ผ่าแผนลงทุน 3 ปี ‘กบข.’ ชนะเงินเฟ้อ 7
6 เดือนที่เหลือ ของ
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์
3 www.bangkokbiznews.com
หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek : bizweek@nationgroup.com ปีที่ 6 ฉบับที่ 355 วันที่ 4 เมษายน 2554
Go Gas ‘No Choice’
‘แฮปปี้นอย’ คอนวีเนียน สโตร์ คนจน ‘ตากาล็อก’
4
ทางเลือกที่ต้อง ‘เลือก’ สุกัญญา ศุภกิจอ�ำนวย
ปัญหานิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ยิ่งท�ำให้ทั่วโลกรวมถึงไทยขยาดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่นับโรงไฟฟ้าถ่านหิน “ก๊าซ” จึงกลายเป็นค�ำตอบของพลังงานในอนาคตของไทย ประเมินว่า สัดส่วนการใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้าจะสูงขึ้นถึง 71% ในปี 2573 ในจ�ำนวนนี้เป็นการน�ำเข้ามากถึง 60% ที่ส�ำคัญราคาจะ “สูง” ลิบ เมื่อเทียบกับก๊าซในอ่าวไทย วิกฤติค่าไฟ-ขาดดุลการค้า ก�ำลังจะเกิดขึ้น หรือไม่ ในภาวะที่...ต้องการไฟฟ้า แต่ไม่เอา “โรงไฟฟ้า”
ถอดวิถีรอด ธุรกิจ
‘เพลง-หนังไทย’
5 แรงต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินในเมืองไทย ส่งผลให้ “ทาง 39% ในปี 2573 ซึง่ จะถูกทดแทนด้วยการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้า
‘ธรรมดา’ ที่ ‘ไม่ธรรมดา’
3
เลือก” ในการผลิตไฟฟ้าเหลือน้อยเต็มที ขณะที่พลังงานทดแทน (Renewable Energy) ได้แก่ พลังงาน แสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวภาพ ชีวมวล ฯลฯ แม้รัฐจะมีทิศทางที่ชัดเจนในการส่งเสริมการผลิต และการใช้ แต่ส�ำหรับประเทศไทยพลังงานประเภทนี้ถือว่าเป็นพลังงานที่เพิ่ง “ตั้งไข่” ไม่นับปัญหานานาประการ ไล่ตั้งแต่ ต้นทุนการผลิตที่ยังคงสูงกว่าเชื้อเพลิงอื่น ก�ำลังการผลิตที่ผลิต ได้แต่น้อย ปัญหาวัตถุดิบที่ยังไม่เพียงพอ เทคโนโลยีรองรับที่ประเทศไทยยังต้องการเวลาในการพัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยี การพึ่งพาการน�ำเข้าวัสดุ-อุปกรณ์ ก๊าซธรรมชาติจึงยังคงเป็น “ตัวเลือก” ที่จ�ำต้องเลือก แม้วา่ รัฐบาลมีความพยายามจะ “จัดสมดุล” การใช้พลังงาน โดยเฉพาะการใช้พลังงานในการผลิตไฟฟ้า ไม่ให้ “เอียง” ไปในเชื้อเพลิงใดเชื้อเพลิงหนึ่งมากเกินไป เพื่อต้องการสร้าง “เสถียรภาพ” ในการผลิตไฟฟ้า กรณีที่เชื้อเพลิงใดเชือ้ เพลิงหนึ่งเกิดปัญหา จะมีเชือ้ เพลิงอื่นมารองรับการผลิตไฟฟ้าได้ทันท่วงที เพราะรู้ดี ว่าในสถานการณ์ปัจจุบันไทยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าเกินไปแล้ว ดังนั้น ตามแผนพัฒนาก�ำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2010) ซึ่งเป็นแผนระยะ 20 ปีที่ ระหว่างปี 25532573 จึงก�ำหนดให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จ�ำนวน 5 โรง ก�ำลังการผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าถ่านหินจ�ำนวน 9 โรง ก�ำลังการผลิตโรงละ 800 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังก�ำหนดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าลดลงจาก 66% ในปัจจุบัน เหลือ
‘ทรู คอร์ปอเรชั่น’ เกมของ ‘เจ้าสัว’ ‘ถอนเงิน’ รายย่อย ‘เติมทุน’ กลุ่มทรู บมจ.ทรู คอร์ ปอเรชัน่ เพิ่งได้ เงินกู้ก้อนใหญ่จากธนาคารไทย พาณิชย์มาหยกๆ แถมแต่งตัง้ SCB เป็ นที่ปรึกษาทางการเงินในการ ระดมทุนโครงการ 3G อย่างเป็ นทางการ แต่ไหง! กลายเป็ นว่า เจ้ าสัว ‘ธนินท์ เจียรวนนท์ ’ เลือกที่จะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา “เติมทุน” กลุม่ ทรู รายย่อย ‘ตกกระไดพลอยโจน’ จะ ‘ถอย’ ก็ขาดทุน ไม่ใช้ สทิ ธิเพิ่มทุนก็ยิ่ง ‘ขาดทุนหนัก’ 8
จากพลังงานทดแทน ทว่า เมือ่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทปี่ ระเทศญีป่ นุ่ เกิดการรัว่ ไหลของสารกัมมันตรังสี จากเหตุการณ์แผ่นดิน ไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ ยิ่งท�ำให้ทั่วโลกเริ่มขยาดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กระทรวงพลังงานเองก็โหนกระแส ในเรื่องนี้ด้วยการตัดสินใจทบทวนแผนพัฒนาก�ำลังการผลิตไฟฟ้า PDP2010 ใหม่ “ณอคุณ สิทธิพงศ์” ปลัดกระทรวงพลังงาน ออกมาบอกเองว่า... “เมื่อเราไม่เอาโรงไฟฟ้า แต่เราเอาไฟฟ้า” ท�ำให้ประเทศไทยอาจจะมีความจ�ำเป็นต้อง “ขยับ” แผนการน�ำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas-LNG) ให้เร็วขึ้น จากความไม่แน่นอนใน การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยในแผนเดิม ปตท.จะต้องน�ำเข้า LNG เฟสแรกจ�ำนวน 5 ล้านตันภายในปี 2563 และเริ่มท�ำสัญญา รับซื้อ LNG ในอีก 5 ล้านตันในปี 2563 ขณะในปี 2568 จะต้องก่อสร้างสถานีรับก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งที่ 2 (Second LNG Receiving Terminal) เพื่อรองรับปริมาณการน�ำเข้า LNG อีก 10 ล้านตัน ที่จะเข้ามา ในปี 2570 ปริมาณดังกล่าว อยู่บนสมมติฐานของการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน
2
2
วันที่ 4 เมษายน 2554 เชื้อเพลิง กาซธรรมชาติ นิวเคลียร ถานหิน พลังงานนำเขา พลังงานทดแทน
สัดสวน 39% 11% 21% 19% 5-6% ที่มา : ปตท. (ตามแผน PDP 2010 -ป 2553-2573 ขณะนี้อยูระหวางปรับปรุง)
การใชเชื้อเพลิง ผลิตไฟฟาในป 2573
กรณีมีโรงไฟฟาถานหินและโรงไฟฟานิวเคลียร 1
VS
Niche Mainstream เมือ่ สัปดาห์กอ่ นผมเพิง่ พูดคุยกับผูส้ อื่ ข่าวเกีย่ วกับการขยาย
ธุรกิจของเราในต่างแดน ซึง่ เริม่ ท�ำเป็นทีแ่ รกทีก่ รุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถือเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน คือ คนไทยที่มีบุตรหลาน เรียนอยูท่ นี่ นั่ และก�ำลังมองหาทีอ่ ยูอ่ าศัย ดังนัน้ ผมจึงไม่แปลกใจทีว่ นั ต่อมาจะ มีพาดหัวข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์วา่ เรา “เจาะกลุม่ ” หรือ ท�ำตลาดแบบ “niche” ค�ำว่า niche ท�ำให้ผมนึกถึงนักวิชาการระดับโลกคนหนึ่ง เขาคือ นาย Michael Porter ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่น�ำเอาความคิดเรื่องของ niche product/market มาพูดอย่างแพร่หลาย แนวคิดเรื่อง niche นี้ปรากฏอยู่ในทฤษฎี Generic Strategies ของ เขา ทีน่ ำ� เสนอในช่วงทศวรรษ 80 ทฤษฎี Generic Strategies ทีจ่ ริงแล้วใน ความคิดของผมก็เป็นเหมือนวิชาพื้นฐานของบรรดานักบริหาร ที่ทุกคนต้อง เข้าใจเพื่อธุรกิจจะได้ด�ำเนินไปอย่างแข็งแรงในระยะยาว ค�ำว่า niche product ถ้าจะให้ค�ำจ�ำกัดความง่ายๆ ส�ำหรับผมก็คือ สินค้าหรือบริการประเภทที่คนส่วนมากไม่ได้อยากได้ แต่เป็นสินค้าหรือ บริการทีเ่ หมาะสมอย่างทีส่ ดุ กับกลุม่ คนเฉพาะกลุม่ เช่น เว็บไซต์ที่น�ำเสนอ บริการนัดบอดส�ำหรับกลุ่มคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ iphone เป็นต้น ตัวอย่าง นี้ถือว่าเป็นกรณีเฉพาะมากๆ ซึ่งผมไม่ทราบจริงๆ ว่า จะมีกลุ่มลูกค้าที่เหมาะ สมอย่างที่สุดกับบริการเช่นนี้หรือไม่ ดังนั้นการท�ำธุรกิจ niche market ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องศึกษาอย่าง ถ้วนถี่เสียก่อนว่าขนาดของตลาดกลุ่มคนเฉพาะแบบเช่นนี้มีไซด์ที่ใหญ่พอที่ ธุรกิจจะเติบโตได้หรือไม่ และจะวางกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาว ได้อย่างไร ขณะที่ค�ำตรงข้ามกับ niche market ก็คือ mainstream market หรือ mass market ซึ่งนับตั้งแต่นาย Porter ท�ำให้คำ� ว่า niche market รูจ้ กั และใช้กนั อย่างแพร่หลาย แล้ว ก็ยงั มีบรรดานักคิด นัก เศรษฐศาสตร์ และผูร้ ดู้ า้ น การตลาดและธุรกิจหลาย ท่านน�ำเสนอความเห็น ต่างๆ นานา บ้างก็วา่ ยุคของการ ท�ำการตลาดแบบ mainstream ก�ำลังจะค่อยๆ ถูก เบียดเบียนด้วยการท�ำตลาด แบบ niche บางคนก็ว่าการ ตลาดแบบ niche คือแนวคิด ส�ำคัญของยุคธุรกิจปัจจุบัน ที่เราต้องท�ำความเข้าใจให้ดี ไม่เช่นนั้นธุรกิจจะไปไม่รอด ถ้าท่านผูอ้ า่ นเป็นคนหนึง่ ทีค่ อ่ นข้างโน้มเอียงไปในทาง เห็นด้วยกับความมาแรงของการ ท�ำตลาดแบบ niche แน่นอน ครับ มีตัวอย่างหลายๆ ธุรกิจ ที่จะช่วยสนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น แบรนด์รถจักรยานยนต์ จิ๋ว Stallions Mini ของคน ไทยที่เริ่มได้รับความนิยม เพราะเอกลักษณ์การออกแบบ ทีต่ า่ งจากคูแ่ ข่ง จับกลุม่ ลูกค้า ทีต่ อ้ งการสินค้าเฉพาะแบบและ ฉีกจากสินค้าทีถ่ กู น�ำเสนอโดย แบรนด์ mainstream อย่าง ชัดเจน หรื อ ตั ว อย่ า งความ ล้มเหลวของแบรนด์ mainstream ต่างประเทศ เช่น สตาร์บัคส์ ซึ่งหลังจากขยายธุรกิจร้านกาแฟจนแทบไม่มีเวลาหายใจ แต่เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มขยายธุรกิจช้าลง น�ำเอาความเป็นท้องถิ่นเข้ามาใส่ใน ร้านสไตล์ใหม่ของตัวเองเพื่อสร้างเอกลักษณ์และขยับตัวหนีจากความเป็น mainstream มากขึ้น หรืออย่างค่ายรถยนต์ General Motor ที่มีหลาย แบรนด์ใน portfolio มากเสียจนประสบปัญหามากมายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังมีตวั อย่างธุรกิจหลากหลายทีส่ วนกระแสแนวคิด niche เช่น amazon.com ที่เริ่มจากการเป็นร้านหนังสือออนไลน์ จนปัจจุบันแทบ จะขายทุกอย่างออนไลน์แล้ว หรือ google ทีเ่ ป็น search engine ของทุกๆ คนบนโลกนี้ที่ใช้ส�ำหรับหาทุกอย่างบนโลกนี้เช่นกัน ถึงแม้วา่ ปัจจุบนั แนวโน้มของการเรียกร้องสิทธิและความเป็นปัจเจกบุคคล ของผูบ้ ริโภคจะถูกน�ำมาเสนอและขยายความจนฟังดูเหมือนว่าสินค้าและบริการ ทุกอย่างควรต้องถูก tailor-made ให้ตรงตามความต้องการของผูบ้ ริโภคให้ มากที่สุด แต่ผมก็ยังเชื่อว่าแนวคิดทั้งแบบ niche และ mainstream ต่างก็ มีจดุ ทีจ่ ะยืนอยูข่ องตนเองในโลกธุรกิจปัจจุบนั ผมเองไม่เชือ่ ว่าธุรกิจแบบใด แบบหนึ่งจะก้าวขึ้นมามีอิทธิพลในโลกการค้าแบบผูกขาด จากทฤษฎีของนาย Porter ที่เกี่ยวกับ niche market ผมขอคานด้วย ทฤษฎีของ Charles Darwin ที่พูดถึงเรื่องวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตถ้าหาก ได้รบั การพัฒนาในด้านทีเ่ หมาะสมโดยปรับตัวและคัดเลือกเอาสิง่ ทีด่ เี ก็บไว้ ก็ จะยังท�ำให้สามารถสืบชีวิตต่อไปได้ เช่นกันครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น niche หรือ mainstream ธุรกิจใดๆ ก็ตามจะ ยืนหยัดอยู่ได้ในทุกสภาพการแข่งขันถ้าหากธุรกิจนั้นๆ มีความสามารถ ในการปรับแนวทางให้เข้ากับ positioning ของตัวเองให้เหมาะสมกับ สภาพตลาด ณ ขณะนั้น
แนวคิดทั้งแบบ niche และ mainstream ต่างก็ มีจุดยืนของตนเอง ผมไม่เชื่อว่าแนวคิด แบบใดแบบหนึ่งจะ ก้าวขึ้นมามีอิทธิพล ในโลกการค้าแบบ ผูกขาด
เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท แสนสิริ จ�ำกัด (มหาชน) แม่ทัพใหญ่ค่ายเรียลเอสเตท นักก�ำหนดกลยุทธ์ธุรกิจและ สร้างแบรนด์ให้องค์กร เขาจบเอ็มบีเอด้านไฟแนนซ์จาก Claremont Gradute School
จ�ำนวนดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณการใช้ก๊าซ ธรรมชาติของประเทศไทยจะอยูท่ รี่ ะดับ 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟตุ ต่อวันคงทีต่ งั้ แต่ปี 2563-2573 “ณัฐชาติ จารุจินดา” รองกรรมการผู้จัดการ ใหญ่กลยุทธ์องค์กร ปตท.ระบุ แต่ถา้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้า ถ่านหินเกิดขึน้ ไม่ได้ นอกจากจะเร่งแผนการ น�ำเข้า LNG แล้ว น่าจะต้องมาพิจารณาถึง “ปริมาณ” การน�ำเข้า LNG ที่จะต้องเพิ่ม ขึ้นจากแผนดังกล่าว หรือไม่ อย่างไร
มากในอนาคต “สังคมต้องยอมรับว่าก๊าซธรรมชาติใน อ่าวไทยจะลดลง ท�ำให้ไทยต้องพึง่ พาการน�ำ เข้าพลังงาน No Choice” เขาเผย แม้วา่ ในแง่ของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ ก๊าซธรรมชาติเป็นเชือ้ เพลิง ในทีป่ ระชุมวิชาการ และนิทรรศการระดับโลกในอุตสาหกรรมก๊าซ ธรรมชาติ ครั้งที่ 25 (GASTECH 2011) จะ ระบุวา่ มีตน้ ทุนต�ำ่ กว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 เท่า ต�่ำกว่าถ่านหิน 2-3 เท่า ต�่ำกว่าพลังงานลมบน บก 7-10 เท่า และพลังงานลมทะเล 10-15 เท่า ขณะเดียวกันยังมีการคาดการณ์กันว่า
‘น้ำมันดิบ’ สินคานำเขาอันดับ 1 ของไทย
มูลคา : ลานเหรียญ 2552 2553 2553 2554 (ม.ค.-ก.พ.) (ม.ค.-ก.พ.) 30,159.8 19,113.7 23,905.3 3,149.6 4,452.8 8,856.1 5,477.2 9,877.4 2,716.5 3,191.5
อันดับที่ ช�อสินคา 1 2 3 4 5
2551
น้ำมันดิบ เคร�องเพชรพลอย อัญมณี เงินแทงและทองคำ เคร�องจักรกลและสวนประกอบ 14,880.9 12,073.8 16,726.0 2,319.7 เคมีภัณฑ 12,644.5 8,667.8 12,586.2 1,842.0 เคร�องจักรไฟฟาและสวนประกอบ 10,742.9 9,394.2 12,162.5 1,734.8
2,834.6 2,298.7 2,121.9
ที่มา : ศูนยเทคโนโลยีสารสนเทศและการส�อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย โดยความรวมมือจากกรมศุลกากร
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในญีป่ นุ่ กระทบต่อก�ำลังการผลิตไฟฟ้า 4,000
เมกะวัตต์ กลายเป็นหัวข้อส�ำคัญที่ถกกันในเวทีการประชุมวิชาการและนิทรรศการระดับ โลก GASTECH 2011 แน่นอนว่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศผู้น�ำเข้า LNG เป็นอันดับหนึ่งของโลก (กาตาร์เป็น ผู้ผลิตมากที่สุดในโลก) ต้องเพิ่มการน�ำเข้า LNG มากขึ้น ทดแทนการผลิตไฟฟ้าจาก นิวเคลียร์ ปัญหาในญี่ปุ่นในขณะนี้ จึงส่งผลให้ “ตลาด LNG” ในปัจจุบัน แปรสภาพจากตลาด ของผูซ้ อื้ มาเป็น “ตลาดของผูข้ าย” ส�ำหรับประเทศไทยราคารับซือ้ LNG จะอิงกับตลาด เอเชีย ซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นผู้เล่นหลัก จากสถานการณ์ทเี่ กิดขึน้ ในญีป่ นุ่ ผูบ้ ริหาร ปตท.ยอมรับว่า ได้สง่ ผลให้ราคารับซือ้ LNG จากตลาดเอเชียในปัจจุบนั ค่อนข้างผันผวน จนแพงกว่าการอ้างอิงราคารับซือ้ จากตลาดใน สหรัฐอเมริกา และตลาดยุโรป โดยได้แต่หวังว่าสถานการณ์ในญี่ปุ่นจะคลี่คลายในญี่ปุ่น โดยเร็ว จนไม่กระทบต่อแผนการรับซื้อ LNG อีก 3.5 ล้านตัน (น�ำเข้าเดือนก.ค.ปริมาณ 5 แสนตัน และทยอยน�ำเข้าในปี 2555-2557 ปีละ 1 ล้านตัน) ของ ปตท.ในส่วนของ Short term contact ทีจ่ ะต้องด�ำเนินการให้แล้ว เสร็จในอีก 2-3 เดือนจากนี้ เพื่อส่งไปยัง สถานีกา๊ ซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) ที่นิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึง่ จะเริม่ เปิดด�ำเนินการ ในเดือนพ.ค.2554 อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก ของการเปิดด�ำเนินการของ LNG Receiving Terminal “วิชยั พรกีรติวฒ ั น์” รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. เล่าว่า ปตท.ได้ลงนามสัญญารับซื้อ LNG กับซัพพลายเออร์ 2 ราย ในราคาซื้อขายในตลาดจรที่กว่า 10 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู “สูง กว่า” ราคารับซื้อก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ที่ราคาเฉลี่ย 6 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และสูง กว่าราคารับซื้อก๊าซธรรมชาติจากพม่า ที่ราคารับซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ดังนั้น จึงเป็นไปได้เช่นกันว่า ราคาซื้อ LNG ในสัญญา Short term contact ปตท.อาจจะต้องรับซื้อ LNG ในราคาที่สูงกว่า หากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ผลที่ตามมาคือ จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าในอนาคต ตามราคารับซื้อที่สูงขึ้น แม้จะยังมี ปริมาณการน�ำเข้าไม่มากนักก็ตาม ทว่าในอนาคตไทยจะต้องน�ำเข้า LNG ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณการ ผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่จะลดลง โดยปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จะเริ่มมีปริมาณลดลง และจะลดลงอย่างชัดเจนนับจากปี 2564 เป็นต้นไป หรือในอีก 10 ปีจากนี้
วิกฤติญี่ปุ่น : วิกฤติราคา LNG : วิกฤติค่าไฟ
สัดสวนการใชกาซธรรมชาติในการผลิตไฟฟาในป 2573 บรรยากาศงาน GASTECH 2011
