FINEDAE MAG NO.08

Page 1




F I N E TA L K W W W. F I N E D A E M A G . C O M

I s s u e 0 8 Editor’s Talk >>> ลูกทุ่งเสียงทอง

Cover Photo: ภาพประชาสัมพันธ์ลกู ทุง่ วิจติ รศิลป์ 55 ตอนลูกทุง่ คาเฟ่ Model: ไรวินทร์ กิตติวงศ์ศิริ Photo: สุขสันต์ เวียงศิริ ่

ผมแทบจะไม่เคยเห็นนักร้องลูกทุ่งคนไหนที่ร้องเพลงได้ (คุณภาพเสียง) แย่เลยสักคน ผิดกับ นักร้องร่วมสมัยทั้งหลายซึ่งน้อยคนนักจะมีคุณภาพเสียงที่เอาชนะการขายหน้าตาขึ้นมาได้ ตรง จุดนี้จะว่าคนเสพเพลงอย่างเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะคนท�ำต่างหากที่เป็นส่วนส�ำคัญในการคัดสรร คุณภาพอันดับแรกเพื่อมาเสิร์ฟเรา ที่ผมหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา TALK กันนั้นไม่ได้จะหามุมโจมตีการตลาดหรือค่ายเพลง แต่หาก อยากชี้ชวนให้มองเห็นข้อดีกันเสียมากกว่า อย่างที่รู้กันว่าชีวิตการเป็นนักร้องลูกทุ่งนั้นยากเย็น แสนเข็ญเอาการอยู่ การที่คุณจะเอาชนะใจคนดูและเจ้าของค่ายเพลงได้นั้นคุณจะต้องเอาชนะด้วย ความสามารถ (เกือบ) จะล้วนๆ การฝึกฝนอย่างหนัก การถูกเคี่ยวกร�ำอย่างเอาจริงเอาจัง การร้องอย่างได้คุณภาพ และอีกหลายสิ่งนั้นดูจะไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่ค่ายเพลงในเกาหลียุคนี้ที่ ก�ำลังท�ำกับนักร้องของตนเพื่อปั้น ‘ศิลปิน’ ออกมาให้ได้มาตรฐานที่ดี ตรงจุดนี้ผมเลยอยาก ชื่นชมวงการลูกทุ่งที่ปลูกฝังการใส่ใจในคุณภาพให้กับวงการและเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งเหนียว แน่นมานานจนถึงทุกวันนี้ หน้าตาไม่เกี่ยวนัก...แต่เสียงร้องต้องเลิศไว้ก่อน คุณภาพและการใส่ใจนี้ว่าไปแล้วมันก็ควรจะเป็นมาตรฐานของการท�ำงานในทุกๆ วงการ หาก เราปลูกฝังมาตรฐานที่ดีไว้ตั้งแต่ต้น เคี่ยวกร�ำการท�ำงานให้อยู่ในกรอบที่มีความใส่ใจกับทุกสิ่ง อย่างเอาจริงเอาจัง นั่นล่ะที่จะช่วยสร้างบรรทัดฐานที่ดีต่อไปในสังคมไปจนกระทั่งสร้างวิถีการ ด�ำเนินชีวิตที่มีคุณภาพในอนาคต ก็เหมือนกับเพลงดีๆ ... ยังไงก็น่าฟังเสมอ ขอให้มีความสุขในทุกลมหายใจครับ ภิเสกสัณห์ ธนหิรัญสกุล (เบิร์ท) บรรณาธิการที่ปรึกษา

Contents คุณภาพและการใส่ใจนี้ว่าไปแล้วมันก็ควร จะเป็นมาตรฐานของการท�ำงานในทุกๆ วงการ หากเราปลูกฝังมาตรฐานที่ดีไว้ตั้งแต่ต้น เคี่ยว กร�ำการท�ำงานให้อยู่ในกรอบที่มีความใส่ใจกับ ทุกสิ่งอย่างเอาจริงเอาจัง นั่นล่ะที่จะช่วยสร้าง บรรทัดฐานที่ดีต่อไปในสังคมไปจนกระทั่งสร้างวิถี การด�ำเนินชีวิตที่มีคุณภาพในอนาคต

Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine Fine

Fine People

Publisher: Sor.Siri Suvannaphoum Co., Ltd. President ดร.อนุชิต ฤกษ์สมบูรณ์ดี Consultant จงเจตน์ ศิริ Consulting Editor จิรกฤตย์ ศิริธนาวัตต์ ภิเสกสัณห์ ธนหิรัญสกุล Editor จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์ Social Editor/ Reporter อดิเทพ น่วมเจิม Photographer สถาพร กองอยู่ Graphic Designers ทศพล นิลสิน สถาพร กองอยู่, วัฒนา กาสุยะ, อุเทน หล่งตาo Stylist & Assistant to Editor ไข่มุก แสงมีอานุภาพ Event & Organizer ภาคิน ฐานุตราพงศ์ Sales & Marketing Director อลิสา สมพงษ์ Sales & Marketing Manager ธิดารัตน์ จามพฤกษ์ Assistant Sale & Marketing Director ชามาณัฏฐ์ ปุณณ์ณพิชญ์ Accounting & Finance ณัฐธยาน์ ปัทมชัยยันต์ Assistant to Accounting & Finance นาตยา ปิติดา

2

F I N E DA E M AG A Z I N E

Talk Days Globe Chats Read Scoop Biz High Ease Office Shopping Vo y a g e Stay Dining We e k e n d News Smile

2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 26 28 30 32 36

Contributor FOR ADVERTISING Please contact 0 5381 0801, 08 5694 4123 and 08 1530 5185 E-mail: nobita.svp@gmail.com (Nobita) OFFICE Address Sor Siri Suvannaphoum Co. Ltd. 119/48 Moo 5, Tambon Suthep Muang district, Chiang Mai 50200 Tel: 0 5381 0801 Fax: 0 5381 0811 Website: www.finedaemag.com E-mail: finedae@finedaemag.com http://twitter.com/finedaemag www.facebook.com/finedaemag

สุขสันต์ เวียงศิริ (ไอติม) นั ก ศึ ก ษาชั้ น ปี ที่ 3 สาขาศิ ล ปะการถ่ า ยภาพ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไอติมเป็น คนถ่ายภาพโปรโมตงานลูกทุ่งวิจิตรศิลป์ 55 ตอน ลูกทุ่งคาเฟ่ ลงโปสเตอร์, สูจิบัตร รวมทั้งสื่ออื่นๆ รวมทั้งภาพปกนิตยสาร FINE DAE ฉบับนี้ ก็เป็น งานของช่างภาพหนุ่มผู้นี้



F I N E D AY S

E v e n t s

&

E x h i b i t i o n s

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

Sun 9th December, 2012 CENSORSHIP & SYMBOLS in THAI FICTIONS @ Book Re:public (Canal Road) งานเสวนา ‘เซ็นเซอร์และสัญลักษณ์ในงานวรรณกรรม’ จัดขึ้น ในวันที่ 9 ธ.ค. โดยมีเหล่านักคิดนักเขียนมาร่วมแลกเปลี่ยนความ คิดเห็น ได้แก่ ดร.เก่งกิจ กิติเรืองลาภ, จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์, นิวัติ พุทธประสาท ด�ำเนินรายการโดย อรรถวุฒิ บุญยวง และ นฆ ปักษนาวิน กิจกรรมจัดตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. ณ Book Re:public (ถ.คลองชลประทาน) ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร.08 5617 3825 หรือ bookrepublic.org

Now - Mon 10th December, 2012 NIMMANHAEMIN ART & DESIGN PROMENADE @ Nimmanhaemin Road, Soi 1 พบกับงานออกร้านประจ�ำปีของคนนิมมานเหมินท์ซอย 1 และนัก ออกแบบสินค้าหัตถกรรมร่วมสมัยของเชียงใหม่ในงานนิมมานเห มินท์ อาร์ต แอนด์ ดีไซน์ พรอมินาด (Nimmanhaemin Art & Design Promenade หรืองาน NAP) ปีนี้จัดขึ้นจนถึงวันที่ 10 ธ.ค. นอกจากงานออกร้าน ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ และการ แสดงโชว์ มินิคอนเสิร์ต ฯลฯ ข้อมูลเพิ่มเติม: www.nimmansoi1.com

Sat 8th - 9th December, 2012 DARA RASSAMEE MEMORIAL DAY @ Darapirom Palace, Mae Rim district วันพระราชชายาเจ้าดารารัศมี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคมนี้ โดยในปีนี้มีการจัดนิทรรศการเรื่อง ‘สวนเจ้าสบาย ในพระต�ำหนัก ดาราภิรมย์’ พร้อมมีการแสดงนาฏศิลป์และการจัดกาดหมั้วกาด เมือง รวมไปถึงงานสืบสานประเพณีของดีแม่ริม นอกจากนี้ก็ยังมี การจัดพิธีบวงสรวงและวางพวงมาลาถวายสักการะพระราชชายา เจ้าดารารัศมี และพิธีบ�ำเพ็ญกุศลอุทิศถวายฯ อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 2218 3635 และ 0 5329 9175

Now - Mon 10th December, 2012 MAE SAI HILL TRIBES FESTIVAL @ Tea Research Center, Mae Sai district, Chiang Rai เทศกาลชนเผ่า 10 ชาติพันธุ์ อ�ำเภอแม่สาย จัดขึ้นเพื่อรองรับการ เปิดประตูอาเซียนซึ่งภายในงานมีการรวมตัวกันเผยแพร่วัฒนธรรม และวิถีรวมไปถึงของดีของชนเผ่าต่างๆ ได้แก่ ชาวไทใหญ่, ไทลื้อ, ไทเขิน, อาข่า, ไตหย่า, ไทยวน(คนล้านนา), ดาระอั้ง(ปะหร่อง), ลาหู่, ลั้วะ และคนไทยเสื้อชายจีน นอกจากนั้นก็ยังมีการออกร้าน เทศกาลอาหาร, ศิลปหัตถกรรม ฯลฯ จัดถึงวันที่ 10 ธ.ค. ตั้งแต่ เวลา 10.00-22.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5373 1288 หรือ www.maesai.go.th

Now - Sun 9th December, 2012 QUEEN SIRIKIT BOTANIC GARDEN FAIR @ Queen Sirikit Botanic Garden, Mae Rim district องค์การสวนพฤกษศาสตร์ฯ จัดงานเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านการเผยแพร่คุณค่าความงดงามของ พรรณไม้ด้วยกิจกรรมเชิงวิชาการและสันทนาการต่างๆ อาทิ สวน ดอกไม้อันแสนสวย, ดนตรีในสวน, การจัดประกวดด้านพืชพรรณ เป็นต้น จัดขึ้นวันนี้ถึง 9 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 5384 1234 หรือ www.qsbg.org

Thur 20th December, 2012 CHRISTMAS TREE LIGHTING CEREMONY & CHARITY GALA DINNER @ Four Seasons Resort Chiang Mai, Mae Rim district โรงแรม Four Seasons Resort Chiang Mai จัดงานกาลา ดินเนอร์การกุศลและเปิดงานฉลองเทศกาลแห่งความสุขประจ�ำปี ด้วยพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาส โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จมาเป็นองค์ประธาน ภายใน งานท่านจะได้ลิ้มลองความอร่อยของฝีมือ Executive Chef จาก โรงแรม Four Seasons ทั่วไทย รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนศูนย์ สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ /บัตรราคา 3,900 บาท วันที่ 20 ธ.ค. นี้ ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5329 8181

Now - Sat 15th December, 2012 CONTEMPORARY LANNA ARTISTS’ EXHIBITION @ Central Plaza Chiang Mai Airport

Now - Tue 11st December, 2012 Fri 21st December, 2012 TIMELESS ART EXHIBITION BY PIYAPONG MATPOL SQWEEZE ANIMAL LET’S GLOW CONCERT @ Pong Noi Community Art Space @ WarmUp Cafe, Chiang Mai

ชมรมส่งเสริมสล่าล้านนา ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จัดแสดงนิทรรศการศิลปกรรมสล่าล้าน นาร่ ว มสมั ย โดยน�ำ เสนอเรื่ อ งราวเกี่ ย วกั บ โครงการพระราชด�ำ ริฯ ตลอดจนวัฒนธรรมล้านนา การจัดแสดงนั้นมีตั้งแต่ผลงาน จิตรกรรม, ประติมากรรม, ภาพพิมพ์, สื่อผสม, หัตถกรรม และอื่นๆ อีกกว่า 120 ชิ้น โดยสล่าล้านนาผู้มีชื่อเสียง 40 ท่าน จัดขึ้นวันนี้ถึง 15 ธ.ค. ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 2667 5555 ต่อ 4105

พบกับนิทรรศการศิลปะแนวประติมากรรมในชื่อ ไม่มีจุดเริ่มต้นและ ไม่มีที่สิ้นสุด’ นิทรรศการศิลปะที่จะน�ำคุณสนทนาในหัวข้อ ‘อกาลิโก’ (Timeless) หรือชื่อเต็มว่า โดยศิลปินปิยะพงศ์ มาตุพล จัดแสดง วันนี้ถึงวันที่ 11 ธ.ค. ณ โป่งน้อย คอมมูนิตี้ อาร์ต สเปซ ย่านวัด โป่งน้อย อ�ำเภอเมือง เชียงใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 08 1288 3908

4

F I N E DA E M AG A Z I N E

พบกับคอนเสิร์ตของคู่หูอินดี้ป๊อบดูโอที่ก�ำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ กับวงสควีซ แอนนิมอล ที่จะมาเปิดอัลบั้มใหม่ของพวกเขา วันศุกร์ ที่ 21 ธ.ค. นี้ที่ วอร์ม อัพ คาเฟ่ ถนนนิมมานเหมินท์ ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5340 0676



FINE GLOBE

W o r l d w i d e

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

P e r s p e c t i v e

พ ่ อ ห น ว ด ใ จ บุ ญ ทุกเดือนตุลาคมทางฝั่งผู้หญิงนั้นก็จะมีโปรเจ็ครณรงค์ มะเร็งเต้านมอย่างเอิกเกริกกันทั่วโลก ส่วนในเดือนพฤศจิกายน นั้นทางฝั่งผู้ชายก็เริ่มจะมีโครงการรณรงค์ที่น่าสนใจกับเขาบ้าง (ถึงแม้จะยังไม่ดังเปรี้ยงปร้าง) อย่าง Movember โปรเจ็คที่ สุภาพบุรุษจะมาร่วมกันรณรงค์มะเร็งต่อมลูกหมาก Movember นั้นเป็นกิจกรรมเคลื่อนไหวการรณรงค์เรื่อง สุขภาพของเพศชาย โดยเฉพาะเรื่องมะเร็งในต่อมลูกหมาก โครงการนี้จะจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 1 เดือนในเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี โดยมีกิมมิคการรณรงค์ให้ผู้ชายนั้นไว้หนวดเป็นระยะ เวลา 1 เดือน เพื่อสร้างการรับรู้และระดมทุนในรูปแบบต่างๆ อย่างน่าสนุก ซึ่งโปรเจ็คดีๆ เจ๋งๆ สไตล์สุภาพบุรุษนี้เริ่มต้นขึน้

ครัง้ แรกเมืองปี ค.ศ.2004 ทีอ่ อสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ก่อนทีจ่ ะได้ รับความนิยมและเกิดการรณรงค์นี้แพร่หลายขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ฝั่ง อเมริกาไปจนถึงยุโรป และเริ่มเข้ามาในเอเชียแล้วบางส่วน (ไต้หวัน และสิงคโปร์) องค์กรไม่แสวงหาผลก�ำไรอย่าง Movember นี้ก�ำลังได้รับ ความสนใจทั้งยังได้รับความร่วมมือมากขึ้นและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปีล่าสุด ค.ศ.2012 นั้นทางสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง The Global Journal ก็ได้จัดอันดับให้ Movember เป็นหนึ่งใน Top 100 NGOs ของโลกอีกด้วย

ที่มา: movember.com

เ ต็ ม ร ้ อ ย . . . คื อ เ กิ น จ� ำ เ ป ็ น ยุค 80 ในที่นี้อาจไม่ได้หมายถึง ค.ศ. หรือช่วงเวลาชวนย้อน อดีตร�ำลึกถึงความสุข แต่ตัวเลข 80 นี้มันคือแก่นความคิดเจ๋งๆ ของโครงการแจ๋วๆ ในยุคปัจจุบันที่มีผลต่อความสุขที่ยั่งยืนใน ยุคอนาคต โปรเจ็คระดับโลกสุดแจ๋วที่ต้องยกนิ้วให้นี้คือไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อโลกของแบรนด์ MUJI นั่นเอง ซึ่งโครงการเก๋ๆ นี้ก็คือ Product Fitness 80 ที่ถูกแปลเป็นไทยอย่างเก๋ๆ ว่า “เต็มร้อย...คือเกิน จ�ำเป็น” โดยแก่นความคิดคือการลดทอนผลิตภัณฑ์ ตัดส่วนเกิน จ�ำเป็นออกจาก 100% เหลือ(เพื่อการใช้งาน) 80% ซึ่ง 20% ที่ ถูกตัดออกนั้นแทบจะไม่มีผลต่อการลดประสิทธิภาพการใช้งานเลย และ 20% ที่ดูเหมือนจะน้อยนิดนี้หากรวมกันมากเข้าก็สามารถช่วย เราประหยัดทรัพยากร(ลดการใช้อย่างไม่จ�ำเป็น)ลงได้เยอะทีเดียวล่ะ โครงการดีๆ นี้เริ่มต้นด้วยการจัดนิทรรศการเจ๋งๆ จัดแสดง ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ MUJI นั้น Redesign ใหม่โดยลดขนาดลง 20% ที่มีตั้งแต่ของใช้ในบ้าน (ที่ดูจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อม) อย่าง

กระดาษทิชชู, ส�ำลีแคะหู, สก๊อตเทป, บัตรสมาชิก เป็นต้น หรือการ ตัดทอนสิ่งที่ไม่จ�ำเป็นออกอย่างโต๊ะพิงผนัง 2 ขา, ห่วงตากผ้า ครึ่งเสี้ยว, สมุดห่วงที่ลดรูและลวด เป็นต้น หรือออกแบบของหนึ่ง ชิ้นแต่ใช้ได้สารพัดประโยชน์ เพื่อลดจ�ำนวนการผลิต เช่น ฝาหม้อ และกระทะเพียงใบเดียวแต่สามารถใช้ได้กับภาชนะทุกไซส์ เป็นต้น ซึ่ง ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะผลิตและจ�ำหน่ายจริงอีกด้วย นิทรรศการกระตุกจิตส�ำนึกด้วยการออกแบบเพื่อวิถีชีวิตที่ ยั่งยืนนี้ตระเวนแสดงไปยังสาขา MUJI หลายแห่งทั่วโลกซึ่งก็รวม ถึงประเทศไทยด้วย เป็นที่น่าเสียดายว่านิทรรศการดีๆ นี้เพิ่งจะ ผ่านไปหมาดๆ (และมีการโปรโมทอย่างน้อยนิด) แต่ที่อยากหยิบ เอามาแชร์ให้อ่านเพราะโปรเจ็คดีๆ นี้ไม่ใช่จุดจบแค่นิทรรศการ แต่ มันเป็นการเริ่มต้นของแนวความคิดการของการออกแบบและผลิต สินค้าในยุคใหม่ที่ผลิตเพื่อความจ�ำเป็นมากกว่าโอเวอร์ไซส์แล้ว ท�ำลายทรัพยากรโลกไปเปล่าๆ ที่มา: www.muji.net/lab/fitness80

