ทดลองอ่าน - แทบหัตถ์เทวี - จินตวีร์ วิวัธน์

Page 1


ฆาตกรรมหฤโหด

ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์เช้าวันนั้น มีใจความคล้ายคลึงกัน เป็นส่วนใหญ่ว่า “ศาสตราจารย์ถูกฆ่าสยองลึกลับ” “ฆ่าโหดผู้เชี่ยวชาญโบราณคดี” “ศาสตราจารย์ถูกสังหารดับอนาถ คดีมืดมนยิ่ง” เนื้อหาของข่าวค่อนข้างตรงกันทุกฉบับ เว้นแต่รายละเอียดปลีก ย่อยเท่านั้นที่แตกต่างออกไป ตามแต่ใครจะหาข่าวได้ละเอียดมากน้อย กว่ากัน ใจความส�ำคัญก็คือ นายกุศล สุศีลาวงษ์ ศาสตราจารย์วิชา โบราณคดีคนส�ำคัญถูกคนร้ายลอบสังหาร ด้วยวิธีบีบคอจนตายคาที่ใน ห้องท�ำงานกลางดึกคืนที่แล้ว ลักษณะของศพเป็นที่น่าสลดสังเวชแก่ผู้ พบเห็น ยังความโศกสลดแก่ญาติมิตร และลูกศิษย์ลูกหาซึ่งมีอยู่เป็น จ�ำนวนมากนั้นยิ่งนัก ศริ น ทร์ สุ ศี ล าวงษ์ หลานชายซึ่ ง เป็ น ทายาทคนเดี ย วของ ศาสตราจารย์ผู้ล่วงลับ เบือนหน้าอันหม่นหมองอิดโรยมามองดูบุรุษผู้นั่ง อยู่ตรงหน้าอย่างเซื่องซึม “ทั้งหมดก็มีอยู่ในข่าวพวกนั้นแหละวะ ไอ้ม”ุ เขาชี้ไปทางกองหนังสือพิมพ์ที่สุมกันอยู่บนโต๊ะ แทบหัตถ์เทวี

7


“เอ็งอ่านดูก็รู้รายละเอียดดีเท่าๆ กับข้าน่ะแหละ อย่าซักให้มาก เลย ข้าก�ำลังมึนคิดอะไรไม่ออก” มุรธา มัณฑโนปกรณ์ เหลือบปราดไปตามข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ ฉบับที่อยู่ใกล้ตวั แล้วเงยขึ้น มองเพื่อนเกลออย่างเห็นใจ “ข้าอ่านหมดแล้ว อยากรูแ้ ต่ว่าเป็นความจริงตามข่าวแน่หรือวะ?” “แน่! คืนนัน้ คุณลุงอยูบ่ า้ นคนเดียว ข้าไปค้างสระบุรี พอรุง่ ขึน้ คนใช้ เห็นท่านตื่นสายผิดปรกติก็เข้าไปเรียกถึงได้รู้เรื่อง” “ไม่มีวี่แววคนร้ายหรืออะไรบ้างเลยหรือวะ?” “ไม่มี” ศรินทร์ส่ายหน้าอันเศร้าซึมไปมา “ห้องปิดประตูหน้าต่างมิดชิดหมด ไม่มรี อ่ งรอยงัดแงะหรือรอยมือ รอยเท้าใครแปลกปลอมเข้าไปเลย ต�ำรวจก็เลยพากันปวดกบาลไปตามๆ กัน” “แต่เขาก็ลงความเห็นว่า เป็นฆาตกรรมใช่ไหมวะ?” “ถ้าไม่ใช่ฆาตกรรม ริว้ รอยทีค่ อกับลักษณะศพของคุณลุงคงไม่เป็น อย่างที่เห็นอยู่นี่หรอก ต�ำรวจลงความเห็นว่าท่านถูกบีบคอด้วยมือที่มี ก�ำลังแรงมาก แต่เป็นมือขนาดเล็กเหมือนมือผู้หญิง!” “มือผู้หญิง?” มุรธาทวนค�ำด้วยสีหน้าฉงน “เออ ต�ำรวจเขาว่ายังงั้น...แล้วก็มุ่งประเด็นสอบสวนไปทางเรื่อง ชู้สาว ซึง่ ข้าคิดว่าไม่ใช่แน่ คุณลุงไม่เคยมีเรือ่ งวอแวกับผู้หญิงอืน่ เลยหลัง จากคุณป้าตายไปเมื่อห้าปีก่อน ท่านรักของท่านอยู่อย่างเดียวคือของ เก่าแก่ท่ขี ุดมาได้จากกรุต่างๆ เท่านั้น” มุรธานิง่ ไป เขานึกถึงชายวัยห้าสิบเศษผูก้ ระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว ลุงของศรินทร์เพื่อนรัก และเป็นอาจารย์สอนวิชาโบราณคดีของเขาสมัย 8

