นักล้วง [Suri]

Page 1


SURI The Thief นักล้วง Fuminori Nakamura พีรวัธน์ เสาวคนธ์

เขียน แปล

บรรณาธิการต้นฉบับ บรรณาธิการเล่ม บรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการจัดการ ออกแบบปก รูปเล่ม พิสูจน์อักษร

อาภากร รุจีรไพบูลย์ ชุลีพร วุ่นบํารุง อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง มณฑา มัญชุนากร ศรรวริศา เมฆไพบูลย์ ทิชา อ.สุวรรณ ณพชภัทร์ วรรัตน์ชัยกุล อักษราภัค

SURI © FUMINORI NAKAMURA 2009 Originally published in Japan in 2009 by KAWADE SHOBO SHINSHA Ltd. Publishers., Tokyo. Thai translation rights arranged through TOHAN CORPORATION, TOKYO., and LEE’s Literary Agency.

ลิขสิทธิ์ภาษาไทย © 2015 สํานักพิมพ์กํามะหยี่ พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ISBN 978-616-7591-39-1 ราคา 180 บาท


จัดพิมพ์โดย : สํานักพิมพ์กํามะหยี่ 74/1 รังสิต-นครนายก 31 ธัญบุรี ปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ : 084 146 1432 โทรสาร : 02 996 1514 Email : gammemagie@gammemagie.com Homepage : http://www.gammemagie.com Facebook : http://www.facebook.com/GammeMagieEditions พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจํากัด ภาพพิมพ์ 296 ซอยอรุณอมรินทร์ 30 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์ : 02 433 0026-7, 02 433 8586 โทรสาร : 02 433 8587 Homepage : http://www.parbpim.com จัดจําหน่ายทั่วประเทศโดย : บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จํากัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ตําบลมหาสวัสดิ์ อําเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ : 02 423 9999 โทรสาร : 02 449 9222, 02 449 9500-6 Homepage : http://www.naiin.com


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ เอ... เราเจอหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกอย่างไรนะ ... เรารู้จักหนังสือเล่มนี้ครั้งแรก เมื1อตอนที่คุณมุทิตา พานิช เสนอเรื1อง ‘คุณหมาเขยขวัญ’ ของโยโกะ ทาวาดะกับสํานักพิมพ์ เธอพูดถึงหนังสือที่เธอเสนออย่างตื1นเต้น ปิดท้ายว่าเป็นหนังสือที่ ได้รางวัลอะคุตะกะวะ เอ้า... ลองเสิร์ชหาข้อมูลรางวัลนี้สักนิด ดูเสร็จแล้วก็ ไปเจอรางวัลวรรณกรรมของญี่ปุ่นอีกรางวัลนึง ชื1อว่ารางวัลเคน ซะบุโระ โอเอะ คลิกตามไปเรื1อยๆ เจอ SURI เล่มนี้ในรายการ หนังสือที่ ได้รับรางวัล บอกว่ามีการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว และสื1อฝรั่งตื1นเต้นฮื อ ฮา ได้ รั บ ยกย่ อ งเป็ น หนั ง สื อ เด่ น ประจํา เดือนมีนาคม 2012 จาก amazon.com เป็นหนึ่งในหนังสือแห่ง ปี 2012 จากเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เข้ารอบสุดท้ายรางวัล หนังสือยอดเยี่ยม 2012 ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์ ไหนจะคํ า ชมจากเคนซะบุ โ ระ โอเอะ นั ก เขี ย นรางวั ล โนเบลปี 1994 ที่บอกว่า “ผมประทับใจนิยายเรื1องนี้มาก มันช่างสดใหม่”


เหล่านี้เพียงพอหรือเปล่ากับการพิจารณาจัดแปลและจัด พิมพ์ พอ! เอ๊ย... ไม่พอค่ะ เราต้องอ่านก่อน เพราะจะได้รับรางวัลใหญ่โตมาจากไหน ถ้าไม่ได้รับหัวใจน้อยๆ ของเราไปเลยสักนิด เราคงไม่สามารถหยิบ จับมาตีพิมพ์ ได้ และเมื1ออ่านจบแล้ว เราก็ให้หัวใจของเราไปเต็มๆ และเราหวังว่า เมื1อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว จะ รู้สึกเช่นเดียวกัน ขอให้มีความสุขในการอ่าน ด้วยไมตรี สํานักพิมพ์กํามะหยี่ กุมภาพันธ์ 2558 ป.ล. ฟุมิโนริ นาคามุระ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้รับรางวัลอะคุตะกะวะใน ปี 2015 จากเล่ม Child in the Ground และเมื1อปี 2014 ได้รับรางวัล David L. Goodis รางวัลสําหรับหนังสือแนว Noir Fiction จากเล่ม Last Winter We Parted ซึ่งเราคงต้องขวนขวายหามาอ่านให้ ได้ โดย หวังใจอย่างยิ่งว่าจะถูกใจเราเหมือนเล่มนี้


