-1-
วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลข่าวสารความเคลือ่ นไหวของสังฆมณฑล 2. เพือ่ เสริมสร้างความรู้ ความเชือ่ ความศรัทธาและหลักปฏิบตั ทิ างศาสนา 3. เพือ่ เป็นสือ่ กลางในการแลกเปลีย่ นทัศนคติ และประสบการณ์ชวี ติ
-2-
“แผนอภิบาล สังฆมณฑลจันทบุรี คริสตศักราช 2011-2015” คือเข็มทิศทีจ่ ะชีว้ า่ สังฆมณฑลจันท์ของเรานัน้ จะเดินทางไปทางไหน และมีเป้าหมายของการเดินทางอยู่ ณ ทีใ่ ด และจะเดินทางไปกันอย่างไร “แผนอภิบาล สังฆมณฑลจันทบุรี คริสตศักราช 2011-2015” ยังเป็นคูม่ อื การทำงานของสภาอภิบาลของวัด และของสัตบุรษุ ทัว่ ๆ ไปของสังฆมณฑลจันท์ทจ่ี ะช่วยทำงานวัด หากเราไม่รู้ว่าจะช่วยทำงานให้วัดของเราอย่างไรดี พี่น้องหาหนังสือ “แผนอภิบาล สังฆมณฑลจันทบุรี คริสตศักราช 2011-2015” มาอ่าน ก็จะรูว้ า่ จะช่วยวัดได้อย่างไรบ้าง ถ้าเราเปิดอ่าน จะพบว่ามีหลายสิง่ หลายอย่าง ที ่ ส ั ง ฆมณฑลจะต้ อ งดำเนิ น การ และอยากให้ พ ี ่ น ้ อ งคริ ส ตชนจั น ท์ ข องเราได้ ม ี ส ่ ว นร่ ว ม ได้ ช ่ ว ยกั น ทำ ร่วมกันดำเนินการเสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า “สายใยจันท์” ฉบับเดือนสิงหาคมนี้ ได้สรุปเนื้อหาย่อ ๆ ของ “แผนอภิบาล สังฆมณฑลจันทบุรี คริสตศักราช 2011-2015” มาให้พน่ี อ้ งคริสตชนจันท์ได้อา่ น และทำความเข้าใจกับเนือ้ หาทีอ่ ยูใ่ นหนังสือแผนอภิบาล “สายใยจันท์” ฉบับนีเ้ นือ้ หายังคงมีครบทัง้ ชีวติ จิต, แนะนำกลุม่ คาทอลิกของสังฆมณฑล ฉบับนีอ้ ยากให้รจู้ กั กลุม่ ผูส้ งู อายุ, ข่าวของสังฆมณฑล อืน่ ๆ และเป็นพิเศษ เดือนสิงหาคม เป็นเดือนทีเ่ ราฉลองศาสนนามนักบุญลอเรนซ์ ของพระคุณเจ้าเทียนชัย สมานจิต ให้เราอย่าลืมภาวนาสำหรับท่านด้วย ขอพระอวยพรพี่น้อง คุณพ่อเอนก นามวงษ์
-3-
พีน่ อ้ งพระสงฆ์ นักบวช และสัตบุรษุ คริสตชนทีร่ กั ในพระคริสตเจ้า เมือ่ วันที่ 18 มิถนุ ายน 2011 ได้มกี ารประกาศ “แผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี คริสตศักราช 2011-2015” เพือ่ เป็นแนวทางการดำเนินงานของสังฆมณฑล อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงระยะเวลา 5 ปีตอ่ ไปนี้ ซึง่ จุดมุง่ หมายสำคัญ ของแผนนี้ คือ “อภิบาลชุมชนศิษย์พระคริสต์ เสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า” โดยดำเนินตามนโยบายปฏิบตั ิ 6 ด้าน คือ ด้านอภิบาล ด้านธรรมทูต ด้านสังคม ด้านการศึกษาอบรม ด้านสือ่ สารสังคม และด้านบริหารจัดการ อันเป็นภารกิจ ทีต่ อ่ เนือ่ งจากแผนทีแ่ ล้ว และจะกระทำให้เข้มข้นขึน้ ในแผนนี้ ก่อเกิดประสิทธิผลสมดังจุดมุง่ หมายทีต่ ง้ั ไว้ “อภิบาลชุมชนศิษย์พระคริสต์ เสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า” เป็นหัวข้อสำคัญของการทำแผนอภิบาลนี้ เวลาเดียวกันก็บ่งบอกถึงจุดมุ่งหมายเชิงปฏิบัติ และนัยสำคัญของชีวิต และพันธกิจของคริสตชน สังฆมณฑลจันทบุรี การอภิบาลชุมชนศิษย์พระคริสต์ เป็นการหล่อเลีย้ ง พัฒนาชุมชนความเชือ่ ให้เข้มแข็ง โดยยอมให้พระคริสตเจ้าเป็นผูน้ ำ และศูนย์กลางในชีวติ ของแต่ละคน และกลุม่ คริสตชนอย่างแท้จริง อาศัยพระวาจา ศีลศักดิส์ ทิ ธิ์ การภาวนา การดำเนินชีวติ ตามพระบัญญัตแิ ห่งความรัก (เทียบ กจ 2: 42) ส่วนการเสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า เป็นพันธกิจทีค่ ริสตชนทุกคน ได้รับมาทางศีลล้างบาป คริสตชนจึงเป็นผู้ประกาศข่าวดี และมีชีวิตเป็นประจักษ์พยานแห่งพระวรสาร เสริมสร้าง พระอาณาจักรของพระเจ้า ด้วยการรักและรับใช้ ตามแบบอย่างของพระอาจารย์เจ้า การทีแ่ ผนอภิบาลจะบรรลุผลสำเร็จได้ ต้องเกิดจากการมีสว่ นร่วมอย่างจริงจังในการปฏิบตั จิ ากทุกฝ่ายทุกระดับ ตามบทบาทหน้าทีแ่ ละกำลังความสามารถของแต่ละบุคคล จึงขอความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึง่ เดียวกัน จากพีน่ อ้ งทุกท่าน เพือ่ ทำให้แผนอภิบาลนีบ้ งั เกิดผล และบรรลุจดุ มุง่ หมายทีน่ ำความชืน่ ชมยินดี และพระพรของพระเจ้าสูส่ งั ฆมณฑลของเรา เราขอฝากภารกิจสำคัญของสังฆมณฑล ที่กำลังดำเนินต่อไปนี้ ไว้ในความดูแลของพระมารดามารีย์ องค์อุปถัมภ์ของ สังฆมณฑล โปรดเป็นผูเ้ สนอวิงวอนเพือ่ เราด้วยเทอญ
(พระสังฆราชซิลวีโอ สิรพิ งษ์ จรัสศรี) พระสังฆราชสังฆมณฑลจันทบุรี
-4-
-5-
"แผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี ค.ศ. 2011-2015" สังฆมณฑล ได้ดำเนินการอย่าง เป็นระบบ เป็นขัน้ เป็นตอน ตามทีค่ ณะกรรมการ จัดสมัชชาฯ ได้วางแผนไว้ เริม่ จาก - การสัมมนาพระสงฆ์ ในวันอังคารที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.2010 - การประชุมระดับวัด ระหว่างเดือน กันยายนและเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 - การสัมมนาของกลุม่ นักบวช ในวันจันทร์ท่ี 20 ธันวาคม ค.ศ.2010 - การสัมมนาสภาอภิบาลระดับแขวง เริม่ จาก แขวงสระแก้ว ในวันเสาร์ท่ี 13 พฤศจิกายน ค.ศ.2010 แขวงหัวไผ่และแขวงศรีราชา ในวันเสาร์ท่ี 4 ธันวาคม ค.ศ.2010 แขวงจันทบุรี ในวันเสาร์ท่ี 15 มกราคม ค.ศ.2011 แขวงปราจีนบุรี ในวันเสาร์ท่ี 29 มกราคม ค.ศ.2011
