a day BULLETIN issue 109

Page 1

ISSUE 109 20 - 26 AUGUST 2010


ISSUE 109, 20 - 26 AUGUST 2010

What We Can Wash Out บ่ายวันหยุดวันหนึ่ง ผู้เขียนเดินผ่านสนามกำลังก่อสร้าง ซึ่งบริเวณด้านหน้ามีกองทรายที่ล้อมด้วยไม้เป็นกรอบไว้ทั้งสี่ด้านคล้ายสนามขนาดเล็กๆ ในกองทรายมีเด็ก นอกกองทราย มีแม่ของเด็กที่กำลังนั่งดูลูกเล่นทรายอยู่ ลูกชายของเธอน่าจะมีวัยไม่เกิน 3-4 ขวบ มีวิธีเล่นทรายด้วยการเดินไปก้มหยิบทรายจากสนามฝั่งหนึ่ง เดินมา 3 ก้าว แล้วก็ทิ้งทรายที่กำไว้ลงกับพื้น จากนั้น ก็เดินกลับไปหยิบทรายอีก แล้วก็เดินกลับมาทิ้งไว้ที่กองเดิมอีก ทำซ้ำอยู่ 4-5 รอบ ก็ได้เรื่อง เมื่อเสียงของแม่ดังขึ้นมาให้เลิกเล่น ด้วยเหตุผลว่าเดี๋ยวทรายจะกระเด็น ไปเปื้อนคนอื่น (ซึ่งไม่มีใครอยู่แถวนั้น แล้วอีกอย่างลูกของเธอก็ไม่ได้มีแรงขนาดจะเขวี้ยงทรายให้กระเด็นไปไกลได้) สุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยการที่เธอให้ลูกชายอีกคน ไปห้ามน้องเล่นทราย แล้วไปเตะบอลกับพี่ๆ แทน พ่อแม่ทุกคนล้วนกลัวลูกจะสกปรก เปรอะเปื้อนจากการเล่นซน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนเป็นพ่อเป็นแม่ แต่จะมีพ่อแม่สักกี่คนที่จะสอนวิธีล้างเนื้อล้างตัวให้ สะอาด แทนที่จะห้ามไม่ให้เล่นให้เปรอะเสียเลย คิดไปคิดมา ผู้เขียนก็เกรงว่าตัวเองจะเป็นคนคิดมากไปเสียเปล่าๆ แต่ก็อดคิดต่อไม่ได้อยู่ดีว่า เป็นไปได้ไหมว่า เมื่อเรา ถูกห้ามไม่ให้ทำในสิ่งที่อยากทำ แทนที่จะถูกสอนให้รู้จักการแก้ปัญหา กรณีที่อยากจะทำจริงๆ เราก็มีแนวโน้มที่จะไม่ทำสิ่งนั้นไปเสียเลย เพราะไม่อยากเผชิญสิ่งที่เป็น ปัญหานั้น เพราะถ้าเผลอไปแตะต้อง เช่น ในกรณีที่เด็กคนนั้นเกิดอยากจะกระโจนลงไปเล่นทราย แต่ล้างไม่เป็น ในที่สุดก็จะวนกลับมาที่แม่ ที่จะโมโหและดุว่ารุนแรง กว่าเดิมเพื่อให้ลูกไม่ไปแตะต้องทรายอีก ซึ่งมีคำพูดที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ ‘เห็นไหมว่ามันเปื้อน มันสกปรก บอกแล้วไม่เชื่อ ทีหลังไปเล่นอีกจะตีให้ตาย’ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า เด็กคนนี้จะไม่ยอมให้ทรายเปื้อนตัวอีกเลย แต่หารู้ไม่ว่าทรายเป็นสิ่งที่มีอยู่ทั่วไป และเขาต้องเจอไปตลอดชีวิตนี้ การเปื้อนทรายไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่การเปื้อน แล้วไม่รู้ว่าจะล้างออกอย่างไรนั่นต่างหากที่ประหลาด ผู้เขียนไม่ได้โทษคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่ได้โทษใครสักคนที่จะแสดงความห่วงใยสวัสดิภาพของลูกหลาน เพราะบางทีพ่อแม่ หรือกระทั่งเราๆ ท่านๆ ก็ถูกสอน แบบนี้มาตั้งแต่เด็ก อะไรที่สกปรกและดูจะเป็นอันตรายกับสุขภาพร่างกาย เราก็ต้องหลีกเลี่ยง แต่ปัญหาก็คือ บ่อยครั้งที่เราไม่ได้สอนให้เด็กๆ แยกแยะว่า อะไรคือสิ่งที่ เป็นแค่ปัญหาชั่วคราว และอะไรที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เรามักจะบอกรวมๆ ไปว่า อย่าไปยุ่งกับอะไรที่จะสร้างปัญหาก็แล้วกัน ง่ายดี ในกรณีนี้ทรายก็เป็นแค่ปัญหาชั่วคราว เปื้อนได้ก็ล้างได้ แต่สิ่งที่จะได้มากับการเล่นทรายคือ ความสุขจากจินตนาการที่เด็กคนนั้นจะได้โลดแล่นไปด้วยแม้เพียง ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ใครจะรู้ว่าเด็กที่ผู้เขียนนั่งดูเขาเดินไปหยิบทรายมากองทีละนิดๆ อาจคิดว่ากำลังจะสร้างอาณาจักรอะไรสักอย่างที่เขาเห็นภาพอยู่คนเดียว แต่เมื่อเรา ผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่กว่า ไม่ได้เห็นภาพเดียวกับเขา เราก็คิดว่ามันไม่มีหรอก มันแค่เรื่องเด็กๆ แล้วเราก็ใช้ความเป็นผู้ใหญ่ที่รู้มากกว่าไปห้าม ไปสั่งให้เลิกเล่น ด้วยเหตุผลแบบผู้ใหญ่ เช่น เดี๋ยวไปเปื้อนคนอื่น ซึ่งคนอื่นนั่นก็ไม่เห็นว่าจะมีอยู่ แล้วถ้ามี คนอื่นที่ว่าจะตายเชียวหรือกับการโดนทรายกระเด็นไปเปื้อน หรือเรื่องตลกกว่า นั้นก็คือ คนอื่นที่อาจจะเปื้อนทราย ก็ถูกสอนมาให้หลีกเลี่ยงการเล่นทราย แต่ไม่ได้ถูกสอนมาให้ล้างทรายเช่นกัน ทุกวันนี้ ถ้าหันไปดูรอบๆ ตัว เชื่อเถอะว่าเรามีผู้ใหญ่ที่เคยเป็นเด็กที่ถูกห้ามเล่นทรายทั้งที่อยากจะเล่นใจจะขาดเต็มไปหมด แล้วในที่สุดก็ไม่กล้าแตะต้องทราย อีกเลย เพราะเข้าใจไปว่ามันคืออะไรที่เปื้อนแล้วก็จะเปื้อนไปตลอด เหมือนคนเป็นจำนวนมากที่คิดว่า อย่าได้ไปลองแตะเรื่องนั้นเรื่องนี้เชียวไม่ว่าอยากจะทำแค่ไหน เพราะถ้ามีปัญหาขึ้นมา มันจะเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้และจะทำให้ชีวิตถึงกาลอวสาน ทั้งที่มันก็ล้างออกได้ไม่ต่างกับทราย กรุณาอย่าเข้าใจผิด... ผู้เขียนไม่ได้เทียบ ทรายกับปัญหาในแง่ความหนักเบา แต่ผู้เขียนพูดในแง่ของ ‘ความชั่วคราว’ ของปัญหาต่างหาก ไม่ว่าผู้ใหญ่คนไหนก็คงย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กที่ชอบเล่นทรายไม่ได้อีกแล้ว แต่สิ่งที่เรายังทำได้และไม่เคยสายเกินไปก็คือ การมองว่า เราควรจะได้ทำอะไร ที่เราอยากทำ โดยไม่ต้องกลัวปัญหาที่ตามมาว่าจะเป็นปัญหาที่ล้างไม่ออกไปตลอดชีวิตต่างหาก มั่นใจเถอะว่า โลกนี้มีวิธีล้างทรายออกแน่ๆ

ปีที่ 2 ฉบับที่ 109 วันที่ 20 - 26 สิงหาคม 2553

วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter:@khaopan, www.facebook.com/adaybulletin

08

30

06 GOODNEWS

06

24

ติ ด ตามข่ า วสารดี ๆ รอบโลกประจำ สัปดาห์ได้ในห้องข่าว แห่งนี้

เรี ย นรู ้ สู ต รลั บ ในการ ทำขนมและการใช้ชวี ติ ของ ‘เมย์’ - กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ เจ้าของร้านขนมชื่อดัง อย่าง After You

16 A MUST

สารพัดสิ่งที่เราคัดสรร มาฝากแบบ A Must พลาดแล้ ว จะหาว่ า ไม่เตือน

20 CALENDAR

ใคร ทำอะไร ที ่ ไ หน เช็กดูได้ สุดสัปดาห์นี้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราว สนุกๆ

24 26 HOME MADE HEALTH บริ ห ารพื ้ น ที ่ ภ ายใน AND HEART บ้านอย่างสร้างสรรค์ พร้ อ มเพิ ่ ม ความงาม ให้บ้านอย่างลงตัวกับ บ้านของ สุธิดา พงษ์ประยูร

รวมสาระความรู้ที่จะ ทำให้ ค ุ ณ แข็ ง แรงทั ้ ง กายและใจ

29 30 THE WORDS THE GUEST ทุ ก ถ้ อ ยคำมี ค วามหมายและคุณค่าเสมอ ค้นหาได้ในหน้านี้

16 ทุกครั้งที่อ่าน adB จะได้รับ ความรู้จากคอลัมน์ต่างๆ และได้ รับแรงบันดาลใจจากบทสัมภาษณ์ ในลักษณะเป็นลูกคลื่นที่กระทบ หั ว ใจระหว่ า งอ่ า นบรรทั ด ต่ อ บรรทัด ย่อหน้าต่อย่อหน้า จน จบบทสัมภาษณ์ และจะกระแทก อยู่ในสมองได้ถึง 1-3 วัน ขอบคุณมากสำหรับการ คัดเลือกบุคคลที่นำมาสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อยากเสนอให้

08 INTERVIEW

คุ ย กั บ นั ก ทำพลุ ม ื อ อาชีพ คริสโตเฟอร์ วู ที่บินตรงจากประเทศ จีน เพื่อมาสร้างความ ตระการตาให้กับ ชาวไทย

มีการสัมภาษณ์บุคคลประเภทดังนี้บ้าง แต่อาจจะไม่ ถึงกับลงหน้าปก เช่น พนักงานบีทีเอส ทั้งคนแลก เหรียญ รปภ. ที่เป็นที่รู้จักของผู้โดยสารในฐานะที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการสร้างความประทับใจที่ดี ฯลฯ เพื่อสร้างคนอ่าน adB ให้เป็นชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่ง ทีม่ คี วามหลากหลายในการเรียนรูท้ ศั นคติซง่ึ กันและกัน ท้ายนี้ พอดีได้มโี อกาสอ่านบทบรรณาธิการทีพ่ ูดถึง การหย่าร้างในมุมที่แปลกดี ผมเองมีบทเตรียมพูดใน งานมงคลสมรสทีเ่ ขียนเตรียมให้เพือ่ นทีจ่ ะเป็นประธาน

ในงานได้พูด จำได้ว่ากว่าจะเขียนออกมาได้ก็ต้องใช้ มุมมองหลายๆ มุม ทำให้รู้สึกว่าเวลาคนสองคนจะไป ด้วยกันไม่ได้ ก็คงจะมองหลายมุมแล้วเช่นกัน ต่างกัน แต่เพียงว่าสุดท้ายแล้วคงต้องเลือกมุมใดมุหนึ่งที่จะ เป็นแนวทางในการเดินไปข้างหน้า ลองอ่านดูนะครับ contrast กันอยูบ่ า้ งสำหรับวันอวยพรคูส่ มรสกับวันหย่า ทีไ่ ม่มปี ระธานมาให้แนวทางในการดำเนินชีวติ ต่อไป -เจิ้ง เกาะเกร็ด

ส่งความคิดเห็น คำติ-ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอย เจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล adaybulletin08@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริงและที่อยู่มากับจดหมาย เพื่อ ความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการ ขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ใน ช่วงเดือนนี้ จะได้รับหนังสือดีๆ จากสำนัก พิมพ์ a book ส่งไปให้ถึงบ้าน

ทีป่ รึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผูพ ้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย บรรณาธิการอำนวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สงิ ห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอีย่ ม กองบรรณาธิการ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ สิรนิ พร จึงพิทกั ษ์อดุ ม เอกพล บรรลือ บรรณาธิการภาพ นิติพัฒน์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม วีร์ศรัณย์ สุทธินิภาชัย พิสูจน์อักษร หัสยา ตั้งพิทยาเวทย์ ฝ่ายผลิต ศิริ ศิริจรรยากุล ที่ปรึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิริจรรยากุล ผูอ้ ำนวยการฝ่ายโฆษณา อุบลวรรณ จรเจริญสุข 08-1171-1886 ผูจ้ ดั การอาวุโสฝ่ายโฆษณา สุพชั รา มโนรินทร์ 08-1928-1284 ฝ่ายโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 08-6993-7479, กัณฐลดา ชื่นสวัสดิ์ 08-3016-5400 กุลวรรณ วรรณะลี 08-1934-7615 ผู้จัดการ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ จันทร์เพ็ญ ตั้งสัมปัตติวงศ์ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผูผ้ ลิต บริษทั เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขมุ วิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2203-1040 อีเมล adaybulletin@daypoets.com ติดต่อฝ่ายโฆษณา โทร. 0-2203-1040 ต่อ 801, 802, 803, 804, 805, 807 แฟกซ์ 0-2203-1040 ต่อ 811 เว็บไซต์ www.daypoets.com/adb ฝ่ายสมาชิก นริศรา เปยะกัง โทร. 0-2726-9996 ต่อ 11, 12, 49



04

THE DATABASE

THE RANKING

ที่มา : www.forbes.com

10 อันดับแบรนด์ดังที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

Apple สหรัฐอเมริกา 57,400 ล้าน ดอลลาร์ฯ

Microsoft สหรัฐอเมริกา 56,600 ล้าน ดอลลาร์ฯ

Coca-Cola สหรัฐอเมริกา 55,400 ล้าน ดอลลาร์ฯ

IBM สหรัฐอเมริกา 43,000 ล้าน ดอลลาร์ฯ

คุ ณ เห็ น ด้ ว ยหรื อ ไม่ กั บ มาตรการ เอาผิดร้านค้าที่ขายน้ำดื่มเกินราคา และคิดว่ามาตรการนี้จะนำไปใช้ ได้ จริงหรือไม่ Google สหรัฐอเมริกา 39,700 ล้าน ดอลลาร์ฯ

McDonald’s General Electric Marlboro สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา 35,900 ล้าน 33,700 ล้าน 29,100 ล้าน ดอลลาร์ฯ ดอลลาร์ฯ ดอลลาร์ฯ

THE POLL

ที่มา : สวนดุสิตโพลล์

ประชาชนคิดว่าสื่อมวลชนควรมีบทบาทด้านวัฒนธรรมอย่างไร ให้ความสำคัญ / เพิ่มพื้นที่ข่าวด้าน วัฒนธรรม ประเพณี ทั้งของไทยและ ต่างประเทศให้มากขึ้น 38.11%

มีเทคนิคในการนำเสนอที่น่าสนใจ และดึงดูดให้ประชาชนติดตามอย่างเข้าใจ 15.81%

นำเสนอข่าวสารด้าน วัฒนธรรมในเชิง สร้างสรรค์ เพื่อเป็น การส่งเสริม การท่องเที่ยว 19.70%

นำเสนอข่าวอย่างมี คุณภาพ คืนกำไรให้กับ สังคม / ไม่มุ่งหวังแต่ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพียงอย่างเดียว 14.02% สื่อมวลชนเองจะต้องเป็น แบบอย่างทางด้าน วัฒนธรรม เช่น การพูด การแต่งกาย การทำ กิจกรรมส่งเสริมศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรม 12.36%

จากผลสำรวจการใช้เวลา วั น หยุ ด พั ก ผ่ อ นของคน ทำงานใน 24 ประเทศ ทั่วโลก พบว่าชาวฝรั่งเศส ใช้โอกาสหยุดพักผ่อนเต็ม ตามกำหนดมากถึง 89% ตามมาด้ ว ยอาร์ เ จนติ น า 80% และฮังการี 78% ที่มา : www.manager.co.th

รั ฐ บาลจี น สั ่ ง ปิ ด โรงงานอุ ต สาหกรรมเก่ า ทัว่ ประเทศมากกว่า 2,000 แห่ง ทัง้ อุตสาหกรรม ผลิตเหล็กกล้า ถ่านหิน ซีเมนต์ อะลูมิเนียม แก้ว และวัตถุดบิ อืน่ ๆ หลังพบว่าโรงงานเหล่านัน้ ก่อมลภาวะสูงและใช้พลังงานมาก ที่มา : www.xinhuanet.com

SURVEY

Intel สหรัฐอเมริกา 28,600 ล้าน ดอลลาร์ฯ

Nokia ฟินแลนด์ 27,400 ล้าน ดอลลาร์ฯ

อุทกภัยที่ประเทศปากีสถาน กำลังเผชิญในเวลานี้ ถือเป็น ภั ย พิ บั ติ ท างธรรมชาติ ค รั้ ง ร้ า ย แ ร ง ที่ สุ ด ใ น ป ร ะ วั ติ ศาสตร์ เ นื่ อ งจากได้ ส ร้ า ง ความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ ผู้คนถึง 13.8 ล้านคน มาก กว่ า คลื่ น ยั ก ษ์ สึ น ามิ ที่ ถ ล่ ม ชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ที่มี ผู้ประสบภัยราว 5 ล้านคน ตลอดจนแผ่ น ดิ น ไหวในเฮติ ซึ่งมีผู้ประสบภัย 3 ล้านคน ที่มา : www.afp.com

สำนั ก งานพยากรณ์ อ ากาศของ รัสเซียกล่าวว่า คลื่นความร้อนที่ กำลังก่อให้เกิดวิกฤตภายในประเทศ รัสเซียที่ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิต วั น ละเกือบร้อยคน นับเป็นวิกฤต ทางสภาพแวดล้อมครัง้ ทีเ่ ลวร้ายทีส่ ดุ ในช่วง 1,000 ปี ของประวัตศิ าสตร์ รัสเซีย ที่มา : www.agency.com

รถตุ ๊ ก ตุ ๊ ก หรื อ สามล้ อ ของประเทศไทย ติดอันดับที่ 5 ของโลกในการให้บริการลูกค้า และนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรที่สุดในโลก ที่มา : www.hotels.com

“ไม่เห็นด้วย เพราะ อาจทำให้คุณภาพน้ำดื่ม ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน” อัญชุลี เฮค็อก 44 ปี, แม่บ้าน “เห็นด้วยในฐานะผู้ บริ โ ภค แต่ ค วรเห็ น ใจ ร้านค้าด้วย ค่อยๆ ทยอย ลดราคาจะดีกว่า” ทะนงศักดิ์ วิรยิ ะสกุลสุข 36 ปี, Supervisor “คงนำมาใช้จริงยาก เพราะราคาต้นทุนอาจจะ เท่ากัน แต่คา่ ใช้จา่ ยในการ วางขายอาจจะไม่เท่ากัน” สุภกิจ นุม่ ตี่ 24 ปี, Sale & Oversea “ราคาน้ำดื่มตอนนี้ แพงเกินจริง ควรดูทต่ี น้ ทุน การผลิตที่แท้จริงดีกว่า” พ ง ษ์ ด นั ย พึ่ ง บุ ญ ณ อยุธยา 30 ปี, อาชีพอิสระ “เห็ น ด้ ว ย จะได้ ยุตธิ รรมต่อผูบ้ ริโภค แต่คง นำไปใช้ได้จริงลำบาก” ปฤนริศา สระทองใจ 27 ปี, Marketing Executive “อาจจะทำให้ บ าง แห่งเลิกขายน้ำดื่มไปเลย เนื่องจากต้นทุนไม่สอด คล้องกับราคาที่กำหนด” ศรีภญ ิ ญา สัชฌะไชย 29 ปี, นักศึกษาปริญญา เอก



6

• จากเหตุการณ์นำ้ ท่วมครัง้ ร้ายแรงทีส่ ดุ ในรอบ 100 ปี ของปากีสถาน ทำให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต้องให้ความ ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในภาพคือ นาย บัน คีมนู เลขาธิการใหญ่ประจำยูเอ็น กำลังลงพืน้ ทีพ่ ดู คุยกับชาวปากีสถานใน เต็นท์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งล่าสุดนี้ นาย บัน คีมูน ได้เรียกร้องให้นานาประเทศยื่นมือให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย กว่า 20 ล้านคน และมียอดเงินบริจาคเข้ามากว่า 460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพือ่ ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและในระยะยาว ซึง่ รวมทัง้ ในเรือ่ งการก่อสร้างทีอ่ ยูอ่ าศัย สาธารณูปโภค และธุรกิจห้างร้านต่างๆ ทีเ่ สียหายจากเหตุการณ์ครัง้ นี้ - AFP / UN

• นักท่องเที่ยวและชาวเมืองนิวยอร์กออกมาร่วมเป็นสักขีพยานให้แก่รูปปั้นรูปกะลาสีเรือจูบแฟนสาว ซึ่งทางเมืองได้นำมาตั้งไว้เพื่อ เป็นทีร่ ะลึกเนือ่ งในวันครบรอบ 65 ปี ของการสิน้ สุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ซึง่ ก่อนหน้านีใ้ นอดีตรูปนีเ้ คยเป็นรูปถ่ายทีโ่ ด่งดังและเคยขึน้ ปกนิตยสาร ไลฟ์ มาก่อน วันทีท่ างการนิวยอร์กนำรูปปัน้ มาตัง้ นี้ ประชาชนจึงได้มาถ่ายรูปกันเป็นทีส่ นุกสนานอย่างทีเ่ ห็น - AFP

ENTERTAINMENT

PEOPLE

‘ฮิลลารี ดัฟฟ์’

หนุ่มผู้ดี พิชิตแม่น้ำอะเมซอนคนแรกของโลก

สละโสดแล้ว ขอแสดงความยินดี กับนั กแสดงที นควีน และนักร้องสาวชื่อดังวัย 22 ปี ‘ฮิลลารี ดัฟฟ์’ ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์สละโสด กับนักกีฬาฮอกกี้ ชื่อดัง ‘ไมค์ คอมรี’ วัย 29 ปี โดยพิธีดังกล่าว เป็นไปอย่างเรียบง่ายและเป็นส่วนตัว มีแขกเหรือ่ ญาติสนิท และเพือ่ นๆ มาร่วมงานประมาณ 100 คน ท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่ The San Ysidro Ranch ในแคลิฟอร์เนีย โดยฮิลลารี เจ้าสาวแสนสวยสวมชุดแต่งงานสุดอลังการ ของ วีรา แวง และงานแต่งงานครัง้ นีไ้ ด้ผจู้ ดั งาน มืออาชีพอย่าง ‘มิดี เวสส์’ ที่เคยจัดงานให้กับ เจสสิกา ซิมป์สัน เกว็น สเตฟานี และ อดัม แซนด์เลอร์ มาเป็นผูด้ แู ลงานทัง้ หมดอีกด้วย โดย ก่อนหน้านี้ฮิลลารีถูกแฟนหนุ่มขอหมั้นหมายที่ ฮาวาย ซึ่งในขณะนั้นว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อได้ มอบแหวนราคาสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กบั เธอ และทัง้ คูย่ งั ซือ้ คฤหาสน์หลังใหญ่เพือ่ ใช้ชวี ติ คูร่ ว่ มกันที่ The Gated Summit Community ในเบเวอร์ลี ฮิลส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

LIFESTYLE

อดีตร้อยเอก เอ็ด สตัฟฟอร์ด วัย 34 ปี ชาวเมืองเลสเตอร์เชียร์ ประเทศอังกฤษ กลาย เป็นชาวอังกฤษคนแรกของโลกที่สามารถเดิน เท้ า ตั ้ ง แต่ ต ้ นกำเนิ ด ลุ ่ ม แม่ น ้ ำ อะเมซอนบน ยอดเขามิสมิ ตอนใต้ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2551 ไปจนถึงปากอ่าวหาดคริสปิม ตอนเหนือของบราซิล ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของ แม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกได้เป็น ผลสำเร็จในวันที่ 9 สิงหาคม 2553 หลังเผชิญอุปสรรคโดนกองทัพยุงรุมกัด แมงป่องต่อย ถูกชน เผ่าอินเดียนจับเป็นตัวประกัน และเป็นลมอยู่ข้างถนน ใช้เวลาทั้งสิ้น 859 วัน หรือเกือบ 2 ปีครึ่ง ตลอดเส้นทาง 9,650 กิโลเมตร โดยจุดประสงค์ในการตะลุยป่าอะเมซอนของเขาคือ ต้องการให้ ทุกคนตระหนักถึงภัยคุกคามป่าดงดิบอะเมซอน เพราะตลอดเส้นทางทำให้เขามองเห็นการตัดไม้ ทำลายป่าอย่างรุนแรง ทั้งที่เป็นผืนป่าที่ช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน

TRAVEL อิตาลีอนุมัติคุณแม่ลูกสองเป็นหญิงรายแรกที่แจว ‘กอนโดลา’ เรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นที่เมืองเวนิซ นครแห่งสายน้ำของประเทศอิตาลี เมื่อทางเจ้าหน้าที่ของเมืองได้ออกใบอนุญาตแจวเรือกอนโดลาให้กับ จิออร์เจีย บอสโกโล คุณแม่ลูกสองวัย 24 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิง คนแรกที่ได้รับใบอนุญาตพายเรือ ซึ่งการได้ใบอนุญาตของเธอนั้นก็ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าที่บอสโกโลจะได้ใบอนุญาต เธอต้องผ่านการ ทดสอบทักษะทั้งภาคปฏิบัติและข้อเขียน และใช้เวลานานร่วมปีกว่าจะสอบผ่าน โดยเธอหวังว่า เรือกอนโดลาของเธอจะได้รบั ความนิยมจากนักท่องเทีย่ วเช่นเดียวกับเรือของผูช้ าย ซึง่ คุณพ่อของเธอ ก็เป็นคนพายเรือกอนโดลาด้วยเช่นกัน

ลุงแซมท้าชิม! ช็อกโกแลตแพงที่สุดในโลก! เอาใจคอขนมหวานกระเป๋ า ตุ ง เมื ่ อ ภัตตาคารในนิวยอร์ก จัดเสิร์ฟขนมหวานสุด หรู ท ี ่ ท ำจากวั ต ถุ ด ิ บ แพงระยับ เริ่มเมนูแรกด้วย Grand Opulence Sundae ไอศกรีมซันเดราคา 630 ปอนด์ หรือ 31,554 บาท ประกอบด้วยไอศกรีมวานิลลา 3 ลูก สูตรเด็ดจากเกาะตาฮิติ ผสมผสานเข้าด้วยกันกับ ฝักวานิลลาจากเกาะมาดากัสการ์ บรรจุอยู่ใน แก้วคริสตัลทรงสูงยี่ห้อดังจากฝรั่งเศส เพิ่มความ พิเศษด้วยการตกแต่งด้วยใบไม้ทองคำ 23 กะรัต ที่สามารถรับประทานได้ เมนูสุดยอดลำดับถัดมา คือ Frrrozen Haute Chocolate ช็อกโกแลต ทองคำราคามหาศาล อยู่ที่ 15,730 ปอนด์ หรือ ประมาณ 787,910 บาท ซึ่งหากผู้ใดต้องการลิ้ม รสช็อกโกแลตแพงระยับนีต้ อ้ งสัง่ ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และต้องรับประทานด้วยช้อนทองคำดีไซน์พิเศษ เท่านัน้ ทีส่ ำคัญคือ ทางร้านจะนำรายได้สว่ นหนึง่ จากการจำหน่ายขนมหวานสุดหรูเหล่านี้ไปช่วย การกุศลเพื่อเด็กและเยาวชนในนิวยอร์กด้วย

GREEN PLEASE ‘ไบกิ้ง คาเฟ่’ ชุมชนคนรักสองล้อ เทรนด์ใหม่ชาวลอนดอน

ซัมเมอร์นี้ชาวลอนดอนกำลังคลั่งไคล้การปั่นจักรยานและพากันไปรวมตัว ณ ไบกิ้ง คาเฟ่ ชุมชนคนรักสองล้อ โดยขณะนี้ทั่วทั้งลอนดอนมีคาเฟ่ที่เป็นมิตรต่อคนรักจักรยานผุดขึ้นหลายแห่ง เพื่อนำเสนออุปกรณ์แต่งรถ บริการ ซ่อม และสถานที่สังสรรค์สำหรับสมาชิก เช่น ร้าน ‘ลุค มัม โน แฮนด์ส’ ไบกิ้ง คาเฟ่ ชื่อดังทางตะวันออกของ ลอนดอน ทั้งนี้ ด้วยจำนวนการเดินทางด้วยจักรยานในลอนดอนที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับจากปี 2000 และ สำนักงานนายกเทศมนตรีลอนดอนก็ต้องการให้ตัวเลขเพิ่มอีกสองเท่าในปี 2025 ทำให้กระแสการหันมาใช้จักรยาน ในการเดินทางของชาวลอนดอนได้รบั ความนิยมขึน้ เรือ่ ยๆ โดยจะมีการเปิดตัวโครงการบริการเช่าจักรยานทัว่ ลอนดอน ปลายเดือนสิงหาคมนี้


7

• มาสคอตจากการ์ตูนเรื่อง Yo Gabba Gabba ออกมาทักทายประชาชนและเด็กๆ ที่แอลเอ ใน โอกาสที่มาทำงานร่วมกับคณะอาสาสมัครและผู้มีชื่อเสียงให้กับองค์กร Habitat for Humanity โดยองค์กรนีก้ อ่ ตัง้ มาตัง้ แต่ปี 1976 หรือ 34 ปี มาแล้ว โดยมีวตั ถุประสงค์ในการสร้างทีอ่ ยูอ่ าศัย ให้ผู้ไร้บ้าน และช่วยกันปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ประชาชนที่ยากจนทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันนี้องค์กร ดังกล่าวได้ชว่ ยประชาชนทัว่ โลกให้มที อ่ี ยูอ่ าศัยกว่า 350,000 ครัวเรือน - AFP

• กระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลียได้เผยแพร่ภาพถ่ายเปรียบเทียบปะการังเรืองแสงในช่วงเวลากลางวันกับกลางคืนในน้ำ ซึง่ เป็นปะการังทีพ่ บทีเ่ กาะ Lord Howe ซึง่ อยูห่ า่ งจากฝัง่ อีสโคสต์ของออสเตรเลียไป 600 กิโลเมตร โดยล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ ชาวออสเตรเลียได้มกี ารค้นพบครัง้ สำคัญว่า ปะการังน้ำตืน้ เรืองแสงเหล่านีส้ ามารถนำมาใช้ในการวิจยั โรคมะเร็งได้ โดยใช้ยนี ที่ ผลิตสีต่างๆ ของปะการังเรืองแสงมาผสานกับโมเลกุลของเซลล์ในร่างกาย แล้วใช้เลเซอร์ฟลูออเรสเซนต์ชนิดพิเศษตรวจจับ เพือ่ หาว่าเซลล์ใดมีแนวโน้มว่าจะเป็นมะเร็ง - AFP

SPORT ‘เมอร์เรย์’ คว้าแชมป์ พร้อมครองตำแหน่งเคียงคู่ อังเดร อากัสซี

ถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ แอนดี เมอร์เรย์ นักหวดมือวางอันดับ 4 ของโลกชาวสกอตแลนด์ ที่สามารถ ป้องกันแชมป์จาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือวางอันดับ 3 ในศึกเทนนิสเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ รายการโรเจอร์ส คัพ ที่เมือง โทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้สำเร็จ โดยครั้งนี้เมอร์เรย์เฉือนเอาชนะเฟเดอเรอร์ด้วยสกอร์ 2-0 เซต 7-5, 7-5 เป็นการ คว้าแชมป์แรกของปีนม้ี าครองได้สำเร็จ และถือเป็นนักเทนนิสคนแรกต่อจาก อังเดร อากัสซี ทีป่ อ้ งกันแชมป์โรเจอร์ส คัพ เอาไว้ได้นับตั้งแต่ปี 1995

นู้ดอย่างสร้างสรรค์?