ส ว ย ท ะ ลุ จ อ ไม่ใช่เรื่องใหม่นัก แต่มันก�ำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อวงการ สื่อสารไปจนถึงวงการบันเทิงหันมาปรับใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพ (ทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง) อันทันสมัยและโคตรคมชัดอย่าง ระบบ HD (HIGH DEFINITION) รวมถึงระบบ Blu-Ray ที่ภาพมี ความละเอียดถึงขนาดเห็นรูขุมขนของคนในจอได้อย่างชัดเจน การ ปรับโฉมการสื่อสารของโลกครั้งนี้ยังส่งผลต่อการขยับปรับตัว ตามเทคโนโลยีของบรรดาเครื่องส�ำอางผู้เนรมิตความสวยความ งามที่ต่างก็พากันหันมาคิดค้นวิจัยผลิตภัณฑ์ในสูตรใหม่ที่เหมาะ ส�ำหรับการแต่งหน้าให้เนียนสวยโดดเด่นเพื่อขึ้นกล้องในระบบ HD โดยเฉพาะ (และปกปิดรูขุมขนได้ยอดเยี่ยม) นั่นเริ่มท�ำให้เครื่อง ส�ำอางต่างๆ ผุด Category สินค้าใหม่ในกลุ่ม HD Cosmetic

ขึ้น ที่เหมาะส�ำหรับการเมคอัพเพื่อถ่ายภาพในระบบความ ละเอียดสูง โดยผู้น�ำเจ้าแรกๆ นั้นมีตั้งแต่แบรนด์ดังที่คนไทย อาจไม่รู้จักอย่าง Cargo ที่ผลิตเครื่องส�ำอางที่เหมาะส�ำหรับ ภาพความละเอียดในระบบ blu-ray จนโด่งดังและได้รับความ นิยมอย่างมาก และทุกวันนี้ก็เริ่มมียักษ์ใหญ่ของเครื่องส�ำอาง กระโดดลงมาชิงส่วนแบ่งตลาดความสวยความงามนี้กับเขา ด้วย อาทิ MAKE UP FOR EVER, Smashbox หรือแม้แต่ เจ้าแม่วงการอย่าง Christian Dior ที่มา: www.makeupforever.com, www.cargocosmetics.com

Te c h n o l o g y R e p o r t Will.i.am กับการสร้างสรรค์อุปกรณ์เสริม ดิจิตอลสุดเก๋ภายใต้แบรนด์ i.am+ พูดถึง Will.i.am ก็คงต้องนึกถึงสมาชิกวงดนตรี The Black Eyed Peas ที่นอกจากจะมีผลงานในวงการดนตรีออกมามากโข แล้ว ก็ยังเป็นที่รู้จักกันในมาดของผู้เผยแพร่เทคโนโลยีล�้ำๆ อีกด้วย โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้เขาจะวางขายอุปกรณ์เสริม iPhone ที่การันตีได้ว่าจะเปลี่ยนจาก smartphone ที่ว่าสุดแสนจะฉลาดแล้ว ให้กลายร่างไปเป็นมันสมองระดับ genius-phone กันเลยทีเดียว สินค้าอย่างแรกในแบรนด์ i.am+ ของเขานั้นก็คืออุปกรณ์ที่ จะช่วยเปลี่ยนกล้องธรรมดาแบบ 8 ล้านพิกเซลของ iPhone ให้ มีความละเอียดมากขึ้นถึง 14 ล้านพิกเซล โดยสื่อดังอย่าง The Daily Telegraph ได้เข้าไปสัมภาษณ์แล้วเขาก็ได้เคลมคุณภาพของ

6

ภาพถ่ายไว้ว่า “อุปกรณ์ของเรามีเซนเซอร์และแฟลชในตัว คุณ เพียงเสียบโทรศัพท์เข้ากับอุปกรณ์ของเรา และอุปกรณ์ของเรา จะเปลี่ยนจาก smartphone ของคุณให้กลายเป็น genius phone เลยทีเดียว” โมเดลกล้องนี้เป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นแรกของสินค้าดิจิตอล ในแบรนด์นี้เท่านั้น และยิ่งกว่านั้นเขาวางแผนที่จะลงทุนในโลก ออนไลน์เพื่อเป้าหมายที่เขาจะเรียกตัวเองว่าเป็นนักธุรกิจในหมวด “อสังหาริมทรัพย์ดิจิตอล” (Digital Real Estate) นั่นเอง พร้อม กันนี้เขายังได้จดโดเมนสั้นๆ เก๋ๆ ไว้เรียบร้อยแล้วว่า www.i.am ที่มา: www.telegraph.co.uk


Q u o t e

o f

t h e

W e e k

เขาบอกว่ า ไปทะเลต้ อ งเจอฉลาม มาสภาต้ อ งเจอเฉลิ ม วั น นี้ ชู วิ ท ย์ จ ะจั บ เฉลิ ม โยนให้ ฉ ลามล่ ะ ครั บ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส. พรรครักประเทศไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรองนายกรัฐมนตรี วันที่ 25 พฤศจิกายน 2555 ที่มา: http://www.youtube.com/watch?v=IEwvxLCxNDY

8,043

คือจ�ำนวนของชาวเกาหลีเหนือที่ลักลอบหนีออกจากประเทศมาตุภูมิได้ส�ำเร็จ ตั้งแต่ ปี 2009-2011 โดยประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายที่ชาวเกาหลีเหนือ อพยพเข้ามามากที่สุดผ่านทางประเทศจีน

อดีตนักโฆษณาชวนเชื่อเกาหลีเหนือ สร้างงานศิลปะล้อเลียนผู้น�ำ ประเทศเกาหลีเหนือนับเป็นแดนลับแลของโลก นอกจากสื่อโฆษณาชวนเชื่อของทางรัฐบาลทหาร ของเกาหลีเหนือเองก็ไม่มีสื่ออื่นใดจากภายนอกให้ ประชาชนเกาหลีเหนือได้รับรู้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คนผลิตสื่อจากภายในก็ได้ลอบออกมาและป่าว ประกาศเรื่องราวของเมืองลับแลนั้นด้วยอารมณ์ ขันสู่ประชาคมโลก ซง บิยอก (Song Byeok) เป็นอดีตคนวาด โปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ แสดงความยกย่องสรรเสริญผู้น�ำ คิมจองอิล และคิมอิลซุง โดยมีการน�ำโปสเตอร์ไปวางตาม ท้องถนนของเมือง แต่แล้วในช่วงยุค 1990s ศรัทธาต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือของเขาก็ถูกท�ำลาย ลง เมื่อเกาหลีเหนือเข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพง มีประชาชนหลายล้านคนรวมถึงครอบครัวของเขา ต้องเสียชีวิต ซง เล่าว่าจากการที่ต้องหาอาหารเพื่อประทัง ชีวิต เขาจึงต้องพยายามข้ามพรมแดนมายังจีน

ซึ่งพ่อของเขาเสียชีวิตจากอุทกภัย และตัวเขาก็ถูก จับกุมและถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกัน และนั่นเป็นเหตุ ให้เขาตั้งค�ำถามกับรัฐบาลที่เขาเทิดทูน ก่อนตัดสิน ใจหนีออกจากประเทศหลังถูกปล่อยตัวจากค่าย กักกันเมื่อปี 2002 ที่ดินแดนใหม่ของเขาในเกาหลีใต้ ซงก็เริ่มใช้ ทักษะด้านศิลปะที่เขามีในการต่อต้านรัฐบาลของ ประเทศบ้านเกิดตัวเอง นิทรรศการแสดงผลงานล่าสุดของ ซง จัดแสดงที่วูลลี่ แมมมอธ เทียร์เตอร์ ในกรุง วอชิงตันดีซี ซึ่งผลงานมีลักษณะวิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลเผด็จการทั่วโลก “ผมไม่ได้มีวิธีการเฉพาะในการวาดผลงานของ ผม ผมแค่อยากให้คนมองผลงานผมด้วยความ สนุกสนาน ท�ำให้พวกเขาหัวเราะได้เวลาที่เห็นผลงาน ผม ได้ตั้งค�ำถามว่าท�ำไมศิลปินถึงใช้อารมณ์ขันแบบ นี้ และผมก็อยากให้ความหวังกับผู้คนที่ก�ำลังสิ้น หวัง” ซงกล่าว

ที่มา: http://www.bbc.co.uk


F I N E C H AT S W W W. F I N E D A E M A G . C O M

เรื่องใดที่ชาติไทยท�ำ ไม่แพ้ชาติใดในโลก? ด.ต.หญิง วรางคณา แตงสุวรรณ์ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน กองก�ำกับการ 4 กอง บังคับการต�ำรวจท่องเที่ยว

“การสร้างรอยยิม้ อัธยาศัยของคนไทย เมือ่ มีแขก ต่างบ้านมาเยือน คนไทยรอต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ที่มี เสน่ห์ เป็นที่ดึงดูดใจทั้งนักท่องเที่ยว และแขกบ้านแขก เมืองที่เข้ามาเยือนประเทศไทย”

คุณชุดาภา บัวแดง

นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ

“การรักษาประเพณีวฒ ั นธรรมอันดีงาม ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น และอีกประการประเทศไทยได้รับการชื่นชมว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม” บ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน”

คุณเนตรนภา กันธะอุดม

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

“การสืบทอด และอนุรกั ษ์วฒ ั นธรรมประเพณีอนั ดี งามของไทย ไม่วา่ จะเป็น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลลอย กระทง เป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สืบทอด กันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังส่งเสริมด้าน การท่องเที่ยว มีผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมายังบ้านเรา เพื่อร่วมเทศกาลเหล่านี้”

คุณดนัยกฤต มิตรดี

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวะอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตภาคพายัพ

“การศึกษา เพราะสมัยนี้นักเรียน นักศึกษา ที่เป็น ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันความรู้ความสามารถ ทางวิชาการระดับชาติ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในด้าน ต่างๆ เป็นประจ�ำทุกปี แสดงให้เห็นถึงการศึกษาเรียนรู้ ของเด็กไทย ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน”

คุณธนกฤต โยธินปภาพสุ

ผู้จัดการ สุปราณี เกสเฮาส์

“คนไทยมีไมตรีจิตที่ดี ความมีน�้ำใจ เป็นที่ยอมรับ ของนานาประเทศ ใครได้มาสัมผัสก็รับรู้ได้ถึงความ อบอุ่น ซึ่งที่อื่นไม่มีเหมือนเมืองไทย”

ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม “ปั ญ หาทางการเมื อ ง มี ก ารซื้ อ สิ ท ธิ์ ข ายเสี ย ง ไม่ ว ่ า จะเป็ น การเมื อ งท้ อ งถิ่ น จนไปถึ ง การเลื อ ก ตั้ ง ระดั บ ประเทศ นั ก การเมื อ งที่ ช นะการเลื อ กตั้ ง เมื่อลงทุนไปกับการหาเสียงช่วงเลือกตั้ง พอเข้าไปบริหาร บ้านเมืองก็ไปกอบโกยจากงบประมาณต่างๆ ที่เป็นเงินภาษี ประชาชน โดยที่ประชาชนได้รับเงินจากการขายเสียงเพียง ไม่กี่ร้อยกี่พันบาท”



FINE READ

T a l k

o f

t h e

T w o

W e e k s

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

Oversized Thailand

ไทยแลนด์แดนมหกรรมโลก วันที่ผมทราบข่าวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับ เลือกจากที่ประชุมองค์การนิทรรศการนานาชาติ ให้เป็น 1 ใน 5 เมืองที่เข้าชิงการเป็นเจ้าภาพจัดเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 เป็นวันที่ผมได้ยลธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศ เป็นครั้งแรกที่ผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ�ำเภอ นาน้อย จังหวัดน่าน ไม่กี่วันก่อนหน้านั้น สื่อจากกรุงเทพฯ โทรมาสัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่อง ‘กรุงเทพมหานคร เมืองหนังสือโลก 2013’ และก็ดันเป็น ช่วงเวลาเดียวกับที่สหพันธ์ฟุตบอลต่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า ได้ประกาศไม่อนุญาตให้ใช้สนามบางกอกฟุตซอล อารีน่า ตลอดทัวร์นาเมนต์ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากการก่อสร้างไม่เป็น ไปตามความปลอดภัยที่ฟีฟ่าก�ำหนด... วันนั้นผมตั้งใจจะไปชมทะเลหมอก และลังเลระหว่างจะค้างคืนที่ ดอยเสมอดาวหรือผาชู้ดี ทั้งสองที่อยู่ห่างราวๆ 5 กิโลเมตร ผม จึงถามเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติว่าแต่ละที่มีจุดเด่นอย่างไร เจ้าหน้าที่ ใจดีท่านนั้นบอกกับเราว่าดอยเสมอดาวจะอยู่ในระดับน�้ำทะเลที่สูงกว่า และมีลานกางเต้นท์ที่มากกว่า ขณะที่ถ้าเป็นที่ผาชู้...เจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่ ธงชาติไทยที่โบกสะบัดอยู่บนหน้าผาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “ที่นี่มีธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศ” ผมกับเพื่อนมองหน้ากัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินน�ำไปยังฐาน ของธงชาติ มีป้ายแกะสลักเป็นลายลักษณ์อักษร ธงชาติไทยที่สูง ที่สุดของประเทศไทยอยู่ที่นี่... มีข่าวเล็กๆ ที่แชร์กันสนุกปากในเฟซบุ๊ค คือข่าวที่ สุขุมพันธ์ บริพัตร ออกมาแก้ต่างว่า “สนามฟุตซอลแห่งนี้ ไม่ได้สร้างให้ฟีฟ่า แต่สร้างให้กับคนกรุงเทพฯ” พร้อมจัดคอนเสิร์ตประชด อย่างไรก็ ดี ผมจะไม่ขอเล่าเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังของดราม่าสนามฟุตซอลนี่ อีก ข่าวเหล่านี้ล้วนถูกรายงานไปนานแล้ว และเห็นจะเป็นการซ�้ำเติม กันเปล่าๆ เพราะท้ายที่สุดคอนเสิร์ตก็ไม่ได้จัด และคุณชายสุขุมพันธ์ รับลูกเสียงวิจารณ์ว่าไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการไปเต็มๆ... ว่าจะไม่พูดแล้วนะนี่ 10

F I N E DA E M AG A Z I N E

เวิลด์ เอ็กซ์โป หรือการแสดงนิทรรศการนานาชาติ (International Exposition) เป็นนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถือว่าเป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากกีฬา โอลิมปิก และฟุตบอลโลก โดยมีองค์การนิทรรศการนานาชาติเป็น ฝ่ายรับรองการจัดงาน นิทรรศการดังกล่าวเป็นนิทรรศการที่ แสดงความก้าวหน้าของมนุษย์ทั้งด้านเทคโนโลยี สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม จัดขึ้นครั้งแรกที่กรุงลอนดอนของอังกฤษในปี ค.ศ.1851 งานนี้จะดึงดูดคนไปเที่ยวชมจ�ำนวนมาก เป็นเวทีแสดง พัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ของโลก ขณะเดียวกันก็ท�ำให้ เกิดการตกลงทางธุรกิจมากมาย เวิลด์ เอ็กซ์โป ครั้งล่าสุดนั้นจัดขึ้นที่เมืองยอซู (Yeosu) ประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเพิ่งจะสิ้นสุดไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดย ครั้งหน้าจะมีงานนี้ขึ้นที่เมืองมิลานของอิตาลีในปี ค.ศ.2015 และ ล่าสุดกับการประกาศเจ้าภาพใหม่หมาดๆ ส�ำหรับการจัดงานใน ปี ค.ศ.2017 ซึ่งเมืองอัสทานา (Astana) ประเทศคาซัคสถาน (Kazakhstan) การเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์ เอ็กซ์โป นอกจากจะได้ ‘กล่อง’ ในฐานะประเทศที่มีศักยภาพเพียงพอในการจัดแสดงนวัตกรรมและ เทคโนโลยีล่าสุดของมนุษยชาติ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ ใหม่ๆ แล้ว ที่ส�ำคัญเม็ดเงินมหาศาลจากการท่องเที่ยว การโฆษณา และโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการก็เป็นผลพลอยได้ที่ประเทศ เจ้าภาพจะได้รับ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ท�ำให้นานาอารยะประเทศรุมเสนอตัว ทุ่มทรัพย์สินไปจนกระทั่งทรัพยากรของตนเพื่อช่วงชิงต�ำแหน่ง เจ้าภาพนี้กันอย่างเอาจริงเอาจัง ส�ำหรับปี ค.ศ.2020 นั้น 5 เมืองสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบก็ได้แก่ อิซมีร์ (Izmir) ของตุรกี, เอกาเทริเบิร์ก (Yekaterinburg) ของ รัสเซีย, เซา เปาโล (São Paulo) ของบลาซิล, ดูไบ (Dubai) ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอยุธยาของประเทศไทย โดยพื้นที่ที่คาด ว่าจะใช้จัดงานของบ้านเรานั้นจะตั้งอยู่ในเขตศูนย์ศิลปาชีพบางไทร บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ และประเทศไทยจะน�ำเสนอหัวข้อในการจัดแสดง ในชื่อ ‘วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่สมดุล’ (Redefine Globalisation : Balanced Life, Sustainable Living) โดยมีแนวคิดรองว่าด้วย เรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่น, การสื่อสารเพื่อความสมานฉันท์ ไร้พรมแดน, พลังงานทางเลือก, ศิลปะสร้างสรรค์, การท่องเที่ยว

เชิงนิเวศตลอดจนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.2013 จะมีการประกาศผลเมืองที่ได้ เป็นเจ้าภาพ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ความเป็นไปได้จะค่อนข้างน้อย แต่กเ็ ป็นเรือ่ งน่ายินดีอย่างยิง่ หากเมืองไทยได้เป็นเจ้าภาพจริงๆ และท่ามกลางข่าวดีในการได้ เข้ารอบเสนอชื่อดังกล่าว ผมกลับมองเห็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ กับ ที่ทางด้านการจัดการของประเทศไทยและพื้นที่สากลบนเวทีโลกจาก ค�ำแถลงของ ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ต่อกรณีสนามฟุตซอลโลก ต่อกรณีกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก และกรณีที่ผมได้ยลธงชาติ ไทยที่สูงที่สุดในประเทศ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 นับเป็นตัวอย่างที่ดีในข้อกังขาเล็กๆ น้อยๆ ของผม โอเค, งาน ผ่านไปได้ด้วยดี ผู้คนชื่นชอบ เชียงใหม่ได้หน้า แต่ค�ำถามที่ตามมาก็ คือนับตั้งแต่เสร็จสิ้นการจัดงานเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2550 ฟังก์ชั่นของพื้นที่ 470 ไร่ในงาน ต้นไม้และดอกไม้มากมายสายพันธุ์ อีกทั้งองค์ความรู้ทางพฤกษศาสตร์ระดับโลกต้องกลับตกหลุม อากาศ พร้อมกับค�ำถามที่ว่า “จะเอายังไงกันต่อดี?” เพราะถึงแม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้รับผิดชอบพื้นที่ โดยปัจจุบันพื้นที่อยู่ในความดูแลของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่ สูง (องค์กรมหาชน) จะออกมายืนยันว่าจะจัดการพื้นที่ดังกล่าวให้ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพฤษศาสตร์ และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของ ประชาชน แต่ก็อย่างที่เห็น เรากลับพบว่าพื้นที่ดังกล่าวกลายมา เป็นที่เต้นแอโรบิค, ที่ถ่ายรูป pre-wedding, แหล่งท่องเที่ยวของ ทัวร์จีน, เวทีคอนเสิร์ตลูกทุ่ง, งานออกร้านแสดงสินค้า (ที่ไม่เกี่ยว กับเกษตร), สถานที่จัดงานรื่นเริงตามวาระโอกาส แล้วที่คุ้มค่า หน่อยก็คือการจัดเวียนซ�้ำมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 (ที่ผ่านไปอย่างแกนๆ และเหงาๆ) ซ�้ำร้ายแหล่ง เรียนรู้ทางพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก็เกือบจะกลายมาเป็นสนามแข่งรถ ฟอร์มูล่า วัน หากไม่ถูกคัดค้านและปัดข้อเสนอดังกล่าวให้ตกไปเสีย ก่อน สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น (ยกเว้นสนามฟอร์มูล่า วัน) ไม่ใช่เรื่อง แย่ ประโยชน์ก็เห็นๆ กันอยู่ แต่ค�ำถามก็คือ ‘เราจ่ายแพงเกินไปไหม กับฟังก์ชั่นดังกล่าวที่เป็นอยู่ตอนนี้’ อย่าลืมนะครับพืน้ ที่ 470 ไร่ ไม่ใช่ ลานโล่งๆ ที่มีไว้ตากข้าวเปลือก - ผมแค่อยากจะยกมือขึ้นถามถึง การจัดการและความยั่งยืน


