

ดนตรีนูเมทัลและแร็ปคอร์โดยมีวง หัวหอกอย่าง Korn, Slipknot, Linkin Park และ Limp Bizkit เป็นแนวหน้า ทะลวงฟัน ซึ่งก็แน่นอนว่าด้วยความแรง ของดนตรีแนวใหม่แขนงนี้มันก็ได้ส่งผล ให้แฟนเพลงตลอดจนนักดนตรีรุ่นใหม่ พากันหลงใหลได้ปลื้มไปกับดนตรีที่เรา เรียกมันว่า “นู เมทัล” ไปตาม ๆ กัน เรียกได้ว่าไม่นานหลังจากนั้นวงดนตรี รุ่นใหม่ในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น Cough, Quake รวมไปถึง Cantaroot ต่างก็พา กันก้าวออกมาน�าเสนอแนวเพลงและผล งานที่พวกเขาชื่นชอบแขนงนี้กันอย่าง ถ้วนหน้า อย่างไรก็ดีนอกจากทั้ง 3 วง ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นแล้วมันก็ยังมี วงดนตรีสายเลือดไทยอีกรายที่ค่อย ๆ สร้างชื่อของตนให้เป็นที่รู้จักในหมู่แฟน เพลงอย่างช้า ๆ และวงดนตรีรายนั้น

ก็คือ “กล้วยไทย” วงดนตรีในสไตล์ นู เมทัลระดับหัวแถวที่ผมกล้าพูดได้ว่า เป็น “ตัวจริง” อีกรายของแวดวงดนตรี บ้านเรา แต่กว่าที่พวกเขาจะก้าวมาถึง วันนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นแล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปท�าความ รู้จักที่มาที่ไปของพวกเขากันดีกว่าครับ ว่าแล้วไปเลยครับ... จะว่าไปแล้วจุดเริ่มต้นของ “กล้วยไทย” ในช่วงแรก ๆ นั้นถูก มองว่าเป็นเพลงงานทดลองของ “พี่ ต๋อย” เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน คนท�างาน เพลงประกอบภาพยนตร์และโฆษณา ที่ ในขณะนั้นท�างานประจ�าอยู่ที่ Cine Digital Sound Studio โดยในช่วงเวลา นั้นทางเจ้าตัวได้รวบรวมเอาเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่คุ้นเคยกันให้มาร่วมด้วยช่วย กันท�าอีพีในชื่อ “เพลงหัวกล้วย” ซึ่งใน

กลุ่มนี้ก็มี “เอส” วสกร เดชสุธรรม ฟรอนท์แมนแกนหลักตัวจริงของทาง วงรวมอยู่ด้วย ไม่นานหลังจากนั้นผล งานอีพี “เพลงหัวกล้วย” ก็ได้ออกวาง จ�าหน่ายในช่วงปี 2545 และนอกจาก จะมีผลงานของ “กล้วยไทย” แล้ว งานเพลงชิ้นนี้ก็ยังมี “เจริญ วัตรุจี กฤต” เจ้าของผลงานอัลบั้มอันโด่งดัง ในแวดวงการเพลงใต้ดินอย่าง Safety Sex รวมไปถึง Studog รวมอยู่ด้วย ใน ส่วนเพลงของ “กล้วยไทย” ที่ถูกรวมไว้ ในอีพีชุดนี้นอกจากเพลง “พรหมจรรย์” (ในแบบรีมิกซ์) ที่สามารถก้าวขึ้นไปติด ชาร์ตในอันดับที่ 20 ของคลื่นอินดี้ อย่าง Fat Radio แล้ว ก็ยังมีแทร็ค เด็ด ๆ อย่าง “เด็กป๋า” เพลงเนื้อหาใน ท�านองต่อว่านักศึกษาสาว ๆ ในยุคนี้ที่ ตัดสินใจก้าวไปเป็นอีหนูของบรรดาป๋า I SI S US EU E 1 71 9 - - N OJ VA EN MU AB RE YR 2 0 1 87

METALMANIAC

เฒ่าหัวงูทั้งหลาย ขณะที่ “อยากรู้มั้ย” นั้นผมมองว่าเป็นเพลงที่หาสาระอะไร ไม่ได้เลย นอกจากเสียงด่าที่เซ็งแซ่ไป ตลอดทั้งเพลง และด้วยความพีคของเพลง “พรหมจรรย์” ที่สามารถก้าวไปติด ชาร์ตของ Fat Radio ดังที่บอกไปข้าง ต้นแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นคุณธเนศ เลิศวิจิตรศิลป์ เจ้าของสังกัด Justice Music ได้ตัดสินใจชักชวน “วงกล้วย ไทย” (ในขณะนั้นก็มีเพียงแค่พี่ต๋อย เพียงคนเดียว) ให้มาร่วมท�าอัลบั้มเต็ม ในโครงการ Break The Barier ร่วมกับ วงอาละดิน, พล่าน, และอีโบล่า และ จากจุดนี้นี่เองที่ถือเป็นจุดหักเหของ “กล้วยไทย” อีกครั้ง เมื่อ “เอส” (ที่ใน ขณะนั้นเป็นนักร้องน�าตามผับต่าง ๆ ในแถบย่านชานเมืองทั้งที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, Speed Time ท่าน�้านนท์และ Zodiac ผับดังในย่านบางพลัด) ถูก ดึงตัวให้เข้ามารับไม้ต่อ ณ จุดนี้ ซึ่ง ทาง “เอส” ก็ได้ตัดสินใจชวน “โจว” ภูมิพัฒน์ บุญประเสริฐ เพื่อนสนิทที่ ร้องเพลงกลางคืนอยู่ด้วยกันให้เข้ามา ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ขณะที่ทาง “พี่ ต๋อย” ก็ได้รวบรวมน้อง ๆ นักดนตรีที่ เรียนเอกดนตรีสากลจากมหาวิทยาลัย ราชภัฏจันทรเกษมอันประกอบไปด้วย “บี” ยุทธภูมิ ขวัญคุ้ม” (กีตาร์), “ต้อง” I S S U E 1 97 - JN AO VN UE MA RB YE R 2 02 10 81 7

ยุทธนา โพธิ์กิ่ง” (เบส), “หนึ่ง” สันติ ชัยปรีชา (กลอง) และ “แม็ค” มือ กีตาร์อีกรายให้มาท�าความรู้จักจนกลาย มาเป็น “กล้วยไทย” อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ เห็นกันอยู่ อย่างไรก็ตามก่อนที่ อัลบั้มแรกของทางวงจะเสร็จสิ้นลงทาง “แม็ค” ก็ได้แยกตัวออกไป และมันก็ได้ ส่งผลให้สมาชิกภายในวงเหลือกันเพียง 5 คนเท่านั้น ในส่วนของชื่อวงนั้นทางวง ที่ “พี่ต๋อย” เป็นคนตั้งให้ทางวงได้ให้ ค�านิยามว่าอาจจะเป็นเพราะอาจเป็น เพราะเจ้าตัวต้องการชื่อที่เป็นไทย ๆ ง่ายและมีความเชยอยู่ในตัวก็เป็นได้ อีกทั้งคนไทยยังชอบเปรียบเทียบค�า ว่าง่ายกับ “กล้วย” อย่างเช่นว่า “ง่าย เหมือนปลอกกล้วย” หรือ “เรือ่ งกล้วย ๆ” จึงท�าให้ทางวงได้ชื่อว่า “กล้วยไทย” มา จนกระทั่งทุกวันนี้ เดือนกรกฎาคม 2546 อัลบั้ม “กล้วยไทย” งานเพลงชื่อเดียวกับ วงก็ได้ออกวางจ�าหน่ายภายใต้สังกัด Justice Music /Warner Music แน่นอนว่าสไตล์ดนตรีในอัลบั้มนี้ก็ยัง คงความเป็นนู เมทัลเอาไว้ โดยสอด แทรกสีสันของดนตรีแร็ปร็อกและอิน ดัสเตรียล ร็อกเอาไว้อย่างแนบเนียน อีกจุดหนึ่งที่ดูจะเป็นเอกลักษณ์อันโดด เด่นของพวกเขาก็คือการสอดแทรก

ความเป็นไทยอย่างเช่นการขับเสภารวม ไปถึงการน�าเครื่องดนตรีไทยเดิมมา บรรเลงและการเขียนเนื้อร้องในแบบ กลอนแปด ซึ่งหาได้ไม่ง่ายเลยกับงาน ดนตรีในลักษณะนี้ ในส่วนแทร็คที่ผม ชื่นชอบเป็นพิเศษก็น่าจะเป็น “แอบ ถ่าย RCA ไม่เซ็นเซอร์” เพลงเนื้อหาที่ พูดได้ว่าฟังแล้วชวนอมยิ้มไปกับมุมมอง ของพวกเขาโดยแท้ ส�าหรับเพลงฮิต หลัก ๆ ในอัลบั้มชุดนี้ก็คงไม่หนีไปจาก “ส�าเร็จรูป”, Vampire Records รวมไป ถึง “ทรยศ” โดยเพลงแรกนั้นเนื้อหาดู จะเน้นไปที่การหยิกกัดการท�างานของ ศิลปินค่ายใหญ่ ๆ ในบ้านเราที่ทุกคน น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนเพลงถัด มานี่ก็เป็นแทร็คที่พวกเขาต่อว่าบรรดา พวกที่อุดหนุนแผ่นผีซีดีเถื่อน นั่นเอง และเมื่ออัลบั้มออกวางจ�าหน่าย มันก็ย่อมจะต้องมีการออกทัวร์เดินสาย โปรโมตอัลบั้มกันอยู่แล้ว ซึ่งในช่วง เวลานั้นทางวงเองก็มีคิวออกทัวร์ใน แบบ Campus Tour ตามโรงเรียนต่าง ๆ ร่วมกับวงดังอย่าง Bodyslam และ Burn ที่จะว่าไปแล้วทางวงเองเคยออก มาเผยว่ามันก็เป็นความรูส้ กึ ประหลาด ๆ อยู่บ้างทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าเพลงของ พวกเขานั้นดูจะหนักหน่วงกว่า 2 วง ที่ร่วมออกทัวร์ไปด้วย แต่อย่างไรก็ดี มันกลับกลายเป็นว่าบรรดานักเรียน

ทั้งหลายกลับพากันสนุกสนานชนิด กระโดดโลดเต้นไปกับเพลงของพวกเขา เสียอย่างนั้น และจากความส�าเร็จของ ผลงานเพลงชุดนี้มันก็ได้ส่งผลให้ทางวง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสัน อวอร์ดส์ถึง 2 สาขาด้วยกันอันประกอบ ไปด้วย “ศิลปินหน้าใหม่” และ “ศิลปิน ร็อกยอดเยี่ยม” ประจ�าปี 2546 อีก ด้วย และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รางวัล แต่มันก็เป็นการการันตีความสามารถ ของพวกเขาได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าพวก เขานั้น “ไม่ธรรมดา” อย่างแน่นอน ที่ ส�าคัญอีกอย่างก็คือในช่วงหนึ่งทางวง เคยมี “แสตมป์” อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข (ที่ขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง) มาเป็นสมาชิกในต�าแหน่งมือกีตาร์ร่วม วงอยู่ด้วย เพียงแต่ว่าเขาคนนี้อยู่ร่วม งานเพียงช่วงระยะเวลาไม่ยาวนานนัก เท่านั้น และก็เป็น “โจ” สุชาติ สามไถ คาม ที่ก้าวเข้ามาเป็นมือกีตาร์แทนที่ อย่างไรก็ตามแม้ทางวงจะเพิ่ง ออกอัลบั้มชุดแรกไปในช่วงปี 2546 นี้ แต่พวกเขาก็ยังปลีกตัวมาร่วมโปรเจ็คท์ “เพลงหัวกล้วย 002” ร่วมกับวง Sead, Studog และ Piggy โดยทางวงได้ส่ง เพลง “ภัยมืด (เหยื่อ 1)” และ “รู้เห็น เป็นใจ (กับมันหรือเปล่า)” เข้าร่วมใน ผลงานชิ้นนี้ - BLAST

magazine -

031

BLAST SPECIAL

หมาป าร็อกแอนด์โรลล์จากลอนดอน ถือเป็นอีกหนึง่ ในวงหน้าใหม่ทอี่ ยู่ในข่าย “ก�าลังดัง” ถูกกล่าวขวัญถึง ยกยอปอป น อย่างต่อเนือ่ งจากสือ่ ในบ้านเกิด โดยเฉพาะกับอัลบัม้ ล่าสุดอย่าง Visions of a Life ทีน่ กั วิจารณ์ทงั้ หลายพยายามดันกันสุดลิม่ ทิม่ ประตูดว้ ยการให้คะแนนสูงลิบลิว่ หรือแม้แต่ให้คะแนนเต็มระดับ 10/10 ก็ยงั มี จนเราอดสนใจไม่ ได้วา่ เพลงของวงจากน็อร์ธลอนดอนวงนี้ มันพีคขนาดนัน้ เลยเชียวหรอ Wolf Alice เป็นวงร็อก 4 ชิน้ ก่อตัง้ เมือ่ ปี 2010 โดยมีสมาชิก Ellie Rowsell ร้องน�า,กีตาร์ Joff oddie กีตาร์, ร้อง Theo Ellis เบส และ Joel Amey กลอง, ร้อง ผลงาน 2 อัลบัม้ เต็ม My Love Is Cool และ Visions of a Life ถูกเสนอชือ่ เวทีรางวัลใหญ่ ๆ มากมายทัง้ UK Festival Awards , iTunes, Mercury Prize, Brit Awards, Grammy Awards, NME Awards หลังจากฟ งแล้วก็พอจะบอกต่อได้วา่ ดีจริง สมค�าร�า่ ลือ แต่จะให้ขนาดเฟอร์เฟ็กต์แบบไร้ทตี่ เิ ลย อาจจะเกินความจริงไปสักนิดในความเห็นผูเ้ ขียน อย่างไร ก็ตาม พวกเขาเป็นวงทีม่ คี วามน่าสนใจอยู่ไม่นอ้ ย โดยเฉพาะการแสดงสดเยีย่ ม ๆ นัน้ ถือเป็นจุดแข็งของวงที่ใครก็ยากจะปฏิเสธ และโอกาสทีว่ งจะโฉบมาเล่นโชว์ ใน Laneway Festival สิงคโปร์ ช่วงต้นปี 2018 นี้ (เข้าไปดูรายละเอียดได้ใน Officail เว็บ) ท�าให้สอื่ เล็ก ๆ อย่าง Blast ได้ควิ สัมภาษณ์พเิ ศษกับเอลลีย่ ์ กระบอกเสียง ของวง (ผ่านสือ่ อินเตอร์เน็ต) มาแบบเหนือความคาดหมาย และนีค่ อื บทสนทนาทีเ่ กิดขึน้ สวัสดีครับ เราคือ Blast แม็กกาซีน จากประเทศไทย รูส้ กึ เป็นเกียรติอย่าง ยิง่ ที่ได้พดู คุยกับคุณ เอลลีย่ ์ โรว์เซลล์ (นักร้องนํา) : เช่นกัน ดูเหมือนคุณเพิง่ เสร็จสิน้ การทัวร์ที่ แคนาดา และอเมริกา ฟีดแบ็คทีค่ ณ ุ ได้รบั เป็นยังไงบ้าง เอลลีย่ :์ เยีย่ มค่ะ ฉันคิดว่า เพลงของเรามีจงั หวะจะโคนทีด่ มี าก ๆ ส�าหรับการน�ามาเล่นโชว์ ไม่เพียง 032

- BLAST

magazine -

คนดูจะสนุก เราเองก็สนุกไปด้วย เหมือนกัน แต่นนั่ ไม่ใช่เรือ่ งเดียว หรอก สิง่ ทีฉ่ นั โปรดปรานอีกอย่าง เกีย่ วกับการได้ทวั ร์ไปในทีต่ า่ ง ๆ ก็ คือการได้เห็นผูค้ น มันเป็นสิง่ วิเศษ มาก ๆ ที่ได้เห็นผูค้ นเอนจอยกับ ดนตรีทเี่ ราตัง้ ใจท�าออกมา ส่วนตัวผมคิดว่างานของพวกคุณมี ส่วนผสมของดนตรี กรัน้ จ์, การาจ, นอยส์ และดรีมป็อป อย่างละนิด อย่างละหน่อยรวมอยูด่ ว้ ยกัน นัน่ น่า

สนใจมาก ว่าแต่คณ ุ นิยามดนตรีของ พวกคุณเองว่าอะไร เอลลีย่ :์ ฉันตอบค�าถามท�า นองนีม้ มาหลายครัง้ แล้ว ดูเหมือน จะมีสอื่ หรือบางคนติดป้ายก�ากับเรา ว่าเป็น “วงกรันจ์ผสมโฟล์ค” ซึง่ ฉัน ก็ไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร ไม่คดิ ว่ามันจะเป็นนิยามทีจ่ ะสือ่ ถึงวงเราได้ ไม่รทู้ า� ไมคนถึงชอบถามกันนักว่า “คุณเล่นดนตรีแนวไหน” อันทีจ่ ริงฉัน อยากจะบอกแบบกว้าง ๆ ว่าวงเราเล่น “ดนตรีรอ็ ก” แต่บางทีฉนั ก็ประสาท

