ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหารและพนักงาน บริษัทไทยภิรมย์ สตาร์ จำ�กัด
let’s smile
Letter
Me, Myself and I การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่สำ�คัญ เห็นได้จากแนวโน้มในปัจุบัน ทีผ่ คู้ นหันมาสนใจและใส่ใจในเรือ่ งของสุขภาพกันมากขึน้ ทำ�ให้คา่ นิยมเกีย่ วกับ การออกกำ�ลังกายอย่างถูกวิธี การรับประทานอาหารปลอดสารพิษ และ แนวคิดในการดำ�รงชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก เพราะเรามีชีวิตเพียง หนึ่งเดียว ทำ�ให้ต้องคิดและคำ�นึงถึงการใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องมา นั่งเสียใจภายหลัง ฉะนั้นการแบ่งเวลาให้กับเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวและการดูแล ตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ดังคำ�กล่าวที่ว่า สุขภาพที่ดี ไม่มีขาย ใครอยากได้ต้องทำ�เอง ด้วยความปรารถนาดี ทีมงานนิตยสาร happy+
สวัสดีคะ่ ทีมงานทีน่ า่ รัก ฉบับที่ผ่านมาได้อ่านเรื่องราวของการทำ�งานแฮนด์เมด เรื่องราวที่ นำ�เสนอทัง้ สามท่านน่าสนใจมากค่ะ อ่านแล้วทำ�ให้รสู้ กึ ว่าต้องออกไปหาความรู้ ออกไปเรียนเพือ่ ค้นหางานแฮนด์เมดทีเ่ ราทำ�แล้วรูส้ กึ ชอบบ้าง เพราะโดยส่วนตัว ก็เป็นคนที่หลงใหลในงานประดิษฐ์ งานทำ�มือแบบนี้เช่นกันค่ะ อ่านแล้ว เกิดแรงบันดาลใจมาก ๆ เลย ต้องขอบคุณทีมงานทุกท่านทีค่ ดั เลือกเนือ้ หาดี ๆ แบบนีม้ านำ�เสนอนะคะ แล้วจะรอติดตามคอลัมน์ feature ในเล่มถัดไปค่ะ อัชฌาพร สมใส สวัสดีคะ่ คุณอัชฌาพร ทางทีมงานได้อา่ นจดหมายทีค่ ณ ุ อัชฌาพรส่งมาแล้วนะคะ ขอบคุณทีย่ งั ติดตามและเป็นแฟนของนิตยสาร happy+ ของเรามาโดยตลอดค่ะ คอลัมน์ feature เป็นคอลัมน์ทม่ี เี นือ้ หาหลากหลาย เปลีย่ นไปในทุก ๆ เล่ม และนำ� เสนอบุคคลที่มีความน่าสนใจในแต่ละเรื่องราวที่เขาหรือเธอถนัดอยู่แล้วค่ะ อย่างเช่นในเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลตนเอง อ่านแล้วหวังว่า จะเป็นประโยชน์กบั คุณอัชฌาพรไม่มากก็นอ้ ยนะคะ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอ แนะที่มีต่อ happy+ ได้ท่ี กองบรรณาธิการ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ถนนสุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มีของ ขวัญมอบให้แทนคำ�ขอบคุณ • สำ�หรับคุณอัชฌาพร จะได้รบั ผลิตภัณฑ์วา่ นหางจระเข้ จาก ฐิตภิ รู ิ ติดต่อขอรับของรางวัลได้ทค่ี ณ ุ เบล โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021
เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก เขี ย น : ภญ.ดร.สุ ภ าภรณ์ ปิ ติ พ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสูจน์อักษร : ณรงค์ พึ่งบุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสุทธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com
นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556
contents
ปีที่ 5 ฉบับที่ 57 สิงหาคม 2560
กายสุข 16 healthy planet / สมุนไพรไทยใกล้ตัวในหน้าฝน 62 take care / นอนหลับไม่เพียงพอ ปัญหาแม่พ่อ ลูกเล็ก 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / ลดอาการปวดเมื่อย บริเวณ ข้อมือ 68 happy herb / ข้าวไทย มิติใหม่สุขภาพ 72 beauty by nature / สตัฟฟ์สาว 80 ให้ดูเหมือน สาว 40 ปี 92 กินอาหารเป็นยา / ข้าวผัดชายาปลาส้ม ใจสุข
20 happy people / ณัฐ ศักดาทร การเดินทางของ
ความฝัน
30 happy heart / ปวีณา หงสกุล ร่วมมือกัน
เพื่อประโยชน์ส่วนรวม 38 feature / Me, Myself & I 48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน
54 family in love / ยาปฏิชีวนะ 56 นัดพบกับธรรมะ / กรรม ของคนญี่ปุ่น 58 wired world / ความรู้สึกดีอาจไม่ใช่สิ่งที่ดี 60 ระหว่างทาง / สงกรานต์แสนสนุก 2 70 well being / ไกลแค่ไหนคือใกล้...ใกล้แค่ไหน
คือไกล
74 สิ่งนี้ที่เรารัก / พราวพิรัล ณรัตน์ตระกูล
ย้อนความทรงจำ�ประทับใจกับ ชาร์ม (Charm)
76 travelogue / เสน่ห์เมืองประวัติศาสตร์แห่งยุโรป
ตะวันออก 2
80 การเดินทางของนกสีฟ้า / เดินทอดน่อง ท่อง
ย่านเก่า
84 one happy day / พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย 88 green corner / สวนเบญจกิติ สวนป่าขนาด
ใหญ่ เพื่อคนเมือง
90 เจ้าชายผัก / ปลูกผักแบบไม่ขุดดิน ทำ�ได้ด้วย
นะเธอ
94 ชวนชิม อิ่มสุข
• Town Tree Garden & Restaurant • ร้านซากุระ Yakiniku & Shabu Buffet Restaurant 96 ชวนดูหนัง / Before I Fall ตื่นมา ทุกวัน ฉันตาย 97 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes
สังคมสุข 10 happy planet / ความสุขจากอาหารจานโปรด 14 The Boss Foundation / เรียนรู้ สนุก สร้างสรรค์ ที่บ้านห้วยผึ้ง 50 คนคิดดี / โครงการ “สานต่อ งานพ่อสอน” มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนว พระราชดำ�ริ 100 กิจกรรมนำ�สุข
contributors
ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.92 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น อาจารย์คฑา ชินบัญชร
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร happy herb p.68
เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56
เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน
ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58
แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..
ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60
ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62
คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care
ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54
“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น
ญาดารัตน์ well being p.70
“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists
เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.90 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน
ศศินี ปัญญารัตน์
beauty by nature p.72
ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด
happy planet เรื่อง : Patty Pom
ความสุข จากอาหารจานโปรด เรื่องอาหารการกิน เรื่องปากเรื่องท้อง ไม่ใช่ แค่เรื่องสำ�คัญในการดำ�รงชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็น เรื่องที่สร้างความสุขในชีวิตได้มากอีกเรื่องหนึ่ง ทีเดียว คงไม่มีใครเถียงใช่ไหมคะว่า การที่เราได้ รับประทานอาหารอร่อย ๆ ถือเป็นความสุขที่สุด อย่างหนึ่งในชีวิตเลย จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ผู้คน จะพยายามเสาะหาร้านอาหารอร่อย ๆ เพื่อไปชิม อาหารขึ้นชื่อสักครั้งในชีวิต หรือเวลาที่เดินทาง ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เราก็จะพยายามไปทาน อาหารขึ้นชื่อ อาหารประจำ�ชาติ หรืออาหารอะไร ก็ตามทีเ่ ขาว่ากันว่าไม่ทานถือว่ามาไม่ถงึ ประมาณนัน้ เลยค่ะ บางครั้งบางคราวที่เรากล่าวถึงประเทศใด ก็ตาม นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่รู้จักกัน ดีแล้ว ยังมีอาหารอีกอย่างที่เราเปรียบดั่งอาหาร ประจำ � ชาติ ที่ ก ล่ า วถึ ง ปุ๊ บ ก็ รู้ เ ลยว่ า เป็ น ที่ ใ ด happy+ ฉบับนีเ้ ลยพาทุกท่านไปหาอาหารอร่อย ๆ อาหารขึ้นชื่อ และอาหารประจำ�ชาติกันค่ะ มี อะไรน่าทานกันบ้าง 10 | happy+
อิตาลี - พิซซ่านาโปเลียน ประวัติของ พิซซ่ามีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 79 เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียส ระเบิดขึน้ และทลายเมืองปอมเปอีทง้ั เมือง หลังจากนัน้ ประมาณ ค.ศ. 640 แกตาโน ฟิโอเรลลี่ ได้ค้นพบ เตาฟื น โบราณจำ � นวนมากมายในซากปรั ก หั ก พังของเมืองที่ถูกลาวาถล่ม หนึ่งในจำ�นวนเตา ทัง้ หมดนัน้ พบว่ามีเถ้าถ่านขนมปังติดอยูใ่ นเตาถึง 7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า ทหาร โรมันในช่วงเวลาดังกล่าวต่างกินขนมปังทีอ่ บด้วย เตาฟืนโบราณแบบนี้ ซึง่ สันนิษฐานได้วา่ ชาวเมือง นาโปลีก็ทานขนมปังแบบนี้มาประมาณ 700 ปี แล้ว ต่อมาจึงเริ่มมีการประยุกต์ใส่มะเขือเทศกับ สมุนไพรบางอย่างลงในขนมปัง แล้วนำ�ไปอบใน เตาฟืน นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของมารีนาราพิซซ่า และร้านพิซเซอเรียร้านแรกในนาโปลี ได้เปิดขาย ในปี ค.ศ. 1830 และคำ�ว่า พิซซ่า หรือ Pizza ที่ใช้ อยูใ่ นปัจจุบนั นี้ ก็สนั นิษฐานว่ามาจากคำ�ลาตินที่ ว่า Picea ซึ่งชาวโรมันใช้สำ�หรับเรียกขนมปังอบ และพิ ซ ซ่ า นาโปเลี ย นที่ เป็ น ต้ น ฉบั บ ของ พิ ซ ซ่ า ปรุ ง ด้ ว ยแป้ ง สาลี ชั้ น ดี ใช้ ม ะเขื อ เทศ 3 ชนิด แป้งโดทีน่ วดจนเหนียวนุม่ อบในเตาอบด้วย ถ่านไม้ และส่วนทีอ่ ร่อยทีส่ ดุ ของพิซซ่าคือ หน้าพิซซ่า นั้น ไม่ได้กำ�เนิดจากอิตาลี เนยเข็งหรือ Cheese ที่นิยมใช้กันคือ มอสซาเรลล่า (Mozzarella) เป็น ผลิ ต ภั ณฑ์ ที่ ทำ � มาจากนมของเจ้ า ทุ ย ซึ่ ง ชาว อินเดียทำ� Mozzarella จากนมของ Water Buffalo
มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนนำ�เข้ามายังอิตาลี เครื่องปรุงอีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำ�หรับพิซซ่าก็คือ มะเขือเทศ และมะเขือเทศนั้นก็ไม่ได้มีต้นกำ�เนิด มาจากยุโรปหรือเอเชีย แต่มาจากทวีปอเมริกา ชาวยุโรปนำ�เข้ามาจากเม็กซิโกอีกต่อหนึ่ง เมื่อ ส่ ว นผสมทุ ก อย่ า งรวมตั ว กั น ก็ เ กิ ด เป็ น พิ ซ ซ่ า แสนอร่อยนั่นเองค่ะ ญี่ปุ่น - ซูชิ เป็นข้าวปั้นที่มีหน้าต่าง ๆ ซูชิ มักจะหมายถึงอาหารทีม่ สี ว่ นประกอบของ ซูชเิ มะชิ (ข้าวที่ผสมนํ้าส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่าง ๆ หน้าของซูชทิ นี่ ยิ ม ได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ และ เห็ด ซูชิมีวิวัฒนาการมาหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งแรก เริ่มเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคน ญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันรูปแบบของซูชิถูกเปลี่ยนแปลง ไปตามความเหมาะสมของสังคมด้วย ในตอนที่ ชาวอเมริกนั รูจ้ กั ซูชใิ หม่ ๆ เป็นเรือ่ งยากทีพ่ วกเขา จะยอมรับการรับประทานของดิบ จึงมีการคิดค้น ซูชิม้วนใส่ไส้เป็นผักต่าง ๆ และไข่ เป็นต้น การ ทานซูชิมักมีเครื่องเคียงเป็นขิงดองและวาซาบิ เนื่ อ งจากทั้ ง สองอย่ า งนี้ มี ส รรพคุ ณ ช่ ว ยฆ่ า เชื้อโรคในร่างกาย ซูชิในยุคแรกเริ่มมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ ซูชิรูปแบบคันไซ (Kansai Style) มีต้นกำ�เนิดจาก จังหวัดโอซากา และซูชิรูปแบบเอโดะ (Edo Style) มาจากโตเกียว จุดประสงค์ในการทำ�ซูชมิ ี 3 อย่าง คือ 1. ถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้กนิ ได้นาน ๆ
2. ทำ�เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อสะดวกในการทานและ พกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ และ 3. ให้สามารถ รับประทานได้ง่าย โดยไม่ใช้ตะเกียบ เพียงแค่ ใช้มือหยิบก็ทานได้ จึงทำ�เป็นคำ� ๆ โดยเล่ากัน ว่าในยุคซามูไรรุ่งเรืองมีการคิดค้นเมนูซูชิสำ�หรับ ซามูไรโดยเฉพาะอีกด้วย เป็นข้าวปั้นที่โรยหน้า ด้วยไข่ฝอย สอดไส้ดว้ ยกุง้ ต้มเปรีย้ วและเห็ดหอม ต้มซอส เวลารับประทานซามูไรก็จะใช้ดาบประจำ� ตัวตัดแบ่งกันเป็นที่สนุกสนาน จนเมือ่ ศตวรรษที่ 18 คุณโยเฮอิ (Yohei) พ่อครัว ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้คิดค้นซูซิรูปแบบใหม่ข้ึนมา โดยดัดแปลงให้มีความสด สะอาด และรสชาติ ถูกปากคนยุคปัจจุบันมากขึ้น จนทุกวันนี้ซูชิก็มี
รูปแบบที่หลากหลาย มีหน้าเพิ่มมากขึ้น มีการ ดัดแปลงและปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย จนตอนนี้ซูชิกลายเป็นอาหารที่ฮิตไปทั่วโลก ซูชิ ก็จัดว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่งด้วย และมี ร้านซูชิชื่อดังเกิดขึ้นมากมาย แต่ถ้าอยากลองซูชิ ต้นตำ�รับ ลองไปชิมที่ญี่ปุ่นกันดีไหมคะ จี น - เป็ ด ปั ก กิ่ ง เป็ ด อบที่ เคลื อ บด้ ว ย นํ้าเชื่อม รสชาติหวานชุ่มคอ สูตรเฉพาะของเป็ด ปักกิ่ง จะค่อย ๆ อบให้ได้ที่ในเตาอบ โดยใช้ไม้ พุทรา ไม้ต้นท้อ หรือไม้ต้นสาลี่ เป็นฟืนที่ใช้อบ เป็ด เพราะจะทำ�ให้เป็ดทีอ่ บสุกแล้วมีกลิน่ หอม ไม่ เหม็นควัน อบจนกระทัง่ หนังเป็ดกรอบ นิยมเสิรฟ์ หนังมากกว่าเนือ้ เล่าขานกันว่าเป็ดปักกิง่ มีประวัติ ความเป็นมายาวนานกว่า 1,500 ปี จากตำ�รับ ยาหลวงของหมอหลวงในราชวงศ์หยวนของจีน ได้เขียนถึงวิธกี ารย่างเป็ด ซึง่ ต่อมาก็ได้ววิ ฒ ั นาการ จนกลายมาเป็นเป็ดปักกิ่งในปัจจุบันนี้ เป็ดปักกิ่งเป็นอาหารจีนเลิศรส และได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในเมนูประจำ�ชาติจีน เสิร์ฟในรูปแบบ แผ่นหนังบางกรอบ ที่มาพร้อมแผ่นแป้งสำ�หรับ ห่อ ตามด้วยซอสหวานและทานคู่กับเครื่องเคียง อย่าง ต้นหอม โดยจะใช้เฉพาะส่วนหัวทีเ่ ป็นสีขาว นำ�มาซอยเป็นเส้น แตงกวาปอกเปลือกหั่นเป็น แท่ง หนังเป็ดจะต้องแล่ออกเป็นแผ่นบางตั้งแต่ ตอนร้อน ๆ ยิง่ หากลงจากเตาใหม่ ๆ จะช่วยให้แล่ ง่ายขึ้นและเป็นชิ้นสวยงาม พ่อครัวทำ�เป็ดปักกิ่ง
และเสิร์ฟเป็ดให้เราทานจะต้องเข้าคอร์สเรียนกัน อย่างพิถีพิถัน เพราะถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลย ทีเดียว การเสิรฟ์ เป็ดทีด่ จี ะต้องสามารถแล่เนือ้ เป็ด ออกมาได้ 108 ชิ้น และต้องทำ�ให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนทีเ่ ป็ดจะเย็น ไม่เช่นนัน้ จะทำ�ให้รสชาติเสียไป สูตรต้นตำ�รับของปักกิ่งจะแล่หนังติดเนื้อมาด้วย ในขณะที่ประเทศไทยนิยมแล่เฉพาะหนัง ส่วน เนื้อเป็ดนำ�ไปปรุงรสตามชอบ เช่น ผัดกระเทียม เมี่ยงเป็ด เป็นต้น ทุกวันนี้เป็ดปักกิ่งไม่เพียงเป็นอาหารจาน โปรดของชาวจีน หากยังเป็นอาหารยอดนิยม ของชาวต่างชาติที่เดินทางไปท่องเที่ยวกรุงปักกิ่ง อีกด้วย ราคาเมนูเป็ดปักกิง่ ค่อนข้างสูงพอสมควร จึงมักรับประทานกันเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น ฉลองวันเกิด งานเลี้ยงแต่งงาน หรืองานเลี้ยง สังสรรค์ และปิดท้ายด้วยสิ่งที่คุ้นเคยกันค่ะ ไม่พูดถึง คงไม่ได้ ไทย - ต้มยำ�กุ้ง ต้มยำ�เป็นอาหารพื้นเมือง ที่คนไทยคุ้นเคยดี เพราะมีให้รับประทานทุกภาค และเป็นที่นิยมสำ�หรับชาวต่างชาติด้วย หนึ่งใน เมนูตม้ ยำ�ของไทยทีม่ ชี อื่ เสียงระดับโลก คือ ต้มยำ� กุง้ เพราะเป็นอาหารทีค่ รบรส คือ เปรีย้ ว เค็ม เผ็ด หวานเล็กน้อย แถมยังอุดมไปด้วยสมุนไพรต่าง ๆ ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า นํ้ามะนาว นํ้าปลา และพริก บางเมนูอาจมีใบกะเพรา ผักชีฝรั่ง และ โหระพาด้วย นอกจากนีย้ งั มีเห็ดต่าง ๆ มะเขือเทศ ผักชี ใส่เนือ้ ไก่ หรืออาหารทะเล ปกติจะใส่นาํ้ กะทิ เพิม่ ความข้นมัน ทีส่ �ำ คัญคือราคาถูกและหาทาน ได้ง่ายทุกที่ในประเทศไทย นํ้าซุปที่ใช้ในการทำ�ต้มยำ�กุ้งนั้น เชื่อว่าเรา ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมการรับประทาน อาหารของชุมชนชาวจีน ที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ ในดินแดนสุววรณภูมิ ซุปของคนจีนปกติจะเป็น นํา้ ซุปใส รับประทานกับข้าวเพือ่ แทนนํา้ ดืม่ ซึง่ เรา นำ�มาประยุกต์ เพิ่มความเผ็ดเปรี้ยวให้ถูกปาก คนไทยมากขึ้น ปัจจุบันมีการปรับสูตรให้เข้ากับ ยุคสมัย ให้ทำ�ง่ายขึ้นด้วยการใส่นํ้าพริกเผาและ นมข้นจืดแทน แม้จะไม่ใช่สูตรโบราณ แต่ก็อร่อย ไปอีกแบบใช่ไหมล่ะคะ เป็นอาหารทีม่ คี วามอร่อย ควบคู่ไปกับคุณประโยชน์เลยทีเดียว จนต้มยำ�กุ้ง ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 50 เมนู อาหาร อร่อยจากทั่วโลกเลยทีเดียวค่ะ น่าเสียดายทีพ่ นื้ ทีห่ มดซะแล้ว ยังมีอาหารอีก หลายอย่างจากหลายประเทศมานำ�เสนออีกค่ะ คงต้ อ งติ ด ตามกั นต่ อ ในฉบั บ หน้ า รั บ รองว่ า น่าทานและอร่อยไม่แพ้อาหารในฉบับนีเ้ ลยค่ะ happy+ | 11
เบอร์เกอร์เต้าหู้ คุณค่าทางอาหาร
เรือ่ ง : Nasry
เต้ า หู้ ถ่ั ว เหลื อ ง มี โปรตี น แคลเซี ย ม วิ ต า มิ น บี แ ล ะ แมกนีเซียมสูง ช่วย ลดความเครียด ทั้ง ยั ง ช่ ว ยให้ ร่ า งกาย ตืน่ ตัว กระฉับกระเฉง กระตือรือร้นได้เป็น อย่างดี แตงกวา มี ส รรพคุ ณ ช่ ว ย แก้ ก ระหาย ลดความร้ อ น ในร่างกาย ทำ�ให้รา่ งกายสดชืน่ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ ผิวพรรณ
รูปจาก lovingitvegan.com
เบอร์เกอร์ ขนมปังสอดไส้เนื้อสัตว์แซมด้วยผักและราดซอส เป็นเมนูทคี่ นุ้ หน้าคุน้ ตาผูค้ นทัว่ โลกเป็นอย่างดี แต่จะทำ�อย่างไรหาก ชาวมังสวิรตั หิ รือคนทีร่ กั สุขภาพอยากจะทานเบอร์เกอร์บา้ ง แต่ ไม่อยากทานเนือ้ สัตว์ happy+ ฉบับนีข้ อเสนอ “เบอร์เกอร์เต้าหู”้ ที่เกไกไม่ ๋ ๋ ซํ้าแบบใคร รับรองว่าอิ่ม อร่อยไม่ต่างจากเบอร์เกอร์ แบบดัง้ เดิมแน่นอนค่ะ แถมยังได้ประโยชน์จากโปรตีนเน้น ๆ แคลอรี ไม่มากจนเกินไป ขั้นตอนก็แสนง่ายดาย อีกทั้งยังทำ�ให้การทาน เบอร์เกอร์ของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
มะเขื อ เทศ ช่ ว ย ต้านโรคมะเร็งลำ�ไส้ เนื่องจากมะเขือเทศ ช่วยขับอุจจาระ ลด อาการท้องผูก จึงลด ความเสี่ยงโรคมะเร็ง ลำ�ไส้ได้ ผั ก กาดหอม อุ ด มไปด้ ว ย ธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมการสร้าง เม็ ด เลื อ ดหรื อ เฮโมโกลบิ น (Hemoglobin) จึงเหมาะอย่าง มากสำ�หรับผูท้ เี่ ป็นโรคโลหิตจาง และยังช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย หรือสมาธิสั้น การเรียนรู้ลดลง
นำ�เต้าหู้มาหั่นเป็นแผ่นหนาประมาณหนึ่ง ผสมซีอิ๊วขาว เกลือป่น พริกไทยป่น และ กระเทียมเข้าด้วยกัน นำ�ไปทาให้ทั่วแผ่นเต้าหู้ทั้งสองด้าน หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนัน้ ตัง้ กระทะย่าง เติมนํา้ มันมะกอกลงไป นำ�เต้าหูท้ หี่ มักไว้ลงไปย่าง ให้มสี เี หลืองอ่อน ทั้งสองด้าน ฝานขนมปังเบอร์เกอร์เป็นสองส่วน นำ�ไปอุ่นโดยนาบกับกระทะที่ทาด้วย นํ้ามันมะกอก เมื่อขนมปังร้อนดีแล้วให้ปา้ ยด้วยซอสมะเขือเทศ แล้ววางเต้าหู้ แตงกวา มะเขือเทศ ผักกาดหอม หัวหอมใหญ่ เป็นชั้นให้สวยงามบนขนมปังส่วนที่เป็นฐาน และ นำ�ขนมปังส่วนบนมาประกอบกัน เสิร์ฟพร้อมกับซอสมะเขือเทศ แค่นี้เราก็ได้เบอร์เกอร์ แบบดีต่อสุขภาพแล้วละค่ะ
หัวหอมใหญ่ มีฤทธิ์ช่วยรักษา โรคไขมั น อุ ด ตั น ในเส้ น เลื อ ด โดยช่วยลดปริมาณของไขมัน ในเส้นเลือด และช่วยในการ ขยายหลอดเลือด ช่วยทำ�ให้ เลือดไม่แข็งตัวแล้วไปอุดตันใน หลอดเลือดได้ง่าย
The Boss Foundation เรื่อง : ทูน หิรัญทรัพย์
เรียนรู้ สนุก สร้างสรรค์ ที่บ้านห้วยผึ้ง ว่ากันว่า ชีวิตคือการเรียนรู้... การเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งชีวิต แต่ถ้า มาลองทบทวนกันดูให้ดีแล้ว ตลอดระยะเวลา เกือบครึง่ ชีวติ ของคนคนหนึง่ กลับถูกใช้ไปกับการ เรียนรู้ที่อยู่แค่ใน “ห้องเรียน” ทั้งที่ความจริง ช่วง เวลาที่เราต้องมาอยู่ในห้องเรียนนี้ เป็นช่วงชีวิตที่ คนเรามีพลังในการเรียนรู้สูงมาก ชี วิ ต ข้ า งนอกมี อ ะไรมากมายเหลื อ เกิ นที่ น่าค้นหา แต่ทำ�ไมเราถึงไม่มีโอกาสได้ออกไปสัมผัส โครงการเราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน อยากจะ 14 | happy+
เห็นความเปลี่ยนแปลงของเรื่องนี้ จึงเปิดโอกาส เปิดพืน้ ทีใ่ ห้เยาวชนออกมาเรียนรูแ้ ละทำ�กิจกรรม สร้างสรรค์ต่าง ๆ นอกห้องเรียน โดยเมื่อวันที่ 23-25 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้จัดอบรมให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจกับเยาวชน เพื่อปลุกพลัง ที่มีอยู่แล้วในตัวพวกเขา ให้ปลดปล่อยและใช้ ศักยภาพของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ สิง่ ทีน่ อ้ ง ๆ มัธยมปลายโรงเรียนบ้านห้วยผึง้ ได้เรียนรู้กันไปนั้น มีหลากหลายประเด็นเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการความคิด (Process of Thinking), การเป็นพลเมืองดีจิตอาสา, การผลิต
สื่อสร้างสรรค์, หลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษา (EcoSchool), ความรู้เรื่องสุขภาพ, แรงบันดาลใจชีวิต และความฝัน ฯลฯ ในส่วนของ YCM ศูนย์เยาวชนพลเมืองดี สร้างสือ่ สร้างสรรค์สงั คม โดยคุณทูน หิรญ ั ทรัพย์ ผู้อำ�นวยการศูนย์ฯ ได้ทำ� Workshop ให้กับกลุ่ม น้อง ๆ ทีส่ นใจด้านการผลิตสือ่ รณรงค์ โดยสอนให้ รู้จักสื่อประเภทต่าง ๆ สร้างความเข้าใจว่าสื่อนั้น มีอิทธิพลต่อผู้คนในสังคมมากแค่ไหน และดึง จุดแข็งนี้มาใช้ในทางสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ แก่สังคม
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ คือการได้ลงมือ ทำ�จริง หลังจากที่น้อง ๆ ได้รับทราบข้อมูลความรู้ และดูตัวอย่างของสื่อประเภทต่าง ๆ แล้ว ก็มีการ แบ่งกลุ่มกันเพื่อออกไอเดีย คิดสร้างสรรค์ผลงาน ของตัวเองออกมา โดยเนื้อหาจะเป็นเรื่องราวการ รณรงค์เพือ่ ปรับเปลีย่ นพฤติกรรม และแก้ไขปัญหา ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในโรงเรี ย นหรื อ ชุ ม ชนของตั ว เอง ซึ่ ง ไอเดียของน้อง ๆ ทีน่ �ำ เสนอออกมาแต่ละกลุม่ นัน้ ก็มีความคิดสร้างสรรค์มากเลยทีเดียว และใน วันสุดท้าย ทีมงานก็ได้น�ำ ไอเดียของน้อง ๆ เหล่านี้ มาสร้ า งสรรค์ ใ ห้ เ กิ ด เป็ น ผลงานจริ ง เป็ น ที่ สนุกสนานตื่นเต้นของทุกคน เพราะสิ่งที่พวกเขา คิดนั้น ได้ถูกทำ�ให้เกิดขึ้นมาเป็นผลงานจริง ซึ่งก็
เป็นการช่วยเสริมสร้างกำ�ลังใจของน้อง ๆ เหล่านี้ ไปด้วย ทำ�ให้เขาเริ่มมีความกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำ� สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองต่อไป ในด้านอื่น ๆ นั้น น้อง ๆ ก็ได้รับความรู้ไป มากมาย ทัง้ ในด้านของ Eco-School ทีม่ กี ารออกไป สำ�รวจสิง่ แวดล้อมภายในโรงเรียนของตัวเอง เพือ่ นำ�มาวิเคราะห์ถึงธรรมชาติความเป็นไปที่เกิดขึ้น แล้ ว นำ � ไปสู่ ก ารต่ อ ยอด คิ ด วิ เคราะห์ ปั ญ หา เพื่อค้นหาแนวทางแก้ไข สร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้ เกิดขึน้ ในด้านของสุขภาพ ก็มกี ารเรียนรูเ้ รือ่ งโรคต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันรักษาที่ ถูกต้อง อีกทัง้ ยังมีการจัดหน่วยแพทย์อาสามาใน พื้นที่ เพื่อตรวจโรคและให้คำ�ปรึกษากับบุคลากร ในโรงเรียน ตลอดจนคนในชุมชน
กิจกรรมต่าง ๆ ที่เยาวชนได้ทำ�เหล่านี้ ถูก ขัดเกลาออกมาเป็นโครงการที่ทั้งเป็นประโยชน์ และทำ�ได้จริง ภายในโรงเรียนและชุมชนของพวก เขา ที่สำ�คัญคือ เป็นสิ่งที่มาจากความคิดของ พวกเขาเองด้วย แม้การอบรมจะจบไปแล้ว แต่การทำ�งาน ของโครงการเราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน ก็ไม่ได้หยุด อยู่เพียงเท่านี้ เพราะโครงการต่าง ๆ ที่เยาวชน ได้ คิ ด ออกมา เราจะสนั บ สนุ น ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด กระบวนการลงมือทำ�จริง เพือ่ ให้เกิดทัง้ การเรียนรู้ และประโยชน์ที่เห็นผลได้อย่างแท้จริง แล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง...ต้องติดตาม!
happy+ | 15
healthy planet เรื่อง : Patty Pom
สมุนไพรไทย ใกล้ตัว ในหน้าฝน
คนไทยสมัยก่อนใช้ภมู ปิ ญ ั ญาชาวบ้านนำ�พืชผัก สมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยรักษา ร่างกายและอาการบาดเจ็บได้หลายอย่างโดยไม่ตอ้ ง พึง่ ยา การใช้สมุนไพรจากธรรมชาตินน้ ั มีความปลอดภัยสูง และเกิดผลข้างเคียงน้อย ผูผ้ ลิตปัจจุบนั จึงนิยมนำ�พืช ผักสมุนไพรมาแปรรูป หรือนำ�มาเป็นส่วนประกอบใน ผลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ มากขึน้ สำ�หรับหน้าฝนเป็นช่วงที่ อากาศเปลีย่ นแปลง อากาศร้อนชืน้ เฉอะแฉะ เชือ้ โรค แพร่กระจายได้งา่ ย แพทย์แผนไทยอย่าง คุณรินทร์ธนัน จิตต์จงธรรม จึงมาแนะนำ�การดูแลตนเองในช่วง หน้าฝน ด้วยการใช้สมุนไพรใกล้ตวั ให้เกิดประโยชน์ สำ�หรับผูท้ ต่ี อ้ งเผชิญกับอาการหรือสภาวะเหล่านีค้ ะ่ 16 | happy+
• อาการหวั ด คั ด จมู ก นํ้ า มู ก ไหล การรับประทานอาหารแต่ละมื้อนั้น เราสามารถ นำ�สมุนไพรในครัวเรือนมาประกอบอาหาร หรือ นำ�มาเป็นยารักษาโรคได้อย่างง่ายดาย สำ�หรับ อาการหวัด คัดจมูก นํ้ามูกไหล เราสามารถนำ� หอมแดงมาเป็นส่วนประกอบในการทำ�ยำ�ต่าง ๆ หรือนำ�มาเป็นเครื่องเคียงทานกับข้าวต้ม จะช่วย รักษาอาการเป็นหวัด แถมเพิ่มรสชาติของอาหาร ด้ ว ย เพราะคนที่ เป็ นหวั ด คั ดจมูกมั กไม่ ค่ อย รู้สึกถึงรสชาติของอาหาร และผู้ที่เป็นหวัดควร หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ของมัน เพราะจะ ทำ�ให้เกิดอาการไอและระคายเคืองคอ
• อาการผื่ นคั น เกิ ด ขึ้ น ได้ ทั่ ว ไป และ สมุนไพรที่นิยมใช้มีอยู่หลายชนิด สมุนไพรที่ควร ปลูกไว้ในบ้านเพื่อใช้ประโยชน์ในการช่วยรักษา อาการคันคือ เสลดพังพอน เราสามารถนำ�ใบ เสลดพังพอน 4-5 ใบ มาขยี้ให้ละเอียด ผสมนํ้า สะอาดนิดหน่อย แล้วนำ�มาทาแก้คัน ลดผดผื่น ได้ หรือหากมีขมิ้นชันอยู่ในบ้าน ก็สามารถนำ� มาใช้ทาแก้อาการผื่นคันได้เช่นกัน โดยนำ�ขมิ้น ชันแบบผงมาผสมนํ้านิดหน่อย แล้วทาบริเวณ ผื่นคัน อาการก็จะลดลง นอกจากแก้คันแล้ว ขมิ้นชันยังช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้เป็น อย่างดี
• อาการท้องเสีย จากการรับประทาน อาหารที่ ไ ม่ ส ะอาด สามารถบรรเทาได้ ด้ ว ย กล้วยนํ้าว้าห่าม ๆ (ที่เปลือกมีสีเขียวปนเหลือง นิดหน่อย) หาซือ้ ง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การรับประทานกล้วยนํา้ ว้าแบบห่าม ๆ จะช่วยให้ อาการท้องเสียลดลง เนื่องจากร่างกายต้องการ ขับของเสียที่มีอยู่ออก หากรับประทานยาเพื่อให้ หยุดขับถ่ายทันที จะทำ�ให้ร่างกายไม่สามารถนำ� ของเสียออกไปได้ เมือ่ ของเสียสะสมอยูใ่ นร่างกาย มาก ๆ จะทำ�ให้เลือดเป็นกรด ทำ�ให้เซลล์และ อวัยวะในร่างกายเสื่อมลง
• หน้าฝนยุงชุกชุม ยุงมีหลายชนิด ชนิด ที่เป็นพาหะแพร่เชื้อโรค เช่น ยุงลาย แพร่เชื้อ ไข้เลือดออก หรือยุงที่สร้างความรำ�คาญและเกิด อาการคัน บวมแดง ซึ่งเป็นยุงตามบ้านทั่วไปนั้น เรามักจะหาสมุนไพรมาทาหรือฉีด และสเปรย์กนั ยุง มักจะเป็นตะไคร้หอม แต่ยงั มีสมุนไพรในครัวเรือน อีกอย่าง เช่น สะระแหน่ สำ�หรับใช้ทากันยุง นำ� ใบสะระแหน่ 4-5 ใบ มาขยี้แล้วทาบริเวณที่ยุงกัด หรือปลูกโหระพาไว้บ้าง สำ�หรับใช้ทำ�กับข้าว แล้วยังสามารถไล่ยุงได้อีกด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮาส์ ลุมพิน)ี
• ป้ อ งกั น อั น ตรายจากสั ต ว์ มี พิ ษ ด้วยสมุนไพรพื้นบ้างอย่างต้นมะกรูด เป็นต้นไม้ที่ มีนํ้ามันหอมระเหยสูง กลิ่นจากนํ้ามันหอมระเหย ของมะกรูดสามารถไล่แมลงบางชนิดได้ และ กลิ่นกรดจากมะกรูดเป็นกลิ่นที่งไู ม่ชอบ ส่วนสัตว์ ประเภทตะขาบ มด เราสามารถใช้ปูนขาวโรย บริเวณตามจุดอับชื้นต่าง ๆ หรือใช้นํ้าส้มควันไม้ ผสมนํ้าฉีดพ่นหรือราดพื้น เพื่อป้องกันปลวก มด ตะขาบ แมงป่อง สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
• เท้าอับชืน้ หรือนํา้ กัดเท้า จากการลุยนํา้ ฝน หรือนํ้าท่วมขัง สมุนไพรใกล้ตัวที่นำ�มาใช้ได้ผลดี กับอาการนํ้ากัดเท้า และปลอดภัยต่อร่างกาย คือ มะกรูด เราสามารถนำ�มะกรูดมาผ่าครึ่ง แล้ว คั้ น นํ้ า จากนั้ น ใช้ นํ้ า มะกรู ด ทาบริ เวณที่ เป็ น นํ้ากัดเท้า ทาวันละ 2-3 ครั้ง เนื่องจากนํ้ามะกรูด มีฤทธิ์ในการกำ�จัดเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี หรือ จะใช้ ข มิ้ นชั น โดยนำ�ผงขมิ้ นชันมาละลายนํ้า นิดหน่อย แล้วทาบริเวณทีเ่ ป็นนํา้ กัดเท้า ก็จะช่วย รักษาอาการ พร้อมทัง้ รักษาอาการผิวหนังอักเสบ ที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย รูถ้ งึ ประโยชน์ของสมุนไพรพืน้ บ้านอย่างนีแ้ ล้ว ต้องรีบปลูกพืชผักสมุนไพรไว้รอบบ้านแล้วละคะ happy+ | 17
นํ้ามันมะกอก
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดเนื้องอก
ในกลุม่ คนรักสุขภาพจะนิยมรับประทานนํา้ มันมะกอกบริสทุ ธิพ์ เิ ศษ (Extra Virgin Olive Oil) เพราะอุดมไปด้วยไขมันชนิดดี วิตามินอี วิตามินเค และสารต้านอนุมลู อิสระ ด้วยเหตุนน้ี า้ํ มันมะกอก จึงถือว่าเป็นนํา้ มันทีร่ บั ประทานแล้วดีตอ่ สุขภาพ โดยเชือ่ ว่าการรับประทานเป็นประจำ�วันละ 25 เกรน (1 เกรน = 65 มิลลิกรัมโดยประมาณ) ให้วติ ามินอีถงึ ร้อยละ 50 ของปริมาณทีค่ วรได้รบั ต่อวันในผูช้ าย และร้อยละ 62.5 ในผูห้ ญิง ทีมนักวิจยั จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส (Rutgers University) และวิทยาลัยฮันเตอร์ (Hunter College) ได้เปิดเผยถึงการศึกษาล่าสุดซึง่ ลงในวารสารเกีย่ วกับคุณสมบัตจิ ากนํา้ มันมะกอก มีการ ค้นพบว่า นํา้ มันมะกอกมีความสามารถในการลดภาวะเสีย่ งต่อโรคมะเร็ง ช่วยป้องกันเนือ้ งอกทีเ่ กิด กับอวัยวะบางส่วน อาทิ เต้านม ต่อมลูกหมาก ลำ�ไส้ใหญ่ ปีกมดลูก เนือ่ งจากกรดไขมันทีม่ อี ยูใ่ น นํา้ มันมะกอกช่วยยับยัง้ อนุมลู อิสระ และช่วยต่อต้านการก่อตัวของติง่ เนือ้ ในอวัยวะต่าง ๆ ทีก่ ล่าวถึง ข้างต้นอีกด้วย ทีม่ า : http://health.haijai.com/3407/ เนือ้ หาในฉบับ 56 เดือนกรกฏาคม 2560 มีขอ้ มูลผิดพลาด แก้ไข “กรดไขมันอิม่ ตัว” ทัง้ หมดเป็น “กรดไขมันไม่อม่ิ ตัว” ขออภัยในความผิดพลาดค่ะ
จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)
happy people
การเดินทางของความฝัน
ณัฐ ศักดาทร
เรื่อง : ณัฐธิชา อามินเซ็น ภาพ : สุภชัย รอดประจง แต่งหน้า – ทำ�ผม : Atom Makeup สถานที่ : ร้าน Quaint สุขุมวิท 61 โทรศัพท์ : 0-2714-1998, 08-5844-4234 www.facebook.com/QuaintBangkok IG : QuaintBangkok ถ้าพูดถึงศิลปินหนุม่ ทีม่ คี วามสามารถ เป็นไอดอลทัง้ ด้านการร้องเพลง การเรียนและการออกกำ�ลังกายของคนรุ่นใหม่มากที่สุดอีกคนหนึ่ง ของวงการบันเทิง ชื่อของ "ณัฐ ศักดาทร” ต้องผุดขึ้นมาในความคิด ของใครหลายคนอยู่แน่นอน นิตยสาร happy+ ฉบับนี้ เราขอยกพื้นที่ ให้เขาเลย ซึ่งหนุ่มรักเสียงดนตรีคนนี้ก็เต็มอกเต็มใจที่จะมาเปิดใจถึง มุมอื่น ๆ ในชีวิต แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นต้องไปติดตามกันเลยค่ะ 20 | happy+
happy+ | 21
happy people
22 | happy+
กาลเวลาพิสูจน์ฝีมือ
หากย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่แล้ว “ณัฐ ศักดาทร” ได้ก้าวสู่เวที True Academy Fantasia 4 (ทรู อคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 4) ตอนนั้นต้อง ยอมรับว่า เขาคือผูเ้ ข้าประกวดทีโ่ ดนกระแสโจมตี กับคำ�ครหาต่าง ๆ อย่างหนักหน่วง แต่เมื่อเวลา ผ่านไปเขาพยายามพิสูจน์ด้วยการต่อยอดและ พัฒนาตัวเองขึ้นไปกับผลงานต่าง ๆ จนวันนี้เขา กลายเป็นศิลปินแถวหน้าในวงการเพลง “ก่อนหน้านี้ผมเจอคำ�วิจารณ์ต่าง ๆ เยอะ มาก ผมรู้สึกตกใจ เพราะลองย้อนกลับไป ผม เป็นเด็กตั้งใจเรียนและไม่เคยไปสร้างปัญหาให้ ใคร แล้วอยู่มาวันหนึ่งผมได้มาตามความฝัน ก็ พบว่าคนด่าผมเยอะมาก ประหนึ่งผมไปทำ�ร้าย เขา หรือไปทำ�ร้ายครอบครัวเขา ก็ตกใจว่าเกิด อะไรขึน้ เพราะปกติในชีวติ ผมไม่เคยระรานใคร แต่ การทีผ่ มทำ�อะไรเพือ่ ตัวเองมันไปรบกวนความสุข ของคนอื่นเหรอ ตอนนั้นก็เสียใจครับ พอออกมา ใช้ชีวิตในวงการบันเทิงจริง ๆ กาลเวลาก็เริ่ม สอนให้ผมรู้ว่า อยู่ตรงนี้มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ มันเป็นเรือ่ งธรรมดา เราไม่สามารถทำ�ให้ใครชอบ เราได้ทั้งหมด และก็ไม่มีทางที่ทุกคนจะมาเข้าใจ เรา ซึง่ ส่วนหนึง่ ผมก็รสู้ กึ ขอบคุณพวกเขาเหล่านัน้ ขอบคุ ณคนที่ เคยว่ า หรื อ ดู ถู ก ผมไว้ เพราะมั น กลายเป็นแรงผลักให้ผมรู้สึกว่า คอยดู ผมจะ ทำ�ให้ได้ ผมจะทำ�ให้พวกคุณรูว้ า่ ผมไม่ได้มาเล่น ๆ ให้พวกเขาเห็นว่าผมตั้งใจ และการเป็นศิลปินคือ ความฝันของผมจริง ๆ ไม่ได้คิดว่าจะซื้อความฝัน ของผมด้วยเงิน พอมองย้อนกลับไปหลาย ๆ คน