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นการเปลือยกาย ย่อมเรียกร้องความสนใจได้เสมอ ด้วย เหตุนจ้ี งึ มีคนปิง๊ ไอเดีย ทำให้การเปลือย กายเป็นมากกว่าความอนาจาร จะมี ไอเดียอะไรบ้างไปดูกัน • ในสวนสนุกแอดเวนเจอร์ ไอส์แลนด์ ในเมืองเซาท์เอนด์ของอังกฤษ คงต้องใช้คำว่า ‘นู้ดเหาะ ตีลังกา’ เพราะเขาระดมคนได้มากถึง 102 คน มาร่วมกัน เปลือยกายแล้วนั่งรถไฟเหาะตีลังกา เพื่อทำลายสถิติเก่าที่ เคยมีคนทำไว้สูงสุด 32 คน ซึ่งจุดประสงค์จริงๆ ของเขา คือการระดมเงินเพื่อบริจาคให้มูลนิธิโรงพยาบาลเซาท์เอนด์ การเปลือยหมู่ตีลังกาครั้งนี้ระดมเงินไปได้ 22,000 ปอนด์ • ต่อกันที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งมีกิจกรรม World Naked Bike Ride ที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อรณรงค์ให้คนหันมา

ขี่จักรยานกันมากขึ้น คำขวัญรณรงค์ในปีนี้ก็คือ ‘less gas and more ass - ลดแก๊สและเพิ่มก้น’ ซึ่งก็ได้ผล เพราะมี ผูค้ นให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้ และคว้ากล้องขึน้ มาถ่ายรูป กันเป็นจำนวนมาก • ส่วนเหล่าแม่บ้านและแฟนสาวของทหารหาญในเมือง แฮมเชียร์ ประเทศอังกฤษ ก็ลุกขึ้นมาเปลือยกายเพื่อสามี และแฟนหนุ่มเช่นกัน โดยจัดทำปฏิทินนู้ดเพื่อระดมเงินหา ซื้อเสื้อกันกระสุนให้เหล่าทหารผู้กล้า ค้นหาชื่อ SWAGS เพื่อร่วมบริจาคเงินแลกปฏิทินชุดนี้ได้เลย • ส่วนชมรมแม่บ้านเย็บปักถักร้อยในอังกฤษก็ไม่น้อยหน้า เพราะถึงแม้จะอายุ 40 อัพกันแล้ว แต่ก็ยอมเปลือยกาย ถ่ายปฏิทินเพื่อระดมเงินช่วยเหลือเด็กออทิสติกเช่นกัน โดย ปฏิทินชุดนี้มีชื่อว่า 2011 Knitting Naked for Autism Calendar กระซิบบอกหน่อยว่างานนี้มีคุณยายวัย 76 มา สลัดผ้าถ่ายรูปเพื่อช่วยหลานชายวัย 7 ขวบ ด้วยล่ะ

หลับฝันทำให้ความทรงจำดีขึ้น

Did You Know?

“ผมยืนยันว่าไม่มีเหตุผล อะไรที่ ผ มจะเอาแผ่ น ดิ น ไ ท ย ไ ป แ ล ก กั บ ผ ล ประโยชน์อื่น ถ้าทำเช่นนั้น ไม่ ใ ช่ แ ค่ ว่ า ไม่ ค วรจะเป็ น นายกฯ แต่ ผ มไม่ ค วรจะ อยู่ในแผ่นดินนี้ด้วยซ้ำ”

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 8 สิงหาคม 2553

นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเผยผลการศึกษาใหม่ว่า การนอนหลับในช่วง REM (Rapid Eye Movement) ซึ่งเป็นช่วง เวลาที่คนมักจะเผชิญกับความฝัน ช่วยให้ความทรงจำดีมากขึ้น โดยทดสอบความจำของกลุ่มตัวอย่างทั้ง 3 รูปแบบ ทั้งการนอนช่วง REM การนอนในช่วงที่ไม่มี REM และการพักผ่อนอย่างเงียบสงบ พบว่ากลุ่มที่มีการนอนหลับในช่วง REM มีความทรงจำดีขึ้น เกือบ 40% เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น

20 สิงหาคม 2447 - มีการประหาร ชีวิตนักโทษด้วยการตัดศีรษะเป็นครั้ง สุดท้ายในประเทศไทย ผู้ถูกประหาร คือ นางล้วน 21 สิงหาคม 2357 - เบนจามิน ทอมป์สัน นักฟิสิกส์และนักประดิษฐ์ ชาวอังกฤษ-อเมริกัน เสียชีวิต 22 สิงหาคม 2453 - ญี่ปุ่นเข้ายึด ครองเกาหลี เนื่องจากรัฐบาลทั้งสอง ลงนามในสนธิสญ ั ญาการผนวกดินแดน เกาหลี-ญี่ปุ่น 23 สิงหาคม 2487 - พระราชา ไมเคิลที่ 1 แห่งโรมาเนีย ทรงปลด นายพล ยอน อันโตเนสคู นายกรั ฐ มนตรี ผู ้ ส นั บ สนุ น นาซี ล งจาก ตำแหน่ง 24 สิงหาคม 2357 - เกิดเพลิงไหม้ ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดีซี ระหว่างสงคราม ทำให้มีการทาสีผนัง ทำเนี ย บขาวทั บ หลายครั ้ ง เพื ่ อ กลบ รอยฝุ่นควัน 25 สิงหาคม 2508 - อาภัสรา หงสกุล ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลคนแรก ของไทย และคนที่ 14 ของโลก 26 สิงหาคม 2426 - ภูเขาไฟกรากาตั ว ในประเทศอิ น โดนี เซี ย ระเบิ ด อย่างรุนแรง ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ ทำลายหมู่บ้าน 163 หมู่บ้าน และมี ผู้เสียชีวิต 36,380 คน


08

สัมภาษณ์ : เอกพล บรรลือ ถ่ายภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร


Ernestine Ulmer นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน เคยกล่าวไว้ว่า ‘Life is uncertain. Eat dessert first. - ชีวติ คือความไม่แน่นอน เพราะฉะนัน้ จงทานขนมหวานก่อนดีกว่า’ คำกล่าวนีค้ งจะเป็นจริงยิง่ กว่าจริง สำหรับชีวิตของ ‘เมย์’ - กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ เจ้าของร้านขนมชื่อดังอย่าง After You Dessert Cafe ที่ทำให้ชีวิตเป็นเรื่องแน่นอนด้วยขนมหวานล้วนๆ ขนมหวานกับเด็กเป็นของคู่กัน เพราะไม่ว่าเด็กคนไหนก็มักจะชอบกินขนมหวานเป็นชีวิตจิตใจ เมย์ใน วัยเด็กก็ ไม่ ได้แตกต่างจากเด็กทั่วไป เธอรักการตักเค้กเข้าปาก และชิมรสหวานจากขนมหลากชนิด แต่ สิ่งที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปก็คือ ของเล่นที่เมย์เล่นมาตั้งแต่จำความได้ประกอบไปด้วยครีม แป้ง และน้ำตาล ทีเ่ ธอนำมาผสมให้เข้ากันจนกลายเป็นขนมชิน้ เล็กๆ จากฝีมอื ของเธอเอง แทนทีจ่ ะเป็นการนัง่ หวีผมและแต่งตัว ให้กบั ตุก๊ ตาสาวผมทองเหมือนกับเด็กผูห้ ญิงคนอืน่ ๆ ส่วนรายการทีวที เี่ ธอจ้องตาไม่กะพริบก็กลับเป็นรายการ ทำอาหาร แทนทีจ่ ะเป็นการ์ตนู สนุกๆ ที่ตรึงความสนใจของเด็กวัยซนได้ชะงัด แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนมาถึง วันนี้ การทำขนมไม่ใช่การเล่นซนสนุกๆ สำหรับเธออีกต่อไป เพราะมันกลายเป็นชีวิต และความรักแบบที่ เธอเองก็ถอนตัวไม่ขึ้นไปเสียแล้ว สำหรับคนที่เคยทำขนมย่อมรู้ดีว่า ความอดทนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะกว่าที่จะได้คุ้กกี้แต่ละชิ้น หรือ เค้กแต่ละก้อน ต้องผ่านกระบวนการมากมาย ทั้งการใส่ส่วนผสมหลากชนิด การนวดแป้ง และท้ายที่สุด คือการอบ ที่ทำได้ดีที่สุดคือการรอคอยอย่างใจเย็นเท่านั้น คนทำขนมอย่างเมย์ก็เช่นกัน เธอใช้เวลา หลายชั่วโมงต่อวันในการอบขนมสำหรับร้าน After You และใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะได้เปิดร้านอย่างที่ เคยฝันไว้ และแล้วการรอคอยของเธอก็คุ้มค่า เพราะทุกวันนี้ลูกค้ามากมายต่างก็เต็มใจรอต่อคิวนานนับ ชั่วโมงเพียงเพื่อที่จะได้ชิมรสชาติอร่อยๆ จากขนมของเธอ บางครั้งชีวิตคนเราก็เปรียบเสมือนกับขนมหวาน แต่ละคนก็ต่างมีส่วนผสมในชีวิตที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับสูตรการทำขนมที่ ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างอยู่ที่การลองผิดลองถูก จนในที่สุดก็ ได้สูตรที่ อร่อยที่สุดสำหรับตัวเอง ถึงวันนี้ เมย์ได้คน้ พบสูตรลับของตัวเองแล้ว ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรเชิญชิมได้ จากบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ แล้วคุณจะเข้าใจว่า Eat Play Love กลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับชีวิต เธอได้อย่างไร

คุณเริ่มสนใจการทำขนมตั้งแต่เมื่อไหร่ หลายคนมักจะถามว่าตอนไหน แต่เราก็ไม่รู้ เพราะเอาเข้าจริงๆ ตอนนั้นยังเด็กมาก ตั้งแต่มี เคเบิล IBC คือเราเป็นคนชอบดูทีวี ตอนนั้นก็ดูช่อง Discovery Channel เป็นรายการทำอาหาร แล้วก็ ลองมั่วๆ ทำตามดู ซึ่งตอนเด็กๆ ก็ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มันจะมีคำศัพท์เฉพาะสำหรับ การทำขนมด้วย ยิ่งไม่รู้เรื่องหนักเข้าไปใหญ่ หรือแม้กระทั่งเครื่องมือการทำขนมหลายๆ ชิ้นเราก็ไม่รู้ ว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่เวลาดูรายการทำอาหารพวกนี้แล้วมันสนุก เหมือนได้ดูโชว์ จำได้ไหมว่าตอนนั้นดูรายการอะไร จำได้ พิธกี รรายการชือ่ Caprial เขาเป็นเชฟทีโ่ อเรกอน เรียนโรงเรียนเดียวกับคุณหมึกแดง ซึง่ เป็น รายการทำอาหาร แต่มี section ขนม แต่ว่าเราจะไม่ดูเวลาที่เขาทำอาหารเลย ไม่รู้ว่าทำไมนะ ดูแต่ ตอนทีเ่ ขาทำขนมอย่างเดียว แล้วก็อดั วิดโี อเก็บไว้ดว้ ย ตอนนัน้ น่าจะอยูป่ ระมาณ ป.5 ยังไม่คอ่ ยรูเ้ รือ่ ง อะไรเลย แล้วก็ดมู าเรือ่ ยๆ ประมาณ 20-30 เทป นีค่ อื ดูขา้ มปีนะ แล้วก็ดยู อ้ นไปย้อนมา ชอบเอาเทปที่ อัดไว้กลับมาย้อนดูจนเทปยืดน่ะ คือมันสนุกตอนที่เขาทำ เขาพูดไปเรื่อยๆ แล้วก็ทำไปด้วย ก็เลย อยากลองทำดูบ้าง เริ่มทำขนมชิ้นแรกตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าจะหลังจากที่เริ่มดูรายการนี้มาประมาณ 1 ปี ได้แล้ว คือดูมาเรื่อยๆ แล้วก็อยากทำมา เรื่อยๆ แต่ว่าไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะตอนเด็กๆ เราเป็นคนขี้เบื่อ ที่บ้านจะชอบให้ไปเรียนขี่ม้า เรียน ต่อยมวย เรียนเต้น เรียนเปียโน เหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่พอเรียนไปถึงจุดหนึ่งมันก็เบื่อ แล้วเราก็จะ หยุดเรียน ทีนี้พอมาขอแม่ทำขนม แม่ก็บอกว่าอย่าทำเลย เดี๋ยวก็เบื่อ แม่ก็เลยรอดูไปก่อน แต่นิสัย ของเราคือชอบเล่น ชอบงานศิลปะ เวลากินอาหารเสร็จก็ชอบเอามาเล่น เลยคิดว่าจริงๆ แล้วมันไม่ จำเป็นต้องมีเครื่องมือหรอก ก็เลยลองทำโดยที่ไม่มีเครื่องมืออะไรเลย ใช้แค่ช้อนส้อมนี่แหละ แล้วมัน ก็ทำได้ ความสนุกมันคือตอนที่ได้จับชามตีไข่ คือสนุกที่ได้ทำ เป็นความสนุกของเด็กๆ ไม่ได้สนใจว่า รสชาติจะเป็นยังไง หรือฉันกำลังทำอะไร คือก็ค่อยๆ ทำมาเรื่อยๆ ทีนี้พอทำได้ก็เริ่มรู้สึกสนุกเข้าไป ใหญ่ จำได้วา่ อันแรกทีท่ ำแล้วประสบความสำเร็จนะ เราเอาโอรีโอมาทำ เพราะเราชอบกินโอรีโออยูแ่ ล้ว แล้วก็รู้สึกว่าไส้ของโอรีโอมันน่าจะเอาไปทำอะไรได้เยอะมาก ก็เลยเอาไส้มันออกมา โดยแยกตัวคุ้กกี้ เอาไว้ แล้วเอาไส้ไปตีกบั ครีมชีส ซึง่ ตอนนัน้ ก็ไม่รจู้ กั ว่าอะไรคือครีมชีส ก็ใช้สอ้ มตีๆ ซึง่ มันก็ไม่ได้เนียน เหมือนสมัยนี้หรอก แล้วก็เอามาทำเหมือนพาย โดยมีโอรีโอเป็นก้นของพาย แต่จำได้ว่ามันอร่อยมาก พอมองย้อนกลับไป ก็คดิ ว่าทีม่ นั อร่อยเพราะโอรีโอมันอร่อยอยูแ่ ล้ว (หัวเราะ) แต่เราทำได้ ก็เลยรูส้ กึ ว่า เจ๋งดี จากนั้นก็ทำให้เรามีกำลังใจ ก็ค่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ จะได้ทฤษฎีจากการดูวิดีโอ อ่านหนังสือ นั่นคือช่วงแรกๆ นะ พอทำๆ ไปสักสองสามปี แม่เขาคงเห็นแล้วล่ะว่าเอาจริง แม่ก็เลยซื้อเตาอบให้ เตาหนึ่ง จำได้เลยว่าเป็นยี่ห้อวีรสุ เครื่องนิดเดียวเองนะ แต่มันปรับอุณหภูมิและเวลาได้ ก็เลยลอง ทำคุก้ กีช้ อ็ กโกแลตเป็นอันแรก เพราะดูจากรายการทีวี คือตอนทีเ่ ขาทำมันดูสนุกมาก ได้บบี คุก้ กีอ้ อกมา เป็นชิ้นๆ แต่เราไม่ได้สนใจเลยนะว่าหน้าตาคุ้กกี้มันจะออกมาเป็นยังไง แค่อยากบีบๆ อย่างเขาบ้าง แล้วก็เอาไปอบ สรุปว่าออกมาแล้วกินไม่ได้ รสชาติแย่มาก คุ้กกี้ที่ทำชิ้นแรกทำให้เราเข้าใจคำว่าหมา ไม่รับประทานเลยนะ เพราะแต่ก่อนเราเลี้ยงชิห์สุ 2 ตัว ปรากฏว่ามันไม่กินจริงๆ น่ะ ดมๆ แต่ไม่กิน (หัวเราะ) พอทำไม่ได้เราก็อยากรูว้ า่ ทำไม ก็เลยลองทำอย่างอืน่ ดูอกี ตอนนัน้ ลองทำ upside-down cake ซึ่งเป็นเค้กที่ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว แต่พอตอนเสิร์ฟต้องคว่ำให้มันหลุดออกมาจากแม่พิมพ์ แล้วตัวคาราเมลข้างล่างมันก็จะขึ้นมาอยู่ข้างบน ดูเหมือนยากนะ แต่มันดูสนุก เพราะฉะนั้นก็ไม่สน ฉันจะทำ ปรากฏว่าอันนั้นทำแล้วอร่อย ก็เลยมีความรู้สึกฝังใจนิดหนึ่งว่าเค้กทำง่ายกว่าคุ้กกี้ จุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณคิดจะจริงจังกับการทำขนมคือตอนไหน จำได้ว่าทำมาเรื่อยๆ แต่จุดที่เปลี่ยนอีกครั้งก็คือตอนที่ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนนั้นอยู่ ม.4 ไปออสเตรเลีย แล้วมันเหมือนปีนั้นเป็นปีที่ว่างมาก เพราะอยู่เมืองไทยจะมีอะไรให้ทำเยอะ แต่ พอไปอยูท่ โ่ี น่น เมืองทีเ่ ราไปมันค่อนข้างจะอยูใ่ นชนบท ช่องทีวกี น็ อ้ ย ไม่คอ่ ยมีอะไรให้ดู ก็เลยว่างมาก ทำให้สมองเราได้คิดอะไรที่มันสนุกๆ เหมือนเราได้เห็นโลกเยอะขึ้น ทำให้อยากทำโน่นอยากทำนี่ ตอนกลับมา ม.5 ก็เลยคิดว่าอยากทำร้านขนม คือพอ ม.4 มันเริ่มได้คิดเยอะ ว่าอยากเอานั่นผสมนี่ แต่พอ ม.5 จำได้ว่าตอนนั้นไม่อยากเอ็นท์ฯ แล้ว ขอพ่อว่าขอเปิดร้านได้ไหม ตอนนั้นพ่อฟัง พ่อก็คง คิดว่าเราบ้า แต่ว่าบ้านเราทำธุรกิจกันอยู่แล้ว มันก็เลยเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาที่จะทำธุรกิจ แต่ท่าน ก็บอกว่า อย่าเพิ่งเลย ไปเอ็นท์ฯ ก่อนเถอะ (หัวเราะ) ก็โอเค ไปเอ็นท์ฯ ก็ได้ ซึ่งตอนแรกอยากจะเรียน นิเทศฯ แต่เอ็นท์ฯ ไม่ติด ตอนนั้นก็เลยไปสอบตรงเข้า BBA ธรรมศาสตร์ ปรากฏว่าเข้าได้


พอเข้าเรียนด้านธุรกิจแล้วเป็นอย่างไร เพราะดูแล้วเหมือนไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบเลยนะ จริงๆ แล้วชอบ ทีเ่ ข้าไปเรียนเพราะมันมีวชิ าเอกทีเ่ กีย่ วกับด้านการตลาด ก็เลยเลือกเรียนด้านนี้ พอเรียนก็ชอบมากนะ เพราะว่ามันเหมือนกับไม่ค่อยได้เรียนเท่าไหร่ เขาชอบให้อ่านพวกกรณีศึกษา ต่างๆ แล้วมาวิเคราะห์ขอ้ ดี ข้อด้อย คือสอนให้คดิ เยอะๆ มันก็ยง่ิ ทำให้เราฮึดอยากทำร้านขนมใหญ่เลย คอนเซ็ปต์เดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่ตอนเด็กๆ เด็กขนาดไหน ม.5 ตอนนัน้ เป็นครัง้ แรกทีเ่ ราเขียนลงไปในสมุดว่าอยากจะทำอะไรบ้าง ตอนนัน้ ไม่ได้คดิ อะไรมาก รูแ้ ค่วา่ อยากทำ เหมือนเด็กเอาแต่ใจ คือสมุดเล่มนัน้ ก็เขียนเมนู แบบร้าน ทุกอย่างมันเป็นรูปเป็นร่างขึน้ มาจากตอนนัน้ เพราะตอนเรียนมหาวิทยาลัย เวลาไปกินทีไ่ หน ไปเทีย่ วประเทศไหน ได้เจออะไร ก็จะ เอามาปรับใช้กับร้านของเราหมดเลย เราจะมีไอเดียตลอดว่าอยากทำแบบนี้ แต่งร้านแบบนี้ operation แบบนี้ ก็เก็บๆ มาเรื่อยๆ แต่เรามีคอนเซ็ปต์เดิมนะ ไม่เคยเปลี่ยน คอนเซ็ปต์คืออยากเปิดร้านขนมที่ ขนมเค้กไม่ใช่รูปสามเหลี่ยม แล้วก็ไม่ใช่คัพเค้ก คืออยากทำขนมที่มันต้องมีไอศกรีม ขนมที่มันต้อง อบตรงนั้นเลย เพราะด้วยความที่เราเคยเอาขนมไปให้คนอื่นกินที่โรงเรียน หรือที่ไหนๆ เราจะไม่ค่อย มัน่ ใจเท่ากับเวลาทีช่ วนเขามากินทีบ่ า้ น แล้วทำให้เขากินตอนนัน้ เลย อันนัน้ เรามัน่ ใจว่ากินยังไงมันก็อร่อย เพราะขนมทุกอย่างที่ทำออกมาในเวลานั้นเลย โดยที่ไม่ต้องไปตากลม หรือว่าขับรถไป หรือว่าค้าง ไว้วนั หนึง่ ยังไงมันก็อร่อย เราว่าทำเสร็จแล้วเสิรฟ์ เลย ยังไงก็อร่อยกว่า เราก็เลยคิดว่าจริงๆ มันต้องมีร้าน ขนมร้านหนึ่งที่มีครัว แล้วก็ทำเดี๋ยวนั้นเลย ก่อนที่จะ ออกมาเสิรฟ์ ไม่ตอ้ งตัง้ โชว์อยูใ่ นตูไ้ ด้ไหม เบือ่ มากเลย แล้วก็คิดแบบนี้ไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่อยากเปิดร้านแล้ว แล้วไม่เคยคิดอยากจะไปเรียนทำขนมเลยเหรอ อยาก ก็ตอน ม.5 ก่อนเปิดร้านนั่นแหละ คิดว่าอยากจะไปเรียนก่อน แต่ว่าไม่รู้ทำไมจับพลัด จับผลูสอบเข้า BBA ได้ ซึ่งมีหลายคนบอกว่า มันก็ ไม่ได้เข้าง่ายๆ นะ เพราะฉะนั้น เข้าไปเถอะ ก็เลย เรียนมา พอเรียนจบก็อยากไปเรียนทำขนมอีก แต่ ปรากฏว่าก็ไม่ได้ไป เพราะตอนนั้นมีโอกาสได้ทำ หนังสือ May Made เหมือนเรียนจบมาแล้วอยากเปิด ร้าน ก็ยงั ไม่ได้เปิด แต่ว่าเราก็ทำขนมไปเรื่อยๆ รับทำ ส่งเวลามีการจัดเลี้ยงบ้าง แล้วก็มีโอกาสไปตามงาน จัดเลีย้ ง แล้วก็ไปอบขนมทีง่ านต่างๆ ปรากฏว่าคนชอบ เยอะมาก มันก็เป็นกำลังใจ อย่างที่บอกว่าเมื่อไหร่ ที่ทำเดี๋ยวนั้น กินเดี๋ยวนั้น มันต้องออกมาดีแน่ ก็เลย ยิง่ ชอบเข้าไปใหญ่ แล้วตอนนัน้ เป็นช่วงทีล่ กู พีล่ กู น้อง ของเราเพิง่ เปิดสำนักพิมพ์ เขาเห็นรูปเราตามหนังสือพิมพ์ เขาก็ถามว่า ทำไมไม่มาทำหนังสือ เราก็บอกว่า จะบ้าเหรอ (หัวเราะ) คิดดีๆ นะ แต่เขาก็อยากให้ทำ เพราะเขาชอบที่เราไม่ได้เรียนมา เขาบอกว่า มันเป็น gimmick ในการขายหนังสือ เพราะนึกออกไหมว่าการทำขนมของคนไทยมันคือเรื่องใหญ่มาก แต่สำหรับเรามันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น เขาก็เลยอยากเอาอารมณ์นี้มาขาย ก็เลยไปทำหนังสือ พอมัน ขายได้แล้วมันก็ดีมาก เพราะมันช่วยส่งเสริมการเปิดร้านของเราด้วย คนก็จะรูจ้ กั เรามากขึน้ พอจะบอกข้อดีของการที่คุณไม่ได้เรียนทำอาหารมาโดยตรงได้ไหม ถ้าถามเรานะ เราว่าเรียนได้ก็เรียนเถอะ มันเหมือนเป็น shortcut ถ้ามีเงินก็ไปเรียน เพราะเอา เข้าจริงๆ สิ่งที่เรารู้มันก็ไม่ได้แปลว่ามันถูก แต่ว่าข้อดีของการไม่ได้เรียนอย่างหนึ่งก็คือ มันเหมือนกับ ว่าเราไม่มีกรอบ อยากจะทำอะไรก็ทำ เหมือนคนที่อยากกินอะไรสักอย่าง ก็ลองมั่วขึ้นมา ไม่มีถูกไม่มี ผิด มันเหมือนทักษะการขับรถ คือเรียนทฤษฎีให้ตาย แต่ถ้าไม่ได้ลองทำก็ไม่รู้หรอก เพราะฉะนั้น คน ที่ไม่ได้เรียนมาก็ต้องทำเยอะๆ ซึ่งก็ต้องเสียค่าลองผิดลองถูกเท่าๆ กับค่าเรียนนั่นแหละ ซึ่งมันสูสีกัน คือถ้าเรียนแล้วมีรสนิยมที่ตรงกับตลาดก็ทำได้อยู่ดี ทราบมาว่าคุณเป็นคนไม่เชื่อสูตร ซึ่งถ้าเป็นความเข้าใจของคนทั่วไปก็คือ คนทำพวกเบเกอรีมักจะต้อง ใส่ส่วนผสมแบบพอดี ทุกอย่างต้องชั่ง ต้องตวง แต่ทำไมคุณถึงไม่เชื่อสูตร จริงๆ ส่วนผสมมันก็ต้องเป๊ะๆ เหมือนกันนะ แต่วา่ เราไม่ได้เริม่ ทำขนมจากการเรียนมา สมมติ ว่าคนทีเ่ รียนมาเขาจะมีทฤษฎี แล้วเขาก็จะทำตามนัน้ แต่ตอนเราเริม่ ทำมันดันไม่มที ฤษฎีไง มันเหมือน ลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง ขนาดครีมชีสยังใช้ส้อมตี แล้วมันก็ออกมาได้ ก็เลยมีความรู้สึกว่า ทำไม เราจะต้องไปทำตามคนอืน่ เขา เราก็ลองดูสิ คือก่อนทีจ่ ะมีคนคิดสูตรนีอ้ อกมา เขาก็ตอ้ งผ่านกระบวนการ มัว่ มาอยูด่ ี ด้วยหลักเคมีอะไรก็ตามแต่ แต่มนั ก็ตอ้ งมีกรณีทว่ี า่ ถ้าใส่แป้งน้อยแล้วมันก็จะออกมาเป็นอีก แบบหนึง่ แล้วทำไมเราถึงจะไม่อยากเห็นอีกแบบหนึง่ ก็เลยมัว่ มาเองเรือ่ ยๆ ทำตามความรูส้ กึ ของเรา สมมติว่าอันนี้ควรจะนิ่มอีกหน่อย ก็เพิ่มนมเข้าไป คือเราแต่งเอง มั่วเองตั้งแต่เด็กๆ พอทำขนมตอนโต มันก็เลยชินกับตรงนี้ สมมติไปกินที่ไหนมา แล้วเรารู้สึกว่ามันยังไม่สะใจ เราก็จะเริม่ หาสูตรแล้ว พอหา สูตรต้นแบบได้ ก็จะลองทำ ครั้งแรกสุดจะยังไม่ค่อยดัดแปลงอะไรเท่าไหร่ แต่เราจะปรับจากอันนั้นสัก สองสามครั้ง จนเจอแบบที่เราคิดว่ามันอร่อยกว่า คือตอนแรกก็ต้องลองทำตามสูตรเขาก่อน เพราะ เราไม่มที ฤษฎีอยูใ่ นสมองเลย แต่กต็ อ้ งปรับไปเรือ่ ยๆ ตามทีเ่ ราอยากจะเห็น เหมือนทำอาหารมากกว่า เราก็เลยคิดว่ามันง่ายกว่าอาหารเยอะ เพราะอาหารมันยากนะ พอได้เปิดร้านแล้ว คุณได้ทำในสิง่ ทีค่ ณ ุ ชอบ คือทำขนม แต่ในเรือ่ งของธุรกิจล่ะ ในฐานะทีค่ ณ ุ อายุยงั น้อย ยังไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน มันมีปัญหาบ้างไหม จริงๆ เราเพิ่งมาค้นพบว่า เราชอบทำธุรกิจมากกว่าทำขนมนะ เมื่อก่อนเราก็ไม่เคยคิด เพราะ เราคิดว่าเราชอบทำขนม แต่จริงๆ คือไม่ใช่ เราชอบทำธุรกิจ แต่ว่าขนมมันเหมือนเป็นสิ่งที่เราสนุกกับ มันด้วย และคอนเซ็ปต์ทเ่ี ราคิดตัง้ แต่แรก มันเป็นอะไรทีต่ อ้ งเปิดแล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่ตอนนีก้ ไ็ ม่รวู้ า่ เมือ่ ไหร่ จะได้เปิด แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเปิดก่อนหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าจะบ้าได้ขนาดนี้หรือเปล่า คืออีกหน่อย พอเราโตขึ้น ความระวังตัวมันก็จะสูงตาม เหมือนคนอายุเยอะที่ถ้าล้มแล้วจะไม่กล้าทำอะไรอีก แต่ตอนนั้นเราบ้าๆ อยู่ อยากทำอะไรก็ทำ ซึ่งตอนที่เปิดร้านอายุ 24 พูดจริงๆ ว่าตอนนั้นคิดน้อยมาก ไม่ค่อยสนใจอะไร แค่อยากเปิด ได้ยนิ มาว่าก่อนทีจ่ ะเปิดร้านสาขาแรกทีท่ องหล่อได้ คุณต้องใช้เวลาหาสถานทีน่ านมาก ช่วยเล่าให้ฟงั หน่อย

