a view120

Page 1


a day with a view เรื่อง > ทรงกลด บางยี่ขัน ภาพ > นิติพัฒน์ สุขสวย

NO TITLE ธนญชัย ศรศรีวิชัย กับการสนทนาที่ชายหาด ข้างถนน และบนอพาร์ตเมนต์ ที่คานส์

126 a day


6 ปีก่อน ธนญชัย ศรศรีวิชัย เคยขึ้นปกนิตยสาร a day พร้อมกับให้สัมภาษณ์ ใหญ่ ไว้ ในคอลัมน์นี้ ตอนนั้นเขาเพิ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้กำกับ หนังโฆษณาที่ ได้รางวัลมากที่สุดในโลก (The most awarded directors in the world) อันดับ 1 ปีถัดมา เขาหล่นจากตำแหน่งนี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับมา ครองตำแหน่งนี้อีก 5 สมัยรวด จนถึงปัจจุบัน ปีที่แล้วบริษัทฟีโนมีน่าจากประเทศไทยได้รับ รางวัล Palm d’or จาก Cannes Lions Advertising Festival หรือรางวัลสำหรับบริษัทที่ทำหนังโฆษณา ได้รางวัลสูงสุดในปีนั้น แม้รางวัลจะให้ในนามบริษัท แต่ ทุกชิ้นงานที่คว้ารางวัลเป็นผลงานการกำกับของชาย ผูน้ ี้ ในรอบ 19 ปีทผี่ า่ นมา นีค่ อื ครัง้ ที่ 2 ทีเ่ จ้าของรางวัล ไม่ใช่บริษัทสัญชาติอเมริกัน โดยศักดิ์ศรีแล้ว รางวัล ปาล์มดอร์ตัวนี้ยิ่งใหญ่และน่ายกย่องไม่แพ้ปาล์มดอร์ที่ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เพิ่งได้รับจากเวที Cannes Film Festival ธนญชัยคือผู้กำกับที่ ได้รางวัลจากคานส์ ไลออนส์ มากที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่เขาไม่เคยมารับรางวัล และ ไม่เคยมาร่วมงานนี้เลยแม้สักครั้ง แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เขา เดินทางมาที่คานส์ (แต่ก็ยังไม่เข้างานอยู่ดี) โปรแกรม 3 วันที่คานส์ของเขาคือ มาพูดในงาน ปาร์ตี้ของฟีโนมีน่า คุยงานกับเอเจนซี่จากประเทศต่างๆ หลบไปประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทีมงานและลูกค้า ที่เมืองไทย รวมถึงคุยงานกับครีเอทีฟจากเมืองไทยที่ คานส์ด้วย ที่ต้องมานั่งคุยงานกันที่นี่ก็เพราะเขาเป็น ผู้กำกับคิวทองมาก การขอคิวคุยงานกับเขาสักครั้ง ที่เมืองไทยเป็นเรื่องยากมาก แต่การขอคิวคุยที่คานส์ ก็ ไม่ ได้ง่ายขึ้นเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็ ได้เวลาทีละครึ่งค่อน ชั่วโมงมา 3 ครั้ง 3 สถานที่ ใน 3 วัน คุยกันครั้งนี้ รู้สึกได้ชัดเจนว่า ชีวิตของเขามุ่งสู่ แนวทางการสลายตัวตน กลับไปอยู่กับความเรียบง่าย ของธรรมชาติ และการส่งมอบสิ่งดีๆ สู่ผู้อื่น เขาย้ำชัด ว่า ไม่ต้องรู้จักตัวเขาก็ ได้ ไม่ต้องรู้จักงานโฆษณา และ รางวัลของเขาก็ ได้ เพราะมันไม่ ได้มีผลอะไรกับเขา แต่ถึงอย่างนั้น ขอแนะนำตัวเขาสั้นๆ ว่า เขาคือ ผูก้ ำกับหนังโฆษณาสังกัดบริษทั ฟีโนมีนา่ ทำหนังโฆษณา เรื่องที่สุดฮือฮาอย่าง ขอโทษประเทศไทย แล้วก็หนัง โฆษณาตลกๆ ภาพสีตนุ่ ๆ ตัวละครในเรือ่ งเป็นชาวบ้านๆ แล้วก็ใช้เสียงโฆษกกวนๆ (เสียงเขาเอง) อย่าง จน เครียด กินเหล้า ทิชชูของสมาร์ทเพิร์ส สมูทอี เมืองไทยประกันชีวิต ไทยประกันชีวิต และหนังโฆษณาอีกนับไม่ถ้วน เขาบอกว่า ถ้ารู้จักเขาแล้ว ไม่ต้องจดจำเขาก็ ได้ แต่รับรองว่าไม่มีใครลืมเขา 127


ทำไมปีนี้คุณถึงยอมมาคานส์เป็นครั้งแรก

ผมเป็นคนไทย ตอนนี้ประเทศของผมกำลังมีปัญหา ปัญหาคือ CNN ทำให้คนรูส้ กึ ว่าทัง้ เมืองลุกเป็นไฟเหมือนอัฟกานิสถาน ถ้าคุณเดินอยูบ่ นถนน อาจจะตายได้ หลายบริษัทเลยปฏิเสธที่จะเข้ามาทำงานกับโปรดักชันเฮาส์ ในเมืองไทย ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขา ผมเลย มาคานส์เพื่อบอกทุกคนว่า ประเทศของผมยังโอเค ไม่มีปัญหา ปัญหามัน เกิดขึ้นแค่ในพื้นที่ 1-2 ตารางกิโลเมตร คุณยังสามารถทำงานกับพวกเราได้ ไม่ใช่แค่บริษัทของผม แต่หมายถึงทุกบริษัทในประเทศไทย ผมมาเพื่อบอก แค่นี้

ปีที่แล้วคุณได้รางวัลปาล์มดอร์ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่มากของโลก ทำไมถึงไม่มารับ

เขาให้มันก็เป็นเรื่องของเขา เราก็ดีใจที่เขาให้ แต่รางวัลเป็นแค่โลหะ ชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักที่หนัก ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเอาไว้ทับกระดาษ ไม่เห็นจะมี ผมมองว่า รางวัลคือเนื้องอกของกิจกรรม เป็นส่วนเกินของสิ่ง ที่เราทำ รางวัลกับงานมันคือคนละส่วนกัน ผมไม่เคยเอารางวัลมาเป็น ส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต รางวัลคือกับดัก ถ้าเอาเข้ามาในชีวิต เราก็จะยึดติด คิดไปว่ากูเก่ง ถัดจากนั้นเราก็จะเหลิงและเราก็จะมีอีโก้ ถัดจากนั้นเราก็จะ ทำอะไรโง่ๆ เช่น การไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น คิดว่ากูเก่งคนเดียว ในโลก งานก็จะห่วยลง เพราะฉะนั้นไอ้ก้อนโลหะสีทองๆ นี้ทำอะไรชีวิตผม ไม่ได้ มันไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับผม และยิ่งการที่ผมจะต้องขึ้นเครื่องบินหรือ เดินทางไปรับรางวัลพวกนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มันทำให้ผมเสียเวลา ก็เลยไม่มี เหตุผลที่จะมา

เสียใจไหมที่แทบไม่มีคนไทยรู้ข่าวนี้เลย

ไม่ ผมไม่อยากเป็นคนแก่ที่คอยบอกแม่บ้านว่า เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นคน ทีเ่ ก่งมากเลยนะ ฉันเป็นผูก้ ำกับระดับเมืองคานส์นะ รางวัลเป็นแค่วตั ถุชน้ิ นึง เท่านั้นเอง

ตอนแก่คุณอยากบอกอะไรกับแม่บ้าน

คุณควรเป็นแม่บ้านที่ดีที่สุด ทำบ้านให้สะอาดที่สุด ซื่อสัตย์มากที่สุด ขยันที่สุด และช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุด หน้าที่ของคุณคือ ทำบ้านนี้ให้ สะอาด และทำบ้านเมืองให้สะอาดโดยที่ไม่สนใจผลตอบแทนหรือรางวัล รางวัลเป็นเรื่องของคนที่ให้ ผมเหมือนนักไวโอลิน ผมสนใจแต่เสียงไวโอลิน ของผม ไม่สนใจเสียงปรบมือ ขณะเล่นต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าห่วงเสียง ปรบมือ เพลงต่อไปไม่เพราะแน่นอน

ถ้าไม่ใช้รางวัล เราจะใช้อะไรเป็นตัววัดว่างานนั้นดีหรือไม่ดี

ผู้รับสารรู้สึกดี งานของเราคือการสื่อสารไปยังผู้รับสาร ถ้าผู้รับสาร รู้สึกดีขึ้น มีความคิดที่ดีขึ้น มีปัญญาที่ดีขึ้น มีทัศนคติในการมองโลกที่ดีขึ้น อันนี้แหละรางวัล การเปลี่ยนความคิดคนได้คือเรื่องใหญ่ ถ้าเปลี่ยนวิธีคิด คนได้ ก็ทำให้โลกดีขึ้นได้

คุณเลิกตื่นเต้นกับรางวัลตั้งแต่เมื่อไหร่

ตั้งแต่ได้ผู้กำกับอันดับ 1 ของโลกปีแรก เหมือนพระเจ้าส่งอะไร บางอย่างที่ดีที่สุดมาให้ แล้วถามว่าจะกินหรือไม่กิน เราแตะไปนิดนึงแล้ว รู้ว่าเป็นช็อกโกแลต ก็บอกตัวเองว่าอย่าไปกิน มันกำลังล่อเราอยู่ ผมเลย ไม่สนใจรางวัล ไม่สนว่าจะดำรงสถานภาพอันดับ 1 ของตัวเองไปอีกนาน แค่ไหน เหมือนที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ใน a day ว่า สิ่งแรกที่ทำคือการสลาย ตัวตน ไม่ยึดติด แล้วก็บอกว่าปีหน้าคงไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ได้จริงๆ แต่ไม่ได้บอก ว่าปีต่อไปจะกลับมาได้อีกหรือเปล่า ซึ่งก็ได้มาตลอด อาจเป็นเพราะทำงาน โดยไม่คิดถึงตัวเอง ผมคิดถึงคนดูเป็นหลัก ไม่สนใจว่างานแบบนี้คานส์จะ ชอบหรือไม่ชอบ แค่อยากทำหนังให้ดที ส่ี ดุ ในประเทศให้คนไทยชอบ คุณจะ ให้รางวัลหรือไม่ให้มันก็เรื่องของคุณ

คุณยังจำสิ่งที่ตัวเองเคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 6 ปีก่อนได้

ได้ ผมชอบเอากลับมาอ่าน ผมชอบคำถามที่ถาม ผมว่าบทสัมภาษณ์ ที่ดีต้องเกิดจากคำถามที่ดี แล้วก็ดีใจที่ตัวเองยังทำแบบที่เคยพูดได้ มีอย่าง เดียวที่ทำไม่ได้คอื ไม่ได้ใช้รถโฟล์กคันเดิมแล้ว ขายแล้ว เปลีย่ นไปใช้เลกซัส มีคนขับรถด้วย ทำงานหนักๆ ขับรถเองเดี๋ยวตาย ไม่ประมาท แล้วก็ซื้อ ไอโฟน นอกนั้นเหมือนเดิม

ไหนๆ ก็มาถึงคานส์แล้ว อยากเดินเข้าไปดูโฆษณาดีๆ ในงานไหม ไม่ อยู่นอกงาน กินหอยนางรม เดินดูคน คุยกับคน ฟังความคิดเขา น่าจะมีอะไรดีๆ มากกว่า เหมือนปลาสดจากทะเล มีชีวิต คุณค่ามันสูง งานข้างในเป็นอาหารที่เขาปรุงมาแล้ว หมักมาแล้ว ปรุงแต่งกันสุดๆ เหมือนปลากระป๋อง ผมไม่ค่อยชอบ

รู้สึกยังไงที่ปีนี้หนังโฆษณาความยาว 7 นาทีของจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ได้โกลด์ เกือบจะได้กรังปรีซ์ด้วยซ้ำ แต่หลายปีก่อน หนังโฆษณาแพนทีนความยาว 4 นาทีของคุณ ส่งประกวดไม่ ได้ เพราะยาวไป

เฉยๆ หนังแพนทีนเรื่องนี้ส่งประกวดที่ไหนไม่ได้เลย ยกเว้นเทศกาล หนังสั้น หนังเรื่องนี้ได้รางวัลซิลเวอร์มั้ง จาก New York Film Festival เป็น หนังที่สั้นกว่าเรื่องอื่นๆ แต่ทำคนร้องไห้ได้ ไม่กี่เดือนก่อน คุณราชเพื่อนผม (คนอินเดียที่เป็นครีเอทีฟงานแพนทีน) โทรมาบอกว่า สถาบัน Adweek มี การจัดอันดับ 20 หนังโฆษณาระดับตำนานของโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดตั้งแต่ ปี 1985 ถึงปัจจุบัน เรื่องนี้ได้ที่ 1 เป็นหนังที่คนทั่วโลกดูและชอบมากทีส่ ดุ ในโลก มีคนดูในยูทบู หลายล้านคน มีคนชอบเยอะขนาดนีผ้ มก็ดใี จ แต่ก็มี คนไทยจำนวนหนึ่งที่ดูเรื่องนี้แล้วไม่ชอบ บอกว่าน้ำเน่าบ้าง วิจารณ์ด้วย เหตุผลฉลาดๆ บ้าง เช่น ทำไมไวโอลินพังแล้วยังสีได้ ผมก็บอกว่า มันสี ไม่ได้หรอก อันนั้นผมโม้ อย่ามัวแต่หาเหตุผลฉลาดๆ มาจับผิดเลย สิ่งที่ คุณควรจะสนใจมากกว่าก็คือ คุณได้ความคิดอะไรจากหนังเรื่องนี้ หนังของจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ได้รางวัลผมก็ดีใจด้วย แต่การทำหนัง ได้รางวัลไม่ได้ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น ชีวิตผมจะดีขึ้นเมื่อผมทำหนังอย่างแพนทีน อย่าง ‘เปลีย่ นประเทศไทย’ ทีม่ ที า่ น ว.วชิรเมธี หรือพ่อผาย (สร้อยสระกลาง) อย่าง ‘ขอโทษประเทศไทย’ ของเครือข่ายพลังบวก ตอนหนังขอโทษประเทศไทย ฉาย มีคนส่งแมสเสจมาบอกว่า ขอบคุณที่ทำหนังเรื่องนี้ให้ดูนะ ผมก็ดีใจ นี่คือสิ่งที่ผมมีความสุข