FINE INFO W W W. F I N E D A E M A G . C O M

ที่เด่นชัดคือการจัดกิจกรรมที่ต้องใช้การจัดการ อย่างเป็นระบบ ที่ซึ่งเราล้วนไม่เอาไหน และภูมิใจ กันเพียงแค่วิธีการจัดการเพื่อสร้างภาพ หรือให้ ‘ได้หน้า’ กันทั่วถ้วน มิต้องพูดถึงด้านการแข่งขัน เชิงศักยภาพ เอาแค่การจัดการระบบในองค์กร หลายท่านอาจพบว่าแค่ล�ำพังไปติดต่อราชการ... ระบบราชการด้วยตัวมันเองก็ซับซ้อนเกินกว่ามนุษย์ ธรรมดาจะเข้าใจ หากคุณอ่านนิตยสาร หรือติดตามสื่อต่างๆ ในช่วงนี้จะเห็นถึงแคมเปญโฆษณาโครงการ กรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลกกันอยู่บ่อยๆ เอาล่ะ ถึงแคมเปญโฆษณามันจะดูแปลกๆ เข้าขัน้ เห่ยๆ ก็ตาม [ดังเช่นโฆษณาที่มีเด็กผู้หญิงไทยลุ๊คบ้านๆ สวมมงกุฎการประกวดความงามอะไรสัก อย่าง และกางหนังสือ พร้อมกับมีสาวงามต่างชาติที่ท�ำให้เหมือนกับได้ต�ำแหน่งรองนางงาม ขนาบข้าง โปรยค�ำโฆษณา (copywriting) พาดหัวขนาดใหญ่ว่า “หน้าตาของชาติดูดีด้วย ปัญญา ปัญญาเกิดจากการอ่าน” หรือโฆษณาทางทีวีที่เป็นเรื่องแนว before & after ของ เด็กผู้หญิงมึนๆ ดูไม่เอาไหนคนหนึ่งอ่านหนังสือแล้วดูดีขึ้นมาทันตา และโฆษณาทีวีอีกตัว ที่มี ลูกค้าเข้ามาถามซื้อของจากเด็กร้านซ่อมรถด้วยค�ำพูดที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่พอเด็กคนนั้นก�ำลังอ่าน หนังสืออยู่ ลูกค้าคนเดิมก็พูดสุภาพด้วยขึ้นมาทันใด แล้วก็เหมารวมด้วยการพากย์ว่า ‘หนังสือ ท�ำให้คนดูดี ดูฉลาด’ (ซึ่งก็นะ...มันไม่สร้างภาพไปหน่อยหรอ)] ถึงอย่างไร อย่างน้อยที่สุดก็เป็น เรื่องดี ถ้ากรุงเทพฯ จะรณรงค์ให้คนมาอ่านหนังสือ พร้อมทั้งปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เมือง หอสมุดเมือง พิพิธภัณฑ์การ์ตูนไทย และสถานที่ใดๆ ที่เกี่ยวกับหนังสือให้ดูดีมีแรงดึงดูดขึ้น แต่ด้วยความสัตย์จริง, ผมก็ยังไม่เห็นโครงการใดๆ หรือ ‘แก่น’ อะไรที่จะท�ำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหนังสือโลกได้สักนิดเลย ผมไม่เข้าใจในการตั้งเป้าให้คนกรุงเทพฯ อ่านหนังสือเพิ่มขึ้น 10-20 เล่มต่อปี ภายในปี 2556 ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะน�ำไปสู่อะไร เพราะท่านก็ไม่ได้ขยายความว่าเราควรต้องอ่านอะไร หรือว่าแค่อ่านเพื่อให้คุณ ‘ดูดี’ เหมือนดังที่โฆษณาไว้ ในขณะที่ก็ไม่เห็นมีหน่วยงานใดเข้ามาสนับ สนุนการพิมพ์หนังสือดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ (ที่ไม่ใช่ธรรมะ หนังสือเชิดชูสถาบัน หรือหนังสือสแกนกรรม) หนังสือแปลจากต่างประเทศที่มีคุณภาพ หรือประชาสัมพันธ์หนังสือ จากประเทศเพื่อนบ้านให้อย่างน้อยที่สุดคนไทยเข้าใจความเป็นอาเซียนมาสักกระผีกก็ยังดี แต่ กลับไปมุ่งหวังให้คนไทยอ่านหนังสือไปเหอะ อ่านไปมากๆ แล้วคุณจะดูดี อุ๊ย...นอกจากเมืองหนังสือโลก เราลืมกันไปแล้วใช่ไหมว่า กรุงเทพมหานครก็เคยเป็นเมือง แฟชั่นเมื่อปี 2547 ด้วยนะเธอ... ความรู้สึกของผมคล้ายกับตอนที่เจ้าหน้าที่อุทยานศรีน่านชี้ชวนให้ดูเสาธงที่สูงที่สุดใน ประเทศด้วยความภาคภูมิใจ แล้วผมก็แอบถามเขาในใจ... ‘นี่คุณพี่ภูมิใจกับเสาธงชาตินั้นจริงๆ หรอ’ ท่ามกลางการจัดการเพื่อน�ำไปสู่ความเป็น ‘แถวหน้า’ ของสากลโลก ประเทศไทยก็ก�ำลังไป ได้ดีกับการโปรโมตพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผัดไทจานยักษ์ กระทง กระยาสารท ธูป เทียน พรรษา การนวดไทย ฯลฯ ที่ใหญ่และเยอะที่สุดในโลก ส่วนไอ้ที่ซับซ้อนและดูจัดเต็มขึ้นมาหน่อย ก็อาจเป็นหอควบคุมการบินที่สูงที่สุดในโลกที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (สนามบินที่ได้ชื่อว่า ใช้เวลาการก่อสร้างยาวนานที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน) เราพบแก่นอะไรจากความมหึมา อลังการ หรือขนาดที่ใหญ่ผิดปกติของสิ่งเหล่านี้บ้าง นอกจากการน�ำเสนอให้ทั่วโลกรับรู้ว่า “เออ กูก็มี ของใหญ่ที่สุดในโลกนะ” จริงอยู่, แนวคิดเรื่อง ‘ใหญ่ที่สุดในโลก’ มันอาจดูเป็นกิมมิคการท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่น แต่ถ้าลองคิดให้ลึกกว่านี้อีกนิด ผมว่ามันอาจเป็นความภูมิใจที่กลวงเปล่า และความพยายาม ที่จะลบปมด้อยจาก ‘ความไม่สามารถ’ จะไปให้ถึงระดับโลก ในกิจกรรมที่มีโครงสร้างซับซ้อน หรือนวัตกรรมระดับนานาชาติที่เราท�ำได้ดีแค่ ‘หน้า’ แต่ภายในดูเหมือนจะตะกุกตะกักและหนักเข้า ถึงกับล้มเหลวไม่เป็นท่า ผมไม่ได้ว่าว่าคนไทยห่วยนะ (อย่าเพิ่งรีบอัปเปหิผมออกนอกประเทศ) คนไทยที่เก่งและ สร้างชื่อเสียงในระดับโลกก็มีมากมาย ทั้งดีไซน์เนอร์ นักกีฬา นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน ฯลฯ แต่น่าสังเกตไหมว่าพวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่มาแบบตัวคนเดียวไปคนเดียว หรือ เป็นกลุ่มเล็กๆ จัดการกันเองเกือบหมด ขณะที่หากเป็นทีมหรือเป็นกลุ่มใหญ่ (โดยเฉพาะที่ได้รับ การสนับสนุนจากรัฐบาลด้วยแล้ว) ล้วนไปได้ไม่ไกล เด่นชัดคือการจัดกิจกรรมที่ต้องใช้การ จัดการที่เป็นระบบที่ซึ่งเราล้วนไม่เอาไหน และภูมิใจกันเพียงแค่วิธีการจัดการเพื่อสร้างภาพ หรือ ให้ ‘ได้หน้า’ กันทั่วถ้วน มิต้องพูดถึงด้านการแข่งขันเชิงศักยภาพ เอาแค่การจัดการระบบใน องค์กร หลายท่านอาจพบว่าแค่ล�ำพังไปติดต่อราชการ...ระบบราชการด้วยตัวมันเองก็ซับซ้อน เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะเข้าใจ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรจากการเสนอชื่อเข้าชิงการเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป หรือมีเจตนา จะขัดคอ หรือกระแหนะกระแหนต่อความมุ่งมั่นของฝ่ายจัดการ หากท�ำได้จริง ผมก็เป็นอีกคน ที่ยินดีมากๆ หากแต่อยากเสนออะไรสักเล็กน้อย...ท่ามกลางแคมเปญ ‘วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่ สมดุล’ ที่ประเทศไทยต้องการน�ำเสนอไปสู่เวทีโลก แนวคิดเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การติดต่อสื่อสารเพื่อความสมานฉันท์ไร้พรมแดน ฯลฯ ล�ำพังแค่การจัดการสาธารณูปโภค เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงอย่างเต็มที่ การจัดการสิ่งปลูกสร้างในท้องถิ่นเพื่อรองรับความสะดวก สบายของผู้คน การพัฒนาและกระจายการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการเรื่องความเหลื่อมล�้ำ ทางชนชั้น ความขัดแย้งทางการเมือง และมิติทางเศรษฐกิจในระดับยั่งยืน ฯลฯ แทนที่จะอวดโชว์ ศักยภาพหรือความมหึมาระดับโลก ประเทศไทยตอนนี้อยู่ตรงไหน...และท�ำได้หรือยัง? word: จิ รั ฏ ฐ์ ประเสริ ฐ ทรั พ ย์ / illustration: ชวณั ฐ สุ ว รรณ (WonderWhale)


FINE SCOOP

M a i n

C o u r s e

D e l i g h t

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

‘ ลู ก ทุ ่ ง ค า เ ฟ ่ ’ อั ค ร ส ถ า น แ ห ่ ง ค ว า ม บั น เ ทิ ง ย า ม ร า ต รี

เสียงเพลงอึกทึก หลอดไฟนีออนเคลือบสีสด แสงจากเวที ฉูดฉาด หางเครื่องจัดเต็ม ธงราวทรงสามเหลี่ยมหลากสี ยาด อง และฝูงนักศึกษาที่ขยับร่างไปตามจังหวะดนตรี ขอต้อนรับสู่ลูกทุ่งวิจิตรศิลป์ หลายคนอาจจ�ำภาพ ‘ไข่ย้อย’ และ ‘ดากานดา’ เมายาดองและ เต้นร�ำอย่างสนุกสนานในภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ ของค่าย GTH เมื่อหลายปีก่อนได้ นั่นน่าจะเป็นภาพแรกๆ ของมหกรรมดนตรี ลูกทุ่งวิจิตรศิลป์ที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อวงกว้าง เพียงภาพเคลื่อนไหว ไม่กี่นาทีในหนังก็สร้างบรรยากาศให้รับรู้กันโดยทั่วแล้วว่าเพลงลูกทุ่ง ในมือคนรุ่นใหม่มันบ้าบอ และสนุกสนานเพียงใด ไม่เฉพาะแค่นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ และไม่จ�ำเพาะแค่บุคลากรใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุกๆ 2 ปี ผู้คนต่างรอคอย ประเพณีอันแสน สนุกสนานของเหล่าบรรดาอนาคตศิลปินรุ่นใหม่ นับตั้งแต่น้องปีหนึ่ง ถึงรุ่นพี่ปีห้ารวมทั้งการกลับมาของบรรดาศิษย์เก่าคณะวิจิตรศิลป์ เรียกได้ว่าเพลงลูกทุ่งช่วงนั้นเพลงไหนฮิต กระแสอะไรก�ำลังมัน มุขอะไรก�ำลังพีค ทุกอย่างล้วนจัดเต็มในงาน

ข อ เ ชิ ญ พ บ กั บ ค ณ ะ ด น ต รี ลู ก ทุ ่ ง วิ จิ ต ร ศิ ล ป ์ ๕ ๕ ลูกทุ่งวิจิตรศิลป์เกิดขึ้นมาจากนักศึกษาในช่วงยุคแรกเริ่มของ การจัดตั้งคณะวิจิตรศิลป์ต้องการหารายได้เพื่อมาใช้ภายในคณะจึง เกิดการเล่นดนตรีแบบเปิดหมวกขึ้น โดยใช้เพลงลูกทุ่งเป็นสื่อกลาง ในการสื่อสาร ต่อมาจึงขยายขอบเขตของงานให้ใหญ่มากขึ้นจนเป็น ที่รู้จักอย่างกว้างขวางในรั้วมหาวิทยาลัย และได้มีการจัดขึ้นอย่าง ต่อเนื่องเป็นประจ�ำทุก 2 ปี โดยในปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ภายใต้ ชื่อตอน ‘ลูกทุ่งคาเฟ่’ ซึ่งเป็นการน�ำบรรยากาศคาเฟ่ย้อนยุค และ งานวัดเข้ามาผสมผสานกับดนตรีลูกทุ่ง นอกจากในงานนี้ยังได้คณะแบ็คอัพจากโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ที่เพิ่งได้รางวัลชนะเลิศรายการลูกทุ่งยามาฮ่าคอนเทสต์ ในระดับภาค เหนือ และคว้าอันดับที่ 3 ระดับประเทศ เรียกได้ว่าวงแบ็คอัพแน่นปึ๊ก น้องๆ หางเครื่องปีหนึ่งก็ใส่กันเต็มที่ ไม่มันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว พบกันวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมนี้ บริเวณลานจอดรถข้างคณะ วิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 17.00 น. - 24.00 น. บัตรราคา 99 บาท และบัตร VIP 300 บาท

จากเพลงลู ก ทุ ่ ง สู ่ ต ลกคาเฟ่ เด่ น เด๋ อ เทพ ตลกคาเฟ่ ใ นต� ำ นาน หลังยุคสมัยอันโด่งดังของผ่องศรี วรนุช และสุรพล สมบัติเจริญ ในช่วงปลายทศวรรษ 2510 เพลงลูกทุ่งถูกใช้เป็น เครื่องมือในการสื่อสารอุดมการณ์ของผู้คน น�ำเสนอชีวิตคน ในชนบท ความไม่เท่าเทียมทางชนชั้น ความยากแค้น ฯลฯ โดย เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2516 และ 2519 อย่างไร ก็ดีเมื่อเหตุการณ์ทางการเมืองสงบลง เนืิ้อหาของเพลงลูกทุ่ง กระแสหลักก็กลับมาสู่ความบันเทิงเพื่อคนชนบท การโหยหาชีวิต บ้านนาอันสุขสงบ ฯลฯ อีกครั้งหนึ่ง บทเพลงลูกทุ่งส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาบรรยายเรื่องของ ความรัก ความเศร้าและความงามของสาวชาวไร่ชาวนามากขึ้น เช่นเพลงรักสาวชาวไร่น�้ำตาชายเหนือสิ้นทางรัก ฯลฯ และยิ่ง เมื่อเศรษฐกิจพัฒนาก่อให้เกิดการย้ายถิ่นฐานประกอบอาชีพ ของชาวชนบทเข้าสู่เมืองหลวง บทเพลงลูกทุ่งสะท้อนชีวิตและ ปัญหาของบุคคลเหล่านี้ซึ่งประกอบอาชีพเป็นคนรับใช้ สาวบาร์ หมอนวด กรรมกร ลูกจ้าง ตลอดจนไปขายแรงงาน ในต่างประเทศ เช่น เพลงฉันทนาที่รัก พาร์ทเนอร์เบอร์ห้า สาวโรงทอรอรัก หนุ่มกระเป๋า ไอ้หนุ่มรถตุ๊กตุ๊ก ฯลฯ 12

F I N E DA E M AG A Z I N E

ในช่วง พ.ศ. 2520–2528 ท่ามกลางแสงไฟเจิดจ้าบนเวที หาง เครื่องเฉิดฉายสวยงาม และอุตสาหกรรมบันเทิงที่ด�ำเนินอย่าง มั่งคั่งและเป็นระบบ วงการเพลงลูกทุ่งได้ท�ำคลอดนักร้องระดับ ดาวค้างฟ้าเป็นจ�ำนวนมาก อาทิ สายัณห์ สัญญา, เกรียงไกร กรุงสยาม, สุรชัย สมบัติเจริญ, ยอดรัก สลักใจ, ศรชัย เมฆวิเชยี ร ศรเพชร ศรสุพรรณ ฯลฯ ในขณะที่นักร้องเพลงลูกทุ่งหญิง ก็เกิดราชินีลูกทุ่งขึ้นก็คือ พุ่มพวง ดวงจันทร์ นั่นเอง ด้วยจ�ำนวนนักร้องที่มากขึ้นนี่เอง ‘เวที’ ส�ำหรับพวกเขา เหล่านั้นจึงขยายจากตามงานวัดท้องถิ่นมาสู่ร้านอาหารสไตล์ ตะวันตกหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘คาเฟ่’ ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และกลายมาเป็นแหล่งบันเทิง ยามค�่ำคืนที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ก่อเกิดคณะตลกควบคู่นัก ร้องลูกทุ่งคาเฟ่ อาทิ คณะเด่น เด๋อ เทพ, เพลิน พรหมแดน, คณะ เชิญยิ้ม ฯลฯ มีการบันทึกการแสดงลงวิดีโอเทปเพื่อวางจ�ำหน่าย อย่างแพร่หลาย มีรายการโทรทัศน์ และรายการสด จนเริ่มโรยรา ลงตั้งแต่ช่วงปลาย พ.ศ.2530 จนถึงต้น พ.ศ. 2540 หลังจากมี ทางเลือกสื่อบันเทิง กระแสดนตรีสมัยใหม่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และหลากหลายมากขึ้น

ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2520 เป็นตลกคาเฟ่คณะแรกๆ ของเมือง ไทย โดยเริ่มจาก เด่น ดอกประดู่ ที่ลาออกมาจากการเป็นตลก วงดนตรีลูกทุ่งคณะสีสี่ แล้วออกมาตั้งคณะร่วมกับเด๋อ ดอก สะเดา 2 คนเล่นด้วยกันอยู่ประมาณ 4 เดือน แล้วมองว่าน่าจะมี คนเล่นเพิ่มอีกคน จึงได้เทพ โพธิ์งามที่เล่นอยู่กับคณะของเพลิน พรหม-แดน จึงกลายเป็นตลกต�ำนาน ‘เด่นเด๋อเทพ’ ในที่สุด มีผล งานทั้งจอแก้วจอเงินมากมาย โดยปกติจะเล่นประจ�ำที่ ‘ดาราคาเฟ่’ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มุขเด็ดของเด่นจะเก่งเรื่องมายากล เด๋อจะเป็น ตัวปู เด่นเล่นมุขตบ เทพรับบทเจ็บตัวเพราะเล่นเป็นตัวเซ่อๆ แต่ มากความสามารถ โดยเฉพาะมุขกระดกหนังศีรษะของเทพ โพธิ์งาม แต่สิ่งหนึ่งที่เทพมักจะโดนมุกเจ็บๆ (มุกเจ็บตัว) ของ เด่น ดอกประดู่ เป็นประจ�ำ มุกตีหัวด้วยถาด เด่น เด๋อ เทพ โด่งดังอยู่ 2 ปี เทพ โพธิง์ าม ก็ขอแยกตัวออก ไป คงเหลือ เด่น-เด๋อ เท่านั้น ก่อนจะมี ดี๋ ดอกมะดัน และดู๋ ดอกกระโดน เข้ามาร่วมคณะ และกลายมาเป็น เด่นเด๋อดู๋ดี๋ อีกหนึ่งคณะ ตลกคาเฟ่อันโด่งดังในช่วงยุค 80’s