เล็ก ๆ เกีย่ วกับค�า ๆ นี ้ เพราะมัน มักจะท�าให้นกึ ถึงภาพคนแก่ หรือคน ทีร่ อ้ งเพลงเกีย่ วกับการมีเซ็กส์กบั ผู้ หญิง การส่ายสะโพก แล้วก็โซโล่ กีตาร์ในทุกห้านาที แต่ในความเป็น จริงดนตรีรอ็ กมันมีสงิ่ อืน่ ทีน่ า่ สนใจ มากกว่านัน้ ภาพบนปกอัลบัม้ ชุดนีส้ ะดุดตามาก คุณคิดอย่างไรถึงใช้มนั เอลลีย่ :์ วงเราไม่เคยท�าภาพ อาร์ตเวิรค์ ใด ๆ ขึน้ เอง เราก็แค่รอ ISSUE 19 - JANUARY 2018

แอม เอสเตลลา

ให้เห็นอะไรบางอย่างทีเ่ ราชอบและ เอามันมาใช้ ฉันชอบภาพนีเ้ พราะมัน สอดคล้องกับค�าว่า “Visions of a Life” ชือ่ อัลบัม้ ของเราพอดี บนหน้า ปกคุณจะเห็นหญิงสาวในชุดเต้นร�า โพสต์ทา่ อยูข่ า้ ง ๆ หัวกระโหลก เรา ไม่รแู้ น่ชดั ว่าเธอท�าอะไร แต่ในหัวเธอ น่าจะก�าลังจินตนาการ หรือคิดเกีย่ ว กับเรือ่ งอะไรอยูส่ กั อย่าง เวลาทีค่ ณ ุ เห็นภาพนี ้ มันท�าให้คณ ุ คิดใช่ไหม ว่า มันคืออะไรกันแน่ แล้วคุณก็เริม่ มีมมุ มองบางอย่างเกีย่ วกับมันขึน้ มา นัน่ ล่ะ Visions of a Life ตอนฉันยังเด็ก ฉันชอบจินตนาการ คิดเรือ่ งนัน่ นี่ไป เรือ่ ย เล่นกับเรือ่ งราวในหัว พอมา เห็นภาพนี ้ มันท�าให้ฉนั คิดถึงตัวเอง น่ะ จากที่ได้ฟง เนือ้ หาของหลาย ๆ เพลง เดาว่ามันมาจากประสบการณ์สว่ น ตัวของคุณเองใช่ไหม เอลลีย่ :์ เพลงในอัลบัม้ มันไม่ ได้เป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกับตัวฉันทัง้ หมด หรอก บางที เพือ่ น หรือสิง่ ต่าง ๆ ที่ เกิดขึน้ รอบ ๆ ตัว ก็ถกู ใช้มาเป็นแรง บันดาลใจในการเขียนเพลงเหมือนกัน มีคน และเรือ่ งราวจ�านวนมากมาย ทีฉ่ นั ต้องการเขียนถึงว่ารูส้ กึ อย่างไร เกีย่ วกับมัน หรือแม้แต่อธิบายเกีย่ ว กับสิง่ ทีพ่ วกเขาท�าว่ามันโรแมนติก หรือไม่โรแมนติกอย่างไร ชีวติ มีเรือ่ ง ให้หยิบมาพูดถึงอยูเ่ สมอนัน่ แหละ เวลาคุณได้ออกไปเจอสิง่ ทีน่ า่ สนใจ ครัง้ แรกที่ได้ฟง เพลง “Yuk Foo” บอกเลยว่า อึง้ ไปหลายวิ ไม่อยากเชือ่ ว่า นีค่ อื เพลงของ Wolf Alice คุณ ไปเอาความเกรีย้ วกราดพวกนีม้ า จากไหน เอลลีย่ :์ ตอนแต่งเพลง Yuk Foo ฉันก�าลังทัวร์อยู่ในโคลัมบัส หรือโอไฮโอนีแ่ หละ รูส้ กึ เหนือ่ ยมาก ความเหนือ่ ยล้านัน่ มันทรมานฉัน ราวกับเพิง่ ผ่านการทัวร์คอนเสิรต์ มา สักพันปี ข้างในมันอัดอัน้ จนอยากจะ ระเบิดออกมาด้วยอะไรสักอย่าง ฉัน เพิง่ จะอ่านหนังสือ Our Band Could Be Your Life จบมาหมาด ๆ ด้วย มัน เป็นหนังสือ่ เกีย่ วกับวงอเมริกนั พัง้ ก์ เลยเกิดเป็นไอเดียขึน้ มาว่าอยากจะ แต่งเพลง 3 นาทีจบ ทีเ่ ต็มไปด้วย ISSUE 19 - JANUARY 2018

ความมุทะลุ จ�าได้วา่ ฉันอยู่ในห้องแต่ง ตัว รอขึน้ เล่นในรายการวิทยุ ห้อง ถัด ๆ ไปก็เป็นวงอืน่ มีศลิ ปินดังอยู่ แถวนัน้ เพียบ ความคิดเกีย่ วกับเพลงนี้ มันก็เกิดขึน้ เร็วมาก ฉันใช้สมาธิจดจ่อ กับมันไม่นาน ก็ได้ออกมาเป็นเพลง Yuk Foo โดยไม่มกี ารปรับแต่งหรือ แก้ไขใด ๆ ในภายหลังทัง้ สิน้ เพราะ ฉันอยากจะเก็บความตืน่ เต้นและ ความสดของมันเอาไว้ ห้องแต่งตัวนัน่ เก็บเสียงไม่ดเี ท่าไหร่ วง Foals อยู่ใน ห้องติดกัน ไม่แน่ใจว่าพวกเขาได้ยนิ เสียงกรีดร้องของฉันตอนแต่งเพลงนี้ ในท่อนทีร่ อ้ งว่า “อยากแจกฟวยกับ ทุกคนที่ได้พบเจอ” บ้างหรือเปล่า

แล้วเพลง “St. Purple & Green” ล่ะ เหมือนคุณเขียนถึงใครสักคน แต่ ฟ งแล้วมันนามธรรมเหลือเกิน เอลลีย่ :์ เพลงนีเ้ กีย่ วกับคุณย่า ของฉันเอง เป็นคนประหลาดมาก แต่ ก็เจ๋งด้วย ท่านเป็นโรคสมองเสือ่ ม แต่ ก็ยงั ท�าหลาย ๆ อย่างทีค่ าดไม่ถงึ ออก มาให้ฉนั ประหลาดใจได้เสมอ บาง ครัง้ เกือบจะเป็นเรือ่ งเหนือธรรมชาติ ด้วยซ�า้ มันทัง้ เพีย้ น ทัง้ น่าทึง่ ด้วย เนือ้ หานีท้ า� ให้สามารถใส่เสียงคอรัส แปลก ๆ เข้าไปในเพลง และมันก็ ออกมาอย่างทีเ่ ห็น

“Visions of a Life” ดีกว่าเพลงอืน่ อย่างไร ถึงถูกเลือกมาเป็นชือ่ อัลบัม้ เอลลีย่ :์ เป็นเพลงทีเ่ ราภูมใิ จ ส่วน “Don’t Delete The Kisses” เหมือนเป็นเพลงทีส่ อื่ ถึงด้านตรงกัน กับมัน ความจริงฉันไม่ชอบการเอาชือ่ เพลงมาตัง้ เป็นชือ่ อัลบัม้ เท่าไหร่ แต่ ข้ามของคุณ เพลงนีม้ นั กินความหมายรวมทัง้ หมด เอลลีย่ :์ Don’t Delete The Kisses ฉันอยากให้มนั เป็นเพลงทีค่ น ในสิง่ ทีเ่ ราพูดถึง มันท�าให้ได้คดิ เกีย่ ว สามารถเปิดฟังเวลาขับรถออกไปข้าง กับชีวิต รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย นอกอะไรแบบนัน้ มันมีจงั หวะให้ขยับ เล็ก ๆ ทีเ่ ราต้องเจออยูท่ กุ เมือ่ เชือ่ วัน ตามได้ แต่กม็ คี วามนิม่ นวลด้วย ตอน แถมมันยังคลิก๊ กับเรือ่ งราวในเพลง แรกฉันอยากแต่งเพลงรักแบบเปลือย อืน่ ๆ ได้อกี ด้วย แต่ตอนแรกเราไม่ได้ เปล่า ตรงไปตรงมา เพราะในเมือ่ จะ ตัง้ ใจให้มนั ออกมาเป็นแบบนีห้ รอก เขียนเพลงเกีย่ วกับเรือ่ งท�านองนีแ้ ล้ว ฉันก็ไม่อยากท�าแบบครึง่ ๆ กลาง ๆ ในงานชุดนีก้ ารใช้เสียงร้องของคุณ อยากจะให้มนั ชัดเจน ให้มนั เศร้าชนิด พัฒนาไปไกลมาก มีทงั้ การร้องที่ เข้าเส้นเลือดด�าของคนฟังตัง้ แต่สอง เหมือนการร่ายมนต์ บ้างก็เป็นการ ประโยคแรก แต่แล้วก็รสู้ กึ ขึน้ มาว่า กรีดร้อง และบางทีกเ็ หมือนการเสียง เฮ้อ! มันหดหูม่ ากกว่ากับเพลงรักแบบ พูดบ่น ๆ แน่นอนว่ารวมถึงเสียง นี ้ เลยปรับโฉมมันเสียใหม่ ให้มนั ออก คอรัสเพราะ ๆ ในบางเพลงด้วย มันดีนะ แต่ทา� ไมคุณถึงต้องพยายาม มาในมุมฟีลกูด้ อย่างที่ได้ฟงั กัน ทดลองขนาดนัน้ เอลลีย่ :์ ฉันคิดว่าฉันไม่คอ่ ย ดนตรีของเพลง “Sky Musings” ได้ทา� อะไรมากนักในอัลบัม้ ชุดก่อน เจ งมาก ว่าแต่เนือ้ เพลงมันเกีย่ วกับ เพราะเรามีเวลาบันทึกเสียงกันค่อน อะไร ข้างน้อย แต่กบั อัลบัม้ ชุดนีเ้ รามีความ เอลลีย่ :์ ฉันเป็นคนชอบเดิน พร้อมกันเต็มที ่ ทัง้ เครือ่ งไม้เครือ่ ง ทาง และผ่านการขึน้ เครือ่ งบินมา มากมาย แต่ทกุ ครัง้ ทีข่ นึ้ เครือ่ งฉันยัง มือ และเวลา นัน่ เลยเป็นเหตุผลที่ มีความรูส้ กึ ประหลาดอยูอ่ ย่างนึง มัน ท�าให้เราคิดว่าน่าจะลองท�าอะไรสัก อย่างให้งานมันออกมาสด น่าสนใจ เป็นความหวัน่ วิตกเล็ก ๆ ในกรณีนี้ ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะเห็นมุมมองเกีย่ ว มากขึน้ อีกนิด และเสียงร้องก็เป็น องค์ประกอบส�าคัญอย่างหนึง่ ทีฉ่ นั กับชีวติ ว่าบางทีชวี ติ ของเราก็อยู่ใน ก�ามือของคนอืน่ โดยไม่รตู้ วั อันนีร้ วม สามารถประยุกต์ หรือพัฒนาให้มนั ดี ถึงเรือ่ งต่าง ๆ ในชีวติ ด้วยเหมือนกัน กว่าเดิมได้ เช่น เรือ่ งของความสัมพันธ์ บ่อยครัง้ มันก็ไม่ได้ขนึ้ อยูก่ บั เรา ฉันตัง้ ใจเขียน ในมุมมองของศิลป นเจ้าของผล งาน คุณคิดว่าอัลบัม้ ชุดนีท้ า� ให้คณ ุ เพลงนี้ให้มนั เป็นเพลงหม่น ๆ แต่ก็ พัฒนาตัวเองมากขึน้ ตรงไหนบ้าง แทรกอารมณ์ขนั ไว้ดว้ ย

เอลลีย่ :์ เพลงส่วนใหญ่ใน อัลบัม้ My Love Is Cool แต่งขึน้ ตอน ทีฉ่ นั เป็นวันรุน่ ตอนปลาย อายุ 20 ต้น ๆ มันเป็นจุดส�าคัญในชีวติ แน่นอนว่าการเป็นวัยรุน่ ท�าให้เรา ครุน่ คิด ว้าวุน่ เกีย่ วกับเรือ่ งต่าง ๆ มากมาย การเติบโตไปเป็นผูใ้ หญ่ เอย อะไรเอย บางทีเราก็ไม่คอ่ ย เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร และควร รูส้ กึ อย่างไร แต่กบั Visions of a Life มันถูกท�าออกมาตอนทีฉ่ นั รูส้ กึ ว่าตัว เองเป็นผูใ้ หญ่แล้ว มีประสบการณ์ ชีวติ มากพอ การตอบสนองต่อเรือ่ ง ต่าง ๆ ซึมซับมันแล้วแปรออกมาเป็น งานเพลงย่อมดีกว่าตอนเป็นวัยรุน่ กะโหลกกะลาแน่ ๆ แล้วอะไรคือสิง่ ทีค่ ณ ุ ภูมิใจทีส่ ดุ เกีย่ ว กับมัน เอลลีย่ :์ ฉันไม่รเู้ กีย่ วกับเรือ่ ง นีจ้ ริง ๆ ไม่รเู้ ลยว่าควรภูมใิ จกับอะไร มากทีส่ ดุ เท่าทีน่ กึ ออกฉันคิดว่าตอน ท�า Visions of a Life เรามีทางเลือก มากขึน้ มีความพร้อม เลยท�าให้เรา สามารถท�าอัลบัม้ ออกมาเพือ่ ตัวเอง จริง ๆ โดยที่ไม่ตอ้ งไปคิดถึงเงือ่ นไข ทีจ่ ะท�าให้เราประสบความส�าเร็จมาก จนเกินไปนัก ดังนัน้ สิง่ ทีอ่ ยู่ในหัวเรา ตอนท�าเพลง คือท�าอย่างไรให้เพลง มันดียงิ่ ขึน้ ไม่ตอ้ งคิดเกีย่ วกับเรือ่ งอืน่ เราต่างสนับสนุนกันและกัน ในการ ทดลอง หรือตัดสินใจเกีย่ วกับสิง่ ทีท่ า� ซึง่ สุดท้ายผลลัพธ์ทอี่ อกมาเราพอใจ กับมันมาก การท�างานแบบนีม้ นั เวิรค์ ทุกคนในวงชอบอัลบัม้ นีก้ นั หมด และ หวังว่าแฟนเพลงจะชอบมันด้วยเช่นกัน ค�าถามสุดท้าย คุณรูจ้ กั กรุงเทพฯ ไหม เพลงดังของคุณทีน่ คี่ อื “Silk” กับ “Don’t Delete The Kisses” แน่นอนว่ามีแฟนเพลงจ�านวนหนึง่ รอชมคอนเสิรต์ ของพวกคุณอยู่ แต่ โอกาสนัน้ ยังไม่เกิดขึน้ มีอะไรจะพูด กับพวกเขาไหม เอลลีย่ :์ ฉันรูจ้ กั กรุงเทพฯ มี หลายคนเล่าให้ฟงั เกีย่ วกับทีน่ นั่ หวัง ว่าสักวันจะได้ไปเล่นคอนเสิรต์ ให้พวก คุณดูกนั ขอบคุณทีส่ นับสนุนพวกเรา

- BLAST

magazine - 033

MOVIES

C A L L M E B Y Y O U R N A M E คิมหันต์แห่งปรารถนา

ที่ผ่านมาผมเขียนถึงหนังเอเชีย และหนังฮอลลีวูดที่ค่อนข้างที่จะอยู่ ในกระแสไปก็หลายเรื่องแล้ว Blast Movies เล่มนี้ผมขอถือโอกาสเขียน ถึงหนังยูโรเปียนและค่อนข้างที่จะ เป็นหนังนอกกระแสเล็กน้อยดูบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ Call Me by Your Name เป็นหนังของ ผู้ก�ำกับชาวอิตาลี ลูค่า กัวดาญีโน่ ซึ่งที่ผ่านมามักจะท�ำหนังที่สะท้อน ให้เห็นถึงพลังแห่งความปรารถนา ส่วนลึกของตัวละครที่สะท้อนออก มาผ่านการผันแปรเปลี่ยนแปลงของ ธรรมชาติและที่ส�ำคัญอย่างยิ่งก็คือ ความใหลหลงในกิเลสตัญหาที่เย้า ยวนใจของมนุษย์ ซึ่งหนัง Call Me

by Your Name ที่ดัดแปลงมาจาก นิยายของ อังเดร เอซิแมน ที่เป็น ศาสตราจารย์ทางด้านภาษาและ วรรณกรรมก็เป็นหนังปิดฉากไตร ภาคของ ลูค่า กัวดาญีโน่ ที่ตั้งใจ สร้างหนังที่ถ่ายทอดเรื่อง “ความ ปรารถนา” (Desire) ที่ฉากหลังของ เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศอิตาลีออก มา 3 เรื่อง โดยมีเรื่องแรกคือ I Am 034

