happy+ Vol.49 December 2559

Page 1



ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำ�ลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด


ธ ทรงเป็นดัง่ สายฝนชโลมจิต พระเมตตาปรานีแผ่ไพศาล แต่วนั นีฟ้ า้ มืดและหมองหม่น จะสืบทอดปณิธานมิรคู้ ลาย

ทัว่ ทุกทิศเย็นศิระพระบริบาล สุขสราญทัว่ หล้าประชาไท เราทุกคนต่างรํา่ ไห้ใจสลาย จะขอพลีใจกายเพือ่ “ภูมพิ ล”

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รําลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูจ้ ดั ทำ�นิตยสาร happy+

เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก ศึ ก ษาฝึ ก งาน : วราภรณ์ วั ช รานนท์ นักเขียน : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิตพิ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยูข่ า้ งหลังคุณ, นพ.พิรตั น์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสจู น์อกั ษร : ณรงค์ พึง่ บุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสทุ ธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com

นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556



contents

ปีที่ 5 ฉบับที่ 49 ธันวาคม 2559 กายสุข 14 healthy planet / “งูสวัด” โรคอันตรายในผู้สูงวัย 62 take care / 10 อาการสัญญาณเตือนโรคหัวใจ 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / 6 ท่ายืดเส้นยามเช้า เพิ่มความสดใสตลอดวัน 68 happy herb / สมุนไพรทางเลือกเพื่อดูแลสิว ให้ตรงจุด 72 beauty by nature / ฟักทองผิวผุดผ่อง 92 กินอาหารเป็นยา / แกงส้มเปลือกแตงโม ใจสุข 32 happy heart / ศาสนาพุทธเปรียบเหมือนกีฬา ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ 42 feature / ลูกไม้ใต้ต้น 52 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ‘เมื่อไม่มี...จึงเข้าใจ’

54 family in love / พระวักกลิ 56 นัดพบกับธรรมะ / ผู้มีอำ�นาจเปลี่ยนแปลง 58 wired world / เตรียมสู้กับปัญญาประดิษฐ์

(ตอน 1)

60 ระหว่างทาง / เปลี่ยนผ่านกาลสมัย

ด้วยบทเรียนยิ่งใหญ่

70 well being / บันทึกไว้ในความทรงจำ�

ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙

74 สิ่งนี้ที่เรารัก / ของสะสมที่เป็นมากกว่า

ของสะสม วชิรภัทร อินทุภูติ

76 travelogue / วังเวียง ท่ามกลางป่าเขา

ลำ�เนาไพร 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / ปราจีนบุรี เยือนถิ่นอารยธรรมทวารวดี 84 special day / วันที่เพลงสรรเสริญพระบารมี ดังกึกก้องทั่วท้องสนามหลวง

88 green corner / เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

กม.33 - หอดูสัตว์หนองผักชี

94 ชวนชิม อิ่มสุข

• Panda Master • IZAKAYA TARO นาคนิวาส 7 96 ชวนดูหนัง / ยามซากุระร่วงโรย 5 Centimeters per Second 97 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes สังคมสุข

10 happy planet / เส้นทางแสวงบุญ 100 กิจกรรมนำ�สุข 102 happiness is all around



contributors

ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.92 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น อาจารย์คฑา ชินบัญชร

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร happy herb p.68

เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56

เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน

ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58

แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.52

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..

ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60

ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป

นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62

คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care

ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54

“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น

ญาดารัตน์ well being p.70

“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists

เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.90 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน

ศศินี ปัญญารัตน์

beauty by nature p.72

ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด



happy planet เรื่อง : Patty Pom

เส้นทางแสวงบุญ มนุษย์เราออกเดินทางด้วยหลายเหตุผล ไม่วา่ จะออกไปดู โ ลกกว้ า ง ออกไปเรี ย นรู้ โ ลกและ เรียนรูต้ นเอง เดินทางไปท่องเทีย่ ว พักผ่อนหย่อนใจ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ในอีกมุมหนึ่งยัง มีการเดินทางอีกรูปแบบ ที่เป็นการเดินทางด้วย เหตุผลพิเศษ ด้วยความศรัทธาและความเชื่อใน ศาสนา ทำ�ให้เกิดการเดินทางในรูปแบบของ “การ จาริกแสวงบุญ” นั่นก็คือ การเดินทางหรือการ แสวงหาสิ่งที่มีความสำ�คัญทางจริยธรรมต่อจิตใจ บางครั้ ง ก็ จ ะเป็ น การเดิ น ทางไปยั ง ศาสนสถาน ที่ มี ค วามสำ � คั ญ ต่ อ ความเชื่ อ หรื อ ความศรั ท ธา ของผู้นั้น เป็นการเดินทางในมิติทางจิตใจและ จิตวิญญาณ เป็นการเดินทางเพื่อสั่งสมบุญบารมี หรือเพื่อปฏิบัติกิจตามคำ�สอนของศาสนาต่าง ๆ

ศาสนาพุ ท ธ หนึ่ ง ในความใฝ่ ฝั น ของ พุทธศาสนิกชนที่อยากทำ�ให้สำ�เร็จสักครั้งหนึ่ง ในชีวิต คือ การเดินทางแสวงบุญไปสักการะ สถานที่สำ�คัญในพระพุทธประวัติ หรือสถูปเจดีย์ ที่มีความสำ�คัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า หรือที่ เรียกกันว่า สังเวชนียสถาน โดยสถานที่สำ�คัญ 10 | happy+

ที่ถือได้ ว่ า เป็ นจุ ดหมายหลั กของชาวพุ ทธ คื อ สังเวชนียสถาน 4 ตำ�บล คือ ลุมพินวี นั สถานทีป่ ระสูติ พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ สารนาถสถานที่ทรงแสดง ปฐมเทศนา และกุสินาราสถานที่เสด็จดับขันธปรินพิ พาน แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การจาริกแสวงบุญนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัย พุทธกาล โดยในสมัยนัน้ ชาวพุทธจะจาริกแสวงบุญ โดยเดิ นทางมาเข้ า เฝ้ า พระสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า แต่ ภ ายหลั ง มี ผู้ ทู ล ถามพระพุ ท ธเจ้ า ว่ า เมื่ อ พระองค์ เ สด็ จ ดั บ ขั น ธปริ นิ พ พานไปแล้ ว ผูศ้ รัทธาควรไปสถานทีใ่ ด เพือ่ ให้เกิดความเจริญใจ (เหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์) พระพุทธองค์ตรัส ตอบว่า สถานที่ควรไปเพื่อให้เกิดความแช่มชื่น เบิกบานใจ เจริญใจและสังเวชใจเมือ่ ได้ไป คือ ไป ยังสังเวชนียสถานทั้ง 4 นั่นเอง หลั ง จากพระพุ ท ธเจ้ า เสด็ จ ดั บ ขั น ธปรินิพพาน พุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาทั้งหลายก็ นิยมเดินทางมานมัสการสถานที่สำ�คัญเหล่านี้ ดังเช่น มีหลักฐานปรากฏว่ามีสมณทูตจากประเทศ จีน (พระถังซำ�จั๋ง) ที่ได้เดินทางมาจากประเทศจีน เพื่อสักการะสังเวชนียสถานและสถานที่สำ�คัญ ในพุทธประวัติอื่น ๆ รวมถึงเรื่องราวการเดินของ ชาวไทยทีจ่ าริกไปพุทธคยาด้วย ต่อมาพระพุทธศาสนา ได้เสื่อมไปจากประเทศอินเดีย สังเวชนียสถาน และสถานที่ สำ � คั ญ อื่ น ๆ ก็ ไ ด้ ถู ก ทิ้ ง ร้ า งไป แต่ในที่สุดก็ได้มีการบูรณะเรื่อยมา จนต่อมาใน ช่วงหลัง พ.ศ. 2500 จึงเริ่มมีชาวพุทธทุกนิกาย จากทั่วโลก นิยมมานมัสการสังเวชนียสถานและ

สถานทีส่ �ำ คัญในพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิ มากขึ้นจนถึงปัจจุบัน ศาสนาพุทธ นิกายวัชรยาน อย่างทีเ่ ราเคย ทราบกันมาว่า ชาวทิเบตเป็นชนชาติหนึง่ ทีม่ คี วาม ศรัทธาในศาสนาเป็นอย่างมาก และหนึง่ ในความฝัน สูงสุดในชีวิตอย่างหนึ่งที่ชาวทิเบตอยากทำ� คือ การได้เดินทางมาแสวงบุญยังพระราชวังโปตาลา ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต แม้ว่าในวันนี้ พระราชวังโปตาลาจะไม่ได้เป็นที่ประทับขององค์ ทาไลลามะแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความสำ�คัญต่อ จิตใจของชาวทิเบตเป็นอย่างมาก ที่ต้องการจะ กราบแบบอั ษ ฎางคประดิ ษ ฐ์ ม ายั ง พระราชวั ง โปตาลา ไม่ว่าหนทางจะยากลำ�บากหรือยาวไกล สักแค่ไหน พระราชวังโปตาลาเป็นสถานทีศ่ กั ดิส์ ทิ ธิข์ อง ชาวทิเบต สร้างขึน้ ราวศตวรรษที่ 17 ตัง้ อยูบ่ นยอดเขา เตี้ย ๆ ในหุบเขาของเมืองลาซา ตัวพระราชวัง นั้ น เ ป็ น ทั้ ง ป้ อ ม ป ร า ก า ร แ ล ะ ส ถ า น ที่ อันศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังโปตาลามีระเบียงที่มี ภาพเขียนสีเรียงสลับซับซ้อน มีห้องสวดมนต์ที่ ตกแต่งสวยงาม มีรูปเคารพเกือบสองแสนองค์ ปัจจุบันพระราชวังโปตาลากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ และสถานที่ สั ก การะ ส่ ว นด้ า นนอกเรี ย กว่ า ‘วังขาว’ เป็นสำ�นักงานและโรงเรียนศาสนา ส่วนพืน้ ที่ ด้านในเรียกว่า ‘วังแดง’ เป็นส่วนที่ยังใช้ประกอบ พิธีกรรมทางศาสนาอยู่ และที่นี่เองที่เป็นศูนย์ รวมใจของโปตาลา ชาวทิเบตยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความ



ศรัทธาที่จะทำ�การแสวงบุญ โดยการเดินเท้าและ ทำ � อั ษ ฎางคประดิ ษ ฐ์ มุ่ ง หน้ า มายั ง พระราชวั ง โปตาลาแห่งนี้ การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ คือ การเดิน 3 ก้าว แล้วก้มลงกราบกับพื้นไหว้ ทีหนึ่ง เป็นวิธีการกราบของชาวทิเบตที่จะจาริก แสวงบุญอันยิ่งใหญ่ และเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ที่สืบทอดกันมา ศาสนาอิสลาม ทุกปีเมือ่ ถึงเดือนซุลฮิจญะฮ์ (เดือนสุดท้ายตามปฏิทนิ อิสลาม) เราก็จะได้ยนิ ข่าว และเห็นภาพพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลามจาก ทุกมุมโลกที่มุ่งหน้าสู่นครเมกกะ เพื่อประกอบ 12 | happy+

พิธีฮัจญ์ ซึ่งถือเป็นหลักศาสนบัญญัติประการ ที่ 5 โดยกำ�หนดให้สามารถกระทำ�ได้ทนี่ ครเมกกะ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ด้วยความสำ�คัญดังกล่าว จึงทำ�ให้เข้าใจถึงเหตุผลทีท่ �ำ ให้นครแห่งนีเ้ ป็นนคร ศักดิส์ ทิ ธิข์ องศาสนาอิสลามมาจนถึงปัจจุบนั และ เป็นศูนย์รวมของชาวมุสลิมทั่วโลก ชาวมุสลิมทัว่ ไปจะเรียกนครเมกกะว่า ‘มักกะห์’ ซึ่ ง เป็ น ส่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง ชื่ อ เรี ย ก อ ย่ า ง เป็ น ทางการว่า มักกะห์ อัล มูกัรรามะห์ แปลว่า เมกกะ เมืองอันทรงเกียรติ ตามความเชื่อของ ศาสนาอิสลามจุดแรกของนครเมกกะ คือ วิหาร กะบะห์ สร้างขึ้นโดยท่านนบีอะดัมและพระนาง เฮาวาอ์ ซึง่ เป็นมนุษย์ชายหญิงคูแ่ รกของโลก ตาม เทวบัญชาขององค์อัลเลาะห์ เพื่อเป็นสถานที่ แสดงความเคารพสักการะพระองค์ และต่อมา ก็ได้รับการบูรณะโดยท่านนบีอิบรอฮีมและท่าน นบีอิสมาอีล หลังจากที่ท่านนบีทั้งสองได้บูรณะ วิหารเสร็จสิ้น ได้มีเทวทูตปรากฏกายขึ้น และนำ� หินดำ�อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานจากองค์อัลเลาะห์ มาให้ท่านทั้งสอง ณ เนินเขาญะบัล กูบิส ท่าน นบีมฮู มั หมัดกล่าวว่า เมือ่ ครัง้ ทีอ่ ยูใ่ นสรวงสวรรค์ หินดังกล่าวเคยมีสีขาวบริสุทธิ์ยิ่งกว่านํ้านม แต่ มากลายเป็นสีด�ำ ในช่วงทีต่ กลงมาสูภ่ มู ขิ องมนุษย์ เนื่องจากมลทินที่มนุษย์ได้กระทำ�ไว้ ดั ง นั้ น ชาวมุ ส ลิ ม ที่ มี ค วามพร้ อ มจาก

ทัว่ ทุกสารทิศ จะมารวมตัวกันทีน่ เี่ พือ่ ประกอบพิธี ฮัจญ์ ซึง่ พระคัมภีรอ์ ลั กุรอานได้ก�ำ หนดให้กระทำ� อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต และจะเป็นโอกาสที่ ชาวมุสลิมจะได้ทำ�พิธีละหมาดในสถานที่ที่ถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม และเป็นการ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนบัญญัตใิ ห้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้ง 5 ประการอีกด้วย ศาสนาคริสต์ ในศาสนาคริสต์ก็มีเมืองที่มี ความสำ�คัญทางศาสนา ที่ชาวคริสต์ต้องเดินทาง ไปแสวงบุญสักครั้งหนึ่งในชีวิต ภายใต้แนวคิด ของศาสนาคริสต์ทปี่ ลูกฝังความเชือ่ แก่ประชาชน ทุกระดับชั้น ส่งผลให้ประชาชนมีจิตศรัทธาอย่าง แรงกล้าทีจ่ ะเดินทางไปยังดินแดนศักดิส์ ทิ ธิ์ ทีน่ คร เยรูซาเลม ในประเทศอิสราเอล และเมืองต่าง ๆ ที่ เกีย่ วข้องกับพระเยซู เช่น เมืองเบทลิเฮม นาซาเรท ทะเลสาบแกลิลี และแม่นาํ้ จอร์แดน ซึง่ เป็นสถานที่ ที่พระเยซูทรงรับการบัพติสจากนักบุญจอห์น เยรูซาเลม เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง ของโลก เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์และความ ขัดแย้งเกี่ยวพันกับ 3 ศาสนา คือ ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม คริสตศาสนิกชน เชือ่ ว่าพระเยซูเสด็จขึน้ สูส่ วรรค์ทภี่ เู ขามะกอกเทศ และการมาครั้ ง ที่ ส องของพระองค์ ก็ จ ะเกิ ด ขึ้ น ที่ เ มื อ งนี้ เ ช่ น กั น เยรู ซ าเลมเป็ น เมื อ งที่ พระยาห์เวห์ทรงเลือกสรรไว้ ให้เป็นป้อมแห่งความ เชื่อถึงพระเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว จากเนินเขา ทีโ่ ล่งแจ้งนีบ้ รรดาผูเ้ ผยพระวจนะและพระเยซูเอง ทรงประกาศคำ � สั่ ง สอนของพระเป็ น เจ้ า และ บทบัญญัติแห่งความรักจากดินแดนแห่งนี้ แม้ว่าการเดินทางไปยังสถานที่ที่กล่าวมา ข้างต้น จะต้องเดินทางรอนแรมเป็นระยะทางไกล เต็มไปด้วยภัยอันตรายรอบด้าน แต่นักแสวงบุญ ต่างก็มุ่งมั่นไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้ใกล้ชิดกับ พระเจ้ามากที่สุด ไปยังสถานที่ประสูติ สถานที่ ที่ถูกตรึงไม้กางเขน และสถานที่ที่เป็นสุสานตาม คัมภีร์ไบเบิล ฉบับพันธสัญญาใหม่ของกษัตริย์ คอนสแตนตินและพระนางเฮเลนนา พระราชมารดา เป็นแรงกระตุ้นสำ�คัญที่ก่อให้เกิดกระแส การจาริกแสวงบุญของชาวคริสต์ เรามักจะเปรียบเทียบชีวิตว่าเหมือนกับการ เดินทาง ไม่วา่ จะเป็นการเดินทางทางกายหรือทางจิต และคำ�สั่งสอนของศาสนาต่าง ๆ ก็มีตรงกันว่า การเดิ นทางของเรานั้ น มิ ได้ จ บสิ้ น แค่ ก ารตาย หรือการแตกดับของร่างกายของเราในปัจจุบันนี้ แต่ ยั ง มี ก ารเดิ นทางหลั ง จากร่ า งกายแตกดั บ อี ก ด้ ว ย จึ ง เหมื อ นเราได้ เดิ นทางตลอดเวลา เพื่อสะสมบุญให้กับชีวิตวันข้างหน้า



healthy planet เรื่อง : Nasry

“งูสวัด” โรคอันตรายในผู้สูงวัย เมือ่ อายุเพิม่ มากขึน้ ภูมคิ มุ้ กันทางร่างกายจะ อ่อนแอลง ทำ�ให้มโี อกาสติดเชือ้ ได้งา่ ย และเสีย่ งต่อ การเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะ “งูสวัด” ซึง่ ถือเป็นอีกหนึง่ โรคทีไ่ ด้ยนิ ชือ่ มานาน ทีแ่ ฝงด้วยภัยร้ายทีท่ �ำ ให้ผสู้ งู อายุตอ้ งเผชิญ กับความเจ็บปวด อีกทัง้ ยังมีอาการแทรกซ้อนทีอ่ าจ เป็นอันตรายถึงชีวติ ได้ ด้วยเหตุนเ้ี ราจึงควรรูท้ ม่ี าและ วิธกี ารป้องกัน เพือ่ ทำ�ให้ผสู้ งู อายุหา่ งไกลจากความ เจ็บป่วยของโรคนี้

14 | happy+

แพทย์หญิงอรพิชญา ไกรฤทธิ์ หน่วยเวชศาสตร์ผสู้ งู อายุ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า โรคงูสวัด เป็นโรคของผื่นผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส “วาริเซลลา ซอสเตอร์” (Varicella Zoster Virus : VZV) โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจ และสัมผัสตุ่มนํ้าใสโดยตรง ซึ่งเมื่อสัมผัสเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ จะทำ�ให้เป็นโรคอีสุกอีใส แต่เมื่อหายจากอีสุกอีใสแล้ว เชื้อ จะหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกายนานหลายปี โดยไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ จนเมื่อร่างกาย มีภูมิคุ้มกันตํ่า เชื้อที่แฝงอยู่ก็จะแบ่งตัวและปล่อยเชื้อกระจายออกมาในปมประสาท ทำ�ให้ประสาท อักเสบ เกิดอาการปวดตามแนวเส้นประสาท และเกิดตุ่มใสเรียงเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาท ซึ่งคนที่เสี่ยงเป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใส เพราะเชื้อไวรัสจะหลบซ่อนอยู่ใน ร่างกายหลายสิบปี และหากร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดตํ่าลง จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ทำ�งานหนัก อาจจะทำ�ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายออกมาได้ ทั้งนี้ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสที่ จะเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ทำ�ให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดตํ่าลง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรค เรือ้ รัง อย่างโรคเบาหวาน ไตวายเรือ้ รัง ปอดอุดกัน้ เรือ้ รัง เป็นต้น อีกทัง้ ผูต้ ดิ เชือ้ เอชไอวีหรือผูป้ ว่ ยมะเร็ง ทีไ่ ด้รบั เคมีบำ�บัด ก็มโี อกาสเสีย่ งทีจ่ ะเป็น เพราะมีการเปลีย่ นแปลงของภูมคิ มุ้ กันอย่างรุนแรง “อาการของโรคงูสวัดจะเริม่ จากอาการปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง หลังจากนัน้ 2-3 วัน จะมีผนื่ แดง ขึ้นตรงบริเวณที่ปวดแสบ แล้วกลายเป็นตุ่มนํ้าใส โดยผื่นมักเรียงกันเป็นกลุ่มหรือเป็นแนวยาวตาม แนวเส้นประสาท มักเกิดบริเวณชายโครง ใบหน้า แขน โดยผื่นจะหายเองภายในสองสัปดาห์ เมื่อผื่น หายแล้ว อาจจะยังพบอาการแทรกซ้อนที่เรียกว่า ‘อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง’ หรือ ‘Post Herpetic Neuralgia (PHN)’ ซึ่งอาจจะปวดได้อีก 3-12 เดือน ในบางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย อาการปวด


แซนด์วิชเต้าหู้ชีส เรือ่ ง : Nasry

คุณค่าทางอาหาร เต้าหู้ถ่ัวเหลือง มี แ คลเซี ย ม สูงกว่าพืชผักชนิดอื่น ๆ ช่วย ป้ อ งกั น โรคกระดู ก บางหรื อ กระดูกพรุนในผู้สูงอายุ เต้าหู้ มีโพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต และรั ก ษาสมดุ ล เกลื อ แร่ ใ น ร่างกาย

ในตอนเช้ า ชั่ ว โมงที่ แ สนเร่ ง รี บ คงยากที่ จ ะหุ ง หาอาหารมา รับประทานกัน “แซนด์วิช” จึงเป็นเมนูอาหารเช้าที่ใครหลายคน เลือกทำ�รับประทาน เพราะไม่ตอ้ งใช้อปุ กรณ์และส่วนผสมในการทำ� อะไรมากมาย แถมยังมีคณ ุ ประโยชน์ครบถ้วนอีกด้วย ฉบับนีเ้ รามี เมนู “แซนด์วิชเต้าหู้ชีส” มาแนะนำ�ค่ะ เผื่อใครเบื่อแซนด์วิชรสชาติ แบบเดิม ๆ กันแล้ว รับรองได้วา่ รสชาติอร่อย เติมพลังและความสุข ให้กับทุกคนในครอบครัวแน่นอน

พริ ก หวาน มี วิ ต ามิ น ซี สู ง นอกจากจะช่วยดูแลสุขภาพ ไม่ให้ป่วยเป็นไข้หวัดบ่อย ๆ แล้ว ยังดีต่อผิวพรรณ ช่วย ให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้ง พริกหวานยังสามารถลดความดันโลหิตได้ ทำ�ให้หลอด เลือดอ่อนตัว และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดเป็น ไปได้ดี ห อ ม หั ว ใ ห ญ่ มี ส า ร ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ (Flavonoid Glycosides) ทีม่ คี ณ ุ สมบัตชิ ว่ ยป้องกันไขมัน ไม่ให้มาเกาะตามผนังหลอด เลือด ซึง่ หากเกาะมาก ๆ จะ เกิ ด ภาวะเส้ น โลหิ ต อุ ด ตั น หรือทำ�ให้เกิดโรคหัวใจขาด เลือดได้

มาเพิ่มพลังให้เช้านี้ด้วยเมนูแซนด์วิชเต้าหู้ชีส ที่นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้ว ยังเหมาะกับ คนที่รักสุขภาพอีกด้วย เพียงนำ�เต้าหู้ พริกหวาน หอมหัวใหญ่ และเห็ดออรินจิ มาผัด เข้าด้วยกัน จากนั้นนำ�มายองเนสมาคลุกเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน ตักส่วนผสมทั้งหมดราด บนขนมปังโฮลวีท โรยด้วยมอสซาเรลลาชีสและออริกาโน เพื่อเพิ่มความหอม ตั้งเตาอบ ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 7-8 นาที จนชีสละลายและขนมปังมีสีเหลือง สวย หรือหากไม่มีเตา สามารถใช้กระทะเทฟลอนแบบมีฝาปิดแทนได้ โดยตั้งไฟอ่อน ๆ แล้วรองด้วยแผ่นฟอยล์ วางแซนด์วชิ ลงไป แล้วปิดฝาให้ชสี ละลาย เท่านีก้ จ็ ะได้เมนูอาหาร ง่าย ๆ สำ�หรับทานเล่นหรือทานเป็นอาหารเช้าแล้วค่ะ

ขนมปังโฮลวีท มีวิตามินบี ซึง่ ช่วยในเรือ่ งบำ�รุงผิวพรรณ มีใยอาหารสูงมาก และดีต่อ ระบบการขับถ่าย แถมยัง ช่วยบำ�รุงเลือดได้ดีอีกด้วย


เรือ้ รังมักพบได้ประมาณร้อยละ 50 ของผูป้ ว่ ยทีม่ อี ายุเกิน 50 ปีขนึ้ ไป และมากกว่าร้อยละ 70 ในผูป้ ว่ ย อายุ 70 ปีขึ้นไป ยิ่งอายุมาก ยิ่งเป็นรุนแรงและนานมากขึ้น “จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยที่สูงอายุเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่า เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกัน ยิง่ ตํา่ ลง การแพร่กระจายและความรุนแรงของโรคจึงมากขึน้ อย่างอาการปวดเรือ้ รัง จะทำ�ให้ผสู้ งู อายุ มีอาการปวดลึก ๆ ปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา อาจจะปวดแม้ถูกสัมผัสเพียงเบา ๆ อาจจะปวดมาก เวลากลางคืนหรือเวลาทีอ่ ากาศเปลีย่ นแปลง ในบางรายอาจจะปวดมากจนทนไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ และ หากขึน้ ทีใ่ บหน้าอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอืน่ ๆ ตามมา ได้แก่ การติดเชือ้ แบคทีเรียทีต่ า ทำ�ให้ตาอักเสบ หรือเป็นแผลทีก่ ระจกตา ซึง่ เสีย่ งต่ออาการตาบอดได้ หรือภาวะแทรกซ้อนทางหู บางรายอาจพบภาวะ แทรกซ้อนที่รุนแรงแต่พบได้น้อย เช่น ปอดอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจทำ�ให้เสียชีวิตได้” แพทย์หญิงอรพิชญากล่าวต่อว่า การรักษาและการปฏิบตั ติ วั ของผูป้ ว่ ยโรคงูสวัด หากเป็นในผูป้ ว่ ย ที่ภูมิคุ้มกันปกติอาจรักษาตามอาการ เช่น รับประทานยาแก้ปวดหรือยากันชัก แต่ถ้าเป็นในผู้ป่วย สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันตํ่ามาก อาจจะต้องทานยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ ภายใน 48-72 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ จะช่วยให้รอยโรคทางผิวหนังหายได้เร็วและลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลด ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ส่วนในรายที่ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน อาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะชนิดทา หรือรับประทานร่วมด้วย “สำ�หรับแผลผื่นและตุ่มใส ให้ประคบแผลด้วยนํ้าเกลือ ครั้งละประมาณ 10 นาที 3-4 ครั้งต่อวัน จะช่วยทำ�ให้แผลแห้งขึ้น ตัดเล็บสั้น และไม่แกะเกาบริเวณผื่นและตุ่มนํ้า และควรอาบนํ้าฟอกสบู่ให้ 16 | happy+

สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซํ้า และ ไม่ พ่ นหรื อทายาพื้ นบ้ านหรื อยาสมุนไพรลงไป บริเวณตุ่มนํ้า เพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรีย ทำ�ให้ แผลหายช้าและกลายเป็นแผลเป็นได้ ถ้ามีอาการ ปากเปื่อยลิ้นเปื่อยให้ใช้นํ้าเกลือกลั้วปาก “แนวทางป้ อ งกั น โรคงู ส วั ด คื อ ควรดู แ ล สุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำ�ลังกายสมํ่าเสมอ รับประทานอาหารให้ ครบ 5 หมู่ ในผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรฉีด วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด สำ�หรับผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ควรหลีกเลีย่ งการสัมผัสตุม่ นํา้ หรือแผลของผูป้ ว่ ย งูสวัด และควรแยกสิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม และที่นอนของผู้ป่วย ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเป็นโรคงูสวัดแบบแพร่กระจาย สามารถแพร่ เชื้ อ ได้ ท างการหายใจ ดั ง นั้ น ควรแยกผู้ ป่ ว ย ไม่ให้ใกล้ชิดกับผู้ไม่เคยเป็นโรค เด็กเล็ก และสตรี มีครรภ์”



นํ้ามันมะกอกกับโรคซึมเศร้า

มะกอก (Olive) เป็นพืชในวงศ์ Oleaceae จัดเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของประเทศในแถบทะเล เมดิเตอร์เรเนียน ผลมะกอกมีรปู ทรงค่อนข้างกลม รสฝาดและขม ไม่นยิ มรับประทานสด ส่วนใหญ่น�ำ มาทำ�มะกอกดองเพือ่ ใช้ประกอบอาหาร หรือแปรรูป เป็นนํา้ มันมะกอก น้าํ มันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ ได้จากการสกัด นา้ํ มันจากผลมะกอกโดยไม่ใช้ความร้อน ไม่ใช้สาร เคมี ลักษณะเป็นน้าํ มันใสสีเขียวเรื่อ ๆ มีรสชาติ และกลิน่ ของมะกอกเข้มข้น รสชาติและกลิน่ เฉพาะ ตัวของมะกอกนี้เกิดจาก สารไฮดรอกซีไทโรซอล (Hydroxytyrosol) ซึง่ เป็นสารกลุม่ ฟีโนลิก ทีช่ ว่ ยใน การต้านอนุมลู อิสระ จากการศึกษาวิจัยของประเทศสเปน พบว่า น้ํามันมะกอกมีกลไกในการเพิ่มระดับเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารในสมองที่ช่วยเรื่องการควบคุมอารมณ์ หากร่ า งกายมี ส ารเซโรโทนิ น อย่ า งเพี ย งพอ จะ ช่วยให้อารมณ์ดี รูส้ กึ ผ่อนคลาย สงบ มีความคิด สร้างสรรค์ อารมณ์มน่ั คง ไม่แปรปรวน ตอบสนอง ต่อความเครียดได้ดี ลดอาการของโรคซึมเศร้าลงได้ ทีม่ า : www.isatit.com/สุขภาพ/ประโยชน์ของนา้ํ มันมะกอก/

จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)



special scoop

20 | happy+


ธ สถิต ในดวงใจไทยทั่วหล้า นับตัง้ แต่วนั ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการที่แสดงถึงความตั้งมั่นพระราชหฤทัยว่า “เราจะครองแผ่นดินโดย ธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงกระทำ�ตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้อย่างแน่วแน่ ในการทำ�นุ บำ�รุงสุข สร้างประโยชน์ สร้างความร่มเย็นและความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศไทยของพระองค์เสมอมา ตลอดการครองราชย์อันยาวนานถึง ๗๐ ปี เราไม่สามารถที่จะกล่าวถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงกระทำ�หรือโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริทั้งหมดได้ นิตยสาร happy+ ฉบับนี้ จึงขอนำ�เสนอบางส่วนของพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทีม่ ตี อ่ ปวงชน ชาวไทย เป็นการน้อมถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระองค์ และขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำ�ลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้

พระมหากษัตริย์กับการทรงงาน

หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมี เพียงง่าย ๆ คือ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นว่า มีสิ่งใดที่ควรปรับปรุง ให้ดกี ว่านี้ ทำ�ประโยชน์ได้มากกว่าเดิม หรือประชาชนยังมีปญ ั หา มีความทุกข์ พระองค์จะใช้ความรู้ที่มีอยู่แล้ว หรือถ้ายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น พระองค์จะทรงศึกษาหาความรู้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ แล้วนำ� มาประยุกต์ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาสิ่งนั้นให้ดีกว่าเดิม ความตั้งพระราชหฤทัยในการที่จะช่วยเหลือและสร้างประโยชน์แก่ ประชาชน แม้ว่าพระองค์จะทรงลำ�บากอย่างไร พระองค์ก็ไม่สนพระราช หฤทัย ถ้าพระองค์เห็นว่าดีก็จะทรงตั้งมั่นอย่างเต็มที่ ถ้าประสบปัญหา ก็ จะทรงมาพิจารณาแก้ไขทีละขั้นตอน และแก้ไขปัญหาอย่างระมัดระวังและ รอบคอบ หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชนัน้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานสัมภาษณ์ ผ่านทาง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสั่งสม ความรูพ้ นื้ ฐาน โดยทรงเรียนรูจ้ ากการคุยกับเจ้าหน้าทีท่ ถี่ วายรายงานในเรือ่ ง ต่าง ๆ จากนั้นจะทรงค่อย ๆ สร้างองค์ความรู้ของพระองค์เอง หลังจากทรง ทำ�นาน ๆ ก็ทรงมีประสบการณ์ จนทรงประเมินราคาโครงการได้เลย “ทรงนำ�ความรู้และวิชาการต่าง ๆ มาใช้ร่วมกัน หรือที่สมัยนี้เรียกว่า ‘บูรณาการ’ ไม่ทงิ้ แง่ใดแง่หนึง่ อย่างเช่น เรือ่ งอย่างนีใ้ นแนววิศวกรรมศาสตร์ ทำ�ได้ แต่อาจจะไม่เหมาะสมในเชิงเศรษฐศาสตร์ หรือเหมาะสมดีในเชิง เศรษฐศาสตร์ แ ละวิ ศ วกรรมศาสตร์ แต่ ไม่ เหมาะสมกั บ ความสุ ข หรื อ ความก้าวหน้าของประชาชน ก็ไม่ได้ “เมื่อพระองค์เสด็จฯ ไปพบประชาชนที่ทุกข์ยาก ทรงช่วยได้ก็จะทรง ช่วยทันที พระองค์ไม่ได้ตั้งทฤษฎีไว้ก่อน แล้วทรงทำ�ตามทฤษฎี พระองค์ ทรงเห็นอะไรที่กระทบหรือเห็นว่ามีปัญหา ก็ทรงหาทางแก้ไขและเมื่อทำ�ไป มาก ๆ ก็ออกมาเป็นทฤษฎี “พระองค์ไม่ได้ตั้งทฤษฎี โดยที่คิดตามปรัชญาและทฤษฎีมาก่อน แล้ว

หาตัวอย่างเข้าไปปฏิบัติตาม แต่มีความรู้สึกว่า พระองค์ทรงมีตัวอย่าง มากมายจากการเสด็จฯ ไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อทอดพระเนตรสภาพปัญหา ที่แท้จริง” โดยเป้าหมายในการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั คือ “การ พัฒนาทีย่ งั่ ยืน” เพือ่ ปรับปรุงชีวติ ความเป็นอยูข่ องประชาชน โดยทีไ่ ม่ท�ำ ลาย สิ่งแวดล้อม ทำ�ให้ประชาชนมีความสุข โดยต้องคำ�นึงถึงสภาพภูมิศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา เชื้อชาติ และภูมิหลังทางเศรษฐกิจ สังคม แม้ว่าจะมี การพัฒนาในหลากรูปแบบหลายแนวทาง แต่ที่สำ�คัญ คือ นักพัฒนาต้อง มีความรัก ความห่วงใย ความรับผิดชอบ และการเคารพในเพื่อนมนุษย์ พระองค์ทรงสอนให้เรารู้ว่า การพัฒนาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ และจิตใจ การทำ�งานพัฒนาไม่ได้เป็นเรื่องของการเสียสละเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำ�เพื่อตนเองด้วย เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าเราอยู่อย่างสุขสบายในขณะที่คนอื่น ๆ นั้นทุกข์ยาก เราย่อมอยู่ไม่ได้ นักพัฒนาควรมีจติ สาธารณะ รักทีจ่ ะช่วยเหลือให้ผอู้ น่ื มีชวี ติ ความเป็นอยูท่ ด่ี ขี น้ึ อีกประการคือ พระองค์ทรงสอนอยู่เสมอว่า งานพัฒนานั้นต้องเป็น ที่ต้องการของบุคคลเป้าหมาย และผู้ร่วมงานต้องพอใจ งานพัฒนาเป็น งานยากและกินเวลานาน ดังนั้น นักพัฒนาจึงต้องเป็นคนที่อดทน เชื่อมั่น ในความดี มีใจเมตตากรุณา อยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์และมีความสุข ต้องมี ความรู้กว้างขวาง เพราะงานพัฒนาเกี่ยวข้องกับเรื่องต่าง ๆ มาก ต้องมี มนุษยสัมพันธ์ที่ดีเข้าใจและยอมรับนับถือผู้อื่น เพราะเป็นงานที่ไม่สามารถ จะกระทำ�ให้สำ�เร็จได้โดยลำ�พัง และนักพัฒนาต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ถ้า คอร์รัปชันเสียเองก็จะเป็นที่เกลียดชัง ผู้อื่นไม่ไว้วางใจ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ด้วยความตั้งใจที่จะกระทำ�ประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น แม้ว่าพระองค์เองจะ ลำ�บาก เดือดร้อน พระองค์กไ็ ม่สนพระราชหฤทัย หรือหากพระองค์เห็นแล้ว ว่าดี ก็ตอ้ งมีความตัง้ ใจ เข้มแข็ง และอดทนทำ�ต่อโดยไม่ยอ่ ท้อ และพระองค์ ทรงงานทุกวัน จนรู้สึกเหมือนเป็นชีวิตประจำ�วัน และในหนั ง สื อ “พระมหากษั ต ริ ย์ นั ก พั ฒ นา เพื่ อ ประโยชน์ สุ ข สู่ ป วงประชา” ที่ จั ด ทำ � โดย คสช. ยั ง มี ส่ ว นที่ ร ะบุ ถึ ง พระเมตตาและ happy+ | 21


special scoop

พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อประชาชน ชาวไทยไว้ว่า “พระองค์ก็คงทรงเหนื่อยเหมือนกัน แต่ทรงไม่บ่น ทรงงาน ๓๖๕ วัน โดยจะมีเสียงวิทยุดังมาตลอด และยังมีอุปกรณ์สำ�หรับติดตามข่าวสาร สารพัดอย่าง พระองค์ทรงฟังคลื่นวิทยุหลายเครือข่าย ถึงทรงรู้ว่ามีนํ้าท่วม ไฟไหม้ตรงไหน มีอะไรพระองค์ก็ทรงให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตรงนี้ คงไม่เรียกว่าพัฒนา เป็นบรรเทาสาธารณภัยมากกว่า พระองค์ทรงสน พระราชหฤทัยในการช่วยเหลือราษฎรเป็นอย่างมาก แม้ว่าพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวจะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ก็ยังคงทรงงาน เพื่อที่จะ ช่วยเหลือพสกนิกรอยู่ตลอดเวลา” แม้วา่ เท่าทีเ่ ราได้เห็นจะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของพระราชกรณียกิจและ การทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่พระองค์ทรงทุ่มเทเวลา ทุ่มเทพระพละกำ�ลังและความตั้งพระราชหฤทัยทั้งหมดของพระองค์ในการ ทรงงานเพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนของพระองค์ ทำ�ให้เราคนไทยมีชีวิต ความเป็นอยู่ที่สุขสบายขึ้น นี่เป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ ของพระเมตตาและ พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่รักยิ่งของพวกเรา

โครงการในพระราชดำ�ริของกษัตริย์นักพัฒนา

โครงการพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกว่า ๔,๕๓๖ โครงการ เป็นโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรได้จริง โครงการพัฒนาชนบทของพระองค์เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ และ มีหลากหลายด้าน อาทิ พระราชดำ�ริเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งนํ้า เหมือง ฝาย อ่างเก็บนํ้า และเขื่อน โดยสร้างให้กระจายออกไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ให้ มากทีส่ ดุ เพือ่ สร้างแหล่งนํา้ ขนาดเล็กไปยังหมูบ่ า้ นทีอ่ ยูน่ อกเขตชลประทาน และทุรกันดาร หรือจะเป็นด้านการพัฒนาการเกษตรทีพ่ ระองค์ทรงให้ความ สนพระราชหฤทัยมากที่สุด ทรงศึกษาหาความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย พระองค์เอง ก่อนที่จะพระราชทานพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ หรือเครื่องมืออุปกรณ์ ทีท่ นั สมัยตามความเหมาะสม ให้ประชาชนได้น�ำ ไปผลิตและพัฒนาผลผลิต ทางการเกษตรของตนเอง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริทุกโครงการล้วนมุ่งไปเพื่อการ 22 | happy+

พัฒนาชนบท และให้ประชาชนสามารถใช้ชวี ติ อยูอ่ ย่างพอมีพอกิน สามารถ พึ่งพาตนเองได้ และชาวบ้านสามารถช่วยกันพัฒนาชุมชนของตัวเองได้ ซึ่ง แนวทางต่าง ๆ เหล่านั้น ได้กลายมาเป็นแผนพัฒนาชนบทของรัฐบาล ที่จะ ช่วยยกระดับชีวติ ความเป็นอยูข่ องชาวบ้านให้ดขี นึ้ โดยโครงการทีช่ ว่ ยเหลือ ประชาชนโครงการแรก ได้แก่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมประมงนำ� พันธุ์ปลาหมอเทศจากปีนัง เข้าไปเลี้ยงในสระนํ้าพระที่นั่งอัมพรสถาน และ ต่อมาพระราชทานพันธุป์ ลาหมอเทศนีใ้ ห้แก่ก�ำ นันและผูใ้ หญ่บา้ นทัว่ ประเทศ นำ�ไปเลีย้ งเผยแพร่แก่เกษตรกรในหมูบ่ า้ นของตน เพือ่ ให้ชาวบ้านได้มอี าหาร ที่เป็นโปรตีนเพิ่มขึ้น แต่โครงการทีน่ บั ว่าเป็นโครงการพระราชดำ�ริโครงการแรกคือ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถบลูโดเซอร์ ให้หน่วยตำ�รวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวรไปสร้างถนน เข้าไปยังบ้านห้วย มงคล เพื่อให้ราษฎรสามารถสัญจรไปมาและสามารถนำ�ผลผลิตออกมา จำ�หน่ายนอกชุมชนได้สะดวกขึ้น หลังจากนั้นจึงมีพระราชดำ�ริให้สร้างอ่าง เก็บนํา้ เขาเต่า จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เพือ่ บรรเทาความแห้งแล้ง และความ เดือดร้อนของประชาชน นับเป็นโครงการในพระราชดำ�ริด้านชลประทาน โครงการแรกของพระองค์ โครงการด้านการพัฒนาแหล่งนํา้ เพือ่ การเพาะปลูกหรือการชลประทาน เป็นงานที่มีความสำ�คัญและมีประโยชน์กับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ช่วยให้สามารถทำ�การเพาะปลูกได้อย่างสมบูรณ์ตลอดทัง้ ปี พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งนํ้า มากกว่าโครงการพัฒนาในด้านอื่น ๆ เพราะทรงให้ความสำ�คัญว่า ‘นํ้าคือ ชีวติ ’ และมีพระราชดำ�รัสว่า “ความเจริญของประเทศ ต้องอาศัยความเจริญ ของภาคเกษตรเป็นสำ�คัญ” แนวทางการพัฒนาด้านการเกษตรของพระองค์ ทรงพยายามเน้นไม่ให้ เกษตรกรพึง่ พาอยูก่ บั พืชเกษตรเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะเกิดความเสียหาย ได้ง่าย เนื่องจากความแปรปรวนของตลาดและธรรมชาติ ทางออกคือ ทรงสนับสนุนให้ทำ�การเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อลดความเสี่ยงและจะได้ มีรายได้ตลอดทัง้ ปี ในขณะเดียวกันเกษตรกรก็ควรจะต้องมีรายได้ทางด้านอืน่ เพิ่ ม ขึ้ นนอกเหนื อ ไปจากภาคเกษตร เช่ น อุ ต สาหกรรมในครั ว เรื อ น


โดยมูลนิธสิ ง่ เสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ทีท่ รง สนับสนุนให้เกษตรกรได้ท�ำ งานหัตถกรรมโดยใช้วสั ดุในท้องถิน่ ให้เป็นรายได้ เสริมอีกทางหนึ่ง พร้อมพระราชทานแนวพระราชดำ�ริ “เกษตรทฤษฎีใหม่” เกี่ยวกับการจัดการที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและมีชีวิตอย่างยั่งยืน โดยมีการ แบ่งพื้นที่เป็นส่วน ๆ ได้แก่ พื้นที่นํ้า พื้นที่ดิน เพื่อเป็นที่ทำ�นาปลูกข้าว ที่ดิน สำ�หรับปลูกพืชไร่ ที่เลี้ยงสัตว์ และที่อยู่อาศัย ในอัตราส่วน ๓:๓:๓:๑ เป็น หลักการในการจัดการที่ดินและนํ้าในที่ดินขนาดเล็กสำ�หรับเกษตรกร เพื่อ ให้ใช้พื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พระองค์ทรงแบ่งอาณาเขตพระราชฐานพระตำ�หนักจิตรลดารโหฐาน บางส่วนเป็นสถานีค้นคว้าทดลองทางการเกษตรในทุก ๆ ด้าน มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ในการค้นคว้าทดลองนั้น ทรงเน้นให้มีการทดลองทั้งก่อน การผลิตและหลังการผลิตพิจารณาตั้งแต่เรื่องของความเหมาะสมของพืช และดิน หรือจะทำ�อย่างไรให้เกษตรกรได้มีความรู้เบื้องต้นด้านบัญชีและ ธุ ร กิ จ การเกษตรแบบพึ่ ง ตนเองได้ เช่ น ศู น ย์ ส าธิ ต สหกรณ์ โ ครงการ หุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี และทรงแนะนำ�ส่งเสริมการเกษตรทีส่ งู โดยเฉพาะ พืชเศรษฐกิจทีเ่ หมาะสมกับสภาพภูมปิ ระเทศของทางภาคเหนือ โดยไม่ตอ้ ง ถางป่าทำ�ไร่เลื่อนลอย โดยทรงเห็นว่าภูเขาเป็นปัจจัยสำ�คัญในการรักษาป่า ต้นนํ้า ทรงพยายามเข้าถึงชนกลุ่มน้อยและให้ความรู้ในด้านนี้ แม้ว่าจะเป็น พื้นที่ทุรกันดารก็ตาม นอกจากด้านนํ้าแล้ว ก็ยังมี โครงการในพระราชดำ�ริในด้านดิน ทั้ง ในแง่ของการแก้ไขปัญหาดินเสื่อมโทรม ขาดคุณภาพ และการขาดแคลน ที่ดินสำ�หรับทำ�การเกษตรของเกษตรกร ทรงสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าใจ วิธีอนุรักษ์ดินและนํ้า บำ�รุงปรับปรุงดินจนสามารถนำ�ไปปฏิบัติได้เอง อาทิ แนวพระราชดำ�ริแกล้งดิน ที่แก้ปัญหาดินเปรี้ยวหรือดินเป็นกรด โดยทำ�การ ขังนํ้าไว้ในพื้นที่จนเกิดปฏิกิริยาเคมีทำ�ให้ดินเปรี้ยวจนถึงที่สุด จึงระบายนํ้า ออกแล้วปรับสภาพดินด้วยปูนขาว จนกระทัง่ ดินมีคณ ุ ภาพดีพอทีจ่ ะใช้เพาะปลูก หรือ โครงการห่มดิน เพื่อให้จุลินทรีย์ในดินมีความอุดมสมบูรณ์ ทำ�ให้ ทำ�การเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ตลอดจนการทำ�แปลงสาธิตการพัฒนาที่ดิน แก่เกษตรกรในบางพื้นที่ที่มี ปัญหาในการพัฒนาปรับปรุงดิน ให้ดนิ สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ทางการ

