คืนชีพ ‘เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง’ กับ ‘มือที่มองไม่เห็น’
7
3 สหภาพดนตรี Almost non profit ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค
หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek : bizweek@nationgroup.com ปีที่ 6 ฉบับที่ 358 วันที่ 25 เมษายน 2554
www.bangkokbiznews.com
เดิมพันทางรอด...ไปรษณีย์ ไทย ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
‘วิสืบทอด ศวะจุฬา’ ‘CEO ปตท.’
6
‘สังขยาคุณแม่’ ผลผลิต... นักฝันพันธุ์แกร่ง
5
หากพรุง่ นี้ ไม่มแี ล้ว
3
ยุคคนไม่ส่งจดหมาย
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสื่อสาร ท�ำให้ คนเขียนจดหมายลดลง กลายเป็น “จุดเปลี่ยน” กดดันความอยู่รอดขององค์กรร้อยปีอย่าง ไปรษณีย์ไทย ความท้าทายที่ “อานุสรา จิตต์มิตรภาพ” ซีอีโอคนใหม่ ต้องเผชิญ กับกลยุทธ์เดินสู่ธุรกิจบริการโลจิสติกส์ เต็มรูปแบบ โหนกระแส “โลจิสติกส์ ฮับ - อีคอมเมิร์ซ” รับโอกาสการเปิดเสรีการค้า อานุสรา จิตต์มติ รภาพ ลูกหม้อ อาเซียน-จีน
หญิงเดียวของบริษทั ไปรษณียไ์ ทยทีส่ ามารถ ฝ่าด่านผูส้ มัครชายล้วน “คว้า” เก้าอีก้ รรมการ ผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทยมาครองเมื่อ เดือนต้นปีที่ผ่านมา เธอผู้นี้ ก�ำลังจะกลายเป็น “ผู้น�ำ” การเปลี่ยนแปลง องค์กรที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยการเข้ามา “สานต่อ” กลยุทธ์ธุรกิจ ครั้งส�ำคัญของอดีตรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปมานานกว่า 8 ปี ทั้งในเชิง โครงสร้างองค์กร และโครงสร้างธุรกิจ ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง ของโลก กับการขับเคลื่อนองค์กรเก่าแก่ที่มีบุคลากรมากถึง 20,000 คน ถือว่าเป็นงานหนักเอาการส�ำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง กับเป้าหมายการ “เพิ่มประสิทธิภาพ” เพื่อให้องค์กรแห่งนี้สามารถ “เลี้ยงตัวเอง” ได้ ซึ่งดูจะเป็น “ต้นธาร” ของการแปรรูปในทุกรัฐวิสาหกิจ ไม่เพียงเท่านั้นยังจะต้อง “รักษา” มาตรฐานบริการในแบบฉบับของ ไปรษณีย์ไทยเอาไว้ นั่นคือ การบริการประชาชน ด้วยกลิ่นอายของ ความเป็นบริษัทของรัฐ ที่ประชาชนพึ่งได้ โดยในปีนี้เธอระบุว่า ได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ ไว้ที่ 4% คิดเป็น 16,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มี รายได้อยู่ที่ 15,300 ล้านบาท “การเปิดเสรีภาคการขนส่ง” ที่จะเพิ่มดีกรีมากขึ้นเรื่อยๆ ยิง่ ท�ำให้องค์กรรุน่ คุณปูแ่ ห่งนีต้ อ้ ง “ปะ ฉะ ดะ” กับคูแ่ ข่งต่างชาติ ในธุรกิจสื่อสารและขนส่งที่ “รุมกินโต๊ะ” จากชัยภูมิของไทยที่ “เอือ้ ” ต่อการเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมภิ าคอาเซียน (Asean Hub) รับการเปิดเสรีทางการค้าอาเซียน-จีน ซึง่ จะเป็นการขยาย โอกาสส�ำหรับธุรกิจบริการโลจิสติกส์ในภูมภิ าคนี้ ก่อนจะเล่าถึงหนังยาวเรือ่ งการปรับโครงสร้าง ธุรกิจ อานุสราเล่าถึงแผน “ปรับโครงสร้างองค์กร” ก่อนว่า หลังเข้ามารับต�ำแหน่งลูกหม้อทีร่ ว่ มงานกับ องค์กรแห่งนีม้ ากว่า 30 ปีเช่นเธอ มองเห็นถึงความ จ�ำเป็นอย่างหนักหน่วงในการ “ลดค่าใช้จา่ ย” ด้าน บุคลากร จากฐานเงินเดือนของบุคลากรบางส่วนที่ ค่อนข้างสูง ด้วยอายุขัยขององค์กรเป็นเหตุ การมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ เธอจึงต้องการ “ปัดกวาด” ค่าใช้จ่ายทางการเงินเหล่านี้ให้ลดลงให้ได้ “กว่าพัน ล้านบาท” ในระยะ 10 ปีจากนี้ ใน 2 แนวทาง แนวทางแรกคือ “การปรับลดจ�ำนวนบุคลากร” ลง เพื่อลด ไขมันส่วนเกิน ! ด้วยการประกาศโครงการ “เออร์ลรี ไี ทร์” ซึง่ ได้ดำ� เนินการไปแล้วกับพนักงาน
2
วีไอหนุ่ม ‘ภาววิทย์ กลิ่นประทุม’ โอกาส ‘รวย’ ของคนคิดต่าง อนาคตที่ยงั มาไม่ถงึ คือความหวังอันแสนหวาน ‘วีไอหนุม่ ’ ฝากความมัง่ คัง่ ทังหมดไว้ ้ ที่ ‘ตลาดหุ้น’ และหุ้น ‘บิก๊ แคป’ ที่เขาลงทุน โดยมีเป้าหมายว่าอีก 20 ปี ข้ างหน้ า ‘ข้ าจะรวยมหาศาล’ โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นจะเกิด Super Bull Market ขึ ้นอีกครัง้ ดังเช่นปี 2536 ในยุค Asian Miracle หรื อ “มหัศจรรย์อาเซียน” 8
2
ฐานะกองทุนสุทธิ หนี้สินกองทุน หนี้คางชำระเงินชดเชย หนี้เงินชดเชยตรึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิง หนี้เงินชดเชยกาซ LPG (คาขนสงกาซในประเทศ) หนี้เงินชดเชยกาซ LPG กรณีนำเขาจากตางประเทศ ป 2554 หนี้เงินชดเชยการอุดหนุนราคากาซ NGV (มติ กบง.2/53) หนี้เงินชดเชยน้ำมันดีเซลบี 3,บี 5 และแกสโซฮอล
20,580 ลานบาท -14,695 ลานบาท -14,427 ลานบาท -29 ลานบาท -481 ลานบาท -2,909 ลานบาท -981 ลานบาท -9,226 ลานบาท
วันที่ 25 เมษายน 2554
ฐานะการเงิน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มา : สถาบันการบริหารกองทุนพลังงาน (องคกรมหาชน) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2554
1 mail : info@index-creative.com , www.facebook.com/indexcreative
New Conte
nt
สิง่ ส�ำคัญส�ำหรับนักการตลาดในยุค
3.0 คือ การสร้าง Content ให้ตรงกับกลุ่ม เป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ซึ่งก่อนอื่นคุณจะต้อง ท�ำความเข้าใจว่า Target ทีค่ ณ ุ ต้องการคุยด้วย นั้น มีความสนใจใคร่รู้ และอยากจะฟังเรื่องอะไร นั่นหมายความว่า “เราควร พูดในเรือ่ งทีพ ่ วกเขาอยากฟังไม่ใช่การยัดเยียดในเรือ่ งทีค่ ณ ุ อยากจะพูด” เมือ่ ใดทีค่ ณ ุ สามารถวิเคราะห์ได้วา่ เรือ่ งอะไรเป็นเรือ่ งทีเ่ ขาอยากฟัง ก็จะ ท�ำให้พวกเขาสนใจในตัวคุณมากขึ้นเท่านั้น อ่านแล้วอาจจะไม่เห็นภาพ ลอง มาดูตัวอย่างกันครับ ตอนนีผ้ มก�ำลัง Repositioning ให้กบั รีสอร์ทแห่งหนึง่ ใกล้กรุงเทพฯ ใช้ เวลาเดินทางไม่นาน ซึง่ ปกติลกู ค้าหลักจะเป็นกลุม่ ทีม่ าจัดงานสัมมนาOuting ต่างๆ ซึง่ แน่นอน ส่วนใหญ่กจ็ ะเป็นกลุม่ ลูกค้าราชการ และองค์กรต่างๆ โจทย์ ที่ผมต้องท�ำก็คือ ท�ำอย่างไรจึงจะขยายกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นกว่านี้ โดยใช้ พื้นที่หรือบริการต่างๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อทางทีมงานของ Index เข้าไปส�ำรวจพื้นที่ภายในรีสอร์ท พบว่า ยัง มีพื้นที่รวมถึงการบริการต่างๆ ที่ไม่ได้ถูกน�ำมาใช้สอยให้เกิดประโยชน์เป็น จ�ำนวนมาก อาทิ ส่วนของร้านอาหาร สวนผักผลไม้ หรือพืน้ ทีโ่ ล่งกว้างภายใน รีสอร์ท เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ท�ำให้เรามองเห็น Target คนกรุงเทพฯ สมัย ใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีพฤติกรรมชื่นชอบการท�ำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น เช่น ขับรถใกล้ๆ ไปทานข้าวนอกบ้านวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่ว่าไปกันเป็น กลุม่ ครอบครัว กลุม่ เพือ่ น หรือแฟน โดยทีไ่ ม่จำ� เป็นต้องลงทุนสิง่ ปลูกสร้างเพิม่ เติม เพียงแต่สร้าง Content เพิม่ เรือ่ งราวความน่าสนใจให้กบั สถานที่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มต่างๆ โดยมองจากความต้องการของ กลุม่ เป้าหมาย และพืน้ ฐานดัง้ เดิมของสถานที่ เป็นหลัก เรื่องแรกที่ยกประเด็นขึ้นมาคือ ปัจจุบันคน ส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเรื่องของสุขภาพ และด้วยความที่รีสอร์ทแห่งนี้ มีส่วนของ พื้นที่ปลูกพืชผักผลไม้ Organic โดย เฉพาะ เราจึงสร้าง Content จากความ สนใจของกลุ่มเป้าหมายในเรื่องของการ รักษาสุขภาพ มีอาหารเพื่อสุขภาพ ของ ว่าง น�ำ้ ผลไม้ Organic ส�ำหรับทุกคนใน ครอบครัว เพือ่ สร้างความสดชืน่ Refresh ตัวเองจากความอ่อนล้าจากการท�ำงาน อีก 1 Content ที่มองจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง Trend ใน ปัจจุบัน คนชื่นชอบการถ่ายรูปอย่างมาก และจากพื้นฐานดั้งเดิมของรีสอร์ท ที่เป็นสวนขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้มีการออกแบบเพื่อดึงดูดความสนใจ หรือมี landmark เด่นๆ ชวนให้ถ่ายรูปสักเท่าไหร่ จึงต้องสร้าง Content ใหม่ โดยท�ำให้เป็น Creative Design Garden เพิ่มความน่าสนใจ เปลี่ยนแปลง รูปแบบการจัดสวนแบบธรรมดา โดยการเติมความคิดสร้างสรรค์ เช่น จัดสวน แบบ Fantasy หรือเล่าเรื่องราวที่เป็นต�ำนานพื้นเมืองของคนแถวนั้น ชนิดที่ เรียกว่าถ้าได้เห็นแล้วจะต้องกระโดดเข้าไปถ่ายรูปแน่นอน โลกของ Marketing 3.0 ยังท�ำให้โทรศัพท์มอื ถือถ่ายรูปได้สวย ถ่ายรูป เสร็จก็ไม่ได้เก็บไว้ดคู นเดียว ต้องโชว์ให้เพือ่ นๆ ให้เห็นด้วย พร้อมทีจ่ ะ Post ลงใน Facebook ถือเป็นการใช้ Social network เพื่อ Promote รีสอร์ท ไปในตัวหรือ อาจจะเรียกว่า Digital Word of Mouth ก็ได้ อีกส่วนที่ส�ำคัญ นั่นคือ “ร้านอาหาร” จากเดิมอยู่ริมแม่น�้ำ รูปแบบ ไทยๆ เราได้พัฒนาพื้นที่ใหม่ โดยเน้นมุมมองจากที่สูงรูปแบบอาคารก็จะถูก ออกแบบ ECO Design สมัยใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เน้นวัสดุธรรมชาติ สร้าง Content ใหม่ เป็นร้านอาหารในรูปแบบที่เรียกว่า Tree restaurant สามารถชมวิวแม่นำ�้ จากมุมสูง เต็มอบอุน่ ไปด้วยกลิน่ อายของธรรมชาติ ตอบ โจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่โหยหาสถานที่พักผ่อนสบายๆ ใกล้ กรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ผมอยากบอก ก็คือ เราสามารถพัฒนาสิ่งที่มีอยู่เดิม โดยการเพิ่ม Content ใหม่ๆ เล่าเรื่องราวให้มีความน่าสนใจให้สามารถสัมผัสถึงใจ ผู้บริโภคได้ รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ชอบอะไรในตอนนี้ และน�ำเสนอ แนวทางที่สามารถสร้างกระแสอย่างต่อเนื่องได้ เพียงแค่คุณมี Content ที่ดี คุณก็จะเอาชนะใจกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่ยากเลยครับ เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จ�ำกัด (มหาชน) นักครีเอทีฟด้านการตลาด ผู้บุกเบิก Event Marketing ในเมืองไทย ผู้บริหารเอเจนซี่อันดับ 8 ของโลก “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ”
ตัน ภาสกรนที ถ้าเป็นไปได้ทกุ คนอยากให้ “ดวงดี” เกิดขึน้ กับตัวเอง
เสมอ แต่เมื่อโชคชะตาไม่เป็นอย่างที่เราคิด แทนที่จะโทษไปที่โชคดี ไม่ดี ท�ำอะไรก็ไม่ส�ำเร็จ ผมเชือ่ ว่า “ปัญหา”ต่างๆ ล้วนเป็นบททดสอบ ฝึกชีวติ ของให้เรา รู้จักคิด “แก้ไข” สมัยทีผ่ มท�ำธุรกิจสตูดโิ อถ่ายรูปแต่งงานเมือ่ 10 กว่าปีกอ่ น ครัง้ หนึ่งเคยต้องไปออก “เวดดิ้งแฟร์” งานใหญ่ งานนัน้ ร้านของเรา 20 ร้านลงทุนไปเยอะมาก เดิมพันการแข่งขัน สูง คู่แข่งก็เยอะ แต่ผลจับฉลากโชคกลับไม่เข้าข้าง ได้ท�ำเลไม่ดี เสียเปรียบ คู่แข่งทุกประตู...ถ้ามัวแต่โทษดวงเป็นข้ออ้างเพื่อ “แก้ตัว” แทนที่ จะ “แก้ไข” “ความพ่ายแพ้” จะมายืนดักรอต้อนรับเราแน่ๆ ตั้งแต่ไม่ทันลง สนาม เมือ่ เข้าตาจนจริงๆ ผมเลยขอดับเครือ่ งชน ปลุกระดมขวัญก�ำลัง ใจพนักงานครั้งใหญ่ ก่อนจะถึงงานเวดดิ้งแฟร์ เราสั่งจองโรงแรมจัดงานเลี้ยงฉลอง
จ�ำนวน 268 คน จากพนักงานทีแ่ จ้งความประสงค์ มาจ�ำนวน 332 คน โดยจะด�ำเนินการอย่าง ต่อเนือ่ ง ด้วยงบประมาณทีก่ นั ไว้เพือ่ การนีก้ ว่า 700 ล้านบาท เธอเชื่อว่า ระยะยาวจะคุ้มค่า กับการด�ำเนินการ แนวทางที่สอง คือ “การปรับฐานเงิน เดือน” ของบุคลากรแบบยกชุด โดยพิจารณา เงินเดือนตามศักยภาพการท�ำงานเป็นหลัก “คนเป็นทั้งจุดแข็ง แต่ขณะเดียวกันก็เป็น จุดอ่อนได้เช่นกัน จึงต้องท�ำให้เกิดความคุม้ ค่า จากนีไ้ ปอัตราก�ำลังคน ศักยภาพ จะต้องเหมาะ สมกับค่าจ้าง บุคลากรจ�ำนวนหนึ่งมีเงินเดือน ค่อนข้างสูงเกินไป ส่งผลให้ต้นทุนการด�ำเนิน งานของไปรษณียไ์ ทยในปัจจุบนั และอนาคต” เธอยังบอกว่า ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่จะ ลดลงในอนาคต จะเป็นการสร้างความสามารถ ในการแข่งขันให้กบั ไปรษณียไ์ ทย เพราะสภาพ คล่องทางการเงินดีขึ้น ท�ำให้สามารถลดราคา สินค้าและค่าบริการ ลงได้ในระดับหนึ่ง โดยพยายาม (อย่างยิ่ง) ที่จะท�ำให้ค่าใช้ จ่ายด้านบุคลากรลดลงสูร่ ะดับที่ “ต�ำ่ กว่า” 50% ของค่าใช้จ่ายโดยรวมให้ได้ ! การตัดลดไขมันส่วนเกิน ยังด�ำเนินไปพร้อม กับการปรับ “โครงสร้างธุรกิจ” ของไปรษณีย์ ไทย เพือ่ ต้องการเพิม่ รายได้จากบริการในส่วน อืน่ ๆ รับสิง่ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ในอนาคตนัน่ คือรายได้ จากธุรกิจบริการสื่อสาร จะค่อยๆ ปรับลดลง สวนทางกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทีค่ น
ระบายความในใจผ่าน “จดหมายน้อย” ลดลง “เราคาดคะเนได้วา่ รายได้จากธุรกิจสือ่ สาร จะลดลง เพราะทุกวันนี้คนส่งจดหมายลดลง แม้วา่ รายได้หลักในปัจจุบนั ของเรา 70% ยังมา จากธุรกิจนี้ แต่รายได้จากธุรกิจสื่อสารที่ปรับ ตัวลดลงในหลายประเทศ ท�ำให้เราต้องเตรียม พร้อมรองรับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น” กลายเป็ น กลยุ ท ธ์ รุ ก สู ่ ธุ ร กิ จ บริ ก าร “โลจิสติกส์” ครบวงจร ทีป่ จั จุบนั มีมลู ค่าตลาด รวมมากกว่า 3 แสนล้านบาท ถือเป็นธุรกิจแห่ง อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส โดยยังเป็นโมเดล ที่ประสบความส�ำเร็จส�ำหรับธุรกิจไปรษณีย์ ในต่างประเทศ รวมไปถึงการรุกสูธ่ รุ กิจ สินเชือ่ เพือ่ รายย่อย โดยอาศัยความได้เปรียบจากการรู้เส้นทาง และมีเครือข่าย-สายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนใน ทุกหย่อมหญ้าที่ไปรษณีย์เข้าถึง และยังมี “แบรนด์” ที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้วา่ ธุรกิจทีไ่ ปรษณีย์ ไทยรุกเข้าไปนัน้ ไม่ได้หลุดจากไลน์ความถนัด ที่มีอยู่เดิม โดยก่อนหน้านี้ ไปรษณีย์ไทยยัง แหย่ ข าเข้ า ไปในหลายธุ ร กิ จ อาทิ โครงการอร่อยทั่ว ไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์ บริการส่งไดเร็คเมล ส่งของชิ้นใหญ่สุด ด้วยน�้ำหนักที่มาก ถึง 200 กก. ตั้งแต่ มอเตอร์ไซค์ ทีวี ตูเ้ ย็น เครื่องซักผ้า มีบริการ
ผลการดำเนินงานของบริษัทไปรษณียไทย ป 2553 มีรายไดรวมทั้งสิ้น 15,669.02 ลานบาท มีกำไรสุทธิ 661.45 ลานบาท มีรายละเอียดรายได ดังนี้ % รายการ 2553 รายไดดำเนินงาน ธุรกิจส�อสาร 11,747.98 74.98 ธุรกิจขนสง 1518.01 9.69 ธุรกิจคาปลีก 978.00 6.24 ธุรกิจการเงิน 907.98 5.79 ธุรกิจอ�นๆ 242.35 1.55
ที่มา : บริษัทไปรษณียไทย จำกัด หมายเหตุ : ตัวเลขจริง กอนการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผนดิน
ดันรายได้โลจิสติกส์ 2 พันล.ในปี 56
รับช�ำระเงิน (Counter Service) หรือ แม้แต่บริการขนส่งบัตรเลือกตั้งให้กับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) “ไปรษณียไ์ ทยมีโอกาสเติบโตในตลาด ขนส่ง หรือโลจิสติกส์อีกมาก เพราะเรามี เครือข่ายและมีแบรนด์ทเี่ ข้มแข็งสามารถน�ำมา ต่อยอดธุรกิจได้ โดยทีท่ ำ� การไปรษณียจ์ ะถูก แปลงสภาพเป็นแวร์เฮ้าส์เพือ่ เป็นจุดพักและ กระจายสินค้าให้กบั ผูป้ ระกอบการเอสเอ็มอี” เธอเล่า ขณะที่ ปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย ให้ขอ้ มูลเพิม่ เติมว่า ไปรษณียไ์ ทยต้องการยก ระดับตัวเองไม่ใช่แค่เป็นผูใ้ ห้บริการเฉพาะใน ประเทศแต่จะเพิ่มให้เป็นการบริการระหว่าง ประเทศ โดยได้เข้าร่วมโครงการปรับปรุงคุณภาพ บริการในภูมภิ าค กับเครือข่ายไปรษณียไ์ ทย ระหว่างประเทศของสหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union:UPU) มา ตั้งแต่ปี 2551
ภายใต้การด�ำเนินงานในธุรกิจบริการโลจิสติกส์ และธุรกิจสินเชื่อ