ในทีส่ ดุ ได้จดั สมัชชาสังฆมณฑลพร้อมกันระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2011 หัวข้อ "ชุมชนศิษย์พระคริสต์ เสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า" ซึง่ มีผเู้ ข้าร่วมสมัชชาฯ ทัง้ สิน้ 296 คน โดยใช้กระบวนการ "วิถเี ชิงบวก" (Appreciative Inquiry) ทีเ่ ปิดโอกาสให้ทกุ คนมีสว่ นร่วม อย่างแท้จริงในการนำประสบการณ์ที่ดีของแต่ละคน มาร่วมกัน แสวงหา สานฝัน สร้างสรรค์ และสื บ สาน โดยมี ค ณะกรรมการยกร่ า งแผนอภิ บ าลฯ ได้ ด ำเนิ น การ เพื ่ อ ร่ ว มกั น ยกร่ า ง "แผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี ค.ศ. 2011-2015" ขึ้น และที่ประชุมสมัชชาฯ ได้มีมติ เห็นชอบโครงสร้าง และสาระสำคัญของแผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรรี ว่ มกัน พร้อมทัง้ มอบหมายให้ คณะกรรมการยกร่างแผนอภิบาล ได้ดำเนินการจัดทำแผนอภิบาลสังฆมณฑลฉบับสมบูรณ์ เพือ่ ดำเนินการประชาพิจารณ์ และเสนอการอนุมตั จิ ากสภาสงฆ์
-6-
บัดนี้ การดำเนินการจัดทำ "แผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี ค.ศ. 2011-2015" ได้ดำเนินไปตามกระบวนการต่าง ๆ สำเร็จสมบูรณ์แล้ว ซึง่ ประกอบไปด้วย 4 ส่วน ส่วนที่ 1 บทนำ ส่วนที่ 2 เป็นแผนงานทัง้ 6 ด้านของสังฆมณฑล ส่วนที่ 3 เป็นแนวทางในการนำแผนอภิบาลสังฆมณฑลสูก่ ารปฏิบตั ิ ส่วนที่ 4 ภาคผนวก และวันที่ 18 มิถนุ ายน ค.ศ. 2011 โอกาสฉลองชุมชนแห่งความเชือ่ วัดพระหฤทัยฯ ศรีราชา พระสั ง ฆราชซิ ล วี โ อ สิ ร ิ พ งษ์ จรั ส ศรี ประมุ ข สั ง ฆมณฑลจั น ทบุ ร ี ได้ ป ระกาศใช้ "แผนอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี ค.ศ. 2011-2015" และมอบให้กบั ตัวแทนทุกวัด ทุกหน่วยงาน และทุกองค์กร เพื่อนำไปกำหนดเป็นแผนปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยแผนอภิบาลสังฆมณฑลฉบับนี้มีระยะเวลาเพื่อการดำเนินงาน 5 ปี นับตั้งแต่วันประกาศ จนถึงวันที่ 30 มิถนุ ายน ค.ศ. 2016
-7-
อันสืบเนื่องมาจากวิสัยทัศน์ พันธกิจ และหลักการของสังฆมณฑล ที่ได้เคยวางไว้ ในทิ ศ ทางงานอภิ บ าล ตั ้ ง แต่ ป ี 2000 เป็นต้นมานั้น พวกเราส่วนใหญ่ทราบกันดีว่า สังฆมณฑล ได้กรุยทาง และเตรียมแผนงาน เพื่อการดูแลอภิบาลสัตบุรุษมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการมอบความรัก และห่วงใยในการ เอาใจใส่ดูแล บรรดาแกะที่พระเป็นเจ้าได้ทรง มอบไว้เป็นอย่างดี ตามทิศทางงานอภิบาล ทัง้ 2 ช่วงทีผ่ า่ นไป คือในปี 2000-2005 และ 2006-2010 จนกระทั ่ ง ในปั จ จุ บ ั น คื อ แผนอภิบาลปี 2011-2015 ที่ได้ถูกบันทึกลง ในรูปเล่มเล็กกะทัดรัดน่าสนใจ และมีเนื้อหาที่ ทำความเข้ า ใจได้ ไ ม่ ย ากนั ก เหมาะสำหรั บ คริ ส ตชนทุ ก ท่ า น ที ่ ต ้ อ งการจะแสวงหาว่ า มีอะไรใหม่ๆ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในสังฆมณฑล จันทบุรีของเราในยุคนี้บ้าง?
ตามด้วย ส่วนที่ 1 ซึง่ เต็มไปด้วยเนือ้ หา สาระเกีย่ วกับภูมหิ ลัง ในการบริหารงานอภิบาล และงานธรรมทูต และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ความเป็ น มา และเป็ น ไปในพระศาสนจั ก ร ท้องถิน่ ของเราเอง ทัง้ ในการดำเนินงาน และการ สรุปผลของแต่ละช่วง ทีไ่ ด้ผา่ นไปใน ปี 20002005 และ 2006-2010 นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการนำเสนอ สภาพเศรษฐกิจ การเมือง สั ง คม การศึ ก ษา ศาสนา และวั ฒ นธรรม ทั้งในโลก และสังคมไทยปัจจุบัน รวมไปถึง สิ ่ ง ต่ า งๆ ที ่ ท ้ า ทายพระศาสนจั ก รคาทอลิ ก ในสังฆมณฑลจันทบุรี และแนวทางการจัดทำ แผนอภิบาลของเรา ในค.ศ. 2011-2015 ด้วย
ส่วนที่ 2 ของหนังสือเล่มนี้ จะมีการ นำเสนอในหัวข้อหลักคือ "อภิบาลชุมชนศิษย์ พระคริสต์ เสริมสร้างพระอาณาจักรพระเจ้า" ซึ่งแบ่งออกตามแผนงานทั้ง 6 แผน ในการ ในแผนอภิบาลเล่มนี้ มีเนือ้ หาทีจ่ ะทำให้ อภิบาล ดังต่อไปนีค้ อื : เราได้ ร ั บ รู ้ และเข้ า ใจถึ ง ที ่ ม าของทิ ศ ทาง การปรับเปลีย่ น รวมทัง้ การพัฒนาในด้านต่างๆ 1.แผนงานด้านอภิบาล ทั้ง 6 ฝ่ายของสังฆมณฑล มาเป็นลำดับจาก -ฟื้นฟูชีวิตความเชื่อครอบครัวคริสตชนใน การเรียบเรียงข้อมูลที่สำคัญ ในหัวข้อต่าง ๆ ชุมชนวัด -พัฒนารูปแบบวิธีการปลูกฝัง และถ่ายทอด ทีเ่ ริม่ ต้นจาก "วิสยั ทัศน์ พันธกิจ หลักการ"
-8-
