IL SENSO DELL’ELEFANTE ส�ำนึกของช้ำง MARCO MISSIROLI
นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ
เขียน แปล
บรรณาธิการต้นฉบับ บรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการจัดการ
หนูนาน อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง มณฑา มัญชุนากร ศรรวริษา เมฆไพบูลย์
ออกแบบปกและภาพประกอบ รูปเล่ม พิสูจน์อักษร
ภัคพันธุ์ สมัครสมาน ขจรยศ สุภาจันทร์ ชุลีพร วุ่นบ�ารุง
© 2012
by Marco Missiroli Copyright arranged through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd.
ลิขสิทธิ์ภาษาไทย © 2017 ส�านักพิมพ์ก�ามะหยี่ พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2560 ISBN 978-616-7591-62-9 ราคา 200 บาท
จัดพิมพ์โดย : ส�ำนักพิมพ์ก�ำมะหยี่ 74/1 รังสิต-นครนายก 31 ต�าบลประชาธิปัตย์ อ�าเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ : 084 146 1432 โทรสาร : 02 996 1514 Homepage : www.gammemagie.com Facebook Page : GammeMagieEditions Email : gammemagie@gammemagie.com พิมพ์ที่ : ห้ำงหุ้นส่วนจ�ำกัด ภำพพิมพ์ 45/12-14, 33 หมู่ 4 ต�าบลบางขนุน อ�าเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ : 02 879 9154-6 โทรสาร : 02 879 9153 Homepage : www.parbpim.com จัดจ�ำหน่ำยทั่วประเทศโดย : บริษัทเคล็ดไทย จ�ำกัด 117-119 ถนนเฟื่องนคร ตรงข้ามวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 02 225 9536-9 โทรสาร : 02 222 5188 Homepage : www.kledthai.com
ความลับซ่อนเร้นกาย ในหมอกมีเสียงหวูดร้องเตือน เงาช้างปรากฏตัว ส�านักพิมพ์ก�ามะหยี่ มีนาคม 2560
ค�ำเตือน : กำรอ่ำนอำจท�ำให้เผื่อใจไม่เชื่อเฉพำะสิ่งที่เห็นตรงหน้ำ
แด่ ซำวโร มิสซีรอลี และ ฟีโอแรลลำ วันดิ ขอบคุณครับ
หำกมีกำรเจ็บท้องคลอด ผู้ที่ออกจำกครรภ์จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตมิติเดียว แต่เป็น สิ่งมีชีวิตที่รู้ดีรู้ชั่ว เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่ำ หำใช่กลืนกับสิ่งแวดล้อม โรล็องด์ บำร์ตส์
ตอนนั้นเอง ในที่สุดเด็กชำยก็เปลื้องทุกสิ่งที่เขำเคยเป็นออกจำกตัว คอร์แม็ค แม็คคำร์ธี
มีชายคนหนึง่ ชีวติ ของชายคนนีด้ พี อใช้ เกิดน�า้ ท่วมโลก เขาขึน้ ไปอยูบ่ นหลังคาบ้าน เพื่อจะได้ไม่จมน�้าตาย และร้องขอให้พระเจ้าช่วยชีวิตด้วยความศรัทธายิ่ง ในใจ เขารู้ว่าพระองค์จะช่วย เรือล�าหนึ่งลอยมา ชายคนนั้นปฏิเสธ เพราะมั่นใจเต็มที่ว่าพระเจ้าจะมา ช่วย เขาจึงกล่าวว่า ไม่ละครับ ขอบคุณ ระหว่างนั้นน�า้ ก็สูงขึ้น เรืออีกล�าลอยมา แต่เขารอพระเจ้า ขณะที่น�้าสูงขึ้นถึงคอ มีเรือล�าที่สามลอยผ่านมา ไม่ละครับ ขอบคุณ เขาจึงจมน�้าตาย ครั้นในที่สุด เขาได้พบพระเจ้าบนสวรรค์ เขาจึงพูดกับ พระองค์ว่า ไหนพระองค์สัญญาว่าจะช่วยผม! พระเจ้ามองหน้าเขา ดูก่อน เราส่ง แล้วเจ้ายังจะต้องการอะไรอีก เรือไปให้ตั้งสามล�า ซา วอต ตาเดส
1 ห้องท�างานของผูด้ แู ลตึกเป็นซอกเล็กๆ สะอาดสะอ้าน ตกแต่งด้วยโต๊ะ
ไม้เทียมกับเก้าอี้หวายสองตัว บนผนังด้านหนึ่งมีตู้ใส่จดหมายชนิดแบ่งเป็นช่อง ข้างๆ กันเป็นกระจก ชัน้ วางของติดผนังซึง่ มีวทิ ยุจวนจะพังกับโทรศัพท์เครือ่ งหนึง่ บนผนังอีกด้านมีภาพมหาวิหารของเมืองมิลานวาดด้วยหมึกจีน และตะปูหนึ่งดอก มีประตูบานเฟีย้ มให้เปิดเข้าไปในห้องชุดขนาดเล็กๆ ประกอบด้วยห้องนอนกับห้อง ครัว ก่อนที่หญิงผู้ดูแลตึกคนเก่าจะจากไป เธอได้ขัดถูทา� ความสะอาดทุกซอกมุม และทิ้งหม้อต้มกาแฟแทบจะยังใหม่กับกาแฟห่อหนึ่งไว้ แถมน�า้ มันมะกอกครึ่งขวด และโฟมอาบน�า้ ส�าหรับผิวแพ้งา่ ยอีกหนึง่ ขวด ในลิน้ ชักโต๊ะมีกระดาษแข็งติดจุบ๊ ยาง เขียนข้อความว่า เดี๋ยวมา นอกจากนั้นเธอยังทิ้งตะขอติดผนังห้องนอนไว้สิบอัน แต่ละอันแขวนกุญแจส�ารองของคอนโดมิเนียมแต่ละห้อง ปิเอโตรไม่เคยแตะต้องกุญแจเหล่านั้นเลยนับตั้งแต่เขามาเป็นผู้ดูแลตึกคน ใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่บ่ายวันนั้นเขาจะแตะ เขาเข้าไปใกล้ๆ ตะขออันหนึ่ง แล้ว ปลดพวงกุญแจของครอบครัวมาร์ตนิ อี อกมา หมอลูคากับวิโอลา ภรรยา ไปรับลูกสาว ทีโ่ รงเรียนอนุบาลเด็กเล็ก เขาสอดกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงแล้วกลับไปล้างผ้าขีร้ วิ้ ในห้องน�้าซึ่งไม่มีหน้าต่าง โยนผ้าขี้ริ้วลงถังพลาสติก