หนังขอโทษประเทศไทยน่าจะเป็นงานที่คุณได้รับคำชมมากพอๆ กับโดนด่านะ

คำด่าที่ปราศจากอคติผมก็พร้อมน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไข ผมไม่ใช่คน ที่ฉลาดที่สุด ผมอาจจะทำอะไรผิดก็ได้ ผมก็ขอโทษ สิ่งที่ผมอยากให้ทุกคน รูส้ กึ ก็คอื รูส้ กึ ว่าเราแย่แล้ว เราจะเปลีย่ นแปลงอะไรไม่ได้เลยถ้าเราไม่รสู้ กึ แย่ ไม่รู้สึกว่าเรากำลังอยู่บนปัญหา ถ้าอยากให้ประเทศไทยดีขึ้น ก็ต้องถามว่า ประเทศไทยมันไม่ดตี รงไหน แล้วเราต้องแก้มนั ยังไง ไม่ใช่การลืม ถ้าปมยังอยู่ หนองในขายังอยู่ คุณเอาพลาสเตอร์ไปปิดไม่ได้ คุณต้องกรีดแผลออกมา ล้างแผลก่อน ขัน้ ตอนนัน้ มันเจ็บนะ แต่นน่ั คือปัญหาของเราไม่ใช่เหรอ ถ้ามอง อย่างปราศจากอคติ ในฐานะของคนทำ ผมก็กำลังด่าตัวเองด้วยเหมือนกัน ผมก็ผิด เราอย่ากลัวความผิด ยอมรับว่าผิดแล้วก็แก้ เหมือนอย่างที่ท่าน ว. พูดไว้ชัดว่า เราต้องรู้สึกก่อนว่าเราเสื่อมกันสุดๆ แล้ว เมื่อเรารู้สึกแล้ว จึงจะ แก้ได้

ทำไมคุณถึงกล้าทำหนังเรื่องนี้ออกมาในช่วงเวลาที่คนไม่กล้า คุยเรื่องการเมืองกัน

ในขณะที่ทุกคนกำลังกลัวเพราะพูดไปทางไหนก็ผิด ผมใช้วิธีตั้งสติดีๆ แล้วซัดเปรี้ยงเข้าไปเลย “เราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า” ผมทนทำหนังให้


“การขายของมาไกลเกินกว่าจะพูดถึงแค่ โปรดักต์แล้ว เราควรพูดว่าโปรดักต์นี้มีทัศนคติ อย่างไรกับโลกใบนี้” 129


คนลืมเรื่องความขัดแย้งแล้วกลับมารักกันเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะนั่นไม่ใช่ วิธีแก้ปัญหา เหมือนบอกคนเป็นมะเร็งว่า ลืมๆ มะเร็งไปเหอะ อย่าเครียด พุทธศาสนาสอนเราว่า เมือ่ เรามีปญ ั หาหรือมีทกุ ข์ เราจะแก้ปญ ั หาได้ ต้องหา สาเหตุแห่งทุกข์ให้ได้ก่อน มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ

หนังเรื่องนี้ ไม่ผ่านเซนเซอร์ของ กบว. สรุปว่าคุณยอมแก้เพื่อให้ ผ่านไหม

หนังเรือ่ งนีไ้ ม่ตอ้ งแก้ ถ้าไม่ให้ออนแอร์กไ็ ม่ออนแอร์ ผมไม่แก้ ความจริง แก้ไม่ได้ ถ้าคุณให้แก้ก็เท่ากับให้แก้ความจริง ภาพธงชาติที่ขาดก็เป็นธงชาติ ที่ขาดจริงๆ บนยอดตึกธนาคารอะไรสักแห่งทีต่ า่ งจังหวัด ทุกภาพจริงหมด โฮปเวลล์ก็จริง นักการเมือง ต่อยกันก็จริง คุณจะให้ผม เปลี่ยนแปลงความจริงเหรอ

หนังเรื่องต่อไปที่คุณ กำลังจะชวนประชาชน ตั้งคำถามกับนักการเมืองก็น่าจะแรงใช้ ได้นะ

มันคงถึงยุคของเราแล้ว ที่จะลุกขึ้นมาพูดว่า คุณหยุด โกงเราได้แล้ว เลิกทำให้เรา อ่อนแอได้แล้ว เขาเป็นแค่คน กลุม่ เล็กๆ ทีม่ อี ำนาจ แล้วเรา ก็ปล่อยให้คนกลุ่มเล็กๆ นี้มา จัดการประเทศทีใ่ หญ่โต ทำให้ เราแตกกัน เขาคนน้อยกว่าเรา เยอะ ถึงเวลาแล้วที่ต้องถาม พวกเขาว่า โกงทำไมเหรอครับ ตายไปแล้วเอาอะไร ไปได้ คุณจะโลภไปถึงไหน ทำไม คุณไม่คิดถึงประชาชน ผม ไม่ได้ขออะไรจากนักการเมือง นอกจากขอให้คดิ ถึงประชาชน บ้าง ออกนโยบายอะไรก็ได้ ให้ประชาชนเข้มแข็ง รายละเอียดอื่นๆ ยังพูดไม่ได้ตอนนี้

พร้อมโดนด่า

ถ้าทำแบบนี้ก็ต้อง ยอมรับว่ามันมีผลกระทบกับเราแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร ในหลวงบอกว่า ทำดีแต่ ถ้าไม่มีใครเห็นให้ถือเป็นกำไร ยิ่งถ้าทำดีแล้วคนว่า คนด่า อันนั้นเรียกว่า เป็นกุศล นี่คือหลักในการดำเนินชีวิตของผม คอมเมนต์ต่างๆ ไม่ได้ทำให้ผม หยุด ถ้าแน่ใจว่าสิ่งที่คิดเป็นสิ่งที่ดีแล้วก็ทำไปเหอะ ถ้าทำแล้วคนไม่พอใจ ก็หันมาพิจารณาตัวเองว่า ผิดตรงไหน ทำไม่ดีตรงไหน แล้วก็แก้ไข ต้อง ตรวจสอบตัวเองตลอดเวลา งานก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ

ช่วงนี้คุณทำหนังเพื่อสังคมเยอะนะ

ทำอะไรได้ก็ทำ แต่ต้องดูเป็นงานๆ ไป ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ทำ บางครั้ง พออยู่กับคนเก่งๆ ฉลาดๆ เยอะๆ ก็ปวดหัว ถ้าฉลาดแล้วไม่มีตัวตนจะดี แต่ถ้ายึดมั่นถือมั่นในความฉลาดของตัวเอง ว่าตัวเองถูกเสมอ อันนี้เหนื่อย ถ้าต้องทำงานกับคนที่มีความรู้อย่างเดียว ไม่มีปัญญา ผมไม่อยากทำ นักวิชาการหลายคนในประเทศบอกว่า พวกคุณเป็นคนโฆษณา พวกคุณ ไม่เข้าใจปัญหาสังคมหรอก พวกคุณทำไม่ได้หรอก นีค่ อื วิธกี ารทีไ่ ม่ฉลาดเลย เขายึดพื้นที่การเสียสละเพื่อสังคมไว้กับเขาคนเดียว เขาจะไม่ได้แนวร่วมเลย

สุดท้ายเขาก็เป็นคนที่แค่รักตัวเอง ต้องการให้ได้ชื่อว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละ คนเดียว ถ้าฉลาดจริงเขาต้องสร้างแนวร่วม สงวนจุดต่าง

ในหนังโฆษณาขายของทั่วไป คุณเติมประเด็นเพื่อสังคมลงไปเอง หรือว่ามันมากับสตอรี่บอร์ดจากครีเอทีฟตั้งแต่แรก

มีนอ้ ยมากทีม่ ากับสตอรีบ่ อร์ด สตอรีบ่ อร์ดส่วนใหญ่เน้นไปทีค่ วามฉลาด ของหนัง ถ้าทำตามนั้นก็จะได้หนังฉลาดๆ ผมก็สงสัยว่า ทำไมเหรอ ต้องการ ให้คนชมว่าคนทำฉลาดเหรอ เราควรทำหนังง่ายๆ ดูโง่ๆ บ้าง แต่ลกึ ซึง้ นึกไม่ถงึ ดูแล้วคนดูได้อะไร ไม่ต้องซับซ้อนมาก เราต้องทำเรื่องซับซ้อนให้ง่าย อย่าไป ทำเรื่องง่ายๆ ให้ซับซ้อน

ทำไมคุณถึงอยากใส่เรื่องเชิง สังคมลงในหนังโฆษณา

เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอาประเด็น ของสังคมมาอยู่ในงาน ความคิดดีๆ จำเป็นกับมนุษย์ หนังอย่างสมูทอี ถ้าดูดๆี มันก็มคี วามคิดบางอย่างอยู่ หรือหมากฝรัง่ คิดคิด เรือ่ งทีม่ อี าจารย์ ใบ้หวยแล้วหนังก็บอกว่า ถ้าใบ้ถูก ทุกงวดจะมานัง่ อยูต่ รงนีไ้ หม คิดมัง่ สิ ถึงจะขายหมากฝรั่ง แต่ก็ทำให้คน ได้คิด การขายของมาไกลเกินกว่า จะพูดถึงแค่โปรดักต์แล้ว เราควรพูด ว่าโปรดักต์นี้มีทัศนคติอย่างไรกับ โลกใบนี ้ หลายคนทำหนังบัตรเดรดิต แล้วบอกว่า ถ้าคุณมีบัตรนี้คุณ จับจ่ายใช้สอยได้เต็มที่ อยากได้ อะไรก็ได้ การทำหนังอย่างนัน้ เลว เพราะคุณทำให้เขาเป็นหนี้ อย่าลืม ว่าคุณเป็นสถาบันการเงิน ถ้าคุณ ทำให้คนเป็นหนี้มาก มันก็กระเทือน เงินฝากของคุณ มันย้อนกลับมาหา ตัวคุณเอง อย่าคิดตืน้ ๆ คุณต้องหา วิธพี ูดอย่างอื่น ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น หรือใช้เมือ่ จำเป็นต้องใช้ไม่ดกี ว่าเหรอ มันมี วธิ พี ดู ทีไ่ ม่ทำให้สงั คมเดือดร้อน ขึน้ กั บคุณคิดกับมันมากน้อยแค่ไหน

ว่ากันว่า ไอเดียแปลกๆ หลายอย่างผ่านลูกค้าได้เพราะออกมา จากปากคุณ ถ้าไอเดียเดียวกันนี้ ออกมาจากปากของผู้กำกับ รุ่นใหม่ ลูกค้าไม่ซื้อแน่นอน

ทีล่ กู ค้าเชือ่ ผมก็เพราะตอนทีผ่ มยังเป็นผูก้ ำกับหน้าใหม่ ผมก็ยนื ต่อหน้า ลูกค้าประมาณ 10 คน แล้วพูดในสิ่งที่ผมคิดแบบนี้ ถ้าคุณอายุน้อยคุณก็ ต้องมีความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับชุดความคิดเก่า ถ้าคุณแน่ใจว่า ความคิดของคุณถูกต้อง คุณก็ต้องกล้าลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่า ผมคิดแบบนี้ เพราะแบบนี้ แล้วคุณก็ต้องพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ พร้อมโดนลูกค้า ไล่ออกจากห้องโดยไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก พร้อมรับความเจ็บปวด ความกล้าหาญของผมไม่ได้มาจากการได้รางวัล แต่เพราะตอนนั้นผม เป็นคนแบบนี้ ผมถึงได้รางวัล

คุณเคยโดนลูกค้าไล่ออกจากห้องไหม

ไม่ค่อย ผมมีวิธีพูด แต่สิ่งที่ผมพูดมาจากสิ่งที่ผมศึกษา ทำการบ้าน อ่านหนังสือเยอะมาก เศรษฐศาสตร์ การเมือง จิตวิทยา ศาสนา การต่อรอง


ประวัติศาสตร์ ผมเชื่อว่า การจะทำให้ใครเชื่อเรา เราต้องเข้าใจเขาก่อน ผมเข้าใจว่าเขาต้องมีกำไรจากการขายสินค้าของเขา แต่ช่วยไม่ได้ที่ผมต้อง โยงใยเรื่องเข้ากับสังคม แล้วผมก็ต้องเข้าใจผู้บริโภค เมื่อเข้าใจ 2 ส่วนนี้ ค่อยมาหาจุดที่เขาได้ร้อย ผู้บริโภคได้ร้อย มันมีวิธีทำได้ ผมไม่ใช่ผู้กำกับที่ ทำตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาเงินไปวันๆ ใครบอกให้ทำอะไรก็ทำ ผมทำแบบนั้น ไม่ได้ ผมทำหนังโฆษณาเหล้าไม่ได้ เพราะมันเหี้ยเหลือเกิน

ทั้งๆ ที่คุณเป็นนักดื่มตัวยง

ถ้าผมกินเหล้าเท่ากับผมต้องทำโฆษณาให้คนกินเหล้าเหรอ ผมไม่อยาก ไปสร้างกรรมกับคนอื่น ผมรู้ว่าผมเป็นคนที่ไม่ดี อ่อนแอ เมื่อรู้แล้วว่าเป็นสิ่ง ที่ไม่ดี ผมก็จะไม่ทำให้คนมาเป็น แบบผม บางคนบอกว่า คุณทำ โฆษณารณรงค์ให้คนเลิกกินเหล้า แต่คณ ุ ก็ยงั กินเหล้าอยู่ ผมอยาก จะถามว่า โอเค ถ้าผมกินเหล้า ผมต้องทำโฆษณาให้คนกินเหล้า ใช่ไหม ก็ไม่ใช่

คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าได้ สัก 100 ล้านคุณจะยอมทำ โฆษณาเหล้า แต่จะเอาเงิน 50 ล้านไปทำสิ่งดีๆ

คิดไปคิดมา ตอนนี้ให้พันล้าน กูก็ไม่ทำ

คุณอาจจะไม่ชอบ แต่มันดีกับคุณ

ถ้าลูกค้ายืนยันว่ายังไงก็ขอตัวแสดงที่หน้าตาดี

เราก็อาจจะปรับให้ดีขึ้นมาอีกนิด แล้วก็บอกเขาว่า ดีขึ้นมาอีกหน่อย ก็ได้ แต่หนังแย่ลงนะ ผมจะยอมทำตามเขาต่อเมือ่ เขาพูดว่า เขายังติดใน ความคิดของเขาอยู ่ เขาอยากได้ เขาเป็นเจ้าของเงิน และผมต้องทำทุกอย่าง ทีเ่ ขาต้องการ เมือ่ นัน้ ผมจะยอมทำตาม แต่หา้ มบอกผมว่าความคิดของคุณ ถูก เพราะผมไม่เชื่อ และผมก็จะเถียงไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะยอมรับว่า ความคิดของคุณผิด

เคยโดนลูกค้าสวนว่า คุณต่างหากที่เป็นฝ่ายยึดติดกับความคิด ตัวเองไหม ไม่ เพราะผมมีเหตุผล ร้อยแปดพันเก้าที่จะอธิบาย สิ่งเหล่านี้

เหมือนที่ ททท. เคยชวน คุณไปพูดเรื่องการท่องเที่ยวแล้วคุณก็บอกว่า คุณมีเหตุผลมากมายที่ จะอธิบายว่าทำไมเราถึง ควรปิดประเทศไม่ให้มี การท่องเที่ยว

เมื่อไม่มีการท่องเที่ยว ชาวบ้านก็หันมาพึ่งพาตัวเอง ถ้ามีหนังเกี่ยวกับน้ำหอมที่ใช้ มากขึ้น ดิ้นรนหาวิธีอื่นทำให้ แล้วหญิงเยอะติดต่อเข้ามา ดำรงชีพอยู่ได้ ถ้าไม่ได้จาก จะทำไหม สิ่งนี้ เขาก็จะได้จากสิ่งอื่น ทำ แต่ตอ้ งเป็นอีกรูปแบบหนึง่ ขึ้นกับรัฐบาลมีวิสัยทัศน์พอ ให้ความคิดอะไรบางอย่าง เราอยู่ จะหาอย่างอื่นให้ชาวบ้าน ในกองขี้ ที่เรียกว่าธุรกิจโฆษณา หรือเปล่า หรือมีวิสัยทัศน์ ถ้าทุกคนมองว่าเป็นขี้มันก็เป็นขี้ พอจะทำให้ชาวบ้านรู้ว่า เขา แต่ถ้าเราวางขี้ไว้บนสนามหญ้า สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มี มันจะเป็นปุ๋ย ถ้าผมไม่ทำ คนอืน่ เงินหรือเปล่า เหตุผลของการ ก็ทำ ถ้าคนอืน่ ทำก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำ ปิดประเทศคือ เพื่อฟื้นฟูดูแล ยังไง สำหรับผม ถ้ามีแง่มุมอะไร ทรัพยากรทั้งหมดที่มันเสื่อม บางอย่างให้พูดได้ เช่น เราพูดถึง สลายไปกับการท่องเที่ยวให้ แชมพู แต่ก็พูดถึงปัญหาสังคม กลับคืนมาเหมือนเดิม จริงๆ ไปด้วย หรือยืน่ คำถามอะไรให้กับ เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ สังคมก็ควรจะพูด หยุดการท่องเที่ยว ทุกอย่างก็จะฟื้นคืนมาเอง คนก็เหมือนกัน เราต้องฟืน้ ฟู คุณตามใจลูกค้าแค่ ไหน เขาขึน้ มาใหม่ ในช่วง 2-3 ปีทป่ี ดิ ประเทศก็ให้ชาวบ้านหาความรู ้ เรียนรูเ้ รือ่ ง ผมเป็นคนที่เปิดรับความคิดของคนมาก แต่ในการคุยกันเราต้องหา ภูมปิ ญ ั ญาตัวเอง กลับไปหารากเหง้าของตัวเอง ถ้าคุณอยู่บุรีรัมย์ก็ต้องรู้ว่า ข้อสรุปที่ลงตัว เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า เรา เอเจนซี่ และคนดู ภูมิปัญญาชาวบ้านของที่นี่เมื่อร้อยปีที่แล้วเป็นยังไง ให้คนกลับไปหาพื้นถิ่น เราต้องหาให้ได้ ซึ่งไม่ใช่การประนีประนอม ไม่ใช่คุณได้ห้าสิบ ผมได้ห้าสิบ ของตัวเอง เขาจะเริ่มรักและหวงแหนสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เมื่อคิดว่าสิ่งที่ตัวเอง แต่คุณต้องได้ร้อย ผมได้ร้อย คนดูได้ร้อย การได้ร้อยนั้นคุณต้องเสียสละ มีอยู่นั้นดีก็จะต่อยอดจากตรงนั้น เหมือนที่คนญี่ปุ่นหวงแหนและรักใน อะไรบางอย่าง การจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องผ่านกระบวนการ ถิ่นกำเนิด ปรัชญา และวัฒนธรรมของเขา เมื่อนั้นเราจะเปิดประเทศอีกครั้ง คิดเพื่อหาข้อสรุปอันเป็นปัญญานั้นให้ได้ ข้อสรุปที่ฉลาดหรือข้อสรุปที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้เปิดแบบเวียดนามถูกกูถูกกว่า ลาวถูกกูถูกกว่า ทุกวันนี้รัฐบาล อาจไม่ใช่ข้อสรุปที่คุณชอบก็ได้ แต่เป็นข้อสรุปที่ดีกับคุณซึ่งคุณยังไม่เห็นว่า ขายการท่องเที่ยวเหมือนกระเป๋าตลาดนัด เราต้องขายแบบหลุยส์ วิตตอง มันดีกับคุณยังไง หน้าที่ของเราคือทำหนังโฆษณาให้คนดูชอบ ถ้าตั้งเป้า ต้องจำกัดคน ไม่ใช่ใครก็เข้ามาได้เพราะมันถูก ถ้าเราทำประเทศให้กลับมา แบบนี ้ เราต้องตัดความชอบส่วนตัวของคุณออกก่อนนะ มันอาจจะมีบางอย่าง มีค่าได้ ทำให้ทุกตารางนิ้ว ของประเทศมีค่าได้ คุณก็ขายเขาแพงๆ ได้ ที่คุณไม่ชอบ แต่คุณต้องซื้อมัน เพราะคนดูชอบ และนั่นคือประโยชน์สูงสุด ใครๆ ก็อยากซื้อ จะทำแกงไตปลาชามละ 200 ก็ได้ น้ำพริกปลาทูจานละ ที่คุณควรได้ เช่น ลูกค้าบางรายอยากให้ตัวแสดงหน้าตาดี แต่ถ้าตัวแสดง 500 ก็ได้ เมื่อนั้นเราค่อยเปิดประเทศ ผมบอกเขาไปว่า ผมคิดของผม หน้าตาคล้ายชาวบ้านเขาจะรู้สึกว่าโปรดักต์ของคุณใกล้ชิดกับเขามากกว่า แบบนี้

131


“ผมไม่ใช่ผู้กำกับที่ทำตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาเงินไปวันๆ ใครบอกให้ ทำอะไรก็ทำ ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมทำหนังโฆษณาเหล้าไม่ได้ เพราะมันเหี้ยเหลือเกิน”


ในวันที่เรากลับมาเปิดประเทศ ถ้าคุณต้องทำหนังให้ ททท. สักเรื่อง คุณจะทำออกมายังไง

จะบอกว่าเราเป็นประเทศที่ออร์แกนิกทั้งประเทศ อาหารทุกอย่าง ปลอดสารเคมีหมด เต็มไปด้วยสมุนไพรที่มีค่ามาก เต็มไปด้วยทรัพยากรที่ ใสสะอาด บริสุทธิ์ เป็นความอุดมสมบูรณ์ถึงขีดสุดของโลก คุณต้องมา ภาพทุกอย่างต้องดูพรีเมียมหมด มันแพงกว่าตอนนี้แน่ๆ แต่ยังอยู่ในระดับที่ นักท่องเที่ยวจ่ายได้ แล้วชาวบ้านจะดีขึ้น แต่ต้องเริ่มต้นจากเขาต้องรักใน สิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขามีก่อน และรู้ว่าจะพัฒนาไปในทิศทางไหน

หรือแม้แต่ลูกน้องผมก็ inspire ผม หลายคนสอนให้ผมใจเย็น สอนว่าผมเริ่ม ไม่ฟังความคิดของคนอื่นแล้ว

เขากล้าเตือนคุณ

คนที่บอกว่า เที่ยวแล้วเสียเวลาทำงานถือว่าเป็นพวกบ้างานไหม

ไม่ได้เตือน แต่ผมรูเ้ อง เขาแค่พดู ว่า “พี ่ ผมยังพูดไม่จบเลย” ผมก็ โอ๊ย ตายห่า ขอบคุณนายมากว่ะ เด็กขายพวงมาลัยก็ inspire ผมนะ มีอยู่วันนึง ผมขับรถไปแถวพระราม 9 มีเด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆ มาเคาะกระจกถามว่า ซือ้ พวงมาลัยไหม ผมก็ไม่ซื้อ อีกวันผ่านมาอีก เด็กก็เคาะอีก ผมบอกว่าไม่เอา เขาก็เคาะอีก พอเปิดกระจกลง เขาก็ถามผมว่า “พี.่ ..หัวหยิกอย่างงี ้ ไปทำ อะไรกับหัวมา” ผมแม่งงงเลย อีกวันเขาเห็นพวงมาลัยที่ผมแวะซื้อมาจาก ที่อื่นก็บอกว่า “ทีอย่างงี้ซื้อ ไม่ซื้อของหนู” วันถัดมาก็มาเคาะกระจกอีก ผมถามว่ามีอะไร เขายืน่ พวงมาลัยบอกว่า “ให้” ไม่ตอ้ งซือ้ ตอนนัน้ ผมรูส้ กึ เหมือนโดนตบหน้าอย่างรุนแรง ผมเข้าใจว่ามันคงเป็นโควต้าที่ต้องขาย ให้หมด แต่ผมไม่ได้มองในส่วนนั้น ผมมองว่าเด็กคนนี้เราไม่เคยซื้อเขาเลย ตังค์เขาก็คงมีไม่เยอะ แต่วันนี้เขาให้เรา เด็กคนนี้เปลี่ยนชีวิตผมเลย มีครั้งนึงผมก่อกองไฟที่เชียงใหม่แล้วพบว่าทำไมมันติดยากจัง ใช้เวลา จุดวันแรกครึ่งชั่วโมง วันต่อมาก็สั้นลงตามลำดับ แต่ยังไงก็ไม่เกิน 10 นาที มีวนั นึงไปก่อไฟแบบนีท้ บ่ี า้ นแม่แล้วมีชาวสวนเดินผ่านมา เขาจุดติดใน 1 นาที เขาบอกว่าให้จุดอันที่ติดไฟง่ายไปหายาก ไหม้จากฟางไปหากิ่งเล็กแล้วค่อย กิ่งใหญ่ขึ้นๆ สิ่งนี้ก็เปลี่ยนชีวิตผม เมื่อก่อนผมอยากทำให้ประเทศดีขึ้น ด้วย วิธอี ะไรก็ได้ แต่ผมไปคิดถึงขอนไม้ใหญ่ๆ มากเกินไป จริงๆ แล้วถ้าเราเป็นไฟ ก่อนจะเปลี่ยนของใหญ่ต้องเปลี่ยนของเล็กก่อน คุยกับคนที่ติดไฟง่ายก่อน พอเขาจุดติดค่อยลามไปหาคนอืน่ ทุกคนต่างเป็นเชือ้ ไฟ ประเทศก็จะสว่างไสว ฟืนใหญ่มันมีความชื้น ติดยาก ต้องใช้เวลา มองฟืนใหญ่แล้วก็ท้อว่าเมื่อไหร่ จะติด โดยลืมไปว่าทำสิ่งเล็กๆ ให้ติดก่อน ทำกับครอบครัวเราได้ไหม เพื่อนร่วมงานได้ไหม เพื่อนบ้านได้ไหม ถ้าได้ฟืนที่ดีก็จะไปติดอย่างอื่นเอง ถ้าอยากเปลี่ยนประเทศ ไม่ต้องเป็นนักการเมืองก็ได้ เราคิดใหญ่ได้ แต่ต้อง เริ่มจากอะไรเล็กๆ ก่อน

ถ้าทิ้งงานได้สักสัปดาห์ ตอนนี้อยากไปไหนที่สุด

ถ้าคุณเป็นครีเอทีฟแล้วทำให้ลูกค้าขายของได้ คุณก็เป็นครีเอทีฟ แต่ถ้าคุณเป็นครีเอทีฟที่ทำให้ลูกค้าขายของได้ และสังคมดีขึ้นด้วย คุณจะ ไม่เป็นแค่ครีเอทีฟ ครีเอทีฟทุกคนทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นได้ เขาจะทำหรือไม่ทำ เท่านั้นเอง อาชีพครีเอทีฟโฆษณาอยู่ในสภาวะที่ถูกหล่อหลอมให้ตัวตน ตัวกูของกูสงู ขึน้ ทุกคนอยากเป็นทีร่ จู้ กั อยากมีชอ่ื เสียง ต้องการเงิน ต้องการ ความสะดวกสบาย แต่ก็มีครีเอทีฟอีกหลายคนเหมือนกันที่ไม่คิดถึงตัวเอง ปฏิเสธอะไรหลายอย่างแล้วลุกขึน้ มาทำอะไรสักอย่างโดยปราศจากความกลัว ผมจะบอกเขาว่า ผมไม่ใช่คนเก่ง ผมไม่ใช่คนดี ผมคือขีด้ ๆี นีเ่ อง และพวกเรา ก็อยู่ในธุรกิจขี้เหม็นนี้ ผมไม่ได้ดีไปกว่าพวกคุณ แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่า มันเป็นขี้ เราน่าจะมีวิธีทำให้ขี้นั้นมีประโยชน์ได้