ผ่านการด�ำเนินงานของ 2 บริษัทลูก ได้แก่ บริษัทโพสต์โลจิสติกส์ และบริษัทสินเชื่อ ไปรษณีย์ไทย นั้น ในส่วนของบริษัทโพสต์โลจิสติกส์ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ก่อนจด ทะเบียนจัดตั้งบริษัท พร้อมจัดหาบริษัทที่ปรึกษามาให้ค�ำแนะน�ำ โดยเตรียมเงินทุน จดทะเบียนไว้ 100 ล้านบาท เป็นบริษทั ทีจ่ ะเข้ามาบริหารงานด้านระบบขนส่งครบวงจร ตลอดซัพพลายเชน ซึ่งจะเป็นรายได้หลักในอนาคตให้กับไปรษณีย์ไทย ปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย บอกว่า ไปรษณีย์ไทยได้วางเป้าหมายที่สร้างรายได้ในธุรกิจบริการโลจิสติกส์ในปี 2554 ซึ่ง เป็นปีแรกของการด�ำเนินธุรกิจไว้ที่ 500 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท ในปีถัดไป และขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาทในปี 2556 เขาบอกว่า “ตลาดขนส่งสินค้าที่แพ็คในกล่อง” ที่มีมูลค่าตลาด 20,000 ล้าน บาท จะเป็นเป้าหมายแรกที่ไปรษณีย์ไทย ต้องการแย่งตัวแบ่งการตลาด ก่อนจะขยาย ตลาดไปยังธุรกิจขนส่งสินค้าครบวงจร ตั้งแต่สินค้าเกษตรปริมาณมาก ไปจนถึงสินค้า อุตสาหกรรม ในส่วนธุรกิจสินเชือ่ นัน้ ปัจจุบนั ได้จดั ตัง้ บริษทั แล้วด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยจะประชุมบอร์ดนัดแรกในวันที่ 27 เมษายนนี้ วางเป้าหมายเบือ้ งต้นทีจ่ ะปล่อย สินเชือ่ ให้กบั ลูกค้ารายย่อยวงเงินรวมไม่เกินรายละ 10,000 บาท ในอัตรา ดอกเบีย้ เบือ้ งต้นรวมค่าธรรมเนียมอยูท่ ี่ 24% ต่อปี (ลดต้น-ลดดอก) ตามเงือ่ นไขไม่มหี ลักทรัพย์คำ�้ ประกัน เพียงแต่ใช้บคุ คลค�ำ้ ประกัน อย่างน้อย 3 คน โดยมีพื้นที่น�ำร่อง 10 สาขาทั่วประเทศ ปล่อยกู้ สาขาละไม่เกิน 100-200 คน โดยมีระบบไอทีมาใช้ป้องกันความเสี่ยงในการผิดนัดช�ำระหนี้ มีบริการ Mobile Banking มาอ�ำนวยความสะดวกในการช�ำระเงิน โดยจะให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เข้ามาแลก เปลีย่ นความคิดเห็น เพือ่ ทีจ่ ะก�ำหนดกลุม่ ลูกค้าเป้าหมายในการปล่อย สินเชื่อของไปรษณีย์ไทยให้ชัดเจนต่อไป
อานุสรา จิตต์มิตรภาพ
ความรู้นอกตำ�รา...ปรัชญานอกห้องเรียน การอ่านหนังสือ ดูหนัง เปิดตาดูหูฟัง สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เหมือนกับ ขุดคลองรับน้ำ� บางคนถ้าดูแล้วสะสม คลองที่ขุดไว้จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยอดขายล่วงหน้า งานนี้เราชนะแน่ ! ทุกคนงงๆ ครับ แต่งานเลี้ยงคืนนั้นสนุกมาก พนักงานทุกคน หัวใจฮึกเหิม ไม่เชือ่ ก็ตอ้ งเชือ่ ว่า ท้ายทีส่ ดุ จบงานนัน้ เราเลยได้เฮ!ฉลองชัยชนะ กันจริงๆ ยุทธวิธีรบแบบทุบหม้อข้าวตัวเองก่อนออกศึกคราวนั้น ผมได้ อิทธิพลมาจากเรื่อง “สามก๊ก” ครับ พูดจริงๆ ว่า ผมไม่รู้หรอกและจ�ำไม่ได้ด้วยซ�้ำครับว่าจะต้องไป พลิกเปิดต�ำราสามก๊กหน้าไหน ถึงจะเป็น “ฮาวทู” เพือ่ ใช้แก้ปญ ั หา แต่
ผมเชื่อว่าในยามคับขันสถานการณ์ที่จ�ำเป็น “คลังสมอง” ของเราจะ เปิดลิ้นชักหยิบวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้จากทุนความรู้รอบตัวที่เราสั่งสม ไว้...เป็นไปโดยอัตโนมัติ เหมือนกับทีผ่ มนึกถึงยุทธวิธนี จี้ ากหนังอมตะสามก๊กเก่าๆ ทีเ่ คย ดูไว้นานแล้ว ในยามหลังพิงฝาคิดว่าจะหาทางออกแก้หมากธุรกิจเกม นี้อย่างไร ในชีวิตของผม เรียนน้อยจบ ม. 3 แต่ชอบดู ชอบถาม ชอบ สังเกตการณ์จากทุกเรื่องที่อยู่รอบตัว ความเป็น “นักเรียนรู้ตลอดชีวิต” ของผมไม่เคยมีวันจบ การศึกษา อย่าไปคิดว่าความรู้ต้องหาได้เฉพาะในต�ำรา หรือห้องเรียน ความรู้บางอย่างอาจจะได้จากการท�ำงานจริงๆ การดูละคร ดูจากหนัง ฟังจากคนอื่นเล่ามา จากการสังเกตจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ทีผ่ า่ นเข้ามาเหล่านี้ ถ้ารูจ้ กั เก็บไปคิด ตกผลึก สะสมออมเอาไว้มากเท่าไร ก็เหมือนกับเรายิง่ ขุดคลองใหญ่ขนึ้ เรือ่ ยๆ เหมือน “คลองสองชั้น” ในกรุงเกียวโตที่ผมมักจะนึกถึง มอง เผินๆ คลองนี้ขุดไว้ใหญ่มากถึงสองชั้น แต่ปกติจะถูกใช้ไว้เป็นพื้นที่ ส�ำหรับขายของ
โดยมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิก 10 ประเทศ จนกระทั่งได้รับการรับรองด้าน มาตรฐานสากล เพือ่ ขยายการให้บริการระหว่าง ประเทศ เชือ่ มโยงกับไปรษณียไ์ ทยในต่างประเทศ โดยการน�ำร่องในแถบประเทศอินโดจีน ภายใต้ โอกาสหลังจากเปิดเสรีอาเซียน-จีน ที่ได้ท�ำ ข้อตกลงกับไปรษณีย์ในลาว เวียดนาม และ จีน เพื่อเตรียมรองรับหากมีการขนส่งสินค้า จากจีนมาไทย และจากไทยไปจีน ก่อนหน้านีย้ งั ได้ทำ� ความตกลงกับไปรษณีย์ ฮ่องกงเพื่อเปิดให้บริการ E-commerce ส่ง สินค้าทีจ่ ำ� หน่ายทางเว็บไซต์ Shop Thru Post ของไปรษณีย์ฮ่องกง ถือเป็นโครงการน�ำร่อง ของการบริการระหว่างประเทศ นั บ เป็ น การแนวทางในการแสวงหา “พันธมิตร” เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ ธุรกิจ นอกเหนือจากเครือข่ายของไปรษณีย์ ไทยที่มีจ�ำนวนสาขามากถึง 1,279 แห่ง และ แฟรนไชส์ของไปรษณีย์ไทย จ�ำนวน 58 สาขา โดยมีทมี บุรษุ ไปรษณียก์ ว่า 8,000 คน ครอบคลุม ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะการขยายเครือข่ายการให้บริการ โลจิสติกส์รองรับการเปิดการค้าเสรีทางการค้า “อาเซียน-จีน” ที่โอกาสจะเปิดกว้างมากขึ้น จากการซื้อขายสินค้าผ่านแดนที่จะมีเพิ่มมาก ขึ้น โดยมีไปรษณีย์ไทยเข้ามามีบทบาทเป็น ตัวกลางเพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง อานุสรา ยังมองว่า กระแสสังคมออนไลน์ หรือกระแส E-commerce ที่มาแรงอยู่ใน ขณะนี้ แม้จะท�ำให้ธรุ กิจสือ่ สารมีรายได้หดหาย ทว่าไปรษณียไ์ ทยจะขอแก้เกม ด้วยการขอเป็น “ตัวเชือ่ มระบบการค้าออนไลน์” ด้วยบริการ รับส่งสินค้าให้กบั ช่องทางการค้าเหล่านี้ ทีล่ ว้ น ต้องพึ่งพาการขนส่งสินค้า ส่วนธุรกิจสถาบันการ เงินในชื่อ บริษัทสินเชื่อ ไปรษณี ย ์ ไ ทย เกิด จากแนวคิดขอรัฐบาล ที่ ต ้ อ งการอาศั ย จุ ด แข็งจากเครือข่ายของ ไปรษณียไ์ ทยทีม่ อี ยูท่ วั่ ประเทศ มาเป็น Out let ของรัฐ เพื่อกระจายการ ให้ประชาชนในระดับรากหญ้า ได้เข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวก ที่สุด โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส กลายเป็นทีม่ าของโครงการให้ สินเชื่อดอกเบี้ยต�่ำ นอกจากสาขาของไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ เดิมแล้ว อานุสราบอกว่า ไปรษณีย์ไทยยังจะ ท�ำงานในเชิงรุกเพื่อให้แข่งขันกับเอกชน ได้ดว้ ยการสร้างโอกาสหารายได้จากการ จ�ำหน่ายสินค้าของไปรษณีย์ไทย อาทิ แสตมป์และของที่ระลึก รวมไปถึง การรับฝากสินค้าลงทะเบียนหรือ พัสดุ รวมไปถึงการรับช�ำระบิลค่า บริการต่างๆ ในลักษณะของการ เข้าไปตัง้ บูธ “ไปรษณียเ์ คลือ่ นที”่ ตามตลาดและชุมชน และงาน อีเวนท์ต่างๆ แม้จะเป็นวันหยุด ก็มีหน่วยปฏิบัติการออกไปหา รายได้เช่นกัน ไปรษณียไ์ ทยในวันนีจ้ งึ ไปไกลมากกว่า การเป็นผูร้ บั ส่งจดหมาย แต่ยงั เป็นร้านค้า รับฝากขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ของทีร่ ะลึก บริการการเงิน และก�ำลังจะเป็นสถาบันการ เงิน และผูใ้ ห้บริการโลจิสติกส์ ทีเ่ ชือ่ มโยง สินค้าจากต้นทางไปยังปลายทางทั้งในและ ระหว่างประเทศ
คนที่นั่นบอกว่าทุกๆ สิบปีที่นี่จะมีน�้ำหลากและพายุรุนแรง เกิดขึ้นหนึ่งครั้ง คลองที่ขุดไว้นี้จึงได้ใช้ประโยชน์จริงๆ ในยามวิกฤติ ครั้งส�ำคัญ ในชีวิตคนเราก็เหมือนกัน การอ่านหนังสือ การดูหนัง การเปิด ตาดูหูฟังอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่รอบตัวเรา ก็เหมือนกับ ขุดคลองรับน�้ำ บางคนดูแล้วไม่ได้เก็บ ไม่ได้สะสมเอาไว้ใช้ แต่บางคนถ้าดูแล้วสะสมเอาไว้ คลองทีข่ ดุ ไว้จะยิง่ ใหญ่ขนึ้ เรือ่ ยๆ วันหนึ่งเมื่อถึงคราวพายุคับขันจ�ำเป็นขึ้นมา คลองใหญ่ๆ นี้ จะ เป็นประโยชน์ที่สุด กลายเป็น “ตัวช่วย” ให้เราผ่าทางตัน แก้ไขสถานการณ์ในยาม คับขัน ถ้าไม่หยุดขวนขวายใฝ่ทจี่ ะเรียนรู้ ขยันขุดคลองเก็บความรู้ เก็บ ประสบการณ์รอบตัวไว้เรื่อยๆ ไม่วนั ใดก็วนั หนึง่ คุณอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากคลองใหญ่คลอง นี้... พลิกวิกฤติให้เป็นความส�ำเร็จได้ครับ พบกับข้อคิด มุมมองทางธุรกิจและการใช้ชีวิตแบบ 360 องศาที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงของผมได้ใน “วิถีตัน” ทางกรุงเทพธุรกิจทุกวันจันทร์ พร้อมแลกเปลี่ยนพูดคุยติดตามเรื่องราวดีๆ ใน Facebook กับผมได้ที่ http://www.facebook.com/tanmaitan
3
B-school
วันที่ 25 เมษายน 2554 หนังสือพิมพ์ กรุ งเทพธุรกิจ BizWeek : ก่ อตัง้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เป็ นสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์ แห่ งชาติ พิมพ์ ท่ ี : 1854 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 โทรศัพท์ 0-2338-3333 โทรสาร 0-2338-3947-8 E-mail : bizweek@nationgroup.com
• เจ้ าของ : บริ ษัท เอ็นเคที นิวส์ จ�ำกัด • บรรณาธิการและผู้พมิ พ์ ผ้ ูโฆษณา : ดวงกมล โชตะนา kteditor@nationgroup.com • บรรณาธิการบริหาร : เบ็ญจวรรณ เผ่าจินดามุข benjawan_p@nationgroup.com • บรรณาธิการอาวุโส : วัชรา จรูญสันติกลุ pen@nationgroup.com • บรรณาธิการศิลปกรรม : จักรพงษ์ ศรี สนุ ทร artdi2005@yahoo.com • หัวหน้ าฝ่ ายศิลป์ : ทวีศกั ดิ์ อุระนันท์ thaweesak@nationgroup.com
For Display Advertising โทร 0-2338-3333 ต่อ 3155, 3136, 3157, 3161-2, 3173 ฝ่ ายสมาชิกและลูกค้ าสัมพันธ์ โทร 0-2338-3000 (customer@nationgroup.com) เลขากองบรรณาธิการ: กาญจนา สุขเพิ่ม kanchana@nationgroup.com เบอร์ ตอ่ 3385
ลมลเพ็ชร อภิสิทธิ์นิรันดร์
ศักดิ์ศรีครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก ใครจะอยู่หรือไป วัดฝีมือกันไปเลยเมื่อ ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ลุกขึ้นมา ตั้งบริษัทใหม่ “สหภาพดนตรี” ท้าชน “แกรมมี่” โดยมีกลุ่มทุนอย่าง “เบียร์สิงห์” เป็นแบ็คอัพ บนแนวทาง ก�ำไรไม่ใช่ที่สุดของธุรกิจ
ดี้-
สหภาพดนตรี Almost non profit
ไม่นานนักหลังจากก้าวออกมาจาก ตัว ร่วมกับศิลปินวัยเก๋าอย่าง “ป้อม-โต๊ะ” อ้อมอกของ “อากู๋” ไพบูลย์ ด�ำรงชัยธรรม นายใหญ่แห่งแกรมมี่ นิตพ ิ งษ์ ห่อนาค หรือที่ ใครๆ เรียกกันจนติดปากว่า “พีด่ ”ี้ ก็หนั มาจับ มือกับกลุ่มทุนกระเป๋าหนักอย่าง “เบียร์สิงห์” ที่อาสาลงขันเป็นหุ้นส่วนใหญ่กับค่ายเพลง น้องใหม่ของคนหน้าเก่าที่คุ้นเคยในวงการ เพลงเมืองไทย นอกจากจะเป็นการต่อยอดให้กบั ค่ายสิงห์ ทีเ่ หล่าทายาทเคยฝัน หรือไม่กอ็ อกอัลบัม้ เป็น ของตัวเองมาแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนดนตรี อย่างเป็นระบบตามแบบฉบับงาน CSR ต่อยอด Music Marketing “ดี”้ -นิตพ ิ งษ์ ห่อนาค เดินแทรกตัวผ่าน ศิลปินนักร้องหลายต่อหลายวงเข้ามายืนพูดคุย อยูข่ า้ งๆ แผงรัว้ ทีก่ นั้ ด้านหลังเวทีในงานแถลง ข่าว Pop Culture Club ในค�ำ่ วันหนึง่ เพือ่ ให้ สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกเกี่ยว กับความเคลื่อนไหวของเขา หลังค�ำถามว่าทีใ่ ครสักหนึง่ ยิงออกไปว่า ตอนนี้ก�ำลังท�ำอะไรอยู่ ดี้หันไปตอบว่า ตอน นีเ้ ป็น “กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่” ในบริษทั ใหม่ ที่ชื่อสหภาพดนตรี เพิ่งจะจดทะเบียนก่อตั้ง บริษัทหมาดๆ เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ เจ้าของ เบียร์สิงห์ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เพื่อท�ำธุรกิจ เพลงแบบครบวงจร ทีส่ ำ� คัญเขาต้องการบริหาร งานในแบบฉบับที่ตัวเองต้องการ ขณะที่ทางกลุ่มของดี้ จะถือหุ้นรวมกัน ทั้งหมดในสัดส่วน 50% อาทิ จุ๊บ-วุฒินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ฉีกออกมาถือหุ้นในนามส่วน
อัสนี-วสันต์ โชติกุล ผู้บริหารค่ายมอร์มิวสิค โอม-ชาตรี คงสุวรรณ นักแต่งเพลงและอดีต นักร้องดัง ที่ล้วนตบเท้าออกจากแกรมมี่ “แต่ละคนก็จะแบ่งหน้าที่กันท�ำ เช่น พีเ่ องท�ำหน้าทีต่ ดั สินใจ ชีข้ าดในเรือ่ งต่างๆ ขณะ ทีป่ อ้ ม จะเป็นทีป่ รึกษา ส่วนโต๊ะก็กำ� ลังดูๆ อยูว่ า่ จะท�ำอะไรดี เพราะติดปัญหาเรือ่ งสุขภาพ ส่วน โอมจะดูแลเรื่องดนตรี โดยคนกลุ่มนี้ก็จะเป็น ส่วนหนึ่งในบอร์ดบริหาร” เขาเล่า ส่วนค่ายสิงห์จะเข้ามาท�ำหน้าที่เป็นผู้ สนับสนุนในโครงการต่างๆ เช่น การจัดแสดง คอนเสิร์ตทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวม ไปถึงงานอีเวนท์ หรืองานโชว์ต่างๆ ที่จะมีขึ้น ในอนาคต โดยค่ายสิงห์ท�ำหน้าที่เป็นผู้ด�ำเนิน การทั้งหมด แนวทางดังกล่าวถือเป็นการเปลีย่ นแปลง ของค่ายสิงห์ทจี่ ะเข้าบริหารจัดการธุรกิจเพลง อย่างเป็นทางการและครบวงจรเป็นครัง้ แรกจาก เดิมทีจ่ ะใช้วธิ กี ารสนับสนุนในลักษณะของการ เป็นสปอนเซอร์ นอกจากนี้ค่ายสิงห์ยังใจป�้ำยอมยกพื้น ส่วนหนึง่ ทีอ่ ยูใ่ นบริษทั บุญรอดบริวเวอรี่ ถนน สามเสน บริเวณริมแม่น�้ำเจ้าพระยาให้เพื่อใช้ เป็นที่ศูนย์บัญชาการของบริษัท ดี้พูดติดตลกว่า ตอนนี้บริษัทก�ำลังอยู่ ในขั้นตอนการโบกปูน หมายถึงยังไม่มีที่ตั้ง ออฟฟิศ แต่ทางสิงห์ใจดี บอกว่าจะให้พื้นที่ ส่วนหนึง่ มาท�ำออฟฟิศและก็ทราบว่าก�ำลังเริม่ ก่อสร้างคาดว่าอีกไม่นานคงได้เข้าไปนัง่ ท�ำงาน ที่นั่น แน่นอนว่าการก้าวออกจากรังแกรมมีท่ เี่ ขา
น่าเป็นบริษัทเพลง แห่งแรกในไทย ที่ ไม่มีเส้นแบ่งของ คำ�ว่า “สังกัด” สามารถแต่งเพลง หรือเขียนเพลง ให้กับค่ายอื่นได้ เคยนั่งท�ำงานมากว่า 30 ปี ย่อมท�ำให้ถูกจับตา มองเป็นพิเศษถึงความเคลือ่ นไหวซึง่ ทีส่ ดุ แล้ว ก็หนีไม่พน้ การกลับมาท�ำงานในสิง่ ทีต่ วั เองรัก นั่นคือ งานดนตรี เมื่อสามารถฟอร์มทีม “คน +ไอเดีย+เงินทุน” ลงตัว โดยเขายอมรับว่าการเกิดขึ้นของบริษัท สหภาพดนตรี จ�ำกัด หนีไม่พ้นต้องแข่งขัน กับแกรมมี่ เพราะเป็นเรื่องปกติของคนที่อยู่ ในวงการเดียวกัน “อยูท่ วี่ า่ คนฟังจะเลือกใคร” สมัยนีค้ นท�ำเพลงหลอกคนฟังไม่ได้แล้ว และคนฟังเพลงก็หลอกคนท�ำเพลงไม่ได้เหมือน
หากพรุ่งนี้ ไม่มีแล้ว ช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงเหงาๆ ที่มีข่าวเศร้าๆ ให้
เราสะท้อนสะเทือนใจ ว่าใครๆ ทีเ่ ป็นเพือ่ นร่วมชาติ และร่วมโลก ต้อง ทุกข์โศกมากมายเพราะหายนะ และภัยพิบัติธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เกิน ที่ก�ำลังใครๆ จะต้านทาน ท�ำให้นึกถึงเพลง If tomorrow never comes ของ Garth Brooks ที่ Ronan Keating น�ำมาร้องใหม่แบบโดนใจในอดีต หากไม่มีวันพรุ่งนี้ เราได้บอกใครๆ แล้วหรือยังว่าเรารู้สึกดีๆ อย่างไรกับเขา ดิฉันเคยได้มีโอกาสใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ อิวาเตะ เมืองที่คนส่วน ใหญ่ในอดีตอาจไม่ค่อยคุ้นเคย ก่อนที่จะได้ยินชื่อเขาซ�้ำแล้วซ�้ำอีก หลังจากเหตุการณ์วิปโยคที่ท้องทะเลโอบกอดและกวาดชีวิตเพื่อน ชาวญี่ปุ่นนับหมื่นๆ ไปกับคลื่นยักษ์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่เมืองอิวาเตะ ดิฉันนั่งหน้ากลุ้มจนเพื่อนรักจากเกียวโตถามว่า “เจ้าหัวโต (เขายัง ยืนยันว่าชื่อที่เรียก แม้จะฟังพิกล แต่เป็น Terms of Endearment หรือ เรียก เพราะ “เอ็นดูนะ...เด็กโง่”) เป็นอะไร ท�ำไมท�ำหน้าเหมือน กินยาแบบลืมเขย่าขวด” ดิฉันปรับทุกข์ว่า ด้วยภาษาญี่ปุ่นที่พอรู้ เพียง “งูๆ” ยังไม่แม้ จะแน่ใจว่า “ปลาๆ” ดินแดนอิวาเตะดูห่างไกล ได้ข่าวว่าคนสื่อภาษา อังกฤษหาท�ำยายาก แล้ว “หัวโต” มิลีบลงๆ เพราะอดข้าวดอกรึ คุณทากามูราซัง ปลอบใจช้าๆ ลีลาคนเกียวโตว่า “เจ้าหัวโต ไม่ ต้องกลัวเลยว่าจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง เพราะหากผมต้องไปเอง... ผม ก็พูดกับเขาไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
กัน ตรงนี้จะวัดกันให้เห็นเลยใครเป็นอย่างไร คุณมีคณ ุ ภาพหรือเปล่า งานของคุณเจ๋งจริงหรือ เปล่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ถ้าเราจะท�ำ ธุรกิจแบบเดียวกันขึ้นมา โดยเราก็มีแนวทาง การท�ำเพลงของเรา เขาแจกแจง “พี่คุยกับทางสิงห์ไม่นานนะ พอเขาเห็น เราออกมาจากทางแกรมมีเ่ ขาก็ เฮ้ย ! มาท�ำงาน ด้วยกันไหม มาคุยรายละเอียดกัน ซึง่ ตอนคุย กันเราก็บอกถึงสิง่ ทีเ่ ราอยากจะท�ำคือท�ำบริษทั ที่ไม่แสวงหาผลก�ำไรสูงสุด ท�ำแค่พอเลี้ยงตัว เองและคนในครอบครัวได้แค่นั้น ที่ส�ำคัญในการเจรจาพี่ยื่นเงื่อนไขเรื่อง การดูแลศิลปินเก่า อยากให้คนอืน่ ๆ เห็นว่าเขา มีคุณค่าไม่ถูกทอดทิ้ง ทางสิงห์ก็โอเค บอกว่า ตรงกับวัตถุประสงค์ของเขาเหมือนกันคืออยาก สนับสนุนให้คนที่มีความสามารถได้มีโอกาส” เขาตะโกนแข่งกับเสียงแฟนคลับ ดี้ยังเล่าถึงคอนเซปต์ของบริษัทใหม่ให้ ฟังว่า ออกกึ่งๆ องค์กร น่าเป็นบริษัทเพลง แห่งแรกในประเทศไทยทีม่ ลี กั ษณะการด�ำเนิน งานในรูปแบบเปิดกว้างไม่มเี ส้นแบ่งของค�ำว่า “สังกัด” โดยคนที่ท�ำงานให้ที่นี่สามารถแต่ง เพลง หรือเขียนเพลง แม้กระทั่งท�ำเพลงให้ กับค่ายอื่น หรือศิลปินคนอื่นๆ ได้ ไม่จ�ำกัด ว่าต้องอยู่ค่ายนี้เพียงค่ายเดียว ดี้บอกว่า การท�ำงานในลักษณะนี้ถือ เป็นการเปิดเสรีในด้านการท�ำงานอย่างแท้จริง แม้เขาเองจะไม่แน่ใจว่าก็ไม่แน่ใจว่าจะประสบ ความส�ำเร็จหรือไม่ เพราะถือเป็นการลองผิด ลองถูก และท�ำตามความฝันของตัวเองทีอ่ ยาก ท�ำธุรกิจในแนวทางนี้ที่ยังไม่เคยไปท�ำที่ไหน หรือแม้แต่น�ำเสนอ (แกรมมี่) เพราะรู้อยู่แล้ว
ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่รับอยู่แล้ว นอกจากนี้ ค่ายสหภาพดนตรีไม่มแี นวคิด ดึงรั้งศิลปินไว้ “ใครอยากอยู่อยู่ หรือถ้าใคร อยากจะไปก็เชิญตามสบาย ไม่อยากผูกมัด ใคร” เขาบอก “Almost non profit พี่ขอให้นิยาม บริษัทพี่แบบนี้ดีกว่า เพราะความตั้งใจจริง ของเราคือตั้งขึ้นมาเพราะใจรักที่จะท�ำงาน เพลงอย่างจริงจัง ไม่ได้มงุ่ เน้นก�ำไรมากมาย
จริงอยูท่ ที่ ำ� ธุรกิจมันก็ตอ้ งมีเรือ่ งเงินเรือ่ ง ผลก�ำไรบ้างแต่เราขอแบบอยู่พอกิน ไม่ต้อง มากเอาแค่ดูแลศิลปินคนของเราให้เลี้ยงตัว เองได้ ไม่ใช่ว่าพอไม่ดังก็ทิ้งเขาแบบนี้ เราขอ แค่ท�ำบริษัทขึ้นมาเป็นเหมือนการดูแลศิลปิน เก่าๆ ที่ถูกทอดทิ้งให้เขาได้ท�ำงานได้แบบนี้ ให้เขาพอมีเงินผ่อนบ้านผ่อนคอนโดบ้าง มีที่ไหนที่ผ่านๆ มาเขาท�ำผลประโยชน์ มหาศาลมากมายให้กบั บริษทั แต่สดุ ท้ายบริษทั ก็ทอดทิ้งเขา แบบนี้พี่รับไม่ได้” กับค�ำถามที่ว่าจะมีศิลปินจากแกรมมี่ใน รุน่ ปัจจุบนั ตามมาอยูด่ ว้ ยไหม เขาตอบค�ำถาม นี้ว่า.. “ไม่มีการดูดคนจากแกรมมี่มาเด็ดขาด ไม่มกี ารเอ่ยชวน ยกเว้นว่าเขาจะย้ายมาอยูก่ บั พี่เองนะ อันนี้ยืนยันคือพี่ไม่อยากท�ำแบบนั้น เพราะผิดมารยาท แต่เท่าทีด่ ศู ลิ ปินแกรมมีก่ ม็ า อยูก่ บั พีเ่ กินครึง่ นะ ส่วนใหญ่คอื พวกทีว่ ้าเหว่ หรือพวกถูกทอดทิ้ง ไม่มีคนมองเห็นคุณค่า นัน่ ก็คอื พวกศิลปินเก่าๆ อย่าง ป้อม-โต๊ะ อะไรพวกนี้ ส่วนคนรุ่นใหม่ๆ ก็มีบ้างนะแต่ พวกนี้หมดสัญญาและไม่ต่อกับแกรมมี่” เขาบอกด้วยว่า ไม่รู้สึกกดดันกับการ ท�ำงานใหม่ เพราะทุกคนที่มาท�ำงานที่นี่ ช่วย กันท�ำงานอย่างเต็มที่ท�ำให้ไม่รู้สึกว่าจะต้อง เหนื่อย หรือเครียด และที่ไม่เครียดนี่ก็เพราะ บริษทั ไม่ได้แสวงหาผลก�ำไรสูงสุดเหมือนก่อน เลยท�ำงานแบบสบายๆ และหุ้นส่วนทุกคนก็ เห็นด้วยกับการท�ำงานแบบนี้ ความตัง้ ใจอีกอย่างหนึง่ ของผูช้ ายอารมณ์ ดีคนนี้ก็คือ การท�ำคอนแทคกับสถาบันการ ศึกษาชั้นน�ำของประเทศหลายๆ แห่ง ในการ ดึงคนดนตรีทมี่ ศี กั ยภาพมากมายทีเ่ รียนอยูใ่ น สถาบันเหล่านีเ้ ข้ามาท�ำงานกับทางบริษทั เพราะ เป็นเหมือนเวทีทคี่ นกลุม่ นีจ้ ะได้แสดงออกถึง ความสามารถที่ได้ร�่ำเรียนมา “ปีหนึง่ ๆ นักศึกษาจบมาก็มากมายหลาย พันหลายหมื่นคน แต่ไม่มีพื้นที่ให้แสดงออก เพราะบริษัทใหญ่ๆ ปิดกั้นโอกาสหมด ท�ำให้ วงการเพลงบ้านเราไม่พัฒนาไปไหน ต่อไปนีค้ นทีม่ คี วามสามารถแล้วอยากมา ร่วมงานกับเราก็เข้ามาหาเราได้ คนหน้าตาไม่ดี แต่มคี ณ ุ ภาพก็สามารถเป็นศิลปินได้ ตรงนีเ้ อง ก็เหมือนกับโครงการด้าน CSR อีกอย่างหนึง่ ของสิงห์ที่เขาท�ำอยู่แล้วเหมือนกัน” เขากล่าว ก่อนเดินหายไปในฝูงชน
บอส...บีทูเอส ‘ณัฐ วงศ์พานิช’ อ่าน Bill Gates : The road ahead
คุณโยชิอากิ เจ้าของบ้านส่งข่าวมาให้เรา รับรู้และใจชื้น ถึงใจที่สู้ไม่ถอยของ เขาว่า “พังได้ ก็สร้างได้” เพื่อนญี่ปุ่น ไม่ว่าที่อิวา เตะ หรือเมืองอื่นใด ส่วนใหญ่มี โอ้ !! ปลอบใจแบบไม่ได้ใจอย่างยิ่ง พฤติกรรมที่ชาวโลกชื่นชม และก้ม สรุปว่าอิวาเตะ เป็นเมืองกึ่งชนบท ที่พูดภาษาญี่ปุ่น หัวคารวะให้ ในความส�ำรวม อดทน ส�ำเนียงท้องถิ่น คงคล้ายๆ พี่น้องไทยที่ต่างมีส�ำเนียงตาม มีวินัย ไม่โวยวาย ไม่ฟูมฟาย แม้จะเห็น ท้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของตน ทั้งชีวิตเหมือนถูกปลิดทิ้งไปต่อหน้า อิวาเตะ เป็นเมืองเกษตรกรรม อยูใ่ นพืน้ ทีท่ มี่ ผี ลไม้ขนึ้ ดิฉันโชคดีมีโอกาสสัมผัสญี่ปุ่น ได้ซาบซึ้งถึง ชือ่ คือ แอปเปิล ทีว่ า่ กันว่าอร่อยทีส่ ดุ ในประเทศ ถูกจัดส่งถวาย พฤติกรรม และนิยามของความ บนโต๊ะพระกระยาหารของจักรพรรดิญี่ปุ่นเสมอมา “หรู” ที่ดูอย่างไรก็ประทับใจลึก บ้านที่เคยได้ไปอาศัยพักพิง วันนี้สลายละลายยับไปกับสายน�้ำ ยากจะลืมเลือน เพือ่ นญีป่ นุ่ เล่าว่าElegance หรือ “หรู” ของเขา อาจดูไม่ ยิ่งใหญ่ ฟู่ฟ่า อลังการ วูบวาบ แวววาว เหมือนบางที่ แต่ความ หรู อยู่ในความนิ่ง สงบ ละเมียด ละไม ไม่ตอ้ งเด่นเตะตา แต่แตะใจ และสัมผัสได้ด้วยความอิ่มเอม เปรมปรีดิ์ ที่อบอวล อ่อนโยน ทีพ่ กั หรู อาจมองดูเหมือน สุดแสนธรรมดา แต่ “หรู” เพราะ อยูแ่ สนสบาย เพราะมีใครๆ แอบท�ำทุกอย่างให้เรามากมาย โดยท�ำให้ เงียบๆ เพียรเก็บรายละเอียด ด้วยความพิถพี ถิ นั ประณีต อยูเ่ บือ้ งหลัง อย่างตั้งอกตั้งใจ แบบไม่ออกนอกหน้า ดังนั้น บ้านที่รวยที่สุด กับ จนที่สุด ก็ “หรู” ได้ ไม่ต่างกัน คุณโยชิอากิ บอกว่า แม้เสียดายบ้าน “หรู” คิดถึงเจ้าต้นแอปเปิล ทีเ่ คยเจนตาหน้าบ้าน หูยงั แว่วได้ยนิ เสียงสุนขั ทีแ่ สนจงรักและภักดี แต่ ทีเ่ สียใจทีส่ ดุ คือการทีไ่ ม่ได้ใช้เวลาและวินาทีสดุ ท้ายกับพ่อ เพราะไม่ เคยตระหนักว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้กับท่านอีก คนญี่ปุ่นรุ่นคุณโยชิอากิ คงคล้ายๆ คนไทยรุ่นดิฉัน ที่ออกมา
อยู่ในแวดวงหนังสือมีหรือที่ ณัฐ วงศ์พานิช
กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีทูเอส จ�ำกัด จะพลาด การอ่าน โดยเฉพาะหนังสือแนว “อัตชีวประวัติ” ที่ชื่น ชอบมากเป็นพิเศษ Bill Gates : The road ahead คือหนังสือที่ เขาอยากแนะน�ำ เนื้อหาบอกเล่าถึงประวัติของบิล เกตส์ ตั้งแต่วัยเยาว์จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารชื่อก้องโลกแห่ง ไมโครซอฟท์ และมหาเศรษฐีโลก “ผมชอบอ่านหนังสือประเภทนีม้ ากกว่า เพราะให้แง่ คิดมุมมองหลายอย่าง ทีน่ ำ� มาปรับใช้ในชีวติ ประจ�ำวันและ การท�ำงาน” ส่วนหนังสือประเภท How To ณัฐบอกว่าไม่ค่อย สนใจ มากนัก เพราะมองว่าบางครั้งผู้เขียนไม่สามารถ ถ่ายทอดออกมาได้ดพี อ เนือ่ งจากไม่ใช่ประสบการณ์ตรง ของผู้เขียน
แนว “ปากหนัก” จะบอกรักใครสักคน ดูเป็นเรื่องสากลของคนฝรั่ง เราบอกรักด้วยวิธีดูแล ด้วยการแสดงออก ที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีก ฝ่ายจะเข้าใจ โดยไม่ต้องอธิบาย หรือเฉลยความในใจ คุณโยชิอากิร�ำพึงเบาๆ ว่า หากกลับไปก่อนวันวิปโยคได้ เขาจะ กอดพ่อ และบอกว่า “พ่อครับ พ่อรู้ไหมว่าผมโชคดีขนาดไหนที่ได้ เกิดเป็นลูกพ่อ” บทเรียนราคาแสนแพงนี้ มีให้เราได้สัมผัสอยู่ทุกที่ แม้บ้านฝรั่ง มังค่า ยามผจญความสูญเสีย ก็ยงั ตระหนักว่าเขาใช้เวลากับปัจจุบนั ให้ เป็นเวลาที่พิเศษสุดน้อยเกินไป ตัวอย่างเห็นได้จากช่วง 3 เดือนหลัง วิกฤติ 9/11 ที่ตึก World Trade Center ถูกถล่ม สถิติยอดขาย แหวนหมั้นของสหรัฐ พุ่งสูงขึ้นกว่า 2 เท่า เพราะเขาไม่ต้องการ รอช้าที่จะบอกรักกับใครๆ ก่อนที่จะสายไป ยามต้องเผชิญกับการพลัดพรากที่ทุกข์แสนสาหัส คนอเมริกัน ต่างตระหนักเช่นกันว่า จะมัวมุง่ เน้นไขว่คว้าหาสิง่ ทีด่ กี ว่าในอนาคตอยู่ อย่างเดียวได้อย่างไร โดยยังไม่ได้ทำ� ให้ปจั จุบนั กาล ซึง่ เป็นสิง่ เดียวที่ เรามี ให้ดีที่สุด คุณโยชิอากิ ฝากบอกท่านผู้อ่านคนไทยว่า ซาบซึ้ง ลึกมากใน ใจ ถึงความเอื้ออาทรที่เราชาวไทยมีให้เพื่อนญี่ปุ่น บุญคุณครั้งนี้ เขา และเพื่อนร่วมชาติ ไม่มีลืม..ไม่มี ฝากบอกเพียงว่าสิ่งที่ท่านมีในมือ ไม่ว่าจะเป็นงาน เป็นพี่ เป็น เพื่อน กรุณาอย่า “Take them for granted” หรือ “เห็นเป็นของ ตาย” เมื่อวานนี้มี วันนี้มี อย่าประมาทสรุปง่ายๆ ว่า พรุ่งนี้ก็ต้องมี เพราะเขา “ไม่มี” มาแล้ว ดังนั้น เปลี่ยนอดีตไม่ได้ อนาคตก็ยัง มาไม่ถงึ จึงต้องมีสติอยูก่ บั ปัจจุบนั ท�ำวันนีใ้ ห้ดที สี่ ดุ ทีละวัน ทีละวัน นั่นคือ หนทางเดียวที่จะมั่นใจได้ว่า อนาคตจะสดใสที่สุด เท่าที่ มนุษย์อย่างเราจะท�ำได้ครับ พอใจ พุกกะคุปต์ เป็ นวิทยากรและที่ปรึกษาของ องค์ กรชัน้ น�ำจ�ำนวนมากจบการศึกษาปริญญาโท สาขาความสัมพันธ์ ระหว่ างประเทศ จาก Stanford University
วันที่ 25 เมษายน 2554
ไม้เท้าพระราชทาน
เพื่อผู้ป่วยพาร์กินสัน
ดูเหมือนว่าชือ่ ของโรคพาร์กนิ สัน ก่อนหน้านี้ ยังไม่เป็นทีค่ นุ้ หูคนไทย
เท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่มีคนดังในแวดวงฮอลลีวู้ดเริ่มป่วยด้วยโรคนี้กัน มากขึ้น บ้านเราจึงเริ่มตื่นตัวและหาสาเหตุว่า แท้จริงแล้ว พาร์กินสันนั้น เป็นอย่างไร อันทีจ่ ริงแล้ว ทีผ่ า่ นมา วันนีค้ นไทยจ�ำนวนไม่นอ้ ยป่วยด้วยโรคพาร์กนิ สัน แต่การรักษา กับการเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ทั่วถึงท�ำให้ผู้ป่วยมากมาย ถูกละเลย เพราะโรคนีม้ กั เกิดในกลุม่ ผูส้ งู อายุ และจะท�ำให้ชว่ ยเหลือตัวเอง ได้นอ้ ยลง จากการทีโ่ รคเข้าไปท�ำลายระบบประสาทส่วนกลาง ท�ำให้สญ ู เสีย การควบคุมการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ เริ่มจากมือเท้าสั่น เริ่มเดินไม่ได้ ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดๆ ว่าโรคพาร์กินสันนั้น มีอันตรายแค่เพียง การท�ำลายระบบการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่จริงๆ แล้ว การเสื่อม ถอยของระบบการควบคุมการท�ำงานส่วนนีข้ องสมอง อาจน�ำไปสูค่ วาม ล�ำบากทางกายจนสภาพร่างกายเสือ่ มถอยลง และอาจเสียชีวติ ได้ในทีส่ ดุ เพราะไม่เพียงแต่ผปู้ ว่ ยจะเคลือ่ นไหวไม่ได้เท่านัน้ แต่ระบบการควบคุมการ รับประทานอาหาร อย่างเช่น การเคีย้ วอาหาร การกลืนอาหารจะเสือ่ มถอย ลงด้วย ในที่สุด ผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็ต้องเสียชีวิตเพราะโรคนี้นั่นเอง ในส่วนการรักษาโรคพาร์กินสันนั้นก็ยังคงต้องใช้ยา ซึ่งมีราคาแพง ควบคู่ไปกับการกายภาพบ�ำบัด แทบไม่น่าเชื่อว่า ปัจจุบัน คนไทยที่ป่วย เป็นโรคนีก้ ว่า 70% ยังไม่เดินหน้าเข้าสูก่ ระบวนการรักษา กลายเป็นปัญหา ของสังคม และท�ำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวแย่ลงไปตามด้วย สสส. หรือ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ ศูนย์รกั ษาโรคพาร์กนิ สัน และกลุม่ โรคเคลือ่ นไหวผิดปกติ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย จึงสนับสนุนโครงการพัฒนาไม้เท้า เพือ่ ผูป้ ว่ ยพาร์กนิ สัน ซึง่ โครงการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ องค์อปุ นายิกา สภากาชาดไทย ทรงให้ความสนพระทัยเป็นอย่างมาก และมีการจัดตัง้ กองทุน พระราชทาง ใช้ชื่อว่า “ไม้เท้าพาร์กินสันพระราชทาน” รศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้า ศูนย์รักษาโรคพาร์กินสันและกลุ่ม โรคเคลื่อนไหวผิดปกติ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย เล่าให้ฟงั ว่า ผูป้ ว่ ยโรคพาร์กนิ สันหลายราย ก�ำลังเข้าสูอ่ าการ ป่วยระยะสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิง่ จังหวัดทางภาคกลางของบ้านเราพบ ผูป้ ว่ ยมากทีส่ ดุ ที่ จังหวัดชัยนาท และพระนครศรีอยุธยา โดยอัตราการเกิดโรค อยู่ที่ 110 คนต่อประชากรแสนคน สิง่ ทีศ่ นู ย์รกั ษาโรคพาร์กนิ สัน และหน่วยงานทีย่ กมืออาสาเข้ามาช่วยเหลือ อย่างเช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมูลนิธิ ขาเทียม ท�ำงานร่วมกันนัน้ คือการออกแบบ และผลิตไม้เท้า เพือ่ ช่วยในการ เดินของผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ซึ่งไม้เท้าดังกล่าวจะมีการติดกล่องเลเซอร์ บนหัวไม้เท้า และติดเซ็นเซอร์ ตรงช่วงปลาย เพือ่ ยิงแสงเลเซอร์เป็นเส้นไปข้างหน้า ทีพ่ นื้ ท�ำให้ผปู้ ว่ ยสามารถเคลือ่ นไหวตามเส้นตรงข้างหน้า และพยายามควบคุม การเคลือ่ นไหวของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติมากทีส่ ดุ และยังเป็นการกระตุน้ การก้าวเดิน ที่เกิดการเสื่อมถอยจากการที่สมองไม่สั่งการ ซึ่งนี่เป็นอีก กระบวนการหนึง่ ของการรักษาแบบกายภาพบ�ำบัดทีน่ อกเหนือและควบคู่ ไปกับการใช้ยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง ซึ่งเป็นยาที่มีราคา ค่อนข้างสูง นับตัง้ แต่โครงการนีเ้ ริม่ เปิดตัวขึน้ เมือ่ เดือนมิถนุ ายน ปีทผี่ า่ นมา มีผปู้ ว่ ย ด้วยโรคพาร์กินสันเข้ามาลงทะเบียนเพื่อขอรับไม้เท้าแล้วกว่า 4 หมื่นคน โดยต้นทุนการผลิตไม้เท้าอยู่ที่อันละประมาณ 1500 บาท ซึ่งคณะท�ำงาน กล่าวว่า นี่เป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดเท่านั้น นัน่ หมายความว่า ผูป้ ว่ ยส่วนใหญ่ทเี่ ป็นผูส้ งู อายุนนั้ ยังถูกละเลย หรือ ยังไม่ได้รับข้อมูลการรักษา และการดูแลตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ จึงจะต้องพยายามทั้งประชาสัมพันธ์ไปถึงตัวผู้ป่วย และครอบครัว รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคเงินเพื่อการผลิตไม้เท้า พระราชทานนี้ด้วย เป็นทีน่ า่ ยินดีวา่ เมือ่ ครบรอบ 1 ปีของการลงทะเบียน ปีนใี้ นเดือนมิถนุ ายน ไม้เท้าทีผ่ ลิตขึน้ มาจะถูกส่งไปยังผูป้ ว่ ยทีไ่ ด้มาลงทะเบียนเอาไว้ ซึง่ การใช้ไม้เท้า นีจ้ ะเป็นการบ�ำบัดรักษาด้วยตัวผูป้ ว่ ย และญาติเอง ซึง่ สามารถรักษากันเอง ได้ทบี่ า้ นทีต่ อ้ งอาศัยความสม�ำ่ เสมอ และความอดทนรอคอยความคืบหน้า ของการรักษาโรคนี้อย่างใจเย็น เพือ่ คุณภาพชีวติ ทีด่ ขี นึ้ และสุขภาวะทีด่ ขี นึ้ ของสังคมไทย ผูป้ ว่ ยพาร์ กินสันในบ้านเราที่แม้จะมีจ�ำนวนไม่มากเท่ากับในต่างประเทศเองก็จ�ำเป็น ต้องได้รับการดูแลจากทั้งสังคมรอบตัว และหน่วยงานสาธารณสุขภาค รัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของ คนในบ้านเรา และยังเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึง ประดิษฐกรรมใหม่ๆ เพื่อผู้ป่วยอีกด้วย
• เรวัต ตันตยานนท์
ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ของที่นี่ นอกจากจะมี ชะตากรรมไม่ยากเข็ญแล้ว กิจการส่วนใหญ่ยังไปได้ สวยในเวทีธุรกิจ แข่งขัน ได้ทั้งราคา คุณภาพสินค้า และบริการ พร้อมพลัง สร้างสรรค์สังคมที่ท�ำได้ดี และต่อเนื่อง ร่วมเปิด มุมมองต้นแบบธุรกิจน�้ำดี ในเมืองแห่ง SE ของโลก อย่าง... ฮ่องกง • จีราวัฒน์ คงแก้ว
ไม่เพียงเงินรางวัลที่ผู้ชนะเลิศจากการ
ประกวดแผนธุรกิจเพือ่ สังคม เวที icare award 2010 จะได้รับ หากยังหมายถึงประสบการณ์ ครั้งยิ่งใหญ่ที่ได้มาเยี่ยมเยือนประเทศฮ่องกง เมืองแห่งความผลิบานของธุรกิจ SE (Social Enterprise) แห่งหนึ่งของโลก “นิพทั ธ์พงษ์ ชวนชืน่ ” และเพือ่ นสมาชิก ทีม “ปาล์มรักเมฆ” คือผูช้ นะเลิศ icare award 2010 ในโจทย์ การอนุรกั ษ์ปา่ ต้นน�ำ ้ กับผลงาน ธุรกิจทัวร์อาสา “Star Voluntours” ทัวร์น�้ำดี ในพืน้ ทีเ่ มืองเชียงดาว ทีอ่ าสาเข้ามาเชือ่ มคนต้นน�ำ้ กับปลายน�ำ้ ให้พบเจอกัน ร่วมกันสร้างจิตส�ำนึก อนุรักษ์ป่าต้นน�้ำและสิ่งแวดล้อมของโลก “SE ทีฮ่ อ่ งกง เขามีขดี ความสามารถในการ หารายได้ค่อนข้างมาก” บทสนทนาเริ่มต้นที ่ SE น้องใหม่แห่งสยามประเทศ “นิพทั ธ์พงษ์” บอกเล่า ให้เราฟัง หลังได้ไปพูดคุยกับผู้ประกอบการ เพื่อสังคมหลายๆ เคสในฮ่องกงที่สร้างสมดุล ระหว่างผลก�ำไรทางธุรกิจเข้ากับอุดมการณ์ เพื่อสังคมได้อย่างลงตัว ท�ำให้ธุรกิจเติบโตได้ อย่างยั่งยืน “จุดเหมือนของผู้ประกอบการเพื่อสังคม ฮ่องกง คือ ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่เขาท�ำ ออกมา จะสามารถแข่งขันกับตลาดได้จริง และดึงดูดผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะด้านราคาและ คุณภาพ เรียกว่าท�ำของดี มีนวัตกรรม บวกกับ เอกลักษณ์ทชี่ ดั เจน สามารถสนับสนุนสังคมใน ด้านที่สอดคล้องกับความต้องการของเขาได้” “นิพัทธ์พงษ์” ยกหนึ่งความประทับใจใน วิธีคิด ให้กับ Senior Citizen Home Safety Association (SCHSA) หรือ สมาคมช่วยเหลือ ผูส้ งู อายุแห่งฮ่องกง ผลผลิตธุรกิจเพือ่ สังคมที่ เข้ามาแก้ปญ ั หาผูส้ งู อายุ ผ่านวิสยั ทัศน์เฉียบคม อย่าง “คนทีอ่ ยูล่ ำ� พัง ไม่ควรจะอยูด่ ว้ ยความกลัว แต่สมควรได้รับการดูแลเช่นเดียวกับคนอื่นๆ” 15 ปี ที่ผ่านมา SCHSA เริ่มอุดมการณ์ ของพวกเขาด้วยเงินบริจาค (เท่านัน้ ) ไม่ขอรับเงิน สนับสนุนจากรัฐบาล จากนัน้ ก็ได้พฒ ั นาผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ออกมา เพือ่ สร้างรายได้ให้กบั องค์กรจนกลายเป็นธุรกิจเพือ่ สังคมสมบูรณ์แบบ ในวันนี้ บนการท�ำงานทีช่ ดั เจน คือ มุง่ ให้ผสู้ งู อายุ อยู่ดีมีสุข องค์กรมีรายได้เลี้ยงตัวเอง “ข้อดีของ SCHSA คือ เขาสามารถต่อยอด ธุรกิจออกไปได้เรือ่ ยๆ โดยจะท�ำก�ำไรหลักๆ กับ อุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน อย่าง PE Link นวัตกรรมปุ่มกดมหัศจรรย์บนรีโมตพกพาได้ คิดค่าบริการในอัตราทีเ่ ท่าๆ กับตลาด เพือ่ ขาย ให้กบั คนทีม่ กี ำ� ลังซือ้ ก�ำไรทีไ่ ด้กจ็ ะน�ำมาช่วยเหลือ ผู้สูงอายุในรูปแบบต่างๆ นอกจากรายได้ ใ นการขายสิ น ค้ า และ บริการแล้ว เขายังมีการระดมทุนทุกปี โดยให้ เด็กๆ มาขายธงวันผู้สูงอายุ เพื่อรับบริจาคเงิน เข้าสมาคม เพื่อน�ำมาช่วยเหลือและแก้ปัญหา