นิ ว เ ว ฟ อ อ ฟ ลู ก ทุ ่ ง ส ต า ร ์

Y o u T u b e ลู ก ทุ ่ ง ล ้ า น วิ ว

จากการโชว์พลังเสียงและการต่อสู้ดิ้นรนของคนต่าง จังหวัด อารมณ์ขันร่วมสมัยของความเป็นเมืองและลูก ทุ่ง สู่การน�ำเสนออัตลักษณ์แปลกใหม่และการผสมผสาน วัฒนธรรมร่วมสมัย ฟายน์ เด ได้รวบรวม 7 นักร้องลูกทุ่ง คลื่นลูกใหม่ที่ก�ำลังมาแรงในช่วงปี 2011-2012 เชิญรับชม

เปาวลี พรพิมล

โด่งดังจากการรับบทพุ่มพวง ดวงจันทร์ และร้องเพลงประกอบ ของพุ่มพวงทั้งหมด มีอัลบั้มเป็นของตัวเองเมื่อปลายปีที่แล้วชื่อ ‘กรุณาอยู่ในระยะของความคิดถึง’

ตั๊กแตน ชลดา

เป็นซุป-ตาร์เพลงลูกทุ่ง โด่งดังจากเพลง ‘ไม่ใช่ แฟนท�ำแทนไม่ได้’ และล่าสุดกับซิงเกิ้ลที่ออก ปี 2555 ‘รักได้ครั้งละคนเชื่อใจได้คนละครั้ง’ ได้ รับรางวัลเพลงลูกทุ่งยอดเยี่ยมจากสยามดารา สตาร์ อวอดส์ 2012

10,685,259 เพลง: รักได้ครั้งละคน เชื่อใจได้คนละครั้ง ศิลปิน: ตั๊กแตน ชลดา

กระแต & กระต่าย

สองสาวดูโอลูกทุ่งขาแด็นซ์ที่เป็นพี่น้องกันด้วย กระแตเคยเป็นนักมวยหญิงทีน่ อกจากน่ารักแล้วเชิงมวย เก่งมากๆ เป็นที่รู้จักจากอัลบั้มลูกทุ่งโฟร์ทีน จึงได้ ฉายาว่า ‘กระแต โฟร์ทีน’ อัลบั้มล่าสุดที่สองสาวออก ด้วยกันเมื่อปีที่แล้วชื่อ ‘รักนะฉึกฉึก’

บลูเบอร์รี่ อาร์สยาม

เมื่อค่ายอาร์สยามในเครืออาร์เอสตีตลาดใหม่ของลูก ทุ่งวัยทีน ศิลปินเบอร์แรกที่ส่งออกมาและได้รับความ นิยมอย่างล้นหลามคือ 3 สาว โบว์ ออม และหนูเล็ก ที่มีสไตล์แด๊นซ์สไตล์เกาหลีผสมลูกทุ่งไทย เพลง ‘ชิมิ’ เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อัลบั้ม ‘สินสอดโรลแบ็ค’ เป็นอัลบั้มล่าสุดของพวกเธอ

7,736,646 เพลง: ชิมิ ศิลปิน: บลูเบอร์รี่ อาร์สยาม

โน้ต มหัศจรรย์ มาตศรี นักร้องลูกทุ่งคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุด ในยุคนี้ จากค่ายน้องใหม่ บีบี.เรคคอร์ด ล่าสุดเขา ได้รับรางวัลวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติประจ�ำปี 2555 รางวัลพระพิฆเนศวร ครั้งที่ 1 สาขาศิลปินเพลง ลูกทุ่งเยาวชนดีเด่น (ชาย) เพลง ‘คอยนางกลาง ฝน’, ‘ใจผมมันรักคุณ’ และ ‘ใจเธอหมดรักฉันรัก หมดใจ’ สร้างชือ่ ให้นักร้องหนุ่มคนนี้ที่ไม่ได้มีดีแค่ หน้าตา

5,703,221 ใบเตย อาร์สยาม

นักร้องลูกทุ่งป๊อบแดนซ์จากค่ายอาร์ สยาม ที่ส่งเพลง ฮิต ‘เช็คเรตติ้ง’ มาเขย่าเรตติ้งชาร์ตเพลง ลูกทุ่งร่วม สมัยได้พักใหญ่ ก่อนหน้านี้มิวสิควิดีโอเพลง ‘โคโยตี้ ค่ะพี่’ ของเธอก็สร้างภาพลักษณ์สาวลูกทุ่งเซ็กซี่ที่ น่าจับตามากที่สุดหนึ่งของวงการ ล่าสุดออกอัลบั้ม ‘ใบเตย บอร์น ทู บี’ และร่วมกับเพื่อนๆ ในค่ายออก ‘สโมสรชิมิ 3’ เธอร้องเพลง ‘ไปน่ารักไกลๆ หน่อย’

ตระการ ศรีแสงจันทร์ (ต๊ะ) ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นนักร้องลูกทุ่งเต็มตัวอย่าง จริงจัง แต่ตะ๊ ก็เริม่ จะโดดเด่นและโด่งดังในเส้นทางสาย นี้ ที่ดูมีอนาคตไกล หนุ่มน้อยวัย 16 นี้เป็นหนึ่งในผู้เข้า ประกวด The Voice Thailand ที่ถือว่าเป็นผู้เข้ารอบที่ มีอายุน้อยที่สุด และใช้เพลงลูกทุ่งพาตัวเองเข้ารอบมา จนถึงรอบลึกๆ ด้วยเอกลักษณ์ตลอดจนน�้ำเสียงเฉพาะ ตัวที่น่าสนใจ (และมีเจ๊คิ้มเป็นป้าดันอย่างออกนอกหน้า) บวกด้วยน�้ำเสียงที่น่าหลงใหลท�ำให้ต๊ะเอาชนะใจแม่ยกทั้ง ประเทศได้ไม่ยากซึ่งทุกอาทิตย์ของรอบ Live นั้น น้อง ต๊ะสามารถชนะการโหวตจากมหาชนผ่านเข้ารอบลึกได้ อย่างสบายๆ ถึงแม้ว่าจะยังไม่จบการประกวดแต่นักร้อง ลูกทุ่งคนนี้ก็ฉายแววอย่างน่าจับตาทีเดียว

เพลง: เช็คเรตติ้ง ศิลปิน: ใบเตย อาร์สยาม

ส� ำ รวจเมื่ อ วั น ที่ 1 ธั น วาคม 2555

Luk Thung music or Thai country music is the music genre reflected daily trials and culture of rural people in Thai. First developed in the mid-20 th century, the outstanding of Luk Thung stars at the early time included Pongsri Woranut and Suraphol Sombatcharoen. The period after 6th October 1976 was marked the renaissance of Luk Thung; many industrial factories in some big cities have been established and a large number of people in rural provinces came to the work, the contents of Luk Thung Music also caught this huge group. Furthermore, Many of the most popular artists have come from the central city of Suphanburi, including megastar Pumpuang Duangjan. During 1980’s, many modern style pubs and restaurants called ‘cafe’ were the stage of the singers and this era Luk Thung music was also played along with comedic plays on the cafe stages. The Faculty of Fine Arts, Chiang Mai University saw the charming of this folk treasure, it therefore organized the Luk Thung festival every 2 years by staging Luk Thung concerts and other shows. This year, it will be held on 8 th October 2012, 5 p.m. - midnight, at the parking lot beside the faculty building. Ticket is 99 Baht and 300 Baht for VIP. ข้ อ มู ล ประกอบการเขี ย น: www.mcot.net/fm95 (ลู ก ทุ ่ ง มหานคร) http://looktung.gmember.com (แกรมมี่ โ กลด์ ) www.rsiamonline.com (อาร์ ส ยาม) www.wikipedia.org www.youtube.com


FINE BIZ

B

a

c

k

s

t

a

g

e

T a

l

k

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

FULLSTOP CNX MUSIC อิ น ดี้ เ ชี ย ง ใ ห ม ่ ส บ า ย ดี ไ ห ม ?

จากซ้ายไปขวา: ปวิณ รัตนะเศวตกุล (ร้องน�ำ Zero Gravity) ธนากร ถนอมนันท-กุล (ร้องน�ำ Romantic Lighting) ปาจรีย์ คชนิทรารมย์ (ผู้จัดการวง Zero Gravity) สุภวัชญ์ เตชะไชย (เจ้าของค่าย) พงฐ์วิวัฒน์ ชัยรัต (เบส Romantic Lighting)

นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยยะส�ำคัญในรอบไม่กี่ปีมา นี้ เมื่อค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ทั้งสองค่ายของบ้านเราหันมาจับ ธุรกิจเคเบิ้ลทีวี และแย่งชิงสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ต่างประเทศกันอย่างดุเดือด ในยุคที่สื่อบันเทิงอยู่ในอากาศ ค่ายใหญ่ๆ เริ่มหันไปหาช่องทางท�ำธุรกิจนอกแวดวงดนตรี ศิลปินอยู่ได้จากการแสดงคอนเสิร์ตพ่วงขายเหล้า และผู้ชม ก็เสพติดการได้เปล่าจนเคยตัว ยังมีกลุ่มคนเล็กๆ ในเชียงใหม่ ที่ยังริอ่านจะท�ำค่ายเพลงในแบบไม่พึ่งต�ำราธุรกิจ เราก�ำลังคุย กับกลุ่มคนที่ท�ำสัญญาใจมาเกือบหนึ่งปีภายใต้สังกัด Fullstop CNX Music

ที่ดี การได้เล่นโชว์ถือว่าตอบโจทย์ของการท�ำค่ายเพลงของเรา แต่ ก่อนการออกโชว์มันเป็นโมเดลของศิลปินลูกทุ่งที่ต้องไปตามงานวัด งานบุญ ต่างๆ แต่ตอนนี้ทั้งค่ายเล็ก ใหญ่ กระแสหลักหรืออินดี้ต่าง หันมาจับโมเดลนี้กันหมด พงฐ์วิวัฒน์ (เบสวง Romantic Lighting): การเล่นโชว์นี่ศิลปิน แฮปปี้มากเลยนะ เพราะมันได้เล่นไง ได้เห็นปฏิกริยาของคนดู นัง่ แหง่ว ขายซีดีรอคนมาซื้อมันไม่สนุกหรอก

ที่ทางของ Fullstop? พงฐ์วิวัฒน์: รูปแบบทางธุรกิจดนตรีมันไม่มีตายตัว เราก็พยายาม หาช่องทางกันอยู่ เราอาศัยว่าท�ำกันด้วยใจรัก ศิลปินเกือบทุกคนใน เล่าให้เราฟังถึงค่ายเพลงคุณหน่อย? ค่ายมีงานประจ�ำท�ำกันหมด เราใช้เวลาว่างมาท�ำเพลง แต่เราก็ซีเรียส สุภวัชญ์ เตชะไชย (ผู้ก่อตั้ง): เรามาเรียนที่เชียงใหม่แล้วก็ได้มี กับเรื่องคุณภาพ จะเห็นว่าแต่ละซิงเกิ้ลกว่าจะออกมาค่อนข้างนาน โอกาสเป็นซาวด์เอ็นจิเนียร์ ก่อนจะออกมาเปิดห้องซ้อมเป็นของตัว มันมีความแตกต่างจากค่ายอื่นตรงที่ พี่ปุ้ย (สุภวัชญ์) จะท�ำเพลง เองพร้อมๆ กับที่มีวงดนตรีแนวสกาชื่อ Bathroom เล่นอยู่ที่วอร์ม จนกว่าทุกคนในค่ายแฮปปี้แล้วค่อยปล่อย คือศิลปินค่ายอื่นๆ ทั้ง อัพ ท�ำไปสักพักก็คิดว่าถ้าท�ำวงเราต้องท�ำแต่แนวนี้ต่อไปนานๆ แน่ อัลบั้มอาจจะมีเพลงเด่นๆ อยู่สักสองสามเพลง แต่เราพยายามจะ แล้วก็ประจวบเหมาะที่เราได้ท�ำมิกซ์ดาวน์ให้กับหลายวงที่มาอัดเสียง ท�ำให้มันแข็งแรงในทุกเพลง ทุกคนในวงพอใจ ถ้าท�ำอัลบั้มเต็มออก ที่สตูดิโอที่เราท�ำอยู่ เราเห็นหลายวงมีแนวทางที่ดีก็เลยเริ่มชวนมา มาเร็วๆ แต่ถ้าคนท�ำไม่พอใจมันก็เปล่าประโยชน์ ท�ำอัลบั้ม ตอนนั้นก็ได้ท�ำวงแนวบริทร็อคชื่อ IS AM ARE ก่อนจะ สุภวัชญ์: เมื่อยี่สิบปีที่แล้วเราฟังเพลงคุณภาพ เราก็อยากให้ฟัง มาเจอไผ่ (พงฐ์วิวัฒน์ ชัยรัต มือเบสวง Romantic Lighting) ก็ ของเรามีคุณภาพนะ เราอยากมีคุณภาพในทุกๆ เพลง คืออีกยี่สิบ เลยได้ท�ำวงร็อคอีกวง ก่อนจะมี Zero Gravity และ Othello ตาม ปีข้างหน้ามีคนมาฟังเพลงจากค่ายเรา เราก็หวังให้เขาชอบ เขาเห็น มา เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะท�ำแต่วงร็อคนะ ก็มองหาวงแนวอื่นๆ เหมือน ว่ามันดี กัน แต่สามวงที่ท�ำมา เราคิดว่าน่าจะไปได้ดี เราใช้เซ้นส์ล้วนๆ ในการ เลือกวงดนตรี ความคืบหน้าของค่าย? สุภวัชญ์: ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งนะอย่าง Romantic Lighting พอ แวดวงดนตรีอินดี้เชียงใหม่? ปล่อยซิงเกิ้ลแรกออกมา (Fake Love) ก็มีคนพูดถึงเยอะ มีวิทยุเอา สุภวัชญ์: มันเป็นเหมือนวัฏจักร มีค่ายออกมาท�ำอัลบั้มดังในระดับ ไปเปิด ส่วน Zero Gravity ก็มีเอเจนซี่หลายที่จากต่างประเทศติดต่อ หนึ่งแล้วก็ซาสุดท้ายก็หายไป สักพักก็มีมาอีกต้องบอกตามตรง ทุก ให้ไปเล่น เราตั้งใจจะท�ำให้ Zero Gravity จับตลาดต่างประเทศ ซึ่งก็ ค่ายอยูใ่ นเชิงธุรกิจกันไม่ได้หรอก ส่วนมากคือท�ำด้วยใจรัก อยากท�ำ ถือว่าประสบความส�ำเร็จ แต่เสียดายที่เราเพิ่งเริ่มท�ำวง หลายงาน วงดนตรีให้เป็นระบบ แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เม็ดเงินเป็นกอบเป็นก�ำ เลยยังไม่พร้อม แต่คิดว่าอีกไม่นานคงเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้ ส่วน อะไร รายได้หลักคือการเล่นโชว์ตามอีเว้นท์ต่างๆ หรือตามร้านเหล้า Othello เป็นวงที่มีศักยภาพพร้อม และเคยจะได้ออกกับค่ายใหญ่ใน ซึ่งก็มีกลุ่มคนฟังที่เหนียวแน่น แม้ไม่มากมายแต่ก็ถือว่าเป็นฟีดแบ็ค กรุงเทพฯ แต่ทางวงพอใจจะอยู่เชียงใหม่ และก็ได้มาร่วมงานกับเรา 14

F I N E DA E M AG A Z I N E

Fullstop จะไปทางไหนต่อ? สุภวัชญ์: มันอาจจะเป็นจุดด้อยของค่ายเพลงในเชียงใหม่ก็ได้ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีการตลาด ค่ายเราก็เหมือนกัน ทุกคนต่าง เรียนอาร์ตมากันหมด ไม่มีใครเรียนบริหารมาเลย มันเหมือนเรา ต่อยมวยตามวัดไปเรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่นะ หาทาง ของเราไปเรื่อยๆ โชคดีที่เรามีเม็ดเงินจากการท�ำสตูดิโอมิกซ์ เสียง ตัดต่อหนัง ออกาไนซ์ทางดนตรี ฯลฯ มาหล่อเลีย้ งในสิง่ ทีเ่ รารัก เราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นค่ายระดับยักษ์ ไม่ได้คิด จะแข่งขัน แค่ได้ท�ำในเพลงที่เราคิดว่าดี และก็อยากบอกใครๆ ว่า เฮ้ยวงนี้มันเจ๋งนะ มาฟังกันเถอะ อาจดูลอยๆ เป็นธุรกิจใน ความฝัน เพียงแต่เราท�ำแล้วมีความสุข ศิลปินทุกคนในค่ายมี ความสุข คนฟังมีความสุขที่ได้ฟัง เราก็พอใจ ติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินได้ที่ www.facebook. com/fullstopcnxmusic Fullstop CNX Music is a Chiang Mai based homemade record label. The company is now managing three rock bands; Zero Gravity, Romantic Lighting and Othello. Among the national flat music business, this label still focuses its bands staging concert in some events and finds success from audiences feedbacks through the shows. As every artists have their own jobs, the band organizing is their contributing passion. The owner of the label said they are doing business of happiness. However, they still also find the suitable way to run this business professionally and sustaintially.

เราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นค่าย ระดับยักษ์ ไม่ได้คิดจะแข่งขัน แค่ได้ ท�ำในเพลงที่เราคิดว่าดี และก็อยาก บอกใครๆ ว่า เฮ้ยวงนี้มันเจ๋งนะ มาฟังกันเถอะ



FINE HIGH W W W. F I N E D A E M A G . C O M

‘PLANET C A R E ’ A Ta l k t o

Miyuki Shimada

หั น แ ล ะ ห ว น สู ่ ธ ร ร ม ช า ติ กั น ดี ก ว ่ า ไ ห ม ?