จินตวีร์ วิวัธน์


เรียนอยูใ่ นมหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์กศุ ล สุศลี าวงษ์ เป็นนักโบราณคดี มือเยีย่ มคนหนึง่ ความตายของเขานับเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของ วงการนี้ ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จุดบุหรี่สูบพ่นควันโขมง นึกล�ำดับ ภาพของศาสตราจารย์ผลู้ ว่ งลับด้วยความเศร้าสลดใจ แล้วเมือ่ นึกอะไรได้ ดวงตาคมฉาบของเขาก็เป็นประกายขึ้นทันที หันไปมองหน้าเพื่อนเกลอ “อาจารย์เพิ่งกลับจากขุดกรุมาได้ไม่กี่วันใช่ไหมวะรินทร์ ท่านได้ อะไรมาบ้างหรือเปล่า?” ศรินทร์ สุศีลาวงษ์ ยักไหล่ “ก็คงได้โบราณวัตถุเก่าๆ มา ๒-๓ ชิ้นมั้ง ข้าไม่ได้สนใจก็เลย ไม่ค่อยรู้เรื่องนัก” ดวงตาของนักโบราณคดีที่เหลือบมองเพื่อนเกลอมีแววต�ำหนิเล็ก น้อย “เอ็งน่าจะสนใจงานของท่านสักหน่อยนะโว้ยรินทร์ ท่านเป็นนัก โบราณคดีท่ยี ิ่งใหญ่มากคนหนึ่งของเมืองไทย” หลานชายศาสตราจารย์ผู้ล่วงลับถอนใจเบาๆ “ข้าก็สนใจเหมือนกันแหละวะมุ สนว่าท่านมีอะไรจะให้ข้าช่วยได้ บ้างหรือเปล่าเท่านั้น แต่ของเก่าๆ ผุๆ พังๆ ที่ท่านได้มาน่ะ บอกตรงๆ ว่า ข้าไม่คดิ จะดูเลย” “ท่านได้อะไรมา?” เพื่อนเกลอของเขาถามด้วยท่าทางสนใจใคร่รู้ ศรินทร์นิ่งคิดแล้ว ตอบเบาๆ อย่างไม่แน่ใจ “เท่าที่ข้าจ�ำได้ดูเหมือนมีสายสร้อยลูกปัด หม้อแตก แล้วก็ อ้อ...มี หีบอีกใบหนึ่งที่ดูดีกว่าเพื่อน...ก็เท่านั้นแหละว่ะ” “หีบ?” แทบหัตถ์เทวี

9


“เออ หีบแบนๆ ยาวราวฟุตกว่าสลักเสลาสวยเชียว คุณลุงบอกว่า มีคา่ มากแต่ยงั เปิดไม่ออกก็เลยไม่รวู้ า่ มีอะไรอยูข่ า้ งใน ข้าดูแล้วเห็นว่าเป็น ของดีที่สุดในบรรดาโบราณวัตถุที่ท่านขุดได้ในคราวนี้” มุรธานิ่งไป ดวงตาหรีล่ งอย่างครุ่นคิด แล้วจึงพูดขึ้นช้าๆ “ขอดูหน่อยได้ไหมวะ หีบที่ว่านี่น่ะ” ศรินทร์มองหน้าเพื่อน มีแววยิ้มผ่านเข้าไปในดวงตาเหม่อซึมของ เขาเป็นครั้งแรกขณะตอบเบาๆ “เอ็งนี่ ไม่ยอมทิ้งความเป็นนักโบราณคดีเลยนะเว้ย จะดูก็ได้ของ อยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ของคุณลุงโน่น” เจ้าของบ้านหนุ่มลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง เพื่อนนักโบราณคดี ของเขาเดินตามไปติดๆ ผ่านเฉลียงแคบยาวที่แล่นรอบตัวตึกไปยังสุดมุม ปีกตึกทางซ้ายมือ ศรินทร์ควักกุญแจออกไขแล้วผลักบานประตูห้องเปิดออกกว้าง เอื้อมมือเข้าไปข้างในกดสวิตช์ไฟที่ผนังดังแชะ แล้วหันมาทางเพื่อนเกลอ “เอ้า เชิญเสด็จเข้าไปซีวะ” มุรธาเบี่ยงตัวเข้าไปในห้องอันกว้างใหญ่น้นั ภายในมีโบราณวัตถุ ต่างๆ อยู่มากมาย ทัง้ พระพุทธรูปเก่าแก่ทสี่ มบูรณ์ดอี ยู่บ้าง แตกหักช�ำรุด บ้าง เทวรูปต่างๆ ที่มุรธารู้จกั คุ้นเคย ถ้วยโถโอชามบิ่นร้าวซึ่งมีอายุเกิน ๕ ศตวรรษขึ้นไป นอกจากนั้นก็มีเครื่องเรือนโบราณเก่าแก่ เช่นเก้าอี้ไม้ด�ำ ฝังมุก ตั่งทาทองเตี้ยๆ และตู้ลายรดน�้ำตั้งชิดฝาผนังอีก ๒-๓ ตู้ ด้านหนึง่ ของห้องพิพธิ ภัณฑ์ จัดเป็นมุมท�ำงานของเจ้าของบ้าน กัน้ เป็นสัดส่วนด้วยฉากไม้สกั เก่าแก่สลักลวดลายงดงาม ตัง้ โต๊ะท�ำงานขนาด ใหญ่ ๑ ชุดและเก้าอี้ยาว ๑ ตัว ผนังห้องด้านหลังโต๊ะท�ำเป็นชั้นหนังสือ ตัง้ แต่พนื้ สูงขึน้ ไปเกือบจรดเพดาน อัดแน่นขนัดไปด้วยหนังสือต�ำรับต�ำรา ทางโบราณคดีนับเป็นพันๆ เล่ม 10