ด้วยความทีเ่ ป็นเด็ก

จริงๆ ตอนนัน้ มันเหมือนเป็นพรหมลิขติ นะ คืออยากเปิดๆ แต่วา่ ไม่มโี อกาส ไม่มที ่ี ใจเราอยาก เปิดนานแล้ว แต่วา่ ยังหาทีเ่ ปิดไม่ได้ คือเราอยากได้ทท่ี ม่ี นั stand alone ตัง้ ทีไ่ หนก็ได้ แต่วา่ ต้องมีทจ่ี อดรถ นั่นคือความคิดแรกของเรานะ เพราะเราไม่ต้องการอยู่ในห้าง สิ่งที่ยากที่สุดเลยสำหรับการเปิดร้าน ครัง้ แรกคือการหาที่ ถ้าไม่ได้มคี อนเน็กชัน เพราะว่าทีส่ วยๆ ส่วนใหญ่เขาก็ตอ้ งให้เซ้ง เช่า เขาไม่ยอม ออกอยู่แล้ว หรือว่าสมมติถ้าที่ไม่สวย เราก็ไม่อยากเปิด เพราะว่าโลเกชันค่อนข้างสำคัญ เราว่ามัน ยากนะ เพราะเราจะรูไ้ ด้ไงว่าตรงไหนเขากำลังจะย้ายออก หรือรูไ้ ด้ไงว่าเปิดร้านตรงนีแ้ ล้วมันจะเกิด มันเป็น factor ทีค่ วบคุมไม่ได้เลย อย่างรสชาติเรายังควบคุมได้ พนักงานอยากให้เป็นยังไง เราก็คมุ ได้ในระดับหนึง่ หน้าตาแบบนี้ พูดจาแบบนี้ แต่ทำเลมันเป็นสิ่งที่ต้องรอจริงๆ จนกว่าจะได้ที่ที่เราอยากได้ แล้วพอได้ ตรงนัน้ มันเหมือนเป็นพรหมลิขติ จริงๆ แต่กว่าจะได้มามันยากมาก เราทำอะไรไม่ได้เลย เราก็ตอ้ งขอร้อง เขาอย่างเดียว เพราะตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเราจะขายได้หรือเปล่าไง ตอนแรกที่เราเข้าไปคุยกับเขาก็คง คิดว่าเด็กบ้าคนนี้เป็นใคร เขามีทางเลือกตั้งเยอะตั้งแยะให้เลือกไปเปิด เราถึงบอกว่าการเขียนหนังสือ มันช่วยได้ คือเราต้องใช้เครดิตจากการเขียนหนังสือมาด้วย เขาก็จะเห็นว่าเราทำอะไรมาบ้าง ซึ่งถ้า เข้าไปโดยไม่มีอะไรเลย มันคงจะยากนะ แล้วพอดีว่าร้าน You ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเราเขาช่วยคุย ให้ด้วย เราก็เลยตั้งชื่อร้านว่า After You คืออยู่หลังร้าน you หมายถึงว่ากินร้าน you เสร็จ ก็ให้มา กินร้านเราต่อ แล้วมันตลกไหม คือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังไม่มีใครสนใจ เลย แต่ถึงวันนี้มีคนมาติดต่อขอให้ไปเปิดร้านใน สถานที่ของเขาเต็มไปหมด คือเหมือนเราต้องไปง้อเขา แต่วันนี้เขาต้อง มาง้อเราเหรอ จริงๆ เขาไม่ได้ง้อหรอก คนชอบคิด ว่าเขาง้อเรา แต่จริงๆ คนที่คิดอย่างนี้คือคนเขลา เพราะว่าไม่มีอะไรจีรังหรอก ถ้าคิดอย่างนี้อีกหน่อย ก็ตายสิ สมมติว่าอยากจะทำอะไรก็ทำไปเลยเหรอ ไม่ต้องสนใจใครเหรอ แล้วสมัยก่อนเวลาที่เราต้อง เข้าหาคนอืน่ เรารูห้ วั อกของเขาดี เพราะว่าเราต้องการ จริงๆ ถึงต้องไปอ้อนวอน วันนี้คนที่เข้าหาเรา เขาก็ รูส้ กึ อย่างนัน้ เหมือนกัน แล้วเอาเข้าจริงๆ ถ้าไม่มเี รา เขาก็อยู่ได้ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม อย่างเด็กที่ร้าน

ข้อเสียของการเป็นเด็กก็มเี ยอะ

เช่น เราอาจจะผ่ า นโลกมาน้ อ ย แต่เราคาดหวังกับตัวเองสูงมาก เวลาโดนด่าทีหนึง่ เราก็จะเป๋

นอนไม่หลับเลย

ทัง้ ๆ ทีจ่ ริงๆ ถ้ามองย้อนกลับไป

มันเป็น เรือ่ งเล็กมาก




ถ้าขาดใครไปสักคน สุดท้ายเราก็ตอ้ งอยูไ่ ด้ เหมือนกันเลย ต่อให้เจ้าของทีเ่ หล่านีไ้ ม่มรี า้ นเขา ก็อยูไ่ ด้ รสชาติอาจจะถูกปากคนส่วนมาก มันก็เลยง่าย คือเหมือนกับว่าไม่มีที่ไหนให้กิน ก็เลยต้องมาร้านนี้ เพราะฉะนั้น อย่าไปคิดเด็ดขาดว่าเขาต้องง้อเรา คือมันเป็นส่วนผสมที่ขาดกันไม่ได้ อย่างที่บอกว่าถ้าให้ย้อนเวลากลับไปก็คงไม่ย้อน เพราะที่ร้านนี้มัน ตอนที่ต้องไปง้อเขา ไม่เคยรู้สึกท้อบ้างเหรอ บูมมันเป็นเพราะเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ ที่พอมารวมกันแล้วมันเยอะมาก เราต้องอยู่ที่ร้านทุกวัน เจอ ไม่นะ เพราะเรารูส้ กึ ว่าเราเด็กมัง้ แต่ทกุ ครัง้ ทีเ่ ราไปขอที่ แล้วสมมติวา่ เขาไม่ให้ เราจะมีความคิด ลูกค้าทุกคน ทำขนมเองทุกจาน เพราะเราอยากรู้ว่าแต่ละจานมันจะขายได้เหรอ แต่สิ่งที่ทำให้เรา อยูใ่ นใจเสมอว่า เขากำลังเสียอะไรไปบางอย่าง นีค่ อื ความรูส้ กึ เรานะ เพราะเราเชือ่ ในโปรเจ็กต์นม้ี ากเลย ค่อนข้างมัน่ ใจว่ามันจะขายได้คอื มันมีลกู ค้าทีก่ นิ แล้วกลับมา แค่ในช่วงเดือนแรกก็เจอกันแล้วเจอกันอีก เราเชือ่ ว่ามันมีอนาคตจริงๆ ไม่มากก็นอ้ ย อาจจะไม่ได้คดิ ว่าจะมาถึงขนาดนี้ แต่ยงั ไงก็ไม่ขาดทุนแน่นอน ก็เลยค่อนข้างอุ่นใจในระดับหนึ่งว่ามันน่าจะขายได้ คนด่าก็มี แต่ส่วนใหญ่เขาก็กลับมา ถ้าเกิดมันมี เราถึงคิดเสมอว่าไม่น่าเลย แอบเสียดายแทนเขา แต่เราก็เข้าใจหัวอกคนทำธุรกิจนะ ถ้าเราเป็นเขา แบบนี้เรื่อยๆ แล้วลูกค้าก็ขยายฐานออกไปเรื่อยๆ แล้วถ้าเขากลับมาวันหนึ่งลูกค้าก็จะเยอะเอง เราก็คงคิดเหมือนกัน สมมติว่ามีที่อยู่ที่หนึ่งมันมีมูลค่ามาก แล้วเขาจะใช้เหตุผลอะไรที่จะยกให้เรา ข้อดีของการทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยคืออะไร มันยากมาก แต่เราเข้าใจ เราก็แค่รสู้ กึ ว่าแค่ตอ้ งรอไปก่อน แต่กเ็ สียดายแทนเขานิดหน่อย ตอนที่ได้ที่ เยอะนะ หนึง่ ในเหตุผลของการทีร่ า้ นดังขึน้ มา อาจจะเป็นเพราะเขารูส้ กึ ว่าเราเด็ก แล้วเราทำได้ ปัจจุบันนี้เราถึงบอกว่ามันเป็นพรหมลิขิต หรือเวลาที่เราทำผิดพลาด คนอื่นก็จะรู้สึกว่าเราเด็ก เขาก็จะไม่ดา่ เยอะมาก เพราะเราไม่มเี ครดิตอะไร กระบวนการที่จะทำให้คนที่บ้านเชื่อว่าเราอยากจะทำขนมจริงๆ หรือกระทั่งตอนที่ทำให้เจ้าของที่เชื่อได้ มากมาย เขาไม่คาดหวังอะไรจากเรา เราก็ไม่ตอ้ งไปแบกรับความคาดหวังจากใครเลย ไม่มคี วามกดดัน ว่าเราจะประสบความสำเร็จ มองย้อนกลับไปพอจะ กดดันอย่างเดียวคือถ้าร้านขายไม่ได้ ล้มเหลวขึ้นมา บอกได้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร ต่อไปก็คงจะทำไม่ได้แล้ว เพราะไม่มเี งินเท่านัน้ แหละ ตอนนี้ถ้าให้คิดย้อนกลับไปยังไม่อยากจะ 3 ปีที่ผ่านมา จากการเปิดร้านทำให้คุณได้เรียนรู้ ย้อนเลย เพราะร้านนี้มันมาจากโอกาสจริงๆ เพราะ อะไรบ้าง อย่างตอนขอพ่อตั้งแต่เด็กๆ ก็เหมือนกับว่าเขารับรู้มา เยอะมาก ทีช่ ดั ๆ เลยก็คอื เราแข็งแรงขึน้ เยอะ เรือ่ ยๆ ว่าเราจะทำจริงๆ แล้วพอเราขายขนมตามงาน ด้วยความทีเ่ ป็นเด็ก ข้อเสียของการเป็นเด็กก็มเี ยอะ เช่น ต่างๆ เราก็ได้เงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ พอไปทำหนังสือ านโลกมาน้อย แต่เราคาดหวังกับตัวเอง เพราะคำวิจารณ์ฟังแล้วเสียสุขภาพจิตมาก เราอาจจะผ่ ก็จะมี fan base มันก็ช่วยได้เยอะนะ เขาก็รสู้ กึ ว่าเรา สูงมาก เวลาโดนด่าทีหนึง่ เราก็จะเป๋ นอนไม่หลับเลย เอาจริง แต่เขาบอกเราบอกว่า เขาให้งบเท่านี้ ให้ค่า ทั้งๆ ที่จริงๆ ถ้ามองย้อนกลับไปมันเป็นเรื่องเล็กมาก เรียนจบ แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่พอหรอก เลยต้องไป สมมติเขาบอกว่า ไม่เห็นอร่อยเลย มันเป็นอะไรทีท่ ำ หาหุ้นส่วน ตอนขอพ่อเขาก็ยังไม่เชื่อ จนกระทั่งวันที่ ให้เรานอนไม่หลับได้นะ แต่ยิ่งเราผ่านมาเรื่อยๆ เราก็ มันเริ่มดัง เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าเราทำ ยิง่ ชิน หรือเวลาทีม่ คี นเอาสูตรของเราไปทำตาม ตอน แต่ถ้าไม่ฟังเราก็จะไม่มีวันแก้จุดบกพร่องของเราได้ แรกก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เครียด เพราะรู้สึกว่าเรา อะไรบ้าง มันเหมือนเล่นขายของไปวันๆ สำหรับเขา เขาก็นึกไม่ออก ขนาดลูกพี่ลูกน้องที่ทำด้วยกันเขายัง อุตส่าห์ทำมาแทบตาย แล้วอยู่ๆ เขาก็เอาไปง่ายๆ ไม่รเู้ ลยว่าเราขายอะไร จนวันทีเ่ มนูออกมา จนขาย จน แบบนั้นเลย อารมณ์เหมือนกับเทปผีซีดีเถื่อนน่ะ เปิดมาระยะหนึง่ คนอืน่ ถึงได้เข้าใจว่าเราทำอะไรกันแน่ (หัวเราะ) เข้าใจหัวอกเลย เคยคิดไหมว่าที่ร้านได้รับการตอบรับดีขนาดนี้เป็น แล้ ว วิ ธี ที่ คิ ด ว่ า มาถู ก ทางที่ จ ะรั บ มื อ กั บ คนเหล่ า นี้ เพราะอะไร คืออะไร เราว่า หนึง่ คือมันแปลก แปลกด้วยคอนเซ็ปต์ จริงๆ เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำร้านมา น่ะ คอนเซ็ปต์เป็นสิ่งสำคัญ พอมันแปลกปุ๊บ แล้ว เลยนะ เหมือนเราได้เจอแสงสีเยอะมาก (หัวเราะ) มีหลายคนชมว่าเก่งจังเลย อร่อยมาก เราว่าคำชม พวกนี้มันหวือหวามากสำหรับเด็กๆ ที่ไม่เคยทำอะไรมาก่อน แต่พอโดนด่าทีหนึ่งก็เหมือนโดนค้อนทุบ หัวให้เราตืน่ จากฝัน พอเจอความเครียดมากๆ เราก็จะเริม่ คิดเยอะขึน้ อย่างหนึง่ ทีเ่ รารูส้ กึ ได้ ซึง่ พ่อมักจะ สอนอยู่เสมอก็คือ เราคุมอะไรรอบตัวไม่ได้เลย ใครจะมาก๊อบปี้ หรือใครจะบอกว่าไม่อร่อย หรืออะไร ก็ตาม เราทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่เราจะทำได้คือ ทำของเราเองให้ดีทส่ี ดุ หาให้เจอว่าเราคิดอย่างที่ ทำอยูใ่ นทุกวันนีไ้ ด้ยงั ไง แล้วก็ทำต่อไป ไม่ต้องไปฟัง ไม่ต้องไปสนใจใคร สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการทำธุรกิจของคุณคืออะไร คำตอบเหมือนทุกคนในโลกเลย ก็คือเรื่องคน ถ้าเลือกได้ก็อยากจะได้หุ่นยนต์มาทำงานนะ (หัวเราะ) คือถ้าเราจะคัดจากคุณสมบัติภายนอกมันง่ายมาก อย่างเรือ่ งหน้าตา บุคลิก แต่เราไม่มที างรู้ ได้เลยว่าเขาคิดอะไร คือเรายังเด็ก เวลาทีด่ แู ลลูกน้องเราก็จะดูแลแบบเพือ่ น แบบพีแ่ บบน้อง แล้วก็รกั เขาด้วยใจ สมมติว่าวันนี้ยอดดี ก็จะสั่งพิซซ่ามาเลี้ยง เป็นอย่างนี้ตลอด มีความสุขมาก แต่พอวัน หนึ่งอยู่ดีๆ เขาก็ลาออก เราก็ไม่รู้ว่าเขาลาออกเพราะอะไร ออกเพราะว่าเราดูแลเขาไม่ดีเหรอ หรือผล ตอบแทนไม่ดี หรือว่างานหนักเกินไป เราไม่รู้เลย แต่มันเฮิร์ตมาก เหมือนคนอกหัก อุตส่าห์ทุ่มเททุก อย่าง แต่อยูด่ ๆี เขาก็หายไป แต่พอทำๆ มาสักพักก็เริม่ เข้าใจว่า ทุกอย่างมันต้องอยูด่ ว้ ยระบบอย่างเดียว เราต้องดูแลเขาด้วยระบบ และวิธีการจัดการ ว่าเราให้ผลตอบแทนเขาพอไหม ดูแลเขาดีไหม แน่นอน ว่าเรื่องจิตใจมันต้องมีอยู่แล้ว แต่อย่าไปพึ่งด้วยเรื่องของจิตใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันเหมือนกับว่า เราไปฝากความหวังทุกอย่างไว้กับเขา คือเรื่องจิตใจเราก็ต้องมีล่ะ ตามประสาเจ้านายกับลูกน้อง มันอดไม่ได้หรอก แต่ก็อย่าไปคาดหวังว่าจะได้อะไรกลับคืนมา เพราะมันยากมาก แล้วร้านของเรา มันต้องพึ่งพาทักษะ ไม่ได้เหมือนกับฟาสต์ฟู้ดทั่วไปที่ฉีกซอง ใส่ไมโครเวฟ ปิ๊ง แล้วก็เอาไปเสิร์ฟ แต่ ของร้านเราทุกอย่างมันมีขั้นตอน เราต้องพึ่งพาทักษะของพนักงาน เพราะฉะนั้น พนักงานทุกคนต้อง ทำเป็นทุกอย่าง เค้กชิ้นนี้ต้องอบกี่นาที หน้าตาต้องเป็นแบบไหน คือต้องทำให้เขาคิดเยอะๆ ก็เท่ากับ ว่าเราต้องไปฝากความหวังไว้กบั เขาเยอะ พอเทรนไปประมาณ 6 เดือน เริม่ เก่ง เป็นมือวางอันดับหนึง่ ปรากฏว่าอยู่ๆ ก็ไป ซึ่งเซ็งมาก (หัวเราะ) แล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย คือเสียเงินไม่ค่อยเฮิร์ต แต่เสียเวลา กับเสียใจ มันเฮิร์ตนะ แล้วทุกวันนี้รับมือกับเรื่องพวกนี้ได้ดีขึ้นไหม ก็ยังเหมือนเดิม (หัวเราะ) บ่นไปอย่างนั้นล่ะ แต่ก็ยังประสบปัญหาเดิมอยู่ แต่มันเหมือนกับ ว่าเราชินแล้วมากกว่า อารมณ์เหมือนกับได้ค้นพบสัจธรรม ว่ามันก็ต้องเป็นแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดา ร้านขนมทัว่ โลกก็มเี ยอะแยะ แล้วคุณก็เคยไปชิมมาแล้วหลายๆ ที่ แต่ทำอย่างไรทีจ่ ะหลุดจากความอร่อย หรือหน้าตาสวยๆ ของขนมเหล่านั้น แล้วหันมาทำขนมในแบบของตัวเอง คือเราไม่ชอบคนที่ copy and paste อันนี้โดยส่วนตัวนะ เรารู้สึกว่ามันทึ่มไปนิดหนึ่ง ถ้าคิด อะไรไม่ออกมาถามเราก็ได้ เดี๋ยวเราช่วยคิดให้ เราถึงไม่ค่อยชอบไปกินร้านอื่นเท่าไหร่ เพราะไปกิน แล้วบางทีลิ้นมันแยกได้ว่าเขาใส่อะไรบ้าง ใจหนึ่งเราก็จะอยากทำตาม แต่ใจหนึ่งเราก็จะไม่อยากทำ เพราะเดีย๋ วมันจะไปเหมือนของเขา มันทำให้เรามีขอ้ จำกัด เพราะฉะนัน้ เวลาทีท่ ำขนม ถ้าเราชอบอะไร ส่วนตัวจะใช้คำว่าต้องโมดิฟายด์ใหม่ เปลี่ยนนิดหนึ่ง สมมติว่าไปกินเค้กช็อกโกแลตร้านนี้มาแล้ว อร่อยมาก ซึ่งเรารู้ว่าเขาใส่เครื่องเทศอันนี้มันถึงอร่อย เวลาที่เรามาทำเอง เราต้องไม่ทำเหมือนกับเขา เราต้องมาเปลี่ยนรูปแบบเป็นเค้กสอดไส้ช็อกโกแลต หรืออะไรก็ได้ที่อย่าให้มันทึ่มเกินไป คือเอามัน มาเป็นแรงบันดาลใจได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องอยู่ในขอบเขตของสินค้าของเรา คือเราต้องชัดเจนว่า เรากำลังขายอะไร ไม่ว่าเราจะชอบอะไร ทุกอย่างเราต้องปรับให้มาเป็นสไตล์ของเราให้ได้ ไม่ใช่ว่า อยากจะทำอันนี้ ฉันก็จะทำ ปรากฏว่าลูกค้างง เพราะมันกลายเป็นจับฉ่ายไปหมด ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนทำธุรกิจในปัจจุบันส่วนใหญ่ เพราะเราก็มักจะเห็นร้านที่เหมือนๆ

ยังไงคนเรา ก็ตอ้ งชอบคำชมอยูแ่ ล้ว

แต่วา่ ต้องฟัง

คำวิจารณ์ไม่มใี ครชอบหรอก

เราก็ จ ะงมโข่ ง คิดว่าตัวเองเก่งไปเรือ่ ยๆ


14

ต้องขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ น้องๆ และญาติมติ รทุกๆ คน เพราะเขาให้วคั ซีนมาดีมาก บ้านเราจะไม่โอ๋กนั มาก ถ้าทำอะไรไม่อร่อยก็ดา่ กันจนตายกันไปข้าง อย่างเช่น

‘ทำได้แค่นกี้ ็ ไม่ตอ้ งทำได้ไหม’ กันหมด คุณคิดแบบนั้นไหม อันนีว้ า่ ไม่คอ่ ยได้ มันเป็นความจริงอย่างหนึง่ เหมือนกัน เพราะสำหรับบางคน มันช่วยไม่ได้จริงๆ อย่างเราอาจจะเห็นมาเยอะ กินมาเยอะ ทำมาเยอะ มันก็เลยคิด ออกไง แต่บางคนเขาไม่ได้เห็นเยอะ กินเยอะ ทำเยอะ เขาไปกินร้านไหนบ่อยๆ เขาก็ อยากทำธุรกิจเหมือนกัน อยากได้เงิน อยากทำร้านของตัวเอง มันก็หนีไม่พ้นหรอกที่ จะต้องทำตาม ก็ไม่เป็นไร คุณคิดว่าข้อเสียของการทำตามคนอื่นคืออะไร เอาจริงๆ เลยนะ สำหรับเรา เราบอกตั้งแต่แรกเลยว่า ของอะไรก็ตาม ถ้า มันชัดเจนว่าเป็นสไตล์ของเราเอง ยังไงมันก็ขายได้ ถ้าจะก๊อบปี้ก็ต้องแน่จริง ต้องทำ ธุรกิจเก่งมาก ถึงจะทำได้ คือเราไม่ได้ว่านะ เพราะคนก๊อบปี้ก็มีเยอะแยะ อย่างโค้ก กับเป๊บซี่ เบอร์เกอร์คิงกับแมคโดนัลด์ ทำไมเขายังประสบความสำเร็จได้ทั้งๆ ที่มันก็ เหมือนๆ กัน มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางทีเห็นแล้วมันก็หงุดหงิด สำหรับคนที่คิดมา ตั้งแต่แรกก็คงเสียใจ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วนะ ถ้าจะให้ขอบคุณอะไรสักอย่างจากสิ่งที่คุณมี คุณอยากจะขอบคุณอะไร ไม่เลยนะ (หัวเราะ) เราอยากขอบคุณคนอืน่ มากกว่า ตอนนีเ้ รายังไม่รอู้ นาคต เลยนะ แต่ทกุ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน น้องพี่ ลูกค้า ทุกคนที่เราเจอ เขาให้เรา ทุกคนเลย อย่างมีใครพูดอะไรกับเรา มันมีประโยชน์หมดเลยนะ อย่างน้อยเราก็เก็บๆ ไว้ วันหนึ่งเราอาจจะได้ใช้ก็ได้ บางอย่างเราไม่มีทางที่จะทำได้เลย เพราะเราไม่เคย เรียนมา แต่วา่ การได้คยุ กับคนอืน่ ทีเ่ ขาไปเรียนรูอ้ ะไรมา ไปเจอประสบการณ์ตา่ งๆ มา แล้วบอกเราว่าอะไรดีหรือไม่ดี ทุกอย่างมันคือข้อมูลทีเ่ ราสามารถเอามาใช้ได้ เราจะเชือ่ หรือไม่เชื่อเขาก็เป็นอีกเรื่อง แต่ทุกอย่างมันสามารถเอามาใช้ได้ ทุกอย่างเป็นความรู้ ซึง่ คนทัว่ ไปชอบไปว่าคนโน้นคนนี้ แต่เราไม่รู้หรอกว่าคนแต่ละคนก็มเี รือ่ งเจ๋งๆ ในแบบ ของเขา อย่างน้อยเขาต้องเคยเจออะไรทีเ่ ป็นประโยชน์มาสักอย่าง พอเขาพูดให้เราฟังปุบ๊ เราก็รู้เรื่องเยอะขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่องแล้ว แต่บางคนไม่ฟัง เขาก็อดรู้เรื่องไปอีกหนึ่งเรื่อง สมมติเขามาบอกว่าร้านนีอ้ ร่อยนะ แต่เราไปอคติวา่ ของร้านฉันดีทส่ี ดุ เราก็จะไม่มวี นั ได้อะไรใหม่ๆ มันทำให้เรียนรู้ได้เลยนะ ว่าคนเราแค่ไม่อคติกับคนอื่น เราจะได้อะไร เยอะมากเลย การทำขนมสอนอะไรคุณบ้าง การทำขนมสอนให้อดทน เพราะมันค่อนข้างต้องใช้เวลา ผลมันจะไม่ออกมา ในทันที ส่วนใหญ่จะต้องอยู่ในเตา ต้องแต่ง ต้องแช่เย็น แล้วถ้าเราผิดพลาดแค่ ขั้นตอนเดียวก็อาจจะทำให้ทุกอย่างพังได้ ก็ทำให้เรายอมรับความล้มเหลวได้ง่ายขึ้น คำชมกับคำวิจารณ์คุณคิดว่าอะไรดีกว่ากัน ยังไงคนเราก็ตอ้ งชอบคำชมอยูแ่ ล้ว เพราะคำวิจารณ์ฟงั แล้วเสียสุขภาพจิตมาก แต่ว่าต้องฟัง คำวิจารณ์ไม่มีใครชอบหรอก แต่ถ้าไม่ฟังเราก็จะไม่มีวันแก้จุดบกพร่อง ของเราได้ เราก็จะงมโข่ง คิดว่าตัวเองเก่งไปเรื่อยๆ ในฐานะทีร่ า้ นคุณประสบความสำเร็จ มีคนมาต่อคิวรอทานขนม ซึง่ เป็นสิง่ ทีห่ ล่อหลอม ความมั่นใจให้กับคุณ แล้วทุกวันนี้ยอมรับฟังคำวิจารณ์ได้มากน้อยแค่ไหน จริงๆ เราเฉยๆ นะ อันนี้ต้องขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ น้องๆ และญาติมิตร ทุกๆ คน เพราะเขาให้วคั ซีนมาดีมาก บ้านเราจะไม่โอ๋กนั มาก ถ้าทำอะไรไม่อร่อยก็ดา่ กันจนตายกันไปข้าง อย่างเช่น ‘ทำได้แค่นี้ก็ไม่ต้องทำได้ไหม’ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น เราก็จะเฉยๆ เวลาทีม่ คี นมาวิจารณ์ แต่ถา้ เกิดอันไหนทีเ่ ราทำได้ไม่เต็มร้อย แล้วเขาว่า เราจะเสียใจมาก เพราะมันเหมือนกับว่าเราเสียดายโอกาส แทนทีจ่ ะทำให้เขาประทับใจ มันกลายเป็นทำให้เขาผิดหวังเพราะเราผิดพลาดกับเรือ่ งทีไ่ ม่ควรจะพลาด แต่ถา้ เราทำ ขนมชิ้นหนึ่ง แล้วเราทำเต็มร้อยมาก ทุกอย่างเป๊ะหมด... ซึ่งแบบนั้นจะยิ่งไม่เสียความตั้งใจเหรอ เรากลับรูส้ กึ ว่าลิน้ คนไม่เหมือนกัน ถ้าเขากินแล้วบอกว่าไม่อร่อยมันก็ชว่ ยไม่ได้ เพราะคนเราชอบอะไรไม่เหมือนกันจริงๆ ขนาดเราเองยังมีบางอย่างทีเ่ ราไม่ชอบกินเลย ทั้งๆ ที่คนอื่นอาจจะบอกว่าอร่อยหมดทั้งโลก อย่างเราทำขนมมาแล้วคิดว่ามันต้อง ขายดีแน่ๆ ปรากฏว่าออกมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ขายไม่ได้ มันก็เป็นสิ่งที่ต้อง ยอมรับ เพราะว่าคนเรามันลิ้นไม่เหมือนกัน อย่างทุกวันนี้ที่ทำร้านมาแล้วมันได้ผล ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะลิ้นเราคล้ายกับคนส่วนใหญ่ ชอบรสชาติคล้ายๆ กัน มีวิธีบาลานซ์อย่างไรกับสิ่งที่คุณชอบ กับสิ่งที่ลูกค้าชอบ