แล้วใส่น�้ายาท�าความสะอาด พื้นสองฝาขวด เดินตัวเซเพราะความหนักไปจนถึงโถงหน้าบันได บิดผ้าขี้ริ้ว ถูขั้น บันได ย่อตัวลงนั่งยองๆ และถอยหลังขึ้นบันได คล้ายแมงมุมขาด้วน สองมือจับ ผ้าขี้ริ้วถูพื้น ลากถังตามขึ้นไป ครั้นถึงชั้นสอง เขายกพรมเช็ดเท้าของทั้งสามห้อง ขึน้ ถูพนื้ ข้างใต้ ถูตอ่ ไปจนถึงชัน้ สาม หยุดครูห่ นึง่ ทีช่ นั้ นีเ้ ขาเริม่ จากประตูหอ้ งของ ทนายความป๊อปปี้ ที่พรมเช็ดเท้ามีข้อความเขียนว่า จงทิ้งความหวังไปเสียให้สิ้น เขายกมันขึ้น ท�าความสะอาดพื้น เดินไปที่พรมของครอบครัวมาร์ตินี ม้วนพรม แล้วเช็ดคราบไขมันบนพื้นหินอ่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ ลุกขึ้น มือจับประตูเปื้อนรอย นิ้ว เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดออก เก็บผ้าเช็ดหน้าลงกระเป๋า แล้วก็รู้สึกว่าโดนกุญแจ ขูดฝ่ามือ เขาหยิบมันออกมา สอดเข้าไปในรูกุญแจ เปิดประตู 8
MARCO MISSIROLI
ปิเอโตรหลับตาเดินเข้าไป ก้าวสั้นๆ หนึ่งก้าว ก้าวไปอีกหนึ่งก้าวแล้วลืมตา ที่แขวนเสื้อคลุมรูปต้นไม้ปรากฏให้เห็นแทนความมืด บนกิ่งก้านมีเสื้อคลุมสีเข้ม แขวนอยูส่ ามตัวกับร่มลายเต่าทองของซารา พืน้ ปาร์เกต์สง่ เสียงเอีย๊ ด ชัน้ วางของ ติดผนังชัน้ เดียวทีม่ อี ยูใ่ นโถงทางเข้าเป็นทีต่ งั้ รูปถ่ายสองรูปและตะกร้าใส่ของจุกจิก เก่าๆ ในกรอบรูปกรอบหนึ่งนั้นมีภาพหมอมาร์ตินีตอนเป็นเด็ก ท�าทีเป็นขับรถ เวสป้าทีจ่ อดอยู่ สายตาจับจ้องแฮนด์ ริมฝีปากจริงจัง ผูด้ แู ลตึกหยิบรูปถ่ายมาลูบ ตรงหัวและมือของเด็กชายซึ่งก�าคันเร่งอยู่ เขาเอารูปถ่ายเข้ามาใกล้ๆ แล้วลูบอีก ครั้ง ก�ากรอบรูปแน่นจนมือสั่น วางมันกลับที่เดิมแล้วจ้องมองตะกร้าของจุกจิก ข้างบนมีขวดหมึก ที่ทับกระดาษรูปกบ กระดิ่งจักรยาน เขาหยิบกระดิ่งออกมา แล้วใช้แขนเสื้อเชิ้ตเช็ดฝาครอบ กระดิ่งขึ้นสนิม ที่ดีดเสื่อมสภาพ เขาพลิกดู มัน ไม่ค่อยหนัก ถือไว้ในอุ้งมือขณะถอยหลังออกจากบ้านมาร์ตินี “ปิเอโตร” เขาหันขวับ “คุณทนาย” ผู้ดูแลตึกหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาแล้วซ่อนกระดิ่งไว้ใน นั้น น�้าหยดลงบนเท้า “ผมท�าความสะอาดก�าลังจะเสร็จครับ” “ทุกซอกทุกมุมเลยนะ เห็นละ” ทนายป๊อปปี้ถอดหมวกขวับ ศีรษะเป็น มันวาว “คีบุตเซอร์ ชาวยิวเรียก คนยุ่มย่าม” เขาเดินถือไม้เท้ามาข้างหน้าแล้ว เลิกคิ้วข้างหนึ่ง ปิเอโตรโยนผ้าขี้ริ้วลงถัง หน้าร้อนผ่าว “ตอบรับค�าเชิญเถิด เพือ่ นเอ๋ย” ทนายพูด “เลิกท�าความสะอาดทุกซอกทุก มุมแบบนี้ซะ แล้วไปบาร์ใกล้ๆ นี้กับผม เดี๋ยวนี้เลย ผมจะเลี้ยงคัปปุชชีโนที่คุณจะ ไม่มีวันลืม” “ผมยังต้องท�าอีกสองชั้นครับ” “เชือ่ ผมเถอะน่า” ทนายเปิดประตูหอ้ งของตน หยิบเสือ้ คลุมกันฝนบนทีพ่ กั แขนของโซฟามาสะบัดก่อนสวม ชี้ไปทางห้องที่ติดกับห้องของครอบครัวมาร์ตินี “พ่อแฟร์นันโดของเราก�าลังจะสารภาพรัก ถ้าไม่ไปดูจะผิดพลาดอย่างมหันต์” ผู้ดูแลตึกให้เขาดูถังน�า้ ส�ำนึกของช้ำง
9
“น่าเสียดายแทนคุณนะ คีบุตเซอร์” ทนายหันหลังแล้วลงบันไดไป ปิเอโตรรอให้ปอ๊ ปปีอ้ อกไปถึงลานก่อนจึงค่อยเดินไปทีป่ ระตูหอ้ งสุดท้ายของ ชัน้ นัน้ ซึง่ เป็นของแฟร์นนั โด หนุม่ เพีย้ นประจ�าตึก เขายกพรมเช็ดเท้าขึน้ ท�าความ สะอาดพื้น แล้วกลับลงไปโดยไม่หยุดระหว่างทาง เข้าไปในห้องท�างาน ตรงดิ่งไป ในส่วนพักอาศัย ซึ่งยังรกเหมือนวันที่เขามาถึง เขาจัดหาเตียงนอนมาได้ และตั้ง ไว้ใต้หน้าต่างบานเล็กๆ บานเดียวที่มีในห้องนั้น มีผนังด้านหนึ่งยื่นออกมากั้นห้อง ครัวเล็กๆ ซึ่งมีตู้ติดผนังสามตู้ โต๊ะปูผ้าพลาสติกลายดอกไม้ และตู้เย็นที่ส่งเสียง คราง กระถางต้นไม้ตั้งเรียงกันอยู่ในที่แคบๆ จุดเดียวที่มีแดดส่อง ข้างๆ นั้นเขา กองกระเป๋าใส่เสื้อผ้าไว้กับจักรยาน จักรยานคันนั้นยี่ห้อเบียงคี ใช้มาสี่สิบปี มี แฮนด์ตรง สีลอกด้วยอากาศชายทะเล เขาเดินไปที่อ่างล้างหน้าในห้องน�้า หยิบผ้าขี้ริ้วในถังขึ้นมา คลี่ชายผ้าออก ทีละด้าน กระดิ่งเป็นก�าปั้นเหล็ก เขาบรรจงเช็ดมันขณะเดินไปห้องนอน ซึ่งเป็น ห้องโล่ง มีหน้าต่างกลมเปิดไปยังลานด้านในของตึก เขาแขวนพวงกุญแจบ้าน มาร์ตินีกลับที่เดิม ข้างล่าง เลือนรางในความมืดสลัว มีโคมไฟกับกระเป๋าเดินทาง ใบหนึ่งซึ่งเปิดอยู่ ข้างในมีกล่องหลายใบ กล่องยาวๆ บางๆ มุมเยิน เขาหยิบซอง จดหมายติดแสตมป์รูปนักเขียนอิตาลี เอมิลีโอ ซัลการี ออกมาจากกล่องรูปทรง กระบอก