16

F I N E DA E M AG A Z I N E

Forefront People of the Week


หากจะถามว่าสายเกินไปไหม...ค�ำตอบอาจ โน้มเอียงไปทางค�ำว่า “ใช่” แต่ถ้าหาก เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า...เริ่มต้นตั้งแต่ วันนี้ดีกว่าจะสายเกินแก้...น่าจะดีกว่า เมื่อไม่กี่ปีมานี้เทรนด์ของการรักษ์โลกในรูปแบบต่างๆ นั้นต่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบ ก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความโหดร้ายของภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เริ่มออกมาจาก นอกจอภาพยนตร์มีให้เห็นในชีวิตจริงมากขึ้นทุกวันมนุษย์ก็เลยรีบมาตระหนักถึงเรื่องรักษ์โลก กันอย่างจริงจัง หากจะถามว่าสายเกินไปไหม...ค�ำตอบอาจโน้มเอียงไปทางค�ำว่า “ใช่” แต่ถ้าหาก เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า...เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ดีกว่าจะสายเกินแก้...น่าจะดีกว่า เทรนด์หนึ่งของการรักษ์โลกที่เป็นกระแสนั้นก็คือการหวนกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์แบบธรรมชาติ หรือ Organic Product ที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของมนุษย์ในการสร้างสรรค์ผลงานหัตถกรรม ด้วยมือ ผลิตภัณฑ์ Organic นี้ส่วนใหญ่แล้วจะหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุด รวมไปถึง ระบบการผลิตที่จะพยายามลดการใช้พลังงานเครื่องจักรต่างๆ อันเป็นส่วนส�ำคัญในการเผา ผลาญทรัพยากรทั้งทางตรง และทางอ้อม ซึ่งจากแนวความคิดเพื่อโลกนี้เองเป็นต้นก�ำเนิดของ แบรนด์เก๋อย่าง Planeta Organica ผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องนุ่งห่มที่ชวนเราหวนคืนสู่ความใกล้ ชิดกับธรรมชาติ ผ้าไทยในจิตวิญญาณญี่ปุ่น เห็นแว้บแรกอาจจะเข้าใจว่าแบรนด์เก๋นี้เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ผิดนัก เพราะแบรนด์ รักษ์โลกนี้ดูแลโดย มิยูกิ ชิมาดะ (Miyuki Shimada) สาวญี่ปุ่นผู้หลงใหลในเสน่ห์ของผ้าไทย จนลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์รักษ์โลก Planeta Organica นี้ขึ้น มิยูกิ บอกกับเราว่าผ้าไทยนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองที่ดี มีวัตถุดิบในการผลิตที่มี คุณภาพ เช่น ฝ้ายชั้นดี มีการบวนการปลูกที่ใส่ใจ รวมไปถึงมีฝีมือการทักทอผ้าที่ประณีต งดงามอีกด้วย ซึ่งย้อนไปกว่า 10 ปี ที่ครั้งแรกมิยูกิได้รู้จักผ้าทอไทยนั้นเขาถึงกับประทับใจและ เริ่มธุรกิจดังกล่าว ผ้าทอของ Planeta Organica นั้นถูกผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมอย่างพิถีพิถันใน หมู่บ้านที่ จ.ล�ำปาง ซึ่งเธอเริ่มคลุกคลีตั้งแต่กระบวนการปลูกที่ควบคุมให้เป็นเกษตรอินทรีย์ กระบวนการย้อมจากวัตถุดิบและวิธีธรรมชาติ กระบวนการทอมือด้วยกี่ เส้นใยจากธรรมชาติที่ได้ มานั้นมีคุณสมบัติที่นุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ในขณะเดียวกันก็ให้ความอบอุ่นดีเยี่ยม ดีไซน์ที่ท�ำให้ผ้าไทยไม่เชย ผ้าทอไทยหากน�ำมาตัดเย็บในรูปแบบสากลที่สวยทันสมัยแล้วนั้น อาจเปลี่ยนภาพจากความ เชยเป็นความชิคได้เช่นกัน ผลิตภัณฑ์ผ้าแบบ Organic ที่ได้มานั้นส่งต่อให้กับเพื่อนดีไซน์เนอร์ ชาวญี่ปุ่น (ที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่) ตัดเย็บด้วยแพทเทิร์นที่มีจิตวิญญาณและ กลิ่นอายความเก๋ ในแบบฉบับแดนอาทิตย์อุทัย ตั้งแต่เสื้อผ้า, ผ้าห่ม, ผ้าคลุมเตียง, ของกระจุกกระจิก ซึ่งการ ออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีตนี้ท�ำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาดูน่าสนใจและน่าสวมใส่ทีเดียว แฟชั่นและนวัตกรรมรักษ์โลกที่เริ่มได้รับความนิยม ด้วยจิตวิญญาณรักษ์โลกที่เริ่มตั้งแต่ตัวผู้ประกอบการไปจนถึงกระบวนการผลิตและออก มาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมดีไซน์เก๋นี้เองท�ำให้ Planeta Organica ได้รับความนิยมและความ สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากร้านค้าที่ JJ Market เชียงใหม่ แล้ว แบรนด์นี้ยังมีร้านที่กรุงเทพฯ (สุขุมวิท) และส่งไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วย ผ้าคุณภาพดีบวกกับดีไซน์ที่โดดเด่น (แบบธรรมชาติ) นี้ท�ำให้แบรนด์นี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เรื่อยๆ นอกจากเสื้อผ้านั้นผลิตภัณฑ์อีกอย่างที่เก๋แปลกอย่างโดดเด่นก็คือ ‘ผ้าอนามัยผ้าแบบใช้ ซ�้ำ’ ซึ่งเป็นผ้าอนามัยที่ท�ำจากผ้าทอคุณภาพดี มิยูกิบอกกับเราว่าสินค้านี้ก�ำลังได้รับความนิยม และเป็นที่สนใจในหมู่ผู้หญิงมากๆ เพราะนอกจากจะซึมซับได้ดีแล้ว ผิวของผ้าทอยังอ่อนโยนต่อ ผิวสัมผัสของผู้หญิง ความเป็นธรรมชาตินั้นไม่ก่อให้เกิดสารพิษต่างๆ และการใช้ซ�้ำได้ (โดยผ้า อนามัยนี้สามารถน�ำมาซักเพื่อน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้) นี่เองที่ช่วยลดการผลิตทั้งยังช่วยลดขยะกับ โลกได้อีกด้วย รักษ์โลกท�ำไม? เราถามถึงเหตุผลที่ท�ำไมมิยูกิถึงสนใจมาท�ำผลิตภัณฑ์ Organic แทนที่จะผลิตในเชิง อุตสาหกรรมที่ง่ายและต้นทุนต�่ำกว่า ซึ่งเธอก็บอกกับเราว่าความจริงแล้วเธอเจาะจงไปที่เรื่องผ้า มากกว่าเรื่องการท�ำธุรกิจ ผ้าทอมือธรรมชาตินั้นสวย นุ่ม คุณภาพดี และใส่สบายกว่าผ้าทอ จากเครื่องที่ท�ำจากใยสังเคราะห์ และกระบวนการธรรมชาตินั้นเป็นผลพลอยได้ที่ดีต่อโลกที่เธอก็ รู้สึกดีในการเป็นส่วนหนึ่งของการท�ำเพื่อโลกนี้ แล้วก็ท�ำให้จิตวิญญาณโดยรวมของตัวเธอและ แบรนด์สะท้อนความห่วงใยต่อวิถีชีวิตที่ยั่งยืนระยะยาวออกมาเองอีกด้วย ก่อนที่เราจะจบบทสนทนากัน เธอก็ยังบอกอีกว่าสิ่งที่น่าภูมิใจอีกอย่างก็คือการที่เธอได้เป็น ส่วนหนึ่งในการชักชวนคนอื่นๆ มาร่วมกันรักษ์โลกได้เพิ่มขึ้นด้วยนั่นเอง ข้อมูลเพิ่มเติม: www.planeta-organica.com The eco-living concept is both fashion trend and really practical lifestyle option. Whether you choose it for ‘chic’ or ‘to live’, it also does matter. Planeta Organica is one that keeps its step finely through its organic handmade fabrics such as bath linens, beddings, relaxed clothes, etc. Graduated in a design field in Japan, Miyuki Shimada fells in love with the charming nature of organic homespuns and that’s why the Planeta Organica is so stylish. With a passion of the Thais’ friendly minds, she decided to live in Chiang Mai and opened the business 12 years ago. Recently, Planeta Organica got very nice feedback from Thai and Japanese customers as well as other regions. Planeta Organica shops are at JJ Market Chiang Mai, Sukhumvit branch in Bangkok and some shops in Japan. word: ปณธาดา ราชกิ จ photo: บานาน่ า


FINE EASE

Cinematheque Drugstore

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

THE MIDNIGHT PHARMACIST AND HIS PUNYA MOVIECLUB

โลก 3D ของเภสัชกร เที่ยงคืน

ขอขอบคุณร้านหนังสือ Book Re-public เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายท�ำ

18

F I N E DA E M AG A Z I N E


ภาพยนตร์มันไม่ใช่แค่สื่อบันเทิง แต่มันคือ เครื่องมือสะท้อนสังคมในยุคนั้นๆ บางทีเรา ใช้ชีวิตทุกวันอาจจะอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ เจออะไรเดิมๆ ซึ่งมันก็น่าเบื่อ แต่ถ้าหากเราได้ ไปดูหนัง ได้เปิดความคิด โดยเฉพาะการได้ดู หนังแปลกๆ มันอาจจะท�ำให้เรามองโลกในแง่ มุมที่ต่างไปจากเดิม ให้พูดกันตรงๆ หน้าตาและรูปลักษณ์ของเขา บอกกับใคร ใครเขาจะเชื่อว่าเป็นเภสัชกร ด้วยภาพจ�ำ และค่านิยมที่สั่งสมโลกทัศน์ของคนส่วนใหญ่ในบ้านเรา เขาท�ำให้หลายคนต้องขยี้ตา แต่ บดินทร์ เทพรัตน์ เป็นเภสัชกร ร้านขายยาชื่อ ‘ปันยา’ ของเขาเปิดท�ำการตอนที่พระอาทิตย์ตก และปิดเมื่อพระสงฆ์บิณฑบาตร ด้วย ความที่อยู่ในย่านสันติธรรม ย่านที่ผู้คนภาคกลางคืนพลุกพล่านที่สุดย่านหนึ่งในเชียงใหม่ ลูกค้าหลัก ของเขาจึงมีทั้งคนเมา เด็กเที่ยวกลางคืน ผัวเมียหนุ่มสาวที่อยู่ด้วยกันในหอพัก กระทั่งโสเภณี ในอีกมุม หนึ่ง ตลอดกลางคืนที่ลูกค้าร้านขายยายังไม่เข้า เขาเปิดคอมพิวเตอร์เขียนหนังสือ เลือกโหลดหนังนอก กระแสจากเว็บไซต์ต่างประเทศ เล่นเฟซบุ๊คอัพสเตตัสแบ่งปันมุมมองของเขาที่มีต่อสังคม การเมือง และ ที่ส�ำคัญคือ ‘ภาพยนตร์’ อันท�ำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง - ในโลกภาพยนตร์ เขาเป็นทั้งผู้เสพและผู้สื่อ ในชื่อ ‘ปันยา มูฟวี่คลับ’ ชื่อที่คนเชียงใหม่ที่ก�ำลังเบื่อทางเลือกอันแสนคับแคบในโรงภาพยนตร์กระแส หลักก�ำลังติดตาม “ผมแค่อยากมีเพื่อนดูหนังเท่านั้น” บดินทร์บอกกับเราถึงสาเหตุของการจัดตั้งปันยา มูฟวี่คลับ กิจกรรมฉายหนังตามแต่วาระโอกาสของเขา กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเฉลี่ยสองเดือนครั้ง ส่วนมากจัด ที่ร้านหนังสือบุ๊ครีพับบลิค (คันคลองชลประทาน) หอศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสงดีแกลเลอรี่ และ ที่อื่นๆ แล้วแต่ช่วงเวลาจะอ�ำนวย เขาฉายภาพยนตร์ตามธีม มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ หลายครั้งจะใช้เวลาอย่างหลังนานกว่าช่วงเวลาดูหนัง หนังส่วนใหญ่ที่เขาฉายเรียกร้องให้มีการแลก เปลี่ยนเช่นนั้น “ผมว่าคนไทยที่ท�ำหนังสั้นหรือหนังนอกกระแสน่าสนใจหลายคนนะ แต่เสียดายไม่ค่อยมีใครรู้จัก คือ ถ้ารู้จักก็จะอยู่ในแวดวงคนดูหนังที่กรุงเทพฯ แต่เชียงใหม่พื้นที่มันน้อย เรามีโรงภาพยนตร์หลักๆ อยู่ สองแห่ง ซึ่งทั้งสองแห่งก็ฉายหนังเรื่องซ�้ำๆ กัน” บดินทร์เสพติดการดูหนังมาตั้งแต่สมัยที่เขาเรียน หนังสืออยู่ที่จังหวัดชัยนาท ในยุคที่ผู้คนดูหนังผ่านวิดีโอเทป พอเข้าเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียม อุดมในกรุงเทพฯ เขาเติบโตมากับหนังในโรงภาพยนตร์ลิโด้ สกาล่า ฯลฯ รวมทั้งเมื่อได้เข้าเรียนคณะ เภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขาก็ยังคงหาเวลาว่างคลุกตัวอยู่ตามเทศกาลหนัง ในขณะที่เขาจ�ำชื่อยาและชนิดที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยได้ บดินทร์ก็จ�ำชื่อผู้ก�ำกับจากประเทศแปลกๆ และ ภาพยนตร์ประหลาดๆ จากทั่วโลกได้ไปพร้อมกัน “มันเกิดจากการชอบดูหนังแปลกๆ ครับ บวกกับไม่ค่อยมีเพื่อนดูหนังแนวๆ นี้ด้วยกันสักเท่าไร ก็ เลยจัดกิจกรรมฉายหนังแล้วหาคนมาดูด้วยกันดีกว่า ซึ่งแม้จะชื่อมูฟวี่คลับ แต่ทิศทางการจัดก็ขึ้นอยู่ กับผมคนเดียวว่าช่วงนั้นสนใจอะไร ถ้าช่วงนั้นสนใจการเมืองก็จะชักชวนผู้สร้างหนังที่พูดถึงสังคม การเมืองมาฉาย ช่วงไหนสนใจกลุ่มท�ำหนังทดลองก็จะชวนเขามาฉาย ผมเป็นโปรโมเตอร์ แค่อยากเป็น ส่วนหนึ่งให้คนท�ำงานศิลปะได้เสนอผลงานของพวกเขา” กิจกรรมของปันยา มูฟวี่คลับเป็นกิจกรรมที่ไม่เก็บค่าเข้าชม นั่นหมายถึงเงินส่วนตัวของเขาเอง ทั้งหมดในการจัดการ แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือที่ดีมาตลอดจากเพื่อน ที่บ้างก็ช่วยออกแบบโปสเตอร์ หรือประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มีบ้างที่เขาได้จากสปอนเซอร์ แต่ส่วนใหญ่เขาจะใช้เงินส่วนตัวที่ได้จาก การขายยาหรือเป็นเภสัชกรพาร์ทไทม์ตามโรงพยาบาลมาหมุน เขาไม่เห็นถึงความขัดแย้งดังกล่าว เพราะ การฉายหนังเป็นสิ่งที่เขารักที่จะท�ำโดยไม่หวังผลก�ำไรอยู่แล้ว “เภสัชกรเป็นงานที่รายได้ดี ผมท�ำเพื่อมาหล่อเลี้ยงชีวิตและท�ำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข คือนอกจาก ฉายหนัง ก็เอามาเที่ยวต่างประเทศ พยายามไปให้ได้ทุกเดือนไปหาแรงบันดาลใจ แต่ก็จะไปแถวๆ นี้ไม่ได้ไป ไกลมาก” เขาบอกกับเราต่อว่าการเดินทางก็เหมือนการดูหนังคือการไป ‘เห็น’ ไป ‘รู้จัก’ ชีวิต “ภาพยนตร์มันไม่ใช่แค่สื่อบันเทิง แต่มันคือเครื่องมือสะท้อนสังคมในยุคนั้นๆ บางทีเราใช้ชีวิตทุกวัน อาจจะอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ เจออะไรเดิมๆ ซึ่งมันก็น่าเบื่อ แต่ถ้าหากเราได้ไปดูหนัง ได้เปิดความคิด โดยเฉพาะการได้ดูหนังแปลกๆ มันอาจจะท�ำให้เรามองโลกในแง่มุมที่ต่างไปจากเดิม กล้าที่จะหลุดพ้นไปจาก มายาคติเดิมๆ อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่มันส�ำคัญที่ว่าเรากล้าที่จะวิเคราะห์มันอย่างแท้จริงหรือเปล่า” และ ด้วยเหตุดังกล่าวท�ำให้บดินทร์ก็ถ่ายทอดมันออกมาในรูปแบงานเขียนประจ�ำในนิตยสาร Starpics ว่าด้วย เรื่องสังคมและภาพยนตร์ อันท�ำให้อาชีพ ‘นักเขียน’ เป็นมิติที่สามของเขา นอกจากเภสัชกรและคนฉาย ภาพยนตร์ “เวลาเรามีเรื่องอะไรในหัว เราก็อยากเล่า ท�ำหนังผมก็ท�ำนะมีโอกาสก็ท�ำ แต่กับการเขียนมันรวดเร็ว ตอบสนองความคิดเราได้ฉับพลัน มันท�ำให้เรารู้จักไตร่ตรอง ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และสนุกที่ได้เรียนรู้ อะไรใหม่ๆ” เราถามเขาถึงมิติทั้งสามที่ซ้อนทับอยู่ในชีวิตของบดินทร์ “ผมบอกไม่ถูก แต่ละงานก็มีทั้งดีและไม่ดีคละกันไป เภสัชกรมีระเบียบเยอะแต่ก็ได้เงินเยอะด้วย อีกงาน เรามีอิสระแต่รายรับก็ไม่มาก ส่วนอีกงานคือเราไม่ได้อะไรจากมันแต่เราก็ได้เพื่อนได้สังคม มันก็ต้องสมดุล ชีวิตเราเองว่าจะจัดการยังไงให้เราอยู่ได้ ไม่ท�ำให้เสียงาน แล้วก็ชีวิตมีความสุขมากที่สุด มันก็จะเป็นเหมือน โลกคนละใบ แต่เราโอเคกับมันหมด แต่บั้นปลายผมก็อยากเขียนหนังสือนะ ช่วงนี้ passion เรื่องการดู หนังเราลดลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังอ่านหนังสือ หรือฟังเพลงเยอะอยู่ ผมมีความสุขกับการเขียนอยู่ ไม่ว่า จะยังไงทั้งหนัง เพลง หนังสือ มันคือองค์ประกอบที่ท�ำให้ผมมีความสุข” Bodin Theparat is a midnight pharmacist. His drugstore ‘Punya’ opens 5.30 p.m. - 6 a.m., serving those who get up to work in the night and sleep at the dawn. Apart of running his unique pharmacy, Bodin also writes articles for Starpics Magazine. Anyway, this pharmacist is well-known from his cinematheque project called ‘Punya Movieclub’. As he found Chiang Mai has less options for seeing some indie films, he therefore has gathered those films by himself and invited friends to enjoy and discuss in some events at Book Re-public, CMU Art Center, Sangdee Gallery and more. word: จอห์ น เลมอน photo: บานาน่ า


FINE OFFICE

O f f i c e

S w e e t

O f f i c e

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

ออฟฟิศของผู้บริหารออฟฟิศ The Office Plus Visitation

The Office Plus Visitation อ อ ฟ ฟ ิ ศ ข อ ง ผู ้ บ ริ ห า ร อ อ ฟ ฟ ิ ศ

FINE OFFICE เป็นคอลัมน์ใหม่ที่เราจะพาคุณผู้อ่านไปชื่นชมความสุขกับการท�ำงานและสถานที่ ท�ำงานของบุคคลที่น่าสนใจ และส�ำหรับคอลัมน์ปฐมฤกษ์นี้ เราจึงเริ่มจากการเปิดออฟฟิศของคนท�ำ ออฟฟิศเสียเลย - เราอยู่ที่โครงการส�ำนักงานอัจฉริยะ The Office Plus ห้องท�ำงานใคร: คุณฟ้า-จุฬาวรรณ วงษ์เกษม ผู้จัดการโครงการดิ ออฟฟิศ พลัส เวลาท�ำงาน: วันจันทร์ - เสาร์ 8.00 น. - 17.00 น. อายุการใช้งาน: 3 ปี (ตั้งแต่โครงการฯ เปิด) ขนาด: 50 ตารางเมตร สไตล์การออกแบบ: โมเดิรน์ ส่วนผสมระหว่างโครงสร้างปูนเปลือยขัดมัน อิฐแดงเปลือย และกระเบือ้ งมันเงาสีดำ� ใช้ท�ำอะไร: “ฟ้าใช้ส�ำหรับจัดการอาคารนี้ทั้งหมด อาคารนี้คือโครงการ The Office Plus เป็นอาคาร ส�ำนักงานให้เช่า ด้วยความที่ส�ำนักงานส่วนใหญ่ต้องท�ำงานติดต่อกับต่างประเทศ โครงการฯ จึงเปิดให้ผู้ เช่าสามารถเข้ามาท�ำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเรามีพนักงานรักษาความปลอดภัยสแตนด์บายตลอดเวลา นอกจากการจัดการทั่วไป ฟ้าใช้ห้องนี้เป็นที่รับรองลูกค้า เป็นห้องเซลล์ และพักผ่อนระหว่างการท�ำงานไปใน ตัว ทั้งฟังเพลงและเล่นกับน้องเกรซด้วย (ลูกสาววัย 3 ขวบ 7 เดือนของคุณฟ้า)” มุมส่วนตัว: “ชอบมุมโต๊ะท�ำงานของตัวเอง เพราะจากจุดนี้ถ้าเปิดม่านจากชั้นสองที่เราอยู่จะเห็นด้านหน้า ของอาคารทั้งหมด ใครแวะเวียนเข้ามาติดต่ออะไร เพราะรถทุกคันและแขกทุกคนจะต้องเข้ามาทางนี้ นอกจาก นี้ ด้วยความที่เราเน้นคอนเซปต์ ‘กรีน’ ในทุกๆ ยูนิตของโครงการจะเห็นต้นไม้รายล้อมไปหมด รวมทั้งพื้นที่ ส่วนกลางของอาคารที่มีแถวของต้นหูกระจงเรียงรายอยู่ ซึ่งฟ้าคิดว่าดูผ่อนคลายดี เหมือนได้นั่งท�ำงาน กับธรรมชาติ” ความสุขจากการท�ำงาน: การได้ให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ความประทับใจและค�ำชื่นชมจากลูกค้าเป็นก�ำลัง ใจที่ท�ำให้เราและทีมงานมีความสุขกับการท�ำงานที่นี่ และยังท�ำให้เกิดแรงบันดาลใจในมองการหาสิ่งอ�ำนวย ความสะดวกที่แปลกใหม่ และการให้บริการในรูปแบบใหม่ FINE OFFICE is a new column that brings readers to visit many outstanding offices. For the first issue, we visit the working space of Fah-Chulawan Wongkasam, the General Manager of the Office Plus (the Chiang Mai most modern smart rental office). Her room is located on the 2 nd floor of the Office Plus building and her duty is to run all of the operations in this building, welcome guests, maintain the place, sale, etc. Fah said her favorite corner is at her desk as she can observe everything happened in front of the building by just open the curtains. Also, as ‘green’ is the main concept of this office, she is happy to admire those big trees around the building. Her daughter’s corner is also her office happiness space. Apart from working, her room is also for relaxing and playing with her lovely daughter. word: ฟายน์ ที ม photo: บานาน่ า

