ISSUE 142 8 - 14 APRIL 2011
ISSUE 142, 8 - 14 APRIL 2011
Explain please! จะถูกหรือผิดไม่ทราบได้ แต่ผ้เู ขียนเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เมื่อมีเรื่องไม่เข้าใจระหว่างกัน คนเราต้องการคำอธิบายมากกว่าเหตุผลที่แท้จริง เพราะสำหรับบางสถานการณ์ ของชีวิต เราไม่รู้หรอกว่า เหตุผลนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ต่อให้จริง เราก็อาจจะไม่เชื่อ เพราะเราไม่พร้อมหรือไม่อยากจะเชื่อ และบางทีก็เป็นเพราะว่าคนที่บอกเหตุผลเรานั้น เขาอาจจะมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ไม่บอกความจริงทั้งหมดก็ได้ สำหรับผู้เขียน เหตุผลที่แท้จริงจึงมาทีหลังคำอธิบาย เพราะเรายังมีเวลาพิสูจน์หรือดูต่อว่าเหตุผลนั้นเป็นจริง หรือเปล่า แต่ถ้าไม่มี ‘เวลา’ สำหรับอธิบายแล้ว จะเหตุผล จะความจริงหรือไม่จริง ถึงตอนนั้นมันก็อาจจะไม่สำคัญแล้ว เพราะการที่ใครสักคนไม่เลือกจะอธิบายเท่าที่จะ อธิบายได้ มันแสดงให้เห็นอะไรบางอย่างที่สำคัญกว่า นั่นคือการไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย อาจจะฟังดูงง แต่อย่าไปเสียเวลางงเลย เพราะนี่คือความจริงที่อย่างน้อย ผู้เขียนก็เชื่อละ หลายคนเชื่ออย่างจริงๆ จังๆ ว่า คนเราถ้าจริงใจหรือมั่นใจว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง เราก็ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เมื่อก่อนผู้เขียนก็เชื่อเช่นนั้น แต่ประสบการณ์ในชีวิต สอนให้รู้ทีละเล็กทีละน้อยว่า บางทีการไม่อธิบายมันอาจจะไม่ใช่ความมั่นใจอย่างที่เราเชื่อก็ได้ บ่อยครั้งมันอาจจะเป็นแค่ทิฐิที่เรายึดมั่นถือมั่นของเราคนเดียวว่าฉันถูก ดังนั้น เวลาจะพิสูจน์เอง ซึ่งไปๆ มาๆ แม้เวลาจะพิสูจน์ได้ในที่สุดก็จริงว่าคุณถูก แต่หันไปมองรอบตัว ก็อาจจะไม่มีใครอยู่พิสูจน์ด้วย หรือแม้แต่จะรอให้คุณหันไปยิ้มให้ พูดง่ายๆ ว่า วันที่เวลามันเฉลยว่าคุณถูก อาจเป็นเวลาที่เหลือคุณอยู่คนเดียว ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้ว ต่อให้สิ่งที่ทำไปมันจะผิดหรือถูก ผู้เขียนก็คิดว่ามันยังไม่มีคุณค่ามากเท่ากับการพยายาม อธิบายให้คนที่คุณคิดว่าสำคัญกับคุณได้ฟัง จะอธิบายเดี๋ยวนั้น หรือหลังจากนั้น ไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นมันอยู่ที่ว่า คุณได้ใช้ความพยายามในการอธิบายแล้วหรือยัง ไม่รู้ใครจะคิดอย่างไร แต่ผู้เขียนเชื่อว่า การอธิบายนั้น ความหมายโดยตรงของมันคือ การพยายามทำให้เรื่องที่คลุมเครือและไม่เข้าใจ กระจ่างขึ้น ชัดเจนขึ้น การอธิบายก็เหมือนกับการเช็ดไอน้ำหรือฝ้าที่บังกระจกอยู่เพื่อให้มองเห็นภาพชัดขึ้น ขณะเดียวกัน ความหมายโดยอ้อมของมันก็คือ กระบวนการอธิบายเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เหตุผล และพลังงานมหาศาลกว่าจะอธิบายเสร็จสิ้น ดังนั้น เราคงไม่ทำกระบวนการที่ไม่ใช่ง่ายๆ นี้กับคนที่เราไม่เห็นความสำคัญ กล่าวคือ แม้ชีวิตหนึ่งเราจะผ่านพบคน มากมายหลายพันคน เจอคนวันละหลายสิบคน เดินสวนกับคนวันละนับไม่ถว้ น แต่ไม่ใช่ทกุ คนทีเ่ ราต้องไปอธิบายเมือ่ มีเรือ่ งไม่เข้าใจกัน เราไม่มเี วลามากพอถึงขนาดนัน้ ชีวติ คนเรา มีเวลาในการอธิบายเฉพาะบางคน เพราะคนที่มีสติเป็นปกติคงไม่มีใครอยากให้คนที่เราเห็นว่าสำคัญ เข้าใจเราผิด หรือเข้าใจไปคนละอย่างกับที่เราทำหรือคิด ในชีวิตคนเรา มีคนที่เราให้ความสำคัญมากน้อยไม่เท่ากัน แต่คนไหนก็ตามที่เราคิดว่าเขาสำคัญ เราจะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน ไม่สบายใจ เมื่อมีเรื่องราวเข้าใจผิดกัน ทำร้ายกันทัง้ โดยตัง้ ใจหรือไม่ตง้ั ใจ ความสัมพันธ์ในระดับทีเ่ ห็นความสำคัญกันนีจ้ ะทำให้เรารูส้ กึ อยากจะอธิบายให้อกี ฝ่ายเข้าใจให้ได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ เราก็จะอยากฟังคำอธิบายสักอย่างจากปากเขาเหมือนกัน ว่าเพราะอะไรเขาถึงทำร้ายเรา แม้บางขณะเราอาจจะไม่พร้อมฟังคำอธิบาย เพราะโกรธจนไม่อยากจะมองหน้า แต่สุดท้ายเมื่ออารมณ์เดือดผ่านไป สิ่งที่คนเราต้องการที่สุดล้วนคือคำอธิบาย เชื่อเถอะว่าคนเราอยู่กับความไม่เข้าใจได้นานแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่ตลอดไป คำอธิบายอาจจะไม่เป็นเหตุเป็นผล อาจจะฟังดูพิกลๆ ไปบ้างสำหรับบางคน บางทีมันก็ฟังดูไม่น่าเชื่อ คล้ายเป็นเรื่องโกหกไปเลยด้วยซ้ำ แต่ปล่อยมันไปก่อน เพราะเวลาจะพิสูจน์ให้เราเห็นเองว่า สิ่งที่เขาพูดมาคือเรื่องจริง หรือแค่เหตุผลที่ยกมาอ้างเฉพาะหน้า แต่สิ่งที่เราจะเห็นได้ก่อนอื่นใดก็คือ ความร้อนใจ ขีดความพยายามในการ อธิบายให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าคำพูดนั้นจะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้น ขอให้เราทุกคนที่จำเป็นต้องฟังคำอธิบายมองผ่านประเด็นนั้นไปก่อน แต่ให้มองให้เห็นถึงความพยายาม การให้เวลาในการอธิบาย ความเหนื่อย ฯลฯ แทนที่จะเพิกเฉยแล้วปล่อยให้คุณคิดเอาเอง ขณะเดียวกัน คนอีกฝั่งที่พยายามอธิบายก็ยังไม่ต้องไปคิดหรอกว่าเขาจะเชื่อไหม หรือจะพิสูจน์อย่างไรว่าฉันถูก แต่ให้พยายามอธิบายในสิ่งที่อยากให้เขาเข้าใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน เมื่อมีเหตุไม่เข้าใจกัน หรือไปทำร้ายความรู้สึกของคนสำคัญโดยไม่ตั้งใจ การอธิบายเหตุผลไม่ใช่เรื่องเสียเวลา ตรงกันข้าม มันคือการให้เวลากับอีกฝ่ายอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความเข้าใจต่างหาก และในกรณีที่ดีที่สุด บางความสัมพันธ์ การอธิบายคือการยืดเวลาให้ความสัมพันธ์นั้นดำเนินต่อไปอีกวันและอีกวัน เมื่อไหร่ที่คนทั้งสองฝ่าย เลิกเชื่อการอธิบาย เลิกฟัง และคิดว่าการอธิบายเป็นเรื่องเสียเวลา นั่นคือการเดินถอยหลังออกมาจากอีกฝ่ายแล้วอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว บางที นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความเศร้าและความแตกร้าวที่ยากจะอธิบาย
ปีที่ 2 ฉบับที่ 142 วันที่ 8 - 14 เมษายน 2554
ทางกองบรรณาธิการขอแก้ไข ข้ อ มู ล ในคอลั ม น์ The Database ฉบั บ ที ่ 140 ที ่ ร ะบุ ว ่ า บริ ต นี ย ์ สเปี ย ร์ ส บริ จ าคเงิ น ช่ ว ยเหลื อ ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่นเป็น จำนวนเงิน 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทางกองฯ ได้ ต รวจสอบไปยั ง เว็บไซต์ที่เป็นทางการของบริตนีย์ แล้ ว ไม่ พ บข้ อ มู ล การบริ จ าคเงิ น ดังกล่าว จึงขออภัยผูอ้ า่ นมา ณ ทีน่ ้ี ด้วย
วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter:@khaopan, www.facebook.com/adaybulletin
08
06
06 GOODNEWS
ติ ด ตามข่ า วสารดี ๆ รอบโลกประจำ สัปดาห์ได้ในห้องข่าว แห่งนี้
30 16
สฤณี อาชวานันทกุล มาชวนทุ ก คนอ่ า น เรื ่ อ งราวการแสวงหา ความรู้ของสังคมไทย ในยุคปัจจุบัน
16 A MUST
สารพัดสิ่งที่เราคัดสรร มาฝากแบบ A Must พลาดแล้ ว จะหาว่ า ไม่เตือน
18 CALENDAR
ใคร ทำอะไร ที ่ ไ หน เช็กดูได้ สุดสัปดาห์นี้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราว สนุกๆ
22 24 HOME MADE HEALTH เล่าเรือ่ งราวในชีวติ ของ AND HEART วรการ ทิ พ ย์ ป ระภา ผ่านบ้านสไตล์ ‘Minimal Retro Contemporary’ ของเขา
รวมสาระความรู้ที่จะ ท ำ ให ้ ค ุ ณ แข ็ ง แร ง ทั้งกายและใจ
26 29 30 ALL ABOUT THE WORDS THE GUEST BIZ ทุ ก ถ้ อ ยคำมี ค วาม- สัมผัสกับท่วงทำนองที่
22 ที ่ ช อบ a day BULLETIN เพราะ ดีและฟรีครับ ด้วย ความที ่ ต ้ อ งใช้ บริการ BTS ทุกวัน ศุกร์เพื่อกลับบ้าน ญาติ เลยทำให้ได้
08 INTERVIEW
สร้ า งความแตกต่ า ง เพื ่ อ เป็ น ผู ้ น ำในเกม ธุ ร กิ จ ด้ ว ยข้ อ คิ ด จาก กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ แห่ง Chic Republic
อ่ า นอะไรดี ๆ ทุ ก อาทิ ต ย์ พอได้ อ ่ า น ก็ ช อบมาก ที ่ ช อบสุ ด ๆ เลยคื อ เนื ้ อ หา ข้างในที่น่าสนใจมาก หลายเรื่องดูไม่วัยรุ่น เลย แต่ เ สนอออกมาได้ จ ๊ า บมาก ข้ อ มู ล น่าเบื่อๆ แต่มีประโยชน์ถูกจัดการให้ย่อย ง่าย และได้สาระไปเต็มๆ ในขณะเดียวกัน ก็เพลิดเพลินไปด้วย ถือว่าดีมากๆ เลยครับ
หมายและคุณค่าเสมอ ค้นหาได้ในหน้านี้
งดงามของ อาจารย์ วานิ ช โปตะวณิ ช วาทยกรคนเก่ ง แห่ ง Bangkok Symphony Orchestra
และทำให้เราแอบคิดได้วา่ บางทีถา้ หนังสือเรียนเป็นอย่างนี้ก็คงดีไม่น้อยเลยทีเดียว ขอบคุณมากๆ เลยนะครับที่ทำให้มี a day BULLETIN เกิดขึ้น -ปฐวี สุวรรณทวีมีสุข
ส่งความคิดเห็น คำติ-ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอย เจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล adaybulletin08@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริงและที่อยู่มากับจดหมาย เพื่อ ความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการ ขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ใน ช่วงเดือนนี้ จะได้รับหนังสือดีๆ จากสำนัก พิมพ์ a book ส่งไปให้ถึงบ้าน
ทีป่ รึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผูพ ้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย บรรณาธิการอำนวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สงิ ห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอีย่ ม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา กองบรรณาธิการ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ เอกพล บรรลือ บรรณาธิการภาพ นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกติ ติบตุ ร บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม วีรศ์ รัณย์ สุทธินภิ าชัย พิสจู น์อกั ษร หัสยา ตัง้ พิทยาเวทย์ ฝ่ายผลิต ศิริ ศิรจิ รรยากุล ทีป่ รึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิรจิ รรยากุล ผูอ้ ำนวยการฝ่ายโฆษณา อุบลวรรณ จรเจริญสุข 08-1171-1886 ผูจ้ ดั การอาวุโสฝ่ายโฆษณา สุพชั รา มโนรินทร์ 08-1928-1284 ผูจ้ ดั การฝ่ายโฆษณา กัณฑ์พฒ ั น์ อังกุระวรานนท์ 08-1689-9724 ฝ่ายโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 08-6378-6037, กัณฐลดา ชืน่ สวัสดิ์ 08-3016-5400 กุลวรรณ วรรณะลี 08-1934-7615 ผูจ้ ดั การ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การ ณัฐธยาน์ อึง้ ตระกูลนิธศิ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผูผ้ ลิต บริษทั เดย์ โพเอทส์ จำกัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขมุ วิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2203-1040 อีเมล adaybulletin@daypoets.com ติดต่อฝ่ายโฆษณา โทร. 0-2203-1040 ต่อ 801, 802, 803, 804, 805, 807 แฟกซ์ 0-2203-1040 ต่อ 811 เว็บไซต์ www.daypoets.com/adb ฝ่ายสมาชิก นริศรา เปยะกัง โทร. 0-2726-9996 ต่อ 11, 12, 49
04
THE DATABASE ที่มา : www.dailymail.co.uk
10 อันดับสายการบินที่มีพนักงานต้อนรับมีเสน่ห์ดึงดูดใจที่สุด
อันดับ 1 Virgin Atlantic
อันดับ 2 Singapore Airlines
อันดับ 3 Etihad
อันดับ 4 Emirates
คุณคิดอย่างไรกับ ส.ส. ที่ไม่เข้าร่วม การประชุมสภา จนส่งผลให้สภาล่ม
อันดับ 5 อันดับ 6 Aer Lingus Lufthansa
THE POLL
อันดับ 7 Cathay Pacific
ที่มา : สวนดุสิตโพลล์
ประชาชนไทยคิดอย่างไรกับกรณีทสี่ หรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรโจมตีลเิ บีย
อันดับ 1
อยากให้กองกำลัง พันธมิตรมีการ ชีแ้ จงข้อมูลต่างๆ อย่างตรงไป ตรงมา และต้อง ไม่สร้างความ เดือดร้อน ให้กับประชาชน ในลิเบีย
อันดับ 2
ไม่แน่ใจว่าเหตุผล ที่กองกำลัง พันธมิตรใช้อ้าง ในการโจมตี ลิเบียครั้งนี้ มีจุดประสงค์อื่น หรือไม่
24.91%
4,000 FT
26.43%
อันดับ 3
เป็นการใช้กำลัง โจมตีที่เกินกว่า เหตุ เป็นการ เข้ามาแทรกแซง การเมืองภายใน ประเทศลิเบีย มากเกินไป
20.77%
อันดับ 4
หากสิ่งที่กองกำลังพันธมิตร กำลังดำเนินการ อยู่เป็นไปตามมติ ของสหประชาชาติ ที่เห็นสมควรว่า สามารถโจมตีได้ แต่จะต้องอยู่ใน ขอบเขต ที่เหมาะสม
มีหลายประเทศ ที่ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย กับการโจมตี ลิเบีย ของกองกำลัง พันธมิตร
12.41%
15.48%
หอสมุ ด รั ฐ สภาอเมริ กั น หรือ Library of Congress เป็ น ห้ อ งสมุ ด ที่ ใ หญ่ ที่ สุ ด ในโลก มี ห นั ง สื อ และสื่ อ สารสนเทศชนิ ด ต่ า งๆ เช่ น โปสเตอร์ แผนที่ แผ่ น ซี ดี สำหรั บ ให้ บริการประชาชน อยูท่ จี่ ำนวน 147,093,357 ชิน้ ที่มา : www.loc.gov
นั ก วิ จ ั ย ของมหาวิ ท ยาลั ย แพทย์ โคโรลาโดใน สหรัฐฯ ระบุว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่สูงตั้งแต่ 4,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเลขึ้นไป จะมีความ เสีย่ งต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจต่ำ โดยผลการ ทดลองในระยะเวลา 4 ปี จากชายอายุระหว่าง 75-82 ปี และหญิงอายุ 80-82 ปี พบว่าผู้ชาย ทีอ่ ายุมากทีส่ ดุ 11 คน และผูห้ ญิงทีอ่ ายุมากทีส่ ดุ 5 คน มาจากรัฐโคโรลาโด และยูทาห์ ซึ่งตั้งอยู่ บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,967 ฟุต ที่มา : www.upi.com
อันดับ 5
77
อันดับ 8 TAP
อันดับ 9 KLM
อันดับ 10 Iberia
หนังสือพิมพ์ Asahi ของประเทศ ญี่ปุ่น ได้เปิดเผยรายชื่อสิ่งของ ช่ ว ยเหลื อ ที่ ท างประเทศต่ า งๆ ส่ ง มาให้ ห ลั ง จากได้ รั บ ภั ย พิ บั ติ โดยประเทศไทยได้ ส่ ง ผ้ า ห่ ม ให้ 20,000 ผืน ถุงยังชีพ 1,500 ถุง ถุงนอน 1,000 ชุด อาหารกระป๋อง 9,000 กระป๋ อ ง บะหมี่ ร าเม็ ง 20 กล่อง (ในแต่ละกล่องมีเส้น ราเม็ง 180 ก้อน) ราเม็งสำเร็จรูป แบบถ้ ว ย 12,000 ถ้ ว ย และ ไฟฉายอีกจำนวน 200 กระบอก ที่มา : หนังสือพิมพ์ Asahi ฉบับวันที่ 29 มีนาคม 2554
8 00 0
02000
รัฐบาลญี่ปุ่นใช้นโยบายลด เงินเดือนของเหล่า ส.ส. ลง ร้อยละ 30 นาน 18 เดือน เพื ่ อ นำเงิ น ไปช่ ว ยฟื ้ น ฟู ประเทศจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อรวมเงินดังกล่าว ได้ครบถ้วน ประเทศญี่ปุ่น จะมี เ งิ น มาฟื ้ น ฟู ป ระเทศ อีกประมาณ 820 ล้านบาท ที่มา : Voice TV
อำเภอบึงกาฬได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจังหวัดที่ 77 ของ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 โดยแยกออกมาจากจังหวัดหนองคาย เนื่องจาก มี ค ุ ณ สมบั ต ิ ค รบถ้ ว นในการเป็ นจั ง หวั ด ใหม่ คื อ มี 8 อำเภอ มีประชากรประมาณ 4 แสนคน นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมในเรื่องสาธารณูปโภค ทั้งศาลากลาง ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานอัยการ การไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ แขวงการทาง และสถานีตำรวจน้ำ ที่มา : www.vcharkarn.com
“รูส้ กึ ไม่ดที เ่ี ห็น ส.ส. ไม่เข้าประชุมสภา และ ยิ ่ ง ตอกย้ ำ ภาพลั ก ษณ์ ที่ไม่ดีในอดีตของ ส.ส. ให้เด่นชัดยิง่ ขึน้ ” สมัชญ์ โชติทัตต์ 20 ปี, นักศึกษา “หน้าทีข่ อง ส.ส. คือ การเข้ า ประชุ ม สภา ดังนัน้ ส.ส. ควรทำหน้าที่ ของตัวเองให้ดีที่สุด” ชัยพฤกษ์ เบญจางคประเสริฐ 20 ปี, นักศึกษา “อยากจะขอความ กรุ ณ าให้ ช ่ ว ยทำงาน ให้ ค ุ ้ ม กั บ เงิ น ภาษี ข อง ประชาชนด้วยค่ะ” เขมวรรณ วานิช 19 ปี, นักศึกษา “การเข้าประชุมสภา เป็นหน้าทีส่ ำคัญของ ส.ส. ถ้าไม่ทำก็คงไม่มปี ระโยชน์ ทีจ่ ะทำงานต่อไป” ภัทร จินตนกุล 23 ปี, นักข่าว “มองว่าเป็นเรื่องแย่ ขาดจิตสำนึก และความ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของ ตัวเอง” ชาญณรงค์ แพงศรี 28 ปี, เจ้าหน้าทีง่ านเทคนิค “อยากให้มคี วามรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่วา่ กินภาษีของประชาชนไป วันๆ โดยไม่ทำประโยชน์ อะไรเลย” ศิรชล ฉวีวรรณ 22 ปี, ครีเอทีฟ
6
• เด็กชายชาวอัฟกานิสถานกำลังเล่นกับปืนของทหารสหรัฐฯ ที่ไปประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน ระหว่างพิธีเปิดมัสยิด ในหมู่บ้าน Tarok Kolache ทางตอนใต้ของเมืองกันดาฮาร์ ซึ่งเป็นมัสยิดที่ถูกทหารสหรัฐฯ ทำลายระหว่างการปะทะกัน กับกองกำลังตาลีบันที่บุกเข้ามาในหมู่บ้าน หลังจากนั้นทหารสหรัฐฯ จึงระดมทุนเพื่อสร้างมัสยิดใหม่แทนที่หลังเดิมให้กับ คนในหมู่บ้านได้ทำพิธีทางศาสนาต่อไป - AFP
LIFESTYLE สุดทึ่ง! หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี
ดัดตัวได้ถงึ 120 องศา
เชื ่ อ ว่ า เหล่ า ฤาษี ด ั ด ตนที ่ เ ล่ น ท่ า ยากคงต้ อ งยอมซู ฮ กให้ ก ั บ นาย โมเสส แลนห์ แ ฮม ที ่ อ าศั ย อยู ่ ใ น มลรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ที่สร้าง ความตกตะลึงให้ใครต่อใครด้วยลีลา การทำตัวอ่อนของเขา โดยการบิด ศีรษะกับเท้าไปคนละทางได้ถึง 120 องศา ซึ ่ ง ความสามารถระดั บ เทพ แบบนีไ้ ด้เกิดขึน้ จากอุบตั เิ หตุในชัน้ เรียน ยิมนาสติก เมื่อตอนเขาอายุได้ 14 ปี ตอนที่เขากำลังใช้ห่วงออกกำลังและ เกิดพลาดพลั้งตกลงมาจากความสูง ประมาณ 5 เมตร แต่เขากลับไม่เป็น อะไรเลย ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ชายวัย 49 ปี คนนี้ มีเนื้อเยื่อกระดูก บริเวณข้อต่อเป็นจำนวนมากตั้งแต่ เกิด จึงทำให้เข่า สะโพก และข้อเท้า ของเขามี ค วามยื ด หยุ ่ น ได้ อ ย่ า ง น่าทึ่ง ซึ่งเป้าหมายต่อไปของนาย แลนห์ แ ฮมก็ ค ื อ การสร้ า งสถิ ต ิ โลก บันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ก
• ภาพถ่ายสระว่ายน้ำของโรงแรมริตซ์ คาร์ลตัน ซึ่งอยู่ภายในตึก International Commerce Centre (ICC) ในฮ่องกง ซึ่งเป็น อาคารที่สูงที่สุดในฮ่องกง และทำให้โรงแรมดังกล่าวกลายเป็นเจ้าของตำแหน่งโรงแรมที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะกินพื้นที่ ตัง้ แต่ชน้ั 102-118 ทำให้โรงแรมดังกล่าวมีจดุ ชมวิวอ่าววิกตอเรีย ฮาร์เบอร์ อันโด่งดังของฮ่องกงแบบพาโนรามาทีย่ ากจะหาใคร มาเทียบได้ - AFP
SOCIETY
7 ลูกจ้างเมืองนิวยอร์กสุดเฮง ถูกแจ๊กพ็อตหวยเมก้ามิลเลียนส์รับเงินเกือบหมื่นล้านบาท
พนักงาน 7 คน ของหน่วยงานของรัฐบาลในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บุญหล่น ทับโครมใหญ่ เมื่อพวกเขาพากันลงขันซื้อสลาก ‘เมก้ามิลเลียนส์’ และถูกรางวัล แจ๊กพ็อตใหญ่เข้าอย่างจัง ซึ่งได้รับเงินรางวัลก้อนโตถึง 319 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 9,670 ล้านบาท) โดยนาย ไมค์ บาร์ธ วัย 63 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ที่ถูก รางวัลได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวแสนพิเศษในครั้งนี้ว่า “พวกเราทัง้ เจ็ดกำลังเลือกซือ้ ลอตเตอรีจ่ ากตัวแทนขายสลากย่านใจกลางเมืองอัลบานี ซึง่ ตอนแรกจะซือ้ ใบอืน่ แต่มนี กั เสีย่ งดวงรายหนึง่ แย่งซือ้ ตัดหน้าไปก่อน เลยต้องเปลีย่ นใจมาเอาใบทีถ่ กู รางวัล และเมือ่ ผลสลากออกมาทุกคนแทบเป็นลมด้วยความดีใจ” ล่าสุดเช็คเงินสดจำนวน 19.1 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 585 ล้านบาท) หลังหักภาษี ก็ได้อยู่ในมือของผู้โชคดี ทั้งเจ็ดเป็นที่เรียบร้อย และพวกเขาก็เตรียมตัวนำเงินที่ได้มาไปใช้ในสิ่งที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้
POLITICS ครม. อนุมัติ เตรียมเปลี่ยนชื่อกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
สำหรับใครที่มีปัญหาจำชื่อกระทรวงได้ไม่หมด จำผิดจำถูกกันไปเรื่อย คราวนี้ คงตัดปัญหาไปได้บ้าง เพราะว่า ‘กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์’ กำลังจะเปลี่ยนชื่อให้สั้นลงเป็น ‘กระทรวงการพัฒนาสังคม’ และจะมีการ แบ่งส่วนราชการใหม่ จากเดิมที่มี 6 ส่วน เป็น 7 ส่วนราชการ ได้แก่ 1. สำนักงาน รัฐมนตรี 2. สำนักงานปลัดกระทรวง 3. กรมกิจการเด็กและเยาวชน 4. กรมกิจการ ผู้สูงอายุ 5. กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว 6. กรมประชาสงเคราะห์ และ 7. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวติ คนพิการ ซึง่ เหตุผลในการปรับปรุงนัน้ ก็เพือ่ ให้แต่ละกรมทำงานได้คล่องตัว และสอดคล้องกับการปฏิบัติงานที่แท้จริงมากขึ้น ที่สำคัญ ยังได้มีการตั้งกรมกิจการผู้สูงอายุขึ้นเพื่อรองรับ ประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนชื่อกระทรวงดังกล่าวยังต้องมีขั้นตอนเพื่อส่งให้สภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบในลำดับต่อไปจึงจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
ENTERTAINMENT อาร์โนลด์ผุดไอเดียทำการ์ตูน
‘The Governator’
หลังลาการเมือง
หลังจากมาเอาดีด้านการเมืองด้วยการลง สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จนได้ทำงานสมใจ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ หรือเจ้าพ่อหนัง คนเหล็ก ของเรา ก็กำลังจะ กลับมาคืนวงการอีกครัง้ ด้วยการปลุกปัน้ ไอเดีย สุดแสนบรรเจิดร่วมกับ สแตน ลี ผูส้ ร้างการ์ตนู สไปเดอร์แมน โดยทั้งสองกำลังร่วมกันพัฒนา การ์ตนู ในชือ่ ‘The Governator’ ทีน่ ำคาแร็กเตอร์ ของอาร์โนลด์มาถ่ายทอดเป็นการ์ตนู ซูเปอร์ฮโี ร่ พร้อมด้วยตัวละครอื่นๆ ที่มาจากทั้งชีวิตจริง และแต่งขึ้นมาใหม่ โดยอาร์โนลด์เล่าว่าเคย ได้ยินคนพูดถึงคำว่า Governator มานานแล้ว และตัวเขาเองก็ถูกใจกับคำนี้มาก โดยกล่าว ว่า “คำว่า Governator นั้นมัน เป็ นการนำเอาโลกสองใบมา รวมเข้าด้วยกัน หนึ่งก็คือโลก ของการเมือง และสอง ก็คือโลกของหนัง และ การ์ตูนเรื่องนี้ก็จะนำ ทุกอย่างมารวมเข้า ด้วยกัน”
PEOPLE
เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เดมี มัวร์ อลิเชีย คีย์ส จับมือกำกับหนังสั้น ต้านมะเร็งเต้านม เรียกได้ว่าเป็นงานรวมดาวขวัญใจคอหนังคอเพลงกันเลยทีเดียว ที่ทั้ง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เดมี มัวร์ และ อลิเชีย คียส์ ต่างก็ตอบรับร่วมงานกับโครงการ ‘Project Five’ ซึง่ มี มาร์ธา คอฟแมน ผู้สร้างซีรีส์สุดฮิตเรื่อง Friends เป็นผู้ดูแล โดยโครงการนี้จะประกอบไปด้วยหนังสั้น 5 เรื่อง ที่บอกเล่าเรื่องราวผลกระทบของมะเร็งเต้านมที่มีต่อชีวิตของผู้หญิง และมุมมองที่พวกเธอมีต่อ ปัญหาของตัวเอง สำหรับผู้กำกับอีกสองคน ได้แก่ แพตตี้ เจนกินส์ เจ้าของผลงาน Monster ที่ส่งให้ ชาลิซ เธียรอน คว้าออสการ์มาครองเมื่อปี 2003 ส่วนคนสุดท้ายกำลังอยู่ในขั้นตอนการ คัดเลือก แถมงานนี้ยังพิเศษตรงที่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างคอฟแมนและ อนิสตันหลังจากที่ซีรีส์เรื่อง Friends ได้ลาจอไปเมื่อปี 2004
7
• นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปกำลังทึ่งกับการจัดวางแบบกลับหัวภายในตัวบ้าน Crazy House หรือบ้านเพี้ยน ซึ่งอยู่ในเมืองบิสพิงเกน ประเทศเยอรมนี โดยบ้านที่ว่านี้ เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป เพื่อให้คนได้มองบ้านด้วยมุมมองที่แปลกไปจากเดิมนั่นเอง - AFP
• สวนสัตว์ประจำเมืองกวาดาลาฮาราในประเทศเม็กซิโก มีโอกาสต้อนรับลูกชิมแปนซีตัวใหม่ ที่ตอนนี้มีอายุได้ 2 อาทิตย์แล้ว ซึง่ น่ายินดีวา่ เจ้าชิมแปนซีตวั เล็กนีถ้ อื เป็นชิมแปนซีตวั แรกทีเ่ กิดในพืน้ ทีท่ เ่ี รียกว่าป่าฝนเขตร้อน ทีท่ างสวนสัตว์ได้เปิดเมือ่ 6 ปีทแ่ี ล้ว และเป็นชิมแปนซีตัวแรกที่เกิดในสวนสัตว์แห่งนี้อีกด้วย - AFP
SPORT
สองโปรชาวสกอตจับมือทำดับเบิ้ลแชมป์!