เกษตรได้ ทรงศึกษาทดลองปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลาย ของดิน และรักษาความชุม่ ชืน้ ไว้ในดิน และขัน้ ตอนการปลูกก็งา่ ย ประหยัด ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก ด้านการอนุรกั ษ์ทรัพยากรป่าไม้ มีพระราชดำ�ริไว้หลายวิธี เช่น การปลูกป่า โดยไม่ต้องปลูก ที่ได้ดำ�เนินการในพื้นที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมา จากพระราชดำ�ริ จังหวัดราชบุรี เป็นวิธที งี่ า่ ยและประหยัด ตลอดจนส่งเสริม ระบบวงจรป่าไม้ลกั ษณะธรรมชาติแบบดัง้ เดิม มี ๓ วิธี คือ ๑. ถ้าเลือกพืน้ ที่ ที่เหมาะสมแล้ว ก็ทิ้งป่านั้นไว้ ไม่ต้องไปทำ�อะไรเลย ป่าจะเจริญขึ้นมาเป็น ป่าที่สมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องไปปลูกต้นไม้สักต้นเดียว ๒. ไม่ไปรังแกป่าหรือ รังแกต้นไม้ เพียงแค่คุ้มครองให้ขึ้นเองเท่านั้น ๓. ป่าเต็งรัง ป่าเสื่อมโทรม ไม่ตอ้ งทำ�อะไรเพราะตอไม้จะแตกกิง่ ออกมาเอง แม้ไม่สวยแต่กเ็ ป็นต้นไม้ใหญ่ ได้ โครงการ ป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง ในศูนย์ศึกษาการพัฒนา ห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ จังหวัดเพชรบุรี และศูนย์ศึกษาการ พัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ จังหวัดเชียงใหม่ การปลูก ป่า ๓ อย่าง คือ ป่าสำ�หรับไม้ใช้สอย ป่าสำ�หรับเป็นไม้ผล และป่าสำ�หรับ เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งราษฎรสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้อย่างเกื้อกูลกัน การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย ซึ่ง ถูกบุกรุกทำ�ลาย ด้วยการปลูกป่าชายเลน อาศัยระบบนํ้าขึ้นนํ้าลงในการ เติบโต เป็นแนวป้องกันลมและการกัดเซาะชายฝัง่ ทีส่ �ำ คัญ เป็นแหล่งอนุบาล สัตว์นํ้า ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลให้แก่ธรรมชาติให้กลับคืนสู่ความ สมบูรณ์ดังเดิม นับได้วา่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงสร้างความ สมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะโครงการใน พระราชดำ�ริต่าง ๆ ของพระองค์ เป็นส่วนสำ�คัญยิ่งในการพัฒนาชนบท พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาความมั่นคงและความ เป็นธรรมในสังคม พัฒนาทางด้านการส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว เพราะพระองค์มีพระเมตตา และมีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่อง ของการเกษตรจนเป็นที่ประจักษ์ในทุกวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงงาน พระองค์ทรงทำ�ให้ทรัพยากรที่ happy+ | 23


special scoop

เสื่อมโทรมได้พลิกฟื้นกลับคืนมาสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง นอกจากจะรับสั่งแล้ว พระองค์ยงั ทรงทำ�ให้ดเู ป็นตัวอย่างผ่านทางโครงการในพระราชดำ�ริทงั้ ๖ แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศ และในแต่ละแห่ง แต่ละภาคก็จะมีโครงการที่ ไม่เหมือนกัน เพราะพระองค์ทรงยึดถือว่า การพัฒนาใด ๆ ก็ตาม จะต้อง สอดคล้องกับปัญหาและสภาพพื้นที่ของแต่ละภูมิภาค ทรัพยากรธรรมชาติ ประเพณี ค่านิยม รวมทั้งคนและหลักปฏิบัติในสังคมนั้น ๆ ด้วย หลาย โครงการได้กลายมาเป็นรากฐานสำ�คัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และเป็นองค์ความรูท้ ที่ งิ้ ไว้ให้แก่ลกู หลานและชนรุน่ หลังได้น�ำ ไปพัฒนาต่อไป ก่อนที่พระองค์จะพระราชทานแนวพระราชดำ�ริในแต่ละโครงการนั้น พระองค์จะทรงทำ�การทดลองเองก่อนเสมอ พระองค์ทรงรวบรวมความรู้ อย่างเป็นระบบก่อนนำ�มาถ่ายทอด ทรงมีรับสั่งกับผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ ว่า ก่อนทีจ่ ะไปแนะนำ�หรือสอนให้ประชาชนทำ�โครงการจะต้องระมัดระวังให้ มาก เพราะถ้าหากพลาดไปแล้ว เจ้าหน้าทีไ่ ม่ได้แย่ แต่ประชาชนจะเดือดร้อน ลำ�บาก เพราะฉะนั้นเรื่องการเกษตร ดิน นํ้า ลม ไฟ ต้องระวัง เพราะ ถ้าพลาด อาจจะกลับคืนมาลำ�บาก เพราะธรรมชาตินั้นฟื้นคืนยากกว่า ดังนั้น โครงการในพระราชดำ�ริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการจึงได้รับการพิจารณา อย่างถ้วนทัว่ ในทุกด้านก่อนดำ�เนินการและขยายผลสูร่ าษฎร จึงทำ�ให้ในทุก ๆ โครงการประสบความสำ � เร็ จ เป็ น อย่ า งดี แ ละสามารถแก้ ไขปั ญ หาของ พื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ช่วยให้ราษฎรของพระองค์มีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นตามพระราชประสงค์ ยังความซาบซึ้งมาสู่เกษตรกรและราษฎรที่ได้ ดำ�เนินรอยตามแนวพระราชดำ�ริมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

พระอัจฉริยภาพทั้งศาสตร์และศิลป์

เป็นทีป่ ระจักษ์แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระปรีชาสามารถและมีพระอัจฉริยภาพทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ว่าจะ เป็นการจัดทำ�โครงการตามพระราชดำ�ริต่าง ๆ การจัดการนํ้า การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม การคมนาคม การเกษตรและทฤษฎีใหม่ การประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ ทั้ง 24 | happy+

จิตรกรรม ประติมากรรม หัตถศิลป์ สถาปัตยศิลป์ ดุริยางคศิลป์ นาฏศิลป์ ดนตรีไทย วรรณศิลป์ หรือจะเป็นการถ่ายภาพ ทีพ่ ระองค์จะมีกล้องถ่ายภาพ ข้างกายอยูเ่ สมอ การกีฬาทีท่ รงเล่นกีฬาได้หลากหลายประเภท ไม่วา่ จะเป็น สกี เทนนิส หรือกีฬาที่โปรดอย่างการต่อและแล่นเรือใบ พระอัจฉริยภาพ ด้ า นการวาดภาพสี นํ้ า มั น และที่ เ ด่ น ที่ สุ ด คื อ การทรงดนตรี แ ละ พระราชนิพนธ์เพลง ซึง่ เพลงพระราชนิพนธ์ทงั้ ๔๘ เพลงนัน้ ได้รบั การยอมรับว่า มีความไพเราะซาบซึ้ง และมีความหมายที่ลึกซึ้ง นอกจากนี้พระองค์ยังทรง แสดงดนตรีร่วมกับวงแจ๊ซระดับโลกอีกด้วย พระองค์ทรงเล่นเครื่องดนตรีได้ หลายชนิด เช่น แซกโซโฟน, แคลริเน็ท, ทรัมเป็ต และเปียโน สมดังพระราช สมัญญาว่า “อัครศิลปิน” แปลว่า ผู้มีศิลปะอันเลอเลิศ หรือ ผู้เป็นใหญ่ ในศิลปิน ซึ่งคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สำ�นักงานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระองค์ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๙ พระองค์ทรงมีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรม อันเป็นสัญลักษณ์และ ความภาคภูมใิ จของคนในชาติ และพระองค์ยงั ทรงเป็นองค์บรมราชูปถัมภก แก่ศิลปินและวงการศิลปะ พระองค์แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปะทุกแขนง และทรงมุง่ มัน่ ศึกษา หาความรู้ในศาสตร์ทุกแขนง และยังทรงสืบทอด ทำ�นุบำ�รุงและอนุรักษ์ ศิลปะไทยในทุกแขนง ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ เยาวชนและประชาชนให้ช่วยกันอนุรักษ์ และภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ของเราด้วย นอกจากนี้ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ทรงเป็นนักคิด นักประดิษฐ์มาตัง้ แต่ยงั ทรงพระเยาว์ เพราะพระองค์ทรงศึกษา ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตลอดเวลาที่ทรงครอง ราชย์นั้น พระองค์ทรงประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ อาทิ ไบโอดีเซลจากปาล์มนํ้ามัน กังหันนํ้าชัยพัฒนา ที่ช่วยบำ�บัดนํ้าเสีย ที่สามารถนำ�ไปใช้ได้ทั้งในแม่นํ้า คลอง และแอ่งนํ้าต่าง ๆ หรือวิธกี ารแก้ปญ ั หานํา้ ท่วม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ก็ทรงนึกถึง ในวัยเยาว์ทพี่ ระองค์มลี งิ ทีท่ รงเลีย้ งไว้หลายตัว และพฤติกรรมของลิงทีจ่ ะอม


อาหารไว้ทกี่ ระพุง้ แก้ม ก่อนทีจ่ ะค่อย ๆ กลืนลงท้อง จึงเป็นทีม่ าของโครงการ แก้มลิง ที่เป็นพื้นที่เก็บนํ้ารอบ ๆ กรุงเทพมหานคร ทำ�ให้ช่วยแก้ไขปัญหา นํ้าท่วมกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี พระอัจฉริยภาพอีกด้านของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช คือ พระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายรูป เป็นภาพชินตาของพวกเรา ที่จะเห็นพระองค์พร้อมกล้องถ่ายรูปคู่พระวรกายอยู่เสมอ พระองค์ทรงเริ่ม เรียนรู้การถ่ายรูปตั้งแต่มีพระชนมพรรษา ๘ พรรษา เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีได้พระราชทานกล้องถ่ายรูปให้แก่พระองค์ และยังทรงใช้เวลาว่าง ในการปั้นรูปเหมือนและวาดภาพฝีพระหัตถ์อีกกว่า ๖๐ ชิ้นงาน มีตั้งแต่ ภาพเหมือนจริง ภาพคน ภาพธรรมชาติ ไปจนถึงภาพศิลปะแบบนามธรรม และทรงพระปรีชาสามารถในงานวรรณกรรมด้วย ได้แก่ บทประพันธ์เรื่อง ‘พระมหาชนก’ และ ‘ทองแดง’ พระองค์ทรงฟื้นฟูพระราชประเพณีสำ�คัญ โดยใน พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มกี ารฟืน้ ฟูพระราชพิธพี ชื มงคลจรดพระนังคัล แรกนาขวัญขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยมีพระราชดำ�ริว่า เป็นพระราชพิธีที่ทำ�เพื่อ ความเป็นสิรมิ งคลแก่พชื พันธุธ์ ญ ั ญาหาร และเพือ่ เพิม่ พูนขวัญกำ�ลังใจให้แก่ เกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และทรงยกย่องให้วันพระราชพิธี เป็น “วันเกษตรกร” อีกด้วย และในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้ทรงฟืน้ ฟูพระราชพิธเี สด็จพระราชดำ�เนินทอดผ้า พระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค และปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เนือ่ งใน โอกาสมหามงคลทีท่ รงเจริญพระชนมพรรษา ๓๖ พรรษา ได้ฟนื้ ฟูพระราชพิธี เสด็จพระราชดำ�เนินโดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค โดยพระราชพิธี ที่ทรงฟื้นฟูขึ้นนี้ เป็นการแสดงถึงความเคารพและแสดงถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีงามและยิ่งใหญ่ของไทย พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว มิ ได้ ท รงสร้ า งงานศิ ล ปะเพื่ อ ความ สุนทรีย์ของพระองค์เองแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังทรงผสานศิลปะเข้ากับ วิทยาการต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงพระราชปณิธานในการปกครองแผ่นดิน และ เพื่อประชาชนของพระองค์ทั้งสิ้น สร้างความปีติโสมนัสแก่เหล่าพสกนิกร ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง

แนวทางของพ่อ เศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียงเป็นพระราชดำ�รัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพือ่ เป็นแนวทางในการดำ�รงชีวติ ให้แก่ชาวไทย และเพือ่ เป็นการ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้ดำ�รงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ในโลก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการผสมผสานแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้เข้ากับวัฒนธรรมของชุมชนและการดำ�รงชีวิตของประชาชน และยังเป็น อุดมการณ์ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้าน ต่าง ๆ ได้ประมวลผลและกลั่นกรองพระราชดำ�รัสในเรื่องนี้ เพื่อนำ�มาเป็น แผนแม่บทในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ เศรษฐกิจ พอเพียงได้รบั การเชิดชูจากองค์การสหประชาชาติและนานาประเทศ ว่าเป็น ปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทย และยังส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกยึด เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อให้ชาวไทยได้รู้จักถึงทางสายกลางของชีวิต เพราะทฤษฎีนี้ เป็นพืน้ ฐานของการดำ�รงชีวติ ทีอ่ ยูร่ ะหว่างสังคมระดับท้องถิน่ ไปจนถึงระดับ สากล จุดเด่นของแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง คือ เป็นแนวทางที่สมดุล สามารถพัฒนาชาติให้ก้าวสู่ความเป็นสากลได้ โดยปราศจากกระแสการ ต่อต้านโลกาภิวัตน์ และการอยู่ร่วมกันของทุกคนในสังคม หลั ก ปรั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพี ย งมี ค วามสำ � คั ญ โดยเฉพาะในช่ ว งปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ และต้องพัฒนาประเทศเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้ง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำ�ริว่า ประเทศเรายังไม่ได้มีความจำ�เป็นที่จะต้อง เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ทรงอธิบายเพิม่ เติมว่า ความพอเพียงและการ พึง่ พาตนเอง คือ ทางสายกลางทีจ่ ะช่วยป้องกันความไม่มนั่ คงของประเทศได้ เศรษฐกิจพอเพียงจะสามารถปรับเปลีย่ นโครงสร้างทางสังคมของชุมชน ให้ดขี นึ้ โดยมีปจั จัย ๒ อย่าง คือ การผลิตจะต้องมีความสัมพันธ์กนั ระหว่าง ปริมาณผลผลิตและการบริโภค และชุมชนจะต้องมีความสามารถในการ จัดการทรัพยากรที่ตนเองมี และผลที่เกิดขึ้น คือ สามารถที่จะคงไว้ซึ่งขนาด happy+ | 25


special scoop

ของประชากรทีไ่ ด้สดั ส่วน ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม สามารถรักษาสมดุล ของทรัพยากรธรรมชาติ และปราศจากการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก โดย ทำ�ตามลำ�ดับขั้น ขั้นพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกินพอใช้ของประชากรเป็น หลัก โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ต้องถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาทีด่ �ำ เนินตามทางสายกลาง มีความพอเพียง มี ค วามพร้ อ มที่ จ ะจั ด การต่ อ ผลกระทบจากการเปลี่ ย นแปลง ซึ่ ง ต้ อ ง อาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และระมัดระวังในการวางแผนและดำ�เนิน งานทุกขั้นตอน ระบบเศรษฐกิจพอเพียงมุ่งเน้นให้บุคคลสามารถประกอบ อาชีพได้อย่างยัง่ ยืน ใช้จา่ ยอย่างพอเพียงและประหยัดตามกำ�ลังของบุคคล นั้น ถ้ามีเงินเหลือก็เก็บออมไว้บางส่วน ช่วยเหลือผู้อื่นบางส่วน และอาจจะ ใช้จ่ายเพื่อปัจจัยเสริมอีกบางส่วน และการประยุกต์น�ำ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาประเทศ ทำ�ให้ ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน โดยผ่านทาง สำ�นักงาน ความร่วมมือเพือ่ การพัฒนาระหว่างประเทศ ทำ�หน้าทีป่ ระสานงานรับความ ช่วยเหลือทางวิชาการต่าง ๆ จากต่างประเทศมาสูภ่ าครัฐแล้วถ่ายทอดไปยัง ประชาชน และส่งผ่านความรู้ที่มีไปยังประเทศกำ�ลังพัฒนาอื่น ๆ ซึ่งดำ�เนิน โครงการมาไม่ตํ่ากว่า ๕ ปีแล้ว และมีสำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อ ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ และคณะอนุกรรมการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ทำ�หน้าที่ประสานงานกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นที่สนใจของต่างประเทศ เพราะพิสูจน์ แล้วว่าเป็นสิง่ ทีด่ แี ละมีประโยชน์ ซึง่ แต่ละประเทศก็ตอ้ งการนำ�ไปประยุกต์ใช้ โดยมีตัวแทนจากหลายประเทศเดินทางมาดูงาน นอกจากนี้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยังได้รับการเชิดชูเป็นอย่างสูง จากองค์ ก ารสหประชาชาติ โดยนายโคฟี่ อั นนัน เลขาธิ การองค์ การ สหประชาชาติ (ในขณะนัน้ ) ได้ทลู เกล้าฯ ถวายรางวัลความสำ�เร็จสูงสุดด้าน การพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เมือ่ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ และได้ มี ป าฐกถาถึ ง ปรั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพี ย งว่ า เป็ น ปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ และสามารถเริ่มได้ 26 | happy+

จากการสร้างภูมคิ มุ้ กันให้ตนเอง สูห่ มูบ่ า้ น และสูเ่ ศรษฐกิจในวงกว้างในทีส่ ดุ แต่อย่างไรก็ตาม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่รูปแบบการพัฒนา ทีส่ �ำ เร็จรูป หากแต่เป็นการพัฒนาทีต่ อ้ งนำ�ไปประยุกต์ใช้ตามแต่สภาพพืน้ ที่ ของแต่ละประเทศ นอกจากที่เราจะประยุกต์ใช้ในพื้นที่ประเทศไทยแล้ว ยัง มีการนำ�ไปประยุกต์ใช้ในหลาย ๆ ประเทศอีกด้วย

นํ้าพระราชหฤทัย แก่คนไทยทุกหมู่เหล่า

นอกจากโครงการต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับชีวติ ความเป็นอยูข่ องราษฎรแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ยังทรงมองเห็นปัญหาในด้านต่าง ๆ อีกหลายด้าน อาทิ ด้านการศึกษา ด้านปัญหาความแห้งแล้ง จึงเกิดเป็นโครงการและ ทุ น พระราชทาน เพื่ อ ยกระดั บ และพั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ของประชาชน จากนํ้าพระราชหฤทัยจากพระองค์ ทุนพระราชทาน สร้างโอกาส สร้างอนาคต พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช ในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ มี ว่า “การศึกษาเป็นเครื่องมือที่สำ�คัญในการพัฒนาบุคคลให้มีคุณภาพ ให้ เป็นทรัพยากรทางปัญญาทีม่ คี า่ ของชาติ...” แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเห็น ความสำ�คัญของการศึกษา และพระองค์ทราบดีว่ายังมีเด็กไทยอีกไม่น้อย ที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ พระองค์จึงได้ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งกองทุนการศึกษา เพื่อสนับสนุนการ ศึกษาของเยาวชนไทย ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงระดับมัธยมศึกษา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เคยกล่าวว่า มีรับสั่งว่า “ฉันมีเงิน มาก เงินนั้นก็ได้รับบริจาคจากพี่น้องประชาชน ฉันไม่รู้จะเอาไปทำ�อะไร ก็ จะให้ไปช่วยการศึกษา อยากให้องคมนตรีไปดำ�เนินการ” โดยแต่ละทุนนัน้ ก็ มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป โดยทุนเล่าเรียนหลวงพระราชทานครั้งแรกใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนจะยกเลิกไปเพราะ เปลีย่ นแปลงการปกครอง จนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช ได้ทรงรื้อฟื้นทุนเล่าเรียนหลวงกลับคืนมา ทุนเล่าเรียนหลวงถือเป็นทุนทาง วิชาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำ�หรับนักเรียนที่ได้รับทุน โดยเป็นทุนการศึกษาแบบ ให้เปล่าแก่ผทู้ สี่ �ำ เร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายในประเทศไทยไปศึกษาต่อ


ระดับปริญญาตรีที่ต่างประเทศ ไม่มีข้อกำ�หนดผูกพันว่าต้องกลับมาทำ�งาน ให้แก่รฐั บาลไทย เพียงแต่ผทู้ รี่ บั ทุนต้องกลับมาทำ�งานในประเทศไทยเท่ากับ ระยะเวลาทีไ่ ปศึกษาเท่านัน้ เพือ่ นำ�ความรูก้ ลับมาพัฒนาประเทศชาติ โดยมี สำ�นักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ดำ�เนินการคัดเลือก แต่ละปีจะมีผเู้ ข้าร่วม สอบแข่งขันเป็นจำ�นวนมาก แต่มีทุนการศึกษาให้เพียง ๙ ทุนเท่านั้น นอกจากนี้ ยั ง มี “ทุ น ภู มิ พ ล” ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำ�นวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แก่มหาวิทยาลัย แพทยศาสตร์ จัดตัง้ เป็นทุนภูมพิ ล เพือ่ ให้ออกดอกออกผลเป็นทุนการศึกษา แก่นกั ศึกษามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ทเี่ รียนดีแต่ขดั สนทุนทรัพย์ ต่อมาก็ยงั ได้มอบทุนแก่บัณฑิตที่มีคะแนนยอดเยี่ยมในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อไปศึกษา ต่อยังต่างประเทศ และนักศึกษาที่ได้รับทุนเหล่านี้เมื่อจบการศึกษาแล้วก็ กลับมาปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ อีกทุนที่เป็นที่รู้จัก กันดี คือ “ทุนอานันทมหิดล” ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เพื่อเป็นอนุสรณ์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เป็นทุนที่พระราชทานแก่ ผู้สำ�เร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมให้ไปศึกษาต่อ ที่ต่างประเทศจนถึงขั้นสูงสุด โดยไม่กำ�หนดระยะเวลาศึกษาและไม่มีข้อ ผูกพัน เดิมพระราชทานเพื่อการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ ปัจจุบันได้เปลี่ยน เป็น ‘มูลนิธิอานันทมหิดล’ และขยายสาขาการศึกษาไปอีกหลายสาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ อักษรศาสตร์ นิตศิ าสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และโบราณคดี จากนํ้าพระราชหฤทัยที่ทรงเสียสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อ การสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย ทำ�ให้ทกุ วันนีม้ ผี ทู้ สี่ �ำ เร็จการศึกษา ได้กลับมาทำ�งานรับใช้และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ทำ�งานอยู่ใน องค์กรและหน่วยงานราชการต่าง ๆ จำ�นวนนับไม่ถ้วน และเชื่อได้ว่าทุกคน พร้อมที่จะทำ�งานและนำ�ความรู้ที่ได้ไปศึกษาเล่าเรียนมา กลับมาพัฒนา ประเทศชาติตามที่พระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้อย่างแน่นอน ฝนหลวง สร้ า งความชุ่ ม ฉํ่ า ให้ ผื นดิ น ฝนหลวงเป็ น โครงการใน พระราชดำ�ริทสี่ �ำ คัญยิง่ กับคนไทย เนือ่ งมาจากการทีพ่ ระองค์ได้เสด็จฯ เยีย่ ม ราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ และทรงได้เห็นปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรใน เรือ่ งของการเกษตรทีป่ ระสบปัญหาเนือ่ งมาจากความแห้งแล้ง เพราะมีบางปี

ที่ฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำ�ให้ผลผลิตทางการเกษตรตกตํ่า ทำ�ให้เกษตรกร เสียรายได้ และต้องการนํา้ เพือ่ ทำ�การเกษตร แถมยังมีการขยายพืน้ ทีท่ �ำ การ เกษตร ทำ�ให้ความต้องการนํ้ามีเพิ่มมากขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้เวลาคิดค้นนาน ถึง ๑๐ ปี เพือ่ ทีจ่ ะทรงนำ�เทคโนโลยีท�ำ ฝนเทียมมาใช้ในประเทศไทย เพิม่ เติม จากโครงการปลู ก ป่ า และอนุ รั ก ษ์ ป่ า ไม้ ต้ นนํ้ า ลำ � ธาร โดยสำ � นั ก งาน ปฏิบัติการฝนหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนองพระราชดำ�ริ ในการจั ดตั้ งโครงการและค้ นคว้ าหาความรู้ และทดลองโดยการโปรย นํ้าแข็งแห้ง (คาร์บอนไดออกไซด์แข็ง) เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปรากฏว่าหลังปฏิบัติการประมาณ ๑๕ นาที พบว่ามีกลุ่มเมฆรวมตัวกันหนาแน่น และเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเทาเข้ม และตกลงมาเป็นฝนเป็นครั้งแรก ที่ทรงเลือกทดลองบริเวณอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ก็เพราะว่าเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความชื้นมาก พอที่จะดูดความชื้นให้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเป็นต้นแบบก่อนที่จะทรงนำ�ไปใช้ ในพื้นที่อื่น ๆ นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระราชดำ�ริโครงการฝนหลวง เพราะว่ า พระองค์ ท รงห่ ว งใยพสกนิ ก รชาวไทย ทรงทดลองครั้ ง แรก เหนือท้องฟ้าของผืนป่าเขาใหญ่ ซึง่ เป็นแหล่งต้นนํา้ ลำ�ธารทีย่ งั ประสบปัญหา ขาดแคลนนํา้ สำ�หรับผืนป่าและสัตว์ปา่ ทีต่ อ้ งการนํา้ เนือ่ งจากภาวะฝนทิง้ ช่วง จากฝนหลวงครัง้ นัน้ ทำ�ให้ตน้ ไม้ สัตว์ปา่ รวมถึงประชาชนในอำ�เภอปากช่อง มีชวี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ จากโครงการฝนหลวงเช่นกัน ปัญหาความแห้งแล้ง จึ ง ค่ อ ย ๆ หมดไป และโครงการฝนหลวงก็ ยั ง คงดำ � เนิ นการอย่ า งมี ประสิทธิภาพมาจวบจนทุกวันนี้ ฝนหลวงไม่ได้นำ�มาซึ่งความชุ่มชื้นแก่ผืนดินเท่านั้น แต่นํ้าพระราชหฤทัยของพระองค์ท่านที่มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน ให้พน้ ปัญหาความแห้งแล้งและความเป็นอยูท่ ลี่ �ำ บาก นำ�มาซึง่ ความชุม่ ชืน่ ใจ แก่พสกนิกรของพระองค์ท่านที่ซาบซึ้งในนํ้าพระราชหฤทัยกับโครงการ ฝนหลวงครั้งนี้หาที่สุดมิได้ ภาพจาก สำ�นักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

happy+ | 27


happy people

เป็นบุญนัก ได้เป็นข้ารองพระบาท ในชีวิตของเราในฐานะคนไทย ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่าน ได้ถวายงานหรือได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการต่าง ๆ ที่พระองค์ได้ทรงทำ� ถือเป็นบุญอย่างสูงสุด และเป็นเกียรติในชีวิต happy+ ได้มีโอกาสคุยกับบุคคลที่มีโอกาสได้ถวายงาน และได้พบพระองค์ท่านเนื่องในโอกาสต่าง ๆ จะมาแบ่งปันถึงความปลาบปลื้มและความรู้สึกประทับใจในครั้งนั้น

นายวิโรจน์ เทียมเมือง

อดีต ผอ.กลุ่มพัฒนาระบบสื่อสารและเผยแพร่ความรู้ เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาอาวุโส สำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ (สำ�นักงาน กปร.) “ผมได้เข้ามาทำ�งานทีห่ น่วยงานสำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพือ่ ประสานงานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำ�ริ (สำ�นักงาน กปร.) ซึง่ เป็นหน่วยงาน ที่เรียกว่า ทำ�งานด้านการพัฒนาของพระเจ้าแผ่นดิน ผมถือว่าเป็นมงคลสูงสุดในชีวิต ครั้งแรกผมก็ไม่รู้ว่าหน่วยงานนี้ทำ�อะไร พอเข้ามาปฏิบัติงานแล้ว ถือเป็นบุญของผมที่ได้ร่วมปฏิบัติงานเป็นข้าราชการของแผ่นดิน ที่ท�ำ งานเสมือนเป็นเครื่องมือของพระราชา ที่บ�ำ บัดทุกข์บำ�รุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ ของพระองค์ ได้ทำ�งานไปทุกหนทุกแห่งที่ยากลำ�บาก ห่างไกล ยิ่งทำ�ให้รู้สึกว่าเรามีส่วนที่ทำ�ให้พระเจ้าแผ่นดินของเราทรงมีความสุขที่เห็นพสกนิกรของ พระองค์อยูด่ มี สี ขุ โดยทีพ่ ระองค์ไม่เคยละทิง้ ประชาชนทีอ่ ยูภ่ ายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และประชาชน ชาวไทยทุกคนยังคงซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์และราชวงศ์จักรีอย่างไม่เสื่อมคลาย “นับตั้งแต่ที่ผมได้เข้ามาปฏิบัติงานในสำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ (สำ�นักงาน กปร.) ได้จดจำ� และน้อมนำ�แนวทางการทรงงานในพระราชกรณียกิจ พระจริยวัตรในการทรงงาน พระบรมราโชวาท และพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแบบอย่างนำ�มาใช้กับชีวิตของผมเสมอมา” 28 | happy+


เป๊ก – รัฐภูมิ ไข่นาค

นักแสดงช่อง ๘ ผลงานละคร : แม้เลือกเกิดได้ และมงกุฎริษยา ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เป๊กได้ร่วมแสดงในละครเฉลิมพระเกียรติที่น้อมนำ�พระราชดำ�ริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาเผยแพร่กับประชาชนในละครเรื่อง ‘ลูกหนี้ที่รัก’ ทำ�ให้เป๊กได้เปลี่ยนวิถีชีวิตและความคิดไปไม่น้อย “เรื่องลูกหนี้ที่รัก เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่วางแผนในการใช้เงินของตัวเอง เอาเงินในอนาคตมาใช้ ใช้บัตรเครดิตแล้วก็หมุนเงินไม่ทัน ไปยืมเงิน ไปติดหนี้คนอื่น ใช้ของฟุ่มเฟือย แล้วก็มาเจอผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ไม่ต้องใช้ของหรูหราก็มีความสุขได้ ตอนนั้นผมเล่นละครแรก ๆ เลย รู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิง่ และดีใจทีไ่ ด้เล่นละครเฉลิมพระเกียรติในหลวงของเรา ตอนนัน้ ก็รวู้ า่ เป็นละครจากปรัชญาของพระองค์ทา่ น แต่ผมก็ไม่ได้เข้าใจขนาดนัน้ แต่ผมเป็นคนชอบศึกษา ชอบค้นคว้าหาความรู้ เมื่อตอนเด็ก ๆ ตั้งแต่ผมจำ�ความได้ ที่บ้านปู่ย่าตายาย บ้านพ่อแม่ มีรูปในหลวงติดอยู่ทุกที่ แล้วเขาพูดถึง ในหลวงให้ฟังบ่อย ๆ ตอนที่ผมได้ไปเล่นละครเรื่องนี้ ผมยังงงกับคำ�ว่าพอเพียงอยู่เลย คิดว่าคือ การไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดหรือเปล่า แต่พอผมได้ไป ศึกษา ผมจึงเข้าใจความหมายของคำ�ว่าพอเพียงมากขึ้น คือ ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องไปเบียดเบียนผู้อื่น พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี พอเราไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น เราก็ ไม่ต้องทะเลาะกัน มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำ�ให้สังคมเราไม่แตกแยก ไม่ทะเลาะกัน มันเป็นจุดเล็ก ๆ ของคนคนหนึ่งที่ทำ�ให้ประเทศของเราไม่มีปัญหา อย่าง ละครที่ผมได้เล่น ถ้าผู้หญิงคนนี้เขาพอเพียง เขาก็ไม่ต้องไปยืมเงินคนอื่น ไม่ต้องมีปัญหากัน มันเป็นการไปเบียดเบียนคนอื่นถ้าเราไม่พอเพียง “พอผมได้ศกึ ษาจริงจังก็ได้ไปเห็นปรัชญาต่าง ๆ ของพระองค์ และโครงการในพระราชดำ�ริทพี่ ระองค์ทรงทำ�ไว้ ผมก็แปลกใจว่าทำ�ไมถึงเยอะมากขนาดนี้ ผมก็ทึ่งว่าคนคนเดียวทำ�ไมถึงสามารถทำ�ได้ขนาดนี้ กว่า ๔,๐๐๐ โครงการกับระยะเวลา ๗๐ ปี ที่ทรงครองราชย์มา เท่ากับสัปดาห์ละ ๑-๒ โครงการเลย ทำ�ไมพระมหากษัตริย์ของเราถึงลำ�บากขนาดนี้ และรูปที่ผมเห็นตอนเด็ก ๆ เป็นรูปที่ผมเห็นทีไรก็ตื่นเต้น และไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์ที่ไหนทำ�แบบนี้ แม้เสื้อผ้าท่านจะเปื้อนโคลน พระวรกายมีแต่เหงื่อ แต่แววตาพระองค์ท่านนั้นมุ่งมั่นและจริงใจกับประชาชนที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปหา และผมเคยได้ยิน คำ�ที่บอกว่า ที่พระองค์ท่านต้องมาเอง เพราะพระองค์ท่านต้องการรับฟังปัญหาที่แท้จริงของประชาชนว่าเขาลำ�บากขนาดไหน พระองค์จึงจะแก้ปัญหาได้ “ตั้งแต่นั้นผมเลยเข้าใจว่า ทำ�ไมปู่ย่าตายายและพ่อแม่ผมถึงรักในหลวงมาก และรู้ว่าปรัชญาของพระองค์ท่านนั้นสามารถนำ�มาใช้ในชีวิตของเราได้ จริง ๆ ด้วย ผมไม่ได้เป็นคนติดวัตถุ ไม่ต้องใช้ของแพง กินง่าย ๆ อยู่ง่าย ๆ มันก็ประหยัดดี ทำ�ให้ผมมีเงินไปทำ�อย่างอื่นได้หลายอย่าง แต่เมื่อก่อนผมก็ เคยฟุ่มเฟือย เที่ยว ใช้เงินเยอะ ไม่วางแผนการใช้เงิน พอเปลี่ยนความคิด ก็รู้สึกไม่เครียด ไม่กังวล สบายมากขึ้น” ละครและการศึกษาหาความรู้ของเป๊ก ทำ�ให้เขาได้เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิถีชีวิต และปฏิบัติตนตามแนวทางของพระองค์ท่านเสมอมา ทำ�ให้ ชีวิตเป๊กในวันนี้ มีความสุขและพร้อมจะส่งความสุขที่เขามีให้แก่คนอื่น ๆ ด้วยผลงานแสดงและแนวคิดดี ๆ happy+ | 29


happy people

กัญจน์สิน ปุณณาเสฏฐ์

นิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รหัส ๓๖๗๐๓๖๖ ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณกัญจน์สินเคยได้เข้าเฝ้าฯ และรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งจบการศึกษาจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับเป็นเกียรติสูงสุด และปลาบปลื้มที่สุดในชีวิต “คิดว่านิสิตจุฬาฯ ทุกคนในสมัยนั้น ต่างมีความมุ่งมั่น ตั้งใจศึกษาให้จบด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ การได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ “ผมยังจำ�ความรู้สึกในวันนั้นได้ดี เป็นวันที่เป็นบุญสูงสุดในชีวิต คือการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ซึ่งช่วงนั้น เป็นปีที่ประเทศไทยประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า เป็นวิกฤติต้มยำ�กุ้ง ผมจำ�พระราชดำ�รัสของในหลวงได้แม่น พระองค์ท่านพระราชทาน พระบรมราโชวาทและกำ�ลังใจให้แก่บัณฑิตใหม่ว่า ‘เกียรติภูมิจุฬาฯ คือ เกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน ขอให้ทุกท่านคิดดี ประพฤติดี เพราะคนดีทำ�ให้ ผู้อื่นดีได้’ “และช่วงทีต่ อ่ แถวกำ�ลังจะเข้าไปรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ทา่ น เป็นช่วงเวลาไม่นานแค่ประมาณ ๒ นาที แต่เป็น ๒ นาทีทไ่ี ด้ชน่ื ชม พระบารมีอย่างใกล้ชิดที่สุดในชีวิต ซึ่งเวลา ๒ นาทีนี้แหละที่กลายมาเป็นขุมพลังแห่งกำ�ลังใจ ให้เราทำ�ดี ประพฤติดี ช่วยเหลือสังคมตามโอกาสมาจน กระทัง่ ทุกวันนี้ ผมจดจำ�เหตุการณ์ส�ำ คัญในวันนัน้ ได้อย่างแม่นยำ�ทีส่ ดุ ด้วยความสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ไว้ในดวงใจตลอดไป และจะมุง่ มัน่ ประพฤติตน ในทางที่ชอบธรรม ให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระองค์ในวันนั้น” แม้ว่าปาฏิหาริย์จะไม่เกิดในวันนี้ แต่ปาฏิหาริย์เกิดกับประเทศของเรามานานกว่า ๗๐ ปี ที่พระองค์ทรงครองราชย์และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำ� ทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของประชากรของพระองค์ตามที่พระองค์เคยมีพระราชดำ�รัสไว้ ในวันนี้พระองค์ไม่ได้เสด็จไปที่ไหนไกล หากแต่ยังอยู่ในใจของ พวกเราชาวไทยทั้งหลาย ให้ระลึกถึงพระองค์และทำ�ตามแบบอย่างที่พระองค์เคยพระราชทานแนวทางการทำ�งานและการดำ�รงชีวิตให้ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำ�ลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ 30 | happy+


สรรเสริญพระบารมี ข้าวรพุทธเจ้า นบพระภูมิบาล เอกบรมจักริน พระยศยิ่งยง ผลพระคุณ ธ รักษา ขอบันดาล จงสฤษดิ์ดัง ดุจถวายชัย

เอามโนและศิระกราน บุญดิเรก พระสยามินทร์ เย็นศิระเพราะพระบริบาล ปวงประชาเป็นสุขศานต์ ธ ประสงค์ใด หวังวรหฤทัย ชโย

ความหมาย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอกราบไหว้พระองค์ผู้มีบุญญาธิการ ซึ่งพระองค์ที่ปกครองปวงชนให้เป็นสุข ด้วยใบบุญของพระองค์ประชาชนจึงสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงขอบันดาลให้พระองค์สมประสงค์ในทุกสิ่ง เป็นการถวายพระพรชัยแด่พระองค์ ถอดความโดย รศ. ดร.ดวงมน จิตรจำ�นงค์ อาจารย์ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี เมธีอาวุโส สกว. สาขาวรรณคดี ปี ๒๕๔๗

happy+ | 31


happy heart

32 | happy+


ศาสนาพุทธเปรียบเหมือนกีฬา ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : สุภชัย รอดประจง

ประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำ�ชาติ มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดา ซึง่ มีหลักคำ�สอนมากมายให้เหล่าสาวกได้ศกึ ษาเรียนรู้ ปฏิเสธการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าหรือพระผู้สร้าง เพราะเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ สามารถพัฒนาจิตใจได้ อย่างเช่น บัวทั้งสี่เหล่า จาก บัวใต้นํ้าก็สามารถขึ้นมาเป็นบัวพ้นนํ้าได้ด้วยความเพียรพยายามของแต่ละคน พุทธศาสนาจึงเปรียบเสมือนกีฬาที่จะต้องเพิ่มพูนทักษะให้แก่ ตนเอง มีการฝึกฝนเพือ่ ให้บรรลุถงึ จุดหมายปลายทาง การศึกษาหาความรูโ้ ดยการอ่านหนังสือธรรมะเพียงอย่างเดียวจึงยังไม่เพียงพอ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ บุคคลที่ผู้อ่านหลายท่านคุ้นชื่อเป็นอย่างดี จึงจัดตั้งชมรมธนูโพชฌงค์ กลุ่มชุมชนที่ไม่ไหลไปตามกระแสต่าง ๆ ของสังคม พยายามที่จะ ให้ทุกคนเรียนรู้ทางโลกและทางธรรมไปพร้อม ๆ กัน

ก้าวเดิน

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เริ่มเป็นที่รู้จักจากการ เป็นนักวิจัยคนไทย ที่ทำ�งานอยู่ที่องค์การบริหาร การบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ประเทศ สหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงกลับมาเป็นอาจารย์ ประจำ�ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ทำ�งานเป็นที่ปรึกษาให้แก่บริษัท หลายบริษัท และเริ่มสนใจศึกษาเกี่ยวกับธรรมะ ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง จนกระทั่งเป็นวิทยากร ด้านธรรมะและเขียนหนังสือที่มีผู้อ่านติดตาม มากมาย “ชีวติ ของผมมันเปลีย่ นไปเรือ่ ย ๆ นะ ถ้าหาก วัดเป็นกราฟก็ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนตอน เด็ก ๆ กระดูกสันหลังของตัวเองไม่ค่อยดี จึงออก ไปวิ่งเล่นเหมือนกับเด็กทั่วไปไม่ค่อยได้ พอไม่รู้ว่า จะทำ�อะไรดี ก็เลยกลายเป็นหนอนหนังสือ ชอบ อ่านหนังสือแนวประวัตศิ าสตร์ จิตวิทยา หรือพวก นิตยสารพ็อกเก็ตบุ๊กรายปักษ์ ต่วย’ตูน ที่มักจะมี เรื่องแปลก ๆ พิสดาร สารคดีเกี่ยวกับอียิปต์ กรีก เป็นเนื้อหาอยู่ในนั้น และจะชอบเล่นเกมบอร์ด เกมกระดานหมากรุก ไพ่บริดจ์มาก “หลังจากจบปริญญาตรี ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมวัสดุศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และทางนาซาก็ตดิ ต่อมาให้

ไปทำ�งานด้วย ทัง้ ๆ ตอนนัน้ ยังเหลือเรียนอีกหนึง่ เทอมด้วยซํ้าไป ผมมองว่าตอนนั้นตัวเองโชคดี มากกว่า ทางนาซาเขาจะมีคล้าย ๆ แมวมอง มาดู ตั ว ที่ ค ณะ มาหาเราเองถึ ง ที่ เ ลย พอได้ เข้าไปทำ�งานในนาซากลับคิดว่า ความจริงมีคน ที่ เ ก่ ง กว่ า เราเยอะ แต่ อ ย่ า งที่ บ อกไปว่ า ผม โชคดี คิดเอาเองว่าเขาคงต้องการคนที่ทำ�งานอึด ทำ�อะไรแล้วกัดไม่ปล่อย ต้องทำ�ให้มันสำ�เร็จไป ประกอบกับตอนนั้นคนที่เรียนทางด้านวิศวกรรม และชี ว วิ ท ยามี ไ ม่ ม าก แต่ ผ มสามารถใช้ ความรู้จากทั้งสองด้านมาผสมผสานกันได้ เขา อาจจะเลือกเราเข้าทำ�งานจากตรงจุดนี้ ที่นั่นเขา ต้องการความคิดแปลกใหม่สร้างสรรค์ ลงมือทำ� เยอะ ๆ โดยไม่ต้องไปยึดติดกับทฤษฎีมาก เรียก ง่าย ๆ ว่ามั่วไปเถอะ มั่วให้เร็วที่สุด มั่วจนกว่า จะได้ ความล้มเหลวคือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ยิ่ง คุ ณ ล้ ม เหลวมากเท่ า ไหร่ คุ ณจะเจอทางออก ของปัญหาได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่ถือเป็นข้อ ได้เปรียบของนักวิจยั ต่างประเทศ เพราะนักวิจยั ไทย มักจะติดอยูก่ บั กับดักทางความคิด มีกรอบครอบ ไว้เต็มไปหมด เชื่อตำ�ราหรือทฤษฎีมากเกินไป “และเริม่ มาสนใจธรรมะก็จากการเป็นนักอ่าน นี่แหละ ต้องขอบคุณหนังสือของท่านพุทธทาส ที่ทำ�ให้ผมอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ด้วยนิสัยส่วนตัว