20

F I N E DA E M AG A Z I N E



FINE SHOPPING

A r t i s t i c

V i l l a g e

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

ห มู ่ บ ้ า น เ พ น ก วิ้ น

THE PENGUIN VILLAGE เห็นชือ่ แล้วชวนอมยิม้ เห็นหมูบ่ า้ นแล้วชวนชิลล์ ยิง่ เห็นร้านรวงแล้วยิง่ ชวนควักกระเป๋า...หมูบ่ า้ นเล็กๆ แห่งศิลปะนี้ตั้งอยู่ริมคลองชลประทาน (ใกล้กับแยก โรงแรมเชียงใหม่ภูค�ำ) ซึ่งเดิมทีเป็นบ้านพักของเหล่า นักศึกษาสายศิลปะและออกแบบมานานร่วมหลาย สิบปี ปัจจุบันชุมชนแห่งนี้ยังมีกลิ่นอายเช่นเดิมแต่ เริ่มเป็นชุมชนของนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่รวมตัวตั้ง ออฟฟิศและเปิดร้านรวงชวนช้อปชวนชิลล์ที่อยาก แนะน�ำให้ลองแวะไปกันดู

Penguin Ghetto เปิด 09.00-21.00 น. / โทร 08 9183 3224

บ้านหลังเท่ๆ นี้ (เปรียบเหมือนผู้ใหญ่บ้าน) หยิบเอาชื่อหมู่บ้านมาตั้งเป็นชื่อร้านน่านั่ง ซึ่งที่นี่คือ ส�ำนักงานสถาปนิกขนาดเล็กที่ชื่อ NORTH พร้อมเปิด ร้านกาแฟขนาดจิ๋วเพื่อไว้ต้อนรับลูกค้าบริษัทเป็นหลัก แต่ก็ไว้รองรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการเข้ามานั่งชิลล์ด้วย โดยบ้านหลังนี้มีคนช่วยกันดูแลซึ่งเป็นเจ้าของออฟฟิศ สถาปนิกด้วยคือ อรรถสิทธิ์ กองมงคล (อรรถ) และวิไลลักษณ์ กุลศักดิ์นันท์ (กวาง) ในร้านนั้น เสิร์ฟกาแฟแก้วอร่อยที่ชงด้วยเมล็ดคัดพิเศษ พร้อม กับเค้กโฮมเมดแสนอร่อยของ BAKING MANIA ร้าน เพื่อนบ้าน นอกจากนี้ที่ผนังร้านก็ยังแอบมีชั้นวางเก๋ๆ

Tu k t u n Te u n g & Baking Mania เปิด 14.00-18.00 น. / TUKTUN TEUNG โทร.0 89881 1964 BAKING MANIA โทร. 086 116 7973 บ้านหลังเล็กๆ นี้ผสานสองอารมณ์ที่มีสีสันได้อย่างลงตัว อารมณ์แรกนั้นเป็น โชว์รูมและเวิร์คช็อปขนาดย่อมของงานศิลปะแนว Pop Art ขึ้นชื่ออย่าง TUKTUN TEUNG หุ่นไม้หลากคาแร็คเตอร์แบบ Limited Edition ที่ทุกตัวท�ำมือไม่เหมือนกัน และมีตัวเดียวในโลก โดยเจ้าของแบรนด์ผู้สร้างสรรค์นั้นก็คือ ธนานพ แสงอรุณ (ตึ๋ง) ที่มีไอเดียน่าชื่นชมด้วยการหยิบเอาเศษไม้ไร้ค่า(ของเศษกล่องไม้ในภาค อุตสาหกรรม)มาสร้างมูลค่าด้วยการประดิษฐ์เป็นงานศิลปะที่มีคาแร็คเตอร์ อารมณ์ที่สองนั้นก็คือการเป็นสตูดิโอขนมหวานเล็กๆ น่ารักๆ ของแบรนด์ BAKING MANIA ที่เริ่มขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยในเชียงใหม่มาสักพัก ส�ำหรับแบรนด์ น่าหม�่ำนี้ อมรรัตน์ เทพปัญญา (หนิง) ลงมือท�ำขนมหวานที่สดใหม่ด้วยตัวเอง ทุกวัน นอกจากนั้นด้านบนก็ยังเปิดเป็น Bakery Workshop โรงเรียนสอนท�ำขนม หวานเล็กๆ (แบบจ�ำกัดจ�ำนวนคน) ที่ทุกคนจะได้ลงมือท�ำขนมด้วยตัวเองทุกขั้นตอน อีกด้วย Tuktun Teung is the signature wooden doll brand created by Thananop Sangarun (Tueng), a new wave pop artist in Chiang Mai. The shop in Penguin Village is like his factory where he creates his products alongside with his girlfriend Amornrat Theppunya who runs her cute cake shop ‘Baking Mania’ that distributes to many well-known coffee shops around Chiang Mai.

22

F I N E DA E M AG A Z I N E

อันเป็นโซนช้อปปิ้งงานศิลปะและดีไซน์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ ผู้ที่สนใจเอางานเข้ามาน�ำเสนอเพื่อวางขายได้ ซึ่งใน ตอนนี้ก็เริ่มมีงานเด็ดๆ ดีๆ ของเพื่อนบ้านอย่างหุ่นไม้ สุดเท่จาก Tuktun Teung, ของตกแต่งสุดอาร์ตจาก 3.2.6 มาประเดิมให้ช้อปกัน Penguin Ghetto is located in front of this Penguin Village (Canal Road - on the way to 700 Years Stadium). This is a small coffee shop with very modern sense from its architecture to interior furniture. It serves cakes from neighboring Baking Mania and also other design products from the owner’s friends.


FINE DEALS W W W. F I N E D A E M A G . C O M

L e t ’ s

c h e c k

i t

o u t

INTERNATIONAL LUNCH BUFFET @ HOTEL M CHIANG MAI

อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์กลางวันอาหารนานาชาติ ไทย ญี่ปุ่น ยุโรป และสลัดบาร์นานาชาติ พร้อมไอศกรีมหลากรสชาติ และเพลิดเพลินกับอาหารพิเศษประจ�ำเดือนกับ Buffet Lunch เพียง 129 บาท ลิ้มรสอาหารสุดพิเศษ อาทิ ขนมจีนน�้ำเงี้ยว ข้าวซอย สปาเก็ตตี้ พาสต้า ซูชิ เป็นต้น และ อีกหลากหลายความอร่อย ที่ห้องอาหารบริกซ์ในโรงแรมโฮเทล เอ็ม เชียงใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5341 8092 www.hotelmchiangmai.com

Brix Bar & Restaurant, Hotel M, offers international buffet, salad bar and a variety of ice creams. Enjoy with monthly special menus such as Khao Soi, spaghetti, pasta and sushi at 129 Baht net per person. The buffet time is 11.00 a.m. till 2 p.m., Monday - Saturday.

MAKE SAVINGS WITH CENTARA’S LAST MINUTE PROGRAMME @ CENTARA HOTELS & RESORTS

เครือโรงแรมเซ็นทาราได้เปิดตัว ‘Last Minute Programme’ เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถ จองห้องพักออนไลน์ในกรณีจองช้าส�ำหรับวันหยุด โดยโปรแกรมนี้สามารถใช้กับโรงแรม เซ็นทารา และรีสอร์ทในกรุงเทพฯ กระบี่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ขอนแก่น แม่สอด พัทยา ระยอง ตราด อุดรธานี สมุย มัลดีฟส์ บาหลี และเวียดนาม โปรแกรมนี้สามารถใช้ได้ทันที และ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 2101 1234 http://www.centarahotelsresorts.com

LINNIL Zakka Shop & 3.2.6 Studio

Centara Hotels & Resorts has launched ‘Last Minute’ programme with selected properties in Bangkok, Krabi, Chiang Mai, Phuket, Hat Yai, other cities in Thailand, plus Maldives, Bali and Vietnam that delivers savings to guests making late on-line bookings for their holidays. The Last Minute programme is available with immediate effect, and its closing dates varies according to the property.

เปิด พฤ.-จ. (หยุด อ.-พ.) 12.00-18.00 น. LINNIL Zakka Shop โทร. 0 88459 9155 3.2.6 STUDIO โทร. 08 1530 7798 บ้านเล็กหลังเก๋ในกลิ่นอายเอิร์ธโทนนี้ดึงดูดสายตา (และ ดึงดูดตังค์ในกระเป๋า) ด้วยของกระจุกกระจิกน่ารักเต็มร้านแถม ตกแต่งเรียบง่ายแต่เท่มีเสน่ห์อย่างร้าน Zakka ในแบบญี่ปุ่น ซึ่ง แบรนด์ LINNIL ดูแลโดย พุทธิมนต์ ตันติธนานนท์ (น�้ำหวาน) สร้างสรรค์สินค้าเก๋ๆ ตั้งแต่ สมุดท�ำมือสุดเท่หลากรูปแบบ, ตราปั๊ม สวยๆ, กระเป๋าผ้าหลากลาย, การ์ดน่ารักๆ เป็นต้น นอกจากนี้ใน ร้านก็ยังมีผลงานศิลปะน่าสนของ 3.2.6 Studio ที่ผลิตของใช้แนว อาร์ตแบบชิ้นเดียวและมีเรื่องราวเชื่อมโยงกัน ซึ่งแนวความคิดเจ๋งๆ นี้เป็นของ ชเวศพล บุญศิริ (เวศ) วางแทรกตัว (ให้ช้อป) อยู่ใน ร้านเก๋นี้ด้วย Linnil is what so called Zakka Shop, located in the middle of Penguin Village. A Japanese stationery and micellanous alike shop offers those nice handmade products such as notebooks, tote bags, postcards, etc., created by the lovely owner. As all products are handmade, the owner has to spare her time to create and that’s why the shop is open only 5 days a week (close on Tuesday and Wednesday). Linnil is also its shop in facebook, click www.facebook.com/linnil. In the same tiny area, 3.2.6. Studio also takes place. This shop is owned by the boyfriend of Linnil’s owner. The brand presents functional art pieces such as lamps, flowerpots, etc. It also has facebook at www.facebook.com/3.2.3studio.

word: ปณธาดา ราชกิ จ photo: บานาน่ า

HAPPY NEW YEAR WINE BUFFET @ CHOMPOR LANNA BOUTIQUE RESORT

ซอมพอร์ ล้านนา บูติกรีสอร์ท ต้อนรับหน้าหนาว และฤดูกาลสิ้นปีกับบุฟเฟ่ต์ไวน์ชั้นดี จากต่างประเทศในราคาสบายกระเป๋า เพียง 299 บาท ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ท่ามกลาง ธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 14-31 ธันวาคม เวลา 18.00 น. - 21.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5332 6547 www.chomporlanna.com Chompor Lanna Boutique Resort welcomes the winter feast by offering Happy New Year Wine Buffet just 299 Baht net per person. The promotion is valid during 14 th – 31 st December 2012 from 6 p.m. – 9 p.m.

LUCKY DRAW FOR A MINI I-PAD FOR NEW YEAR @ FURAMA HOTEL CHIANG MAI

โรงแรมฟูราม่า เชียงใหม่ จัดโปรโมชั่นพิเศษช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เมื่อทานอาหาร และ เครื่องดื่ม ครบทุก 1,500 บาท มีรับสิทธิ์รวมชิงรางวัล มินิไอแพด รุน 32 GB โทรศัพทมือ ถือ SONY XPERIA-U และกลองดิจิตอล ตั้งแตวันนี้ถึง 31 มกราคม 56 ที่ห้องอาหารซานาดู, ห้องอาหารเฮอริเทจ คาเฟ่ และล๊อบบี้บาร์ (Lobby Bar) ข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 0 5341 5222 www.furama.com/chiangmai Furama Hotel Chiang Mai offers those who purchase more than 1,500 Baht at Xanadu Pub & Restaurant, Heritage Cafe and Lobby Bar by lucky drawing for Mini I-Pad 32 GB, Sony Xperia-U and compact cameras from now until 31st January 2013.


F I N E VOYA G E W W W. F I N E D A E M A G . C O M

C o f f e e

T r i p

SLEEPLESS IN SEATTLE “ นั่ ง อ ยู ่ จ น เ ช ้ า . . . อ ย า ก จ ะ น อ น ก็ น อ น ไ ม ่ ห ลั บ ” การคลอเพลงของพี่ปั่นในประโยคนี้ดูจะบ่งบอกอาการของ ผมในตอนนี้ได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ สายตาที่ก�ำลังเหม่อลอยลอด ผ่านหน้าต่างของร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาเมืองลอยผ่าน ท้องทะเลเบื้องล่างเรื่อยไปจนถึงเทือกเขาโอลิมปิกที่ทอดตัว ตระหง่านอยู่ไกลลิบ อันที่จริงสายตาของผมไม่ได้โฟกัสอยู่ตรง ปลายสุดของการมองเห็นหรอกนะ เพียงแต่ว่าตอนนี้ขอวาง จุดที่จดจ้องไว้ตรงนี้ สักพัก เพราะว่าผมก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอา สายตาไปพักต่อที่ไหนดี อาการนอนไม่หลับไม่ได้เกิดขึ้นกับผมบ่อยหนัก แต่คราวนี้ดู เหมือนจะแจ๊กพ๊อต!!! วิวสวยๆ ตรงหน้าของอ่าว Elliott Bay ในยามเช้ากับการ ละเลียดกาแฟไปพลางนั้นดูจะเป็นทิวทัศน์และวิถีที่คนอื่นๆ พากัน อิจฉาผมเสียมากกว่า แต่ส�ำหรับผมแล้วผมกลับก�ำลังอิจฉาคน ที่เกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงด้วยความขี้เกียจ(ลุก)แถมยังอุตสาห์หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมากดไลค์และส่งข้อความกระแหนะกระแหนแกมแซวในเพจ ของผมได้อีกนั่น “ไม่ได้กระแดะตื่นเช้า แต่กูนอนไม่หลับเฟ้ย!”…นั่นเป็นการตอบโต้ บรรทัดสุดท้ายในเพจของผม อาการนอนไม่หลับในเวลาที่อยากปิดเปลือกตาแทบแย่นั้นผม ว่าคุณน่าจะรู้ว่ามันแสนทรมานแค่ไหน ดูท่าว่าจะเป็นฤทธิ์ของกาแฟ ที่เสพแบบโอเวอร์โดสจนท�ำให้ผมตาค้างทั้งคืนแน่ๆ...ก็ช่วยไม่ได้นี่ นา...มาเมืองหลวงแห่งกาแฟทั้งที พูดถึงเมืองหลวงแห่งกาแฟตอนนี้ผมก�ำลังนั่งอยู่ริมอ่าว Elliott Bay ในเมืองซีแอทเทิ้ล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา อันที่จริงเมืองนี้อยู่ค่อนไปทางตอนเหนือและมีฝนตกชุกจนถูกตั้ง ฉายามาตั้งแต่ครั้งอดีตว่า Evergreen State หรือ เมืองแห่งความ เขียวชอุ่ม ที่นี่เต็มไปด้วยป่าไม้และความสดชื่นตลอดทั้งปี แต่ในระยะ เวลาราวสิบปีมานี้ซีแอทเทิ้ลนั้นมีฉายาใหม่อย่างไม่เป็นทางการที่ถูก ยกย่องว่าเป็น...เมืองหลวงแห่งกาแฟโลก ส่วนหนึ่งนั้นน่าจะมาจากเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ในวงการกาแฟอย่าง Starbucks ที่ก�ำเนิด เติบโต และมีฐานหลักอยู่ที่เมืองแห่งนี้ ก็ต้อง ยอมรับว่าแบรนด์สีเขียวนี้เป็นผู้มีอิทธิพลและเปลี่ยนโฉมการบริโภค กาแฟของโลกในยุคปัจจุบัน เอาง่ายๆ คนไทยส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ที่ หันมามีความรู้และมีรสนิยมในการจิบกาแฟมากขึ้นได้ส่วนหนึ่งก็เกิด จากการเข้ามาของ Starbuck นี่แหละ 24

F I N E DA E M AG A Z I N E

“อ้าว! สั่ง Pike Place Roast ไปตั้งแต่เมื่อไรฟะ” ไม่รู้ว่าอาการเบลอ หรืออาการอินกับเรื่องเล่า ที่น�ำพาร่างกาย ของผมย้ายจากร้านอาหารเช้า (ที่เสริฟกาแฟด้วย)ในตลาดข้ามฝั่ง มายังร้านเก่าแก่อันโด่งดังนี้ได้ แถมจิตใต้ส�ำนึกยังช่วยสั่งกาแฟแก้วนี้ ให้ผมอีกแหนะ...เอากะมันสิ Pike Place Roast เป็นต�ำรับเฉพาะที่ถือก�ำเนิดที่นี่ ทุกวัน นี้กาแฟคั่วบดสูตรดังนี้สามารถหาดื่มกันได้ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ที่ เชียงใหม่ ความเข้มข้นของมันหนักหน่วง กาแฟดูมีบอดี เป็นความ ขมที่กลมกล่อมแต่ก็ไม่เปรี้ยวบาดคอนัก อ่า! แต่ทว่าการจิบ Pike Place Roast ที่ดีที่สุดนั้นก็คงต้องบอกว่าให้มาจิบกันที่ร้านต้นฉบับ นี่แหละดีที่สุดล่ะ ครับ...ตอนนี้ผมก�ำลังอยู่ในร้าน Starbucks สาขา Pike Place Market อันเป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิม และเป็นร้านต้นก�ำเนิดแบบ ออริจินอลของกาแฟดังแบรนด์นี้ ร้านกาแฟนี้ถึงจะไม่ใช่ร้านแรก สุดแต่ก็ถือว่าเป็นร้านสาขาเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แล้วร้าน ที่ตลาด Pike Place Market นี่เองล่ะที่ท�ำให้กาแฟของ Starbucks มีชื่อเสียง ห้องแถวเก่าๆ ขนาดล๊อกเดียวยังคงถูกอนุรกั ษ์ไว้เป็นอย่างเดิม ด้านในมีการตกแต่งให้ได้มาตรฐานทันสมัยอย่างในปัจจุบัน แต่ด้าน นอกนั้นยังเก็บเสน่ห์ที่คลาสสิกไว้ซึ่งก็รวมไปถึงโลโก้แรกสุดของ แบรนด์นี้ที่ยังคงใช้เป็นโลโก้ของร้านในสาขานี้อยู่ ร้านนี้ตั้งอยู่ในโซน ตลาด Pike Place Market หนึ่งในตลาดสดเก่าแก่อันมีชื่อเสียง ของอเมริกา Pike Place Roast ถูกเสิร์ฟมาในแก้วกระดาษสีขาวที่ผมดู จะหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะโดยส่วนตัวผมชอบที่จะจิบกาแฟกับถ้วย เซรามิกเสียมากกว่า...แต่ลืมไปว่าร้านนี้เสิร์ฟแบบน�ำกลับเท่านั้น และ ไม่ได้มีที่ให้นั่งชิลล์เหมือนสาขาอื่น การจิบกาแฟชมตลาดนั้นอาจจะไม่มีสุนทรีย์นักหากอยู่ในเมือง ไทย แต่ส�ำหรับที่ซีแอทเทิลนั้นมันเหมาะมากทีเดียวล่ะ…ไหนไหนก็ไหน ไหน ขอเล่าประวัติของเขาเสริมอีกสักนิด หลายคนรู้กันดีว่าแบรนด์ กาแฟยักษ์ใหญ่ในทุกวันนี้ถูกซื้อมาจากกลุ่มผู้ให้ก�ำเนิดดั้งเดิมอัน ประกอบไปด้วย Jerry Baldwin (ครูสอนภาษาอังกฤษ), Zev Siegl (ครูสอนประวัติศาสตร์), Gordon Bowker (นักเขียน) โดยพวกเขา เริ่มคั่วบดกาแฟและขายความหอมกรุ่นนี้กันในปี ค.ศ.1977 ในตลาด Pike Place Market แห่งนี้ ทั้งสามหุ้นส่วนนั้นได้แรงบันดาลใจมาก