จินตวีร์ วิวัธน์


ศาสตราจารย์กศุ ลถึงแก่กรรมในห้องนี้เอง! “โน่นไง หีบอยู่บนโต๊ะ” ศรินทร์บอกเพื่อนเกลอพลางก้าวสวบๆ ตรงไปยังโต๊ะท�ำงาน บนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ มีสิ่งของวางสุมอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ต�ำรา ภาษาอังกฤษหนาปึก ๓-๔ เล่มวางทับอยู่บนแผ่นกระดาษเก่าคร�ำ่ คร่า ลักษณะเหมือนแผนทีข่ องอะไรบางอย่าง แจกันไม้สกั ทรงกระบอกเตีย้ น�ำ มาใช้เป็นทีใ่ ส่ดนิ สอทีเ่ หลาไว้เกินโหลตัง้ อยูห่ มิน่ ๆ ริมโต๊ะใกล้กบั เครือ่ งรับ โทรศัพท์ สิ่งที่สะดุดตาของมุรธามากที่สุด วางเด่นอยู่ก่งึ กลางโต๊ะพอดี เขาปราดเข้าไปโดยเร็ว ก้มลงพิจารณาดูอย่างสนใจโดยไม่แตะต้อง มันเลย เป็นหีบแบนยาวราว ๒ ศอก กว้างราว ๑ ฟุต และสูงประมาณ ๑๐ นิ้ว ท�ำด้วยเงินแท้ซึ่งบัดนี้กลายเป็นสีด�ำสนิทด้วยกาลเวลา แต่ ลวดลายแปลกตาที่สลักไว้โดยรอบทุกด้านอย่างละเอียดยิบ ไม่เหลือช่อง ว่างเลยนั้นนูนเด่นเห็นได้ชัดเจน แสดงถึงฝีมือช่างผู้ท�ำหีบใบนี้ว่ามีฝีมือ ระดับครูทีเดียว “ใครมาแตะต้องหีบนีแ่ ล้วหรือยังวะ หลังจากทีอ่ าจารย์ท่านเสีย?” มุรธาถาม นัยน์ตาจับอยู่ที่โบราณวัตถุน้นั ด้วยความสนใจยิ่งยวด เพื่อนของเขาสั่นศีรษะ “ไม่มีเลย ต�ำรวจก็เพียงแต่เข้ามาดูๆ เท่านั้น เอ็งหยิบดูได้ตาม สบาย” นักโบราณคดีหนุ่มยื่นมือออกไปประคองยกหีบใบนั้นขึ้นพิจารณา ทุกด้าน มันมีร่องสลักตรงด้านหน้าส�ำหรับปิดให้สนิทแนบแน่น ศรินทร์ เห็นเพื่อนเกลอพิจารณาตรงนั้นแน่วแน่กพ็ ูดขึ้นเบาๆ “เปิดไม่ออกหรอก คุณลุงพยายามแล้วไม่สำ� เร็จ ท่านก�ำลังหาวิธี แทบหัตถ์เทวี

11


อยู่ก็พอดีเกิดเรื่อง เลยไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่บ้าง” มุรธาท�ำหน้าฉงน เขาลูบคล�ำสลักตรงฝาหีบไปมา ๒-๓ ครั้ง และ ลองกดดูเต็มแรง แล้วทั้งสองก็เกือบสะดุ้งเมื่อฝาหีบดีดตัวเปิดออกโดยเร็วเหมือนมี สปริง! ศรินทร์อทุ านออกมาดังๆ “อ๊ะ! ยังไงกันนี่?” แล้วยืน่ หน้าเข้าไปมองดูหบี ซึง่ เปิดอ้ากว้างเต็มทีด่ ว้ ยท่าทางตืน่ เต้น สนใจ ภายในหีบเงินสลักเสลาใบนั้น บุรองด้วยผ้าไหมเนื้อดีเยี่ยม ซึ่ง คงจะเก่าแก่ตามอายุของหีบ แต่สีแดงเจิดจ้าของมันยังไม่ซีดเลยแม้แต่ น้อย...นอกจากนั้นแล้ว ภายในหีบก็ว่างเปล่าไม่มอี ะไรอยู่เลย “เอ ท�ำไมเอ็งถึงเปิดได้ง่ายนักล่ะวะ คุณลุงพยายามอยู่ทั้งวันทั้ง คืนยังเปิดไม่ได้” ศรินทร์ยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยท่าทางฉงนฉงาย เพื่อนนักโบราณคดีของเขาไม่ตอบว่ากระไร แต่ยกหีบหมุนพลิกดู โดยรอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ครั้นแล้วก็ถอนใจยาว “อาจารย์คงสนใจหีบใบนี้มากที่สุด ใช่ไหมวะรินทร์?” “งั้นซี่ ท่านบอกว่ามันเป็นโบราณวัตถุมีค่ามากที่สุดเท่าที่ท่านเคย พบมา” “ก็แน่ละ” มุรธาพึมพ�ำเบาๆ นัยน์ตาจับอยู่ท่หี ีบด้วยแววครุ่นคิด “ท่านจะต้องตื่นเต้นมาก เพราะหีบใบนี้เก่าเหลือเกิน เก่าจนไม่รู้ ว่าอักขระที่จารึกไว้ก้นหีบนี่เป็นภาษาอะไร” ศรินทร์ทำ� ตาโต 12 จินตวีร์ วิวัธน์