เราต้องบริการฝรั่งแบบสุดตัวสุดใจอย่างที่เป็นตอนนี้ ไหม

ถ้าเรามีจิตใจที่จะดูแลเขาเป็นอย่างดีก็เป็นเรื่องที่ดี เขาจะชอบ ถ้าคุณ บริการฝรัง่ ดีแต่บริการคนไทยไม่ด ี อันนีม้ ปี ญ ั หาแล้ว เพราะสิง่ ทีท่ ำยังเคลือบ ไปด้วยประโยชน์ ถ้าเรามองมนุษย์ทกุ คนในโลกเหมือนกันหมด รักและเมตตา เขาเหมือนกันหมด เป็นเรื่องดี แต่ถ้าเริ่มแยกแยะว่า คนนี้มีตังค์มากกว่าต้อง บริการดีกว่า นี่คือสิ่งที่แย่ที่สุด

ในการเดินทางแต่ละครั้ง เราควรได้อะไรจากมัน

ทุกครั้งที่ผมไปเที่ยว ผมอยากเจออะไรใหม่ๆ คนใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ ต้องได้ความรู้ ต้องได้แรงบันดาลใจ ถ้าเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเฉยๆ ผมว่าไม่ใช่การเที่ยว ทุกวันนี้เรานอนวันละ 8 ชั่วโมงอยู่แล้ว ถ้าทำงานที่มี ความสุขก็เหมือนได้พักผ่อนตลอดเวลา ที่คุณต้องการการพักผ่อนอย่างมาก เพราะคุณทำงานที่ไม่มีความสุขมั้ง คุณพบว่างานที่คุณทำไม่มีอะไรน่าสนใจ เลย แต่ต้องทำเพียงเพราะได้เงิน ก็ขอแนะนำให้เลิกทำงานที่คุณไม่ชอบ แล้วไปทำในสิ่งที่ชอบ เมื่อนั้นคุณจะไม่ต้องการพักผ่อน

คุณไม่ ได้เที่ยวมานานแค่ ไหน

น่าจะสัก 3 ปี แต่ผมเป็นคนที่เที่ยวน้อยมาก 5-6 ปีเที่ยวครั้งนึง ชอบ ทำงาน ก่อนมาไม่คอ่ ยชอบ รูส้ กึ ว่าเสียเวลาทำงาน แต่พอมาแล้วก็ชอบทุกที แล้วก็คิดว่า เออ ทำไมกูต้องทำงานด้วยวะ อาจจะเป็นคนทีไ่ ม่กล้าเปลีย่ นแปลงอะไรในชีวติ ผมทำงานเยอะ ไม่กล้า ไปเที่ยวเพราะไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากอยู่ในสภาวะที่คุ้นเคย การทำงานมันสนุกดี ได้แก้ปัญหา ได้คิด แต่พอมาเที่ยวก็พบว่า โลกมันมี อะไรอีกตั้งเยอะ ก็ได้แรงบันดาลใจ เราใช้สมองเต็มที่ในการทำงาน เวลา เที่ยวก็ใช้สมองเต็มที่เหมือนกัน ยังอยู่ในแพตเทิร์นเดียวกับการทำงาน ต่อให้ เจอความสวยยังไงก็จะวิเคราะห์ ทำไมถึงเป็นหลังคาแบบนี้ทั้งเมือง ก็มอง วิสัยทัศน์ของคนที่มีอำนาจ หลังคาต้องเหมือนกันเพราะแต่ละบ้านต้องเป็น ส่วนหนึง่ ของวิวนัน้ มีสว่ นร่วมอยูใ่ นเมืองเดียวกัน รับใช้เมืองร่วมกัน ทำบ้าน ก็ไม่ให้เด่นกว่าคนอื่น หลังคาสีเดียวกัน เหมือนเขารู้หน้าที่ว่า เขาเป็นเมือง ท่องเที่ยว เขามีหน้าที่ต้องเป็นคนต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่เมืองไทยคงไม่ใช่ ต่างคนต่างทำ ต่างคิด รูปแบบก็ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์

ถ้าในงานนี้คุณถูกเชิญไปขึ้นเวทีพูดให้ครีเอทีฟทั้งหมดฟัง คุณอยากพูดเรื่องอะไรที่สุด

ที่ไหนก็ได้ที่มีงานศิลปะเยอะๆ เพราะตอนนี้ร่างกายขาดศิลปะ อาจจะ เป็นญี่ปุ่น ไม่ก็บาร์เซโลนา ในขณะเดียวกันผมก็ชอบอินเดียมาก เพราะ มันมีความหลากหลาย มีความลึกซึ้งอะไรบางอย่าง มีความจนสุดๆ มี พันกว่าภาษา มีศาสนาเยอะมาก น่าสนใจว่าเขาอยู่ร่วมกันได้ยังไง เขา สื่อสารกับคนอื่นได้ยังไง แตกต่างแต่ก็อยู่ร่วมกันได้ เหมือนป่าไม้ที่มีพืชที่ แตกต่างกันมากมายอยู่ร่วมกัน

ฟังดูเหมือนคุณไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน

คุณบอกว่าไม่ดูหนังโฆษณาของผู้กำกับคนอื่นมา 6 ปีแล้ว แรงบันดาลใจในการคิดงานของคุณหลักๆ มาจากคน คนเหล่านัน้ คือใคร

เยอะมาก จากทุกๆ คนที่อยู่รอบตัวผม เพื่อนผม แม่ผม ยาม แม่บ้าน

ในโลกปัจจุบัน เรามักมองอะไรสั้นเกินไป ถ้าพูดเรื่องเศรษฐกิจก็มอง แค่คนที่มีเงินมากที่สุด แต่ลืมไปว่า เมื่อคุณมีเงินมากที่สุด คุณก็เหนื่อยนะ ลำบากในการจัดการมัน ลืมไปว่า ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ลืมไปว่า เราเกิดมา เพื่ออะไร ลืมไปว่า คุณค่าจริงๆ ของมนุษย์คืออะไร โฆษณาเกิดขึ้นมาเพื่อ รับใช้ระบบทุนนิยมอยู่แล้ว ถ้าเราแตะเบรกนิดนึง แล้วตั้งความคิดใหม่ ถ้าโฆษณามันมีอานุภาพขนาดทำให้โลกแย่ได้ ด้วยตัวของโฆษณาเองก็นา่ จะ ทำให้โลกดีขึ้นได้ โฆษณาออนแอร์ตลอดเวลา ถ้าเราใส่เนื้อหาดีๆ ลงไป ในโฆษณา ทัศนคติที่ดี ความคิดที่ดี มันก็ทำให้ประเทศของเราดีขึ้นได้ ผมอยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างให้ดีขึ้นด้วยการใช้โฆษณา เอาเงิน 133


คนรวยมาทำให้คนจนดีขึ้นสิ ตอนนี้เราอยู่ในยุคแห่งการใช้เงิน อย่าปฏิเสธ เงิน แต่จงใช้เงินเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำสิ่งต่างๆ ให้มันดีขึ้นได้ ไม่ใช่ ทำอะไรเพื่อเงินก็เหมาว่าเลวหมด ถ้าคุณจะทำอะไรใหญ่ๆ คุณต้องใช้เงินนะ คุณหาวิธีหาเงินดีๆ สิ โยกเงินคนรวยมาให้คนจนสิ คุณต้องหาวิธีให้ได้

คุณคือโรบินฮู้ดที่ใช้กล้องแทนธนู

ผมไม่ใช่คนดีนะ แต่ผมเป็นคนคิดมาก ถ้าคนยังจนอยู ่ เขายังไม่แข็งแรง ไม่ฉลาด ไม่ดีขึ้น เขาก็ไม่มีเงินให้คุณ คุณต้องช่วยเขา ทำให้เขาดีขึ้นก่อน แล้วเขาถึงจะมีเงินให้คุณ

ถ้าครีเอทีฟอยากใช้ทักษะที่ตัวเองมีลุกขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ ต้อง ทำอะไรเป็นอย่างแรก

ต้องรู้สึกตัวก่อนว่าเราอยู่บนปัญหา เราต้องรู้สึกแย่ รู้สึกว่าเราก็เป็น ส่วนหนึ่งของปัญหา แล้วเราก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานั้นๆ เหมือนกบที่ อยู่ในน้ำร้อน ถ้าน้ำยังอุ่นอยู่กบก็ไม่ดิ้น แต่อาจจะมีกบบางตัวที่เริ่มรู้ว่าเรา อยู่บนเตาแก๊ส เราต้องมองทะลุหม้อให้เห็นว่ามีไฟอยู่ข้างใต้ ถ้าเราเริ่มเห็น สัญญาณ เราก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงก่อน นั่นหมายความว่าเราต้องใช้สายตา ในการมองผู้อื่น แต่หลายๆ คนยังห่วงแต่ตัวเอง ซัมเมอร์นี้กูจะใส่เสื้ออะไร ที่นั่นมีเซลมึงไปหรือยัง ไอโฟนมีแอปพลิเคชันใหม่เว้ย ไม่ได้มองอะไรมากไป กว่าจอโทรศัพท์หรือจอคอมพิวเตอร์ มันต้องมองไปรอบๆ คุณเห็นคนทะเลาะ กันที่ข้างถนนแล้วคุณรู้สึกยังไง คุณเห็นเด็กมัธยมหัวเกรียนซิ่งมอเตอร์ไซค์ แล้วคุณรู้สึกยังไง คุณรู้สึกยังไงกับข่าวเด็ก ป.5 ข่มขืนกัน ถ้าคุณรู้สึกกับสิ่ง ต่างๆ เหล่านี้ คุณจะเริ่มขยับ เพราะเด็กคนนั้นอาจจะมาเคาะประตูบ้านคุณ แล้วเอาปืนมาจ่อหัวคุณแล้วขอของในบ้านคุณทัง้ หมด อันนีเ้ ป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งคิด การคิดเรื่องบวกเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมองอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มอง อย่างมีสติ เราจะได้รู้ว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน จะได้แก้ตรงนั้น

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่บ้านเมืองเรามีปัญหาเรื่องการเมือง อย่างรุนแรง คุณอยู่ตรงไหน และทำอะไรอยู่

ผมไม่สบายใจเลยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าจะทำอะไรต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า คำตอบคือ ผมจะทำให้คนหันมาสนใจการใช้ชีวิตที่อิงกับ ธรรมชาติมากที่สุด

ฟังดูไม่ค่อยเกี่ยวกับการเมืองนะ

ไม่เกี่ยว ผมไม่ค่อยสนใจว่านักการเมืองจะคิดอะไร ผมอยากเปลี่ยน ประเทศนี้ให้ดีขึ้น แต่คงไม่ลงสมัคร ส.ส. เราสามารถเปลี่ยนได้จากตัวเราเอง ก่อน เรารูว้ า่ เรามีเพือ่ นฝูง มีนอ้ งๆ ทีใ่ ห้ความสนใจความคิดเรา หน้าทีข่ องเรา ก็คือพัฒนาความคิดเรา เมื่อผมได้รับแรงบันดาลใจจากผู้อื่น หน้าที่ของผม คือ ผมต้องส่งแรงบันดาลใจนั้นไปหาคนอื่นต่อไป ประเทศน่ะเปลี่ยนได้ แต่ต้องเปลี่ยนที่เรา เราต้องเลือกปิดก่อน ปิดทีวี คือไม่ฟัง ปิดเพื่อให้มีสติ ไม่มีประโยชน์ที่จะมองสิ่งนั้นตลอดเวลา มันทำให้เครียด แต่เราละเลยไม่ได้ การเมืองก็เหมือนซิตคอมวันต่อวัน เนื้อหาคือคนพวกนี้ได้รับการเลือกตั้งจาก ประชาชน สัญญาว่าจะทำโน่นทำนีใ่ ห้ โกหกบ้าง โกงบ้าง แล้วก็เล่นการเมือง กันตลอดเวลา เข้าไปแสวงหาประโยชน์ ทำยังไงให้คนพวกนี้ไม่มีโอกาสทำ อะไรเลวๆ ถามว่า จู่ๆ เขาเดินเข้ามาเขียนชื่อตัวเองสมัครเป็น ส.ส. แล้ว เป็นได้เลยเหรอ ไม่ ประชาชนนั่นแหละเลือกเข้าไป ทำไมประชาชนถึงเลือก ก็เพราะประชาชนเดือดร้อน แล้วก็อยากได้อะไรง่ายๆ อยากได้เงินง่ายๆ ทำไมถึงอยากได้ ก็เพราะเขาขาด ทำไมเขาถึงขาด ก็เพราะเขารู้สึกว่าสิ่งที่ เขามีอยู่มันไม่มีอะไร เขาอ่อนแอ รอการช่วยเหลือ แล้วทำยังไงเขาถึงจะ เข้มแข็ง ก็ต้องหัดพึ่งตัวเอง ทำยังไงถึงจะพึ่งตัวเองได้ ก็ต้องอาศัยความขยัน กับไม่โลภ และเป็นคนดี อย่างแรกที่คุณต้องคิดคือ คุณคืออะไร คุณคือมนุษย์ แล้วมนุษย์คือ อะไร ต้องการอะไร มนุษย์ต้องการเงินเหรอ ตื้นไปมั้ง มนุษย์ต้องการความ สงบสุขในการใช้ชีวิต ตื่นเช้ามาแล้วมีความสุข มีอยู่ มีกิน เหลือค่อยไปขาย