คื อ เป็ นคนที่ รู้ สึ ก ท้ า ทายในเรื่ อ งที่ เราไม่ รู้ ไม่ เข้าใจ พออ่านแล้วไม่เข้าใจก็ตอ้ งตามหาว่าจะทำ� อย่างไรให้รเู้ รือ่ ง ทำ�ให้เราต้องศึกษาธรรมะมากขึน้ พอศึกษาไปได้สักระยะหนึ่งก็ค้นพบว่า ถ้าจะ เข้าใจศาสนาพุทธอย่างถ่องแท้ ไม่สามารถใช้ วิธีการอ่านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ศาสนาพุทธ เปรี ยบเหมื อนกี ฬา การอ่ านและรู้หลักปฏิบัติ อย่างเดียวไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้อง หมั่นฝึกฝน เราไม่สามารถว่ายนํ้าได้ดีเพียงแค่ อ่านวิธีจากหนังสือเท่านั้น เราจะต้องฝึกว่ายนํ้า ไปด้ ว ย นั ก กี ฬ าจะต้ อ งไปสนามซ้ อ มเพื่ อ ลง แข่งขันในสนามจริง ธรรมะก็เหมือนกันเราก็ต้อง เดินทางไปหาเกจิอาจารย์ทางด้านนี้ เพื่อเป็นโค้ช ในการฝึกฝนธรรมะทีว่ ดั แต่บางคนก็เลือกทีจ่ ะทิง้ บ้าน ทิ้งงาน ทิ้งครอบครัวไปอยู่ที่วัดเลย ถามว่า ตัวเองหนีไปมีความสุขแล้วปล่อยให้คนอืน่ เป็นทุกข์ แบบนี้จะดีหรือเปล่า เราจะต้องใช้วิจารณญาณ ประกอบการตัดสินใจ ตอนทีผ่ มฝึก หลวงพ่อท่าน ก็บอกว่า โยมดอกเตอร์วางตำ�ราลงให้หมด แล้ว ขึน้ ไปอยูบ่ นยอดดอยโน่น เดินจงกรม ฝึกกรรมฐาน พอทำ�จนสำ�เร็จแล้ว ท่านก็บอกให้กลับไปอ่าน หนังสือต่อ ให้ท�ำ สลับกันไปแบบนี้ เราจะอ่านมาก แต่ทำ�น้อยไม่ได้” happy+ | 33


happy heart

34 | happy+


เข้าถึงการเปลี่ยนแปลง

มนุ ษ ย์ จ ะดำ � เนิ น ชี วิ ต ไปตามปั จ จั ย และ ตัวแปรต่าง ๆ ที่เข้ามา ไม่ว่าจะดำ�เนินชีวิตอย่าง เรียบง่าย ท้าทาย หวือหวา แต่บางครัง้ เมือ่ ชีวติ เดิน ทางมาถึงทางแยก จุดหักเห ก็ทำ�ให้ชีวิตของเรา เกิ ด การเปลี่ ย นแปลง ไม่ ว่ า จะเป็ นทางที่ ดี ขึ้ น หรือแย่ลงก็ตาม แต่จุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้นถือเป็น สัญญาณสำ�คัญ ที่บ่งบอกว่าเรากำ�ลังก้าวเดิน ไปในทิศทางใด “เมือ่ ก่อนผมเป็นจอมโวยวาย ปากมาก ชอบ ยุ่งเรื่องชาวบ้าน ด้วยความที่เราเคยเป็นอาจารย์ หรือผูป้ ระเมินมาก่อน อาชีพนีเ้ ป็นอาชีพทีน่ า่ กลัว ทีส่ ดุ เพราะเป็นอาชีพทีจ่ ะต้องไปตัดสินผูอ้ นื่ เป็น อาจารย์ก็ต้องตัดเกรดนักเรียน เป็นผู้ประเมินก็ ต้องไปประเมินผู้อื่น ทำ�ให้เกิดอัตตาว่าเราดีกว่า ผูอ้ นื่ ยกตนข่มท่าน เราถูกเสมอ เพราะฉะนัน้ อาชีพ อาจารย์จึงเป็นอาชีพที่ปฏิบัติธรรมได้ยาก เพราะ ไม่เคยปล่อยวางมาก่อน เนื่องจากลักษณะงานที่ ทำ�บังคับเราอยู่ ระบบการศึกษาแบบตัดเกรด จะ พาให้ทั้งครูและนักเรียนจิตตกไปหมด การศึกษา สมัยใหม่เราต้องการทักษะเท่านัน้ ดูกนั ทีผ่ า่ นหรือ ไม่ผ่าน ไม่มีการแบ่งแยกระดับว่าคนนี้เอ คนนั้นซี แต่เมื่อผมได้ศึกษาธรรมะแล้ว รู้สึกตัวเองเหมือน ตายแล้วเกิดใหม่ เหมือนเราเป็นคนละคนกับใน อดีต เหมือนตอนนี้ผมยืมร่างวรภัทร์อยู่ (หัวเราะ) จะไปไหนก็ ค ล้ า ย ๆ กั บ มี หุ่ น ยนต์ ตั ว นอกกั บ หุน่ ยนต์ตวั ในอยู่ จะทำ�อะไรต้องสัง่ การให้ดนั แขน ดันขา ดันมือออกไป กายในสัง่ กายนอก ฝึกธรรมะ

ศาสนาพุทธเปรียบเหมือนกีฬา การอ่านและรู้หลักปฏิบัติอย่างเดียวไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องหมั่นฝึกฝน

แล้วจะรู้ว่า ในกายเรามี Inner Body กับ Outer Body อยู่สองตัว “นอกจากนี้ เราต้องใช้ชีวิตอย่างสิ้นคิด การ ใช้ชวี ติ อย่างสิน้ คิดแปลความหมายได้หลายอย่าง นะ แปลอย่างง่าย ๆ เลย ก็คือ แกล้งโง่ อย่า ฉลาดมาก เมื่อเราฉลาดมากเราจะเห็นว่าคนนั้น ก็เอาเปรียบ คนนี้ก็เอาเปรียบ คนโน้นก็เห็นแก่ตัว ทำ�ให้ฟุ้งซ่านคิดมาก เราจึงต้องทำ�ตัวให้โง่ ยอม เสียเปรียบบ้างก็ได้ นี่คือการใช้ชีวิตอย่างสิ้นคิด ที่ดีแบบธรรมดา ส่วนการสิ้นคิดแบบที่สองคือ โดยปกติสมองคนถ้าคิดการทำ�งานอยู่ที่ 100% คนทั่วไปจะอยู่ที่ 80 หรือ 90 ทั้งวัน แต่ของผม จะอยู่ที่ 10 ทั้งวัน แต่เมื่อถึงเวลาจำ�เป็นขอเพียง แค่ 2 วินาทีเท่านั้นเอง จะพุ่งขึ้นสูงไปเลย แล้วก็ กลับมาอยูท่ ี่ 10 เหมือนเดิม บางครัง้ กราฟทีพ่ งุ่ สูง

อาจขึ้นไปแตะที่ 300 หรือ 400 ก็ได้ เพราะฉะนั้น การโง่มาทัง้ วัน แล้วมาฉลาดแค่ 2 วินาทีกเ็ พียงพอ แล้ ว และการสิ้ น คิ ด แบบที่ ส ามก็ คื อ เราจะ ได้ย้ายตัวรับรู้จากสมองมาอยู่ที่กายรู้มากขึ้น ใจ รู้มากขึ้น คนมักจะเข้าใจผิด รู้แค่ว่ามีแค่สมอง เท่านั้นที่ใช้เพื่อรับรู้ ซึ่งในความจริงแล้ว ตัวรับรู้ มีอยู่ 3 ตัว คือ ร่างกายรู้ เช่น ร่างกายรู้นํ้าหนัก ร่างกายรู้ความร้อน ร่างกายรู้ความสั่นสะเทือน ต่อมาคือ ใจรู้ เช่น ใจรู้อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง และตัวรับรู้ตัวที่สามคือ สมองรู้ แต่หากเรา ทุ่มสุดตัวไปที่การรับรู้ของสมอง สุดท้ายเราจะไม่ ค้นพบสัจธรรมเลย เพราะขาดตัวรับรู้อีก 2 ตัว เพราะฉะนั้นคำ�ว่า สิ้นคิดของผมจึงหมายถึง ให้ สิ้นคิดที่ตัวสมอง ใช้เพียงนิดเดียว แล้วไปพัฒนา ตัวรับรูท้ กี่ ายและใจให้มากขึน้ สุดท้ายความคิดที่ happy+ | 35


happy heart

36 | happy+


เกิดจากสมองจะหมดไป คงเหลือแต่สิ่งที่เรียกว่า ปัญญา เมื่อเราใช้ปัญญาไม่ได้ใช้ความคิด ก็เลย บอกว่าสิ้นคิดครับ”

Coach, Facilitator, Mentor

การเรียนการสอนในปัจจุบัน อาจารย์ไม่ใช่ ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่ให้ความรู้แก่เด็ก อาจารย์คือ โค้ชหรือนักฟังที่ดี โดยใช้ศาสตร์แห่งการบริหาร สมั ย ใหม่ ซึ่ ง ประกอบไปด้ ว ยจิ ต วิ ท ยาภายใน เพื่ อ ทำ � ให้ เ ด็ ก นั ก เรี ย นอยากเรี ย นหรื อ อยาก เปลี่ ย นแปลงด้ ว ยตั ว ของแต่ ล ะคนเอง โดยที่ อาจารย์ไม่ต้องพรํ่าบอก สอนสั่งเพียงอย่างเดียว และเช่นเดียวกับชมรมธนูโพชฌงค์ของ ดร.วรภัทร์ ที่ใช้ศาสตร์ใหม่ ๆ เข้ามาสอนและชี้นำ�ในเรื่อง ธรรมะและการใช้ชีวิตอีกด้วย “ส่วนใหญ่สมาชิกของชมรมธนูโพชฌงค์จะ เป็นคนที่ทำ�งานแล้ว และตอนเย็นเราจะแวะมา พบกันที่โพรงกระต่าย เพื่อสวดมนต์ ไหว้พระ นั่ง สมาธิ ปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตว่าง หลังจากนั้นก็ เริ่มต้นเรียนรู้เรื่องทางโลกไปพร้อมกับการเรียนรู้ ทางธรรม โดยผมจะพยายามหาศาสตร์ใหม่ ๆ มาสอนสมาชิกชมรม เช่น การล้อมวงนั่งคุยกัน (Dialog) การวาดภาพเพื่อบำ�บัดความทุกข์ข้างใน (Art Therapy) สอนยิงธนู พัฒนาบุคลิกภาพ เรียนรูอ้ าชีพเสริม โดยสอดแทรกธรรมะเข้าไป ผม จะทำ�หน้าที่เป็นผู้รับฟัง เป็นกระบวนกร และเป็น พี่เลี้ยงของสมาชิกชมรมไปในตัว ทำ�ให้สมาชิกได้ รวมตัวกันและใช้เวลาในช่วงเย็นทำ�อะไรดี ๆ เพื่อ สังคม แทนทีต่ กเย็นจะไปกินเหล้า เดินห้าง ช้อปปิง้

การเรียนรู้ธรรมะคือ การมองโลกตาม ความเป็นจริง อยู่ที่ว่าเรา เอาใจและกายไปมอง หรือเอาสมองมอง ถ้าเอาสมองไปมอง เราจะไม่เห็นความจริงเลย เราทำ�ให้ทกุ คนเรียนรูท้ จี่ ะให้ เป็นจิตอาสา ทำ�ทาน ปลูกต้นไม้ รักษาศีลภาวนา ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ การนั่งสมาธิเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้าง สมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างทาน ศีล ภาวนา ทำ�ให้ คนมีความสุข “และอีกไม่นานสังคมไทยจะเข้าสูส่ งั คมผูส้ งู อายุ ผมสังเกตจากสมาชิกในชมรมว่า คนส่วนใหญ่ จะอยู่ ตั ว คนเดี ย วมากขึ้ น ไม่ มี ค รอบครั ว ลูก สามี ภรรยา ถ้าหากคนกลุ่มนี้แก่ตัวไปจะทำ� อย่างไร จะอยูใ่ นสังคมนีไ้ ด้หรือไม่ ผมจึงพยายาม สร้ า งสั ง คมแบบพึ่ ง พาอาศั ย ซึ่ ง กั น และกั นขึ้ น ให้สมาชิกในชมรมดูแลกัน ไม่ฉายเดี่ยว ดูเรื่อง ของนํ้ า ใจ การเอื้ อ เฟื้ อ เผื่ อ แผ่ ความสามั ค คี happy+ | 37


happy heart

38 | happy+


หากคนไหนเห็นแก่ตัวมากเกินไป ไม่สามารถ เปลี่ ย นตั ว เองได้ บางครั้ ง เราก็ ต้ อ งปล่ อ ยคน ประเภทนี้ ไป ตอนนี้ ผ มจึ ง มองออกไปไกล ๆ พยายามหาที่ทางต่างจังหวัด มาทำ�ไร่ทำ�สวน เพราะเมื่อเราไม่มีใครดูแลยามแก่เฒ่า ก็สามารถ มาอยู่ ที่ นี่ ได้ อยู่ ในสั ง คมแบบพึ่ ง พาอาศั ย กั น ภายในกลุ่มที่เรากำ�ลังสร้างขึ้น “การเรียนรูธ้ รรมะคือ การมองโลกตามความ เป็นจริง อยูท่ วี่ า่ เราเอาใจและกายไปมอง หรือเอา สมองมอง ถ้าเอาสมองไปมอง เราจะไม่เห็นความ จริงเลย เพราะหากคิดดูตามหลักวิทยาศาสตร์ สมอง คือ ส่วนที่โกหกเราได้ คนเราทุกข์ก็เพราะ ความคิด สุขก็เพราะความคิด แต่ไม่เคยจัดการกับ ความคิดได้เลย แล้วแบบนีเ้ ราจะมองเห็นโลกตาม ความเป็นจริงได้อย่างไร ทุกอย่างเป็นมายา เป็น ภาพลวงตาไปหมด สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบแล้ว นำ�มาบอกต่อ เป็นคำ�สอนตั้งแต่บรรพกาล พอ บอกต่อแล้วไม่ค่อยเชื่อกัน หรือบางครั้งเชื่อแล้ว ไม่ฝึกฝน เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน เสียดายคน อ่านไม่ได้ฝึก เสียดายคนฝึกก็ฝึกแบบผิดวิธี เวลา ทีฝ่ กึ ฝนเราจะทราบเองว่า ตอนนีเ้ ราเดินมาถูกทาง แล้วหรือยัง เพราะชีวติ เราจะพลิกจากหน้ามือเป็น หลังมือ จะรู้เลยว่าที่พระพุทธเจ้าพูดนั้นถูกต้อง ทั้งหมด ร้องอ๋อกันเลยทีเดียว มองเห็นโลกความ จริงที่เรามองผ่านกายและใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง การจัดการความคิดของตัวเอง เห็นความคิดที่ วิ่งผ่านเข้ามา รู้ว่านี่คือ ความงี่เง่า ชอบตัดสิน ผู้อื่น เมื่อจัดการความคิดที่เข้ามาได้แล้ว เราจะ พบความสุขที่แท้จริง”

หันมองตนเอง

หลายครัง้ เมือ่ อ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือทางโซเชียลมีเดีย เรามักจะเห็นข่าวทำ�นอง ว่าคนรุ่นใหม่มีความคิด ความเชื่อมั่นและเป็น ตัวของตัวเองสูงกว่าคนในเจเนอเรชัน่ ก่อนหน้า ทำ�ให้ บางครั้ ง ทำ � อะไรไม่ ถู ก กาลเทศะ มองข้ า ม หลั ก ธรรมคำ � สอนทางพุ ท ธศาสนาไปบ้ า ง ซึ่ ง ดร.วรภัทร์ มีคำ�แนะนำ�เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เราต้องแก้ปัญหาที่ผู้ใหญ่เป็นอันดับแรก เพราะเด็กก็คือเด็ก เราต้องให้ความเมตตาต่อ เขา ไม่ใช่ใช้วิธีการด่าหรือต่อว่า ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ มักจะมองไม่เห็นตัวเองว่าเป็นอย่างไร เห็นแต่ ผู้อื่นเป็นอย่างไรมากกว่า จิตวิทยาสมัยใหม่ที่เข้า มาใช้ในการแก้ปัญหา ไม่ได้เริ่มต้นที่การด่าหรือ ต่อว่า แต่ใช้วธิ กี ารของ Coach (ผูร้ บั ฟัง), Facilitator (กระบวนกร) และ Mentor (พี่เลี้ยง) เพราะฉะนั้น

สมมุติเด็กเขาเป็นแบบนี้ ผู้ใหญ่ก็ต้องให้ความรัก ก่อนให้ความรู้ โดยใช้หลักที่เรียกว่า Positive Reinforcement (การเสริมพลังบวก) เข้าไป ปัญหา ที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทยทุกวันนี้ คือ ผู้ใหญ่เคย เข้าเรียนหลักสูตรเพื่อเป็นผู้ใหญ่ไหม กล้าที่จะ เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มปากหรือ เปล่า บางคนเข้าใจว่าการเป็นผูใ้ หญ่อยูท่ เี่ รือ่ งของ อายุเท่านั้น อาศัยอายุที่มากกว่า เข้าไปบอกว่า เด็กวัยรุ่นผิดอย่างนั้นผิดอย่างนี้ ในขณะที่เด็ก บางคนมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอีก แต่ผู้ใหญ่ ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ มองไปว่าเด็กก้าวร้าว ไม่มี สัมมาคารวะ หน้าทีผ่ ใู้ หญ่อย่างเรา ก็คอื ออกแบบ กระบวนการ ออกแบบกิจกรรม หากิจกรรมที่ กระทบใจของเด็ก ๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น อาจจะหาคลิปดี ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงผู้หญิงต้อง เลี้ยงลูกอย่างยากลำ�บากมาเปิดให้เขาดู พอเด็ก happy+ | 39


happy heart

40 | happy+


ซึมซับเนือ้ หาจากคลิปนัน้ สุดท้ายเขาอาจจะกลับ ไปรักแม่ของตัวเอง ไม่สร้างความลำ�บากใจให้แม่ เป็นเด็กดี หรือว่าพาเด็กเข้าไปทำ�จิตอาสา เพือ่ ให้ เห็นว่า คนที่มีฐานะยากจนในโลกนี้ ยังมีอยู่อีก เป็นจำ�นวนมาก มีคนเดือดร้อนอีกมากมาย เรา จะทำ�อย่างนี้เพื่อแก้ปัญหานี้ได้บ้าง นี่คือสิ่งที่ผม กำ�ลังทำ�อยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่การเดินเข้าไปบอกเด็ก ว่าทำ�แบบนั้นสิทำ�แบบนี้สิ คือเราใช้วิธีบอกหรือ สั่งเขาจะรู้สึกต่อต้าน แต่ถ้าหากเราใช้วิธีการพูด กระตุ้นความคิด นำ�ทางจนกระทั่งเขาคิดด้วย ตัวเองได้ โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เขาจะ เปลี่ยนด้วยตัวเอง “สักวันหนึ่ง หากผู้ใหญ่ที่ยังขาดความเป็น ผู้ใหญ่กลุ่มนี้เข้าไปอยู่ในโรงเรียนทางเลือกสมัย ใหม่ ไปบอกเด็ก ๆ ว่า อย่าดื้อ อย่าซน ให้ตั้งใจ เรียนหนังสือ แล้วจะโตขึน้ เป็นผูใ้ หญ่ทดี่ ี จะถูกเด็ก ถามกลับว่า แล้วการโตเป็นผู้ใหญ่มีข้อดีอย่างไร บ้าง คนพวกนี้จะโกรธและรู้สึกว่าเด็ก ๆ ก้าวร้าว ไม่เคารพผูใ้ หญ่ แถมยังตอบคำ�ถามของเด็กไม่ได้ เสียอีกด้วย ถ้าคุณพบเหตุการณ์แบบนี้ ผมถาม คุณว่าใครที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่ากัน ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่อาจโดนเด็กถอน หงอกก็คราวนี้แหละครับ “นอกจากผู้ใหญ่กลุ่มที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว

ก็ยังมีกลุ่มคนอีกจำ�นวนหนึ่ง ที่ถือว่าน่ากลัวมาก สำ�หรับพุทธศาสนา คือ อัตตาของนักปฏิบตั ธิ รรม คนทีห่ นั มาพึง่ พาธรรมะ ผมสังเกตเห็นว่า จำ�นวนหนึง่ มีปมด้อยในเรื่องอื่น ๆ มาก่อน เช่น ไม่มีใคร ยอมรับในตัวเขา และพอวันหนึ่งมาศึกษาธรรมะ ได้แล้ว เมื่อกลับไปหาคนกลุ่มเดิมที่ไม่ยอมรับ ในตัวเขามาก่อน กลุ่มคนที่ชอบรังแกหรือดูถูก นักปฏิบตั ธิ รรมกลุม่ นีก้ จ็ ะรูส้ กึ ว่า เราดีกว่าเขา อยาก จะนำ�ธรรมะที่ได้ศึกษามามาบอกต่อ เจอใครก็ ประกาศออกไปว่าเรามีธรรมะอยู่ในใจ คล้าย ๆ กับกลุ่มคนที่เป็นโรคสปอตไลท์ซินโดรม ต้องการ ความโดดเด่นท่ามกลางคนหมูม่ าก กลัวคนอืน่ ไม่ เห็นหัวเรา กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเราก็ได้ศึกษาธรรมะ มาเหมือนกัน ลองสังเกตดูว่าจะมีคนกลุ่มนี้ พอ หลวงพ่อไม่อยู่ จะตั้งตนเป็นนักเทศน์เองเสียเลย มีใครเข้ามาใหม่ ก็จะรีบเข้าไปแสดงความรู้ เรื่อง เหล่านี้หลวงพ่อท่านก็ห้ามนะครับ ว่าอย่าเพิ่งเริ่ม สอนใคร เอาตัวเองให้รอดเสียก่อน แต่ก็ยังคง มีพวกต้องการปล่อยของอยู่อีกมาก แต่ก็มีกลุ่ม คนที่หวังดีจริง ๆ ต้องการให้ผู้อื่นรู้เหมือนกับที่ ตัวเองรู้ ซึ่งเป็นคนละแบบกัน เราต้องพยายาม เปลี่ยนการสอนแบบบอกเล่า ไปใช้วิธีการ Coach, Facilitator และ Mentor ให้มากขึ้น ทำ�ให้ผู้ฟังปรับ วิธีคิดด้วยตัวเอง”

ความสุขทางโลกและทางธรรม

ความสุขและความสงบเป็นสิ่งที่หลายคน ตามหา เพราะในชีวิตอันวุ่นวายผ่านพ้นปัญหา ร้อยแปดอย่าง ทำ�ให้ความสงบและความสุขมี พื้นที่ลดลงไปทุกวัน ๆ เราจึงต้องหาทางนำ�ความ สงบและความสุขกลับมาอีกครั้ง โดยการเรียนรู้ และศึกษาธรรมะควบคู่ไปกับเรื่องทางโลกอย่าง สมดุลกัน ไม่เอียงเทไปทางด้านใดด้านหนึ่ง “ทุกวันนี้แม้ผมจะศึกษาธรรมะอย่างลึกซึ้ง เรื่องทางโลกก็ยังไม่ทิ้งไปเสียทีเดียว ยังคงต้อง ศึกษาหาความรู้ ติดตามข่าวสารทางโลกไปพร้อม ๆ กันด้วย เมื่อเราคงไว้ทั้งสองทาง ถ้าทางโลกมัน วุน่ วายนัก เราก็หนั หน้าไปหาธรรมะ แต่เมือ่ ศึกษา ธรรมะแล้วเราจะค้นพบว่าเรื่องต่าง ๆ ทางโลก ก็ทง้ิ ไปไม่ได้ เพราะธรรมะคือ การเห็นแล้ว เข้าใจแล้ว รูค้ �ำ ตอบแล้ว ทุกวันนีผ้ มก็เลยอยูอ่ ย่างมีความสุข เพราะเราเห็นทุกอย่างหมดแล้ว เห็นแล้วว่ามีอะไร เกิดขึน้ บ้าง เห็นรูปแบบต่าง ๆ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ทัง้ หมด แล้ว สามารถคาดเดาได้วา่ อนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้จึงอยู่เพื่อช่วยเหลือคนอื่นมากกว่าอยู่เพื่อ ตัวเอง ทุก ๆ งานที่ทำ�เพื่อผู้อื่นคือ งานอดิเรก สำ�หรับผมทั้งหมด ส่วนงานหลักคือ การทำ�จิตใจ ให้ผ่องใสครับ” happy+ | 41


feature

ลูกไมใต้ ้ ต้น เรื่อง : It’s a bell / TepiN / Nasry ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี

ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวที่มี คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้ว ลูก ๆ มักจะสนิท กับคุณแม่มากกว่า เพราะคุณแม่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้แก่บ้าน ส่วนคุณพ่อจะมีหน้าที่เป็นผู้นำ�ครอบครัว ทำ�งาน นอกบ้าน ทำ�ให้ในสายตาของลูก ๆ ที่มองไปยังคุณพ่อ จะเป็นไปในรูปแบบของความเคารพ เทิดทูน และเป็นต้นแบบ ให้แก่เรามากกว่า บางครั้งเราจึงเห็นว่าลูก ๆ เลือกตัดสินใจเดินตามรอยคุณพ่อไม่ห่างไปไหนไกล คุณพ่อเป็นแบบไหน ทำ�อาชีพอะไร คุณลูกก็เป็นแบบนั้นหรือใกล้เคียงกัน นิตยสาร happy+ ประจำ�เดือนธันวาคมนี้ จึงขอพาคุณผูอ้ า่ น ไปพบกับความสัมพันธ์นา่ รัก ๆ ระหว่างคุณพ่อกับคุณลูก ที่ทำ�ให้ใครหลายคนกล่าวว่า ‘นี่แหละ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ 42 | happy+


เพาะบ่มตัวโน้ตทางดนตรี

วรปภา บุญณรงค์ - ชยกร ไชยชมพู “ครอบครัว” เป็นสถาบันมูลฐานของคนทัว่ โลก จึงมีความสำ�คัญในการหล่อหลอมคนคนหนึง่ ให้เกิดมามีเส้นทางตามแบบต่าง ๆ ตามพืน้ ฐาน ของแต่ละครอบครัว เช่นเดียวกับ น้องบริ้งค์-วรปภา บุญณรงค์ และคุณพ่อต้อม-ชยกร ไชยชมพู หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ น้องบริ้งค์ กะ ป๋าต้อม อาร์สยาม พ่อลูกคู่หูนักดนตรี ที่คุณพ่อและคุณแม่เป็นผู้สนับสนุน โดยใช้เสียงดนตรีในการดึงความสามารถของน้องบริ้งค์ให้ออกมาใช้ได้อย่าง เต็มที่ เส้นทางของสองพ่อลูกคู่หูนักดนตรี เริ่มต้น จากการทำ� Clip Cover เพลงในยูทบู ผ่านช่องทาง ของตั ว เอง ด้ ว ยเสน่ ห์ ค วามน่ า รั ก สดใส สไตล์ครอบครัว บวกความสามารถที่เกินวัยของ น้องบริ้งค์ และเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำ�ให้มีกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงในโลก โซเชียลมีเดีย ถูกคลิกและแชร์อย่างล้นหลาม ซึง่ ใน แต่ละคลิปมียอดคนเข้าชมและผู้ติดตามในโลก

โซเชียลหลายแสนคน จนกลายเป็นที่จับตาของ สื่อมวลชน รายการโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ เชิญไป ร่วมรายการมาแล้วมากมาย “ครอบครัวของเราสอนดนตรีกันอยู่แล้ว แต่ เราไม่เคยสอนน้องบริ้งค์ร้องเพลงเลย ในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ของลูก แต่เราต้องทำ�งาน น้องบริง้ ค์ ก็จะตามพ่อกับแม่ไปด้วย เวลาที่เราสอนเด็ก ๆ น้องบริ้งค์จะเข้าไปนั่งเรียน ทำ�ให้เขาซึมซับไปเอง

โดยไม่รู้ตัว พอวันหนึ่งคลิปเป็นกระแสขึ้นมา เรา ก็บอกว่า มีคนชมบริ้งค์ว่าร้องเพลงเพราะ ทำ�ให้ เขาเริ่มอยากเรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง เขาบอก เองว่า คุณพ่อคุณแม่ช่วยสอนหนูร้องเพลงหน่อย ผมจึงค่อย ๆ เริม่ สอนเขาอย่างจริงจัง ในเรือ่ งของ เพลง ดนตรี คียท์ งั้ หมดจะอยูท่ คี่ ณ ุ พ่อ แต่เนือ้ ร้อง ความจำ�ทั้งหมดอยู่ที่คุณแม่ เพราะช่วงนั้นน้อง ยังอ่านหนังสือไม่ออก จะต้องสอนทีละคำ�ในการ happy+ | 43


feature

ออกเสียง ซึ่งเพลงเพลงหนึ่งมีหลายร้อยคำ�มาก เขาต้องใช้ความจำ�อย่างเดียวเลย สองปีที่แล้วที่ เริ่มทำ�คลิปน้องเพิ่งจะสามขวบครึ่งเท่านั้นครับ” น้องบริ้งค์สาวน้อยที่มีพรสวรรค์และกล้า แสดงออกคนนี้ถือว่าได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาความสามารถจากครอบครัวของเธอ เป็นอย่างดี “ผมอยากให้เขาทำ�ในสิง่ ทีช่ อบก่อน พอโตขึน้ เขาอยากทำ�อะไรก็ค่อยให้เขาเลือกสิ่งที่อยากทำ� เอง อนาคตเรายังไม่ทราบว่าเขาจะเดินไปทางไหน ตอนนี้ผมแค่พยายามปูพื้นฐานให้เขาชอบในสิ่ง ที่ทำ�อยู่ เขาอายุแค่นี้ เขาได้มาอยู่ตรงจุดนี้แล้ว หลังจากนี้มันก็เป็นสิ่งที่เขาต้องนำ�ไปต่อยอดเอง “ปกติ น้ อ งจะฟัง เพลงทั่ ว ไปที่ผ มร้อง ผม จะไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นลูกทุ่งหรือว่าแนวเพลง อะไร ถ้าผมร้องเพลงเพลงหนึง่ เนือ้ เพลงเหมาะสม กั บ เขา ก็ จ ะให้ เ ขาร้ อ งตาม แต่ ถ้ า เนื้ อ เพลง เชื อ ดเฉื อ นหรื อ ว่ า ล่ อ แหลมมากเกิ น ไป ก็ จ ะ ไม่ให้ร้อง ส่วนมากเขาจะฟังเพลงจากที่ผมร้อง เป็นส่วนใหญ่ เพลงทีฟ่ งั ส่วนมากเขาจะไม่คอ่ ยได้ ฟังจากต้นฉบับ เพราะบางทีตน้ ฉบับคียไ์ ม่ตรงกับ ทีเ่ ขาร้อง ผมจึงให้ฟงั จากเพลงทีผ่ มเอามาร้องเอง เพือ่ ทีเ่ ขาจะได้รอ้ งเป็นตัวของเขา ไม่ได้เลียนแบบ ศิลปินคนใดคนหนึ่ง” และวันนี้น้องบริ้งค์ กะ ป๋าต้อม ได้ก้าวมา เป็นศิลปินในสังกัดอาร์สยาม พร้อมปล่อยซิงเกิ้ล 44 | happy+

น่ารัก ๆ ฟังสบาย ยิ้มได้ทุกเพศทุกวัย ‘รักคุณ มากกว่า’ ออกมาให้แฟน ๆ ทุกคนได้ฟังกันแล้ว “เพลง รักคุณมากกว่า เป็นเพลง Acoustic ใส ๆ โดดเด่นด้วยเสียงของกีตาร์ ที่ใช้การเปรียบ เที ย บกั บ มุ ม มองแบบเด็ ก ๆ กั บ สั ต ว์ ต่ า ง ๆ ครับ เพลงนี้เป้าหมายชัดเจน คือจะเน้นไปทาง ครอบครัวและเน้นไปทางหนุ่มสาวที่อยากจะมี ครอบครัวหรือครอบครัวที่มีเด็ก ซึ่งแนวทางใน การทำ�เพลงของผมก็จะเน้นไปที่เนื้อหาของเพลง ที่ไม่รุนแรง ส่งเสริมในแบบที่ดูน่ารัก ดูเป็นดนตรี ครอบครัว ผลตอบรับที่ผ่านมาถือว่าดีมาก ๆ ผม พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ทุกวันนี้ แฟนคลับทุกคนน่ารัก กับครอบครัวเรามาก “ก่อนหน้านีผ้ มก็ไม่ได้วางแผนให้นอ้ งว่าต้อง ชอบดนตรี ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมาถึงตรงจุดนีไ้ ด้ ตั ว ผมเองเคยทำ � งานเบื้ อ งหลั ง มาหลายสิ บ ปี แล้ว ผมรู้ว่าขั้นตอนมันต่างกันในการทำ�งาน คือ ต้องเป็นผูใ้ หญ่ถงึ จะสามารถทำ�งานได้ เพราะไม่วา่ จะเป็นเรื่องของเวลา เรื่องของความรับผิดชอบ และอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนแรกผมไม่ได้คาด หวัง เพราะน้องยังเด็กมากที่จะทำ�งานตรงนี้ แต่ พอให้เขามาเริม่ ทำ�งานจริง ๆ ก็ผดิ คาดเหมือนกัน วันแรกที่เข้าห้องอัด น้องร้องได้ดีในวันเดียว ไม่มี ติดขัด เขาสามารถอยู่ในห้องอัดได้และทำ�ตัว เป็นธรรมชาติมาก ทุกอย่างผ่านไปได้ดว้ ยดีครับ” ป๋าต้อมบอกกับเราว่า ทุก ๆ งานที่ติดต่อ

น้ องบริ้ งค์ เข้ ามา ครอบครั วจะไม่มีการบังคับ แต่จะเน้นเปิดโอกาสให้ลกู ทำ�ในสิง่ ทีอ่ ยากทำ�มากกว่า “ทุกงานที่น้องบริ้งค์ทำ� เราจะถามเขาก่อน เสมอ เช่น รายการนี้ติดต่อมา ลูกอยากไปไหม เราจะบอกเขาว่าถ้าไปแล้วต้องทำ�อะไรบ้าง หนู จะไหวไหม ถ้าไหวเราก็จะให้ไป ถ้าไม่ไหวก็คือ ไม่ให้เขาทำ� แต่ถ้าไปทำ�งาน แล้วเขาบอกว่าไหว ต่อให้เจ็บคอหรือไอเขาก็ต้องทำ� เราจะคุยกัน เป็นเรื่องเป็นราวครับ จริง ๆ การที่เขาอยู่ตรงนี้ มาก ๆ ทำ�ให้เขาโตกว่าเด็กในวัยเดียวกันไปมาก พอสมควร ฉะนั้นเขาจะยังแยกไม่ออกระหว่าง หน้าทีท่ จี่ ะต้องเรียนหรือว่าการมาทำ�งาน ซึง่ ตรงนี้ ผมก็จะสอนเขาเสมอว่า หน้าที่หลักของเขาคือ การเรียน ไม่ใช่การร้องเพลง ผมจะเน้นเรือ่ งหน้าที่ ความรับผิดชอบว่าเขาต้องทำ�อะไร ณ ตอนนี้ เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรา Cover กันอย่างหนัก น้องค่อนข้างที่จะสนุกกับการร้องเพลงมาก ไม่ อยากไปเรียน ซึ่งตอนนั้นเราก็ต้องทำ�ความเข้าใจ กันใหม่ทั้งหมดครับ “ตอนฝึกซ้อมมีเหมือนกันที่น้องบริ้งค์ร้องไห้ งอแง เพราะว่าน้องยังอ่านหนังสือไม่ได้ เวลาทีเ่ ขา ต้องทำ�งานจริง ๆ มันไม่ได้มีเวลาให้เขาเป็นวัน ๆ การจะมายืนเป็นศิลปินต้องรับผิดชอบ ผมจะ สอนเขาแบบนี้ ผมยังคุยกับคุณแม่เขาอยู่ว่า เขา จะไหวไหม เพราะว่ากดดันมาก ซึ่งเขาจะแปลก อย่างหนึง่ เวลาซ้อมจะงอแงหน้าบิดหน้าเบีย้ ว แต่


ถ้ากล้องมาเมื่อไหร่เขาจะทำ�งานเองโดยอัตโนมัติ แล้วทุกครัง้ ทีท่ �ำ งานเสร็จเขาจะต้องถามคุณแม่วา่ หนูท�ำ ดีไหม เขากลัวว่าจะทำ�ได้ไม่ดี กลัวทำ�ได้ไม่ เหมือนกับทีเ่ ขาซ้อม เราก็ตอ้ งคุยครับ เพราะว่าใน วัยนี้ พูดตรง ๆ คือ น้องยังไม่รู้เรื่อง แต่ก็พยายาม ให้เขาทำ�ในสิ่งที่เขาชอบก่อนเป็นอันดับแรก เขา ชอบเวลาร้องเพลงแล้วคนดูเยอะ ๆ ถ้าไม่มีคนดู เขาจะเสียเซลฟ์และจะไม่ทำ�อีกเลย” การอยู่กับเสียงดนตรีและได้ร้องเพลง ไม่ได้ แค่ชว่ ยให้ปา๋ ต้อมกับน้องบริง้ ค์มคี วามสุขมากขึน้ เท่านัน้ แต่ยงั ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้อบอุ่น พร้อมช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับ น้องบริ้งค์ได้ดีอีกด้วย “ดนตรีมีประโยชน์กับเด็ก ๆ ในเรื่องของ สมาธิ จริง ๆ แล้วถ้าเรียนตามหลักสากล ดนตรี จะพัฒนาสมองซีกขวาเป็นหลัก ซึ่งเป็นด้านของ Emotional Quotient หรือ E.Q. ส่วนซีกซ้ายจะเป็น I.Q. ในเรือ่ งการประมวลเหตุและผล ซึง่ ดนตรีชว่ ย ในเรื่องของสมาธิ ช่วยทำ�ให้เด็ก ๆ ที่เป็นไฮเปอร์ หรือสมาธิสั้น อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้น ซึ่ง ดนตรีจะช่วยปรับให้เขามีความจำ�ที่ดีด้วย การ เรียนดนตรีควรจะเรียนควบคู่ไปกับการเรียนใน ห้องเรียน เพราะว่าทำ�ให้น้องเป็นเด็กอารมณ์ดี มี สมาธิและช่วยในเรื่องของเหตุและผลด้วย “ดนตรีเหมือนเป็นส่วนหนึง่ ในชีวติ ครอบครัว ของผม หันไปทางไหนก็จะมีแต่เสียงดนตรี เราเล่น

ผมอยากให้เขาทำ�ในสิ่งที่ชอบก่อน พอโตขึ้นเขา อยากทำ�อะไรก็ค่อยให้เขาเลือกสิ่งที่อยากทำ�เอง อนาคตเรายังไม่ทราบว่าเขาจะเดินไปทางไหน ตอนนีผ้ มแค่พยายามปูพน้ื ฐานให้เขาชอบในสิง่ ทีท่ �ำ อยู่ ดนตรีกนั ทัง้ บ้าน บางทีเราเล่นด้วยกัน พ่อเล่นเปียโน แม่เล่นกีตาร์ ลูกร้องเพลง ทำ�ให้เรามีกิจกรรมทำ� ร่วมกันในทุก ๆ วัน ซึ่งยุคของสังคมสมัยนี้ พ่อแม่ ทำ�งาน ลูกอยูบ่ า้ น ก็มหี ลาย ๆ คนถามว่า ดูแลกัน ยังไง ทำ�ไมครอบครัวถึงเป็นอย่างนี้ จริง ๆ แล้วคือ เราไม่เคยแยกจากกันเลย ตอนเช้าเราจะไปส่งลูก ทีโ่ รงเรียนด้วยกัน ลูกเรียนหนังสือ คุณพ่อ คุณแม่ ทำ�งานอยูด่ ว้ ยกัน พอเลิกเรียนเราสองคนก็ไปรับลูก พอรั บ ลู ก กลั บ มาเราก็ ม าอยู่ ด้ ว ยกั น อี ก ถ้ า วันไหนคุณแม่ไม่อยู่ ผมอยู่กับลูกสองคน ผมต้อง สามารถอาบนํ้าแต่งตัว ทำ�ให้ลูกได้ทุกอย่าง ผม ว่าแค่ต่างคนต่างทำ�หน้าที่ของตัวเองให้ดี เราจะ ไม่มปี ญ ั หา เขามีหน้าทีท่ �ำ อะไรเขาทำ� เรามีหน้าที่ ทำ�อะไรเราทำ� ก็เท่านั้นเอง”

ป๋าต้อมพูดทิง้ ท้ายไว้วา่ พ่อและแม่มอี ทิ ธิพล ต่อการสร้างแรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมายความ สำ�เร็จ โดยมีบทบาทในการเป็นแบบอย่างที่ดี สิ่ง สำ�คัญคือ จะต้องไม่ปิดกั้นความฝัน พร้อมเปิด โอกาสให้ลูกได้แสดงศักยภาพอย่างสร้างสรรค์ และเสริมสร้างกำ�ลังใจให้ลูกอย่างสมํ่าเสมอ “ผมเข้าใจว่าในยุคนี้เป็นยุคของการแข่งขัน พอสมควร เด็กหลาย ๆ คนมีความสามารถ ตั้งแต่ 5-6 ขวบกันเยอะมาก หลาย ๆ คนตีกลอง เล่นกีตาร์ เล่นดนตรีเก่งมาก ก็อยากจะฝากถึง ผูป้ กครองว่า อยากให้สนับสนุนน้องทางด้านทีเ่ ขา ชอบ แต่น้องจะเป็นยังไงในอนาคต ผมว่าก็ต้อง ปล่อยไปแล้วแต่เขาจะเลือก แค่เราที่เป็นพ่อแม่ คอยประคับประคองส่งเสริมเขาก็พอครับ” happy+ | 45


feature

อาสาฯ ตามรอยพ่อ

ธวัชชัย - กมลชนก สินธุมงคลชัย การทำ�งานอาสาสมัครเป็นการมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ และเป็นการทำ�งานด้วยใจรักอย่างแท้จริง มูลนิธิ ร่วมกตัญญูเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำ�ไร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุตามท้องถนน เราจะเห็นภาพที่คุ้นเคยของกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้ เดินทางมายังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ทักษะความรู้ที่มี ควบคู่ไปกับแรงกายแรงใจ ช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น และเรากำ�ลังพูดถึง คู่พ่อลูกนักกู้ชีพฉุกเฉิน คุณพ่อธวัชชัย และน้องมุก กมลชนก สินธุมงคลชัย ที่มีคุณพ่อเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจมาโดยตลอด “ตอนแรก ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจมาทำ�งาน อาสาสมัครร่วมกตัญญู มุกก็รู้ว่าคุณพ่อทำ�งาน ตรงนีอ้ ยู่ แต่เราไม่เคยเห็นเวลาเกิดเหตุการณ์จริง ๆ คุณพ่อทำ�งานอย่างไรบ้าง จนวันหนึง่ คุณพ่อไปรับ กลับจากโรงเรียนแล้วมีแจ้งอุบัติเหตุเข้ามาพอดี ทำ�ให้เราได้ไปทีน่ นั่ ด้วย ตอนนัน้ ก็ยงั ทำ�อะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าต้องช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ก็ได้แต่ดู อย่างเดียว จากทีไ่ ม่เข้าใจว่าพ่อทำ�งานอาสาสมัคร 46 | happy+

ที่ไม่ได้เงินไปทำ�ไม ก็เริ่มเข้าใจเพราะได้เห็นช่วง คาบเกี่ยวความเป็นความตายของชีวิตคน จึง รู้สึกว่าเราอยากทำ�แบบนี้บ้างค่ะ” คุณพ่อธวัชชัยเสริมว่า “คนทีจ่ ะทำ�งานอาสา สมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจะเริ่มตั้งแต่อายุ 18 ปี แต่ตอนนั้นน้องมุกอายุ 16 ปี ก็เริ่มเข้ามาทำ�งาน กับผมด้วยแล้ว เพราะทางมูลนิธิจะถือว่าผมเป็น คนรับผิดชอบลูกตัวเอง ไปวิ่งพร้อมกับเราเลย ก็

เลยเริ่มตั้งแต่อายุ 16 ปีได้ วันไหนที่ผมเข้าเวร ผมก็จะเปลี่ยนชุดเป็นชุดมูลนิธิร่วมกตัญญู คอย สแตนด์บายรอฟังวิทยุว่าตรงส่วนที่เรารับผิดชอบ มีอบุ ตั เิ หตุเกิดขึน้ ทีไ่ หนหรือเปล่า ถ้าไม่มกี จ็ ะอยูท่ ี่ ร้านช่วยแม่นอ้ งมุกขายผลไม้ ขายส้มโอไป แต่พอ มีเหตุเกิดขึน้ เราก็พร้อมทีจ่ ะปฏิบตั งิ าน ผมทำ�งาน อาสาสมัครมาประมาณ 6 ปีแล้ว ครอบครัวเข้าใจ และให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีครับ”


การทำ�งานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจะ ต้องผ่านการฝึกอบรมก่อน จึงจะออกปฏิบัติการ ช่วยเหลือในสถานการณ์จริงได้ แต่ถึงอย่างไร การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนก็มี ขอบเขตจำ�กัด ด้วยเหตุนเี้ องจึงทำ�ให้นอ้ งมุกอยาก ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้มากขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้น ของการเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง โดยตัดสินใจ เลื อ กเรี ย นคณะแพทยศาสตร์ โ รงพยาบาล รามาธิ บ ดี สาขาปฏิ บั ติ ก ารฉุ ก เฉิ นการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล “หลั ง จากมุ ก ผ่ า นการอบรมของมู ล นิ ธิ ร่วมกตัญญูแล้วได้ออกปฏิบัติงาน ณ ที่เกิดเหตุ จริง ๆ เราได้ไปพบกับเคสหนึง่ ทีห่ นักมาก เป็นเคส ที่เราไม่สามารถดำ�เนินการช่วยเหลือเองได้ ต้อง นำ�ส่งโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว ก็เลยพบว่า งานอาสาสมัครแบบนี้ก็มีขอบเขตการช่วยเหลือ อยู่ เ หมื อ นกั น มุ ก อยากช่ ว ยเหลื อ คนเจ็ บ ให้ได้มากกว่านี้ นี่จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนทำ�ให้

พอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึง่ ของการเป็นอาสาสมัคร ทำ�ให้ เราเข้าใจในตัวคุณพ่อมากขึน้ และคุณพ่อก็ยงั เป็น แรงบันดาลใจ เป็นทุกอย่างให้เราได้กา้ วเดินมาจนถึงทุกวันนี้ มุกตัดสินใจเลือกเรียนเป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์หรือเวชกิจฉุกเฉิน ทำ�งานในด้านการ ช่วยเหลือ เช่น ออกปฏิบัติการกับรถฉุกเฉิน อยู่ ในห้อง ER หรือออกมาทำ�หัตการบนท้องถนน สำ�หรับเคสฉุกเฉินที่มีอาการสาหัสมาก ๆ ตอนนี้ เรียนอยู่ปี 2 แล้ว รู้สึกว่าเราเลือกไม่ผิดเลยที่ได้ มาเรียนตรงนี้ค่ะ” คุณพ่อธวัชชัยเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้น้องมุก เรี ย นทางด้ า นนี้ แ ล้ ว ก็ ช่ ว ยงานผมได้ เ ยอะขึ้ น

เพราะส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนรับหน้าทีใ่ นการคุยวอ และให้เขาเป็นคนลงมือทำ� ส่วนผมจะเป็นคน ขับรถและคอยดูสถานการณ์ แต่พอเขาเรียนมา มีความรู้เพิ่มเติม เก่งมากขึ้น บางครั้งไปเจอ คุณหมอในที่เกิดเหตุ เขากับคุณหมอก็จะคุยกัน รู้เรื่อง ผมก็จะส่งเขาเข้าไปคุย ทำ�ให้การทำ�งาน คล่องขึน้ ไม่คอ่ ยติดขัดหรือมีปญ ั หา ผมคิดว่างาน ช่วยเหลือแบบนี้ เราต้องทำ�ด้วยใจรัก มีใจทีอ่ ยาก ช่วยเหลือผูอ้ นื่ ทุกวันนีผ้ มรูส้ กึ ภูมใิ จในทุกเคสทีไ่ ด้ happy+ | 47


feature

เข้าไปช่วยเหลือนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งน้องมุกไปเรียน ไม่วา่ งมาช่วย ผมไปทีเ่ กิดเหตุคนเดียว ไม่รวู้ า่ จะทำ� ยังไงดีเพราะตอนนั้นยังไม่มีใครมาที่เกิดเหตุเลย ผมเห็นอาการเขาท่าจะไม่ดี ก็เลยอุ้มคนเจ็บเดิน เลาะชายคลองมาประมาณ 50 เมตร แล้วไป ส่งที่โรงพยาบาลศิริราช พอเราช่วยเสร็จ ลูก ๆ เขามาถึ ง ที่ โ รงพยาบาลก็ ย กมื อ ไหว้ ข อบคุ ณ แค่นี้เราก็สุขใจแล้วที่ได้ช่วยเหลือครับ” การทำ�งานอาสาสมัครนอกจากได้ชว่ ยเหลือ และถือเป็นการทำ�ความดีแล้ว ยังได้ใช้เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์ ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเสียไปอย่าง ไร้ค่า และเมื่อได้ลงมือทำ�แล้ว ทำ�ให้มุมมองใน ชีวิตของทั้งสองคนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ตัง้ แต่ผมได้มาทำ�งานตรงนี้ มุมมองความคิด ในด้ า นการใช้ ชี วิ ต เปลี่ ย นไปเยอะมาก เมื่ อ ก่อนเราเป็นคนค้าขาย ตกเย็นก็มีบ้างที่ไปดื่ม เหล้ากับเพื่อน ๆ แต่พอได้มาทำ�งานช่วยเหลือ ผูอ้ นื่ เวลาทีเ่ ข้าเวรหรือช่วงเข้าพรรษาก็จะดืม่ เหล้า ไม่ได้ ทำ�ให้ช่วงนั้นดื่มเหล้าน้อยลง และเมื่อไปยัง ทีเ่ กิดเหตุตามท้องถนน ส่วนใหญ่อบุ ตั เิ หตุทเี่ กิดขึน้ ก็เพราะคนขับดืม่ เหล้าบ้าง ขับรถโดยประมาทบ้าง 48 | happy+