ในซองมีรูปถ่ายหนึ่งใบกับจดหมายเขียนบนกระดาษฟาง ถึงแม้ว่าเขาจะ จ�าเนื้อความในจดหมายได้ขึ้นใจแล้ว แต่ก็ยังอ่านมันเหมือนอ่านเป็นครั้งแรก และ กลั้นหายใจจนกว่าจะอ่านจบเหมือนครั้งแรก เขาเอาจดหมายเก็บเข้าที่รวมกับ กระดิ่ง หยุดมองอดีตของตน ก่อนจะออกไปบาร์ ปีนั้นก็เช่นกัน บาทหลวงหนุ่มเห็นเธอในเช้าวันหนึ่งของเดือนกันยายน และปีนั้น ก็เช่นกัน หญิงสาวจ้องหน้าต่างห้องเขาขณะขี่จักรยานติดตะกร้าฟางสานหน้ารถ เธอดีดกระดิ่ง กริ๊ง กริ๊ง เธอสวมชุดกะลาสีเรือ และไม่อายเลยที่เสียงรัวกระดิ่ง ท�าให้ผู้คนที่อยู่หน้าโบสถ์หันไปมอง เขามองตอบจากหน้าต่างแล้วหลับตา ครั้น ลืมตาขึ้นก็เห็นเธออยู่ที่พื้น โดนจักรยานทับ ร้องตะโกนว่า ฉันฆ่ามัน ฉันไม่เห็น 10
MARCO MISSIROLI
ฉันฆ่าแมว บาทหลวงหนุม่ วิง่ ลงไปยังถนน แทรกตัวเข้าไปกลางฝูงชนทีย่ นื มุงหญิงสาว มองหาเธอ เธอจับท้องตัวเอง แต่ตายังจ้องแมวที่ถูกฆ่า “นั่นแมวของบาทหลวงนี่ มันตายแล้ว” ใครบางคนพูดขึ้น “เจ็บตรงไหนหรือเปล่าหนู” อีกคนพูด มีแต่พวกแม่มดกับการลงทัณฑ์ของพระเจ้าเท่านั้นที่ฆ่าแมว “อิ กัต อุย ฟา มูริ โซลา สเตรกิ เอ คัสติก กัด ดีโอ” อีกคนพูด แม่มดยังคงพูดต่อไปว่า ฉันฆ่ามัน ฉันไม่เห็น ฉันฆ่ามัน เธอหยุดพูดก็เมื่อ เห็นเขา ชุดด�าโดดเด่นอยู่ในฝูงชน “คุณพ่อคะ ฉันฆ่ามันค่ะ” บาทหลวงหนุ่มเข้าไปใกล้ๆ แมวแล้วลูบหน้ามัน จากนั้นยกจักรยานขึ้น ไม่ พูดอะไรสักค�า ดีดกระดิ่งสนิมเขรอะนั้นเพียงครั้งเดียว
ส�ำนึกของช้ำง
11
2 บาร์ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของถนนลาดหิน ซึ่งมีรางรถรางทอดผ่านสี่เส้น
บาร์นั่งได้ไม่กี่คน มีโต๊ะสมัยทศวรรษ 1930 ไม่กี่ตัว วางรอบๆ ด้วยเก้าอี้ต่างแบบ กลิ่นครีมฟุ้ง โคมไฟระย้าหุ้มผ้าก�ามะหยี่ห้อยจากเพดาน บนผนังติดใบปิดของ ภาพยนตร์เก่าๆ ทนายป๊อปปีก้ า� ลังอ่านหนังสือพิมพ์อยูบ่ นเก้าอีส้ ฟี า้ พอเงยหน้าขึน้ ก็ เห็นปิเอโตร ที่ท้ายบาร์มีภาพขาวด�าของอนิตา เอ็กเบิร์กในน�้าพุเทรวี ส่วนอีกด้าน มีแฟร์นันโดกับแม่ของเขา ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีกลิ่นสเปรย์ฉีดผมติดตัว ขาเรียวเล็กโผล่ออกมาจากกระโปรงบาน ขาคูน่ นั้ บิดทันทีทเี่ ธอเห็นปิเอโตรเดินเข้า มา “นึกไม่ถึงจริงๆ” เธอเดินเข้าไปหาเขา ผมดัดล้อมกรอบใบหน้าเหี่ยวย่น “เชิญ นั่งสิ” เธอชี้ไปที่เก้าอี้ตัวข้างๆ “ในที่สุดผมก็กล่อมคุณส�าเร็จสินะ ปิเอโตร” ทนายปิดหนังสือพิมพ์แล้ว กระแอม “ยินดีตอ้ นรับครับ ผมในนามผูจ้ ดั การคอนโด ขอแนะน�าอย่างเป็นทางการ ให้คุณรู้จักกับแฟร์นันโดกับแม่ เปาลาผู้ทรงเสน่ห์ ชั้นสาม ประตูไม้เชอร์รี่ติดกับ บ้านมาร์ตินี” แฟร์นันโดอยู่ข้างหน้าพวกเขา หันหลังให้ หมวกเบเร่ต์ผ้าสักหลาดแนบ ศีรษะ ศอกทั้งสองข้างเท้าโต๊ะซึ่งมีถ้วยเปล่าวางอยู่ใบหนึ่ง เขาก�าลังจ้องมองหญิง สาวผมด�าขลับหลังเคาน์เตอร์บาร์ ปิเอโตรทักทายเขา หนุ่มเพี้ยนตอบอือๆ เขา เจอแฟร์นนั โดครัง้ แรกวันทีม่ าถึง ชายหนุม่ จับกระโปรงแม่แน่น บอกว่า ผมไม่อยาก ไปท�างาน ผมอยากอยูก่ บั แม่ แฟร์นนั โดสวมแว่นตาเล็กๆ ทีป่ ลายจมูก อายุยสี่ บิ ปี แต่อาจจะเป็นแปดสิบปีก็ได้ “แฟร์นันโด สวัสดีปิเอโตรสิ” ผู้เป็นแม่เขย่าไหล่เขา เขาปัดมือแม่ออก “เขาก�าลังมีความรักน่ะ แต่ไม่ยอมสารภาพรักเสียที” ทนายป๊อปปี้เอามือ ถูกัน “ปิเอโตรคนดีของผม ขอผมเลี้ยงคัปปุชชีโนโรยอบเชยคุณหน่อยนะ” “ขอเป็นกาแฟ ขอบคุณครับ” “ของอร่อยของที่นี่คือคัปปุชชีโนใส่อบเชย อลิเชท�าไม่เหมือนใคร คุณสั่ง 12
MARCO MISSIROLI
เถอะน่า นะ” “คุณทนายคะ พอทีเถอะค่ะ” แม่ของแฟร์นันโดหมุนสร้อยมุกที่คอ “อยู่กับ เราสบายดีมั้ย ปิเอโตร คุ้นที่คุ้นทางหรือยัง” ปิเอโตรพยักหน้า อลิเชเดินมาทางพวกเขา เธอไว้ผมหน้าม้า กระดุมเสื้อ เม็ดบนสองเม็ดไม่ได้กลัด เธอยิ้มให้ปิเอโตร “จะรับอะไรดีคะ” ทนายเอาศอกกระทุ้งเขา “คัปปุชชีโนครับ” ปิเอโตรตอบ แฟร์นันโดยืดคอ หน้าเขากว้าง แก้มซึ่งโกนเคราเรียบร้อยแดงเรื่อ “คัปปุชชีโน แล้วไม่เอาอะไรอย่างอื่นด้วยเหรอคะ” “เอาครับ” ทนายตอบแทน “บนคัปปุชชีโนของปิเอโตรเพื่อนผม คุณช่วย โรยอบเชย...” เขาพูดเสียงดังขึ้น “เป็นรูปหัวใจแบบที่มีแต่คุณเท่านั้นที่ท�าเป็น ได้ไหม อลิเช” เปาลาหันไปหาลูกชาย แฟร์นันโดยืดตัวตรงรอฟัง นั่งเอียงไปเอียงมาอยู่ บนเก้าอี้ พูดอะไรงึมง�าฟังไม่ออก หน้าละห้อย ผูเ้ ป็นแม่ลบู หน้าเขา “แม่จะพากลับบ้านนะ แฟร์นนั โดน้อย” เธอลูบอีกครัง้ “แม่จะพากลับบ้าน” ทนายเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ “เขาคิดว่าอลิเชท�ารูปหัวใจบนฟองคัปปุชชีโนให้เขาคนเดียวเท่านั้น” เปาลาหันกลับมาที่โต๊ะ “ครั้งนี้คุณต้องชดใช้ให้ฉันนะ ป๊อปปี้ คุณใจร้าย ใจร้าย” ทนายขยิบตาให้เธอ แล้วลุกขึ้นยืน วางแบงก์สองใบไว้ใต้จาน จูบต้นคอ แฟร์นันโด แล้วออกจากร้านไป “เขาท�าอย่างนี้ แต่เขาจิตใจดี” เปาลาพูดพลางหมุนแหวนแต่งงานที่นิ้ว ไปมา “เพราะเขาช่วย เราถึงได้...” เธอพูดเบาๆ “...