เราไม่รู้จริงๆ เพราะอย่างชาวต่างชาติมากินร้านเรา บางคนก็ชอบ บางคนก็บอกว่าเค็มไปนิด หนึ่งหรือเปล่า คือมันมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราก็เลยทำแบบทีต่ วั เองชอบมากกว่า เพราะ ว่าอย่างน้อยมันต้องมีคนกลุ่มหนึ่งที่เขาชอบเหมือนเราสิ อย่างน้อยคนอยู่ในกรุงเทพฯ 10 ล้านคน มันต้องมีคนทีล่ น้ิ เหมือนเราบ้างล่ะ เพราะฉะนัน้ เราจะไปฟังคนอืน่ ทำไม เราก็ฟงั ตัวเองดีกว่า สำคัญนะ ว่าเราอยากจะทำเพราะเราอยากจะกินเอง อันนี้คือความตั้งใจของเราเลย เราเปิดร้านเพราะว่าเรา อยากจะไป เราทำขนมเพราะเราอยากจะกินเอง ถ้าเราไม่ได้ทำด้วยจุดประสงค์น้ี เราจะไปทำเพื่อคนอื่น ทำไม ทำให้ตัวเองดีกว่าไหม อย่างน้อยเราก็มีที่กินตลอดเวลา มีรา้ นให้ไปตลอดเวลา แค่นก้ี ส็ ขุ ใจแล้ว ทำให้ไม่ตอ้ งไปมองหาผลลัพธ์หรือไปคาดหวังอะไรจากคนอืน่ ส่วนทีเ่ หลือถือว่าเป็นกำไรอย่างเดียวเลย เป็นคนที่มีความสุขกับอะไรง่ายๆ มาก (หัวเราะ) การมองความสุขแบบง่ายๆ เช่นทุกอย่างขึน้ อยูก่ บั ตัวเราเอง ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึง่ ของคุณไหม ไม่รู้ว่ามันเป็นข้อดีไหมนะ เพราะเกิดมาก็เป็นแบบนี้แล้ว ปกติก็ชอบเจอคนนะ แต่ถ้าเป็นนิสัย ของเราจริงๆ เราจะชอบนั่งดูทีวีคนเดียว มันทำให้ชีวิตเราไม่ต้องไปขึ้นอยู่กับคนอื่น เราชอบทำขนม อยู่คนเดียว ร้องเพลงคนเดียว หรือกิจกรรมที่ไม่ต้องมีคนอื่นเยอะ แต่ช่วงที่ทำร้านถือเป็นช่วงที่ได้เจอ คนเยอะที่สุดในชีวิตเลยนะ แสดงว่าคุณก็ไม่เคยเป็นคนติดเพื่อน หรือติดใครเป็นพิเศษ ไม่ติดโทรศัพท์ ไม่ติดเพื่อน ไม่ติดอะไรเลย แปลก อันนี้เป็นสิ่งที่เกิดมาแล้วเป็นอย่างนี้จริงๆ เป็นความโชคดี มันดีกับชีวิตอย่างไรสำหรับการที่ไม่ติดใครเลย ดีมากๆ เพราะทำให้เราไม่ค่อยเครียด อย่างเพื่อนผู้หญิงบางคนจะจุกจิก เรากลับเป็นคนที่ ไม่ค่อยสนใจ บางทีเพื่อนโทร.มาปรึกษา ก็ฟังนะ ให้คำปรึกษาไปตามเรื่อง สมมติว่าเขาเอาคำพูดของ คนอื่นมาเครียด แต่เรากลับรู้สึกว่าบางทีมันต้องฟังน้ำเสียงด้วยว่าเวลาเขาพูดเขาหมายถึงอย่างนั้น จริงๆ เหรอ ถ้าสมมติเขาด่าเราจริงๆ เราก็แคร์นะ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตขนาดนั้น ถ้าอย่างครอบครัว เราถือว่าสำคัญมากที่สุด เพราะอาจจะมีความผูกพันเยอะ แต่กับคนรอบๆ ตัว เราเฉยๆ นะ เพราะเขาเป็นคนอื่นจริงๆ สำหรับเรา คุณมีวิธีเติมความคิดหรือแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับตัวเองอย่างไร ดูเยอะ กินเยอะ ทำเยอะ ทีบ่ อกว่าดูเยอะ คือดูทกุ อย่าง ทีวี อินเทอร์เน็ต ไปเทีย่ วต่างประเทศ หรือในประเทศบ้าง ได้เห็นอะไรเยอะๆ พอดูแล้วก็ตอ้ งกิน ดูจากหุน่ ได้วา่ กินเยอะจริงๆ (หัวเราะ) พอกิน แล้วเราก็จะรูว้ า่ อันนีผ้ สมกับอันนีแ้ ล้วอร่อย หรือไอเดียนีเ้ จ๋งดี พอกินเยอะก็ตอ้ งทำเยอะด้วย คือหัดทำ พอเจอส่วนผสมนี้คู่กันแล้วอร่อย กลิ่นนี้คู่กับกลิ่นนี้อร่อย ก็มาลองทำ เมื่อดูเยอะ กินเยอะ ทำเยอะ มันจะบวกๆ ตลอดเวลา ทำให้เราได้คิดอะไรใหม่ๆ ได้เสมอ ความสุขของการทำร้าน After You คืออะไร ตอนทีเ่ ปิดร้านวันแรก เป็นความรูส้ กึ ว่ามีความสุขทีส่ ดุ มันเหมือนกับว่าเรามีความฝันมาเรือ่ ยๆ แล้วเป็นฝันทีย่ าวนานมาก ตัง้ แต่ ม.5 อายุ 16 แล้วตอนทีไ่ ด้เปิดร้านจริงๆ คือตอนอายุ 25 เกือบ 10 ปี นะ จากการทีเ่ ราคิดและเขียนมาเรือ่ ยๆ แล้วมันเหมือนกับสิง่ ทีเ่ ราเขียนมันปรากฏออกมาเป็นร้านจริงๆ เคยค้นหาคำตอบไหมว่าทำไมถึงรู้ตัวเร็วว่าตัวเองชอบอะไร เราไม่ได้รู้ตัวเร็วนะ ชอบมีคนถามคำถามนี้ แต่เราจะบอกว่า คนคนหนึ่งมันจะชอบอะไรได้ หลายอย่างมาก บางคนอาจจะชอบตีแบดฯ ชอบเพนต์รูป ชอบถ่ายภาพ เราก็เหมือนกัน เราชอบเต็ม ไปหมดเลย ชอบร้องคาราโอเกะ ชอบปั้นถ้วย แต่บังเอิญว่าเราเริ่มทำขนมเร็ว มันก็เลยเหมือนได้ ต่อยอดมาเรื่อยๆ แล้วได้โอกาสดีด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าจาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป 3 เรื่อยๆ คือเหมือน เป็นทางที่เราสามารถเดินไปได้ดีที่สุด แล้วบังเอิญว่ามันเป็นงานอดิเรกด้วย ก็ถือว่าโชคดีมาก ไม่ได้ รู้ตัวเร็วหรอก สาบานได้เลย มันเหมือนกับว่าบังเอิญ บังเอิญ แล้วก็บังเอิญจริงๆ เป็นไปได้ไหมว่ามีอะไรบางอย่างมากำหนดเส้นทางไว้แล้ว ไม่เชื่อเลย เราว่าตัวเราเองนั่นแหละที่ทำทุกอย่างขึ้นมา อย่างที่บอกว่าถ้าเรามีทัศนคติที่ดีต่อ คนอื่น คนอื่นเขาก็จะมีทัศนคติดีกับเรา เขาก็จะให้แต่สิ่งดีๆ คนนั้น คนนี้ก็จะหยิบยื่นโอกาสต่างๆ ให้ ถ้าจะเป็นเรื่องโชคดี ก็คงเป็นเพราะเราได้เกิดมาในครอบครัวที่ดีมาก พอครอบครัวดี ทุกอย่างมันก็ ค่อนข้างง่าย เหมือนมีภูมิต้านทานค่อนข้างสูง เวลาจะทำอะไร เราก็จะไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่ มันเยอะมาก พอไม่ตอ้ งการเยอะ คนรอบข้างเขาก็จะไม่รสู้ กึ ว่าเราเรียกร้องหรือโลภมากมาย ทุกอย่างมัน ก็ดเี อง 3 ปีที่ผ่านมา เคยประสบปัญหาหนักๆ บ้างไหม คนส่วนใหญ่จะคิดว่าร้าน After You มีแค่ 2 สาขา แต่จริงๆ แล้วเราเปิดสาขาที่ 3 ด้วย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แต่มันหายไป เพราะโดนไฟไหม้เกรียมเลย (หัวเราะ) เปิดมาได้ 40 วัน เจอปัญหานี้ เข้าไปสลดเลย แต่ก็ทำให้เราแข็งแกร่งมาก รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เราสร้างมาแล้วอยู่มาวันหนึ่งมันก็หายวับไปกับตา เซ็งมากเลยนะ เอาจริงๆ คือวันแรกทีเ่ ห็นนะ น้ำตาคลอเบ้า เครียดมาก อุตส่าห์ทำมาขนาดนี้ แต่ว่ามันช่วยไม่ได้น่ะ จากเหตุการณ์นี้ทำให้คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง ตอนทีม่ ี 2 สาขา เคยมีคนบอกให้เราเปิดสาขาอีก ตอนนัน้ เราคิดว่าอาจจะไม่เปิด อย่างทีบ่ อก เราทำเพราะเราแฮปปี้ แฮปปีแ้ ค่นก้ี ท็ ำแค่น้ี ไม่อยากไปผลักดันกับอะไรเยอะๆ แต่พอร้านหายไปร้านหนึง่ เราบอกตรงๆ ว่าตอนนี้เราไม่ได้รับผิดชอบแค่ลูกค้านะ เราต้องรับผิดชอบพนักงานในร้านอีกเท่าไหร่ คือยังไงเราก็ไม่ไล่ออกแน่ๆ เพราะเราไม่ได้เดือดร้อน ยังเหลืออีกตัง้ สองที่ แล้วก็ขายดีดว้ ย แต่พอร้านมัน หายไปก็รสู้ กึ ว่าไม่ได้แล้วล่ะ คงต้องทำอีก เพราะต้องกระจายความเสีย่ ง ยิง่ สาขาน้อยก็ยง่ิ เสีย่ งเยอะ ถ้าขยายได้กค็ วรจะขยาย เพราะถ้าทำมาขนาดนีแ้ ล้วมันก็ไม่ใช่วา่ ใครจะมาทำเหมือนเราได้งา่ ยๆ มันคง น่าเสียดายโอกาสถ้าไม่ได้ทำเพิ่ม ถ้ามีสาขาน้อยๆ มันก็เหมือนกับว่าเป็นศูนย์รวมความหวังของเรา แล้วเราไม่มีวันรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อะไรก็ไม่แน่นอน เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่เสียใจมาก คุณพูดมาตลอดว่าไม่เคยคิดจะหวังผลตอบแทนที่มากมาย แต่ในมุมของคนทำธุรกิจ กำไรก็เป็นสิ่งที่ ต้องคาดหวัง เราเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจด้วยความไม่ค่อยประณีตเท่าไหร่ เราขายเก่งนะ แต่บางทีเคยมานั่ง คิดว่า ถ้าเราลดอันนั้นอันนี้ได้นะ ได้เงินอีกเพียบเลย แต่ว่าเราไม่ทำไง บางคนเคยถามเราว่า ทำไม ช็อกโกแลตลาวาชิน้ มันเล็กลง อันนีเ้ ป็นประเด็นมากเลยนะ เราจะบอกว่า เราไม่เคยคิดจะลดเลย ไม่วา่ จะยังไงก็ตาม เราพูดจริงๆ นะ เรารู้สึกว่ายิ่งให้ยิ่งได้ แต่เราเพิ่งรู้ว่าจิตวิทยามีจริงก็วันนี้ เพราะเป็นไป ได้ว่าบางทีเขาอาจจะกินของร้านอื่นมา หรือบางทีการอบใหม่มันก็มีส่วน ซึ่งบางทีมันเหี่ยว แต่บอก

ได้เลยว่าน้ำหนักเท่าเดิม พิมพ์เดิม แต่เขาบอกว่ามันเล็กลง แต่จริงๆ แล้วต้นทุนของขนมชิ้นนั้น มันไม่ได้เดือดร้อนชีวิตเราเลย ทำไมจะต้องลดขนาดล่ะ เพื่อจะให้คนด่าเหรอ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เราก็งงเหมือนกัน เพราะไซซ์มันเท่ากับวันแรกที่เปิดจนถึงวันนี้เลย ไม่เคยเล็กลง ทำไมถึงคิดว่าจะไม่มีทางลดอะไรเด็ดขาด ทั้งๆ ที่มันก็อาจจะทำเงินให้คุณได้มากขึ้น คือพูดตรงๆ นะ ถ้าให้เราลดคุณภาพหรือปริมาณ เรายอมเพิม่ ราคาดีกว่า เพราะว่าถ้าถามเรา เราไม่ได้คิดอะไรที่มันเวอร์ขนาดนั้น เราคิดทุกอย่างมาจากโลเกชัน วัตถุดิบ สิ่งที่เราทำทุกอย่าง เรา ใช้ทุกอย่างที่เรียกว่าดีที่สุด ก็เลยไม่เข้าใจว่าจะไปลดทำไม เพราะว่าเราบอกแล้วว่าเราทำให้ตัวเองกิน แล้วจะไปลดทำไม ร้านนี้เป็นเหมือนศูนย์อาหารของเราเลยนะ เป็นที่ของเรา ถ้าทำให้ตัวเองกินยังไง ก็ต้องทำให้คนอื่นกินอย่างนั้น เราว่าสำคัญมาก ต้องใจกว้าง เรื่องนี้ได้เรียนรู้มาก่อนที่จะทำธุรกิจ หรือเรียนรู้ตอนที่เปิดร้านแล้ว ไม่หรอก อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัว อย่างร้านเรานี่เนยเป็นเนย มีคนเคยบอกให้ทำแบบโลว์แฟต แต่เราทำไม่เป็นน่ะ ถ้าอยากจะให้ทำอย่างนั้น เราว่ากินน้อยคำดีกว่านะ อย่าโลว์แฟตเลย คนที่ตั้งใจ จะกินขนมก็แสดงว่าเขาต้องการจะเติมความสุขให้ตัวเองนะ ไปกั๊กทำไมล่ะ เวลาที่เห็นหน้าลูกค้ากินขนมของคุณอย่างมีความสุข รู้สึกอย่างไร มีความสุขมาก ชอบแอบดูดว้ ย ทีร่ า้ นจะมี CCTV เราก็จะชอบแอบดูเวลาทีล่ กู ค้ากิน ตอนเด็กๆ เคยเล่นเกม Pizza Tycoon คล้ายๆ the Sims เป็นเกมทำธุรกิจร้านอาหาร เล่นกับน้องๆ ทำร้านพิซซ่า แล้วเกมสมัยก่อนภาพมันจะไม่ได้เหมือนเกมสมัยนี้ แค่มเี สียงคนเอะอะในร้าน แล้วเราก็จะเห็นคนเดิน เข้าเดินออก ตอนที่เล่นเกมเรายังเคยพูดกับน้องตลอดเลยว่าเราอยากทำแบบนี้ แล้วทุกวันนี้เวลานั่งดู กล้องวงจรปิดยังคิดอยู่เสมอเลยว่าเหมือนในเกม Pizza Tycoon เลย แตกต่างกันตรงที่เกมนั้นมันจะมี เรตความพึงพอใจของลูกค้า แต่ร้านเราไม่มีอย่างนั้นไง (หัวเราะ) เมนูไหนที่คุณภูมิใจที่สุด ก็คงเป็น signature ที่ชื่อ Shibuya Honey Toast ตัวนี้เราเพิ่งจะเจอก่อนที่จะเปิดร้าน 2 ปี ที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นไปชิบุย่า เจอขนมปังก้อนหนากว่าที่ร้านเราทำตอนนี้ 2 เท่า แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ รสที่ปากเราชอบ แล้วเราก็ลองอยู่นานมากเลยนะ จนมาเจอสูตรที่ทำมาจนถึงทุกวันนี้ วันที่เจอสูตร นี้นะ วันนั้นเรารู้เลยว่าเมนูนี้ต้องเป็นพระเอกแน่นอน ดีใจมาก มันเหมือนนักวิทยาศาสตร์ทดลอง วิทยาศาสตร์ ที่คิดว่าอันนี้ผสมกับอันนี้มันต้องออกมาเป็นอย่างนี้ได้เลย แล้วมันก็ใช่จริงๆ กลิ่นใช่ รสใช่ texture ใช่ ตอนนั้นคิดว่าคนกรุงเทพฯ ต้องอ้วนตายกันแน่ๆ เลย (หัวเราะ) มีอารมณ์ไหนที่เหนื่อยจนอยากจะเลิกทำไหม ไม่มี ไม่เคยอยากเลิกทำเลย แต่จะมีอารมณ์ที่ทำให้เสียสุขภาพจิตอยู่ตลอดเวลา อย่างคำ วิจารณ์หรือคำบ่นเจอตลอดจริงๆ เหมือนปกติเราไม่ค่อยแคร์อะไรนะ ถ้าเราเป็นมนุษย์ทั่วไปก็อาจจะ ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน แต่พอไปอยู่ที่ร้าน จะได้เจอคนเยอะมาก แล้วใครก็ไม่รู้ ทีเ่ ราไม่รจู้ กั แล้วเราก็ไม่รวู้ า่ อารมณ์เขาเป็นยังไง แต่สว่ นใหญ่ทเ่ี ขาวิจารณ์เพราะเขาอยากให้รา้ นเราดีขน้ึ เพราะเขาชอบร้านเรา เรามั่นใจอย่างนั้น แต่จะมีหลายคนที่อารมณ์เสียมา ซึ่งเราก็ต้องรับให้ได้ เด็ก ในร้านทุกคนเหนือ่ ยมาก เพราะงานมันหนักมาก แต่เราจะบอกเขาเสมอว่า ทีม่ เี งินใช้อยูท่ กุ วันนีก้ เ็ พราะ คนพวกนี้นะ ลองหันไปดูสิ เพราะฉะนั้น อย่าได้ทำอะไรที่อกตัญญูเด็ดขาด เราว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก จากวันทีเ่ ปิดธุรกิจเอง หาทีเ่ อง คิดสูตรขนมเอง รับพนักงานเอง แล้วพอเห็นว่ามันประสบความสำเร็จ รู้สึกอย่างไร รู้สึกดีมากๆ เลยนะ โดยเฉพาะเดือนที่สองคือช่วงที่ไม่น่าเชื่อที่สุด ตอนนี้กลายว่ามันเกิน ความคาดหวังมาทุกอย่างแล้ว ความสุขจากเดือนทีส่ องกับเดือนนีเ้ ท่ากันเลย ลูกค้าอาจจะน้อยกว่ากัน 5 เท่า แต่ตอนนั้นรู้สึกสุดๆ แล้ว คือเปิดแล้วมีคนมากิน กินแล้วก็กลับมากินอีก แล้วบอกต่อกันปาก ต่อปากด้วย ลูกค้าที่มาร้านแรกๆ ถือว่าเป็นลูกค้าที่มีพระคุณสุดๆ เลย เราว่าถ้าไม่มีคนกลุ่มนั้น ป่านนีย้ งั นึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง ร้านเราค่อนข้างเห็นชัด เพราะเป็นร้านกระจก แต่ถา้ ร้านไม่มลี กู ค้า มันคงยากทีจ่ ะทำให้ดงั ขึน้ มาได้ มันมีความสุขนะ เหมือนเรามีคนรักตลอดเวลา มันเจ๋งจะตาย รักร้านก็ เหมือนรักเรา เพราะทุกอย่างมันออกมาจากตัวตนของเราหมดเลย ตอนแรกทีเ่ ปิดร้านเราทำเองทุกอย่าง เลยนะ พ่อเราบอกว่าให้เงินมาเท่านี้ ไปบริหารเอง เราเป็นคนชอบความท้าทาย จะบอกว่าคนเราคิด จะทำร้านอะไรก็ได้ ถ้ามีเงินไม่จำกัด อยากได้อะไรก็จ่ายไปสิ แต่ถ้าจะให้แน่จริง ต้องทำให้เงินที่มีอยู่ อย่างจำกัดให้มัน maximize ที่สุด นั่นคือสิ่งที่พ่อบอก แล้วพ่อบอกว่าเอาไปแค่นี้นะ อยากจะทำอะไร ก็ทำ เพราะฉะนั้น ตอนแรกที่ทำทุกอย่างก็เลยต้องประหยัดให้ได้มากที่สุด เราไปซื้อจานที่สระบุรีเอง ร้านก็ให้น้องชายแต่งให้ ให้พี่ชายออกแบบ ทุกคนช่วยๆ กันหมด พนักงานก็เริ่มจากมีนิดเดียว เวลาเลือกพนักงานจะเลือกจากอะไร ส่วนใหญ่เราจะชอบคนหน้ายิ้มๆ ไว้ก่อน จะด่าเราในใจก็เรื่องของเขา แต่ให้ยิ้มไว้ก่อน จะ ปลอดภัย (หัวเราะ) เพราะเวลาลูกค้าเห็นหน้ายิ้มๆ ก็คงจะบรรเทาไปเยอะ อีกอย่างคือเราชอบคน บริการ อย่างอื่นเราไม่ค่อยสน เพราะถ้าเจอกันครั้งแรกมันบอกอะไรไม่ได้ ขี้ขโมยหรือเปล่า แค่มอง หน้าใครจะไปรู้ แต่ถา้ หน้าตาบริการไว้กอ่ น อย่างน้อยเราก็สามารถไว้วางใจกันได้ในระดับหนึง่ ทีเ่ หลือ มันต้องใช้เวลา เคยเชิญคนออกไหม เคย ด้วยเหตุผลเดียว คือทุจริต หรือขโมยของ ถ้าเป็นเหตุผลนี้ไม่ต้องมาคุยกันเลย เราไม่เคย ว่านะถ้าจะแอบกิน เพราะมันเป็นเรือ่ งเล็กน้อย อยากกินก็กนิ ไป เราบอกเลยว่าเราขายของเป็น ถ้าเป็น คนอื่นอาจจะบอกว่าไม่ได้ เพราะว่ามันสิ้นเปลือง แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรากลับรู้สึก ว่าที่เราทำแบบนี้ เราถึงขายดี เพราะเราให้คนโน้นคนนี้ไปหมด อย่างถ้าสมมติว่าอบแล้วมันเจ๊ง ถ้า เป็นทีอ่ น่ื เขาอาจจะบังคับให้กวาดลงถังขยะ แต่รา้ นเราอยากเอาไปเก็บก็เอาไป อยากกินก็กนิ เราว่าสุขภาพจิต มันเป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้าเราเลี้ยงเขาแล้วเขามีความสุขนะ เขาก็อยากอยู่กับเรานานๆ คนที่อยู่กับเรา เขาอยู่เพราะรักเรานะ อย่างที่บอกว่าจะดูแลด้วยระบบ แต่สุดท้ายมันก็อดไม่ได้หรอก เราก็ต้องกลับ มาเป็นระบบพี่ๆ น้องๆ กันอยูด่ ี เราใจไม่แข็งขนาดนัน้ แต่ถา้ ทุจริตมานะ ไม่ตอ้ งคุยกันเลย อยูด่ ว้ ยกัน ไม่ได้หรอก เพื่อนร่วมงานก็ไม่มีความสุข เราเองก็ต้องคอยระแวงว่าวันหนึ่งอะไรจะหายอีก แต่การเป็นเจ้านายอายุนอ้ ย ลูกน้องก็อาจจะไม่ให้ความเกรงใจเท่าทีค่ วร คุณรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร แต่เราทำให้เขาเกรงใจได้นี่ เพราะเราทำทุกอย่าง พนักงานทุกคนไม่มีใครรู้มากกว่าเราสักคน เราทำทุกอย่างจริงๆ เพราะฉะนั้น ถ้าเขารู้น้อยกว่าเรา ยังไงเขาก็ต้องเกรงใจเราอยู่แล้ว แล้วเราไม่ใช่ คนดุ เพราะฉะนั้นคุยด้วยได้ เราว่าทำให้คนกลัวทำง่าย แต่ถ้าทำให้คนเกรงใจมันทำยากนะ แต่ถ้าเขา เกรงใจแล้วเขาจะอยู่นาน ต่อให้ออกไปแล้วก็ยังเกรงใจเราอยู่ เวลาที่เขาพูดถึงเราให้คนอื่นฟัง เขาก็ จะพูดแต่สิ่งที่ดี ไม่ใช่มาด่าเราลับหลัง


16

GADGET

PRODUCT

ASUS Eee Tablet

แปลก และแตกต่าง นี่คือสิ่งที่ ASUS ใช้ฉีกตัวเองออกมาจากบรรดาคู่แข่งในท้องตลาด ด้วยการออก แท็บเล็ตขาว-ดำ โดยผู้ผลิตเคลมไว้ว่าสิ่งนี้จะมาแทนกระดาษจดบันทึกที่อยู่บนโต๊ะของคุณได้เลยทีเดียว กับ ASUS Eee Tablet กระดานอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หน้าจอ LCD แบบ Transflective นอกจากจะมีความ แม่นยำสูงถึง 2450 dpi แล้ว ยังรองรับแรงกดของปากกาได้อีก 7 ระดับ (จึงเป็นเรื่องง่ายที่คุณตำรวจจะใช้ เป็นเครื่องมือสเก็ตช์หน้าคนร้ายพร้อมอัพโหลดลง Facebook ได้ทันที) นอกจากนี้ ASUS Eee Tablet ยัง รองรับการอ่าน E-Book ในที่แสงน้อยได้อย่างชัดเจน และทำความเร็วในการพลิกหน้าต่อไปเพียงแค่ 0.1s (วินาที) เท่านั้น ที่สำคัญ ยังติดตั้งกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟนสำหรับอัดเสียง และเปิดเครื่องทิ้งไว้ได้นานกว่า 10 ชั่วโมง อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงของแท็บเล็ตตัวนี้มาในราคาเพียงแค่ 9,900 บาท เท่านั้น ดีและแตกต่างแบบนี้สิ เขาถึงเรียกว่า simple is the best!