มาร์ติน แลร์ด และ พอล ลอว์รี สองนักกอล์ฟเลือดสกอต ช่วยกันสร้างความคึกคักให้กับวงการนักหวดก้านเหล็กแดนวิสกี้ ด้วยการโชว์ฟอร์มเหนือ แยกย้ายกันไปคว้าแชมป์จากการแข่งขันพีจีเอทัวร์ และยูโรเปียนทัวร์ ในวันเดียวกัน โดย มาร์ติน แลร์ด ได้แชมป์จากการแข่งขันรายการกอล์ฟพีจเี อทัวร์ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชันแนล ทีส่ หรัฐอเมริกา และก่อนหน้านัน้ ไม่กช่ี ว่ั โมง พอล ลอว์รี ก็เอาชนะการแข่งขันยูโรเปียนทัวร์ อันดาลูเซียน โอเพน ในประเทศสเปน ด้วยสกอร์รวม 4 วัน ที่ 12 อันเดอร์พาร์ และเป็นชัยชนะแรกของเขาหลังจากชวดการครองถ้วยมานานถึง 9 ปี พร้อมรับเงินรางวัลกลับไปชื่นชมเป็นจำนวน 1 ล้านยูโร
สุดยอดมุกโกหกแห่งปี 2011
ถึงวันที่ 1 เมษายน ทีไร คำโกหกก็หลั่งไหลออกมา จากปากของคนทัว่ โลกทันที แม้ จ ะยั ง ไม่ รู ้ ว ่ า ที ่ ม าของ วันนี้มาจากไหน แต่ทุกคน ก็ดูจะสนุกสนานที่ได้โกหก คำโตในวัน April’s Fools Day ยิ่งสำหรับสื่อต่างๆ แล้ว ก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกสำนักข่าวจะกุข่าว บ้าบอมาหลอกคนทั่วโลก และนี่คือข่าวลวงที่ทำให้เรา ขำกลิ้งในปีนี้ • เริ่มต้นที่หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ซึ่ง เผยแพร่โฆษณาชิ้นหนึ่งที่อ้างว่ามีปากกาชนิดพิเศษ The Mighty Tweeter 140 ซึง่ สามารถส่งข้อความไปยัง ทวิตเตอร์ได้ทันทีที่จรดปากกาเขียนข้อความใดๆ ออก มา ซึ ่ ง ข่ า วนี ้ ก ลายเป็ นที ่ ถู ก อกถู ก ใจชาวทวิ ต เตอร์ อย่างจัง จนอยากให้กลายเป็นความจริงขึ้นมา • ส่ ว นหนั ง สื อ พิ ม พ์ ส ำหรั บ คนรั ก การแข่ ง ม้ า ของ ออสเตรเลีย ก็เผยแพร่ข่าวการแข่งขันระหว่าง ยูเซน
PUBLIC HEALTH
มะกั น สุ ด บั ง เอิ ญ ค้นพบยาแก้ผมร่วง จากหนู! บางครั้งคนเราก็ค้นพบอะไรอย่างไม่คาดคิด ได้อยู่เสมอ เมื่อนักวิจัยจากสถาบันยูซีแอลเอ และ โรงพยาบาลทหารผ่านศึกในลอสแองเจลิส กำลัง ศึกษาเรื่องของความเครียดว่าส่งผลต่อการทำงาน ของลำไส้ อ ย่ า งไร และระหว่ า งที ่ น ายแพทย์ มิ ล เลี ย น มู ลู เ กต้ า ผู ้ ช ่ ว ยศาสตราจารย์ ด ้ า น แพทยศาสตร์ ภาควิชาโรคการย่อย ได้ทำการฉีด ฮอร์โมน corticotrophin-releasing factor เข้าไปใน ตัวหนูทดลอง ทำให้เจ้า หนู เ กิ ด ความเครี ย ดจน ขนบริเวณด้านหลังร่วงออกมาหมด และเมือ่ ทีมงาน ได้ทำการฉีดสาร astressin-B ซึง่ เป็นสารต้านฮอร์โมน ความเครียด ปรากฏว่าขนของหนูก็ค่อยๆ งอกขึ้น เรื่อยๆ เหมือนเดิมภายในระยะเวลา 5 วัน โดย ทางคณะวิจัยได้ทำการทดลองซ้ำและเตรียมตัว พัฒนาให้ใช้กับมนุษย์ได้ต่อไปในอนาคต
โบลต์ นักวิ่งแชมป์โอลิมปิก ที่เตรียมจะท้าชิงกับเจ้า แบล็กคาเวียร์ ม้าแข่งเจ้าของตำแหน่งแชมป์รายการ WTRR World Champion Sprinter เมื่อปีที่แล้ว ถ้าเป็น จริงก็คงเป็นรายการแข่งขันหยุดโลกที่ทุกคนเฝ้ารอดู เลยทีเดียว • ที่หลายคนขำ แต่เจ้าตัวกลับขำไม่ออกก็คือ ผู้จัด รายการวิทยุชื่อดังแห่งสถานีวิทยุ ABC 702 รายหนึ่ง ปล่อยไก่ครั้งใหญ่ขณะจัดรายการ ด้วยการเผยแพร่ ข้อความจากผู้ฟังคนหนึ่งออกอากาศว่า โรงเรียนหลาย แห่งในออสเตรเลียกำลังจะเปลี่ยนแปลงเวลาเข้าเรียน ของเด็กๆ เป็นช่วง 10 โมงเช้า แต่มารู้ทีหลังว่าข่าวนี้ เป็นเพียงข่าวกุเท่านั้น • ปิดท้ายกันที่วงการเฟอร์นิเจอร์ เมื่อ IKEA ผู้ผลิต เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังจากสวีเดน ออกมาเผยว่า บริษัท กำลังจะเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์รุ่น Hundstol ซึ่งเป็นเก้าอี้ สำหรับเจ้าตูบโดยเฉพาะ เพราะมันถูกออกแบบให้มี ช่องสำหรับบรรจุถาดอาหารและน้ำอยู่ด้านหน้า แถม ยังมีช่องเล็กๆ ด้านหลังสำหรับพักผ่อนหางของมันด้วย
“เวลาแผ่ น ดิ น เรา ร้องไห้ ท่านก็ร้อง เวลา เรามี สุ ข ท่ า นก็ มี สุ ข เรา เป็ น ครอบครั ว เดี ย วกั น เทปนี้ ท ำให้ ผ มรู้ สึ ก เลย ว่ า ผมเกิ ด มาผมมี พ่ อ มีแม่ และในเวลาเดียวกัน ผมก็ มี พ่ อ มี แ ม่ ที่ ดู แ ล คนไทยทั้งประเทศ”
วุฒิธร มิลินทจินดา 1 เมษายน 2554
GREEN PLEASE กรีนพีซผลิตโฆษณาทีวี เรียกร้องเฟซบุ๊กใช้พลังงานทางเลือก เมื่อเร็วๆ นี้ NGO ด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกอย่างกรีนพีซได้ปล่อย คลิปวิดีโอซึ่งเป็นโฆษณาโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้เครือข่ายโซเชียล เน็ตเวิร์กอันดับหนึ่งของโลกอย่างเฟซบุ๊กหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมโดย การเลิกใช้พลังงานจากถ่านหิน ซึ่งทางกรีนพีซเปิดเผยว่า เฟซบุ๊กกำลัง จะเปิดศูนย์ฐานข้อมูลขนาดมหึมาสองที่ใหม่ และในแต่ละที่จะต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล ดังนั้น ในฐานะที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของโลก กรีนพีซจึงเรียกร้องให้เฟซบุ๊กหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน ที่สะอาดและปลอดภัยแทน โดยได้เปิดหน้าเพจเฟซบุ๊กชื่อ ‘Unfriend Coal’ และนำเอารูปของสมาชิก ทีเ่ ข้าไปกดไลค์มาใช้ในโฆษณาตัวนีด้ ว้ ย ซึง่ ทางกลุม่ ผูด้ ำเนินงานได้ตง้ั เป้าให้เกิดการเปลีย่ นแปลงขึน้ ในวันคุ้มครองโลก วันที่ 22 เมษายนนี้ สนใจเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์สามารถเข้าไปดูคลิปได้ที่ www.greenpeace.org/seasia/th/Blog1/facebook/blog/34010
โซเชียลมีเดียทำให้พฤติกรรมการออกเดตเปลี่ยนไป
Did You Know?
8 เมษายน 2537 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงเป็นประธานร่วมในพิธีเปิด สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขง เชือ่ มระหว่างจังหวัดหนองคายกับเวียงจันทน์ 9 เมษายน 2510 - เครื่องบินโบอิ้ง 737 เริ่มออกบินเป็นครั้งแรก ผลิตโดยบริษัท Boeing Commercial Airplanes ประเทศ สหรัฐอเมริกา จัดเป็นเครื่องบิน Narrowbody aircraft คือมีที่นั่งแถวละ 6 คน ใช้ เครื่องยนต์ไอพ่น 2 เครื่อง รุ่นแรกบรรทุก ผู้โดยสารได้ 118 คน 10 เมษายน 2455 - มกุฎราชกุมารอะกิฮโิ ตะ ทรงอภิเษกสมรสกับนางสาว มิชิโกะ โชดะ ซึ่งดำรงตำแหน่งจักรพรรดิและจักรพรรดินี ของญี่ปุ่นองค์ปัจจุบัน และนับเป็นครั้งแรก ในประวั ต ิ ศ าสตร์ ญ ี ่ ป ุ ่ น ที ่ พ ระราชวงศ์ แต่งงานกับสามัญชน 11 เมษายน 2436 - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทำพิธีเปิดทาง รถไฟสายแรกของสยาม คือทางรถไฟสาย ปากน้ำ ทีเ่ ดินรถระหว่างหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร กับเมืองปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร 12 เมษายน 2504 - ยูริ กาการิน นักบินอวกาศคนแรกของโลกชาวรั ส เซี ย ออก เดินทางสู่อวกาศ และโคจรรอบโลกสำเร็จ ใช้เวลา 108 นาที โดยเดินทางไปกับ ยานอวกาศ ’วอสทอก 1’ 13 เมษายน 2486 - เยอรมนีประกาศว่า ค้ น พบหลุ ม ฝั ง ศพเชลยศึ ก ชาวโปแลนด์ จำนวนมากที่ถูกฆ่าโดยกองกำลังโซเวียต ในการฆาตกรรมหมูท่ เ่ี คทิน ทำให้เกิดความ ขัดแย้งระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร รัฐบาล พลัดถิ่นโปแลนด์ในลอนดอน และสหภาพ โซเวียต 14 เมษายน 2408 - อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารโดย จอห์น วิลกีส บูธ ขณะ ชมละครกับภรรยาทีโ่ รงละคร Ford’s Theatre ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
เว็บไซต์จบั คูช่ อ่ื ดังอย่าง Match.com เผยผลสำรวจล่าสุดว่าพฤติกรรมการออกเดตของคนรุน่ ใหม่เริม่ เปลีย่ นไปตัง้ แต่โซเชียล มีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น โดยระบุว่า 64% ของคนโสดมักจะคุยกันผ่านการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ หรือ อีเมลคุยกันหลังจากออกเดต ส่วนผู้หญิง 48% เผยว่า พวกเธออยากให้ผู้ชายโทร.มาหาหลังจากออกเดตเสร็จ แต่ผู้ชายเพียง 6% เท่านั้นที่จะโทร.ภายใน 24 ชั่วโมง และอีก 68% จะโทร.หลังจากผ่านไป 1-6 วัน เท่านั้น
08
สัมภาษณ์ : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม ถ่ายภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
10
ผู้ รู้ ห ลายต่ อ หลายท่ า นยื น ยั น ฟั น ธงว่ า โลกในศตวรรษที ่ 21 นี ้ เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ข้อนัน้ ย่อมปฏิเสธไม่ได้ แต่ถา้ บอกว่ายุคนีเ้ ป็นยุค แห่งความรูล้ ะก็ ข้อนีค้ งปฏิเสธได้อย่างถนัดปากกว่า เพราะการมี ข้ อ มู ล ไม่ ไ ด้ เ ท่ า กั บ การมี ค วามรู ้ หากว่าคุณไม่สามารถตีความข้อมูลที่มีท่วมหัว และไหลบ่าไม่หยุดหย่อนได้ มันก็แค่ชุดข้อมูลหนึ่ง เท่านั้น ตราบจนกระทั่งคุณใช้วิจารณญาณ ใคร่ครวญ วิเคราะห์ แยกแยะ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ ประโยชน์ ได้แล้วต่างหาก มันจึงคู่ควรกับคำว่า ความรู้ ประเด็นคือ ทุกวันนีส้ งั คมเรามีหนทางเรียนรู ้ มากมายไม่แพ้สงั คมประเทศใดๆ มีขอ้ มูลข่าวสาร ให้เข้าถึงไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร มีหนังสือดีๆ ออกใหม่เต็มสัปดาห์หนังสือแห่งชาติให้เลือกกัน ไม่หวาดไม่ไหว แต่บางทีเราอาจยังไม่รู้ตัวว่าเราก็ ยังคงเดินวกวนอยู่ในสังคมแห่งความไม่รู้อยู่ด ี ที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือ เราไม่รู้เลยว่า ตัวเรา หรือใครๆ กำลังเป็นผูไ้ ม่รอู้ ยู ่ แล้วเราก็ชนื่ ชมยกย่อง คนในสังคมจำนวนมากมายให้เป็นผู้รู้ หรือกูร ู ทัง้ หมดนีม้ นั มาจากความไม่รตู้ วั เดียวแท้ๆ “สังคมเราเต็มไปด้วยกูร”ู สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียนและนักวิชาการอิสระที่แจ้งเกิดจากการ เขียนบล็อกทีช่ อื่ คนชายขอบ หรือ www.fringer. org คือคนทีพ ่ ดู ประโยคทีว่ า่ และการทีเ่ ธอกล้าพูด เช่นนัน้ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นกูรอู กี คน เพราะเธอยืนยัน ว่าอึดอัดกับคำนี้มาก แต่เพราะเธอรู้และเข้าใจใน เรื่ อ งบางเรื่ อ งมากพอที่ จ ะยื น ยั น ได้ ว่ า อะไรคื อ ความรู้ที่แท้จริง อะไรคือสิ่งที่คนพูดปั้นแต่งขึ้น แต่เพราะสังคมเราขาดทั้งนักอ่านที่มีคุณภาพ ขาดการสนับสนุนนักเขียนให้อยู่อย่างมีคุณภาพ ชีวิตที่ดี ขาดการสร้างบรรยากาศแห่งการปะทะ สั ง สรรค์ กั น ทางความคิ ด ที่ เ ป็ น คนละเรื่ อ งกั บ การทะเลาะเบาะแว้ง เราจึงขาดแคลนเครือ่ งมือสำคัญ ซึง่ ก็คอื ปัญญา ในการแยกแยะว่าอะไรคือความรูแ้ ท้ ความรูเ้ ทียม อะไรคือผูร้ แู้ ท้ และผูร้ เู้ ทียม แน่นอน สัปดาห์แห่งการอ่านผ่านพ้นไปแล้ว และบางคน ไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำว่ามันมีอยู่ แต่สิ่งที่เรายังคง ครุน่ คิดก็คอื เอาเข้าจริงแล้วทิศทางของการพัฒนา คน พัฒนาประเทศ ไปในทิศทางที่มุ่งสู่ความรู้ท ี่ แท้จริงคืออะไรกันแน่ เราเลือกคุยกับ ‘อาจารย์ยยุ้ ’ นักวิชาการอิสระ อาจารย์พเิ ศษ และอดีตวาณิชธนากร ทีค่ ว้าดีกรีปริญญาตรีดา้ นเศรษฐศาสตร์ จาก Harvard University และปริญญาโทด้าน การบริหารธุรกิจจาก New York University คนนี ้ ไม่ ใ ช่ เ พราะเธอเป็ น ผู้ มี ค วามรู้ ร ะดั บ สู ง สุ ด ใน ประเทศไทย ตรงกันข้าม เธอยืนยันกับเราว่า เธอมี ความไม่รทู้ ว่ มหัวไม่แพ้คนอืน่ โดยเฉพาะเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ ทีเ่ กีย่ วกับการดำรงชีวติ เธออาจจะถนัดเรือ่ ง ตลาดทุน และเศรษฐกิจเพือ่ สังคมระดับทีบ่ รรยาย ได้เป็นฉากๆ แต่แค่จะเดินมาถ่ายรูปที่สตูดิโอของ a day BULLETIN กลับเดินหลงอยูน่ นั่ เป็นนาน สองนาน เราเลื อ กคุ ย กั บ สฤณี เ พราะเหตุ ผ ลสำคั ญ ประการหนึ่งคือ เธอเป็นนักอ่านตัวยง และเป็น นักเขียน นักแปล ทีม่ พ ี ลังระดับทีส่ ามารถเขียนและ แปลหนังสือปีหนึง่ ๆ ได้เกือบ 20-30 เล่ม (ทัง้ หมดนี้ เราขอนิยามว่าเขียนอย่างกับเขื่อนแตกเสียตรงนี้ เลยก็แล้วกัน) เราคุยกับเธอเพราะเหตุผลทีเ่ ธอเป็น นักอ่านทีช่ า่ งคิด และเป็นนักคิดทีช่ า่ งอ่าน เราเลย เชิญเธอมานัง่ คุยกันเรือ่ งความรู ้ เทคโนโลยีทชี่ ว่ ย ในการหาความรู ้ สังคมแห่งโซเชียลมีเดีย และอีก หลายๆ เรือ่ งทีเ่ ธอสนใจ เอ่อ อย่าเรียกว่าคุยเลย ก็แล้วกัน บอกว่าเราชวนเธอมานั่งอ่านสังคม ปัจจุบนั จะเหมาะกว่า คำเตือน บทสัมภาษณ์นมี้ ตี อนจบ แต่เราจะดีใจ มากหากคุณรูส้ กึ ว่าคุณยังอ่านไม่จบ เพราะมันไม่ เพียงแปลว่าคุณกำลังคิดตาม แต่แปลว่าคุณกำลัง คิดต่อ... ต่อไป และต่อไป เพือ่ ให้สงั คมนีเ้ ป็นสังคม ที่เต็มไปด้วยความรู้ ที่ไม่ใช่ไร้ความรู้หรือรู้น้อย เป็นสังคมแห่ง Knowledge ไม่ใช่ Know-Less
11
ระบบการศึกษาไทยมันล้าหลังจริงๆ มันไม่ได้ล้าหลัง เพราะเราถูกสอนให้เชื่อผู้ใหญ่อย่างเดียว แต่มนั ล้าหลังเพราะมันไม่ทำให้เรามีทกั ษะในการเอาตัวรอดในโลกแห่งข้อมูลด้วย ตรงนีแ้ หละอันตราย เริ่มจากเรื่องอินเทอร์เน็ตก่อน ในฐานะคนที่เล่น สำคัญ สมัยก่อนคนเราหาความรูจ้ ากไหน อ่านหนังสือ เรามันมีปัญหาเยอะมาก แล้วปัญหาต่างๆ มันก็ เท่าไหร่แล้ว เศรษฐกิจเติบโตไปถึงไหนแล้ว แล้ว อินเทอร์เน็ตมานาน คิดว่าการมีอนิ เทอร์เน็ตทำให้ ฟังผู้ใหญ่ พ่อแม่ ครู ที่เขาแนะนำมา มันก็จะมี ใกล้ตวั มาก วันก่อนเพิง่ พูดกับเพือ่ นใช่ไหมว่าญีป่ นุ่ จะไปหวังให้คนที่มีศักยภาพที่ไหนมาเป็นนักเขียน ข้อมูลเข้ามาในระดับทีพ่ อเหมาะพอทีส่ มองจะรับได้ แผ่นดินไหว ห่างกับไทยตัง้ เยอะ ไม่มอี ะไรน่ากลัว แต่ อ ย่ า งคุ ณ เองก็ เริ่ ม มาจากการเขี ย นเรื่ อ งที่ สังคมโดยรวมมีความรู้มากขึ้นไหม เอาอย่างนี้ก่อน คำว่าความรู้ มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ จะย่อยได้ ก็ไม่ต้องเครียดมาก เพราะมันค่อยๆ มา หรอก แล้วเป็นไง ไม่กี่วันแผ่นดินไหวพม่าอีก คือ อยากเขียนให้คนอ่านฟรีในบล็อกหรือในที่ต่างๆ ดีๆ เราจะมีได้ เหมือนกับว่าเปิดกล่องแล้วหยิบใส่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ข้อมูลมันเยอะมาก อย่างสมมติ ปัญหามากมายรอบตัวเรามันเป็นปัญหาระดับโลก แล้วแบบนี้ คือทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้รายได้ มันเปลือง เข้ามาในหัวเลย แต่ความรู้มันเกิดมาจากการปฏิ- อยากจะรู้เรื่องแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เสิร์ชหาข้อมูล ซึ่งมันมีความเชื่อมโยงของปัญหาสูงมาก บางทีเรา เวลา เรือ่ งนีจ้ ะอธิบายอย่างไร หรือคุณคิดอย่างไร สัมพันธ์กนั ต่อสิง่ ต่างๆ เช่น การใช้ความคิด วิเคราะห์ พูดง่ายๆ ว่าเป็นการทำงานของสมองของเราต่อข้อมูล ต่างๆ ทีไ่ ด้รบั การทีจ่ ะบอกว่าอินเทอร์เน็ตทำให้คน มีความรู้ไหม ส่วนหนึ่งมันก็ใช่ แต่เราอยากเปรียบเทียบว่า อินเทอร์เน็ตมันก็คอื ป่า ดังนัน้ มันก็ประกอบ ไปด้วยความรูใ้ นหลายๆ ระดับ เช่น ความรูท้ ส่ี ำคัญ มากระดับที่จะพลิกโลกได้ หรือเรื่องไร้สาระ ซึ่งเรา เรียกว่าขยะ แต่ว่าแม้จะเป็นขยะเองก็เถอะ บางที มันอาจจะมีค่าสำหรับอีกคนก็ได้ ดังนั้น ทุกอย่าง มันยังอยู่เหมือนเป็นก้อนรวมๆ กัน ตรงนี้เราคิดว่า ถ้าคนที่ไม่เคยมีทักษะในการวิเคราะห์ หรือการใช้ ความคิด ความใฝ่รู้ แล้วละก็ ให้เขาเข้าอินเทอร์เน็ต ไปก็ไม่มีทางจะแยกแยะข้อมูลออกเลยว่าอะไรคือ ความรู้ที่สำคัญ อะไรคือขยะ หรืออะไรที่เคยเป็น ความรู ้ แ ต่ เ ก่ า ไปแล้ ว และพิ สู จ น์ ไ ด้ ว ่ า ไม่ จ ริ ง เพราะฉะนั้น paradox หรือความย้อนแย้งของ อินเทอร์เน็ตอย่างหนึง่ ก็คอื ว่า คนทีเ่ ข้ามาหาข้อมูล แรกๆ ก็จะตืน่ เต้น โอ้โฮ มันเปิดโลก มันมีอะไรเต็ม ไปหมดเลยทีเ่ ราไม่รู้ แต่การทีจ่ ะก้าวจากจุดทีต่ น่ื เต้น ไปสูก่ ารนำมันมาช่วยเราจริงๆ ให้เรารูม้ ากขึน้ หรือ ทำให้ชีวิตอะไรๆ ดีขึ้น มันไม่ได้อาศัยอินเทอร์เน็ต แต่มันอาศัยตัวเราเอง มันก็เปรียบเหมือนการอ่าน หนังสือหนึง่ เล่มทีใ่ ครๆ แนะนำว่ามันดี แต่ถา้ คุณอ่าน แบบสักแต่วา่ ให้มนั จบๆ ไป ไม่มกี ารตัง้ คำถาม หรือ ไม่ได้คุยกับหนังสือเลย คุณก็อาจจะไม่ได้อะไรเลย ก็ได้ จริงๆ หนังสือหนึง่ เล่ม อ่านเท่ากัน ประสบการณ์ หรือสิ่งที่คนคนหนึ่งจะได้รับมันไม่เหมือนกันนะ ถ้าเขาไม่เคยมีอะไรสักอย่างที่เชื่อมโยงกับหนังสือ เล่มนั้นเลย ดังนั้น ประเด็นที่จะบอกเช่นกันก็คือ อย่าไปคิดว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นยาวิเศษ แล้วยิ่งถ้า ไปคิดว่ามีอนิ เทอร์เน็ตเป็นยาวิเศษ เป็นเครือ่ งทุน่ แรง ที่มีแล้วจะทำให้คุณออกแรงน้อยลง ยิ่งคิดแบบนี้ ก็จะยิง่ โง่ลง แล้วยิง่ อินเทอร์เน็ตมันแพร่หลายมากขึน้ แต่มคี นคิดแบบนีม้ ากขึน้ ด้วย โดยรวมแล้วจะทำให้ สังคมยิ่งไม่ฉลาด