ค่าชดเชย” ปิเอโตรเลิกคิ้ว “จันฟรังโค สามีของฉันเสียชีวิตไปห้าปีแล้ว รู้สึกเหมือนนานแสนนาน เขา ส�ำนึกของช้ำง
13
ท�างานอยู่กับแร่ใยหินทั้งชีวิต ถ้าไม่ได้ป๊อปปี้ เราก็คงไม่ได้เห็นเงินสักสตางค์แดง เดียว” เธอถอนหายใจ “ฉันกับเขาเป็นม่ายด้วยกันทั้งคู่” ปิเอโตรมองหน้าเธอ “คุณคงจะสังเกตเห็นว่ามีชื่อสองชื่ออยู่ที่ช่องจดหมายของทนาย ดานีเอเล เขาคนนั้นชื่อดานีเอเล ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิต...” เธอพยักหน้าอยู่คนเดียว “ฉันเหลือลูกชาย ส่วนเขาเหลือคอนโดมิเนียม เพราะอย่างนีเ้ ขาถึงได้เป็นห่วงเป็น ใยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้...” เธอเว้นจังหวะ “...ฉันไม่อยากโดนหาว่า ขี้นินทา” “คุณจะไม่โดนหาว่าขี้นินทาหรอกครับ” อลิเชเสิร์ฟคัปปุชชีโนให้เขา ตรงกลางฟองมีอบเชยรูปหัวใจ บนจานมีคุกกี้ เนยหนึ่งชิ้น ปิเอโตรยกถ้วยไปวางบนโต๊ะของแฟร์นันโด หนุ่มเพี้ยนดื่มทันที เปาลาจึงพูดขึ้นว่า “ลูกก็รู้ว่านมร้อนลูกดื่มแล้วไม่ดี พอได้แล้ว” เธอพูดเบาลง “ฉันมักดูทีวีในครัว ฉันกับสามีติดนิสัยนี้ แย่หน่อยว่า ห้องครัวอยู่ติดกับห้องท�างานของหมอมาร์ตินี และผนังก็พูดได้ สถานการณ์ใน ครอบครัวนั้นไม่ค่อยจะดี” “ผมรู้มาว่า เขาเพิ่งสูญเสียแม่ไป” เปาลาแตะมือเขา “สถานการณ์ในครอบครัวนั้นไม่ค่อยจะดี” เธอส่ายหน้า แล้วหยุดชะงัก สูดจมูก สูดอีกครั้ง “คุณได้กลิ่นนั่นไหม” เป็นกลิ่นของเน่า ลอยมาเป็นช่วงๆ และกลบกลิ่นครีม เธอเข้าไปใกล้ๆ ลูกชาย “แฟร์นันโด ลุกขึ้น” แฟร์นันโดก�าลังเท้าคางมองอลิเชท�าความสะอาดเครื่องท�ากาแฟ เขาตอบ ว่าไม่ แล้วดื่มคัปปุชชีโนอึกสุดท้าย “แฟร์นันโด ลุกขึ้นซิ” เธอก้มลงหาเขา “นมร้อนลูกดื่มแล้วไม่ดี แม่บอกไม่ เคยฟังเลย” เธอดึงเขา ช่วยเขาลุกขึ้น “ไปนะ คนดี กลับบ้านกัน” แฟร์นันโดถอดแว่นตา สายคล้องแว่นลากมันแกว่งไปมาอยู่บนหน้าอกเขา เขาก้มมองต�่า เดินเหมือนนกเพนกวิน สวัสดี อลิเช เขาพูด แล้วเดินเฉียดไป 14
MARCO MISSIROLI
ปิเอโตรสังเกตเห็นในตอนนั้นเองว่า มีรอยเปื้อนเป็นวงด�าๆ อยู่บนกางเกงของเขา กลิ่นเหม็นแรงจนสุดทน เปาลากางเสื้อคลุมลายก้างปลาของเธอบังขี้ลูกชาย แม่มดพูดว่า แมวตายแล้ววิญญาณไปอยูไ่ หนเหรอคะ คุณพ่อ บอกฉันทีวา่ วิญญาณ ของมันไปไหน เธอห่อไหล่ พูดเบาจนแทบไม่ได้ยิน “มานีเ่ ถอะ” บาทหลวงหนุม่ พูด พยุงเธอลุกขึน้ ท่ามกลางผูค้ น พาเธอเข้าไป ในโบสถ์ แล้วรีบไปหาน�า้ ยาฆ่าเชื้อ ครั้นกลับมาก็ล้างแผลถลอกให้เธอ เธอเอามือ บีบจมูกเพราะแสบแผล เธอสวยเหมือนเมื่อปีกลายและปีก่อนโน้น ที่นิ้วมีแหวน เพิ่มมาหนึ่งวง อะไรบางอย่างในดวงตาลดน้อยลง “แมวของคุณพ่อตายแล้ว และฉันก็เป็นแม่มดเพราะฉันฆ่ามัน” ริมฝีปาก อวบอิ่มของเธอสั่น มือข้างหนึ่งกดท้อง “เจ็บเหรอ” “ฉันจะตกนรก” เขากดส�าลีไว้ที่หัวเข่าเธอทั้งที่ไม่จ�าเป็นแล้ว เงยหน้าขึ้นมองหน้าอกซึ่งดัน ชุดจนตึง “เธอชื่อเชเลสเต ใช่ไหม” “ฉันอยากล้างบาปนี้ค่ะ คุณพ่อ” “เธอไม่เห็นแมว” “ฉันอยากสารภาพบาป ในห้องสารภาพบาปนะคะ” แม่มดลุกขึน้ และก่อน จะเข้าไป เธอหมุนตัวหนึ่งรอบ หยิบหมากฝรั่งออกจากปาก “ถ้าฉันพูดโดยมีเจ้านี่ อยู่ในปาก พระเจ้าจะโกรธมั้ยคะ”
ส�ำนึกของช้ำง
15
3 ปิเอโตรอยู่ที่บาร์ต่อ สั่งช็อกโกแลตหนึ่งถ้วย และปล่อยให้มันเย็น