ย�่ำ“ฮ่องกง”ดินแดน
ผู้ประกอบการเพื่อสังคม
ในสังคม” สิง่ ที่ SE น้องใหม่มองเห็นการท�ำธุรกิจของ SCHSA คือ โมเดลการท�ำธุรกิจเพื่อสังคมที ่ เป็นจริงและประสบความส�ำเร็จ ผ่านการหารายได้ โดยการแข่งขันกับตลาดได้ตามปกติ ขณะทีเ่ ม็ดเงิน ทีเ่ ข้ามายังมีเป้าหมายชัดเจนเพือ่ แก้ปญ ั หาสังคม และสิ่งแวดล้อม อีกหนึ่งไอเดีย เป็นผลิตผลความคิดของ คนหนุ่มวัยเพียง 32 ปี “TIOSTONE” บริษัท ผลิตอิฐคอนกรีตส�ำหรับปูพนื้ ทางเดิน โดย 70% ของ วัสดุทใี่ ช้เป็นของรีไซเคิล อย่างแก้ว เศษของเหลือ จากวัสดุกอ่ สร้าง และขีเ้ ถ้า ก่อนจะน�ำเข้าสูก่ ระบวน เป็นอิฐคุณภาพที่สู้กับตลาดได้สบาย จุดแข็ง จุดขายทีส่ ำ� คัญของอิฐก้อนนีค้ อื ความสามารถ เลิศๆ อย่างการดักจับมลภาวะในอากาศ ลดมลพิษ จากการเผาไหม้เครื่องยนต์ต่างๆ ให้ลดน้อย ลงได้ แถมราคายังถูกกว่าอิฐทัว่ ไปในท้องตลาด ถึง 30% ทว่า ความส�ำเร็จของพวกเขาไม่ได้เกิดขึน้ ชั่วข้ามคืน เปิดกิจการมา 6 ปี มาคุ้มทุนเอาใน ปีที่ 5 เพราะต้องใช้เวลาพิสูจน์คุณภาพและ ความแข็งแรงของอิฐกว่าจะได้รับความเชื่อถือ ปัจจุบนั มีลกู ค้าโครงการจ�ำนวนมากเลือกใช้บริการ ของพวกเขา นอกจากนี้ยังได้รับการติดต่อจาก รัฐบาลในหลายประเทศให้น�ำขยะของประเทศ ต่างๆ มาผลิตเป็นอิฐ เช่น สิงคโปร์ ที่วิจัยจน สามารถหาสูตรผลิตอิฐจากอุจจาระของคน ในประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในการก�ำจัดของเสีย
ที่มีค่าใช้จ่ายสูงลงได้ “ธุรกิจของเขามาจากงานวิจยั ทีแ่ ปลงมาเป็น รูปธรรม ต่างจากในประเทศไทย เรามีงานวิจยั ดีๆ เยอะมาก แต่อยู่บนหิ้ง ไม่สามารถท�ำให้เป็น ธุรกิจได้ ปีแรกๆ เขาต้องต่อสูอ้ ย่างหนัก ท�ำคอนเซปต์ ใหม่ๆ คนก็ไม่รบั ไม่นา่ สนใจ จนมาโดนทีค่ อนเซปต์ นวัตกรรมลดมลพิษ บวกการพัฒนาทีไ่ ม่หยุดนิง่ น�ำมาซึ่งความส�ำเร็จของพวกเขาในวันนี้” การมาฮ่องกงครั้งนี้ยังท�ำให้ “นิพัทธ์ พงษ์” และเพื่อนค้นพบต้นแบบดีๆ กับไอเดีย “New Life Eco Tourism Farm” 1 ใน ธุรกิจเพื่อสังคมของ New Life Psychiatric Rehabilitation Association (NLPRA) องค์กร ดูแลผู้ป่วยทางจิตและผู้ที่ได้รับการบ�ำบัดแล้ว ให้มคี ณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ ี ได้รบั การฟืน้ ฟูสภาพจิตใจ พร้อมกลับไปอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างคนปกติ NLPRA แตกไลน์ ธุ ร กิ จ หลายอย่ า ง นอกจาก eco tourism แล้วยังมีอาทิ ร้านขาย ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ร้านค้าขายสินค้า พืชผัก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร้านกาแฟ บริการ รับท�ำความสะอาดสถานที่ต่างๆ บริการดูแล จัดการสถานที่ และดูแลสวน เป็นต้น โดยพนักงาน ทีด่ ำ� เนินการเรือ่ งเหล่านี้ คือเหล่า “ผูป้ ว่ ยทางจิต” “ทุกอย่างเขาคิดแบบครบวงจร สามารถ รับคนโรคจิตเพิม่ ได้ตลอดและท�ำอย่างต่อเนือ่ ง โดยหลังการบ�ำบัดเขาจะน�ำคนเหล่านี้ไปฟื้นฟู ให้ท�ำการเกษตร อยู่กับธรรมชาติ ให้ไปท�ำงาน
ธุรกิจของท่านท�ำลายสิ่งแวดล้อมบ้างไหม
ในจ� ำ นวนผลกระทบที่ ธุ ร กิ จ อาจสร้ า งให้ กั บ สั ง คม
ที่เรียกกันว่า Social Impact นั้น เรื่องของการท�ำลายสภาพ แวดล้อมทางธรรมชาติ เป็นเรือ่ งทีม่ คี วามส�ำคัญในระดับต้นๆ เลย ทีเดียวก็วา่ ได้ ดังนัน้ เจ้าของหรือผูบ้ ริหารทีต่ อ้ งการก�ำกับดูแล ธุรกิจของตนให้เป็นธุรกิจทีค่ วามรับผิดชอบต่อสังคม จึงจ�ำเป็น ที่จะต้องให้ความสนใจที่จะไม่ท�ำให้ธุรกิจของตนเอง เกิดการ สร้างมลภาวะ หรือท�ำลายสิ่งแวดล้อม ให้ดีที่สุด บทความในสัปดาห์นี้ ผมจึงอยากจะน�ำเรื่องของวิธีการ ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการด�ำเนินธุรกิจ มาเป็นสาระส�ำคัญให้ท่านผู้อ่านได้ลองน�ำไปคิดต่อ วิธกี ารทีเ่ จ้าของหรือผูบ้ ริหารธุรกิจ จะสามารถน�ำมาใช้เพือ่ ปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของตน ไม่ให้สร้างผลกระทบเสียหาย ต่อสิง่ แวดล้อม สามารถท�ำได้ไม่ยาก หากตัวเจ้าของหรือผูบ้ ริหาร เอง มีความต้องการอย่างแท้จริงทีจ่ ะสร้างธุรกิจให้เกิดความยัง่ ยืน ในระยะยาว และได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากสังคม กิจกรรมอันดับแรกสุด ทีจ่ ะต้องท�ำ ก็คอื การส�ำรวจสภาพ ปัจจุบนั ของธุรกิจ ในแง่ทเี่ กีย่ วกับผลกระทบทีจ่ ะเกิดต่อสิง่ แวดล้อม ท�ำให้อดคิดถึงวาทะของ ปีเตอร์ ดรัก๊ เกอร์ ปรมาจารย์ดา้ น การบริหารธุรกิจ ทีก่ ล่าวไว้วา่ “หากคุณไม่สามารถวัดสิง่ ใดสิง่ หนึง่ ได้ คุณก็จะไม่มีวันที่จะบริหารจัดการสิ่งนั้นได้”
การส�ำรวจสภาพปัจจุบนั ว่า ธุรกิจได้สร้างให้เกิดผลกระทบต่อ สิง่ แวดล้อมอย่างไรหรือไม่ จะท�ำให้เราได้ขอ้ มูลทีจ่ ะเป็นตัวเริม่ ต้น ทีจ่ ะน�ำไปสูก่ ารบริหารจัดการ เพือ่ ลดผลกระทบให้เหลือน้อยทีส่ ดุ ได้ วิธกี ารง่ายๆ ทีจ่ ะท�ำให้เจ้าของหรือผูบ้ ริหารธุรกิจในทุกขนาด จะสามารถตรวจประเมินสภาพปัจจุบนั ในการสร้างผลกระทบต่อ สิง่ แวดล้อมได้ ก็คอื การเดินส�ำรวจบริเวณ ของสถานประกอบการ โดยรอบด้วยตนเอง ในสไตล์แบบ วอล์ค แรลลี่ นี่แหละครับ!!! วิธีการนี้ จะให้ประโยชน์ส�ำคัญ อย่างน้อย 2 ประการ ประการแรก จะเป็นการแสดงให้ทุกคนในองค์กร ได้เห็น ความต้องการของผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่อการเอาใจใส่ ดูแลสิ่งแวดล้อมได้โดยตรง และหากเป็นความต้องการของผู้บริหารระดับสูงแล้ว ก็จะ เกิดแรงจูงใจที่จะปฏิบัติตามให้เกิดขึ้นในหมู่ของพนักงานทุกคน ได้ไม่ยากนัก ประการที่ 2 ผู้บริหารระดับสูง จะได้ประเมินตนเองว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ที่เป็นผลการกระท�ำจากธุรกิจของตนนั้น มีระดับ ความรุนแรงแค่ไหน เมือ่ เปรียบเทียบกับธุรกิจอืน่ ๆ ทีต่ นเองเคย ได้เห็นหรือได้ยินได้ฟังมา ท�ำให้สามารถมองเห็นภาพคร่าวๆ ของขีดความสามารถ
ในการแข่งขันของธุรกิจของตนเองได้ในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งอาจ ท�ำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นต่อการวางกลยุทธ์ นโยบาย และ วิสัยทัศน์ ให้กับธุรกิจในระยะยาวได้อย่างถูกต้องแม่นย�ำ การกระท�ำที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ การปฏิบัติงานที่ขาดประสิทธิภาพ มักจะเกิดขึ้นจากความ ไม่ระมัดระวัง ขาดการเอาใจใส่ ละเลย หรือ ย่อหย่อน ทีส่ ามารถ มองเห็นหรือสังเกตได้ง่ายๆ และสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยการปรับนิสัยหรือสภาพการท�ำงาน ให้ดีขึ้น และที่ส�ำคัญที่สุดก็คือ ผู้ที่รู้ดีที่สุดว่า เกิดการกระท�ำอะไร ที่จะไม่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ก็มักจะเป็นพนักงานที่ท�ำงาน หรือปฏิบัติงานในด้านนั้นๆ เอง นั่นแหละ ในการเดินส�ำรวจบริเวณสถานประกอบการนี้ ผู้บริหาร ระดับสูง จะต้องสังเกต หรือพูดคุยสอบถามพนักงานเกี่ยวกับ ปัจจัยส�ำคัญอย่างน้อย 4 ด้าน ได้แก่ 1) การปล่อยมลภาวะ หรือ ของเสียออกจากสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ก๊าซ ควัน ฝุ่น ละออง หรือ น�้ำเสีย น�้ำทิ้ง ว่ามีการดูแลอย่างไร ปล่อยอย่างไร ปล่อยออกไปทีไ่ หน สร้างความ เดือดร้อนร�ำคาญให้ใครบ้างหรือไม่ 2) ของเสียจากการผลิต ไม่ว่าจะเป็น เศษชิ้นส่วนเหลือใช้ จากการผลิต สินค้าทีผ่ ลิตแล้วไม่ได้คณ ุ ภาพ สินค้าหรือวัตถุดบิ ที่
ในร้านกาแฟ ร้านขายสินค้าออร์แกนิค จนครบปี ก่อนจะให้ออกไปสมัครงานทีอ่ นื่ เพือ่ หมุนเวียน คนใหม่ๆ เข้ามาแทน หน้าที่ของเขาคือ เตรียม คนให้พร้อมส�ำหรับออกสู่สังคม” ไอเดียต่างๆ เหล่า นีเ้ ป็นเพียงส่วนหนึง่ ของ กิจการที่พวกเขาได้เข้าไปสัมผัส “นิพัทธ์พงษ์” สรุปปัจจัยแห่งความส�ำเร็จของผู้ประกอบการ SE ในฮ่องกงให้ฟงั ว่า คือการท�ำกิจการทีแ่ ข่งขัน กับตลาดได้ และมีคนท�ำงานทีเ่ ป็นตัวจริงเกาะติด ไปในพื้นที่ โดยพวกเขาจะกลับไปพัฒนาธุรกิจ ของตัวเองให้ดขี นึ้ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเพือ่ สังคมให้สามารถแข่งขันกับตลาด ตามต้นแบบ “ฮ่องกง” “เราต้องท�ำสินค้าและบริการทีด่ ี สามารถ แข่งขันในตลาดได้ นีเ่ ป็นหัวใจของการท�ำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทั่วไปหรือธุรกิจเพื่อสังคม ยิง่ ถ้าสินค้าและบริการของเราไปช่วยเหลือสังคม ได้ ก็จะยิ่งท�ำให้เราเหนือกว่าคู่แข่ง นอกจากนี้ เราต้องให้ความส�ำคัญกับ คนท�ำงาน โดยเฉพาะคนในท้องที่ ต้องให้บทบาท เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก เพราะเขาคือคนที่ รู้จักพื้นที่ดีที่สุด เมื่อนั้นธุรกิจก็มีโอกาสเติบโต ได้เต็มที่” ส�ำหรับ “นิพทั ธ์พงษ์” เขามีความคิดคล้อยตาม นักการตลาดและผูน้ ำ� ความคิดหลายท่านทีเ่ ชือ่ ว่า ธุรกิจเพื่อสังคมคือ “อนาคตของโลก” โดยขอเริม่ ทีส่ องมือเล็กๆ ผลักดันให้ธรุ กิจ เพื่อสังคมเติบใหญ่ งอกงาม
แตกหักเสียหายระหว่างการผลิต หรือ วัสดุไม่ใช้แต่เก็บทิง้ หรือเก็บกอง อยูใ่ นบริเวณท�ำงาน ของเสียเหล่านี้ อาจเป็นสิง่ ทีเ่ ป็นภาระต่อกิจการ ที่ต้องน�ำไปก�ำจัดทิ้งโดยไม่จ�ำเป็นก็ได้ 3) การใช้น�้ำส�ำหรับการผลิต หรือน�้ำใช้ส�ำหรับพนักงาน ดูว่า มีการรัว่ ไหล การปล่อยทิง้ รอยหยด หรือ การใช้ทมี่ ปี ริมาณฟุม่ เฟือย เกินความจ�ำเป็นหรือไม่ 4) การใช้พลังงานต่างๆ เช่น ไฟฟ้า เชือ้ เพลิง ไอน�ำ ้ เครือ่ งปรับอากาศ ฯลฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เครือ่ งจักรอุปกรณ์ตา่ งๆ อยู่ ในสภาพการท�ำงานทีเ่ หมาะสมหรือไม่ เครือ่ งจักรทีเ่ ก่าเกินไป หรือ ไม่ได้รบั การดูแลบ�ำรุงรักษาทีเ่ พียงพอ อาจท�ำให้เกิดการสิน้ เปลือง พลังงานได้มากกว่าการพิจารณาลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ การเดินส�ำรวจ เป็นวิธกี ารง่ายทีส่ ดุ เหมาะส�ำหรับการเริม่ ต้น ในการด�ำเนินมาตรการลดผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมได้เป็นอย่างดี ข้อแนะน�ำเพิม่ เติม หากต้องการน�ำวิธกี ารนีม้ าใช้ ก็คอื ผูบ้ ริหาร ระดับสูง จะต้องพยายามสัมภาษณ์หรือพูดคุยกับพนักงานทีเ่ กีย่ วข้อง ให้มากทีส่ ดุ ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งของความเห็นว่า สิง่ ใดทีเ่ ป็น หรือ อาจเป็น สิ่งที่มีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิธีการที่ พนักงานเห็นว่าจะสามารถใช้แก้ไขได้ นอกจากนี้ ยังอาจต้องเดินส�ำรวจมากกว่า 1 รอบ โดยเลือกเวลา ให้ช่วงต่างๆ แตกต่างกันออกไป สิง่ ทีไ่ ด้รบั จะสามารถน�ำมาเป็นต้นแบบของนโยบายและเป้าหมาย ในระดับองค์กร และแบ่งส่วนรับผิดชอบให้แผนกหรือฝ่ายต่างๆ น�ำไป ปฏิบตั ติ อ่ ไป น�ำไปสูก่ ารเป็นธุรกิจทีแ่ ข็งแกร่งและมีความรับผิดชอบ ต่อสังคมได้อย่างเต็มภาคภูม ิ
5
Rich&Risk
วันที่ 25 เมษายน 2554
จะเป็นอย่างไร
พวกเขาเป็นคนต่างถิ่น แต่ไม่ได้ท�ำตัว “แปลกหน้า” ส�ำหรับ คนที่นี่ อดทนใช้เวลา ถึง 3 ปีเต็ม บ่มเพาะ ความฝัน ก่อร่าง สร้างธุรกิจก้าวต่อก้าว เพื่อเป็นผู้ประกอบการ น�้ำดี ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ “เชียงคาน”
เมื่อมีกฎหมายแฟรนไชส์ ? เมือ่ เดือนมีนาคมทีผ่ า่ นมา มีการประชุมเรือ่ งกฎหมายแฟรนไชส์
“สังขยาคุณแม่” ณัชชา วิลาวัณย์
จีราวัฒน์ คงแก้ว
ณัฐวิทย์ ณ นคร
ผลผลิต...นักฝันพันธุ์แกร่ง ห้องแถวแนวฮิพ ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเนิบช้า... นี้ เพราะมันสามารถเชื่อมกับตลาดสดและขนส่งได้ ขนมปังสังขยา เมนูที่อาจดูพื้นๆ แต่ส�ำหรับ ของการท�ำธุรกิจ” เรียกว่าใครมาเชียงคานก็ต้องผ่านซอยนี้เกือบจะ ทุกคน” แม้จะมองเห็นโอกาสอยูต่ รงหน้า แต่พวกเขาก็ ไม่ได้บมุ่ บ่าม หากเลือกทีจ่ ะใช้เวลาไปกับการเรียนรู้ และสร้างความกลมกลืนเป็นเนือ้ เดียวกับคนเมืองนี้ ก่อน เวลา 3 ปีเต็มจึงหมดไปกับการ “บ่มเพาะธุรกิจ” เริม่ จากจากการเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองหลวง กับเชียงคาน ก่อนจะค่อยๆ ลงเงินตกแต่งร้าน ลง ไอเดียท�ำธุรกิจ แล้วธุรกิจไหนล่ะ! ที่จะสร้างอนาคตและความ ยั่งยืนให้กับนักฝันอย่างพวกเขา “พอดีคุณแม่ของแฟน (ณภัค วิลาวัณย์) ท�ำ เบเกอรีอ่ ยูแ่ ล้ว แต่ถา้ จะท�ำเบเกอรีไ่ ปเลยเราก็มองว่า อีกไม่กี่ปี ก็ต้องมีคู่แข่ง ก็เลยมาคิดใหม่ เลือกสินค้า ทีจ่ ะเป็นพระเอกแค่ตวั เดียว แล้วท�ำให้มนั ชัดเจนไป เลย นี่คือที่มาของ ขนมปังสังขยา”
Key to Success
“เชียงคาน” คือที่ตั้งของร้านขนมปังชื่อแสนอบอุ่น “สังขยาคุณแม่” ผลิตผลจากความฝัน ของสองคูร่ กั คน เมือง “ณัฐวิทย์ ณ นคร” และ “ณัชชา วิลาวัณย์” พวกเขามีฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ และ เลือกเมือง “เชียงคาน” พิสจู น์ความมุง่ มัน่ ในครัง้ นี.้ .. การตัดสินใจออกจากวิถีของมนุษย์เงินเดือน เดินสู่ถนนผู้ประกอบการแบบเต็มตัวในวัยเพียง 30 ต้นๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นี่คือการเดินตามแผนที่ ชีวิต ที่พวกเขาเขียนขึ้นมาเองด้วยความระมัดระวัง ตั้งแต่ต้น จุดที่ยืนหยัดในวันนี้จึงเรียกได้ว่าเป็น ดอกผลของความฝัน “ตัง้ ใจไว้กว่าสิบปีแล้วว่าอยากเป็นผูป้ ระกอบการ อยากเกษียณตัวเองตั้งแต่วัยสามสิบต้นๆ นี่ อาจเรียกได้ว่าช้าไปด้วยซ�้ำ แต่มันเป็นการสั่งสมทั้ง ประสบการณ์และก�ำลังเงินที่พอมี เริ่มท�ำธุรกิจของ เราเอง ไม่กู้ แต่ใช้ทนุ ทีม่ อี ยู่ ท�ำตามก�ำลังทรัพย์ แบบ ค่อยเป็นค่อยไป” คนล่าฝันเล่า และด้วยความทีร่ กั การท่องเทีย่ ว ชอบเดินทาง เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท�ำให้เมื่อ 3 ปี ก่อน ทั้งคู่ได้มี โอกาสแวะมาเยี่ยมเมือง “เชียงคาน” จุดหมายที่ นักท่องเที่ยวทั้งหลายอยากมาเยือน หากแต่ในวันนั้น “เชียงคาน” ก็ยังเป็นเพียง เมืองเล็กๆ เงียบสงบ ไม่ได้ครึกครื้นอย่างทุกวันนี้ “เรามาที่นี่เมื่อ 3 ปีก่อน วันนั้นเชียงคานมี ร้านค้าต่างถิ่นอยู่แค่ร้านเดียว ร้านคนท้องถิ่นก็ เพิ่งเข้ามา แต่ด้วยความที่ชอบท่องเที่ยวท�ำให้ได้ กลิ่นว่าที่นี่ผืนดินอันสงบเงียบแห่งนี้ ก�ำลังจะกลาย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในไม่ช้า” ท�ำให้พวกเขาตัดสินใจซือ้ ห้องแถวหลังหนึง่ ใน ราคา 7 แสน แม้ทไี่ ม่ได้ตดิ ริมน�ำ้ โขง แต่ทตี่ งั้ เชียงคาน ซอย 9 ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกท�ำเลทองของที่นี่ “ราคาทีร่ มิ โขงเราคงจับต้องไม่ได้ ก็มามองเส้น
สูตรธุรกิจ “สังขยาคุณแม่” • ท�ำธุรกิจอย่างระมัดระวังไม่บมุ่ บ่าม • ฝีมือต้องดี ใช้ของมีคุณภาพ • เลือกท�ำเลดี • บริการใกล้ชิด • ท�ำงานเป็นทีมเวิร์ค • ผสานมุมคิดคนรุน่ เก่า-ใหม่ได้ลงตัว • เป็นผู้ประกอบการที่ดี สร้างมิตร ไม่สร้างศัตรู