ความเชือ่ ในทุกกลุม่ เป้าหมาย -พัฒนาและส่งเสริมสภาอภิบาล และองค์กร คาทอลิกทุกระดับให้มีบทบาท และเป็นฐาน ในการสร้างชุมชนศิษย์พระคริสต์ -ส่งเสริมการอภิบาล แก่ครอบครัวคริสตชน -ฟื้นฟู และพัฒนาศักยภาพของกลุ่มองค์กร ฆราวาสต่างๆ -ฟืน้ ฟูความเชือ่ พัฒนากลุม่ เด็ก และเยาวชน -พัฒนารูปแบบการอบรม และฟืน้ ฟูชวี ติ สงฆ์ 2.แผนงานด้านธรรมทูต -พั ฒ นาความรู ้ ค วามเข้ า ใจ เสริ ม สร้ า ง จิตตารมณ์ธรรมทูตแก่ทกุ ๆ ฐานันดร -ส่ ง เสริ ม ประสานความร่ ว มมื อ เพื ่ อ ให้ โรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลมียุทธศาสตร์ ในการใช้โรงเรียนเป็นสนามงานของการประกาศข่าวดี -ส่งเสริมและให้ความสำคัญในการเสวนากับ พี ่ น ้ อ งต่ า งความเชื ่ อ บนท่ า ที แ ละความรู ้ ความเข้าใจ ทีถ่ กู ต้องในการแพร่ธรรม -พัฒนารูปแบบวิธีการจัดคริสตชนสัมพันธ์ บนพื้นฐานความเป็นหนึ่งเดียวกัน -จัดทำคูม่ อื การเป็นธรรมทูต และการสร้าง ศาสนสัมพันธ์ ให้คริสตชน และผู้ที่ทำงาน ด้านธรรมทูต
องค์กร หน่วยงาน และสถาบันทีท่ ำงาน กับกลุม่ เป้าหมาย เพือ่ ให้เกิดความเข้มแข็ง และชัดเจน ในระดับต่างๆ -จัดสรรงบประมาณทีเ่ พียงพอ เพือ่ งานพัฒนา และงานเมตตาสงเคราะห์ -ส่งเสริมคุณค่าชีวิตทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม รวมทัง้ ภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ -จัดระบบการเตรียมบุคลากรและคณะผู้ทำงาน ด้านสังคม ทั้งพระสงฆ์ นักบวช และฆราวาส ในทุกระดับ อย่างต่อเนือ่ ง 4.แผนงานด้านการศึกษาอบรม -รณรงค์และส่งเสริมให้ โรงเรียนคาทอลิก ในสังฆมณฑล จัดการศึกษาอบรมตามปรัชญา และอัตลักษณ์การศึกษาคาทอลิก -รณรงค์ ใ ห้ โ รงเรี ย นคาทอลิ ก และวั ด ใน สังฆมณฑล จัดการศึกษาอบรมและถ่ายทอด ความเชือ่ คาทอลิก แก่เด็กและเยาวชนคาทอลิก -ส่งเสริมให้โรงเรียนคาทอลิก ในสังฆมณฑล จัดการศึกษาอบรม แก่เด็กและเยาวชน ผู้ด้อย โอกาสในรูปแบบต่างๆ -ส่งเสริม และพัฒนารูปแบบการศึกษาข้อมูล ทางประวัติศาสตร์ชุมชนความเชื่อของทุกวัด
5.แผนงานด้านสื่อสารสังคม 3.แผนงานด้านสังคม -ส่งเสริมให้พระสงฆ์ นักบวช สภาอภิบาล -พั ฒ นาความรู ้ คำสอนพระศาสนจั ก ร และคริสตชน ได้ดำเนินชีวติ เป็นสือ่ และสารแห่ง ด้านสังคม ความรักของพระเป็นเจ้า -ส่ ง เสริ ม บทบาทฝ่ า ยสั ง คมในระดั บ วั ด -พัฒนาและสร้างบุคลากร ด้านสือ่ สารสังคม และระดับแขวงให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ของสังฆมณฑล ให้มคี ณ ุ ภาพ -สร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ ระหว่าง -พัฒนารูปแบบ และวิธกี ารผลิตสือ่ ใหม่ๆ
-9-
-ส่งเสริมให้ทุกวัดทำสารวัด และสื่อเสริม ศรัทธาเพิ่มขึ้น -ส่งเสริมให้ทุกวัดในสังฆมณฑล มีอุปกรณ์ สื่อเทคโนโลยี เพื่อใช้ในงานอภิบาล และงาน แพร่ธรรมอื่นๆ
ซึง่ แนวทางต่างๆ และข้อมูลรายละเอียด ดังกล่าวเหล่านัน้ เป็นดังเครือ่ งมือแห่งความรัก ของพระเป็นเจ้า ทีไ่ ด้ถกู ส่งต่อมายังเรา โดยการ นำขององค์พระจิตเจ้า พระผูช้ ว่ ย ผูอ้ ปุ ถัมภ์คำ้ จุน ในองค์พระบุตรเป็นอย่างยิ่ง ตามพระวาจา ของพระเจ้ า ที ่ ต รั ส ว่ า "ลู ก ที ่ ร ั ก ทั ้ ง หลาย 6.แผนงานด้านบริหารจัดการ เราอย่ารักกันแต่ปาก เพียงด้วยคำพูดเท่านั้น -จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพบุคลากรทุกระดับ แต่ เ ราจงรั ก กั น ด้ ว ยการกระทำ และด้ ว ย เพือ่ การสืบทอดภารกิจ อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ความจริ ง จากการกระทำนี ้ เ อง เราจะรู ้ ว ่ า -จัดระบบกลไกและสร้างความเข้มแข็งให้เกิด เราอยูก่ บั ความจริง" (เทียบ ลูกา 24:13-35) การประสานสัมพันธ์ ในการทำงานอย่างชัดเจน -จัดระบบการจัดหางบประมาณ การจัดสรร งบประมาณที่ชัดเจนเพียงพอ -จั ด สรรสิ ่ ง อำนวยความสะดวก อุ ป กรณ์ สำนักงาน และเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม พร้อมทัง้ สวัสดิการทีเ่ หมาะสม เพือ่ เป็นขวัญและกำลังใจ แก่บุคลากรทุกระดับ -สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ระหว่าง พระศาสนจั ก รท้ อ งถิ ่ น องค์ ก ร ภาครั ฐ และภาคเอกชน ส่วนที่ 3 ซึ่งจะเป็นส่วนท้ายสุดของ การนำเสนอข้อมูล เป็นรายละเอียดต่างๆ ของ "แนวทางในการนำแผนอภิ บ าลสั ง ฆมณฑล สู่การปฏิบัติ" ซึ่งเป็นสาระสำคัญอันยิ่งยวด ที่ได้กล่าวถึง -แนวทางดำเนิ น การ ระดั บ วั ด โรงเรี ย น หน่วยงาน และระดับแขวง -แนวทางดำเนินการระดับสังฆมณฑล -แนวทางการติดตามเยีย่ มเยียน และสนับสนุน แผนอภิบาลสังฆมณฑล
- 10 -
