• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
คำนำ
ในยุคที่ทุกคนตื่นตัวลุกขึ้นมาบริหารเงินให้งอกเงยกันยกใหญ่ หลายคนลืมคิด ไปว่านอกจากทรัพย์สินที่เราได้สะสมเก็บงำมา ยังมีทรัพย์สินรอบริหารที่สำคัญ ยิ่งกว่า คือทรัพย์สินที่เราจะได้มาในอนาคต ขณะที่หลายคนเฝ้ากังวลว่าจะฝากเงินได้ดอกเบี้ยไม่คุ้มอัตราเงินเฟ้อ เรากลับ เผลอลืมเสียสนิทว่า ถ้าเอาชนะเงินเฟ้อแบบนั้นไม่ได้ เราก็ยังมีวิธีเอาชนะเงินเฟ้อ ได้อีกแบบ ทรัพย์สินที่กำลังจะได้มาในอนาคต หมายถึงรายได้ทั้งหมดที่คุณจะได้มาจาก งานอาชีพ และวิธีเอาชนะเงินเฟ้อที่พูดไว้ คือการบริหารรายได้ตัวเองให้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี แปลว่า ถ้าคุณสามารถทำงานให้ได้เงินเดือนขึ้นในอัตราที่สูงกว่าเงินเฟ้อมากๆ ได้ คุณก็มีสิทธิไต่บันไดไปสู่ความมั่งคั่งได้เหมือนกัน ถ้าคุณมีรายได้เดือนละ 50,000 บาท และได้เงินเดือนขึ้นปีนี้ 10% เท่ากับ คุณได้ “ดอกเบี้ยจากเงินเดือน” ทันทีเดือนละ 5,000 บาท ดั ง นั้ น ต่ อ ให้ ไ ม่ มี ท รั พ ย์ สิ น ในธนาคารมากพอที่ จ ะบริ ห าร แต่ ถ้ า ลุ ก ขึ้ นมา จัดการอาชีพให้เพิ่มรายได้ เงินของคุณก็อาจไต่บันไดไปทันกัน ปัญหาคือเดิมทีคุณคิดว่าเรื่องพวกนี้เหลวไหล “เงินเดือนขึ้นเป็นเรื่องของเจ้า นาย ใครจะไปกำหนดเองได้ว่าจะเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์” 4
aw-1-112.indd 4-5
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
นี่เองคือที่มาที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ หนังสือที่จะเสนอแนวทางการทำงาน อย่างมียุทธวิธี ที่จะไม่เพียงสร้างผลงานและตัวคุณเองให้โดดเด้ง แต่ยังทำให้การ “ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง” เป็นไปได้ สารภาพว่าในการค้นคว้าเพื่อเขียนหนังสือทุกเล่มที่ผ่านมา ผู้เขียนรู้สึกเหมือน กำลังเข้าศึกษาวิชาเพิม่ เติมเสมอ เช่นกันหลังจากเรียบเรียงหนังสือเล่มนีจ้ บ ผูเ้ ขียน ไม่เพียงได้พบแนวคิดที่กระแทกใจ แต่ยังได้ตอบคำถามที่ตัวเองสงสัยมานานปี หลายๆ ตัวอย่างของคน “ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง” ในเล่มนี้ ทั้งคนที่ได้เงินเดือน ขึ้นปีละ 25-30% คนที่ขอลาหยุดสี่เดือนโดนนายยังเก็บงานไว้ให้ และคนที่ได้ผล ตอบแทนก้อนใหญ่เพราะงานที่ทำไปเกี่ยวข้องกับกระแสรายได้ของบริษัท เรื่องทำนองนี้มีอยู่จริงๆ และทุกสิ่งเคยเกิดกับผู้เขียนมาแล้ว ตอนนั้นมนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ รู้สึกดีใจและแปลกใจ คิดเหตุผลได้แค่เพียงว่า คงเพราะตัวเองมีโชคในเรื่องการงาน ได้เจอผู้บริหารหัวใจกว้างเป็นมหาสมุทร ควรทุ่มเทให้ถึงที่สุดให้เป็นการตอบแทน แต่หลังจากจบหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนจึงเข้าใจทันที