พวกเขามันคือสินค้าทีม่ โี อกาส เพราะเข้าถึงคนได้งา่ ย ทุกเพศทุกวัย เรียกว่าไล่กนั ตั้งแต่ เด็กเล็ก เด็กแนว ไปจนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงวัย แม้จะหาเมนูที่เป็นพระเอกตัวจริงได้ แต่ใช่ ว่าจะเริ่มท�ำกันได้ง่ายๆ พวกเขาต้องตระเวนไป ในหลายๆ ที่ เพื่อลิ้มชิมรส ขนมปังรสเด็ด ซึมซับ จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละที่ ก่อนจะมาผลิตขนมปัง สังขยาคุณภาพดีของตัวเอง ที่ผสมผสานความคิด และฝีมอื ของคนสองรุน่ ระหว่างคุณแม่ฝีมอื เก๋ากับ นักฝันรุ่นใหม่ ที่คอยใส่ความเห็นให้ขนมปังสังขยา เป็นที่ “ถูกใจ” จนต้องคลิก Like ไม่หวานจนเกินไป แพ็คเกจจิ้งดี ซื้อกลับไป เป็นของฝากได้ ส่วนชื่อ “สังขยาคุณแม่” ต้องยก เครดิตให้ “คุณแม่ ณภัค” ต้นต�ำรับสูตรเบเกอรี่ ของร้านนี้ ส่วนสไตล์การตกแต่งร้าน ณัฐวิทย์บอกว่า ร้านสังขยาคุณแม่ มีโต๊ะแค่สี่โต๊ะ ส�ำหรับคนที่อยาก นั่งทานในร้าน ทั้งที่ถ้าจะจัดหนัก สามารถเพิ่มโต๊ะ ได้มากถึงเจ็ดโต๊ะ แต่ส�ำหรับเขาไม่ต้องการให้ บรรยากาศในร้านดูแออัดจนเกินไป ไม่นิยมติดรูป ดาราเพื่อโปรโมตร้านเพราะเชื่อว่าถ้าของดีจริงคน จะตามมาเอง “นักฝันอารมณ์ติสท์” บอก และถ้าจะคิดต่อยอดธุรกิจ ร้านขนมปังสังขยา ยังท�ำอะไรต่อได้อีกมาก แต่สิ่งที่พวกเขาคิดคือ ต้องขายในสิง่ ทีร่ า้ นเพือ่ นบ้านไม่ขาย เพราะอยากท�ำ ธุรกิจแบบ “มีมติ ร” มากกว่า “ศัตรู” นัน่ คือเหตุผลที่ ร้านสังขยาคุณแม่เลือกทีจ่ ะขายกาแฟโบราณและชา แทนกาแฟสดที่เพื่อนบ้านขายอยู่ “การท�ำร้านที่มีแต่การแข่งขัน ท�ำแล้วไม่มี ความสุข เราอยากมีความสุขจึงเลือกมาที่นี่ อยาก มีเพื่อนบ้านที่ดี ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็เพื่อน จึงเลือกที่ จะคิดและท�ำอย่างนี้ เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้การเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่ได้ สร้างความแปลกปลอมให้กับพวกเขา ที่เลือกอยู่ อย่างมิตร และยังร่วมอนุรักษ์เชียงคาน ให้เป็น เมืองเนิบช้าเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น คงความเป็น บ้านเก่า ไม้เก่า และบรรยากาศเก่าๆ ไว้ให้มากที่สุด เหมือนกับเพื่อนผู้ประกอบการเชียงคานหลายราย ที่ตั้งมั่นแบบเดียวกับเขา เพราะไม่ต้องการให้เมือง เรียบง่าย ต้องกลายเป็นเมือง “สุดช�้ำ” ไม่ว่าจะด้วย ความจงใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ณัฐวิทย์บอกว่า เงินลงทุนเริม่ ต้นทัง้ ค่าบ้านและ ค่าแต่งร้านอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท วันนี้งอกเงย เป็นรายได้ “หลักแสน” ต่อเดือน แตกบริการไป ท�ำขนมส่งตามที่พักในเชียงคาน แม้เงินที่เข้ามาจะ หมุนออกไปเป็นต้นทุนการผลิตสินค้า แต่เขา เชือ่ ว่าการขับเคลือ่ นธุรกิจด้วยความระมัดระวังและ อยู่อย่างมิตรที่ดี จะท�ำให้สังขยาคุณแม่อยู่คู่เมือง เชียงคานไปอีกนาน ส�ำหรับคนที่คิดตามความฝัน ไม่ว่าฝันจะท�ำ อะไรก็ตาม ณัฐวิทย์บอกว่า จงอย่าหุนหันพลันแล่น ต้องยอมเหนือ่ ยก่อน บ่มเพาะตัวเองให้เต็มที่ ก่อนจะ พิชิตความฝัน “หลายคนอาจอยากมาตามหาความฝันแบบ นี้บ้าง แต่มันไม่ง่ายนะ บางคนต้องเอาความฝันมา ทิ้งไว้ที่นี่ กลายเป็นซากปรักหักพังในดินแดน ที่ตัวเองฝันไว้ เพราะท�ำการบ้านไม่เสร็จ ไม่รู้ ด้วยซ�้ำว่าที่นี่คือค�ำตอบที่ตามหาจริงหรือเปล่า สุดท้ายก็พ่ายแพ้ พวกเราเองก็ไม่รหู้ รอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ทมี่ นั่ ใจเพราะใช้เวลาบ่มเพาะตัวเองมาระยะหนึง่ แล้ว กว่าจะเทใจให้อย่างเต็มที่” .........และแล้วดักแด้ ก็กลายเป็นผีเสื้อ แสนสวย
โดยมีการเชิญคนในวงการมาร่วมออกความเห็น ที่กรมพัฒนา ธุรกิจการค้า ตามที่เคยสัญญาไว้กับท่านผู้อ่านไว้ว่าจะติดตาม ความคืบหน้ามาเล่าให้ฟัง วันนี้ก็มาตามที่พูดเอาไว้ ร่างกฎหมายแฟรนไชส์ยาวยืดมากๆ ถ้าเอามาเขียนให้อ่าน ต้องเวียนเศียรไปตามๆ กัน เราก็เลยสรุปให้ฟังดีกว่าว่า มีเรื่อง เกี่ยวกับอะไรมั่ง ใครขายแฟรนไชส์ ต้องตีทะเบียน เรื่องแรก ที่คนชอบสงสัยกันว่า ถ้าท�ำแฟรนไชส์ต้องมีการ จดทะเบียนมัย้ หลายคนเข้าใจผิดว่าตอนนีม้ กี ฎหมายแฟรนไชส์ แล้ว แต่ทจี่ ริงก็คอื ยังไม่มี แต่ถา้ กฎหมายนี้ ผ่านสภาอรหันต์มา ได้ ที่แน่ๆ คือก็จะมีการบังคับว่า ทุกคนที่มีขายแฟรนไชส์ ต้อง เข้าระบบจดทะเบียนตามกฎหมายนี้ ท�ำไม่ล่ะ ? ค�ำถามนี้ต้องตามมาแน่ ก็เพราะ เขาคิดกันว่า ประโยชน์ของกฎหมายนี้ จะช่วยจัด ระเบียบธุรกิจแฟรนไชส์ในบ้านเรา คุม้ ครอง ไม่ให้มกี ารโฆษณา เกินจริงเพื่อขายแฟรนไชส์ และจะช่วยคุ้มครองบริษัทที่ขาย แฟรนไชส์ ไม่ให้ถูกผู้ที่ซื้อโกงเอาข้อมูลการค้าไปเปิดเผยนะซิ จดเรื่องอะไรมั่ง จะเริม่ ตัง้ แต่ คุณสมบัตขิ องกิจการทีจ่ ะมาจดทะเบียน ไม่ใช่ จดกันง่ายๆ นะคู้ณ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็มาจดทะเบียนได้นะ ต้องมี ลักษณะกิจการครบ สมบูรณ์ คู่ควรกับการเป็นผู้ขายแฟรนไชส์ เช่น มีคู่มือการปฏิบัติงาน มีแผนการด�ำเนินธุรกิจ และราย ละเอียดอื่นๆ อีกหลายอย่าง ที่เล่ากันไม่หมดในวันนี้ ใครเป็นคนตัดสิน? จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ที่อาจจะมีชื่อเรียกว่า “คณะกรรมการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์” ที่เฟ้นมาจากภาค ราชการและเอกชน ที่เป็น กูรู กูรู้ ช�ำนาญเรื่องของแฟรนไชส์กัน รวมแล้ว 13 คน ตรงกับเลขอาถรรพ์ของฝรั่งพอดีเป๊ะเลย คณะ 13 ที่ว่านี้ก็จะมีภาระหน้าที่เสนอหน้า เสนอมาตรการก�ำกับดูแล หรือสนับสนุนวงการแฟรนไชส์ ต่อรัฐมนตรี เพือ่ ออกกฎระเบียบ ต่างๆ ขึน้ มา แล้วก็จะมีสำ� นักงานคณะกรรมการขึน้ มาเพือ่ ท�ำหน้าที่ เป็นเซ็นเตอร์รองรับอะไรต่อมิอะไร ในเรื่องของแฟรนไชส์ เช่น จดทะเบียนเอย รับเรื่องร้องเรียนเอย ท�ำหน้าที่ไกล่เกลี่ยเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้ง ในเรื่องของแฟรนไชส์ เป็นต้น ข้อบังคับ บรรดาแฟรนไชส์คืออะไร ? เรื่องที่เค้าโฟกัสกัน แบ่งเป็น 2 พวก คือ พวกแฟรนไชส์ แฟรนไชส์ซอร์ หรือบริษัทที่ขายแฟรนไชส์ จุดโฟกัสอยู่ที่ ใครที่ขายแฟรนไชส์ จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูล ของบริษทั ทีข่ ายแฟรนไชส์ (รายละเอียดจะเป็นยังไง จะถอดรหัส มาชีแ้ จงให้ฟงั กันวันหลัง) ส่วนตัวสัญญาก็จะต้องมีหวั ข้อเป็นไป ตามแบบฟอร์มของกฎหมาย ไม่เช่นนัน้ ก็อาจจะใช้ไม่ได้ หรือเรือ่ ง ของพืน้ ทีถ่ า้ มีการขายแฟรนไชส์ถนิ่ ไหนให้ใครไปแล้วห้ามมีการ มาเปิดอีกทับเส้นกันอีก (ข้อนี้ถ้ามีการบังคับเป็นกฎหมายจริง เรื่องใหญ่นะเนี่ย) ส�ำหรับ พวกแฟรนไชซี่ หรือผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไป จุดโฟกัส ก็อยูต่ รงที่ ห้ามเอาความลับทางการค้าไปบอกคนอืน่ เพราะจุดนี้ เขามองกันว่า คนทีซ่ อื้ แฟรนไชส์ถ้าเอาเรื่องข้างในไปบอกคนอื่น จะท�ำให้ธรุ กิจของบริษทั แม่เสียหายมากมาย จึงอยากจะคุม้ ครอง คนขายแฟรนไชส์ที่จุดนี้ ถ้าไม่ท�ำตามจะเป็นยังไง ? ก็คุก นะซิคู้ณ เพราะเขาจะมีก�ำหนดบทลงโทษกันเอาไว้ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา รวมทั้งไม่ให้เวียนเทียนมาขาย แฟรนไชส์ได้อีก น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ที่ว่าทั้งหมดนี้อย่าเพิ่งอึดจื้บ ว่าเอาจริงแล้ว ตอนนี้ เป็นแค่การร่างกฎหมายที่อาจจะใช้ในอนาคต อันใกล้ หรือ อันไกลก็ไม่มใี ครรูไ้ ด้ เพราะเรือ่ งกฎหมายแฟรนไชส์นี่ มีการ ร่างไปร่างมา ไม่ต�่ำกว่า 4 ปีแล้วละ แต่ถ้าเกิดแหกโค้งออกมา ใช้จริงละก็ตัวใครตัวมันนะคู้ณ สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟรนไชส์และการตลาด ต้องการแชร์ความรู้ข้อเสนอแนะ หรือสอบถามสิ่งใด เกี่ยวกับแฟรนไชส์ ติดต่อได้ที่fcfocus@gmail.com
ถึงเวลา...เปลี่ยน หัวหน้าและผู้จัดการ ให้เป็น “Coach” ปัญหาหลักๆ และปัญหาเดิมๆ ของบรรดา หัวหน้า และ Coach ย่อมปราศจากทักษะทีจ่ ะแก้ปญั หาให้กบั ทีมงาน ปราศจาก ขัน้ ตอนแรกแล้ว.....ให้ผบู้ ริหารระดับสูง (ยิง่ สูงสุดได้ยงิ่ ดี ถ้ามีเวลานะ)
ผู้จัดการ ที่พบได้แทบทุกองค์กร ก็คือ ปัญหาในเรื่องการบริหาร ทีมงานที่เป็นลูกน้องของตัวเอง และสาเหตุหลักๆ ก็มักจะหนีไม่ พ้นในเรื่องภาวะผู้น�ำ เรื่องการสื่อสาร และการขาดความเข้าใจ ความแตกต่างของลูกน้องแต่ละคน โดยเน้น “บริหารแบบเหมารวม แบบส�ำเร็จรูป ไปจนถึงแบบ ท�ำตามอ�ำเภอใจของตัวเอง” ! เพราะฉะนัน้ ......ถึงเวลาทีจ่ ะต้องเปลีย่ น “หัวหน้า” และ “ผูจ้ ดั การ” ทั้งหลายได้แล้วครับ ! (อย่าเพิ่งตกใจ ไม่ได้ให้เปลี่ยนโดยการเอาคน อื่นมาแทน แต่หมายถึง เปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการบริหารทีม !) แล้วท�ำไมต้องเปลี่ยน หัวหน้าและผู้จัดการให้เป็น Coach ? ค�ำตอบ ก็คือ ...... 1.ลูกน้อง ไม่ตอ้ งการคนมาเป็น “หัวหน้า”(และเจ้านาย) แต่ ต้องการ คนที่มาเป็น “ผู้น�ำ” ที่มีศักยภาพในการน�ำ ไม่ใช่ผู้น�ำที่มี ต�ำแหน่งแต่ปราศจาก ศักยภาพที่ควรจะมี ! 2.หัวหน้า และ ผูจ้ ดั การ ยุคใหม่ ทีป่ ราศจากทักษะของการเป็น
ทักษะในการหลอมรวมทีมให้ไปสูเ่ ป้าหมายเดียวกัน ปราศจากทักษะ การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ (เพราะบางคน มีพรสวรรค์อย่างมากใน การสื่อสารแล้วสร้างปัญหาให้กับทีมงานและหน่วยงานทั้งแบบตั้งใจ และไม่ตงั้ ใจ) และยังปราศจากทักษะในการดึงศักยภาพของทีมงาน แต่ละคนให้เปล่งศักยภาพให้มากทีส่ ดุ ในสภาวะทีม่ ขี อ้ จ�ำกัดหรือมี โอกาส แค่ 2 เหตุผล ก็นา่ จะเพียงพอทีต่ อ้ งเปลีย่ น หัวหน้าและผูจ้ ดั การ ให้เป็น Coach ได้แล้ว และถ้าจะเปลี่ยนจะเริ่มต้นอย่างไร ? ไม่ยาก อย่างที่คิดหรอกครับ ขัน้ ตอนแรก ให้เลิกหวังลมๆ แล้งๆ ว่า หาหนังสือมาอ่านสักเล่ม สองเล่ม หรือ ฝึกอบรมให้กับบรรดา หัวหน้าและผู้จัดการซัก 1 วัน แล้วหัวหน้าเหล่านั้นจะกลายเป็น Coach ที่มีศักยภาพได้ทันที ! (ถ้าง่ายแบบนี้ Coach คงเดินชนกันเต็มบ้านเต็มเมืองไปแล้วละครับ !) ขั้นตอนที่สอง....เมื่อตาสว่างเลิกหวังตามค�ำแนะน�ำใน
ลงมาเล่นเอง ลงมาชี้แนะ ฝึกฝน บรรดา หัวหน้าและผู้จัดการ ทั้งหลาย ให้เรียนรู้ แนวทางการ เป็นผู้น�ำทีมในยุคปัจจุบันที่ต้อง มีความเป็น Coach มีอะไรบ้าง เช่น การสื่อสารกับทีมงานอย่าง สร้างสรรค์ ต้องท�ำอย่างไร การวิเคราะห์ ทีมงานและแยกแยะให้ได้ว่าทีมงานมีกี่ระดับ และ แต่ละระดับ จะต้อง ซ่อม หรือจะต้องสร้างอย่างไร เป็นต้น..... แต่ถ้าเกิด ผู้บริหารระดับสูงไม่มีเวลาที่จะท�ำ หรือไม่คุ้มที่จะท�ำเอง ก็ไปขั้นตอนถัดไป... ขั้นตอนที่สาม.....หาคนที่ มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาท�ำ (ซึ่งปัจจุบันก็มีจ�ำนวนไม่น้อย ลองไปคัดเลือก สรรหามีให้เลือก เยอะครับ) ให้เวลาท�ำเป็นโครงการน�ำร่อง จะกี่สัปดาห์ หรือ กี่เดือน ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เหลือก็รอลุ้นผล ว่าคนของ ท่าน.....พร้อมที่จะเป็น ทั้ง ผู้น�ำที่เก่งและเป็น Coach ที่มีศักยภาพ หรือไม่ !
ลองพิ จ ารณาดู น ะครั บ ว่ า ขั้ น ตอนใดที่ เ หมาะสมกั บ ท่ า น (ขอย�ำ้ ว่าให้กลับไปอ่านขัน้ ตอนแรกอีกครัง้ !) แต่ถ้าท่านคิดว่าบรรดา “หัวหน้าและผู้จัดการ” ของท่าน ไม่มีปัญหาอะไร และมีศักยภาพที่ ดี ก็ถือว่าท่านเป็นผู้บริหารที่ทั้งเก่งและโชคดี แต่ถ้าท่านมี “หัวหน้า และผู้จัดการ” ที่สร้างแต่ปัญหา และยังคงปล่อยไว้...ก็ขอแนะน�ำ ให้หมั่นท�ำบุญควบคู่กับท�ำใจ...เพราะหัวหน้าและผู้จัดการที่ไม่มี ศักยภาพ คือ กลุ่มผู้น�ำชั้นยอดที่จะน�ำองค์กรไปสู่หายนะ ! ธีระพล แซ่ตั้ง นักการตลาด รอบรู้เป็นพิเศษ ในการก�ำหนดกลยุทธ์การตลาด การขาย การสื่อสาร ผ่านโทรศัพท์ ปัจจุบันด�ำรงต�ำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทเทเลมาร์เก็ตติ้ง สแทร็ททิจี คอมมิวนิเคชั่น e-mail : tsctheone_t@hotmail.com www.thespecialistcoach.com
6
วันที่ 25 เมษายน 2554
“ผมมองว่าเม็ดเงินต่างชาติจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้น Emerging Markets รวมทั้งไทยในช่วงนี้ แนวโน้มเดือนพ.ค.-มิ.ย.ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงเพราะยังอยู่ ในช่วง Pre-Election และ SET น่าจะมีโอกาสท�ำ New High ของปีได้อีก แต่ที่ต้องระวังก็คือ แรงเทขายหลังการเลือกตั้ง สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เพราะครั้งที่แล้ว (เมื่อปี 2004) ในช่วง 6 เดือนก่อน Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นไทยปรับลงถึง 17%” ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้
จับตา...‘วิศวะจุฬาฯ’
หุ้นปันผลคืออะไร
นักลงทุนหลายท่านถามกันมากถึง “หุน้ ปันผล” และ “เงินปันผล” ต่างกัน
อย่างไร แน่นอนครับต้องมีความต่างกันอย่างน้อยเราก็เรียกต่างกันแล้ว เงินปันผล คือ เงินส่วนแบ่งทีบ่ ริษทั จ่ายให้กบั ผูถ้ อื หุน้ บริษทั ภายหลังผลประกอบการมีกำ� ไร ในรอบ 12 เดือนก็ไม่แตกต่างจากการที่เราลงทุนร่วมกับเพื่อนๆ ของเราให้ธุรกิจ อะไรก็ตาม ทุก 6 เดือนหรือ 12 เดือนเราก็คงต้องดูวา่ ค้าขายก�ำไร-ขาดทุนอย่างไร แล้วจะแบ่งก�ำไรออกมาเท่าไรเพื่อให้เพื่อนร่วมทุนกันอีกส่วนกันไว้ส�ำหรับขยาย กิจการธุรกิจต่อไป ดังนั้น เงินสดจะถูกดึงออกจากบริษัท หรือสินทรัพย์เงินสดของบริษัท ลดลงนัน่ เองจึงเป็นเหตุผลว่า เมือ่ หุน้ ขึน้ เครือ่ งหมาย XD (หมายความว่าผูซ้ อื้ หุน้ บริษทั นีใ้ นวันนีจ้ ะไม่ได้รบั เงินปันผลแล้วนะ) ราคาหุน้ ในกระดานซือ้ ขายจะปรับตัว ลงเท่ากับเงินปันผลทีป่ ระกาศจ่ายจากบริษทั ดังนัน้ ไม่ตอ้ งแปลกใจว่า ท�ำไมดัชนี ตลาดหุน้ ไทยมักปรับตัวลงในเดือนทีม่ กี ารขึน้ เครือ่ งหมาย XD ชุกอย่างเช่นเดือน เมษายน-พฤษภาคม และเดือนกันยายนของทุกปีครับ แล้วหุน้ ปันผลล่ะคืออะไร หุน้ ปันผล คือ การเพิม่ จ�ำนวนหุน้ ของบริษทั ให้สงู ขึน้ โดยทีง่ บการเงินของบริษทั ไม่ได้กระทบจากสินทรัพย์-หนีส้ นิ -เงินทุนทีเ่ พิม่ ขึน้ หรือ ลดลง ดังนั้น มูลค่าของบริษัทเท่าเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ ส่วนแบ่งของผู้ถือหุ้น เพิม่ ขึน้ ดังนัน้ มูลค่าของบริษทั ต่อหุน้ จะลดลงจากตัวหารมากขึน้ วัตถุประสงค์ของ การออกหุ้นปันผลก็เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องของหุ้นในการซื้อขายให้เพิ่มขึ้น เพื่อสะดวกต่อการซื้อขายของนักลงทุนนั่นเอง ตัวอย่างแรก บริษัท ก มีสินทรัพย์รวม 180 ล้านบาท มีหุ้นทั้งหมด 180 ล้านหุน้ มูลค่าบัญชีตอ่ หุน้ คือ 1 บาทนัน่ เอง (180/180 =1) แต่เมือ่ บริษทั ประกาศ จ่ายหุ้นปันผล 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ดังนั้นมูลค่าบัญชีต่อหุ้น คือ 0.67 บาท (180/180+90 = 0.67) หรือ หมายถึง เค้กก้อนเท่าเดิม แต่ตัวหารมากขึ้น ดังนั้น เค้กก้อนเล็กลงนั่นเอง ตัวอย่างสอง บริษทั ก มีสนิ ทรัพย์รวม 180 ล้านบาท หุน้ ทัง้ หมด 180 ล้านหุน้ มีการจ่ายเงินปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น พร้อมกับจ่ายหุ้นปันผลอีกอัตรา 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ดังนั้นมูลค่าบัญชีต่อหุ้นคือ 0.60 บาทนั่นเอง (เงินปันผลที่บริษัท จ่ายออกเท่ากับ 18 ล้านบาท สินทรัพย์ลดลงเหลือ 162 ล้านบาท และ 162/270 เท่ากับ 0.60 บาท) ดังนัน้ ไม่ตอ้ งตกใจไปหากราคาหุน้ ในกระดานซือ้ ขายจะปรับลดลงค่อนข้างมาก หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้วเพราะราคาหุ้นจะปรับลด ตามการค�ำนวณที่เราให้ไว้เป็นตัวอย่างข้างต้นตามสูตรค�ำนวณ คือ (ราคาหุ้นปิด วันสุดท้ายก่อนเครื่องหมาย XD-เงินปันผลต่อหุ้น)/จ�ำนวนหุ้นเดิมรวมจ�ำนวนหุ้น ปันผลใหม่ สิง่ ทีน่ กั ลงทุนควรให้ความสนใจคือ ทิศทางธุรกิจ รายได้ และก�ำไรของ บริษัทจดทะเบียนจะเป็นอย่างไรในอีก 1-3 ปีถัดไปเพื่อสามารถประเมินราคาหุ้น ที่เหมาะสมได้ถูกต้องครับ
ประวัติศาสตร์ ‘CEO ปตท.’ ทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่ ทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์, อาณัติ อาภาภิรม, เลื่อน กฤษณกรี, พละ สุขเวช, วิเศษ จูภิบาล จนถึง ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ก็ล้วนแต่เป็น “วิศวะจุฬาฯ” ทั้งสิ้น
สืบทอด‘CEO ปตท.’