ณัฐชาติ ยังให้ข้อมูลที่ฟังแล้วน่าวิตกว่า หากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามแผน PDP 2010 สิ่ง ทีจ่ ะเกิดขึน้ คือปริมาณการใช้กา๊ ซธรรมชาติใน การผลิตไฟฟ้าจะเพิม่ ขึน้ จากระดับ 5,000 ล้าน ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 7,000 ล้านลูกบาศก์ ฟุตต่อวัน ขณะที่สัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็น เชือ้ เพลิงในการผลิตไฟฟ้าจะเพิม่ ขึน้ ในสัดส่วน มากถึง 71% ในปี 2573 ที่น่ากังวลกว่านั้น คือ ในสัดส่วน 71% ของการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงใน การผลิตไฟฟ้าในจ�ำนวนนี้เป็นการน�ำเข้า พลังงานมากถึง 60% จากเดิมที่พึ่งพาการ จัดหาพลังงานนอกประเทศจากสหภาพพม่า ในสัดส่วน 25% “ตอนนั้นราคาก๊าซฯ ไม่รู้จะเป็นเท่าไร” ณัฐชาติ บอก พร้อมกับแสดงความห่วงใยว่า “ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจไทยจะแข็งแรงพอที่จะ น�ำเข้าพลังงานจ�ำนวนมากได้หรือไม่” นั่น หมายถึง เศรษฐกิจไทยอาจจะต้องเผชิญกับ ภาวะ “ขาดดุลการค้า” มโหฬาร จากการน�ำเข้า พลังงานน�้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นจ�ำนวน
ตัน ภาสกรนที
ปริมาณการใช้พลังงานของโลกในอีก 20 ปีขา้ ง หน้า จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ขณะที่มีเป้าหมายที่ จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการ ผลิตไฟฟ้า ลงครึ่งหนึ่ง ท�ำให้ก๊าซธรรมชาติดู น่าสนใจมากขึ้นไปอีก “Energy Mix จะเกียร์ไปในทางก๊าซ ธรรมชาติ และถ่านหิน แต่ปัญหาคือถ่านหิน มีคาร์บอนไดออกไซด์สูง หากไม่มีระบบการ ก�ำจัดที่ดีพอ ท�ำให้ทั่วโลก Fever ไปหาก๊าซ ธรรมชาติมากขึ้น” ณัฐชาติ บอกเช่นนั้น ขณะที่ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. บอกว่า ขณะนี้ ปตท.ได้เตรียมแผน 1 แผน 2 ไว้รองรับกรณีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สามารถเกิดขึ้นได้ใน ประเทศไทย หากมองภาพรวมปริมาณส�ำรองก๊าซ ธรรมชาติของโลกแล้ว จะพบว่ายังคงมีมากกว่า 60 ปี มากกว่าในไทยเกือบ 3 เท่าตัว เขายังเชื่อด้วยว่า หากการขนส่ง LNG ท�ำได้งา่ ยขึน้ จากการทีห่ ลายประเทศมีกอ่ สร้าง สถานีรบั ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) บวกกับการพัฒนาก๊าซธรรมชาติจาก
กรณี สัดสวน (%) “มี” โรงไฟฟาถานหินและโรงไฟฟานิวเคลียร 39 “มี” โรงไฟฟานิวเคลียร “ไมมี” โรงไฟฟาถานหิน 60 *“ไมมี” ทั้งโรงไฟฟาถานหินและโรงไฟฟานิวเคลียร 71 ที่มา : ปตท. หมายเหตุ : ป 2554 ไทยมีการผลิตไฟฟาจากกาซธรรมชาติสัดสวน 66% เปนการจัดหากาซฯจากพมา 25% ที่เหลือ 75% เปนการจัดหาจากแหลงในประเทศ *เปนการนำเขากาซธรรมชาติในสัดสวนสูงถึง 60% ขณะที่ ความตองการกาซในการผลิตไฟฟาที่จะสูงถึง 7,000 ลานลูกบาศกฟุตตอวัน
แหล่งนอกรูปแบบ (Unconventional Gas) ในอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา น่าจะท�ำให้ราคา LNG ปรับตัวลดลง ได้ในอนาคต นอกจากแผนน�ำเข้า LNG แล้ว จะเห็นได้ ว่า ปตท.ยัง “ดิ้น” ในทุกวิถีทางที่จะจัดหาก๊าซ ธรรมชาติเพิม่ เติม ทัง้ ก๊าซธรรมชาติทขี่ นส่งทาง ท่อ ขนส่งทางเรือ (LNG) และเชื้อเพลิงนอก รูปแบบ หรือ Unconventional Gas โดยส่วนก๊าซธรรมชาติที่ขนส่งทางเรือ นั้น ได้จัดตั้งบริษัท PTTFLNG เพื่อลงทุน เรือผลิต LNG ลอยน�้ำ (Floating Liquid Natural Gas) เพื่อผลิต LNG ในแหล่งก๊าซ ในออสเตรเลีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัด ท�ำการศึกษาเบือ้ งต้น (Pre-feasibility) ก�ำลัง การผลิต 1-2 ล้านตัน เพื่อปักธงแปลงร่าง
สำ�นึกและความเกรงใจ
เมื่อก่อนเราเคยพูดกันว่า หนึ่งปีประเทศไทยมี
3 ฤดู ...ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด แต่วันนี้ท่ามกลางหน้าร้อนที่ควรจะร้อนระอุแบบไม่ เกรงใจใคร เรากลับตื่นมาพบกับความหนาวจับใจยิ่งกว่าฤดู หนาว โลกพยายามเตือนเราหลายครัง้ ว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว บาง ครั้งพูดเสียงเบาๆ ผ่านปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ผิดเพี้ยนขึ้น ทุกวัน บางครัง้ ตะโกนดังๆ ผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหว มหันตภัย น�้ำท่วม พายุทอร์นาโด ฯลฯ แต่เราไม่ได้ยิน หรือ...แกล้งท�ำเป็นไม่ได้ยิน โลกก่อตัวขึ้นเมื่อกว่า 4,000 ล้านปี วิวัฒนาการช้าๆ จน สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 ล้านปี แต่ 50 ปีที่ ผ่านมาโลกถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงไปมหาศาล ตึกหลายหมื่นแท่งเกิดขึ้นอย่างแออัดในเซี่ยงไฮ้ หลาย พันตึกรุกล�ำ้ เข้าไปในทะเลทีด่ ไู บ หลายร้อยคลองถูกบังคับให้ ไหลเข้าไปผ่านหน้าเมกะโปรเจคด้วยเหตุผลเพือ่ ความสวยงาม คาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า มนุษย์อย่างเราจะถลุง ทรัพยากรธรรมชาติเท่ากับอีก 1 เท่าของ 4,000 ล้านปีที่เคย ใช้ตั้งแต่โลกนี้ถือก�ำเนิดขึ้นมา ผมดูสารคดีเรื่อง Home ของ Yann ArthursBurtarnd ไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง ภาพที่สวยงามเกินตัวหนังสือ บรรยาย บอกเล่าสัมพันธภาพที่แยกกันอย่างไม่ออกของทุก สิ่งบนโลกใบนี้ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ อากาศท�ำให้เกิดน�้ำ น�้ำเป็นพลังงานของต้นไม้ ต้นไม้ สร้างให้เกิดชีวิต และสิ่งมีชีวิตท�ำให้เกิดมนุษย์ แล้วต่อเป็น ความเจริญรุ่งเรือง ในทางกลับกันเมือ่ มนุษย์ไปรุกล�ำ้ อาณาเขตของสรรพสิง่
ยิ่งเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างไม่เกรงใจ ธรรมชาติก็จะยิ่งเอาคืน จากเราเท่านั้น ต่างๆ แบบไม่เกรงใจ โดมิโนจึงเริม่ ล้มทับต่อกัน ...ระเนระนาด ขยับฟันเฟืองหนึง่ ฟันเฟืองทีเ่ หลือก็เขยือ้ นตามไปหมด เข้าท�ำนองเด็ดดอกไม้...สะเทือนถึงดวงดาว แม้ผมจะไม่ใช่นกั วิจารณ์หนัง แต่อยากแนะน�ำให้ทกุ คน ต้องหามาดูกนั ให้ได้ ลองโหลดเอาจาก youtube ก็ได้ครับ ผม เห็นคนเข้าไปดูแล้วกว่า 15 ล้านคน แล้วจะได้รู้ว่าถ้าเรายังนิ่ง เฉยต่อเสียงตะโกนของโลก วันหนึง่ โลกคงต้องทวงคืนทุกสิง่ ที่เขาให้เรามา ยิ่งเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่เกรงใจ ธรรมชาติ ก็จะยิ่งเอาคืนจากเราเท่านั้น การอยู่ร่วมกันบนโลกกลมๆ ใบนี้ ความเกรงอกเกรงใจ ซึง่ กันและกันส�ำคัญมากนะครับ ในครอบครัวและองค์กรก็เช่น กัน หากเอาแต่ใช้ไม่เคยเกรงใจไม่ดูแล ในที่สุดก็จะไปกันไม่ รอด วันนี้ ปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติเริ่มกระชับวงล้อมใกล้
ตัวเองจาก “ผู้น�ำเข้า” เป็น “ผู้ผลิต” LNG ใน ระยะเวลาไม่ต�่ำกว่า 4-5 ปีข้างหน้า ทลายข้อ จ�ำกัดในการขนส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งที่ อยู่ระยะไกล ส่วนโครงการ Unconventional Gas ปตท.มีแผนจะลงทุนผลิตก๊าซทีอ่ ยูใ่ นชัน้ ถ่านหิน (Coal Bed Methane-CBM) และก๊าซทีอ่ ยู่ ในชั้นหินใต้ดิน (ShalesGas) โดยปัจจุบัน ในสหรัฐมีการค้นพบ ShalesGas ปริมาณ มาก โดยพบว่ามีปริมาณส�ำรองมากถึง 2,000 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มากกว่าปริมาณส�ำรอง ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่มีอยู่ 20 ล้านล้าน ลูกบาศก์ฟุต ก่อนหน้านี้ปตท.สผ. ยังเข้าไป ลงทุนในแหล่งหินน�้ำมัน (Sand Oil) โดย เข้าไปซือ้ หุน้ ในโครงการ Oil Sand KKD ของ Statoil ที่ประเทศแคนาดา
ตัวเราขึ้นเรื่อยๆ มองอีกด้านนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนหรือไม่ ว่าธรรมชาติเริ่มจะ “เอาคืน” จากเราบ้างแล้ว ชีวติ ต้องเดินหน้า ธุรกิจต้องหมุนไปอย่างไม่หยุดยัง้ เรา คง “เลิกใช้” ทรัพยากรไม่ได้ แต่เรา “เลือกใช้” ได้ ทุกวันนี้ ออฟฟิศใหม่ของบริษัทไม่ตัน ใช้กระดาษ reuse โต๊ะท�ำงานของพนักงานทัง้ หมดท�ำมาจากไม้อดั กับกล่อง กระดาษใช้แล้ว ขาโต๊ะประชุมงัดมาจากแขนตักรถแม็คโคร โคมไฟดีไซน์จากขวดพลาสติกเก่า แต่ทั้งหมดรับประกันว่า ออกแบบได้สวยงามไม่แพ้ใคร แค่เราสร้างสรรค์ไอเดียเพิ่ม เข้าไปอีกหน่อยก็ลดการเบียดเบียนธรรมชาติได้ไม่น้อย ปลายปีนี้ โรงงานผลิตเครือ่ งดืม่ แห่งใหม่จะก่อสร้างเสร็จ ทีน่ เี่ ราลงทุนไปกว่า 2,400 ล้านบาทเพือ่ เปลีย่ นมาใช้เครือ่ งจักร บรรจุเย็น (โคลด์ อเซปติก) เทคโนโลยีนลี้ งทุนครัง้ แรกต้องใช้ เงินทุนแพงกว่าการบรรจุรอ้ น 4-5 เท่า แต่ในระยะยาวแล้วการ ใช้ขวดพลาสติกที่มีน�้ำหนักเบาขึ้น ช่วยลดการใช้พลาสติกลง ได้ 30-40 % เบียดเบียนธรรมชาติน้อยลง ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วผมเริ่มปลูกต้นไม้ จากทีละ ต้น เป็นทีละสิบต้น และปลูกมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นป่า ขนาด 30 ไร่ที่บ้านเกิดคุณอิงใน อ.บ่อทอง ชลบุรี ตั้งใจว่าจะ ท�ำที่นี่ให้เป็นสวนสาธารณะของชุมชน ถึงเวลาทีเ่ ราจะช่วยกันเยียวยาความโกรธของธรรมชาติ ง่ายๆ และใกล้ตัวที่สุดเอาแค่เริ่มปลูกต้นไม้ปีละ 1 ต้น สร้าง อากาศให้ดีขึ้นอีกนิด แม้ทดแทนกันไม่ได้แต่ชะลอความเลว ร้ายให้ช้าลงอีกนิดก็ยังดี เรื่องเหล่านี้เราได้ยินได้ฟังกันมาเยอะ แต่จะลงมือท�ำ กันเอาจริงเอาจังแค่ไหน ? เราเหลือเวลาเปลี่ยนแปลงกันไม่มากแล้วนะครับ พบกับข้อคิด มุมมองทางธุรกิจและการใช้ชีวิตแบบ 360 องศาที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงของผมได้ ใน “วิถีตัน” ทางกรุงเทพธุรกิจทุกวันจันทร์ พร้อมแลก เปลี่ยนพูดคุยติดตามเรื่องราวดีๆ ใน Facebook กับ ผมได้ที่ http://www.facebook.com/tanmaitan
วันที่ 4 เมษายน 2554 หนังสือพิมพ์ กรุ งเทพธุรกิจ BizWeek : ก่ อตัง้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เป็ นสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์ แห่ งชาติ พิมพ์ ท่ ี : 1854 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 โทรศัพท์ 0-2338-3333 โทรสาร 0-2338-3947-8 E-mail : bizweek@nationgroup.com
สุกัญญา ศุภกิจอ�ำนวย
6 เดือนที่เหลือ ในเก้าอี้ซีอีโอของ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นอกจากจะฝากฝัง ผู้น�ำคนใหม่ให้จัดสมดุล ทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และต้องมีความยืดหยุ่น สูงแล้ว เขายังทิ้ง “ลายแทง” ขุมสมบัติไว้ ให้ผู้น�ำคนใหม่สานต่อ กับเป้าหมายยอดขาย 3.5 ล้านล้านบาทในอีก 5 ปีจากนี้ นอกจากจะต้อง “จับตา” มองว่า
“ใคร” คนใน หรือ คนนอก ที่จะมานั่งเก้าอี้ (ตัวโปรด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.คนใหม่ แทน “ประเสริฐ บุญสัมพันธ์” ดับเบิลซีอีโอ วาระแรกระหว่างปี 2546-2550 และวาระที่ สองระหว่างปี 2551-2554 แล้ว ระยะเวลาทีเ่ หลืออยู่ 6 เดือนของประเสริฐ ยังเป็น “โค้งสุดท้าย” ทีม่ คี วามส�ำคัญต่อเจ้าตัว ว่า ภาพสุดท้ายก่อนที่เขาจะ “แลนดิ้ง” ตัวเอง จากจุดสูงสุดขององค์กร จะราบรื่นเพียงใด เพราะคนมักจะ “จ�ำ” ภาพสุดท้ายได้ “ติดตา” ได้มากกว่าภาพความส�ำเร็จแต่หน หลัง ย้ อ นกลั บ ไปดู ผ ลงานที่ โ ดดเด่ น ของ ประเสริฐ เขาคนนีค้ อื ผูน้ ำ� ทีพ่ า ปตท.ไต่เพดาน ก�ำไรเกือบทะลุแสนล้านในปี 2550 (97,000 ล้าน บาท) กลายเป็นเหตุผลส�ำคัญของการ “นอน มา” ในเก้าอี้ซีอีโอในวาระที่สอง แบบไร้คู่แข่ง ไม่นบั การเป็นตัวหลักในการแก้ไขปัญหา ช่วงวิกฤติตม้ ย�ำกุง้ ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ระดมทุน ซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ ขายทิ้ง กิจการ สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทในกลุ่ม แบบรวมกันเราอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมี
• เจ้ าของ : บริ ษัท เอ็นเคที นิวส์ จ�ำกัด • บรรณาธิการและผู้พมิ พ์ ผ้ ูโฆษณา : ดวงกมล โชตะนา kteditor@nationgroup.com • บรรณาธิการบริหาร : เบ็ญจวรรณ เผ่าจินดามุข benjawan_p@nationgroup.com • บรรณาธิการอาวุโส : วัชรา จรูญสันติกลุ pen@nationgroup.com • บรรณาธิการศิลปกรรม : จักรพงษ์ ศรี สนุ ทร artdi2005@yahoo.com • หัวหน้ าฝ่ ายศิลป์ : ทวีศกั ดิ์ อุระนันท์ thaweesak@nationgroup.com
6 เดือนที่เหลือของ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ จนปัจจุบันมีสายการผลิตครบวงจรตั้งแต่ ต้นน�้ำ-กลางน�้ำ-ปลายน�้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มจาก ผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าเดิม จากรูปธรรมที่มองเห็นคงต้องยอมรับ ในวิสยั ทัศน์และมุง่ มัน่ ของเขา ในการผลักดัน ให้กลุ่ม ปตท.กลายเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไม่วา่ จะมองในแง่ผลการด�ำเนินงาน หรือ มาร์เก็ตแคป แม้วา่ บางช่วงบางตอนจะเผชิญกับ คลื่นลม สดๆ ร้อนๆ ก็วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ที่ สัน่ คลอนก�ำไรของ ปตท.หล่นฮวบมาอยูท่ ี่ 5.1 หมื่นล้านบาท ในปี 2551 ก่อนที่ก�ำไรจะขยับ ขึ้นมาท�ำให้ชื้นใจเป็น 8.3 หมื่นล้านบาทในปี 2553 วิกฤติศาลปกครอง (การฟ้องร้องเพิกถอน ปตท.ออกจากการเป็นบริษทั ในตลาดหลักทรัพย์) - วิกฤติมาบตาพุด แต่เขาก็รอดมาได้ แบบเสียส่วนน้อย เพือ่ รักษาส่วนใหญ่ เจ้าตัวแอบบอกว่า ทีล่ นุ้ ทีส่ ดุ ไม่พน้ วิกฤติ ศาลปกครอง ใครจะทันคิดว่า...ก�ำไรที่มากมายของ ปตท.จะกลายกลับเป็น เครื่องหมายค�ำถาม อันโต (?) ประเสริฐยังบอกด้วยว่า เมือ่ ไหร่ที่ ปตท. มีก�ำไรทะลุ “แสนล้าน” ผู้น�ำคนใหม่ คงต้อง เตรียมตอบค�ำถามหลายปาร์ตไี้ ว้ให้ดวี า่ ...ท�ำไม
3
B-school
ปตท.ต้องใหญ่ ภาพอนาคตอีก 6 เดือน ของประเสริฐ ความห่วงหา อาทรเพราะอยู่ ปตท.มา 30 ปีเสมือนบ้านทีส่ องของเขา แน่นอนก่อนเจ้าของบ้านจะ จากไปขอต่อเติมบ้านให้แข็ง แรง รับแรงปะทะหนักทุก ฤดูกาล ใน 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย การวางแผน กลยุ ท ธ์ อ งค์ ก รให้ แน่ น ปึ ้ ก การวาง กระบวนการจัดการ ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ และการวางทีมงาน บริษทั ในกลุม่ ให้ดี โดยในเรื่อง แรก ประเสริฐบอก ว่า ขณะนีก้ ลุม่ ปตท. ก� ำ ลั ง ระดม
องค์กรต้องทำ�งานร่วมกันอย่างมีกระบวนการ ไม่ได้ยึดเหนี่ยวด้วยตัวบุคคล องค์กรจะอยู่ได้เพราะประเสริฐ ไม่ ใช่ แต่ต้องอยู่ได้เพราะมีกระบวนการบริหารกันเป็นกลุ่ม ให้ทรัพยากรร่วมกันเป็นกลุ่ม
For Display Advertising โทร 0-2338-3333 ต่อ 3155, 3136, 3157, 3161-2, 3173 ฝ่ ายสมาชิกและลูกค้ าสัมพันธ์ โทร 0-2338-3000 (customer@nationgroup.com) เลขากองบรรณาธิการ: กาญจนา สุขเพิ่ม kanchana@nationgroup.com เบอร์ ตอ่ 3385
สมองเพือ่ ก�ำหนดแผนกลยุทธ์ในระยะ 5 ปีจาก นี้ (2555-2559) ว่าไดเร็คชัน่ ของกลุม่ ปตท.จะ ก้าวเดินไปอย่างไร ทั้งการขยายการลงทุนใน ต่างประเทศ พื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุน การเงินทุน ผลประกอบการในอนาคต แผนการ ระดมเงินกู้ และอัตราส่วนทางการเงิน เขา ยกตัวอย่าง เขาก�ำลังท�ำ “ลายแทง” ให้ผู้น�ำคนต่อไป เดินไปหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า กับเป้าหมายการเพิ่มยอดขายจาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 3.5 ล้านล้านบาทในระยะ 5 ปี ในจ�ำนวนนีเ้ ป็นรายได้จากต่างประเทศ ในสัดส่วน 30% ขณะทีก่ ำ� ไรทะลุเลข 6 หลัก ประเสริฐบอกว่า ก่อนเขาพ้นเก้าอีท้ กุ อย่าง น่าจะเรียบร้อย ไม่นบั การก�ำหนดงบลงทุนระดับ 1 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2548-2558 ไปก่อน หน้านี้ ซึง่ ทุบสถิตทิ เี่ คยก�ำหนดงบลงทุนไว้ไม่ 8 ก็ 9 แสนล้านบาทไม่เกินนี้ ในจ�ำนวนนัน้ 50 % เทไปที่การลงทุนในต่างประเทศ โดยมี บริษัท ปตท.สผ. และ พีทีทีอินเตอร์ เนชั่นแนล เป็นหัวหอก ระหว่างเขียนแผนที่ลายแทง สิ่งที่ท�ำควบคู่กันไปคือ การวาง กระบวนการจัดการ เพือ่ แบ “องค์ ความรู้” ในหลากหลายวิชาชีพ และหลากประสบการณ์ ก่อนจะ ถ่ายทอดออกไปสูผ่ ทู้ เี่ กีย่ วข้อง แบบมีลูกค้าเป็นที่ตั้ง โดยมี ระบบไอทีรองรับ พร้อมกับ การวางระบบเพาะบ่มผูน้ ำ� รุน่ ถัดๆ ไปในลักษณะ Pool กลางของผูบ้ ริหารขัน้ ต้นใน ระดับผู้จัดการฝ่าย “ปตท.จะมี Pool กลาง ของคนในระดับผูจ้ ดั การฝ่าย ของบริษทั ในกลุม่ โดยพิจารณา คนทีโ่ ดดเด่น ดูแล้วว่าพร้อมที่ จะพัฒนาขึน้ มานัง่ เก้าอีท้ สี่ งู ขึน้ ใน ระดับรองซีอีโอ หรือแม้แต่ซีอีโอ ในอนาคต โดยคนพวกนี้จะเป็นคน รุ่นใหม่อายุไม่เกิน 40-45 ปี ในอีก 4-5 ปีพวกเขาจะก้าวขึ้นมาในต�ำแหน่งที่ รับผิดชอบมากขึ้น” ประเสริฐ บอกว่า สิ่งหนึ่งที่ต้อง สอนพนักงาน คือ ต้องอยูใ่ ห้ได้กบั การเปลี่ยนแปลง อย่างคนรู้จัก ปรับตัว เพราะธุรกิจพลังงาน มีการแข่งขันสูง ปตท.ยังเป็น
The Seven Habits...