ว่าสิ่งดีๆ ในชีวิตผู้เขียนที่ว่า นี้ มีเหตุผลอื่นๆ รองรับในตัวของมันเอง เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ และคำตอบทุกอย่างอยู่ในหนังสือเล่มนี้ หมดแล้ว โธมัส อัลวา เอดิสัน เคยพูดไว้ว่า “Genius is 1% inspiration and 99% perspiration” ความสำเร็จของการ “ขึน้ เงินเดือนให้ตวั เอง” ก็เช่นกัน จริงที่ 99% นัน้ มาจาก หยาดเหงือ่ แรงงาน แต่อีก 1% นั้นอาจมาจากแรงบันดาลใจ หากหนังสือเล่มนี้เป็นแค่ 0.5 ใน 1% ที่ว่านั้นได้ ผู้เขียนก็พอใจแล้ว - อ มิ ต า อ ริ ย อั ช ฌ า 5
6/13/12 7:16:44 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
สารบั ญ บทที่ 1 : บทที่ 2 : บทที่ 3 : บทที่ 4 : บทที่ 5 : บทที่ 6 : บทที่ 7 : บทที่ 8 : บทที่ 9 : บทที่ 10 : บทที่ 11 : บทที่ 12 : บทที่ 13 :
คุณค่าที่คุณคู่ควร งานคือทรัพย์สินที่เพิ่มค่า บริษัทตัวฉันเองจำกัด บริหารลูกค้าคนเดียวของคุณ ทำงานให้เจ้านายหลงรัก ค้นให้เจอจุดทะลวงใจ ใครๆ ก็อยากจ้างคุณ ช่วยบริษัทหารายได้ สายงานแห่งการเรียกเงิน ขึ้นเงินเดือนให้นายจ้าง ขึ้นเงินเดือนด้วยการเจรจา พิสูจน์ว่าคุณคู่ควร ขึ้นคุณค่าให้ตัวเอง 6
aw-1-112.indd 6-7
8 15 21 29 36 42 49 55 62 70 80 90 96 7
6/13/12 7:16:45 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
บทที่ 1
คุณค่าที่คุณคู่ควร เรื่ อ งจริ ง ของนายจอน
aw-1-112.indd 8-9
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
จากนั้นจอนก็ขอนัดคุยกับหัวหน้างาน เขาให้หัวหน้าดูจดหมายตอบรับงาน จากบริษัทอื่นที่ให้เงินเดือนเขาเพิ่มขึ้น จากนั้นก็ยื่นคู่มือสำหรับพนักงานใหม่ที่เขา เขียนไว้บทเดียวให้หัวหน้าดู และบอกว่าเขายังมีโครงการที่คิดไว้อีกมากมายที่ อยากจะทำให้บริษัท ถ้าบริษัทต้องการให้เขาทำ จากนั้นก็บอกกับหัวหน้าอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาต้องการงานที่ต้องรับผิด ชอบเพิ่มขึ้น และจะยินดีมาก ถ้าเงินเดือนขึ้นด้วยตามความรับผิดชอบ
3 ชั่วโมงกั บ 11%
จอน ไม่ได้สนใจเรื่องเงินเดือนเลย ตอนที่เขาตอบรับเข้าทำงานใน บริษัทไอทีขนาดกลาง หลังจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังใหม่ๆ จนเมื่อทำงานได้สักพักใหญ่ จอนก็เริ่มรู้สึกว่าเงินเดือนตัวเองแม้จะ พออยู่รอดได้ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำไปอีกนานแค่ไหนถึงจะมีเหลือเก็บ ลองแอบไปสมัครงานที่อื่นในตำแหน่งเดียวกัน เขาพบว่าแม้มีโอกาส ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่ที่ทำงานก็ไกลโขจนเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ เดินทางเป็นเท่าตัว คิดสะระตะดูแล้วย้ายไปมีสิทธิ์ได้ไม่คุ้มเสีย กลับมามองหาหนทางใหม่ในบริษัทเก่า โดยการแสวงหาว่ามีอะไรที่ ขาดไปและเขาทำได้บ้าง แล้วจอนก็พบว่าบริษทั ทีเ่ ขาทำงานอยูน่ ี้ ยังไม่มคี มู่ อื สำหรับพนักงานใหม่ ซึ่งจะทำให้พนักงานใหม่เข้าใจธุรกิจของบริษัทและทำงานได้ตรงเป้าหมาย เร็วขึ้น เขาเริ่มสังเกต บันทึก และค้นคว้า จากนั้นก็ใช้เวลาในวันเสาร์ ลงมือเขียนคู่มือสำหรับพนักงานใหม่บทแรกขึ้นมาแบบสุดฝีมือ
