a day BULLETIN issue 130

ISSUE 130 14 - 20 JANUARY 2011

ISSUE 130, 14 - 20 JANUARY 2011

When The Reality… Shows หลายสัปดาห์ก่อน ผู้เขียนประสบอุบัติเหตุนอนตกหมอน (พูดให้ตกใจแก้ง่วงกันหน่อย) ทนปวดคออยู่ 2 วัน รู้สึกทนไม่ไหว จัดแจงแต่งตัวไปหาหมอก่อนที่จะ กลายเป็นคนเรียกไม่หันนานไปกว่านี้ ไปอธิบายอาการให้หมอฟังไม่เกิน 2 นาที ได้ทั้งยาทายากินมาถุงใหญ่ วันนั้นผู้เขียนยังแอบเมาธ์หมอพอหอมปากหอมคอกับเพื่อน อยู่เลยว่า ‘เอ๊ะ ตกลงคนที่บอกว่าชั้นเป็นอะไรนี่ก็ตัวชั้นเองนี่นา หมอแค่เดินมากดๆ คอ ฟังว่าเป็นอะไร แล้วก็เปิดหนังสืออนาโตมีอธิบายว่ากล้ามเนื้อคอส่วนไหน ที่เจ็บ แล้วก็จ่ายยา’ ซึ่งยาที่ได้มานั้นก็ช่างมีสรรพคุณที่สามารถรักษาเยียวยาอาการได้ตรงจุดที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ยาทาที่ใช้นวดคอ ก็เขียนไว้ข้างหลอดเลยว่า บรรเทาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ คอเคล็ด ฯลฯ ทำเอาผู้เขียนไม่กล้าเอาไปทาข้อมือเลย กลัวรักษาไม่ตรงจุด แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นคือ เพียง 1 วัน อาการปวดคอ แทบขยับไม่ได้กห็ ายเป็นปลิดทิง้ ทีนใ้ี ครเรียกก็หนั ขวับ ขนาดไม่เรียกยังอยากจะหัน เพราะรูส้ กึ เห่อทีก่ ล้ามเนือ้ คอหายเป็นปกติ แถมยังไปเทีย่ วพูดกับเพือ่ นให้ฟงุ้ ไปหมดว่า หมอโรงพยาบาลนี้เก่งมาก รักษาดี๊ดี ทั้งที่ก็เพิ่งเมาธ์หมอไปหยกๆ นี่แหละ เหตุการณ์นั้นผ่านไปนานพอสมควร อยู่มาวันหนึ่งผู้เขียนก็เกิดมาคิดขึ้นได้ว่า ก่อนที่หมอจะวินิจฉัยว่าเราเป็นอะไรและจ่ายยาให้ตรงกับโรคได้นั้น หมอก็ต้องพึ่ง คนไข้อย่างเราให้อธิบายอาการอย่างละเอียดเช่นกัน และการที่คนไข้จะบอกอาการให้ละเอียดได้ ตัวคนไข้เองก็ต้องยอมรับเสียก่อนว่าตัวเองมีความผิดปกติอะไรอยู่ เมื่อยอมรับเราก็จะสังเกตอาการและไม่เพิกเฉยกับมัน เพื่อที่จะหาทางรักษาให้หายต่อไป ไม่ใช่แค่เรื่องอาการป่วยทางกายเท่านั้น อาการป่วยไข้ทางใจก็เช่นกัน เคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่า คนสติไม่ดีจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิดปกติ และนั่นทำให้การรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร เราจึงต้องสังเกตอาการเขาให้ถี่ถ้วน ค่อยๆ บอก แล้วที่สำคัญ ต้องทำให้เขาค่อยๆ ยอมรับความจริงว่าเขาเป็นอะไรด้วย คิดดูแล้วขั้นตอนที่ยากที่สุดในการรักษาอาการป่วยไข้และบาดแผลทั้งทางใจทางกายไม่ใช่ขั้นตอนการรักษา หากแต่เป็นขั้นตอนการยอมรับความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น และจะต้องหาทางรักษาอย่างไรถึงจะได้ผล จะกินยา ทายา หรือกระทั่งผ่าตัด คนไข้ที่รักษายากที่สุดจึงน่าจะ เป็นคนไข้ที่ไม่หือไม่อือว่าตัวเองเป็นอะไร แล้วก็ไม่ยอมรับวิธีรักษาใดๆ ทั้งนั้น ยังคงทำตัวเสมือนว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แล้วไปยอมรับความจริงอีกทีก็คือ ตอนที่รักษา ไม่ได้แล้ว จะตายแล้วนั่นแหละ ความจริงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากเย็นที่สุด เพราะบ่อยครั้งมันคือสิ่งที่เราไม่ได้อยากรับรู้ กระทั่งอยากหนีความจริงไปด้วยซ้ำ แต่ความจริงก็คือความจริง มันมี นิสัยหยิ่งพอสมควร คุณไม่อยากรับรู้มันก็ไม่ได้ง้อนะ แต่มันก็จะส่งผลไปตามเหตุปัจจัยอย่างที่มันควรจะเป็น ใช่ คุณไม่ต้องยอมรับความจริงก็ได้ว่าคุณเป็นคนไม่มีวินัย ทางการเงิน แต่คุณก็จะกลายเป็นคนไม่มีเงินเก็บ และเต็มไปด้วยหนี้สินต่อไป ฯลฯ การยอมรับความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะมันจะนำมาซึ่งการตระหนักว่าอะไรคือเหตุ แห่งความทุกข์ทั้งหลายของเรา เพื่อหาทางแก้ไขไปที่ต้นเหตุ ตรงกันข้าม การยอมรับความจริง แต่ไม่มีการแก้ปัญหาใดๆ นั้นไม่เรียกว่ายอมรับความจริง แต่มันเป็นการ ผัดผ่อนความจริงไปเรื่อยๆ ต่างหาก อุปมาเหมือนคนเป็นนิ่ว แต่ไม่ยอมไปหาหมอให้สลายนิ่ว รอจนปวดท้องทนไม่ไหวถึงจะซมซานไปหาหมอ บางคนก็ผัดผ่อนการ ยอมรับความจริงด้วยเหตุผลว่าไม่รู้จะแก้อย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเอาจริงเอาจังกับมันมากพอ ไม่มีปัญหาไหนที่ไม่มีทางแก้หรอก จะอย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อว่าโลกนี้ ไม่มีปัญหาใดไม่มีทางแก้ มีแค่ปัญหาที่แก้ได้ช้า กับปัญหาที่แก้ได้เร็ว และปัจจัยหลักในการจะแก้ปัญหาได้เร็วหรือช้าก็กลับมาที่คนเรานี่แหละ ยิ่งเรายอมรับได้เร็วว่ามัน เป็นปัญหาที่ต้องแก้ เราก็จะยิ่งหายจากทุกข์นั้นๆ ได้เร็วขึ้น เชื่อเถอะว่ามนุษย์เราล้วนป่วยไข้และมีบาดแผลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งความป่วยไข้และบาดแผลเหล่านั้น ล้วนแต่ต้องการการยอมรับความจริง เพื่อรอเวลารักษา แก้ไข ด้วยหนทางที่ถูกต้องเหมาะสมจนกว่าบาดแผลและความป่วยไข้นั้นจะหาย เพื่อจะได้ใช้ชีวิตให้นานขึ้น และมีความทุกข์น้อยลง แม้แต่ความเจ็บป่วยและบาดแผลที่ไม่มีวันหายก็ไม่มีข้อยกเว้นในการยอมรับความจริงด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็เพื่อให้เราจะได้รู้ว่า เราจะอยู่กับ สิ่งที่ไม่วันรักษาหายได้อย่างไร การรักษาบาดแผลใดๆ จึงต้องเริ่มต้นและจบลงด้วยสิ่งเดียวกัน คือการยอมรับความวจริง บางคนเจ็บปวดเกินกว่าจะยอมรับความจริง แต่หารู้ไม่ว่าความเจ็บปวดที่เกิดจากการไม่ยอมรับความจริงนั้นยาวนานกว่ามาก และบางทีมันอาจจะยาวนาน เกินไปโดยไม่จำเป็น

ปีที่ 2 ฉบับที่ 130 วันที่ 14 - 20 มกราคม 2554

วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter:@khaopan, www.facebook.com/adaybulletin

10

06 GOODNEWS

06

38

ติ ด ตามข่ า วสารดี ๆ รอบโลกประจำ สัปดาห์ได้ในห้องข่าว แห่งนี้

เปิดใจถึงการตัดสินใจ ครั ้ ง ใหญ่ ข อง ธนา เธียรอัจฉริยะ ทีล่ าออก จาก Dtac เพื่อก้าวไป สู่ความท้าทายใหม่ๆ

22 A MUST

สารพัดสิ่งที่เราคัดสรร มาฝากแบบ A Must พลาดแล้ ว จะหาว่ า ไม่เตือน

24 CALENDAR

ใคร ทำอะไร ที ่ ไ หน เช็กดูได้ สุดสัปดาห์นี้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราว สนุกๆ

26 SHOPPING

ฉายแววโดดเด่นในทุก ปาร์ตี้ กับเสื้อผ้าและ เครื่องประดับที่จะทำ ให้คุณระยิบระยับกว่า ใครในยามค่ำคืน

28 HOME MADE

เยี ่ ย มบ้ า นสวยของ ‘ทอม’ - พหลไชย ใจเปรม ที่เชื่อว่าการ อ อ ก แบ บ บ ้ า นท ี ่ ด ี สามารถเยียวยาจิตใจ คนได้ด้วย

32 34 36 38 HEALTH ALL ABOUT THE WORDS THE GUEST AND HEART BIZ ทุ ก ถ้ อ ยคำมี ค วาม- คุยกับ ‘ยิปโซ’ - รมิตา รวมสาระความรู้ที่จะ ทำให้ ค ุ ณ แข็ ง แรงทั ้ ง กายและใจ

22 28

2 4(% 7)..% /& ,)&%

THE NAKED

#,)-!4% #,)-!8

10 INTERVIEW

ต้ อ งบอกว่ า ดี ใ จ มากที่ได้เป็นเจ้าของ a day BULLETIN ฉบับสุดท้ายของ ปี 2553 ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่ได้อ่าน a day BULLETIN มานานมาก ขอย้ำ นานมาก พอมาดู ห น้ า ปก a day BULLETIN ฉบับนี้ สามารถ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี เลยว่า ทั้ง 52 ฉบับ เราได้

เดิ น หน้ า เรี ย นรู ้ ส ิ ่ ง ใหม่ๆ และไม่เสียใจใน สิ ่ ง ที ่ ล งมื อ ทำไปแล้ ว ข้อคิดดีๆ จาก อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

อ่านแค่ฉบับที่ คุณ กรณ์ ณรงค์เดช ขึ้นปกเพียงฉบับเดียว เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในฉบับส่งท้ายปี 2553 นี้ คอลัมน์ ทีช่ อบมากทีส่ ดุ คือ Feature ซึง่ รวบรวม 1 คำถาม 1 คำตอบ จากผู้ที่มาขึ้นปก a day BULLETIN จำนวน 20 ท่าน ซึ่ง แต่ละคำถามและคำตอบที่ a day BULLETIN คัดสรรมานั้น ต้องบอกว่าคือที่สุดของที่สุดแล้ว คอลัมน์นี้เหมือนกับการ รวบรวมบทสัมภาษณ์ปีนี้ทั้งปีในแบบกระชับ แต่ได้ใจความ ที่สุด ทำให้ร้สู ึกว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่ a day BULLETIN ให้ แ ก่ ผู ้ อ ่ า นทุ ก ท่ า นเลยค่ ะ ส่ ว น The Database และ

หมายและคุณค่าเสมอ ค้นหาได้ในหน้านี้

มหาพฤกษ์พงศ์ นางเอกสาวที ่ ส ร้ า ง รอยยิม้ และเสียงหัวเราะ ให้ ค นดู ไ ด้ ใ นทุ ก ฉาก ที่เธอปรากฏตัว

All About Biz ยังคงทำได้ดีเยี่ยมอีกเช่นเคย อยากให้ a day BULLETIN เพิ่มจุดวางนิตยสาร เพิ่มขึ้นค่ะ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่พลาดได้รับแจกจาก BTS ก็จะสามารถไปรับได้ที่ Starbucks แต่ตั้งแต่ Starbucks แถวออฟฟิ ศ ปิ ด ตั ว ลง ก็ ท ำให้ พ ลาด a day BULLETIN อย่างที่เป็นอยู่เนี่ยละค่ะ ถ้ า เป็ น ไปได้ อยากให้ เพิ ่ ม จุ ด วางนิ ต ยสารที ่ Glorian Jeans ด้วยค่ะ ขอแสดงความนับถือ -ปัญญดา ศศิกรวงศ์

ส่งความคิดเห็น คำติ-ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอย เจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล adaybulletin08@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริงและที่อยู่มากับจดหมาย เพื่อ ความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการ ขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ใน ช่วงเดือนนี้ จะได้รับหนังสือดีๆ จากสำนัก พิมพ์ a book ส่งไปให้ถึงบ้าน

ทีป่ รึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผูพ ้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย บรรณาธิการอำนวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สงิ ห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอีย่ ม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา กองบรรณาธิการ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ สิรนิ พร จึงพิทกั ษ์อดุ ม เอกพล บรรลือ บรรณาธิการภาพ นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกติ ติบตุ ร บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม วีรศ์ รัณย์ สุทธินภิ าชัย พิสจู น์อกั ษร หัสยา ตัง้ พิทยาเวทย์ ฝ่ายผลิต ศิริ ศิริจรรยากุล ที่ปรึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิริจรรยากุล ผูอ้ ำนวยการฝ่ายโฆษณา อุบลวรรณ จรเจริญสุข 08-1171-1886 ผูจ้ ดั การอาวุโสฝ่ายโฆษณา สุพชั รา มโนรินทร์ 08-1928-1284 ฝ่ายโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 08-6993-7479, กัณฐลดา ชืน่ สวัสดิ์ 08-3016-5400 กุลวรรณ วรรณะลี 08-1934-7615 ผูจ้ ดั การ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การ ณัฐธยาน์ อึง้ ตระกูลนิธศิ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผูผ้ ลิต บริษทั เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขมุ วิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2203-1040 อีเมล adaybulletin@daypoets.com ติดต่อฝ่ายโฆษณา โทร. 0-2203-1040 ต่อ 801, 802, 803, 804, 805, 807 แฟกซ์ 0-2203-1040 ต่อ 811 เว็บไซต์ www.daypoets.com/adb ฝ่ายสมาชิก นริศรา เปยะกัง โทร. 0-2726-9996 ต่อ 11, 12, 49

04

THE DATABASE ที่มา : www.time.com

10 อันดับคนดังที่เป็นผู้นำด้านแฟชั่นในปี 2010

1

Lady Gaga

2

M.I.A.

3

Venus Williams

4

Prince

คุณคิดอย่างไรกับนโยบายของขวัญปีใหม่ 9 ชิ้น ที่รัฐบาลมอบให้กับประชาชน

5

Rihanna

THE POLL

6

Britney Spears

7

Rita Wilson

ที่มา : www.nectec.or.th

ในปี 2010 ที่ผ่านมา คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับทำอะไรมากที่สุด เข้าสังคมออนไลน์

24.2% ทำธุรกิจ

เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงาน

9%

19.2%

ศึกษา หาความรู้

ติดตามข่าวสาร ประจำวัน

13.4%

17.3%

เล่นเกม และหาความบันเทิง

16.9%

158 ชิ้น

Amazon เว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์รายใหญ่ ของโลกระบุว่า e-Book รุ่น Kindle 3 ถือเป็น สินค้าทีม่ ยี อดจำหน่ายสูงทีส่ ดุ ในปี 2010 ทีผ่ า่ นมา โดยมียอดสั่งซื้อเฉลี่ยวินาทีละ 158 ชิ้น ที่มา : www.amazon.com

ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ ผ่ า นมา มี ผู้ สื่ อ ข่ า ว ทั่ ว โลกเสี ย ชี วิ ต ทั้ ง สิ้ น 529 คน โดย 1 ใน 5 เสี ย ชี วิ ต ขณะทำข่ า ว ในอิรัก ที่มา : www.pressemblem.ch

8

Taylor Momsen

9

Charo

10 Heidi Klum

ปั จ จุ บั น มี ค นไทยเล่ น Facebook ประมาณ 6,732,780 คน หรือ คนไทยทุกๆ 10 คน จะมีคนเล่น Facebook 1 คน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ที่อยู่ที่ 1 ต่อ 12 คน ที่มา: www.socialbakers.com

3,631,706 1,090,436 จำนวนประชากรในวัยเรียนของไทยที่ดื่มสุราเป็นประจำคือ 3,631,706 คน และสูบบุหรี่ 1,090,436 คน ที่มา : www.matichon.co.th

12,000 คน

ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิต จากอุบัติเหตุบนท้องถนน เฉลี ่ ย ปี ล ะ 12,000 คน หรื อ เท่ า กั บ 35 คนต่ อ 1 วัน โดยผูช้ ายนัน้ เสียชีวติ มากกว่าผู้หญิงถึง 4 เท่า ที่มา : www.who.int

“จะดี ม ากถ้ า ทำ ทัง้ หมดได้จริง และไม่เกีย่ ว ข้องกับการหาเสียง” เชิดพงษ์ บุญมา 30 ปี, โปรดิวเซอร์ “เป็นนโยบายทีด่ ี แต่ จะดียิ่งกว่านี้ถ้ารัฐบาลมี ความจริงใจ ไม่ได้หวังผล ในการเลือกตั้ง” เสริมเกียรติ เครือแก้ว 33 ปี, โปรดิวเซอร์ “เป็นนโยบายที่ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงๆ แต่เป็นห่วงเรือ่ งการจัดสรร งบประมาณ และไม่ควร ทำอะไรเกินตัว” สุภาพรรณวดี คำดี 34 ปี, ผู้กำกับโฆษณา “ถือเป็นการช่วยเหลือ คนด้ อ ยโอกาส ชอบ นโยบายค่าไฟฟรีสำหรับ อพาร์ตเมนต์มากค่ะ” ประภาพร จูงพันธ์ 28 ปี, ครีเอทีฟ “ถ้ามองในระยะสั้น ก็ถือว่าช่วยลดค่าใช้จ่าย ของประชนได้ดี แต่ถา้ มอง ในระยะยาวคงไม่ใช่การ แก้ปญ ั หาทีด่ ี เพราะไม่ได้ แก้ที่โครงสร้าง” สตีฟ โรเจอร์ 23 ปี, นักศึกษา “เหมือนเป็นการแก้ ปัญหาที่ปลายเหตุ เป็น การหวังผลทางการเมือง มากกว่าจะตัง้ ใจแก้ปญ ั หา ความเหลื่อมล้ำจริงๆ” พรรณทิวา นุ่นพันธ์ 27 ปี, กองบรรณาธิการ

6

• เจ้าลีโอ สิงโตทะเลวัย 8 ปี แห่งพิพธิ ภัณฑ์สตั ว์นำ้ ในเมืองฮัคเคอิจมิ า (Hakkeijima Sea Paradise Aquarium) ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น กำลังขะมักเขม้นเขียนอักษรจีนที่มีความหมายว่ากระต่าย เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ซึ่งเป็นปีกระต่าย ให้เป็น ของขวัญกับทุกคน และถ้ายึดถือตามปฏิทินจีนโบราณ ก็จะถือว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ถึงจะเป็นปีกระต่ายอย่างแท้จริง - AFP

PEOPLE

SOCIETY

เนปาลไฟเขียว

‘เสียง’ พลิกชีวติ

คนจรจัด

หลังจากใช้ชีวิตจรจัดข้างถนนมานาน หลายปี ชีวิตของ เท็ด วิลเลียมส์ ก็เปลี่ยน ไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่คลิปของเขาถูก เผยแพร่ผ่านทาง YouTube ในช่วงปีใหม่ที่ ผ่านมา โดยในคลิปความยาว 90 วินาที ที่ ดอรัล เชโนเวธ ช่างภาพหนังสือพิมพ์ บันทึกไว้ เริ่มจากการขับรถเข้าไปใกล้ๆ เท็ดที่กำลังยืนอยู่บนถนนฮูสตัน สหรัฐฯ ในมือของเท็ดที่สวมแจ๊ ก เก็ ต เก่ า ๆ และ ผมเผ้ายุ่งเหยิง มีป้ายเขียนข้อความไว้ว่า ‘ผมมี เ สี ย งสวรรค์ ท ี ่ พ ระเจ้ า ประทานให้ ผมเคยเป็นผู้ประกาศทางวิทยุที่ชีวิตตกอับ ได้โปรด! ผมจะขอบคุณมากสำหรับความ ช่วยเหลือใดๆ ก็ตาม’ จากนั้นเท็ดก็ได้พูด เลี ย นเสี ย งสปอตโฆษณาทางวิ ท ยุ ด ้ ว ย น้ำเสียงหล่อขั้นเทพ! (คลิกเข้าไปฟังเสียง ของเขาได้ท่ี http://youtu.be/Pd9QZNRsXbY) ทำให้ขณะนี้เท็ดได้รับข้อเสนอให้ไปทำงาน กับสถานีโทรทัศน์หลายเจ้า ทั้ง MTV NFL ESPN รวมทั ้ ง คลี ฟ แลนด์ คาวาเลี ย ร์ ส ที่เสนอให้เท็ดไปเป็นผู้ประกาศภาคสนาม รวมทั้งได้รับเชิญให้ไปพูดคุยในรายการ ข่ า วของช่ อ ง WNCI และ CBS News มาแล้ว

• Oleg Popov ชาวรัสเซีย วัย 80 ปี (คนซ้าย) กำลังแสดงตลกบนเวทีอยู่กับเพื่อนร่วมคณะ โปปอฟถือว่าเป็นตัวตลกที่อายุมาก ที่สุดในโลกที่ยังทำการแสดงอยู่ ทุกวันนี้เขายังเดินทางไปทั่วยุโรปปีละกว่า 6 เดือน และยังไม่มีแผนที่จะเลิกเล่นตลกอันเป็น อาชีพที่เขารักและทำมาหากินมากว่า 60 ปี - AFP

ยอมให้มี ‘เพศทีส่ าม’ ในทะเทียนบ้านได้แล้ว

ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีที่เกิดขึ้นในประเทศอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง อย่ า งเนปาล เมื ่ อ สำนั ก งานสำมะโนครั ว ประชากรแห่ ง ชาติ เนปาล ได้เตรียมตัวเพิ่มตัวเลือกให้กับเพศที่สาม หลังจากที่ 2 ปีก่อน ศาลสูงสุดเนปาลมีคำสั่งให้รัฐบาลบัญญัติกฎหมายที่ รับรองสิทธิของเกย์ เลสเบี้ยน และกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่ง นาย บิกาศ บิสตา ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติ แห่งชาติเนปาล ได้ออกมากล่าวถึงการวางแผนที่จะทำการสำรวจสำมะโนครัวประชากรให้เสร็จภายใน 2 เดือน โดยเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้ไว้ว่า “ก่อนหน้านี้เราแบ่งเพศออกเป็น 2 เพศ เท่านั้น คือ เพศชาย กับเพศหญิง แต่ในการสำรวจสำมะโนครัวประชากรในครั้งนี้ เราจะเพิ่มตัวเลือกของเพศที่สาม เข้ามา โดยเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บข้อมูลลักษณะที่พำนัก จำนวนสมาชิก และเพศของผู้อยู่อาศัย โดยเราจะนับจำนวนบุคคลที่เป็นเพศที่สามแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งเพศด้วย”

HUMAN RIGHTS

สิงคโปร์รณรงค์ให้ผหู้ ญิงบริจาคยกทรง ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในประเทศอื่นๆ

ใครจะบริจาคอะไรก็แล้วแต่ แต่ ‘โคซีค็อต’ (www.CozyCot.com) เว็บไซต์ เครือข่ายทางสังคมและสินค้าสำหรับสตรีของสิงคโปร์ ได้ออกมารณรงค์ให้ ผู้หญิงในประเทศสิงคโปร์ร่วมกันบริจาคชุดชั้นในจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 เพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กผู้หญิงในพื้นที่ยากจนในประเทศบาหลีและกัมพูชา ทั้งนี้ นิโคล หยี ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์กล่าวว่า ขณะนี้มียกทรงที่ได้รับบริจาคมาจากทั้งสมาชิกของเว็บไซต์และ ประชาชนทั่วไปแล้วมากกว่า 10,000 ตัว และยังพบว่ามียกทรงมากกว่า 400 ตัว ที่เป็นของใหม่แถมยัง ไม่ได้แกะแถบราคาออกเลย โดยยกทรงเหล่านี้จะถูกส่งไปให้เด็กกำพร้าในประเทศบาหลี เด็กด้อยโอกาส ในชุมชนแออัดของกัมพูชาในเขตสะตุง เมียงเจย และเบืองสะลัง รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปสอนการ คลอดบุตรและสอนวิธีการเข้าสังคมให้แก่สตรีใน 22 หมู่บ้านนอกกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อีกด้วย

ENTERTAINMENT

คู่รัก ‘โจลี-พิตต์’ บริจาค 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่านามิเบีย

ถือเป็นการทำบุญรับปี 2011 ของคู่ขวัญ สุดฮอตแห่งฮอลลีวูด - แองเจลินา โจลี และ แบรด พิตต์ ทีไ่ ด้รว่ มบริจาคเงินจำนวน 2 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ของประเทศนามิเบีย ในทวีปแอฟริกาใต้ โดย ทั้งคู่ได้บริจาคเงินก้อนนี้ในนามของหนูน้อย ‘ไชห์โล’ วัย 4 ขวบ ที่แองเจลินาเดินทางไป คลอดลูกสาวคนนี้ถึงประเทศนามิเบีย โดยโจลี กล่าวว่า เธอและสามีต้องการให้ลูกสาวรู้สึก ผูกพันและเข้าใจในแผ่นดินเกิดของตนอย่างลึกซึง้ นอกจากนี้ สมาชิกทุกคนในครอบครัว ‘โจลีพิ ต ต์ ’ ยั ง ได้ ใ ช้ เวลาร่ ว มกั น ในช่ ว งวั น หยุ ด คริสต์มาสที่ผ่านมาในบ้านพักกลางเขตอนุรักษ์ พันธุ์สัตว์ป่าของประเทศนามิเบียอย่างอบอุ่น เพื่อช่วยกันดูแล สัตว์ปา่ ทีบ่ าดเจ็บ เช่ น เสื อ ดาว และลิงบาบูน

INNOVATION

‘บุหรี่ปลอดไฟ ไหม้’ ทำจากกระดาษพิเศษดับเองได้ใน 2 นาที

ก้นบุหรีท่ ด่ี บั ไม่สนิทถือเป็น 1 ใน 5 สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ภายในบ้าน ด้วยเหตุน้ี กระทรวงสาธารณสุขของไทย จึงได้ตื่นตัวออกกฎกระทรวงบังคับใช้ ‘บุหรี่ปลอดไฟไหม้’ (Fire Safe Cigarette - FSC) ทั้งบุหรี่ที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้า โดยบุหรีป่ ลอดไฟไหม้จะใช้กระดาษพิเศษทีส่ ามารถดับเองได้ภายใน 2 นาที หากไม่มกี ารสูบ จากเดิมทีใ่ ช้เวลา ราว 10 นาที ซึ่งกระดาษพิเศษที่ใช้พันยาสูบเพื่อทำเป็นตัวบุหรี่จะมีการเพิ่มแถบเคลือบสารเคมีสำหรับดับไฟเอาไว้ใกล้ กับก้นบุหรี่ เมื่อไฟเผาไหม้ยาสูบมาจนถึงแถบดังกล่าว ความร้อนก็จะละลายสารเคมีให้ออกมาทำปฏิกิริยาจนทำให้ไฟ มอดลง และสำหรับบรรจุภัณฑ์บุหรี่ทุกยี่ห้อก็จะมีอักษรย่อ FSC ระบุอยู่ด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก มีการบังคับใช้บุหรี่ปลอดไฟไหม้แล้ว รวมทั้งประเทศไทยที่เพิ่งตอบรับมาตรการดังกล่าว

7

• ผู้เข้าชมงานศิลปะจากฝีมือของศิลปินชาวอาหรับ Mohammed el-Melehi ซึ่งเปิด แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาหรับสมัยใหม่แห่งเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ หรือ Arab Museum of Modern Art ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งแรกของประเทศ กาตาร์เลยก็ว่าได้ - AFP

SPORT

• หญิงชาวเฮติกำลังยืนพิงกำแพงบ้านที่กำลังสร้างขึ้นใหม่หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในเฮติ และคร่าชีวติ คนไปกว่า 250,000 คน ปัจจุบนั พบว่ายังมีคนกว่า 800,000 คน ยังใช้ชวี ติ อยูใ่ นทีพ่ กั ชัว่ คราวมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับตัวเลขของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1.5 ล้านคน เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติได้สำรวจตัวเลขไว้ และนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ตัวเลขผู้ไร้ที่อยู่อาศัยลดลงต่ำกว่า 1 ล้านคน - AFP

‘เฟเดอเรอร์’ ยิ้มร่าคว้าแชมป์ ATP พร้อมประกาศก้อง! ขอทวงอันดับ 1 ในปีนี้

ประเดิมแชมป์แรกของฤดูกาล 2011 ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสชายมือวางอันดับ 2 ของโลก ในการแข่งขันกาตาร์ เอ็กซ์ซอน โมบิล โอเพน ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยนักหวดลูกสักหลาดชาวสวิสได้เอาชนะ นิโคไล ดาวีเดนโก มือวางอันดับ 4 จากแดนหมีขาว ไปอย่างลอยลำ 2 เซตรวด ด้วยคะแนน 6-3, 6-4 ซึ่งหลังจากรับเงินรางวัลรวมกว่า 38.85 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว หนุ่มเฟดเอ็กซ์ก็ได้ออกมาประกาศถึงเป้าหมายต่อไปอย่างอารมณ์ดีว่า จะขอทวงตำแหน่ง มือวางอันดับ 1 ของโลกคืนมาจาก ราฟาเอล นาดาล คู่รักคู่แค้นชาวสเปน ให้ได้