แผนอภิบาล สังฆมณฑลฯ ฉบับนี้ เปรียบเสมือน เข็มทิศ ที่กำหนดเส้นทางการดำเนินงานของฝ่ายต่างๆ ในสั ง ฆมณฑลของเรา เพื ่ อ ให้ ก ารดำเนิ น งานของ สั ง ฆมณฑลทั ้ ง 6 ฝ่ า ยนั ้ น เป็ น ไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น เกิดการประสานงาน และความร่วมมือจนเกิดประสิทธิผล และบรรลุตามวิสยั ทัศน์ พันธกิจ และหลักการทีไ่ ด้กำหนดไว้ ตั ้ ง แต่ แ รก ด้ ว ยน้ ำ ใสใจจริ ง จากทุ ก ๆ ฝ่ า ยที ่ เ กี ่ ย วข้ อ ง ซึง่ จะนำไปปฏิบตั อิ ย่างเป็นระบบ ต่อเนือ่ ง จริงจัง จนเกิด วงจรแห่งคุณภาพทีส่ ะท้อนถึง การร่วมงานด้วยจิตตารมณ์ แห่งความรักของพระคริสตเจ้า ด้วยการกระทำ ตั้งแต่ การร่วมกันวางแผน ร่วมมือในการปฏิบตั ิ ช่วยกันติดตาม ประเมินผล และร่วมจัดทำรายงาน เพื่อสรุปผลในการ ดำเนินงานทัง้ สิน้ จนกระทัง่ นำผลสรุปเหล่านัน้ ไปพัฒนา การดำเนินงานในแต่ละฝ่าย ให้มปี ระสิทธิผลมากยิง่ ขึน้ สังฆมณฑลจันทบุรีของเรา ได้ดำเนินการจัดทำ แผนอภิบาลฉบับนี้ขึ้น ตามการประกาศแผนอภิบาลของ สภาพระสังฆราชคาทอลิก แห่งประเทศไทย ค.ศ. 20102015 เพื่อใช้เป็นแผนแม่บท และเป็นพันธกิจที่สำคัญยิ่ง ภายใต้กระบวนการในการมีสว่ นร่วม จากบรรดาพระสงฆ์ นั ก บวช และคริ ส ตชนทุ ก ระดั บ ชั ้ น ทั ่ ว ทั ้ ง สั ง ฆมณฑล อย่างเป็นขัน้ ตอน จากการสัมมนาระดับวัด และระดับแขวง จนถึงการจัดสมัชชาระดับสังฆมณฑล โดยอาศัยวิถเี ชิงบวก ในการสานต่อ และพัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ จากแผนอภิบาลทัง้ 2 ฉบับทีผ่ า่ นไป เพือ่ เป็นการ "อภิบาลชุมชนศิษย์พระคริสต์ เสริมสร้างพระอาณาจักรพระเจ้า"
- 11 -
¤ÇÒÁ¤Ô´àË繨ҡ¾ÃÐÊѧ¦ÃÒª พ่อคิดว่า ถ้าเตรียมกันได้ดแี บบนี้ ก็อาจได้รบั ความร่วมมือจากหลายฝ่ายมากขึน้ คือคณะสงฆ์ สมาชิกสภาอภิบาล สัตบุรษุ และคนอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องในชุมชนแห่งความเชือ่ แต่ละแห่งด้วย ทัง้ ในระดับวัดและระดับเขต ฝ่ายต่างๆ น่าจะมีการออกแรงปฏิบัติตามเพิ่มมากกว่าเดิม และเกิดผลสัมฤทธิ์ ตามเป้าหมายประมาณ 50 % ขึน้ ไป เราเคยทำมาแล้วสองครัง้ เท่าทีผ่ า่ นมานัน้ ยังไม่คอ่ ยเข้มข้นเท่าทีค่ วร แต่ครัง้ นี้ ได้รับความร่วมมือมากขึ้น ก็น่าจะเกิดผลดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า บรรดาพระสงฆ์ หรือผู้นำชุมชนแห่งความเชื่อในที่ต่างๆ แต่ละระดับ จะนำแผนฯ นี้ ไปถ่ า ยทอดสู ่ ภ าคปฏิ บ ั ต ิ ก ั น อย่ า งไร และจะมี ว ิ ธ ี ใ นการเชิ ญ ชวนพี ่ น ้ อ งคริ ส ตชน ในการให้ความร่วมมือร่วมใจ เพือ่ จะได้เกิดประสิทธิผลมากเพียงใดด้วย สำหรับงานในด้านต่างๆ ทัง้ 6 ฝ่ายนัน้ พ่อมีความเห็นว่า ด้านอภิบาล เป็นด้านทีจ่ ะปฏิบตั ไิ ด้งา่ ยทีส่ ดุ เพราะเราเคยชินกับงานด้านนี้ ด้านสังคม เราได้ทำอยูอ่ ย่างสม่ำเสมอพอควร ก็ไม่นา่ จะยากต่อการสานต่อ ด้านการศึกษาอบรม น่าจะมีการเน้นย้ำถึงอัตลักษณ์ ให้เกิดความชัดเจนในการ ปฏิบตั เิ พิม่ มากขึน้ เพราะเรามักจะลืมว่า โรงเรียนคือสนามแพร่ธรรม ด้านธรรมทูต เป็นด้านทีเ่ ราเพิง่ ริเริม่ ขึน้ มาใหม่ แต่กส็ ำคัญไม่นอ้ ยกว่างานอืน่ ๆ สำหรับอีกสองด้านทีเ่ หลือ คือด้านบริหารจัดการ กับ ด้านสือ่ สารสังคม นัน้ พ่อคาดหวังว่า ถ้ามีการพัฒนาปรับปรุงทีด่ ี และสม่ำเสมอก็นา่ จะช่วยให้เกิดความ ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และทันต่อความต้องการของพีน่ อ้ งสัตบุรษุ รวมทัง้ ความต้องการโดยรวมของสังฆมณฑล ทัง้ ชีวติ ฝ่ายจิต และฝ่ายกายได้พอสมควร พระคุณเจ้าลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต
- 12 -
¤ÇÒÁ¤Ô´àË繨ҡ¾ÃÐʧ¦ì... ประเด็นทีพ่ อ่ มองก็คอื 1. น่าจะเกิดความตระหนักร่วมกันในทุกระดับของบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในระดับวัด หรือชุมชนแห่งความเชือ่ ของเราในแต่ละแห่ง 2. ด้านสังคมนัน้ ถ้าเรามองสภาพสังคมของคริสตชน เราจะเห็นว่า วิถชี วี ติ ของ พวกเขายังไม่ค่อยเอื้ออำนวย ต่อการก้าวไปข้างหน้าของพระศาสนจักรเท่าที่ควรจะเป็น ดังนัน้ ถ้าเราสามารถทีจ่ ะสร้างมิตทิ างสังคมได้ดกี ว่าเดิม ก็จะเกือ้ กูลในด้านอืน่ ๆ ได้ดว้ ย เนือ่ งจาก สภาพทางสังคมเป็นตัวจักรใหญ่ ซึง่ ทำให้การเติบโต และการหล่อหลอม ของ เยาวชนนัน้ ไม่พฒ ั นาตามขัน้ ตอนทีค่ วรจะเป็น 3. การดำเนินชีวติ ของพวกเราถูกสร้างกระแส และโน้มน้าวเข้าไปสูเ่ รือ่ งปากท้อง และเศรษฐกิจมากเกินไป ดังนัน้ จึงอาจคาดหวังอะไรได้ไม่มากนัก 4. ยังไงก็ตาม พระศาสนจักร ต้องทำตามและลงมือปฏิบตั ติ ามแผนฯ ทีไ่ ด้วางไว้ จะได้เกิดประสิทธิผลตามความเหมาะสม และสามารถแก้ปญ ั หาบางอย่างได้บา้ ง
¤ÇÒÁ¤Ô´àË繨ҡ¾ÃÐʧ¦ì... พ่อหวังไว้วา่ ทิศทางงานอภิบาลในครัง้ นี้ น่าจะเป็นหนทางทีท่ ำให้คริสตชนทุกๆ คน ได้มีความร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อเราทุกคนจะได้ ก้าวเดินไปในหนทางของพระด้วยความมัน่ ใจมากยิง่ ขึน้
- 13 -