ก็คงไม่คิดว่า ผมคนที่โดนด่าเรื่องร้องเพลงใน ตอนนั้น จะกลายเป็นไม่กี่คนที่ยังร้องเพลงอยู่ใน ตอนนี้ ผมก็ ภู มิ ใจในตรงนี้ ที่ ผ มยั ง มี ผ ลงาน ออกมาเรื่อย ๆ ครับ”
นักล่าฝัน
ณัฐเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริม่ ต้นของความฝัน ว่า เขาเพิง่ รูต้ วั ว่ารักในการร้องเพลง หลังจากทีเ่ ขา ได้ไปดูคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกในชีวิต “จริง ๆ แล้วเป็นเรือ่ งทีค่ อ่ นข้างแปลกเหมือน กันครับ ตอนเด็ก ๆ มีคณ ุ ครูทดี่ แู ลวงประสานเสียง ของโรงเรี ย นมาชวนผมเข้ า เป็ น กลุ่ ม นั ก ร้ อ ง ประสานสียง ผมก็ปฎิเสธตัง้ หลายครัง้ ว่าไม่เอาครับ ผมอาย ผมไม่ชอบฟังเพลงและไม่ชอบร้องเพลง จนมี วั น หนึ่ ง ได้ ไปดู ค อนเสิ ร์ ต ครั้ ง แรกในชี วิ ต เป็นคอนเสิร์ตของพี่เจสัน ยัง พี่ทาทา ยัง และ พีอ่ อ้ ม สุนสิ า ทีโ่ รงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย มันเกิด ความรู้สึกบางอย่าง เหมือนมีมวลความสุขก้อน ใหญ่ ๆ แล้วผมก็ถูกดูดเข้าไปในนั้น ตอนนั้นรู้สึก ว่า มันเจ๋งมาก แล้วคนที่อยู่บนเวทีนั้นเท่มาก เขา ทำ�ให้คนดูมคี วามสุข ผมรูส้ กึ ว่าอยากทำ�ได้บา้ ง ก็ เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการไปซื้อเทปและซีดีมาหัด ร้องเพลง ยุคแรก ๆ ก็จะเป็นพีม่ อส พีต่ กิ๊ ชิโร่ จนผม เริ่มมีความฝันที่จะเป็นนักร้องแล้ว คุณพ่อคุณแม่ ท่านก็ไม่คิดว่าผมจะจริงจัง ท่านคงคิดว่าเป็นแค่ ช่วงวัยรุ่น ที่ฮิตฟังเพลงหรือร้องเพลงไปอย่างนั้น แล้วประจวบกับว่าตอนมัธยมปีที่ 2 ผมได้ไป เรียนต่อที่เมืองนอกพอดี กลายเป็นว่าโรงเรียน ที่ อเมริ กาเขาค่ อนข้ างที่ จะสนับสนุนให้เด็กทำ � happy+ | 23
happy people
กิจกรรม อย่างตอนผมอยู่เมืองไทยเรียนเสร็จก็ กลับบ้าน แต่ทนี่ นั่ มันไม่ใช่ เลยทำ�ให้ผมได้ลองเข้า วงประสานเสียง ได้ทำ�ละครเวที และได้ทำ�อะไรที่ เกีย่ วกับเสียง มันยิง่ ทำ�ให้ผมรูส้ กึ อินมากขึน้ ทำ�ให้ ผมเริ่มรู้สึกว่า อยากเป็นนักร้องอย่างจริงจังครับ “พอผมเริ่มร้องเพลงอย่างจริงจังก็เริ่มมีคน บอกว่า ผมร้องเพลงเพราะ (หัวเราะ) เพราะตอน เข้าวงประสานเสียงผมต้องออดิชั่นก่อน ปรากฏ ว่าออดิชั่นผ่าน ทำ�ให้เริ่มมีความหวังเล็ก ๆ ว่า เราก็ทำ�ได้ ตอนอยู่เมืองไทย จากที่ผมเป็นเด็ก เรียบร้อย นิ่ง ๆ เหมือนไม่กล้าที่จะหลุดออก จากกรอบด้วยตัวเอง พอผมไปอยู่เมืองนอกมัน เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ เจอคนใหม่ ๆ ที่เขา ไม่ได้รจู้ กั ผมมาก่อน ไม่ได้ตดิ ภาพผมแบบเมือ่ ก่อน ก็ทำ�ให้ผมรู้สึกเป็นคนใหม่ทันที ตอนอยู่ไฮสคูล ผมได้ทำ�กิจกรรมเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง ในวงประสานเสียง ทำ�ละครเวที หนังสือรุ่นและ หนังสือพิมพ์ของโรงเรียน พอกลับมาเมืองไทย ผมเริ่มรู้แล้วว่าผมจะมาทางสายร้องเพลงแน่ ๆ ตอนนั้นผมอยากเข้าแกรมมี่มาก เพราะผมเป็น แฟนคลับของพี่ ๆ ศิลปินค่ายนี้หลาย ๆ คน ผม เริ่มทำ�สกรีนเทสต์เพื่อเข้าแกรมมี่แต่ไม่ติด แต่ผม ก็ยังอยากเป็นนักร้อง จึงมองหาโอกาสที่ผมจะได้ ทำ�ตรงนั้น และช่วงนั้น AF 4 กำ�ลังเปิดรับสมัคร จริง ๆ แล้ว ผมไม่เคยดูหรอกว่าเวที AF เป็น อย่ า งไร แต่ เพื่ อ นก็ บ อกว่ า รายการนี้ กำ � ลั ง ฮิ ต อยู่ ให้ลองไปสมัครดู ถ้าออกมาจากบ้าน AF ก็ได้ออกเพลงเลยนะ ผมเลยลองไปสมัครดู ทำ� ทุกอย่างเองหมด ปรากฏว่าผ่านเข้ารอบ ทำ�ให้มา เป็นผมจนถึงทุกวันนี้ “ซึ่งตอนนี้ผมมีเป้าหมายในการเป็นศิลปิน คือ การสร้างผลงานให้เป็นที่จดจำ� และไปอยู่ใน ชีวติ ของคนอืน่ ให้ได้ เพราะในแต่ละเพลงทีอ่ อกมา ผมจะรูส้ กึ ดีทกุ ครัง้ ทีไ่ ปนัง่ อ่านคอมเมนต์ แล้วเห็น ว่ามีคนมาขอบคุณที่ผมเขียนเพลงนี้ขึ้นมา อย่าง เช่น ตอนนัน้ มีเพลง ‘ครัง้ หนึง่ ในชีวติ ’ มันเป็นเพลง ที่มองความรักที่ผิดหวังในมุมบวก อย่างน้อยครั้ง หนึ่งเราก็เคยได้รักกัน แล้วก็มีคนเขียนคอมเมนต์ ในยูทูบ หรือส่งข้อความมาขอบคุณผมที่เขียน เพลงนี้ขึ้นมา ให้เขาได้ข้ามผ่านประสบการณ์ที่ เจ็บปวดได้ ผมเลยรูส้ กึ ว่าการทีไ่ ด้สร้างผลงานเป็น อะไรที่มีความหมายต่ออาชีพผม ผมก็อยากจะ 24 | happy+
ทำ�แบบนั้นให้ได้กับทุก ๆ เพลงที่ออกมา”
พื้นที่ชีวิตที่เปลี่ยนไป
จากวันนั้นถึงวันนี้วงการบันเทิงสำ�หรับเขา เปลี่ ย นแปลงไปตลอดเวลา เป็ น ยุ ค ที่ โซเชี ย ล มีเดียเข้ามามีบทบาท ทำ�ให้เขาได้เข้าถึงคนที่รัก เขาได้มากยิ่งขึ้น “ปัจจุบันวงการบันเทิงเปลี่ยนไปเยอะครับ เอาง่าย ๆ พอมันมีโซเชียลมีเดีย เข้ามา มีอะไรต่าง ๆ เข้ามา การทำ�งานก็เปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนเรา ก็แค่ทำ�หน้าที่ร้องเพลง คิดงานเพลง แต่ทุกวันนี้ คนในวงการส่ ว นหนึ่ ง ต้ อ งทำ � หน้ า ที่ พี อ าร์ มาร์เกตติง้ ให้ตวั เองด้วย ยิง่ ใครทำ�เก่ง ใครทำ�เป็น ก็ยง่ิ มีโอกาสมากกว่าคนอืน่ เหมือนเราต้องสร้างการ ตลาดให้กับตัวเอง ซึ่งไม่เพียงเฉพาะกับอาชีพผม แต่ มั น เป็ นทุ ก อาชี พ กลายเป็ น ยุ ค ที่ เน้ น เรื่ อ ง อิมเมจมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมต้องเรียนรู้ศาสตร์ตรงนี้ ไปด้วย ที่สำ�คัญสิ่งที่เปลี่ยนไปมากก็คือ แฟน ๆ เขาสามารถติดตามผมได้ง่ายขึ้น เราสามารถคุย กันได้ง่ายมาก เพราะสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้คาดคิดก่อน ที่จะมาเป็นนักร้องคือ แฟนคลับ ก่อนหน้านี้ผม ไม่เคยเข้าใจเรื่องแฟนคลับ เพราะสมัยก่อนถ้า ผมชื่นชอบนักร้องคนไหน ผมก็แค่ติดตามผลงาน เขา แต่ไม่ได้ไปนัง่ รอหรือคอยเฝ้าใคร พอมาตรงนี้ ผมเจอคนที่เขาตามผมมาตั้งแต่แรก ผมก็รู้สึก ขอบคุณมาก ๆ กลายเป็นเรามีความผูกพันและ เป็นครอบครัวเดียวกันไปเลย “แต่ความรวดเร็วของโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกันครับ ตรงที่คนอื่น สามารถคอมเมนต์ สิ่ ง ที่ ไ ม่ ดี ซึ่ ง อาจจะทำ � ให้ บั่นทอนจิตใจได้ แต่สำ�หรับผม อาจเป็นเพราะ ผมโดนกระหนํ่าวิจารณ์มาตั้งแต่แรก (หัวเราะ) เลยรูส้ กึ ว่า ไม่เป็นไร ผมค่อนข้างรูส้ กึ เฉย ๆ แต่วา่ โซเชียลมีเดียมันก็ง่ายเชิงที่ว่าใครด่าเรา เราก็ สามารถบล็อกได้ อย่างคนที่ไม่ได้ตั้งใจมาตาม ผลงานของเราอยู่แล้ว แต่มาเพื่อที่จะด่าสนุก ๆ เพื่อระบายอารมณ์ ผมก็แค่จัดการบล็อก เท่านั้น ก็จบครับ อย่างในกระทู้ ในเฟซบุ๊ก ถ้ามีข่าวอะไร ผมจะเห็นเลยว่าจะมีบางคนที่ขอให้ได้ด่า ขอ ให้ได้คอมเมนต์อะไรแรง ๆ ไว้ก่อน ฉันรู้สึกสนุก ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับข่าว นั้นจริง ๆ ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ แต่พอนานไป
happy+ | 25
happy people
ผมเริ่มรู้ว่า มันก็ไม่ใช่คนที่เราต้องโฟกัสหรือเอา แล้วต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทุกวัน ไม่ค่อยได้ ชีวิตเราไปแขวนไว้ เหนื่อยเปล่า ตอนนี้ก็ปล่อย ๆ พบเจอใครสักเท่าไร ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้อยากใช้ ไปดีกว่าครับ” ชีวิตแบบนี้ ผมอยากใช้ชีวิตที่สร้างอิมเเพคให้ คนอืน่ ๆ มากกว่านี้ และผมก็รสู้ กึ ว่า อาชีพทีผ่ มกำ�ลัง ใช้ความรักทำ�งาน ทำ�ตอนนี้สามารถตอบโจทย์ตรงนั้นได้มากกว่า ระยะเวลาหนึ่งทศวรรษ ทำ�ให้เขาได้จับงาน ผมว่าแต่ละคนต้องตั้งคำ�ถามกับตัวเองให้ได้ก่อน ในวงการบันเทิงมาแล้วทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น และอาชีพทีเ่ ราเลือกไม่มถี กู ไม่มผี ดิ แต่มนั จะตอบ งานเพลง ละคร ละครเวที หรือถ่ายแบบ ซึ่งเขา โจทย์เราได้มากน้อยแตกต่างกันไปครับ พอใจกั บ ทุ ก บทบาทที่ ได้ รั บ และทำ � หน้ า ที่ ข อง “เป้าหมายในชีวิตของผมจริง ๆ คือ ผม ตัวเองให้ดีที่สุด อยากจะใช้ชีวิตให้มีความสุข โดยใช้ชีวิตให้เกิด “ผมค่อนข้างชอบในทุก ๆ งานครับ อย่าง ประโยชน์กบั คนอืน่ ผมอยากมีความสุข แต่ความ ตอนที่ผมพบว่าความฝันของเราคือ อยากทำ�ให้ สุขนั้นก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นด้วย รู้สึก คนอื่นมีความสุข ผมจึงรู้สึกว่า การแสดงเป็นอีก ว่าการมีความสุขคนเดียวมันไม่พอ ความสุขมัน งานหนึง่ ทีท่ �ำ ให้ผมบรรลุจดุ ประสงค์ตรงนัน้ ได้ แต่ เริม่ มีความหมายมากขึน้ เมือ่ เราใช้ชวี ติ ของตัวเอง การเป็นนักแสดงบางครั้งผมอาจจะไม่เข้าใจว่า สร้างความหมายให้กับคนอื่น อย่างเมื่อก่อนผม ระดับความเอ็นจอยของผมมันอยูต่ รงไหน บางครัง้ คิดแค่วา่ ผมอยากร้องเพลง ต่อมาผมได้ท�ำ อาชีพนี้ ผมก็เอ็นจอยมากหรือบางอย่างผมอาจจะเอ็นจอย จริง ๆ ผมจึ งได้ รู้ ว่ า คนทำ� อาชี พนี้ มี โอกาสที่ น้อย ถ้าพูดจริง ๆ ผมชอบหนังมากกว่างานละคร จะส่งข้อคิด ส่งต่อตัวอย่างไปให้คนอื่นได้ง่าย เพราะหนังมันมีมติ แิ ละสมจริงมากกว่า ผมไม่ชอบ มากกว่าอาชีพอืน่ ๆ สิง่ นีย้ งิ่ ทำ�ให้ผมรูส้ กึ ว่าอาชีพนี้ อะไรที่ต้องโอเวอร์แอ็คติ้ง ผมไม่ค่อยถนัด ส่วน มีค่า ไม่ใช่แค่เสียงเพลง แต่มันจะเป็นทุก ๆ มุมที่ การร้องเพลงมันคือการที่ผมเป็นตัวของตัวเอง ทำ�ให้เกิดความหมายในชีวิตคนอื่นได้” บนเวทีมนั ไม่มอี ะไรทีผ่ ดิ เราแค่สวมบทบาทความ เป็นตัวเอง แต่การแสดงละครมันต้องเข้าใจคาแร็กเตอร์ ไอดอลเรื่องการเรียน นัน้ ๆ และบางทีกเ็ ข้าใจยากเหลือเกินว่าทำ�ไมเขา ณัฐเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่น่าชื่นชมและเป็น ต้องทำ�แบบนัน้ หรือว่าถ้าเป็นเราในชีวติ จริงเราจะ ตัวอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นยุคใหม่ เพราะนอกจาก ไม่มีทางพูดแบบนี้อย่างแน่นอน มันก็จะมีความ จะมีความสามารถทางด้านดนตรี และการร้อง ท้าทายต่างกัน ซึง่ ทุกโอกาสทีผ่ มได้รบั ผมมีความสุข เพลงแล้ว ณัฐยังเป็นศิลปินทีใ่ ฝ่เรียนมาตัง้ แต่เด็ก ที่จะทำ�ออกมาให้ดีที่สุดครับ “ตอนเด็ก ๆ ค่อนข้างจะตัง้ ใจเรียนมาก อย่าง “ทุกวันนีท้ ผี่ มได้ท�ำ อาชีพทีเ่ คยฝัน มันก็ไม่ใช่ ช่วงประถมฯ จะได้เกรดสี่ทุกเทอม เป็นสารวัตร ทุกช่วงหรอกทีจ่ ะมีความสุข มันจะมีบางวันทีร่ สู้ กึ นักเรียน เป็นหัวหน้าห้อง เป็นตัวแทนตอบคำ�ถาม ว่า ทำ�ไมเราถึงไม่สนุกกับมันเลย ก็มีบ้างเป็น เป็นลูกรักของคุณครู เวลาครูตีก็จะตีเราเบากว่า เรื่องธรรมดา ที่มันจะไม่ได้ดีไปหมดทุกวัน ไม่ว่า คนอืน่ เพราะผมตัง้ ใจเรียน ครูเขาเลยเอ็นดู (หัวเราะ) จะเป็นเรื่องความฝันหรือเรื่องความรัก เราก็ต้อง ผมก็ ไม่ ท ราบเหมื อ นกั น ว่ า ทำ � ไมผมถึ ง เรี ย นได้ เข้าใจว่ามันจะต้องมีวนั ทีแ่ ย่ แต่ตราบใดทีว่ นั อืน่ ๆ เกรดสี่ ทุ ก เทอม ไม่ ไ ด้ มี เคล็ ด ลั บ ในการเรี ย น ยังเป็นสิ่งที่เติมความสุขให้เราได้ ก็ทำ�ไป ผมว่า อะไรเลย เพราะตอนเรี ย นพ่ อ กั บ แม่ ก็ ไ ม่ ไ ด้ ชีวิตของแต่ละคนไม่มีเส้นทางที่ผิด แต่คงจะมี มาบังคับอะไร ไม่เคยถามว่าเทอมนี้ได้เกรดเท่าไร เส้นทางทีจ่ ะทำ�ให้แต่ละคนมีความหมายมากน้อย กลายเป็นว่าพอท่านไม่ได้บังคับ ก็กลายเป็นเราที่ ต่างกัน สำ�หรับผม สิง่ ทีผ่ มทำ�ตอนนีม้ นั ทำ�ให้ชวี ติ อยากจะทำ�ให้ท่านเอง ผมไม่ใช่คนที่ต้องไปเรียน ผมยังมีความหมายอยู่ ทำ�ให้ผมได้เชือ่ มต่อกับคน พิเศษ อย่างเวลาใกล้สอบผมอ่านหนังสือสลับกับ มากมาย ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ผม ดูการ์ตนู ด้วยซํา้ เพือ่ ให้ไม่เครียดมากเกินไป จริง ๆ เลือกเส้นทางนีเ้ พราะก่อนหน้านีเ้ ราเคยไปฝึกงาน ผมเป็นเด็กติดเกม สมัยก่อนทีซ่ อื้ ขนมแล้วได้การ์ด 26 | happy+
การมีความสุขคนเดียว มันไม่พอ ความสุขมันเริ่มมีความ หมายมากขึ้นเมื่อเราใช้ ชีวิตของตัวเอง สร้าง ความหมายให้กับคนอื่น หรือได้ของเล่น ผมก็สะสมเหมือนกับคนอืน่ คือใช้ ชีวิตค่อนข้างธรรมดาเหมือนเด็กปกติทั่วไป อาจ เป็นเพราะผมไม่ถูกกดดัน จึงเรียนไปได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ โดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับที่บ้าน”
พลังสร้างแรงบันดาลใจ
จากนักร้องรูปร่างผอมบางในอดีต ในวันนี้ เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา เพราะณัฐ ลุกขึ้นมาออกกำ�ลังกาย ไม่ใช่แค่ในฟิตเนสเพียง อย่างเดียว แต่หลายครั้งเราเห็นเขาในสนามวิ่ง มาราธอน ซึ่งจุดเปลี่ยนของผู้ชายคนนี้คือ เขา ยิ่งวิ่งยิ่งได้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพที่ ดีขึ้น พบเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ และพบความท้าทาย ในชีวิตมากขึ้น “ในชี วิ ต ของผมทุ ก อย่ า งต้ อ งการความ ท้าทาย ถ้าไม่ท้าทายผมจะไม่ทำ� เพราะรู้สึกเสีย เวลา ผมชอบชีวิตแบบท้าทายมาก เพราะรู้สึก แบบจะใช้ชีวิตวัน ๆ ไปทำ�ไม อย่างต้นปีที่ผ่านมา กับปลายปีที่กำ�ลังจะถึง ถ้าผมไม่ได้เก่งขึ้นใน เรื่องใดเรื่องหนึ่งเลย ผมจะรู้สึกเสียเวลา ชีวิตมัน ต้องมีอะไรที่ก้าวหน้าขึ้นไปสักนิดหนึ่ง ในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง การวิ่งมาราธอนก็เป็นอีกหนึ่งความ ท้าทายของผม มันเริ่มจากที่ผมเล่นฟิตเนสก่อน ผมเริ่มหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น แล้วตอนอยู่ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดมันจะติดแม่นํ้า เราเห็นคน ไปวิง่ เราเลยลองไปวิง่ ดูบา้ ง ก็รสู้ กึ สดชืน่ ดี ตอนนัน้ ก็ทำ�เป็นงานอดิเรก กลับมาถึงเมืองไทยเลยได้ไป
happy+ | 27
happy people
28 | happy+
ลงงานวิ่ง ตอนนั้นวิ่งไป 10 กว่ากิโล ผมแค่ลองดู ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้คิดว่าจะจริงจัง เห็นคน เขาวิง่ กันก็เลยลองดูวา่ เราจะทำ�ได้บา้ งไหม วันนัน้ ครั้งแรกที่ทำ�ได้คือ ผมวิ่งไปชั่วโมงนิด ๆ ผมรู้สึก ได้เจอตัวเองในเวอร์ชั่นที่เราไม่รู้จัก เวอร์ชั่นที่เรา ไม่คิดว่าเราจะเป็นได้ มันเกิดความรู้สึกฮึกเหิม มากทีท่ �ำ ได้ หลังจากนัน้ ก็เริม่ เสพติดความฮึกเหิม (หัวเราะ) อยากจะรูส้ กึ แบบนัน้ อีกเรือ่ ย ๆ หลังจากนัน้ ก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางมากขึ้น เริ่มท้าทายตัวเอง มาถึงทุกวันนี้ก็เป็นฟูลมาราธอนไปแล้ว 42 กิโล ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ “ผมคิ ด ว่ า การวิ่ ง เรื่ อ งแรกให้ ผ มคื อ เรื่ อ ง สุขภาพแบบไม่ต้องสงสัย แต่อีกอย่างที่เกิดขึ้น คือ ผมได้พิสูจน์ว่าผมสามารถเก่งขึ้น สามารถ เอาชนะตัวเองได้เรื่อย ๆ มันชัดเจนมากในเรื่อง วิ่ง อย่างสนามที่แล้วผมทำ�เวลาได้เท่านี้ สนามนี้ ผมจะต้องทำ�เวลาได้ดขี นึ้ แค่นคี้ อื ข้อพิสจู น์แล้วว่า ถ้าเราฝึกฝนมากพอ เราซ้อมมากพอ เราจะเป็นคน ทีเ่ จ๋งกว่าเดิม ก้าวข้ามข้อจำ�กัดของตัวเองได้ แล้ว เรื่องอย่างนี้จะไม่ได้หยุดแค่เรื่องวิ่ง มันจะเปลี่ยน มุมมองของเราไป ทั้งการทำ�งาน การใช้ชีวิตด้วย ว่าถ้าเราซ้อมและอดทนมากพอ ทุกอย่างพัฒนา ได้หมด สำ�หรับคนทีต่ อ้ งการเริม่ วิง่ มาราธอน ต้อง เริ่มจากตื่นนอนแล้วเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นให้ได้ นั่ นคื อ จุ ด เริ่ ม ต้ น แล้ ว ผมว่ า ต้ อ งเริ่ ม จากที่ ไม่ คาดหวังสูงจนเกินไป เราสามารถตั้งเป้าหมาย ใหญ่ได้ แต่วา่ ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เหมือนเรา ตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าปีนี้เราจะวิ่งมาราธอนให้ได้ เราต้องแตกเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น วันแรกเราจะวิ่งให้ได้หนึ่งกิโล ไม่ใช่วันแรก จะต้องวิ่งให้ได้ 10 กิโล มันเป็นไปไม่ได้ ผมว่าที่ หลาย ๆ คนท้อไปเพราะตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป เขาไม่รู้วิธีแตกเป้าหมายออกมา แล้วค่อย ๆ ไต่ ระดับไป เหมือนคาดหวังกับตัวเองเกินไปตั้งแต่ วันแรก ๆ พอทำ�ไม่ได้ก็รู้สึกท้อ และก็หยุด วันที่ ผมวิง่ วันแรกผมวิง่ ไป 10 กิโล แต่วา่ วันทีไ่ ปซ้อมวิง่ สวนลุมพินี ผมก็เริ่มจากน้อย ๆ ตามปกติ 2 หรือ 5 กิโล คือ ค่อย ๆ ไต่ระดับไปทีละนิด” ถึงแม้ตอนนี้ณัฐจะเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับ ติดตามอย่างเหนียวแน่น แต่เขาอยากให้ทุกคน มองเขาเป็ น ผู้ช ายธรรมดาที่ พยายามจะทำ�ใน สิ่งที่รัก ให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ
ทำ�ให้รู้สึกว่า การมีคนรักนั้นย่อมดีกว่าการอยู่ คนเดียว อีกทั้งต้องสร้างพลังบวกให้ตัวเขาได้ “เวลารักใครสักคนผมจะรักเขามาก ทุ่มเท ทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา จนบางทีก็มากเกินไป ผม เคยเจอคนคนหนึ่ง เราคุยและคบกัน ซึ่งเขาบอก ว่าผมเหมือนทุกอย่างตามที่กระทู้ต่าง ๆ บอก ว่าแฟนที่ดีต้องเป็นแบบไหน ผมได้คะแนนเต็ม จนทำ�ให้เขารู้สึกผิดที่ทำ�ให้เราได้ไม่เท่ากัน ผมก็ งงว่า นี่เราดีเกินไปเหรอ (หัวเราะ) ผมเป็นคนที่ ค่อนข้างเซ็นซิทีฟเรื่องความรัก คิดอีกที ถ้าผมไม่ เซ็นซิทีฟเรื่องนี้คงเป็นศิลปินไม่ได้ “ผมอยากอยู่กับคนที่ป้อนพลังบวกให้กับ ผม ทำ�ให้ผมมีแรงที่จะสู้กับชีวิตมากกว่าเดิม ผม ไม่มีสเปคตายตัว แต่เป็นความรู้สึกมากกว่าว่า ผมอยู่กับคนนี้แล้วผมจะรู้สึกมีพลังที่อยากจะทำ� อะไรหลาย ๆ อย่าง ถ้าบางคนคุยแล้วมีความ รู้สึกที่ลบไปกว่าเดิม หรือความรักที่มีแล้วต้อง เหนื่อยมากกว่าเดิม ก็ไม่รู้จะมีความรักไปทำ�ไม ทุกวันนี้ผมก็มีความรับผิดชอบอื่น ๆ อยู่แล้ว การมีความรักสักครั้ง ไม่ควรทำ�ให้เราหดหู่หรือ รู้สึกหมดหวังในชีวิต ความรักเป็นอะไรที่ต้องเติม พลังให้เรามากกว่า ถ้าคบกับใครแล้วมีแต่ปัญหา รู้สึกท้อ ก็ต้องเริ่มทบทวนแล้วว่า มันคือความรัก จริง ๆ ไหม” ก่อนจบบทสนทนา ณัฐยังฝากขอบคุณแฟน ๆ ทีต่ ดิ ตามเขามาโดยตลอดระยะเวลา 10 ปีทผี่ า่ นมา ใช้ความรักเติมพลังบวก แม้บางครัง้ เขาอาจจะท้อแท้ไปบ้าง แต่เขาจะตัง้ ใจ ณัฐเล่าให้ฟังต่อว่า เขาเป็นคนที่เซ็นซิทีฟกับ ทำ�ทุกบทบาทในชีวติ ให้ดที สี่ ดุ รับรองได้วา่ แฟน ๆ เรื่องความรัก ฉะนั้นถ้าเขาจะมีใครสักคนจะต้อง จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
“คนอืน่ อาจจะมองว่าผมเป็นคนเข้มแข็ง มุง่ มัน่ แต่จริง ๆ ผมว่าผมเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่ บางวันก็มีมุมที่เปราะบางเหมือนคนทั่วไป และ เราก็ยังเป็นคนที่ยังต้องการคนรัก คนดูแลเหมือน คนอื่น ๆ ผมเป็นคนที่จะพยายามมองโลกในแง่ บวก แต่ผมจะไม่โลกสวย ผมรู้ว่าโลกนี้มีมุมที่ แย่เหมือนกัน แต่ชีวิตเราสั้นเกินกว่าที่จะโฟกัส แต่สงิ่ แย่ ๆ ผมอยากให้ทกุ คนนึกถึงคนทีพ่ ยายาม ที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผมไม่ได้เป็น คนที่เก่งมาจากไหน แต่ผมเป็นคนพยายามที่จะ เรียนรู้ว่าตัวเองมีอะไรบกพร่อง แล้วก็ทำ�ให้ดีขึ้น พยายามที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า อะไรที่ไม่ดี หรือห่วย เราเปลี่ยนแปลงมันได้ ก็อยากจะให้เขา เห็นเราตรงนัน้ และนำ�ไปปรับใช้กบั ชีวติ ตัวเองด้วย “ผมอาจจะพู ด เหมื อ นนั ก เศรษฐศาสตร์ เพราะผมเรียนเศรษฐศาสตร์มา ผมรู้สึกว่า ใครที่ เขามาชอบเรา มาสนับสนุนเรา ก็เหมือนกับว่าเขา มาลงทุนกับเรา แต่การลงทุนในที่นี้คือ การลงทุน ด้วยความรู้สึก ผมเลยรู้สึกว่า ผมต้องเป็นกราฟที่ ขึน้ ไปเรือ่ ย ๆ คงไม่มใี ครอยากทีจ่ ะลงทุนกับกราฟ ทีต่ กลงทุกวัน ถ้าเราลงทุนกับอะไรทีม่ นั ตกลง เรา ก็อยากจะถอนคืนใช่ไหม แต่ถา้ เราเป็นกราฟทีข่ ึน้ ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำ�ให้คนที่อยู่กับเรารู้สึกว่าได้อะไร กลับไป ได้กำ�ไรทางความรู้สึกว่า เขามาลงทุน กับคนไม่ผิดและเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด”
happy+ | 29
happy heart
30 | happy+
ปวีณา หงสกุล ร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศทีก่ �ำ ลังพัฒนา ยังมีปญ ั หาหลาย ๆ ด้านซึง่ จำ�เป็นต้องแก้ไขอย่างต่อเนือ่ งและยัง่ ยืน ในปัญหาเหล่านัน้ ทีเ่ ราไม่ควรมองข้ามก็คอื ปัญหาเกีย่ วกับสังคม โดยเฉพาะปัญหาครอบครัว ซึง่ ถือเป็นกลุม่ คนทีอ่ าจไม่สามารถแก้ไขปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ได้ดว้ ยตนเอง จึงต้องการความช่วยเหลือ คำ�แนะนำ� การให้ความรู้ และมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจัดการกับปัญหา ต่างๆ เช่น การข่มขืนอนาจาร ค้าประเวณี ค้ามนุษย์ ทารุณกรรม หรือปัญหาครอบครัว ฯลฯ หลาย ๆ ท่านคงทราบกันดีอยูแ่ ล้วว่า มูลนิธปิ วีณาหงสกุลเพือ่ เด็กและสตรี องค์กรสาธารณประโยชน์ ก่อตัง้ โดย คุณปวีณา หงสกุล ทำ�หน้าที่ เป็นศูนย์กลางรับเรื่องขอความช่วยเหลือและเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งดำ�เนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 เป็นเวลากว่า 18 ปีแล้ว นับเป็นองค์กรหนึ่ง ทีเ่ ป็นทางเลือกให้กบั ผูไ้ ม่ได้รบั ความเป็นธรรม หรือผูถ้ กู กระทำ� เป็นการช่วยเหลือรัฐบาลอีกทางหนึง่ และทำ�งานบูรณาการร่วมกับภาครัฐ เอกชน ประชาชน อย่างเป็นรูปธรรม
รักเพื่อนและความยุติธรรม
ชีวติ ในวัยเด็กของคุณปวีณา หงสกุล เป็นเด็ก ที่รักความถูกต้อง ไม่ชอบเห็นใครถูกกลั่นแกล้ง และพร้อมทีจ่ ะออกหน้าต่อสูเ้ พือ่ ความถูกต้อง แม้ จะเป็นเด็กแต่กก็ ล้าแสดงออก ซึง่ คุณปวีณา บอก ไว้วา่ เป็นผลพวงมาจากการเลีย้ งดูและคำ�สัง่ สอน ของคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก “ตอนเด็ก ๆ จำ�ได้ว่าคุณแม่จะพาเข้าวัด ทำ�บุญ เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นวันสำ�คัญทาง ศาสนาวันใด วันพระ คุณแม่ก็จะพาลูก ๆ เข้าวัด เข้าวา ทำ�ให้พวกเราลูก ๆ ค่อนข้างที่จะศรัทธา ในพระพุทธศานามาก คุณแม่จะสอนให้รู้จักการ เสี ย สละ เมตตากรุ ณาต่ อ มนุ ษ ย์ สั ต ว์ และ ทุกอย่างผ่านทางการกระทำ� จนทำ�ให้เรามีจิตใจ อ่อนโยน และค่อนข้างจะอ่อนไหวในเรื่องเหล่านี้ จนกระทั่งคุณแม่อายุ 50 ปี ท่านก็ไปบวชชี 30 ปี จนสุดท้ายของชีวิต ซึ่งตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ เท่าที่ จำ�ความได้เวลามีเด็กผูช้ ายมาทำ�ร้ายเพือ่ น แกล้ง เพื่อน ด้วยความที่เราเป็นคนรักเพื่อนไม่ชอบให้ ใครถูกรังแก ดิฉันก็ต้องเข้าไปช่วยเพื่อน เพื่อ ปกป้องไม่ให้ใครมาทำ�ร้ายเพื่อนผู้หญิงได้ เราจะ รู้สึกแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก “ดิฉันมีความสุขที่ไปโรงเรียน เพราะได้พบ เจอเรือ่ งสนุก ๆ มากมาย ยังเคยขอคุณพ่อคุณแม่
ให้ไปอยู่โรงเรียนประจำ�เพราะติดเพื่อน รักเพื่อน มาก คุณพ่อคุณแม่ก็จะงงว่าลูกอยากจะไปอยู่ โรงเรียนประจำ� เด็กส่วนใหญ่เขาอยากอยู่บ้าน มากกว่า และอีกอย่างหนึ่งที่สำ�คัญ ก็คือ ไม่เคย หยุดโรงเรียนเลย อยากจะไปโรงเรียนทุกวัน วันไหน ที่ไม่สบายก็ยังอยากไปโรงเรียน เพราะรู้สึกว่า ที่โรงเรียนเป็นสถานที่ที่สนุก การเรียนเราก็โอเค และทำ�กิจกรรมให้กับโรงเรียน คิดย้อนกลับไปก็ รู้สึกว่าในตอนนั้น ชีวิตในวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ เรามีความสุขดีนะ ปัจจุบันนี้ก็ยังสนิทกับเพื่อน ๆ อนุ บ าล ประถม มั ธ ยม ยั ง นั ด มาพบปะกั น อยู่เป็นประจำ�”
เส้นทางการทำ�งาน
คุณปวีณา หงสกุล เข้าสู่เส้นทางการเมือง และได้ รั บ ความไว้ ว างใจให้ ดำ � รงตำ � แหน่ ง สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เข้าไปนัง่ เก้าอี้ในรัฐสภาถึง 6 สมัยซ้อน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2531 – 2549 และดำ�รงตำ�แหน่งสำ�คัญ ๆ คือ ปี พ.ศ.2541 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคม พ.ศ.2542 รัฐมนตรีประจำ� สำ�นักนายกรัฐมนตรี (กำ�กับดูแลการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย) พ.ศ.2556 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์ และอีกหลายตำ�แหน่งที่สำ�คัญทั้งช่วย ผลักดันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งต้องบอกว่า จุดเริม่ ต้นของเส้นทางการเมืองของคุณปวีณาเกิด จากความตั้งใจและความมุ่งมั่น เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพยายาม ลดปัญหาสังคมให้น้อยลง “ก่ อ นเข้ า สู่ เ ส้ น ทางการเมื อ ง ดิ ฉั น เป็ น ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธา จำ�กัด (มหาชน) สาขาลาดพร้าวมาก่อน ซึ่งตอนนั้นก็ต้องออกไป หาลูกค้าอยูบ่ อ่ ย ๆ ไม่ได้นง่ั สบายในห้องแอร์ ตอนนัน้ ลาดพร้ า วยั ง เป็ นทุ่ ง นา ลู ก ค้ า ก็ เป็ นชาวสวน ชาวนาเสียส่วนใหญ่ เราต้องออกไปเยี่ยมเยียน ตามบ้านอยู่แล้วเป็นปกติ ทำ�ให้เราใกล้ชิดลูกค้า เห็นความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเขาทำ�ให้เราเห็น ว่า ทำ�ไมตรงนี้ ไม่มีถนนตัดผ่าน ทำ�ไมพื้นที่นั้น นํ้าประปาไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง โทรศัพท์ก็ไม่มี เรา ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้จัดการธนาคาร ชาวบ้านที่เป็น ลูกค้าก็มาขอความช่วยเหลือเรื่องสาธารณูปโภค สาธารณูปการ เช่น นํ้าประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และอีกเรื่องหนึ่งที่ให้ความสำ�คัญมาก ก็คือ เรื่อง เด็กและสตรี ในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงและเป็น แม่ของลูก ตอนที่เข้าสู่การเมือง ลงสมัครเลือกตั้ง ในเขต 13 เป็นเขตที่ใหญ่ที่สุด รับผิดชอบเขต บางเขน ดอนเมือง มีนบุรี หนองจอก ก็รู้สึกเป็น happy+ | 31
happy heart
32 | happy+
กังวลเหมือนกัน เพราะดิฉันเป็นคนที่ทำ�อะไรก็จะ ทำ�ให้ดีที่สุด เราเป็นห่วงว่าจะดูแลลูกและทำ�งาน การเมืองไปพร้อมกันได้ไหมเพราะตอนนัน้ ลูกก็ยงั เล็กอยู่ แต่ทุกคนในครอบครัวให้กำ�ลังใจบอกว่า ไม่เป็นไร เราทำ�ได้แน่นอน นอ. (พิเศษ) เพิม่ หงสกุล คุณพ่อของดิฉนั เคยเป็นหัวหน้ากองไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ของกองทัพอากาศ ซึ่งคนจะรู้จักคุณ พ่อในนาม “หัวหน้าเพิ่ม” เป็นอย่างดี สมัยก่อน กองทั พ อากาศต้ อ งจ่ า ยไฟฟ้ า ให้ กั บ พื้ นที่ เ ขต บางเขน ดอนเมือง ทำ�ให้คณ ุ พ่อรูจ้ กั ประชาชนมาก และมีลูกน้องที่รักคุณพ่อมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำ�ให้เราได้รับการเลือกตั้ง และดิฉันโชคดีทม่ี ี พีส่ าวคุณอาภัสรา หงสกุล (พีป่ กุ๊ ) เป็นนางสาวไทย แ ล ะ น า ง ง า ม จั ก ร ว า ล จึ ง ไ ด้ เป รี ย บ อี ก ทุกคนรู้จักพี่ปุ๊ก ใคร ๆ ก็อยากมาดูอาภัสรา และพีป่ กุ๊ ก็มาช่วยหาเสียงกับคุณพ่อทุกวัน บุคคล ทีส่ �ำ คัญทีส่ ดุ อีกท่านหนึง่ คือท่านสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทยในสมัยนัน้ และในสมัย นั้นก็เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จึงทำ�ให้เราได้ รับเลือกตั้ง ตอนที่ออกไปหาเสียง เราก็เดินไปหา ชาวบ้าน ไปเคาะประตูถามถึงปัญหาที่เขาอยาก ให้ช่วยเหลือ จดไว้ในบันทึกทุกบ้านทุกปัญหา ตอนนัน้ เดินวันละ 10 กิโลเมตรได้ ดิฉนั เชือ่ ว่าการ ที่เรารู้ความต้องการของประชาชน ทราบว่าเขามี ความเดือดร้อนเรือ่ งอะไรเป็นสิง่ ทีเ่ ราต้องศึกษาไว้ เพราะหากเราเข้ามาทำ�งานได้เป็น สส. เข้านั่งใน รัฐสภา ให้นึกเสมอว่าเราคือผู้รับใช้ประชาชน ต้องทำ�งานซื่อสัตย์สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ จากประชาชน”
เพื่อเด็กและสตรี
ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว มีพระราชบัญญัติหนึ่งที่เรียกว่า พระราชบัญญัติปราม การค้าประเวณี ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนจากการปราม มาเป็นคำ�ว่า “ป้องกัน” ทำ�ให้ในช่วงนั้นมีการค้า ประเวณี ค้ามนุษย์อย่างโจ่งแจ้งและโหดเหี้ยม ผู้หญิงถูกล่อลวง ถูกหลอกไปค้าประเวณีเป็น
เราเป็นเหมือนจิตอาสา เราต้องทำ�ประโยชน์ให้สูงสุด ตามที่เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จำ�นวนมาก ซึ่งคุณปวีณา หงสกุล เป็นผู้หนึ่ง ในการผลักดันพระราชบัญญัติป้องกันและปราบ ปรามการค้าประเวณี จนสำ�เร็จในปี พ.ศ. 2539 ซึง่ ถือก้าวสำ�คัญในการแก้ไขปัญหาล่อลวงและค้า ประเวณีของผู้หญิงและเด็กในประเทศไทย “ตอนที่ได้เข้าไปทำ�งานในฐานะสมาชิกสภา ผูแ้ ทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ส.ส.มีทัง้ หมด 400 คน มีผหู้ ญิง 10 คน เวลาเปิดประตูเข้าไปก็เจอแต่ ส.ส.ชาย เต็มไปหมด การเป็น ส.ส. นอกจากดิฉนั จะทำ�งานรับใช้ประชาชนในพื้นที่ที่เลือกตั้ง ดูแล ในเรื่องสาธารณูปโภค สาธารณูปการ เช่น ถนน หนทาง ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์เป็นหลักสำ�คัญ แล้ว ดิฉันยังทำ�งานด้านนิติบัญญัติ คือการแก้ไข ตัวบทกฎหมาย เพือ่ แก้ไขปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ในสังคม ไทย เราต้องรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงจะแก้ไข ปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ นอกจากเรื่อง สาธารณูปโภคที่กล่าวมาแล้ว ก็เห็นจะมีเรื่องของ เด็ก สตรี ที่เราให้ความสำ�คัญ “ดิฉันจึงได้เดินทางไปบ้านเกิดตระการ ซึ่ง เป็นบ้านพักพิงสำ�หรับผู้หญิงที่ถูกบังคับประเวณี ซึ่ ง อยู่ ใ นความดู แ ลของกระทรวงการพั ฒ นา สังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ในปัจจุบนั ดิฉนั ต้องการเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาเพือ่ รับรูถ้ งึ ปัญหา ตอนนัน้ ได้พบเด็กหญิงคนหนึง่ อายุประมาณ 11 ปี นั่งถักนิตติ้งอยู่ พอเราเข้าไปพูดคุยก็ทราบว่า พ่อเลีย้ งของเด็กคนนีพ้ าไปขายซ่อง ตำ�รวจได้เข้าไป ช่วยเหลือแล้วส่งตัวมาทีน่ ี่ พอดิฉนั ได้ยนิ อย่างนัน้
ก็ช็อกไปเลย เพราะในชีวิตที่ผ่านมา เราเกิดมา ในสภาพแวดล้อมที่คุณพ่อคุณแม่ดูแลเอาใจใส่ เราไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน หลังจากตั้งสติได้ สั ก พั ก หนึ่ ง ก็ ไ ด้ สั ม ภาษณ์ เ ด็ ก ๆ ที ล ะคน ว่ามาอยู่ที่บ้านหลังได้อย่างไร มีปัญหาอะไรบ้าง ที่เขาถูกกระทำ� เราก็เริ่มเข้าใจถึงความรุนแรง ของปัญหานี้มากขึ้น หลังจากนั้นดิฉันได้เข้าร่วม ประชุม สัมมนา ศึกษาหาแนวทางช่วยเหลือสังคม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “ในปี พ.ศ. 2531 ดิฉันเป็น ส.ส.สมัยแรก มี พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์เป็นข่าวใหญ่โตมาก ว่ามีเด็กผูห้ ญิงคนหนึง่ หนีออกมาจากซ่องและหนี เข้าไปที่ศาลากลางจังหวัดแห่งหนึ่ง มีผู้คุมซ่องวิ่ง ตามไปหลายคน จนกระทัง่ โยนเด็กลงมาจากชัน้ 4 เสี ย ชี วิ ต โดยที่ ไ ม่ มี ใ ครกล้ า เข้ า ไปช่ ว ยเหลื อ นี่คือความโหดเหี้ยม อุกอาจในช่วงนั้น เป็นความ รู้สึกที่รับไม่ได้ ดิฉันได้ตั้งกระทู้และอภิปรายใน สภา เพื่ อ ให้ รั ฐ บาลได้ ต ระหนั ก ถึ ง ปั ญ หาการ ค้ามนุษย์ และดิฉนั เข้ามามีสว่ นร่วมในการผลักดัน การแก้ไขปัญหาสังคมหลาย ๆ เวที และต่อมาก็ มี ส.ส.ช่วยกันผลักดันแก้ไขพระราชบัญญัตปิ ราม การค้าประเวณีตราเป็น พระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการค้าประเวณี สำ�เร็จลุล่วงได้ ในปี พ.ศ.2539 “ปี พ.ศ.2538 ดิ ฉั น ได้ รั บ ตำ � แหน่ ง รอง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองและได้ เสนอนายกรัฐมนตรีตงั้ กรรมการชุดขึน้ มาภายใต้ happy+ | 33
happy heart
34 | happy+