เหมือนหลงป่านั่นเอง
ทีเดียว ได้เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องเป็นร้อยๆ เว็บไซต์เลย ทีอ่ ธิบายว่าแผ่นดินไหวเกิดจากอะไร อันหนึง่ อาจจะ บอกว่าโลกจะแตก อีกอันบอกโลกจะไม่แตก แล้ว แบบนีค้ ณ ุ จะเชือ่ ใคร จะดูยงั ไง เพราะฉะนัน้ ถ้าหาก คุณไม่มที กั ษะอะไรในตัวทีจ่ ะวิเคราะห์ หรือวิจารณญาณ หรือกระทัง่ อีกคำทีเ่ ราชอบคือ ปัญญาปฏิบตั ิ หรือ Practical Wisdom หรือความสามารถในการ เอาทักษะในการคิดมาประมวล ปรับใช้ในโลกจริงๆ ถ้าคุณไม่มสี ง่ิ เหล่านีเ้ ลย อินเทอร์เน็ตมันก็ไม่ได้ชว่ ย อะไรเลยนะ
ต่อเนือ่ งจากทีค่ ณ ุ บอกว่า เมือ่ หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วพบว่าข้อมูลมันมีมากมาย แล้วในทีส่ ดุ จาก ข้อสังเกตส่วนตัวเท่าที่เห็นก็คือ คนเราจะขี้เกียจ อ่าน เพราะไม่รจู้ ะอ่านอะไร แล้วก็เลยไปรอให้มผี รู้ ู้ สักคนมาตอบคำถาม ซึง่ มันก็ไม่ถงึ กับไม่ดี แต่คณ ุ มองสิ่งเหล่านี้อย่างไร
ก็ในทีส่ ดุ แล้วต้องถามเลยว่า แล้วคุณจะรูไ้ ด้ยงั ว่าผูร้ คู้ นนัน้ คือคนทีค่ ณ ุ สมควรฟัง มันก็เป็นปัญหา เดิมไหมว่าอินเทอร์เน็ตมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดีไง คือใครๆ ก็พูดกันว่า ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตมัน มหาศาลเลย มันทำให้เราได้รู้อะไรมากขึ้นโดยที่ ไม่ตอ้ งรอให้มผี รู้ มู้ าบอกเรา แต่บนเงือ่ นไขว่า คุณก็ ต้องมีทักษะอะไรบางอย่างที่จะแยกแยะข้อมูลนั้นๆ อยูด่ ี คือเราคิดว่าการอ่านอะไรเยอะๆ บนอินเทอร์เน็ต มันไม่มีปัญหานะ อ่านไปเถอะ แต่ในที่สุดแล้วคุณ ต้องคิดเองได้นะ่ คุณต้องพยายามมาชัง่ น้ำหนักเอง ว่า สิง่ ทีค่ นนัน้ ว่าคนนีว้ า่ อะไรมันมีนำ้ หนักมากกว่า กัน แล้วเมื่อคุณเริ่มจากการคิดเช่นนี้ มันก็นำคุณ ไปสู่ความรู้ที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ จากคนที่เริ่มจากคำถาม เดียวว่า ตกลงโลกจะแตกไหมวะจากกรณีที่ญี่ปุ่น มันก็จะทำให้คณ ุ คิด และหาความรู้ แล้วมันก็จะนำ คุณกลับไปสู่รากฐานของความรู้นั้น ว่า อ๋อ ตกลง ความรู ้ เรื ่ อ งแผ่ นดิ น ไหวในปั จ จุ บ ั น เป็ น อย่ า งไร มันเกี่ยวกับโลกร้อนไหม เส้นทางมันจะเป็นแบบนี้ แหละ แต่ตัวคุณคือสิ่งที่จะนำพาคุณไปเอง ดังนั้น คุณต้องคิดเป็น ไม่ใช่คิดสะเปะสะปะ จึงกลับไปสู่ ประเด็นทีพ่ ดู กันมานานว่า ระบบการศึกษาไทยมัน ล้าหลังจริงๆ มันไม่ได้ล้าหลังเพราะเราถูกสอนให้ เชือ่ ผูใ้ หญ่อย่างเดียว แต่มนั ล้าหลังเพราะมันไม่ทำให้ เรามีทักษะในการเอาตัวรอดในโลกแห่งข้อมูลด้วย ตรงนี้แหละอันตราย เราว่าเชื่อผู้ใหญ่มันก็ยังไม่ เท่าไหร่นะ เขาให้เราท่องนัน่ ท่องนีม่ นั ก็ยงั ไม่เป็นไรมาก แต่การทำให้เด็กจำๆๆ หาผู้รู้มาสอนให้เด็กเชื่อๆๆ มันจะทำให้เด็กคิดเองไม่เป็นไง แล้วเมือ่ อยูใ่ นสังคม แล้ว คุณจะแยกแยะยังไงระหว่างผูร้ กู้ บั ผูไ้ ม่รู้ คิดง่ายๆ ว่าถ้าคนในสังคมไทยส่วนใหญ่ไม่มีทักษะแยกแยะ คิดเอง วิเคราะห์ แล้วก็ไม่ชอบอ่านหนังสือด้วย คุณจะรู้ได้ยังไงระหว่างคนที่ไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แต่ ใช้เงินซือ้ สือ่ เดือนละเป็นแสนเลย เพือ่ ทีจ่ ะได้ออกมา พูด ได้ลงข่าว เทียบกับคนที่เขารู้อะไรเยอะมาก แต่เขาไม่สนใจทีจ่ ะซือ้ สือ่ คนเลยไม่รวู้ า่ มีคนคนนีอ้ ยู่
ใช่ๆ เหมือนคุณเดินป่าทีน่ อกจากจะหาทางกลับ ไม่เจอแล้ว ยังดำรงชีวิตไม่ได้อีกต่างหาก เพราะถ้า ไปเจอเห็ดแล้วก็จะไม่รู้ว่าตกลงไอ้เห็ดนี่มันกินได้ หรือเปล่า ดังนั้น มันก็ต้องเตรียมตัวให้ดี คนที่จะ เดินป่าแล้วจะอยู่รอดได้ก็คือคนที่ดูเข็มทิศ อ่าน แผนที่เป็น ดูดาวเป็น รู้จักชนิดของเห็ดที่ไปเจอ นอกจากจะเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว สภาพร่างกาย ก็ตอ้ งฟิต นีถ่ งึ ได้บอกว่ามันขึน้ อยูก่ บั ตัวเองเป็นอย่าง มาก แล้วอีกอย่างอินเทอร์เน็ตมันเป็นพื้นที่เปิด ดังนัน้ ข้อมูลมันจะทะลักมา มีแพทย์ทศ่ี กึ ษาโรคต่างๆ ที ่ เป็ น โรคสมั ย ใหม่ ท ี ่ เ กี ่ ย วข้ อ งกั บ อิ น เทอร์ เน็ ต ซึ่งเมื่อก่อนมันไม่เคยมี แล้วพบว่ามันมีโรคเครียด ที่เกิดจากการเสพข้อมูลเยอะเกินไป มีโรคติดเกม ออนไลน์ที่ติดมากจนหลอนว่าตัวเองเป็นตัวละคร ในเกม ดังนัน้ ถ้าหากเราไม่เข้าใจปฏิสมั พันธ์ระหว่าง เรากับเทคโนโลยีวา่ ควรจะเป็นยังไง แทนทีเ่ ทคโนโลยี ซึ่งคุณก็เคยทวีตเรื่องนี้เมื่อเร็วๆ นี้ด้วยที่บอกว่า จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น มันจะกลายเป็นแย่ลง แล้ว สังคมเราควรแยกแยะให้ได้ระหว่างผู้รู้กับผู้ไม่รู้ ธรรมชาติของอินเทอร์เน็ตซึ่งจากการที่มันเป็นพื้นที่ คุณคิดเรื่องนี้จากอะไร คือพูดแบบนีด้ กี ว่าว่า ตอนนีจ้ ะเห็นได้วา่ สังคม เปิด ข้อมูลเยอะมหาศาล การแยกแยะยิ่งเป็นเรื่อง
ก็มองไม่เห็นชัดเจนว่าเราเกี่ยวกับมันยังไง เรามอง ไม่เห็นสาเหตุหรือรากของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ผลกระทบมันมีมาถึงเรา แน่ๆ เช่น โลกร้อนนี่เขายังเถียงกันอยู่เลยว่าสาเหตุ มาจากอะไรแน่ แต่เราต้องเจอกับผลกระทบแน่ๆ เช่น เราอาจจะเป็นเกษตรกรอยูศ่ รีสะเกษทีภ่ มู ใิ จมาก ที่ทำเรื่องเกษตรกรรมจากธรรมชาติ แต่ถ้าหากเจอ ฟ้าฝนเปลีย่ นแปลง แล้วคุณจะทำยังไง ไอ้ทค่ี ดิ เรือ่ ง เกษตรธรรมชาติมันอาจจะไม่ช่วยแล้ว เพราะมัน มีผลกระทบจากโลกร้อนที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนไง แล้วปัญหาสมัยนี้มันมีความเชื่อมโยงกันสูงมาก ระหว่างความรูส้ าขาต่างๆ มันจึงพึง่ พาผูว้ เิ ศษคนใด คนหนึ ่ ง ไม่ ไ ด้ อ ย่ า งเมื ่ อ ก่ อ นที ่ ป ั ญ หามั น ยั ง ไม่ ซับซ้อนมาก ดังนัน้ สิง่ ทีต่ ามมาวันนีค้ ณ ุ ไม่สามารถ หาพหูสตู ได้อกี แล้ว ไม่มแี ล้วทีจ่ ะมีใครคนเดียวโผล่ มาบอกว่าคุณไปแก้ปัญหามา 20 อย่าง ดังนี้ เพราะปัญหามันเชือ่ มโยง แล้วมันต้องใช้ความร่วมมือ กันสูงมากระหว่างคนหลายๆ ฝ่าย หลายๆ สาขา แค่เรือ่ งโลกร้อนก็ตอ้ งใช้นกั วิทยาศาสตร์หลายสาขา มาร่วมกันทำงานแล้ว พอเรือ่ งมาถึงสือ่ มวลชน ก็ตอ้ ง อาศัยสือ่ ทีจ่ ะต้องตีประเด็นแตกอีก ซึง่ ไม่ได้จะชมมหาวิทยาลัยทีเ่ รียนมา แต่กต็ อ้ งชม เพราะเขาสอนให้เรา รู้เรื่องต่างๆ แบบ Liberal Art ที่เขาแปลๆ กันว่า ศิลปศาสตร์ แต่เราก็วา่ ยังแปลไม่ตรงนัก แต่หลักการ คือ เขาสอนให้มกี ารเรียนรูแ้ บบเสรี มีทกั ษะพืน้ ฐาน ทีเ่ หมือนกันหมด เข้าใจในประเด็นหลักๆ ตรงกันหมด สอนให้เรามีทกั ษะในการวิเคราะห์ ประมวลผล ถ้าจะ ให้ ด ี ก ็ ต ้ อ งสอนทั ก ษะในการรู ้ เ ท่ า ทั น สื ่ อ ด้ ว ย คือไม่วา่ จะโตไปทำอะไร ต้องมีทกั ษะพื้นฐานเท่ากัน เพราะฉะนั้น นี่คือสิ่งที่เมืองไทยเราไม่มมี านานแล้ว คือถ้าย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์หลายสิบปีก่อน บ้านเรามันไม่ได้เกิดปัญหามากนัก แล้วมันก็ไม่เป็นไร ทีเ่ รายังรูอ้ ะไรแยกส่วนกัน เพราะสังคมเรายังเหลือ่ มล้ำไม่มากระหว่างคนทีท่ ำอาชีพต่างๆ ลองย้อนไปดู คอลัมนิสต์เมื่อก่อน ได้เงินค่าเขียนคอลัมน์ 2-3 พัน เขาก็อยู่ได้ อาจจะไม่ได้ร่ำรวยมหาศาลเหมือนคน ทำงานธนาคาร แต่มนั ก็ไม่ได้ตา่ งกันมากนัก และเขา สามารถมีคณ ุ ภาพชีวติ ทีใ่ ช้ได้ เมือ่ อยูไ่ ด้ คนก็ประกอบ อาชีพนักเขียนได้อย่างดี ไม่ตา่ งกับคนทำงานธนาคาร ดังนั้น ในแง่ความเก่งของคนมันก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่พอความเหลื่อมล้ำด้านค่าครองชีพของคนมัน ขยายตัวมากขึ้น คนทำงานบันเทิงค่าตอบแทน มหาศาล นักการเงินเงินเดือนมากมาย ก็ได้คนที่ เก่งๆ ไปอยู่ในสาขานั้นเยอะ เพราะใครๆ ก็อยาก ไปทำงานที่ค่าตอบแทนสูงทั้งนั้น ดังนั้น อาชีพที่ เกีย่ วกับการสร้างความรูต้ ง้ั แต่ฐานราก ไม่วา่ จะเป็น ครู นักข่าว นักเขียน มันเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ ความรู้ หรือสร้างความรู้ให้กับประชาชน มันจึงไม่ ดึงดูดคนทีม่ ศี กั ยภาพเลย แล้วถ้าสังคมมันเป็นแบบนี้ ไปเรือ่ ยๆ แล้วมันจะมีความรูม้ าจากไหน องค์ความรู้ จะสร้างขึ้นมาอย่างไร ถ้าไม่สนใจฐานราก ทุกวันนี้ เรามีแต่วงการทีเ่ รียกว่า เด็ดยอด คือคนเก่งๆ ศักยภาพ ดีๆ เขาไปทำวงการอื่นกันหมด ขณะที่เอาใกล้ตัว อย่างคอลัมนิสต์เมื่อ 60 ปีก่อน ค่าคอลัมน์เคย 2,000 อย่างไร วันนีก้ เ็ ป็นแบบนัน้ ไม่วา่ จะเงินเฟ้อ
มันก็ทำด้วยความรักไง ไม่มอี ะไรหรอก ประเด็น หนึ่งที่หนังสือที่เราแปล (พลังกลุ่มไร้สังกัด) บอกไว้ ก็คือ อินเทอร์เน็ตมันเป็นพื้นที่ที่เราสามารถทำสิ่ง ใหญ่ๆ ด้วยความรักได้ ก่อนมีอินเทอร์เน็ต เราก็ทำ อะไรที่เรารักเราชอบกันในกลุ่มคนที่ชอบเหมือนกัน อยู่แล้ว เช่น เมื่อก่อนเราเองก็ชอบแต่งกลอนด่า เพื่อนๆ เพื่อนก็ชอบอ่าน แต่พอมีอินเทอร์เน็ต เราก็ ไม่จำเป็นต้องให้เพื่อนกลุ่มเล็กๆ อ่านแล้ว เราให้ คนอืน่ ๆ มาอ่านด้วย เราก็ไม่ได้คาดหวังให้ใครมาชอบ แต่ถ้ามันมี feedback จากคนอ่าน เราก็ชอบ
คืออย่างนีค้ ะ่ กลับไปทีป่ ระเด็นว่า ในเมือ่ คุณบอกว่า บ้านเรามันมีคา่ ตอบแทนให้คนทีเ่ ป็นนักเขียนต่างๆ น้อยจนไม่ดึงดูด แต่มันก็มีพื้นที่ในอินเทอร์เน็ตให้ คุณเขียนอะไรฟรีๆ เป็นข้อมูลความรูไ้ ด้ หรือแปล ให้คนอ่าน
แต่อย่าลืมว่าเคสของเราโชคดีเพราะเรามีรายได้ ที่อยู่ได้โดยไม่ลำบากนะ ตอนที่เขียนบล็อก เราก็ ทำงานประจำอยู่วงการหลักทรัพย์ ซึ่งค่าตอบแทน มันสูงมาก มันไม่ต้องมาห่วงว่าถ้าฉันเขียนบล็อก แล้วฉันจะไม่มกี นิ หรือทำให้งานประจำเสีย แล้วเรา ก็โชคดีทท่ี ำงานเร็ว เราเลยทำได้ แต่มนั ไม่ใช่ทกุ คน ที่จะโชคดีอย่างเรา ในสังคมก็มคี นทีเ่ ขียนอะไรให้คน อ่านฟรีๆ และดีๆ ก็ไม่นอ้ ย แต่ถา้ คุณรูว้ า่ มีบล็อกเกอร์ คนหนึง่ เขียนบล็อกได้ดมี ากเลย แล้วเขาทำงานเป็น เภสัชกร ประเด็นคือสังคมจะทำสเต็ปต่อไปยังไง? ใครจะมาสนับสนุนให้เขาเขียนบล็อกเต็มเวลาได้ไหม เขาจะได้ ม ี เวลามาผลิ ต ความรู ้ ให้ อ ่ า นได้ เต็ ม ที ่ สรุปคือสังคมก็ตอ้ งให้ความร่วมมือด้วยไง ซึง่ ประเทศ อืน่ ๆ เขาก็เป็นกัน อเมริกา หรือญีป่ นุ่ ถ้าเขียนบล็อก ประสบความสำเร็จ เขาก็มีอาชีพเขียนบล็อกเลย เขาก็ขอการสนับสนุนจากคนอ่านเลย แล้วก็มคี นช่วย เขา หรือบล็อกเกอร์ทค่ี นติดมากๆ ก็ขอติดแบนเนอร์ ให้คนเข้าไปบริจาคช่วยเขา ก็มีคนช่วยเยอะแยะไป เหมือนที่เราก็เกิดจากบล็อก คือคนมาอ่านมากๆ ก็ให้ความสนใจแล้วก็นำไปสู่งานด้านอื่นๆ ต่อไป แต่ประเด็นคือ มันอยูท่ ต่ี วั เราเองว่าจะมุง่ มัน่ แค่ไหน มันก็มีบล็อกเกอร์ตั้งหลายคนที่ไม่ได้มุ่งมั่นในการ เขียนมากพอ แบบไม่ได้โพสต์สิ่งที่ตัวเองเขียน แต่ เอาเรื่องจากที่อื่นมาแชร์ มาแปะให้อ่าน แล้วมันก็ ไม่ได้มีความเชื่อมโยงอะไรเลย หรือเปิดบล็อกใน โอเคเนชั่น แต่ดันไปก๊อบสิ่งที่ คุณสุทธิชัย หยุ่น เขียนไว้แล้วมาแปะ แล้วคุณจะเปิดบล็อกทำไมล่ะ? คนอ่านบล็อกพวกนีเ้ ขาก็ตอ้ งอ่านอยูแ่ ล้วหรือเปล่าล่ะ? (หัวเราะ) เออ แล้วทำไปทำไม หรืออีกประเภท เขียนบล็อกแบบส่วนตัวมากๆ เรือ่ ยเปือ่ ย ซึง่ ถ้าเขียน แบบนั้นก็ต้องเข้าใจนะว่ามันก็จะกลายเป็นไดอารี คนอ่านก็จะมีแต่เพื่อนๆ คุณนั่นแหละ แล้วคุณก็ ไม่ตอ้ งมานัง่ สงสัยหรอกว่าทำไมคนไม่อา่ น คือจาก ประสบการณ์ตวั เอง เราเขียนเพราะรูส้ กึ สนุก แล้วก็ มีความเชื่อว่าเรื่องที่เราสนใจมันก็น่าจะมีคนอื่น สนใจด้วยเหมือนกัน เราก็เลยเขียน มันจึงนำมาสู่ ทุกวันนี้ นี่คือที่ย้ำว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเองด้วย
อย่างงานสัปดาห์หนังสือที่จัดขึ้น หรือกระทั่ง บรรยากาศการอ่ า นโดยรวมของสั ง คมนี่ คุณสังเกตแล้วพบว่ายังมีอะไรที่ขัดใจเกี่ยวกับ
12
การอ่านในบ้านเราไหม
คือเอาเข้าจริงที่มีคนห่วงว่าการมีอินเทอร์เน็ต ทำให้อา่ นหนังสือน้อยลง มันไม่ใช่หรอก ยิง่ เป็นนักอ่าน หนังสือก่อนทีจ่ ะมาเล่นอินเทอร์เน็ตมันก็จะมีทกั ษะ การอ่านที่ดีอยู่แล้ว เพราะหนังสือมันเป็นแหล่งทีด่ ี ที่สุดในการเรียบเรียงข้อมูล สังเคราะห์องค์ความรู้ อะไรต่างๆ ไว้ในนั้น มันเป็นปัญญาที่หยิบถือได้ สะดวก compact คิดกับมัน ถกเถียงกับมัน มันเป็น เครือ่ งมือทีส่ ร้างความรูท้ ส่ี ดุ แล้วนับจากยุคทีม่ แี ท่นพิมพ์ขึ้นมา ดังนั้น คนที่เป็นนักอ่านจริงๆ เขาก็จะ ไม่ถกู กระทบจากอินเทอร์เน็ต ถ้ามันมีผล มันก็จะมี ผลในแง่ทเ่ี ปิดโลกให้เราไปอ่านอย่างอืน่ ด้วย แต่มนั ไม่ได้ทำให้เราอ่านหนังสือได้แย่ลง หรือเลิกอ่านหนังสือ แต่มันยิ่งทำให้เราขวนขวายอยากอ่านนั่นอ่านนี่ ตลอดเวลา ทีน่ า่ เป็นห่วงคือ นักอ่านแบบนีใ้ นสังคม มันยังน้อยอยู่ แล้วมันก็ยงั ไม่มกี ารคิดอย่างเป็นระบบ ว่าจะสร้างมันขึน้ มายังไง ถ้าวัดจากเทศกาลทีเ่ ขาจัด กันเช่น สัปดาห์หนังสือ หรือการส่งเสริมการอ่าน เพราะเราก็ไม่เห็นว่ามันจะส่งเสริมการอ่านตรงไหน คือการส่งเสริมการอ่านมันไม่ได้ทำด้วยการจัดอีเวนต์ คุณอย่าไปสับสน โอเค ถ้าคุณจะรณรงค์ให้คน ตระหนักถึงภัยพิบตั ิ คุณก็จดั นิทรรศการ จัดสัมมนา เชิญคนมาพูด เออ อันนีท้ ำได้ แต่ถา้ คุณตัง้ เป้าหมาย ว่าคุณจะส่งเสริมการรักการอ่าน มันไม่สามารถจัด อีเวนต์ได้ ไม่วา่ จะเป็นการจัดวงเสวนาอะไรก็แล้วแต่ ถึงเวลาแล้วมันก็อาจจะเป็นเครื่องมือแค่ส่วนเสี้ยว เดียวของการส่งเสริมการอ่าน แต่มันควรจะเป็นว่า ทำยั ง ไงให้ ค นเขี ย นมี แรงจู ง ใจที ่ จ ะเขี ย นต่ อ ไป ใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากมากนัก ไม่ใช่ต้องมาเขียน แต่หนังสือบันเทิงเท่านั้น เพราะหนังสือแนวสาระ มันขายไม่ได้ โอเค บันเทิงก็ไม่ได้ผดิ หรอก ประเด็น คือมันไม่มีสมดุลเลยไง บันเทิงก็บันเทิงเสียสุดเลย สาระก็สาระเยอะจนคนไม่อยากอ่าน คือคุณต้อง กลับมาคิดว่าจะส่งเสริมนักเขียนยังไง ซึ่งมันก็ต้อง ส่งเสริมทีต่ น้ ทางคือวิถชี วี ติ ของนักเขียน เขาใช้ชวี ติ ยังไง ต้องมีคา่ กระดาษ ค่าอะไรต่อมิอะไร ไม่ใช่ไป คิดเรื่องการออกนโยบายซื้อหนังสือแล้วลดภาษี 200% เพราะมันไม่ได้แก้ปญ ั หาทีต่ น้ ทาง เนือ่ งจากว่า สมมติเราเดินเข้าไปซื้อหนังสือในร้าน เราก็อาจจะ เลือกแต่หนังสือแนวนิยายรักเกาหลี เราก็สามารถ ซื้อแต่นิยายเกาหลีแล้วไปหักภาษีได้ แต่มันไปช่วย ให้มกี ารผลิตหนังสือเชิงองค์ความรูไ้ ด้ยงั ไง ในเมือ่ คน ที่มีแรงจูงใจที่จะทำงานเขียน หรือคนผลิตความรู้ มันน้อยมาก เพราะมันลำบาก คือคนเขียนเขาก็ชอบ เขียน ก็เขียนไป พยายามทำไป เพราะงานเขียน มันมีเสน่ห์ ยิง่ มีคนชอบมันก็ยง่ิ อยากเขียน แต่คนอืน่ กลับไม่คดิ จะช่วยเขาเลย ไม่ชว่ ยให้มนี กั เขียนใหม่ๆ เข้ามาทำมากขึน้ มันก็ไม่มคี นเขียนหรอก เพราะคิด แทบตายเขียนคอลัมน์ 3 หน้า ได้ 2,000 บางคน ส่งเรื่องสั้นไปลงได้ 800 คือค่าตอบแทนมันไม่สอดคล้องกับเวลาและพลังงานทีเ่ ขาใช้ไป ถ้าสถานการณ์ เป็นแบบนี้ คนทำงานด้านการสร้างความรู้ ด้านสาระ เป็นแบบนี้ แล้วเราจะไปผลิตองค์ความรู้ได้ยังไง
