let’s smile
Around Bangkok เทีย่ วรอบกรุง หลายครั้งที่เราเลือกเดินทางไปยังสถานที่เดิมซํ้า ๆ ด้วยความรู้สึกคุ้นเคย สบายใจหรือถูกใจอะไรบางอย่าง ทำ�ให้เราแวะเวียนกลับมาอีกหลายครั้ง โดย ไม่รู้สึกเบื่อ แต่สถานที่อันแปลกใหม่ ที่ไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยไปเยือนมาก่อนนั้น กลับกลายเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำ�ให้สถานที่แห่งนั้นมีความน่าสนใจ และ น่าหลงใหลอย่างแปลกประหลาด เพราะเราไม่รวู้ า่ ทีแ่ ห่งนัน้ จะมีอะไรรอต้อนรับ เราอยู่บ้าง นิตยสาร happy+ ฉบับกันยายนนี้ จึงขอแนะนำ�สถานที่ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ให้กบั คุณผูอ้ า่ นได้ทราบกันโดยถ้วนหน้า สถานทีเ่ หล่านีจ้ ะเป็นอย่างไรบ้าง เชิญ ติดตามเนื้อหาด้านในได้เลยค่ะ ด้วยความปรารถนาดี ทีมงานนิตยสาร happy+
Letter สวัสดีคะ่ ทีมงาน happy+ หน้าปกฉบับทีแ่ ล้วประทับใจมากเลยค่ะ พอเห็นปุบ๊ กรีด๊ เลยค่ะ เพราะ โดยส่วนตัวเป็นแฟนคลับของณัฐ ศักดาทรอยูแ่ ล้ว ติดตามผลงานของเขามา โดยตลอด แต่ว่าหนังสือ happy+ ค่อนข้างหาซื้อยาก เห็นว่ามีขายผ่านทาง เฟซบุก๊ และอินสตาแกรมเลยติดต่อเข้ามา พอชำ�ระเงินเรียบร้อยแล้ว ดิฉนั ได้ รับหนังสือรวดเร็วทันใจมากเลยค่ะ เลยอยากจะขอขอบคุณทางทีมงานมาก ๆ ขอให้ทำ�หนังสือดี ๆ แบบนี้ต่อไปนะคะ จะติดตามเสมอค่ะ ศิรัญญา สวัสดิ์ชัยพงศ์ สวัสดีคะ่ คุณศิรญ ั ญา ดีใจทีค่ ณ ุ ศิรญ ั ญาได้รบั หนังสืออย่างรวดเร็วทันใจ ทันใช้ทนั อ่านนะคะ เรื่องราวของบุคคลที่อยู่ในคอลัมน์ happy people ล้วนน่าสนใจและ น่าติดตามทัง้ นัน้ เลย หวังว่าคุณศิรญ ั ญาจะติดตามเล่มอืน่ ๆ ทีน่ อกเหนือจาก คนที่ช่ืนชอบอย่างเช่น ณัฐ ศักดาทร ด้วยนะคะ ครั้งหน้าอย่าลืมเขียน จดหมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดถึงกันแบบนี้อีกนะคะ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอ แนะที่มีต่อ happy+ ได้ที่ กองบรรณาธิการ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มี ของขวัญมอบให้แทนคำ�ขอบคุณ • สำ�หรับคุณศิรัญญา จะได้รับผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้ จาก ฐิติภูริ ติดต่อขอรับของรางวัลได้ที่คุณเบล โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021
เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก เขี ย น : ภญ.ดร.สุ ภ าภรณ์ ปิ ติ พ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสูจน์อักษร : ณรงค์ พึ่งบุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสุทธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com
นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556
contents
ปีที่ 5 ฉบับที่ 58 กันยายน 2560
กายสุข 16 healthy planet / โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ รู้ทัน ป้องกันได้ 62 take care / ทำ�อย่างไรเมื่อเจอเลือดในปัสสาวะ 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / บริหารร่างกายง่าย ๆ ลด อาการปวดหลัง ปวดเอว 68 happy herb / ลดปวดประจำ�เดือนด้วย ภูมิปัญญาไทย 72 beauty by nature / หน้าท้องเรียบเนียนสวย 90 กินอาหารเป็นยา / ต้มยำ�เห็ดไข่-ไข่ตุ๋น ใจสุข 20 happy people / เรียนรู้ทุกจังหวะชีวิต นาว ทิสานาฏ ศรศึก 30 happy heart / เสริมสร้างคุณภาพชีวิตคนไทย ให้มีสุขภาพดี ศาสตราจารย์วุฒิคุณ ดร.นพ. พรเทพ ศิริวนารังสรรค์
38 feature / Around Bangkok เที่ยวรอบกรุง 48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ฟ้า-หลัง-ฝน 54 family in love / Transform 56 นัดพบกับธรรมะ / บังตา บังใจ 58 wired world / ซึมเศร้า 4.0 (ตอน 1) 60 ระหว่างทาง / ลิงฮูวาฮูแห่งป่าวาสิฎฐี 70 well being / หมอกหรือควัน 74 สิ่งนี้ที่เรารัก / ย้อนวัยแห่งความสุขกับ Little
Green Man ลลินพร เพ็งสุข
76 travelogue / เสียงเพรียกจากจอร์แดน 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / เที่ยวเมืองพิษณุโลก
สองแคว 83 ชวนดูหนัง / Dunkirk ดันเคิร์ก 84 one happy day / พระราชวังพญาไท 86 green corner / ปลูกผักออร์แกนิกด้วยตัวเอง 88 เจ้าชายผัก / เริ่มต้นดี เริ่มที่พันธุ์พื้นบ้าน
92 ชวนชิม อิ่มสุข • Quaint Bangkok • Caféé Kantary 94 horoscopes 98 The Boss Vision 4.0
สังคมสุข
10 happy planet / ความสุขจากอาหารจานโปรด 2 14 The Boss Foundation / เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน 50 คนคิดดี / Paper Ranger ปลุกความเป็นฮีโร่ใน
ตัวคุณ พูลยศ กัมพลกัญจนา
96 กิจกรรมนำ�สุข
contributors
ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.90 p.94 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร อาจารย์คฑา ชินบัญชร
หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม และ รองผู้อ�ำ นวยการโรงพยาบาล ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
happy herb p.68
เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler
ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56
เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน
ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58
แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..
ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60
ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62
คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care
ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54
“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น
ญาดารัตน์ well being p.70
“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists
เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.88 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน
ศศินี ปัญญารัตน์
beauty by nature p.72
ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด
happy planet เรื่อง : Patty Pom
ความสุขจาก อาหารจานโปรด(2) จากฉบั บ ที่ แ ล้ ว ที่ ฉั น มาบอกเล่ า ถึ ง อาหาร ประจำ�ชาติ หรืออาหารที่ทำ�ให้เราคิดถึงประเทศ ต่าง ๆ ไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเทศเลยค่ะ ทีม่ เี มนูทน่ี า่ สนใจ และถ้าคุณผูอ้ า่ นมีโอกาสเดินทาง ไปยั ง ประเทศเหล่ า นั้ น ลองไปทานอาหาร ประจำ�ชาติกันนะคะ จะได้เข้าถึงเรื่องราวหรือ ประวั ติ ศ าสตร์ ข องประเทศเขาด้ ว ยค่ ะ เพราะ หลายเมนูเลยทีม่ อี ายุหลายสิบ หลายร้อยปีมาแล้ว หลายเมนูมาพร้อมเรื่องเล่าที่น่าสนใจ และหลาย เมนูทานทีไ่ หนก็ไม่อร่อยเท่าต้นตำ�รับ จะช้าอยูไ่ ยคะ ไปทานอาหารกันเถอะค่ะ
สิ ง คโปร์ - ลั ก ซาหรื อ ก๋ ว ยเตี๋ ย วแกง อาหารยอดฮิ ต ของชาวสิ ง คโปร์ ปรุ ง ด้ ว ยเส้ น บะหมี่ที่เรียกว่า ‘บีฮูน’ ราดด้วยนํ้าแกงรสเผ็ดที่ ปรุงจากนํา้ ซุปปลา เพิม่ รสชาติดว้ ยสมุนไพรนานา ชนิด เช่น มะขาม ตะไคร้ สะระแหน่ หัวหอม 10 | happy+
สับปะรด หน้าตาคล้าย ๆ กับขนมจีนหรือข้าวซอย ของบ้านเรา แต่รสชาติกไ็ ม่เหมือนเสียทีเดียว เป็น อาหารยอดนิยมของชาวเปอรานากัน (ลูกครึ่งจีน กับมลายู) ทีส่ ร้างวัฒนธรรมผสมผสานขึน้ มา โดย นำ�ส่วนดีระหว่างจีนกับมลายูมารวมกัน ลักซามี 2 แบบ คือ แบบใส่กะทิกับไม่ใส่ ทานแกล้มกับผักแนม เช่น สะระแหน่ ผักแพรว แตงกวา ถั่ ว งอก ถั่ ว ฝั ก ยาว พริ ก ชี้ ฟ้ า ซอย หอมแดงซอย และดอกดาหลา หาทานได้ทั่วไป แต่ ล ะร้ า นก็ ต่ า งกั น ไปตามสู ต ร วิ ธีก ารทานก็ คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา คือ ลวกเส้น ใส่นํ้าซุป ปรุงรสและใส่ผักมาให้พร้อมทาน เครื่องแกงที่ใส่ เข้าไปเพือ่ ทำ�ให้ลกั ซามีรสชาติจดั จ้านขึน้ เรียกว่า ‘ซัมบัล’ ประกอบด้วย พริกแดง เกลือหรือกะปิ นํ้ามะนาวหรือนํ้ามะขาม สีแดงเข้มแต่เผ็ดน้อย รสชาติ แ ละวั ต ถุ ดิ บ ตามแต่ จ ะนิ ย มกั น แต่ ล ะ ท้องถิ่น มีลักซาหลากหลายรูปแบบในสิงคโปร์ เช่น ลักซาสูตรปีนงั ทีใ่ ช้นา้ํ มะขามเปียก หรือลักซา ของซาราวักที่ดูคล้ายแกงเผ็ด แต่ไม่มีสูตรไหน จะขึ้นชื่อไปกว่ากาตงลักซาที่เป็นของสิงคโปร์เอง มาเก๊า - ทาร์ตไข่ เป็นขนมอบแบบทาร์ต สังขยาไข่ นิยมรับประทานในโปรตุเกส หรือสถานที่ ที่มีคนพูดภาษาโปรตุเกส หรือเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของจักรวรรดิโปรตุเกส ส่วนประกอบหลักคือ แป้งพาย รอบนอก ตรงกลางมีสังขยาไข่ แล้วนำ�ไปอบ ตามประวัตกิ ล่าวว่า ถูกคิดค้นขึน้ ครัง้ แรกโดยแม่ชี
ที่ ทำ � ขายเพื่ อ หารายได้ ใ ห้ กั บ คอนแวนต์ แต่ เดิมมีชอื่ เรียกว่า Pastel de Nata ลักษณะพิเศษคือ หน้าจะต้องไหม้ ๆ เรียกกันว่า ‘หน้าคาราเมลไลซ์’ (Caramelized) คือ อบจนนํ้าตาลเกรียมที่ผิวหน้า ขนม ซึ่งเกิดจากส่วนผสมและการอบแบบพิเศษ เพือ่ ดึงนํา้ ตาลให้ออกมาด้านบน และให้กรอบเกรียม หอมกรุ่น สุดท้ายแล้วก็โรยหน้าด้วยชินนามอน ตามแบบฉบับของต้นตำ�รับ แอนดรูว์ สโตว์ ชาวอังกฤษที่ย้ายถิ่นฐานมา อยู่ท่เี กาะโคโลอาน มาเก๊า เปิดร้านขายทาร์ตไข่ ในชื่ อ ของ ‘Lord Stow’s Bakery’ มาตั้ ง แต่ ปี 1989 จากนั้นเขาจึงได้พบรักกับสาวสวยที่ชื่อ มาการ์เร็ต และแต่งงานกัน ทั้งคู่ช่วยกันดำ�เนิน กิจการร้านขายทาร์ตไข่ ค่อย ๆ สัง่ สมชือ่ เสียง จน เฟื่องฟูโด่งดัง และกลายเป็นของขึ้นชื่อของเกาะ มาเก๊าในที่สุด จริง ๆ แล้วที่มาเก๊าเราสามารถ หาทาร์ตไข่ทานได้ทั่วไป แต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจะ มีอยู่ 2 ร้าน ถ้าคุณผู้อ่านเดินทางไปเที่ยวมาเก๊า ลองไปสืบดูนะคะว่าเป็นร้านไหน เวียดนาม - เฝอ มาที่ประเทศเพื่อนบ้าน ของเราบ้าง อาหารเวียดนามเป็นทีร่ จู้ กั และคุน้ เคย ของนักชิมบ้านเราเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ เฝอ ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มไม่ แ พ้ แ หนมเนื อ งเลย เฝอ มีลกั ษณะคล้ายก๋วยเตีย๋ วของไทย แต่ตา่ งกัน ที่เส้น นํ้าซุป และเครื่องเคียง บางครั้งก็เรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวหรือก๋วยจั๊บญวน
เฝอเป็ น อาหารประเภทเส้ น ที่ เ รี ย กว่ า บั๊ญเฝอ คล้ายเส้นเล็กแต่กว้างกว่า หรือเป็นเส้น กลมสีขาวขนาดใหญ่กว่าขนมจีนเล็กน้อย นํ้าซุป เคี่ยวจากเนื้อวัว (หรือไก่) กระดูก หางวัว และ เครื่องเทศบางชนิด เช่น อบเชยไซ่ง่อน เมล็ด ดอกจัน ขิง กานพลู กระวานดำ� เป็นต้น ตกแต่ง ด้วยหัวหอม ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ โหระพา มะนาวหรือเลมอน ถัว่ งอกและพริกหยวก ซึ่งสี่อย่างหลังมักจะแยกไว้ต่างหากอีกจาน เพื่อ ให้ผู้ทานเติมได้ตามชอบ และซอสที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ซอสฮอยซิน นํ้าปลา และซอสพริกศรีราชา เฝอเป็ น อาหารที่ ผ สมผสานความเป็ น เวียดนามและฝรัง่ เศส เพราะชือ่ ของเฝอนัน้ เชือ่ ว่า มาจากประโยคที่ว่า พอต ออ เฟอ แม้ทั้งสอง เมนูจะแตกต่างแต่ก็มีความคล้ายกัน ฝรั่งเศสมี หอมใหญ่ย่าง ของเวียดนามก็มีหอมแดงย่างใส่ ในเฝอเช่นกัน อีกฝั่งหนึ่งก็เชื่อว่า ในยุคแรกนั้น คนขายเฝอเป็นพวกพ่อค้าเร่ หอบหม้อทีต่ งั้ บนเตา ดินเผาเร่ขายไปทั่ว เรียกว่า คอฟเฟร-เฟอ ผู้คนจึง มักเรียกย่อ ๆ ว่า เฟอ เฟอ จนเพี้ยนมาเป็นเฝอใน ทีส่ ดุ แต่อกี ตำ�นานก็เล่าว่า เฝอเกิดขึน้ ครัง้ แรกโดย กุก๊ แห่งเมืองนามดินห์ ทีเ่ มืองนีไ้ ม่วา่ คนเวียดนาม หรือคนฝรั่งเศส ต่างก็ต้องทำ�งานหนักเหมือนกัน และซุปนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขามีเรี่ยวมีแรง บ้างก็บอกว่า เฝอ อาจได้รับอิทธิพลมาจาก จีนกวางตุง้ จากการออกเสียงคำ�ว่า “ฝัน” (Fun) ที่
แปลว่า ก๋วยเตีย๋ ว ดังนัน้ เฝอ น่าจะกำ�เนิดมาจาก ชาวจีนอพยพ ที่เดินทางไปยังเวียดนาม และนำ� วิธีการทำ�อาหารจีนไปด้วย ต่อมาชาวเวียดนาม จึงดัดแปลงมาเป็นแบบของตนเอง ดังนั้นเฝอ ในเวียดนามมีทั้งเฝอสไตล์ภาคใต้และเฝอสไตล์ ฮานอย เฝอหาทานได้งา่ ยในเวียดนาม ตัง้ แต่รา้ น หาบเร่แผงลอยริมทาง ไปจนถึงร้านอาหารสุดหรู ในห้างสรรพสินค้า อิ น เดี ย - โรตี เป็ น อาหารที่ ทำ�มาจาก แป้ง นวด แล้วนำ�ไปทอดหรือปิ้งเป็นแผ่นบาง ๆ รับประทานเป็นของหวาน หรือรับประทานพร้อม อาหารคาวอืน่ ๆ ก็ได้ ในประเทศไทยมักจะคุน้ เคย กับโรตีที่เป็นของหวาน ทอดเป็นแผ่นนุ่ม ราด ด้วยนมข้นและนํ้าตาลทราย บางครั้งก็ใส่ไข่ลงไป ขณะที่กำ�ลังทอดแป้งบนกระทะ
คำ�ว่า โรตี เป็นศัพท์ที่พบได้ในหลายภาษา ได้ แ ก่ ภาษาฮิ นดี , อุ ร ดู , ปั ญ จาบี , โซมาลี , อินโดนีเซีย และมลายู ซึ่งล้วนแต่มีความหมาย เดียวกันว่า ‘ขนมปัง’ โดยมากคำ�คำ�นีจ้ ะหมายถึง แป้งแบนกลม ๆ ไม่ขึ้นฟู รับประทานกันทั่วไป ในอินเดียและปากีสถาน ส่วนแป้งแบบที่ใส่ยีสต์ ให้ขึ้นฟูนั้น จะเรียกว่า ‘นาน’ (Naan) ซึ่งแต่เดิม มีกำ�เนิดจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชียใต้ และเอเชียกลาง บางครัง้ ชาวตะวันตกจะเรียกโรตี แบบนี้ว่า ‘Balloon Bread’ หรือขนมปังพอง โรตีประกอบไปด้วยไขมัน ไข่ แป้ง นํ้า นำ� มานวดรวมกัน ถ้าเป็นแบบมังสวิรัติจะไม่ใส่ไข่ ไขมันที่นิยมใช้คือ เนยฆีของอินเดีย บางคนจะใส่ นมข้นหวานลงไป ส่วนผสมจะถูกนวดจนเข้ากันดี ทำ�ให้แบน แช่นํ้ามันและม้วน พักให้ฟู ทำ�ซํ้าอีก เมื่อจะทำ�ให้สุกจึงแผ่เป็นแผ่นบาง แล้วทอดให้ กรอบนอกนุ่มใน โรตีอินเดียมีชื่อว่า โรตี (Roti) จาปาตี (Chapatti) หรือ นาน (Naan) การทานโรตี ที่นิยมในอินเดียคือ ทานกับเครื่องเคียงประเภท แกงเนื้อ หรือแกงรสจัดแบบต่าง ๆ ตามสูตรของ แต่ละท้องถิ่น เกาหลี - กิ ม จิ สั นนิ ษ ฐานกั น ว่ า น่ า จะ เพี้ยนมาจากคำ�ว่า “ชิมเช” แปลว่า ผักดองเค็ม กิมจิเป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดอง ที่อาศัย ภูมิปัญญาจากก้นครัวของชาวเกาหลี ด้วยการ หมักพริกสีแดงและผักต่าง ๆ โดยทั่วไปจะเป็น ผักกาดขาว ชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิกัน เกือบทุกมื้อ และยังนำ�ไปประกอบอาหารได้อีก หลายอย่าง เช่น ข้าวต้ม ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนถึง พิซซ่าและเบอร์เกอร์ ปัจจุบันกิมจิมีมากกว่า 187 ชนิด ซึง่ ส่วนใหญ่จะมีรสเผ็ด เปรีย้ ว และมีกลิน่ ฉุน แม้ปัจจุบันจะมีกิมจิสำ�เร็จรูปหรือแบบสดขาย ตามห้างสรรพสินค้าก็ตาม แต่ชาวเกาหลีก็ยัง นิยมทำ�กิมจิกินกันเองที่บ้านอยู่ดีค่ะ ว่ า กั น ว่ า การทำ�กิ ม จิ ถื อ กำ�เนิ ด ขึ้ น ตั้ ง แต่ ศตวรรษที่ 7 ในยุคนั้นช่วงฤดูหนาวของประเทศ เกาหลี อ ากาศหนาวจั ด ไม่ เหมาะกั บ การเพาะ ปลูก ชาวเกาหลีจึงคิดวิธีถนอมอาหารขึ้น เพื่อ มาทดแทนผักสดที่หายาก หนึ่งในนั้นคือ การทำ� ผักดองเค็มด้วยเกลือ หมักในไห แล้วนำ�ไปฝังดิน จึงเป็นจุดกำ�เนิดของกิมจินั่นเอง ในตำ�รากล่าวว่ากิมจิมีอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรก คือ หัวผักกาดฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถัว่ เหลือง ชนิดทีส่ อง ใช้หวั ไชโป๊ และในช่วงการแข่งขันกีฬา โอลิมปิกฤดูร้อนปี 1988 ที่จัดขึ้นที่เกาหลี ชาว ต่างชาติก็ได้ทำ�ความรู้จักกับอาหารชนิดนี้เป็น ครั้งแรก happy+ | 11
หมี่ซั่วเต้าหู้เนื้อปู คุณค่าทางอาหาร
เรือ่ ง : Nasry
เต้าหูถ้ ว่ั เหลือง อุดม ไปด้ ว ยสารอาหาร มากมาย ไม่วา่ จะเป็น คาร์ โ บไฮเดรตที่ ใ ห้ พลังงาน แคลเซียม ฟอสฟอรัส จึงช่วยบำ�รุงทั้งร่างกาย บำ�รุงสมอง และ ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ�
วั นนี้ เรานำ � เสนอสู ต รอาหารจี น อี ก เมนู ห นึ่ ง ซึ่ ง เป็ น อาหาร ประเภทเส้นที่รับประทานง่ายและทำ�ได้เองที่บ้าน แถมรสชาติไม่เผ็ด เหมาะสำ�หรับผูท้ ไี่ ม่ชอบทานอาหารรสชาติจดั จ้านมากนัก นัน่ ก็คอื “หมีซ่ วั่ เต้าหูเ้ นือ้ ปู” เมนูอาหารจานเส้นสไตล์จนี ซึง่ ถือเป็นอีกหนึง่ เสน่ห์ที่ทำ�ให้หลายคนหลงใหล
หมีซ่ วั่ จัดเป็น “อาหารมงคล” เมนูหนึง่ ของชาวจีน ทัง้ ยังได้คณ ุ ค่าทางโภชนาการมากมาย เพียงต้มนํ้าให้เดือด ลวกหมี่ซั่วให้สุกประมาณ 4-5 นาทีก่อน ลองจับเส้นดู หากเส้น ยังแข็งให้ต้มต่อไป ไม่ควรต้มให้เส้นสุกนิ่มจนเกินไป เพราะเมื่อนำ�ไปผัดเส้นจะเละขาด ไม่นา่ รับประทาน แล้วตักใส่ตะแกรงเพือ่ ให้สะเด็ดนํา้ จากนัน้ ตัง้ กระทะใส่นาํ้ มันมะกอกให้ มากหน่อยโดยใช้ไฟกลาง และวางเต้าหู้ลงในกระทะโดยไม่ให้ทับซ้อนกัน จะทำ�ให้เต้าหู้ กรอบและมีสเี หลืองสวยสมํา่ เสมอ แล้วผัดเห็ดหอมแห้งทีแ่ ช่นาํ้ มาแล้วกับซีอวิ๊ ขาว นำ�ขึน้ มาพักไว้ก่อน เจียวกระเทียมพอหอม ใส่เนื้อปู ข้าวโพดอ่อน ถั่วงอก และแคร์รอต ผัดให้ เข้ากัน ปรุงรสด้วยนํ้าปลา นํ้าตาล ชิมรสตามใจชอบ ใส่หมี่ซั่ว เต้าหู้ทอด และเห็ดหอม ที่เตรียมไว้ ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ในขั้นตอนการผัดทั้งหมดควรผัดอย่างรวดเร็ว หากผัดช้าเส้นหมีซ่ วั่ และผักจะเละเกินไป ทำ�ให้ไม่นา่ รับประทาน ตักใส่จาน โรยพริกไทยป่น พร้อมเสิร์ฟ อย่าลืมลองไปทำ�ทานที่บ้านกันดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าอาหารอร่อย ทำ�ทานเอง ที่บ้านก็ได้ ง่ายนิดเดียว
ข้าวโพดอ่อน มี คุ ณ ค่ า ทาง อาหารอยู่มาก ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เบต้าแคโรทีน วิ ต ามิ น ซี แคลเซี ย ม เส้ น ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เป็น สารประกอบกับแคลเซียมในการสร้างกระดูกและฟัน ช่ ว ยให้ ก ารหลั่ ง นํ้ า นมเป็ น ไปตามปกติ ช่ ว ยสร้ า ง เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ รวมกับธาตุอื่นรักษาสมดุลความ เป็นกรด-ด่างในร่างกาย ถั่ ว ง อ ก ช่ ว ย ล ด ระดั บ เอสโตรเจน ในร่ า งกาย เพราะ ฮอร์โมนของผู้หญิงมี บทบาทสำ�คัญต่อการ สร้างเซลลูไลท์ ช่วย เก็ บ นํ้ า และช่ ว ยเร่ ง การผลิตไขมัน กระเที ย ม ช่ ว ยแก้ อาการเคล็ดขัดยอก และเท้าแพลง เพราะ มีสารที่ช่วยเพิ่มการ ไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีขึ้น เห็ ด หอม ช่ ว ยป้ อ งกั น โรค หลอดเลือดหัวใจตีบ รวมทั้ง โรคต่ า ง ๆ ที่ เ กิ ด จากเชื้ อ ไวรั ส ในเห็ ด หอมยั ง มี ส าร เออร์โกสเตอรอล (Ergosterol) เ มื่ อ ร่ า ง ก า ย ไ ด้ รั บ แ ส ง อัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ จะเปลี่ยนสารนี้ให้ เป็นวิตามินดี ซึ่งทำ�ให้กระดูกและฟันแข็งแรง
The Boss Foundation เรื่อง : ทูน หิรัญทรัพย์
เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน “ครูสร้างคน เยาวชนสร้างชาติ” ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โครงการ “เรา เปลี่ยน โลกเปลี่ยน” ได้จัดอบรมสร้างเยาวชน อย่ า งต่ อ เนื่ อ งที่ โรงเรี ย นบ้ า นห้ ว ยผึ้ ง จั ง หวั ด เชี ย งราย โรงเรี ย นมั ธ ยมวั ด นายโรง เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเยาวชน เข้าร่วมอบรมจำ�นวน 150 คน เราได้เล็งเห็นว่า สั ง คมทุ ก วั นนี้ เปลี่ ย นแปลงไปมาก ทำ � ให้ เ กิ ด ปัญหาและภัยพิบตั ติ า่ ง ๆ ถึงเวลาแล้วทีเ่ ราควรหัน มาให้ความสนใจและจับมือกัน เพื่อที่จะร่วมกัน เปลี่ยนแปลงประเทศของเราให้น่าอยู่มากขึ้น “เมื่อเราต้องการเปลี่ยนแปลงคนอื่น ก็ควร 14 | happy+
เริ่มที่ตัวเราก่อน” โครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” นำ�โดย คุณทูน หิรัญทรัพย์ ผู้อำ�นวยการศูนย์เยาวชน พลเมืองดี สร้างสื่อ สร้างสรรค์สังคม อยากจะ เห็นความเปลีย่ นแปลงของเยาวชน จึงได้จดั อบรม เยาวชน น้อง ๆ โรงเรียนมัธยมวัดนายโรงในวันที่ 3-4 สิงหาคม 2560 เป็นขั้นตอนที่ 1 ของโครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” เพื่อปรับกระบวนการ ความคิดทีแ่ ตกต่าง เพือ่ การเป็นเยาวชนพลเมืองดี จิตอาสา ในการพัฒนาตัวเองสร้างให้เป็น Change Agent และเปิดโอกาสให้เยาวชนกล้าทีจ่ ะคิด กล้า
ที่จะลงมือทำ� นำ�พลัง นำ�ความคิดสร้างสรรค์ ของตัวเองสู่การผลิตสื่อรณรงค์ 5 ประเภท (สื่อ โทรทัศน์, สื่อวิทยุ, สื่อสิ่งพิมพ์, สื่อออนไลน์ และ กิจกรรมอีเวนต์ โฆษณาประชาสัมพันธ์ สิ่งที่น้อง ๆ เยาวชนมัธยมปลายโรงเรียน มัธยมวัดนายโรงได้เรียนรูก้ นั ไปนัน้ มีหลากหลาย ประเด็นเนือ้ หา ไม่วา่ จะเป็นกระบวนการความคิด (Process of Thinking), การเป็นพลเมืองดีจติ อาสา, การผลิตสื่อสร้างสรรค์, หลักสูตรสิ่งแวดล้อม, ความรู้ เรื่ อ งสุ ข ภาพ, แรงบั นดาลใจชี วิ ต และ ความฝัน ฯลฯ
ปลูกฝังจิตสำ�นึกและสร้างทัศนคติการเป็น ผู้นำ�ของเยาวชน ให้เป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา ใส่ใจในความรับผิดชอบต่อสังคม อบรมให้ความรู้ ด้านศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสือ่ หลากหลายประเภท สร้า งศู น ย์ร วมเยาวชนเพื่อปฏิบั ติ การจริ ง เพื่อเผยแพร่ตามสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ สื่อ Social Media และกิจกรรมต่าง ๆ สร้างความ เปลี่ ย นแปลงทางกรอบความคิ ด เพื่ อ ผลิ ต สื่ อ อย่างสร้างสรรค์ YCM ศู น ย์ เ ยาวชนพลเมื อ งดี สร้ า งสื่ อ สร้างสรรค์สงั คม โดยคุณทูน หิรญ ั ทรัพย์ ผูอ้ �ำ นวยการ ศูนย์ฯ ได้ทำ� Workshop ให้แก่กลุ่มน้อง ๆ ที่ สนใจด้านการผลิตสื่อรณรงค์ โดยสอนให้รู้จัก สื่อประเภทต่าง ๆ สร้างความเข้าใจว่าสื่อนั้น
มีอิทธิพลต่อผู้คนในสังคมมากแค่ไหน และดึง จุดแข็งนี้มาใช้ในทางสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ กับสังคม การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ คือการได้ลงมือ ทำ�จริง และเริ่มต้นลงมือทำ� หลังจากที่น้อง ๆ ได้เรียนรู้หลักการผลิตสื่อ รณรงค์ขน้ั พืน้ ฐาน ก็มกี ารแบ่งกลุม่ กันเพือ่ ออกไอเดีย คิ ด สร้ า งสรรค์ ผ ลงานของตั ว เองออกมา โดย เนือ้ หาจะเป็นเรือ่ งราวการรณรงค์เพือ่ ปรับเปลีย่ น พฤติกรรม การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงเรียน หรือชุมชนของตัวเอง ซึ่งไอเดียของน้อง ๆ ที่ นำ�เสนอออกมาแต่ละกลุม่ นัน้ มีความคิดสร้างสรรค์ ทีน่ า่ สนใจเป็นอย่างมาก และความคิดสร้างสรรค์นน้ั ได้เกิดเป็นผลงาน เป็นที่สนุกสนานตื่นเต้นของ เพือ่ น ๆ ทุกคน เพราะสิง่ ทีพ่ วกเขาคิดนัน้ สามารถ
สร้างสรรค์และสามารถเกิดขึน้ เป็นผลงานจริง ๆ ได้ ซึ่ งก็ เป็ นการช่ วยเสริ ม สร้ างแรงบันดาลใจและ กำ�ลังใจให้แก่น้อง ๆ เหล่านี้ได้ ทำ�ให้น้อง ๆ มี ความกล้ามากขึ้นที่จะลุกขึ้นมาทำ�สิ่งดี ๆ ต่าง ๆ ด้วยตัวเองต่อไป ขอขอบพระคุณผูใ้ หญ่ใจดีทกุ ท่าน ทีเ่ ล็งเห็น ถึงความสำ�คัญของเยาวชน ร่วมสร้างให้เยาวชน ได้เป็นส่วนหนึง่ ของการเปลีย่ นแปลงชุมชน สังคม และประเทศให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนมากขึ้น ภายใต้ โครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” “It is more blessed to give than to receive” “การให้เป็นเหตุให้มคี วามสุขยิง่ กว่าการรับ” Bible : กิจการ 20:25
happy+ | 15
healthy planet เรื่อง : Nasry
โรคผิวหนังอักเสบ จากภูมิแพ้ รู้ทัน ป้องกันได้ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมแิ พ้เป็นหนึง่ ในโรคที่ พบมากในปัจจุบนั เป็นโรคทีพ่ บบ่อยในเด็ก และมี ผลต่อคุณภาพชีวติ เป็นอย่างมาก การรักษาโรคอย่างมี ประสิทธิภาพ จึงจำ�เป็นต้องใช้การรักษาหลายอย่าง ควบคูก่ นั ไป แพทย์มคี วามจำ�เป็นต้องติดตามอาการ ผูป้ ว่ ย ให้ความรู้ ให้การรักษา รวมทัง้ ติดตามการ ดำ�เนินโรคและการเปลีย่ นแปลงในผูป้ ว่ ยอย่างใกล้ชดิ ในฉบับนีน้ ติ ยสาร happy+ จะพาผูอ้ า่ นไปรูจ้ กั กับ โรคนี้ให้มากขึ้นว่า เกิดจากอะไร รักษาได้หรือไม่ เพือ่ ดูแลรักษาอย่างตรงจุดและถูกต้องมากทีส่ ดุ
พญ.จุ ฬ ามณี วงศ์ ธีร ะญาณี แพทย์ ผู้ เ ชี่ ย วชาญโรคภู มิ แ พ้ แ ละภู มิ คุ้ ม กั น วิ ท ยา โรงพยาบาลสมิตเิ วช ธนบุรี อธิบายว่า โรคผิวหนัง อักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis, AD) หรือ Eczema เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ โดยมี อาการคันผิวหนัง ผิวแห้ง และมีลักษณะเป็นผื่น อันเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เป็น ๆ หาย ๆ และเรื้ อ รั ง จะพบบ่ อ ยประมาณ 10% ของ ประชากร ผู้ ป่ ว ยอาจจะมี โ รคภู มิ แ พ้ ช นิ ด อื่ น ร่วมด้วย เช่น โรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) โรคหอบหืด (Asthma) แพ้อาหาร (Food Allergy) “ซึ่ ง สาเหตุ มั ก มี ป ระวั ติ ค รอบครั ว และ พั น ธุ ก รรม AD เกิ ด จากสาเหตุ 3 ปั จ จั ย ได้แก่ ความผิดปกติของผิวหนัง (Skin Barrier Defect) ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน (Immune Dysregulation) สิง่ แวดล้อม (Environment) และสิง่ กระตุน้ (Trigger) ของโรคผิวหนังอักเสบจากภูมแิ พ้ เช่น สารก่อภูมิแพ้ในอาหาร เช่น ไข่และนม และ สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่นและขนแมว การติดเชือ้ ทีผ่ วิ หนังจากเชือ้ แบคทีเรีย ไวรัส เชือ้ รา หรื อ แพ้ ต่ อ เชื้ อ ดั ง กล่ า ว ภาวะเครี ย ด การคั น เกาหรือสัมผัสสิง่ ระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ผ้าทีม่ ขี น สารเคมีจากสบู่หรือนํ้ายาทำ�ความสะอาดเสื้อผ้า 16 | happy+
สภาวะอากาศที่แห้ง หรือร้อนและมีเหงื่อมาก ๆ โดยผู้ป่วยจะมีอาการผื่น คัน ซึ่งอาจจะเป็นมาก จนรบกวนการนอน ผืน่ จะเป็น ๆ หาย ๆ และเรือ้ รัง มีลักษณะและตำ�แหน่งที่จำ�เพาะตามช่วงอายุ ผู้ป่วย แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายตาม เกณฑ์การวินิจฉัยโรค และวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆ” พญ.จุฬามณี กล่าวต่อว่า ส่วนการรักษาโรคนี้ คือ การดูแลผิวหนังและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยการแช่นํ้าเกลือ หรือการทำ� Wet Wrap (เกลือ 10 กรัม / นํ้า 1 ลิตร แช่นาน 30 นาที วันละ 2 ครั้ง), การใช้ยา เช่น ทายาต้านการอักเสบชนิดที่ มีสเตียรอยด์ (Topical Corticosteroids, TCSs) หรือ ยาทาชนิด Calcineurin Inhibitors (TCls) โดยการ ใช้ยาเหล่านี้แพทย์จะเป็นผู้แนะนำ� และแนะนำ� ให้ทาสารเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizer) ภายใน 3 นาทีหลังแช่นํ้า, หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และ สิ่ ง กระตุ้ น เช่ น หากแพ้ ไรฝุ่ น ให้ ค ลุ ม ที่ น อน ด้วยผ้าคลุมกันไรฝุ่น การดูดฝุ่นด้วย Vacuum ชนิดพิเศษ, เลี่ยงอาหารที่แพ้ในกรณีแพ้อาหาร, การรักษาภาวะติดเชือ้ ร่วม เช่น การใช้ยาปฏิชวี นะ
(ยาฆ่าเชื้อ) ที่จำ�เพาะ โดยการเลือกใช้ยาโดย แพทย์ หากอาการเป็ น มากและรั ก ษาด้ ว ยวิ ธี ดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ผล ให้รกั ษาโดยการฉีดวัคซีน ภูมิแพ้ในโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดที่เกิด จากสารก่ อ ภู มิ แ พ้ ใ นอากาศ หรื อ การใช้ ย า กดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย อย่าปล่อยให้โรคภูมิแพ้มาบั่นทอนการใช้ ชีวิต เพราะการรักษาโรคภูมิแพ้อย่างถูกวิธีจะ ทำ�ให้คุณกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ **ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลสติมเิ วช ธนบุร*ี * happy+ | 17
สร้างสรรค์เมนูลูกรัก ด้วยนํ้ามันมะกอก
นํ้ามันมะกอกนั้นอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ นํ้ามันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จ้นิ สามารถ ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีท้งั ทางร่างกายและทางสมอง ด้วยเหตุน้ี นํ้ามันมะกอกจึงเป็นอีกหนึ่ง ตัวเลือกทีค่ ณ ุ แม่นยิ มนำ�มาเป็นวัตถุดบิ ในการประกอบอาหารสำ�หรับลูก ๆ แต่กม็ คี ำ�แนะนำ�ว่า ควรใช้ นํา้ มันมะกอกในการประกอบอาหารสำ�หรับเด็กทีม่ อี ายุตง้ั แต่ 6 เดือนขึน้ ไป เพราะเด็กจะเริม่ ปรับตัว สำ�หรับการรับอาหารในช่วงวัยนั้น โดยเริ่มรู้จักกลืนอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวได้ และระบบภายใน เตรียมพร้อมสำ�หรับการย่อย อีกทัง้ นํา้ มันมะกอกทีน่ ำ�มาใช้ในการประกอบอาหารยังช่วยปกป้องลูกน้อยจากโรคหลอดเลือดตีบ และภาวะไขมันในเลือดสูงได้อีกด้วย อาหารที่มีผักอาจเหยาะนํ้ามันลงไปนิดหน่อย เพื่อให้วิตามิน ทีล่ ะลายในนํา้ มันดูดซึมได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ควรให้ลกู น้อยรับประทานนํา้ มันมะกอกในปริมาณทีพ่ อเหมาะ เช่น ปรุงพร้อม อาหาร หรือเหยาะลงไปในอาหาร 3-5 หยดต่อมือ้ เพือ่ ให้รา่ งกายได้รบั ไขมันในปริมาณทีเ่ หมาะสม ไม่เกินความจำ�เป็นของร่างกาย ทีม่ า : https://th.theasianparent.com / นํา้ มันมะกอกดีตอ่ ลูกน้อย /
จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)
happy people
20 | happy+
เรียนรู้ทุกจังหวะชีวิต
นาว-ทิสานาฏ ศรศึก เรื่อง : ณัฐธิชา อามินเซ็น ภาพ : สุภชัย รอดประจง แต่งหน้า / ทำ�ผม : ภาราดา จินดารัตน์ สถานที่ : A Little While เกษตร-นวมินทร์ ตอม่อ 55 โทรศัพท์ 09-1735-5868 www.facebook.com/A-little-while IG : a_little_while_restaurant ถือเป็นนางเอกทีค่ งเอกลักษณ์ความงามในแบบของนางวรรณคดีไทยอีกคนหนึง่ ของวงการบันเทิงสำ�หรับ "นาว-ทิสานาฏ ศรศึก" นักแสดงสาวสวยของวิกหมอชิต เพราะนอกจากความสามารถด้ า นการแสดงของเธอที่ ไ ม่ ธ รรมดา ที่ ใ ช้ เ วลา เพียงไม่นานกลับครองใจคอละครได้อย่างล้นหลามแล้ว อีกหนึง่ คำ�ชมทีต่ อ้ งยกให้เธอ นั่นคือความสามารถเฉพาะตัวทางด้านนาฏศิลป์ที่ถ่ายทอดผ่านท่าทางการร่ายรำ� สีหน้าที่สื่อออกมาให้เห็นถึงความอ่อนช้อย ก็ยิ่งได้รับเสียงชื่นชมไม่ขาดสาย วันนี้นิตยสาร happy+ จึงคว้าตัวเธอเพื่อมาทำ�ความรู้จักให้ครบทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวและมุมมองในเรื่องความรัก ที่ต้องบอกว่าเมื่อคุณอ่าน บทสัมภาษณ์นี้จบลง จะต้องหลงเสน่ห์สาวสวยคนนี้อย่างแน่นอนค่ะ happy+ | 21
happy people
22 | happy+
นาฏศิลป์คือชีวิต
หากพู ด ถึ ง ความสามารถเรื่ อ งการร่ า ยรำ � ในแบบนาฏศิลป์ไทย “นาว-ทิสานาฏ” คงเป็น นางเอกคนแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะเป็น ความสามารถที่ เ ธอมี ติ ด ตั ว มาตั้ ง แต่ ก่ อ นเข้ า วงการ และเป็นสิง่ ทีเ่ ธอรักมาตัง้ แต่เด็ก จนกลายเป็น ส่วนหนึ่งในชีวิตที่เธอขาดไม่ได้ไปแล้ว “ตอนเด็ก ๆ นาวเป็นคนซนมากค่ะ ปีนต้นไม้ ทีโ่ รงเรียน และชอบเถียงจนคุณแม่ตอ้ งจับไปเรียนรำ� เพราะอยากให้นาวเรียบร้อยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วย อะไร (หัวเราะ) นาวเริม่ เรียนรำ�ตัง้ แต่ 8 ขวบ ตอนนัน้ มีโปรโมชั่นสมัครหนึ่งคนแถมหนึ่งคน พี่สาวไป สมัครแล้วนาวเป็นตัวแถม ซึ่งคุณแม่อยากให้ เรียนเพราะชอบเกี่ยวกับการรำ�ไทยอยู่แล้ว นาวก็ เรียนมาเรือ่ ย ๆ แต่เหมือนเรามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ หน่วยก้านดี รำ�สวย แต่ตอนนั้นนาวก็ยังไม่ได้ ชอบอะไรมาก แค่รสู้ กึ ว่าสนุกดีเพราะได้เจอเพือ่ น พอจบประถมปีที่ 6 คุณแม่ให้มาสอบที่วิทยาลัย นาฏศิลป นาวก็สอบติด ตอนมัธยมปีที่ 1-3 นาว ก็ยงั ไม่ได้รสู้ กึ ว่าชอบนาฏศิลป์ขนาดนัน้ ถ้าถามว่า เรียนได้ไหมก็เรียนได้ เพราะว่าไม่ได้เรียนแค่รำ� อย่างเดียว มีวิชาสามัญทั่วไปด้วย “พอเรียนไปเรือ่ ย ๆ นาวได้ออกงานต่าง ๆ และ ได้รับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ เป็นความภาคภูมิใจ ที่ สุ ด ในชี วิ ต ที่ สำ � คั ญ นาวชอบวั ฒ นธรรม ของวิทยาลัยนาฏศิลป ที่รุ่นพี่รุ่นน้องต้องเคารพ ซึ่งกันและกัน เช่น เดินผ่านหรือเดินสวนกันก็ ต้องไหว้กันเสมอ นาวได้ซึมซับความน่ารักตรงนี้ ทำ�ให้นาวเป็นคนมีมารยาทในการเข้าหาครูและ
ผู้ใหญ่ เรียกว่านิสัยเปลี่ยนไปเลย จนตอนนี้ทำ�ให้ รู้สึกผูกพันกับการร่ายรำ�และนาฏศิลป์มาก ๆ ค่ะ ปัจจุบันนาวยังได้นำ�นาฏศิลป์มาใช้กับการแสดง ละครเยอะมาก เหมือนคนเขียนบทหรือผู้จัดรู้ว่า เรารำ�เป็นก็จะเพิ่มการรำ�เข้าไป เรียกได้ว่าแทบ ทุกเรื่องที่นาวเล่น ต้องมีสักนิดพอให้นางเอกได้ โชว์รำ� นาวว่าคนดูเขาชินกับบทบาทของนาวที่ เป็นแบบนี้ไปแล้วค่ะ”
กว่าจะเป็นดาว