ชือ่ ว่า คณะกรรมการเร่งรัด และ ประสานงานการ ปฏิบตั งิ านเยาวชน สตรี ภาครัฐและเอกชน สำ�นัก นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานงานระหว่างรัฐบาล เอกชน หน่วยงาน NGO ต่าง ๆ และประชาชน ให้ทำ�งานบูรณาการร่วมกัน โดยดิฉันได้รับการ แต่งตั้งเป็นประธานชุดนี้ และตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้น ช่วยเหลือเด็ก สตรี ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ใน ปี พ.ศ.2540 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสังคม จึงได้ทำ�งานช่วยเหลือสังคมได้ อย่างชัดเจน สร้างเครือข่าย One Stop Service รับเรื่องร้องทุกข์ทั่วประเทศ และในปี พ.ศ.2542 ได้จดั ตัง้ มูลนิธปิ วีณาหงสกุลเพือ่ เด็กและสตรี นับว่า เราได้เริม่ ดำ�เนินการทางด้านสังคมมากกว่า 20 ปี แล้ ว สิ่ ง หนึ่ ง ที่ เ รารู้ สึ ก มาตลอดการทำ � งาน ตรงนี้คือ ขอบคุณภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน เพราะทุกคนทำ�ให้มูลนิธิปวีณาฯ สามารถช่ ว ยเหลื อ สั ง คมได้ อ ย่ า งดี ถ้ า ไม่ ไ ด้ รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เอกชน ประชาชน และสื่ อ มวลชน บู ร ณาการร่ ว มกั น เราจะไม่ สามารถทำ�งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่ ทุกท่านเห็นได้เลย ปัจจุบันมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ได้รับเรื่องร้องทุกข์เฉลี่ย วันละ 30-80 เรื่อง โดย การเดินทางมาด้วยตนเอง สายด่วน 1134 (5 คู่ สาย) เฟสบุ๊ค อีเมลล์ ไปรษณีย์ ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะมี เจ้ า หน้ า ที่ รั บ เรื่ อ งราวร้ อ งทุ ก ข์ แ ละจะทำ � หน้าที่ประสานงานกับภาครัฐ ภาคเอกชน และ ประชาชนครบวงจรจากสถิติรับเรื่องราวร้องทุกข์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบัน ผลจากการ เก็บข้อมูลทำ�ให้เราทราบถึงแนวโน้มปัญหาความ รุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ปัญหาครอบครัว จากปี พ.ศ. 2558 มีจ�ำ นวน 752 ราย ปี พ.ศ. 2559 มีจำ�นวนเพิ่มขึ้นเป็น 1,577 ราย เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า การทารุณกรรมเด็ก หรือผู้หญิงที่ถูกสามีทำ�ร้าย ร่ างกายก็ สูงขึ้น ซึ่ง ตัว เลขที่แ สดงออกมาเป็ น ตัวชีว้ ดั ทีท่ �ำ ให้เราทราบว่าปัญหาต่าง ๆ ทีเ่ พิม่ ขึน้ นัน้ เราควรใส่ใจและให้ความสำ�คัญอย่างไรบ้าง”
เชื่อว่าคนเราทุกคนอยู่ได้ด้วยกำ�ลังใจ ถ้าคนเราทุกคนมีกำ�ลังใจ ก็จะมีพลังที่จะสู้ต่อไป
มะเร็งเป็นเรื่องของกำ�ลังใจ
หลายคนอาจไม่ทราบว่าคุณปวีณา หงสกุล เคยผ่านการรักษาและต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งตรวจพบในช่วงปลายปี พ.ศ. 2547 แต่ด้วย กำ�ลังใจอันเด็ดเดี่ยวที่ใช้ต่อสู้กับโรคร้าย ทำ�ให้ คุณปวีณากลับมาเป็นหญิงเก่งและแกร่ง ทีพ่ ร้อม ให้ความช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ อีกครั้ง “ช่วงปี พ.ศ. 2547 ที่ตรวจพบว่าตัวเองเป็น มะเร็งเต้านม ต้องยอมรับว่าช่วงนัน้ ทำ�งานหนักมาก แทบไม่มีเวลานอนเลย เพราะนอกจากทำ�งานที่ มูลนิธิแล้วช่วงนั้นยังมีงานที่สภาฯ อีกด้วย พอ ออกจากสภาฯ ก็กลับมาทำ�งานทีม่ ลู นิธิ ทำ�แบบนี้ มาโดยตลอด นี่คือข้อเสียอย่างหนึ่งของตัวเองที่ ไม่ค่อยดูแลรักษาสุขภาพ เอาแต่ลุยกับงานจน ไม่รู้ว่าร่างกายส่งสัญญาณเตือนมาเป็นระยะ ๆ จนกระทัง่ ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ซึง่ ต้องรักษาโดย การผ่าตัดเอาเนื้องอกออกไป และรักษาต่อด้วย การฉายแสงและทำ�คีโม ซึ่งตอนนั้นที่ตรวจพบว่า ตัวเองป่วย หลังจากผ่าตัดเอาเนือ้ งอกออกไปแล้ว ก็ ขออนุญาตคุณหมอออกไปทำ�งาน ออกไปหาเสียงก่ อน สัก 2 เดือนแล้วจึงกลับมาทำ�คีโมต่อ ตอนนั้น คุณหมอก็งง ๆ ว่าหายไปไหนสองเดือนแล้วค่อย กลับมาใหม่ ซึ่งคุณหมอก็ได้ให้ความรู้ว่าการทำ� คีโมจะต้องเตรียมตัวรับกับผลกระทบในการรักษา ทีอ่ าจจะตามมา เช่น ผมร่วง ผิวดำ�คลํา้ แต่พอเข้ารับ
การรักษาก็ถือว่าโชคดีที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเลย ผมไม่ร่วง และผิวพรรณก็ยังเหมือนเดิม ระหว่าง ที่รักษาคีโมเราก็ยังทำ�งานอยู่ตลอด จนคุณหมอ ต้องให้ยานอนหลับเพื่อพักผ่อน ตอนที่ป่วยก็ไม่ ได้บอกใครว่ากำ�ลังรักษาและต่อสู้กับโรคมะเร็ง อยู่ ด้วยความทีเ่ ราเป็นคนใจสู้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ และคิดเสมอว่าคนเราถ้าจะตายก็ต้องตาย เรา ไม่สามารถฝืนสังขาร ฝืนธรรมชาติข้อนี้ไปได้ เรา ก็ต่อสู้เรื่อยมาจนกระทั่งคุณหมอแจ้งว่าเราหาย แล้ว แต่กต็ อ้ งข้ามาตรวจดูอาการเพือ่ เฝ้าระวังเป็น ระยะ หลังจากหายดีแล้ว คุณหมอกฤษณ์ จาฏามระ ก็ขอให้ช่วยเขียนหนังสือเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับ ผู้ ป่ วยหรื อผู้ ที่ สนใจได้ อ่ านกัน ชื่อ ว่า ‘ไดอารี่ ปวีณา หงสกุล สู้ชนะมะเร็งร้ายใน 5 ปี’ ซึ่งเขียน เป็นเรื่องราวสนุกสนานให้แง่คิดว่ามะเร็งไม่ได้ น่ากลัวอย่างทีค่ ดิ ทุกวันนีแ้ ม้วา่ มะเร็งจะกลับมาเป็น อีกครั้ง แต่เนื้องอกยังมีขนาดเล็ก คุณหมอจึงใช้ วิธผี า่ ตัดนำ�ออกไป ฉายแสงพร้อมกับรับประทาน ยาควบคู่กันไป ทุกวันนี้จึงทำ�งานให้น้อยลง ให้ ตัวเองได้มเี วลาว่างเพือ่ ออกไปพบปะเพือ่ นฝูง และมี เวลาให้กบั ตัวเองบ้าง พักผ่อนมากขึน้ ปฏิบตั ติ าม ที่คุณหมอสั่ง เพราะการที่เราจะไปให้ความช่วย เหลือผู้อื่นได้ดีนั้น เราต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรง เสียก่อน การดูแลสุขภาพเป็นเรือ่ งสำ�คัญ ซึง่ อยากจะ ให้ ทุ ก คนทำ � งานและมี เวลาพั ก ผ่ อ นร่ ว มด้ ว ย happy+ | 35
happy heart
36 | happy+
ทุกวันนีด้ ฉิ นั ก็พยายามไปว่ายนํา้ ออกกำ�ลังกายบ้าง ไม่ค่อยรับประทานอาหารจำ�พวกเนื้อสัตว์ แต่ คุณหมอแนะนำ�ให้ทานบ้างเล็กน้อย ทำ�ให้ทกุ วันพระ เราจะทานมังสวิรัติแทนค่ะ”
ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข
ปัจจุบันคุณปวีณา หงสกุล อายุ 68 ปีแล้ว แต่ว่ายังคงแข็งแรงและทำ�งานเพื่ช่วยเหลือผู้ที่ เดือดร้อน กำ�ลังประสบปัญหาอย่างแข็งขัน และ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแม่ของลูกชายและ ย่าของหลาน ๆ แล้ว คุณปวีณาบอกกับเราว่า นี่ถือเป็นความสุขเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ของเธอเลย ก็ว่าได้ “ถ้าอายุเท่ากับดิฉันในช่วงนี้ ความสุขของ เราก็คือการได้อยู่กับหลาน ๆ ตอนนี้ดิฉันมีหลาน อยู่สองคน คนโตอายุ 3 ขวบ ชื่อน้องพีคพีค ซึ่งดิฉันตั้งชื่อให้เขาเอง เพราะคุณพ่อเคยตั้งชื่อ ภาอังกฤษให้ดิฉันว่าพีค (PEAK) ดิฉันจึงมาตั้ง ให้หลาน และหลานคนเล็กอายุชวบกว่า ๆ ชื่อ น้องพลัส ทุกวันนี้พอทำ�งานเสร็จจะรีบตรงดิ่ง กลับบ้าน พยายามกลับให้ถงึ บ้านก่อนเวลาสองทุม่ เพราะพวกเขาจะยังไม่หลับ เราก็สามารถไปเล่น กับหลาน ๆ ได้ หรือตอนช่วงเช้าก็จะเล่นกับ น้องพลัสคนเล็กก่อนออกมาทำ�งาน เพราะน้องพีคพีค
ต้ อ งไปโรงเรี ย นแล้ ว ถื อ ว่ า หลานทั้ ง สองคน และลูกชาย (คุณษุภมน หงสกุล หุตะสิงห์) เป็น กำ�ลังใจให้เราอย่างมาก คนเราไม่ต้องมีอะไร มากเพราะความสุขอยู่ที่ใจของเราเอง ถ้าเราได้ ทำ�อะไรในสิ่งที่เราชอบ เราก็จะมีความสุข และ สำ�หรับกำ�ลังใจก็เป็นเรือ่ งสำ�คัญ แม้จะเป็นกำ�ลังใจ เล็ก ๆ น้อย ๆ จากเพื่อน ๆ จากครอบครัว จาก คนรอบข้าง ก็ทำ�ให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้า ต่อไปได้ นอกจากมีความสุขกับหลาน ๆ แล้ว ตอนนี้ ก็มีความสุขกับเพื่อน ๆ เพราะทุกคนที่สนิทกัน ตอนนี้ก็กลับมาหากันหมดเลย ต้องขอบคุณไลน์ ที่ทำ�ให้เจอกับเพื่อน ๆ ได้อีกครั้งหนึ่ง (หัวเราะ)”
บทส่งท้าย
“สุดท้ายก็ขอเป็นกำ�ลังใจให้ทุกคน เชื่อว่า คนเราทุกคนอยู่ได้ด้วยกำ�ลังใจ ถ้าคนเราทุกคน มีกำ�ลังใจก็จะมีพลังที่จะสู้ต่อไป เพราะชีวิตคือ การต่อสู้ เช่น ต่อสู้กับโรคร้าย ต่อสู้กับการเจ็บ ป่วย ต่อสู้เพื่อดำ�เนินชีวิตไปในทางที่ถูกที่ควร เรา เกิดมาก็ต้องต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคนานา
ประการ แต่เราต้องมีขวัญและกำ�ลังใจที่ดี เพราะ ฉะนั้นเราต้องพยายามส่งต่อขวัญและกำ�ลังใจ ซึง่ กันและกัน เพราะกำ�ลังใจเป็นสิง่ ทีด่ แี ละสำ�คัญ มาก นอกจากนี้ ความเมตตา กรุณา เอื้ออาทร ต่อกันก็เป็นจำ�เป็นในสังคมของเรา เพราะคนเรา เกิดมาก็ล้วนแต่ต้องแก่เฒ่า เจ็บป่วย และตาย ไป วิถีชีวิตของคนเรามันก็มีอยู่เท่านี้เอง บางคน กลัวว่าหากเจ็บป่วยแล้วจะต้องตาย ซึ่งไม่จำ�เป็น ต้องหวาดกลัวไปหรอก อย่างไรวันหนึ่งคนเราก็ ต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดี แต่ตอนที่เราเจ็บป่วยก็ ต้องพยายามดูแลตัวเองให้ดี ดิฉันจึงขอให้ผู้อ่าน ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะการ ไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐที่แท้จริง เราจึง ควรประมาณตนเอง ไม่ทำ�งานอย่างหักโหมมาก จนเกิ น ไป ทำ�งานไปพร้ อ มกั บ มี เวลาพั ก ผ่ อ น และอยู่กบั ครอบครัวไปด้วย และสำ�หรับใครทีก่ ำ�ลังป่วย เป็นมะเร็งหรือโรคหัวใจ ถ้าอยากจะขอคำ�ปรึกษา ก็สามารถปรึกษาดิฉันได้ ขอเป็นกำ�ลังใจให้กับ ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน”
มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ที่อยู่ : 84/14 หมู่ 2 ถ.รังสิต-นครนายก (คลอง 7) ต.ลำ�ผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12110 โทรศัพท์ : 1134 / 0-2577-0496-8 / 06-2560-1636 / 09-8478-8991 / 08-1814-0244 happy+ | 37
feature
Me, Myself & I เรื่อง : It’s a bell / Patty Pom / Nasry ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี / TepiN
การลงทุนมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นด้านการออม ช้อนซื้อหุ้น สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นการ ลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคต เป็นการรับประกันว่าเราจะมีชีวิตบั้นปลายที่ดี สะดวกสบาย แต่ต้องไม่ลืมว่ายังมีการลงทุนอีกอย่างหนึ่ง ที่เรา สามารถเริม่ ทำ�ได้ตงั้ แต่วนั นี้ โดยไม่ค�ำ นึงถึงเรือ่ งของเงินทอง นัน่ คือ การดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเราเอง หากเปรียบกันแล้วการออกกำ�ลังกาย ก็ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เพื่อหวังผลในระยะยาว ในวันข้างหน้าว่าเราจะมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ซึ่งการออกกำ�ลังกายถือเป็น การลงทุนที่ดี ไม่มีข้อเสีย ไม่มีความเสี่ยง ยิ่งทำ�มากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้ประโยชน์กับตัวของเรามากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจึงมองหาวิธีการดูแล ร่างกายตนเองในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อคืนกำ�ไรให้กับชีวิตของเราเอง นิตยสาร happy+ เดือนสิงหาคมนี้ เราจึงพาคุณผูอ้ า่ นไปพบกับกูรู ผูเ้ ชีย่ วชาญในการดูแลตนเองรูปแบบใหม่ ทีต่ อ้ งบอกว่าแต่ละท่านมีวธิ กี าร ดูแลตนเองที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละท่านมีวิธีการรักษาสุขภาพแบบไหนมาบอกเรากันบ้าง 38 | happy+
สุพจน์ ลีลาพิสุทธิ์
รูปร่างสวยด้วยมวยไทย ศิลปะป้องกันตัวประจำ�ชาติไทยทีท่ กุ คนรูจ้ กั กันเป็นอย่างดี นัน่ ก็คอื มวยไทย ซึง่ ได้รบั ความนิยมในหมูผ่ ชู้ ายเสียเป็นส่วนใหญ่ เนือ่ งจากเป็น กีฬาทีต่ อ้ งใช้พลังกาย พลังใจค่อนข้างมาก และหากมองภาพลักษณ์ภายนอกดูจะเป็นกีฬาทีม่ คี วามรุนแรง ทำ�ให้ผหู้ ญิงหันไปเล่นกีฬาแบบอืน่ แทน แต่คุณหมู สุพจน์ ลีลาพิสุทธิ์ และคุณฟิวส์ อุรชา วงษ์เทียน กลับมีแนวคิดที่ต่างออกไป ด้วยการนำ�ศิลปะการป้องกันตัว “มวยไทย” มาผนวก รวมกับ “ความรูท้ างวิทยาศาสตร์การกีฬา” ทำ�ให้เกิดเป็น “มวยไทยมาเนีย” ซึง่ เป็นการสอนมวยไทยลดนํา้ หนัก เหมาะสำ�หรับกลุม่ ผูห้ ญิงทีใ่ ส่ใจ อยากดูแลรูปร่างให้ดูดี เปลี่ยนทัศนคติของมวยไทยให้กลายเป็นการออกกำ�ลังกายที่ผู้ชายและผู้หญิงสามารถสนุกไปกับกีฬาชนิดนี้ได้ไม่ต่างกัน “โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบเรียนศิลปะการ ป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กแล้ว เช่น เทควันโด ยูโด ฯลฯ แต่พอได้เรียนมวยไทย ความรู้สึกที่ได้รับ มันต่างออกไป ตอนนั้นที่ผมเลือกเรียนมวยไทย เพราะมีปัญหาสุขภาพ ผมเป็นคนตัวเล็ก แต่ว่า ค่อนข้างลงพุงเลยต้องการจะลดนํ้าหนัก พอได้ เรียนมวยไทยเดือนเดียวเท่านัน้ รูเ้ รือ่ งเลย เห็นผล ชัดเจนมาก นํ้าหนักลดลง หุ่นก็กลับมาฟิตแอนด์
เฟิรม์ และทีส่ ำ�คัญมวยไทยทำ�ให้เราก็รสู้ กึ สนุกไป กับการออกกำ�ลังกายด้วย “หลั งจากห่ างหายจากการเรี ยนมวยไทย ไปนาน แต่พอได้กลับมาเรียนมวยไทยอีกครั้ง ความรู้สึกเก่า ๆ ก็หวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เลย ชักชวนคุณฟิวส์ ที่เป็นหุ้นส่วนกัน มาเปิดสถานที่ ออกกำ�ลังกายที่ชื่อว่า ‘มวยไทยมาเนีย’ ขึ้น ซึ่ง หลักสูตรที่เราออกแบบมา จะไม่เหมือนกับการ
เรียนมวยไทยทั่ว ๆ ไป แต่เป็นหลักสูตรสำ�หรับ ลูกค้าที่อยากจะลดนํ้าหนักโดยตรง เพราะผม มองว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลตัวเอง มากขึ้น และกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็คือ เรื่องของ การลดนํา้ หนัก ในช่วงนัน้ ยังไม่มใี ครหยิบเอาเรือ่ ง ของมวยไทยเพื่อการลดนํ้าหนักมาศึกษาอย่าง จริงจัง แม้ว่ามวยไทยมาเนียจะเริ่มจากความ ชอบส่วนตัวของผมกับเพื่อน แต่เราก็มีการศึกษา happy+ | 39
feature
วิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มลูกค้า จนกลายเป็นการ นำ�มวยไทยแท้ ๆ มาผสานกับหลักวิทยาศาสตร์ การกีฬา เน้นเรื่องของจังหวะการเร่ง จังหวะผ่อน ต้องทำ�ท่านี้เร็วขนาดไหนจึงจะได้ผลในด้านการ ลดนํา้ หนัก นีค่ อื จุดเด่นของมวยไทยมาเนียของเรา” คุณหมูและมวยไทยมาเนีย ได้ปรับเปลี่ยน มุมมองและความคิดของผู้ที่สนใจมวยไทยไป อย่างสิ้นเชิง เพราะคุณหมูบอกกับเราว่า เขา ต้ อ งการทำ � ให้ ม วยไทยเหมาะสำ � หรั บ ทุ ก เพศ ทุกวัย และมวยไทยไม่ใช่กฬี าทีอ่ นั ตรายแต่อย่างใด “ผมเชื่ อ ว่ า มี ห ลายคนที่ ส นใจอยากเรี ย น มวยไทย นอกจากผู้ ช ายแล้ ว ผู้ ห ญิ ง ก็ ส นใจ มวยไทยไม่แพ้กัน แต่ว่าสมัยก่อนถ้าเราสนใจ มวยไทย ก็ตอ้ งไปเรียนทีค่ า่ ยมวย เรียนจากครูมวย โดยตรงเท่านัน้ และด้วยภาพลักษณ์ของค่ายมวย ที่ จะมี ค วามขลั ง ความดุดัน ดูดิ บ ๆ และมี นั ก มวยอาชี พ เตะต่ อ ยเต็ ม ไปหมด อาจทำ � ให้ ผู้หญิงไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป มวยไทยมาเนียจึง ปรับสถานที่ให้คล้ายกับฟิตเนส มีอุปกรณ์มวย ทุกอย่างพร้อม ครบครัน เราเทรนบุคลากร ครูมวย ของเรามาเป็นอย่างดี ให้มีการสื่อสารกับลูกค้า อย่างสุภาพ ทำ�ให้บรรยากาศในการเรียนมวยไทย 40 | happy+
ทีน่ ดี่ ซู อฟต์ลง เมือ่ เรานำ�เสนอสิง่ เหล่านีอ้ อกไปยัง กลุม่ ลูกค้าทีส่ นใจมวยไทย เขาจะเป็นผูต้ ดั สินใจเอง ว่าจะเข้ามาหาเราหรือไม่ครับ” หลั ก สู ต รที่ ส อนในมวยไทยมาเนี ย เป็ น หลั ก สู ต รที่ ได้ รั บ การรั บ รองจากวั นทรงชั ย ซึ่ ง เป็นโปรโมเตอร์อันดับต้น ๆ ของเมืองไทยและ สมาคมกีฬามวยไทยแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์อีกด้วย “หลักสูตรของเราจะแบ่งการฝึกออกเป็น 5 ระดับ โดยแต่ละขั้นเราจะเพิ่มระดับความหนัก ในการฝึกเข้าไปด้วย เริ่มต้นเราจะสอนพื้นฐาน
มวยไทย ท่าหมัดชุดต่าง ๆ สำ�หรับคนที่อยาก ออกกำ � ลั ง กายในช่ ว งแรก หลั ง จากนั้ น ลู ก ค้ า สามารถขอให้ครูทดสอบเพื่อเพิ่มระดับเป็นระดับ 2, 3, 4, 5 ได้ ซึ่งแต่ละระดับก็จะเป็นท่ามวยที่ สนุกขึน้ ซับซ้อนขึน้ ต้องใช้ประสาทสัมผัสเยอะขึน้ โดยเราอยากให้ ทุ ก คนได้ เ ป็ น มวยไทยอย่ า ง แท้จริง และเรารู้ว่าพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่เบื่อ ง่าย การทำ�อะไรซํ้า ๆ เดิม ๆ จะทำ�ให้ยิ่งรู้สึก เบื่อมากขึ้น การแบ่งเป็นระดับขั้นเป็นการเพิ่ม เป้าหมายในการฝึก เมือ่ ฝึกผ่านระดับต่าง ๆ เราจะ มอบประกาศนียบัตรให้ด้วย เราต้องมีมาตรฐาน
อย่างชัดเจน เพราะเมือ่ ลูกค้ารูว้ า่ เขาพัฒนาขึน้ ไป ได้เรื่อย ๆ เขาทำ�ได้ เขาเก่งขึ้น จะทำ�ให้มีกำ�ลังใจ ในการเรียนที่เพิ่มมากขึ้น เราพยายามส่งเสริม ให้ทุกคนที่มาเรียนเป็นมวยไทยอย่างแท้จริงครับ “เราหยิบเอาหลักของวิทยาศาสตร์การกีฬา มาใช้ควบคู่ไปกับมวยไทย ยกตัวอย่างให้เห็น ภาพง่าย ๆ ก็คือ HITT Workout เป็นการออกแรง แบบหนักสลับเบา HITT เป็นวิธีการฝึกที่นักกีฬา อาชีพส่วนใหญ่ก็ใช้กัน เช่น ช่วงล่อเป้าที่มีการ ฝึกมือ เท้า เข่า ศอก กับครูมวย มวยไทยทั่วไป ก็จะฝึกการล่อเป้าตามจังหวะปกติธรรมดา แต่ที่ มวยไทยมาเนียจะเป็นการฝึกล่อเป้าแบบเร่ง 10 วินาที ผ่อน 5 วินาที เร่ง 10 วินาที ผ่อน 5 วินาที สลับกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งการออกแรงแบบขึ้น ลง ๆ เป็นช่วง ๆ (Interval) จะช่วยให้ร่างกายเผา ผลาญได้เร็วกว่าถึง 9 เท่า เราก็นำ�เอาวิธกี ารแบบนี้ สอดแทรกเข้าไปในทุก ๆ การฝึกของหลักสูตร มวยไทย ซึ่งนํ้าหนักจะลดลงอย่างเห็นผลชัดเจน ลูกค้าบางคนอยากมาเล่นเพือ่ ให้มซี กิ ซ์แพ็ก อยาก ผอม เราก็ให้เขาซิตอัพ 12 ครั้ง 3 เซตอย่างถูกวิธี แค่นี้ก็มีซิกซ์แพ็กได้แล้ว ไม่จำ�เป็นต้องไปซิตอัพ 100 ครั้งอย่างที่นักมวยอาชีพเขาทำ�กัน นั่นเขา ทำ�เพือ่ ให้มกี ล้ามท้องและฝึกความอดทนไปในตัว แต่ ลู ก ค้ า ของเราไม่ จำ�เป็ นต้ อ งทำ�แบบนั้ น ซึ่ ง หลักสูตรทีเ่ รานำ�มาประยุกต์กจ็ ะถูกถ่ายทอดออก ไปจากครูมวยของเราเอง” ทุ ก อย่ า งล้ ว นมี จุ ด เริ่ ม ต้ น หากคุ ณ ผู้ อ่ า น สนใจอยากจะดูแลตัวเอง เนือ่ งจากปัญหาสุขภาพ นํ้าหนักที่เพิ่มมากขึ้น หรือเหตุผลอะไรก็ตาม เรา จะต้องเริม่ ต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่มเี ป้าหมาย ทีช่ ดั เจน ซึง่ คุณหมูให้คำ�แนะนำ�สำ�หรับผูท้ เ่ี ริม่ หันมา ดูแลสุขภาพว่า “เคยมี คำ�กล่ า วว่ า หากเราทำ�บางอย่ า ง ติดต่อกันได้ 21 วัน สิง่ นัน้ จะกลายเป็นนิสยั ของเรา เอง ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นการออกกำ�ลังกายใด ๆ
ก็ตาม อาทิตย์แรกหรือครั้งแรกเป็นสิ่งสำ�คัญ ผม ว่าเราไม่ตอ้ งคิดอะไรมาก ให้มาลองดูกอ่ น พอเรา รู้สึกสนุกแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ เพียงแต่เราจะต้องหากีฬาหรือวิธีการดูแลตัวเอง ที่เราชอบหรือถนัด ส่วนตัวผมไม่ชอบเล่นฟิตเนส ผมรูส้ กึ ชอบมวยไทย เพราะเป็นกีฬาทีท่ ำ�ให้เราได้ โต้ตอบ มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรากับครูมวย ได้ฝึก ประสาทสัมผัส ได้ฝกึ การป้องกันตัว ได้เคลือ่ นไหว อย่างต่อเนื่องและใช้ร่างกายทุกส่วน เมื่อได้เริ่ม เรียนก็ทำ�ให้เรารู้ว่าเราเจอสิ่งที่ชอบและสามารถ ทำ�ได้เรื่อย ๆ แล้ว แต่ก่อนที่เราจะรู้ว่าตัวเองชอบ อะไร แน่นอนว่าต้องทดลองดูก่อนครับ “เพราะว่าการดูแลตัวเองเป็นการลงทุนระยะ ยาว ทุกวันนี้เราได้รับข้อมูลข่าวสารมาจากทุก ทิศทางมากมาย จนทำ�ให้บางครั้งเรามองข้าม สิ่งสำ�คัญไป เช่น การทำ�งานหนักมาก ๆ เพื่อนำ� เงินไปรักษาตัวเองในบั้นปลายชีวิต แทนที่จะนำ� ไปใช้ท่องเที่ยวหรือทำ�สิ่งที่ตัวเองชอบ ระหว่างที่ เราทำ�งานอย่างหนักเพื่อหาเงิน ทำ�ให้เราลืมดูแล ตัวเอง จะดีมาก หากเราบาลานซ์ชีวิตส่วนตัว งานและสุขภาพของตัวเราเองได้ สำ�หรับผมแล้ว เมือ่ เราได้ลองเข้ามาอยูต่ รงจุดนี้ ทำ�ให้ผมมีมมุ มอง
ชีวิตที่เปลี่ยนไปมาก ผมเชื่อว่าคนเราต้องตั้งใจ ทำ�งานและหาเวลาสนุ ก กั บ ชี วิ ต ไปด้ ว ย และ ทีส่ ำ�คัญต้องดูแลตัวเอง นัน่ จะทำ�ให้เราทำ�งานอย่าง มีประสิทธิภาพมากขึน้ เมือ่ ก่อนผมเป็นคนตืน่ สายมาก ไม่ ชอบการตื่ นเช้ า แต่ เดี๋ ย วนี้ผมตื่นนอนเวลา 05.30 น. พอ 07.00 น. มาถึงค่ายของตัวเอง เข้า มาเคลียร์งานเล็กน้อย ช่วง 10.00 น. ผมเข้ายิมไป ออกกำ�ลังกายสัก 1 ชัว่ โมง พอเสร็จแล้วมาอาบนํา้ และกลับมาทำ�งาน เชื่อไหมว่าหัวผมแล่นปรื๊ด มาก ทำ�งานได้หลายอย่างโดยทีไ่ ม่งว่ ง รูส้ กึ มีพลัง มาก ทำ�งานได้ดีกว่าเดิมและสุขภาพก็ดีกว่าเดิม อีกด้วย อยากเชิญชวนให้ทกุ คนมาออกกำ�ลังกาย ออกแบบไหนก็ได้ตามแบบที่เราชอบครับ” การดูแลตัวเองเป็นสิง่ ทีเ่ ราควรให้ความใส่ใจ เพราะร่างกายเป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดจน กระทัง่ แก่เฒ่า หากเราใช้รา่ งกายอย่างเต็มทีโ่ ดยที่ ไม่มีการดูแล ซ่อมแซม รักษา เมื่อเราอายุมากขึ้น จะทำ�ให้ร่างกายต้องรับภาระหนักมากขึ้นตามไป ด้วย การดูแลร่างกายตั้งแต่ตอนนี้จึงสมควรเป็น อย่างยิ่ง มาเริ่มต้นไปพร้อม ๆ กัน เหมือนกับที่ คุณหมู สุพจน์ เริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยมวยไทย มาเนียกันดีกว่าค่ะ happy+ | 41
feature
ชลิตา เฟื่องอารมย์
ดูแลกายใจ และความท้าทายในวิถีโยคะ หนึง่ ในความใฝ่ฝนั ของผูห้ ญิงคือ มีรปู ร่างทีด่ ี และสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ คือ มีสขุ ภาพทีด่ ี การดูแลรูปร่างและสุขภาพจึงเป็นเป้าหมายในชีวติ อีกประการ ที่เราต้องคำ�นึงถึงอยู่เสมอ และในปัจจุบันเราก็มีทางเลือกในการดูแลตัวเองและออกกำ�ลังกายหลายรูปแบบ แต่คุณแนน ชลิตา เฟื่องอารมย์ ได้ พบวิธีการดูแลตัวเองที่เหมาะกับเธอแล้ว เราคงรู้กันดีว่า คุณแนนนั้นสนใจและฝึกโยคะอย่างจริงจังมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว และวันนี้ คุณแนนจะมาเล่าให้เราฟังถึงเสน่หข์ องโยคะทีเ่ ธอได้สมั ผัส และโยคะได้เปลีย่ นแปลงชีวติ ของเธอไปอย่างไรบ้าง เพือ่ เป็นแรงบันดาลใจให้สาว ๆ ได้ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองค่ะ “แนนฝึกโยคะมา 20 กว่าปีแล้ว แรก ๆ ก็ไม่ได้ ลำ�บากอะไรมากเพราะเป็ นการฝึ ก โยคะแบบ เหยียดยืด แบบช้า ๆ ฝึกไปตามลมหายใจ ก็จะ มีทา่ ประมาณ 20 ท่า ครูบอกอะไรมาเราก็ทำ�ตาม ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรแค่รู้สึกว่า มันทำ�ให้เรามี สมาธิอยูก่ บั ตัวเองช่วงเวลาขณะหนึง่ และช่วงนัน้ แนนเรียนอยู่ที่จุฬาฯ จะมีเวลาว่างระหว่างวัน ขี้เกียจกลับบ้านเพราะบ้านอยู่ไกล ก็เลยอยาก จะหาที่ที่เราไปอยู่ตรงนั้นได้สักพักและกลับไป เรียนอีกที แต่ปรากฏว่าพอฝึกแล้ว ร่างกายเรา ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ สุขภาพแข็งแรงขึ้น เมื่อก่อนแนน 42 | happy+
เป็นภูมแิ พ้ ตอนเช้าจะมีนํา้ มูกและปวดหลัง เวลา มีประจำ�เดือนก็จะปวดท้อง พอไปฝึกโยคะอาการ เหล่านัน้ ก็ไม่เป็น และทีร่ วู้ า่ มาจากโยคะก็เพราะว่า มีช่วงหนึ่งที่ทำ�งานหนัก ห่างหายจากการฝึกไป หนึง่ ปี อาการเหล่านีม้ นั ก็กลับมาใหม่ พอเรากลับ ไปฝึกอีกอาการเหล่านีก้ ห็ ายไป ก็เลยรูส้ กึ ว่าโยคะ มันเป็นอะไรที่เหมาะสมกับตัวเราแล้ว “แต่พอฝึกไปจนจบเราก็คิดว่า มันน่าจะมี โยคะอะไรทีต่ อ่ ยอดตรงนีไ้ ด้ เพราะเรียนจบตรงนัน้ แล้ ว มั น ไม่ มี อ ะไรท้ า ทายแล้ ว จะมี ศ าสตร์ โยคะอะไรอีกไหมทีเ่ ข้ากับเรา แล้วบังเอิญว่าช่วงนัน้
เมื อ งไทยโยคะร้ อ นกำ�ลั ง บู ม มาก แนนก็ ไ ป เรียนแต่ไม่ค่อยชอบ เพราะมันร้อน ท่าไม่ได้ยาก มาก แต่มนั เป็นการเปิดร่างกายด้วยอุณหภูมหิ อ้ ง ให้มันร้อน แต่ว่าจากการที่ไปฝึกโยคะร้อนทำ�ให้ แนนได้รจู้ กั กับครูลคุ ลุคเขาจะเปิดสอนคลาสหนึง่ ชื่อว่าคลาส My Sore คือ การฝึกโยคะแบบ ฝึกตัวเอง มีต้นกำ�เนิดมาจากอินเดีย คนที่เขา คิดสูตรนี้ชื่อว่า Pattabhi Jois ซึ่งตอนนี้ท่านเสีย ชีวิตไปแล้วได้ถ่ายทอดให้ลูกสาวและหลานชาย ซึ่งสอนโยคะแบบนี้อยู่ที่เมือง Mysore เป็นเมือง เล็ก ๆ ที่ประเทศอินเดีย คนที่จะไปเรียนคือ คนที่
อยากจะได้ใบที่จะเอามาสอนต่อ คนทั่วโลกต้อง บินไปเรียนที่นี่อย่างน้อย 3-4 เดือน ไปครั้งแรก ก็ยังไม่ได้ใบ ต้องไปทุกปีปีละหลายเดือนเพื่อที่ จะไปเอาใบของเขาเพื่อที่จะมีสิทธิสอนโยคะได้ ทัว่ โลก ซึง่ กระบวนท่าเขามันก็ไล่มาตัง้ แต่ Primary Series จนถึง Advanced 6 ระดับขั้น แต่ที่เขามี เขียนอยู่คือ 4 ระดับ อีก 2 ระดับต้องไปเรียนกับ เขาด้วยตัวเอง เขาไม่มีการบอกเป็นลายลักษณ์ อักษร ซึ่งคนที่อยู่ระดับนั้นมีไม่กี่คนในโลก เพราะ หนึง่ คือมันอาจยาก และสองต้องทุม่ เทมากในการ ฝึก แล้วลุคเขาก็ไปเรียนตรงนีม้ าแล้วก็เอามาสอน ที่เมืองไทย แล้วพอมีโอกาสเจอเขาในคลาสโยคะ ร้อน ก็ถูกชะตากันหรือเขาอาจจะเห็นว่าหน่วย ก้านเราใช้ได้ เขาเลยชวนเราไปเรียน ตอนแรกก็ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ยากหรือเปล่า ลุคเขาบอกว่า ไม่ยากให้มาลองดู เขาเพิ่งมาสอน สมัยก่อนยัง ไม่ค่อยมีคนรู้จัก Mysore ก็เลยเปิดตรงที่นั้นเป็น ที่แรก ๆ แล้วเราก็ลองไปเรียนดู ก็ดีเหมือนกันนะ วันแรกที่ไปเขาก็หยิบกระดาษมาให้แผ่นหนึ่ง จะ เป็นท่าต่าง ๆ จะมีทา่ ทีแ่ ตกต่างไปจากโยคะทัว่ ไป ที่เรารู้จักบ้าง เพียงแต่ว่าหลักการของการฝึกไม่
เหมือนกันเลยนะคะ แต่กอ่ นเราฝึกโยคะต้องมีครูน�ำ หรื อ ไม่ ค รู ก็ ม าสอนที ล ะท่ า แต่ ว่ า โยคะอั น นี้ เราต้องทำ�ท่าแรก ๆ ให้ผ่านก่อน ส่วนใหญ่เขาจะ เริ่มฝึกท่านั่งก่อนจนถึงท่าคอ ท่าคอคือ ท่าที่ถ้า คุณทำ�ไม่ได้เขาจะไม่ให้ผ่าน หมายความว่าเรียน 1-10 คุณต้องทำ� 1, 2, 3, 4 ให้ได้ ไม่อย่างนั้นคุณ ไป 5-10 ไม่ได้ เราไม่สามารถที่จะทำ�ท่าที่ 1 แล้ว ข้ามไปทำ�ท่าที่ 8 แล้วกลับมาสอบแล้วไป 10 ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันก็จะมีความยากอยู่พอสมควร คือคุณต้องมีวินัยในการฝึก ร่างกายต้องพร้อม อันนีก้ เ็ ป็นจุดเริม่ ต้นของการฝึก Ashtanga ทีท่ กุ คน รู้จักแนนจากตรงนี้” คุ ณ แนนบอกเราว่ า ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า งต้ อ งใช้ เวลา การฝึกก็เช่นกันต้องค่อยเป็นค่อยไป ตัวคุณ แนนเองก็เช่นกันทีต่ อ้ งผ่านการฝึกอย่างหนัก ผ่าน ความเจ็บและการเอาชนะจิตใจตัวเอง และเมื่อ พบว่ามันคือสิ่งที่ดี คุณแนนก็ฝึกอย่างสมํ่าเสมอ ตลอดมา “มั น เหมื อ นว่ า เราเจออะไรที่ ถู ก จริ ต กั บ ตัวเอง และรูส้ กึ ว่าความมหัศจรรย์ในร่างกายนัน้ มี มากมาย เช่นอย่างไปแรก ๆ เราอาจจะก้มไม่ได้เลย
แต่ทำ�ไปเรื่อย ๆ ร่างกายก็จะเข้าใจมากขึ้น เรา ก็จะทำ�ได้ แต่ก็ต้องไม่ฝืนธรรมชาติต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป และใช้ลมหายใจในการช่วยอย่าง มาก เราต้องเข้าใจท่า ตอนแรก ๆ ทีฝ่ กึ เราก็คดิ ว่า เหมือนเป็นการท้าทายตัวเอง เป็นคนที่ชอบอะไร ยาก ๆ ทำ�อะไรต้องตอบโจทย์ แรก ๆ ก็ฝึกแค่จบ Primary หลังจากนั้นพอเขาเห็นเราไปต่อได้เขาก็ เพิ่มระดับให้เรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน “ตอนนี้ก็อยู่ขั้นที่ 3 แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะทำ� ไปเรื่อย ๆ แค่ไหน เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร แนน แค่รู้สึกว่าเราอยากจะฝึกและเรามีความสุข เรา ชอบทีจ่ ะถ่ายทอดให้คนอืน่ รูจ้ กั Ashtanga มากขึน้ แต่ไม่ได้คดิ ว่าจะไปถึงจุดที่ 5 จุดที่ 6 และพูดจริง ๆ ว่าเราก็ไม่เคยคิดว่าจะเดินมาถึงจุด 3 เพราะว่า มันต้องใช้ความทุม่ เทมาก อดทน เพราะจะมีบางท่า ที่เราติดอยู่เป็นปี ๆ คือถ้าเป็นคนอื่นบางทีอาจจะ เลิกไปแล้วเพราะมันเจ็บ พูดกันตามตรงก็จะมี บางท่าที่เจ็บ ก็ไม่คิดว่าเราจะทำ�ได้ แต่เรารู้สึกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของร่างกายอย่างเดียว มัน เกี่ยวกับเรื่องของจิตใจด้วย เราก็ฝึกทั้งร่างกาย และจิตใจ ฝึกเรื่องสมาธิด้วย และมันก็เป็นความ สุขของเรา เราก็ฝึกมาเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง” สำ �หรั บตัวคุ ณแนนเองโยคะไม่ได้ให้เพียง แค่รูปร่างและสุขภาพที่ดีเท่านั้น ยังส่งผลไปถึง จิตใจที่สงบ มีสมาธิมากขึ้น และค้นพบความสุข ง่าย ๆ ในชีวิตด้วย “โยคะทำ�ให้เราเป็นคนที่มีสติ มีสมาธิอยู่กับ ตัวเอง อันนี้เหมือนเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง การ ฝึกโยคะเป็นการฝึกหายใจไปพร้อม ๆ กับการ เคลื่อนไหวร่างกาย ถ้าเราไม่มีสติ ก็จะทำ�ให้เรา หลุดไป ทำ�ถึงไหนแล้วจำ�ไม่ได้ ก็จะทำ�ต่อไม่ได้ และก็สอนให้เรารู้จักการปล่อยวาง ท่าบางท่าเรา อาจจะทำ�ไม่ได้ตลอดชีวิตก็ได้ เราก็โอเค ยอมรับ ร่างกายตัวเอง เรายอมรับจุดบกพร่องของตัวเอง happy+ | 43
feature
คนยุคใหม่ใส่ใจดูแล ตัวเองและออกกำ�ลังกาย มากขึ้น แต่ก็อย่าทำ�ให้ เป็นแค่เทรนด์เลย ต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่ได้ กับตัวเอง ทำ�แล้ว มันดีจริง ๆ มากกว่า ยอมรับข้อเสียของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ปรับปรุง ไป ฝึกเท่าทีท่ ำ�ได้ ไม่ได้แข่งกับใคร แข่งกับตัวเอง แนน บอกตัวเองอย่างนี้ทุกวัน และสิ่งที่ได้มานอกจาก การเปลีย่ นแปลงทางเรือ่ งจิตใจแล้ว เรายังได้เรือ่ ง ของร่างกายด้วย ก็คือ สุขภาพดีมาก ไม่ค่อยป่วย เป็นอะไร รวมถึงหน้าตาที่ดูเหมือนสตัฟฟ์ไว้ เราก็ ไม่คอ่ ยดูแก่เท่าไรเมือ่ เทียบกับคนรุน่ เดียวกัน และ ก็ทำ�ให้เราเป็นคนหลังตรง เพราะมันเกี่ยวกับการ ยืดกระดูก และก็ไม่มีเซลลูไลท์ เพราะต้องเกร็ง ร่างกาย อันนี้ก็เป็นผลพลอยได้เรื่องรูปลักษณ์ ภายนอก “อีกอย่างโยคะช่วยทำ�ให้เรามีวนิ ยั และไม่ใช่ วินัยแค่กับเรื่องของโยคะเท่านั้น เรายังสามารถ เอามาใช้กับเรื่องอื่น ๆ ได้ทุกอย่างเลย ถ้าเรา มีวินัยในการปลุกตัวเองขึ้นมาออกกำ�ลังกายได้ ทุกวัน เราเชื่อว่าคุณสามารถเอาวินัยอันนี้ไปใช้ กับทุกเรื่องได้ และเรื่องของวินัยมันสำ�คัญมาก สำ�หรับชีวิตของคนคนหนึ่ง” เมื่ อ ได้ ท ราบถึ ง ข้ อ ดี ข องการฝึ ก โยคะ ได้ เห็นตัวอย่างที่ดีจากคุณแนนแล้ว เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงสนใจที่ จ ะฝึ ก โยคะกั น บ้ า งแล้ ว ใช่ หรือเปล่าคะ สุดท้ายนี้คุณแนนจึงมีคำ�แนะนำ� มาฝากสำ�หรับผู้ที่สนใจ และแถมเคล็ดลับในการ ดูแลตัวเองในแบบของชลิตามาฝากด้วยละค่ะ “ขอแนะนำ�เกี่ยวกับการฝึกโยคะแล้วกันนะ คะ ว่าให้ไปฝึกกับครู อย่าฝึกตามยูทูบ ฝึกด้วย ตัวเองหรือเปิดดูตามอินเทอร์เน็ต เพราะว่าจะมี บางท่าที่ดูท้าทายหรือแฟนซีมาก บางคนทำ�ไม่ เป็นแต่อยากทำ� อาจจะบาดเจ็บได้ เพราะฉะนั้น เลยไม่แนะนำ� จริง ๆ โยคะไม่ใช่เรื่องของถ่ายรูป โพสต์ลงอินสตาแกรม หรือถ่ายรูปว่าฉันทำ�ท่ายาก 44 | happy+
ได้ มันเป็นการฝึกหายใจ ฝึกจิตใจ และเป็นการ เคลื่อนไหว ท่าง่าย ๆ ถ้าคุณทำ�ถูก คุณจะได้ ประโยชน์มหาศาล เพราะฉะนัน้ แนะนำ�ให้ไปเรียน กับครู จนเชี่ยวชาญดีแล้ว คุณก็ไม่ต้องไปจ่าย เงินแล้ว เราจำ�ทุกอย่างที่ครูสอนแล้วค่อยมาฝึก ที่บ้าน อันนี้ก็เป็นการดูแลตัวเองที่ง่าย ๆ แบบได้ ออกกำ�ลังกายทุกวัน เราว่าคนยุคใหม่ใส่ใจดูแล ตัวเองและออกกำ�ลังกายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการ ทานคลีน กินดี กินออแกร์นิกฟู้ดหรือว่าการออก กำ�ลังกาย แต่ก็อย่าทำ�ให้เป็นแค่เทรนด์เลย รู้สึก ว่าเห็นดาราทำ�มันเป็นกระแสก็กระโจนเข้าไป คือ จริง ๆ ต้องคิดถึงผลลัพธ์ทไี่ ด้กบั ตัวเอง ทำ�แล้วมัน ดีจริง ๆ มากกว่า “ส่ ว นการดู แ ลตั ว เองของแนนก็ ไม่ มี อ ะไร พิเศษค่ะ แค่ไม่ทรมานตัวเอง มีคนบอกว่าลด ความอ้วนต้องไม่กินข้าว แต่ตัวแนนเองจะไม่ คือ ถ้าลดความอ้วน ก็จะออกกำ�ลังกายเท่ากับที่กิน มากกว่า จะไม่อดและไม่ทำ�อะไรให้ตวั เองลำ�บาก
ฝืนหรือว่าเครียด ก็จะสบาย ๆ อย่างนี้ ก็นา่ จะเป็น วิธีการดูแลตัวเอง แต่จะให้ความสำ�คัญในเรื่อง ของการเลือกรับประทานอาหาร ไม่กนิ พวกของมัน ของทอด หรือว่าพวกนํ้าอัดลม เหล้า กาแฟ ชา ก็ จ ะทานน้ อ ย ไม่ สู บ บุ ห รี่ นอนเร็ ว นอนเร็ ว อาจจะเพราะมีลูกที่ต้องดูแลด้วย ก่อนมีน้องก็ นอนไม่ เ กิ น 4 ทุ่ ม อยู่ แ ล้ ว พอมี น้ อ งก็ น อน เร็ ว ขึ้ น มากกว่ า เดิ ม และก็ ท าครี ม กั น แดด ทุกวัน เพราะแดดบ้านเราแรงมาก เท่านี้เองค่ะ ไม่ได้ไปเข้าคอร์สลดนํ้าหนัก ทานอาหารคลีนฟู้ด อะไรถึงขนาดนัน้ คือแค่ดแู ลในเรือ่ งการออกกำ�ลัง และการกิน และดูแลเรื่องของจิตใจมากกว่า” ไม่ยากเลยใช่ไหมคะในการดูแลตัวเอง อาจจะ ยากหน่อยในตอนเริ่มต้นและการเอาชนะใจตัว เองให้ได้ แต่ผลลัพท์ที่ได้กลับมารับรองว่าช่าง คุ้มค่าเหลือเกิน การที่เราจะรักและดูแลคนอื่นได้ นั้น เราน่าจะต้องเริ่มจากการรักและดูแลตัวเอง ก่อนจริงไหมคะ