จากคนรู้จักอย่าง Alfred Peet ซึ่งเปิดร้านคั่วบดกาแฟอยู่ที่เมือง เบิร์กเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย (ใกล้กับเมืองซานฟรานซิสโก) และ Alfred Peet นี้เองก็เป็นผู้ให้ก�ำเนิดกาแฟแบรนด์ดังฝั่งแคลิฟอร์เนีย (และดัง ระดับโลก) อย่าง Peet’s Coffee & Tea นั่นเอง ซึ่ง Starbucks ใน ยุคแรกๆ นั้นก็ซื้อเมล็ดกาแฟมาจากที่นี่ล่ะ ผมเดินวนไปเวียนมาอยู่แถบ Pike Place Market เพื่อแก้ง่วง (จริงๆ อยากให้เหนื่อยจนง่วงเสียมากกว่า) อยู่นาน อาการตื่นกับ อาการอยากหลับดูเหมือนจะท�ำงานได้ดีพอๆ กันในตอนนี้ ไม่ได้จงใจ จะฮัมเพลงแต่เนื้อร้องของพี่ปั่นในประโยคเดิมผุดขึ้นมาในหัวอย่าง อัตโนมัติอีกครั้ง และเผลอร้องออกมาเบาๆ...ซึ่งมันผุดขึ้นมาพร้อม กับชื่อหนังคลาสสิกอันเป็นสัญลักษณ์ประจ�ำเมืองนี้อย่าง Sleepless in Seattle ที่มี Tom Hanks กับ Meg Ryan (ในยุคหนุ่มสาว) เป็นคู่พระคู่นางอันแสนคลาสสิกตลอดกาลเช่นกัน...หลังจากหนัง เรื่องนั้นโด่งดังเป็นพลุแตก อาการนอนไม่หลับแบบความรู้สึกเหงาๆ สุขๆ ก็ดูจะเป็นสัญลักษณ์ที่ใครหลายคนอยากให้มันเกิดขึ้นกับตัว เองในเมืองนี้เช่นกัน...แต่ส�ำหรับผม ขอไม่ใช่ตอนนี้ทีเถอะ หาวววววว...อาการต้องการอากาศมาอย่างไม่รู้ตัว ดูท่าฤทธิ์กาแฟราว 8 แก้วของเมื่อวานก�ำลังใกล้จะหมดลง กิจกรรมตระเวนชิมกาแฟในเมืองหลวงแห่งความหอมกรุ่นนั้น มันช่างปฏิเสธยากยิ่งนัก เพราะที่นี่เต็มไปด้วยนักคั่วบดดีๆ ร้านกาแฟ โดนๆ รสชาติเยี่ยมๆ ที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย...เยอะจนสาวกกาแฟ สมัครเล่นอย่างผมยังอดไม่ไหวที่จะตามชิมเลยล่ะ อาการงัวเงียเริ่มก�ำเริบ...นั่นเป็นสิ่งที่ดี ผมเลี้ยวโค้งเพื่อขึ้นเนินเตรียมที่จะกลับห้องพัก ทันใดนั้นป้ายนีออนรูปถ้วยกาแฟสีแดงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ในมุมเฉียงที่มองขึ้นไปราว 60 องศา “เห้ย! อยู่ตรงนี้เองเหรอวะ” ดูเหมือผมจะเดินผ่านร้านกาแฟดังแห่งเมืองที่ผมตามหามานาน อยู่หลายรอบแล้ว ป้ายไฟนีออนนี้โด่งดังพร้อมชื่อของกาแฟที่เริ่มลือเลื่องก่อนที่ จะขยายสาขาไปทั่ว รสชาติของมันน่าประทับใจจนได้รางวัล และนั่นเป็นที่มาของการเคลมสรรพคุณผ่านชื่อร้านว่า... Seattle’s Best Coffee ผมปรี่เข้าไปในร้านด้วยอาการที่เกือบจะไม่รู้ตัว


ผมก�ำลังนั่งอยู่ริมอ่าว Elliott Bay ในเมืองซีแอทเทิ้ล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา อันที่จริงเมืองนี้อยู่ค่อนไปทางตอนเหนือและมี ฝนตกชุกจนถูกตั้งฉายามาตั้งแต่ครั้งอดีตว่า Evergreen State หรือ เมืองแห่งความเขียว ชอุ่ม ที่นี่เต็มไปด้วยป่าไม้และความสดชื่นตลอด ทั้งปี แต่ในระยะเวลาราวสิบปีมานี้ซีแอทเทิ้ลนั้ นมีฉายาใหม่อย่างไม่เป็นทางการที่ถูกยกย่อง ว่าเป็น...เมืองหลวงแห่งกาแฟโลก

เป้าหมายเปลี่ยนจากเตียงนอนมาเป็นม้านั่งในทันที ดูท่าเช้านี้ผมจะแพ้ทางกาแฟและจบลงด้วยความหอมกรุ่นอีกแล้ว แต่ส�ำหรับกาแฟแบรนด์ที่ว่าดีที่สุดในซีแอทเทิ้ลนั้นจบลงด้วยการตกอยู่ในมือ ของ Starbucks เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Apart from being the state of evergreen, this largest city in the U.S. Pacific Northwest region ‘Seattle’ is also known as the world capital of coffee. A prominent subject that makes Seattle well-known in the coffee world is Starbucks Corporation, the largest coffeehouse in the world, which its original store is located in Pike Place Market (before it has been spread and launched 20,366 stores in 61 countries around the world). When you come to its classic shop in Pike Place Market, don’t miss to order Pike Place Roast, the full body original roasted coffee. Sipping hot coffee while admiring Elliott Bay at the Port of Seattle is also a signature aesthetic which you may get some sleepless experience as a famous movie fashion in 1993.

word & photo: ปณธาดา ราชกิ จ


F I N E S T AY W W W. F I N E D A E M A G . C O M

C o o l

A c c o m m o d a t i o n s

P A Y A K A ใ ต ้ ถุ น . . . ญี่ ปุ ่ น

กลิ่นอายใต้ถุนนั้นมักปรากฏอยู่ในบรรยากาศของบ้านสไตล์ ไทยๆ แต่ส�ำหรับสวรรค์เล็กๆ ที่เราจะพาไปแนะน�ำคราวนี้เป็น บ้านไทยแซมด้วยบรรยากาศใต้ถุน (สูง) แต่กลับอบอวลไปด้วย กลิ่นอายญี่ปุ่น Payaka หรือ พะยะค่ะ (ค�ำที่คนไทยคุ้นเคยในละครจักรๆ วงศ์ๆ) เป็นเกสต์เฮาส์ขนาดเล็กที่หยิบความเป็นไทยทั้งชื่อและ ตัวบ้านมาแซมจิตวิญญาณญี่ปุ่นลงไปได้อย่างลงตัว เรือนไม้ แห่งนี้เดิมทีเป็นบ้านไทยเก่า (แบบชาวบ้านทั่วไป) ที่ชาวญี่ปุ่นนั้น เข้ามาปรับนิดปรุงหน่อยจนออกมาเป็นเกสต์เฮาส์ไทยสไตล์เก๋ ตัวบ้านหลังหลักนั้นเป็นเรือนไม้สองชั้นที่แบ่งห้องนอน อย่างเป็นสัดส่วน เรือนไม้ด้านหลังสร้างเพิ่มเติมในกลิ่นอายไทย ประยุกต์ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งตรงส่วนนี้เป็นเรือนใต้ถุนสูงที่ด้าน ล่างเป็นโซนพักผ่อนนั่งเล่น ด้านบนนั้นเป็นห้องนอนรวมบน เรือนไทยเปิดโล่ง ตกแต่งเรียบง่ายแต่เท่อย่างมีเสน่ห์เฉพาะตัวที เดียว แถมราคาประหยัดมากๆ อีกด้วย (ห้องรวมเริ่มต้นที่ 150 บาท) บ้านไทยกลิ่นอายญี่ปุ่นนี้ยังตั้งอยู่ในบรรยากาศของสวน เล็กๆ กลางเมืองที่ร่มรื่นน่านั่งเล่น นอกจากที่พักแล้วที่นี่ยัง เสิร์ฟกาแฟและชาให้จิบ แถมเปิดร้านด้านล่างเป็นร้านเสื้อผ้าเล็กๆ คุณภาพดีที่ผลิตจากฝ้ายธรรมชาติและใยกันชง ตัดเย็บสวยเก๋ใน แบบเจแปนนิสสไตล์อีกด้วย

98 ซ.ราชเชียงแสน 1 (อยู่ด้านนอกคูเมืองใกล้แจ่งก๊ะต�้ำ ประตูเชียงใหม่) ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร. 08 2391 6629 www.payaka.com Payaka is a Thai wooden house located outside the City Moat near Ka Tam Corner. Though the architecture is Thai, this place is the paradise of Japanese travelers. It has private and dorm rooms available in its nice, traditional, teak wood guest houses. From daily to monthly stays are available, starting from 150 baht. Also garden cafe serving coffee or tea, plus many art activities are featured. The guesthouse’s shop has hemp and natural clothing and accessories with exceptional design.

Q I

6 8

H O T E L

เ งี ย บ ง า ม ก ล า ง ใ จ เ มื อ ง QI (ชี่) เป็นค�ำภาษาจีน หมายถึง ‘พลังแห่งชีวิต’ ขณะที่ เลข 68 คือเลขที่ของอาคารสไตล์โมเดิร์นสุดเก๋แห่งนี้ตั้งอยู่ QI 68 Hotel เป็นโรงแรมบูติกแห่งใหม่ที่เน้นการออกแบบภาย ใต้คอนเซปต์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่สบาย เงียบ สงบ มีรสนิยม และที่ส�ำคัญคือมีสุนทรียะของการพักผ่อนและ เติมเต็ม ‘พลังชีวิต’ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยของล็อบบี้ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง กว้าง เพดานสูง พร้อมครัวในตัวที่ให้ผู้พักสามารถเตรียม มื้ออาหารในแบบที่โปรดปรานได้ด้วยตัวเอง รวมถึงห้องพักที่ ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย เรียบง่าย และแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่กลมกลืนกับผนังและพื้นคอนกรีตเรียบ หรูในรูปแบบของการตกแต่งสไตล์มินิมอล นอกจากการตบแต่งภาพรวม QI 68 ยังให้ความส�ำคัญ กับรายละเอียดเล็กๆ น้อย อาทิที่นอนและผ้าปูเตียงลินินที่ นุ่มสบาย ห้องอาบน�้ำฝักบัวเรนชาวเว่อร์ ผลิตภัณฑ์อาบน�้ำ ออร์แกนิก PuPechPrai จากเชียงราย จอแอลซีดีทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สายทุกจุดทั่วโรงแรม พร้อมด้วยห้องครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครันให้ได้ใช้ ร่วมกันภายในล็อบบี้ เพียง 15 นาทีจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ และ ไม่กี่อึดใจจากแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งต่างๆ ทั่วเมือง 26

F I N E DA E M AG A Z I N E

การออกแบบและการจัดการบรรยากาศของ QI 68 ก็ สามารถเก็บความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวแก่ผู้พัก อาศัยได้อย่างราบเรียบและราบรื่นจนน่าทึ่ง 68 ถ.สันติรักษ์ ช้างเผือก อ�ำเภอเมืองเชียงใหม่ โทร. 08 2620 2227, www.qi68hotel.com Peaceful ambience and tastefully casual, Qi68 is a boutique hotel in Santiruk Road, Santitham area. The hotel focuses in its ‘discreet’ and ‘cautious’ attitudes coupled with cosy, modern design. The lobby of the hotel is a loft space along with a kitchen for self-catering. The name of the Qi68 Hotel means ‘Flowing Energy’. Hence, the design is not only stylish, it is also practical for flowing your time relaxingly and creatively. Guest rooms are furnished in contemporary design with a simple concept. Warm, wood furniture melts smoothly with smart concrete with a touch of the minimal. Qi68 Hotel offers 6 spacious full-equipped guest rooms with a complimentary delicate homemade breakfast. Wireless internet access throughout is for free. Amenities of this hotel are local organic products by PuPechPrai.



FINE DINING W W W. F I N E D A E M A G . C O M

O r g a n i c

K i t c h e n

Green & Fresh C H I A N G M A I ORGANIC HOME ต ล า ด สี เ ขี ย ว

“ฮักโลก ฮักชีวี มากิ๋นผักอินทรีย์ กั๋นเต๊อะเจ้า” ค�ำเชิญชวนน่าฮักที่ติดไว้หน้าร้านแทบทุกร้านนั้นท�ำให้ ตลาดเกษตรอินทรีย์แห่งนี้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ข่วงเกษตรอินทรีย์ นี้ตั้งอยู่ริมถนนคลองชลประทาน โดดเด่นด้วยซุ้มมุงจากที่ สวยอย่างมีเอกลักษณ์ ด้านในตลาดนั้นจ�ำหน่ายผลผลิต ทางการเกษตรในระบบเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ร่างกาย โดยตลาดน่าเดินนี้เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมานี้เอง เป็นแหล่งจ�ำหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ของกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือตอนบน 1 ที่ประกอบไปด้วย จ.เชียงใหม่, จ.ล�ำพูน, จ.ล�ำปาง และ จ.แม่ฮ่องสอน แถมยัง เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค อีกด้วย ซึ่งตลาดนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการสร้างชุมชน เกษตรแบบยั่งยืนให้เกิดขึ้นทั่วพื้นที่ภาคเหนือ

ร้านรวงในตลาดนั้นมีของกินของใช้ในแบบผลิตภัณฑ์ ออร์แกนิกให้จับจ่าย ตั้งแต่ข้าวสารออร์แกนิก, พืชผัก ปลอดสาร, ขนมพื้นบ้านในต�ำรับโฮมเมด, ผลิตภัณฑ์ ท�ำความสะอาดร่างกายที่ท�ำจากสมุนไพร, น�้ำผลไม้ที่หอม หวานสดชื่นจากผลไม้สดๆ ที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์, ไข่ ออร์แกนิก, ข้าวย�ำสารพัดผักแสนอร่อย เป็นต้น ข่วงเกษตรอินทรีย์เชียงใหม่นี้เปิดทุกวันอังคาร และวัน พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น. ส�ำหรับใครที่สนใจ ความอร่อยปลอดภัยและการใช้ชีวิตที่ยั่งยื่นก็ลองแวะไปเยี่ยม ไปจับจ่ายที่ตลาดแห่งนี้กันได้

ข อ ง กิ๋ น บ ้ า น เ ฮ า @ R u e n Ta m a r i n d นับวันต�ำรับอดีตมักจะถูกลืมเลือนและหาทานความอร่อย อย่างวันวานได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจานอร่อยในแบบฉบับ ดั้งเดิมนั้นก็เป็นเสมือนการได้เรียนรู้วัฒนธรรมและลิ้มลอง กลิ่นอายอดีตผ่านการบริโภคนั่นเอง เรือนแทมมาริน หยิบกลิ่นอายความอร่อยในวิถีชาว เหนือดั้งเดิมมาสร้างสรรค์เป็นเมนูต�ำรับปัจจุบันที่ชวนหวน คิดถึงวันวานในต�ำรับ “ของกิ๋นบ้านเฮา” ที่เขาตั้งใจเปิดประตู ทางวัฒนธรรมล้านนาให้ทุกคนได้สัมผัสผ่านศิลปะการปรุง อาหารอย่างต�ำรับอดีตดั้งเดิมที่สืบทอดกันมายาวนาน เมนู บ้านเฮาที่น่าลิ้มลองนั้นก็มีตั้งแต่ ต�ำบะเขือ(มะเขือ), แกงขนุน, ย�ำหน่อไม้, แอ๊บปลา, ส้ามะเขือเปราะ ที่ล้วนแล้วแต่คัดสรรค์ วัตถุดิบชั้นดีมาปรุงอย่างพิถีพิถัน อันเป็นความอร่อยพื้นบ้าน แบบดั้งเดิมแต่เสิร์ฟให้ชิมอย่างมีระดับ

ปรุงรสในสูตรอร่อยเฉพาะตัวที่ทานพร้อมผักสดต่างๆ อันเป็นต�ำรับวันวานที่ยอดเยี่ยมจนต้องยกนิ้วให้ทีเดียว โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ 50/1 ถ.ราชด�ำเนิน ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดทุกวัน 11.00-22.00 น./ โทร. 0 5341 8896-9 www.tamarindvillage.com

Tamarind Village’s Ruen Tamarind Restaurant launches its northern Thai home-style menu called ‘Kong Gin Baan Hao’, (‘Dishes We Like To Eat At Home’) featuring popular regional favorites drawn from authentic family recipes passed from generation to generation. Apart from many well known dishes, a number of rare menus also include Tum Ma Kuea (eggplant and chilli dip), ‘Nor Mai Oua’ (Bamboo Shoots Stuffed with Minced FINE DISH: แนะน�ำให้ลองชิม ส้ามะเขือเปราะ ซึ่งเป็นการ Pork), ‘Yum Nor Mai’ (Sliced Bamboo Shoot Salad), ย�ำผักชนิดต่างๆ ด้วยเครื่องปรุงเพียงไม่กี่อย่างแต่ได้รสชาติ Ab Pla (minced fish and herbs blended and steamed อร่อยเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เมนูนี้เราจะหอมกรุ่นกลิ่น in banana leaf), etc.

พริกย่างที่ผสานกับกะปิโขลกรวมกับเนื้อปลาช่อนและการ

28

F I N E DA E M AG A Z I N E

ถ.เลียบคลองชลประทาน (ทางไปพืชสวนโลกใกล้ โรงแรม B2 Premium ห่างจากตลาดต้นพะยอมราว 2 กม.) ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ โทร.0 5335 4053-4 info@northnetthailand.org Located on the Canal Road near B2 Premium Hotel (on the way to the Ratchaphruek Royal Garden), Chiang Mai Organic Home is an organic farmer market where you can find many healthy and safety food from the farmer groups in the upper North. Apart from being an organic food market, this market is set to be a part of sustainable community in the region. Open every Tuesday and Thursday, 11 a.m. - 5 p.m.


เ ม นู ใ ห ม ่ จ า ก ห ้ อ ง อ า ห า ร ส ลี บั น ยั น

@ S i r i p a n n a Villa Resort and Spa

เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ห้องอาหารสลีบันยันของโรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ก็ได้เปิดตัวเมนูใหม่ต้อนรับอย่างน่าสนใจทีเดียว เราอยากให้แวะไปลอง ‘ปลากระพงม้วนเสิร์ฟกับซ๊อสน�้ำพริกเผาและซัลซ่ามะม่วง’ และที่ไม่ควรพลาดคือ ‘ต้มย�ำกุ้งแม่น�้ำมะพร้าวอ่อน’ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ศิลปินแห่ง ชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์แกะสลักเครื่องสด) ประจ�ำปี 2552 ได้มอบให้​้กับ ทางห้องอาหารสลีบันยันโดยเฉพาะ นอกจากนี้ของหวานอย่างทิรามิสุรสกลมกล่อม เป็นเมนูปิดท้ายที่สมบูรณ์แบบ แวะเวียนไปอิ่มอร่อยกันได้ทุกวัน 6.00 น. - 23.00 น. โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ 36 ถ.ราษฎร์อุทิศ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ โทร. 0 5337 1999, www.siripanna.com Siripanna Villa Resort introduces its new menus to welcome this high season. Pan Fried Sea Bass Wrapped With Smoked Bacon is a fresh new dish you should try. Tom Yam Goong (spicy lemongrass soup with prawn) is a bold one which its recipe was created by Penpan Sithitrai, Thailand’s national artist for year 2009 who has renowned expertise in Thai vegetable and fruit carving. Last but not least, try Tiramisu for this exceptional meal.