MOVIE

Splice

บางครั้งความก้าวหน้าทาง วิ ท ยาศาสตร์ ก ็ เ ป็ น เรื ่ อ งที ่ น ่ า ตืน่ ตาตืน่ ใจ แต่บางครัง้ ถ้าล้ำเส้น เกิ น ไปมั น ก็ อ าจจะกลายเป็ น ความน่าสะพรึงได้เช่นกัน นี่คือ สิ ่ ง ที ่ ห นั ง เรื ่ อ งนี ้ ก ำลั ง จะบอก ด้วยการเล่าเรื่องของสามี-ภรรยา นักวิทยาศาสตร์ ที่แอบทดลอง กันแบบลับๆ โดยผสม DNA ของ มนุษย์เข้ากับสัตว์ จนกลายเป็น สิ่งมีชีวิตมีหางสุดสยอง แต่แอบ เซ็กซี่ไปในตัว! หนังเรื่องนี้เป็น ผลงานของผูส้ ร้างอย่าง กิยโ์ ม เดล โตโร จาก Hellboy และ Pan’s Labyrinth ซึ่งในฐานะโปรดิวเซอร์ ของหนังเรื่องนี้ เขาตั้งความหวัง ว่าสัตว์สาวสยองในหนังเรื่องนี้จะ กลายเป็นสัตว์ประหลาดทีน่ า่ จดจำ เช่นเดียวกับแฟรงเกนสไตน์เลยที เดียว หลายคนดูตวั อย่างหนังแล้ว อาจจะคิดว่าเขาใช้คนจริงๆ แสดง เป็นสัตว์สาวตัวนี ้ แต่ทเ่ี ห็นน่ะเป็น ดิจิตอลล้วนๆ แต่ที่ไม่ใช่ดิจิตอล แน่ๆ ก็คือนักแสดงออสการ์อย่าง เอเดรียน โบรดี ที่มารับบทไคลฟ์ ผู้ร่วมสร้างสัตว์สายพันธุ์ใหม่ตัวนี้ และต้องอยูต่ รงกลางระหว่างความ สัมพันธ์อันซับซ้อนของสัตว์สาว ตั ว เขา และภรรยา และได้ นางเอกสาว ซารา พอลลี มารับ บทเป็นเอลซา นักวิทยาศาสตร์ สาวทีก่ ล้าบ้าบิน่ กว่าใครๆ เข้าฉาย วันที่ 19 สิงหาคม นี้

MUSIC

Kylie Minogue : Aphrodite

แดนซิงควีนตัวจริงที่อยู่ยั้งยืนยงตั้งแต่ยุค 80 วันนี้ Kylie Minogue กลับมาอีกครั้งกับสตูดิโอ อัลบัม้ ที ่ 11 โดยยืมชือ่ ของเทพีแห่งความรัก Aphrodite มาใช้เป็นชือ่ อัลบัม้ ของเธอเอง (คงอยากจะสือ่ ว่า ‘ฉันยังสวยอยูน่ ะ’) โดยมีซงิ เกิลเปิดตัวทีแ่ สนจะเข้ากันกับชือ่ อัลบัม้ ว่า All the Lovers ซึง่ ได้โปรดิวเซอร์ ชื่อดังอย่าง คิช โมฟ ที่เคยร่วมงานจากอัลบั้มที่แล้ว มาฟีเจอริงกับ สจวร์ต ไพรซ์ ที่ทำเพลงให้กับ มาดอนนา และ The Killers จนดังมาแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพลงในซิงเกิลและอัลบั้มนี้จึงฟังดู ล่องลอย เคลิบเคลิ้ม ด้วยบีตของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ผสมกับเสียงซินธิไซเซอร์เข้ากับเสียงใสๆ ของ เธอ จนออกมาเป็นเพลงเต้นรำชั้นเลิศ ที่ทุกคนต่างก็ยอมรับว่า ถ้าพูดถึงเพลงเต้นรำ Kylie Minogue ต้องติดอยู่ในท็อปลิสต์อย่างไม่ต้องสงสัย Don’t Miss : นอกจากเพลงจะเพราะแล้ว มิวสิกวิดีโอของเธอก็เซ็กซี่ใช่ย่อย ถ้าไม่เชื่อลอง เข้าไปดูในยูทูปโดยเสิร์ชชื่อเพลง All the Lovers แล้วจะรู้ว่ายอดคนดูกว่า 4,500,000 คน ที่มี ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะจ๊ะ

ACCESSORY

GUESS Men Precision

แปลงร่ า งเป็ น หนุ ่ ม วิ น เทจแบบไม่ เชย ด้วยนาฬิกาสุดหรูในสไตล์โมเดิร์น แต่แฝงไว้ ด้วยความคลาสสิก ด้วยเครื่องหมายแสดง เวลาแบบตั ว เลขโรมั น บนหน้ า ปั ด แต่ ม า พร้ อ มกั บ ฟั ง ก์ ช ั น หลากหลายรู ป แบบ กั บ หน้าปัดย่อย 3 วง แสดงฟังก์ชันครบเครื่อง ทั้งวัน วันที่ และเวลาแบบ 24 ชั่วโมง เพิ่ม ความหรูด้วยสายหนังลายจระเข้สีเทาที่เข้า กันดีกับหน้าปัดสีดำคลาสสิก เสริมบุคลิก ให้กลายเป็นหนุ่มสุขุม หรือไม่ก็เลือกเป็น หน้าปัดสีขาว ตัวเรือนสีทอง ที่กลมกลืนกับ สายหนังจระเข้สีน้ำตาล เพิ่มมาดผู้นำให้ ชั ด เจนยิ ่ ง ขึ ้ น และที ่ น ่ า ทึ ่ ง ก็ ค ื อ ถึ ง แม้ จ ะ หรูหรามีระดับเพียงใด แต่ราคากลับเย้ายวน ใจแบบที่ทุกคนเอื้อมถึง ลองหยิบจับมาทาบ บนข้ อ มื อ ได้ ท ี ่ เคาน์ เตอร์ น าฬิ ก า GUESS หรือ GUESS Boutique ทุกสาขา

Pelikan M800 Demonstrator

“ผมขอแนะนำปากกา หมึกซึมของ Pelikan ครับ บางคนอาจจะนึกว่าสมัยนี้ ปากกาคงไม่ค่อยจำเป็นต่อ ชี ว ิ ต กั น เท่ า ไหร่ แ ล้ ว แต่ สำหรั บ ผม ในชี ว ิ ต ประจำ วันของผมก็ยังใช้ปากกาอยู่ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ส มั ย ตอนเรี ย น เท่านั้น ซึ่งปากกาคู่ใจที่ผม เอามาแนะนำครั ้ ง นี ้ ก ็ ค ื อ Pelikan M800 ที ่ ท ำรุ ่ น ใส ออกมา และยี่ห้อนี้เขาก็ขึ้น ชื่ออยู่แล้วในเรื่องคุณภาพ ซื้อครั้งเดียวแล้วใช้ได้จนลืม ไปเลย นอกจากสิ่งสำคัญที่ ปากกาที่ดีควรจะมีแล้วก็คือ เขียนดี เขียนลืน่ เขียนสบาย ตัวปากการุ่นนี้ยังทำออกมา ได้สวยงามอย่างมาก เป็น แท่งใสๆ ส่วนหัวของปากกา ก็ เป็ น สี ท อง ซึ ่ ง รั บ รองว่ า แข็งแรงมากๆ อีกอย่างก็คือ พอเขาดีไซน์ออกมาได้สวย ก็ทำให้เรารู้สึกว่าอยากที่จะ ใช้มั นบ่อยๆ ถ้าใครที่เป็ น นั ก ธุ ร กิ จ หรื อ ทำงานที ่ ต้องการความภูมิฐานด้วย ปากกาแท่งนี้ช่วยเพิ่มออรา ให้ ค ุ ณ ได้ ม ากยิ ่ ง ขึ ้ น ด้ ว ย ครับ” เลือกให้โดย : วีระ พักตร์วัฒนการ DJ คลื่น Easy FM 105.5

BOOK

Mannerism : สมบัติผู้ดี 24 สาแหรก

รู้กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า คนเป็นสัตว์สังคม และเมื่อคนมาอยู่ร่วมกันในสังคมแล้ว สิ่งที่จะต้องมีตามมาเพื่อลดความกระทบกระทั่ง ระหว่างกันก็คือ มารยาททางสังคม หรือที่เรารู้จักกันแบบไทยๆ ว่า สมบัติผู้ดี แต่ในยุคทีค่ นบูชาความเป็นตัวของตัวเองเหนือสิง่ อืน่ ใด มารยาท ก็ดจู ะกลายเป็นสิง่ ทีพ่ น้ สมัยไปทีละนิดๆ ด้วยเหตุผลว่า ‘ใครเขาจะมาสนใจว่าเราทำอะไร’ แต่ความจริงก็คอื ทุกคนชืน่ ชมคนทีม่ มี ารยาท และ พร้อมจะประณามคนไร้มารยาทเสมอด้วยเหตุนี้ อรรถ บุนนาค คอลัมนิสต์ฝีปากกาจัดจ้าน จึงได้รวบรวมบทความจากคอลัมน์ Mannerism ที่เขาได้เขียนลงนิตยสาร อิมเมจ มารวมเล่มอีกครั้ง เช่น บางส่วนของตอนฮัลโหล... โทรศัพท์ ที่เขาเขียนเอาไว้ว่า ‘จงอย่าลืมว่าการที่เขา ช่วยเหลือแม้เพียงการให้ข้อมูลเพียงน้อยนิด แต่เมื่องานเสร็จลุล่วงหรือคืบหน้า ก็ควรโทร.ไปขอบคุณในน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยให้ผู้ที่เราขอ ความช่วยเหลือจากเขารู้สึกดี และจะทำให้เกิดมิตรภาพและการเกื้อกูลในครัง้ ต่อไปตามมา’ ง่ายๆ สัน้ ๆ ได้ใจความ แถมอ่านจบยังสามารถ เอาไปบอกคนที่ทำงานอยู่โต๊ะข้างๆ จนถึงใช้สอนลูกหลานที่บ้านได้เลยทีเดียว


17

EXHIBITION

The Tales of Smiles

ภาพหนึ่งภาพสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้หลากหลาย เช่นเดียวกับภาพรอยยิ้มของคนไทย 50 คน ในหลายจังหวัดทั่วประเทศที่สามารถบอก เล่าเรื่องราวและความรู้สึกได้มากมาย ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้เป็นฝีมือของ กาณฑ์ สมบัติศิริ และ ณพนธ์ บุณยคุปต์ เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ใช้เวลา ช่วงปิดเทอมจากโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา เดินทางเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในฐานะคนไทย บทบาทในสังคมของผู้คน ความ ใฝ่ฝันอันสวยงาม และการผ่านพ้นอุปสรรคของแต่ละคน ซึ่งนอกจากภาพถ่ายแล้ว ยังมีบทสัมภาษณ์เจ้าของรอยยิ้มทั้ง 50 คน มาช่วยบอกเล่า เรื่องราวให้ชัดเจนขึ้นด้วย ร่วมกันยกมุมปากให้สูงขึ้นด้วยรอยยิ้มกับงานแสดงภาพถ่ายนี้ได้ที่ชั้น G เกษรพลาซา ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 สิงหาคม นี้

CLIP

Interactive Movie Adventure

หลายคนคงเคยอ่านหนังสือแนวผจญภัยที่มีลูกเล่น สนุกๆ ให้เราเลือกทางไปต่อเองได้ เช่น เมื่อคุณหนี อสุรกายมาจนสุดทาง กลับพบว่าข้างหน้าเป็นเหวลึก คุณจะทำอย่างไรต่อ? ก. กระโดดลงไปมันคงไม่ตายหรอก ไปหน้า 23 ข. หันหน้าตั้งสติแล้วคว้าของที่อยู่แถวนั้น รับมือกันดูสักตั้ง ไปหน้า 14 พูดแบบนี้คงคุ้นๆ กันแล้ว ใช่ไหมละ ถ้าอย่างนั้นเราจะบอกว่ามีคนนำไอเดียเก๋ๆ แบบนี้มาต่อยอดเป็นหนังที่มีเรื่องราวท้าทายให้คุณได้ลองเลือกทางไปต่อกันเอง ฟังดูแล้วน่าสนุกไม่ใช่ น้อย และหนังเรื่องนี้ก็คือ Interactive Zombie Movie Adventure – Deliver Me to Hell-Real Zombies Attack (ชื่อยาวไปสามโลกได้อีก) โดยเริ่มต้นด้วยพล็อตที่เราคุ้นเคยกันดีจากหนังแอ็กชันหลายๆ เรื่อง เมื่อ เชื้อไวรัสระบาดจนคนทั้งเมืองได้กลายเป็นซอมบี้ คุณต้องรับบทเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าที่จำใจต้องออกไป ส่งของให้กับลูกค้าสาวที่โทร.มาสั่งอาหารจากคุณ เรื่องราวหลังจากนั้นก็อยู่ที่ตัวคุณเองแล้วว่าจะไปตาม เส้นทางไหน โดยเริ่มจากขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนเจอกับผู้ชายที่กำลังหนีซอมบี้มา (เช่น ช่วยเขาขึ้นรถสิ มีเพื่อนไปด้วยอุ่นใจ / จะช่วยทำไม อยู่คนเดียวก็จะตายอยู่แล้ว) จากนั้นขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะเลือก ‘คลิก’ เส้นทางไหนให้กับชะตาชีวิตของคุณ (ไม่สนใจ ผ่านไปเลย / สนใจ เข้าไปดูต่อที่ http://youtu.be/ 9p1yBlV7Ges) ขอบอกว่าเราเล่นเท่าไหร่ก็ยังไม่จบ เพราะต้องใช้เวลานานมาก แต่เราแนะนำให้คุณลอง เล่นดู เผื่อจะรู้ว่าตอนจบเป็นอย่างไร เพราะเราเองก็อยากรู้มาก

COSMETC

Burberry London For Men

“ผมเป็นคนที่ชอบเสื้อผ้าแบรนด์ Burberry อยู่แล้ว ผมคิ ด ว่ า แบรนด์ น ี ้ ม ี เ อกลั ก ษณ์ ข องความเป็ น ผู ้ ด ี อังกฤษที่หาใครเลียนแบบได้ยาก พอทาง Burberry ทำ น้ำหอมสำหรับผู้ชายออกมา ผมก็เลยไปลองเทสต์ดู ปรากฏว่าหอมมาก หอมถึงขนาดว่าถ้าใครใส่น้ำหอมนี้ เดินผ่านผมนี่เล่นเอาผมแอบเคลิ้มไปเลย (หัวเราะ) ผม รู้สึกว่าน้ำหอมขวดนี้ให้กลิ่นที่แมนมากๆ แต่ไม่ได้แมน แบบแข็งกระด้าง คือมันรู้สึกได้ว่าเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่น ประมาณภาพของ ฮิวจ์ แจ็กแมน ในหนังเรือ่ ง Australia เลยครับ คือมีอารมณ์ดิบอยู่ในนั้น แต่เราก็สัมผัสได้ถึง ความอบอุ ่ น ถื อ ว่ า เป็ นน้ ำ หอมตั ว โปรดของผมเลย สำหรับ Burberry London ขวดนี้ ถ้าใครที่กำลังมองหา น้ำหอมขวดใหม่ที่กลิ่นไม่ซ้ำใคร แนะนำเลยครับ” เลือกให้โดย : ดนัย จารุจินดา นักแสดง

GIVE

บริจาคหนังสือกับโครงการ ‘อ่านสร้างชาติ’

ฟรานซิส เบคอน นักปรัชญาชาวอังกฤษ เคยพูดถึงความสำคัญของการอ่านว่า ‘การอ่าน ทำให้คนเป็นคนโดยสมบูรณ์’ จึงเป็นทีม่ าของ ‘โครงการอ่านสร้างชาติ’ ทีจ่ ะสร้างวัฒนธรรมการอ่าน ให้กับเด็กไทย โดยชวนคนใจบุญมาร่วมกันบริจาคหนังสือมือสอง บริจาคเงิน หรือร่วมเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ ซึ่งรับรองได้ว่าหนังสือที่บริจาคไปจะถูกส่งถึงมือโรงเรียน ห้องสมุดชุมชน และเด็กๆ ด้อยโอกาสทั่วประเทศอย่างแน่นอน เพราะทางโครงการมีนโยบาย บริหารจัดการหนังสือเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.read4thai.org

BLOG

http:// globalvoicesonline .org/

“คำอธิบายสั้นๆ ง่ายๆ ของบล็อก ทีเ่ ราอยากแนะนำนี ้ นำมาจากข้อความ แนะนำบล็ อ กที ่ บ อกไว้ ว ่ า ‘Global Voices is an international community of bloggers who report on blogs and citizen media from around the world.’ หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นชุมชนของบล็อกเกอร์ และนักแปลกว่า 300 คน จากทั่วโลก ที่จะมารายงานข่าวสารที่น่าสนใจ (ซึ่ง ปั จ จุ บ ั น เราสามารถอ่ า นบล็ อ กนี ้ ไ ด้ ทั้งหมด 15 ภาษา 15 เวอร์ชัน) เติม เข้าไปอีกหน่อยก็คือ จากสิ่งที่เราหา อ่านไม่ได้จากสื่อกระแสหลัก ซึ่งจะมี อาสาสมัครนักเขียนและบรรณาธิการ มาดูแลเนื้อหาของข่าว โดยเมื่อเข้าไป ในบล็อกแล้ว คุณจะเห็นการดีไซน์ที่จัด วางให้อ่านได้ง่าย สบายตา ส่วนเรื่องราวและข่าวสารในบล็อกแห่งนี้ก็จัดไว้ เป็นหมวดหมู่เพื่อสะดวกในการค้นหา เช่น จะหาจากประเทศ หัวข้อข่าว หรือ เรื่องราวที่คุณสนใจ กระทั่งค้นหาจาก นักเขียนที่คุณติดใจในสำนวน บล็อกนี้ มี เ สน่ ห ์ ต รงความหลากหลายของ เนื ้ อ หาที ่ ค นเขี ย นเข้ า มารวมทั ้ ง ภาพ และคลิ ป ที ่ ห าดู ไ ด้ ย าก ที ่ ส ำคั ญ เนื้อหาเหล่านั้นยังมาจากมุมของคนที่ รู้สึกอย่างไรก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างนั้น ให้รู้กันไปเลยว่า สิ่งที่เห็นไม่ได้มีด้าน เดียว แถมยังมี special coverage แบบ เข้มข้นอีกต่างหาก อ้อ บล็อกนี้เขามี สโลแกนที่ท้าทายให้อ่านซะเหลือเกิน ว่ า The world is talking, are you listening? นัน่ สิ เราฟังกันบ้างหรือเปล่านะ ว่าโลกนี้กำลังพูดอะไรอยู่” เลือกให้โดย : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิ ก าร นิ ต ยสาร a day BULLETIN


18

RECOMMENDED

dtac APPLICATIONS ในยุคที่ความง่ายเท่ากับความสุข อะไรจะดีไปกว่าการได้ครอบครองสมาร์ตโฟนอัจฉริยะอย่าง iPhone ที่จะทำให้ชีวิตง่าย ขึ้นเป็นกอง ยิ่งถ้าได้แอพลิเกชันที่มาตอบสนองความต้องการทุกด้านของชีวิต ก็อาจจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจนใครหลายคน แอบอิจฉา ที่ง่ายกว่านั้นคือ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของแอพฯ เหล่านี้ได้ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส จากนั้นก็เตรียมตัวเดินทาง ไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของชีวิตได้เลย

dtac สำหรั บ ผู้ ใ ช้ ซิ ม ของ dtac ไม่ ว่ า จะเป็ น แบบรายเดื อ นหรื อ เติ ม เงิ น คงเคยปวดหัวกับการต้องมาจำเบอร์สำหรับกดเช็กยอดค่าใช้บริการต่างๆ มาแล้วอย่างแน่นอน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณมีแอพพลิเกชัน dtac อยูใ่ น iPhone ของคุณ เพราะแอพฯ ตัวนีจ้ ะเป็นเหมือนผูช้ ว่ ยทีอ่ ยูก่ บั คุณ ได้ตลอดเวลา คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลหลักๆ อย่างเช่นแพ็กเกจโปรโมชัน่ ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ เช็กยอดค่าโทร. รวมไปถึงเช็กยอดการใช้บริการ SMS, MMS, dtac internet ว่าใช้ไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ (สำหรับใครที่ใช้ซิม แฮปปี้แบบเติมเงิน ก็สามารถเช็กจำนวนวันคงเหลือ ค่าโทร.ที่มี และโบนัส ค่าโทร.เพิ่มเติมได้อีกด้วย) dtac Applications มาพร้อมกับหน้าตาของโปรแกรมที่ใช้งานง่าย สามารถเลือกการแสดงผลได้ ทัง้ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทีนก้ี ไ็ ม่ตอ้ งมานัง่ จำตัวเลขยากๆ หลายตัว ให้แอพพลิเกชันนีเ้ ป็นเสมือนผูช้ ว่ ยทีอ่ ยูเ่ คียงข้าง คุณตลอด 24 ชั่วโมง

SF Showtimes

in Hand

ถ้าคุณรู้สึกเบื่อกับการเช็กรอบหนังสักเรื่องผ่านเว็บไซต์ท่ีดูวุ่นวาย และยุ่งยากเกินเหตุ ลองหันมาใช้แอพพลิเกชันตัวเก่งจากโรงภาพยนตร์ SF Cinema ทีช่ ว่ ยให้คณ ุ ไม่ตอ้ งไปยืนชะเง้อคอยาวเพือ่ ดูรอบหนังให้เมือ่ ย แถมยังสะดวกสบายสุดๆ ด้วยบริการเช็กรอบหนังล่วงหน้า รายละเอียด ของเรื่องย่อ ตัวอย่างหนัง รอบฉายในโรงต่างๆ ที่โปรแกรมมีให้อย่าง ครบครัน แต่ฟังก์ชันชนะเลิศที่โดนใจเราเต็มๆ ก็คือ Coming Soon รายงานหนังใหม่ท่ีจ่อคิวรอเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ให้คุณได้ ติดตามกันตัง้ แต่วนั นีจ้ นถึงสิน้ ปีกนั เลย ถ้าใครทีม่ ขี อ้ เสนอแนะอยากติ-ชม โรงภาพยนตร์ก็สามารถส่งข้อความไปที่ส่วนของ Feedback ได้โดยตรง อีกด้วย สะดวกสบายแบบนี้แล้วจะพลาดไม่เอามาใส่ iPhone ตัวเก่ง ได้อย่างไร

K-Mobile Banking PLUS สำหรับใครที่มีบัญชีของธนาคารกสิกรไทย วันนี้เราคงได้เฮ! กันอีกครั้ง เมือ่ ทางธนาคารได้ออกแอพฯ มาเอาใจคนไฮเทคด้วย K-Mobile Banking PLUS ที่ให้คุณสะดวกไปอีกขั้นเหมือนกับมีตู้ ATM ของกสิกรไทยติดตัวไปทุกที่ ทุกเวลา คุณสามารถทำธุรกรรมผ่าน iPhone ตัวเก่งของคุณได้ทันที ไม่ว่าจะ เป็นการตรวจสอบเงินในบัญชีและข้อมูลบัตรเครดิต จ่ายบรรดาสารพัดค่าบิล เติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือการโอนเงินที่ไม่จำกัดว่าจะต้องโอนให้กับธนาคาร เดียวกัน (คงเหลือแค่การกดเงินให้ไหลออกมาจากโทรศัพท์เท่านัน้ ทีย่ งั ทำไม่ได้ ในตอนนี้) สำหรับใครที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ทางธนาคารก็มีระบบ ป้ อ งกั น ให้ อ ย่ า งแน่ น หนา โดยระบบจะทำงานควบคู่ กั บ การตรวจสอบ เบอร์ มื อ ถื อ และการใส่ PIN คุ ณจึ ง มั่ น ใจได้ ว่ า ปลอดภั ย สุ ด ๆ แน่ น อน นอกจากนี้ K-Mobile Banking PLUS ยังมีส่วนของข้อมูลนิตยสารรายสัปดาห์ ออนไลน์ (Mobile Magazine) มาให้คุณได้อ่านฆ่าเวลากันเบาๆ ด้วย ทัง้ เรือ่ งของไลฟ์สไตล์ การลงทุน และสิทธิพเิ ศษใหม่ๆ ของทางธนาคารในแต่ละเดือน เรียกได้ว่าเป็นแอพฯ แห่งการเงินโดยแท้

รั บ Starbucks Card ทั นที 1 ใบ สำหรั บ 500 คนแรก ที่ ส มั ค รบริ ก าร K-Mobile Banking PLUS ในแต่ละเดือน ถึง 31 ตุลาคม 2553 “ในแต่ละวันผมต้องออกไปพบปะกับผู้คนมากมาย เรียกว่าชีวิตต้องเคลื่อนที่ กันตลอดเวลา ดังนั้น การพักผ่อนง่ายๆ อย่างการไปดูหนังสักเรื่องจึงเป็น เรื่องใหญ่ของผมอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่ยุ่งแบบสุดๆ จนแทบไม่มีเวลา เช็กรอบหนัง หรือบางครั้งกำลังเดินอยู่ที่เอ็มโพเรียม แล้วเกิดอยากดูหนัง ฆ่าเวลาขึ้นมา ผมก็ ใช้แอพฯ ตัวนี้กดเช็กดูรอบหนังได้เลยทันที โดยที่ผม ไม่ต้องไปเสียเวลายืนดูโปรแกรมที่หน้าโรง ที่สำคัญอีกอย่างก็คือข้อมูลใน ส่ ว นของเรื่ อ งย่ อ หรื อ ตั ว อย่ า งหนั ง ที่ โ ปรแกรมนี้ มี ใ ห้ ทำให้ ผ มสามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหนังเรื่องต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม แบบ On The Go กันเลยครับ”

เลือกให้โดย : ธนบูรณ์ สมบูรณ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ PORTFOLIOS*NET

“ผมไม่ค่อยมีเวลาได้ ไปธนาคารสักเท่าไหร่ เวลาจะจัดการเรื่องของ การเงินนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่วุ่นวายสำหรับผมมากพอสมควร โดย เฉพาะเวลาต้องไปธนาคาร เลยคิดเล่นๆ ว่าเราก็ ใช้ dtac iPhone อยู่แล้ว ถ้ามีแอพฯ สำหรับตอบโจทย์น้ีออกมาให้เราใช้บ้างก็น่าจะดี ปรากฏว่าทางกสิกรก็ทำโปรแกรมนี้ออกมาจริงๆ ซึ่งมันสะดวกมาก และทำให้ ก ารจั ด การเรื่ อ งการเงิ น ของผมเป็ น เรื่ อ งเล็ ก ไปในทั น ที ถ้าใครที่ยังไม่เคยลอง ผมขอแนะนำให้ลองเลยครับ” เลือกให้โดย : ธาดา วาริช ช่างภาพแฟชั่น


19

333 Happy Vampires

Thairath

สำหรับคนทีร่ กั การฟังเพลงเป็นชีวติ จิตใจ ไม่วา่ จะ เดินทางไปไหนก็ขอให้มหี ฟู งั เสียบหูสร้างความบันเทิงใจ ดีแทคจึงได้ตอบสนองไลฟ์สไตล์นั้นของคุณด้วยการ ดึงเอาบริการโหลดเพลงประจำค่ายอย่าง *333 Happy Vampires มาพัฒนาเป็นแอพพลิเกชัน *333 Happy Vampires ให้กบั ผูใ้ ช้ iPhone โดยได้รว่ มมือกับ GMM Grammy ทำการแบ่งกลุ่มของเพลงไว้อย่างชัดเจน ใครที่ชอบฟังเพลงที่กำลังดังในช่วงนี้ต้องเข้าไปที่ Top Hitz หรือ New Release หรือถ้าคิดไม่ออกว่าเพลงอะไร ที่ตรงใจเราในตอนนี้ ก็มีตัวช่วยด้วยการให้คุณเลือก เข้าไปที่ Recommended หรือใครทีช่ อบดูละครหรือหนัง และแอบซาบซึง้ ไปกับเพลงประกอบก็อย่าลืมจิม้ เข้าไป ทีห่ มวด Ost. & Movies เพือ่ รับฟังหรือส่งเพลงเพราะๆ เหล่านีใ้ ห้ถงึ มือก๊วนแก๊งของคุณไปเลย แอพฯ ทีค่ รบเครือ่ ง และเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้ ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

เชื่อ ว่ า คงไม่ มีใครไม่ รู้จัก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ยัก ษ์ ใหญ่ หัวเขียวที่ชื่อ ไทยรัฐ และวันนี้ชีวิตของคุณจะง่ายขึ้น ไปอีกขั้นด้วยแอพพลิเกชัน Thairath ที่พร้อมเสิร์ฟให้ คุณได้อ่านกันถึง iPhone ในมือคุณเลย เพียงแค่กด สมัครรับข่าวกับทางไทยรัฐผ่านทาง SMS ไม่ว่าจะ เป็ น ระบบเติ ม เงิ น หรื อ รายเดื อ น (กด *7171 แล้ ว โทร.ออก) คุ ณ ก็ จ ะได้ รั บ สิ ท ธิ์ ใ นการอ่ า นไทยรั ฐ ออนไลน์ผ่านแอพฯ นี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มเติม ซึ่งนอกจากจะให้คุณอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในรูปแบบที่คุ้นเคยแล้ว หน้าข่าวยอดฮอตก็ใส่ให้มา แบบครบถ้วน อย่างเช่นข่าวบันเทิง (มีให้อา่ นเต็มๆ ถึง 2 หน้า) ข่าวกีฬา ข่าวสังคม-สตรี รวมถึงหัวข้อข่าว สำคัญๆ ที่จะเด้งขึ้นมาให้คุณเลือกกดเข้าไปอ่านอย่าง ไหลลืน่ ได้ตลอดเวลาอีกด้วย รูแ้ บบนีอ้ ย่ารอช้า รีบโหลด กันมาได้เลย ก็ใครจะไม่อยากได้ข่าวสารมาอยู่ ในมื อ ของตัวเอง จริงไหม?