- BLAST

magazine -

Love(2009) ส่วนเรื่องที่ 2 ก็คือ A Bigger Splash (2015) ที่เล่าเรื่อง ความรักความปรารถนาที่ทั้งพิลึกและ แปลกประหลาดของชายหญิงที่เกิด ขึ้นรอบ ๆ สระน�้ำและมีอัลบั้มของวง The Rolling Stones ที่ส่งผลต่อเรื่อง ราวอย่างมีนัยยะส�ำคัญ ส่วน Call Me

by Your Name มีพล็อตเรื่องที่ไม่ ซับซ้อน เพราะมันเล่าเรื่องราวความ รักอันยากจะลืมเลือนของชายต่าง วัยคู่หนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของ ปี 1983 โดนมีภาคเหนือของประเทศ อิตาลีเป็นฉากหลัง ผลงานหนังของ ลูค่า กัวดาญี โน่ มีความเป็น poetry หรือมีความ เป็นกวีสูง ซึ่งสิ่งที่ขับเน้นก็คือการ สร้างโลกอีกโลกหนึ่งที่ค่อนข้างจะ แปลกแยกไปจากสังคมขึ้นมาและขับ เน้นบรรยากาศในสังคมนั้น ๆ ให้มี ความเป็นอัตลักษณ์โดดเด่นขึ้นมาไม่ ต่างไปจากการสร้างคาแรกเตอร์ที่มี บทบาทส�ำคัญในการเล่าเรื่อง หนัง ของ ลูค่า กัวดาญีโน่ มักมีตัวละคร ที่มีความผิดปรกติทางด้านจิตใจหรือ อย่างน้อยก็มีบุคลิกนิสัยที่ค่อนข้าง

เย็นชาซับซ้อนเพื่อจ�ำลองให้เห็นถึง ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ที่เอาแน่ เอานอนอะไรไม่ค่อยได้ ไม่ต่างไปจาก การผันเปลี่ยนของฤดูกาลที่บางครั้งก็ ไม่สามารถพยากรณ์คาดเดาอะไรล่วง หน้าได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ยังคงเป็น หัวใจส�ำคัญในผลงานหนังเรื่องล่าสุด ของ ลูค่า กัวดาญีโน่ ที่ถือเป็นผล งานการก�ำกับระดับมาสเตอร์พีซอีก เรื่องหนึ่งของเขา Call Me by Your Name ถ่ายทอดเรื่อง First Love หรือ “รัก แรก” ที่มีความน่าอภิรมย์ไม่ต่างไป จากแสงแดดแรงกล้าที่สาดส่องลง มาเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้ กับโลก เช่นเดียวกับท้องฟ้าที่เต็มไป ด้วยก้อนเมฆสีขาวไออุ่นจากแดดก็ ดูบริสุทธิ์เหมือนกับไม่เคยสัมผัสกับ ความโหดร้ายอันหนาวเหน็บในช่วง ฤดูหนาวมาก่อน ต้นไม้ใบหญ้าที่ยืน เรียงรายก็ดูมีชีวิตชีวาเมื่อกิ่งก้านของ พวกมันต้องแสงอาทิตย์ ฤดูร้อนถูก ขับเน้นให้มบี ทบาทโดดเด่นอย่างมีนยั ยะ ส�ำคัญส�ำหรับหนังเรื่องนี้ เนื่องด้วย ไออุ่นจากแสงแดดได้ช่วยหล่อเลี้ยง

ให้ชีวิตมีชีวาและก็คงไม่มีบรรยากาศ แห่งฤดูกาลไหนอีกแล้วที่จะเหมาะสม กับการเริ่มที่จะค้นพบรักแรกที่ยากจะ ลบเลือนของชายหนุ่มที่เริ่มที่จะเติบโต เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับต้นไม้ ใหญ่ที่เริ่มผลิดอกออกผลเพื่อหล่อ เลี้ยงชีวิตให้กับโลกใบนี้ ฤดูร้อนเป็น ช่วงเวลาที่เหมาะสมเหลือเกินส�ำหรับ การเริ่มรู้จักและค้นพบตัวเอง เอลีโอ (ทิโทธี ชาลาเมท์) เด็กหนุ่มวัย 17 ปีใช้ชีวิตในช่วงหน้า ร้อนอยู่กับพ่อ (ไมเคิล สตูลบาร์ก) ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีโรมัน และแม่ (เอมิรา ซาซาร์) ในบ้านที่ แวดล้อมไปด้วยเทือกสวนป่าเขาแห่ง หนึ่งทางตอนเหนือของอิตาลี เอลีโอ เป็นเด็กหนุ่มที่เป็นทั้งนักอ่านและนัก ดนตรีที่ ใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนกับมาร์ เซีย (เอสเทอร์ การ์เรล) แฟนสาว อย่างเด็กหนุ่มที่ทั่วไปที่ไม่ใคร่รู้นักว่า สิ่งที่หัวใจเรียกร้องนั้นคืออะไร จน กระทั่งการมาเยือนของ โอลิเวอร์ (อาร์มี แฮมเมอร์) ชายหนุ่มชาว อเมริกันที่เดินทางมาพักอยู่ที่บ้านตาม ค�ำเชิญของพ่อเพื่อมาช่วยท�ำงานวิจัย ISSUE 19 - JANUARY 2018

ศรัณยู ตรีสุคนธ์

โอลิเวอร์ เป็นแบบฉบับของชายชาว อเมริกันอย่างเต็มรูปแบบ สูงใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้าม มีเสน่ห์มัดใจ หญิงสาว มีความกล้าและมั่นใจในตัว เอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ เอลีโอ ไม่มี และเฝ้าฝันว่าตัวเขาเองจะมีในสักวัน หนึ่ง ทีละน้อย เอลีโอ ค่อยถูกดึงเข้า สู่เสน่หาอันลึกลับนี้ตั้งแต่วันแรกที่ โอ ลิเวอร์ ได้ก้าวเข้าสู่ประตูห้องนอน ของ เอลีโอ และหลังจากนั้นชีวิตของ เด็กหนุ่มก็ไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม อีกต่อไป ส�ำหรับ เอลีโอ แล้ว โอลิเวอร์ เป็นดัง่ แสงแรกของวันใหม่ทสี่ าดส่อง ชีวาเข้ามาสูช่ วี ติ ของเขา แรกเริม่ ดู เหมือนว่า เอลีโอ จะค่อย ๆ ซึมซับความ เป็นชายหนุม่ , ความก�ำย�ำและความ มัน่ ใจซึง่ เป็นสิง่ ทีเ่ ขาไม่เคยมีเข้ามาเป็น ส่วนหนึง่ ของตัวเอง แต่พอนานวันเข้า เอลีโอ ถึงได้รแู้ น่แก่ใจว่าความเป็นชาย ไม่ได้เป็นสิง่ ทีเ่ ขาอยากเป็น แต่เป็นสิง่ ทีเ่ ขาต้องการ ซึง่ ความปรารถนาทีม่ า จากส่วนลึกของจิตใจนีถ้ กู ขับเน้นออก มาจากความร้อนรุม่ ในทุกครัง้ ที่ เอลี โอ ได้พบหน้ากับ โอลิเวอร์ จากบท ISSUE 19 - JANUARY 2018

สนทนาค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นการถูกเนือ้ ต้องตัวจนในทีส่ ดุ ก็กลายเป็นความ สัมพันธ์ทยี่ ากจะลืมเลือน ความรักและความปรารถนาที่ กล่าวมาไม่ได้เกิดขึน้ อย่างปุบปับและ จบลงบนเตียงภายในระยะเวลาอัน รวดเร็วเหมือนหนังฮอลลีวดู ทัว่ ๆ ไป แต่มนั ค่อยพัฒนาอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ในท่วงท�ำนองทีอ่ อ่ นไหว เปราะบางเต็มไปด้วยความละเอียด อ่อนไม่ตา่ งไปจากบทกวีทสี่ รรเสริญ ความงามของความรักและเพศรส เรือ่ งราวในส่วนของความรักทีเ่ กิด ขึน้ ระหว่างชายหนุม่ ต่างวัยค่อย ๆ เติบโตขึน้ อย่างละเมียดละไมและเต็ม ไปด้วยความสุขท่ามกลางธรรมชาติ แห่งขุนเขา, สายน�ำ้ ล�ำธาร และ สถาปัตยกรรมทีง่ ดงามทีซ่ อ่ นตัว อยูอ่ ย่างเร้นลับทางตอนเหนือของ ประเทศอิตาลี ผูช้ มสามารถสัมผัสถึง อารมณ์ปรารถนาในส่วนลึกของทัง้ 2 ตัวละครได้วา่ มันเป็นไปด้วยความร้อน รุม่ ทีก่ ำ� ลังแผดเผาจิตใจอยูไ่ ด้ดว้ ยการ แสดงทีย่ อดเยีย่ มอย่างมากของทัง้ ทิ โมธี ชาลาเมท์ และ อาร์มี แฮมเมอร์

ไม่วา่ จะเป็นแต่ละสัมผัสทีต่ า่ งฝ่ายจับ ต้องกัน ความปรารถนา, ความห่วง หาอาทร และความคิดถึงในทุกโมง ยามทีแ่ สดงออกมาผ่านทางสายตาได้ อย่างไร้ทตี่ ขิ องทัง้ คู่ ส่วนสิง่ ทีช่ ว่ ยขับ เน้นความโรแมนติกและธรรมชาติของ การถ่ายโอนความรักได้อย่างหมดจด ผ่านแสงแดดในช่วงฤดูรอ้ นได้อย่าง งดงามเหลือเกินก็คอื การก�ำกับภาพ ของ สยมภู มุกดีพร้อม ผูก้ ำ� กับภาพ ชาวไทยทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังความสวยงาม อย่างลึกซึง้ ของภาพในทุกซีเควนซ์ที่ ปรากฏให้เห็น งานภาพใน Call Me

by Your Name มหัศจรรย์ถงึ ขัน้ ทีผ่ ู้ ชมสัมผัสได้ถงึ ความอบอุน่ จากไอแดด, ความสดชืน่ จากแม่นำ�้ ล�ำธารและความ รืน่ รมย์จากรูปปัน้ และสถาปัตยกรรม ทีร่ ายล้มอยูร่ อบ ๆ ตัวละคร นอกจาก นีก้ ารใช้ขนาดภาพทีเ่ หมาะสมรวม ถึงการก�ำหนดให้ภาพมีความชัดเท่า ๆ กันในเฟรมเกือบจะตลอดทัง้ เรือ่ ง ก็ทำ� ให้ผชู้ มรูส้ กึ ได้ทนั ทีวา่ ความรัก เป็นเรือ่ งธรรมชาติทกี่ ลมกลืนไปกับ ทัศนียภาพและฤดูกาลไม่วา่ ความ รักนัน้ จะเกิดขึน้ กับเพศใดและอยู่ใน สถานะใดก็ตาม ความงดงามดังทีก่ ล่าวมานัน้ ลึก ซึง้ ถึงขัน้ ทีว่ า่ อังเดร เอซิแมน เจ้าของ นิยายเองแท้ ๆ ก็ยงั ยกย่องให้ผลงาน หนังเรือ่ งนีด้ กี ว่าผลงานการเขียนของ ตัวเองซึง่ เป็นสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ไม่บอ่ ยนัก ผู้ ก�ำกับ ลูคา่ กัวดาญีโน่ ประสบความ ส�ำเร็จอย่างครบถ้วนในแง่ของการ บรรลุถงึ การเข้าถึงอารมณ์ปรารถนา จากส่วนลึกของมนุษย์ ความรัก ระหว่าง เอลีโอ และ โอลิเวอร์ เกิด ขึน้ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนทีจ่ ะ ทวีความรุนแรงมากขึน้ จนในทีส่ ดุ แม้ กระทัง่ ผูช้ มก็ยงั ต้องกลัน้ หายใจและ ปล่อยลมหายใจนัน้ ออกมาเมือ่ ถึงฉาก ทีต่ วั ละครเอกทัง้ 2 คนปลดปล่อย แรงปรารถนาเหล่านัน้ ออกมาอย่าง หมดจดบนเตียงในค�ำ่ คืนหนึง่ ของฤดู ร้อน ก่อนที่ โอลิเวอร์ จะเอ่ยค�ำพูด ออกมาว่า “ขอให้เธอเรียกฉันด้วยชือ่ ของเธอ และฉันจะเรียกเธอด้วยชือ่ ของฉันเช่นกัน” (call me by your name and I will call you by mine)

การเอ่ยชือ่ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึง ความรักทีต่ า่ งฝ่ายต่างก็มีให้กนั อย่าง ล้นเอ่อเท่านัน้ แต่มนั เป็นความหมาย เชิงเปรียบเทียบในลักษณะทีว่ า่ ความ รักระหว่างชายและชายด้วยกันยังเป็น เรือ่ งเร้นลับที่ไม่สามารถเอ่ยปากออก มาได้อย่างตรงไปตรงมาและการเอ่ย ชือ่ ตัวเองให้คนรักได้ยนิ ก็ให้ความรูส้ กึ โรแมนติกได้อย่างลึกซึง้ และเต็มไป ด้วยความหมาย เพลงอีกหนึง่ เพลงทีส่ อื่ นัยยะ ส�ำคัญในหนังเรือ่ งนีก้ ค็ อื “Love My Way” เพลง นิว เวฟ ยุค 80 ของ วง Psychedelic Furs มันเป็นเพลงที่ สร้างความสุขให้กบั โอลิเวอร์ อย่าง มาก แต่ในค�ำ่ คืนสุดท้ายทีท่ งั้ คูไ่ ด้อยู่ ด้วยกันก่อนทีจ่ ะจากกันไปในกรุงโรม กลับท�ำให้ เอลีโอ รันทดใจจนถึงขัน้ อาเจียนออกมา ความรูส้ กึ เศร้าอย่าง เหลือแสนนีถ้ กู ถ่ายทอดออกมาอย่าง เรียบง่ายและเต็มไปด้วยพลังอีกครัง้ เมือ่ ทัง้ คูจ่ ะต้องจากกันแล้วจริง ๆ ที่ สถานีรถไฟ หลังจากนีด้ เู หมือนว่า แสงแดดในช่วงฤดูรอ้ นจะอ่อนแรงลง ลมหนาวเริม่ ทีจ่ ะพัดผ่านเข้ามาและใน ทีส่ ดุ ภาพของต้นไม้ทถี่ กู ปกคลุมไปด้วย หิมะก็เข้ามาแทนที่ ฤดูรอ้ นได้จบลง แล้วอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับเด็กหนุม่ ที่ เอลิโอ เคยรูจ้ กั และเคยเป็นในช่วง ฤดูรอ้ นนัน้ ก็ได้จากไปแล้วอย่างสิน้ เชิง เช่นกัน มีคำ� พูดหนึง่ ของคุณพ่อ ศาสตราจารย์ทพี่ ดู เพือ่ ปลอบใจ เอลี โอ ในช่วงท้าย ๆ ของหนังเรือ่ งนีแ้ ละ อยากทีจ่ ะยกถ้อยค�ำบางส่วนมาฝาก กัน เพราะมันให้แง่คดิ สอนใจคนเรา ทุกคนได้ดีไม่วา่ จะได้มโี อกาสได้ดหู นัง เรือ่ งนีห้ รือไม่กต็ าม “ความรักเป็นสิง่ พิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความรัก ระหว่าง ลูก และ โอลิเวอร์ เป็นสิง่ ที่ เกิดขึน้ ได้ยากมากนะ ร่างกายอีกไม่ นานก็แก่และร่วงโรยจนไม่มีใครอยาก ทีจ่ ะมอง เราไม่ควรทีจ่ ะแกล้งมองข้าม ความเจ็บปวดที่ได้รบั มา อย่าเร่งทีจ่ ะ ลืมมันไป คนเราเกิดมามีรา่ งกายและ หัวใจเดียว การหลีกเลีย่ งความเจ็บปวด จนหัวใจด้านชาไม่รสู้ กึ รูส้ าต่อสิง่ ใดนัน้ ช่างเป็นความสูญเปล่าเหลือเกิน” - BLAST

magazine - 035

SPECIAL INTERVIEW

BLAST TEAM

MATT GREINER AUGUST BURNS RED INTERVIEW WITH

OF

เมือ่ ต้นเดือนตุลาคม 2560 ทีผ่ า่ นมา ร้านธีระ มิวสิค ตัวแทน จ�าหน่ายฉาบ Zildjian ในประเทศไทย ได้จดั กิจกรรมเวิรค์ ช็อปส�าหรับมือ กลอง โดยมีนกั ดนตรีสายเมทัลคอร์ ชือ่ ก้อง Matt Greiner จากวง August Burns Red (ถ้าสายเสพ เพลงหนักวงนีต้ อ้ งมีเคยฟ งกันบ้างละ) ซึง่ การมาครัง้ นีข้ องแมท เป็นเอเชีย ทัวร์ ภายใต้การเป็นเอนดอสเซอร์ ให้กบั ฉาบ Zildjian และ BLAST MAGAZINE ก็ มีโอกาสได้สมั ภาษณ์เขาอีกครัง้ หลัง จากทีเ่ คยเจอกันเมือ่ ตอนมาเล่นเมือง ไทยครัง้ แรกเมือ่ เกือบ 6 ปีทผี่ า่ นมา เหมือนเจอเพือ่ นเก่ายังไงอย่างงัน้ ฮา