เหมือนเราได้เห็นสัจธรรมของชีวิต ทำ�ให้ทุกวันนี้ ผมมองชี วิ ต ในมุ ม มองใหม่ พอเราทำ �ความดี ไปโดยไม่หวังอะไรตอบแทนแล้ว ในความรู้สึก ของผมเอง ผมรู้สึกว่าอะไร ๆ ในชีวิตของเราก็ เริ่มดีขึ้น การค้าที่ร้านก็ดีขึ้น ตัวเราก็กลายเป็น คนที่ดีขึ้นครับ” “สำ�หรับตัวมุกเอง มุมมองต่อคุณพ่อเปลีย่ น ไปมาก เมือ่ ก่อนเราจะไม่เข้าใจว่า ทำ�งานไม่ได้เงิน เสียเวลา ต้องเอารถยนต์ตัวเองไปใช้ด้วยมันเป็น งานที่ดีอย่างไร แต่พอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ การเป็นอาสาสมัคร ทำ�ให้เราเข้าใจในตัวคุณพ่อ มากขึ้น และคุณพ่อก็ยังเป็นแรงบันดาลใจ เป็น ทุกอย่างให้เราได้ก้าวเดินมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้ามุก ไม่ได้เข้ามาทำ�งานตรงนี้ เราก็ไม่รวู้ า่ อนาคตเราจะ เป็นอย่างไร ตอนนั้นมุกอายุ 16 ปี มุกพิสูจน์แล้ว ว่าเราสามารถทำ�งานอาสาสมัครได้ ซึ่งมุกเชื่อว่า อีกหลาย ๆ คนก็สามารถทำ�ได้เช่นเดียวกัน อาจจะ เป็นงานอาสาสมัครอื่น ๆ ก็ได้ค่ะ” คุณธวัชชัยเสริมท้ายว่า “ผมว่างานอาสา สมัครเหมาะสำ�หรับวัยรุ่นมาก เพราะวัยรุ่นยัง ไม่มีอะไรให้ต้องรับผิดชอบมาก มีเวลาเหลือเฟือ

ในการเลือกทำ�อะไรทีเ่ ป็นประโยชน์กบั ตัวเอง ลอง ทำ�ดูแล้วจะพบมุมมองทีต่ า่ งออกไปครับ นอกจากนี้ ผมอยากฝากว่ า เวลาที่ เ ราไปรั บ -ส่ ง คนเจ็ บ ถ้าเห็นไฟสัญญาณฉุกเฉิน ขอให้ช่วยหลบทางให้ หน่อย บางคนไม่หลบแล้วยังลดกระจกมาว่ากัน อี ก ต่ า งหาก ถ้ า เราไปส่ ง โรงพยาบาลช้ า เพี ย ง นิดเดียว คนคนนั้นอาจจะเสียชีวิตก็ได้นะครับ การเปิดทางให้รถไปถึงทีห่ มายเร็วขึน้ จะช่วยคนเจ็บ ได้เยอะขึ้น” จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อ ธวัชชัยและน้องมุก กมลชนก เป็นไปในรูปแบบที่ เราชอบเรียกกันติดปากว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะน้องมุกได้เห็นแบบอย่างที่ดีจากคุณพ่อ ซึ่ ง ทุ่ ม เทให้ แ ก่ ก ารทำ � งานเพื่ อ สั ง คม ทำ � ให้ เธอก้าวเดินไปในแนวทางเดียวกัน นอกจากการ ปฏิ บั ติ ง านเพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ คนบนท้ อ งถนนแล้ ว คุณพ่อธวัชชัยยังไปประจำ�ทีห่ น่วยทางการแพทย์ เพื่อคอยช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ที่มาร่วมร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมาอีกด้วย


เพราะได้เห็นจึงอยากเป็นเหมือน

วิชเลิศ - วัสยศ งามขำ�

อาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่ต้องมีความสามารถรอบด้าน ทั้งความช่างสังเกต ความสนใจใคร่รู้ และการเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อนำ� เสนอข้อเท็จจริงของเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนทั่วไปได้ทราบในเวลาอันรวดเร็ว ฉับไว โดยเฉพาะเหตุการณ์สำ�คัญ ๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น สำ�หรับนักข่าวสายอาชญากรรม บางครั้งการทำ�ข่าวยังต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายจากการรายงานข่าวในสถานที่ เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบุกปราบปรามคนร้าย หรือการปะทะกันของม็อบกับเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการในการ ตีแผ่ความจริงให้ประชาชนได้รับรู้ คุณวัสยศ งามขำ� เป็นหนึ่งในนักข่าวสาย อาชญากรรมที่ทำ�หน้าที่ของตัวเองมาอย่างเต็ม ความสามารถ และไม่เพียงเท่านั้น คุณพ่อของ คุณวัสยศ คือคุณวิชเลิศ งามขำ� ก็เป็นนักข่าว สายอาชญากรรมเช่นเดียวกัน เหตุผลทีค่ ณ ุ วัสยศ เลือกทีจ่ ะเดินมาทางสายอาชีพนี้ ก็เพราะมีคณ ุ พ่อ เป็นต้นแบบนี่เองค่ะ คุณวัสยศ : “พี่ทำ�ข่าวสายอาชญากรรม มาตั้งแต่แรกเลยครับ เพราะเห็นว่ามันน่าจะสนุก

คือ เห็นตัวอย่างจากพ่อด้วย เห็นพ่อเป็นนักข่าว อาชญากรรม ใจก็มุ่งไปเลยว่าต้องเป็นนักข่าว อาชญากรรม ถ้าไปทำ�ข่าวอื่นคิดว่าคงไม่ถนัด แต่ตอนแรก ด้วยความที่พ่อเป็นนักข่าวประจำ� ที่กองปราบฯ พ่อก็อยากให้ลูกชายเป็นตำ�รวจ เพราะพ่ อ ทำ � งานคลุ ก คลี กั บ ตำ � รวจมาตลอด พยายามให้เราไปเรียนกวดวิชานู่นนี่ แต่พอเรา ไปเรียนแล้วเราก็รสู้ กึ ว่า เราไม่ได้อยากเป็นตำ�รวจ “อีกอย่าง พ่อมักจะพาพี่ไปที่ทำ�งานของพ่อ

พอได้เห็นบรรยากาศกองบรรณาธิการข่าวของ ไทยรัฐ เรารูส้ กึ ว่ามันสนุกสนาน ครืน้ เครง ส่วนแม่ ก็ เ ป็ น ช่ า งเรี ย ง สมั ย ก่ อ นระบบการจั ด หน้ า หนังสือจะไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ ใช้เป็นตัวเรียง ตะกั่วแล้วค่อยนำ�ไปพิมพ์เป็นเพลตออกมา ก็จะ ได้เห็นบรรยากาศของฝ่ายผลิตด้วย ก็เห็นภาพ แบบนัน้ มาโดยตลอด คลุกคลีอยูก่ บั วงการนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ไป ๆ มา ๆ เลยทำ�ให้เรารู้ตัวว่า เราอยากเป็นนักข่าว ตอนนัน้ บอกพ่อไปว่า ไม่อยาก happy+ | 49


feature

เป็นตำ�รวจ อยากเป็นนักข่าว” คุณพ่อ : “พ่อเห็นว่าก็ดนี ะ ตอนทีเ่ ขาบอกว่า อยากเป็นนักข่าว เพราะว่าการเป็นนักข่าวมัน อิสระ สามารถคิดและทำ�ตามที่เราต้องการ แต่ ทุกอย่างก็ตอ้ งอยูใ่ นกรอบของความจริง ความถูกต้อง ส่วนตำ�รวจจะมีลำ�ดับขั้นการปกครอง และข้อ จำ�กัดหลายอย่าง” คุณวัสยศ : “พอรู้ว่าจะมาทางสายนักข่าว ก็ เ ลยเลื อ กที่ จ ะเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย แล้ ว เรี ย น นิเทศศาสตร์ทางด้านหนังสือพิมพ์ เลือกเรียนเอก วารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อตั้งใจที่ จะจบออกมาเป็นนักข่าวโดยเฉพาะ และก็เริ่มยึด พ่อเป็นต้นแบบมาตั้งแต่นั้น” ด้วยการทำ�งานในสายงานเดียวกัน ทำ�ให้ คุณวัสยศได้รับข้อคิด และแนวทางในการทำ�งาน จากคุณพ่อ ซึ่งเป็นใบเบิกทางที่ดีสำ�หรับการเป็น นักข่าวในสายอาชญากรรม คุ ณ พ่ อ : “ส่ ว นมากพ่ อ แทบจะไม่ ได้ ให้ คำ�แนะนำ�เท่าไหร่ เขาอาศัยดูจากทีเ่ ราทำ�งาน แต่ก็ จะบอกเขาว่า ข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวทีล่ ะเอียดอ่อน 50 | happy+

มีความซับซ้อน สนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม เหมือน กับเราดูหนังสืบสวน การทำ�ข่าวที่ดีที่สุดคือ ต้อง มาก่อน กลับทีหลัง การมาก่อนจะทำ�ให้เราเห็น สภาพที่เกิดเหตุ ส่วนกลับทีหลัง เราจะได้แง่คิด จากตำ�รวจหรือกองพิสูจน์หลักฐาน หรืออย่าง กรณีเพลิงไหม้ ถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่ เกิดเหตุหลังจากไฟดับหมดแล้ว ถ้าเกิดเจอศพ คนที่กลับก่อนก็จะไม่ได้ข่าว แต่เราอยู่ต่อเราก็จะ ได้ข่าวนี้มา” คุณวัสยศ : “สำ�หรับพี่ พ่อก็เหมือนเป็นครู ทางด้านนักข่าวคนแรกที่อยู่กับเรา ซึ่งวิธีการทำ� ข่าวต่าง ๆ แม้เราอาจจะเรียนรู้ได้จากการทำ�งาน แต่พี่ก็เรียนรู้ได้เร็วขึ้นจากการดูพ่อเป็นตัวอย่าง เราไม่ได้มานัง่ ถามพ่อว่าต้องทำ�ข่าวนีย้ งั ไง ทำ�ข่าว นัน้ ยังไง แต่พอ่ จะให้แนวคิดในการทำ�งาน พีจ่ ะไป ให้ถงึ ทีเ่ กิดเหตุให้เร็วอยูเ่ สมอ เพราะพ่อจะสอนมา ตลอดว่าไปที่เกิดเหตุต้องไปให้เร็ว ต้องไปถึงก่อน แต่ให้กลับคนสุดท้าย การกลับช้าที่สุดเราก็จะได้ ข่าวมากทีส่ ดุ แต่พไ่ี ม่เคยใช้ชอ่ื พ่อในการหาข่าวนะ นอกจากบางครัง้ แหล่งข่าวทีเ่ ป็นตำ�รวจก็จะถาม

พี่ว่าเป็นอะไรกับแอ๊ด (ชื่อเล่นคุณพ่อ) เพราะเห็น นามสกุลเหมือนกัน พี่ก็จะบอกว่าเป็นลูก เราก็ จะได้ขอ้ มูลเร็วกว่าคนอืน่ ได้มากกว่าคนอืน่ อันนี้ ก็ถือว่าเป็นกำ�ไรของเราเหมือนกันครับ เรียกว่ามี ต้นทุน ได้เปรียบนักข่าวคนอื่นไปในตัว” นอกจากความสนุ ก ความตื่นเต้นในการ สืบค้น และติดตามหาข้อเท็จจริงมาทำ�ข่าว ก็ ปฏิ เ สธไม่ ได้ เ ลยว่ า นั กข่ าวสายอาชญากรรม บางครั้งก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายจาก เหตุการณ์เหล่านัน้ เพือ่ จะได้เอาความจริงมาเปิด เผย ในฐานะตัวแทนของประชาชน คุณพ่อ : “หลายปีมากที่ผมอยู่ในแวดวง อาชญากรรม การเป็นนักข่าวจะต้องมีไหวพริบ ปฏิภาณ อันนีส้ �ำ คัญทีส่ ดุ เพราะมันคือการเอาตัวรอด จากอั น ตราย บางครั้ ง เราจะเจอเหตุ ก ารณ์ หน้าสิว่ หน้าขวาน ทำ�ยังไงให้เอาตัวรอดได้ ไม่เจ็บตัว ไม่ตาย นั่นคือสิ่งสำ�คัญ” คุณวัสยศ : “การทำ�งานสายอาชญากรรม การจะได้ข่าวมา เราก็ต้องไปกับเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ ด้วย บางทีเราก็ต้องไปนั่งเฝ้าโจรกับตำ�รวจตลอด


ทัง้ คืน เพือ่ ติดตามความเคลือ่ นไหว ก่อนจะเข้าไป จับกุมในตอนเช้า เรียกได้ว่าทำ�งานไม่แตกต่าง จากตำ�รวจเลย แต่ต�ำ รวจเขามีปนื ส่วนเรามีเพียง กล้องถ่ายรูป บางทีเราก็มานั่งคิดว่า เอ๊ะ! ตำ�รวจ มีปืนเอ็ม 16 ใส่เสื้อเกราะจัดเต็ม เรามีกล้องถ่าย รูปตัวเดียว เราจะไหวไหม แต่สิ่งที่ทำ�ให้เรายังคง ต้องอยู่ตรงนี้ก็คือหน้าที่ของเรา “อย่ า งการเข้ า ไปทำ � ข่ า วการสลายการ ชุมนุม มันมีเหตุยงิ ปะทะจากทัง้ สองฝ่าย มีนกั ข่าว โดนระเบิ ด และเราก็ เ ห็ น กั บ ตา แต่ เ พราะ สัญชาตญาณความเป็นนักข่าวล้วน ๆ ที่ทำ�ให้ เรายังเดินหน้าทำ�งานกันต่อ เพราะเราเป็นตัวแทน ของคนทั่วประเทศ ที่เขารอดูอยู่ว่าเหตุการณ์จะ เป็นยังไง เราเป็นสือ่ เราเป็นตัวกลาง เป็นช่องทาง ในการให้ข้อมูลข่าวสาร เพราะฉะนั้นการที่เรา เห็นเหตุการณ์พวกนัน้ กับตาตัวเองมันสำ�คัญทีส่ ดุ สำ�คัญกว่าการได้ยินปากต่อปากมา เพราะว่าเรา ไม่รู้ว่าพูดกันมานั้นมันจริงหรือเท็จ ชั่วโมงนั้นกับ การทำ�ข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง ต้องอาศัย ข้อมูลทีถ่ กู ต้อง แม่นยำ� ไม่อย่างนัน้ จะทำ�ให้สงั คม

เกิดความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น” การเป็นนักข่าวสายอาชญากรรมตามแบบ อย่างคุณพ่อของคุณวัสยศ นอกจากจะทำ�ให้ คุ ณ พ่ อ ภู มิ ใ จที่ มี ลู ก เดิ น ตามรอยของตั ว เอง แล้ว ความรู้สึกภูมิใจในสายอาชีพก็เกิดขึ้นกับ คุณวัสยศเองด้วย คุณพ่อ : “เขาเป็นนักข่าว พ่อก็รสู้ กึ ภูมใิ จนะ การเป็นนักข่าวของเขาน่ะดีมาก เพราะเขาได้ สืบสานสิ่งที่พ่อทำ�เอาไว้ต่อไปเรื่อย ๆ การเป็น นักข่าวเป็นสิ่งที่ดี เป็นการช่วยเหลือประชาชน คืออย่าไปมองว่าการทำ�ข่าวแค่สนุก ๆ ถ้าคิดว่า ทำ�อะไรสนุก ๆ มันก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่หรอก มัน ไม่ได้อะไรกับตัวเรา เราต้องคิดแล้วก็ทำ�ไปด้วย ต้องตั้งคำ�ถามเลยว่า ทำ�ไมเรื่องนี้ถึงเป็นอย่างนี้ ทำ�ไมไม่เป็นอย่างนี้ และนำ�เอาข้อเท็จจริงมานำ� เสนอให้ได้ในท้ายที่สุด” คุณวัสยศ : “การเป็นนักข่าว มันคือการได้ ช่วยเหลือคน มันเป็นความภูมิใจในอาชีพของเรา พี่บอกทุกคนว่ามีไม่กี่อาชีพหรอก ที่ได้ทำ�งานไป ด้วยแล้วได้ท�ำ บุญด้วย อย่างเช่น คุณครู คุณหมอ

ทหาร ตำ�รวจ บางคนเป็นนักข่าวเขายังไม่รเู้ ลยว่า ตัวเองกำ�ลังทำ�ประโยชน์อยู่ แต่เราบอกตัวเอง เสมอว่า การทีเ่ ราได้ชว่ ยเหลือคนทีเ่ ขาด้อยโอกาส นำ�เสนอเรื่องราวของเขาแล้วเขาได้รับโอกาส ได้ รับการช่วยเหลือจากสังคมอื่น ๆ อันนี้ถือว่าเรา ได้ช่วยเหลือเขาแล้ว “อย่ า งกรณี ช าวบ้ า นถู ก เอาโฉนดที่ ดิ น ไป ปลอมแปลง แล้วก็มีนายหน้าเอาโฉนดที่ดินไป ประกันตัวผู้ต้องหา แล้วผู้ต้องหาหลบหนี โฉนด ที่ ดิ นก็ ถู ก ยึ ด ชาวบ้ า นที่ ให้ เช่ า โฉนดที่ ดิ น ไปก็ กลายเป็นเหยื่อของแก๊งพวกนี้จำ�นวนมาก เขาก็ มาร้องเรียนทีก่ องปราบฯ นักข่าวหลายคนอาจจะ ไม่ ส นใจ แต่ เราก็ นำ � เสนอข่ า วนี้ ม าโดยตลอด ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ จนในทีส่ ดุ ศาลฎีกา ก็สั่งให้ระงับการยึดที่ไว้ แล้วให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราสามารถใช้วิชาชีพของเรา ในการช่วยเหลือผู้คนได้ ก็ถือว่าเราได้ช่วยเหลือ สังคม อันนี้คือสิ่งสำ�คัญ และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดใน การเป็นนักข่าวครับ” happy+ | 51


ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล

‘เมื่อไม่มี...จึงเข้าใจ’ …ความรู้สึกว่า ‘มี’ ทำ�ให้เราประมาทว่า เราจะมีตลอดไป …ความรู้สึกว่า ‘มี’ ทำ�ให้เราใส่ใจบ้าง ละเลยบ้าง …ความรู้สึกว่า ‘มี’ ทำ�ให้เรามองบ้าง ไม่มองบ้าง …ความรู้สึกว่า ‘มี’ ทำ�ให้เราทำ�ดีบ้าง ทำ�ไม่ดีบ้าง

คนของเรา’ ถึงอย่างไร ‘ก็เป็นคนของเรา’ …หารู้เลยไม่ว่า เราคิดผิด เราหลายคนละเลยช่วงเวลาที่คนเหล่านั้น เดินช้าลง ไอมากขึ้น ทานอาหารไม่ปกติ นอนไม่ค่อยหลับ สภาพร่างกาย ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจนเมื่อเรารู้ตัวอีกครั้ง คนเหล่านั้นก็ ‘เปลี่ยน ไป’ หรือ ‘จากไป’ จากไปโดยที่เราบางคนไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้มอง ไม่ได้ทำ�ดี …ความประมาทที่ น่ า กลั ว ที่ สุ ด คื อ การคิ ด ว่ า ทุ ก อย่ า งไม่ มี วั น ไม่ได้ตอบแทนสิ่งที่เขาได้ทำ�เพื่อเราด้วยความรัก ความหวังดีและหัวใจ เปลี่ยนแปลง เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้ในทุกวินาที ที่เขามีทั้งหมด …ลูก ๆ หลาน ๆ หลายคนอาจเคยใช้ชวี ติ ช่วงสัน้ ๆ ในวัยเด็กอยูก่ บั พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่ ซึ่งมีระดับความห่างของช่วงวัยมากมายกับเรา ยามเป็นเด็กน้อย เราน่ารัก ว่านอนสอนง่าย เราเชื่อฟัง เสียงของผู้ใหญ่ดัง ชัดเจนเสมอในความรูส้ ึกของเรา แต่เมื่อเราเริม่ เป็นวัยรุน่ เสียงนัน้ เริม่ เบาลง น่ารำ�คาญมากขึ้น จนเรารู้สึกว่า เสียงนั้นเป็นส่วนเกิน เราเริ่มใส่ใจบ้าง ไม่ ใส่ใจบ้าง เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง มองบ้าง ไม่มองบ้าง ทำ�ดีบ้าง ทำ�ไม่ดีบ้าง เพราะเราคิดว่าเราจะร้ายจะดี เราก็จะมีคนเหล่านีอ้ ยูใ่ นชีวติ เสมอ ‘คนทีเ่ ป็น 52 | happy+

…เปรียบเทียบให้ง่ายขึ้น ในวันที่เรามีนาฬิกาเรือนหนึ่ง เราชอบนาฬิกา เรือนนี้มาก เพราะใส่ทุกครั้งก็จะรู้สึกมั่นใจ เราดูแลนาฬิกาเรือนนี้บ้าง ไม่ ดูแลบ้าง ใส่ใจบ้าง ไม่ใส่ใจบ้าง เพราะคิดว่าอย่างไร เราก็มีนาฬิกาเรือนนี้ อยู่กับเราเสมอ หากแต่ถ้านาฬิกาเรือนนี้หายไป เพราะเราเป็นคนทำ�หาย ความรู้สึกใจหายก็เกิดขึ้นในช่วงขณะหนึ่ง แต่ถ้าในอีกมุมหนึ่ง นาฬิกาไม่ได้ หายไปไหน แต่กลับหยุดทำ�หน้าที่ โดยที่ไม่สามารถซ่อมได้อีกเหมือนที่ ผ่านมา ‘ความรู้สึกเคยมี แล้วไม่มีจะสอนเรา’


ในวันที่นาฬิกานี้ยังอยู่กับข้อมือของเรา เราอาจเผลอนำ�นาฬิกาเรือนนี้ …ชีวิตนี้ ถ้าไม่มีเธอก้าวเข้ามา ไปโดนนํ้าบ้างในบางเวลา กระแทกบ้าง หล่นลงบ้าง ไม่ได้ใส่ใจเก็บรักษา ฉันคงเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น อย่างดีบา้ ง ทุก ๆ อย่างทีเ่ ราละเลยจะค่อย ๆ สะสมร่องรอยของการสูญหาย แปลกที่คนไม่รู้ มีเพียงผู้เดียวคือฉัน ร่องรอยของความเปลีย่ นแปลง จนรูต้ วั อีกที นาฬิกาเรือนนีอ้ าจหยุดเดินโดยที่ อยากกอดเธอแน่น ๆ นาน ๆ ในวันที่เสียเธอไป เราไม่ได้มอง ไม่ได้สังเกตและไม่ได้ใส่ใจ ที่สุดเมื่อนาฬิกาเรือนนั้นหยุดเดิน …เชื่อว่าที่ตรงนั้น เธอยังพร้อมจะรอฉันอยู่ ไม่สามารถใส่ถา่ นหรือซ่อมแซมได้อกี นาฬิกาเรือนนัน้ จะกลายเป็นนาฬิกาตาย แล้วที่สุด ก็รู้เธอรอไม่ไหว ที่เราไม่อาจสวมไว้ในข้อมือ เพราะหมดประโยชน์ในการบอกเวลาตลอดไป เจอเพียงแค่รอยนํ้าตา หยดบนนาฬิกาที่ตาย เหมือนเพลงเพลงหนึ่งของคุณพิง ลำ�พระเพลิง ที่แต่งขึ้นเพื่อนาฬิกาตาย ให้ฉันได้กอดมันไว้ แล้วบอกว่ารักเธอ และแต่งขึ้นเพื่อการจากไปของใครหลาย ๆ คน ...ความรูส้ กึ ว่า ‘มี’ จะน่ากลัวมาก ถ้าเราไม่คอยเตือนตัวเองว่า ‘ไม่มที าง เพลงเวลาตาย ที่เราจะ มี ตลอดไป’ …ในกระจกมัว ๆ มีคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง …วันที่ ‘ไม่ม’ี อยากใส่ใจ อยากมอง อยากทำ�ดี ก็ได้แต่เสียใจ ทอดถอนใจ คนที่เพิ่งลึกซึ้ง ถึงความเดียวดาย ว่าสายไปเสียแล้ว ‘คิดถึงวันที่เคยมี’ ‘คิดถึงเวลาดี ๆ ที่ผ่านมา’ นาทีที่กาลเวลา บอกว่าเธอมีค่าเพียงใด เราได้อะไรจากการเปลี่ยนจาก ‘มี’ ไป ‘ไม่มี’ คือนาทีที่สาย เกินหวังให้ใครกลับมา ...เราต้องใส่ใจ มอง และอยากทำ�ดีกับทุกคน ทุกสิ่งที่ยัง ‘มี’ …เหมือนคนตื่นจากฝัน ตามทวงวันและคืนดี ๆ …ก่อนที่ทุกอย่างจะเดินทางไปสู่คำ�ว่า ‘ไม่มี’ ในที่สุด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรักษา แต่สำ�หรับ...‘บางคน’ มี หรือ ไม่มี เขาจะอยู่ที่เดิม เวลาที่คิดว่าพอ กลับไม่พอให้พูดคำ�ลา ...ในหัวใจและความทรงจำ�…ตลอดไป ทำ�ได้เพียงแค่นึกรู้สึกโหยหามัน happy+ | 53


family in love เรื่อง : ดร.วีรณัฐ โรจนประภา

พระวักกลิ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพือ่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม” นับร่วม 7 ทศวรรษแล้ว ทีพ่ ระองค์ได้ทรงดำ�เนินตามพระปฐมบรมราชโองการนี้ อย่างบริบูรณ์ ทุกพระราชกรณียกิจล้วนเป็นไปตามหลักแห่งธรรม เพื่อยัง ประโยชน์ ให้ แ ก่ ป ระชาชนของท่ า น โดยมิ ได้ คำ� นึ ง ถึ ง ความเหนื่อ ยยาก พระวรกายหรือความสุขส่วนพระองค์เลยแม้แต่นอ้ ย มาวันนีท้ า่ มกลางความเศร้าเสียใจอย่างใหญ่หลวงทีส่ ดุ ในประวัตศิ าสตร์ ของชนชาติไทย พวกเราคนไทยทุกคนจึงสมควรอย่างยิง่ ทีจ่ ะทำ�การสืบสาน พระราชปณิธานนีด้ ว้ ยการกระทำ�ตนให้เป็นประโยชน์แก่ผอู้ น่ื โดยใช้แนวทาง แห่งธรรม ดัง่ เช่นทีพ่ อ่ หลวงของเราท่านได้ทรงดำ�เนินเป็นแบบอย่างไว้ ซึง่ การ ทำ�เช่นนีน้ อกจากจะยังตนให้เป็นประโยชน์เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินแล้ว ยังเป็นการช่วยคลายความเศร้าโศกทีม่ ตี อ่ การเสด็จสูส่ วรรคาลัยของพระองค์ ได้อย่างดียง่ิ ด้วย เพราะการกระทำ�นีจ้ ะทำ�ให้เรายังเหมือนได้ใกล้ชดิ พระองค์ เหมือนพระองค์ทา่ นยังคงทรงอยูเ่ ป็นมิง่ ขวัญ ยังทรงเป็นกำ�ลังให้เราอยู่ เหมือน ดัง่ เรามีวาสนาได้เห็นพระองค์จริง ๆ ซึง่ นีม่ ไิ ด้เป็นการคิดคำ�นึงไปเอง เป็นความจริง ทีส่ ามารถยืนยันได้ดว้ ยคำ�สอนจากพระไตรปิฎกของชาวพุทธเราในพระสูตรที่ ชือ่ “วักกลิสตู ร” ทีม่ คี วาม (โดยย่อ) ว่า ในสมัยพุทธกาลนัน้ มีพระภิกษุชอ่ื พระวักกลิก�ำ ลังอาพาธหนัก มีความ ปรารถนาอยากเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า จึงให้ภกิ ษุผอู้ ปุ ฏั ฐากไปกราบเรียนพระพุทธองค์ 54 | happy+

ถึงอาการอาพาธหนักของตน และได้ให้พระอุปฏั ฐากทูลเชิญพระพุทธเจ้าให้ มาโปรด ซึง่ เมือ่ พระพุทธเจ้าทราบความก็รบั นิมนต์มาโปรดพระวักกลิถงึ ทีพ่ กั ซึ่งหลังจากสอบถามอาการเสร็จพระพุทธองค์ก็ได้ตรัสสอนพระวักกลิว่า ไม่ให้มามัวแต่ตดิ ยึดพระองค์ในรูปแบบของกายหยาบนี้ และได้ให้คติธรรมแก่ พระวักกลิ อันเป็นคติธรรมทีช่ าวพุทธเราคุน้ หูกนั เป็นอย่างดีวา่ “ผูใ้ ดเห็นธรรม ผูน้ น้ั เห็นเรา, ผูใ้ ดเห็นเรา ผูน้ น้ั เห็นธรรม” ซึ่งจากคำ�สอนของพระศาสดาที่มีต่อพระวักกลิเช่นนี้ ย่อมเป็นเครื่อง ยืนยันอย่างชัดแจ้งว่าหากใครอยากจะเห็นพระพุทธเจ้าก็ต้องปฏิบัติตามที่ พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้จนเห็นธรรม และนีจ่ งึ เป็นการเทียบเคียงได้ไม่ตา่ งกัน หากใครทีอ่ ยากเห็นองค์พอ่ หลวงก็เช่นกัน จำ�ต้องปฏิบตั จิ นบรรลุสง่ิ ทีพ่ อ่ ทรง สอนไว้ให้ได้ ก็จะได้เห็นพ่อหลวง ได้ใกล้พระองค์ทา่ นอย่างแท้จริง เข้าใจหลักการเช่นนี้แล้วที่ควรคำ�นึงถึงต่อก็คือ แล้วจะปฏิบัติตาม คำ�สอนใดของท่านดี ด้วยท่านได้พระราชทานคำ�สอนอันดีงามไว้อย่างมากมาย เหลือคณานับ คำ�แนะนำ�ก็คอื ปฏิบตั ติ ามคำ�สอนหลักทีท่ า่ นพระราชทานไว้ให้แก่คนไทย ทุกคนไม่วา่ จะอยูใ่ นสาขาวิชาชีพใด ก็สามารถนำ�ไปปรับใช้กบั งานของตนได้ อย่างดี หรือแม้แต่ไม่ได้ท�ำ งานอาจเป็นผูเ้ กษียณแล้ว หรือเป็นแม่บา้ นดูแลลูก ก็ยงั สามารถนำ�หลักนีม้ าใช้ในชีวติ ประจำ�วันของตนได้อย่างเหมาะสม คำ�สอน


ของท่านนีก้ ค็ อื หลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ทีท่ ว่ั โลกยอมรับนัน่ เอง ดังนัน้ ใครทีต่ อ้ งการเห็นพระองค์ ก็เพียงนำ�หลักปรัชญานีม้ าใช้ เริม่ ต้นจากการทำ�ตนให้มพี น้ื ฐาน 2 เงือ่ นไขในแบบของเศรษฐกิจพอเพียง คือ การมี “ความรู”้ คู่ “คุณธรรม” เงื่อนไขของความรู้น้ันมุ่งหมายไปที่ความรู้ในวิชาชีพที่ตนประกอบอยู่ หรือหากไม่ได้ท�ำ งานเป็นแม่บา้ นก็คอื ความรูด้ า้ นการดูแลบ้าน ดูแลครัว ดูแล บุตรธิดา เราต้องมีความพยายามในการติดตามแสวงหาความรูใ้ นข้อมูล งาน วิจยั วิธกี ารใหม่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องเพือ่ จะได้สร้างฐานข้อนีใ้ ห้แน่นสำ�หรับการเดิน ในแนวทางพอเพียงของเรา ส่วนเงื่อนไขคุณธรรมนั้นเข้าใจกันได้ไม่ยากว่าก็คือ ในเรื่องของการ ประกอบการงานด้วยความซือ่ สัตย์สจุ ริต ไม่คดโกง หรือแม้แต่ปดิ บัง เบีย่ งเบน ทำ�ให้ผอู้ น่ื เข้าใจผิดเพือ่ ประโยชน์ของเรา แต่ทส่ี �ำ คัญทีอ่ ยากฝากเพิม่ เติมไว้ใน ฐานข้อนีก้ ค็ อื เรือ่ งของความอดทน ทีเ่ ราต้องรูจ้ กั รอทีจ่ ะให้เหตุนน้ั ส่งผล มิใช่ มุง่ แต่จะเอาผลโดยไม่สร้างเหตุอนั ถูกต้องดีงาม อันเป็นการนำ�มาซึง่ การด่วนได้ และเกิดการเบียดเบียน หรือทุจริตขึน้ ต่อมาในส่วนของ 3 ห่วงคือ ความมีเหตุมผี ล ความพอประมาณ และ ความมีภมู คิ มุ้ กันนัน้ ในห่วงแรกคือ เหตุผล ก็ชัดเจนคือหมายถึงการที่ต้องใช้ “เหตุผล” วิเคราะห์ทกุ สิง่ ด้วยหลักการ ความรู้ (ทีเ่ รามีฐานอันแน่นแล้วนัน้ ) อย่างรอบคอบ

ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจกิจการงานต่าง ๆ ห่วงต่อไปคือให้มี “ความ พอประมาณ” ก็คอื การรูจ้ กั จัดการทรัพยากรของตนให้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ มากเกินไปด้วยความโลภ คอยระวังอย่าให้ความอยากได้มาปิดบังสติปญ ั ญา ของเรา แม้การกระทำ�นัน้ จะอยูบ่ นความถูกต้องแต่ตอ้ งคำ�นึงให้ไม่เกินฐานะ ด้วย ขณะที่อีกด้านของความพอประมาณก็คือ ความไม่น้อยเกินไปเพราะ ความกลัวด้วย เพราะหากเป็นเช่นนัน้ จะทำ�ให้สงั คมโดยรวมสูญเสียทรัพยากร อันมีคา่ ทีม่ ากองอยูใ่ นตัวเราไปเพราะเราไม่น�ำ ออกมาใช้ ทรัพยากรนีห้ มายถึง ทรัพยากรทีเ่ ป็นนามธรรม เช่น ความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ท่ี ต้องนำ�ออกมาใช้ให้สมกับทีเ่ รามีดว้ ย และห่วงสุดท้ายคือ “ภูมคิ มุ้ กัน” คือ มี การวางแผนเตรียมการรองรับความเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะใน ยุคโลกาภิวัตน์น้ี ต้องมีการเผื่อไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่แม้จะไม่คิดว่าจะ เกิดขึน้ เพราะไม่เคยเกิดขึน้ มาก่อน อย่างเช่น เรือ่ งของภัยพิบตั ใิ หญ่ ๆ โรค ระบาดแปลก ๆ สภาพสังคมใหม่ ๆ ทีน่ กึ ไม่ถงึ ด้วย ใครทีน่ อ้ มนำ�หลัก 3 ห่วง 2 เงือ่ นไขนีม้ าปฏิบตั อิ ย่างต่อเนือ่ งและจริงจัง จนเกิดผลหล่อหลอมออกมาเป็น “ชีวติ ทีพ่ อเพียง” ได้ ก็ถอื ว่าได้เห็นธรรมตาม คำ�สอนของพระองค์ หรือก็คอื การได้เห็นพระองค์ทา่ นนัน่ เอง เมือ่ ใดเราปฏิบตั ิ ตามพระองค์ เมือ่ นัน้ พระองค์ยอ่ มไม่ได้เสด็จไปไหนแต่จะยังคงทรงสถิตอยูใ่ น ดวงใจของเราตราบชัว่ กาลนาน...

ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut happy+ | 55


นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม

ผู้มีอำ�นาจเปลี่ยนแปลง เคยคิดบ้างไหมครับว่า ในอาหารที่เรากินอยู่ ทุกวันมีอะไรในนั้นบ้าง แน่นอนว่า จะต้องมีสาร อาหารพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ และไขมัน แต่สงิ่ ทีป่ ะปน (ปนเปือ้ น) มากับอาหาร ที่ เรากิ นนั้ น มี อ ะไรบ้ า ง ผั ก ที่ ใส่ ในแกงจะมี ย า ฆ่าแมลงตกค้างหรือเปล่า เนือ้ หมูทน่ี �ำ มาทำ�เป็นหมู กะเพราจะมีสารเร่งเนื้อแดงหรือเปล่า ไก่ทอดที่ เรากินจะทอดในนํ้ามันที่ทอดซํ้าหรือไม่ อาหาร ทะเลที่เรากินจะมีฟอร์มาลินไหม ในขนมปังจะมี เนยเทียม (Magarine) หรือเปล่า ในขนมขบเคีย้ วจะมี ไขมันทรานส์และสารปรุงแต่งมากแค่ไหน กาแฟ ที่เราดื่มจะมีครีมเทียมหรือเปล่า หากเราติดตามข้อมูลข่าวสารก็จะได้ทราบว่า ในอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนั้น มีสารเคมีตกค้าง มากมาย เมือ่ เรากินเข้าไป สารเหล่านีก้ จ็ ะตกค้าง ในร่างกายเรา นำ�มาซึ่งโรคมากมาย เช่น มะเร็ง ลำ�ไส้ โรคตับ ในขณะที่ขนมปัง เค้ก ก็มีการใส่ เนยเทียมหรือเนยขาว ซึง่ มีไขมันทรานส์ ครีมเทียม 56 | happy+

ทีใ่ ส่กาแฟก็มไี ขมันทรานส์ ในขณะทีค่ กุ กีแ้ ละขนม ขบเคี้ยวสำ�เร็จรูปที่เราและลูกหลานซื้อมากิน ก็ อุดมไปด้วยไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวที่ ส่งผลให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ถ้าจะให้สรุปง่าย ๆ อาหารการกินในบ้านเรานัน้ ค่อนข้างจะมีอันตรายต่อร่างกาย หลายคนพอได้ทราบข้อมูลดังกล่าว ก็อาจจะ ไม่ค่อยพอใจรัฐบาล ที่ไม่ดูแลจัดการเรื่องเหล่านี้ ให้ดี ไม่ควรปล่อยให้มีคนขายสิ่งที่จะฆ่าเราและ ลูกหลานทางอ้อม แน่นอนว่า รัฐบาลคงจะไม่ สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะเป็น หน้าที่ที่ต้องทำ� แต่ผมคิดว่า เมื่อยึดตามหลัก อริยสัจ 4 ที่แก้ปัญหาด้วยการหาต้นเหตุของ ปัญหา แล้วแก้ที่ต้นเหตุโดยตรง เราก็จะพบว่า ยังมีบางคนทีม่ พี ลังอำ�นาจทีจ่ ะจัดการเรือ่ งเหล่านี้ ได้ ดี ไ ม่ แ พ้ รั ฐ บาล หรื อ อาจจะทำ � ได้ ดี ก ว่ า เสียด้วยซํา้ คนนัน้ ก็คอื พวกเราทุกคนนีแ่ หละครับ ในฐานะที่เป็นคนที่พยายามแสวงหาของกิน

ที่ไม่มีสารตกค้างและไม่มีสารอันตราย ผมจะ ลองคิดดูว่า ต้นเหตุหลัก ๆ ที่ทำ�ให้ยังคงมีอาหาร ที่มีสารตกค้างและสารอันตรายขายอยู่เกลื่อน ประเทศ มีอะไรบ้าง ดังนี้ 1. คนส่ ว นใหญ่ ย อมกิ น เมื่ อ ยั ง มี ค นกิ น อาหารที่มีสารพิษหรือสารที่เป็นอันตราย ก็ทำ�ให้ เขายังขายสิ่งเหล่านี้ได้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้อง เปลี่ยนแปลงอะไร 2. อาหารที่ไร้สารพิษอย่างสิ้นเชิงนั้น ราคา แพงกว่ามาก คนส่วนใหญ่จึงเลือกทางที่จะเสีย เงินน้อย 3. คนที่อยากซื้อของดี ๆ ไม่รู้ว่าจะซื้อที่ไหน คนกลุ่มนี้แม้อยากกินของดี ๆ แต่ก็ต้องกินของ ไม่ดีต่อไป หลังจากเรารู้ต้นเหตุ วิธีการแก้ไขตามหลัก อริยสัจ 4 ก็จะเรียบง่ายแต่ได้ผล ก็คือ ให้เราแก้ ที่ต้นเหตุตรง ๆ ตามแนวทางดังต่อไปนี้ 1. เราต้ อ งเริ่ ม ปฏิ เ สธ ผั ก ผลไม้ ที่ ใ ช้ ย า


ฆ่าแมลงและสารเคมี เนื้อสัตว์ที่ใช้ฮอร์โมนหรือ สารเคมี ขนมปังทีใ่ ส่มาการีนหรือสารกันบูด ขนม ที่มีไขมันทรานส์ เมื่อมีคนปฏิเสธอาหารที่ไม่ดี มากขึน้ เรือ่ ย ๆ ของแบบนีก้ จ็ ะเริม่ ขายไม่คอ่ ยออก ผูผ้ ลิตและผูข้ ายก็ตอ้ งหาอาหารทีป่ ลอดภัยมากขึน้ มาจำ�หน่าย แม้จะไม่เคยอยู่ต่างประเทศ แต่ผม เชือ่ ว่าในประเทศทีพ่ ฒ ั นาแล้ว ผูค้ นเขาไม่ยอมรับ การใช้สารแบบที่ใช้ในบ้านเรา ทำ�ให้ผู้ขายต้อง พยายามขายแต่สินค้าที่ไม่ปนเปื้อนและไม่มีสาร อันตราย และการไม่ยอมรับดังกล่าว ก็จะผลักดัน ให้รัฐบาลออกกฎหมายมาควบคุมเพิ่มด้วย 2. เราต้องหันไปกินอาหารทีไ่ ร้สารพิษ ไร้สาร ปรุงแต่งที่เป็นอันตรายให้มากขึ้น จริงอยู่ ของ เหล่านี้มีราคาแพงกว่าอาหารที่เป็นอันตราย แต่ ถ้าเราต้องการให้มอี าหารทีป่ ลอดภัยจำ�นวนมากขึน้ เราก็ ต้ อ งเริ่ ม ต้ น จากการสนั บ สนุ น อาหารที่ ปลอดภัย เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้ขายสามารถเลี้ยง

ตัวเองได้ และมีกำ�ลังกายและกำ�ลังทรัพย์ที่จะ ทำ�อาหารปลอดภัยออกมาให้เรากินเรื่อย ๆ (ถ้า เราไม่กนิ เขาก็ขายไม่ได้ สุดท้ายเขาก็จะเลิกขาย) ทีส่ �ำ คัญก็คอื ยิง่ มีคนหันมากินอาหารทีป่ ลอดภัย มากเท่าไหร่ ก็จะทำ�ให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงมาก เท่านั้น การสนับสนุนอาหารปลอดภัยจึงช่วยให้ ในอนาคตเราจะได้กินอาหารปลอดภัยที่ราคา ถูกลงอีกด้วย 3. เราต้องช่วยกันเผยแพร่ขอ้ มูลเกีย่ วกับร้าน ที่ขายอาหารที่มีความปลอดภัย เพื่อช่วยให้คนที่ อยากซือ้ อาหารปลอดภัยได้รวู้ า่ จะหาซือ้ ได้ทไี่ หน (ช่วยเพิ่ม Demand) การทำ�แบบนี้ก็จะยิ่งทำ�ให้ เครือข่ายผู้ที่รับรู้เกี่ยวกับร้านอาหารปลอดภัย มีมากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนผู้ขายอาหาร ปลอดภัยไปในตัวอีกด้วย โดยในปัจจุบันเรามีสื่อ Social Media เป็นเครื่องมืออยู่แล้ว เรื่องแบบนี้คง ไม่ยากเท่าไหร่

ส่วนตัวผมเองก็ขอใช้โอกาสนี้ ในการช่วยเผยแพร่ ข้อมูลร้านและเครือข่ายที่พยายามขายอาหารที่ ปลอดภัย ดังนี้ (หาที่ตั้งร้านได้ทาง Google) ข้าวชาวนาคุณธรรม ทีป่ ลูกข้าวโดยไม่ใช้สาร เคมีและชาวนายังเป็นผูท้ รี่ กั ษาศีล 5 อีกด้วย ร้าน Lemon Farm, บ้านคัดสรร, ร้าน Natural House ที่เน้นขายอาหารที่ดีต่อสุขภาพ, ร้าน Xyliplus ที่ เน้นขายอาหารที่ดีต่อสุขภาพและขนมที่ไม่ทำ�ให้ ฟันผุ, ขนม The Oven Farm, ขนมอรชร ที่เน้น ขายขนมปังและขนมที่ไม่ใส่สารที่เป็นอันตราย ขนมขบเคีย้ วยีห่ อ้ Grainey ทีไ่ ม่ใส่ผงชูรส สารกันบูด ไขมันทรานส์ ลองดูครับ แทนทีเ่ ราจะรอให้รฐั บาลทำ�ให้เรา ได้กินอาหารที่ดี ที่ปลอดภัย (รอให้เกิดด้วยการ อ้อนวอนขอ) แต่สิ่งดี ๆ แบบนี้ เรามีพลังอำ�นาจ ทีส่ ามารถทำ�ให้เกิดขึน้ ได้จริง (ทำ�ให้เกิดด้วยกรรม ที่ควรทำ�) หากเราร่วมมือกัน

ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Pobtumbook, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57


wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ

เตรียมสู้กับปัญญาประดิษฐ์ (ตอน 1) ย้อนไปสิบปีก่อน ถ้ามีคนมาเสนอขายรถ อัจฉริยะที่ขับไปไหนมาไหนได้เอง คุณคงคิดว่า เป็นเรือ่ งขีโ้ ม้ในหนังฝรัง่ แต่ปนี โี้ ครงการรถไร้คนขับ (Self Driving Car) เป็นรูปเป็นร่างชัดเจน โดยเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท Tesla ประกาศแล้วว่า รถยนต์ ที่ ส ามารถขั บ เคลื่ อ นด้ ว ยตั ว เองอย่ า ง สมบูรณ์แบบชนิดไม่ต้องพึ่งคนขับเลย หรือ Full Self-Driving พร้อมวางขายสิน้ ปี และแท็กซีไ่ ร้คนขับ โดยบริษัท nuTonomy เริ่มเปิดให้บริการแล้วใน เส้นทางเฉพาะเขต ที่สิงคโปร์เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา แล้วคิดดูสิครับ ถ้าสมมุติอีก 10 ปีข้างหน้า รถไร้คนขับกลายเป็นยานพาหนะหลักที่ใช้ได้จริง ในวงกว้าง จะมีสกั กีค่ นทีเ่ ลือกโบกแท็กซีเ่ พือ่ เสีย่ ง กับการถูกปฏิเสธด้วยคำ�พูดยอดฮิต “ไปไม่ทัน ครับพี่ ต้องรีบส่งรถ” เสีย่ งต่อการเสียเวลาเพราะ คนขับไม่รู้จักทาง ฯลฯ ในขณะที่หากโบกแท็กซี่ ไร้คนขับแล้วก็รับเราทุกครั้ง ระบบปฏิบัติการ 58 | happy+

ด้วยคอมพิวเตอร์บนแท็กซีส่ ามารถคำ�นวณเส้นทางทีแ่ ม่นยำ�และรวดเร็ว เพราะมีแผนทีใ่ นระบบพร้อม อัพเดตเส้นทางจราจรแบบ Real Time แถมขณะนั่งรถเราก็ยังเลือกได้ว่า อยากให้บรรยากาศในรถเป็น อย่างไร อยากคุยเรือ่ งปัญหาบ้านเมืองหรืออยากฟังเพลงคลาสสิกก็สามารถสัง่ การให้มนั ตอบสนองเรา ได้หมด พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า ไม่ใช่แค่อาชีพพนักงานขายตั๋วหนังที่ถูกแทนที่ด้วยตู้ขายตั๋ว อัตโนมัติ หรือโอเปอเรเตอร์ถูกแทนที่ด้วยระบบตอบรับอัตโนมัติ ฯลฯ แต่ยังมีอีกหลายอาชีพที่จักรกล สามารถยึดตำ�แหน่งของคุณได้ไม่ช้าก็เร็ว เพราะ A.I. ทำ�ได้มากกว่าการตอบรับอัตโนมัติ แต่มันยัง สามารถคิดเองได้ ประมวลผลเองได้ แล้วที่สำ�คัญมันเริ่มทำ�ความเข้าใจมนุษย์ได้ ซึ่งถ้าคุณอยากรู้ว่าอาชีพของคุณเสี่ยงตกงานในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้าหรือไม่ มีบทความให้ เลือกอ่านมากมายเลยครับ เช่น บทความชือ่ Will Your Job Be Done By A Machine? จาก www.npr.org ที่คุณเพียงกดเข้าไปเลือกอาชีพแล้วเว็บจะบอกเป็นเปอร์เซ็นต์เลยครับว่า อาชีพใดเสี่ยงต่อการถูก แทนที่ด้วยเครื่องจักรด้วยเปอร์เซ็นต์มากน้อยแค่ไหน เช่น แคชเชียร์มีโอกาสเสียงานตัวเองให้จักรกล สูงถึง 97.1%, บทความ 10 Jobs that A.I. and Chatbots are Poised to Eventually Replace จาก เว็บไซต์ venturebeat.com ฯลฯ ไม่เพียงแต่จัดสิบอันดับอาชีพที่คนมีโอกาสเสียงานให้หุ่นและปัญญา ประดิษฐ์ แต่ยังแปะลิงก์ที่เป็นเทคโนโลยีปัจจุบันให้เข้าไปดูด้วยตัวคุณเองเลยว่า เทคโนโลยีที่มีอยู่ใน ปัจจุบันจะมาทดแทนการทำ�งานของคุณได้อย่างไร เช่น ถ้าคุณมีอาชีพเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ คู่แข่ง ที่เป็น A.I. ของคุณคือ https://thegrid.io ซึง่ หลังจากไล่อา่ นตามเว็บต่าง ๆ ผมสังเกตว่า กลุม่ อาชีพทีม่ โี อกาสเสียงานให้แก่จกั รกลหรือ A.I.