“หา? มีค�ำจารึกอยู่ด้วยหรือวะ ไหนล่ะ?” มุรธาพลิกหีบให้เพื่อนเกลอดูด้านหลังซึ่งสลักลึกลงไปในเนื้อเงิน คล้ายตัวอักขระโบราณ ซึ่งคนที่ไม่มีพื้นฐานทางโบราณคดีอย่างเขาดู ไม่ออกเลย “นี่ แ หละอั ก ษรจารึ ก แต่ มั น ไม่ เ หมื อ นภาษาใดๆ ในโลกเลย ลวดลายที่สลักบนหีบนี่ก็เหมือนกัน ไม่เหมือนศิลปะสมัยใดทั้งนั้น ถ้าจะ ให้ข้าเดาก็อาจตีขลุมเอาได้ว่าหีบใบนี้เก่าที่สุด และไม่มีส่วนคล้าย ศิลปกรรมชาติใดในแถบเอเชียนี่เลยสักนิดเดียว” สีหน้าของผู้ฟังบอกความสนใจระคนพิศวง “ถ้ายังงัน้ ก็แปลกมาก ทีข่ า้ ประหลาดใจทีส่ ดุ ไม่ใช่ความเก่าของหีบ หรอกว่ะ มุ แต่แปลกตรงที่เอ็งเปิดมันได้ง่ายดายนี่แหละ คุณลุงท่าน พยายามอยู่ท้งั วันทั้งคืนยังเปิดไม่ได้เลย เอ็งมีทีเด็ดอะไรหือ?” “มือข้าคงไปถูกสลักลับเข้าโดยบังเอิญมั้ง คนโบราณชอบท�ำอะไร ให้คอมพลิเคทยุ่งยากเสมอแหละ” ศรินทร์ส่นั ศีรษะ “ไม่น่าจะเป็นไปได้...ว่าแต่เอ็งไม่รู้หรือว่าหีบนี่เก่าแก่ขนาดไหน?” มุรธาสั่นศีรษะบ้าง “ไม่ร!ู้ และเชือ่ ว่าอาจารย์กค็ งพยายามค้นให้ได้วา่ เป็นของเก่าสมัย ไหนกันแน่ สมแล้วที่ท่านบอกว่ามันมีค่ามากที่สุด...ค่าของหีบใบนี้คือ ความเก่าแก่จนไม่มใี ครรู้ที่มานั่นเอง” ศรินทร์ก้มลงพิจารณาหีบโบราณในมือของเขาอย่างเพ่งพิศ เมื่อ เงยขึ้นอีกครั้งดวงตาก็มีแววตัดสินใจ “เอ็งเอาไปหาทางศึกษาทีเถอะวะ มุ ว่ามันเป็นของเก่ายุคไหน ข้า น่ะถึงเก็บเอาไว้ก็เหมือนไก่ได้พลอย ให้เอ็งไปยังเป็นประโยชน์มากกว่า เอ็งก็เป็นลูกศิษย์หวั รักหัวใคร่ของคุณลุงนีห่ ว่า ท่านคงพอใจถ้ารูว้ า่ สมบัติ แทบหัตถ์เทวี

13


มีค่าของท่านชิ้นนี้ตกไปอยู่กับเอ็ง” มุรธามองหน้าเพื่อนอย่างงงๆ “อะไรวะ เอ็งใจป�้ำยังงี้เชียวเรอะ? หีบใบนี้มีค่ามหาศาลนะโว้ย อย่าท�ำเป็นเล่นไป!” ศรินทร์ย้มิ เล็กน้อย “เอ็งคิดว่าคนอย่างข้าถ้าจะให้ของอะไรแก่เพือ่ นก็ตอ้ งให้ของราคา ถูกๆ เท่านั้นหรือวะ?...บอกแล้วไงว่าข้าอยากให้เอ็งเอาไปศึกษา เป็นการ สืบทอดเจตนารมณ์ของคุณลุงด้วย ข้าอยากรู้อย่างเดียวเท่านั้นแหละว่า มันเคยบรรจุอะไรมาก่อน และท�ำไมเอ็งถึงเปิดออกได้งา่ ยนัก น่าจะมีอะไร ลึกลับอยู่ในนี้มาก่อนเป็นแน่ และสิ่งนั้นอาจเกี่ยวพันไปถึงความตายของ คุณลุงก็ได้” ดวงตาคมฉาบของนักโบราณคดีหนุ่มเป็นประกายขึ้นทันทีอย่าง ฉุกใจ เขาหันขวับไปจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง “เอ็งคิดว่าหีบนีต้ อ้ งมีอะไรบรรจุอยู่ แต่เปิดไม่ออก ต่อมามีคนลอบ เข้ามาเปิดเอาสิ่งนั้นออกไปพร้อมทั้งท�ำร้ายอาจารย์ด้วย...ยังงั้นใช่ไหม วะ?” ศรินทร์น่งิ คิดแล้วตอบเบาๆ อย่างไม่แน่ใจตนเอง “ข้าอยากคิดอย่างนั้นว่ะ มุ แต่มันไม่มหี ลักฐานอะไรมาเสริม เป็น แค่ลางสังหรณ์เท่านั้น เพราะลักษณะที่เอ็งเปิดหีบออกได้เมื่อตะกี้มัน เหมือนกับว่าหีบนี้ไม่เคยถูกปิดตายมาก่อนยังงั้นแหละ” มุรธาเม้มริมฝีปาก จ้องหน้าเพื่อนเขม็งด้วยแววตาครุ่นคิดหนัก หน่วง ศรินทร์จึงหัวเราะเบาๆ ยื่นหีบโบราณออกส่งให้เพื่อนเกลอแล้วพูด เสียงเรียบ “เอ็งรับไปเถอะวะ มุ หาทางศึกษาให้ได้ว่ามันมีความส�ำคัญและ ลี้ลับยังไงบ้าง ข้าสังหรณ์ว่า มันไม่ใช่หีบธรรมดาๆ หรอกวะ...เอ็งคงจ�ำได้ 14