เพือ่ ให้ผวิ หน้าจับตัวเป็นแผ่นบางรสขม เขาใช้ชอ้ นตักมันออก แล้วจุ่มคุกกี้เนยที่ อลิเชยกมาให้ต่างหากอีกสองชิ้นลงไป ดื่มจนหมดทั้งสองชิ้น และขณะดื่มก็มอง คอนโดมิเนียมผ่านผนังกระจก ครอบครัวมาร์ตินียังไม่กลับ เขาไปจ่ายเงินทีเ่ คาน์เตอร์ อลิเชทอนเงินให้และพูดว่า ฉันเสียใจเรือ่ งแฟร์นันโดค่ะ ฉันไม่รจู้ ะท�าตัวยังไงกับเขา ปิเอโตรเอาเงินใส่กระเป๋าโดยไม่นบั ก่อน แล้ว ออกจากบาร์ เดินข้ามถนนเข้าไปในลานของคอนโดมิเนียม มองเห็นรูปปั้นแม่พระ ท�าด้วยปูนปลาสเตอร์เด่นชัดอยูใ่ นซอกเถาไอวี่ ทนายป๊อปปีข้ อให้เอาออกจากตรง นั้น แต่ผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมไม่ยอม รูปปั้นอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ช่วงสงคราม โลกครัง้ ทีส่ อง เป็นเครือ่ งหมายแสดงความส�านึกในบุญคุณทีแ่ ม่พระช่วยให้ตกึ หลัง นี้ไม่โดนระเบิดของพวกอังกฤษ ปิเอโตรก้าวขึ้นไปยืนบนขอบอ่างโมเสก แล้วตรวจดูรอบๆ รัศมีพลาสติก หอยทากหายไป เขามองดูที่พื้น หอยทากตกอยู่ใกล้ๆ กระถางต้นไม้ที่ผู้พักอาศัยใน คอนโดมิเนียมให้เขาดูแล เขาจับพวกมันขึน้ ไปวางบนกระถางต้นมะนาวและกระถาง ต้นตะบองเพชรที่ก�าลังออกดอก “ฉันสังหรณ์ใจว่าต้นพุดของฉันคงจะแห้งตายไปแล้ว” ปิเอโตรหันไป วิโอลา มาร์ตินีอยู่ที่ขอบลาน ยืนเขย่งจับผมสีบลอนด์อมน�า้ ผึ้งเล่น รอค�า ตัดสิน “มันแห้งตายแล้วใช่ไหมคะ” “สวัสดีครับ” ผู้ดูแลตึกฝืนยิ้ม “ให้เวลามันอีกสักสองสามอาทิตย์นะครับ แล้วมันก็จะรอด” “คุณนีส่ ร้างปาฏิหาริยน์ ะ” เธอกัดริมฝีปาก แล้วก้าวเข้าไปหาเขา “เป็นไงมัง่ คะ ปิเอโตร” เธอขยิบตาให้เขา เขาได้กลิน่ วานิลลาซึง่ ทุกเย็นจะค้างอยูต่ รงบันได หมอมาร์ตินีอุ้มลูกสาวอยู่ข้างหลัง วางเธอลง เด็กหญิงวิ่งเข้าไปหาต้นพุด 16
MARCO MISSIROLI
ดินสอแท่งหนึ่งซึ่งเป็นไม้กายสิทธิ์โผล่ออกมาจากกระเป๋ากระโปรง เธอดึงมันออก มาเสมือนถอดดาบเล่มเบาจากฝัก แล้วเอาแตะศีรษะของปิเอโตร “หนูท�าให้ผมกลายร่างเป็นอะไรครับ” ผู้ดูแลตึกถาม ซาราหรี่ตาสีดา� แล้วมุดหัวลอดผ่านใบต้นพุด หายเข้าไปโผล่อีกด้านหนึ่ง ของต้นไม้ เธอหัวเราะเห็นฟันหลอ ตาจ้องหอยทากในกระถาง ยืน่ ไม้กายสิทธิอ์ อก ไปที่หนวดของมัน หอยทากหดตัว เด็กหญิงหน้าสลด “มันกลับเข้าไปในเปลือกเพื่อกินอาหารว่างน่ะจ้ะ” หมอมาร์ตินีอุ้มลูกขึ้น เป่าคอเธอขณะที่โทรศัพท์มือถือเริ่มดัง ดูหน้าจอแล้วส่งลูกสาวให้ผู้เป็นแม่ทันที “ฮัลโหล อีกห้านาทีผมจะโทรกลับ ผมบอกว่าอีกห้านาทีผมจะโทรกลับ” วางหู “ใครเหรอคะ” วิโอลาถาม “โรงพยาบาลน่ะ” “คืนนี้ก็จะไปอีกหรือคะ” ต้นไม้บังปิเอโตร ใบหน้าของหมอที่เห็นผ่านใบไม้เป็นส่วนเสี้ยวของเครา บางๆ ก�าลังเคี้ยวหมากฝรั่ง “ไม่ไปหรอก คุณไม่ต้องห่วง” แล้วหันไปพูดกับผู้ดูแล ตึก “มีจดหมายมั้ย” ปิเอโตรเข้าไปในห้องท�างานขณะที่แม่กับลูกออกเดินไปทางบันได เขาค้นดู จดหมาย “มีพัสดุหนึ่งกล่องกับจดหมายลงทะเบียนหนึ่งฉบับครับ ต้องเซ็นชื่อรับ” หมอลงชื่อหวัดๆ “ลูกสาวผมหลงคุณมาก” เขากัดหมากฝรั่งไว้ระหว่างฟัน แล้วดึงกลับไปเคี้ยวต่อ “ถ้าคุณท�าให้เด็กเป็นอย่างนี้ทุกคน ลองแวะไปที่แผนกผม สิ” เขาท�าหน้าเหมือนในรูปที่ถ่ายกับรถเวสป้า เคาะนิ้วระหว่างที่เขี่ยบุหรี่กับวิทยุ ซึ่งผู้ดูแลตึกน�ามาจากชายทะเลด้วย เขาเปิดวิทยุ โทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง มาร์ตินีหมุนปุ่มวิทยุให้เสียงดังขึ้น โทรศัพท์ดังไม่หยุด เขาหยิบขึ้นมา ก่อนตอบ เขาแปะหมากฝรั่งไว้ในที่เขี่ยบุหรี่ “ฮัลโหล” ออกไปจากห้องท�างานของผู้ดูแลตึก “ก็เราตกลงกันแล้วนี่ว่าผมจะเป็นคนโทรกลับ” เว้นช่วง “คืนนี้ผมไปไม่ได้” ผู้ดูแลตึกปิดวิทยุ หมอพูดว่า “ไม่ได้ คืนนี้ผมไปไม่ได้ พรุ่งนี้ผมอยู่เวรกลาง คืนทีโ่ รงพยาบาล จะแวะไปก่อนนะ ราวๆ หนึง่ ทุม่ พรุง่ นี้ ใช่ อย่าโทรมาหาผมอีก ส�ำนึกของช้ำง
17
มันไม่ปลอดภัย บอกว่าไม่ปลอดภัยก็ไม่ปลอดภัยสิ” หมอเป็นเงาแหลมอยู่บนผนัง ตรงประตูทางเข้า เขาเก็บโทรศัพท์ แล้วยืนเอามือปิดตา “สวัสดีนะ ปิเอโตร ผมไปละ” “สวัสดีครับ” ปิเอโตรรอให้เขาขึ้นบันได แล้วเดินไปยังที่เขี่ยบุหรี่ บอกว่า ไม่ปลอดภัยก็ไม่ปลอดภัยสิ เขาแอบหยิบหมากฝรัง่ ของหมอ แล้วเข้าไปในห้องนอน ในกระเป๋าเดินทางมีกล่องไม้ขีดไฟเปล่าอยู่หนึ่งกล่อง เขาแปะหมากฝรั่งไว้ข้างใน ในนั้นเป็นที่เก็บหมากฝรั่งอีกชิ้นหนึ่งซึ่งแข็งเหมือนหิน
18
MARCO MISSIROLI
4 ปิเอโตรรู้ข่าวเรื่องมีคนต้องการผู้ดูแลตึกที่มิลานจากจดหมาย