FINE WEEKEND

L e i s u r e

H o l i d a y s

I t e m s F i n e

B O O K >

S I N G L E >

สาระภาพ (Portrait of my life) / ส�ำนักพิมพ์ KOOB

W e e k e n d

R e c o m m e n d

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

ถือเป็นการเปิดตัวส�ำนักพิมพ์ใหม่ (ที่ได้มือดีในแวดวง หนังสือมาดูแล) ได้ไม่เลวทีเดียวกับหนังสือภาพกับเรื่องเล่า ผ่านสายตาและมุมมองของ “นิ้วกลม” ที่ถูกบันทึกไว้ระหว่าง ปี พ.ศ.2554-2555 ด้วยโปรแกรมที่เขาว่าทรงอิทธิพลต่อ มนุษย์โลกยุคนี้โปรแกรมหนึ่งอย่าง Instagram โดยนิ้วกลม ได้ถ่ายทอดภาพถ่ายและเรื่องราวผ่านประสบการณ์ชีวิตหลาก มุมมองที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านได้อย่างยอด เยี่ยม (เช่นเคย) ทีเดียว

Moon of Mine / ศิลปิน : แอน ฟ้องจันทร์ / สังกัด : Rock & Roll House ศิลปินถิ่นเหนืออีกคนที่มีโอกาสได้ออกอัลบั้มน่าฟัง อย่าง Moon of Mine เพลงสไตล์ Easy Listening ที่ ร้องโดย แอน หทัยรัตน์ หรือ แอน ฟ้องจันทร์ นักร้องนัก ดนตรีฝีมือดีจากวงพลอยไพลิน แห่งเชียงราย ซึ่งนักร้อง เสียงมีเสน่ห์คนนี้ได้ศิลปินฝีมือเก่งฉกาจอย่าง สุกัญญา มิ เกล ที่ลงมาดูแลเรื่องเพลงและดนตรีด้วยตัวเองพร้อมกับ แจ็ค พรชัย โปรดิวเซอร์คู่ใจ แถมยังเปิดค่ายใหม่ Rock & Roll House ค่ายที่ไม่เน้นหน้าตาแต่มุ่งส่งเสริมนักร้อง คุณภาพที่มากความสามารถ ส�ำหรับเพลงเด่นในอัลบั้มนี้ นั้นก็คือเพลงฟ้องจันทร์ (อันเป็นที่มาของนามสกุลต่อท้าย ของเธอ) ที่ว่าด้วยเนื้อหาเหงาๆ น่าลองฟังนั่นเอง

S T O R E >

T I P >

D V D >

The Booksmith / นิ ม มานเหมิ น ท์ ซอย 3

นกฮูกดีไซน์ / ราชมรรคา ซ.6

On The Road

เหล่านอนหนังสือที่รักความเก๋ความฮิป สุดสัปดาห์นี้ แนะน�ำให้ลองแวะไปเปิดสมองที่ร้านหนังสือแหล่งใหม่ในย่าน นิมมานฯ อย่าง เดอะ บุ๊คสมิธ ร้านหนังสือสวยๆ กลิ่น อายเมืองนอกที่เริ่มดึดดูดความสนใจตั้งแต่หน้าร้านไปจน การตกแต่งด้านใน ที่นี่มีตั้งแต่หนังสือไทย (พ็อกเก็ตบุ๊ค) ดีๆ ไปจนถึงหนังสือต่างประเทศเจ๋งๆ สวยๆ ที่เจ้าของ ร้านคัดสรรค์เองโดยเฉพาะที่อาจหาซื้อไม่ได้ในร้านอื่นอีก ด้วย / สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 086-758-0405 หรือ www.smithproject.co.th

นกฮูกดีไซน์ร้านขายของดีไซน์เก๋ๆ ที่โด่งดังก�ำลังชักชวน คุณมาร่วมสนุกกับกิจกรรมส่งเสริมการช้อปเจ๋งๆ โดยทาง นกฮูกฯ ชวนคุณแวะมาเยี่ยมเยือนร้านแล้วแชะภาพ (อย่างน้อย 2 ภาพ) ประกอบการเขียนรีวิวถึงร้านไม่ต�่ำกว่า 300 ค�ำ เสร็จ แล้วส่งลิงค์รีวิวของคุณไม่ว่าจะเป็นในบล็อกหรือ facebook มาที่นกฮูกฯ แค่นี้คุณก็รอรับของที่ระลึกเก๋ๆ ได้เลยที่มีตั้งแต่ โปสการ์ด 1 กล่อง, สมุดโน้ตลายนกฮูก, บัตรส่วนลด 10%, สติ๊กเกอร์ร้าน เป็นต้น หรือหากใครเจ๋งจริงทางร้านมีของ ขวัญพิเศษเพิ่มเติมให้ด้วย งานนี้เขาบอกว่าสนุกกันได้ถึงสิ้นปี พ.ศ.2555 นี้เท่านั้นนะ / สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 5381 4622 หรือ www.facebook.com/nokhookdesignstudio หรือ www.nokhookdesign.net

จากหนังสือของ Jack Kerouac สู่หนังอาร์ตฟอร์ม เล็กที่วาบหวิวจนอื้อฉาว ซึ่งผู้ที่ท�ำให้เรื่องนี้โด่งดังทั้งนอก และในจอนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็น Kristen Stewart นัก แสดงสาวพราวเสน่ห์กับบท วาบหวิวในเรื่อง และเรื่องชู้สาว ที่ดังกระฉ่อนโลก นอกจอที่อาจจะไม่เกี่ยวกับหนังแต่มันก็ ท�ำให้กระแสเรื่องนี้โด่งดังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ ได้ เข้าฉายในโรงกระแสหลักบ้านเรา (ฉายในโรงหนังอาร์ต เพียงไม่ กี่โรง) แต่ข่าวดีก็คือ DVD เรื่องนี้ก�ำลังจะวางแผง ให้บ้านเราได้ดูหนังดังก้องโลกเรื่องนี้ในเร็วๆ นี้



FINE

NEWS Social

landscapes

I AM RICE 2012 นายยุคล ลิม้ แหลมทอง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ‘ประชุมวิชาการ นานาชาติ เครื่องจักรกลเกษตรในการผลิตข้าว’ ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ ดิ เอ็มเพรส เชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมการผลิต การตลาด และคุณภาพชีวิต ชาวนาไทย ต่อยอดการพัฒนาข้าวไทยป้อนสูต่ ลาดโลก

E-COMMERCE CONFERENCE

นายบุญนริศร์ สุวรรณพูล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา ‘ประกอบการไทยก้าวไกล ก้าวไปกับ E-Commerce’ ณ ชั้น 3 ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทาราดวง ตะวัน เชียงใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รองรับสังคมออนไลน์ ลดต้นทุนทางธุรกิจ ขยายการตลาดสู่เวที การค้าเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

MALAYSIA WEEK 2012 การท่องเทีย่ วมาเลเซีย ประจ�ำประเทศไทย จัดงาน ‘Malaysia Week 2012’ ณ ชั้น 1 โซนอะควาเรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซียให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น โดยมี นายทัศนัย บูรณุปรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และ นายอิสกันดาร์ มิรชา มูฮ�ำหมัด ยูซูฟ ผู้อ�ำนวยการการท่อง เที่ยวมาเลเซีย ประจ�ำประเทศไทย เป็นประธานร่วมเปิดงานครั้งนี้

LANNA CREATIVE PRODUCT CENTER

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดงานเปิด ‘Lanna Creative Product Center’ ณ ชัน้ 1 โซนนอร์ทเทิรน์ วิลเลจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต แหล่งรวบรวมผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการ “Lanna Green Clean Creative Festival 2012

YI PENG FESTIVAL IN LANNA POST MODERN

ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่ จัดส่ง กระทงเข้าร่วมงานประเพณียเี่ ป็งเชียงใหม่ ประจ�ำปี 2555 ภายใต้ แนวคิด ‘ยี่เป็งร่วมสมัย 2555 Lanna Post Modern’ โดยมี คุณเชียร์ท ควันท์ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั อีซซี ี อินเตอร์ เนชั่นแนล เรียลเอสเตท ผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าพรอม เมนาดาฯ พร้อมผู้บริหารเข้าร่วมงานประเพณียี่เป็ง

CENTARA GROUP AWARDS ITS STAFFS คุณธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ (แถวกลางที่ 3 จากซ้าย) กรรมการ

ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา พร้อมผู้บริหาร ระดับสูง จัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีให้กับพนักงานดีเด่นประจ�ำ ปี 2554 ของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราทั่วประเทศ ณ ห้องโลตัสสวีท โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์



Project Update of Promenada Resort Mall Chiang Mai นางสาวปราสัย กันต์เกรียงวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่ แถลงข่าวความคืบหน้าศูนย์การค้า ‘Promenada Resort Mall Chiang’ และ ขบวนกระทงยี่เป็งร่วมสมัย 2555 ‘Lanna Post Modern’ ณ สถานที่ก่อสร้าง ศูนย์การค้า พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรก ของปี 2556 โดย เป็นช้อปปิ้งมอลล์สไตล์รีสอร์ทแห่งแรกของเมืองไทย มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 2,900 ล้านบาท

GRAND OPENING AEROSOLES SHOP บริษัท เอเอ ฟุตแวร จ�ำกัด ผูน�ำเขาและจัดจ�ำหนาย รองเทา จัดงาน ‘Grand Opening AEROSOLES Shop’ ณ ชั้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต พร้อมแฟชัน่ โชว์รองเท้าพรีเมีย่ มแบรนดดงั จากอเมริกา โดยมี เจาเยาวพรรณ ณ เชียงใหม (ที่ 2 จากซ้าย) เจานายฝายเหนือ และสตรีนักธุรกิจ, คุณพิชิต จงสถิตยวัฒนา (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผูจัดการบริษัท เอเอ ฟุตแวร จ�ำกัด, คุณเจน จงสถิตยวัฒนา (ขวาสุด) ผูชวยกรรมการผูจัดการบริษัท เอเอ ฟุตแวร และคุณเจตไพจิตร ประธานราษฎร์ (ซ้ายสุด) ผู้จัดการแผนกร้านค้าสัมพันธ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เป็นประธานร่วมเปิดงาน เมื่อเร็วๆ นี้

CSR NIGHT MARKET

โรงแรมดุสิตดีทู และโรงแรมรอยัลปริ๊นเซส เชียงใหม่ จัด กิจกรรม ‘CSR ตลาดนัดยามเย็น’ ณ ลานดีสแควร์ โรงแรม ดุสิตดีทู ภายใต้บรรยากาศ ‘ร้อง เล่น เต้นร�ำ’ รายได้จากการ จัดกิจกรรมสมทบทุนบริจาคช่วยเหลือเด็กผูพ้ กิ ารปากแหว่ง เพดานโหว่ กับโครงการ Dusit Smile for operation smile ในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล

ROBINSON PARTY RUNWAY SHOW ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เชียงใหม่ ร่วมกับนิตยสาร FINE DAE และนิตยสาร X-SAMPLE ปลุกกระแสแฟชัน่ รับลมหนาว จัดกิจกรรม ‘Robinson Party Runway Show’ ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

HAFELE BIG THANKS เฮเฟเล่ ประเทศไทย จัดกิจกรรม ‘HAFELE BIG THANKS 2012’ ณ ลานกิจกรรม บริษัท นพดล พานิช จ�ำกัด ถนนซุเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ - ล�ำปาง จัดแสดงสินค้า ครั้งใหญ่ประจ�ำปี 2555 ในราคา พิเศษ พร้อมการประกวดแสดง ความสามารถ ‘หนูน้อยเฮเฟเล่’

TATA TISCON’S SEMINAR บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) จัดสัมมนาเรื่อง “ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทยที่ส่งผลกระทบกับ โครงสร้างอาคารและแนวทางป้องกัน” ณ ห้องบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ โดยมี คุณทรงศักดิ์ ปิยะวรรณ รัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหาร บริษัทฯ เข้าร่วมให้ความรู้ในการสัมมนาครั้งนี้

NEW VAIO WINDOWS 8

คุณสุมาลี ลู่ควร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ชิชาง (ประเทศไทย) จ�ำกัด และคุณสมเกียรติ จิวรวัฒนกุล ผูจ้ ดั การ แผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ไอที บริษทั โซนี่ ไทย จ�ำกัด จัดเปิด ตัว ‘New VAIO Windows 8’ ในงาน ‘COMP & MOBILE EXPO Chiang Mai 2012’ ที่ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่



FINE SMILE

L a s t

F i n e

P a g e

W W W. F I N E D A E M A G . C O M

ห ้ อ ง ส มุ ด ฟ ื ้ น บ ้ า น ย ่ า น เ วี ย ง เ ชี ย ง ใ ห ม ่ ‘ ม า ก ก ว ่ า ชั้ น ว า ง ห นั ง สื อ สู ่ ชุ ม ช น อุ ด ม ค ติ ’

จากซ้ายไปขวา: วิภาวิณยี ์ ชมเมืองบุณย์ (เชียงใหม่ เขียว สวย หอม) ประสงค์ แสงงาม (กลุ่มรักษ์ล้านนา) วรลัญจก์ บุณยสุรตั น์ (คนตัวเล็กกับการอนุรักษ์) สุวารี วงศ์กองแก้ว (หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่)

เชียงใหม่มีห้องสมุดแห่งใหม่ที่แม้จะอยู่ในอาคารของรัฐบนพื้นที่ของหอประวัติศาสตร์เมือง เชียงใหม่ (หลังหอศิลป์สามกษัตริย์) แต่ที่นี่ก็หาได้คร�่ำครึและชวนง่วงดังภาพจ�ำทั่วไปเลย FINE DAE ได้มีโอกาสคุยกับกลุ่มฟื้นบ้าน ย่าน เวียงเชียงใหม่ กลุ่มคนเชียงใหม่ที่ใส่ใจต่อการ อนุรักษ์และพัฒนาชุมชนเชียงใหม่ที่มาร่วมจัดการห้องสมุดแห่งนี้เพื่อเป็น ‘พื้นที่’ ของคนใน ชุมชนอย่างยั่งยืน “เราไม่ได้คิดว่าพื้นที่นี้เป็นแค่ห้องสมุด เราคิดว่าจะท�ำอย่างไรให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในชุมชนมาร่วมใช้ กันได้ มาพักผ่อน พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ เป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับชุมชน” สุวารี วงศ์ กองแก้ว ผู้อ�ำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ และหนึ่งในภาคีฟื้นบ้าน ย่าน เวียง เชียงใหม่ บอกกับเรา เธอเสริมอีกว่าสาเหตุที่กลุ่มฟื้นบ้านฯ เข้ามาดูแลนี้ เพราะเห็นว่าหากปล่อยให้ ห้องสมุดมีการจัดการโดยหน่วยงานรัฐ เธอเชื่อแน่ว่าห้องสมุดแห่งนี้ก็คงไม่ต่างอะไรจากห้องสมุด ประชาชนแห่งอื่นๆ “ไม่ใช่ที่ตัวบุคคล แต่ความเป็นจริงก็คือระบบราชการเป็นตัวการเป็นตัวการส�ำคัญในการท�ำลาย จินตนาการ เราไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ห้องสมุดต้องเป็นพื้นที่สร้างจินตนาการ” เธอกล่าว เริ่มต้นจากโครงการ A Book I Like For The City I Love หรือโครงการหนังสือที่รักเพื่อ เมืองที่รัก เปิดรับบริจาคหนังสือจากคนเชียงใหม่และทั่วประเทศเพื่อสร้างห้องสมุดดังกล่าว โครงการ ดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดี และยังมีหลายองค์กรสนับสนุนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในห้องสมุด จนเป็นรูปเป็นร่างและได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ประสงค์ แสงงาม ตัวแทนกลุ่มรักษ์ล้านนา กล่าวว่าเขาอยากให้ผู้คนมีจิตส�ำนึกของการเป็น เจ้าของห้องสมุดร่วมกัน เพราะทุกอย่างของที่นี่เป็นผลผลิตของการร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน ในอนาคตเขาอยากเห็นห้องสมุดดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้ชีวิตในเมืองเชียงใหม่ เป็นทั้งที่พัก ผ่อนหย่อนใจและองค์ความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้เกี่ยวกับเมืองและชุมชนโบราณเชียงใหม่ ที่ห้องสมุดแห่งนี้ยืนพื้นจัดเก็บเอกสารและหนังสือส�ำคัญๆ เอาไว้อย่างกว้างขวางและมากมาย “เราไม่อยากให้ใครกลัวห้องสมุด เราเปิดให้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นผู้คนในวงการ ศึกษา พ่ออุ้ยแม่อุ้ยก็มีองค์ความรู้อีกแบบ ซึ่งเป็นประโยชน์และมีความส�ำคัญมากด้วย นั่นคือสิ่งที่เรา อยากเห็นภาพ” อาจารย์วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ ตัวแทนจากกลุ่มคนตัวเล็กกับการอนุรักษ์

แบ่งปันมุมมอง โดยพื้นที่แล้ว อาจารย์วรลัญจก์มองว่ายังสามารถรองรับกิจกรรมทางศิลป วัฒนธรรมนอกเหนือจากการเป็นห้องสมุดได้อีกด้วย ซึ่งทางกลุ่มฟื้นบ้าน ย่าน เวียง ก็มีแผนจะ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ วิภาวิณีย์ ชมเมืองบุณย์ ตัวแทนกลุ่มเชียงใหม่เขียวสวยหอม มองถึงการสร้างจินตนาการให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านการอ่าน การแบ่งปันความรู้ และการปลูกจิตส�ำนึก ในการเรียนรู้ โดยสิ่งส�ำคัญที่เธอมองก็คือการสร้างบรรยากาศให้คนเข้ามาใช้ซึ่งนับเป็นเรื่องท้าทาย อย่างมาก และทางกลุ่มฯ ก็ตั้งใจจะพยายามหาหนทางกันต่อไป ท่ามกลางนัยยะของการอ่านที่ด้อยค่าลงในสังคมปัจจุบัน รวมทั้งความพยายามของผู้หลัก ผู้ใหญ่ในเมืองหลวงในการเชิดชูความดีงามของโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลกในปีหน้า... อย่างไม่รู้ทิศทาง นับเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งในการพัฒนาห้องสมุดเล็กๆ แห่งหนึ่งโดยคนกลุ่ม เล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ให้มีอิทธิพลทางความรู้และการใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชน แต่ในทางเดียวกัน ความท้าทายก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากมี ‘ความจริงใจ’ เป็นที่ตั้ง เราหวังให้พื้น ที่เล็กๆ โดยคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้จะออกดอกผลที่สดสวยให้กับชุมชนเชียงใหม่ได้ชื่นชมอย่างยั่งยืน ต่อไป เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างห้องสมุดด้วยกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก www.facebook.com/ ABookILikeForTheCityILove หรือสามารถมาบริจาคหนังสือได้ด้วยตนเองที่ห้องสมุด หลังหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ Fuen Baan Yaan Wieng Chiang Mai Library (the library of the Community Rehabilitating Project) is a new community library located behind Chiang Mai Art & Culture Museum (Three Kings Monument). This library is set to be a real space which its function will be more than a general library for people in Chiang Mai city. The group ‘Fuen Baan Yaan Wieng’ hopes this place to be a community leisure site as well as folk intellect sharing place thorough people at all ages. The admission is free and books are diversified, especially those Chiang Mai history documents.

word & photo: ฟายน์ ที ม




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.