happy+ Vol. 61 December 2017

Page 1



น้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด


let’s smile

วันสำ�คัญของชาติ วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำ�คัญของชาติไทย คือ เป็นวันคล้าย วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ เป็นวันหนึ่งที่พวกเราชาวไทยจะได้ ร่วมน้อมรำ�ลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่พระราชทานให้กับ พสกนิกรชาวไทย นิตยสาร happy+ ฉบับธันวาคม จึงร่วมน้อมรำ�ลึกถึงพ่อหลวงของทุกคน ด้วยบทสัมภาษณ์ทบี่ อกเล่าถึงความประทับใจในการรับใช้ใต้เบือ้ งพระยุคลบาท เพราะพระองค์ท่านจะสถิตย์อยู่ในใจตราบนิรันดร์ ด้วยความปรารถนาดี ทีมงานนิตยสาร happy+

เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก เขี ย น : ภญ.ดร.สุ ภ าภรณ์ ปิ ติ พ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสูจน์อักษร : ณรงค์ พึ่งบุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสุทธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com

นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556



contents

ปีที่ 6 ฉบับที่ 61 ธันวาคม 2560

กายสุข 16 healthy planet / ภาวะหัวใจล้มเหลว รู้ก่อน รักษาได้ 62 take care / 9 สาเหตุที่ทำ�ให้คุณจดจ่อกับงาน ไม่ได้ 65 Q&A 66 ยืดเส้น ยืดสาย / ห่างไกลอาการปวดต่าง ๆ จากออฟฟิศซินโดรม 68 happy herb / ฝ้าห่างไกล...สมุนไพรกู้หน้าใส 72 beauty by nature / สูตรความงามแบบ ธรรมชาติจากกูรูความงามแบรนด์ดัง (จบ) 92 กินอาหารเป็นยา / ชุดอาหารจานเหลือง ใจสุข 20 happy people / ชีวิตไร้ขีดจำ�กัด ยุทธนา เปื้องกลาง 30 happy heart / บันทึกภาพ บันทึกความทางจำ� นภันต์ เสวิกุล 38 feature / ผู้อยู่เบื้องหลัง

48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ขอบคุณนะ...ธันวาคม 54 family in love / ราชาธรรม 56 นัดพบกับธรรมะ / ด้วยรัก...แต่ทำ�ร้าย 58 wired world / อย่าเผลอให้ ‘การทำ�งานหนัก’

ฆ่าคุณ 60 ระหว่างทาง / สุดแผ่นดิน 70 well being / ผู้อยู่เบื้องหลัง 74 สิ่งนี้ที่เรารัก / “ผ้าพันคอ” ไอเท็มสุดคลาสสิก ตลอดกาล ภารดี เทศรัตนวงศ์ 76 travelogue / เซี่ยงไฮ้ ปารีสตะวันออก 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / ไปเชียงใหม่ ไหว้พระเก้าวัด 83 one happy day / พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี 88 green corner / สวนสาธารณะภายใต้แนวคิด ป่าในเมือง อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย

90 เจ้าชายผัก / เก็บเมล็ดพันธุ์ ภารกิจกู้โลกเพื่อ

ความมั่นคงทางอาหาร

94 ชวนชิม อิ่มสุข

• IfItIs อีฟอิทอีส • แสนแซ่บ 97 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes สังคมสุข 10 happy planet / เพื่อนใจวัยเยาว์ (2) 14 The Boss Foundation / โครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” 50 คนคิดดี / สร้างสังคมที่ดี ผ่านเยาวชนที่มี คุณภาพ ทูน หิรัญทรัพย์ 100 กิจกรรมนำ�สุข



contributors

ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.92 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร อาจารย์คฑา ชินบัญชร

หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม และ รองผู้อ�ำ นวยการโรงพยาบาล ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

happy herb p.68

เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56

เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน

ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58

แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..

ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60

ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป

นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62

คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care

ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54

“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น

ญาดารัตน์ well being p.70

“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists

เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.90 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน

ศศินี ปัญญารัตน์

beauty by nature p.72

ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด



happy planet เรื่อง : Patty Pom

เพื่อนใจวัยเยาว์ (2) จากฉบับทีแ่ ล้วฉันได้พดู ถึงตัวการ์ตนู ขวัญใจ ของฉันรวมถึงเด็ก ๆ ทัว่ โลก ซึง่ เป็นดัง่ เพือ่ นสนิท ของเรา ที่เติบโตมาพร้อมกัน และเรายังคงคิดถึง อยู่เสมอ ทุกวันนี้การ์ตูนเหล่านี้ก็ยังคงเป็นอมตะ ยังเป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ อยู่ เพราะนำ�มาทำ�ใหม่ใน รูปแบบต่าง ๆ ทำ�ให้พวกเขาไปเคยหายไปจากใจ จากจินตนาการของเด็กทุกคน มาดูกันต่อค่ะ ว่า ยังมีตัวการ์ตูนใดอีกบ้าง

ตุก๊ ตาบาร์บ้ี รูธ แฮนเลอร์ ได้รบั แรงบันดาลใจ ในการประดิษฐ์ตุ๊กตาบาร์บี้มาจากลูกสาว หลัง จากเธอสั ง เกตเห็ น ว่ า บาร์ บ าร่ า ลู ก สาวของ เธอชอบเล่ นตุ๊ ก ตากระดาษ และให้ ตุ๊ ก ตาทำ � สิ่ ง ต่ า ง ๆ เหมื อ นที่ ผู้ ใหญ่ ทำ � เธอจึ ง คิ ด ที่ จ ะ สร้ า งตุ๊ ก ตาผู้ ห ญิ ง ที่ มี รู ป ร่ า งเป็ น ผู้ ใหญ่ เมื่ อ แฮนเลอร์มโี อกาสเดินทางไปเทีย่ วในยุโรป เธอก็ไป สะดุดตากับตุก๊ ตา “ไบล์ด ลิลลี” ของเยอรมนี (ตุก๊ ตา หญิ ง สาววั ย ทำ � งานที่ ว างจำ � หน่ า ยครั้ ง แรกใน เยอรมนี โดยเป้าหมายทางการตลาดในตอนแรก 10 | happy+

ต้องการเจาะกลุม่ ผูใ้ หญ่ แต่กลับได้รบั ความนิยม ในหมู่เด็ก ๆ มากกว่า) และซื้อกลับบ้านมา 3 ตัว ซึ่งนำ�มาเป็นต้นแบบในการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ จากนัน้ แฮนเลอร์กด็ ดั แปลงเปลีย่ นโฉมตุก๊ ตา ลิลลีใหม่หมด พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “บาร์บี้” ตาม ชื่อของลูกสาวเธอ และด้วยความช่วยเหลือของ แจ๊ก ไรอัน ที่นำ�ตุ๊กตาบาร์บี้ไปออกแสดงในงาน American International Toy Fair ที่นิวยอร์ก เมื่อปี 2502 ซึง่ ถือเป็นวันเกิดอย่างเป็นทางการของบาร์บี้ บริษัท แมทเทล อิงค์ คือผู้ได้รับสิทธิ์ในการ ผลิตบาร์บี้ โดยรุน่ แรกเป็นบาร์บใี้ นชุดว่ายนํา้ ลาย ทางขาวดำ�แบบม้าลาย ผมสีบลอนด์ยาวตรงและ มีผมหน้าม้า เป็นตัวแทนของวัยรุ่นที่รักแฟชั่น เสื้อผ้าทุกชุดออกแบบโดยดีไซเนอร์ของแมทเทล เมือ่ วางตลาดในปีแรกมียอดขายสูงกว่า 350,000 ตัว ถึงวันนีป้ ระมาณการว่ามีบาร์บกี้ ว่า 1,000 ล้านตัว ที่วางขายใน 150 ประเทศทั่วโลก และแล้วเรื่องราวของบาร์บี้ก็ถูกสร้างสรรค์ ขึ้นเพื่อส่งเสริมการขาย สาวน้อยคนนี้มีชื่อจริงว่า บาร์บี้ มิลลิเซนต์ โรเบิร์ตส์ เกิดที่มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ต่อมาแมทเทลก็ส่งครอบครัวและ เพื่อน ๆ มาเพิ่มเพื่อไม่ให้บาร์บี้ต้องโดดเดี่ยว เริ่ม ด้วย เคน (เคน คาร์สัน) แฟนหนุ่ม และครอบครัว ของเธอ อันได้แก่ น้องสาว 5 คน พร้อมทัง้ เพือ่ นสนิท อย่าง มิดจ์ นอกจากนัน้ บาร์บไี้ ด้เข้าเรียนในระดับ ไฮสกู ล ที่ เ มื อ งวิ ล โลวส์ มลรั ฐ วิ ส คอนซิ น

เริ่มออกเดตกับเคนในปี 1961 ทั้งสองเป็นคู่รักที่ สวีตกันมาตลอดกว่า 40 ปี แต่ต่อมาโฆษกของ บริษทั แมทเทลก็สร้างความตกตะลึงแก่แฟนบาร์บี้ ทั่วโลก ด้วยการประกาศข่าวการแยกทางของ บาร์บแี้ ละเคน หลังจากนัน้ บาร์บกี้ ใ็ ช้ชวี ติ สาวโสด อย่างสนุกสนาน ตามเทรนด์แฟชัน่ ทีเ่ ข้ามาในแต่ละปี นอกจากเป็นตุ๊กตาแล้ว บาร์บี้ยังถูกทำ�เป็น ซีรีส์และภาพยนตร์แอนิเมชัน ปี ค.ศ. 1987 บาร์บี้ มาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันครัง้ แรกในรูปแบบ 2D ชื่อเรื่องว่า “Barbie and the Rockers : Out of this World” ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 ถูกนำ�มาทำ�เป็น ภาพยนตร์แอนิเมชัน 3D มีชื่อเรื่องว่า “Barbie in the Nutcracker (บาร์บี้ อิน เดอะ นัตแครกเกอร์)” และยังมีบทบาทการแสดงอีกหลากหลาย เช่น เจ้าหญิง นางเงือก นางฟ้า และการพลิกบทบาท ของบาร์ บี้ ใ นบทร้ า ย ที่ ชื่ อ ว่ า “อี เดน” จาก เรื่อง “Barbie in a Christmas Carol (บาร์บี้กับ วันคริสต์มาสสุดหรรษา)” มีนสิ ยั ขีโ้ วยวาย เอาแต่ใจ แถมยังเห็นแก่ตัวราวกับนางร้ายเลยทีเดียว จากวันนัน้ จนถึงวันนี้ บาร์บกี้ ย็ งั คงเป็นตุก๊ ตา ทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ ในโลก เป็นขวัญใจ เป็นเพือ่ น และเป็ น แบบอย่ า งให้ กั บ เด็ ก ผู้ ห ญิ ง มากมาย ทั่วโลกตลอดมา อาราเล่ โนริมากิ อาราเล่ เป็นตัวละครใน การ์ตูนเรื่อง ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ เป็น การ์ตูนญี่ปุ่นที่วาดโดย อากิระ โทริยามา แจ้ง เกิดเมื่อปี 2524 ช่วงแรกที่ออกอากาศทางทีวี อาราเล่มีผมสีนํ้าเงินม่วง กระทั่งมาเป็นการ์ตูน แอนิเมะ ในปี 2540 สีผมเปลีย่ นมาเป็นนํา้ ตาลเข้ม อาราเล่เป็นหุน่ ยนต์ที่ ดร.เซมเบ้ สร้างขึน้ มา เป็นเด็ก ผู้หญิงซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพนกวิน นิสัยร่าเริง และมีพลังอย่างมหาศาล ชื่ออาราเล่นั้นตั้งมา จากชื่อขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายขนม เซมเบะ แต่มีขนาดเล็กกว่า เป็นนัยว่าเป็นลูกของ ดร.เซมเบ้ ส่วนคำ�ว่า โนริมากิ แปลว่า “ห่อด้วย สาหร่าย” เรื่องราวของ ดร.สลัมป์ที่เป็นการ์ตูน