ติดแสตมป์รูปเอมิลีโอ ซัลการี บ่ายธรรมดาๆ วันหนึ่ง บุรุษไปรษณีย์น�าไปส่งยัง ที่อยู่เก่าของเขา ซึ่งเป็นโบสถ์สมัยศตวรรษที่สิบแปดบนจัตุรัสแห่งหนึ่งของเมือง ริมินี โดยฝากไว้ กับหญิงรับใช้บาทหลวง หญิงตัวผอมบาง ตาเหล่ และขาเก ฉันจะเอาไปให้แกเอง “อาย ลัด ดัก เม อา โล” เธอพูด “ดอนปิเอโตรไม่อยู่ที่นี่มาปีหนึ่งแล้ว” จากนั้น ก็เดินไปจนถึงบ้านหลังใหม่ของอดีตบาทหลวง “คุณพ่อคะ” เธอเคาะประตูสามครั้ง “คุณพ่อ” ปิเอโตรเปิดประตู “ไม่ใช่คุณพ่อแล้ว” “ส�าหรับดิฉันใช่ค่ะ” เธอสวมผ้าคลุมไหล่ยืนอยู่ตรงประตู เอาจดหมายไป วางไว้ให้เขาบนเตียงพับได้ในห้องนั่งเล่น จดหมายไม่มีชื่อผู้ส่ง มีแต่ชื่อผู้รับกับที่อยู่เขียนด้วยตัวเขียนเล็กแบบทั่วไป ติดแสตมป์ที่ว่า กระดาษเป็นกระดาษฟางที่มีขุยบางๆ ปิเอโตรเปิดซองที่ด้านสั้น ในซองมีรูปถ่ายหนึ่งใบ กับกระดาษหนึ่งแผ่นพับสามทบ เขาดึงกระดาษออกมา แล้วเริ่มอ่าน เขาหยุดอ่านทันที มีอะไรหรือเปล่าคะ “ตอต เบียน” หญิงรับใช้ถามและเดินไปจนถึงตัวเขา “ตอต เบียน ผู้หญิง คนนั้นใช่ไหมคะ” ปิเอโตรหลับตา เขาอ่านจดหมายในเย็นวันนั้น และอ่านอีกรอบตอนกลางคืน รวมทั้งหมดสองรอบ แต่ดูรูปถ่ายไม่ยอมหยุด หลังจากนั้นเขาท�าตามค�าแนะน�า คือโทรศัพท์หาทนายความคนทีช่ อื่ ป๊อปปี้ และตกลงกับเขาเรือ่ งสัมภาษณ์งานต�าแหน่งผูด้ แู ลตึก เขาไป พบทนายคนดังกล่าวในสัปดาห์ต่อมาที่มิลาน ในคอนโดมิเนียมหรูแต่ไม่มากเกินไป หลังนี้ ครั้นคุยกันเสร็จเขาก็กลับริมินี สามวันต่อมา บนโขดหินริมทะเล เขาได้รู้ว่าตัวเองจะได้เป็นผู้ดูแลตึก ส�ำนึกของช้ำง
19
ทนายเป็นคนแจ้งเขาทางโทรศัพท์ พอป๊อปปี้ได้ยินเสียงนกนางนวล ก็พูดว่า ปิเอโตร คุณต้องบ้าแน่ๆ ที่มาเฝ้าคอนโดมิเนียมที่มิลาน ทนายเปิดเผยให้เขาฟังว่า ทรงผมเรียบร้อย และท่าทางเป็นคนเงียบๆ ของเขาคือตัวตัดสินชี้ขาดในช่วง สัมภาษณ์ ประวัติการท�างานในอาชีพบาทหลวงท�าให้ทุกคนเห็นพ้องต้องกันหมด ยกเว้นเขาคนเดียว แต่เสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายชนะ เขาจะรับงานนี้ไหม ปิเอโตรตอบรับ และก่อนวางหูก็ตกลงกันเรื่องวันเริ่มงาน “ผมสงสัยอยูเ่ รือ่ งหนึง่ ” ทนายกระแอม “ท�าไมคุณถึงหย่ากับพระเจ้าเสียล่ะ” “พระเจ้าคบยากครับ” “เราจะเป็นเพื่อนกันได้ดีมาก ผมกับคุณ อีกสี่วันเจอกันนะ” ปิเอโตรเก็บโทรศัพท์ แล้วล้วงจดหมายกระดาษฟางออกมา เขาก�ามันแน่น เสียจนแสตมป์รูปซัลการียับ หลังจากนั้นเขาผ่านไปทางโบสถ์ที่เคยเป็นของเขามา เกือบทั้งชีวิต ชายชราสองคนบนบันไดหน้าโบสถ์ทักทายเขา เขาเดินต่อไปโดยไม่ หันไปมองผนังของสิ่งก่อสร้างนั้น ซึ่งเขาแลกกับที่พักขนาดกระจ้อยร่อยแถว ชานเมือง ทั้งหมดมีสามห้อง เท่ากับจ�านวนกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเขาจะขนไปมิลาน ด้วย ได้แก่กระเป๋าผ้าสองใบ และกระเป๋าเดินทางใส่กล่องหลายใบ เย็นวันออกเดินทาง เขาทิ้งของอย่างอื่นไว้หมด ซึ่งมีหนังสือบนชั้น และ กล่องวัตถุมงคล เขาวางกระเป๋าเดินทางบนแฮนด์จักรยานเบียงคี แล้วไปสถานี รถไฟ รถไฟมาตรงเวลา เขาซื้อตั๋วแล้วโทรศัพท์ “ผมจะไปถึงเย็นนี้นะ อนิตา พวก เขารับผมเข้าท�างาน ขอโทษด้วยที่บอกคุณกะทันหัน”
20
MARCO MISSIROLI
5 ในสมุดที่เขาบันทึกสิ่งที่ต้องไม่ลืม ผู้ดูแลตึกเขียนว่า หมอมาร์ตินี
ราวหนึ่งทุ่มพรุ่งนี้ แล้วไปโรงพยาบาล ไม่ปลอดภัย เขาปิดสมุดทันใด แล้วไปที่ โทรศัพท์บนชั้นติดผนังในห้องท�างาน กดหมายเลขเดียวที่จา� ได้ขึ้นใจ “อนิตา ผม ไปถึงช้าหน่อยนะ” เขาวางสาย แล้วกลับเข้าที่พัก กระเป๋าผ้าใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะในครัว เขา เอาของที่เหลืออยู่ในนั้นออก ที่ก้นกระเป๋ามีเกมปริศนาอักษรไขว้กับเสื้อยืดชั้นใน ม้วนเป็นก้อนๆ เขาโยนของทั้งหมดใส่ตู้เสื้อผ้า ในตู้นั้นมีแต่เสื้อไหมพรมสองตัวกับ รองเท้าเก่าๆ เขาปลดชุดสูทชุดเดียวที่มีออกจากไม้แขวนเสื้อ เป็นสูทสีด�ากับเสื้อ เชิ้ตสีขาว กระดุมท�าด้วยไข่มุก กางเกงไม่พับปลาย รองเท้าคู่ดีเขาเก็บไว้ในถุง พลาสติกใต้เตียง เขาดึงมันออกมา แล้วค้นตู้ลิ้นชัก เนกไทเส้นเล็กๆ วางเบียดกับ ซองจุกอุดหู เขาลูบเนกไทบนฝ่ามือให้เรียบ จากนั้นจึงรีบแต่งตัว จูงเบียงคีออก ไป ครั้นไปอยู่นอกคอนโดมิเนียมก็เห็นรถออฟโรดสีน�้าเงินอมเขียวคันหนึ่งจอดอยู่ บนบาทวิถี “อ้อ สวัสดี ปิเอโตร” ทนายป๊อปปี้ยืนพิงประตูรถอยู่ข้างๆ ผู้ชายผอม บางคนหนึ่ง “ขอแนะน�าให้คุณรู้จักกับริกคาร์โด ลีซี นักรังสีเทคนิค เพื่อนสนิทของ ครอบครัวมาร์ตินี” ทั้งสองคนผละจากรถ ปิเอโตรจึงสังเกตเห็นว่าประตูรถมีรอยข่วนและรอย บุบใหญ่ๆ สองจุด “เรารูจ้ กั กันแล้วครับ” นักรังสีเทคนิคสวมเสือ้ คลุมกันฝนไม่กลัดกระดุม ยืน่ มือให้ผู้ดูแลตึกจับ “เราเจอกันวันที่คุณมาถึง กระเป๋าสามใบกับเจ้าเบียงคีนั่น ถูก ไหม” เขาชี้ไปที่จักรยาน แล้วปัดผมออกจากหน้า นัยน์ตาเขาสีเทา “ถูกครับ คุณลีซี” “เรียกริกคาร์โดเถอะ คุณลีซีฟังดูแก่ คุณมีกุญแจล็อกมันไหมล่ะ” “มันเก่าจวนพังแล้วครับ” “ที่มิลานคนขโมยเบียงคีกันนะ ขอดูหน่อยซิ” ริกคาร์โดจับจักรยาน แล้ว ส�ำนึกของช้ำง