หนังสือในดวงใจ ประพันธ์ อัศวอารี ประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อ�ำนวยการ
ใหญ่ บริษทั จัดการและพัฒนาทรัพยากรน�ำ้ ภาคตะวันออก จ�ำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ บอกว่า เขาเป็นนักอ่าน หนังสือตัวยง พิสูจน์ได้จากค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือ แต่ละเดือนกว่า “หมืน่ บาท” และถ้าจะให้เลือกหนังสือเล่ม โปรดแล้ว เขาไม่ลังเลที่จะบอกว่า คือเรื่อง The Seven Habits of Highly Effective People หรือ “7 อุปนิสัย พัฒนาสูผ่ มู้ ปี ระสิทธิผลสูง” เขียนโดย สตีเฟน อาร์. โคว์วยี ์ “ที่ชอบเพราะหนังสือเล่มนี้เพราะสอนให้เรามอง โลกแบบ positive และช่วยในเรือ่ งการบริหารงาน ตัง้ แต่ อุปนิสัยแรกที่แนะให้เราต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นท�ำก่อน ตาม ด้วยการตัง้ เป้าหมายในใจ จนน�ำไปสูก่ ารท�ำตามล�ำดับความ ส�ำคัญ ซึ่งหลักใหญ่ใจความก็คือ การแนะให้เรารู้จัดการ บาลานซ์ชีวิตของเรานั่นเอง”
‘ธรรมดา’ ที่ ‘ไม่ธรรมดา’ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสนั่งหารือกับ
ผูบ้ ริหารจาก 2 องค์กร ซึง่ ต่างปรารภ ร�ำพึงกึง่ บ่น แม้จะต่างกรรมต่าง วาระ แต่มีประเด็นใกล้คล้ายกันจนน่าสนใจ ดิฉันอดรนทนไม่ได้ เลย ต้องมาเล่าต่อให้ท่านผู้อ่านช่วยพิจารณาค่ะ แต่ละท่านต่างให้โจทย์ดฉิ นั ว่าเราจะจัดสัมมนาเพือ่ ช่วยเสริมเติม ทักษะให้กับผู้บริหารขององค์กรแต่ละท่านในเรื่องใดบ้าง พูดไปพูดมา สรุปได้วา่ ลูกทีมของท่านผ่านการอบรมมามากมาย ก่ายกอง มองแล้วน่าจะเขียนต�ำราไว้หากินได้ ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ซับ ซ้อนเรื่องการประเมินค่างาน หรือการสร้าง Balanced Scorecard ขัน้ สูง ไล่ถงึ ทฤษฎี Blue Ocean ขัน้ เทพแบบแจงแบ่งสีฟา้ เป็นหลาย เฉด ตลอดจนเจาะลึกการประเมินองค์กรตามมาตรฐาน TQA ทีท่ งั้ เท่ และอลังการ กระนั้นก็ดี สิ่งที่ท่านยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมจากผู้บริหารหลาย ท่าน คือ Common Sense ! ภาษาไทยบ้านๆ แปลว่า “สามัญส�ำนึก” หรือ ความรูค้ วามเข้าใจ เยี่ยงสามัญชนคนธรรมดา รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรท�ำ รู้อะไรมากมาย แต่ของง่าย ของหมู ไม่รู้เสียง่ายๆ ส่วนอีกท่าน ขอหารือว่า จะท�ำอย่างไรดีให้ท่านผู้บริหารที่ต้อง ดูแลลูกทีม มีทักษะพื้นฐาน (บ้านๆ) เช่น เห็นลูกน้องต้องทักทาย บ้าง เขาท�ำดีก็ต้องรู้จักชื่นชมผสมขอบคุณ และที่ท�ำให้ใครๆ อุ่นใจก็ คือการทีท่ า่ นควรรูจ้ กั ให้อภัย ทัง้ ยังน่ากล้าขอโทษเมือ่ รูว้ า่ พลัง้ พลาด ท่านว่าสิง่ เหล่านีไ้ ม่ตอ้ งปราดเปรือ่ งเรือ่ งบริหารมากมาย ก็นา่ จะ ท�ำได้ ท�ำเป็น ไม่เห็นต้องสอน หรืออีกในหนึ่ง มันเป็นซึ่ง “Common Sense” นั่นเอง
ในที่สุดเราสรุปกันว่า ที่เขาว่า “Common Sense” หรือ สุด ธรรมดาสามัญ ฉันรู้ เธอก็น่าจะรู้ ที่แท้มันเป็น “ธรรมดา” ที่ “ไม่ธรรมดา” มันจะ “ธรรมดา” ต่อเมื่อหารือกับผู้ที่มีอะไรคล้ายๆ กัน เช่น วัยใกล้กัน มีพื้นฐานจากสังคมเดียวกัน มีประสบการณ์ผ่านเรื่อง เดียวกันมา อาทิ เราคนไทย บางครัง้ ก็รสู้ กึ ว่า ท่านฝรัง่ มังค่าท�ำอะไรช่างไม่ให้ความ เกรงใจใครๆ เลย ขณะที่ พี่ฝรั่งส่วนมาก นั่งงงๆ คล้ายกันว่าทีมไทย คิดอะไร ท�ำไม ไม่พูด เหมือนอมมะกรูด ท�ำตาบูด แต่ปากยิ้ม หรือ คนท�ำงานยุคหนึง่ คิดว่าความ สุขมุ อดทน เป็นมาตรฐานทีด่ ขี องการ ท�ำงาน บางครั้งรอ 7 ปี จึงจะมีโอกาส ก้าวเป็นหัวหน้างาน รับได้ ไม่ท้อ ส�ำหรับคนยุคใหม่ รอ 7 เดือน เหมือน 7 ชั่วคน ทนไม่ได้...”หาก องค์กรไม่เห็นคุณค่า ผมหาที่ใหม่ได้ถมถืด” สรุปว่า อะไรที่ดูสุดแสน “สามัญ” เช่น “Common Sense” คงต้องเก็บไว้ใช้กับคนที่คล้ายๆ เรามาก กระนั้นก็ดี แม้พี่น้องท้องเดียวกัน ก็ยังมีที่เห็นแยก เห็นแตก ต่างกันในเรื่อง “พื้นฐาน” แม้จะคลานตามกันมา จนมีเรื่องทะเลาะ เบาะแว้ง ต้องแถลงบนหน้าหนังสือพิมพ์หัวสี มีให้เห็นออกบ่อย ดังนั้น ปลอดภัยที่สุด คือต้องไม่หยุดคิดแบบ “ยกประโยชน์
องค์กรที่มีความซับซ้อน (Complexity) ทั้ง ในเชิงธุรกิจ และบทบาทของการอยูใ่ ต้รม่ เงา ของรัฐ (รัฐถือหุน้ ใหญ่) ทีต่ อ้ งสนองนโยบาย รัฐไปพร้อมกัน ในเรื่องของทีมเวิร์ค เขาบอกว่า ปตท. ต้องเน้นการท�ำงานเป็นกลุม่ ตัง้ แต่ระดับซีอโี อ และซีเอฟโอ ของแต่ละองค์กร เรื่องนี้เขาย�้ำ ว่า “ขาดไม่ได้ ต้องท�ำให้ได้ และเดินต่อให้ ได้” เนื่องจากทุกธุรกิจในกลุ่มล้วนเชื่อมโยง กันตั้งแต่ต้นน�้ำยันปลายน�้ำ “องค์ ก รต้ อ งท� ำ งานร่ ว มกั น อย่ า งมี กระบวนการ ไม่ได้ยึดเหนียวด้วยตัวบุคคล องค์กรจะอยู่ได้เพราะประเสริฐ ไม่ใช่ แต่ต้อง อยูไ่ ด้เพราะมีกระบวนการบริหารกันเป็นกลุม่ ให้ทรัพยากรร่วมกันเป็นกลุ่ม” ประเสริฐบอกว่า เขาอยากเห็น ปตท. เป็นบริษัทพลังงานที่ได้รับการยอมรับในต่าง ประเทศ (Global Player) เป็นธุรกิจพลังงาน ทีม่ คี วามสามารถแข่งขันในตลาดโลก ดังนัน้ การ มีประสิทธิภาพ การมีต้นทุนต�่ำ มีการบริหาร จัดการที่ดี จะท�ำให้ ปตท.เดินไปสู่จุดนั้นการ เป็นองค์กรที่เก่งและดีได้ “ปตท.ต้องเดินไปข้างหน้า เจตนาไม่ได้ เป็นองค์กร 33 ปี แต่ต้องเป็นองค์กรร้อยปี แม้องค์กรจะมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มียุครุ่งเรือง ตกต�่ำ แต่เมื่อองค์มีปัญหาต้องแก้ไขปัญหา ให้ได้ เพื่อท�ำให้องค์กรกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เหมือนเรือทีเ่ จอพายุ ก็ตอ้ งผ่านพายุไปให้ได้” 3 ค�ำที่เขาฝากไว้คือ ปตท.ต้อง ‘BigLong -Strong’ ต้องใหญ่เพื่อแข่งขันกับ โลก ต้องยืนยาว และต้องแข็งแกร่งด้วย ผลประกอบการทีด่ ี เทียบเคียงบริษทั พลังงาน อื่นได้ ก่อนจะฝากฝังผูน้ ำ� คนใหม่วา่ นอกจากจะ ท�ำในสิ่งที่เขาบอกมาแล้ว จะต้องใส่ใจกับทุก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) “จะท�ำ เฉพาะผูถ้ อื หุน้ ใหญ่” โดยไม่คำ� นึงถึงความเสีย หายทีจ่ ะเกิดขึน้ ต่อคูค่ า้ ลูกค้า และผูเ้ กีย่ วข้อง อื่นไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นการบริหารความสมดุล บวกกับ ต้องมี “ความยืดหยุ่นสูง” จึงเป็นศาสตร์ที่ ต้องใช้อย่างหนักหน่วงกับองค์กรแห่งนี้ จะ ท�ำได้ ต้องมี “ธงที่ชัดเจน” เขาระบุ “ไม่ว่าจ�ำเป็นต้องขยับไปทางซ้าย วนไป ทางขวา หรือซอยเท้า แต่สุดท้ายก็ต้องมุ่งมั่น กลับมาที่ไดเร็คชั่นที่วางไว้” ผู้น�ำที่อยู่มาได้ 5 รัฐบาล 6 นายก รัฐมนตรี เช่นเขา บอกอย่างนั้น
ให้จ�ำเลย” โดยมองด้วยความเมตตา ว่าเขาคงมองจากมุมและ ประสบการณ์ที่แตกต่าง จึงมีพฤติกรรมห่างจากที่เราคาดหวัง การสื่อสารที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องส�ำคัญยิ่ง ไว้ทดแทนการหวัง ให้อีกฝ่ายใช้ Common Sense โดยเฉพาะในโลกปัจจุบัน ที่แทบ ทุกสิ่ง ไม่เคยหยุดนิ่ง ความเป็น “สามัญ” ร่วมกันจึงหายากมากขึ้น ทุกทีๆ บางท่านอาจคิดว่า ไม่เห็นต้องชื่นชมลูกน้อง เขาท�ำดีก็ย่อมรู้อยู่ แก่ใจว่าท�ำดี ท�ำไม่ดีซิต้องบอกต้องเตือน ลองเปรียบเทียบกับสถาบันครอบครัว ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกัน ยุคหนึ่งในอดีต พ่อแม่และลูก ทั้งรักทั้งผูกพัน แต่มักไม่เห็น จ�ำเป็นต้องบอกกันว่า “รักนะ...เด็กโง่” เพราะเจ้า “สามัญส�ำนึก” ไง ใครๆ ก็ต้องรักลูกกันทั้งนั้น ยุคนี้ บุพการีมีสังคมและประสบการณ์ที่แตกต่างไป การโอบ กอดและพร�่ำบอกว่าแม่รักหนู ดูเป็นเรื่อง “ธรรมดา” ดังนั้นในที่ท�ำงาน หากต้องเสี่ยงระหว่างสื่อมากจนเขาเบื่อ กับ สื่อน้อยเพราะถือว่า “โตๆ กันแล้ว ไม่เห็นต้องบอก” เลือกสื่อมากไว้ก่อน แล้วค่อยปรับค่อยผ่อนให้พอดี น่าจะมีที่
พลาดน้อยกว่าเลือกสือ่ สารน้อยไป แล้วทึกทักเอาเองว่าเขาน่าจะเข้าใจ ดังนั้น วันพรุ่งนี้เล็งดี ๆ เห็นลูกน้องเมื่อไหร่ กรุณาทักทาย ถาม สารทุกข์สุกดิบ (ถามแล้วอย่าลืมฟังค�ำตอบด้วยนะคะ) จากนั้น แทนจับผิด กรุณาจ้อง “จับถูก” ลูกน้อง เห็นท�ำถูกปุ๊บ รีบให้ค�ำชมปั๊บ กระบวนการง่ายๆ ของมือใหม่ทขี่ ดั เขินเวลาขอบคุณและชืน่ ชม ใครๆ ลองวิธีง่ายๆ เช่นนี้ค่ะ - สิ่งที่เขาท�ำคือ... - ประโยชน์คือ... - ชื่นชมและขอบคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสมชาย เมื่อกี้ผมเห็นคุณรับฟังลูกค้าอย่างตั้งใจและใจเย็น ตอนเขาต่อว่าเรื่องเราบริการช้า โดยคุณยังไม่รีบชี้แจงทันที ท�ำให้ ลูกค้าใจเย็นลงและพร้อมรับฟังค�ำอธิบายมากขึ้น การที่คุณใจเย็น รับฟังค�ำติเช่นนี้เป็นวิธีที่ดีมาก ขอบคุณครับที่ช่วยดูแลลูกค้าของ เรา กระบวนการชมเช่นนี้ นอกจากจะดูดี ดูจริงใจ เพราะไม่ใช่ชม แบบลมๆ แล้งๆ เหมือนแกล้งชม เพราะสามารถระบุพฤติกรรมที่ เห็นเป็นรูปธรรม เท่ากับเป็นการสอนงาน ชี้แนะว่าชมเพราะอะไร ครั้งหน้าคุณสมชายจะได้อยากท�ำเช่นนั้นอีก ลูกค้าก็คลายหงุดหงิด คุณสมชายก็ได้งาน แถมลูกน้องเก่ง...ลูกพี่สบาย สรุปว่า กรุณาอย่าพึ่ง “Common Sense” ของใคร โดยไม่ ลงทุน ลงแรง และใจ อธิบายๆๆ เราเองยังไม่ได้ดั่งใจเราเอง แล้วจะไปกะเกณฑ์ใคร ๆ ให้ได้ดั่ง ใจเรา... ผิดหวังเปล่าๆ มั้งคะ พอใจ พุกกะคุปต์ เป็ นวิทยากรและที่ปรึกษาของ องค์ กรชัน้ น�ำจ�ำนวนมากจบการศึกษาปริญญาโท สาขาความสัมพันธ์ ระหว่ างประเทศ จาก Stanford University
วันที่ 4 เมษายน 2554
สงกรานต์ต้นแบบ ที่จังหวัดน่าน แม้วา่ อากาศในบ้านเราช่วงฤดูรอ้ นปีนี้ จะไม่รอ้ นระอุเหมือนหลายๆ
ปีทผี่ า่ นมา แต่เทศกาลทีม่ าคูก่ บั หน้าร้อน และดูเหมือนจะเป็นสีสนั ของบ้านเรา อย่างเทศกาลสงกรานต์ในเดือนนี้ ก็ไม่นา่ จะประหวัน่ ต่ออากาศทีแ่ ปลกประหลาด ของปีนี้สักเท่าไหร่นัก แต่สงิ่ ทีม่ าควบคูก่ บั เทศกาลสงกรานต์ทกุ ปี ไม่เพียงแต่เป็นเรือ่ งของ ความสนุกสนานในบรรยากาศขึ้นปีใหม่แบบไทยๆ เท่านั้น แต่เรื่องของ การดื่มสุรา พาให้เกิดอุบัติเหตุก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มาคู่กับทุกเทศกาล และเป็นเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เช่นเดียวกันกับที่ภาครัฐ และองค์กร ต่างๆ ช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนทีต่ อ้ งใช้เส้นทางบนท้องถนนช่วงเทศกาล วันหยุดยาวๆ งดดืม่ สุรา หรือเครือ่ งดืม่ มึนเมาต่างๆ เพือ่ เพิม่ ความปลอดภัย และระมัดระวัง ตั้งตนเอง และผู้ที่สัญจรไปมา เพื่อที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน จังหวัดน่าน ถือเป็นอีกจังหวัดที่มีตัวเลขของผู้ดื่มสุรา และขับรถ ก่อให้เกิดอุบตั เิ หตุในช่วงเทศกาลสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ยังไม่นบั การดื่มสุรา และประมาทไม่ระวังชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง อย่างเช่น การทิ้งเด็กๆ เล็กๆ ให้เล่นตามท้องถนน ขาดคนดูแล หรือให้เด็กเล็กๆ ลงไปว่ายน�้ำในแม่น�้ำล�ำคลอง จนเกิดอุบัติเหตุตามมา “จังหวัดน่านเป็นจังหวัดทีต่ ดิ อันดับที่ 4 ทีม่ กี ารดืม่ เหล้ากันมากทีส่ ดุ และเป็นจังหวัดทีม่ ผี ทู้ ดี่ มื่ เป็นประจ�ำทุกสัปดาห์สงู ทีส่ ดุ ของประเทศ ประมาณ 8.6 หมืน่ ราย” นีเ่ ป็นค�ำกล่าวทีแ่ สดงความกังวลของ ดต. ประเทือง ปานะ หัวหน้าบ้านท่าช้าง อ เมือง จ น่าน ด้วยตัวเลขความสูญเสีย และแชมป์จ�ำนวนคนดื่มสุรา ท�ำให้ผู้ใหญ่ ในจังหวัดน่านต้องเร่งระดมความคิด และจัดหากิจกรรมที่จะเป็นเครื่อง กระตุน้ เตือนให้ชาวน่านตระหนักถึงพิษภัยของสุรา จนเป็นทีม่ าของกิจกรรม “พื้นที่เล่นน�้ำปลอดภัย หาดริมน�้ำน่านปลอดเหล้า” ต้อนรับช่วงเทศกาล วันหยุดสงกรานต์ที่ก�ำลังจะมาถึง โดยจับมือกับพันธมิตรอย่างเครือข่าย งดเหล้าภาคเหนือ และ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ซึ่งท�ำงานเพื่อเป้าหมายในการลดการบริโภคเครื่องดื่มมึนเมา ในสังคมไทยมาเป็นเวลานาน งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณหาดทรายขาว ริมแม่นำ�้ น่าน โดยผูว้ า่ ราชการจังหวัดน่าน นายเสนีย์ จิตตเกษม เป็นประธาน ในพิธปี ระกาศเจตนารมณ์ “หาดหินขาว หาดรวมใจ สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์” ทุกๆ ปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หาดหินขาวแห่งนี้จะเป็นเหมือน ศูนย์กลางการเล่นน�ำ้ ของจังหวัด แต่กพ็ บว่า มีการน�ำเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ มาจ�ำหน่าย ซ�ำ้ ร้าย ยังจ�ำหน่ายให้กบั เด็กอายุตำ�่ กว่า 20 ปีอกี ด้วย ท�ำให้ หลีกเลีย่ งไม่ได้ทจี่ ะเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท อันเนือ่ งมาจากการเมามาย สุรา นอกจากนัน้ ยังมีเหตุการณ์การกระท�ำลามกอนาจาร อันเนือ่ งมาจาก การขาดสติ และยังมีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นอีกหลายรายด้วย “ตอนนีเ้ ราวางมาตรการห้ามน�ำเหล้า เบียร์ เข้ามาดืม่ และจ�ำหน่ายใน พื้นที่ที่มีการเล่นน�้ำกัน ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นการตัดวงจรช่วยลดอุบัติเหตุ และความไม่ปลอดภัยต่างๆ โดยเฉพาะเรือ่ งความคึกคะนองของวัยรุน่ ด้วย” ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าว พร้อมกับบอกว่า จะมีการรณรงค์ให้คน หันมาเล่นสนุกในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์มาเป็น เครื่องดื่มจรรโลงใจ แต่จะสนับสนุนให้มีการเล่นน�้ำกันตามแบบประเพณี ที่งดงามของชาวภาคเหนือ และเล่นกันอย่างมีขอบเขต และสร้างสรรค์ ปีที่ผ่านมามีเหตุน่าสลดใจเกิดขึ้นที่จังหวัดน่าน ในช่วงเทศกาล สงกรานต์นี้ อย่างเช่น กรณีทมี่ รี ถกระบะบรรทุกผูโ้ ดยสารซึง่ ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ มาเล่นน�ำ้ กันบริเวณหาดทรายขาว แต่เนือ่ งจากคนขับรถดืม่ สุราจนเมามาย ขากลับรถกระบะคันนั้นประสบอุบัติเหตุพลิกคว�่ำ แม้ว่าคนขับจะไม่ได้รับ อันตรายถึงชีวิต แต่ก็มีเด็กเล็กๆ ที่นั่งอยู่ที่ตอนท้ายของรถพลัดตกลง มาเสียชีวิต 1 ราย ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหตุน่าสลดใจอย่างเช่น เด็กๆ ที่ลงไปเล่นน�้ำ ในแม่น�้ำน่านจมน�้ำตาย เพราะบิดามารดา หรือผู้ดูแลเอาแต่ดื่มสังสรรค์ จนไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลเด็กๆ ในขณะลงเล่นน�้ำ ความน่ากังวลใจไม่เพียงแต่จะอยูใ่ นกลุม่ ผูท้ ดี่ มื่ สุราเท่านัน้ แต่ผลส�ำรวจ พบว่า เยาวชน หรือวัยรุ่นหน้าใหม่ที่มาหัดดื่มสุราในช่วงเทศกาลรื่นเริง เหล่านี้ก็มีไม่น้อยทีเดียว ทัง้ หมดนี้ คือ ความพยายามของผูใ้ หญ่ และหน่วยงานต่างๆ ในบ้านเรา ทีจ่ ะสร้างชุมชนทีเ่ ป็นชุมชนต้นแบบแห่งสุขภาวะทีด่ ี ปราศจากแอลกอฮอล์ ซึง่ หลังจากผ่านความสูญเสีย และได้ทำ� การสรุปผลของความเสียหายทัง้ ชีวติ และทรัพย์สนิ จนได้ตวั เลขทีเ่ ป็นรูปธรรมออกมาแล้ว ก็ถงึ เวลาทีช่ าวจังหวัดน่าน จะได้รว่ มกันลงมือปฏิบตั อิ ย่างจริงจัง โดยมุง่ หวังว่า ปีนตี้ วั เลขต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง กับการดืม่ สุรา และอุบตั เิ หตุของจังหวัดน่าน น่าจะต้องลดลงอย่างแน่นอน เช่นกัน
“แฮปปี้นอย” คอนวีเนียน สโตร์ คนจน “ตากาล็อก” “แฮปปี้นอย” คือผลิตผลธุรกิจน�้ำดีแห่งเมือง “ตากาล็อก” พวกเขาใช้เครือข่ายร้านค้าชุมชน มาพัฒนา เป็นร้านสะดวกซื้อมีแบรนด์ แนวคิดสุดคูลที่อยากน�ำสินค้า และบริการดีๆ เข้าถึงคนจนทั่วฟิลิปปินส์ ยกระดับ ผู้ประกอบการให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น • จีราวัฒน์ คงแก้ว
มีต้นแบบธุรกิจน�้ำดีมากมาย ที่ปรากฏตัว คือกระบวนการนี้ยังสามารถเข้าไปแก้ปัญหา ในเวที สัมมนาธุรกิจเพื่อสังคม Social Entrepreneurship Symposium จากงาน “Soul & Sell Innovating for IMPACT & PROFIT” เวทีประกวดแผนธุรกิจเพื่อสังคม GSVC เมื่อ เดือนที่ผ่านมา พวกเขาคือเหล่าผู้น�ำนักคิด ที่ได้รับการ ยอมรับด้านธุรกิจเพือ่ สังคมในเวทีระดับโลก เช่น เดียวกับชายหนุ่มที่ชื่อ “แบม อคีโน” (BAM AQUINO) ผูร้ เิ ริม่ ร้านสะดวกซือ้ เพือ่ คนจน นาม “แฮปปี้นอย” (Hapinoy) ในฟิลิปปินส์ ทั้งยัง เป็นผูก้ อ่ ตัง้ และประธานของ “Microventures” บริษทั ทีใ่ ห้สนิ เชือ่ ขนาดเล็กแก่คนจน ฝึกอบรม ธุรกิจค้าปลีก และสนับสนุนคนทีม่ ฐี านะยากจน โดยเฉพาะกลุ่มสตรีในฟิลิปปินส์ การถือก�ำเนิดขึน้ ของ “แฮปปีน้ อย” มาจาก แนวคิดทีอ่ ยากยกระดับคุณภาพชีวติ ของคนจน ในดินแดนตากาล็อก อคีโน บอกเราว่า มีคนฟิลปิ ปินส์ มากถึง 40% ที่จัดอยู่ในกลุ่มคนยากจน คน 1 ใน 4 ของประเทศ ยังอยู่กันอย่างยากล�ำบาก ผลิตภัณฑ์และบริการหลายอย่างเข้าไม่ถงึ พวกเขา หลายคนไม่มีโอกาสได้พบหมอ และเป็นเรื่อง น่าเศร้า ทีส่ นิ ค้าอุปโภคบริโภคส�ำหรับคนจนล้วน มีราคาแพง แล้วจะท�ำอย่างไรให้ “คนจน” ไม่ตอ้ ง เป็นกลุ่มคนที่ “ตกขอบ” อคีโน จึงชักชวนเพือ่ นของเขา มาสร้างสรรค์ อะไรดีๆ ให้กับแผ่นดินเกิด ขณะที่เพื่อนเขามี ประสบการณ์ดา้ นธุรกิจ จากการท�ำงานในบริษทั ต่างชาติ อคีโน ก็มมี มุ เพือ่ สังคม จากการท�ำงาน ให้กับรัฐบาล สองมุมคิดที่ผสานเป็นธุรกิจเพื่อ สังคม (Social Enterprise) อย่างลงตัว กลายเป็นที่มาของร้านสะดวกซื้อเพื่อ คนจน “แฮปปี้นอย” ในวันนี้ แนวคิดร้านสะดวกซื้อเพื่อคนจนเกิดขึ้น ในปี 2006 และเริม่ โครงการของพวกเขาตัง้ แต่ ปี 2007 เป็นต้นมา การแก้ปญ ั หาการเข้าถึงสินค้าและบริการ ของคนจน ไม่จำ� เป็นต้องพึง่ เทคโนโลยีมากมาย แต่พวกเขาสามารถใช้ “ต้นทุน” ที่มีอยู่ภายใน ประเทศ อย่างร้านค้าชุมชนทั่วฟิลิปปินส์ ที่ คนเมืองตากาล็อก พร้อมใจกันว่า “ส่าหรี ส่าหรี” โดยใช้รา้ นเหล่านี้ มาเป็นเครือข่ายร้านสะดวกซือ้ “แฮปปี้นอย” วิธีคิดที่ไม่ต้องลงทุนไปกับการตั้งร้านค้า ขึน้ มาใหม่ ไม่ตอ้ งห่วงว่าท�ำเลจะเข้าไม่ถงึ คนจน เพราะร้านค้าเหล่านีอ้ ยูก่ บั คนตากาล็อกมาหลาย ยุคหลายสมัยแล้ว สิง่ ทีเ่ ป็นผลพลอยได้สำ� คัญ