และจากทีผ่ มเข้าใจ คือ Warped Tour จะไม่ได้หายไปอย่างสิน้ เชิง แต่อาจจะ จัดขึน้ มาโดยเฉพาะในแต่ละรัฐ ถ้าพวก เขาเลือกทีจ่ ะเลิกจัดแบบเคลือ่ นทีผ่ มคิด ว่าเขาก็ทา� ถูกแล้วครับ ผมไม่เสียใจที่ Warped Tour จะจากไปครับ แต่ผมก็ ยินดีและรูส้ กึ ขอบคุณกับสิง่ ที ่ Warped Tour ได้ทา� ให้วงของเรา

เช่น วีดโี อนักเล่นสกี ถ้าเป็นสมัยก่อน เวลาคุณเห็นพวกเขาเล่น trick คุณอาจ จะบอกได้วา่ เห้ย ท่านีม้ นั เจ๋งมากไม่ เคยเห็นใครท�ามาก่อนเลย พอมา สมัยนีค้ ณ ุ เห็นคนเล่น trick นีเ้ ป็นร้อย ครัง้ ทาง YouTube คุณก็ชนิ แล้ว เห็น จนเบือ่ ผมคิดว่าสิง่ เหล่านีม้ นั กดดันเรา ในทางทีด่ ี การที่ได้เห็นคนอืน่ ท�าในสิง่ ที่ เราท�าได้ มันกระตุน้ ให้เราพัฒนาทักษะ จากการที่ได้รว่ มออกทัวร์กบั Warped มากขึน้ น่ะครับ มีมอื กลองหลายคนที่ไม่ Tour คุณมีประการณ์อะไรที่ได้รบั บ้าง สามารถเล่นสดแบบในเพลงได้ เพราะ รึเปล่า? ว่าพวกเขาไม่ได้เคยเล่นมันจริง ๆ Matt: ปีแรกทีเ่ ราได้รว่ มงานกับ อาศัยการท�าซาวด์สงั เคราะห์ออกมา Warped Tour นัน่ เป็นครัง้ แรกในชีวติ จากคอมพิวเตอร์ ซึง่ ผมก็เป็นบ้าง อันนี้ ของผมทีต่ อ้ งนอนในรถบัส ผมมือใหม่ ผมยอมรับเลยนะ แต่บางทีมนั ก็จา� เป็น กับเรือ่ งนีม้ ากผมเลยไม่คอ่ ยรูอ้ ะไรเท่า เพราะเราอยากให้ซาวด์หรือท่อนดนตรี ไหร่ พอผมเข้าไปในรถผมก็ไปนอนบน มันออกมาดีจริง ๆ ส�าหรับผมมันท�าให้ เมือ่ เดือนตุลาคมทีผ่ า่ นมา ทางวง เตียงของผมแล้วหันหัวไปทางด้านหน้า ผมต้องคอยพัฒนาตนเองไปให้ถงึ ระดับ August Burns Red พึง่ ได้วางขาย รถ พอทีมงานเดินผ่านมาเขาเห็นผม ทีผ่ มตัง้ ไว้ อัลบัม้ ล่าสุด Phantom Anthem ให้ ได้ฟง กัน แฟนเพลงมีกระแสการตอบ นอนหันหัวไปทางด้านหน้า เขาก็บอก “เฮ้ย Matt นีน่ ายท�าอะไรวะ ท�าไมนอน ในมุมมองของคุณ การทีจ่ ะเป็นมือ รับกับอัลบัม้ นีอ้ ย่างไรบ้าง?

Matt: ตอนแรกทีเ่ ราท�าอัลบัม้ หันหัวไปด้านนี ้ นายต้องหันเท้าไปทาง กลองทีด่ ีได้ ต้องท�าอย่างไรบ้าง?

Matt: ส�าหรับตัวผมเอง ผมใช้ เราก็กงั วลว่ามันจะออกมาดีรเึ ปล่า แต่ ด้านหน้ารถสิ” ผมงงมาก ผมก็ถามเขา เวลาอยูก่ บั กลองเยอะมาก ๆ ผมคิด กระแสตอบรับทีเ่ ราได้รบั ดีมากครับ พวก ว่า ท�าไมล่ะ? ไฟอีกด้านมันสว่างกว่า เราใช้เวลาอัดอัลบัม้ นีก้ นั นานเป็นเดือน ๆ หรือยังไง เขาเลยอธิบายว่า ถ้าสมมุติ เรือ่ งการตีกลองอยูแ่ ทบจะตลอด ผม ตีกลองมาตัง้ แต่อายุ 16 ปี ซ้อมเยอะ และกว่าจะผ่านกระบวนการในการผลิต เกิดอุบตั เิ หตุรถชนขึน้ มา หัวจะได้ไม่ หลายอย่างก็ใช้เวลาไปประมาณ 1 ปี กระแทกกับผนังน่ะครับ มีประสบการณ์ มาก ๆ กว่าทีจ่ ะเล่นและสอนคนอืน่ ได้ หลายอย่างทีเ่ ราได้รบั จาก Warped ผมใช้เวลาทัง้ ชีวติ ไปกับมัน บางคนไม่ ถึงจะเป็นอัลบัม้ Phantom Anthem ออกมาให้ได้ฟงั กัน ซิงเกิล้ แรกทีพ่ วกเรา Tour เราได้ใช้ชวี ติ อยูบ่ นรถบัสเคลือ่ นที่ ต้องซ้อมเยอะและบ่อยขนาดผมก็เล่นได้ เหมือนกับว่าพวกเขามีทกั ษะด้านนีโ้ ดย ปล่อยออกมา “Invisible Enemy” ได้ กันประมาณ 2 อาทิตย์ ทุก ๆ วันคุณ รับการเสนอชือ่ เข้าชิงรางวัล Grammy นอนแล้วตืน่ มาในเมืองใหม่ กินอาหาร ธรรมชาติแล้วมันง่ายส�าหรับพวกเขา เช้าร่วมกับทุกคนในทัวร์ ออกก�าลังกาย แต่พอพวกเขาไม่ได้เล่นอย่างต่อเนือ่ ง Awards ด้วยครับ เป็นครัง้ ทีส่ องของ วงเราที่ได้รบั การเสนอชือ่ เข้าชิงรางวัล ในอากาศทีร่ อ้ นระอุ เป็นกิจวัตรทีท่ า� ซ�า้ ๆ ไม่ได้พยายามทีจ่ ะอยูก่ บั มัน การที่ไม่ได้ กันอยู ่ 2 อาทิตย์ มันฟังดูนา่ เบือ่ นะครับ พยายามท�าอะไรสักอย่างคุณก็จะไม่เห็น พวกเราดีใจมาก ๆ เลย แต่มนั เป็นช่วงเวลาทีส่ นุกมากเลย คุณค่าว่าคุณได้มนั มายังไง คุณรูส้ กึ อย่างไรบ้าง เมือ่ รูว้ า่ ปีหน้า ป จจุบนั เวลาคุณเห็นนักดนตรีหน้า คุณชอบตีกลองสไตล์ ไหน/แนวไหน Warped Tour จะจัดเป็นปีสดุ ท้าย ใหม่/มือสมัครเล่นอัดวีดโี อตนเองเล่น นอกจากแนวเมทัลทีต่ อี ยูแ่ บบทุกวันนี?้ แล้ว?

Matt: ผมชอบตีกลองดนตรี Matt: Warped Tour ได้ทา� อะไร Playthrough และเผยแพร่ YouTube แนว ป๊อบ แจ๊ส และแนว คันทรี ครับ หลาย ๆ อย่างให้วงเรามากมาย และ เยอะไปหมด สิง่ เหล่านีม้ นั กดดันคุณ บ้างรึเปล่า? เช่น ตอนเช้าผมพึง่ ฟังเพลงของ Billie วงอืน่ ก็ดว้ ย Warped Tour ท�าให้วง Matt: ในฐานะนักดนตรีมอื Holiday ไป ผมชอบดนตรีแนวนีน้ ะ อย่างพวกเราเติบโตขึน้ ได้ ทาง August อาชีพผมว่ามันกดดันพอสมควรเลยนะ ผมก็จะฟังเพลงแล้วก็พยายามตีกลอง Burns Red เองก็เริม่ เล่นที ่ Warped ครับ แต่ผมว่ามันก็ได้รบั ผลกระทบกัน ตาม มุมมองของผมคือผมสามารถ Tour ตัง้ แต่ป ี 2008 ครับ ผมเคยได้ยนิ ทุกคนไม่ใช่แค่ในแวดวงดนตรี ในยุคนี้ ทีจ่ ะเขียนท่อนกลองออกมาในแบบที่ มาว่า Warped Tour เป็น Festival คอนเสิรต์ เคลือ่ นทีท่ ี่ใหญ่ทสี่ ดุ ในโลก ไม่วา่ คุณจะท�าอะไรคนก็เห็นหมด อย่าง ผมสร้างสรรค์ขนึ้ แล้วน�ามาเล่นด้วย 036

- BLAST

magazine -

กัน อย่างเช่น เพลงทีผ่ มจะน�ามาเล่น ใน Zildjian Clinic Tour มีเพลงของ August Burns Red และของศิลปินท่าน อืน่ ด้วย ผมก็พยายามเล่นให้หลากหลาย แนวขึน้ ครับ เพราะนัน่ เป็นสิง่ ทีผ่ มยังไม่ ค่อยได้ทา� พูดถึงแฟนเพลงในประเทศไทยหน่อย ทางวง August Burns Red จะกลับ มาเล่นในระแวกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กันอีกไหม?

Matt: เรากลับมากันแน่นอน ครับ ถึงแม้จะยังไม่มกี ารวางแผนทัวร์ แต่ผมคิดว่าเราจะกลับมาในช่วงอัลบัม้ Phantom Anthem นีแ่ หละครับ อาจ จะช่วงปลายปี 2019 ตราบใดทีโ่ ลกยัง ไม่แตกสลาย แฟน ๆ ได้เจอกับพวกเรา แน่นอน คุณมีคา� แนะน�าอะไรบ้างส�าหรับคนที่ อยากเลือกซือ้ ฉาบทีถ่ กู ใจ?

Matt: หนึง่ อย่างทีผ่ มชอบมาก ๆ เกีย่ วกับฉาบของ Zildjian คือ พวกเขา มีฉาบทุกแบบ ซึง่ แบบทีผ่ มชอบใช้คอื ฉาบที่ให้เสียงไว เสียงเฉียบคม ทีผ่ มใช้ ก็จะเป็นตัว 18” และ 19” A Custom ผมสามารถได้ยนิ มันทุกจังหวะทีผ่ มตีลง ไป มันตอบสนองได้ดมี ากกับการตีกลอง ของผม มีบางโอกาสทีผ่ มได้ไปเล่นที่ โบสถ์ผมก็จะใช้ Zildjian ตัวอืน่ เล่น ซึง่ ถือว่าสะดวกมาก ๆ เพราะ Zildjian ผลิตออกมาครบทุกเสียงทีท่ กุ คนอยาก ได้ ในกรณีของผม ผมรูว้ า่ ผมอยากได้ ซาวด์แนวไหนส�าหรับวง อีกอย่างคือผม ต้องเลือกฉาบทีต่ อบสนองได้ไวเพราะว่า จังหวะทีผ่ มตีในวง August Burns Red มันไวมาก พืน้ ทีเ่ วลาใช้ตีในแต่ละจังหวะ มีจา� กัด ถ้าหากคุณรูว้ า่ เป้าหมายการตี กลองคืออะไรผมว่ามันง่ายขึน้ ทีจ่ ะหา ฉาบทีถ่ กู ใจ ผมแนะน�าฉาบของ Zildjian ครับ คุณสามารถลองได้ตงั้ แต่โมเดล K ไปจนถึง A เลยล่ะ ขอบขอบคุณ : พีแ่ ปว พีต่ ุ ธีระ มิวสิค ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 037

Album Review

HI-STANDARD

IMMOLATION

มาถึงคราวของวงพั้งก์ขวัญใจชาวไทยจากแดนอาทิตย์อุทัยกันบ้างนะครับ ห่างหายจากการออกอัลบั้มไปถึง 18 ปี จากอัลบั้มชุดสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันไป ตามทางของตัวเองอย่าง Making The Road ที่ออกมาในปี 1999 และกลับมา รวมวงกันอีกครั้งในปี 2011 นี่คืออัลบั้มแรกหลังกลับมารวมตัวกันในครั้งนั้น The Gift นับเป็นอัลบั้มเต็มที่ 4 ของวง ประกอบไปด้วยสมาชิกหน้าเดิมอย่าง Akihiro Namba ร้องน�ำ, เบส ที่หลังจากแยกย้ายกันในปี 2000 ก็ได้ไปท�ำวงอย่าง Ultra Brain และ Namba 69 พร้อมกับมีผลงานในชื่อของตัวเอง Ken Yokoyama กีตาร์, ร้องประสาน ที่ไปได้ดีกับวงอย่าง BBQ Chickens และงานเดี่ยวในชื่อ ของตัวเอง พร้อมกับมีค่ายเพลงของตัวเองอย่าง Pizza Of Death และมือกลอง Akira Tsuneoka ที่ชื่อเสียงอาจจะด้อยกว่าเพื่อนร่วมวง แต่ก็มีผลงานที่ใช้ได้กับ วง Cubismo Grafio Five หลังจากที่วงรียูเนียนเพื่อร่วมเล่นในเฟสติวัล AIR Jam 2011 และ 2012 ทางวงก็ได้เป็นเฮดไลน์ในคอนเสิร์ตครบรอบ 25 ปีของ Fat Wreck Chords ที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปี 2015 และได้ออกซิงเกิ้ลแรก หลังจากห่าง หายจากการท�ำเพลงใหม่ไป 17 ปี ซึ่งซิงเกิ้ลนี้ก็คือ Another Starting Line ที่ออก มาในปี 2016 และตามมาด้วยอัลบั้ม The Gift นี้เอง อัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดยทางวง เอง และรับหน้าที่มิกซ์โดย Ryan Greene ขาประจ�ำของ Fat Wreck Chords ส่วน ปกอัลบั้มออกแบบโดย Frank Kozik ศิลปินนักออกแบบโปสเตอร์คอนเสิร์ตชื่อดัง เปิดอัลบั้มมากับ All Generations เพลงพั้งก์พุ่ง ๆ ตามสไตล์ของวง แค่เพลงแรก ภาพเก่า ๆ ในอดีตก็ลอยมาอยูต่ รงหน้า The Gift ซิงเกิล้ แรกของอัลบัม้ ครบเครือ่ ง ที่สุด กลิ่นของ No Use For A Name ลอยมาเต็ม ๆ ท่อนฮุคติดหูมาก มีครบ ทุกอย่างที่ชาวพั้งก์ต้องการ เมโลดี้ติดหูสุด ๆ Can I Be Kind To You แค่เสียง กีตาร์ตอนอินโทรก็ยิ้มแล้ว นี่คือ Hi-Standard ในแบบที่ทุกคนชอบ ส�ำเนียงร้อง แปร่ง ๆ เนื้องเพลงที่ร้องตามได้ตั้งแต่ฟังครั้งแรก เนื้อหาเข้าถึงได้ง่าย ๆ Going Crazy เพลงนี้ดนตรีซีเรียสขึ้นมาหน่อย ท่อนฮุคติดหูสุด ๆ Time To Crow เพลง พุ่ง ๆ สไตล์พั้งก์ญี่ปุ่น เป็นอีกเพลงที่ท่อนฮุคติดหูสุด ๆ My Girl คัฟเวอร์เพลงของ The Temptations แค่อินโทรขึ้นมาก็รู้แล้วว่าเพลงอะไร คิดว่าทุกคนคงร้องตามได้ แฟนของ Hi-Standard คงชินกับการน�ำเพลงเก่ามาคัฟเวอร์ของวงอยู่แล้ว Hello My Junior ลดจังหวะลงมานิดนึง เป็นเพลงจังหวะกลาง ๆ สนุก ๆ Big Ol’ Clock ลดจังหวะลงมาอีก เป็นเพลงสไตล์ให้กำ� ลังใจของวง We’re All Grown Up บอกตรง ๆ ฟังเพลงนี้แล้วน�้ำตาจะไหล คิดว่าแฟนเพลงของวงนี้ตั้งแต่สมัยแรกคงจะเข้าใจ Punk Rock Is The Answer เพลงนีเ้ คนซังโชว์ฝมี อื กีตาร์เลย ตัวเพลงจังหวะกลาง ๆ Pacific Sun เป็นเพลงบรรเลง อินโทรเฮฟวี่มาเลย เคนซังโชว์ฝีมืออีกเพลง เป็น เพลงเซิร์ฟพังค์ กีตาร์หวือหวามาก ๆ I Know You Love Me อีกเพลงที่ชวน น�้ำตาไหล เมโลดี้แม่งสุด ๆ ไปเลย Bridge Over Troubled Water คัฟเวอร์อีก เพลง เป็นเพลงเก่า Simon & Garfunkel ต้นฉบับเป็นเพลงโฟล์คหม่น ๆ เพลงนี้มี เครื่องสายประกอบด้วย สวยงามและยิ่งใหญ่ Free เพลงสุดท้ายของอัลบั้ม จังหวะ สนุก โจ๊ะแบบมีปาดน�้ำตา เมโลดี้กินใจ แต่เดี๋ยวยังไม่หมดแค่นั้น มีโบนัสแทร็คอีก สองเพลง Friend Song เพลงน่ารัก ๆ เป็นกีตาร์โปร่ง ร้องตามง่าย ๆ Cabbage Surfin’ เป็นเพลงบรรเลงจังหวะสนุก ๆ The Gift คือการกลับมาของเพื่อนเก่า เพื่อนที่กอดคอกันเฮสมัยวัยรุ่น วัน ๆ ไม่ท�ำอะไร นั่งดูคนเดินไปเดินมาตามห้าง แต่เพื่อนที่กลับมาคนนี้พัฒนาขึ้นในทุก ด้าน ทั้งความคิดความอ่าน นิสัยใจคอ การร้อง การแต่งเพลง และฝีมือเล่นดนตรี โดยเฉพาะการอัดเสียงที่เข้าขั้นดีเยี่ยม ซาวด์ออกมาดีมาก ๆ เป็นเพื่อนที่ค่อนข้าง จะสมบูรณ์แบบ แต่ในความสมบูรณ์แบบนั้น จิตวิญญาณทุกอย่างยังคงเดิม มั่นใจ ว่าแฟนเพลงของ Hi-Standard ทุกคนมีความสุขจากการฟังอัลบัม้ นีแ้ น่นอน เผลอ ๆ จะสุขจนน�้ำตาไหลไม่รู้ตัวด้วยซ�้ำ