21
ขึ้นขี่ ก้มตัวลงเหนือแฮนด์ราวกับว่ามันก�าลังแล่น “แบบนี้เขาไม่ผลิตแล้ว ผมก็มี คันหนึ่งเหมือนกัน แต่เปราะบางมาก” “แล้วคุณขี่มันมั้ยครับ” “เคยขี่กับพ่อมาร์ตินีคนไม่เอาไหนนั่น ต่อมาเขาเลิก ผมปั่นคนเดียว มัน เซ็งๆ” “คุณสองคนไปขี่ด้วยกันก็ได้นี่” ทนายอ้าแขน “ได้เลย” ริกคาร์โดคืนจักรยานให้ปิเอโตร “แต่คุณต้องใจเย็นๆ หน่อยนะ ขาผมไม่ดีแล้ว” เขาเดินไปขึ้นบันได ริกคาร์โดทิง้ กลิน่ โลชัน่ หลังโกนหนวดไว้ เป็นกลิน่ หวานเอียน ผสมกับหมอก ควัน “พักหลังๆ ผมเห็นเขามาบ่อย” ปิเอโตรพูด “พักหลังๆ คุณเห็นเขามาบ่อย จริงสิ” ป๊อปปีเ้ ลิกคิว้ “เรียกว่าเขาเป็นคนใน ครอบครัวก็แล้วกัน เป็นเพือ่ นร่วมมหาวิทยาลัยกับหมอมาร์ตนิ ี และตอนนีก้ ท็ า� งาน อยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน และส�าหรับแม่หนูน้อยเขาเป็น ‘ลุง’” ทนายพินิจ พิจารณาผู้ดูแลตึก “ต้องยอมรับว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวท�าให้คุณดูเด่นขึ้นนะ ปิเอโตร” เขาจัดเนกไทให้ แล้วเปิดประตูใหญ่ “เธอผู้โชคดีคืนนี้ชื่ออะไรหรือ” ปิเอโตรก�าลังจะออกเดิน “อย่าเล่นตัวน่า เธอผู้โชคดีชื่ออะไร” “อนิตา” “ผมนึกว่าจะเป็นมาเรีย มัดดาเลนา เสียอีก ดีใจด้วยนะ คีบตุ เซอร์ คืนนี้ พระเจ้าคงจะอิจฉาคุณ” ผู้ดูแลตึกยืนนิ่งอยู่ตรงประตูบ้าน อนิตาพูดกับเขาว่า “สีหน้าคุณเหมือนตอนที่ เพิ่งมาถึงมิลาน” เธอดึงตัวเขาเข้าไปข้างใน “ไหนบอกมาซิ คุณมีเรื่องไม่สบายใจ ใช่ไหม” ปิเอโตรยืนพิงตูเ้ ย็นเครือ่ งใหม่ ประตูตเู้ ย็นมีสตู รอาหารแปะเต็มไปหมดแล้ว เธอลูบรอยย่นสองรอยบริเวณปาก “ถ้ามีรอยย่นตรงนี.้ ..” ลูบร่องทีห่ น้าผาก “แล้ว 22
MARCO MISSIROLI
ก็ตรงนี้...” จบที่ผิวเป็นริ้วตรงคาง “แล้วก็ตรงนี้อีก... แสดงว่ามีอะไรสักอย่างเกิด ขึ้น” เธอช่วยเขาถอดเสื้อแจ๊กเก็ต แล้วไปดูหม้อบนเตาไฟ “รู้จักคุณมานานขนาด นี้ คงจะมีความหมายอะไรบ้างละนะ” ปิเอโตรหันไปทางหน้าต่าง ซึ่งอยู่ด้านลานของตึกซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียง แถวดอกพิทูเนียย้อยลงจากราวลูกกรงของระเบียง มองเห็นเบียงคี “ขอโทษนะที่ ผมมาช้า” เขานั่งลง และเพิ่งสังเกตเห็นในตอนนั้นเองว่าอนิตาแตกต่างจากปกติ “คุณมีเรื่องไม่สบายใจ” ริมฝีปากของเธอมันวาว มีไข่มุกสองเม็ดที่ติ่งหู ผมเพิ่งย้อมสีทองแดงอ่อน ชุดกระโปรงโอบรอบสะโพกกว้าง อ�าพรางด้วยผ้าคลุมไหล่ผืนกว้างที่ทิ้งตัวลงมา “คุณสวย” ปิเอโตรบอกเธอ แล้วจ้องมองรูปถ่ายใบเก่าของเธอบนผนังซึ่ง ถ่ายบนสะพานปลาที่ริมินี เธอจับผมไว้ไม่ให้มันปลิว และเธอก็มีความสุข อนิตาก้มหน้า “เมื่อเช้านี้ฉันแวะไปหาคุณ” ใช้ทัพพีไม้ตักซอสเนื้อจากหม้อ นิดหน่อย ซอสตั้งบนไฟอ่อนแต่ก็ร้อนจัด เธอเป่าอยู่นานให้มันเย็น แล้วชิม “คอนโดมิเนียมหลังนั้นเป็นของคนรวยเขาอยู่กัน แต่ฉันไม่เห็นหมอคนนั้น” “ถ้าเป็นเวลานั้นเขาออกไปข้างนอกแล้ว” “ฉันเห็นผู้หญิงผมสีอ่อนคนหนึ่งกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ” “ภรรยากับลูกสาวของเขา” ถ้าให้ฉันเดานะ หมอคงจะหน้าตาดีมาก “เซ เตนต์ อุม ดา เตนต์ เอ ดูตอร์ และ ปรอปริ อุน เบลอม ” เธอลูบ นิ้วตัวเองซึ่งไม่สวมแหวน “คุณได้คุยกับเขาหรือยัง” ปิเอโตรลุกพรวดขึ้น บนตู้ถ้วยชามมีโถแก้วใบหนึ่ง อนิตาใช้เป็นที่ใส่กระดุม หลากสีกบั ไพ่หลายส�ารับ เขาเลือกหยิบไพ่ชดุ บริสโกลาออกมา ขอบไพ่เยิน รูปภาพ ก็สีซีดจาง เขาสับไพ่ “วันนี้ผมใช้กุญแจของผมเข้าไปในที่พักของเขา” “ตอนไหน” “บ่ายวันนี้” เธอเลื่อนจาน ส้อมและมีด “พระเจ้าช่วย แล้วเป็นไงบ้าง” “ผมเห็นรูปถ่ายใบหนึ่ง” ปิเอโตรสับไพ่และพูดเบาๆ “ตอนเด็กๆ เขาชอบ ส�ำนึกของช้ำง
23
เวสป้า” เขาสับไพ่ต่อ “แล้วผมก็ต้องออกมา” อนิตาฉวยไพ่ไปจากมือเขา แล้วให้เขาตัด จากนั้นเธอเปิดไพ่เป็นคู่ๆ สาม ถ้วยกับหกเหรียญ คิงกับเอซถ้วย “ไพ่บอกว่า คุณจะกลับเข้าไปอีก คุณจะกลับ เข้าไปในบ้านของเขา เพราะเขาจะต้องการความช่วยเหลือจากคุณ” ปิเอโตรเหลือบมองข้ามไหล่เธอ เอซถ้วยคือใบแรกที่เธอหยิบออกมา เขา สวมกอดอนิตาเหมือนที่สวมกอดเธอตอนลงจากรถไฟสายริมินี-มิลาน ซึ่งเป็นวันที่ ทัง้ คูเ่ จอกันอีกครัง้ หลังจากเวลาผ่านไปสิบปี เธอพาเขามาบ้านของเธอ ซึง่ เป็นห้อง ชุดสองห้องอยูส่ บายในตึกโทรมๆ หลังหนึง่ ทางเหนือของเมือง เขานอนทีน่ นั่ ตลอด สี่คืนก่อนไปเป็นผู้ดูแลตึก และคืนอื่นๆ หลังจากนั้น อนิตาเป่าหูของเขาเบาๆ แล้วคลายเนกไทให้ เขาซุกจมูกเข้าไปในผมเธอ