มังงะ เน้นไปทีก่ ารผจญภัยสนุกสนานและความห้าว แบบไร้เดียงสาของอาราเล่ อาราเล่ เป็ น หุ่ น ยนต์ แ อนดรอยด์ ลํ้ า ยุ ค ที่ ดร.สลัมป์สร้างขึ้น เนื่องจากสร้างหัวก่อน ทำ�ให้ อาราเล่เรียนรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ จากทีวี การจ้องมองทีวที ง้ั วัน ทั้งคืนเลยทำ�ให้อาราเล่สายตาสั้น และต้องสวม แว่ นตา ชอบทำ�ตั ว รุ น แรงเลี ย นแบบรายการ มวยปลํา้ ในทีวี ความสามารถพิเศษของอาราเล่คอื พลั ง อั น แข็ ง แกร่ ง และวิ่ ง เร็ ว เหมื อ นติ ด เทอร์ โบ อาราเล่ชอบพูดทักทายกับทุกคนว่า ดีจา้ เป็นประจำ� และคำ�อุทานสุดฮิตของอาราเล่คือ โอ๊ะ โยะ โย๋ อาราเล่เป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริง แต่ด้วยความที่เป็น หุน่ ยนต์ ไม่วา่ เวลาเธอจะทำ�อะไรมักทำ�ให้หมูบ่ า้ น เพนกวินเดือดร้อนเสมอ ตั้งแต่สัตว์ไปถึงคน การ์ฟีลด์ เป็นที่รู้จักจากการ์ตูนช่องเรื่องสั้น เขียนโดย จิม เดวิส ตัวละครนำ�ในเรื่องได้แก่ เจ้ า แมวอ้ ว นการ์ฟีล ด์ เจ้า หมาน้อยโอดี้ และ หนุม่ ผูเ้ ป็นเจ้าของเจ้าการ์ฟลิ ด์และโอดี้ จอน อาร์บคั เคิล้ ในปี ค.ศ. 2006 การ์ ตู น ช่ อ งเรื่ อ งการ์ ฟี ล ด์ ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กว่า 2,570 ฉบับทั่วโลก หนังสือกินเนสส์บุ๊กได้บันทึกว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็น การ์ ตู นช่ อ งที่ ได้ รั บ การตี พิ ม พ์ ม ากที่ สุ ด ในโลก การ์ฟลี ด์เกิดในวันที่ 19 มิถนุ ายน ค.ศ. 1978 ซึง่ เป็น วันปรากฏตัวครัง้ แรก ในปี 1983 การ์ฟลี ด์ถกู แปล เป็น 7 ภาษา มีขายใน 22 ประเทศทั่วโลก การ์ฟลี ด์เป็นเจ้าแมวอ้วนพันธุอ์ งั กฤษขนสัน้ สีส้ม มีลายสีดำ� มีความคิดเป็นของตัวเองและดู

จะมั่นใจในตัวเอง ด้วยนิสัยขวางโลก แต่ขี้เกียจ เป็นทีส่ ดุ 2 สิง่ ทีช่ อบทีส่ ดุ คือ การนอนและการกิน โดยเฉพาะลาซานญ่ า ของโปรด นอกจากนี้ มันยังชอบดูทีวีและชอบแกล้งจอน เจ้าของและ โอดี้ เจ้าหมาน้อยคู่กัด การ์ฟีลด์ยังชอบแกล้ง บุรุษไปรษณีย์เล่น ๆ ชอบทุบแมงมุม อาหารว่าง ของมันคือ นกขมิน้ และนกส่วนใหญ่ทขี่ นาดพอคำ� ปฏิเสธที่จะจับหนู (และชอบเป็นเพื่อนกับหนู) แม้ จะดูว่ามันชอบกินไปซะหมด แต่สิ่งที่เกลียดมาก คือ ผักโขมและลูกเกด ส่วนที่ดีที่สุดของการ์ฟีลด์ คือ รักครอบครัว นัน่ คือเจ้านายและโอดี้ แม้ถงึ จะ กัดกันบ่อยแค่ไหนก็ตาม นอกจากนีค้ วามสำ�เร็จของการ์ฟลี ด์มไิ ด้หยุด แค่ในหนังสือพิมพ์ การ์ฟีลด์ยังปรากฏโฉมใน รู ป แบบการ์ ตู น คอมมิ ค การ์ ตู น แอนิ เ มชั น ภาพยนตร์และสินค้าลิขสิทธิ์อื่น ๆ อีกมากมาย หลายรูปแบบ ถือว่าเป็นการ์ตูนอเมริกันที่ประสบ ความสำ�เร็จที่สุดเรื่องหนึ่ง เซเลอร์มูน เป็นชื่อของตัวการ์ตูนผู้หญิง ทีว่ าดโดย นาโอโกะ ทาเคอุจิ ลงตีพมิ พ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารนาคาโยชิ ฉบับรวมเล่ม มีความยาว 18 เล่ม และยังมีการ์ตูนที่แตกออกจากเรื่องนี้ อีกมากมาย ปรากฏในสื่อหลายประเภท เช่น ภาพยนตร์แอนิเมะ, ละครเวที, เกม และละคร โทรทัศน์ ทั้งแบบการ์ตูนและคนแสดง เรื่ อ งเซเลอร์ มู น เป็ น เรื่ อ งราวของผู้ พิ ทั ก ษ์ อาณาจั ก รในระบบสุ ริ ย จั ก รวาลที่ ถู ก ทำ�ลาย

และการต่อสู้กับอำ�นาจชั่วร้ายของเหล่าผู้พิทักษ์ ในชุดกะลาสี วันหนึ่งในเมืองอาซาบุจูบัง สึคิโนะ อุซางิ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่แสนจะ ซุม่ ซ่าม เรียนไม่ดี เล่นกีฬาก็ไม่เก่ง ได้พบกับลูนาร์ แมวดำ�ที่ดูประหลาด และมีรูปพระจันทร์เสี้ยว ที่หน้าผาก ลูนาร์ได้มอบปากกาและเข็มกลัด วิเศษให้แก่อุซางิ ทำ�ให้เธอสามารถแปลงร่างเป็น เซเลอร์มูน เข้าต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อรักษาความ สงบสุขของโลก ร่วมกับพรรคพวกอัศวินเซเลอร์ คนอืน่ ๆ ทีป่ รากฏตัวขึน้ มาในภายหลัง ซึง่ การ์ตนู เรื่องนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างเนื้อเรื่องที่ โรแมนติกแบบการ์ตูนผู้หญิง กับฉากการต่อสู้ กับเหล่าร้ายที่ส่วนใหญ่จะพบเห็นแต่ในการ์ตูน ผู้ชาย ทำ�ให้เซเลอร์มูนได้รับความนิยมอย่างสูง ในหมู่เด็กผู้หญิง โดยหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มทั้ง 18 เล่ม มียอดขายรวมสูงถึงกว่า 12 ล้านเล่ม และเมื่อ นำ�มาสร้างเป็นภาพยนตร์อานิเมะที่ออกอากาศ ทางโทรทัศน์ เซเลอร์มูนก็ยิ่งมีกลุ่มผู้ชมที่กว้าง มากขึ้น จนได้ออกอากาศติดต่อกันนานถึง 5 ปี เพราะแฟน ๆ เรียกร้องให้สร้างภาคแอนิเมะฉาย ทางโทรทัศน์ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเนื้อเรื่องได้ จบบริบูรณ์ในภาค Stars นอกจากเป็นหนังสือ การ์ตูน เป็นการ์ตูนอานิเมะแล้ว เซเลอร์มูนยังมี ตุ๊กตา โมเดลต่าง ๆ และอุปกรณ์ของเล่นที่ใช้ใน การแปลงกายหรือต่อสูข้ องเซเลอร์มนู ผลิตออกมา จำ�หน่ายมากมายอีกด้วย happy+ | 11


เต้าหู้ผัดพริกแกงไก่สับ เรือ่ ง : Nasry

คุณค่าทางอาหาร เต้ า หู้ ถั่ ว เหลื อ ง มี สารอาหารทีช่ ว่ ยปรับ สภาพของฮอร์ โ มน ในช่วงมีประจำ�เดือน ให้ ค งที่ ลดอาการ ไม่สบายตัว อาการหงุดหงิด หรือการอักเสบของ ช่องคลอดได้อีกด้วย

ฉบับนี้เรามาทำ�เมนู “เต้าหู้ผัดพริกแกงไก่สับ” กันดีกว่าค่ะ อาหาร ไทยรสเด็ดกับเต้าหูห้ นั่ ชิน้ ขนาดพอดีคำ� ทอดจนสุกกรอบ เหลือง รสเผ็ดจัดจ้าน หอมกลิ่นสมุนไพรที่อบอวลอยู่ในกระทะ ชวน นํ้าลายสอสุด ๆ ถือเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำ�หรับทุกเพศ ทุกวัย ให้ประโยชน์สูง ทานง่ายและอร่อยด้วย สัมผัสได้ถึง รสกลมกล่อมที่ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัวสุด ๆ เลยค่ะ