บ่ายวันเดียวกัน จอนถูกเรียกตัวเข้าไปพบอีกครั้ง หัวหน้าตกลงขึ้นเงินเดือน ให้จอนตามที่ร้องขอ โดยครึ่งแรกจะได้รับสิ้นเดือนนี้ อีกครั้งหนึ่งจะได้รับเมื่อเขา เขียนคู่มือพนักงานจบเล่ม “ผมใช้เวลาเขียนคู่มือบทแรกนั่นแค่สามชั่วโมงเองครับ แต่สามชั่วโมงนั้นทำ ให้ผมได้เงินเดือนขึ้นถึง 11%” จอนผู้นี้มีตัวตนอยู่ในโลกจริงๆ เขาเป็นแฟนตัวยงของเว็บบล็อกดัง Get Rich Slowly และเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนี้มาแบ่งปันกับคนอื่นๆ เรื่องจริงของจอน สอนให้เรารู้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้านาย เพื่อที่จะสามารถกำหนดรายได้ให้ตัวคุณเอง หากคุณเคยคิดเหมือนคนอืน่ ๆ ว่าการรับเงินเดือนประจำ ทำให้คณุ คือ “ลูกจ้าง” และรายได้ ข องคุ ณ ต้ อ งถู ก ลิ ขิ ต โดยประกาศิ ต ของ “นายจ้ า ง” สถานเดี ย ว คุณกำลังเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างจัง และถ้าคุณเบื่อกับวิถีคนทำงานซ้ำๆ กับรายได้ที่ย่ำอยู่กับที่ แน่นิ่งทุกปีไม่ เคลื่อนไปไหน อาจถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่
8
9
6/13/12 7:16:46 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
ทัศนคติที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนตัวเลขรายได้ เปลีย่ นง่ายเพียงแค่ฉุกใจในวินาทีเดียว
สตี ฟ กั บ 20%
ตอนที่ สตีฟ พอลสัน อายุ 23 ปี และเริ่มงานครั้งแรกที่สำนักพิมพ์ในตำแหน่ง ผู้ช่วยค้นคว้าข้อมูลนั้น เขาได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ขยัน เพราะยอมทำงาน 12 ชั่วโมง ต่อวัน ทั้งที่ได้เงินค่าจ้างแค่ 17,680 เหรียญต่อปี พนักงานระดับล่างคนนี้ทำงานเหมือนหุ่นยนต์ ทำงานจนไม่มีเวลาลงไปกิน ข้าว ไม่เคยนัดสาวไปเดทที่ไหน ตกเย็นก็ไม่เคยลงไปเล่นกีฬากับใครเขา แต่สตีฟไม่ได้ขยันแบบไร้จุดหมาย ตรงกันข้ามเขาบอกตัวเองในใจ “ฉันต้อง ทำงานแบบล้นเกินให้เจ้านาย แล้วผลงานจะตอบแทนให้ในวันข้างหน้า” แล้วมันก็เป็นจริงดังว่า ทำงานแบบไม่คดิ ชีวติ อยูแ่ ค่ปเี ดียวเท่านัน้ สวรรค์กเ็ ล็งเห็น ในความมุง่ มัน่ ของเจ้าหนุม่ สตีฟ เจ้านายของเขาประทับใจ อนุมตั เิ พิม่ ค่าจ้างให้ถงึ 20% ปีต่อมาสตีฟยังคงทำงานหัวปักหัวปำแบบไม่เกรงใจใคร สิ้นปีเขาจึงได้เงิน เดือนขึ้นอย่างน่าอิจฉา และยังคงได้ขึ้นเงินเดือนเหมือนขึ้นบันไดเลื่อนทุกปีต่อมา จนทุกวันนี้ เขาทำเงินได้มากกว่าปีละล้านเหรียญ!