เก็บตกวันเด็ก

วันเด็กที่ผ่านมาทำให้ เร า ต ร ะ ห น ั ก ว ่ า เ ส ี ย ง หัวเราะ และความไร้เดียงสา ของเด็กๆ มักจะช่วยชีวิต เราได้ เ สมอ เราเลยถื อ โอกาสรวบรวมความน่ารัก ของเด็กๆ ในรูปแบบคลิป วิดีโอ เผื่อว่าดูแล้วจะได้ลืมเรื่องเครียดๆ แล้วหันมา ยิ้มร่ากันอีกครั้ง • เริ่มต้นด้วยแฝดสี่อารมณ์ดีที่หัวเราะพร้อมๆ กัน อย่างไม่น่าเชื่อ รับรองว่าดูแล้วคงอดหัวเราะตาม พวกเขาไม่ได้แน่นอน http://www.youtube.com/ watch?v=yE6PNps5N9I • ส่วนคู่หูจากคลิปนี้ http://www.youtube.com/ watch?v=xXhMVncfk6Q ก็แบ่งหน้าที่กันทำงาน อย่างลงตัว คนหนึ่งมีหน้าที่สะอึก เพื่อส่งต่อให้อีก คนหนึ่งขำแบบไร้สาเหตุ

CULTURE ลิทัวเนีย สร้างเอกลักษณ์ ประจำชาติแบบใหม่ ผ่าน ‘น้ำหอม’

ประเทศลิทัวเนียขอแหวกแนวในการเผยแพร่ เอกลักษณ์ของประเทศด้วยการเปิดตัวน้ำหอมกลิน่ ใหม่ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า น้ำหอม 1,000 ขวดแรก จะถูกส่งไปถึงมือของทหารลิทัวเนียใน อัฟกานิสถาน และจะถูกส่งให้ตามสถานทูต โรงแรม และสนามบิน เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็น ‘ลิทัวเนีย’ ให้ทั่วโลกได้รับรู้ ทั้งนี้ นาย มินเดากาส สตองวิลาส ผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารทางอารมณ์ กล่าวว่า “เราต้องการสร้างสิ่งที่สื่อความหมายถึง ประเทศและชาวลิทัวเนีย ซึ่งมันเป็นการผสมผสาน ระหว่างกลิ่นของไม้จันทน์ ต้นซีดาร์ และชะมด ทีม่ ี ต้นกำเนิดในเขต ‘อินโดยูโรเปียน’ ซึ่งถือเป็นถิ่นกำเนิด ภาษาดั้งเดิมของลิทัวเนีย นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของ ถ่านไม้ ตะไคร้ และดอกไม้ ผสมอยูใ่ นน้ำหอมอีกด้วย”

• สำหรั บ หนู น ้ อ ยคนนี ้ ไ ม่ ม ี อ ะไรจะบรรยาย นอกจากบอกว่า เป็นหนุ่มสุดเปรี้ยว เพราะชื่นชอบ ความเปรี ้ ย วของมะนาวเป็ นชี ว ิ ต จิ ต ใจ http:// www.youtube.com/watch?v=96CUQCoTkug • ถ้ า ใครอยากรู ้ ค วามหมายที ่ แท้ จ ริ ง ของคำว่ า หั ว ร่ อ งอหงาย คงต้ อ งดู ห นุ ่ ม น้ อ ยคนนี ้ http:// www.youtube.com/watch?v=1vfSk-6tIvo ที่ลีลา การหัวเราะของเขามีคนดูเกือบ 25 ล้านคน แล้ว • ถ้าอยากชมลีลาการปราศรัยที่ถอดแบบมาจาก นักการเมือง แต่เป็นเวอร์ชนั หนูนอ้ ยทีย่ งั พูดไม่เป็นคำ ต้ อ งไปที ่ http://www.youtube.com/watch?v= PI42LSbwc8E • ปิดท้ายกันที่แชมป์ตลอดกาลที่หัวเราะครั้งเดียว แต่มียอดคนดูทะลุหลัก 155 ล้านคน ไปเรียบร้อย แล้ว ใครยังไม่ได้ดู เชิญไปที่ http://www.youtube.com/ watch?v=5P6UU6m3cqk

“ฝ่ า ยกั ม พู ช าก็ รั บ ฟั ง ข่าวสารจากทางประเทศไทย อยู่ ต ลอดเวลา ก็ เ หมื อ น ประเทศเรา หากใครมา ต่อว่าเราหรือสถาบันที่เรา เคารพนั บ ถื อ เราก็ ต้ อ งมี ปฏิ กิ ริ ย าเหมื อ นกั น ผม ขอร้ อ งสื่ อ ให้ ใ ห้ เ กี ย รติ ซึ่ ง กั น และกั น การที่ เ ป็ น ประเทศเล็กหรือประเทศใหญ่ ก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน” พลโท ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2

GREEN PLEASE ชายวัย 80 สร้างโบสถ์สูง 40 เมตร จากกองขยะ

สร้างความตืน่ ตะลึงให้กบั ชาวเมืองสเปนไปเป็นทีเ่ รียบร้อย เมือ่ คุณปู่ จัสโต้ แกลเลโก วัย 85 ปี ใช้ขยะทีต่ ามเก็บได้ภายในกรุงมาดริด ประเทศ สเปน มาสร้างเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่สูงเกือบ 40 เมตร แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้น ก็คอื วิหารแห่งนีค้ ณ ุ ปูแ่ กได้ลงมือสร้างด้วยตัวเองคนเดียวล้วนๆ โดยไม่มี ใครเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด และรูปแบบของโบสถ์นก้ี ไ็ ด้แรงบันดาลใจส่วนหนึง่ มาจากโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกัน โดยนำเศษขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มาสร้างเป็นอาคาร ซึ่งคุณปู่ ได้ตั้งกฎเหล็กเอาไว้ด้วยว่าจะไม่ยอมให้มีการใช้อิฐและปูนมาเป็นส่วนประกอบในการก่อสร้างแม้แต่ เพียงนิดเดียว โดยเขาได้ออกมาบอกถึงความตัง้ ใจในครัง้ นีเ้ อาไว้วา่ “ใครๆ ก็พากันดูถกู บอกว่าผมบ้า กันทัง้ นัน้ แต่ผลงานชิน้ นีผ้ มตัง้ ใจทีจ่ ะมอบเพือ่ แทนคำขอบคุณแด่พระผูเ้ ป็นเจ้า” ทีส่ ำคัญ โบสถ์แห่งนี้ ใช้เวลาก่อสร้างถึง 50 ปี เลยทีเดียว เรียกว่าถ้าใจไม่รักจริงคงทำไม่ได้อย่างแน่นอน

ยอดเลหลังของขวัญห่วยพุ่งขึ้นเกือบ 4 เท่า

Did You Know?

14 มกราคม 2515 - สมเด็จพระราชิน-ี นาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ประมุขแห่งรัฐองค์ปัจจุบันของประเทศ เดนมาร์ก เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ 15 มกราคม 2551 - วันก่อตั้งองค์การ กระจายเสี ย งและแพร่ ภ าพสาธารณะ แห่ ง ประเทศไทยและสถานี โ ทรทั ศ น์ ทีพบี เี อส (ปัจจุบนั คือสถานีโทรทัศน์ทวี ไี ทย) ทีวีสาธารณะช่องแรกของประเทศไทย 16 มกราคม 2447 - โรงเรียนช่างไหม สถาบั นการศึ ก ษาในสั ง กั ด กระทรวง เกษตราธิการ ได้ถอื กำเนิดขึน้ ณ ตำบล ทุ่งศาลาแดง กรุงเทพฯ และพัฒนาขึ้น เป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบนั 17 มกราคม 2538 - เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.2 ริกเตอร์ ใกล้เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,000 คน และเกิดความเสียหายต่อ ทรัพย์สินเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ 18 มกราคม 2425 - วันเกิด Alan Alexander Milne ผู้สร้างการ์ตูนวินนี เดอะ พูห์ เขาเกิดในครอบครัวครูที่ สกอตแลนด์ แต่ไปเติบโตที่อังกฤษ หลัง จากมีลูกชายชื่อ Chritopher Robin จึง เริ่มเขียนเรื่องวินนี เดอะ พูห์ ซึ่งได้รับ แรงบันดาลใจมาจากของเล่นของลูกชาย นั่นเอง 19 มกราคม 2526 - แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ เปิดตัว Apple Lisa คอมพิวเตอร์สว่ นบุคคลเพือ่ การค้ารุน่ แรก ที่มีระบบส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI) และเมาส์ ภายในมีแรมขนาด 1 เมกะไบต์ ราคา 9,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ 20 มกราคม 2539 - สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีปล่อย เรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ อู่เรือบาซาน ประเทศสเปน

gumtree.com เว็บไซต์โฆษณาออนไลน์เผยว่า ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา มีของขวัญเกือบ 3,000 ชิ้น ถูกนำมาขาย ทอดตลาดผ่านทางร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงเกือบ 4 เท่า โดยสาเหตุเกิดจากเหตุการณ์หิมะตกหนักในยุโรป มากกว่าทุกปี ทำให้ผคู้ นต้องซือ้ ของคุณภาพต่ำแบบออนไลน์ จึงได้ของทีไ่ ม่คอ่ ยจะถูกใจนัก นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบอกด้วยว่า ของขวัญที่ผู้คนไม่ต้องการ 3 อันดับแรก คือ เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องทำแซนด์วิช และเครื่องชงกาแฟ

10

ณ

สัมภาษ

มเอี่ยม

ัตน์ เอ ์ : วิไลร

‘รู้จักคุณธนา ไหม?’ ‘ธนาไหน?’ ‘ธนา ดีแทค ไง’ ‘อ๋อ...’ ไม่ต้อง ทำการสำรวจก็พอจะรู้ว่าบทสนทนาประมาณนี้น่าจะเกิดขึ้นมานับครั้ง ไม่ถ้วนตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่ ธนา เธียรอัจฉริยะ ได้ร่วมงานกับหนึ่งใน บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมอย่าง Total Access Communication จำกัด (มหาชน) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของดีแทค ประเด็นสำคัญที่เราอยากบอกก็คือ คำว่า ธนา กับ ดีแทค อาจฟังดูเหมือน เป็นสิง่ ทีต่ อ้ งอยูค่ กู่ นั ขาดกันไม่ได้ และสำหรับบางคน การอยูใ่ นองค์กรใหญ่ เป็ น เวลานานอาจให้ ค วามรู้ สึ ก เหมื อ นได้ อ ยู่ ใ นอาณาจั ก รของตั ว เอง ชี้นิ้วสั่งอะไรเป็นต้องได้ ไม่มีใครกล้าหือ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไป เสียทุกอย่าง แต่สำหรับธนา เขาเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า Comfort Zone หรือ พื้นที่แห่งความสบาย ที่วันนี้เขาเลือกที่จะเดินออกมา มากกว่าจะทิ้งตัว เกลือกกลิ้งด้วยความสบายใจไปวันแล้ววันเล่า เดินไปจากตำแหน่งล่าสุด บนนามบัตรคือ ‘Chief Corporate Affairs & Strategy Officer’ หรือ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์องค์กร ด้วยรหัสพนักงานที่ 2085 หรื อ แปลว่ า เป็ น พนั ก งานคนที่ ส องพั น แปดสิ บ ห้ า ในวั น ที่ อ งค์ ก รแห่ ง นี้ มีพนักงานนับหมืน่ คนแล้ว แน่นอนว่า... 14 ปี กับดีแทค มีหลายสิง่ หลายอย่าง ที่ ธ นาได้ ท ำและประสบความสำเร็ จ ซึ่ ง สิ่ ง เหล่ า นั้ น หลายคนนิ ย ามว่ า เป็นการคิดนอกกรอบ หรือคิดแบบ Out of the Box ซึ่งเรื่องที่สำคัญ อย่างการทำให้แบรนด์ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งที่ Happy จนเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความ Happy ก็เป็นเรื่องที่ ไม่พูดไม่ ได้ เพราะมันได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าทั้งของสินค้าและของตัวเขาเอง ไปด้วย หลายคนบอกว่า เจอหน้าคุณธนาแล้วรู้สึกแฮปปี้ ไม่ใช่เพราะเขา ทำงานกับแบรนด์นี้เท่านั้น แต่เพราะทัศนคติในการทำงานและการใช้ชีวิต อย่างแฮปปี้ด้วยที่ทำให้หลายคนจดจำเขาได้ วันนี้การลาออกจากดีแทคของธนา กลายเป็นเรื่องร้อนในแวดวง ธุ ร กิ จ เพราะอย่ า งที่ บ อกว่ า ไม่ มี ใ ครคาดคิ ด มาก่ อ นว่ า ผู้ บ ริ ห ารหรื อ นักการตลาดที่แทบจะผูกติดกับสินค้าและแบรนด์ที่ตัวเองปั้นมากับมือนั้น จะลาออก และที่ทำให้คนแทบจะจินตนาการไม่ออกหนักไปกว่านั้นก็คือ เป็นการลาออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ไปทำงานกับบริษัทที่สเกลเล็กกว่า จากวงการโทรคมนาคมไปสู่การทำการตลาดให้สินค้าอย่างกางเกงยีนส์ (McJeans) ด้วยเหตุผลว่า อยากทำในสิ่งที่ ไม่รู้ และถ้าการไม่รู้จะนำไปสู่ การล้ม ‘ผมว่าการล้มบ้างก็ดีออก ถ้าคนเราไม่ล้ม เราก็คงไม่รู้วิธีลุก’ เพราะเขาเชื่อเสมอว่าการล้มก็คือการเรียนรู้ ไม่ใช่ความล้มเหลว ธนายอมรับว่า การทำงานในองค์กรใหญ่ในตำแหน่งใหญ่ที่ ไปไหน มาไหนก็มีแต่คนเกรงใจ ทำอะไรก็ถูกนั้น บั่นทอน passion ในการทำงาน ของเขาให้น้อยลงทุกที และมันไม่เป็นผลดีกับคนที่ทำงานด้วย passion อย่างเขาเลย โดยเขาโหยหาบรรยากาศการทำงานแบบที่เต็มไปด้วยการ แข่งขัน ไม่รู้ว่าทำไปแล้วจะออกหัวหรือก้อย มากกว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ออกหัวแน่ๆ เอาเวลาที่ลุ้นไปเดินเล่นได้เลย ที่สำคัญ เขาไม่ชอบความรู้สึก ของการเป็นแชมป์ แต่ชอบความรู้สึกของการเป็นผู้ท้าชิงมากกว่า จะบอก ว่าเขาเป็นคนที่คิดไม่เหมือนคนอื่นก็ ได้ แต่ก็นั่นแหละ... นี่คงเป็นเหตุผล สำคัญที่ทำให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้ Think Out of the Box คื อ การคิ ด นอกกรอบ เพื่ อ ไปสู่ พื้ น ที่ สร้างสรรค์ใหม่ๆ แต่สำหรับชีวิตของธนาในวันนี้ ไม่ใช่แค่การคิดนอกกรอบ แต่เป็นการเดินออกมาจากกรอบเดิมๆ พื้นที่เดิมๆ และมีอะไรให้เล่นสนุก กว่าเดิม ถามว่านี่คือการวางแผนอันชาญฉลาดของนักการตลาดที่ถือว่า เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งหรือเปล่า เปล่าเลย... ‘ผมชอบทำอะไรแบบ กะๆ เอา ไม่ต้องเป๊ะ’

ถ่ายภ

าพ :

กฤตธ

กร ส

ุทธิกิต

ติบุต

ร

12

อยูใ่ นองค์กรหนึง่ มานานขนาดนีแ้ ล้ว เคยคิดไหมว่า วันหนึ่งจะต้องลาออก คิดครับ เพราะผมเคยลาออกมาก่อนแล้วเมือ่ 10 ปีทแ่ี ล้ว เป็นประสบการณ์ทส่ี ำคัญทีส่ ดุ ในชีวติ ผมครั้งหนึ่งเลย ตอนนั้นผมอายุ 30 เป็นดาวรุ่ง ของดีแทค คิดว่าตัวเองเจ๋ง อีโก้เยอะมาก คิดว่า เราทำอะไรผู้ใหญ่ก็ต้องง้อ เพราะตอนนั้นอายุ ก็ยังน้อยแล้วได้เป็น VP (Vice President) แล้วก็ อยากได้อะไรแบบที่คนทำงานทั่วไปอยากได้เลย คือต้องได้หอ้ งใหญ่ๆ มีอาณาเขตเยอะๆ เบอร์มอื ถือ ทีเ่ ราใช้กต็ อ้ งสวย (หัวเราะ) แล้วทีนม้ี หี วั หน้าใหม่ มาคนนึง ผมก็คดิ ว่าตัวเองเก่งกว่าหัวหน้า เลยรูส้ กึ ว่าอยูไ่ ม่ได้ มันร้อน (หัวเราะ) ต้องแสดงให้เห็นว่า ขาดเราแล้วจะรู้สึก ผมก็เลยตัดสินใจออก แล้ว เป็นการออกทีน่ า่ เกลียดมากด้วย เพราะไปอยูก่ บั คู่แข่งเลย พอออกไปแล้วถึงเข้าใจชีวิตมากขึ้น คือวันแรกๆ ที่ออกไปแล้วเราได้กลับมาที่ดีแทค ก็พบว่าไอ้หอ้ งใหญ่ๆ ทีเ่ ราเคยสูเ้ พือ่ ให้ได้มา อ้าว มีคนนัง่ ไปแล้ว เบอร์สวยๆ ทีเ่ ราเคยใช้ บริษทั เขา ก็เอาคืนไป ผมรูส้ กึ ว่าสุดท้ายแล้วตำแหน่งหน้าที่ ต่างๆ มันเป็นแค่หมวกทัง้ นัน้ เลย พอถอดหมวกก็จบ ทีนี้ผมโชคดีที่พอออกไปแล้ว แล้วคุณบุญชัย ก็ตามผมกลับมาทำใน 3 เดือนต่อมา ตอนกลับไป ผมไม่สนใจเรือ่ งเงินเดือน ตำแหน่งแล้ว พอคุณบุญชัย นายผมโทร.ถามว่า อยากกลับมาไหม ผมบอก กลับครับ (หัวเราะ) เพราะรูส้ กึ ว่าดีแทคเป็นองค์กร ที่น่ารักที่สุดแล้ว แล้วตั้งแต่วันนั้นทำให้ผมรู้ว่า เออ เราเข้ามาแล้ว เราก็ออกไปได้นะ วันนัน้ แหละ รู้เลยว่าสักวันเราก็คงต้องออกจากดีแทค แต่จะ ไม่ออกแบบครัง้ ทีแ่ ล้วอีก แต่คราวนีจ้ ะออกอย่างเท่ๆ แล้ว คือออกเพราะทำประโยชน์ให้ดแี ทคเต็มทีแ่ ล้ว ออกแล้วคนคิดถึง เก้าอีส้ ะอาด ทุกอย่างไม่มใี คร ว่าเราได้แบบครั้งที่แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด แล้วตอนหลังๆ ก็ยิ่งคิดเยอะ เพราะตำแหน่งมัน เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เริ่มคิดว่า เออ สักวันเราคง ไม่ได้อยู่ที่นี่แน่ๆ ผมเคยอ่านหนังสือของคุณหนูดี วนิษา เขาเขียนเรื่องหนึ่งประมาณว่า คนเราต้อง คิดถึงจุดจบไว้เสมอ เขาอาจจะหมายถึงเรือ่ งความ ตายหรืออะไรก็ไม่รู้ละ แต่ผมกลับเอามาคิดกับ การทำงานที่ดีแทคว่า เอ๊ะ วันที่ผมออกจะเป็น ยังไง จุดจบสำหรับผมกับที่นี่จะเป็นยังไง พอวัน ที่ต้องตัดสินใจจะออกจริงๆ มันเลยโอเค เพราะ เราคิดไว้แล้วว่าความรู้สึกมันจะประมาณอย่างนี้ ต้องออกด้วยเหตุผลอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าพอถึง จุดหนึ่งเราก็เหมือนจะเช็กตัวเองตลอดเวลาว่า เอ๊ ถึงเวลาหรือยัง แล้วผมว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่น่า จะดีที่สุดแล้ว ในเมือ่ คุณอยูใ่ นทีท่ จี่ ดั ได้วา่ ดีทกุ อย่าง ทัง้ ตำแหน่ง หรือปัจจัยต่างๆ นานา แบบคนอยูใ่ นจุดสูงสุดแล้ว ทำไมคุ ณ ถึ ง ไม่ คิ ด จะอยู่ ที่ นี่ ใ ห้ น านที่ สุ ด แทนที่ จะคิดลาออก อืม... จริงๆ ผมคิดเรื่องลาออกตลอดเวลา ทัง้ ทีใ่ นสายตาคนอืน่ มองว่า เฮ้ย ชีวติ ก็สบายมาก แล้วนี่ ยิ่งเมื่อประมาณปีสองปีที่ผ่านมา พอมัน ถึงจุดทีซ่ เี นียร์มากในดีแทค ถึงจุดทีท่ ำอะไรไว้เยอะ คนก็เคารพ เดินเข้าไปในห้องประชุม พูดอะไร ก็พูดได้ คนไม่ค่อยเถียง เหมือนเรารู้ไปหมดทุก อย่าง เงินเดือนก็ดี เดินเข้ามาในตึกก็เหมือนเป็น บ้านอีกหลังของเรา ทุกอย่างมันดูสบายมาก คือ ถ้าผมอายุสัก 59 คงโอเคที่จะอยู่ แต่ตอนนี้ผม อายุ 41 แล้วระยะหลังๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่ลง เรือ่ ยๆ เพราะมันไม่มกี ารแข่งขันอะไรอีกต่อไปแล้ว ไม่มีความรู้สึกที่อยากจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพราะ มันสบายเกินไป มันสบายจนถึงขนาดว่า ผมเข้า ไปเสิร์ชกูเกิ้ล หรือเข้าไปอ่านหนังสืออะไรใหม่ๆ ก็ไม่รู้จะเอามาใช้อะไร เพราะเหมือนเราทำมา หมดแล้ว คือธุรกิจโทรคมนาคมมันก็มเี ท่านีแ้ หละ รูท้ กุ อย่างหมดแล้ว พอถึงจุดทีเ่ ราสบายมากๆ ปับ๊ มันทำให้ผมเริม่ กลัวทีจ่ ะทำอะไรใหม่ๆ ซึง่ สมัยก่อน

ผมจะชอบทำอะไรใหม่ๆ มากไง เช่น เปลีย่ นฝ่าย เปลี่ยนแผนกตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่รู้จะเปลี่ยน ไปไหนเพราะอยู่มาทุกฝ่ายแล้ว ทีนี้มันก็เริ่มจะมี เหตุ ก ารณ์ ห ลายอย่ า งมากที ่ ม ั น มากระตุ ้ น ให้ ผมคิดมาเรื่อยๆ ถึงความสบายและชีวิตที่มันรู้ จนกลายเป็นไม่รู้ หรือที่ผมเรียกว่ารู้จนโง่น่ะ เพราะเชื่อไหม พอเรารู้ไปหมดทุกอย่าง เราก็จะ มีเวลามากขึ้น เพราะเราจะใช้เวลาแค่นิดเดียว ในการทำสิ่งที่เรารู้ แล้วเหตุการณ์แรกเลยที่มัน สะกิดใจผมก็คือ สิ่งที่ผมอ่านจากนิตยสาร a day ที่ไปสัมภาษณ์ คุณ ประภาส ชลศรานนท์ ที่เป็น ไอดอลผมคนนึง แกบอกว่า ‘รู้อะไร รู้ให้กระจ่าง แล้วลืมมันไปให้หมด’ เพราะว่ามันจะทำให้เราไปรู้ อะไรใหม่ๆ ได้ ไม่อย่างนั้นเราจะถูกบล็อกในสิ่ง ที่เรารู้ แล้วผมก็เลยเก็บมาคิดว่า แล้วผมจะทำ อย่างไรดีกับงานตัวเองที่รู้ไปหมดแล้ว จะไปแอบ ทำฝิ่นที่อื่นมันก็ไม่ดี มันก็ผิด จากนั้นมันก็มี อยู่เหตุการณ์นึงเกิดขึ้นในชีวิต คือเมื่อ 2-3 เดือน ที่แล้ว ผมพาลูกสาวไปเล่นสเกตที่เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วไปเจอ ดอกเตอร์ วิทย์ สิทธิเวคิน แกไปเล่น ไอซ์สเกต แล้วนึกภาพว่าแกเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ คนนึง อายุมากที่สุดในลานสเกต เล่นแล้วก็ล้ม อยู่อย่างนั้น ผมเห็นแล้วอายแทน เป็นผมไม่กล้า ทำอย่างนั้นนะ ทีนี้พอมีโอกาสคุยกัน ก็เลยถาม แกว่า ทำไมดอกเตอร์ถึงมาเล่นกีฬานี้ แกตอบว่า ‘ผมอยากออกจาก comfort zone ผมก็เลยมาเล่น ไอซ์สเกตเพราะอยากลองล้มดูบ้าง จะได้เรียนรู้ อะไรใหม่ๆ’ ล่าสุดแกทวีตมาบอกผมว่าไม่ลม้ แล้วนะ (หัวเราะ) คือผมรู้สึกว่าพอคนเรามันกล้าเดินออก มาจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นชิน เราก็จะได้เรียนรู้อะไร ใหม่ๆ เอง แต่ชวี ติ ผมตอนนัน้ มันไม่กล้าไง ผมรูส้ กึ ว่ า ผมปลอดภั ย จนรู ้ ส ึ ก ว่ า ตั ว เองฝ่ อ ลงเรื ่ อ ยๆ คือความสบายนี่ผมเรียกมันว่าเป็นเหมือนกับดัก ชีวติ นะ เพราะมันไม่มกี ารแข่งขัน มันสบายไปหมด ก็ถอื ว่าเป็นปัญหาสำหรับผมไปอีกแบบ แต่คนอืน่ อาจจะหมัน่ ไส้กไ็ ด้นะ เพราะบางคนเขาก็พยายาม ดิน้ รนทีจ่ ะมาถึงจุดทีผ่ มอยู่ แต่พอผมเริม่ คิดแบบนี้ มาเรื่อยๆ วันหนึ่งก็รู้สึกเองว่า เออ มันน่าจะได้ เวลาแล้ว เพราะเราก็อยู่กับดีแทคมานาน เราก็ อิ่มตัวทุกอย่าง มันเป็นจังหวะที่ดี เพราะตอนนี้ บริษทั ก็มน่ั คงมาก แล้วถ้ามองไปอีก 1 ปีขา้ งหน้า ผมก็ไม่เห็นว่าจะสามารถทำอะไรให้ดแี ทคได้เป็นเรือ่ ง เป็นราวไปมากกว่านีอ้ กี เพราะมันทำมาหมดแล้ว คิดเรื่องลาออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆ คิดมาตัง้ แต่ปลายปีทแ่ี ล้ว เดือนพฤศจิกายน แล้วพอคิดได้สักพัก นายเก่าผม คือ คุณ สุวภา เจริญยิง่ ก็โทร.มาบอกว่าอยากให้มาคุยกับ แมคยีนส์ดู เพราะเจ้าของเขาอยากหามืออาชีพ มาดูแล ผมก็ลังเล เพราะผมไม่มีความรู้เรื่อง ยีนส์เลย ตัวเจ้าของเองเขาก็คดิ ด้วยซ้ำว่าผมไม่นา่ จะไปหรอก เพราะผมก็อยูบ่ ริษทั ใหญ่โตแล้ว เทียบ กับแมคยีนส์มันก็สเกลประมาณกิจการครอบครัว แต่นายเก่าผมก็เชียร์ว่าลองดู ผมก็เออ ลองไปคุย กับนายเก่าดู แต่ตอนนัน้ มันเหมือนใจมันเปิดแล้ว สำหรับการไปทำอะไรทีเ่ ราไม่เคยรูเ้ ลย เพราะยีนส์ คือสิ่งที่ผมไม่รู้แน่ๆ ผมก็เข้าไปคุยกับเจ้าของ แมคยีนส์ ก็รสู้ กึ ว่าเขาให้เกียรติผมมากๆ ผมอาจ จะมีจุดอ่อนหลายอย่าง แต่จุดแข็งของผมคือ ผมว่าผมมองคนไม่คอ่ ยพลาดเท่าไหร่ เช่น เวลาคุย ก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นยังไง แล้วผมรู้สึกว่าคนเหล่านี้ เป็นคนดี ผมก็เลยสนใจทีจ่ ะไปทำ ผ่านการคุยกัน แค่ 3 ครั้ง ไม่ได้ดูกระทั่งตัวเลขของบริษัทเขา ก็เหมือนที่คณ ุ ประภาสบอกว่า วิธคี ดิ คนเราบางที ก็ตอ้ งเป๊ะๆ แต่บางทีกต็ อ้ งกะๆ เอา การไปทำงาน ทีแ่ มคยีนส์สำหรับผมก็เหมือนกัน ไปแบบกะๆ เอา เขาบอกว่ากำไร เออ จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะเนี่ย ไม่เคยดูงบเขาด้วย ทุกอย่างใช้ความรูส้ กึ บอกทัง้ นัน้ แต่พอตัดสินใจว่าจะไปทำแล้ว โอ้โฮ มันเริม่ ตืน่ เต้น เลือดเริ่มสูบฉีด อยากลองทำ ก็เลยไปบอกซีอีโอ