ฟ้าใส พึ่งอุดม ปรับแนวคิดเพื่อชีวิตที่สมดุล “สุขภาพดีหาซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องสร้างเอง” จากสโลแกนดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้คนยุคใหม่หันมาออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� และปัจจุบันพบว่าเทรนด์การดูแล “สุขภาพ” เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำ�ให้คุณ “ฟ้าใส พึ่งอุดม” ผู้ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์การ ออกกำ�ลังกายอย่างจริงจัง และปฏิบตั อิ ย่างเคร่งครัด อยากจะถ่ายทอดให้คนทัว่ ไปได้เข้าถึงอย่างถูกวิธี จนกลายมาเป็นฟิตเนสสตูดโิ อแนวใหม่ทชี่ อื่ ว่า “ฟิต จังชัน่ ส์” (Fit Junctions) ทีม่ งุ่ สอนความรูก้ ารออกกำ�ลังกายตามหลักวิชาการอย่างถูกต้องและการกินอาหารให้ถกู ต้องตามหลักโภชนาการ เมื่อ 15 ปีที่แล้วเด็กผู้ชายตัวผอม สุขภาพ ไม่แข็งแรง ไม่มีความมั่นใจในตัวเองและมักโดน เพือ่ นแกล้งเป็นประจำ� มาวันนีเ้ ขาได้เปลีย่ นแปลง ตัวเองไปในทางทีด่ ขี นึ้ ราวกับเป็นคนละคน อีกทัง้ ตอนเขาอายุ 19 ปียังเคยประกอบธุรกิจเล็ก ๆ ทำ� อาหารให้แก่นกั เพาะกาย จึงเป็นจุดเริม่ ของพืน้ ฐาน ความรู้และความชำ�นาญด้านการออกกำ�ลังกาย เพื่อสุขภาพ อย่างมืออาชีพจนถึงทุกวันนี้ “ผมเริ่มออกกำ�ลังกายตั้งแต่อายุ 16 ปี กีฬา แรกที่เริ่มเป็นยูโดและต่อยมวย พอเล่นไปเล่นมา
ก็เริ่มอยากจะแข็งแรงมากขึ้นกว่านี้ ก็เลยไปยก เวทเทรนนิ่งแต่ก็ทำ�ถูกทำ�ผิดมาเรื่อย ๆ และเริ่ม ศึกษาเรือ่ งโภชนาการ ตอนทีผ่ มเริม่ ออกกำ�ลังกาย มั นทำ�ให้ ผ มมี ค วามมั่ น ใจมากขึ้ น ผมเชื่ อ ว่ า สุ ข ภ า พ แ ล ะ รู ป ลั ก ษ ณ์ ที่ ดี ทำ� ให้ ค น เร า มี ความมั่นใจ พอเรามีความมั่นใจก็จะส่งต่อไปถึง เรือ่ งการงาน ทำ�ให้ผมไม่กลัวคน ทำ�ให้ผมกล้าทีจ่ ะ ไปทำ�อย่างอืน่ เช่น ตอนผมอายุ 20 ผมเดินทางไป ที่อเมริกา เพื่อจะทำ�งานอยู่บนเรือสำ�ราญทั่วโลก เกือบ 1 ปี ตอนนัน้ ผมไม่รวู้ า่ งานนีค้ อื อะไร ผมเชือ่ ว่า
ตอนนั้นถ้าผมไม่มีความมั่นใจในเรื่องรูปลักษณ์ ผมคงกลั ว ที่ จ ะไปเผชิ ญ หน้ า กั บ สิ่ ง ต่ า ง ๆ ที่ เกิดขึ้น “อย่างทุกวันนี้ที่ผมออกกำ�ลังกาย เพราะ ผมอยากจะแข็งแกร่ง เพื่อที่จะทำ�งานได้ พูด ตรง ๆ ว่า ผมอยากจะประสบความสำ�เร็จ เพื่อ ที่ครอบครัวของผมจะได้สบาย นี่ก็เป็นอีกเหตุผล หนึ่งที่ไม่ใช่ว่าเราอยากจะหุ่นดี ดังนั้นก็อยากจะ แนะนำ�ว่า จริง ๆ หากว่าเรามีเป้าหมายในชีวติ ใด ๆ ให้มองว่า หุ่นดีเป็นแค่ของแถม ผมรับประกัน happy+ | 45
feature
ผมอยากให้ทกุ คนเริม่ ทำ� สิง่ ดี ๆ ให้กบั ตัวเอง อะไร ก็ได้ทเ่ี ราคิดว่าดี แล้วเอาสิง่ ที่ เราคิดว่าเสียเวลาออกไป ถ้าเราทำ�ได้วันนี้เลย มันจะ เปลี่ยนชีวิตเราแน่นอน ได้เลยว่าหุ่นดีไม่ได้ทำ�ให้เรามีแฟน เพราะถ้ามอง กันแค่หนุ่ สักพักก็เลิกกันอยูด่ ี อันนีผ้ มผ่านมาแล้ว (หัวเราะ) การที่เราหุ่นดีไม่ได้ทำ�ให้เราเป็นคนน่า ดึงดูดขึ้น เพราะมันเป็นแค่เปลือกเท่านั้น การที่ เราเป็นคนน่าดึงดูดมันมีอีกหลายอย่าง ก็แล้วแต่ ตัวเราว่าเราจะให้คณ ุ ค่ากับจุดไหนในชีวติ หุน่ ดีจงึ เป็นสิ่งหนึ่งแค่เปลือกนอก แต่มันสำ�คัญตรงที่ว่า ถ้าเราสุขภาพดี ผมค่อนข้างมัน่ ใจว่าอีกสักพักหนึง่ เราจะหุ่นดีเอง” ปั จ จุ บั น คุ ณ ฟ้ า ใสได้ เ ปิ ด ธุ ร กิ จ ที่ มี ชื่ อ ว่ า “Fit Junctions” ซึง่ เป็นแหล่งรวมความรูเ้ กีย่ วกับการ ฟิตหุน่ และรักษาสุขภาพ โดยเน้นหลัก ๆ แค่ 3 ข้อ คือ ไม่อดของอร่อย ไม่หกั โหม และเน้นทีก่ ารสอน ความรู้ที่เข้าใจง่าย แต่อิงตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเหมาะกับคนที่รักการออกกำ�ลังกายและอยาก มีรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์มโดยเฉพาะ “ผมทำ�ธุรกิจนี้เพื่อให้คนไทยมีความรู้เรื่อง การออกกำ�ลังกายทีถ่ กู ต้อง เป็นผูบ้ ริโภคทีด่ ี เลือก แบบไม่บาดเจ็บในระหว่างออกกำ�ลังกาย หนึง่ คือ ไม่อดอาหาร ไม่หกั โหม และรักการเรียนรู้ อันนีค้ อื ปัจจัยหลัก ๆ ในการทำ�ฟิต จังชั่นส์ ตลอด 4 ปี จนมาถึงทุกวันนี้ จากประสบการณ์ทผ่ี มออกกำ�ลังกาย มา คำ�ว่า สุขภาวะ เป็นสิ่งสำ�คัญ หมายความว่า กายจิตต้องเวิรก์ แต่ถา้ เราอยากจะหุน่ ดีมาก แล้ว พยายามหาตัวช่วยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอดอาหาร ออกกำ�ลังกายหนัก ๆ ผมว่าทำ�แบบนั้นเป็นการ ทำ�ตามค่านิยมเท่านั้น “ผมเคยเป็นเด็กต้นครัว ทั้งครัวไทย ญี่ปุ่น และอิตาลี เพราะเป็นคนชอบกินและชอบทำ� ผม คลุกคลีกับอาหารมาค่อนข้างเยอะ ทำ�ให้ผมไม่ เห็นด้วยกับค่านิยมในการกินคลีน เพราะผมเคย ทำ�มาก่อนตอนที่ผมยังไม่รู้เรื่องอาหารมากเท่า ไหร่ ซึ่งมันไม่เวิร์กเลย ผมจึงหันไปกินขาหมู กิน หมูกรอบตามปกติ แต่ที่สำ�คัญคือ เราต้องรู้ตัวว่า 46 | happy+
เรากินแค่ไหนถึงจะพอ ปัญหาของคนไทยมีสอง อย่างคือ อาหารการกินที่กินทุกวันแต่เขาไม่รู้ว่า มันอ้วน เช่น ข้าวผัดกะเพรา ผัดซีอวิ๊ คนไทยมักจะ ไปกลัวของที่อ้วน ทั้งที่อาหารเหล่านี้มีไขมันพอ ๆ กับขาหมู หมูกรอบ บิงซู ฮันนี่โทสต์ เพราะเขาผัด ในกระทะทีเ่ รียกว่า Wok ทีต่ อ้ งใช้นาํ้ มันเยอะมาก เราจึงได้รบั ไขมันโดยทีเ่ ราไม่รตู้ วั ถ้าเราเปลีย่ นมา ใช้ Pan Fry ที่เป็นกระทะแบนจะดีกว่า เพราะใช้ นํา้ มันแค่ชอ้ นเดียวก็สามารถทำ�กับข้าวให้อร่อยได้ เหมือนกัน แค่นี้ก็ไม่อ้วนแล้วครับ อีกทั้งยังไปกิน หมูกรอบหรือขาหมูได้อีก แต่ขอยํ้าว่า ในปริมาณ ทีพ่ อเหมาะ ไม่ใช่กนิ ทุกวัน ทุกมือ้ แต่นาน ๆ กินที สามารถกินได้แน่นอน “อย่ า งของหวานเราก็ ส ามารถกิ น ได้ ต าม ปกติ ตราบใดที่เราไม่ได้กินของหวานพรํ่าเพรื่อ บางคนใช้ชีวิตที่กินคลีน 5 วัน เสาร์ อาทิตย์ เป็น วันชีทเดย์ (Cheat day) ผมอยากจะถามมากว่า มันได้ผลไหม ก็ไม่ได้ผลหรอก ถ้าในทางทฤษฎี
สามารถตอบได้เลยว่า ชีทเดย์เป็นสิ่งที่ผิด ผิด ตั้งแต่ชื่อมันแล้ว คำ�ว่าชีทแปลว่าโกง ทำ�ไมเรา ต้องโกงตัวเองด้วย ในเมื่อเราควรใช้ชีวิตอย่าง ถูกต้อง โกงแปลว่า คุณทำ�อะไรผิด ก็จะก่อให้เกิด การรู้สึกผิด ถ้าในเชิงจิตวิทยาผิดตั้งแต่เรียกว่า ชีทเดย์แล้ว อย่างฟิต จังชั่นส์จะสอนเลยว่า ห้าม มีชที เดย์ เพราะทุกวันคุณต้องกินอย่างมีความสุข ผมจะไม่สอนว่าคุณต้องกินอกไก่ แต่ผมจะสอนว่า คุณต้องกินอาหารประเภทนี้หรือกินอย่างไรให้ ถูกต้อง ฉะนั้นอะไรที่เป็นเรื่องหยุมหยิมเราต้อง ปล่อยไป เราไม่จำ�เป็นต้องไปเครียดขนาดนัน้ ถ้าเรา หาสมดุ ล ได้ มั น จะดี กั บ เรา ทุ ก อย่ า งมี ข้ อ ดี ข้ อ เสี ย หมด เพี ย งแต่ เ ราต้ อ งเลื อ กทำ�ให้ ถู ก เท่านั้นเอง” จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีประการสำ�คัญ จะต้องเริม่ ต้นจากจิตใจ และแรงจูงใจในการอยาก มีสุขภาพดี เพื่อนำ�ไปสู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง “สุขภาพดีเกิดขึ้นได้จากการที่เราทุ่มเทหรือ
อย่างน้อย ๆ ก็มีความสมํ่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการ ดูแลการกิน อาจจะไม่ต้องจริงจังกับทุก ๆ อย่าง แต่ อ ะไรที่ เรารู้ว่า ควรเลี่ย งก็ เลี่ ยง เพราะเรามี สิทธิในการเลือกด้วยตัวเอง ไม่ได้มีใครมาบอกว่า ห้าม แต่เราเลือกเพราะเรารักตัวเราเอง หลายคน ชอบบอก กินเถอะเดี๋ยวค่อยเลิก หรือเดี๋ยวค่อย ลด พอมาเจอกันอีกทีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แล้ว คนหลายคนมักจะถามตัวเองว่า เราจะ ทำ�ได้เหรอ อยากจะบอกว่า ผมมีแพลนเรื่องกีฬา เป็นงานอดิเรก ส่วนเรื่องเทรนนิ่งเป็นงานประจำ� ในแต่ละวันผมจะตั้งเป้าหมายว่า ผมจะทำ�อะไร บ้าง อาทิตย์ละสี่วันผมต้องเทรนตัวเอง พอเทรน ตัวเองเสร็จแล้วก็ต้องเล่นกีฬา เพราะกีฬาคืองาน อดิเรก ผมจะเล่นกีฬาปีละหนึ่งอย่าง และผมจะ เล่นให้เป็นไปเลย” คุณฟ้าใสพูดต่อว่า หลาย ๆ คนมักจะปฏิเสธ การดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยคำ�พูดที่ว่า “ไม่มี เวลา” แต่ใครจะรูว้ า่ คำ�คำ�นีจ้ ะกลายเป็นอุปสรรค ที่สำ�คัญที่สุดของการมีสุขภาพที่ดี “เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ถ้าเรา ยังมีเวลาไปเปิดเฟซบุ๊กเล่น คำ�ว่า ไม่มีเวลา จะ ไม่ออกมาจากปากแน่นอน ถ้ารู้สึกว่าเวลาใดที่ ตัวเองโดนดูดเข้าไปในเฟซบุ๊กให้รีบปิดทิ้งทันที ตัวผมเองจะอ่านไลน์แค่วันละครั้ง อย่างมากคือ วันละสองครั้ง เพราะถ้าเขารีบ เขาต้องโทร.มา สิ่งหนึ่งที่ดึงความสำ�เร็จของคนหลายคนคือ การ เสพโซเชียล บางคนรู้เรื่องดราม่าของคนอื่นดี กว่าชีวิตตัวเองเสียอีก คนที่อยากจะเริ่มต้นออก กำ�ลังกายต้องมองเห็นก่อนว่า ทำ�ไมเราต้องเริ่ม
ออกกำ�ลังกาย บางคนยังมองไม่เห็น ให้ลองมอง ตัวเองว่า อายุ 35 ฉันจะหน้าตาเป็นอย่างไรหรือ ฉันจะอยู่ในสภาพไหน อย่างตัวผม ผมมองไป ถึงอายุ 60-70 ปี ดังนั้นปัจจุบันเป็นแค่จุดเริ่มต้น เท่านั้น ผมคิดไปว่าตอนอายุ 60 ปี จะต้องไม่มี โรคนี้ เอาง่าย ๆ ถ้าอายุ 60 ปีผมยังโสดอยู่ ผม ยังต้องหาแฟนได้อยู่ โดยที่ผมไม่แก่หรือเหี่ยว ผม จะต้องไม่เป็นแบบนั้นเด็ดขาด ยิ่งพอผมได้เห็น ไอดอลที่เขาทำ�ได้จริง ผมก็ยิ่งฝังลึกว่าที่ผมคิด ถูกต้องแล้ว หนึง่ คือ เรือ่ งของสมรรถภาพร่างกาย สองคือ เรือ่ งของโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าเรามีโรคเมือ่ ไหร่ เงินที่เราหามาจากการทำ�งานตลอดชีวิต ก็ต้อง เอามารักษาโรค ค่อนข้างที่จะเสียเวลาเปล่า ถึง แม้เราอาจจะรู้ว่าเรามีพฤติกรรมที่ไม่ดีก็ยังทำ�อยู่ ก็ค่อย ๆ หัดไปทีละอย่าง อาจจะใช้เวลาหลายปี มาก แต่สักวันมันจะสำ�เร็จ “คนที่เริ่มออกกำ�ลังกายใหม่ ๆ อาจจะมี คำ�ถามว่า ทำ�อย่างไรให้มีซิกซ์แพ็ก ทำ�อย่างไรให้
มีกล้าม ซึ่งผมมองว่ามันยังไกลไป เอาอันแรกให้ ได้กอ่ นว่า ทำ�อย่างไรให้สามารถออกกำ�ลังกายให้ ได้สมํา่ เสมอ สามารถนอนเป็นเวลา หรือสามารถ กินของที่ดี ๆ ได้ สิ่งแรกที่อยากให้คิดคือ คุณใช้ ชีวติ เพือ่ อะไร คงไม่มใี ครใช้ชวี ติ ไปวัน ๆ ส่วนใหญ่ ก็ตอบง่าย ๆ ว่าอยากรวย อยากหล่อหรืออยาก มีความสุข เราก็เอาสิ่งนั้นมาเป็นตัวตั้งต้น แล้ว ค่อย ๆ แตกออกมาว่าเราต้องทำ�อะไรบ้าง เพือ่ ให้ ไปถึงจุดนั้น ผมคงไม่ได้บอกว่ามาออกกำ�ลังกาย กันเถอะ เพราะจริง ๆ แล้วการออกกำ�ลังกายเป็น สิ่งที่ทุกคนควรทำ�อยู่แล้ว แต่ผมอยากให้ทุกคน เริ่มทำ�สิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง อะไรก็ได้ที่เราคิดว่าดี แล้วเอาสิ่งที่เราคิดว่าเสียเวลาออกไป ผมว่าถ้า เราทำ�ได้วันนี้เลย มันจะเปลี่ยนชีวิตเราแน่นอน” สำ�หรับหลาย ๆ คนที่กำ�ลังคิดจะเปลี่ยน พฤติกรรมหรือหาแรงจูงใจในการออกกำ�ลังกาย อันดับแรกลองถามตัวเองตัง้ แต่วนั นีก้ อ่ นนะคะว่า เรารักตัวเองมากพอแล้วหรือยัง happy+ | 47
ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล
ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน ความจริงข้อหนึ่งในการมีชีวิตอยู่ของคนเรา...คือ เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะ ต้องเจอปัญหาและอุปสรรคในชีวิต เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะเจอฝนเมื่อเรายังต้องอยู่ใต้ฟ้า เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่มีเหงื่อท่ามกลางแสงแดด เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่เจอความหนาวท่ามกลางอุณหภูมิอันน้อยนิด เหมือนกับทีเ่ ราปฏิเสธไม่ได้ทจ่ี ะต้องล้มลุกคลุกคลานถ้าเรายังคงเดินทาง
ร่วงลง เพื่อหยุดพักก็เป็นได้ หลายคนในชีวิตต้องดิ้นรนกับการใช้ชีวิตจน แทบไม่เคยได้หยุดพัก จนเกือบลืมไปว่า ความฝัน ความหวังและสิ่งที่ชีวิต ต้องการจริง ๆ คืออะไร จนวันทีล่ ม้ จึงได้รตู้ วั ว่าชีวติ เดินทางอยูท่ จี่ ดุ ไหน เรา จะไม่มีทางเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ ถ้าเราไม่ยอมรับว่า เรากำ�ลังล้ม แต่ในวันที่ เราเข้ า ใจและยอมรั บ ได้ ว่ า เรากำ � ลั ง ล้ ม เราจะได้ เรี ย นรู้ อ ะไรมากมาย โดยเฉพาะเรียนรู้ที่จะพัก เพื่อเดินต่อไปข้างหน้าให้ดีกว่าเดิม แง่งามของ การล้มก็ยังมีให้เราได้เห็นอยู่จริง
“การล้มลุกคลุกคลานจึงอาจเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการยังมีชีวิตอยู่” เราอาจล้มลงแล้วลุกขึ้นไม่ได้ หรือล้มลงแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ดีกว่าเดิม เราอาจ ลุก-คำ�ว่าลุกมีความหมายตรงข้ามกับคำ�ว่าล้ม หมายถึง การตั้งหลัก เจ็บปวด ได้รับบาดแผล หรือได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่ทั้งหมดเป็น การยืนขึ้น การตั้งตัวได้ คำ�ว่าลุกเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตมากมายในการ เครื่องยืนยันว่า “เรายังหายใจ” เดินทางต่อไปข้างหน้า หลายคนในชีวติ ลุกขึน้ ได้มาโดยตลอด แต่ค�ำ ว่าลุกนัน้ จะไม่มีความหมายเลย ถ้าเราไม่ได้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง คนที่ประสบความ ลองเปลี่ยนมุมมอง แล้วหาทางแห่งปัญญาจากการล้มลุกคลุกคลาน สำ�เร็จในโลกนี้ ลุกขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจากการล้มเหลวและผิดพลาดที่นับ ล้ม-คำ�ว่าล้ม มีความหมายถึง การร่วงลง ตกหล่น มีความหมายใน ไม่ถว้ น เขาอาจจะล้มเป็นพันเป็นหมืน่ ครัง้ เพือ่ ลุกขึน้ มายิง่ ใหญ่ให้ได้สกั ครัง้ แง่ลบ แต่หากมองในอีกนัยหนึ่งของคำ�ว่าล้ม การล้มอาจหมายถึงการได้ ในชีวติ เราไม่ได้เห็นวันทีเ่ ขาล้ม เราจึงตัดสินว่า ชีวติ เขาประสบความสำ�เร็จได้ 48 | happy+
อย่างง่ายดาย จวบจนวันทีเ่ ราได้เรียนรูแ้ ละเข้าใจว่า เขาลุกขึน้ มาอย่างสง่างาม เป็นกิริยาอาการที่เห็นได้ในเด็ก ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและเดินได้ในที่สุด คำ�นี้ ได้อย่างไร ท่ามกลางการล้มอย่างไม่เป็นท่านับครั้งไม่ถ้วน จึงถึงเวลา เปรียบเทียบได้ดีอย่างยิ่งสำ�หรับคนที่กำ�ลังตั้งหลัก เพื่อลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ย้อนถามตัวเราเอง แล้วเราล่ะ ล้มและลุกขึ้นเองกี่ครั้งแล้ว? และอีกครั้ง ไม่ว่าชีวิตต้องผ่านเรื่องราวใด ๆ มาก็ตาม คำ�ว่าคลานจึงเป็น เครือ่ งเตือนใจว่า เราล้วนผ่านคำ�คำ�นีก้ อ่ นทีจ่ ะตัง้ ตัว ตัง้ ต้นลุกขึน้ และเดินได้ คลุก-คำ�นี้หมายถึง การคน การเข้าร่วม หลายคนอาจมองข้ามคำ�นี้ไป เมือ่ เราโตขึน้ และวงจรชีวติ บังคับให้เราต้องกลับไปล้มลง จนไม่สามารถตัง้ ตัว แต่การเติบโตที่แท้จริงของคนที่ประสบความสำ�เร็จคือ การยอมรับความ ขึ้นได้ในทันที ก็ไม่แปลกอะไรที่เราจะต้องหาทางเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ด้วย จริงว่า เราไม่มที างประสบความสำ�เร็จอย่างยิง่ ใหญ่ได้ ถ้าเราไม่เข้าใจ เข้าถึง วิธีใดก็ตามที่อาจไม่งดงาม ไม่มั่นคง ดูทุลักทุเล แต่เราก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม และเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่เรากำ�ลังทำ� ฉะนั้นแล้วนัยของการล้มลงจึง อาจเป็นการพัก เพื่อให้เราได้คลุก ได้เรียนรู้เรื่องราวที่สำ�คัญต่อชีวิตอย่าง ทีส่ ดุ แล้ว...การล้มลุกคลุกคลานก็มคี วามสวยงามทีซ่ อ่ นอยู่ ขอเพียงเชือ่ ถ่องแท้และดีพอ เมื่อเราเข้าใจอย่างดีพอ เราอาจลุกขึ้นและทำ�ให้ประสบ มั่นว่า ล้มได้ก็ลุกได้ ล้มแล้วอย่าเสียเวลา ต้องเรียนรู้และแกร่งกว่าเดิม อย่า ความสำ�เร็จมากขึ้น หรืออาจพบความเชี่ยวชาญ ความสนใจที่แท้จริงของ อายที่จะพยายามเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และแม้จะเจ็บปวด มีบาดแผล ก็ต้อง เรา จากการเข้าไปคลุกคลี ศึกษาเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิต จนหลุดจากกรอบกฎ ไม่ยอมแพ้และหยุดยํ่ายืนอยู่ตรงที่เดิมตลอดไป เดิม ๆ ที่เราเคยขีดไว้ การได้ล้มและได้คลุกคลี เรียนรู้เพื่อหาตัวตนที่แท้จริง จึงไม่ใช่เรื่องเสียเวลาเลย “ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน จึงเป็นวิถีธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ เจอเพื่อ ทักทาย Say Goodbye และผ่านไปให้ได้...ในที่สุด” คลาน-คำ�ว่าคลานหมายถึง การเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยมือและเข่า happy+ | 49
คนคิดดี
50 | happy+
โครงการ “สานต่อ งานพ่อสอน” มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว
เป็นเวลา ๖๐ กว่าปีแล้ว ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงสอนและทรงทำ�ให้เราเห็นเป็นตัวอย่างในเรือ่ งของการเกษตร ทฤษฎีใหม่และการใช้ชวี ติ แบบพอเพียง ทีเ่ ป็นแนวปฏิบตั แิ ละแนวคิดเพือ่ การพัฒนาอย่างยัง่ ยืน สอดคล้องกับการนำ�ไปปรับใช้ทง้ั ในสังคมชนบท และสังคมเมือง วันนี้ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะเดินตามแนวทางและทำ�ตามที่พระองค์ทรงสอน นั่นจึงเป็นที่มาของ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ ซึง่ ดำ�เนินการมาตัง้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึง่ ในเวลานัน้ โครงการ ปิดทองหลังพระฯ มีพันธกิจตามมติคณะรัฐมนตรีคือ เพื่อฉลองพระชนมพรรษาครบ ๘๐ และ ๘๔ พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ตรง จากแนวทางโครงการพระราชดำ�ริและน้อมนำ�มาปรับใช้ในชีวิตประจำ�วัน ส่งเสริม การเรียนรู้ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่และส่งเสริม อาชีพประชาชน รวมทั้งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ และกระตุ้นจิตสำ�นึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและศิลปวัฒนธรรมไทย แต่การดำ�เนินภารกิจของโครงการปิดทอง หลังพระฯ เพื่อสืบสานแนวพระราชดำ�ริ เพื่อ ความอยู่ดีมีสุขของประชาชนนั้นกลับมีข้อจำ�กัด คณะรัฐมนตรีจึงมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เห็นชอบให้สำ�นักงานปลัด สำ�นักนายกรัฐมนตรี ดำ�เนินการจัดตั้ง “มูลนิธิ ปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ” และ “สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลัง พระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ” ขึ้น เพื่อจัดการ ความรู้ แ ละส่ ง เสริ ม การพั ฒ นาตามแนวพระ ราชดำ�ริอย่างเป็นระบบให้กว้างขวาง จนกระทั่ง กลายมาเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาประเทศ ในการจั ด ตั้ ง “มู ล นิ ธิปิ ด ทองหลั ง พระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ” และ “สถาบันส่งเสริม และพั ฒ นากิจ กรรมปิ ดทองหลัง พระ สื บสาน แนวพระราชดำ�ริ” นั้น มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑. จั ด ตั้ ง และสนั บ สนุ น การดำ � เนิ น งาน ของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง หลังพระ สืบสานแนวพระราชดำ�ริ ซึง่ เป็นหน่วยปฏิบตั ิ ของมูลนิธิ ให้ดำ�เนินการได้อย่างมีประสิทธิผล ประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเจตนารมณ์แห่งการ จัดตั้ง
๒. ให้สถาบัน โดยมีมูลนิธิ สนับสนุนให้ทุน ดำ�เนินงาน มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (๒.๑) สนับสนุน ส่งเสริมและให้ความช่วยเหลือ ในการแก้ ไ ขปั ญ หาและพั ฒ นา แก่ อ งค์ ก ร ชุมชน ประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ องค์กรทางสังคม สถาบันวิชาการ ภาคธุรกิจ ในการดำ�เนินงานที่สอดคล้องกับมิติ การพัฒนาตามแนวพระราชดำ�ริ เพือ่ ให้ประชาชน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงส่งผลต่อการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๒.๒) สนั บ สนุ นการจั ด การความรู้ ต าม แนวพระราชดำ�ริ โดยประสานความร่วมมือกับศูนย์ ศึกษาการพัฒนา โครงการส่วนพระองค์ โครงการ ตามพระราชประสงค์ โครงการหลวง โครงการ อันเนือ่ งมาจากพระราชดำ�ริ องค์กรชุมชน ประชา สังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ องค์กรภาครัฐ องค์กรทางสังคม สถาบันวิชาการ ภาคธุรกิจ เพือ่ ให้เกิดคลังความรู้ การยกระดับความรู้ การต่อยอด ชุดความรู้ใหม่ การพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ในและนอกระบบ ตลอดจนการขยายผลเชือ่ มโยง สู่การนำ�ไปปฏิบัติอย่างกว้างขวาง (๒.๓) ส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการภารกิจ
และกิจกรรมของสถาบันกับแผนชุมชน แผนองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น แผน พัฒนาจังหวัด แผน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและนโยบายรัฐบาล (๒.๔) สนั บ สนุ น ส่ ง เสริ ม แนะนำ � และ ช่วยเหลือ องค์กรชุมชน ประชาสังคม องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ องค์กรทางสังคม สถาบันวิชาการ ภาคธุรกิจ เพื่อให้น้อมนำ�แนว พระราชดำ�ริไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็น แนวทางหลักในการพัฒนาทุกระดับของประเทศ (๒.๕) สร้างการรับรู้ ความเข้าใจและความ ร่ ว มมื อ ดำ � เนิ นการตามแนวพระราชดำ � ริ อ ย่ า ง ต่อเนื่อง ๓. เพื่ อ สนั บ สนุ น และส่ ง เสริ ม การศึ ก ษา และทัศนศึกษาทีเ่ กีย่ วกับการนำ�แนวพระราชดำ�ริ ไปประยุกต์ใช้ และขยายผลสู่ชุมชน ๔. เพื่อส่งเสริมการประสานการดำ�เนินงาน ร่ ว มกั บ องค์ ก รชุ ม ชน ประชาสั ง คม องค์ ก ร ปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ องค์กรทาง สังคม สถาบันวิชาการ ภาคธุรกิจ เพื่อกิจกรรม พัฒนาและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ๕. ไม่ดำ�เนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ ประการใด happy+ | 51
คนคิดดี
และในปีนี้ได้มีการสานต่อโครงการใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่แนวคิดการพัฒนาให้ กว้างขวางสู่ชุมชนมากขึ้น โครงการ “สานต่อ งานพ่อสอน” จึงเกิดขึ้น จากการผนึกกำ�ลังโดย รัฐ เอกชน ชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ตามแนวพระราชดำ � ริ และเป็ น การสื บ สาน พระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ ในอันที่ จะสนับสนุนให้ชุมชนและสังคมสามารถพัฒนา ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อความสุขของตนและ สังคมต่อไป มู ล นิ ธิปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนว พระราชดำ�ริ จึงร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และสำ�นักงานปลัดสำ�นักนายก รัฐมนตรี จึงได้จัดงาน ‘รำ�ลึกวันทรงราชย์’ เมื่อ วันที่ ๙ มิถนุ ายน ๒๔๘๙ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขึ้น ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยจับมือบูรณาการ แก้ปญ ั หาของประเทศอย่างใกล้ชดิ เป็นเอกภาพ ยึด แนวพระราชดำ�ริเพือ่ แก้ไขปัญหาของประชาชนให้ ดีขนึ้ เริม่ นำ�ร่องใน ๑๐ จังหวัด รวม ๔๒ โครงการ ครอบคลุมทั้งเรื่องนํ้าและส่งเสริมอาชีพ มู ล นิ ธิปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนว พระราชดำ�ริ ร่วมกับ สำ�นักงานส่งเสริมการจัด ประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้ จัดโครงการ “สานต่อ งานพ่อสอน” ขึ้น โดยมี 52 | happy+
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิ ปิ ด ทองหลั ง พระฯ ปลั ด สำ � นั ก นายกรั ฐ มนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมร่วมเสวนาในหัวข้อ “มิติใหม่การ บูรณาการสืบสานแนวพระราชดำ�ริ” ท่ามกลาง นักธุรกิจและข้าราชการที่เข้าร่วมเป็นจำ�นวนมาก การเสวนาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ทผ่ี า่ นมา ๕ หน่วยงานดังกล่าวได้รว่ มกัน ลงนามบั น ทึ ก ความเข้ า ใจในอั น ที่ จ ะทำ � งาน ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ตามแนวพระราชดำ�ริ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงเน้นความสามัคคีเพื่อ ช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนา โดยยึดหลัก ความต้องการของแต่ละพื้นที่หรือยึดภูมิสังคม หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา กล่าวว่า “สานต่อ งานพ่อสอน” มีความสำ�คัญอย่างยิ่งในช่วงของ การปฏิ รู ป ประเทศ เนื่ อ งจากไทยมี ปั ญ หา ความเหลือ่ มลํา้ ด้อยการศึกษา และประชาชนในภาค เกษตรถดถอยมาอย่างต่อเนือ่ ง ทำ�ให้เป็นอุปสรรค ต่ อ การพั ฒ นาให้ ร วดเร็ ว หากไม่ เร่ ง ช่ ว ยเหลื อ อย่างไรก็ดี การพัฒนาที่ได้ผลควรศึกษาแนวทาง พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ซึง่ เป็นแนวทางทีน่ านาชาติ ให้ ก ารยอมรั บ องค์ ก ารสหประชาชาติ นำ � ไป ศึกษาเพือ่ ปรับใช้ทัว่ โลก เพราะการพัฒนาในทาง
ทุนนิยมได้พสิ จู น์แล้วว่าทำ�ให้หลายประเทศตกอยู่ ในภาวะวิกฤติ “จุดเริ่มต้นที่ควรจะทำ�ได้ก่อนคือ การหันมา บูรณาการทำ�งานร่วมกัน เพราะกระทรวงต่าง ๆ มี บุคลากรที่ดี มีงบประมาณ แต่เมื่อต่างคนต่างทำ� ปัญหาก็ไม่ได้รบั การแก้ไข ชาวบ้านก็ยงั เดือดร้อน อยู่ นี่ก็เป็นพระราชดำ�รัสพื้นฐานคือสามัคคี ทำ� หน้าทีข่ องตนให้ดที สี่ ดุ เพือ่ ประโยชน์แก่สว่ นรวม” นายกฤษฎา บุ ญ ราช ปลั ด กระทรวง มหาดไทย กล่าวว่า หลังจากการลงนามในบันทึก ความเข้าใจแล้ว กระทรวงฯ ได้พิจารณาเลือก จังหวัดต่าง ๆ ขึ้นมา ๑๐ แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบ การทำ�งานร่วมกัน โดยพิจารณาจากความพร้อม
ในพื้นที่ ทั้งจากภาคราชการและประชาชน ที่จะ ร่วมกันขับเคลื่อนงาน ประกอบด้วยจังหวัดแพร่ ตาก ชัยภูมิ นครราชสีมา สกลนคร ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และพัทลุง ซึ่งมี ทุ ก กระทรวงและสำ � นั ก นายกรั ฐ มนตรี ให้ ก าร สนับสนุนเป็นอย่างดี ผลของการบูรณาการเพื่อจัดทำ�แผนปฏิบัติ การตามหลักการทีก่ �ำ หนดเป็นไปด้วยดี สามารถ จัดทำ�โครงการ / กิจกรรมเพื่อการพัฒนาชนบท เชิงพืน้ ทีป่ ระยุกต์ตามแนวพระราชดำ�ริ ใน ๑๐ จังหวัด รวมทั้งสิ้น ๔๒ โครงการ “พวกเรานำ�เอาหลักการทรงงานมาประยุกต์ โดยให้ประชาชนในพื้นที่เป็นผู้เสนอปัญหาและ แนวทางแก้ไข โดยราชการเป็นเพียงพี่เลี้ยง ส่วน งบประมาณที่จัดสรรนั้นเป็นเพียงบางส่วน และ ประชาชนต้องเข้ามาร่วมด้วย เช่น เอาแรงงานมา ลง ไม่มีการจ้างเหมา เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของ ที่แท้จริง” นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำ�นักนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำ�คัญกับ การขั บ เคลื่ อ นปรั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพี ย งใน ระดับนโยบาย ดังปรากฎอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับที่ ๑๒ และยุทธศาสตร์การบูรณาการ
การพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวางระบบการสนั บ สนุ น ให้ ห น่ ว ยงาน ที่เกี่ยวข้อง ดำ�เนินการตามแผนพัฒนาชนบทเชิง พื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำ�ริ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล และในวันเดียวกันได้มีการจัด “ตลาดนัด ความดี” เพื่อเปิดให้ชุมชนและนักธุรกิจได้มา พบและปรึกษาหารือกัน แสวงหาแนวทางที่จะ ร่วมมือกันพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต โดยคัดเลือก โครงการจากชุมชนและสถาบันการศึกษาจาก ทัว่ ประเทศเข้าร่วม และมีนกั ธุรกิจจากสมาคมบริษทั จดทะเบียนไทย สมาคม The Boss และบริษัท เอกชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นจำ�นวนมาก ท้ายทีส่ ดุ มีขอ้ สรุปร่วมกันว่า ทุกหน่วยงานจะ ดำ�เนินการตามบทบาทหน้าทีข่ องแต่ละหน่วยงาน ทีจ่ ะทำ�ให้ประชาชนสามารถพึง่ พาตนเองได้ ตาม เป้าหมายแห่งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย การนำ�หลักการพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ ตามแนวพระราชดำ�ริมาเป็นแนวทาง และเราทุกคน เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการพั ฒ นาและสามารถ เข้าร่วมโครงการดี ๆ แบบนี้ได้ โดยเริ่มจากตัวเรา ชุมชนและสังคมรอบ ๆ ตัวเรา ทำ�ได้ตามความรู้ ความสามารถและความถนั ด ที่ เรามี เพื่ อ พา ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง happy+ | 53
family in love เรื่อง : ดร. วีรณัฐ โรจนประภา
ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะถือเป็นยาที่ค้นุ เคยกับคนทั่วไปมากที่สุดชนิดหนึ่ง แต่ขณะ เดียวกันก็เป็นยาทีค่ นทัว่ ไปใช้กนั ผิดมากทีส่ ดุ ชนิดหนึง่ เช่นกัน โดยเฉพาะการใช้ โดยไม่จ�ำ เป็น จนทำ�ให้เชือ้ เกิดวิวฒ ั นาการในการป้องกันตัวมันเอง กลายเป็น การดื้อยาขึ้นมา จนเป็นวิกฤติอันตรายร้ายแรงชนิดใหม่ของโลกในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะป้ อ งกั น ยากแล้ ว ที่สำ� คั ญ คื อ เมื่อ เชื้อ ดื้อ ยาแล้ ว วิ ธี จัดการก็คือต้องเพิ่มขนาดยาเข้าไปอีก ซึ่งก็ทำ�ให้เชื้อต้านยามากขึ้น จนถึง จุดหนึง่ ทีไ่ ม่มยี าซึง่ แรงพอให้ใช้รกั ษา ก็เกือบจะหมายถึงการรอความตายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้การใช้ยาปฏิชวี นะทีค่ นุ้ เคยนีจ้ ะน่ากลัวมากแล้ว แต่ยงั มี การใช้ยาทีแ่ สนคุน้ อีกชนิดทีน่ า่ กลัวยิง่ กว่า ยานัน้ ชือ่ “โซเชียล” ครับ “โซเชียล” เป็นยาทีค่ นจำ�นวนมากนำ�มารักษาโรค “เหงา” อันเป็นโรค สามัญประจำ�ยุคไอที ที่เป็นสังคมต่างคนต่างอยู่ การปฏิสัมพันธ์ในชุมชน แทบไม่เหลือสายใยให้สมาชิกได้รวู้ า่ ตนยังมีตวั ตนอยูใ่ นสังคมนัน้ จนเกิดเป็น ความเหงา ความต้องการมีตวั ตน ความโหยหาความสำ�คัญในตนขึน้ มา เพือ่ หล่อเลี้ยงธรรมชาติพ้นื ฐานแห่งความเป็นสัตว์สังคมของมนุษย์ และนั่นเอง คือ ทีม่ าของการใช้ยาโซเชียลแบบผิด ๆ ทีเ่ กินจำ�เป็นขึน้ ด้วยเพราะฤทธิย์ า ทีส่ ามารถสร้างเพือ่ นหรือผูต้ ดิ ตามจำ�นวนมากมาคลายเหงาให้ได้ในฉับพลัน เพียงแค่มสี ญ ั ญาณ WIFI เข้าถึงเท่านัน้ 54 | happy+
นั่นทำ�ให้เกิดผลข้างเคียงไม่ต่างจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่มากเกิน ก็คือ ทำ�ให้เกิดการดือ้ ยาขึน้ เชือ้ พัฒนาให้ตา้ นยามากขึน้ จนต้องใช้ยา (โซเชียล) หนักขึน้ จนถึงทีส่ ดุ อาจไร้ยาทีแ่ รงพอจะมารักษาได้เช่นกัน แต่ท่ีโซเชียลนี้น่ากลัวกว่า เพราะยาโซเชียลนี้ทำ�งานรุนแรงและส่งผล กระทบกว้างกว่ายาปฏิชวี นะมาก การใช้แต่ละครัง้ เปรียบเหมือนดัง่ การหย่อน ระเบิดลงไปกลางวง ทีน่ อกจากจะทำ�ลายเชือ้ โรคเหงาแล้ว ยังมีผลข้างเคียง ไปทำ�ลายเชื้อตัวอื่น ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะการทำ�ลายเชื้อแห่งความอดทน ที่โซเชียลเอื้อให้ผู้ใช้อดทนน้อยลง รอไม่เป็น ทำ�ลายเชื้อแห่งความซื่อตรง ทีโ่ ซเชียลเอือ้ ให้ผใู้ ช้เริม่ หลอกลวง สร้างตัวตนฐานะปลอมขึน้ มา หรือทำ�ลาย เชือ้ แห่งความเข้มแข็งทางจิตใจ ทีโ่ ซเชียลเอือ้ ให้ผใู้ ช้ออ่ นแอต่อความอดกลัน้ ในสิง่ ยัว่ ยุ ซึง่ ผลข้างเคียงนีเ้ องทีส่ ง่ ผลร้ายมหาศาลต่อชีวติ ทัง้ หมดของผูใ้ ช้ เพราะ ทำ�ให้ผใู้ ช้กลายเป็นคนทีเ่ สีย่ งต่อการทำ�สิง่ ไม่ดงี าม เสีย่ งต่อการสร้างบาปกรรม ทีจ่ ะส่งผลกรรมร้ายต่อตนเองในอนาคต “แล้วถ้าไม่ใช้ยาโซเชียลจะให้ใช้ยาอะไร?” คำ�ตอบก็ตอ้ งอิงการรักษาแบบแพทย์แผนไทยครับ ทีเ่ ราจะรักษาด้วยการ แก้ไปทีร่ ากแห่งโรค แก้กนั ตรงไปตรงมา ในเมือ่ โรคร้ายคือ ความเหงา ยาแก้