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
ชีวิตเส็งเคร็งแท้ๆ แต่อาจเพราะมัวโยนความผิดให้โชคชะตา พวกเขาจึง หัวเสียเกินที่จะรับรู้ว่า ด้วยอัตราเงินเดือนขึ้น (แบบเสียไม่ได้) ในปัจจุบัน จะส่งผลสะเทือนต่อ ฐานะการเงินในอนาคต ถ้าเขายังคงปล่อยชีวิตไปตามกรรมกำหนด โดยไม่ ลงมือเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ผลสำรวจบริษัทธุรกิจ 1,276 บริษัท โดย Hewitt Associates บริษัท สรรหาและให้คำปรึกษาเรื่องทรัพยากรมนุษย์ชื่อดังระดับนานาชาติ พบว่า อัตราเงินเดือนขึ้นเฉลี่ย 6% เมื่อหลายทศวรรษที่แล้ว เริ่มไต่บันไดลงมา เรือ่ ยๆ ตามกาลเวลา โดยในช่วงปี 1980 อัตราเงินเดือนขึ้นเฉลี่ยลดลงเหลือ แค่ 5% จากนั้นก็ลดลงเหลือ 4-4.25% ในช่วงปี 1990 แล้วลงมาเหลือ 3.7% ในปี 2002 และในปี 2010 อัตราเงินเดือนขึ้นเฉลี่ยเหลืออยู่แค่ 2.7%
เงินเดื อ นขึ้ น ที่ ล ดลง
คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตไปกับการทำงานในธุรกิจที่พวกเขาไม่สนใจ ปวด ประสาทกับปัญหาที่พวกเขาไม่อยากรับผิดชอบ เพื่อแลกกับเงินเดือนที่กำหนดให้ โดยคนอื่น
ในประเทศไทย ผลการสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการปี 2553/2554 ของ สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) ซึ่งมีบริษัทเข้าร่วมกว่า 130 บริษัทจาก 10 กลุ่มธุรกิจ พบว่าอัตราเงินเดือนขึ้นในบ้านเราก็ลดต่ำลง เรือ่ ยๆ ไม่แพ้กัน เมื่อทำการเปรียบเทียบย้อนหลังไปถึงปี 2550 พบว่าปี 2550 อัตราเงิน เดือนขึน้ เฉลีย่ อยูท่ ี่ 6.01% และมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนือ่ ง โดยในปี 2551 ลดลงมาอยู่ที่ 5.74% ปี 2552 อยู่ที่ 5.05% และปี 2553 เหลือแค่ 4.86% แย่กว่านั้นในช่วงเศรษฐกิจซบเซา มนุษย์เงินเดือนของเรายังอาจต้องเจอ
มรสุมรายได้ ด้วยกลยุทธ์สดุ ช้ำใจ ทีบ่ ริษทั ส่วนใหญ่นำมาใช้กนั มากทีส่ ดุ ในปี 2554
10
11
3.4% ที่ คุ ณ ไม่ ต้ อ งการ
aw-1-112.indd 10-11
6/13/12 7:16:46 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
1) งดจ่ายโบนัส 2) ลดเงินเดือนพนักงานลงประมาณ 15-30% 3) ปรับลดเวลาการทำงานลง จาก 5 วัน เหลือ 3 หรือ 4 วัน
อยู่ กั บ ที่ มี แ ต่ ถ อยหลั ง ขณะที่เงินเดือนเพิ่มขึ้นในอัตราเหมือนเต่าคลาน แต่อัตราเงินเฟ้อกลับพุ่ง ทะยาน ดันอัตราค่าครองชีพให้สูงลิบจนรับแทบไม่ไหว ผลการศึกษาบางฉบับถึงกับระบุว่า รายได้สุทธิของมนุษย์เงินเดือนหลังหักลบ อัตราเงินเฟ้อแล้ว ไม่ได้สูงขึ้นเลยนับแต่ทศวรรษ 1980 เรียกว่าทำงานกันจนเบลอ ได้เงินเดือนขึ้นแค่ชดเชยอัตราเงินเฟ้อเท่านั้นเอง สิ่งที่ควรลุกขึ้นมาให้ความสนใจ คือทำอย่างไรจึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในแต่ละปี มากกว่าอัตราเฉลี่ยปัจจุบันนี้ให้ได้ อย่างน้อยที่สุดคุณจะได้หยุดสงสัย ว่ายิ่งทำงานนานไป ทำไมยิ่งรู้สึกจนลง