แล้วคุณก็รวยเอง แต่คุณต้องทำนะ ประเทศเรามีแรงเสียดทานหลายๆ อย่าง เรามีกระทรวงเกษตรฯ มีนักวิชาการหลายๆ คนที่ไปสนับสนุนมอนซานโต สนับสนุนคนขายยาฆ่าแมลง คนขายเมล็ดพันธุ์ สนับสนุนการเกษตรแบบใช้ เทคโนโลยีแบบวิทยาศาสตร์ เรื่องเกษตรธรรมชาติไม่เคยถูกบรรจุเข้าไปอยู่ ในนโยบาย สิง่ ทีน่ กั การเมืองทำคือ จับมือกับเอกชน โดยมีเป้าหมายว่า ทำให้ ประชาชนอ่อนแอโดยการเอาเงินมาล่อ ปลูกพืชเป็นเชิงเดี่ยว ซึ่งนานๆ ไป มันทำให้ดินเสีย เพราะปลูกมัน ปลูกข้าวโพด เป็นไร่ๆ ปลูกไปเรื่อยๆ ไม่มี การหมุนเวียน เสร็จปุ๊บแม่งก็ขายปุ๋ย ขายยาฆ่าแมลง อัดเข้าไปใส่เข้าไป คนก็ยิ่งจน พอคนอ่อนแอ ถ้าอ่อนแอก็ต้องพึ่งรัฐ พอพึ่งรัฐเขาก็จะได้รับ เลือกตั้งมาอีก แล้วการอ่อนแอก็นำมาซึ่งประโยชน์ของคนขายเมล็ด คนขาย ยาฆ่าแมลง คนขายปุ๋ย เพราะฉะนั้นทำยังไงถึงทำให้ประชาชนเข้มแข็ง ลืมตาอ้าปากได้โดยไม่ต้องพึ่งนักการเมือง คำตอบคือ กลับไปหาธรรมชาติ กลับไปหาภูมิปัญญาดั้งเดิม กลับไปหาการเกษตรที่ไม่ต้องพึ่งพาเยอะ ความคิดต่างๆ ในโลกยุคหน้ามันกลับไปหาธรรมชาติหมด เราต้องตั้งคำถาม กับปุ๋ยวิทยาศาสตร์แล้วว่าทำให้เราดีขึ้นจริงหรือเปล่า ดินในโลกเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์แย่ลง ทัสคานี่ หรือที่สวยๆ ในสเปน ในอังกฤษ ที่เราเห็นเป็น ทุ่งเรียบๆ น่ะ จริงๆ แล้วดินห่วยมาก เพราะหนึ่ง ปลูกองุ่น สอง เลี้ยงสัตว์ เขาเป็นประเทศกินเนื้อ การเลี้ยงวัวนี่ฆ่าความหลากหลายทางชีวภาพหมด เลยนะ พอไม่มีความหลากหลาย ดินก็เสีย จุลินทรีย์ก็หาย ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น คนรวยโง่ๆ ไปเที่ยวทัสคานี่ก็บอกว่าสวย แล้วเสือกมาทำที่เขาใหญ่ มีต้นไม้ ห่าอะไรแม่งตัดหมดเลย อยากให้เป็นแบบนัน้ คิดแต่ภาพอย่างเดียว ไปเทีย่ ว ก็ไม่เคยคิดเลยว่าทำไม เพราะอะไร มึงเคยเดินลงจากรถแล้วไปถามชาวนา ทีโ่ น่นไหมว่าดินเป็นยังไง มองแต่ความสวย ผมไม่เห็นว่ามันจะสวยเลย ทีส่ วย ที่สุดคือป่าดงดิบในเมืองไทย อันนี้สวยจริง

ตอนนี้คุณต้องการอะไรในชีวิต

ผมเป็นคนที่ทำผิดพลาดในชีวิตบ่อย เวลาผิดก็จำ แล้วถามตัวเองว่า ทำไมถึงผิด เวลาใช้ชีวิตผมเลยคิดตลอดว่า นี่คือชีวิตที่ต้องการหรือเปล่า ผมต้องการให้ชื่อเสียงขจรขจาย ตายไปแล้วคนยังจำชื่อได้หรือ ก็ไม่ สิ่งที่ผม สนใจที่สุดก็คือ เวลาที่ใช้ชีวิต ผมต้องการใช้ชีวิตที่มีปลายทางคือความสุข ก็ต้องตั้งคำถามว่า ความสุขจริงๆ คืออะไร ความสุขคือการที่เรามีใช่หรือไม่ มีเงินมีทอง มีรถ มีบา้ น มีความมัน่ คง มี มี มี มี มี ต้องมีคณ ุ ถึงจะมีความสุข สิง่ ทีต่ ลกทีส่ ดุ สำหรับผมก็คอื มีเยอะๆ แล้วมันเหนือ่ ย ปวดหัว มีเยอะๆ ก็กลัว กลัววันหนึ่งจะไม่มี กลัวมันหายไป ผมเลยพบว่า จริงๆ แล้วความสุขน่าจะ เกิดจากการที่เราไม่มี พอไม่มีมันก็โล่ง มีน้อยๆ มันก็สบายใจ โอเค ตอนนี้ ผมเป็นคนที่มี แต่ผมจะไม่เดือดร้อนเลยถ้ามันจะไม่มี เพราะสิ่งที่เรามีเดี๋ยว วันหนึ่งเราตายไปมันก็ไม่มีแล้ว นี่คือทางกายภาพ ส่วนเรื่องความคิด เราก็ ควรที่จะไม่ยึดติดว่าเรามี เราเป็น ไม่ตัวกูของกู ความคิดกู ไอเดียกู ยินดี ต้อนรับการขโมยความคิดเสมอ เอาไปเลย เอากันไปเยอะๆ สนับสนุนด้วย เพราะความคิดของผมหรือสิ่งที่ผมทำไม่ได้เป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุด ผมก็ได้รับ ความคิดดีๆ จากคนอื่นมาเหมือนกัน และถ้าผมต้องตายไปก็ไม่ต้องเขียน อะไรที่หลุมฝังศพผม

คนที่ยังไม่เคย ‘มี’ จะขอลองสัมผัสการ ‘มี’ ก่อนได้ ไหม

อยากมีก็มีไปก่อน แต่มีแล้วต้องคิดด้วยว่าสิ่งที่คุณมี คือความสุข หรือเปล่า คิดเยอะๆ การที่เรามีตัวตนอยู่ การประสบความสำเร็จ เป็น หลุมพรางที่ทำให้ชีวิตเราหยุด หยุดเพื่อชื่นชมมัน ปลาบปลื้มอิ่มเอิบกับ ความสำเร็จ มีสื่อมาสัมภาษณ์ ต้องขับรถ รถก็ติด เพียงเพื่อไปออกทีวี ไอ้พวกนี้ทำให้ชีวิตผมไม่เดินหน้าต่อ เพราะต้องมาหยุดทักทายสิ่งเหล่านี้ มันเสียเวลา ผมเลยตัดสินใจว่าจะไม่หยุดชื่นชมความสำเร็จ เอาเวลาไปทำ อย่างอื่นที่มีประโยชน์ดีกว่า


คำว่า ‘ผู้กำกับหนังโฆษณาอันดับ 1 ของโลก’ ที่ ต่อท้ายชื่อคุณ ให้อะไรกับคุณบ้าง

เวลาผมพูดก็จะมีคนฟังผมมากขึ้นนอกนั้นไม่มีอะไร แขนขาผมก็ก็เหมือนเดิม ทำงานเยอะๆ เหมือนเดิม

คุณเคยบอกว่าไม่เชือ่ เรือ่ งการทำงานหนักเพือ่ เก็บ เงินจะได้สบาย ตอนแก่

ความสบายคือสิ่งที่มนุษย์ต้องการจริงหรือ ผมเคยถาม คนทำยาสีฟันว่า ยาสีฟันเดี๋ยวนี้มีสารโน่นนี่ดีมาก แต่มนุษย์ ยุคก่อนไม่มียาสีฟัน ทำไมเราขุดซากขึ้นมาถึงเจอฟันเกือบครบ ทุกซี่ เขาบอกเมื่อก่อนเราไม่มีช็อกโกแลต กาแฟ มันชวนให้เรา ตั้งคำถามว่า ตอนนี้เราอยู่ในชุดความคิดที่ว่า เราต้องทำงาน หาเงินเยอะๆ เพื่อให้เราสบาย มีรถขับเพื่อย่นระยะทาง มี ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เดินเข้าไปแล้วมีทุกอย่าง มีระบบเงินเพื่อทำให้ ทุกอย่างสะดวกขึ้น ป่วยก็ไปหาหมอ เกิดมาไม่ต้องเรียนเยอะ รู้แค่เฉพาะอย่างแล้วเอาไปเชื่อมต่อกับส่วนอื่น โลกเป็นระบบ สายพานการผลิตในโรงงานไปแล้ว ทุกอย่างทีม่ นุษย์สร้างขึน้ มา ทำให้มนุษย์ตายเร็ว เรากำลังอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องหรือเปล่า ความสบายทำให้เราอ่อนแอ เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกลไก การทำงานของร่างกายเรา เผลอๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เราสร้าง ขึ้นมา ทำให้เราอ่อนแอ ผมเห็นคนแก่อายุเกือบ 70 ที่เชียงใหม่ แบกกล้วยมาเป็นเครือ แข็งแรงมาก คนแก่ต่างจังหวัดที่ไม่มี ลูกหลานดูแล ทำงานทั้งวัน ดูเหมือนลำบาก แต่ด้วยความที่ เขาดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ต้องพึ่งตัวเอง เขาแข็งแรง ฉิบหายเลย ไม่เหมือนคนรวยในเมือง คนจนตายช้า คนรวย ตายเร็วเพราะสบายเกินไป คนรวยอยากสบายตอนแก่ เลย ต้องทำงานหนักเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อยา เป็นความคิดที่ตลกดี

ความสบายไม่ควรเป็นเป้าหมายของมนุษย์

แม่ผมเพิง่ ล้ม ต้องเข้าโรงพยาบาลทีเ่ ชียงใหม่ หมอว่าคนแก่ มวลกระดูกไม่แข็งแรง วิธีที่จะทำให้แข็งแรงคือต้องเดินบ่อยๆ ต้องมีการปะทะ เณรที่วัดเส้าหลินต้องชกกำแพงทุกวัน ชกทุกวันกระดูก ก็แข็งขึ้น นักมวยก็ต้องเอาขวดเคาะหน้าแข้งทุกวัน ขามันถึงจะแข็งขึ้น ความเข้มแข็งมาพร้อมกับความเจ็บปวดเสมอ แต่เป็นความเจ็บปวดที่งดงาม ถ้าเราปล่อยให้ลูกเดินบนพื้นดินเปล่าๆ ไม่ต้องใส่รองเท้า แรกๆ ก็เจ็บ แต่พอ หนังเท้าหนา เหยียบอะไรก็ไม่เจ็บแล้ว นอนบนพื้นกระดานแข็ง ไม่สบาย แต่มันคือการนอนที่ดีที่สุด ไม่ปวดหลัง การนั่งขี้ยองๆ ขี้ใต้ต้นไม้ เมื่อย แต่ เป็นการขี้ที่ดีที่สุด เร็วที่สุด และถูกสุขภาวะที่สุด มนุษย์สร้างอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกมากมายเพื่อความสบาย แต่สุดท้ายเราก็พบว่า มันก็จะสร้าง ปัญหาต่อไปไม่รู้จบ เช่น ไมโครเวฟ นี่หรือคือการพัฒนาที่ถูกต้อง

ออกกำลังกาย สอง คุณสร้างอาหาร สาม คุณได้กิน จบ สั้นที่สุด ง่ายที่สุด ฉลาดที่สุด มนุษย์เมื่อก่อนผนวกการล่าสัตว์หาอาหารกับการออกกำลังกาย ไว้ด้วยกัน ไม่ใช่ถ้าอยากออกกำลังกายต้องเข้าฟิตเนส อันนี้มันเปลือกมาก ผมพบว่ากล้ามเนื้อของชาวไร่ชาวนาที่ออกแรงทำงานทุกวันเป็นกล้ามเนื้อที่ สวยมาก ความเข้มแข็งไม่ได้เกิดจากการเข้าฟิตเนส แต่เกิดจากการทำอะไร ด้วยตัวเอง แล้วพึ่งพาคนอื่นให้น้อยลง ถ้าเป็นความเข้มแข็งทางจิตใจก็คือ ยึดเหนีย่ วคนอืน่ ให้นอ้ ย พึง่ สติของตัวเองให้มากทีส่ ดุ หัดปรึกษาตัวเอง จิตใจ เราจะเข้มแข็งขึ้น เมื่อให้คำปรึกษาตัวเองได้ ก็ย่อมเป็นที่ปรึกษาผู้อื่นได้

ทุกวันนี้เราคิดว่าการพัฒนาที่ฉลาดคือ ต้องเรียนหนังสือ ต้องแข่งขัน ต้องติว ต้องกวดวิชา ต้องเอนทรานซ์ เข้ามหา’ลัยตามคณะต่างๆ พอเรียนจบ ก็ต้องแข่งกันสมัครงาน พอได้งานก็ทำงานหาเงินซื้อรถ พอได้รถก็ขับรถ ขับไปไหน ก็ขับไปซูเปอร์มาร์เก็ต จอดรถ เสียค่าจอดรถ จอดเสร็จก็เดิน เข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อที่จะไปซื้ออาหาร พอทำงานไปเยอะๆ รู้สึกว่า ร่างกายอ่อนแอ ก็หาเงินอีกเพื่อไปเสียค่าสมาชิกฟิตเนส ต้องเสียเวลาคุยว่า ค่าสมาชิกรายปีรายเดือนเป็นอย่างไร ไปซือ้ รองเท้า ถุงเท้า ซือ้ เครือ่ งวัดชีพจร และอืน่ ๆ อีกมากมาย การทีเ่ ราจะใช้ชวี ติ ในปัจจุบนั มันเหนือ่ ยมาก มันอ้อมมาก และสิ่งที่ดีกว่านี้ ฉลาดกว่านี้คืออะไร ภาพที่ผมเห็น คือชาวสวนธรรมดาๆ คนหนึ่งกำลังขุดดินเพื่อปลูกผัก จบ ในภาพนั้นบอกเราว่า หนึ่ง คุณ