24
MARCO MISSIROLI
เกี่ยวกับผู้เขียน มำร์โค มิสซีรอลี (Marco Missiroli) เกิดปี ค.ศ.1981 ที่เมืองริมินี ซึ่ง เป็นเมืองชายทะเลของอิตาลีบนฝัง่ ทะเลเอเดรียติก จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขา Communication sciences จากมหาวิทยาลัยแห่งเมืองโบโลญญา นวนิยายเรื่องแรกตีพิมพ์ปี ค.ศ.2005 ได้รับรางวัลคัมปีเอลโล สาขางาน ประพันธ์เล่มแรก (Premio Campiello opera prima) เรื่อง Il senso dell’elefante (ส�านึกของช้าง) ตีพมิ พ์ครัง้ แรกปี ค.ศ.2012 เป็นหนึง่ ในห้าเล่มทีไ่ ด้รบั รางวัล คัดสรรของคัมปีเอลโล (Premio Campiello - Selezione Giuria dei Letterati) ประจ�าปี ค.ศ.2012 และรางวัลอื่นอีก 3 รางวัล ปัจจุบันมิสซีรอลีอาศัยอยู่เมืองมิลาน เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาการเขียน สร้างสรรค์ และเป็นนักเขียนประจ�าคอลัมน์วรรณกรรมของหนังสือพิมพ์ Corriere della Sera
เกี่ยวกับผู้แปล นันธวรรณ์ ชำญประเสริฐ เกิดปี พ.ศ.2513 จบการศึกษาระดับปริญญา ตรีจากคณะอักษรศาสตร์ (ภาษาอิตาเลียน) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากงานแปลวรรณกรรมเยาวชนกว่า 20 เล่มแล้ว ผลงานแปลอีกส่วน หนึง่ คือ ค�ายืนยันของเปเรย์รา (มติชน, 2555) หัวทีห่ ายไปของดามัชเซนู มงเตย์รู (มติชน, 2556) หยามเหยียด (ไลต์เฮาส์, 2557) อย่าไปไหน (ก�ามะหยี่, 2557) หากค�า่ คืนหนึ่งในฤดูหนาว นักเดินทางคนหนึ่ง (บทจร, 2558) ตัวละครทั้งหกตาม หานักประพันธ์ (อ่านอิตาลี, 2558) มาร์โควัลโด (บทจร, 2559) เพลงรัตติกาลใน อินเดีย (อ่านอิตาลี, 2559) แว่นตากรอบทอง (อ่านอิตาลี, 2560) อาศัยอยู่ประเทศอิตาลีตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 – ปัจจุบัน
ผลงำนของผู้เขียนคนเดียวกันที่เรำตั้งใจจะน�ำเสนอ เป็นล�ำดับต่อไป Atti osceni in luogo privato เรื่องราวการเติบโต วุฒิภาวะ สติปัญญา ความรัก ความหลงใหล และ ความตาย เล่าเรือ่ งการก้าวเปลีย่ นวัยทีผ่ สมผสานความหวานหอม ความย้อนแย้ง ความทุกข์ตรม และเพศวิสัย ฉากหลังทรงเสน่ห์ ปารีส มิลาน และนิวยอร์ก หนังสือส�าหรับคนรักหนังสือ ที่จะท�าให้คุณรู้สึกดีที่เป็นนักอ่าน นวนิยาย ซือ่ ตรงจริงใจแต่ไม่ขาดความโรแมนติก มีพระเอกซึง่ ผูช้ ายอ่านแล้วอดนึกถึงตัวเอง ไม่ได้ และผู้หญิงทั้งหลายอ่านแล้วจะตกหลุมรักอย่างแน่นอน
ไม่ควรพลำด! หำกคุณสนใจผลงำนนิยำยร่วมสมัยจำกนักเขียนอิตำลี อย่ำไปไหน Non ti muovere Margaret Mazzantini เขียน นันธวรรณ์ ชำญประเสริฐ แปล หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อผู้หญิงสามคน คนแรกเขารักด้วยสมองเพราะเธอสมบูรณ์แบบในสายตาของสังคม คนทีส่ องเขารัก ด้วยสัญชาตญาณแห่งการสืบเลือดเนือ้ เชือ้ ไข คนทีส่ ามเขารักด้วยความปรารถนา ของกายาแม้ว่าหัวใจจะหยามหมิ่น Strega Prize 2002 และ Grinzane Cavour Prize 2002 พ่อรู้ดีว่าพ่อหลอกตัวเองว่าอะไร ท่ามกลางเม็ดเล็กๆ ในพื้นกระเบื้องซึ่ง ก�าลังเคลื่อนไหวเชื่องช้าดังเขม่าประหนึ่งเงาใกล้ตายนั้น พ่อหลอกตัวเองว่าบน เก้าอีว้ า่ งเปล่าตัวนัน้ จะมีผหู้ ญิงคนหนึง่ มาอยูแ่ ม้เพียงชัว่ ขณะ ไม่ใช่รา่ งกายของเธอ นะไม่ใช่ แต่เป็นความเมตตาของเธอ พ่อมองเห็นรองเท้าคัทชูสีไวน์สองข้าง ขาไม่ สวมถุงน่อง หน้าผากกว้าง แล้วเธอคนนั้นก็มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าพ่อ เพื่อจะ ตอกย�า้ ว่าพ่อเป็นคนเทีย่ วป้ายเชือ้ โรคระบาด เป็นผูช้ ายทีแ่ ต้มหน้าผากคนทีเ่ ขารัก อย่างเลินเล่อ ลูกไม่รู้จักเธอ เธอผ่านเข้ามาในชีวิตของพ่อตอนที่ลูกยังไม่เกิด เธอ เพียงผ่านเข้ามา กระนั้นก็ได้ทิ้งร่องรอยฟอสซิลไว้ พ่ออยากจะไปหาลูก อันเจลา ไปหาลูกในห้วงแห่งสายท่อนั้นที่มีลูกนอนอยู่ ที่มีเครื่องเจาะกะโหลกเตรียมจะเปิด หัวของลูกเพื่อเล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ให้ลูกฟัง
หากพบหนังสือที่มีข้อผิดพลาดหรือไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษหายหรือสลับกัน โปรดแจ้งมาที่ gammemagie@gammemagie.com เพื่อเปลี่ยนเล่มใหม่