เมนูงา่ ย ๆ ทำ�ทานแบบเร่งด่วน กับเต้าหูผ้ ดั พริกแกงไก่สบั เป็นได้ทง้ั อาหารจานเดียว หรือ จะทำ�เป็นกับข้าวก็ได้เช่นกัน ขัน้ ตอนแรกเรามาเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ ไว้กอ่ น โดยการนำ� เต้าหูม้ าหัน่ เป็นชิน้ ๆ ขนาดพอดีค�ำ จากนัน้ นำ�กระทะตัง้ ไฟ ใส่นา้ํ มันมะกอกประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เมือ่ นํา้ มันเริม่ ร้อนแล้ว ให้น�ำ เต้าหูท้ เ่ี ตรียมไว้มาทอดด้วยไฟกลางให้สกุ ทัว่ เมือ่ สุก ดีแล้วนำ�ขึน้ มาสะเด็ดนา้ํ มันทิง้ ไว้สกั ครู่ จากนัน้ นำ�กระทะตัง้ เตาเปิดไฟกลาง ใส่นา้ํ มันมะกอก ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงไปผัดให้ทว่ั จนเหลืองดี ใส่ไก่สบั ตามลงไปผัดให้สกุ ใส่ พริกแกงลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยถัว่ ฝักยาวหัน่ ท่อน ปรุงรสด้วยนํา้ ปลา นํา้ ตาล ชิมรส ตามชอบ ผัดพอสุก ใส่เต้าหูท้ ท่ี อดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยการใส่ใบมะกรูดลงไปผัด ใส่จานพร้อมเสิรฟ์ โรยหน้าตกแต่งด้วยต้นหอม ผักชีเพือ่ เพิม่ ความน่ารับประทาน ไม่ยาก เลยใช่ไหมคะสำ�หรับเมนูน้ี ลองทำ�ทานกันดูสกั ครัง้ จะติดใจแน่นอนค่ะ

นํ้ามันมะกอก ช่วยป้องกัน เนื้องอกที่เกิดกับอวัยวะบาง ส่วน เช่น เต้านม ต่อมลูก หมาก ลำ�ไส้ใหญ่ ปีกมดลูก เนื่ อ งจากกรดไขมั น ที่ มี อ ยู่ ในนํ้ า มั น มะกอกช่ ว ยยั บ ยั้ ง อนุมูลอิสระ และช่วยต่อต้าน การก่อตัวของติง่ เนือ้ ในอวัยวะ ต่าง ๆ ถั่วฝักยาว ช่วยป้องกันและ รั ก ษาโรคเลื อ ดออกตาม ไรฟัน มีวิตามินซีช่วยเสริม สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการ เกิดโรคหวัด ใบมะกรูด มีสรรพคุณช่วย ยับยั้งหรือชะลอการขยายตัว ของเซลล์มะเร็ง ช่วยต่อต้าน มะเร็งได้ เนื่องจากใบมะกรูด อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ผักชี ช่วยลดนํ้าตาลในเลือด จึ ง เหมาะกั บ ผู้ ป่ ว ยเบาหวาน และผูท้ กี่ �ำ ลังลดนํา้ หนัก อีกทัง้ ยังเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยให้ ขับถ่ายคล่องมากขึ้น



The Boss Foundation เรื่อง : ทูน หิรัญทรัพย์

โครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” We Change World Change โครงการ “เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน” ขั้นที่ 1 ได้อบรมให้ความรู้กับเยาวชนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 75 (เฉลิมพระเกียรติ) เมื่อวันที่ 29-30 กันยายน 2560 และโรงเรียนไทยรัฐ 55 (วัดโบสถ์ดอนพรหม) ในวันที่ 9-10 ตุลาคม 2560 ต้องขอขอบคุณผู้บริหารสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่เห็นถึงความสำ�คัญของ การเปลี่ยนแปลง พัฒนาเยาวชนให้มีส่วนร่วมในชุมชน สังคม ประเทศ โดยการปลูกจิตสำ�นึก ปูรากฐานของกระบวนการความคิด ความคิดที่แตกต่าง การเรียนรู้ทักษะการผลิตสื่อรณรงค์ประเภทต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรณรงค์อย่างยั่งยืน โดยให้เยาวชนคิด วางแผน ออกแบบ สร้างสรรค์ด้วยตนเอง ซึ่งนำ�มาสู่ ความภาคภูมิใจ และสามารถนำ�เผยแพร่ออกสู่สื่อสาธารณะต่อไปในอนาคต ได้อย่างภาคภูมิใจ การสร้างเยาวชนให้เป็นผู้นำ�การเปลี่ยนแปลงภายใต้การ สนับสนุนจากทางมูลนิธิเดอะบอสส์ ซึ่งมองเห็นถึงความสำ�คัญของเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเยาวชนได้ที่ 09-2278-8355 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ycmcenter.com 14 | happy+


happy+ | 15


healthy planet เรื่อง : Patty Pom

สาเหตุของการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

ภาวะหัวใจล้มเหลว รู้ก่อนรักษาได้ ภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นภัยเงียบที่น้อยคนนักจะรู้ตัวและรักษาได้ทันท่วงที โรคนี้มีแนวโน้มจะมี อัตราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก และ 1 ใน 5 คน จะมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ในช่วงใดช่วงหนึ่ง ของชีวิต ดังนั้นการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาวะหัวใจล้มเหลวจึงมีความสำ�คัญ เพื่อลด ความเสีย่ งต่อการเกิดโรค เพราะภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นสาเหตุอนั ดับ 1 ทีท่ �ำ ให้ผทู้ มี่ อี ายุมากกว่า 65 ปี ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เสียค่าใช้จา่ ยทางสุขภาพมากขึน้ และเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวติ ได้มากถึง 2 ใน 3 เท่าของโรคมะเร็งระยะรุนแรง เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำ�ไส้ ภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นภาวะทีเ่ กิดจากความผิดปกติของโครงสร้างหรือการทำ�งานของหัวใจ ทำ�ให้ ร่างกายอ่อนแอ และทำ�ให้มีโอกาสเกิดอาการที่ทำ�ให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากหัวใจไม่สามารถ สูบฉีดเลือดไปเลีย้ งทัว่ ร่างกายได้อย่างเพียงพอ สาเหตุสว่ นใหญ่เกิดจากการทีก่ ล้ามเนือ้ หัวใจ ซึง่ ทำ�หน้าที่ ในการสูบฉีดเลือดนั้นอ่อนแรงลง หรือมีการแข็งตัวของกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน 16 | happy+

สาเหตุ ที่ ทำ � ให้ เ กิ ด ความผิ ด ปกติ ข องการ ทำ�งานของหัวใจและนำ�ไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว ที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, กล้ามเนื้อหัวใจ อักเสบ, หัวใจพิการแต่กำ�เนิด, ภาวะหัวใจเต้นผิด จังหวะ, ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ความอ้วน, การดืม่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติด แต่โดยทั่วไปแล้วการเกิดโรคหัวใจมักเกิดจาก หลายสาเหตุร่วมกัน ให้คดิ ถึงภาวะหัวใจล้มเหลว ถ้าคุณมีอาการ ดังนี้ • ใช้หมอนจำ�นวนมากในการหนุนนอน ภาวะ หัวใจล้มเหลวอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการคั่งของ ของเหลวรอบ ๆ บริเวณปอด ซึ่งทำ�ให้หายใจ ลำ�บาก โดยเฉพาะเวลานอนตอนกลางคืน ผู้ที่มี ภาวะหัวใจล้มเหลวมักรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น ถ้า ได้นอนหลับในท่ากึ่งนั่ง • กิจวัตรประจำ�วันทำ�ให้รู้สึกเหนื่อย การทำ� กิจกรรมทัว่ ๆ ไป เช่น การขึน้ บันได การเดินซือ้ ของ ผู้ ป่ ว ยที่ มี ภ าวะหั ว ใจล้ ม เหลวจะเหนื่ อ ยมาก และสามารถจัดการกับอาการนีไ้ ด้ โดยการปรับเปลีย่ น การทำ�กิจกรรมต่าง ๆ • นํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยที่มี ภาวะหัวใจล้มเหลวจะมีการเพิ่มขึ้นของของเหลว ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุให้นํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว (2-3 กิโลกรัมในเวลาเพียง 2-3 วัน) • ข้อเท้าบวม ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว จะมีของเหลวคั่งบริเวณเท้าหรือข้อเท้า ทำ�ให้ใส่ รองเท้าได้ลำ�บากขึ้น


อาการของภาวะหัวใจล้มเหลว

• อาการเมื่อยล้า เนื่องจากหัวใจ ล้มเหลว เส้นเลือดตีบตัน ทำ�ให้จ�ำ กัดการ ส่งออกซิเจนทีไ่ ปเลีย้ งทัว่ ร่างกาย ส่งผล ให้ ผู้ ป่ ว ยรู้ สึ ก เหนื่ อ ย หรื อ อ่ อ นเพลี ย ผิดปกติ • หายใจไม่อมิ่ หรืออาการไอแห้ง ๆ ทั้ ง ในขณะที่ เ คลื่ อ นไหวหรื อ ขณะ ที่ พั ก ผ่ อ น มั ก เกิ ด ในเวลากลางคื น เป็นส่วนใหญ่ นอนราบไม่ได้ ต้องตื่น เนื่องจากหายใจไม่สะดวก ซึ่งเป็นผล จากการคั่ ง ของของเหลวในปอด จึ ง ทำ�ให้หายใจลำ�บาก • อาการบวมนํ้ า เนื่ อ งจากไต ทำ � งานผิ ด ปกติ เมื่ อ ไม่ ส ามารถส่ ง เลือดไปเลี้ยงที่ไตได้อย่างเพียงพอ ไต จะทำ�งานแย่ลง ทำ�ให้เกิดการคั่งของ ของเหลวทั่วร่างกาย เพราะรั่วซึมจาก หลอดเลือด เกิดอาการบวม กดแล้ว บุ๋มที่ขาหรือเท้า นํ้าหนักตัวเพิ่มมากขึ้น • แน่นท้อง ท้องอืด เนื่องจากเลือด คั่งในตับ ทำ�ให้ตับโต มีนํ้าในช่องท้อง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร

การรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว

ในขัน้ แรกต้องหาสาเหตุของโรคหัวใจ ทีท่ �ำ ให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และแก้ไขหรือรักษาโรคหัวใจชนิดนัน้ ๆ ก่อน ซึง่ จะทำ�ให้อาการของผูป้ ว่ ยจากภาวะหัวใจล้มเหลวดีขนึ้ การรักษาจะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย แพทย์ จะเป็นผูพ้ จิ ารณาวิธกี ารรักษาทีเ่ หมาะสมสำ�หรับผูป้ ว่ ยแต่ละราย เช่น การปรับเปลีย่ นพฤติกรรมการดำ�เนินชีวติ การรักษาด้วยยา การผ่าตัด • ถ้าผูป้ ว่ ยมีภาวะหัวใจล้มเหลว ทีเ่ กิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทีม่ ผี ลทำ�ให้กล้ามเนือ้ หัวใจขาดเลือด ก็รักษาโดยการทำ�บอลลูนหลอดเลือดหัวใจ หรือผ่าตัดตัดต่อหลอดเลือดหัวใจนั้น • ถ้าผู้ป่วยมีโรคหัวใจ จากโรคความดันโลหิตสูง ก็ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยการไม่ ใช้ยาและการใช้ยารักษาร่วมกัน • ถ้าผู้ป่วยมีโรคลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ ก็รักษาด้วยการผ่าตัดลิ้นหัวใจ • ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจจากโรคพิษสุราเรื้อรัง ก็แนะนำ�ให้งดเหล้า การรักษาที่สำ�คัญอีกวิธีหนึ่งก็คือ การรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวแบบไม่ใช้ยา วิธีการง่าย ๆ ก็คือ ผู้ป่วยจะ ต้องพยายามลดปริมาณเกลือในอาหารทีร่ บั ประทาน ให้นอ้ ยทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะทำ�ได้ และวิธปี ฏิบตั ใิ นการลดปริมาณ เกลือ ได้แก่ • งดการใส่นํ้าปลา เกลือ ซีอิ๊ว นํ้ามันหอย ผงชูรสและผงปรุงรสทุกชนิดในอาหารที่ทำ�รับประทานเอง • งดเว้นการซื้ออาหารนอกบ้านรับประทาน ยกเว้นว่าต้องให้ผู้ประกอบอาหารงดใส่เครื่องปรุงรสเค็ม ทุกชนิดลงในอาหาร • ควรงดอาหารแห้ง ของหมัก ของดอง หรืออาหารสำ�เร็จรูปทุกชนิด เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีเกลือเป็น ส่วนประกอบ เพื่อป้องกันอาหารเน่าเสีย อาหารดังกล่าว เช่น หมูหยอง หมูแผ่น ปลาสลิดทอด เนื้อแดดเดียว ปลาตากแห้ง ผักดอง ไข่เค็ม ขนมปังและเบเกอรี เป็นต้น ถ้าเราเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในเรื่องของภาวะหัวใจล้มเหลวและอาการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ก็อาจจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะดังกล่าวจัดการกับอาการต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทำ�ให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดอัตราการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะหัวใจล้มเหลว • www.everybeatmatters.in.th • www.facebook.com/everybeatmatters.in.th • www.youtube.com/everybeatmatters ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.อรวรรณ อนุไพรวรรณ สถาบันโรคทรวงอก และบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำ�กัด

happy+ | 17


นํ้ามันมะกอก ช่วยลดอัลไซเมอร์

นํ้ามันมะกอกเป็นส่วนประกอบที่สำ�คัญของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ที่บริโภคกันมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว และยังมีคณ ุ ประโยชน์มากมายมหาศาล หนึง่ ในคุณประโยชน์ของนํา้ มันมะกอกบริสทุ ธิส์ กัดเย็น หรือ Extra Virgin Olive Oil เป็นอีก กุญแจสำ�คัญในการป้องกันสมอง ต่อความเสีย่ งในการป่วยด้วยโรคความจำ�เสือ่ มหรืออัลไซเมอร์ได้ โดยทีมวิจยั ของ Temple University ได้นำ�นํา้ มันมะกอกบริสทุ ธิส์ กัดเย็นไปทดสอบในหนูทดลอง พบว่านํา้ มันมะกอกจะเข้าไปปกป้องสมอง ในส่วนทีค่ วบคุมการจดจำ�และการเรียนรู้ และลดการก่อตัว ของโปรตีนและกลุม่ เส้นใยเซลล์เยือ่ หุม้ สมอง รวมทัง้ ลดภาวะอักเสบและยับยัง้ กระบวนการ Autophagy หรือภาวะกลืนกินตัวเองของเซลล์ ทีเ่ ป็นสาเหตุของโรคความจำ�เสือ่ ม หรืออัลไซเมอร์ ทีม่ า : http://medicaldevices.oie.go.th/Article.aspx?aid=6860

จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)



happy people

ชีวิตไร้ขีดจำ�กัด

ยุทธนา เปื้องกลาง เรื่อง : ณัฐธิชา อามินเซ็น ภาพ : สุภชัย รอดประจง แต่งหน้า – ทำ�ผม : Atom Makeup สถานที่ : ร้าน Café @ เชียงใหม่ สาขาบางนา โทร. 09-2853-3508 www.facebook.com/AtChiangMaiCoffee ถ้าพูดถึงพระเอกเสียงดีมีดีกรีเป็นนักร้อง และขึ้นแท่นเป็น หนุ่มฮ็อตในเวลานี้ ชื่อของตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง คือชอยส์ที่ ถูกต้องที่สุด เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา เขามีละครให้เราได้ชมอย่าง ต่อเนื่อง แถมคิวยังแน่นไปจนถึงปีหน้า พอมีโอกาสได้เจอเจ้าตัว เราจึงไม่พลาดทีจ่ ะพูดคุยกับเขาถึงเรือ่ งราวต่าง ๆ ในชีวติ ให้แฟน ๆ ติดตามกันค่ะ 20 | happy+


happy+ | 21


happy people

22 | happy+


ในวันที่ฝันเกินจริง

เวทีประกวดไม่สามารถ ดูแลชีวติ ในวงการของ เราไปได้ทง้ั ชีวติ แต่มนั คือโอกาสมากกว่า พอมี โอกาสแล้วอยูท่ ว่ี า่ ต่อจากนี้ เราจะใช้ชวี ติ และดูแล ตัวเองอย่างไร

ตูมตาม-ยุทธนา พระเอกสุดหล่อที่มีเสน่ห์ เต็มเปี่ยมคนนี้ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจากการ เข้าร่วมการประกวดร้องเพลงรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 7 จนเขากลายเป็นทีร่ จู้ กั ในฐานะ ผู้ชนะเลิศ หลังจากนั้นตูมตามได้โอกาสแสดง ละครในบทบาทต่าง ๆ จนเป็นที่เข้าตาของใคร หลาย ๆ คน ทำ�ให้วันนี้เขาเป็นนักแสดงที่ผู้จัด ละครต้องการตัวมากที่สุดอีกคนหนึ่ง นั่นเพราะ ความสามารถที่มีคุณภาพเต็มร้อย “ความฝันแรกของผมอยากจะเป็นศิลปินที่ สร้างงานศิลปะ แค่ผมคิดแบบนี้คนแถวบ้านก็ ไม่มีใครชอบแล้ว เพราะที่ต่างจังหวัดเขาจะชอบ คนทีเ่ ป็นข้าราชการ ผมมีความคิดแหวกแนวสุด ๆ เขาก็ตั้งคำ�ถามว่าทำ�ไมต้องอยากทำ�อาชีพนี้ด้วย พอโตขึ้ น ช่ ว งมั ธ ยมปี ที่ 3-4 ก็ เริ่ ม เล่ น ดนตรี ทำ � ให้ มี อี ก ความฝั น คื อ อยากเป็ น นั ก ดนตรี เรียกว่าตอนนั้นผมเหมือนแปลกแยกจากคนใน ชุมชน พออยู่มัธยมปีที่ 5 ก็เริ่มประกวดจาก เวทีต่าง ๆ มากขึ้น ผมเลยลองไปสมัครที่เวที The Star ผมมาประกวดแบบทีค่ นแถวบ้านดูถกู ว่า เพ้อฝันและไม่มที างเป็นไปได้ ผมคิดว่าไม่แปลกที่ เขาจะคิดอย่างนัน้ เพราะการทีจ่ ะเป็นศิลปินดารา ได้นั้น เป็นเรื่องไกลตัวมาก เป็นเรื่องที่ผมไม่ควร ฝันเลยด้วยซํา้ พอผมทำ�สำ�เร็จ จากคำ�ดูถกู ต่าง ๆ เขาก็เข้าใจมากขึน้ ว่าทุกอย่างเป็นไปได้ และทำ�ให้ เขาก็ไปมองถึงลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปว่าก็สามารถ ทำ�ได้เหมือนกัน “การประกวดเป็ น เพี ย งช่ ว งเวลาสั้ น ๆ ช่วงเวลาหนึ่ง ที่เป็นเหมือนบททดสอบสำ�หรับเรา ว่า จะก้าวไปถึงจุดจุดไหนได้บ้างหรือเปล่า ผม ว่าการประกวดเป็นประตูแห่งโอกาสทีท่ �ำ ให้เราได้ เข้ามาในวงการ แต่ก็แค่ประตู ผ่านเข้ามาแล้วเรา ต้องเจออะไรอีกมากมาย เวทีประกวดไม่สามารถ ดูแลชีวิตในวงการของเราไปได้ทั้งชีวิต คือโอกาส มากกว่า พอมีโอกาสแล้วอยูท่ วี่ า่ ต่อจากนีเ้ ราจะใช้ ชีวติ และดูแลตัวเองอย่างไร จะมีพฤติกรรมกับการ ทำ�งานอย่างไร ผมอยู่ในวงการมา 6 ปี ค่อนข้าง เปลี่ยนวิธีคิดในเรื่องการทำ�งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกที่เข้ามาผมยอมรับเลยว่า ผมยังงง ๆ อยูว่ า่ เกิดอะไรขึน้ กับชีวติ บ้าง เพราะมีอะไรเข้ามา เยอะมาก จนผมตัง้ ตัวไม่ทนั เหมือนกัน มีงานเข้ามา แต่ผมเตรียมตัวไม่ทัน เหมือนผมไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่พอค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ พัฒนามากขึ้น