จินตวีร์ วิวัธน์


ว่าเมื่อเดือนก่อน มีนักโบราณคดีกลุ่มตรงข้ามกับคุณลุงเขาฮือฮากันว่า ได้พบหลักฐานซากเมืองโบราณที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนอยู่ในเขตป่าเมือง กาญจน์ ที่คุณลุงท่านไปครั้งสุดท้ายนี่เอง บางทีอาจเป็นไปได้ที่หีบใบนี้ ขุดได้จากซากเมืองโบราณที่ว่านั่น” มุรธาผงกศีรษะ นัยน์ตาหรี่ลงขณะตอบเบาๆ “ถูกแล้ว ดร.อ�ำนาจเคยบอกว่ามีพรานป่าพบสุสานโบราณมาก ที่สุดอยู่ในป่าลึกเมืองกาญจน์ แต่ข้าว่าซากเมือง หรือซากสุสานที่ว่านี้ คุณลุงของเอ็งท่านได้ร่องรอยมาก่อน และได้พยายามศึกษาส�ำรวจตาม ล�ำพังอย่างขะมักเขม้น เพราะเป็นนิสัยท่านอย่างหนึ่งที่ชอบท�ำอะไรคน เดียว เมื่อส�ำเร็จแล้วจึงประกาศให้ทุกคนรู้...น่าคิดจริงๆ นะ รินทร์ หีบนี่ อาจจะมาจากซากโบราณสถานทีว่ ่าก็ได้ เอ็งให้ข้ามาก็ดแี ล้ว ขอบใจมาก เว้ย ข้าจะเอาไปศึกษาดูตามแนวที่อาจารย์เคยสอนไว้” ประโยคท้ายๆ ของชายหนุ่มมีกังวานมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ศรินทร์ยิ้ม น้อยๆ เมื่อเพื่อนเกลอรับหีบลึกลับไปอย่างประคับประคอง เขาเดินตาม มุรธาออกไปจากห้องพิพิธภัณฑ์ ปิดประตูใส่กุญแจแน่นหนา แล้วหันมา ทางนักโบราณคดี “ข้ารู้ว่าของเก่าอย่างนี้ อยู่กบั เอ็งดีกว่าอยู่กบั ข้าหลายเท่า พิสูจน์ ให้ได้เถอะวะ ว่ามันมีอะไรอยู่ข้างใน บางทีไอ้นั่นแหละที่มันฆ่าคุณลุง!” มุรธาผงกศีรษะ ออกเดินไปตามเฉลียง เป็นครู่จึงพูดขึ้นด้วยเสียง เอาจริง “เอ็งพูดจากลางสังหรณ์อกี ใช่ไหมวะ รินทร์ แต่ข้าก็ยอมรับว่าน่า คิดตามเอ็งเหมือนกัน อย่าห่วงเลยวะ ข้าจะพยายามหาทางเปิดเผยความ ลับในเรื่องนี้ให้ได้...ถ้าไม่ได้กไ็ ม่ใช่ไอ้มซุ ีน่า!”

แทบหัตถ์เทวี

15


ผู้มาเยือนยามวิกาล

มุรธา มัณฑโนปกรณ์ เงยหน้าขึ้นจากกองต�ำราบนโต๊ะ บิด กายไปมาให้หายเมือ่ ยขบ แล้วเอือ้ มมือไปคว้าบุหรีม่ าจุดสูบ พอดีกบั เสียง นาฬิกาตีบอกเวลา ๐๑.๐๐ น. นักโบราณคดีอัดควันบุหรี่เข้าปอด มองหีบเงินโบราณที่วางอยู่บน โต๊ะเล็กใกล้ตวั ด้วยแววกึ่งสงสัยกึ่งกังวล สามวันแล้วที่เขาได้มันมาจากศรินทร์ เพื่อนเกลอผู้เป็นหลานคน เดียวของอาจารย์ที่เขาเคารพนับถือ แต่มุรธาก็ไม่อาจท�ำอะไรคืบหน้าไป ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านตัวอักขระหรือการระบุบอกอายุขัยของมัน ชาย หนุ่มน�ำหีบใบนี้ไปปรึกษาครูบาอาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญที่เขาเชื่อถือ แต่ ก็ไม่มใี ครให้คำ� ตอบทีก่ ระจ่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทุกคนต่างก็พศิ วงและ ทึ่งในโบราณวัตถุชิ้นนี้ และใคร่ขอยืมเอาไว้ศึกษานานๆ แต่พอศรินทร์ สุศลี าวงษ์ รูเ้ ข้าก็แสดงความจ�ำนงว่าไม่ตอ้ งการให้โบราณวัตถุของคุณลุง เขาชิ้นนี้ตกไปอยู่กับคนอื่นนอกจากมุรธา นักโบราณคดีหนุ่มจึงต้องเก็บ มันไว้ใกล้ชดิ ตัว และพยายามศึกษาด้วยตนเองอย่างขะมักเขม้นเอาจริง เคยมีอะไรอยูใ่ นนัน้ บ้างหนอ?...เป็นค�ำถามทีม่ รุ ธาต้องการค�ำตอบ อย่างเหลือเกิน ลักษณะของมันไม่ใช่หีบเก็บสมบัติหรือของใช้มีค่าใดๆ เลย รูปร่างเพรียวยาวราวกับกล่องของขวัญสมัยใหม่ แสดงว่าสิ่งที่บรรจุ 16