เนือ่ งจากสมาชิกสภาอภิบาลของวัด ปัจจุบนั เป็น สมาชิกชุดใหม่ที่ได้รับคัดเลือกขึ้นมา และจะได้รับการ แต่งตั้งจากพระสังฆราชอย่างเป็นทางการ ทางสมาชิก สภาอภิ บ าลได้ เ สนอให้ ม ี ก ารอบรมฟื ้ น ฟู จ ิ ต ใจขึ ้ น โดยมีวตั ถุประสงค์ดงั นีค้ อื 1.เพื่อสมาชิกสภาอภิบาล จะได้ตระหนักถึง หน้าทีท่ ส่ี ำคัญทีไ่ ด้รบั 2.เพื่อสมาชิกสภาอภิบาล จะได้รู้ถึงธรรมชาติ ขอบข่ายงานในฝ่ายที่สังกัดอยู่ 3.เพือ่ สมาชิกในฝ่าย ช่วยกันคิดโครงการ งาน และกิจกรรมในฝ่ายของตน 4.เพือ่ สมาชิกสภาทัง้ หมด จะได้รบั รูถ้ งึ โครงการ งาน และกิจกรรมในภาพรวมทัง้ หมดของวัด 5.เพื่อเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ให้เกิดขึน้ ในระหว่างสมาชิกด้วยกัน
รูปแบบการจัดการอบรมฟืน้ ฟู เชิญวิทยากรมาบรรยายในหัวเรือ่ ง “ทำไมเรา ต้องทำงานของพระด้วย” เป็นเนือ้ หาทีจ่ ะทำให้สมาชิก ทุกท่านได้ตระหนักว่า การมาทำงานในหน้าทีน่ เ้ี ป็นงาน โดยธรรมชาติ ข องเขาที ่ เ ป็ น คริ ส ตชน และเป็ น พระกระแสเรียกของพระสำหรับเขา เชิญวิทยากรที่รับผิดชอบงานในฝ่ายต่าง ๆ ของสังฆมณฑล มาบรรยายในหัวเรื่อง “ธรรมชาติ และขอบข่ายงานในฝ่าย” เป็นเนือ้ หาทีจ่ ะทำให้สมาชิก ในฝ่ายต่างๆ ได้มองเห็น และเข้าใจงานของฝ่ายตนเอง จากนัน้ สมาชิกในแต่ละฝ่าย ได้คดิ โครงการ งานอภิบาล ในฝ่ายของตน โดยมีวิทยากรที่รับผิดชอบนั้นคอยให้ คำแนะนำ
- 14 -
ความพิเศษของการอบรมฟืน้ ฟูจติ ใจครัง้ นี้ ก็คอื ทางสภาอภิบาลวัดขลุง ได้ติดต่อเชิญสภาอภิบาลของ วัดแม่พระรับสาร ตราด เข้าร่วมการอบรมฟื้นฟูจิตใจ ในครัง้ นีด้ ว้ ย และได้มกี ารพูดคุยกันบ้างแล้วว่า ถ้าทางวัด จัดการอบรมลักษณะนีอ้ กี ก็จะมีการติดต่อทางวัดตราด ได้รบั ทราบ เป็นลักษณะ ของความร่วมมือ กันระหว่างวัด ทีส่ ดุ ต้องขอบคุณพระเป็นเจ้า ทีท่ ำให้ทกุ อย่าง สำเร็จไปด้วยดี -------------------------------------------
ในขั้นตอนต่อไป ตัวแทนของแต่ละฝ่ายได้ มานำเสนอให้สมาชิกส่วนรวมได้รับทราบ เพื่อรู้ถึง โครงการและกิจกรรมของฝ่ายต่าง ๆ ของวัด
สุดท้ายกองเลขา รวบรวมนำผลจากการอบรม *หมายเหตุ วิทยากรได้ใช้หนังสือ แผนอภิบาล ครั้งนี้ (โครงการต่างๆ) จัดทำเป็นรูปเล่มแจกให้กับ สั ง ฆมณฑลจั น ทบุ ร ี คริ ส ตศั ก ราช 2011 - 2015 สมาชิก และปิดการฟื้นฟูจิตใจด้วยบูชาขอบพระคุณ เป็นแนวทางในการอบรมฟื้นฟูครั้งนี้ และงานเลี ้ ย งสั ง สรรค์ ร ่ ว มกั น ก่ อ นจะแยกย้ า ย เดินทางกลับบ้าน
- 15 -
⌫ ⌫
⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫⌫ ⌦⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌦⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫ ⌫
⌦ ⌦ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫
- 16 -
⌫⌫ ⌫ ⌫⌦ ⌫ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫ ⌫
⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌦ ⌦ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌫
- 17 -
กลุม่ ผูส้ งู อายุอาสนวิหารฯ จันทบุรี ปี 1986 ได้รเิ ริม่ โดยกลุม่ วินเซนต์เดอปอล มีคณ ุ ปรีดา อานามวัฒน์ เป็นผู้ออกจดหมายเชิญผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมารวมกลุ่มได้ประมาณ 100 คน จัดกิจกรรมปีละครั้งในวัน พระคริสตสมภพ จัดมาเป็นเวลา 9 ปี
- 18 -
สมัยคุณพ่อวัชรินทร์ สมานจิต เป็นเจ้าอาวาส ได้เห็นสมควรให้สภาอภิบาลเป็นผูร้ บั ผิดชอบ จัดตัง้ กลุม่ องค์กรคาทอลิกขึ้นมา มีคุณสุเทพ ไชยเผือก เป็น ผู้อำนวยการสภาอภิบาลฯ มีคุณปรีชา ชื่นพุฒิ เป็น ประธานกลุม่ ผูส้ งู อายุ และได้กอ่ ตัง้ อย่างเป็นทางการขึน้ เมือ่ วันอาทิตย์ท่ี 26 กรกฎาคม พ.ศ.2541 (ค.ศ.1998) ซึ่งระลึกถึงท่านนักบุญยออากิม และท่านนักบุญอันนา องค์อปุ ถัมภ์ของกลุม่ มีสมาชิกประมาณ 200 คน
ปี พ.ศ.2552 (ค.ศ.2009) สมัยคุณพ่อยอด เสนารักษ์ เป็นเจ้าอาวาส โดยคุณพ่อเอกราช สุขชาติ ได้รับแต่งตั้ง เป็นจิตตาธิการระดับสังฆมณฑล มี คุ ณ พ่ อ วสั น ต์ สายพรหม จากคณะคามิ ล เลี ย น เป็นจิตตาธิการกลุม่ ฯ คุณวินยั ประจำเรือ เป็นประธาน และแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2552 (ค.ศ.2009) ถึง 12 กรกฎาคม พ.ศ.2555 (ค.ศ.2012) ดำรงตำแหน่งตามวาระ 3 ปี
ปี พ.ศ.2543 (ค.ศ.2000) สมัยคุณพ่อสุดเจน ฝ่นเรือง เป็นเจ้าอาวาส โดยมีคณ ุ พ่ออาทร พัฒนภิรมย์ เป็ น จิ ต ตาธิ ก าร และคุ ณ พ่ อ วิ โ รจน์ นั น ทจิ น ดา จากคณะคามิลเลียน มีคณ ุ สุเทพ ไชยเผือก เป็นประธาน และไม่มกี จิ กรรมต่อเนือ่ งจนถึงปี 2549