จนทำ�ให้ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมพร้อมมากในทุก ๆ อย่าง ผมเข้าใจแล้วว่า ทำ�ไมวันนีถ้ งึ ได้มงี านให้ท�ำ เยอะมาก เพราะผมเข้าใจและพร้อมจริง ๆ ครับ” แม้จดุ เริม่ ต้นของการเข้าสูว่ งการบันเทิงจะไม่ ได้ราบรืน่ สำ�หรับเขาเท่าไหร่นกั แต่เขาไม่เคยคิดที่ จะหยุดพัฒนาตัวเอง จนทำ�ให้วนั นีเ้ ขาหลงรักและ ทุ่มเทให้กับการเป็นนักแสดงอย่างจริงจัง “ผมไม่รเู้ หมือนกันว่า ผมมาถูกทางหรือเปล่า ที่เลือกเดินบนเส้นทางสายนี้ รู้แค่ว่ามันดีมาก สิ่ง ที่ดีคือ ผมรู้สึกชอบที่ผมเป็นตัวเองในวันนี้ ผม เป็นคนที่ดีขึ้นในการมองคนอื่น เมื่อก่อนผมอยู่ กับความกลัวเยอะมาก กลัวทำ�ไม่ได้ กลัวแต่งตัว ไม่หล่อ กลัวไปหมด แต่ทกุ วันนีผ้ มทิง้ ความกลัวไป หมดแล้ว ผมเลิกคิดอะไรพวกนัน้ แล้ว เหลือแค่เอา เวลาไปเจอผูค้ นหรือไปทำ�ความเข้าใจกับทุก ๆ คน ในชีวิต เหมือนผมต้องมีความสุขกับทุก ๆ คน มากกว่าที่จะยึดติดแต่กับเรื่องของตัวเอง การ ทำ�งานในวงการบันเทิงทำ�ให้มุมมองการใช้ชีวิต ของผมเปลี่ยนไปมาก ผมที่เติบโตขึ้นและเรียน รู้ว่า มันคือทัศนคติของเด็กคนหนึ่งที่ไม่มั่นใจใน ตัวเอง แล้วพอเริ่มทำ�งาน เริ่มเจอปัญหา เริ่มเจอ ผู้คน เราต้องเปลี่ยนทั้งวิธีคิดและวิธีพูด เปลี่ยน ทั้งมุมมองการใช้ชีวิต เรียกว่าทิ้งวิธีคิดเก่า ๆ ไป หมด เพราะว่าเป็นวิธีคิดที่ทำ�งานยาก จะรู้สึกว่า เราทำ�งานไม่ได้ ยืนข้างใครก็ไม่มั่นใจ พอเรา เปลี่ยนวิธีคิดให้เห็นคุณค่าในตัวเอง เราจะเห็นว่า จริง ๆ แล้วทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เราทำ�งาน ได้เหมือนกัน ไม่มใี ครมานัง่ ดูถกู ใครหรอก อย่าไป คิดมาก สุดท้ายผมก็สบายใจขึ้น ปรับปรุงตัวเอง มาจนถึงทุกวันนี้ “อาชีพนี้มีความท้าทายมากครับ เพราะได้ ทำ�ลายสถิติของตัวเอง อย่างละครเรื่องที่แล้วเรา เข้าใจในบทประมาณนี้เรื่องต่อไปเราต้องดีกว่า เดิม ต้องพัฒนาขึ้นและได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ กับ ทุกงาน ผมไม่ได้บงั คับตัวเองว่าต้องดีทสี่ ดุ แต่ผม จะไม่หยุดตัง้ คำ�ถามกับงาน หรือสิง่ ทีค่ วรจะรู้ ผม จะตัง้ คำ�ถามกับตัวเองบ่อย ๆ ว่าทำ�ไมละครแบบนี้ ตัวละครถึงคิดแบบนี้ ในฐานะนักแสดง ผมจะไม่ หยุดคิดเลย บางทีมนั เป็นเรือ่ งยาก ในการทำ�งาน การแสดงมีหลายครู หลายศาสตร์ เราเรียนมา แบบหนึ่ง สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคืออีกแบบหนึ่ง บาง ครั้งเราเอาความถูกต้องไปชนกับอีกคนหนึ่งไม่ได้ เพราะบางทีวิธีการทำ�งานต่างกัน สิ่งที่เราจะชนะ ณ ตอนนั้นไม่ใช่การที่ไปทะเลาะหาความถูกต้อง happy+ | 23


happy people

จากคนอื่น เราต้องทำ�ความเข้าใจให้ได้ว่า ทำ�ไม ฉันเป็นดาราแล้วจะอยู่เหนือใคร เป็นไปไม่ได้ ผม เขาถึงอยากให้เราทำ�งานออกมาแบบนี้ แล้วหาวิธี ว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมด” ให้ทำ�งานออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ อย่างที่ ไม่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น” โอกาสพลิกชีวิต ตูมตามมีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลงาน ความสุขที่เรียบง่าย เพลง ละคร ละครเวที ซิตคอมและภาพยนตร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอก หลายคนอาจจะคิด ไม่ห่างหายจากจอ ซึ่งเขาบอกว่า ถ้าไม่มีคำ�ว่า ภาพในหัวว่า เขาต้องใช้ชวี ติ หรูหรา แต่จริง ๆ แล้ว “โอกาส” เขาก็จะมาไม่ถึงวันนี้ เขายังใช้ชีวิตเรียบง่าย อีกทั้งยังมองว่า ตัวเอง “ผมไม่ ได้ ค าดหวั ง และไม่ ได้ ตั้ ง เป้ า หมาย เป็นเพียงบุคคลหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์งานบันเทิง อะไร แค่รู้สึกว่าต้องทำ�งานให้เต็มที่ มีโอกาสก็ เท่านั้น ทำ�ให้ดีที่สุด เราไม่รู้ว่าผลจะออกมายังไง ไม่รู้ว่า “การเป็นพระเอกคือสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ได้อยาก เราจะอยู่นานแค่ไหน รู้แค่ว่าเราต้องอยู่ในวงการ ทำ � ความเข้ า ใจกั บ มั น มาก เพราะผมรู้ สึ ก ว่ า อย่างมีประโยชน์ให้มากทีส่ ดุ ผมอยากเป็นตัวแทน พระเอกคือใครก็ได้ ทุกคนคือพระเอกอยู่แล้ว คนหนึ่งที่ทำ�ให้สังคม ทำ�ให้คนที่เขาดู ที่เขาชื่น ทางที่ผมเรียนมาเกี่ยวกับเรื่องของการแสดง ผม ชอบเรา ได้แง่คิดที่ดีกับการดำ�เนินชีวิตมากขึ้น รู้สึกว่าคำ�ว่าพระเอกมันไม่ใช่หน้าตา คือสิ่งที่เขา ผมอาจจะได้ถ่ายทอดผ่านผลงาน ผมไม่รู้ว่าเส้น กระทำ�มากกว่า ทุกคนคือพระเอกและนางเอก ทางจะไปได้ยาวแค่ไหน ผมไม่ได้สนใจ สิ่งสำ�คัญ ได้หมดเลย อย่างบางคนอาจจะทำ�งานหาเงิน คือเราต้องรู้ว่า ในงานหนึ่งงานเราทำ �เพื่ออะไร เลี้ยงครอบครัว เขาก็คือฮีโร่คนหนึ่ง คือพระเอก เราต้องรู้ว่าเนื้อแท้ของงานนั้นคืออะไร ละครเรื่อง ของบ้าน ฉะนัน้ ผมรูส้ กึ ว่าเป็นเรือ่ งของการกระทำ� หนึ่งอาจจะมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือความสุข มากกว่า ถ้าพระเอกในความหมายของคนทั่วไป ของคนดู ที่ได้รับความสนุกสนาน อย่างที่สองคือ ที่ ต้ อ งหน้ า ตาดี หล่ อ สวย เล่ น ละครก็ ต้ อ ง ละครได้สอนคน ผมเชื่อว่าละครที่เนื้อหาแรง ๆ เล่นบทนำ� แต่ผมไม่ซเี รียส ผมเล่นบทไหนก็ได้ ถ้า สามารถสอนคนได้ ถ้าเราตั้งใจจะทำ�ออกมาให้ เราทำ�ความเข้าใจกับมันจริง ๆ ทุกบทมีที่มาที่ไป ดีที่สุด มันสามารถทำ�ให้คนดูได้คิด อาจจะเป็น เราอาจจะไม่พูดอะไรเลยในเรื่อง แต่ตัวละคร เรื่องทางอ้อม ที่ไม่ได้ส่งผลโดยตรง แต่ผมเชื่อ ตัวหนึง่ ก็คอื หนึง่ ชีวติ ทีเ่ ติบโตมาและมีอะไรผ่านมา ว่าคนแอบได้ข้อคิดจากละคร นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึก เยอะมากแน่นอน ว่าผมอยากตื่นมาทำ�งานในทุก ๆ วัน ผมเชื่อว่า “ผมพอใจในสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ ผมรู้สึก เราไม่ค่ อยมีโอกาสที่ เราจะได้ ออกมาประกาศ ว่าเราได้ทำ�งานที่มีประโยชน์ ทำ�งานที่เราได้เห็น แล้วคนทั้งประเทศได้ดู แต่เราสามารถใส่ความ คุณค่าและได้ใช้ชวี ติ ด้วย ผมเป็นนักแสดงคนหนึ่ง รู้สึกในงานได้ ที่ผมจะทำ�อะไรหรือไปไหนก็ได้ เดินข้างถนนก็ได้ “บางครั้งเกิดความไม่เข้าใจว่าทำ�ไมผมถึงมี ผมไม่มกี รอบให้ตวั เองมากมาย ผมจึงรูส้ กึ ว่า นีค่ อื งานตลอด ในความเป็นจริง การทำ�งานก็ต้องมี การใช้ชวี ติ ทีแ่ ท้จริง ผมว่าคนทีจ่ ะมาอยูใ่ นวงการนี้ การแข่งขันกันอยู่แล้ว บางทีคนนั้นอยากทำ�งาน ได้นาน ๆ ต้องเป็นคนธรรมดา ที่ใช้ชีวิตให้ง่าย ชิ้นนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจเหมือนกัน แต่ ที่สุด เราต้องแยกให้ออกระหว่างงานกับหน้าตา ผมไม่คิดมาก เพราะว่าจุดเริ่มต้นไม่มีใครอยาก ทางสังคม หน้าตาทางสังคมคนอาจจะมองว่าเรา เอาผมมาเล่นละครเลย ก่อนหน้านีท้ กุ งานผมต้อง เป็นดารา อาจจะมองว่าเราเป็นคนทีห่ ล่อ สวย ดูดี ไปออดิชั่นตลอด แล้วในการไปเทสต์แต่ละครั้ง มีชอ่ื เสียง แต่สง่ิ ทีเ่ ป็นแก่นสารของการทำ�งานทุก ๆ วัน ผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาเรียกไปแล้วเราไปเล่นให้เขาดู ของเราคืออะไร เราถ่ายละคร เราเป็นนักร้อง อย่างเดียว ผมก็ต้องตั้งใจเพื่อให้ได้บทที่ต้องการ สิง่ ทีเ่ ราควรจะรักษาให้ดที สี่ ดุ คือ มาตรฐานในการ จริง ๆ เมื่อเขาเห็นว่าเราทำ�งานได้ พัฒนาตัวเอง ทำ�งาน ที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และต้องเป็นคนที่ อยู่เรื่อย ๆ เราตั้งใจจริงกับทุกงาน ผมไม่รู้ว่าเป็น น่ารักกับทุกคน เมืองไทยเราทุกคนคือพีน่ อ้ ง ไม่ใช่ เพราะเหตุผลเหล่านี้หรือเปล่า ที่เขายังให้โอกาส 24 | happy+


happy+ | 25


happy people

26 | happy+


เมืองไทยเราทุกคนคือ พี่น้อง ไม่ใช่ฉันเป็นดารา แล้วจะอยู่เหนือใคร เป็นไปไม่ได้ ผมว่า ทุกคนมีความเท่าเทียม กันหมด