มันเป็นความคิดที่โง่ที่สุด เขาใช้เงินเป็นตัวแบ่งสถานภาพของสังคม ในขณะที่ภูฏานใช้ความสุขเป็นตัววัด ถามว่าคุณมีเงินเยอะแล้วชีวิตดีขึ้น หรือเปล่า คุณแค่มีกระเป๋าพราด้า พูดภาษาอังกฤษคล่อง แต่การพูดภาษา อังกฤษได้เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เรียกว่าปัญญานะ ความรู้ในโลกแบ่งเป็น instinct intellect intuition คุณมีสมองแค่ระดับ intellect เท่านัน้ ระดับ intuition คือไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว คือการให้ผู้อื่น คือระดับปัญญาญาณ นั่นคือ ชาวบ้าน ถามว่าคุณอยู่ในเมืองคุณเคยให้แกงข้างบ้านไหม เคยไปช่วยเขา ซ่อมหลังคาไหม เคยให้อะไรคนอื่นไหม ถ้าเอากรอบแบบตะวันตก กรอบ ทุนนิยมมาครอบ ใช่ คุณเจ๋ง คุณรวย แต่ถ้าเอาอภิปรัชญาของศาสนาพุทธ มาพูด คุณด้อยค่าเหลือเกิน คุณรู้ภาษาอังกฤษ แต่คุณอ่านหนังสืออะไร คุณพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วคุณพูดอะไรออกมา ผมพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง

การพัฒนาที่ถูกต้องควรเป็นยังไง

น่าแปลกที่คนเมืองเรียนสูงๆ ที่ทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็นเลย กลับมองว่าตัวเองเก่งกว่าชาวบ้านที่ทำทุกอย่างได้เองหมด

135


แต่คนต่างชาติก็พยายามฟังว่าผมพูดอะไร คุณไม่จำเป็นต้องพูดให้ถูกหลัก หรอก มันสำคัญตรงที่ความคิดที่คุณจะพูดคืออะไร

ทำไมคุณถึงสนใจความคิดของปราชญ์ชาวบ้าน

คนอย่างพ่อผายเป็นต้นแบบที่ทำให้พบว่า เรามีชีวิตอย่างสะดวกสบาย ได้ด้วยการพึ่งตัวเอง ในขณะที่โครงสร้างของสังคมกำลังนำเราไปสู่การแบ่ง หน้าที่กันทำ ทำให้เราเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง อ่อนแอลง แต่ปราชญ์ชาวบ้าน สอนให้เรารู้จักเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน เป็นหัวขบวนของการพึ่งตัวเอง

ตอนหนุ่มๆ เคยคิดไหมว่าวันนึงคุณจะหันมาสนใจอะไรแบบนี้

ไม่เคยคิดเลย สมัยหนุ่มๆ ผมคิดแต่ชีวิตที่ดีที่สุดคืออะไร ซึ่งไม่ใช่ แบบนี้เลย ตอนนั้นผมมีฮีโร่หลายคน บิลล์ เกตส์ วอเรน บัฟเฟต เท่ๆ รวยๆ ทั้งนั้น จนชีวิตผ่านอะไรมามากขึ้น ก็พบว่าฮีโร่จริงๆ ของผมคือ พระพุทธเจ้า ในหลวง คานธี แมนเดล่า ท่านติช นัท ฮันห์ คนเหล่านี้ต้องการอะไรในชีวิต น้อยมาก แต่เป็นคนที่มีความสุขมาก ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ากับการเกิดมามาก

อะไรทำให้คุณศรัทธาในความดี

ตอนเด็กๆ ผมเคยตั้งคำถามกับความดี แม่บอกว่าทำดีมันยาก แต่ก็ ต้องทำ บ้านผมไม่ได้ถึงกับจน แต่ก็ไม่รวย พ่อเป็นข้าราชการที่ไม่โกง มีลูก 4 คน ได้กนิ แต่นำ้ พริกกับผัก ลูกข้าราชการคนอืน่ ขับรถไปโรงเรียน แต่พวกเรา ขี่จักรยาน เงินก็ไม่ค่อยมี วันนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นคนดี แต่วันนี้ ผมรู้แล้ว มันทำให้เรากล้าพูดถึงอดีตของเรา มันทำให้เราภูมิใจในสิ่งที่เราทำ แม่ผมบอกว่า มันทำให้เรามั่นใจว่าถ้าเราทำดีก็ไม่ต้องกลัวอะไร

ชีวิตช่วงที่คุณเริ่มมีเงินใหม่ๆ คุณใช้จ่ายไปกับอะไรเยอะที่สุด

ผมผ่านชีวติ ช่วงทีไ่ ม่มเี งินมาก่อน นัง่ รถเมล์ ทัง้ เนือ้ ทัง้ ตัวมีเงินอยู ่ 8 บาท

“เราอยู่ในยุคแห่งการใช้เงิน อย่าปฏิเสธ เงิน แต่จงใช้เงินเป็นเครื่องมือหนึ่งในการ ทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ไม่ใช่ทำอะไรเพื่อเงิน ก็เหมาว่าเลวหมด จะทำอะไรใหญ่ๆ คุณต้องใช้เงินนะ คุณหาวิธีหาเงินดีๆ สิ โยกเงินคนรวยมาให้คนจนสิ”

โลกร้อนมากขึน้ การเติบโตของไบโอดีเซล สนามกอล์ฟโง่ๆ ทำให้พื้นที่ผลิต อาหารลดลง พื้นที่ที่จะทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้เหลือน้อยเต็มที ผมพบว่า ทุกอย่างงอกจากดิน อาหารของมนุษย์งอกจากดิน ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราก็ อยู่ไม่ได้ ผมซื้อที่ดินครั้งแรกตอนอายุ 27 ด้วยเหตุผลนึง แต่พอผมอายุ 33 ผมก็ ซื้อที่ดินด้วยอีกเหตุผลนึง ผมต้องการที่ดินเพื่อไปทำอะไรบางอย่างที่ตั้งใจไว้ ก็คือโปรเจกต์ปลูกป่าที่เชียงใหม่

อะไรทำให้คุณสนใจเรื่องต้นไม้ใบหญ้า

มันเริ่มจากผมมีพ่อเป็นนายอำเภอ ต้องตามพ่อไปดูชาวไร่ชาวนา ขึ้นเขาลงห้วย เดินข้ามเขาเป็นลูกๆ พ่อผมเป็นคนรักธรรมชาติ มันเลย ปลูกฝังผมตั้งแต่เด็ก แต่พอมาทำงานด้านดีไซน์ ด้านโฆษณา มันก็ชักจะ ห่างจากสิ่งที่ผมเคยเป็น แต่ความรักยังอยู่

บ้านใหม่ที่คุณกำลังสร้างอยู่บนแนวคิดที่เคารพธรรมชาติมาก

เวลาจะสร้างบ้าน ส่วนใหญ่สถาปนิกจะคิดถึงบ้านก่อนว่าบ้านหน้าตา จะเป็นยังไง พอได้หน้าตาบ้านแล้ว ก็ค่อยไปดูที่พื้นที่ ต้นไม้ไหนขวาง แม่ง สัง่ ตัดต้นไม้กอ่ นเลย เพราะคุณมีภาพในหัวไว้แล้วว่า คุณต้องการบ้านแบบนี้ โดยไม่เคยถามดินตรงนั้น ไม่เคยถามต้นไม้ตรงนั้นว่าพวกมันอยากได้อะไร เราควรเดินคุกเข่าย่อตัวลงไปศึกษาพื้นดินแห่งนั้นอย่างเคารพว่าอะไรคือ สิ่งที่ดีที่สุดกับพื้นดินแห่งนี้ เพื่อที่เราจะขอเข้าไปอยู่กับเขา ถ้าเราจะทำบ้าน เราก็ต้องทำความเข้าใจกับพื้นที่ก่อน สถาปัตยกรรมก็เหมือนอาหาร อาหาร ทีม่ คี ณ ุ ค่าสูงสุดคืออาหารทีถ่ กู ปรุงแต่งน้อยทีส่ ดุ งานสถาปัตยกรรมทีม่ คี ณ ุ ค่า สูงสุดก็คืองานที่ปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เข้าใจบริบทของพื้นที่ให้มากที่สุด

คุณว่าบ้านคืออะไร

คือสถานทีท่ เ่ี ราใช้อยูอ่ าศัย แล้วก็ทำให้เรามีความสุข การจะมีความสุข ได้ต้องไม่ปวดหัว ถ้ามีสวนฝรั่งเศสเนี้ยบๆ ให้คอยดูแล อันนี้ปวดหัว มีสนามหญ้า ก็ต้องฉีดยาฆ่าแมลง ต้องคอยรดน้ำ ต้องเสียเงินค่าหญ้า ค่าคนสวน ค่าคนดูแล ค่าเครือ่ งตัดหญ้า บ้านทีม่ หี อ้ งเยอะก็ปวดหัว ห้อง รับแขก indoor ห้องรับแขก outdoor ห้องน้ำสำหรับห้องรับแขก ห้องหนังสือ ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องดนตรี ห้องฟิตเนส ห้องสำหรับวางโต๊ะสนุกเกอร์ ห้องกินข้าวเล็ก ห้องกินข้าวใหญ่สำหรับแขกพิเศษ ห้องครัวฝรัง่ ห้องครัวไทย ห้องนอนพ่อกับแม่ ห้องนอนแม่ของพ่อ ห้องนอนลูกชายคนทีห่ นึง่ ห้องนอน ลูกชายคนทีส่ อง ห้องนอนแขก ห้องนอนคนใช้ ห้องน้ำของห้องนอนพ่อกับแม่ ห้องน้ำของห้องนอนแม่ของพ่อ ห้องน้ำของห้องนอนลูกชายคนทีห่ นึง่ ห้องน้ำ ของห้องนอนของลูกชายคนที่สอง ห้องน้ำของห้องนอนแขก และห้องน้ำของ ห้องคนใช้ ยิง่ ห้องเยอะ ยิง่ ต้องมีคนรับใช้เยอะ พอคนรับใช้เยอะขึน้ ก็ยง่ิ ต้อง ทำห้องให้คนใช้อีก บ้านก็ต้องใหญ่ขึ้น พอบ้านใหญ่ขึ้นก็ต้องดูแลมากขึ้น เสียเงินมากขึน้ ปวดหัวมากขึน้ หลายคนคิดว่าคนรวยๆ จะสบาย แต่ผมว่า น่าสงสาร ที่ตลกก็คือพอบ้านคุณห้องเยอะขึ้นกลับทำให้คุณอึดอัด เพราะ ห้องเยอะคุณเลยได้แต่ละห้องทีเ่ ล็กลง ผมว่าบ้านทีน่ า่ อยู ่ คือบ้านทีเ่ ก็บของ มีคา่ ไว้นอ้ ยทีส่ ดุ มีหอ้ งน้อยทีส่ ดุ และไม่ตอ้ งดูแลมาก วิธที ำบ้านให้นา่ อยู ่ ก็คอื การทีไ่ ม่ม ี หรือมีให้นอ้ ยทีส่ ดุ คุณจะไม่กลัวขโมย มึงเข้ามาเลย บ้านกูมี แต่หนังสือ มึงขโมยไปเลยหนังสือ เอาไปอ่าน สนามหญ้าไม่ตอ้ งมี ปล่อยให้ มันเป็นป่า เพือ่ นฝูง ลูกเด็กเล็กแดงมา ก็ให้มานัง่ ดูแมลง ดูกง้ิ กือ ดูไส้เดือนไป ใบไม้ตกลงพืน้ ก็ปล่อยมันเน่า ปล่อยให้ไส้เดือนเป็นคนสวน ไม่ตอ้ งไปคอย กวาด ดูแลนิดหน่อย ปล่อยธรรมชาติให้เค้าจัดการกันเองบ้าง ตอนนั้น ความสวยงามที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้น เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ต้องไปป่าไปเขา ไป สวนสาธารณะ อยูบ่ า้ นเราเอง อยูใ่ นป่าของเราเอง

ซื้อปลากระป๋องมากระป๋องนึงแบ่งกันกินกับพี่ชาย วันนั้นคิดว่าถ้ามีเงิน มากกว่านี้คงจะดี ผมอยากมีชีวิตที่สบาย แต่ทุกครั้งที่สบายผมก็ดันชอบ กลับไปนึกถึงตอนลำบาก เออ ตอนนั้นมันมันดีนะ ได้ทำโน่นทำนี่เอง แข็งแรงดี พออายุ 22-23 ผมเริ่มทำงาน มีเงินมากขึ้น ผมก็เอาไปซื้อหนังสือ หมดเลย ที่บ้านผม พ่อกับแม่ไม่ค่อยซื้ออะไรให้ลูก ยกเว้นหนังสือ พ่อแม่ผม สอนว่า ความรูส้ ำคัญกว่าเงิน ตอนนัน้ ผมซือ้ หนังสือเยอะมาก อ่านพวกหนักๆ ประวัตศิ าสตร์ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ การตลาด การลงทุน จิตวิทยา ปรัชญา ศาสนา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และอื่นๆ จนถึงทุกวันนี้ ผมหมดเงินไปกับหนังสือรวมๆ กันแล้วเป็นล้าน พอผมอ่านเยอะผมก็รมู้ ากขึน้ พอรูม้ ากขึน้ ผมก็เก่งขึน้ ทำงานดีขน้ึ พองานดี คนก็เอางานมาให้ผมทำมากขึน้ ผมก็เลยมีตังค์มากขึ้น ลืมตามาอีกที ฉิบหายกูรวยขึ้นนี่หว่า ผมก็เอาเงินมา บ้านใหม่ของคุณอยู่แถวไหน ซื้อที่ดิน ผมซื้อมันด้วยเหตุผลหลายข้อ หนึ่ง การลงทุน สอง เพราะผมชอบ ในหมู่บ้านธารารมย์ แถวรามคำแหง กว้าง 350 ตารางวา มีจามจุรี ต้นไม้ ผมชอบธรรมชาติ สาม เพื่อความอยู่รอด เพราะเมือ่ ประชากรเยอะขึน้ 9 ต้น อันนี้แหละที่ดูดให้ผมซื้อ อาจารย์จุลพร นันทพานิช (คณะสถาปัตย-