ผู้ประกอบธุรกิจ ร้าน ส่าหรีส่าหรี ได้อีกด้วย “ทีฟ่ ลิ ปิ ปินส์เรามีรา้ นค้าชุมชนอยูเ่ ยอะมาก ทีเ่ ราเรียกว่า ส่าหรี ส่าหรี แต่คนเหล่านีไ้ ม่มโี อกาส ขยับฐานะตัวเองเลย เรามองเห็นปัญหาทีเ่ กิดขึน้ จึงน�ำร้านเหล่านีม้ าท�ำ เอาโครงสร้างทีม่ อี ยูแ่ ล้ว และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมฟิลิปปินส์ มาเป็น เครือข่ายร้านสะดวกซื้อเพื่อคนจน” วิธคี ดิ ส�ำหรับการแก้ปญ ั หา ให้คนจนเข้าถึง สินค้า ก็ท�ำได้แล้ว มาถึงการควบคุมสินค้า คุณภาพดี ให้จำ� หน่ายได้ในราคาทีถ่ กู ก็คอื เข้าสู่ ระบบธุรกิจของพวกเขา “แฮปปี้นอย” มีโกดัง สินค้าของตัวเอง พวกเขามีระบบการบริหาร จัดการทีด่ ี น�ำส่งสินค้าไปยังรายสะดวกซือ้ ทีเ่ ป็น เครือข่าย สามารถขายของให้กับชุมชนได้ใน ราคาที่ถูก ร้านสะดวกซือ้ ทัว่ ไป อาจมีสนิ ค้ามาตรฐาน ทีเ่ ห็นเหมือนกันในทุกร้าน แต่กบั “แฮปปีน้ อย” สินค้าเป็นไปตามความต้องการของชุมชน อคีโน บอกว่า บางพืน้ ทีไ่ ม่มไี ฟฟ้าใช้ ของทีข่ ายในร้าน ก็จะมีแผงโซลาร์เซลล์จำ� หน่ายด้วย พืน้ ทีห่ า่ งไกล หมอ ยังมียาคุณภาพ จ�ำหน่ายในราคาที่ถูก เหล่านี้คือการพัฒนาร้านค้าชุมชนที่ไปสู่การ แก้ปัญหาของชุมชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเป็นการขยับคุณภาพชีวิต ให้คนจน นั่นคือการพัฒนาเหล่าเจ้าของร้าน ที่เคยถูกคนฟิลิปปินส์ตราหน้าว่า “อาชีพของ คนขี้เกียจ” ให้เป็นธุรกิจที่มีอนาคตขึ้น วิธกี ารคือ การน�ำพวกเขามาอบรม ให้ความรู้ เรื่องการท�ำระบบบัญชี การบริหารจัดการร้าน ให้เงินไปลงทุนในการท�ำธุรกิจ การพัฒนาสินค้า ของชุมชน ดึงกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มสตรี มาเป็น เจ้าของธุรกิจ เพื่อให้ผู้หญิงลุกขึ้นมามีบทบาท ในสังคมมากขึ้น และสามารถมีอ�ำนาจในการ ตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เมือ่ ท�ำธุรกิจเป็น รูเ้ รือ่ งการท�ำระบบบัญชี ท�ำให้ผู้ประกอบการส่าหรี ส่าหรีในอดีต ก็มี คุณภาพชีวติ ทีด่ ขี นึ้ มีรายได้จากอดีตทีป่ ระมาณ 60 ดอลลาร์ต่อเดือน ก็สามารถเพิ่มเป็น 200300 ดอลลาร์ต่อเดือนได้ เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ก็น�ำมาสู่การขยายเครือข่ายแฮปปี้นอยให้ กว้างขวางออกไป เปลีย่ นภาพธุรกิจของคนขีเ้ กียจ มาเป็น ธุรกิจแห่งโอกาสของคนตากาล็อกได้อย่างเต็ม ภาคภูมิ ไม่เพียงการแก้ปญ ั หาของคนจน และพัฒนา คุณภาพชีวติ อาชีพดัง้ เดิมของคนฟิลปิ ปินส์ หาก
ตอนที่พวกผม เริ่มท�ำแฮปปี้นอย มีแต่คนว่าเพี้ยน ที่คิด ท�ำโครงการแบบนี้ มันคงเป็นได้แค่ ความฝัน แต่วันนี้ พวกเราพิสูจน์ ให้เห็น แล้วว่าถ้ามุ่งมั่น ทุกอย่างสามารถเป็น ความจริงขึ้นมาได้ มันยังรวมถึงการใช้เครือข่ายร้านแฮปปีน้ อยทีอ่ ยู่ ในชุมชน มาเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างการเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ น�ำข่าว แปลกปลอมมารายงานเจ้าหน้าที่ เป็นการสร้างพลัง ให้กบั ชุมชน ทีน่ ำ� ไปสูก่ ารแก้ปญ ั หาใหญ่ๆ ให้กบั ประเทศได้ในที่สุด “เราพยายามสร้างพลังให้กับประชาชน ให้เขาสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ลุกขึ้นมา ในฐานะเจ้าของธุรกิจทีม่ ศี กั ดิศ์ รี และมีความสุข
สังคมดี องค์กรสุข เป็นทีน่ า่ ดีใจทีป่ จั จุบนั เราได้เห็นความร่วมแรงร่วมใจของ ทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมให้มคี วามสุข ทัง้ ในการคลายทุกข์ จากภัยธรรมชาติต่างๆ การน�ำพนักงานที่มีจิตอาสาเข้าไปช่วย ฟื้นฟูดูแลชุมชน ตลอดจนพัฒนาเยาวชนในด้านต่างๆ ถามว่าการทีอ่ งค์กรดูแลชุมชนรอบข้าง และสังคม จะมีสว่ น ช่วยพนักงานทีม่ าท�ำงานมีความสุขไหม ค�ำตอบชัดๆ อาจจะต้อง อธิบายกันยืดยาวพอสมควร แต่หากมองอีกมุม หากองค์กรนัน้ ไม่ดูชุมชน สังคม จะมีพนักงานไหนภูมิใจและเดินผ่านชุมชน เข้าไปท�ำงานได้อย่างสบายใจบ้าง คงจะท�ำให้เห็นภาพชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม เพือ่ สะท้อนให้เห็นถึงความเชือ่ มโยง สังคมดี กับองค์กรสุข ดิฉันมีโอกาสย้อนกลับไปดูใน หลักความสุข 8 ประการ ทีท่ างแผนงานสุขภาวะองค์กร ของ สสส. ได้ให้หนังสือ มาเมือ่ สองปีกอ่ น ก็พบว่า มีความชัดเจนทีเดียว ด้วยในหลักการ นั้นระบุว่า Happy Society เป็นหนึ่งในสามส่วนของความสุข ของมนุษย์ นั่นคือความสุขของตัวเอง ความสุขในครอบครัว และความสุขขององค์กรและสังคม ซึง่ สังคมในทีน่ หี้ มายรวมถึง ทั้งสังคมจากภายใน และสังคมจากภายนอกที่ท�ำงาน ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนเห็นชัดว่า สังคมดี องค์กรมีสุข ขอเล่าถึง การดูแลชุมชนของ บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบิน
กรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) หรือบาฟส์ อีกครัง้ ซึง่ จากการได้พดู คุย กับผู้บริหารระดับสูงทุกคน พนักงาน และชุมชนที่อยู่รอบคลัง น�้ำมัน รวมถึงครู นักเรียน ที่อยู่รอบคลังน�้ำมันที่สุวรรณภูมิและ ดอนเมือง พบว่า การดูแลชุมชน สังคมรอบข้างให้ดนี นั้ ท�ำให้คนในองค์กร ท�ำงานอย่างมีความสุขทีเดียว เพราะเมือ่ เดินเข้าไปในชุมชนก็จะมี แต่รอยยิ้มของลุงป้า น้าอา ในชุมชน ที่ให้กับพนักงาน ขณะทีห่ ากมีอะไรไม่ชอบมาพากล ทีอ่ าจจะเป็นอันตรายต่อ คลังน�้ำมัน ที่ไปตั้งในชุมชน ชาวบ้านก็จะคอยเป็นหูเป็นตา แทน เจ้าหน้าที่ของบาฟส์ อย่างเช่นช่วงลอยกระทง ที่ปกติจะมีการ จุดประทัด ดอกไม้ไฟ แต่คนในชุมชนก็จะดูและเป็นรั้วให้บริษัท ไม่ให้เด็กๆ มาจุดประทัดใกล้คลังน�้ำมัน ซึ่งสิ่งนี้นอกจากจะท�ำให้ พนักงานมีความภูมิใจที่ได้ท�ำงานในองค์กรที่ดูแลสังคมแล้ว ยัง ท�ำให้พนักงานท�ำงานอย่างสบายใจ คลายความกังวล ด้วย ส�ำหรับแนวคิดในการที่จะต้องดูแลชุมชนให้ดีนั้น ได้รับค�ำ บอกเล่าจากผู้บริหารระดับสูงว่า พนักงานทุกคนจะได้รับการ ปลูกฝังส�ำนึกให้ดูแลสังคมตั้งแต่วันแรกของการเข้าท�ำงาน ที่กรรมการผู้จัดการ จะอธิบายให้พนักงานเข้าใจถึงลักษณะของ ธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับน�้ำมันเชื้อเพลิง ที่ต้องยอมรับว่า เป็นธุรกิจ ทีส่ งั คมรังเกียจ ไม่อยากให้ตงั้ อยูใ่ นชุมชน พนักงานทุกคนจึงต้อง
การดูแลชุมชน สังคมรอบข้างให้ดี ท�ำให้ คนในองค์กรท�ำงานอย่าง มีความสุข เมื่อเดินเข้าไป ในชุมชนก็จะมีแต่รอยยิ้ม ของลุงป้า น้าอา ในชุมชน
ทีไ่ ด้ทำ� งานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ร่วมแก้ปญ ั หา ที่เกิดขึ้นกับสังคมของเราได้ด้วย” ปัจจุบัน “ร้านแฮปปี้นอย” เป็นเครือข่าย ร้านสะดวกซื้อที่ครอบคลุมถึง 160 ชุมชนใน ฟิลิปปินส์ และมีร้านค้าสมาชิกกว่า 700 ร้าน โดยที่คนขับเคลื่อนไม่ต้องใช้เทคโนโลยีอะไร มากมาย ใช้เพียงเครือข่ายในการค้าขายทีม่ อี ยูแ่ ล้ว และพวกเขาก็มงุ่ ไปท�ำเรือ่ งการวิจยั ตลาด พัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงระบบการท�ำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะเดินหน้าต่อไปได้ และ สามารถขยายบทบาทตัวเอง ไปสู่บริษัทที่ให้ สินเชือ่ ธุรกิจขนาดเล็ก การฝึกอบรมด้านธุรกิจ ค้าปลีกและให้การสนับสนุนแก่ผหู้ ญิงทีม่ ฐี านะ ยากจนในประเทศฟิลปิ ปินส์ เพือ่ ช่วยให้พวกเธอ ได้เป็นเจ้าของกิจการ “ร้านแฮปปี้นอย” อคีโน บอกเราว่า เป้าหมายของเขา คือ จะ ขยายร้านแฮปปี้นอย มากถึง 5-6,000 ชุมชน ทั่วฟิลิปปินส์ให้ได้ เพื่อให้ร้านสะดวกซื้อคนจน ที่พวกเขาสรรสร้างขึ้นมานั้น ได้งอกงามเป็น ธุรกิจน�้ำดี ทั่วดินแดนตากาล็อก “ตอนที่พวกผมเริ่มท�ำแฮปปี้นอย มีแต่ คนว่าพวกเราเพี้ยน ที่คิดท�ำโครงการแบบนี้ มันคงเป็นได้แค่ความฝัน แต่วนั นีพ้ วกเราก็พสิ จู น์ ให้เห็นแล้วว่า ถ้ามุ่งมั่น ทุกอย่างมันสามารถ เป็นความจริงขึ้นมาได้” แฮปปีน้ อย คือการผสมผสานกันระหว่าง ค�ำว่า Happy ในภาษาอังกฤษ รวมกับ Pinoy ในภาษาตากาล็อก ธุรกิจน�ำ้ ดีทไี่ ม่ได้เข้ามาเพียง แก้ปญ ั หาให้คนฟิลปิ ปินส์ หากยังรวมถึง การสร้าง “ความสุขอย่างยัง่ ยืน” ให้กบั ประเทศทีพ่ วกเขา รักด้วย
ตระหนัก และให้การดูแลสังคมรอบข้าง โดยนอกจากจะต้องค�ำนึง ถึงความปลอดภัยของชุมชน จะต้องเข้าไปมีสว่ นร่วมเป็นส่วนหนึง่ ของชุมชน ช่วยเหลือสังคมให้มคี วามสุข เพราะสังคมอยูไ่ ด้ บาฟส์ ก็อยู่ได้ ความชัดเจนของนโยบายในการดูแลชุมชน นี้ น�ำไปสู่ความ ร่วมมือกับชุมชน ตลอดจนเข้าไปมีสว่ นร่วมในกิจกรรมทีเ่ ป็นประเพณี วิถีชีวิต ซึ่งชุมชนเล่าว่า การเข้ามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และการ ช่วยเหลือที่อยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ของชุมชน เช่น การช่วย ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง การติดตั้งเสียงตามสาย การเข้ามีส่วนร่วม จัดการการศึกษาให้นักเรียน การที่พนักงานของบริษัทอุทิศเวลา ไปสอนวิชาไฟฟ้าให้นกั เรียน การจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพ การซ้อม การดับเพลิง การแวะมาเยีย่ ม มาพูดคุยของพนักงาน และไปร่วม กิจกรรมงานบวช งานแต่ง ของคนในชุมชน รวมถึงจัดกิจกรรม วันเด็กให้เด็กๆ ในชุมชน ทุกปี และการเปิดโอกาสให้เข้าไปรับรู้ ถึงระบบมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ท�ำให้ชุมชนรู้สึกสบายใจ ที่มีบาฟส์มาอยู่ใกล้ มากกว่าจะรู้สึกระแวง ทั้งนี้หัวใจส�ำคัญก็คือความต่อเนื่อง เจอกันบ่อยๆ ทุกงาน ท�ำให้รู้สึกว่าพนักงานทุกคนเหมือนเป็นเพื่อนบ้าน เหมือนพี่น้อง เมื่อเจอก็อยากทักทาย เมื่อมีอะไรอร่อยก็อยากให้ได้ทาน องค์กรไหนได้ฟงั ชุมชนของบาฟส์ ทีด่ อนเมือง และทีส่ วุ รรณภูมิ เล่าแบบนี้แล้ว อยากให้สังคมดีเกิดขึ้นรอบองค์กรบ้าง เชื่อว่ายัง ไม่สายที่จะเริ่ม เพราะสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบาฟส์นั้น สังคมที่ดี ไม่ได้ เริม่ ต้นทีช่ มุ ชนก่อน แต่หากเริม่ ทีว่ สิ ยั ทัศน์ นโยบายภายในองค์กร ต่างหากค่ะ
ท�ำหนังให้ได้ 100 ล้าน ท�ำเพลงให้แฟนคลับ เต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ใช่ เรื่องง่าย และไม่ต้องหวัง “สูตรส�ำเร็จ” เพราะไม่มี ขาย และคนที่คิดว่า เซียนแล้วก็ยังพลาดกันได้ ร่วมแบไต๋คนท�ำหนัง ท�ำเพลง ของ พ.ศ.นี้ กับวิถีรอดของธุรกิจ “หินขั้นเทพ” จีราวัฒน์ คงแก้ว
5
Rich&Risk
วันที่ 4 เมษายน 2554
witty@tu.ac.th
นวัตกรรม 4 แบบ ใน Blue Ocean Strategy (BOS) เน้นเกี่ยวกับการ
วิสูตร พูลวรลักษณ์
ถอดวิ ถ ร ี อด ธุรกิจ ‘เพลง-หนังไทย’ สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
ชือ่ ของ “วิสตู ร พูลวรลักษณ์” ประธานกรรมการ เคยต่อต้าน เอ็มพี 3” เพราะถ้าย้อนกลับไปเป็นวัยรุน่ เดินไปหาผู้บริหารอาร์เอส เพื่อขอให้เปิดค่ายเพลง บทสรุปทฤษฎีแบบ GTH คือ “ต้องท�ำหนัง วันนี้เขาเองก็คงต้องใช้บริการเอ็มพี 3 เพราะเป็น โปรดักท์ที่ท�ำออกมาตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคนี้ เขาคิดเช่นนั้น เพราะคิดในมุมของคนบริโภค เช่นเดียวกับการท�ำเพลงทีเ่ ขาจะคิดในมุมของคนฟัง รูจ้ ริงและเข้าใจในตลาดของตัวเอง ท�ำให้ได้แนวทาง มาผลิตเพลง “โดนๆ” ตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย ชมพูบอกว่า เขาชอบทีจ่ ะท�ำงานกับคนอายุนอ้ ย เพราะเด็กคือตัวเชื่อมและเป็นแหล่งข้อมูลส�ำคัญ ทีค่ นเป็นผูใ้ หญ่อย่างเขา “คิดไม่เป็น” และ “คิดไม่ถงึ ” เวลาเดียวกัน ก็ขยันเก็บเกีย่ วข้อมูลความรูจ้ าก คนรอบข้าง ชมพูบอกว่า จะไม่ยอมท�ำตัวเป็นน�ำ้ เต็ม แก้ว แต่เลือกเปิดรับคนทีร่ ู้ ชืน่ ชมคนทีค่ ดิ อะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะเป็นต้นแบบในการท�ำงานให้กับเขา เช่น ค�ำเฮียฮ้อ - สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ แห่งค่ายอาร์เอส ทีช่ มพูบอกว่า เป็นกูรใู นการเลือกเพลงอย่างแม่นย�ำ เพราะแค่ฟังก็สามารถรู้ได้ว่าเพลงไหนจะฮิต หรือ ไม่ฮิต เฮียสอนให้เขาท�ำเพลงโดย “ลองเดาใจคนฟัง” ขณะที่ “สตีฟ จ็อบส์” ก็สอนให้เขาท�ำทุกอย่างจาก ข้อมูล รู้ว่าผู้บริโภคเรียกร้องอะไรและมีทัศนคติ อย่างไร “การเรียนรู้จากคนเหล่านี้มันสอนผมว่า เวลา ท�ำอะไรเราควรท�ำจากข้อมูล รู้มุมมองของผู้บริโภค อย่างไรผมจะเป็นผูบ้ ริโภคตลอดชีวติ เพราะตราบใด ที่เรายังเป็นผู้บริโภคอยู่ ข้อมูลจะผิดพลาดน้อย” การคิดในมุมของผูบ้ ริโภคท�ำให้พวกเขามองเห็น ความต้องการทีย่ งั ขาดหาย ในวันนัน้ ชมพู ตัดสินใจ
Key to Success
บริหาร บริษัท จีทีเอช จ� ำกัด กับ “สุ ท ธิ พ งษ์ วัฒนจัง” หรือชมพู ฟรุตตี้ ผู้อ�ำนวยการอาวุโสฝ่าย คอนเทนท์ บริษัท โซนี่ มิวสิค นับเป็นหนุ่มเนื้อหอม ของธุรกิจบันเทิง พ.ศ.นี้ พวกเขาได้ชื่อว่าเป็น คนท�ำหนัง ท�ำเพลง ที่ ประสบความส�ำเร็จ อย่าง “GTH” จัดเป็นมือวาง หนังร้อยล้าน ที่โกยมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 5 แพร่ง กวนมึนโฮ และรถไฟฟ้ามา หานะเธอ ขณะที่ “ค่ายกามิกาเซ่” ที่ชมพู ฟรุตตี้ ปลุกปัน้ ให้กบั อาร์เอส ยังเป็นรายได้หลักของอาร์เอส ในวันนี้ กับแฟนคลับล้นบ้านล้นเมือง นีเ่ ป็นเพียงส่วนเสีย้ วในความส�ำเร็จของพวกเขา และเป็นเพียงส่วนเสีย้ วของชีวติ ทีเ่ ต็มใบ แน่นอนว่า ต้องมีทั้งล้มทั้งพลาด คาดการณ์ผิด และคิดไม่ถึง “ชมพู ฟรุตตี้” เป็นทั้งศิลปิน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ฝีมือฉกาจ ต�ำแหน่งสุดท้ายในอาร์เอส คือรองกรรมการผู้อ�ำนวยการฝ่ายผลิตธุรกิจเพลง ไทย ผู้บริหารค่ายกามิกาเซ่ ก่อนข้ามค่ายมาเป็น ผู้อ�ำนวยการอาวุโสฝ่ายคอนเทนท์ โซนี่ มิวสิค ดูแล ศิลปิน ซิงกูล่าร์ และชูก้าร์ อาย ในวันนี้ การอยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่วัยรุ่นนับเนื่อง ถึงปัจจุบัน ท�ำให้เขาเห็นภาพธุรกิจนี้รอบด้าน อยูต่ งั้ แต่ยคุ เฟือ่ งฟูทศี่ ลิ ปินผลิตอัลบัม้ เพลงขายได้ เป็นล้านตลับ กับยุคปัจจุบันที่แค่เข็นขึ้นหลักหมื่น ก็นับว่าหินมากแล้ว “พอรายได้ จาก 100% เหลือแค่ 1% ธุรกิจเพลง จึงต้องปรับโครงสร้าง เลย์ออฟพนักงาน ค่ายเพลง ไม่มีโรงผลิตซีดีอีกแล้ว และคนที่อยู่ได้ก็คือค่าย ใหญ่เท่านั้น เพราะธุรกิจต้องปรับตัว ธุรกิจเพลงไม่ ได้มรี ายได้มาจากเพลง แต่เป็นธุรกิจแบบ 360 องศา มันคือการสร้าง “ไอดอล” ขึ้นมาแล้วหารายได้จาก ช่องทางอื่น อัลบั้มเต็มท�ำเพื่อขายแฟนเพลง ส่วน ซิงเกิลเพลงก็คอื นามบัตร ใช้แนะน�ำตัวศิลปินเท่านัน้ ” นี่คือเรื่องช�้ำชอกของธุรกิจเพลง ที่ถูกเล่นงาน จากยุคดิจทิ ลั ยุคทีเ่ พลงไม่จำ� เป็นต้องควักเงินจ่าย แต่ โหลดฟังเอาได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว “คลิก” ศิลปินอยู่ รอดด้วยรายได้จากการโชว์ตวั และแสดงคอนเสิรต์ ไม่ใช่จากการขายอัลบัม้ ขณะทีอ่ าชีพนักแต่งเพลงก็ ใกล้ “สูญพันธุ”์ เข้าไปทุกที เพราะเมือ่ เพลงอยูไ่ ม่ได้ นักแต่งเพลงก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เจอมาหนักขนาดนี้ แต่ชมพูกลับเป็นคนในวงการ เพลงเพียงไม่กี่คน ที่บอกเราได้เต็มปากว่า “ผมไม่
วิถีรอด ธุรกิจ “เพลง-หนัง” • คิดในมุมของผูบ้ ริโภค เดาใจคนให้ออก • รูจ้ กั กลุม่ เป้าหมาย รสนิยม และเทรนด์ • ความผิดพลาดคือภูมิคุ้มกัน • คิดธุรกิจแบบ 360 องศา อย่าปิดกัน้ ตัวเอง • ธุรกิจไม่มีสูตรส�ำเร็จ ต้องปรับเปลี่ยน และเรียนรู้
ใหม่ “กามิกาเซ่” ให้กับเขา เพราะมองกระแสค่าย เพลงเฉพาะกลุ่ม ที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วแนวโน้มวัยรุ่น ไทย ก�ำลังตามหา “ศิลปินของฉัน ค่ายเพลงของฉัน” แนวทางในการสร้างค่าย “กามิกาเซ่” กับการ ปั้นศิลปิน 8 เบอร์ ในเวลา 1 ปี ชมพูสรุปทฤษฎีที่ เขาใช้ได้ว่า เป็น “ทฤษฎี โนเกีย” “การท�ำตลาดของโนเกียเรียกได้ว่าเราแทบจะ จ�ำรุ่นไม่ได้ เพราะเขาท�ำของใหม่ออกมาทุกอาทิตย์ แต่เราจะจ�ำรุ่นฮิตๆ ได้ ทฤษฎีที่เขาใช้คือ ออก โปรดักท์เยอะ เพือ่ ท�ำให้เกิดความเคลือ่ นไหวตลอด เวลา และจะมีโปรดักท์ฮิตออกมาทุกไตรมาส ผมเองก็จะใช้ทฤษฎีแบบนี้ จะท�ำศิลปินก็ต้อง ท�ำให้แบรนด์เกิดให้ได้กอ่ น เราท�ำศิลปินทัง้ ปี คัดเด็ก มา 18 คน ท�ำออกมาเป็น 8 เบอร์ ท�ำบอยแบนด์ ท�ำเดีย่ ว ร็อกญีป่ นุ่ ร็อกฝรัง่ เกาหลี มีครบหมด เพราะ เรามีเด็กๆ คอยให้ขอ้ มูลว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เราใช้ทั้งศิลปิน และเว็บไซต์ เพราะเด็กกลุ่มนี้ไม่ซื้อ ซีดี เขาชอบโหลดเพลง และเล่นเกมทางอินเทอร์เน็ต” นีค่ อื วิธคี ดิ ทีน่ ำ� มาซึง่ ความส�ำเร็จในวันนัน้ แน่นอน ว่าแนวทางย่อมต้องปรับต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตาม สถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นไป เขาสรุปการท�ำธุรกิจเพลงให้ ฟังแค่ “ท�ำธุรกิจเพลงไม่มีค�ำว่า play safe เพราะ ถ้า play safe ก็จะไม่ใช่ธุรกิจ ไม่มีอาชีพอะไรหรือ ธุรกิจอะไรที่ play safe ได้ เราต้องแข่งกับความ ต้องการของตลาด และต้องทันตลาด” การรู้เท่าทันตลาดของชมพู ไม่ต่างจากการ ล่วงรู้และคาดเดาถึง “รสนิยมคนดู” ที่เปลี่ยนแปลง ไป ของ “วิสูตร พูลวรลักษณ์” ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท จีทีเอช จ�ำกัด มือวางหนังร้อยล้าน เขาบอกเราว่า การท�ำหนังของพวกเขาคือ คิดในมุม ของคนดู ว่าผูค้ นอยากดูหนังแบบไหน แล้วเอาข้อมูล ที่ได้มาท�ำเป็นหนัง “ในฐานะที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ท�ำให้ ต้องเกาะอยู่กับกระแส รสนิยม หรืออะไรก็ตามที่ เป็นปัจจุบัน หนังใช้เวลาในการผลิตประมาณ 1 ปี กว่าจะฉายออกมาได้ จึงเหมือนการคาดเดารสนิยม คนดูล่วงหน้า 1 ปี ว่าเขาอยากดูอะไร” นั่นคือเหตุผลที่ GTH เลือกผลิตหนังกระแส หลัก ไม่แตะ “หนังอาร์ท” และยอมรับว่าพวกเขา ท�ำหนังได้แค่ไม่กแี่ นว โดยเน้นการท�ำหนังเพือ่ ความ บันเทิง ต้องให้คนดูยอมเสียเงินเข้ามาดูให้ได้ เพราะ บริษัทมีค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึงกว่า 20 ล้านบาท
ที่รับรสนิยมคนดู ดูแล้วต้องชอบ และ มีความ แปลกใหม่” แต่หนังที่ตอบรสนิยม และความแปลกใหม่ ไม่ใช่จะท�ำได้ง่ายๆ และไม่ใช่ว่า GTH จะไม่เคยท�ำ หนังเจ๊ง กับทฤษฎีแบบนี้ วิสตู รบอกว่า เรือ่ ง “กอด” คือความแปลก ที่ท�ำรายได้ให้กับพวกเขาเพียง 5 ล้านบาท จากต้นทุนของหนังทีจ่ ะอยูร่ อดได้กต็ อ้ งท�ำ เงินไม่ต�่ำกว่า 50 ล้านบาท พูดง่ายๆ คือหนังแปลก ของพวกเขาน�ำทางสูค่ วามหายนะ อย่างปฏิเสธไม่ได้ “สูตรส�ำเร็จไม่มีในโลก มันอาจใช้ได้สักพัก แต่สุดท้ายก็ต้องคิดใหม่ เป็นสูตรส�ำเร็จที่เราต้อง แสวงหาไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามีสูตรส�ำเร็จจริง หนัง ในโลกนีค้ งไม่มเี จ๊ง แต่นเี่ พราะมันไม่มี หนังเลยเจ๊ง” นั่นคือค�ำพูดตรงๆ ของผู้บริหาร GTH วิสูตร บอกว่า “การท�ำหนังเจ๊ง มันก็เหมือนเราค้นพบ โรคชนิดใหม่ เพือ่ ทีจ่ ะท�ำให้ สามารถสร้างภูมคิ มุ้ กัน ตัวเองได้” แล้วจะท�ำหนังอย่างไรไม่ให้เจ๊ง พวกเขาจึงต้อง คิดกับ “หนัง” ให้มากขึ้น วิสูตรค�ำนวณต้นทุนการ ท�ำหนังอย่างรวดเร็วให้ฟังว่า อยู่ที่ประมาณเรื่องละ 20-30 ล้านบาท รายได้ที่จะท�ำให้หนังไม่เจ๊งคือต้อง ไม่ตำ�่ กว่า 50 ล้านบาท เพราะอย่างทีท่ ราบว่าเงินครึง่ หนึ่งผู้ผลิตต้องจ่ายให้กับโรงหนัง นอกเหนือรายได้จากการขายตั๋วหนัง ก็คือ เหล่า “สปอนเซอร์” ที่พร้อมยอมควักกระเป๋า เพื่อ ได้ปรากฏตัวอยู่ในหนังแต่ละเรื่อง วิสูตรบอกว่า รายได้จากส่วนนี้อยู่ที่ 10-20 ล้านบาท อยู่ที่การ เจรจา และความต้องการมากน้อยทีจ่ ะปรากฏตัวหนัง เรียกว่า ถ้าอยากเป็นพระเอก ก็ตอ้ งพร้อมยอม “จ่าย หนัก” และหากมีการกิจกรรมร่วมกับเจ้าของสินค้า รายได้กจ็ ะเพิม่ มาอีกทางด้วย ซึง่ นัน่ ล้วนเป็นกลยุทธ์ ของแต่ละค่าย แต่ส�ำหรับ GTH ต้องบอกว่าพวก เขา “ไม่ธรรมดา” ส�ำหรับข้อแนะน�ำของคนทีอ่ ยากกระโดดมาท�ำ ธุรกิจนี้ เพราะคิดสั้นๆ แค่ อยากท�ำหนังร้อยล้านได้ เหมือน GTH คนอยู่ในสนามฝากค�ำเตือนไว้แค่ว่า “ธุรกิจนี้ เสี่ยง ยาก ต้องเข้าใจถึงจะอยู่ได้ ถ้ายังขาด 3 อย่าง อย่าเพิ่งเข้ามาดีกว่า มันไม่ใช่ ใครๆ ก็ทำ� ได้แต่ตอ้ งเรียนรู้ ต้องศึกษา ต้องพยายาม ตามเทรนด์ให้ทนั และคาดเดาในสิง่ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ให้ได้” และนี่คืออีกทางเลือก สู่ “วิถีรอด” ของธุรกิจ สุดหินแห่งยุค