แล้วมันมีผลกระทบอะไรที่สังคมนึกไม่ถึงเหรอคะ
ก็นไ่ี ง เช่น พอเกิดแผ่นดินไหวทีญ ่ ป่ี นุ่ อ้าว มีใคร รู ้ บ ้ า งว่ า ตกลงแล้ ว ประเทศไทยควรจะทำอะไร? คำถามคือ เรามีองค์ความรูไ้ หมทีจ่ ะรับมือกับภัยพิบตั ิ
เราก็คิดว่าเรามีมั้งคะ เพราะว่าเรามีนักวิชาการ ให้เราไปปรึกษาอยู่แล้ว
(หัวเราะ) แล้วถ้านักวิชาการพวกนี้ตายไปแล้ว ยังไงต่อ หรือถ้าเขาเหนือ่ ยแล้ว ไม่อยากทำงานแล้ว เพราะเขาอยู่ยากแล้ว นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้าน ภัยพิบัติต้องเลี้ยงลูก 3 คน เขาอาจจะเงินไม่พอ แล้วเขาคิดว่าไปสอนกวดวิชายังได้เงินมากกว่า เราไปฟังปาฐกถามาไม่นานมานี้ มีนกั วิชาการท่าน หนึ่งพูดชัดเจนเลยว่า นักวิชาการหรือนักวิจัยบ้าน เราเนีย่ อยู่ไม่ได้หรอกครับ เพราะค่าตอบแทนน้อย เขาไปสอนกวดวิชาดีกว่า และทุกวันนี้หลายท่านก็ เลิกทำงานวิจัย ไปสอนกันในโรงเรียนกวดวิชากัน เยอะแล้ว คือประเด็นนี้องค์ความรู้มันต้องมีการ ถ่ายทอด มีการสั่งสม มีการต่อยอดได้ แต่ถ้าเป็น แบบนี้แล้วจะไปต่อกันยังไง คือค่าตอบแทนมันก็
เป็นส่วนหนึง่ ของแรงจูงใจทีส่ ำคัญ ถ้าจะยกตัวอย่าง จากนักเขียน สังคมก็ไม่ควรจะคาดหวังให้นักเขียน โรแมนติก เพราะมันอยู่ไม่ได้ จะให้นักเขียนทุกคน ไปอยู่น่าน อยู่แม่ฮ่องสอนกันหมดหรือไง คุณจะ ใจร้ายไปหรือเปล่า? ทำไมนักเขียนจะอยากมีไอโฟน 4 ไม่ได้ มีไอแพดไม่ได้ คุณจะบอกเขาว่านักเขียนต้อง ไปอยู่นา่ น ใช้ชวี ติ ช้าๆ มีเงินเดือนเดือนละ 400 ก็พอ เหรอ ใครๆ ก็อยากมีวิถีชีวิตที่โอเคระดับหนึ่งนะ แล้วเรากำลังจะบอกว่า ไอ้ความเหลื่อมล้ำพวกนี้ มันส่งผลนะ สมมติคุณเรียนนิเทศฯ มาแล้วรู้ว่า เพือ่ นอีก 20 คน จะไปทำเอเจนซี แต่ถา้ คุณไปเป็น
ปัญหาสมัยนี้ มันมีความเชื่อมโยงกัน สูงมากระหว่าง ความรูส้ าขาต่างๆ มันจึงพึ่งพาผู้วิเศษ คนใดคนหนึ่งไม่ได้ อย่างเมื่อก่อน ที่ปัญหามันยัง ไม่ซับซ้อนมาก ดังนั้น สิ่งที่ตามมา วันนี้คุณ ไม่สามารถหา พหูสูตได้อีกแล้ว
นักข่าวมันก็เงินเดือนน้อย อยู่ยากและลำบาก ให้เขาตอบกลับมามันก็อยู่ยาก ดังนั้น คุณก็ต้อง แต่ทำงานหนักมาก ใช้สมองเยอะมาก แล้วคุณจะ ปรับตัว จริงๆ ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมันเป็นที่ที่แทบ เอายังไง? จะไม่มีต้นทุนในการปล่อยงานเลย อยากเขียน สมมติ ว่ า มั น ยั ง ไม่ มี ก ารเปลี่ ย นแปลงเรื่ อ งค่ า ก็เขียนเลย ไม่ต้องคิดมากเรื่องได้เงินหรือไม่ได้เงิน ตอบแทนใดๆ ในระยะเวลาอันใกล้ แล้วคนที่อยาก เพราะทีส่ ำคัญกว่านัน้ คือ ทำอย่างไรให้คนอ่านรูจ้ กั ทำงานด้านการให้ความรู้คนต่างๆ เขาควรจะ เราก่อน แล้วก็อย่าไปคิดอะไรแบบสุดขัว้ เกินไป เพราะ ปรับตัวอย่างไร คนทำงานต้องคิดด้วยว่าทำยังไงให้ตัวเองอยู่ได้ สมัยนี้มันก็ต้องใช้ทุกอย่างที่ทำได้ ใช้ทุกอย่าง ด้วย ได้ทำงานทีช่ อบด้วย แต่ตอ้ งยอมรับว่างานเขียน ทีใ่ ช้ได้ เช่น อินเทอร์เน็ต แล้วก็เขียนบล็อก เขียนงาน มันมีเสน่ห์จริงๆ ทำให้คนเลิกเขียนไม่ได้ง่ายๆ แต่ ที่คุณชอบไปให้สม่ำเสมอ ไม่ใช่ใช้ชีวิตช้าๆ ง่ายๆ ไม่เป็นไร เราเชื่อว่าคนที่เขาอยากเขียนจริงๆ ยังไง นานน้านจะส่งงานไปให้สำนักพิมพ์เสียที แล้วจะรอ เขาก็ตอ้ งดิน้ รน เพียงแต่ทำยังไงจะใช้เครือ่ งมือหรือ
14
เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ แล้วคนทีเ่ กีย่ วข้องอย่างภาครัฐก็ตอ้ งมาเกีย่ วข้อง มาช่วยด้วย คุณ ต้องโอบอุม้ และสนับสนุนให้เขาอยูไ่ ด้ดี ไม่ใช่บอกว่า อยู่น่านไปเถอะ หรือกระทั่งการคิดโครงการมา ช่วยส่งเสริมการอ่านใดๆ งานสัปดาห์หนังสือต่างๆ ก็เช่นกัน ณ วันนี้เราไม่ต้องไปดูจุดประสงค์หรอก ว่าทำเพือ่ อะไร เรามาดูผลลัพธ์ดกี ว่าเราอยากทำอะไร แล้วผลลัพธ์คืออะไร ถ้าเป้าหมายของการส่งเสริม การอ่านคือให้คนอ่านหนังสือมากขึ้น ถ้าเป้าหมาย มีแค่นี้ ตอนนี้เราก็บรรลุแล้ว บรรลุไปมหาศาลแล้ว ด้วย เพราะคนไทยเราก็เข้าเน็ตอ่านอะไรต่อมิอะไร กันเยอะ งานสัปดาห์หนังสือก็คนไปมากมาย ขาย หนังสือได้เยอะ ถ้าคุณตั้งเป้าแค่นี้ก็บรรลุแล้ว จบ ไม่ตอ้ งทำต่อ (หัวเราะ) ดังนัน้ ต้องกลับไปถามต่อว่า เป้าหมายคืออะไรกันแน่ ถ้าไม่ใช่แบบนี้ แต่คอื การที่ คุณอยากจะสร้างสังคมทีม่ คี นใฝ่รมู้ ากขึน้ คิดวิเคราะห์ เป็นมากขึน้ ใช้เหตุใช้ผลมากขึน้ ใช้ความเชือ่ ตัวเอง น้อยลง ถ้าคิดจะทำแบบนี้มันก็ต้องทำอย่างอื่นที่ ไม่ใช่แค่จดั งานหนังสือไง เราคิดว่าปัญหาอย่างหนึ่ง คือ สังเกตว่าเวลามีคนไปสัมภาษณ์ใครแล้วจะพูด กันบ่อยๆ ว่า ไม่ใช่ปัญหาของฉัน ฉันไม่ผิด ที่เป็น แบบนี้เพราะนักการเมืองมันชั่ว พอไปสัมภาษณ์ นักการเมือง ก็บอกว่านักวิชาการนัน่ แหละตัวดี พอไป สัมภาษณ์นักวิชาการ บอกประชาชนนั่นแหละยัง ไม่มคี วามรู้ แล้วมันก็ไม่ได้อะไรไง มันไม่สร้างสรรค์ คือทำไมคุณไม่ยอมรับว่าปัญหามันก็อยู่ที่ตัวเรา กันเองด้วย เราก็มสี ว่ นในปัญหา แต่มนั ก็ต้องคิดว่า แล้วเราจะปรับตัวเองยังไง ไม่ใช่ไปชี้นิ้วสั่งๆ บอก คนอืน่ ให้แก้ปญ ั หาอย่างเดียว อย่างเราเป็นนักเขียน เราก็ต้องรู้แล้วว่าความรับผิดชอบของนักเขียนคือ เขียนอย่างทีเ่ ราสนใจ และทำยังไงก็ได้ให้คนอ่านแล้ว เข้าใจ เช่น เราสนใจเศรษฐกิจสมัยใหม่ ทุนนิยมต่างๆ เราก็ต้องเขียนและพยายามถ่ายทอดให้ได้ว่าทำไม คุณต้องสนใจเรื่องนี้ มันเชื่อมโยงกับชีวติ ทัว่ ไปยังไง ไม่ใช่ไปเขียนภาษาเทคนิค เข้าใจยาก ถ้าแบบนั้นเรา ก็ยังไม่ได้เป็นนักเขียนที่รับผิดชอบมากพอ ยุคนีม้ นั คือยุคแห่งการสร้างสะพานเชือ่ มต่อ เราเป็นนักเขียน ก็ต้องสร้างสะพานไปหาคนอ่าน คนอ่านก็ต้องมา รับไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่ดูถูกคนอ่าน คิดว่าเขาจะไม่ เข้าใจตลอดเวลา ไปย่อยให้ง่ายจนมันเละ อะไรๆ ก็กลายเป็นเรือ่ งเบสิก 1 2 3 ไปหมดมันก็ไม่ใช่ เพราะเรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้ความพยายามคิด วิเคราะห์ เช่น อยู่ๆ ใครคนหนึ่งเกิดอยากเป็นนัก วิทยาศาสตร์สร้างจรวด มันก็ไม่ใช่วา่ จะไปอ่านหนังสือ ฮาวทูที่สอนวิทยาศาสตร์จรวดให้จบภายใน 200 หน้า เป็นการ์ตูนประกอบหมดเลย อ่านเสร็จแล้ว สามารถเป็นได้เลย อะไรแบบนี้ นึกออกไหม คนเรา มันก็ต้องใช้ความพยายามของตัวเองมากๆ ด้วย ไม่ใช่ต้องไปอ่านอะไรง่ายๆ อย่างเดียว ไม่มีอะไรที่ ได้มาโดยไม่ต้องพยายาม คือเราคิดว่านี่ก็เป็น ประเด็นที่น่าสนใจนะ เพราะไม่ว่าจะอาชีพไหน Mastery ของมัน หรือความเชี่ยวชาญ มันต้องใช้ ความพยายามสูงมากจนถึงระดับหนึ่ง มัลคอล์ม แกลดเวลล์ เคยเขียนไว้ในหนังสือ What the dog saw เล่มล่าสุดว่า เขามีการวิจยั กันออกมาเลยนะว่า คนที่จะมาสเตอร์หรือเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพที่ทำ อยู่ได้ ต้องใช้เวลาทั้งหมด 10,000 ชั่วโมง ในการ ฝึกฝนสิ่งนั้นซ้ำๆ กัน ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีหมื่นชั่วโมง ที่ว่านี้แล้วคุณจะเชี่ยวชาญอะไร จะรู้อะไรได้ คือ ทุกอาชีพมันก็มีความท้าทายและอุปสรรคต่างกัน ดังนั้น การที่จะออกแรงฝ่าฟันอุปสรรคมันก็เป็น เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เราเชี่ยวชาญในสิ่งนั้นได้ จริงๆ เราจึงควรจะตัง้ เป้าทีก่ ารทำให้เชีย่ วชาญดีกว่า บางคนตัง้ เป้าแค่รอู้ ะไรเยอะๆ ก็พอ แต่มนั ไม่สามารถ เอาไปใช้อะไรได้จริงไง เช่น ตัง้ เป้าว่าจะท่องพจนานุกรม ให้หมด แต่แล้วจะเอาไปทำอะไรล่ะ ถามว่าดีไหม มันก็ดี แต่มันไม่ใช่คำตอบสุดท้ายไง เพราะถ้าท่อง พจนานุกรมทัง้ เล่มได้ แต่แผ่นดินไหวมาแล้วยังไงล่ะ ก็ตายอยู่ดีไง แต่จริงๆ ตัวเราเองก็มีปัญหานี้นะคะ ทีเ่ ขาเรียกว่าตกม้าตายน่ะ เพราะเพือ่ นๆ มักจะบอก เหมือนกันว่า เราเป็นคนที่ทำไมเข้าใจเรื่องยากๆ ได้เร็ว แต่ทำเรื่องง่ายๆ ไม่เป็น เช่น กว่าจะเดินหา
ทางมาสตูดิโอเพื่อถ่ายรูปของคุณเนี่ย หลงแล้ว หลงอีก หลงอยู่ 3 รอบ คิดดู คือความรู้นี่มันก็ แปลกนะ บางเรื่องเราอยากรู้ แต่เราไม่มีทักษะที่ จะไปรู้เลยก็ได้ มันขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย ไม่ใช่ว่า ทุกคนอยากรู้อะไรแล้วจะรู้ได้ในเวลาที่เท่ากันเป๊ะ
พูดถึงเรื่องความรู้ในสังคมไทย แหล่งในการหา ความรู้มันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าที่ไหนเลยใช่ไหม
โอ๊ย ไม่นอ้ ยเลยค่ะ แต่เราไม่มที กั ษะในการรูไ้ ง การมีอินเทอร์เน็ตนี่มันเป็นเครื่องมือในการที่ทำให้ ทุกคนเท่าเทียมมากแล้วนะ ถ้าเรามีอินเทอร์เน็ตที่ แอฟริกา เราก็มโี อกาสพอๆ กับคนทีใ่ ช้อนิ เทอร์เน็ต ทีน่ วิ ยอร์กเหมือนกัน แต่ประเด็นอยูท่ ว่ี า่ equipment มันดีพอไหม เพราะถึงตอนนัน้ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ได้มันก็ไม่พอแล้ว เพราะคนเดินเข้าป่าได้แล้วไงล่ะ ก็อาจจะตายเลยก็ได้ เราจะนึกถึงคำโบราณทีด่ มี ากๆ คือ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เพราะบางทีเรา ก็เป็นแบบนั้น และคิดว่าถ้าแผ่นดินไหวมา เราก็คง ตายแหละ (หัวเราะ) แต่การมีความรู้เป็นเรื่องดีอยู่ แล้ว เพราะความรู้มันไม่มีจุดจบ โสเครตีสเคยพูด ไว้ดีมากเลยว่า ยิ่งรู้อะไรก็ยิ่งไม่รู้ เหมือนคนปีนเขา ที่ยิ่งปีนไป ก็จะยิ่งเห็นว่ามันมีภูเขาให้ปีนขึ้นต่อไป เรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ในโลกนี้มันมีอีกหลายเรื่องที่ เราไม่รู้
แล้วคุณคิดว่าสื่อต่างๆ ในบ้านเราควรจะมีหน้าที่ ในการสร้างความรู้ให้กับสังคมมากน้อยแค่ไหน
ปัญหาของสื่อตอนนี้ก็คือ ถูกผลประโยชน์เชิง พาณิชย์ชกั นำไปเยอะมาก หมายถึงสปอนเซอร์ตา่ งๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสปอนเซอร์เหล่านั้นก็ไม่ค่อยมี ความรู้กันเท่าไหร่นะ พูดกันตรงๆ มันก็แน่นอนว่า เมื่อเอเจนซีไม่ค่อยมีความรู้ แล้วมันเลยมีผลกับ ทิศทางของสื่อ เพราะเขาเป็นสปอนเซอร์ แต่เราก็ เข้าใจว่าโดยหน้าทีข่ องสือ่ ก็จำเป็นต้องนำเสนอเรือ่ ง ทีเ่ ป็นประโยชน์และสังคมควรรูอ้ ยูแ่ ล้ว แต่คำถามคือ คุณทำได้แค่ไหน เพราะข้อจำกัดมันเยอะ ยกตัวอย่าง ถ้าสือ่ บางเล่มยอดขายตก อยูไ่ ด้ดว้ ยเงินโฆษณาล้วนๆ แล้ ว บั ง เอิ ญ เอเจนซี ม ั น ไม่ ม ี ค วามรู ้ บ ้ า อะไรเลย คุณก็แย่สิ สือ่ ก็ตอ้ งไม่มคี วามรูไ้ ปด้วยสิ ก็พากันลง เหวไป ดังนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาให้ครบวงจร ก็ไม่ใช่ ไปเรียกร้องจากสื่ออย่างเดียว แต่ต้องไปเรียกร้อง จากเอเจนซีให้ฉลาดขึ้น เรียกร้องลูกค้าของเอเจนซี ให้ช่วยฉลาดขึ้นด้วย ช่วยเข้าใจหน่อยว่าสังคมมัน กำลังมีปัญหาอยู่ จะมาบ้าทำโฆษณากดไลค์แล้ว ช่วยบริจาคเท่านัน้ เท่านีอ้ ยูไ่ ด้ เราไม่ควรจะไปเรียกร้อง ให้สื่อทำหน้าที่นำเสนอความรู้อยู่ฝ่ายเดียว เพราะ โดยหน้าที่สื่อเขาก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เรียนจบ มาก็ตอ้ งรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าจรรยาบรรณวิชาชีพสือ่ คืออะไร? ไม่อย่างนั้นมันจะอันตรายมากเลยนะ ถ้าสื่อจบ วารสารศาสตร์มาแล้วไม่รู้ว่ามีหน้าที่ที่จะต้องให้ ความรู้สังคม (หัวเราะ) เออ แล้วยังไง มันก็เหมือน บอกว่า จบครูมาแต่ไม่ได้มีหน้าที่สอนน่ะ ฟังดู แปลกๆ ไหม (หัวเราะ) ดังนั้น สื่อรู้ตัวอยู่แล้วละว่า ตัวเองต้องทำอะไร แต่เอเจนซี ลูกค้า สปอนเซอร์ ต่างๆ ก็ต้องรู้ด้วย
จากการสังเกตเรือ่ งสือ่ เรือ่ งการให้ความรู้ เรามัก จะเห็นว่า เวลามีประเด็นใหญ่ๆ ในสังคมและต้องการ คำตอบหรือคำอธิบาย เรามักจะเห็นสื่อโทรทัศน์ เชิญคนมาพูด มาสนทนากัน คุณมีความเห็นอย่างไร
คื อ การเชิ ญ คนมาแลกเปลี ่ ย นความคิ ด เห็ น สนทนากัน มันไม่ได้มปี ญ ั หาอะไรหรอก มันก็เหมือน แชร์หลากหลายมุมมองกันได้ แต่อันตรายก็คือการ คิดว่า ทำแค่นค้ี อื การแก้ปญ ั หาไง คุณคิดว่าจะปฏิรปู ประเทศไทยด้วยการออกรายการโทรทัศน์ได้ยังไง มันไม่ได้ นี่คือปัญหาของสังคมเรา ถึงได้บอกว่า ปัญหายุคนี้มันต้องการการทำงานร่วมกัน เช่น เรา รูต้ วั ว่าเรามีสว่ นรูใ้ นเรือ่ งนีแ้ ค่ 5% ก็ตอ้ งมีคนอืน่ มา ช่วยคิดเสนอความคิดเห็นอีก 20 คน ไง ไม่ใช่แค่ คนเดียวแล้วจะคิดได้ถูกหมด 100% ดังนั้น ถ้าจะ แก้ปัญหาประเทศไทยด้วยการจัดแค่รายการทีวีให้ คนมาพูด มันก็เหมือนการเชื่อว่าตัวคนพูดนั้นเป็น ผูว้ เิ ศษนัน่ แหละ มันเป็นไปไม่ได้ ปัญหาหลายปัญหา มันมีขั้นตอนของมัน แล้วแต่ละขั้นตอน ก็ยังมี ประเด็นปลีกย่อย เงื่อนไขที่จะทำให้สำเร็จอีกล่ะ
เราเชือ่ ว่าอินเทอร์เน็ต คือเครือ่ งมือทีย่ งิ่ ใหญ่ ที่จะระดมกำลังคนได้ แต่ประชาชนก็ต้อง สนใจด้วยว่าปัญหา คืออะไร ไม่ใช่วันๆ ก็กดไลค์โน่นไลค์นี่ แล้วมันก็ไม่มีอะไร เกิดขึ้นไง
การจัดรายการเพื่อปฏิรูปประเทศก็อาจจะเป็นแค่ หนึง่ ในร้อยๆ ขัน้ ตอนทีจ่ ะต้องทำ ดังนัน้ มันก็ไม่ได้ ช่วยอะไรมากนัก คือเรื่องแบบนี้เราต้องเข้าใจภาพ ใหญ่ด้วย หรือบางทีไปรู้มาว่าบริษัทแห่งหนึ่งไป ปลูกป่าล้านไร่ แล้วถามต่อว่าจะยังไงกับข้อมูลนีด้ ?ี เมือ่ รูว้ า่ เขาปลูกป่าล้านไร่ ก็แปลว่าปัญหาป่าไม้ของ ประเทศไทยมันดีแล้วใช่ไหม ตกลงเราไม่มีปัญหา เรื่องป่าไม้เสื่อมโทรมแล้วหรือ มันก็ไม่ใช่ ดังนั้น เราก็ตอ้ งไปดูสวิ า่ ปัญหามันก็ยงั อยู่ แล้ววิธแี ก้ปญ ั หา ที่แท้จริงคืออะไร? มันก็จะเกิดการสืบสาวไปพบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้อาจจะอยู่อย่างลำบาก ไม่มีกำลัง พอทีจ่ ะดูแล นีค่ อื การยกตัวอย่างว่า ทุกคนในสังคม มันต้องสนใจกันแบบนี้ไง แล้วจะได้เห็นว่าบทบาท ของแต่ละคนมันทำอะไรได้บา้ ง เราเชือ่ ว่าอินเทอร์เน็ต คื อ เครื ่ อ งมื อ ที ่ ย ิ ่ ง ใหญ่ ท ี ่ จ ะระดมกำลั ง คนได้ แต่ประชาชนก็ต้องสนใจด้วยว่าปัญหาคืออะไร ไม่ใช่วันๆ ก็กดไลค์โน่นไลค์นี่ แล้วมันก็ไม่มีอะไร เกิดขึ้นไง
คุณคิดว่าประเทศเรากูรูเยอะไหม
เยอะเกินไปด้วย แล้วคำถามคือ บางคนนี่มัน จะเป็นไปได้ยังไงที่จะเป็นกูรู (หัวเราะ) ยกตัวอย่าง ง่ายๆ นะ อย่างโซเชียลมีเดียเพิง่ เกิดในบ้านเราเมือ่ ไม่กป่ี เี อง อยูด่ ๆี ก็เกิดกูรโู ซเชียลมีเดียเต็มเมืองเลย เป็นไปได้ยังไง? มาจากไหนกัน อย่างเราเองก็เถอะ เวลาไปบรรยายให้องค์กรบางแห่งฟัง เขาก็จะใส่ ในตำแหน่งว่าเป็นโซเชียลมีเดียกูรู แล้วเราก็จะงง
15