เร็วที่สุดคือลักษณะงานที่เป็นกิจวัตรประจำ� (Routine) หรือเป็นงานที่ถูกควบคุมให้ทำ�จนเป็นอัตโนมัติ คล้ายเครื่องจักร (Automation) โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับข้อมูลหรือการคิดคำ�นวณตัวเลข เช่น ขายตั๋ว, โอเปอเรเตอร์, แคชเชียร์ ฯลฯ สอดคล้องกับข้อมูลอ้างอิงในบทความ Will an Artifif cial Intelligence Take Your Job? Experts Weigh In ของเว็บไซต์ futurism.com ที่รายงานว่าช่วงสิบปีที่ผ่านมา ลักษณะงาน ที่ถกู ลดปริมาณการจ้างงานลงมากที่สุดคืองานแบบ Routine ทั้งในส่วนของกำ�ลังกาย (เช่น ขนของขึ้น ยานพาหนะ) และ Routine ทางกำ�ลังความคิด (เช่น การตอบรับสายทางโทรศัพท์ ฯลฯ) คำ�ถามทีค่ ณ ุ ผูอ้ า่ นอาจเกิดขึน้ ในใจเมือ่ อ่านถึงตรงนีค้ อื แล้วเมือ่ ไหร่ละ่ ทีว่ นั นัน้ จะมาถึง? ล่าสุดมี คำ�ตอบทีเ่ ป็นตัวเลขชัดเจนแล้วครับ บทความส่วนใหญ่อา้ งอิงรายงานของบริษทั Forrester ทีเ่ ชีย่ วชาญ ด้านธุรกิจกับเทคโนโลยีที่ทำ�การวิเคราะห์แล้วระบุว่า ปี 2021 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ที่หุ่นยนต์กับปัญญาประดิษฐ์มีส่วนเข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างเห็นได้ชัด และในปี 2025 จะเกิดภาวะ ตกงานอันเนื่องจากการแทนที่ของจักรกลในสหรัฐอเมริกาประมาณ 7% แต่ยังไม่ต้องตื่นตระหนกจนเกินเหตุครับ นี่เป็นการทำ�นายที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แถมยัง เป็นตัวเลขเฉพาะอเมริกาซึง่ ไม่ได้แปลว่าในบ้านเราจะเกิดขึน้ พร้อมกัน และบทวิเคราะห์ตามมาคือ แม้ จะมีการตกงานในบางอาชีพ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามนุษย์จะไม่มีงานทำ�เพราะการถือกำ�เนิดของหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ที่มากขึ้นจะตามมาด้วย ‘งาน’ ใหม่ ๆ ยังมีให้มนุษย์ทำ�มากขึ้น เช่น สายการ ผลิตเครือ่ งจักร, สายการซ่อมบำ�รุง ฯลฯ ทีต่ อ้ งไปมีสว่ นร่วมสร้างหรือดูแลจักรกลเหล่านัน้ รวมถึงอาจจะ มีสายอาชีพใหม่ ๆ ถือกำ�เนิดตามมาจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกัน การรับรูข้ อ้ มูลเหล่านีก้ ค็ วรจะกระตุน้ ให้เราตืน่ ตัวและเตรียมพร้อมครับ อย่างน้อย

เราก็รู้ว่า แนวโน้มของการแย่งงานของหุ่นยนต์ กับปัญญาประดิษฐ์กำ�ลังเกิดขึ้นจริง เพียงแต่ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นที่จะมาถึงบ้านเรา ดังนั้นถ้า คุณไม่ได้ทำ�งานที่มีหลักประกันมั่นคงจริง ๆ (เช่น ข้าราชการ) แต่ทำ�งานเป็นลูกจ้างบริษัทหรือเป็น ฟรีแลนซ์ แล้วยังทำ�งานแบบเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ด้วย รูปแบบเดิมซํ้า ๆ ทำ�ตามคำ�สั่งไปตามอัตโนมัติ ขาดกระบวนการคิ ด สร้ า งสรรค์ ขาดจุ ด ขาย ที่โดดเด่น ขาดความสดใหม่ เมื่อถึงวันที่หุ่นยนต์ กับปัญญาประดิษฐ์เริม่ คุกคามแล้วตอนนัน้ จะมา เปลีย่ นแปลงตัวเองก็อาจสายไป เพราะสมองของ คุณไม่ได้ถูกฝึกให้คิดแบบนั้นมาก่อน คุณเคยชิน กับการทำ�งานแบบอัตโนมัติมาโดยตลอด เช่นเดียวกับรุน่ ลูกหลาน ทีค่ ณ ุ จะได้วางแผน ให้พวกเขาได้ถูกเมื่อรู้ว่าจุดอ่อนของมนุษย์ที่สู้ ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้คืออะไร ทักษะอะไรที่ควร เสริมให้พวกเขาในการรับมือเมือ่ โตขึน้ มา ซึง่ ส่วนนี้ ผมจะขอพูดต่อในฉบับหน้าครับ

ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59


ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ

เปลี่ยนผ่านกาลสมัยด้วยบทเรียนยิ่งใหญ่ หน้านํ้าปีนี้มีคนส่งข่าวมาว่า แม่นํ้าลพบุรี บริเวณอำ�เภอบางปะหัน มีนํ้าล้นตลิ่งเข้าท่วม ที่ดินบ้านเรือนริมนํ้า และบริเวณนั้นเป็นที่ดิน เก่าแก่ของบ้านผม ปัจจุบันไม่มีใครอยู่เพราะแม่ ผมย้ายจากที่ดินตรงนี้ไปเมื่อครั้งยังสาวเมื่อกว่า เจ็ดสิบปีมาแล้ว ญาติคนอืน่ ๆ ก็ทยอยล้มตายย้าย ไปหมด ปัจจุบนั ทีด่ นิ ตรงนีต้ กทอดมาอยูใ่ นความ ครอบครองของผมและไปปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้ ไปนัง่ ทำ�งานและพักผ่อนมาได้สปี่ แี ล้ว เป็นทีท่ ราบ กันดีว่าบริเวณแถวนี้ นํ้าควรจะต้องท่วมทุกปีถ้า ไม่มีภัยแล้งขั้นรุนแรง ดังนั้นบ้านเรือนแถวนั้นก็ ต้องทำ�เป็นบ้านใต้ถุนสูง นํ้าท่วมได้ไม่มีอะไรเสีย หาย หลังจากนํา้ ท่วมใหญ่ปี 54 ถัดมาอีกปี ผมไป ซือ้ บ้านน็อกดาวน์เล็ก ๆ มาวางบนเสาสูงไว้เหมือน บ้านอื่น ๆ ในละแวกนั้น พอสร้างเสร็จก็มีนํ้า ท่วมมาใต้ถนุ บ้านตามคาด นํา้ สูงสักครึง่ เข่า ท่วม อยู่ราว ๆ เดือนหนึ่งก็ลดลงไป ปีต่อมานํ้าปริ่ม ๆ ตลิ่งแต่ไม่ท่วม ต่อเนื่องมาจนปีที่แล้วที่แล้งจัด แม่นํ้าลพบุรีข้างบ้านผมยังมีนํ้าอยู่พอสมควรแต่ ไม่เคยเห็นว่าจะลดระดับลงไปได้ขนาดนี้ นั่นคือ ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ที่เป็นไปตามวัฏจักร อะไรสักอย่างที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่อธิบายไว้ ด้วยคำ�ว่า เอลนิโญและลานิญา ปีนนี้ าํ้ ท่วมอีกครัง้ แม่นาํ้ ลพบุรที ว่ มตลิง่ เท่า ๆ 60 | happy+

กับปี 55 ผมติดตามดินฟ้าอากาศมาโดยตลอด จึงรู้ว่า ปีนํ้าน้อยแบบเอลนิโญสิ้นสุดลง ปีนี้คง เข้าสู่ลานิญา และนํ้าน่าจะท่วมเป็นปกติอีกครั้ง ผมเตรียมตัวเก็บข้าวของใต้ถุนบ้านเรียบร้อยรอ นํ้าอย่างสบายใจ เมื่อได้ข่าวนํ้าท่วมผมนึกอะไร ได้บางอย่างจึงแวะไปหาแม่ ซึ่งเพิ่งผ่านอายุ 90 มาได้ไม่กี่เดือน แต่ยังกระฉับกระเฉงแข็งแรง ผม อยากพาแม่มาดู “นํ้าท่วม” อีกสักครั้ง รถผมพาแม่มาจอดได้บนถนนทีส่ งู กว่าระดับ นํา้ ท่วมดูแล้วน่าจะต้องเดินลุยนํา้ เข้าไปทีบ่ า้ นสัก 50 เมตร แม่ลงจากรถเดินลิ่วไปยังนํ้าท่วมเบื้อง หน้า และดึงผ้าถุงขึ้นพ้นระดับนํ้าเดินลุยไปตาม ถนนขณะทีผ่ มยังเดินตามไปไม่ทนั หญิงชราเบือ้ ง หน้าผมค่อย ๆ ก้าวเดินพร้อมดึงผ้าถุงขึน้ สูงพ้นนํา้ ไม่ให้เปียกอย่างเป็นธรรมดา ผมค่อย ๆ เดินตามไปเพราะผมรูว้ า่ “แม่ชอบ นํ้า” และเชื่อว่าแม่ยังเดินไปในระยะแค่นี้ได้ ผม เดินตามมาทันเปิดประตูรวั้ ให้แม่ขนึ้ บันไดบ้านไป นั่งดูนํ้าที่ท่วมอยู่รอบบ้าน ผ่านดงไม้ที่ผมปลูกไว้ ออกไป แม่มองแม่นํ้าลพบุรี ที่นํ้าสีชาเย็นแผ่มา ต่อเนือ่ งกับสนามเล็ก ๆ หน้าบ้านเรา ณ เวลานัน้ ผม เห็นแววตาของแม่มปี ระกายอย่างมีความหมายที่ ผมคุ้ น เคยว่ า เป็ น สายตาที่ แ ช่ ม ชื่ น มี ค วามสุ ข เพราะเวลาหน้านํ้าอดีตสาวทุ่งบางปะหันที่ทัน

เล่นเพลงเรือเมือ่ แปดสิบปีทแ่ี ล้วในคลองบางนางร้า ติ ดแม่ นํ้ าลพบุ รี มั กเล่ าให้ ฟั งถึ งความสนุกที่ได้ อยู่หน้านํ้า หกสิบปีที่แล้ว แม่ออกจากบ้านไปอยู่ ทุ่งนครหลวงริมแม่นํ้าป่าสัก นํ้าท่วมทุ่ง ท่วมบ้าน เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแม่นํ้าไปอีกสายที่เวลานํ้า ท่วมทุ่ง ก็จะเชื่อมแผ่นนํ้าข้ามมาถึงกันอยู่ดี สี่สิบปีที่แล้ว แม่พาผมเข้าไปอยู่ชานเมือง อยุธยา นํ้ามาเหมือนเดิมตั้งแต่ปีแรกที่เราย้ายมา เพียงเปลีย่ นสายนํา้ เป็นแม่นาํ้ เจ้าพระยา ทีร่ วมนํา้ มาทั้งจากแม่นํ้าป่าสักและแม่นํ้าลพบุรี หลัง ๆ นํ้าท่วมทิ้งระยะ จากสามสี่ปี มาเป็นสิบปี ยี่สิบปี เมื่อปี 54 แม่อายุ 85 ปี นํ้ามาครั้งใหญ่ แม่ บอกว่าดีใจที่เห็นนํ้าท่วมอีกครั้ง อาจจะเป็นครั้ง สุดท้าย แม่ชอบเดินลุยนํ้าทำ�โน่นนี่ เวลามองนํ้า แววตาแม่สดใส ย้อนไปหาอดีตทีส่ นุกสนาน ก่อนที่ สถานการณ์จะรุนแรงขึน้ เราพีน่ อ้ งลงมติกนั ว่า ให้ ผมพาแม่มาอยู่กรุงเทพฯ ในพื้นที่ชั้นในที่นํ้าไม่ ท่วม และแม่ก็ผ่านนํ้าท่วมใหญ่ครั้งนั้นมาจนได้ เห็นนํ้าท่วมเล็ก ๆ อีกครั้งในปีนี้ ปีนี้นํ้าท่วมกระท่อมเล็ก ๆ ของผม ที่ที่ดิน ที่แม่เกิดและโตเป็นสาวที่ริมแม่นํ้าลพบุรี ผมไม่ ค่อยได้ทำ�อะไรให้แม่เท่าไหร่ในชีวติ แต่วนั นีด้ ใี จที่


พาแม่ที่ผ่านอายุ 90 ไปดูนํ้าท่วมอีกครั้ง ผมชอบ แววตาของแม่ทไี่ ด้เห็นนํา้ ท่วม หลังจากคุยกันผ่าน อดีตถึงเวลานํา้ ท่วมแถวนีเ้ มือ่ สมัยแม่เป็นเด็ก เรา ลุยนํ้าออกมาขึ้นรถ ผมถามแม่ว่าแม่เกิดในสมัย พระเจ้าอยู่หัวองค์ไหน แม่บอกว่า “แม่เกิด ร.6” ผมถามแม่วา่ ตอนเปลีย่ นผ่านรัชกาลยังจำ�ได้ไหม ว่าแต่ละครัง้ เป็นอย่างไรบ้าง เนือ่ งจากหากนับถึง ปัจจุบนั แม่คงเป็นไม่กคี่ นทีอ่ ยูเ่ ห็นการเปลีย่ นผลัด แผ่นดินถึง 3 ครั้ง แม่เล่าความทรงจำ�ว่า สมัย ร.6-ร.8 ท่าน ไม่ได้ครองราชย์ยาวนาน แม่ฟังข่าวสารตั้งแต่ เด็กจนอายุ 20 ก็เปลี่ยนรัชกาล 3 ครั้ง ข้อมูล ข่าวสารก็ไม่ทวั่ ถึง ไม่เหมือนครัง้ นีท้ ที่ า่ นอยูก่ บั เรา มายาวนานแทบตลอดชัว่ ชีวติ ของแม่ และทรงทำ� พระราชกรณียกิจมากมายในช่วงเปลี่ยนผ่านยุค สมัยยาวนานถึง 70 ปี ผมเดินผ่านนํ้า พาแม่ซึ่งเปรียบเสมือนบท บันทึกข้ามเวลาส่วนตัวของผมมาส่งบ้าน ระหว่าง ทางกลับบ้านก็ครุ่นคิดอะไรมากมาย โดยเฉพาะ ช่ ว งเวลาตลอดชี วิ ต ถึ ง วั ย กลางคนของตั ว เอง ชีวิตอันยาวนานจนถึงวัยชราของแม่ ที่ผูกพัน กับพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เหมือนพสกนิกรชาวไทยครอบครัวอื่น ๆ หน้า จอเฟซบุ๊กที่เปลี่ยนสีสันเป็นขาวดำ� หน้าจอทีวี ข่ า วสาร ที่ มี แต่ ค วามโศกเศร้ า และไม่ มี ข่ า ว กิจกรรมอื่นใดนอกจากการระลึกถึงพระองค์ท่าน

ผมไล่ดูเฟซบุ๊ก ดูความเคลื่อนไหวของการเปลี่ยน ผ่านกาลสมัยครั้งใหญ่ของเรา พลันไปสะดุดใจ กับโพสต์หนึง่ ทีผ่ เู้ ขียนเขียนในบล็อกส่วนตัวใช้ชอื่ ว่า anontawong.com ซึง่ คุณ anontawong (ตอนนัน้ ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าเขาเป็นใคร) เมือ่ อ่านข้อเขียน ชิน้ นีจ้ นจบ ผมรูส้ กึ ว่านีแ่ หละเป็นข้อเขียนทีโ่ ดนใจ และมีประโยชน์สำ�หรับตัวเองที่สุดในการผ่าน เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่นี้ไปด้วยวิธีคิด แบบที่จะเป็นจุดเริ่มที่ดี ที่เราควรได้โอกาสในการ คิดทบทวนเพื่อพระองค์ท่าน 9 บทเรียนของคุณ anontawong สรุปย่อ ๆ ได้ดังนี้ 1. ปัญหาของเรามันจิ๊บจ๊อย เมื่อมองไปที่ พระองค์ท่านปัญหาของเราจะเป็นเรื่องขี้ผงไป ทันที เพราะไม่วา่ เราจะเจอปัญหาหนักหนาสาหัส แค่ไหน มันก็เป็นเรื่องของคนไม่กี่คน อีกปีสองปี ต่อจากนีม้ นั แทบจะไม่มผี ลอะไรกับชีวติ เราด้วยซํา้ ขณะที่ ปั ญ หาที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว รัชกาลที่ 9 ต้องประสบมาตลอด 70 ปีแห่งการ ครองราชย์นั้น เป็นเรื่องของประเทศชาติและ ความเป็นอยู่ของพสกนิกรหลายสิบล้านคน 2. สิง่ ทีท่ �ำ ให้ทา่ นเหนือกว่าคนอืน่ ด้วยความ ทีเ่ ราเทิดทูนพระองค์ทา่ นมาทัง้ ชีวติ เราอาจจะลืม ไปว่า จริง ๆ แล้วท่านก็มีร่างกายเหมือนกับเรา มีเรี่ยวแรงพอ ๆ กับเรา มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมง เท่ากับเรา ถึงเราจะแซ่ซอ้ งว่าท่านมีอจั ฉริยภาพใน

หลายด้าน แต่ผมเชื่อว่า จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ทำ�ให้ พระองค์ท่านแตกต่างจากคนทั่วไป คือ ความ วิริยอุตสาหะ 3. เหตุผลของการดำ�รงอยู่ วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษกพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระปฐม บรมราชโองการ ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” 4. ความลับของการเป็นที่รัก การที่คนคน หนึ่งจะเป็นที่รักและเคารพ ไม่ใช่เพราะหน้าตา ฐานะหรือฐานันดร แต่คนคนหนึ่งเป็นที่รักเพราะ เขาได้ทำ�อะไรเพื่อคนอื่นต่างหาก 5. ถ้าจะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป ก็ต้อง ทำ�ตัวให้ดีเสียแต่ชาตินี้ ถ้าเราปรารถนาอย่างนั้น จริง ๆ ก็ต้องกลับมาสำ�รวจตัวเองแล้วว่า วิถีชีวิต ของเราในวันนี้มันเอื้อให้เราได้ไปอยู่ภพภูมิเดียว กับพระองค์ท่านในภายภาคหน้าหรือเปล่า ถ้า ยังไม่เอื้อ ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว 6. เรื่องบางเรื่องเอาไว้ทีหลังไม่ได้ เป็นสิบปี มาแล้ว ทีด่ ทู วี แี ล้วเห็นเขาจุดเทียนถวายพระพรที่ สนามหลวง และมีความคิดว่าอยากจะไปยืนอยู่ ตรงนั้นบ้างไม่ปีใดก็ปีหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ ได้ไป สุดท้ายก็สญ ู เสียโอกาสนีไ้ ปตลอดกาล เรือ่ ง บางเรื่องมัน “เอาไว้ก่อน” ไม่ได้จริง ๆ 7. ถึงเวลาต้องโตได้แล้ว จะว่าไปเราคนไทย ก็เหมือนลูกแหง่ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่เราเริ่ม คิดว่ายากเกินแก้ไข เราจะมองหา “พ่อ” ให้เข้า มาช่วยเสมอ เพราะเราเชือ่ ว่าพ่อของเราแก้ปญ ั หา ได้ทุกอย่าง เหมือนกับที่ท่านเคยแก้วิกฤติให้บ้าน เมื อ งไทยแล้ ว หลายครั้ ง ตอนนี้ พ่ อ ไม่ อ ยู่ แ ล้ ว จากนีไ้ ปเราต้องหัดพึง่ พาตัวเองให้มากขึน้ เข้มแข็ง ให้มากขึ้น ใช้สติปัญญาให้มากขึ้น เพื่อจะได้ แก้ปญ ั หาด้วยตัวเอง เพือ่ พ่อจะได้ไม่ตอ้ งเป็นห่วง 8. อย่ า ให้ เ หตุ ก ารณ์ นี้ สู ญ เปล่ า ได้ แ ต่ หวังว่าเหตุการณ์นี้ จะทำ�ให้ผมได้ทบทวนและ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม เข้าใจ โลกกว่าเดิม และใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับสิ่งที่ พระองค์ ท่ านได้ เป็ นแบบอย่ างให้เรามาตลอด หลายสิบปี 9. ชีวิตต้องดำ�เนินต่อไป ในวันที่คนไทยทั้ง ชาติกำ�ลังโศกเศร้าจากการสูญเสีย พระอาทิตย์ ยังคงส่องแสง และนกก็ยังร้องเพลง ราวกับจะ บอกเราว่า ถ้าอยากร้องไห้ก็จงร้องไปเถอะ แต่ เมื่อร้องจนหนำ�ใจแล้วก็จงเช็ดนํ้าตา แล้วลุกขึ้น มาทำ�หน้าที่ของเราต่อไป แบ่งปันมาฝากกันครับ และอ่านบทความ ทั้งหมดได้ที่ anontawong.com/archives ครับ happy+ | 61


take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา

10 อาการสัญญาณเตือนโรคหัวใจ

หัวใจเป็นอวัยวะที่มีความสำ�คัญที่สุดอวัยวะหนึ่งของร่างกาย หากเกิดการทำ�งานที่ผิดปกติขึ้นแล้ว ก็สามารถทำ�ให้เกิดอันตรายรุนแรงถึง ชีวิตได้ ซึ่งหนึ่งในอาการที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันว่าเป็นโรคหัวใจก็คือ อาการเจ็บที่หน้าอกซ้าย จากนั้นก็ล้มลงหมดสติ แต่แท้ที่จริงแล้วอาการ ของโรคหัวใจนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบางแบบอาจจะพอเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่บางแบบก็แปลกจนเราเองอาจจะคิดไม่ถึงเลยก็ได้ว่าเป็น อาการของโรคหัวใจ

62 | happy+


ทำ�ไมเราจึงควรรู้จักอาการเหล่านี้

เพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจ บางชนิดเป็นความผิดปกติที่ รุนแรง และต้องการการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งหากรักษาช้าหรือปล่อยให้ เวลาผ่านไป ผลการรักษาทีไ่ ด้กอ็ าจจะไม่ดเี ท่าทีค่ วร ตัวอย่างทีเ่ ห็นชัดทีส่ ดุ ก็ เช่น ในการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน หากรักษาอย่างรวดเร็ว สามารถ จัดการกับการอุดตันของเส้นเลือดได้ภายในช่วงชั่วโมงแรก ๆ หลังจากเริ่มมี อาการ ก็จะมีอัตราการเสียชีวิตตํ่ากว่าการรักษาที่ช้าเกินไป

สัญญาณเตือน ที่อาจจะเป็นอาการของหัวใจ ได้แก่

1. เจ็บแน่นหน้าอก เป็นอาการที่คนรู้จักกันดีที่สุด โดยผู้ที่มีอาการนี้ จะมีความรู้สึกผิดปกติที่บริเวณกลางหน้าอกหรือหน้าอกเยื้องมาทางซ้าย เล็กน้อย อาการจะเป็นลักษณะเจ็บ แน่น หรือบางคนบรรยายว่ารูส้ กึ เหมือน มีอะไรบางอย่างมานั่งกดทับลงบนบริเวณหน้าอก เป็นอาการที่พบได้ใน ผู้ที่มีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โดยอาจจะ เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันทันทีก็ได้ หรือจะเกิดตามหลังการออกแรงก็ได้ 2. อาการเจ็บร้าวไปทีแ่ ขน หรือหลัง บางคนทีม่ อี าการเจ็บหน้าอก อาจจะ มีอาการเจ็บปวดร้าวไปที่บริเวณแขนโดยเฉพาะแขนซ้าย โดยที่หาตำ�แหน่ง การปวดที่แขนได้ไม่ชัดเจน บางคนก็เจ็บไปที่บริเวณหลังตรงระหว่างสะบัก เป็นอาการที่พบได้ในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

3. เจ็บร้าวไปทีก่ ราม หรือลำ�คอ เป็นอาการเจ็บปวดเมือ่ ยทีบ่ ริเวณต้นคอ และขากรรไกร มักจะเกิดทางด้านซ้าย และมักจะเกิดขึน้ พร้อมกับอาการเจ็บ แน่นหน้าอก มักพบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 4. อาการแสบร้อนกลางอก ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน ปกติแล้วเวลามี อาการเหล่านี้ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงโรคกระเพาะอาหาร อาหารเป็นพิษ หรือโรคกรดไหลย้อน แต่ความจริงแล้ว ในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบหรือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดบางราย ก็สามารถมาโรงพยาบาลด้วยอาการนี้ ได้เช่นกัน 5. เหงื่อแตก เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการขาดเลือด จะเกิดการกระตุ้น ระบบประสาทหลายตำ�แหน่ง ส่วนที่รับความรู้สึกเจ็บปวดก็จะทำ�ให้เราเจ็บ แน่น บางระบบไปกระตุ้นให้เกิดการเต้นของหัวใจที่แรงขึ้น และบางระบบมี ส่วนควบคุมการหลัง่ ของเหงือ่ ทำ�ให้เกิดอาการเหงือ่ แตกท่วมตัวได้ นอกจาก โรคหัวใจขาดเลือดแล้ว โรคหัวใจอื่น ๆ ทีม่ กี ำ�ลังการบีบตัวของหัวใจที่ลดลง ก็สามารถทำ�ให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน 6. หน้ามืดเป็นลม เนือ่ งจากหัวใจทำ�หน้าทีใ่ นการบีบเลือดไปเลีย้ งส่วน ต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนัน้ ถ้าหากการทำ�งานของหัวใจแย่ลง ก็จะทำ�ให้เลือด ไปเลี้ยงสมองลดลง ทำ�ให้เกิดอาการหน้ามืดหมดสติได้ โดยอาการนี้มักจะ เกิดขึ้นในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงท่าทาง จากท่านอนมาเป็นท่ายืนหรือมี การออกแรงเบ่ง happy+ | 63


การตรวจที่ท่านอาจจะได้รับ

7. นอนราบไม่ได้ หรือตืน่ ขึน้ มากลางดึกด้วย อาการเหนือ่ ยหอบ ในผูท้ กี่ ารบีบตัวของหัวใจไม่ดี เลือดที่จะเข้าสู่หัวใจก็จะไปตกค้างอยู่ที่บริเวณ ปอด ทำ�ให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนเป็นไปได้ ไม่ดี อาการนี้จะเด่นชัดขึ้น เมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่า นอนหรือกำ�ลังหลับ เนื่องจากเลือดจากบริเวณ ร่างกายส่วนล่างจะไหลย้อนกลับเข้ามาที่หัวใจ มากกว่าในท่ายืนหรือนั่ง 8. อ่อนเพลีย ทำ�กิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้แรง ได้ลดลง เมื่อหัวใจทำ�งานผิดปกติไป เลือดและ ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงร่างกายก็จะลดลงทำ�ให้เกิด อาการเหนื่อยง่าย เพลียง่าย ซึ่งจะสังเกตได้จาก การที่ ไม่ ส ามารถทำ � กิ จ กรรมที่ เคยทำ � ได้ หรื อ เหนื่อยเพิ่มมากขึ้นในกิจกรรมที่เดิมไม่เคยเหนื่อย มาก่อน 9. ไอเป็นฟองสีชมพู ในกรณีที่หัวใจทำ�งาน ได้ น้ อ ยลงมาก ๆ มี กำ � ลั ง ในการบี บ ตั ว ตํ่ า จะ ส่งผลให้เกิดการคั่งค้างของเลือดในปอด ถ้าการ คั่งค้างมากขึ้น จะส่งผลให้นํ้าและเลือดรั่วจาก เส้นเลือดออกมาอยู่ในถุงลมของปอด กระตุ้นให้ เกิดอาการไอและมีเสมหะเป็นสีแดงชมพู 10. อาการใจสั่น รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตามปกติแล้วหัวใจของคนเราจะมีการควบคุม ด้วยระบบสัญญาณไฟฟ้าหัวใจให้การเต้นเป็นไป ด้วยจังหวะที่สมํ่าเสมอ ในผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ 64 | happy+

1. ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ : เพื่อดูจังหวะ และความเร็วของหัวใจ ร่วมกับรูปแบบต่าง ๆ ของกราฟหัวใจที่อาจจะบ่งบอกถึงโรคหัวใจชนิด ต่าง ๆ ได้ 2. ตรวจเลือด : ความผิดปกติหรือโรคของ หัวใจบางโรค จะทำ�ให้ตรวจพบสารบางชนิดใน เลือดได้ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, ภาวะ หัวใจวาย 3. ตรวจอัลตราซาวน์หัวใจ : เป็นการใช้คลื่น เสียงความถี่สูงในการตรวจดูลักษณะภายในของ หัวใจ ทำ�ให้สามารถมองเห็นการบีบตัวของหัวใจ ในแต่ละห้อง เห็นเส้นเลือดและโครงสร้างของ หัวใจ ช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ 4. เอกซเรย์ทรวงอก : จะช่วยให้เห็นเงาขนาด หัวใจและปอด 5. การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ : ในกรณี ที่สงสัยว่าความผิดปกติเกิดจากการตีบตันของ หลอดเลือดหัวใจ จากประวัติตรวจร่างกายและ การตรวจชนิดอืน่ ๆ การใช้สายสวนเข้าไปทีห่ ลอด เลือดหัวใจ ก็จะช่วยให้เห็นลักษณะของเส้นเลือด และตำ�แหน่งที่ตีบตันได้ ทั้งนี้การเลือกตรวจแต่ละชนิดขึ้นกับประวัติ อาการ และสิง่ ตรวจพบในขณะนัน้ บางครัง้ อาจจะ มีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากนี้

ใด ๆ ที่ไปรบกวนการทำ�งานของระบบสัญญาณ ไฟฟ้านี้ ก็จะทำ�ให้การเต้นของหัวใจผิดปกติไป พบได้ทั้งหัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า หรือจังหวะ การเต้นไม่สมํ่าเสมอ ผู้ที่รู้สึกว่ามีอาการใจสั่น หรือใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับ การตรวจ แม้จะไม่มอี าการเป็นลมหน้ามืดหรือผิด ปกติอน่ื ๆ เนือ่ งจากสาเหตุของอาการใจสัน่ อาจจะ มาจากโรคหัวใจที่รุนแรงได้ อาการเหล่านี้แม้ว่าจะเป็นอาการที่พบได้ ในโรคหัวใจหลายชนิด แต่ใช่วา่ ผูท้ ม่ี อี าการนีท้ กุ คน จะเป็ นโรคหั วใจ ดั งนั้ นเมื่ อไปถึ งโรงพยาบาล แพทย์ ก็ จ ะประเมิ น ก่ อ นว่ า มี โ รคอื่ น ที่ อ ธิ บ าย อาการที่เป็นได้หรือไม่ (เช่น ไปกินอาหารกึ่งสุก กึง่ ดิบ แล้วท้องเสียอาเจียนแสบกลางอกกันทุกคน ก็ ค งสงสั ย ว่ า อาหารเป็ น พิ ษ มากกว่ า โรคหั ว ใจ หรือไปออกกำ�ลังยกนํ้าหนักแล้วเจ็บร้าวแขนข้าง ทีย่ ก ก็สงสัยโรคกล้ามเนือ้ มากกว่าหัวใจ) ประเมิน ความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดหัวใจ ได้แก่ การถาม ประวัตโิ รคหัวใจในอดีต ประวัตกิ ารออกกำ�ลังกาย, โรคประจำ�ตัวกลุ่มเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง, การสูบบุหรี่, เชื้อชาติ, อายุ, โรคของหัวใจ เป็นโรคที่มีหลายชนิดและมี เพศ, นํา้ หนัก, ประวัตผิ ปู้ ว่ ยโรคหัวใจในครอบครัว ซึง่ ถ้ามีความเสีย่ งต่อโรคหัวใจหรือเส้นเลือดหัวใจ อาการได้หลากหลาย พบได้ทกุ วัย หากมีอาการที่ น่าสงสัยปรากฏเพิม่ ขึน้ หลายอย่างพร้อมกันก็อย่า ก็จะมีการตรวจเพิ่มเติมต่อไป ชะล่าใจ ควรไปพบแพทย์และทำ�การตรวจครับ


เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a

เป็นเหน็บชาขณะหลับ

Q A

เป็นเหน็บชาขณะหลับ จะเกี่ยวข้องกับการที่เราทานยาคุม เป็นประจำ�หรือเปล่าคะ อาการเหน็บชาที่ว่า หมายถึงอาการตะคริวที่ขาในตอนนอนหรือเปล่า ครับ โดยอาการทีว่ า่ นี้ จะเป็นลักษณะของการหดเกร็งของกล้ามเนือ้ โดยที่ เราไม่สามารถควบคุมได้เลย ส่วนมากแล้วมักจะเกิดทีบ่ ริเวณขา แต่บางครัง้ ก็อาจเกิดที่เท้าและต้นขาได้เช่นกัน หากมีอาการแล้ว ก็จะทำ�ให้เกิดความ เจ็บปวดจนกระทั่งต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ร้องโอดโอยกันเลยทีเดียวครับ สาเหตุของอาการตะคริวนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า อะไรทำ�ให้เจ้า กล้ามเนื้อของเราหดเกร็งตัว จนสร้างความเจ็บปวดมากมายขนาดนั้น แต่ ก็มีหลายสาเหตุที่มักจะเป็นเหตุนำ�มาก่อนเกิดอาการครับ ตัวอย่างเหตุนำ� ดังต่อไปนี้ • การใช้กล้ามเนื้อขามากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นจากการออกกำ�ลังกาย การยืนในท่าเดียวนาน ๆ (เช่น คุณผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูง แล้วต้อง ยืนเป็นเวลานาน) • การตั้ ง ครรภ์ ที่ ส่ ง ผลต่ อ ความสมดุ ล ของแร่ ธ าตุ ในร่ า งกาย ทั้ ง แคลเซียม แมกนีเซียม โดยเฉพาะในช่วงหลัง ๆ ของการตั้งครรภ์ • การสัมผัสกับอากาศเย็น โดยเฉพาะนํ้าเย็น (อย่างที่เราเคยเห็นกัน ในละครโทรทัศน์นั่นเองครับ)

• โรคบางโรคที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น โรคเกีย่ วกับหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โรคไต โรคไทรอยด์ • การไม่ได้ขยับขาเป็นเวลานาน ๆ ยืนบนพื้นแข็ง เป็นเวลานาน นัง่ นานหรือวางขาในตำ�แหน่งทีไ่ ม่เหมาะสม เป็นเวลานาน • ระดับแร่ธาตุบางชนิดในเลือดตํา่ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม • ร่างกายมีภาวะขาดนํ้า ไม่ว่าจะเป็นจากการดื่มนํ้า น้อยเกินไปหรือมีการสูญเสียนํา้ ออกจากร่างกาย เช่น เสีย เหงื่อจากอากาศร้อนจัด หรือการออกกำ�ลัง หรือมีอาการ ถ่ายเหลว ท้องร่วง • มีการใช้ยารักษาโรคบางกลุม่ เช่น ยารักษาโรคจิตเวช บางตัว ยาเม็ดคุมกำ�เนิด ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมัน และยาสเตียรอยด์ หากมีอาการตะคริวเกิดขึ้นในตอนกลางคืน ก็ให้ ค่อย ๆ เหยียดกล้ามเนื้อออกช้า ๆ อย่ากระตุกหรือดึง ด้วยความรุนแรงเด็ดขาดนะครับ พร้อมทั้งนวดไปด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อค่อย ๆ คลายตัว หากมีถุงนํ้าร้อนก็ อาจจะนำ�มาประคบเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวเร็วขึ้นได้ แต่ให้ระมัดระวังเรื่องความร้อนที่มากเกิน จนอาจจะ ทำ�ให้เกิดแผลพุพองที่ผิวหนังด้วยนะครับ หรืออาจจะใช้ ผ้าขนหนูช่วยในการเหยียดกล้ามเนื้อ ก็จะสามารถช่วย ได้เช่นกันครับ การป้องกันไม่ให้เกิดตะคริวนัน้ ก็แก้ไขทีส่ าเหตุขา้ งต้น นั่นเอง ดื่มนํ้ามาก ๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของ ร่างกาย หลีกเลีย่ งการดืม่ แอลกอฮอล์ รับประทานอาหาร ทีม่ แี ร่ธาตุจ�ำ พวกแคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม (โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์) ยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออก กำ�ลังกาย รวมทัง้ ก่อนนอน หลีกเลีย่ งการอยูใ่ นท่าทางเดิม ๆ เป็นเวลานาน ตลอดจนหลีกเลี่ยงการใช้ยาข้างต้นโดย ไม่จ�ำ เป็น ในกรณีของเจ้าของคำ�ถามทีอ่ าจจะรับประทาน ยาเม็ดคุมกำ�เนิดอยู่ หากอาการตะคริวเกิดขึ้นบ่อยจน รบกวนการใช้ชวี ติ ก็แนะนำ�ให้ปรึกษาแพทย์เพือ่ พิจารณา เลือกวิธีการคุมกำ�เนิดอื่นที่เหมาะสมต่อไปครับ

นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65


ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : Nasry ภาพประกอบ : giftdoii

6 ท่ายืดเส้นยามเช้า เพิ่มความสดใสตลอดวัน

ลองเปลี่ยนเช้าที่แสนง่วงและน่าเบื่อ ให้กลายเป็นเช้าวันใหม่ที่สดชื่นกันดูนะคะ ด้วย 6 ท่าบริหารร่างกายยามเช้า ที่แม้ยังอยู่บนเตียงก็ สามารถทำ�ได้ ซึ่งต่อไปนี้การ “ขี้เกียจลุกจากที่นอน” จะไม่ใช่ข้ออ้างของคนไม่ชอบออกกำ�ลังกายอีกต่อไปค่ะ และรับรองได้เลยว่า เช้าวันใหม่ ของคุณจะกระชุ่มกระชวยพร้อมลุยกับงานต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน 66 | happy+


ท่าที่ 1

ท่าที่ 2

ท่าที่ 3

ท่าที่ 4

ท่าที่ 5

ท่าที่ 6

นอนราบแล้ ว ยื ด แขนขึ้ น ไปให้ สุ ด โดย นอนควํ่า จากนั้นเอาแขนทั้ง 2 ข้างยันกับ นอนหงาย กดปลายเท้าไปด้านหน้า ยืดไหล่ขน้ึ ประสานมื อ ทั้ ง สองเอาไว้ ด้ า นหน้ า ค้ า งไว้ ที่นอน แล้วให้เชิดหน้าขึ้น โดยการวางข้อศอก ให้ทุกส่วนของร่างกายสัมพันธ์กัน ท่านี้จะทำ�ให้ ประมาณ 10 วินาที ท่านี้จะช่วยให้เลือดไหล ไว้ข้างลำ�ตัว และแอ่นอกไปข้างหน้า ท่านี้จะช่วย รู้สึกสบาย หลังจากนอนอยู่กับที่มาทั้งคืน เวียนได้ดแี ละช่วยให้รา่ งกายเราตืน่ ตัวอย่างเต็มที่ ให้คนที่ยังรู้สึกง่วงนอนอยู่หลังตื่นนอน กลับมา ตื่นตัวและสดชื่น

นอนหงายแล้วให้ตั้งเท้าไว้ จากนั้นยกหลัง นอนควํ่าในท่าคล้ายท่าวิดพื้น โดยวางศอก ยืนตัวตรงสงบนิง่ หายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ขึ้น โดยที่แขนและไหล่ทั้งสองข้างยังวางราบอยู่ ลงกับพืน้ แล้วเหยียดขาตรง เข่าตึง พยายามให้ลำ�ตัว เพื่ อ ให้ ร่ า งกายและจิ ต ใจพร้ อ มสำ�หรั บ การรั บ บนเตียงนอน ท่านี้จะทำ�ให้หน้าอกและไหล่ขยาย เป็นเส้นตรงมากที่สุด ทิ้งนํ้าหนักลงที่ปลายเท้า เช้าวันใหม่และเริ่มต้นการทำ�งานอย่างสดใส กว้างขึ้น และแขนทัง้ สองข้าง ทรงตัวเป็นเส้นตรง 20 วินาที พัก 30 วินาที ทำ�ซํ้าจนครบ 3 ครั้ง ท่านี้จะช่วย ทำ�ให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น การออกกำ�ลังกายหลังจากตื่นนอน จะช่วยให้อาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้งและนำ�ความรู้สึกสดชื่นเข้ามาแทนที่ค่ะ แต่ก็อย่าหักโหมมากเกินไป เพราะ อาจทำ�สุขภาพร่างกายบาดเจ็บ จนลุกไปทำ�งานไม่ไหวจะแย่เอานะคะ happy+ | 67


HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

สมุนไพรทางเลือกเพื่อดูแลสิวให้ตรงจุด สิว เป็นโรคผิวหนังทีม่ กั เกิดขึน้ มากในบริเวณผิวทีม่ จี �ำ นวนต่อมนํา้ มันมาก อย่างเช่น ใบหน้า ส่วนบนของหน้าอกและหลัง ปัญหาการเกิดสิว สามารถพบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะในวัยรุ่นที่มักเกิดสิว ที่มีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของแอนโดรเจน เช่น ฮอร์โมนเพศชาย สิว เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยปัจจัยทีก่ อ่ ให้ เกิดสิวหลัก ๆ แบ่งได้ 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยภายใน คือ ปัจจัยที่เกิดจากร่างกายเราเอง เช่น ฮอร์โมน, กรรมพันธุ์, โรคเรื้อรัง และผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ติดตัวเราตั้งแต่กำ�เนิด และปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่เกิดขึ้นจากภายนอกร่างกาย เช่น ยา, เครื่องสำ�อาง, สภาพแวดล้อม, สังคม, แสงแดด และอุณหภูมิ, ความสะอาดและอาหาร ซึ่งเรา สามารถป้องกันได้ ส่วนตำ�แหน่งในการเกิดสิวก็ เป็นอีกเรือ่ งทีส่ �ำ คัญ เพราะนัน่ อาจหมายถึงความ ผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรานั่นเอง ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึง ได้ให้คำ�แนะนำ�ในการใช้สมุนไพรทางเลือก เพื่อ ใช้ในการดูแล รักษา และป้องกันสิว ที่เกิดขึ้นใน ตำ�แหน่งต่าง ๆ ของใบหน้า ดังนี้ สิวบริเวณหน้าผากส่วนบนตรงกลาง เกิด จากระบบย่อยอาหาร หรือกระเพาะปัสสาวะมีปญ ั หา • อาหารที่แนะนำ� คือ อาหารที่มีสารต้าน อนุมูลอิสระสูง เช่น เบอร์รีต่าง ๆ ถั่ว ชาเขียว • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานขมิ้นชัน ครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหาร 3 มื้อ และก่อน นอน ติดต่อกัน 3 เดือน เพื่อปรับสมดุลระบบ ย่อยอาหาร สิวบริเวณหน้าผากส่วนล่าง เหนือคิว้ 2 ข้าง เกิดจากการนอนดึก เครียด ซึมเศร้า การไหลเวียน โลหิ ต ไม่ ดี ระบบย่ อ ยอาหาร หรื อ กระเพาะ ปัสสาวะมีปัญหา • อาหารที่แนะนำ� คือ อาหารที่มีสารต้าน อนุมลู อิสระสูง เช่น เบอร์รตี า่ ง ๆ ถัว่ ชาเขียว ไม่ควร นอนเกิน 4 ทุ่ม และพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานขมิ้นชัน ครัง้ ละ 2 แคปซูล หลังอาหาร 3 มือ้ และก่อนนอน 68 | happy+