เจ้ายักษ์ “ปตท.” ก�ำลังน่าติดตาม.. “Global Player” หรือ “องค์กร ใครจะมาเป็น “ซีอีโอ” แทน “บิ๊ก เสริฐ” ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ทีจ่ ะ ครบวาระการด�ำรงต�ำแหน่ง “สมัย ที่ 2” ในวันที่ 30 กันยายน 2554 นี้ ขณะเดียวกันหุ้น PTT ก็ก�ำลัง “วิ่ง” อย่างเริงร่า ถ้าเป็นไปตามทีบ่ กิ๊ เสริฐเขียน “ลายแทง” เอาไว้ แนวโน้มใหญ่ของ หุ้น PTT ยังเป็น “ขาขึ้น” ภายใน แผน 5 ปีนี้ ปตท.จะมียอดขายเพิม่ ขึ้นจาก 1.9 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 เพิ่มเป็น 3.5 ล้านล้านบาท โดยเป็นรายได้จากต่างประเทศ สัดส่วน 30% หรือประมาณ 1 ล้าน ล้านบาท ก�ำไรสุทธิจะ “ทะลุเลข 6 หลัก” หรือเกิน “แสนล้านบาท” ถ้าค�ำนวณคร่าวๆ “อัตราก�ำไร สุทธิ” ของ ปตท.ท�ำได้ที่ 4% (ปี 2553 ท�ำไว้ 4.27%) กรณีมียอด ขายปีละ 3.5 ล้านล้านบาท (จริง) จะมีกำ� ไรสุทธิปลี ะ “140,000 ล้าน บาท” คิดเป็นก�ำไรสุทธิต่อหุ้น 49 บาท วันนี้หุ้น ปตท.มีค่าP/E เรโช 13 เท่านิดๆ ถ้าค�ำนวณเท่าค่า P/E เรโชตอนนีท้ ี่ 13 เท่า ราคาหุน้ ปตท. ณ วันที่มียอดขาย 3.5 ล้านล้าน บาท (เมื่อไรไม่รู้) จะมีราคาตลาด 637 บาท ปีนี้ ปตท.มีอายุครบ 33 ปี (ก่อ ตั้งเมื่อ 29 ธันวาคม 2521) เป้า หมายของบิก๊ ปตท. ต้องการให้ ปตท. เป็นองค์กร “ร้อยปี” และต้องเป็น
ชั้นน�ำระดับโลก” ภายใต้ค�ำจ�ำกัด ความ 3 ค�ำสัน้ ๆ Big (ใหญ่) Long (อายุยนื ) และ Strong (แข็งแกร่ง) ถ้าใครเชื่อในวิสัยทัศน์และ คาดการณ์ของแม่ทพั ใหญ่ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ราคาหุน้ PTT วันนี้ ยัง ถือว่า “ถูกมาก” !!! ประเด็นอยู่ตรงคนที่จะมานั่ง เก้าอี้ CEO ปตท. มีผสู้ มัคร “ชิงชัย” 4 คน เป็น “คนใน” 3 คน และ “คนนอก” 1 คน คนในประกอบ ด้วย เทวินทร์ วงศ์วานิชประธาน เจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) ปตท. ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รอง กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ ทีไ่ ปปฏิบตั ิ หน้าทีใ่ นต�ำแหน่ง กรรมการผูจ้ ดั การ ใหญ่บมจ.ไออาร์พซี ี และ สุรงค์ บูล กุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ ไปปฏิบตั หิ น้าทีใ่ นต�ำแหน่ง ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์ คนนอก 1 คน เจ้าตัวขอร้อง ไม่ให้กรรมการสรรหาเปิดเผยชื่อ แต่ความลับไม่มใี นโลกเขาคือ เพิม่ ศักดิ์ โกศลพันธุ์ ปัจจุบนั เป็นประธาน กรรมการบริหาร บริษัท วาโวลีน (ประเทศไทย) จ�ำกัด ในอดีตเคย เป็นผู้บริหาร บมจ.อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) มีกระแส ข่าวว่า เถ้าแก่ประชัย เลีย่ วไพรัตน์ ส่งเข้าประกวด เมือ่ พลิกดูประวัตกิ ารศึกษาผู้ บริหารปตท.ทัง้ 13 คน ตัง้ แต่ระดับ
เทวินทร์ วงศ์ วานิช รองกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ขนึ้ ไป ทุก คนมีพื้นฐานมาจาก “วิศวกร” ใน จ�ำนวนนี้เป็น “วิศวะจุฬาฯ” มาก ถึง 9 คน (รวมประเสริฐ) วิศวะ ลาดกระบัง 1 คน วิศวะเชียงใหม่ 1 คน วิศวะขอนแก่น 1 คน และวิศวะ คอนแนล 1 คน (สุรงค์ บูลกุล) ในกลุม่ วิศวะจุฬาฯ ทีล่ งชิงชัย เก้าอี้ CEO ปตท. “หัวกะทิ” ทั้ง 2 คนเสียด้วยคือ เทวินทร์ วงศ์วานิช วิศวะจุฬาฯ รุน่ 60 เข้าเรียนปี 2519 จบวิศวกรรมเคมี “เกียรตินิยม อันดับหนึ่ง” ปัจจุบันมีอายุน้อย ที่สุด 52 ปี เทวินทร์มสี หายร่วมรุน่ ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เชาวลิต เอกบุตร ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การใหญ่ การเงิน-การลงทุนเครือซิเมนต์ไทย และ ดร.พสุ โลหารชุน รองปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม ฯลฯ อีกคน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติ ถาวร วิศวะจุฬาฯรุ่น 59 เข้าเรียน ปี 2518 เป็นรุ่นพี่เทวินทร์ 1 ปี จบ วิศวเคมีจฬุ าฯ “เกียรตินยิ มอันดับ
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร หนึ่ง” เหมือนกัน ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นผู้ท้าชิงที่มีชื่อติดโผมาตั้งแต่ แรก ส่วน สุรงค์ บูลกุล ปัจจุบนั อายุ 55 ปี เป็นคนเดียวทีจ่ บวิศวะปริญญา ตรีที่ Syracuse และปริญญาโทที่ Cornell ทีน่ วิ ยอร์ก ไม่ใช่วศิ วะจุฬาฯ แต่ก็เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงคนส�ำคัญ ใน 3 ตั ว เก็ ง “เทวิ น ทร์ ดร.ไพรินทร์-สุรงค์” เป็นที่รู้กัน ว่าประเสริฐและพนักงาน ปตท. ส่วนใหญ่มีท่าทีเอนเอียงมาทาง เทวินทร์ วงศ์วานิช CFO ปตท.มากกว่า รองคนอืน่ และน่าจะสานต่องานใหญ่ ได้ดที สี่ ดุ แต่บคุ ลิกของเทวินทร์คอ่ น ข้างเป็นจุดอ่อนหากจะประสานกับฝ่าย การเมือง ท�ำให้เทวินทร์ ทีเ่ หมือนจะถูก ล็อกสเปคนอนมาตัง้ แต่แรก ชือ่ กลับ “แผ่วลง” ในช่วงโค้งสุดท้าย เมือ่ วันที่ 5 มกราคม 2554 เจ้าตัวก็เพิง่ ลาพัก ร้อน (หนี) ไป “บวช” ที่พุทธคยา ประเทศอินเดียมา ช่วง 2 สัปดาห์ก่อน “ปิดหีบ” รั บ สมั ค รซี อี โ อ ปตท. ในวั น ที่
เติบโตของรายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 30-35% เป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง เพราะ ฐานรายได้ในปีที่ผ่านมาค่อนข้างต�่ำ ส่วน ตั้งแต่ปี 2555-2558 อัตราการเติบโต ของรายได้เฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 5-10% ต่อปี โดยในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6 พันล้านบาท ไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผูจ ้ ดั การ ใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี เปิดเผยว่า ระบบ iPort ถือเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตที่ IRPC คิดค้นขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าที่ใช้ บริการท่าเรือน�ำ้ ลึกทีม่ าบตาพุดของบริษทั ประกอบด้วย iBooking, iTracking, iBanking, e-Payment และ iMobile Solution ลูกค้าสามารถใช้บริการผ่านระบบออนไลน์, โทรศัพท์มือถือ และ PDA โดย iPort นี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี
21 เมษายน 2554 ฝ่ายการเมือง ดีดชื่อ กรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีต ผอ.ธนาคารออมสิน “เซนต์คาเบรียล คอนเน็กชัน่ ”รุน่ เดียวกับ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ น้องชาย สุวจั น์ ลิปตพัลลภ กับอีกคน ดร.ภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตเบอร์สองดีแทค ขึน้ มาแข่งกับ “คนใน” ปตท. ถ้ า สั ง เกตให้ ดี ๆ กรพจน์ อัศวินวิจิตร เพิ่งถูกส่งเข้าไปนั่ง กรรมการอิสระใน IRPC และ TOP เช่นเดียวกับ ดร.ภูษณ ปรียม์ าโนช นั่งกรรมการอิสระควบ PTT และ PTTEP ฝ่ายการเมืองก็ได้เก้าอี้ ไปแล้ว เหตุใดชื่อ 2 คนนี้จึงถูก ดึงขึ้นมาอีกถ้าไม่ใช่แผนของฝ่าย การเมืองที่ “มาเหนือเมฆ” เกมนี้ เดินแบบ “ก�ำไรลูกเดียว”ได้อำ� นาจ การต่อรองเพิม่ ฟรีๆ ไม่ตอ้ งลงทุนเพิม่ หลายคนที่รู้จัก ดร.ไพรินทร์ และ สุรงค์ พูดเป็นเสียงเดียวกันทัง้ สองคนนีป้ ระสานกับฝ่ายการเมือง ได้ดกี ว่า เทวินทร์แต่นา่ เสียดายถ้า ดร.ไพรินทร์ จะมาอยู่ปตท. เพราะ เขาคือ “จุดเปลี่ยน” ของ IRPC ที่ กิจการก�ำลังดีวันดีคืน ไออาร์พีซี มี โ อกาส “สะดุ ด ” ส่ ว นสุ ร งค์ จุดอ่อนใหญ่ของเขาคือ “ไม่ใช่ วิศวะจุฬาฯ” สืบค้นประวัตกิ ารศึกษาผูว้ า่ การ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ซีอีโอปตท.) ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่า จะเป็นดร.ทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์, ดร.อาณั ติ อาภาภิ ร ม, เลื่ อ น กฤษณกรี, พละ สุขเวช, วิเศษ จูภิบาล จนถึง ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ก็ลว้ นแต่เป็น “วิศวะจุฬาฯ” ทัง้ สิน้ ...ประวัตศิ าสตร์นา่ จะซ�ำ้ รอย!
ระหว่างเจรจา ธี ร พงศ์ จั น ศิ ริ ประธานกรรมการ บริหาร บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการด�ำเนินธุรกิจใน ไตรมาส 1 ของปีนี้ ยอดขายของบริษัทมี Mission CEO ฉบับที่ 358 ประจ�ำวันที่ แนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส 4 ของปี 25 เมษายน- 1 พฤษภาคม 2554 2553 อย่างเด่นชัด ท�ำให้บริษัทมั่นใจว่าย สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ อดขายและรายได้รวมในปีนี้จะเติบโตสูง บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ คาดว่า ปริมาณ กว่า 30% ตามเป้าที่วางไว้ โดยในส่วนของ ผูโ้ ดยสารรถไฟฟ้าใต้ดนิ ในปีนจี้ ะเติบโต 4-5% ธุรกิจกุ้ง น�้ำท่วมที่ภาคใต้บริษัทไม่ได้รับ จากปีกอ่ นทีม่ ปี ริมาณผูโ้ ดยสารในวันธรรมดา ผลกระทบทั้งในแง่ปริมาณการขายและ ประมาณ 2 แสนเทีย่ ว/วัน และขณะทีร่ ายได้ ปริมาณของวัตถุดบิ ขณะทีธ่ รุ กิจปลาทูนา่ ความ ก็จะเพิม่ ขึน้ ประมาณ 8-10% เนือ่ งจากผูโ้ ดยสาร กังวลเกีย่ วกับการปนเปือ้ นสารกัมมันตรังสี มีการเดินทางในระยะทางยาวขึ้น ปัจจุบัน บริษัทได้มีนโยบายไม่ซื้อวัตถุดิบที่มาจาก ปริมาณผู้โดยสารวันธรรมดาอยู่ที่ 2.1-2.2 น่านน�้ำประเทศญี่ปุ่น และยังส่งไปตรวจที่ แสนเที่ยว/วัน วันเสาร์ 1.5 แสนเที่ยว/วัน สถาบันเทคโนโลยีนวิ เคลียร์แห่งชาติ เพือ่ สร้าง วันอาทิตย์ 1.1 แสนเที่ยว/วัน อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจให้กับลูกค้า ยอมรับว่าในปีนี้บริษัทยังมี สิท ธิชัย ลีส วัสดิ์ตระกูล ผลประกอบการขาดทุน แต่ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เป็นขาดทุนจากดอกเบีย้ เงินกู้ มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ เปิด เป็นหลักประมาณ 1,000 เผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับ ล้านบาท ซึง่ การทีจ่ ะลดภาระ โครงสร้างองค์กรครั้งส�ำคัญ ขาดทุนได้นนั้ บริษทั คาดหวัง โดยแต่งตัง้ ธิตพิ งศ์ ตัง้ พูนผลว่าหากได้รับงานให้บริการ วิวฒ ั น์ ขึน้ เป็นกรรมการผูจ้ ดั การ เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะ ร่วมของ MILL เพื่อความเป็น รู้ผลภายใน 2-3 เดือนนี้ เอกภาพของกลุ ่ ม บริ ษั ท ที่ ประเมินว่าปริมาณผูโ้ ดยสาร จะเป็ น ผลดี ต ่ อ การด� ำ เนิ น จะอยู่ที่ 3.5 แสนเที่ยว/วัน กลยุทธ์ในเชิงรุก ส�ำหรับภาพรวม ท�ำให้ Break Even ได้ทันที สมบัติ กิจจาลักษณ์ สิทธิชัย ลีสวัสดิต์ ระกูล การด�ำเนินธุรกิจในปีนี้ วาง ปลิว ตรีวศ ิ วเวทย์ ประธาน เป้าหมายการเติบโตของทั้งปี กรรมการบริหาร บมจ.ช.การช่าง ไว้ที่ 10-15% และมีแนวโน้มจะ เปิดเผยว่า ในปี 2554 คาดว่าบริษัทจะจ่าย Phoenix Project ที่ใช้ขับเคลื่อนไออาร์ เพิ่มมากขึ้นไปถึง 20% หากโรงเตาหลอม เงินปันผลได้สงู กว่าปีกอ่ นทีจ่ า่ ยในอัตรา 0.10 พีซี ให้บรรลุวสิ ยั ทัศน์เป็นบริษทั ปิโตรเคมี ในโครงการ Green Mill Project สามารถ บาท/หุน้ ผลประกอบการปีนจี้ ะออกมาดีกว่า ครบวงจรชัน้ น�ำของเอเชียในปี 2557 โดย ด�ำเนินการผลิตได้เร็วกว่าก�ำหนดเดิมที่ ปี 2553 เนือ่ งจากมีงานรอเซ็นสัญญากว่า 8 การน�ำสินทรัพย์ซงึ่ มีศกั ยภาพในเชิงพาณิชย์ ตั้งไว้ และสามารถรับรู้รายได้ทันภายใน หมื่นล้านบาท จากที่มีงานในมือ (backlog) ที่มีอยู่มาพัฒนาเพื่อสร้างให้เกิดรายได้ ปลายปีนี้ ก่อนจะเพิ่มความสามารถในการ อยูก่ ว่า 3 หมืน่ ล้านบาท จะท�ำให้งานในมือเพิม่ ภายใต้โครงสร้าง 4 กลุม่ ธุรกิจหลักประกอบ ท� ำ ก� ำ ไรให้ กั บ บริ ษั ท แบบก้ า วกระโดด เป็นกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้จาก ด้วย ธุรกิจปิโตรเลียม, ปิโตรเคมี, ท่าเรือ และ ในปี 2555 งานรับเหมาก่อสร้างในปีนคี้ าดว่าจะเพิม่ ขึน้ มา ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สิน พิเทพ จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ เป็น 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนท�ำได้ นิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการ บมจ.กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส เปิดเผย 8.5 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะรับรู้งาน ผูจ้ ดั การ บมจ.นวนคร เปิดเผยว่า ไตรมาส ว่ า บริ ษั ท คาดก� ำ ไรสุ ท ธิ แ ละรายได้ ใ น ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีมว่ งสัญญา 1 ส�ำหรับ แรกบริษทั คาดว่าจะมีผลขาดทุนทางบัญชี ไตรมาสแรกปีนี้ จะดีกว่าช่วงเดียวกันของ โครงสร้างรายได้รวมจะมาจากงานรับเหมา ประมาณ 20 ล้านบาท ได้รับผลกระทบ ปี ก ่ อ นแต่ ก ารแข่ ง ขั น ที่ รุ น แรงในตลาด ก่อสร้าง 85% และอีก 15% รับรู้ก�ำไรจาก จากการปรับวิธีการรับรู้รายได้ใหม่ตาม จะกดดันก�ำไรสุทธิปีนี้ท�ำได้เพียงทรงตัว บริษัทย่อย มาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ (IFRS) ซึ่งจะ จากปี 2553 และปีนี้ต้องเสียภาษีเพิ่ม กมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่ รับรู้เป็นรายได้เมื่อมีการโอนเรียบร้อย จาก 25% เป็น 30% โดยบริษท ั คาดว่ารายได้ ฝ่ายการเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุป๊ เปิดเผยว่า จากเดิมสามารถทยอยรับรูไ้ ด้ทนั ที ดังนัน้ รวมจะเติบโตขึ้นราว 5% จากปีก่อน ปีนี้ บริษทั ได้เสนอขายอาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ ท�ำให้ผลประกอบการไตรมาส 1-2 ออกมา ตั้งงบลงทุนเพื่อใช้ซื้อรถยนต์ใหม่ทั้งสิ้น เข้ากองทุนมูลค่า 1,423 ล้านบาท ท�ำให้ ไม่ดี ส�ำหรับบริษทั ในกลุม่ นิคมอุตสาหกรรม 1,000 ล้านบาท และมีแผนจะขายรถยนต์ ภาพรวมผลประกอบการทัง้ ปี 2554 จะพลิก น่าจะต้องได้รบั ผลกระทบในเรือ่ งมาตรฐาน มือสองออกไปประมาณ 2,000 คัน เพิม่ ขึน้ เป็นก�ำไรแน่นอน ปีนี้ยังเตรียมขายโรงแรม บัญชีใหม่เช่นกัน ส่วนแนวโน้มการขาย ราว 10% ปัจจุบันบริษัทสัดส่วนลูกค้า อีก 1 แห่ง และในปี 2555 จะขายโรงแรม ทีด่ นิ ในปีนี้ ดีกว่าปีกอ่ น บริษทั ตัง้ เป้ายอดขาย เอกชน 80% และราชการ 20% มีรถยนต์ อีก 1 แห่ง แต่จะเป็นทีไ่ หนยังตอบไม่ได้ ส่วน เติบโต 10% โดยล่าสุดมี Backlog ที่ 200 ให้เช่าประมาณ 6,000 คัน มีส่วนแบ่ง ผลตอบแทนจากการขายสินทรัพย์ บริษัท ล้านบาท ยังไม่รวมยอดขายอีกประมาณ การตลาดประมาณ 10% ของตลาดรวม ตั้งเป้าไว้ที่ไม่ต�่ำกว่า 20% ปีนี้อัตราการ 500 ล้านบาท ทีเ่ ซ็นสัญญาไปแล้วและอยู่ รถยนต์เช่าที่ 60,000 คัน
10 ธนาคารพาณิชย ‘ไตรมาส 1/2554’
ธนาคาร 1 2 3 4 5 6
กำไรสุทธิ 38,950 ลานบาท
ผู้บริหารใหม่ GEN ประกาศล้างบ้านเริ่มต้น ชีวิตใหม่ ลบภาพ ‘ศาลาพักร้อนเซียนหุ้น’ ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้น ยังกระจัดกระจาย และยังมี ‘นอมินี’ (ตัวแทน) ของมือ ที่มองไม่เห็น หากย้อนดูประวัติ บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง
ในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมาหุน้ ตัวนีม้ ผี ถู้ อื หุน้ ใหญ่หน้าใหม่ๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามา “เล่น” ไม่เคยขาด ผูบ้ ริหารบริษทั ก็เปลีย่ นค่อนข้าง “ถี”่ ผลการด�ำเนินงาน ก็ “กระเสาะกระแสะ” บริษทั แห่งนี้ จึง “ล้างเจ้าของ” (ตัวจริง) มานาน จะเปรียบหุน้ GEN เป็น “ศาลาพักร้อน เซียนหุ้น” ก็ไม่ผิด ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาหุ้น GEN จะมี “รอบเล่น” โดยเฉลี่ยปีละ “หนึ่งครั้ง” หลังจบ แต่ละรอบก็จะมี “คนเจ๊ง” แบบเลือดสาดทุกรอบไป ตามประวัติบริษัทนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2505 โดย คุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ซึ่งขณะนั้นน�ำมาใช้แทนเสาเข็มไม้ เมื่อกิจการรุ่งเรือง บริษทั ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมือ่ ปี 2534 เดิมเป็นของตระกูลจาติกวณิช ถือหุน้ ใหญ่ตอ่ มาก็คอ่ ยๆ
ขายหุ้นออกเพราะสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยน ไปผลิตภัณฑ์เสาเข็มอัดแรง, พื้นและผนังคอนกรีต มีการแข่งขันสูง แม้คนในตระกูลจาติกวณิชจะนั่งบริหารสืบต่อ กันมา แต่ก็ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่มานานแล้ว หุ้นตัวนี้ จึงมี “เซียนหุ้นรายใหญ่” แวะเวียนกันเข้ามา “เล่น” เป็นระยะๆ ตั้งแต่ “มาม่าบลู” สีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา ชยุตม์ ลี้อิสสระนุกูล ฯลฯ จนกระทั่ง พายัพ ชินวัตร แฝงตัวเข้ามาและ ส่งลูกชาย “นิกกี้” พิรุณ ชินวัตร มาร่วมบริหาร บริษัท แต่ก็ไปไม่รอดต้องส่งไม้ต่อให้กลุ่ม “เสีย่ โต้ง” กมล เอี้ยวศิวิกูล เจ้าของไมด้า แอสเซ็ท ที่แท็คทีมกับ ฉาย บุนนาค เข้ามานั่งบริหาร จากนั้นผู้บริหารกลุ่ม จาติกวณิชก็ถอนตัวออกไป แต่กลุ่มเสี่ยโต้งก็บริหาร กิจการไปไม่รอดเช่นกัน ต่อมาหุ้น GEN ก็ถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งไปอยู่ ในมือเซียนหุ้นคนดัง โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ระหว่างที่ กิจการลูกผีลูกคน วุฒิชัย ลีนะบรรจง เจ้าของ บมจ. แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) ก็จะเข้า มาเทคโอเวอร์ แต่ “ดีลไม่ดัน” เพราะตกลงเรื่อง ผลประโยชน์กันไม่ลงตัว จนที่สุด อ�ำนาจ ตันกุริมาน นักกฎหมายวัย 52 ปี กรรมการบริหารบริษัท ฟิลาเท็กซ์ แพลนเนอร์ จ�ำกัด และบริษัท เอ.ซี.พี.คอนซัลแตนท์ จ� ำกัด ซึ่งเป็น “กรรมการบริษัท” ก็กระโดดเข้ามารับช่วง ต่อในต�ำแหน่ง “ซีอีโอ” คนใหม่ของ GEN แต่ทว่า “จุดอ่อน” ของ GEN ก็ยงั หนีไม่พน้ เรือ่ งเดิมๆ คือ “ไม่มี เจ้าของตัวจริง” โครงสร้างผูถ้ อื หุน้ กระจัดกระจาย และ เต็มไปด้วย “นอมินี” (ตัวแทน) ของมือที่มองไม่เห็น หลังจาก อ�ำนาจ ตันกุริมาน เข้ามาบริหารบริษัท มีการเพิ่มทุนจ�ำนวนมากเพื่อเตรียมน�ำเงินไปลงทุน