038

- BLAST

magazine -

ALBUM : ATONEMENT LABEL : NUCLEAR BLAST RIYL : INCANTATION, MORBID ANGEL, SUFFOCATION ตอบสนองย่านความเสียว : 9.5

*RIYL = Recommend If You Like

ALBUM : THE GIFT LABEL : PIZZA OF DEATH RIYL : NOFX, NO USE FOR A NAME, LAGWAGON ตอบสนองย่านความเสียว : 9.5

Immolation เป็นวงเดธเมทัล จากยองเกอร์ส นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งวงตั้งแต่ ปี 1986 แต่ในช่วงแรกใช้ชื่อวง ว่า Rigor Mortis จนมาเปลี่ยนชื่อ วงเป็น Immolation ในปี 1988 สมาชิกในยุคปัจจุบันประกอบไปด้วย Ross Dolan เบส, ร้อง น�ำ Robert Vigna กีตาร์ Alex Bouks กีตาร์ และ Steve Shalaty กลอง Atonement เป็นอัลบั้มเต็มที่ 10 ของวง ซึ่ง จริง ๆ ออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว แต่พึ่งจะมีโอกาสหยิบมา เขียน ในปกอัลบั้มไม่ได้ให้เครดิตไว้ว่าใครเป็นโปรดิวเซอร์ แต่ซาวด์เอนจิเนียร์รับหน้าที่โดย Paul Orofino ที่ท�ำงาน ร่วมกับวงมาหลายอัลบั้ม และมิกซ์โดย Zack Ohren ที่เคย ร่วมงานกัน Suffocation, Decrepit Birth และ Warbringer ปกอัลบั้มออกแบบโดยศิลปินชาวสวีดิช Pär Olofsson เปิด อัลบั้มมากับเพลงแรก The Distorting Light อินโทรมาใน ซาวด์แบบลึกลับ ริฟฟ์กีตาร์ชวนโยกหัวมาก ๆ เพลงค่อนข้าง จะมืดหม่น โซโล่กีตาร์ล่องลอย ลูกล่อลูกชนดีมาก ๆ เป็น เพลงที่ครบเครื่อง When The Jackals Come ค่อนข้างจะ ต่อเนื่องกับเพลงแรก ท่อนผ่อนดนตรีนี่สุด ๆ ไปเลย กีตาร์ทั้ง ริฟทั้งโซโล่สุด ๆ Fostering The Divide มืดหม่นแต่ชวนโยก สุด ๆ กีตาร์บรื๋อมาเป็นระยะ ฟังอลังการ Rise The Heretics เร่งจังหวะขึ้นมาหน่อย กลองใส่ไม่ยั้ง ภาคกีตาร์ก็เหนือชั้น มี ท่อนแปลก ๆ ให้ฟังด้วย Thrown To The Fire เป็นอีกเพลงที่ ลูกล่อลูกชนสุด ๆ ครบเครื่องทุกอย่าง Destructive Currents กีตาร์ล่องลอย เสียงร้องในเพลงนี้ดุเดือด มีริฟกีตาร์ ฉวัดเฉวียน Lower ส่วนตัวชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้ม จังหวะ กลองย�่ำ ๆ กีตาร์หวือหวามาก ๆ Atonement เพลงนี้เดิน หน้าเลย จังหวะค่อนข้างเร็ว ถ้าเทียบกับเพลงอื่น กีตาร์เท่ มาก ๆ ช่วงท้ายเพลงมีท่อนผ่อนให้โยกหัว Above All จังหวะ เพลงนี้สุด ๆ เลย เล่นสดคงโคตรมัน ฟังค่อนข้างแปลกกว่า เพลงอื่น สัดส่วนเจ๋งมาก เป็นอีกเพลงที่ชอบมาก The Power Of Gods จังหวะเดินหน้าอีกเพลง กีตาร์โดดเด่นทั้งริฟ ทั้งโซโล่ Epiphany จังหวะดึงสุด ๆ ฟังค่อนข้างทันสมัย ที่สุดในอัลบั้ม มีอะไรบางอย่างให้นึกถึง Gojira โบนัสแทร็ค Immolation เป็นการน�ำเพลงจากอัลบั้มแรก Dawn Of Possession มาอัดใหม่อีกครั้ง ดุดันตามสไตล์โอลด์สคูลเดธ ถือว่าเป็นเพลงคลาสสิคของวง ตลอดเวลา 30 ปีในวงการ Immolation ไม่เคยออก นอกลู่นอกทางเลย ยังคงด�ำเนินอยู่ในแนวทางเดธ เมทัล อย่างเต็มเปี่ยมเสมอมา ถ้าเทียบกับในยุคแรก ๆ ก็อาจจะลด ความหนักหน่วงลงไปบ้าง แต่ก็เป็นไปด้วยตามวัยของสมาชิก ในวง เป็นวงที่ไม่เคยมีอัลบั้มที่ต�่ำกว่ามาตรฐาน และเป็น มาตรฐานที่สูงเสียด้วย ทุกอัลบั้มที่ออกใหม่ไม่เคยต้องลอง ฟังก่อน สามารถซื้อมาฟังได้เลย แฟนเพลงยุคเก่า ๆ คงยัง ติดตามผลงานกันอยู่ต่อเนื่อง ส่วนคนที่ไม่เคยฟัง ลองหามา ฟังกันได้ เป็นหนึ่งในอัลบั้มเดธ เมทัลที่ดีที่สุดที่ออกมาในปีนี้ ISSUE 19 - JANUARY 2018

NOTE

CLASSIC ALBUM

PERFUME GENIUS

ALBUM : NO SHAPE LABEL : MATADOR RIYL : HOW TO DRESS WELL, ST. VINCENT, DAVID BOWIE ตอบสนองย่านความเสียว : 9 คราวนีจ้ ะเขียนถึงศิลปินเดีย่ วทีเ่ คยมาเปิดคอนเสิรต์ ใน บ้านเราเมือ่ ตอนปลายปี 2015 กันบ้าง ซึง่ คอนเสิรต์ ใน ครัง้ นัน้ มีคนดูไม่มากนัก ซึง่ ผมเป็นหนึง่ ในคนที่ได้ไปดู และได้ชมความยอดเยีย่ มในครัง้ นัน้ ศิลปินคนทีว่ า่ นีค้ อื Perfume Genius หรือชือ่ จริงว่า Mike Hadreas มา จากเมืองซีแอตเทิล วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดยทีเ่ ขาเริม่ ท�าเพลงครัง้ แรกใน ปี 2008 โดยเผยแพร่ผลงานทาง My Space และได้ออกอัลบัม้ แรก Learning ในปี 2010 และมีผลงานออกมาอีกสองอัลบัม้ ได้แก่ Put Your Back N 2 It ใน ปี 2012 และ Too Bright ในปี 2014 โดยทีผ่ ลงานของ Perfume Genius ได้ รับค�าวิจารณ์ในแง่บวกตัง้ แต่อลั บัม้ แรกเลยทีเดียว แต่มาดังเปรีย้ งปร้างจริง ๆ จาก Too Bright อัลบัม้ ที ่ 4 No Shape มีทมี งานโปรดักชัน่ ทีแ่ น่นปึก้ ได้แก่ โปรดิวเซอร์ Blake Mills ทีถ่ อื ว่าเป็นโปรดิวเซอร์รนุ่ ใหม่ทนี่ า่ จับตามอง เคย ฝากผลงานไว้กบั Alabama Shakes, John Legend และ Fiona Apple ส่วน หน้าทีเ่ อนจิเนียร์และมิกซ์ได้แก่ Shawn Everett ทีเ่ คยได้รบั รางวัลแกรมมีจ่ าก สาขา Best Engineer ในปี 2016 จากอัลบัม้ Sound & Color ของวง Alabama Shakes และได้เข้าชิงสาขานี้ในปีนอี้ กี ร่วมกับ Joseph Lorge จากอัลบัม้ No Shape ของ Perfume Genius นีเ่ อง โดยทีก่ ารแต่งเพลงทัง้ หมดเป็นฝีมอื ของ Mike Hadreas มีแค่สองสามเพลงทีร่ ว่ มแต่งกับ Blake Mills โปรดิวเซอร์ของ อัลบัม้ ดนตรีของ Perfume Genius จัดอยู่ในประเภทอินดี ้ ป็อปหรืออาร์ต ป็อป จะเป็นยังไงเชิญไปฟังพร้อมกัน เพลงแรก Otherside อินโทรเป็นเสียงเปียโน เพราะ ๆ หวานหยาดเยิม้ บวกกับเสียงร้องลอย ๆ และก็มเี สียงดนตรีตมู !ขึน้ มา กระแทกอารมณ์เล็กน้อย Slip Away มีจงั หวะขึน้ มาหน่อย ดนตรีเป็นเสียง สังเคราะห์บวกกับดนตรีสด Just Like Love จุดเด่นอยูท่ ที่ อ่ นฮุค เครือ่ งสาย บรรเลงงดงามมาก Go Ahead เพลงนีแ้ ต่งร่วมกับโปรดิวเซอร์ ดนตรีประหลาด เป็นเสียงเครือ่ งเคาะผสมซาวด์บรรยากาศ ดนตรีหลุดไปเป็น Björk เลย ล�า้ สมัยสุด ๆ Valley เพลงนีด้ นตรีกลับมาเป็นซาวด์แบบโลกมนุษย์ มีเสียง เครือ่ งสายบวกกับเสียงกีตาร์ Wreath ดนตรีหวานมาก เกือบจะเป็นซินธ์ฯ ป็อป ยังพอมีเสียงกีตาร์ให้ได้ยนิ เสียงร้องในเพลงนีเ้ พราะมาก Every Night เพลงนีเ้ พราะแบบเอาตาย ดนตรีนอ้ ย ๆ บวกกับเสียงร้อง ท้ายเพลงมีเครือ่ ง สายบรรเลงไพเราะสุด ๆ Choir เครือ่ งสายโดดเด่นอีกเพลง เหมือนเป็นการ อ่านบทกวีควบคูไ่ ปกับเสียงดนตรีแบบโศกนาฏกรรม Die 4 You ร่วมแต่งกับ โปรดิวเซอร์อกี เพลง เพราะสุด ๆ ค่อนข้างจะป็อปกว่าเพลงอืน่ ๆ ฟังไม่ยาก คนทัว่ ไปน่าจะเข้าถึงได้ Sides เพลงนี้ได้นกั ร้องสาว Natalie Mering หรือชือ่ ในวงการว่า Weyes Blood มาร่วมร้องด้วย จัดว่าเป็นสาวทีม่ อี นาคตไกล และมี เสียงร้องเป็นเอกลักษณ์มาก เพลงนีร้ ว่ มแต่งกับเธอและโปรดิวเซอร์ ซาวด์กตี าร์ ค่อนข้างโดดเด่น ส่วนด้านการร้อง เสียงของ Natalie ขโมยซีนไปเลย ไพเราะ ยิง่ ท่อนทีเ่ ธอโชว์เดีย่ ว ถ้าติดใจเธอจากเพลงนี ้ แนะน�าให้ไปหางานเดีย่ วมาฟัง Braid อีกเพลงที ่ Natalie มาร่วมร้อง เพราะแบบเอาตาย ยอดเยีย่ มเข้าขัน้ เพอร์เฟ็กส์ เสียดายเพลงสัน้ ไปนิด Run Me Through ล่องลอย ดนตรีชนั้ เซียน เล่นน้อย แต่ผลลัพธ์ออกมามาก Alan เพลงปิดอัลบัม้ เพราะและล่องลอย No Shape อัลบัม้ นีอ้ ารมณ์ตา่ งจาก Too Bright อัลบัม้ ทีแ่ ล้วอยูพ่ อ สมควร สิง่ ทีค่ ดิ ว่าขาดหายไปคืออารมณ์เกรีย้ วกราดรุนแรง โดยทีบ่ างเพลง อารมณ์ตดิ ไปทางอินดัสเทรียลเลย แต่ทเี่ หลือ ข้อดีอนื่ ๆ ของ Perfume Genius ยังมีอยูค่ รบ หลายเพลงท�าได้ดกี ว่าในอัลบัม้ ทีแ่ ล้วด้วยซ�า้ เพลงแบบนี้ อาจจะไม่ได้ชอบฟังกันทุกคน คนทีฟ่ งั เพลงหนัก ๆ ก็อาจจะคิดว่าป็อปเกินไป คนทีฟ่ งั เพลงทัว่ ไป ก็อาจคิดว่าดนตรีประหลาดเกิน ขึน้ อยูก่ บั รสนิยมส่วนตัว ดนตรีกเ็ หมือนอาหาร กินแต่รสชาติเดิม ๆ มันก็เบือ่ ลองหาอะไรแปลก ๆ กินกันบ้างก็เพิม่ สีสนั ให้กบั ชีวติ ดีนะ ISSUE 19 - JANUARY 2018