1 สมัยยังเด็กผมมักผิดพลาดระหว่างลงมือ ทําของที่แอบหยิบฉวยในร้านอันเนืองแน่นหรือใน บ้านของคนอื1นหลุดมือบ่อยครั้ง สมบัติของคนอื1นเป็นสิ่ง แปลกปลอมที่ไม่เคยคุ้นชินกับมือของผม สิ่งแปลกปลอมสั่น ไหวเบาๆ ยืนกรานจะแยกตัวเป็นอิสระ พอรู้สึกตัวก็ร่วงหล่น ลงไปข้างล่าง คล้ายกับจุดสัมผัสอันไม่ควรแตะต้องตั้งแต่ แรกได้ปฏิเสธตัวผม หอคอยยังอยู่ในที่อันไกลโพ้นเสมอ ถูก หมอกปกคลุมปรากฏให้เห็นเพียงโครงร่าง หอคอยอันเป็น เสมือนฝันกลางวันครั้งเก่าก่อน แต่ตัวผมในตอนนี้ไม่ผิด พลาดอย่างนั้นอีกแล้ว และแน่นอนว่า มองไม่เห็นหอคอย นั้นด้วย เบื้องหน้ามีชายที่เริ่มเข้าสู่วัยชราสวมเสื้อโค้ตสีดํา มือขวาถือกระเป๋าเดินทางสีเงิน เดินไปที่ชานชาลา ผมคิดว่า เขาเป็นผู้ชายที่รวยที่สุดในบรรดาผู้โดยสารบริเวณนี้ เสื้อโค้ต บรูเนลโลเช่นเดียวกับเสื้อสูท ดูเหมือนรองเท้าหนังแบลูติ 6 นักล้วง


สั่งตัดพิเศษจะยังไม่สึกหรอแม้แต่น้อย คนรวยที่ดูออกง่าย จะเน้นยํ้าต่อคนรอบข้างว่าตัวเองมีตัวตนเช่นนั้น นาฬิกา ข้อมือสีเงินที่คาดบนข้อมือซ้ายเป็นรุ่นเดทจัสต์ มองเห็นแค่ นิดเดียวตรงแขนเสื้อ เขาใช้เวลาซื้อตั๋วอยู่นานเนื1องจาก ปกติไม่มีกิจวัตรต้องขึ้นชิงกันเซ็นคนเดียว เขาค้อมตัวขยับ นิ้วอวบอ้วนคล้ายแมลงน่ารังเกียจควานสะเปะสะปะอยู่หน้า เครื1องขายตั๋วอัตโนมัติ ในตอนนั้นผมเห็นกระเป๋าสตางค์ ของเขาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ตด้านหน้าข้างซ้าย ผมรั ก ษาระยะห่ า ง ค่ อ ยๆ ลงบั น ไดเลื1อ นและถื อ หนั ง สื อ พิ ม พ์ ยื น อยู ่ ด ้ า นหลั ง ของเขาซึ่ ง รอชิ ง กั น เซ็ น อยู ่ จังหวะการเต้นของหัวใจระสํ่าเล็กน้อย ผมรู้ตําแหน่งของ กล้ อ งวงจรปิ ด ที่ ช านชาลานี้ ทั้ ง หมด ผมซื้ อ แค่ ตั๋ ว สํ า หรั บ เข้ามาส่งผู้โดยสารที่ชานชาลาจึงต้องลงมือให้เสร็จก่อนขึ้น ชิง กัน เซ็น ผมใช้แผ่ นหลังบัง ไม่ให้ผู้คนด้านขวาเห็น พับ หนังสือพิมพ์ เปลี่ยนมาถือด้วยมือซ้ายแล้วค่อยๆ ลดตํ่าลง เพือ1 สร้างมุมลับตา สอดนิ้วกลางและนิ้วชี้ของมือขวาเข้าไป ในกระเป๋ าเสื้อของเขา แสงไฟนีออนสะท้อนกับกระดุม ที่ แขนเสื้อโค้ตของเขาเล็กน้อยและเลื1อนสู่มุมขอบเขตสายตา สูดลมหายใจช้าๆ แล้วหยุดการหายใจไว้อย่างนั้นก่อนจะคีบ มุมกระเป๋าสตางค์แล้วดึงออกมา ความสั่นไหวจากนิ้วส่ง FUMINORI NAKAMURA 7


ผ่านมาถึงไหล่ สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอบอุ่นที่ค่อยๆ แผ่ซ่านไป ทั่วร่าง มีผู้คนอยู่รายรอบและมีสายตาตัดไขว้กันนับไม่ถ้วน มีแต่ตรงนี้ที่เป็นสภาวะว่างเปล่าที่ผมรู้ว่าจะไม่ถูกใครจับจ้อง ผมทนกับจุดสัมผัสระหว่างนิ้วที่เกร็งกับกระเป๋าสตางค์ สอด มันไว้ในหนังสือพิมพ์ที่พับอยู่แล้วเปลี่ยนมาถือด้วยมือขวา จากนั้นก็ใส่ลงไปในกระเป๋าด้านในเสื้อโค้ตของตัวเอง พ่นลม หายใจออกทีละน้อย รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิของร่างกายที่เพิ่มสูง ขึ้นขณะใช้สายตาตรวจตรา รอบบริเวณนิ้วยังคงหลงเหลือ ความตึงเครียดของการสัมผัสสิ่งต้องห้ามและอาการมึนงงที่ ตกค้างจากการรุกลํ้าเข้าอาณาเขตของผู้อื1น เหงือ1 ซึมที่ต้นคอ เล็กน้อย ผมล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาทําท่าเช็คอีเมลแล้ว เดินออกไป ผมกลั บ ไปที่ ช ่ อ งตรวจตั๋ ว แล้ ว ลงบั น ไดสี เ ทาไปที่ สายมะรุโนะอุจิ จู่ๆ ตาข้างหนึ่งรู้สึกพร่ามัวขึ้นมา มนุษย์ที่ เคลื1อนไหวอยู่ดูรางเลือนไปหมด เค้าโครงของสรีระเลือน หายไป เมื1อมาถึงชานชาลา ชายใส่สูทสีดําเข้าสู่ระยะสายตา ความนูนเล็กน้อยยืนยันว่ากระเป๋าสตางค์อยู่ในกระเป๋าหลัง ด้านขวาของกางเกง ดูจากรูปร่างหน้าตาและอากัปกิริยาแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นโฮสต์ซึ่งได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง เขามอง โทรศัพท์มือถือด้วยท่าทีส่อพิรุธ พลางขยับนิ้วที่ผอมเรียว 8 นักล้วง