ติดต่อกัน 3 เดือน เพื่อปรับสมดุลระบบย่อย อาหาร และรับประทานบัวบกครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร 3 มื้อ ติดต่อกัน 3 เดือน เพิ่มการ ไหลเวียนเลือด บำ�รุงสมอง คลายเครียด สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกิดจากแพ้อาหารบาง ชนิด (ซึง่ ต้องสังเกตเอง) แอลกอฮอล์ อาหารไขมัน ตับทำ�งานหนัก • อาหารทีแ่ นะนำ� คือ รับประทานผักผลไม้ให้ มากขึน้ งดแอลกอฮอล์ อาหารไขมันและอาหารที่ สังเกตได้ว่าตัวเราทานแล้วจะเกิดสิว • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานขมิ้นชัน ครัง้ ละ 2 แคปซูล หลังอาหาร 3 มือ้ และก่อนนอน ติดต่อกัน 3 เดือน รับประทานรางจืด 1 แก้ว หรือ 1 แคปซูล ก่อนอาหาร 3 มื้อ เป็นเวลา 5-7 วัน ติดต่อกันต่อเดือน เพื่อบำ�รุงตับ และรับประทาน ตรีผลา 1 แก้ว ก่อนนอน ทุกคืน 1 เดือน เว้น 1 เดือน เพื่อล้างพิษตับ สิวบริเวณใต้ตา เกิดจากการขาดนํ้า ไต ทำ�งานหนัก • อาหารทีแ่ นะนำ� คือ ดืม่ นํา้ ให้มากขึน้ 8-12 แก้ว ต่อวัน โดยการจิบเรื่อย ๆ ระหว่างวัน สิวบริเวณจมูก เกี่ยวข้องกับการทำ�งาน ของหัวใจ ความเครียด ความดันโลหิตผันผวน เดี๋ยวตํ่าเดี๋ยวสูง • สิง่ ทีแ่ นะนำ� คือ ควรหมัน่ ทำ�สมาธิ ปล่อยวาง

ความเครียด • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานยาหอม เทพจิตร ครัง้ ละ 1/2 ช้อนชา โดยละลายกับนํา้ ต้มสุก วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน และอาจรับประทาน แคปซูลดีบัวร่วมด้วย 1 แคปซูล ก่อนนอน สิวบริเวณแก้มช่วงบน เกี่ยวข้องกับปอด และสิวบริเวณแก้มช่วงล่าง เกีย่ วข้องกับช่องปาก และฟัน • สิ่งที่แนะนำ� คือ อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ฝึกหายใจยาวและลึก หยุดสูบบุหรี่ รักษาสุขภาพ เหงือกและฟัน • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานชาหญ้า ดอกขาว 1 ซอง โดยชงกับนํ้าร้อน 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร เป็นเวลา 2-3 เดือน สำ�หรับ ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ หรือรับประทานระยะสั้นแค่ 7 วันต่อเดือน สำ�หรับผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ส่วนผู้ที่ มีปัญหาเหงือกและฟัน แนะนำ�ให้ใช้ยาสีฟันและ นํ้ายาบ้วนปากสูตรกระชายเป็นประจำ� สิ ว บริ เ วณคางบริ เ วณกราม เกิ ด จาก ฮอร์โมนและความเครียด ไตทำ�งานหนัก หากเกิด จากฮอร์โมนมักจะเกิดสิวข้างใดข้างหนึ่งของคาง ขึ้นกับว่าเดือนนั้นไข่ตกที่รังไข่ด้านไหน เนื่องจาก โดยปกติไข่จะสุกเดือนละ 1 ใบ จากรังไข่แต่ละข้าง สลับกันทุกเดือน • อาหารที่แนะนำ� คือ ควรหลีกเลี่ยงอาหาร

ที่ให้พลังงานหนัก ๆ เช่น มันฝรั่ง ฟักทอง นมวัว นํ้ามัน กล้วย โดยให้รับประทานอาหารเบา ๆ ให้ พลังงานน้อย เช่น แอปเปิล ทับทิม รับประทาน อาหารรสร้อน เช่น พริกไทย ดื่มนํ้าขิงระหว่างมื้อ อาหาร เพือ่ ช่วยระบบย่อยอาหารให้สมดุล ดืม่ นํา้ ให้มากขึ้น 8-12 แก้วต่อวัน โดยการจิบเรื่อย ๆ ระหว่างวัน • สมุ น ไพรที่ แ นะนำ � คื อ รั บ ประทาน นํ้ ากระชาย นํ้ าขิ ง นมถั่ วเหลืองไม่ใส่นํ้าตาล นํา้ มะพร้าว สลับกันไปทุกวันวันละ 1 แก้ว ระหว่างวัน สิวบริเวณปลายคาง เกิดจากปัญหาใน กระเพาะอาหาร • อาหารที่แนะนำ� คือ รับประทานอาหารที่มี เส้นใยให้มากขึน้ เช่น ผัก หยวกกล้วย เพือ่ เก็บกวาด ระบบทางเดินอาหารให้สะอาด • สมุนไพรที่แนะนำ� คือ รับประทานขมิ้นชัน ครัง้ ละ 2 แคปซูล หลังอาหาร 3 มือ้ และก่อนนอน ติ ด ต่ อ กั น 3 เดื อ น เพื่ อ ปรั บ สมดุ ล ระบบ ย่อยอาหาร และ สิวบริเวณหู เกิดจากร่างกายขาดนํ้า การรับประทานเกลือ กาแฟ แอลกอฮอล์ หรือ โซดามากเกินไป • อาหารทีแ่ นะนำ� คือ ดืม่ นํา้ ให้มากขึน้ 8 -12 แก้ว ต่ อ วั น โดยการจิ บ เรื่ อ ย ๆ ระหว่ า งวั น และ งดอาหารที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิว happy+ | 69


well being เรื่อง : ญาดารัตน์

บันทึกไว้ในความทรงจำ� ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙ Diary ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙

หลังจากที่สำ�นักพระราชวังได้ประกาศเมื่อ วันที่ ๑๓ / ๑๐ / ๒๕๕๙ พ่อของแผ่นดินได้จาก พวกเราไปแล้ว บรรยากาศของประเทศไทยเต็มไป ด้วยความโศกเศร้าเกินกว่าที่จะบรรยายได้ ไม่มี ใครนอนหลั บ สนิ ท ทุ ก คนเหมื อ นยํ้ า ถามกั บ ตัวเองว่า นี่เป็นเพียงแค่ฝันร้ายใช่มั้ย...แต่ในที่สุด พวกเราก็ต้องยอมรับว่า สิ่งนี้คือความจริง ย้อนไปเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๔๐ นั่นเป็นครั้งเดียวในชีวิต ที่ฉันมีโอกาสได้ เห็นพระองค์ท่าน ท่านได้เสด็จมาพระราชทาน ปริญญาบัตรและตอนหนึ่งของพระบรมราโชวาท มีดังนี้... “ผูป้ รารถนาความก้าวหน้าเมือ่ ประสบความ สำ�เร็จในกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรหยุดยั้ง พอใจอยู่เพียงเท่านั้น แต่ชอบที่จะยึดถือความ สำ�เร็จนั้นเป็นรากฐานอันมั่นคง ที่จะก้าวไปสู่ ความสำ�เร็จที่ยิ่งสูงขึ้น และเป็นประโยชน์กว้าง ขวางขึ้น ถ้าบัณฑิตจะมีความคิดเห็นต่อความ สำ�เร็จของตนดังที่กล่าวแล้วยึดถือปฏิบัติแต่บัดนี้ ก็ เชื่ อ ว่ า ความเจริ ญ ก้ า วหน้ า จะเกิ ด ขึ้ นทั้ ง แก่ ตัวท่านเองและประเทศชาติ ต่อตามกันไปโดยไม่มี 70 | happy+

ที่สิ้นสุด” ผ่านมา ๑๙ ปี หลังจากที่สำ�เร็จปริญญาตรี มีเพื่อนในรุ่นที่ยังเก็บสำ�เนาพระบรมราโชวาท ฉบับนั้นไว้ พร้อมทั้งส่งให้แก่เพื่อน ๆ ทั้งรุ่นเมื่อ ไม่นานมานี้ หลังจากทีพ่ ระองค์เสด็จสูส่ วรรคาลัย ผ่านทาง Line กลุ่มคณะ ข้อความหนังสือที่ ปรากฏบนกระดาษ A4 สีขุ่นมัว บ่งบอกถึงระยะ เวลาของกระดาษที่ แ สนเปราะบาง แต่ วั นนี้ ข้อความในนัน้ กลับชัดเจนและมีคณ ุ ค่าอย่างลึกซึง้ และดีงาม ฉันย้อนกลับไปถามตนเองว่า...หลังสำ�เร็จ การศึกษามาแล้ว ฉันทำ�ประโยชน์เพื่อตนเองแค่ ไหน และเพือ่ ประเทศชาติเท่าใด ฉันเห็นสัดส่วนที่ ฉันทำ�เพือ่ ตนเองมันช่างสูงลิบ ทิง้ ห่างกับสิง่ ทีฉ่ นั ทำ�เพื่อส่วนรวมอย่างชนิดมองไม่เห็นฝุ่น และพระองค์ ท่ า นละ...สั ด ส่ ว นที่ ทำ � เพื่ อ ตนเอง กับที่ทรงทำ�เพื่อประเทศชาติ มี ค นกล่ า วว่ า โครงการพระราชดำ � ริ ที่ พระองค์ทำ�เพื่อประชาชน หากเรานำ�มาเขียน วันละโครงการ ต้องใช้เวลาในการเขียนถึง ๑๒ ปี ตัง้ แต่เล็กจนโตพ่อแม่ และคุณครูไม่เคยบอก ให้ฉันต้องรักพระองค์ท่าน และฉันก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่

เกิดขึ้นกับตนเองจะเรียกว่าอะไร มันเป็นความ ศรัทธา ความผูกพัน ความรู้สึกมีที่พึ่ง คือพลัง คือแรงบันดาลใจ คือแบบอย่าง คือส่วนหนึ่งของ ชีวิต คือศูนย์รวมของจิตใจ และคือความอบอุ่น ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ นี้ เป็นวันเคลือ่ น พระบรมศพเสด็จฯ จากโรงพยาบาลศิรริ าช มายัง พระบรมมหาราชวัง ประชาชนมากมายต่างเดินทาง มาร่วมรับขบวนรถอัญเชิญพระบรมศพและฉันก็ เป็นหนึ่งในนั้น ฉันนัง่ อยูท่ บี่ ริเวณแยกอรุณอมรินทร์ ปิน่ เกล้า ตั้งแต่ก่อนเที่ยง ร้อนแดดแต่ในใจหนาวเหน็บ ทุกคนที่มาล้วนจิตใจบอบชํ้า ป้าคนหนึ่งรํ่าไห้... “พ่ อ ไปแล้ ว ลู ก จะอยู่ อ ย่ า งไร มั น อ้ า งว้ า ง โดดเดี่ยวเหลือเกิน” เมื่อถึงเวลารถขบวนมาแบบเรียบง่ายยิ่งนัก ตามแบบฉบับของพ่อ ฉันก้มลงกราบท่านกับ พื้นด้วยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ หมดรถใน ขบวนแต่ทหารยังคงคุกเข่าอยู่ อีกสักพักรถอีก คันตามมา ได้ยินเสียง “ทรงพระเจริญ” ใช่แล้ว นั่นคือ รถของแม่...แม่ของแผ่นดิน รถของสมเด็จ เสด็จฯ ผ่านเป็นคันสุดท้าย ยิ่งเศร้าหนัก ตลอด เวลาเห็นท่านทั้งสองเสด็จฯ ด้วยกันเสมอ...ไม่มี


พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ประพันธ์โดย พีรนุช พุฒตาล ในคืนนั้นฝนฟ้ามาเทหนัก ตกจั้กจั้กราวพิรุณพิโรธใหญ่ อีกนํ้าเหนือไหลรี่มาไวไว ทองหลางใหญ่หักผึงลงครึ่งตอน

ภาพนั้นอีกแล้วในวันนี้ ผู้คนเริ่มทยอยกลับ ท้องฟ้าก็ดูเศร้าสร้อย นกน้อยตัวเล็กสีด�ำ บินมาเกาะบนสะพานสงบนิง่ แล้วบินวนเวียนราวกับว่า ไม่รู้จะไปที่ไหนต่อดี... ฉันเดินเบียดเสียดผู้คนมายืนอยู่บนสะพาน พระปิ่นเกล้า มองไปฝั่งโรงพยาบาลศิริราชรู้สึก ใจหายเป็นทีส่ ดุ หันหน้าไปยังพระทีน่ งั่ พิมานรัตยา พระบรมมหาราชวั ง ยื น สงบนิ่ ง ด้ ว ยสำ � นึ ก ใน พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ในฐานะประชาชนของ พระองค์ เดินต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนคนล่องลอย ไร้จดุ หมายปลายทาง ไม่ได้ตา่ งจากนกสีด�ำ ตัวนัน้ เจอคนเป็นลมเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อพี่ดีขึ้น เรายิ้ม ให้กัน แต่นํ้าในตาเอ่อล้น บอกพี่ว่า “กลับบ้านให้ ปลอดภัยนะคะ เราต้องอยู่เป็นกำ�ลังให้แผ่นดิน” เริ่มมีสัญญาณมือถือ เสียงโทรศัพท์ดัง... เพื่อนรักของฉันคนหนึ่งอยู่ที่สนามหลวง อีกคนก็ มาจากอยุธยาอยูท่ ศ่ี ริ ริ าช บอกเพือ่ น...แม้ไม่เจอกัน ก็ไม่เป็นไร เพราะใจเราไปอยู่ที่เดียวกัน ทุ่มครึ่งได้ทานข้าวมื้อแรกของวัน...เหมือน ลำ�คอตีบตัน แต่ก็พยายามทานจนหมด เพราะรู้ ว่าเราเป็นประชาชนของพระองค์ท่าน ต้องอดทน รับผิดชอบและทำ�หน้าที่ของตนเองต่อไป ไม่มีรถกลับ...ผู้คนหนาตาขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ ทยอยออกจากสนามหลวง แต่ไม่เป็นไร เดินไป เรื่อย ๆ เหนื่อยก็หยุด มีคนชุดดำ�เดินปาดนํ้าตา เป็นเพื่อนตลอดรายทาง การจากไปของพ่อ... ทำ�ให้หัวใจดวงน้อย ๆ เกือบเจ็ดสิบล้านดวง รู้สึก ว้าเหว่ เคว้งคว้าง อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิต เปรียบเสมือนว่าวเล็ก ๆ ที่หลุดลอยอยู่ในท้องฟ้า กว้างใหญ่แบบไร้ทิศทาง เพราะตลอดเวลา เรา เป็นว่าวทีม่ อี สิ รภาพ แต่ทงั้ นีเ้ ราก็มนั่ ใจว่า สายว่าว ของเรายั ง อยู่ กั บ พ่ อ ท่ า นคอยดู แ ลประคอง

อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าลมจะแรงหรือมีพายุ เราต่าง รู้สึกปลอดภัย เพราะเราอาศัยอยู่กับพ่อ...จะมี ประเทศใดในโลกใบนี้ ที่มีโอกาสดังกล่าว ฉันเพิ่ง เข้าใจความหมายของคำ�ว่า “สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ” อย่างลึกซึ้งก็วันนี้เอง ในทีส่ ดุ ก็ได้ขนึ้ แท็กซีก่ ลับทีพ่ กั ทัง้ คนขับและ คนนัง่ ต่างเงียบงัน มีเพียงเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ที่คุณลุงคนขับเปิดเบา ๆ ในรถ นํ้าตาฉันไหลริน อาบแก้ม ไม่มเี สียงสะอืน้ แต่ไหลตลอดเวลา...และ ไหลออกมาเรือ่ ย ๆ จนบางครัง้ รูส้ กึ ว่า หากเราร้อง แบบสะอื้น ฟูมฟายเสียเลยน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ ทำ�ไม ร่างกายและจิตใจของฉันถึงเลือกแบบนี้ นี่ เป็นครั้งที่สองของชีวิต ที่เป็นแบบนี้ ครั้งแรกคือ ตอนที่คุณยายหมดลมหายใจในอ้อมแขนของฉัน ถึงทีพ่ กั ...โดยปลอดภัยโทรศัพท์บอกแม่ให้ทา่ น คลายกังวล แม่พูดด้วยเสียงสั่นเครือบอกฉันว่า เราเหนือ่ ยทำ�เพือ่ พระองค์ทา่ นเพียงวันนี้ แต่พระองค์ ท่านทำ�เพือ่ ประชาชนมาตลอดชีวติ ทัง้ ๆ ทีพ่ ระองค์ ท่านไม่ทำ�ก็ได้ อย่าใช้ชีวิตเพียงเพื่อความสุขของ ตนเอง เราต้องมองคนรอบข้าง มองสังคมด้วย พระองค์ ท่ า นปฏิ บั ติ เป็ น แบบอย่ า งให้ เห็ น มา ตลอด หลังจากที่วางสายจากแม่เหมือนตัวเองได้ รับพลัง และรู้สึกว่าเรากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง... สุ ด ท้ า ยอยากขอโทษผู้ อ่ า นทุ ก ท่ า น ที่ บทความนี้อาจใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้องและดูวกวน แต่ มั นคื อ ความรู้ สึ ก ที่ อ ยู่ ภ ายในที่ บ างครั้ ง เมื่ อ หากนำ�มาเรียบเรียง และขัดเกลาให้สวยงาม มัน คงไม่ใช่ Diary วาดหวังว่าเราจะเป็นกำ�ลังใจให้กันและกัน เราจะรักและสามัคคีกัน ทั้งนี้เพราะเรามีพ่อคน เดียวกันทั้งแผ่นดิน #ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9 #เรา รักในหลวง

คืนต่อมาพายุยังคงโหม กระหนํ่าโครมฝนริ้วปลิวสลอน มะขามใหญ่กว่าร้อยปีมีสั่นคลอน รากหลุดถอนคลอนล้มถมกลางคลอง กระรอกแลปักษาที่อาศัย แสนตกใจรังล่มล้มกลางหนอง อาศัยมาสุขสบายในครรลอง บัดนี้ต้องเสียร่มไม้ใช้อยู่กิน นกกระปูดคู่ชราน่าสงสาร เฝ้าวนเวียนรอบบ้านมะขามสิ้น กระรอกขาววิ่งไปมาอยู่หน้าดิน หวังใจจินต์มะขามฟื้นคืนกลับมา ย้อนมามองชาวเราแล้วเศร้าจิต ให้หวนคิดทอดใจอาลัยหา ไม้ดื่นดาษสัตว์นั้นไซร้ได้ย้ายมา หากพ่อหลวงปวงประชามีองค์เดียว ครั้นร่มโพธิ์ล้มลงคงหมดสิ้น ศูนย์รวมใจพังภินท์มิเหลือเสี้ยว ประชาไทยมีในหลวงเพียงหนึ่งเดียว จะแลเหลียวข้างไหนไม่เห็นทาง คำ�สังขารไม่เที่ยงเคียงข้างหู เรานั้นรู้อยู่กับจิตมิคิดขวาง หากอาวรณ์อาลัยนั้นไม่จาง จึ่งพึ่งทางพระธรรมมาคํ้ายัน บารมีองค์ไท้ใกล้บรรลุ มิต้องอยู่เวียนว่ายในสังสาร วอนผลบุญหนุนข้าบาทบริพาร ให้พบพานโพธิสัตว์ทุกชาติเทอญ

happy+ | 71


beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art

สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ ตอน ฟักทองผิวผุดผ่อง

Face Pack สูตรที่ 1

นำ�เนื้อฟักทองต้มสุกเนื้อเนียน 2 ช้อนโต๊ะ วิปครีม 2 ช้อนโต๊ะ และนํ้าผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสม ให้เข้ากัน วิปครีมอุดมไปด้วยกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี่ ซึง่ มีคณ ุ สมบัตทิ ำ�ให้ผวิ ชุม่ ชืน้ แล้วใส่นาํ้ ตาลทราย เพิ่ ม เข้ า ไปอี ก 4 ช้ อ นโต๊ ะ ช่ ว ยขจั ด เซลล์ ผิ ว ทีต่ ายแล้ว ผสมทุกอย่างจนเป็นเนือ้ เนียนข้น จากนัน้ นำ�มาทาให้ทวั่ ใบหน้า ทิง้ ไว้ 15 นาที แล้วล้างออก ดิฉันจัดคอร์ส Panchkarma Treatment ให้นักเรียนโยคะของดิฉันมา Detox และ Rejuvenate ทุกปี ด้วยนํ้าอุ่น เหมาะสำ�หรับผิวมันค่ะ ที่สถาบันที่ดิฉันมาเรียน ปีนี้มากัน 7 คนค่ะ สนุกสนานร่าเริงมาก เพราะบางคนเพิ่งจะมาอินเดียเป็น ครั้งแรก และต้องมาลงเครื่องที่สนามบินมุมไบ ตื่นเต้นเพราะอยากรู้ว่าสลัมบอมเบย์เป็นยังไง เดี๋ยวนี้ เขาเจริญมากค่ะ ดูไปก็คล้าย ๆ กรุงเทพฯ เข้าไปทุกที รถเยอะ ตึกแยะ ทีม่ มุ ไบเราจะเห็นความแตกต่าง ระหว่างชนชัน้ สูงและชนชัน้ ล่างอย่างชัดเจน จากนัน้ พานักเรียนเดินทางไปพักที่ The St. Regis Mumbai โรงแรมนี้สะดวกสบาย เพราะมีห้างสรรพสินค้าให้เดินเลือกซื้อของเหมือนเมืองไทยค่ะ มีของแปลกตา น่าซื้อหลายอย่างและราคาไม่สูง มาถึงโรงแรมเป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี ที่นี่มีร้านอาหารเอเชียใน โรงแรมชื่อว่า แม่โขง มีเชฟเป็นคนไทยชื่อ เชฟโสรดา ซึ่งทางโรงแรม พราวด์ลี่พรีเซนต์ สุด ๆ เพราะ เชฟได้รบั รางวัลเชฟดีเลิศของมุมไบค่ะ ลูกศิษย์ดใี จกันใหญ่เพราะยังไม่พร้อมรับประทานอาหารภารตะ เชฟเตรียมนํ้ากระเจี๊ยบไว้ให้ตอนไปถึง จากนั้นไม่รอช้าสั่งอาหารไทยกันแบบจัดเต็มมาก ๆ เอร็ดอร่อย ลืมไปเลยว่าอยู่อินเดีย ปิดท้ายด้วยของหวานอร่อยเริดจริง ๆ นั่นก็คือ บัวลอยฟักทอง อยากทานอีก ๆ แหม เพลิดเพลินกับอาหารและของหวานจนเกือบลืมไปเลยค่ะ ว่าได้เวลาแนะนำ�สูตรเด็ดเคล็ดลับ ความงามจากธรรมชาติ ยังติดใจบัวลอยฟักทองอยู่เลย ขอว่าต่อด้วยสูตรความงามให้ผิวผุดผ่อง ด้วย “ฟักทอง” กันเลยดีกว่านะคะ ทราบไหมคะว่าฟักทองมีคุณประโยชน์ต่อผิวอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่ด้วยการรับประทานอย่างเดียว นะคะ ดิฉนั กำ�ลังบอกว่าแค่เอามาใช้ภายนอกก็ให้ผลต่อความงามอย่างมีคณ ุ ค่าจริง ๆ ค่ะ ฟักทองมีทงั้ Face Pack สูตรที่ 2 โปรตีน แอนติออกซิแดนต์ กรดเรตินอล เบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ ซี อี ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ นำ�เนื้อฟักทองต้มสุกเนื้อเนียน 2 ช้อนโต๊ะ คือ ทองแดง โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินต่าง ๆ เช่น โฟเลท วิตามินบี 6 และ และนํา้ ผึง้ 1 ช้อนโต๊ะ อบเชยบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ไนอะซิน ช่วยให้สุขภาพผิวดียิ่งขึ้น นอกจากเนื้อฟักทองแล้ว เมล็ดฟักทองยังประกอบไปด้วยโปรตีน แ ล ะ น ม ส ด 1 ช้ อ น โต๊ ะ ผ ส ม ให้ เ ข้ า กั น วิตามิน และกรดไขมันโอเมก้า 3 รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ จนเป็นเนื้อเนียนข้น แล้วนำ�มาทาให้ทั่วใบหน้า วันนี้เราจะไม่พูดถึงสูตรเมนูอาหาร แต่เราจะมาแนะนำ�สูตร Face Pack จากฟักทอง แบบโฮมเมด ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าอุ่น ที่จะทำ�ให้คุณงดงามด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง เหมาะสำ�หรับผิวแพ้ง่ายค่ะ 72 | happy+


Face Pack สูตรที่ 3

เพื่อให้ผิวดูดซึมวิตามินได้ง่าย จากสูตร Face Pack ที่แนะนำ� ควร ทำ�การสตีมใบหน้าก่อนทุกครั้งเพื่อ เปิดรูขุมขนนะคะ ทีนี้มาที่สูตรที่ 3 ของเรากัน นำ�เนื้อฟักทองต้มสุกเนื้อเนียน 1 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ต ครึ่งช้อนโต๊ะ นํา้ ผึง้ ครึง่ ช้อนโต๊ะ และอัลมอนด์บด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำ�มาสครับ ให้ทวั่ ใบหน้า ประมาณ 20 นาที แล้ว ล้างออกด้วยนํ้าอุ่น

Face Pack สูตรที่ 7

Face Pack สูตรที่ 4

สู ต รนี้ เ หมาะสำ � หรั บ ผิ ว มั น นะคะ นำ�เนือ้ ฟักทองต้มสุกเนือ้ เนียน 1 ช้อนโต๊ะ Apple Cider Vinegar 1 ช้อนโต๊ะ นํ้าตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน แล้วนํา้ มาสครับให้ทวั่ ใบหน้า หมุนวนเบา ๆ ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าอุ่น

สู ต รนี้ เป็ น สู ต รเลิ ศ เลอเพอร์ เฟ็ ก ต์ ที่ อ ยาก แนะนำ�เป็นอย่างยิ่ง สำ�หรับทำ�ความสะอาดผิว และทำ�ให้ผิวกระจ่างใสค่ะ นำ�เนื้อฟักทองต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวโอ๊ตต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ และ นํ้ า ผึ้ ง 1 ช้ อนโต๊ะ ผสมให้ เข้า กัน แล้ ว ทาให้ ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าอุ่น

Face Pack สูตรที่ 8

Face Pack สูตรที่ 5

สูตรนีท้ �ำ ให้ผวิ ผ่องส่องสว่างค่ะ นำ�ไข่ไก่ 1 ฟองแยกไข่ขาวออก เนื้อ ฟักทองต้มสุกเนื้อเนียน 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน จนเป็นเนือ้ เนียนเหนียวนุม่ ทาให้ทัว่ บนใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้าง ออกด้วยนํ้าอุ่น

สูตรนีเ้ ป็นสูตร Whitening ทำ�ให้ผวิ ขาวขึน้ ค่ะ นำ�เนือ้ ฟักทองต้มสุกเนือ้ เนียน 1 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ ผงขมิ้นชัน 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด ผสมให้เข้ากันจนเนื้อเนียน นำ�มาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าอุ่น

Face Pack สูตรที่ 6

สูตรนี้เหมาะสำ�หรับผิวหน้าที่ มีสิวและจุดหมองคลํ้าค่ะ นำ�ไข่ไก่ 1 ฟองแยกไข่ขาวออก เนื้อฟักทอง ต้มสุกเนื้อเนียน 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้ เข้ากัน จากนัน้ นำ�มาทาให้ทวั่ ใบหน้า ทิ้งไว้จนกระทั่งแห้ง แล้วล้างออก ด้วยนํ้าอุ่น

Face Pack สูตรที่ 9

สูตรนี้ช่วยขจัดเซลลูไลท์ค่ะ อันนี้ชอบเลย นำ�เนือ้ ฟักทองต้มสุกเนือ้ เนียน 1 ช้อนโต๊ะ กล้วยหอม บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ นํ้าผึ้งนิดหน่อย และนํ้า ตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกันจนเป็นเนื้อเนียน เหนียวนุ่ม แล้วนำ�มาทาทั่วใบหน้า ลำ�คอ ทิ้งไว้ 15 นาที หรือจนกระทั่งแห้ง แล้วค่อย ๆ สครับ หมุนวนด้วยปลายนิ้ว จากนั้นล้างออกด้วยนํ้าอุ่น

เป็นอย่างไรบ้างคะ สูตรความงามจากฟักทอง บางสูตรดิฉันอยากนำ�มารับประทานมากกว่านำ�มาทาผิวค่ะ ดูแล้วน่าอร่อยมาก ผิวของเราคง รู้สึกอร่อยเช่นกัน หากเราหมั่นดูแลรักษาสุขภาพกายและใจด้วยธรรมชาติอยู่เสมอ เราจะสุขกายสบายใจ และก่อให้เกิดความงดงามอย่างยั่งยืน ฉบับหน้า เตรียมต้อนรับปีใหม่กันด้วยสุดยอดสูตรความงามจากธรรมชาติค่ะ ส่งท้ายปี 2559 ด้วยความสุขสดชื่นจากธรรมชาติ สวัสดีค่ะ happy+ | 73


สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Patty Pom ภาพ : TepiN

วชิรภัทร อินทุภูติ

ของสะสมที่เป็นมากกว่าของสะสม ภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ผลงานกำ�กับ ของจอร์จ ลูคัส คงจะเป็นภาพยนตร์ในดวงใจ ใครหลายคน ทั้งความสนุกตื่นเต้น และความ ตืน่ ตาตืน่ ใจกับภาพสงครามในอวกาศ ภาพหุน่ ยนต์ และมนุษย์ต่างดาวแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็ น เวลาเกื อ บ 40 ปี ที่ ภ าพยนตร์ เรื่ อ งนี้ เป็ น ภาพยนตร์ในตำ�นานและครองใจคนรักภาพยนตร์ มาโดยตลอด ใครต่อใครก็คงจะชอบพระเอก แต่ สำ�หรับคุณอาร์ม วชิรภัทร อินทุภตู ิ กลับชอบดาร์ธ เวเดอร์ที่สุด พระเอกในคราบผู้ร้ายหรือผู้ร้ายที่ มีคาแร็กเตอร์เป็นพระเอก จากความชื่นชอบใน ภาพยนตร์กลายมาเป็นของสะสม และวันนี้ดาร์ธ 74 | happy+

เวเดอร์ ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ อาร์มไปแล้ว “ย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปี ตอนหนัง Star Wars ออกฉาย ช่วงนัน้ ผมยังเด็กอยู่ มันเป็นอะไรที่ ใหม่มาก มีผู้ร้ายตัวดำ� ๆ มีเครื่องบินปีกกากบาท เป็นหนังไซไฟที่เหมือนจริงมากเลยในสมัยก่อน พล็อตเรื่องก็สนุก ผมชอบตัวหนังมาก่อนนะครับ จากนั้นด้วยความเป็นเด็กก็อยากจะเล่นของเล่น อยากเล่นดาร์ธเวเดอร์ อยากเล่นสตอร์ม ทรูปเปอร์ พวกนี้ สมั ย ก่ อ นที่ ห้ า งเมอร์ รี่ คิ ง ส์ วั ง บู ร พา มีของเล่นมาขายอยู่ ผมก็เก็บเงินซื้อ จำ�ได้ว่า สมัยก่อนราคาตัวละ 150 บาท สมัยเด็ก ๆ ผม

มีประมาณ 3-4 ตัว ช่วงที่เรียนจบแล้วไปทำ�งาน ผมได้ไปเรียนต่อทีอ่ เมริกา ในปี 1995 เขาเอา Star Wars กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง แล้วบรรยากาศที่อเมริกานั้นเดินไปที่ไหนก็เจอ แต่ Star Wars ผมก็ไปดูที่โรงหนังอีกรอบหนึ่ง ดู จอใหญ่เลย มันจึงเป็นการรือ้ ฟืน้ ความทรงจำ�สมัย เด็ก แล้วทีเ่ มืองนอกก็มขี องสะสมให้เลือกซือ้ เยอะ มาก ผมก็ท�ำ งาน และซือ้ เก็บไว้ สะสมไปเรือ่ ย ๆ” ความชอบเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ พอรู้ตัวอีกที คุ ณ อาร์ ม ก็ มี ด าร์ ธ เวเดอร์ แ ละสิ่ ง ของเกี่ ย วกั บ Star Wars มากมาย และต่อยอดมาเป็นเพจ เฟซบุ๊กชื่อ Mistervader ที่เป็นการรวมตัวกันของ


คนรัก Star Wars เหมือนกัน “ผมเริ่มต้นจากฟิกเกอร์ตัวเล็ก ๆ และผม เข้าใจว่า Star Wars น่าจะเป็น Pop Culture ของ อเมริกา ทุกคนเติบโตมาพร้อมมัน ทำ�ให้เวลาไป ทีไ่ หนพอคุยกันเรือ่ ง Star Wars ปุบ๊ ก็จะกลายเป็น บทสนทนาที่คุยกันได้เยอะมาก เวลาผมไปที่ไหน ผมก็เก็บ มีของเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่พลาสเตอร์ ปิดแผลจนหัวพร็อพตกแต่งอะไรพวกนี้ ผมสะสมมา เกือบ ๆ 20 ปีแล้ว มันเป็นความชอบอย่างหนึ่ง อาจจะเหมือนผู้หญิงที่ชอบสะสมกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง เศรษฐีสะสมรถ พอเจอปุบ๊ มันหยุดซือ้ ไม่ได้ หรื อ เวลาที่ คนรู้จัก ไปเที่ ยวเมืองนอก เขาก็ จะ ซือ้ มาฝาก ซือ้ หมากฝรัง่ ทีเ่ ป็น Star Wars ซือ้ แชมพู มาให้ ซึ่งเขารู้ว่าเราชอบ ล่าสุดก็คือ ขนมไหว้ พระจันทร์ดาร์ธเวเดอร์ จากที่เป็นของเล่นตอนนี้ เริ่ ม ไม่ ใ ช่ ข องเล่ น แล้ ว มั น กลายเป็ น ว่ า ชิ้ น นี้ คนนี้ซื้อให้ มันคือความผูกพัน มันคือมิตรภาพ ระหว่างกัน “นอกจากนี้ยังมีอีกพาร์ทหนึ่ง ขอเรียกว่า พาร์ทชุดคอสตูม มันเป็นโครงการที่ใหญ่มาก ชื่อ โครงการ 501 เป็นที่ที่รวมคนใส่ชุดคอสตูมระดับ พร็อพเหมือนในหนัง สมัยก่อนแก๊งนี้ยังไม่มีใน เมืองไทย ผมเป็นคนก่อตั้งที่เมืองไทย เป็น 501 ไทยแลนด์ แล้วก็จะมีของทีไ่ ม่มขี ายทัว่ ไป เพราะว่า Lucasfif m เขาอนุญาตให้พร็อพเมกเกอร์หรือคน ที่ทำ�อยู่ ขายให้เฉพาะทีม 501 เท่านั้น เพราะว่า เขาจะเอาไปใส่ เดิ น เล่ น ทำ � กิ จ กรรมการกุ ศ ล (Charity) กัน ผมก็เลยเริ่มซื้อมาสะสมไว้ แล้วเรา ก็จะมีเว็บบอร์ด ที่ต้องเป็นสมาชิก 501 เท่านั้น ฉะนั้นการที่จะเป็นสมาชิก 501 ได้ ก็ต้องมีชุด ก่อน เราก็จะถ่ายรูปชุดส่งไปให้เขาพิจารณาว่า ชุดนีเ้ หมือนในหนังเลย เราก็จะได้เป็น 501 ตอนเริม่

ก็มผี ม มีคนฟินแลนด์ คนญีป่ นุ่ 3 คน หลังจากนัน้ ผมก็เริ่มชักจูงเพื่อน ๆ คนที่รักหรือแฟนพันธุ์แท้ มาทำ�ด้วยกัน ทุกวันนี้กลุ่มมีสมาชิกประมาณ 30 คน เราทำ�อีเวนต์ระดับประเทศ ระดับโลกเลย ก็มี พวกอีเวนต์แบบ We Are Jedi ขายเสื้อของ Lucasfif m เอาเงินบริจาคมาช่วยนํา้ ท่วม ทุกวันนีก้ ็ ทำ�กิจกรรมการกุศลกันอยู่นะครับ ในงาน Comic Con ก็จะมีแก๊งพวกนีไ้ ปร่วม มันเลยกลายเป็นคนที่ ชอบ Star Wars แล้วมาใส่คอสตูมกัน เป็นรุน่ ใหญ่ ทัง้ นัน้ ไม่มเี ด็กเลย เพราะฉะนัน้ พวกผูใ้ หญ่พวกนี้ จะให้ ใ ส่ ชุ ด ไปเดิ น เล่ น ไปงานแฟนซี ก็ ค งจะ ประหลาด เขาก็ใส่ชุดแล้วก็จะมี Photo Booth ให้คนมาถ่ายรูปแล้วบริจาค เราปรินต์รูปให้เขา ไป ได้เงินไปบริจาคเยอะมาก จาก Star Wars ก็ต่อยอดมาเป็นกิจกรรมการกุศล มันเลยทำ�ให้ ผมค่อนข้างผูกพันกับมันมาก ทุกวันนีก้ จ็ ะมีเพือ่ น 2 ก๊วน ก๊วนของเล่น ของสะสม กับก๊วนที่เป็น แก๊งคอสตูม 501 “ปลายปี ที่ แ ล้ ว เราก็ ไปช่ ว ยงานที่ เมเจอร์ , พารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ ทำ�บูธโปรโมท The Force Awakens : Star Wars ภาค 7 แล้วก็รวมตัว กั น ไปดู ห นั ง วั น แรก ก็ ใส่ ชุ ด เต็ ม ที่ ไป จากแค่ นักสะสมมันต่อยอดมาเป็นพวกแก๊งคนที่รัก Star Wars เหมือนกัน แล้วก็เริ่มไปไกล เริ่มมีกิจกรรม จากแค่ไปเดินซื้อของเล่นด้วยกัน ไปเยอะก็ไม่ได้ เดี๋ยวแย่งกัน บางทีก็มาเจอกัน มาสังสรรค์กัน คุยกัน” เราถามถึงเสน่ห์ของดาร์ธเวเดอร์และการ สะสมของรักกับคุณอาร์ม “มาร์เก็ตติ้งของ Star Wars เขาทำ�ไว้ดีมาก ครับ วางแผนไว้ให้ส�ำ หรับคนทีช่ อบสะสมแบบแกะ ออกมาเล่น และชอบสะสมแบบไม่แกะ ทำ�ตัวเดิม

แต่แพ็กเกจเปลีย่ นไปเรียกว่า รีแพ็ก (ผมก็ซอ้ื ทุกแพ็ก เลย) กลายเป็ น ต้ อ งตามเก็ บ ทุ ก คอลเลคชั่ น แล้วก็จะมีสีสัน มีโปรดักส์ใหม่ ๆ ออกมาให้เล่น เพราะเสน่ ห์ มั น เริ่ ม จากตั ว หนั ง กลายมาเป็ น มาร์เก็ตติง้ ของการสะสม คนพวกนีก้ จ็ ะพูดคุยกัน ถูกคอ คุยกันในเรือ่ งทีเ่ รารู้ มันเลยกลายเป็นเพือ่ น กลายเป็นมิตรภาพ เวลาเขามาเยี่ยมเรา เขาก็ซื้อ มาฝากเรา เวลาเราไปเยีย่ มเขา เราก็ซอื้ ไปฝากเขา “สำ � หรั บ ผมแล้ ว คาแร็ ก เตอร์ จ ริ ง ๆ ของ ดาร์ธเวเดอร์ คือพระเอกนะ ตอนดูภาค 4, 5, 6 ยังเป็นผู้ร้ายอยู่ แต่เป็นผู้ร้ายที่มีมิติ มีความเท่ น่าเกรงขาม มีคาแร็กเตอร์ มีดีไซน์ ความพิเศษ อีกอย่างคือ ใช้นักแสดงสองคน คือคนที่ใส่ชุด คนหนึ่ง คนที่เปิดหน้ากากอีกคนหนึ่ง คนพากย์ เสียงก็อีกคน ต้องใช้คนถึง 3 คน เป็นตัวละครที่ มีความละเอียดมาก ก็เลยชอบดาร์ธเวเดอร์ครับ พอมาเป็น 501 ได้ใส่ดาร์ธเวเดอร์แล้ว อารมณ์ จะมาเลย ทุ ก คนเห็ น ผมแล้ ว ก็ คิ ด ว่ า ผมเป็ น ดาร์ธเวเดอร์ “ตอนนี้ผมจะเลิกซื้อของใหม่ ๆ เพราะว่าซื้อ ของออนไลน์มันจะไม่ค่อยสนุก สมัยที่อยู่อเมริกา มันจะมีงานทอยแฟร์ ผมก็จะไปเดินแล้วไปเห็น คือ การสะสมมันมี 2 อย่างที่ทำ�ให้มีความสุข 1. ไปเจอ คือไปหาเจอแล้วสามารถซื้อได้เลย มัน จะมีความสุขทันที 2. เรามานัง่ ดูแล้วนึกถึงอารมณ์ ตอนนั้นอีก สมมุติว่าตัวนี้กว่าจะได้มา ต้องแลก กับอะไรมาบ้าง ความรู้สึกที่เราไปเจอ ของเล่น ก็เหมือนกับภาพ ที่เวลาเราไปเที่ยวเราก็จะนึกถึง บรรยากาศเหล่านั้น เดี๋ยวนี้ซื้อของออนไลน์ เสิร์ช ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็เจอ ผมเลยจะเลิกซื้อของ ออนไลน์ ปีหนึง่ จะไปเทีย่ วเมืองนอกก็จะไปตามล่า เพื่อเอาอารมณ์แบบนั้นกลับมาอีกครั้ง” happy+ | 75


travelogue เรื่องและภาพ : Bella

1

วังเวียง ท่ามกลางป่าเขาลำ�เนาไพร

1

ช่วงวันหยุดทีผ่ า่ นมา พวกเราทีมงานนึกครึม้ อกครึม้ ใจอยากไปเทีย่ วกัน ก็เลยเกิดเป็นทริปแบบเร่งรีบ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก จัดกระเป๋า แล้วไปกันเลย ซึ่งสถานที่ที่พวกเราเลือกไปพักผ่อนในวันหยุดช่วงสั้น ๆ แบบนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกล ก็คือ วังเวียง ประเทศ สปป.ลาว เพื่อนบ้านเรานี่เองค่ะ 1

76 | happy+


1 พายเรือคายัคชมวิวแม่นํ้าซอง 2 หมอกยามเช้าริมนํ้าซอง

2

การเดินทางไปวังเวียง สามารถไปได้หลายเส้นทาง ทั้งขับรถยนต์ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว นั่ง รถทัวร์ไปยังจังหวัดอุดรธานีหรือจังหวัดหนองคาย เพื่อต่อรถโดยสารไปวังเวียง หรือจะขึ้นเครื่องบิน ไปลงที่จังหวัดอุดรธานีแล้วต่อรถมายังวังเวียงก็ได้ เหมือนกันค่ะ แต่ทริปนี้เน้นเซฟเงินในกระเป๋า จึง เลือกนัง่ รถทัวร์ไปยังจังหวัดหนองคาย เพราะตอนที่ จองตัว๋ ไปยังจังหวัดอุดรธานี (ต้นทาง) เต็มหมดแล้ว และช่วงวันหยุดอย่างนี้ แน่นอนว่านักท่องเทีย่ วจาก ประเทศไทยจะข้ามฝั่งไปยังประเทศลาวค่อนข้าง เยอะ ทำ�ให้เราพบว่าเมื่อไปถึงจังหวัดหนองคาย ประมาณ 6 โมงเช้ า รถโดยสารสายอุ ด รธานี หนองคาย-วังเวียง เต็มหมดแล้ว (นี่ขนาดมาถึง 6 โมงเช้าว่าเช้าแล้ว ยังมีคนที่มาเช้ากว่าเราอีก) พวกเราจึงเปลีย่ นแผน นัง่ รถโดยสารจากหนองคายไปยัง ด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน แล้วค่อยหาเพื่อน ๆ นักท่องเที่ยวร่วมทางเพื่อตรงไปยังวังเวียงอีกทีหนึ่ง สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนถึงด่านตรวจคน เข้าเมือง คือ พาสปอร์ตและปากกา เพราะที่นั่นคน จะเยอะมาก ถ้าเราไม่มปี ากกาไว้กรอกรายละเอียด เข้า-ออกเมือง จะยิ่งเสียเวลาไปอีกค่ะ พอผ่านด่าน ตรวจคนเข้าเมืองได้แล้ว เราก็มองหาผู้ร่วมเดินทาง จนกระทั่งได้ครบจำ�นวน 10 คนพอดิบพอดี จึงจ้าง รถตูเ้ พือ่ เดินทางไปยังวังเวียงกัน เส้นทางจากด่านตรวจ 2 ง วั ง เวี ย งส่ ว นใหญ่ เป็ นถนนลู ก รั ง เป็ น หลุ ม ไปยั

เป็ น บ่ อ ทำ � ให้ จุ ด หมายปลายทางที่ เหมื อ นจะ ใกล้ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงเต็มกว่าจะเดินทาง ไปถึง นั่งหลังขดหลังแข็งกันเลยทีเดียว หลังจาก นำ�สัมภาระไปไว้ที่พักเรียบร้อยแล้ว ความเหนื่อย เมือ่ ยล้าตลอดเส้นทางทีต่ รากตรำ�มาก็หายเป็นปลิดทิง้ ด้วยภาพวิวทิวทัศน์ริมแม่นํ้าซองแบบพาโนรามา จากหน้าต่างห้องของเรา แม่นาํ้ ซองถือเป็นสายหลัก ที่ไหลผ่านตัวเมืองวังเวียง มีภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ เบื้ อ งหลั ง วั ง เวี ย งยั ง คงบรรยากาศธรรมชาติ ที่ สวยงามรายล้อมไว้ได้เป็นอย่างดี แค่นงั่ มองภาพวิว ริมนํ้าซองเฉย ๆ ก็ให้ความรู้สึกดีแล้วละค่ะ วันนีพ้ วกเรามาถึงทีพ่ กั ประมาณสีโ่ มงเย็นแล้ว เลยตัดสินใจเดินเล่นรอบ ๆ ตัวเมืองวังเวียงกันไป ก่อน แล้ววันพรุง่ นีค้ อ่ ยออกเทีย่ วตามสถานทีต่ า่ ง ๆ อย่างจริงจังอีกทีหนึ่ง วังเวียง เป็นเมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ แม่นํ้า ขุนเขา ป่าไม้ อากาศ บริสุทธิ์ยังคงมีให้พวกเราได้สัมผัสอย่างเต็มปอด เหมาะสำ�หรับคนที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเมือง ในชนบททีค่ วามเจริญยังแผ่ขยายอาณาเขตมาไม่ถงึ ในส่วนของตัวเมืองวังเวียง บรรยากาศค่อนข้าง คึกคัก เพราะมีนักท่องเที่ยวจำ�นวนมากหลั่งไหล เข้ามายังเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ สิ่งแรกที่สังเกตได้ ชัดเจนเลยคือ นักท่องเทีย่ วกว่า 90% เป็นคนเกาหลี ถ้าไม่ตดิ ว่าทีว่ งั เวียงมีบรรยากาศชนบทแบบบ้านเรา คงเข้าใจว่าทีน่ คี่ อื ประเทศเกาหลีแน่นอนค่ะ แอบไป