DOWN

ALBUM : NOLA LABEL : ELEKTRA RIYL : CORROSION OF CONFORMITY, CROWBAR, EYEHATEGOD คราวนี ้ Classic Album จะเขียนถึงวงดนตรีทเ่ี ป็นการรวมตัวของสมาชิกจากวง ดนตรีทมี่ ชี อื่ เสียงหลาย ๆ วงหรือทีเ่ รียกกันว่าซุปเปอร์กรุป๊ วงดนตรีทวี่ า่ นีม้ สี มาชิกเป็น เพือ่ นกัน มาจากถิน่ อาศัยในเมืองเดียวกัน และมีรสนิยมทางดนตรีเหมือนกัน วงดนตรี นีค้ อื Down ซึง่ ปัจจุบนั คิดว่าคนฟังเพลงหนัก ๆ แทบจะทุกคนคงจะเคยผ่านหูผา่ นตากับ Down มาแล้ว แต่นจี่ ะเขียนถึงจุดเริม่ ต้นของวง ในอัลบัม้ ทีส่ ร้างชือ่ เสียงให้กบั วง ได้แก่ อัลบัม้ NOLA โดยสมาชิกในอัลบัม้ นี้ได้แก่ นักร้องน�าแห่งวง Pantera อย่าง Phillip Anlsemo ซึง่ ในยุคนัน้ Pantera ก�าลังมีชอื่ เสียงอย่างมาก เรียกว่าพีคสุด ๆ เลยก็ได้ มือ กีตาร์ได้แก่ Pepper Keenan นักร้องน�าและมือกีตาร์แห่งวง Corrosion Of Conformity ซึง่ ในช่วงนัน้ ชือ่ เสียงก็พคี สุด ๆ เช่นกัน มือกีตาร์อกี คนได้แก่ Kirk Windstein และมือ เบส Todd Strange สองคนนีม้ าจากวง Crowbar และมือกลอง Jimmy Bower ทีป่ กติ เป็นมือกีตาร์ให้กบั วง Eyehategod ในยุคนัน้ Crowbar และ Eyehategod อาจจะยังไม่มี ชือ่ เสียงในวงกว้างมากนัก ยังดังอยู่ในระดับอันเดอร์กราวนด์ แต่ปจั จุบนั ทัง้ สองวงนีถ้ อื เป็นรุน่ ใหญ่ระดับต�านานของวงการเมทัลเลยทีเดียว Down เริม่ ก่อตัง้ ในปี 1991 โดยที่ สมาชิกทุกคนหลงไหลในวงดนตรีอย่าง Black Sabbath, Trouble, Saint Vitus ในช่วง แรกวงสร้างฐานแฟนเพลงโดยการทีส่ มาชิกในวงแจกจ่ายเทปเดโม และถามแฟนเพลงว่า เคยได้ยนิ วงชือ่ Down มัย้ โดยที่ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสมาชิกอยู่ในวงนี ้ ทางวงก็เล่น คอนเสิรต์ เล็ก ๆ ในบ้านเกิดจนคนในค่ายเพลง Elektra ได้ไปดูและพบว่าสมาชิกในวงคือ ใคร จึงจับเซ็นสัญญาทันที อัลบัม้ แรกของ Down ออกมาในปี 1995 ใช้ชอื่ ว่า NOLA ซึง่ หมายถึง NO (New Orleans) LA (Louisiana) บ้านของสมาชิกทัง้ หมดในวงนัน่ เอง เรา มาร่วมย้อนเวลาไปฟังอัลบัม้ นีด้ ว้ ยกันดีกว่า เปิดอัลบัม้ มากับ Temptation’s Wings ริฟฟ์กตี าร์ขนึ้ มาแบบสโตนเนอร์รอ็ กเลย เสียงร้องของ Phil ค่อนข้างจะดุดนั น้อยกว่าเวลาร้องให้กบั Pantera มีโซโล่กตี าร์ประสาน สไตล์เซาท์เทิรน์ ร็อก เป็นเพลงเปิดอัลบัม้ ทีบ่ อกแนวทางของอัลบัม้ ได้อย่างชัดเจน Lifer เพลงนีอ้ นิ โทรโคตรเท่ ผ่านมา 20 กว่าปีฟงั ยังไงก็ยงั เท่เหมือนเดิม ริฟฟ์กตี าร์เมามันมาก พี ่ Phil ก็แหกปากร้องได้ด ี ริฟฟ์กตี าร์แบบกระชาก ๆ นี่ได้ใจจริง ๆ Pillars Of Eternity ลดจังหวะลงมาหน่อย กีตาร์หนืดได้ใจ โซโล่เฟีย้ วฟ้าว Rehab เสียงร้องขึน้ มาอย่างเหน่อ โซโล่กตี าร์กนั เมามันเช่นเคย ตอดกันเป็นระยะ เพลงจังหวะกลาง ๆ แต่มที อ่ นหน่วงเอาไว้ ให้โยก Hail The Leaf บรรยากาศเพลงนีค้ อ่ นข้างจะมืดมน กลางเพลงมีเสียงบุง๋ ๆ ด้วย Underneath Everything ริฟฟ์กตี าร์ Black Sabbath มาก เพลงนีห้ นืด ๆ เลย Eyes Of The South อินโทรขึน้ มาเหมือนฟัง Kyuss อยู ่ แต่แค่นดิ เดียวนะ พอโซโล่กต็ ดิ ส�าเนียง เซาท์เทิรน์ ซะเยอะ เพลงโคตรจะโจ๊ะ โยกกันอย่างมัน Jail อินโทรมาเพราะ ๆ เลย เป็น เพลงช้าสไตล์ Black Sabbath อีกเช่นกัน Losing All ตอนเด็กโคตรชอบเพลงนี ้ ติดหูสดุ ๆ เพลงแบบพุง่ ไปข้างหน้า Stone The Crow แทบจะเป็นเพลงชาติของวง ครบเครือ่ ง จังหวะกลางค่อนไปทางช้า ถึงท่อนฮุคทีแ่ ทบจะแย่งกันร้อง Pray For The Locust เป็น เพลงบรรเลงกีตาร์สนั้ ๆ Swan Song กีตาร์เหนือชัน้ สุด ๆ ทัง้ ริฟฟ์ทงั้ โซโล่ สุด ๆ ไปเลย Bury Me In Smoke เพลงปิดอัลบัม้ เป็นเพลงทีย่ าวทีส่ ดุ ในอัลบัม้ โคตรจะหนืด ฟังตอนนี้ อาจไม่รสู้ กึ อะไร แต่ยอ้ นไป 20 กว่าปีทแี่ ล้ว ชวนอึดอัดสุด ๆ ยังดีทมี่ โี ซโล่กตี าร์ชว่ ยเอาไว้ ในยุคสมัยที่ไม่มเี พลงทางเลือกให้ฟงั มากนัก การฟังเพลงส่วนใหญ่ผา่ นการเลือก จากค่ายเพลงมาแล้วว่าจะท�าอัลบัม้ ไหนออกมาขาย Down ถือว่าได้อานิสงค์ความดังของ พี ่ Phil แห่ง Pantera เลยท�าให้คนฟังเพลงได้ฟงั อะไรแปลก ๆ ทีต่ า่ งจากเพลงทัว่ ไปใน ท้องตลาด ส่วนตัวแล้วคิดว่า Down ไลน์อพั นีค้ ลาสสิคทีส่ ดุ สมาชิกเกือบทุกคนถือว่าเป็น ระดับต�านานในวงการ อาจจะมีแค่มอื เบส Todd Strange ทีด่ อ้ ยชือ่ เสียงไปบ้าง แต่ลา่ สุด ได้ขา่ วว่ากลับมาเป็นสมาชิกของ Crowbar อีกครัง้ หลังจากอัลบัม้ NOLA นัน้ Down ได้ ออกอัลบัม้ เต็มมาอีกสองอัลบัม้ หนึง่ อัลบัม้ แสดงสดและอีกสองอีพ ี สมาชิกในยุคปัจจุบนั เหลือสมาชิกดัง้ เดิมคือ Phil, Pepper และ Jimmy สมาชิกใหม่อกี สองคนได้แก่ Patrick Bruders จาก Goatwhore มือเบส และ Bobby Landgraf มือกีตาร์จาก Honky สมัย ทีอ่ ลั บัม้ NOLA ออกนัน้ ซือ้ เทปอัลบัม้ นีแ้ ถมสติกเกอร์ดว้ ย จ�าได้วา่ เอาไปติดกระเป๋า นักเรียน เท่กว่าใครเพือ่ นเลย - BLAST

magazine - 039

BLAST TRIP

IT’S THE SHIP

4 D AY S O F I N S A N I T Y ! ! !

It’s the Ship เป็นเทศกาล ดนตรีบนเรือแบบ 4 วัน 3 คืนทีจ่ ดั ขึน้ เป็นครัง้ แรกในปี 2014 คือจริง ๆ แล้วกะว่าจะหาข้อมูลใน Wikipedia ว่าใครเป็นคนริเริม่ จัดเทศกาลดนตรี เต้นร�ำทีม่ นั สุดเหวีย่ งนีข้ นึ้ มา แต่คลิก๊ แล้วไม่เจอข้อมูลประกอบการเขียน ใด ๆ นอกจากรูปและคลิปสาวนุง่ บิกนิ ี่ โชว์หน่มน้มและสะบัดก้นประหนึง่ ว่า พรุง่ นีจ้ ะไม่มตี ดู ให้โบกสะบัดอีกต่อไป นอกนัน้ ก็มแี ต่รปู ผูค้ นเอาแชมเปญ ราดหัว, หนุม่ สาวในอ่างจากุซซี,่ คนปิง้ บาร์บคี วิ และเหล่า ปาร์ตี้ แอนิ มอล ทีเ่ ต้นกันแบบหวดยับทุกค�ำ่ เช้า เช่นนัน้ แล้วก็ขอเกริน่ ถึงงาน It’s the Ship แบบคร่าว ๆ ตามที่ได้ประสบ พบเจอมาแล้วกัน คืองานนีเ้ อาเข้า จริง ๆ มันก็คอื งานเปลีย่ นโลเกชัน่ กิน เหล้าเมายาเคล้านารีของหนุม่ ๆ และ การเข้าปะทะมัดกล้ามและซิกส์แพ็ค ของสาว ๆ ทีเ่ มาดิบ (และเมาจริง) รวมถึงการไปปล่อยตัวปล่อยใจไปตาม ลมทะเลและความกว้างใหญ่ไพศาล ในมหาสมุทรของเก้งกวางทัง้ หลายน่ะ แหละ แต่โลเกชัน่ ทีว่ า่ นีค่ อื ไม่ธรรมดา เพราะมันจัดกันบน Cruise หรือเรือ ส�ำราญขนาดใหญ่โตมโหฬารจุคนได้ หลายพันคน 040

- BLAST

magazine -

ด้วยความทีม่ นั เป็นงานปาร์ตี้ EDM ทีจ่ ดั บนเรือส�ำราญ ขึน้ ชือ่ ว่า เรือส�ำราญแล้วมันย่อมมีกจิ กรรมให้ ท�ำเยอะมาก คืออย่าไปคิดว่าเฮ้ย ขึน้ ไปบนเรือแมร่งน่าเบือ่ ตายชัก ถ้าไม่ ได้ขนึ้ ไปแด๊นซ์แล้วมันจะมีอะไรให้ ท�ำวะ ค�ำตอบคือมีครับ แล้วไม่ใช่มี ธรรมดา เรียกได้วา่ มีโคตรพ่อโคตร แม่เยอะเลยดีกว่า คือเรือส�ำราญ ล�ำที่ใช้จดั งานปีนเี้ ป็นเรือใหม่ทมี่ ชี อื่ ว่า Genting Dream จากฮ่องกงเป็น Luxury Cruise พูดง่าย ๆ ว่าเป็น เรือส�ำราญทีโ่ คตรหรูทกุ กระเบียด นิว้ 70% ของห้องพักบนเรือมีระเบียง ยืน่ ลงไปในทะเล มีคาสิโนให้เล่น มี โรงหนังให้ดู มีโซนเกมอาเขต, มีโรง ละคร, มีไนต์คลับ, มีหอ้ งอาหาร, มี Duty Free ให้ชอ็ ป, มีสนามบาส, มี สวนน�ำ้ สระว่ายน�ำ้ , มีรา้ นสักแท็ตทู, มีโรงโยนโบว์ลงิ่ , มีโต๊ะสนุก้ , มีที่ไต่ ผาจ�ำลอง แมร่งมีแม้กระทัง่ ร้านตัด ผมอ่ะคิดดูดิ (ท�ำไมถึงไม่ตดั ไปจาก บ้าน) คือมีทกุ อย่างจนงงว่ามรึงจะ มาอยูก่ นั บนเรือท�ำไมเยอะแยะขนาด นี้ ท�ำไมไม่ไปอยู่ในห้าง ห้างเซ็นทรัล แถวบ้านยังมีไม่มากเท่านีเ้ ลยนะ นีถ่ า้ มีตลาดสดกับอาบอบนวดด้วยนีม่ นั จะ กลายเป็นเส้นรัชดาอยูแ่ ล้วนะ

ก่อนทีจ่ ะไปก็ได้ตดิ ตามข้อมูล ข่าวสารว่านีจ่ ะต้องเตรียมตัวยังไง บ้าง ผลปรากฏว่าในเพจต่าง ๆ ทีร่ วี วิ งานนีบ้ อกว่าเราจะต้องเตรียมสูทแบบ เป็นทางการไป, ผูห้ ญิงก็ตอ้ งเตรียม ชุดราตรีแบบจัดเต็มทีส่ ดุ แถมยังต้อง มีชดุ ตามธีมทีค่ นจัดงานให้เตรียมไป เป็น dress code อย่างเช่นว่าคลับนี้ จะมีงานปาร์ตเี้ ม็กซิโกก็ตอ้ งเตรียมชุด พืน้ เมืองสไตล์เม็กซิกนั ไปด้วย, คลับ นีต้ อ้ งสวมชุดนอนไปงานปาร์ต,ี้ คลับ นัน้ ต้องสวมชุด onesie ไปแด๊นซ์ ประมาณนี้ พอไปถึงผลปรากฏว่าทุก คนแต่งกันแบบจัดเต็มตัง้ แต่หวั จรด เท้าจริง ๆ ส่วนในปีนธี้ มี เครือ่ งแต่ง กายงานกาล่าดินเนอร์คอื formal oriental attire ก็จดั ชุดล�ำลองสไตล์ ยิป มัน ไปหนึง่ ชุดเป็นอันว่าจบ เชือ่ ว่าขาปาร์ตที้ อี่ ยากเปลีย่ น โลเกชัน่ ไปเมากลางมหาสมุทรอ่าน มาถึงบรรทัดนีแ้ ล้วก็คงอยากจะไป ลองสัมผัสกับงาน It’s the Ship ดู บ้าง ก่อนอืน่ ต้องขอบอกก่อนว่าท่าน จะต้องทุม่ ทุนสร้างไม่แพ้หนังหม่อม น้อยเลยทีเดียวและงานนี้ไม่แนะน�ำ ให้ไปคนเดียวเพราะมันจะแพงมาก เนือ่ งจากห้องพักมันไม่มหี อ้ งส�ำหรับ คนเดียวมีแต่หอ้ งส�ำหรับ 2 คน (แต่

ถ้าจะไปหากันจนเจอบนเรือก็ไม่วา่ กัน) ราคาห้องพักทีถ่ กู สุดอยูท่ ี่ 808 ดอลลาร์สหรัฐฯซึง่ ก็ประมาณ 26,000 บาท โดยห้องพักราคาถูกสุดจะอยู่ ด้านล่างของเรือไม่มที งั้ หน้าต่างไม่มี ประตูไปถึงต้องนอนหน้าห้องเท่านัน้ (นัน่ ก็เกินไป) คือในห้องมันจะคล้ายๆ กับห้องสีเ่ หลีย่ มโล่งๆไม่มอี ะไรเลย เข้าไปอยูอ่ าจจะให้ความรูส้ กึ เหมือน ติดคุกพอสมควร ส่วนห้องทีร่ าคา สูงขึน้ มาอย่าง Oceanview ทีเ่ ห็น วิวเป็นทะเลก็จะอยูท่ รี่ าคาห้องละ 28,900 บาท ห้องพักทีม่ รี ะเบียงยืน่ ออกไปในทะเลราคาจะอยูท่ ปี่ ระมาณ 34,500 บาทไปจนถึง 39,400 บาท ราคานี้ไม่รวมภาษีทา่ เรือทีจ่ ะต้องจ่าย เพิม่ อีกประมาณคนละเกือบ 6 พัน บาทส�ำหรับห้องทุกระดับ ส่วนห้อง Penthouse ขึน้ ไปนี่ไม่ตอ้ งพูดถึง ราคาเป็นแสนไปจนถึงหลายแสน ส่วน อาหารและเครือ่ งดืม่ จัดได้ฟรีตลอด 24 ชัว่ โมงจะกินทัง้ วันก็ได้ไม่มีใครว่า (จริงๆมันก็ไม่ฟรีหรอก แหม เล่นเก็บ ตังค์ซะกะให้เป็นหนีบ้ ตั รเครดิตไปอีก สิบปีซะขนาดนัน้ ) ในส่วนของการเดินทาง It’s the Ship จะออกเรือจากท่า Marina Bay Cruise Center ทุกปีโดยในปี ISSUE 19 - JANUARY 2018