ก็คอื ต้องหาเพือ่ นจริง ๆ ครับ ซึง่ วิธกี ารจะให้ได้เพือ่ นนัน้ ไม่ยากเลย แค่เพียง เรามอบความเป็นเพือ่ นให้ผอู้ น่ื ก่อน เราย่อมได้ความเป็นเพือ่ นคืนมา จะมีขอ้ แม้ นิดเดียวคือ เราให้ความเป็นเพือ่ นแบบใด เราก็จะได้เพือ่ นแบบนัน้ เช่น เราให้ ความเป็นเพือ่ นเทีย่ วแก่ผรู้ จู้ กั เราย่อมได้คนทีค่ อยชวนกันเทีย่ ว ชวนกันเสียคน มาเป็นเพือ่ น เราให้ความเป็นเพือ่ นปอกลอก เราก็จะได้คนทีค่ อยหลอกลวง เอาเปรียบเรามาเป็นเพือ่ น ดังนัน้ หากเราอยากได้เพือ่ นดี เราก็ตอ้ งมอบความดีให้แก่ผรู้ จู้ กั และก็ไม่ตอ้ ง ลำ�บากมานิยามกันเลยว่า จะต้องทำ�อะไรบ้าง เพราะพระพุทธเจ้าท่านทรง สอนไว้แล้วในหัวข้อกัลยาณมิตร อันประกอบด้วยคุณสมบัติ 7 ประการ ได้แก่ 1. ปิโย น่ารัก เป็นเพือ่ นทีท่ �ำ ให้เพือ่ นสบายใจ มีความสนิทสนม สามารถ ให้ค�ำ ปรึกษาได้ 2. ครุ น่าเคารพ ทำ�ตัวสมควรแก่ฐานะ สร้างความรูส้ กึ อบอุน่ ใจ สามารถ เป็นทีพ่ ง่ึ ทีป่ ลอดภัยได้
3. ภาวนีโย น่ายกย่อง มีปญ ั ญา ความรูห้ มัน่ พัฒนาตนอยูเ่ สมอ เป็น แบบอย่างให้เพือ่ นภาคภูมใิ จ 4. วตฺตา จ ให้ค�ำ ปรึกษาได้ พูดให้เข้าใจ พูดให้เกิดผลทีต่ อ้ งการได้ รูจ้ กั กาลเทศะในการพูด 5. วจนกฺขโม มีความอดทน พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ ไม่เบือ่ ไม่ร�ำ คาญ 6. คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา แจกแจงเรื่องยากได้ สามารถอธิบายเรื่อง ซับซ้อน ให้เข้าใจได้ 7. โน จฏฐาเน นิโยชเย ไม่พาไปในทางทีเ่ หลวไหลหรือเสือ่ มเสีย ทำ� 7 ข้อนี้ เราจะเป็นกัลยาณมิตรให้ผอู้ น่ื และเราจะได้เพือ่ นดีแท้ ๆ กลับมา ไม่ต้องไปหาเพื่อนเสมือนกันในโลกไซเบอร์ท่ีจะส่งผลข้างเคียงได้ happy+ ฉบับแห่งการดูแลตนเองฉบับนี้ ก็ขอนำ�วิธีดูแลความเหงาในจิตใจตัวเองนี้ มาฝากนะครับ “ใช้ยาปฏิชวี นะเท่าทีจ่ �ำ เป็น กายจะดี ใช้โซเชียลแต่พอเหมาะ จิตก็จะแกร่งครับ”
ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut http://www.veeranut.com happy+ | 55
นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม
กรรม ของคนญี่ปุ่น ประเทศในฝันที่หลาย ๆ คนอยากไปเที่ยว คงต้ อ งมี ป ระเทศญี่ ปุ่ น เป็ น หนึ่ ง ในนั้ น ผมเอง ก็มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายครั้ง แต่ละครั้งจะ ไปยาวนานมากกว่า 15-30 วัน และทุกครั้งที่ไป ผมก็จะเที่ยวโดยไม่อาศัยบริษัททัวร์ ผมเดินทาง ท่องเที่ยวด้วยตัวเองผ่านพาหนะหลายประเภท ทัง้ รถไฟ รถราง รถบัส รถตู้ จักรยาน และเดิน และ คงเหมือนหลายคนทีท่ อ่ งเทีย่ วด้วยวิธนี ี้ ทีเ่ ราก็จะ แวะดูของ แวะกินอาหารตามเส้นทางทีผ่ า่ น แทบ จะเรียกได้ว่าในช่วงนั้นเราใช้ชีวิตบางด้านเหมือน เป็นคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว การมีโอกาสได้เห็นชีวิตแบบนั้น ทำ�ให้ผมมี โอกาสได้พบเห็นชาวญี่ปุ่นจำ�นวนมากพอสมควร และความแตกต่างบางอย่างที่ผมเห็นได้อย่าง ชัดเจนเมื่อเทียบกับสิ่งที่เห็นในประเทศไทย ก็ได้ สะกิดต่อมสงสัย ทำ�ให้ผมคิดไปเรื่อยเปื่อยในมุม ทีเ่ กีย่ วกับกฎแห่งกรรม แล้วสันนิษฐานออกมาว่า กรรมที่คนญี่ปุ่นกับคนไทยทำ� คงจะแตกต่างกัน พอสมควร หลาย ๆ อย่างในประเทศจึงมีความ แตกต่างกันอย่างที่เห็น เรามามองกันในมุมของ กฎแห่งกรรมดูครับว่า คนญี่ปุ่นเขาน่าจะทำ�กรรม อะไรที่แตกต่างจากคนไทยบ้าง ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้มี ความเข้าใจเกีย่ วกับสังคมญีป่ นุ่ อย่างลึกซึง้ ความ 56 | happy+
คิดเห็นต่อไปนีต้ งั้ อยูบ่ นการสันนิษฐานแบบกว้าง ๆ ตามหลักกฎแห่งกรรม เพศที่สามมีน้อย : ในการเดินทางช่วงแรก ๆ ผมยังไม่สังเกตจึงยังไม่เห็นความแตกต่าง แต่พอ ผ่านไปประมาณ 7-8 วันผมก็เริม่ เห็นความแตกต่าง อย่ า งชั ด เจนว่ า คนที่ เป็ น เพศที่ ส ามที่ ญี่ ปุ่ น มี น้อยกว่าเมืองไทยอย่างมีนัยสำ�คัญ เพราะเวลา อยู่ เมื อ งไทย เราจะพบเห็ น เพศที่ ส ามแทบจะ ตลอดเวลา แต่ที่ญี่ปุ่นผมไม่เห็นเพศที่สามเลย ผมไม่แน่ใจว่าสังคมที่นั่นยอมรับเพศที่สามมาก แค่ไหน แต่หากยึดตามสิ่งที่เห็น การที่เพศที่สาม ที่ญี่ปุ่นมีน้อยกว่าไทยอย่างมีนัยสำ�คัญ ก็ทำ�ให้ เราสันนิษฐานได้ว่า โดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยใน อดีตชาติ (และชาตินี้) ผิดศีลเรื่องการผิดลูกเมีย ผู้อื่น (มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ยังไม่สู่ขอ) มากกว่า คนญี่ปุ่น (มากกว่ามาก ๆ) ด้วยผลกรรมนั้น จึงทำ�ให้ในไทยมีคนเกิดเป็นเพศที่สามจำ�นวน มากกว่า (หมายเหตุ : เป็นมุมมองในด้านกฎแห่ง กรรม ไม่ได้เป็นความคิดเห็นทีจ่ ะตัดสินว่าคนเพศ ไหนดีหรือไม่ดี) ฐานะทีม่ นั่ คง : เมือ่ เทียบกันโดยเฉลีย่ คนญีป่ นุ่ มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีกว่าคนไทยมาก รายได้ เฉลี่ยต่อหัวมากกว่าไทยหลายเท่า หากเราตัด เรือ่ งความขยันและความรับผิดชอบในงานออกไป
ในเรื่องกฎแห่งกรรมเกี่ยวกับเงินนั้น เป็นเรื่องของ การทำ�ทาน ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยทำ�บุญมากไม่ แพ้ชาติใดในโลก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ปรากฏก็คง ทำ�ให้เราสันนิษฐานได้ว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะ คนที่เกิดมาที่ญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยแล้ว ในชาติก่อนคง ทำ�ทานมามากกว่าคนไทย อีกส่วนก็เป็นเพราะในอดีตชาติ (และชาตินี้) คนญี่ปุ่นทำ�บาปในด้านการลักทรัพย์ เช่น ใช้ของ ละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมย คดโกง ปล้น หลอกลวง ลักลอบ ฯลฯ โดยเฉลี่ยน้อยกว่าคนไทย เขาจึงมี ฐานะที่มั่นคงกว่าคนไทย อาหารมีคุณภาพ : เมื่อเทียบกันโดยเฉลี่ย อาหารทีญ ่ ปี่ นุ่ มีคณ ุ ภาพและดีตอ่ สุขภาพมากกว่า ไทยมาก อาหารในร้ า นสะดวกซื้ อ อร่ อ ยและ มี คุ ณ ภาพมากกว่ า ร้ า นอาหารบางร้ า นในห้ า ง สรรพสินค้าบ้านเราเสียอีก หากเราตัดเรื่องความ รับผิดชอบต่อสังคมออกไป แล้วพิจารณาในมุม ของกฎแห่งกรรม ก็จะได้ข้อสันนิษฐานว่า คนที่ เกิดมาที่ญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยแล้ว ในอดีตชาติ (และ ชาตินี้) เคยทำ�บุญด้วยอาหารที่มีความประณีต มีคุณภาพดีมากกว่าคนไทย ในชาตินี้จึงได้กิน อาหารที่ประณีตและมีคุณภาพดีกว่าคนไทย อายุยืน แข็งแรง : ถ้าผมจำ�ไม่ผิด ชาวญี่ปุ่น มี อ ายุ เฉลี่ ย ยื น ยาวที่ สุ ด ประเทศหนึ่ ง ของโลก
และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต่างก็มีสุขภาพที่แข็งแรง หลายคนที่อายุ 80-90 ยังเดินเหินได้คล่องแคล่ว เหมือนอายุสัก 60 ปี บางคนสามารถเดินขึ้นเขา ลงเขาได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจาก การกินอาหารที่ดีกว่าไทย และคนญี่ปุ่นเดินทาง ด้วยการเดินมากกว่าคนไทยทีม่ กั จะไปไหนมาไหน ด้วยรถจักรยานยนต์บ้าง รถยนต์บ้าง แต่ถ้าเรา มองในมุมของกฎแห่งกรรมก็จะสันนิษฐานได้ว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ในอดีตชาติ (และชาตินี้) คนญี่ปุ่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตน้อยกว่าคนไทย ส่วนหนึ่งที่ทำ�ให้คนญี่ปุ่นฆ่าสัตว์น้อยกว่า ก็อาจจะเป็นเพราะบ้านเขาเป็นเมืองหนาว ไม่ได้ มีแมลงต่าง ๆ มากเท่าบ้านเรา จึงมีเหตุให้ฆ่า สัตว์น้อยกว่าเรา (บี้มด ตบยุง ตีแมลงวัน) ใน ขณะเดียวกัน ผมก็สังเกตเห็นว่า เนื้อสัตว์ที่คน ญี่ปุ่นซื้อไปปรุงอาหาร มักจะอยู่ในสภาพที่ตาย แล้ว แม้แต่ในตลาดขายปลาที่เน้นขายเนื้อสด ๆ ก็ จ ะมี สั ต ว์ ท ะเลไม่ กี่ ป ระเภทเท่ า นั้ นที่ เขาขาย แบบที่ยังมีชีวิต ส่วนใหญ่คนขายจะฆ่าตายไป เรียบร้อยแล้ว (คนขายฆ่าสัตว์ แต่คนซือ้ ส่วนใหญ่ ไม่ได้ฆ่าเอง คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้ฆ่าสัตว์ด้วย
ตัวเอง) ในขณะทีค่ นไทยทีไ่ ปตลาดสด (โดยเฉพาะ คนต่างจังหวัด) หลายคนมักจะซื้อกุ้งหอยปูปลา ที่ยังไม่ตายไปฆ่าเองกับมือ เพื่อทำ�อาหาร ซึ่งได้ บาปฆ่าสัตว์ พฤติกรรมดังกล่าวจึงส่งผลกรรม ทำ�ให้คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยที่ตํ่ากว่าและเจ็บป่วย มากกว่าคนญี่ปุ่น การมี โ อกาสได้ ไปท่ อ งเที่ ย วต่ า งประเทศ นอกจากทำ�ให้เราได้สนุกกับการได้ไปเห็น ไป สัมผัสกับประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แล้ว ผมอยากลองเชิญชวนให้ทุกท่านใช้โอกาส ดังกล่าว ลองสังเกตชีวิตและความเป็นไปของ
คนในประเทศนัน้ ๆ แล้วลองคิด ลองสันนิษฐานว่า ในมุ ม ของกฎแห่ ง กรรม คนประเทศนั้ นน่ า จะ ทำ�กรรมอะไรที่แตกต่างจากคนในบ้านเราบ้าง การทำ�แบบนั้นไม่ได้ทำ�ไปเพื่อจะตัดสินว่า คนในประเทศไหนเป็นคนดีหรือคนเลว แต่เป็นการ ทำ�เพือ่ พิจารณาให้เห็นความแตกต่างของผลลัพธ์ จากการกระทำ� ทัง้ ในด้านทีด่ แี ละไม่ดี เพือ่ ให้สงิ่ นี้ ช่วยยํา้ เตือนและกระตุน้ ให้เรามีสติมากขึน้ ทำ�บุญ ละบาปให้มากขึน้ เพือ่ จะได้หลีกเลีย่ งชีวติ ในด้าน ที่ไม่ดี และพบเจอชีวิตในด้านที่ดี ๆ อย่างที่เรา อยากได้ครับ
สอบถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Nutpobtum, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57
wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ
ความรู้สึกดีอาจไม่ใช่สิ่งที่ดี มีบทหนึ่งในหนังสือขายดีชื่อ The Subtle Art of Not Giving a F*ck : A Counterintuitive Approach to Living a Good Life เขียนโดย Mark Manson ชือ่ บท ‘ความสุขคือตัวปัญหา (Chapter 2 : Happiness is a Problem)’ ซึง่ ผูเ้ ขียนไม่ได้เจตนาจะ บอกว่า ความสุขคือตัวปัญหาตรง ๆ ตามชือ่ หรอก ครับ แต่ผู้เขียนต้องการเสนอแนวคิดว่า ทุก ๆ ความสุขเกิดจากการแก้ปัญหา โดยตั้งต้นว่าปัญหาคือ ‘ค่าคงที่’ ในชีวิต ของเรา ทุกก้าวย่างของชีวิตล้วนมีปัญหาให้เรา รับมือ เช่น ถ้าเราแก้ปัญหาสุขภาพด้วยการไป สมัครเป็นสมาชิกฟิตเนส ก็จะเป็นการก่อปัญหาใหม่ ขึ้นมาในชีวิตคือ ต้องหาทางปรับตารางชีวิตให้ สอดคล้องกับการไปฟิตเนส หรือถ้าแฟนบ่นว่า ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเลย แล้วคุณแบ่งเวลาใหม่ ให้ได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น คุณก็จะเจอปัญหาใหม่ ว่า จะทำ�อะไรในช่วงที่อยู่ด้วยกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ทุกครัง้ ทีค่ ณ ุ แก้ปญ ั หาชีวติ ได้ คุณก็จะมีความสุข แต่คุณก็ต้องยอมรับการเกิดขึ้นของปัญหาใหม่ ๆ ที่งอกขึ้นมา และเมื่อมองว่าความสุขเกิดขึ้นจาก การแก้ปัญหา ก็จะมีคุณลักษณะสองประการที่ ทำ�ให้ห่างไกลความสุข 58 | happy+
(1) การปฏิเสธความจริง เพราะทำ�ให้เราหลอกตัวเองได้ครับว่าไม่มีปัญหาอะไร เป็นกลไก คอยเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาไปที่เรื่องอื่น แล้วเราก็จะรู้สึกดีเพราะไม่มีปัญหาอยู่กับตัว (2) วิธีคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่ตลอด เป็นวิธีคิดที่บางคนมักจะเลือกเชื่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ ทัง้ ๆ ทีพ่ วกเขาสามารถทำ�ได้ คนทีต่ ดิ นิสยั มองตัวเองเป็นเหยือ่ ก็มกั จะโทษคนอืน่ หรือโทษสิ่งแวดล้อมว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา โดยไม่มองว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ทั้งสองอย่างล้วนสร้างความรู้สึกดี แต่ผู้เขียนบอกว่า ‘ความรู้สึกดีอาจไม่ใช่สิ่งดี ความรู้สึกแย่ อาจไม่ใช่สงิ่ แย่’ ซึง่ จากแนวคิดของผูเ้ ขียน ทำ�ให้ผมคิดว่ามีความน่าสนใจเมือ่ พิจารณาถึงการแสวงหา ความสุข ในยุคที่เราเสพติดความเร็วและความสะดวก ผมขอยกตัวอย่างปัญหาความอ้วนครับ ถ้าคุณเริม่ มองว่าตัวเองอ้วนเกินไปแล้วทำ�ให้เป็นทุกข์ จึง ไปปรึกษาหมอแล้วได้รบั คำ�แนะนำ�ให้ควบคุมอาหารและออกกำ�ลังกายอย่างต่อเนือ่ ง คุณจะพบว่ามันคือ วิธีการที่เพิ่มภาระให้ชีวิตของคุณ และประการสำ�คัญคือมันต้องใช้เวลานานกว่าที่นํ้าหนักจะลดได้ ดั่งใจ ถ้าตามแนวคิดของ Mark Manson มันก็คือปัญหาใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ดังนั้นเวลาที่คุณเห็นโฆษณาอาหารเสริมหรือยาที่โชว์สรรพคุณว่าลดนํ้าหนักได้รวดเร็ว แล้วคุณ รู้สึกไขว้เขวอยากลองใช้จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะคุณกำ�ลังมองเห็นเป้าหมาย คือความสุขด้วยงาน ที่ง่ายและสะดวกกว่าการควบคุมอาหารและออกกำ�ลังกาย คุณไม่ต้องทุกข์ทรมานกับการอดกินบิงซู หรือทนเมือ่ ยไปเล่นกีฬาทุกเย็น ซึง่ ความสะดวกสบายในการไปสูค่ วามสุข (ผอม) ก็ท�ำ ให้หลายคนมองข้าม ฤทธิ์ข้างเคียงหรือความเสี่ยงจากยาเหล่านั้น ที่อาจสร้างปัญหาใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา (เช่น อาการทาง จิตหรืออันตรายต่อระบบร่างกาย) ความสุขในเรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนการลดความอ้วนครับ เราอยู่ในยุคที่มีกูรูมากมายปรากฏเป็น ตัวเลือกชวนให้มคี วามสุขมากขึน้ ไม่วา่ จะเป็นทางศาสนา เช่น การเข้าวัด ปฏิบตั ธิ รรม, ทางจิตวิทยา เช่น การพบนักจิตบำ�บัดหรือจิตแพทย์, ทางการโค้ชชิ่งของคนที่เป็นไลฟ์โค้ช, ทางไสยศาสตร์ เช่น เข้าพิธี ไล่ทุกข์ ปลุกเสกคาถาอาคม หรือเป็นกูรูที่เขียนเพจจากประสบการณ์มาแบ่งปัน ฯลฯ แทบทุกอย่าง
หาอ่านได้ผ่านหน้าจอ ซึ่งสะดวกขึ้นกว่าคนรุ่นก่อนที่บางครั้งต้องนั่งเรือสำ�เภาข้ามทะเลเพื่อไปพบกูรู แต่ในทางกลับกันของความสะดวกในการตามล่าความสุขยุคนี้คือ เมื่อมี Supply (ผู้นำ�เสนอการสร้าง สุข) มากขึ้น การแข่งขันก็มากขึ้น และเมื่อมีการแข่งขันก็ทำ�ให้กูรูหลายสำ�นักพยายามนำ�เสนอทางลัด สู่ความสุขคือ มีคุณสมบัติแบบยาลดความอ้วนที่ ‘ง่าย’ และ ‘หวังผลได้เร็ว’ ดังนั้นหลาย ๆ คนจึง ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือกูรูจอมปลอมได้ง่ายมาก เพราะคาดหวังว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้เพียง จ่ายเงินแล้วเข้าคอร์สเหล่านัน้ และบ่อยครัง้ เลยทีพ่ อทดลองแล้ว ‘รูส้ กึ ดี’ ก็ตดิ ใจแล้วเสพติดความรูส้ กึ ดี นั้น ๆ แต่มันอาจไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แนวคิดของ Mark Manson อาจไม่ได้ครอบคลุมแนวทางของความสุขทั้งหมด เพราะความสุขก็ ไม่ได้มาจากการแก้ปัญหาเสมอไป แต่ที่เขาเขียนก็มีส่วนที่ถูกต้องคือ ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นอัตโนมัติ โดยที่ไม่ได้ทำ�อะไรเลย และในทุกเส้นทางที่คุณอยากมีความสุข คุณต้องลงมือปฏิบัติ (เช่น คำ�แนะนำ� ทำ�นองว่าจงอยู่กับปัจจุบัน ก็ไม่ใช่ให้นั่งเฉย ๆ แต่คุณก็ต้องลงมือทำ�คือฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบัน) และ ขั้นตอนสำ�คัญที่จะตามมาในปฏิบัติการความสุขคือ เราต้องผ่านการต่อสู้ดิ้นรน อยากมีสุขภาพที่ดี เราต้องดิ้นรนดูแลตัวเอง อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี เราต้องยอมปรับตัวเข้าหา อีกฝ่าย ฯลฯ ดังนั้นสิ่งที่ Mark Manson นำ�เสนอคือ เราควรเลือกการดิ้นรน (Choose Your Struggle) ที่ เราจะอยูก่ บั มันได้ ซึง่ คำ�กล่าวนีไ้ ม่ใช่เฆีย่ นตีท�ำ ร้ายตัวเองนะครับ แต่เวลาคุณมองเป้าหมายทีจ่ ะนำ�ไป สู่ความสุขที่ต้องฟันฝ่าปัญหา คุณก็ต้องมองความลำ�บากระหว่างทางไว้ล่วงหน้า และทริคที่ผมได้มาหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบคือ เมื่อพบคอร์สความสุขที่ดูง่าย ๆ ไม่ต้องดิ้นรน อะไรมาก ก็ควรเอะใจแล้วทบทวนว่า มันคือคำ�สอนของกูรทู ตี่ อ้ งการให้เรามีความสุขทีแ่ ท้จริง หรือเป็น เพียงแนวทางทีท่ �ำ ให้เรารูส้ กึ ดี จากการเป็นคนติดนิสยั หนีปญ ั หากับโทษคนอืน่ ตามทีห่ นังสือเล่มนีว้ า่ ไว้ เช่น สมมุตวิ า่ คุณกำ�ลังทุกข์ใจในการอยูร่ ว่ มกับเพือ่ นทีท่ �ำ งาน เพราะถูกเพือ่ นนินทาลับหลัง คำ�แนะนำ� ที่บอกว่า “อย่าไปแคร์คำ�พูดคนอื่น ให้มองแต่เรื่องดี ๆ เพิ่มพลังบวกในตัวเอง” หรือคำ�แนะนำ�ว่า “ก็
พวกนั้นคงโตมากับจิตคิดลบ ชีวิตพวกนั้นคงไม่มี อะไรดีจึงอิจฉาเราแล้วนินทาเรา” คือแนวทางใน การเบี่ยงเบนไม่มองปัญหาและโทษคนอื่นโดย มองว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อ ถ้าคุณทำ�ตามคำ�แนะนำ�ข้างต้นซํ้า ๆ พูด ยํ้ากับตัวเองด้วยวิธีดังกล่าวบ่อย ๆ จะทำ�ให้คุณ หายทุกข์ได้เร็วจริง คุณรู้สึกดีขึ้นเร็วจริง แต่ไม่ใช่ การแก้ปัญหา หากคุณไม่ได้ทบทวนว่าเพราะ อะไรเพื่อนถึงนินทาเรา เรื่องที่เขาพูดถึงเป็นจริง หรือเท็จ และถ้าเป็นจริงตามนั้น เราควรปรับปรุง ตัวเองมากน้อยแค่ไหน เพราะความสุขอาจจะเกิด ขึ้นได้จากการปรับปรุงตัว การพยายามทำ�ความ เข้าใจคนอื่นให้มากขึ้น การสละเวลาส่วนตัวทำ� เพื่อส่วนรวมมากขึ้น ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะ ยากกว่าและเห็นผลช้ากว่าการรีบด่วนสรุปบอก ตัวเองว่า ‘เพื่อนคิดลบ ก็คงโตมากับการคิดลบ’ แต่ในระยะยาวมันสามารถสร้างความสุขที่ยั่งยืน เพราะเราจะมองโลกได้ตามจริงและไม่ประสบ ปัญหาที่ทำ�ให้ทุกข์ในแบบเดิม ๆ
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59
ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ
สงกรานต์แสนสนุก 2 ฉ บั บ ที่ แ ล้ ว ผมเล่ า ถึ ง ช่ ว งวั น หยุ ด ยาว สงกรานต์ ที่ ผ่ า นมาปี นี้ ว่ า ผมมี ภ ารกิ จ ที่ ไ ม่ คาดหมายเกี่ ย วกั บ คุ ณ แม่ อ ายุ 91 ปี ที่ เริ่ ม มี อ าการหลงลื ม และป่ ว ยอยู่ บ้ า นที่ จั ง หวั ด พระนครศรี อ ยุ ธ ยา แม่เบื่ ออาหาร ไม่ กิ นข้ า ว และจะนอนท่าเดียว จนครอบครัวของพี่สาวซึ่ง เป็นหมอทั้งครอบครัวจะมาพาไปโรงพยาบาล เนื่องจากตรวจเลือดแล้วพบว่าโซเดียมตํ่า แต่แม่ ก็ไม่ยอมไป พี่สาวคนกลางของผมซึ่งเป็นหมอตั้ง สมุฏฐานว่า เกิดจากการที่พอแม่ไม่กินข้าวกินกับ ก็ขาดเกลือหรือโซเดียม จึงพยายามให้ผมซึ่งเป็น ลูกชายคนเล็ก หาทางชวนแม่มากินข้าวให้ได้ เมื่อพี่สาวหมอของผมแกะถุงกับข้าวใส่ถ้วย จานเรียบร้อย ผมก็พยายามชวนแม่ไปกินข้าว เสียหน่อย อธิบายให้แม่ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนอย่างเป็นเหตุเป็นผลว่า หลาน ๆ หมอ ตรวจเลือดให้แล้วโซเดียมตํ่า แสดงว่าต้องกิน อาหารเติ ม เข้ า ไป ไม่ อ ย่ า งนั้ น อาจจะต้ อ งไป โรงพยาบาล แม้วา่ แม่จะไม่รสู้ กึ ว่าป่วยไข้อะไร แม่ มองผมอย่างเบื่อ ๆ เมื่อพูดถึงโรงพยาบาล แล้ว ทำ�ท่ายอมลุกขึน้ ผมยกถุงนํา้ เกลือทีโ่ ยงสายเสียบ เข็มไว้ที่แขนแม่ออกจากเสา ที่ใช้ราวตากผ้ามา 60 | happy+
ประยุกต์แขวนไว้ แล้วพาเดินออกไปยังโต๊ะอาหาร พีส่ าวผมอาสาจะถือถุงนํา้ เกลือชูไว้ โดยไม่ให้เอา อะไรมาแขวนให้แม่รสู้ กึ วุน่ วาย โดยมอบหมายให้ ผมกินข้าวเป็นเพื่อนแม่ เรียกหลาน ๆ มาร่วมโต๊ะ กันเต็มไปหมด พี่สาวคนโตและสามีมาร่วมกิน ด้วย ผมจำ�ไม่ได้ว่ากับข้าวมื้อนั้นมีอะไรบ้าง แต่ก็ พยายามตักของรสเผ็ด เค็มให้แม่และตัวเอง เพื่อ จะกินไปด้วยกัน ก็เน้นเติมโซเดียมนี่นา ผมทำ�ให้ แม่กินข้าวไปหมดถ้วยเล็ก ๆ และกินขนมต่อ อีกนิดหน่อย ก่อนจะพาแม่ไปนอนพัก ผมนั่งข้างเตียงแม่ชวนคุยเรื่องอดีต ที่แม้แม่ จะหลงลืมเรื่องที่เพิ่งพูดไปและวนซํ้า แต่แม่จะจำ� เรื่องอดีตในวัยเด็กได้แม่นยำ� ผมชวนแม่คุยถึง สภาพสังคมสิง่ แวดล้อมตอนเด็กทีแ่ ม่เกิดทีอ่ ำ�เภอ บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่เล่า แม่นยำ�ว่า บ้านที่แม่เกิดเป็นตลาดที่คึกคัก เป็น ท่าข้ามแม่นํ้าลพบุรี ปัจจุบันที่ดินตรงนั้นตกทอด มาถึงผม ไม่มีสภาพอะไรอย่างที่แม่เล่าอดีตที่ ย้อนไปเกือบร้อยปี ผมเพิ่งจะจ้างรถไถและคน รับจ้างตัดหญ้ามาเคลียร์ป่ากระถินดงรกออกไป ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นตลาดหรือชุมชน มีกระท่อม หลังเล็กที่ผมไปปลูกไว้ไปเที่ยวเล่นพักผ่อนริมนํ้า
และเพื่อนบ้านอีกสองหลัง แม่เล่าว่าตาของแม่เป็นกำ�นัน คนเขาเรียก กันว่ากำ�นันทองสุข มีอาชีพเก็บภาษีอากรส่ง ทางการ คนเขาเรียกตาว่าก๋งสุข บ้านหลังใหญ่ อยูร่ มิ นํา้ เวลาเก็บเงินได้กใ็ ช้วธิ ซี อ่ นไปกับเรือขาย หมาก แม่เป็นหลานตาทีเ่ กิดกับลูกสาวคนสุดท้อง ทีม่ คี นจีนจากเมืองอยุธยามาแต่งงานเปิดร้านขาย เสือ้ ผ้า และรํ่ารวยซือ้ ที่ดนิ ทีว่ ่าไว้สองไร่ ให้คนเช่า ปลูกบ้าน และปลูกห้องแถวไม้ แม่ไล่ชอื่ คนมาเช่า ห้องแถวและบ้านอย่างแม่นยำ� บอกว่าห้องแรกเขา ทำ�หมู ไปซือ้ หมูมาฆ่าทุกวันเสียงร้องโหยหวนติดหู ตอนเช้าและแบ่งเนือ้ ขาย แม่เล่าว่าพอโตขึน้ ก็ตอ้ ง ไปพายเรือรับจ้างพาคนข้ามฟาก ค่าจ้างตอนนั้น เมือ่ ราว ๆ แปดสิบกว่าปีทแี่ ล้ว ได้เทีย่ วละสีส่ ตางค์ แม้ที่บ้านฐานะดี แต่ก็ต้องช่วยกันทำ�งาน ที่ดิน บ้านเก่าแม่มีคนเคยมาเช่าทำ�โรงหนัง เป็นโรงไม้ แต่เอาหนังมาฉายกลับเป็นหนังฝรั่งที่ไม่มีเสียง ไม่มีคนพากย์ แน่นอนว่าเป็นหนังขาวดำ� คนก็ดู ไม่รู้เรื่อง ทำ�อยู่ไม่นานก็เจ๊ง ต่อมามีคนมาเช่าต่อ เป็นบ่อนตีไก่ อันนี้รู้สึกกิจการจะเจริญรุ่งเรืองดี แม่เล่าว่าครอบครัวของแม่ดูมีฐานะอยู่ไม่ นาน ก็เข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อาชีพ
รูปจาก https://www.youtube.com/watch?v=CuIj7G3vmDU
เตี่ยของแม่ที่ไปรับเสื้อผ้าจากตลาดในเมืองพาย เรือกลับมาขายก็มีปัญหา เพราะไม่มีเสื้อผ้าเข้า มาได้ ผู้คนยากจน เดือดร้อนขาดแคลนของใช้ไป หมด แม่เล่าว่าครอบครัวมีหนีส้ นิ จนต้องขายทอง ทีเ่ ป็นสมบัตเิ ก่าแก่ของตา แม่เล่าว่าแม่ของแม่เอา คีมมาตัดสร้อยทองขายเป็นข้อๆ แม่เล่าเรือ่ งทีพ่ ชี่ ายของแม่พาไปเรียนหนังสือ ในเมืองอยุธยาที่โรงเรียนประจำ�จังหวัด ซึ่งเป็น เรื่องที่ทำ�ได้ยากมากในสมัยนั้น ไปฝากไว้อยู่กับ ญาติหา่ ง ๆ ทีม่ บี ญ ุ คุณกันต่อมา แม่ได้ไปเรียนถึง วิทยาลัยครูในกรุงเทพฯ เรียนจบประกาศนียบัตร ครู จ ากสวนสุ นั น ทาที เดี ย ว ท่ า มกลางภาวะ สงครามโลก วิทยาลัยมีระเบิดลง ต้องย้ายนักเรียน ไปเรียนที่จังหวัดปทุมธานี จนกระทั่งเรียนจบ อยากเรียนต่อจุฬาฯ ที่สมัยนั้นถ้าไปสมัครก็คงได้ แต่ไม่มีเงินเรียนและมีคนแนะนำ�ให้กลับไปดูแล น้อง ๆ ที่มีอีกหกคน แม่กลับมาเป็นครูที่โรงเรียนวัดนาค แต่ต้อง ไปเป็นครูใหญ่สร้างโรงเรียนวัดใกล้ ๆ บ้านตั้งแต่ สาว ๆ เพราะเรียนจบมีวุฒิมาจากกรุงเทพฯ หลัง จากนั้นแม่ก็เล่าว่าแต่งงานกับพ่อ ที่เป็นคนต่าง อำ�เภอมาเป็นเสมียนอยูท่ ที่ วี่ า่ การอำ�เภอ ก่อนแม่ จะชักนำ�ให้ไปเป็นครูและหาช่องทางให้สมัครเป็น
ศึกษาอำ�เภอในอำ�เภอกันดารไกลแถวป่าลพบุรี ก่อนกลับมาย้ายไปเป็นศึกษาอำ�เภอที่อีกอำ�เภอ หนึ่งใกล้ ๆ บางปะหันชื่ออำ�เภอนครหลวง แล้ว แม่ก็หอบลูกสาวคนโตย้ายไปอยู่ที่นั่นอีกครึ่งชีวิต ผมเห็นแม่เล่าเรื่องจนเหนื่อย แต่ก็ดูมีชีวิต ชีวาเมื่อเล่าถึงอดีตก็บอกให้หลับพักผ่อน ก่อน ออกมาหารือกับพีส่ าวว่า ถ้าแม่กนิ ได้ คุยได้ นอน หลับก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล พี่สาวที่เป็นหมอก็ มาอยู่ด้วย พยายามให้กินเยอะ ๆ สองสามวัน ดีกว่า ส่วนเรื่องโซเดียมตํ่าเป็นอะไรมากค่อยไป โรงพยาบาล ผมไม่ได้อยู่ค้างที่บ้าน แต่ขับรถมานอนที่ กระท่อมริมนํ้าบางปะหันพื้นที่อดีต ที่มองย้อน เรื่องกลับไปเกือบร้อยปีของแม่ คืนนั้นผมนั่งมอง ที่ดินเก่าแก่ของแม่ ที่ผมมาดูแลด้วยเรื่องราวที่ ผุดพรายภาพขึ้นมา ก่อนปะติดปะต่อการพัฒนา ทีถ่ นนมาแทนทีแ่ ม่นาํ้ คนใช้รถแทนใช้เรือ บ้านมีนาํ้ ประปาก็ไม่ต้องมาอาบนํ้าที่ตีนท่าแม่นํ้า และคน ที่เช่าที่ก็ออกไปอยู่ริมถนนกันแทน วนั รุง่ ขึน้ พีส่ าวคนโตของผมทีเ่ ป็นข้าราชการ ครู เ กษี ย ณกั บ พี่ ส าวคนกลาง ที่ เป็ น หมอเพิ่ ง เกษียณก็ขบั รถพาแม่มาเทีย่ วกระท่อมในทีด่ นิ เก่าแก่ ผมถือโอกาสไปเตรียมอุปกรณ์ให้แม่มกี จิ กรรมทำ�
โดยการไปไหว้ศาลเจ้าเก่าแก่ทมี่ มี าก่อนแม่จะเกิด แม่ ม าพร้ อ มแก้ ว นํ้ า มะนาวที่ พี่ ส าวหมอผมใส่ เกลือมาเค็มนำ�เพื่อเติมโซเดียมให้แม่ ผมทราบ ว่าแม่จะมาก็ไปซื้อกับข้าวมาทำ�ให้แม่กินกลาง วั น ผมพยายามนึ ก ว่ า แม่ ช อบทำ � อะไรให้ ผ ม กินตอนเด็ก คิดได้อยู่เมนูหนึ่งที่ตัวเองแสนจะ ไม่ ช อบ ก็ คื อ ต้ ม เห็ ด ฟาง ที่ แม่ พ ยายามบอก เราว่ามันอร่อยแม้ไม่ใส่อะไรเลย ต้มเห็ดกับนํ้า และปรุงรสด้วยเกลือเท่านั้น ผมนึกถึงรสชาติ ที่ตัวเองไม่ชอบตอนเด็ก ๆ ว่าเป็นอย่างไร แล้ว ลองต้มดู แปลกที่รสชาติที่จำ�ได้ตอนเด็ก ๆ กลับ เป็นรสชาติที่อร่อยขึ้นมาได้ ผมซื้ออาหารจาก ตลาดบางปะหันที่แม่น่าจะกินได้แบบมีรสชาติ ทีแ่ ม่ชอบคือ แกงขีเ้ หล็กเละ ๆ นํา้ พริกขีก้ ากับผักต้ม ซื้อห่อหมกปลามาอีกห่อ เพราะจำ�ได้ว่าแม่ชอบ กิน พอถึงเวลาเที่ยงผมหุงข้าว และตักต้มเห็ด ใส่ถ้วย เอาแกงขี้เหล็กถุงมาเท ชวนแม่นั่งกิน ข้าวแบบบ้าน ๆ ไม่มีผัดผัก ต้มจืดแบบสมัยใหม่ ปรากฏว่าการจัดอาหารของผมได้ผล แม่กินข้าว ได้หมดจานและซดนํ้าต้มเห็ดจนหมดถ้วย ผ มทบทวนชี วิ ต ว่ า เคยทำ � อะไรแบบนี้ ให้ แม่บ้างหรือเปล่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา คำ�ตอบที่ ทบทวนได้คือ ไม่เคยทำ�เลย... ผมมองต้มเห็ดนํ้า ใส ๆ ที่แม่กินหมดถ้วยด้วยความสุขอย่างบอก ไม่ถกู แต่งานยากคือ พยายามให้แม่กนิ นํา้ มะนาว เค็ม ๆ ของพี่สาวให้หมด ช่วงไปซื้อของที่ตลาดผมพบฝักมะรุมกำ�โต ที่หลงฤดูมาขายได้อย่างไรก็ไม่รู้ จึงซื้อมาเก็บไว้ พลางคิดถึงเมนูเด็ดที่แม่น่าจะชอบคือ แกงส้ม มะรุม วันรุ่งขึ้นผมยกหม้อแกงส้มรสชาติจัดจ้าน แบบของผม ซึ่งไปเรียนรู้มาจากที่อื่น ไปฝากแม่ และพี่ ๆ ปรากฏว่าแม่ซดนํ้าแกงส้มเปรี้ยวเค็มจี๊ด ของผมจนหมดถ้วย กินข้าวได้มากมาย เป็นอันว่า ผมได้เติมโซเดียมให้แม่อีกจนเต็มเพราะแกงส้ม หม้อใหญ่นั้นเป็นกับข้าวที่ทำ�ให้แม่กินข้าวอย่าง เอร็ดอร่อยมาอีกสองสามวัน แม้สงกรานต์ที่ผ่านมา ผมจะไม่ได้พักผ่อน วาดรูปสีนา้ํ ฟังเพลงอย่างทีต่ ง้ั ใจ แต่การทีไ่ ด้ตม้ เห็ด ซื้อแกงขี้เหล็ก ทำ�แกงส้มมะรุมให้แม่กินเพื่อเติม โซเดี ย ม และเติ ม เต็ ม ชี วิ ต ให้ ผ มกั บ แม่ ก็ เป็ น สงกรานต์ที่พิเศษกว่าทุกปี แม่อายุกว่าเก้าสิบแล้ว ผมไม่รวู้ า่ จะมีอกี กีป่ ี กี่สงกรานต์ที่แม่จะยังมีชีวิต และเจ็บป่วยให้พวก เราได้มารวมกันดูแล แต่ผมบันทึกไว้ในชีวิตแล้ว ว่าต้มเห็ดและแกงส้มมะรุม ของผมเมือ่ สงกรานต์ ปีนี้ มันช่างเป็นอาหารทีว่ เิ ศษทีส่ ดุ เท่าทีผ่ มเคยทำ� มาเลยทีเดียว happy+ | 61
take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา
นอนหลับไม่เพียงพอ ปัญหาแม่พ่อลูกเล็ก ก่อนการมาถึงของสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ภายในบ้าน หลายคนอาจจะเตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้าของใช้เด็ก เตรียมเรื่องอุปกรณ์ทำ�ความสะอาด หรือของใช้เกี่ยวกับการให้นมเด็ก แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึงก็คือ “การวางแผนการนอน” และนั่นนำ�มาซึ่งความวุ่นวายทั้งทางตรง ทางอ้อมอีกหลายประการ
62 | happy+
ไม่ใช่แค่แม่ที่นอนไม่พอ แต่พ่อก็โดนด้วย
ความจริงต้องเรียกว่าทุกคนทีอ่ ยูใ่ นห้องนอนนัน้ จะนอนไม่พอไปพร้อม ๆ กันดีกว่า โดยแม่มักจะนอนไม่พอมากที่สุดโดยเฉพาะกรณีที่แม่ให้นมจาก เต้าของตนเองโดยตรง เพราะว่าในแต่ละครั้งที่ตื่นขึ้นมา ก็จะต้องให้นมและ จับเรอรวมเป็นเวลา 20-30 นาที และสำ�หรับพ่อ แม้ในกรณีที่ไม่ได้ทำ�หน้าที่ เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือป้อนนม แต่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ก็จะถูกรบกวนการ นอนจากเสียงร้องหรือการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งหากพ่อไปทำ�งานตามปกติก็ มักจะไม่ได้นอนกลางวัน ทำ�ให้อดนอนไปด้วยเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ในครอบครัวอาจจะ แย่ลงในช่วงนี้
ก่อนจะเริ่มเลี้ยงแม่ก็หลับไม่พอแล้ว
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกของการคลอดกับคุณแม่ทั้งหลาย แม้จะยังไม่ได้เลี้ยงลูกก็คือ ความเจ็บปวดและความเครียด เพราะเมื่อมี การคลอดก็จะมีบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดคลอดหรือการคลอดทาง ช่องคลอด ล้วนเกิดความเจ็บปวดตามมาทั้งสิ้น และบรรดาแม่ ๆ ก็ไม่ค่อย อยากใช้ยาแก้ปวด เพราะกลัวจะผ่านไปในนํา้ นม ดังนัน้ พอปวดแผล การจะ ลุกยืนเดินไปเข้าห้องนํ้าก็ลำ�บาก นอนหลับอยู่ก็ตื่นมาเพราะเจ็บปวดได้ง่าย
วงจรการนอนของเด็กและผู้ใหญ่ไม่ไปด้วยกัน
หลายคนได้ข้อมูลมาว่า เด็กแรกเกิดต้องการการนอน 12 ชั่วโมงต่อวัน เลยคิดว่าช่วงแรกน่าจะสบาย แต่ในความเป็นจริงหลังจากเริ่มเลี้ยงลูก ไปได้สักพัก สิ่งที่พ่อแม่จะประสบเหมือนกันคือ ลูกน่ะนอนมากจริง ๆ แต่ก็ ตื่นบ่อยมากเช่นกัน โดยเด็ก ๆ ชอบตื่นมากวนกลางดึก น้อยหน่อยก็ตื่นมา ดูดนมแล้วหลับต่อ หนักหน่อยก็ตนื่ ขึน้ มาร้องไห้จนแม่หรือพ่อต้องจัดการอุม้ กล่อมสักพักกว่าจะได้นอน ซึ่งพอผ่านไปนาน ๆ จะรับรู้ได้ว่าเด็กดูไม่เพลีย เลย ทั้งที่ตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อย ๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะวงจรการนอนของเด็กและผู้ใหญ่ไม่เหมือนกัน โดย เวลาคนเรานอนหลับจะมีช่วงของการหลับตื้นและหลับลึกสลับไปมา โดย ในแต่ละรอบช่วงหลับลึกของทั้งเด็กและผู้ใหญ่มักจะอยู่ที่ราว 10-15 นาที ซึ่งในผู้ใหญ่วงจรครั้งหนึ่งตกอยู่ที่ประมาณ 90 นาที จึงจะมีช่วงหลับลึก 1 ครั้ง แต่ในเด็กทารกแรกเกิด วงจรการนอนสั้นกว่าเพียง 45-50 นาทีเท่านั้น ดังนั้นจึงมีโอกาสที่เด็กอาจจะหลับลึกไปแล้ว 2-3 รอบ ในขณะที่พ่อแม่หลับ ลึกไปครั้งเดียวแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมา
เมื่ อ เกิ ด การนอนไม่ พ อขึ้ น สิ่ ง ที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ความง่ ว ง ซึ่ ง ในกรณี ที่ ไ ด้ ห ยุ ด อยู่ บ้านก็อาจจะพอไหว เพราะว่าได้แอบ หลับนอนงีบบ้าง แต่หากไปทำ�งาน แล้วตามปกติความง่วงแต่ไม่ได้นอน จะทำ�ให้ เ กิ ด ผลตามมาหลายอย่ า ง เช่น อารมณ์ไม่ดี ประสิทธิภาพใน การทำ�งานแย่ลง ถูกที่ทำ�งานบ่นว่า แล้วย้อนกลับมาเป็นความเครียดใน ครอบครัว งานวิจัยบางชิ้นพูดถึงเรื่องนี้ใน หลากหลายประเด็น เช่น เมื่อมีการ อดนอน ความอดนอนจะทำ�ให้คู่สามี ภรรยาไม่พอใจอีกฝ่ายง่ายขึ้น เช่น รู้ สึ ก ว่ า อี ก ฝ่ า ยนอนมากกว่ า ขณะที่ ตนนอนน้อยกว่า, รับรู้อารมณ์ความ รู้ สึ ก ของอี ก ฝ่ า ยผิ ด ไป, การสื่ อ สาร ทั้งการใช้ภาษา สีหน้า ท่าทาง ผิด ไปจากปกติ ทำ�ให้ความสัมพันธ์แย่ ลงได้ นอกจากนี้การอดนอนยังทำ�ให้ อารมณ์ทางเพศลดลง ทำ�ให้ความ สัมพันธ์ทางเพศทีเ่ คยมีกอ่ นการคลอด หายไป ยิง่ ทำ�ให้ทกุ อย่างแย่ลงไปใหญ่ happy+ | 63
แล้วเราจะแก้อย่างไร
อาการซึมเศร้าถามหา
สำ�หรับมารดาที่คลอดใหม่ ๆ จะมีความเสี่ยงเกิดภาวะ ซึมเศร้าหลังการคลอดอยู่แล้วทุกคน ซึ่งเจ้าการอดนอนจะทําให้ อาการซึ ม เศร้า นี้ เ กิด ง่ า ยขึ้ นไปอี ก และเมื่อเกิ ดอาการขึ้ นมา บางครัง้ คนทีอ่ ยูร่ อบข้างก็อาจจะไม่ทนั คิดถึงว่าเป็นอาการซึมเศร้า แต่คิดไปว่าเป็นอาการง่วง สำ�หรับฝั่งสามีเอง บางงานวิจัยก็พบว่า เกิดอาการซึมเศร้า ได้เช่นกัน ซึง่ นอกจากส่งผลโดยตรงต่อตัวฝ่ายชายแล้ว ทัง้ อาการ ซึมเศร้าและการอดนอนก็จะทำ�ให้คนที่เป็นไม่ทันได้สังเกตว่า อีกฝ่ายก็กำ�ลังแย่เหมือนกัน
ลูกที่โตกว่าก็โดนไปด้วย
ในครอบครัวที่มีลูก ๆ อายุห่าง กันไม่มาก เด็ก ๆ ก็พลอยได้รับผล กระทบไปกับการนอนไม่พอด้วย ทั้ง ทางตรงทางอ้อม ทางตรงก็คือ เวลา น้องร้องไห้ขึ้นมา พี่ก็จะพลอยตื่นหรือ นอนไม่พอไปด้วย ซึง่ ถ้าหากคนพีต่ อ้ ง เข้าโรงเรียนแล้วก็จะทำ�ให้ไปเรียนแบบ ง่วงนอนและเกิดปัญหานอนไม่พอได้ และผลทางอ้อมทีบ่ างคนอาจจะ นึกไม่ถึงก็คือ พ่อแม่ที่นอนหลับพัก ผ่อนไม่เพียงพอ มักจะมีนํ้าเสียงและ ใบหน้าที่เรียบเฉยหรือทำ�หน้าเพลีย เศร้าทั้งวัน รวมถึงอาจจะใส่ใจลูกอีก คนน้อยกว่าปกติ หงุดหงิดง่ายขึ้น ส่ง ผลให้ลูกที่โตกว่าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ขึ้น พ่อแม่ถึงเปลี่ยนไปจากเดิม และ อันตรายที่น่ากลัวที่สุดของการนอน ไม่พอก็คือ การเกิดอุบัติเหตุ เพราะ ไม่ ว่ า จะเป็ นการหลั บ ในขณะขั บ รถ ทำ�กับข้าว ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งการ หลับเพียงวูบเดียว ก็เกิดเรื่องร้ายแรง ตามมาได้ทันที