ไม่ยากหรอก เรื่องการทำให้ คนเกลียดน่ะ เบ่งเข้าไว้ กร่างเข้าไว้ แล้วก็พยายาม คิดแต่เรือ่ งตัวเอง ไว้ก่อน อะไรๆ ก็ตัวเองถูกเสมอ แล้วก็ ใช้อารมณ์ พยายามแย่งชิง อำนาจ สถานที่ หรืออะไรที่มัน บ่งบอกถึง สถานภาพ ศักดิ์ศรี ทำเถอะ รับรองคนเกลียด หมด แล้วแน่นอน ว่าการทำให้ คนชอบก็คือ การทำทุกอย่าง ตรงข้ามกับทีว่ า่ มา

ว่าจะออก แล้วก็เลยเป็นข่าวเลยนี่ไง ตัดสินใจทำงานโดยใช้ความรูส้ กึ หรือ Gut Feeling แบบนี้บ่อยไหม บ่อยนะ เออจริงๆ มันอาจจะเป็นนิสยั ผมก็ได้ เพราะผมใช้ Gut Feeling ประจำเลย เดาๆ เอา กะๆ เอา แค่นี้แหละ ตลอดชีวิตผมตอนทำงาน การเงินแล้วย้ายมาอยูด่ แี ทค ผมก็ใช้ Gut Feeling นะ ช่วงแรกๆ มาถึงก็ไม่รอู้ ะไรเลย มือถือก็ไม่คอ่ ย รูจ้ กั เพิง่ จะซือ้ มือถือเครือ่ งแรกเลยมัง้ แล้วตอนที่ ผมเข้ามาทำงาน ผมก็ทำในตำแหน่งนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) ก็ไม่มีใครรู้จักว่าทำอะไร ผมเป็นคนแรกเลยมั้งที่ทำตำแหน่งนี้ ผมไม่รู้ว่า มันต้องทำอะไร แต่ก็จะลองดู ผมอาจจะเป็นคน บุคลิกแบบนี้แหละ คือไม่คิดมาก ลองดู การทำ ในสิง่ ทีไ่ ม่รมู้ นั ตืน่ เต้นดี เหมือนเราจะได้เรียนรูใ้ หม่ แน่ๆ ยิง่ เราไม่ได้มคี วามยึดติดในเรือ่ งของหน้าตา ชือ่ เสียงอยูแ่ ล้วด้วย เพราะผมไม่ได้อยากได้อะไร แบบนัน้ อยูแ่ ล้ว ถ้าผมมี Career Path ทีต่ ง้ั เป้าหมาย ไว้วา่ จากดีแทคแล้วต้องไปเป็นซีอโี อที่ใหม่ที่ใหญ่ กว่านี้ มันอาจจะตัดสินใจยาก แต่เพราะผมไม่มี กรอบครอบอยู่ ผมเป็นคนที่ไม่ได้คิดมาก ถ้ามัน พลาด ไม่เหมือนทีค่ ดิ ไว้ เราก็คงได้เรียนรูอ้ ะไรบาง อย่างเองแหละ แล้วมันก็คงมีทางไปต่อเอง แต่ถ้า วางเป็นสเต็ปไป เราก็จะไม่กล้าออกนอกเส้นทาง คือการลาออกของผมก็เหมือนการลองเลี้ยวไปดู ว่าตรงนั้นมันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วที่น่าสนใจ ที่สุดสำหรับบริษัทที่ผมจะไปคือ แมคยีนส์ เป็น บริษทั คนไทยแท้ๆ ทีม่ าสูก้ บั บริษทั ยีนส์ทเ่ี ป็นแบรนด์ ระดับโลกต่างๆ ผมว่ามันก็น่าตื่นเต้นดี เหมือน แมคยีนส์เป็น underdog เป็นมวยรอง ซึ่งผม เป็นคนที่ชอบมวยรองอยู่แล้ว เพราะการเป็น มวยรองมันจะทำให้เราฟิตเสมอ อย่างดีแทค สมัยก่อนก็ถอื ว่าเป็น underdog นะ ตอนนีก้ ถ็ อื ว่า แข็งแรงขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ ไม่ใช่ underdog แบบเดิมๆ แล้ว ชอบมวยรองเพราะอะไร เพราะถ้าเรารู้ว่าเราเป็นรองแล้ว เราจะขยัน ต้องพยายามรู้ให้เยอะ ต้องกัดไม่ปล่อย แล้วจะ หาวิธกี ารต่างๆ ทีม่ นั จะชนะคูแ่ ข่ง ก็เหมือนนักมวย ที่เป็นผู้ท้าชิงจะขยันกว่า ซ้อมหนักกว่าคนที่เป็น แชมป์ ซึ่งแชมป์ก็จะนิ่งๆ เพราะรู้ว่าตัวเองเป็น แชมป์แล้วก็จะชกแบบเดิม ชกยังไงก็ชนะ แต่ผทู้ า้ ชิง จะอดทนกว่า ต้องฝึกเยอะ หาแทคติกที่ทำให้สู้ ได้โดยไม่ตอ้ งไปปะทะตรงๆ กับแชมป์ได้ คือมวยรอง จะต้องฝ่าฟันเยอะ แล้วจะเรียนรู้เยอะด้วย แต่ สั ง เกตว่ า คนเป็ น แชมป์ จ ะเป็ น ไม่ ค ่ อ ยได้ น าน เพราะมันเริม่ สบาย ไม่อยากเหนือ่ ยซ้อม แต่ผมเป็น คนที่อยากได้ความรู้สึกของผู้ท้าชิง หรือมวยรอง มันจริงอย่างที่มีคนเคยบอกไหมว่า คนประสบ ความสำเร็จเร็ว มันจะทำให้ชีวิตต่อไปไม่ท้าทาย ก็น่าจะจริงเลยแหละ เพราะเทียบจากผม พอถึงจุดหนึ่งมันจะกลับมาคิดว่า เรายังมีเวลา อีกตั้งไกลนะ แล้วเราจะทำตัวเหมือนคนเกษียณ แล้วเหรอ จะหยุดแค่นี้แล้วเหรอ? คนอื่นอาจจะ ไม่อยากทำอะไรแล้ว แต่ผมชอบที่จะทำอะไร อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่ามันมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง คือจะได้รสู้ กึ ตืน่ เต้นในการทำงาน อยากอ่านหนังสือ เพื่อที่จะได้เอาไปใช้งานต่อ อ้าว แล้วตอนทีค่ ณ ุ อยูใ่ นจุดสูงสุดมันทำไม่ได้เหรอ ผมก็พยายามทำแล้วนะ แต่รู้สึกได้เลยว่า passion มันหายไป ผมชอบคำว่า passion มาก แล้วผมจะอ้างอิงคำพูดของคุณประภาสบ่อยๆ ซึ่งแกบอกไว้ว่า passion คือการหลงใหลอะไร บางอย่างอย่างหัวปักหัวปำ ชอบอย่างโงหัวไม่ขน้ึ ผมเคยมีความรู้สึกแบบนั้นตอนที่ทำเรื่องการ ตลาดกับดีแทค หรือกระทั่งตอนที่ทำเรื่องเจรจา การเงิ น ให้ ก ั บ ดี แทคที ่ จ ะเจ๊ ง แหล่ ไม่ เจ๊ ง แหล่ ต้องเจรจาให้เจ้าหนี้ยอม ยิ่งช่วงหลังๆ ตอนที่ดู เรือ่ งการตลาดในช่วงทีด่ แี ทคกำลังเป็นรองเจ้าอื่น

13

มันเป็นช่วงที่ผมตื่นมาแล้วคิดทุกวันว่า ไม่รู้จะ รอดไหม แพ้ตรงกลยุทธ์ โปรโมชันอีกแล้ว คือ ความรู้สึกว่าตื่นมาตอนเช้าแล้วอยากจะแข่งขัน มันมีสงู มากเลยไง แต่ตอนหลังๆ มันหายไป เพราะ มันเริ่มนิ่ง แล้วตัวเองเป็นเหมือนคล้ายๆ นักมวย ทีเ่ ป็นแชมป์ คือนิง่ ๆ แล้วมันจะรูส้ กึ ว่ากลัวไปหมด เพราะ passion มันหายไป แต่ความกลัวมันมากขึน้ คือกลัวทำแล้วเดีย๋ วพลาด กลัวทำแล้วไม่ดเี หมือน เดิม อีกอย่างผมรู้ตัวเลยว่า ถ้าไม่มี passion แล้ว ชีวติ มันจะจืดไง ผมเรียกช่วงนีว้ า่ มันคือการหาเหา ใส่หัว (หัวเราะ) คือหาเรื่องทำอะไรดูหน่อยวะ กำลังจะถามว่า ถ้าทำพลาดในที่ที่คุณเป็นใหญ่ มันไม่มีใครว่า แล้วมันก็น่าจะดีกว่าการไปพลาด ในที่ใหม่หรือเปล่า เออ อาจจะเสียชือ่ ไปเลยก็ได้นะ อ้าว คุณธนา ทีท่ ำการตลาดเก่งๆ อาจจะไปตายทีแ่ มคยีนส์กไ็ ด้ ซึง่ อันนีแ้ หละคือความรูส้ กึ ทีผ่ มอยากได้ คือความคิด ผมอาจจะประหลาดกว่าชาวบ้านเขานะ ผมอาจ จะไม่ได้เป็นนักธุรกิจแบบที่สมบูรณ์แบบที่เขา

มักจะมี Career Path กัน แต่ผมจะออกแนวบ้าๆ ทำในสิง่ ทีค่ นเขาว่ายากน่ะ เหมือนตอนทีผ่ มจัดให้ ผู้บริหารดีแทควิ่งลดความอ้วนกัน 10 กิโลฯ น่ะ ตอนนั้นก็ใช้วิธีประกาศกับนักข่าวเลยว่าเราจะ วิ่งลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลฯ ภายใน 4 เดือน คือผมหาเรือ่ งใส่ตวั เลย เพราะมันอาจจะทำไม่ได้ไง เป็น Impossible Race ผมชอบความรู้สึกแบบนี้ คือมีคนทีค่ ดิ ว่าเราจะทำไม่ได้ แล้วเราก็อาจจะทำ ไม่ได้จริงๆ ก็ได้นะ ถ้าเราไม่ซ้อมให้หนัก ไม่ใส่ ให้มันเต็มที่ คุณซิกเว่ที่เป็นเจ้านายเก่าผม เขาใช้ คำว่าเป็นความรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่บนหน้าผา มันเป็นความรู้สึกที่อยากได้ แล้วตอนหลังชีวติ ผม มันไม่มี เลยต้องไปหาไอ้ความรู้สึกที่ว่ามันอาจจะ พลาดหรือล้มเหลวก็ได้ ซึ่งผมเป็นคนที่ล้มเหลว แล้วจะไม่อายด้วย เพราะผมเชือ่ ว่าดีออก มันก็ เท่ดีนี่ คนเรามันก็ต้องล้มบ้าง มันถึงจะได้รู้ว่ามัน ลุกยังไง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยล้ม หรือว่าอย่างไรคะ ก็ลม้ บ่อยมากนะชีวติ ผมเนีย่ (หัวเราะ) ตัง้ แต่

เด็กก็ไม่ได้เป็นคนเก่ง ถ้าไปวิ่งสัก 8 คน ผมก็อยู่ ประมาณคนที่ 6 สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้คณะ ที่อยากได้ ไปเมืองนอกก็ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย ที่อยากเรียน กลับมาเมืองไทย ยื่นใบสมัครไป 50 กว่าบริษัท เรียกผมสัมภาษณ์แค่ 2 ที่เอง แต่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็จะนำผมไปสู่ประสบการณ์ ใหม่ๆ เสมอ ทั้งที่มันดูเหมือนล้มเหลวมาตลอด แต่ตอนหลังมันมีน้อยเกินไปไง เพราะผมอาจจะ ระมัดระวังตัวเกินไปด้วย จะว่าไปเราก็สามารถ ใช้ชวี ติ แบบทีเ่ ป็นอยูท่ กุ วันนีไ้ ด้อกี หลายปีเลยแหละ ดีแทคเขาก็ให้เกียรติเรามาก แต่เราก็คิดจะออก ไปทำทีอ่ น่ื มีคนถามว่า บ้าหรือเปล่า ทำไมไม่อยูต่ อ่ สบายจะตาย แต่ผมกลับรู้สึกดีกับการตัดสินใจ จะไป แล้วทำอย่างไรคุณถึงเอาชนะเสียงค้านรอบตัว เหล่านั้นได้ ผมก็ฟังเสียงอยู่ 2 คน คือ เสียงตัวเอง กับเสียงภรรยา (หัวเราะ) เพราะทำอะไรก็ตาม ภรรยาก็ต้องเห็นด้วย แล้วเรื่องนี้เขาก็เห็นด้วย

เพราะเขาเห็นผมหงอยๆ มาสักครึ่งปีแล้ว คือ สบายจริงแต่มันหงอย ถ้าไม่ได้มอง Career Path ในแง่ของการเป็นใหญ่ เป็นโต แล้วคุณมอง Career Path ในแง่ไหน ไม่มีนะ จริงๆ ผมแค่อยากจะทำอะไรสนุกๆ เท่านัน้ เอง เพราะผมจะมีความฝันสัน้ ๆ เป็นช่วงๆ ช่วงนีก้ ค็ อื การเลีย้ งลูกให้ดี แล้วก็หาอะไรตืน่ เต้นทำ ทุ ก วั นนี ้ ก ารเลี ้ ย งลู ก ทำให้ ผ มอยากจะตื ่ น เช้ า ไปส่งเขาที่โรงเรียน กลับบ้านไปก็มีคนรอให้ผม พาเข้านอน และได้ดูเขาเติบโตไป อีกอย่างคือ การได้ ท ำอะไรที ่ ม ั น สะใจตั ว เองเท่ า นั ้ น แหละ ผมไม่ เคยคิ ด ว่ า จะไปเป็ นซี อ ี โ อบริ ษ ั ท ใหญ่ ๆ ไม่อยากเป็นด้วย ผมพยายามจำกัดตัวเองให้อยู่ แค่เรื่องหน้าที่การงาน พยายามไม่ไปบอกเล่า เรือ่ งส่วนตัว ออกทีวี คือชือ่ เสียงเนีย่ พอถึงจุดหนึง่ ผมมีแล้วผมไม่ชอบ เพราะผมอยากอยูก่ บั ครอบครัว ผมไม่มเี หตุผลทีจ่ ะต้องใช้ชอ่ื เสียงไปต่อยอดทำอะไร ประเด็นคือว่า ถ้าทำงานโดยไม่มี Career Path แล้วอะไรมันจะผลักดันชีวิตคนเราคะ Passion (ตอบทันที) Career Path นี่คนเรา มันก็ควรจะมีแหละ เพราะเขาจะได้รู้ว่าจะเดิน ยังไงต่อ แต่การมี passion สำหรับผมมันสำคัญ กว่า เช่น ยกตัวอย่างคนที่เล่นดนตรี เขาอาจจะ มุ่งมั่นอยากเป็นศิลปิน อยากเป็นนักร้องชื่อดัง แต่ผมคิดว่าไอ้การเป็นนักร้องชือ่ ดังเนีย่ มันสามารถ เป็น Career Path ได้กจ็ ริง แต่การอยากเป็นนักร้อง ชื่อดังมันต้องไม่คิดว่าอยากเป็นสิ แต่มันต้อง ชอบการเล่นดนตรีก่อน ชอบในสิ่งที่ทำก่อน หลงใหลมันอย่างหัวปักหัวปำก่อน แล้วจะเป็น นักร้องหรือไม่เป็นก็อีกเรื่องหนึ่ง มันอาจจะดัง หรือไม่ดังก็ไม่เป็นไร ขอให้เราชอบในสิ่งที่เราทำ ดังนัน้ ผมเลยหาสิง่ ทีผ่ มชอบ แล้วมันจะพาไปไหน ก็ไม่รู้ อย่างผมชอบการแข่งขัน ชอบการตลาด ชอบการเป็นมวยรอง ทีนค้ี วามชอบนีม้ นั จะพาผม ไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งถ้าเราไม่ได้ไปสนใจเรื่องหน้าตา อะไรมาก ล้มบ้างก็ดีนี่ การทำอะไรสนุกๆ อาจ เป็น Career Path ของผมก็ได้ แล้วเทียบกับวันที่คุณสนใจหน้าตามากๆ อย่างที่ บอกว่าห้องทำงานก็ต้องใหญ่ เบอร์มือถือก็ต้อง สวยล่ะ ก็ได้รแู้ ล้วว่ามันก็แค่หมวกใบหนึง่ การลาออก ครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะมัน มีการเตรียมตัวที่ดี และสอง มันทำให้ผมรู้สึกได้ ถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง เพราะการลาออก ของคนคนหนึ ่ ง มั น ไม่ ค วรจะเป็ นข่ า วขนาดนี ้ แต่สังเกตว่านักข่าวก็เขียนถึงผมด้วยความเอ็นดู รู้สึกเลยว่าเขาช่วยเขียนให้ เหล่านี้คือเรื่องคน ทัง้ นัน้ เลย ต่างจากการลาออกครัง้ ทีแ่ ล้วทีม่ นั เป็น การลาออกที่มาจากความอยากเป็นใหญ่ อยาก พิสูจน์ตัวเอง แล้วผลลัพธ์ตอนที่ถอดหมวกออก ตอนนั้นมันไม่ใช่อย่างที่เราคิด เหมื อ นตอนนั้ น ถอดหมวกเพราะอยากใหญ่ ตอนนี้ถอดเพราะอยากเล็กลงเหรอคะ ถอดหมวกเพราะอยากสนุก อยากทำอะไรที่ ตื่นเต้นมากกว่า ดังนั้น เลยไม่ได้สนใจว่าหมวก ใบต่อไปมันจะใหญ่หรือมันจะเล็ก ผมสนใจใน เรื ่ อ งของคนที ่ แ วดล้ อ มผมอยู ่ ต อนนี ้ ม ากกว่ า ไม่วา่ จะเพือ่ นในแวดวงสือ่ หรือนักธุรกิจ มากกว่า การถอดหมวกเที่ยวนี้มันสบายใจกว่า ถอดแล้ว เราก็ทำตัวเหมือนเดิม แล้วตอนที่คุณอยากได้ห้องใหญ่ๆ อะไรนั่นมันมา จากอะไร มันมาจากผลของการที่เห็นภาพ หรืออ่าน นิตยสารธุรกิจมากๆ แล้วเห็นว่า โอ้โฮ มันเจ๋ง พอเราเป็นใหญ่เป็นโตแล้ว ก็ตอ้ งมีเลขาฯ ต้องมีรถ ผมเคยมีภาพถึงขนาดว่าเรานั่งอยู่ในเบาะหลังรถ แล้วข้างๆ เราก็มีเลขาฯ มาฉีกถุงขนมให้กิน ซึ่งมันเป็นภาพโฆษณายูโรคัสตาร์ดตอนนี้นั่นเอง (หัวเราะ) หรือกระทั่งการมีเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว

14

คือมันเป็นความฝันของคนทำงานใหม่ๆ ทุกคนนะ ถ้าให้ผมเดา แต่พอเราเติบโตจนถึงจุดหนึ่งมันจะ เริ่มคลี่คลายไปเองว่าเราอยากได้อะไร อยากไป แนวไหน ตอนที่ผมลาออกไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันเหมือนพอถอดหมวกปับ๊ มันเห็นเลยว่าไอ้ทค่ี น ยอมเรา พูดจาดีกับเรา เพราะเรามีตราดีแทคอยู่ บนหัว แต่พอไม่มีแล้วมันก็ไม่ใช่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าวันนี้เราจะเป็นอะไรก็ตาม ผมจะคิดว่า ไอ้หมวกใบนี้มันไม่ใช่ของเรา แล้วการเรียนรู้ได้ อย่างนี้มันไม่ง่ายนะ ผมต้องลาออกไปรอบนึง ก่อนถึงจะได้เรียนรูแ้ ละเข้าใจ ก่อนหน้านัน้ มันไม่ ค่อยเข้าใจพอ แล้วหลังจากนั้นผมก็เริ่มพยายาม จำกัดตัวเอง ห้องทำงานผมก็เลยเล็กลง เล็กทีส่ ดุ เท่าที่จะเล็กได้ เพราะผมพยายามเตือนตัวเองไว้ เสมอว่า สักวันนึงเราก็ต้องลาออก ห้องนี้มันก็ ไม่ใช่ของเรา แล้วถ้าเราอยู่ห้องใหญ่มากๆ เดี๋ยว ก็เป็นแบบครัง้ ทีแ่ ล้วหรอก ผมพยายามทำห้องให้ เล็ก เพราะสมมติวา่ เขาให้ผมออกพรุง่ นี้ ผมก็ควร จะลุกออกไปได้เลยนะ ไม่ตอ้ ง อุย๊ ขอเวลา เดีย๋ ว ต้องไปลบไฟล์ทิ้งก่อน ไอ้นี่ยังทำไม่เรียบร้อย คือ จริงๆ ถ้าผมออกวันนี้ ผมลุกเดินออกไปพรุ่งนี้ได้ เลย แล้วมันเป็นความตัง้ ใจตัง้ แต่เมือ่ 10 ปีทแ่ี ล้ว ด้วยว่า ผมพร้อมเดินออกไปเสมอ ทุกอย่างมัน คือหมวก แล้วเราก็ต้องซ้อมถอดหมวกอยู่เรื่อยๆ พอถึงจังหวะทีม่ นั เหมาะสมพอดี มันก็จะถอดได้เลย คุณบอกว่า ในการทำงานที่ผ่านมามีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ อยากทราบว่าทำอย่างไรให้คนเกลียด สมัยโน้นเลยนะ ผมกร่างน้องๆ นักการเมือง คนนึงที่ดูเป็นนักเลงๆ น่ะ ไม่พอใจใครเรียกมา ด่าเลย ไม่ยากหรอกเรื่องการทำให้คนเกลียดน่ะ เบ่งเข้าไว้ กร่างเข้าไว้ แล้วก็พยายามคิดแต่เรื่อง ตัวเองไว้ก่อน อะไรๆ ก็ตัวเองถูกเสมอ แล้วก็ใช้ อารมณ์ พยายามแย่งชิงอำนาจ สถานที่ หรืออะไร ที่มันบ่งบอกถึงสถานภาพ ศักดิ์ศรี ทำเถอะ รับรองคนเกลียดหมด แล้วแน่นอนว่าการทำให้ คนชอบก็คือ การทำทุกอย่างตรงข้ามกับที่ว่ามา แล้วก็แคร์คนอืน่ เห็นหน่อยว่าทุกคนเป็นคนธรรมดา เป็นพี่เป็นน้องกัน แต่มันอาจทำให้คนรักทั้งหมด ไม่ได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการทำบริษัทที่มี คนอยูเ่ ยอะ ถ้าทำให้คนรักหมด ผมก็เชือ่ ว่าบริษทั ก็คงอยูไ่ ม่ได้หรอก การทำให้คนรักหมดง่ายนิดเดียว ปล่อยให้เขามาบ้างไม่มาบ้าง ทำงานบ้างไม่ทำงาน บ้าง ลาได้เยอะๆ กลับบ้านได้ตั้งแต่บ่ายสอง รับรองลูกน้องรักหมด แต่ธรุ กิจก็เจ๊ง แต่เราทำงาน องค์กรใหญ่เราก็ต้องบาลานซ์ให้ดี ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงาน ผมเชือ่ ว่าการเป็นหัวหน้าคน ความยากมันอยู่ที่ว่าจะทำยังไงถึงจะเชิดชูคนที่ เก่งและดีขน้ึ มา และต้องทำให้คนทีไ่ ม่เก่งและไม่ดี ออกจากองค์กรไป แน่นอนว่าคนทีเ่ ราคิดว่าไม่เก่ง และไม่ดี เขาก็ตอ้ งคิดว่าตัวเองใช้ได้ ดังนัน้ ถ้าเรา ไปเอาเขาออกไปจากวงโคจร เขาก็ตอ้ งไม่ชอบ เป็น ธรรมชาติที่หัวหน้าไม่มีทางที่จะมีคนชอบ 100% แต่เราทำเพื่อส่วนรวม คือถ้าเราคิดเป็นเรื่องส่วน รวมไว้ก่อนถ้าวันหนึ่งจะไป ผมเดาเอาเองนะว่า อย่างน้อยก็ต้องมีคนอาลัยอยู่บ้างล่ะ ในแวดวงธุรกิจ คุณ position ตัวเองว่าเป็น ใครคะ สมัยเป็นนักการเงิน แน่นอน ก็ต้องพยายาม position ตัวเองเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญ ต้องใส่แว่น ดูแก่ๆ ด้วย เพื่อจะได้รู้สึกว่าน่าเชื่อถือ หรือตอนทำการ ตลาดช่วงแรกๆ ก็พยายามจะเลียนแบบคนที่เป็น นักการตลาด ต้องพูดจาแบบมีทฤษฎีเยอะๆ แต่ ผมอาจจะมีความเป็นศิลปินเยอะ สักพักหนึง่ ก็จะ รูส้ กึ ว่าไม่ใช่ คือเราอยากพูดอะไรก็พดู ตอนหลังๆ ก็จะเริม่ เป็นตัวของตัวเอง ผมอาจจะโชคดีอย่างหนึง่ คือพอทำตัวไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเท่าไหร่ คนก็ เลยมองผมเป็นคนนอกกรอบ จริงๆ มันก็ไม่ได้ นอกกรอบนะ ผมเป็นคนปกติ หรือใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ไปทำงานแบบนี้ คนก็จะฮือฮาว่าทำไม

แต่งตัวแบบนีไ้ ด้ แต่จริงๆ มันก็แต่งได้นะ่ (หัวเราะ) มันไม่มใี ครห้ามไง พอแต่งอย่างนีป้ บุ๊ ก็บอกว่ากล้า นอกกรอบ แต่จริงๆ ไม่ใช่หรอก เพียงแต่ความ เป็นนักธุรกิจนีม่ นั มีกรอบอะไรใส่ไว้อยู่ พอเราทำ อะไรทีม่ นั ไม่เหมือนชาวบ้านเขาหน่อยก็จะมองว่า นอกกรอบ ดังนัน้ มันเลยกลายเป็นว่า position ผมคือนอกกรอบ แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้นอกกรอบนะ จริงๆ คือทำตัวเป็นคนธรรมดา พอทำตัวเป็นคน ธรรมดา นักธุรกิจเขาไม่ทำกัน มันก็เลยกลายเป็น นอกกรอบไป เพราะว่าทำตัวไม่เหมือนชาวบ้าน แต่จริงๆ ผมน่ะเหมือนชาวบ้าน แต่นักธุรกิจน่ะ ไม่เหมือนชาวบ้าน (หัวเราะ) แล้วในแง่การใช้ชีวิต position ตัวเองว่าเป็น คนอย่างไร ผมอยากจะเป็ นคนที ่ ถ ้ า ใช้ ภ าษาของคุ ณ ขรรค์ชยั บุญบาน ก็ใช้คำว่าวิญญูชน ฟังดูดนี ะครับ แต่ถา้ แปลจริงๆ แล้ววิญญูชนแปลว่าคนปกติธรรมดา คือรู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี แล้วก็ทำตัวปกติธรรมดา ผมอยากเป็นคนที่ปกติธรรมดามากๆ แล้วก็เป็น พ่อทีด่ ี ผมอยากเป็นพ่อทีด่ ๆี อันนีเ้ ป็นอย่างแรกๆ เลยครับ อันที่สองก็คือ เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อ คนรอบข้าง ไม่ตอ้ งถึงกับประเทศนะ แค่คนรอบข้าง ทีเ่ ราเกีย่ วข้อง ถามว่าเป็นคนธรรมดาทำยากไหม จริงๆ มันไม่ยาก เพียงแต่ว่าพออยู่ในโลกธุรกิจ มันจะมีความคาดหวัง มี positioning เช่น ต้องมี วิธีการแบบนี้ ต้องพูดจาแบบนี้ มันอาจจะยาก ในโลกธุรกิจ แต่พอถึงจุดหนึง่ แล้วถ้าเราไม่ได้สนใจ อะไรมาก เราก็เป็นคนปกติธรรมดา ชีวิตผมก็ โคตรปกติเลย เช้าก็ไปส่งลูก ไปสวนลุมฯ แล้วก็ มาทำงาน กลับบ้านเลี้ยงลูก เสาร์-อาทิตย์ก็อยู่ กับลูก ชีวิตผมมีแค่นี้จริงๆ ไม่มีงานอดิเรกใดๆ ทั้งสิ้น โคตรน่าเบื่อเลย (หัวเราะ) แล้วถ้าเป็นคนปกติธรรมดาอย่างที่คุณต้องการ แล้วจะอยู่อย่างไรในโลกที่ทุกคนคาดหวัง ตอนนี้ก็ต้องพยายามให้เขาคาดหวังน้อยๆ คือผมว่าไปแมคยีนส์ คนอาจจะคาดหวังน้อยลง (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผมจะสนใจความคาดหวังของ คนรอบๆ ตัวมากกว่า ก็คอื ลูกผม ภรรยาผม ลูกผม ก็ไม่คอ่ ยอยากให้ออกจากดีแทค เพราะกลัวจะไม่ได้ มาเล่นสไลเดอร์ เพราะทีด่ แี ทค มีสไลเดอร์ (หัวเราะ) แล้วก็พ่อแม่ผม แค่นั้นเอง แต่ความคาดหวังจาก คนอืน่ อย่างมากก็อาจจะมีคนทีบ่ อกว่า ถ้าไปเดีย๋ ว อาจจะล้มเหลวนะ แต่ว่าก็ไม่เป็นไร เพราะว่าอัน นั้นเป็นความตัง้ ใจของผมอยูแ่ ล้วทีล่ ม้ ก็ดี ไม่ลม้ ก็ถอื ว่าโชคดี หรือล้มก็อาจจะโชคดีก็ได้ เพราะ มันก็เหมือนเวลาเล่นสเกต มันก็ต้องล้มบ้างล่ะ ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ถึงจะเล่นเป็น ในเมือ่ ตอนนีส้ ำหรับลูก คุณก็เป็นพ่อทีเ่ ก่งทีส่ ดุ ในโลก แล้วถ้าเกิดไปล้มแล้วจะบอกลูกว่าอย่างไร เก่งทีส่ ดุ ในโลกในความหมายทีไ่ ม่ใช่เรือ่ งงาน นะครับ เก่งทีส่ ดุ ในโลกสำหรับลูกก็คอื ว่า ดูแลเขา อยู่กับเขาตลอดเวลา แล้วก็กินผักโชว์เขา แล้วก็ ไปวิง่ ออกกำลังเก่ง หรือมีอะไรก็แก้ปญ ั หาได้หมดเลย เพราะมันแก้ง่ายนี่ ป.1 อนุบาล เขาเอาการบ้าน มาเราก็ทำได้ทุกข้อเลย เราก็ต้องเก่งที่สุดสำหรับ เขาอยู่แล้ว เขาไม่รู้หรอว่าดีแทคหรือว่าแมคยีนส์ มันต่างกันยังไง แต่แน่นอน ผมว่าพอเขาโตขึ้น มาเรือ่ ยๆ ผมก็ไม่อยากจะเป็นพ่อทีเ่ ก่งทีส่ ดุ ในโลก แล้ว ผมอยากเป็นเหมือนพี่ชายเขามากกว่า คือ อาจจะห่างกับเขาหน่อย เช่น พอเขา 1 ขวบ ผม ก็ทำตัวเหมือนเด็ก 4 ขวบ ตอนนี้เขา 7 ขวบ ผม ก็ทำตัวเหมือนเด็ก 10 ขวบ ไปเล่นสนามเด็กเล่น กับเขา ไปโหนบาร์กับเขา จริงๆ ผมชอบเล่นกับ เด็ก แล้วก็ค่อยๆ โตกับเขาไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่รู้ว่า ถึงจุดหนึง่ ต้องเปลีย่ นยังไง แต่ถงึ ตอนนีก้ ย็ งั ทำตัว อย่างนั้นอยู่ คือกิจกรรมหลักของผมตอนนี้ก็คือ เลี้ยงลูก ทราบมาว่าชอบวิ่งมาก ทำไมถึงชอบไปวิ่งคะ ทีว่ ง่ิ เพราะว่าผมชอบเรียนรูจ้ ากสิง่ ทีผ่ มเรียกว่า