สมั ค รง่ า ยๆ เพี ย งกด *333 แ ล้ ว โท ร . อ อ ก (ค่ า โทรนาที ล ะ 3 บาท) หลั ง จ า ก นั้ น ร อ รั บ SMS ยืนยันการ สมัคร หลังจาก นั้ นก็ โหลดเพลง ม า ฟั ง กั น ไ ด้ อย่างเต็มที่ โดย ค่ า บริ ก ารเพี ย ง แค่ 20 บาทต่อ เดือนเท่านั้น

ดู ร ายละเอี ย ดวิ ธี ก ารสมั ค รรั บ บริ ก าร S M S ข่ า ว จ า ก ไ ท ย รั ฐ เ พิ่ ม เ ติ ม ไ ด้ ที่ www.thairath.co.th หรือติดต่อ Call Center 0-2127-1222

Nok Air “จองตั๋วเครื่องบินให้หน่อย” คำคำนี้คงเป็นเหมือนฝันร้ายของใครหลายคนที่ต้องประสบปัญหาการจับจองที่นั่งดีๆ กับทางสายการบิน เราจึงขอแนะนำ แอพพลิเกชันที่ช่วยยกภูเขาออกจากอกให้กับคุณ ด้วย Nok Air Application สุดเจ๋ง! จากสายการบินนกแอร์ ที่หอบเอาความสะดวกสบายบินตรงมาส่งให้ถงึ มือคุณใน iPhone นอกจากหน้าตาโปรแกรมทีด่ สู วยงามและใช้งานง่าย (มาก) ฟังก์ชนั หลักทีเ่ ห็นแล้วแทบจะร้องกรี๊ดอย่าง CheckIn ที่ช่วยให้คุณได้ตั๋วมาแบบ ง่ายๆ เพียงแค่คุณมีสิ่งของติดตัวไปด้วยไม่เกิน 7 กิโลกรัม คุณก็สามารถ Booking ที่นั่งกันได้เลย แค่ใส่ Booking Number และชื่อ-นามสกุลของคุณลงไป เท่านั้น (คุณสามารถระบุว่าจะไปแบบเที่ยวเดียวหรือแบบไป-กลับ และเลือกระดับราคาของที่นั่งได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นคุณก็นำ barcode ที่ได้มา นำไปใช้ เป็น Boarding pass เพื่อ check in เข้าสู่ Gate ได้ทันที เรียกว่าง่ายกว่านี้หาไม่ได้จากที่ไหนแล้วจริงๆ “ปกติ แ ล้ ว ผมจะหาเวลาว่ า งจากการทำงานไปพั ก ผ่ อ นตามต่ า งจั ง หวั ด อยู่ ต ลอดเวลา โดยเฉพาะที่ จั ง หวั ด เชียงใหม่นี่ถือว่าเป็นจังหวัดที่ผมเดินทางไปบ่อยที่สุด เพราะว่าเป็นจังหวัดที่เราสามารถนั่งเครื่องบินไปถึงได้ และ เพื่อนสนิทของผมก็อยู่ที่นั่นหลายคน แต่ก่อนกว่าจะได้ ไปแต่ละทีต้องใช้พลังภายในเยอะมาก ตั้งแต่มีแอพฯ ตัวนี้ เกิดขึ้นมา มันง่ายต่อการจองตั๋วเครื่องบินมากๆ ครับ เราสามารถเช็กได้ทันทีเลยว่ามีที่นั่งว่างให้เราหรือเปล่า แถมยังช่วยเช็กให้กับคนอื่นๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าใครจะบินไปไหน ทุกคนต้องมาหาผมกันก่อนทั้งนั้นเลย (หัวเราะ)” เลือกให้โดย : นฤพนธ์ ไชยเพิ่ม DJ คลื่น 102.5 Get FM

Application และสิทธิพิเศษทั้งหมดนี้สำหรับลูกค้า dtac โดยเฉพาะ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้ววันนี้

ติ ด ต่ อ รั บ เ สื้ อ ยื ด ได้ ฟ รี ที่ เคาน์ เตอร์ Nok Fan Club เช็ ก อิ น ณ อาคารผู้ โ ดยสาร ภายในประเทศขาออก ชั้น 2 ท่ า อ า ก า ศ ย า น ด อ น เมื อ ง ณ วันเดินทาง (จำนวนจำกัด ถึง 30 กันยายน 2553 นีเ้ ท่านัน้ )


CALENDAR

20

20 - 26 AUGUST 2010

FRI

MON

TUE

WED

THU

จากฉันถึงเธอ

ออกลาย

MultimediaMultivisions

Spirits: Creativities from Beyond

นิทรรศการเดี่ยวครั้ง ที่ 5 ของ อดิวิศว์ อังศธรรมรัตน์ ที่ประกอบไป ด ้ ว ย ง า น จ ิ ต ร ก ร ร ม ประติมากรรม และสื่อ ผสม บอกเล่าเรื่องราวที่ เรียบง่ายที่ศิลปินประสบ พบเจอในชีวิตประจำวัน วันนี้ถึง 4 กันยายน 2553 ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ ชั้น 7 ศูนย์ วิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เว้น วันอาทิตย์)

นิ ท รรศการศิ ล ปะ โดย 7 นักศึกษาชัน้ ปีท ่ี 2 คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร โดยนำเสนอหลากมุมมอง ของพวกเขาต่ อ ปี เ สื อ ที ่ ผ่านมาแล้วครึ่งทางผ่าน งานประติมากรรม กระดาษและภาพวาด บนฝาผนังของแกลเลอรี วันนี้ถึง 27 สิงหาคม 2553 ณ อาร์ตกอริลลาส์ อาร์ตแกลเลอรี (เว้นวัน จันทร์)

นิ ท รรศการที ่ เ น้ น งานศิลปกรรมของ ศิ ล ปิ น ร่ ว มสมั ย รุ ่ น ใหม่ (ทวีศกั ดิ ์ ศรีทองดี, บัณฑิต พูนสมบัติเลิศ, วิทยา จันมา, วัชรวุฒิ พัลวัน) ที่ใช้สื่อ เทคนิค และ กรรมวิธี ทางเทคโนโลยี สมัยใหม่เป็นหลักสำคัญ ในการแสดงออกซึ ่ ง ทัศนคติ จินตนาการ และความรู้สึกในแง่มุม ต่างๆ วันนีถ้ งึ 26 กันยายน 2553 ณ หอศิลป์ร่วม สมัยอาร์เดล (เว้นวันจันทร์)

ก้ า วเข้ า มาสั ม ผั ส โลกแห่งการผัน ‘ต้นทุน จากความกลัว’ สู่สุนทรียศาสตร์แห่งการเปลี่ยน จิ นตนาการไร้ ส สารมา เป็นเรื่องราว ภาพ เสียง ที่มองเห็น ได้ยิน และ สัมผัสได้จริง กับนิทรรศการ ‘ผี: ความกลัว... จัดการได้ ด้วยจินตนาการสร้างสรรค์’ วันนี้ถึง 21 พฤศจิกายน 2553 ณ ห้องนิทรรศการ 2 ศู น ย์ ส ร้ า งสรรค์ ง าน ออกแบบ (TCDC) (เว้นวัน จันทร์)

JF Theatre

JF Theatre ประจำ วันนี ้ พบกับ ‘ลาก่อนลูกรัก’ (Children of Nagasaki) เรื ่ อ งราวโศกนาฏกรรม จากเหตุระเบิดปรมาณูที่ นางาซากิ นายแพทย์ นางาอิรอดจากเหตุระเบิด มาได้ อ ย่ า งปาฏิ ห าริ ย ์ เขาอุ ท ิ ศ ตนเพื ่ อ รั ก ษา ผูร้ อดชีวติ คนอืน่ ๆ จวบจน วาระสุดท้าย วันนี้ เวลา 18.30 น. ณ ห้องสัมมนา เ จ แ ป น ฟ า ว น ์ เ ด ช ั น (ชมฟรี)

21 22 SAT

SUN

Universitoom

Green Concert #13

‘มหาวิ ท ย์ ท ะลาย (เดอะไม่มิวสิเคิล)’ ละคร เวทีที่สร้างจากเรื่องจริง ของนิ ส ิ ต นั ก ศึ ก ษาไทย ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ชม เข้าร่วมแสดงและกำกับ บทด้วยตัวเองในสถานที่ จริง และสถานการณ์จริง วันนีถ้ งึ 29 สิงหาคม 2553 (พุธ-ศุกร์ รอบ 18.30 น., เสาร์ รอบ 14.00 น. และ 18.30 น., อาทิตย์ รอบ 14.00 น.) ณ อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรองที่นั่ง โทร. 0-2218-4802

สุดยอดความ ประทับใจที่ยิ่งใหญ่ที่เต็ม ไปด้วยรอยยิ้ม เสียง หัวเราะ และความซึ้งใจ ‘Green Concert #13: 7 Divos’ คอนเสิร์ตที่ รวมเพลงเพราะพร้อมกับ เสียงร้องคุณภาพทั้งเจ็ด - ก้อง สหรัถ, กบ ทรงสิทธิ์, ป๊อด ธนชัย, เบน ชลาทิศ, อ๊อฟ ปองศักดิ,์ ป๊อป ปองกูล และ ว่าน ธนกฤต วันนี้ เวลา 19.00 น. ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ จำหน่าย บั ต รผ่ า นไทยทิ ก เก็ ต เมเจอร์ ทุกสาขา





24

MAKING THE MOST OF SPACE เรื่อง : ทรรศน หาญเรื องเกี ยรติ ภาพ : กฤตธกร สุ ทธิ ก ิ ตติ บ ุ ตร

‘In my place, in my place were lines that I couldn’t change I was lost, oh yeah’ เนือ้ เพลงของวง Coldplay ดังก้องขึน้ มาในหัวของ เราพอดิบพอดีกบั คำตอบของ สุธดิ า พงษ์ประยูร นักออกแบบตกแต่งภายในคนนีท้ ว่ี า่ “ถ้าเปรียบบ้านชัน้ เดียวหลังนีก้ บั เพลง ก็คงเป็น เพลงของ Coldplay เพลง In My Place ใช่! ต้อง เพลงนีเ้ ลย เดิมทีเราเคยคิดว่าจะเขียนชือ่ บ้านหลังนี้ ว่า In My Place เพราะทีม่ าของบ้านหลังนีเ้ กิดจาก เพือ่ นสนิทของเราได้แบ่งทีด่ นิ ส่วนหนึง่ มาให้ เราจึง ออกแบบให้บา้ นหลังนีไ้ ด้ใช้สเปซอย่างคุม้ ค่า ซึง่ เรา ต้องการความเรียบง่าย แต่เดิมเราไม่คดิ ว่าจะมีสระ ว่ายน้ำ เพราะพืน้ ทีม่ นั จำกัด แต่ขอ้ ดีของสระว่ายน้ำ อย่างหนึง่ คือเราจะได้เรือ่ งของแสงทีส่ ะท้อนจากน้ำ โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าบ้านมีพื้นที่น้อยแล้วทำสนาม หญ้าขึน้ มา บ้านหลังนีก้ จ็ ะดูไม่นา่ สนใจ แต่พอมีนำ้ เข้ามาจะช่วยให้บรรยากาศดีขน้ึ และสามารถใช้ทำ กิจกรรมอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างว่ายน้ำได้ด้วย แต่ที่สำคัญคือ สระว่ายน้ำสระนี้ทำให้บ้านของเรา มีความพิเศษขึน้ มา” ในบรรยากาศของบ้านโทนสีขาว-ดำที่ตกแต่ง อย่างเรียบง่าย แต่ไม่ทง้ิ ลายความเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ฝีมือเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกหากใครก็ตามที่เข้า มาในบ้านหลังนีจ้ ะซึมซับเอาบรรยากาศทีผ่ อ่ นคลาย อย่างทีเ่ จ้าตัวได้วางแปลนไว้อย่างแยบยล

“เราอยากให้บา้ นหลังนีใ้ ห้ความรูส้ กึ เหมือนเป็น วิลลา มีความสะดวกสบาย อยูแ่ ล้วรูส้ กึ ผ่อนคลาย มีห้องสำหรับเป็น extra bed ให้คุณแม่หรือเพื่อนที่ จะมาพัก แต่เราก็จะตกแต่งให้ดูเหมือนกับว่าไม่ใช่ ห้องนอนเสียทีเดียว ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้ เป็นห้องพักผ่อนรวมไปถึงเป็นห้องทำงานเล็กๆ ได้ ด้วย แล้วที่ถือว่าเป็นโชคดีอีกอย่างก็คือบริเวณนี้ ไม่มีตึกบัง บ้านหลังนี้จึงเปิดรับแสงได้อย่างเต็มที่ เพราะส่วนตัวเราเป็นคนทีช่ อบแสงแดดมากๆ” เมือ่ โจทย์ทกุ อย่างถูกแก้สมการจนครบหมดแล้ว บ้านสีขาวหลังเล็กนีจ้ งึ เต็มเปีย่ มไปด้วยความรูส้ กึ ที่ เจ้าของบ้านบอกกับเราอย่างเต็มปากเต็มคำว่า... “บ้านหลังนีท้ ำให้เรารูส้ กึ ว่าพอได้กลับมาแล้วมี ความสุข คือบ้านที่ดีต้องมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่ ข้างใน บ้านหลังนี้เกิดมาจากสิ่งที่เราเป็น มันถูก ถ่ายทอดผ่านตัวเราจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีดำ สเปซที่โล่งโปร่ง เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้เรา ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงาน บ้านนีม้ อี ะไร หลายๆ อย่างที่ทำให้เราไม่รู้สึกเหงา พอวันหยุด เพือ่ นๆ ก็จะมาปาร์ตก้ี นั ความเป็นบ้านหลังนี้ นีแ่ หละ ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น”

วงสุดโปรด - The Beatles เครือ่ งดืม่ ประจำก๊วนปาร์ตที้ บี่ า้ น - ลิน้ จีป่ น่ั ผสมสตรอเบอรี แมกกาซีนทีไ่ ม่เคยพลาด - Art Deécor Italy หนังทีเ่ ท่สดุ ๆ - Seven และ The Fifth Element ของเจ๋งๆ ในบ้านหลัง นี.้ .. ทีต่ อ้ งขออวด - ABC3D Pop-up Book งานอดิเรก... แต่เอา จริง - ชอบถ่ายรูปบ้านหลังนี้ ใครที ่ ไ ด้ ดู จ ะบอกว่ า สวยทุกคน



26

HEALTH AND HEART

HEALTH

CHOLESTEROL: YOU CAN LIVE WITHOUT IT!

GREAT HAIR DAY

200

สาวๆ ที่มีผมแห้ง ชี้ ฟู คงจะหนักใจไม่น้อย เวลาที่เดินไปไหนมาไหนแล้วผมปลิวไปตามลม ไม่มวี แ่ี ววว่าผมจะมีนำ้ หนักเสียที เราเลยมีวธิ งี า่ ยๆ เพื่อผมสวยสุขภาพดีของคุณมาฝาก 1. ใช้เซรัมทุกครั้งหลังสระผม เพราะเซรัมเป็น อาหารผมที่เข้มข้นที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์บำรุง ผมต่างๆ ดังนั้น เซรัมจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดย คุ ณ อาจจะปรึ ก ษาช่ า งผมก่ อ นว่ า เซรั ม ตั ว ไหน ดีต่อสภาพผมคุณมากที่สุด 2. ใช้คอนดิชันเนอร์แบบลีฟอิน ซึ่งเป็นคอนดิ-

ความเป็นจริงแล้ว คอเลสเตอรอลนัน้ มีความ จำเป็นต่อร่างกาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของเยื่อหุ้ม เซลล์ในสิ่งมีชีวิตต่างๆ และยังเป็นสารตั้งต้นใน การสั ง เคราะห์ ฮ อร์ โ มนที ่ จ ำเป็ น สำหรั บ การ ทำงานของร่างกายอีกด้วย แต่หากเจ้าปริมาณ คอเลสเตอรอลที่ว่านี้มีมากเกินไป ก็อาจจะส่ง ผลเสียได้ดว้ ยเช่นกัน ตัง้ แต่เรือ่ งของภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดภาวะ หลอดเลือดอุดตัน ตลอดจนโรคหลอดเลือดหัวใจ ตีบ ซึง่ เป็นหนึง่ ในสาเหตุการเสียชีวติ ทีพ่ บบ่อยทีส่ ดุ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีวธิ กี ารง่ายๆ ทีใ่ ห้คณ ุ สามารถ เอาชนะเจ้าคอเลสเตอรอลตัวร้ายได้ โดยเลือก รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ 1. ฟลาโวนอยด์ - ฟลาโวนอยด์สามารถป้องกัน ความเสือ่ มของเซลล์ตา่ งๆ อันเนือ่ งมาจากอนุมลู อิสระ โดยคุณสามารถเลือกทานผักและผลไม้สด ชา หัวหอม ถั่วเหลือง ไวน์แดง ซึ่งอุดมไปด้วย สารฟลาโวนอยด์ หรืออาจรับประทานสารสกัด ฟลาโวนอยด์เสริมร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ชันเนอร์ที่ดีต่อผมคุณมากๆ เพราะเนื้อครีมและ สารบำรุงต่างๆ จะสามารถซึมซาบตรงเข้าบำรุง เส้นผมได้อย่างเต็มที่ 3. สระผมด้วยน้ำเย็น เพราะน้ำอุ่นเป็นตัวทำให้ ผมคุณแห้งมากขึ้น ดังนั้น หลังจากที่คุณสระผม และหมักผมด้วยคอนดิชันเนอร์แล้ว แนะนำให้ คุณล้างผมด้วยน้ำเย็น เพราะจะทำให้ผมของคุณ ชุ่มชื้นอยู่และดูมีสุขภาพดีขึ้นทันตา 4. อย่าเป่าผมด้วยการจีไ้ ดร์เป่าผมลงไปติดกับ เส้นผม เพราะความร้อนสูงที่ออกมาจากไดร์จะ ทำให้ผมของคุณแห้งกรอบ อีกทั้งยังทำให้ผม

ก็ได้ ขนาดรับประทานที่แนะนำคือ ฟลาโวนอยด์ 2-6 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับการดื่มชาเขียว 3 ถ้วย ทุกวัน 2. วิตามินอี - มีหลักฐานหลายชิ้นที่ระบุว่า วิตามินอีสามารถป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ ที่มาจากคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ซึ่งจะส่ง ผลร้ายต่อหัวใจและหลอดเลือดของคุณ ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และ น้ำมันรำข้าว ที่สำคัญ ควรรับประทานปลาและ ผักใบเขียวเป็นประจำทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 100 กรัม 3. น้ำมันมะกอก - เนื่องจากกรดไขมันชนิดไม่ อิ่มตัวที่มีมากในน้ำมันมะกอกจะช่วยให้เกิดการ ลดปริมาณลงของคอเลสเตอรอลชนิดเลว และ มีผลทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) มากขึ้น นอกจากนี้ สารโพลีฟีนอลที่พบมากใน น้ำมันมะกอกยังจะช่วยในการลดความเสี่ยงต่อ การเกิดโรคหัวใจ ขนาดรับประทานที่แนะนำคือ ให้ใช้น้ำมันมะกอกทดแทนน้ำมันปกติที่ใช้อยู่เดิม แตกปลายได้ง่ายๆ อีกด้วย 5. ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มความ ชุ่มชื้นให้กับผมคุณ 6. กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ มีวิตามินเอและอี ที่จะช่วยทำให้ผมคุณมีน้ำหนัก และมีสุขภาพดีขึ้นได้ ซึ่งอาหารที่ดีต่อเส้นผม ได้แก่ ไข่ และถั่วต่างๆ 7. หลีกเลีย่ งสารเคมีแรงจัด ไม่วา่ จะเป็นการดัด ย้อม ทำสี ยืด รวมถึงการใช้ความร้อนสะสมทุก วันๆ เพราะเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำลาย สุขภาพผมคุณทั้งนั้น

Grams ดอกเตอร์ จีน ฟรีแลนด์-เกรฟส์ ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน แนะนำว่านอกจากการดูแลความ แข็งแรงของกระดูกด้วยการกินอาหารที่มีแคลเซียมแล้ว ยังควรกินสับปะรดครั้งละไม่ต่ำกว่า 200 กรัม เนื่องจากมีแมงกานีสสูง ซึ่งเป็น หนึ่งในแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยสร้างกระดูกให้แข็งแรง รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน กระดูกเปราะบาง และแตกหักง่าย

HEART

I WANNA BE MORE CONFIDENT

การมีบุคลิกที่มั่นใจและน่าเชื่อถือในที่ทำงาน ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคุณแน่นอน เพียงแต่ ต้องอาศัยการฝึกฝนและลองปฏิบัติตามเคล็ดลับ เล็กๆ น้อยๆ ดังต่อไปนี้ 1. ก้าวย่างอย่างมั่นใจ การก้าวเดินด้วยท่วงท่าที่ สง่า น่าเกรงขาม เป็นบุคลิกทีโ่ ดดเด่นของคนทำงาน ผู้มาดมั่น เพราะในแต่ละวันคุณอาจได้เยื้องกราย ไปหลายสถานที่ เช่น การติดต่องานตามที่ต่างๆ การเข้าห้องประชุม หรือแม้กระทัง่ การไปสัมภาษณ์ งาน เคล็ดลับก็คือให้สร้างความมั่นใจจากภายใน มีสมาธิ สติอยู่กับตัว ไม่เดินอย่างใจลอย หรือเดิน ด้วยความลังเล ก้าวๆ หยุดๆ อย่างไม่มั่นใจ 2. ฝึกฝนด้วยตนเอง หากคุณยังไม่มีความมั่นใจ พอ และมักจะเขินอายเมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ที่ไม่รู้จัก แนะนำให้คุณลองฝึกฝนกับตัวเองหน้า กระจกดู ลองจินตนาการว่าคุณก้าวเข้าไปในงานที่ มีแต่คนแปลกหน้า แล้วฝึกพูดทักทาย แนะนำตัว เองพร้อมรอยยิ้ม แล้วลองหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อดู ท่วงท่าของตัวเองขณะกำลังสนทนากับผู้อื่น 3. อย่าลืมชื่อคน ไม่ต้องตกใจกลัวไป เพราะมี

คนอีกมากมายที่มักจะจำชื่อคนอื่นไม่ค่อยได้จน ทำให้เกิดอาการเสียหน้าได้เหมือนกัน เมื่อคุณเกิด ลืมชื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ลองแก้ไขเหตุการณ์ เฉพาะหน้าด้วยการยอมรับไปเลยว่าคุณลืมชื่อเขา จริงๆ คงจะดีกว่าการเอ่ยทักชื่อผิดออกไปอย่าง แน่นอน 4. เล่าเรื่องได้ดี ควรเล่าหรือแสดงความคิดเห็น ในเรือ่ งทีค่ ณ ุ สนใจและถนัดเท่านัน้ การเล่าในเรือ่ งที่ ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคุณเลย ย่อมทำให้คุณ เล่าได้ไม่ดี และอาจพลอยทำให้ผู้ฟังเบื่อหน่าย การเลือกใช้คำพูดก็สำคัญ ควรเลือกใช้คำพูดและ น้ำเสียงที่ดึงดูดความสนใจ มีจังหวะในการพูด เพียงเท่านี้คุณก็จะกลายเป็นคนที่ใครๆ อยากคุย ด้วย 5. การวางมาด เมือ่ ตืน่ เต้นให้ขม่ ความตืน่ เต้น ความ กลัว และความประหม่า ที่ต้องปรากฏตัวต่อหน้า คนเยอะๆ หรืออยู่ต่อหน้าผู้สนทนาก็ตาม ด้วยการ วางมาดสงบเข้าไว้ สูดหายใจเข้าลึกๆ จะช่วยให้คณ ุ รู้สึกผ่อนคลายและลดความกังวลไปได้ 6. รู้จักวิธีการเจรจา คนทำงานผู้มาดมั่นต้องเป็น

นักเจรจาที่ดีด้วย ซึ่งการเจรจาแบ่งออกเป็น • การเจรจาต่อรองกับลูกค้า คุณควร คำนึงถึงความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย ไม่จ้องแต่ จะเอาเปรียบฝ่ายตรงข้าม ก่อนการเจรจาควรหา ข้อมูลเบื้องลึกของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อเก็บไว้ เป็นข้อมูลในการเจรจาต่อรอง • การเจรจาขอขึ้นเงินเดือนกับเจ้านาย เมื่อคุณมั่นใจในความสามารถของตนเอง ก็จงกล้า ที่จะเดินเข้าไปขอต่อรองเงินเดือน เคล็ดลับก็คือ ควรเริ่มพูดถึงโครงการหรืองานล่าสุดที่คุณทำแล้ว ประสบความสำเร็จ แล้วตบท้ายด้วยคำพูดทำนอง ว่า ท่านเห็นควรจะพิจารณาปรับเงินเดือนขึ้นให้ ผม/ดิฉันหน่อยไหม และควรเอ่ยว่า ช่วยรับไว้ พิจารณาด้วยนะคะ/นะครับ เป็นการปิดท้าย 7. มีอารมณ์ขัน ใครว่าคนทำงานที่น่าเชื่อถือจะ ต้องวางมาดให้เคร่งขรึมตลอดเวลา เพราะอารมณ์ ขันก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่คุณควรจะมีติดตัว เพราะเมื่อคุณยิ้มแย้มแจ่มใส มีอารมณ์ขัน รู้จัก หัวเราะ และเล่าเรื่องขำขันบ้าง ก็จะทำให้คุณเป็น ที่รักใคร่ของคนรอบข้าง


27

4. วิตามินซี - วิตามินซีมีความสามารถใน การตรงเข้าขัดขวางปฏิกิริยาออกซิเดชันของ คอเลสเตอรอลชนิดเลว และยังกระตุน้ การขจัด คอเลสเตอรอลชนิดเลวออกจากร่างกายได้ อีกด้วย ขนาดรับประทานที่แนะนำคือ 150200 กรัมต่อวัน โดยหารับประทานได้จาก ผลไม้รสเปรี้ยวจำพวกเบอรี และผักใบเขียว อย่างบร็อกโคลี 5. เส้นใยอาหาร - สมาคมโรคหัวใจแห่ง สหรัฐอเมริกาแนะนำให้ทานไฟเบอร์ 25-30 กรัมต่อวัน โดยหาได้จากขนมปังโฮลวีต ถั่ว ต่างๆ แอปเปิ้ล และธัญพืชอย่างลูกเดือย ข้าวบาร์เลย์ ซึ่งจะมีสารเบตากลูแคนที่มีผล ต่อการขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกาย ได้ นอกจากนี้ ใยอาหารยังส่งผลดีต่อระบบ ขับถ่ายอีกด้วย 6. ไนอาซีน หรือวิตามินบี 3 - ซึ่งมี สรรพคุณทางยาสำหรับลดคอเลสเตอรอล ในเลือด โดยอาหารที่อุดมด้วยไนอาซีนก็คือ เห็ดชนิดต่างๆ นอกจากนีย้ งั หารับประทานได้ จากไข่ และเครือ่ งในสัตว์ โดยควรรับประทาน ให้ได้ทุกวันในปริมาณไม่จำกัด ยกเว้นไข่ที่ ควรรับประทานไม่เกินวันละ 2 ฟอง 7. กระเทียม - นอกจากจะมีฤทธิ์ในการลด ความดันโลหิต ลดการเกาะตัวกันของลิม่ เลือด เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย และมีผลใน การเป็นสารต้านแบคทีเรียและไวรัสแล้ว ยัง มีหลักฐานทีร่ ะบุวา่ กระเทียมสามารถลดการ สังเคราะห์คอเลสเตอรอลในตับ (75% ของ คอเลสเตอรอลได้จากการสร้างที่ตับ ที่เหลือ เป็นผลจากอาหารทีร่ บั ประทานเข้าไป) ดังนัน้ กระเทียมจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทาง สำหรับผู้ที่ใช้วิธีอื่นในการลดคอเลสเตอรอล แล้วไม่ได้ผล ขนาดที่แนะนำให้รับประทาน คือ 3-4 กลีบต่อวัน หรือกระเทียมสกัด 5002,500 มิลลิกรัมต่อวัน 8. ออกกำลังกาย - สมาคมโรคหัวใจแห่ง สหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ควรออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เพื่อที่จะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอล ที่ดี และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือด หัวใจได้เป็นอย่างดี