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2554 สังฆมณฑลจันทบุรี ได้แต่งตั้งให้คุณพ่ออันเด ไชยเผือก เป็นจิตตาธิการ กลุ ่ ม ผู ้ ส ู ง อายุ ระดั บ สั ง ฆมณฑลจั น ทบุ ร ี ได้ ม ี การประชุมกัน เพื่อก่อตั้งคณะกรรมการผู้สูงอายุ อย่างเป็นทางการ และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2554 ได้มีการประชุมร่วมกันของกลุ่มผู้สูงอายุ จากวัดต่างๆ ในสังฆมณฑลจันทบุรี โดยใช้โอกาสฉลองวัดนักบุญ ยอแซฟ พนัสนิคม เป็นการรวมกลุม่ แกนนำของผูส้ งู อายุ จาก 8 วัด จำนวน 25 คน มีการเลือกตัง้ คณะกรรมการ สังฆมณฑล จากประธานกลุม่ ของแต่ละวัด เป็นประธาน และรองประธานสังฆมณฑล พร้อมกับแต่งตัง้ เลขานุการ เหรัญญิก เพื่อปฏิบัติงานในระดับสังฆมณฑลด้วย และได้จดั พิธมี อบเกียรติบตั รแต่งตัง้ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2554 โดยพระสังฆราช ซิลวีโอ สิรพิ งษ์ จรัสศรี พร้อมกับได้มกี ารประชุมร่วมกับ คณะอนุกรรมการคาทอลิก เพื่อผู้สูงอายุระดับชาติ กำหนดนโยบายในการทำงาน เพือ่ ดูแล และช่วยเหลือ ผู ้ ส ู ง อายุ ใ นชุ ม ชนวั ด ต่ า งๆ ให้ เ ป็ น ไปในทิ ศ ทาง และรูปแบบเดียวกัน
เมือ่ ปี พ.ศ.2549 (ค.ศ.2006) เริม่ ก่อตัง้ โดยการ รวมตัวกันของกลุม่ ผูส้ งู อายุจากวัดต่างๆในสังฆมณฑล เริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุอาสนวิหารฯ จันทบุรี และกลุ่ม ผูส้ งู อายุวดั พระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ขลุง เป็นแกนนำ ออกไปเยีย่ มกลุม่ อืน่ ๆ ในสังฆมณฑลอย่างสม่ำเสมอ มีการเสนอชือ่ ตัวแทนผูส้ งู อายุตวั อย่าง และลูกกตัญญู ในระดับสังฆณฑล เพือ่ รับการประกาศเกียรติคณ ุ ในงาน ชุมนุมผู้สูงอายุระดับชาติทุกครั้ง และส่งผู้แทนในนาม สังฆมณฑล ไปร่วมงานชุมนุมระดับชาติ และการประชุม สามัญประจำปี กับคณะกรรมการระดับชาติทกุ ปี แต่ยงั มิได้มีการแต่งตั้งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ระดับสังฆมณฑล อย่างเป็นทางการ เนือ่ งจากยังอยูใ่ นระหว่างการรวบรวม สมาชิกกลุม่ ผูส้ งู อายุจากวัดต่าง ๆ
- 19 -
วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ให้ผสู้ งู อายุในสังฆณฑลจันทบุรี ได้รบั การอภิบาลในด้านสุขภาพอนามัย จิตใจ และสังคม 2. เพือ่ ส่งเสริมให้ผสู้ งู อายุมกี จิ กรรมร่วมกันทัง้ ทางด้านศาสนาและกิจกรรมอืน่ ๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์ ต่อตนเองและสังคม 3. เพือ่ ส่งเสริมความรักความสามัคคีกนั ระหว่างผูส้ งู อายุดว้ ยกัน บุคคลในครอบครัว และในชุมชน 4. เพือ่ ให้ผสู้ งู อายุได้แลกเปลีย่ นประสบการณ์ซง่ึ กันและกัน 5. เพือ่ เป็นกำลังใจให้ผสู้ งู อายุได้ตระหนักถึงคุณค่าและศักดิศ์ รีแห่งวัย สามารถดำเนินชีวติ ได้ อย่างมีความสุข 6. เพือ่ ให้ผสู้ งู อายุเป็นตัวอย่าง เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นทีเ่ คารพรักของบุตรหลานและ บุคคลในครอบครัว
กลุม่ ผูส้ งู อายุวดั ต่าง ๆ ในสังฆมณฑลจันทบุรี ที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานแล้ว ณ วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2554 1.อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินริ มล จันทบุรี 2.วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ขลุง 3.วัดนักบุญยอแซฟกรรมกร ท่าใหม่ 4.วัดนักบุญฟิลปิ และยากอบ หัวไผ่ 5.วัดนักบุญยอแซฟ พนัสนิคม 6.วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า ศรีราชา 7.วัดนักบุญวินเซนต์เดอปอล เขาขาด
ลำดับผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุสังฆมณฑลจันทบุรี 1.คุณพ่อเมธี 2.คุณพ่อสุดเจน 3.คุณพ่อเอกราช 4.คุณพ่ออันเด
วรรณชัยวงศ์ ฝ่นเรือง สุขชาติ ไชยเผือก
- 20 -
ปี 1983 ปี 2000 ปี 2009 ปี 2010-ปัจจุบนั
- 21 -
อัสสัมชัญ มาจากคำเต็มในภาษาอังกฤษว่า ASSUMPTION OF MARY หมายถึง การรับเกียรติ เข้าสู่สวรรค์ ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์ ในศาสนจักรโรมันคาทอลิก เชื่อตามพระคัมภีร์ ว่า พระนางมารีย์ผู้นิรมลประชวร และได้ถึงแก่กรรมลง บรรดาอัครสาวก จึงได้ฝังพระศพไว้ในคูหาแห่งหนึ่ง แต่เมือ่ ได้กลับไปดูพระศพอีกครัง้ ก็พบว่า คูหาว่างเปล่า เหมือนคูหาของพระเยซู พระนางได้สละชีวิตบนโลกนี้ โดยได้รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ ทั้งกายและวิญญาณ ซึ ่ ง ตรงกั บ วั น ที ่ 15 สิ ง หาคม ของทุ ก ๆ ปี ข้อความเชื่อข้อนี้ เป็นข้อกำหนดที่ไม่อาจผิดพลาดได้ และถูกกำหนดขึน้ มาโดย พระสันตะปาปา ปิอสุ ที่ 12 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950 ประวัตทิ ม่ี า แนวคิดเกี่ยวกับการได้รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ มีมาตัง้ แต่ชว่ งศตวรรษต้น ๆ ของศาสนจักร ซึง่ หลักฐาน เก่าแก่ที่สุดพบได้จากบทบรรยายที่เรียกว่า LIBER REQUIEI MARIAE (หนังสือว่าด้วยเรือ่ งการพักผ่อน ของพระแม่มารีย์) เช่นเดียวกับหนังสือหลักฐานอื่น ๆ ทีเ่ กิดขึน้ หลังจากนี้ เชือ่ กันว่าพระนางได้ทรงถึงแก่กรรม ในเขตเยรูซาเล็ม โดยมีนกั บุญโทมัสเป็นประจักษ์พยาน ในการเห็นพระนางได้รับการยกขึ้นสวรรค์ จากสุสาน ของพระนาง โดยไม่เหลือร่างกายทิง้ ไว้บนโลกด้วย คือ ขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ (ASSUMPTION) นั่นเอง ซึ่งในภายหลัง ข้อความเชื่อข้อนี้ก็ได้รับ การยอมรับในพระศาสนจักรคาทอลิกว่า เป็นข้อเท็จจริง และเป็นข้อความเชือ่ ทีค่ ริสตศาสนิกชนทุกคนยอมรับว่า เป็นความจริง