ถามชาววังเวียงว่าทำ�ไมที่นี่จึงมีแต่คนเกาหลี เขา บอกเราว่า ที่นี่กำ�ลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คน เกาหลี ที่อยากมาพักผ่อนแถบเอเชียตะวันออก เฉี ย งใต้ ยิ่ ง ช่ ว งเดื อ นกั น ยายน-ตุ ล าคมจะยิ่ ง มี จำ�นวนมาก เรียกว่าเกาหลีครองเมืองกันเลยทีเดียว เมือ่ มาถึงถิน่ ประเทศลาวอย่างนีส้ ง่ิ ทีข่ าดไม่ได้เลย คื อ ต้ อ งลองลิ้ ม รสส้ ม ตำ � ของต้ นตำ � รั บ เสี ย หน่ อ ย ว่าจะแซ่บถึงใจหรือเปล่า เราจึงแวะรับประทาน อาหารเป็นอันดับแรก เพราะเมื่อตอนกลางวันทาน อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ รองท้องมาเท่านั้น อาหารที3่นี่ ปกติจะใส่ผงชูรสเพือ่ เสริมรสชาติให้อร่อยขึน้ สังเกต ว่าที่โต๊ะอาหารจะมีเครื่องปรุงเป็น พริกป่น นํ้าปลา และผงชูรสวางไว้คู่กัน สำ�หรับคนที่ไม่ชอบทาน ผงชูรส อย่าลืมบอกแม่คา้ ว่า ไม่เอาแป้งนัว (ผงชูรส) ด้วยนะคะ หลังจากอิม่ ท้องแล้ว พวกเราก็เริม่ เดินชม บรรยากาศเมืองยามเย็น ทีน่ มี่ วี ดั วาอารามเล็ก ๆ ให้ ได้สักการะขอพร มีร้านคาเฟ่เบเกอรีที่มีไวไฟฟรี มี บริษัททัวร์เปิดให้เข้าไปจอง One Day Trip มากมาย หลายร้าน สามารถเทียบราคา เทียบคุณภาพกันได้ ตามสะดวก เดินเล่นไปมาในเมือง เผลอแป๊บเดียว ตะวันก็เคลื่อนคล้อยลาลับริมขอบฟ้าไปแล้ว วั น รุ่ ง ขึ้ น พวกเราตื่ นตั้ ง แต่ เช้ า รั บ ประทาน อาหารเมนูบ้าน ๆ ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ และรอรถ ของทัวร์ One Day Trip ซึง่ มารับตามเวลาทีเ่ ราได้ตกลง กันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มาเที่ยวที่วังเวียง นักท่องเที่ยว happy+ | 77


3 อาหารเช้าที่โรงแรมจัดให้ 4 หมูทอดรสเลิศ 5 ข้าวเปียกแสนอร่อย

5

อย่างเรา ๆ สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ไป ยังสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วต่าง ๆ ได้ แต่อยากจะแนะนำ�ว่า ให้ซื้อทัวร์แบบ One Day Trip ซึ่งมีให้เลือกหลาย รูปแบบจะสะดวกกว่ามาก ไม่ช้าไม่นานรถจาก บริษทั ทัวร์กม็ ารับพวกเรา พร้อมกับเพือ่ น ๆ ร่วมทริป เดียวกันอีก 10 คน เพื่อพาไปยังสถานที่แรก ถํ้านํ้า โดยรถจะพาพวกเราขับออกไปนอกเมืองประมาณ 15 นาที แต่แค่ออกจากตัวเมืองมานิดเดียว เราก็ เริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแถบชานเมือง ที่มีวิว ทิวทัศน์สวยงามจับใจกันแล้ว สองข้างทางทีร่ ถผ่านไป เป็นทุง่ นาสีเขียวยาวสุดลูกหูไปลูกตา จุดแรกนีร้ ถจะ ปล่อยให้พวกเราลงเดินเท้าเข้าไปยังถํา้ นํา้ อีกประมาณ 15-20 นาที โดยผ่านบริเวณคันนาและหมูบ่ า้ นเล็ก ๆ จนกระทั่งถึงถํ้านํ้า กิจกรรมของที่นี่คือ การนั่ง ห่วงยางลอดถํ้าเพื่อชมความสวยงามของหินงอก หินย้อยซึ่งเกิดตามธรรมชาติ และบริเวณด้านนอก ยังมีแอ่งนํา้ ใสไหลเย็นสีเขียวอมฟ้า ให้เราได้วา่ ยนํา้ 78 | happy+

3

4

เล่นกันเพลิน ๆ อีกด้วย แต่ไม่รู้ว่าพวกเราโชคดีหรือ โชคร้าย ด้วยจำ�นวนนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่เยอะมาก ทำ�ให้การรอรับห่วงยางเพื่อเข้าไปในถํ้าใช้เวลานาน เป็นชั่วโมง ๆ แถมยังต้องแย่งกัน ไกด์ที่มาด้วยจึง แนะนำ�ว่า ให้พวกเรารับประทานอาหารกลางวันทีน่ ี่ กันก่อน หลังจากนั้นเปลี่ยนเป้าหมายจากถํ้านํ้า ไปยังถํ้านอน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า โดยที่นั่น จะมีกิจกรรมให้ทำ�เยอะกว่าที่นี่อีกด้วย พวกเราจึง ตกลงรับปากไปเพราะทำ�อะไรไม่ได้อยู่แล้ว ช่วงเช้า ของวันนี้จึงเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ แทบไม่ได้ ทำ�อะไรเลยนอกจากเล่นนํา้ บริเวณด้านนอกถํา้ และ รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ เป็น ข้าวผัด บาร์บีคิว ขนมปัง และกล้วยหอมหนึ่งลูกเท่านั้น เมือ่ ได้เวลาบ่าย ไกด์จงึ พาพวกเราย้อนกลับไป ทางเดิม เพื่อเดินทางไป พายเรือคายัค กันต่อ ซึ่ง มีจุดปล่อยเรือแบบ 3 กิโลเมตร 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร ซึ่งพี่ไกด์พาเราไปปล่อยที่ต้นนํ้าใน ระยะ 10 กิโลเมตร ก่อนจะลงพายเรือก็จะต้องฟัง ไกด์แนะนำ�วิธีพายเรืออย่างถูกต้อง ว่าทำ�อย่างไร บ้างและวิธีช่วยเหลือตนเองเมื่อตกนํ้าแล้วเรือพลิก ควํ่า และแล้วก็ได้ฤกษ์ลงมือพายเรือคายัคชมวิว แม่นํ้าซองกันเสียที ต้องบอกว่าวิวริมแม่นํ้าซองนั้น สวยงามประทับใจมาก พวกเราถูกโอบล้อมด้วย ภูเขาเขียวขจีทางด้านขวามือ ส่วนทางด้านซ้ายมือ ก็มพี ชื พรรณต้นไม้นานาชนิดให้ได้ชม บวกกับความ เย็นชุ่มฉํ่าของสายนํ้า ณ เวลานี้ ทำ�ให้เหมือนหลุด เข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง สมกับเป็นวันพักผ่อนอย่าง แท้จริง สำ�หรับคนที่ว่ายนํ้าไม่เป็นไม่ต้องกังวลไป

นะคะ เพราะใครที่ไม่มั่นใจในฝีมือการพายเรือก็ สามารถไปกับไกด์ของคณะ ซึ่งมีประมาณ 3-4 คน ได้ (เรือหนึ่งลำ�จะนั่งได้ 2-3 คน) รับรองว่าไม่เกิด อันตราย เพราะพวกเราทีไ่ ปพายเรือก็ไม่มใี ครว่ายนํา้ เป็นเลยค่ะ ผ่านช่วงเวลาตกนํ้าตกท่าเรือจมนํ้า เปียกปอนกันมาแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ขออย่างเดียวคือ ต้องมีสติและปฏิบตั ติ ามคำ�แนะนำ� ของไกด์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นเองค่ะ พายเรือมาได้สกั ระยะหนึง่ ไกด์กส็ งั่ ให้พายเรือ เข้าฝั่ง เพื่อแวะสถานที่ต่อไปคือ ถํ้านอน ตามที่ ไกด์เสนอไว้ในช่วงเช้า ที่นี่มีจำ�นวนนักท่องเที่ยว น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชดั เมือ่ มาถึงไกด์กแ็ นะนำ�ว่าที่ ถํ้านอน นอกจากเราจะได้ใช้ห่วงยางลอดถํ้าชม ความสวยงามแล้ว ยังมีโซนให้ได้ออกกำ�ลังกาย ยืดเส้นยืดสายกันเล็กน้อย รับรองว่าที่ถํ้านอนเรา จะได้สมั ผัสธรรมชาติมากกว่าทีถ่ าํ้ นํา้ อย่างแน่นอน พวกเราก็ เ ลยพากั นจิ นตนาการว่ า คงจะน่ า สนุ ก ไม่น้อย แต่เมื่อได้เข้าไปในถํ้าจริง ๆ ต้องขอบอกว่า ถํา้ นอนทำ�ให้พวกเราได้แอดเวนเจอร์ผจญภัยกันมาก เกินกว่าทีจ่ นิ ตนาการไว้ หลังจากลอยห่วงยางชมถํา้ ไปได้ระยะหนึง่ แล้ว ก็จะต้องเดินเท้าซึง่ เป็นเส้นทาง ภายในถํา้ อีกระยะหนึง่ ซึง่ เป็นโคลนลืน่ ๆ ตลอดทัง้ เส้นทาง มีบางช่วงที่ลื่นมาก จนไม่สามารถเดินได้ เลยต้องค่อย ๆ นัง่ สไลด์ตวั ไป บางจุดก็เป็นซอกเล็ก ๆ คนตัวใหญ่เกือบจะผ่านไปไม่ได้ บางช่วงก็เป็นมุมอับ น่ า หวาดเสี ย ว แต่ สุ ด ท้ า ยพวกเราก็ ผ่ า นมาได้ อย่างทุลักทุเล รองเท้าหลุดหายกันไปคนละข้าง ออกมานอกถํ้า แต่ละคนตัวเป็นสีนํ้าตาลมอมแมม


6 เดินเท้าสู่ถํ้านํ้า 7 สัมผัสธรรมชาติเพียงเอื้อมมือ 8 ฟังวิธีการพายเรือคายัคก่อนปฏิบัติจริง 9 บลูลากูน 10 บ้านพักในโรงแรม

7

6 8

9

10

กันจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ได้แต่หัวเราะให้กับสิ่งที่คาดไม่ถึงนี้ หลังจากล้างเนือ้ ล้างตัวเสร็จก็กลับมาพายเรือคายัคชมวิวทิวทัศน์กนั ต่อจนถึงปลายทาง และเดินทางไป ยังสถานทีส่ ดุ ท้ายก่อนจะหมดวันนี้ คือ บลูลากูน ซึง่ เป็นแอ่งนํา้ สีเขียวมรกตขนาดไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับ นักท่องเที่ยวที่ชอบกระโดดนํ้า ได้มากระโดดนํ้าจากต้นไม้โดยมีระดับความสูง 2 ระดับ คือ ธรรมดา และระดับสูง ส่วนใครทีเ่ ล่นนํา้ จนเหนือ่ ยแล้วก็มานัง่ พักผ่อน ปล่อยอารมณ์ได้ทสี่ วนด้านข้าง ซึง่ มีรา้ นอาหาร เล็ก ๆ เปิดให้บริการอยู่ ที่นี่เราจะเห็นว่ามีฝรั่งหลายคนเลือกมานอนอาบแดดเพิ่มผิวสีแทนกันอีกด้วย และแล้วเวลาในวันนีก้ ห็ มดลงอย่างรวดเร็ว พวกเราเดินทางกลับทีพ่ กั แวะล้างเนือ้ ล้างตัว แล้วออกมา ท่องเทีย่ วยามคํา่ คืนของทีน่ สี่ กั เล็กน้อยก่อนทีเ่ ราจะต้องจากกันไป วังเวียงในปัจจุบนั เปลีย่ นไปค่อนข้างเยอะ เมือ่ เทียบกับวังเวียงในอดีต อารมณ์คล้าย ๆ กับอำ�เภอปาย จังหวัดแม่ฮอ่ งสอนทีบ่ า้ นเรา เพราะเป็นสถานที่ ท่องเทีย่ วทีไ่ ด้รบั ความนิยมจากนักท่องเทีย่ วเป็นจำ�นวนมาก จึงทำ�ให้ในตัวเมืองวังเวียงมีสภาพกลายพันธุ์ ไปบ้าง กลายเป็นเมืองกินดื่มของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลแสงสียามราตรี แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำ�ลาย เสน่ห์ของวังเวียงที่มีธรรมชาติรายล้อมให้หมดไปได้ อยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าว่าจะเลือกมองในมุมไหน พอ เดินเที่ยวในตัวเมืองยามคํ่าคืน แวะรับประทานอาหารเย็นกันเรียบร้อย พวกเราก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อ เตรียมตัวเก็บกระเป๋าสำ�หรับเดินทางไปยังเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว ในวันรุ่งขึ้น ฉบับหน้า มาติดตามกันต่อค่ะว่าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง

happy+ | 79


การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : TukTik

1

เยือนถิ่นอารยธรรมทวารวดี ปราจีนบุรี

“ปราจีนบุรี” เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบมากเลยค่ะ ทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ งานเทศกาล วัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงโบราณสถานต่าง ๆ วันนีเ้ ราเลยจะไปเยือนปราจีนบุรกี นั ค่ะ โดยจะเน้นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทางวัฒนธรรมกันก่อนนะคะ ทริปนีเ้ รา อาจจะไปได้ไม่ครบทุกที่ เพราะทีป่ ราจีนบุรนี มี้ สี ถานทีส่ �ำ คัญทางประวัตศิ าสตร์ทนี่ า่ สนใจมากมายเลยค่ะ เนือ่ งจากปราจีนบุรมี ฐี านะเป็นหัวเมือง ชั้นในด้านตะวันออก ซึ่งมีความสำ�คัญมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้างออกเดินทางไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 80 | happy+


1 ต้นโพธิเ์ ก่าแก่กว่า 2,000 ปี 2 โครงกระดูกมนุษย์โบราณ 3 โบราณวัตถุในพิพธิ ภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี 4 เครือ่ งเบญจรงค์ทรงคุณค่า

2

4

3

สถานที่แรกที่เราได้มาเยือน ได้แก่ โบราณสถานสระมรกต ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำ�บล โคกไทย เป็ น โบราณสถานทางพุ ท ธศาสนา ขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันมาหลายยุคหลาย สมัย ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างจากศิลาแลง และอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานของ อาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดบูรณะได้ค้นพบ รอยพระพุ ท ธบาทคู่ ส ลั ก อยู่ บ นศิ ล าแลง ที่ ฝ่ า พระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และ ยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุม สำ�หรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตร หรื อ ร่ ม รอยพระพุ ท ธบาทคู่ นี้ ค าดว่ า สร้ า งขึ้ น ครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับว่าเป็น รอยพระพุ ท ธบาทที่ ใ หญ่ แ ละเก่ า แก่ ที่ สุ ด ใน ประเทศไทย ใกล้กับรอยพระพุทธบาทมีบ่อนํ้า ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุเป็น จำ�นวนมาก นอกจากนัน้ ยังมี สระมรกต เป็นสระนํา้ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่สันนิษฐานกันว่าขุดขึ้นเพื่อ ใช้เป็นแหล่งเก็บนํ้า และได้นำ�ศิลาแลงไปใช้สร้าง สถาปัตยกรรม นอกจากสระมรกตแล้วยังมี สระ บัวหล้า และศูนย์นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรไี ด้ ใช้โบราณสถานสระมรกตแห่งนี้จัดงานมาฆปูรมี

ศรีปราจีน เป็นประจำ�ทุกปี หลั ง จากนั้ น เราก็ เ ดิ น ทางมาที่ อำ � เภอ ศรีมโหสถ เพื่อมาเยี่ยมคุณทวดต้นโพธิ์ ซึ่งว่ากัน ว่าเป็นต้นโพธิ์ต้นแรกของประเทศไทยเลยนะคะ เป็นต้นโพธิ์ในตำ�นานที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ลำ�ต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขา ออกไปกว้างไกลเป็นร่มเงาและให้ความร่มเย็น ไปทั่วบริเวณ ต้นโพธิ์ต้นนี้มีตำ�นานเล่ากันมาว่า เป็นหน่อจากต้นโพธิท์ ส่ี มเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับนั่งบำ�เพ็ญเพียรและตรัสรู้ ต่อมาสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช ภิกษุณีสังฆมิตาเถรี ซึ่งไป เผยแผ่พระพุทธศาสนายังลังกาทวีปพร้อมกับ พระมหินทรเถระ ได้น�ำ เอาหน่อโพธิไ์ ปปลูกยังลังกา และในระยะหลังพุทธศาสนิกชนในบริเวณอืน่ ทีอ่ ยูไ่ กล ก็ได้น�ำ เอาหน่อพระศรีมหาโพธินไ้ี ปปลูกยังท้องถิน่ ของตนเพื่อเป็นพุทธานุสติ และสันนิษฐานว่า ต้นโพธิศ์ รีมหาโพธิตน้ นี้ นำ�หน่อพระศรีมหาโพธิมาจาก เมืองอนุราชปุระ ประเทศลังกา ต้นศรีมหาโพธิน้ี ถื อ ว่ า เป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ข องจั ง หวั ด ปราจี น บุ รี เป็นทีเ่ คารพศรัทธาของชาวปราจีนบุรแี ละจังหวัด ใกล้เคียง บริเวณใต้ตน้ โพธิป์ ระดิษฐานพระพุทธรูป ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ รวมทั้ ง มี รู ป หล่ อ เหมื อ นเจ้ า อาวาส

วั ด ต้ น โพธิ์ ตั้ ง แต่ ส มั ย อดี ต ตั้ ง ตระหง่ า นให้ นักท่องเทีย่ วได้สกั การะ และทางจังหวัดปราจีนบุรยี งั ได้ จัดงานนมัสการเวียนเทียนรอบพระศรีมหาโพธิ ในวันวิสาขบูชาของทุกปีอีกด้วยค่ะ ไหน ๆ เราจะมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์กัน ทัง้ ที ก็ตอ้ งเต็มทีไ่ ปเลยค่ะ แล้วถ้าเราอยากจะรูจ้ กั จังหวัดปราจีนบุรมี ากกว่านี้ เราก็ตอ้ งมาทีน่ เี่ ลยค่ะ 2่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ที่ตั้งอยู บริเวณด้านหลังของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 200 เมตร เป็ น พิ พิ ธ ภั ณ ฑสถาน ประเภทประวั ติ ศ าสตร์ โ บราณคดี ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น เพื่ อ เป็ น ศู น ย์ ร วมของโบราณวั ต ถุ ใ นภู มิ ภ าค ตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง เช่น สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยเน้นการจัดแสดงที่เมืองศรีมโหสถ เป็นหลัก ภายในแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัด แสดงประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี โบราณคดีเมืองนครนายกและนิทรรศการพิเศษ ชั้นบน จัดแสดงศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก โบราณคดี ใต้ นํ้ า รวมทั้ ง เครื่ อ งถ้ ว ยสั ง คโลกที่ พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี และนิทรรศการชั่วคราว โบราณวัตถุส่วนใหญ่ ของที่นี่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครือ่ งใช้ส�ำ ริด จัดแสดงศิลปะสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจนถึงสมัย รัตนโกสินทร์ชว่ งสมัยรัชกาลที่ 5 เพือ่ ประโยชน์ใน happy+ | 81


5

7 5 ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร 6 ตูย้ าโบราณและยาดองสารพัดสูตร 7 ยาดองงูสตู รพิเศษ 82 | happy+

การศึกษาเปรียบเทียบ นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ ส่วนหนึง่ สำ�หรับนิทรรศการชัว่ คราวในโอกาสต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ ถ้าพูดถึงจังหวัดปราจีนบุรีมีสถานที่อีกแห่ง ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสวยทั้งให้ความรู้ ที่ทุกคน รูจ้ กั กันดี นัน่ ก็คอื ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตัง้ อยูท่ โี่ รงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตัวอาคาร เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโรก สีสันสดใส เป็นตึกสองชั้นมีมุขด้านหน้า ตรงกลางเป็นโดม ผนังด้านนอกมีลายปูนปั้น ลายพฤกษาประดับ ซุม้ ประตูและหน้าต่าง ภายในตึกแบ่งออกเป็นหลาย ห้อง แต่ห้องที่ตกแต่งได้งดงามที่สุดคือ ห้องโถง กลางชั้นล่าง ซึ่งยังคงลักษณะการตกแต่งภายใน แบบเดิมอยู่ครบถ้วน ตั้งแต่ลวดลายกระเบื้อง ปูพื้น ภาพเขียนสีปูนเปียกบนเพดาน และลาย ปูนปั้นหัวเสา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายละครและ ภาพยนตร์ย้อนยุคหลายเรื่อง เดินชมความงาม ก็นึกจินตนาการไปว่า เราก็เป็นดั่งคุณหญิงที่อยู่ ในวังที่สวยงาม ปัจจุบันตึกนี้ได้เปิดเป็น “พิพิธภัณฑ์การ แพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร” พิพธิ ภัณฑ์ทรี่ วบรวม องค์ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยไว้อย่าง ครบถ้ ว นและสมบู ร ณ์ ที่ สุ ด แถมยั ง เป็ น แหล่ ง ศึกษาค้นคว้า วิจัยและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ วิ ถี ชี วิ ต ของคนท้ อ งถิ่ นที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ สมุ น ไพร และการแพทย์ท้องถิ่น ชั้นล่างจัดแสดงประวัติ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตำ�นานหมอหลวง การ

6

แพทย์แผนไทย แพทย์พน้ื บ้านและตัวอย่างเครือ่ งมือ เครื่องใช้ทางการแพทย์แผนไทย เช่น ตู้ยา หิน ฝนยา หินชนวน มีดหมอ ห้องนี้แหละค่ะ ที่ฉัน ชอบที่สุด เพราะได้บรรยากาศแบบย้อนยุค มี อุปกรณ์แปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็น เป็นห้องที่ คนนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยนะคะ ชั้นบน จัดแสดงสมุดข่อย หนังสือและตำ�รายา หินบดยา ในอดีตตั้งแต่สมัยทวารวดี ในแต่ละปีมนี กั ท่องเทีย่ วเดินทางมาเยือนทีน่ ี่ มากมายเลยค่ ะ นอกจากจะมาชมความงาม ของสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมาศึกษาดูงานด้าน สมุนไพรและการแพทย์แผนไทยอีกด้วย และถ้า เดินเที่ยวมาทั้งวันแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยตาม ร่างกายละก็ ทีโ่ รงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็มีบริการนวดแผนไทยด้วยค่ะ ทั้งนวดแก้ปวด เมื่อย นวดประคบแก้โรค หรือนวดนํ้ามันบำ�รุงผิว เพื่อความสวยงามด้วยค่ะ มาที่นี่ที่เดียวได้ครบ เลย ทั้งความรู้ สุขภาพ และความเพลิดเพลิน แถมยังมีร้านค้าจำ�หน่ายยาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ และความงาม ที่ ผ ลิ ต อย่ า งได้ ม าตรฐานโดย แพทย์ของทางโรงพยาบาลเอง ผลิตภัณฑ์ของ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนีม่ ชี อ่ื เสียงน่าดู เลยค่ะ มาถึงแหล่งผลิตทั้งที ยอมรับเลยว่าฉัน เหมาผลิตภัณฑ์ดี ๆ กลับไปใช้เยอะเลยค่ะ แต่ว่าจังหวัดปราจีนบุรีไม่ได้มีดีแค่นี้นะคะ ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก แต่จะเป็นที่ไหนนั้น รอ ติดตามกันนะคะ เดี๋ยวฉันจะพาไปเที่ยวใหม่



special day เรื่องและภาพ : TepiN

1 84 | happy+


วันที่เพลงสรรเสริญพระบารมี ดังกึกก้องทั่วท้องสนามหลวง นับตัง้ แต่วนั ทีช่ นชาวไทยสูญเสียพระมหากษัตริยผ์ เู้ ป็นทีร่ กั ยิง่ บริเวณท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวังทีเ่ คยเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเทีย่ ว กลับกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความโศกเศร้า ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมุ่งหน้าไปสู่บริเวณดังกล่าว เพื่อถวายความอาลัยให้แก่ พ่อหลวงของปวงชน

วันเวลาผ่าน แม้ความโศกเศร้าจะค่อย ๆ บางเบา แต่ ค วามคิ ด ถึ ง อาลั ย ไม่ เคยจางหาย กลายเป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของ ประชาชนชาวไทย ทีจ่ ะร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมี เพื่อถวายความอาลัยและระลึกใน พระมหากรุณาธิคุณของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 3 วันที่ 22 ตุลาคม 2559 ฉันไปถึงสนามหลวง ตั้งแต่เช้าตรู่ บริเวณท้องสนามหลวงเริ่มมีผู้คน หนาตา บางคนมากั นตั้ ง แต่ คื นก่ อ น จั บ จอง พื้นที่ให้อยู่ใกล้กับวงออเคสตราและกลุ่มนักร้อง ประสานเสียงให้มากที่สุด นอกจากฉันจะได้เห็น ผู้คนที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อพ่อหลวงแล้ว ฉันยังได้เห็นนํา้ ใจคนไทยทีม่ ใี ห้กนั บางคนมาเป็น จิตอาสาแจกนํ้า แจกข้าว และดูแลคนเจ็บป่วย

ช่ ว งสายของวั น ฝนเริ่ ม ตกลงมา และ หนาเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทุกคนก็ยังปักหลักไม่ไป ไหน จนเข้าสู่ช่วงเที่ยง ฝนหยุดตก เมฆหลบฟ้า พระอาทิตย์สอ่ งแสงจัดแจ้ง ผูค้ นยังคงเดินทางกัน มาไม่ขาดสาย วงออเคสตราและนักร้องประสาน เสียงเริม่ ซ้อมเพลง จากการควบคุมวงโดยอาจารย์ สมเถา สุจริตกุล เสียงร้องประสานคลอไปกับเสียง ดนตรีท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ จนถึงช่วงเวลา 13 นาฬิกา การร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีได้เริ่มขึ้น ผู้คนมากมายอยู่ เต็ ม สนามหลวงจนแทบไม่ เหลื อ ที่ ว่ า ง ทุ ก คน พร้อมใจกันหุบร่มท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด ด้วย หัวใจที่ระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ชูพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือศีรษะ เสียงดนตรีตั้งแต่โน้ต

ตัวแรกจนโน้ตตัวสุดท้ายกลั่นกรองออกมาจาก หัวใจคนไทยนับแสนคน ทุกครั้งที่ฉันได้ฟังเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทัง้ ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ ฉันก็รู้สึกตื้นตันทุกครั้ง แต่ วันนี้กลับต่างออกไป ฉันไม่เคยฟังและร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีครั้งไหน แล้วรู้สึกจุกแน่น ในหั ว ใจเท่ า ครั้ ง นี้ บทเพลงที่ ม าพร้ อ มนํ้ า ตา ที่ไหลริน บทเพลงที่ร้องให้พ่อหลวงจากดวงใจ ความรูส้ กึ ในหัวใจนัน้ มีมากมายกว่าทุกครัง้ ทีผ่ า่ นมา ทุกคำ�ร้องหวนให้นึกถึงพระราชกรณียกิจ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระองค์ทรงครองราชย์ สิ่งที่ทำ�ให้เรายังอาลัย ในตัวพ่อหลวงมิใช่เพียงเพราะพระองค์ท่านเป็น happy+ | 85


พระมหากษั ต ริ ย์ แต่ เป็ น เพราะพระองค์ ท่ า น คือ พระมหากษัตริย์ที่ทำ�ทุกอย่างเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง คนที่ ม าร่ ว มร้ อ งเพลงรอบบ่ า ยบางส่ ว น เริ่มทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ฉันยังคงอยู่ต่อที่ สนามหลวง จนเมือ่ เวลาทีแ่ สงอาทิตย์ยอ้ มท้องฟ้า ให้กลายเป็นสีส้ม ผู้คนที่จะมาร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมีอกี ครัง้ ในรอบคํา่ ก็เริม่ ทยอยกันมา และ ดูเหมือนว่าจะมามากกว่าช่วงบ่ายเสียอีก คลื่น ประชาชนเดินทางมานับแสน บางทีอาจถึงล้าน พื้นที่ในสนามหลวงและท้องถนนรอบ ๆ เรียกว่า เต็มแน่นไปด้วยผู้คนจนไม่เหลือที่ยืน เมื่อแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ฝนก็ตกลง มาอีกครั้ง แต่ไม่สามารถหยุดผู้คนที่ยังคงเดิน 86 | happy+

ทางมาไม่ขาดสาย พอถึงช่วงร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมีเวลา 22 นาฬิกา ทุกคนจำ�เป็นต้องเก็บร่ม ฝนทีต่ กอย่างหนักก็หยุดตกแบบทีเ่ รียกว่าหายวับ ไปกับตา หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ฉันไม่รวู้ า่ มันคือความบังเอิญหรือมันคือปาฏิหาริย์ แต่เหนือ อืน่ ใด สิง่ ทีเ่ รียกว่าปาฏิหาริยอ์ ย่างแท้จริง น่าจะเป็น จำ � นวนผู้ ค นมากมาย ที่ อ ยู่ ใ นสนามหลวง และรอบ ๆ บริเวณ ผู้คนที่หลอมรวมหัวใจเอาไว้ จนเป็นหนึ่งเดียว เที ย นแต่ ล ะเล่ ม ถู ก จุ ด ต่ อ ๆ กั น จนเกิ ด เป็นแสงแห่งความสว่างไสว บทเพลงสรรเสริญ พระบารมีเริม่ ต้นขึน้ อีกครัง้ ในบรรยากาศทีเ่ ปีย่ มไป ด้ ว ยความอาลั ย บทเพลงที่ ร้ อ งขึ้ น เพื่ อ ถวาย พระเกียรติให้แก่พระมหากษัตริย์ เสียงเพลงที่

ถูกเปล่งออกมาดังกึกก้อง บทเพลงจากหัวใจ ชาวไทยทุกคน หลังจากโน้ตตัวสุดท้ายจบลง... ทุกคนยืน สงบนิ่ง เฝ้ามองเปลวเทียนที่สั่นพลิ้วไปตามแรง ลม เสียงขอบคุณจากทีมงานของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ดังแว่วมาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของ คนทีอ่ ยูร่ อบ ๆ ฉันจำ�ไม่ได้วา่ ทีมงานขอให้พวกเรา ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกี่รอบ แต่สิ่งที่ฉันรู้ คือไม่ว่าจะร้องกี่รอบต่อกี่รอบ ความรู้สึกเต็มตื้น ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย สิ่งที่เกิดในวันนี้ ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ ที่ทำ�ให้โลกทั้งโลกรู้ว่า ประชาชนชาวไทย รัก และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของพวกเขา มากมาย...เพียงใด


beauty recommended

happy+ | 87


green corner เรื่องและภาพ : TepiN

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33 หอดูสัตว์หนองผักชี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ทุกครั้งที่ออกเดินทางไปเขาใหญ่ในช่วงหน้าหนาว ก็เพื่อพักผ่อนรับอากาศเย็นท่ามกลางธรรมชาติ และออกไปส่องสัตว์ป่าในช่วงเวลากลางคืน แต่ ครั้งนี้กลับพิเศษกว่าครั้งไหน เพราะพ่วงการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมของค่ายเพาเวอร์กรีน ปีที่ 11 ค่ายเยาวชน วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จัดขึ้นโดยบริษัทบ้านปู จำ�กัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้หัวข้อ การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กับการอนุรกั ษ์แหล่งมรดกโลกอย่างยัง่ ยืน เขาใหญ่เองก็เป็นหนึง่ ในพืน้ ทีม่ รดกโลกของประเทศไทย ทีเ่ ต็มไปด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ เขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย และได้รับสมญานามว่าเป็น อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด 11 อำ�เภอ ได้แก่ อำ�เภอมวกเหล็ก อำ�เภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำ�เภอปากพลี อำ�เภอบ้านนา อำ�เภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก อำ�เภอนาดี อำ�เภอกบินทร์บุรี อำ�เภอประจันตคาม อำ�เภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และอำ�เภอปากช่อง อำ�เภอวังนํ้าเขียว 88 | happy+


จังหวัดนครราชสีมา มีเนื้อที่ปกคลุม 2,168 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชืน้ ป่าดิบเขา ทุง่ หญ้า และป่ารุน่ หรือป่าเหล่า ป่าดงดิบชื้น เป็นที่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด โดย บริเวณป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่มรดกโลก ทางธรรมชาติในประเทศไทยจากยูเนสโก เส้ นทางที่ เราจะเข้ า ไปศึ ก ษาเรี ย กว่ า เส้ นทางศึ ก ษาธรรมชาติ กม.33 – หอดูสัตว์หนองผักชี เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติแบบไม่พักแรม มีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง แม้จะ เป็นระยะทางที่ดูไม่ไกลมากนัก แต่เพราะต้องขึ้นเขาลงห้วย บุกป่าฝ่าดง ดังนั้น ก็ควรเตรียมร่างกายและอุปกรณ์การเดินป่าให้พร้อม ทั้งรองเท้าที่ รัดกุม ใส่แล้วไม่ลนื่ ไปกับดินโคลน นํา้ ดืม่ ปริมาณทีเ่ พียงพอ หมวกสำ�หรับ กันแดด เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวป้องกันการขีดข่วนจากต้นไม้ และใน ช่วงหน้าฝน ถุงเท้ากันทากถือเป็นสิ่งสำ�คัญมาก บริเวณดังกล่าวสามารถ เข้าไปเดินศึกษาได้เองโดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ติดตามไปด้วย ก่อนจะเข้าไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เราได้รับฟังบรรยายจาก เจ้าหน้าที่ และอาจารย์ทมี่ คี วามรูค้ วามเชีย่ วชาญหลากหลายด้าน ทัง้ เรือ่ ง ของแมลง สัตว์ปา่ และระบบนิเวศ จุดเริม่ ต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33 – หอดูสัตว์หนองผักชี อยู่บริเวณถนนระหว่างที่ทำ�การอุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ไปทางลงอำ�เภอปากช่อง 7 กิโลเมตร ระหว่างทางเรา ได้เจอกับเก้งและกวาง ที่เดินออกมาหากินแบบไม่กลัวเกรงรถยนต์ และ คนที่ผ่านไปมา ช่วงต้นของเส้นทางจะเป็นป่าดงดิบแล้ง ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้น กระจายอยู่ ปกคลุมไปด้วยยางเสียน สมพง และต้นไทรใหญ่ ซึ่งเป็น ที่อยู่อาศัยของนกเงือก เราได้ยินเสียงกระพือปีกของนกเงือกบินโผไปมา เป็นระยะ ได้เจอไก่ฟา้ กับกระรอกดงตัวเล็ก ๆ ทีอ่ อกมาหากิน ระหว่างทาง ที่เดินก็เจอรอยเท้าและร่องรอยของสัตว์ที่ผ่านไปมา ทั้งกระทิง ช้าง หมีควาย และหมูป่า บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นจากต้นไม้ที่ขึ้นกันอย่าง หนาทึบ แต่พื้นดินค่อนข้างลื่นเพราะฝนที่ตกไปเมื่อคืน จึงต้องเดินด้วย ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หากมีตน้ ไม้ทสี่ งู ใหญ่และมีความโดดเด่น ก็จะมีการทำ�ป้ายบอกความสำ�คัญเอาไว้ ทัง้ ต้นยางขนาดใหญ่ กะเพราต้น สองต้นที่ถูกขนานนามว่ายักษ์คู่แห่งป่าดงดิบแล้ง ต้นไทรยักษ์ที่มีอายุ

หลายร้อยปี และกลุ่มเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่โอบล้อมรอบต้นไม้ จนดูไม่ออกว่า อันไหนคือเถาวัลย์ อันไหนคือลำ�ต้น เดินไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะขึน้ สูเ่ นินเขา เปลีย่ นจากป่าทึบเป็นทุง่ หญ้า ผ่านโป่งดินขนาดใหญ่ ซึง่ เป็นแหล่งแร่ธาตุส�ำ คัญของสัตว์ปา่ ทีก่ นิ พืชเป็นอาหาร สัตว์ป่าจะลงไปเพื่อกินแร่ธาตุและเกลือแร่ในดิน โดยเริ่มกินที่ผิวดินก่อนแล้ว ค่อย ๆ กินลึกลงไปเป็นบริเวณกว้างไม่เกิน 10 เมตร ข้าง ๆ โป่งคือ หนองนํ้าที่ ชื่อ หนองผักชี เราต้องเดินเลาะเขา และข้ามลำ�ธารไปอีกฝั่งเพื่อไปยังหอดูสัตว์ ขึน้ สูห่ อดูสตั ว์หนองผักชี เป็นหอสำ�หรับส่องสัตว์ทม่ี าดืม่ นํา้ หรือมากินโป่งดิน บริเวณฝั่งตรงข้าม ในวันที่ทุกอย่างเป็นใจ อาจได้เจอทั้งช้าง เก้ง กวาง รวมทั้ง กระทิงด้วย ใช้เวลาที่หอดูสัตว์ประมาณหนึ่งก็ถึงเวลาออกเดินทางกันต่อ เหลือระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก็สิ้นสุดเส้นทางศึกษาธรรมชาติดังกล่าว เพียงแค่สามกิโลเมตรจากพื้นที่กว่า 1 ล้าน 3 แสนไร่ ก็ทำ�ให้เราได้เห็น ระบบนิเวศที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และทำ�ให้เรารู้สึกอยากอนุรักษ์ธรรมชาติ และ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่สืบต่อไป อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

• โทรศัพท์ : 08-6092-6527, 08-6092-6529, 08-6092-6531 • โทรสาร : 0-3735-6037 • อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท happy+ | 89


ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก

สดุดีจอมปราชญ์แห่งแผ่นดิน สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน happy+ ทุกท่าน พบกันอีกครั้งนะครับ ในฉบับนี้ ซึ่งเป็นฉบับที่ผมและเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็คงยังเศร้าโศก เสียใจ ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อันเป็นทีร่ กั ของพวกเราปวงชนชาวไทยทัง้ ผอง อย่างไร ก็ตาม แม้วา่ พระองค์ท่านจะไม่ได้อยู่กบั พวกเราแล้ว แต่ผมก็มนั่ ใจว่าพระราชดำ�ริและพระราชกรณียกิจของพระองค์ทา่ นทีท่ รงเป็นแบบอย่างให้ แก่พวกเราเสมอมา ก็ยังคงติดตรึงในความทรงจำ�ของพวกเราทุกคน ฉบับนี้ ผมจึงขอน้อมนำ�เอาแนวพระราชดำ�ริเกี่ยวกับการเกษตรที่พวกเรา คนเมืองปลูกผัก สามารถนำ�มาปรับประยุกต์ใช้เพื่อการพึ่งพาตนเองมาให้ได้เรียนรู้กันนะครับ มาติดตามกันได้เลยครับ 90 | happy+


ทรงเป็นจอมปราชญ์แห่งการพัฒนาดิน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ท่านทรงพระ ปรีชาสามารถในการพัฒนาการเกษตรในทุกด้าน ซึง่ ในด้านทีเ่ ป็นหัวใจของ การพัฒนา ทีพ่ ระองค์ทรงมีความรู้ เข้าพระทัยอย่างแตกฉานลึกซึง้ ด้านหนึง่ ก็คอื การปรับปรุงดิน ซึง่ พระองค์ได้มงุ่ เน้นไปยังการใช้การปรับปรุงบำ�รุงดิน ด้วยวิธีธรรมชาติอยู่เสมอ ดังแนวพระราชดำ�ริต่าง ๆ ดังนี้ ดินทราย ต้องเพิ่มกันชนให้ดิน ดินทราย มีลักษณะโปร่งนํ้า รากพืช ผ่านไปได้ง่าย ในฤดูแล้งนํ้าในดินจะไม่เพียงพอ ทำ�ให้พืชที่ปลูกใหม่มัก จะตาย เพราะดินร้อนและแห้งจัด ต้องแก้ด้วยการเพิ่มความชื้นและเพิ่ม อินทรียวัตถุ ที่จะทำ�หน้าที่เสมือนกันชนให้แก่ดิน ดินเป็นหิน กรวดและแห้งแล้ง ต้องยึดดินและช่วยให้ชน้ื ดินเป็นหิน กรวด มีลักษณะเดียวกับดินทราย หน้าดินถูกชะล้างเหลือแต่หิน กรวด พืช ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แก้ปัญหาด้วยฝายแม้วตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน เพื่อกักเก็บนํ้าและสร้างความชุ่มชื้นให้ผืนดินผืนป่า มีการปลูกหญ้าแฝก เพื่อยึดดิน ป้องกันการชะล้าง การพังทลายของหน้าดิน ดินดาน ดินแข็งและดินลูกรัง ต้องสร้างของดีซ้อนบนของเลว ดินดาน ดินแข็ง ดินลูกรัง เป็นดินเนื้อละเอียด ฤดูแล้งจะแห้งแข็ง แตก ระแหง นํ้าและอากาศผ่านเข้าได้ยาก รากไม้ยากที่จะชอนไชลงไปในใต้ดิน แก้ปญ ั หาด้วยการสร้างอ่างเก็บนํา้ ตามลำ�นํา้ หลัก ปรับปรุงดินโดยให้ปยุ๋ หมัก ปุ๋ ย พื ช สด ปลู ก พื ช ตระกู ล ถั่ ว แล้ ว ไถกลบ รวมถึ ง การปลู ก หญ้ า แฝก

ขวางแนวลาดเท เพื่อป้องกันดินถูกชะล้าง พังทลาย ดินถูกชะล้าง ช่วยเหลือด้วยกำ�แพงที่มีชีวิต ดินถูกชะล้าง คือ ดินที่ มีหน้าดินอุดมสมบูรณ์ แต่ถกู กระแสนํ้าและลมพัดพาเอาหน้าดินที่มีแร่ธาตุ อาหารต่อการเจริญเติบโตของพืชไป แก้ปัญหาโดยให้ใช้กำ�แพงที่มีชีวิต นั่น ก็คือหญ้าแฝก เพื่อช่วยยึดดินและแก้ปัญหาหน้าดินถูกชะล้างจากรากที่ลึก ของหญ้าแฝกและลำ�ต้นด้านบน ก็จะคอยดักตะกอนหน้าดิน ดินพรุหรือดินเปรี้ยว ต้องทำ�ให้ดินโกรธ โดยแกล้งดิน ดินพรุ เป็น ดินที่มีสภาพนํ้าขัง มีสภาพความเป็นกรดอย่างรุนแรง ไม่สามารถทำ�การ เพาะปลูกได้ ทรงคิดค้นวิธกี ารทีเ่ รียกว่า “แกล้งดิน” ขึน้ โดยการทำ�ให้ดนิ แห้ง และเปียกสลับกันไป เพือ่ ให้ดนิ ปล่อยแร่ธาตุทเี่ ป็นกรดออกมา กลายเป็นดิน ที่มีกรดจัด เปรี้ยวจัด จากนั้นจึงใช้นํ้าชะล้างดินควบคู่ไปกับปูน ซึ่งทรงเรียก ว่า “ระบบซักผ้า” เมื่อใช้นํ้าจืดชะล้างกรดในดินไปเรื่อย ๆ ความเป็นกรดจะ ค่อย ๆ จางลง จนสามารถใช้เพาะปลูก ทำ�การเกษตรได้ ดินเค็ม ต้องล้างความเค็มออก ดินเค็ม คือ ดินที่มีเกลืออยู่ในดินเป็น จำ�นวนมาก พระราชทานแนวพระราชดำ�ริให้ใช้ระบบชลประทานในการล้าง เกลือที่ผิวดิน ให้เกลือเจือจางจนสามารถใช้สอยได้ นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของพระอัจฉริยภาพในการพัฒนาการเกษตรของ พระองค์ท่าน ที่พระราชทานแก่พวกเรา ซึ่งไม่อาจกล่าวถึงได้หมดในฉบับนี้ ขออนุญาตยกยอดไปต่อในฉบับถัดไป พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ happy+ | 91


กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้

แกงส้มเปลือกแตงโม

ทุกครัง้ ทีท่ �ำ แตงโมหน้าปลาแห้ง เราจะได้เมนูเสริมความอร่อยอีกหนึง่ อย่าง ตามแบบคนรุน่ เก่า ทีไ่ ม่ทงิ้ เปลือกแตงโมไว้เป็นขยะกวนใจ แต่จะนำ�มา ทำ�แกงส้ม ทีใ่ ห้ความอร่อยอย่างคาดไม่ถงึ ทีเดียว ทัง้ ยังนำ�นาํ้ ต้มเนือ้ ปลาแห้ง มาทำ�นาํ้ แกงได้อกี เป็นภูมปิ ญ ั ญาทีย่ า่ ยายถ่ายทอดไว้ให้เราอย่างสวยงาม 92 | happy+