136 a day


กรรมศาสตร์ มช.) บอกว่าที่ผืนนี้ไม่มีใครรุกล้ำมาเกือบ 50 ปี เป็นที่ดินเก่าที่ อะไร ตื่นมาก็ทำงาน มีกาแฟแก้วนึงก็นั่งทำโน่นทำนี่ไป พอหิวก็กินข้าว ผม ไม่มใี ครมาจัดการ มีเฟิรน์ ขึน้ น่ะ มีความหลากหลายมากในพืน้ ที ่ 1 ตารางฟุต อยากมีสวนครัว จะได้เดินไปเด็ดผักมาผัดกิน กินเสร็จก็นั่งเล่น แล้วก็กลับไป มันสุดมาก เชื่อไหม พอเห็นแบบนี้ มาฝรั่งเศสแล้วผมไม่ชอบสวนฝรั่งเศส ทำงานต่อ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ห้องนั่งเล่นของผมไม่มีทีวี ใครเอาปืนมาจ่อหัว เลยนะ ผมว่ามันไม่สวย มองไปก็เห็นแต่สิ่งที่มนุษย์เข้าไปจัดการ ทุกอย่าง แล้วบอกว่า ถ้าคุณทำบ้าน บ้านคุณต้องมีโซฟา มีทวี ี (ทำเสียงเป็นสถาปนิก) เป็นระเบียบ อยู่ในความควบคุม อยู่ในสายตาของมนุษย์ ไม่เห็นสิ่งมีชีวิต เอาล่ะครับคุณธีรชัย เดี๋ยวผมจะออกแบบ อันนี้เป็นห้องนั่งเล่น ทีวีตั้งตรงนี้ ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ไม่มีการพึ่งพาอาศัยกัน ไม่มีความหลากหลาย เจ้าของบ้านก็พยักหน้าหงึกๆ แบบ เออ ห้องนั่งเล่นต้องมีทีวี แล้วคุณไม่ถาม เห็นแต่การกำหนดว่ากูจะตั้งต้นไม้ตรงนี้เป็นแนวนี้ จะตัดตรงนี้ให้ตรง ตัวเองบ้างเลยเหรอว่าคุณดูทีวีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน ผมสังเกตว่า มันไม่มีชีวิต แต่ป่ามีชีวิต ทุกตารางนิ้วถูกกำหนดมาแล้วด้วยแสง ด้วยลม เวลาใครมาหาผมทีบ่ า้ น ทีท่ ด่ี ที ส่ี ดุ คือนัง่ คุยกันนอกบ้าน กินไวน์กนั ผมไม่เคย เขาจัดระเบียบของเขาเอง มหัศจรรย์มาก เห็นเพื่อนๆ ที่มาบ้านผมจะนั่งดูทีวีกับผมเลย คิดไปคิดมา ผมว่าทีวีนี่แหละ คุณได้เรียนรู้อะไรจากการสร้างบ้านหลังนี้ ตัวปัญหา และรายการบางรายการในทีวีก็เป็นตัวปัญหา เชื่อไหม ผมเลิก สถาปนิกคนที่ทำบ้านหลังนี้ชื่อคุณเอกและคุณพร เป็นแฟนกันเป็น ดูทีวีมาปีนึงแล้ว ถ้าดูก็ดูแต่ดีวีดี สิ่งมหัศจรรย์ก็คือ เวลาผมเหลือเยอะมาก คนน่ารักมาก ไม่มีอีโก้ ขยันมาก และคิดเยอะมาก คุณเอก คุณพร และผม เพราะฉะนั้นบ้านใหม่ที่ผมกำลังจะทำ ผมจะทำให้มันด้อยค่าลงไป มันจะอยู่ คุยกันเยอะมาก เนื้อหาที่เราคุยก็เป็นเรื่องชีวิตคืออะไร ที่อยู่อาศัยคืออะไร ในมุมมุมนึงของห้องนอนเท่านั้น บางทีถ้าเราอยากดูดีวีดีงานก็ดู พอบ้าน เราคุยกันว่าทำอย่างไรให้บ้านถูกที่สุด ถูกใจที่สุด ดีที่สุด ดูแลน้อยที่สุด ไม่มีห้องนั่งเล่นก็เบาขึ้นเยอะ ห้องน้อยลง การดูแลรักษาน้อยลง ชีวิตง่ายขึ้น อยู่สบายที่สุด และสวยที่สุด ในความคิดของเรา สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า เมื่อจัดการน้อยลง ก็มีเวลามากขึ้น นั่นหมายความว่า เราจะมีเวลามากหรือ รูปร่างหน้าตาบ้านควรจะกลืนไปกับพื้นที่ ไปกับต้นไม้ พูดง่ายๆ เหมือน ไม่มากขึ้นกับตัวเรา เราเป็นคนกำหนดเอง ผมคำนวณหมด แม้แต่การคุยกับ มีบ้านแต่มองไม่เห็น เห็นแต่ต้นไม้ คุณเอกบอกว่า ทำบ้านกับพี่ผมเขียน แม่บา้ นบอกว่าให้ไปช่วยเช็ดตรงนีห้ น่อย เพราะห้องมันเยอะ อันนีม้ นั เสียเวลา หนังสือได้เล่มนึงเลย ผมตั้งคำถามว่า เราเกิดมาพร้อมความเชื่อที่ว่า มนุษย์ ผมก็เสียเวลา แม่บ้านก็เสียเวลา เอาออกให้หมด ให้เหลือน้อยที่สุด พอไม่มี เป็นผูก้ ำหนดทุกสิง่ เป็นผูก้ ระทำ เป็นผูม้ อี ำนาจ เวลาผ่านไปนับร้อยนับพันปี เราก็มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น ถ้าบอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ทำไมเราถึงใช้เวลาไป มนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลา ไม่เคยฟังเสียงธรรมชาติ มนุษย์ต้องการ ทำสิง่ ทีไ่ ม่มคี า่ สิง่ ทีม่ คี า่ ทีส่ ดุ ในชีวติ ผมคือเวลา ไม่ใช่เงิน เงินเสียไปยังเอาคืน ดำรงสถานภาพแห่งตัวตนอยู่ตลอดเวลา สีทาบ้านต้องเป็นสีที่รักษาพื้นผิว ได้ แต่เวลาเสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เลยใช้คุ้มมาก ไม่ใช่คุณมีตังค์แล้วต้องทำ อย่างดี แผ่นไม้ตอ้ งทาเคลือบให้ดำรงอยูจ่ นลืมไปว่า ถ้าซูมเข้าไปในโมเลกุลไม้ ห้องเยอะๆ ไม่มีใครบอกให้คุณทำแบบนั้น คุณทำเยอะเองคุณก็เหนื่อยเอง มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทันทีที่คุณทาเสร็จ มันก็เริ่มเสื่อมแล้ว ถ้าคุณรวย คุณก็มชี วี ติ อยูเ่ รียบๆ ได้น ่ี แล้วก็เอาเงินไปทำอย่างอืน่ ทีม่ ปี ระโยชน์ ทุกอย่างมีความเสื่อม แต่มนุษย์พยายามแอนตี้เรื่องความเสื่อมตลอดเวลา ไปทำป่าทำเขาดีกว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำไม่ได้ แล้วไงล่ะ คุณอยากให้บ้านสวยตลอด แต่ทำไมเวลา ตอนนี้คุณกำลังสนุกกับการซื้อที่ปลูกป่าอยู่ที่เชียงใหม่ ด้วยเงิน ไปเทีย่ วถึงไปน้ำตก ไปทะเล ไปป่าล่ะ เพราะลึกๆ คุณคือส่วนหนึง่ ของธรรมชาติ ทั้งหมดที่คุณมี ถ้าคุณไม่เอาไปปลูกป่า เงินจำนวนนี้สามารถซื้อ แล้วธรรมชาติคืออะไร ก็คือการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผมก็เลยทำบ้าน อะไรได้บ้าง ด้วยการเอาความเสื่อมเป็นความงามไปเลย โบกปูนก็โบกให้มันหยาบๆ (หยิบเครื่องคิดเลขมากด) ผมสามารถซื้อรถซูเปอร์คาร์ระดับท็อปของ ผนังถ้ามันต้องเปลี่ยนแปลง ก็เอาโยเกิร์ตราดให้ตะไคร่ขึ้น ราขึ้น ทำให้เขา โลกได้ 40 คัน อยู่อย่างมีความสุขไปเลย ผนังบ้านผมก็จะเป็นผนังที่เปลี่ยนแปลงทุกวินาที อะไรทำให้คุณอยากเอาเงินจำนวนนี้มาปลูกป่า โดยที่เชื้อเชิญเลยว่า คุณครับขึ้นมาบนผนังผมเลยครับ ไม้ก็ไม่ต้องไปทา เริ่มจากผมไปบ้านคุณสาธิต กาลวันตวานิช (ผู้บริหารบริษัทฟีโนมีน่า) เคลือบอะไร ถ้ามันเสือ่ มมันผุกส็ วยดี จะสกปรกก็เรือ่ งของมัน มีตะขาบ หนอน เป็นบ้านริมน้ำอยู่จังหวัดลำพูน เป็นบ้านไทลื้อ ออกแบบโดยคุณจุลพรและ ไส้เดือนก็อยูร่ ว่ มกันไป สนุกดีออกมีการเปลีย่ นแปลงทุกวัน ถ้าต้องอยูใ่ นบ้าน คุณสาธิต เป็นบ้านไทยที่สวยมาก น่าอยู่ ทุกครั้งที่หยุดตอนปีใหม่ ผมจะไป ที่โมเดิร์น แล้วมีสนามหญ้าเรียบๆ ตื่นมาก็เหมือนเดิมทุกวัน ตายดีกว่า ทีบ่ า้ นหลังนีท้ กุ ปี วันๆ ไม่ทำอะไร นัง่ คุยนอนคุยกับคุณสาธิต คุยกับคุณจุลพร เป็นสถาปัตยกรรมทีส่ นุกมาก เป็นสถาปัตยกรรมทีแ่ อนตีส้ ถาปัตยกรรม คนสองคนนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผม ทั้งความคิดความรู้และทัศนคติ บ้าน อีกที เป็นบ้านที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีสนามหญ้า ปล่อยรกเป็นป่าเลย หลังนี้มีต้นไม้เยอะมาก ผมไปทุกปี ผมสังเกตเห็นว่าต้นไม้มันโตเร็วมาก แล้วทำสะพานเชือ่ มไปทีต่ วั บ้าน อาจารย์จลุ พรบอกว่า ไม่ตอ้ งไปทำอะไรเลย เพราะผมเห็นมันตั้งแต่ต้นเล็กๆ เป็นต้นไม้ที่ปลูกจากเมล็ด คุณเชื่อไหมแค่ แค่เอาสิ่งที่มนุษย์สร้างอย่างเศษอิฐ เศษปูน เศษพลาสติกออกก็พอ ที่เหลือ 4 ปีต้นมันสูงทะลุขึ้นไปเป็นสิบเมตร ในปีนั้นที่ผมเห็น ผมก็มานั่งคิดว่า ธรรมชาติจะจัดการเอง โอ้โห นี่มันคือสุดยอด พอไม่ต้องจัดการ ก็ประหยัด เอ๊ะ ถ้ากูปลูกเยอะๆ มันก็กลายเป็นป่าเลยสิวะ คุณจุลพรก็บอกว่า ทำป่า ต้นทุนได้เยอะมาก แล้วก็งาม เป็นความงามที่มนุษย์สร้างไม่ได้ ในยุคนี้ผม ไม่ยาก ง่าย ทำเลย ตอนแรกทำไปก่อน 17 ไร่ คุณจุลพรเป็นคนคิดและ เห็นแต่สิ่งที่มนุษย์สร้างอยู่รอบตัว มันน่าเบื่อจะตาย ปั๊มปึ้งๆๆ รู้อยู่แล้วว่า จัดการทั้งหมด พอแกเริ่มปลูก ไอ้มนุษย์หน้าโง่อย่างผม ก็เริ่มฉลาดขึ้น เดี๋ยวออกจากรางมามันก็เหมือนกัน โรเล็กซ์มึง โรเล็กซ์กู ก็เหมือนกัน แต่ เริ่มเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ จากนั้นอีกปีหนึ่งที่ดินแปลงข้างๆ ก็ประกาศขาย ผมอยากเห็นธรรมชาติที่พระเจ้าสร้างตรงหน้าผม เช่น ป่า ผมอยากดูว่ามัน เป็นที่ดินติดแบงก์ เป็นที่ดินของโครงการหมู่บ้านจัดสรรขายทั้งโครงการ ผม เติบโตขึ้นมายังไง ผมไม่อยากได้เฟอร์รารี่หรือโรเล็กซ์ในบ้านผม แต่ผมอยาก ก็ตดั สินใจซือ้ กลับมากรุงเทพฯ ผมก็ทำงานหนักมาก เพือ่ หาเงินซือ้ ทีแ่ ปลงนัน้ เห็นต้นไม้ว่ามันมีชีวิตยังไง มีสัตว์มาอยู่ในที่ของผม ต้นไม้ทุกต้น สัตว์ทุกตัว 2 ปีถัดมา คุณจุลพรก็ชวนผมกับคุณสาธิตไปเดินป่าด้วยกัน ที่นั่น ไม่เคยเหมือนกัน ขนาดฝาแฝดยังไม่เหมือนกัน นี่คือความมหัศจรรย์ การสลายตัวตนก็เริ่มเกิด ในป่าไม่มีอะไรเลย ห้องน้ำไม่มี วิทยุไม่มี ทีวีไม่มี การทำบ้านก็คือการค้นหาตัวเองว่าจริงๆ แล้วตัวเราเป็นยังไง ต้องการ ไม่มีห่าอะไรสักอย่าง ผมกางเต็นท์ใช้เวลาเกือบ 15 นาที ลูกหาบเผ่ามูเซอ อะไร และอยากใช้ชีวิตยังไง พบว่า ทุกอย่างมันต้องเสื่อม ชีวิตผมไม่มีอะไร ใช้เวลาแค่ 5 นาที มีมีดเล่มเดียว ฟันไผ่ ฟันต้นกล้วย ฉุบฉับๆ เสร็จออกมา อยู่แล้ว วันนึงก็ต้องตาย ก็เลยถามตัวเองว่า เราเป็นคนยังไง ก็เป็นคนไม่มี แล้วเป็นเพิงเล็กๆ จากการทีต่ อ้ งช่วยเหลือตัวเองในป่า ผมพบว่า ผมฉลาดขึน้ 137