เธอถูกทาบทามให้เข้าสู่วงการ ด้วยวัยเพียง 15 ปีโดยแมวมองที่ควานหาดาวดวงใหม่เพื่อ มาประดับวงการ “ก่ อ นหน้ า นี้ น าวไปเที่ ย วกั บ เพื่ อ น แล้ ว มี แมวมองมาขอถ่ายรูป ให้นามบัตรและขอเบอร์ นาวไป ตอนนั้นนาวก็ปฏิเสธไป เป็นแบบนี้อยู่ หลายครั้ง เขามาขอถ่ายรูปเราก็ให้ถ่าย หรือ ขอเบอร์เราก็ให้เบอร์ใครไปก็ไม่รู้ เพราะนาวไม่ได้ อยากเป็นนักแสดง ไม่ได้อยากเข้าวงการ ไม่อยาก ประกวดอะไรเลย นาวอายและไม่ชอบ ถ้าเป็น ตอนรำ� ทุกครั้งที่นาวขึ้นเวที เราจะรู้อยู่แล้วว่า เรามีพื้นฐานมาก่อน รู้ว่าเราทำ�ได้ เพราะได้มีการ ฝึกซ้อม และบางทีมีเพื่อนรำ�ด้วย เราก็ไม่ได้อาย มากเท่าไหร่ “แต่ มี อ ยู่ ค รั้ ง หนึ่ ง เขาก็ ม าขอถ่ า ยรู ป ตาม ปกติ ให้นามบัตรนาวมาและขอเบอร์ นาวก็ให้ เบอร์แม่ไป เขาก็โทรมาหาแม่ว่าอยากให้น้องมา ลองแคสต์เอ็มวี นาวก็บอกแม่ว่าไม่ไปแล้วก็ไม่ ต้องไปสนใจ เขาก็โทรมาตื๊ออยู่ประมาณเดือน
ถึงสองเดือน จนแม่บอกว่าลองไปไหม เขาโทร มาหลายรอบแล้ว ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แม่ก็ ไม่ได้วา่ อะไรอยูแ่ ล้ว แม่ให้เลือกเองว่าอยากเป็นอะไร ไม่ได้ดนิ้ รนอยากให้เราเป็นดารา ก็ตกลงไป ตอนไป มีกล้องวิดีโออยู่ตัวหนึ่ง ให้นาวนั่งหน้ากล้องแล้ว บอกว่าอยากให้ร้องไห้ เขาบอกว่า เอ็มวีตัวนี้เป็น เรือ่ งของผูห้ ญิงอกหัก ปรากฏว่านาวร้องไห้ได้ เขา ก็ถ่ายวิดีโอไว้ แล้วส่งให้ทางเอ็มวีตัวนั้น แล้วเขา ก็ติดต่อมาว่าอยากให้ลองไปถ่ายดู นาวก็บอก แม่ว่าไม่ไป ให้เขาเอาคนอื่น แม่บอกว่าเขาเลือก แล้วเขาอยากได้หนู แล้วมันต้องหยุดเรียนนาว ไม่ชอบหยุดเรียน เขาตือ๊ อยูห่ ลายรอบนาวก็เลยไป พอได้ลองทำ� นาวก็ชอบการทำ�งานทันที นาวเป็น คนทีต่ อ้ งได้ลองก่อนแล้วถึงจะชอบ ตอนแรกเราก็ ไม่ได้อยากลอง แต่พอเราได้ไปลองแล้วมันสนุกดี ก็ เลยเริม่ ต้นจากเอ็มวี เล่นหนัง และได้มาเล่นละครค่ะ” จากวันนั้นถึงวันนี้ ทำ�ให้เธอเป็นนางเอกสาว ที่น่าจับตามองไม่น้อย แต่เธอมองวงการบันเทิง เป็ น เพี ย งห้ อ งทำ � งานห้ อ งหนึ่ ง และการเป็ น นักแสดงก็เป็นเพียงอาชีพหนึ่งของเธอเท่านั้น “วงการบันเทิงเหมือนห้องทำ�งานอย่างหนึ่ง พอนาวได้เข้ามาก็เหมือนชีวิตที่เราไปทำ�งานตาม แบบคนทำ�งานออฟฟิศทั่วไป นาวว่าเหมือนกัน เพราะเราต้ อ งเคารพรุ่ น พี่ รุ่ นน้ อ งอยู่ แ ล้ ว การ ทำ�งานเราก็ตอ้ งมีระเบียบวินยั และต้องรับผิดชอบงาน ที่ ได้ รั บหมาย เหมื อนการทำ�งานทั่วไปเลยค่ะ ตอนนี้นาวไม่ต้องปรับตัวอะไรให้เข้ากับวงการ รูส้ กึ เฉย ๆ รูส้ กึ เหมือนตืน่ เช้ามาแล้วต้องไปทำ�งาน ถ้ า วั น ไหนไม่ ทำ � งาน ก็ คิ ด ว่ า วั นนี้ จ ะไปไหนดี happy+ | 23
happy people
นาวใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปเลยค่ะ “นาวรู้สึกว่านาวเหมือนเดิม ตอนแรกเข้ามา เป็ น อย่ า งไรตอนนี้ ก็ เป็ น อย่ า งนั้ น แต่ น าวยั ง อยากที่จะพัฒนาตัวเอง และอยากที่จะหาอะไร ใหม่ให้ตัวเอง นาวไม่ได้รู้สึกว่าวงการเปลี่ยนนาว ไปในทางที่ไม่ดี นาวว่าตัวนาวดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน มีความรับผิดชอบมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้นาว เรียนและทำ�งานไปด้วย นาวจะไม่ค่อยรับงานใน วงการ เพราะว่าห่วงเรียน นาวจะไม่ทิ้งการเรียน แน่นอน ถ้าให้หยุดเรียนจะไม่เอาเลย จะใช้เวลา ช่วงปิดเทอมรับงานอย่างเดียว เหมือนนาวถ่าย ละครเรื่องเดียว ถ้ามีอีกเรื่องเข้ามาก็จะไม่รับ เพราะเวลาหยุดเรียนมันค่อนข้างลำ�บาก ต้องมา ตามงาน แล้วอย่างเวลารำ� เพื่อนต่อท่ารำ�ไปหมด แล้ว นาวต้องมาต่อทีหลังมันก็ยากมากสำ�หรับ นาวในตอนนั้น เวลาเพื่อนสอบเราก็ต้องมาสอบ คนเดียว แล้วเพือ่ นก็นงั่ อยูเ่ ต็มไปหมด มันน่าอาย นาวเลยเลือกที่จะไม่หยุดดีกว่า” ถึงแม้จะต้องทำ�งานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ เธอบอกกับเราว่าชีวิตเธอสนุก มีความสุขที่ได้ทำ� เพือ่ ครอบครัว และยังได้ด�ำ เนินชีวติ แบบเรียบง่าย เหมือนวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป “การทำ�งานมันเหนื่อยแต่ก็สนุกมาก เวลา นาวท้อหรือไม่มีกำ�ลังใจ นาวจะนึกถึงครอบครัว เป็นอันดับแรก มันทำ�ให้นาวอยากทำ�งานและ เข้มแข็งมากขึน้ เพราะนาวอยากทำ�เพือ่ ครอบครัว อย่างเรือ่ งสร้างบ้าน นาวก็พยายามทำ�งานเพือ่ จะ ให้ครอบครัวได้มบี า้ น งานบางอย่างทีไ่ ม่อยากทำ� เช่น ตอนถ่ายหนัง แล้วนาวต้องเต้นให้มันตลก ๆ นาวรู้สึกไม่อยากทำ�เลย นาวอายและไม่คุ้นเคย แต่พอนึกถึงครอบครัวสปิริตของนักแสดงมาเต็ม มาก (หัวเราะ) ครอบครัวทำ�ให้นาวมีก�ำ ลังใจจริง ๆ ค่ะ และจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อก่อนครอบครัว นาวเป็นครอบครัวที่ไม่ได้มานั่งชมกันหรอก เรา สนิทกันมาก ๆ อยูแ่ ล้ว พอนาวทำ�งาน แม่บอกว่า แม่ภมู ใิ จในตัวนาวนะ มันก็ท�ำ ให้นาวรูส้ กึ มีก�ำ ลังใจ และมีความสุขมากจริง ๆ ค่ะ “ความรู้ สึ ก ของการอยู่ ในวงการบั น เทิ ง ก็ เปลี่ยนไป อย่างตอนเด็ก ๆ เราทำ�อะไรก็ได้ แต่ พอเราโตขึ้นเป็นที่จับตามองของคนอื่น อยู่ใน พื้นที่สว่าง ทำ�อะไรก็ต้องระวังตัว อย่างโซเชียล มันไวมาก การที่จะลงรูปหรือแคปชั่นหรืออะไร 24 | happy+
ต่าง ๆ เราต้องคิดให้ดี ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ไม่ได้ มีคนจับตามอง จะทำ�อะไรก็ได้ จะเพ้ออะไรใน เฟซบุก๊ ก็ได้ แต่เดีย๋ วนี้ ทำ�อะไรนิดเดียวคนก็ถามว่า เป็นอะไรและเป็นข่าว เป็นเรื่องเป็นราวมากมาย นาวว่าสิ่งที่นาวเปลี่ยนไปก็แค่ต้องคิดให้มากขึ้น เท่านัน้ เอง นาวไม่ได้มเี ป้าหมายในการอยูว่ งการนี้ คิดว่าจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทำ�หน้าที่ให้ดีสุด ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องดังเป็นพลุแตก หรือต้อง คว้ารางวัลทุกเวที นาวไม่ได้คิดแบบนั้น แค่รู้สึก ว่า ถ้าวันนี้ทำ�ดีที่สุดแล้วอนาคตมันก็จะดีเอง แต่ นาวคาดหวังกับทุกงาน อยากให้คนดูชอบ อยาก ให้เรตติ้งดี นาวเชื่อว่านักแสดงทุกคนคาดหวัง อยู่แล้วว่า อยากให้สิ่งที่เราทำ�ออกมาแล้วทุกคน ชื่นชอบ”
นางเอกเจ้านํ้าตา
ตั้งแต่เธอเป็นนักแสดง เธอมักจะได้รับแต่ บทบาทนางเอกเรียบร้อย ไม่สู้คนและแสนดี จน เธอถูกขนานนามว่าเป็น “นางเอกเจ้านํ้าตา“ ไป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “บททีน่ าวได้รบั ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเหมือน เดิม จะได้รับบทที่เรียบร้อย บทพีเรียด บทเจ้า นํา้ ตา มันก็เหมือนเดิมอยูแ่ ล้ว แต่วา่ จะมีบางเรือ่ ง ทีแ่ ตกต่างจากเดิม อย่างละครเรือ่ ง กุหลาบเล่นไฟ ที่ เป็ น สาวเปรี้ ย ว ร้ า ยขึ้ น มาหน่ อ ย ซึ่ ง เรื่ อ งนี้ ก็ได้รับคำ�ชมว่าพลิกบทบาทแล้วทำ�ได้ดี ทำ�ให้ นาวรูส้ กึ ดีมาก หรือเรือ่ ง อตีตา ทีจ่ ะเป็นบทแก่น ๆ ทุกคนก็จะชอบ เพราะว่ามันน่ารัก แต่พอเป็น บทเรียบร้อย ทุกคนก็จะเฉย ๆ แต่นาวไม่ใช่คน เรียบร้อย เหมือนทุกคนชินกับคาแร็กเตอร์ทน่ี าวได้รบั มั นก็ เ ลยไม่ มี อ ะไรแปลกใหม่ บางครั้ ง โดนว่ า เล่นเหมือนเดิม ซึ่งนาวก็ยอมรับว่าบทบาทมัน เหมือนเดิมจริง ๆ “คนดูจะติดภาพไปแล้ว มีคนติด้วย นาวก็ รับฟัง เขาบอกว่าเราเล่นเหมือนเดิม บางทีนาวก็ อยากเป็นนางเอกทีแ่ กร่งบ้าง อยากจะสูก้ บั นางร้าย อยากจะมองหน้ า เขา อยากจะจิ ก เขาบ้ า ง แต่ผู้กำ�กับก็จะบอกให้หลบตาลง (หัวเราะ) นาว อยากเล่นแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกของตัวละคร ตั ว นี้ ที่ อ ยากจะสู้ ค นบ้ า ง นาวว่ า สมั ย นี้ ไม่ ใ ช่ ยุคที่นางเอกเจ้านํ้าตาอย่างเดียว ตัวนาวเล่น บทนางเอกเจ้านํ้าตาติด ๆ กันหลายเรื่องมาก
happy+ | 25
happy people
จนคนมองว่าเราไม่มกี ารพัฒนาหรือมองว่าเราเล่น ได้แต่แบบเดิม ตอนนาวเข้ามาในวงการบันเทิง แรก ๆ ทุกคนชอบทีน่ าวเสียงเพราะ ร้องไห้เก่งและ รำ�สวย มีแต่คำ�ชมเข้ามาหาเรา พอเวลาผ่านไป ก็จะมีคำ�พูดที่ว่า ทำ�ไมนาวเล่นแต่บทเดิม ทำ�ไม ร้องไห้เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่เห็นต่างจากเรื่อง ที่แล้ว ทำ�ไมตอนที่นาวเข้ามาตอนแรกคนชมเรา ว่านาวร้องไห้เก่ง พอเราเล่นไปเรื่อย ๆ บอกนาว เล่นเหมือนเดิม นาวไม่รู้ว่าเป็นความผิดเราเหรอ ตอนนั้นเครียดมาก ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร เพราะนาวเต็มที่กับทุกอย่างที่ทำ�มากจริง ๆ”
ฉีกกฎนางเอก
แฟน ๆ อาจจะติดภาพจากการแสดงทำ�ให้ คิดว่า เธอเป็นสาวเรียบร้อยที่มองโลกในแง่บวก แต่เธอยํ้ากับเราว่า เธอเป็นคนคิดมาก พูดตรง และไม่ได้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยอย่างที่ทุกคนคิด “นาวไม่ใช่คนเรียบร้อย นาวรูส้ กึ ว่าเวลาทีไ่ ป เจอคนอื่น เขายังติดภาพที่เราเป็นสาวเรียบร้อย อยู่ เวลาไปโชว์ตัวนาวไม่ได้เรียบร้อยเลย เขาให้ ทำ�อะไรนาวก็ทำ� นาวอยากให้ทุกคนรู้ว่าเราไม่ใช่ คนแบบนั้น อยากให้ทุกคนจำ�ว่า นาวเป็นคน สนุกสนาน แต่ก็สนุกสนานแบบมีขอบเขต ถ้า ผู้ใหญ่เยอะก็สนุกสนานเยอะไม่ได้อยู่แล้ว ต้องมี มารยาท จริง ๆ แล้วนาวเป็นคนคิดมาก มากถึง มากที่สุด จะอ่อนไหวมากกับเรื่องมิตรภาพ เรื่อง 26 | happy+
เพื่อนหรือเรื่องคนที่นาวแคร์ ถ้าทะเลาะกับเพื่อน นาวจะเคลียร์ทันที จะถามกันตรง ๆ ว่ามีอะไรให้ พูดเลย ไม่ต้องมาเหน็บแนมกันในโลกออนไลน์ เพราะนาวจะไม่ โพสต์ เฟซบุ๊ ก แบบเลอะเทอะ นาวไม่ชอบการค้างคาใจ มีอะไรก็เคลียร์กนั ตรง ๆ ถ้าเก็บไว้จะทำ�ให้เราคิดมาก “นาวเป็ น คนจริ ง ใจ ถ้ า ให้ ใ จใครแล้ ว จะรักคนคนนั้นมาก ๆ ถ้าคนนั้นทำ�ให้นาวผิดหวัง หรื อ ทำ � ให้ รู้ สึ ก ว่ า การที่ เ ราให้ ใ จไปมั น ไม่ มี ค่าสำ�หรับเขาเลย นาวจะตัดคนนั้นออกไปจาก ชีวิตทันที อาจจะคุยได้แต่ไม่สนิทใจเหมือนเดิม บางทีนาวก็เครียดในการทำ�งานบ้าง แต่ไม่ได้ เก็บเอามาคิดแบบจริงจังถึงขนาดกินไม่ได้นอน ไม่หลับ นาวคิดไว้อยู่แล้วว่า อยู่วงการนี้มีทั้งดี และไม่ดี ต้องมีเรือ่ งราวมากระทบจิตใจเราอยูแ่ ล้ว นาวก็รบั รูน้ ะว่าโลกมันก็เป็นแบบนีแ้ หละ แต่บางครัง้ ก็ อ ดคิ ด มากไม่ ได้ หลั ง ๆ ก็ รู้ สึ ก ว่ า คิ ด ไปก็ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เราต้องคิดมาอยู่แล้ว ว่า ทำ�ไมต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำ�ไมทุกคน ต้องว่าเรา แต่พอเรามีสติเราก็จะคิดว่ามันเป็น เรื่องปกติ ที่เราไม่สามารถห้ามความคิดคนอื่นได้ เราไม่สามารถให้คนทั้งโลกรักเราได้ คนรักเราก็มี คนเกลียดเราก็ต้องมี คนให้กำ�ลังใจเราก็มีเช่นกัน ทำ�ไมเราไม่คิดถึงคนที่ให้กำ�ลังใจเรา พอมาคิด ๆ ดูนาวก็ปล่อยวาง ไม่คิดอะไรกับเรื่องแบบนั้น และก็ไม่แคร์เลย
“นาวมีวิธีจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ดี พอสมควร แต่บางทีกต็ อ้ งพึง่ คนทีม่ ปี ระสบการณ์ อย่าง พีน่ วิ -วงศกร เขาอยูว่ งการมานาน นาวเลือก ปรึกษาพีน่ วิ เพราะนาวคิดว่าการทีเ่ ราปรึกษาเขา ถึงสิ่งที่นาวเครียด สิ่งที่นาวไม่อยากบอกใคร มันคงไม่แพร่งพราย เพราะพีน่ วิ คงเก็บเป็นความลับ ได้แน่นอน แล้วเขาก็สอนเรา ทำ�ให้เราสบายใจขึน้ เพราะเขาก็บอกว่าเขาก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหมือนกัน เขาเข้าใจว่า มันรู้สึกอย่างไร แต่การที่ จะผ่านไปได้ก็คือ ไม่ต้องคิด บางทีเราเข้าใจ แต่ จะไม่ให้คิดได้ยังไง พอเราผ่านจุดนั้นไป ก็รู้สึกว่า เป็นความจริงที่เราจะไม่คิดก็ได้ รู้สึกว่าถ้าเรามี อะไรทำ�หรือสิ่งที่เราทำ�มันดีอยู่แล้ว เราก็ไม่ต้อง ซีเรียสกับสิ่งที่คนอื่นว่าหรอก”
รู้จักกับอีกบทบาท
นอกจากการรับบทนางเอกในละครแล้ว เธอ ยังเคยปฏิบตั หิ น้าทีค่ รูฝกึ สอนนาฏศิลป์ ซึง่ เป็นอีก บทบาททีท่ า้ ทายความสามารถและเป็นความทรงจำ� สุดประทับใจของเธออีกด้วย “นาวเรียนจบปริญญาตรี วิชาชีพครูจาก วิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพฯ ตอนแรกไม่ได้อยาก เรียนหรอกค่ะ ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยนาวเลือกแล้ว ว่า อยากทำ�งานในวงการบันเทิง นาวเรียนครู เพราะติดเพื่อน เรียนตามเพื่อน (หัวเราะ) พอ ช่ ว งฝึ ก สอนนาวไม่ ส ามารถรั บ งานละครได้
happy+ | 27
happy people
28 | happy+
เพราะว่าต้องไปฝึกสอนทีโ่ รงเรียน ซึง่ ไม่รวู้ า่ เราจะไปขอ เขาถ่ายละครอย่างไร พอได้ฝึกสอน ก็รู้สึกสนุก อีกแล้ว แต่นาวไม่ได้อยากเป็นครู เพราะนาวไม่ ชอบทำ�อะไรเหมือนเดิม ถ้าเป็นครู วันจันทร์เรา สอนอย่างไร ทุก ๆ อาทิตย์เราก็ต้องสอนแบบนั้น ทำ�ให้เหมือนกับเราอัดวิดีโอสอนเหมือน ๆ เดิม “เทอมแรกนาวสอนทีโ่ รงเรียนนวมินทราชินทู ศิ หอวัง นนทบุรี สอนมัธยมปีที่ 3 เด็ก ๆ จะจำ� เราได้จากละคร ก็จะได้กระแสกลับมาว่า ทำ�ไม ครูร้ายแบบนี้ หรือทำ�ไมครูต้องร้องไห้ตลอดเวลา มันก็เป็นความสนุกของเด็กที่ได้คุยกับเรา แต่ พอมาอีกเทอมหนึ่งนาวฝึกสอนที่โรงเรียนเตรียม อุดมศึกษา เด็ก ๆ จะจำ�นาวได้จากหนังเรื่องแรก แล้วมาถามว่า ทำ�ไมครูไม่เหมือนเดิมเลย เรา ก็บอกไปว่า นัน่ มันสิบกว่าปีมาแล้ว จะเหมือนเดิม ได้อย่างไร (หัวเราะ) เด็ก ๆ เขาเหมือนเพื่อน ของนาวมากกว่า นาวไม่ได้คิดว่าเราเป็นครู แต่ นักเรียนทุกคนให้ความเคารพนาว เพราะเห็นว่า เป็นครูคนหนึ่งที่ให้ความรู้เขา นาวก็รู้สึกดีมาก ในตรงนี้ค่ะ การเป็นครูก็เป็นอาชีพที่ท้าทายมาก เหมือนกันค่ะ”
ใช้หัวใจมองความรัก
มุมองความรักสำ�หรับเธอ “สถานะความ สัมพันธ์” ไม่ส�ำ คัญเท่า ความรูส้ กึ ดี ๆ ความเอาใจใส่ ที่คนสองคนมีให้กันและกัน “นาวกับพี่นิว-วงศกรเราจะบอกทุกคนว่า เราเป็นเพื่อนหรือพี่น้องกัน แต่นาวก็คุยกับเขา คนเดียว นาวรู้สึกดีที่มีเขาเป็นที่ปรึกษา นาวเป็น คนที่ไม่ชอบตั้งสถานะความสัมพันธ์ เพราะพอใช้ คำ�ว่าแฟน มันจะมีเหตุผลหลายอย่างมาก ไม่ว่า จะเป็นการหึงหวง หรือเธอห้ามทำ�แบบนั้นแบบนี้ ในความสัมพันธ์ถ้าเรามีความเป็นเพื่อนมันจะ ยาวนานกว่า แล้วพอทำ�อะไรผิดพลาดไปบ้าง ก็ จะให้อภัยได้มากกว่าเป็นแฟน การเป็นแฟนบางที อาจมีความงอแง งี่เง่า มีข้อจำ�กัดอะไรบางอย่าง นาวว่าเรารู้กันสองคนก็พอแล้วค่ะ (หัวเราะ)
“อายุ ไม่ ได้ เป็ นอุ ปสรรคที่ เราจะคุ ยกั น พี่ นิวเป็นผู้ใหญ่ นาวเป็นเด็ก พอมาคุยกันรู้สึกว่า ความสนุกของเราและความมีเหตุผลของเขามา รวมกันได้พอดี อย่างพี่นิวมีประสบการณ์ในเรื่อง การทำ�งาน เวลานาวมีปญ ั หาอะไร เราปรึกษาเขา ได้เสมอ พีน่ วิ เป็นคนให้ค�ำ ปรึกษาทีด่ มี าก เป็นคน ใจเย็นและมีเหตุผล ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูด เป็นความจริง เขาทำ�ให้นาวสบายใจขึ้น อาจจะ เป็นเพราะพี่นิวเรียนวิทย์-คณิต เขาจะมีการคิด ที่เป็นระบบ แล้วเขาบอกว่านาวเรียนศิลป์ทำ�ให้ เป็นคนที่คิดฟุ้งเฟ้อ หาจุดจบไม่ลงสักที นาวเคย ถามเขาว่า หนูโมโหมากเลย หนูโพสต์ไอจีแบบนี้ ได้ไหม ตอบโต้เขาแบบนีไ้ ด้หรือเปล่า พีน่ วิ ก็บอกว่า ลองทำ�ดูสิว่าทำ�แบบนี้แล้วผลที่ตามมาจะเป็น อย่างไร นาวก็จะโอเค เข้าใจและไม่ทำ� พี่นิวจะ ไม่ห้าม แต่เขาจะแนะนำ�ว่าถ้าทำ�ลงไปจะเกิดผล อะไรตามมา เพราะตอนนาวเข้าวงการแรก ๆ นาว ไม่รวู้ า่ โลกโซเชียลหรือข่าวมันไวขนาดไหน นาวทำ� ตามอารมณ์ พี่นิวก็บอกว่าเขาเคยเป็นแบบนี้มา แล้ว เขาถึงสอนเราได้ เราก็รู้ว่ามันจริง นิดเดียวก็ เป็นปัญหาได้หมด ทำ�ให้นาวติดนิสยั ว่าก่อนจะทำ� อะไรเราต้องคิด เพราะเราไม่ได้ตวั คนเดียว เราเป็น คนของทุก ๆ คน ทุกคนเห็นเราเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าเราทำ�แบบนีจ้ ะเกิดผลอะไรตามมาอีกมากมาย “นอกจากนี้ พี่ นิ ว ยั ง ทำ � ให้ น าวแข็ ง แรงขึ้ น (หัวเราะ) เขาชวนนาวไปออกกำ�ลังกาย ทั้ง ๆ ที่ เมื่อก่อนนาวเป็นคนไม่ชอบออกกำ�ลังกายเลย มี ครั้งหนึ่งที่ถ่ายเรื่อง อตีตา แล้วต้องบู๊ ฟันดาบ นาวเหนื่อยมาก จะเป็นลม ขอนํ้าแดงและยาดม เลยทีเดียว เพราะนาวไม่ออกกำ�ลังกายเลยป่วย บ่อย และเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งพี่นิวเขาเป็นคนดูแล สุขภาพมาก เขาก็ชวนไปออกกำ�ลังกาย นาว ก็ไม่อยากไป เพราะมันเหนื่อยและไม่สนุก แต่ กลับทำ�ให้นาวแข็งแรงขึ้น พอกลับมาถ่ายละคร นาวรู้สึกว่าไม่เหนื่อยเหมือนเมื่อก่อน และวิ่งได้ เยอะกว่าเดิม ทุกวันนีน้ าวก็ตดิ การออกกำ�ลังกาย ไปเลยค่ะ”
ลงตัวด้วยความสุข
ก่อนที่จะจากกันเธอทิ้งท้ายกับเราว่า การ ที่เธอเป็นตัวของตัวเอง มีความสุขและสนุกกับ ทุกอย่างทีท่ �ำ ทำ�ให้ผลลัพธ์ของสิง่ นัน้ ๆ ออกมาดี อยู่เสมอ “นาวอยากขอบคุณแฟน ๆ ทีต่ ดิ ตามผลงาน มาโดยตลอด มีชว่ งหนึง่ ทีน่ าวหายหน้าหายตาไป ก็มแี ฟนคลับทีส่ นิทกันเข้ามาคุยไลน์อยูต่ ลอด พอ นาวกลับมาเล่นละคร เขาก็ยังรักนาวเหมือนเดิม แถมเพิ่มขึ้นด้วย ต้องขอบคุณที่รอและติดตาม นาว อยากให้ติดตามไปตลอด เพราะพวกคุณ เป็นกำ�ลังใจทีด่ มี าก ๆ สำ�หรับนาว พอนาวไม่มใี คร นาวก็มคี ณ ุ เวลาเครียด ๆ ก็ปรึกษาได้อกี ซึง่ ตอนนี้ นาวกำ�ลังมีภาพยนตร์เรื่อง Memoir (เมมมัว) เป็ น หนั ง ผี ลึ ก ลั บ นาวชอบบทนี้ ม าก เพราะ ไม่ตอ้ งแต่งหน้าทำ�ผมอะไร เป็นอีกแนวหนึง่ ทีท่ กุ คน ไม่เคยเห็นนาวรับบทแบบนี้มาก่อนแน่นอน “ส่วนละครมีสองเรื่องคือ เรื่องละอองดาว และสายโลหิตค่ะ เรื่องนี้นาวเครียดมาก เพราะ เป็นละครรีเมค ตอนที่ได้รับการติดต่อมาก็คิดอยู่ ว่ า จะรั บ ดี ไหม เพราะต้ อ งมี ก ารเปรี ย บเที ย บ แน่นอน แต่นาวคิดว่าถ้าผูใ้ หญ่มนั่ ใจในตัวนาว นาว ก็สบายใจ พอนาวลงรูปในไอจี คนก็มาคอมเมนต์ ว่าให้แสดงดี ๆ นะ พี่กบเขาเล่นไว้น่ารักมาก จริง ๆ นาวเล่นรีเมคมาแทบทุกเรื่อง นาวจะไม่ดู ละครที่นาวรีเมคเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากดูหรือหยิ่ง นาวกลัวว่าจะติดภาพ นาวเชื่อว่าต้องมีกระแส ออกมาบ้างว่าทำ�ไมเล่นไม่เหมือนพี่กบ อยาก จะบอกว่าให้มองนาวเป็นนาวเถอะค่ะ หรือบาง กระแสว่ า นาวโตไปหรื อ เปล่ า สำ � หรั บ การเป็ น ดาวเรือง อันนีย้ อมรับ นาวอยากให้รอดู นาวเต็มที่ จริง ๆ ค่ะ เป็นกำ�ลังใจให้นาวด้วยนะคะ” สีหน้า แววตา และใบหน้าเปื้อนยิ้มบวก กับท่าทางที่ดูเฟรนด์ลี่ตลอดการพูดคุยกับเธอ จึงไม่แปลกใจว่า ในเวลาเพียงไม่นานทำ�ไมเธอ ถึ ง เป็ นนางเอกที่ ค รองใจแฟน ๆ ได้ ม ากมาย ขนาดนี้ happy+ | 29
happy heart
30 | happy+
ศาสตราจารย์วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตคนไทยให้มีสุขภาพดี เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : สุภชัย รอดประจง อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คือคำ�กล่าวที่แท้จริงและถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะการดำ�เนินชีวิตของคนเราหาก ไม่นบั เรือ่ งของชือ่ เสียง เงินทอง การงานแล้ว ก็คงจะมีเรือ่ งของสุขภาพทีส่ �ำ คัญไม่แพ้กนั เพราะเมือ่ เรามีรา่ งกายทีส่ มบูรณ์แข็งแรง ก็จะสามารถทำ� อะไรได้ตามทีใ่ จต้องการ ไม่มคี วามทุกข์ ความลำ�บากจากความเจ็บป่วยเข้ามารบกวนทำ�ให้จติ ใจเศร้าหมอง กังวลหรือเครียด ทำ�ให้ชวี ติ มีความสุข ไม่มากก็น้อย และ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมการการสาธารณสุข และนายกสมาคมเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นบุคคลหนึ่งที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ผลักดัน พร้อมส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการให้ ความรู้ สำ�หรับการมีสุขภาพดีแก่ประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด
กินอาหารทีด่ ี ออกกำ�ลังกาย และคิดบวก คนจี น เขามี ค วามฉลาดด้ า นสุ ข ภาพมาก มี ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีครับ” คุณหมอพรเทพ ศิรวิ นารังสรรค์ เป็นบุตรชาย คนที่ 4 ของครอบครั ว ชาวจี น ที่ ใ กล้ ชิ ด กั บ คุณพ่อคุณแม่และคุณย่ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำ�ให้ ถู ก ปลู ก ฝั ง แนวคิ ด ในเรื่ อ งการดำ � เนิ น ชี วิ ต มา โดยตลอด และสามารถนำ�มาประยุกต์ใช้ปรับ ให้เข้ากับปัจจุบันได้เสมอ “ผมถูกสอนให้ใช้ปรัชญาขงจือ๊ มาโดยตลอด เนือ่ งจากผมเติบโตมาในครอบครัวชาวจีน คุณย่า เดินทางมาจากเมืองจีน และคอยดูแลพวกเรา พี่น้อง คอยสอนหนังสือ และคอยสั่งสอนในเรื่อง ต่าง ๆ ผมเป็นลูกคนที่ 4 แต่เป็นลูกชายคนที่ สองของบ้าน จึงต้องช่วยกันทำ�งาน เดินขายของ ในตลาดตั้งแต่เช้า ในวัยเด็กครอบครัวค่อนข้าง ลำ�บากเนือ่ งจากบ้านถูกไฟไหม้ และคุณแม่กป็ ว่ ย เป็นมะเร็ง ทำ�ให้เราและพี่สาวต้องช่วยกันดูแล บ้าน จึงถูกสัง่ สอนในเรือ่ งของความขยันหมัน่ เพียร ความประหยัดมัธยัสถ์ และความกตัญญูรคู้ ณ ุ คน เวลาทำ � อะไรจะต้ อ งทำ � ให้ สำ � เร็ จ อย่ า ทิ้ ง ไป กลางคัน ทำ�ให้ผมค่อนข้างตั้งใจเรียน สอบได้ที่ 1 มาโดยตลอด “ที่บ้านตอนนั้น คุณย่าจะเป็นคนทำ�อาหาร เป็นหลัก อาหารทั้งสามมื้อจะเป็นอาหารที่ดีมี ประโยชน์ทั้งหมด เพราะคุณย่าเป็นคนมีความรู้
ภูมิปัญญาที่ถูกสั่งสมต่อ ๆ กันมา ผมในตอนนั้น ก็จะมีหน้าที่เป็นลูกมือช่วยคุณย่าทำ�กับข้าว ซื้อ ผัก ซื้อหมู ซื้อปลา คุณย่าจะสอนวิธีการคัดเลือก วัตถุดิบ วิธีการทำ�อาหาร ซึ่งทำ�ให้ผมเป็นคนทำ� อาหารเป็น และยังเป็นประโยชน์สืบเนื่องมายัง งานที่ผมทำ�อีกด้วย เช่น การทำ�รายการคุณค่า ทางโภชนาการและอาหาร “นอกจากนี้ ผมยังชอบเล่นกีฬาต่าง ๆ มา ตั้งแต่เด็ก ตกเย็นหลังจากช่วยงานที่บ้านเสร็จ แล้ว ผมจะออกไปเล่นบาสเกตบอล หลังจากออก กำ�ลังกายเสร็จ ก็จะมากินข้าวและอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนเป็นแบบนี้ประจำ�ทุกวัน ผมชอบ เล่นกีฬาหลายอย่าง เช่น แบดมินตัน วิ่ง เทนนิส ปิงปอง ฯลฯ ทุกวันนี้ก็ยังไปตีปิงปองที่กระทรวง สาธารณสุขบ้าง ทำ�ให้ร่างกายของเราแข็งแรง ดู หนุ่มกว่าเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน (หัวเราะ) “และสิง่ สุดท้ายทีผ่ มถูกปลูกฝังมาตัง้ แต่เด็ก คือ การเป็นคนคิดบวก ไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียว แต่ทั้งบ้านเลย ทุกคนพยายามมองโลกในแง่ดี ทุกอย่างจะสำ�เร็จและผ่านพ้นไปได้ด้วยความ พยายาม มุมานะ ขยันหมัน่ เพียร ทำ�ให้เรากลายเป็น คนมีสุขภาพจิตที่ดี ทั้งสามสิ่งที่กล่าวมา เป็น สิ่งที่อยู่ในสายเลือดไปแล้ว และกลายเป็นสิ่งที่
วิชาที่ว่าด้วยการสาธารณสุข
ศาสตร์และศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและ จัดการสุขภาพทั้งปวงของชุมชน โดยอิงตามการ วิเคราะห์ด้านสุขภาพของประชาชน ทำ�ให้เกิด คำ�นิยามของ สุขภาพ ไว้ว่า “สภาพการมีชีวิต ทางกายภาพ ทางจิตใจ และทางสังคมที่สมบูรณ์ ไม่ ใช่ เพี ย งไม่ มี โรคภั ย หรื อ ความแข็ ง แรงทาง ร่างกายเท่านั้น” การสาธารณสุขจึงต้องแบ่งออก เป็นหลากหลายสาขา ซึง่ คุณหมอพรเทพ ประธาน คณะกรรมการการสาธารณสุข และนายกสมาคม เวชศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความ สำ�คัญของเวชศาสตร์ป้องกัน เพราะการป้องกัน เหมือนเป็นการตัดไฟแต่ตน้ ลม ไม่ปล่อยให้ปญ ั หา ลุกลามจนกระทั่งบานปลาย ให้การรักษาเป็น ทางออกสุดท้ายของการแก้ไขปัญหาสุขภาพ “หลังจากที่ได้ไปรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาล วั ง ทอง จั ง หวั ด พิ ษ ณุ โ ลก ตอนนั้ น ที่ นั่ น เจอ โรคไข้มาลาเรียระบาดหนัก ผู้ป่วยทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่มารักษาที่โรงพยาบาลเต็มไปหมด จาก โรงพยาบาลเล็ก ๆ ที่มีเตียงคนไข้ไม่กี่เตียง คนไข้ เข้ามารักษาปีหนึ่งไม่กี่คน กลายเป็นเข้ามารักษา หลายร้อยคน จึงต้องเพิ่มผู้ป่วยใน เพิ่มเตียงขึ้น happy+ | 31
happy heart
32 | happy+
วิธีการป้องกันเป็นวิธีที่สำ�คัญ และมีประสิทธิภาพไม่แพ้การให้การรักษา เป็น 30 เตียง ทำ�งานรักษาคนเดียวทั้งหมด จน กระทั่งมีหมอมาช่วยคนหนึ่งเพราะทำ�ไม่ไหวแล้ว ทำ�ให้ผมเกิดการเรียนรู้ว่า วิธีการป้องกันเป็น วิธีที่สำ�คัญและมีประสิทธิภาพไม่แพ้การให้การ รักษา ทำ�ให้เลือกเรียนทางด้านเวชศาสตร์ปอ้ งกัน ได้วุฒิบัตรระบาดวิทยาจากแพทยสภา หลังจาก ได้ไปทำ�งานอื่น ๆ เช่น การดูแลเรื่องงบประมาณ การคลั ง ประกั นสั งคม ประกั นสุ ข ภาพ เป็ น หัวหน้าสำ�นักงานเลขานุการกิจ ปลัดกระทรวง สาธารณสุขแล้ว ผมก็ไปเรียนต่อปริญญาเอก ทางด้านการวางแผนสาธารณสุขและการคลัง สาธารณสุข จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศ อั ง กฤษ พอกลั บ มาจึ ง เริ่ ม สอนหนั ง สื อ ตาม มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไปด้วย ไม่ได้ทำ�งานราชการ เพียงอย่างเดียว เช่น สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ สาธารณสุข เรื่องการบริหารโรงพยาบาล การ บริหารยา การป้องกันโรค พูดง่าย ๆ คือ สอน วิชาว่าด้วยการสาธารณสุขทั้งหมด “ในช่วงท้าย ๆ ก่อนจะเกษียณ ผมได้เป็น อธิบดีกรมควบคุมโรค 2 ปี และอธิบดีกรมอนามัย 2 ปี หลังจากทีท่ �ำ งานมาอย่างยาวนาน เห็นสิง่ หนึง่ ที่ ค นไทยเรายั ง ขาดอยู่ ม าก คื อ ความฉลาด ทางด้ า นสุ ข ภาพ เพราะเราถู ก ปลู ก ฝั ง มาโดย ตลอดว่า ถ้าไม่สบายต้องไปหาหมอ ซึ่งเป็นวิธี ที่ผิด เราต้องป้องกันไม่ให้รู้สึกไม่สบาย ต้องรู้วิธี เสริมสร้างร่างกายตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ใน ช่วงชีวิต 10 ปีที่เหลืออยู่ของผม จึงเลือกเน้น
การทำ�งานด้านการป้องกันโรค จะต้องสอนให้ คุ ณ หมอของเรารู้ จั ก วิ ธีก ารว่ า ทำ � อย่ า งไรให้ ประชาชนไม่ปว่ ย และสอนให้ประชาชนรูจ้ กั ตัวเอง ก่อนเป็นอันดับแรก และเท่าทีท่ �ำ มาก็รสู้ กึ ว่าได้ผล พอสมควร เห็นได้จากเดีย๋ วนีจ้ ะมีรา้ นขายอุปกรณ์ กีฬามากขึ้น การออกกำ�ลังกายไม่ใช่เรื่องของ แข่งขันเพียงอย่างเดียว เช่น จักรยาน ผมรณรงค์ เรื่องจักรยานที่กรมอนามัยมาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว ให้คนนำ�จักรยานมาปั่นรอบ ๆ กรมทุกเย็น หรือ การออกกำ�ลังกายแบบยืด เหยียด การวิ่ง และ การแกว่งแขน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก ที่คนไทยหันมาสนใจการออกกำ�ลังมากขึ้น เช่น ฟิตเนส โยคะ วิ่งมาราธอน ฯลฯ เราต้องพยายาม ทำ�ให้คนรับข้อมูลข่าวสารมากที่สุด เพื่อนำ�มา ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ต้องสอนให้คนรู้ว่าควรเลือก ข้อมูลจากตรงไหน เลือกแล้วข้อมูลเชื่อได้ไหม เลือกวิธีการแบบนี้แล้วนำ�มาปฏิบัติจริงได้ไหม และสุดท้ายสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่”
ยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร
ในยุคที่โลกไร้พรมแดน ทำ�ให้เราใกล้ชิดกัน มากขึน้ และทีส่ �ำ คัญคือ ปริมาณข้อมูลข่าวสารใน โลกออนไลน์มีมากมาย ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ เจอ ไม่ทราบว่าอันไหนข้อมูลเท็จข้อมูลจริง ทำ�ให้ เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แหล่งข้อมูล ซึ่ง คุณหมอพรเทพเองก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามทำ�ให้ ตัวเองเป็นศูนย์ข้อมูลความรู้ที่มีความน่าเชื่อถือ happy+ | 33
วิธีการป้องกันเป็นวิธีที่สำ�คัญ และมีประสิทธิภาพไม่แพ้การให้การรักษา เป็น 30 เตียง ทำ�งานรักษาคนเดียวทั้งหมด จน กระทั่งมีหมอมาช่วยคนหนึ่งเพราะทำ�ไม่ไหวแล้ว ทำ�ให้ผมเกิดการเรียนรู้ว่า วิธีการป้องกันเป็น วิธีที่สำ�คัญและมีประสิทธิภาพไม่แพ้การให้การ รักษา ทำ�ให้เลือกเรียนทางด้านเวชศาสตร์ปอ้ งกัน ได้วุฒิบัตรระบาดวิทยาจากแพทยสภา หลังจาก ได้ไปทำ�งานอื่น ๆ เช่น การดูแลเรื่องงบประมาณ การคลั ง ประกั นสั งคม ประกั นสุ ข ภาพ เป็ น หัวหน้าสำ�นักงานเลขานุการกิจ ปลัดกระทรวง สาธารณสุขแล้ว ผมก็ไปเรียนต่อปริญญาเอก ทางด้านการวางแผนสาธารณสุขและการคลัง สาธารณสุข จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศ อั ง กฤษ พอกลั บ มาจึ ง เริ่ ม สอนหนั ง สื อ ตาม มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไปด้วย ไม่ได้ทำ�งานราชการ เพียงอย่างเดียว เช่น สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ สาธารณสุข เรื่องการบริหารโรงพยาบาล การ บริหารยา การป้องกันโรค พูดง่าย ๆ คือ สอน วิชาว่าด้วยการสาธารณสุขทั้งหมด “ในช่วงท้าย ๆ ก่อนจะเกษียณ ผมได้เป็น อธิบดีกรมควบคุมโรค 2 ปี และอธิบดีกรมอนามัย 2 ปี หลังจากทีท่ �ำ งานมาอย่างยาวนาน เห็นสิง่ หนึง่ ที่ ค นไทยเรายั ง ขาดอยู่ ม าก คื อ ความฉลาด ทางด้ า นสุ ข ภาพ เพราะเราถู ก ปลู ก ฝั ง มาโดย ตลอดว่า ถ้าไม่สบายต้องไปหาหมอ ซึ่งเป็นวิธี ที่ผิด เราต้องป้องกันไม่ให้รู้สึกไม่สบาย ต้องรู้วิธี เสริมสร้างร่างกายตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ใน ช่วงชีวิต 10 ปีที่เหลืออยู่ของผม จึงเลือกเน้น
การทำ�งานด้านการป้องกันโรค จะต้องสอนให้ คุ ณ หมอของเรารู้ จั ก วิ ธีก ารว่ า ทำ � อย่ า งไรให้ ประชาชนไม่ปว่ ย และสอนให้ประชาชนรูจ้ กั ตัวเอง ก่อนเป็นอันดับแรก และเท่าทีท่ �ำ มาก็รสู้ กึ ว่าได้ผล พอสมควร เห็นได้จากเดีย๋ วนีจ้ ะมีรา้ นขายอุปกรณ์ กีฬามากขึ้น การออกกำ�ลังกายไม่ใช่เรื่องของ แข่งขันเพียงอย่างเดียว เช่น จักรยาน ผมรณรงค์ เรื่องจักรยานที่กรมอนามัยมาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว ให้คนนำ�จักรยานมาปั่นรอบ ๆ กรมทุกเย็น หรือ การออกกำ�ลังกายแบบยืด เหยียด การวิ่ง และ การแกว่งแขน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก ที่คนไทยหันมาสนใจการออกกำ�ลังมากขึ้น เช่น ฟิตเนส โยคะ วิ่งมาราธอน ฯลฯ เราต้องพยายาม ทำ�ให้คนรับข้อมูลข่าวสารมากที่สุด เพื่อนำ�มา ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ต้องสอนให้คนรู้ว่าควรเลือก ข้อมูลจากตรงไหน เลือกแล้วข้อมูลเชื่อได้ไหม เลือกวิธีการแบบนี้แล้วนำ�มาปฏิบัติจริงได้ไหม และสุดท้ายสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่”
ยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร
ในยุคที่โลกไร้พรมแดน ทำ�ให้เราใกล้ชิดกัน มากขึน้ และทีส่ �ำ คัญคือ ปริมาณข้อมูลข่าวสารใน โลกออนไลน์มีมากมาย ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ เจอ ไม่ทราบว่าอันไหนข้อมูลเท็จข้อมูลจริง ทำ�ให้ เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แหล่งข้อมูล ซึ่ง คุณหมอพรเทพเองก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามทำ�ให้ ตัวเองเป็นศูนย์ข้อมูลความรู้ที่มีความน่าเชื่อถือ happy+ | 33
happy heart
34 | happy+
คิดเรื่องดี ๆ คิดเรื่องที่สร้างสรรค์ไปพร้อม ๆ กัน แค่เราเริ่มต้นคิดดี ก็จะเริ่มมีความสุขแล้ว พยายามให้ ค วามรู้ กั บ ประชาชนมากที่ สุ ด ไม่ ว่ า จะเป็ น ในช่ อ งทางใด ทั้ ง โทรทั ศ น์ วิ ท ยุ วิทยากร และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อติดอาวุธ ทางปัญญาให้แก่ทุกคนด้านการดูแลตนเอง “ผมพยายามส่งต่อความรู้ที่ได้รับมาให้แก่ ทุกคนมาตลอด หากเราเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถรักษาเองได้ ในวัฒนธรรมคนจีนที่ผม เติบโตมากับคุณย่า ท่านแทบจะไม่ค่อยเจ็บป่วย เลย ถึงแม้เจ็บป่วยก็น�ำ ของในครัวเรือนมาปรับใช้ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ นํ้าส้มสายชู มะนาว นํ้าผึ้ง รวมทั้งของที่อยู่ในครัวเรือนช่วยรักษาได้ เป็นไข้ นิด ๆ หน่อย ๆ ดื่มนํ้าเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็ช่วยได้แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้แพทย์แผนจีนเขาสอน ต่อ ๆ กันมา จนเข้าไปสู่การปฏิบัติในครัวเรือน หรือกล้วยนํ้าว้า เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ทุกคนรับรู้ แต่ ไ ม่ ค่ อ ยรั บ ประทานกั น กล้ ว ยชนิ ด นี้ มี จำ�นวนมาก เห็นอยู่ดาษดื่นเลยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ ค่อยสนใจ หารู้ไม่ว่ากล้วยนํ้าว้า คือ ยาวิเศษ ที่ ดีต่อสุขภาพมาก ๆ เราจึงควรต้องรื้อฟื้นความรู้ เหล่านี้ขึ้นมาใหม่ให้หมด เราต้องทำ�ให้คนไทย ปรับเปลีย่ นพฤติกรรมได้ดว้ ยตัวเอง แต่ตอ้ งเตรียม ข้อมูลไว้ในทีท่ เี่ ขาสามารถหาได้ ในทีท่ เี่ ขาหาเป็น เช่น คนแก่คนเฒ่าหาจากช่องทางโซเชียลมีเดีย ไม่เป็น เขาอาจจะหาอ่านได้จากหนังสือหรือดูจาก ทีวี เราต้องเตรียมไว้ให้หมดทุกช่องทาง “ผมพยายามทำ�ทุกอย่างให้เป็นเป้าหมาย