64 | happy+
1. หาคนช่วยเลี้ยง : ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยเลี้ยงในตอนกลางคืน มาช่วยเฉลี่ย การอดนอนไป หรือจะเป็นคนช่วยเลีย้ งตอนกลางวัน เพือ่ ให้แม่ได้พกั และไปทำ�กิจวัตร ประจำ�วันบ้าง เพราะบ่อยครัง้ กลางวันพอต้องดูแลลูกไปด้วย การจะอาบนํา้ เข้าห้องนํา้ ทำ�กับข้าว ก็จะทำ�ได้ยากขึน้ เบียดบังเวลานอนเข้าไปอีก การมีคนมาช่วยเลีย้ งจะช่วย ให้พ่อแม่ได้พักมากขึ้น 2. งดคนมาเยี่ยม : เวลาคลอดเสร็จใหม่ ๆ แล้วกลับไปอยู่บ้าน สิ่งที่น่ากลัวคือ การมาเยีย่ มของเพือ่ นฝูงญาติมติ ร เพราะว่าครอบครัวทีต่ อ้ งดูแลเด็กอ่อนมักจะต้องเสีย เวลาในการต้อนรับพูดคุย แทนที่จะเอาเวลาไปนอนกลับกลายเป็นต้องมาต้อนรับแขก 3. เปลี่ยนเวรผลัดกันดูแล : หลังจากอดนอนกันได้ระยะหนึ่ง อาจจะต้องปรับตัว และจัดแบ่งกันว่าใครจะตืน่ ช่วงใดในช่วงกลางคืน ในกรณีทแี่ ม่ไม่สามารถทนการลุกมา ให้ลูกดูดนมได้ อาจจะต้องปั๊มนมแล้วให้คุณพ่อเอานมที่เก็บไว้มาป้อนแทน 4. ให้คนอื่นช่วยงานบ้าน : เลี้ยงลูกก็หนักอยู่แล้ว ถ้าหากต้องมาทำ�งานบ้านไป ด้วยเลี้ยงไปด้วย ก็จะทำ�ให้เหนื่อยขึ้น ซึ่งการหาคนมาช่วยก็อาจจะมาทั้งในรูปแบบ การให้ญาติพี่น้องมาช่วย หรือในรูปแบบการจ้าง เช่น การจ้างซักรีด จ้างแม่บ้าน ทำ�ความสะอาด การจ้างล้างรถ หรือในกรณีที่หาไม่ได้จริง ๆ งานบางอย่างปล่อยวาง ได้ก็ปล่อยไป เช่น อาจจะยอมปล่อยให้รถฝุ่นจับหนา ปล่อยต้นไม้ในสวนให้งอกงาม รกทึบ หรือปล่อยบ้านให้รกสุด ๆ ไปเลย รอให้ลูกโตสัก 4-5 เดือนนอนมากขึ้นแล้ว ค่อยจัดการทีเดียวก็ได้ 5. นอนเมื่อมีโอกาส : ความพลาดของพ่อแม่มือใหม่คือ เมื่อกล่อมลูกจนเคลิ้ม ๆ แล้วก็โล่งอก จากนัน้ ก็อาจจะหยิบเครือ่ งมือสือ่ สารมากดอ่าน หยิบหนังสือมาอ่านหรือ เปิดทีวี เพราะคิดว่าไหน ๆ ก็ตนื่ ขึน้ มาแล้ว ซึง่ นัน่ คือความผิดพลาดใหญ่หลวง เพราะว่า พอทำ�นั่นนี่เสร็จแล้วจะกลับไปนอน ลูกก็ตื่นรอบใหม่พอดี 6. หาสาเหตุนอนไม่หลับนอนไม่พออย่างอืน่ : ช่วงหลังคลอด พ่อแม่มอื ใหม่บางคน พบว่าตนเองนอนหลับยากขึ้น จากเหตุที่ไม่เกี่ยวกับลูก เช่น เครียด, เปลี่ยนสถานที่ (ไปอยู่บ้านพ่อแม่), มีเสียงรบกวน โดยเฉพาะการไปอยู่บ้านพ่อแม่หรือการพยายาม นอนกลางวัน, การปรับเครือ่ งปรับอากาศให้อณ ุ หภูมสิ งู เพราะกลัวลูกหนาว, หรือแม้แต่ นํ้าหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก่อนคลอดของมารดาทำ�ให้เกิดนอนกรน ดังนั้นหากนอนไม่พอ มากเข้า อาจจะต้องหาสาเหตุอื่นร่วมไปด้วย 7. ฝึกหัดการนอน : ก่อนคลอดควรเตรียมตัวไว้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไร ควร ฝึกหัดการนอนให้นอนไวขึ้น 8. จับเรอทุกครั้งที่ป้อนนม : เด็กแรกเกิดมีทางเดินอาหารที่ทำ�งานได้ไม่ดีนัก เมื่อ มีลมดูดเข้าไปพร้อมกับนมจะทำ�ให้เกิดอาการท้องอืดและปวดท้อง ร้องกวนได้ ดังนั้น ควรจับเรอหลังป้อนนมเสมอ 9. อย่ายึดติดกับวิธีเลี้ยง : ปัญหาใหญ่ของการเลี้ยงดูลูกคือ จะมีคำ�แนะนำ�จาก รอบด้านทีถ่ าโถมเข้ามา ซึง่ หลายครัง้ คำ�แนะนำ�เหล่านัน้ แถมมากับการทีพ่ อ่ แม่จะต้อง เหนือ่ ย อดนอนและเครียดมากขึน้ ดังนัน้ ถ้าหากไม่ใช่เรือ่ งทีส่ �ำ คัญจริง ๆ เราควรเลือก วิธีเลี้ยงที่เหมาะกับครอบครัวของเราจะดีที่สุด 10. ลดความถี่การป้อนนมเมื่อลูกอายุมากขึ้น : เมื่อเด็กอายุ 4-6 เดือน เราจะเริ่ม ปรับความห่างของการให้นมได้มากขึ้น 11. อย่าหางานอื่นมาทำ�เพิ่ม : บางคนพอกำ�ลังจะคลอดเห็นว่าตัวเองดูแลลูกได้ ก็เลยรับงานบางอย่างมาทำ�ที่บ้าน โดยไม่รู้มาก่อนว่า การเลี้ยงลูกนั้นหนักแค่ไหน ทำ�ให้เครียดเพราะทำ�งานไม่ทันทับถมเข้ามาอีก 12. วางแผนตั้งแต่ก่อนคลอด : การเตรียมตัวทั้งหมดทั้งปวงนี้ ควรทำ�ตั้งแต่เริ่ม รูต้ วั ว่าตัง้ ครรภ์และกำ�ลังจะมีสมาชิกใหม่ วางแผนเอาไว้วา่ หลังสมาชิกใหม่เข้ามาแล้ว เราจะใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างไร ใครมีหน้าที่ทำ�อะไรบ้าง เพราะเมื่อถึงเวลาจริง ๆ เรา อาจจะไม่มีเวลาไปคิดหรือเตรียมตัวแล้ว
เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a
อาการไบโพลาร์
Q A
อาการไบโพลาร์เกิดจากอะไรคะ สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ อย่างไร
โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง มีชื่อ เรียกภาษาไทยว่า โรคอารมณ์สองขัว้ ทีไ่ ด้ชือ่ เช่นนีเ้ นือ่ งจากอาการของโรค ไบโพลาร์จะแสดงออกมาให้เห็นว่า คนคนเดียวสามารถมีอารมณ์แตกต่างได้ อย่างสุดขัว้ ทัง้ ในด้านของอารมณ์ซมึ เศร้า (Depression) เช่น นอนร้องไห้ ไม่ สามารถทำ�งานได้ ไม่อยากทำ�หน้าที่ตนเอง พยายามฆ่าตัวตาย ฯลฯ สลับ ไปมากับอารมณ์คลุ้มคลั่ง (Mania) เช่น ใช้จ่ายมากผิดปกติ อารมณ์ดีผิด ปกติ ใช้จา่ ยเงินมากกว่าเดิม ซึง่ หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเมือ่ คนเราป่วยเป็น โรคทางจิตเวชนัน้ จะต้องพูดคุยไม่รเู้ รือ่ งเสมือนหลุดออกจากความเป็นจริง แต่สำ�หรับโรคนี้แล้วความผิดปกติจะตกไปอยู่ในส่วนของอารมณ์เป็นหลัก สาเหตุของอาการไบโพลาร์นนั้ ยังไม่เป็นทีท่ ราบชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ ก็เชื่อว่ามีหลายปัจจัยที่ทำ�ให้เกิดภาวะอาการดังกล่าวครับ ตัวอย่างเช่น ปัจจัยทางด้านชีวภาพ ทีม่ กี ารพบความเปลีย่ นแปลงของสมองในผูป้ ว่ ยบาง กลุ่ม ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม เนื่องจากมีการพบว่าหากมีญาติสายตรง เช่ น พี่ น้ อ งหรื อ พ่ อ แม่ มี อ าการไบโพลาร์ ก็ มี โอกาสที่ จ ะมี อ าการของ ไบโพลาร์มากขึ้น แต่การศึกษาค้นคว้าก็ยังคงดำ�เนินต่อไปครับ การรักษาโรคไบโพลาร์นั้น สามารถรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมอารมณ์
การดูแลด้านจิตใจ การปรับพฤติกรรมตลอดจนการให้ ความรู้เกี่ยวกับโรคและการรักษากับผู้ป่วยและญาติ ทั้งนี้อาจจะต้องให้ความดูแลญาติไปด้วยพร้อม ๆ กัน เนือ่ งจากญาติจะเป็นผูท้ อี่ ยูใ่ กล้ชดิ อาจจะมีความเครียด เหนื่อยล้า กังวลได้ หากไม่ได้รบั การรักษาก็มคี วามเสีย่ งต่อการฆ่าตัวตาย ทำ � ร้ า ยตั ว เอง ปั ญ หาการใช้ ส ารเสพติ ด ปั ญ หา หนี้สิน ปัญหาความสัมพันธ์ รวมถึงปัญหาด้านการ ทำ�งานหรือการเรียน ดังนั้นหากสงสัยว่าคนใกล้ชิดของ ท่านอาจมีความผิดปกติเป็นไบโพลาร์ ก็ควรรีบพาไป พบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องและ ต่อเนื่องครับ
นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65
ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii
ลดอาการปวดเมื่อย บริเวณข้อมือ
เชื่อว่าการทำ�งานในชีวิตประจำ�วันที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อาการปวดข้อมือคงเป็นอาการหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งการปวดข้อมือ จากการใช้เมาส์ จากการพิมพ์งานที่แป้นคีย์บอร์ด หรือจากกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้มือในรูปแบบเดิม ซํ้า ๆ และในบางกรณีอาจส่งผลให้เป็นโรค Carpal Tunnel Syndrome (CTS) ได้ ซึ่งโรคนี้จะทำ�ให้เกิดพังผืดตรงช่องเส้นเอ็นบริเวณข้อมือ ปัจจุบนั พบว่าผูท้ ที่ �ำ งานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลามีโอกาสเสีย่ งเป็นโรคนีม้ ากขึน้ โดยจะมีอาการปวดบริเวณข้อมือ บางครัง้ มีอาการเสียว และชาไปทัง้ มือ และอาจรุนแรงถึงขัน้ ปวดร้าวไปทัง้ แขน หากปล่อยให้เป็นหนัก ๆ การรับประทานยาก็อาจจะช่วยได้ไม่มาก ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงอย่างเดียว เพื่อไม่ให้ข้อมือของเราต้องเผชิญกับศึกหนักเกินจำ�เป็น เรามาพักอิริยาบถเดิม ๆ เพื่อขยับข้อมือระหว่างวันกันดีกว่าค่ะ 66 | happy+
1. ยืดข้อมือด้านหลัง (หลังมือ)
2. ยืดข้อมือด้านหน้า (ฝ่ามือ)
3. กระดกข้อมือด้านหน้า
4. กระดกข้อมือด้านหลัง
นั่งหลังตรง เหยียดแขนข้างขวาไปด้านหน้าโดยหงายมือขึ้น ใช้มือข้าง นัง่ หลังตรง เหยียดแขนข้างขวาไปด้านหน้าโดยควํา่ ข้อมือลง ใช้มอื ข้าง ซ้ายจับหลังมือข้างขวา แล้วค่อย ๆ ดึงให้งอเข้าหาตัวให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ ซ้ายจับฝ่ามือข้างขวา แล้วค่อย ๆ ดึงให้งอเข้าหาตัวให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ�ทั้งหมด 3 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง 10-15 วินาที ทำ�ทั้งหมด 3 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง
นั่งหลังตรง ใช้มือข้างหนึ่งถือขวดนํ้าขวดเล็กที่ใส่นํ้าจนเต็มขนาด 500นั่งหลังตรง ใช้มือข้างหนึ่งถือขวดนํ้าขวดเล็กที่ใส่นํ้าจนเต็มขนาด 500-600 มิลลิลิตร (หากมีดัมเบล ใช้ขนาด 1-2 กิโลกรัมก็ได้) แล้ววางแขน 600 มิลลิลิตร (หากมีดัมเบล ใช้ขนาด 1-2 กิโลกรัมก็ได้) แล้ววางแขนบน บนโต๊ะแบบหงายมือขึน้ ยกข้อมือขึน้ เข้าหาตัว ให้พน้ จากโต๊ะมากทีส่ ดุ ค้าง โต๊ะแบบควํ่ามือลง ยกข้อมือขึ้นเข้าหาตัว ให้พ้นจากโต๊ะมากที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที ทำ�ซํ้า 10 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง ไว้ 5 วินาที ทำ�ซํ้า 10 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง นอกจากการบริหารข้อมือแล้ว ต้องปรับเปลีย่ นรูปแบบการใช้ขอ้ มือทีอ่ าจทำ�ให้ปวดเมือ่ ยได้ เช่น วางคอมพิวเตอร์ให้หา่ งจากตัวพอดีกบั แขน เพือ่ จับเมาส์ จับคีย์บอร์ดได้สบาย ๆ ไม่เหยียดหรืองอข้อมือ และเคลื่อนไหวให้ถูกท่า เวลาที่หยิบของให้ออกแรงทั้งมือและนิ้วมือค่ะ happy+ | 67
HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ข้าวไทย มิติใหม่สุขภาพ จากอดีตทีผ่ า่ นมา เมืองไทยถือว่าเป็นอูข่ า้ วอูน่ าํ้ รํา่ รวยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก ที่สุดประเทศหนึ่ง และยังเป็นผู้นำ�แหล่งซื้อขายข้าวคุณภาพดีของโลก By-Product ที่สำ�คัญ ของกระบวนการผลิตข้าวสาร (Rice Processing) คือ รำ�ข้าว มีปริมาณอยู่ประมาณ 8% ของ ปริมาณข้าวที่ผลิตได้ ในรำ�ข้าวนั้นมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อยู่มากมายและมีความเสถียร ทางความร้อนสูง ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีความสนใจในการสกัดนํ้ามันจากรำ�ข้าว เพื่อเป็นนํ้ามัน บริโภคและอาหารเสริม
คุณประโยชน์ของนํ้ามันรำ�ข้าวและจมูก ข้าว
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ได้แก่ กรด ไขมันไม่อิ่มตัว ชื่อ โอเลอิกและกรดไลโนเลอิก แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี มีส่วนช่วยในการ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ต้านมะเร็ง และอาจป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็ง ลำ�ไส้ได้ 2. มีงานวิจัยยืนยันมากมายว่านํ้ามันรำ�ข้าว ช่วยลดไขมันในเลือดได้ ทั้งคอเลสเตอรอล ไขมัน ตัวร้าย LDL ไขมันไตรกลีเซอไรด์ โดยช่วยลดการ ดูดซึมไขมันและเพิ่มการกำ�จัดไขมัน นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มไขมันตัวดี HDL ทำ�ให้ลดความเสี่ยง ที่จะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมา เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือด จึงเป็น เหตุผลว่า ทำ�ไมคนโบราณจึงไม่มีโรคหัวใจและ หลอดเลือดเหมือนทุกวันนี้ เพราะคนโบราณสี ข้ า วแล้ ว กิ น เลย และกิ นข้ า วซ้ อ มมื อ เป็ น หลั ก ต่างจากคนในยุคปัจจุบนั ทีม่ กั กินข้าวขาวเป็นหลัก ทำ�ให้ไม่ได้รับสารที่มีประโยชน์จากรำ�ข้าว 3. ช่วยรักษาสมดุลของระบบประสาท บำ�รุง สมอง เสริมความจำ� ป้องกันโรคสมองเสื่อม 4. ช่วยบำ�รุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ลด เลือนริ้วรอย ทำ�ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วย รักษาผื่นผิวหนังอักเสบจากการแพ้ได้ [Eczema (Ectopic Dermatitis)] โดยสามารถใช้ ทั้ ง การ รับประทานและการทาที่ผิวหนังโดยตรง 5. แกมมาโอไรซานอล สารสำ�คัญที่พบใน ภาพจาก http://www.toyota.co.th/rrc/product_whiterice.php นํ้ามันรำ�ข้าว มีส่วนช่วยปรับสมดุลของระบบ สตรีวัยทองและช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ (Hot ในข้าว 1 เมล็ด เปลือกแข็งสีเหลืองด้านนอกสุดคือ แกลบ ส่วนที่อยู่ถัดเข้ามาบริเวณปลายข้าว Flashes) 6. ช่วยควบคุมความดันโลหิต เรียกว่า จมูกข้าว ส่วนเนื้อเยื่อสีนํ้าตาล คือ รำ�ข้าว ส่วนชั้นในสุดสีขาว คือ เมล็ดข้าว 68 | happy+
เพือ่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ เป็นเมืองข้าว อีกทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมตลาด ข้าว ช่วยสร้างความมัน่ คงด้านเศรษฐกิจให้ชาวนา อภัยภูเบศรจึงได้พฒ ั นาผลิตภัณฑ์จากข้าว โดยใน ยุคเริม่ ต้นเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ส�ำ หรับผิวและ ผม เนื่องจากพบข้อมูลที่น่าสนใจว่านํ้ามันรำ�ข้าว มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและผม เป็นที่ยอมรับ ของนานาชาติ มีการจดสิทธิบัตรในต่างประเทศ ว่า นํ้ามันรำ�ข้าวเป็น Natural Sunscreen และ รำ�ข้าวยังให้ความชุม่ ชืน้ แบบทีไ่ ม่เหนอะหนะ เพราะ มีโมเลกุลเล็กซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้ดี ในยุคแรก จึงเกิดเป็นสบู่รำ�ข้าวให้คนได้ใช้ และมีอีกหลาย ผลิตภัณฑ์ตามมา นอกจากนี้เมื่อปี 2555 เราได้ ร่วมกับศูนย์วิจัยนาโนเทคโนโลยี วิจัยเรื่องเซรั่ม รำ�ข้าว นับเป็นครัง้ แรกของโลกทีพ่ บว่า นํา้ มันรำ�ข้าว ช่วยให้ผมงอกใหม่ ซึง่ ตรงกับภูมปิ ญ ั ญาพืน้ บ้านที่ อภัยภูเบศรได้รบั จากหมอยาพืน้ บ้านอีสานว่า ให้ นำ�รำ�ข้าวมาพอกหัวแก้หัวล้าน ปัจจุบนั มีการพัฒนารำ�ข้าวไปอีกขัน้ คือ การ ทำ�ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากนํ้ามัน รำ�ข้าวและจมูกข้าวหอมมะลิ จากการศึกษาวิจัย เรือ่ งนํา้ มันรำ�ข้าวทีม่ อี ย่างกว้างขวาง พบว่านํา้ มัน รำ � ข้ า วและจมู ก ข้ า วมี ป ระโยชน์ ต่ อ สุ ข ภาพ โดยเฉพาะในโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุข ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนํ้ามันรำ�ข้าวสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอล ตัวร้าย และเพิม่ คอเลสเตอรอลตัวดี ซึง่ นับว่าเป็นการ ลดความเสีย่ งต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ในนํา้ มันรำ�ข้าวประกอบด้วย แกมมาโอไรซานอล โทรโคฟีรอล โคไตรอีนอล และสารอื่น ๆ ซึ่งล้วน
แต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอนุมูลอิสระนี้เป็น ตัวการสำ�คัญที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ทั้ง ผิวและภายในร่างกาย โดยนํ้ามันรำ�ข้าวมีฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินอีถึง 8 เท่า ความพิเศษคือ เราได้รบั วัตถุดบิ จากโรงสีขา้ ว กลุ่ ม เกษตรกรในจั ง หวั ด ยโสธร ที่ ร วมตั ว กั น เป็นสหกรณ์ผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ จำ�กัด ซึ่งได้ รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล จาก สำ�นักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ภายใต้การ ยอมรั บ ของมาตรฐานสหพั นธ์ เ กษตรอิ นทรี ย์ นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements - IFOAM) ไม่มีการใช้สาร เคมีสังเคราะห์ในทุกขั้นตอนการผลิตและทำ�การ หีบเย็นทันที หลังจากการสีขา้ วภายใน 24 ชัว่ โมง ซึง่
ทำ�ให้คณ ุ ภาพและสารสำ�คัญในรำ�ข้าวไม่สญ ู หาย ไปกับความร้อนหรือปฏิกิริยาทางเคมี ซึ่งมีข้อดี เหนื อ กว่ า วิ ธีก ารใช้ ตั ว ทำ � ละลายอิ นทรี ย์ อ ย่ า ง เฮกเซนที่นิยมใช้สกัด ซึ่งมีผลเสียต่อมลภาวะ ทางอากาศและสุขภาพ สารเฮกเซนที่ตกค้างยัง สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย โดยแนะนำ�ให้ทานหลังอาหาร เนื่องจากจะ ทำ�ให้สารสำ�คัญต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่ละลายใน ไขมันดูดซึมได้ดีขึ้น แต่ที่ยังต้องระวังเนื่องจากยัง ไม่มีข้อมูลความปลอดภัยการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยง และระวัง การใช้นํ้ามันรำ�ข้าวและจมูกข้าวในรายที่ใช้ยา ละลายลิ่มเลือดวาร์ฟาริน เพราะมีผลเพิ่มฤทธิ์ ของยาได้ happy+ | 69
well being เรื่อง : ญาดารัตน์
ไกลแค่ไหนคือใกล้...ใกล้แค่ไหนคือไกล หากเราได้รับพร... “ปู่ตาย พ่อตาย ลูกตาย หลานตาย” เรา จะรับพรดังกล่าว ด้วยความรู้สึกใด... เมื่อหลายปีก่อนฉันคิดเข้าข้างตัวเองว่า คง พอจะเข้าใจกับปริศนาธรรมนี้บ้างแล้ว แต่ใน ความเป็ นจริ ง ...ว่ า งเปล่ า ฉั น เข้ า ใจเพี ย งแค่ ความหมายในตัวอักษร ส่วนในมิตทิ ลี่ กึ ซึง้ กว่านัน้ ฉันไม่รู้อะไรเลย เพราะยังคิดอยู่ตลอดว่า ความ ตายเป็นสิ่งที่อยู่ไกลตัว มนุษย์เราเกิดมาแล้วก็ตอ้ งตาย กฎธรรมชาติ ข้อนี้ทุกคนต่างรับรู้... แต่ปริศนาธรรมดังกล่าว กลับสอนให้เราเรียนรู้ “ความตาย” ได้ลึกซึ้ง กว่านั้น สอนให้เข้าใจถึงความตายและทราบ ถึงคุณค่าของการสูญเสียตามลำ�ดับขั้น เมื่อ เกิดก่อนก็ควรตายก่อน หรือการที่คนรุ่นพ่อแม่ ควรได้ จ ากไปก่ อ นคนรุ่ น ลู ก แต่ ทั้ ง นี้ ทุ ก สิ่ ง อยู่ เหนือการควบคุม หากเมื่อมีการตายสลับคิวหรือ ไม่ได้เป็นไปตามลำ�ดับ ย่อมส่งผลให้เกิดความ เศร้าโศกที่เพิ่มความทุกข์เป็นเท่าทวีคูณ ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้และรับมือให้ได้ เพราะชีวิตไม่มี อะไรแน่นอน ในที่สุดเหตุการณ์ของชีวิตก็นำ�พาให้ฉันได้ 70 | happy+
เกิดการเรียนรู้ปริศนาธรรมจากประสบการณ์ ตรง... น้ อ งสาวที่ เ ป็ น ญาติ ใ กล้ ชิ ด เติ บ โตมา ด้วยกัน กำ�ลังเรียนในมหาวิทยาลัย มีชวี ติ ช่วงวัยรุน่ ที่เต็มไปด้วยความสดใส ร่าเริง แต่กลับต้องมา จากไปอย่างกะทันหัน สร้างความโศกเศร้าเสียใจ ให้กับสมาชิกในครอบครัวเกินกว่าที่จะบรรยาย ได้ คำ�พูดที่พ่อและแม่ของน้อง ได้กล่าวถึงบุตร สาวอั น เป็ น แก้ ว ตาดวงใจ ยั ง ดั ง ก้ อ งอยู่ ในหู ของฉัน... “หากแลกกันได้ ขอให้ลกู มีชวี ติ อยูต่ อ่ ได้ไหม ลูกยังไม่สมควรจากไปในวัยเพียงแค่นี้ เอาชีวติ ของพ่อกับแม่ไปทัง้ สองคนย่อมจะดีกว่า” และภาพของคุณยายที่ต้องมาวางดอกไม้จันทน์ บอกลาและส่งดวงวิญญาณหลานสาวสุดที่รัก เป็น ภาพที่ ทุ กคนรั บรู้ ได้ ถึ งความเจ็ บปวดและ ร่วมปาดนํ้าตาไปกับท่าน น้ อ งนุ ช สุ ด ท้ อ งของตระกู ล นอนหลั บ แบบไม่ตนื่ อีกแล้ว ตอนนีน้ อ้ งคงเดินทางไปอยูใ่ น ที่ที่ไกลแสนไกล ทิ้งให้คนข้างหลังโศกเศร้าอาลัย ยิ่งนัก เพราะไม่มีใครคาดคิด และที่สำ�คัญไม่มี ใครทำ�ใจได้เลย... เหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ กับครอบครัวครัง้ นี้ ทำ�ให้
ฉั น ได้ เรี ย นรู้ ว่ า ความตายเป็ น เรื่ อ งที่ ใกล้ ตั ว เสียเหลือเกิน เพียงแต่เราเองต่างหากที่จัดวาง มันไว้ในมุมที่ไกลตัว ด้วยท่าทีที่หวาดกลัวและ ไม่เป็นมิตร ทุกชีวิตที่ได้เกิดมาบนโลก เราต่างรับรู้ได้ เพียงวันเกิด แต่ไม่มีใครสามารถกำ�หนดวันตาย ของตัวเองได้ ดังนั้นช่วงเวลาในชีวิตของแต่ละ คนจึงไม่เท่ากัน สิ่งที่เราต้องยอมรับคือ ทุกคนมี สิทธิ์ในเรื่องของความตายเหมือนกัน ดั่งธรรมะ ของพระพุทธองค์ ที่เมตตาสั่งสอนว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีใคร หลีกหนีสิ่งนี้ไปได้ เมื่ อ ไม่ น านมานี้ ฉั น มี โ อกาสไปร่ ว มใน งาน “Happy Death Day” หรือ “งานทีจ่ ะเปลีย่ นวันตาย ให้กลายเป็นวันสุข” ทีศ่ นู ย์การประชุมแห่งชาติสริ กิ ติ ์ิ เป็นความร่วมมือกันของหลากหลายองค์กร นำ� ทีมโดย เครือข่ายพุทธิกา และหัวใจหลักของ การจั ด งานนี้ คื อ การเตรี ย มความพร้ อ มก่ อ น เผชิญความตาย กิจกรรมของงานล้วนมีคุณค่า ในการเรียนรู้ อาทิ นิทรรศการ Death’s Design Art Exhibition เป็นการเชิญชวนให้ทุกคนได้รู้จัก ความตาย เรียนรู้เครื่องมือเพื่อที่จะเข้าใจชีวิต
สูก่ ารสร้างสรรค์ทางเลือกของชีวติ และความตาย ที่พึงปรารถนา มีโลงศพจำ�ลองมาให้ทุกคนได้มี โอกาสทดลองลงไปนอน ก้าวข้ามความหวาดกลัว ของจิตที่เราตั้งโปรแกรมไว้ กิจกรรม Death Café คาเฟ่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มานั่งคุยเรื่อง ความตายกับหมอ พยาบาล และผู้รู้ด้านความ ตายจากทัว่ ประเทศ และกิจกรรม Last Talk ร่วมฟัง การพู ด คุ ย จากผู้ ผ่ า นประสบการณ์ ใ กล้ ชิ ด ความตาย ในงานวันนั้นพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้ ป าฐกถาเปิ ด งานเรื่ อ ง “เปลี่ ย นความตาย ให้ เป็ นความสุ ข ” ซึ่ ง ท่ า นกล่ า วไว้ ช่ ว งหนึ่ ง ว่ า “ความตายไม่ใช่เหตุผลให้เราทุกข์ แต่ความกลัว ต่างหากที่ทำ�ให้เกิดความรู้สึกด้านลบ ความตาย จะไม่ทำ�ให้ทุกข์ใจได้เลย หากเราได้เปลี่ยนความ กลัวตายมาเป็นความพร้อมตาย” ขณะที่ อ ยู่ ใ นงาน ฉั น ย้ อ นถามตั ว เองว่ า รู้สึกอย่างไรกับความตาย ตอบแบบตรงไปตรง มาคือ รู้สึกเป็นมิตรกับความตายมากขึ้น แต่ยังมี ความกลัวแฝงอยู่ในใจไม่ใช่น้อย ขณะที่เดินชม นิทรรศการของโลงศพจำ�ลอง มีผคู้ นหลายช่วงวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ได้ทดลองลง ไปนอนในโลงศพ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ฉันได้แต่ ยืนมองอยู่ห่าง ๆ เพื่อนที่ไปด้วยกันหันมาชักชวน แต่ก็ปฏิเสธพร้อมยืนยันด้วยคำ�พูดว่า...ไม่ได้กลัว
สิง่ หนึง่ ทีส่ ะท้อนให้เห็นตัวตนอย่างชัดเจนจากเหตุการณ์นัน้ คือ ความไม่ซือ่ สัตย์กบั ความรูส้ กึ ของ ตนเองและอาการปากกับใจที่ไม่ตรงกัน สุดท้ายฉันกลับยิ้มและปลอบโยนตัวเองว่า เราก็เป็นแค่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่ยังต้องใช้เวลาฝึกฝน และเรียนรูอ้ กี มากมาย การได้น�ำ พาตัวเองมาเรียนรูใ้ นงานทีม่ คี ณ ุ ค่าแบบนี้ ก็นบั ว่าเป็นการเริม่ ต้นทีด่ ี เท่ากับว่าฉันได้เริ่มต้นนับหนึ่งไม่ได้ปล่อยให้ความกลัวทำ�ให้รู้สึกลบกับความตายไปเรื่อย ๆ คาดหวัง กับตัวเองว่า จะพยายามเรียนรู้และค่อย ๆ นับสอง นับสาม ต่อไป ก่อนทีจ่ ะออกจากงานในวันนัน้ ฉันได้พบกับบทความบทหนึง่ ของเครือข่ายพุทธิกา จึงขออนุญาต นำ�มาฝากผู้อ่านทุกท่าน...แด่ กัลยาณมิตรที่ดีของฉัน “ความตายอาจไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือมิตรที่มาเตือนเรา ด้วยความปรารถนาดี คือครูที่เคี่ยวเข็ญเราให้ใช้ทุกวินาทีของชีวิตอย่างมีคุณค่า ช่วยให้เราเข้าถึงจุดมุ่งหมายของชีวิตที่แต่ละคนอาจจะลืมไป” พระไพศาล วิสาโล ้นเป็นบททดสอบที่สำ�คัญที่สุดของชีวิต บททดสอบอื่น ๆ นั้น เรา Tip ความตายนั สามารถสอบได้หลายครั้ง แม้สอบตกก็ยังสามารถสอบใหม่ได้อีก แต่บททดสอบที่ ชื่อว่าความตายนั้น เรามีโอกาสสอบได้ครั้งเดียว และไม่สามารถสอบแก้ตัวได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบททดสอบที่ยากมาก และสามารถเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นบททดสอบที่เราแทบจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าเวลา สถานที่หรือแม้กระทั่งร่างกายและ จิตใจของตนเอง ถ้าเราหันมาใคร่ครวญเกี่ยวกับความตาย และพยายามฝึกใจให้พร้อมรับมือกับ บททดสอบที่สำ�คัญที่สุดของชีวิต ความตายจะมิใช่วิกฤต หากเป็นโอกาสแห่งความสงบในทาง จิตใจ ที่เงินและเทคโนโลยีไม่สามารถหาให้ได้ happy+ | 71
beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์
สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ
ตอน สตัฟฟ์สาว 80 ให้ดูเหมือนสาว 40 ปี
อือ้ หือ สูตรความงามตามแบบฉบับธรรมชาติครัง้ นี้ ท้าทายดิฉนั มาก ๆ เลยค่ะ เพราะสาว ๆ หลายท่าน ก็คงอยากจะทราบเหมือนกันใช่ไหมละคะ ถึงแม้ว่าอายุจะยังไม่ถึง 80 ปี ส่วนมากเราก็อยากสวย เร็ว ๆ เข้าไว้ ก็เลยไปเกาหลีหรือไม่ก็สวยด้วยศัลย์ในบ้านเรา คุณหมอผู้เชี่ยวชาญมากมายหลายท่าน เลยทีเดียว เอาจริง ๆ อาจจะสวยกว่าศัลย์ที่เกาหลีอีกต่างหาก แต่พอเราอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผิวพรรณ ก็หย่อนคล้อยตามธรรมชาติ เนื่องจากคอลลาเจนหดหาย ริ้วรอยเริ่มมา ก็ต้องไปทำ�เพิ่มอะไรอย่างนี้ เรื่อยไป แล้วทำ�อย่างไรเราถึงจะหยุดอายุของร่างกาย ไม่ให้เป็นไปตามตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ๆ เอาแบบสูตร ดูแลตัวเองแบบธรรมชาติสุด ๆ ช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ดิฉันได้มีโอกาสทราบข่าวคราวสาวเวสเทิร์นอายุรุ่นราวคราวคุณย่าคุณยาย วัยของนางก็ 80 ปีแล้วค่ะ แต่ดจู ากรูปร่างน่าตา และผิวพรรณยังดูเหมือนสาวอายุ 40 อยูเ่ ลย บางท่าน อาจจะบอกว่า โหย...ยังไงก็โบท็อกซ์ แต่ขอบอกว่า นางดูแลตัวเองแบบธรรมชาติจริง ๆ ค่ะ เพราะดู 72 | happy+
จากที่เขาสัมภาษณ์นางแล้ว เหมือนกับที่ดิฉันได้ ข้อมูลมาจากสูตรความงามแบบโบรํ่าโบราณ ที่ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเสริมความงาม ใด ๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียวเชียวค่ะ เหตุที่ทำ�ให้นาง สาว สวย สดใส ราวกับ สาว 40 เนื่องจากคุณแม่ของนางเสียชีวิตตั้งแต่ อายุ 47 ปี และคุณยายเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 36 ปี ด้วยโรคมะเร็งทรวงอกทั้งคู่เลยค่ะ นางไม่เชื่อว่า เกิดจากโรคทางพันธุกรรม แต่เกิดจากนิสัยการ รับประทานอาหารและการใช้ชวี ติ ทีไ่ ม่ถกู สุขลักษณะ ดังนัน้ นางจึงเปลีย่ นตัวเองมาเป็นนักมังสวิรตั แิ บบ จัดเต็ม ที่เราเรียกกันว่า วีแกน (Vegan) ตั้งแต่อายุ ประมาณ 16 ปีค่ะ นิสยั การรับประทานอาหารของนางเป็นแบบ หลากหลาย ไม่มีรูปแบบที่เข้มงวด ว่าจะต้อง รับประทานอาหารมื้อไหนเป็นแบบนั้นแบบนี้นะ แต่สิ่งสำ�คัญที่สุดสำ�หรับอาหารที่บริโภค จะต้อง เป็นอาหารที่สุขภาพดี ไม่ปรุง สด (Non-Cooked) และเป็นพืช ประกอบไปด้วยผักและผลไม้สดตาม ฤดูกาล ถั่วและเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เท่านั้นค่ะ จำ�นวนมื้ออาหารในแต่ละวันก็หลากหลาย ไม่มี กฎตายตัว ขึน้ อยูก่ บั ความอยากอาหารในแต่ละวัน บางวันรับประทานแค่มื้อเดียวอิ่มทั้งวัน บางวัน 2 มื้อ บางวัน 3 มื้อต่อวัน และรับประทาน เมื่อไรก็ตาม ที่ร่างกายต้องการอาหารค่ะ ไม่ได้มี เวลาแต่อย่างใด ยกเว้นรับประทานอาหารกลางดึก เป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่ง ส่วนมากจะเริ่มจาก การดื่มนํ้าผักหรือผลไม้สดตามความชอบก่อน แล้วก็ตามด้วยสลัดชามใหญ่เลยค่ะ มื้อเย็นก็จะ เป็นสลัดอีกแบบ เพิ่มผักใบเขียวเข้าไปอีก เช่น คะน้า ผักโขมหรือปวยเล้ง แล้วก็เคล (Kale) ทีข่ าด ไม่ได้เลยคือ ถัว่ ชนิดต่าง ๆ อโวคาโด และถัว่ เขียว แช่นํ้าจนรากงอก ไม่ใช่ถั่วงอกนะคะ แค่รากงอก นิด ๆ แล้วรับประทานสด ๆ ค่ะ ส่ ว นการออกกำ � ลั ง กาย ปกติ น างจะ ออกกำ�ลังกายเหมือนเดิมเป็นประจำ�ทุกวัน เช่น การเดินขึ้นลงบันได 100 ก้าว (เดินขึ้นบันได 1 ขั้น แล้วเดินลงบันได 1 ขั้น นับเป็น 1 ก้าว ทำ�สลับไป มาแบบนี้จนครบ 100 ก้าวค่ะ) และเดินประมาณ 8 กิโลเมตร จะเริ่มออกกำ�ลังกายจากเดินก่อน แล้วตามด้วยเดินขึ้นลงบันไดค่ะ จากนั้นระหว่าง วันก็อาจจะเต้นรำ� ทำ�สวน ทำ�โน่นนีจ่ ปิ าถะ รวม ๆ แล้วนางบอกว่า หากนับจำ�นวนการเดินทั้งวัน
พอดีนางสวมเครือ่ งจับก้าวเดิน ประมาณ 15,00016,000 ก้าวต่อวันเลยค่ะ โอะโห...สุดยอด นอกจากนี้ นางยั ง ชอบทำ � สวนเป็ นชี วิ ต จิตใจ เพราะทำ�ให้นางได้รับประทานผักผลไม้สด ตามฤดูกาล แบบออร์แกนิกและมีคุณประโยชน์ สูงสุดต่อการบริโภคอีกด้วยค่ะ มาดูกันค่ะว่าใน สวนนางปลูกอะไรไว้รับประทานบ้าง ก็มีกล้วย มัลเบอร์รี มะม่วง ลูกยอ ผักกาดหอม คะน้า ผักโขม มัสตาร์ด หัวผักกาดหรือ Turnip มะเขือเทศ และ ผักอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วก็ยังมีสมุนไพรด้วยค่ะ เช่น โหระพา ชิคพี เลนทิล บร็อกโคลี เป็นต้น และ ที่ต้องมีแน่ ๆ ในสวน ก็คือ วีทแกรส บัควีทเล็ท ทิวซ์ และต้นอ่อนทานตะวันค่ะ การเปลีย่ นแปลงตัวเองขนาดนีไ้ ม่ใช่เรือ่ งง่าย เลยค่ะสำ�หรับทุกท่าน แม้กระทั่งนางเองก็บอก ว่า ต้องมีปรัชญาประจำ�ใจ ก็คือ “ความอดทน” เท่านั้นเลยจริง ๆ ค่ะ หากเราทุกท่านสามารถมี ความอดทนมากขึน้ วันละนิดทุกวัน ๆ นางบอกว่า เรื่ อ งอะไรก็ ตามที่ผ่า นเข้า มาในชีวิ ต ก็จะเป็น เรื่องไม่ยากอีกต่อไป อย่าลืมว่าเราดำ�เนินชีวิต และรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะมานาน แค่ไหน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงตัวเองต้องการ เวลาเช่นกันค่ะ เราสามารถสนุกกับการคิดสูตรอาหารใหม่ ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทาน อาหารให้ เหมาะสมกั บ ร่ า งกาย แล้ ว ยั ง ทำ � ให้ แอนติเอจจิ้งได้อีกด้วย คุณสาว ๆ ก็จะกลายเป็น
เชฟสาวหุ่นสลิม ไม่ใช่มิชลินหุ่นห่วงยาง แถมยังย้อนวัยให้ดูเด็กลง อย่างนี้ไม่ลองไม่รู้จริง ๆ นะคะ ส่วนการคำ�นวณแคลอรีในการรับประทาน นางแนะนำ�ว่าไม่จ�ำ เป็นต้องซีเรียสเลยค่ะ ให้รบั ประทาน อาหารแบบที่แนะนำ� แล้วดูว่าร่างกายเราต้องการรับประทานมากน้อยแค่ไหน ให้รับรู้ความรู้สึกแบบ เป็นธรรมชาติ ๆ ดีที่สุดค่ะ เกี่ยวกับพืชที่รับประทาน นางบอกว่าการที่เรารับประทานต้นอ่อนของพืชสีเขียวชนิดต่าง ๆ นั้นดี หนักหนา เพราะว่าต้นอ่อนของพืชเต็มไปด้วยสารอาหารและพลังชีวติ เมือ่ เรารับประทานต้นอ่อนจากพืช พลังชีวิตก็จะเข้ามาหล่อเลี้ยงร่างกายเราด้วยเช่นกัน เราสามารถทำ�การทดลองง่าย ๆ เพียงนำ� ต้นอ่อนของพืชชนิดใดก็ได้ ไปแช่ในตูเ้ ย็นสักสองสามวัน ต้นอ่อนก็ยงั เจริญเติบโตแม้ในตูเ้ ย็น รูอ้ ย่างนีแ้ ล้ว ดิฉันต้องเริ่มรับประทานบ้างแล้วสิคะ “Back to the Basic” นางใช้คำ�นี้อธิบายว่า เราเป็นธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าก็เป็นธรรมชาติ ให้ ย้อนวิถกี ารดำ�เนินชีวติ ของเราให้เป็นไปตามธรรมชาติ รับประทานอาหารแบบธรรมชาติให้ได้มากทีส่ ดุ เท่าที่เราจะทำ�ได้ เพียงเท่านี้ชีวิตของเราก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ กลับมาที่การออกกำ�ลังกาย นางบอกว่าการออกกำ�ลังกายไม่ใช่เฉพาะร่างกายเท่านั้นนะคะ ให้ เราออกกำ�ลังกายจิตใจด้วยค่ะ เช่น การฝึกผ่อนคลายอย่างลึก การฝึกคิดเชิงบวก ฝึกจิตใจให้ผ่องใส จากภายในอยู่เสมอ อะไรอย่างนี้เป็นต้น รวมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ และให้ร่างกายได้สัมผัสแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าและ / หรือ ยามเย็นค่ะ ก่อนที่เราจะเริ่มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ให้เราเริ่มด้วยการดีท็อกซ์ร่างกายก่อน เพื่อให้พร้อม ต่อการรับสารอาหารและพลังชีวิตจากแหล่งอาหารที่นางแนะนำ�อย่างเต็มที่ที่สุดค่ะ เนือ่ งจากอาหารทีน่ างแนะนำ�เป็นพืชผักผลไม้สดทัง้ นัน้ ค่อนข้างไม่มนี าํ้ มัน เพราะนํา้ มันส่วนใหญ่ มาจากถัว่ ชนิดต่าง ๆ ทีร่ บั ประทานเข้าไป แต่กไ็ ม่นา่ จะเพียงพอต่อเส้นผม ทีนวี้ ธิ ดี แู ลเส้นผมทำ�อย่างไร ให้ดดู กดำ�เงางาม ขนาดนางก็ 80 ปีแล้ว ผมยังไม่หงอกเลย นางบอกว่ามีหงอกบ้าง แต่ไม่มากค่ะ นาง แนะนำ�ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ทีม่ สี ว่ นผสมของ Essential Oil ขีผ้ งึ้ กลีเซอรีนบริสทุ ธิ์ และสมุนไพรค่ะ เป็นไงกันบ้างคะสาว ๆ ดิฉนั ถึงกับทึง่ ในความสาวสดใสของนางมาก ทีส่ �ำ คัญทีส่ ดุ ทุกอย่างรอบตัว และภายในตัวนางเต็มไปด้วยพลังธรรมชาติ ที่มาจากความรัก เอาใจใส่ ตั้งใจ ใส่ใจ ดูแลตัวเองเป็น อย่างดีจากธรรมชาติล้วน ๆ ช่างเป็นแรงบันดาลใจให้ดิฉันอยากพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นไปอีก แล้วจะ ให้รอได้ไงใช่ไหมคะ เริ่มวันนี้เลย!