พัลวัน ผมขึ้นรถไฟขบวนเดียวกับเขา สังเกตทิศทางของผู้ โดยสารที่เริ่มเนืองแน่น ผมมาถึงด้านหลังของเขาท่ามกลาง อากาศที่อบอ้าว ประสาทของมนุษย์เมื1อรับรู้ถึงแรงกระตุ้น มากและน้อยพร้อมกันจะไม่ใส่ใจแรงกระตุ้นเพียงเล็กน้อย รางรถไฟตรงช่วงนี้มีโค้งใหญ่สองโค้ง รถไฟจะสะเทือนอย่าง รุนแรงเมื1อวิ่งผ่านช่วงนั้น พนักงานบริษัทที่อยู่ข้างหลังกําลัง อ่านหนังสือพิมพ์รอบเย็นที่พับทบเล็กๆ หญิงวัยกลางคน สองคนด้านขวากําลังคุยเรื1องเกี่ยวกับคนอื1นแล้วก็หัวเราะ จนเห็นเหงือก จุดประสงค์ของผู้คนที่รายรอบตัวคือการเดิน ทาง มีของผมเท่านั้นที่แตกต่าง ผมหันหลังมือไปทางอีก ฝ่ายแล้วใช้สองนิ้วคีบกระเป๋าสตางค์ของโฮสต์ ตําแหน่งยืน ของผู้โดยสารล้อมตัวผมเป็นเส้นมุมฉาก ด้ายสองเส้นที่มุม กระเป๋าสตางค์หลุดลุ่ยเหมือนกําลังตะเกียกตะกายทําตัวเป็น ขดเกลียวงดงามราวกับงู พริบตาที่สั่นสะเทือน ผมใช้หน้าอก ดันด้านหลังโฮสต์คล้ายกับพิงตัวแล้วดึงกระเป๋าในแนวตั้งฉาก แรงบีบอัดภายในตัวผมเคลื1อนผ่านขึ้นสู่อากาศ พอหายใจ ออกก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิอันคงที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่าง ลองใช้ ประสาทสัมผัสตรวจตรารอบตัว ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีทางพลาดในกรณีที่ง่ายเช่นนี้ ผมลงที่สถานีถัดมาแล้ว เดินห่อไหล่เหมือนคนรู้สึกหนาว FUMINORI NAKAMURA 9


ผมเข้าไปในกระแสผู้คนที่อ่อนล้าและผ่านช่องตรวจ ตั๋ ว ไป มองชายหญิ ง สามั ญ ธรรมดาที่ เ กาะกลุ ่ ม กั น อยู ่ ต รง บริเวณทางออกสถานีพลางคิดว่าท่ามกลางคนเหล่านั้นมีเงิน ประมาณสองแสนเยน ผมจุดบุหรี่เดินไปช้าๆ ด้านหลังเสาไฟ ทางด้านซ้ายของผมมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งตรวจตรากระเป๋า สตางค์ ข องเขาอย่ า งไม่ ร ะมั ด ระวั ง แล้ ว ใส่ มั น ไว้ ใ นกระเป๋ า ข้างขวาของเสื้อแจ๊กเกตขนเป็ด แขนเสื้อแจ๊กเกตเปื้อนดํา รองเท้าผ้าใบสึก มีเพียงกางเกงยีนส์เท่านั้นที่คุณภาพดี ผม เมินชายคนนั้นแล้วเข้าไปในห้างสรรพสินค้ามิตสึโกะชิ บน ชั้นเครื1องแต่งกายชายเรียงรายไปด้วยร้านแบรนด์เนมที่มีการ จัดแสดงสินค้าหน้าร้านโดยจัดชุดเสื้อผ้าสวมบนหุ่นโชว์ เป็น เสื้อผ้าที่คนฐานะค่อนข้างดีวัยยี่สิบปลายๆ ถึงสามสิบต้นๆ สวมใส่กัน หุ่นโชว์ตัวนี้กับผมสวมใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน ผม ไม่สนใจเรื1องการแต่งเนื้อแต่งตัว คนที่กระทําการเช่นนี้จะ โดดเด่นสะดุดตาไม่ได้แต่จําเป็นต้องแต่งองค์ทรงเครื1องระดับ หนึ่งเพื1อไม่ให้ถูกสงสัย สวมใส่ความลวงหลอกกลมกลืนกับ สภาพรอบตั ว ในฐานะสิ่ ง ลวงหลอก ผมต่ า งกั บ หุ ่ น โชว์ แ ค่ รองเท้า เมื1อคิดถึงการหนีผมจึงสวมรองเท้าผ้าใบ ผมอาศัยความอบอุ่นภายในร้านงอและเหยียดนิ้ว เคลื1อนไหวยืดหยุ่นอยู่ในกระเป๋า ผ้าเช็ดหน้าเปียกที่ทําให้นิ้ว 10 นักล้วง