ของชีวิต ถ้าเราไม่เริ่มต้นจากการป้องกันเอาไว้ ก่อน ประเทศไทยในอนาคตคงไปไม่รอด การ ป้องกันโรคเป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งปลูกฝังสูร่ นุ่ ลูก รุน่ หลาน การเป็ น หมอของผมไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ารตรวจคนไข้ ไม่กี่นาทีพูดกับเขาแค่ไม่กี่คำ� แล้วจะทำ�ให้ผู้ป่วย เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมได้ เราต้องสืบลึกลงไปถึงที่ บ้านเลยว่า เขากินอยู่อย่างไร หากผู้ป่วยเป็นโรค เบาหวาน เราอยากให้ลดการรับประทานนํ้าตาล ลงจะต้องทำ�อย่างไร ในเมื่อตอนเย็นเขาก็ยังคง รับประทานอาหารแบบเดิม ๆ อยู่ เราจึงต้องเพิม่ การ ตระหนักรูพ้ ร้อมกับเลือกปฏิบตั ิ ฝึกการปฏิบตั โิ ดย ใช้วิจารณญาณ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับของการ เปลีย่ น คือ 1) ระดับความรูพ้ นื้ ฐาน 2) ระดับคัดเลือก คัดกรอง และ 3) ระดับวิจารณญาณเปลีย่ นแปลง “ทุกวันนี้เรารู้กันอยู่แล้วว่าออกกำ�ลังกาย เป็นสิง่ ทีด่ ี แต่จะเลือกออกกำ�ลังกายอย่างไร ต้อง ออกกำ�ลังกายอย่างต่อเนือ่ ง ถ้าไม่ลงมือทำ�ก็ไม่มี การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของ พืน้ ฐาน ถ้าทุกคนทำ�สำ�เร็จ กระทรวงต่าง ๆ คงยุบ ไปเหลือสัก 1 ใน 10 กรมอนามัยก็คงต้องยุบทิ้ง เลย เพราะชาวบ้านเขามีความรู้กันหมดแล้ว เรา จะไปจ้ างคนทำ�งานด้ านนี้ ทำ �ไมเยอะแยะ ถ้า ทุกอย่างสามารถหาได้จากโซเชียลมีเดียทั้งนั้น อยู่ตามที่ต่าง ๆ ชาวบ้านเขาสามารถเลือกเอง เป็น ในประเทศทีพ่ ฒ ั นาแล้วไม่จ�ำ เป็นต้องไปสอน เขาว่า กินร้อน ช้อนกลาง ต้องล้างมือ เขาทำ�เอง happy+ | 35
happy heart
36 | happy+
อั ต โนมั ติ เพราะฉะนั้ น พื้ นฐานหนึ่ ง ที่ เราต้ อ ง ช่วยกันคิด คือ ความอยู่รอดปลอดภัยของเด็ก ตั้งแต่ก่อนเข้าอนุบาล เราควรสอดแทรกเนื้อหา เข้าไปเรื่อย ๆ เป็นพื้นฐาน และเมื่อนั้นคนไทย จะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เจ็บป่วยแล้วก็ไม่ต้องกิน ยา ป่วยแล้วรู้จักจัดการกับตัวเองได้ มียาซึ่งเป็น วัตถุดิบต่าง ๆ ภายในบ้าน เพียงแค่เลือกนำ�มา ใช้ให้เป็น และใช้อย่างถูกวิธีเท่านั้น”
ขยันหมั่นเพียร และอดออม
ความขยันหมั่นเพียรและการอดออมเป็ น พืน้ ฐานง่าย ๆ แต่ท�ำ ได้ยาก คุณหมอพรเทพเล่าถึง ความขยันหมัน่ เพียรและการใช้จา่ ยอย่างรูค้ ณ ุ ค่า ของเม็ ด เงิ น ที่ ห ามาได้ ให้ เ ราได้ รั บ ฟั ง ถึ ง คุณประโยชน์อันมหาศาลที่จะตามมา “การได้ไปเรียนต่างประเทศทำ�ให้ผมเรียนรู้ ว่า ทุกอย่างมีขอ้ จำ�กัด ประกอบกับตอนเด็ก ๆ ทีเ่ รา ถูกสัง่ สอนมาให้พยายามประหยัดทุกวิถที าง ตอน อยู่ที่ประเทศอังกฤษ จึงจดบัญชีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นประจำ� ถึงเราจะมีเงินแต่เราต้องรู้จักใช้จ่าย อย่ า งมี คุ ณ ค่ า พอครบหนึ่ ง เดื อ นก็ จ ะมา ดู ว่ า เราใช้ เงิ น ไปในเรื่ อ งใดบ้ า ง ซึ่ ง ถื อ เป็ น อี ก บทเรียนทีส่ �ำ คัญมาก อยากจะฝากไว้ให้คนรุน่ ลูก รุน่ หลานรูจ้ กั คุณค่าเงิน ไม่ใช่วา่ มีเงินเท่าไรแล้วใช้ไป ให้หมด คนเราแม้จะมีฐานะดีมาก ๆ แต่ถ้ามีล้าน ใช้ลา้ นก็ไม่เหลือ เราต้องมีการวางแผนการเงินทีด่ ี 1) ได้เงินมาแล้ว อย่างน้อย 1 ใน 3 ของเงินทัง้ หมด ต้องนำ�ฝากประจำ� 2) นำ�เงินไปลงทุนกับอะไรก็ได้ ที่ให้ดอกผลงอกเงยขึ้นมา 3) นำ�เงินไปใช้จ่าย หรือลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ หากทำ�ได้อย่างนี้ จะ ทำ�ให้ชีวิตไม่ลำ�บาก อยู่กินอย่างพอดี เหล้าเบียร์ ไม่ดื่ม อบายมุขไม่มี ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ผมเอง ก็ฝากเงินกับสหกรณ์อยู่ทุกเดือน ได้เงินปันผลมา ก็ไม่คอ่ ยได้ใช้ จึงนำ�เงินในส่วนนีม้ าทำ�มูลนิธติ า่ ง ๆ ตอนนี้ผมเป็นประธานมูลนิธิอยู่เกือบ 10 แห่ง อย่างเช่น มูลนิธิเลิกบุหรี่ มูลนิธิการแพทย์ฉุกเฉิน มูลนิธิเวชศาสตร์เพื่อการศึกษา เป็นต้น “แรงบันดาลใจของผมก็มาจากการได้เห็น
พระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช นำ�ท่านเป็นต้นแบบในการ ใช้ชีวิตของผมในทุกเรื่อง เช่น ความขยัน การ ประหยัดอดออม รองเท้าทีท่ า่ นใส่ ซ่อมแล้วซ่อมอีก ยาสี ฟั น ที่ ใ ช้ ก็ บี บ แล้ ว บี บ อี ก จนแทบไม่ เ หลื อ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนรู้และถ้าได้ปฏิบัติ ตามสิง่ ทีพ่ ระองค์ทา่ นสอนสัง่ ทิง้ ไว้ให้เรา อดออม ขยันหมั่นเพียร รู้จักความรักความกตัญญูต่อ พ่อแม่ สิ่งเหล่านี้จะทำ�ให้จิตใจของเราดีขึ้นและ มีความสุขครับ”
สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตัวเรา
ปัจจุบัน คุณหมอพรเทพ อายุ 62 ปีแล้ว แต่ ยังคงมีสขุ ภาพร่างกายทีส่ มบูรณ์แข็งแรง ซึง่ เคล็ด (ไม่) ลับที่คุณหมอตอบกลับมาก็คือ “การดูแลตัวเองเป็นสิง่ ทีส่ �ำ คัญมาก วันหนึง่ ต้องเดินให้ได้อย่างน้อย 3 กิโลเมตร ต้องทำ�ให้ได้ ทุกวัน วันไหนเดินไม่ถงึ 3 กิโลเมตร ผมจะกลับไป ปัน่ จักรยานทีบ่ า้ นประมาณ 15-20 นาที ไม่อย่างนัน้ อายุ 62 ปีแล้ว คงไม่เป็นอย่างที่เห็น ผมดูแล ตัวเองด้วยการที่ทุกเช้าตื่นขึ้นมาอันดับแรกจะ นอนอยูบ่ นเตียง โดยทำ�การยืดเหยียด หลังจากนัน้ ก็ ซิ ต อั พ เบา ๆ วิ ด พื้ น บ้ า ง ตามมาด้ ว ยการ
แกว่งแขน รวมทั้งหมด 20 นาที ก่อนที่จะลุกขึ้น ไปอาบนํ้า แต่งตัว และพยายามควบคุมนํ้าหนัก ตัวเองให้ไม่เกิน 75 กิโลกรัม ทำ�แบบนี้ทุกวัน ถ้า ไม่ได้กท็ �ำ วันเว้นวัน นอกจากนีย้ งั เล่นกีฬาหนัก ๆ อาทิตย์ละ 2 วัน ผมชอบเล่นปิงปอง ปิงปองเป็น กีฬาที่ดีต่อคนสูงวัยมาก เพราะได้ใช้ร่างกายทุก ส่วนเคลื่อนไหวตลอด เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เหงื่อ ออกแล้ว สำ�หรับคนเมือง การออกกำ�ลังกาย โดยไม่ต้องเสียเงิน ผมแนะนำ�ให้ไปเดินในซูเปอร์ มาร์เก็ตหรือตามห้างสรรพสินค้าใกล้บา้ น เดินสัก สองสามรอบก็ได้เหงื่อแล้ว นี่เป็นเทคนิคของการ ช่วงชิงเวลาออกกำ�ลังกาย เดินให้เร็ว เวลาเดินให้ แกว่งแขน และคิดเรื่องดี ๆ คิดเรื่องที่สร้างสรรค์ ไปพร้อม ๆ กันด้วย แค่เราเริ่มต้นคิดดี ก็จะเริ่มมี ความสุขแล้ว “ชี วิ ต ของผมเป็ น ชี วิ ต ที่ อ ยู่ กั บ ธรรมชาติ สนุกสนาน เพราะรอบ ๆ หมู่บ้านผมจะเป็นต้นไม้ บึง นํ้า วันไหนอากาศดี ๆ ผมจะไปขี่จักรยาน เล่น นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องอยู่ในที่ที่มี บรรยากาศดี แม้เราทุกคนไม่สามารถเลือกได้ แต่ เราสามารถจัดสรรเวลาออกกำ�ลังกายให้ชวี ติ ของ เราได้ แค่นี้เราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมด้วย สุขภาพที่ดีแล้วครับ” happy+ | 37
feature
เที่ยวรอบกรุง
Around Bangkok เรื่อง : It’s a bell / Patty Pom / TepiN / Nasry
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นเมืองที่มีความหลากหลาย ทั้งทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ในขณะที่สิ่งใหม่ ๆ กำ�ลังปลูกสร้างขึ้นพร้อมความศิวิไลซ์ กรุงเทพฯ ยังมีอีกมุมหนึ่งที่เป็นชุมชนเก่าแก่ วิถีชีวิตริมนํ้า ความเป็นอยู่แบบไทย ๆ แฝงตัวอยู่
38 | happy+
นิตยสาร happy+ ฉบับกันยายนนี้ เราจึงอยากพาทุกท่านไปสัมผัสกรุงเทพมหานคร ในมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ บางที่ที่เราคุ้นเคย อาจมีสิ่งใหม่ที่เราไม่เคยรับรู้ซ่อนตัวอยู่ก็เป็นได้ ลองไปเดินเที่ยวเล่นรอบกรุงกับเรากันดีกว่าค่ะ
happy+ | 39
feature
บ้านบางเขน
Around Bangkok
บ้านบางเขน ที่เที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ณ เขตบางเขน ตรงข้ามกรมทหารราบที่ 11 รักษา พระองค์ (ราบ 11) เป็นแหล่งแฮงค์เอาต์ชิค ๆ ยุค 90’s และเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวในอดีต ภายใน • เปิดให้บริการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง รวบรวมของเก่า ของสะสม ของโบราณที่หาดูได้ยาก ให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ด้วย • ค่าเข้าชม 20 บาท การตกแต่งสไตล์บา้ นไม้ บ้านอิฐและปูน มีมมุ ถ่ายรูปเก๋ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรืน่ รวมถึงมีอาหาร • โทรศัพท์ : 08-5921-6666 • Facebook : www.facebook.com/ จานเด็ดจากทุกท้องถิ่น ขนมหวานและเครื่องดื่มชื่นใจให้เลือกมากมาย baanbangkhen เดินเข้าไปด้านในเหมือนเมืองขนาดย่อม ประตูทางเข้ามีมมุ ถ่ายภาพเก๋ ๆ หลายมุม ทัง้ โปสเตอร์โค้ก แบบโบราณประดับไว้บนกำ�แพงอิฐ ภาพวาดมุมตึกเด็กน้อยเล่นชิงช้า เข้ามาข้างในจะเป็นตึกไม้ ด้านขวาคือ บ้านพ่อหลวง จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นบ้านที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของพ่อหลวง ของสะสม เหรียญที่ระลึก ธนบัตร ภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และตรงข้ามกับบ้านพ่อหลวง คือ พิพิธภัณฑ์โค้ก ที่รวบรวมของสะสมจากโค้กหลากหลายแบบ จุดนี้เสียค่าเข้าชมคนละ 40 บาท แต่จะได้รับโค้กขวดเล็ก ฟรี 1 ขวด ถัดออกมาเป็นพื้นที่ส่วนกลาง กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น มีที่ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจตามอัธยาศัย มีมุมถ่ายรูปชิค ๆ ถัดไปเป็นห้องจัดแสดง ของเก่า ที่หาชมได้ยากแล้วในสมัยนี้ ทั้งร้านขายยา ร้านตัดผม ร้านโชห่วย ห้องเรียนเก่า มีข้าวของเครื่องใช้โบราณ ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีต ส่วนใครที่ เดินเพลินจนเหนื่อย แวะเข้าไปหาอะไรเย็น ๆ ทานในคาเฟ่ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน หลากหลายเมนู ภายในกว้างขวางตกแต่ง สวยงามสไตล์วินเทจ แถมฟรี wifi-f อีกด้วย เรียกได้ว่าบ้านบางเขนเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัยจริง ๆ ค่ะ รับรองว่าจะสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างแน่นอน 40 | happy+
อุทยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
Around Bangkok • ที่ตั้ง : ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขต คลองสาน กรุงเทพฯ 10600 • เปิดให้บริการ : ภายในอุทยาน : 06.0018.00 น. (ทุกวัน) อาคารพิพิธภัณฑ์ : 08.30-16.30 น. (ยกเว้ น วั น หยุ ด นักขัตฤกษ์) เข้าชมฟรี • โทรศัพท์ : 0-2437-7799, 0-2439-0902 • เว็บไซต์ : www.theprincessmother memorialpark.org
เพียงก้าวเข้ามาใน อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี บรรยากาศ โดยรอบก็เปลี่ยนไปจนรู้สึกได้ถึงความร่มรื่น ร่มเย็น เพราะบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้ ทั้ง ขนาดใหญ่อายุหลายสิบปี ไม้ดอกสีสันสวยงาม พืชสมุนไพร ไม้ในวรรณคดีที่เราไม่ค่อยรู้จัก ทุกต้น จะมีป้ายชื่อบอกให้เรารู้ ตัวอาคารพิพธิ ภัณฑ์ซง่ึ สร้างขึน้ สนองกระแสพระราชดำ�ริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ทีใ่ ห้อนุรกั ษ์อาคารเก่าในย่านนิวาสสถานเดิมครัง้ ทรงพระเยาว์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ ในตัวอาคารหลังที่ 1 จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี และประมวลเหตุการณ์ในการพระราชพิธีพระบรมศพ ประวัติชุมชนย่านวัดอนงคาราม อาคารหลังที่ 2 จัดแสดงพระราชกรณียกิจ พระราชจริยาวัตรและงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายในบริเวณสวนยังมี บ้าน จำ�ลอง แผ่นหินแกะสลัก ศาลาแปดเหลีย่ ม ทิมบริวาร บ่อนํา้ โบราณ รูปปัน้ งานศิลปะ และพระราชานุสาวรียส์ มเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประทับนัง่ อยู่ในสวนด้วย เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาเรียนรู้ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการทำ�กิจกรรมต่าง ๆ ในสถานที่แห่งนี้ happy+ | 41
feature
ชุมชนย่านกุฎีจีน
Around Bangkok
ชุมชนย่านกุฎีจีนหรือกะดีจีน เป็นย่านชุมชนเล็ก ๆ เก่าแก่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ถึงแม้ที่นี่ จะเป็นย่านชุมชนเล็ก ๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายที่เลยค่ะ • ที่ตั้ง : ชุมชนกุฎีจีน อยู่บริเวณซอยกุฎีจีน ใกล้กับวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และ บ้านวินด์เซอร์ เรือนไม้ทรงขนมปังขิง ที่ยืนหยัดผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ตกแต่ง โบสต์ซางตาครู้ส แขวงวัดกัลยาณ์ เขต ประดับประดาด้วยไม้ฉลุเป็นลวดลายตามบริเวณหน้าจั่ว ช่องระบายอากาศ ลูกกรงระเบียงและรอบ ธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 ชายคา เป็นส่วนหนึง่ ของ พิพธิ ภัณฑ์ทอ้ งถิน่ ริมนํา้ ย่านกุฎจี นี แหล่งเรียนรูข้ องชาวชุมชนและสาธารณะ ศาลเจ้าเกียนอันเกง มีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในทีผ่ สมผสานระหว่างการใช้กระเบือ้ งโค้ง และวิธีมุงหลังคาแบบจีนแท้ ๆ โบสถ์ซางตาครู้ส ศาสนสถานสำ�คัญที่อยู่คู่ชุมชนกุฎีจีนมายาวนานกว่า 100 ปี ตัวอาคารของโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกและเรเนสซองซ์ มี ลักษณะเด่นคือ หอระฆังทรงแปดเหลี่ยมประดับด้วยไม้กางเขนบนยอด และที่นี่ยังเป็นต้นกำ�เนิดของขนมขึ้นชื่อ คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ขนมโบราณที่ยังคงยึดสูตรตามตำ�รับดั้งเดิมของชาวโปรตุเกส ที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย มี ลักษณะคล้ายขนมไข่ ใช้วิธีอบด้วยเตาอบแบบโบราณ ทำ�ให้ขนมมีความกรอบนอกนุ่มใน และมีความหอมเฉพาะตัว 42 | happy+
พิพิธภัณฑ์สักทอง วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
Around Bangkok
• เปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 10.0017.00 น. พิพธิ ภัณฑ์สกั ทอง ตัง้ อยูใ่ นส่วนของวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร บนถนนศรีอยุธยา (แยกสีเ่ สาเทเวศร์) • ค่าเข้าชม 30 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เมื่อเดินเข้ามาจะเห็นเรือนปั้นหยาอันสวยงามรอต้อนรับอยู่ โดยเรือนนี้สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง เข้าชมฟรี จำ�นวน 59 ต้น อายุกว่า 479 ปี โดยเป็นการรวมบ้านแก้วจากจังหวัดแพร่ทั้ง 11 หลัง และมอบเป็น • โทรศัพท์ : 0-2628-7956, 0-2628-9880-1, พิพิธภัณฑ์สักทอง โดย ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน 08-9812-4495, 08-1555-2450 เมื่อเข้ามาภายในเราจะพบกับประวัติคร่าว ๆ เกี่ยวกับการนับจำ�นวนวงปี โดยการวิเคราะห์จาก • เว็บไซต์ : www.goldenteakmuseum.com สัดส่วนคาร์บอนไอโซโทป ห้องด้านข้างประดิษฐานพระสยามเทวาธิราชองค์จำ�ลองเพื่อให้พวกเราได้ สักการะ เดินขึ้นไปด้านบน จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ 1) ห้องจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จ พระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทงั้ 19 พระองค์ 2) ห้องจัดแสดงหุน่ ขีผ้ งึ้ พระมหาเถระและเกจิอาจารย์ชอื่ ดังหลายรูป เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี, หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ, พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ฯลฯ และ 3) ห้องที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำ�คัญ ๆ ให้ได้กราบขอพร เพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต happy+ | 43
feature
พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาบางกอก ดอลล์ (Bangkok Doll Museum)
Around Bangkok • ที่ตั้ง : 85 ซอยแยกรัชฏภัณฑ์ (ซอย หมอเหล็ง) ถนนราชปรารภ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 • เปิดให้บริการ : วันอังคาร-เสาร์ ยกเว้น วันอาทิตย์-จันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น. เข้าชมฟรี • โทรศัพท์ : 0-2245-3008 และ 0-22452512
ตุ๊กตาไม่ได้เป็นแค่ของเด็กเล่น ไม่ได้เป็นแค่ตัวแทนของความน่ารักเท่านั้น แต่ตุ๊กตายังเป็นของ สะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจ เป็นสิ่งที่แสดงถึงความงดงามทางศิลปะ และเป็นสิ่งที่ทำ�ให้เราได้เรียนรู้ ถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์อีกด้วย เช่น สถานที่ที่เราได้ไปในวันนี้ พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาบางกอก ดอลล์ (Bangkok Doll Museum) ก่อตั้งโดยคุณหญิงทองก้อน จันทวิมล เมื่อปี พ.ศ. 2499 หลังจากที่ท่านได้ กลับมาจากเรียนรู้การประดิษฐ์ตุ๊กตาจากโรงเรียนโอซาวาดอลล์ ประเทศญี่ปุ่นท่านได้ประดิษฐ์ตุ๊กตา ของไทยเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นทั้งที่ผลิตและจัดแสดงตุ๊กตามากมาย ตุ๊กตาทุกตัวใช้วัสดุภายในประเทศ และทุกขั้นตอนผลิตจากมือทั้งสิ้น มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ ตุ๊กตาโขน ตุ๊กตาชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ตุ๊กตาที่แสดงวิถีชีวิตของชาวไทยในชนบท และภายใน ยังมีมุมที่จัดแสดงตุ๊กตาจากทั่วโลกกว่า 400 ตัว ซึ่งเป็นของสะสมที่มีอายุยาวนาน ทำ�ให้เราเห็นถึงความแตกต่างของตุ๊กตาแต่ละประเทศ ความสวยงาม ความละเอียด ความน่ารักของตุ๊กตาแต่ละตัว และเราจะยังได้สัมผัสวิธีการทำ�ตุ๊กตาในแต่ละขั้นตอนอย่างใกล้ชิดอีกด้วย สำ�หรับผู้ที่รักและสนใจตุ๊กตา ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้นะคะ 44 | happy+
Naiipa Art Complex (ในป่า อาร์ท คอมเพลกส์)
Around Bangkok
• ที่ตั้ง : 46 ถนนสุขุมวิท ซอย 46 แขวง พระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองค่อย ๆ ลดน้อยลงทุกที แต่ว่ายังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่ • โทรศั พท์ : 09-4898-7637 ยังคงความร่มรื่น ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามป่าใหญ่ นั่นคือ ในป่า อาร์ท คอมเพลกส์ โครงการ • เว็ บ ไซต์ : www.naiipa.com/ อาคารสำ�นักงานในซอยสุขุมวิท 46 ห่างจาก BTS พระโขนงเพียง 100 เมตร • Facebook : www.facebook.com/pg/ ด้วยแรงบันดาลใจของเจ้าของโครงการ ที่ต้องการสร้างอาคาร สำ�นักงานในพื้นที่ดังกล่าว โดย naiipa.art/ ไม่ตอ้ งการตัดหรือโค่นย้ายต้นมะขามทีม่ อี ายุกว่า 30 ปีออกจากตำ�แหน่งเดิม จึงมีการออกแบบก่อสร้าง อาคารต่าง ๆ ให้กลมกลืนไปกับต้นไม้โดยรอบ จึงเป็นทีม่ าของชือ่ ในป่า อาร์ท คอมเพลกส์ เป็นการพบกันทีล่ งตัวระหว่างสถาปัตยกรรมกับธรรมชาติ ตัวตึก จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินยกระดับที่สร้างล้อมรอบต้นมะขามต้นใหญ่ ภายในพื้นที่กว่า 2 ไร่ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ยังมีส่วนของออฟฟิศให้เช่า ร้านกาแฟและ Co-Working Space ให้มานั่งทำ�งานภายใต้บรรยากาศ ธรรมชาติ ที่หลุดออกมาจากความวุ่นวายในเขตเมือง รับรองว่ามาแล้วอยากมาอีกแน่นอนค่ะ happy+ | 45
feature
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยา เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี
Around Bangkok
• เปิดให้บริการ : ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 09.30-16.30 น. โครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นราชสักการะ • ค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงครอง 10 บาท, ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ตามแผนการจัดตั้งสถาบันศิลปวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เด็ก 50 บาท 1 ใน 12 โครงการ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรธรณี เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นคว้า อ้างอิง • โทรศัพท์ : 0-2902-7661 ข้อมูลทางธรณีวิทยา • เว็บไซต์ : www.dmr.go.th เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำ�หรับคนที่รักไดโนเสาร์ ไม่ต้องเดินทางไกลก็สามารถสนุกตื่นเต้นได้ง่าย ๆ • Facebook : http://www.facebook. com/NationalGeologicalMuseum. ด้านหน้าพิพธิ ภัณฑ์จะมีไดโนเสาร์กนิ พืชคอยาวยืนเป็นพรีเซนเตอร์คอยต้อนรับแขกทีม่ าเยือน เมือ่ เข้ามา PathumThani ภายในพิพิธภัณฑ์แล้วห้องแรกจะพบกับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และนิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับงานด้านธรณีวิทยา มีหลากหลาย ห้องให้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโลก วัฏจักรของหิน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต พร้อมสนุกสนานไปกับห้องความรู้ธรณี สัณฐานและแบบจำ�ลองสภาพแวดล้อมในยุคต่าง ๆ ไปถึงองค์ความรู้ด้านการทำ�เหมืองแร่และการใช้ประโยชน์จากแร่ จากนั้นมีห้องให้สำ�รวจและขุดเจาะ ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม พลังงานทางเลือก ถ่านหิน รอบรู้การสร้างเขื่อน ถนน และการก่อสร้างพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมี “สวนดึกดำ�บรรพ์” ทีแ่ สดงสภาพแวดล้อมในยุคต่าง ๆ ในลักษณะสวนทีจ่ �ำ ลองโลกดึกดำ�บรรพ์ สัดส่วนต้นไม้และสภาพแวดล้อมในยุคต่าง ๆ ส่วนภายนอก อาคารจะมีนิทรรศการกลางแจ้งอย่าง “สวนหิน” ที่บอกถึงความเก่าแก่ของหินยุคต่าง ๆ พร้อมมีมุมนํ้าตก นํ้าพุ ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่สวยงามและร่มรื่น อีกทั้งยังมี ไดโนเสาร์จำ�ลอง และแบบจำ�ลองสภาพแวดล้อมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน 46 | happy+
พิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดล สวนสุนันทา
Around Bangkok
พิพธิ ภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดลหรือตำ�หนักสายสุทธานภดล ตัง้ อยูใ่ นส่วนของสำ�นักศิลปะและ วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนนั ทา เดิมเป็นตำ�หนักทีป่ ระทับของพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้า สายสวลีภริ มย์ กรมพระสุทธาสินนี าฏปิยมหาราชปดิวรัดา เป็นตำ�หนักแฝดขนาดใหญ่ มีพนื้ ทีก่ ว้างขวาง ลักษณะกึ่งปูนกึ่งไม้ มีทางเดินเชื่อมทั้งด้านบนและด้านล่าง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ตำ�หนัก แห่งนีเ้ ป็นหนึง่ ในอีกหลาย ๆ ตำ�หนักทีต่ งั้ อยูใ่ นสวนสุนนั ทา ซึง่ เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดตั้งสวนแห่งใหม่ที่ไม่พลุกพล่านขึ้นท้ายวัง เพื่อเป็นที่พำ�นักของพระมเหสี พระสนมเจ้าจอม และพระราชธิดา ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นชั้นบนและชั้นล่าง โดยชั้นล่างมีพระฉายาลักษณ์ของพระวิมาดาเธอฯ ให้เคารพและสักการะ เมื่อเดินขึ้นมายังชั้นสอง จะพบกับห้องบรรทมของพระวิมาดาเธอฯ ห้องนั่งเล่นพักผ่อนพระอิริยาบถ ส่วนกลางมีหุ่นโชว์เสื้อผ้าการแต่งกายในยุคสมัยนั้น และเครื่องเรือน เครื่องใช้ ต่าง ๆ ระหว่างทางเชื่อมจะมีรูปถ่ายของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในประดับตกแต่งอยู่ เดินกลับมาอีกฝั่งหนึ่งของตึก จะพบกับภาพวาดฝีพระหัตถ์ พร้อม ประวัติและการสืบสายสันตติวงศ์ happy+ | 47
ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล
ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน -ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ- เป็นคำ�ที่เราได้ยินจนแสนจะคุ้นชิน จะผ่านพ้นไปเมือ่ ไหร่ อย่างนัน้ แล้วเราสมควรทำ�ได้เพียงแค่นงั่ รอเท่านัน้ หรือ วัตถุประสงค์ของคำ�นี้คงเป็นการให้กำ�ลังใจ ให้พลังในการลุกขึ้นต่อสู้ และ ให้ความเชื่อมัน่ ว่า ชีวิตยังมีเรือ่ งราวดี ๆ รอให้เราได้พบเจอ ถ้อยคำ�นีจ้ งึ อาจ ถ้าเรามัวแต่นั่งรอ เราอาจเสียโอกาสมากมายในชีวิตโดยเฉพาะโอกาส แสนสั้น แต่กินความหมายมากมายสำ�หรับเรื่องราวของหัวใจ ที่เรียกว่า “โอกาสแห่งการเรียนรู้” เมือ่ เราไปดูความเป็นจริง หลังจากฝนตก ท้องฟ้าจะสดใส ธรรมชาติจะ ในเวลาที่ฝนตก เราต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองในทางที่ทำ�ได้ ถ้า ชุ่มฉํ่าไปด้วยเม็ดฝน ทุกอย่างเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ภาพ ป้องกันไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเฉอะแฉะเปียกปอนให้เป็น เรียนรู้ เหล่านีเ้ ป็นภาพทีส่ อดคล้องกับถ้อยคำ� และพิสจู น์ความเชือ่ มัน่ เช่นนัน้ ได้จริง ที่จะรักษาสุขภาพร่างกาย และเรียนรู้ที่จะรักษาสุขภาพใจให้ไม่กังวลอยู่กับ แค่เพียงเม็ดฝน ความสดชืน่ ภายหลังความมืดมน...การเริม่ ต้นหลังจากโพยภัยทีพ่ บเจอ ในชีวิตคนเรา ยิ่งใช้ชีวิตมากขึ้น ๆ เราจะพบเจอเรื่องที่คล้ายคลึงกัน กลับมามองความจริงในอีกมุมหนึง่ ของชีวติ เราหลายคนรอวันเวลาหลัง เหมือน ๆ กัน หมุนวนกันไป จนบางเรื่องกลายเป็นความเคยชิน ฝนตก เรารอการเริ่มต้นใหม่หลังจากชีวิตเจอปัญหา โดยเราอาจไม่รู้เลยว่า เราไม่ได้เจอแค่ฝนธรรมดา แต่เรากำ�ลังเจอพายุฝนทีไ่ ม่รวู้ า่ จะหยุดตกเมือ่ ไหร่ เมื่อเข้าหน้าฝน เราก็คาดเดาได้ว่าต้องพบเจออะไร ใครบางคนก็ใช้ เราไม่ได้เจอกับปัญหาธรรมดา แต่เรากำ�ลังเจอกับปัญหาใหญ่ ที่ไม่รู้ว่า ประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาเตรียมตัว และป้องกันให้อยู่ได้อย่างดีขึ้นกับ 48 | happy+
ฤดูกาลที่ต้องพบเจอ และก็มีใครอีกหลายคนที่ไม่เตรียมตัว ไม่ป้องกัน ไม่ ท่ามกลางคนทีเ่ ราเหลืออยู่ เราจะพบว่าทีส่ ดุ แล้วคนทีอ่ ยูก่ บั เราได้ตลอดเวลา ใส่ใจอะไร สุดท้ายก็พบเจอความเปียกปอนเดิม ๆ จริง ๆ คือ ตัวเราเอง ตัวเราที่อยู่ในทุกช่วงวินาที เข้าใจ เข้าถึงทุกความรู้สึก ทุกเหตุการณ์ ตัวเราที่สมควรแก่การกลับมาเรียนรู้และดูแล เวลาที่ชีวิตเจอ ในชีวิตคนเราก็เช่นกัน ในวันที่พบเจอปัญหา เราต้องเรียนรู้ที่จะป้องกัน ปัญหา เป็นเวลาที่เหมาะแก่การสร้างภูมิคุ้มกันหัวใจให้เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม ไม่ให้สงิ่ นัน้ เกิดขึน้ อีก หรือป้องกันไม่ให้ปญ ั หานัน้ หนักกว่าเดิม ถ้าป้องกันไม่ การเรียนรู้นี้จึงจะเป็นการเรียนรู้ที่คุ้มค่าที่สุด ได้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหาอย่างชาญฉลาด เรียนรู้ที่จะรักษาร่างกาย และจิตใจให้ก้าวข้ามปัญหาน้อยใหญ่ไปให้ได้ด้วยตัวเอง ในความเฉอะแฉะยังมีความชุ่มฉํ่า ในความมืดมนยังมีแสงสว่างจาก การเรียนรู้ การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ การเตรียมตัวและเตรียมหัวใจ ยังมี เราอดทนในวันที่ฝนตกหนัก ในวันที่ชีวิตทุกข์หนัก เป็นเรื่องที่ถูกต้อง อีกหลายสิง่ หลายอย่างทีเ่ ราไม่เคยเจอและต้องพบเจอ และสิง่ ทีเ่ ราเคยเจอแล้วก็ แล้ว แต่เราไม่จำ�เป็นต้องรอคอยให้ฝนหยุดตก หรือให้ชีวิตหยุดทุกข์ ถึงจะ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มสี ทิ ธิพ์ บเจอสิง่ นัน้ อีก สำ�คัญทีเ่ ราจะต้องศึกษา ลุกขึ้นก้าวเดินต่อไป เราต้องเรียนรู้ ต้องอยู่ให้ได้ ต้องลุกให้ได้ แม้เท้าและ ให้เข้าใจ เรียนรู้ธรรมชาติของปัญหาและอยู่กับสิ่งเหล่านั้นให้ได้ หัวใจจะเปียกปอน การเรียนรูท้ ลี่ กึ ซึง้ ทีส่ ดุ ในวันฝนตก ในวันทีช่ วี ติ เป็นทุกข์คอื การกลับมา อยูก่ บั ตัวเอง เราจะพบว่าเราเหลือใครและเสียใครไป ในวันทีช่ วี ติ ไม่สวยงาม
ฟ้าหลังฝน…อดทนได้ แต่ไม่ต้องเฝ้ารอ happy+ | 49
คนคิดดี
50 | happy+
พูลยศ กัมพลกัญจนา Paper Ranger ปลุกความเป็นฮีโร่ในตัวคุณ เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี
การทำ�ความดี การช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเรื่องไกลตัวอย่างที่คิด เราอาจเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ ๆ ตัว ที่ เราทำ�ได้ หรือมีส่วนร่วมได้ง่าย ๆ เหมือนอย่างที่คุณพี-พูลยศ กัมพลกัญจนา ได้เริ่มและมีความเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนสามารถทำ�ได้ นั่นจึง เป็นที่มาของ ‘โครงการ Paper Ranger จิตอาสาสมุดเพื่อน้อง’ ที่เริ่มต้นจาการทำ�เรื่องเล็ก ๆ จากกระดาษใช้แล้วหน้าเดียว จนวันนี้โครงการนี้ ดำ�เนินงานมายาวนานถึง 10 ปี และก็ยังคงทำ�อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อพลังและความหวังดีถึงเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน วันนี้เราจะได้รู้จักและเข้าใจ โครงการนี้กันมากขึ้น ผ่านการพูดคุยกับคุณพีค่ะ “มันเริ่มตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษา ผม ก็เป็นเด็กคนหนึง่ ทีไ่ ม่คอ่ ยตัง้ ใจเรียนเท่าไหร่ เวลา ใกล้สอบก็จะไปขอซีรอ็ กซ์ชที ของเพือ่ นมาอ่าน พอ สอบเสร็จเราก็จะเหลือกองชีทพวกนี้เป็นจำ�นวน มาก พอเรียนมากเข้าก็เริ่มรู้สึกว่ากระดาษมัน เหลือเยอะ และกระดาษซีร็อกนั้นด้านหนึ่งจะว่าง อยู่แล้ว ก็เลยมาคิดว่าเราน่าจะใช้ประโยชน์อะไร จากมันได้ ประกอบกับผมเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ มาจึ ง มองว่ า อยากจะใช้ มั น ให้ คุ้ ม ค่ า มากที่ สุ ด ก็เลยลองรวบรวมไอเดียว่าจะถ่ายทอดออกมา อย่างไร สุดท้ายเลยทำ�ออกมาให้กลายเป็นสมุดที่ กลับมาน่าใช้อกี ครัง้ โดยการพับแล้วซ่อนด้านทีใ่ ช้ แล้วไว้ขา้ งใน ครัง้ แรกทีค่ ดิ เริม่ ทำ�ก็ไม่คดิ ว่ามันจะ อยู่มายาวนานขนาดนี้ ตอนแรกก็ทำ�สนุก ๆ เอา มาไว้ใช้กันเอง แต่พอทำ�ไปเรื่อย ๆ เริ่มเห็นว่าเรา ได้สมุดมาเยอะ ก็เลยมาคิดต่อว่าถ้าสมุดอยูก่ บั เรา เราก็ใช้ไม่หมด เลยมองว่าน่าจะเอาไปให้คนอื่น ที่เขาขาดแคลนกว่าเราให้เขาได้ใช้ หลังจากนั้น เลยเริ่มเอาไปแจกให้แก่เด็กด้อยโอกาส พอได้ไป แจกความคิดก็เริม่ สมบูรณ์ขนึ้ แค่เราเปลีย่ นมาใช้ เวลากับกระดาษที่เรามี มันสามารถสร้างคุณค่า ขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็เอาไปทำ�ประโยชน์ให้ คนอีกกลุม่ หนึง่ ได้ มันเลยเริม่ ครบวงจร หลังจากนัน้ ก็มองว่าไอเดียเหล่านี้ถ้าเก็บไว้เองก็คงทำ�กันอยู่ แค่นี้ เราน่าจะเริ่มไปสอนให้คนอื่นได้มาทำ�อะไร
ไม่เคยคิดว่าจะมา ถึงวันที่เราสามารถผลิต สมุด 200,000 เล่ม เพื่อไปแจกเด็ก ทั่วประเทศได้ มันมาไกล ที่ขนาดสามารถเปลี่ยน เด็กคนหนึ่งได้ ดี ๆ ร่วมกัน “ตอนทำ�กับเพื่อน ๆ ก็เหมือนเป็นเรื่องสนุก มากกว่า แต่พอเราโตขึน้ เราเริม่ เรียนรูอ้ ะไรหลาย ๆ อย่างจากสังคม เราเริ่มจับอะไรบางอย่างได้ ผม มองว่ามันเป็นการสร้างคุณค่าจากเรื่องง่าย ๆ สร้างคุณค่าทั้งต่อกระดาษที่เราใช้แล้ว ทั้งเด็ก ด้ อ ยโอกาส และคนที่ ม าทำ � กิ จ กรรมกั บ เรา ให้เขาได้เรียนรู้ว่าเขาสามารถทำ�ความดีได้จาก เรื่องง่าย ๆ “ทุกวันนี้ Paper Ranger เป็นโครงการที่
พยายามปลูกฝังว่า ทุกคนก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ จริง ๆ ไม่ว่าคุณจะทำ�อะไรคุณก็เป็นฮีโร่ได้นะ แต่ฮีโร่แบบ Paper Ranger เป็นฮีโร่ที่เลือกมาดูแล ด้านกระดาษรีไซเคิล กระดาษใช้แล้วหน้าเดียว ที่ไม่ว่าใครก็มี ถ้าวางกองไว้เฉย ๆ มันก็เป็นเพียง แค่กระดาษใช้แล้วหน้าเดียวทีเ่ ราเห็นตามออฟฟิศ หรือนักเรียนเรียนเสร็จแล้วก็ทงิ้ เอาไปชัง่ กิโล ขาย หรื อ เอากลั บ มาใช้ ใหม่ แต่ สำ � หรั บ ผมตอนนี้ ผมมองว่าถ้าเราเอาเวลาของเราไปเติมคุณค่า ให้กระดาษพวกนี้ จะแปรเปลี่ยนกระดาษพวกนี้ ให้กลายเป็นชิ้นงานหนึ่ง ที่สามารถส่งต่อแล้ว มันมีพลัง โครงการนี้จึงทำ�เพื่อส่งพลังต่อให้กับ เด็กด้อยโอกาส และเป็นพลังหนึ่งที่อยากจะช่วย ให้สังคมดีขึ้น “โครงการจึ ง ดำ � เนิ น มาเป็ น แบบนั้ น และ ถ่ายทอดไอเดียความเป็นฮีโร่ให้ทุกคนในสังคมที่ มีโอกาสได้ผา่ นเข้ามา เขาจะได้รวู้ า่ จริง ๆ แล้วการ ทำ�ความดีไม่ได้ยาก ง่ายนิดเดียวและใกล้ตัวเรา แค่เราเริ่มต้นลงมือทำ� ทุกวันนี้ก็เลยเป็นจุดหนึ่ง ที่มาสะกิดให้เขารู้ว่า จริง ๆ แล้วฮีโร่นั้นคือพลัง ที่อยู่ในตัวเรา แล้วคุณจะได้รับรู้ความรู้สึกนั้น และคำ�ว่าจิตอาสาไม่ได้อยูไ่ กล อยูใ่ นตัวคุณเช่นกัน นั่นแหละ แต่คุณต้องเข้าใจมัน คุณถึงจะทำ�ได้ อย่างมีคุณค่า” จากกระดาษแผ่ นเล็ ก ๆ ที่เห็นอยู่ทุกวัน happy+ | 51
คนคิดดี