ไตรมาส 1/2554 ไตรมาส 1/2553 (ลานบาท) (ลานบาท) ไทยพาณิชย 13,051.29 6,374.71 กรุงเทพ 6,468.80 5,983.07 กสิกรไทย 6,113.88 4,105.67 กรุงไทย 5,488.76 3,074.30 กรุงศรีอยุธยา 2,808.14 2,069.70 ธนชาต+นครหลวงไทย 2,208.00 1,775.00
ธนาคาร ไตรมาส 1/2554 ไตรมาส 1/2553 เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น (ลานบาท) (ลานบาท) (%) (%) 1,095.78 789.51 38.79 104.74 7 ทหารไทย 828.59 712.27 16.33 8.12 8 ทิสโก 605.18 818.68 -26.08 48.91 9 เกียรตินาคิน 281.58 348.13 -19.12 78.54 10 ซีไอเอ็มบี ไทย รวม 38,950.00 26,051.04 49.51 35.68 24.39 หมายเหตุ : ไตรมาส 1/2554 ธ.ไทยพาณิชย มีกำไรพิเศษจากหุน SCNYL จำนวน 5.1 พันลานบาท
ยังมี ‘นอมินี’ ซ่อนอยู่ในหุ้น GEN อ�ำนาจ ตันกุรมิ าน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริง่ กล่าวว่า ตนเองเป็น
กรรมการในบริษัทนี้มา 5 ปีแล้ว จึงเห็นการเข้าๆ ออกๆ ของผู้ถือหุ้นหลายกลุ่มที่มีทั้งตั้งใจมาบริหารจริง และมี “จุดประสงค์อื่น” ตอนที่ พิรุณ ชินวัตร เข้ามาถือหุ้นใหม่ๆ แม้ภาพของพ่อเขา (พายัพ ชินวัตร) จะเป็น “เซียนหุ้น” แต่เงินที่ลงในหุ้น GEN ตอนนั้นก็เป็นเงินสดจริงไม่ได้ใช้วงเงินมาร์จิน จึงมีความ น่าเชื่อถือแต่เสียดายที่ไม่สามารถบริหารได้ “ผมคิดว่าเขา (พิรุณ ชินวัตร) ตั้งใจจะเข้ามาบริหารงานจริงจังแต่ไปเจอ “อุบัติเหตุ” เข้าเสีย ก่อน” อ�ำนาจกล่าวสั้นๆ และไม่ขอพูดต่อว่า “อุบัติเหตุ” นั้นคืออะไร หลังจากผู้ถือหุ้นกลุ่ม “เสี่ยโต้ง” กมล เอี้ยวศิวิกูล และ ฉาย บุนนาค ขายหุ้นออกไป อ�ำนาจ ยอมรับว่าตอนนี้ผู้ถือหุ้น GEN มีอยู่ด้วยกัน “สามก๊ก” โดยผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งคือ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ (ปัจจุบันขายหุ้นออกมาจ�ำนวนมาก) “ก่อนประชุมผูถ้ อื หุน้ ผมได้โทรไปคุยกับคุณโกมลแล้ว เขาสนับสนุนแผนเพิม่ ทุนครัง้ นีเ้ ป็นอย่างดี” “กลุ่มที่สอง” เป็นกลุ่มนักลงทุนทั่วไปที่ถือหุ้นตั้งแต่อันดับสองลงมา กลุ่มนี้ตอนประชุมผู้ถือหุ้นก็ “ซักผมหนัก” แต่พอเลิกประชุมก็เข้ามาพูดคุยกันดี และพวกเขามัน่ ใจว่าแผนธุรกิจทีเ่ ราวางไว้จะประสบ ความส�ำเร็จแน่ ส่วน “กลุ่มที่สาม” ที่ถือรวมกันประมาณ 10% อ�ำนาจคิดว่าน่าจะเป็น “นอมินี” ของกลุ่มใคร สักคนหนึ่ง แต่เขาไม่ยอมบอกว่า “ใคร” โดยทิ้งปริศนาเอาไว้ให้ขบคิดต่อ... “สามก๊ก” ในหุ้น GEN
กับชุมชน คาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จใน 18 เดือน ถ้าทุกอย่างลงตัว ที่น่าสนใจคือรัฐบาลให้การสนับสนุน “ค่าแอด เดอร์” โรงไฟฟ้าพลังงานขยะสูงถึง 3.5 บาทเป็น เวลา 7 ปี ถ้าสามารถเจรจากับชุมชนได้ลงตัวภาครัฐ ให้การอนุมัติแน่นอนโดยจะมีอายุสัญญา 20 ปีขึ้นไป ส่วนเรื่องผลตอบแทนถ้าไม่ได้สนับสนุนค่าแอดเดอร์ จะมีผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ 17% แต่ถ้าได้รับการ
“พรีคาสต์” ที่ใช้ในงานก่อสร้างอาคารราคาประหยัด เป็นสินค้าใหม่ในอนาคต “เฉพาะไตรมาสแรกเรามีกำ� ไรเลข 8 หลักแล้ว แนวโน้มทั้งปีนี้จะยังดีต่อเนื่อง” ซีอีโอคนใหม่คุย ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปัจจุบันมีสัดส่วน รายได้ประมาณ 10% ปีนี้จะไม่เร่งรีบสร้างตัวเลข รายได้แล้วขาดทุนเหมือนแต่กอ่ น และยังมีลนุ้ กับบริษทั ฉัตรเฉียบ จ�ำกัด ที่ถือหุ้น 95.45% เจ้าของโครงการ
แผนคืนชีพ ‘เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง’ กับ
อ�ำนาจ ตันกุริมาน
• ถามวิธีการเลือกหุ้น คิดแบบไหน ประเมิน อย่างไร
ฉัตรชัย วงศ์แก้วเจริญ : เลือกหุ้นที่เราอยาก เป็นเจ้าของ เช่นอยู่ในอุตสาหกรรมที่โต บริษัทดี ผู้ บริหารดี และการประเมินราคาเป็นเรือ่ งส�ำคัญ ของดี มีคณ ุ ภาพถ้าแพงไปอาจเป็นการตัดสินใจทีผ่ ดิ ถ้าดู แต่ราคาเวลาหุ้นบวกแรงๆ ลบแรงๆ ใจอาจสั่นได้ ปกติก็อ่านข่าวตลอดเวลา อ่านหนังสือพิมพ์ ธุรกิจ จากประสบการณ์เคยเจอบริษัทขายกิจการ ได้เงินสดมามีมูลค่ามากกว่าหุ้นในกระดานเสียอีก เข้าไปซื้อก็ได้ก�ำไรเป็นต้น เรื่องของส่วนต่างความ ปลอดภัย (Margin of Safety) ถ้าเราประเมิน ราคาได้ 10 บาท ราคาบนกระดาน 6 บาทก็ซื้อ มี การประมาณการก�ำไรถ้าเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นจะเป็น เท่าไร หรือถ้าก�ำไรเปลี่ยนไป 20-30% ราคาเป็น เท่าไหร่ แล้วเลือกราคาที่ปลอดภัยที่สุด พอลงทุน แล้วหุ้นไม่ไปไหนก็ไม่เป็นไร เพราะการท�ำธุรกิจ กว่าจะตั้งโรงงานกว่าจะได้ผลตอบแทนก็ต้องใช้ เวลา ถ้าซื้อแล้วหุ้นขึ้นเร็วเกินไปก็ขายเลยถ้าเกิน ราคาที่เราประเมินไว้
7
ถนนนักลงทุน
วันที่ 25 เมษายน 2554
‘มือที่สาม’ ที่มองไม่เห็น
โครงการโรงไฟฟ้า และซื้อที่ดินบริษัทกลับคืนมา เพื่อ เริ่มต้นชีวิตใหม่ อ�ำนาจ ตันกุริมาน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ทีมผู้บริหารและกรรมการชุดใหม่จะ พยายามพลิกฟื้นบริษัทจาก “ขาดทุน” กลับมาเป็น “ก�ำไร” และล้างขาดทุนสะสมให้หมดภายในปีนี้ นอกจาก พลิกมีกำ� ไรแล้วบริษทั จะต้องมีภาพลักษณ์ทดี่ ขี นึ้ ด้วย สาเหตุที่ช่วง 2 ปีหลังบริษัทขาดทุนติดต่อกัน เขาบอกว่ามาจากโครงการรับเหมาก่อสร้าง 3 โครงการ ที่ไม่ท�ำก�ำไร ได้แก่ อาคารที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ พิ ษ ณุ โ ลก และค่ า ยทหารที่ ปัตตานี แต่รับรู้ผลขาดทุนไปหมดแล้วไม่มีเหลือเป็น ภาระอีก ส�ำหรับแผนการลงทุนส�ำคัญหลังจากนี้จะลงทุน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โดยเงินเพิม่ ทุนจ�ำนวน 300 ล้านบาทจะน�ำมาใช้ลงทุน เบื้องต้นจะมีขนาด 9.9 เมกะวัตต์ใช้เงินลงทุนทัง้ หมด 950-1,100 ล้านบาท เงิน ส่วนที่เหลือจะกู้จากธนาคาร 2-3 แห่ง ท�ำเลที่ตั้งโครงการก�ำลังอยู่ระหว่างศึกษาจะเน้น ท�ำเลชานเมืองกรุงเทพเป็นหลัก ถ้ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ หรือได้รับเงินเพิ่มทุนน้อยกว่าที่คาดอาจจะลดขนาด โครงการให้เหลือเพียง 6 เมกะวัตต์ ลูกค้าหลักคือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ�ำนาจ ยอมรับ ว่าคณะผู้บริหารไม่มีความช�ำนาญในเรื่องการท�ำ โรงไฟฟ้า แต่ทตี่ ดั สินใจลงทุนเพราะเป็นธุรกิจทีม่ ี ความยัง่ ยืนรายได้แน่นอนและได้รบั การสนับสนุน จากภาครัฐ บริษัทได้ว่าจ้างวิศวกรและเชิญอดีต ผูว้ า่ การ กฟผ. มาเป็นทีป่ รึกษาโครงการนี้ รับรอง ได้ว่าพร้อมทั้งเทคโนโลยีและการประสานงาน
ราคาหุน GEN ตั้งแตป 2538 - ปจจุบัน 16 12.35
5.69 2.61
0.12
0.15 2538 2539
6.30
4.73
2540
2541
2542
2543
2544
1.43
3.18
2545 2547
สนับสนุนจะสูงถึง 34% “เราคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าทันที เมื่อเดินเครื่องปีละ 1,500 ล้านบาท จะสามารถคืนทุน ได้ภายใน 5 ปี” ด้านธุรกิจวัสดุกอ่ สร้างซึง่ เป็นธุรกิจหลักยังไม่ทงิ้ ไปไหน เงินอีก 300 ล้านบาทจากการเพิม่ ทุนจะน�ำมาซือ้ ที่ดินแปลงที่ติดอยู่กับบริษัทจ�ำนวน 85 ไร่ ที่ธนาคาร เปิดประมูลกลับคืนมาหลังน�ำไปจ�ำนองกับธนาคาร ตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจเพื่อที่จะน�ำมาเก็บสต็อกเสาเข็ม รองรับการขยายงาน อ�ำนาจ กล่าวว่า ดูจากแนวโน้มไตรมาสแรก ลูกค้าสั่งเสาเข็มอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มรับเหมา ก่อสร้างอย่าง ช.การช่าง โดยบริษทั ก�ำลังขยายงานไปยัง ต่างจังหวัดมากขึ้นเพราะตลาดกรุงเทพไม่มีที่ให้ เจาะอีกแล้ว ส่วนวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ก�ำลังพัฒนาวัสดุ
2548
5.82 1.70 2549
3.09
2.67 2550
2.20
1.09 2551
2552
0.40 2553
18.00 17.00 16.00 15.00 14.00 13.00 12.00 11.00 10.00 9.00 8.00 7.00 6.00 5.00 4.00 3.00 2.00 1.00 0.00 -1.00 -2.00
0.49
21 เม.ย.54
ดราก้อน บริเวณชายหาดพัทยาเหนือ โครงการนี้เคย ขายพื้นที่ได้หมดแล้วแต่มาเจอปฏิวัติท�ำให้นักท่อง เที่ยวรัสเซียที่พัทยาหายหมดรายได้ก็ไม่มี ถ้าเจรจา ส�ำเร็จจะรับรู้รายได้ปีละ 100 ล้านบาทจากค่าเช่า (ปี 2553 บันทึกรายได้ค่าเช่า 58 ล้านบาท) อ�ำนาจอ้อนนักลงทุนและผูถ้ อื หุน้ ผ่านสือ่ ให้ชว่ ย สนับสนุนบริษัทโดยเขามั่นใจว่าอนาคต GEN จะเริ่ม สดใสขึน้ ขณะทีก่ ำ� ลังสนทนาอยูเ่ ขาเหลือบไปเห็นราคา หุน้ GEN ในกระดานมีคนตัง้ Offer (เสนอซือ้ ) เข้ามา จ�ำนวนมากท�ำให้ราคาพุง่ ขึน้ ทันที 14% พร้อมกล่าวว่า แสดงว่ายังพอมีคนมั่นใจหุ้นตัวนี้อยู่บ้าง “ถ้าแผนธุรกิจที่ผมวางไว้เดินหน้าไปได้จะ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับหุ้น ตัวนี”้ อ�ำนาจสรุปปิดท้าย..ท่ามกลางความหวาดระแวง ของนักลงทุนที่คงไม่จางหายไปง่ายๆ
ธ.กรุงเทพ แคมเปญ กู้บ้านได้รถ
ธนาคารกรุงเทพ จัดแคมเปญพิเศษ กู้บ้านได้รถ กู้สินเชื่อบ้านบัวหลวง ลุ้นรับรถยนต์นิสสัน มาร์ช และ ของรางวัลมูลค่ากว่า 1,200,000 บาท ส�ำหรับลูกค้าสินเชือ่ เพือ่ ซือ้ /ปลูกสร้างทีอ่ ยูอ่ าศัย และสินเชือ่ เพือ่ รีไฟแนนซ์ ที่มียอดเบิกใช้สินเชื่อพร้อมท�ำประกันคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ในวงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ระหว่างวัน ที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 โดยวงเงิน สินเชื่อทุก 1 ล้านบาทจะได้รับ 1 สิทธิในการลุ้นรางวัล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพทุก สาขา หรือโทร.1333
UOB เปิดตัว ‘ออมทรัพย์’ ดอกเบี้ยสูงสุด 2%
ธนาคารยูโอบี เปิดตัว “เงินฝากออมทรัพย์ ยูโอบี แพลทินมั ” ซึง่ เป็นบัญชีออมทรัพย์ทใี่ ห้ดอกเบีย้ สูงสุด 2% ต่อปี รับดอกเบี้ยทุกเดือน และถอนได้ไม่จ�ำกัดจ�ำนวน ครั้ง โดยอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มจาก 0.50% ส�ำหรับช่วง ของยอดเงินฝาก 0-499,999 บาท, 1.50% ส�ำหรับช่วง ของยอดเงินฝาก 500,000-999,999 บาท และ 2.00% ส�ำหรับช่วงของยอดเงินฝาก 1,000,000-1,999,999 บาท เงือ่ นไขคือยอดเงินเปิดบัญชีครัง้ แรกตัง้ แต่ 10,000 บาท ขึ้นไป
ธ.ธนชาต สอบใบขับขี่-ช�ำระภาษี
ธนาคารธนชาต จัดรถโมบาย E-exam ของกรม การขนส่งทางบก ให้บริการสอบใบขับขี่รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ที่ธนาคารธนชาต สาขารัชดา วันเสาร์ ที่ 7 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และ นอกจากบริการด้านใบขับขี่แล้วยังมีบริการรับช�ำระ ค่าภาษีรถประจ�ำปีอีกด้วย ทั้งนี้ผู้จะเข้ารับบริการสอบ ใบขับขีท่ งั้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในวันดังกล่าว ขอ ให้ติดต่อเพื่อลงทะเบียนยื่นความจ�ำนงก่อน ที่ธนาคาร ธนชาต สาขารัชดาภิเษก ตัง้ แต่วนั นีถ้ งึ วันที่ 4 พฤษภาคม นี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร.1770
ธ.ทิสโก้ B/E 4 เดือน 2 อาทิตย์ จ่าย 3%
ธนาคารทิสโก้ ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงิน ฝากประจ�ำ และตั๋วแลกเงินขึ้นอีก 0.25% ต่อปี ส่งผล ให้เงินฝากประจ�ำระยะเวลาตั้งแต่ 1-36 เดือน ปรับขึ้น เป็น 2.15-3.25% ต่อปี และเงินฝากประจ�ำเมื่อทวงถาม ปรับเพิม่ เป็น 1.50% ต่อปี ส�ำหรับผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นไฮไลต์ คือ “ตั๋วแลกเงินพิเศษ” (บีอี) อายุ 4 เดือน 2 อาทิตย์ ให้อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ส�ำหรับวงเงิน 5 แสน-10 ล้านบาท โดยจะเปิดขายถึงวันที่ 30 เม.ย.2554 นี้ ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-633-6000
กสิกรไทยสินเชื่อบ้าน 0% นาน 6 เดือน
ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี VI (2) นริศ จิระวงศ์ประภา : มี 2 แนวทางคือ วิเคราะห์ “บนลงล่าง” กับ “ล่างขึน้ บน” โดยวิเคราะห์ขา่ วสาร ต่างๆ ที่ออกมา แล้วแยกประเภทตามต�ำราของ ปีเตอร์ลินซ์ เพราะหุ้นแต่ละอุตสาหกรรมมีค่า พีอีที่ไม่เท่ากันและแนววิเคราะห์ก็ต่างกัน เช่น หุ ้ น กลุ ่ ม เติ บ โต เราอาจต้ อ งวิ เ คราะห์ แ บบ “เมกะเทรนด์” วิเคราะห์บนลงล่าง ดูภาพรวมแล้ว มาหาหุน้ ทีด่ ที สี่ ดุ ของกลุม่ เพราะลงทุนยาว แต่พวก ฟื้นตัว (Turnaround) ก็เน้นดูมูลค่าทางบัญชีเป็น หลักอยูใ่ นอุตสาหกรรมทีพ่ อไปได้ เป็นการวิเคราะห์ แบบล่างขึ้นบนเป็นต้น จากนัน้ ก็ไปประเมินมูลค่าเป็นอย่างไร เจาะงบ แล้วดูส่วนต่างความปลอดภัย 50% ซื้อแล้วไม่ขึ้น ก็ถือต่อไป เคยถือนานสุด 3 ปี ถ้าเรามองทุกอย่าง ดีเหมือนเดิมก็ไม่ขาย ลงก็ซื้อเพิ่ม ถ้าซื้อแล้วขึ้น ดูอัพไซด์ ถ้าเหลือน้อยแล้วเจอตัวอื่นที่เยอะกว่าก็ เปลีย่ นตัวเล่น แต่ตวั ทีเ่ ปลีย่ นต้องดูวา่ เป็นหุน้ กลุม่ ไหนด้วยเช่น หุ้นเติบโตกับหุ้นเติบโต ถ้าอยู่คนละ กลุ่มอาจมีลังเลบางทีหาไม่ได้ก็ไม่ขาย แรกๆ เล่นหุ้นยากเหมือนกันเพราะไม่ได้ จบด้านนี้มาแต่พอศึกษาเป็นแล้วเป็นเลยให้ไป
อ่าน 56-1 มีประโยชน์กว่าเฝ้าหน้าจอซึ่งไม่ได้ พัฒนาอะไร ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร : ไม่ได้แกะงบ อะไร ให้ดูเผินๆ เหมือนกรรมการตัดสินนางงาม แกะงบคือวัดสัดส่วนเป็นตัวเลขเลย ดูแล้วก็งงๆ ชอบดูแบบไม่ใส่เสือ้ ผ้า เห็นกันชัดๆ ถ้าบริษทั โปร่งใส ไม่ต้องแกะมาก ดูบรรทัดสุดท้ายเลยก�ำไรเท่าไร อนุรักษ์ บุญแสวง : มองภาพใหญ่ อัพไซด์ เยอะๆ เราต้องหามูลค่าที่ควรจะเป็น ดูทั้งคุณภาพ ปริมาณ เอามาเทียบกันแล้วอย่าลืมดู ส่วนต่างความ ปลอดภัย ติดตามข่าวต่างๆ ข่าวเล็กๆ บางทีให้ขอ้ มูล ทีส่ ำ� คัญเหมือนกัน ต้องไปสืบต่อ ข้อมูลเดียวบอกไม่ ได้ แต่เราอาจสนใจแล้วไปหาข่าวมาเรื่อยๆ เวลาซื้อ ถ้าเจอส่วนต่างความปลอดภัยเยอะๆ อย่าง 100% ก็ซื้อเลย ถ้า 30% อาจค่อยๆ แบ่งซื้อ ถ้าหุ้นไม่ขึ้น แล้วเราคิดถูกต้องก็รอได้ถ้าผิดก็ขาย หรือหากขึ้น แรงๆ เราจะแบ่งขายเป็น 3 ส่วนคือ ราคาที่เราคิดว่า เต็มมูลค่า ราคาที่เกินมูลค่า ราคาที่เป็นไปได้สูงสุด ทยอยขายเป็นสัดส่วน พอขายตัวนึงก็ไปซื้อตัวอื่น ให้เงินหมุนไปเรื่อยๆ นพ.บ�ำรุง ศรีงาน : ซื้อหุ้นที่ต�่ำกว่ามูลค่าที่
ควรจะเป็น หุ้นดีๆ หรือหุ้นแย่ๆ ก็ซื้อได้ถ้าราคา นั้นมันต�่ำกว่าที่ควรจะเป็น ยกเว้นผู้บริหารไซฟ่อน เงิน กับบริษัทตกแต่งบัญชี ไม่ซื้อเด็ดขาด อย่าลืม อ่านหน้าแรกของความเห็นผู้สอบบัญชี วิธีการคือ น�ำหุน้ มาก็เรียงตามพีอ,ี พีบจี ากน้อยไปมากแล้วเจอ หุ้น 10-20 ตัว จากนั้นน�ำมาแยกอุตสาหกรรมตาม แนวปีเตอร์ลินซ์ แล้วประเมินก�ำไรในอนาคตว่าเท่า ไหร่ ได้พีอีถ้าต�่ำๆ ก็น่าสนใจ เวลาซื้อก็ซื้อเลย เวลา ขายก็ดูว่าพีอีเท่าไร ถ้ารู้สึกว่าเต็มมูลค่าหรือมันสูง แล้วขายหมดทีเดียว ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร : 5 ปีเลือกหุ้นที ถ้าตัวไหนมองไม่ออก “ไม่ผ่าน” ว่าบริษัทจะยังอยู่ ไหม โตไปยังไง ก�ำไรเท่าไร บริษัทที่ก�ำไรหวือหวาปี สองปี “ไม่เอา” เงินอยูใ่ นหุน้ หมดเลยต้องเลือกตัวที่ ดีทสี่ ดุ ของธุรกิจ คิดเรือ่ งขาดทุนก่อนถ้าเสีย่ งขาดทุน ก็ไม่เอาเพราะถือยาว กิจการต้องดีที่สุดในประเทศ ยังไปได้ต่อในอีก 5 ปีแล้วซื้อ แล้วก็เอาเวลาไปท�ำ อย่างอื่น เรื่องนี้ทำ� มานานแล้วไม่คิดว่าเป็นข้อจ�ำกัด ของพอร์ตใหญ่ คือเราเลือกทีด่ ที สี่ ดุ นานๆ เปลีย่ นที ราคายุติธรรมอาจไม่ถูกเท่าไร ปันผล 4-5% เรามอง ออกว่ามันจะโตไปอีก 5 ปี ก็ซื้อได้
ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวแคมเปญ “สินเชื่อ บ้านมหัศจรรย์สะท้านโลก 0% ยกก�ำลังสาม” ให้ลูกค้า สินเชื่อบ้านรับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน แล้ว ลุ้นรับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมลุ้น รั บ ความเสี่ ย ง 0% ด้ ว ยแพ็ ค เกจประกั น อั ค คี ภั ย และประกันโจรกรรมนานสูงสุด 30 ปี มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ส�ำหรับผู้สมัครใช้บริการตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ก.ย.2554 ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามโทร. 02-888-8888 กด 517 จะมีเจ้าหน้าที่ ของธนาคารไปให้บริการถึงที่
พรูเด็นเชียล ผ่อนผันช่วยลูกค้า น�้ำท่วม
บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวติ (ประเทศไทย) ขยาย ระยะเวลาผ่อนผันการช�ำระเบีย้ ประกันภัยจากเดิม 31 วัน เป็น 91 วัน ส�ำหรับผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่ครบ ก�ำหนดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2554 ซึง่ จะช่วยให้ผถู้ อื กรมธรรม์ไม่ตอ้ งกังวลเรือ่ งกรมธรรม์ ขาดอายุในระหว่างที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย บริษัทผ่อนผันให้โดยไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วนั ทีก่ รมธรรม์ขาดอายุ สอบถามเพิม่ เติม โทร. 02-353-4999
8
วันที่ 25 เมษายน 2554