ชุ่มชื้นยังคงเย็นอยู่ นิ้วชี้กับนิ้วกลางของผมยาวเกือบจะเท่า กัน ไม่รู้ว่าเป็นมาตั้งแต่เกิดหรือค่อยๆ กลายเป็นแบบนี้ คน ที่นิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้จะใช้นิ้วกลางกับนิ้วนาง บางคนใช้ทั้ง สามนิ้วคีบโดยงอนิ้วกลาง การเลื1อนกระเป๋าสตางค์ออกจาก กระเป๋าเสื้อมีการเคลื1อนไหวที่ลื1นไหลและเหมาะสมที่สุดเช่น เดียวกับการเคลื1อนไหวของสรรพสิ่งทั้งปวง นอกจากการทํา มุมแล้วยังเกี่ยวข้องกับความเร็วด้วย เรื1องนี้อิชิกะวะมักจะ คุยอย่างชอบอกชอบใจ พอเหล้าเข้าปากก็ชอบพูดมากอย่าง ไม่ระวังเหมือนกับเด็ก ผมไม่รู้ว่าป่านนี้เขาทําอะไรอยู่ คิดว่า อาจจะตายไปแล้วก็ได้ ผมเข้าห้องเล็กที่แยกต่างหากในห้องนํ้าอันมืดสลัว ของห้างสรรพสินค้า สวมถุงมือบางๆ แล้วตรวจดูกระเป๋า สตางค์ ผมไม่ ใ ช้ ห ้ อ งนํ้ า ของสถานี เ พื1อ ความปลอดภั ย ไว้ ก่อน กระเป๋าสตางค์ของผู้ชายสวมเสื้อโค้ตมีเงินเก้าหมื1น หกพันเยนกับธนบัตรหนึ่งร้อยดอลลาร์สามใบ บัตรทองของ วีซ่า บัตรทองของอเมริกันเอกซ์เพรส ใบขับขี่ บัตรสมาชิก ฟิ ต เนส ใบเสร็ จ ภั ต ตาคารระบุ ร าคาเจ็ ด หมื1น สองพั น เยน ขณะที่รู้สึกเบื1อหน่ายและกําลังจะเก็บก็พบบัตรพลาสติกที่ สีสันสลับซับซ้อน ไม่มีสัญลักษณ์หรือตัวอักษรพิมพ์อยู่บน บัตร ผมเคยเห็นบัตรแบบนี้มาบ้าง มันเป็นบัตรของสถาน FUMINORI NAKAMURA 11


บริการทางเพศสําหรับสมาชิกเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ของ โฮสต์ มี เ งิ น ห้ า หมื1น สองพั น เยน ใบขั บ ขี่ บั ต รเครดิ ต ของ ธนาคารซึมิโตะโมะมิซึอิ บัตรร้านวิดีโอซึทาญ่ากับบัตรร้าน หนังสือการ์ตูนแบบคาเฟ่ นามบัตรหญิงขายบริการหลาย ใบ ที่เหลือก็เป็นเศษกระดาษจําพวกใบเสร็จรับเงิน มียา หลากสีสันที่มีรูปหัวใจและดาวประทับอยู่ด้วย ผมดึงเฉพาะ ธนบัต รออกมาแล้วเก็บส่ วนที่เหลือเข้า กระเป๋า สตางค์ไป กระเป๋าสตางค์จะแสดงออกถึงตัวตนและรูปแบบการใช้ชีวิต ของบุคคลนั้น เป็นแกนที่อยู่ใจกลางความลับของบุคคลนั้น และของทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์มีติดตัวเหมือนดังโทรศัพท์ มือถือ ผมไม่เคยขายบัตรต่างๆ เพราะมันเป็นเรื1องยุ่งยาก แค่หย่อนกระเป๋าสตางค์ใส่ตู้ไปรษณีย์อย่างที่อิชิกะวะทํา ที่ทําการไปรษณีย์ก็จะส่งต่อไปให้ตํารวจและส่งกลับไปยัง ที่อยู่ตามใบขับขี่ ผมเช็ดรอยนิ้วมือออกแล้วเก็บมันใส่ใน กระเป๋าเสื้อของผม โฮสต์อาจจะถูกจับเพราะยาเสพติดแต่ เรื1องนั้นไม่เกี่ยวกับผม ขณะกําลังจะออกจากห้องเล็กของห้องนํ้าผมสัมผัส ได้ถึงความผิดปกติที่กระเป๋าลับใบหนึ่งด้านในเสื้อโค้ต รู้สึก ใจคอไม่ดีจึงกลับเข้าไปในห้องเล็กอีกครั้ง มันเป็นกระเป๋า สตางค์หนังแข็งยี่ห้อบูลการี มีธนบัตรใหม่สองแสนเยนใส่อยู่ 12 นักล้วง


ในนั้น นอกจากบัตรทองของวีซ่าและบัตรของที่อ1นื อีกหลาย ใบแล้วยังมีนามบัตรของประธานบริษัทหลักทรัพย์อยู่ด้วย ผมเพิ่งจะเห็นกระเป๋าใบนี้และชื1อในนามบัตรเป็นครั้งแรก อีก แล้ ว... ผมคิด ไม่มีความทรงจํ าว่าเคยล้วงได้ กระเป๋าแบบนี้มาก่อน ที่แน่ๆ มูลค่าของมันสูงสุดในบรรดา กระเป๋าสตางค์ที่ผมได้มาในวันนี้