จินตวีร์ วิวัธน์


อยู่ในนั้นคงมีลักษณะเป็นท่อนยาว และไม่ใหญ่โตนัก “หีบอาวุธละมังหว่า...กริช, ขวาน, หรือมีดสั้น?” มุรธาร�ำพึง นัยน์ตาที่มองดูวตั ถุโบราณหรี่ลงอย่างครุ่นคิด “แต่ดูไปก็ไม่น่าจะใช่ ก้นมันลึกเกินกว่าจะเป็นหีบใส่อาวุธประจ�ำ ตัว ลวดลายทีส่ ลักยิง่ ไปกันใหญ่ ไม่เคยเห็นลายอะไรพิลกึ ยังงีม้ าก่อนเลย ให้ตาย!” ถูกของเขา ลวดลายบนหีบนั้นมีลักษณะแปลกประหลาดละม้าย อักษรภาพของไอยคุปต์โบราณ แต่อ่อนไหวมากกว่า รูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ซงึ่ มีหน้าคนอยูต่ รงกลางกับอะไรบางอย่างคล้ายท่อนแขน และ มือมนุษย์ดุนเด่นออกมาเหนือภาพสลักทั้งปวง รูปสลักบางตอนเป็นตัว คนในท่าทางต่างๆ ติดต่อกันคล้ายกับจะบอกเล่าข้อความอะไรสักอย่าง กระนั้น มุรธากดก้นบุหรีล่ งกับทีเ่ ขีย่ บิดตัวอีกครัง้ แล้วลุกขึน้ เดินไปยังเตียง นอน ดับไฟหัวเตียงแล้วทิ้งกายลงค่อนข้างแรง ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก และหลับตา เพียงไม่ถงึ ๑๐ นาที เขาก็หลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยในสมอง มารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อมีอะไรบางอย่างผิดปรกติเกิดขึ้นใน ห้อง... เขาลืมตาขึ้นทันทีเมื่อประสาทหูรบั เสียงนั้น เป็นเสียงเหมือนใครลากวัตถุบางอย่างไปตามพืน้ อย่างพยายามให้ แผ่วเบาที่สุด... มุรธาล้วงมือเข้าไปใต้หมอน ดึงอาวุธประจ�ำตัวออกมาถือกระชับ แล้วขยับตัวเบนไปทางมุมซึ่งเกิดเสียงนั้นอย่างระมัดระวัง ในความมืดสลัวของห้อง ดวงตาของนักโบราณคดีเบิกโตขึ้นเมื่อ เห็นอะไรอย่างหนึ่งที่หน้าต่าง ซึ่งเปิดอ้าอยู่ แทบหัตถ์เทวี

17


หีบโบราณของเขา วางพาดอยู่กบั ขอบหน้าต่าง แสดงว่าบุคคลผู้ ลักลอบเข้ามาในห้องของเขาก�ำลังจะน�ำมันออกไปทางนั้น ไวเท่าความคิด นิ้วในโกร่งไกปืนของมุรธากระดิกทันที... กัมปนาทของปืนทีแ่ ผดขึน้ ท่ามกลางความเงียบ ท�ำให้เกิดปฏิกริ ยิ า อย่างหนึ่งทันที... หีบโบราณหล่นตกลงบนพื้นห้อง เสียงดังโครม และพร้อมกันนั้น หูอนั ไวของมุรธาก็จบั เสียงหนึง่ คล้ายวัตถุบางอย่างหล่นลงไปจากหน้าต่าง อย่างแผ่วเบา เขากระโดดลุกขึน้ จากเตียง วิง่ ไปทีห่ น้าต่างโดยเร็ว ชะโงกหน้าออก ไปมองข้างล่างที่แว่วเสียงวัตถุตกลงไป แสงสว่างจากโคมไฟทีส่ นามซึง่ เปิดไว้สลัวตลอดคืนส่องให้เขาเห็น อะไรบางอย่างสีขาวๆ เคลือ่ นไหวอย่างรวดเร็วอยูข่ า้ งขอบสนามหญ้าตรง กับหน้าต่างห้อง เพียงพริบตาเดียวมันก็ลับหายไปในเงามืดของพุ่มไม้ริม สนามนั้น มุรธาขมวดคิ้ว เขาวิ่งไปถอดกลอนเปิดประตูห้อง ปราดลงไปชั้น ล่างทันที ไม่สนใจกับคนในบ้านที่ลุกขึ้นมาถามถึงสาเหตุการยิงปืน ชาย หนุ่มเผ่นแน่บตรงไปยังพุ่มไม้ริมสนามที่เขาเห็นสิ่งแปลกปลอมหลบหาย เข้าไป พยายามแหวกกอไม้มองหาในท่ามกลางแสงโคมไฟ แสงจันทร์ที่ สว่างนวลอยู่ท่วั บริเวณนั้น แต่ก็ไม่พานพบสิ่งแปลกปลอมแม้แต่เงา ชายหนุ่มกลับขึ้นมาบนบ้านอย่างผิดหวัง เขาตอบข้อซักถามของมารดาและคนอืน่ ๆ ทีม่ ารุมถามแต่เพียงว่า “ผมฝันไปว่าขโมยปีนเข้าห้องน่ะครับ ตื่นขึ้นนึกว่าเป็นจริงก็เลย ควักปืนยิงสวนไป” “แย่จัง” คุณแม่ของเขาท�ำหน้าต�ำหนิ 18