Soft Innovation - สุนทรียนวัตกรรม เมือ่ พูดถึงเรือ่ งของนวัตกรรม คนส่วนใหญ่มกั จะนึกไปถึงสิง่ ใหม่ๆ ผูซ้ งึ่ ชีน้ ำ� ให้สงั คมทัง้ ด้านวิชาการและธุรกิจด้านนวัตกรรมให้เห็นความ ทีเดียวว่า ความแปลกใหม่ทนี่ ำ� เสนอได้รบั ความนิยมตอบสนองอย่างไร ทีเ่ กิดขึน้ เนือ่ งจากการใช้เทคโนโลยี การคิดค้น การวิจยั พัฒนา เพือ่ สร้าง สินค้าใหม่ๆ กระบวนการผลิตใหม่ๆ หรือการคิดค้นน�ำเสนอ การบริการใหม่ๆ แต่ความเข้าใจทีก่ ล่าวมา ยังไม่ครอบคลุมในเรือ่ งของ ความแปลกใหม่ทไี่ ม่ได้เกิดขึน้ จากตัวสินค้าหรือการบริการโดยตรง แต่เป็นความใหม่ทผี่ บู้ ริโภคได้รบั ในแง่ของสุนทรียภาพ ซึง่ เป็นสิง่ ที่ ไม่อาจสัมผัส หรือจับต้องได้โดยตรงจากสินค้าหรือบริการ ก่อนอื่นก็ต้องขอเอ่ยนามของนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ที่เป็นผู้เริ่มต้นชี้ให้เห็นว่า นวัตกรรมที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี เพื่อผลิตสินค้าหรือสร้างบริการใหม่สู่ตลาดเพียงอย่างเดียวนั้น ยังไม่สามารถอธิบายภาพของความส�ำคัญของนวัตกรรมที่มีต่อ ระบบเศรษฐกิจโดยรวมได้สมบูรณ์ ยังมีอีกด้านหนึ่งของนวัตกรรม คือ สุนทรียนวัตกรรม เป็นการสร้างความใหม่ที่จับต้องไม่ได้ แต่ผู้บริโภครู้สึกถึงความแปลกใหม่ได้ และยังสามารถสร้างคุณค่า เชิงพาณิชย์หรือเชิงเศรษฐกิจได้อย่างมาก และอาจจะมากกว่ามูลค่า ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีนั้นๆ โดยตรง นักเศรษฐศาสตร์ท่านนี้คือ พอล สโตนแมน แห่ง คณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย วอร์ริค (Warrick Business School)
ส�ำคัญของนวัตกรรมอีกมิติหนึ่งที่ท่านได้บัญญัติศัพท์ใหม่ว่า Soft Innovation ซึ่งเป็นมิติของการน�ำเสนอความแปลกใหม่ ที่มีคุณค่า เชิงพาณิชย์ หรือเชิงสังคม ในรูปแบบทีจ่ บั ต้องไม่ได้ แต่สามารถสร้าง ความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคได้ ผมขออนุญาตถอดความของค�ำว่า Soft Innovation เป็น ภาษาไทยว่า “สุนทรียนวัตกรรม” ผ่านคอลัมน์นี้ ก็แล้วกัน นวัตกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การรังสรรค์ดนตรีรูปแบบใหม่ การท�ำ วรรณกรรม การแต่งหนังสือหรือนวนิยาย การสร้างเกมคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์ รายการวิทยุและโทรทัศน์ ฯลฯ จะเห็นได้ว่า สุนทรียนวัตกรรม มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นอย่างมาก ในแง่ของการสร้างคุณค่าเชิงพาณิชย์ของ สุนทรียนวัตกรรม ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รายได้จากการสร้างภาพยนตร์ เพลง หนังสือ หรือวีดิโอเกม ใหม่ๆ มีมูลค่ามหาศาล และมาตรวัดของการเกิดขึ้น ของ นวัตกรรมเชิงสุนทรียภาพเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ล�ำดับภาพยนตร์ บ๊อกซ์ออฟฟิศ ล�ำดับหนังสือขายดี หรือ เพลงฮิตท็อปชาร์ท มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในสเกลที่ต้องวัดกันเป็นรายสัปดาห์เลย
ข้อสังเกตทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของ สุนทรียนวัตกรรม ก็คอื ความสามารถ ในการสร้างความใหม่ให้กับผู้บริโภคได้โดยใช้สินค้าหรือการบริการ เดิมๆ การไปดูภาพยนตร์ใหม่ล่าสุด ก็ยังต้องไปดูที่โรงภาพยนตร์ อ่านหนังสือหรือนวนิยายใหม่ ก็ยังต้องไปที่ร้านหนังสือ หรือสั่งทาง ออนไลน์ ฟังเพลงหรือคอนเสิรต์ ออกใหม่ ก็ยงั ต้องผ่านสือ่ เดิมๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ใช้เครื่องเล่นเพลงแบบเดิมที่เคยใช้ วิเคราะห์ได้ว่า สุนทรียนวัตกรรม น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไป ด้วยกันกับนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยี อย่างแน่นแฟ้น สุนทรียนวัตกรรม เปรียบเสมือนเป็นส่วนเติมเต็มให้กบั แนวคิด นวัตกรรมแบบที่เคยได้รับการเรียนรู้มาว่า ต้องเป็นเรื่องของการ ผลักดันโดยการวิจัยพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแต่เพียงด้านเดียว ในชัน้ เรียนระดับสูงกว่าปริญญาตรี จึงมักมีการถกประเด็นหรือ แม้กระทั่งออกเป็นข้อสอบเพื่อให้วิเคราะห์กันว่า การเขียนนวนิยาย ใหม่ขึ้นมา ถือว่าเป็นการสร้างนวัตกรรมหรือไม่ ซึ่งหากจะน�ำความรู้ทางด้านนวัตกรรมที่เรียนรู้กันมา ก็มักจะ สรุปได้ว่า นวนิยายใหม่ ไม่น่าจะเข้าข่ายการสร้างนวัตกรรม แม้ว่าจะ
สร้าง Value Innovation ผมได้เขียนถึง Value Innovation ไปแล้ว วันนีผ้ มขอน�ำค�ำว่า Innovation หรือนวัตกรรมมาขยายความครับ นวัตกรรมทีน่ ำ� มาสูก่ ารพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเชิงธุรกิจ นั้นพอจะจ�ำแนกออกมาได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ 1.Product Innovation หรือ นวัตกรรมที่เกิดจากการ พัฒนาสินค้าหรือบริการจนเกิดผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ทยี่ งั ไม่มี ในตลาดมาก่อน ซึง่ เราจะพบในรูปของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทีต่ อ่ ยอด มาจากสิทธิบตั รอย่างเช่น ยารักษาโรคใหม่ๆ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไอที อย่าง iPad , LED TV , โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4G เหล่านี้ล้วนแต่เป็นนวัตกรรมประเภทนี้ครับ 2. Process Innovation เป็นการปรับเปลีย่ นกระบวนการ ผลิต กระบวนการให้บริการหรือบริหารจัดการด้วยแนวทางใหม่ๆ ที่เพิ่มประสิทธิผลอย่างชัดเจน เช่น การที่ร้านเอ็มเค น�ำระบบ คอมพิวเตอร์พกพามาใช้ส�ำหรับพนักงานในการให้บริการรับสั่ง อาหารและคิดเงินซึ่งระบบดังกล่าวเชื่อมโยงกับการออกอาหาร ตัดยอดสินค้าคงคลัง จนถึงระบบการช�ำระเงิน ท�ำให้การบริหาร จัดการ ร้านทีม่ สี าขาอยูเ่ ป็นจ�ำนวนมากท�ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ กว่าระบบการออกใบสัง่ อาหารด้วยกระดาษอย่างทีเ่ คยท�ำในอดีต การที่บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จ�ำกัด (มหาชน) เปลี่ยน ระบบการก่อสร้างจากการจ้างเหมาผู้รับเหมามาท�ำการก่อสร้าง โดยใช้วิธีหล่อโครง ก่ออิฐฉาบปูน มาเป็นระบบผนังส�ำเร็จรูป หล่อมาจากโรงงานแล้วยกมาประกอบเพือ่ ให้เกิดประสิทธิภาพใน การควบคุมคุณภาพและก่อสร้างได้เร็วกว่าวิธกี ารแบบเดิมๆ ก็จดั ได้ว่าเป็น Process Innovation 3. Position Innovation เป็นการเปลี่ยนต�ำแหน่งทางการ ตลาดของสินค้าและบริการในใจลูกค้าด้วยการสร้างความรับรูแ้ ละ ทัศนคติใหม่ทลี่ กู ค้ามีตอ่ สินค้าและบริการ โดยต�ำแหน่งทางการตลาด ใหม่นั้นยังไม่มีใครในตลาดอยู่มาก่อนจึงถือได้ว่าเป็นนวัตกรรม ประเภทหนึ่ง เช่น โรงแรมขนาดเล็กที่มีห้องพักน้อยไม่ได้อยู่ ภายใต้การบริหารของเครือข่ายโรงแรมที่เป็นสากล ในอดีตก็จะ วางต�ำแหน่งเป็นโรงแรมระดับ 3-4 ดาว โดยใช้ราคาที่ต�่ำกว่าเป็น ตัวดึงดูดลูกค้าแต่ปัจจุบันมีโรงแรมหลายแห่งวางต�ำแหน่งเป็น บูติคโฮเต็ล ขายความแตกต่างของการตกแต่ง ท�ำเล บริการและ เสน่ห์ของโรงแรมขนาดเล็กที่หาไม่ได้จากโรงแรมมาตรฐานทั่วไป โดยก�ำหนดราคาได้สงู กว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวในท�ำเลเดียวกันได้ อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Food Loft หรือศูนย์อาหารที่เซ็นทรัล ชิดลม ก�ำหนดต�ำแหน่งทางการตลาดที่แตกต่างอย่างมีนวัตกรรม ทั้งจากการตกแต่งบรรยากาศ ภาชนะใส่อาหาร มีบริการเสิร์ฟ อาหารตามโต๊ะและร้านอาหารที่เลือกมาลงเป็นร้านที่อยู่ในระดับ บนมีคณ ุ ภาพและราคาค่อนข้างสูง แต่มจี ดุ แข็งในเรือ่ งความหลาก หลายของอาหารและความเร็วในการให้บริการเช่นเดียวกับ Food Center ทั่วไป 4. Paradigm Innovation เป็นการสร้างนวัตกรรมด้วยการ เปลี่ยนกรอบความคิดของลูกค้า เช่น การที่ สสส. ออกแคมเปญ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพยายามเปลี่ยน กรอบความคิดของกลุม่ เป้าหมายทีไ่ ด้ผลดีเยีย่ ม เมือ่ เปรียบเทียบ กับแนวทางการรณรงค์เดิมๆ ที่สื่อไปยังผู้ดื่มให้ลดการดื่มเพื่อ สุขภาพและความปลอดภัย การเปลีย่ นความคิดผ่าน Paradigm Innovation อีกตัวอย่าง หนึ่งคือสินค้าเพื่อสุขภาพกลุ่ม Organic เช่น ข้าวแดงหรือ ข้าวกล้องที่ในอดีตคนฐานะดีจะไม่บริโภคเพราะมีทัศนคติว่าเป็น ข้าวของคนจนหรือคนคุก แต่พอสร้างกรอบแนวคิดใหม่ว่าเป็น สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ข้าวกล้องก็สามารถขายได้ในราคาสูงกว่า ข้าวขาวทั้งๆ ที่กระบวนการผลิตมีต้นทุนที่ต�่ำกว่า เป็นต้น ผูอ้ า่ นคงพอเข้าใจแล้วนะครับว่า นวัตกรรมนีม้ หี ลายประเภท ถ้าเรายังไม่พร้อมจะพัฒนา Product Innovation นวัตกรรม ด้านอื่นๆ อีก 3 ด้าน ก็ยังท้าทายให้เราพัฒนาอยู่ครับ รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีป่ รึกษาใน Blue Ocean Strategy Thailand ตัวแทน ที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก The Blue Ocean Strategy Regional Center Asia Pacific ในด้านการให้บริการที่ปรึกษา และให้ ความรูเ้ พือ่ พัฒนาธุรกิจภายใต้หลักสูตรและเครือ่ งมือของ Blue Ocean : www.blueocean-thailand.com
สามารถสร้างรายได้เชิงเศรษฐกิจอย่างถล่มทลายให้กับผู้ประพันธ์ แต่ค�ำอธิบายในเชิง สุนทรียนวัตกรรม ก็อาจเพิ่มมุมมอง ของการวิเคราะห์ได้ว่า เป็นการสร้าง สิ่งใหม่ ที่มีคุณค่าเชิงพาณิชย์ เกิดจากความรู้ของผู้สร้างสรรค์ และเกิดการยอมรับแพร่กระจาย ไปได้ในหมูผ่ บู้ ริโภค ซึง่ ตรงกับนิยามของการเป็นนวัตกรรมแทบทุกข้อ ต้องขอขอบคุณทางหลักสูตร สหสาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยี และการจัดการนวัตกรรม ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ให้ เชิญผมไปเป็นวิทยากรร่วมเพื่อวิพากษ์การน�ำเสนอหัวข้อทฤษฎี นวัตกรรมของนิสติ ปริญญาเอกในชุดวิชา “การสังเคราะห์นวัตกรรม” และมีนิสิตที่น�ำเสนอหัวข้อเรื่อง Soft Innovation ซึ่งเป็นที่มาของ บทความนี้ ส�ำหรับท่านที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่คิดว่า เรื่องของ การสร้างนวัตกรรมเป็นเรื่องที่เอสเอ็มอีท�ำไม่ได้ ก็อาจต้องลอง คิดท�ำ สุนทรียนวัตกรรม ให้กับสินค้าหรือบริการของท่านดูสิครับ อาจ “รวย” ได้ง่ายๆ !!!! ดร.เรวัต ตันตยานนนท์ เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเอสเอ็มอี จบปริญญาโท ส�ำหรับผู้บริหารรุ่นที่ 13 คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่สังกัด”
6
วันที่ 4 เมษายน 2554
“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะกลางยังมีทิศทางที่ดี แนวโน้มตลาดหุ้นก็น่าจะยังอยู่ ในทิศทางที่ดี คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,200 จุดได้ ขณะที่ ในช่วง 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งจากสถิติในอดีตตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5-8% ซึ่งเกิดจากการเก็งก�ำไรจากสัญญาณทางการเมือง ที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น” มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
SET ขึ้นรอบนี้ ‘เงินฝรั่ง’ ล้วนๆ ภาวะเงินเฟ้อ...กับโอกาสในตลาดหุ้น สวัสดีครับ เหตุการณ์แผ่นดินไหวทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศญีป่ นุ่ ผ่านพ้นไปไม่นาน ประเทศไทย
ก็ประสบกับอุทกภัยใหญ่ในหลายพืน้ ทีท่ ภี่ าคใต้ ผมขอส่งก�ำลังใจ และหวังว่าเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ ทั้งหมดจะคลี่คลายลงโดยเร็ว ฉบับนีผ้ มขอพูดถึงเรือ่ ง “เงินเฟ้อ” ตัง้ แต่ปที ผี่ า่ นมาจนถึงปัจจุบนั ราคาสินค้ามีการปรับตัว สูงขึน้ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ซึง่ หมายถึงภาวะเงินเฟ้อนัน่ เอง ภาวะเงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ ราคาสินค้าและบริการโดยทัว่ ไปในระบบเศรษฐกิจสูงขึน้ เรือ่ ยๆ ซึง่ มีผลท�ำให้คา่ ของเงินทีเ่ ราถืออยู่ ลดลง พูดง่ายๆ ก็คอื การเกิดภาวะเงินเฟ้อ จะท�ำให้เงินจ�ำนวนเท่าเดิมทีเ่ ราถืออยูม่ คี า่ ลดลง ท�ำให้ซอื้ ของได้นอ้ ยลง ยกตัวอย่างราคาน�ำ้ มันจากเดิมทีเ่ คยเติมลิตรละ 15 บาท เมือ่ เติมน�ำ้ มัน 10 ลิตร ราคา 150 บาท เมื่อน�้ำมันปรับตัวมาที่ลิตรละ 30 บาท เมื่อมีเงิน 150 บาท กลับเติม น�ำ้ มันได้เพียง 5 ลิตร แน่นอนครับเมือ่ น�ำ้ มันปรับตัวสูงขึน้ ต้นทุนในการขนส่งสินค้าก็ยอ่ มต้อง สูงขึ้น และท�ำให้ราคาสินค้าชนิดอื่นๆ ต้องขึ้นราคาตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม การทีม่ สี นิ ค้าเพียงชนิดใดชนิดหนึง่ แพงขึน้ จะยังไม่เรียกว่าเงินเฟ้อครับ เพราะ ภาวะเงินเฟ้อหมายถึง ราคาสินค้าและบริการโดยทัว่ ๆ ไปแพงขึน้ ถึงแม้ในเวลาเดียวกัน ของบางอย่าง ยังไม่ได้ขนึ้ ราคาหรืออาจถูกลง แต่โดยรวมๆ แล้ว หากราคาสินค้าและบริการโดยเฉลีย่ เพิม่ สูงขึน้ และต่อเนื่องไปสักพักหนึ่ง ถึงจะเรียกได้ว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ ส�ำหรับในประเทศทัว่ โลกนัน้ จากปีทผี่ า่ นมาก็มอี ตั ราแนวโน้มเงินเฟ้อสูงขึน้ โดยเฉพาะประเทศจีน แม้ทผี่ า่ นมาประเทศดังกล่าวจะมีอตั ราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทิศทางทีด่ กี ต็ าม แต่เมือ่ ปัจจัย เงินเฟ้อเริม่ เข้ามา ธนาคารกลางของประเทศดังกล่าวก็พยายามควบคุมแก้ไขปัญหา ซึง่ คงหนีไม่พน้ การปรับขึน้ อัตราดอกเบีย้ เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยในปีนจี้ ะเห็นว่าแบงก์ชาติได้ประกาศปรับขึน้ อัตราดอกเบีย้ นโยบายอย่างต่อเนือ่ ง เพือ่ ชะลอเศรษฐกิจลงบ้างไม่ให้ไปกดดันเงินเฟ้อ ทีผ่ า่ นมา แบงก์ชาติตอ้ งพยายามปรับอัตราดอกเบีย้ ไปอยูใ่ นระดับทีเ่ หมาะสม นัน่ คือไม่ทำ� ให้อตั ราดอกเบีย้ เงินฝากทีแ่ ท้จริงติดลบ ดังนัน้ การขึน้ ดอกเบีย้ ทีผ่ า่ นมาจึงมี 2 ปัจจัยหลักๆ คือ เพือ่ ปรับให้อตั ราดอกเบีย้ ทีต่ ำ�่ ขึน้ มาอยูใ่ นอัตราทีเ่ หมาะสม และเพือ่ ลดความร้อนแรงของภาวะเงินเฟ้อ เมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น แน่นอนครับ เงินเฟ้อจะส่งผลให้ตลาดหุน้ มีราคาต�ำ่ กว่าภาวะทีแ่ ท้จริง ผมขอยกตัวอย่างทีเ่ ห็น ได้คอ่ นข้างชัดเจน คือประเทศจีน ซึง่ เป็นประเทศทีพ่ ยายามต่อสูก้ บั ภาวะเงินเฟ้อมาเกือบ 2 ปี มีการขึน้ ดอกเบีย้ มีการออกมาตรการเพือ่ ให้ธนาคารชะลอการปล่อยสินเชือ่ เพือ่ ชะลอเศรษฐกิจ ซึง่ นัน่ เองท�ำให้ตลาดหุน้ จีนไม่มกี ารปรับตัวขึน้ อย่างทีค่ วรจะเป็น ประกอบกับตอนนีน้ กั วิเคราะห์ ส่วนใหญ่เริม่ มองเห็นว่าการปรับอัตราดอกเบีย้ ขึน้ ของจีนน่าจะเริม่ ใกล้ถงึ จุดสูงสุดในอีกไม่นาน สิง่ ทีน่ า่ สนใจเมือ่ วงจรการปรับดอกเบีย้ สูงสุดเกิดขึน้ เมือ่ ไหร่ ตลาดหุน้ ก็มโี อกาสกลับมาฟืน้ ตัว อีกครัง้ ซึง่ นอกจากจีนแล้วถ้ามองประเทศอืน่ รวมทัง้ ในแทบภูมภิ าคนี้ ก็มแี นวโน้มว่าเราจะได้เห็น การปรับดอกเบีย้ ใกล้จดุ สูงสุดเช่นกัน ดังนัน้ ในช่วงภาวะเงินเฟ้อก่อนทีด่ อกเบีย้ จะถึงจุดสูงสุด ก็เป็นโอกาสให้ผลู้ งทุนรอซือ้ หุน้ เพือ่ สร้างผลตอบแทนทีด่ ไี ด้ โดยเฉพาะในแทบภูมภิ าคเอเชีย เช่นประเทศจีน รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกันครับ หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งค�ำถามของ ท่านมาได้ที่ pr.tisco@gmail.com พบกันใหม่ตอนต่อไปครับ www.tiscowealth.com
1. การลากเส้นแนวโน้มขาขึ้นโดย
ก�ำหนดจุดต�่ำสุด L1 = 409.91 จุด (เมื่อ วันที่ 9/3/2009) ผ่าน จุดต�ำ่ L2 = 720.47 จุด ( 25/5/2010) แล้วลากเส้นคูข่ นาน H = 758.55 จุด (13 /10/2009) จะได้แนวต้าน ทางเส้นแนวโน้มที่ 1,130-1,135 จุด และถ้าก�ำหนดจุดสูง H2 = 1,055 จุด (/11/2010) จะได้แนวต้านทางเส้นแนวโน้ม ที่ 1,155-1,160 จุด ตามล�ำดับ 2. จากการดูปจั จัยต่างๆ ช่วงนี้ ถือว่าข่าว ร้ายๆ ก็ยงั ไม่มมี ากนัก ส่วนข่าวดี ดูเหมือน จะนิง่ ๆ ดังนัน้ ต่างชาติเริม่ มองเห็นสัญญาณ บวกเพิ่มขึ้น จึงเริ่มหันกลับมาซื้อสุทธิ ต่อเนือ่ ง โดยเข้าซือ้ ในหุน้ ขนาดใหญ่เป็นหลัก กลุ ่ ม พลั ง งาน (PTT, PTTEP, TOP, BANPU, IRPC, GLOW, PTTAR), กลุ่ม ธนาคารเกือบทัง้ หมด (BBL, KBANK, SCB, BAY, TCAP, TISCO, KK, KTB), กลุ่ม ปิโตเคมี (PTTCH, IVL), กลุ่มเงินทุน หลักทรัพย์ (KEST, ASP, KGI, BLS, KTC), กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (AP, LH, SPALI, LPN, PLE, HEMRAJ, AMATA, CK, ITD, BLAND) การเลือกซือ้ หุน้ ช่วงนี้ หาก อยากเกาะกระแสไปกับต่างชาติ เลือกซื้อ ในหุน้ ขนาดใหญ่เป็นหลัก ถ้าเป็นหุน้ ขนาด กลาง - เล็ก จะเป็นของพี่ไทย เล่นกันเอง เป็นส่วนใหญ่ 3. SET Daily และ Indicators (MACD, 14RSI) เกิดสัญญาณเชิงบวก Bullish Convergence (ราคาหุ้นและ Indicators มีจดุ ต�ำ่ ยกสูงขึน้ เหมือนกัน) เป็นการยืนยัน เชิงบวกกับ การเกิดสัญญาณ Golden cross ตัง้ แต่ SET ยืนเหนือ 1,000 จุด ขึน้ มาท�ำให้ เกิด สองแรงบวกของสัญญาณทางเทคนิค ดัชนีฯ จึงปรับตัวขึน้ มาอย่างรุนแรง ดังนัน้ ช่วงนี้ถ้าจะให้ดีมากๆ คือ ควรให้ดัชนีฯ ยืนเหนือ 1,056 จุดขึน้ ไปอย่างต่อเนือ่ งให้ได้ หรือ หากจะปรับตัวลดลงมาไม่ควรให้หลุด 1,050 และ 1,038-1,040 จุด ตามล�ำดับ
โดยอย่างเลวร้ายสุดก็อย่าให้หลุด 1,000 จุด ก็แล้วกัน 4. SET Weekly ได้รีบาวด์กลับขึ้นมา กลายเป็นสัญญาณซือ้ ใหม่ อีกครัง้ จากยืน เหนือ 1,000 จุดได้ โดย EMA 5 week = 1,029 จุด, 10 week = 1,015 จุด, 25 week = 990 จุด, 75 week = 881 จุด, 200 week = 771 จุด ดัชนีฯ ก�ำลังทดสอบแนวแนวต้าน จุดสูงสุดเดิม บริเวณ 1,056 จุด ว่า จะสามารถ ตีผา่ นขึน้ ไปได้ตอ่ เนือ่ งหรือเปล่า หากผ่าน
ช่วงนี้หาก SET Index ยังยืนเหนือ จุดสูงสุดเดิม 1,056 จุดได้ ให้ ‘ถือต่อซื้อเพิ่ม’ ไปลุ้นขาย ที่ระดับ 1,100 หรือ 1,150 จุด ต่อไป
ไปได้ มีลนุ้ แนวต้านถัดไปที่ 1,100, 1,150 จุด ตามล�ำดับ, โดยที่ MACD, 14RSI ได้สงั่ เป็นสัญญาณซือ้ กลับมาอีกครัง้ สัญญาณ ซื้อส�ำคัญเริ่มเกิดเพราะสัญญาณระดับ Weekly ได้สงั่ ซือ้ แล้ว ยืนยันว่า ระยะกลางยาว ดัชนีฯ มีโอกาสไปต่อได้ และ เริม่ เกิด Golden cross ระดับ Weekly แล้ว ยืนยัน เพิม่ เติมไปอีก ดังนัน้ หากดัชนีฯ ไม่ปรับตัว ลดลงมาต�่ำกว่า 1,050 - 1,056 จุด ลงมา แสดงว่า เราต้องซือ้ หุน้ ตามน�ำ้ หรือถือต่อ ได้ ต่อไป และแถมเกิดสัญญาณ Bullish Convergence weekly ถ้าใครเชือ่ สัญญาณ Weekly ควรซื้อหุ้นขนาดใหญ่แล้วถือรอ ขายอย่างเดียว หากสั่งขาย ก็ขายออกไป เท่านั้นเอง 5. ปริมาณการซือ้ ขายเริม่ กลับเข้ามาสนับสนุน มากขึน้ ในระดับ 45,000 - 48,000 ล้านบาท/ วัน ได้ แสดงถึง ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึน้ ไปต่อได้ สัปดาห์นหี้ ากแรงซือ้ ยังคงต่อเนือ่ ง และปริมาณการซือ้ ขายเข้ามาระดับ 50,000 - 65,000 ล้านบาท/วัน ต้องซือ้ หุน้ แล้วถือรอ อย่างเดียวครับ นักวิเคราะห์หลายๆ คน จะเริ่มพูดกันมากขึ้นว่า ดัชนีฯ อาจจะไป 1,200-1,400 จุด ทีนเี้ หล่ากูรู ไม่มใี ครมอง ดัชนีฯ ต�่ำๆ แล้วครับ จะเท่าไหร่ไม่ว่าแต่ ถ้าค่าเงินบาท อ่อนค่าเมื่อไหร่ ขายหุ้นทิ้ง ทันที หรือ หากเกิดอาการลากไปทีจ่ ดุ สูงสุด มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด แต่ปิดที่ต�่ำ