WHAT AN AROMA CAN DO? กลิ่นหอมๆ เปรียบเสมือนดอกไม้ที่ให้ ความรูส้ กึ ทีด่ ๆี กับเราและยังช่วยผ่อนคลาย ความเครียด นอกจากนี้ กลิ่นอโรมาบาง ชนิดยังช่วยให้จิตใจสงบหรือครึกครื้นร่าเริง ได้อีกด้วย ลองเลือกกลิ่นที่คุณชอบและ บำบัดจิตใจดูสิ มิ้นต์ ช่วยให้สดชื่นในยามเช้า เจลอาบน้ำ กลิ่นมิ้นต์จะช่วยให้กระปรี้กระเปร่า ขับไล่ ความง่วง ช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียน นอกจากนี้ ความเย็นของกลิ่นมิ้นต์ยังช่วย ให้จิตใจเบิกบานพร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่ ได้อย่างสดใสและมีพลัง มะนาว ช่วยให้มีสมาธิและรู้สึกสดชื่น ลอง หยดน้ ำ มั น หอมระเหยกลิ ่ น มะนาวใน ตะเกียง กลิน่ สดชืน่ ของมะนาวจะช่วยกระตุน้ ให้มีความคิดสร้างสรรค์ สมองปลอดโปร่ง และทำงานผิดพลาดน้อยลง ซึง่ เจ้านายของ คุณต้องชอบแน่ ๆ ส้ม สำหรับยามบ่ายที่คิดอะไรไม่ออก ทั้ง ง่วง ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด น้ำมันหอมระเหย กลิ่นส้มสามารถช่วยได้ โดยการหยดใส่นิ้ว แล้วนวดเบาๆ ที่ขมับหรือฝ่ามือ กลิ่นหวาน อุน่ ๆ จะช่วยให้คณ ุ อารมณ์ดแี ละลดความ เครียด และมีพลังงานในการจัดการกับหน้าที่ การงานต่อไป วานิลลา เมื่อเลิกงานหรือทำงานบ้านเสร็จ เรามักรู้สึกเหนื่อยเพลียและอารมณ์ไม่ดี ซึ่งกลิ่นวานิลลาหอมๆ อ่อนๆ สามารถช่วย ให้คุณรู้สึกสุขสงบ และช่วยให้อารมณ์ แจ่มใสขึ้นได้ ลาเวนเดอร์ ช่วยให้นอนหลับฝันดี หากคุณ เป็นคนที่นอนหลับยาก ลองให้น้ำมันหอม ระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยสิ เพราะกลิ่น ลาเวนเดอร์สามารถช่วยผ่อนคลายให้คุณ ได้ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้ความคิด สงบ และช่วยให้นอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ ข้อแนะนำก็คือ ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่น ลาเวนเดอร์นวดที่แขนและขาอย่างเบาๆ ก่อนนอน

RELATIONSHIP SPICE UP YOUR LOVE LIFE ไม่ว่าตอนนี้คุณจะใช้ชีวิตคู่มานานแค่ ไหนแล้วก็ตาม เรามีวิธีที่จะเรียกคืนพลัง ของช่วง ‘ข้าวใหม่ปลามัน’ กลับมาได้ รีบอ่านด่วน! 1. สร้างระยะห่าง ถึงแม้ความรูส้ กึ ของการ เป็นเพื่อน เป็นคู่ชีวิต และเป็นเพื่อนทาง จิตวิญญาณจะเป็นสิ่งที่อบอุ่นและมั่นคง แต่มนั ก็ไม่ใช่ความรูส้ กึ ทีเ่ ซ็กซีเ่ สมอไป คุณ ต้องรักษาความยากที่จะเข้าใจและความ เป็นอิสระที่คุณเคยมีในตอนพบกันใหม่ๆ เอาไว้บ้าง เพื่อให้เกิดการศึกษากันและกัน ขึ้นอีกครั้ง 2. ค้นพบกันและกันใหม่ ให้คิดว่าเป็น

โอกาสที่จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยอาจจะลองไปออกเดตด้วยกันเหมือน ตอนคบกันใหม่ๆ ก็น่าจะช่วยกู้ความรู้สึก เป็นหนุ่มเป็นสาวกลับมาให้คุณได้อีกครั้ง 3. ช็อกระบบของคุณ ถ้าคุณเคยทำอะไร ที่เป็นกิจวัตรต่อกัน เช่น กินข้าวเย็นที่บ้าน ทุกวัน หรือกลับบ้านเวลานี้ทุกวัน ลอง สร้ า งความประหลาดใจให้ คู ่ ร ั ก ของคุ ณ หน่อยจะเป็นไร เช่น พาไปทานข้าวนอกบ้าน ในร้านที่ไม่เคยไปมาก่อน หรือถ้าไม่เคยส่ง ของขวัญให้เขาในที่ทำงาน ก็ลองจ้างร้าน ดอกไม้ไปส่งให้ดู น่ารักและน่าตื่นเต้น จะตาย!



29

“Luck is believing you’re lucky.” โชค คือการเชื่อว่าตัวคุณเอง โชคดี -Tennessee Williams

“The art of being wise is knowing what to overlook.”

ศิลปะของการเป็นคนฉลาด คือการรูว้ า่ อะไรคือสิง่ ทีค่ วร มองข้ามไป -William James

“The rose is fairest when ’tis budding new, and hope is brightest when it dawns from fears.”

THE WORDS “One heartbreak is like a thousand lessons. Loving again is learning them.”

หัวใจสลายเพียงหนึ่งครั้ง ก็เหมือนการมีหลายพัน บทเรียน ซึ่งการกลับมารักได้อีกครั้งคือการ ได้เรียนรู้ในบทเรียนเหล่านั้น

ดอกกุหลาบจะสวยงามที่สุดยามที่มันเพิ่งจะผลิบาน ความหวังจะเรืองรองที่สุดยามที่มันผุดขึ้นมาท่ามกลางความกลัว -Walter Scott

“To win without risk is to triumph without glory.”

“We won’t have a society if we destroy the environment.” เราคงจะไม่มีสังคม ถ้าเราทำลายสิ่งแวดล้อม

-Sandra McKendry

การชนะโดยไม่ได้เสีย่ ง คือชัยชนะ ทีป่ ราศจากเกียรติยศ -Pierre Corneille

-Margaret Mead

“If we do not plant knowledge when young, it will give us no shade when we are old.”

ถ้าเราไม่ได้ปลูกฝังความรู้เสียตั้งแต่เรายังเด็ก มันก็จะไม่ให้ร่มเงากับเรายามแก่เช่นกัน -Lord Chesterfield

“The best things in life aren’t things.” สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ล้วนไม่ใช่ ‘สิ่ง’ ใดๆ -Art Buchwald


30

THE GUEST

LIFE IS LIKE THE FIREWORK เรื่ อ ง : เอกพล บรรลื อ ภาพ : สุ ท ธิ ล ั ก ษณ์ แถนสี แ สง

ในงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองพัทยา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากเราจะได้ชมพลุหลากสีสันสุดตระการตาแล้ว ที่โดดเด่นไม่แพ้พลุ ลูกไหนๆ ก็เห็นจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการแสดงพลุจากประเทศจีนอย่าง คริสโตเฟอร์ วู ซึ่งส่อง ประกายความสามารถของเขาให้เราได้ชื่นชมไปพร้อมๆ กับการแสดงด้วย ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาหนุ่มคนนี้มาก่อน แต่สำหรับวงการการแสดงพลุ รับรอง ว่าถ้าเอ่ยชื่อ คริสโตเฟอร์ วู จะต้องมีเสียง ‘อ๋อ’ ตามมาอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาเขาเคยเดินทาง ไปแสดงพลุในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งในการเฉลิมฉลองวันชาติแคนาดา การเฉลิมฉลองวันชาติ สหรัฐอเมริกา พิธีเปิดฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ พิธีเปิดงานสเปเชียลโอลิมปิกที่ประเทศจีน หรือแม้แต่ในพิธี เฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เขาเริ่มต้นเล่าถึงจุดเริ่มต้น ของอาชีพนี้ว่า “ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจของครอบครัวครับ ครอบครัวของผมทำพลุมาตั้งแต่ทวดของทวดของทวด (หัวเราะ) ผมถือเป็นรุ่นที่ 5 ต่อจากคุณพ่อซึ่งกำลังจะวางมือในไม่ช้า ตั้งแต่เด็กๆ ผมจำได้ว่าผม ชื่นชอบการออกแบบ ชอบเสียงเพลง และงานศิลปะ แล้วเมื่อมีโอกาสได้ตามคุณพ่อไปแสดงพลุตาม สถานที่ต่างๆ ก็ถือเป็นการสั่งสมประสบการณ์ ทักษะ ได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ จนถึงทุก วันนี้” เราอาจจะคุ้นเคยกับการชมพลุด้วยการแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วชมความตระการตา เมื่อพลุแต่ละลูกแตกตัวออกมากลายเป็นแสงสวยงาม ซึ่งแค่นั้นก็ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจมากพอแล้ว แต่สำหรับนักทำพลุมืออาชีพอย่างคริสโตเฟอร์ เขาบอกว่าแค่นั้นยังไม่พอ เพราะยังขาดส่วนประกอบ ที่สำคัญไปอีกหนึ่งอย่าง “ผมคิดว่าการแสดงพลุที่ดีควรจะต้องมีเพลงมาประกอบการแสดงร่วมกันกับพลุ เพราะมัน จะสามารถสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าการมีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ผมคิดเสมอว่าการแสดงพลุก็เหมือนกับ การแสดงคลาสสิกอย่างบัลเลต์ ที่ต้องผสมผสานระหว่างการเต้นและดนตรีให้สอดคล้องเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกัน สำหรับการแสดงพลุก็เช่นกัน เราต้องอาศัยเพลงเป็นหลักในการออกแบบการแสดงพลุ ทุกๆ ครั้ง เพื่อที่คนดูจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสารได้ชัดเจนขึ้น” สำหรับคนทัว่ ไป การดูพลุไม่ใช่เรือ่ งยาก อาจจะเมือ่ ยคอนิดหน่อย แต่ผลทีไ่ ด้กค็ อื ความตืน่ ตา ตื่นใจ แต่สำหรับนักทำพลุมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะมีขั้นตอนมากมายกว่าจะออกมาเป็นความ สวยงามที่เราได้เห็นกัน ซึ่งคริสโตเฟอร์เล่าให้เราฟังว่า “ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับการแสดงพลุแต่ละครั้งอยู่ที่ตอนเริ่มต้น เนื่องจากเราต้องใช้เพลงเป็น หลัก ถ้าผมไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของเพลงนั้นๆ ได้ หรือตีความเพลงแตกต่างจากที่ลูกค้าต้องการ มันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่จะเริ่มต้นออกแบบการแสดง แต่จากประสบการณ์ที่ผมได้ผ่านการแสดง มาหลายๆ ครั้ง มันทำให้การทำงานง่ายขึ้น แต่ที่สำคัญคือต้องฟังเพลงเยอะๆ ทุกครั้งที่ผมฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงอะไรก็ตาม ผมมักจะอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าถ้าเพลงนี้ถูกใช้ในการแสดง ผมควร จะออกแบบพลุอย่างไร ยิ่งถ้าอยู่ในขั้นตอนของการออกแบบการแสดง ผมก็จะยิ่งฟังเพลงนั้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า บางทีฟังจนเผลอหลับไปเลย (หัวเราะ) ยิ่งฟังบ่อยเราก็จะยิ่งมีจินตนาการเกี่ยวกับเพลงนั้นๆ

ที่เหลือก็คือการสื่อความรู้สึกที่เรามีต่อเพลงนั้นออกมาได้ดีที่สุดเท่านั้นเอง” สำหรับคนทั่วไป การจุดพลุอาจจะหมายถึงความรู้สึกรื่นเริง และการเฉลิมฉลอง แต่สำหรับ นักทำพลุอย่างคริสโตเฟอร์ สิ่งที่เขารู้สึกเกี่ยวกับพลุย่อมแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ถ้าพูดตรงๆ ก็คอื เวลาทีผ่ มดูพลุ ผมจะไม่คดิ ถึงอะไรเลย โดยเฉพาะเวลาทีผ่ มดูโชว์ของตัวเอง และของนักทำพลุคนอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วผมจะให้ความสนใจกับเทคนิคของการโชว์ คุณภาพ ของการแสดง แสงสีของพลุ และเวลาของดนตรีมากกว่า ผมไม่สามารถดูการแสดงพลุในแบบที่คน ทัว่ ไปดูได้อกี ต่อไป เช่นเดียวกับเวลาทีผ่ มดูหนัง โดยเฉพาะฉากทีม่ เี อฟเฟ็กต์ระเบิด ผมจะไม่ตน่ื เต้นนัก เพราะเวลาที่ผมดูฉากเหล่านั้น ผมจะรู้ว่ากระบวนการทำงานของเขาเป็นอย่างไร เหมือนการดูพลุ ผมไม่จำเป็นต้องดูเพื่อความสนุกสนานก็ได้ เพราะฉะนั้น การดูพลุสำหรับผมมันเป็นเหมือนการ ทำวิจัยอยู่ตลอดเวลา (หัวเราะ)” แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยรู้สึกสนุกกับการแสดงพลุเอาเสียเลย เพราะถึงอย่างไรพลุก็ย่อมจะ เป็นความบันเทิงสำหรับทุกคน ซึ่งเขาเล่าให้เราฟังถึงการแสดงพลุที่เขารู้สึกประทับใจมากที่สุดว่า “ตอนนั้นคุณพ่อผมได้เข้าร่วมการแข่งขันการแสดงพลุในฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ตอนนั้น ผมอายุประมาณ 11 ขวบ ซึ่งถือเป็นการแสดงพลุครั้งแรกๆ ที่ผมมีโอกาสได้ไปชม ผมจำได้ว่า เป็นการแสดงพลุจากทีมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งโชว์ของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งทำให้เด็กอย่างผมขนลุกได้ตั้งแต่ต้นจนจบการแสดง เป็นการแสดงที่น่าประทับใจมาก ซึ่งตอนนั้น ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพลุมาก่อน ผมแค่ดูพลุบนท้องฟ้า และคล้อยตามกับเพลงเท่านั้นเอง” เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ‘ดังเป็นพลุแตก’ ซึ่งคริสโตเฟอร์ไม่ได้บอกเราหรอกว่า เสียงระเบิดของพลุแต่ละลูกนั้นดังขนาดไหน แต่เราเชื่อว่า มันคงดังมากจนนักทำพลุอย่างเขาต้องหา เวลาอยู่เงียบๆ เพื่อพักผ่อนเลยทีเดียว “ความเงียบกลายเป็นสิง่ ทีด่ สี ำหรับผม ถ้ามีเวลาว่าง ผมมักจะใช้เวลาเงียบๆ ในการอ่านหนังสือ และพักผ่อนอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ ผมยังชอบขับรถเร็วๆ ด้วย เพราะตอนที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง ผมจะไม่คิดถึงเรื่องอะไรเลย และร่างกายของผมก็จะตอบสนองต่อทุกๆ สิ่งที่อยู่บนถนนเบื้องหน้า เท่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับผม” เราหยอดคำถามให้เขาคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะใช้เพลงแนวไหนมาประกอบกับ การแสดงพลุมากที่สุด และคำตอบที่ได้ก็คือ “ผมคิดว่าคงจะสนุกมากถ้าจะใช้เพลงฮิพฮอพมาประกอบการแสดงพลุ (หัวเราะ) แต่มันก็ คงจะยากมากเช่นกัน เพราะทั้งจังหวะ ทั้งทำนองของมัน ทำให้ผมนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าการ แสดงจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะผมยังไม่เคยลองทำพลุกับเพลงแนวนี้มาก่อน ผมยังทึ่งเสมอเวลา ทีไ่ ด้เห็นคนออกแบบพลุให้เข้ากับเพลงอินเดีย เพราะมันมีจงั หวะทีเ่ ร็วมาก แต่บางทีนกั ทำพลุชาวอินเดีย อาจจะทำได้ เพราะเขาเข้าใจอารมณ์ของเพลงนั้นๆ มากกว่าผม” สุดท้ายเราถามเขาว่า เขารู้สึกอย่างไรกับอาชีพนักทำพลุ “ผมแค่รักอาชีพนี้... เท่านั้นเอง”

ËÅÒ¡ËÅÒÂ¤Ó ·Õèà¡Ô´¢Öé¹µÅÍ´àʶÒÁ Œ¹·Ò áË‹§¤ÇÒÁÃÑ¡ § ÃÐËÇ‹Ò§ªÒÂ-ËÞ »ÃÐà´ç¹àÃ×èͧ¨ÃÔ§ Ô§ ¢Í ·Õèã¤Ãæ ¡çÍÂÒ¡Ã §ã¨ ÙŒ

ÍÍ¡ÍÒ¡ÒÈ·Ø¡Çѹ¨Ñ¹·Ã -ÈØ¡Ã àÇÅÒ 18.00-18.30 ¹. ·Ò§ Modernni ne TV ¼ÅÔµâ´Â ºÃÔÉÑ· ÍԹ䫷 ÍÔ¹ â¿ ¨Ó¡Ñ´


31 AD The mall Be trend.pdf 1 16/8/2553 17:32:15

C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K


สัมภาษณ์ : สิรินพร จึงพิทักษ์อุดม ถ่ายภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร, สลัก แก้วเชื้อ

โลกร้อน น้ำมันแพง น้ำแข็งขัว้ โลกละลาย พลังงานใกล้หมดไปจากโลก! - เหล่านี้คือปัญหาใหญ่ ของโลกที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข เพราะใน ขณะทีจ่ ำนวนประชากรโลกพุง่ สูงขึน้ อย่างรวดเร็ว ความต้องการในการใช้พลังงานเพื่อการดำรง ชีวิตก็ย่อมทะยานขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นในด้านการ อยู่อาศัย ที่ทั้งบ้านเรือนหรือคอนโดฯ ต่างก็ต้อง

ใช้พลังงานน้ำและไฟฟ้าจำนวนมาก ไม่ตอ้ งพูดถึง อาคารใหญ่ๆ หรือสำนักงานที่สูงเสียดฟ้า เพราะ นัน่ ถือเป็นแหล่งรวมคน เมือ่ มีคนหลายร้อยหลายพัน รวมตัวกันอยูใ่ นทีใ่ ดทีห่ นึง่ วันละไม่ตำ่ กว่า 8 ชัว่ โมง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน) ก็ลองคิดดูแล้วกันว่าจะต้องใช้พลังงานกันมาก เท่าไหร่ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ในบ้านเรารวมไปถึงนานา

บทสัมภาษณ์ เกชา ธีระโกเมน

เลขาธิ ก ารวิ ศ วกรรมสถานแห่ ง ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหนึ่งในกรรมการผู้ทรงวุฒิของ โครงการ BEAT 2010

ประเทศจะหั น มากระตุ้ น ให้ ป ระชาชนประหยั ด พลังงานก็แล้ว มีการคิดค้นเพือ่ นำพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือกมาให้ใช้กแ็ ล้ว วิกฤตการณ์ ทางด้านพลังงานก็ยังคงรุนแรงอยู่ และนี่คือที่มาของ Feature ชิ้นนี้ ที่จะขอทำ หน้าที่บอกกล่าวกับคุณทุกคนว่า ถึงเวลาแล้วที่ เราจะต้ อ งหั น มาใส่ ใ จในเรื่ อ งนี้ กั น อย่ า งจริ ง จั ง

ด้วยการนำเสนอ ‘โครงการสร้างขุมกำลังบุคลากร ด้านการอนุรักษ์พลังงานเพื่อปรับปรุงประสิ ท ธิ ภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ Building Energy Awards of Thailand 2010 (BEAT 2010) ทีจ่ ดั ขึน้ โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ที่มีจุดประสงค์ในการกระตุ้น จิตสำนึกในการอนุรกั ษ์พลังงานของคนไทยทุกคน

TALKING WITH ENGINEER อะไรคือความหมายของคำว่า ‘วิศวกรรมเพื่อ การประหยัดพลังงาน’ และอยากให้ยกตัวอย่าง ด้วยว่า ขอบข่ายของงานวิศวกรรมแบบนีค้ อื อะไร คนที่เป็นวิศวกรจะต้องดูแลในเรื่องอะไรบ้าง โลกทุกวันนี้การประหยัดพลังงานเป็น ความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไปแล้ว เพราะ พลังงานนับวันจะหายากและมีราคาแพง ประกอบ กั บ ภาวะโลกร้ อ นที ่ น ั บ วั นจะยิ ่ ง วิ ก ฤตมากขึ ้ น ด้วยเหตุนี้ งานวิศวกรรมสมัยใหม่จึงต้องเน้นใน เรือ่ งของการประหยัดพลังงาน โดย ‘งานวิศวกรรม เพือ่ การประหยัดพลังงาน’ ถือเป็นสหวิทยาการของ สาขาวิศวกรรมหลายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาขาเครือ่ งกล ไฟฟ้า และสิง่ แวดล้อม โดยคนที่ เป็นวิศวกรมีหน้าทีช่ ว่ ยออกแบบให้อาคารมีการใช้ พลังงานให้นอ้ ยทีส่ ดุ หากเป็นอาคารทีม่ กี ารปรับ อากาศ ก็ตอ้ งใช้เครือ่ งปรับอากาศทีม่ ขี นาดเล็ก ทีส่ ดุ วิศวกรไฟฟ้าก็จะช่วยในเรือ่ งการใช้แสงสว่าง ให้มปี ระสิทธิภาพ วิศวกรสิง่ แวดล้อมก็จะช่วยใน เรื่องการประหยัดน้ำ การนำน้ำกลับมาใช้ และ เรือ่ งการจัดการขยะ เป็นต้น วิศวกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานสามารถนำ ไปใช้ได้กับบ้านที่สร้างขึ้นมาอยู่แล้วหรือบ้านที่ กำลังจะก่อสร้างใหม่ได้มากกว่ากัน และถ้าเป็น บ้านที่สร้างมาแล้วหลายปีและต้องการจะปรับ เปลี่ยนให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน วิศวกรรม เพื่อการประหยัดพลังงานสามารถมีส่วนเข้ามา ช่วยได้หรือไม่ ไม่วา่ จะเป็นบ้านเก่าหรือบ้านใหม่กส็ ามารถ ปรับปรุงให้ประหยัดพลังงานได้ แม้กระทัง่ บ้านไม้ ทรงไทย บ้านก่ออิฐฉาบปูนแบบเดิม หากจะติด แอร์โดยใช้แอร์เครือ่ งเล็กๆ ก็ทำได้ บ้านประหยัด พลังงานไม่มีข้อจำกัดในเรื่องรูปทรง แม้กระทั่ง บ้านทีม่ ปี ญ ั หาในการรับแดดก็แก้ไขได้ สำหรับคน ที ่ ช อบเรื ่ อ งการระบายอากาศตามธรรมชาติ ก็ทำให้เป็นบ้านแบบ Passive (แบบบ้านที่เน้น การพึ่งพาระบบธรรมชาติ) ที่ดีได้ หรือจะเป็น แบบผสมผสาน (Hybrid) ที่เอาการออกแบบแบบ Passive และ Active (บ้านที่มุ่งเน้นการใช้ระบบ เครื่องกลเพื่อประหยัดพลังงาน) ก็ได้ ระหว่างอาคารใหญ่กบั บ้านเรือน อย่างไหนสามารถ พัฒนาการออกแบบตกแต่งให้ประหยัดพลังงาน ได้ยากง่ายกว่ากัน ไม่วา่ จะเป็นบ้านซึง่ ก็คอื อาคารขนาดเล็ก และอาคารขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับปรุงให้ประหยัด

พลังงานได้ทั้งนั้น ส่วนความยากอยู่ที่ในระหว่าง การปรับปรุงจะต้องมีการย้ายออก แต่หลังจาก การปรับปรุงแล้วจะเห็นได้ชัดว่าค่าไฟฟ้าลดลง และอยูส่ บายขึน้ คุณคิดว่าอะไรคือ ‘วิศวกรรมพื้นฐานที่ดี’ ที่บ้าน ทุกบ้านหรืออาคารทุกอาคารควรมี หรือควรจะ คำนึงถึงในการก่อสร้าง เพือ่ ช่วยในการประหยัด พลังงาน ผมมองว่าอาคารทุกอาคารต้องมีพน้ื ฐาน ทีป่ ระโยชน์ใช้สอย และระบบต่างๆ จะต้องจัดให้ สามารถสนองตอบต่อประโยชน์ใช้สอยให้ดีที่สุด ในเรื่องของการประหยัดพลังงานจะต้องคำนึงถึง จำนวนชัว่ โมงการใช้งานด้วย เพราะไม่มปี ระโยชน์ อะไรที่จะลงทุนใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานกับ ห้องที่ไม่ค่อยต้องเปิดไฟ ห้องที่ควรลงทุนติดตั้ง ฉนวนป้องกันความร้อนก็ควรเป็นห้องทีใ่ ช้งานเป็น จำนวนชัว่ โมงมากๆ เช่น ห้องนอน ยิง่ ถ้าต้องติด แอร์ การลงทุนเรือ่ งฉนวนป้องกันความร้อนก็ยง่ิ คุม้ ค่า เพราะจะได้ประโยชน์หลายต่อ คือจะทำให้ ค่าเครือ่ งแอร์ลดลง ประหยัดไฟฟ้า และได้ความ เย็นสม่ำเสมอ เปิดแอร์แล้วเย็นทันที ไม่ตอ้ งรอนาน ตามทั ศ นคติ ข องคุ ณ แล้ ว คิ ด ว่ า ในเมื อ งไทย กระแสของวิศวกรรมเพื่อการประหยัดพลังงาน เป็นอย่างไร สามารถเทียบเท่านานาประเทศได้ หรือไม่ หรือมีจดุ บกพร่องใดทีค่ วรเร่งพัฒนาบ้าง และหากมองในระยะยาว วิศวกรรมเพือ่ การประหยัด พลังงานในบ้านเราสามารถที่จะพัฒนาให้ยั่งยืน ได้หรือไม่ ไม่นานมานีเ้ พิง่ มีคนมาปรึกษาผมในเรือ่ ง นีเ้ หมือนกัน เขามีลกู เป็นวิศวกรและกำลังมีแผน จะไปเรียนต่อ ผมก็แนะนำให้เรียนสาขาพลังงาน และสิง่ แวดล้อม เพราะผมมองว่าสาขานีเ้ ป็นสาขา ทีก่ ำลังโตและจะโตอีกมาก ส่วนสาขาเดิมๆ นัน้ ถึง ทางตันแล้ว สำหรับตลาดในเมืองไทยก็ไม่แตกต่าง อนาคตของโลกขึ้นกับการจัดการพลังงานและ สิง่ แวดล้อมอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบันวิศวกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานใน บ้านเรานับว่ายังอยูใ่ นยุคเริม่ ต้น จึงย่อมมีปญ ั หา อุปสรรค และความไม่เข้าใจ แม้กระทัง่ ใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมพลังงานก็ยงั ไม่ม ี ยุคนี้ จึงเป็นยุคทีย่ งั ต้องพัฒนาต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็เป็นยุคของโอกาสที่เปิดกว้างให้วิศวกรได้เรียนรู้ และปรับตัวไปตามโลกด้วย ในการออกแบบบ้ า นหรื อ อาคารในปั จ จุ บั น


โดยก่อนที่เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ โครงการ BEAT 2010 เรามีบทสัมภาษณ์ดีๆ ที่ เราได้ ท ำการติ ด ต่ อ ขอสั ม ภาษณ์ ท างอี เ มลกั บ เกชา ธีระโกเมน หนึ่งในกรรมการผู้ทรงวุฒิของ โครงการ BEAT 2010 และเลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่จะ มาไขข้อข้องใจให้กับเราว่า เพราะอะไรเราจึงควร หันมาใส่ใจต่อการประหยัดพลังงานภายในอาคาร และทีอ่ ยูอ่ าศัย รวมไปถึงบทความเนือ้ หาเยีย่ มสมชื่อ ของ ยอดเยีย่ ม เทพธรานนท์ สถาปนิกผูเ้ ชีย่ วชาญ เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ของโครงการ BEAT 2010 เช่นกัน และยังดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาสมาคมสถาปนิกสยาม ใน พระบรมราชูปถัมภ์ ทีจ่ ะมาช่วยตอกย้ำให้กบั เราว่า ‘หากเราต้องการมีชวี ติ อยูใ่ นโลกทีน่ า่ อยู่ ต้องช่วยกัน ประหยัดพลังงาน’ - แล้วคุณจะรูว้ า่ นีไ่ ม่ใช่เรือ่ งเล่นๆ!