- 22 -
- 23 -
มีหลักฐานว่า คริสตชนให้ความเคารพ และวอน ขอพระนางพรหมจารีมารีย์ มาตัง้ แต่แรกเริม่ แล้ว เพราะ พระนางคือ "พระมารดาของพระเจ้า" หรือในภาษา กรีกว่า "THEOTOKOS" ถึงกระนัน้ การเฉลิมฉลอง พระนางในฐานะ THEOTOKOS อย่างเป็นทางการใน พิธีกรรมของพระศาสนจักรในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ดูเหมือนจะเริม่ ขึน้ ราวศตวรรษที่ 5 ทีก่ รุงเยรูซาเล็ม ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ระหว่างทางจากกรุงเยรูซาเล็มไป เมื อ งเบธเลเฮม ซึ ่ ง ตามตำนานโบราณเล่ า ว่ า เป็นสถานทีท่ พ่ี ระนางมารียห์ ยุดพัก ระหว่างการเดินทาง ไปเบธเลเฮม เพือ่ คลอดพระเยซูเจ้า คำภาษากรีกทีใ่ ช้กล่าวถึงเหตุการณ์นค้ี อื คำว่า KOIMESIS (การบรรทม) มีความหมาย 2 อย่าง ซึง่ อาจ หมายถึ ง การนอนหลั บ พั ก ผ่ อ นทั ่ ว ๆไป หรื อ การ นอนหลับพักผ่อนตลอดไปเมื่อสิ้นชีวิตก็ได้ ต่อมา ราวปลายศตวรรษที่ 5 นั้นเอง คริสตชนยังฉลอง KOIMESIS (หรือที่ภาษาลาตินใช้ว่า "DORMITIO") นีท้ ใ่ี กล้ๆ สวนเกธเสมนี ทีน่ ่ี มีพระวิหารซึง่ กล่าวกันว่า เป็นทีฝ่ งั พระศพของพระนางมารีย์ การเฉลิมฉลองนีจ้ งึ ได้ชื่อว่า DORMITIO MARIAE หรือ "การบรรทม ของพระนางมารีย"์ เพือ่ ระลึกถึงการถึงแก่กรรม และ การเข้าสูส่ วรรค์อย่างรุง่ เรืองของพระนาง "การบรรทม" หรือการถึงแก่กรรมของพระนาง จึงเป็นการเริ่มชีวิต นิรนั ดรอันรุง่ เรืองในสวรรค์ พระศาสนจักรเฉลิมฉลอง เหตุการณ์นเ้ี ช่นเดียวกับที่ เฉลิมฉลองวันตายของบรรดา นักบุญ มรณสักขี ซึ่งเป็น "วันบังเกิดใหม่" (DIES NATALIS) ของท่านในชีวติ นิรนั ดร นัน่ เอง เพียงแต่เรา ก็ไม่ทราบว่า พระนางถึงแก่กรรมอย่างไร และเมื่อไร เท่านัน้ ต่อมาราวปลายศตวรรษที่ 6 พระจักรพรรดิโมริส (539-602) ทรงประกาศพระราชกฤษฎีกา ให้เฉลิมฉลอง
การบรรทมนี้ทั่วจักรวรรดิโรมันตะวันออก ส่วนทาง ตะวันตก หรือในยุโรป วันฉลองนี้ก็มีวิวัฒนาการ คล้ายๆกัน ในศตวรรษที่ 6 ที่กรุงโรม มีวันฉลอง เป็นเกียรติแด่พระนางมารียอ์ ยูแ่ ล้ว ในวันที่ 1 มกราคม เพือ่ ระลึกถึง การทีพ่ ระนางเป็นพระมารดาของพระเยซู ราวปี ค.ศ. 650 พระศาสนจักรทีก่ รุงโรม ยังรับการฉลอง ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้จากพระศาสนจักรตะวันออก เข้ามาด้วย เพือ่ เฉลิมฉลองการทีพ่ ระนางพรหมจารีได้รบั เกียรติสูงสุดจากพระเจ้า และการฉลองนี้ได้รับชื่อว่า "DORMITIO MARIAE" (การบรรทมของพระนางมารีย)์ ในสมณสมัยของพระสันตะปาปา SERGIUS (687-702) ซึง่ มีเชือ้ สายเป็นชาวซีเรีย ในศตวรรษต่อมา คื อ ราวปี ค.ศ. 770 วั น ฉลองนี ้ ได้ ช ื ่ อ ใหม่ ว ่ า "ASSUMPTIO" ซึง่ แปลว่า "การรับขึน้ ไป" เพือ่ เน้น "วิธีการ" ที่พระนางพรหมจารี จากโลกนี้ไปรับเกียรติ รุง่ เรืองจากพระเจ้า อันทีจ่ ริงความคิดเรือ่ ง "การรับขึน้ ไป" นี้ เป็นความคิดจากพระคัมภีรโ์ ดยตรงในพันธสัญญาเดิม ประกาศกเอลียาห์ "ถูกรับขึน้ ไป" จากโลกนี้ โดยรถเพลิง (2 พกษ: 2) ธรรมประเพณีของชาวยิวก็กล่าวว่าโมเสส "ถูกพระเจ้ารับขึน้ ไป" เช่นเดียวกัน
ความสำคัญของ อัสสัมชัญ ในคำสอนของคาทอลิก ลูดวิก อ็อต ได้อธิบายในข้อความเชื่อพื้นฐาน ของคาทอลิกไว้ว่า "ข้อเท็จจริงเรื่องการถึงแก่กรรม ของพระนาง ได้รับการยอมรับโดยพระสงฆ์ และ นักเทวศาสตร์ทั้งหลาย และข้อความเชื่อนี้ ก็ได้ถูก แสดงออกมา ผ่านศาสนพิธีของพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งนอกจากเขาจะสรุปข้อคิดเห็นสนับสนุนอื่น ๆ แล้ว เขายังเสริมด้วยว่า
- 24 -
"สำหรับพระนางมารียแ์ ล้ว พระนางได้รบั การปลดเปลือ้ งจากบาปกำเนิดและบาปของตน ดังนัน้ ความตาย ทีเ่ กิดกับพระนาง จึงไม่ใช่บทลงโทษจากบาปความผิด หากแต่เป็นสิง่ ทีส่ มควรเกิดกับร่างกายของพระนาง ตามธรรมชาติ คือเป็นร่างเนือ้ หนังทีร่ ตู้ าย เสือ่ มสลายได้ ดังนัน้ ความตายของพระนาง จึงเป็นการปลดปล่อย พระนางตามกฎของธรรมชาติ เพือ่ ให้พระนางได้ไปอยูร่ ว่ มกับพระบุตรสุดทีร่ กั ของพระนางในสวรรค์นน่ั เอง"
แต่เรือ่ งของความตายทีเ่ กิดกับพระนาง ยังไม่สามารถ ระบุได้ชดั เจนว่า ความตายเกิดกับพระนาง จริงหรือไม่ คือพระนางถึงแก่กรรม และได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ หรือพระนางไม่ได้เสียชีวิตลงเลยแต่แรก หากแต่ได้รับ เกียรติเข้าสูส่ วรรค์เลยกันแน่ ซึง่ ข้อความเชือ่ อัสสัมชัญ ก็ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า พระนางได้ผา่ นประสบการณ์ ของความตายหรือไม่ หากแต่ยนื ยันอย่างแน่นอนว่า พระนางได้รบั เกียรติยกขึน้ สวรรค์ ทัง้ ร่างกายและวิญญาณจริง