เป้าหมายเพิม่ ยอดการใช้จา่ ยผ่านบัตรให้เป็น 5.8-6 พันบาทต่อบัตรต่อเดือน จากปัจจุบนั เฉลี่ยอยู่ที่ 5.3 พันบาทต่อบัตรต่อเดือน ชวลิ ต หวั ง ธ� ำ รง ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บมจ.ผลธัญญะ เปิดเผยว่า ในปีนี้ Mission CEO ฉบับที่ 355 ประจ�ำ บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 800 ล้านบาท วันที่ 4-10 เมษายน 2554 ถือเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 25% เมือ่ วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี เทียบกับรายได้ในปี 2553 กรรมการผูจ้ ดั การ ธนาคาร ทีม่ รี ายได้รวม 637 ล้านบาท อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปัจจุบันธุรกิจออกแบบผลิต ประกาศ 5 มาตรการช่วยเหลือ ติดตัง้ ระบบบ�ำบัดน�ำ้ ดีนำ�้ เสีย ผูป้ ระสบความเดือดร้อนจาก เพือ่ น�ำน�ำ้ กลับมาใช้ใหม่ผา่ น ภัยน�้ำท่วมในหลายพื้นที่ บริษทั ย่อย บริษทั พีดี เจเนซิส มาตรการที่ 1 ลูกค้า ธอส. เอ็นจิเนียริง่ อยูร่ ะหว่างเจรจา กรณี ห ลั ก ประกั น ได้ รั บ กับลูกค้ารายใหม่ 5-6 โครงการ ความเสียหายจะยกเว้นการ มูลค่าโครงการละ 3-5 ล้านบาท ผ่อนช�ำระค่างวด 4 เดือน วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และลดอัตราดอกเบี้ยใน ขณะที่แนวโน้มธุรกิจหลัก เดือนที่ 1-4 = 0% มาตรการที่ 2 กรณี จัดจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่ออาชีวอนามัย ลูกค้าได้รับผลกระทบด้านรายได้ จะลด ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก อัตราดอกเบีย้ เหลือ 1% เป็นระยะเวลา 1 ปี ปีกอ่ น จึงเชือ่ ว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการ มาตรการที่ 3 กรณีลูกค้าได้รับอุบัติเหตุ ในปีนี้เติบโตต่อเนื่องได้ตามเป้าหมายที่ จนทุพพลภาพหรือเสียชีวติ จะลดดอกเบีย้ บริษัทวางไว้ ให้เหลือ 0.01% ต่อปี ตลอด ปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ระยะเวลากู ้ ที่ เ หลื อ อยู ่ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี มาตรการที่ 4 กรณีทอี่ าคาร ออลล์ เปิดเผยว่า บริษทั จะได้ พังเสียหายทัง้ หลังจะได้รบั ไลเซ่นขยายสาขาร้าน 7-11 การปลดภาระหนีต้ ามยอดหนี้ ที่จีนและเวียดนามอย่างเร็ว คงเหลือในส่วนของอาคาร ในปลายปีนี้ ทีผ่ า่ นมามีความ มาตรการที่ 5 ลูกค้าเดิม ล่าช้าเนือ่ งจากผลกระทบการ และลูกค้าใหม่สามารถขอกู้ ลดค่าเงินด่องในเวียดนาม เพือ่ ซ่อมแซมหรือปลูกสร้าง และจากภั ย พิ บั ติ ใ นญี่ ปุ ่ น บ้านใหม่ คิดอัตราดอกเบีย้ ปิ ยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ท�ำให้การขออนุญาตใช้แบรนด์ คงที่ 2% นาน 5 ปี ยืน่ ค�ำขอกู้ 7-11 ล่าช้า ตอนนีก้ เ็ น้นขยาย ได้ตงั้ แต่วนั ที่ 1 เม.ย.- 31 พ.ค. 2554 สอบถาม สาขาในไทยไปก่อนปีละ 450-500 สาขา รายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-645-9000 โดยบริษทั มีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ หรือ www.ghbank.co.th 7,000 สาขาในอีก 2 ปีขา้ งหน้า จากปัจจุบนั ปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่ มีประมาณ 6,000 สาขา ส่วนผลกระทบ บริหารอาวุโส บมจ.บัตรกรุงไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นำ�้ ท่วมในภาคใต้จะไม่กระทบ ในปี 2554 เคทีซมี แี ผนทีจ่ ะขยายฐานสมาชิก เป้าหมายยอดขายรวมในปีนที้ ตี่ งั้ เป้าเติบโต ไปยัง “กลุ่มบี” หรือกลุ่มผู้มีรายได้ตั้งแต่ 10-15% ด้านอัตราก�ำไรขัน้ ต้นปีนคี้ าดปรับ 40,000-100,000 บาท มากขึ้น ปัจจุบัน เพิม่ ขึน้ อีก 0.3% จากปีกอ่ นอยูท่ ี่ 27-28% มีสัดส่วนสมาชิกกลุ่มดังกล่าวเพียง 20% บดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการ โดยมีลกู ค้า “กลุม่ ซี” รายได้ตงั้ แต่ 15,000- รองผูจ้ ดั การใหญ่ บมจ.ไพลอน เปิดเผยว่า 40,000 บาท สัดส่วนสูงสุด 72% และปีนี้ บริษทั ได้รบั การยืนยันการจ้างงานก่อสร้าง ตั้งเป้าขยายฐานบัตรใหม่ 6 โครงการรวมภาษีมูลค่า ไว้ 1.5 แสนบัตร ท�ำให้สนิ้ ปี เพิม่ มูลค่า 127.51 ล้านบาท นีค้ าดว่าฐานบัตรของเคทีซี ก่อนหน้านั้นเพิ่งได้รับงาน จะอยูท่ ี่ 1.85 ล้านบัตร ส่วน ปรับปรุงระบบระบายน�ำ้ ด้านใต้ ยอดสินเชื่อคงค้างคาดว่า คลองภาษี เ จริ ญ ถึ ง คลอง จะเติบโต 10-15% จากปี สนามชัย มีมูลค่าโครงการ ทีผ่ า่ นมาอยูท่ ี่ 3.2 หมืน่ ล้าน 320 ล้านบาท รวมกับโครงการ บาท นอกจากนีเ้ คทีซจี ะท�ำ อืน่ ๆ อีก 4-5 โครงการท�ำให้ การตลาดมากขึน้ ในปีนโี้ ดย บริษัทมี Backlog ที่เป็นงาน ์ ตั้งงบไว้ 200 ล้านบาท มี ปิ ยศักดิ เตชะเสน แนวราบสูงถึง 500 ล้านบาท
เมื่อไหร่ ก็ขายทิ้งทันที 9. หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, BANPU, IRPC, GLOW, PTTAR), กลุ่มธนาคารเกือบ ทั้งหมด (BBL, KBANK, SCB, BAY, TCAP, TISCO, KK, KTB), กลุม่ ปิโตเคมี (PTTCH, IVL), กลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ (KEST, ASP, KGI, BLS, KTC), อสังหาริมทรัพย์ (AP, LH, SPALI, LPN, PLE, HEMRAJ, AMATA, CK, ITD, BLAND) 10.สรุป ช่วงนี้สัญญาณทางเทคนิคทั้ง ระยะรายวัน, รายสัปดาห์ ต่างยืนยันว่า เป็นสัญญาณเชิงบวกหมด ดังนั้น เราใช้ กลยุทธ์ ปล่อยลอยตามน�้ำ (Follow the main trend) อย่าใช้กลยุทธ์ผดิ โดยเฉพาะ คนที่เล่นใน TFEX พอมองว่า ดัชนีฯ ขึ้นมาสูงแล้วท�ำการขาย ชอร์ตเอาๆ ระวัง เข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ด้วยนะครับ เมื่อ SET เป็นขาขึ้น ก็เล่นแบบ “ขาขึ้น” ส่วน จะไปลุน้ ที่ 1,100, 1,200, 1,300 หรือ 1,400 จุด คงจะเห็นความเห็นของบรรดานัก วิเคราะห์ ที่จะคาดเดากันต่อไป ยังไงก็ ช่างเถอะผมขอให้หนุ้ ทีล่ กู ค้าทีอ่ า่ นคอลัมน์ และดูรายการเพือ่ นนักลงทุน ใน TNN24 เวลา 13.00 - 13.30 น. ก�ำไรถ้วนหน้าก็แล้วกัน คุณฉุยเปิดหลักสูตร ไต่บันไดเซียน รุ่นที่ 7: เรียน 5 วันเต็ม ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์, จันทร์, อังคาร ที่ 22 - 26 เม.ย. 2554 เวลา 8.30 - 17.00 น. ทุกวัน ใช้ โปรแกรม Apex-IRS คอมพิวเตอร์ 1 คน/เครื่อง ปฏิบัติการจริง เล่นหุ้นจริง โทรศัพท์ส�ำรองที่นั่ง ด่วนก่อนโอนเงิน ที่คุณฉุยและ ทีมงาน 081-441-3638, 02-6469652-3
ในขณะที่งานเสาเข็มเจาะมี Backlog อยู่ ใกล้เคียงกันจึงท�ำให้หลังจากที่ได้งานชุดนี้ Backlog ได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทเรียบร้อย แล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจว่ารายได้ในปี 2554 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่ ท�ำได้ 630 ล้านบาท มารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสารสนเทศ บมจ.ไดนาสตี้ เซรามิค เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ บริษทั เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 15 สาขา ท�ำให้ คาดว่าแนวโน้มรายได้รวมปีนี้จะเติบโต 12-13% โดยยอดขายไตรมาส 1 ปีนี้ เติบโต ได้ 6-7% ขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้ จะเป็นช่วง ไฮซีซนั ส่วนของก�ำไรสุทธิปนี ี้ คาดจะเติบโต 18-19% จากปีก่อน 1,175 ล้านบาท และ ตัง้ เป้ารักษาอัตราก�ำไรขัน้ ต้นไว้ที่ 44% แม้ แนวโน้มต้นทุนจะปรับเพิม่ สูงขึน้ โดยเฉพาะ ราคาน�ำ้ มัน ปัจจุบนั บริษทั ใช้กำ� ลังการผลิต สูงถึง 95% และอยู่ระหว่างการพิจารณา ความเป็นไปได้ทจี่ ะเพิม่ เตาเผาอีก 1 เตา ซึง่ จะท�ำให้ก�ำลังการผลิตเพิ่มเป็น 61 ล้าน ตร.ม./ปี จากปัจจุบัน 58 ล้าน ตร.ม./ปี ชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผูจ ้ ดั การ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี เปิดเผยว่า รายได้ปีนี้น่าจะเติบโตไม่ต�่ำกว่า 15-20% หรือประมาณ 2.5-2.6 พันล้านบาท แบ่ง ออกเป็นรายได้จาก CCP สัดส่วน 50-55% จ�ำหน่ายอิฐมวลเบา 15% และจากธุรกิจ จ�ำหน่ายวัสดุกอ่ สร้าง 35-40% ปัจจุบนั บริษทั มีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1.9 พันล้าน บาท รับรูใ้ น 18 เดือน ขณะเดียวกันยังมัน่ ใจ ว่าจะมียอดรายได้จากงานอืน่ ๆ อีกไม่ตำ�่ กว่า 500 ล้านบาท นอกจากนีย้ งั มีแผนเข้าประมูล งานต่างๆ เพิ่มอีกไม่ต�่ำกว่า 1 พันล้านบาท ภายในปีนี้ ปัจจุบนั บริษทั รับงานสร้างคอนโดมิเนียมของเครือพฤกษาทีป่ ระเทศมัลดีฟส์ โดยได้รับยอดสั่งซื้อมูลค่า 160 ล้านบาท จากทั้งหมด 4 เฟส ขวัญชัย ณัฏฐ์เศรษฐ์ กรรมการผูจ ้ ดั การ บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ ผู้ผลิตวัตถุดิบส�ำหรับ ผลิตภัณฑ์พลาสติกในรูปแบบของเม็ดพลาสติก ผสมสี และสารเติมแต่งแบบเข้มข้น เปิดเผย ว่า บริษทั เตรียมเข้าตลาด mai ในช่วงไตรมาส 2/2554 โดยมีบริษทั ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จ�ำกัด เป็นทีป่ รึกษาทางการเงิน เพือ่ น�ำเงิน ไปใช้ขยายสายการผลิต 50-60% ใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียน 30% และใช้ช�ำระคืน เงินกู้ยืม 20% บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จ�ำนวน 30 ล้านหุน้ คิดเป็นสัดส่วน 20.65% ของทุนจดทะเบียน 145.25 ล้านบาท โดย ปี 2554 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตไว้ ไม่ต�่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มี รายได้รวม 566.43 ล้านบาท และมีก�ำไร สุทธิ 14.34 ล้านบาท
7
ถนนนักลงทุน
วันที่ 4 เมษายน 2554
ผูบริหารบริษัทขายหุนไมใหญๆ ในเดือนมีนาคม 2554
1 2 3 4 5 6 7 ที่มา : สรุปจากรายงาน 59-2 ของ สนง.คณะกรรมการ ก.ล.ต. 8
แผนลงทุน 3 ปี ‘กบข.’ จัดพอร์ตสมดุล ‘ความ เสี่ยง-ผลตอบแทน’ ตั้งเป้าผลตอบแทน ขั้นต�่ำชนะ ‘เงินเฟ้อ’ ที่ 3% แต่คาดหวังผล ตอบแทนปีละ 7% สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนไป
ท�ำให้ กองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญข้าราชการ (กบข.) ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนภายใต้ สินทรัพย์ 480,624 ล้านบาท น�ำไปใช้ลงทุนจริง 366,702 ล้านบาท เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับสมาชิก 1,157,137 ล้านคน ความเคลือ่ นไหว ของกองทุนยักษ์สามารถใช้เป็นแนวทางให้นกั ลงทุนเดินรอยตามได้เน้นหลักการลงทุนแบบ กระจายความเสีย่ งและผลตอบแทนสอดคล้อง กับความเสี่ยง “แผนดังกล่าวเพื่อสร้างเป้าหมายผล ตอบแทนสูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่ก�ำหนด ได้และเอาชนะเงินเฟ้อในระยะยาว” โสภา วดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบ�ำเหน็จ บ�ำนาญข้าราชการ กล่าว เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า กบข. จะมอง ภาพการลงทุนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น ดัง นั้นสมาชิกอย่ามองผลตอบแทนแบบปีต่อปี แผนระยะ 3 ปีเปรียบเสมือนแผนที่การเดิน เรือให้มีทิศทางไปให้ถึงเป้าหมายอย่างชัดเจน แม้ระหว่างทางจะเดินออกนอกเส้นทาง (ปรับ พอร์ต) บ้าง แต่เป้าหมายใหญ่จะไม่เปลีย่ นแปลง จากนี้ จุดประสงค์ของการปรับเปลี่ยนสัดส่วน สินทรัพย์ลงทุน กบข.จะใช้เวลาสามปีจดั พอร์ต ให้มสี ดั ส่วนดังกล่าว (ตามตาราง) ทุกสินทรัพย์ ที่ กบข.ลงทุนล้วนประเมินแล้วว่ามีอพั ไซด์ใน อนาคต ภายใต้หลักการไม่น�ำไข่ใส่ในตะกร้าใบ เดียว และจะไม่ลงทุนแบบ High Risk..High Return “เราคาดการณ์ว่าภายใน 3-10 ปีข้าง หน้าอัตราเงินเฟ้อไทยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 3% นี่คือตัวเลขที่เราต้องเอาชนะ ตั้งแต่ตั้ง
โสภาวดี เลิศมนัสชัย
กองทุนเรามีผลตอบแทนเฉลี่ย 7.3% ต่อปี” ทีป่ ระชุมคณะกรรมการ กบข.ได้มมี ติอนุมตั ิ แผนจัดสรรการลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Allocation) หรือ SAA ปี 2554-2556 ซึง่ จะมีผลบังคับใช้ตงั้ แต่วนั ที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป โดย กบข.จะเพิ่มการลงทุนใน ตราสารหนี้ต่างประเทศและลดสัดส่วนการ ลงทุนในตราสารทุน (หุ้น) นอกจากนี้ยังเพิ่ม การลงทุนในสินทรัพย์ใหม่เพื่อป้องกันความ เสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ เช่นสินค้าโภคภัณฑ์ ทีมงานดีกรีระดับ “ดอกเตอร์” ของ กบข. อธิบายต่อโดยยกผลวิจยั สถิตเิ งินเฟ้อย้อนหลัง ของไทยจะอยู่ที่ 3% ถ้าเก็บเงินไว้เฉยๆ อีก 10 ปีข้างหน้าเงิน 100 บาทจะเหลือเพียง 74 บาท และอีก 20 ปีจะเหลือเพียง 50 บาท นีค่ อื เหตุผล ว่าท�ำไมต้องมีแผนจัดสรรเงินลงทุนระยะยาว (SAA) เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ ผลการส�ำรวจกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญ 1,000 กองทัว่ โลกยังชีช้ ดั ด้วยว่า ปัจจัยทีจ่ ะสร้าง ผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมายต้องมีการกระ จายสินทรัพย์ทจี่ ะลงทุน (Asset Allocation) มีผลถึง 91% อืน่ ๆ อย่างเช่นการเลือกสินทรัพย์ ลงทุนมีผล 5% การเลือกจังหวะเวลา (Market Timing) มีผลแค่ 2% เท่านัน้ เป็นทีม่ าว่าท�ำไม ต้องจัดท�ำแผน SAA กฎหมายระบุวา่ กบข. มีเพดานการลงทุน สินทรัพย์เสีย่ ง (หุน้ ) ไม่เกิน 35% ลงทุนในต่าง ประเทศไม่เกิน 25% อสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 8% และต้องมีสินทรัพย์มั่นคงสูงถึง 60% จาก นัน้ คณะกรรมการลงทุนจะสร้างสมมติฐานการ ลงทุนโดยหาจุดเหมาะสมระหว่างผลตอบแทน ความผันผวนและค่าสหสัมพันธ์ เพื่อสร้าง เส้นประสิทธิภาพการลงทุน หรือ Efficient Frontier จากนั้ น ก็ คั ด เลื อ กจุ ด ที่ ดี ที่ สุ ด ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ “ผลที่ออกมา กบข.เลือกระดับความ ผันผวนที่ 5% มีผลตอบแทนคาดหวังอยู่ที่ ปีละ 7%” จากเส้นประสิทธิภาพการลงทุนทีส่ ร้างขึน้ ทีมงานยังมีการติดตามเพื่อบริหารความเสี่ยง ให้มี Value at Risk (VAR) หรือค่าความเชื่อ มั่นที่ระดับ 95% ไม่เกิน -4% หมายความว่ามี
ผูบริหาร ไนยวน ชิ เสริมสิน สมะลาภา เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ ไว เชง ควน วีรวัฒน กาญจนดุล ตรีขวัญ บุนนาค สมจิตต เศรษฐิน กอศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
หุน จำนวนที่ขาย (หุน) ราคาเฉลี่ย (บาท/หุน) มูลคาขาย (บาท) ผูบริหาร หุน จำนวนที่ขาย (หุน) ราคาเฉลี่ย (บาท/หุน) มูลคาขาย (บาท) MCS 13,937,200 11.58 161,413,726 9 วิลเลียม เอ็ลลวูด ไฮเน็ค IVL 300,000 49.5 14,850,000 N-PARK 3,090,342,360 0.03 92,710,271 10 เอวี่ย จิ้น โช OISHI 127,700 102 13,025,400 CMR 1,387,034 50 69,351,700 11 ชู ชี หยวน DELTA 1,200,000 23.92 28,702,500 TICON 4,500,000 13.4 60,300,000 12 พุทธชาติ รังคสิริ TWZ 24,000,000 0.39 9,360,000 CPF 1,600,000 24.30 38,887,500 13 บรรยง พงษพานิช ERAWAN 3,001,500 2.2 6,603,300 TICON 1,699,500 13.24 22,509,600 14 อนันต กาญจนพาสน BLAND 20,000,000 0.70 14,000,000 TASCO 1,211,800 56.15 68,043,425 15 ประพันธ อนุวงศนุเคราะห DSGT 777,100 9.49 7,377,200 CPALL 612,800 38.75 23,749,410 16 สนองนุช ชาญวีรกูล STEC 550,000 13.60 7,480,000
หุ้นไทยปี 2573 ทะลุ 4,695 จุด เซียนฟันด์โฟลว์ วิศษิ ฐ์ องค์พพิ ฒ ั นกุล กรรมการ
ภายใน 20 ปี เพิม่ เป็น 1,246 พันล้านดอลลาร์ หรือโตขึน้ 5 ผูจ้ ดั การ บล.ทรีนตี ี้ เปิดโผงานวิจยั ส่วนตัวหุน้ ไทยใน เท่าตัวใน 20 ปีข้างหน้า ระยะยาวเกิน 10 ปี ยังมีอนาคตสดใสเป็นไปตามคาด “ภายใต้สมมติฐานว่าไม่มีความเสี่ยงรุนแรง ก�ำไร การณ์วา่ ภูมภิ าคเอเชียจะก้าวเข้าสูย่ คุ ทองในทศวรรษ ต่อหุน้ ของบริษทั จดทะเบียนไทยเติบโตเฉลีย่ 8.2%ต่อปี หน้า ตลาดหุ้นทั่วเอเชียจะเติบโตทั้งหมด ภายใต้พี/อีเรโช เฉลี่ย 13 เท่า SET Index ในปี 2563 ข้อมูลจาก โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดหุ้น หรืออีก 10 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 2,264 จุด และ ภายใน 20 เกิดใหม่ หรือ กลุ่ม Emerging Market ประกอบ ปี หรือ พ.ศ. 2573 จะอยู่ที่ 4,695 จุด” วิศิษฐ์ คาดการณ์ ด้วย ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ตลาดเกิดใหม่ในละติน เขายังบอกอีกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น Hard อเมริกา ตลาดเกิดใหม่ในยุโรปตะวันออก และ วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล Commodity (น�้ำมัน, โลหะมีค่า) หรือ Soft Commodity ตลาดเกิดใหม่ในแอฟริกา ภายใน 20 ปีข้างหน้า (สินค้าเกษตร) ยังมีแนวโน้มเป็น “ขาขึ้น” เกือบทั้งหมด จะมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมูลค่าตลาดรวม ตัวอย่างเช่น ข้าวโพด น�้ำตาล ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ทั้งหมด จะเพิ่มจาก 14 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2553 เป็นประมาณ 80 นี้เคยเกิดปรากฏการณ์ที่ราคาซื้อขายฟิวเจอร์สของสัญญาเดือน ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2573 หรือในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยคาด ไกล (สัญญาที่มีอายุยาวกว่า) มีมูลค่าน้อยกว่าสัญญาเดือนใกล้ หรือ ว่าตลาดเกิดใหม่จะสามารถสร้างผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปีได้ Backwardation ท�ำให้มโี อกาสทีท่ งั้ หมดนี้ “ราคาจะท�ำ New High ถึง 9.3% ในช่วง 20 ปีข้างหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับ 4% ของกลุ่ม ในอนาคตได้” ขณะที่ราคาฝ้าย กาแฟ แร่เงินและทองค�ำ ราคาได้วิ่ง ประเทศพัฒนาแล้ว ทะลุ New High ไปแล้ว ขณะทีม่ าร์เก็ตแคปตลาดหุน้ ไทยปีทแี่ ล้วอยูท่ ี่ 256 พันล้าน “เราเชื่อว่าภายใน 3 ปี การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์จะให้ ดอลลาร์ ภายใน 10 ปีจะเพิ่มเป็น 601 พันล้านดอลลาร์ และ ผลตอบแทน 30% อย่างแน่นอน” กูรูฟันด์โฟลว์ท�ำนายทิ้งท้าย
สัดสวนพอรตลงทุน กบข. ระยะสามป 2554-2556 ตราสารทุนไทย ตราสารทุนโลก ตราสารหนี้ ไทย ตราสารหนี้โลก สินคาโภคภัณฑ อสังหาริมทรัพยไทย อสังหาริมทรัพยโลก โครงสรางพื้นฐาน นิติบุคคลเอกชนไทย นิติบุคคลเอกชนโลก
SAA ปจจุบัน 9% 10% 62% 5% 0 5.50% 2% 1.50% 3% 2%
ในตราสารหนี้ต่างประเทศเพราะพอร์ต กบข. กว่า 2 แสนล้านบาทอยูใ่ นตราสารหนีไ้ ทยถือว่า มีขนาดทีใ่ หญ่มากท�ำให้ปรับพอร์ตล�ำบาก แต่ ถ้าไปลงในต่างประเทศ กบข.ถือเป็นรายเล็กจะ คล่องตัวในการปรับพอร์ตมากกว่า
SAA ใหม 8% 8% 62% 10% 1% 5.50% 2% 1% 1.50% 1%
ที่มา: กบข.