เราสามารถเก็บเอามาสร้างประโยชน์ตอ่ ได้ เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างมีคุณค่าในตัวของตัวเอง รวมถึง คนทุกคนด้วย ที่สามารถสร้างคุณค่าให้ตัวเองได้ และคงจะดียงิ่ ขึน้ ถ้าคุณสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ ผู้อื่นได้ด้วย “กิจกรรมส่วนใหญ่เราจะทำ�กันในวันเสาร์อาทิตย์ หรือหากมีคนที่สนใจรวมกลุ่มแล้วนัด กันมาทำ�กิจกรรมนอกเหนือจากนั้นก็ได้ หรือเชิญ เราออกไปจัดกิจกรรมข้างนอกก็ได้ด้วย จัดให้แก่ องค์กรต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเรียนรู้ผ่าน การทำ�สมุดจากกระดาษใช้แล้วที่ทำ�ได้ง่าย ใช้ กระบวนการในการสือ่ สารให้เขาเข้าใจคุณค่าของ ตัวเอง เข้าใจคุณค่าของกระดาษ เข้าใจคุณค่าใน เรือ่ งภายในใจทีเ่ ราทำ�กัน ถ้าเราช่วยกันมันมีผลส่ง ให้โลกใบนี้ดีขึ้นได้ “ปัจจุบนั Paper Ranger เหมือนเป็นโครงการ หนึง่ ทีม่ ากล่อมเกลาจิตใจคนมากกว่า ถามว่าเรา มองว่ามันจะโตไปได้ขนาดไหนหรือสามารถช่วย เหลือสังคมได้ขนาดไหน สำ�หรับผมเองมองว่า แค่ มันมีบทบาทในสังคม ณ ทุก ๆ วัน หรือมีหน้าที่ ที่ช่วยให้คนได้มาเรียนรู้คุณค่าในตัวเอง ได้มา เริ่มทำ�เรื่องดี ๆ ผมว่าแค่นี้ก็เป็นความสำ�เร็จของ Paper Ranger แล้ว ตอนนี้ผมบอกตรง ๆ เลยว่า 52 | happy+
จริง ๆ โครงการนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย แค่เอากระดาษใช้แล้วมาเย็บเป็นสมุด แล้วก็เอา ไปช่วยเด็ก แต่สิ่งหนึ่งที่มันกลับมีคุณค่ามาก ๆ คือ ทุกคนได้มารับความรู้สึกเดียวกัน ได้มาร่วม อุดมการณ์เดียวกัน ได้มาเห็นพลังที่อยู่ภายใต้ สมุดเล่มเล็ก ๆ ที่เราช่วยกันทำ�ร่วมกัน ทำ�ให้ โครงการมันยังสามารถอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้” ในการทำ�งานหรือทำ�กิจกรรมอะไรก็ตาม ไม่วา่ จะเป็นเรื่องดีแค่ไหน ก็มักจะประสบปัญหาหรือมี อุปสรรคบ้าง แต่เมือ่ เทียบกับสิง่ ทีส่ ะท้อนกลับมา มันคุม้ ค่ากับการทีเ่ ราต้องเผชิญมากมายนัก และ สิ่งนั้นยังคงเป็นพลังให้คุณพีและทุก ๆ คน ที่ได้มี ส่วนร่วมในการทำ�โครงการนี้ “การที่เราเติบโตมาได้ 10 ปี มันก็ต้องเจอ ปัญหาท้าทาย เจอเรื่องราวมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อ 7-8 ปีก่อน ที่เกิดเหตุการณ์นํ้าท่วมใหญ่ ที่ ภ าคใต้ ตอนนั้ น เรารู้ ว่ า พื้ นที่ ไหนขาดแคลน คนพืน้ ทีเ่ ขาติดต่อเรามาเองโดยตรง แต่ตอนนัน้ เรา เองอาจจะไม่มีพลังมากพอที่จะทำ�กิจกรรมลง ไป เราพยายามวิ่งหาแนวทางที่จะลงไปช่วย แต่ ก็ลำ�บาก นั่นก็เป็นช่วงหนึ่งที่ท้อ แต่สุดท้ายพอ เวลาเราเจอปัญหา เราก็มองมันเป็นประสบการณ์ หนึง่ ทีจ่ ะพัฒนาตัวโครงการของเราให้ยงั่ ยืนขึน้ ไป
ได้มากกว่า “ส่วนเรือ่ งทีเ่ ราประทับใจและเห็นผลจริง ขอ ยกกรณีตวั อย่าง มีนอ้ งคนหนึง่ ทีเ่ คยมาทำ�กิจกรรม กับเราเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขายังเป็นนักศึกษา มีอยู่วันหนึ่งก็ติดต่อกลับมาหาเรา แล้วเล่าว่าหนู เอาความรู้ที่ได้จากโครงการนี้กลับไปทำ�ที่จังหวัด ของหนูเอง แล้วเอาสมุดไปให้น้อง ๆ ในจังหวัด เคสนี้มันเป็นเคสหนึ่งที่เรามีความสุข เหมือนว่า เขาเป็นตัวแทนของเราไปยังอีกพื้นที่ เขาได้ไปทำ� ต่อแทนเรา และอีกเรือ่ งหนึง่ คือ เมือ่ นํา้ ท่วมภาคใต้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราจะเอาสมุดไปช่วยเหลือในพื้นที่ แต่เราไม่ได้เอาไปให้เอง เพราะมีความผิดพลาดใน การสือ่ สารเล็กน้อย สุดท้ายเราพลาดการติดต่อกัน มารู้ ที ห ลั ง ว่ า ทางตั ว แทนนึ ก ว่ า เราเอาสมุ ด ไปให้เขาแล้ว แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนอื่น ที่เขาเอา แนวคิดที่ทำ�แบบเดียวกับเรา แล้วนำ�ไปให้แทน พอเรารู้แบบนี้ ก็รู้สึกว่าก็มีคนทำ�แบบนี้ในพื้นที่ อื่น ๆ ซึ่งเราอาจจะไม่ต้องรู้จักกันก็ได้ ก็เป็น อีกหนึ่งความคิดที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มันได้ แอบถูกถ่ายทอดผ่านโครงการ Paper Ranger แค่ 2 กรณีน้ี ในฐานะผูท้ ท่ี �ำ โครงการแบบเราก็ยม้ิ ได้แล้ว “ทุ ก วั น นี้ ผ มมี ค วามสุ ข ทุ ก ครั้ ง ที่ ยื น อยู่ ข้างหน้าแล้วได้เล่าเรื่องราวของโครงการนี้ ได้
ถ่ายทอดกิจกรรมที่เราทำ�มาตลอด 10 ปี ให้ คนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมได้ฟังกัน ที่ตั้งใจหรือไม่ ตั้งใจฟังก็ตาม แต่ผมมีความสุขที่ได้ถ่ายทอด เขาอาจจะเก็บส่วนหนึ่งของเราไป มองว่ามันมี คุณค่าและทำ�ให้มันดีขึ้นได้ ตลอดเวลาที่เราทำ� มามันเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างชัดเจน และมุ่งมั่นที่ อยากจะถ่ายทอดออกไป ถ้าเขาจับมันได้เล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็ยิ่งใหญ่แล้วสำ�หรับผม จริง ๆ แล้ว มันคือการสร้างฮีโร่ครับ ฮีโร่ซึ่งมีอยู่ในตัวคุณ ทุกคนนั่นแหละ แต่วันนี้ผมเอาแนวทางการเป็น ฮีโร่แบบ Paper Ranger มาบอก คุณอาจจะเพิม่ พลัง ความเป็นฮีโร่แบบนี้ขึ้นมาในตัวคุณก็ได้ และคุณ สามารถจะส่งผ่านพลังแบบนีไ้ ปช่วยโลกใบนีด้ ว้ ย กันได้ ผมว่ามันสนุกตรงนีแ้ หละ และผมก็มคี วามสุข แบบนี้ทุกครั้ง” โครงการนี้จะประสบความสำ�เร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รบั ความสนใจและความร่วมมือจากคนใน สังคมที่ยังคงเห็นคุณค่า และต้องการทำ�ความดี ให้แก่สังคมและผู้อื่น ไม่ใช่เฉพาะคุณพีเท่านั้น ที่ ทำ�โครงการนี้ เราทุกคนมีส่วนร่วมกับโครงการนี้ ได้ง่าย ๆ “เราอยู่มาปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว ส่วนหนึ่งก็มา จากการมีคนสนใจมาร่วมกิจกรรมกับเรา มีคนเก่า ๆ
รวบรวมกระดาษมาให้เราบ้าง หรือคนใหม่ ๆ ที่ เสิร์ชเจอข้อมูลของเราบนเว็บไซต์ ก็ตั้งใจเข้ามา ช่วยทำ�กิจกรรมด้วยกัน ก็นำ�กระดาษเข้ามาร่วม ด้วย เราก็เลยมีกระดาษในการทำ�กิจกรรมเรือ่ ย ๆ บางครั้ ง เวลาออกไปจั ด กิ จ กรรมให้ กั บ องค์ ก ร ก็จะให้เขารวบรวมกระดาษในออฟฟิศมา แล้วก็ มาทำ�กิจกรรมกัน ตอนนี้ถ้าคุณมีกระดาษก็มา บริจาคได้ หรือถ้ามีเวลาก็สามารถมาร่วมเป็น อาสา นั่งทำ�เองก็ได้ พอได้มาเป็นสมุดก็มีส่วนที่ เรานำ�ไปแจกเอง และส่วนทีม่ กี ลุม่ เครือข่ายทีพ่ อรู้ ว่าพืน้ ทีไ่ หนขาดแคลน ก็จะขอสมุดเราเพือ่ ไปช่วย พัฒนาในพื้นที่นั้น ๆ ก็ติดต่อมาได้เช่นกัน ผมว่า มันคือการส่งต่อความสุขผ่านอุดมการณ์ร่วมของ การทำ�เรื่องดี ๆ ที่ชื่อว่า Paper Ranger” และสุดท้ายคุณพีมีเรื่องราวที่อยากจะบอก ทุกท่านว่า “ผมเชื่อว่าลึก ๆ แล้วเราทุกคนเป็นคนดี ปรารถนาดีต่อผู้อื่น มีความกรุณาเป็นที่ตั้ง และ ล้วนอยากเห็นโลกนี้มันดีขึ้น เพียงแต่สิ่งที่ทำ�ให้ โลกใบนีม้ นั ยังคงเป็นแบบนี้ ก็เพราะเราอาจไม่รวู้ า่ เราจะเริม่ ต้นทำ�อะไรได้บา้ ง สิง่ ที่ Paper Ranger ทำ� ในวันนี้ มันก็คอื การเริม่ ทำ�เพือ่ คนอืน่ จากเรือ่ งง่าย ๆ เรื่องที่มันเล็กนิดเดียว กระดาษใช้แล้วแต่ละแผ่น
เริ่ ม จากแค่ ต รงนั้ นจริ ง ๆ ไม่ เคยคิ ด ว่ า จะมา ถึงวันทีเ่ ราสามารถผลิตสมุด 200,000 เล่ม เพือ่ ไป แจกเด็กทัว่ ประเทศได้ มันมาไกลทีข่ นาดสามารถ เปลี่ยนเด็กคนหนึ่งได้ ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมไม่ใช่คนแบบนี้ โครงการนี้สามารถ เปลี่ ย นแนวคิ ด เด็ ก คนหนึ่ ง ได้ กลายมาเป็ น แรงบันดาลใจเล็ก ๆ ให้กบั คนอืน่ ได้บา้ ง ผมว่ามัน ยิ่งใหญ่นะ ท้ายที่สุดอยู่ที่ว่า เราจะทำ�กันอย่างไร เราจะช่วยกันขนาดไหน ความสุขเล็ก ๆ มันอยูใ่ กล้ ๆ แค่เราเริ่มให้คนอื่น แค่เราเริ่มลงมือทำ� ผมเชื่อ ว่ามันจะช่วยเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่มากขึ้นได้” แล้วคุณละคะ พร้อมที่จะเริ่มลงมือทำ�อะไร สักอย่างแล้วหรือยัง
‘โครงการ Paper Ranger จิตอาสาสมุด เพือ่ น้อง’ • โทรศัพท์ : 08-9670-4600 • E-Mail : paperranger@live.com • เว็บไซต์ : www.paperranger.org • Facebook : www.facebook.com/wearepaperranger
happy+ | 53
family in love เรื่อง : ดร. วีรณัฐ โรจนประภา
Transform
Transformer คำ�นี้แต่ก่อนจะได้ยินกันเฉพาะในแวดวงช่าง แต่ปัจจุบัน กลายเป็นคำ�คุ้นหูแม้แต่กับเด็กเล็ก จากความนิยมเหลือเกินของภาพยนตร์ หุน่ เหล็กแปลงร่าง สำ�หรับผมแล้วทีป่ ระทับใจหนังเรือ่ งนีม้ ากคือ ประโยคสรุป จากภาคหนึง่ ของหนัง ทีส่ ะท้อนออกมาผ่านคำ�พูดของตัวละครเอกว่า “You May Lose Your Faith in Us, But Never in Yourself” “คุณอาจหมดศรัทธา ต่อมนุษย์ แต่อย่าได้หมดศรัทธาต่อศักยภาพของมนุษย์” ฟังแล้วหลายคน เกิดความฮึกเหิม เกิดความภูมิใจในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ได้ตระหนักรู้คุณค่าแห่ง การเป็นคน แต่ที่น่าสนใจพิจารณาให้ลึกลงไปอีกนิดก็คือ คำ�ถามว่า “แล้วศักยภาพอันสูงสุดของมนุษย์ที่หุ่นเหล็กชื่นชมนั้นคืออะไร?” บางท่านอาจตอบว่า เป็นความสามารถทางการคิดที่ทำ�ให้มนุษย์ สามารถค้นคว้า คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาจนกลายเป็นเจ้าของโลกใบนี้ได้ นัน่ ก็ถกู ต้องในระดับหนึง่ ครับ ความคิดทีซ่ บั ซ้อนได้มากกว่าทำ�ให้มนุษย์คดิ ได้ ดีกว่าสัตว์ ที่แม้จะสามารถคิดได้เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน คือสัตว์คิดได้ ไม่สลับซับซ้อน ทำ�ให้ไม่สามารถนำ�ความคิดนั้นไปก่อผลให้เกิดการพัฒนา จนเป็นรูปธรรมได้ อย่างสุนขั หรือแมวก็คดิ ได้แต่เพียงหิวอยากกิน เบือ่ อยากเล่น เหงาคิดถึงเจ้านาย ฯลฯ ขณะที่บางท่านอาจตอบว่า เป็นเพราะการมีภาษาเขียนทำ�ให้เกิด 54 | happy+
พัฒนาการในการจดบันทึก นีก่ ถ็ กู ในอีกระดับหนึง่ เช่นกัน เพราะการมีภาษาเขียน ทำ�ให้มนุษยชาติสามารถบันทึกสืบต่อภูมิปัญญา ที่สะสมมาจากรุ่นสู่รุ่น จนความรู้สามารถก้าวกระโดดได้ ยิ่งการกระจายการบันทึกความรู้ออกไป เร็วเท่าใด มนุษย์ก็สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากคนรุ่นก่อนได้ในชั่วไม่กี่นาที ไม่ต้องลองผิดลองถูกเอาเอง ที่กว่าจะได้ความรู้ในเรื่องนั้น ๆ มาก็อาจ หมดเวลาชีวติ ไปแล้ว เหมือนสัตว์ทบี่ นั ทึกไม่เป็นจะส่งต่อความรูก้ ต็ อ้ งอาศัย การสะสมจนเกิดเป็นสัญชาตญาณกันนั่นเลย แล้ ว อะไรล่ ะ คื อ ศั ก ยภาพสู ง สุ ด ของมนุ ษ ยชาติ คำ � ตอบนั้ น ก็ คื อ “ศักยภาพในการไม่มีความทุกข์โดยเด็ดขาดสิ้นเชิง” ครับ เพราะแม้มนุษย์ จะคิดได้ซบั ซ้อน แม้มนุษย์จะสามารถบันทึกส่งต่อความรูเ้ พือ่ พัฒนาได้อย่าง ไม่จำ�กัด แต่สุดท้ายแล้ว มนุษย์โดยทั่วไปก็ยังมีความทุกข์อยู่ ทุกข์ที่ไม่ต่าง หรืออาจมากกว่าสัตว์ดว้ ยซํา้ จนเราได้ยนิ อยูท่ กุ บ่อยว่า บางคนบ่นอยากจะ ไปเกิดเป็นหมา เป็นแมวยังจะดูสขุ กว่า ศักยภาพการพ้นทุกข์นลี่ ะครับจึงเป็น สิ่งที่สำ�คัญที่สุด และสูงสุดนี้ไม่ได้เพียงเมื่อนำ�ไปเทียบกับสัตว์เท่านั้น แต่ยัง สูงยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวงไม่เว้นแม้แต่เทวดาด้วย ในตำ�รา ตำ�นานจะมีการกล่าวไว้เลยว่า เวลาเทวดาจะหมดบุญ รัศมี หมองเสื่อมลงหรือที่เรียกว่าใกล้ตายนั้น เพื่อนเทวดาด้วยกันจะอวยพรให้
มาเกิดใหม่เป็นมนุษย์ เพราะเป็นภพที่เหมาะสมที่สุดในการพ้นทุกข์โดย สิน้ เชิงนี้ มีทกุ ข์ให้เรียนรู้ (ถ้าอยากจะเรียน) มีทางพ้นทุกข์ให้ปฏิบตั ิ (ในสมัยที่ มีค�ำ สอนของพระพุทธเจ้า) ทราบเช่นนีเ้ ราก็ควรนำ�ศักยภาพสูงสุดนีอ้ อกมาใช้ ด้วยการปฏิบัติตามคำ�สอนที่เป็นแก่น เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาคือ อริยสัจ 4 ทีพ่ ระพุทธเจ้าตรัสว่า จะไม่ปฏิญาณองค์ทา่ นเป็นพระพุทธเจ้าเลย หากยังไม่ปฏิบัติกิจในอริยสัจ 4 นี้ให้ครบถ้วน นั่นคือ ทุกข์ ให้กำ�หนดรู้ สมุทัย (เหตุให้เกิดทุกข์) ให้ละ นิโรธ (สภาวะพ้นทุกข์) ให้ทำ�ให้แจ้ง มรรค (ทางดับทุกข์) ให้เจริญ เราก็ตอ้ งเดินตามท่าน ทำ�กิจตามทีท่ า่ นสอน แต่คนจำ�นวนมากแม้ได้ยนิ อริยสัจ 4 รูว้ า่ คืออะไร แต่ละเลยไม่รวู้ า่ ต้องทำ�อะไรในแต่ละข้อเลยสับสน ซึง่ ข้อทีท่ �ำ ผิดมากทีส่ ดุ เริม่ จากข้อแรกคือทุกข์เลย คนจำ�นวนมากหรือไม่เกินเลย จะใช้คำ�ว่าเกือบทั้งหมด เมื่อมีทุกข์ก็พยายามไปละทุกข์นั้นทิ้ง มิใช่การ รู้ทุกข์ดั่งที่พระพุทธองค์สอน ทั้งการละนั้นยังมักทำ�กันด้วยการไปสร้างเหตุ
แห่งทุกข์ใหม่ เช่น ไปดื่มเหล้า ไปเพลิดเพลินกับอบายมุขแทน ไม่ได้สาวให้ เห็นเหตุแห่งทุกข์ และละเหตุนั้นตามพระพุทธเจ้า ขณะที่นิโรธก็ไม่พยายาม ทำ�ให้แจ้งให้ชัด เพื่อเป็นเป้าหมาย กลับไปเอาความสุขแบบสุกร้อนมาเป็น ความมุ่งหวัง เป็นเป้าหมายในการเดินทางแทน นั่นเลยทำ�ให้มรรคหรือทาง ปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ที่ควรทำ�คือ การมีสติกลายเป็นไม่ได้ทำ� ทั้งยังไปทำ�ลาย เสียด้วยกับของมึนเมาต่าง ๆ happy+ ฉบับแนะนำ�สถานที่ในกรุงเทพฯ ที่ไม่ค่อยรู้จักกันนี้ จึงขอพา มาดูสถานที่ที่ลึกลับที่สุด ไม่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่เป็นในเมืองไทยหรือใน จักรวาลนี้ทีเดียว สถานที่นั้นซ่อนอยู่ภายในร่างกายและจิตใจของเรานี่เอง เป็นสถานที่ที่ซ่อนศักยภาพสูงสุดของมนุษย์คือ ศักยภาพที่จะพ้นทุกข์ โดยสิ้นเชิงครับ "ขอเชิญร่วมกิจกรรม ออกแบบชีวติ ...เจริญสติ รุน่ ที่ 4/60 ณ กระท่อมเต่า เขาค้อ ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2560 (ไม่มีค่าใช้จ่าย) สอบถาม Line ID : @dr.veeranut (มี @ ด้วยนะครับ)"
ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut http://www.veeranut.com happy+ | 55
นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม
บังตา บังใจ ผ มมี โ อกาสได้ พู ด คุ ย กั บ ผู้ บ ริ ห ารที่ เ ป็ น ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทแห่งหนึ่ง (ถือหุ้นใหญ่จน สามารถเรียกได้ว่าเป็นเจ้าของธุรกิจนี้) บริษัทนี้ ทำ�ธุรกิจทางการแพทย์ ที่พยายามขยายสาขา จนมีหลายสิบสาขาทั่วประเทศ ซึ่งการพยายาม ขยายสาขานัน่ เอง ก็น�ำ มาซึง่ ผลขาดทุนของบริษทั ที่มากขึ้นทุกปี ผมได้ถามเจ้าของธุรกิจท่านนีด้ วู า่ เขารูไ้ หมว่า เหตุใดบริษัทถึงขาดทุนมากขึ้น และเขาจะทำ� อย่ า งไรถึ ง จะทำ � ให้ บ ริ ษั ท กลั บ มาทำ � กำ � ไรได้ คำ�ตอบทีผ่ มได้รบั กลับมาก็คอื เขาอธิบายว่า ธุรกิจ ทางการแพทย์ที่เขาทำ�อยู่นั้น การขาดทุนในช่วง ปีแรก ๆ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ละสาขาจะเริ่มกลับ มาทำ�กำ�ไรได้ในช่วงปีที่ 3-4 ขึ้นไป เขาเชื่อมั่นว่า สินค้าและบริการทีแ่ ต่ละสาขานำ�เสนอให้ลกู ค้านัน้ เป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมไม่แพ้ใคร แต่ที่ผ่านมายังไม่ค่อย มี ใ ครรู้ ว่ า ดี แ ค่ ไ หน หากวั น หนึ่ ง บริ ษั ท มี เ งิ น มากกว่านี้เขาจะใช้เงินในการโฆษณา เพื่อให้คน รู้จักมากขึ้น แต่ในตอนนี้เขาจะเริ่มจากการทำ�ให้ ลูกค้าค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากการบอกต่อแบบปาก ต่อปาก จากลูกค้าที่เคยมาใช้บริการแล้วชื่นชอบ ในคุณภาพของสินค้าและบริการ พอลูกค้าเพิม่ ขึน้ จนเริ่มมีกำ�ไรก็จะนำ�เงินไปโฆษณาเพื่อให้คนรู้จัก มากขึ้น 56 | happy+
หลักการที่เจ้าของธุรกิจท่านนี้กล่าวมานั้น น่าสนใจ และถ้าทำ�ได้จริงก็นา่ จะทำ�ให้แต่ละสาขา กลับมาทำ�กำ�ไรได้ไม่ยาก ผมจึงถามกลับว่า แล้ว ที่ผ่านมาเคยเก็บสถิติไหมครับว่า ลูกค้าที่เข้ามา กลับมาใช้บริการซํา้ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ ลูกค้าใหม่ ทีเ่ ข้ามาเกิดจากการบอกต่อของลูกค้าเดิมเท่าไหร่ ผู้บริหารท่านนั้นกลับตอบว่า ไม่ทราบและไม่เคย เก็บข้อมูลในเรือ่ งเหล่านีเ้ ลย แต่เขาเชือ่ มัน่ ว่าของ เขาดีจริง หากวันหนึ่งผู้คนรับรู้ว่าของเขาดี คนก็ จะเข้ามาเยอะเอง อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเคย สำ�รวจข้อมูล ก็พบว่า สาเหตุสำ�คัญที่ทำ�ให้คน ส่วนหนึ่งไม่กล้าเดินเข้ามาในร้าน ก็เพราะกลัว ในเรื่องราคาแพง อ่านเรื่องของเจ้าของธุรกิจท่านนี้แล้วรู้สึก อย่างไร เก็บไว้ในใจก่อนนะครับ มาฟังเรื่องของ คนขายผลไม้อีกคนหนึ่ง ที่เขาเน้นขายผลไม้ชนิด หนึ่ง โดยมุ่งเน้นขายผลิตผลที่คุณภาพสูงมาก (Premium) ในราคาที่สูงถึง 2-3 เท่าตัวเมื่อเทียบ กับของทีข่ ายตามท้องตลาดทัว่ ไป โดยใช้วธิ จี ดั ส่ง (ไม่มีหน้าร้าน) เขาเชื่อมั่นในผลไม้ของเขาเป็น อย่างมากว่า คนที่กินเป็นและอยากกินของดี ๆ ต้ อ งกิ น แบบที่ เขาขาย ไม่ ใช่ กิ น แบบที่ ข ายใน ท้องตลาดทั่วไป ผมเองก็เคยลองสั่งซื้อเพราะชื่นชอบผลไม้
ชนิดนี้มาก ซึ่งพอได้กินก็ต้องยอมรับว่า เขาขาย ของที่มีคุณภาพดีจริง ๆ รสชาติอร่อยจนไม่อยาก จะกลับไปซื้อของที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป หลังจากนั้นผมก็ได้สั่งผลไม้ Premium นี้อีก 2 ครัง้ สิง่ ทีผ่ มได้พบเจอก็คอื เราจะไม่ทราบเลยว่า ผลไม้จะมาส่งในช่วงประมาณวันไหน ทั้ง 2 ครั้ง ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะส่งวันไหน ผมจะทราบ ในวันที่ส่ง และเราจะไม่ทราบว่าสินค้าจะมาส่ง เวลาไหน ครัง้ หนึง่ สินค้ามาส่งเกือบ 3 ทุม่ อีกครัง้ ผมได้ รั บ เกื อ บ 5 ทุ่ ม เพราะคนส่ ง โทรมา บอกว่ากำ�ลังจะออกมาส่งในผมตอนที่ผมไม่อยู่ บ้าน (โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) เขาจึงต้องรอมาส่ง ในตอนกลางดึก เรื่องของทั้ง 2 คน 2 กิจการนี้มีบางอย่าง ที่คล้ายกัน พอจะเห็นไหมครับ นั่นคือ ทั้งคู่ต่าง ก็มั่นใจในสินค้าหรือบริการที่ตนมี และเขาต่าง ก็มั่นใจว่า หากลูกค้าได้รู้ว่าของที่ดีเป็นอย่างไร ลูกค้าก็จะหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย โดยไม่จำ�เป็น ต้องไปให้ความสำ�คัญกับเรือ่ งอืน่ ซึง่ ถ้าจะพูดตาม หลักธรรม ก็กล่าวได้ว่า ทั้ง 2 คนนั้นทำ�ธุรกิจ ด้วย “มานะ” และ “ทิฐิ” ส่วนตัวที่สูง จนน่าจะ สูงเกินไป กิ เ ลสตั ณ หาที่ ชื่ อ ว่ า มานะ (การเปรี ย บ เทียบตนกับผู้อื่น) และทิฐิ (การยึดมั่นถือมั่น)
มักจะทำ�งานร่วมกัน ในกรณีของนักธุรกิจ 2 คน ดังกล่าว ทัง้ คูต่ า่ งก็เชือ่ มัน่ ว่า ตนรูจ้ กั และเข้าใจสิง่ ที่ ทำ�เป็นอย่างดี และรู้ว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี ส่วน ลูกค้าและคู่แข่งนั้นรู้น้อยกว่า (มีมานะสูง) แล้วก็ ยึดมัน่ ในความคิดนัน้ (ทิฐสิ งู ) จนมองเห็นเพียงว่า สิง่ ทีต่ นคิดว่าดีและถูกต้องคือ สิง่ ทีล่ กู ค้าต้องการ (และควรจะต้องการแต่แบบนี้) ถ้าลูกค้ารู้และ เข้าใจว่าสินค้าหรือบริการเขาเป็นอย่างไร ลูกค้า ก็จะสนใจแล้วหันมาใช้บริการมาก ๆ เอง และ เขาอาจจะพานคิดไปว่า ลูกค้าที่ไม่สนใจสินค้า ของเขาก็เพราะไม่รู้จักธุรกิจของเขา และลูกค้าที่ ไม่เชื่อแบบที่เขาเชื่อนั้น ไม่ค่อยฉลาด หรือเราสามารถกล่าวได้วา่ มานะและทิฐนิ นั้ ทำ�ให้ทั้ง 2 คนเหมือนถูกกิเลสตัณหาบังตา แล้ว มองไม่เห็นว่า ในการทำ�ธุรกิจเราควรจะหาคำ�ตอบ ว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร มิใช่การพยายาม นำ�เสนอแต่สิ่งที่ “ฉัน” คิดว่าดี ย กตั ว อย่ า งเช่ น ธุ ร กิ จ ให้ บ ริ ก ารทางการ แพทย์ การที่เจ้าของธุรกิจท่านนี้ไม่เก็บสถิติที่ สำ � คั ญ ที่ บ อกว่ า ลู ก ค้ า กลั บ มาใช้ ซํ้ า บ่ อ ยแค่ ไหน และมีการแนะนำ�ต่อบ่อยแค่ไหน เป็นเรื่อง น่าแปลกใจมาก ถ้าเขาเก็บสถิตนิ แี้ ละสถิตทิ สี่ �ำ คัญ หลาย ๆ อย่าง ก็อาจจะพบว่าลูกค้าเก่าไม่ได้
กลับมาใช้ซํ้าหรือแนะนำ�ลูกค้าใหม่มาให้อย่างที่ เขาหวั ง หรื อ อาจจะพบว่ า ลู ก ค้ า สามารถหา บริการทีด่ เี ท่ากันในราคาทีถ่ กู กว่าได้ใกล้บา้ น หรือ อาจจะพบว่าลูกค้าชอบไปใช้บริการธุรกิจแบบนีท้ ี่ มีสาขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อให้คนที่ติดตาม มาด้วยมีอะไรทำ�ระหว่างที่รอ นั่นคือ เขาอาจจะ ค้นพบว่าเหตุที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการน้อยกว่าที่ คาดนั้น เป็นเพราะสินค้าหรือบริการนั้นอาจจะ ไม่ดีจริง หรืออาจจะดีจริงแต่มีปัจจัยอื่นที่ทำ�ให้ ลูกค้าสนใจทีอ่ น่ื มากกว่า แต่... เจ้าของธุรกิจท่านนัน้ อาจจะไม่มีโอกาสทราบความจริงเลยก็ได้ หาก เขายังเชื่อแต่เพียงว่า สินค้าของเขาดีจริง ยังไงก็ ต้องมีคนมาใช้บริการถ้าคนรู้จักมากพอ ส่วนในธุรกิจขายผลไม้ Premium นั้น ถ้าเขา ตระหนักว่า ผลไม้เป็นสินค้าที่เก็บได้ไม่นาน การ นัดหมายวันที่จะมาส่งล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ เพราะผูซ้ อื้ จะต้องวางแผนว่าจะให้ใครรอรับสินค้า ในวันที่มาส่ง รวมถึงจะได้ไม่ต้องซื้อผลไม้อื่นมา กินในช่วงวันนัน้ ขณะเดียวกัน ผูท้ ซี่ อื้ ผลไม้ทรี่ าคา สูงกว่าท้องตลาดขนาดนั้น ย่อมต้องคาดหวังทั้ง สินค้าที่ Premium และบริการที่ Premium หรือ อย่างน้อยก็เป็นบริการที่ใช้ได้ มิใช่บริการแบบ Economy หลังจากชำ�ระเงินไปแล้ว หากได้บริการ
ที่ไม่ค่อยดีมากนัก คนจำ�นวนไม่น้อยก็คงยอมซื้อ สินค้าที่คุณภาพด้อยกว่าในราคาที่ถูกกว่า แต่ให้ บริการใกล้เคียงกันหรือดีกว่า ในขณะทีค่ นส่วนหนึง่ ยั ง คงสั่ ง ซื้ อ ก็ อ าจเป็ น เพราะอยากกิ น ของดี แต่ไม่มีทางเลือก วันใดก็ตามที่เขาสามารถหาซื้อ สินค้าที่คุณภาพใกล้เคียงกันแต่ให้บริการดีกว่า เขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนไปซื้อกับคนอื่น แล้วไม่หัน กลับมาอีกเลย ผมเชื่อมั่นว่า เจ้าของธุรกิจทั้ง 2 ท่านนี้จะ ทำ�ธุรกิจได้ดีขึ้น มีผลกำ�ไรมากขึ้น หากลดมานะ และทิฐิลง แล้วหันมาพยายามหาคำ�ตอบว่า สิ่ง ที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ คืออะไร เช่นเดียวกันกับคุณผู้อ่านทุกคน ไม่ว่าวันนี้ เราจะทำ�ธุรกิจหรือทำ�งานประจำ� หรือแม้แต่เรื่อง ในครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง บางครั้งเรา อาจจะสงสัยว่า เราก็ทำ�ดีแล้ว ทำ�สิ่งที่ดีสุดแล้ว ทำ�ไมธุรกิจยังมีปัญหา ทำ�ไมถึงไม่ได้รับการเลื่อน ตำ�แหน่ง ทำ�ไมยังมีปัญหาเรื่องสัมพันธภาพ หากเราลองลดมานะและทิฐิ ลดความคิด ความเชือ่ ว่าสิง่ นัน้ ดีทส่ี ดุ แล้วลองเปลีย่ นมาถามว่า เขา (คนที่ไม่ใช่เรา) ต้องการอะไร ปัญหาต่าง ๆ ที่ มี อาจจะเบาและคลายไปได้ ร วดเร็ ว อย่ า ง น่าอัศจรรย์
สอบถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Nutpobtum, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57
wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ
ซึมเศร้า 4.0 (ตอน 1) ผมสังเกตว่าระยะหลังโรคซึมเศร้ากลายเป็น หัวข้อดังในโลกออนไลน์ ยิ่งถ้าช่วงไหนมีคนดัง เสี ย ชี วิ ต จากการฆ่ า ตั ว ตายก็ จ ะตามมาด้ ว ย ดราม่า, การแซะ, การบอกเล่าประสบการณ์และ คำ � อธิ บ ายเกี่ ย วกั บ โรคซึ ม เศร้ า อี ก มาก ผมจึ ง ขอไม่เขียนประเด็นที่พูดกันมาหลายสิบปีและมี หลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า ‘โรคซึมเศร้าเป็นโรค อย่างหนึ่งที่มีอยู่จริง’ สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจเกี่ยว กับโรคซึมเศร้ามากกว่า คือ การจับตาดูว่าโรค ซึมเศร้ามีการเปลีย่ นแปลงไปตามยุคสมัยอย่างไรบ้าง อันดับแรก คือ เมื่อเรามีความรู้กันมากขึ้น มีจิตแพทย์มากขึ้นและประชาชนสามารถเข้าถึง การบำ�บัดรักษามากขึ้น เราจึงพบสถิติของผู้ป่วย โรคซึมเศร้ามากขึ้น ซึ่งตรงนี้ไม่ได้บอกว่ายุคนี้มี ความเจ็บป่วยมากกว่ารุ่นปู่ย่านะครับ แต่คนรุ่น ก่อน ๆ ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่มีใครเรียกว่าเขา เป็นผู้ป่วยโรคนี้ เช่น ถ้าย้อนไปไกลถึงยุคกรีก คนมีอาการ ซึมเศร้าจะถูกวินิจฉัยสาเหตุว่า เป็นเพราะมีนํ้าดี 58 | happy+
สีดำ�ในร่างกายผิดปกติ หรือนักบวชบางคนวินิจฉัยคนมีอาการของโรคนี้ว่า เป็นเพราะพระเจ้าสาปส่ง จิตวิญญาณ ต่อมาในยุคกลาง (Mediaval) อาการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าถูกมองว่าเป็นการถูกปีศาจ เข้าสิง หรือบ้างก็ถูกตัดสินว่าเป็น สัญลักษณ์ของคนบาป ดังนั้นในอดีต ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจึงไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ถูกสังคมเรียกว่า คนอ่ อนแอ บ้ างก็ หั นไปพึ่ งพาสารเสพติ ดเยี ยวยาตั วเอง และบ้ างก็ จบชี วิ ต ด้ วยการฆ่าตัวตาย จนกระทัง่ ความรูใ้ หม่ ๆ พัฒนามาสูย่ คุ ปัจจุบนั ทีท่ �ำ ให้สามารถตรวจพบโรคนีไ้ ด้มากขึน้ มียารักษาจริงจัง และเป็นยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นสื่อเพราะสามารถเขียนลงโลกออนไลน์แล้วได้รับการเผยแพร่ จึงทำ�ให้ ‘โรคซึมเศร้า’ เป็นหัวข้อพูดคุยโด่งดังกว่ายุคปู่ย่าตายาย สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับความซึมเศร้าในยุคดิจิทัล คือ เรามักจะพบงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้า ที่ส อดคล้ องกั บเทคโนโลยี ซึ่ งเวลาอ่ านบทความเหล่ านี้ ต้ องแยกระหว่ าง ‘ภาวะซึมเศร้า’ กับ ‘โรคซึมเศร้า’ ให้ได้ครับ เพราะภาวะซึมเศร้าเป็นภาวะปกติทางอารมณ์ของมนุษย์ แต่โรคซึมเศร้า (ถ้าเป็นโรคจะมีคำ�ว่า Disorder ต่อท้ายเช่น Major Depressive Disorder ฯลฯ) คือ การเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทใน สมองที่จำ�เป็นต้องได้รับการบำ�บัดรักษา เหตุผลที่ต้องแยกคือ เราจะได้เข้าใจว่าโรคซึมเศร้าไม่ใช่สิ่งที่ ถูกวินิจฉัยแบบฟุ่มเฟือยเกินจริง แล้วคนอ่านจะได้ไม่หลงเข้าใจผิด คิดว่าอ่านบทความตรงกับตัวเอง ไม่กี่ข้อแล้วจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า ตัวอย่างงานวิจยั เหล่านัน้ เช่น การบัญญัตศิ พั ท์ Facebook Depression คือ อาการซึมเศร้าทีม่ ากขึน้ หลังจากเล่นเฟซบุ๊ก ซึ่งถ้าอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยที่โยงการใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊กหรืออะไรก็ตามกับเรื่องซึมเศร้าจะพบว่า งานวิจัยเหล่านั้นพูดถึง ‘ภาวะหรืออารมณ์ซึมเศร้า’
ทีป่ ระเมินจากคะแนนในแบบสอบถาม ไม่ใช่การวินจิ ฉัยของแพทย์ จึงไม่ได้แปลว่าเป็นโรคซึมเศร้าเสมอไป เพียงแต่การใช้เฟซบุ๊กมากมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ซึมเศร้าที่มากขึ้น เพราะอะไรถึงซึมเศร้ามากขึ้น? งานวิจัยเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้ากับโซเชียลมีเดียไม่ว่า Platform ใด ก็มักจะมีคำ�อธิบายคล้ายกันครับ คือภาวะซึมเศร้าที่มากขึ้นนั้นมาจาก ‘การเปรียบเทียบ’ เช่น เมื่อ เข้าไปอ่านเฟซบุ๊กก็พบแต่ชีวิตดี ๆ ของคนอื่น ในสัดส่วนที่มากกว่าที่จะเห็นในชีวิตจริง เช่น เห็นแต่รูป เพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวเมืองนอก เห็นแต่รูปของกินดี ๆ ที่เพื่อนไปกินมา ฯลฯ เท่านั้นยังไม่พอ ความหรูหรา ดูดีเหล่านั้นยังถูกปรุงแต่งด้วยแอพพลิเคชั่นให้ดูสวยงามมีมูลค่ามากขึ้น หรือสำ�หรับคนเป็นพ่อแม่ก็จะเครียดเมื่ออ่านเรื่องของครอบครัวอื่นที่ดูมีความสุขมากกว่า ลูก ๆ คนอื่นอยู่โรงเรียนที่ดีกว่า ฯลฯ แล้วเมื่อเราเทียบกับตัวเองในฐานะพ่อแม่ ก็เกิดความรู้สึกด้อยกว่า ดังนัน้ เมือ่ เกิดความไม่พอใจกับชีวติ ทีเ่ ป็นอยู่ ก็ตามมาด้วยความหดหูซ่ มึ เศร้า โดยหลงลืมไปว่า ภาพที่ เราเห็นในโซเชียลมีเดียเหล่านั้น ไม่ใช่ชีวิตปกติสามัญ แต่คือการที่คนแต่ละคนคัดสรรสิ่งที่อยากนำ� เสนอสู่สาธารณะ ซึ่งก็มักจะเป็นแต่ภาพหรือเรื่องราวดี ๆ เป็นส่วนใหญ่ คล้ายกับการกระโจนเข้าไป ในโลกอุดมคติ ที่เต็มไปด้วยความหรูหราหรือความสุข แต่หลงเข้าใจว่าโลกที่เห็นผ่านหน้าจอคือ โลก ปกติของคนทั่วไป อีกปัจจัยหนึ่งที่คนใช้โซเชียลมีเดียซึมเศร้าได้ง่าย คือ การเผชิญความเห็นที่รุนแรง ทำ�ให้รู้สึกแย่ อ่านเจอความเห็นเกรียน ๆ ที่บั่นทอนการนับถือตัวเอง และบางครั้งก็เป็นกรณีที่เรียกว่า Cyberbully หรือการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ เช่น การนำ�ข้อมูลที่น่าอับอายของเจ้าตัวไปเผยแพร่ต่อ ฯลฯ และในบางกรณีทที่ �ำ ให้อาการซึมเศร้าแย่ลง คือ การใช้โซเชียลมีเดียทำ�ให้เราต้องจำ�ในสิง่ ทีค่ วรลืม เช่น เมือ่ เลิกกับแฟน ถ้าเป็นคนยุคก่อนมีโซเชียลมีเดียแล้วไม่ได้เจอแฟนคนเดิมอีกในชีวติ จริง คนคนนัน้ ก็
จะเข้าสูช่ ว่ งทำ�ใจสักระยะ แล้วก็กา้ วต่อไปสูส่ มดุล ชีวิตใหม่ แล้วเรื่องเก่า ๆ ก็จะค่อย ๆ เลือนหาย ไปตามเวลา แต่ในยุคนีท้ บี่ างคนไม่สามารถตัดใจ แล้วยังติดตามเฟซบุ๊กของแฟนเก่า ตามดูเขา (หรื อ เธอ) เห็ น ว่ า มี ค วามสุ ข มี ค นรั ก ใหม่ ก็ เกิดความชํ้าใจเรื้อรัง ไม่สามารถตัดขาดอดีต เกิดความเศร้าหรือโกรธทีย่ าวนาน จนไม่สามารถ เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เมือ่ รูแ้ บบนีแ้ ล้วก็พอจะนึกภาพออกใช่ไหมครับ ว่าเราจะปรับตัวกับชีวิตยุคดิจิทัลอย่างไร เพื่อ ไม่ให้ภาวะซึมเศร้ากัดกร่อนจิตใจจนมากเกิน หรือ จะช่วยผูป้ ว่ ยโรคซึมเศร้าทีใ่ ช้โซเชียลมีเดียอย่างไร ไม่ให้อาการแย่ลง (เช่น เตือนตัวเองเสมอว่าโลกที่ เห็นผ่านจอไม่ใช่โลกจริงแท้ แต่ผ่านการปรุงแต่ง และคัดเลือกมา, ลดการเปรียบเทียบ, กระตุ้นให้ สังคมใส่ใจและหาทางช่วยเหลือเหยื่อของ Cyberbully, ถ้าจะตัดใจกับเรื่องใดก็ต้องตัดขาดจาก โซเชียลมีเดียที่เตือนให้คิดถึง ฯลฯ)
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59
ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ
ลิงฮูวาฮูแห่งป่าวาสิฏฐี สามเดื อ นที่ ผ่ า นมาการได้ รั บ แต่ ง ตั้ ง เป็ น กรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ใ นกรมต่ า ง ๆ ที่ ต้ อ ง มีหน้าที่ประชุมตามเรื่องราวมากมาย ในเรื่อง ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ทำ�ให้ชีวิตหลังสงกรานต์จนมาถึงเดือนนี้ยุ่งเหยิง ต้องดูเรื่องราวของป่า ชายฝั่งทะเล ไปกระทั่ง เรื่องนโยบายการใช้แร่ใช้หิน ผมวิ่งประชุมเช้า บ่าย และนัดคุยหารืองานตอนเช้า กลางวัน เย็น คํ่า และมีดึกเป็นระยะ ๆ เกือบทุกอาทิตย์ และ แทรกด้วยนัดถ่ายรายการทีวีเรื่องธรรมชาติ ที่ทำ� ต่อเนือ่ งมายาวนานซึง่ ต้องออกไปต่างจังหวัดบ้าง กรุงเทพฯ บ้าง นัดรายการทีวอี กี ช่องทีร่ บั เป็นผูใ้ ห้ ความเห็นในประเด็นสิง่ แวดล้อมทุกอาทิตย์ ยังไม่ นับงานสำ�รวจทางวิชาการที่รับไว้ และทั้งนี้ยังมี งานบริหารองค์กรที่ผมทำ�อยู่ ที่ไม่น่าจะนับเป็น งานหลักได้อีกแล้ว ผมพบตัวเองรู้สึกตัวอยู่บนพาหนะต่างชนิด ในรอบวัน ทั้งการนั่งวินมอเตอร์ไซค์แทรกไปตาม แถวรถติด เพื่อไปประชุมให้ทัน นั่งรถของส่วน ราชการต่าง ๆ ที่ชวนผมไปดูนั่นนี่ตามประเด็น ประชุม มีเรือจริง (เรือด่วนเจ้าพระยา) และเรือบิน แทรกเป็ น ระยะ ๆ แน่ น อนละบางวั น ผมเดิ น 60 | happy+
ระยะไกลเหนื่อยกว่าตอนเดินมาจากแม่วงก์ เมื่อ ต้ อ งเดิ นทางด้ ว ยรถไฟฟ้ า ต่ อ รถใต้ ดิ น สามต่ อ เพื่อลัดเวลาไปให้ทันนัดหมาย ดีอยู่อย่างที่การ เดินทางที่ผ่านมาผมเลือกที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัว คันเก่าคันเก่งของผมน้อยมาก นอกเสียจากขับ ไปกินข้าวร้านใกล้บา้ นตอนคํา่ ๆ ทีร่ ถหายติดแล้ว ในระยะใกล้ ๆ การเดินทางของผมย่อมต้องแทรกกิจกรรม เตรียมเอกสาร เตรียมงานนำ�เสนอ อ่านข้อมูล สารพัด ที่ผมต้องหาเวลาแทรกให้ได้บนรถแท็กซี่ ร้านกาแฟ โรงอาหารของกรมต่าง ๆ เรือ เครือ่ งบิน และแน่นอนว่า ก่อนนอนและเช้ามืดถ้าทำ�ได้ทบ่ี า้ น จนถึงก่อนวันเขียนต้นฉบับผมพบว่า ผมมีนดั ทีค่ อ่ นข้างจะ “เบา” มากในบ่ายวันอาทิตย์ปลาย เดือน หลังจากประชุมเช้าบ่ายติด ๆ กันมาสี่วัน วันศุกร์ผมต้องเดินทางไปดูพื้นที่โครงการสร้าง เขื่ อ นท่ ว มป่ า ที่ เขตรั ก ษาพั นธุ์ สั ต ว์ ป่ า ภู เขี ย ว ชัยภูมิ กลับมาคํา่ ต่อด้วยการหารือโปรแกรมถ่ายทำ� สารคดี กั บ ที ม งาน และรี บ นอนให้ ไ ด้ ส ามสี่ ชัว่ โมง ก่อนทีเ่ ช้ามืดจะนัง่ แท็กซีเ่ พือ่ ไปขึน้ เครือ่ งบิน ที่ดอนเมือง ไปเป็นวิทยากรให้กลุ่มชาวบ้านที่ คัดค้านโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมที่ปากบารา
สตูล กว่าจะเสร็จและเดินทางมาหาดใหญ่กค็ อ่ นคืน ไปอีกวัน และมีความจำ�เป็นต้องนั่งเครื่องบิน กลั บ มากรุ ง เทพฯ แต่ เช้ า เพื่ อ มาให้ ทั นนั ด กั บ คุณมาโนช พุฒตาล นักดนตรี นักจัดรายการ คนดัง ทีช่ วนผมไว้นานแล้ว ให้มาดูละครของนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่นำ�งานเพลงกึ่ง เล่านิทานของแกมาทำ�ให้เด็กดู ละครเรื่องนี้มีชื่อ ว่า “เชนมีคู่หูเป็นลิง” ซึ่งผมเองว่าจะเปิดยูทูบ ฟังมาหลายปี แต่ก็ไม่ได้ฟังเสียที รู้คร่าว ๆ แค่ ว่าเชน คือ ชื่อเรียกของหม่อมหลวงปริญญากร วรวรรณ ช่างภาพสัตว์ป่าคนดัง ส่วนลิงจะเป็น ลิงที่ไหนผมก็ไม่รู้ เพียงแต่ทราบว่าคุณมาโนช แกตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจของ หม่อมเชน ในการดำ�รงชีพด้วยอาชีพที่ไม่เคยมี มาในเมืองไทย นั่นคือ “ช่างภาพสัตว์ป่า” และ แน่นอนว่าคงจะเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่า ๆ สัตว์ ๆ ที่ผมเกี่ยวข้องอยู่บ้างแน่นอน คุณมาโนช พุฒตาล เล่าให้ฟังนานแล้วว่า อยากรู้จักหม่อมเชน เลยตามไปเจอจนได้คุยกัน ทำ�เพลงให้ ชวนไปร่วมงานแสดงดนตรีและเล่า เรื่องประกอบภาพถ่าย จนกลายเป็นคู่หูผู้ชายเท่ วัยพอประมาณกันมานาน