ว่า เฮ้ย เราไม่ใช่กูรู เราแค่สนใจเรื่องโซเชียลมีเดีย และใช้คอมพิวเตอร์เป็นเองนะ แค่นี้เรียกว่ากูรูแล้ว เหรอ คือเราว่าสังคมเราให้ตำแหน่งกูรกู นั เฟ้อเกินไป มันก็เป็นปัญหาเดียวกับที่ว่าทำไมเมืองไทยถึงมี ดอกเตอร์เดินกันเต็มบ้านเต็มเมือง ทำไมประเทศอืน่ ไม่เป็นอย่างนี้ คุณไปดูสิ สัดส่วนดอกเตอร์ต่อหัว ในประเทศไทยนีโ่ คตรเยอะเลยนะ แล้วนีเ่ ป็นดัชนีชว้ี ดั ว่าประเทศไทยเก่งทีส่ ดุ เหรอ? จะเห็นได้วา่ ดัชนีชว้ี ดั ต่างๆ ในบ้านเรามันไม่ได้สะท้อนอะไรเลย แล้วมัน ก็นำไปสูป่ ระเด็นว่า เมือ่ มีกรู เู ยอะ เราก็ไปเชือ่ กันเยอะ แล้วเราก็ไม่สนใจค้นคว้าอ่านหนังสือ คนเป็นกูรถู งึ ได้ อยู่ได้ไง กูรูก็เลยได้รับการยอมรับ แต่ถ้าสังคมเรา เป็นสังคมทีม่ สี ติและวิจารณญาณ คนทัว่ ไปมีทกั ษะ ในการคิดและวิเคราะห์เป็นไม่วา่ จะรับสารมาจากไหน ก็แยกแยะ ประเมินผลเองได้ ถ้าสังคมเราทำแบบนีไ้ ด้ กูรูที่ไม่ใช่กูรูที่แท้จริงก็จะอยู่ยาก เพราะทุกวันนี้ บ้านเรามีกูรูที่ไม่จริงอยู่เยอะมากๆ ยกตัวอย่างใน วงการตลาดทุนเอง ซึง่ เราก็รใู้ นระดับทีม่ ากพอสมควร และคุณแม่ก็เป็นนักการเงินมืออาชีพมาตลอดชีวิต ก็รวู้ า่ ในแวดวงนีเ้ ป็นอย่างไร หนังสือบางฉบับเลือก คนทีเ่ ป็นนักปัน่ หุน้ มาขึน้ ปก แล้วบอกว่าเป็นนักธุรกิจ ที่เก่งกาจ เราก็คิดว่า ขนาดวงการนี้เป็นอย่างนี้ วงการอื่นก็น่าจะคล้ายๆ กัน เวลาดูคนออกสื่อนี่ดู ง่ายๆ เลย คนทีอ่ ยากออกสือ่ เยอะๆ ธรรมชาติทว่ั ไป ก็คือ อยากมีชื่อเสียง อยากให้คนรู้จัก แล้วก็อยาก จะพูดแต่ด้านดีของตัวเอง คุณอาจจะร่ำรวยมาได้ ด้วยการจ่ายใต้โต๊ะนักการเมือง 10 คน แต่คุณจะ พูดอย่างนัน้ ทำไม คุณก็ตอ้ งบอกว่าคุณปากกัดตีนถีบ มาสิ แต่ขณะทีค่ นทีเ่ ขาทำงานจริงๆ เขาก็แค่ทำงาน ไปสิ วันๆ เขาคงไม่มวั แต่ไปคิดหรอกว่าควรจะออก ช่องไหนดี ยกเว้นคนทีเ่ ขาทำงานด้วยเจตนารมณ์ทด่ี ี ทำงานเพือ่ สังคมอยู่ แล้วอยากจะชีแ้ จงหรืออธิบาย ให้ประชาชนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น แบบนี้โอเค แต่ เราไม่โอเคกับคนที่สร้างแบรนด์ให้ตัวเองเป็นกูรู เรือ่ งใดเรือ่ งหนึง่ เพราะในสังคมทีป่ ราศจากการคาน อำนาจและตรวจสอบ มันอันตราย อย่างหลายบริษทั ทำพีอาร์วา่ ได้ทำ CSR แบบนีแ้ บบนัน้ เต็มไปหมดเลย ซึง่ มันไม่เป็นไรเลยถ้าสือ่ มวลชนในประเทศนีน้ ำเสนอ ข่าวอย่างรอบด้านได้ ตรวจสอบเขาได้ตรงไปตรงมา รัฐบาลก็ทำงานด้วย สมมติเขาบอกว่าเขาทำ CSR หมูบ่ า้ นนี้ แต่เราสามารถไปตรวจสอบทีก่ รมควบคุม มลพิษแล้วรู้ได้ว่า บริษัทนี้ปล่อยน้ำเสียปีละกี่ตัน แล้วนำเสนอให้สังคมรู้ได้ แบบนี้ไม่มีปัญหา เพราะ ถือว่าสังคมได้ข้อมูลทุกด้าน ได้รู้ว่าบริษัทนี้เป็น อย่างไรกันแน่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ สังคมหรือ ประชาชนได้ข้อมูลทางเดียวคือจากการออกสื่อ อย่างจงใจของเขา นีไ่ ม่ได้เป็นปัญหาแค่ระดับบริษทั แต่เป็นปัญหาของ So Called Guru หรือคนที่เรา เรียกว่าเป็นกูรอู กี หลายๆ คน ในประเทศเลย เพราะ เราไม่มีการตรวจสอบ ซึ่งสังคมที่จะพัฒนาไปได้ มันต้องเป็นสังคมทีม่ คี วามโปร่งใส คานอำนาจกันได้
มาพูดเรื่องสังคมโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กบ้าง ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันกำลังบอกว่า เรากำลั ง อยู่ บ นรถด่ ว นหรื อ รถไฟสายนี้ อ ย่ า ง ถูกทางไหม
คือก่อนอืน่ เราคิดว่าสือ่ เหล่านีม้ นั ก็ไม่ใช่รถด่วน เสียทีเดียวนะ เราว่าปัญหาหนึ่งคือ เวลาเรามอง อะไรก็แล้วแต่ทเ่ี กิดในอินเทอร์เน็ต เรามักจะมองว่า มันจะนำเราไปสูอ่ ะไร อย่าไปมองอย่างนัน้ เลย เพราะ มันไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ถูกต้องเลย ถ้าจะเปรียบ ว่าเป็นรถด่วนรถไฟ มันต้องเอาไปเปรียบเทียบกับ การตั้งรัฐบาลแล้วว่า เมื่อเขาเข้ามาแล้ว เขาจะพา ประเทศไปทางไหน นำไปสู่อะไร เพราะรัฐบาลเป็น คนขับรถไฟไง แต่ในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ใครเป็นคน ขับรถไฟล่ะ? ไม่มีนะ มันคือ platform คือสถานที่ที่ ทุกคนไปใช้ไง หรือเอาเข้าจริงแล้วมีเดียเหล่านี้มัน ก็คอื ป่าอยูด่ นี แ่ี หละ เพราะมันก็มเี ฟซบุก๊ ทีม่ แี ต่เรือ่ ง ตลกๆ ไปจนถึงการรณรงค์เรื่องกฎหมาย ดังนั้น มันอยู่ที่คุณจะเข้าใจเครื่องมือเหล่านี้ได้หรือไม่ว่า มันมีผลอะไรกับเรา เพราะเครือ่ งมือมันไม่ใช่ยาวิเศษ หรืออะไรที่เราจะใช้มันโดยที่มันไม่ใช้เรา ทุกอย่าง มันมีปฏิสัมพันธ์กันไปหมด ถ้าคุณใช้เงินไปเรื่อยๆ
มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะไม่มีผลกระทบอะไร จากการใช้เงิน (หัวเราะ) เหมือนกัน ถ้าคุณใช้ อินเทอร์เน็ตเยอะๆ มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะ ไม่กระทบอะไรคุณ หรือมีเดียอะไรก็ตามเถอะ มันอยู่ ที่ว่าคุณเข้าใจแค่ไหนว่ามันจะมีผลกระทบอย่างไร เราชอบตอนจบของหนังเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์กมากๆ ที่ซักเกอร์เบิร์กพยายาม add friend ไปหาแฟนเก่า แล้วก็ทำหน้าไม่แน่ใจว่าเขาจะตอบรับไหม แล้วก็ refresh ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆ ที่หน้าจอเฟซบุ๊กตัวเอง มีเพือ่ นเป็น 500 ล้านคน นีค่ อื คำถามทีม่ าถึงทางแยก เลยว่า เราคิดไหมว่า ลำพังการมีเพื่อนในเฟซบุ๊ก มันไม่ได้แปลว่าเรามีชวี ติ ทีอ่ บอุน่ มากขึน้ หรือใกล้ชดิ กับเพื่อนมากขึ้น มันไม่ได้อัตโนมัติขนาดนั้น ไม่ใช่ กดเป็น Friends แล้วมันจะเป็นเพือ่ นกันเลย ประเด็น หนึง่ ทีเ่ ราควรมองคือ เวลาเกิดเทคโนโลยีทม่ี นั กระตุน้ ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงอะไรสักอย่าง คนก็จะแตกฮือ แล้ ว ก็ จ ะไปมองมั น ว่ า เป็ น สิ ่ ง ที ่ ม ี เจตนาในการ ทำอะไรสักอย่าง อย่างมีการลุกฮือประท้วงในโลก อาหรับ สือ่ ก็พาดหัวเลยว่า โซเชียลมีเดียเปลีย่ นโลก จริงๆ ตัวโซเชียลมีเดียไม่ได้เปลีย่ นโลก คนต่างหากที่ เปลี่ยนโลก แต่จะบอกว่าคนเปลี่ยนโลกโดยไม่ได้ ใช้โซเชียลมีเดียเลยก็ไม่ถกู เพราะถ้าไม่มสี ง่ิ เหล่านี้ เขาก็อาจจะเรียกไปชุมนุม ไปประท้วงกันไม่ได้ คือ เราอย่าไปดูอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทุกอย่างมันก็ ต้องเปลีย่ นไปด้วยกัน ไม่ใช่วา่ เทคโนโลยีอย่างเดียว มันจะก่อให้เกิดอะไรได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าคนที่ ใช้ใช้มันอย่างไร สร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์มาก กว่ากัน เท่าที่เราดูตอนนี้เราก็ว่าสังคมก็ใช้โซเชียล มีเดียที่ตรงกับเจตนารมณ์ของคนทำโปรแกรมที่สุด แล้วคือ ใช้ในการพูดคุยสัพเพเหระ แชร์รูปต่างๆ นานา หาเพื่อนใหม่ คือมันก็เป็นฟังก์ชันพื้นฐาน แต่ประเด็นทีน่ า่ สนใจคือ มันมีศกั ยภาพมากกว่านัน้ เยอะที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ หลังจากที่มัน สามารถทำให้คนมารวมตัวกันได้ มันอยู่ที่ว่าเมื่อมี การรวมตัวกันแล้วจะทำอย่างไรต่อ การมีแค่คนมา คลิกไลค์ มันไม่ได้บอกอะไร เพราะคนทีค่ ลิกอาจจะ แค่ชอบคลิกทุกอย่างทีข่ วางหน้าก็ได้น่ี อย่าไปอะไร มาก (หัวเราะ) เรื่องเหล่านีถ้ อื เป็นแค่ขอ้ มูลทีค่ ณ ุ ต้อง แปรผลให้ถูกต้องด้วย การที่คนกดไลค์บริษัทคุณ เพือ่ ร่วมมือกันบริจาคเงิน ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขารัก บริษทั คุณมากมายนะ เหมือนทีน่ กั การตลาดท่านหนึง่ คือ คุณวรวิสทุ ธิ์ เขียนวิเคราะห์ไว้ใน กรุงเทพธุรกิจ ว่า Influencer ต่างจากคนทีป่ อ๊ ปปูลาร์นะ เพราะคน ทีม่ แี ฟนๆ ติดตามเป็นล้าน ก็อาจจะเพราะเขาติดตาม เพราะคุณดัง เป็นดารา มีคนรูจ้ กั แต่ไม่ได้หมายความ ว่าดาราคนนัน้ พูดอะไรแล้วเราต้องไปทำตามทุกอย่าง แต่ปัญหาสำคัญมันก็อยู่ตรงนี้แหละ คือการ แยกแยะข้อมูล และการวิเคราะห์ที่เราต้องมีทักษะ ให้มากพอที่จะใช้มันกับเครื่องมืออย่างโซเชียล มีเดียเหล่านัน้ เป็น ไม่อย่างนัน้ เมือ่ รูอ้ ะไรมา เราก็จะ ส่งต่อข้อมูลกันอย่างแตกตืน่ ทำให้สงั คมเพิม่ ความ ดรามามากขึ้นไปอีก C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
ติดตามอ่านผลงานการคิดและการเขียนแบบ เข้มข้นของเธอได้ใน www.fringer.org
16
GADGET
SHOW
Sony HDR-TD10
“ใครเอาหัวของเจ้าหุ่น Wall-E มาตั้งไว้ตรงนี้!” เชื่อว่าคงเป็นคำถามแรกของหลายๆ คนที่ได้เห็น Sony HDR-TD10 ตัวนี้ แต่ความจริงแล้วมันคือกล้องถ่ายวิดีโอตัวล่าสุด ของโซนี ที่ออกแบบมาให้มีเลนส์คู่ถึง 2 เลนส์ เพื่อใช้ถ่ายภาพยนตร์ในรูปแบบ 3D ต่างหาก (ว้าว!) พร้อมอัดเทคโนโลยีสุดล้ำมาให้กันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกภาพ แบบ Full HD ที่พ่วงความสามารถในการซูมภาพได้สูงสุดถึง 10 เท่า (ในโหมด 3 มิติ) ระบบออโต้โฟกัสพร้อมแฟลชและไฟส่อง ถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุด 7 ล้านพิกเซล และ เมมโมรีในตัวที่ให้ถึง 64 GB (ซึ่งคุณสามารถใส่การ์ดความจำแบบ Memory Stick PRO Duo และ SD Card เพิ่มได้อีก) สำหรับการใช้งานก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะใช้ การสัง่ งานผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.5 นิว้ (ซึง่ คุณสามารถดูภาพแบบสามมิตไิ ด้ทนั ทีผา่ นจอนีโ้ ดยไม่ตอ้ งใช้แว่นอีกด้วยนะ) อ่านถึงตรงนีน้ กั ทำหนังสัน้ มือใหม่หรือผูก้ ำกับหนัง มือเก๋าคงเริ่มปิ๊งไอเดียใหม่ๆ กันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นลองไปสัมผัสกล้องถ่ายวิดีโอ 3 มิติตัวนี้กันได้เลยในราคา 45,000 บาท
MOVIE
CLOTHES
‘FIN’ the Fetishism Story Performance
Source Code
ห น ั ง แ อ ็ ก ช ั น - ไซ ไฟ ลุน้ ระทึก ทีว่ า่ ด้วยการเดินทาง ข้ามเวลาเพื่อกลับไปในอดีต อี ก ครั ้ ง โดยมี เ วลาเพี ย ง 8 นาทีเท่านั้น คำถามก็คือ ถ้าเป็นคุณ จะใช้เวลา 8 นาที ที่ว่านี้เพื่ออะไร แต่สำหรับ กัปตัน โคลเตอร์ สตีเวนส์ เขาต้ อ งใช้ เ วลานี ้ ส ื บ หา คนร้ า ยที ่ ล อบวางระเบิ ด รถไฟ ในขณะเดี ย วกั น อี ก ใจหนึ ่ ง ก็ ต ้ อ งการปกป้ อ ง คนที่เขารักไปด้วย หนังได้ นั ก แสดงหนุ ่ ม หล่ อ อย่ า ง เจค จิลเลนฮาล มารับบท เป็นโคลเตอร์ ที่ต้องเดินทาง ย้อนเวลาซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อ ค้ น หาผู ้ ก ่ อ การร้ า ยให้ เจอ ขณะที ่ มิ เ ชล โมนาแกน รั บ บทเป็ นคริ ส ติ น า หญิ ง สาวที่ทำให้เขาหลงรัก และ เป็นจุดเปลี่ยนในปฏิบัติการ ครัง้ นี ้ แถมยังอำนวยการสร้าง โดย มาร์ก กอร์ดอน ที่เคย ประสบความสำเร็จมาแล้ว จาก Saving Private Ryan และล่าสุดกับ 2012 จึงรับรอง ได้ ว ่ า ปฏิ บ ั ต ิ ก ารข้ า มเวลา คราวนี้จะทำให้คุณแทบลืม หายใจ ร่ ว มย้ อ นเวลาเพื ่ อ ไปพบกับความระทึก และ เหตุการณ์หักมุมสุดคาดเดา ได้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
French Connection (FCUK) Spring/Summer 2011
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะแต่งตัวเรียบๆ แต่สามารถเท่ไปด้วยได้ในเวลาเดียวกัน เราขอนำเสนอทางเลือกที่จะทำให้คุณกลายร่าง เป็นหนุม่ เท่แบบไม่ ‘เยอะ’ จนเกินไป ด้วยเสือ้ ผ้าทีน่ ำเอาเอกลักษณ์ของ ‘โปโล’ กีฬาประจำสหราชอาณาจักรมาเป็นแรงบันดาลใจ โดยหยิบยกสีธรรมชาติแบบเอิร์ธโทนมาเป็นสีพื้น แล้วเรียกร้องความสนใจด้วยสีสันสะดุดตาอย่างเหลืองมัสตาร์ด เขียว หรือแดง ที่มากับลูกเล่นลายขวาง และตัวเลข ทำให้คุณดูไม่เนี้ยบจนเกินไป เหมาะสำหรับวันสบายๆ ที่แสนสดใส นอกจากนี้ในส่วนของ ชุดทำงานก็ยังเลือกใช้เนื้อผ้าคุณภาพเยี่ยม แต่ไม่ลืมที่จะเพิ่มดีกรีความแข็งแรงที่เป็นตัวกระตุ้นให้คุณอยากจะลุกขึ้นมาทำโน่น ทำนี่ตลอดเวลา แถมท้ายด้วยลูกเล่นด้วยการฟอกสี ปักหมุด กระดุมโลหะ ลายตารางแบบไล่เฉดสี ซึ่งรับรองได้ว่าคุณจะกลาย เป็นหนุ่มฮอตประจำซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน
MUSIC
Two Door Cinema Club : Tourist History
“เป็นวงดนตรีร็อกที่เจ๋งครับ! เพลงของเขาทำให้เรารู้สึกถึงความซน ความสนุก และในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เราเห็นมุมมองอะไรหลายๆ อย่างในตัวของศิลปิน ซึ่งนอกจากเรื่องเพลงแล้ว เอ็มวีของเขาก็เจ๋ง ด้วย ถ้าได้ดู MV ของเขาเราจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่า มันเป็นอะไรที่เสริมตัวเพลงอย่างมาก โดยเฉพาะเพลง Something Good Can Work ที่อยากให้ลองฟังกันดู นอกจากจะเป็นเพลงที่มีเมโลดี้อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าให้ความรู้สึกซนๆ แต่ยังให้ความรู้สึกเท่อยู่ในเพลงด้วย รับรองว่าต้องชอบกันทันทีเหมือนเราอย่างแน่นอน และวงนี้ก็ถือเป็นวงดนตรีวัยรุ่นที่กำลังมา เพราะได้รับการพูดถึงเยอะจากต่างประเทศ นอกจาก MV ของ พวกเขาที่สวยจริงๆ แล้ว วงดนตรีวงนี้ก็ถือว่าเป็นวงที่เก่งใช้ได้เลยครับ” เลือกให้โดย : ‘พิช’ - วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล นักร้อง และนักแสดง
ใครที ่ ก ำลั ง มองหางาน Performance Art ที่มีเนื้อหา เข้ ม ข้ น และพร้ อ มจะเหวี ่ ย ง คุ ณ เข้ า ไปโลกของอารมณ์ ความลับ และความรู้สึก เรา ขอแนะนำ ‘FIN’ the Fetishism Story Performance งานศิลปะ ในรูปแบบของการแสดงที่ผสม ผสานงาน motion graphic และ animation ซึ ่ ง ได้ แ รง บันดาลใจมาจากเรื่องสั้นของ นักเขียนชื่อดัง โตมร ศุขปรีชา ที่นำเสนอเรื่องราวของ บ.ก. แฟชัน่ หญิงสุดแกร่งกับชายหนุม่ แมนเกินร้อย และความปรารถนา จากเบื้องลึกที่นำพวกเขามา เกี ่ ย วข้ อ งกั น ในเมื อ งใหญ่ พร้อมเรื่องลับๆ ของเด็กเนิร์ด และหญิงสาวชาวเมืองที่มีมิติ อันหลากหลาย ให้คณ ุ ได้ขบคิด และวิเคราะห์ผ่านประเด็นคมๆ อย่ า ง ‘แท้ จ ริ ง แล้ ว ความสุ ข ที่แท้จริงของผู้หญิงคืออะไร?’ จองบั ต รได้ ท ี ่ www.banana booking.com หรื อ หมายเลข 08-1173-2097 ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 เมษายน 2554 (สามารถ ดู ต ั ว อย่ า งก่ อ นได้ ท ี ่ http:// youtu.be/YQu-CAcZFHI)
BOOK
A Brief History of Tea : ประวัติศาสตร์โลกในถ้วยชา
เติมรสชาติให้การจิบชายามบ่ายของคุณด้วยหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของใบชาผ่านเด็กหนุ่มวัย 21 ปี ที่เขาค้นพบว่า นอกจากชา จะทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย หรือช่วยกำจัดสิ่งกีดขวางในม้ามของคนเราแล้ว ชายังมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับเรื่องราวของการสูญเสียอาณานิคม รวมไปถึงการเสพติดชาของคนอังกฤษจนเป็นเหตุที่นำไปสู่การทำสงครามกับประเทศจีนอีกด้วย พร้อมทั้งเกร็ดความรู้รอบตัวเกี่ยวกับประเภทของชา เกรดของใบชา รวมถึงวิธีการปลูกชากว่าหลายร้อยตารางไมล์ที่ต้องแลกมาด้วยความทุกข์ยากของคนในท้องถิ่นกว่าจะเก็บเกี่ยวและแปรรูปชาให้เป็น สินค้า จนไปสู่การเป็นธุรกิจข้ามชาติ ให้เราอ่านเป็นความรู้เพิ่มได้อีก เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง รับรองว่าครั้งต่อไปที่ดื่มชา คุณจะมองเจ้าชา กาเล็กๆ แตกต่างไปจากที่เคยอย่างแน่นอน (จริงๆ นะ)
17
RESORT
Naithonburi Beach Resort