จินตวีร์ วิวัธน์


“คราวหลังดูให้ดีๆ นะลูก ไม่ทันเห็นตัวชัดเจนก็ยิงเปรี้ยงปร้าง ออกไปอย่างนี้ เดี๋ยวไปถูกพวกเราเข้าจะว่าไง?” มุรธากล่าวขอโทษอย่างอ่อนโยน แล้วปลีกตัวขึ้นไปบนห้องนอน ตรงไปตรวจดูร่องรอยที่หน้าต่างจนแน่ใจแล้วก็หนั มายกหีบ ซึ่งตกอยู่บน พืน้ ขึน้ วางไว้บนโต๊ะตามเดิม ตัวเองถอยไปนัง่ บนเก้าอีจ้ ้องมองดูมนั อย่าง ครุ่นคิด ใครหนอ บังอาจเข้ามาขโมยหีบโบราณถึงในห้องนอนของเขา? ‘ใคร’ หรือที่ถูกควรจะเป็น ‘อะไร’ มากกว่านั้น ช่างน่าพิศวงเสีย จริงๆ ตามปรกติมรุ ธาเป็นคนนอนไวมาก เสียงผิดปรกติเพียงนิดเดียวก็ ท�ำให้เขาตืน่ ได้ แต่คนทัง้ คนทีเ่ ข้ามาลักเอาหีบโบราณกลับไม่ท�ำให้เขาตืน่ ได้ทันท่วงที มารูส้ กึ ตัว เมือ่ มันจวนเจียนจะน�ำลงไปจากหน้าต่างอยูร่ อมร่อแล้ว นึกมาถึงตรงนี้ คิว้ ดกด�ำได้รปู ของชายหนุม่ ก็ขมวดเข้าหากันจนชิด เขารู้ดีว่าหน้าต่างห้องนอนของตนเองฝังอยู่ในผนังเรียบเกลี้ยง คน ภายนอกไม่มที างปีนขึ้นมาได้โดยปราศจากบันไดพาด หัวขโมยที่ปีนเข้า มาทางนี้นับว่าเก่งเกินคนทีเดียว ทว่า มันเป็น ‘ขโมย’ แน่หรือ? มุรธาถามตัวเองอย่างร้อนรน เพราะสิ่งที่เขาเห็นยามชะโงกมอง จากหน้าต่างห้องนั้น มันห่างไกลกับมนุษย์ยิ่งนัก ลักษณะของมันเหมือนสัตว์ประหลาด...สัตว์ประเภทแมงมุมทีม่ ขี า ยุ่มย่าม คืบคลานหนีไปได้ด้วยตีนอันยาวแข็งแรงเหล่านั้น ถ้ามันเป็นแมงมุมจริงอย่างที่เขาคิด ก็คงจะเป็นแมงมุมตัวใหญ่ ที่สุดในโลก มุรธาคิดต่อไปอย่างฉงนฉงาย ตัวของมันโตเท่าฝ่ามือ ค่อน ข้างยาว และมีสีขาวผ่องผิดลักษณะแมงมุมทั่วไปอย่างเหลือเกิน แทบหัตถ์เทวี

19


แมงมุมตัวนัน้ มาเกีย่ วข้องอะไรกับหีบโบราณของเขาหรือ? และเจ้า หัวขโมยทีแ่ ท้จริงนัน้ เล่า หายไปไหนได้รวดเร็วนักในช่วงเวลาเพียงพริบตา เดียว มุรธาสลัดศีรษะ...ขืนคิดต่อไปก็คงปวดหัวตาย เขาบอกตัวเองพลาง เหลือบดูนาฬิกา เห็นว่าเป็นเวลาตีห้าแล้วก็จัดแจงลุกขึ้นอาบน�ำ้ แต่งตัว นั่งอ่านต�ำราต่ออีกหน่อยแล้วจึงขับรถออกไปท�ำงาน เมือ่ ถึงห้องท�ำงานในกองโบราณศิลป์ ปรากฏว่าเขาเป็นคนแรกทีม่ า ถึง มุรธานั่งลงที่โต๊ะ คลี่หนังสือพิมพ์ออกอ่านฆ่าเวลา ไม่นาน กริง่ โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดงั ขึน้ ชายหนุ่มยืน่ มือออกไปรับสาย “กองโบราณศิลป์ครับ” “ขอพูดกับคุณมุรธา มาแล้วหรือยังไม่ทราบ?” “ผมก�ำลังพูดครับ” “อ้อ แหม มาเช้าดีจริง” เสียงจากสายซึ่งเขาจ�ำไม่ได้ว่าเป็นใคร มีกงั วานยินดี “นี่ผมอ�ำนาจพูดนะ มุรธา สบายดีหรือ?” “อ๋อ สวัสดีครับ อาจารย์” มุรธากรอกเสียงไปตามสายด้วยสีหน้ายิ้มๆ ดร.อ�ำนาจ อนันตศฤงคาร ผูน้ เี้ ป็นอาจารย์สอนวิชาโบราณคดี ในมหาวิทยาลัย เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มคี วามเห็นขัดแย้งกับศาสตราจารย์ รุ่นเก่าหลายประการ และพยายามหาหลักฐานต่างๆ มาอ้างอิงหักล้างข้อ สันนิษฐานของนักโบราณคดีรนุ่ เก่าอยูเ่ สมอ ศาสตราจารย์กศุ ล สุศลี าวงษ์ เป็นคนหนึง่ ที่ ดร.อ�ำนาจค่อนแคะลับหลังว่าเป็นบุคคลประเภทไดโนเสาร์ เต่าล้านปีของวงการ ดร.อ�ำนาจผู้น้ี กว้างขวางในหมู่พ่อค้าของเก่า เพราะบิดาของเขา 20 จินตวีร์ วิวัธน์