ทเี่ ล่าให้ฟงั มายาวเหยียดก็เพียงแต่จะให้เดา ได้ว่า สภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ร่วมของ ผมในการต้องมาดูละครของนักศึกษาทีเ่ ล่นให้เด็กดู นี่จะสร้างความไม่น่าพิสมัยให้ผม ซึ่งพัวพันอยู่ แต่กบั เรือ่ งซีเรียสระดับนโยบายประเทศไม่รกู้ เี่ รือ่ ง บนความวุน่ วายเหนือ่ ยล้าทัง้ ร่างกายจิตใจหลังจาก นอนสองชั่ ว โมงตอนบิ นกลั บ มาจากหาดใหญ่ เพราะความเกรงใจศิลปินรุ่นใหญ่ท่เี คยช่วยเหลือ งานมู ล นิ ธิผ มมาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง แค่ คิ ด ว่ า จะ ต้องมานั่งหลับในห้องแอร์เย็นกับละครเด็ก ๆ นี่ก็ซึมเซ็งล่วงหน้าแล้ว ภาวะดังกล่าวถูกกระหนํ่าซํ้าด้วยคณะเด็ก หน้าโรงละคร ทีด่ จู ะเล็กกว่าเด็กประถมด้วยซํา้ ถามดู ก็ทราบว่ามาจากสถานเลี้ยงเด็กสถานสงเคราะห์ สองสามแห่ ง รวมแล้ ว ก็ ร้ อ ยสองร้ อ ยคน ดูเจี๊ยวจ๊าวไปหมด นึกถึงสภาพตัวเองที่ดั้นด้น ข้ามนํา้ ข้ามทะเล และอดนอนมาหลายคืน ต้องมา ทนนั่งกับเด็กเล็กแบบนี้อีกเป็นชั่วโมง คุณมาโนช หรือพี่ซัน เดินมามองหน้าผม และขอบคุณที่ อุตส่าห์มาตามนัด สายตาของแกอบอุน่ เป็นมิตร และจริงใจเหมือนเดิม แกบอกว่าเสียดายมากที่ หม่อมเชนมาไม่ได้ แกเล่าอะไรให้ฟงั สักครูก่ ข็ อตัว ไปเตรียมตัวทีจ่ ะต้องเล่นดนตรีเปิดก่อนการแสดง ผมเดินเข้าไปในห้องตามที่สตาฟฟ์ชี้ชวน มี
เก้าอี้พับวางไว้ให้ผู้ใหญ่นั่งในห้องมืดดำ�สองแถว แถวละห้าตัว นอกนัน้ มีแต่เด็ก ๆ สามคณะ นัง่ พืน้ บ้าง นั่งบนสเตจโค้งด้านหลังผมบ้าง ห้องประชุม ไม่ใหญ่โตอย่างที่ผมคิด พิธีกรนักศึกษาหน้าตา น่ารักหนุม่ สาวคูห่ นึง่ ยืนอยูห่ า่ งผมไม่เกินห้าเมตร ทั้งคู่มีแอ็คติ้งที่ดูและฟังก็รู้ว่ามาทางการแสดงที่ ดูเก่งเกินวัย แต่ทสี่ �ำ คัญคือ เมือ่ เป็นงานสำ�หรับเด็ก คำ � พู ด คำ � จาของทั้ ง คู่ ก็ ดู น่ า รั ก และเรี ย กให้ เด็ ก เล็ก ๆ สนใจได้อย่างดี สักพักน้าซันของนักศึกษา อาจารย์ และลุงซันของเด็ก ๆ ก็สะพายกีตาร์ออก ไปยืน แปลกที่การสื่อสารของชายวัยหกสิบต้น ๆ คนนีย้ งั ตรึงผม และเด็ก ๆ ก่อนวัยประถมให้คล้อย ฟังทั้งคำ�เล่าและคำ�เพลงอย่างเพลิดเพลิน และปู เนื้อเรื่องละครไว้พอให้ได้ติดตาม หลังฉากสีด�ำ มีแสงไฟตืน่ ตาเปิดขึน้ พร้อมกับ ดนตรีวงใหญ่ที่นั่งแอบอยู่ข้าง ๆ เป็นวงดนตรี กึ่งออเคสตราเลยทีเดียว เล่นกันสด ๆ ผู้แสดง ในชุดสัตว์ป่าหลากชนิดสิบกว่าตัวออกมาเต้น ระบำ� กับเสียงเพลงไพเราะที่เป็นเรื่องของสัตว์ป่า และธรรมชาติ สั ก พั ก เพลงจบละครเดิ น เรื่ อ ง โดยนักศึกษาหนุ่มหน้าใส ที่บอกว่าตัวเองเป็น ช่างภาพสัตว์ปา่ และเข้าป่ามาเพือ่ ถ่ายรูปสัตว์ปา่ เพือ่ ให้คนเมืองรูจ้ กั และรักในระบบนิเวศก่อนทีจ่ ะ เดินเซ่อซ่าไปติดกับดักสัตว์ของนายพราน
ผู้แสดงในชุดลิงและกระรอกน่ารักออกมา คุยกันว่า มีนายพรานเข้ามาล่าสัตว์ป่า และช่วย เชนออกมาได้ ผู้เล่นทั้งหมดเล่นกับเด็ก ๆ คนดู ได้ดี มีทริคต่าง ๆ ถามเด็กให้ถามตอบและร่วม ในเนื้อเรื่อง เช่น ให้ช่วยไม่บอกทางให้นายพราน เด็ก ๆ ตะโกนหัวเราะเสียงดังอยู่รอบตัวผม ทั้ง บรรยากาศและแสงเสียงทั้งหมดตรึงให้ผมลืมว่า ตัวเองเตรียมเข้ามาหลับ และเซ็งเสียสิ้น เรื่องราวสนุกสนานมากเมื่อเนื้อเรื่องแต่งให้ สัตว์ทั้งหลายอยู่ในป่าวาสิฏฐี สัตว์ต่าง ๆ พูดได้ และสื่อสารกับมนุษย์ได้ ลิงฮูวาฮูเป็นผู้นำ�ของ สัตว์ตา่ ง ๆ และต่อสูก้ บั นายพรานพลาดท่าถูกจับ แต่สัตว์ต่าง ๆ เชน และสาว ๆ ชาวป่าที่ดูจะ เป็นนางเอกให้เชนหลงรักก็มาช่วยลิงฮูวาฮูสำ�เร็จ เด็ก ๆ ก็ตื่นเต้นกับแสงสีตระการตาพร้อมกับ เทคนิคการแสดงที่เล่นกับคนดูสลับการร้องเต้น กันสนุกสนาน เนื้อหากระชับพอดี มีการโปรย กระดาษพับเป็นกังหันหมุนติว้ แทนการปลูกเมล็ด พืชป่าสวยงาม ไม่ใช่เฉพาะเด็ก ๆ หรอกครับที่ สนุกสนาน ผู้ใหญ่อย่างผมที่ผ่านงานหนัก ๆ มา นับเดือน ก็ได้พลังลึกลับจากเรื่องราว และความ สามารถ ความตั้งใจของการแสดงนี้มาเต็ม ๆ ชาร์จแบตเต็มแล้วครับพีซ่ นั ขอบคุณคาถาวิเศษ ของลิงฮูวาฮูแห่งป่าวาสิฏฐีของพี่มากครับ happy+ | 61
take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา
ทำ�อย่างไรเมื่อเจอเลือดในปัสสาวะ ทุก ๆ วัน ทุกคนจะต้องขับถ่ายปัสสาวะกันอยู่เป็นธรรมดา และคงจะเห็นสีที่ออกมาว่าเป็นสีเหลืองหรือใส แต่หากวันใดที่ปัสสาวะออกมา มีสีแดงหรือสีเลือดปน หรือแม้สีใสเป็นปกติแต่วา่ ไปตรวจร่างกายตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าผลปัสสาวะอ่านออกมาว่ามีเลือดปนมาด้วย คงทำ�ให้ เรารู้สึกกังวลเป็นแน่ การพบเลือดในปัสสาวะไม่ได้ถอื เป็นโรค หากแต่ถอื เป็นภาวะหรือสิง่ ตรวจพบ โดยสามารถพบเหตุได้หลากหลาย ตัง้ แต่แบบทีไ่ ม่มอี นั ตราย ใด ๆ ไปจนถึงแบบที่อันตรายหรือน่ากลัว ดังนัน้ เมือ่ พบว่ามีเลือดในปัสสาวะจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรตรวจรักษาหรือขอคำ�ปรึกษาจากแพทย์เพื่อ หาสาเหตุที่แน่ชัด
62 | happy+
ตำ�แหน่งที่เลือดออกมา
ในปัสสาวะของเราตามปกติจะต้องไม่มีเม็ดเลือดปน และเมื่อมีเลือด ปนออกมาก็จะต้องพิจารณาหาสาเหตุเพื่อทำ�การรักษา โดยตำ�แหน่งที่ เลือดสามารถหลุดออกมาได้ก็มีหลายตำ�แหน่งด้วยกัน เช่น จากไต ท่อไต เราพบเลือดในปัสสาวะได้อย่างไร 1. มองเห็นด้วยตาเปล่า : เวลาปัสสาวะออกมาจะเห็นว่าสีของปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ ซึ่งในแต่ละตำ�แหน่งอาจจะก่อให้เกิด มีความเข้มมากขึ้น ถ้าหากเลือดออกไม่มาก อาจจะเห็นสีปัสสาวะเป็น อาการที่แตกต่างกันได้ สีเหลืองส้มหรือสีนํ้าตาล ถ้าหากเลือดออกมาก จะเห็นเป็นสีแดงสดหรือ มีลิ่มเลือดปะปนมา โรคและสาเหตุที่เป็นไปได้ 2. มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า : พบจากการตรวจปัสสาวะ โดยอาจจะ โรคที่ก่อให้เกิดเลือดออกในทางเดินปัสสาวะมีหลายโรคด้วยกัน เช่น เป็นการตรวจด้วยชุดตรวจแบบจุ่ม ซึ่งทำ�ได้ที่บ้าน หรือเป็นการตรวจด้วย 1. การติดเชื้อ กล้องจุลทรรศน์แล้วพบว่ามีเม็ดเลือดแดงปะปน เมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้นในทางเดินปัสสาวะ เชื้อโรคจะทำ�ให้เนื้อเยื่อ ทั้งนี้การมีสีปัสสาวะที่แดงผิดปกติอาจจะไม่ได้เกิดจากเลือดออกแต่ บริเวณนั้นเกิดการอักเสบ และทำ�ให้บริเวณนั้นมีเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับ เพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีอีกหลายสาเหตุ เช่น จากยาหรืออาหารที่ เชื้ อ โรคมากขึ้ น กระบวนการอั ก เสบก็ จ ะทำ � ให้ เ ส้ น เลื อ ดในบริ เวณนั้ น รับประทานเข้าไป ดังนั้นจึงควรไปตรวจให้แน่ชัดก่อนเสมอ เสียหายและพบเลือดออกได้ ซึ่งการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะก็เกิดขึ้นได้หลายตำ�แหน่ง เช่น เกิดที่ท่อปัสสาวะ ทำ�ให้เกิดอาการเจ็บแสบเวลาปัสสาวะ, ที่กระเพาะ ปัสสาวะ ทำ�ให้เกิดอาการรู้สึกปัสสาวะไม่สุดหรือปัสสาวะเจ็บ, ที่ไต ทำ�ให้ เกิดอาการปวดที่บั้นเอว 2. นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วเกิดในทางเดินปัสสาวะได้หลายตำ�แหน่ง ตั้งแต่ในเนื้อไต กรวยไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ โดยเมือ่ ก่อปัญหาจากนิว่ ก็มกั จะเกิดเลือดออก ในบริเวณใกล้เคียง หากนิ่วไประคายเคืองหรือรบกวนทางเดินปัสสาวะมาก จะทำ�ให้เกิดอาการปวดบีบเป็นพัก ๆ ได้ นอกจากนีน้ วิ่ เองยังเป็นจุดทีเ่ ชือ้ โรคสามารถเข้าไปเกาะติดได้ ทำ�ให้เกิด เลือดออกจากการติดเชื้อได้อีกด้วย happy+ | 63
3. มะเร็ง มะเร็งทีเ่ กิดในทางเดินปัสสาวะจะทำ�ให้พนื้ ผิวของทางเดินปัสสาวะเกิด การบาดเจ็บ จนมีเลือดออกได้ รวมถึงเนือ้ มะเร็งเองก็สามารถมีเส้นเลือดมา โผล่จนเลือดออกได้ โดยมะเร็งในทางเดินปัสสาวะที่ทำ�ให้เกิดเลือดออกเกิด ได้ทั้งจากไต จากต่อมลูกหมาก หรือกระเพาะปัสสาวะ 4. การบาดเจ็บของทางเดินปัสสาวะ การกระทบกระแทกที่ช่องท้อง หลัง หรือที่อวัยวะเพศ สามารถทำ�ให้ เกิดเลือดออกในปัสสาวะได้ 5. การออกกำ�ลังกายหนัก การออกกำ�ลังกายที่ยาวนาน หนักหน่วงหรือมีการขาดนํ้า สามารถ ทำ�ให้เกิดการบาดเจ็บในทางเดินปัสสาวะ จนปัสสาวะเป็นเลือดได้ ซึ่งจะ ต้องไปแยกจากภาวะบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ซึ่งปัสสาวะเป็นสีแดงแต่ไม่มี เลือดปน 6. ยา กลไกทีท่ �ำ ให้พบเลือดในปัสสาวะเจอได้หลายแบบ ยาเคมีบ�ำ บัดบางชนิด สามารถทำ�ให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้ เช่น ยา Cyclophosphamide และ Ifosfamide, ยาทั้งแผนปัจจุบันหรือแผนโบราณ บางชนิด สามารถทำ�ให้เกิดภาวะไตอักเสบจนกระทั่งพบเลือดออกได้, ยาที่มีผลต่อ การแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin หรือ Warfarin สามารถทำ�ให้เลือดออกใน ทางเดินปัสสาวะได้ หากมีบาดแผลหรือการอักเสบอยู่เดิม ดังนั้นหากตรวจพบเลือดในปัสสาวะ ควรนึกไล่เรียงว่าในช่วงเวลา ก่อนหน้านั้น เราได้รับประทานยาอะไรเข้าไปบ้างหรือเปล่าแล้วจดไว้กันลืม 7. โรคของเนื้อไต โรคใด ๆ ที่เกิดกับเนื้อไตหรือระบบการกรองของไต สามารถทำ�ให้ เส้นเลือดในไตเกิดการอักเสบ จนพบเลือดปะปนมาในปัสสาวะได้ เช่น โรค หน่วยไตอักเสบตามหลังการติดเชื้อ โรคภูมิคุ้มกันทำ�งานผิดปกติที่มาจับ ทำ�ลายไต หรือการมีถุงนํ้าที่ไต ล้วนทำ�ให้มีเลือดปะปนมาในปัสสาวะได้ 8. การฉายรังสี การได้รับรังสีเพื่อรักษาอวัยวะในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกราน สามารถ ทำ�ให้กระเพาะปัสสาวะผิดปกติได้ โดยพบได้ทั้งทันทีช่วงที่ก�ำ ลังฉายรังสีอยู่ หรือพบตามหลังการฉายรังสีไปแล้วเป็นเดือน ๆ ปี ๆ
64 | happy+
อาการที่ควรสังเกต
เนื่องจากภาวะหรือโรคที่ทำ�ให้เกิดเลือดออกปะปนมาในปัสสาวะ สามารถพบได้มากมายหลายสาเหตุ แพทย์จึงมักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลายอย่าง เพื่อใช้ในการวิเคราะห์หาสาเหตุและพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติม ตามทีเ่ หมาะสมต่อไป เช่น ถามเรือ่ งอาการเจ็บปวดเวลาปัสสาวะว่ามีหรือไม่ และเกิดช่วงใดของการปัสสาวะ, ถามตำ�แหน่งทีม่ อี าการเจ็บปวด, อาการไข้, ประวั ติ ก ารใช้ ย าและอาหารเสริ ม , ประวั ติ ก ารรั ก ษาในอดี ต , ประวั ติ ประจำ�เดือนและการสูบบุหรี่ เป็นต้น
การตรวจ
เมื่อมีประวัติเลือดออกในปัสสาวะ แพทย์มักจะตรวจร่างกายส่วนที่ เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ตรวจที่บั้นเอว หน้าท้อง มีการ กดเคาะเพื่อดูอาการเจ็บปวดหรือคลำ�หาก้อน นอกจากนี้อาจมีการตรวจใน ตำ�แหน่งอื่น ๆ ขึ้นกับโรคหรือภาวะที่สงสัยเกี่ยวข้องร่วมด้วย ตรวจพิเศษอื่น ๆ 1. ตรวจปัสสาวะ : เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ออกมาเป็นเลือดจริง ๆ รวมทั้ง ดูว่ามีสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากเม็ดเลือดแดงหรือไม่ เช่น การพบเม็ดเลือดขาว ทีบ่ ง่ บอกเรือ่ งการติดเชือ้ การตรวจพบแท่งเซลล์ทีบ่ ง่ บอกว่ามีความผิดปกติ ที่เนื้อไตหรือหน่วยของไต และการตรวจพบผลึกของนิ่วต่าง ๆ ที่อาจพบได้ ในปัสสาวะ 2. Intravenous Pyelography : เป็นการใช้สารทึบรังสีที่ขับออกทางไตฉีด เข้าไปในร่างกาย จากนัน้ ทำ�การเอกซเรย์ต�ำ แหน่งทางเดินปัสสาวะเพือ่ ดูรปู ร่าง ของทางเดินปัสสาวะว่ามีจุดที่ผิดปกติหรือไม่ 3. เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางเดินปัสสาวะ : เป็นการใช้เครื่องเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์เพื่อตรวจดูระบบทางเดินปัสสาวะ มีทั้งแบบที่ฉีดสารทึบรังสี และไม่ได้ใช้สารทึบรังสี 4. อัลตราซาวน์ทางเดินปัสสาวะ : เป็นการใช้เครื่องอัลตราซาวน์ตรวจ ระบบทางเดินปัสสาวะ ข้อดีคอื ไม่ตอ้ งใช้สารทึบรังสีเข้าไปในร่างกายและไม่ ต้องรับรังสี แต่มีข้อจำ�กัดคือ ความไวในการพบความผิดปกติตํ่ากว่า 5. การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ : เป็นการใช้เครื่องมือสอด เข้าไปในท่อปัสสาวะ แล้วเข้าไปมองตรวจภายในกระเพาะปัสสาวะว่ามีความ ผิดปกติหรือไม่ ข้อดีคือ หากพบจุดที่สงสัยว่าผิดปกติก็สามารถตัดตรวจ ชิ้นเนื้อที่ตำ�แหน่งนั้นได้
เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a
อาการซึมเศร้าหลังคลอด
Q A
อาการซึ ม เศร้ า หลั ง คลอดเกิ ด จากอะไรคะ บรรเทาหรื อ แก้อาการได้อย่างไรบ้างคะ ขอบคุณมากครับที่ถามคำ�ถามที่น่าสนใจนี้ เนื่องจากอาการซึมเศร้า หลังคลอดนั้นยังไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากนัก ทั้งในบ้านเราหรือต่างประเทศ หลายคนคงคาดว่าหลังจากคุณแม่ได้ให้กำ�เนิดลูกน้อยออกมา ก็คงจะ มีแต่ความปีติยินดี แต่ก็มีคุณแม่หลาย ๆ คนไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นครับ จาก ตัวเลขของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า มีคุณแม่มือใหม่ประมาณ 10-15% ที่ประสบกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และภาวะซึมเศร้าหลังคลอดก็ส่งผล กับความสัมพันธ์ของแม่กับลูกในระยะยาว หรือแม้แต่นำ�ไปสู่การทำ�ร้าย ตนเองหรือการฆ่าตัวตายของแม่ได้ในที่สุด อาการซึมเศร้าหลังคลอดอาจจะเกิดได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกหลังให้ กำ�เนิดทารก และอาการอาจจะคงอยู่อีกหลายเดือนจนกระทั่ง 1 ปี อาการ ทีส่ �ำ คัญในภาวะซึมเศร้าหลังคลอดคือ มีการเปลีย่ นแปลงของกิจวัตรประจำ�วัน เช่น ความอยากอาหารมากหรือน้อยผิดปกติ การนอนหลับมากหรือน้อย ผิดปกติ ตืน่ ตระหนกหรือเซือ่ งซึมผิดปกติ รูส้ กึ ตัวเองไม่มคี ณ ุ ค่า ไม่สามารถ จดจ่อกับงานที่ทำ� การตัดสินใจแย่ลง ความสนใจในการทำ�กิจกรรมต่าง ๆ ลดลง หรือมีความคิดที่จะทำ�ร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตายหรือถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือ มีอาการของโรคซึมเศร้านั่นเองครับ โดยอาการต่าง ๆ เหล่านี้ต้อง อยู่เกิน 2 สัปดาห์ถึงจะเข้าข่ายว่ามีอาการซึมเศร้าหลังคลอด ผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ กับทารกทีแ่ ม่มอี าการซึมเศร้าหลังคลอดก็นา่ กังวล ไม่น้อยครับ ทั้งมีผลต่อการเจริญเติบโตทางสมอง พัฒนาการทางอารมณ์ พัฒนาการทางภาษา การจดจ่อและสมาธิ ตลอดจนพัฒนาการทางด้าน สังคม จึงมีความจำ�เป็นอย่างยิง่ ทีจ่ ะต้องตระหนักถึงความสำ�คัญของโรคนี้
ให้มากครับ เพือ่ ลดผลกระทบกับตัวเด็กทารกทีจ่ ะโตเป็น ผู้ใหญ่ในอนาคตนั่นเอง สาเหตุของอาการซึมเศร้าหลังคลอดเชื่อกันว่า เกิด จากภาวะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรวดเร็วใน ช่วงหลังคลอด แต่กลไกที่ชัดเจนนั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจ ของผูท้ ก่ี �ำ ลังศึกษาค้นคว้าว่าเกิดอะไรขึน้ จึงเกิดภาวะดังกล่าว ในกลุ่มมารดาหลังคลอด แต่ก็พอจะระบุกลุ่มเสี่ยงที่ จะมีอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ครับ นั่นก็คือ ในกลุ่ม มารดาหลังคลอดที่เคยมีอาการซึมเศร้าหรือป่วยด้วย โรคทางจิตเวชมาก่อน ครอบครัวมีคนที่มีความผิดปกติ ทางอารมณ์ (Mood Disorder) มีอาการซึมเศร้าระหว่าง ตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้ง รวมถึงมีความ ตึงเครียดในชีวิต เช่น การตกงาน ทะเลาะเบาะแว้ง หย่าร้าง เป็นต้น การใช้สารเสพติดบางชนิดก็ส่งผลให้ เกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้ล้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำ�ให้มีอาการได้ทั้งสิ้นครับ การป้องกันหรือบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอด ก็มีทางป้องกันได้อยู่ครับ นั่นคือ การให้การช่วยเหลือ ทางด้านจิตใจและทางด้านสังคม โดยจะเป็นลักษณะ การทำ�งานเชิงรุกของฝ่ายสาธารณสุขคือสถานพยาบาล นั่นเอง เช่น การโทรศัพท์ไปถามอาการ ให้การช่วยเหลือ ทางจิตใจและคำ�แนะนำ�ต่าง ๆ กับแม่หลังคลอด ส่วนการรักษาก็จะเน้นทีก่ ารรักษาอาการซึมเศร้าให้ ดีขึ้น เช่น การใช้ยาต้านอาการซึมเศร้า การหยุดใช้สาร เสพติด โดยการรักษาจะรักษาเหมือนกับกลุ่มผู้ป่วยที่มี อาการซึมเศร้า แต่ต้องระมัดระวังเรื่องผลข้างเคียงของ การรักษาต่อเด็กทารกให้น้อยที่สุดครับ โดยสรุ ป แล้ ว อาการซึ ม เศร้ า หลั ง คลอดพบเจอ ได้ค่อนข้างบ่อยครับ จึงควรจะต้องหมั่นสังเกตและ สอบถามคุ ณ แม่ ห ลั ง คลอด ว่ า มี อ าการที่ เข้ า ได้ กั บ ซึมเศร้าหรือไม่ เช่น ร้องไห้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เบื่อหน่าย เซื่องซึม เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวให้รีบปรึกษา แพทย์โดยเร็ว เพราะอาจส่งผลกระทบกับทารกได้ ส่วน การรักษาไม่ต่างกับผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าทั่วไป นั่น คือ การรับประทานยาพร้อมกับให้ค�ำ ปรึกษาแนะนำ�โดย ผู้เชี่ยวชาญนั่นเองครับ
นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65
ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii
บริหารร่างกายง่าย ๆ ลดอาการปวดหลัง ปวดเอว
ปวดหลัง ปวดเอว เป็นหนึง่ ในอาการยอดฮิตของออฟฟิศซินโดรม ซึง่ เกิดจากพฤติกรรมประจำ�วันของเรานัน่ เอง ไม่วา่ จะเป็นการนัง่ ทำ�งานที่ โต๊ะทัง้ วัน การนัง่ อยูใ่ นรถนาน ๆ ขณะรถติด หรือต้องขับรถไปธุระไกล ๆ การยืนนาน ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ทีใ่ ส่รองเท้าส้นสูงตลอดทัง้ วันด้วยแล้ว ยิ่งเกิดอาการปวดหลังได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณหลังส่วนล่างตรงช่วงเอว อีกทั้งการยกของหนักเป็นประจำ�หรือการออกกำ�ลังกายหักโหม เกินไป ก็เป็นสาเหตุให้ปวดหลังได้เช่นกัน เพื่อลดอาการปวดหลัง ปวดเอวที่เกิดขึ้น นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนั่ง การยืน และการใช้งานร่างกายแล้ว การยืดเส้น ยืดสายก็สามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้เช่นกัน 66 | happy+
ท่าที่ 2
นอนราบลงกับพื้น ยกขาซ้ายขึ้นมาให้เข่าทำ�มุมตั้งฉากกับพื้น ใช้ มือขวาจับหัวเข่าซ้าย กางแขนซ้ายออกวางแนบลงกับพืน้ ดึงหัวเข่าข้างซ้าย ไปทางขวาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ โดยพยายามกดไหล่ซ้ายให้แนบกับ พื้นไว้ และหันศีรษะไปทางด้านซ้ายด้วย ค้างไว้ 10 วินาที จึงกลับสู่ท่าปกติ และสลับทำ�แบบเดียวกันกับขาข้างขวา ท่าที่ 1 ยกขาขวาขึ้นมาให้เข่าทำ�มุมตั้งฉากกับพื้น ใช้มือซ้ายจับหัวเข่าขวา นอนราบลงกั บ พื้ น ยกขาซ้ า ยขึ้ น มาให้ เ ข่ า ทำ � มุ ม ตั้ ง ฉากกั บ พื้ น กางแขนขวาออกวางแนบลงกับพื้น ดึงหัวเข่าข้างขวาไปทางซ้ายให้ได้มาก หลังจากนัน้ ประสานมือทัง้ สองข้างไปทีห่ วั เข่า ยกหลังขึน้ เล็กน้อย ดึงหัวเข่า ที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ โดยพยายามกดไหล่ขวาให้แนบกับพื้นไว้ และหันศีรษะ เข้าหาลำ�ตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ ค้างไว้ 10 วินาที แล้วสลับทำ�แบบ ไปทางด้านขวาด้วย ค้างไว้ 10 วินาที จึงกลับสู่ท่าปกติ เดียวกันกับขาข้างขวา
ท่าที่ 3
ท่าที่ 4
นอนราบลงกับพื้น ชันเข่าขึ้น ยกขาข้างขวาขึ้นมาทับขาข้างซ้ายใน นอนราบลงกับพื้น ยกขาทั้งสองข้างขึ้นให้เข่าทำ�มุมตั้งฉากกับพื้น นำ� ขาไขว้กันเป็นกากบาท (เหมือนนั่งขัดสมาธิ) โดยให้ขาขวาทับขาข้างซ้าย ลักษณะไขว่ห้าง หลังจากนั้นนำ�มือประสานไว้ที่หลังศีรษะ เอนเข่าไปทาง ก่อน ใช้มือจับที่ปลายเท้าทั้งสองข้างและดึงเข้าหาตัว ค้างไว้ 10 วินาทีแล้ว ขวาให้ราบกับพืน้ มากทีส่ ดุ และพยายามกดไหล่ซา้ ยให้แนบกับพืน้ หันหน้า ผ่อนออก ก่อนจะสลับเป็นไขว้ขาโดยให้ขาซ้ายทับขาข้างขวา และดึงปลาย ไปทางซ้าย ค้างไว้ 10 วินาที ก่อนจะกลับสู่ท่าเริ่มต้น แล้วสลับข้าง ยกขาซ้ายมาทับขาข้างขวาในลักษณะไขว่หา้ ง มือยังคงประสานทีห่ ลัง เท้าเข้าหาตัวอีก 10 วินาที ศีรษะ เอนเข่าไปทางซ้ายให้ราบกับพื้นมากที่สุด และพยายามกดไหล่ขวา แนบกับพื้น หันหน้าไปทางขวา ค้างไว้อีก 10 วินาที หากทำ�ท่าเหล่านี้ประจำ� อาการปวดหลัง ปวดเอวจะค่อย ๆ หายไปค่ะ นอกจากนี้การยืดเส้นยืดสาย ขยับร่างกายในระหว่างที่ต้องนั่งหรือยืนนาน ๆ ยกของให้ถูกวิธี และไม่ออกกำ�ลังกายหักโหมจนเกินไป ก็จะช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดเอวลงได้ด้วยค่ะ happy+ | 67
HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ลดปวดประจำ�เดือนด้วยภูมิปัญญาไทย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อาการปวดประจำ�เดือน สร้างความกังวลใจให้แก่ผู้หญิงอย่างเรา ๆ อยู่ไม่น้อย พอครบรอบเดือนเวียนมาบรรจบ เป็น ต้องหนักใจทุกที ผูห้ ญิงคนไหนโชคดีไม่ตอ้ งประสบกับปัญหานีก้ โ็ ล่งใจไป แต่ถา้ ผูห้ ญิงคนไหนโชคร้าย ปัญหานีค้ งต้องติดตัวไปอีกนานแสนนาน ในการแพทย์แผนไทย การมีประจำ�เดือนนั้น ถือเป็นการขับของเสียที่ คัง่ ค้างออกจากร่างกาย ดังนัน้ จึงต้องมีการไหลเวียนทีด่ ี ไม่คงั่ ค้างหรือสะสม ไว้ มิฉะนัน้ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผูห้ ญิงได้ ทำ�ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตามมา การแพทย์แผนไทยจึงให้ความสำ�คัญกับสุขภาพสตรี เน้นการรักษา สุขภาพของผูห้ ญิง ด้วยการรักษาระบบประจำ�เดือนให้เป็นปกติ เพราะเชือ่ ว่า เป็นหัวใจหลักของการดูแลสุขภาพสตรีทั้งกายและใจ และความเป็นปกติ ของระบบประจำ�เดือนนัน้ ขึน้ อยูก่ บั ความสมดุลของปิตตะ วาตะ และเสมหะ หรือที่เรียกว่า ตรีโทษ นั่นเอง ความผิดปกติของระบบประจำ�เดือนมักจะเริ่มจากวาตะหรือลม โดย อาการที่พบบ่อย ๆ คือ ประจำ�เดือนมาไม่สมํ่าเสมอ ปวดประจำ�เดือน ปวด ศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว บางรายอาจมีอาการท้องผูก เมื่อวาตะกำ�เริบ จึงไป ผลักดันให้รา่ งกายเกิดความร้อน ปิตตะหรือไฟในร่างกายจึงกำ�เริบตาม อาจ ทำ�ให้บางรายมีอาการไข้ จึงไม่แปลกที่คนโบราณจะพูดกันติดปากว่า เป็น ไข้ทับระดู และเมื่อใดที่ตกขาวมีกลิ่น มีสี ร่วมกับอาการไม่สบายระหว่างมี ประจำ�เดือนที่เป็นเรื้อรัง ทำ�ให้เกิดความทุกข์ทรมาน รวมทั้งอาจมีก้อนหรือ ฝีในมดลูก นัน่ หมายถึงการลุกลามไปถึงระบบธาตุนาํ้ และดิน ซึง่ จะยิง่ ทำ�ให้ การรักษายากยิ่งขึ้น ดังนัน้ หากเรารูจ้ กั ตัดไฟแต่ตน้ ลม ก็ตอ้ งดูแลธาตุลมของเราให้เป็นปกติ ตัง้ แต่การรับประทานอาหารทีเ่ หมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกนึกคิด จิตใจ อารมณ์ต่าง ๆ ให้สมํ่าเสมอ ออกกำ�ลัง กายอย่างเหมาะสม ดูแลระบบการขับถ่าย อยูใ่ นสภาวะทีเ่ หมาะสม ไม่รอ้ น ไม่เย็นจนเกินไป พร้อม ๆ ไปกับการดูแลตนเอง โดยการบำ�รุงร่างกายด้วย อาหารและสมุนไพร เพือ่ ให้เราสามารถรับมือกับปัญหาการปวดประจำ�เดือน ได้อย่างเหมาะสม ปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางการแพทย์ได้มีการจัดการกับอาการปวด ประจำ�เดือน โดยมีการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID (Non-Steroidal AntiInflammatory Drugs) ซึ่งถือเป็นเพียงการบรรเทาอาการ และจำ�เป็นต้องใช้ ทุกครั้งที่มีอาการปวด อาจพบอาการข้างเคียง เช่น ระคายเคืองทางเดิน อาหาร ทำ�ให้ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะมองหาทางเลือกอื่น สมุนไพรไทย 68 | happy+
จึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึง่ ในการนำ�มาใช้บรรเทา อาการปวดประจำ�เดือน ซึง่ มีต�ำ รับยาทีใ่ ช้ส�ำ หรับ แก้ปญ ั หาเรือ่ งประจำ�เดือน ทีเ่ ราอาจเคยได้ยนิ คือ “ประสะไพล” เป็นตำ�รับยาที่ใช้บรรเทาอาการ ปวดประจําเดือน ระดูมาไม่สมํา่ เสมอหรือมาน้อย กว่าปกติ ขับนํ้าคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร จัดเป็นหนึง่ ในยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ทำ�ให้แพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐสั่งจ่ายได้ และ ได้รับการบรรจุอยู่ในประกาศยาสามัญประจำ� บ้าน ให้เป็นยาทีป่ ระชาชนสามารถเลือกใช้ได้เอง อีกด้วย ตามหลักการแพทย์แผนไทย ประสะไพล ประกอบด้วยตัวยารสร้อนฝาด เผ็ดร้อนและร้อนปร่า ทำ � ให้ ทั้ ง ตำ � รั บ ออกฤทธิ์ ไ ปทางร้ อ น มี ตั ว ยา รสฝาดช่วยสมาน คุมฤทธิ์ กำ�กับการทำ�งานของ ธาตุลม ทำ�ให้การเคลื่อนไหวของธาตุลมดีขึ้น พอ เหมาะและสมดุล สอดคล้องกับการวิจัยของไพล ที่พบว่าทำ�ให้กล้ามเนื้อเรียบลดการเกร็งตัว ลด การสร้างสาร Prostaglandins (พรอสตาแกลนดิน) ซึ่งเป็นสารสร้างความปวด นอกจากนี้ตำ�รับยา ยั ง ส่ ง ผลให้ ค วามร้ อ นของเลื อ ดเพิ่ ม ขึ้ น เลื อ ด เหลวขึน้ จึงเกิดการไหลเวียน ไม่คงั่ ค้างหรือสะสม และเนื่องด้วยยานี้เป็นยาฤทธิ์ร้อน ซึ่งจำ�เป็นต้อง ระมัดระวัง โดยเฉพาะในหญิงตกเลือดหลังคลอด หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีไข้ ห้ามรับประทานใน หญิงที่มีระดูมากกว่าปกติ เพราะจะทําให้มีการ ขับระดูออกมามากขึ้น และควรระวังการใช้ยา ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความ ผิดปกติของตับ หรือไต เนือ่ งจากอาจเกิดการสะสม ของการบูรและเกิดพิษได้
นอกจากยาตำ�รับที่กล่าวมาแล้ว ยังมี การใช้ตำ�รับยาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอ พื้นบ้าน ที่มีการสืบทอดต่อกันมา และนำ�มา ใช้รกั ษาอาการปวดประจำ�เดือนได้เป็นอย่างดี นำ�ใบแก่ของหูกวาง 5-10 ใบต่อนํ้า 1 ลิตร มาต้มดื่ม ครั้งละ 1 แก้ว วันละ 1-2 ครั้ง แนะนำ�ให้ดื่มก่อนรอบเดือนจะมา 2-3 วัน ต้นสดของผักคราดหัวแหวนผสมกับนํ้า มะนาว ทำ�เป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหาร นํ้าตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะพูน ผสม เหล้าขาว 1-3 ช้อนชา นำ�ขี้เหล็กทั้งต้น 1 กำ�มือ ต้มกับนํ้า 1 ลิตร ต้มเดือดประมาณ 15 นาที รับประทาน ครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น ขิงคัน้ เอาแต่นาํ้ ประมาณครึง่ ถ้วย ผสมนํา้ ผึ้ง 30 กรัม อุ่นให้ร้อนก่อนนำ�มารับประทาน ทั้ ง นี้ ผู้ ห ญิ ง จำ � เป็ น จะต้ อ งรู้ ถึ ง สิ่ ง ที่ พึ ง ปฏิบัติขณะที่มีรอบเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ควรงดปฏิบัติ เช่น การอาบนํ้าเย็น การ สระผมด้ ว ยนํ้ า เย็ น การดื่ ม นํ้ า เย็ น การ รับประทานอาหารเย็น เช่น ฟักแฟง แตงโม นํ้ามะพร้าว ไอศกรีม นํ้าแข็ง เป็นต้น สิ่งที่ ควรปฏิบัติ คือ การใช้กระเป๋านํ้าร้อนประคบ บริเวณที่มีอาการปวด หลีกเลี่ยงภาวะเครียด ทำ�จิตใจให้บริสทุ ธิ์ รูจ้ กั ปล่อยวาง โดยการฝึกจิต และสมาธิ การออกกำ�ลังกายเบา ๆ เพื่อให้ ลมเกิดการเคลื่อนไหว เพิ่มการไหลเวียน เช่น การฝึกโยคะ ผู้ ห ญิ ง เป็ น เพศที่ ธ รรมชาติ รั ง สรรค์ ขึ้ น พร้ อ มที่ จ ะแบกรั บ ภาระอั น หนั ก หน่ ว งของ การเป็นแม่ รวมไปถึงจะต้องอดทนต่อสภาวะ ร่ า งกายที่ เปลี่ ย นแปลงไป ดั ง นั้ นการดู แ ล สุขภาพหญิงไทยด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จึงถือเป็นมรดกแห่งภูมิปัญญา ที่แนบแน่น อยู่ กั บ วั ฒ นธรรมชุ ม ชนที่ สั่ ง สมส่ ง ต่ อ มา รุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้เพื่อให้หญิงไทยมีสุขภาพที่ดีทั้ง กายและจิต พร้อมรับมือกับทุกปัญหาที่ต้อง เผชิญ happy+ | 69
well being เรื่อง : ญาดารัตน์
หมอกหรือควัน คงมี ห ลายคนที่ เคยมี ป ระสบการณ์ ได้ ไป ชืน่ ชมทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่ และฉันก็เป็นหนึง่ ในนั้น มีหลาย ๆ ครั้งที่ต้องบุกป่าฝ่าดง ตื่นตั้งแต่ ยังไม่รุ่งสาง ออกเดินทางเพื่อไปนั่งรอชมทะเล หมอกบนภูสงู ความงดงามของธรรมชาติในช่วงที่ พระอาทิตย์เริม่ โผล่พน้ ขอบฟ้า ประกายของแสงที่ ตกกระทบกับสายหมอก ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสีไป เรือ่ ย ๆ ช่างงดงามและชวนให้นา่ หลงใหลยิง่ นัก… แต่ใช่ว่า...ทุกคนจะมีโอกาสได้ชื่นชมสิ่งนี้ ได้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสไปเยือน หากในบางครั้ง ธรรมชาติไม่เอื้ออำ�นวย ทำ�ให้มีทัศนวิสัยไม่ดี ท้ อ งฟ้ า ปิ ด มี แต่ ค วามมื ด ครึ้ ม ทะเลหมอกที่ งดงามแต่งแต้มด้วยสีสันสดใส ก็จะไม่ปรากฏตัว ให้ เ ห็ น และคงมี ค นที่ เ คยประสบกั บ ความ ผิดหวังนี้มาแล้ว เพื่อนหลายคนชอบทะเลหมอกในช่วงหน้า หนาว แต่ฉันกลับเป็นคนที่ชอบสายหมอกในช่วง หน้าฝน ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังฝนตกใหม่ ๆ เราจะ เห็นภาพแนวทิวเขาทีม่ หี มอกลอยละเลียดราวกับ ว่ามีใครฉีกสำ�ลีบาง ๆ ไปแปะแต่งแต้มอยู่ ใน เวลาที่ฉันรู้สึกเหนื่อย ท้อ ห่อเหี่ยว สิ่งนี้เปรียบ เสมือนโอสถทิพย์ที่ช่วยเยียวยาให้หัวใจกลับมา 70 | happy+
ชุ่มชื่นอีกครั้ง หมอกที่สวยงามมาปรากฏตัวในช่วงเวลา และสถานที่ที่เหมาะสม ย่อมเป็นสิ่งดีงาม แต่ หากหมอกปรากฏตัวในช่วงเวลาและสถานที่ที่ ไม่เหมาะสม ย่อมไร้ประโยชน์และก่อให้เกิดโทษ เฉกเช่น หมอกที่มีเยอะในท้องถนนก็ทำ�ให้เกิด อุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น ธรรมชาติสอนให้มนุษย์ได้ เรียนรูแ้ ละรับมือกับทัง้ คุณและโทษในสิง่ เดียวกัน หรือแม้แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกัน ก็ต้องเรียนรู้ และแยกกันให้ออก ว่าสิง่ ไหนคือสิง่ ดี / ไม่ดี ดังเช่น บทเพลง หมอกหรือควัน ของพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ที่แต่งโดย “สีฟ้า” “หมอกจาง ๆ และควัน คล้ายกันจนบางที ไม่อาจรู้” แต่หากมองอีกแง่มุมหนึ่ง เวลาที่เรามอง ความสวยงามของสายหมอก หรือทะเลหมอก เรามักจะต้องอยู่ในระยะห่างกับมันพอสมควร เพราะหากเราอยูใ่ นระยะประชิด เราก็จะมองไม่เห็น ความงามดังกล่าว คงเหมือนกัปตันเครื่องบิน ที่ เ ขาต้ อ งปะทะกั บ สายหมอกท่ า มกลาง ความเสี่ยง แถมมีความกดดันกับภาระที่หนักอึ้ง เพราะมีหลายชีวิตฝากไว้กับเขา ดังนั้นการเป็น
ผู้มองในระยะห่าง กับการเป็นผู้เผชิญหน้าใน ระยะประชิด ทั้ง ๆ ที่เป็นท้องฟ้าในมุมเดียวกัน อาจทำ�ให้เกิดความรู้สึกที่ต่างกัน ดังนั้น Space หรือระยะห่าง จึงเป็นเรื่องที่ สำ�คัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ และสัดส่วนใน เส้นทางของความห่างที่อยู่บนความพอดี ก็ย่อม ไม่มสี ดั ส่วนทีต่ ายตัว ล้วนขึน้ อยูก่ บั เหตุและปัจจัย ของบุคคลนั้น ๆ มีนักเรียนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า สมัยเด็กเขา เกลียดเวลาปิดเทอมในช่วงหน้าหนาวมาก เพราะ มักจะถูกพ่อกับแม่เรียกให้ตื่นแต่เช้ามืด เพื่อออก ไปช่วยทำ�นา ในขณะทีเ่ พือ่ นคนอืน่ คงยังนอนหลับ สบายใต้ผ้าห่ม หมอกลงหนาตา แต่เขาต้องนั่ง บนรถอีแต๋น ปะทะกับความหนาวเย็น ลมพัดมา แต่ละครัง้ เหมือนมีใบมีดมากรีดบนใบหน้า ปากสัน่ งันงก และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาตั้งใจเรียนมาก ๆ ในช่วงเวลานัน้ เพราะกลัวว่าหากผลการเรียนไม่ดี อาจจะต้องออกไปช่วยพ่อแม่ทำ�นาอย่างเต็มตัว แบบพี่คนโต... ในขณะที่เพื่อนของฉันที่เป็นช่างภาพ และ ชอบถ่ายภาพทะเลหมอกเป็นชีวิตจิตใจ เขาให้ เหตุผลว่า ทุกครั้งช่วงเวลาก่อนที่จะกดชัตเตอร์
เพื่อถ่ายภาพ เขารู้สึกว่าตนเองมีสมาธิ จดจ่อ และรูส้ กึ ราวกับว่า เขาและทะเลหมอกนัน้ รวมกัน เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีความกดดัน ไม่มีความวิตก กังวลใด ๆ รับรู้ถึงคำ�ว่า “อิสรภาพ” อย่างแท้จริง อ้อ! และสมาชิกใหม่ของบ้านฉัน เป็นหมา พันธุ์ไทย ที่เก็บมาเลี้ยงจากข้างถนน แม่ตั้งชื่อ ให้ว่า “ไอ้สีหมอก” ด้วยเหตุผลที่ว่า มันมีขน สีหมอก คือ ไม่ใช่ด�ำ ไม่ใช่ขาว และไม่ใช่เทา และ นี่คือเหตุผลของแม่ ทำ�ให้อดคิดตามไม่ได้ว่า... ในบางครั้งหรือบางช่วงของชีวิต ฉันก็น่าจะชื่อ “สีหมอก” เหมือนกันนะ นิยามสีของแม่อธิบาย เห็นภาพยิ่งนัก มองย้ อ นกลั บ ไปในช่ ว งชี วิ ต ที่ ผ่ า นมา ฉันดัน้ ด้นเดินทางไปชืน่ ชมสายหมอกมาในหลาย ๆ สถานที่ หลากหลายมุ ม ในโลกใบนี้ และ แต่ละที่ก็มีความงดงามในมิติที่ต่าง ๆ กันไป ฉันก็ยังมีความเชื่อว่า การเดินทางคือ การเรียนรู้ แต่ บ ทกลอนบทหนึ่ ง ทำ � ให้ ฉั น ได้ ฉุ ก คิ ด และ เริ่มให้ตัวเองได้มีโอกาสเดินทางกลับเข้าสู่ภายใน ตนเองเสียบ้าง และฝึกที่จะเรียนรู้ได้ทั้งการมอง ใกล้และการมองไกล ซึ่งขอยอมรับอย่างไม่อาย เลยว่า มันยากมากทีเดียวสำ�หรับคนนิสัยแบบ ฉัน...ผู้ที่มักมองด้านเดียว และมักเอาความรู้สึก นำ�หน้าเสมอ...