ผมพร้อมเดิน ออกไปเสมอ ทุกอย่างมันคือ หมวก แล้วเรา ก็ต้องซ้อมถอด หมวกอยู่เรื่อยๆ พอถึงจังหวะ ที่มันเหมาะสม พอดี มันก็จะ ถอดได้เลย

ความล้มเหลว ผิดพลาด แล้วก็โง่เขลา เพราะว่า เมือ่ ก่อนผมอ้วน แล้วก็ไม่ดแู ลตัวเอง ไม่ออกกำลัง แล้วก็เข้าโรงพยาบาลไปทีนึง ทำให้คิดได้ อันนั้น เป็นการล้มเหลวในการดูแลตัวเอง ผมคิดได้กเ็ พราะ นึกถึงลูกนี่แหละ ว่าถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วจะมี ใครดูแลลูก ก็เริม่ กินผัก ลดน้ำหนัก แล้วก็เริม่ วิง่ วิง่ ครัง้ แรกแค่ 200 เมตร จะขาดใจ คือเหนื่อย นึกว่าจะตายแล้วน่ะ เมื่อก่อนน้ำหนักประมาณ 90 นิดๆ ตอนนี้ก็ 78 แต่แข็งแรงขึ้นเยอะ เดี๋ยวนี้ ก็เตะบอลได้ แล้วก็วิ่งได้ 7 กิโลฯ 10 กิโลฯ ก็แข็งแรงขึ้นมาเยอะ เหมื อ นคุ ณ ชอบทำอะไรที่ มั น ท้ า ทายตั ว เอง เหมือนกันนะ คือจริงๆ เรื่องวิ่งนี่สำคัญสำหรับผมมาก คือเดิมก็ไม่คดิ ว่าตัวเองจะทำอะไรได้มากนักในแง่ ของร่างกาย เพราะมันยากมากในการเปลี่ยน ทีนี้พอลดน้ำหนักได้ แล้ววิ่งได้ ลดน้ำหนักได้ 10 กิโลฯ วิ่งได้ 10 กิโลฯ มันทำให้เราคิดว่า เฮ้ย เราก็ทำอะไรอย่างอืน่ ได้นห่ี ว่า เย็นนีย้ งั นัดภรรยา ไปสมัครเรียนโยคะเลย (หัวเราะ) คือการที่เรา รูส้ กึ ว่าเราสามารถทำในสิง่ ทีย่ ากได้ ก็อาจจะเป็น ทางที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่า เฮ้ย ถ้าอย่างนั้น เราก็ออกจากงานได้สิ เรื่องการลาออกจากงาน มันจะคล้ายๆ การวิง่ คือผมว่าถ้าเราสบายเกินไป แล้วถ้าเราไม่ออกกำลัง เราก็จะอ้วน เราก็จะป่วย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มป่วยทางสมอง คือมัน ฝ่อลง แล้วในแง่จิตใจก็ฝ่อด้วย เพราะเรากลัวไป

15

หมด ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ การ ประกาศว่าจะไปทำงานบริษทั ยีนส์ ก็อาจจะ เหมือนตอนที่ผมประกาศกับนักข่าวว่าจะวิ่ง 10 กิโลฯ คือมันทำให้รู้สึกว่าเราต้องพยายาม ถ้าเกิดหลายคนเชือ่ ว่าคนทีป่ ระสบความสำเร็จเร็ว เป็นคนเก่ง แล้วมองคุณเป็นต้นแบบ ในฐานะที่ คุณประสบความสำเร็จเร็วมาก่อน จะบอกเขาว่าอะไร หรืออยากเตือนเขาว่าอะไร ก็... การประสบความสำเร็จเร็วมันจะเบื่อ (หัวเราะ) ถ้า passion คือการได้ทำอะไรที่อยาก ทำมากๆ การที่ผมประสบความสำเร็จในวันนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะคำนั้นก็ได้ คือเพราะความ อยากทำนีแ่ หละ ตอนอยูด่ แี ทคก็อยากทำไปหมด ทุกฝ่าย พอเขาจะโปรโมตคน และหาคนทีร่ เู้ ยอะๆ มาทำงาน เขาก็ต้องมาเลือกผมนี่แหละ ดังนั้น ก่อนทีจ่ ะไปสูเ่ รือ่ งของความสำเร็จ มันต้องมีเรือ่ ง ของ passion เรื่องการทำงานหนัก เรื่องการชอบ ทำอะไรใหม่ๆ ชอบลองผิดลองถูก ล้มเหลว ผิดพลาด โง่เขลา แล้วเรียนรูม้ นั ขึน้ มา พอประสบ ความสำเร็จแล้วมีชื่อเสียงแล้วก็ต้องแล้วแต่ว่า คุณชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมไม่ชอบชื่อเสียง ผม เป็ นคนที ่ ไม่ พ ยายามที ่ จ ะขยายชื ่ อ เสี ย งโดย ไม่จำเป็น แต่บางคนอาจจะชอบมัน แล้วใช้ความ สำเร็จนี้ไปต่อยอดทำตามความฝันอันยิ่งใหญ่ เช่น อาจจะอยากเป็นนายกฯ อาจจะอยากเป็น ซีอีโอบริษัทใหญ่ๆ ต่อไป ของผม ผมไม่ชอบ ก็พยายามจะหาสิ่งที่ตัวเองชอบต่อไป ผมว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะไม่ใช่ประเด็น แต่เราชอบในสิง่ ทีท่ ำหรือเปล่า ไม่ใช่ทำในสิ่งที่ชอบนะ เพราะทำในสิ่งที่ชอบมัน อาจจะเลือกยาก แต่ชอบในสิ่งที่ทำหรือเปล่า ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะดี ในแง่ของถ้าเป็น คนมีลูกมีเมีย เราก็เลี้ยงลูกเมียได้ดขี น้ึ เพราะว่า มีสตางค์มากขึน้ แต่การประสบความสำเร็จมันต้อง คู่กับ passion คือมีความสำเร็จแล้วไม่มี passion มันก็เหมือนผีดบิ แล้วชีวติ จะยังไงต่อล่ะ? ตอนหลังๆ ผมถามตัวเองว่า แล้วไงล่ะ ชีวติ เรา... อย่างผม เป็นคนทีไ่ ม่คอ่ ยใช้เงิน ไม่มีนาฬิกา ไม่มีแหวน ไม่มีสร้อย ไม่มีของสะสมใดๆ ทั้งสิ้น แล้วถ้ามี เงินระดับหนึ่งแล้วไงล่ะ เราจะอยากรวยกว่านี้ เพื่ออะไรล่ะ มันตอบไม่ได้ แต่มันตอบได้ว่าเรา อยากจะทำอะไรต่อไปมากกว่า แน่นอน ผมว่า ข้อดีของการประสบความสำเร็จเร็วก็คือเราอาจ จะเลือกสิ่งที่ตัวเองทำได้มากขึน้ เมือ่ เทียบกับคน ทีอ่ าจจะเลือกไม่ได้มากนัก เช่น เขาอาจจะเป็น คนหารายได้หลักของครอบครัวอยู่ ยังต้องผ่อน บ้านอยู่ จะไปติสต์ๆ แบบผม ลาออกไปทำอย่างอืน่ มันก็ไม่ใช่ แต่ผมอยู่ในสถานะที่ลองผิดลองถูก ได้อีกหลายปี พอมีตน้ ทุนทีจ่ ะทำต่อได้ แล้วผมเป็น เด็กต่างจังหวัด บ้านอยู่โคราช มันก็เกินที่ตัวเอง ควรจะคิดมาตัง้ นานแล้วล่ะ ทำอะไรก็ไม่ขาดทุนมาก เพราะต้นทุนมันน้อย มาได้แค่นก้ี เ็ ยอะแล้ว ดังนัน้ ก็อยากทำอะไรทีต่ วั เองคิดว่าใช่ ก็ลองดู กล้าทำ ไม่รู้จะถูกหรือผิด กะๆ เอา (หัวเราะ) แต่ทีนี้ถ้า จะเตือนคนทีป่ ระสบความสำเร็จเร็ว ก็จะเตือนว่า ต้องรูต้ วั เอง ผมว่าประสบความสำเร็จอะไรก็ตาม มันเป็นหัวโขนทั้งนั้นแหละ แล้วผมคิดว่าการ ประสบความสำเร็จ แง่หนึ่งมันก็อาจจะเหมือน ผู้กำกับภาพยนตร์ ก็คือว่าเรามีค่าเท่ากับหนัง เรื่องสุดท้ายที่เรากำกับ เพราะเรื่องหน้าไม่ได้ หมายความว่ า คุ ณจะประสบความสำเร็ จ นะ แล้วถ้าเราจะหยุดเพราะว่าเราทำหนังได้ 100 ล้าน แล้วเรื่องหน้าจะไม่ทำ ชีวิตเราจะทำอะไรล่ะ ถ้าเรากลัวทีจ่ ะทำเรือ่ งหน้า เพราะกลัวทีจ่ ะล้มเหลว เราก็จะไม่ได้ทำงานทีเ่ รารัก แล้วชีวติ หลังจากนัน้ จะไปทำอะไร จะไปเพาะสุนัขขาย แล้วชอบ หรือเปล่า ถ้าชอบมันก็โอเค ถ้าเราชอบกำกับหนัง ก็กำกับต่อ เราอาจไม่ควรจะต้องสนใจว่าเรือ่ งที่ แล้วมันดังหรือไม่ดงั แต่เรือ่ งหน้าต้องทำให้มันดี

มากกว่า วันนี้ให้คำนิยามความสำเร็จไว้ว่าอย่างไรคะ ของผมเหรอครับ โอ๊ย เลี้ยงลูก มีเวลากลับ บ้าน เอาลูกเข้านอน แล้วก็ภรรยากับลูกก็ไม่ตอ้ ง ห่วงว่าโตขึ้นจะลำบาก หลักๆ ของผมเลยคือลูก ส่วนผม ถ้าถามว่าความสำเร็จของผมคืออะไร มันคือการตื่นมาก็ต้องอยากมาทำงาน ตื่นเต้นที่ จะได้ทำงาน อยากแข่งขัน แล้วก็เรือ่ งของสุขภาพ สำคัญมาก เพราะผมเคยป่วยมาแล้ว การมีสขุ ภาพ แข็งแรงนี่คือประสบความสำเร็จแล้ว ก็หวังว่า พออายุเยอะๆ สุขภาพจะไม่ร่วงโรยไปตามอายุ แค่นี้เอง ตื่นมาอยากจะมาทำงานด้วยจิตใจที่ แจ่มใส ร่างกายทีแ่ ข็งแรง แล้วเป็นอย่างนีไ้ ปเรือ่ ยๆ เพราะเมือ่ ไหร่ทม่ี วั ไปคิดว่าถึงตรงนีเ้ ราสำเร็จแล้ว แล้วหลังจากนั้นทำอะไรล่ะ ผมว่ามันเหมือนขับ รถเที่ยว ระหว่างทางขับรถก็แวะดูดอกไม้ แวะ กินกาแฟบ้าง กินผัดไทยเจ้าอร่อยหน่อยนึง สนุก กับการขับรถไปเรื่อยๆ แต่ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะ ไปที่ไหน แค่นั้นเอง ตอนเด็กๆ ที่บ้านที่โคราชของคุณธนาทำอะไรคะ สมัยก่อนคุณพ่อขายอะไหล่รถยนต์ เดี๋ยวนี้ ไม่ได้ทำแล้ว เดี๋ยวนี้เกษียณ พ่อแม่ผมก็จะเป็น คนทีส่ ไตล์แบบนี้ คือแม่ผมเดิมจบ ป.4 ก็ไปเรียน ศึกษาผู้ใหญ่จนจบปริญญาตอนอายุ 60 กว่า แล้วตอนนี้ก็ไปสอบเป็นผู้พิพากษาสมทบตอน อายุ 62 จาก ป.4 เลยนะ พ่อผมก็จบ ม.3 ก็มี ช่วงหนึ่งที่ครอบครัวผมไปอยู่อเมริกา ผมตามไป ทีหลังนะครับ พ่อผมก็ไม่รภู้ าษาอังกฤษอะไรเลย แต่กไ็ ปทำธุรกิจกับเขาทีโ่ น่นจนได้ พูดภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้เก่งอะไร ค่อยๆ ไปอ่านภาษาอังกฤษช้าๆ ทีละนิด คือจะเป็นคนที่คล้ายๆ กัน คิดอะไรก็ ลุยๆ ไป มีอะไรใหม่ก็ทำไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้มีเป้า อะไรเป็นเรื่องเป็นราว ก็แสดงว่าคุณโตมากับแนวคิดที่ว่าไปลุยเอา ก็ลองดู แล้วกะๆ เอา แต่สิ่งที่ผมทำแบบนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับคนชอบนะครับ บางคนก็จะชอบ สไตล์นักธุรกิจแบบผูกไท ใส่สูท มีออฟฟิศสวยๆ แต่จริงๆ อย่างที่ผมบอกว่ามันคือเปลือก คือคน ที่อยากเป็นผูบ้ ริหารระดับสูงมันจะมีภาพของมัน แต่จริงๆ ทำอะไรยังไม่รู้เลย คือถ้าเราฝันว่า วันหนึง่ เราจะมีออฟฟิศสวยๆ เป็นผูบ้ ริหาร มีเลขาฯ สวยๆ มีคนขับรถ มีห้องใหญ่ๆ แล้วสมมติวันนี้ เราเป็นพนักงานคนหนึ่ง ถ้าเราคิดตรงนั้นผมว่า มันไปไม่ถึงหรอก เพราะว่าระหว่างทางสำคัญ กว่า การที่คนเราจะเป็น top executive มันต้อง ทำประโยชน์ให้บริษัท แต่ถ้าเราไม่ได้โฟกัสเรื่อง ทำประโยชน์ให้กับบริษัท เราก็จะไม่มีทางไปถึง ตรงนั้น ถ้าเราฝันถึงแต่ออฟฟิศสวยๆ แล้วจะได้ มาด้วยวิธีไหนล่ะ การเมืองเหรอ? แต่ถ้าสมมติ ว่าเราคิดว่าเราจะทำประโยชน์ให้บริษัท เรามี passion ทีจ่ ะทำ เดีย๋ วมันจะไปถึงตรงนัน้ เอง แต่ ถ้าเราไปตั้งเป้าว่าเราอยากได้สิ่งเหล่านั้น โดยที่ ความสามารถก็ไม่มี ยังไม่ได้พฒ ั นาตัวเอง passion ก็ไม่มี แล้ววันหนึง่ ฝันว่าจะถูกลอตเตอรี่ มันก็ยาก ดังนัน้ ผมจึงกลับมาที่ passion เพราะการทำงาน ในบริษัทเราไม่ได้จับฉลากกันนี่ว่าวันนี้ใครจะได้ เป็นซีอีโอ (หัวเราะ) คือมันก็มาจากการทำงาน หนักด้วยตัวเอง ทีนี้ในการที่จะมีผลงานมันเกิด จากอะไร ก็คอื การทีท่ ำเพือ่ ส่วนรวม ทำเพือ่ บริษทั คนอื่นเขาอาจจะเก่งกว่าเรา แต่ผมว่า passion มันทำให้เราไม่เหมือนคนอืน่ คือถ้าเราอยากเติบโต เราจะอยู่ดึก เราจะขยัน เราจะอยากเรียนรู้อะไร มากๆ เพื่อจะทำให้มันดี การได้ตำแหน่งใหญ่ๆ มันเป็นแค่ผลพลอยได้ ดีแทคก็เป็นบริษัทที่ผ่านวิกฤตมาเยอะ เวลาคุณ จะพาบริษัทหนึ่งให้พ้นวิกฤตมาได้ ไม่ว่าจะที่ไหน ก็ตาม มันต้องอาศัยทัศนคติอย่างไร อันนี้สำคัญเลย เพราะว่าดีแทคในปี 2002 เป็นปีที่เราเกือบจะล้มหายตายจากไปแล้ว คือ

มาร์เก็ตแชร์หล่น เพราะตอนนั้น Orange มา แล้ว Hutch ก็มา แล้วเราก็เป็นบริษัทธรรมดา เพียงแต่เราโดนคูแ่ ข่งเก่งมาก แล้วเราก็ทรุดลงมา เรือ่ ยๆ ช่วงนัน้ CEO ลาออก COO ถูกส่งกลับ CMO ลาออก CFO ลาออกหมดเลย ช่วงนัน้ แย่มาก ส่วนแบ่งการตลาดน้อย เงิน cash flow ตอนนั้น เกือบจะขายตึกที่อาคารชัย เพราะเงินมันช็อต แล้วก็เศร้ามากเลย อันนั้นพูดถึงปี 2002 แต่พอ ปี 2008 2009 2010 เป็นปีที่ดีแทคแข็งแรงมาก กำไรดีทส่ี ดุ ในประวัตศิ าสตร์ มาร์เก็ตแชร์ดที กุ อย่าง ทีนี้ถามว่าระหว่างช่องว่างตรงนี้เกิดอะไรขึ้น มีเงินทุนไหลเข้ามาไหม ไม่มนี ะ ไม่ได้มเี ทคโนโลยี ใหม่อะไร แล้วทีน่ า่ สนใจก็คอื ว่า คนทีท่ ำเจ๊งวันนัน้ ส่วนใหญ่ กับคนที่ทำให้มันกลับมา 90% เป็น คนเดิมทั้งนั้นเลย รวมถึงผมด้วยนะ ทีนี้ถามว่า อะไรเปลีย่ น ทีเ่ ปลีย่ นคือทัศนคติของคนในดีแทค จากวันนัน้ ทีเ่ รารูส้ กึ ว่าตัวเองเจ๋ง แล้วก็ชอบก๊อบปี้ คู่แข่ง พอเริ่มแพ้เขาเยอะๆ ก็เริ่มจะด่าว่าตัวเอง สู้เขาไม่ได้นะ มีจุดอ่อนเยอะ ทีนี้ก็เริ่มยอมรับว่า เราแพ้ ก็เลยคิดเป็นมวยรองไง สู้อีกแบบหนึ่ง เราเลยมี innovation มีอะไรประหลาดๆ เยอะ เพราะว่าเราจะสูแ้ บบมวยรอง พอทัศนคติเปลีย่ น ทุกอย่างก็เปลี่ยน คือยอมรับก่อนว่าตัวเองด้อย กว่า แล้วก็เริ่มหาวิธีการที่ไม่ปะทะโดยตรง แล้ว คนภายในก็ตอ้ งรักกันขึน้ มา รวมกันเป็นหนึง่ เดียว แล้วก็ตอ่ สูก้ บั คนภายนอก ขยันออกไปพบลูกค้า บ่อยๆ ขยันเดิน แล้วก็รับฟังความคิดเห็นซึ่งกัน และกันมันเลยโตมาได้ แต่ผมว่าเวลามีปัญหา แล้วเปลีย่ นทัศนคตินะ่ มันไม่ยากหรอก เหมือนผม เข้าโรงพยาบาลไป มันช็อกใช่ไหม มันก็เปลี่ยน วิธีคิดได้ แต่ที่ยากคือวันที่ชีวิตมันโอเคแล้ว สบายแล้ว จะให้เปลี่ยนวิธีคิดนี่มันโคตรยากเลย เหมือนผมตอนนี้ที่ทุกอย่างมันดีไปหมดแล้วไง เมื่อชีวิตมันดีอยู่แล้ว มันจะมีเหตุผลเสมอที่เรา จะไม่เปลี่ยนแปลง ก็เฮ้ย มันก็ดีอยู่แล้ว เทียบ กับถ้าไม่เปลี่ยนแล้วตายนะ มันไม่เหมือนกัน ดังนั้น ผมเลยเชื่อในคำว่าทัศนคติมาก เพราะ ว่ามันพลิกมุมคิดนิดเดียว เหมือนที่เขาบอกว่า พลิกมุมคิด ชีวติ เปลีย่ น อันนีจ้ ริงๆ พลิกนิดเดียว มันก็จะเปลีย่ นเป็นอีกทางหนึง่ ตอนนัน้ ดีแทคถูก บังคับให้เปลีย่ นวิธคี ดิ เป็นมวยรอง สูแ้ บบมวยรอง เราก็รอดขึ้นมาได้ ถามว่าตอนนี้เราต้องคิดแบบ ไหน ผมไม่รู้แล้ว เพราะผมไม่อยู่แล้ว (หัวเราะ) ตอนที่เราคุยกันอยู่นี้คุณยังไม่ออกไปไหน แต่ถ้า วันสุดท้ายที่จะเดินออกจากตึกนี้ไปคิดว่ามันจะ เป็นอย่างไร โชคดีอย่างหนึง่ นะ อาจจะเป็นเพราะว่าทำบุญ มาเยอะด้วยมัง้ หรือว่าวิธคี ดิ ทีผ่ า่ นมามันอาจจะ ส่งผล คือทางเทเลนอร์เขาจ้างให้ผมเป็นทีป่ รึกษา ต่อที่ดีแทค เพราะฉะนั้น เวลาเดินออกไปก็จะ ไม่เหมือนเดินออกไปจริงๆ เพราะว่าก็ยงั เป็นทีป่ รึกษา อยูด่ ี ซึง่ ทีป่ รึกษาก็เก็บทุกอย่างไว้เหมือนเดิมเลย จะเดินเข้ามาเมือ่ ไหร่กไ็ ด้ คือดีแทคก็เป็นเหมือนลูก มีคนถามว่าไม่เสียดายแบรนด์ Happy ทีเ่ ราร่วมคิด ร่วมสร้างขึ้นมาเหรอ จริงๆ ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดาย แต่เราก็คิดไว้อยู่แล้วไงว่ามันไม่ใช่ ของเรา เราทำให้บริษัท จุดหนึ่งก็มีคนดูแลแล้ว แข็งแรงแล้ว ผมก็ไปหาอะไรทำใหม่ๆ ดีกว่า คุณเชือ่ มัน่ อะไรในตัวเองคะ ว่าจะทำให้ทำสิง่ ใหม่ๆ ได้ เชื่อมั่นว่าล้มแล้วไม่เป็นไร (หัวเราะ) แต่ แน่นอนว่าคงไม่ได้ไปทำให้ผู้ถือหุ้นใหม่เจ๊ง เดี๋ยว เขาไม่รับผม คือเชื่อมั่นว่าผิดพลาดล้มเหลวเป็น เรื่องที่ดี มันจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และผมก็เชื่อ ว่าไปเที่ยวนี้ยังไงมันก็ได้ ได้เรียนรูอ้ ะไรบางอย่าง คือจริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ ก็ลองไปดู กะๆ เอา มันมีความ in common อะไรของ product ทีค่ ณ ุ ตัดสินใจจะไปไหม ว่าต้องมีความเป็นตัวคุณ อย่างไร C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K

16

ก็คงไม่มี แต่อย่างหนึ่งที่อาจจะช่วยผมมา โดยตลอดก็คือความรู้เรื่องการเงิน ผมมาจาก สายการเงิน มันก็จะมี background เรื่องการเงิน ดังนั้น ผมยังเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีสง่ิ ทีเ่ ป็นตัวเลขซ่อนอยูใ่ นหัวผม มันก็คงจะ ช่วยผมให้ดไู ด้วา่ อันไหนมันดี เพราะในเรือ่ งธุรกิจ มันก็เป็นเรือ่ งตัวเลขทัง้ นัน้ มันช่วยให้ผมตัดสินใจ ได้ว่าอันไหนมันดีสำหรับผู้ถือหุ้น อันไหนมันดี สำหรับบริษัท โดยที่ไม่ได้เป็นแค่ gut feeling แต่ยังมีส่วนของเหตุผลอยู่เสมอ แล้วผมก็เชื่อใน เรื่องทีมนะครับ ผมไม่เชื่อว่าผมไปถึงแล้วผมจะ ไปครีเอทีฟเองได้แน่นอน ดังนัน้ ไปถึงเนีย่ ต้องคิด แล้วว่าจะทำยังไงให้ทีมมันลงตัว ทีมที่แมคยีนส์ เขาคงเก่งอยู่แล้ว ผมจะเหมือนเป็นโค้ชมากกว่า แล้วในทีส่ ดุ แล้วผมก็คดิ ว่าผมยังสนุกกับการเป็น โค้ช คือหาผู้เล่นให้ครบ ไม่ได้ไปเล่นเองไง ผม ไม่มที างไปเล่นเองได้หรอกในธุรกิจทีผ่ มไม่ได้รเู้ ยอะ แต่ถ้าคุยกับการเงินผมก็เอาเรื่องการตลาดทีผ่ มรู้ ไปช่วยเสริม ส่วนถ้าคุยกับการตลาดก็เอาเรื่อง การเงินทีผ่ มรูไ้ ปช่วยเสริม แล้วต้องมีทมี ที่แข็งแรง พอทีมแข็งแรงแล้วทำอะไรก็เวิร์ก คือผมเชือ่ ในคน คือผมเชือ่ ว่าแผน หรืออะไรทีไ่ ม่ชดั เจน หรือไม่คอ่ ยดี ถ้าใส่คนเก่งลงไปเดี๋ยวมันก็แก้เอง แต่ถ้าแผนดี แล้วใส่คนไม่เก่งลงไปยังไงก็เจ๊ง หน้าที่ของการเป็นโค้ชคืออะไรคะ อย่างแรกต้องทำยังไงให้ไม่ต้องมีคนเก่งก็ได้ อยู่ในทีม แต่ต้องมีคนที่มีทัศนคติที่ดีรวมกันเป็น ทีม คืออย่างทีมฟุตบอล ถ้ามีคนเก่งมากๆ เดี๋ยว ก็ตีกัน คือถ้ามีคนทัศนคติที่ดีอยู่ในทีม ร่วมงาน เป็นทีมได้ แล้วก็จัดวางอย่างเหมาะสม คือ skill เขาก็ตอ้ งมีอยูแ่ ล้ว แต่เรามีหน้าทีท่ จ่ี ะใส่ passion

ผมก็ ไม่ ได้ นอกกรอบนะ ผมทำตัวเป็นคน ธรรมดา พอทำตัว เป็นคนธรรมดา นักธุรกิจเขาไม่ทำกัน มันก็เลยกลายเป็น นอกกรอบไป เพราะ ว่าทำตัวไม่เหมือน ชาวบ้าน แต่จริงๆ ผมน่ะเหมือนชาวบ้าน แต่นักธุรกิจน่ะ ไม่เหมือนชาวบ้าน