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงคือความหวังอันแสนหวาน ‘วีไอหนุ่ม’ ฝาก ความมั่งคั่งทั้งหมดไว้ที่ ‘ตลาดหุ้น’ และหุ้น ‘บิ๊กแคป’ ที่เขาลงทุน โดยมีเป้าหมายว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ‘ข้าจะรวยมหาศาล’ ในหนังสือของเขา “แพท” ภาววิทย์ กลิน่ ประทุม ADVANC เป็นต้น เขาบอกว่าที่เลือกลงทุนหุ้น เชื่อว่าตลาดหุ้นจะเกิด Super Bull Market ขึ้น อีกครัง้ ดังเช่นปี 2536 นักลงทุนต้องเตรียมตัวให้พร้อม กับตลาดหุน้ ในยุค Asian Miracle หรือ “มหัศจรรย์ อาเซียน” ในยุคต่อไปคนรวย (อาจ) จะจน “คนฉลาด” จะ “รวย” จะเกิด “New Rich” (เศรษฐีใหม่) ใน ตลาดหุน้ คนทีย่ งั ไม่เคยศึกษาเรื่องการลงทุนให้เริม่ ศึกษาได้แล้ว เพราะวันนี้ตลาดหุ้นเราอยู่ในช่วงการ ก่อตัวของ “กระทิงยักษ์” วีไอหนุม่ รายนีเ้ ทหน้าตักลง “หุน้ บิก๊ แคป” หรือ “หุ้นบลูชิพ” ปัจจุบันเขามีหุ้นอยู่ในพอร์ตประมาณ 10 ตัว เช่น PTT, PTTEP, IRPC, BBL, KK และ
ตัวใหญ่เพราะมัน “ไม่มที างเจ๊ง” และมีโอกาสเติบโต ตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องผลตอบแทนเป็นไป ตามกฎ High Risk High Return ถ้าคุณเสี่ยงมาก ก็จะได้ผลตอบแทนมาก แต่ผมเลือกที่จะรับความ เสี่ยงแบบพอดี การถือหุน้ ตัวใหญ่ทำ� ให้เราเสีย่ งน้อยลง และถ้า มีจงั หวะดีๆ ทีร่ าคาตกลงมาก็มโี อกาสเพิม่ จ�ำนวนการ ถือหุ้นได้อีก การลงทุนแบบ “ชาวสวน” ช่วงที่เกิด “ข่าวร้ายแรงๆ” ท�ำให้ภาววิทย์เข้าเก็บหุ้นบิ๊กแคป เกรดเอได้ในราคา “ถูก” อยูบ่ อ่ ยๆ เขายกตัวอย่างหุน้ PTT เข้าเก็บในจังหวะทีม่ ขี า่ วมาบตาพุด จนมีกระแส
ข่าวว่านักลงทุนญีป่ นุ่ จะถอนการลงทุนออกไปทัง้ หมด หรือหุ้น ADVANC เข้าลงทุนช่วงที่ล้มประมูล 3G เป็นต้น “ผมคิดว่าจะรวยจากหุ้นได้ต้องเป็นคนที่ คิดต่างจากคนอื่น” เขาเอ่ยขึ้น เหตุผลเพราะตลาดหุ้นเป็นแหล่งรวมของผู้มี ความสามารถ “ระดับบน” ของประเทศทัง้ นัน้ ไม่วา่ จะเป็นนายแพทย์, วิศวกร, นักธุรกิจ, เจ้าของกิจการ แต่ท�ำไมถึงมีนักลงทุนเพียง 20% เท่านั้นที่ประสบ ความส�ำเร็จ แต่การจะเป็นคนส่วนน้อยได้คณ ุ ต้องเริม่ จากการเป็นคน “คิดต่าง” ให้ได้ก่อน เช่นการเข้าไป ซือ้ หุน้ ตอนทีท่ กุ คนก�ำลัง “กลัวมากๆ” และต้องออก ตอนที่คนก�ำลัง “กล้ามากๆ” การเล่นหุน้ จริงๆ มันไม่ได้มอี ะไรซับซ้อน จะเล่น ให้ยากมันก็ยาก จะเล่นให้งา่ ยมันก็งา่ ย วิธที งี่ า่ ยก็คอื Buy & Hold (แต่ท�ำยาก) ซื้อหุ้นคุณภาพดีใน “Cycle ขาลง” แล้วก็ถือต่อไปขายตอน “Cycle ขาขึ้น” แค่นี้ก็รวยแล้ว ไม่ต้องไปวิ่งเข้าๆ ออกๆ แบบที่คนส่วนใหญ่เล่นกัน “ก็ง่ายๆ แค่นี้ ผมว่าเกมนี้มันวัดกันที่ใจและ ความอึด เพราะผมเชื่อว่าในตลาดขาขึ้นที่เป็น Bull
Market (กระทิง) อย่างแท้จริง การ Buy & Hold (ซื้อแล้วถือ) คุณจะชนะการเล่นทุกแบบ” จะรูไ้ ด้อย่างไรว่า “ตลาดแพง” ให้คณ ุ “เทียบกับ เงินฝากธนาคาร” ตราบใดที่เงินฝากยังน้อยกว่า “เงินปันผล” ของบริษัท ผมว่าตลาดมันโคตรจะถูก แต่ถ้าเศรษฐกิจเริ่มดีแล้วเงินฝากมันเริ่มสูง (ตาม เงินเฟ้อ) นั่นแหละคุณค่อยขายหุ้นทิ้งเอาเงินมาใส่ บัญชีเงินฝากรอตลาด Crash (พัง) เล่นหุน้ ภาพใหญ่ มันไม่มีอะไรซับซ้อน แต่คุณต้องใจเย็น “สังเกตไหมครับว่า ถ้าเราเล่นอยู่ในตลาดไหน นานๆ เราก็จะอารมณ์คา้ งต่อ เช่น ก�ำลังมันส์กบั Bull Market...เคยมีคำ� พูดว่าถ้าขึน้ Taxi แล้วคนขับชวนคุย เรื่องหุ้นนั่นแหละคือช่วงเวลาที่อันตรายแล้วเพราะ คนทีอ่ ยูน่ อกตลาดทนไม่ไหวทีเ่ ห็นคนอืน่ รวยหุน้ แล้ว จะแห่กันเข้ามาจนเกิดฟองสบู่” ภาววิทย์คดิ ว่าตอนนีก้ ลุม่ คนรวยยังไม่สนใจตลาดหุน้ เต็มที่ แต่พอถึงจุดหนึง่ พวกเขาจะทนไม่ได้เพราะเห็น คนอื่นรวยเอาๆๆ ผมจะออกจากหุ้นตอนนั้นแหละ วีไอหนุม่ บอกต่อว่า แค่คดิ ต่างอย่างเดียวไม่พอ ต้องท�ำความรูจ้ กั กับสิง่ ทีเ่ ราจะลงทุนด้วย ส่วนตัวมองว่า การลงทุนหุน้ เหมือนกับการฝึกหัดขีจ่ กั รยานมันต้อง
วีไอหนุ่ม ‘ภาววิทย์ กลิ่นประทุม’ โอกาส ‘รวย’ ของคนคิดต่าง ทุกๆ 20 ปี ตลาดหุ้นจะ ‘ขึ้นแรง’ 1 รอบ
ภาววิทย์ กลิน่ ประทุม ยกสถิตติ ลาดหุน้ ทีท่ กุ ๆ 20 ปี ตลาดจะมีการปรับขึน้
แบบแรงๆ หนึ่งครั้ง ถ้าย้อนกลับไปในปี 2536 ตอนนั้นหุ้นไทยท�ำจุดสูงสุดที่ 1,780 จุด จากนั้นเกือบ 20 ปีมาแล้วเราไม่สามารถกลับคืนไปจุดเดิมได้เลย ถ้า มองภาพใหญ่มีโอกาสอย่างมากที่จะกลับไป (ทะลุ) จุดนั้น “ผมคิดว่า SET จะท�ำลายจุดสูงสุดเก่าแน่นอนและจะไปได้ไกลกว่าเดิมด้วย ถ้าวิเคราะห์ว่าตอนอยู่ที่จุดพีคเดิม (มกราคม 2537) ตอนนั้นประเทศเรามีหนี้ จ�ำนวนมากแต่ตอนนี้ธุรกิจเราแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ส่วนจะเป็นเมื่อไรคงบอก เวลาไม่ได้” ส่วนตัวคิดว่าในยุคนี้วิกฤติอาจจะมาเร็วกว่าเดิมเพราะเศรษฐกิจยุคใหม่มัน เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้นและเร็วขึ้นด้วยข้อมูลข่าวสาร เป็นไปได้ว่าอาจจะมาทุกๆ 5 ปีกไ็ ด้ แต่นคี่ อื “โอกาสรวย” เพราะเมือ่ หุน้ ขึน้ มาถึงจุดหนึง่ แล้วจะเกิดฟองสบู่ แน่นอนต้องเข้าใจว่าในตลาดหุน้ มันมีทงั้ “ความโลภ” และ “ความกลัว” อยูใ่ นนัน้ เมื่อใดที่นักลงทุนมีความกล้าเมื่อนั้นแหละตลาดมันจะพังเอง “ตอนนีผ้ มก�ำลังรอให้เกิดฟองสบู่ ถ้าเกิดเมือ่ ไรจะออกจากตลาดหุน้ ทันที แล้วรอเข้าไปซื้อรอบใหม่ รอบนี้ผมอาจจะไม่รวยมากนัก วิกฤติครั้งแรกถือว่า เป็นแค่การเรียนรู้แต่เชื่อว่าครั้งหน้าผมอาจรวยขึ้น 8 เท่าก็เป็นได้” เจ้าตัวรีบออกปากว่าอย่าเพิ่งคิดว่าอะไรๆ จะง่ายเสมอไป ส่วนตัวคิดว่า ชีวิตการเป็นนักลงทุนมันไม่มีค�ำว่าส�ำเร็จในชั่วข้ามคืน ถ้าใครรวยอย่างนั้นได้ อย่าคิดว่ามันจะยั่งยืน การสร้างความมั่งคั่งมันง่ายแต่สิ่งที่ยากกว่าคือการรักษา มันเอาไว้ ส�ำหรับเป้าหมายในภาพใหญ่ วีไอหนุม่ สรุปสัน้ ๆ ว่า อีก 20 ปีขา้ งหน้า “ผมจะ รวยมหาศาล” ตามแนวทางทีไ่ ด้บอกไว้ ระหว่างนัน้ อยากทีจ่ ะสร้างความรูด้ า้ นการ ลงทุนให้กบั คนรุน่ ใหม่กลุม่ Gen Y ให้คนไทยฉลาดทีจ่ ะลงทุนไม่ตกเป็นแมลงเม่า ง่ายๆ เจ้าตัวฟันธงว่าใครก็ตามที่สามารถอยู่รอดในตลาดหุ้นได้นานถึง 20 ปี รับรองรวยแน่ๆ “ผมคิดว่าการเป็นวีไอคือการปลูกต้นสักหนึ่งต้นต้องใช้เวลา 20 ปี ให้ มันค่อยๆ โตไป แต่ถ้าคุณรักจะปลูกถั่วงอก (เล่นเดย์เทรด) มันอาจมีอายุแค่ 1 วันก็ตายแล้วมันไม่มีความแน่นอน เอาว่าอีก 20 ปี ค่อยมาสัมภาษณ์ผม ใหม่ว่าที่พูดไว้จะเป็นจริงได้ไหม” ก่อนจากกัน ภาววิทย์มองภาพตลาดหุ้นไทยตอนนี้ (ใกล้ๆ 1,100 จุด) “ไม่ถูก-ไม่แพง” คืออยู่กลางๆ คนที่ยังไม่ได้ซื้อหุ้นเลย “ยังไม่สายเกินไป” แต่ต้องมองระยะยาวต้องใช้กราฟเทคนิคช่วยตัดสินใจด้วยเพื่อที่จะขายให้ได้ แพงกว่า “จากตอนนี้ (เมษายน) ถึงสิ้นปี 2554 ผมฟันธงว่าหุ้นจะต้องมีช่วง ตกแรงอีกครั้งหนึ่ง”
ริมถนนนักลงทุน ฉบับที่ 358 ประจ�ำ
วันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2554 • ไม่รู้ “พิชญ์ โพธารามิก” ไปหว่าน เสน่ห์อีท่าไหน “เซียนรายใหญ่” พากัน ใส่เต็มๆ เหมือนนัดกันมา “ดัน” หุ้น JAS น�ำโดย “นพ.บ�ำรุง ศรีงาน” ถือมากสุด 233 ล้านหุ้น มูลค่าตลาดล่าสุด 712 ล้านบาท “นพ.พงศ์ศกั ดิ์ ธรรมธัชอารี” เอาด้วย 127 ล้านหุน้ มูลค่า 388 ล้านบาท “เสีย่ ปู”่ สมพงษ์ ชลคดีด�ำรงกุล 79.90 ล้านหุ้น มูลค่า 244 ล้านบาท และ “เมีย ดร.ไพบูลย์” มันนี่ ทอล์ค “วราณี เสรีวิวัฒนา” เอาด้วย 65 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท • กองทุนยักษ์ “Franklin Templeton Funds” ของ “มาร์ค โมเบียส” เข้ามาเก็บหุน้ “แบงก์ไทย” ไว้เพียบ ถือ KBANK 4.99% SCB 5.05% TISCO 5.03% นอกจากนี้ ยังถือ TUF, PTTAR, CCET, HEMRAJ
แบบทดสอบคุณเป็น ‘แมลงเม่า’ รึเปล่า! ภาววิทย์ กลิน่ ประทุม ให้ความเห็น
ว่าถ้าคุณไม่ตอ้ งการเป็น “แมลงเม่า” ในตลาดหุ้น จะต้องฝึกเป็นนักลงทุน แบบ “ชาวสวน” อย่าเป็น “ชาวไล่” (ราคาหุ้น) สาเหตุที่ลงทุนผิดพลาด เพราะคนส่วนใหญ่ในตลาดหุน้ มักจะซือ้ หุน้ ทีไ่ ม่ควรซือ้ (หุน้ พืน้ ฐานไม่ด)ี และซือ้ ในเวลาทีไ่ ม่ควรซือ้ (หุน้ วิง่ สูงมากแล้ว) และ ชอบขายหุน้ ทีด่ ใี นเวลาทีไ่ ม่ควรขาย (ขายหมู) นีค่ อื เหตุผลทีล่ งทุนแล้วไม่ประสบความส�ำเร็จ มากที่สุด ตัวอย่างเช่นถ้าหุ้นตัวหนึ่งราคา วันแรกตกไป 10% ก็ยังไม่ Cut Loss วันถัดไปตกต่อก็ไม่กล้า Cut Loss สุดท้ายพอตกลงไปถึง 40% ก็ยอมขาย ขาดทุนออกมา พอขายเสร็จไม่นานหุน้ จะขึ้นหลังจากนั้นเป็นประจ�ำ แต่พอ ตลาดตกแรงๆ ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัว จะลงไปอีก พอซื้อแล้วลงต่อก็ไม่กล้า เข้าไปซื้อเพิ่ม สุดท้ายไม่เคยซื้อหุ้น ได้ในราคาถูกเลย ถ้าคุณเป็นอย่างทีผ่ มบอก คุณคือ “แมลงเม่า” อีกกรณี หนึ่งคือแมลงเม่าจะทน เห็นตลาดหุ้นขึ้นแรงๆ ไม่ได้จะต้องมองหา “หุ ้ น ที่ ยั ง ไม่ ขึ้ น ” แล้วเข้าซื้อเพราะ ไม่อยาก“ตกขบวน” ผลคือมักจะไปได้หนุ้ ทีไ่ ม่ดใี นราคาทีไ่ ม่ถกู มาเสมอ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคายังไม่แพง “สรุปคือถ้าคิดจะประสบความส�ำเร็จใน ตลาดหุ้นคุณต้องเป็นคนส่วนน้อย (ชาวสวน) ในตลาด”
และ AMATA เมื่อเร็วๆ นี้ “ZAKE” (ร้านซูชิ-ซาซิมิ) “โมเบียส” ก็เพิง่ มาร่วมงาน “KATZ” (ร้านหมูทอด) “ไทยแลนด์โฟกัส” ทีโ่ รงแรม “Kuru Kuru” (ร้านขนม โฟร์ซซี นั่ ส์ ชอบเมืองไทยสุดๆ ญี่ปุ่น) และซื้อ “มาสเตอร์ • “เด็มโก้” เปลีย่ นตัว แฟรนไชส์” จากญีป่ นุ่ อีก 2 “ซีอโี อ” คนใหม่เรียบร้อยแล้ว แบรนด์ คือ “โดทงโบริ” และ จาก “ประเดช กิตติอสิ รา“โอโนมิยากิ” นอกจากนี้ นนท์” มาเป็น “พงษ์ศักดิ์ ยังจะลุยธุรกิจ “แคเธอริง่ ” ศิริคุปต์” มีผลตั้งแต่วันที่ และก้าวต่อไปจะผลิต “อาหาร 11 เมษายน 2554 ทีผ่ า่ นมา แช่แข็ง” วางเป้าภายใน • หลังลาออกจาก GEN นพ.บ�ำรุ ง ศรีงาน 5 ปี “ล็อกซเล่ย์” จะเป็น เอ็มดีร่างโย่ง “กิตติชัย “รายใหญ่” ในธุรกิจอาหาร รักตะกนิษฐ์” ก็ตามไปอยู่ด้วยกับนายเก่า ของไทย “วิชญา จาติกวณิช” ที่ “ล็อกซเล่ย”์ ดูแล • ก่อนสงกรานต์ตระกูล “ภิรมย์ภกั ดี” ธุรกิจเกีย่ วกับ “กรีน โซลูชนั่ ” ส่วนผูบ้ ริหาร เพิง่ ชนะประมูลทีด่ นิ “สถานทูตญีป่ นุ่ ” กว่า ชุดใหม่แต่หน้าเดิม “อ�ำนาจ ตันกุริมาน” 9 ไร่ หัวมุมถนน “อโศก-เพชรบุรี” ชนะ ปฏิเสธข่าวที่ว่าเตรียมดึงกลุ่ม “คุณหญิง ไปทีร่ าคาประมาณ 4.7 แสนบาทต่อตารางวา ชัชนี จาติกวณิช” มาซื้อหุ้นเพิ่มทุน GEN ติดกับทีด่ นิ ของ “ศุภาลัย” ประมาณ 3 ไร่ ที่ “ไม่เป็นความจริง” ซือ้ มาจาก “บ.คัมมิน่ ส์ ดีทแฮล์ม” ในราคา • ด้าน “ล็อกซเล่ย์” ตอนนี้หันไปลุย กว่า 3.5 แสนบาทต่อตารางวา เมื่อปีก่อน ตลาด “รีเทล” เปิดร้าน “อาหารญี่ปุ่น” • เถ้ า แก่ ใ หญ่ ศุ ภ าลั ย “ประที ป พัฒนาเองถึง 4 แบรนด์ “WaQ” (ร้านชาบู) ตั้งมติธรรม” โชว์ฝีมือ “แต่งเพลง” ในชื่อ
“มองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูง” เนื้อหาเพื่อ สร้างสรรค์สงั คม ได้เพือ่ นร่วมชัน้ “สถาบัน พระปกเกล้า” ร่วม “โชว์ลูกคอ” แจกฟรี! ไปขอรับ “ซีดเี พลง” ได้ที่ “ออฟฟิศใหญ่” ย่านถนนพระราม 3 หรือชมผ่าน “YouTube” ใส่ชื่อเพลงแล้วกดค้นหาได้เลย • “กวี ชูกิจเกษม” นักวิเคราะห์หุ้น คนดังค่าย “บล.กสิกรไทย” เปิด “เฟซบุค๊ ” ของตัวเองเป็นเวทีพบปะ “แฟนคลับ” เน้น “ตอบเร็ว-ตรงประเด็น” แฟนๆ ลองเข้าไป เยี่ยมชมกันได้ • โฆษณา “โมเดิรน์ ไนน์” (ช่อง 9) ไตรมาส แรก “เต็มจนล้น” ต้องยอม “ทิง้ ” ไปเดือนละ กว่า 10 ล้านบาท เพราะไม่สามารถรับได้ ไตรมาส 2 ถือเป็นช่วง “ไฮซีซัน” ท�ำให้ “ธนวัฒน์ วันสม” ต้องปรับแผนการท�ำตลาด ใหม่จดั แพ็คเกจ “ขายพ่วง” สือ่ ในเครือทัง้ วิทยุ ทีวดี าวเทียม และสือ่ ใหม่ เพือ่ กระจาย งบโฆษณาทีล่ น้ จากช่อง 9 ไปยังสือ่ อืน่ ๆ แทน มัน่ ใจ “ครึง่ ปีแรก” รายได้ “อสมท” น่าจะ เติบโตตามเป้าหมาย 10-15% ถ้า “ไม่มที ลี่ ง” ผลักมาลงโฆษณาใน “กรุงเทพธุรกิจ” บ้าง
ภาววิทย์ กลิ่นประทุม
มีลม้ แน่ๆ แต่เราจะเรียนรูก้ ารใส่หมวกกันน็อคอย่างไร ให้ล้มลงเจ็บน้อยที่สุด สิ่งที่สอนๆ กันไม่ใช่ว่า 1+1 แล้วต้องเป็น 2 เสมอไป ผมว่าทุกคนต้องเรียนรูแ้ ละ ฝึกหัดที่จะดัดแปลงแนวทางการลงทุนของตัวเอง ขึ้นมา วิธที จี่ ะ “เซฟ” ทีส่ ดุ จะต้องเลือกหุน้ ทีม่ ี “พืน้ ฐาน ดี” ไว้ก่อน และเป็นเหตุผลที่ภาววิทย์เลือกลงทุน หุ้น ADVANC แต่ไม่ลงทุนหุ้น “คู่แข่ง” ที่ใครๆ ก็นิยมเล่นกันเล่นกันแค่ข่าวแม้เขาจะยึดมั่นหุ้น “บิ๊กแคป” เป็นทางสายหลัก แต่วีไอหนุ่มก็แบ่งเงิน ปันผลบางส่วนมาลงทุน “หุ้นตัวเล็ก” หรือ Penny Stock บ้างเหมือนกัน โดยเตรียมใจว่าเงินก้อนนี้ พร้อมจะ “สูญ” ได้ทั้งหมด แต่ถ้า “โชคดี” อาจได้ ผลตอบแทนเป็น “สิบเด้ง” ก็ได้ “ผมเรียกหุ้นพวกนี้ว่า “หุ้นกาก” (หัวเราะ) เหมือนกับเราเล่นพนันเอาเงินไปเสี่ยงไว้โดยไม่รู้ว่า เจ้ามือเขาจะหยิบมาเล่นจนหุน้ พุง่ กระจายก็ได้ ส่วนตัว จะมองกรณีเลวร้ายสุดเอาไว้กอ่ นเหมือนท�ำธุรกิจ ถ้า ท�ำใจรับได้ก็ลงไปเลย แต่ไม่ใช่จะเลือกหุ้นแบบสุ่มสี่ สุ่มห้า ต้องศึกษาธุรกิจนั้นพอสมควร ที่ส�ำคัญคือ ผูบ้ ริหารเป็นคนอย่างไรเคยมีประวัตปิ น่ั หุน้ ตัวเองไหม ถ้าเคย (ปั่นหุ้น) ผมเชื่อในประวัติศาสตร์มันมัก จะกลับมา” ส�ำหรับใครทีช่ อบลงทุน “หุน้ ตัวเล็ก” ให้ “เสีย่ ง น้อยหน่อย” ภาววิทย์มีข้อแนะน�ำให้เลือกหุ้นที่มี สภาพคล่องการซื้อขายต�่ำๆ มีค่า P/BV ต�่ำ แต่จ่าย ปันผลสูงๆ หุ้นพวกนี้มีอยู่ในตลาดเยอะแต่ไม่ค่อย มีคนมาเล่น ถ้าคิดจะเล่นจะต้อง “เข้าก่อนเจ้ามือ” หุ้นพวกนี้ถ้าวิ่งขึ้นมาแล้ว “อย่าไปไล่ตาม” (เดี๋ยว ติดดอย) อย่างน้อยถ้าราคาหุน้ ไม่ขนึ้ เราก็ยงั ได้ปนั ผล สูงๆ อยู่ดี แต่ถ้ามีเจ้ามือมาเล่นเราก็โชคดี “ผมเคยซื้อหุ้น CFRESH ที่ 3.88 บาท เพราะ ให้ปนั ผลสูงแต่มสี ภาพคล่องต�ำ่ แค่เดือนเดียวมีคนมา ลากราคาไป 6 บาทแต่ของแบบนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ” ส�ำหรับเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว ภาววิทย์ตงั้ ธง ว่าจะยังถือหุ้นที่ซื้อตั้งแต่หลังวิกฤติไปจนถึงเวลาที่ ราคาเริ่มแพงหรือ Over Sold แล้ว โดยจะใช้วิธีการ วิเคราะห์ทางเทคนิคเข้าช่วยอีกทาง แต่มองว่ายังไม่ใช่ เวลาใกล้ๆ นี้แน่นอน “อย่างหุ้น PTT ตอนนี้ใครก็บอกว่าแพงแล้ว แต่อีก 20 ปีข้างหน้าอาจจะไม่ใช่ราคานี้ ราคาหุ้น จะไปแค่ไหนผมไม่รแู้ ต่ผมมัน่ ใจว่ารายได้และเงินปันผล จะโตกว่านี้มาก ส่วนตัวมองว่าจะไปขายตอนราคา 1,000-1,200 บาท...มีคนสงสัยว่าจะเป็นไปได้ อย่างไร! เอาเป็นว่าคุณลองไปดูหุ้น SCC มันโตขึ้น กี่เท่า หุ้น BANPU โตขึ้นกี่เท่า หุ้น CPN เคยเหลือ 0.20 บาทตอนหลังวิกฤติแปดปีต่อมาราคาขึ้นไป 28 บาท หรือ 140 เท่า ถ้าจ้องแต่ซอื้ ๆ ขายๆ ไม่มที าง ท�ำผลตอบแทนได้ขนาดนี้หรอก” เขามีความเชือ่ ส่วนตัวเกีย่ วกับ Asian Miracle และ Super Bull Market ตลาดหุน้ ก�ำลังฟืน้ ตัวอย่าง แท้จริง SET บ้านเราจะวิ่งไปท�ำ New High แบบที่ ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน เพราะตลาดหุน้ เราอยูใ่ น Cycle ขาลงมานานแต่การขึ้นของตลาดจะไม่ขึ้น เป็นจรวด มันจะขึ้นแล้วปรับฐานแรงๆ แล้วขึ้นต่อ จากนัน้ ก็ปรับฐานเป็นระยะๆ แต่ทกุ ครัง้ ทีป่ รับฐาน มัน จะสามารถสร้าง New High ได้เสมอ และการปรับฐาน แรงๆ อาจท�ำให้พอร์ตลงทุนของคุณ “จมน�ำ้ ” เป็นช่วงๆ ซึ่งก็ไม่แปลก เหตุผลทีจ่ ะมาสนับสนุนยุครุง่ เรืองของตลาดหุน้ คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC) งานประจ�ำทีธ่ นาคารกรุงเทพ ก�ำลังเร่งท�ำวิจัยผลกระทบจาก AEC ท�ำให้รู้ว่า ผลกระทบด้านบวกน่าจะดันให้เอเชียเป็นตัวขับเคลือ่ น เศรษฐกิจโลกในอนาคตอย่างแน่นอน ปัจจัยอื่น อย่างเช่นการล่มสลายทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิทญ ี่ ปี่ นุ่ การเติบโตของจีน และอินเดีย ทั้งหมดนี้น่าจะส่งผลดีต่อประเทศไทย ทั้งหมด นอกจากนี้สภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน เปลีย่ นแปลงไปมาก อีกไม่กปี่ เี ราจะมี 3G ใช้ พลังงาน ทดแทนจะเริม่ บูม ทีส่ ำ� คัญยังมีปจั จัยเรือ่ งของแนวโน้ม ประชากรกลุ่มเจเนอเรชั่น Y หรือกลุ่มอายุ 30 ปี ขึน้ ไปจะเริม่ เพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ กลุม่ นีจ้ ะเป็นตัวขับเคลือ่ น เศรษฐกิจ จับจ่ายใช้สอย และยังเป็นกลุ่มที่เริ่ม ลงทุนในตลาดหุ้นผ่านกองทุน LTF ซึ่งเป็นตัวหนุน ส�ำคัญ
ก็ได้นะ..รับไม่อั้น (ฮา) • ช่วงนี้ “ธนาคารพาณิชย์” ต่างแข่งขัน กันน�ำเสนอ “ผลิตภัณฑ์เงินฝาก” มากมาย “สิงหะ นิกรพันธุ์” ผู้อ�ำนวยการสถาบัน คุม้ ครองเงินฝาก (สคฝ.) ฝากเตือนว่า “สคฝ.” จะคุม้ ครองเฉพาะ “เงินฝาก” นะครับคุณพี่ ส�ำหรับเงินลงทุนในกองทุนพันธบัตรต่างๆ RMF, LTF หุน้ กูธ้ นาคาร, หุน้ กูบ้ ริษทั เอกชน, ตัว๋ บีอ,ี สลากออมทรัพย์ เหล่านี้ “ไม่ถอื เป็น เงินฝาก” ถ้าโดน “เบี้ยว-เจ๊ง” ไม่คุ้มครอง นะจ๊ะ! ใครสงสัยโทร.ไปถามได้ที่ 02-2720300 หรือเข้า www.dpa.or.th • “ASEAN TV” ทดลองออกอากาศ แล้ว ส่วนที่ “เครือเนชัน่ ” ไปช่วยผลิตให้คอื “ASEAN Newsroom” 07.00-08.00 น. จันทร์-ศุกร์ และเวลา 21.00-22.00 น. ดูได้ ทาง True Visions ช่อง 98 หรือ 99 และ ดูได้ผา่ นจานดาวเทียม C-Band PSI ช่อง 88 จานยีห่ อ้ อืน่ ๆ ก็ดไู ด้ ทีส่ ำ� คัญยังดูผา่ น iPhone, iPad ดาวน์โหลด App Store MCOT.Net แล้วเข้าไป Live TV ดูสดๆ ได้ 3 ช่องคือ ช่อง 9, MCOT1 และ ASEAN TV
• ใกล้แล้วงาน “Money Expo 2011” ภายใต้แนวคิด “การเงินดีชีวิตดี : Better Money Better Life” มีแคมเปญดีๆ เพียบ ทั้ง “ฝาก-กู้-ลงทุน” งานจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 12-15 พฤษภาคม 2554 นี้ ที่อาคาร ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สิงหะ นิกรพันธุ์