- 25 -
⌫ ⌫ ⌫ ⌫⌫⌫ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌦⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌫⌫
⌫⌫⌦ ⌫ ⌦ ⌫⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌦
- 26 -
⌫ ⌫ ⌦⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌦⌦ ⌦ ⌫
⌫ ⌦ ⌫ ⌫ ⌫⌫⌫ ⌫⌫ ⌫ ⌫ ⌫
- 27 -
¢éÍàÃÕ¡ÃéͧáË觤ÇÒÁàª×Íè จากหนังสือ “การเรียกจากสารแห่งฟาติมา” เขียนโดย ซิสเตอร์ ลูซอี า แปลโดย คุณพ่อ มีคาแอล อดุลย์เกษม ซดบ. หน้า 40-41
- 28 -
"ข้าแต่พระเป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเชือ่ ข้าพเจ้านมัสการ ข้าพเจ้าหวังและข้าพเจ้ารักพระองค์ ข้าพเจ้าขอโทษต่อพระองค์ สำหรับคนทีไ่ ม่เชือ่ ไม่นมัสการ ไม่หวังและรักพระองค์"
ในฤดู ใ บไม้ ผ ลิ ปี 1916 อย่ า งน้ อ ยดิ ฉ ั น (ซิ ส เตอร์ ล ู ซ ี อ า) คิ ด ว่ า คงจะเป็ น เวลานั ้ น ทั ้ ง นี ้ เป็นเพราะว่าในวัยเด็ก ดิฉันไม่ได้สนใจ วัน เดือน ปี หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ดิฉนั ไม่มคี วามรูใ้ นเรือ่ งของวัน และเวลาเลย วันหนึง่ ในช่วงเวลานัน้ เด็กเลีย้ งแกะเล็กๆ แห่งฟาติมา กำลังดูแลฝูงแกะอยู่ที่เนินเขากาเบโช (CABECO) ภายใต้ โ ขดหิ น ที ่ ม ี ช ื ่ อ ว่ า LOCA พวกเขาได้เห็น ชายหนุ่มรูปงาม และสว่างรุ่งโรจน์ คนหนึง่ ปรากฏมา หนุม่ รูปงามนัน้ ได้กล่าวกับพวกเด็ก นั้นว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเราคือ เทวทูตแห่งสันติ จงสวดภาวนาพร้อม กับฉันซิ" และเขาก็คุกเข่าลง พร้อมกับก้มลงจนศีรษะ จรดพืน้ ดิน และได้กล่าวคำนี้ สามครั้งด้วยกัน "ข้าแต่พระเป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเชือ่ ข้าพเจ้า นมัสการ ข้าพเจ้าหวัง และข้าพเจ้า รักพระองค์ ข้าพเจ้า ขอโทษต่อพระองค์ สำหรับคนที่ ไม่เชื่อ ไม่นมัสการ ไม่หวังและรักพระองค์" จากนั้น ท่ า นก็ ย ื น ขึ ้ น และกล่ า วว่ า "จงสวดภาวนาดั ง นี ้ พระหทั ย ของพระเยซู เ จ้ า และแม่ พ ระ จะรั บ ฟั ง การใช้โทษบาป ของพวกเธอ"
ข้ อ เรี ย กร้ อ งที ่ พ ระเป็ น เจ้ า ได้ ป ระทาน โดยผ่ า นทางผู ้ น ำสารพระองค์ ค ื อ "ข้ า แต่ พ ระเจ้ า ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเชือ่ " ความเชื ่ อ เป็ น รากฐานของชี ว ิ ต จิ ต ทั ้ ง มวล โดยอาศัยความเชือ่ ทีเ่ รายอมรับการมีอยูข่ องพระเป็นเจ้า ในพระอานุภาพ ในพระปรีชาญาณ ในพระเมตตา และในงานการไถ่กู้ ในการให้อภัย และในความรัก เยี่ยงพระบิดาของพระองค์ โดยอาศั ย ความเชื ่ อ ที ่ เ รายอมรั บ ใน พระศาสนจักรของพระองค์ ที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้น และยอมรับในคำสอนของพระศาสนจักรที่สั่งสอนเรา เพือ่ ทีเ่ ราจะได้รบั ความรอด โดยอาศัยความเชื่อ ที่เป็นผู้นำการก้าวเดิน ของเรา ให้เราผ่านไปในหนทางทีแ่ คบทีน่ ำเราไปสูส่ วรรค์ โดยอาศัยความเชื่อ ที่เรามองเห็นพระเยซูเจ้า ในผูอ้ น่ื ทำให้เรารัก รับใช้ชว่ ยเหลือทุกๆ คนทีต่ อ้ งการ ความช่วยเหลือจากเรา และโดยอาศัยความเชื่อที่ทำให้ เรามั่นใจว่า พระเป็นเจ้าทรงสถิตกับเรา พระองค์ทอด พระเนตรมายังเราเสมอ สายพระเนตรของพระเป็นเจ้า เป็นความสว่างทรงสรรพานุภาพ และกว้างใหญ่ไพศาล ที ่ ท อดพระเนตรเห็ น ทุ ก สิ ่ ง ทุ ก อย่ า ง ทุ ก ที ่ ท ุ ก ทาง อย่ า งทะลุ ป รุ โ ปร่ ง เมื ่ อ เปรี ย บเที ย บกั บ แสงสว่ า ง ของดวงอาทิตย์แล้ว แสงอาทิตย์กลายเป็นแสงสลัวๆ ในยามพลบค่ำเท่านัน้ เอง
- 29 -
--30 30--
--3131--
- 32 -
¡µÔ¡Ò
สำหรับผูต้ อบถูก 5 ท่านแรก จะได้รบั ของทีร่ ะลึกจากหน่วยงานฯ เติ ม อั ก ษรไขว้ ท างด้ า นล่ า งให้ ส มบู ร ณ์ โดยอ่ า นคำใบ้ ท ี ่ ก ำหนดให้ ทั ้ ง แนวตั ้ ง และแนวนอน นำมาเติมในช่องตารางทีก่ ำหนดให้ ให้ถกู ต้อง ในกรณีสละ ิ ี ึ ื ่ ้ ๊ ๋ ็ ์ ให้เติมไปในช่องเดียวกับตัวอักษรได้เลย ส่วน ะ า ำ เ แ ไ ใ โ ให้แยกไปใส่อีกช่องหนึ่ง
คำใบ้ แนวนอน
แนวตัง้
1. พระคัมภีรฉ์ บับสุดท้ายในพันธสัญญาใหม่ 3. บุคคลทีพ่ ระคัมภีรพ์ นั ธสัญญาใหม่กล่าวถึง 5. การไม่รพู้ ระคัมภีร์ คือการไม่รจู้ กั พระคริสตเจ้า 7. นิกายทีม่ พี ระสันตะปาปาเป็นประมุข 9. กระดาษทีใ่ ช้เขียนพระคัมภีร์ ฉบับแรก
2. พระสงฆ์ใช้อา่ นในพิธมี สิ ซา 4. ใช้เรียกพระวรสาร 3 เล่มแรก 6. แพร่ธรรมกับคนต่างศาสนา 8. เป็นพระวรสารสำหรับผูท้ เ่ี ป็นคริสตชนแล้ว 10. หนังสือพันธสัญญาเดิม 5 เล่มแรก
- 33 -
- 34 -
- 35 -
- 36 -
- 37 -
- 38 -
- 39 -
- 40 -