ให้เขาเล่นอย่างถวายชีวิต เล่นเพราะว่าเขารู้ว่า ทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่เพื่อทีม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แล้วโค้ชก็มีหน้าที่ที่จะเป็นตัวอย่างให้ด้วย แล้วก็ สอนเขา แล้วก็จัดบทบาทให้ลงตัว นอกจากนั้น ก็ตอ้ งเป็นเรือ่ งของกลยุทธ์แล้วล่ะ ถ้าเราไปแข่งกับ ทีมใหญ่ เราก็ตอ้ งมีกลยุทธ์ของเรา ต้องระมัดระวัง สิ่งที่โค้ชไม่ควรทำล่ะคะ อย่างแรกคือเวลาชนะต้องไม่ take credit (หัวเราะ) คือถ้าจะสร้าง passion ของทีม เวลา ชนะต้องไม่ take credit ไปคนเดียว เพราะแมตช์ หน้าเขาจะไปเล่นให้คุณทำไม ถ้าชนะเสร็จแล้ว คุณเอาเครดิตไปคนเดียว คือโค้ชทีด่ คี วรจะทำให้ ทีมมี passion เพราะผมเชื่อว่า passion มันเป็น ก๊อกสองของทุกอย่าง ทีมเล็กๆ ที่ชนะทีมใหญ่ ได้ก็เพราะ passion นี่แหละ อย่างดีแทคที่ฟื้นขึ้น มาได้กเ็ พราะ passion และทัศนคตินแ่ี หละ ดังนัน้ ในการทีจ่ ะมี passion ต่อ ในการทีไ่ ม่ take credit ก็สว่ นหนึง่ ในการทีใ่ ห้เครดิตคนก็สว่ นหนึง่ ในการ ที่ให้เครดิตคนในทีมอย่างเหมาะสมก็ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่คนหนึ่งเด่นก็ให้แต่คนนั้น ไอ้คนอื่นก็จะคิด ว่าวันหลังก็ให้มันเล่นคนเดียวละกัน ก็ไม่เวิร์กอีก คือมันเป็นเรื่องของบาลานซ์ของทีมที่จะทำให้ เขามีแรงที่จะเปิดก๊อกสองสู้ในศึกข้างหน้าไป เรื่อยๆ จากตอนที่ คุ ณ ประสบความสำเร็ จ สู ง สุ ด ตอน อายุ 30 จนมาถึง 40 ผ่านมา 10 ปี มันเปลี่ยน วิธีคิดอะไรบ้าง เปลี่ยนเยอะ ตอนนั้นอ้วน อีโก้เยอะ แล้วก็ ยังไม่มลี กู แล้วก็ไม่คอ่ ยชอบตัวเองช่วงนัน้ เพราะ มันเหมือนอ้วนตัวด้วย อ้วนอีโก้ด้วย แน่นอน ทุกคนก็ต้องมีอีโก้ของตัวเองนะ เพียงแต่ว่าเรา จะกดมันไว้ให้มันอยู่ในระดับที่เหมาะสมยังไง ไม่ให้เราหลงไปว่าเราเจ๋ง เขาเรียกว่าเป็นโรคของคนประสบความสำเร็จไหม ก็ด้วย หรือคนที่กำลังจะประสบความสำเร็จ มากกว่า คนที่ทำอะไรก็ถูก เล่นยังไงก็ชนะ ซึ่ง จริงๆ อาจจะคล้ายๆ นักมวยเหมือนกันนะ พอ เริ่มต่อยชนะเรื่อยๆ แล้วเริ่มประมาท อีโก้เยอะ เริ่มไม่ซ้อม เริ่มเปิดหน้าแลก แล้วเดี๋ยวก็แพ้ ผม คิดว่าคนทีจ่ ะเริม่ เข้าใจชีวติ มันต้องล้มเหลว ผิดพลาด โง่เขลา เรื่อยๆ อาจจะไม่ถึงกับตายไป แต่อย่าง น้อยมันต้องผ่านอะไรที่มันล้มบ้าง เจ๊งบ้าง โง่ๆ บ้าง แล้วต้องเจอเรือ่ ยๆ ด้วยนะในชีวติ บางคนก็ เจอจนไม่อยากเจอแล้วนะ แต่บางคนก็เจอน้อย ต้องมีภูมิคุ้มกันอะไรในการล้มหรือเปล่า ใช่ๆ คือต้องดูด้วยนะให้มันล้มพอเหมาะ ไม่ใช่ซ่าจะไปปีนหน้าผาแล้วความเสี่ยงมันคือ ตกลงมาแล้วตาย คือมันก็ต้องดูพลังของตัวเอง ดูขีดจำกัดของตัวเองในระดับหนึ่งด้วย อย่างผม มันมีประสบการณ์ อย่างเรื่องเข้าโรงพยาบาลคือ เรื่องหนึ่ง อีกอันที่เป็นประสบการณ์ที่ดีก็คือ เจ๊ง หุ้น ผมเคยเจ๊งเพราะหุน้ มาก่อน ตอนนีเ้ ลยเป็นคน ทีร่ ะมัดระวังเรือ่ งเงินทองมาก ถ้าวันนัน้ ผมไม่ขาดทุน ขนาดนัน้ ผมก็จะไม่รู้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง และอีกวิธีที่คิดว่ามันเป็นการเตือนสติที่ดีเวลา ล้มเหลว ก็คอื ว่าล้มเหลวแล้วมันต้องเรียนรูอ้ ะไรด้วย มีวธิ หี นึง่ ทีผ่ มทำบ่อยๆ คือ สมมติวา่ วันนีเ้ ป็นหวัด ไม่สบาย หรือหายใจไม่ออก หรือล้มเหลวอะไร สักอย่าง ผมจะบันทึกในโทรศัพท์ไว้แล้วให้มนั เตือน ในอีก 14 วัน หรืออีกเดือนนึงข้างหน้า ให้นึกถึง วันที่เราคัดจมูก นึกถึงวันที่เราเป็นไมเกรน หรือ นึกถึงวันที่เราอาจจะขับรถชนก็ได้ แล้วพอถึงเวลา ทีม่ นั เตือน เราจะรูว้ า่ ถ้าเทียบกับวันนัน้ วันนีจ้ ะเป็น วันที่มีความสุขมากเลย ทั้งที่มันอาจจะเป็นวัน ธรรมดาของเราก็ได้ แต่การที่เราเตือนตัวเองว่า ตอนนี ้ เราไม่ เป็ น อะไรแบบวั นที ่ แ ย่ ว ั นนั ้ น แล้ ว เราจะรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษขึ้นมา คือมันจะมี ฟีลลิงที่เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้นว่า เรื่องแย่ๆ มันผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป ผมว่าไอ้ความทุกข์หรือ

ความผิดพลาด ณ จุดที่ยังมีอยู่มันเป็นเรื่องที่ เศร้ามาก แล้วเราจะคิดว่ามันแย่ นึกไม่ออกเลย ว่ามันจะดีได้ยังไง แต่ลองเตือนตัวเองดูเถอะ แม้วา่ เราอาจจะแก้ปญ ั หาไม่ได้มากมาย แต่อย่าง น้อยก็ลองใช้ประโยชน์จากมันหน่อย เช่น เป็นหวัด ก็ลองใช้ประโยชน์จากมันด้วยการให้มันทำให้เรา มีความสุขอีก 14 วันข้างหน้า มีคนบอกว่า สมัยนี้คนไม่ถือว่าการลาออกเป็น เรื่องแปลก คุณตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ เคยเขียนไว้ว่า ถ้าจะ ลาออกอย่าออกเพราะว่าโกรธหรือเศร้า หรือไม่ชอบ ที่เดิม แต่ออกเพราะว่าที่ใหม่ท้าทาย คือถ้าคิด จะออกก็ตอ้ งเพราะแบบนัน้ ผมก็เชือ่ นะ ผมเจอ เพื่อนหรือว่าน้องๆ ที่เคยลาออก เขาออกเพราะ ว่าโกรธ แล้วก็คิดว่าที่ใหม่จะดีกว่าเดิม จริงๆ แล้วมันจะไม่ค่อยดีหรอก ดังนั้นก็กลับมาคำเดิม เลยคือมี passion ผมว่านั่นอาจจะเป็นเหตุผลใน การชัง่ ใจว่าจะออกหรือไม่ออก เพราะหลายๆ คน ขืน่ ขม บริษัทนี้แย่ อยากออกแล้ว ไอ้ที่คิดแบบนี้ ไม่คอ่ ยรอดทุกทีเวลาออกไป เพราะออกด้วยความ รูส้ กึ ด้านลบ ไม่ได้ออกไปด้วย passion ทีอ่ ยากทำ ในทีใ่ หม่ ถ้าเทียบกับสมัยก่อน ดูเหมือนคนจะไม่ค่อยออก การทำงานที่ใดที่หนึ่งนานๆ จะถือว่าดี ผมว่ามันมาเปลี่ยนเอาช่วงปีวิกฤตเศรษฐกิจ 1997 คือช่วงนั้นผมเห็นหลายๆ คนที่อายุ 50 แต่ โดนเลย์ออฟ แล้วไปไหนไม่เป็นเลย เพราะว่า ไม่ได้ซอ้ มกับการเปลีย่ นแปลง ไม่ได้เรียนทักษะใหม่ๆ ทีจ่ ะเปลีย่ นงานได้ แล้วทีน่ า่ กลัวตอนนัน้ ทีผ่ มเห็น คือบางคนอาจจะทำงาน admin มาชัว่ ชีวติ แล้วพอ อายุ 50 ถูกเลย์ออฟ ที่อื่นเขาก็ไม่รับไง เพราะว่า ไม่ได้มี skill อะไรพิเศษ ไม่ได้พร้อมรับการเปลีย่ นแปลง ดังนั้น ผมว่าในการคิดว่าเราจะต้องออก ในวันใดวันหนึ่งก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ คือจะ ได้เตรียมตัวไว้ว่าถ้าออกแล้วจะทำอะไร คือไม่ได้ ออกจริงๆ แต่อย่างน้อยจะมีความคิดถึงจุดจบไว้ บ้างว่าวันหนึ่งเราก็ไม่ได้อยู่ที่นี้ไปชั่วชีวิตหรอก ถ้าคิดว่าอยู่ชั่วชีวิตเราก็อาจจะนิ่ง สบายๆ แล้วก็ ไม่ได้ขวนขวายอะไร ไม่ได้เตรียมตัวลับขวาน อย่างที่มีเรื่องเล่าว่า มีคนตัดฟืนคนหนึ่งตัดฟืน ให้เจ้านาย และรักเจ้านายมาก ตัดไป 10 ชัว่ โมง ได้มา 1 กอง เพราะเจ้านายจะเอาไปผิงไฟ วันที่ 2 ตัด 11 ชัว่ โมง ก็ได้มา 1 กอง เท่าเดิมเลย วันที่ 3 ตัด 12 ชัว่ โมง ได้มาเท่าเดิมเลย เขาก็ถามเจ้านาย ว่าเขาทำอะไรผิด เขารักเจ้านายมากเลยนะ แล้ว ก็ตง้ั ใจมากเลยนะ ทำไมยิง่ ตัดยิง่ ได้นอ้ ย เจ้านาย เขาก็ถามว่า ครั้งสุดท้ายที่ลับขวานน่ะเมื่อไหร่ เรื่องนี้แปลว่าเขาไม่ได้ไปฝึกตัวเองให้มีทักษะเพิ่ม ขึ้น คือไม่ได้ลับขวาน มันเลยตัดได้น้อย ดังนั้น คนเราก็ต้องลับขวานเรื่อยๆ ทำให้ตัวเองคมขึ้น เรื่อยๆ บางทีถ้าคิดว่าจะทำงานที่ไหนไปตลอด อยู่ที่นี่ forever เราก็จะไม่ได้ลับขวานตัวเอง เราก็ จะทื่อ

THE PERFECT INGREDIENT

การทำอาหารสักจานก็เหมือนกับทำงานศิลปะดีๆ สักชิ้น การควบคุมส่วนผสม เครื่องปรุง และไฟ ถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่พ่อครัวต้องมี และถ้าผู้ช่วย ชั้นดีของจิตรกรชั้นเยี่ยมคือสีและพู่กัน ผู้ช่วยมือหนึ่งของ ‘ปิ่น’ - ร่มโพธิ์ โพธิสุนทร เชฟและเจ้าของร้านอาหาร Mazzaro Boutique & Restaurant ก็คงไม่พ้นบรรดา เครื่องปรุงที่คัดสรรมาอย่างดี และ iPhone 4 ที่ช่วยเติมเต็มรสชาติให้อาหารทุกจาน “ผมจะเป็นคนไปจ่ายตลาดเอง ดังนัน้ สิง่ ทีข่ าดไม่ได้เลยก็คอื แอพพลิเคชัน่ สำหรับเช็กสต็อกของในร้าน เพราะเราต้องดูว่ามีเครื่องปรุงตัวไหนที่เราต้องซื้อเพิ่ม และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แอพพลิเคชั่นที่บอกข้อมูล รายละเอียดของไวน์และชีส ซึ่งเป็นเหมือนกับสารานุกรมเครื่องปรุงเฉพาะอย่าง โปรแกรมนี้จะบอกเลยว่า ในโลกนี้มีไวน์ผลิตจากองุ่นพันธุ์ไหนบ้าง ทำให้เรามีความรู้ลึกมากขึ้น เพราะบางครั้งเวลาลูกค้าถามถึง ไวน์บางตัวมา เราอาจจะไม่มีข้อมูลของไวน์ตัวนั้น ผมก็จะกดดูจากโปรแกรมนี้ พอได้ข้อมูลมาเราก็เดินไป พรีเซนต์เขาได้เลยว่าไวน์ตัวนี้เป็นอย่างไร และเหมาะจะทานคู่กับอาหารจานไหนครับ”

ในฐานะทีเ่ ป็นเชฟรุน่ ใหม่ อะไรคือการผสมผสานทีล่ งตัวระหว่างการทำอาหารกับเทคโนโลยี

“สมัยนีผ้ มคิดว่าอาหารมีความหลากหลายมากขึน้ โดยเราไม่ตอ้ งเป็น traditional เหมือนแต่กอ่ น มีการ ผสมผสานอะไรหลายๆ อย่างเข้าไปในการทำอาหาร แต่กอ่ นเราจะแยกกันเลยว่าอะไรคือตะวันออก ตะวันตก แต่สมัยนีม้ เี รือ่ งของการสือ่ สาร มีอนิ เทอร์เน็ต ทำให้โลกรวมกันเข้าไปหมด ก็เลยเกิดการผสมผสานกันได้งา่ ยขึน้ แต่ก็ไม่ถึงกับเปลี่ยนไปจนสิ้นเชิง การทำอาหารยังคงความเป็น original ในส่วนของเทคนิคการทำอาหาร ไว้เหมือนเดิม สำหรับรสชาติก็ยังมีมาตรฐานของอาหารโบราณอยู่ เพียงแต่หน้าตาอาจจะปรับเข้ากับ ยุคสมัยใหม่มากขึ้น”

iPhone 4 และเครือข่ายของดีแทค ช่วยให้งานของคุณสนุกขึ้นได้อย่างไร

“เวลาที่ผมบริการลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ เวลาคุยกันถึงเรื่องของเครื่องเทศหรือส่วนผสมตัวนี้ของ เมืองไทยคืออะไร ทำไมทีเ่ มืองนอกไม่เห็นมี เราอธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจ ก็โอเค! เราก็หยิบ dtac iPhone 4 ขึน้ มาเสิรช์ รูปกับข้อมูลให้เขาดูวา่ ทีเ่ รากำลังทานกันอยูค่ อื ตัวนีน้ ะ ปลูกอยูต่ รงภาคนี้ เพราะวัตถุดบิ บางอย่าง ที่ประเทศของเขาอาจจะมีภาษาเรียกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้การทำงานของผมสนุกขึ้นและก็ง่ายขึ้น ทำให้ เรารูส้ กึ มัน่ ใจ เหมือนกับว่าข้อมูลทุกอย่างอยูร่ อบตัวเรา ไม่วา่ อยูต่ รงจุดไหนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จริงๆ เพียงมีเครือข่ายดีๆ ครับ”

ข้อดีของ dtac iPhone 4 ที่คุณประทับใจ

“หนึ่งเลยก็คือช่วยให้งานเราคล่องและเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลับบ้านแล้วขึ้นห้องมานั่งเสิร์ชหาข้อมูล เวลาเราสงสัยอะไรอยูท่ ไ่ี หนเราก็กดดูเลย หรือเวลาเราไปเมืองนอกแล้วไปพบเห็นของแปลกๆ เราก็เสิรช์ เลย ว่าของชนิดนีม้ ชี อ่ื ว่าอะไร อย่างทีส่ องซึง่ สำคัญมากก็คอื dtac iPhone 4 ตัวนี้ ช่วยผมได้มากในเรือ่ งของเวลา อย่างสมัยก่อนเราต้องคอยมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่สมัยนี้เกิดผมอยากทำพาสต้าให้เป็นในรูปแบบ ของตัวเอง ผมก็จะเสิร์ซหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ดูว่าพาสต้าชนิดนี้มี ingredient ของแต่ละเชฟมีความ แตกต่างกันตรงไหน และเราก็เอามาปรับใช้จนเป็นจานของเรา ผมคิดว่ามันเป็นเหมือนทางลัดให้เราเรียนรู้ ได้เร็วกว่าและดีกว่าสมัยก่อนที่เราต้องไปเรียนกับเชฟหลายๆ คน ต้องไปทำงานเป็นลูกมือเขา แต่เดี๋ยวนี้ เชฟเขาก็จะมีบล็อก มีคลิปที่เขาสอนทำอาหาร เราก็ดูแล้วรวบรวม เรียบเรียง จนออกมาเป็นจานของเรา ครับ”

การทำอาหารก็เหมือนกับแฟชัน่ เราต้องคอยตามเทรนด์ให้ทนั ถ้าเราหยุดอยู่กับที่เมื่อไหร่ คนอื่นก็จะก้าวนำเราไปทันทีว่า ตอนนี้เทคนิคการทำอาหารเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว

A CUTIE’S SMART MATCH

จับเข่าคุยกับพิธีกรและนักแสดงสาว ‘จิ๊บ’ - ปกฉัตร เทียมชัย ที่บอกกับเราว่า dtac iPhone 4 กลายเป็น Gadget ชิ้นโปรดที่ช่วยให้งานของเธอเดินต่อไปอย่าง ราบรื่นได้ในหลายๆ ครั้ง ซึ่งเคล็ดลับที่ว่านั้นจะเป็นอย่างไร เราขออาสาทำหน้าที่ ‘ล้วงลับ’ ข้อมูลของเธอมาบอกคุณเอง “จิ๊บต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ด้วยความที่ไม่คุ้นกับเส้นทาง ทำให้เราไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ ตรงไหนแล้ว จิ๊บก็จะใช้โปรแกรม Maps เปิดแผนที่ขึ้นมา ซึ่งโปรแกรมก็จะบอกเลยว่าเราอยู่ตรงจุดไหน มีสถานที่ใกล้เคียงอะไรแถวนี้บ้าง ซึ่งการใช้งานโปรแกรมนี้ก็ต้องใช้ควบคู่กับระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อโหลด ภาพแผนทีข่ น้ึ มา จิบ๊ ก็สบายใจเพราะว่าอินเทอร์เน็ตของดีแทคนีส่ ามารถใช้งานได้ทว่ั ประเทศ พอได้เส้นทาง มาแล้วเราก็สามารถไปต่อได้อย่างถูกต้อง จิ๊บคิดว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยเราได้มากจริงๆ สำหรับการทำงาน ไม่อย่างนั้นนอกจากที่เราจะหลงทาง ทำให้เสียเวลามากขึ้นแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเราอีกหรือเปล่า ซึ่งจิ๊บก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ”

ความสนุกที่คุณได้รับจาก dtac iPhone 4

“เรื่องของการทำงาน ที่ dtac iPhone 4 ช่วยจิ๊บได้เยอะมากเลยก็คือ อินเทอร์เน็ต หนึ่งเลยคือ ใช้ง่าย อยู่ที่ไหนของประเทศเราก็ใช้งานได้ทุกที่ ไม่วา่ เราจะทำงานอยูท่ ไ่ี หนก็สามารถออนไลน์ได้ตลอด ด้วยความทีเ่ ครือ่ ง มีหน้าจอที่ใหญ่ เวลาเราเปิดเว็บดูแล้วมันดูได้แบบเต็มๆ เรียกได้ว่าอยู่ ตรงจุดไหนก็สามารถใช้ได้ทุกที่ อย่างที่สองก็คือ แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่มี ให้เราเลือกใช้มากขึ้น และทำให้เราสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น แอพฯ K-Mobile Banking PLUS ที่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงิน ออนไลน์ได้เลยทันทีผ่าน dtac iPhone 4 นอกจากนี้ เวลาที่เราว่างหรือ อยู่ในช่วงพักเบรก เราก็เอา iPhone 4 ขึ้นมานั่งเล่นเกมฆ่าเวลาได้ หรือ จะแชต เช็กอีเมล อ่านทวิตเตอร์ หรือเข้าเฟชบุ๊ก ก็ได้ค่ะ เพราะเครือข่าย ของดีแทคมีอยู่ทั่วประเทศจริงๆ แถมเร็วด้วยค่ะ”

สิ่งที่ประทับใจในบริการของดีแทค?

“ชอบตรงที่ดีแทคมี iPhone Buddy ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ iPhone โดยเฉพาะไว้คอยบริการช่วยเหลือ เมื่อเรามีปัญหา ทำให้เราสบายใจได้ว่าถ้าเครื่องเรามีปัญหาขึ้นมาก็จะมีคนมาดูแลแก้ปัญหาให้ทันทีค่ะ เอาใจกันสุดๆไปเลย (ยิ้ม)”

ข้อดีของ dtac iPhone 4 ที่โดนใจคุณเต็มๆ

“นอกจากเรื่องการใช้เข้าเว็บไซต์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ที่ iPhone 4 ทำได้ดีแล้ว เรื่องของ เอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ ก็สุดยอด หน้าจอของ iPhone 4 นอกจากจะคมชัดแล้ว สีสันยังมีความสดใส เวลาเราดูคลิปผ่านยูทบู หรือใช้ฟงั เพลง ต้องยอมรับเลยว่า iPhone 4 เป็นเครือ่ งเล่นเพลงทีใ่ ห้เสียงทีด่ มี าก เลยค่ะ และในส่วนทีจ่ บ๊ิ ใช้บอ่ ยมากๆ ก็คอื แอพพลิเคชัน่ เกีย่ วกับการถ่ายรูปทีม่ เี ยอะมากๆ และสวยๆ ทัง้ นัน้ เวลาไปถ่ายงานกับพวกพี่ๆ อย่างไปกับ ‘พี่ดู๋’ - สัญญา คุณากร พวกพี่เขาจะพกกล้องกันไปเยอะแยะ มากมาย พะรุงพะรังไปหมด แต่สำหรับจิ๊บแค่มี dtac iPhone 4 ตัวเดียวก็เอาอยู่แล้ว ถ่ายปุ๊บก็อัพโหลด เฟซบุ๊กปั๊บ แชร์เพื่อนๆ ได้ทันทีค่ะ (หัวเราะ)”

เวลาทำงานเราก็ทมุ่ เทให้กบั งานอย่างเต็มที่ ถึงแม้วา่ เราไม่อาจ จะแบ่งเรือ่ งงานและเรือ่ งส่วนตัวให้เป็นอย่างละครึง่ ได้ แต่ในเมือ่ เรารักที่จะทำงานตรงนี้ เราก็ต้องเต็มที่กับมัน

FASTER IS BETTER เมื่อโลกกลมๆ ยังคงหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็ว 1,670 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใน 24 ชั่วโมงของคุณ คงไม่อยากให้มีนาทีไหน ที่พลาดการติดต่อไปได้แม้แต่เสี้ยววินาที ดังนั้น ให้ดีแทคทำให้ทุกการติดต่อสื่อสารของคุณเป็นไปอย่างลื่นไหล ด้วยความเสถียร และความเร็วที่มาพร้อมประสิทธิภาพของ dtac internet บนเทคโนโลยี EDGE แบบ 100% พร้อมบริการล่าสุดที่นำมาเสิร์ฟคุณ ถึงที่ในแบบ ‘เร็วกว่า ดีกว่า เอาใจกว่า ทั่วถึงกว่า’

เร็วกว่า บอกลาการใช้อนิ เทอร์เน็ตบนมือถือความเร็วต่ำกันไปได้เลย ของดีแทคสามารถทำความเร็วสปีดได้เร็วขึน้ ซึง่ ผลพลอยได้ เพราะตอนนี้ดีแทคได้อัพเกรดระบบอินเตอร์เน็ตทางมือถือ ที่ได้รบั กลับมาเต็มๆ อีกส่วนก็คอื การโทร.เข้าและการรับสาย ให้ดขี น้ึ เร็วขึน้ โดยให้ความสำคัญกับการขยายช่องสัญญาณ สนทนาของคุณก็จะมีความชัดแจ๋วอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย ดาต้าให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม ทำให้สัญญาณ EDGE

EDGE 100% NATIONWIDE

เอาใจกว่า สำหรับมือใหม่หัดใช้ iPhone 4 ทางดีแทคก็มีบริการ ให้คำปรึกษา แนะนำการตั้งค่าและความช่วยเหลือต่างๆ จาก dtac iPhone Buddy ไม่ว่าจะเป็นบริการช่วยเหลือ การตั้งค่าหรือการปรับแต่งโทรศัพท์เบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานบริการลูกค้าดีแทคทั่วประเทศ และบริการหมายเลขพิเศษสำหรับให้คำแนะนำกับผู้ ใช้งาน

iPhone ที่จำง่ายๆ อย่าง *18882 (แล้วกดโทรออก) สำหรับ iPhone โดยเฉพาะ นอกจากนี้ คุณสามารถติดตาม ข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ผ่านทาง Facebook ของดีแทค ได้ที่ http://www.facebook.com/dtacinternet หรือ www.dtac.co.th/iphone อีกด้วย

iPhone

BUDDY http://www.facebook.com/dtacinternet

R

ดีกว่า หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเกินจริงที่มาจากการใช้งานของ ดาต้าที่รั่วไหลโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเกิดจากระบบการเชื่อมต่อของ สมาร์ทโฟนตัวโปรดของคุณ ทีจ่ ะทำการเชือ่ มต่ออินเทอร์เน็ต อัตโนมัติ ทำให้หลายครั้งผู้ใช้งานประสบปัญหาบิลค่าใช้จ่าย จากการใช้งานที่เกินจริง ด้วย internet alert บริการแจ้ง เตือนค่าใช้อนิ เทอร์เน็ต ซึง่ จะมี SMS แจ้งเตือนค่าใช้อนิ เทอร์เน็ต ตั้งแต่เริ่มใช้งานที่ 10 บาท และถ้าเผลอเล่นเพลิน ดีแทคก็จะมี

บริการควบคุมค่าใช้จ่ายให้สำหรับลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน จ่ายไม่เกินเดือนละ 1,500 บาท ส่วนลูกค้าดีแทคแบบเติมเงิน จ่ายไม่เกินวันละ 49 บาท ใช้ ได้ฟรีถึงเที่ยงคืน ดังนั้น จึงวางใจ ได้เลยว่าคุ้มค่าการใช้งาน และไม่ต้องกลัว EDGE รั่ว ใช้เน็ตดีแทคสบายใจกว่า เรียกว่าจะเข้าเฟซบุ๊ก เช็กเมล หรือ โหลดเพลง ก็ ไม่ตอ้ งกลัวค่าใช้จา่ ยจะงอกเงยเพิม่ ขึน้ ให้ปวดใจ กันอีกต่อไป

แต่ถ้าใครอยากจะควบคุมการใช้งานให้อยู่หมัดแบบไม่ให้พลาด จริงๆ เราก็มีวิธีง่ายๆ ในการเปิด-ปิด การใช้งานดีแทคอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือด้วยตัวเองมาฝาก เมื่อต้องการปิดการใช้งาน เพียงคุณกด *104*72# (แล้วกดโทรออก) ระบบก็จะทำการระงับสัญญาณ ดีแทคอินเทอร์เน็ตให้คณ ุ ชัว่ คราว แต่ถา้ คุณอยากเปิดสัญญาณใช้เมือ่ ไหร่ก็ให้กด *104*71# (แล้วกดโทรออก) คุณก็จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือได้อีกครั้ง ซึ่งทั้ง 2 วิธีการนี้จะไม่ไปรบกวนการโทร.เข้า-ออก แบบปกติของคุณเด็ดขาด

Internet Alert (รายเดือน)

1,500

1500

CAP บาท

MAX

0

49

Internet Alert (เติมเงิน) 50

บาท

INTERNET

ALERT

0

ทั่วถึงกว่า กับจุดบริการและจำหน่าย iPhone ที่ครอบคลุมทั่วประเทศด้วยตัวแทนจำหน่ายกว่า 130 ร้านทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทีส่ ำนักงานบริการลูกค้าดีแทค ดีแทค เซ็นเตอร์ TG Fone, Jay Mart และ iStudio พร้อมทัง้ ผูเ้ ชีย่ วชาญคอยให้คำแนะนำ เมื่อเกิดปัญหาจากการใช้งานโทรศัพท์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการการันตีให้คุณสบายใจได้เหมือนกับมีเพื่อนที่รู้ใจอยู่ข้างๆ บ้าน อย่างแท้จริง

E

130

shops

dtac service center, dtac center, TG Fone, Jay Mart, iStudio

22

GADGET

Binatone iHomePhone

ACCESSORY

อย่าเพิ่งสรุปเอาเองว่าเรากำลังยุให้คุณเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ตอนต้นปี แต่ Binatone iHomePhone ตัวนีค้ อื โทรศัพท์บา้ นไร้สายแสนเก๋ ทีต่ อบรับกระแสของสมาร์ตโฟนจอสัมผัสอย่างเต็มตัว ต่างหาก ดังนั้น มันจึงทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android ผ่านหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 2.8 นิ้ว บนความละเอียด 320x240 รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi พร้อมโปรแกรมพื้นฐานสำหรับ การรับส่งอีเมล เข้าเว็บ เช็กเฟซบุ๊ก ดูหนัง ฟังเพลง ดาวน์โหลดโปรแกรมจาก Android Market และ เพิม่ หน่วยความจำได้จาก SD Card แต่ทแ่ี จ่มไปกว่านัน้ ก็คอื ระบบบันทึกการตอบรับอัตโนมัตทิ อ่ี ดั เสียง ได้อกี 14 นาที (ว้าว!) และสามารถจัดลำดับหมายเลขให้แก่ผทู้ เ่ี ป็นสายเรียกซ้อนได้อกี ต่างหาก นอกจากนีย้ ัง สามารถสแตนด์บายรอสายได้ 80 ชัว่ โมงต่อการชาร์จ 1 ครัง้ หรือถ้าคุยต่อเนือ่ งแบบโหดๆ จริงๆ ก็อยู่ ได้ราวๆ 8 ชัว่ โมง Binatone iHomePhone โทรศัพท์บา้ นสุดแนว กับราคาเพียงแค่ 4,800 บาท เท่านัน้ !