วิศวกรส่วนใหญ่มักมีการสอบถามถึงไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคก่อนเพื่อการออกแบบที่ตอบโจทย์ ที่สุด แต่ถ้าหากว่าไลฟ์สไตล์นั้นๆ หรือความ ต้องการของเจ้าของบ้านไม่เป็นการเอื้อต่อการ ประหยัดพลังงาน วิศวกรจะมีวธิ กี ารสร้างสมดุล ระหว่ า งไลฟ์ ส ไตล์ แ ละความจำเป็ น ในการ ออกแบบอาคารประหยัดพลังงานได้อย่างไร คำถามนีส้ ะใจมาก! เพราะไลฟ์สไตล์เป็น คุณลักษณะเฉพาะตัวและเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้แม้กระทั่งคนเดิม เมือ่ เวลาเปลีย่ นไป ไลฟ์สไตล์กม็ กั จะเปลีย่ นตาม บ้านหลังหนึ่งยังมีพ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายาย ที่มี ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ในมุมนี้อาจจะกล่าวได้ว่า การออกแบบบ้ า นนั ้ น ยากกว่ า การออกแบบ อาคารขนาดใหญ่ ผู้ออกแบบจะต้องสามารถ กำหนดไลฟ์สไตล์ของ ‘บ้าน’ ให้มาบรรจบกับ การประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว ยังดีที่ใน ปั จ จุ บ ั น เมื ่ อ พู ด ถึ ง เรื ่ อ งการประหยัดพลังงาน ทุกคนในบ้านก็จะเข้าใจถึงความจำเป็นและให้ ความร่วมมืออยู่แล้ว อะไรคือข้อดีที่สุดของการนำวิศวกรรมเพื่อการ ประหยัดพลังงานมาใช้ ข้อดีที่ดีที่สุดคือบ้านประหยัดพลังงาน คือ ‘บ้านทีอ่ ยูร่ ม่ เย็นเป็นสุข’ ซึง่ เป็นบ้านในฝันของ ทุกคน เพราะบ้านประหยัดพลังงานสามารถ ป้องกันความร้อนได้ดจี งึ ร่มเย็น และเพราะบ้าน ประหยัดพลังงานทำให้สน้ิ เปลืองน้อยลง จึงทำให้ อยูอ่ ย่างเบาภาระในระยะยาว และทำให้สมาชิก ในบ้านเป็นสุขตลอดไป ความแตกต่ า งระหว่ า งวิ ศ วกรรมเพื่ อ การ ประหยัดพลังงาน กับสถาปัตยกรรมเพื่อการ ประหยัดพลังงาน คืออะไร เป็นคำถามทีส่ ะใจอีกแล้ว เพราะผมมัก จะพูดอยู่เสมอว่าไม่ควรแบ่งแยกสถาปนิกกับ วิศวกร การออกแบบอาคารให้ได้ดเี ป็นสหวิทยาการ อย่างที่ได้กล่าวแล้วเรื่องของพลังงานก็เป็นสหวิทยาการ อาคารเขียวก็เป็นสหวิทยาการ ดังนัน้ การออกแบบบ้านและอาคารประหยัดพลังงาน จึงเป็นการออกแบบเชิงบูรณาการ ความจริง วิ ศ วกรรมเพื ่ อ การประหยั ด พลั ง งานและ สถาปัตยกรรมเพือ่ การประหยัดพลังงานก็คอื เรือ่ ง เดียวกัน

FROM THE ARCHITECT โลกเปลีย่ น สังคมเปลีย่ น วิถเี ปลีย่ น... บ้านเรือนและสถาปัตยกรรมก็ตอ้ งเปลีย่ นไป... ไม่เปลีย่ นไม่ได้แล้ว ไม่ปรับไม่ได้แล้ว... หากค่อยๆ พิจารณาสรรพสิง่ ทัง้ หลายรอบๆ ตัวเรา จะเห็นว่าหลายสิง่ หลายอย่างเปลีย่ นไป มากมายและรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 10 ปีทผ่ี า่ นมา จึงมีคำถามมาถึงสถาปนิกอย่างผมเสมอๆ ว่า อาคารบ้านเรือนในทศวรรษหน้า จะเป็นอย่างไร ซึง่ คำถามคงไม่ได้หมายความว่า อาคารบ้านเรือนต่อไปจะมีรปู ทรงอย่างใด จะโค้งหรือจะเหลีย่ ม แต่คำถามคงต้องการภาพกว้าง ภาพรวมว่า เราจะเตรียมการอย่างไรสำหรับบ้านและอาคารในทศวรรษหน้า ซึง่ คำตอบก่อนจะฟันธงคงจะต้องหา ‘เหตุและปัจจัย’ ของ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในเร็ววันนี้ของเมืองไทยสรุปแบบเร่งด่วนได้ 5 ประการ ที่จะมีผลต่อ อาคารบ้านเรือน ดังนี้ 1. เทคโนโลยีจะมีประสิทธิภาพมากขึน้ รวดเร็วขึน้ และเล็กลง 2. พลังงานจะเป็นสิง่ ทีห่ ายากและมีคา่ มากขึน้ อย่างนึกไม่ถงึ ซึง่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยงั ไม่เปิดแน่นอน! 3. ประชากรไทยจะมีการเพิม่ แบบถดถอย เด็กน้อยลง คนชราจะมากขึน้ 4. การกลับสูธ่ รรมชาติจะมากขึน้ หลังจากมนุษย์ใช้เทคโนโลยี และฝืนพลังแห่งธรรมชาติมานาน 5. สังคมวัตถุนยิ มในบางจุดจะรุนแรงขึน้ การป้องกันชีวติ และทรัพย์สนิ จึงเป็นสิง่ จำเป็นมากขึน้ ซึง่ ผลจากเหตุและปัจจัย 5 ประการ ดังกล่าว หากมีการคาดหมายว่าอาคารบ้านเรือนในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็ได้คำตอบออกมา 10 ข้อ ดังนี้ 1. อาคารจะสามารถตรวจสอบตัวเองมากขึน้ เพือ่ ประหยัดพลังงาน และป้องกันโจร 2. อาคารจะใช้วสั ดุสำเร็จรูปมากขึน้ เพราะต้องการประหยัดแรงงานและการขนส่ง 3. อาคารจะใช้วสั ดุทเ่ี ป็นมิตรกับธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมมากขึน้ ซึง่ เป็นกระแสและเป็นความจำเป็น 4. อาคารจะเป็นมิตรกับเด็ก คนชรา และผูพ้ กิ ารมากขึน้ ตามค่าและจำนวนของประชากร 5. อาคารจะต้องประหยัดพลังงานมากขึน้ เพราะพลังงานจะกลายเป็นสิง่ น่าหวงแหน 6. อาคารจะมี Roof Garden มากขึน้ เพราะต้องการความเขียวและเป็นฉนวนกันความร้อน 7. อาคารจะต้องบำรุงรักษาง่ายขึน้ เพราะแรงงานขาดแคลน 8. อาคารจะมีขนาดต่อคนใช้เล็กลง เพราะความหนาแน่นของเมืองและประหยัดสาธารณูปโภค 9. อาคารต่อไปจะต้องมีกฎหมายให้ตดิ ตัง้ โซลาเซลล์ หรือแหล่งผลิตพลังงาน ดังทีห่ ลายๆ ประเทศทำ 10. อืน่ ๆ เช่น บ้านจะมีตเู้ ย็นขนาดใหญ่ขน้ึ เพราะอาหารแช่แข็งมีคณ ุ ภาพมากขึน้ และคนไม่มเี วลาสบายๆ ไปจ่ายตลาดทุกวัน บ้านจะมี ทีเ่ ก็บของเป็นระบบมากขึน้ เพราะพืน้ ทีน่ อ้ ยลง การบริหารจัดการพลังงานเป็นเรือ่ งจำเป็น บ้านจะมีสวนสมุนไพรมากขึน้ เพราะคนจะกลับ สูธ่ รรมชาติมากขึน้ บ้านจัดสรรบางแห่งจะใช้ระบบเครือ่ งปรับอากาศรวมเพือ่ ประหยัดพลังงาน บ้านจัดสรรบางแห่งจะไม่ให้รถยนต์เข้าเพือ่ ลดมลภาวะ เครือ่ งรีดความชืน้ จะนิยมมากขึน้ เพราะต้องการประหยัดพลังงาน และเป็นผลดีตอ่ สุขภาพ ส่วนความคาดหมายข้ออืน่ ๆ ก็เชิญเติมคำในช่องว่างต่อได้เลย…………… และหากเราค่อยๆ พิจารณาถึงเหตุและปัจจัย 5 ประการ และผลที่คาดหมายอีก 10 ข้อข้างต้นแล้ว ก็อาจจะเกิดคำถามตามมาอีกได้ว่า แล้วเราจะใช้วิธีใดในการรับมือ ซึ่งสามารถแยกประเด็นออกได้เป็น 2 ประเด็น เพื่อการปฏิบัติก็คือ 1. สิง่ ทีเ่ ราไม่สามารทำได้เอง ไม่สามารถควบคุมได้ และไม่สามารถสัง่ การได้โดยตรง สิง่ เหล่านัน้ ก็คอื การห้ามแก่เฒ่า ห้ามพิการ หรือเร่งรัดให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ ห้ามโจร มาปล้นบ้าน ห้ามน้ำท่วม ห้ามโลกร้อน ห้ามน้ำแข็งละลาย ห้ามแผ่นดินไหว ฯลฯ 2. สิ่งที่เราสามารถทำเองได้ ควบคุมได้ สั่งการได้ สิ่งเหล่านี้ก็คือ การปลูกต้นไม้ การรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน ฯลฯ หากเราต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกที่น่าอยู่ ก็คงต้องเริ่มต้นที่ตัวของเราเอง เริ่มทำในสิ่งที่เราทำได้ก่อน และต้องเริ่มทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยการช่วยกัน รักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยกันปลูกและรักษาต้นไม้ และเราต้องช่วยกัน ประหยัดพลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อม

บทความพิเศษจาก ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์

ทีป่ รึกษาสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ ประธานคณะกรรมการผูท้ รงคุณวุฒ ิ ของโครงการ BEAT 2010


WHAT IS

BEAT 2010? เรียบเรียง : สิรินพร จึงพิทักษ์อุดม

DID YOU KNOW?

ก่อนทีจ่ ะไปติดตามการแข่งขันของบรรดาห้างร้านและองค์กรต่างๆ ของไทยทีเ่ ข้าร่วม แข่งขันกันประหยัดพลังงานภายในอาคาร เรามาดูกันดีกว่าว่า ในระดับโลกนั้นมีองค์กร บิ๊กเบิ้มรายไหนบ้างที่มีหัวใจสีเขียว โดยมีการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เหมาะต่อสภาวะของโลก ในปัจจุบัน แล้วคุณจะรู้ว่าวิธีการเซฟพลังงานในสำนักงานนั้นไม่ ได้มีแค่การปิดน้ำปิดไฟ เมื่อไม่ใช้ หรือขึ้นบันไดแทนลิฟต์เท่านั้น 1. ธนาคารฮ่องกง ทำจากกระดาษหรือไม่ก็เยื่อไม้ ทำให้ในปี 2005 และเซีย่ งไฮ้ หรือ HSBC แมคโดนัลด์สามารถลดปริมาณกล่องเฟรนช์ฟรายส์

HSBC พยายามหาวิธี ต่างๆ และ วางแผนอย่างละเอียดเพื่อลด การใช้ พ ลั ง งานในองค์ ก ร เช่น ออกนโยบายหลีกเลีย่ ง การทำงานนอกเวลาของ พนักงานกว่า 10,000 สาขา ใน 83 ประเทศทัว่ โลก เพือ่ ประหยัดพลังงานไฟฟ้าและน้ำ นอกจากนี ้ HSBC ยังมีสำนักงานที่ ปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ Zero Carbon Emissions แห่งแรกของโลก คือที่กรีซและ นิวยอร์ก ซึ่งติดตั้งแผงผลิตกระแสไฟฟ้าจาก พลังงานแสงอาทิตย์ ดึงความร้อนจากใต้พิภพ มาใช้ และติดตั้งที่เก็บกักน้ำฝนเพื่อนำมาใช้ หมุนเวียนภายในอาคาร

ในอเมริกาได้ถึง 1,100 ตัน ส่วนภารกิจ ลดก๊าซเรือนกระจกก็เป็นอีกหนึง่ งาน ทีแ่ มคโดนัลด์ทำอย่างแข็งขันด้วย มาตรการต่างๆ เช่น เพิม่ ฉนวน ป้ อ งกั น ความร้ อ นเข้าสู่ตัว อาคาร และการออกแบบตึก ให้ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานของ LEED: Leadership in Energy and Environmental Design โดยได้เริ่มสร้างแห่งแรก แล้วที่เมืองซาวานนาห์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

องค์กร ระดับโลกที่ใส่ใจ ต่อการประหยัด พลังงานภายใน อาคาร

2. Google

4. Starbucks

สำนั ก งานใหญ่ สตาร์บกั ส์ เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้รางวัลรับรอง LEED Gold จาก Leadership in Energy and Environmental Design ที่ให้กับอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั่วโลก เนื่องจากสตาร์บักส์พยายามประหยัด พลังงานภายในอาคารให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะ เป็นการใช้หลอดประหยัดไฟ สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ (ก๊อกน้ำแบบ Low-Flow ที่ทำให้น้ำไหลช้า) และ มีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนถึง 31%

Google เริ่มก้าว แ ร ก ของการประหยั ด พลั ง งานในองค์ ก รด้ ว ย การร่วมกับองค์กร The Environmental Resources Trust ให้ตรวจสอบว่า บริษัท Google ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเท่าใด โดยอาคารสำนักงานใหญ่ของ Google ในแคลิ5. Staples ฟอร์เนียก็สนับสนุนการใช้วสั ดุรไี ซเคิลอย่างสุดตัว Staples บริษัท เช่น ไม้จากป่าปลูก ทาสีที่เป็นออร์แกนิก ใช้ผ้า ขายเครื ่ อ งใช้ ส ำนั ก งาน ยีนรีไซเคิลมาเป็นวัสดุป้องกันเสียง เก้าอี้นั่งใน สัญชาติอเมริกัน ลงทุน บริษทั ก็ใช้ของรีไซเคิลมากถึง 92% นอกจากนี้ ยัง สร้ า งโรงไฟฟ้ า พลั ง งาน ได้ ต ิ ด ตั ้ ง แผงโซลาร์ เซลล์ ข นาดใหญ่ ม ากกว่ า แสงอาทิตย์ (Solar Farm) ของตัวเองขึ้นที่ New 9,000 แผง ทีใ่ ห้พลังงานถึง 1.6 เมกะวัตต์ ถือเป็น England รัฐคอนเนตทิคัต นอกจากนี้ยังสร้าง 30% ของพลังงานทีใ่ ช้ในสำนักงาน Superstore ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จที่ 3. McDonald’s ไมอามี รัฐฟลอริดา จากความช่วยเหลือของ LEED: แมคโดนัลด์ดูแล Leadership in Energy and Environmental บริ ษ ั ท ให้ เป็ น มิ ต รต่ อ สิ ่ ง Design โดยภายในอาคารมีระบบเก็บกักน้ำจาก แวดล้อมในด้านบรรจุภณ ั ฑ์ หลังคาไปใช้สำหรับโถชักโครก และมีการผลิต ลดการสร้างของเสีย และ ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย รีไซเคิล โดยกว่า 83% ของแพ็กเกจบรรจุอาหาร

ยังจำกันได้ไหมกับโฆษณาทีม่ คี ณ ุ ลุงท่าทางใจดีมาสวมบท ‘อาเม้ง’ เมือ่ สิบกว่าปีทแี่ ล้ว ที่มีบทกลอนให้เราคนไทยท่องกันจนขึ้นใจในขณะนั้นว่า “ป.ปลา นั้นหายาก ต้องลำบาก ออกเรือไป ขนส่งจากแดนไกล ใช้น้ำแข็งเปลืองน้ำมัน...” นั่นไม่ได้เป็นเพียงโฆษณาขำๆ ชิ้น หนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการรณรงค์ครั้งใหญ่ภายในประเทศผ่านสื่อโทรทัศน์ เพื่อสร้างจิตสำนึก ให้คนไทยทั้งชาติรู้คุณค่าของพลังงาน และรู้จักใช้อย่างประหยัด โดยมีสำนักงานนโยบาย และแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เป็นเจ้าภาพหลักในการสร้างแคมเปญ ประชาสัมพันธ์ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘รวมพลัง หารสอง คิดก่อนใช้’ และหลังจากแคมเปญ ดังกล่าวดังกระฉ่อนไปทัว่ ประเทศภายในระยะเวลาอันสัน้ ก็ทำให้เกิดกระแสการลดใช้พลังงาน ของประชาชนตามมา รวมถึงมีโครงการรณรงค์ในรูปแบบนี้ออกมาอีกหลายโครงการ เช่น ประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ผ่านมาหลายปีจนดูเหมือนว่ากระแสการประหยัดพลังงานของคนไทยเราเริ่มจะ จางหายไปอีกครั้ง ในขณะที่นานาประเทศต่างก็ตื่นตัวช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างเสริมจิตสำนึกที่ดีในการลดใช้พลังงาน โดยมีจุดประสงค์สูงสุดก็เพื่อความยั่งยืน ของสภาพแวดล้อมบนโลกใบนี้ ด้วยเหตุนี้ ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จึงได้

อาคารทีเ่ ข้าร่วมโครงการ BEAT 2010 (จำนวน 17 + 2 อาคาร) ประเภท ห้างสรรพสินค้า

9

10

จำนวน 2 อาคาร

2

1

1. ห้างสรรพสินค้า

15

สยามพารากอน

2. ห้างสรรพสินค้า

เซ็นทรัลเวิลด์

4

5

3

12

14

ประเภทโรง พยาบาล

จำนวน 3 อาคาร 3. โรงพยาบาล รามาธิบดี 4. โรงพยาบาล กรุงเทพ 5. โรงพยาบาลบ้านแพ้ว

ประเภทโรงเรียน

จำนวน 3 อาคาร 6. โรงเรียน เตรียมอุดมศึกษา 7. โรงเรียน สวนกุหลาบวิทยาลัย 8. โรงเรียน สตรีวิทยา

ประเภท มหาวิทยาลัย

จำนวน 4 อาคาร 9. จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย 10. มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ 11. มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ 12. มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ

35%

อาคารต่างๆ ใช้พลังงานไฟฟ้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 35 หรือ 1 ใน 3 ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ

800,000,000,000

8 แสนล้านบาท คือมูลค่าการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ มาใช้ในแต่ละปีของประเทศไทย

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการนโยบายและ แผนพลังงานของประเทศ หรือเพือ่ ให้เข้าใจง่ายกว่านีก้ ค็ อื สนพ. ถือเป็นองค์กรทีด่ ำเนินการ เสนอ ศึกษา วางแผนนโยบาย ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การ ใช้พลังงานของประเทศเราเป็นไปอย่างประหยัด คุ้มค่า ขณะเดียวกันก็ยังต้องมองหาลู่ทางใน

11

1


จัดโครงการ ‘สร้างขุมกำลังบุคลากรด้านการอนุรกั ษ์พลังงานเพือ่ ปรับปรุงประสิทธิภาพ การใช้พลังงานในอาคาร’ โดยผ่านทางกิจกรรม Building Energy Awards of Thailand 2010 (BEAT 2010) เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปตื่นตัวในการอนุรักษ์ พลังงานอีกครั้งหนึ่ง ความโดดเด่นของโครงการนี้คือ การตบเท้าเข้าร่วมโครงการจากอาคารที่มีชื่อ เสียงและเป็นที่รู้จักจำนวน 17 อาคาร โดยแบ่งประเภทของอาคารออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ผูผ้ ลิตรายการ สือ่ สารมวลชน มหาวิทยาลัย และของโรงพยาบาล มาแข่งขันกันบริหารจัดการพลังงานภายในอาคารของตนเองภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้การใช้พลังงานลดลง รวมถึงยังมีแผนการที่จะสร้างบุคลากรด้านการอนุรักษ์ พลังงานในระดับประเทศในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียด การแข่งขันและผลการประหยัดได้แบบ real time ตลอดระยะเวลาโครงการ ที่ www. BEAT2010.net โดยทางโครงการเชื่อว่าการพิสูจน์ผลการประหยัดของมาตรการการ ปรับปรุงต่างๆ ที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน จะทำให้คนไทยเกิดความเชื่อมั่น และหันมา ใส่ใจเรื่องการอนุรักษ์พลังงานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

เชื่อว่าหลายคนยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวโครงการ BEAT 2010 ทั้งใน เรื่องของวิธีการแข่งขันของเหล่าอาคารต่างๆ เกณฑ์การตัดสินว่าจะวัดจากอะไร รวมไปถึง ความคาดหวังที่ทางผู้จัดจะได้รับจากการจัดโครงการในครั้งนี้คืออะไร และประชาชนจะได้ ประโยชน์ในทางใด ดังนั้น บุคคลที่จะสามารถทำหน้าที่ในการตอบคำถามครั้งนี้ได้ดีที่สุด ก็คือ รศ. ดร. อภิชิต เทอดโยธิน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้ดูแล โครงการ BEAT 2010

• โครงการ BEAT 2010 ถือเป็นรูปแบบใหม่ของการรณรงค์เรือ่ งการประหยัดพลังงานทีไ่ ม่เคยมีมาก่อน

าร) 9 11

ประเภท ผู้ผลิตรายการ

17

6 15

WHAT YOU NEED TO KNOW ABOUT ‘ENERGY SAVING’

7

13

8 16

จำนวน 3 อาคาร 13. บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) 14. บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 15. บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด

ประเภท สื่อสารมวลชน

จำนวน 2 อาคาร 16. สถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ 17. สถานีวิทยุ โทรทัศน์แห่ง ประเทศไทย ช่อง 11

เบื้องหลังแนวคิดที่เลือก ‘อาคาร’ มาเป็นสื่อสร้าง ความสนใจ ก็เพราะอาคารถือเป็นสิง่ ก่อสร้างทีใ่ กล้ตวั คนไทย ทุกคน หากไม่อาศัยอยู่ในอาคารก็ต้องทำงานหรือศึกษา อยู่ภายในอาคารแทบทั้งสิ้น นอกจากนี้ อาคารทั้ง 17 แห่ง ถือเป็นทีร่ จู้ กั ของคนทัว่ ไป มีคนทุกเพศทุกวัยเข้าไปใช้บริการ ดังนัน้ แนวทางการรณรงค์ให้ประหยัดพลังงานภายในอาคาร ผ่านการแข่งขันในครั้งนี้ จึงน่าจะเข้าถึงประชาชนได้ง่าย และมีการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงต่อไป

*หมายเหตุ ยังมี สถาบันวิชาชีพ กิตติมศักดิ์เสนอตัว เข้าร่วมโครงการ โดยไม่ขอรับเงิน สนับสนุนอีก 2 อาคาร ได้แก่ สมาคมสถาปนิก สยาม ในพระบรม ราชูปถัมภ์ และ สมาคมวิศวกรรม สถานแห่งประเทศ ไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์

การพัฒนาและจัดหาพลังงานทดแทนหรือพลังงานใหม่ๆ มาปรับใช้ภายในประเทศ นอกจากนี ้ สนพ. ยังทำหน้าทีอ่ งค์กรทีด่ ใี นการสร้างแคมเปญต่างๆ เพือ่ รณรงค์ให้ประชาชนไทยรูจ้ กั ทีจ่ ะใช้ ทรัพยากรต่างๆ อย่างพอเพียง และเหนือสิ่งอื่นใดก็เพื่ออนุรักษ์พลังงานให้ได้อย่างยั่งยืน อย่างเช่นการจัดทำโครงการ BEAT 2010 เป็นต้น

ในประเทศไทย เนื่องจากมีการดึงเอาอาคารต่างๆ ที่มีชื่อเสียงมาเข้าร่วมการแข่งขันลดใช้พลังงาน ภายในอาคาร • จุดประสงค์ของเราที่แท้จริงไม่ได้ต้องการเพียงให้อาคารที่เข้าร่วมมาแข่งขันกันเพื่อให้ได้ผลประหยัด เท่านั้น แต่เราอยากจะให้อาคารเป็นเสมือนสื่อสื่อหนึ่งที่ก่อให้เกิดกระแสความสนใจของประชาชน แล้วเข้าไปติดตามผลการแข่งขันผ่านทางเว็บไซต์ของเรา (www.BEAT2010.net) และให้การแข่งขัน ดังกล่าวเป็นตัวอย่างของการประหยัดพลังงานที่ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง • ‘อาคาร’ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยพัฒนาความรู้ความเข้าใจให้แก่คนที่ทำงานภายในองค์กร หรืออาคารนัน้ ๆ เกีย่ วกับเรือ่ งการประหยัดพลังงาน ซึง่ แต่ละอาคารทีเ่ ข้าร่วมการแข่งขันต่างก็มพี นักงาน หรือนักศึกษาอยูเ่ ป็นจำนวนมาก หากเราสามารถสร้างความตระหนักในการอนุรกั ษ์พลังงานกับกลุม่ คน เหล่านัน้ ได้ ก็เชือ่ ว่าอีกไม่นานความตืน่ ตัวในเรือ่ งของการประหยัดพลังงานก็จะขยายสูว่ งกว้างในสังคมต่อไป • อาคารต่างๆ ทีเ่ ข้าร่วมการแข่งขันในครัง้ นีจ้ ะได้รบั เงินสนับสนุนจากโครงการ เพือ่ นำไปเป็นค่าใช้จา่ ย ในการปรับปรุงให้ประหยัดพลังงานได้ โดยแบ่งตามขนาดสัดส่วนของอาคารและมาตรการการประหยัด พลังงาน ทั้งนี้ ทางอาคารต่างๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันก็จะต้องมีการเสนอแนวความคิดหรือเทคนิคใหม่ๆ ในการลดใช้พลังงานมา โดยทางโครงการได้จดั ให้มที ป่ี รึกษาเพือ่ คอยติดตามและให้คำแนะนำแก่อาคาร ต่างๆ ด้วย • อีกประเด็นสำหรับเรือ่ งเทคนิคก็คอื ทางโครงการเองต้องการนำเทคนิคใหม่ๆ ในการประหยัดพลังงาน ภายในอาคารทีอ่ าจจะใช้กนั แล้วในต่างประเทศมาพิสจู น์ให้ชดั เจนว่า เมือ่ นำมาใช้ในสภาพแบบประเทศ เรานั้น จะได้ผลดีแค่ไหน สมควรที่เราจะนำเข้ามาส่งเสริมให้คนในประเทศเราใช้กันหรือไม่ อย่างไร • สำหรับเรื่องของเกณฑ์การตัดสินนั้น ทางโครงการได้ให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้การแข่งขัน เป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด เนื่องจากแต่ละองค์กรที่เข้าแข่งขันต่างก็มีลักษณะของอาคารที่ต่างกัน การใช้สอยในอาคารก็ต่างๆ กันออกไป นี่จึงเป็นเหตุผลให้เราทำการแบ่งประเภทของอาคารออกเป็น 6 ประเภท ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ผู้ผลิตรายการ สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล และตัดสินกันเฉพาะในประเภทของอาคารเดียวกันเท่านั้น ว่าอาคารใดมีผลการประหยัดพลังงานที่ มากกว่ากัน และมีการนำเทคนิคใหม่ใดๆ มาใช้บ้าง ซึ่งห้างสรรพสินค้าก็จะไม่ไปแข่งกับกลุ่มอาคาร ที่เป็นโรงเรียนอย่างแน่นอน • นอกจากนี้ เรายังแบ่งรางวัลออกไปอีก 5 ประเภท ได้แก่ รางวัลเทคโนโลยีดีเด่น รางวัลผลการ ประหยัดยอดเยี่ยม รางวัลด้านการมีส่วนร่วมของคนในอาคาร รางวัลด้านการประชาสัมพันธ์ และ ที่สำคัญคือรางวัลด้านประชามติ ที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปติดตามการแข่งขันและทำการโหวตผ่าน เว็บไซต์ www.BEAT2010.net ที่ภายในเว็บเราจะมีการอัพเดตความเคลื่อนไหวของอาคารทั้ง 17 แห่ง อย่างสม่ำเสมอว่าได้ดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานอะไรไปบ้าง และผลการประหยัดที่ได้เราก็จะ ขึ้นเป็นสถิติให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งเราคาดหวังมากว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชน โดยเฉพาะ ผูท้ ม่ี สี ว่ นเกีย่ วข้องกับอาคารนัน้ ๆ ซึง่ ถ้าได้เห็นถึงความทุม่ เทใส่ใจของอาคารแล้ว ก็อย่าลืมเข้าไปโหวต ให้กำลังใจกับอาคารที่เราชอบด้วย • สุดท้าย ความคาดหวังในระยะยาวที่เราอยากได้จากจัดทำโครงการ BEAT 2010 นอกเหนือจาก การกระตุน้ ให้ภาคประชาชนตืน่ ตัวแล้ว ตามชือ่ ของโครงการทีว่ า่ ‘สร้างขุมกำลังบุคลากรด้านการอนุรกั ษ์ พลังงานเพือ่ ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร’ ก็หมายความว่า เรามีความต้องการทีจ่ ะ สร้างกลุ่มบุคลากรของเราขึ้นมาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการประหยัดพลังงานภายในอาคารและ บ้านเรือน และเราก็ทำการติดต่อกับคนกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เพื่ออัพเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ กันหรือมีความ สนใจร่วมกัน ซึง่ หากประเทศของเรามีคนกลุม่ นีข้ น้ึ มาสักกลุม่ หนึง่ ก็จะเป็นการง่ายทีเ่ ราจะไปต่อยอดการ พัฒนาการอนุรักษ์พลังงานในโครงการอื่นๆ ต่อไปในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก www.eppo.go.th, www.solarpowerportal.co.uk, www.csri.or.th, www.green-building.org, www.leed.net



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.