เปาหมายป 2554 8% 9% 65% 10% 1% 4.50% 0.50% 0.50% 1% 0.50%
ส่วนน�ำ้ หนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านมา กบข.ลงทุนในสัดส่วนที่น้อย ปัจจุบัน ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทยแค่ 4% ของพอร์ต (SAA ตั้งไว้ 5.5% เป้าปีนี้ 4.5%) ยังสามารถ ขอบอร์ดเพิ่มสัดส่วนได้ เพราะมองว่า “ค่า
จัดเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจเพราะโดยธรรมชาติ ของสินทรัพย์ประเภทนี้จะมีลักษณะผันผวน ไปในทิศทางเดียวกัน (Natural Hedge) กับ เงินเฟ้อ จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อเป้าหมาย เอาชนะเงินเฟ้อ” ทัง้ นีก้ ารลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์จะอ้างอิงกับ ดัชนี Down Jones UBS Commodity Index ซึ่งกองทุน 85% ทั่วโลกใช้อ้างอิง ช่วงแรกอาจจะ ลงทุนในต่างประเทศก่อนส่วนของไทยจะค่อยๆ ทยอยลงทุนอาจจะไม่ลงทุนโดยตรงแต่ไปลงทุน ผ่านตราสารแทน ส�ำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่มองว่ามีอัพไซด์ (โอกาสขึ้น) มากที่สุดน่าจะเป็น “น�้ำมัน” โดย กบข.เชือ่ ว่าราคาน�ำ้ มันจะกลับไปที่ 140 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล มีความเป็นไปได้สูงมาก ส่วนสินค้า โภคภัณฑ์ตัวอื่นๆ ที่น่าจะ Out Perform เช่น “ทองแดง” เนือ่ งจากซัพพลายยังขาดแต่ดมี านด์ ในตลาดมีสงู โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ อย่าง จีนก็มีความต้องการ 30% ของทั้งโลกแล้ว
ผ่าแผนลงทุน 3 ปี ‘กบข.’
จ�ำกัดความเสี่ยง แต่ ‘ชนะเงินเฟ้อ’
โอกาสเพียง 5% ทีก่ องทุนจะมีผลตอบแทนต�ำ่ กว่า -4% กล่าวอีกด้านหนึง่ คือมีโอกาส 95% ที่ จะมีผลตอบแทนมากกว่า -4% อาจมองว่าผล ตอบแทนติดลบ 4% ดูไม่มากแต่กบข.บริหาร เงินหลัก 300,000 ล้านบาท ถ้าขาดทุน 4% ก็ กว่าหมื่นล้านบาทแล้วถือว่าเยอะ โดยเกณฑ์ เฉลี่ยกองทุนบ�ำเหน็จบ�ำนาญทั่วโลกมีโอกาส ที่ผลตอบแทนจะติดลบ 1 ครั้ง ทุก 6-7 ปี ทีมงานวางแผนการลงทุน กบข. อธิบาย ถึงสาเหตุที่ SAA ช่วงปี 2554-2556 จะลดน�้ำ หนักหุน้ ไทยจาก 9% เหลือ 8% ของพอร์ต และ ลดน�้ำหนักหุ้นต่างประเทศจาก 10% เหลือ 8% ของพอร์ต คาดว่าช่วง 3 ปีนี้ “หุ้นทั่วโลกจะ ผันผวนสูง” แผน 3 ปีจงึ ลดน�ำ้ หนักการลงทุน ในตลาดหุน้ (ไทย-ต่างประเทศ) จากเดิม 19% ลดลงเหลือ 16% โดย กบข. จะไปเพิ่มในส่วน ของ ตราสารหนีโ้ ลก จาก 5% เป็น 10% (ตราสาร หนี้ไทยคง 62% เท่าเดิม) เนื่องจากอัตรา ดอกเบีย้ ก�ำลังอยูใ่ นช่วง “ขาขึน้ ทัว่ โลก” เพือ่ สกัดเงินเฟ้อจึง มองเห็นโอกาสตรง นี้ สาเหตุทตี่ อ้ ง เพิม่ เงินลงทุน
ทีมงาน กบข. ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ ตลาดหุ้นไทย จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ยังดีอยู่ หนี้ภาครัฐยังอยู่ในระดับต�่ำเพียง 42% ของ จีดีพี ในแง่ราคา (Valuation) ยังน่าสนใจ ในระยะยาว ถ้าการเมืองนิ่งและก�ำไรบริษัท จดทะเบียนยังดีอยู่ทุนต่างชาติยังน่าจะเข้ามา ลงทุนต่อเนื่อง “ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนหุ้นไทยช่วง 30 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8-10% ต่อปี เราคาดว่า ภายใน 3 ปีจากนี้ (2554-2556) ยังเป็นไป ได้ที่จะมีค่าเฉลี่ยประมาณนี้”
เช่า” (ส�ำนักงาน-เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์) ส่วน ใหญ่จะปรับตามเงินเฟ้อซึ่งจะช่วยสร้างผล ตอบแทนป้องกันเงินเฟ้อได้ ส่วนการลดน�ำ้ หนัก การลงทุนนิติบุคคลไทยและต่างประเทศ หรือ Private Equity เพราะต้องการน�ำไปเสริมใน ส่วนของสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งบอร์ดเพิ่งอนุมัติ ให้สามารถลงทุนได้ SAA ตั้งไว้ 1% ของพอร์ต หรือประมาณ 3,800 ล้านบาท “สินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นประเภท Hard Commodity เช่น น�้ำมัน โลหะมีค่า หรือ Soft Commodity เช่น สินค้าเกษตร
ผลตอบแทน
ส่วน “ทองค�ำ” ได้ขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูง มากแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสทีจ่ ะปรับราคา ขึน้ ไปอีกได้เพราะมีโอกาสทีโ่ ลกจะมีเหตุการณ์ ความไม่สงบเกิดขึ้น ภาพใหญ่น่าจะขึ้นต่อได้ แต่จะไม่หวือหวาแล้วน่าจะวิง่ ตามเงินเฟ้อเป็น หลัก มองเทรนด์ใน 3 ปีข้างหน้า (2554-2556) กบข.คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเป็น “ขา ขึ้น” ต่อเนื่อง เนื่องจากสินทรัพย์หลายประเภท ซัพพลายยังขาดแต่มีความต้องการมากขึ้น รวม ถึงสภาวะอากาศโลกทีเ่ ปลีย่ นไปท�ำให้ราคาอาหาร จะแพงขึน้ การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ทงั้ Hard Commodity และ Soft Commodity ยังจะให้ ่ดีในระยะยาว ผลตอบแทน ผลตอบแทนที อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการด�ำเนินงาน นั้น กบข.มีการปรับสัดส่วนการลงทุนระยะสั้น (Tactical Asset Allocation) หรือ TAA เป็น กลยุทธ์เสริมแผนการลงทุนระยะยาว (SAA) เพื่อให้การลงทุนในแต่ละช่วงเวลาของ กบข. สอดคล้องกับภาวะตลาดเพื่อสร้างผลตอบแทน ส่วนเพิ่มหรือลดความเสี่ยงของการลงทุน ถ้า เป็นหุ้นไทยจะปรับพอร์ตได้บวกลบ 5% สินค้า โภคภัณฑ์บวกลบ 2.5% Private Equity บวก ลบ 2% และโครงสร้างพื้นฐานบวกลบ 3%
montri@viknowhow.com
ยุทธศาสตร์การลงทุน 9 : ติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด
เรือ่ งนีพ้ อจะยกตัวอย่างของจริงได้ เมือ่ ไม่นานมานี้ เกินไป รอจนถึงราคาที่ประเมินว่าเป็นราคาตามพื้นฐาน ปรับเอาหุ้นเก่าที่ตกอันดับออก และน�ำหุ้นใหม่ๆ เข้ามา ค�ำนวณแทนอยู่ตลอดเวลา หรือถ้าจะดูดัชนีหุ้นที่มีอายุ ของบริษทั นัน้ ก�ำลังเป็นขาขึน้ แน่นอนมันเป็นอุตสาหกรรม เมื่อไม่นานมานี้เกิดเหตุการที่ท�ำให้อุตสาหกรรม ยาวนานอย่าง Dow Jones มีหนุ้ เพียง 30 บริษทั ในรอบ ทีไ่ ม่นา่ สนใจลงทุนระยะยาวเลยเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ นี้มีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่ดีขึ้นจากในครั้งแรกที่ หลายทศวรรษมานีก้ ม็ บี างบริษทั ทีถ่ กู ปรับออกเนือ่ งจาก เป็นแต่ผรู้ บั ราคาจากตลาด (Price Taker) ไม่มอี ำ� นาจเชิง ลงทุนไปมากพอสมควร ราคาหุ้นที่ซื้อไว้ปรับตัวขึ้น ล้มละลาย ถูกซือ้ กิจการ ออกนอกตลาดไป หรือแม้กระทัง่ เศรษฐกิจในการก�ำหนดราคา ก�ำไรขึน้ อยูก่ บั ประสิทธิภาพ อย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ คือใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน บริษทั ไม่สามารถปรับตัวรับการเปลีย่ นแปลงจนมีขนาด การด�ำเนินงาน และราคาทีต่ ลาดยอมรับในขณะนัน้ ธุรกิจ ราคาก็มาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงราคาพื้นฐานที่ก�ำหนด ที่เล็กเกินไปจนต้องถูกน�ำออกจากการค�ำนวณดัชนี ที่ว่านี้มีการลงทุนที่สูงมาก ต้นทุนคงที่สูง เรียกว่าเป็น ไว้แล้ว แผนทีต่ อ้ งปรับอีกเล็กน้อยคือ ขายบางส่วนออก มาถึงตรงนี้แล้ว คุณๆ คงพอจะเข้าใจแล้วว่า ธุรกิจที่มีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบจากการด�ำเนินงาน เพื่อรับรู้ผลตอบแทน และยังคงเหลืออีกบางส่วนไว้รับ “มีการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า และพร้อมที่จะ สูง (High Operating Leverage) ธุรกิจนี้จะมีก�ำไรดี การเปลีย่ นแปลงทีด่ ขี นึ้ ทีท่ ำ� อย่างนีเ้ พราะหากสถานการณ์ ตอบสนองกับสถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา” ก็ต่อเมื่อราคาตลาดมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และบริษัทต้อง ดีมากๆ ในสายตานักลงทุนและนักวิเคราะห์ทไี่ ม่เคยสนใจ เพราะหุ้นหรือตลาดหุ้นไม่ได้มีสภาวะเป็นตลาดกระทิง มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่ดีด้วย หุน้ บริษทั นีเ้ ลย เมือ่ กลับมาสนใจ ราคาจะสะท้อนแรงมาก หรือตลาดหมีอย่างถาวร และยังมีหุ้นอีกหลายต่อหลาย บริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีหลายบริษัท ในระยะแรกทีพ่ วกเขาสนใจ และยังเป็นการบริหารความ บริษทั ทีม่ มี ลู ค่าเหลือให้เราซือ้ และขายท�ำก�ำไรอยูต่ ลอด แต่ละบริษัทนั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุน นัก เสี่ยงของเราที่ดีอีกด้วย เวลา วิเคราะห์ แต่บริษัทนี้กลับได้รับความสนใจจากตลาด และนีก่ เ็ ป็นตัวอย่างของ “หุน้ ก้นบุหรี”่ ทีม่ นั มีมลู ค่า ความเปลีย่ นแปลงนัน้ มีพลังอ�ำนาจทีส่ งู มาก หากเรา น้อยมากอย่างไม่นา่ เชือ่ แม้แต่คนในวงการอุตสาหกรรม เหลืออยูม่ าก แต่เมือ่ สูบมันหมดไป มันก็ไม่เหลืออะไรให้ คอยประเมินสถานการณ์เอาไว้ลว่ งหน้า มีแผนทีย่ ดื หยุน่ ก็ยังไม่ให้ความสนใจ แน่นอนราคาหุ้นนั้นต�่ำมากๆ ใครอีก ซือ้ ถูกแล้วรอขายทีร่ าคาพืน้ ฐาน จากนัน้ ก็ตอ้ งทิง้ บนพื้นฐานข้อมูลที่แม่นย�ำ เราย่อมได้รับพลังแห่งการ เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แผนของ มันไป มองหาบริษัทใหม่ๆ เพื่อลงทุนอีกครั้ง เปลี่ยนแปลงที่มีอ�ำนาจนี้ มาสร้างโอกาสให้ตัวเราเองได้ ผมคือเข้าซื้อเพื่อรับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาที่ต�่ำ แม้แต่หุ้นที่ถูกน�ำมาค�ำนวณใน SET50 ก็มีการ ตลอดเวลาเช่นกัน
การติดตามผลการลงทุนอย่างใกล้ชดิ ของ เซอร์จอห์น ผมได้ซอื้ หุน้ บริษทั หนึง่ ทีพ่ จิ ารณาดูแล้วว่าอุตสาหกรรม คาดว่าประมาณ 6-12 เดือน เทมเพอร์ตนั นัน้ ไม่ใช่การเฝ้าติดตามราคาในทุกขณะที่ มีการซื้อขาย ซึ่งการติดตามนั้นเพื่อดูว่ามันสอดคล้อง กับแผนการลงทุนหรือวัตถุประสงค์ในการลงทุนของ เราตั้งแต่แรกเริ่มหรือไม่ นั่นคือ ค�ำถามที่ส�ำคัญที่ต้อง ตอบตัวเราเองให้ได้ก่อนที่จะซื้อหุ้นด้วยซ�้ำ เนื้อแท้ของค�ำแนะน�ำในข้อนี้ของเซอร์จอห์น เทมเพอร์ตัน เมื่อจะลงทุนต้องมีการเตรียมการที่ดี มีแผนการลงทุนที่ดี และที่ส�ำคัญคือ มีการประเมิน สถานการณ์ล่วงหน้า และพร้อมที่จะตอบสนองกับ สถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา นัน่ หมายความ ว่า แผนการลงทุนนั้นต้องมีความยืดหยุ่นสามารถ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ที่ว่ายืดหยุ่นนี้ไม่ใช่ตอนซื้อหุ้นเราคิดจะซื้อเก็ง ก�ำไรส่วนต่างราคา แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ไปเรามาเปลี่ยนเป็นลงทุนระยะยาวโดยไม่ได้เข้าไปดู รายละเอียดว่า หุ้นที่ซื้อนั้นมีพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไป จนกระทั่งลงทุนระยะยาวได้หรือไม่
ซิตี้ แอดวานซ์ One Stop Financial Shop
ซิตี้ แอดวานซ์ ภายใต้การด�ำเนิน งานโดย ซิตคี้ อร์ป ลิสซิง่ (ประเทศไทย) รุกตลาดสินเชื่อบุคคล ขยายฐานลูกค้า และเพิม่ ความแข็งแกร่งธุรกิจในปี 2554 ภายใต้แนวคิด One-Stop-FinancialShop หรือศูนย์บริการครบวงจรใน ทุกเรื่องการเงิน ได้เพิ่มจุดบริการช�ำระ เอ็มเปย์ภายในสาขา ให้บริการตรวจ สอบสถานะเครดิตจากเครดิตบูโรของ ลูกค้า และยังมีเจ้าหน้าที่ของ AIA ให้ บริการผลิตภัณฑ์และบริการทางด้าน ประกันภัยอีกด้วย ปัจจุบันมีสาขา 40 แห่งทั่วประเทศ โดย 12 สาขาตั้งอยู่ใน ต่างจังหวัด ผู้สนใจสามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2788-2788
เคทีซีจับมือ 3 ยักษ์บัตร เครดิต
“เคทีซี” ร่วมกับ 3 เครือข่ายบัตร เครดิตระดับโลก ได้แก่ วีซ่า อินเตอร์ เนชั่นแนล, มาสเตอร์การ์ด อินเตอร์ เนชัน่ แนล และ เจซีบี อินเตอร์เนชัน่ แนล พัฒนาระบบมาตรฐานความปลอดภัย “Secured e-pay” ส�ำหรับการซื้อ สินค้าหรือบริการออนไลน์ผ่านเครือ ข่ายอินเทอร์เน็ต เพือ่ สร้างความอุน่ ใจให้ กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซที กุ ประเภท กว่า 1.72 ล้านบัตร โดยสามารถสมัคร ใช้บริการได้ตงั้ แต่วนั นีเ้ ป็นต้นไปโดยไม่ เสียค่าใช้จา่ ยใดๆ ที่ www.ktc.co.th/ 3 dsecure/ สนใจสามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KTC Phone โทร. 0-2665-5000
แฟนหงส์แดงพลาดไม่ได้!