“ในทอนบุรี บีช รีสอร์ต ตั้งอยู่บนชายหาดที่ผมถือว่าเงียบมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะภูเก็ต แต่อยู่ใกล้สนามบินนิดเดียว คือใช้เวลาเดินทางจาก สนามบินเพียงแค่ 10 นาที เท่านั้น ซึ่งเหตุผลที่บริเวณนี้ค่อนข้างสงบก็คือ คุณต้องข้ามเขาไปก่อนแล้วค่อยลงไปถึงจะเจอกับชายหาดและรีสอร์ต แห่งนี้ และราคาที่พักก็กำลังดี คือเป็นราคาที่คนไทยอย่างพวกเราเข้าพักได้อย่างสบาย ตกคืนละประมาณ 1,000-2,000 บาท แต่อาจจะต้องจอง ล่วงหน้ากันสักหน่อย เพราะบางทีรีสอร์ตก็จะถูกลูกค้าชาวต่างชาติจองไว้จนเต็มด้วยความที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ อีกอย่างที่อยากแนะนำ ก็คือ ถ้าคุณนั่งเรือหางยาวออกจากหาดไปประมาณ 20 นาที คุณจะได้เจอกับเกาะเล็กๆ แบบที่เราเคยเห็นตามหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะให้ได้ลอง ไปเที่ยวกันด้วยครับ” รายละเอียดเพิ่มเติม www.naithonburi.com เลือกให้โดย : อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ผู้กำกับภาพยนตร์
SWEET
Scones
สำหรับใครทีช่ อบจิบชาในร้านน่ารักๆ ทานคูก่ บั ขนมสไตล์องั กฤษ งานนีค้ งต้องมีเฮ เพราะร้าน Scones ที่เป็นอีกหนึ่งผลงานของ ‘เชฟเอ’ - อโณทัย ก้องวัฒนา เจ้าของร้านอาหารมังสวิรัติ อโณทัย ได้มีทุกอย่าง เตรียมไว้ให้คุณหมดแล้ว โดยที่ร้านจะมีสกอนให้เลือกทั้งหมด 7 รส ได้แก่ รสปกติ (plain) กลีบกุหลาบ ดอกอัญชัน ชาเขียวใส่ถั่วแดง ลูกพรุนใส่เปลือกส้ม บลูเบอรี และผิวมะนาว ถ้าหากสั่งทานที่ร้านก็จะมี แยมโฮมเมด และคล็อตเต็ดครีม (Clotted Cream) สำหรับเสิรฟ์ พร้อมสกอนด้วย ขอบอกว่าชาและกาแฟของ ทีน่ ม่ี ใี บรับรองให้ลกู ค้าดูดว้ ยว่าปลูกด้วยวิธอี อร์แกนิกอย่างแน่นอน แถมยังเป็นชาสมุนไพรทีไ่ ด้กลิน่ ก็สดุ แสน จะอโรมาติก หากใครกำลังมองหาร้านชาคู่กับขนมหวาน ขอแนะนำให้ไปลองที่ร้าน Scones เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2 โซน A เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.30 น. ถ้าหาร้านไม่เจอ โทร.ไปได้เลยที่ 08-1869-9045
RESTAURANT
ACCESSORY
Tudari
ร้ า นอาหารเกาหลี ร สชาติ ต ้ นตำรั บ ที ่ ส ร้ า งตำนานความอร่ อ ยมากว่ า 20 ปี กั บ 2,000 สาขา ทัว่ ประเทศเกาหลี และตอนนีก้ ำลังจะมาสร้างตำนานความอร่อยในเมืองไทยกับเมนูอาหารเกาหลีทห่ี าทาน ไม่ง่ายอย่างเนื้อไก่ผัดเผ็ดอบชีส ที่นำไก่มาผัดกับซอสเกาหลีรสชาติจัดจ้าน เพิ่มความเหนียวหนึบของชีส ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวสุดๆ เสริมความเผ็ดร้อนด้วยการเสิร์ฟบนกระทะร้อน รับรองว่าอร่อยเด็ด แบบสุดๆ ที่เด็ดกว่านั้นก็คือเมนูอาหารเสียบไม้ ทั้งไก่ย่างกับต้นหอมญี่ปุ่น ลูกชิ้นไก่ทอดย่างเห็ดเข็มทอง ห่อเบคอน ฯลฯ ส่วนถ้าใครอยากจะลองเมนูยอดฮิตอย่างบิบิมบับ (ข้าวยำเกาหลี) หรือจาจังเมียน (บะหมี่ดำ) ที่นี่ก็มีเช่นกัน และปิดท้ายด้วยของหวานสูตรพิเศษอย่างฮันนีเบรด ที่เสิร์ฟขนมปังชิ้นเบ้ง ชุ่มน้ำผึ้งและเนย ตัดความหวานด้วยไอศกรีม รับรองว่าจะเป็นมื้อเด็ดอีกหนึ่งมื้อในชีวิต ทูดาริ ตั้งอยู่ที่ Seen Space ทองหล่อ 13 โทร. 0-2185-2388-9
GIVE
สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์
เดีย๋ วนีห้ ลายคนคงบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าสภาพอากาศในบ้านเรานัน้ แสนจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ จนต้องขุดเอาเสื้อกันหนาวมาใส่ต้อนรับวันสงกรานต์กันเลยทีเดียว แต่ที่หนักหนากว่านั้นคือ พี่น้อง ชาวใต้ที่กำลังประสบอุทกภัยจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานที่คอยช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความทุกข์ยากจากภัยพิบัติเสมอมาก็คือ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทีม่ ที ม่ี าจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ผูพ้ ระราชทานกำเนิดมูลนิธเิ พือ่ การช่วยเหลือ ประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที โดยคนไทยทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ด้วยการบริจาคเงินผ่านทางบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ชื่อบัญชี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เลขที่บัญชี 401-636319-9 โทร. 0-2281-1902 หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.rajaprajanugroh.org
Nautica NSR-04
เพราะนาฬิกาไม่ได้มีหน้าที่แค่บอก เวลาอย่ า งเดี ย วเท่ า นั ้ น แต่ ม ั นกลาย เป็นเหมือนเครื่องประดับประจำกาย ที่ขาดไม่ได้สำหรับหนุ่มสมัยใหม่ เราจึง ขอแนะนำนาฬิกาคอลเล็กชันใหม่ที่จะ เพิ ่ ม ความเฉี ย บ และเรี ย บหรู ให้ ก ั บ หนุ่มๆ ในซัมเมอร์นี้ ด้วยการออกแบบ ที ่ ได้ ร ั บ แรงบั นดาลใจจากมหาสมุ ท ร และเกลียวคลื่น เพราะฉะนั้น มันจึง เต็มไปด้วยความลื่นไหลในแบบฉบับ ที ่ ล งตั ว แล้ ว ยั ง มาพร้ อ มกั บ ความ กระฉั บ กระเฉงสไตล์ ห นุ ่ ม สปอร์ ต ที ่ ไม่หยุดนิง่ อยูก่ บั ที ่ แถมด้วยดีไซน์ฉลาดๆ อย่างเข็มบอกวันในตำแหน่ง 9 นาฬิกา และครึง่ วงกลม 2 วงซ้อนกันในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ที่แสดงวันที่แบบเท่ๆ และ เพิ่มประสิทธิภาพในการกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร สอบถามรายละเอี ย ด เพิ่มเติมที่ 0-2229-7255 หรือ www. cmg.co.th
CALENDAR
18
8 - 14 APRIL 2011
FRI
MON
TUE
WED
THU
เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์
อัศจรรย์ วันสงกรานต์ สุพรรณบุรี
ประเพณีสงกรานต์ กรุงเก่า
ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เจียงใหม่
ร่วมสนุกกับกิจกรรม ส ง ก ร า นต ์ ร อ บ เ ก า ะ รัตนโกสินทร์ อาทิ จำลอง สงกรานต์ 4 ภาค สรง น้ำพระ การแสดงทาง วัฒนธรรม กิจกรรมไหว้ พระ 9 วัดประจำรัชกาล และพระอารามหลวง ฯลฯ (ผูเ้ ข้าร่วมงานขอรับ Passport เพือ่ ประทับตรา ครบทุกวัด เพื่อขอรับ ของที่ระลึกได้ที่วัดโพธิ์ บริ เวณด้ า นหน้ า วิ ห าร พระนอน)
ร่วมสนุกกับประเพณี สงกรานต์สไตล์สพุ รรณบุรี กับกิจกรรมทางประเพณี มากมาย อาทิ ขบวนแห่ สรงน้ำหลวงพ่อโตทองคำ และสิ ่ ง ศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ข อง จ ั ง ห ว ั ด ส ุ พ ร ร ณ บ ุ ร ี ประกวดสุนทรพจน์สำเนียง เสียงเหน่อเมืองสุพรรณบุรี คอนเสิ ร ์ ต เพลงลู ก ทุ ่ ง ศิลปินสุพรรณบุรีคืนถิ่น ฯลฯ วันนีถ้ งึ 14 เมษายน 2554 บริเวณถนนเณรแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี
ร่วมสนุกกับประเพณี ส ง ก ร า น ต ์ ก ร ุ ง เ ก ่ า พ ร ะ น ค ร ศ ร ี อ ย ุ ธ ย า ทำบุญตักบาตรหน้าวิหาร พระมงคลบพิตร ปล่อยนก ปล่อยปลา รดน้ำขอพร ผูส้ งู อายุ เล่นน้ำสงกรานต์ กับช้าง และชมประเพณี แห่หงส์ ธงตะขาบ ฯลฯ ณ วัดทองบ่อ ตำบล เสากระโดง และรอบเกาะ เมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ร่วมสนุกกับประเพณี สงกรานต์ส ไตล์ล ้ านนา กั บ กิ จ กรรมมากมาย อาทิ ขบวนแห่การประกวด แม่หญิงขี่รถถีบกางจ้อง ขบวนแห่ขนทรายเข้าวัดไม้คำ้ สะหลี ขบวนแห่และ สรงน้ ำ พระพุ ท ธสิ ห ิ ง ค์ ฯลฯ วันนีถ้ งึ 15 เมษายน 2554 บริเวณทั่วเมือง เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
Spiritutainment
นิทรรศการ ‘ศาสนหรรษา’ การแสดงผลงาน กลุ ่ ม จากศิ ล ปิ น หลาก เชื ้ อ ชาติ แ ละศาสนา โดยภัณฑารักษ์ ปราบดา หยุ่น กับการตั้งคำถาม ถึ ง บทบาทของความ บันเทิงในวิถีทางศาสนา โดยเปิดประเด็นเกี่ยวกับ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง ศาสนาและความบันเทิง ซึง่ หลายคนอาจเชือ่ กันมา แต่ไหนแต่ไรว่าเป็นเรื่องที่ ไม่ควรอยู่ร่วมกัน วันนี้ถึง 15 พฤษภาคม 2554 (พฤหั ส บดี - อาทิ ต ย์ ) ณ 100 ต้นสน แกลเลอรี
9 10 SAT
SUN
2011 SSMS Orchestra Concerts
Young Thai Artist Award
การแสดงความ สามารถของกลุม่ เยาวชน ค่ า ยดนตรี ฤ ดู ร ้ อ นจาก โครงการเรี ย นดนตรี ว ิ ธ ี ศิลปากร (SSMS) โดยได้ รับเกียรติจาก ฮิโคทาโร ยาซากิ วาทยากรชาว ญี่ปุ่น เป็นผู้ฝึกซ้อมและ อำนวยเพลง วันนี้ เวลา 19.00 น. ณ หอประชุม มหิศร ถนนรัชดาภิเษก จำหน่ า ยบั ต รผ่ า นไทย ทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา
นิ ท รรศการแสดง ผ ล ง า น ข อ ง ส ุ ด ย อ ด ยุวศิลปินที่ได้รับรางวัล ยอดเยี ่ ย มและดี เ ด่ น ‘รางวัลศิลปะเพือ่ เยาวชน ไทย 2553’ (Young Thai Artist Award 2010) ซึ่ง เป็ น การประกวดงาน ศิ ล ปะระดั บ เยาวชนที ่ ใหญ่ ท ี ่ ส ุ ด ในประเทศ วันนี้ถึง 27 เมษายน 2554 ณ ชั้น 1 หอศิลป วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (เว้นวันจันทร์ และวันหยุดสงกรานต์)
čğøëĔüğüĆĘúĘħĆĔâ E ĉ 9/(:&#+8 5"ŮF * +AF )Ŵ-Ŵ <+: +ů +8 :12)9*5=*<# č
Stationery ĐĔüþĆēâĐý÷ňĊąĎüĔèčĚĐ čğøëĔüğüĆĘúĘħĆĔâ ýĕú âĔý RQNMCFQV PQVGDQQM ĠĈē÷ėüčĐģĄňĈĕąéě÷ ĠúŇè ýĕú Ûklm dbm &<F&2 č D01 ãĕąğāĘ 5< 5 ):+< ąè F5Ċ D5K D+*č <!25G2ĉH2Ċ ýĕú
Delivery
<!255&5-F-ĉ 7-7
Q:!:! ĻĩĶĺıķ
OPEN čüĢéøėĐøŇĐ čĬĕüĔâāėĄāŋ RQNMCFQV ġúĆ øŇĐ YYY RQNMCFQVDQQM EQO YYY HCEGDQQM EQO RQNMCFQVDQQM
*: -"E#- +ĉ:
D*K"2)@ Ů 9" +A&=LD Č ĴıijĩŁĪıĶĬĭĺŁů
22
EVERYTHING HAS A STORY TO TELL เรื่อง : อาทิ ตยา อาศิ รวาท ภาพ : กฤตธกร สุ ท ธิ ก ิ ต ติ บ ุ ต ร
วินเซนต์ แวน โกะห์ ศิลปินระดับโลก เคยกล่าว ไว้ว่า “Great things are not done by impulse, but by a series of small things brought together” ซึ่งหมายความว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่นั้นมักไม่ได้ถูกสร้าง มาจากแรงกระตุน้ เพียงอย่างเดียว หากแต่เกิดจาก การรวมกันของสิ่งเล็กน้อยที่ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน อย่างลงตัว Minimal Retro Contemporary คือนิยามที่ วรการ ทิพย์ประภา ซีเนียร์ อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ ชื่อดังแห่ง ORBIT Design Studio เล่าให้เราฟังถึง ส่วนผสมระหว่างความเรียบง่าย ความย้อนยุค แต่กลมกลืนไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน และสไตล์ ของบ้านหลังนี้เองที่สะท้อนถึงความหลากหลาย แต่ลงตัวของเจ้าของบ้าน ที่ยังพ่วงตำแหน่งงานอีก หลากหลาย ทั้งการเป็นช่างภาพกลุ่ม ARTPHOTO ผูค้ ร่ำหวอดในวงการฟิลม์ ขาวดำ และยังเป็นอาจารย์ สอนสถาปั ต ยกรรมของมหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร
และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตอีกด้วย “ในการออกแบบบ้านนัน้ ไลฟ์สไตล์ของผูอ้ าศัย สำคัญมาก คือการจะบอกว่าบ้านนัน้ ต้องออกแบบ ตามฟังก์ชันมันก็ใช่นะครับ แต่ส่วนที่ทำให้บ้านดูมี ชีวติ ชีวาคือไลฟ์สไตล์ของคนทีอ่ ยูใ่ นบ้าน บ้านแต่ละ หลังจึงมีคาแร็กเตอร์ของตัวเองที่เป็นเหมือนกระจก สะท้อนไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านนั้นออกมาได้ อย่างชัดเจน” ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนคุมงานเองทุกอย่าง ของทีน่ ำมาไว้ในบ้านจึงค่อยๆ เลือกมาทีละชิน้ ด้วย ความพิถพี ถิ นั และเพือ่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา อย่างแท้จริง “เนือ่ งจากผมค่อยๆ ทยอยสร้างบ้านหลังนี้ การ เลือกของแต่งบ้านแต่ละชิน้ จึงไม่ได้มาจากทีเ่ ดียวกัน หรือมาจากร้านเฟอร์นิเจอร์เดียวกันทั้งหมด ทำให้ ของทุกชิน้ ในบ้านต่างก็มที ม่ี า ซึง่ ในความคิดของผม ถ้าหากเราซือ้ มาในคราวเดียวกันหมดมันก็จะไม่คอ่ ย
23
เหมือนบ้าน แต่จะกลายเป็นโชว์รมู เฟอร์นเิ จอร์แทน ผมเลยอยากทำบ้านที่รู้สึกว่าอยู่สบายมากกว่า เพราะของทุกอย่างมันใช้ได้จริงๆ อย่างโซฟาหน้าตา คล้ายขนมปังในห้องนั่งเล่น ผมไปเจอที่ร้าน Y50 เห็นทีแรกก็รู้สึกว่ามันใช่มาก มันต้องอยู่ในบ้านเรา นี่แหละ พอลองไปนั่งดูจริงๆ แล้วมันสบายมาก นุ่มมาก ซึ่งโซฟาในห้องนั่งเล่นนั้นผมใช้เวลาใน การเลือกค่อนข้างนาน เพราะเราต้องใช้งานทุกวัน เพราะฉะนั้น ต้องเป็นคำตอบที่ใช่ ชิ้นนี้จึงเป็นชิ้น ที่ผมชอบที่สุด เป็นเนื้อคู่เลย” เมื่อได้เดินชมไปทั่วบ้าน ก็พบว่าเจ้าของบ้าน หลังนีย้ งั เป็นผูห้ ลงใหลในการเดินทาง สังเกตได้จาก ที่ว่างของผนังชั้นสองที่ถูกเติมเต็มด้วยรูปภาพ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วมากมาย โดยเจ้าตัวเล่าว่าเขาลงมือ กดชัตเตอร์ด้วยตัวเองทุกภาพ “ผมเป็นคนชอบเดินทางครับ บ้านหลังนี้เลย เป็นเหมือนพาสปอร์ตเล่มหนึ่ง ที่ข้าวของทุกอย่าง ล้วนมีเรื่องราวของมัน เหมือนเป็นรอยแสตมป์ของ พาสปอร์ตว่ามันมาจากไหน เรื่องราวของมันเป็น อย่างไร และด้วยความที่ผมเป็นช่างภาพมาก่อน จึงชอบถ่ายภาพเวลาไปยังสถานทีต่ า่ งๆ ภาพไหนชอบ ก็อดั ใส่กรอบแขวนไว้บนฝาผนังบ้าน ทำให้ยง่ิ ชัดเจน ไปอีกว่าบ้านหลังนี้เป็นเหมือนพาสปอร์ตที่สามารถ เปิดดูได้ว่าผมผ่านอะไรมาบ้าง ช่วงแรกๆ ก็ชอบ ซื้อของมาเก็บไว้นะครับ แต่พักหลังๆ ต้องรู้จักพอ เพราะมันไม่มที จ่ี ะวาง แล้วจากทีเ่ ป็นบ้านก็จะกลาย เป็นห้องเก็บของไป (หัวเราะ) ดังนั้น ช่วงหลังมานี้ ก่อนทีจ่ ะซือ้ ของสักชิน้ ผมก็จะคิดก่อนว่าเราสามารถ วางไว้ทไ่ี หนได้ แล้วจึงค่อยตัดสินใจซือ้ หรือไม่กจ็ ะ ซื้อเป็นพวกแม็กเน็ตหรือซีดีที่เก็บง่าย และมันยัง ทำให้เราคิดถึงที่นั่นได้อยู่ อย่างผมเป็นคนชอบฟัง เพลง เวลาเราหยิบซีดีจากประเทศไหนมาเปิด เรา ก็จะรูส้ กึ ได้ถงึ กลิน่ อายของประเทศนัน้ ๆ ความทรงจำ มันก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง”
Ansel Adams เมืองทีป่ ระทับใจทีส่ ดุ ตัง้ แต่เดินทางมา - ไวมาร์ ประเทศเยอรมณี เป็นเมือง เงียบๆ แต่มีหลายอย่างที่น่าค้นหา เครื่ อ งดื่ ม แก้ ว โปรดสำหรั บ ปาร์ ตี้ คืนนี้ - โมฮิโต้ คนดังที่สุดปลาบปลื้ม - Irving Penn เพราะเขาสามารถถ่าย ภาพได้ดี ทั้งแนว Still Picture และ Portrait DVD ที่หยิบมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก - Gattaca แนวเพลงที่ฟังไม่มีเบื่อ - Jazz
คาราวานหนังสือเลมใหมจากสำนักพิมพอะบุกทั้ง 6 เลม เดินทางไปยังรานหนังสือชั้นนำในยานไกลและใกลบานคุณแลว เตรียมตัวพบกับ ความรู ความสนุก ความตลกโปกฮาปนสาระ ที่เราตั้งใจสงตรงถึงพลพรรคนักอานโดยเฉพาะ
วางจำหนายแลว!
·ÕèÌҹ˹ѧÊ×ͪÑé¹¹Ó·ÑèÇ»ÃÐà·È ËÃ×ÍÊÑ觫×éÍâ´ÂµÃ§ã¹ÃÒ¤ÒÅ´¾ÔàÈɨҡ a book â·Ã. 0-2726-9996 µ‹Í 49 ËÃ×Í abook9@gmail.com
om line.c n o k .aboo wwwbook.comishing face ookpubl /ab r.com hing e is twitt ookpubl /ab
รวมเรื่องราวอีกจำนวนหนึ่ง ของวิธีการเปลี่ยนโลกใหญๆ ใบนี้ จากกรรมวิธแี ละน้ำมือของคนเล็กๆ อยางชาวอาทิตยอทุ ยั ผลงานลาสุด ในซีรีสรักษโลกของ บ.ก.อะเดย
ใครวาจินตนาการเปนเรื่องจับตอง ไมได แตจากนี้ไป Mister Tompkin จะเลาเรื่องแสนยาก ผานแนวคิด วิทยาศาสตรสังเคราะหงาย อานสนุก
รวมเรื่องสั้นความสัมพันธ หลากชนิด โดยบรรณาธิการ นิตยสารศิลปะ-บันเทิงรายเดือน happening! ...หวังวาเราจะ เขาใจคำคำนั้น
ตนไมใตดวงอาทิตย
จริงตนาการ
หวงคำหนึ่ง
ทรงกลด บางยี่ขัน - 205 บาท
Mister Tompkin - 185 บาท
ANDROID WORKER
ซากะ อาโออิ: สิ่งมีชีวิตในเจแปน
การตูนที่โดนใจเหลามนุษยเงินเดือน มากที่สุด จิกกัดตั้งแตเจานาย เลขานุการ ลูกนองไสแหง เรือ่ ยจนถึงปาแมบา น คอลัมนยอดฮิต ยอดนิยมแหงนิตยสารแจกฟรี a day BULLETTIN
การกลับมาอีกครั้งของนักเขียน ทีเ่ สือ่ มและปวดตับมากทีส่ ดุ คราวนี้ เคาจะพาไปเที่ยวญี่ปุนแบบที่ไมมี หนังสือทองเที่ยวเลมไหนแนะนำ อานแลวซากออยซากะอาโออิ แชแฟบแอบฮาราจูกุ หรือมากกวานั้น ตองลองอานเอง!