ศรัณยู ตรีสุคนธ์

ทีแ่ ล้วเส้นทางเดินเรือคือ สิงคโปร์ชายหาดเกาะลังกาวี (มาเลเซีย)สิงคโปร์ ส่วนในปีนเี้ ส้นทางเดินเรือ คือ สิงคโปร์-ภูเก็ต-สิงคโปร์ โดยเริม่ ขึน้ เรือกันในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันที่ 17 พฤศจิกายน ขอแนะน�ำว่าให้ไปถึง ท่าเรือเร็วกว่าก�ำหนดการขึน้ เรือซัก 2-3 ชัว่ โมงก็ดี เพราะมันมีขนั้ ตอน เยอะคนทีข่ นสัมภาระมาเยอะต้องต่อ คิวส�ำหรับโหลดกระเป๋าขนาดใหญ่ ซึง่ คิวยาวเชีย้ ๆ ถ้าไม่อยากรอนาน แนะน�ำให้เอากระเป๋าใบเล็ก ๆ แบบ ทีส่ ามารถ carry on บนเครือ่ งได้มา เพราะไม่ตอ้ งต่อแถวเลย พอผ่านด่าน นี้ไปได้แล้วก็ตอ้ งต่อคิวท�ำบัตรห้อง พัก ซึง่ แถวยาวเชีย้ ๆ คดไปคดมายัง กับเกมงูโนเกียช่วงใกล้นอ็ ค แถวนี้ใช้ เวลาต่อคิวแทบจะชัว่ ชีวติ เลยทีเดียว คือต่อกันจนลืมไปแล้วว่านีต่ กลงกรู มางานอะไรกันแน่ พอผ่านคิวนี้ไปได้ ก็สแกนพาสปอร์ตขึน้ เรือกันได้ตาม อัธยาศัย พอได้กา้ วเท้าขึน้ เรือไปแล้ว นับตัง้ แต่วนิ าทีนนั้ เป็นต้นไปจนกว่าจะ จบงาน นัน่ แหละครับสุดยอดความ หฤหรรษ์อย่างแท้จริง คืนแรกยังไม่มี อะไรมากแถมงานท�ำท่าว่าจะกร่อย เล็กน้อย เพราะว่าทุกคนทีข่ นึ้ เรือ ไปแล้วต่างก็โคตรเหนือ่ ยเหมือนไป รบในสงครามเกาหลีมา (บนเรือก็มี เกาหลีนะ แจ่ม ๆ ทัง้ นัน้ ) ลานแด๊นซ์ ในทุกโซนบนเรือของคืนแรกมีความ อ้างว้างเปลีย่ วดายคล้าย ๆ ทีว่ า่ งหน้า เวทีในงานแต่งทีแ่ ขกในงานกลับบ้าน ไปแดรกมาม่าต่อกันหมดแล้ว ความ ปลงชีวติ เริม่ หนักข้อขึน้ อีกเมือ่ มีฝน โปรยปรายลงมา แต่อย่าเพิง่ ชะล่าใจ กันไป จริง ๆ แล้วทุกคนก�ำลังชาร์จ พลังกันอยู่ในห้องเพือ่ ทีจ่ ะออกมาพลี ISSUE 19 - JANUARY 2018

ร่างให้กบั แด๊นซ์ฟลอร์ในตอนตีหนึง่ ต่างหากล่ะ เขียนมาจนถึงตรงนีแ้ ล้ว เพิง่ จะรูต้ วั ว่า นีก่ รูยงั ไม่ได้เขียนถึง ดีเจทีม่ าเล่นในงานว่ามีใครบ้างเลย นีห่ ว่า นีม่ นั รีววิ เทศกาลดนตรี EDM ภาษาอะไรกัน โอเค ในคืนแรกดีเจ ทีเ่ ป็นเฮดไลน์คอื ดีเจคูห่ ดู โู อ้ Peking Duk และดีเจสาว Krewella ทีเ่ ปิด ทัง้ เฮ้าส์, EDM, Hard Style ไปจนถึง Trap ทุกคนทีม่ าเต้นนีค่ อื เต้นเหมือน กับว่าจะไม่มพี รุง่ นีอ้ กี ต่อไป บางคนนี่ เต้นหนักจนกลัวว่าหัวใจจะหลุดเข้าไป ในปอด หนักมากจริง ๆ ทีพ่ ดู ถึงนีว่ า่ กันแค่เวทีหลักนะฮะ เพราะมันยังมี เวทีรอง ๆ อย่าง Anchor Stage และ Zouk (ไนต์คลับอย่างหรู) ทีม่ ดี เี จนับ รวม ๆ กันแล้วเป็น 20 ชีวติ เปิดพร้อม ๆ กันในแต่ละเวที หวดกันยับตัง้ แต่คำ �่ ๆ ไปจนถึงพระอาทิตย์ขนึ้ ส่วน Zouk นี่ เปิดกันจนถึง 8 โมงเช้า เรียกได้วา่ เต้นกันจนต่อมลูกหมากเป็นนิว่ อ่ะครับ หลังจากวันแรกไปแล้วในวันรุง่ ขึน้ ดีเจคนแรกจะเปิดเพลงประมาณ 4 โมงเย็น ซึง่ ก่อนหน้านัน้ จะมีกจิ กรรม ให้ทำ� เยอะมาก ๆ ถ้าสายกีฬาก็จะมี แบ่งทีมเล่นบาสกับดีเจ, เตะบอลกับ สาวเพลย์บอย, ปาลูกปิงปองลงแก้ว เบียร์, ปีนหน้าผาจ�ำลองกับดีเจ, ตี กอล์ฟกับดีเจ สายฮิพฮอพก็มกี จิ กรรม Bloc Party มีวง ไทเทเนียม มาเปิด แผ่นร้องแร็ปแล้วให้แฟน ๆ ท้าเต้น บีบอยกันกลางสนามบาส มีปาร์ตโี้ ฟม กลางแจ้งทีม่ สี าว ๆ ใส่บกิ นิ มี่ าละเลง ฟองสบูแ่ ละสระโฟมโชว์สว่ นโค้งเว้า ให้หนุม่ ๆ ใจระทวยกันเล่น ๆ ใครที่ เมือ่ คืนนีป้ าร์ตจี้ นเช้าจะนอนยาวรวด เดียวตืน่ มาปาร์ตอี้ กี ทีตอน 6 โมงเย็น เลยก็ได้ไม่วา่ กัน สายรับประทานก็มี ทัง้ บุฟเฟ่อาหารให้เลือกกินกันได้ทงั้ วัน ถ้าไม่ชอบบุฟเฟ่ทก์ ม็ ที งั้ ร้านภัตตาคาร อาหารจีน, อาหารฝรัง่ เศสอิตาลี ญีป่ นุ่ โน่นนัน่ นี่ให้เลือกชิมเป็นสิบร้าน สายการพนันจะเล่นไพ่, ไฮโล, เล่น รูเล็ตต์ทงั้ วันทัง้ คืนเลยก็ได้ไม่มีใคร ว่า ถ้าเป็นสายหืน่ หน่อยปีนกี้ ม็ โี ชว์ Chippendales ทีเ่ ป็นโชว์ชายหุน่ ล�ำ่ ส่งตรงจาก ลาส เวกัส มาเปลือ้ งผ้า ให้ดู ส่วนหนุม่ ๆ ทีอ่ ยากดูโชว์เปลือ้ ง ผ้าสาว ๆ แบบ Topless ก็มโี ชว์

Dream Girls ให้ได้ดู สายหรูหรา ไฮโซก็สามารถไปจองโต๊ะงาน กาล่า ดินเนอร์ ทีป่ นี มี้ าในธีม Shanghai Nights แต่ละโต๊ะนีแ่ ต่งชุดจีนดัง้ เดิม เจ้าพ่อเซีย่ งไฮ้กเี่ พ้ากังฟูกนั แบบจัด เต็ม จริง ๆ แล้วยังมีกจิ กรรมให้ทำ� อีกเยอะมาก นีเ่ ป็นเพียงแค่สว่ นหนึง่ เท่านัน้ ด้วยตารางกิจกรรมทีเ่ ต็มไป ด้วยคิวยุบ่ ยับ่ แบบชัว่ โมงชนชัว่ โมง แบบนี้ แถมยังมีกจิ กรรมทีท่ งั้ ชนทัง้ ซ้อนทัง้ เหลือ่ มเวลากันในสถานทีอ่ นั จ�ำกัด จะหนีปญ ั หาไปไหนก็ไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่านีเ่ ราก�ำลังอยูบ่ นเรือ กลางมหาสมุทรอันยิง่ ใหญ่ไพศาล การวางแผนจัดงานจะต้องเป๊ะมาก ๆ และคนจัดงานก็จดั งานได้โคตร เพอร์เฟ็กต์ อันนีต้ อ้ งยกความดีความ ชอบให้กบั ทาง Livescape ออแกไน เซอร์ของทางมาเลเซียทีจ่ ดั งานนีข้ นึ้ มา ส่วนตลอด 4 วันทีป่ าร์ตกี้ นั แบบ ลืมตายบนเรือ บางทีกล็ มื ไปเลยว่า ก�ำลังอยูบ่ นเรือเพราะเรือมันแล่นได้ ชิลมาก มารูต้ วั อีกทีกถ็ งึ ภูเก็ตในช่วง เช้าของวันที่ 3 เรือ่ งตลกก็คอื พอถึง หาดป่าตองปุบ๊ ก็ลงเรือเล็กมาขึน้ ฝัง่ เดินไปฟังเพลงเทคโนเฮ้าส์ที่ Kudo Beach Club ประมาณครึง่ ชัว่ โมง เสร็จแล้วก็ใช้บริการนวดเท้าจากคุณ ป้าทีต่ ะโกนบอกลูกน้องว่า “คนท้าย ๆ นวดแค่ 10 นาทีพอ คิวหลัง ๆ เป็น คนไทยแล้ว” (อ้าว นีก่ เุ ป็นคนไทยแล้ว ผิดตรงไหน) นวดเท้าเสร็จเดินเท้าเข้า ซอยทีร่ ายล้อมไปด้วยผับบาร์ราคาถูก เหมือนพัทยาไม่มผี ดิ เพือ่ ไปสัง่ ลาบหมู ข้าวเปล่ามากิน กินเสร็จก็ขนึ้ เรือเล็ก กลับไปบนเรือส�ำราญดังเดิม สรุปคือ เรานัง่ เรือจากสิงคโปร์มาภูเก็ตเพือ่ ที่ จะมาสัง่ ลาบข้าวเปล่า กินเสร็จก็นงั่ เรือกลับสิงคโปร์ทนั ที รูส้ กึ ว่าตัวเอง รวยมาก นัง่ เครือ่ งส่วนตัวจากไทยไป กินหมูสามชัน้ ทีฮ่ อ่ งกง กินเสร็จแล้ว กลับเมืองไทยยังไม่ดหู รูดรู วยขนาดนี้ เขียนรีววิ งานอย่างยาวจนจะจบ อยูแ่ ล้วแทบจะไม่ได้พดู ถึงดีเจทีม่ าเล่น เลย ส่วนตัวแล้วเราชอบโชว์ของ One More Time มาก วงนีเ้ ป็นคูห่ ดู เี จที่ เปิดเพลงแนวอิเล็กโทร/เฮ้าส์ของวง Daft Punk คือเอาเพลงของวง Daft

Punk มามิกซ์สดน่ะแหละ โชว์มนั มาก คนดูไม่เยอะมากไป สนุกสุด ๆ ส่วน โชว์ของดีเจทีด่ แู ล้วจ�ำได้วา่ สนุกก็คอื โชว์ดเี จเซ็ตของ Coone, Dirtcaps, ดีเจสาวสวย Courtney Mills, Krewella, Yellow Claw, Justin-Oh ซึง่ นอกจากเวทีหลักแล้วมันยังมีงาน ปาร์ตที้ ชี่ อื่ Loco ทีเ่ ปิดเพลงเฉพาะ ทางอย่างเพลงเต้นร�ำสไตล์เม็กซิกนั ทีม่ กิ ซ์กบั ดนตรีอเิ ล็กทรอนิกส์ ก่อน เข้างานมีการแจกหมวกเม็กซิกนั และ หนวดปลอมให้เข้ากับบรรยากาศ ส่วน วันที่ 4 วันสุดท้ายต้องบอกเลยว่าร่าง พังอย่างสมบูรณ์แบบตืน่ ขึน้ มาก็ไปนัง่ อ่านหนังสือทีร่ ะเบียง สูดอากาศกลาง มหาสมุทรเย็น ๆ จิบเบียร์ชลิ ๆ ส่วน ดีเจก็เปิดเพลงเฮ้าส์สบาย ๆ คลอไป เรือ่ ย ๆ เป็นการส่งท้ายงานก่อนลง เรือได้อย่างมีสไตล์ It’s the Ship เป็นมหกรรม ความพังพินาศของการสังสรรค์ปาร์ตี้ แบบเละเทะไม่แคร์เวิลด์ไปกับดนตรี เต้นร�ำทีเ่ มามันและเด็ดสะระตีท่ สี่ ดุ นับตัง้ แต่ขา้ พเจ้าลืมตามาดูโลกใบนี้ แล้วล่ะครับ ทุกคนทีข่ นึ้ มาบนเรือต่าง มีจดุ มุง่ หมายเดียวกันคือกูจะท�ำทุก สิง่ ทีอ่ ยากท�ำและปลดปล่อยความบ้า คลัง่ ตามแบบฉบับของตัวเองในทุกวิถี ทาง ดังนัน้ เราจะเห็นคนบ้าและปาร์ตี้ แบบลืมตายในทุกสรรพางค์ของเรือ อย่างแท้จริง เป็น 4 วันทีท่ กุ คนทิง้ ความเครียดของหน้าทีก่ ารงานความ รับผิดชอบในโลกแห่งความเป็นจริง เพือ่ เข้ามาสูโ่ ลกแห่ง The Matrix ที่ ซึง่ ทุกอย่างเป็นไปได้โดยที่ไม่ตอ้ งกลัว ว่าจะถูกเหล่า Sentinels ตามฆ่า แถม ในโลกแห่ง The Matrix นีย้ งั มีสาว ๆ นานาชาติจนี , เกาหลี, ญีป่ นุ่ และอีก หลากหลายเชือ้ ชาติทพี่ ร้อมจะให้หนุม่ ๆ เข้าไปทักทายท�ำความรูจ้ กั เพือ่ สาน ต่อความสัมพันธ์ฉนั พีน่ อ้ งต่อไป เช่น เดียวกับหนุม่ ๆ ทีง่ านนีห้ ล่อล�ำ่ มีทงั้ เวอร์ชนั่ ขาวตีแ๋ ละเวอร์ชนั่ ตาน�ำ้ ข้าวให้ ได้เลือกสรรกัน สรุปคือถ้าใครอยากปาร์ตแี้ บบ สุดเหวีย่ งเต็มสตรีมนอนสต็อปตลอด 4 วัน 3 คืนแล้วล่ะก็ ขอเชิญเลยครับ It’s the Ship ปีหน้าเจอกัน!!!