ฉบับหน้า พบกับสูตรความงามแบบธรรมชาติ ทำ�ไงลดหน้าท้องให้แบนราบเรียบเนียนสวยงาม กันค่ะ ฉบับนี้ ลากันไปก่อน สวัสดีค่ะ happy+ | 73
สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Nasry ภาพ : TepiN
พราวพิรัล ณรัตน์ตระกูล
ย้อนความทรงจำ�ประทับใจกับ ชาร์ม (Charm) ชาร์ม (Charm) เป็นจิวเวลรี่ที่มีลักษณะเป็น จี้ ตุ้ม หรือรูปทรงต่าง ๆ ร้อยรวมกันเพื่อเป็น เครื่องประดับบนข้อมือ ซึ่งชาร์มแต่ละรูปแบบก็มี ความหมายและเรือ่ งราวทีแ่ ตกต่างกันไป อีกทัง้ ยัง สามารถเลื อ กดี ไ ซน์ เ พื่ อ สะท้ อ นความเป็ น ตัวเองได้ชัดเจน ชาร์มจึงเป็นเครื่องประดับที่มี คุณค่าทางจิตใจและเป็นตัวย้อนความทรงจำ�ของ คุ ณ มุ ก -พราวพิ รั ล ณรั ต น์ ต ระกู ล Managing Director บริษทั P.P.S. Property Development และ CEO แบรนด์ SKIN & HERB CO. ได้เป็นอย่างดี “ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยมุกอายุ 13 ปี ตอนนั้นมุกเรียนโรงเรียนประจำ�อยู่ที่นิวซีแลนด์ 74 | happy+
เชื่ อ ว่ า หลายคนที่ นิ ว ซี แ ลนด์ จ ะพู ด เป็ น เสี ย ง เดียวกันว่า ถ้าได้ไปนิวซีแลนด์ไปแค่ครั้งเดียวก็ เกินพอแล้ว (หัวเราะ) เพราะคิดว่านิวซีแลนด์ไม่มี อะไรทำ� แล้วคิดดูว่า 20 กว่าปีที่แล้วหนักกว่านี้ ตอนนั้นมุกก็คิดถึงบ้านมาก มุกมีเพื่อนคนหนึ่ง ที่เป็นรูมเมท เขาเป็นคนนิวซีแลนด์ เขาสามารถ ออกไปข้างนอกได้เพราะมีพอ่ แม่มารับ แต่มกุ ไม่มี พ่อแม่มารับจึงไม่สามารถออกไปไหนได้ ดึก ๆ บางทีก็นั่งร้องไห้ เพราะเหงาและคิดถึงบ้านมาก แต่เพือ่ นคนนีเ้ ขาซือ้ ชาร์ม เป็นสร้อยอันหนึง่ มาให้ มุกใส่ เขาบอกว่ามันจะทำ�ให้เราโชคดี ทำ�ให้มกุ ใส่ มาตลอด และเริ่มชอบชาร์มมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ
“พอโตขึ้นได้ออกมาจากโรงเรียนประจำ� เรา ใส่แล้วรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือ เปล่า หรืออาจจะเป็นเพราะมุกเริ่มชินกับประเทศ นิวซีแลนด์แล้วก็ได้ มุกเริม่ ใช้ชวี ติ ได้งา่ ยขึน้ แต่วา่ สร้อยเส้นแรกอันนั้นมันเป็นของตามตลาดทั่วไป ของที่นั่น แล้วก็หายไปตอนย้ายบ้าน ทำ�ให้มุก ไม่ได้สนใจเรื่องชาร์มอีกเลย มุกมารู้จักและสนใจ อีกครัง้ หนึง่ ตอนทีไ่ ปอยูท่ อี่ เมริกา ตอนนัน้ มุกจะซือ้ ชาร์มมาร้อยรวมกันบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของมุก ตอนเรียนที่อเมริกา เช่น เกี่ยวกับการเรียน ปาร์ตี้ หรือมีแฟนคนแรก” คุณมุกเล่าต่อว่า ชาร์ม (Charm) แต่ละแบบก็ มีความหมายในตัวเอง บางแบบก็ให้ความหมาย ในแง่ประสบการณ์ชีวิต หรือเรื่องราวประทับใจ ไม่ลืมเลือน “มุกสามารถมองย้อนกลับไปถึงบางอย่าง ที่ มุ ก ลื ม ไปแล้ ว เช่ น เคยไปเที่ ย วไหนหรื อ ไป ทำ�อะไรมาบ้าง อย่างตอนที่เรียนอยู่ที่อังกฤษ
แล้วกำ�ลังจะกลับบ้าน มุกเลื่อนตั๋วเครื่องบินเพื่อ ให้ได้กลับบ้านเร็วขึ้น แต่ดันไปติดอยู่ที่ดไู บเพราะ หมอกลงหนักมาก เครือ่ งบินลงไม่ได้ ซึง่ เครือ่ งบิน ทีจ่ ะเดินทางมาไทยออกไปแล้ว ตอนนัน้ มุกรูส้ กึ แย่ และเป็ น ประสบการณ์ ค รั้ ง แรกที่ ติ ด อยู่ ที่ ดู ไบ คนเดียว มุกไปนอนโรงแรมที่นั่นหนึ่งคืน และมี เวลาไปเทีย่ วหนึง่ วันเต็ม ๆ มุกไปเทีย่ วคนเดียว แล้ว ได้ ไปเจอชาร์ ม ทำ � ให้ วั นนี้ พ อเราได้ เห็ นชาร์ ม ชิน้ ทีซ่ อื้ มาในวันนัน้ ก็ท�ำ ให้มกุ จำ�เรือ่ งราวในวันนัน้ ได้เป็นอย่างดี ชาร์มทุกชิน้ ของมุกมีเรือ่ งราวทัง้ หมด มุ ก จะซื้ อ ของที่สื่อ ถึง ช่ว งเวลา ณ ตอนนั้ นว่ า รู้สึกอะไรอยู่ หรือบางทีเวลามุกมานั่งเช็ด นั่งขัด ของสะสมมันทำ�ให้มกุ ใจเย็นและมีความสุขมากค่ะ “มันเป็นเมมโมรี่ที่ดีที่มุกอยากจะเก็บไว้ แต่ มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่มุกรักและประทับใจมากคือ ชิ้นที่ สามีให้ค่ะ เพราะสามีมุกไม่ได้เป็นคนหวานหรือ โรแมนติก แต่เขาซือ้ ชาร์ม ทีเ่ ขียนว่า Just Married แล้วเปิดมามีแหวนเล็ก ๆ อยู่ข้างในให้มุก ทำ�ให้
มุ ก อึ้ ง ว่ า เขามี โมเมนต์ แบบนี้ ด้ ว ยเหรอ ชาร์ ม แต่ละอันก็มคี วามหมายของมัน มุกคิดว่าทีค่ นต่างชาติ เขาชอบใส่ชาร์ม ก็เพื่อเป็นความทรงจำ�ของเขา เขาถึงได้ออกแบบมาทีละอันเพือ่ ให้มคี วามหมาย มากขึ้น ส่วนมากที่มุกซื้อชาร์ม มุกจะดูแค่ว่ามุก ชอบไหม มันสวยไหม และสามารถเล่าเรื่องราว ในตอนนั้ น ๆ ได้ หรื อเปล่ า ถ้ าจะมองว่ าการ สะสมชาร์ ม เป็ น ของฟุ่ ม เฟื อ ยก็ ไ ด้ ค่ ะ มุ ก จะ ยกตัวอย่าง มีคณ ุ พ่อคนหนึง่ ปลูกต้นไม้ ปลูกแบบ ประคบประหงมมาก พอคุณพ่อเสียลูกชายเอา ไปขาย สำ�หรับลูกชายการขายต้นไม้มีค่าสำ�หรับ เขาแค่หนึง่ พันบาท แต่วา่ ต้นไม้ตน้ นัน้ มีมลู ค่าเป็น หลักล้าน มุกว่าของสะสมของแต่ละคนมันขึ้น อยู่กับคุณค่าทางจิตใจ อย่างชาร์ม บางคนเห็น แล้วบอกว่าราคาสิบบาทยังไม่ซื้อเลย แต่สำ�หรับ บางคนมันมีคณ ุ ค่าทางจิตใจมาก ๆ ค่ะ มุกชอบสะสม แต่ไม่คอ่ ยเอามาใส่ เพราะว่ากลัวจะพัง (หัวเราะ)” คุ ณ มุ ก ฝากบอกคนที่ คิ ด จะเริ่ ม สะสมว่ า
การสะสมไม่ใช่เรือ่ งทีผ่ ดิ และไม่ใช่เรือ่ งไร้สาระ แต่ เราต้องสะสมสิ่งที่ตัวเองชอบจริง ๆ และจะต้องมี ความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นของชิ้นนั้น “การจะเริ่มสะสมอะไรสักอย่าง มันจะต้อง เป็นสิง่ ทีเ่ ราชอบและมีคณ ุ ค่าทางจิตใจสำ�หรับเรา แล้วเราจะเห็นว่ามันมีค่าสำ�หรับเรา ถ้าเราสะสม ไว้เพื่อจะไปอวดเพื่อน มุกว่าไม่ต้องสะสมหรอก สำ�หรับมุกของสะสมในวันที่เราไม่มีเงินจริง ๆ มัน จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะยอมปล่อยมันไป ฉะนั้น ถ้าไม่ได้ชอบที่จะสะสมจริง ๆ อย่าสะสมเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์ คุณอาจจะเอาของไปคุย กับคนอื่นได้ แต่มันก็ทำ�ได้แค่นั้น มันไม่สามารถ เล่าถึงเรื่องราวและความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้” อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายถึงความสุข ของคุณมุก ที่เก็บสะสมสิ่งที่ตัวเองรักออกมาใน สองหน้ากระดาษ นอกจากว่าคุณจะลองสะสม อะไรสั ก อย่ า งแล้ ว สั ม ผั ส ความสุ ข นั้ น ด้ ว ย ตัวคุณเอง happy+ | 75
travelogue เรื่องและภาพ : ดาวรัตน์ สาโรวาท
เสน่ห์เมืองประวัติศาสตร์ แห่งยุโรปตะวันออก (2) หลังจากฉบับที่แล้วฉันได้ไปเยือนประเทศในยุโรปตะวันออกมาแล้วถึง 2 ประเทศ แต่ยังมีอีกหนึ่งประเทศ ที่มีพรมแดนติดกัน เวลาที่คนเดินทางมา ท่องเที่ยวในแถบนี้ก็มักจะมาเที่ยวที่นี่ด้วยเหมือนเป็นแพ็กเกจเดียวกัน เพราะประเทศออสเตรียเป็นประเทศที่สวยงาม บรรยากาศราวอยู่ในเทพนิยาย และ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานร่วมสมัยด้วยกันมา มาดูกันค่ะว่าประเทศออสเตรียมีอะไรมาอวดโฉมให้เราชื่นชมกันบ้าง
76 | happy+
เริม่ กันทีเ่ มืองแรกค่ะ Hallstatt เมืองนีต้ งั้ อยู่ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์สตัทท์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขา ซึ่งมีชื่อเสียงดึงดูดให้ คนมาเที่ยวที่ออสเตรียนี่ได้ไม่น้อยเลยค่ะ แถม เป็นเมืองมรดกโลกที่มีประวัติเก่าแก่ย้อนหลังไป กว่า 4,000 ปีอีกต่างหาก ทิวทัศน์สวยงาม เป็น เมืองที่ได้รับการยกย่องว่า ‘เมืองริมทะเลสาบ ที่สวยที่สุดในโลก’ เมืองฮัลล์สตัทท์ อยู่ในรัฐ อัปเปอร์ออสเตรีย ซึ่งเป็น 1 ใน 8 รัฐของประเทศ ออสเตรีย อากาศสุดแสนจะบริสุทธิ์ เหมาะที่ จะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศสงบ ๆ ชมทัศนียภาพ สวย ๆ ของตัวเมืองที่โอบล้อมไปด้วยทะเลสาบ ใสแจ๋ ว เรี ย บนิ่ ง ราวกระจกและเทื อ กเขาสู ง มองไปทางไหนก็ พ บแต่ นั ก ท่ อ งเที่ ย วที่ อ ยาก มาสั ม ผั ส บรรยากาศสงบและสวยงามแบบนี้ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เมือง Hallstatt มี เหมืองเกลือโบราณ (Salzwelten Salt Mines) ทีม่ อี ายุมากกว่า 7,000 ปี แต่เราต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่ทั้งชันและแล่นเร็ว เพือ่ ไปยังเหมืองเกลือทีต่ งั้ อยูบ่ นภูเขา ทีม่ คี วามสูง กว่าระดับนํ้าทะเลประมาณ 838 เมตร เป็นช่วง เวลาที่ตื่นเต้นเร้าใจมากเลยค่ะสำ�หรับคนที่กลัว ความสูงอย่างฉัน การเที่ยวชมเหมืองเกลือนั้น สามารถเที่ยวชมได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายนตุลาคมของทุกปี และด้านบนภูเขายังมีจดุ ชมวิวที่ มีชื่อเสียงมาก ชื่อว่า Skywalk ที่สร้างเป็นสะพาน รูปสามเหลี่ยมยื่นออกไปเหนือชะง่อนผา ให้เรา สามารถออกไปยืนถ่ายรูปได้อย่างหวาดเสียวสุด ๆ แต่ก็เป็นมุมที่มองเห็นวิวได้สวยสุด ๆ เช่นกัน ก็ตอ้ งยอมแลกนะคะ ในเมืองนีท้ กุ ทีแ่ ละหน้าบ้าน ทุกหลังประดับดอกไม้ได้อย่างงดงาม บรรยากาศ ในเมืองก็ร่มรื่นเป็นที่สุดค่ะ และที่พลาดไม่ได้อีกที่ ฉันขอแนะนำ�ให้ทุก ท่านไปพิสจู น์ความกล้ากันที่ ไบน์เฮาส์ (Beinhaus) หรือโบน์เฮาส์ (Bone House) ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุสาน ที่สวยที่สุดในโลก เป็นอาคารขนาดเล็กที่แยก ออกจากคริสตจักร ภายในเป็นที่เก็บหัวกะโหลก มากกว่า 1,200 กะโหลก และแต่ละกะโหลกจะ มีชอื่ ของเจ้าของสลักติดไว้ดว้ ย ส่วนใหญ่เป็นของ ผู้ที่เสียชีวิตในช่วงศตวรรษที่ 18-19 เมื อ ง Hallstatt นั้ นช่ า งสวยงามราวกั บ 2 ภาพวาด เวลาที่เราค้นหาเรื่องราวของประเทศ
ออสเตรีย ชื่อและภาพของเมืองนี้จะปรากฏขึ้น เป็นที่แรก ๆ เสมอ สิ่งสำ�คัญประการหนึ่งที่เรา ควรทราบไว้ก็คือ ร้านค้า ร้านอาหาร และซูเปอร์ มาร์เก็ตในเมืองนี้ ส่วนใหญ่จะปิดในเวลา 6 โมงเย็น อย่ามัวแต่เทีย่ วเพลิน เดี๋ยวจะอดดินเนอร์อร่อย ๆ ได้นะคะ แล้วฉันก็มาเยือนเมืองที่สองของออสเตรีย นัน่ คือ เมือง Salzburg ซาลซ์บรู ก์ เป็นเมืองมรดกโลก และเมื อ งศู น ย์ ก ลางทางการค้ า ที่ สำ � คั ญ ของ ออสเตรียมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ตัวเมืองแบ่ง เป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งเมืองใหม่และฝั่งเมืองเก่า โดย มีแม่นํ้า Salzach คั่นกลาง นี่ก็เป็นอีกเมืองหนึ่ง ที่มีทิวทัศน์สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและ ทะเลสาบเช่นกัน สถานทีห่ ลายแห่งถูกใช้เป็นฉาก ในการถ่ายทำ�ภาพยนตร์ และที่นี่ยังเป็นบ้านเกิด ของโมสาร์ท คีตกวีชื่อดังระดับโลกอีกด้วย คำ�ว่าซาลซ์ (Salz) ในภาษาเยอรมันนัน้ แปลว่า เกลือ ถ้าจะแปลตรง ๆ ซาลซ์บูร์ก ก็แปลได้ว่า ปราสาทเกลือ เพราะในสมัยก่อนเกลือเป็นสิ่ง
ที่หายาก มีค่าดุจทองคำ�ในสมัยนี้ ใครได้ครอบ ครองก็เรียกได้ว่ามีอำ�นาจและรํ่ารวยมหาศาล เลยทีเดียวค่ะ 3 และถ้าทุกท่านมีโอกาสมาที่ซาลซ์บูร์กแล้ว ละก็ สถานทีท่ ฉ่ี นั ไม่อยากให้พลาดก็คอื สวนมิราเบล (Mirabell Garden) เป็นสวนที่ตกแต่งสไตล์บารอค ความงดงามของสวนนั้นยากจะบรรยายออกมา เป็นตัวหนังสือ ฉันอยากให้ทกุ ท่านได้มาเห็นจริง ๆ เลยค่ะ ใช้คำ�ว่าสวยเหมือนสวรรค์ก็ดูว่าน่าจะ ใกล้เคียงที่สุด ภายในสวนประกอบไปด้วยรูปปั้น และนํ้าพุแบบบารอค ภายในบริเวณเดียวกันนี้ ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังมิราเบล พระราชวัง แห่ ง นี้ เป็ น หนึ่ ง ในฉากคลาสสิ ก ของภาพยนตร์ เรื่อง The Sound of Music พระราชวังมิราเบลนี้ เป็นพระราชวังที่ Prince-Archbishop Wolf Dietrich Von Raitenau สร้างขึ้นในปี 1606 เพื่อให้ภรรยา ผู้เป็นที่รัก ปัจจุบันวังแห่งนี้ถูกปรับให้เป็นสถานที่ ราชการและที่ทำ�งานของสภาเทศบาล แต่ก็ยังคง เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมห้องต่าง ๆ ได้ โดยไม่เสีย happy+ | 77
ค่าใช้จา่ ย และวังแห่งนีย้ งั เป็นทีน่ ยิ มใช้เป็นสถานที่ จัดงานแต่งงาน ที่แสดงคอนเสิร์ตของที่นี่ด้วย พิพธิ ภัณฑ์โมสาร์ทเกบูรต์ สเฮาส์ (Mozart Geburtshaus) บ้านสีเหลืองสดเลขที่ 9 นี้ เป็น สถานที่ที่โมสาร์ทเกิดและอาศัยอยู่มากกว่า 20 ปี โมสาร์ทมีชื่อเต็ม ๆ ว่า วูล์ฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ต่อมาบ้าน หลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ออกแบบให้ เหมือนตอนที่โมสาร์ทยังมีชีวิตอยู่มากที่สุด จัด แสดงประวั ติ แ ละผลงานของโมสาร์ท รวมทั้ ง เครื่องดนตรีในสมัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นไวโอลินหรือ เปียโน และยังมีรูปภาพและจดหมายที่เขียนถึง คนในครอบครัว ตอนนี้รูปปั้นของโมสาร์ทก็ยัง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่จัตุรัสโมสาร์ท ให้เราไปร่วม ชื่นชมในความเป็นอัจฉริยภาพของเขาได้ ป้ อ ม โฮ เ ฮ นซ า ล ซ์ บู ร์ ก ( F e s t u n g Hohensalzburg) เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอำ�นาจ ทางโลก ของอาร์ชบิชอปเกบฮาร์ด สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1077 เพือ่ เป็นทีพ่ �ำ นักหลวงและป้องกันข้าศึก แต่สร้างเสร็จจริง ๆ ในปี ค.ศ. 1681 ปัจจุบันได้รับ การยกย่องว่าเป็นป้อมปราการซึง่ หลงเหลือความ สมบูรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมีตำ�หนักใหญ่ คุกใต้ดิน ห้องทรมานนักโทษ สิ่งที่น่าสนใจเป็น พิเศษคือ เตาผิงทีป่ ดู ว้ ยกระเบือ้ งทีม่ คี วามทนทาน มาตัง้ แต่ปี 1501 ทีต่ ง้ั อยูใ่ นห้องทอง และยังมีภาพเขียน จากคัมภีร์ไบเบิลอีกด้วย สิ่งแรกที่ฉันมองเห็น เมือ่ มาถึงซาลซ์บรู ก์ ก็คอื ป้อมแห่งนี้ เพราะว่าป้อม ตั้ ง อยู่ บ นเนิ น เขาเหนื อ เมื อ ง มองเห็ น โดดเด่ น มาแต่ไกล และถ้ามีแรงเดินขึ้นไปด้านบนของ ป้อมแล้วมองลงมายังเมือง ก็จะมองเห็นวิวเมือง ซาลซ์บูร์กรอบด้าน มองเห็นแม่นํ้าซาลซ์ซักค์ ที่ แบ่งซาลซ์บูร์กออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา นํ้าใน แม่นํ้าจะเป็นสีเขียวและใสมาก เนื่องจากในนํ้ามี แร่ธาตุอยู่มาก เห็นแล้วอยากเล่นนํ้ามาก ๆ ค่ะ แต่อากาศเย็นระดับนี้ก็คงจะไม่ไหวแน่นอน ใน เมืองเราสามารถเดินเล่นได้สบาย เพราะสถานที่ ท่องเที่ยวต่าง ๆ อยู่ไม่ไกลกันนัก แถมอากาศ ของที่นี่ก็เย็นสบาย เหมาะกับการเดินมากเลยค่ะ ในที่สุดฉันก็มาถึงเมืองสุดท้ายของทริปนี้ แล้ว นั่นคือ Vienna เมืองหลวงของประเทศ ออสเตรีย เป็นดินแดนแห่งดนตรีคลาสสิก เป็น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการปกครองของ ประเทศ และยังเป็นเมืองแห่งเสียงเพลง ที่มีทั้งวง ออเคสตราระดับโลก เป็นเมืองเกิดของนักดนตรี 78 | happy+
และนักประพันธ์เพลงระดับโลกหลายคน เช่น Mozart, Beethoven, Johann Strauss, Johann Strauss Jr. มี จุ ด ท่ อ งเที่ ย วสำ � คั ญ อยู่ ห ลายที่ เช่ น พระราชวังเชิงบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อนเชิงบรุนน์ แปลว่า นํ้าพุอัน สวยงาม ซึ่งชื่อนี้มาจากบ่อนํ้าบาดาลที่ผุดขึ้นมา ในบริเวณนัน้ และพระจักรพรรดิได้ทอดพระเนตรเห็น ในครั้งแรกที่เสด็จมาพื้นที่บริเวณนั้น จึงตั้งชื่อ พระราชวังตามบ่อนํ้าบาดาล พระราชวังแห่งนี้ ว่ากันได้แบบอย่างมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ ที่ ป ระเทศฝรั่ ง เศส อาคารสไตล์ โรโคโคที่ ใหญ่ ที่สุดในประเทศออสเตรีย การตกแต่งช่างหรูหรา อลังการเหลือเกินค่ะ มีห้องมากกว่า 1,400 ห้อง ที่ นี่ เคยเป็ นที่ พำ � นั ก ของสมเด็ จ พระจั ก รพรรดิ ฟรันซ์ โยเซฟ, สมเด็จพระจักรพรรดินมี าเรีย เทเรซา และบรรดาผู้ปกครองของประเทศออสเตรียองค์ อื่น ๆ แต่เดิมด้านหลังของพระราชวังจะเป็นป่า ใช้ สำ � หรั บ ล่ า สั ต ว์ แต่ ภ ายหลั ง ได้ มี ก ารจั ด ทำ � สวนดอกไม้ ที่ ยิ่ ง ใหญ่ ต ระการตาด้ า นหลั ง ของ พระราชวัง แถมยังมีเขาวงกตและสวนสัตว์แห่ง ศตวรรษที่ 18 ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสัตว์แห่งแรก
ของโลกอีกด้วย ตื่นตาตื่นใจไปหมดทุกที่เลยค่ะ โรงละคร โรงโอเปร่าแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) หรือรู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่า “วีเนอร์ สตาทโซเพอร์ ” ถื อ เป็ น สิ่ ง ก่ อ สร้ า งอั น ยิ่ ง ใหญ่ แห่งแรก ทีส่ ร้างเสร็จในใจกลางของริงชตราสตัง้ แต่ ปี 1869 หลังจากที่ได้รับความเสียหายในระหว่าง ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โรงอุปรากรแห่งนี้ก็ได้ รับการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างสุดความสามารถ เช่นกัน เพือ่ ให้กลับไปมีความสวยงามเหมือนในอดีต อาคารในสไตล์เรเนสซองส์และการตกแต่งภายใน แบบปิดทอง หรูหราประดับประดาไปด้วยรูปปั้น เชิงสัญลักษณ์ สวยงามละเอียดตั้งแต่ผืนพรมไป จนผนังอาคาร ปัจจุบนั ยังมีการแสดงต่าง ๆ จัดขึน้ ทีโ่ รงอุปรากรแห่งชาติเวียนนานีเ้ กือบทุกวัน ทำ�ให้ ทีน่ กี่ ลายเป็นสถานทีจ่ ดั แสดงอุปรากรทีใ่ หญ่และ สวยทีส่ ดุ แห่งหนึง่ ในโลก มีหอ้ งประชุมขนาดใหญ่ สามารถจุ ผู้ ช มได้ 2,200 คน และถื อ เป็ น โรงละครแห่งแรกในเวียนนา อาคารรัฐสภาออสเตรีย (Austrian Parliament Building) เป็ นที่ ป ระชุ ม สภาออสเตรี ย มานั บ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในช่วงเวลาการปกครองโดย จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ อาคารหลังนี้มีรูปแบบ
สถาปั ต ยกรรมแบบฟื้ น ฟู ก รี ก ด้ ว ยเสาโรมั น ต้นใหญ่ ๆ รูปปั้นและห้องโถงต่าง ๆ ที่นี่ทำ�ให้ เราเห็นถึงงานออกแบบภายในอันเป็นเลิศของ ประเทศออสเตรีย ด้านนอกอาคาร ต้องไม่พลาด ไปชมนํ้าพุ Pallas Athena นํ้าพุนี้เป็นผลงานการ ออกแบบโดย Hansen มีเทพีอะธีนายืนเด่นเป็น สง่าอยู่ เสริมด้วยรูปปั้นอื่น ๆ ซึ่งเปรียบเสมือน เขตแคว้นต่าง ๆ ของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี บริเวณอื่น ๆ ภายในอาคารยังมีห้องสมุด บาร์
คาเฟ่ และหอคณะกรรมการแห่งชาติ อาคาร บ้ า นเมื อ งและงานศิ ล ปะที่ นี่ ช่ า ง งดงาม หรู ห ราและละเอี ย ดลออ แต่ ก็ ค นละ แบบกับของบ้านเราและประเทศทางแถบเอเชีย การได้เดินทางไกลมาดู มาเปิดหูเปิดตาและเรียนรู้ เรือ่ งราวใหม่ ๆ ในชีวติ ของฉันครัง้ นี้ ช่างเป็นโชคดี จริง ๆ ค่ะ เราได้เห็นวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่แตกต่าง จากเรา เหมือนเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้ฉันรู้จัก ได้รัก และได้เปิดหัวใจอีกครั้ง happy+ | 79
การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่องและภาพ : Patty Pom
เดินทอดน่อง ท่องย่านเก่า
1 1
บางลำ�พู เป็นย่านทีม่ คี วามสำ�คัญและมีประวัตคิ วามเป็นมาทีน่ า่ สนใจและน่าเรียนรูอ้ กี แห่งหนึง่ ของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมศิลปิน ช่างฝีมอื เป็นย่านที่รวบรวมศิลปะ วัฒนธรรมที่สำ�คัญของชาติไทย และอนุรักษ์ไว้ตราบจนทุกวันนี้ ในอดีตบางลำ�พูเคยเป็นแหล่งลงสินค้าเกษตรกรรม เป็นย่านที่พ่อค้าชาวจีนจอดเรือสำ�เภาเพื่อลงสินค้า ทำ�ให้เกิดย่านการค้าที่คึกคัก และเป็นย่านบันเทิงมาตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 5 บ้านครู ศุข ดุริยประณีต และครูดนตรีปี่พาทย์ท่านอื่น ๆ มีการละเล่นมหรสพต่าง ๆ คณะลิเกหอมหวนก็มาเปิดวิกแสดงที่นี่ จึงเป็นย่านที่คึกคักไม่น้อย วันนี้เราจะย้อนอดีตกลับไปเดินเล่นพร้อมหาความรู้ด้านประวัติศาสตร์ สัมผัสชีวิตที่เรียบง่าย และผูกพันกับศิลปะกันค่ะ 80 | happy+
2
4
5
3
ย่านบางลำ�พูมสี ถานทีท่ นี่ า่ สนใจมากมายซึง่ สามารถเดินเที่ยวได้ใน 1 วัน แถมมีร้านอาหาร อร่อยให้ชิมไปตลอดทาง รับรองว่ามาเดินเล่น แล้วจะได้ความรู้ คู่ความสุขแน่นอน ทางเคทีซี หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำ�กัด (มหาชน) จึง จัดกิจกรรม ‘เดินทอดน่อง ท่องย่านเก่า’ พาเรา ไปเดินชมย่านบางลำ�พู มาดูว่าฉันได้ไปเดินชม ที่ไหนมาบ้างค่ะ สวนสันติชัยปราการ ที่ตั้งของป้อมปราการ 1 เก่าแก่ ‘ป้อมพระสุเมรุ’ โบราณสถานสำ�คัญ ของชาติ ห นึ่ ง ในสองป้ อ มที่ ยั ง หลงเหลื อ อยู่ ใน กรุ ง เทพมหานคร เป็ น อี ก แห่ ง หนึ่ ง ที่ ส ามารถ นั่งชมวิวสะพานพระราม 8 และแม่นํ้าเจ้าพระยา แบบสบาย ๆ และร่มรื่น บริเวณใกล้เคียงก็เต็มไป ด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ แถมยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่ คึ ก คั ก มี ช าวต่ า งชาติ ม าพั ก และสร้ า งสี สั น
ให้แก่ถนนสายนี้ ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนให้ เป็นย่านท่องเที่ยว เปลี่ยนแปลงจากในอดีตไป มากแล้ว แต่เพียงแค่เดินข้ามคลองมา เราก็จะ พบชุมชนที่ยังคงอยู่กันแบบเรียบง่าย เป็นชุมชน ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทั้งไทย จีน มอญ และอิสลาม ทั้งยังเป็นชุมชนของศิลปิน ที่ยังคงรักษาสมบัติดั้งเดิมไว้ได้มาก และสวน แห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีในโอกาส สำ � คั ญ ต่ า ง ๆ เพื่ อ เฉลิ ม พระเกี ย รติ พ ระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 พร้อมทั้งดำ�เนินการจัดสร้างพระที่นั่ง ขึ้นในบริเวณสวน เพื่อถวายเป็นถาวรวัตถุที่ระลึก แห่ ง พระมหากรุ ณาธิ คุ ณ เนื่ อ งในโอกาสนี้ ด้ ว ย และได้รับพระราชทานชื่อว่า ‘พระที่นั่งสันติชัย ปราการ’
สมั ย รั ช กาลที่ 5-7 บางลำ � พู ก ลายเป็ น ศู น ย์ ก ลางด้ า นดนตรี ไทย และการแสดงด้ า น ศิลปวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง สถานที่หนึ่งที่ยังคง สืบทอดการบรรเลงดนตรีไทยมาจวบจนทุกวันนี้ คือ บ้านดุรยิ ประณีต ซึง่ เป็นบ้านของ ครูสดุ จิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติ ที่แห่งนี้ยังคงเป็น แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านดนตรีไทย อันเป็น สมบั ติ ที่ สำ � คั ญ อี ก อย่ า งของชาติ ไทย ที่ ยั ง คง สืบสานมาจวบจนทุกวันนี้ และเป็นอีกสัญลักษณ์ หนึ่งของย่านบางลำ�พู โดยคุณชยันตรี อนันตกุล ทายาทลำ�ดับที่ 3 มาบอกเล่าเรือ่ งราวและประวัติ ของบ้ า นหลั ง นี้ ให้ เราฟั ง พร้ อ มชมการแสดง เดี่ ย วระนาดเอก การแสดงขิ ม จากศิ ษ ย์ บ้ า น ดุริยประณีต ปัจจุบันนี้ที่นี่ก็ยังคงสืบทอดและ ถ่ายทอดวิชาดนตรีไทยให้แก่เยาวชนและผู้สนใจ ดังปณิธานของบรรพบุรุษสืบทอดกันมา ร้านไทยนคร ร้านรับทำ�เครือ่ งถมแห่งเดียว ที่ยังหลงเหลืออยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งดำ�เนินกิจการ รักษาขั้นตอนและวิธีการทำ�แบบดั้งเดิมมาเกือบ 1 ป้อมพระสุเมรุ 2 พระทีน่ ง่ั สันติชยั ปราการ 3 ภาพนูนตํา่ วิถชี วี ติ ชาวบางลำ�พู 4 มองเห็นวิวสะพานพระราม 8 5 บ้านดุรยิ ประณีต happy+ | 81
6 พิพิธบางลำ�พู 7 จำ�ลองความบันเทิงย่านบางลำ�พู 8 สภากาแฟโบราณ
7
6
100 ปี สินค้าเครื่องเงิน เครื่องถมของร้านไทย นคร เป็นสินค้าเครื่องเงิน เครื่องถมสำ�เร็จรูป รายแรกของประเทศไทยที่ส่งออกไปยังทั่วโลกมา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 วันนี้เราได้ทำ�ความ รู้จักและฟังเรื่องราวที่น่าสนใจของเครื่องถมเงิน กันมากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสได้ชมการสาธิตการ ทำ�เครื่องถมเงินถมทอง ที่พัฒนาและต่อยอดมา จากเครือ่ งถมแบบโบราณ จนกลายเป็นสินค้าของ ประเทศไทยทีม่ ชี อื่ เสียงเป็นทีย่ อมรับ และพระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช เคยเสด็จพระราชดำ�เนินมาทอดพระเนตรเครือ่ งถม ที่ ร้ า นแห่ ง นี้ ตั้ ง แต่ เ มื่ อ ครั้ ง ทรงพระเยาว์ ที่ สำ � คั ญ พระองค์ เ คยมี รั บ สั่ ง ให้ ซื้ อ เครื่ อ งถม ดังกล่าวไปพระราชทานแก่แขกบ้านแขกเมือง แขกผู้มีเกียรติ รวมถึงแขกที่เป็นชาวต่างประเทศ อีกด้วย นับเป็นเกียรติและสร้างความภาคภูมิใจ ให้ทางร้านเป็นอย่างสูง ซึ่งเครื่องถมของทางร้านสวยงามและทรง 6 คุณค่ามากทีเดียวค่ะ ถ้าใครสนใจอยากซื้อไว้ เป็นทีร่ ะลึก ทางร้านก็มเี ครือ่ งใช้และเครือ่ งประดับ จำ�หน่าย หรือแค่มาชมเครือ่ งถมเงินถมทองสวย ๆ ก็ ส บายใจและทึ่ ง ไปกั บ ฝี มื อ และความงาม แล้วละค่ะ 82 | happy+
5
8
วัดบวรนิเวศวิหารราชวรมหาวิหาร เป็นพระ อารามหลวงชัน้ เอก พระอารามนีเ้ คยเป็นทีป่ ระทับ ของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และเป็น ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่ง เป็นแหล่งกำ�เนิดการศึกษาของคณะสงฆ์ ถือเป็น มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งแรกของไทย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่ ง เกล้ า เจ้ า อยู่ หั ว พระอุ โ บสถเป็ น แบบ ศิลปะวังหน้า มีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน
ซึ่งเคยเป็นสถานที่จำ�พรรษาของบูรพกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์จักรีขณะที่ทรงผนวช เรามีโอกาสได้สักการะพระพุทธสุวรรณเขต พระประธานที่ อั ญ เชิ ญ มาจากเมื อ งเพชรบุ รี พระพุทธชินสีห์ จากเมืองพิษณุโลก ทีป่ ระดิษฐาน อยู่ ภ ายในพระอุ โ บสถ และพระนิ รั น ตราย พระพุทธรูปทีส่ �ำ คัญในฝ่ายธรรมยุตกิ นิกาย ภายใน พระอุ โ บสถยั ง มี ภ าพจิ ต รกรรมฝาผนั ง ของ ขรัวอินโข่ง ที่แฝงปรัชญาทางพระพุทธศาสนา เอาไว้ อ ย่ า งลึ ก ซึ้ ง สั ก การะพระไพรี พิ น าศ ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนขององค์พระเจดีย์สีทอง ภายในพระอารามแห่งนี้ และปิดท้ายของวันด้วยพิพธิ ภัณฑ์ทนี่ า่ สนใจ อีกแห่งในย่านนี้ พิพธิ บางลำ�พู ทีก่ รมธนารักษ์ได้ ปรับปรุงอาคารโรงเรียนช่างพิมพ์วดั สังเวช มาเป็น พิพธิ ภัณฑ์ทบี่ อกเล่าเรือ่ งราวความเป็นมาและวิถี ชีวติ ของชุมชนบางลำ�พูตงั้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ที่ เป็นทัง้ ย่านการค้าทีส่ �ำ คัญและแหล่งความบันเทิง ที่มีสีสันที่สุดในอดีต ภายในอาคารเริ่มต้นจาก นิทรรศการบทบาทและภารกิจของกรมธนารักษ์ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษามหาราชินี นิทรรศการป้อมและกำ�แพงเมืองแห่งพระนคร มี การจัดแสดงทีน่ า่ สนใจแบบอินเตอร์แอ็คทีฟให้เรา มีส่วนร่วม และได้เห็นภาพที่แจ่มชัดเกี่ยวกับเรื่อง ราวในอดีต เหมือนเราได้ยอ้ นอดีตกลับไปเดินเล่น และเห็นบ้านเมืองจริง ๆ เลยค่ะ บริเวณพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ยังร่มรื่นไปด้วย ต้นไม้นานาพันธุ์ เป็นการเพิม่ พืน้ ทีส่ เี ขียวและลาน กิจกรรมให้แก่ประชาชนทัว่ ไป และส่งเสริมให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่ทำ�ลายเอกลักษณ์ เฉพาะตัวและศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม เราจะได้ ร่วมเดินทางตามหาขุมทรัพย์ย่านบางลำ�พูตาม ลายแทงทีไ่ ด้รบั มา เพือ่ ทีจ่ ะได้เข้าใจความสำ�คัญ ของชุมชนบางลำ�พูมากยิ่งขึ้น ฉันได้มีโอกาสใช้เวลา 1 วัน ในการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์และรู้จักชุมชนแห่งนี้มากขึ้น ช่าง เป็นวันทีด่ แี ละประทับใจจริง ๆ ค่ะ อยากให้ทกุ ท่าน ได้มาสัมผัสและเรียนรู้แบบนี้บ้าง ชาวบ้านใน ชุมชนแห่งนีย้ นิ ดีตอ้ นรับผูท้ มี่ าเยือนด้วยอัธยาศัย ไมตรี และพร้อมที่จะบอกเล่าเรื่องราวของชุมชน ที่พวกเขารักด้วยความภาคภูมิใจ ทำ�ให้เรารู้สึก ภูมใิ จในประวัตศิ าสตร์ของชาติเราขึน้ อีกมากเลย ทีเดียวค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณธานัท ภุมรัช นักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานพัฒนาการท่องเที่ยว กองการท่องเที่ยว สำ�นักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร และบริษัท บัตรกรุงไทย จำ�กัด (มหาชน)
one happy day เรื่องและภาพ : TepiN
พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย
รถไฟ ถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคมในประเทศไทยมาร่วมร้อยกว่าปี ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดย มีประกาศพระบรมราชโองการสร้างทางรถไฟสยาม ตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงนครราชสีมา ลงวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2433 และเปิดให้ประชาชน ได้ใช้้เป็นครั้งแรก เส้นทางระหว่างกรุงเทพมหานครถึงพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2439 ด้วยประวัติอันยาวนาน ทำ�ให้ 1 พิพิธภัณฑ์รถไฟไทยถูกจัดสร้างขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล และสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรถไฟไทย 84 | happy+
พิพธิ ภัณฑ์รถไฟไทย (Thai Railway Museum) จั ด ตั้ ง ขึ้ น โดยมู ล นิ ธิร ถไฟไทย (Thai Railway Foundation) อยูภ่ ายในบริเวณสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า สถานีรถไฟ หัวลำ�โพง เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวัน ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558 การสร้างพิพิธภัณฑ์ แห่ ง นี้ มี แ นวคิ ด เกิ ด ขึ้ น เนื่ อ งจากสถานี ก ลาง บางซื่อที่กำ�ลังสร้างขึ้นมาใหม่ หากแล้วเสร็จจะ กลายเป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟแทนสถานีรถไฟ หัวลำ�โพง ส่งผลให้ขบวนรถไฟทีจ่ ะเข้ามายังสถานี หัวลำ�โพงลดลงมาก เหลือเฉพาะรถไฟดีเซลท่องเทีย่ ว และรถไฟชานเมื อ งเท่ า นั้ น จึ ง มี ค วามคิ ด ที่ จะพัฒนาสถานีรถไฟหัวลำ�โพงเป็นพิพิธภัณฑ์ รถไฟเหมือนรูปแบบในต่างประเทศ เพือ่ ให้กลายเป็น แหล่งสำ�คัญทางประวัติศาสตร์ของการรถไฟ พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย แบ่งห้องจัดแสดงออก เป็น 2 ห้อง คือ ห้องชั้นล่างและห้องชั้นบนที่เป็น ชั้นลอย ชั้นล่างจะจัดแสดงเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการรถไฟ ทั้งเครื่องตราทางสะดวก มีลักษณะเป็นกล่องเหล็กสีเขียวขี้ม้า ใช้สำ�หรับ ขอทางสำ�หรับรถไฟทีจ่ ะเข้าสถานีถดั ไป โดยส่งคำ�ขอ ผ่านสายสัญญาณเพือ่ ให้ปลายทางยืนยันว่า ทาง สะดวกสำ�หรับให้รถไฟเข้าจอดยังสถานีหรือไม่ เครื่ อ งประทั บ วั นที่ บ นตั๋ ว เป็ น เครื่ อ งที่ ใช้ happy+ | 85
สำ�หรับประทับวันที่เดินทางบนตั๋ว โดยจะเอาตั๋ว ใส่เข้าไปในช่องและประทับวันที่บนหลังตั๋ว เป็น ที่มาของคำ�ว่า ตีตั๋ว นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง ตัว๋ รถไฟในสมัยก่อน ซึง่ ในอดีตตัว๋ รถไฟมีลกั ษณะ เป็นตัว๋ หนา ตามมาตรฐาน Edmonson คือ มีความ หนาระหว่าง 0.6-0.8 มม. กว้าง 30.5 มม. และ ยาว 57 มม. ผิวหน้าหลังตัว๋ ต้องซึมซับหมึกชัดเจน เรียบลื่นและมีความแข็งเพียงพอ ไม่หักงอขณะ พิมพ์ โดยตั๋วหนาที่ใช้สมัยก่อนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ นำ�เข้าจากต่างประเทศ สันนิษฐานว่าต้นแบบของ ตั๋วหนานำ�มาจากประเทศเยอรมนี โดยแรกเริ่มสี ของตั๋วหนาจะบ่งบอกถึงชั้นที่นั่งด้วย เช่น ชั้นที่ 1 ใช้ตั๋วหนาสีเหลือง ส่วนชั้นที่ 2 ใช้ตั๋วหนาสีเขียว และชั้นที่ 3 ใช้ตั๋วหนาสีส้ม โดยลักษณะเด่นของ ตัว๋ ทุกใบจะมีการพิมพ์ค�ำ ว่า The State Railway of Thailand ติดต่อกันเต็มด้านหน้าของตัว๋ เพือ่ กันการ ปลอมแปลง หลังจากนั้นตั๋วรถไฟก็มีวิวัฒนาการ มาเรื่อย ๆ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องสีและรูป แบบ จนมาถึงยุคปัจจุบันที่ยกเลิกตั๋วลักษณะ ดังกล่าวไปแล้ว แต่เราสามารถดูความแตกต่างของ ตั๋วรุ่นเก่าได้จากตั๋วที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ และ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถสแกนดูข้อมูล จาก QR Code ที่อยู่ตามมุมต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งภาษา ไทย และภาษาอังกฤษ 86 | happy+
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในรถไฟ อาทิ ช้อนส้อม ถ้วยชามของตู้เสบียง ของที่ระลึก ต่าง ๆ ของการรถไฟ รวมทั้งโมเดลรถไฟจำ�ลอง ทั้งของไทยและของต่างประเทศ เครื่องคิดเลขใน สมัยโบราณ ที่ใช้สำ�หรับคิดราคาค่าตั๋วโดยสาร รวมทั้งหนังสือและวารสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ รถไฟไทย บริเวณชั้นลอย มุมหนึ่งจำ�ลองรูปแบบที่นั่ง ในรถไฟ อีกส่วนจัดแสดงภาพวาดเกี่ยวกับข้อ ปฏิบัติในการใช้รถไฟอย่างระมัดระวัง และยังมี พระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวจัดแสดงอีกด้วย มาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เราจะได้รับรู้ถึงประวัติ ความเป็นมาของการรถไฟอย่างเต็มที่ รวมทั้งยัง ได้เห็นอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ทีใ่ ช้ในรถไฟ ทีไ่ ม่ได้มโี อกาส เห็นกันง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ
• พิพธิ ภัณฑ์รถไฟไทย ตัง้ อยูท่ ี่ สถานีรถไฟ กรุงเทพ (หัวลำ�โพง) แขวงรองเมือง เขต ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 • โทรศัพท์ : 0-2220-4195 • เวลาเปิ ด -ปิ ด : เปิ ด ให้ เ ข้ า ชมทุ ก วั น 10.00-17.00 น. • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย • Facebook : https://www.facebook.com/ pg/trftrm/
green corner เรื่องและภาพ : TepiN
สวนเบญจกิติ
สวนป่าขนาดใหญ่ เพื่อคนเมือง
สำ�หรับพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงที่สามารถเดินทางไปได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก หนึ่งในสถานที่ที่คนนึกถึงต้องมีสวนเบญจกิติอยู่ด้วยแน่นอนค่ะ สวนเบญจกิติ อยู่ระหว่างถนนพระรามที่ 4 กับถนนสุขุมวิท สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สวนสาธารณะแห่งนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวาระพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยแนวคิดของการจัดสร้างสวนเบญจกิตินั้น คือต้องการให้เป็นสวนสาธารณะในรูปแบบ Urban Park ขนาดใหญ่ รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตและกิจกรรม ต่าง ๆ ของคนเมืองได้อย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ประชาชน ที่จะเข้าไปใช้บริการในสวนสาธารณะขนาดพื้นที่กว่า 430 ไร่ 88 | happy+
แต่ เดิ ม พื้ นที่ ดั ง กล่ า วเป็ นที่ ตั้ ง ของโรงงานยาสู บ การจั ด สร้ า ง สวนสาธารณะเป็นส่วนหนึง่ ของโครงการพัฒนาพืน้ ทีท่ ดแทนโรงงานยาสูบ ตามมติ ค ณะรั ฐ มนตรี ใ นรั ฐ บาลนายอานั นท์ ปั น ยารชุ น ที่ ให้ ย้ า ย โรงงานยาสูบออกไปนอกกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นจึงได้ปรับพื้นที่ โดยรอบบึงยาสูบ ขนาด 200×800 เมตร ให้กลายเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งชื่อสวนเบญจกิติ ก็ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ ซึง่ เสด็จฯ มาทรงทำ�พิธเี ปิดเมือ่ วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ต่อมาโรงงานยาสูบได้มอบพื้นที่เพิ่มอีก 61 ไร่ เพื่อทำ�เป็น สวนป่า เบญจกิติ สำ�หรับปลูกไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เช่น แคนา เสลา และกระโดน เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นสวนป่าที่ร่มรื่น จึงนับว่าสวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในกรุงเทพมหานครที่มีสวนป่า จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ บึงนํ้าหรือที่หลายคนเรียกว่า ทะเลสาบ ขนาด 86 ไร่ ที่ทอดยาว ไกลจนสุดลูกหูลูกตา มีทางสำ�หรับ วิ่งและเดินออกกำ�ลังอยู่รอบบึงนํ้า ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร วิ่งไปก็ได้ ทั้งออกกำ�ลังกาย และชมวิวสวย ๆ ไปด้วย นอกจากนั้น ที่นี่ก็ยังมีการ จัดแบ่งพื้นที่ไว้สำ�หรับการปั่นจักรยาน โดยทำ�เป็นทางคู่ขนานกับทางวิ่ง ออกกำ�ลังกาย สามารถนำ�จักรยานมาเองก็ได้ หรือจะมาเช่าจักรยานที่ สวนก็มีเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในบึงนํ้าอย่างการปั่นเรือเป็ด และพายเรือที่มีให้เช่าเป็นรอบ ๆ รอบละครึ่งชั่วโมง ช่วงแดดร่มลมตก จะ เห็นผู้ปกครองพาเด็ก ๆ ไปปั่นเรือเป็ดกันเยอะแยะเต็มบึงเลยค่ะ ด้านในสวนเบญจกิตกิ ร็ ม่ รืน่ ด้วยต้นไม้ใหญ่ นอกจากจะเป็นแหล่งความรู้ เกี่ยวกับพรรณไม้ในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ อีกอย่าง บริเวณลานเบญจกิติ ซึ่งเป็นลานกว้างเชื่อมต่อระหว่างทางวิ่ง ออกกำ�ลังกับทางจักรยาน ก็คือ ประติมากรรมปทุมชาติ สัญลักษณ์ของ
สวนเบญจกิติแห่งนี้ เป็นประติมากรรมรูปดอกบัวสีทองอยู่บนยอดเสา ที่ลานองค์พระ มีพระพุทธวิสุทธิมงคลประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง สามารถ เข้าไปสักการะได้ตลอดเวลา และยังมีสนามเด็กเล่น ซึง่ อยูใ่ กล้กบั ลานเบญจกิติ มีเครื่องเล่นต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เล่นกัน บริเวณสนามหญ้ามีประติมากรรมนานาชาติให้ได้ชมอีกหลากหลาย เช่น รูปสลักเมอร์ไลออนของสิงคโปร์ เสาหินแบบจีน หรือกงล้อโกนารักของวัดสุรยิ เทพ ในประเทศอินเดีย เดินไปชมไปได้ทั้งออกกำ�ลังกาย ได้ทั้งการพักผ่อนหย่อนใจ และได้ทั้งความรู้จากสัญลักษณ์เด่น ๆ ของแต่ละประเทศอีกด้วยค่ะ
สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 05.00-20.00 น. happy+ | 89
ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก
ปลูกผักแบบไม่ขุดดิน ทำ�ได้ด้วยนะเธอ สวัสดีครับ ชาว happy+ ผู้รักการปลูกผักทุกท่าน วันนี้ผมได้เจอประสบการณ์ใหม่ในการปลูกผักมาเล่าสู่กันฟังครับ เรื่องมีอยู่ว่า ถ้าเรา ปลูกผักแล้วเจอกับปัญหาที่รบกวนทำ�ให้เราขุดดินไม่ได้ ผมก็เลยนึกกลับกันว่า ถ้าเราไม่ขุดล่ะจะได้ไหม เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น มาลองติดตาม กันดูนะครับ
ดินแฉะ ๆ เหนียวติดมือ อย่าขุดดิน
จุดสำ�คัญประการแรกของศิลปะการขุดดินก็คือ เรา ต้องเข้าใจดินและเป้าหมายการขุดหรือพรวนดิน เราจะ พรวนดินก็เพื่อให้ดินโปร่ง มีอากาศถ่ายเท และระบายนํ้า ได้ดี ดังนัน้ เมือ่ ยามทีด่ นิ เปียก แฉะหรือแน่นเหนียว ก็แสดงว่า มีนํ้าอยู่มากเกินไป ถ้าเราไปขุดดินตอนนี้ ก็จะเท่ากับ เป็นการไปนวด และปั้นดินให้ยึดติดกัน ทำ�ให้เหนียวและ แน่นมากขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรขุดดินช่วงนี้ 90 | happy+