MOVIE

MUSIC

Far East Movement : Free Wired

เชื่อว่าปาร์ตี้ปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเริ่มคุ้นหูกับเพลงอิเล็กทรอนิกส์ พ็อพ เปรี้ยวๆ อย่าง Like a G6 (featuring The Cataracs & Dev) ทีท่ างวง Far East Movement พาเพลงนีท้ ะยานขึน้ คว้าอันดับ 1 ทั้งในชาร์ตของ Billboard กับ iTunes Chart อย่างรวดเร็ว และหนุ่มๆ เชื้อสายเอเชียทั้งสี่ก็ได้เข็นอัลบั้ม เต็มออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังมีของดีที่ยังปล่อยออกมาไม่หมดอยู่อีกนะ ดังนั้น ใน Free Wired เรา จึงได้พบศิลปินชื่อดังหลายๆ คนมาร่วมฟีเจอริงกับพวกเขาอย่างสุดมัน ไม่ว่าจะเป็น If I Was You (OMG) (featuring Snoop Dogg) เพลงแดนซ์ที่เติมลูกเล่นด้วยจังหวะฮิพฮอพของแร็ปเปอร์ผิวหมึกได้อย่างเก๋ไก๋ หรือ Girls on the Dance Floor (featuring Stereotypes) แทร็กดีดๆ ที่หยิบเอาส่วนผสมของดนตรีเบรกบีต อิเล็กทรอนิกส์และการแร็พสไตล์เอเชียมา คลุกเคล้าจนออกมาเป็นเพลง ‘ตื๊ดๆ’ ที่เรารับรองว่าต้องถูกใจคนชอบเต้น (และเตรียมตัวฮิต) อย่างแน่นอน

Millennium Trilogy

(Men Who Hate Women, The Girl Who Played With Fire, The Girl Who Kicked the Hornet’s Nest) “หนั ง ทริ ล เลอร์ ไตรภาค จากสวีเดนเรื่องนี้อาจเข้าฉาย ในบ้านเราแบบเงียบกริบไปนิด แต่เชื่อเถิดว่า ในปีนี้ เมื่อหนัง เวอร์ ช ั น อเมริ ก ั น ของ เดวิ ด ฟินเชอร์ เสร็จพร้อมฉาย และ นิยายต้นฉบับของ สตี๊ก ลาร์ส สั น ถู ก แปลเป็ น ภาษาไทย เรี ย บร้ อ ยแล้ ว คนไทยก็ จ ะ เหมื อ นคนชาติ อ ื ่ น ๆ ในโลก ตอนนี้ที่กำลังตื่นเต้น ลุ้นระทึก และสะเทือนใจ ไปกับการสืบ คดีฆาตกรรมสุดโฉดและชีวิต บัดซบของ ลิสเบธ แฮกเกอร์ สาวพังก์เจ้าของรอยสักมังกร ผู้ไม่ยอมสยบต่อการกดขี่จาก มนุษย์เพศชายหน้าไหนในโลก ซึ่งดีวีดีในบ้านเราใช้ชื่อหนัง ภาคแรกตามชื ่ อ ดั ้ ง เดิ ม ใน ภาษาสวี เดนว่ า Men Who Hate Women ไม่ใช่ The Girl With Dragon Tattoo ตามชื่อ หนังสือฉบับภาษาอังกฤษ” เลือกให้โดย : อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ ว บรรณาธิ ก ารบริ ห าร นิตยสาร FILMAX

MAGAZINE

National Geographic มกราคม 2554 ฉบับภาษาไทย

นับถอยหลังสู่ยุคที่ประชากรโลกจะสูงถึง 7 พันล้านคน ในปีนี้ National Geographic จะพาเราไปสำรวจทางเลือก และ ทางรอดของมนุษยชาติ กับสารคดีพิเศษโดย โรเบิร์ต คุนซิก บรรณาธิการอาวุโสด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเจาะลึกทุกแง่มุม อย่างละเอียด ให้เรานึกภาพตามได้ไม่ยากว่าโลกที่มีคนแออัดยัดเยียดกันถึง 7 พันล้านคน จะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมี infographic สนุกๆ ทีใ่ ห้ลองนึกเล่นๆ ว่า ถ้าชาวโลกทัง้ 7 พันล้านคน มาจัดปาร์ตร้ี ว่ มกันจะเกิดอะไรขึน้ และรัฐหรือประเทศไหน ควรจะรับหน้าทีเ่ ป็นเจ้าภาพ ส่วนท้ายเล่มก็ยงั มีการประกาศผลการประกวดภาพถ่ายฝีมอื คนไทยมาให้เราได้ชน่ื ชมกันอีกด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยสาระอย่างแท้จริง

Breo Minas Watch

เดี ๋ ย วนี ้ น าฬิ ก าไม่ ไ ด้ ท ำ หน้าที่แค่เครื่องมือบอกเวลา แก่ผู้สวมใส่เท่านั้น เพราะการ มีนาฬิกาสักเรือนอยู่บนข้อมือ ยั ง หมายถึ ง accessory ที ่ สะท้อนถึงตัวตนและรสนิยม ของคนใส่ และเพื่อเพิ่มความ สดใสให้แก่ชีวิตในปีใหม่นี้ เรา จึ ง มี น าฬิ ก าข้ อ มื อ Breo Minas Watch จากอั ง กฤษ ที่มีสีสันสุดจัดจ้านให้เลือกถึง 9 สี ได้แก่ ฟ้า, เขียว, ส้ม, ชมพู, ม่วง, แดง, เหลือง, ขาว และดำ มาแนะนำ เพราะ นอกจากตัวเรือนที่ดีไซน์ออก มาในทรงสปอร์ตจะสวย บาง เฉียบ ไม่เทอะทะแล้ว ยังขับ เคลื่อนเวลาด้วยระบบควอตซ์ จึงอึดและทนเป็นพิเศษแม้ว่า จะมีน้ำหนักเบา ที่สำคัญคือ คุณสามารถเป็นเจ้าของนาฬิกา เรือนนีไ้ ด้ในราคาทีส่ ไู้ หว เพียง 1,400 บาท เท่ า นั ้ น พบกั บ ความสดใสของนาฬิกาบรีโอ้ ได้ที่เคาน์เตอร์บรีโอ้ เซ็นทรัล ชิ ด ลม, เซ็ นทรั ล ปิ ่ น เกล้ า , เซ็ น ทรั ล บางนา, เซ็ น ทรั ล พระราม 2 และสยามพารากอน หรือโทร. 0-2655-1575 และที่ www.breo.com

BOOK

Sh*t My Dad Says

รวบรวมวีรกรรมสุดฮาของคุณพ่อพันธุ์ระห่ำผู้พ่นคำสบถและคำด่าทอในทุกๆ ประโยคที่พูดออกมา จากฝีมือของลูกชายตัวป่วนที่ tweet แฉ พ่อตัวเองใน Twitter ซึ่งมีจำนวนคนติดตามทะลุล้าน ยังไม่นับรวมคอมเมนต์กว่าหมื่นข้อความใน Facebook ซึ่งในที่สุดก็โด่งดังจนได้รวมเล่ม ตีพิมพ์ และถูกสร้างเป็นซีรีส์สุดฮาในชื่อเดียวกันด้วย ใครนึกไม่ออกว่าจะระห่ำขนาดไหน เรามีตัวอย่างบางช่วงบางตอนมาฝาก อย่างเช่นตอนที่ ว่าด้วยเขตหวงห้ามในการเล่นซ่อนหา ที่คุณพ่อด่ากราดใส่ลูกว่า ‘แกเข้ามาทำบัดซบอะไรในตู้เสื้อผ้าฉัน?! ไม่ต้องมาจุ๊ๆ กับฉัน นี่มันตู้ของฉัน นะโว้ย!!’ หรือตอนทีค่ ณ ุ พ่อแอบซึง้ แต่กไ็ ม่วายทีจ่ ะสบถไปด้วยอย่าง ‘ถึงฉันจะไม่ใช่มนุษย์ทอ่ี บอุน่ ทีส่ ดุ ในไอ้โลกบวมๆ นี้ แต่ฉนั ก็รกั แกฉิบหายเลย’ อ่านตอนแรกๆ จะสงสัยว่าพ่อแบบนีม้ อี ยูจ่ ริงในโลกด้วยเหรอเนีย่ แต่บทท้ายๆ จะเห็นถึงความรักของพ่อลูกทีซ่ อ่ นอยูภ่ ายใต้คำด่าทอสุดแสบสันต์ อยากฮาตกเก้าอี้หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้

CALENDAR

24

14 - 20 JANUARY 2011

MON

TUE

WED

THU

Monsoon Dancing Renaissance

The Body Show

Bangkok NOW!

Live, Love & Let Die

มหานิทรรศการแห่ง ปีทจ่ี ดั แสดงสรีระทีแ่ ท้จริง นิ ท รรศการศิ ล ปะ ของมนุษย์ โดยมีวัตถุโดย ปริทรรศ หุตางกูร ประสงค์เพื่อเปิดประตูสู่ ซึง่ รวบรวมผลงานตกผลึก การเข้าถึงและเข้าใจใน จากวิถีชีวิตระหว่างชาว ทุ ก อณู ข องร่ า งกายที ่ ตะวั น ตกและคนไทย สวยงามและสลับซับซ้อน ชาวใต้ ทีก่ ลายสภาพเป็น ภายใต้ ผ ิ ว หนั ง อย่ า งที ่ วัฒนธรรมผสมผสานจน นั ก วิ ท ยาศาสตร์ แ ละ ไร้ซึ่งจุดยืน ซึ่งสะท้อน วงการแพทย์ ไ ด้ ส ั ม ผั ส ใ น รู ป แ บ บ ข อ ง ง า น วันนี้ถึง 3 เมษายน 2554 จิตรกรรมที่จะมาบำบัด ณ เดอะแคปปิตอลคลับ และเยี ย วยาจิ ต ใจด้ ว ย สุขุมวิทซอย 24 (เว้นวัน สุ นทรี ย ภาพของศิ ล ปะ จันทร์) วันนี้ถึง 31 มกราคม 2554 ณ ศูนย์ศิลปะฮอฟ อาร์ต ถ.รัชดาภิเษก (เว้นวันอาทิตย์)

15 16

FRI

นิทรรศการภาพถ่าย เมืองกรุงเทพฯ ในหลาก หลายมิติมุมมอง โดย เฉพาะในรูปแบบพาโนรามา สะท้ อ นจิ ต วิ ญ ญาณ ของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ศูนย์กลางอารยธรรมของ ประเทศไทยผ่ า นเลนส์ กล้องและประสบการณ์ ของ วศิน ศรีวราธนบูลย์ วันนี้ถึง 31 มกราคม 2554 ณ V9 Wine Bar and Restaurant โรงแรม โซฟิเทล

นิ ท รรศการศิ ล ปะ โดย ‘นีโน่’ - สุวรรณี สาระบุตร ทีจ่ ะมาเล่นหัว และยั ่ ว เย้ า กั บ อารมณ์ ความรู้สึกของผู้คน กับ การจัดวางร่วมกันระหว่าง ซีรสี ข์ องก้น ผนังแห่งหัวใจ และหัวกะโหลกเรืองแสง ทีจ่ ะเชือ่ มโยงกันด้วยผีเสื้อ หลายร้อยตัว แทนความ งดงามของชีวติ ความรัก และความตาย วันนี้ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2554 ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี ทองหล่อซอย 10 (เว้นวันจันทร์)

Contemporary Japanese Crafts Exhibition

นิทรรศการงาน หัตถกรรมร่วมสมัยจาก ประเทศญีป่ นุ่ ทีจ่ ะจัดแสดง ผลงานหั ต ถกรรมใน รูปแบบต่างๆ ทั้งงาน เซรามิก เครื่องเคลือบ เครือ่ งแก้ว งานไม้ รวมถึง ผลงานสร้างสรรค์จากโลหะ ในหลากหลายรู ป แบบ และแนวคิด วันนี้ถึง 13 กุมภาพันธ์ 2554 ณ ชัน้ 2 หอศิ ล ปวั ฒ นธรรมแห่ ง กรุงเทพมหานคร สี่แยก ปทุมวัน (เว้นวันจันทร์)

SAT

SUN

The Invisible World

CHANG Pai Reggae International Music Festival # 6

ก า ร แ ส ด ง โข น ใน แบบทีค่ ณ ุ ไม่เคยเห็นทีไ่ หน มาก่อน ที่นำเรื่องราว การแสดงจากทั ้ ง มหา กาพย์ รามายณะ มหา ภารตะ และภควัตปุราณะ กับเรื่องราวตำนานการ กวนเกษียรสมุทร วันนี้ ถึงต้นเดือนมีนาคม 2554 ณ Bed Supperclub สุขมุ วิทซอย 11 รายละเอียด เพิม่ เติมโทร. 0-2651-3537

เตรียมตัวกันให้พร้อม เสียแต่เนิ่นๆ กับ Rasta Hill แห่งแรกของโลก ที่ จะรวมศิลปินแนวเร็กเก้ สกามากมาย อาทิ K Y - M A N I - M A R L E Y , Easy Star All Star, Sister Carol, T-Bone, Job To Do ฯลฯ คอนเสิรต์ จัดวันที่ 21-23 มกราคม 2554 ณ ห้วยตึงเต่า จ.เชียงใหม่ จำหน่ายบัตร ผ่านไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา

พิมพ ครั้งที่ 2

นลินนา ลี Sew, seบw ว ยเทคนิค ก็เย็บเรยี บรอ ยดา ยด ตองนง่ั พบั เพยี เยบ็ ผา แบบญป่ี นุ

คูมือฝกเย็บผาที่ไม

Knit, knit อตัว คูมือหัดถักฉบับตัวต

ที่ทำใหการถักนิตติ้ง

านเพลิน อ ู น ม เ อ ื ค ่ ี น เพราะ ินขาว! ก ม ื ล บ ท แ ซะจน

Bigknit

ว

เปนเรื่องงายนิตเดีย

ÕèÂÁÈÔÃÔ¹¾¡ØÅ µØ ¡µÒ ¾¹Ô´Ò àÍ

gig shop Ò¡·ÕèÊØ´ Tokyo gug Ð¡Ø ¡¡Ôê¡ÁÒ¡¶Ö§Á Å á ¹ Ø ÐÁ Å ¹ ÇÒ âµà¡ÕÂÇ ·ÕèË 100 ÌҹÃǧ·ÑèÇ Ô¹¾¡ØÅ ÁÈÔà ¡µÒ ¾¹Ô´Ò àÍÕèÂ

µØ äèÕ Á¤‹ ÇþÅÒ´ gig Guide Tokyo gug º¤Ãº·¡Ø ÂÒ‹ ¹¡Ø¡ ¡Ô¡ê µÅÍ´¡ÒÅ · ÑÇ ÂÃͺµ ¡Õ ¤Ãѧé Ạä»à·ÂèÕ Çâµà¡ÂÕ ÇÍ ÐàÅÕ´仡ѺÊÔè§ÅÐÍѹ¾Ñ¹ÅйŒÍ ¡ÒÃ㪌àÇÅÒÅ ÈÔÃÔ¹¾¡ØÅ Ò ¾¹Ô´Ò àÍÕèÂÁ µ ¡

Ø µ e id u ´ ä˹ gig G ºº·ÕèäÁ‹à¤ÂÁÕä¡ á Õ Å Korea gug ÒË ¡ Çà  è Õ à· ¤‹àÁÕ§´§ ä» à¡ÒËÅÕäÁ‹ä´ŒÁÕ´Õá »¹Í¡¨Ò¡ä¡´ ¡Ø ¡¡Ôê¡à·‹Ò¹Ñé¹ ¾Òä

พิมพ ครั้งที่ 2

ทรท กุ สาขา วนั นท้ี ร่ี า นนาสยอื อชนิ ั้นนำทั่วประเทศ และรา นหนงั ยตรงในราคาพิเศษจาก หรือสั่งซื้อโดpolkadot สำนักพิมพ ! Ç Œ Å á Â Ò 996 ตอ 49 ¢ § ÇÒ โทร. 0-2726-9k@ gmail.com polkadotboo ook.com www.polkadotb com/polkadotbook www.facebook.

พิมพ ครั้งที่ 3 พิมพ ครั้งที่  3

คำแนะนำ

ทานอาหารที่มีวิตามินบีจะชวยปองกันอาการมือเหน็บชา จากการอานหนังสือของสำนักพิมพ polkadot ได

26

SHOPPING!

เดรสดำ ไหล่เดี่ยว ปักเลื่อม จาก Just Cavalli

กระเป๋าสตางค์ จาก Jack Spade

กระเป๋าใส่ของอเนกประสงค์ จาก Jack Spade กระเป๋าสะพายข้าง ลายสก๊อตสีแดง จาก Jack Spade กระเป๋าสะพาย จาก DVF

กระโปรงประดับหมุด จาก Juicy Couture

ต่างหูรูปหัวซิป จาก Marc by Marc Jacobs

หมวก จาก Diesel กำไลข้อมือ จาก Marc by Marc Jacobs

DANCE IN THE

SPOTLIGHT

ผ้าพันคอ จาก Boss Hugo

เนกไท จาก Jack Spade

เมื่อได้เวลาปาร์ตี้ สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่แค่ ‘เตรียมใจ’ รอรับความสนุกเท่านั้น เพราะก่อนหน้านั้นต้อง ‘เตรียมตัว’ ให้กลายเป็นจุดสนใจของทุกสายตาอีกด้วย เพราะฉะนั้น จะรออะไรอยู่ หยิบกำไลอันโต และคว้ากระเป๋าสีเจ็บขึ้นมา ทำสายตาซุกซน โยกไหวไปมา อัพลุคให้สุดสวย และหล่อล้ำ spotlight จะไปส่องที่ไหน นอกจากตัวคุณ!!!

รองเท้าบู๊ต จาก DKNY หูกระต่าย จาก Paul Smith เสื้อสายเดี่ยว แต่งระบายและโบด้านหน้า จาก Vivienne Westwood

เสื้อกั๊กยีนส์ปักหมุด จาก Juicy Couture

กระเป๋าหนังใส่เหรียญ คล้องสายหนัง จาก Salvatore Ferragamo

กระเป๋าถือ จาก DVF

WHERE สินค้ามีจำหน่ายที่ LUXE Galerie ชั้น 1 เซ็นทรัล ชิดลม

พวงกุญแจคัพเค้ก จาก Juicy Couture

กระเป๋าหนัง สีขาว คาดแดง จาก Bally

กระเป๋า จาก Jack Spade

28

HOW ARCHITECTURE CAN HEAL เรื่อง : สิรินพร จึ ง พิ ท ั ก ษ์ อ ุ ด ม ภาพ : สลัก แก้ ว เชื ้ อ

นอกจากคำว่า ‘ดีไซน์’, ‘ดีเทล’ หรือ ‘สไตล์’ แล้ว อีกหนึง่ คำทีเ่ ดีย๋ วนีเ้ รามักจะได้ยนิ คนในวงการ ออกแบบพูดกันอยู่เป็นประจำก็คือ ‘ฟังก์ชัน’ หรือ ประโยชน์ของการใช้สอย ซึ่งมีหลายคนตั้งคำถาม ถึงความสำคัญของ ‘ฟังก์ชัน’ ว่าเข้ามามีบทบาท ต่อการออกแบบบ้านได้อย่างไร เรามีความคิดเห็น ของ ‘ทอม’ - พหลไชย ใจเปรม สถาปนิก เจ้าของบ้านรีโนเวตย่านเอกมัยมาบอก “ในโลกของการออกแบบมันไม่มเี ส้นแบ่งทีช่ ดั เจน ว่าอะไรคือความสวยงาม ดังนั้น เราไม่ต้องไปให้ ความสำคัญกับเรือ่ งของสไตล์ แต่ปล่อยให้ชวี ติ และ ความคิดเป็นตัวกำหนด สุดท้ายแล้วจะเกิดรูปแบบ เฉพาะตัวของบ้านขึ้นมาได้เอง อย่างการออกแบบ บ้านของเรา โดยส่วนตัวก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมา เป็นสไตล์อะไรอยูแ่ ล้ว เพราะคนหนึง่ คนไม่ได้มคี วามชอบ แค่อย่างเดียว เขาอาจจะชอบมากกว่าหนึง่ สไตล์ก็ได้ แล้วก็เอาความชอบนัน้ ๆ มาผสมผสานให้มนั ลงตัว โดยโจทย์ในการออกแบบบ้านหลังนี ้ ผมจะคำนึงถึง การใช้งานมากกว่า ตั้งแต่ตอนเลือกทำเล เพราะ

ภรรยาผมชอบอยูใ่ นเมือง ส่วนตัวผมเองโดยพืน้ เพเป็น คนต่างจังหวัด ก็อยากจะได้บา้ นทีม่ บี รรยากาศเงียบๆ เป็นธรรมชาติ แล้วก็มาเจอบ้านนีท้ อ่ี ยูใ่ นซอยเอกมัย ซึง่ ตอบโจทย์ความต้องการของทัง้ ผมและภรรยาครับ” โดยสถาปนิกเจ้าของสำนักงานที่มีชื่อเรียบง่าย ว่า ‘พอดี’ แห่งนี้ ได้ให้คำจำกัดความของฟังก์ชัน เอาไว้ว่า ‘ประโยชน์คือความงาม’ และบ้านหลังนี้ ของเขาก็สะท้อนนิยามนัน้ ได้เป็นอย่างดี เพราะบ้านที่ ภายนอกมีหน้าตาเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นธรรมดาๆ ทำหน้าทีเ่ ป็นทัง้ เรือนหอของเขาและภรรยาทีเ่ ริม่ ต้น ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาปีกว่าๆ เป็นออฟฟิศสำหรับ สำนักงานสถาปนิกพอดี ทั้งยังมีพื้นที่สีเขียวที่สงบ เงียบให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับต้นไม้และพิจารณา สัจธรรมของชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งเขาบอกกับเราว่า “เวลาว่างจากการทำงาน ผมชอบอยู่บ้าน เรา สองคนไม่ค่อยอยากออกไปทำโน่นทำนี่ข้างนอก โอเล่ (ภรรยา) เขาก็ชอบทำอาหาร ขลุกอยู่ในครัว ผมเองก็ชอบนัง่ ดูตน้ ไม้ รดน้ำใส่ปยุ๋ ตัดใบแต่งก้าน ให้มนั ดูสวยงาม ซึง่ การอยูก่ บั ธรรมชาติชว่ ยสอนผม

29

อย่างหนึ่งว่าทุกอย่างย่อมดำเนินไปตามธรรมชาติ เสมอ เวลาทำงานผมก็จะใจเย็น เมือ่ ไม่ได้ดง่ั ใจผมก็ สามารถปล่อยวางได้ก่อนใครๆ ผมเชื่อในเรื่องของ การรอคอย เพราะต้นไม้ถ้าเราอยากให้มันโตเราก็ ต้องรอ จะไปเร่งใส่ปุ๋ย ใช้วิธีลัด มันไม่มีทางโตให้ คุณหรอก ถึงโตขึน้ มาได้กไ็ ม่มคี ณ ุ ภาพ” และเชือ่ ไหม ว่าการเป็นคนใจเย็นและรูจ้ กั รอคอยของเขานีแ่ หละ ทีท่ ำให้ลกู ค้าทีม่ าใช้บริการสำนักงานสถาปนิกพอดี ต่างก็ตดิ อกติดใจ ชอบพูดคุยกับเขาในเรือ่ งทีไ่ ม่เกีย่ ว กับการออกแบบบ้านเลยสักนิด “ความแปลกอย่างหนึง่ ของอาชีพนีท้ ผ่ี มค้นพบ คือ ด้วยความที่เราต้องรับฟังลูกค้าว่าเขามีความ ต้องการอย่างไรหรือมีไลฟ์สไตล์แบบไหนเพือ่ ออกแบบ บ้านให้ได้ตรงใจเขา ก็กลายเป็นว่าลูกค้ามีเรื่องมา ปรึกษาเราเยอะแยะ บางคนก็มาคุยเรื่องปัญหา ครอบครัวให้ฟงั ก็ม ี (หัวเราะ)” และเชือ่ ไหมว่าปัญหา ความสัมพันธ์ที่ห่างเหินกันของสมาชิกครอบครัว ในแต่ละบ้านสามารถแก้ไขได้ด้วยสถาปัตยกรรม! ทัง้ นี ้ เจ้าของบ้านทีพ่ ว่ งตำแหน่งสถาปนิกคนเก่งแห่ง จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม อธิบายไว้ว่า “เดีย๋ วนีแ้ ต่ละบ้านมักจะจัดพืน้ ทีเ่ ป็นสัดส่วนอย่าง ชัดเจน คนในบ้านก็อยูห่ อ้ งใครห้องมัน ไม่คอ่ ยได้ออก มาทำกิจกรรมร่วมกัน ในทางกลับกัน สังเกตบ้านไทย สมัยก่อนไหมว่าคนรุน่ ก่อนฉลาดในการจัดสรรพืน้ ที่ ให้มีบริเวณกลางบ้านให้สมาชิกในบ้านได้มาเจอกัน พูดคุย กระชับความสัมพันธ์กนั ซึง่ บ้านในปัจจุบนั มี น้อยมากทีจ่ ะออกแบบอย่างนัน้ เวลาลูกค้ามาปรึกษา เรื่องนี้ผมก็รู้แล้วว่าเราจะต้องแก้ไขโครงสร้างบ้าน เขายังไง เพราะสถาปัตยกรรมไม่ใช่แค่การออกแบบ ตัวอาคาร แต่เป็นการออกแบบสิ่งแวดล้อมและการ อยูอ่ าศัยของคนให้ลงตัวและมีคณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ มี ากขึน้ จุดนีถ้ อื เป็นความสำคัญและเป็นสิง่ ทีท่ ำให้สถาปนิก อย่ า งผมภาคภู ม ิ ใจมากกว่ า การมี ค นชมว่ า เรา ออกแบบบ้านได้สวยเสียอีก”

แบรนด์เฟอร์นเิ จอร์อนั ดับหนึง่ ของคุณ - Muji ผมชอบการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งประโยชน์ใช้สอยของแบรนด์ นี้ ช่วงเวลาส่วนตัวของคุณกับต้นไม้ที่รัก - ช่วงเช้าหลังตื่นนอน กับช่วงเย็นๆ หลัง เสร็จจากทำงาน กิจกรรมแบบ Slow Life ที่ทำประจำ - ปั่นจักรยานไปเดินตลาดท้ายซอย อาหารเช้าสุด simply - น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ พืชที่คิดว่าไม่น่าจะปลูกได้แต่ก็โตวัน โตคืน - องุ่นตรงรั้วหน้าบ้าน วิธีเพิ่มไอเดียให้กับการออกแบบ - ไม่ใช่แค่เรื่องออกแบบ แต่วิธีคิดและการ ใช้ชีวิต การอ่านหนังสือก็ช่วยเราได้ เรื่องที่ภรรยาชอบบ่นคุณบ่อยๆ - เรื่องที่ผมไปทำครัวเขาเลอะเทอะครับ หนั ง สื อ เล่ ม ล่ า สุ ด ที่ ห ยิ บ ไปอ่ า นตอน เข้าห้องน้ำ - หนาวไปไหน

31

1. คุณศศิธารา พิชยั ชาญณรงค์

คุณนริศรา ชวาลตันพิพทั ธ์

เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมเป็นเกียรติในการประกวด

รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นเกียรติในการประกวด

2.

7.

3.

6.

4.

5.

รายชื่อน้องๆ ผู้ชนะในการค้นหาสุดยอด คนพันธุ์อา 1. นายณัฐนานนท์ คำแปง ครองตำแหน่งสุดยอดคนพันธุ์อา และผู้ชนะเลิศจากประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม 2. นางสาวอัญชลี พงษ์ศิริจันทร์ ผู้ชนะเลิศจากประเภทวิชาศิลปกรรม 3. นายบงกช วงษ์บุตรดี ผู้ชนะเลิศจากประเภทวิชาเกษตรกรรม 4. นางสาวปรวรรณ เชียงน้อย ผูช้ นะเลิศจากประเภทวิชาการท่องเทีย่ วและโรงแรม 5. นางสาวนรินทร อารีสนั่น ผู้ชนะเลิศจากประเภทวิชาพาณิชยกรรม 6. นายไกรทอง วิโคตร ผู้ชนะเลิศจากประเภทวิชาคหกรรม 7. นางสาวสาวิกา วิบูลบัณฑิตยกิจ ผูช้ นะเลิศจากประเภทวิชา IT และคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ

โครงการสุดยอดคนพันธุ์อา ผ่านไปแล้วกับการค้นหาสุดยอดคนพันธุ์อา กับรางวัลสุดยอดคนพันธุ์อา 1 คน และรางวัลชนะเลิศประเภทวิชาอีก 6 คน ซึ่งตัดสินจากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกระดับภาคทั้งหมด 98 คน ที่เข้ามาประกวดในรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ที่ห้อง Auditorium บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ที่กรุงเทพมหานคร ทัง้ นี้ ได้รบั การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีคณ ุ นริศรา ชวาลตันพิพทั ธ์ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ขึน้ เป็นประธานกล่าวชืน่ ชมนักเรียนนักศึกษาทีเ่ ข้าร่วมโครงการสุดยอดคนพันธุอ์ า และคุณศศิธารา พิชยั ชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทีไ่ ด้ขน้ึ มากล่าวถึง นโยบายในการจัดประกวดในครั้งนี้ โครงการทีจ่ ดั ขึน้ นีเ้ ป็นการส่งเสริมให้นกั เรียนนักศึกษาอาชีวะได้ปรับเปลีย่ นภาพลักษณ์ของตนเองไปในทางทีด่ ขี น้ึ ทัง้ ทางด้านการสือ่ สาร บุคลิกภาพ และภาวะการเป็นผูน้ ำ เพือ่ เป็นการเพิม่ เติม สมรรถนะด้านวิชาชีพให้ดียิ่งขึ้น และยังได้ร่วมทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย

32

HEALTH AND HEART

HEALTH

NO MORE RISK OF CANCER

YOU’VE GOT A POWER!