เป็นเศรษฐีค้าโบราณวัตถุด้วย เขาจึงไม่เป็นที่นิยมในหมู่อาจารย์ด้วยกัน มากนัก “มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ อาจารย์?” “ผมมีเรื่องจะไปปรึกษา ประเดี๋ยวขอไปพบหน่อยได้ไหม?” “อาจารย์จะมาหาผมถึงที่นี่หรือครับ?” “งัน้ ซี่ เดีย๋ วผมมีธรุ ะผ่านไปทางนัน้ พอดี คุณพอจะมีเวลาให้ผมสัก ครึ่งชั่วโมงได้ไหม มุรธา?” “ได้ครับ ผมจะรอ ว่าแต่อาจารย์มเี รือ่ งอะไรส�ำคัญมากหรือครับ?” “เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผู้พูดวางหูดังกริ๊ก นักโบราณคดีหนุ่มก็วางลงบ้าง แล้วนั่งอ่าน หนังสือพิมพ์รอประมาณ ๑๕ นาที ประตูห้องท�ำงานก็ถูกเคาะและเปิด เข้ามาอย่างคุ้นเคย มุรธาลุกขึ้นยืนต้อนรับ และยกมือไหว้ชายผู้เดินเข้ามาในห้อง เขา เป็นคนร่างสันทัด มีเค้าว่าก�ำลังท้วมและจะอ้วนตามล�ำดับทั้งๆ ที่ยังอยู่ ในวัยหนุม่ อายุไม่เกิน ๓๘ ปี ผิวขาว หน้ากลม กระเดียดไปทางชาวอาทิตย์ อุทยั มาก กล้องยาเส้นทีค่ าบไว้ตรงมุมปากไม่เข้ากับดวงหน้าอันจืดชืดนัน้ เลย “สวัสดี มุรธา แหม มาท�ำงานแต่เช้า” ดร.อ�ำนาจทักทาย ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอดีตลูกศิษย์ มอง ดูดวงหน้าเข้มคมได้รูปอย่างพินิจพิเคราะห์ พลางกล่าวยิ้มๆ “ยังหล่อเหมือนเดิมนะ มุรธา หุ่นดีไม่เปลี่ยนเลยเชียว หมู่นี้เป็น ยังไง ออกป่าบ่อยๆ อีกหรือเปล่า?” “ไม่บ่อยหรอกครับ งานที่นี่รัดตัวมาก อาจารย์ล่ะครับ ผมได้ข่าว ว่าเพิ่งกลับจากกาญจนบุรี ได้เค้าเมืองดึกด�ำบรรพ์มากไหมครับ?” ดร.อ�ำนาจถอนใจเหมือนโล่งอกที่นักโบราณคดีจูงเข้าสู่จุดที่เขา แทบหัตถ์เทวี

21


ต้องการมาพูดได้เร็วขึ้น อาจารย์หนุ่มชะโงกเข้าไปใกล้ พูดด้วยเสียงเบา ลงแต่หนักแน่น “ได้ซี่ เยอะด้วยละ แต่ก็ยงั ไม่เท่าศาสตราจารย์กศุ ลหรอกนะ ท่าน ได้หลักฐานมาเยอะแยะแล้วอุบเงียบเลย” “ท่านศาสตราจารย์คงไม่ได้ต้ังใจอุบหรอกครับ คงจะประกาศให้ ทราบหลังจากทีท่ า่ นค้นคว้าจนแน่ใจแล้วมากกว่า แล้วก็อกี อย่างหนึง่ ท่าน ค้นเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวด้วยทุนรอนของท่านเองทุกบาททุกสตางค์” ดร.อ�ำนาจยิ้มเจื่อนๆ รีบพูดไปทางอื่นโดยเร็ว “มุรธาเป็นลูกศิษย์คนโปรด ไม่เห็นติดตามท่านออกไปส�ำรวจเลย สักทีในตอนหลังๆ นี่” “ก็อย่างทีเ่ รียนอาจารย์ไว้แล้วนัน่ แหละครับ งานในแผนกรัดตัวผม เหลือเกิน ตอนหลังนี้แทบไม่ทราบเลยว่าท่านศาสตราจารย์ไปท�ำอะไร บ้าง” ดอกเตอร์ผู้สอนโบราณคดีเคาะกล้องยาเส้นกับฝ่ามือ มุรธาเลื่อน ที่เขี่ยบุหรี่ให้ และมองหน้าอย่างรอฟังค�ำพูดต่อ “ผมก็เสียใจ และเสียดายมากทีท่ า่ นถึงแก่กรรมอย่างลึกลับเช่นนี”้ ในที่สุด ดร.อ�ำนาจก็พูดขึ้นเหมือนเกริ่น “เราเลยไม่ทราบว่าท่านได้เค้าเงือ่ นอะไรจากซากโบราณสถานบ้าง เพราะท่านไปถึงก่อนพวกเรา พอผมไปครั้งหลังนี่ไม่ได้อะไรมีค่าอีกเลย” “ผมก็ไม่ทราบเลยครับ” มุรธาพูดเรียบๆ เมื่อเห็นฝ่ายนั้นหยุดไป “ไม่ทราบด้วยซ�้ำว่าซากเมืองนั้นอยู่ที่ไหน และเป็นเมืองสมัยใด ตัง้ ใจว่าจะไปเรียนถามรายละเอียดจากท่านศาสตราจารย์ ก็พอดีท่านสิน้ เสียก่อน ผมรู้สกึ ว่าทุกคนที่ค้นพบเรื่องนี้ดูปิดๆ บังๆ อย่างไรชอบกล ทาง กรมเราก็อืดอาดเหลือเกิน ขนาดผมเป็นนักโบราณคดีอยู่ที่นี่แท้ๆ ยัง 22 จินตวีร์ วิวัธน์


ไม่ค่อยทราบเรื่องดีเลยครับ” “ที่จริงไม่ใช่ซากเมืองหรอก มุรธา” อีกครัง้ หนึง่ ที่ ดร.อ�ำนาจชะโงกมาข้างหน้าและพูดด้วยเสียงเบาลง “เป็นซากสุสานโบราณต่างหาก...สุสานเก่าแก่นมนานมาแล้ว นาน จนบอกไม่ได้ว่าเป็นสมัยใด...เป็นสุสานของราชินีเชียวนะ อะไรก็ไม่ร้าย เท่าราชินอี งค์นเ้ี ป็นแม่มดด้วย เรือ่ งมันจึงน่าตืน่ เต้นตรงนีแ้ หละ รูไ้ ว้เถอะ!”

แทบหัตถ์เทวี

23



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.