แปลงที่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ ๆ หน้าดินยังร่วนอยู่
จุดสำ�คัญของแปลงผักอีกอย่างหนึง่ ก็คอื หน้าดิน ซึง่ จากการสังเกตของผมพบว่า เมือ่ ตอนที่เราถอนผักและเก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ ๆ หน้าดินหรือดินด้านบนสุดยังคงร่วนดีอยู่มาก เป็นเพราะรากของพืชผักและวัชพืชที่ขึ้นอยู่ในแปลงนั้น ได้ซอกซอนแทงลงไปในดิน รวมไป ถึงไส้เดือนและสัตว์หน้าดินหลายชนิด เช่น ตัวกะปิ ตะเข็บ แมลงตัวเล็ก ๆ อื่น ๆ คอยมุด และเดินไปในดิน และถ้าเอาไปส่องกล้องจุลทรรศน์ดูจะเห็นแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ อีกหลายชนิดอยูใ่ นดิน เคลือ่ นทีซ่ อกซอนไปมาในอนุภาคเล็ก ๆ ทีร่ วมกันเป็นเม็ดดินอีก ชีวติ เหล่านั้นนั่นเอง ที่ช่วยพรวนดินให้เราอยู่ ทำ�ให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ มากมาย
ไม่ต้องขุด แล้วลองปล่อยให้พืชช่วยขุด
ผมจึงฉวยโอกาสนี้หยอดหรือหว่านเมล็ดลงไป โดยเลือกพืชที่มีระบบ รากลึกกว่าพืชเดิมทีผ่ มเคยปลูก เช่น ถ้าปลูกผักกินใบ ผมจะหยอดผักกินฝัก หรือผลตามลงไป ซึ่งหน้าฝนนี้ผมได้ทดลองหยอดกระเจี๊ยบเขียวตามลงไป หลังจากถอนผักบุ้ง ผมเพียงแค่ถอนวัชพืช แล้วเอาฟางหรือหญ้าแห้งมา คลุมหน้าดินเท่านั้น ที่เหลือก็หยอดกระเจี๊ยบเขียวหลุมละ 2-3 เมล็ด แล้ว พอต้นกระเจี๊ยบเขียวงอกขึ้นมา ก็ถอนแยกให้เหลือหลุมละต้น แต่ละต้น ห่างกันสักสองศอกหรือประมาณ 60 เซนติเมตร และก็คอยใส่ปุ๋ยหมักและ นํา้ หมักชีวภาพ สัปดาห์ละครัง้ เป็นปกติ ผลปรากฏว่ากระเจีย๊ บเขียวโตได้ดมี าก โดยไม่ต้องขุดดินเลย แต่เราให้รากพืชช่วยขุดดินให้ นี่เอง ที่เหล่าผู้บุกเบิกและครูเกษตรยั่งยืนหลายท่านจึงได้บอกว่า เกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ มีหลักการอันเป็นหัวใจ คือ “การทำ�งาน กับธรรมชาติ เพื่อคล้อยตามธรรมชาติ” นั่นเอง เพื่อมุ่งไปสู่วิถีเกษตร แบบ “ทำ�เพื่อไม่ต้องทำ�อีก” เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาตินั่นเอง พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีครับ happy+ | 91
กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้
ข้าวผัดชายาปลาส้ม
เมนูนขี้ อส่งเข้าประกวด ประกบหรือเป็นทางเลือก แทนข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม ในยามทีเ่ รามีปญ ั หาเรือ่ งสารเคมีอนั ตรายตกค้างในคะน้าตามตลาด เพราะเราไม่ยอมปลูกคะน้ากินเอง หรือปลาอินทรีเค็มก็หายาก ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ได้รสชาติที่แตกต่าง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ผักชายาหรือคะน้าเม็กซิโก เป็นพืชสวนครัวที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแล โตเร็ว กินอร่อยได้หลาย ๆ แบบ และควรกินสุก ไม่ควรกินดิบ จะต้มยำ�ทำ� แกง ผัด ทอด ก็ได้หมด ส่วนมากนิยมนำ�ใบอ่อนและยอดอ่อนไปปรุงอาหาร และทิ้งส่วนก้านหรือลำ�ต้นไป เมนูนี้เน้นใช้ส่วนก้านที่มีขนาดประมาณ นิ้วก้อยขึ้นไป ลอกเปลือกสีเขียวที่เป็นกาบแข็งเหนียวออก เหลือแต่ส่วนเนื้อในเป็นสีเขียวใส มีรสหวานเล็กน้อย ลวกให้สุกสักหน่อย ก็อร่อยพอเพียง แต่คราวนี้ เราจะหั่นขวางเป็นท่อนเล็ก ๆ เพื่อทำ�ข้าวผัด 92 | happy+
เครื่องปรุง • • • • • • • • • • • • • •
ข้าวสวย 1 ถ้วย ปลาส้ม 2-3 ชิ้น ก้านชายา ลอกเปลือก ล้าง หั่นเป็นแว่น ½ ถ้วย ใบชายา 2-3 ใบ พริกขี้หนูสด 5-7 ดอก สับซอยเล็ก ๆ หอมแดงซอย 1 ช้อนแกง หอมใหญ่หั่นหยาบ 1 ช้อนแกง ไข่ไก่ 1 ฟอง มะนาวแป้นเปลือกบาง หั่นชิ้นเล็ก ½ ผล ถั่วลิสงอบ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอม ผักชี หั่นเป็นท่อน สำ�หรับโรยหน้า แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมนํ้าพอเหลว นํ้ามันรำ�ข้าว สำ�หรับทอดปลาส้มและใบชายา นํ้าปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ผัดข้าวผัดแบบง่าย ๆ
• ตั้งกระทะ เติมนํ้ามัน ไฟกลาง พอนํ้ามันร้อนดี หยิบใบชายา ชุบแป้งลงทอด • ใช้นํ้ามันที่เหลือทอดปลาส้มให้สุกเหลือง แล้วยีเนื้อเป็นชิ้นเล็ก สำ�หรับผัด • ผัดหอมใหญ่กับก้านชายา แล้วตามด้วยส่วนผสมอื่น ใส่นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ • ผัดข้าว ผัดไข่ ใส่นํ้าปลาที่เหลือ • จัดให้สวยงาม โรยถั่วลิสงอบและต้นหอมผักชี ก้านชายาและปลาส้มไปกันได้ดี กินเพลิน และไม่เค็มมากเหมือนกับ ปลาอินทรีเค็ม แต่ได้ความเข้มข้นแบบอมเปรี้ยวอมเค็ม เต็มคำ� ใครมี ที่ว่างริมรั้วหรือหลังครัว ลองปักกิ่งชายาลงในดินฉํ่า ไม่นานนักก็จะได้ แหล่งอาหารที่ดี แบบไร้สารพิษ จะหยิบมากินเมื่อไร สบายใจเมื่อนั้น happy+ | 93
ชวนชิม เรื่อง : It’s a bell / Patty Pom ภาพ : สุภชัย รอดประจง / TepiN
Town Tree Garden & Restaurant จากความฝันอยากเปิดร้านอาหารในวัยเด็กของหุ้นส่วนร้านทั้ง 3 คน จนกระทั่งกลายเป็นร้าน Town Tree ร้าน อาหารท่ามกลางสวนร่มรื่นสไตล์อังกฤษในย่านเกษตร-นวมินทร์ที่โดดเด่นสะดุดตา ภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน • Town Tree Garden & ตัง้ อยูท่ ่ี ตอม่อ 240 ใหญ่ ๆ คือ ตัวร้าน กลาสเฮาส์ และสวน ภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงาม สบายตาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผนังปูนเปลือย Restaurant ถ.ประเสริฐมนูกจิ แขวงนวมินทร์ พร้อมตกแต่งด้วยบรรดาต้นไม้เล็ก ๆ ของเก่าน่ารัก ๆ มากมาย และยังมีมุมขนมหวานและเคาน์เตอร์หลัก พร้อมให้ เขตบึงกุม่ กทม. 10230 • เปิดให้บริการตัง้ แต่เวลา 11.30บริการชา กาแฟตลอดทั้งวัน 23.00 น. เบอร์ตดิ ต่อ 08-3430อาหารไทยฟิวชัน่ รสเด็ดถูกส่งตรงมาจากเชฟฝีมอื ดี มาเริม่ ต้นกันด้วย เกีย๊ วทอดผักโขมชีส (160 บาท) แป้งเกีย๊ ว 6888, 0-2508-0485 กรอบแบบยาวห่อผักโขมผัดชีส ทานคู่กับมายองเนส ตามมาด้วย สลัด Town Tree (200 บาท) สลัดผักเรดโอ๊ก • FB : @Towntreegarden : @Towntree กรีนโอ๊ก เกี๊ยวทอด ราดด้วยซอสวาซาบิมายองเนสให้รสชาติซ่าเล็ก ๆ ที่ปลายลิ้น ต่อมา ข้าวผัดพริกขี้หนูหมูกรอบ •• IG Line ID : @Towntree (160 บาท) หมูกรอบชื่อดังของร้านทาวน์ทรี เนื้อหมูแห้งกรอบกำ�ลังดี ไม่แข็งจนเกินไป ตัดรสด้วยพริกขี้หนูสดผัดลง ในข้าวผัด ราดด้วยนํ้าจิ้มแจ่วรสเด็ด ที่รับรองความอร่อย มาที่เมนูเครื่องดื่มกันบ้าง นํ้า Berry Sour (150 บาท) ผลเบอร์รีสดหลากหลายชนิด นำ�มาบดผสมโซดาและนํ้ามะนาว เติมกลิ่นหอมด้วยใบมิ้นต์ นํ้าลิ้นจี่กุหลาบ (90 บาท) ความอร่อยอย่างกลมกล่อมของ นํ้าลิ้นจี่และกลีบกุหลาบที่ใส่ลงไป เพิ่มรสชาติ กลิ่น และสีสันให้รู้สึกสดชื่น ช็อกโกแลตลาวา (139 บาท) ช็อกโกแลตคุณภาพดี รสชาติเข้มข้น เติมความ หวานจากไอศกรีมวานิลลาและวิปครีม รสชาติละมุนละไมเข้ากันเป็นอย่างดี 94 | happy+
ร้านซากุระ Yakiniku & Shabu Buffet Restaurant อาหารประเภทชาบูและปิ้งย่างเป็นที่นิยมในบ้านเรามานานแล้ว และร้านซากุระที่ดำ�เนินการมาถึง 32 ปี ก็ถือเป็น ตัวจริงในอาหารด้านนี้ และเพื่อความไม่จำ�เจ ทางร้านได้มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมเมนูใหม่เรื่อย ๆ เพิ่มทางเลือกที่ หลากหลายให้ลูกค้า จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านซากุระจะครองใจนักกินเสมอมา สำ�หรับรายการบุฟเฟ่ต์ทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งวัตถุดิบแต่ละอย่างก็คัดสรรมาอย่างดี คุณภาพสูงสุด หลายเมนูนำ�เข้าจากต่างประเทศ เช่น เนื้อสันคอออสเตรเลีย หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ บุฟเฟ่ต์ของทางร้านมี 2 ราคา 499 และ 599 บาท เมนู 599 บาท สามารถทานเมนู 499 บาทได้ทั้งหมด และจะเพิ่มบางอย่าง เช่น กุ้งแม่นํ้า เนื้อแกะ หอย แมลงภู่ และแซลมอนซาชิมิ รวมเครื่องดื่มและไอศกรีมด้วย หรือเมนูเซตประหยัดในราคา 199 บาท สำ�หรับชาบูนั้นก็ มีนํ้าซุปถึง 4 แบบให้ลูกค้าเลือกตามความชอบ ได้แก่ ซุปปลาแห้ง ซึ่งเป็นสูตรออริจินอล ได้ลองชิมครั้งแรกรับรองว่า ต้องติดใจ ซุปราเม็ง ซุปสุกี้ และซุปต้มยำ� หรือถ้าต้องการทานทั้ง 2 อย่างในโต๊ะเดียวกันก็ได้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 50 บาท ต่อโต๊ะ พร้อมนํ้าจิ้มยากิ นํ้าจิ้มสำ�หรับปิ้งย่างของที่นี่ ที่รสชาติกลมกล่อมมากอีกด้วย สำ�หรับท่านทีม่ าคนเดียวหรือต้องการทานอาหารทีร่ วดเร็ว ราคาเป็นมิตรและอร่อย ทางร้านก็มเี มนูใหม่มานำ�เสนอ ไม่ว่าจะเป็น ซูชิเซต (ข้าวปั้นหน้ารวม) หรือข้าวหน้าต่าง ๆ ที่มีให้เลือกลิ้มลองถึง 4 หน้า (Toridon, Dorydon, Butadon และ Nikudon) เพียงแค่นี้ความสุขก็อยู่กับเราแล้วค่ะ แค่ได้ทานอาหารอร่อย ๆ ที่ดีต่อกายและดีต่อใจ
• ร้านซากุระ มี 4 สาขา สาขา เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 6, สาขา เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ชัน้ 3, สาขาเซ็นทรัล พลาซา บางนา ชัน้ 5, สาขาเซ็นทรัล พลาซา พระราม 3 ชัน้ 5 • www.sakurarestaurant.co.th • www.facebook.com/Sakura ThailandPage • สมาชิกบัตร KTC ชำ�ระผ่าน บัตร 300 บาทขึน้ ไป รับส่วนลด ค่ า อาหาร 10% (จากราคา อาหารปกติ)
happy+ | 95
ชวนดูหนัง เรือ่ ง : It’s a bell
Before I Fall ตืน่ มา ทุกวัน ฉันตาย ภาพยนตร์ซ่งึ สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนขายดีประจำ�ปี 2010 โดย นักเขียน ลอเรน โอลิเวอร์ เป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกับซาแมนธา คิงสตัน สาวน้อย อายุ 17 ปี ผูท้ ด่ี เู หมือนชีวติ กำ�ลังไปได้ดี เธอมีเพือ่ นรักมากมาย ความรักกับ แฟนหนุม่ สุดฮ็อตประจำ�โรงเรียนก็ก�ำ ลังไปได้สวย แต่แล้วหลังจากทีค่ นื หนึง่ เธอประสบอุบตั เิ หตุ เมือ่ ตืน่ เช้าขึน้ มาอีกครัง้ แทนทีจ่ ะเป็นวันใหม่ เธอกลับ พบว่านี่คือวันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซาแมนธาต้องติดอยู่ภายในหนึ่งวันซํ้า ๆ คล้ายกับปรากฏการณ์เดจาวู ทำ�ให้เธอพยายามที่จะข้ามผ่านเหตุการณ์ แปลกประหลาดทีเ่ กิดขึน้ นีไ้ ปให้ได้ ภาพยนตร์เรือ่ งนีน้ อกจากความสนุก อารมณ์ทร่ี ว่ มลุน้ ร่วมตืน่ เต้น ภายใต้ บรรยากาศทริลเลอร์หน่อย ๆ แล้ว Before I Fall กลับให้แง่คดิ ทีส่ ามารถ นำ�มาปรับใช้ในการดำ�เนินชีวติ ของเราได้อกี ด้วย ภาพยนตร์สอดแทรกข้อคิด ของการเป็นตัวอย่างทีด่ ี การแก้ไข ปรับเปลีย่ น และตัดสินใจเลือกทางเดินที่ ถูกต้อง ผ่านการลองผิดลองถูกของตัวเอกในหลายรูปแบบทีเ่ ลือกทำ� เพือ่ หลุด ออกจากลูปวงจรทีว่ นซํา้ อยูแ่ บบนี้ ในชีวติ จริงเรามีชวี ติ เพียงแค่ครัง้ เดียว และ ชีวติ นีก้ เ็ ดินไปข้างหน้าอย่างไม่อาจย้อนกลับมาได้ เราจึงควรตัดสินใจทำ�อะไร อย่างดีทส่ี ดุ ตัดสินใจเลือกทางเดินทีถ่ กู ต้องและเหมาะกับตัวเอง เพราะการ กระทำ�ของแต่ละคนล้วนกระทบกับคนรอบข้างเสมอ เหมือนกับคำ�กล่าวทีว่ า่ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว 96 | happy+
เรื่อง : ทิพย์ ภาพ : Nasry ชวนอ่านสานสุข
หมาจ๋า Therapy หมาจ๋ารักษาใจ / เรือ่ ง : เวยเวย...ยิม้ นิดพิชติ ใจ / เรือ่ ง : กูม้ า่ น / แปล : บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ เล่ม 5 ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ / สำ�นักพิมพ์ : บันลือบุค๊ ส์ อัญชลี เตยะธิตกิ ลุ / สำ�นักพิมพ์ : อรุณ / ตอน คุณชิโอริโกะกับสายสัมพันธ์ทเ่ี ชือ่ มโยง / เรือ่ ง : เอน มิคามิ / แปล : พลอยทับทิบ / ราคา : 195 บาท ราคา : 375 บาท อีกหนึ่งผลงานเขียนของเจ้าของเพจชื่อดัง การกลับมาอีกครัง้ ของกูม้ า่ น นักเขียนทีเ่ คย ทับทิมทอง / สำ�นักพิมพ์ : อนิแม็กบุค๊ ส์ / “หมาจ๋า” ที่มาถ่ายทอดเคล็ดลับการฟื้นฟูจิตใจ สร้างความประทับใจให้ทุกคนมาแล้ว กับนิยาย ราคา : 290 บาท
ไดสึเกะ ชายหนุ่มพนักงานชั่วคราวของร้าน หนังสือเก่า บิเบลีย ได้สารภาพรักกับชิโอริโกะ สาวสวยเจ้าของร้านหนังสือ แถมยังเป็นหนอน หนังสือตัวจริงที่แสนขี้อาย การสารภาพรักทำ�ให้ เกิดความอึดอัดเล็ก ๆ เมื่อชิโอริโกะบอกให้เขา รอคำ�ตอบไปก่อน แต่เพื่อทำ�การคลี่คลายปริศนา จากหนังสือเก่าที่ซ่อนอยู่ เขาและเธอต้องร่วมมือ กั น เพื่ อ หาคำ � ตอบ ในขณะที่ ทั้ ง สองคนอยู่ ใน สถานการณ์คลุมเครือ แม่ของชิโอริโกะก็ปรากฏตัว ขึ้ น แล้ ว อย่ า งนี้ ค วามรั ก ของทั้ ง สองคนจะ เจมส์ โรสลินส์ / แปล : จิตติพฒ ั น์ นิตธิ รรม / สำ�นักพิมพ์ : นานมีบคุ๊ ส์ / ราคา : 385 บาท แท็ง หุน่ ยนต์เพือ่ นรัก / เรือ่ ง : เดโบราห์ สมหวังหรือไม่ ปริศนาที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายกัน อดีตบาทหลวงที่คิดว่าหายสาบสูญไปนาน อินสตอลล์ / แปล : นรา สุภคั โรจน์ / สำ�นักพิมพ์ : อย่างไร มาร่วมลุ้นกันในเล่มได้เลยค่ะ นับสิบปีนั้น ได้ส่งพัสดุปริศนามาให้กับ วีกอร์ โพสต์บกุ๊ ส์ / ราคา : 295 บาท หั ว หน้ า หอจดหมายเหตุ ว าติ กั น ณ กรุ ง โรม เบน หนุ่มใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อย ถึง พิมานแพร / เรือ่ ง : ประภัสสร เสวิกลุ / หนังสือหนังมนุษย์กับคำ�ทำ�นายวันสิ้นโลกที่ชวน แม้จะแต่งงานแล้ว แต่วันหนึ่งเขาได้เจอกับ แท็ง สำ�นักพิมพ์ : นานมีบคุ๊ ส์ / ราคา : 295 บาท เรื่องราวความรัก ความแค้น มิตรภาพ และ ขนลุก สิ่งเหล่านี้ถูกส่งมาให้เขาเพื่ออะไร คำ�ใบ้ หุ่ น ยนต์ โลหะกล่ อ งสี่ เหลี่ ย มมอมแมมตั ว จ้ อ ย ปริศนาในของที่ส่งมา และมีใครบางคนกำ�ลัง ทีม่ าปรากฏตัวอย่างลึกลับในสวน และเหมือนว่า โชคชะตาของหวางและหยง สองเพื่อนรักที่ลงเรือ เรียกร้องให้เขาต้องไปยังสถานทีห่ นึง่ และทีแ่ ห่งนัน้ มันกำ�ลังจะพัง ในช่วงชีวิตที่กำ�ลังยํ่าแย่ของเบน สำ�เภามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หวังเสี่ยงโชคเริ่ม อาจจะมี คำ � ตอบสำ � หรั บ ทุ ก สิ่ ง ก็ เป็ น ได้ นิ ย าย เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางพา แท็ง หุ่นยนต์ที่ ต้นชีวิตใหม่ในแดนสยาม แต่ลิขิตฟ้าหรือชะตา สืบสวนตามสไตล์ของ เจมส์ โรสลินส์ กลับมา มีนิสัยเหมือนเด็กเล็ก ๆ กับนํ้าสีเหลืองปริศนาที่ กลั่นแกล้ง แยกทั้งสองคนออกจากกัน คนหนึ่ง ทำ�ให้ใจเต้นแรงอีกครั้ง กับการไขปมปริศนาของ ลดน้อยลงไปทุกทีไปด้วย ความพยายามทีจ่ ะช่วย เป็นนายเหมืองผูร้ าํ่ รวย ขณะทีอ่ กี คนเป็นเพียงกุลี เรื่องราวในอดีตและอนาคต ที่ผกู กันระหว่างเรื่อง เจ้าหุน่ ยนต์จะทันกาลหรือไม่ เขาจะตามหาเจ้าของ ทีต่ อ้ งหนีตายอยูเ่ สมอ ทัง้ สองชีวติ ต่างแตกต่างกัน ราวในประวัติศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ ที่สมจริง มันได้ที่ไหน มาติดตามเรื่องราวของมิตรภาพ จะเกี่ ย วข้ อ งอย่ า งไรกั บ ตำ � นานตึ ก เล่ ง -หงส์ สมจังเสียจนไม่อาจเชื่อได้ว่าเรื่องเหล่านี้จะเป็น อันอบอุ่น ระหว่างคนตัวใหญ่กับเจ้าหุ่นกระป๋อง มี เพี ย งผู้ อ าวุ โสดู แ ลตึ ก เท่ า นั้ น ที่ กำ � ลั ง เฝ้ า รอ เพียงหนังสือ ที่ เ ข้ า มาเปลี่ ย นแปลงชี วิ ต และความคิ ด เขา ทายาทแท้จริงกลับมา เพือ่ ถ่ายทอดเรือ่ งราวทีเ่ ป็น ดั่งคำ�สัญญาก่อนเขาจะสิ้นลมหายใจ ไปตลอดกาลกันเถอะค่ะ หลังจากที่สูญเสียบุคคลสำ�คัญในชีวิตไป แล้วก็ ค้นพบว่า หมา เพื่อนซี้สี่ขาที่เราคุ้นเคยและรู้จัก กันเป็นอย่างดีนนั้ สามารถช่วยบำ�บัดเรือ่ งภายใน จิตใจของเราได้ แต่จะทำ�อย่างไรนั้น ต้องมาอ่าน เรือ่ งราวอบอุน่ ปนน่ารักของชาวหมา ๆ ทีจ่ ะทำ�ให้ เราเข้าใจถึงธรรมชาติ และความสุขของการมีสตั ว์ เลี้ยงอย่างแท้จริง
เรื่อง BOSS&ME มื้อนี้มีรัก กับนิยายเรื่องล่าสุด เรื่องราวรักโรแมนติกคอเมดี้ ของความรักที่เกิด จากการเล่นเกมออนไลน์ กลับสร้างด้ายแดงให้ ทัง้ สองคนได้รจู้ กั กัน เป้ยเวยเวย สาวสวยอันดับหนึง่ ของคณะคอมพิวเตอร์ และเซี่ยวไน่ รุ่นพี่หนุ่มสุด หล่อที่ถูกนับถือว่าเป็น ต้าเสิน หรือท่านเทพของ คนทั้งมหาวิทยาลัย จากความรักในโลกออนไลน์ กลับกลายมาเป็นเรื่องจริง โปรดติดตามความ The Eye of God เนตรพิพากษา / เรือ่ ง : ประทับในใจรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
happy+ | 97
horoscopes
พยากรณ์ เดือนสิงหาคม 2560
สวัสดีคุณผู้อ่านนิตยสาร happy+ ทุกท่าน เดือนสิงหาคมนี้พบกับ happy+ ในธีม “Take Care Yourself” ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจและดูแลตัวเองมากขึ้น โดยจะมีการสรรหา วิธีการต่าง ๆ เพื่อท�ำให้ตัวเองมีสุขภาพดี และดูดี ไม่ว่าจะเป็นการออกก�ำลังกาย การกินอาหารที่มี ประโยชน์ การกินอาหารเสริม กินผักผลไม้ เป็นต้น แต่ส่งิ ส�ำคัญกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ การกินอาหารที่มี ประโยชน์ตามหลักโภชนาการ คือ การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และ ออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอ หากท�ำทั้งสองอย่างควบคู่กนั ไปด้วยแล้ว จะท�ำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และดูดไี ปพร้อม ๆ กัน หมัน่ ดูแลตัวเองและคนทีเ่ รารักด้วยนะครับ ผมดูแลตัวเองด้วยการควบคุมอาหาร ตืน่ เช้าผมจะดืม่ กาแฟบีเซฟคอฟฟี่ บาย จินตหรา ท�ำแพลงกิ้ง โดยได้รบั ค�ำแนะน�ำจาก คุณเป้ ภาณุพงศ์ กรรณาธิกรณ์ ผู้ประกาศข่าว ททบ.5 แล้วทานมื้อเย็นก่อน 17.00 น. ลดแป้ง เน้นโปรตีนและ ผักนานาชนิด เมื่อสุขภาพกายดี สุขภาพใจก็ดีตามนะครับ ติดตามผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. สามารถดูฤกษ์งามยามสบายและคาถาเด็ดได้ทุกวันที่ Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : akhata.c ขอให้คณ ุ ผู้อ่านทุกท่านมีคนที่เรารักให้เราท�ำดีด้วยทุกวันนะครับ 98 | happy+
เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) การท� ำ งานแม้ จ ะไม่ เ ต็ ม ใจรั บ งานใหม่ สักเท่าไร แต่ผลงานที่ออกมาก็น่าพอใจ ถ้าก�ำลัง คิดอยากเปลี่ยนงานมีโอกาสดี การเงินใช้จ่าย ประหยัดขึน้ ช่วงต้น ๆ อึดอัด สะดุดบ้าง แต่พอช่วง กลางลงมา โชคเข้าข้าง มีทงั้ รายได้เสริม โชคลาภ จากการเดินทาง ท�ำให้เริ่มยิ้มออก ความรักด้วย ความขี้หึง ขี้น้อยใจท�ำให้มีปัญหาในช่วงต้น ๆ แต่ พ อช่ ว งกลางลงมา ก็ ก ลั บ มาหวานจู ๋ จี๋ กั น เหมือนเดิม ถ้ายังโสดโอกาสเหมาะ ไปเที่ยวกับ เพื่อนฝูง สุขภาพโรคประจ�ำตัวอาจก�ำเริบ
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) การท�ำงานมีการขยับขยายก้าวหน้า ถึงแม้ จะเหลวไหลไปบ้างแต่โอกาสดี ๆ ก�ำลังวิง่ เข้ามาหา ช่วงปลายมีดวงในการโยกย้าย เปลี่ยนงานดีขึ้น การเงิ น มื อ เติ บ เห็ น อะไรก็ อ ยากได้ อ ยากมี จ่ายออกเยอะในการท่องเที่ยว ซื้อของ แต่ยังเอา ตัวรอดได้ มีคนสนับสนุนด้วยความน่ารักน่าชัง ของคุณ ความรักไม่คอ่ ยจริงจังกับใคร ทีไ่ ด้มามัก เป็นความสนุกสนาน ประสบการณ์ใหม่ ๆ ถ้ามี คนรั ก แล้ ว เริ่ ม เผลอใจให้ กั บ กิ๊ ก ใหม่ บ ้ า งแล้ ว สุขภาพอ่อนเพลีย ร่างกายไม่เต็มร้อย
ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) การท�ำงานมีสะดุด เพราะความใจร้อนวูว่ าม แต่ยังดีท่มี ีเพื่อนสนิทคอยช่วยเหลือ ช่วงปลายมี เกณฑ์ในการเปลี่ยนงาน เปลี่ยนต�ำแหน่งหน้าที่ ที่ดีขึ้น การเงินมีปัญหาเรื่องข้อตกลง แต่ด้วย ไหวพริบและที่ปรึกษาดี ท�ำให้ผ่านพ้นไปได้ ช่วง ปลายมีลาภจากการเดินทาง ความรักเริ่มก่อตัว จากความใกล้ชิด มีโอกาสดีในการสารภาพรัก คงได้สละโสดเสียที ถ้ามีคนรักแล้วเอาใจใส่กัน มากขึ้น รู้สกึ อบอุ่น มีกำ� ลังใจ สุขภาพปวดหัว มี อาการวูบ หน้ามืดเป็นพัก ๆ
ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) การท�ำงานกระตือรือร้นเป็นพิเศษ อาจเป็น เพราะมีโครงการอยู่ในหัวมากมาย งานที่ต้องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียกระฉูด มีผลงานเป็น ที่ยอมรับ การเงินหมุนเวียนคล่อง หยิบจับอะไร ก็เป็นช่องทางไปสู่การหาเงินได้ตลอด ความรัก ถ้ามีคนที่เล็งไว้แล้ว ช่วงนี้พยายามสื่อความรู้สึก ให้เขารับรู้ คลืน่ จะจูนตรงกันไม่ผดิ หวัง ถ้ามีคแู่ ล้ว คงลังเลบ้าง ช่วงนีเ้ สน่หแ์ รงมีแต่คนเข้ามาให้เลือก สุขภาพระวังโรคหัวใจ หลอดเลือด เส้นเลือด
ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) การท�ำงานก�ำลังมีข่าวดี คุณที่ก�ำลังเบื่อ อยากเปลี่ ย นอยากย้ า ย จะมี โ อกาสดี ช่ ว งนี้ บรรยากาศในที่ ท� ำ งานราบรื่ น การเงิ น เฟื ่ อ ง ฟู สุ ด ๆ หยิ บ จั บ อะไรเป็ น เงิ น เป็ น ทอง เป็ น ผลประโยชน์ที่ดี คนไกลน�ำลาภมาให้ ความรัก สดใส ดูดดื่ม ถ้ามีคนรักแล้วหวานจนคนรอบ ข้างอิจฉา มีโครงการไปพักผ่อนต่างจังหวัด ส่วน คนโสดหาได้ไม่ยาก ลองลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ตัวเองหน่อย แค่นี้เสน่ห์ก็แรงเหลือเฟือ สุขภาพ มีปัญหากับกล้ามเนื้อ เคล็ด ขัดยอก
ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) การท�ำงานท�ำให้คุณรู้สกึ ท้อแท้ ถูกคนนิสัย ไม่ดขี โมยผลงานหรือเล่นโกงทางลัด ให้นกึ ไว้ในใจ คนดีตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ จะได้มีก�ำลังใจ การเงิ น มี เ หตุ ใ ห้ ต ้ อ งเสี ย เงิ น ก้ อ นโต อย่ า เพิ่ ง คิดลงทุน ท�ำอะไรเสีย่ ง ๆ จะได้ไม่คมุ้ เสีย ความรัก รู้สึกเหงา ๆ คนที่คบอยู่เหมือนยังไม่ใช่คนที่จะใช้ ชีวติ ร่วมกัน แต่กไ็ ม่สามารถปฏิเสธได้ คนโสดต้อง รออีกยาว ที่ผ่านเข้ามาไม่ค่อยเข้าตาเอาเสียเลย สุ ข ภาพแน่ น หน้ า อก ปวดท้ อ ง ร่ า งกายไม่ ค่อยสบาย
ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) การท�ำงานรื่นเริง คิดสนุกสนานเฮฮา สมาธิ ในงานน้อยไปหน่อย แต่ก็เอาตัวรอดได้ มีโอกาส ในงานเสริม มีคนเสนองานท้าทายที่ไม่เคยท�ำให้ ลอง การเงินด้วยความทีเ่ ก็บออมมาดี ถึงแม้ชว่ งนี้ จะมีรายจ่ายมากก็ผ่านไปได้ พูดจาดีมีลาภปาก ความรักมีเสน่หเ์ ป็นทีห่ มายปองของทุกเพศทุกวัย แต่คนที่สะดุดตาคุณจริง ๆ ดันเป็นคนเจ้าชู้ไปได้ ส่วนคุณที่มีคู่แล้วได้สวีทกันนอกสถานที่ สุขภาพ ท้องไส้ปั่นป่วน ช่วงนี้กระเพาะบาง เจออะไร ผิดส�ำแดงก็เป็นเรื่อง
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) การท�ำงานมาแรงแซงเพือ่ น ๆ ช่วงนีม้ ที างลัด ผู้ใหญ่คอยให้การสนับสนุน ตั้งใจท� ำดีให้เห็น หนทางของคุณยังไปได้อกี ไกล การเงินหมุนเวียน คล่อง ถึงแม้ช่วงนี้จะมือเติบไปบ้าง ใช้จ่ายไป เยอะ แต่ก็ยังมีฟลุค ความรักถ้ายังโสดสนิท ช่วงนี้มีกามเทพมาแผลงศร แอบตกหลุมรักคนมี เจ้าของซะอย่างนั้น ดวงความรักดี ได้สวีทหวาน ให้คนอื่นอิจฉาเล่น สุขภาพมีปัญหากับล�ำไส้ กระเพาะ ต้องรับประทานอาหารให้ตรงเวลาและ ถูกสุขลักษณะ
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) การท� ำ งานมี ก ารวางแผนอย่ า งรอบคอบ ท�ำให้ไม่เกิดความผิดพลาด การเงินความมั่นคง บังเกิดขึ้นแล้ว ช่วงนี้คิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ มักจะได้มาเสมอ รูจ้ กั เก็บรูจ้ กั จ่าย เงินทองหมุนเวียน คล่อง ความรักอบอุน่ คอยเป็นก�ำลังใจให้กนั และ กัน ส่วนคนโสดไม่เงียบเหงาเหมือนทีผ่ า่ นมา ช่วงนี้ จะมีเพื่อนคอยแนะน�ำคนดี ๆ ให้ได้รู้จกั ก็เหลือ แต่ ตั ว คุ ณ จะสานต่ อ หรื อ ไม่ สุ ข ภาพมี อ าการ เจ็บคอ ไอ ร้อนใน ให้ดมื่ นํา้ มาก ๆ พักผ่อนเยอะ ๆ อาการจะดีขึ้น
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) บรรยากาศในการท�ำงานแจ่มใส คิดหวังท�ำ อะไรก็ประสบผลส�ำเร็จ งานท่องเที่ยว ทัวร์ งาน ต่างประเทศก�ำลังพุง่ แรง แต่ปลาย ๆ ยังต้องระวัง ตัวบ้าง จะมีปญ ั หากับผูใ้ หญ่ การเงินก�ำลังสนุกกับ การใช้จ่าย หยิบอันนั้นจ่ายอันนี้อย่างมีความสุข มีเงินไหลเข้ามาเยอะท�ำให้ไม่ค่อยห่วง ความรัก ก�ำลังก้าวหน้า ด้วยความเสน่หแ์ รง ช่วงนีม้ คี นเข้า มาให้เลือก อาการรักพี่เสียดายน้องจะท�ำให้ชวด อดหมด ถ้ามีคนรักแล้ววางแผนเทีย่ วกันสบายใจ สุขภาพท้องเสีย ปวดท้องบ่อย
ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) การท�ำงานมีการโยกย้าย ปรับเปลีย่ นทีด่ ขี นึ้ ถ้าก�ำลังมองหางานใหม่ก็มีจังหวะที่ดี พยายาม หาสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เจอ และมุ่งไปที่สิ่งนั้น จะประสบความส�ำเร็จได้อย่างงดงาม เงินทอง ได้มาแบบไม่คาดคิด เงินหมุนคล่อง ที่คาดหวัง เงินก้อนช่วงกลางมีจังหวะ แต่ปลาย ๆ ต้อง ท�ำใจไว้หน่อย ดวงดีมกั มีไม่นาน ความรักคนโสด ก�ำลังแรง ช่วงนี้ Hot กลายเป็นขวัญใจ ใคร ๆ ก็ อ ยากเข้ า หา ส่ ว นที่ มี ค นรั ก อยู ่ รู ้ สึ ก เบื่ อ ๆ สุขภาพเป็นหวัด ไม่ค่อยได้พกั ผ่อน
ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) การงานดี โดดเด่ น ยิ่ง งานที่ต ้ อ งพบปะ ติดต่อ คุณท�ำได้ดีเป็นที่พอใจของผู้บังคับบัญชา แต่เจ้านายช่วงนี้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ช่วงกลาง จะเริ่มใจร้อนหงุดหงิด ต้องพยายามเข้าหาให้ ถูกจังหวะ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่รอดเหมือนกัน การ เงินด้วยความที่ตั้งอกตั้งใจในการหาเงิน ทั้งงาน นอกงานในรับหมด ท�ำให้เงินทองหมุนเวียนคล่อง ขึ้น ความรักแง่งอนกันตลอด ไม่ค่อยมีเหตุผล ใช้ อารมณ์เป็นส่วนใหญ่ คนโสดปลาย ๆ มีสะดุดรัก สุขภาพเจ็บตัวเพราะของมีคมบาด happy+ | 99
กิจกรรมนำ�สุข
สถาบันฯ MPI จัดสัมมนาหลักสูตรบริหารการเงินสำ�หรับผู้นำ�องค์กร พร้อมปิดหลักสูตร Holistic Finance for The Boss รุ่นที่ 7 อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI จัดสัมมนาในหลักสูตร Holistic Finance for The Boss รุ่นที่ 7 ขึ้น ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรชั้นนำ�มากประสบการณ์แนวหน้าของประเทศ ที่ MPI คัดสรรมาบรรยายให้ ความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) บรรยาย ในหัวข้อ “สถาบันการเงินกับการบริหารธุรกิจ” และได้รบั เกียรติจาก คุณธฤต ศรีอรุโณทัย ผูช้ ว่ ยผูจ้ ัดการใหญ่ บริษทั ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำ�กัด บรรยาย ในหัวข้อ “ความรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร” ต่อด้วยการบรรยายพิเศษในช่วงบ่าย ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.รัฐ ธนาดิเรก มาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการคิดและ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรทางการเงิน นอกจากนี้ ช่วงท้ายของงานสัมมนายังได้รบั เกียรติจาก อาจารย์พเิ ชษฐ์ เวชสุภาพร ประธาน กรรมการวิชาการ สถาบันฯ MPI มาสรุปเนื้อหาภายในหลักสูตร ถือเป็นหลักสูตรที่เจาะลึกถึงแก่นการจัดการการเงินแบบองค์รวม อันเป็นหลักสำ�คัญใน การพัฒนาทุกองค์กร ก่อนจะมอบวุฒิบัตรให้แก่สมาชิก Holistic Finance for The Boss รุ่นที่ 7 พร้อมกล่าวปิดหลักสูตรสัมมนาในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ ในปีนี้ สถาบันฯ MPI ก้าวเข้าสูป่ ที ี่ 30 พร้อมยกระดับและพัฒนาหลักสูตรเพือ่ เสริมสร้างทักษะรอบด้านของผูบ้ ริหารหรือเจ้าของกิจการ สามารถสอบถาม รายละเอียดหลักสูตรอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ 0-2168-7243-7, 09-1818-2280-90 หรือติดตามข่าวสารทางธุรกิจที่ www.trainingmpi.com และเฟซบุ๊ก Training MPI
happy+ ดำ�เนินโครงการ “อ่านสบาย มูลนิธเิ วชดุสติ ฯ เปิดตัว “ความฝันไม่มวี นั พิการ ปีท่ี 3 ร่วม-ลงมือ-ทำ�” กระจายสุข”
มูลนิธิเวชดุสิต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ สานต่อแรงใจสู่น้อง ๆ พร้อมปลุกกระแสสังคมต่อเนื่องด้วยโครงการ “ความฝันไม่มวี นั พิการ ปีที่ 3 ร่วม-ลงมือ-ทำ�” จับมือแบรนด์ดไี ซเนอร์ดงั จัดกิจกรรมสอนน้อง ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสให้มีโอกาสแสดงศักยภาพ ด้วยการสร้างประสบการณ์การทำ�งาน บนสนามจริงในการทำ�งานด้านออกแบบแฟชั่น พร้อมระดมทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนา ทักษะ สร้างอาชีพและร่วมพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของ กลุ่มผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสในไทย ผ่านการผลิตและจัดทำ� Adaptive Clothing หรือเสื้อผ้า ดัดแปลงสำ�หรับผู้มีข้อจำ�กัดทางร่างกาย สำ�หรับแจกจ่ายให้แก่ผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ป่วยที่ ขาดแคลนทั่วประเทศ 100 | happy+
นิตยสาร happy+ มอบนิตยสารเป็นอภินันทนาการ แก่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามโครงการ “happy+ อ่านสบาย กระจายสุข” เพื่อส่งเสริมการอ่านและเพิ่ม ทางเลือกให้ผู้อ่าน ได้คัดสรรความสุขในแบบที่ต้องการ ผ่านบุคคลต่าง ๆ ที่ได้ไปสัมภาษณ์มาผ่านทางนิตยสาร พร้อมข้อคิดการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมการใช้ ชีวิตอย่างมีความสุข โดยมีคุณวรัชยา ป้อมค่าย ผู้ช่วย หั ว หน้ า สำ � นั ก งานมู ล นิ ธิโรงพยาบาลพระมงกุ ฎ เกล้ า เป็นผู้รับมอบ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มอบ 36 รางวัลผู้ทำ�คุณประโยชน์ดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์
สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยรายชื่อ 36 องค์กรและบุคคลผู้ได้รับ “รางวัลผู้ทำ�คุณประโยชน์ดีเด่นด้าน ทรัพยากรมนุษย์” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงงานด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จนเป็นที่ประจักษ์ และ เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ โดยได้รับเกียรติจาก นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ภายในงานยังมีการปาฐกถาพิเศษ เรือ่ ง “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บนฐานความพอเพียงและความยัง่ ยืน” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา และ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พลังแห่งจริยธรรมกับงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” ในงานเดียวกันนี้ รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำ�ลี คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน) ที่เข้ารับรางวัล “ผู้ทำ�คุณประโยชน์ดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์” (Human Resource Excellence Award) ในงานนี้ด้วย
The Boss Night ครั้งที่ 3
ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคม The Boss จัดงาน The Boss Night Vol.3 ปาร์ตี้ดับร้อน ณ สโมสรสังกะสี ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ ปีนี้ สมาชิก The Boss ตั้งแต่รุ่นแรก ๆ จนถึงรุ่น 86 ได้พบปะ สังสรรค์ ทำ�ความรู้จักกันมากขึ้น ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง กระชับความสัมพันธ์ และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด นอกจากรับประทานอาหาร ร้องเพลง สมาชิกที่ร่วมงานยังได้ชมการแสดงกายกรรม ร่วมเล่นเกม BINGO และจับรางวัล Lucky Draw พร้อมได้รับของ รางวัลกระเช้าของขวัญจากนายกสมาคมฯ ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ผู้ผลิตนํ้ามันพืชองุ่น, กระเช้าของขวัญและ Gift Voucher จากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ โดยคุณกรรณิกา พลัสสินทร์, Gift Set จากคุณนันทิกา มโนรถจตุรงค์ บริษัท เอลโดเล่ย์ จำ�กัด ติดตามงานของสมาคม The Boss ครั้งต่อ ๆ ไป ที่ www.facebook.com/thebossthai happy+ | 101
beauty recommended
นิรันดาคลินิก ศูนย์ความงามครบวงจร โดดเด่น ด้วยการบริการดูแลความงาม โดยใช้หลักการเสริมสร้าง ความสมบู ร ณ์ จ ากภายในสู่ ภ ายนอก และภายนอก สู่ภายใน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา อาทิ แพทย์ ผิวหนัง แพทย์ชะลอวัย ศัลยแพทย์ด้านความงาม สูตนิ รีแพทย์ เพอื่ ให้ค�ำ ปรึกษาทุกแง่มมุ ความงามสำ�หรับ แต่ละบุคคล ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและมีคุณภาพที่ ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยไฮไลต์สำ�คัญของนิรันดาคลินิกคือ “การรักษาสิว” เพราะเล็งเห็นว่า ปัญหา สิวนั้นรบกวนจิตใจของทุกคนมากจนอาจจะบั่นทอนความสุขและความมั่นใจใน ตัวเอง ซึ่งสาเหตุของสิวนอกจากความสกปรกหมักหมมของเชื้อโรคแล้ว ฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด ภูมิอากาศ และการใช้เครื่องสำ�อางที่มีส่วนประกอบของนํ้า ตลอดจนการแพ้ยาบางชนิดก็เป็นปัจจัยทีก่ อ่ ให้เกิดสิวได้เช่นกัน สิวจะเริม่ เกิดขึน้ เมือ่ ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ต่อมไขมันเริ่มทำ�งาน โดยได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมน เพศชาย ซึ่งเกิดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ไขมันทำ�หน้าที่ในการหล่อลื่นและปกป้อง ผิวหนัง ตัวเซลล์ทอี่ ยูใ่ นชัน้ บนสุดจะไปปิดกัน้ ต่อมไขมัน ทำ�ให้เกิดการสะสมไขมันขึน้ ใต้ชั้นผิวหนัง ไขมันเหล่านี้ก็ไปกระตุ้นการทำ�งานของแบคทีเรียให้ขยายตัวและ ก่อเกิดการติดเชื้อและการอักเสบในเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ เมื่อเป็นสิวแล้ว หลายคนคงเริ่มกังวล และหมดความมั่นใจในตัวเอง นิรันดา คลินิกขออาสาเป็นผู้จัดการปัญหาเรื่อง “สิว” ให้ทกุ คนกลับมามัน่ ใจด้วยเครือ่ งมือ รักษาสิวแนวใหม่ “ไอโซลาซ” (Isolaz) ทีท่ นั สมัยและได้รบั การรับรองจากองค์การ อาหารและยา แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นทีแ่ รก และที่เดียวในประเทศไทย เพื่อรักษาสิว ได้ ใ นทุ ก ระยะของการเป็ น สิ ว โดยใช้ เทคโนโลยี Photopneumatics ส่งผลให้ สามารถขจัดสิง่ สกปรกใต้ผวิ หนังและรูขมุ ขน จากการปรั บ ลดความดั น ของเครื่ อ ง Pneumatics และเพิม่ ความสามารถในการ ทำ�ลายเชื้อโรคจากการปล่อยแสง สาว ๆ และหนุม่ ๆ ทีม่ ปี ญ ั หาเรือ่ งสิวไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง อีกทั้งนิรันดาคลินิก ยังให้การบริการเสมือนคุณเป็นครอบครัว พร้อมใส่ใจสุขภาพและความพึงพอใจของ คุณเป็นอันดับหนึ่งเสมอ happy+ | 102
เครื่อง ไอโซลาซ
นิรันดาคลินิก
ที่ตั้ง 93/336 ดิ เอ็มโพริโอ เพลส สุขุมวิท 24 กรุงเทพมหานคร • โทรศัพท์ 0-2160-4191 • www.nirundaclinic.com • facebook : www.facebook.com/Nirunda/
game for reader
Q : ณัฐ ศักดาทร เข้าสู่วงการบันเทิง จากการประกวดร้องเพลงเวทีใด ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาทีอ่ เี มล happyplusmag@gmail. com ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2560
ร่ ว มลุ้ น รั บ ร่ ม กั น ฝน จาก sanook.com จำ�นวน 2 รางวัล (ประกาศรายชือ่ ผูไ้ ด้รบั รางวัล ใน happy+ ฉบับเดือนตุลาคม 2560) หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ตดิ ต่อกลับ และหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับรางวัลด้วย ตนเอง
รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 54
โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ประชาชนให้ มี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี มี ค วามสุ ข ทั้ ง กาย ใจ และสั ง คม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับ ใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิตยสาร happy+ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันความสุข และมีส่วนร่วมในการดูแล สังคมไทย 104 | happy+
ตำ�นานประจำ�เมืองพิจิตร คือเรื่องอะไร คำ�ตอบ ชาละวัน รายชื่อผู้โชคดี ได้รับ นํ้ามันมะพร้าวบริสุทธิ์ ขนาด 200 มล. จาก เขาค้อทะเลภู จำ�นวน 2 รางวัล 1. คุณศตพร เกตุสุวงษ์ กรุงเทพฯ 2. คุณพรทิพย์ ทัฬหกิจกุล กรุงเทพฯ ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ
Next Issue เที่ยวมุมใหม่ ประเทศไทยของเราถือเป็นประเทศ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ทรัพยากร และที่สำ�คัญมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย ซึ่งเราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่าน ไปพบกับสถานที่ท่องเที่ยว ในมุมมองใหม่ ๆ ที่รับรองว่าต้องร้องว้าว เพราะไม่ทราบว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย อย่าลืมติดตามกันนะคะ แล้วพบกันที่แผงหนังสือค่ะ
เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)
ใบสมัครสมาชิก
สมาชิกทั่วไป
สมาชิกอุปถัมภ์
วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)
พิเศษ
สมัครสมาชิก happy+ เดือนสิงหาคม รับทันที
ผลิตภัณฑ์บ�ำ รุงผมและคิว้ จาก ai+aoon (ไออุน่ )
พิเศษยิ่งกว่า
สำ�หรับสมาชิก ที่ต่ออายุ ในเดือนสิงหาคม รับเพิ่ม สเปรย์ขจัดไรฝุ่น จาก ปัญจศรี
happy ending
คุณธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความรัก ความสามัคคี ที่ทำ�ให้คนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันรักษา และพัฒนาชาติบ้านเมือง ให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง ประการแรก คือ การให้ทุกคนคิด พูด ทำ� ด้วยความเมตตา มุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน ประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กันให้งานที่ทำ�สำ�เร็จผลทั้งแก่ตนแก่ผู้อื่นและประเทศชาติ ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกาและในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำ�นำ�ความคิดความเห็นของตน ให้ถูกต้องเที่ยงตรงอยู่ในเหตุในผล พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