ROGER - 195 บาท
ของแต่งบ้านที่ ได้มาแล้วรู้สึก ภูมิใจที่สุด - รูปถ่ายของ
วิชัย - 215 บาท
วิภว บูรพาเดชะ - 175 บาท
มีของตองสำแดง Show Me What You Got
ภูมิชาย บุญสินสุข - 195 บาท
รวมบทความใหขอคิดชีวิตพวง ภาษาอังกฤษแบบใชงายจาก คอลัมนฮิต a an the ในนิตยสาร a day เจาของเดียวกับ ‘ศัพทหมู’, ‘คำวิเศษ’, ‘เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็เชา’ และ ‘i (ไอ)’
24
HEALTH AND HEART
HEALTH
IMPROVE YOUR HEALTH IN EVERY MEAL
ENHANCE YOUR ENERGY
2
หากคุณเริม่ รูส้ กึ ว่าร่างกายของตัวเองถูกใช้งาน หนักราวกับเครื่องจักรที่กดปุ่มเปิดตอนเช้า กว่าจะ ปิดอีกทีตะวันก็ลบั ขอบฟ้าไปแล้ว นัน่ เป็นสัญญาณ ว่าคุณทำงานหนักเกินไป และถึงเวลาแห่งการเพิ่ม พลังให้กับร่างกายเสียที ซึ่งคุณสามารถฟื้นฟูและ สร้างเสริมพลังงานได้ด้วยวิธีง่ายๆ ตามที่ National Jewish Health ระบุไว้ ดังต่อไปนี้ • พยายามทำงานให้ช้าลง โดยเพิ่มความละเอียด ถี่ถ้วนให้มากขึ้น หรืออาจจะผ่อนคลายโดยการ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘คอเลสเตอรอล’ นับเป็นศัตรูตัวฉกาจที่คอยทำร้ายสุขภาพของ เราวันละเล็กวันละน้อย หากเรารับประทาน อาหารอย่างไม่คำนึงถึงสุขภาพในอนาคต ดังนั้น หากคุณไม่อยากเสี่ยงต่อการมีภาวะ คอเลสเตอรอลในเลือดสูง เรามีคำแนะนำจาก The Cleveland Clinic โรงพยาบาลชั้นนำของ สหรัฐอเมริกา ดังนี้ หลีกเลีย่ งการรับประทานอาหารทีม่ ไี ขมัน ชนิดอิ่มตัว ซึ่งพบมากในอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนย นม ชีส น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เป็นต้น และหลีกเลีย่ งอาหารทีป่ รุงโดยการทอด เพราะอาหารเหล่ า นั ้ น คื อ แหล่ ง สะสม คอเลสเตอรอลขนานแท้ หรือไม่คณ ุ อาจเปลีย่ น น้ำมันทีใ่ ช้ทอดเป็นน้ำมันทีม่ ไี ขมันชนิดไม่อม่ิ ตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันจาก พักสายตา เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เพราะการ รีบเร่งมากเกินไป นอกจากจะทำให้เกิดความ ผิดพลาดได้งา่ ยแล้ว ยังทำให้รา่ งกายต้องสูญเสีย พลังงานมากเกินไปอีกด้วย • ค้นหาวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในแต่ละวัน เช่น หาวิธีทำงานที่เหนื่อยน้อย แต่ ปริมาณงานที่ได้ยังคงเดิม และพยายามอย่า ทำงานหนักเกินกว่าทีค่ ณ ุ ได้รบั มอบหมาย เพราะ การทำหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบให้ออกมาดีที่สุด ก็เพียงพอแล้ว • ปรับงานชิ้นใหญ่ให้กลายเป็นโครงการเล็กๆ ด้วยการจัดแบ่งภาระงานออกครึง่ หนึง่ แล้วค่อยๆ
เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น หากคุณจำเป็นต้องรับประทานอาหารทีม่ ี ไขมัน ให้มองหาอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวอัน เป็นมิตรกับสุขภาพ เช่น วอลนัต ทีน่ อกจาก จะมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวแล้ว ยังมีปริมาณ โอเมกา-3 สูงด้วย แต่ในการทานถั่วนี้ไม่ควร ทานในรูปของถัว่ คัว่ ใส่เกลือ เพราะมีพลังงาน สูง และเกลือมากเกินไป หรือจะลองมองหา อะโวคาโดที ่ อุดมไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัว แบบเดีย่ ว จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ลดปริมาณการบริโภคเนื้อแดง และเพิ่ม ปริมาณการรับประทานปลาและสัตว์น้ำที่มี เปลือก ไม่ว่าจะเป็นปู กุ้ง หอยต่างๆ เพราะ นอกจากปลาจะเป็นอาหารบำรุงสมองชัน้ เลิศ อุดมไปด้วยโอเมกา-3 ซึง่ เป็นไขมันคุณภาพสูง ทีร่ า่ งกายต้องการแล้ว ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL และเพิม่ ระดับคอเลสเตอรอล ทำจนเสร็จสมบูรณ์ คราวนีง้ านชิน้ ใหญ่กจ็ ะไม่ทำ ให้คุณต้องหนักใจอีกต่อไป • สังเกตวิธีการหายใจของตัวเอง และกำหนด จังหวะการหายใจเข้า-ออกให้ชา้ ๆ ลึกๆ หลีกเลีย่ ง การหายใจสั้น เพราะจะทำให้ร่ายกายของคุณ ทำงานหนักขึ้น และรู้สึกเหนื่อยง่าย • วางแผนการทำกิจกรรม โดยแบ่งให้มเี วลาสำหรับ การทำกิจกรรมผ่อนคลาย และเพิม่ ช่วงเวลาแห่ง การพักผ่อนอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการ ออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง เล่นโยคะ หรือโยนโบว์ลิง ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
หากเรานำมะละกอสุกบดละเอียด 2 ช้อนชา พอกหน้าให้ทวั่ ทิง้ ไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุน่ ทำเป็นประจำ วันละครัง้ พบว่าผิวหน้าจะเนียนใสขึน้ ทัง้ ยังช่วยลดริว้ รอยบนใบหน้าได้อกี ด้วย
HEART
THE EASY WAYS TO RECHARGE YOURSELF แม้ว่าแต่ละวันของเราต่างไม่ได้ผ่านไปได้อย่าง ง่ายดาย อาจต้องเจออุปสรรค ทำให้เราต้องเหนือ่ ย กาย ไปจนกระทั่งเหนื่อยใจ แต่ขออย่าได้กังวล เพราะเรามี 10 วิธีที่ดีเพื่อลดความเครียด และเพิ่ม พลังใจให้กับตัวเองภายใน 5 นาที มาฝากกัน 1. จัดเตียง เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการสร้างความ มีระเบียบสักเล็กน้อยในชีวติ จะช่วยให้เราตัง้ ต้นด้วย ใจที่สงบได้ เริ่มจากการพับผ้าห่ม และจัดที่นอน ให้เข้าทีอ่ ย่างช้าๆ ก็จะทำให้วนั ทัง้ วันทีเ่ หลือของเรา
มีสติมากขึ้น 2. หยิบขนมติดตัวก่อนออกไปทำงาน อาจจะ เป็นผลไม้ หรือไม่ก็ของว่างเพื่อสุขภาพ เช่น ถั่ว ธัญพืชอบกรอบ เพราะวิธีการนี้จะช่วยให้ยามบ่าย ที่น่าเบื่อดูมีสีสันมากขึ้น ทั้งยังทำให้เราไม่ต้องเสีย เวลาไปกับการหาของว่างจากร้านสะดวกซื้อต่างๆ เพราะมีอาหารสุขภาพอยู่ข้างตัวอยู่แล้ว 3. ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เราอาจจะไม่สามารถ ทำความสะอาดโต๊ะให้เสร็จได้ภายใน 5 นาที แต่
การจัดเก็บสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ บนโต๊ะให้เป็นที่ เป็นทาง ก็ทำให้เรารูส้ กึ ได้ถงึ ความสบายตาสบายใจ อีกทัง้ ยังช่วยกระตุน้ ให้เกิดสมาธิในงานทีท่ ำอยูด่ ว้ ย 4. ผ่อนคลายด้วยเสียงเพลง เนือ่ งจากมีการศึกษา พบว่ า การฟั ง เพลงช่ ว ยลดความความดั น โลหิ ต ลดความเครียด และช่วยให้อารมณ์ดี ยิง่ ไปกว่านัน้ การฟังเพลงที่ดีก็ยังสามารถช่วยเปลี่ยนทัศนคติเรา ในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย 5. สูดกลิ่นมะนาว นักวิจัยญี่ปุ่นพบว่า ‘ลินาลูล’ ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบในมะนาว สามารถช่วย ต่อต้านเชื้อโรค และช่วยลดความเครียดได้ 6. ยืดเส้นยืดสาย เพียงแค่บดิ ขีเ้ กียจหน้าโต๊ะทำงาน หรือการลุกเดินไปมา ก็จะช่วยเพิ่มการไหลเวียน ของเลือด และเพิ่มการยืดหยุ่นของร่างกายได้ 7. นั่งสมาธิ การนั่งสมาธิ และการหายใจลึกๆ จะ ช่วยผ่อนคลายทำให้จิตใจสงบ เพราะการนั่งสมาธิ เพียง 5 นาทีต่อวัน ก็ช่วยลดความเครียดได้ อย่างน้อยก็ทำให้จติ ใจของเราไม่ฟงุ้ ซ่านไปสักครูห่ นึง่ 8. เขียนบันทึกเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน ใช้เวลา
5 นาทีของทุกวัน เขียนถึงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ เป็นวิธีการง่ายๆ เพื่อระบายความเครียด อาจจะเป็นสภาพอากาศ หรือแม้แต่ปญ ั หาในทีท่ ำงาน และอาจจะปิ ด ท้ า ยด้ ว ยการเขี ย นกล่ า วขอบคุ ณ สิ่งต่างๆ การทำแบบนี้สามารถช่วยให้เรามีทัศนคติ ทางบวกต่อชีวิตมากขึ้น 9. ทำตัวให้โลว์เทคบ้าง โดยการปิดอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็น เพราะการอยู่หน้า คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ตลอดทั้งวัน สามารถทำลายพลังงานในตัวเราได้ ดังนั้น การตัด การติดต่อทัง้ จากโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต เสียบ้าง จะช่วยให้ผ่อนคลาย และทำให้เราไม่ต้องติดอยู่กับ การสื่อสารมากจนเกินไป 10. จัดลำดับความสำคัญของงาน โดยการสร้าง รายการลำดับงานว่าสิง่ ใดควรทำก่อน สิง่ ใดค่อยทำ ทีหลัง เพือ่ ช่วยให้ลดความกดดัน และการจัดลำดับ ความสำคัญของงานนีจ้ ะช่วยให้เรามองเห็นการพัฒนา ของงานที่เรากำลังทำอีกด้วย
25
ชนิด HDL จึงสังเกตได้ว่านักทานปลา ตัวยงอย่างชาวญี่ปุ่นจึงมีอัตราเป็นโรค หัวใจค่อนข้างต่ำ ฉะนั้น ถ้าคุณอยากมี หัวใจที่แข็งแรง ต้องหันมากินปลาให้ มากๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงพักฟื้นเนื่องจากเป็นกลุ่ม คนที่ต้องการอาหารประเภทนี้มากที่สุด ควรรั บ ประทานอาหารที่ มี เ ส้ น ใย อาหารประเภทที่ ล ะลายน้ ำ ได้ ใ น ปริมาณมากๆ เช่น ข้าวบาร์เลย์ ที่มี ปริมาณไฟเบอร์สงู ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมช่วย รักษากระดูกให้แข็งแรง และมีวิตามินบี ช่วยรักษาการทำงานของระบบประสาท ให้เป็นปกติ หรือแอปเปิ้ล ที่เหล่าสาวๆ มักชอบเคีย้ วกรุบกรอบกัน ก็อดุ มไปด้วย เพ็กติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ จะดึงคอเลสเตอรอลแล้วขับออกมาจาก ร่างกายได้ ทัง้ ยังช่วยบำรุงหัวใจ ลดความ ดัน และควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย ไม่ควรรับประทานไข่แดงเกิน 3 ฟอง ต่อสัปดาห์ เพราะการศึกษาพบว่าการ บริโภคไข่แดง 1 ฟอง สามารถเพิ่ม โอกาสของการเกิ ด โรคหลอดเลื อ ดได้ เนือ่ งจากไข่แดง 1 ฟอง มีคอเลสเตอรอล ถึงประมาณ 215-275 มิลลิกรัม ซึ่งโดย ปกติแล้วผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค หัวใจและหลอดเลือดควรจะจำกัดการ บริโภคคอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ต่อวัน ดังนั้น เราจึงไม่ควรรับประทาน ไข่แดงในปริมาณมากหรือรับประทาน ตามอำเภอใจอีกต่อไป เพราะนอกจากจะ เพิ่มคอเลสเตอรอลแล้วยังทำให้คุณอ้วน โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย สุดท้ายคือวิธีการดูแลรักษาสุขภาพ แบบคลาสสิ ก ที ่ ห ลายคนพู ด ถึ ง บ่ อ ย ที่สุดก็คือการออกกำลังกายให้เพียงพอ รักษาน้ำหนักของร่างกายให้อยู่ในภาวะ สมดุล และที่สำคัญ หยุดพฤติกรรมที่ ทำร้ายสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่ หรือดื่ม แอลกอฮอล์ ไม่วา่ จะเป็นเบียร์ หรือวอดก้า เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีประโยชน์ต่อ ร่างกาย
RELATIONSHIP SAY THE GOOD WORDS
คุณคิดเหมือนกันหรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ ไม่วา่ จะอยูใ่ นครอบครัวหรืออยูใ่ นสังคมภายนอก มักไม่คอ่ ยชืน่ ชมหรือชมเชยกัน ซึง่ ความจริงแล้ว การชมเชยเพียงเล็กน้อยอาจเป็นน้ำหล่อเลี้ยง จิตใจให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ เราจึงมี ข้อแนะนำสำหรับการชมเชยเพือ่ สร้างสัมพันธภาพ ที่ดีกับคนรอบข้างมาฝาก • ควรชมพฤติกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ เพื่อให้ เขารู้สึกดีถึงสิ่งที่เพิ่งกระทำในทันที และอยาก
LITE DAY WITH
เผลอแปบเดียวเราก็ทำงานกันมาเกือบจะครึ่งปแลว ใครที่เริ่มรูสึกเหนื่อยๆ ลาๆ แถมยังมี ความจำที่ไมเต็มรอยเหมือนเมื่อชวงตนป เรามีเครื่องดื่มที่จะชวยบำรุงสุขภาพและความจำ มาใหคุณลองเอาไปทำดู
ALL ABOUT SUPPLEMENTARY FOOD
นอกจากการรั บ ประทานอาหาร ประจำวันแล้ว คนส่วนใหญ่มักมีตัวช่วยใน การเสริ ม สารอาหารแก่ ร ่ า งกายด้ ว ย วิตามินและแร่ธาตุชนิดต่างๆ ด้วยเหตุผล ที่ว่าการรับประทานอาหารประจำวันนั้น อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ การรับประทานผลิ ตภั ณฑ์ เสริ มอาหารจึ งทำให้ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่คุณจะทราบได้ อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหมดที่ มี จ ำหน่ า ยอยู ่ ในท้ อ งตลาดจะปลอดภั ย และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงนำข้อมูล ดีๆ มาฝากกัน • การทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ก็ไม่ดีต่อสุขภาพเทียบเท่าการรับประทาน อาหารอย่างสมดุล เพราะการรับประทาน อาหารอย่างสมดุลเป็นวิธีที่ดีที่สุดอันจะ ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี เนื่องจากได้รับ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน • ความจริงแล้วอาหารเสริมเป็นตัวเลือกทีด่ ี สำหรับผูท้ ไ่ี ด้รบั สารอาหารทีจ่ ำเป็นไม่เพียงพอจากการรั บ ประทานอาหารมื ้ อ หลั ก เช่น สตรีมีครรภ์ นักกีฬา และคนที่เป็น มังสวิรตั ิ ดังนัน้ สำหรับผูท้ ร่ี บั ประทานอาหาร ครบทัง้ ห้าหมูแ่ ล้ว อาหารเสริมจึงไม่จำเป็น เลย เพราะร่างกายได้รับเพียงพอแล้ว • สำหรับผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์์เสริม อาหารอยู่ ควรรับประทานในปริมาณเท่ากับ ที ่ ร ะบุ ไว้ ในคำแนะนำซึ ่ ง ดู ได้ จ ากฉลาก ข้างขวด เพราะหากรับประทานมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน • ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมที่ไม่ได้อยู่ ในการควบคุมโดยองค์การอาหารและยา และควรตรวจสอบฉลากของผลิ ต ภั ณฑ์ เสริมอาหารอย่างรอบคอบก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ซื้อ ไปนั้นเป็นของดีและปลอดภัยต่อสุขภาพ
จะทำความดีต่อไปอย่างมีความสุข • บอกความรู้สึกของเราต่อพฤติกรรมนั้นด้วย ความจริงใจ โดยแสดงกิริยาและคำพูดอย่าง ซื่อตรง เพื่อให้คนรับฟังไม่รู้สึกว่าเราเสแสร้ง แกล้งทำ • ไม่ชมมากเกินกว่าความเป็นจริง เพราะอาจ ทำให้ผรู้ บั ฟังเข้าใจผิด และคิดว่าคำชมเหล่านัน้ เกิดจากการประชดประชัน เจตนาดีของเราก็อาจ เป็นต้นเหตุของการทะเลาะกันได้
Morning BerryShake สวนผสม บลูเบอรีแชแข็ง น้ำแอปเปล โยเกิรต นมสดไขมันต่ำ น้ำเชื่อม (ละลายน้ำตาล น้ำแข็ง
½1/2 ถวย 1/2 ถวย 1 ถวย ¼ 1/4 ถวย 4 ชอนโตะ 1 สวน ในน้ำ 1 สวน) 1 ถวย
วิธีทำ นำสวนผสมทั้งหมดปนใหเขากันประมาณ 15 วินาที (เอื้อเฟอสูตรอาหารโดย : อัจฉรา บุรารักษ เจาของรานอาหารกับขาวกับปลา by iberry)
“หวานเต็มรอย แตแคลอรีนอยเพียงครึ่ง” Did You Know?
บลู เ บอรี อ ุ ด มไปด ว ย สารตานอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ที่ ช ว ยตา นการก อตั วของอนุ มู ลอิ สระ ภายในรางกาย นอกจากนี้ยังมีปริมาณ ใยอาหารสูง โดยเฉพาะเพ็กตินที่ทำหนาที่ชวย ลดระดับคอเลสเตอรอล ชวยควบคุมระดับ น้ำตาลในเลือด ชวยดูแลเสนเลือดฝอยให แข็งแรง ชะลอความแก บำรุงรางกาย และชวยใหความจำดีขึ้น
ผู อ า นท า นใดที่ มี ไ อเดี ย ในการสร า งสรรค เมนูอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยใชน้ำตาล ไลท ชูการ เปนสวนประกอบ สามารถสงเมนูของคุณ มาไดที่อีเมล adaybulletin08@gmail.com โดยเมนู ที่ ไ ด รั บ การคั ด เลื อ กจะได รั บ กิ ฟ ต เ ซตผลิ ต ภั ณ ฑ ปรุงอาหารจากไลท ชูการ เปนของรางวัล และไดรับ สิทธิ์เขารวมเวิรกช็อปทำอาหารเพื่อสุขภาพกับทาง ไลท ชูการ ในชวงตนป 2554 ตอไป
สำหรั บ สาวๆ ที่ ดู แ ลรู ป ร า ง แต ก็ ข าด ความหวานไม ได แนะนำใหใช ไลท ชูการ น้ำตาลแคลอรีต่ำ ที่นอกจากจะใหแคลอรีเพียงครึ่ง เดียวแลว ยังใหรสชาติหวาน ตามธรรมชาติของน้ำตาล อีกดวย
Lite Sugar Fact แอสปารแตม ซึ่งเปนสวนผสมในน้ำตาลไลท ชูการ คือสารใหความหวานแทน น้ำตาลที่ไดจากธรรมชาติ เชน นม ไข เนื้อสัตว โดยใหความหวานแทนมากกวา น้ำตาลทรายถึง 200 เทา และไดรับการรับรองทางดานความปลอดภัยในการ บริโภคจาก 124 ประเทศทั่วโลก หมายเหตุ มีน้ำตาลทรายเปนสวนประกอบ ไมเหมาะสำหรับผูปวยโรคเบาหวาน
26
ALL ABOUT BIZ
BIZ LIFE
SPEED IS POWER กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ
ประธาน และประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร ของ Chic Republic ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟตกแต่ง และของแต่งบ้าน ซึ่งเกิดจาก แนวคิ ด ในการสร้ า งความแตกต่ า ง ด้ ว ยการนำสไตล์ ค วามเป็ น modern มาผสมผสานกับ traditional ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็น Home Fashion Store แห่งแรกของเมืองไทย
• ในยุคนี้คือยุคที่ผมเชื่อว่า speed is power คือใครที่สามารถเร่งความเร็ว ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเพิ่มอำนาจการต่อรอง ทางการตลาดมากขึ้นเท่านั้น • เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เร็ว ก็จะทำให้คู่แข่งรายอื่นๆ กลายเป็นผู้ตาม การเป็นผู้นำจะได้เปรียบในเรื่องของ awareness ทำให้เราสามารถชี้นำราคา ให้ตลาดได้ ซึ่งเมื่อคนอื่นจะ copy เพื่อตัดราคา เราก็ต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอีก ผมว่านี่คือกุญแจสู่ความสำเร็จ • การทำธุรกิจอะไรก็ตาม ถ้าทำเหมือนคนอื่น ลูกค้าก็จะไม่มี awareness เกี่ยวกับตัวเรา อีกอย่างคือการทำในสิ่งเดียวกันจะทำให้ตลาดเกิดการแข่งขัน ในเชิงของราคา ผู้ที่อยู่ในสนามแข่งขันก็จะมีความกดดันมาก เพราะฉะนั้น เราจึงควรทำในสิ่งที่แตกต่าง • สิ่งที่เราพยายามจะทำก็คือความแตกต่าง เพราะถ้านำเสนอสิ่งที่เหมือนๆ กันกับคู่แข่ง ลูกค้าก็จะไม่รู้สึกหวือหวาอีกต่อไป เพราะเขาเคยเห็นมาแล้ว เพราะฉะนั้น เราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึก ‘ว้าว’ ตลอดเวลา ถ้าทำอย่างนั้นได้ ลูกค้าก็จะจดจำเราได้ชัดเจนขึ้น • ผมพยายามบอกพนักงานเสมอว่า เวลาที่ขายของ แค่ลูกค้าเข้ามาชม ถึงแม้จะไม่ซอ้ื ก็ควรจะดีใจแล้ว เพราะอย่างน้อยถ้าลูกค้าเกิดความประทับใจ แล้วไปบอกต่อกับคนอื่นๆ นั่นก็คือการโฆษณาโดยที่เราไม่ต้องเสียเงิน • การบอกต่อเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดีกว่าการซื้อโฆษณาทางทีวีเสียอีก เพราะ การหว่านซื้อโฆษณาทางทีวีทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ถึงแม้จะครอบคลุม ผู้รับสารในวงกว้าง แต่ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปกับความรู้สึกเชื่อมั่นของผู้รับสาร มันต่างกัน ถ้าได้ฟังจากการบอกต่อเขาก็จะเชื่อมั่นได้มากกว่า • ในธุรกิจค้าปลีก ผมให้ความสำคัญกับการตกแต่งภายใน in store เป็น อย่างมาก ทั้งการออกแบบ การจัดวาง เพราะเราเชื่อว่า in store เป็นการ สร้างความประทับใจที่ดีที่สุด มันสามารถขายตัวของมันเองได้ ถือเป็นการ โฆษณาที่คุ้มค่าที่สุด เพราะผมเชื่อว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น • ผมจะไม่มองคนที่ประสบความสำเร็จในสายธุรกิจเดียวกัน เพราะถ้ามอง อยู่แค่นั้นเราก็จะถึงทางตันได้ง่ายๆ และถ้ามัวแต่ไปมองความสำเร็จของเขา เราก็จะถูกชักจูงให้เชื่อว่าต้องทำแบบเขาถึงจะประสบความสำเร็จ มันถึงเกิด การก๊อบปี้กันเอง สุดท้ายแล้วก็จะล้มเหลว
• ผมเลือกที่จะมองคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจอื่น แล้วนำความสำเร็จ นั้นมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของเรา เพราะความสำเร็จเหล่านั้นจะทำให้เรา แตกต่างได้ ถ้าเลือกและนำมาใช้อย่างเหมาะสม • เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ ผมจะถามตัวเองเสมอว่า เรากำลังจะขายของให้ใคร เพราะถ้ามองกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำเท่าไหร่ การตัดสินใจก็จะคมชัดมาก ขึ้นเท่านั้น บางธุรกิจมีเงินลงทุนสูงมาก แต่ลืมมองกลุ่มเป้าหมายให้ชัด ทำให้เสียเงินอย่างสูญเปล่า แต่ถา้ เจาะจงกลุม่ เป้าหมายให้ชดั ต่อไปทุกอย่าง ก็จะง่ายขึ้น • ในการทำธุรกิจ การสร้างพันธมิตรถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในสาย ธุรกิจเดียวกัน หรือนอกธุรกิจก็ตาม เพราะทุกวันนี้การแข่งขันรุนแรงมาก การเป็นแม่เหล็กอยู่คนเดียวเริ่มจะไม่แรงพอ เพราะฉะนั้น ยิ่งมีพันธมิตร มากเท่าไหร่ แรงดึงดูดผู้บริโภคก็มากขึ้นเท่านั้น • ผมไม่ เคยนำขนาดความใหญ่ ข องธุ ร กิ จ มาเป็ น พื ้ นฐานในการทำงาน เพราะความใหญ่ของสถานที่ไม่ได้หมายความว่าจะชนะใจลูกค้าได้เสมอไป เพราะการชนะใจลูกค้าต้องเกิดจากองค์ประกอบทุกอย่างรวมกัน คือสินค้า บริการ ราคา ซึ่งทุกอย่างต้องลงตัว • สิ่งที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้คือ ต้องรู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการ คืออะไร ความคาดหวังของลูกค้าคืออะไร แล้วตอบสนองเขาให้ได้ ผมจะ บอกลูกน้องเสมอว่า ถ้าทำให้ลูกค้าประทับใจได้ ความสำเร็จก็จะตามมา แต่ ถ้าทำให้ผมประทับใจ มันคงไม่เกิดประโยชน์ เพราะลูกค้าย่อมสำคัญกว่าผม • ผมเชื่อว่าในการทำงาน เราคงไม่มีวันที่จะเปอร์เฟ็กต์ไปทุกๆ เรื่อง แต่ต้อง พยายามผิดพลาดให้น้อยที่สุด และเมื่อเกิดความผิดพลาดก็ต้องรู้จักยอมรับ และหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด • การบริการที่ดีต้องประกอบไปด้วย hardware คือสินค้าที่ดี มีคุณภาพ และ software คือการต้อนรับ มารยาท การให้เกียรติลูกค้า และการบริการด้วยใจ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นบริการที่ดี • วัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ดีได้ สังคมในองค์กรก็จะพาคนส่วนใหญ่ไปในทิศทางนั้น เพราะผมเชื่อว่าเมื่อเข้า เมืองตาหลิ่ว คนส่วนใหญ่ก็ต้องหลิ่วตาตาม เมื่อสังคมในองค์กรมีวัฒนธรรม ที่ดี องค์กรก็จะถูกพาไปโดยอัตโนมัติ
ถึงแม้ว่าไอเดียคราวนี้จะไม่ได้เกิด จากองค์กรธุรกิจ แต่ก็ถือเป็นไอเดียที่น่า สนใจไม่น้อย เพราะนอกจากห้องสมุด ของ Yale Law School จะเปิ ด ให้ ย ื ม หนั ง สื อ เหมื อ นห้ อ งสมุ ด ทั ่ ว ๆ ไปแล้ ว เขายังมีบริการใหม่สำหรับคลายเครียด ให้ ว ่ า ที ่ น ั ก กฎหมายอี ก ด้ ว ย นั ่ นก็ ค ื อ บริการให้ยืมสุนัขแก้เครียด โดยอ้างอิง จากผลการวิจัยมานานนมว่า สุนัขจะ ช่วยเพิ่มความสุข ความสงบ และช่วย ทำให้อารมณ์ของคนดีขน้ึ เมือ่ ได้อยูใ่ กล้ชดิ พวกมัน และนอกจากความเป็นมิตรกับ มนุษย์แล้ว สุนัขยังสามารถกระตุ้นความ กระปรี ้ ก ระเปร่ า ให้ ค นเราได้ อ ี ก ด้ ว ย ซึ่งบริการนี้จะให้ยืมสุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ ที่ชื่อว่า Monty คราวละครึ่งชั่วโมง โดย คนที่ยืมไปสามารถจะเล่นกับมันได้อย่าง เต็มที่ภายในห้องส่วนตัวที่จัดทำมาเพื่อ การนี้โดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูก รบกวนจากบุคคลอื่นใด ถือเป็นการทำ สมาธิ และเพิ ่ ม ความสงบสุ ข ได้ อ ย่ า ง แท้ จ ริ ง ซึ ่ ง หลั ง จากที ่ เปิ ด ทดลองให้ บริ ก ารไม่ น าน ก็ ป รากฏว่ า มี น ั ก เรี ย น กฎหมายมาต่อคิวใช้บริการเจ้า Monty กันอย่างเนืองแน่น เพราะมันช่วยบำบัด ความเครียดได้จริงๆ แถมยังไม่ต้องรับ ภาระเลี้ยงดูเจ้าตูบด้วยตัวเองอีกด้วย และคงน่าสนใจไม่น้อยหากบริการนี้จะ ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในสถานศึกษา เพราะ ถ้ามีใครลองนำมาสร้างเป็นธุรกิจแล้ว เบนเข็ ม มาให้ บ ริ ก ารกั บ ชาวออฟฟิ ศ แทนที ่ จ ะเป็ นนั ก ศึ ก ษา เราสาบานว่ า จะขอสมัครเป็นลูกค้าประจำแน่นอน!