ผมทำ�งานอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมก็ไม่ได้มา แรงผลักดันให้ก้าวต่อไป นั่งเล่าให้ใครฟังว่า ผมไม่ได้เป็นลูกรักที่เขาจะ ตูมตามเล่าต่อว่า ความฝันสูงสุดของเขา นึกถึง ผมก็ต้องพัฒนาตัวเองและทดสอบว่า ผม ไม่ใช่การเป็นซูเปอร์สตาร์ที่โด่งดัง แต่คือการเป็น ทำ�ได้ไหม บางงานผมทำ�ไม่ได้ก็ปฏิเสธไป เพราะ ลูกที่มี “เวลา” อยู่กับครอบครัว ผมรู้สึกว่าเสียเวลาเขา และเสียเวลาผมด้วย” “ผมไม่ได้ฝันว่าตัวเองต้องไปอยู่จุดไหน มัน เป็นสิง่ ทีอ่ ยากจะทำ�มากกว่า อย่างเร็ว ๆ นี้ อยาก มุมมองเปลี่ยนได้ด้วยธรรมะ จะมีเวลามากขึ้น อยากจะดูแลพ่อแม่ให้มากขึ้น แม้ตูมตามจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เขาได้นำ� กว่านี้ ผมรู้สึกว่ายิ่งผมโตขึ้นผมยิ่งไม่มีเวลาอยู่ หลักธรรมมาปรับใช้ในการทำ�งานและการใช้ชวี ติ บ้าน ไม่มีเวลาให้ครอบครัวมากนัก ผมอาจจะ ได้อย่างดีเยี่ยม ทำ�งานหนักไป อีกอย่างหนึ่งพ่อแม่ก็เริ่มแก่ลง “ผมชอบฟังคนทีม่ แี นวคิดในการใช้ชวี ติ และ ไปทุกวัน มีวันหนึ่งผมกลับบ้านไปตอนเที่ยงคืน ชอบศึกษาธรรมะมาก ๆ เพราะธรรมะสอนให้ เห็นแม่เดินลงมาเปิดประตู แม่หันหลังอยู่ผมคิด ผมแยกแยะได้ บางทีที่ผมเหนื่อยแล้วงงกับการ ว่า ทำ�ไมแม่เราแก่ไปเยอะขนาดนี้ จริง ๆ แล้วเรา ใช้ชีวิต มีคนเคยบอกว่าในขณะที่เราเดินทางไป เจอกันทุกวัน แต่ผมไม่ได้โฟกัสกับท่าน ผมบอกแม่ ถึงจุดหมาย เราเดินเพื่อที่จะมุ่งไปข้างหน้าเพียง ว่า แม่แก่ไปเยอะแล้วนะ (หัวเราะ) ทำ�ให้รู้วา่ เวลา อย่างเดียว อาจจะมีหลาย ๆ คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ผ่านไปเร็วมาก จนผมคิดว่าไม่ได้แล้ว ผมจะต้อง เรา ที่เขาพยายามผลักดันให้เราไปถึงจุดหมาย มีเวลาให้มากขึ้นกว่าเดิมให้ได้ เราอาจจะเผลอไปเหยียบเท้าใครตอนไหนก็ไม่รู้ และกลุ่ ม บุ ค คลที่ เ ป็ น กำ � ลั ง ใจสำ � คั ญ ผมว่ามันจริงมาก ๆ เราอาจจะมองแค่ปลายทาง สนับสนุนผลงานและคอยดูความสำ�เร็จของเขาใน เกินไป หรืออาจจะไม่โฟกัสอะไรรอบข้างเลย ลืม ทุกเรื่องก็คือ “แฟนคลับ” ซึ่งเขาบอกว่า ตื่นเต้น สนใจคนรอบข้าง บางครั้งมันเกิดขึ้นได้ สุดท้าย ทุ ก ครั้ ง ที่ ไ ด้ เ จอกั น และแฟนคลั บ ทำ � ให้ เ ขา คือเรื่องของสติ ที่จำ�เป็นต้องมีตลอดเวลา อยากเป็นคนที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน “ผมเป็นคนง่าย ๆ ที่เข้าใจยาก (หัวเราะ) ผม “กับแฟนคลับผมประทับใจมากครับ ความ เป็นคนที่ไม่ขัดแย้งใคร ใครพูดอะไร ใครอยากให้ ประทับใจแรกที่เจอกันคือ ตอนนั้นผมประกวด ทำ�อะไร ผมยินดีที่จะทำ� ถึงแม้บางครั้งผมรู้สึก อยู่ ผมได้เห็นแฟนคลับวิ่งกรูเข้ามาหา ซึ่งในชีวิต ไม่อยากทำ�ก็ตาม ผมแค่รู้สึกว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ คนคนหนึง่ เราไม่มคี นมาชืน่ ชม มารักหรือมากรีด๊ ซีเรียส ที่ผมเข้าใจยากเพราะระบบความคิดค่อน ขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมตกใจมากทำ�ให้ผมขนลุกไป ข้างแปลก อย่างเพื่อน ๆ เขาคุยกันเรื่องเกมหรือ หมดเลย วันนี้เราเป็นคนที่เขาชื่นชม ชื่นชอบแล้ว เรื่องอื่น ๆ ผมจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ผมมักจะไม่ เหรอ ทำ�ให้ผมรูส้ กึ ว่า ผมต้องเป็นคนทีด่ ใี ห้มากทีส่ ดุ เอ็นจอยกับสิง่ ทีเ่ พือ่ น ๆ เขาเอ็นจอยกัน สิง่ ทีท่ �ำ คือ เพราะเราอยู่บนความคาดหวังของคนเยอะมาก ผมแค่รับฟัง แต่ผมอยู่กับทุกคนได้ ไม่ใช่ปัญหา เราต้องทำ�ในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์กับทุกคน ใหญ่ ผมฝึกฝนเรื่องของการปรับตัวมาบ้างแล้ว เพราะเราอยู่ในจุดที่ทุกคนมองเห็น เหมือนกัน ผมชอบนัง่ อยูบ่ า้ นนิง่ ๆ อยูก่ บั ความคิด “ผมเคยเป็นคนที่หมดศรัทธากับคนมาแล้ว ชอบดูหนังชีวิต ที่ให้มุมมองที่ดี ผมว่ามันอิ่มอก เวลาทีเ่ ราศรัทธาใคร แล้วเขาทำ�ให้เราหมดศรัทธา อิ่มใจดี ชอบปรัชญาต่าง ๆ ชอบดูสิ่งต่าง ๆ ในตัวเขา มันรูส้ กึ แย่มาก ๆ แย่จนเราอาจจะล้มเลิก ฟั ง เพลงหรื อ อะไรก็ ต าม ยิ่ ง โตมายิ่ ง ชอบอยู่ ที่จะทำ�ความดี เป็นได้ขนาดนั้นเลย ฉะนั้นผม แบบนี้ กินกาแฟ อยูก่ บั บ้าน เราจะไม่คอ่ ยได้มโี อกาส เชื่อว่า เขาเห็นเรา เขาก็อยากจะทำ�สิ่งที่ดีในแบบ มาทบทวนตัวเองว่า เรารูส้ กึ อย่างไร เราทำ�อย่างไร ของเขา ถ้าเราทำ�ลายศรัทธาของเขา วันหนึ่งเรา เวลาอยู่ในสังคม แต่ผมจะเป็นคนเก็บอารมณ์ อาจจะแย่กว่านั้นก็ได้ บางทีเขาใช้เราเป็นจุดยึด ตัวเองไม่ได้ ถ้าผมรูส้ กึ ไม่ชอบต่อให้ผมไม่พดู ทุกคน เกาะว่า คนคนนี้เขาดำ�เนินชีวิตดี เขาเห็นเราเป็น รู้ทันทีว่าผมไม่ชอบ สีหน้าผมจะชัดเจนมาก ผม กำ�ลังใจ วันหนึ่งกลับมาแย่ มันอาจจะทำ�ลาย เป็นคนไม่มีเปลือกอะไรปิดบังความรู้สึกตัวเอง” ชีวติ ของใครหลายคนก็ได้ นีเ่ ป็นสิง่ ทีเ่ ราต้องระวัง” happy+ | 27


happy people

28 | happy+


ออกสู่โลกกว้าง

ถ้าใครได้ติดตามอินสตาแกรมของตูมตาม ก็จะเห็นได้ว่า เขาเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยว เพราะเขาชอบทีจ่ ะไปเจอสิง่ ใหม่ ๆ เรียนรูเ้ รือ่ งราว วิ ถี ชี วิ ต ของผู้ ค น ที่ มี ค วามเป็ น อยู่ แ ละสภาพ แวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป ณ สถานที่ต่าง ๆ “ผมชอบเดินทางท่องเที่ยวมากครับ ตั้งแต่ เด็ก ๆ พ่อแม่ชอบถามว่า ลูกเป็นอะไร เพราะผม ชอบจัดกระเป๋าเดินออกจากบ้านไปเล่น ไปเที่ยว ผมเป็นคนอยากเดินทาง ชอบแบ็กแพ็ก มันเป็น สิ่งที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็ก พอโตมาเริ่มมีกำ�ลังพอจะ ไปเทีย่ วเองได้ ผมก็เทีย่ วแบ็กแพ็ก เพราะสนุกมาก ครับ ได้เจอโลกใหม่ ผู้คนใหม่ ๆ เห็นสังคมใหม่ ๆ ผมชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่ได้พูดภาษาเดียว กับเรา แล้วต้องเอาชีวิตรอด บางทีก็ตลกตัวเอง เหมือนกัน หิวนํ้าต้องพูดอย่างไร คือจะได้เห็นวิธี การเอาตัวรอดของตัวเอง ถ้าผมพูดไม่ได้ ผมมีมอื ถือ ผมก็ ห าข้ อ มู ล ว่ า ต้ อ งพู ด อย่ า งไร ทำ � ให้ ผ มได้ เรียนรู้และพยายามทำ�ความเข้าใจกับอีกคนหนึ่ง ที่เชื้อชาติแตกต่างจากผม มันดีมากที่เราไม่รู้จัก กันเลย แต่ต้องมาพยายามที่จะสื่อสารกัน “ผมจะเที่ยวแบ็กแพ็กและออกเดินทางไป นาน ๆ อย่างล่าสุดผมเพิง่ ไปเอเวอเรสต์เบสแคมป์ มา บทสรุปคือความประทับใจ แต่ระหว่างทาง คือความทรมาน ผมเดินประมาณ 8-9 วัน ที่จริง จะเดิน 18 วัน แต่ผมดันป่วยเสียก่อน เลยนั่ง เฮลิคอปเตอร์ลงจากเขามา เคยมีคนถามเหมือนกัน ว่าไปทำ�ไม มันทรมานขนาดนี้ ถ้าคนศึกษาชีวิต ตัวเองมาก ๆ ถึงจุดหนึง่ จะรูส้ กึ ว่าเหลืออย่างเดียว ที่เรายังไม่ได้สัมผัสคือ ความตาย ถ้าเราลอง ไปสัมผัสจุดที่มันหายใจไม่ได้ เฉียดตาย เราจะ ได้สติกลับมาเยอะมาก จะรู้ว่าเรารักใคร หรือเรา มีใครในชีวิตที่เราคิดถึงบ้าง อะไรที่สำ�คัญ ทำ�ไม เราถึงรั้งตัวเองให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เราจะมอง บ้าน มองโลกและมองทุกคนเปลี่ยนไป จะเริ่มไม่ มองถึงตัวเองแล้ว เพราะว่าเราเห็นแล้วว่า วันหนึง่ ต้องตายจริง ๆ”