• • • • • • • • • • • • • •

เปลือกแตงโม 1 ถ้วย ปลาสลิดแดดเดียว 2 ตัว นํ้าต้มเนื้อปลาช่อนแห้ง 2 ถ้วย หนังและก้างปลาช่อนแห้ง 1 ตัว หอมแดง 1/2 ถ้วย พริกแดงดอกใหญ่แห้ง 10 ดอก พริกขี้หนู 10-20 ดอก กระชาย 5-8 แง่ง ดอกเกลือ 1 ช้อนชา นํ้าตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ นํ้าปลา 1 ทัพพี (3 ช้อนโต๊ะ) นํ้ามะขามเปียก 1/2 ถ้วย กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ นํ้ามันรำ�ข้าว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ�แกงส้มแบบง่าย ๆ 1. หั่นพริกแดงเป็นท่อนสั้น ๆ แช่นํ้าให้นิ่ม แล้วตักขึ้นสะเด็ดนํ้า 2. ซอยหอมแดง กระชาย แค่หยาบ ๆ โขลกพร้อมกับพริกแห้ง พริกขี้หนูสด เมื่อแหลกดี ค่อยเติมกะปิและดอกเกลือ เป็นเครื่องแกงส้มแบบง่าย ๆ 3. ย่างปลาสลิดแดดเดียว แกะเอาแต่เนื้อ ขยี้เป็นชิ้นหยาบ 4. ตั้งหม้อ ใส่นํ้าต้มปลาแห้งและหนัง ก้างปลา พอนํ้าเดือดสักพัก ยกลง กรองเอาก้างและ หนังออก 5. ผัดเครื่องแกงส้มกับนํ้ามันสักหนึ่งช้อนโต๊ะ แล้วค่อยเติมนํ้าต้มปลาที่เตรียมไว้ พอนํ้าแกง เดือด จึงใส่เนื้อปลาสลิด 6. ปรุงรสนํ้าแกงด้วย นํ้าตาล นํ้าปลา มะขามเปียก ให้รสเข้มสักหน่อย 7. ปอกเปลือกแตงโมสีเขียวเข้มออก เหลือแต่เนือ้ ติดเปลือกสีขาวเรือ่ แดง หัน่ ซอยเป็นชิน้ เล็ก แล้ว จึงใส่ในนํา้ แกงส้ม ต้มไปนานพอควร เพือ่ ให้เปลือกแตงโมซับเอานํา้ แกงไว้จนอิม่ เนือ้ เปลือกแตงโม จะนิ่มและสีใสกว่าตอนดิบ 8. บางครัวชอบที่จะตอกไข่เป็ดแล้วตีไข่ให้พอเข้ากัน โรยในนํ้าแกงส้ม เพิ่มความกลมกล่อม อีกระดับ แกงส้มเปลือกแตงโม เป็นอาหารพื้นบ้านที่มีเสน่ห์และแสดงถึงความรู้รอบในครอบครัวของ คนเก่าแก่ ไม่ใช่เรื่องของความประหยัดเท่านั้น แต่เป็นความสามารถในการพลิกแพลงของเหลือ จากอาหารชนิดหนึ่งเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งได้อย่างน่าทึ่ง เป็นการกินอยู่อย่างรู้คุณค่าของวัตถุดิบ เคารพในธรรมชาติ และถนอมสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน จากนํ้าแกงเพียงถ้วยเดียว happy+ | 93


ชวนชิม เรื่อง : Bella / Nasry ภาพ : TepiN

Panda Master สำ�หรับคนรักชาบูไม่ควรพลาดกับร้าน Panda Master ที่ผสมผสานรสชาติดั้งเดิมของชาบูจากฮ่องกงเข้ากับความ • 117/1 โครงการโคโค่วอล์ก ห้อง ละมุนละไมอย่างไทย จนเกิดเป็นความอร่อยที่ลงตัว ด้วยนํ้าซุปคุณภาพที่มีให้เลือกถึง 5 อย่างด้วยกัน ซุปหมาล่า 4.4 (BTS ราชเทวี ทางออก 2) รสชาติเข้มข้นถึงใจจากเครื่องเทศฮ่องกง, ซุปโจ๊ก สูตรพิเศษผสมข้าวบาร์เลย์, ซุปสะเต๊ะ, ซุปเห็ดหอม และซุปสมุนไพรจีน ถนนพญาไท ราชเทวี กทม. 10400 ทานคู่กับซอสแพนด้า ที่มีรสเปรี้ยวจากซิตรัสผสานกับความหวานจากหอมสดซอยและกระเทียมเจียว ตัดเลี่ยน เข้าคู่ • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12.0022.00 น. กับเนื้อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีนํ้าจิ้มสุกี้และนํ้าพริกฮ่องกงฟิวชั่นให้เลือกรับประทานอีกด้วย นอกจากบุฟเฟต์ชาบูแล้ว ที่ร้าน Panda Master ยังมีเมนูที่น่าสนใจให้ได้ลิ้มลองอีกหลายเมนู เช่น เฟรนช์ฟราย • เบอร์ตดิ ต่อ : 08-6369-0390 ผักทอด เมนูแนะนำ�ห้ามพลาด สลัดหมาล่า อร่อยและได้ประโยชน์ กุ้งเกาลูน กุ้งตัวโตผัดซอสเสิร์ฟพร้อมข้าว ผัดกระเทียมร้อน ๆ แพนด้าเปาจึ๊ทอดกรอบ ทานคู่กับนํ้าจิ้มรสเด็ด ไก่ลุยกระเทียมกรอบ 3 รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว เค็ม หวาน และปิดท้ายด้วย นํ้าฟักขาว รสอ่อนที่มาพร้อมกลิ่นหอมนวล ๆ ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งร้าน Panda Master ดูอบอุ่นเหมาะสำ�หรับการมาสังสรรค์แบบครอบครัวหรือปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง มาหลายคนยิ่งเพิ่ม รสชาติความอร่อยให้มากขึ้น รับรองว่ามาที่ร้านนี้แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ 94 | happy+


IZAKAYA TARO นาคนิวาส 7

• ร้านอิซากายะ ทาโร่ (Izakaya Taro) หยุดทุกวันจันทร์ เปิด บริการ 17.00-24.00 น. ตั้ง อยู่ ที่ 148 ถนนนาคนิ ว าส แขวง/เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10310 โทร. 08-8088-7800 www.facebook.com/ tarotaroizakaya

อิซากายะ ทาโร่ (Izakaya Taro) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวกินดื่ม ถือเป็นร้านที่มีความเป็นต้นตำ�รับสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ทั้งการตกแต่งอย่างมีสไตล์จากลังเครื่องดื่มสีสันสดใส ที่ให้อารมณ์ญี่ปุ่นแบบสุด ๆ รวมถึงเมนูต่าง ๆ ที่อร่อยถึงรสชาติ ความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งทางร้านจะพิถีพิถันในเรื่องวัตถุดิบ การปรุงและการเสิร์ฟ เหมาะกับหนุ่มสาววัยทำ�งาน ที่อยากหาเวลามานั่งกินดื่มสบาย ๆ เมนูแนะนำ�ของร้านนีค้ อื ไก่ทอดคาราเกะ สูตร Kyushu เมืองนัตคัตสึ จานนีใ้ ช้ไก่สว่ นสะโพกล้วน ๆ ชิน้ ใหญ่ลน้ คำ� แบบขีดสุด ผิวกรอบมีรสเค็มเข้าเนื้อชุ่มฉํ่า โดดเด่นด้วยสูตรการปรุงในแบบเฉพาะตัว สเต๊กลูกเต๋าเนื้อหมูด�ำ ผัดโชยุ เนื้อหมูหั่นเต๋าพอดีคำ�ผัดกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ทำ�ให้รสชาติอร่อยไม่ซํ้าใคร ทงเปยากิ (Tonpei Yaki) อาหารประจำ�ท้องถิ่นของโอซาก้า ที่ไม่ได้ เป็นแค่ไข่เจียวธรรมดา แต่มีหมูสามชั้นกับนํ้าซอสหวานอมเปรี้ยวราดด้วยมายองเนส ข้าวหน้าเนื้อ (Yaki Niku Don) สัมผัสความนุ่มจากเนื้อวัวออสซี่ 100 เปอร์เซ็นต์ ทีเ่ ข้ากับซอสรสกลมกล่อมกำ�ลังดี ทานกับกิมจิแก้เลีย่ น ได้รสชาติสไตล์ญปี่ นุ่ แท้ ๆ ปิดท้ายด้วย สุกเี้ นือ้ สไตล์คนั ไซ ทีเ่ สิรฟ์ กับเนือ้ วัว เต้าหูก้ อ้ น ไข่ไก่ นํ้าซุปรสเด็ด ในหม้อไฟเล็ก ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยไม่มีที่ติ รับรองว่าใครได้มาลิ้มลองจะต้องติดใจ happy+ | 95


ชวนดูหนัง เรื่อง : Bella

ยามซากุระร่วงโรย 5 Centimeters per Second ผลงานแอนิเมชัน่ เรือ่ งเยีย่ มลำ�ดับที่ 3 ของผูก้ �ำ กับ มาโคโตะ ชินไค ผูถ้ า่ ยทอดห้วงเวลาแห่งความเหงาไว้อย่างลงตัวงดงาม จนได้รบั การยกย่องให้เป็น มิยาซากิ คนต่อไป (ฮายาโอะ มิยาซากิ ผูก้ �ำ กับภาพยนตร์แอนิเมชัน่ ในตำ�นานของสตูดโิ อ จิบลิ) ผลงานเรือ่ งนีข้ องเขากวาดรางวัลมาแล้วมากมายจากหลาย เวที รางวัลชนะเลิศ Best Animated Feature Film ในงาน Asia Pacifif Screen Awards ปี 2550 ประเทศออสเตรเลีย และรางวัล Lancia Platinum Grand Prize ในงาน Future Film Festival ปี 2551 ประเทศอิตาลี เรือ่ งราวในภาพยนตร์ถกู แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา 3 ตอน ซึง่ แสดงให้เห็นถึงการเดินทาง ระยะห่าง การก้าวเดินไปข้างหน้า และการจมอยูก่ บั ความหลัง ถูก ถ่ายทอดออกมาอย่างอบอุน่ ลึกซึง้ กินใจกับทุกรายละเอียดของภาพทีน่ �ำ เสนอออกมา ทุกองค์ประกอบเรียบง่าย แต่คมคายถูกร้อยเรียงลงในภาพยนตร์เรือ่ งนี้ อย่างลงตัว เต็มเปีย่ มไปด้วยมนต์ขลังและเสน่หต์ ราตรึงใจ บวกกับเพลงประกอบภาพยนตร์ทม่ี คี วามไพเราะ เข้ากับอารมณ์ของแต่ละช่วงเวลา ทำ�ให้ภาพยนตร์ ยามซากุระร่วงโรย ขึน้ แท่นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน่ ทีค่ วรดู เหมาะสำ�หรับทุกคนทีย่ งั คงมีความเหงาซ่อนอยูล่ กึ ๆ ภายใน 96 | happy+


เรื่อง : วราภรณ์ วัชรานนท์ ภาพ : TepiN ชวนอ่านสานสุข

สุดรักลวงใจ / เรือ่ ง : ณพรรษธ์สรฌ์ / สำ�นักพิมพ์ : แค่รจู้ ติ วิทยาเบือ้ งต้น ก็เข้าใจความมหัศจรรย์ ลด โละ ละ 2 : เลือกทิง้ เลือกเก็บ / เรือ่ ง : Sugar Beat / ราคา : 390 บาท ของจิตใจคน / เรือ่ ง : ซายาโกะ อุเดดะ / แปล : Suzuki Junko / แปล : อังคณา รัตนจันทร์ / เรือ่ งราวความรักสุดฟินระหว่าง ‘หวง หัศวรรช’ ธนาคาร เลิศเทอดสกุล / สำ�นักพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์ : อินสปายร์ / ราคา 165 บาท เพลย์ บ อยชื่ อ ดั ง ผู้ ไ ด้ รั บ ฉายาว่ า ‘เสื อ หวง’ ไดฟุกุ / ราคา : 129 บาท เชื่ อ หรื อ ไม่ ว่ า แค่ ก าร ‘ทิ้ ง ข้ า วของ’ ที่ เมือ่ เขาได้ตกหลุมรัก ‘ลูกพลับ พรรณพัตรา’ ตัง้ แต่ แรกเห็น และเธอยังเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่เขา หลงรักในวัยเด็กอีกด้วย แต่รักครั้งนี้คงไม่ง่าย ซะแล้ว เมื่อเธอคนนี้ทั้งสวย รวยเสน่ห์ แถมยัง ฉลาดใช่ยอ่ ย แบบนีเ้ ขาจะใช้วธิ ใี ดมัดใจเธอกันละ มาละลายไปกับความน่ารักและแรงหึงโหดของ เสือหวงได้ใน ‘สุดรักลวงใจ’ เล่มนี้ค่ะ

หนังสือที่นำ�เสนอการทดลองจำ�นวนหนึ่ง โดยใช้หลักจิตวิทยาเบือ้ งต้นเข้ามาช่วยไขปริศนา ต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำ�วันของมนุษย์ เช่น มองสิ่งเดียวกัน แต่เห็นต่างกัน, คนเราอ่อนไหว ต่อสิ่งที่ “คล้ายกับทารก”, “การคิดไปเอง” เป็น ยาที่มีฤทธิ์วิเศษ ฯลฯ นำ�เสนอในรูปแบบของ การ์ตูน ผู้อ่านจะได้ทั้งความรู้และเพลิดเพลิน ไปกับเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างที่ไม่เคยสังเกต นาคี / เรือ่ ง : ตรี อภิรมุ / สำ�นักพิมพ์ : โพสต์บกุ๊ ส์ / มาก่อน แล้วคุณจะเข้าใจความมหัศจรรย์ของ ราคา : 495 บาท จิตใจคนมากขึ้นเลยละค่ะ นวนิ ย ายที่ ส ร้ า งเรื่ อ งราวขึ้ นจากตำ � นาน ความเชื่ อ เรื่ อ งพญานาคของคนไทยทางภาค COINED เงินเปลีย่ นโลก / เรือ่ ง : Kabir Sehgal / อีสาน โดยเป็นเรื่องของความรักข้ามภพระหว่าง แปล : วนาลี เศรษฐกุล / สำ�นักพิมพ์ : ‘คำ�แก้ว’ หญิงสาวผู้มีชาติกำ�เนิดอันลึกลับ กับ โพสต์บกุ๊ ส์ / ราคา : 395 บาท ‘ทศพล’ หนุ่มนักศึกษาโบราณคดี ที่ได้กลับมา เคยสงสัยกันไหมคะว่าเงินเข้ามามีบทบาท พบกั น อี ก ครั้ ง หนึ่ ง ณ หมู่ บ้ า นดอนไม้ ป่ า สำ�คัญในชีวิตของมนุษย์ได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้ ผูเ้ ขียนเล่าเรือ่ งด้วยภาษาอ่านง่าย ได้อรรถรส ใครที่ จะพาคุ ณ ย้ อ นเวลาไปหาคำ � ตอบทุ ก ข้ อ สงสั ย ชอบอ่านเรื่องระทึกขวัญ สุดตื่นเต้น ‘นาคี’ ก็เป็น เกีย่ วกับเงิน ตัง้ แต่ตน้ กำ�เนิดด้านแนวคิด ไปจนถึง อีกเรื่องหนึ่ง ที่รับรองว่าสนุกจนวางไม่ลงเลยค่ะ วิวัฒนาการของเงินผ่านแขนงวิชาต่าง ๆ อย่าง ลึกซึ้ง เช่น ประวัติศาสตร์ ชีววิทยา จิตวิทยา มานุษยวิทยาและเทววิทยา ฯลฯ นำ�มาเรียบเรียง ด้วยภาษาเข้าใจง่าย อ่านสนุกและชวนติดตามได้ เป็นอย่างดี ผู้อ่านจะได้เห็นมุมมองที่หลากหลาย ของเงินจากหนังสือเล่มนี้แน่นอนค่ะ

ไม่จ�ำ เป็น ก็สามารถทำ�ให้ชวี ติ ของคุณสดใสขึน้ มาได้ ทันตา การ์ตูน How To ชุด “ลด โละ ละ” เล่ม 2 “เลือกทิ้งเลือกเก็บ” ได้นำ�แนวคิด “ลด โละ ละ” หรือ “ดันชะริ Dan-Sha-Ri” จากญีป่ นุ่ ทีใ่ ช้ได้ผลจริง มารวมไว้ให้คุณได้ลองทำ�ตาม ซึ่งจะช่วยให้คุณ มีแรงบันดาลใจในการจัดการกับสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ใช้แล้วได้ง่ายขึ้นและฝึกการไม่ยึดติดกับวัตถุ เพียงแค่เลือกทิง้ และเลือกเก็บอย่างเข้าใจ หนังสือ เล่มนี้จะเป็นตัวช่วยของคุณค่ะ

The Manual - V.C.P very . craft . people : คน . งาน . มือ / เรือ่ ง : ภัทรสิริ อภิชติ / สำ�นักพิมพ์ : บ้านและสวน / ราคา : 369 บาท

หนังสือที่รวมเรื่องราวของคนที่ทำ�งานฝีมือ ผ่ า นบทสั ม ภาษณ์ จ ากการใช้ ชี วิ ต อยู่ กั บ การ ทำ � งานมื อ ในรู ป แบบต่ า ง ๆ แม้ ว่ า งานนั้ นจะ สามารถสร้างธุรกิจได้หรือไม่ ผู้อ่านจะได้เห็น ทั ศ นคติ ข องบุ ค คลต่ อ การสร้ า งสรรค์ ง านมื อ อันเป็นทีร่ กั จุดเริม่ ต้นในการทำ�งานทีต่ อ้ งใช้ทกั ษะ และการฝึ ก ฝน กว่ า จะออกมาเป็ นงานมื อ ที่ มี ความประณีต สวยงาม หนังสือเล่มนีจ้ ะช่วยส่งต่อ ความรู้สึกดี ๆ ของคนทำ�งานมือไปถึงผู้อ่านได้ อย่างประทับใจจริง ๆ ค่ะ happy+ | 97


horoscopes

พยากรณ์ เดือนธันวาคม 2559

สวัสดีคณ ุ ผูอ้ า่ นนิตยสาร happy+ ทุกท่านครับ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” พ่อหลวงของปวงชน ชาวไทย ผมได้มีโอกาสรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน ณ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ อันเป็นแรงบันดาลใจทีท่ �ำ ให้ผมมีพลังใจในการดำ�เนินรอยตามพระยุคลบาท และผมยังได้ มีโอกาสร่วมเป็นพิธกี รในสารคดี “ภูมพิ ลังแผ่นดิน” ได้ระลึกถึงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทีเ่ ป็นทัง้ วิธี คิดและวิธกี าร ใช้ความรอบรู้ มีเหตุมผี ล พอเพียงของพ่อหลวง เป็นการสร้างภูมคิ มุ้ กันให้ชมุ ชนเข้มแข็ง พ่อสร้างรากฐานของแผ่นดินให้เติบโตอย่างมัน่ คงด้วยแนวคิด คำ�สอนและพลังของพ่อแห่งแผ่นดิน พระท่านเทศน์ไว้วา่ คำ�ว่า พระเจ้าอยูห่ วั ในพระบรมโกศ ทรงอยู่เหนือหัวเรา ถึง 3 หัว 1. หัวนอน 2. หัวคิด 3. หัวใจ พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า ที่ของข้าพเจ้าในโลกใบนี้คือ ที่ที่ข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางประชาชน ของข้าพเจ้า พระองค์ท่านไม่ได้ไปไหนเพราะอยู่ที่ใจคนไทยทั้งประเทศ ผมรู้สึกโชคดีที่ได้เกิดบนแผ่นดินนี้ เชื่อว่าคนไทยทั้งแผ่นดินก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เรา จะร่วมกันดำ�เนินตามรอยเท้าของพ่อ ร่วมกันเปลี่ยนนํ้าตาเป็นนํ้าใจ เปลี่ยนความทุกข์ใจให้เป็นพลัง เพื่อที่จะดูแลรักษาบ้านที่พ่อรักและปกปักรักษาไว้เพื่อ พวกเรา เป็นกำ�ลังใจให้กับผู้อ่านทุกท่านครับ สำ�หรับท่านที่ติดตามหนังสือพยากรณ์ชะตาชีวิตปี 2559 ตอนนี้มีวางจำ�หน่ายที่ 7-Eleven และร้านหนังสือชั้นนำ�แล้วนะครับ และสามารถติดตามผม ได้ที่ Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : KHATHA_CHINBUNCHORN ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกันนะครับ ฉบับนี้ผมขอลาไปก่อน ติดตามผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. รายการแม่บ้านประจัญบาน ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00 น. Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : KHATHA_CHINBUNCHORN ครับ 98 | happy+


เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร

ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) “ไพ่ The Emperor” การทำ�งานก้าวหน้ามาก ยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องประสานกับบุคคลภายนอก งานต่างประเทศ คุณจะมีข่าวดี มีโอกาสใหม่ ๆ ให้คุณได้ลอง การเงินเนื่องจากงานเด่น เงินก็ พลอยดีไปด้วย ทำ�ให้คณ ุ หลงระเริงใช้เงินฟุม่ เฟือย ช่วงปลายเลยต้องมานัง่ กระเหม็ดกระแหม่ ความรัก เจ้าเสน่ห์ ใครพบเห็นก็ชอบความน่ารัก มีไหวพริบ ของคุ ณ หว่า นเสน่ห์ ได้เต็ มที่ แต่ถ้า เป็น เรื่อง แฟน คุณขี้หึงเอามาก ๆ สุขภาพมวนท้อง ควร ทานอาหารให้เป็นเวลานะครับ

ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) การทำ�งานคิดจะทำ�คนเดียวคงจะยาก ช่วงนี้ ต้องอาศัยพึ่งพาผู้อื่นเป็นสำ�คัญ จะทำ�อะไรต้อง นึกถึงใจเขาใจเรา ต้น ๆ งานมีอปุ สรรค ช่วงปลาย ไปแล้วถึงจะรุดหน้า มีคนหยิบยื่นโอกาสมาให้ การเงินเพราะความขีใ้ จอ่อน ทำ�ให้ตอ้ งเสียเงินไป โดยไม่เกิดประโยชน์ “ไพ่ The Chariot” ความรัก ไม่ค่อยจะได้เรื่อง คนรักไม่เคยรู้ใจเอาเสียเลย คนโสดมาแรงกว่า ได้เจอคนรู้ใจจากการเดินทาง ความสั ม พั น ธ์ รุ ด หน้ า รวดเร็ ว สุ ข ภาพระวั ง ของมีคมจะทำ�ให้เสียเลือด

ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) การทำ�งานมีโอกาสรู้จักกับคนมีชื่อเสียง ได้ รับความรู้เพิ่มเติม สามารถเอามาประยุกต์ใช้กับ ชีวติ ประจำ�วัน นำ�ความก้าวหน้ามาสูต่ วั เอง ช่วงนี้ ถ้ามีไอเดียเด็ด ๆ ให้รบี ลงมือทำ� การเงินพุง่ กระฉูด มีชอ่ งทางในการหารายได้เพิม่ ขึน้ ลงทุนอะไรก็ได้ คืนทุนอย่างรวดเร็ว ช่วงปลายมีลาภปากอีกด้วย “ไพ่ 3 ถ้วย” ความรักมีการเลี้ยงฉลอง ได้รับ ข่าวดีจากคนใกล้ชดิ คูท่ ดี่ ใู จกันอยูจ่ ะได้ลงเอยกัน คนโสดมี พ่ อ สื่ อ แม่ ชั ก คงได้ ส ละโสดกั น เสี ย ที สุขภาพนอนไม่พอ เพลีย

ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) “ไพ่ 10 คทา” การงานวุน่ วาย มีทงั้ เรือ่ งขัดแย้ง กับผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาม รวมถึงเนื้องานด้วย ช่วงกลางลงมางานล้นมือ ต้องช่วยเหลือตัวเอง การเงินไม่เข้าใครออกใคร จะทำ�อะไรต้องคิดให้ดี มีโอกาสทีจ่ ะผิดใจกันสูง ปฏิเสธอะไรได้กใ็ ห้รบี ทำ� ไปก่อน ความรักไม่ค่อยมีเวลาให้กัน จนเกิดเรื่อง คาใจ เข้าใจผิด หาเวลาสะสาง แบ่งเวลาให้กนั บ้าง คนโสดยังไม่มีวี่แวว มักจะแอบรักเขาข้างเดียว มากกว่ า สุ ข ภาพไม่ ค่ อ ยสบายบอกไม่ ถู ก ระวังอาหารการกิน

ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) การทำ�งานเริม่ ไม่เข้าที มีคนคอยชักใบให้เรือเสีย ระหว่ า งนี้ คุ ณ เริ่ ม อยู่ ในช่ ว งขาลง เสนอความ คิดเห็นอะไรก็มักถูกปฏิเสธ ใจเย็นเอาไว้ก่อน ผลีผลามไปก็ไม่เกิดประโยชน์ คอยดูทที า่ คูแ่ ข่งไป ก่อน การเงินมีค่าใช้จ่ายเยอะ ช่วงนี้อาจต้องขุด เอาเงินเก็บออกมาใช้จา่ ยบ้างแล้ว ความรักเดีย๋ วดี เดี๋ยวร้าย ความอ่อนไหวทำ�ให้คิดมากเกิดปัญหา ทุกที คนโสดคนทีแ่ อบรักดันมีเจ้าของ คนทีไ่ ม่ชอบ ก็มาตื๊อให้รำ�คาญ “ไพ่ The Moon” สุขภาพไม่ดี เอาเสียเลย ดูแลตัวเองให้มาก ๆ

ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) “ไพ่ 9 คทา” การงานมี ก ารโยกย้ า ย เปลี่ยนแปลง คุณที่อยากเปลี่ยนงานลองส่งใบ สมัครดูยังมีโอกาส ความขยัน ความเอาใจใส่ จะทำ�ให้ผู้บังคับบัญชาเห็นใจ การเงินหมุนเวียน คล่อง มีช่องทางในการหารายได้หลายทาง และ ช่วงนี้แรงฮึดสูง แต่ต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนร่วม จะเกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ ความรัก เป็นที่ปรึกษา เป็นกำ�ลังใจที่ดี มีแง่งอนกันบ้าง เล็กน้อยช่วงปลาย คนโสดต้องขยันเดินทาง มี โอกาสพบคนถูกใจ สุขภาพปวดหลัง ปวดกระดูก

ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) “ไพ่ 7 คทา” การทำ�งานมีการสอบการ แข่งขัน ที่คุณเองก็ไม่เป็นรองใคร เพียงแต่ต้องใช้ ความพยายามให้เต็มที่ งานอาจจะเหนื่อย แต่ถ้า ทำ�มันสำ�เร็จได้ ผลตอบแทนก็นบั ว่าคุม้ ค่า การเงิน มาจากนํา้ พักนํา้ แรง ยิง่ ขยันมากเท่าไร ก็ยง่ิ มีเงินเก็บ เงินใช้มากขึ้นเท่านั้น ความรักอ่อนไหวง่าย ใคร ผ่านเข้ามาหัวใจคุณก็หวั่นไหวเสียแล้ว คนโสด ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีคนรักแล้วต้องระวังหน่อย เรือ่ งจะบานปลาย สุขภาพทีเ่ จ็บป่วยจะทุเลาดีขนึ้ หมั่นออกกำ�ลังบ่อย ๆ

ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) การทำ�งานต้น ๆ ทำ�ให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้อง มานั่งเสียใจภายหลัง ช่วงกลางมีการโยกย้าย เปลี่ยนแปลงเรื่องงาน นับว่าหนักหนาพอควร ปลาย ๆ เหนื่อยที่สุด บริวาร เพื่อนร่วมงานกดดัน คุณ การเงินใช้เงินเก่งตามเคย ช่วงนี้ได้มือซ้าย จ่ายมือขวา หนักไปในเรื่องเดินทาง ท่องเที่ยว ความรักมาแบบรวดเร็ว ร้อนแรง แต่ไม่ยั่งยืน อย่าไปคาดหวังอะไรกับมันมาก ถ้ามีคนรักแล้ว ช่วงนี้จะมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มรสชาติ “ไพ่ 8 ดาบ” สุขภาพอ่อนแอ มีคนจ้องเล่นงาน

ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) การทำ�งานช่วงต้น ๆ เจอแต่งานยาก ปัญหา สารพัด แต่ยังโชคดีที่มีคนมาช่วย เพศตรงข้ามที่ อายุมากกว่าจะช่วยเหลือคุณได้ การเงินมีคนนั้น คนนีม้ าขอให้คณ ุ ช่วยตลอด เอาเป็นว่าช่วยแบบที่ ตนเองไม่เดือดร้อนก็ไม่มีปัญหา โชคลาภมักเป็น สิ่งของมากกว่า “ไพ่ 7 ดาบ” ความรักแอบรัก แอบชอบ มีทั้งทุกข์ทั้งสุข ช่วงนี้ยังไม่เหมาะที่จะ เผยความในใจ ถ้ามีคนรักแล้ว หาเวลาไปเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศก็ช่วยให้รักสดชื่น สุขภาพเจ็บ หน้าอกและปวดท้องบ่อย

ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) การทำ�งานไม่ได้ดังใจ เพื่อนร่วมงานคอย เกี่ยงงานกัน ไม่ค่อยช่วยเหลือกัน ด้วยความที่ คุณไม่ชอบมีปากมีเสียงก็เลยต้องอดทนมากทีส่ ดุ การเงินไหลออกมากกว่าเข้า หวังอยากได้อะไรก็ ยังต้องรอ โชคลาภจะมาจากการเดินทาง ความรัก งอนกั น บ่ อ ย ลองลดทิ ฐิ แ ละใช้ ลู ก ตื๊ อ ลู ก ง้ อ ดู รับรองรักสดใส คนโสดปิง๊ กันแบบสายฟ้าแลบ ถ้า ไม่จริงจังก็นบั ว่ามีความสุขดี “ไพ่ 4 ถ้วย” สุขภาพ มี อ าการเจ็ บ คอต่ อ เนื่ อ ง พยายามพั ก ผ่ อ นให้ เพียงพอ ดื่มนํ้าเยอะ ๆ

ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) การทำ�งาน อยากเปลีย่ นอยากลองสิง่ ใหม่ ๆ ช่วงกลางพอมีโอกาสเข้ามาบ้าง งานต่างประเทศ งานท่องเที่ยวมีความก้าวหน้า ถ้ามีปัญหาช่วงนี้ ลองปรึกษาผู้ใหญ่ดูจะได้คำ�ตอบ การเงินที่กำ�ลัง คาดหวังเงินก้อน มีโอกาสสูงทีเดียว ช่วงนี้การ เดินทางยังคงนำ�พาลาภมาให้เช่นเคย แต่ช่วง ปลายจะใช้จ่ายเงินมากขึ้น “ไพ่ The Hermit” ความรั ก ยั ง เหงา ๆ สั บ สนในตั ว เอง คนโสด คงต้องหากันต่อไป ถ้ามีคนรักแล้วเป็นอะไรทีต่ อ้ ง ศึกษากันใหม่ สุขภาพปวดหลัง กระดูก

ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) การทำ�งานในช่วงต้น ๆ นับว่าดีมาก ๆ ยิ่ง งานด้านอสังหาริมทรัพย์ ทีด่ นิ มีผลกำ�ไรเป็นกอบ เป็นกำ� คำ�พูด การเจรจาประสบความสำ�เร็จ แต่ ในช่วงกลางอาจมีการเปลีย่ นแปลงให้พยายามหา ที่ยึดเกาะไว้ก่อน ผู้ใหญ่จะช่วยเหลือคุณได้ การ เงินช่วงต้น ๆ มีโชคลาภ เงินทองเฟื่องฟู แต่ต้อง รู้จักเก็บรู้จักใช้ด้วย ความรักคนโสดพบรักกับ คนอายุมากกว่า อย่ารีบร้อน ถ้ามีคนรักแล้วได้ เที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ สุขภาพระวังโรค ความดัน โรคตับ โรคไต อย่าทานเค็ม happy+ | 99


กิจกรรมนำ�สุข

วิเคราะห์บญ ั ชีการเงินแบบรอบด้านสูก่ ารวางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ กับหลักสูตร Holistic Finance for The Boss

สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI ได้เปิดหลักสูตร Holistic Finance for The Boss รุ่นที่ 6 ขึ้น ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 โดยได้รบั เกียรติจาก อ.สุรพล โอภาสเสถียร เป็นวิทยากรให้ความรูใ้ นหัวข้อสัมมนา “การบริหารบัญชีการเงินจะขับเคลือ่ นธุรกิจได้อย่างไร” เพือ่ ให้ ผู้ บ ริ ห ารจากหลากหลายธุ ร กิ จ ที่ เข้ า ร่ ว มสั ม มนาได้ เข้ า ใจถึ ง โครงสร้ า งการบริ ห ารการเงิ น อย่ า งครอบคลุ ม และใช้ ได้ จ ริ ง ทั้ ง ยั ง ได้ รั บ เกี ย รติ จ าก อ.พิเชษฐ์ เวชสุภาพร เป็นวิทยากรให้ความรูใ้ นหัวข้อสัมมนา “ยุทธศาสตร์ธรุ กิจกับการบริหารบัญชีการเงิน” เพือ่ ชีแ้ นะแนวทางและโอกาสในการบริหารธุรกิจ ให้เติบโตและยั่งยืน เป็นเทคนิคเพื่อการเรียนรู้แบบเจาะลึกและแลกเปลี่ยนกรณีศึกษาทางธุรกิจซึ่งกันและกันในหลักสูตร นอกจากนี้ สถาบัน MPI ยังมีหลักสูตรต่าง ๆ ทีน่ า่ สนใจเพือ่ พัฒนาทักษะการบริหารธุรกิจให้มคี วามเพียบพร้อม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิม่ เติม ได้ที่ 0-2168-7243-7, 09-1818-2288-90 หรือติดตามข่าวสารทางธุรกิจที่ www.trainingmpi.com และเฟซบุ๊ก Training MPI

วาโก้ มอบเงินบริจาค 1 ล้านบาท แก่มูลนิธิสถาบัน มะเร็งแห่งชาติ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมยากไร้

สมพงษ์ รัศมีธรรม กรรมการบริหาร บริษทั ไทยวาโก้ จำ�กัด (มหาชน) อินทิรา นาคสกุล ผู้จัดการส่วนการตลาดผลิตภัณฑ์วาโก้ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชัน่ แนล จำ�กัด (มหาชน) ร่วมส่งต่อโครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สูม้ ะเร็ง เต้านม” มอบเงินบริจาค 1,000,000 บาท แก่มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยยากไร้ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม และใช้ในการพัฒนา ด้านการแพทย์ต่อไป โดยมี นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ประธานมูลนิธิสถาบัน มะเร็งแห่งชาติ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำ�ราญ ผู้อำ�นวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ รองผู้อำ�นวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ ณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ 100 | happy+

นิตยสาร happy+ กระจายความสุข มอบนิตยสารแก่ ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข

นิตยสาร happy+ มอบนิตยสารเป็นอภินนั ทนาการแก่ ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข ตามโครงการ “happy+ อ่านสบาย กระจายสุข” เพื่อส่งเสริมการ อ่าน และเพิ่มทางเลือกให้ผู้อ่านได้คัดสรรความสุขในแบบที่ต้องการ ผ่าน บุคคลต่าง ๆ ที่ทีมงานได้มีโอกาสสัมภาษณ์มา โดยมีคุณรัชนก ยอดพินิจ เป็นผู้รับมอบ


สมาคมการจัดการวงการบันเทิงแห่งเกาหลี ขอแสดง สถิตอยูใ่ นใจตราบนิรนั ดร์ “อาร์เอส” รวมพลังคนบันเทิง ความไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จ ถวายความอาลัย พ่อแห่งแผ่นดิน พระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช

สถิตอยูใ่ นใจตราบนิรนั ดร์ดว้ ยสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ เป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้ บริษัท อาร์เอส จำ�กัด (มหาชน) สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และคลื่นวิทยุ คูลฟาเรนไฮต์ 93 ร่วมจัดพิธีน้อมรำ�ลึกพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระปรมิ นทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช เพื่ อ ถวายความจงรั ก ภั ก ดี พร้ อ ม ตัง้ ปณิธานทำ�ความดีตามรอยพระยุคลบาท นำ�โดย คุณสุรชัย เชษฐโชติศกั ดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำ�กัด (มหาชน) พร้อมคณะ ผู้บริหารและพนักงาน

นายซง ซอง มิน ประธานสมาคมการจัดการวงการบันเทิงแห่งเกาหลี หรือ KEMA เป็นตัวแทนกล่าว “ในฐานะของตัวแทนอุตสาหกรรมวงการดนตรี และวัฒนธรรม K-Pop ขอร่วมเสียใจกับประชาชนชาวไทยต่อการสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ ทางการทูตอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1958 ประเทศไทยและสาธารณรัฐ เกาหลีได้มีความร่วมมือและมีความสัมพันธ์อย่างแข็งแกร่งในด้านต่าง ๆ และด้วยมิตรภาพที่มีมายาวนาน ในนามของสมาชิกสมาคมฯ และเหล่า ศิลปินดาราในเกาหลีใต้ ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับคนไทย ต่อการสูญเสียผู้นำ�ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และขอเป็นกำ�ลังใจต่อคนไทยทุกคน เพื่อ เอาชนะเวลาของความเศร้าโศกนี้ร่วมกัน”

โรงพยาบาลบางมดขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนโครงการ “สวยด้วยใจกับโรงพยาบาลบางมด” แพทย์เตือน “ป้องกันดีกว่าการรักษา” ผูป้ กครองควร โรงพยาบาลบางมด ขอเชิญร่วมบริจาคเงินสมทบทุนหรือสิง่ ของเครือ่ งใช้ ป้องกันโรคไอพีดี

กับโครงการ “สวยด้วยใจกับโรงพยาบาลบางมด” โดยรายได้ทั้งหมดจะนำ� ไปใช้เพือ่ การรักษาผ่าตัดให้แก่ผปู้ ว่ ยปากแหว่งเพดานโหว่ทดี่ อ้ ยโอกาส และ การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อตรวจรักษาโรค บริจาค สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรค และให้ความรู้แก่ชุมชนในถิ่นทุรกันดารต่อไป ท่านสามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่บัญชี 207-4-29774-4 ธนาคารกรุงเทพ ชื่อ บัญชี “โครงการสวยด้วยใจกับโรงพยาบาลบางมด” หรือร่วมบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม รพ.บางมด ชั้น 12 สมัครร่วม โครงการหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2867-0606 ต่อ 1200

รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพทิ ยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชือ้ ในเด็กแห่ง ประเทศไทย ร่วมกับ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อ ประชาชนและอดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค และ รศ. พญ.วนัทปรียา พงษ์สามารถ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงให้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเด็กติดเชื้อ ในประเทศไทยหลังพบเด็กไทยอายุตํ่ากว่า 5 ปีเสียชีวิตจากโรคปอดบวมสูง ถึงร้อยละ 9.2 ในปี 2558 วอนผู้ปกครองควรศึกษาหาความรู้เพื่อป้องกัน โรคไอพีดี happy+ | 101


happiness is all around

Kiss Me Heroine Make Long & Curl Mascara Advanced Film

เดอ ลีฟ ทานาคา เอ็กซ์ตร้า มอยส์เจอร์ไรซิ่ง แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง ครีม

เผยผิวขาวเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติด้วยครีมบำ�รุงผิวหน้า สูตรปรับปรุง ใหม่ ที่ช่วยบำ�รุงให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณค่าสารสกัด ธรรมชาติจากไม้ทานาคา, สารสกัดจาก vitamin A, C, E และว่านหาง จระเข้ อีกทั้งรวบรวมคุณค่าจากพืช 3 ชนิด (Cucumber, Mulberry, Roselle) มีประสิทธิภาพลดเลือนจุดด่างดำ�และความหมองคลํา้ มอบความกระจ่างใส ให้ผิวอย่างอ่อนโยน ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่า ไม่ก่อให้ เกิดการระคายเคืองแม้ผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารกันเสียแบบพาราเบน วาง จำ�หน่ายแล้วทั้งขนาด 45 มล. และขนาดใหม่แบบพกพาขนาด 8 กรัม ที่ 7-eleven ราคาเพียง 60 บาทเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www. deleafthanaka.com, www.facebook.com/deleafthanaka หรือโทร. 0-2533-5622

มาสคาร่ า ฟิ ล์ ม นวั ต กรรมใหม่ จ าก ญีป่ นุ่ เพือ่ ขนตายาวและงอน สูตรกันนํา้ และกันเหงือ่ ล้างออกง่ายเพียงใช้นา้ํ อุน่ โปะไว้ที่ขนตา แล้วใช้โฟมล้างหน้า นวดทำ�ความสะอาดขนตา หรื อ ใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ก็ทำ�ความสะอาด ได้ง่าย เหมาะสำ�หรับเป็น Everyday Use เนื้อมาสคาร่าผสานไฟเบอร์ช่วย ต่อขนตาให้ยาวขึน้ ถึง 5 มม. ล็อกขนตา ให้สวยเด้ง ไม่มีตกตลอดวัน บำ�รุง ขนตาด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้ง ชานํ้ามัน รอยัลเยลลี นํ้ามันอาร์แกน และกุหลาบป่า ช่วยให้ขนตาแข็งแรง และงอนงาม ราคา 580 บาท

ผักเบี้ยใหญ่ (Purslane) เพื่อการปรนนิบัติผิวทั้งกลางวัน และกลางคืน Make it HAPPEN Juice นํ้าผักผลไม้สกัดเย็นจากผัก ผลไม้สดธรรมชาติ 100%

ไม่เติมนํ้า นํ้าตาล สารกันเสีย หรือสารเคมีใด ๆ อร่อย สะอาด สดชื่น เปีย่ มไปด้วยวิตามินและเอนไซม์สด ๆ จากธรรมชาติ เพือ่ สุขภาพของทุกคน มี 12 รสให้เลือก และนมอัลมอนด์สด 5 รส ส่งเดลิเวอรี่ตรงถึงบ้านคุณ ใน โอกาสปีใหม่ทจี่ ะถึงนี้ Make it HAPPEN Juice ขอส่งความสุขให้คณ ุ ในรูปแบบ ตะกร้ า ของขวั ญ มู ล ค่ า 1,500 บาทขึ้ น ไป สามารถกำ�หนดข้ อ ความ ในการ์ดและวันเวลาที่ต้องการให้ถึงผู้รับได้ เป็นของขวัญแทนความสุข และความห่วงใย ที่ผู้รับจะต้องประทับใจ สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อได้ที่ โทร. 08-1535-6224 หรือ Line : @makeithappenjuic, Facebook : facebook.com/ makeithappenjuice, Instagram : makeithappenjuice www.makeithappenjuice.com เครือ่ งดืม่ Make it HAPPEN Juice มีจำ�หน่ายที่ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น G ตึก Waterfall หน้า Gourmet Market 102 | happy+

ด้วยอานุภาพสารสกัดจากผักเบี้ยใหญ่ที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยคลายความอ่อนล้า ของผิว เติมนํ้าให้ผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยสูตรปราศจากนํ้าหอม สี พาราเบน (สารกันเสีย) และแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย ซูตติ้ง โอเวอร์ไนท์ มาส์ก นํา้ มันงาขีม้ อ้ นและสารสกัดบัวบก เสริมประสิทธิภาพด้วยโซเดียมไฮยาลูรอเนต และเป็ปไทด์ คอมเพล็กซ์ ช่วยเติมนํ้าให้ผิวพร้อมช่วยกระชับและลดเลือน ริ้วรอย เผยผิวใหม่ชั่วข้ามคืน, ผักเบี้ยใหญ่ ไฮเดรติ้ง เจล เจลอิมัลชั่น เนื้อบางเบา ซึมซาบไว ช่วยเติมความสดชื่นและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ด้วย ประสิทธิภาพจากสารสกัดสมุนไพรเข้มข้น ผักเบี้ยใหญ่ ฟิสิคัล เฟเชี่ยล ซัน สกรีน ครีม เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++ ครีมกันแดดเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ช่วย ปกป้องผิวจากแสงแดด ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ลดการสร้าง เม็ดสีผิว ให้ผิวดูกระจ่างใส เหมาะกับทุกสภาพผิว ผักเบี้ยใหญ่ ฟิสิคัล ซีซี ครีม เอสพีเอฟ 50 พีเอ++ ซีซีครีมเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยปกป้องผิว จากแสงแดดด้วยประสิทธิภาพ SPF50/PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำ�ร้ายจากแสงแดด ช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียน สีผิว สมํ่าเสมอ เผยผิวที่แข็งแรง สุขภาพดี



game for reader

Q : โครงการเศรษฐกิจพอเพียง นำ�มาพัฒนาเป็นแผนแม่บทใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับใด ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษทั ไทย ภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาที่อีเมล happyplusmag@ gmail.com ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559

ร่วมลุน้ รับ Beeswax Lipstick + Beeswax Lip Balm จาก ปัญจศรี จำ�นวน 2 รางวัล (ประกาศรายชือ่ ผูไ้ ด้รบั รางวัลใน happy+ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2560) *** หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ตดิ ต่อ กลับและหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับรางวัล ด้วยตนเอง COV.HAPPY PLUS 49 M4C5W1 17.11.59

รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 47

โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขทั้งกาย ใจ และสังคม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้โรงเรียน โรงพยาบาล ในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อ โรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิ ต ยสาร happy+ ขอขอบคุ ณ ทุ ก ท่ า นที่ ร่ ว มแบ่ ง ปั น ความสุ ข และมี ส่ ว นร่ ว มในการดู แ ล สังคมไทย

104 | happy+

ร้ า นอาหารสไตล์ อิ ต าเลี ย นฟิ ว ชั่ น ของมิ ก ค์ ทองระย้า ชื่อว่าอะไร คำ�ตอบ WHAT MONDAY รายชื่อผู้โชคดี ได้รับ โลชั่นและแฮนด์ครีมจาก ผลิตภัณฑ์ Once Upon A Time จำ�นวน 4 รางวัล 1. คุณสุวดี หอมจันทร์เจือ กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ 2. คุณพัชรินทร์ ไชยปาล ราชบุรี 3. คุณเมทินี ริ้วทอง 4. คุณนารีรัตน์ สิทธิธัญญาศิลป์ สุพรรณบุรี ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ


Next Issue เด็กเอ๋ย เด็กดี นิตยสาร happy+ ฉบับหน้า จะพาทุกท่านไปติดตาม เรื่องราวของเด็ก ๆ ที่มีความ สามารถเป็นที่ประจักษ์ใน สายตาของบุคคลทั่วไป มาติดตามกันว่าอะไรคือ แรงบันดาลใจที่ทำ�ให้น้อง ๆ ก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับประเทศ หรือระดับโลก พร้อมได้รับ รางวัลเป็นเครือ่ งหมายการันตี ความเก่งอย่างนี้ แล้วพบกัน ที่แผงหนังสือนะคะ เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)

ใบสมัครสมาชิก

สมาชิกทั่วไป

สมาชิกอุปถัมภ์

วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)

พิเศษ

สมัครสมาชิก happy+ เดือนธันวาคม รับทันที ผลิตภัณฑ์ ปิดผมขาว Color Herbal Hair Coat + Mineral Herbal Liquid จาก NANOVECH

พิเศษยิ่งกว่า

สำ�หรับสมาชิกที่ ต่ออายุในเดือน ธันวาคม รับเพิ่ม

สี ผึ้ ง เจลทองไข่ มุ ก สู ต ร เข้มข้น จากปัญจศรี


happy ending

สามัคคี คือ การเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทางเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำ�งานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม นั่นคือ ความมั่นคงของบ้านเมือง พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีประดับยศนายตำ�รวจชั้นนายพล ๑๕ มกราคม ๒๕๑๙




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.