FUMINORI NAKAMURA 13


2 รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยขณะปล่อยตัวไปตามความสั่น ไหวของรถไฟ ผมขึ้นรถไฟขบวนที่มุ่งหน้าไปสนามบินฮาเนดะแต่ ในตู้โดยสารแออัดยัดเยียดเหลือเกิน ความร้อนและไออุ่น จากร่ า งกายของคนอื1น ทํ า เอาผมเหงื1อ ไหล ผมขยั บ นิ้ ว ใน กระเป๋าพลางมองทิวทัศน์ด้านนอกผ่านกระจุกบ้านเรือนที่ ค่อนข้างซอมซ่อซึ่งเว้นช่วงห่างกันในระยะสมํ่าเสมอเหมือน สัญลักษณ์อะไรสักอย่าง จู่ๆ ภาพกระเป๋าสตางค์ใบสุดท้าย ของเมื1อ วานก็ ผุ ด ขึ้ น มา ขณะที่ ก ะพริ บ ตา ภาพหอคอย เหล็กมหึมาก็ผ่านหน้าผมไปพร้อมกับเสียงดังสนั่น แม้เพียง ชั่วพริบตาเดียวแต่ผมตัวเกร็งในทันที หอคอยเหล็กนั้นสูง และดูเหมือนส่งสายตาอย่างไม่ใส่ใจมายังตัวผมที่กําลังอยู่ ท่ามกลางฝูงชนบนรถไฟขบวนนี้ ขณะมองภายในตู้โดยสารผมเห็นชายที่ถูกครอบงํา ด้ ว ยอะไรบางอย่ า ง ดู เ หมื อ นเขาไม่ ไ ด้ กํา ลั ง มี ส มาธิ ข ณะ กําลังสัมผัสเรือนร่างของหญิงสาว แต่ดูเหมือนจะตาค้าง 14 นักล้วง


และสติ ห ลุ ด ลอยไปมากกว่ า ผู ้ ช ายลั ก ษณะนี้ มี อ ยู ่ ส อง ประเภทคือ คนปกติที่มีแนวโน้มวิปริตทางเพศกับคนที่ตัวตน ถูกความวิปริตกลืนกินจนขอบเขตระหว่างความเป็นจริงกับ ความวิปริตพร่าเลือน แล้วพร่าเลือนจนความวิปริตนั้นกลาย เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ผมคิดว่าเขาเป็นประเภทหลัง พร้อมกัน นั้นก็ดูให้แน่ใจว่าคนที่ถูกลูบไล้อยู่เป็นนักเรียนมัธยมต้น ผม เคลื1อนไหวราวจะเย็บช่องว่างในรถไฟที่แน่นขนัดนี้ให้ติดกัน นอกจากผมกับเขาและผู้หญิง ไม่มีใครสังเกตเห็น ผมค่อยๆ ใช้มือซ้ายกําข้อมือซ้ายของชายที่ลูบคลํา ผู้หญิงจากทางด้านหลังของเขา กล้ามเนื้อทุกมัดของเขา ตื1นตัวฉับพลันและรับรู้ได้ว่าหลังจากเจอแรงกระตุกอันหนัก หน่ ว งเขาก็ อ ่ อ นแรงลง ผมจั บ ข้ อ มื อ ไว้ พ ลางตรึ ง นาฬิ ก า ของเขาให้ นิ่ ง ด้ ว ยนิ้ ว ชี้ จากนั้ น ใช้ นิ้ ว หั ว แม่ มื อ ปลดตะขอ สายนาฬิกาแล้วใส่ลงในแขนเสื้อของตัวเอง ใช้นิ้วข้างขวา คีบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋าด้านขวาของเสื้อสูท เมื1อ รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่กระเป๋าสตางค์จะโดนตัวเขา ผม จึงเปลี่ยนการเคลื1อนไหว ปล่อยให้กระเป๋าสตางค์หล่นลง มาระหว่างเสื้อสูทกับเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาแล้วคว้าไว้ด้วย มือซ้ายที่รอเผื1อไว้ด้านล่าง เขาอายุประมาณสามสิบปลายๆ พนักงานบริษัท ดูจากตําแหน่งและประเภทของแหวนคิด FUMINORI NAKAMURA 15


ว่าน่าจะเป็นคนที่แต่งงานแล้ว คราวนี้ผมใช้มือขวากําแขน ของเขาอีกครั้ง เขาหน้าถอดสีพยายามเอียงคอหันมาทั้งที่ ตัวโยกไหวตามแรงรถไฟ เด็กสาวมัธยมต้นรู้สึกถึงความ เปลี่ยนแปลงทางด้านหลังและขยับคอเหมือนลังเลว่าจะหัน ดีหรือไม่ ภายในตู้โดยสารเงียบเชียบ เขาพยายามอ้าปาก เหมือนจะอธิบายกับผมหรือไม่ก็ให้โลกฟัง รู้สึกเหมือนตอนนี้ เขาถูกเจตนาอันชั่วร้ายบางอย่างสาดส่องตัวตนที่เป็นเช่นนั้น ของเขาจากเหนือหัว ลําคอสั่นเหมือนเตรียมจะตะโกน เหงื1อ ไหลจากหน้าผากและแก้ม จุดโฟกัสที่ดวงตาอันเบิกโพลง มองอยู่คลุมเครือ ถ้าผมโดนตํารวจจับก็อาจจะทําสีหน้าแบบ นี้ก็ได้ ผมผ่อนแรงที่แขนแล้วขยับปากบอกว่า “ไป” ผู้ชาย ไม่อาจตัดสินใจได้ สีหน้าของเขายังคงบูดเบี้ยว พอผมชี้ไป ที่ประตูด้วยการขยับใบหน้า เขาแขนสั่นเล็กน้อยแล้วหันไป ข้างหน้าเหมือนนึกได้ว่าโดนผมเห็นหน้ามาตลอด พอประตู เปิดแล้วก็วิ่งเข้าสู่ฝูงชน ผลักผู้อื1นไปพลางเคลื1อนตัวอย่าง กระเสือกกระสน นักเรียนหญิงมัธยมต้นที่ยังอยู่ในตู้โดยสารเหลือบ มองมา ผมหันหน้าไปทางอื1นและพยายามสะกดอารมณ์ที่ ขุ่นมัว ฉวยเอานาฬิกาที่ไม่ได้สนใจ ฉวยกระเป๋าสตางค์ที่ ไม่ได้สนใจ โดนผู้ชายที่ถูกล้วงเห็นหน้า โดนนักเรียนหญิง 16 นักล้วง