ฉันแบกสัมภาระ ข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า มองหาฤดูใบไม้ผลิอยู่ทั้งวัน หาไม่พบ... กลับมาบ้าน ฉันเหลือบเห็นดอกเหมยบาน นั่นไง...ฉันเห็นฤดูใบไม้ผลิเบ่งบานอยู่ที่ปลายช่อของมัน (ไท่จิ กวีจีน) หมอก เป็นละอองนํ้าหรือผลึกของนํ้าแข็งขนาดเล็ก เกิดจากอากาศชื้นมีอุณหภูมิ ลดลง จนไอนํ้าในอากาศเริ่มควบแน่นเป็นละอองนํ้า หรือเกิดจากอากาศได้รับ เกร็ด ความรู้ ความชื้นเพิ่มจนอิ่มตัว ทำ�ให้ไอนํ้าส่วนเกินกลั่นตัวเป็นหยดนํ้าขนาดจิ๋ว เกาะกับ ฝุน่ ละอองในอากาศ กลายเป็นหมอกปกคลุมไปทัว่ ลักษณะการเกิดหมอกคล้ายเมฆ หมอกทุกชนิดเกิดเมื่ออุณหภูมิอากาศมีค่าเท่ากับอุณหภูมิจุดนํ้าค้าง หมอกจะปกคลุมเฉพาะใกล้ผิวโลก ความหนาของหมอกเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป จนถึง 300 เมตร แล้วแต่ชั้นบรรยากาศของความชื้น ดังนั้นเมื่อเราขึ้นไปยืนอยู่บนยอดเขาในระดับ สูง จึงมองเห็นสายหมอกหนาที่ปกคลุมอยู่ตามหุบเขาในระดับตํ่า ขาวโพลนแน่นทึบ เป็นบริเวณ กว้างคล้ายกับพื้นผิวของนํ้าทะเล ยิ่งในพื้นที่หุบเขา ที่มีลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ ทะเลหมอกจะ ยิ่งแผ่ปกคลุมกว้างไกลและงดงามนัก ทะเลหมอก เกิดจากการคลายความร้อนของพืน้ ดินหรือหุบเขา ทำ�ให้อากาศบริเวณนัน้ เย็นเป็นลม อากาศที่เย็นจะเคลื่อนไปจมในหุบเขา รอจนถึงเวลากลางคืน ที่อุณหภูมิลดลง ไอนํ้า ในอากาศเริ่มควบแน่น เป็นละอองนํ้าจนเกิดเป็นทะเลหมอกที่สวยงาม สภาพอากาศที่เอื้อต่อการ เกิดทะเลหมอกมี 3 อย่าง คือ ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็น ไม่มีลม http://www.scimath.org/article-science/item/4619 happy+ | 71
beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art
สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ ตอน หน้าท้องเรียบเนียนสวย
1. ทานอาหารให้นอ้ ยลง แต่ทานให้บอ่ ยขึน้
จากเดิมที่เราเคยรับประทานอาหาร 3 มื้อ ใหญ่ ๆ ซึ่งทำ�ให้ระบบการย่อยทำ�งานค่อนข้าง หนั ก เราควรเปลี่ ย นมารั บ ประทานอาหารใน ปริมาณที่น้อยลง แต่บ่อยขึ้น คือ ประมาณทุก 2-3 ชั่วโมง ทำ�ให้การขยายของพุงลดลง แล้ว เมตาโบลิ ซึ ม ยั ง เผาผลาญไขมั น ได้ ม ากขึ้ น อี ก ด้วยค่ะ
สวัสดีสาว ๆ ที่ไม่ยอมหยุดสวยทุกท่านค่ะ ดิฉันได้มีโอกาสอยู่แดนภารตะนานกว่า 1 ปีแล้ว มี สาวน้อยสาวใหญ่ชาวอินเดียหลายคนถามดิฉันบ่อย ๆ ว่า ทำ�อย่างไรให้มีรูปร่างสมส่วนและที่สำ�คัญ มัก่ มาก คือ หน้าท้องแบนราบสวยงามอยูเ่ สมอ คำ�ถามนีต้ อบไม่ยากเลยสำ�หรับสาวไทยใช่ไหมคะ แต่ ถ้าเป็นสาวชาวอินเดียแล้วละก็ อือ้ หือ...ไม่รจู้ ะตอบอย่างไรดี สาวบางคนลงทุนถึงขนาดเปิดเสือ้ โชว์พงุ มิชลิน แถมกระเพื่อมพุงให้ดูตรงหน้าแบบไม่อายประชาชี ทำ�เอาดิฉันอายแทนเลยละค่ะ แหม...ก็ด้วยวิถีชีวิตการรับประทานอาหารของคนอินเดีย เริ่มรับประทานอาหารเช้าก็ 10 โมง กว่าเข้าไปแล้ว บางครอบครัวก็เริ่มซะเกือบเที่ยงเลยละค่ะ อาหารเที่ยงก็ประมาณบ่าย 2 โมง อะไร อย่างนี้ ส่วนอาหารเย็น ขอบอกเลยค่ะ ดิฉันเข้านอนก่อนอาหารเย็นของเขาอีกต่างหาก ประมาณ สามทุ่มกว่า ๆ หรือสี่ทุ่มเลยละค่ะ เคยสงสัยเหมือนกันว่าเขาเข้านอนกันกี่โมง อาหารที่ชาวอินเดีย รับประทานส่วนมากเป็นอาหารมังสวิรตั คิ ะ่ แต่ความมันไม่ตอ้ งพูดถึง จัดเต็มเลยค่ะ นํา้ มัน นม เนย ชีส แถมระหว่างวันเขาจะมีวฒ ั นธรรมดืม่ ชา แบบชานมบ้านเรานีแ่ หละค่ะ แต่เขาจะใช้นมสดและดืม่ ร้อน ๆ มี 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงสาย ประมาณ 09.30 น. และช่วงบ่าย ประมาณบ่าย 3 โมงค่ะ ขนมหวาน ไม่ต้องพูดถึง หวานจริงหวานจัง แถมยังอร่อยแบบไม่อยากหยุดรับประทานอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้ ดิฉันจะแนะนำ�อย่างไรดีละคะ เป็นโชคดีเป็นลาภอันประเสริฐของดิฉัน ที่มีเพื่อนเป็นสาวชาวโครเอเชียนแสนสวย แถมหุ่นดี ราวกับนางแบบ นางรับประทานอาหารมังสวิรัติแบบจริงจัง ที่เรารู้จักกันในนาม วีแกน (Vegan) นาง ก็เลยให้เคล็ดความงามที่ทำ�ให้หุ่นดี แล้วหน้าท้องแบนราบสวยงาม ไม่มีห่วง ภายใน 1 สัปดาห์ เป็น ธรรมทานแก่ดิฉันอย่างยิ่งค่ะ นางแนะนำ�ว่า 72 | happy+
2. ลดการรับประทานอาหารทีม่ ไี ฟเบอร์สงู
บางครัง้ พวกเราส่วนมากเป็นกังวลกับหน้าท้อง ที่นูนออกมามาก เพราะการบวมของร่างกาย เราสามารถหลีกเลี่ยงอาการบวมได้ ด้วยการ จำ �กั ดการรั บประทานอาหารที่ มี ไฟเบอร์สูง ๆ บางชนิด เช่น บรอคโคลี กะหลํ่าดอก ถั่วต่าง ๆ (Beans) เป็นต้น ผักที่มีไฟเบอร์สูงเหล่านี้จริง ๆ แล้วดีต่อ สุขภาพนะคะ แต่เป็นสาเหตุให้เกิดแก๊สในร่างกาย และทำ�ให้รา่ งกายบวมค่ะ ดังนัน้ ให้เราลดปริมาณ ในการรับประทานลงนะคะ
8. ดื่มชาเขียวสิคะ
ชาเขียวอุดมไปด้วยแอนติออกซิแดนต์ทชี่ อื่ ว่า คาเทชินส์ (Catechins) ซึง่ ช่วยในการลดไขมันหน้าท้อง ได้เป็นอย่างดีค่ะ ขอแนะนำ�ให้คุณดื่มชาเขียวก่อนออกกำ�ลังกาย เป็นอะไรที่เริดมากเลยค่ะ
9. เริ่มต้นทุกวันด้วยสมูทตี้
สมูทตี้ เป็นวิธีสุดยอดที่ทำ�ให้ร่างกายคงความสุขภาพดีและสดชื่น ทำ�ก็ง่ายและดีที่สุดในการเริ่ม ทุกเช้าด้วยสมูทตี้ค่ะ ขอแนะนำ�สมูทตี้แตงโม เพราะแตงโมอุดมไปด้วยกรดอะมิโน ที่เรียกว่า อาร์จินีน (Arginine) ทีช่ ว่ ยในการลดไขมันในร่างกายและเพิม่ มวลกล้ามเนือ้ อีกด้วยค่ะ หรือจะเป็นสมูทตีส้ บั ปะรด ช่วยลดอาการพุงยื่นได้เช่นกันค่ะ
3. รับประทานผักและผลไม้สดเป็นประจำ�
10. เป็นเพื่อนกับขิง
เพือ่ นสนิทของดิฉนั เลยค่ะ เพียงคุณนำ�ขิงสดมาหัน่ สัก 2-3 แว่น หรือตามใจชอบต้มกับนํา้ จนเดือด ขอแนะนำ�ว่าอย่ารับประทานในปริมาณที่ ทำ�เป็นชาขิง ช่วยสมดุลธาตุลมในร่างกาย แล้วยังช่วยลดพุงอีกด้วยค่ะ หรือหากเรามีใบเปเปอร์มิ้นต์ มากเกินไป ให้ทานในปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ สามารถนำ�มาใส่ลงในชาเขียว หรือทำ�เป็นชาเปเปอร์มิ้นต์ก็ช่วยได้มากเลยค่ะ ค่ะ จะได้ไม่เป็นสาเหตุให้พุงยื่นทั้งวัน
4. ตัดเมนูเดลีโ่ ปรดักส์
11. ห่างไกลจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาร์บอเนต
ดิฉันไม่ได้พยายามหยุดคุณ ๆ ไม่ปาร์ตี้นะคะ แต่ให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้เวลาเราไปงาน เดลีโ่ ปรดักส์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูท้ มี่ ปี ญ ั หา ปาร์ตี้ต่าง ๆ เพราะสามารถทำ�ให้ร่างกายเราบวมและพุงยื่นได้ง่าย ๆ เลยละค่ะ แอลกอฮอล์สามารถ เกี่ยวกับแล็กโทส ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดแก๊สและ ลดการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ส่วนเครื่องดื่มที่มีคาร์บอเนตก็เพิ่มแก๊สในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ การบวมของร่ า งกาย เนื่ อ งจากร่ า งกายย่ อ ย ร่างกายบวมค่ะ แล็กโทสไม่ค่อยได้ และยังพบว่ามีนํ้าตาลในเดลี่ โปรดักส์อีกด้วย จะเป็นการดีอย่างยิ่งหากเรา รับประทานผลิตภัณฑ์จากนมควบคูไ่ ปกับอาหารอืน่ ๆ และให้ทานน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ ค่ะ
5. รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียม ให้มากขึ้น
อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ๆ เช่น อะโวคาโด กล้วย มะละกอ มะม่วง แคนตาลูป และโยเกิร์ต มีประโยชน์ในการลดอาการบวมของร่างกายค่ะ
6. รับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รีและ ถั่วชนิดต่าง ๆ (Nuts) ให้มากขึ้น
ผลไม้ตระกูลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่ลดไขมันได้ ดีเป็นอย่างยิ่ง วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าผลไม้ ชนิดนี้ช่วยหยุดเซลล์ไขมันในร่างกาย ส่วนถั่ว ชนิดต่าง ๆ ก็ยังช่วยให้พุงไม่ยื่น แถมยังนํ้าหนัก ไม่ขึ้นอีกด้วยค่ะ
7. ดื่มนํ้าให้มากขึ้น
ข้ อ นี้ ดิ ฉั น ได้ ยิ น บ่ อ ย ๆ เลยค่ ะ นํ้ า ดี ต่ อ ร่างกายเป็นอย่างยิ่งนะคะ โดยเฉพาะคุณ ๆ ที่ ต้องการลดนํ้าหนักและอยากให้หน้าท้องแบน สวยงาม เพราะเมือ่ คุณดืม่ นํา้ ให้เพียงพอต่อความ ต้องการของร่างกาย ทำ�ให้ระบบในร่างกายสมดุล ไม่เกิดสาเหตุร่างกายบวม พุงยื่นอย่างแน่นอน และนํ้ายังทำ�ให้คุณรู้สึกอิ่มและไม่รับประทาน อาหารมากเกินไปค่ะ
ทีนี้สาว ๆ ก็สามารถดูแลรูปร่างให้สวยงามด้วยหน้าท้องที่แบนราบ ได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ๆ แบบ ง่าย ๆ ขอแค่มีวินัย เพียงอาทิตย์เดียวก็เห็นผลแล้วค่ะ ขอขอบคุณเพื่อนสาวชาวโครเอเชียนของดิฉันอย่างมากมาย ที่นางได้แบ่งปันเคล็ดความงามมา ให้ดิฉันได้ส่งมอบต่อสาว ๆ ที่ไม่ยอมหยุดสวยทุกท่านได้ลองทำ�ตามค่ะ ฉบับหน้าพบกับสูตรผิวสวยด้วยธรรมชาติ จากกูรคู วามงามทีก่ �ำ ลังโด่งดังในตอนนี้ เพราะนางเคย ดูแลผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณแบรนด์ดังมาก่อน ปัจจุบันหันกลับมาดูแลผิวพรรณด้วยวิธี ธรรมชาติสุด ๆ เพราะนางบอกว่าเริดที่สุด สวัสดีค่ะ happy+ | 73
สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Nasry ภาพ : Yuppy Yb
ย้อนวัยแห่งความสุขกับ Little Green Man
ลลินพร เพ็งสุข
Mr./Mrs. Potato Head ส่วนตัวกรีนแมนจะไม่ค่อย มีคนรูจ้ กั สักเท่าไหร่ ส่วนมากจะไม่รชู้ อื่ แต่จะเรียก ว่าตัวเอเลีย่ นสามตา จะเป็นตัวละครบ๊อง ๆ ตลก ๆ มีอยู่ 3 ตัว จะทำ�อะไรไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ดูน่ารักดี ส่ ว นตั ว ยุ้ ย เป็ นคนชอบสี เขี ย วอยู่ แ ล้ ว พอเห็ น กรีนแมนก็หลงรักทันที “ยุย้ เริม่ สะสมตัง้ แต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เพราะได้ไปดูการ์ตูนเรื่อง Toys Story จนตอนนี้ ก็สะสมมาได้ประมาณ 7-8 ปีแล้วค่ะ รวม ๆ มี ประมาณ 100 ตัว แต่ยุ้ยไม่ได้สะสมเป็นตุ๊กตา ทั้งหมดนะคะ อาจจะมีของใช้ในชีวิตประจำ�วัน อื่น ๆ ด้วย เช่น แปรงสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดมือ แก้วนํ้า ผ้าห่ม และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนมากของที่ สะสมจะพรีออเดอร์จากญี่ปุ่น เพราะกรีนแมน ไม่ได้เป็นตัวการ์ตูนหลัก จึงหายากมาก บางตัว เพื่อนก็ให้เป็นของขวัญวันเกิด ที่ไทยจะมีของ เข้ามาน้อยมาก เวลาไปเดินเล่นเจอก็ซื้อกลับมา แต่ส่วนมากจะเป็นพวงกุญแจ กระเป๋า ดินสอ วัยรุ่นยุค 90s คงไม่มีใครไม่รู้จัก Toy Story ภาพยนตร์ ส ามมิ ติ ที่ ได้ ร วบรวมแรงบั นดาลใจ ในวัยเด็กของใครหลาย ๆ คน แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ ยั ง หลงรั ก ในตั ว การ์ ตู นที่ สุ ด แสนจะน่ า รั ก จาก การ์ตนู เรือ่ งนี้ เช่นเดียวกับ คุณยุย้ -ลลินพร เพ็งสุข ที่ตัวการ์ตูนเอเลี่ยนสีเขียวหนึ่งในตัวละครของ Toy Story อย่าง Squeeze Toy Aliens หรือ เอเลีย่ น กรีนแมน (Little Green Man) ได้สร้างความทรงจำ� และความประทับใจให้กับเธอ และยังเป็นส่วน ช่วยทำ�ให้เธอได้กลับไปสู่ห้วงเวลาแห่งความสุข เล็ก ๆ อีกครั้งหนึ่ง ในปี 1995 “Toy Story” นับเป็นจุดเริ่มต้น ของกราฟิกแอนิเมชัน่ ในโลกภาพยนตร์ โดยจับเอา 74 | happy+
สิ่ ง เล็ ก ๆ ที่ ใ กล้ ชิ ด กั บ มนุ ษ ย์ ใ นวั ย เด็ ก มา แต่งเติมเสริมจินตนาการกลายเป็นการเดินทางของ บรรดา “ของเล่น” และการเดินทางของมนุษย์ ผู้เป็นเจ้าของได้อย่างลงตัว “ยุ้ ย ชอบดู ท อยสตอรี่ (Toy Story) มาก ติ ด ตามมาทุ ก ภาค และทุ ก ภาคก็ ล้ ว นแต่ มี คติและแง่มุมดี ๆ ให้ผู้ชมได้นำ�มาขบคิดจาก สิ่งใกล้ ๆ ตัว และแฝงปรัชญาหลายอย่าง อีกทั้ง ยังถ่ายทอดเรือ่ งราวของเล่นทีไ่ ร้ชวี ติ แต่หากคนดู รู้จักประยุกต์แนวคิดมาปรับใช้จริง ก็สามารถ กล่อมเกลาจิตใจของเราได้เป็นอย่างดีค่ะ ในเรื่อง Toys Story จะมีตัวการ์ตูนหลายตัวมากที่ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัว Woody, Buzz Lightyear, Jessie,
และปากกาค่ะ กรีนแมนทำ�ให้ชีวิตยุ้ยไม่น่าเบื่อ ดูมีสีสันมากขึ้น ตัวที่ชอบที่สุดเป็น กล้องจิ๋วหรือ กล้องดิจิทัล ที่ถ่ายแล้วเห็นภาพได้เลย ชอบตัวนี้ เพราะต้องพรีออเดอร์นานมากกว่าจะได้ เพราะ หมดรุน่ ไปแล้ว ก็เป็นอีกหนึง่ ความท้าทาย ทีท่ �ำ ให้ เราอยากหาของที่ยาก ๆ มาเก็บไว้ให้ได้ “นอกจากกรี น แมนยุ้ ย ยั ง สะสม ตุ๊ ก ตา Disney Animators’ Collection ตอนแรกก็ยังไม่ สนใจคิ ด ว่ า คงเป็ นกระแส พอลองเข้ า ไปดู ใน เว็บไซต์ต่าง ๆ ก็ชอบเลย เพราะเจ้าหญิงดิสนีย์ ตอนเด็ก ๆ สวยและน่ารักมาก จึงสะสมมาเรือ่ ย ๆ ตอนนี้ก็มีประมาณ 10 ตัวค่ะ แต่ยุ้ยอาจจะเป็น คนที่ ดู แ ลของสะสมไม่ ดี สั ก เท่ า ไหร่ (หั ว เราะ) บางอย่างทีย่ ยุ้ สามารถนำ�มาใช้ในชีวติ ประจำ�วันได้ เราก็ เ อามาใช้ เป็ น ปกติ ส่ ว นพวกของตกแต่ ง ก็ จ ะเก็ บ ใส่ ไว้ ในตู้ ตุ๊ ก ตาโชว์ ที่ มี ข นาดใหญ่ ที่ ไม่ ส ามารถใส่ ตู้ ได้ ก็ จ ะใช้ ถุ ง พลาสติ ก ครอบไว้ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะเท่านั้นเองค่ะ”
คุณยุ้ยบอกว่า การสะสมให้เรื่องราวดี ๆ แก่ เธอมากมาย เพราะนอกจากจะมีเรื่องราวสนุก และนำ�ความสุขมาให้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่สร้างแรง บันดาลใจให้เธออีกด้วย “ทุกวันนี้ยุ้ยมีความสุขในการสะสมค่ะ ย้อน กลับไปตั้งแต่ตอนหาของที่เราต้องการเจอ และ พอเราได้ของมาครอบครองแล้ว จะรูส้ กึ ภูมใิ จมาก เป็นอะไรทีค่ นไม่ชอบสะสมอาจจะไม่คอ่ ยเข้าใจนัก พอของสะสมที่คล้ายกันมาอยู่รวมกันหลาย ๆ ชิ้ น มั นทำ � ให้ ตู้ โชว์ เราดู มี สี สั น น่ า มอง ยิ่ ง ได้ เปลี่ยนที่หรือจัดระเบียบของสะสม ทำ�ให้รู้สึกถึง ความแปลกใหม่ทุกครั้ง การสะสมกรีนแมนหรือ ของเล่นอื่น ๆ ก็เพื่อความสุขล้วน ๆ พอยุ้ยเห็น ตัวนี้รู้สึกว่าชอบ คิดว่าถ้าได้เห็นตัวกรีนแมนอยู่ ในตู้โชว์ทุกวันคงจะมีความสุขดี เลยเลือกที่จะ สะสมกรีนแมนมาถึงทุกวันนี้ค่ะ กรีนแมนทำ�ให้
ยุย้ ได้สร้างแรงบันดาลใจในการมีความสุขกับสิง่ ที่ ทำ�ในทุก ๆ วันค่ะ “การที่ บ างคนพู ด ว่ า ของสะสมเป็ นความ ฟุ่มเฟือยก็ไม่ผิดนะคะ เพราะเขายังไม่ได้เริ่มชอบ สิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจริงจัง การที่จะยอมเสียเงิน อย่างเต็มใจ โดยไม่แคร์สายตาคนอื่นที่จะมองว่า เป็นเรื่องไร้สาระหรือสิ้นเปลือง เพื่อความสุขของ ตัวเราเอง เราสามารถทำ�ได้ค่ะ ยิ่งถ้าของสะสม บางอย่างยิง่ เก่ายิง่ มีราคาสูงขึน้ ก็ถอื เป็นการลงทุน อย่างหนึ่งค่ะ” คุ ณ ยุ้ ย ยั ง ให้ ข้ อ คิ ด สำ � หรั บ คนที่ คิ ด จะเริ่ ม สะสมว่า การสะสมไม่จำ�เป็นต้องมีราคาแพงหรือ ต้องมีจ�ำ นวนมากมาย แต่ตอ้ งหาให้เจอก่อนว่าตัวเอง ชอบอะไร ซึ่งการสะสมต้องไม่ทำ�ให้ตนเองและ ผู้อื่นเดือดร้อนในเรื่องเงินทอง แค่นี้ก็จะเป็นการ สะสมที่มีคุณค่าและมีความสุขได้แล้ว happy+ | 75
travelogue เรื่อง : พชรธร ภาพ : PM
เสียงเพรียกจากจอร์แดน จอร์แดน (Jordan) ประเทศในแถบตะวันออกกลางทีเ่ ราไปแล้ว และอยากให้คณ ุ ได้ลองไปสัมผัสกับมนต์เสน่หท์ แี่ สนตราตรึงใจ เต็มอิม่ กับความยิง่ ใหญ่ ตระการตาของเพตรา (Petra) เที่ยวชิลไปในทะเลแดง เปิดประสบการณ์อันน่าค้นหาในวาดีรัม (Wadi Rum) ลอยละล่องไม่มีวันจมในทะเลเดดซี (Dead Sea) เที่ยวเมืองโบราณต่าง ๆ ชมตลาดและสีสันแห่งตะวันออกกลาง ทั้งหมดนี้เราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสพร้อมกับเรา
76 | happy+
หลั ง จากจั ด แจงเรื่ อ งการเข้ า เมื อ งและ รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลาแห่งการผจญภัย ในจอร์แดนของเราก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เสียที ทริปนีเ้ ราเช่ารถกันแต่ราคาเช่าจะถูกจะแพง ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาดของรถ เราเลือก ปาเจโรเป็นพระเอกพาเราเทีย่ ว แผนการท่องเทีย่ ว ของเราคือ ออกไปเที่ยวนอกเมืองให้ทั่วก่อน แล้ว ค่ อ ยย้ อ นกลั บ เข้ า มาเมื อ งหลวง ดั ง นั้ นทริ ป นี้ เราจึงเริ่มต้นกันที่ ‘เพตรา’ Petra นครหินสีกุหลาบกลางหุบเขา เพตรา มี ป ระวั ติ ศ าสตร์ ม ายาวนาน เป็ นนครแห่ ง หิ น แกะสลักอันแสนยิ่งใหญ่ตระการตา ซ่อนตัวอยู่ ท่ามกลางหุบเขาวาดีมูซา ถูกสร้างขึ้นโดยชนเผ่า นาบาเทียนเมื่อราว ๆ 400 ปีก่อนคริสตกาล แต่ เดิมนั้นเมืองแห่งนี้เป็นเมืองแห่งการค้า ทั้งยางไม้ หอม กำ�ยาน เครื่องเทศ ผ้าย้อม ซึ่งลำ�เลียงผ่าน เมืองเพตราไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองนี้ถูก ทิ้งร้างกว่า 700 ปี เนื่องจากแผ่นดินไหวทำ�ลาย เมืองและระบบชลประทานที่ดีของที่นี่ไปจนหมด จนมีนักสำ�รวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเข้าเมือ่ ปี พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1812) นครเพตรา ถู ก จั ด ให้ เป็ น มรดกโลกเมื่ อ ปี พ.ศ. 2528 และเมือ่ ปี พ.ศ. 2550 ก็ได้รบั คัดเลือก ให้เป็นหนึง่ ในเจ็ดสิง่ มหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ค่า เข้าชมเพตราอยู่ที่ 50 JOD (สำ�หรับ 1 วัน) ถือ เป็นค่าเข้าชมที่แพงที่สุดในทริปนี้เลย ก่อนเข้า เพตราจะมี พิ พิ ธ ภั ณฑ์ ที่ บ อกเล่ า เรื่ อ งราวของ เพตราเพือ่ ปูทางก่อนเข้าชม การจะเดินทางเข้าไปใน เพตราสามารถเดินเท้าหรือจะเช่ารถม้านั่งเข้าไป ก็ได้ เราเลือกเดินเท้าเข้าไปกัน เพราะช่วงที่เราไป อากาศกำ�ลังสบาย (ช่วงใบไม้ผลิพอดี) การจะเดิน ทางเข้าไปในเพตรานัน้ ต้องผ่านหลืบเขาแคบ ๆ ที่ เรียกกันว่า เดอะซิค (The Siq แปลว่า ช่องแคบ) ด้ ว ยลั ก ษณะภู มิ ป ระเทศที่ ต้ อ งเข้ า ออกทาง เดอะซิคเพียงทางเดียว ทำ�ให้เมืองนีย้ ง่ิ มีสมรภูมทิ ไ่ี ด้ เปรียบเข้าไปอีก เพราะยามหน้าศึกสงครามก็ สามารถปิดล้อมทางเข้าได้โดยง่าย เราสังเกตว่า ทางที่เราเดินเข้าไปนั้นเป็นแบบเทคอนกรีต ซึ่งดู ยังไงก็น่าจะเป็นสมัยใหม่ ไม่น่าจะใช่ถนนในยุค โบราณแน่ ๆ เป็นถนนตัดใหม่เพื่ออำ�นวยความ สะดวกให้กับนักท่องเที่ยวนั่นเอง ถ้ า ไม่ มี ท างคอนกรี ต แบบนี้ คงเดิ น กั น ทุลักทุเลกว่านี้ เพราะทางน่าจะเต็มไปด้วยกรวด และหินเหมือนกับตอนที่เราเดินเข้าไปชมด้านใน 2 เพตรา
เพตราคือสถานที่ยิ่งใหญ่เหนือจะหาคำ�พูด ใด ๆ มาบรรยายได้ เรายังจำ�ความตื่นตะลึง เมื่อ เดินทางมาถึงปลายทางของเดอะซิคและ The Treasury หรือ อัล-คาซนะฮ์ (Al Khazneh) ค่อย ๆ เผยโฉมหน้ า อั นตระการตามาให้ เราได้ ย ล โอ้ หนอมนุษย์ยุคโบราณทำ�สิ่งที่น่ามหัศจรรย์เช่นนี้ ได้อย่างไร คิดดูวา่ ไม่ใช่แค่กอ้ นหิน แต่มนั คือภูเขา ทัง้ ลูกทีเ่ ขาแกะสลัก ต่อให้เป็นยุคนีก้ เ็ ถอะ การจะทำ� เช่นนี้ได้ถือว่าไม่ง่ายเลยทั้งสูงทั้งชันขนาดนั้น เรา เห็นมีบางคนเดินขึ้นไปชม The Treasury จาก บนทีส่ งู ด้วย แต่ตอ้ งใช้เวลาเดินเยอะมาก และเป็น ทางเดินขึน้ ทัง้ นัน้ เมือ่ พิจารณาวัยของเราแล้วก็คง จะต้องขอข้ามเรื่องนี้ไปเลยดีกว่า มุมหน้า The Treasury ถือว่าเป็นมุมมหาชน ผู้ ค นแห่ แหนกั นถ่ า ยรู ป ราวกั บ ว่ า มี เมมโมรี่ ล้ น เหลือ ที่ตรงนี้คึกคักมาก ไม่ว่าจะเป็นอูฐ ลา ม้า และเด็กเบดูอนิ ทีพ่ ากันมาเร่ขายของทีร่ ะลึกให้ ใน เพตราไม่วา่ จะเดินไปตรงไหน ก็มกั จะได้ยนิ คำ�พูด ติดหูว่า One Dollar เกือบตลอดทาง เราเองก็ต้อง พูด No, Thank You เกือบตลอดทางเช่นกัน หลังจาก ถ่ายรูปที่หน้า The Treasury กันจนหนำ�ใจแล้ว (เราถ่ายรูปกันโดยลืมไปว่า ตอนกลับเราก็ต้อง กลับทางเดิมนี่ละแน่นอนว่า ขากลับก็ต้องถ่าย กันอีก) ก็เดินสำ�รวจเข้าไปข้างในเรื่อย ๆ เมืองนี้ มีพนื้ ทีก่ ว่า 165,000 ไร่ ยิง่ เดินเข้าไปก็ยงิ่ ตระการตา ไม่ ว่ า จะเป็ น โรมั น เธี ย เตอร์ เดอะเธี ย ตรอน (โรงละครเล็ก) หรือว่าโบสถ์ สำ�หรับคนที่มีเวลา และพละกำ � ลั ง อย่ า งล้ น เหลื อ ก็ ส ามารถขึ้ น ไป สำ�รวจด้านบนได้ โดยจะเดินไป หรือจะขีล่ าขึน้ ไป ก็ได้ แต่พวกเราเห็นจะไม่ไหว เลยต้องขอใช้เวลา กับเพตราเพียงแค่นี้ก่อน
***ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ****
คุณจะต้องใช้เวลาทั้งวันสำ�หรับเพตรา (มี เพตราไนท์ด้วยแต่เราไม่ได้อยู่ชม) ดังนั้นขอให้ คุณหาที่พักให้พร้อม ที่พักบริเวณโดยรอบเพตรา มีเยอะมาก คุณภาพและราคาก็ตามงบประมาณ ของแต่ละท่าน อย่าลืมเตรียมหมวก แว่นตากันแดด อาหารกลางวัน และนํ้าดื่มไปให้พร้อม เพราะ ราคาเครื่องดื่มในนั้นแพงพอดู หลงเสน่ห์ ทะเลแดงที่ Aqaba หลังจาก ประทับใจไม่รู้ลืมกับเพตราแล้ว เราก็เดินทางมุ่ง หน้าลงใต้ไปเมือง Aqaba (มัคคุเทศก์ของเราออก เสียงแบบคนพื้นเมืองว่า อะกอบะฮ์) ซึ่งเป็นเมือง ท่าติดทะเลแดง Aqaba เป็นเมืองท่าที่สำ�คัญ และเป็นเมืองเดียวที่มีทางออกทะเลของประเทศ จอร์แดน มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ จาก 3 ตรงนี้เราสามารถมองเห็นภูเขาไซไนของอียิปต์ได้ เห็ น พรมแดนชายฝั่ ง ของประเทศอิ ส ราเอล และว่ า กั นตามแผนที่ ต รงนี้ ก็ มี พ รมแดนติ ด ต่ อ กับซาอุดีอาระเบียด้วยเช่นกัน ความที่อะกอบะฮ์ เป็ น เมื อ งท่ า ที่ สำ � คั ญ ที่ นี่ จึ ง คึ ก คั ก และมี บรรยากาศต่ า งกั บ เพตราราวฟ้ า กั บ เหว (แต่ ก็ ดี ทั้ ง สองแบบนะ) บริ เ วณริ ม ชายหาดมี ธ ง แห่งการประกาศอิสรภาพแห่งอาหรับผืนใหญ่ มากตั้งตระหง่านปลิวไสวอยู่ ธงนี้มีขนาดใหญ่ กว่าธงชาติของประเทศจอร์แดนเสียอีก คนที่มาเที่ยวทะเลแดงนี่ถ้าไม่ดำ�นํ้าก็จะนั่ง เรือกระจกเพื่อดูวิวใต้ท้องทะเลกัน แต่สำ�หรับ กรุ๊ ป เราขอบายเรื่ อ งนั้ น และมุ่ ง หน้ า ไปหาซี ฟู้ ด รับประทานกันดีกว่า ก็แหม...มาเมืองท่าชายทะเล อย่างนี้ ก็อยากจะลองสัมผัสรสชาติอาหารทะเล ของจอร์แดนดูสักทีว่าจะมีอะไรเด็ดดวงแค่ไหน happy+ | 77
เราสามารถเดิ น เลื อ กได้ เ ลยว่ า จะเข้ า ร้ า นไหน ราคาและคุณภาพไม่ต่างกัน อาหารทะเลที่ นี่ ส ดพอใช้ ได้ แต่ เห็ นการ ประกอบอาหารของคนบ้านเขาแล้วได้แต่บอกว่า เสียดายของ ถ้านำ�มาทำ�เป็นเมนูแบบไทย ๆ นะ รับรองว่าอร่อยเหาะ (แนะนำ�ว่าให้นำ�นํ้าจิ้มซีฟู้ด มาจากเมืองไทยด้วย จะเพิ่มอรรถรสมากกว่านี้) หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเราก็เข้าที่พัก เพื่ อ พั ก ผ่ อ น สงสั ย ว่ า จะเหนื่ อ ยสะสมมาจาก เพตราเพราะพอหัวถึงหมอนปุบ๊ เราหลับปับ๊ เลยละ หลังจากพักผ่อนจนได้เวลาเหมาะสมแล้ว เราก็ออกท่องราตรี แหม พูดซะเหมือนออกไปแดนซ์ จริง ๆ เราออกไปชมพระอาทิตย์ตกที่ริมหาด อากาศดี ลมไม่แรง ไม่ร้อน เราเลยเดินรับลมชม หาดกันจนคํา่ มืด โรแมนติกอะไรขนาดนี้ เหมาะกับ คู่รักที่กำ�ลังอินเลิฟ (แต่จริง ๆ แล้วบริเวณรอบ ๆ ก็เห็นครอบครัวมากันเยอะพอดู) หลังจากอิ่มลม ชมวิวแล้วเราก็มุ่งกลับเข้า Downtown กันอีก ครั้ง เพื่อมองหาอาหารเย็นรับประทานกัน มื้อนี้ เราเลือกพิซซ่าของร้านอาหารพื้นเมืองแถวนั้น ขอบอกเลยว่ารสชาติดีเสียจนเผลอทานกันคนละ หลายชิ้นเลย อิ่มแล้วก็กลับโรงแรม เข้านอน เซย์กู้ดไนต์และเตรียมเซย์กู้ดบายอะกอบะฮ์กัน สูค่ วามเวิง้ ว้างอันไกลโพ้นที่ Wadi Rum หลัง จากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ เราก็เก็บของ เตรียมตัวออกเดินทางไปวาดีรัมกันต่อ เพื่อไป ยัง Wadi Rum Desert of Mountain ตอน แรกเราฟังแล้วก็ยังคิดภาพไม่ออกว่าจะเหมือน ภูเขาแค่ไหน จนได้เจอของจริงแล้วนั่นละถึงได้ เข้าใจอย่างลึกซึง้ เราค้นในกูเกิลดูกพ็ บว่า ทีน่ เี่ ป็น โลเคชั่นในการถ่ายหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องเลย เรื่ อ งที่ เ อ่ ย ชื่ อ แล้ ว แทบทุ ก คนต้ อ งร้ อ งอ๋ อ ก็ เช่ น Lawrence of Arabia, Transformers : Revenge of the Fallen, The Marian และหนังรางวัลของจอร์แดน Theeb ที่ใช้วาดีรัมเป็นฉากในการถ่ายทำ�เกือบทั้งเรื่อง วาดี รั ม เป็ น ทะเลทรายผื น ใหญ่ มี เ นื้ อ ที่ ประมาณ 720 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยภูเขา หิ นทรายและหิ น แกรนิ ต สลั บ กั บ เนิ นทราย ที่ นี่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน มี มนุษย์อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมี ห ลั ก ฐานเป็ น ภาพเขี ย นบนหิ น ของชาว นาบาเทียน และมีสถานที่ประกอบพิธีกรรมของ เผ่าเบดูอนิ พืน้ ทีน่ กี้ ารท่องเทีย่ วของจอร์แดนจัดให้ เป็น Protected Area มีการควบคุมสภาพแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่นั่นเอง 78 | happy+
เมือ่ เดินทางมาถึงวาดีรมั แล้ว ให้เข้าไปติดต่อ ที่ Visitor Center ก่อน เพื่อซื้อบัตรเข้าวาดีรัม และ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง การที่เราไป ซื้อตั๋วก็เหมือนกับการที่เราไปลงทะเบียนเข้าพัก และเข้ า ชมนั่ น เอง หลั ง จากที่ ซื้ อ ตั๋ ว เสร็ จ น้ อ ง มัคคุเทศก์ก็จัดการโทรติดต่อโรงแรมเพื่อนัดแนะ สถานที่นัดพบ เพราะเขาจะต้องมารับเรานั่นเอง คืนนีเ้ ราจะพักกันในกระโจมกลางทะเลทราย ซึ่ ง หากท่ า นใดใช้ ร ถที่ ไ ม่ ใ ช่ แ บบขั บ เคลื่ อ น สี่ล้อ ทางโรงแรมก็จะให้ท่านจอดรถไว้บริเวณ ลานจอดด้านนอก และต้องนั่งรถที่ทางโรงแรม จัดมา ท่านที่มีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่อาจจะ ต้องแบ่งเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเล็กติดตัวไป เพื่อความ สะดวกในการเคลื่อนย้าย เมื่อถึงที่กระโจมแล้ว หากท่านใดไม่กลัว ความร้ อ นแรงของแสงแดดและพร้ อ มจะทำ � กิจกรรมกลางแจ้งก็สามารถเริ่มได้เลย เจ้าหน้าที่ โรงแรมจะเสนอขายทั ว ร์ ผ จญภั ย ในวาดี รั ม ใน รูปแบบต่าง ๆ แต่ส�ำ หรับพวกเราขอนัง่ พักทีบ่ ริเวณ ล็อบบีก้ อ่ น เพือ่ รอให้แดดร่มลมตกกว่านีอ้ กี สักนิด ค่ อ ยออกไปผจญภั ย เผื่ อ ท่ า นผู้ อ่ า นสงสั ย ว่ า ทำ�ไมถึงไม่เข้าไปรอในกระโจมต้องขอบอกว่ามัน ร้อนมาก เชื่อเราเถอะ นั่งรอบริเวณล็อบบี้ดีกว่า เยอะเลย (อย่าลืมขอรหัสไวไฟ เผื่อเขาจะมี จะ ได้โชคดีแบบพวกเรา) กระโจมที่เราพักเป็นแบบ ใช้ผ้าที่เหมือนผ้าห่มอุ่น ๆ มาขึงสี่ด้านหลังคาปิด ภายในมี เตี ย งนอนและตู้ ตั้ ง อยู่ แค่ นั้ น ถ้ า เป็ น เต็นท์แบบวีไอพีจะมีห้องนํ้าแยกต่างหากให้ เป็น ตู้ อ าบนํ้ า อย่ า งดี มี นํ้ า อุ่ น ให้ ด้ ว ย ถื อ ว่ า หรู ห รา
สำ�หรับการนอนกระโจมกลางทะเลทรายแบบนี้ เมื่อได้เวลานัดหมายแล้วก็จะมีรถกระบะ แบบขับเคลื่อนสี่ล้อมารับพวกเรา เตรียมตัวให้ พร้อมทั้งครีมกันแดด หมวกและแว่นตากันแดด ทัวร์จะพาเราแวะตามจุดไฮไลต์ต่าง ๆ ขอบอก เลยว่าเราฟินกับที่นี่มากเลย ยิ่งตอนพระอาทิตย์ ตกดินยิง่ สวยโรแมนติกจับใจ เตรียมกล้อง เตรียม เมมโมรี่ไว้ให้พร้อม จะต้องใช้เยอะเชียวละ ที่นี่ จะมีการโชว์การอบแกะและไก่ในทราย นัยว่าเป็น ภูมิปัญญาแบบดั้งเดิมของคนท้องถิ่น สำ�หรับเรา ข้าวหมกอร่อยมาก คนทีน่ จี่ ะรับประทานข้าวหมก กับโยเกิรต์ ส่วนเนือ้ แกะนัน้ สุกและนุม่ กำ�ลังดี เนือ้ ไก่ตดิ จะแห้ง ๆ สักหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็รสชาติดี ยิ่ ง เป็ น บุ ฟ เฟต์ แบบเติ ม ได้ ไม่ อั้ นด้ ว ย เราเห็ น ฝรั่งผู้ชายตัวใหญ่ ๆ เติมกันหลายรอบเลย เมื่อ อิม่ แล้วก็ถงึ เวลาพักผ่อนหย่อนใจกันตามอัธยาศัย ถ้ า ท่ า นใดไปในวั น ข้ า งแรมก็ จ ะเห็ น ท้ อ งฟ้ า ที่ เต็ ม ไปด้ ว ยดวงดาว เราไม่ ไ ด้ โ ม้ น ะ เพราะว่ า เราเห็ น รู ป จากในเน็ ต อลั ง การดาว ล้ า นดวงมาก ๆ (ขนาดในโบรชั ว ร์ ท่ อ งเที่ ย ว ที่ นี่ ยั ง พิ ม พ์ โ ปรยมาเลยว่ า A Night of the Thousand Stars) แต่ถ้าไปในวันข้างขึ้นก็จะเห็น พระจันทร์ดวงโตส่องสว่างกระจ่างกลางท้องฟ้า แบบที่ เราเห็ น เราเลยได้ น อนมองพระจั นทร์ ดวงโตส่ อ งแสงยามลั บ เหลี่ ย มเขา Valley of the Moon แสงจันทร์สว่างมากพอสำ�หรับพวก เราที่ลองเดินออกไปบริเวณด้านนอกกระโจมโดย ไม่ใช้ไฟฉาย ก็โรแมนติกไปอีกแบบ เราเข้านอน กันไม่ดึกมากนัก เพราะพรุ่งนี้เช้าเรามีนัดขี่อูฐ
ชมพระอาทิ ต ย์ ขึ้ น (ทริ ป นี้ เราชมพระอาทิ ต ย์ ทั้ ง ขึ้ น ทั้ ง ตกกั น หนำ � ใจ ชนิ ด ที่ ว่ า ชมกั น ให้ พระอาทิตย์อายไปเลย) อากาศตอนกลางคืน เย็นยะเยือกจับใจ ช่างแตกต่างจากตอนกลางวัน เสียจริง ๆ เราตื่นมาตอนราว ๆ ตีห้าพบว่าไม่มี ไฟฟ้าใช้ คงเป็นเพราะว่าเขาต้องใช้เครือ่ งปัน่ ไฟจึง จำ�เป็นต้องดับไฟเพือ่ ความประหยัดนัน่ เอง ราว ๆ เจ็ดโมงเช้าจึงจะเปิดเครื่องปั่นไฟกันอีกที เรื่องอาบนํ้าคงไม่ต้องพูดถึงกันละ เพราะ เครื่องทำ�นํ้าก็อุ่นคงใช้ไม่ได้ ขนาดแค่ล้างหน้า แปรงฟัน หน้ายังชาเหมือนกับเอาหน้าแช่ชอ่ งฟรีซ เลย เมือ่ ออกมาข้างนอกก็พบว่าเราตัดสินใจไม่ผดิ ที่ออกไปขี่อูฐกันตอนเช้ามืด เพราะอากาศดีมาก คนจูงอูฐก็จะพาเราแวะตามจุดต่าง ๆ เพือ่ ถ่ายรูป บางแห่งต้องปีนขึน้ ไปดูถงึ จะได้มมุ มองทีส่ วยงาม ดังนั้นเตรียมตัวฟิตร่างกายกันไว้แต่เนิ่น ๆ หลั ง จากขี่ อู ฐ เสร็ จ ก็ ไปรั บ ประทานอาหารเช้ า และเตรี ย มเก็ บ ของเดิ น ทางออกจากที่ นี่ กั น สำ�หรับเราทริปนี้ทำ�ให้หลงมนต์ทะเลทรายเข้าไป แล้วเต็มเปา แม้จะอยู่ที่นี่เพียงหนึ่งวันหนึ่งคืน เท่านั้น ประทับใจไม่รู้ลืมจริง ๆ ถ้าฉันมีโอกาส มาจอร์แดนอีก ฉันจะกลับมาหาเธออย่างแน่นอน Dead Sea ทีท่ ใี่ คร ๆ ก็ลอยได้ อีกหนึง่ สถานที่ ทีไ่ ด้รบั ความนิยมมากทีส่ ดุ ของจอร์แดน เดดซีเป็น ทะเลสาบนํา้ เค็มทีม่ คี วามเข้มข้นของเกลือสูงมาก อยู่ตรงเขตรอยต่อของสามประเทศ คือ จอร์แดน รัฐปาเลสไตน์ และอิสราเอล ที่นี่เป็นจุดที่ตํ่ากว่า
ระดับนํ้าทะเลถึง 400 เมตร ว่ากันว่าเมื่ออยู่ที่นี่ ปลาจะว่ายอยู่บนหัวเรา (เปรียบเทียบเห็นภาพ เลย) แต่ระหว่างทางทีจ่ ะไปเดดซีจะต้องผ่านเมือง Madaba ก่อน ซึ่งเมืองนี้มีโบสถ์คริสต์นิกายกรีก ออร์ทอดอกซ์ (Greek Orthodox Basilica of Saint George) ทีส่ �ำ คัญอีกแห่งหนึง่ ในจอร์แดน ถูกสร้าง เมื่อปี 1896 ซึ่งมีภาพโมเสกหลงเหลืออยู่ เราจึง แวะทานอาหารกลางวันกันที่เมืองนี้ แล้วจึงแวะ ชมโมเสกทีโ่ บสถ์ St.George โมเสกนีเ้ ป็นรูปแผนที่ ของดิ น แดนศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ บ ริ เวณสามเหลี่ ย มปาก แม่นํ้าไนล์ในอดีตกาล บางส่วนสูญหายไปบ้าง แต่ก็ถือว่ามีสภาพที่สมบูรณ์มาก บรรยากาศในโบสถ์ก็เคร่งขรึมและเปิดเพลง สวดคลอเบา ๆ ยิ่ง เพิ่ม ความศั ก ดิ์สิท ธิ์ให้ ท่ีน่ี เข้าไปอีก ระหว่างทีเ่ ราเดินชมแผ่นโมเสกไปเรือ่ ย ๆ ในใจก็ นึ ก สดุ ดี ถึ ง บุ ค คลทั้ ง หลายในอดี ต ที่ ไ ด้ ร่วมกันประดิดประดอยสิง่ ละอันพันละน้อยทีละแผ่น ๆ จะต้องใช้เวลานานขนาดไหนกันหนอ ถ้าใครมี เวลาเหลืออยากให้แวะชมที่นี่ก่อนไปเดดซี หรือ จะแวะมาตอนหลังก็ตามสะดวก เดดซี เป็ นทะเลที่ มี ค วามเค็ ม ที่ สุ ด ในโลก เค็มกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาวประมาณ 67 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 810 ตารางกิโลเมตร มีความลึกเฉลี่ย 120 เมตร จุดที่ลึกที่สุดอยู่ที่ 330 เมตร และด้วยความเค็มระดับนี้ทำ�ให้ไม่มี สิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่เลย เว้นแต่แบคทีเรียและ