BIZ QUOTE
BIZ BOOK คนทั้งโลกน่าจะรู้แล้วว่า แบรนด์ดังอย่าง แอปเปิ้ลที่มีสินค้าหลักที่มาเปลี่ยนโลกใบนี้อย่าง คอมพิวเตอร์แมค ไอพ็อด ไอโฟน และไอแพด คือแบรนด์ที่ทำอะไรไม่เหมือนใคร ซึ่งก็มาจาก วิธีคิดที่กล้าจะแตกต่างของ สตีฟ จ๊อบส์ ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แอปเปิ้ลนั่นเอง เขาคือ คนที่สร้างนวัตกรรมที่ใครเห็นหรือครอบครอง กล้าคิดต่างอย่าง สตีฟ จ๊อบส์ แล้วเป็นต้องตกตะลึงในความสามารถของมัน (The Innovation Secrets of แต่น้อยคนจะเข้าใจและวิเคราะห์ได้ว่า ทำไม STEVE JOBS) จ๊อบส์ถึงคิดและทำเช่นนั้น เขามีความสามารถ ผู้เขียน : Carmine Gallo ผู้แปลและเรียบเรียง : ศรชัย จาติกวณิช มากกว่าคนอื่น? หรือเขามองอะไรแตกต่างจาก คนอื่นอย่างไร? ซึ่งเหตุผลเหล่านี้มีให้อ่านใน และ ประสิทธิ์ชัย วีระยุทธวิไล หนังสือเล่มนี้แล้ว โดยไล่เรียงให้อ่านกันเต็มๆ สำนักพิมพ์ : McGraw Hill Education
Yale Law School’s Library
ทั้งหมด 7 หลักการใหญ่ คือ 1. ทำในสิ่งที่ใจรัก 2. เปลี่ยนแปลงโลก 3. เขี่ยลูกเปิดเกมให้สมอง ทำงาน 4. ขายฝันให้สินค้า 5. บอกปฏิเสธกับ 1,000 สิง่ 6. สร้างสรรค์ประสบการณ์ทย่ี อดเยีย่ ม อย่างไม่บนั ยะบันยัง และ 7. เก่งสือ่ สาร โดยแบ่ง รายละเอียดปลีกย่อยออกเป็น 15 บท ซึ่งเรา ยืนยันว่าหนังสือเล่มนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจเสียจน คุณอาจจะอ่านรวดเดียวจบเลยก็ได้ โดยเฉพาะ บทพิเศษที่ชื่อ ‘ยังมีอีกอย่างหนึ่ง... อย่าให้พวก งี่เง่ามาทำให้คุณเสียกำลังใจ’ ทั้งหมดนี้เขียน ขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาเรื่องการสื่อสาร แบรนด์ควบกับอีกตำแหน่งคือ คอลัมนิสต์ของ Bloomberg Businessweek
DON’T BE AFRAID TO GIVE UP THE GOOD TO GO FOR THE GREAT. John D. Rockefeller, Oil tycoon; Chairman of Standard Oil Company, Investor
THE WORDS
29
“Life is 10% what happens to you and 90% how you respond to it.”
ชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่าน 10 เปอร์เซ็นต์ และอีก 90 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ท่านโต้ตอบกับมันอย่างไร -Lou Holtz
“If you want peace, stop fighting. If you want peace of mind, stop fighting with your thoughts.”
ถ้าท่านต้องการความสงบ จงหยุดการต่อสู้ ถ้าท่านต้องการความสงบในจิตใจ ก็จงยุตกิ ารต่อสูก้ บั ความคิดของท่าน -Peter McWilliams
“As contraries are known by contraries, so is the delight of presence best known by the torments of absence.”
เมื่อสิ่งที่ตรงข้ามกันเข้าใจได้ด้วยการเปรียบเทียบให้เห็นความต่างกัน ดังนั้นแล้วความยินดีต่อการมาถึงจึงเข้าใจได้ดีที่สุดด้วยความทรมานต่อการจากลา -Alcibiades
“Remember always that you have not only the right to be an individual, but you have an obligation to be one.” จงจำไว้เสมอว่าท่านไม่เพียงแต่มีสิทธิในการ เป็นคนหนึ่งคนเท่านั้น แต่ท่านมีภาระผูกพัน ที่จะเป็นคนเพียงหนึ่งเดียวนั้นด้วย -Eleanor Roosevelt
“You haven’t lost your smile at all, it’s right under your nose. You just forgot it was there.”
ท่านไม่ ได้สูญเสียรอยยิ้มไปหรอก มันอยู่ใต้จมูกของท่านนั่นเอง ท่านแค่ลมื ไปว่ามันอยูต่ รงนัน้ ต่างหาก -นิรนาม
“People rarely succeed unless they have fun in what they are doing.”
คนจะหาความสำเร็จได้ยาก ถ้าหากพวกเขา ไม่สนุกในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ -Dale Carnegie
“We crucify ourselves between two thieves: regret for yesterday and fear of tomorrow.” เราทุกคนล้วนตรึงกางเขนตัวเองอยู่ ระหว่างขโมยสองตัว นั่นคือความเสียใจให้กับเมื่อวาน และความกลัวต่อวันพรุ่งนี้ -Fulton Oursler
“The most common way people give up their power is by thinking they don’t have any.”
วิธที คี่ นเราใช้อย่างแพร่หลายทีส่ ดุ ในการยอมละทิง้ พลังของตัวเอง คือการคิดว่าพวกเขาไม่มพ ี ลังใดๆ นัน่ เอง -Alice Walker
30
THE GUEST
MY LIFE AS A MELODY เรื่อง : ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
ถ้าเปรียบชีวิตของคนเราเป็นเหมือนกับเพลงหนึ่งเพลง โน้ตแต่ละตัวก็คือเรื่องราวที่ถูกวางไว้ บนเส้นทางของบรรทัดห้าเส้นจนเกิดเป็นจังหวะดนตรีที่แตกต่างกันไป เมื่อเพลงที่สมบูรณ์ประกอบ ไปด้วยตัวโน้ตพื้นฐานอย่าง Do Re Mi Fa Sol La และ Si ท่วงทำนองที่เกิดขึ้นก็ล้วนมาจากการ กำกับคีย์ชีวิตโดยตัวเราเอง แต่ถ้าถามถึงตัวโน้ตแรกของ อาจารย์ วานิช โปตะวณิช วาทยกรแห่งวงดุริยางค์ซิมโฟนี กรุงเทพ หรือ Bangkok Symphony Orchestra แล้ว ตัว Do ซึ่งเป็นโน้ตพื้นฐานแรกสุดของเสียงดนตรี คงเป็นคำตอบที่ตรงกับคีย์ชีวิตของนักดนตรีคนนี้ที่สุด “ผมชอบดนตรีมาตัง้ แต่เด็ก เครือ่ งดนตรีทผ่ี มชอบเล่นและถนัดทีส่ ดุ ก็คอื ทรัมเป็ต ทีบ่ า้ นของผม คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณปู่ ท่านก็เป็นนักดนตรี ก็เลยได้เจอกับการร้องรำทำเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่ที่บ้านยังไม่มีนักดนตรีอาชีพ ซึ่งผมก็น่าจะเป็นคนแรกของบ้านครับ (ยิ้ม) พอได้เข้าเรียนที่วัดสุทธิฯ ผมก็เริ่มจริงจังกับการเรียนดนตรี ผมได้เข้าไปอยู่ในวงดุริยางค์วัดสุทธิฯ ทำให้ผมพบว่าเพลงที่ดีจริงๆ ลึกๆ แล้วถูกซุกซ่อนอยูใ่ นดนตรีประเภทคลาสสิกนีเ้ อง และเป็นสิง่ ทีท่ ำให้ผมมุง่ มัน่ กับการเป็นนักดนตรี ตั้งแต่ตอนนั้น” โน้ตตัวต่อมาของอาจารย์วานิชที่สานต่อจากการค้นพบสิ่งดีๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์ในดนตรีคลาสสิก ที่ทำให้ตัวอาจารย์เองหลงใหลไปกับเมโลดี้ที่พลิ้วไหวและดุดันในบางครั้งของเพลงคลาสสิก “ความพิเศษของดนตรีคลาสสิกอยู่ที่ความลึกซึ้ง ความนุ่มนวล ความหวือหวา สีสัน ทุกสิ่ง ทุกอย่างซึ่งในวงออร์เคสตราจะมีสิ่งเหล่านี้อยู่ เพราะเราจะใช้เครื่องดนตรีหลายชนิด และเครื่องดนตรี แต่ละชนิดก็ยังมีจำนวนเครื่องอีกหลายชิ้น พอเราเอาเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นมาผสมกันก็ได้เสียงดนตรี อีกแบบที่เป็นเสียงใหม่ขึ้นมา ก็เลยกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ความละเอียดอ่อน ความยาก ความง่าย ที่จะเล่นดนตรีเหล่านี้ ก็มีผลให้การเล่นออร์เคสตราต้องใช้ทักษะมากขึ้นด้วยครับ” จากนักดนตรีก็ถูกเปลี่ยนบทบาทมาเป็นวาทยกรที่ต้องควบคุมคนจำนวนมาก เพื่อให้การ บรรเลงเพลงของวงออร์เคสตราเป็นไปในทิศทางเดียวกัน “ตอนนั้นผมอายุประมาณ 20 ปี ก็ได้มาเป็นคอนดักเตอร์คุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวง ด้วยความที่ เรายังเด็ก ก็ยังห้าว ยังใจร้อน แต่ชีวิตก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่อยๆ พูดจาซอฟต์ลง พอเราโตขึ้นก็เริ่ม เห็นใจคนอื่นมากขึ้น ซึ่งการเป็นคอนดักเตอร์ก็ช่วยฝึกนิสัยให้ผมในระดับหนึ่ง ซึ่งเราเองก็ต้องเปิดรับ ด้วยครับ ไม่ใช่ว่าพอขึ้นมาคุมคนอื่นแล้วเราจะถูกคนเดียว แบบนั้นมันไม่ใช่ครับ ณ วันนี้เราคิดเท่านี้ อีก 4-5 ปีข้างหน้า เราจะกลับมาเห็นว่าสิ่งที่เราคิดเอาไว้ยังไม่ดีเท่าที่ควร เราก็ต้องปรับปรุงตัวเอง อยู่ตลอดเวลา และจากการทำงานเป็นคอนดักเตอร์นี่เองที่ทำให้ผมรู้ว่า ตอนเล่นดนตรีเรารับผิดชอบ งานของเราคนเดียว คนอื่นจะเป็นอะไรก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่คอนดักเตอร์ คุณจะต้องเป็นผู้นำหรือประมุข ของวง เมื่อลูกน้องทำพลาดหรือมีอะไรพลาด นั่นคือความรับผิดชอบของคุณ ไม่ใช่ว่าพอวันนี้พลาด แล้วบอกว่าไม่ใช่เพราะเรา ซึ่งเป็นการปัดความรับผิดชอบเกินไป ดังนั้น โปรดักต์ทุกอย่างเราเป็นคน โปรดิวซ์ ดีไม่ดีเราเป็นคนรับผิดชอบ การเป็นคอนดักเตอร์ไม่ใช่ขึ้นมาแค่ทำมือทำไม้ เราต้องบริหาร จัดการวง เหมือนเป็นมิวสิกไดเร็กเตอร์ เลือกเพลงที่เหมาะกับวง วงจะเล่นช้าเร็วเบาอย่างไร จะเล่น ให้โอเวอร์ขนาดไหน เราต้องเป็นคนดีไซน์” เมือ่ เอ่ยถึง Bangkok Symphony Orchestra แน่นอนว่าทุกคนคงต้องรูจ้ กั วงออร์เคสตราของไทย ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากศิลปินดังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Natalie Cole, Michael Collins หรือ Sarah Chang และศิลปินเก่งๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกครั้งที่ BSO ได้ร่วมงานกับ นักดนตรีมืออาชีพเหล่านี้ การเปิดใจเรียนรู้เพื่อรับประสบการณ์ใหม่ๆ ก็คือสิ่งสำคัญของการเป็น นักดนตรีที่ดี “ตอนที่เล่นให้กับ Lea Salonga เป็นอีกหนึ่งงานที่เราประทับใจมาก เพราะว่าเขาเก่ง เขามี ความพิเศษ จริงๆ เราเล่นให้กับศิลปินเยอะมากจนจำไม่ได้ว่าเล่นให้ใครบ้าง (หัวเราะ) อย่างเช่น ตอนที่เราเล่นกับ เอลวิส เพรสลีย์ ที่เขาใช้สไลด์มัลติวิชันมาซิงโครไนซ์กันกับเราก็มันมาก ซึ่งเป็นข้อดี
อย่างหนึ่งของวง BSO ที่สามารถเล่นเพลงได้ทุกสไตล์ ตั้งแต่คลาสสิก มาจนถึงพ็อพ แจ๊ซ บรอดเวย์ เราเล่นได้หมด แค่คนเราต้องเปิดใจ ถ้าคุณรู้หลายอย่าง คุณเล่นพ็อพดี คุณอาจจะเอาพ็อพของคุณ มาเล่นกับคลาสสิกให้ดีขึ้นก็ได้ หรือคุณเล่นคลาสสิกดี ก็อาจจะทำให้คุณเล่นแจ๊ซได้ดีขึ้นก็ได้ เพราะคุณเล่นคลาสสิกได้ดี เราต้องเปิดใจแล้วก็ศึกษาทุกอย่าง” หากเราพร้อมเปิดใจยอมรับฟังในสิ่งที่ต่างออกไป นอกจากจะเป็นการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ให้กับ ตัวเองแล้ว การเปิดใจก็ยังส่งผลถึงเรื่องราวดีๆ อย่างอื่นที่อยู่รอบตัวได้อีกด้วย “ทุกคนควรเปิดใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของดนตรีคลาสสิกอย่างเดียว คุณเสพศิลปะสไตล์อื่นบ้าง ก็ได้ เพราะทุกอย่างมีดีอยู่ในตัว บางครั้งการที่เราบอกว่าสิ่งที่เราถนัดไม่ดีเป็นเพราะเราไม่ถนัด และ เราไม่เปิดใจที่จะไปศึกษาเขา เราไม่ยอมที่จะโง่ก่อน สิ่งที่เราไม่รู้เราก็ไปบอกว่าเราไม่ชอบ แต่ถ้าเรา อยากลองเรียนรู้ดู อีกหน่อยเราอาจจะชอบก็ได้ แรกๆ เราอาจจะกลายเป็นคนใหม่ที่กระจอกไปเลย ไม่เป็นอะไรเลย พอผ่านไปสักพักเราก็อาจจะรู้มากขึ้นก็ได้ และทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันโดยไม่มีการ เหยียดหยามกันด้วย นี่รวมถึงเรื่องของสังคมด้วยนะครับ ถ้าเราเปิดกว้างรับรองว่าทุกอย่างจะดีหมด ที่สำคัญ ประโยชน์ที่ได้จากเพลงคลาสสิกอย่างมากก็คือ เรื่องของสมาธิและระบบการจัดการทาง ความคิด ซึ่งเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ทำให้ตัวเรามีเหตุผล ดนตรีคลาสสิกไม่สามารถอยู่ตัว คนเดียวได้ในโลกใบนี้ เพราะเราต้องเล่นร่วมกับคนอื่นๆ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรักการเล่นดนตรี คือการได้ เข้าไปสัมผัสแล้วก็ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ชีวิตนี้เกิดมาได้เล่นดนตรี ให้ผมไปทำอย่างอื่น คงไม่ได้แล้วล่ะ เมื่อก่อนผมอยากเป็นนักกีฬา อยากชกมวย เล่นปิงปอง เป็นนักฟุตบอล แต่สุดท้าย ก็มาตายที่ดนตรี (ยิ้ม)” อาจารย์วานิชยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า การจะเริ่มต้นฟังเพลงคลาสสิกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทีจ่ ริงแล้วในชีวติ ของทุกคนต่างก็ผกู พันอยูก่ บั ดนตรีคลาสสิกโดยทีเ่ ราไม่รตู้ วั เท่านัน้ เอง “ลองเอาเพลงที่มีเนื้อร้องที่คุณได้ยินทุกวันมาฟังแบบที่เขาบรรเลงโดยไม่มีเนื้อร้องดู ซึ่งผม ว่าบางทีก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้นะ แล้วคุณก็แต่งเนื้อเพลงเองเลย ให้เป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเดิมของ เพลงนั้น เปลี่ยนเนื้อเพลงไปเลย จากเรื่องรักกลายเป็นเรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องต้นไม้ ซึ่งเปลี่ยนได้หมด อยู่ที่จินตนาการของคุณ จากนั้นคุณก็เสพศิลปะพร้อมกับครีเอตอะไรไปพร้อมๆ กัน ซึ่งผมคิดว่าเพลง พ็อพก็ใช่ว่าจะฟังง่ายไปเสียหมด บางเพลงคุณก็แค่ฟังผ่านๆ ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร ก็เหมือนกันคุณก็ฟัง เพลงคลาสสิกแบบผ่านๆ ก็ได้ ให้มันผ่านมาในชีวิต จริงๆ แล้วบางครั้งเราฟังเพลงคลาสสิกกันอยู่ แล้วแต่เราไม่รตู้ วั ฟังในข่าวบ้าง ฟังในหนังบ้าง เพียงแต่ไม่มใี ครบอกว่าเป็นเพลงคลาสสิก พอบอกปุบ๊ ! ตัวเราเองจะสร้างกำแพงมากั้นระดับหนึ่งแล้ว ว่าเฮ้ย! ฟังยากแน่ๆ“ และผลงานล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นของ BSO ก็คือการเติมความสมบูรณ์ทางเสียงเพลงให้กับ Ryuichi Kawamura Exclusive One Night Only Charity Concert in Bangkok โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ การฟีเจอริงกันของสองวาทยกรไทยและวาทยกรชาวต่างชาติ เพื่อให้อารมณ์เพลงแตกต่างกัน “คอนดักเตอร์แต่ละคนก็จะมีผลกับสีของวง คอนดักเตอร์เปลี่ยนการบรรเลงก็เปลี่ยน รสชาติ ก็เปลี่ยนไปด้วย คอนดักเตอร์บางคนก็เล่นแบบดุดัน บางคนก็เล่นหวาน บางคนก็เอาละเอียดในทุกๆ เรือ่ ง บางคนเล่นแบบสะใจ สำหรับตัวผมจะเน้นเรือ่ งการคอนโทรลความถูกต้องว่าวงของเราอยูแ่ ค่ไหน ทำอะไรได้ มีเวลาเท่าไหร่ เอาเบสิกที่ถูกต้องก่อน หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องพิเศษกันไป ถ้าเปรียบเป็น อาหาร ดนตรีของผมคงเป็นอาหารทีเ่ ผ็ดกับหวานครับ (หัวเราะ) แต่เป็นอาหารเผ็ดทีถ่ กู สูตร ทีไ่ ม่ได้เผ็ด จนเวอร์ไปเลยครับ (ยิ้ม)” เพราะมนุษย์ใช้การประสมเสียงของตัวโน้ตและร้อยเรียงออกมาจนเป็นเพลง การฟังเพลงก็คอื การเติมความสุขอย่างหนึ่ง หากเรายังคงปิดกั้นตัวเองอยู่หลังกำแพง โดยไม่ยอมเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต เราก็อาจจะพลาดอะไรดีๆ อีกหลายสิ่งไปอย่างน่าเสียดาย…