มัธยมต้นเห็นหน้าด้วย แต่ชายคนนั้นไม่มีทางแจ้งความจับ ผมได้ หมดอารมณ์จะทําอะไรต่อ ผมลงที่สถานีถัดไป ขึ้น บันไดเลื1อนและได้เห็นสีหน้าอ่อนล้าของคนรวยวัยกลางคน แต่ผมผ่านช่องตรวจตั๋วออกมาข้างนอกแล้วพิงกําแพงสถานี อันเปรอะเปื้อน ความตึงเครียดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ผมซุก มือในกระเป๋าเสื้อเพื1ออบอุ่นนิ้วพลางคิดจะเรียกแท็กซี่ ผมสัมผัสได้ถึงเค้ารางของใครคนนึง พอหันไปก็เห็น ชายร่างผอมที่ทําท่าจะพิงผนังใกล้ๆ ผม สวมสูทสีดาํ ไม่ทราบ ยี่ห้อ รองเท้าหนังสีดําไม่ทราบยี่ห้อ พอคิดได้ว่าเป็นทะจิ บะนะก็ตั้งตัวไม่ถูก พยายามสะกดกลั้นความหวาดวิตกของ ตนเอง เส้นผมที่เมื1อก่อนเคยเป็นสีทองตอนนี้ถูกย้อมเป็นสี นํา้ ตาล เขาใช้ตาเรียวเล็กจ้องผมเขม็งพร้อมกับเบ้ริมฝีปากที่ หนา มันดูเหมือนรอยยิ้มแต่ผมก็ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ “ปกติหมายหัวเฉพาะคนรวยไม่ใช่เหรอ?” ว่าแล้วทะจิบะนะก็หันมาประจันหน้ากับผม ทะจิบะนะ อาจจะไม่ใช่ชื1อจริงของเขา แต่เขาน่าจะรู้ชื1อจริงของผม เคย คิดไว้ว่าน่าจะได้เจอกันที่ไหนสักแห่ง แต่ตอนนั้นคิดว่าผมน่าจะ เป็นฝ่ายหาเขาพบ ความทรงจําทั้งหมดคล้ายจะหวนคืนมาอีก รอบ มันทําให้ผมสูดลมหายใจอย่างเงียบงัน FUMINORI NAKAMURA 17


“…ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่” พยายามจะพูดอย่างอื1นออกไป แต่ผมทําได้เพียง ตอบโต้คําพูดของทะจิบะนะด้วยคําพูดที่ไร้ความหมาย “…แบบนั้นมันน่าเบื1อนะ ว่าแต่คนรวยจริงๆ เขาขึ้น รถไฟกันด้วยเหรอ? …เป็นคนเลวล้วงได้ก็ล้วงไปเถอะ” “ก็มันได้ผลดีนี่ ...ยังไม่ตายเหรอ?” “…ก็ได้เจอกันอย่างที่คิดไม่ใช่เหรอ จะว่าไปฉันเป็น ฝ่ายหาเจอต่างหาก” “…ตั้งแต่เมื1อไหร่?” “เห็นตลอดตั้งแต่ตอนล้วงกระเป๋าไอ้โรคจิต ตกใจนิด หน่อยที่นายไม่รู้ตัวว่าโดนสะกดรอยตาม” พอผมเริ่มออกเดินเขาก็เดินด้วย เมื1อเข้าทางลอดใต้ รางรถไฟผมก็หยุดเดิน “มาตั้งแต่เมื1อไหร่?” ไม่รู้เพราะอะไรทะจิบะนะพูดอย่างนั้นแล้วก็มองผม ด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่นานนี่เอง ว่าแล้วโตเกียวก็ลงมือง่ายจริงๆ ...ใน หลายๆ เรื1อง” “แต่คนเดียวน่าจะทํางานยากใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้ก็ว่าง อยู่ จะให้ไปด้วยมั้ย?” 18 นักล้วง