เห็ดราบางชนิด และแน่นอนในเมือ่ มันเค็มขนาดนี้ นํ้ า ในทะเลจึ ง มี ค วามหนาแน่ น สู ง ทำ � ให้ เรา สามารถลอยตัวได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม อะไรเลย จึงเป็นที่มาของท่าบังคับในการถ่ายรูป คือ ท่านั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในนํ้า พวกเราทุกคน ก็จัดไป ไหน ๆ ก็มาเยือนถึงถิ่นกันแล้วก็อย่าให้ เสีย ขอให้ระวังอย่างเดียวคือ อย่าให้นํ้าทะเล โดนตา เพราะจะแสบตามากแล้วจะพานหมด สนุกเอาได้ นํา้ ทะเลจะมีลกั ษณะเป็นเมือก ๆ ลืน่ ๆ ด้วยนะ ทางโรงแรมจะมีจดุ บริการโคลนทีต่ กั ขึน้ มา จากทะเลให้เราได้พอกโคลนกันเป็นที่สนุกสนาน ไปอีก สรรพคุณของโคลนทีน่ เี่ ขาว่ากันว่าบำ�รุงผิว จริงเท็จประการใดไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อพอกโคลนแล้ว เราไม่รสู้ กึ แสบผิวเพราะความร้อนจากแสงแดดเลย อันนี้ช่วยได้มากจริง ๆ เท่าที่สังเกตนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่มา จากหลากหลายประเทศจริ ง ๆ ทั้ ง ตะวั นตก ทั้งเอเชีย มีให้เห็นแทบทุกชาติ วันนี้เราได้ชม พระอาทิตย์ตกกันอีกรอบแล้ว แสงอันสวยงาม ของตะวันยามจะลับท้องฟ้าช่างโรแมนติกเอา มาก ๆ ระหว่างที่ชมพระอาทิตย์ตกเราก็หวน คิดถึงความจริงข้อหนึ่งว่า จอร์แดนเป็นประเทศที่ เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกเสียจริง ๆ เพราะไม่ มี ตึ ก รามบ้ า นช่ อ งใด ๆ มาบดบั ง ทัศนียภาพ มีเพียงเราและแสงเงาของดวงอาทิตย์ เท่านั้น ที่ส่งผ่านและสื่อสารถึงกันและกัน แต่เราก็ไม่ลืมที่จะเดินออกมาสำ�รวจเดดซี ตอนคํ่ากัน เรามองออกไปยังอีกฝั่งที่เป็นประเทศ อิสราเอลก็พบว่ามีแสงสว่างตามทางเต็มไปหมด เช่นกัน ฝั่งนั้นเองก็ดูคึกคักไม่น้อย เสร็จแล้วจึง เตรียมนิทราและบอกลาเดดซีในวันถัดไป เป็นอีก หนึ่งวันที่สนุกสนานสำ�ราญใจในจอร์แดน ก่อน กลับอย่าลืมแวะร้านขายของที่ระลึกเพื่อหาซื้อ ของฝากที่ เป็ น ผลิ ต ภั ณฑ์ จ ากเดดซี กั นด้ ว ยนะ มีให้เลือกซือ้ กันหลากหลาย เพราะมีความเชือ่ กัน ว่า โคลนและเกลือจากเดดซีมีสรรพคุณในทาง ประทินและรักษาผิวพรรณ สามารถรักษาโรค ผิวหนัง แมลงสัตว์กัดต่อย รังแค แถมยังช่วยให้ ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย เรื่ อ งราวและสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วที่ น่ า สนใจ ในจอร์แดนยังมีมาก เราจะมาเล่าให้ฟังกันอีกว่า ที่ใดบ้างที่ไม่ควรพลาด แล้วพบกันฉบับหน้า happy+ | 79
การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : It’s a bell
1
เที่ยวเมืองพิษณุโลกสองแคว หากพูดถึงจังหวัดในภาคกลางที่ค่อนไปทางเหนือที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์ หากใครที่ได้ไป ท่องเที่ยวที่เพชรบูรณ์แล้วจะเลยเข้ามาท่องเที่ยวที่เมืองพิษณุโลกสองแควนี้ก็ได้โดยไม่เสียเที่ยว แต่การเดินทางของเราในวันนี้ จะมุ่งตรงไปยัง จังหวัดพิษณุโลกกันเลย เพราะจังหวัดนี้มีความหลากหลายทั้งขุนเขา ธรรมชาติ และที่สำ�คัญมีพระพุทธรูปที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ด้วย 80 | happy+
3
4
2
การเดิ น ทางของกลุ่ ม เราเริ่ ม ต้ น กั น ด้ ว ย เครื่องบิน (โปรสุดคุ้มราคาถูก) ครั้งนี้พวกเราขอ เซฟพลังงานโดยนั่งเครื่องบิน แป๊บเดียวก็มุ่งตรง สู่สนามบินพิษณุโลกกันแล้ว หลังจากหารถนั่ง เข้าสู่ตัวมือง ซึ่งมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ได้ เรี ย บร้ อ ย ก็ เ ข้ า พั ก ที่ โ รงแรม ทิ้ ง สั ม ภาระ พร้อมพุ่งตัวสู่สถานที่ต่าง ๆ ที่ได้แพลนกันไว้ ล่วงหน้า ก่อนไปสถานที่ที่หมายตาไว้ ขอเล่าคร่าว 1ๆ ถึงประวัตเิ มืองพิษณุโลกเสียหน่อย พิษณุโลกเป็น เมืองเก่าแก่สมัยขอม เมืองเดิมอยู่ห่างจากที่ตั้ง เมืองในปัจุบันไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ถูกเรียกว่าเมืองสองแคว เพราะตัง้ อยูร่ ะหว่างแม่นา้ํ สองสาย คือ แม่นํ้าน่านและแม่นํ้าแควน้อย และ เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้ย้ายตัวเมืองสองแคว มาตั้ง
อยู่ในตำ�แหน่งปัจจุบัน แต่ยังคงเรียกกันติดปาก ว่าเมืองสองแคว แน่นอนว่าที่แรกที่เราเดินทางไปคือ วัดพระ ศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ที่ ชาวบ้านเรียกกัน ทีว่ ดั ใหญ่แห่งนีม้ พี ระพุทธชินราช ที่ มี ค วามงามเป็ น เลิ ศ ประดิ ษ ฐานอยู่ นั ก ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละนั ก โบราณคดี ต่ า งพู ด เป็ น เสียงเดียวกันว่า พระพุทธชินราชมีความงาม เป็นหนึ่งดั่งเพชรอันลํ้าค่าคู่บ้านคู่เมือง ใครไป ใครมาที่ จั ง หวั ด พิ ษ ณุ โลกล้ ว นต้ อ งเดิ นทางมา สักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ถือเป็นวัด ที่เป็นมรดกลํ้าค่าทางศิลปวัฒนธรรมของเมือง พิษณุโลก ต่อมาพวกเราก็เดินทางไปยัง ศาลสมเด็จ พระนเรศวร ตั้งอยู่บนถนนสังจันทน์ ก่อนจะถึง
1 พระพุทธชินราช ซึ่งมีความงามเป็นอันดับหนึ่งของไทย 2 พระอัฏฐารส ศรีสุคต ทศพลญาณบพิตร ในพระราชวังจันทน์ 3 กี่ทอผ้า ในพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี 4 ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี
สะพานนเรศวร เลียบไปตามแม่นํ้าน่าน ศาล สมเด็จพระนเรศวรจะอยู่ซ้ายมือในพระราชวัง จั นทน์ โดยองค์ ส มเด็ จ พระนเรศวรมหาราชที่ ประดิษฐานอยู่นี้ มีขนาดเท่าองค์จริง ประทับนั่ง หลั่ ง นํ้ า จากพระสุ ว รรณภิ ง คาร เพื่ อ ประกาศ อิสรภาพแก่ปวงชนชาวไทย ณ เมืองแครง สร้าง โดยกรมศิลปากรในปี พ.ศ. 2404 ถือเป็นสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพิษณุโลกให้ความเคารพ และ ถือเป็นสถานทีย่ ดึ เหนีย่ วทางจิตใจ และพระราชวัง จั น ทน์ แ ห่ ง นี้ เ คยเป็ น ที่ ป ระทั บ ของสมเด็ จ พระนเรศวรมหาราชในสมัยนั้นอีกด้วย หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่ พิพิธ ภัณฑ์ พื้นบ้าน จ่าทวี ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ที่สะท้อนให้ เห็นถึงชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อของชาวเมือง พิษณุโลกในอดีต พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีเคย ได้ รั บ รางวั ล ยอดเยี่ ย มอุ ต สาหกรรมท่ อ งเที่ ย ว happy+ | 81
5 ลานหินแตก 6 นํ้าตกหมันแดง ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
6
5
ประเทศไทย ด้านงานส่งเสริมและพัฒนาการ ท่องเทีย่ วในปี พ.ศ. 2541 มาแล้ว พิพธิ ภัณฑ์แห่งนี้ เริม่ ต้นจากความสนใจของจ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ท่ า นรวบรวมเครื่ อ งมื อ ทำ � งาน เครื่ อ งจั ก สาน เครื่องมือดักสัตว์และอาวุธหลายชิ้น มาจัดตั้ง เป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นโดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวในการ จัดสร้างทัง้ หมด เมือ่ ได้เข้ามาเยีย่ มชมพิพธิ ภัณฑ์ แห่งนี้ พวกเราก็ได้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาต่าง ๆ ของชาวเมืองสองแควได้เป็นอย่างดี และหนึง่ วันใน พิษณุโลกก็หมดลงไปเรียบร้อย หลังจากพวกเรา กลั บ มาพั ก ผ่ อ นกั น จนเต็ ม ที่ ก็ พ ร้ อ มแล้ ว สำ�หรับการเดินทางในวันใหม่ สถานที่สำ�หรับวันนี้ คือ อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ อำ�เภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และ อำ�เภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ในอดีตพื้นที่ แห่งนีเ้ ป็นสถานทีส่ รู้ บของคนไทยทีข่ ดั แย้งกันทาง ความคิดและลัทธิ ถือเป็นพืน้ ทีท่ มี่ คี วามสำ�คัญทาง ด้านประวัติศาสตร์การเมืองไทยเช่นกัน แต่ไม่ว่า อย่างไรสถานที่แห่งนี้หลังจากเหตุการณ์สงบลง แล้ว ก็ได้เผยให้พวกเราเห็นถึงความสวยงามทาง ธรรมชาติได้อย่างไม่เขินอาย อุทยานแห่งนี้เป็น อุทยานที่มีภูเขาสลับซับซ้อน มีแหล่งท่องเที่ยว มากมายอยู่ภายใน เช่น ลานหินแตก, ผาชูธง, นํ้าตกร่มเกล้า-ภราดร, นํ้าตกศรีพัชรินทร์ ฯลฯ ในช่วงหน้าหนาว อุณหภูมิจะลดตํ่าลง เหมาะ 82 | happy+
แก่การมาตั้งแคมป์ นอนเต็นท์ดูดาว และในช่วง หน้าฝนแบบที่พวกเราเดินทางไปเยี่ยมชมนี้ ก็จะ มีธรรมชาติอนั สวยงามรอต้อนรับอยู่ ทัง้ ทุง่ ดอกไม้ อันสวยงาม ต้นไม้อันเขียวชอุ่มนานาชนิด หลังจากอิ่มเอมใจกับธรรมชาติอันสวยงาม เรียบร้อยแล้ว พวกเราแวะไปชม โครงการพัฒนา ป่ า ไม้ ต ามแนวพระราชดำ � ริ ภู หิ น ร่ อ งเกล้ า ซึ่ ง เป็นสถานที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ชาวบ้าน ให้สามารถอาศัยอยูร่ ว่ มกับป่าไม้ได้อย่าง ยัง่ ยืน จัดเป็นพืน้ ทีส่ าธิตทำ�การเกษตรกรรมให้ผคู้ น หันมาสนใจพืชเศรษฐกิจแทนการปลูกฝิ่น เช่น โครงการหลวงที่ปลูกสตรอว์เบอร์รีปลอดสารพิษ หรือทุ่งดอกกระดาษสีสันสวยงาม ที่บานสะพรั่ง พร้อมรับนักท่องเทีย่ วในเวลากลางวัน และยังมีจดุ ชมวิวต่าง ๆ ทัง้ ผาไททานิค ผาคูร่ กั ผาบอกรัก ผา ยืนยง ให้พวกเราได้ชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ อีกด้วย ที่ จั ง ห วั ด พิ ษ ณุ โล ก ยั ง มี ส ถ า นที่ ที่ ร อ ให้ พ วกเราเดิ นทางไปใกล้ ชิ ด กั บ ธรรมชาติ อี ก มากมาย ไม่ว่าจะเป็น นํ้าตกชาติตระการ, นํ้าตก แก่ ง ซอง, นํ้ า ตกแก่ ง โสภา, อุ ท ยานแห่ ง ชาติ ทุ่งแสลงหลวง หรือใครชอบกีฬาแอดเวนเจอร์ ก็ สามารถไปล่องแก่งกันได้ที่ ล่องแก่งลำ�นํ้าเข็ก (แม่นาํ้ วังทอง) ในฤดูนาํ้ หลากก็สนุกสนานไม่แพ้กนั หรือจะปล่อยอารมณ์ชิล ๆ สบาย ๆ โดยล่องแพ แก่ ง ไฮ เรี ย กได้ ว่ า มาที่ จั ง หวั ด พิ ษ ณุ โ ลก แห่งเดียว ได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม
โบราณสถาน และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน ไปพร้อม ๆ กัน หลังกลับจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แล้ว พวกเราก็ไปแวะ ถนนคนเดิน บนถนน สังฆบูชา แวะซื้อของฝาก จำ�พวกสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน ของที่ระลึกกลับไปฝากเพื่อน ๆ เต็มไม้เต็มมือ ถนนคนเดินแห่งนี้มีทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. บรรยากาศคึกคัก ครึกครื้นรื่นเริงจนไม่อยากจะกลับกรุงเทพฯ กัน เลยทีเดียว แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจาก ช้อปปิ้งสินค้ากันจนหนำ�ใจแล้ว พวกเราก็แวะ รับสัมภาระจากโรงแรม และมุ่งตรงสู่สนามบิน พิษณุโลก เพื่อเดินทางกลับ ถือว่าทริปนี้เป็นทริป ที่ประทับใจและจะยังคงอยู่ในความทรงจำ�ของ พวกเราไปอีกนานอย่างแน่นอน
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เวลาเปิดทำ�การ : 06.30-18.00 น. พิพธิ ภัณฑ์พนื้ บ้าน จ่าทวี เวลาเปิดทำ�การ : 08.3016.30 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เวลาเปิดทำ�การ : 06.00-18.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท หากไปช่วงหน้าหนาว ควรสำ�รองทีพ่ กั (เต็นท์) ก่อน เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจำ�นวนมาก ในช่วงนั้น โทรศัพท์ : 0-5523-3527
ชวนดูหนัง เรือ่ ง : It’s a bell
Dunkirk ดันเคิรก์ หากพูดถึงผูก้ �ำ กับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ใครทีเ่ ป็นแฟน ๆ สายหนังคงไม่มใี คร ทีไ่ ม่รจู้ กั ผูก้ �ำ กับคนนี้ คริสโตเฟอร์ โนแลน มีผลงานกำ�กับภาพยนตร์เรือ่ งดัง มากมายหลายเรือ่ ง เช่น The Prestige, Memento, Inception, Interstellar และ กลับมากับผลงานเรือ่ งล่าสุด Dunkirk ซึง่ สร้างจากเรือ่ งจริงอิงกับประวัตศิ าสตร์ ในช่วงสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง ปี ค.ศ. 1940 เมือ่ ทหารจากอังกฤษและฝรัง่ เศส ถูกปิดล้อมจากศัตรูฝ่ายเยอรมันนาซี และถูกต้อนไปจนมุมที่หาดดันเคิร์ก ทหารอังกฤษกว่า 400,000 นาย รอคอยความหวังและปาฏิหาริยใ์ ห้เกิดขึน้ เพือ่ ทีจ่ ะได้กลับบ้าน โดยได้รบั ความช่วยเหลือจากเรือชาวประมงหลายร้อยลำ� เรือ่ งราวของ Dunkirk ผ่านมุมมองของโนแลน อาจจะไม่ได้หวือหวา รบรา ฆ่าฟัน มีฉากบูม๊ ากมาย ออกจะเรียบ ๆ และเรือ่ ย ๆ เสียด้วยซํา้ แต่ดว้ ย การถ่ายทำ�ฟิลม์ 70 มม. ซึง่ ถือเป็นฟิลม์ ทีม่ ขี นาดภาพกว้างทีส่ ดุ ฉายในโรง ภาพยนตร์ IMAX ทีส่ งู เท่าตึก 8 ชัน้ ทำ�ให้ผชู้ มเหมือนได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชดิ กับเหตุการณ์ คล้ายเราเป็นหนึง่ ในทหารอังกฤษทีก่ �ำ ลังกระเสือกกระสนเพือ่ หาทางรอด ถือว่าเป็นหนังทีม่ คี วามสมจริงมาก และเล่าผ่าน 3 มุมมอง จากบน บก (The Mole) ทีท่ หารอังกฤษกำ�ลังอพยพขึน้ เรือกันอยู่ จากบนฟ้า (The Air) โดยนักบินขับไล่ Spitffiifi re 3 ลำ� ทีก่ �ำ ลังไล่ลา่ เครือ่ งบินทิง้ ระเบิดของฝ่ายตรงข้าม และจากน่านนํ้าทะเล (The Sea) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของเรือชาวประมง ทีก่ �ำ ลังมุง่ หน้าไปช่วยเหลือเหล่าทหารผูร้ อความหวัง ดันเคิรก์ ถือเป็นเรือ่ งราวที่ น่าสนใจในอีกมุมมองหนึง่ ซึง่ เล่าโดยผูก้ �ำ กับมากฝีมอื คนนี้ happy+ | 83
one happy day เรื่องและภาพ : TepiN
พระราชวังพญาไท
พระราชวังพญาไท เป็นพระราชวังในกรุงเทพมหานครที่มีความสวยงาม และสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะอยู่ใกล้ ๆ กับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพียงแค่เดินผ่าน เราก็จะเห็นพระตำ�หนักในพระราชวังพญาไทสวยเด่นเป็นสง่า เนือ่ งจากด้านหน้าเป็นสนามหญ้ากว้างจึงไม่มสี งิ่ ใดมาบดบังความงามของพระราชวัง จะมีกเ็ พียงต้นไม้ใหญ่ดา้ นข้างทีช่ ว่ ยเพิม่ ความร่มรืน่ ให้เท่านัน้
พระราชวังพญาไท เริม่ ก่อสร้างตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2452 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็น ที่เสด็จทอดพระเนตรการทำ�นา การปลูกผักและ การเลีย้ งสัตว์ หลังจากนัน้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ตำ�หนักเป็นทีป่ ระทับ นอกจากนี้ วังพญาไทยังเคย ใช้ประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญด้วย เมือ่ ครัง้ สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทูลเชิญสมเด็จพระศรี พั ช ริ น ทราบรมราชิ นี น าถ พระบรมราชชนนี พระพั น ปี ห ลวง พระราชมารดา มาประทั บ ที่ พระราชวั ง แห่ ง นี้ จนกระทั่ ง สวรรคตเมื่ อ ปี 84 | happy+
พ.ศ. 2463 หลั ง จากนั้ น พระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้ทรงรื้อพระตำ�หนัก พญาไท เหลือไว้เพียงพระที่นั่งเทวราชสภารมย์ ซึง่ เป็นท้องพระโรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระทีน่ ัง่ ใหม่หลายองค์ดว้ ยกัน รวมทัง้ ได้ รับการสถาปนาวังเป็น พระราชวังพญาไท ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวง ปรับปรุงพระราชวังพญาไทเป็นโรงแรมชั้นหนึ่ง สำ�หรับให้ชาวต่างประเทศพัก ตามพระราชประสงค์ ในรั ช กาลที่ 6 ที่ จ ะพระราชทานพระราชวั ง แห่ ง นี้ ให้ เป็ น โฮเต็ ล ชั้ น หนึ่ ง ของประเทศตั้ ง แต่
มีพระราชดำ�ริจัดงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ เพื่อ พัฒนาการพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมการ ท่องเทีย่ ว ระหว่างนัน้ ได้มกี ารใช้พระราชวังพญาไท เป็ นที่ ตั้ ง ของสถานี วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งแห่ ง แรก ของไทย ในปัจจุบัน พระราชวังพญาไทมีการบูรณะ ใหม่ และเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าเยีย่ มชมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จา่ ย ซึง่ ภายในพระราชวังพญาไท มีสถานที่ที่สวยงาม และน่าสนใจ ทั้งพระที่นั่งที่ สร้างในรัชกาลที่ 5 คือ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ และพระที่นั่งที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 คือ พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งศรีสุทธาวาส พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ พระตำ�หนักเมขลารูจี สวนโรมัน และศาลท้าว หิรันยพนาสูร เมื่อได้เข้ามาในส่วนของพระราชวัง จะเห็น สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุด คือ หอคอยสูงและ หลังคายอดแหลมของพระทีน่ งั่ พิมานจักรี บริเวณ ด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระบรมราชานุสาวรียห์ ล่อสำ�ริด ทรงยืน ตัง้ อยู่ ด้านหน้าอาคารเทียบรถพระที่นั่ง พระที่ นั่ ง พิ ม านจั ก รี เป็ น พระที่ นั่ ง องค์ ประธานของหมู่ พ ระที่ นั่ ง ภายในพระราชวั ง พญาไท สร้ า งขึ้ น ในรั ช สมั ย พระบาทสมเด็ จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั เป็นพระทีน่ ัง่ ก่ออิฐฉาบ ปูน 2 ชัน้ โดยมีสถาปัตยกรรมทรงโรมาเนสก์ผสม กับทรงกอทิก บานประตูด้านหน้าเป็นไม้จำ�หลัก ปิดทอง มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อเหนือบานประตู
ว่า "ร.ร.๖" ซึ่งหมายถึง สมเด็จพระรามราชาธิบดี รัชกาลที่ ๖ พระที่นั่งพิมานจักรี ใช้เป็นที่ประทับ ของพระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล้ า เจ้ า อยู่ หั ว และพระมเหสี ภายในพระราชวั ง ยั ง มี พ ระที่ นั่ ง และ สถาปั ต ยกรรมอี ก มากมายตามที่ ก ล่ า วไปข้ า ง ต้น ส่วนที่มีความโดดเด่นอีกจุดคือ สวนโรมัน ที่ศาลาใช้รูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ดูแปลกตา มีการประดับด้วยตุ๊กตาหินอ่อนแบบ โรมั น บริ เวณบั น ไดทางขึ้ น มี ท างเดิ น โดยรอบ สระนํ้า เชื่อมต่อกับศาลา ทั้งสวยงามและร่มรื่น มากทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ ที่อาคารเทียบรถพระที่นั่ง ทาง พระราชวังได้เปิดเป็นร้านกาแฟ ชื่อว่า ร้านกาแฟ นรสิงห์ พอเข้าไปด้านใน หลายคนอาจยกให้ ที่นี่เป็นร้านกาแฟที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ ว่าได้ เพราะคงรูปแบบการตกเเต่งภายในและ เฟอร์นเิ จอร์ให้ใกล้เคียงกับของเดิมในสมัยรัชกาล ที่ 6 เลยละค่ะ ใครที่ชื่นชอบพระราชวัง และอยากสัมผัส ถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงออกมาใน รูปแบบของสถาปัตยกรรมซึ่งผ่านกาลเวลามา อย่างยาวนาน พระราชวังพญาไทถือเป็นจุดหมาย ที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ • พระราชวังพญาไท ตั้งอยู่ที่ 315 ถนน ราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 • เปิดให้เข้าชมทุกวัน (วันเสาร์และอาทิตย์ จะเปิดให้ชมภายในพระราชวังวันละ 2 รอบ เวลา 09.30 น. และ 13.30 น.) • โทรศัพท์ : 0-2354-7987, 0-23547600-28 ต่อ 93646, 93694 happy+ | 85
green corner เรื่องและภาพ : TepiN
ปลูกผักออร์แกนิกด้วยตัวเอง
เมื่อคนเราเริ่มหันมาให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพ อาหารการกินก็เป็นหนึ่งอย่างที่เราต้องให้ความสำ�คัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะที่มาที่ไปของผักแต่ละชนิด ที่เราใช้รับประทาน เริ่มต้นตั้งแต่การปลูก ทำ�ให้กระแสผักออร์แกนิกหรือผักแบบเกษตรอินทรีย์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผักออร์แกนิกถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีต่อคนรักสุขภาพ มากด้วยคุณประโยชน์ เพราะปลูกโดยไม่ผ่านการใส่ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีหรือฮอร์โมน สังเคราะห์มาปนเปื้อน แต่จะเน้นไปที่การดูแลในด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องดิน นํ้า อากาศ และเมล็ดพันธุ์ที่ดี เพื่อให้พืชเติบโตด้วยวิถีแบบธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ บริษัท บัตรกรุงไทย จำ�กัด (มหาชน) หรือเคทีซี ร่วมกับโรงเรียนแจ่มจันทร์ โรงเรียนที่ได้รับรางวัล “ต้นแบบแห่งความพอเพียง” สานต่อ 86 | happy+
“หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป “ปลูกผัก ปลูกใจ ให้พอเพียง กับเคทีซี” เพื่อให้มีการปลูกผักปลอดสารพิษ พลิกฟื้นผืนดินให้สามารถ ปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานในโรงเรียน และต่อยอดให้พึ่งพาตัวเองใน ระยะยาว โดยได้ร่วมมือกับศูนย์อบรมสวนผักบ้านคุณตา ซึ่งเป็นศูนย์ สาธิตการเกษตรเพือ่ นำ�ไปปฏิบตั จิ ริงในครัวเรือน มาเป็นวิทยากรสอนการ ปลูกผักปลอดสารพิษ เติมเต็มสถานีผักสลัดออร์แกนิก และผักสวนครัว รั้วกินได้ ของโรงเรียนแจ่มจันทร์ ช่วงแรกของกิจกรรม เป็นการบรรยายของ คุณบุญชะนะ เอกวานิช เจ้าของฟาร์มแฟคทอรี่ ถึงกระบวนการปลูกผักออร์แกนิก โดยคุณบุญชะนะ เริ่มจากใช้พื้นที่เล็ก ๆ ข้างบ้าน เป็นจุดเริ่มต้นในการทำ�ฟาร์มผักสลัด เดอะ ซีเคร็ต สลัดฟาร์ม และต่อยอดขยายพื้นที่ของฟาร์มออกไปเรื่อย ๆ จนสามารถส่งขายไปยังที่ต่าง ๆ รวมทั้งเปิดร้านเพื่อสุขภาพในชื่อ ฟาร์ม แฟคทอรี่ ร้านทีจ่ ะทำ�ให้ทกุ คนมีสขุ ภาพทีด่ ขี นึ้ จากการรับประทานอาหาร ที่เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แก่น้อง ๆ โดย รับซื้อผลผลิตเพื่อเป็นการส่งเสริมรายได้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ เด็กนักเรียนอีกด้วย หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการสาธิตการปลูกผักออร์แกนิก โดย นักเรียนชัน้ ประถมปีที่ 6 โรงเรียนแจ่มจันทร์จ�ำ นวน 40 คนได้ลงมือปฏิบตั ิ จริง กับวิทยากรสวนผักบ้านคุณตา ฐานแรกเป็นการเตรียมดินและลง เมล็ด เด็ก ๆ ได้ลงมือเรียนรู้การปลูกผัก ตั้งแต่การเตรียมดิน การผสมดิน
และเพาะเมล็ด โดยเมล็ดที่ใช้เพาะมีทั้ง Red Oak และ Green Oak ผักสลัด ที่ได้รับความนิยม และทุกขั้นตอนล้วนปลอดสารเคมี เมื่อจบขั้นตอนการเพาะเมล็ด ก็จะเข้าสู่ฐานการเคลื่อนย้ายต้นกล้า เมื่อ ต้นอ่อนของผักสลัดโตขึน้ จากการเพาะเมล็ด ก็จะเป็นการเคลือ่ นย้ายต้นอ่อนลง ดิน หรือแปลงปลูกที่เตรียมไว้ ซึ่งเด็ก ๆ แต่ละคนจะได้รับกระถางต้นไม้ และ นำ�ต้นอ่อนลงปลูกในกระถางของตัวเอง รวมทัง้ แปลงปลูกทีไ่ ด้จดั เตรียมไว้ เพือ่ ช่วยกันดูแลรักษาให้เติบโต สามารถนำ�ไปใช้รบั ประทานในโรงเรียน และเป็นต้นแบบ แห่งความพอเพียงให้โรงเรียนอื่น ๆ ได้เข้ามาศึกษาอีกด้วย นอกจากการเตรียมดิน การเพาะเมล็ดและการย้ายต้นอ่อน สิ่งสำ�คัญใน การปลูกพืชที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ ปุ๋ย และอาหารเสริมสำ�หรับพืชผักผลไม้ ทางสวนผักบ้านคุณตา ก็มีการสอนทำ�ฮอร์โมนพืชจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ แบบไม่ตอ้ งอาศัยสารเคมี เพือ่ เป็นสารอาหารให้ตน้ ไม้ได้เติบโตอย่างแข็งแรง ทัง้ ฮอร์โมนจากผักใบเขียวและฮอร์โมนจากผลไม้ โดยการทำ�ฮอร์โมนพืชจะใช้ผัก หรือผลไม้มาผสมกับกากนํา้ ตาลทรายแดง และหมักทิง้ ไว้จนได้เป็นหัวเชือ้ นำ�ไป ผสมกับนํ้าให้เจือจาง ใช้รดพืชผักที่ปลูก หากเป็นพืชกินใบ ก็ให้ใช้ฮอร์โมนจาก ผักใบเขียว หากเป็นพืชกินผลก็ใช้ฮอร์โมนจากผลไม้ จะทำ�ให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น หลังจบกิจกรรมนี้ นอกจากเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักออร์แกนิก แล้ว ยังรู้จักฝึกความรับผิดชอบ ในการดูแลแปลงผักที่ตัวเองปลูก และยังได้ เรียนรูก้ ารพึง่ พาตนเอง ตามแนวพระราชดำ�ริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกด้วย happy+ | 87
ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก
เริ่มต้นดี เริ่มที่พันธุ์พื้นบ้าน สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน happy+ ทุกท่าน กลับมาเจอกันในฉบับนี้อีกครั้ง กับเคล็ดไม่ลับการปลูกผักเพื่อการพึ่งพาตนเองด้านอาหาร การมี สุขภาพกาย ใจที่ดี ท่ามกลางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เป็นสุข ไปกับเจ้าชายผักคนเดิมนะครับ ฉบับนี้ผมมีเรื่องราวของคุณค่าพันธุ์พืชพื้นบ้านมา ฝากกัน จะเป็นอย่างไรนั้นมาลองติดตามกันได้เลยครับ
ทำ�ไมต้องพันธุ์พื้นบ้าน
มาถึงตรงนี้ สำ�หรับท่านที่อยากจะปลูกผักไว้ทานเอง อาจจะสงสัยว่า ทำ�ไมต้องปลูกพันธุพ์ นื้ บ้านกันด้วย เดีย๋ วนี้ มีพนั ธุพ์ ชื ลูกผสมใหม่ ๆ มากมาย ทีห่ น้าตาสวยงาม รสชาติ ถูกใจ และเป็นทีน่ ยิ ม แต่ทผี่ มอยากจะเชียร์และให้มองย้อน กลับไปหาพันธุ์พื้นบ้านก็เพราะ พันธุ์เหล่านี้เป็น “พันธุ์แท้” ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิมที่มีการปรับตัวมายาวนานแล้ว จาก การคัดเลือกโดยธรรมชาติและมนุษย์ จึงทำ�ให้พันธุ์เหล่านี้ 88 | happy+
สามารถอยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน พร้อมกับศักยภาพในด้านต่าง ๆ ที่ผ่านการคัดเลือกมา เช่น ความทนทานต่อโรคแมลงและสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำ�นวย รสชาติเฉพาะตัวที่เป็น เอกลักษณ์ประจำ�ท้องถิ่นและวัฒนธรรมนั้น ๆ และที่สำ�คัญ พันธุ์พื้นบ้านนั้นสามารถเก็บ พันธุเ์ อาไว้ปลูกต่อได้ โดยทีล่ กั ษณะประจำ�สายพันธุน์ นั้ ยังคงเดิม ไม่เหมือนกับพันธุล์ กู ผสม จะไม่สามารถเก็บพันธุ์ไว้ปลูกต่อได้ เพราะเป็นลูกครึ่งที่มาจากการผสมกันระหว่างสอง สายพันธุท์ แ่ี ตกต่างกัน จึงทำ�ให้การปลูกในรุน่ ถัดไปมีลกั ษณะทีไ่ ม่เหมือนเดิม อีกทัง้ พันธุล์ กู ผสม มักต้องซื้อหามาปลูกทำ�ให้ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ พันธุ์พืชพื้นบ้านจึงเป็นพืชพันธุ์แห่ง อิสรภาพของคนรักการปลูกผักอย่างแท้จริง
พันธุพ์ น้ื บ้าน อาจอยูใ่ กล้ ๆ บ้านเรานีเ่ อง
การจะเลือกหาเมล็ดพันธุพ์ นื้ บ้านมาปลูก จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ตอ้ งเริม่ จากการซือ้ หาอะไรเลยก็ได้นะครับ เราอาจเริม่ ด้วยการสังเกตและเก็บเมล็ดพันธุ์ ที่ ขึ้ น เองตามที่ ต่ า ง ๆ อย่ า งผมเอง ปั จ จุ บั นที่ บ้ า นก็ ไม่ เคยต้ อ งหาซื้ อ ต้นกะเพราทีไ่ หนมาปลูกกินเลย เพราะเมล็ดเขาปลิวมาตามลมและขึน้ เอง เรา ก็คดั เลือกเอาพันธุท์ มี่ ลี กั ษณะถูกใจเราเอาไว้ในแปลง เช่น มีกลิน่ หอม ฉุน ทน โรคแมลง และตัง้ แต่เริม่ มีกะเพราขึน้ มาในสวน ผมก็ไม่เคยต้องปลูกกะเพรา อีกเลย เป็นอิสรภาพทางพันธุกรรมอย่างแท้จริง แค่ต้นกะเพราชนิดเดียว ยังแสดงให้เราเห็นอิสรภาพได้ขนาดนี้ พืชผักนานาชนิดที่เราทานอยู่ก็อาจ นำ�พาเราไปเจออิสรภาพเช่นนี้ได้เหมือนกันนะครับ หน้ากระดาษหมดลงอีกแล้ว คุณผูอ้ า่ นอย่าลืมลองไปเก็บพันธุผ์ กั แถวบ้าน มาปลูกดูนะครับ ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า สัญญาว่าจะเอาเคล็ดไม่ลับ ของการปลูกผักกินเองมาฝากกันครับ happy+ | 89
กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้
ต้มยำ�เห็ดไข่-ไข่ตุ๋น
เห็ดระโงก เป็นของขวัญจากแผ่นดินที่มอบให้คนชายป่าเชิงดอยในช่วงฤดูฝน ดอกเห็ดสีสวยจะงอกตามบริเวณโคนต้นไม้ในเขตป่าสมบูรณ์ ฝนตกฉํา่ ๆ ทีไร ได้เห็นพีป่ า้ น้าอาชาวอีสานหรือเหนือพากันเข้าป่าหาเห็ด ทีเ่ ขาเรียกกันว่า เห็ดไข่ หนึง่ ปีมกี นิ กันแค่ชว่ งเดียวเท่านัน้ ยังไม่คอ่ ยเห็นใคร เพาะเห็ดระโงกในเชิงพาณิชย์ได้ดี ราคาขายตกกิโลกรัมละ 200 บาท โดยเฉพาะดอกอ่อนตูมยังไม่บาน หน้าตาและขนาดเท่าไข่นกจนถึงไข่ไก่ใบย่อม รสหวาน เนื้อก็นุ่มนวล นิยมนำ�มาแกงหรือยำ�กินกัน เป็นเมนูเด่นของร้านอาหารดัง ๆ เห็ดระโงกมีขายในตลาดสดหรือกาดต่าง ๆ ควรซื้อหาจาก คนที่คุ้นเคยและซื้อกันอยู่เป็นประจำ� คนเก็บเห็ดชนิดนี้ต้องเป็นผู้ที่รู้จริง เพราะมีระโงกพิษที่หน้าตาคล้ายกันแต่สีออกปนเขียวและมีกลิ่นไม่น่าชื่นชม ทัง้ นีย้ ามทีด่ อกเห็ดยังอ่อนตูมนัน้ ทัง้ เห็ดกินได้และเห็ดพิษกินไม่ได้กม็ หี น้าตาใกล้เคียงกันอย่างยิง่ เห็ดไข่ทเี่ ก็บสดใหม่ ผิวแห้ง สีสวย แต่เมือ่ ทำ� อาหารแล้วสีจะจางหายไป จะยำ�สดให้ผู้อ่านชมก็จะง่ายไป จึงขอเสนอวิธีการที่ซับซ้อนขึ้นสักหน่อย โดยเราจะแบ่งการปรุงเป็นสองขั้นตอน ตามนี้ค่ะ 90 | happy+
ต้มยำ�ขาหมูหรือต้มยำ�อื่น ๆ ที่ชอบ ต้มง่าย ๆ หรือจะเพิ่มนํ้าพริกเผา สักหน่อยก็ได้เหมือนกัน • ขาหมูขาหน้า สับชิ้นเล็ก 1 ถ้วย • มะเขือเทศหั่นชิ้นกลาง ๆ 1 ถ้วย • นํ้าเปล่า 2 ถ้วย • ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด หอมแดง 1 ชุด • พริกขี้หนูสด 5-7 ดอก สับซอยเล็ก ๆ • ต้นหอม ผักชี หั่นเป็นท่อน สำ�หรับโรยหน้า • เกลือ นํ้าปลา นํ้ามะนาว มะขามเปียก นํ้าตาล ตามชอบ สำ�หรับ ปรุงต้มยำ� • เห็ดระโงกล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ� 1 ถ้วย เมื่อต้มยำ�เข้าเนื้อกันดีแล้ว จะสังเกตว่านํ้าแกงจะมีเมือกเหนียวเล็กน้อย อันเป็นลักษณะของเห็ดระโงก ไข่ตุ๋นใส่เห็ดไข่ ชุดนี้ ทำ�ได้สองถ้วย • ไข่ไก่หรือไข่เป็ดใบเล็ก 3 ฟอง • นํ้ามะพร้าวนํ้าหอม 1 ถ้วย • เกลือป่น 1 ช้อนชา • เห็ดระโงก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ½ ถ้วย
วิธีทำ�ไข่ตุ๋นเห็ดไข่ให้สวยงาม
• ตีไข่กับนํ้ามะพร้าว เติมเกลือ ตีให้เข้ากัน ไม่ต้องขึ้นฟู • ใช้กระชอนหรือผ้าขาวบางกรองเนื้อไข่เพื่อให้เนื้อเนียน • ตั้งหม้อนึ่งไฟกลางให้นํ้าเดือดก่อน พอจะตุ๋นไข่ค่อยลดความร้อน เป็นไฟอ่อน • ใส่เนื้อเห็ดไว้ก้นถ้วยนึ่ง ตักเนื้อไข่ที่ผสมดีแล้วลงบนเนื้อเห็ด สักสองช้อนโต๊ะ นึ่งให้สุก • เมื่อเห็ดนึ่งไข่ก้นถ้วยสุกดีแล้ว จึงค่อยรินนํ้าไข่ลงในถ้วย ทำ�เช่นนี้ เนื้อเห็ดจะไม่ลอยขึ้น • ใช้พลาสติกบางปิดครอบปากถ้วย นึ่งไฟอ่อนสัก 15 นาที
วิธีเสิร์ฟ
เมือ่ ไข่ตนุ๋ สุกดีแล้ว ตักต้มยำ�ขาหมูราดหน้าไข่ตนุ๋ ได้เลย หรือแซะถ้วย ไข่ตนุ๋ ด้วยมีดบาง ๆ แล้วควาํ่ หน้าไข่ตนุ๋ ลงในจานก้นลึก ตักต้มยำ�ราด โรย พริกขีห้ นูสบั ใบหอมผักชี หอมเจียวกระเทียมเจียว รับประทานตอนร้อน ๆ จะได้รสหวานของไข่ตุ๋นที่ผสมด้วยนํ้ามะพร้าวอ่อน และรสจัดจ้านของ ต้มยำ� ชวนให้เจริญอาหารอย่างมาก
วิธีทดสอบเห็ดพิษ
ต้มเห็ดกับข้าวสารสักนิดหน่อย ถ้าข้าวดำ�แปลว่าเห็ดมีพิษ และ มักมีกลิ่นไม่ชวนกิน happy+ | 91
ชวนชิม เรื่อง : It’s a bell / TepiN ภาพ : TepiN
ภายในย่านเอกมัยช่วงบ่าย ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่ค่อนข้างสบาย ๆ เหมาะสำ�หรับการพักผ่อน โดยเฉพาะในซอย สุขุมวิท 61 หากใครที่ผ่านไปผ่านมาจะต้องสังเกตเห็นร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามสะดุดตา อย่าง Quaint Bangkok (เควนท์ แบงคอก) แน่นอน โดยร้านนี้จัดแต่งในสไตล์ Art Deco, Art Nuvo, Industrial และ Loft นอกจากในส่วนของ ตัวร้านแล้ว ยังมีพื้นที่ให้เช่าสำ�หรับทำ�กิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานอีเวนต์ งานแต่งงาน อีกด้วย สำ�หรับอาหารในร้านเควนท์ แบงคอก เปิดมาด้วยเมนูออร์เดิรฟ์ เบา ๆ อย่าง Oriental Pumpkin Soup (250 บาท) ซุปครีมฟักทองเนือ้ ข้น หอมกลิน่ ข่าจาง ๆ ทานคูก่ บั ขนมปังกรอบ ตามมาด้วย Tangy Avocado, Prawn & Rocket Salad (300 บาท) สลัดใบร็อกเก็ตทานคู่กับอโวคาโดและกุ้งในซอสเลมอนนํ้าผึ้ง ตกแต่งด้วยดอกไม้และเนื้อส้มเพิ่มรสสัมผัส และความสวยงาม เมนูฟิวชั่นจานถัดมาคือ สปาเกตตีลาบหมู (300 บาท) รสชาติจี๊ดจ๊าดแบบไทย ๆ น่าแปลกที่เข้า กับเส้นเลดี้แฮร์ได้เป็นอย่างดี เบอร์เกอร์เนื้อแฮง ๆ ซอสนํ้าตก (320 บาท) เนื้อคุณภาพนำ�เข้าจากต่างประเทศ นำ � มาปรุ ง จนได้ เ นื้ อ นํ้ า ตกรสชาติ เ ข้ ม ข้ น ทานคู่ กั บ แป้ ง เบอร์ เ กอร์ เ นื้ อ นุ่ ม เสิ ร์ ฟ พร้ อ มเฟรนช์ ฟ รายชิ้ น โต คอหมูย่างนํ้าจิ้มแจ่ว (195 บาท) คอหมูย่างกำ�ลังดี ทานคู่กับนํ้าจิ้มแจ่วรสเด็ดสูตรของทางร้าน อร่อยจนต้องบอกต่อ ปิดท้ายด้วย สเต๊กพอร์คช็อปรมควันซอสนํ้าผึ้งและเหล้าไรย์ (650 บาท) เนื้อพรีเมียมนุ่มกำ�ลังพอดี ตัดมาเป็นชิ้น พอเหมาะ น่ารับประทาน หอมซอสนํ้าผึ้งรสหวานไม่เลี่ยนจนเกินไป 92 | happy+
ร้าน Caféé Kantary ของโรงแรมแคนทารี อยุธยา โรงแรมในเครือของเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ นอกจากจะมี เบเกอรี่อร่อย ๆ แล้ว ยังตกแต่งร้านได้น่ารักน่านั่งมากเลยค่ะ เริม่ ต้นกันที่ Oh Lah La Honey Toast ขนมปังโทสต์ชนิ้ หนารสชาติฉาํ่ เนย เสิรฟ์ มาพร้อมไอศกรีมวานิลลา วิปครีม อัลมอนด์สไลด์ ราดด้วยนํา้ ผึง้ หวานหอม Berry Berry เมนูนเี้ ป็นเครปหวานไส้ครีมวานิลลาจานใหญ่ยกั ษ์ ทานคูก่ บั ผลไม้ รสเปรีย้ วอย่างสตรอว์เบอร์รี ราสพ์เบอร์รแี ละแบล็กเบอร์รี รสชาติลงตัว เสิรฟ์ ความหวานกันต่อที่ เมนู Strawberry Wafflf วาฟเฟิลหอม ๆ นุ่ม ๆ ทานกับไอศกรีมและซอสสตรอว์เบอร์รี เพิ่มความกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์สไลด์ และปิดท้าย อีกหนึ่งเมนูเด่นของทางร้าน Signature Salted Caramel Pancake แพนเค้กชิ้นหนานุ่ม ราดด้วย Salted Caramel รสชาติเข้มข้น ทานกับผลไม้ต่าง ๆ จานนี้จัดเต็มทั้งสีสันและความอร่อยเลยค่ะ นอกจากขนมหวานแล้ว ทีไ่ ม่ควรพลาดอีกอย่างก็คอื เครือ่ งดืม่ ของทางร้าน ไม่วา่ จะเป็น Chocolate Cream Frappe ช็อกโกแลตปัน่ รสเข้มข้น หรือเครือ่ งดืม่ สีสวยอย่าง Blue Carucao Soda รสชาติหวานซ่า ดืม่ แล้วสดชืน่ มากค่ะ นอกจากนี้ ที่ร้านยังมีเค้ก เบเกอรี่ และเครื่องดื่มอีกมากมาย อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