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
แต่ถ้าไม่ใช่ คุณเชื่อสุดใจว่าคุณคู่ควรกับรายได้ที่มากกว่านี้ ก็จงลุกขึ้นมา วางกลยุทธ์เสียทันที เพื่อไปให้ถึงจุดที่คุณได้รับผลตอบแทนตามต้องการ เมื่อสตีฟและจอนยัง “ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง” ได้ แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงจะไม่ เกิดกับคุณบ้าง หมดเวลาปล่อยให้คนอื่นกำหนดว่าคุณคู่ควรกับอะไร แล้วให้ ในสิ่งเขา ต้องการให้ ถึงเวลาลุกขึ้นมากำหนดเองว่าคุณคู่ควรกับอะไร แล้วคุณจะได้ในสิ่งที่คุณ ต้องการ
คุ ณ ค่ า ที่ คุ ณ คู่ ควร อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยบอกว่า การทำสิ่งเดิมซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะได้ ผลที่แตกต่างไปจากเดิม คือความเสียสติ ถ้าคุณยังคงคิดว่าตัวเองเป็น “ลูกจ้าง” มีหน้าที่ทำงานไปตามคำสั่ง ก็แปลว่า คุณยืนยันจะอยู่กับเงินเดือนเดิมต่อไป 12
aw-1-112.indd 12-13
13
6/13/12 7:16:49 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
บทที่ 2
งานคือทรัพย์สินที่เพิ่มค่า งานเป็ นมากกว่ า เงิ น งานเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรายได้ ต่อให้ปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไรว่าไม่ได้ ทำงานเพื่อเงิน คุณคงไม่ปฏิเสธเพลินจนถึงกับยืนยันว่า คุณยินดีทำงานให้ทุก บริษัทฟรี จริงอยู่ที่เราหลายคนทำงานเพื่อเหตุผลต่างๆ กันไป บ้างก็ทำเพื่อสร้างความ ภาคภูมิใจ เพื่อสร้างความสำเร็จที่คาดหวังไว้ หรือเพื่อพิสูจน์คุณค่าในตัวเอง งานเป็นอะไรที่มากกว่าเงินอยู่แล้ว ไม่มีใครปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้ แต่งาน จะเป็นอะไรทีม่ ากกว่าเงินได้ ก็หลังจากทีค่ ณ ุ มีเงินใช้จา่ ยจนพอเพียงแก่การดำรงชีพ แล้วเท่านั้น เหตุผลอื่นๆ ของการทำงานอาจสำคัญสำหรับชีวิต แต่มันก็ไม่ใช่ความผิด ถ้า คุณยอมรับว่าทำงานเพื่อเงิน เพราะเงินไม่เพียงเป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่ใช้ดำรงชีพ เป็นทุนการศึกษา สำหรับลูกๆ ใช้รักษาพยาบาลตัวเองเมื่อเจ็บป่วย แต่เงินยังอำนวยความสะดวก สบาย ทำให้คุณสามารถซื้อรถยนต์ไว้ใช้ ทำให้คุณมีบ้านเป็นวิมานของครอบครัว 14
aw-1-112.indd 14-15
15
6/13/12 7:16:52 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
สำหรับคนที่ไม่มีมรดกตกทอดติดตัว เงินจากการทำงานคือแหล่งรายได้ที่สุด จะสำคัญ เป็นแหล่งทุนที่คุณนำไปใช้สร้างความฝัน ช่วยให้คุณบรรลุโครงการตาม เป้าหมายที่คุณมี จุดน่าสนใจอยู่ตรงนี้ เราทุกคนมีเวลาทำงานสร้างรายได้เท่ากันราว 40 ปี แต่ จำนวนเงินสุดท้ายที่คนแต่ละคนมี ทำไมจึงแตกต่างกันราวฟ้าดิน