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดตัวบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ “Savings for Fans” และบัตรเอทีเอ็ม/ เดบิตลิเวอร์พูล ปลุกกระแสสาวก เดอะค็อปชาวไทย มอบสิทธิพิเศษที่ หลากหลายแก่ผู้เปิดบัญชี อาทิ ภาพ เอ็กซ์คลูซีฟตราสโมสร หรือภาพนัก ฟุตบอล ให้เลือกส�ำหรับบัตรเอทีเอ็ม/ เดบิต และสมุดฝากเงิน ดอกเบี้ยเงิน ฝากออมทรัพย์สูงกว่าบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ทั่วไป สามารถถอนเงินจาก ตูเ้ อทีเอ็มของทุกธนาคาร โดยไม่คดิ ค่า ใช้จา่ ย และสามารถโอนเงินต่างธนาคาร ผ่านออนไลน์แบงกิ้งฟรี เป็นต้น
ธนชาตผ่อน 0% นาน 10 เดือน
ธนาคารธนชาต เอาใจลูกค้าบัตร เครดิตธนชาตไดร์ฟ และบัตรเครดิต นครหลวงไทย ออกแคมเปญ “ผ่อน เบาๆ จ่ายสบายๆ 0% นานสูงสุด 10 เดือน” กับร้านค้าที่ร่วมรายการ อาทิ A.C.T, AIS, Index, iStudio, SONY, Tantara Spa, Toshiba, Viriyah Group, Wuttisak พร้อมมอบความ สุขอีก 2 ต่อ ต่อที่ 1 รับของก�ำนัลสุด หรูตามเงือ่ นไข ต่อที่ 2 ลุน้ รับของรางวัล พิเศษรวมมูลค่าเกือบล้านบาท ตัง้ แต่วนั นี้-30 มิ.ย. 54 นี้เท่านั้น หรือสอบถาม เพิ่มเติมที่โทร. 1770
ธอส.NPA ประมูลขาย ทั่วประเทศ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัด ประมูลขายทรัพย์ NPA ครัง้ ที่ 1/2554 คัดทรัพย์ NPA คุณภาพกว่า 3,000 รายการ ออกประมูลขายพร้อมกันทั่ว ประเทศ ในวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 เริม่ ต้นประมูลต�่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบนั 20 - 50 % เงื่อนไข “เงินดาวน์ผ่อนได้” ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ร่วมเข้า ประมูลได้ตั้งแต่เวลา 9.00 -16.00 น. ณ ห้องประชุมพิมานมาศ อาคารจอด รถ ชั้น 11 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส�ำนักงานใหญ่ ส่วนทรัพย์สินในส่วน ภูมิภาคจะท�ำการประมูล ณ ที่ท�ำการ สาขาที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่
8
วันที่ 4 เมษายน 2554
เกมเพิ่มทุน ‘เจ้าสัวซีพี’ สุดล�้ำลึก ถอน ATM ‘ผู้ถือหุ้น’ เคาะราคา 1.95 บาท รายย่อย ‘ตกกระไดพลอยโจน’ จะ ‘ถอย’ ก็ขาดทุน ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุนก็ยิ่ง ‘ขาดทุนหนัก’ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน่ เพิง่ ได้เงินกูก้ อ้ นใหญ่จาก TRUE พุ่งขึ้นเป็น 55,207 ล้านบาท แต่ซีพีถือหุ้น ธนาคารไทยพาณิชย์มาหยกๆ แถมแต่งตั้ง SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนโครงการ 3G อย่างเป็นทางการ แต่ไหง! กลายเป็นว่า เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ เลือกที่จะกด ATM ถอนเงิน นักลงทุนรายย่อยมา “เติมทุน” กลุ่มทรู การเพิม่ ทุนครัง้ นีถ้ อื ว่า “เหนือความคาดหมาย” ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยทีต่ งั้ ตัวกัน แทบไม่ทนั บริษทั เพิง่ เพิม่ ทุนไปเมือ่ เดือนกุมภาพันธ์ 2552 จ�ำนวน 10,000 ล้านหุน้ แต่ขายได้ 3,272 ล้าน หุ้น ราคา 1.95 บาท และครั้งนี้เพิ่มทุนส่วนที่เหลือ
TRUE เพิม่ เป็น 64.74% คิดเป็นส่วนแบ่งความมัง่ คัง่ 35,740 ล้านบาท เท่ากับว่า 2 ปี (2552-2553) เครือซีพีรวย หุน้ TRUE เพิม่ ขึน้ 1,373% (จาก 2,425 ล้านบาท เป็น 35,740 ล้านบาท) เจ้าสัวซีพยี งั รักษาต�ำแหน่ง นักลงทุนทีอ่ ยู่ “ยอดบนสุดของพีระมิด” เหนือเซียนหุน้ ทั้งปวง นี่แหละ! ความเหนือชั้นสุดบรรยาย ปีนี้นิตยสารฟอร์บส์ จัดอันดับมหาเศรษฐีโลก ประจ�ำปี 2011 ทั้งหมด 1,000 อันดับ เจ้าสัวธนินท์ รวยอยูใ่ นอันดับที่ 152 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สนิ
6,500 ล้านดอลลาร์ “รวยทีส่ ดุ ในประเทศไทย” แซง หน้า “เจ้าสัวเจริญ” เบียร์ช้าง (อันดับที่ 247) และ เบียด “เฉลียว อยูว่ ทิ ยา” เจ้าสัวกระทิงแดง (อันดับที่ 208) หล่นไปเป็นอันดับสอง ถ้าดูโครงสร้างผูถ้ อื หุน้ TRUE ล่าสุดพบว่ามีนกั ลงทุนรายย่อยเข้าไปพัวพันกับหุน้ ตัวนีม้ ากถึง 30,581 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 3,000 ราย และมี นักลงทุนรายย่อยจ�ำนวนไม่นอ้ ยทีถ่ กู ลากไป “ติดหุน้ ” เหนือ 7 บาท นักลงทุนต้นทุนแพงเหมือนตกกระได พลอยโจนจะซือ้ หุน้ เพิม่ ทุนก็ยงิ่ “ถล�ำลึก” จะถอยก็ “ขาดทุน” ถือไว้โดยไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ยิ่ง “ขาดทุนหนัก” ทีล่ ำ�้ ลึกก็คอื เพิม่ ทุนหุน้ TRUE รอบนีเ้ จ้าสัวเสนอ ออปชัน่ “ราคาต�ำ่ ” จูงใจสุดๆ แถมขาย “อนาคต 3G” สดใสซาบซ่าส์ นักวิเคราะห์ตา่ งเชือ่ ว่าเกมเพิม่ ทุนของ เจ้าสัวรอบนี้น่าจะ “ดึง” รายย่อยแห่ใช้สิทธิอย่าง ล้นหลาม วิเคราะห์ตามรูปการณ์แผนเพิม่ ทุนรอบนีอ้ ย่าง มากซีพีจะใช้สิทธิ “เท่าสิทธิ” (64.74% หรือ 4,355 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 8,490 ล้านบาท) ไม่เชื่อ
ว่าจะ “เหมาหุ้น” เอาไว้เอง ถ้าการเพิ่มทุนส�ำเร็จ 100% เท่ากับนักลงทุนถูกเครือซีพีจับ “คอนเวอร์ เจนซ์” ชนิดสมบูรณ์แบบ เก็งก�ำไรหุ้น TRUE ช่วย TRUE เพิ่มทุน เจ้าสัวก็แฮปปี้ เจ้าหนี้ก็แฮปปี้ ส่วน นักลงทุนต้องไป “ลุ้นหุ้น TRUE เอาเองในตลาด” เพราะหุ้นไม่มีปันผล หุ้นพื้นฐานดีอนาคตไกลอย่าง CPF เครือซีพี ยังถือหุน้ 44.99% หุน้ มัน่ คงธุรกิจเติบโตทุกปีอย่าง CPALL ซีพียังถือหุ้น 45.47% หุ้นหนี้สูงอนาคต ไม่แน่นอนอย่าง TRUE มีหรือที่ซีพีจะคงสัดส่วน หุ้นไว้ 64.74% แล้วไปใช้สิทธิแทนรายย่อย ต้อง ลุน้ กันตัวโก่งว่าเจ้าสัวจะหอบเงิน 8,490 ล้านบาทไป ซื้อหุ้นเพิ่มทุน TRUE เพื่อรักษาสิทธิถือหุ้นเท่าเดิม (64.74%) หรือเปล่า! เหตุการณ์วนั นีก้ บั เหตุการณ์เมือ่ 2 ปีกอ่ นอาจจะ กลับตาลปัตรกันก็ได้ วันนัน้ (ต้นปี 2552) หุน้ TRUE ราคา 1.5-1.6 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุนราคา 1.95 บาท “รายย่อยเมิน” แต่เจ้าสัว “กว้านเข้าพอร์ต” คนเดียว (รวยเละ) วันนี้ราคาหุ้น TRUE อยู่ 6 บาท เจ้าสัว ขนหุ้นมา “ลดล้างสต็อก” ถ้ารายย่อย “เฮโลซื้อ”
เกมของ
‘ถอนเงิน’ รายย่อย ‘เติมทุน’ กลุ่มทรู อีก 6,727 ล้านหุน้ จัดสรรให้ผถู้ อื หุน้ เดิม 1 ต่อ 0.865 หุน้ ใหม่ ทีร่ าคาเดิม 1.95 บาท มีเป้าหมายการระดม ทุน 13,100 ล้านบาท หลังการเพิม่ ทุน (ถ้าใช้สทิ ธิครบ 100%) จะท�ำให้ ทรู คอร์ปอเรชั่นมีหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 7,775 ล้านหุ้น เป็น 14,503 ล้านหุน้ หรือมีหนุ้ เพิม่ จากปัจจุบนั อีก 86% การเพิม่ ทุนครัง้ นีย้ งั ก�ำหนดระยะเวลาให้นกั ลงทุน ตัดสินใจ “กระชั้นชิด” แจ้งตลาดหลักทรัพย์เช้า วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2554 ก�ำหนดวัน XR (ไม่ได้รบั สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน) วันที่ 7 เมษายน 2554 ผู้ถือหุ้น มีเวลาตัดสินใจ (วันท�ำการ) เพียง “สัปดาห์เดียว” การเพิ่มทุนครั้งที่แล้วเมื่อต้นปี 2552 ผู้ถือหุ้น รายย่อยต่าง “สละสิทธิ์” ราคาเพิ่มทุน 1.95 บาท แต่ราคาตลาดขณะนั้นซื้อขาย 1.5-1.6 บาท ซีพีก็ รับไว้เอง 2,770 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.95 บาท (5,400 ล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ 85% ของหุน้ เพิม่ ทุน ครั้งแรก แต่ดว้ ยความเก๋าเกมซีพใี ช้วธิ ี “อัฐยายซือ้ ขนม ยาย” หักกลบกับทีท่ รู คอร์ปอเรชัน่ ต้องใช้สทิ ธิซอื้ หุน้ ใน BITCO คืนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จ�ำนวน 3,540 ล้านบาท ซีพเี ลยควักกระเป๋าจ่ายค่าหุน้ เพิม่ ทุน TRUE จริงๆ เพียง 1,860 ล้านบาท “ทุนเพิม่ .. แต่เงินเข้าไม่เต็ม” หลังเพิม่ ทุนเมือ่ ปี 2552 ซีพกี ลับถือหุน้ TRUE เพิ่มขึ้นจาก 35.62% เป็น 58.21% (เพราะรายย่อย ไม่ใช้สิทธิ) หลังจากนั้นประมาณปีเศษหุ้น TRUE ก็ วิ่งหูดับตับไหม้ขึ้นไป 7.80 บาท ท่ามกลางข้อกังขา ว่า “บริษัทมีแต่หนี้หุ้นขึ้นได้ไง” เทียบพื้นฐานแล้ว ราคาแซง AIS กับ DTAC แบบสุดกู่ ยิ่งค้านสายตา “หุน้ ยิง่ วิง่ ” ซีพรี วยหุน้ TRUE เพิม่ 3 เท่าทัง้ ทีเ่ จ้าสัว จ่ายเงินเพิ่มเข้าไปนิดเดียว ต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ซีพีก็รับเหมา หุ้น TRUE อีกก้อนจากเจ้าหนี้ KfW จ�ำนวน 699.33 ล้านหุ้น สัดส่วน 8.99% ในราคาหุ้นละ 4.90 บาท (3,427 ล้านบาท) กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ TRUE เพิ่มขึ้นอีกจาก 58.21% เป็น 64.74% หรือ 5,034 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับ “สตอรี่ใหม่” ทรู อยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อกิจการ “ฮัทชิสัน” ยิ่งท�ำให้ ซีพีฟันก�ำไรหุ้น TRUE เพิ่มขึ้นอีกเป็น “ต่อที่สอง” สรุปว่า KfW “ขายหมู” ให้เจ้าสัว ถ้าวัดกันที่ “มูลค่าความมัง่ คัง่ ” ณ สิน้ ปี 2551 มาร์เก็ตแคปหุ้น TRUE เหลือแค่ 6,808 ล้านบาท ซีพีถือหุ้น TRUE เพียง 35.62% คิดเป็นส่วนแบ่ง ความมั่งคั่ง 2,425 ล้านบาท “จิ๊บจ๊อยมาก” แต่ ณ สิ้นปี 2553 “หนังคนละม้วน” มาร์เก็ตแคปหุ้น
‘เจ้าสัวน้อย’ รายได้ TRUE ปีนี้ 70,000 ล้านบาท “ผมคิดว่าตลาดหุ้นจะตอบรับ (ข่าวเพิ่มทุน) ในแง่บวกเร็วๆ นี้ ดีลนี้ การเพิม่ ทุนครัง้ นีแ้ น่นอนว่าราคาหุน้ TRUE จะเกิด Dilution Effect ประมาณ จะท�ำให้มาร์เก็ตแคปหุน้ TRUE เพิม่ ขึน้ ด้วย” ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะ ผูบ้ ริหาร และกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน่ กล่าวอย่างมัน่ ใจ ทายาทเจ้าสัวใหญ่ซีพี แสดงความเชื่อมั่นด้วยว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ครัง้ นีจ้ ะ “ขายหมด” เนือ่ งจากผูถ้ อื หุน้ เดิมจะได้สทิ ธิซอื้ หุน้ ในราคา “ถูก” (1.95 บาท) ส่วนกลุ่มซีพีผู้ถือหุ้นใหญ่ 64.74% ส่วนตัวคงตอบแทนเขา (เจ้าสัวธนินท์) ไม่ได้ ทีผ่ า่ นมากลุม่ ซีพใี ห้การสนับสนุนบริษทั ดีมาโดยตลอด เรือ่ งเพิม่ ทุนตัวแทนผูถ้ อื หุน้ ในบอร์ดก็ให้การสนับสนุน “ผมคงพูดได้แค่น”ี้ แผนเร่งด่วนตอนนี้คือการเปิดบริการ 3G แบรนด์ True Move H ภายในไตรมาสสามปีนี้แต่จะเริ่มท�ำตลาดกับลูกค้าเดิมของฮัทช์ภายใน เดือนเมษายน แต่จะไม่เลิกแบรนด์ฮัทช์ในทันทีจะทยอยย้ายฐานลูกค้า 1 ล้านรายเข้ามาสู่บริการใหม่ ส่วนแผนการขยายสถานียงั คงเป็นตามเดิมคือภายในปีนตี้ อ้ งเปิดให้ได้ 2,000 สถานี ปีหน้า 3,500 และปีถดั ไป 4,500 สถานี วงเงินกูจ้ ากธนาคาร ไทยพาณิชย์ 15,000 ล้านบาท ตอนนีใ้ ช้ไปแค่ 6,700 ล้านบาท ในการซือ้ กิจการ ฮัทช์แต่คาดว่าจะใช้ไม่หมดตามจ�ำนวนเพราะจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ นพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผูบ้ ริหารด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชัน่ ชีแ้ จงว่า เหตุผลทีก่ ำ� หนดราคาเพิม่ ทุน1.95 บาทต�ำ่ กว่าราคาในกระดานมาก เพราะมีโอกาสพบผู้ถือหุ้น TRUE รายย่อยส่วนใหญ่เขาต้องการซื้อหุ้น เพิ่มทุนในราคาเดิม เขาต้องการรักษาสัดส่วนหุ้นเดิมไว้และ เชือ่ มัน่ ในธุรกิจใหม่ของเรามาก มีเพียงโบรกเกอร์บางแห่ง ทีอ่ อกบทวิเคราะห์วา่ ผูถ้ อื หุน้ “เหมือนโดนถูกบังคับ” ให้ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนต�่ำกว่าราคาตลาด เหตุผลอีกข้อคือเรามีความจ�ำเป็นต้อง “ใช้เงิน ลงทุนทันที” เพื่อวางโครงข่าย 3G ระบบ HSPA ที่เซ็นสัญญากับ กสท ถ้าจะ เพิม่ ทุนตามราคาตลาดตอนนีแ้ ละ มีสว่ นลดให้ 15-20% มันต้องเริม่ กระบวนการใหม่หมดและกว่า จะได้เงินมาต้องใช้เวลา 4-5 เดือน “เวลาเราจ�ำกัดด้วย” นี่ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถามว่าเจ้าหนี้บีบให้เพิ่มทุน รึเปล่า! เขาตอบว่า เราตัดสินใจเอง โดยไม่ตอ้ งมีใคร (เจ้าหนี)้ มาบังคับ แน่นอนแม้จะไม่มกี ารเพิม่ ทุนครัง้ นีบ้ ริษทั ก็สามารถลงทุน 3G ได้อยู่ แล้วธนาคาร (SCB) ก็สนับสนุนเรา นพปฎล กล่าวว่า ผลกระทบจาก ศุภชัย เจียรวนนท์
ริมถนนนักลงทุน ฉบับที่ 355 ประจ�ำ
วันที่ 4-10 เมษายน 2554 • เหตุที่หุ้น KTC “วิ่งขึ้นตลอด” อย่างเงียบๆ จาก 12 บาท ขึ้นมา 18 บาท อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะอิทธิพลของ “พายุ” ลูกเก่า ที่ชื่อ “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ที่พัดเอา “แวลูอินเวสเตอร์” รายใหญ่ ตามมา “เก็บ” เป็นพรวน เช่น นพ.พงศ์ศกั ดิ์ ธรรมธัชอารี, นพ.ไทยินทร์ ศรีมงคล, ชุตมิ า เหล่าจินดา ฯลฯ คน ที่นั่งดูด “อมยิ้ม” คงเป็ น “นิ วั ต ต์ จิตตาลาน” แค่ปรับ “โลโก้ - รี เ ฟรซ แบรนด์” ตามเกม ธุรกิจที่ “อืด” มาสองปี ไม่คาดคิด ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ว่าหุ้น KTC จะ “ฮิตฮอต” ถึงเพียงนี้ • เจอ “ทนายแขก” ล้วง “คองูเห่า” ให้ซะแล้ว “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ลงทุน ฟ้อง “คาลีด อัล-มูไฮรี” ทนายชาวดูไบวัย 45 ปี ฐาน “ยักยอก” เงิน “บ.ยูเคสปอร์ตส์ อินเวสต์เมนต์” ตกเงินไทยประมาณ 3,870 ล้านบาท ในจ�ำนวนนี้เป็นของ “เสี่ยแม้ว” ประมาณ 2,910 ล้านบาท เป็นเงินทีไ่ ด้จาก การขายสโมสร “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” เมื่อ ครัง้ กะโน้น! เพิง่ ประจักษ์แจ้งว่าเหนือ “แม้ว” ยังมี “แขกดูไบ” • ใครว่าเก่งแต่ “สร้างละคร” เจ้าแม่ 7 สี “คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ก็ “เซียนหุน้ ” เหมือนกัน เห็นชือ่ ถือหุน้ “อาปิโก ไฮเทค” 1.47 ล้านหุ้น และหุ้น TPC อีก 5.03 ล้านหุ้น มูลค่าพอร์ต 2 ตัวนี้ก็ราวๆ 170 ล้านบาท “ไม่ธรรมดา” • เปิดตัวคอนโด “อิลเี ม้นท์ ศรีนครินทร์” ยิ่งใหญ่สไตล์ “เสี่ยไมค์” สดาวุธ เตชะ อุบล ปิด “ไบเทค บางนา” เชิญลูกค้าร่วม งาน “กาล่าร์ดินเนอร์” จัดโต๊ะไว้ 2,000 ที่ นั่ง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ลงทุนจ้าง
ซิทคอม “เป็นต่อ” น�ำทีมโดย “ชาคริต แย้มนาม” และ “อ้อม พิยะดา” มาแสดง “สด” บนเวที พร้อมแจกของรางวัลเป็น “ล้าน” แต่พอเห็นโปรแกรมคอนเสิรต์ “เศรษฐา ศิระ ฉายา” วัยรุ่นเมื่อ 40 ปีก่อน เลยสงกะสัย ว่ากลุม่ เป้าหมาย “คอนโด” ของ “เสีย่ ไมค์” เป็นใครกันแน่ • สปิริตสูง “ชนะชัย กุลนพฤกษ์” มือการเงิน “กุลธรเคอร์บ”ี้ ธุรกิจของตระกูล “สิมะกุลธร” ขนาดคุณแม่นอน “ป่วยหนัก” อยู่ที่โรงพยาบาลจน “พี่ชาย” ต้องโทรมา “ตาม” หลายรอบ แต่ “ชนะชัย” ยัง ท�ำหน้าที่ตอบค�ำถาม “นักข่าว-นักลงทุน” ยังไม่เสร็จ ครัง้ สุดท้ายได้ยนิ เสียงโต้ตอบว่า “ถ้าแม่จะไป (เสีย) ก็ปล่อยแกเถอะ แม่ไป สบายแล้ว เฮีย (พีช่ าย) ท�ำใจดีๆ ไว้” ทุกคน ได้ยินแล้ว “อึ้ง” • หลังเถ้าแก่ใหญ่ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” ขายหุ้น PS ล็อตใหญ่ราคา 23 บาท ไปเมื่อปี 2553 หุ้นก็ “ช็อก” ออก ข่าวดียงั ไงหุน้ ก็ “ไม่ขนึ้ ” ช่วงเดือน “มีนาคม” ทีผ่ า่ นมา เถ้าแก่ทองมาค่อยๆ เข้ามา “เก็บ
30% แต่สงิ่ ทีจ่ ะได้กลับมาคือความแข็งแกร่งทางการเงิน ปัจจุบนั ทรูมภี าระ เงินกู้ 67,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนดอกเบีย้ 6,000 ล้านบาท มีกำ� หนดต้อง ช�ำระคืนเงินต้นแต่ละปี 5,700 ล้านบาท มีหนี้สินต่อ EBITDA ที่ 3.3 เท่า จุดประสงค์หลักของการเพิ่มทุนไม่ได้น�ำไปช�ำระหนี้ แต่ต้องการ น�ำไปลงทุน 3G เป็น “อันดับแรก” แต่ถ้าได้รับเงินเพิ่มทุนเต็มจ�ำนวน 13,000 ล้านบาท อาจน�ำเงินบางส่วนไป “ลดหนี้” โดยเฉพาะหนี้ ในส่วนของทรูมูฟที่เป็นหุ้นกู้มูลค่า 690 ล้านดอลลาร์ มูลค่าตามสัญญา 27,000 ล้านบาท มีตน้ ทุนดอกเบีย้ แพงที่ 10% แต่กย็ อมรับว่าค่อนข้าง ยากทีจ่ ะ “ปิดหนีก้ อ้ นนี”้ เนือ่ งจากมีสภาพคล่องซือ้ ขายในต่างประเทศ ค่อนข้างสูง ถามว่ า หลั ง จากนี้ บ ริ ษั ท จะต้ อ งมี ก ารเพิ่ ม ทุ น อี ก หรื อ ไม่ มือการเงินกลุม่ ทรู ตอบว่า “ไม่แน่” ทุกอย่างสามารถเปลีย่ นได้ตาม สภาวะตลาดทุน อนาคตบริษัทอาจจะลดทุนแล้วจ่ายคืนผู้ถือหุ้น เป็นเงินสดก็ได้ นพปฎล เปิดเผยว่า กลุม่ ทรูกำ� ลังมองหา “พันธมิตร” มาเสริม ความแข็งแกร่งทัง้ เงินทุนและเทคโนโลยี แต่ตอนนีค้ งไม่รบี เร่งหา Strategic Partner แล้ว ถ้าเพิม่ ทุนให้พันธมิตรใหม่ผถู้ อื หุน้ เดิมจะ เสียเปรียบเพราะหุ้นถูกไดลูท สู้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้เลือก ใช้สิทธิก่อนดีกว่า “ถ้าเราจะเพิ่มทุนครั้งต่อไปเราจะท�ำเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นให้บริษัทโตเร็วขึ้น เท่านัน้ รับรองว่าภายใน 1 ปีจากนีเ้ รายังไม่มี การเพิ่มทุนอีก” ส� ำ หรั บ แนวโน้ ม ผลประกอบการ หลังควบรวมกิจการฮัทช์เข้ามาจะท�ำให้ รายได้ในส่วนของทรูมูฟเพิ่มขึ้นทันที 4,000 ล้านบาท แม้ว่าฮัทช์จะขาดทุน ทุกปี แต่ยงั มี EBITDA เป็นบวก ช่วงแรก อาจท�ำให้ EBITDA Margin ส่วนของ ธุรกิจไร้สายลดลงไปบ้างจากปัจจุบัน 25% แต่ระยะยาวจะเริม่ ดีขนึ้ คาดว่า จะขึ้ น มาอยู ่ ใ นระดั บ เดี ย วกั บ DTAC ที่ 40% “รายได้รวมปีนี้ คาดว่า จะเติบโตเลขตัวเดียวปลายๆ หรือประมาณ 70,000 ล้าน บาท” มื อ การเงิ น กลุ ่ ม ทรู พยากรณ์
เจ้าสัวอาจจะ “ถอย” ก็ได้นักลงทุนลงทุนเพื่อหวัง ก�ำไร แต่เจ้าสัวลงทุนด้วยเงินคนอื่นมาสร้างก�ำไร ให้ตัวเอง เป้าหมายเดียวกันคือ “ก�ำไร” แต่ “วิธี คิด-วิธีการ” นั้นแตกต่าง อย่ า งไรก็ ต าม “จุ ด อ่ อ น” ส� ำ คั ญ ของทรู คอร์ปอเรชั่น มีอยู่ 2 ปัจจัยหลักคือ “ภาระหนี้สูง” กับ “รายได้ที่เติบโตต�่ำ” ณ สิ้นปี 2553 บริษัทมี อัตราส่วนเงินกู้รวมอยู่ในระดับที่สูงมากที่ 85.3% ในระหว่างปี 2554-2555 มีภาระหนี้ที่ถึงก�ำหนด ช�ำระปีละ 5,800-5,900 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้น เป็น 21,900 ล้านบาท ในปี 2556 และถึงก�ำหนด ช�ำระ 17,300 ล้านบาท ในปี 2557 โดยส่วนใหญ่ เป็นหนี้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้ของทรูมูฟ ขณะทีบ่ ริษทั มีจดุ อ่อนเรือ่ ง “รายได้ทเี่ ติบโตช้า” ช่วงปี 2550-2553 รายได้อยูท่ ปี่ ลี ะ 60,000-65,000 ล้านบาท แทบไม่ขยับไปไหนทั้งๆ ที่บริษัทบอกว่า ประสบความส�ำเร็จกับกลยุทธ์ “คอนเวอร์เจนซ์” แต่ต้องยอมรับว่าทรูก็มี “จุดดี” คือรายได้และ อัตราส่วนก�ำไรที่ค่อนข้างคงที่ (มั่นคง) ช่วยให้การ คาดการณ์กระแสเงินสดในระยะปานกลางมีความ แน่นอน ทริสเรทติง้ คาดว่า รายได้ของทรู คอร์ปอเรชัน่ น่าจะเติบโตได้ปีละประมาณ 3-4% ในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า แต่ทรูมฟู ยังมีความไม่ชดั เจนประเด็นข้อโต้แย้ง ด้านกฎหมายที่คาราคาซัง อย่างไรก็ตาม สถานะอันดับเครดิตองค์กร ปัจจุบนั ของทรูทรี่ ะดับ BBB แนวโน้ม Negative (ลบ) ทริสเรทติ้ง ระบุว่า บริษัทไม่สามารถที่จะเพิ่มภาระ หนี้จ�ำนวนมากได้อีกต่อไป หากการลงทุนดังกล่าว ไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่ชัดเจนและเหมาะ สมในอนาคตได้ นีค่ งเป็นเหตุผลกระมังทีท่ า่ นเจ้าสัว “งัดไม้ตาย” ขายหุน้ เพิม่ ทุนเป็น “ทางเลือกหลัก” เลือกทีจ่ ะกด ATM ถอนเงินนักลงทุนรายย่อยมา “เติมทุน” ให้ กลุม่ ทรู ตามสูตรลงทุนด้วยเงินคนอืน่ สร้างก�ำไรให้ ตัวเอง ถนนมีถงึ พันสาย แต่ความส�ำเร็จมีเพียงเส้น ทางเดียวคือท�ำให้นักลงทุนมั่นใจว่า “พระอาทิตย์ ก�ำลังจะขึ้นที่หุ้น TRUE” เจ้าสัวซีพี...ต้องมา ไม้นี้
ธนินท์ เจียรวนนท์
หุน้ คืน” 1.76 ล้านหุน้ ต้นทุน “สมศักดิ์ เทพสุทนิ ” แกนน�ำ 18.53 บาท ล่ า สุ ด โชว์ กลุ่ม “มัชฌิมา” ถือหุ้น อินเตอร์ตงั้ ฝรัง่ “เอ็ดเวิรด์ TRUE ของ “เจ้าสัวธนินท์” โจเซฟ คูเปอร์ จูเนียร์” มากถึง 42 ล้านหุน้ สัดส่วน เป็น “กรรมการบริหาร” 0.54% มูลค่าราว 250 ล้าน คนใหม่ และเพิ่ ง เซ็ น กู ้ บาท ส่วนน้องสาว “ณัฐธิดา “แบงก์กรุงศรี” 2,577 ล้าน เทพสุทนิ ” ถือหุน้ SAMART บาท ขึน้ 2 คอนโดใหม่ยา่ น ของ “กลุ่มวิไลลักษณ์” สาทร-ตากสิน และรัชดา 36 จ�ำนวน 5.49 ล้านหุน้ สัดส่วน • รวยแล้วหันหน้า 0.56% มูลค่ากว่า 48 ล้าน ท�ำบุญ “ประทีป ตัง้ มติธรรม” เทิดไท เทพสุทนิ บาท รวม “สองพีน่ อ้ ง” ถือหุน้ เจ้าของ “ศุภาลัย” ปีนเี้ ปิดตัว เกือบ 300 ล้านบาท ใคร โครงการ “แสงประทีป” บรรยายธรรมะ ให้มาเอ่ย..ใกล้เลือกตั้งแล้วเนาะ! อบรมสมาธิ ปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียน • ลูกเล่นใหม่ “เสีย่ ตึง๋ ” อนันต์ อัศวโภคิน ล่าสุดออกแบบ “บ้านชนบทส�ำหรับเกษตรกร” แลนด์แอนด์เฮ้าส์ทำ� การตลาดรูปแบบใหม่ผา่ น ราคาถูกเฉลีย่ ตารางเมตรละ 2,000-2,500 “ไอแพด” ปล่อย “ฟรีดาวน์โหลด” แมกกาซีน บาท แบบบ้านขนาด 1 ห้องนอนใช้งบไม่เกิน ในเครือแลนด์ฯ ผ่าน app store ส�ำหรับ ipad 100,000 บาท และจัดท�ำบทเพลงธรรมะ เพียงค้นค�ำว่า “L&H Magazine” ก็สามารถ “มองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูง” อยากได้ ดาวน์โหลดได้ทั้ง “LH NEWS” นิตยสาร โทร.02-725-8899 หรือไปขอรับได้ฟรีที่ รายเดือน และ “Sky Magazine” นิตยสาร “ส�ำนักงานใหญ่” ถนนพระราม 3 รายไตรมาสได้ทันที • “เทิดไท เทพสุทิน” ลูกชายคนโต • “กรมธนารักษ์” ร่วมกับ “บ.ธนารักษ์
พัฒนาสินทรัพย์” (ธพส.) เตรียมสร้าง “อาคารหรู” บนเนื้อที่ 5 ไร่เศษ บริเวณ ปากซอย “พหลโยธิน 3” ใกล้รถไฟฟ้า BTS ระหว่างสถานี “สนามเป้า-อารีย”์ เพือ่ เป็นอาคารส�ำนักงานให้หน่วยงานราชการ เข้าใช้ตั้งงบลงทุน 2,500 ล้านบาท จะช่วย รัฐ “ประหยัดค่าเช่า” ปีละ 210 ล้านบาท เริ่มสร้างต้นปี 2555 เสร็จพร้อมใช้ปี 2558 • บล.ภัทร เปิดโรงแรม “โฟร์ซีซั่นส์” จัดงาน “A Career Open House” รับสมัคร ทีป่ รึกษาทางการเงินในสายงาน “การจัดการ ลงทุนส่วนบุคคล” ในวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2554 เวลา 18.30 - 21.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร.02-305-9243 หรือ apinya@phatrasecurities.com • ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดบัญชีเดินสะพัด ชือ่ บัญชี “มูลนิธสิ ยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัยภาคใต้” เลขที่ 111-391657-8 ไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ข้ามเขต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-777-7777