“กล้ามเนื้อของชาวไร่ชาวนาที่ออกแรงทำงานทุกวัน เป็นกล้ามเนื้อที่สวยมาก ความเข้มแข็งไม่ได้เกิดจาก การเข้าฟิตเนส แต่เกิดจากการทำอะไรด้วยตัวเอง แล้ว พึ่งพาคนอื่นให้น้อยลง” 138 a day


เพราะความไม่ม ี เราเลยต้องใช้สมองมากขึน้ ทีต่ ลกกว่านัน้ คือ ในป่านัน้ นอน สบายมาก เราใช้เวลาก่อนนอนคุยกัน เช้ามา ผมปวดขี้ ผมต้องไปขี้ใต้ต้นไม้ เชื่อไหมว่านี่คือการขี้ที่ดีที่สุดในชีวิตของผม เราเริ่มคุยกัน เริ่มตั้งคำถาม เกี่ยวกับการขี้ การขี้ครั้งนี้ของผม ผมพบว่า ผมไม่ต้องขี้ในห้องน้ำ เมื่อไม่มี ห้องน้ำ ก็ไม่ต้องมีเซรามิก ไม่ต้องระเบิดภูเขาเพื่อมาทำเซรามิก ไม่ต้องมี ที่ฉีดตูด ไม่ต้องสร้างโรงงานถลุงเหล็ก เพราะไม่มีก๊อกน้ำ ไม่ต้องสร้าง โรงงานผลิตพลาสติก เพราะมันไม่มีลูกลอย ไม่ต้องมีถังเก็บขี้ เป็นการขี้ที่ คลาสสิกที่สุด ใช้แค่ทิชชู ที่ตลกกว่านั้น ขี้ของผมไม่ต้องไปอยู่ในถังเก็บขี้ แต่ขี้ของผมมันลงไปหาต้นไม้เลยกลายเป็นปุ๋ย ผมพบอะไรมากมายจากการเดินป่าครั้งนั้น พบว่าจริงๆ แล้ว มนุษย์ ไม่ต้องการอะไรมาก ต้องการอากาศที่บริสุทธ์ น้ำที่สะอาด อาหารที่ไม่มี สารพิษ เพราะฉะนั้นป่าต่างหากที่สำคัญ ปัญญาของคนต่างหากที่สำคัญ ผมเลยคิดว่า ก่อนตายถ้าผมทำให้คนอื่นรู้สึกแบบเดียวกับที่ผมรู้สึก ประเทศ น่าจะดีขน้ึ ได้ เพราะคนทีม่ ปี ญ ั ญาคนนึงก็สร้างแรงบันดาลใจให้คนได้เป็นร้อย เป็นพันเป็นหมืน่ ถ้าเรามีคนมีสติปญ ั ญาดีๆ ทีน่ า่ รักสักร้อยคน โอ้โห ประเทศ เปลี่ยนเลยนะ แล้วปัญญามาจากไหน ก็มาจากธรรมะ ธรรมะมาจากไหน ก็จากธรรมชาติ ผมไม่เคยเห็นคนทำธุรกิจปลูกต้นไม้ขายมีข่าวในหน้า หนังสือพิมพ์ยิงกันดับคาซ่อง คนที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจิตใจจะดี เหมือน ชาวบ้านแต่ก่อนที่มีที่นาเป็นของตัวเอง เป็นภาพที่ดีงาม ความสวยงามมัน เกิดจากธรรมชาติ การให้คนกลับไปตรงนั้นน่าจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง

คิดแบบนี้มานานแค่ ไหนแล้ว

ตั้งแต่อายุ 30 เริ่มทำจริงจังตอนอายุ 38 เมื่อ 4 ปีก่อน ไม่ใช่สิ ต้อง นับว่า 5 ปี เพราะใช้เวลาปีนึงเต็มๆ ในการเตรียมเงิน เตรียมอะไรต่างๆ

คุณจริงจังกับมันมาก

ผมทุ่มทุกอย่าง ทำงานหนักมาก ปีนั้นปีเดียว ผมทำหนังโฆษณาไป 114 เรื่อง เพราะต้องการเห็นสิ่งนี้สิ่งเดียวเลย

ป่าของคุณใหญ่ ไหม

ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 85 ไร่ เลียบแม่น้ำปิง ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ที่อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ ตรงนี้เป็นที่ที่ดีมาก เดิมเป็นของหมู่บ้านจัดสรร ถ้าผมมีทด่ี นิ ติดแม่นำ้ ยาวประมาณกิโลนึง สิง่ ทีง่ า่ ยทีส่ ดุ คือ ไม่ตอ้ งทำอะไรเลย แบ่งเป็นแปลงแล้วขาย แค่นั้นผมก็น่าจะได้เงินประมาณพันล้าน แต่ผมทำ ในสิ่งที่โง่ที่สุดในสายตาของมนุษย์ทั่วไป คือ ปลูกป่า เพราะผมอยากเห็น พื้นที่ป่าริมแม่น้ำปิงกลับคืนมาเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน

ที่ตรงนี้เคยเป็นป่ามาก่อน

ทุกที่ในโลกเคยเป็นป่ามาก่อน

ชาวบ้านเข้ามาใช้ประโยชน์ ได้ ไหม

ได้ แต่ถ้าคุณอยากได้ผักจากที่นี่ คุณต้องปลูกคืน ถ้าอยากได้ตะไคร้ สักต้น ก็เอาไปได้เลย แต่ต้องปลูกเพิ่ม จนกระทั่งชาวบ้านรู้ว่า เอ๊ะ ทำไม ต้องเดินมาขอมันด้วย ปลูกเองทีบ่ า้ นก็ได้ ผมคงทำเป็นรีสอร์ต มาถึงก็เก็บเงิน คุณก่อนเลยประมาณหมื่นห้าต่อวัน แต่ถ้าคุณปลูกต้นไม้ในที่นี้ เราจะคืนเงิน ให้ต้นละ 200 ถ้าปั่นจักรยานผลิตไฟฟ้าใช้เอง ก็คืนให้อีก ถ้าปลูกต้นไม้อีก ก็คืนอีก เผลอๆ คุณอาจจะพักฟรี แล้วคุณก็มีส่วนทำให้พื้นที่นี้ดีขึ้น ถ้า ลูกคุณกลับมาที่นี่อีกครั้งก็จะเป็นว่าต้นไม้ที่เขาปลูกมันโตขึ้น เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะกลับไปปลูกต้นไม้ที่บ้านของคุณเองก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการเงิน แต่ ต้องการดูแลรักษาที่นี่ในลักษณะที่เคารพธรรมชาติ สิ่งที่สำคัญกว่าเงิน คือ ความคิดคน ผมตัง้ โจทย์วา่ คุณต้องเสียเงินก่อนหมืน่ ห้า แต่พอคุณปลูกต้นไม้ ช่วยดูแลพื้นที่ ผมก็จะบอกว่า สิ่งที่คุณทำ คุณค่ามันมากกว่าเงินหมื่นห้าอีก

ของผม เพราะมันยังไม่ดพี อสำหรับผม ผมอยากเปลีย่ นด้วยการทำสิง่ เล็กๆ เช่น ปลูกป่า อีก 10 ปีข้างหน้า ทั่วโลกจะประสบปัญหาเรื่องขาดอาหาร ระบบทุนนิยมจะพัง ปัญหาสิง่ แวดล้อมจะทำให้เรามีพน้ื ทีผ่ ลิตอาหารน้อยลง อาหารยิ่งหายาก วันนั้น เราตั้งคำถามกับชีวิตว่า เงินคืออะไร คุณค่าของ ชีวิตเราคืออะไร บางทีคุณค่าของชีวิตอาจไม่ใช่เงินอีกต่อไป มันอาจจะเป็น องค์ความรู้หรืออะไรก็ตามที่ดีต่อคนอื่น อย่างการเคารพธรรมชาติ เพราะคน ทำตัวเหนือธรรมชาติ ทำลายธรรมชาติตลอดเวลา เมือ่ ทุกอย่างในโลกพังหมด เราจะกลับไปหาชีวติ แบบดัง้ เดิมอีกครัง้ เราต้องเตรียมพร้อม อาจฟังดูเหมือน ผมบ้า แต่ขอโทษ โลกหน้ามนุษย์จะกลับไปหาธรรมชาติ

การทำหนังใหญ่ยังเป็นความฝันของคุณอยู่ ไหม

ยังอยากทำ มันจะเป็นหนังที่ทำด้วยความสามารถทั้งหมดที่ผมมี ใช้เงินน้อยๆ แต่สนุกมาก เนื้อหาจะเป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้คนดีขึ้น มีความคิด มากขึ้น มีปัญญามากขึ้น ผมชอบหนังอย่าง Local Hero หนังง่ายๆ อย่าง Little Miss Sunshine, Forest Gump มันเป็นหนังที่มีคุณค่ากับโลก หรือ หนังอิหร่านอย่าง Children of Heaven ที่ยังอยู่ในใจผมตลอดเวลา ผมอยาก ทำหนังเล็กๆ ทีพ่ ดู ประเด็นเกีย่ วกับมนุษย์ โดยความตลก ความสนุก เป็นแค่ สิ่งที่หุ้มห่อเนื้อหา เนื้อหาต้องง่าย คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายๆ ผมเชื่อว่าหนังมี อิทธิพลต่อคนอยู่แล้ว ถ้าเราใส่สิ่งที่ดีเข้าไป คนดูก็ได้สิ่งที่ดี สุดท้ายผมจะ บอกว่า ผมไม่ใช่คนดีหรอก ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เคยทำอะไรเลวๆ ผม ไม่อยากออกสื่อหรือออกทีวีเพราะถ้าออกไปแล้วไปพูดอะไร คนที่มันไม่เห็น ด้วยมันก็ด่า พูดดีเกินไปมันก็หมั่นไส้ ผมก็รู้ มีคนด่าก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าจะ มีใครด่าก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา ผมคิดแบบนี้ แต่ในหน้าที่ของ ความเป็นมนุษย์ แม่ผมสอนว่า ต้องเป็นคนดี คิดดี ความดีคือความฉลาด อย่างหนึ่ง ฉลาดที่สุด ถ้าเราเป็นคนดี เราจะเป็นคนฉลาดโดยอัตโนมัติ นักธุรกิจที่ฉลาดที่สุดก็คือนักธุรกิจที่ให้มากที่สุด ผมเชื่ออย่างนั้น

หนังที่ดูแล้วอยากเป็นคนดีทำยากไหม

หมูๆ แค่อธิบายว่าความดีมันดียังไง สวยงามยังไงเท่านั้นเอง วันก่อน มีคนถามผมว่า ถ้าผมดูหนังแล้วร้องไห้จะร้องเพราะอะไร ผมก็มาคิด เศร้า เหรอ ผมไม่เคยร้องไห้เพราะเศร้าเลยนะ ผมร้องไห้เพราะเห็นความดีในหนัง เห็นความประทับใจ เห็นใครสักคนที่เป็นคนดีมาก ผมร้องไห้เลย วันก่อนเพิ่ง ดูหนังเรือ่ ง Invictus ทีค่ ลินต์ อีสต์วดู้ กำกับ มอร์แกน ฟรีแมน เล่นเป็นเนลสัน แมนเดล่า มีฉากนึงที่แมตต์ เดมอน ซึ่งเล่นเป็นกัปตันทีมรักบี้ ในฉากนั้น แมตต์ เดมอนยืนอยู่ที่หน้าต่างมองออกไปข้างนอกแล้วพูดว่า ผมไม่เข้าใจว่า เนสสัน แมนเดล่า เป็นคนผิวดำ ติดคุก 27 ปีโดยคำสั่งของคนขาว แต่ทันที ที่ออกจากคุก เขาก็ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สิ่งแรกที่เขาทำคือการ ให้อภัยคนขาว สนับสนุนให้คนขาวทำทีมรักบี ้ แมตต์ เดมอนมองไปทีห่ น้าต่าง แล้วพูดประโยคนี้ ช็อตนั้นผมร้องไห้เลย มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มาก การทีแ่ มนเดล่าจะทำอย่างนัน้ ได้เขาต้องลืมความลำบาก ลืมความเป็นคนดำ ของเขา แล้วหันมามองประโยชน์สว่ นรวมของชาติ แล้วการให้อภัยจะตามมา คนทีล่ มื ความเจ็บแค้นได้ จิตใจต้องสูงมาก ดูเสร็จผมอยากนัง่ เครือ่ งบินไปหา คลินท์ อีสต์วู้ด อยากบอกกับเขาว่า ขอบคุณมากครับที่คุณทำหนังเรื่องนี้ ให้เราได้ดู

ความฝันของคุณในวันนี้คืออะไร

ผมเป็นแค่ผกู้ ำกับตัวเล็กๆ คนหนึง่ บนโลกใบนี ้ ทีฝ่ นั อยากเปลีย่ นประเทศ 139



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.