“ไม่ต้องหรอก ฝีมือของแกเชื1อถือไม่ได้ แล้วเรื1อง ส่วนแบ่งก็เชื1อใจไม่ได้ด้วย” พอผมพูดอย่างนั้นเขาก็แผดเสียงหัวเราะและเริ่ม ออกเดิน ลักษณะการหัวเราะที่จงใจตะเบ็งให้ดังเป็นเสียงที่ ทําให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้ เรื1องนั้นเขาน่าจะรู้ตัวแต่ยังดันทุรัง ไม่ยอมเลิกรา เมื1อเราเดินมาถึงอีกด้านหนึ่งของทางลอดใต้ รางรถไฟผมรู้สึกเหมือนสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่อย่างตึกหรือ ห้างสรรพสินค้ามหึมาก้มมองพวกเราจากด้านหลัง ลําคอ ของผมสั่นสะท้าน รู้สึกตัวอีกทีก็เอาแต่จ้องมองต้นหญ้าไร้ แรงที่เสียดแทงพ้นคอนกรีต ทะจิบะนะหยุดเดินแล้วพิงรั้ว ตะแกรงเหล็กพลางจุดบุหรี่ “จริงอยู่ฉันไม่เก่ง เดิมทีมันก็ต่อยอดจากขโมยของ ในร้านสมัยมัธยมต้น ก็แค่เล่นสนุกเท่านั้นเอง... ฉันทําอย่าง แกกับอิชิกะวะไม่ได้หรอก แกล้วงมาส่งให้อิชิกะวะ หมอ นั่ น ดึ ง แต่ ข องข้ า งในแล้ ว ใส่ ก ลั บ คื น ไปในกระเป๋ า เสื้ อ ของ เจ้าของอีกรอบ …หนําซํ้ายังเอาแค่สองในสาม แบบนี้คน ที่โดนล้วงจะไม่รู้ตัว หรือถึงรู้ตัวก็แจ้งความไม่ได้ การแบ่ง หน้าที่ก็เหมือนกัน สลับกันตามตําแหน่ง แค่ส่งสัญญาณ ด้วยสายตา... ฉันทําได้แค่ดู แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมีคนญี่ปุ่นเป็น นักล้วงกระเป๋าแล้ว ตอนนี้แกยังเปลี่ยนงานไปเรื1อยๆ อยู่ FUMINORI NAKAMURA 19


รึเปล่า? ถ้าทําเป็นอาชีพเสริม จะเข้าแก๊งย่องเบาอาชีพ เหมือนเมื1อก่อนหรือไปเป็นคนปล่อยของไม่ดีกว่าเหรอ แล้ว สุดท้ายมาเป็นนักล้วงกระเป๋าเนี่ยนะ” เนื้อหาสนทนาของเขาทําให้ผมต้องขยับเข้าไปใกล้ “ที่ฉันเคยขายมันเป็นของปลอม ...แล้วตอนนี้แกทํา อะไรอยู่?” “ทํ า เงิ น กู ้ น อกระบบ ไปไม่ ร อดก็ เ ลยใช้ พ วกเด็ ก ๆ ทํ า งานต้ ม ตุ ๋ น หลอกคนอื1น โอนเงิ น เข้ า บั ญ ชี แต่ ต อนนี้ ทํ า เกี่ยวกับหุ้น ถึงจะเป็นแค่นายหน้าก็เถอะ” “หุ้น?” “…ก็ฉันไมใช่คนปกติแล้วนี่... รับฝากเงินจากยากูซ่า ไปส่งคนอื1นแล้วให้เขาเป็นคนบริหาร แหล่งข่าวของพวกนั้น ไม่ธรรมดาเลยนะ สรุปคือเป็นคนวงใน ตอนนี้มีคนแบบนี้ เกลื1อนเลย” เขาพูดอย่างนั้นแล้วก็โยนก้นบุหรี่ทิ้ง “แต่ทําเงินได้เยอะกว่าแกมากโขนะ จะแบ่งงานให้ ก็ได้นะ ไปเสนอห้องเช่าซอมซ่อให้พวกคนจรจัดแถวนั้นแล้ว ให้เปิดบัญชีธนาคารหลายๆ ที่…” “…ฉันไม่สนใจ” “พวกแกนี่มันน่ากลัวจนขนลุกนะ อิชิกะวะก็ด้วย... 20 นักล้วง


แล้วแกต้องการอะไร?” ผมนิ่งเงียบ “…แล้วไม่ถามเหรอว่าอิชิกะวะเป็นยังไงบ้าง?” ทะจิบะนะมองผม จังหวะหัวใจเต้นรัวขึ้นทีละน้อย “แกรู้เหรอ?” “ไม่รู้” ทะจิบะนะพูดแล้วก็หัวเราะ แสงแดดเหนือหัวกวนใจผมเหลือเกิน “แต่ก็คงเป็นอย่างว่าสินะ ไม่ผิดหรอก น่าขนลุก ถ้า ก่ออาชญากรรมใหญ่ได้สมบูรณ์แบบอย่างนั้นก็น่าขนลุก... คิดว่าน่าจะเกิดปัญหาอะไรสักอย่างจากเหตุการณ์คราวนั้น ฉันจะบอกแกเรือ1 งนึง ไปจากโตเกียวดีกว่า โดยเฉพาะแถวๆ นี”้ “…ทําไม?” “เห็นว่าพวกมันจะลงมืออะไรกันอีกแล้ว” ผมสบตากับทะจิบะนะ ไม่รู้จะทําอย่างไรกับสายตา นั้นจึงก้มมองพื้น “หายตัวไปก่อนจะถูกดึงเข้ามาพัวพันดีกว่า” “…แล้วแกล่ะ?” “ฉันไม่เป็นไรหรอก ถ้าพวกมันวางแผนทําอะไรมันก็ ยิ่งเป็นเงินเป็นทองสําหรับฉัน... ส่วนใหญ่ฉันก็ใช้ชีวิตแบบนี้ FUMINORI NAKAMURA 21