คงมีบ้างที่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ เกิด อาการอ่อนล้า ไม่มกี ะจิตกะใจจะทำงานเอาดือ้ ๆ ขอเตือนด้วยความหวังดีวา่ อย่าปล่อยให้อาการ เหล่านีต้ ดิ ตัวจนเรือ้ รัง เพราะนอกจากจะเซ็งโลก แล้ว ยังทำให้เสียงานด้วย ทางที่ดีควรทำตัว ให้สดใสและมีพลังอยู่เสมอด้วยเคล็ดลับ ‘4 ด’ ดังนี้ • เดิน - เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ จากที่เคย

1,000

คนส่วนใหญ่มักมีความเชื่อว่า ‘โรคมะเร็ง ไม่สามารถป้องกันได้’ ทั้งที่ความจริงแล้วมี แนวทางสารพัดที่จะช่วยลดความเสี่ยงของ การเกิดโรคมะเร็งได้ มาเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการ ปรับเปลี่ยนลดพฤติกรรมเสี่ยง คุณก็สามารถ ควบคุมปัจจัยทีอ่ าจก่อให้เกิดมะเร็งได้ถงึ 35% ด้วยวิธีการดังนี้ 1. หากคุณไปตรวจร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การตรวจประจำปี หรือเมื่อมีอาการไม่สบาย ใดๆ อย่าลืมบอกหมอถึงประวัตกิ ารเป็นมะเร็ง ในครอบครัวของคุณ (ถ้ามี) เพราะจะช่วยให้ หมอวินิจฉัยและเกาะติดกับอาการที่อาจบ่งชี้ ถึงโรคมะเร็งได้มากขึ้น 2. หากคุณเคยเป็นมะเร็งมาก่อน ไม่ว่าจะ เป็นส่วนใดในร่างกายก็ตาม จำไว้ว่าคุณมี โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งอีกครั้ง ดังนั้น ต้องระวังเรื่องสุขภาพให้มาก โดยเฉพาะการ ใช้ชีวิต การกินอาหาร รวมถึงการทำจิตใจให้ เอาแต่นง่ั ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็เปลีย่ น มาขยับแข้งขยับขาเดินไปรอบๆ บริเวณทีท่ ำงาน บ้าง หรือจะเดินขึ้น-ลงบันไดสัก 10-20 ขั้น ก็ได้ เพราะข้อดีของการเดินคือ ทำให้เลือด สูบฉีด หัวใจเต้นแรง ร่างกายกระปรีก้ ระเปร่า ขึ้นทันตาเห็นเลยทีเดียว • ดื่ม - ดื่มชาเขียว ที่ต้องแนะนำให้ดื่ม ชาเขียว ก็เพราะว่ากาเฟอีนในชาเขียวจะทำ ให้ประสาทตืน่ ตัวอย่างพอเหมาะ มีแรงทำงาน ได้อย่างสบายอารมณ์ ต่างจากกาเฟอีนใน กาแฟที่กระตุ้นแบบรุนแรงและทำให้เหนื่อย

แจ่มใสอยู่เสมอ 3. ปรับปรุงเรื่องอาหารการกิน ซึ่งคุณต้อง เข้าใจก่อนว่า ‘ไม่มีอาหารวิเศษสำเร็จรูปที่ ป้องกันมะเร็งได้’ แต่การงดอาหารไขมันต่ำ เลือกอร่อยกับอาหารเส้นใยสูงอย่างผลไม้ ผักหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักที่มีฤทธิ์ ยับยั้งมะเร็ง ได้แก่ กะหล่ำม่วง บร็อกโคลี รวมทั ้ ง ผั ก ผลไม้ ท ี ่ เป็ น แหล่ ง ของวิ ต ามิ นซี และอี เช่น มะเขือเทศ ส้ม มะนาว จมูกข้าว สาลี ดอกคำฝอย ก็สามารถช่วยลดความ เสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ ที่สำคัญ ควรลดการกินอาหารย่างเกรียม โรยเกลือ รมควัน และหมักดองอีกด้วย 4. ลดการดืม่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ เพราะ แอลกอฮอล์เป็นโทษโดยตรงในการทำให้เกิด มะเร็งในช่องปาก ซึง่ อาจลุกลามไปสูก่ ล่องเสียง คอหอย หลอดอาหาร ตับ ลำไส้ และเต้านม ดังนั้น เพื่อจำกัดความเสี่ยง คุณควรเลิกดื่ม มากกว่าปกติเมื่อฤทธิ์กาเฟอีนหมดไป • ดม - กลิ่นหอมๆ ของน้ำมันหอมระเหยที่ สกัดจากสมุนไพร เช่น ตะไคร้ เปปเปอร์มน้ิ ต์ ยูคาลิปตัส หรือลาเวนเดอร์ จะทำให้รู้สึก สดชื่นขึ้น • โด๊ป - อาหารเช้าถือเป็นมื้อสำคัญที่สุดใน การบำรุงสมอง กระตุน้ ร่างกายให้กระฉับกระเฉง ช่วยให้ความง่วงงุน มึนงงหมดไปจากร่างกาย ดังนั้น ถ้าคุณจะโด๊ปอาหารเช้าให้มากกว่า มื้อเย็นก็ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก

Milligrams คือปริมาณของแคลเซียมที่คนเราควรได้รับใน 1 วัน โดยสามารถได้จากการรับประทานอาหารทะเลจำพวกกุ้ง และหอย นอกจากนี้ นมสด ชีส งาดำ ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ผักโขม ผักกวางตุ้ง และใบกะเพรา ก็ถือเป็นแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เช่นกัน

HEART

TAKE A BREAK AND TAKE A DEEP BREATHE

เชื่อหรือไม่ว่า การพักจากเรื่องวุ่นวายทั้งเรื่อง การงานและเรือ่ งส่วนตัว หรือการหาเวลาอยูค่ นเดียว สักพัก เป็นหนึง่ ในวิธสี ร้างความสุขทางใจให้กบั ตัวเอง และร่างกายก็ยงั ได้รบั ประโยชน์จากการพักผ่อนด้วย เช่นกัน ส่วนจะทำอย่างไรน่ะเหรอ... เรามีคำตอบ จินตนาการสร้างพลัง ลองหลับตานึกถึงภาพตัว คุณเดินทอดน่องรับสายลม แสงแดด อยูบ่ นชายหาดที่ เงียบสงบดูสกั แห่ง วิธนี จ้ี ะช่วยให้คณ ุ รูส้ กึ เป็นอิสระ และหลุดพ้นจากวังวนเครียดๆ ส่วนใครที่ไม่อยาก เอาแต่นั่งนึกเฉยๆ จะเก็บกระเป๋าโกทูเดอะบีชจริงๆ เลยก็ไม่มีใครว่า ปิดรับการสื่อสาร บางทีการพบปะกับคนหมู่มาก และต้องเปิดรับการสือ่ สารทัง้ ทางโทรศัพท์ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และอีเมลอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้เกิด ความเครียด รวมทั้งทำให้เสียเวลาและเสียพลังไป โดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการสร้างความ กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง การปิดรับการสื่อสาร ที่ไม่จำเป็นจึงช่วยได้ โดยคุณอาจจะกำหนดเวลา เปิด-ปิดโทรศัพท์ หรือหาเวลาอยูก่ บั ตัวเองสักวันละ

1 ชั่วโมง เพื่อทบทวนชีวิตประจำวันที่ผ่านไป เพิม่ พลังกายด้วยการนวด การนวดเป็นวิธกี ระตุน้ พลังในส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพอีกครัง้ หลังจากเหน็ดเหนือ่ ยมานาน นอกจากนี้ บรรยากาศอันสงบเงียบของสปาที่คุณ ใช้บริการก็ยงั ช่วยบำบัดจิตใจให้ปลอดโปร่งได้อกี ด้วย กลิ่นและความทรงจำ ประสาทรับกลิ่นมีความ สามารถที่จะเชื่อมโยงคุณไปถึงเวลาหรือสถานที่ใน อดีตได้ดว้ ย หากคุณกำลังโหยหาวันวานอันแสนหวาน ก็ให้ลองหยดน้ำมันหอมระเหยลงในอ่างอาบน้ำ หย่อนกายลงไปแช่ แล้วหลับตานึกถึงวันที่คุณเคย ออกเดตกับคนรัก หรือเริงร่ากระโดดโลดเต้นอยูก่ บั เพือ่ นสนิท เท่านีช้ วี ติ ของคุณก็จะแจ่มใสขึ้นทันตา ออกกำลังขจัดความเครียด เพียงแค่คุณได้ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ วิง่ บนลูว่ ง่ิ เชือ่ เถอะว่าความเครียด ทีส่ ะสมมาจะมลายหายไปหมดสิน้ เพราะคุณได้เอา เรื่องวุ่นๆ ในหัวทิ้งไปกับแรงที่ออกจนหมด ดนตรีบำบัด การฟังเพลงบรรเลงในจังหวะผ่อนคลาย สบายๆ มาฟัง จะช่วยให้อารมณ์ทข่ี นุ่ มัวของคุณเย็น

ลงได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ถ้าคุณนอนไม่ค่อยหลับ หรือใช้เวลากว่าจะหลับนานเป็นพิเศษ ลองเปิดเพลง บรรเลงเบาๆ คลอไปด้วย ทำใจให้ปลอดโปร่ง หลับตา ลง และหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ เชือ่ เถอะว่าไม่เกิน 10 นาที คุณจะได้นิทราอย่างเป็นสุขแน่นอน เติมพลังให้กบั ร่างกาย ในวันทีค่ ณ ุ อ่อนล้าทัง้ ทาง ร่างกายและทางความคิด แต่ไม่สามารถหยุดการ ทำงานที่ยังพัวพันเกี่ยวเนื่องได้ ขอให้คุณปรนเปรอ ตัวเองด้วยกาแฟเข้มๆ กลิ่นหอมหวนสักแก้ว แล้ว ยิม้ รับกับศึกหนักทีต่ อ้ งเผชิญในวันนัน้ ด้วยความมีสติ และสนุกสนาน ที่สำคัญ จงเชื่อมั่นว่าคุณมีความ สามารถมากพอที่จะผ่านปัญหาในแต่ละวันไปได้ ใส่ใจกับฝ่าเท้า หากเครียดจนปวดหัว ขอแนะนำ ว่าอย่าสนใจกับส่วนนัน้ ให้มากนัก แต่ควรหันมาใส่ใจ กับฝ่าเท้าจะดีกว่า อย่าลืมสิว่าศูนย์รวมประสาท ทั้งหมดของร่างกายอยู่ที่ฝ่าเท้า เพราะฉะนั้น การ แช่เท้าทัง้ สองลงในอ่างน้ำเย็นสลับกับน้ำร้อนอย่างละ 5+10 นาที จะช่วยทุเลาอาการปวดได้ หรือถ้ามี เวลามากหน่อยก็ไปเข้าสปานวดเท้าเสียเลย

33

แอลกอฮอล์ หรือไม่ควรดื่มเกิน 4 แก้ว ต่อสัปดาห์ 5. ลดน้ำหนักลง เพราะก้อนไขมันทีส่ ะสม อยู่ตามร่างกายนั้นมีสารพิษจากอาหาร การหายใจ และจากดืม่ เครือ่ งดืม่ มึนเมา เจือปนอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุ สำคัญของมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็ง ปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก ที่สำคัญ งานวิจัย หลายชิ้นยังระบุว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่มัก เกิดในกลุ่มผู้ที่กินอาหารที่มีไขมันและ คอเลสเตอรอลสูงเป็นเวลานานๆ 6. หยุดสูบบุหรี่ เพราะเป็นที่รู้กันว่า บุหรีค่ อื ต้นเหตุของมะเร็งปอด นอกจากนี้ สารเคมีในบุหรี่ยังเป็นสาเหตุของมะเร็ง กล่องเสียง มะเร็งช่องปาก มะเร็ง หลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งตับอ่อน 7. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมือ่ ร่างกาย เรากระปรี ้ ก ระเปร่ า กระฉั บ กระเฉง ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งก็จะลด ตามลงไปด้วย เนือ่ งจากระบบภูมคิ มุ้ กัน ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขึน้ ซึง่ แพทย์ทว่ั โลกต่างแนะนำเป็นเสียง เดียวกันว่า ควรออกกำลังกายให้ได้ 5 วัน ต่อสัปดาห์ เป็นดีที่สุด 8. ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้ ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 25 ขึ้นไป และ ควรเลี่ยงแสงแดดช่วงเวลา 10 โมงเช้า ถึงบ่าย 4 โมงเย็น เพราะเป็นช่วงเวลาที่ แสงแดดมีรังสียูวีมากที่สุด 9. หลีกเลีย่ งสิง่ แวดล้อมทีเ่ ป็นมลพิษ เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน บริเวณที่มีการใช้ยาฆ่าแมลง ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควัน รถยนต์ต่างๆ เป็นต้น 10. คอยหมัน่ สังเกตและตรวจความ ผิ ด ปกติ ข องร่ า งกายตั ว เองอย่ า ง สม่ำเสมอ เช่น มีไฝหรือตุ่มใดๆ ที่ขึ้น มาแบบผิดปกติหรือไม่ ตรวจคลำบริเวณ ทรวงอกเพื่อหาก้อนเนื้อที่อาจกลายเป็น มะเร็งเต้านมในผู้หญิง และควรตรวจ สุขภาพเป็นประจำทุกปี

THE HERBS CAN HELP นิสยั ไม่ดอี ย่างหนึง่ ของบรรดาคนเมือง ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบและนิยมความสำเร็จรูปคือ การบริโภคยาปฏิชีวนะ แม้ว่าจะเจ็บป่วย หรือมีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย ทั้งที่ จริงแล้ว ‘สมุนไพรไทย’ ต่างหากที่ถือเป็น ยาสามัญประจำบ้านที่ดีต่อสุขภาพและ ต้านโรคภัยได้สารพัด โรคมะเร็ง - ใครอยากห่างไกลมะเร็ง แนะนำให้ทานกระเทียมและผักจำพวกหอม ซึง่ อุดมด้วยซัลเฟอร์ สารทีช่ ว่ ยกระตุน้ ระบบ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จึงช่วยต้านเซลล์ มะเร็งในร่างกายได้ ขณะที่ผักจำพวก กะหล่ำปลีมีสารต้านทานมะเร็งในลำไส้ และช่วยต้านมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วน ขมิน้ ขาวและขมิน้ ชันนอกจากจะมีสรรพคุณ ขับลมในลำไส้แล้ว ยังมีสารช่วยป้องกัน มะเร็งลำไส้ด้วย โรคเบาหวาน - การรักษาโรคเบาหวาน อย่างได้ผลต้องทำควบคู่กับการวางแผน โภชนาการ โดยสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ต้าน เบาหวาน ได้แก่ ฟักทอง แถมยังช่วย ป้องกันมะเร็งปอดและช่วยควบคุมน้ำตาล ในเลือด ผลดิบของตำลึงหากนำมาปรุงเป็น อาหารก็จะช่วยรักษาเบาหวานได้ นอกจากนี้ ยังมีผักบุ้ง มะระขี้นก และมะรุม ที่มี สรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวานด้วยเช่นกัน โรคอ้วน - การเลือกทานสมุนไพรเพือ่ กระตุน้ ระบบเผาผลาญในร่างกายก็เป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์พชิ ติ โรคอ้วน โดยควรทานเม็ดแมงลัก เพื่อช่วยดูดซึมน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้ ขับถ่ายสะดวก และลดน้ำหนักได้หลายกิโลฯ ส่วนกระเจีย๊ บมอญทีเ่ อาไว้จม้ิ กินกับน้ำพริก ก็ช่วยลดความดันโลหิตและเป็นยาระบาย ชัน้ ดี การดืม่ น้ำแตงโมปัน่ ยังช่วยล้างไขมัน ในลำไส้และกระเพาะอาหาร มะละกอช่วย ลดอาการท้องอืด เป็นยาระบาย และ มะม่วงสุกก็ชว่ ยระบายของเสียภายในได้ดี โรคภูมแิ พ้ - เกิดจากภูมคิ มุ้ กันในร่างกายมี ความไวเกินไปต่อสารก่อภูมแิ พ้ โดยสมุนไพร ไทยทีม่ สี รรพคุณด้านนีต้ อ้ งยกให้ ‘กะหล่ำ ดอก’ ทีช่ ว่ ยบำรุงภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ขณะทีข่ น้ึ ฉ่ายมีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร เพิม่ ภูมคิ มุ้ กันให้รา่ งกาย บำรุงไตให้แข็งแรง

LITE DAY WITH

ปใหมแลวก็ควรจะหาอะไรใหมๆ ทำ ใหชีวิตมีสีสัน สนุกสนาน และสดใสขึ้นกวาปที่แลว เพื่อที่คุณ จะไดมีพลังงานในการดำเนินชีวิตและลุยงานตั้งแตตนป เชนเดียวกับเรื่องของการดูแลสุขภาพที่ไมควร รีรอเวลา มาเริ่มเติมเต็มความเฟรชใหแกรางกายของเรากันดีกวา แลวคุณจะรูวาชีวิตที่ very happy นั้น หาไดไมยากเลย

สลัดน้ำปน สวนผสม

วิธีทำ

น้ำผักกาดหอมสกัด ¼ 1/4 ถวย น้ำสับปะรด 1/2 ถวย น้ำหัวหอมสกัด 1/4 ถวย น้ำแตงกวาสกัด 5 ชอนโตะ น้ำมะเขือเทศสกัด 5 ชอนโตะ น้ำเชื่อม 1/4 ถวย (ใชนำ้ ตาล แบบซอง 3 ซอง ละลายน้ำ ในปริมาณที่เทากันกับปริมาณน้ำตาล)

ป  น ส ว นผสมทั ้ ง หมดเข า ด ว ยกั น ประมาณ 15 วินาที จากนั้นนำไปแชเย็น สักพักแลวเสิรฟในแกวใสน้ำแข็ง หมายเหตุ : ตองใชเครือ่ งสกัดน้ำผัก-ผลไม เพื่อสกัดน้ำผักออกมากอนนำไปปน (เอื้อเฟอสูตรอาหารโดย : อัจฉรา บุรารักษ เจาของรานอาหารกับขาวกับปลา by iberry)

“หวานเต็มรอย แตแคลอรีนอยเพียงครึ่ง” Did You Know?

น้ำทีค่ น้ั จากผักและผลไมสด จัดเปนแหลงของวิตามิน เกลือแร โปรตีน คารโบไฮเดรต ทีร่ า งกายสามารถดูดซึม เขาสูเ ซลลไดทนั ที จึงทำใหรสู กึ สดชืน่ กระปรีก้ ระเปรา แถมยังอุดมไปดวยสารตานอนุมูลอิสระที่ชวยชะลอ ความแก บำรุงและปองกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล ชวยใหผิวกระชับ เตงตึง แข็งแรง และกำจัดของเสีย ภายในรางกาย เพราะกรดในน้ำผักและผลไม เชน กรดซิตริก กรดเอสคอรบิก รวมทั้งกากใยที่มีใน ผักและผลไมสด จะทำหนาที่ชวยนำพา ของเสียออกจากรางกายไดเร็วขึ้น

ผู อ า นท า นใดที่ มี ไ อเดี ย ในการสร า งสรรค เมนูอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยใชน้ำตาล ไลท ชูการ เปนสวนประกอบ สามารถสงเมนูของคุณ มาไดที่อีเมล adaybulletin08@gmail.com โดยเมนู ที่ ไ ด รั บ การคั ด เลื อ กจะได รั บ กิ ฟ ต เ ซตผลิ ต ภั ณ ฑ ปรุงอาหารจากไลท ชูการ เปนของรางวัล และไดรับ สิทธิ์เขารวมเวิรกช็อปทำอาหารเพื่อสุขภาพกับทาง ไลท ชูการ ในชวงตนป 2554 ตอไป

สำหรั บ สาวๆ ที่ ดู แ ลรู ป ร า ง แต ก็ ข าด ความหวานไม ได แนะนำใหใช ไลท ชูการ น้ำตาลแคลอรีต่ำ ที่นอกจากจะใหแคลอรีเพียงครึ่ง เดียวแลว ยังใหรสชาติหวาน ตามธรรมชาติของน้ำตาล อีกดวย

RELATIONSHIP THE GOOD MANNERS IN COMPANY ใครที่เริ่มปีใหม่กับงานที่ใหม่ ขอแนะนำ ว่ามารยาทและการวางตัวทีด่ จี ะช่วยเพิม่ ความ น่าเชื่อถือและน่าคบหาให้คุณได้ ยิม้ แย้ม : ไม่วา่ สถานการณ์การทำงานจะตึงเครียดแค่ไหน รอยยิม้ น้อยๆ สามารถช่วยคลีค่ ลาย อะไรๆ ไปในทางที่ดีได้เสมอ เพราะการยิ้ม เป็นสัญลักษณ์ของคนที่มองโลกในแง่ดีนั่นเอง มีน้ำใจ : หากมีใครต้องการความช่วยเหลือ และคุณสามารถช่วยเขาได้โดยไม่เหลือบ่ากว่าแรง

ก็ควรแสดงน้ำใจ เพราะการช่วยเหลือเพื่อน ในทีท่ ำงานยังช่วยให้คณ ุ ผูกสัมพันธ์กบั เพือ่ นใหม่ ได้เร็วขึ้นด้วย มีสมั มาคารวะ : ในฐานะทีเ่ ป็นน้องใหม่กค็ วร มีสัมมาคารวะและอ่อนน้อมถ่อมตนต่อทุกคน โดยไม่ตอ้ งคำนึงว่าจะอายุนอ้ ยหรือมากกว่าเรา เรียนรู้เร็ว : ศึกษาเรียนรู้ระบบงานให้เร็วและ นำคำแนะนำทั้งจากเจ้านายและรุ่นพี่ในทีมมา พัฒนางานของตัวเอง

Lite Sugar Fact แอสปารแตม ซึ่งเปนสวนผสมในน้ำตาลไลท ชูการ คือสารใหความหวานแทน น้ำตาลที่ไดจากธรรมชาติ เชน นม ไข เนื้อสัตว โดยใหความหวานแทนมากกวา น้ำตาลทรายถึง 200 เทา และไดรับการรับรองทางดานความปลอดภัยในการ บริโภคจาก 124 ประเทศทั่วโลก หมายเหตุ มีน้ำตาลทรายเปนสวนประกอบ ไมเหมาะสำหรับผูปวยโรคเบาหวาน

34

ALL ABOUT BIZ

BIZ LIFE

DOING AND LEARNING WITHOUT REGRET อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

กรรมการบริหาร บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด บริษัทที่ให้บริการ ด้านการพัฒนา ฝึกอบรมพนักงาน และเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหาร จัดการและการพัฒนาองค์กร โดยเป็นองค์กรเดียวในเอเชียตะวันออก เฉี ย งใต้ ที่ ได้ รั บ รางวั ล ระดั บ โลกจากสถาบั น American Society for Training and Development (ASTD) ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึง 2 ปีซ้อน

• ผมเชื่อว่าการให้โอกาสคนเป็นเรื่องสำคัญ หากคนคนหนึ่งได้รับโอกาสที่ เหมาะสม เขาก็จะสามารถจรัสแสง และประสบความสำเร็จได้ • ผมไม่เคยกลัวในเรื่องของความผิดพลาด เพราะถ้ามัวแต่กลัวว่าจะทำผิด เราก็คงไม่อยากคิดทำอะไรใหม่ๆ แต่สง่ิ เดียวทีผ่ มกลัวคือทำผิดซ้ำๆ ในเรือ่ งเดิม • ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ หากมีดีก็ย่อมมีไม่ดี หากมีสุขก็ย่อมมีทุกข์ เวลาที่ เจอปัญหาผมจะถามตัวเองเสมอว่า เราเรียนรูอ้ ะไรจากเหตุการณ์ครัง้ นีไ้ ด้บา้ ง? ซึ่งการคิดแบบนี้จะช่วยให้เราไม่เครียดและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น • ความผิดพลาดจะเป็นบทเรียนให้เรามองที่รายละเอียดและคิดให้มากขึ้น ก่อนตัดสินใจ สอนให้ถามคำถามที่นำไปสู่การเรียนรู้ มากกว่าถามคำถามที่ นำไปสู่คำตอบที่ควบคุมไม่ได้ • ผมบอกลูกทีมเสมอว่า ทำผิดไม่ใช่ไม่เป็นไร ทำผิดเป็นไรแน่นอน แต่ทำผิด แล้วต้องเรียนรู้เพื่อจะไม่ทำผิดซ้ำอีก เพราะถ้าผมทำให้พวกเขารู้สึกว่าทำผิด แล้วถึงกับเป็นเรือ่ งคอขาดบาดตาย ก็คงไม่มใี ครกล้าทำงานอะไรทีท่ า้ ทายอีกเลย • คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน หัวหน้าที่ดีต้องเข้าใจความเป็นเขาคนนั้น ต้อง เข้าใจว่าเขาชอบและไม่ชอบอะไร นิสัยส่วนตัวเขาเป็นอย่างไร หัวหน้าต้องทำ หน้าที่สนับสนุนพนักงานที่เป็นคนส่วนใหญ่ในองค์กรให้สามารถทำงานได้ดี มีความสุข เพื่อเขาจะได้ทำให้ลูกค้ามีความสุข • ผมเชื่อว่าพนักงานที่มีความสุขเท่านั้นจะทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ หาก พนักงานยังไม่มีความสุข เขาคงไม่สามารถทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ • ปัญหาเรือ่ งการสือ่ สารเป็นปัญหาหลักของทุกองค์กรไม่วา่ ใหญ่หรือเล็ก และ ปัญหาใหญ่ของการสื่อสารกลับไม่ใช่เรื่องของการพูด แต่เป็นเรื่องของการฟัง • ทีมเวิร์กที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จและเติบใหญ่ได้ ผมเชื่อว่าต้อง มาจากทีมงานที่มีความผูกพันกับองค์กร อยู่ด้วยกันมานาน มีความต่อเนื่อง ทำให้องค์ความรู้ไม่สูญหายไป และที่สำคัญ ความต่อเนื่องนี้ยังทำให้ลูกค้า รู้สึกพอใจเพราะไม่ต้องเริ่มต้นคุยกับคนใหม่บ่อยๆ • ความเป็นมืออาชีพ คือ การทำอะไรตรงไปตรงมา ทำได้กบ็ อกทำได้ ทำไม่ได้ ก็บอกตรงๆ ว่าทำไม่ได้ ถูกก็บอกว่าถูก หากผิดก็ต้องยอมรับว่าผิด • ความเป็นมืออาชีพผมเชื่อว่าต้องอาศัยการปลูกฝัง ไม่ใช่ส่งพนักงานไปเข้า ห้องอบรมแล้วจะมีความเป็นมืออาชีพ การปลูกฝังความเป็นมืออาชีพต้อง

อาศัยเวลา และความสม่ำเสมอ ผมมักจะใช้วิธีการสื่อสารบ่อยๆ หลายๆ วิธี ให้ความรู้ค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในตัวของพวกเขา • ความสำเร็จมีองค์ประกอบ 3 อย่างคือ หนึง่ งานสำเร็จตามเป้าหมายทีก่ ำหนด ไว้ สอง คนทีท่ ำงานด้วยมีความสุข รูส้ กึ ว่างานทีท่ ำมีคณ ุ ค่า ได้รบั ผลตอบแทน ทีส่ มน้ำสมเนือ้ และสาม ความสำเร็จนัน้ ไม่ได้เบียดเบียนสังคม เป็นองค์กรทีด่ ี เป็นคนดีของสังคม เสียสละให้กับสังคมบ้างตามกำลังที่พอจะทำได้ • ความสำเร็จและความผิดพลาดล้วนเรียนรูไ้ ด้ทง้ั นัน้ หากเราพร้อมทีจ่ ะเรียนรู้ เปิดใจให้กว้าง ทุกอย่าง ทุกคน เป็นครูให้เราได้หมด ในทางกลับกัน หากเรา ไม่พร้อม ไม่เปิดใจ แม้ครูยืนอยู่หน้าห้อง เราก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร • ไม่ว่าความสำเร็จหรือความผิดพลาด เราสามารถเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น ผมและ ทีมงานจะมีการทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น (After Action Review) เสมอว่ามีอะไร เกิดขึ้นบ้าง อะไรทำได้ดี อะไรทำได้ไม่ดี หากย้อนเวลากลับไปได้ใหม่ เราควร ทำอะไรที่แตกต่างจากนี้ได้อีกบ้าง • องค์กรที่จะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่องค์กรที่มีแต่คนรุ่นเก่าที่เต็มไปด้วย ประสบการณ์ แต่ ข าดพลั ง หรื อ คนรุ ่ น ใหม่ ท ี ่ ม ี พ ลั ง แต่ ข าดประสบการณ์ องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่สามารถประสานประสบการณ์ของ คนรุ่นเก่ากับพลังของคนรุ่นใหม่ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวได้ต่างหาก • ผู้บริหารที่ดีต้องมีคุณสมบัติครบ 4 ประการ คือ หนึ่ง ต้องเก่งในงานที่ทำ รูจ้ ริง เป็นทีพ่ ง่ึ ของลูกทีมได้ สอง ต้องเก่งในการบริหารจัดการคน ซือ้ ใจลูกน้อง ได้ ทำงานเข้าขากับหัวหน้างานได้ และเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีของเพื่อนๆ สาม ต้องเก่งคิด คือต้องสามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปญ ั หา มีวสิ ยั ทัศน์ มองเป้าหมาย ระยะไกลได้ และสุดท้ายคือ เป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม จรรยาบรรณ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ในองค์กร • ผมบอกลูกน้องและทีมงานเสมอว่า ต้องคิดว่าตัวเองเป็นหมอ ซึง่ หมอด้วยกัน ก็ไม่ได้คิดว่าหมอที่นั่งอยู่ห้องข้างๆ เป็นคู่แข่ง การทำธุรกิจลูกค้ามีสิทธิเลือก หากลูกค้าเลือกเรา ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ใช้ที่ปรึกษาเจ้าอื่น ในทางกลับกัน หากลูกค้าเลือกวิทยากรท่านอื่น ก็ไม่ได้แปลว่าลูกค้าจะไม่ใช้บริการจาก บริษัทของเรา