ในขณะที่พิเศษจะมีรายได้ทั้งหมดถึง 55 ล้านบาท ลองจินตนาการว่า ตามประสาคนไม่ชอบอยู่เฉย พิเศษนำเงินรายได้ไปลงทุน ให้งอกเงยขึน้ อีกปีละ 5-10% ไม่ตอ้ งเคาะตัวเลขในเครือ่ งก็คงพอมองเห็น ว่าพิเศษ จะสามารถสร้างฐานะได้เร็วกว่าธรรมดาสักกี่ (สิบ) เท่า ด้วยเครื่องมือคำนวณออนไลน์ How much will I earn in my lifetime? ของ calcxml.com คุณเองก็สามารถคำนวณหา “ศักยภาพการสร้างรายได้ชั่วชีวิต” ของคุณได้ ดูตัวเลขของคุณก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ว่าอนาคตคุณอยากเป็นใคร ระหว่าง พิเศษกับธรรมดา
ธรรมดากั บ พิ เ ศษ
ธรรมดา อายุ 25 ปี มีรายได้ปีละ 360,000 บาท เขาก้มหน้าก้มตาทำงานตาม หน้าทีท่ ไี่ ด้รบั มอบหมายมา จึงได้รบั เงินเดือนขึน้ ในอัตราราวปีละ 3% เหมือนคนอืน่ ๆ พิเศษ เริ่มต้นทำงานพร้อมกับธรรมดา แต่เขาไม่ชอบปล่อยชีวิตให้เป็นไปตาม โชคชะตา จึงลุกขึ้นมาทำงานแบบ “ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง” เขาทำทุกวิถีทางให้ตัวเองเลอค่า จนโดดเด่นในสายตาของผู้กำหนดเงินเดือน ส่งผลให้เขาถูกดันขึ้นไปอยู่ในกลุ่มหัวกะทิ ได้รับเงินเดือนขึ้นปีละประมาณ 6% ในปีแรกธรรมดาอาจไม่แคร์ กับแค่เงินเดือนขึ้น 3% (ได้ขึ้นเดือนละ 900 บาท) กับ 6% (ได้ขึ้นเดือนละ 1,800 บาท) ต่างกันไม่กี่บาทยังรับได้ แต่ถ้ายังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ทุกปีไป ความแตกต่างของรายได้จะค่อยๆ เพิ่ม ขึ้นๆ
ปิง วัง ยม น่ า น
หากทั้งคู่ทำงานยาวนาน 40 ปี โดยได้รับอัตราเงินเดือนขึ้นเท่านี้ไปตลอดชีวิต ธรรมดาจะมีรายได้ผ่านมือทั้งหมดราว 27 ล้านบาท
ถึงตอนนี้คุณอาจเห็นลางๆ แล้วว่า เงินเดือนขึ้นเป็นอะไรที่มากกว่าสิ่งที่คุณคิด ว่ามันเป็น ในทางการเงิน งานทีค่ ณ ุ ทำเพือ่ สร้างรายได้ คือทรัพย์สนิ อันมีคา่ มากมายกว่าทีค่ ดิ คนสองคนที่เริ่มต้นเหมือนๆ กัน ตอนจบอาจแตกต่างกันสุดขั้วได้ เพียงถ้าเขา รู้จักบริหารแหล่งรายได้ตั้งแต่เริ่มทำงาน หนุ่มสาวสี่คน ปิง วัง ยม น่าน เริ่มต้นอาชีพการงานของพวกเขาโดยได้เงิน เดือนๆ ละ 20,000 บาท (ปีละ 240,000 บาท) เท่ากัน พวกเขาทำงาน 40 ปีเท่า กัน ต่างกันตรงอัตราเงินเดือนขึ้นเฉลี่ยต่อปี ปิง ได้เงินเดือนขึ้นตลอดสี่สิบปี เฉลี่ยอยู่ที่ 2% วัง ได้เงินเดือนขึ้นตลอดสี่สิบปี เฉลี่ยอยู่ที่ 4% ยม ได้เงินเดือนขึ้นตลอดสี่สิบปี เฉลี่ยอยู่ที่ 6% น่าน ได้เงินเดือนขึ้นตลอดสี่สิบปี เฉลี่ยอยู่ที่ 8%
16
17
รายได้ ชั่ ว ชี วิ ต
aw-1-112.indd 16-17
6/13/12 7:16:52 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