• ร้าน Café Kantary ตัง้ อยูท่ ่ี 168 หมู่ 1 ถนนโรจนะ ตำ�บลธนู อำ�เภออุทยั พระนครศรีอยุธยา 13210 • เปิดทุกวัน เวลา 08:00-22:00 น. • เบอร์โทรศัพท์ : 0-3533-7177, 0-3522-9955 • เว็บไซต์ www.cafekantary.com
happy+ | 93
horoscopes
พยากรณ์ เดือนกันยายน 2560
สวัสดีคุณผู้อ่านนิตยสาร happy+ ทุกท่านครับ เวลาผ่านไปเร็วมาก เผลอแผล็บเดียวมาถึงฉบับ เดือนกันยายนแล้ว เดือนนี้พบกับ happy+ ในธีม การท่องเที่ยวในมุมใหม่หรือสถานที่ที่น่าสนใจแต่ ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว ประเทศไทยของเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด ซึ่งมีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบสัมผัสกับ ธรรมชาติ ทะเล ภูเขา นํ้าตก หรือวัดวาอารามต่าง ๆ แต่โดยมากคนไทยส่วนใหญ่มักจะนิยมไปเที่ยว ตาม ๆ กัน ไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีชื่อเสียง โดยส่วนตัวผมมักจะชอบมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ โดยเฉพาะการไปท่องเที่ยวตามแบบฉบับวิถีชาวพุทธ ตามวัดวาอารามต่าง ๆ เพราะนอกจากได้ทำ�บุญ ทำ�ให้จิตใจสงบ สบายใจแล้ว ยังได้ความรู้จาก สถานทีท่ เี่ ราไป ได้สมั ผัสถึงศิลปวัฒนธรรมในแต่ละยุค แต่ละสมัย จนหลายครัง้ ผมอดไม่ได้ทตี่ อ้ งบอกต่อสถานทีด่ งั กล่าว และอาจเป็นเพราะผมชอบค้นหา สถานที่ท่องเที่ยวใหม่มาบอกต่อ จึงทำ�ให้ผมได้รับเลือกเป็นตัวแทนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวในหลายภาค หลาย จังหวัด นับเป็นโชคดีของผมที่ได้มีโอกาสทำ�ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และยังมีโอกาสได้บอกต่อในสิ่งที่ไปพบเห็น มุมมองที่น่าสนใจให้คนไทยและชาวต่างชาติได้ รู้จักในสถานที่ท่องเที่ยว ได้รู้ถึงมุมมองการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีชาวพุทธ ผมจึงอยากให้คุณผู้อ่านทุกท่านลองมาเที่ยวแบบผม ลองเที่ยวในมุมใหม่ ๆ กันดู จากที่เคยไปเที่ยวทะเล ภูเขา ลองหันมาเที่ยววัด ทำ�บุญ หรือลอง ไปค้นหาสถานที่ใหม่ด้วยตัวเอง เผื่อจะทำ�ให้ความรู้สึกที่เคยเบื่อหน่าย กลับมารู้สึกตื่นเต้น กระปรี้กระเปร่า สุขกาย สบายใจ แถมยังได้บุญติดไม้ติดมือ กลับมา เหมือนผมด้วยครับ ติดตามผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. สามารถดูฤกษ์งามยามสบายและคาถาเด็ดได้ทุกวันที่ Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : akhata.c ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้รับพลังชีวิต เพิ่มพลังใจจากการไปเที่ยวพักผ่อนกันทุกคนนะครับ 94 | happy+
เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) การทำ�งานต้องเริ่มมุ่งมั่นอีกครั้ง เป็นช่วง เวลาที่คุณต้องแข่งขันกับคนอื่น อาจมีซิกแซ็ก ได้บ้าง แต่ต้องทำ�ด้วยตัวเองล้วน ๆ การเงินเร่ง เก็บเร่งหา พยายามงดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยออก ไปก่อน ยังไม่พร้อมที่จะหรูหราฟู่ฟ่า ช่วงกลางมี แววต้องจ่ายแบบจำ�ใจ ความรักแอบมองใครเอาไว้ คงถึงเวลาทีจ่ ะแสดงความกล้า สารภาพความใน ใจแล้ว ถ้ามัวแต่เฉยคงถูกตัดหน้าไปก่อน ถ้ามี คนรักแล้วเป็นช่วงที่สับสน แววเจ้าชู้เริ่มออกลาย สุขภาพปวดหลัง ปวดเอว อย่ายกของหนัก
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) การทำ�งานมีผใู้ หญ่คอยสนับสนุน ถึงแม้งาน จะเยอะ แต่ก็ทำ�ด้วยความสบายใจ ช่วงปลาย อบอุ่น ช่วยเหลือกันทำ�งาน มีผลงานเป็นที่พอใจ การเงินขยันหาเงินแบบนีไ้ ม่อดตายแน่นอน ช่วงนี้ มี ทั้ ง งานเสริ ม งานหลั ก เหนื่ อยหน่ อยแต่ พอ เห็นเม็ดเงินก็ชื่นใจ ความรักกำ�ลังสุกงอมเต็มที่ ได้ฤกษ์แต่งงานเสียที คนโสดสะดุดรักอย่างจัง ช่วงนี้เสน่ห์แรง ยิ้มแย้มแจ่มใสทำ�ให้มีเพื่อนใหม่ มีมิตรภาพเพิ่มขึ้น สุขภาพเจ็บเหงือก ร้อนใน มี ปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก ฟันผุ
ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) การทำ�งานพะวงหลายเรื่อง ส่วนใหญ่มา จากการตกปากรับคำ�ผู้อื่นอย่างเสียไม่ได้ เลย ต้องมานั่งวุ่นวายเสียเอง ให้ระวังงานเอกสาร มี โอกาสผิดพลาดสูง การเงินขยันหาเงินได้ดี เพียง แต่ช่วงนี้มีรายจ่ายเยอะ เลยทำ�ให้เครียดอยู่บ้าง ความรักสับสน ไม่สบายใจ มีเรือ่ งนัน้ เรือ่ งนีเ้ ข้ามา ทำ�ให้คิดมาก ให้เชื่อใจไว้ใจกันให้มากขึ้น ถ้า สงสัย มีเรือ่ งคาใจให้คยุ กันดีทสี่ ดุ คนโสดมีผา่ นมา แล้วก็ผา่ นไป หวังจริงจังยาก สุขภาพระวังขาแข้ง สะดุดหกล้มเจ็บตัว
ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) การทำ�งานเหนื่อยพอควร ไม่ค่อยมีคนให้ ความร่ ว มมื อ คุ ณ เจองานยาก เหนื่ อ ยทั้ ง คน เหนื่อยทั้งงาน แต่ด้วยความเก่งกล้าสามารถ ใน ทีส่ ดุ ก็เอาชนะ การเงินหมดไปกับยานพาหนะ ค่า ซ่อมแซม ต้องรีบเร่งหามาเก็บออมเพิ่ม ความรัก ไม่มีใครยอมใคร บู๊เข้าหากัน ก็เลือดตกยางออก ทั้งคู่ สู้ทำ�ดี เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้รักหวานชื่น จะดี ก ว่ า ส่ ว นคนโสดมี แ ผนการร้ า ยไปแอบ ชอบคนมีเจ้าของ สุขภาพระวังอุบัติเหตุเกี่ยวกับ กระดูก ข้อต่อ
ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) สภาพแวดล้อมในการทำ�งานผ่อนคลายกว่า ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ให้ความรักความเอ็นดูเป็นพิเศษ มีโอกาสดีในตำ�แหน่งงาน การเงินคล่องตัว งาน เยอะเงินแยะ ช่วงนี้มีลาภปาก ได้กินอิ่มแต่เงิน อยู่ครบ ช่วงปลายถ้าทำ�ตัวน่ารักมีโอกาสได้ของ ขวัญถูกใจ ความรักมีความสุขสุด ๆ กลายเป็นคู่ หวานที่น่าอิจฉา ส่วนคนโสดไม่น้อยหน้า ได้เจอ คนถูกใจ มีประสบการณ์แปลกใหม่ให้ตื่นเต้น สุขภาพเป็นโรคปวดหลัง สงสัยที่นอนจะยุบตัว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่
ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) การทำ�งานช่วงต้นจะวุน่ วาย มีแต่คนเกีย่ งงาน โยนงานกันให้วุ่น ช่วงปลายต้องลุ้นตัวโก่งกับ การเลื่อนขั้น การบรรจุ พยายามเสนอหน้ากับ ผู้ใหญ่บ้าง เขาจะได้ไม่ลืม การเงินถึงแม้จะรู้จัก เก็บ รู้จักใช้มากขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยจะพอใช้ ช่วงนี้ ฟุ่มเฟือย ความรักแง่งอนกันพอหอมปากหอมคอ แต่สดุ ท้ายคนรักของคุณก็ตอ้ งเป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อ คนโสดคงต้ อ งหาเพื่ อ นช่ ว ยแก้ เ หงาไปก่ อ น เล็ ง ใครไว้ ส่ ว นใหญ่ มี คู่ แ ล้ ว ทั้ ง นั้ น สุ ข ภาพ ปวดท้องบ่อย ท้องเสีย มวนท้อง
ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) การทำ�งานไม่ตึงเครียด รู้สึกผ่อนคลาย มี แนวโน้มในการเปลี่ยนตำ�แหน่งหน้าที่ แต่คุณจะ สบายขึ้น ก้าวหน้ากว่าเก่า ช่วงนี้ถ้ากำ�ลังแข่งขัน กับใครอยู่ คุณชนะแน่นอน การเงินใช้จา่ ยคล่องมือ มี ร ายรั บ เข้ า มาเรื่ อ ย ๆ ช่ ว งนี้ จั ด สรรปั น ส่ ว น พอเหมาะพอดีทำ�ให้ไม่มีปัญหา แถมมีลาภจาก การเดินทางอีกด้วย ความรักคนโสดคงยิ้มออก ช่วงนีด้ วงเนือ้ คูก่ �ำ ลังส่องประกาย ถ้ามีคนรักแล้ว ดูแลใจกัน น่ารักน่าเอ็นดู สุขภาพเจ็บคอ ไอ ร้อนใน พักผ่อนและดื่มนํ้ามาก ๆ
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) การทำ � งานราบรื่ น คิ ด วางแผนอะไรไว้ ประสบผลสำ�เร็จ เป็นช่วงที่มีข่าวดีหลาย ๆ เรื่อง เข้ามา แต่คณ ุ ต้องทำ�ตัวเสมอต้นเสมอปลาย การ เงินเฟือ่ งฟู มีโครงการทีท่ �ำ เงินให้คณ ุ เป็นกอบเป็นกำ� ความรักกระปรี้กระเปร่า มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตื่นเต้น ช่วงนี้ความเจ้าชู้ออกลาย คนที่มีคู่อยู่ ก็ทำ�ตัวหว่านเสน่ห์ไปเรื่อย ส่วนคนโสดลุกขึ้นมา ทำ�สวยทำ�หล่อบ้างก็ดี จะมีคนมาสนใจ มาเสนอตัว ขอเป็นแฟน สุขภาพเมื่อยล้า อ่อนเพลีย คงต้อง ดื่มเกลือแร่บ้างแล้ว
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) การทำ�งานไม่เหนื่อยอย่างที่คิด ช่วงกลาง การลงทุนทำ�ธุรกิจส่วนตัวก็เข้าที มีผลตอบแทน ที่น่าพอใจ มีโอกาสได้พบปะ พูดคุยกับคนเก่ง ทำ�ให้ได้ข้อคิดหลายอย่าง การเงินเป็นช่วงของ การจ่ายออกหรือเอาเงินเก็บมาลงทุน มาซื้อของ ที่อยากได้ แต่ไม่ต้องห่วง ที่ลงทุนไปไม่สูญเปล่า ช่วงปลายเริม่ มีโชคเรือ่ งเงินทอง ความรักอ่อนไหวง่าย ขี้ ส งสาร แต่ ก็ เป็ น เสน่ ห์ ทำ � ให้ มี ค นมาหลงรั ก มีการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดี ถ้ามีแฟนแล้วหวานชื่น สุขภาพระวังความดัน กรดไหลย้อน
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) การทำ�งานมีงานเข้ามาเยอะ บางงานคุณก็ รูส้ กึ ดี บางงานก็เหมือนถูกบังคับให้ท�ำ ให้คดิ เสียว่า งานคือเงิน เงินคืองาน จะได้ไม่ท้อแท้ ได้มา น้อยดีกว่าไม่ได้เลย การเงินปวดหัวพอควร ช่วงนี้ มี ร ายจ่ า ยเยอะ ส่ ว นใหญ่ มี ค นมาขอหยิ บ ยื ม แบบที่ปฏิเสธไม่ได้ ความรักน่าหงุดหงิด มีเรื่อง เข้ า ใจผิ ด กั นตลอด หาเวลาเคลี ย ร์ ใจกั น บ้ า ง เดี๋ยวไม่มีกำ�ลังใจในการทำ�งาน ทำ�เงิน สุขภาพ ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทาง อย่าใจร้อน ขับขี่ อย่างมีสติ
ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) การทำ � งานถู ก กลั่ น แกล้ ง ไม่ ได้ รั บ ความ ยุติธรรม คนทำ�งานกลับไม่เด่น คนประจบเก่ง กลับได้รางวัล คิดแล้วน้อยใจ อย่าวู่วามไปงัดข้อ กับผูใ้ หญ่ การเงินมือเติบ มีคา่ ใช้จา่ ยมารุมมาสุม ช่วงนี้ห่างคนรอบตัวไว้ มีแววว่าจะมีคนหาเรื่อง เสียเงินมาให้ ความรักร้อนแรงรวดเร็ว แต่ไม่ยงั่ ยืน คุณที่เป็นหญิงระวังตัวหน่อย อาจถูกหลอกให้ เสียใจ ถ้ามีคแู่ ล้วระวังคำ�พูด เป็นช่วงเวลาประชด ประชัน ถ้าร้อนเจอร้อนก็มีสิทธิระเบิดได้ สุขภาพ ปวดศีรษะ ไมเกรน
ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) การทำ�งานแคล่วคล่อง มีการประสานงาน การเจรจาที่ดี ช่วงนี้ผู้ใหญ่มีอิทธิพลกับคุณสูง ต้องรู้จักนอบน้อมไปมาหาสู่บ้าง จะทำ�ให้ดวง การงานของคุณไปได้ไกล การเงินมัน่ คงเต็มที่ คุณ ที่ชอบเสี่ยง ชอบลุ้นได้ยิ้มออก ความรักอบอุ่น หอมหวาน คนโสดก็เสน่หแ์ รงไม่เบา เป็นทีห่ มายปอง ของใคร ๆ ก็เหลือแต่จะเลือกใครเท่านั้น ขอ แนะนำ�ให้เลือกคนที่อายุมากกว่าหน่อย รักจะ ยืนยาว สุขภาพนํ้าหนักเพิ่ม ปวดขา ปวดหัวเข่า ต้องหาวิธีลดนํ้าหนัก happy+ | 95
MPI The Boss Learn on the road
เรื่อง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บรูไน...
ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ยกเว้น...
เ
มื่ อ ต้ น เ ดื อ นกรกฎาค ม ที่ ผ่ า นม า ผ มมี โอกาสได้ ติ ด ตามกลุ่ ม นั ก ธุ ร กิ จ เอกชนไทย ที่รวมตัวกันในนาม The Boss : Learn on the Road ไปประเทศ “เนการาบรูไนดารุสซาลาม” ในฐานะวิทยากร ประกอบการเดินทางตลอด 3 วัน 2 คืนครับ หลาย ๆ ท่านอาจจะงงว่าไปทำ�ไม ประเทศนีม้ อี ะไรด้วยเหรอ หรือ มีแม้แต่คำ�ถามว่า บรูไน ตั้งอยู่ตรงไหนของแผนที่ หรือ อยู่ที่ตะวันออกกลางรึเปล่า 96 | happy+
ผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดดังนี้ครับ กลุ่มของ The Boss เป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่แต่ละราย มีมูลค่ากิจการว่ากันตั้งแต่หลักร้อยล้าน ไปจนหลักหมื่นล้าน ที่รวมตัวกันเพื่อแสวงหาองค์ความรู้และ สร้างเครือข่ายในการดำ�เนินธุรกิจร่วมกัน พวกเขาน่าจะเป็นกลุม่ นักธุรกิจไทยกลุม่ แรกทีย่ นิ ดีจา่ ยเงินทุน ของตัวเองเพื่อไปบรูไน ด้วยราคาค่าทริปที่สามารถเดินทางไปเที่ยวยุโรปเป็นสัปดาห์ได้ ไม่ใช่เพียง เพราะต้องการจะไปท่องเที่ยว หรือไม่ใช่เพียงเพราะต้องการไปพักผ่อนในโรงแรมที่เคยเป็นพระราชวัง ของสุลต่านมาก่อนเท่านัน้ หากแต่สิง่ ทีพ่ วกเขาต้องการไปดูให้เห็นกับตาต่างหากว่า ประเทศทีม่ นั ไม่มี อะไรเลย มันไม่มีอะไรอย่างไร บรูไนไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเทศขนาดเล็กทีม่ พี นื้ ทีเ่ พียงแค่ 5,770 ตร.กม. ซึง่ เล็กกว่ากรุงเทพฯ และ ปริมณฑลที่มีพื้นที่ 7,761 ตร.กม.เท่านั้น หากแต่บรูไนตั้งอยู่บนเกาะที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกันถึง 3 ประเทศ
นั่นคือ บรูไน มาเลเซียตะวันออก และกาลิมันตัน ของอินโดนีเซีย รวมทัง้ ยังอยูใ่ นใจกลางของความ ร่วมมืออนุภมู ภิ าค BIMP-EAGA (Brunei-IndonesiaMalaysia-Philippines East ASEAN Growth Area) ซึง่ ยังหมายรวมถึงฟิลปิ ปินส์เข้าไปด้วย และนัน่ คือ อีกครึ่งหนึ่งของอาเซียน แต่เป็นภูมิภาคอาเซียน ในนํ้า (เช่นเดียวกับที่ไทยเป็นจุดศูนย์กลางของ อาเซียนบนบก) และบรูไนคือ ประเทศเดียวที่มี โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมที่สุดใน 4 ประเทศนี้ ไม่วา่ จะเป็นไฟฟ้า ประปา คมนาคมขนส่งทางบก ทางเรือและทางอากาศ บรูไนไม่ได้เป็นเพียงประเทศที่มีประชากร เพียง 4 แสนคนเศษ ๆ เท่านัน้ หากแต่ 128,000 คน ใน 4 แสนกำ�ลังมองหางานทำ� 128,000 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งจบการศึกษาสูงกว่ามัธยมปลาย นั่น หมายความว่า ครึ่งหนึ่งก็พร้อมที่จะทำ�งานใน โรงงานในลักษณะกึ่งฝีมือ และอีกครึ่งหนึ่งก็เป็น แรงงานฝีมือที่พร้อมสำ�หรับภาคบริการ แน่นอนตลาดในประเทศของบรูไนมีขนาดเล็ก หากแต่บรูไนสามารถเข้าถึงตลาดขนาดกว่า 300 ล้านคนของ BIMP-EAGA และยังขยายต่อไปยังโลก มุสลิมในตะวันออกกลางได้ด้วย เนื่องจากบรูไน เป็นสมาชิกของ OIC หรือองค์การความร่วมมือ อิสลาม และยังเป็นผู้นำ�ในเรื่องการรับรองตรา สัญลักษณ์ฮาลาลทีไ่ ด้รบั การยอมรับในระดับโลก รวมทั้ ง ยั ง สามารถกระจายสิ นค้ า เข้ า ไปยั ง คน มุสลิมในยุโรป ผ่านกิจการของรัฐบาล Ghanim International ที่ไปร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ Logistics ของฮ่องกงที่คนไทยรู้จักดีในนาม Kerry บรู ไ นไม่ ไ ด้ มี เพี ย งสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วทาง ศาสนา นัน่ คือ มัสยิดทีม่ โี ดมหลังคาเป็นทองคำ�ที่ รูจ้ กั กันในนาม Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque เท่านัน้ หากแต่ยงั มีหมูบ่ า้ นกลางนํา้ Kampong Ayer ที่เป็นหมู่บ้านกลางนํ้าที่ใหญ่กว่าเมืองเวนิซ นคร กลางนํา้ ของอิตาลี ประชากรมากกว่า 35,000 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ร่วมกับมัสยิด โรงเรียน สถานีดับเพลิง สถานีตำ�รวจ และหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้ ง อยู่ ที่ นั่ น ที่ เ ดิ ม ไม่ เ คยเปลี่ ย นแปลงไปไหน ตั้งแต่สมัยที่กัปตัน Ferdinand Magellan ล่องเรือ
มาพบในปี ค.ศ. 1521 นอกจากนี้ บ รู ไนยั ง มี อุทยานแห่งชาติ Temburong ทีม่ คี วามหลากหลาย ทางธรรมชาติ ข องสิ่ ง มี ชี วิ ต มากที่ สุ ด ในโลก Proboscis Monkey ลิงที่มีจมูกใหญ่จนมองคล้าย มีงวงก็เจอได้ที่นี่ ในทะเลของบรูไนไม่ได้มีแค่ก๊าซธรรมชาติ สำ�รองมากเป็นอันดับ 10 ของโลก และส่งออก มากเป็นอันดับ 9 ของโลกเท่านั้น หากแต่ยังมี อาหารทะเลคุณภาพดี ไม่วา่ จะเป็นปลา Yellowfif Tuna ซึ่งสามารถให้เนื้อ Otoro ชั้นยอดในร้าน อาหารญี่ปุ่น และกุ้ง Blue Shrimp ที่มีให้รับ ประทานเพียง 2 แห่งในโลก นั่นคือ ที่บรูไนและที่ New Caledonia (หมูเ่ กาะเล็ก ๆ อาณานิคมของ ฝรั่ง เศสทางตอนใต้ ข องมหาสมุ ท รแปซิ ฟิ ก ตะวันออกของออสเตรเลีย) บรู ไนไม่ ได้ มี แค่ รั ฐ สวั ส ดิ ก ารที่ ป ระชาชน รักษาพยาบาลฟรี การศึกษาฟรีเท่านั้น หากแต่ ยังเป็นประเทศทีไ่ ม่มกี ารจัดเก็บภาษีเงินได้บคุ คล ธรรมดา ไม่มีภาษีศุลกากรในการนำ�เข้าสินค้า ไม่มีภาษีการค้า ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีอัตรา การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อัตรา 18.5% เท่านั้น ซึ่งนับว่าตํ่าเป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน บรู ไ นคื อ ประเทศที่ ป กครองโดยระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมี สมเด็จพระราชาธิบดี สุ ล ต่ า นฮั ส ซานั ล โบลเกี ย ห์ เป็ น ประมุ ข ของ ประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผูน้ ำ�กองทัพ เป็น รัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้า คำ�พูดของพระองค์คอื กฎหมาย หลาย ๆ คนอาจจะ มองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่สำ�หรับภาคธุรกิจ
นีค่ อื ระบบการเมืองทีม่ เี สถียรภาพมากทีส่ ดุ ในโลก เพราะราชวงศ์โบลเกียห์ ดูแลประเทศนี้ต่อเนื่อง กันมายาวนานเกินกว่า 600 ปีแล้ว บรู ไ นคื อ ประเทศที่ เ ข้ า สู่ ภ าวะเศรษฐกิ จ ถดถอย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง ต่อเนื่องมากกว่า 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ราคานํ้ามัน ในตลาดโลกปรับตัวลดลง นั่นเองทำ�ให้รัฐบาล ภายใต้การนำ�ขององค์สุลต่านพยายามส่งเสริม การลงทุน จะมีหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนสักกี่ ประเทศที่ไม่มี Package ส่งเสริมการลงทุนตายตัว หากแต่สามารถต่อรองได้ และยิง่ ถ้าเป็นธุรกิจทีส่ ง่ ผลกระทบภายนอกทางบวกกับประเทศ เช่น เกิด การจ้างงาน เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ธุรกิจ ของท่านที่ไปลงทุนจะได้รับข้อเสนอพิเศษจาก ทางรัฐบาลบรูไน โดยเฉพาะท่านอาจจะมีผถู้ อื หุน้ ร่วมลงทุนเป็นรัฐบาลบรูไน หรือแม้แต่ตัวสุลต่าน และครอบครัวเอง และอย่าลืมนะครับ ประเทศนี้ เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีพันธมิตรทาง ธุรกิจในประเทศไหนที่จะเข้มแข็งเท่านี้อีกแล้ว และนั่นแหละครับคือ “ความไม่มีอะไรเลย” ของประเทศบรูไน ดินแดนที่ตอนนีก้ ลุ่ม The Boss ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจจากความไม่มีอะไรเลย แล้ว โดย Highlight หนึ่งของการเดินทางไปใน ครั้งนี้คือ การทำ�บรรสาน (บรรจบ + สานต่อ) ซึ่ง เป็นการพูดคุย เปิดใจ แสดงความคิดเห็น โดยไม่ ต้องมีข้อสรุป โดยไม่มีการหักล้างใคร แต่เน้นการ ฟัง และเก็บเอาแนวคิดดี ๆ ไปใช้ประโยชน์จาก ผูร้ ว่ มเดินทาง โดยมี ดร.วิสทุ ธิ วิทยฐานกรณ์ แห่ง TVO เป็นผู้ดำ�เนินการ ความประทับใจที่สุดคือ การได้เห็นสมาชิก The Boss Learn on the Road แสดงตนเป็นกัลยาณมิตร หรือเป็นมิตรทีด่ ี นัน่ คือ แสดงความคิดเห็นกันโดยไม่หวงความรู้ ไม่ปดิ บัง โอกาสทีต่ นเองเห็นจากการร่วมเดินทางไปพร้อมกัน ใครเห็นโอกาสก็ชกั ชวนกัน ใครเห็นอุปสรรคสิง่ ใด ก็ พู ด คุ ย ด้ ว ยกั น อย่ า งจริ ง ใจในลั ก ษณะของ ปรโตโฆสะ นัน่ คือเสียงเตือนด้วยความหวังดี และ นั่นคือสิ่งที่ทำ�ให้ The Boss Learn on the Road มีเสน่ห์ และทำ�ให้พวกเราทุกคนที่ร่วมเดินทางไป ได้สรุปโดยตัวทริปเองไปแล้วครับว่า บรูไน คือ ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ยกเว้น “โอกาส” การเดินทางครั้งนี้พวกเราได้รับความอนุเคราะห์ การอำ�นวยความสะดวกอย่างยิง่ ในการติดต่อประสานงาน เรื่องต่าง ๆ จากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุง บันดาร์เสรีเบกาวัน โดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูต คุ ณ พี ร วิ ช สุ ว รรณประเทศ และเลขานุ ก ารเอก คุ ณ วสุ ศรี ว ราธนบู ล ย์ รวมทั้ ง เจ้ า หน้ า ที่ ทุ ก ท่ า น ท่านเอกอัครราชทูตยังฝากบอกด้วยว่า สถานทูตไทย ยินดีต้อนรับคนไทยทุกท่านตลอดเวลา happy+ | 97
ข่าว THE BOSS
THE BOSS VISION 4.0 มองมิติรอบด้าน สร้างการเปลี่ยนแปลง
รวมพลัง 8 Guest Speakers แห่งยุค ร่วมพลิกโฉมประเทศไทย สู่ “ไทยแลนด์ 4.0”
“สมาคมเดอะบอสส์” (The Boss Association) โดย ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมเดอะบอสส์ ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI และหลักสูตร The Boss ร่วมจัดทอล์คโชว์คุณภาพ THE BOSS VISION 4.0 มองมิติรอบด้าน สร้าง การเปลี่ยนแปลง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ณ IMAX Quartier CineArt Emquartier รวมพลัง 8 Guest Speakers แห่งยุค พร้อมปลุกพลัง เปิดวิสัยทัศน์ มุ่งสู่การพัฒนาร่วมกันของคนไทยอย่างต่อเนื่อง 98 | happy+
นำ�โดย รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้จัดรายการและวิทยากรด้านอารยธรรมและประวัติศาสตร์ชื่อดัง, ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำ�นวยการศูนย์ อาเซียนศึกษา และผู้ดำ�เนินรายการ Vision of ASEAN, ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการดำ�เนินการโครงการ ‘คนกล้าคืนถิ่น, อรุษ นวราช ผู้ดูแล อาณาจักร ‘สามพราน ริเวอร์ไซด์’ เจ้าของแนวคิด ‘สามพรานโมเดล’, ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ก่อตั้ง Jitta แพลตฟอร์มกลุ่ม Fintech ที่วิเคราะห์การ ลงทุนหุ้น, ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ พิธีกรเจ้าของฉายา ‘เจ้าหญิงไอที’, สมชัย ส่งวัฒนา เจ้าของแบรนด์ FLYNOW และอาณาจักรศิลปะสุดมัน ‘ช่างชุ่ย’ ร่วมด้วย ดร.รัฐ ธนาดิเรก วิทยากรและที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ ผู้สอนแนวคิด “ทำ�เพิ่มน้อยให้ได้เพิ่มมาก” และดำ�เนินรายการโดย ดร.อภิชาติ อินทรวิศิษฎ์ ดร.วิ สุ ท ธิ วิ ท ยฐานกรณ์ นายกสมาคมเดอะบอสส์ กล่ า วถึ ง วั ต ถุ ป ระสงค์ ข องการจั ด งานทอล์ ค โชว์ คุ ณ ภาพครั้ ง นี้ ว่ า “การที่ ค นไทยและ เมืองไทยของเราจะมีอนาคตที่ดีได้นั้น สิ่งสำ�คัญคือ เราจำ�เป็นต้องพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงให้ทันยุค 4.0 เพื่ อ เปลี่ ย นผ่ า นเข้ า สู่ ยุ ค ดิ จิ ทั ล ให้ ได้ เร็ ว มากที่ สุ ด จึ ง เกิ ด ที่ มาของการจั ด งานในครั้ ง นี้ ‘THE BOSS VISION 4.0 มองมิ ติ ร อบด้ าน สร้ า งการ เปลี่ยนแปลง’ โดย สมาคมเดอะบอสส์ ถือโอกาสในวาระครบรอบ 30 ปี ของสถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI และหลักสูตร The Boss ร่วม กั นจั ด ขึ้ น ภายใต้ แนวคิ ด และนโนบายที่ ต้ อ งการมี ส่ ว นสำ � คั ญ ในการผลั ก ดั น และเกื้ อ กู ล สั ง คม ด้ ว ยการร่ ว มกั น พั ฒ นาเหล่ า นั ก ธุ ร กิ จ ให้ ได้ ใช้ ความสามารถเต็มศักยภาพ มีมาตรฐาน และที่สำ�คัญต้องมีคุณธรรม นำ�ไปสู่การพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน งาน The Boss Vision 4.0 happy+ | 99
8 Guest Speakers 1 ฉัตรปวีณ์ ตรีชชั วาลวงศ์ 2 รศ.ดร.สุเนตร ชุตนิ ธรานนท์ 3 ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม 4 ดร.สุมทิ แช่มประสิทธิ์ 5 อรุษ นวราช 6 ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ 7 สมชัย ส่งวัฒนา 8 ดร.รัฐ ธนาดิเรก
100 | happy+
1
2
3
4
5
6
7
8
ครัง้ นี้ คือการรวบรวมนักคิด นักปฏิบตั ิ 8 ท่าน ทีเ่ ล็งเห็นอนาคต มีวธิ กี ารทีด่ ใี นการทีจ่ ะนำ�ไปสูก่ ารเปลีย่ นผ่านไปยังอนาคตทีด่ ใี นหลากหลายมิติ จึงมารวมพลัง ร่วมกันแชร์ประสบการณ์ และเปิดมุมมองวิสัยทัศน์ พร้อมเผยวิธีการที่จะนำ�ไปสู่ยุคดิจิทัล 4.0 ให้สำ�เร็จและง่ายขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ นักจัดการ และบุคคลทั่วไปที่รักอนาคต รักที่จะพัฒนาตนเอง ได้มีส่วนร่วมรับฟัง “หากเรามองไกลไปอีก 30 ปีข้างหน้า ผมหวังว่าสมาคมเดอะบอสส์ และสถาบัน MPI รวมถึงหลักสูตร The Boss จะได้มีส่วนไม่มากก็น้อย ในการ ที่จะร่วมสร้างอนาคตใหม่ที่ดีของประเทศไทย ด้วยการพัฒนานักธุรกิจ The Boss ให้เก่งมากยิ่งขึ้น ดีมากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมเป็นกำ�ลังหลักสำ�คัญในการ พัฒนาบ้านเมือง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ “สมาคมเดอะบอสส์ ยังมีแผนงานและกิจกรรมอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ�ทุกเดือน อาทิ Learn on the Road เพื่อให้รู้จักอาเซียนในหลากหลายมิติ ครอบคลุมทุกเรื่องราวในการเดินทางครั้งเดียว, The Boss Vision Talk Show เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ร่วม นำ�สู่การพัฒนาร่วมของคนไทยอย่างต่อเนื่อง, Charity Concert เพื่อร่วมดูแลสังคม ตอบแทนแผ่นดิน อันเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทย ท้ายนี้ ผมขอขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมไปกับเรา และร่วมติดตาม ความเคลื่อนไหวของงานได้ที่ www.facebook.com/thebossthai” happy+ | 101
หากท่านกำ�ลังมองหานาฬิการะดับคุณภาพ ดีไซน์สวยและมีคุณค่าทางจิตใจสักเรือน ขอแนะนำ� นาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษ ที่จัดทำ�ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ในหลวงรัชกาลที่ 9 สำ�หรับประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยนาฬิการุ่น EDGE เป็นรุ่นที่ได้รับรางวัล Red Dot ดีไซน์ถึง 2 ปี นำ�เข้าโดยบริษัท ไททัน จำ�กัด บริษัทในเครือ ทาทากรุ๊ป ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุด เป็นอันดับ 5 ของโลก
คุ ณ โซเนี ย ยั ม ดั ก นี่ กรรมการผู้ จั ด การ บริษทั ออมนิ จำ�กัด ผูจ้ ดั จำ�หน่ายนาฬิกาแบรนด์ Titan, Police, Superdry, Gant, Sonata, Fastrack แต่เพียงผูเ้ ดียวในประเทศไทย คุณ โซเนีย ยั ม ดั ก นี่ เป็ นชาวอิ น เดี ย ที่ ติ ด ตามครอบครั ว มาทำ�ธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และ มี ค วามผู ก พั น กั บ ประเทศไทยเป็ น อย่ า งมาก ได้กล่าวถึงนาฬิกาแบรนด์ Titan และนาฬิกา รุ่นพิเศษนี้ว่า “สำ�หรับดิฉันและแบรนด์ Titan นั้น การ รำ�ลึกถึงความมีคุณค่าเป็นเรื่องที่สำ�คัญ และ กระทำ � สื บ ต่ อ กั น มาจากรุ่ น สู่ รุ่ น เช่ น เดี ย วกั บ คนไทยทุกคน ทีม่ คี วามจงรักภักดีตอ่ ชาติบา้ นเมือง และต่ า งมุ่ง หวั ง ช่ ว ยกั น พั ฒ นาชาติ เพื่อ คนรุ่น ต่อ ๆ ไป เรามองว่านาฬิกานั้นเป็นสัญลักษณ์ของ เวลาอันทรงคุณค่า ทีพ่ วกเราจะแสดงออกถึงความ จงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 “และนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่นนี้ ได้อัญเชิญ ตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี
ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทับบนหน้าปัด ที่ ตำ�แหน่งเลข 12 พร้อมเลข ๙ ไทยบนหน้าปัด นาฬิ ก า เพื่ อ แสดงถึ ง รั ช กาลที่ 9 นาฬิ ก ารุ่ น เฉลิมพระเกียรตินี้ มีวางจำ�หน่าย 3 สี คือ สีนาํ้ เงิน, สีนํ้าตาล กรอบตัวเรือนเป็นสีโรสโกลด์ และสีดำ� กรอบตัวเรือนจะเป็นสีทอง เพื่อสะท้อนถึงความ หรูหราและเป็นเอกลักษณ์ “ตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้ มีความบางเพียง 3.6 มม. และระบบการทำ�งานด้านใน (WaterThin Movement) มีความบางถึง 1.15 มม. ซึ่งเป็น เทคโนโลยีเฉพาะของ Titan EDGE นอกจากนี้ ยัง สามารถกันนํ้าลึกได้ถึง 30 เมตร กระจกบริเวณ หน้าปัดทำ�จากคริสตัลแซฟไฟร์ จึงมีคุณสมบัติ ในการกันรอยขีดข่วนได้ดี พร้อมระบบแบตเตอรี่ ด้านใน ที่ออกแบบมาให้มีความบางเป็นพิเศษ บริเวณด้านหลังตัวเรือน มีการสลักข้อความ “In Honor of His Majesty the King” เพื่อเน้นยํ้าถึง จุดประสงค์ของการผลิตนาฬิกาข้อมือรุน่ พิเศษนีข้ น้ึ “นาฬิกาข้อมือ Titan EDGE นี้ ไม่เพียงแต่
โดดเด่นด้านดีไซน์เท่านั้น เรายังให้ความสำ�คัญ กับเทคโนโลยีการผลิตเป็นอย่างมาก” คุณโซเนีย ยัมดักนี่ กล่าว ทั้ ง นี้ ใ นแบรนด์ ยั ง มี น าฬิ ก าแฟมิ ลี อื่ น ๆ อี ก 10 แฟมี ลี เช่ น Egde, Raga, Octane, Purple ซึ่งจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามความ ต้องการของลูกค้า เราจะเน้นในเรือ่ งของคุณภาพ เนื่องจากเรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง อะไหล่ แต่ละชิ้นจะผลิต และประกอบเองทั้งหมด โดย เฉลีย่ ทางโรงงานจะผลิตนาฬิกาได้ 1 เรือนในทุก ๆ 3 วินาที นอกจากบริหารแบรนด์นาฬิกาแล้ว คุณโซเนีย ยั ง ดำ � เนิ นธุ ร กิ จ ประเภทอื่ นด้ ว ย เช่ น Ta-TO คอนแทคเลนส์ และแว่นตานำ�เข้าจากต่างประเทศ แบรนด์ดัง เช่น RAY-BAN, OAKLEY และ GUCCI ดูรายละเอียดเพิม่ เติมได้ทเ่ี ว็บไซต์ www.TA-TO.com และนอกจากนั้นยังมีธุรกิจร้านอาหาร เช่น ร้าน PIZZA MANIA โทร 02- 261-1212, ร้านแซนวิช Le Lapin โทร 02- 651-9512 อีกด้วย
หากสนในนาฬิกา Titan EDGE รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นหรือนาฬิกาคุณภาพอันดับ 1 นั้น มีจ�ำ หน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ�ทั่วไป ได้แก่ เซ็นทรัล, พารากอน, เอมโพเรียม, เดอะมอลล์ และโรบินสัน เบอร์โทรติดต่อ 0-2661-6236-8 Fax. 0-2661-6239
game for reader
Q : ทางเข้าเมืองเพตรา ต้องผ่าน ช่องเขาแคบ ๆ ที่เรียกว่าอะไร ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษทั ไทย ภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาทีอ่ เี มล happyplusmag@gmail.com ภายในวันที่ 30 กันยายน 2560
ร่ ว มลุ้ น รั บ ร่ ม กั น ฝน จาก sanook.com จำ � นวน 2 รางวัล (ประกาศรายชื่อผู้ได้ รับรางวัลใน happy+ ฉบับ เดือนพฤศจิกายน 2560) *** หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ตดิ ต่อกลับ และหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับรางวัลด้วย ตนเอง
รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 56
โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ประชาชนให้ มี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี มี ค วามสุ ข ทั้ ง กาย ใจ และสั ง คม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับ ใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิตยสาร happy+ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันความสุข และมีส่วนร่วมในการดูแล สังคมไทย 104 | happy+
สะพานไม้อุตตมานุสรณ์หรือสะพานมอญ ในอำ�เภอสังขละบุรี มีความยาวเท่าไหร่ คำ�ตอบ 850 เมตร รายชื่ อ ผู้ โ ชคดี ได้ รั บ หมวกมั ด ย้ อ มจาก แบรนด์ by Tila จำ�นวน 2 รางวัล 1. คุณปรารถนา ปรีชาสุนทรรัตน์ นครปฐม 2. คุณพิมรา สีดอกบวบ กรุงเทพฯ ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 30 กันยายน 2560 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ
Next Issue เมนูของหวาน เล่ ม ต่ อ ไปเหมาะสำ � หรั บ ผู้ อ่ า นที่ ชอบความหวานเป็นชีวิตจิตใจ เรา จะขอแนะนำ � ร้ า นขนมหวานติ ด อันดับความอร่อยทีห่ ลายคนยกนิว้ ให้ หลากหลายร้ า นหลากหลายเมนู ที่ พวกเราคัดเลือมา จะเป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมติดตามกันนะคะ แล้วพบกัน ที่แผงหนังสือค่ะ
เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)
ใบสมัครสมาชิก
สมาชิกทั่วไป
สมาชิกอุปถัมภ์
วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)
พิเศษ
สมัครสมาชิก happy+ เดือนกันยายน รับทันที
เซ็ตผลิตภัณฑ์อาบนา้ํ เพือ่ สุขภาพผิว (เกลือหิมาลายัน Nlinn + ภูโคลนกลิน่ แครนเบอร์รี + ใยบวบขัดผิว)
พิเศษยิ่งกว่า
สำ�หรับสมาชิกที่ต่ออายุ ในเดือนกันยายน รับเพิ่มสเปรย์ขจัดไรฝุ่น จาก ปัญจศรี
happy ending
ความคิดนั้นเป็นแม่บทใหญ่ของคำ�พูดและการกระทำ� เพราะกิจที่จะทำ� คำ�ที่จะพูด ทุกอย่างล้วนสำ�เร็จจากความคิด การคิดก่อนพูดและคิดก่อนทำ�จึงช่วยให้บุคคลสามารถยับยั้งคำ�พูดที่ไม่สมควร หยุดยั้งการกระทำ�ที่ไม่ถูกต้อง พูดและทำ�แต่สิ่งที่จะสัมฤทธิ์ผลเป็นประโยชน์และเป็นความเจริญ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