Living Christmas Card

ช่วงเทศกาลที่ผ่านมาทำให้เราเห็นได้ อย่างชัดเจนว่า ของขวัญในช่วงเทศกาล ปีใหม่ยุคนี้คงไม่ได้วัดกันด้วยการตีค่าใน แง่ของราคาอีกต่อไป เพราะดูเหมือนว่าจะ มี ธ ุ ร กิ จ ใหม่ ๆ มากมายที ่ แข่ ง ขั นกั น โชว์ ไอเดียเก๋ๆ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่กัน และกัน เช่นเดียวกับ The Living Christmas Card ทีช่ วนคุณมาออกแบบการ์ดคริสต์มาส ด้วยตัวเอง แต่ถ้าบอกว่าเป็นการ์ด DIY ก็คงจะดูธรรมดาไปหน่อย เพราะมันเป็น การ์ด DIY แบบออนไลน์ แถมยังมีชีวิต อีกต่างหาก! เพราะสูงขึ้นไปบนยอดเขา Funasdalen ในประเทศสวี เดน ที ่ เต็ ม ไป ด้วยหิมะขาวโพลน และที่สำคัญคือ เป็น ฟาร์มเลี้ยงกวางเรนเดียร์ที่เข้ากันสุดๆ กับ เทศกาลคริสต์มาส ซึง่ เจ้าของฟาร์มหัวใสก็ถอื โอกาสใช้วิวสวยๆ และกวางเรนเดียร์ที่มีอยู่ ให้เป็นประโยชน์ โดยติดตั้งกล้องเว็บแคม 4 ตัว ไว้ในมุมทีว่ วิ สวยทีส่ ดุ ของยอดเขาแห่งนี้ จากนั ้ น ก็ จ ั ด เป็ น เรี ย ลิ ต ี ้ ก วางเรนเดี ย ร์ เหมือนกับทีวีช่องหลินปิงของบ้านเรา เพื่อ ให้ลูกค้าได้เข้าชมแบบสดๆ ได้ในเว็บไซต์ www.livingchristmascards.com แบบฟรีๆ แล้วถ้าได้ภาพที่สวยถูกใจ ก็เพียงแค่คลิก take photo ทีนี้การ์ดสวยๆ ที่มีใบเดียวใน โลกก็จะแสดงบนหน้าจอของคุณ ขั้นตอน ต่อไปลูกค้าก็แค่เลือกคำเก๋ๆ เพื่อพิมพ์ลง บนการ์ด จัดวางตำแหน่งตัวอักษรให้ดี แค่นี้ ก็เสร็จแล้ว ถ้าใครอยากได้การ์ดที่คลิกเอง คิดคำเองแบบนี้ ก็ตอ้ งสัง่ ซือ้ กับทางเว็บไซต์ ซึง่ จะบริการส่งถึงทีใ่ ห้ดว้ ย ทีนใ้ี นเทศกาลแห่ง การให้ครั้งต่อไป ทั้งวันเกิด วันวาเลนไทน์ หรื อ วั น พิ เ ศษไหนๆ ก็ ค งจะสนุ ก และ สร้างสรรค์ขึ้นอีกเป็นกอง เพียงแค่เรารู้จัก คิดต่าง และใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กันมากขึ้น ไอเดียดีๆ ก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก

BIZ QUOTE BIZ BOOK

Marketing is All Around

ผู้เขียน : วิเลิศ ภูริวัชร สำนักพิมพ์ : กรุงเทพธุรกิจ Bizbook ราคา : 195 บาท

จากคอลัมน์ Marketing Yourself จนมาถึง Marketing is All Around หนังสือเล่มนี้เป็นการ รวบรวมข้อเขียนและข้อคิดดีๆ ของ ดอกเตอร์ วิเลิศ ภูริวัชร ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจและ การตลาดมานาน จนมองทะลุถึงการตลาดที่ ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนได้อย่าง ถึงแก่น ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงการตลาด หลายคนย่อม วาดภาพว่ามันคือการชิงไหวชิงพริบที่ซับซ้อน และแนบเนียน แต่จริงๆ แล้วหลักการตลาด แบบง่ายๆ ก็คือการตอบสนองความต้องการ สูงสุดของผู้บริโภค เพราะฉะนั้น มันจึงเกี่ยวพัน กับทุกธุรกิจอย่างแนบแน่น จนกระทั่งบางทีเรา อาจจะมองข้ามไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็ก กลาง

หรือใหญ่ ก็ลว้ นต้องใช้หลักการตลาดแทบทัง้ สิน้ หนังสือเล่มนี้จะไม่ใช่การอธิบายกลไกการตลาด หรือทฤษฎีที่ซับซ้อน แต่เป็นการหยิบจับเอา เรื ่ อ งราวต่ า งๆ รอบตั ว ที ่ เ กี ่ ย วเนื ่ อ งกั บ ชี ว ิ ต ประจำวันขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา พร้อมนำทฤษฎี ทางการตลาดเข้ามาจับ มันจึงเป็นหนังสือที่ ย่อยง่าย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้นที่จำเป็น ต้องรู้เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ แต่ผู้บริโภค อย่างเราๆ ก็ควรจะต้องศึกษาไว้เพือ่ จะได้รเู้ ท่าทัน ธุรกิจต่างๆ ด้วยเช่นกัน รับรองว่าอ่านเพลิน แถมยังได้ข้อคิดดีๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับ ชีวิตในยุคที่การตลาดล้วนแอบแฝงอยู่ในทุกสิ่ง ได้เป็นอย่างดี

SUCCESS IS A LOUSY TEACHER. IT SEDUCES SMART PEOPLE INTO THINKING THEY CAN’T LOSE. Bill Gates, Chairman of Microsoft Corporation

36

THE WORDS

“It’s never too late - in fiction or in life to revise.”

“To be happy with a man you must understand him a lot and love him a little.

To be happy with a woman you must love her a lot and not try to understand her at all.”

“The purpose of education is to replace an empty mind with an open one.”

ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไป ทั้งใน นิยายหรือในชีวิต ที่จะปรับปรุง -Nancy Thayer

จุดประสงค์ของการศึกษา เล่าเรียนคือ การแทนที่จิตใจที่ ว่างเปล่าด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง -Malcom Forbes

“Even if I don’t reach all my goals, I’ve gone higher than I would have if I hadn’t set any.” แม้ว่าข้าพเจ้าจะไปไม่ถึงทุกจุดมุ่งหมายของตัวเอง แต่ข้าพเจ้าก็ ไปได้สูงกว่าที่ข้าพเจ้าสามารถทำได้ หากไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้เลย -Danielle Fotopoulis

การอยู่กับผู้ชายให้มีความสุข คุณต้องเข้าใจเขาให้มาก และรักเขาให้น้อยๆ การอยู่กับผู้หญิงให้มีความสุข คุณต้องรักเธอให้มาก และอย่าไปพยายามเข้าใจเธอเลย -Helen Rowland

“Although the world is full of suffering, it is also full of the overcoming of it.”

“I hated every minute of training, but I said, ‘Don’t quit. Suffer now and live the rest of your life as a champion.’ ”

แม้ว่าโลกนี้จะเต็มไปด้วยความ ทุกข์ แต่มันก็ยังเต็มไปด้วย หนทางเอาชนะทุกข์นั้นๆ เช่นกัน -Helen Keller

ผมเกลียดทุกๆ นาทีของการฝึกซ้อม แต่ผมจะบอกตัวเองว่า ‘อย่าหยุด อดทนตอนนี้ และใช้ชีวิตที่เหลือของแกในฐานะผู้ชนะ’ -Muhammad Ali

“You’re only young once, but you can be immature forever.”

ท่านจะเป็นเด็กได้เพียงครั้งเดียว แต่ทา่ นสามารถเป็นเด็กไม่รจู้ กั โต ได้ไปชั่วกาลนาน -นิรนาม

“If you understand, things are just as they are; if you do not understand, things are just as they are.” ถ้าท่านเข้าใจ สิ่งต่างๆ มันก็จะเป็นอย่างที่มันเป็น ถ้าท่านไม่เข้าใจแล้วละก็ สิ่งต่างๆ มันก็จะเป็นอย่างที่มันเป็น -สุภาษิตเซน

วางจำหนายแลว!

·ÕèÌҹ˹ѧÊ×ͪÑé¹¹Ó·ÑèÇ»ÃÐà·È ËÃ×ÍÊÑ觫×éÍâ´ÂµÃ§ã¹ÃÒ¤ÒÅ´¾ÔàÈɨҡ a book â·Ã. 0-2726-9996 µ‹Í 49 ËÃ×Í abook9@gmail.com www.abookonline.com

การลาออกครั้งสุดทาย / ภาณุมาศ ทองธนากุล / 220.Cover Re-Design!

¨Ò¡ªÕÇÔµ¨ÃÔ§¢Í§ªÒÂ˹؋Á¼ÙŒÇ‹Ò§§Ò¹â´ÂÊÁѤÃ㨠ÊÙ¡‹ ÒúÃÔËÒõÑÇàͧ ¡ÒÃà§Ô¹ ¤Ãͺ¤ÃÑÇ áÅÐÍÕ¡ÁÒ¡ÁÒ ˹ѧÊ×Í·Õ¶è ¡Ù à¾‹§àÅ秨ҡÊÁÒ¤Á¹Ò¨ŒÒ§áË‹§»ÃÐà·Èä·Â à¾ÃÒÐã¤Ãæ ¡çÍÂÒ¡ÅÒÍÍ¡¤ÃÑé§ÊØ´·ŒÒ¡ѹ·Ñ駹Ñé¹!

ตรามาตรฐานการันตี

ขายดีทุกเลม!

ยอดนิยมทุกแผง!

ศัพทหมู / ภูมิชาย บุญสินสุข / 205.-

ã¤ÃÇ‹ÒÀÒÉÒÍѧ¡ÄɾٴÂÒ¡áʹÂÒ¡ ¨Ðãˌᤋ¾Ù´§Ùæ »ÅÒæ ¡çÂѧà¢Ô¹ÍÒ·ÓäÁ‹ä´Œ ÁÒÅͧ¡Ñ¹´ÙãËÁ‹ ¡Ñº ‘ÈѾ· ËÁÙ’ ÊÙ‹ 300 Êӹǹ ¾Ù´§‹Ò ʺÒ»ҡ ·Õ¹Õé¡çäÁ‹µŒÍ§ Worry ¡Ñ¹ÍÕ¡µ‹Íä»áÅŒÇ!

ตนไม ใตโลก / ทรงกลด บางยี่ขัน / 185.Cover Re-Design!

âÅ¡ãºàÅç¡æ 㺹Õé ã¤Ãæ ¡çà»ÅÕè¹䴌 §‹Ò¡NjÒà»ÅÕ蹪ش¹Í¹ ÃÇÁº·¤ÇÒÁࢌÁ¢Œ¹ ¢Í§¤¹ÍÂÒ¡à»ÅÕè¹âÅ¡ Í‹Ò¹áÅŒÇä´ŒáçªÑé¹´Õ àÍÒä»·ÓÍÐäÃãËÞ‹æ à¾×èÍâÅ¡ãºàÅç¡æ 㺹Õé¡Ñ¹

เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็เชา And This Too Shall Pass / ภูมิชาย บุญสินสุข / 180.Cover Re-Design!

ÃÇÁº·¤ÇÒÁà¨çº¹ŒÍÂæ »Ç´äÁ‹¹Ò¹ ¨Ò¡¤ÍÅÑÁ¹ ÎÔµ ÂÍ´¹ÔÂÁ·ÕèÊ͹ÀÒÉÒÍѧ¡ÄÉä´ŒÁѹ·ÕèÊØ´ ‘[article] a an the’ ã¹¹ÔµÂÊÒà a day ä´Œ·Ñé§ÈѾ· ä´Œ·Ñ駢ŒÍ¤Ô´ á¶ÁÂѧ䴌ªÕÇÔµ·Õè´Õ¢Öé¹ÍÕ¡àÂÍÐ

Bearwish / วงศทนง ชัยณรงคสิงห / 205.Cover Re-Design!

àÃ×èͧÃÒÇ¡ÒÃà´Ô¹·Ò§·‹Í§à·ÕèÂÇâ´ÂÊÁѤÃ㨠áÅк·Ê¹·¹Òª‹Ò§¤Ô´á½§»ÃѪÞÒªÕÇÔµºÒ§Í‹ҧ ÃÐËÇ‹Ò§ËÁÕ¢Õ麋¹¡ÑºªÒÂ˹؋Á¹Ñ¡â¦É³Ò¢Õéàº×èÍ Í‹Ò¹áÅŒÇÍÔèÁËÁÕ áÅЪÕÇÔµÍÒ¨à»ÅÕè¹ä»

สิ�งมีชีว�ตในโรงแรม / ว�ชัย / 160.Cover Re-Design!

àÃ×èͧàÅ‹Ò»†Ç¹ ¡Ç¹ ÎÒ ªÇ¹»Ç´µÑº ¨Ò¡»ÃÐʺ¡Òó ¨ÃÔ§¢Í§ªÒÂ˹؋Á¼ÙŒ·Ó§Ò¹âçáÃÁ ËÒ¡¤Ô´Ç‹ÒâçáÃÁˌҴÒǨÐàµçÁä»´ŒÇ¤ÇÒÁËÃÙËÃÒÇÔ¨µÔ à ¡ÃسҤԴãËÁ‹! ¡‹Í¹Å§Á×ÍÍ‹Ò¹àÅ‹Á¹Õé!!

ดาวหางเหนือทางรถไฟ / ทรงกลด บางยี่ขัน / 255.-

º·ºÑ¹·Ö¡¡ÒÃà´Ô¹º¹Ê‹Ç¹Ë¹Öè§àÊŒ¹·Ò§Ã¶ä¿ ÊÒ·ÃÒ¹Ê ä«ºÕàÃÕ ·Õè·Ñé§ÂÒÇ·ÕèÊØ´ ¤ÅÒÊÊÔ¡·ÕèÊØ´ áÅÐâÃáÁ¹µÔ¡·ÕèÊØ´ã¹âÅ¡ ¨Ò¡»˜¡¡Ôè§ ¼‹Ò¹Áͧâ¡àÅÕ ÊÙ‹ÁÍÊâ¤Ç â´Â¹Ñ¡à¢Õ¹·ÕèͺÍØ‹¹·ÕèÊØ´ã¹âÅ¡!

38

THE GUEST

I’M PROUD TO BE JUST A LITTLE FLOWER เรื่อง : เอกพล บรรลือ ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร

‘ยิปโซ’ หรือ ‘ยิปโซฟิลลา’ คือดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ตระกูลไม้ประดับที่นิยมนำมาใช้ แซมผมเจ้าสาวในงานวิวาห์ หรือนำมาตกแต่งช่อดอกไม้ให้ดูน่ารัก ทำให้ดอกไม้ช่อนั้นน่ามอง มากยิ่งขึ้น ส่วน ‘ยิปโซ’ - รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ คือผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กๆ เช่นกัน ผิดกัน ก็เพียงแค่ว่าเธอไม่ได้เป็นนักแสดงตระกูลไม้ประดับ เพราะล่าสุดเธอกลายเป็นนางเอกเจ้าของ รอยยิ้มสดใสที่สะกดหัวใจคนดูหลายๆ คนเรียบร้อยแล้ว

บางคนอาจจะจดจำภาพ ‘ยิปโซ’ ดอกนี้ในบทบาทของสาวหวาน เรียบร้อย แห่งรายการ สตรอเบอรีชีสเค้กที่เธอรับบทพิธีกรมากว่า 2 ปี บางคนอาจจะรู้จักเธอจากภาพยนตร์เรื่องแรก ‘32 ธันวา’ ในบทบาทของผู้หญิงแอ๊บแบ๊ว แต่ซ่อนความแรงไว้ในตัว ส่วนบางคนอาจจะนึกถึง คาแร็กเตอร์ของสาวสายตาสั้นผู้ทึกทักเอาเองว่าพระเอกหลงรัก ใน ‘เรา สองสามคน’ แต่ไม่ว่า ใครจะจดจำเธอได้ในบทบาทไหนก็ตาม เธอกลับมาอีกครั้งในฐานะนางเอกอย่างเต็มตัวในผลงาน ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง ‘สุดเขต เสลดเป็ด’ ในบทของ ‘มะยม’ สาวธรรมดาๆ ที่แอบเปิ่น แต่ก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ซึ่งถึงวันนี้ภาพยนตร์ก็ประสบความสำเร็จในการสร้างเสียงหัวเราะ รวมถึงรายได้ที่ทะลุหลักร้อยล้านไปเรียบร้อยแล้ว

“ตอนแรกที่เราทำงานออกมาเรามั่นใจในตัวงานที่ทุกคนช่วยกันสร้างขึ้นมาอยู่แล้ว เรารู้ว่ามันมีดี รู้ว่าเราชอบมันมาก แล้วก็หวังว่าคนดูจะชอบมัน แต่พอไปดูรอบสื่อ ผลมันออกมา ดีเกินคาด เพราะคนดูจบแล้วเดินออกมา เขายิ้ม หัวเราะ และคุยกัน พูดถึงตอนโน้นตอนนี้ เห็นแล้วรู้สึกดีใจ ยิ้มแฉ่งเลย แต่มีที่ดีใจมากกว่านั้นอีก เพราะพอฉายจริงแล้วมีคนทวีตหาเยอะ มาก แล้วรายได้ก็ดีอีก จนตอนนี้ไม่กล้าดีใจแล้ว เพราะทุกอย่างมันดูเกินจริงมาก แต่บอกไว้เลย ว่าการที่เราดีใจมันไม่ได้เกี่ยวกับเราคนเดียว หลายคนบอกว่า ดีใจด้วยนะ เป็นนางเอกเรื่องนี้แล้ว หนังประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่แค่นั้น ตัวเราเองรู้สึกว่านักแสดงเป็นแค่จุดเล็กๆ ในการทำหนัง หนึ่งเรื่อง แต่คนอื่นเขาไม่ค่อยรู้ ถ้าเปรียบเทียบว่าหนังเรื่องหนึ่งเป็นเครื่องดื่มขวดหนึ่ง พวกเรา นักแสดงคงจะเป็นแค่ป้ายที่แปะไว้หน้าขวดว่ามีคอลลาเจนด้วย คือเอาไว้ขาย พอคนกินแล้วมันดี เขาก็จะคิดว่าเป็นเพราะคอลลาเจนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้านหลังมันยังมีส่วนผสมอีกเยอะมาก คือเราดีใจแทนส่วนอื่นที่ไมใช่คอลลาเจนด้วย (หัวเราะ)”

และไม่ ว ่ า จะรั บ บทไหน แต่ ส ิ ่ ง หนึ ่ ง ที ่ ย ิ ป โซฝากไว้ ก ั บ ทุ ก ผลงานของเธอก็ ค ื อ เสน่ ห ์ ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทุกอย่างล้วนแสดงออกมาผ่านสีหน้า แววตา น้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ยากที่ใครจะมาเลียนแบบได้

“ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีคาแร็กเตอร์อะไรเด่นออกมานะ คือเราเคยอยู่ในสตรอเบอรีชีสเค้ก ซึ่งมีเด็ก 13 คน แล้วเวลาอยู่ในนั้นเราจะถูกวางให้เป็นคนที่เงียบ และสวยหวานที่สุด คนอื่นจะ เล่นกันตลอดเวลา ส่วนเราต้องคอยบอกว่า อย่าสิเพื่อนๆ เรามาคุยกันเรื่องสาระในวันนี้กันดีกว่า (หัวเราะ) คือถูกวางไว้เป็นแบบนี้ แล้วจะให้คิดว่าเราเป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์เด่นออกมาได้ยังไง”

แต่จากทุกผลงานที่ผ่านมากลายเป็นหลักฐานชั้นดีที่ยากจะปฏิเสธได้ มาดูกันซิว่าเธอจะ ยอมจำนนไหม เมื่อเราถามย้ำอีกรอบ

“ไม่รู้สิ คงเก็บกดน่ะ คือเป็นเด็กที่ไม่ค่อยปกติมาตั้งแต่เด็กๆ ตอน ป.2 เพื่อนๆ นั่งเรียน A B C อยู่ในห้องเรียน เราก็วิ่งออกไปจับผีเสื้อ แถมคิดว่าไม่ผิดด้วยนะ แล้วเป็นคนพูดมากมา ตลอด พอมาอยู่สตรอเบอรีชีสเค้ก มันเป็นช่วงชีวิตที่คิดขึ้นมาว่า เฮ้ย ก็ดีเหมือนกันนะ เราก็ อยากสวยๆ หวานๆ แล้วพอทำไปเรื่อยๆ ก็เหมือนโดนวางคาแร็กเตอร์ให้เป็นอย่างนั้นเลย 2 ปี ตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่าตัวเองอึดอัด แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็อยากวิ่งออกมาจับผีเสื้ออีก (หัวเราะ) พอออกมา ก็เหมือนกับว่าเรารู้สึกสบายใจขึ้น เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ทั้งๆ ที่เราทำตัวเป็น ผู้หญิงหวานๆ มาตลอด แต่เราดันสนุกกับฉากโรงแรมม่านรูดในเรื่อง 32 ธันวา มากที่สุด คือเรา ได้โวยวาย แล้วทำไมเรารู้สึกสนุกกับมัน ก็เลยเริ่มคิดว่ามาถูกทางแล้ว (หัวเราะ) พอไปเรื่อยๆ ก็ต้องถ่าย เรา สองสามคน อีก ต้องไปออฟโร้ด ตอนนั้นก็รู้ตัวเลย เพราะจากที่กลัวแดดมาตลอด

เคยพกซันบล็อกไป 5 ขวด พอเดินทางไปเรือ่ ยๆ ก็เริม่ รูว้ า่ ตัวเองตัง้ แต่เด็กจนโตไม่ได้เป็นคนกลัวแดด ไม่ได้เป็นคนที่ห่วงว่าจะขาวหรือไม่ขาว ทุกอย่างมันเหมือนกับค่อยๆ ไขออกมาในระหว่างการ ทำงานที่ผ่านมา”

นั่นจึงเป็นที่มาของยิปโซในวันนี้ ที่ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติ แบบที่ไม่ต้องผสมสารปรุงแต่ง มากเกินไป ซึ่งพอมองย้อนกลับไปในอดีต เธอก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า…

“มันทำให้รู้สึกว่า เมื่อก่อนเป็นอะไรมากไหมล่ะ (หัวเราะ) คือบอกตัวเองว่าไม่ต้องสวย เปอร์เฟ็กต์มากก็ได้มั้ง แค่ดูแลเท่าที่เราดูแลได้ ผู้หญิงแต่ละคนก็มีความชอบ หรือสิ่งที่เขาสนใจ และสิง่ ทีเ่ ขาเป็นไม่เหมือนกัน บางคนทีเ่ ขาทำอย่างนัน้ เยอะๆ เขาอาจจะมีความสุขกับการทำตรงนัน้ แล้วการที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่คนอื่นเป็น มันไม่ได้หมายความว่าที่คนอื่นทำมันผิด ถ้าเขาทำ แล้วแฮปปี้มันก็โอเค เพราะเขาจะได้สวยด้วย แล้วเขาก็ไม่เหนื่อย เพราะเขาชอบทำมัน แต่โดย ส่วนตัวเป็นคนที่เหนื่อยกับการต้องมาทำอะไรเยอะๆ เป็นไปได้ขอเลือกที่จะสบายตัวแบบนี้ดีกว่า แต่ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นเหมือนเรา ที่ผ่านมาคิดว่ามันหนักไป จะลดลงบ้างก็ได้ เราว่ามันไม่ใช่ เรื ่ อ งจำเป็ นขนาดนั ้ น พอโตมาถึ ง จุ ด หนึ ่ ง ของชี ว ิ ต เราไม่ จ ำเป็ นต้ อ งดั ด ขนตาทุ ก วั น หรอก ไม่ต้องติดขนตาปลอมไปโรงเรียนก็ได้ มันเหนื่อยไหม (หัวเราะ) ยังมีวิธีที่จะมีความสุขอีกเยอะ”

จากภาพยนตร์เรื่องแรกจนมาถึงเรื่องล่าสุด กลายเป็นว่าเมื่อหน้าของเธอปรากฏอยู่ใน ภาพยนตร์เรื่องไหน เราจะรู้ได้ทันทีว่า เวลาแห่งความสุขและเสียงหัวเราะมาถึงแล้ว ซึ่งไม่ใช่คนดู เท่านั้นที่จะมีความสุขไปกับบทบาทของเธอ ยิปโซเองก็มีความสุขกับงานที่เธอทำเช่นกัน

“เราชอบดูหนังตั้งแต่เด็ก ตอนแรกไม่ใช่คนที่มีแนวโน้มที่จะมาทำงานในวงการบันเทิง แม้แต่นิดเดียว แต่พอได้ทำก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่เราชอบที่สุด ด้วยสังคมที่เราเจอพี่ๆ ที่น่ารักมาก แล้วเวลาเล่นหนังก็เล่นคอเมดี้ มันเหมือนกับได้แฮปปี้ตลอดการถ่ายทำ ได้หัวเราะ ได้เจออะไร ที่เป็นเรื่องบวกตลอด และด้วยความที่เป็นคนใจร้อน ซึ่งหนังตลกมันจะได้ผลตอบรับที่เร็วมาก ถ้าเป็นหนังดรามา แล้วเราอยากจะดูฟีดแบ็กคน กว่าจะซึ้ง มันต้องค่อยๆ ซึมเข้าไป แต่ถ้าเป็น หนังตลกมันได้เห็นทันที ถ้าเกิดเราทำอะไรแล้วทำให้คนมีความสุขได้ หัวเราะได้ ยิ้มได้ทันที เราก็มีความสุขไปด้วย จะมีสักกี่คนที่ได้ทำงานแล้วมีความสุขไปด้วยระหว่างทำงาน”

เมื่อถามถึงเคล็ดลับในการสร้างเสียงหัวเราะแบบไม่ต้องห่วงสวยสไตล์ยิปโซ เธอก็ตอบ เราว่า

“ไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งทำการบ้านในการเล่นหนังคอเมดี้นะ คือในเรื่องมันก็ตลก สถานการณ์อยู่แล้ว ที่สามารถฝึกได้ในส่วนของเรา คือการทำให้ตัวเองมีความเป็นธรรมชาติสูง ที่สุด ถ้าเราไม่เชื่อมัน ก็ไม่มีใครเชื่อเราหรอก เน้นว่าเล่นเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าเราสามารถทำให้ คนดูเชื่อได้ว่ามันเกิดขึ้นจริง และมันน่าตลกจริงๆ มันก็จะตลกเอง”

ผ่านบทฮาๆ มาสารพัด จนหลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าสาวคนนี้จะรับบทเจ้าน้ำตา แบบดรามาสุดๆ หรือจะเป็นบทสาวช่างกรี๊ดในหนังประเภทผีหลอกวิญญาณหลอนได้หรือไม่

“เรื่องเปลี่ยนก็อยากลองนะ เพราะรู้สึกว่าคนเราก็ต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้ หมายถึงว่างานต้องดีขึ้น แต่เราก็ต้องหัดทำอะไรให้ตัวเองเก่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากโตขึ้นไปแล้ว กลายเป็นคุณแม่ของใครสักคน ที่ลูกสาวเอาไปเมาธ์ให้เพื่อนฟังว่าใช้ไอแพดไม่เป็น คือเราชอบหัด ทำโน่นทำนี่อยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงเรื่องการทำงานด้วย ไม่จำเป็นต้องได้งานที่ดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ยัง อยากเก่งขึ้น ถ้ามันง่ายไปหมดคงน่ากลัวนะ ไม่ใช่แค่เรื่องทำงานอย่างเดียว เรื่องชีวิตด้วย ถ้ามันง่ายและดีไปหมด มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้วล่ะ คงต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน”

สุดท้ายเราถามเธอว่า รู้สึกอย่างไรกับความหมายของดอกยิปโซ ที่คนมักจะนำมาประดับ ประดาสิ่งต่างๆ ให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น เธอยิ้มกว้าง และตอบเราว่า

“ชอบนะคะ ความจริงมันแปลว่าดอกไม้ประดับนะ คือเป็นตัวที่ไม่ยืนเดี่ยวๆ เอาไว้ ประดับให้คนอื่นสวย เหมือนคอลลาเจน แต่เราก็ชอบมันอยู่ดี เป็นแบบนี้ก็โอเคแล้ว”