ตั ว เลขที่ ถู ก มองข้ า ม เหมือนจะต่างกันไม่มากใช่ไหม ไม่เป็นไร มาดูผลสุดท้ายของแต่ละ คนกัน
ปิง มีรายได้ตลอดชีวิต วัง มีรายได้ตลอดชีวิต ยม มีรายได้ตลอดชีวิต น่าน มีรายได้ตลอดชีวิต
14,496,476 บาท 22,806,124 บาท 37,142,872 บาท 62,173,564 บาท
อาชีพคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต อยากให้มันสร้าง ผลผลิต คุณก็ต้องลุกขึ้นมาบริหาร หากคุณไม่ประสงค์จะเป็นอย่างน่าน ไม่ชอบชีวิตทะเยอทะยาน ขอ เป็นสักแค่ยมหรือวัง นั่นสุดแล้วแต่ใจหวังของคุณ แต่ขอให้คุณรับรู้ไว้ว่า ทุกความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของการลุกขึ้นมาจัดการ และผู้ที่มีหน้าที่สูงสุดในการบริหาร คือตัวของคุณเอง
โอ้โฮ! 14 ล้านของปิงกับ 62 ล้านของน่าน เห็นตัวเลขแล้วจะพาล เป็นลม ตัวเลขสมมติง่ายๆ สอนใจมนุษย์เงินเดือนว่า แม้จะเริ่มเท่ากันทั้ง ต้นทุนและเวลา แต่ผลลัพธ์ใช่ว่าจะเหมือนกัน
ทรั พ ย์ สิ น ที่ ต้ อ งบริ ห าร เพื่อนรักสี่คน จบมาพร้อมกัน เริ่มต้นพร้อมกัน แต่เลือกดำเนินชีวิต การงานของตัวเองต่างกัน ผลลัพธ์จึงออกมาต่างกันด้วยประการนี้ ปิงมีรายได้ตลอดชีวติ ต่ำกว่าเพือ่ นๆ เพราะเขาปล่อยชีวติ ให้เคลือ่ นไป ตามโชคชะตา ไม่ลุกขึ้นมา “บริหารอาชีพ” ทั้งที่ทำได้ ขณะที่น่าน “บริหารอาชีพ” แบบไม่เกรงใจใคร เขาจึงกำหนดผล ตอบแทนให้ตัวเองได้ อย่างที่ตัวเขาเองต้องการ 18
aw-1-112.indd 18-19
19
6/13/12 7:16:54 PM
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
• ขึ้ น เงิ น เดื อ นให้ ตั ว เอง •
บทที่ 3
บริษัทตัวฉันเองจำกัด ใครคือ นายจ้ า งของคุ ณ แอนโทนิโอ เนเวส อดีตนักข่าวมือรางวัลและโค้ชด้านอาชีพ เล่าถึงสมัยที่เขา ทำงานในสถานีโทรทัศน์นิคคาโลเดียนใหม่ๆ ว่า แม้จะได้งานท้าทายในบริษัทที่สร้างสรรค์ที่สุดในอเมริกา แต่เขารู้สึกเหมือน ติดกับดัก เพราะต้องทำงานภายในคอกกั้นเล็กๆ ที่เขาไม่ชอบ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาจึงตระหนักความจริงว่า คอกกั้นโต๊ะทำงานไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกติดกับดักตลอดเวลา คือทัศนคติที่เขามีต่อมันต่างหาก คอกกั้นตอกย้ำว่าเขาคือลูกจ้าง มีแต่พนักงานระดับล่างที่ต้องทำงานในที่เล็กๆ เมื่อประจักษ์ความจริง แอนโทนิโอก็ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ “คุณเลือกได้ว่าจะรู้สึกอย่างนั้นต่อไปหรือไม่ คุณเลือกได้ว่าคุณจะเป็นใครใน คอกนั้น” ลูกจ้าง : คนที่รู้สึกเหมือนถูกจองจำ ฝนใจทำงานเพื่อแลกเงิน รู้สึกไม่พอใจ ตลอดเวลา หาแต่เรื่องร้องทุกข์ นั่งรอให้มีคนมาสั่งงาน และมีชีวิตอยู่แค่รอให้ถึง วันเงินเดือนออก 20
aw-1-112.indd 20-21
21
6/13/12 7:16:57 PM