จนป่านนี้แล้วไม่คิดจะเอาตัวรอดหรอก” เขาว่าอย่างนั้นแล้วก็หัวเราะ ผมจึงหัวเราะด้วย ดู เหมือนจะรู้สึกตัวว่าพูดมากเกินไปแล้ว เขายกมือขึ้นเบาๆ แล้ ว เลี้ ย วไปตรงทางแยก ผมมองเห็ น คนตั ว สู ง แต่ ง กาย เป็นคนรวยอยู่แต่ไกล แต่ก็ไม่มีกะใจจะลงมือ รู้สึกใจคอไม่ ดีกับอาคารรอบตัวจึงเข้าไปใต้ทางลอดอีกครั้ง ในภาชนะ ใส่ อ าหารกล่ อ งที่ บู ด เน่ า มี นํ้ า ขุ ่ น ขั ง อยู ่ ราวกั บ ผุ ด ขึ้ น มา จากตรงนั้น ไม่ รู้ เ พราะอะไรผมจึงคิดว่า นํ้ า นั้นอุ่นและน่า สะอิดสะเอียน

22 นักล้วง


ปัจฉิมลิขิต สมัยยังเด็กผมเคยเห็นสิ่งที่คล้ายหอคอยอยู่ไกลโพ้น มันถูกหมอกปกคลุมงดงาม อยู่ไกลจนคิดว่าไม่มีทาง ดั้นด้นไปถึง คิดว่าน่าจะเป็นภาพลวงตาของเด็ก แต่จนบัดนี้ ภาพนั้นก็ยังคงอยู่อย่างชัดเจน หอคอยเพี ย งแค่ ตั้ ง อยู ่ ต รงนั้ น ไม่ ไ ด้ ย อมรั บ หรื อ ปฏิเสธในตัวผมที่ทําท่าจะหันหลังให้กับทุกอย่าง ไม่รู้ว่านั่น เป็นสิ่งที่มนุษย์รํ่าร้องหาในชีวิตหรือเป็นสิ่งที่เหนือกว่ามนุษย์ หรือเป็นตัวตนที่เกี่ยวกับโชคชะตาของมนุษย์และโลก หรือ เป็นสิ่งที่มีสาเหตุจากอายุ หอคอยนั้นจึงหายลับไป แต่ไม่ แน่ มันอาจจะตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งจนกระทั่งบัดนี้ก็ได้ ผม เก็บงําความคิดเช่นนั้นเอาไว้ นวนิยายเรื1องนี้เป็นหนังสือเล่มที่แปดของผม ตัวเอก ที่ ผ มเขี ย นเป็ น ตั ว ตนของผมในหลากหลายความหมาย ทั้งหมดเป็นเช่นนั้น แต่ผมมีความรู้สึกร่วมอันพิเศษต่อตัว ละครนี้อีกเช่นกัน การนิยมชมชอบในตัวตนซึ่งเป็นปฏิปักษ์ ต่อสังคมอย่างนักล้วงกระเป๋าเป็นอุปนิสัยส่วนตัวของผม


ขออภัยในเรื1องนี้ด้วย แต่หากไม่มีอุปนิสัยเช่นนั้นแต่แรก ก็ ค งไม่ เ ขี ย นนวนิ ย ายเรื1อ งนี้ ผมไม่ ต ้ อ งการความสดใสที่ เหมือนถูกยัดเยียด หากได้รับการเติมเต็ม ทุกสิ่งทุกอย่างก็ ไม่จําเป็นต้องมีนวนิยาย ผมคิดว่าประเด็นหลักในนวนิยาย เรื1องนี้เหมาะกับตัวผมมาก ผมรับการร้องขอให้เขียนนวนิยาย จากสํานักพิมพ์ คะวะเดะโฉะโบชินฉะในปี 2004 ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วถึงห้าปี แต่ก็คิดว่าได้เขียนสิ่งที่ควรเขียนในส่วนนั้นแล้ว ผมคิดว่านี่ เป็นผลงานเรื1องหนึ่งที่สําคัญต่อชีวิตนักเขียนของผมมาก แต่ นั่นก็เป็นเพราะบรรณาธิการทุกท่านให้ความกรุณาอดทนรอ ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้ และทุกท่านที่กรุณาอ่านหนังสือเล่มนี้ ขอบพระคุณจากใจ 2 กันยายน 2009 ฟุมิโนริ นาคามุระ


เกี่ยวกับผู้เขียน ฟุมิโนริ นาคามุระ เกิดวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1977 ที่จังหวัดไอจิ จบการศึกษาจาก ภาควิชาสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟุกุชิมะ เริ่มต้นอาชีพนักเขียนด้วยผลงานเรื1องแรกคือ Jū (ปืนพก) ในปี ค.ศ. 2002 และทําให้เขาได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ยอดเยี่ยม หลังจากนั้นก็ มีผลงานที่ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื1อง อย่างเช่น Shakō (บังแสง), Tsuchi no Naka no Kodomo (เด็กใต้พื้นดิน) มีผลงานที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เล่มแรกคือ นักล้วง ซึ่งได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่าเป็น 1 ใน 10 นวนิยายที่สุดในปี ค.ศ. 2012 และได้รับรางวัลในต่าง ประเทศมากมายเช่นกัน

เกี่ยวกับผู้เแปล พีรวัธน์ เสาวคนธ์ เรียนจบด้านเครื1องยนต์กลไก เป็นมนุษย์เงินเดือนในสายที่เรียนจบ มาแค่ช่วงสั้นๆ แต่งานนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนภาษาญี่ปุ่น ปั จจุ บั นเป็ นนั ก แปลอิ สระ แปลทั้ ง หนั ง สื อ การ์ ตู น บทละครทาง โทรทัศน์ รับงานล่ามเป็นครั้งคราว แต่ที่ชอบที่สุดคือการแปลวรรณกรรม เวลาว่างส่วนใหญ่หมดไปกับการเสาะหาของอร่อยและการท่องเที่ยว ถ่ายรูป


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.