- BLAST

magazine -

041

COVER STORY

042

- BLAST

magazine -

I SI S SU UE E 1 81 9 - - D JE AC EN MU AB RE YR 2 0 1 78

BLAST TEAM

กลุม่ ศิลปินวัยรุน่ ยุคใหม่จากเมืองสีแ่ คว แห่มงั กร พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ด ปากน�ำ้ โพ โย่ว โย่ว ! ทีค่ น้ หาความชอบและต้องการจะเป็นได้เร็ว ผลักดันตัวเองจนก้าวมา อยู่ในจุดทีห่ ลายคนให้การยอมรับในผลงาน จากเวทีแร็พแบทเทิลต่อยอดไปสูก่ ารเป็นศิลปิน ทีน่ า่ จับตามองในลีลาการแร็พและเนือ้ หาเพลงทีเ่ ขียนออกมาได้สละสลวยโดนใจผูฟ้ งั วัยรุน่ ไม่ใช่เรือ่ งของโชคชะตา แต่เป็นเรือ่ งของการฝึกปรือฝีมอื และพรแสวง

River Rhyme (ริเวอร์ ไรห์ม) ประกอบไปด้วย วุฒชิ ยั เอมแสง (แมน) หรือ Johnn อดีตเด็กในวงดนตรีทเี่ ล่นเครือ่ งดนตรีได้หลายชนิด ติดใจในจังหวะแร็พและฮิพฮอพผันตัว เองเข้ากลุม่ นครินทร์ จรูญวิทยา (แชมป์) หรือ ไมยราพ จากลูกเจ้าของคณะลิเกมีชอื่ ใน เมืองนครสวรรค์ แต่ตอ้ งมนต์การแร็พมากกว่าจนครอบครัวถึงกับงอน และ ธนภัทร พุทธ กะ (ต็อป) หรือ Blacksheep อดีตวัยรุน่ เปือ้ นฝุน่ ผูป้ ลีกตัวจากเพือ่ นฝึกการแร็พจนทุกคน ต้องยอมรับ “Night” เพลงล่าสุดทีป่ ล่อยออกมาให้ฟงั ยังมีอกี หลายเพลงโดน ๆ “ปากดี” “ขณะทีห่ ายใจ” “น้อยเกินไป” “มากกว่าทีเ่ ธอรู”้ ชัว่ โมงนี้ใคร ๆ ก็ตอ้ งรูจ้ กั พวกเขา

วงการทีน่ ครสวรรค์เป็นยังไงตอนทีเ่ รายังไม่ได้รวมกลุม่ เป็นสายแร็พเมือ่ หลายปี ก่อน ต็อป : ตอนนัน้ ก็มกี ลุม่ ฮิพฮอพนะ ส่วนผมอยู่ในวงดนตรีเพือ่ ชีวติ ของลุง ท�ำหน้าทีเ่ ป่าขลุย่ มาเริม่ เข้ากลุม่ ฮิพฮอพทีร่ วมตัวกันทีร่ า้ นขายเสือ้ แฟชัน่ สตรีทที่ เราไปอยูด่ ว้ ยกันหมด พอคนเข้ามาเยอะ ๆ ก็เริม่ มีกระแสเม็กซิกนั แก็งส์โกนหัว สกินเฮดกันหมด พวกเราก็เริม่ รูล้ ะว่าเราชอบอะไรก็ตงั้ กลุม่ ฮิพฮอพกันในจังหวัด ซึง่ พีโ่ ทนเป็นคนตัง้ กลุม่ แรกและเป็นเจ้าของร้านเสือ้ ทีเ่ ราไปอยู่ พีเ่ ขาคอยแนะน�ำ ว่ามันต้องเป็นอย่างไร ยังไง I S S U E 1 89 - DJ EA CN EU MA RB YE R 2 20 01 81 7

ด้วยความทีอ่ ยูต่ า่ งจังหวัด คนก็คงจะ มองว่ามันประหลาด ? ต็อป : ใช่ครับ ก็โดนมองว่าบ้า ๆ กัน คนเมินมากกว่า เด็กบางกลุ่มก็ มองว่า เออ กลุ่มนี้มันมีกิจกรรมแหะ ก็เลยมาร่วมกลุ่มด้วย คนก็ยิ่งเยอะ พอเยอะเรื่องเหล้า ยา หญิง ทุกคน เคยผ่านกันหมดครับ แต่กลุ่มเราน้อย ที่สุดเพราะจะเตือนกันไม่ให้ไปในทาง เสื่อมเสีย แชมป์ : มันก็เป็นวัยลองครับ พอรูก้ ไ็ ม่เอาละ สารเสพติดเดียวทีเ่ รา ติดคือ บุหรี่ เข้ามาในเมืองกรุงครัง้ แรก ตืน้ เต้น ไหม ? ต็อป : เข้ามาแข่งเลยครับ คือ พวกเราท�ำเพลงกันมาพักนึงละก็เริม่ รูส้ กึ ว่าออกไปหาคอนเนกชัน่ กับคนอืน่ บ้าง อย่างตอนนัน้ ก็ไปแข่งแบทเทิลที่ จังหวัดอุดรธานี เป็นของ Rap Is Now

MALAMA COLLECTIVE

เป็นเฟสติวลั เลย ก็เริม่ รูจ้ กั กับคนอืน่ โชคดีดว้ ยทีอ่ อกมางานใหญ่ครัง้ แรก แชมป์ตอนนัน้ ไปดูเฉย ๆ ส่วนจอนยัง เป็นนักดนตรีอยู่ กลับมาทีก่ ลุม่ ก็บอก น้อง ๆ ว่า เราต้องออกไปแข่งกันบ้าง นะ มันจะได้เพือ่ นมากขึน้ พักนึงก็ตอ้ ง มาอยูก่ รุงเทพฯ เข้ามาเรียน ก็เริม่ ซึมซับและลึกเข้าวงการมากขึน้ ๆ แล้ว พวกเราก็เริม่ ตัง้ วงริเวอร์ ไรม์ ละ จอน จะเป็นคนมีพนื้ ฐานด้านดนตรี แชมป์ก็ จะรูเ้ รือ่ งกาพย์กลอน ส่วนผมนีแ่ ร็พ อย่างเดียว ตอนเรียนมัธยม โดนดูวา่ เป็นพวก แปลกแยกไหม ? แชมป์ : ก็ดแู ปลกกว่าคนอืน่ นะ ฮาฮา ต็อป : ผมนี่ไม่เรียนไม่เอาอะไร เลย เพือ่ น ๆ นัง่ สอบกันแต่ผมเอา กีตาร์เข้าไปดีดในห้อง ทีผ่ มจบได้นี่ เพราะญาติผมเป็นผูอ้ ำ� นวยการ - BLAST

magazine - 043

โรงเรียน มันเป็นเรือ่ งที่ไม่ดนี ะ อย่า เลียนแบบ แชมป์ : ของผมนีท่ งั้ เรือ่ งแต่ง ตัวและฟังเพลงเลย เพือ่ นคนอืน่ จับ กลุม่ ไปกินนูน้ นี่ แต่ผมกลับไปเต้น B-Boy ต็อป : อย่างวงจรนักเรียนคือ เด็กมันก็แบ่งเป็นกลุม่ อยูแ่ ล้ว เด็กพวก นัน้ มันก็คดิ ว่าพวกเราคิดต่างไรงี้ ผม เองก็เป็นประเภท มึงไม่คบกูกกู ไ็ ม่คบ มึง ฮา ตอนขึน้ แบทเทิลครัง้ แรกรูส้ กึ อย่างไร บ้าง ? แชมป์ : มันตืน่ เต้น กดดัน แปลกทีแ่ ปลกทางครับ พอรวมกันเป็นกลุม่ River Rhyme หลังจากนัน้ กลับไปบ้านทีน่ ครสวรรค์ มีอะไรเปลีย่ นไหม ? ต็อป : เมือ่ ครัง้ ทีเ่ ราท�ำเพลงกัน ไปเล่นดนตรี ไม่มีใครดูเลย พอกลับไป 044

- BLAST

magazine -

อีกทีคนจัดงานประเพณีเมืองยังนึกเลย ว่าพวกเราเป็นใคร เพราะเขา งง เคย เห็นกลุม่ พวกผมจากที่ไม่เคยมีใครมาดู กลับมาไม่กปี่ คี นตามมาดูเป็นพัน ๆ แชมป์ : เยอะกว่าวงเมนสตรีมที่ เล่นในวันนัน้ อีกครับ ถามถึงสไตล์แต่ละคนถนัดกันแบบ ไหน ? จอน : ผมชอบพวกท�ำนองผสม ดนตรีสง่ ๆ ผมจะแร็พแบบกระแทก กระทัน้ แชมป์ : ผมจะสไตล์แบทเทิล Punch Line หมัดหนัก ๆ สัมผัสสวย ๆ ส่วนของบีทเพลงได้หมดทัง้ โอลด์ สคูล นิวสคูล ต็อป : ผมก็ชอบเป็นช่วงเวลา มากกว่านะ บางทีกช็ อบโอลด์สคูล บางทีกเ็ ป็นโซล เลยไม่ได้กำ� หนดทาง ตัวเองสักเท่าไหร่ครับ ก็พยายามท�ำให้ ได้ทงั้ หมดโดยไม่ตกี รอบตัวเอง

ในฐานะทีเ่ ราเป็นกลุม่ รุน่ ใหม่ เรามองว่า แร็ปเปอร์ทดี่ ตี อ้ งเป็นอย่างไร ? จอน : ดีมนั มีหลายแบบแล้วแต่ คนมองนะ ในส่วนของผมก็จะต้องหา เงินได้ หาเลีย้ งชีวติ ได้ ถ้าในยุคนีม้ นั ก็ ต้องท�ำเงินได้ดว้ ย มีวจิ ารณญาณเวลา เขียนเพลงน�ำเสนอ ต็อป : ส�ำหรับผมก็นา่ จะเป็น กลาง สือ่ ความหมายออกมาจากเพลง ได้ตรงประเด็น คนฟังเข้าใจ ส่วนตัว ผมจะแต่งเพลงเกีย่ วกับสังคมมากกว่า ถ้าเรือ่ งยาไรนีจ่ ะไม่เลย ไม่อยากให้ถกู จ�ำในภาพแบบนัน้ แร็พเรือ่ งยานีม่ นั มี อยูแ่ ล้ว แต่ผมอยากสือ่ อะไรมากกว่า นัน้ พูดเรือ่ งอืน่ ดีกว่า มองภาพรวม ของสังคมแล้วตีโจทย์ออกมา ไม่จำ� เป็น ต้องตรงตัวก็ได้ ทีเ่ หลือกก็แล้วคน เลือกทีจ่ ะฟังครับ แชมป์ : คนทีท่ ำ� เต็มทีก่ บั เพลง เต็มที่ จะได้หรือไม่ได้อะไรก็ทำ� ไว้กอ่ น เคารพเพือ่ น พี่ น้อง มันจะส่งผลดีทกุ อย่าง ผมมองเป็นเรือ่ งนีม้ ากกว่าครับ

การรับผิดชอบเนือ้ ร้องทีน่ ำ� เสนอออก มา รุน่ ใหม่โผล่มาเพียบมีทงั้ สร้างสรรค์ ความรัก ชิว จนถึงด้านมืด จอน : ส่วนใหญ่ตอนทีม่ นั ระบาดตอนนีม้ นั ก็มนี ะชวนไปเสพยา มันก็มมี าตัง้ นานแล้ว แต่กบั ริวเวอร์ ไรมห์ไม่ใช่ทางอยูแ่ ล้ว ก็เลยไม่ได้อะไร มาก ต็อป : ก็แล้วแต่คนเสพละครับ ว่าจะเลือกฟังอะไร อย่างพวกเราก็ทำ� ใส ๆ นะ เพราะเรารูว้ า่ เราท�ำให้ใครฟัง ถ้าวันหนึง่ กลับไปบ้านทีน่ ครสวรรค์ แล้วต้องพบเจอกับซีนทีบ่ า้ นมันรุนแรง แชมป์ : ผมก็รสู้ กึ ไม่ดนี ะครับ นัน่ คือเราเป็นตัวอย่างที่ไม่ดสี ำ� หรับเขา ชอบมีประเด็น สด กับ จด ยังไงครับ ท�ำไมถึงยังทะเลาะกัน ? ต็อป : เพราะเขายังไม่เข้าใจค�ำ ว่าแร็พ เขายังเข้าใจค�ำว่าแร็พ แบทเทิล คือค�ำว่า “สด” ถ้าย้อนดูหนังเรื่อง I SI S SU UE E 1 81 9 - - D JE AC EN MU AB RE YR 2 0 1 78

8 Mile อิมเิ น็มนีย่ งั นัง่ จดอยูเ่ ลย แชมป์ : มันหลายอย่างนะครับ จ�ำแนก ๆ เป็นบุคคลก่อน อย่างการสด นีก่ ไ็ ม่ได้สดร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เพราะ ขึน้ มาคุณก็ตอ้ งคิดไว้ลว่ งหน้า ผมคิด ว่ามันเป็นความรับผิดชอบต่อหน้าที่ นะ ไม่ใช่วา่ คนทีจ่ ดจะสดไม่ได้ คนที่ จดอย่างผมนีเ่ พราะว่าอยากให้คนทีเ่ สีย เงินมาดูเราได้เห็นเราแสดงอย่างเต็ม ที่ ไม่ใช่วา่ ไปยืนสดโดยที่ไม่รวู้ า่ ร้องสด อะไร ไม่มคี วามหมาย อย่างทีค่ นมา ทะเลาะกันก็เพราะเหยียดกันมากกว่า ต็อป : ผมอยากให้มองว่าอย่าง แร็พ แบทเทิล แร็ปเปอร์คนนึงเป็น สมุดหนึง่ เล่ม มีคำ� ไว้ในหัวคิดไว้ในหัว คุณอาจจะไม่รหู้ รอกว่ามันมาจากเพลง เขา มันเป็นสไตล์ในการจ�ำของเขา มัน อาจจะจดมาตัง้ สามสีป่ แี ล้วก็ได้แล้วเพิง่ งัดออกมาใช้ ผมไม่ได้มองว่า จด หรือ สด หรอกนะ แร็ปเปอร์เขาไม่ได้มอง ตรงนัน้ หรอกนะ มันเป็นทีค่ นดูเหยียด กันเองมากกว่า I S S U E 1 89 - DJ EA CN EU MA RB YE R 2 20 01 81 7

แชมป์ : คนบ้านเรามองว่า สด คือเจ๋ง และเร็วคือเจ๋ง แต่ทสี่ ำ� คัญสุด มันอยูท่ ี่ใจความ คนไทยชอบสไตล์ ความเร็วมากกว่า อาจจะไม่เข้าใจค�ำว่า Flip ต็อป : ท�ำไมมันแร็พหลุดบีท วะ ฮาฮา ถ้าคนไม่เข้าใจก็นกึ ว่าจะร้อง หลุด แร็ปเปอร์ดงั ๆ ต่างประเทศยัง ท�ำกันแทบไม่ได้เลย มันยากส์ แชมป์ : แล้วก็เป็นทีต่ วั แร็ป เปอร์ดว้ ยทีท่ ำ� ค่านิยมแบบนีข้ นึ้ มา สด มึงเจ๋ง จดมึงอ่อน ต็อป : ถ้าแร็พ แบทเทิล นีถ่ า้ ให้หยาบน้อยทีส่ ดุ ผมถือว่าเจ๋งนะ แต่ก็ ไม่ได้ผดิ นะว่าคนทีแ่ ร็พหยาบ ๆ วันนึง อาจจะเจอคนมาแบทเทิลโดยที่ไม่ได้ ใช้คำ� หยาบแล้วชนะนีม่ นั เจ๋งสัด ๆ เลย มันมีอยูค่ นู่ งึ ทีแ่ บทเทิลกันแล้วด่ากัน เละ คนดันเฮ ชอบ แล้วเวทีรอบนอกที่ อืน่ นีด่ า่ กันเจ็บเลย ถ้าให้ผมไปแร็พด่า นีผ่ มแพ้นะ เพราะผมไม่ได้คดิ แบบนี้ เลย

แชมป์ : มันมีอยูค่ ำ� นึง “ด่าให้ เจ็บ อย่าด่าให้หยาบ” คือ ยุคผมที่ แข่งนี่ไม่มีใครหยาบกันเลย จะเล่นค�ำ เปรียบเปรยสะเยอะ สามกฎหลัก ๆ ของการแร็พเมือ่ ก่อน คือ ไม่ดา่ บุพการี ห้ามแร็พเกีย่ วกับศาสนา และ ให้เกียรติคนบนเวที อย่างเร็ว ๆ นีจ้ ะมีรายการประกวด แร็ปเปอร์ แชมป์ : ก็ดนี ะครับ เป็น สัญญาณทีด่ ี เพราะรายการประกวด มันก็มแี ต่รอ้ งเพลงสากล ลูกทุง่ ป็อป อนาคตผมว่าแนวนีข้ นึ้ เป็นเมนสตรีม แน่นอน อย่างรุน่ พี่ ๆ ทีอ่ ยูท่ กุ วันนีก้ ย็ งั ไม่ถอื ว่าเมนสตรีมนะ เป็นส่วนนึงของ ซีนเพลงในบ้านเรา

เรือ่ งนัน้ มันจะท�ำให้เราเสียสมาธิกบั งานเสียความเป็นตัวเองเกินไป ผมเคย คิดนะว่าผมเองก็เป็นคนทีเ่ ขียนเพลง คนนึง เขามาชอบเราก็ดคี รับ อย่าง ทีเ่ ราท�ำตอนนีก้ ย็ งั คงเป็นต่อไป ไม่ ตามใครครับ มันท�ำให้เราตัง้ ใจท�ำงาน อย่างรุน่ ผมมีเป็นร้อยคนแต่ตอนนีเ้ รา แซงพวกเขามาแล้วเพราะเรามีโอกาส ได้ทำ� งาน ได้เห็น มันไม่ใช่โชคนะ เรา เต็มทีก่ บั งานจนมาถึงจุดนีค้ รับ แชมป์ : ก็ตามน�ำ้ ไปครับ เราก็ ไม่โฟกัสกับเรือ่ งนีอ้ ย่างทีแ่ ชมป์บอก จอน : ก็ทำ� ตัวธรรมดาปรกติ เหมือนเดิมครับ ไม่มอี ะไรมากครับ

จากคน ๆ นึงที่ไม่มีใครรูจ้ กั เลยจนตอน R E C O M M E N D A R T I S T B Y นีม้ แี ฟนเพลงมีคนรูจ้ กั เรารับมือกับชือ่ เสียง ความกดดันยังไง ?

YOUNGOHM, YOUNG BONG, VKL, ต็อป : ผมก็ไม่ตงั้ รับอะไรกับ FllXD, Bullet, MikeSickFlow มันเลย ตัง้ ใจท�ำงานต่อ ถ้ามัวไปคิดถึง

RIVER RHYME - BLAST

magazine - 045

046

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 047

I S S U E

19 JANUARY 2

0

1

R I V E R R H Y M E

048

- BLAST

magazine -

ISSUE 19 - JANUARY 2018

8

ISSUE 19 - JANUARY 2018

- BLAST

magazine - 049