ความรักคือการให้เกียรติ

ส่วนเรื่องราวของความรัก เขาเล่าว่า เขา ไม่ได้เป็นผู้ชายที่โรแมนติก แต่เขาพร้อมจะสร้าง ความสุขกับคนที่เขารักในทุก ๆ วัน “ผมไม่ ไ ด้ ค าดหวั ง ในเรื่ อ งของความรั ก เท่าไหร่ครับ แค่อยากให้ดีเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน ผมอยากให้ทางเขาและเรามีความสุข อยู่ด้วยกัน แบบสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ ผมจะทำ�ให้ดีที่สุดเท่าที่ ผูช้ ายคนหนึง่ จะทำ�ได้ เพราะว่าคนเรากว่าจะจีบกัน หรือกว่าจะรัก มันก็ยากมากแล้ว แต่กว่าจะถึง วันสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันมันยากยิ่งกว่า เป็นความ ยากที่ก็มีเสน่ห์ของมัน ผมว่าทุกคนต้องเจอ การ เป็นแฟนกัน รักกันมันมีความคาดหวังมาก เลย มักจะผิดหวังกันเยอะขึ้น จะมีการเรียนรู้และรู้จัก กันอย่างไม่สิ้นสุด มีเรื่องให้แปลกใจอยู่บ่อย ๆ ว่ า คิ ด แบบนี้ ห รื อ มั น เป็ น บททดสอบที่ ย าก บางครั้งเราต้องไปเจอเรื่องที่ขัดใจมาก ๆ เรา จะผ่ า นไปได้ อ ย่ า งไร ผมชอบผู้ ห ญิ ง ที่ รั ก และ ให้ เ กี ยรติ ตั วเอง เป็ นคนที่ ค่ อ นข้างจะแข็งแรง ไม่เอาความสุขไปทิง้ ไว้ทใี่ คร สามารถใช้ชวี ติ อย่าง มีความสุขได้ดว้ ยตัวเอง ไม่ใช่วา่ ผมจะไม่ดแู ลเขา แต่หมายถึงว่าถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้วหรือไม่ได้ อยู่ใกล้ ๆ เขา เขาจะอยู่อย่างไร” เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มที่มีมุมมองทั้งเรื่องงาน และการใช้ชวี ติ ทีไ่ ม่ธรรมดา ทำ�ให้ไม่แปลกใจเลย ว่า ทำ�ไมตูมตามถึงมีผลงานครองใจแฟน ๆ และ มีคนรักมากมายขนาดนี้ และ happy+ ฉบับนี้เป็น ฉบับส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตูมตามจึงฝาก อวยพรผู้อ่านและแฟนคลับส่งท้ายอีกด้วย “ขอบคุ ณ แฟนคลั บ ที่ รั ก และเชี ย ร์ ผ มมา ตลอดครับ อยากให้รักและติดตามผลงานกันไป เรื่อย ๆ ผมจะทำ�งานให้ดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ผม สามารถตอบแทนทุกคนได้ดที สี่ ดุ ส่วนปีใหม่ขอให้ ทุกคนมีความสุขมาก ๆ ปีทดี่ อี ยูแ่ ล้ว ก็ให้เป็นปีทดี่ ี ขึน้ สำ�หรับทุกคน ขอให้เป็นปีทเี่ ริม่ ต้นทำ�สิง่ ใหม่ ๆ ที่ตัวเองอยากทำ�จริง ๆ นะครับ” happy+ | 29


happy heart

30 | happy+


บันทึกภาพ บันทึกความทรงจำ� นภันต์ เสวิกุล เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : สุภชัย รอดประจง หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ชาวไทยทั้งประเทศล้วนตก อยู่ในห้วงความรู้สึกเดียวกัน คือ ความรู้สึกสูญเสียบุคคลอันเป็นศูนย์รวมดวงใจของปวงชนชาวไทยทุกคน สื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จึงเป็นช่อง ทางหนึ่งที่ผู้คนใช้ในการแสดงออกถึงความรักและแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียในครั้งนี้ และในช่วงนั้นเอง มีเรื่องราวพร้อมกับภาพภาพหนึ่ง ถูกแชร์ออกไปเป็นจำ�นวนมาก นั่นคือ ภาพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงถือแผนที่ไว้ในพระหัตถ์ข้างหนึ่ง พร้อมทอด พระเนตรไกลออกไป อยูบ่ นฉากหลังทีเ่ ป็นทิวเขาอันแห้งแล้ง และผูท้ อี่ ยูเ่ บือ้ งหลังเรือ่ งราวและภาพถ่ายอันน่าประทับใจนี้ ก็คอื คุณนภันต์ เสวิกลุ ช่างภาพผู้เคยถวายงานบันทึกภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้งอดีตนั่นเอง วันนี้คุณนภันต์ จะมาเล่าถึงพระราชจริยวัตรอันงดงาม ความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาประเทศ เพื่อให้ชาวไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่านมุมมองของตนเอง ตลอดการทำ�งานรับใช้พระองค์ท่าน ในฐานะช่างภาพอาชีพคนหนึ่ง

ใต้เบื้องพระยุคลบาท

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จากยุคของกล้องฟิล์มที่ต้องใช้ฝีมือ ความรู้ และ ประสบการณ์ในการถ่ายภาพ มาถึงยุคของกล้อง ดิจิทัล ที่มีการตั้งค่าแบบอัตโนมัติ ทำ�ให้ใคร ๆ ก็สามารถถ่ายภาพได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่มี กล้องถ่ายภาพอยู่ในมือ จำ�นวนช่างภาพจึงเพิ่ม มากขึ้นกว่าสมัยก่อน เพราะหากย้อนกลับไป ประมาณ 40 ปีที่แล้ว ช่างภาพอาชีพมีน้อยคน จนแทบจะนับจำ�นวนได้ และคุณนภันต์กเ็ ป็นหนึง่ ใน ช่างภาพที่ได้รับโอกาสตามเสด็จพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อบันทึก ภาพการทรงงานในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย “สมั ย นั้ น ผมก็ เ ป็ น ช่ า งภาพคนหนึ่ ง ที่ ทำ�งานให้กับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือ การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) ตอนนั้นผมถ่ายภาพเพื่อ เผยแพร่ประเทศไทย ไปยังต่างประเทศ เพื่อให้ ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้น ‘‘ในช่วงปี พ.ศ. 2520 รัฐบาล โดยคณะ กรรมการเอกลักษณ์ของชาติ อยากจัดทำ�เรือ่ งราว พระราชกรณี ย กิ จ ของพระมหากษั ต ริ ย์ ใ น พระบรมราชจักรีวงศ์เพื่อเตรียมข้อมูลงานฉลอง กรุงเทพมหานครครบ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525

ก็เลยให้ทาง ททท. เข้ามาช่วย ทาง ททท. ก็ได้ มอบหมายงานในส่วนนี้มาให้ผม ทำ�ให้ผมได้ มีโอกาสตามเสด็จพระองค์ท่านไปยังที่ต่าง ๆ ประมาณ 6-7 ปี นับตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา “การที่เราได้รับมอบหมายงานแบบนี้ โดย ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นะ ตอนที่ได้ รับเลือกเข้าไปอยู่ในขบวนเสด็จฯ ก็รู้สึกตื่นเต้น ก็ พยายามศึกษาว่า ช่างภาพองค์กร หรือช่างภาพ จากหนั ง สื อ พิ ม พ์ อื่ นที่ ไ ด้ ต ามเสด็ จ ด้ ว ย เขา ทำ�งานกันอย่างไร? ในสมัยก่อนภาพแต่ละภาพ ทีเ่ กีย่ วข้องกับพระมหากษัตริยแ์ ละพระบรมวงศานุวงศ์ จะเป็ น ภาพ Medium Shot (ภาพถ่ า ยระยะ ปานกลาง ระยะภาพครึ่งตัวคน) เสียส่วนใหญ่ ภาพจะเห็นแค่ประมาณหน้าอกขึ้นไป เช่น ภาพ ที่พระองค์ท่านรับสั่งกับราษฎร แต่ก็จะทำ�ให้เรา ไม่ได้เห็นในรายละเอียดอื่น ๆ ที่ผมคิดว่าสำ�คัญ และเป็นเรือ่ งน่าประทับใจหรือตืน้ ตันใจอย่างยิง่ เช่น พระองค์ท่านประทับราบกับพื้นระหว่างที่พูดคุย กับชาวบ้าน เป็นต้น ซึง่ ภาพอย่างนัน้ ไม่คอ่ ยผ่าน ไปปรากฏให้เห็นตามสื่อต่าง ๆ หรือแม้แต่ข่าวใน พระราชสำ�นักทางโทรทัศน์ ด้วยความที่ยังเป็น คนรุน่ ใหม่ไฟแรง และผมทำ�งานให้กบั รัฐบาล ไม่ใช่ ช่างภาพจากหนังสือพิมพ์หรือจากองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องอยู่ตามกรอบมากนัก การถ่ายภาพของผม

ก็เลยอาจจะแปลกไปจากของคนอื่น ๆ แล้วการ ที่ทำ�อย่างนั้น ก็ค่อนข้างจะตรงกับวัตถุประสงค์ ของงานที่ ต้ อ งการภาพที่ แ ตกต่ า งจากภาพ ทั่วไป เพื่อนำ�มาเผยแพร่ผ่านงานของสำ�นักงาน เสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำ�นักนายกรัฐมนตรี แต่การนำ�เสนอภาพในรูปแบบใหม่นี้ ผมก็ถูก ติติงบ้างเหมือนกันว่าไม่เหมาะสม ผมก็น้อมรับ คำ�แนะนำ�ของผู้ใหญ่แต่ละท่านเอาไว้ ก่อนนำ� ภาพไปใช้ ก็ พ ยายามเลื อ กรู ป ที่ ส ามารถนำ � มา เผยแพร่ให้ทุกคนเห็นได้ แต่ภาพของผมก็จะเป็น ภาพที่มีมุมกว้างขึ้น เห็นถึงพระราชอิริยาบถของ พระองค์ทา่ นได้มากขึน้ หลังจากนัน้ ก็เริม่ มีชา่ งภาพ ท่านอื่น ๆ เห็นด้วย ทำ�ให้ภาพที่ถ่ายมีความ หลากหลายมากขึ้น”

ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ

ตลอดการทำ�งานรับใช้ใต้เบือ้ งพระยุคลบาท คุ ณนภั นต์ ได้ เห็ นถึ ง การทรงงานของพระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช อย่างใกล้ชดิ ทุกพืน้ ทีท่ มี่ คี วามเดือดร้อน ทุกพืน้ ทีท่ ี่ ห่างไกล ลำ�บาก พระองค์ทา่ นทรงฝ่าฟันเข้าไปถึง แสดงถึงพระราชวิรยิ อุตสาหะ และความมุง่ มัน่ อย่าง แรงกล้า เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความ ทุกข์ยากของประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ภายใน happy+ | 31


happy heart

แผ่นดินไทย “พระองค์ ท่ า นทรงทำ � ทุ ก อย่ า งเพื่ อ แก้ ไข ปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง เวลาเสด็จ พระราชดำ�เนินเยี่ยมเยียนราษฎรจะเข้าไปคุยกับ ผู้นำ�ชุมชน เช่น กำ�นัน หรือหัวหน้าครอบครัว คน ที่เป็นกำ�ลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว และจะ ทรงซักถามถึงปัญหาต่าง ๆ ด้วยพระองค์เองใน ทุก ๆ เรื่อง ทั้งการทำ�มาหากิน ปลูกข้าวได้ไหม มีนํ้าไหม ดินดีไหม ฝนตกไหม และที่จะทรงถาม เสมอก็คือ ‘อยากได้อะไร’ ที่พระองค์ท่านทรงทำ� อยูต่ ลอดเวลา คือ จะไม่เคยเข้าไปสัง่ ให้ตอ้ งทำ�นัน่ ต้องทำ�นี่ เช่น หมูบ่ า้ นหนึง่ เมือ่ เข้าไปเยีย่ มแล้วพบว่า คนในหมูบ่ า้ นนีต้ อ้ งการนํา้ พระองค์ทา่ นก็จะทอด พระเนตรแล้วว่า หากนำ�นํ้ามาให้หมู่บ้านนี้แล้ว หมู่บ้านอื่นที่อยู่ข้างเคียงจะเป็นอย่างไร จะเกิด ผลกระทบอะไรบ้างไหม จะทรงคิดทุกอย่างใน ภาพรวม เพื่อให้ทุกหมู่บ้านได้ประโยชน์ร่วมกัน อย่างสูงสุด ถ้าไม่เป็นไปอย่างที่ทรงคิดไว้ อาจจะ ทำ � ข้ อ ตกลงกั น เพื่ อ ให้ ส มประโยชน์ กั บ ทุ ก ๆ ฝ่าย ถึงจะพระราชทานให้ตามที่ขอ ทุกโครงการ ในพระราชดำ�ริจะเป็นลักษณะนี้แทบทั้งสิ้น จะ ไม่มีหมู่บ้านใดได้ประโยชน์ทั้งหมด ในขณะที่อีก หมู่บ้านหนึ่งไม่ได้อะไรเลย พระองค์ท่านจะไม่ ทรงทำ�แบบนั้น “หรื อ อย่ า งเช่ น การตั้ ง มู ล นิ ธิโ ครงการ หลวงขึ้นมา ก็สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงอยากให้ชาวเขา เลิกปลู ก ฝิ่ น เลิ ก ทำ � ลายทรั พ ยากรธรรมชาติ เลิ ก เผาป่ า ทำ � ลายแหล่ ง ต้ นนํ้ า ลำ � ธาร โดยให้ เปลีย่ นมาปลูกพืชปลูกผักปลูกต้นไม้ทดแทน และ ผลผลิตทีช่ าวเขาเหล่านีป้ ลูกได้ พระองค์ทา่ นก็ทรง รับซือ้ ไว้ และนำ�มาจำ�หน่ายเป็นผลผลิตทีเ่ รารูจ้ กั กัน ในชือ่ ดอยคำ� โดยตัง้ ราคาให้สงู กว่าหน่อย เพือ่ ทีจ่ ะ ไม่ต้องไปตัดราคาขายกับร้านค้ารายอื่น สามารถ นำ�เงินที่ขายผลผลิตเหล่านั้นกลับไปช่วยเหลือ ชาวเขา ให้สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้สามารถเลีย้ ง ตนเองได้ “ด้านสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม 32 | happy+

ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯ ไปเยี่ยมเยียนราษฎร พระองค์ท่านจะนำ�หน่วย แพทย์ เคลื่ อ นที่ ไ ปด้ ว ย เพื่ อ เข้ า ไปตรวจดู ว่ า ชาวบ้าน คนไหนไม่สบาย ก็จะให้แพทย์หลวงทำ�การ รักษา โดยพระองค์ท่านจะทรงซักประวัติคนไข้ เบือ้ งต้นด้วยพระองค์เอง และจะติดป้ายไว้วา่ คนนี้ มี อ าการอย่ า งไรบ้ า ง แพทย์ ที่ ต ามหลั ง มาก็ จะสามารถตรวจและรักษาได้เลยโดยไม่ต้องซัก ประวัติคนป่วยซํ้าอีกครั้ง ระหว่างที่พระองค์ท่าน ทรงซักถามคนไข้เหล่านั้นหรือราษฎร ก็จะทรง ได้รบั ทราบถึงทุกข์ยากของราษฎรแต่ละครอบครัว มาด้วย เช่น ครอบครัวนี้มีลูก 2 คน คนโตเป็น ผู้ชาย ช่วยพ่อแม่ทำ�นา ส่วนคนเล็กพิการเดิน ไม่ได้ ก็จะเป็นภาระของครอบครัว กรณีเช่นนี้ พระองค์ท่านก็จะทรงชักชวนให้มาเป็นนักเรียน ศิลปาชีพ เพราะถึงแม้ขาจะพิการเดินไม่ได้ แต่ มือและแขนยังดีอยู่ เมื่อตอบตกลง พระองค์ท่าน ก็จะส่งไปเรียนและฝึกฝนงานศิลปาชีพทีส่ ามารถ ทำ�ได้ เช่น การทำ�เครือ่ งเงิน วาดรูป หรือการปัน้ งาน ให้เป็นนักเรียนของศูนย์ศิลปาชีพ เมื่อทำ�ผลงาน ออกมาได้ พระองค์ ท่ า นจะรั บ ซื้ อ ไว้ ทั้ ง หมด ทำ � ให้ ค รอบครั ว นี้ มี เงิ น มาจุ น เจื อ ครอบครั ว ได้ อีกทางหนึ่ง “การให้ความช่วยเหลือหรือการแก้ปัญหา ของทั้งสองพระองค์ จะไม่ใช่การพระราชทานเงิน เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ แล้ ว จบ แต่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ นทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชได้ เคยตรั ส ไว้ ว่ า การช่ ว ยเหลื อ คนแบบนี้ จ ะเหมื อ นการ ถมทะเล คือ ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม จึงต้องช่วยเหลือ พัฒนาทั้งทางด้านอาชีพและส่งเสริมการเกษตร เพื่อทำ�ให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้”

เรื่องราวเบื้องหลังภาพถ่าย

กล้องถ่ายภาพเป็นเครือ่ งมือมหัศจรรย์อย่าง หนึ่งที่ช่วยเก็บภาพความประทับใจ ความทรงจำ� หรือความรูส้ กึ ณ ช่วงเวลานัน้ ๆ ได้ เมือ่ เรากลับมา ดูภาพถ่ายเหล่านั้นอีกครั้ง เรื่องราว อารมณ์ ความรูส้ กึ ทีซ่ อ่ นอยูใ่ นภาพ จึงสามารถย้อนคืนมา

ได้อีกครั้ง หากเปรียบเปรยว่าเหมือนกับกำ�ลังรับ ชม “ฉากหนึ่ง” หรือ “ช่วงหนึ่ง” ของภาพยนตร์ ก็คงไม่ผิดนัก คุณนภันต์ผู้เก็บบันทึกภาพถ่าย เมือ่ ครัง้ ยังตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงมีเรื่องราวเบื้องหลังภาพ มาถ่ายทอดให้เราได้รับฟังกัน “ผมถามตัวเองหลาย ๆ ครั้ง เมื่อครั้งที่ยัง ตามเสด็จฯ พระองค์ท่านว่า ทำ�ไมพระองค์ท่าน ถึงต้องทรงลำ�บากขนาดนี้ ทำ�ไมถึงต้องดั้นด้น เข้าไปในพื้นที่ทุรกันดาร ต้องกรำ�แดดตากฝนทน ร้อนทนหนาว “ผมตามเสด็จครั้งแรก เมื่อแปรพระราชฐาน ไปเยี่ ย มราษฎรในภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ วันหนึง่ พระองค์ทา่ นขับรถพระทีน่ ง่ั จากพระตำ�หนัก ภูพานไปเยี่ยมราษฎรที่อำ�เภอกุดบาก จังหวัด สกลนคร พอขบวนเสด็จฯ หยุด ผมก็วิ่งจากรถ ไปถึงบริเวณที่มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎร ก็ ยกกล้องขึ้น มองผ่านวิวไฟเดอร์แล้วเห็นภาพ พระองค์ท่าน ผมขนลุกเลย เพราะนั่นคือครั้งแรก ทีไ่ ด้ถา่ ยภาพพระองค์ทา่ น พอเห็นว่าพระองค์ทา่ น ทรงแย้มพระสรวล ผมเกิดความรูส้ กึ ตืน้ ตันใจมาก มือสั่น กดชัตเตอร์แทบไม่ลง หลังจากนำ�ฟิล์ม กลับมาล้าง พอนำ�แว่นขยายส่องดูฟิล์มสไลด์ ที่ถ่ายมา แล้วเห็นสายพระเนตรที่พระองค์ท่าน ทรงทอดไปยังราษฎรคนนั้น รู้สึกเลยว่าที่เรียกกัน ว่า ‘พระมหากรุณาธิคุณ’ นั้น เป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะเราสามารถมองเห็นความเมตตา ความ ห่วงใย อยู่ในนั้นอย่างชัดเจน เห็นแล้วต้องบอก ว่า ‘ชุ่มชื่นหัวใจ’ และตลอดการทำ�งานของผม ใน 6-7 ปีตอ่ จากนัน้ ไม่วา่ เป็นกลางฝน กลางแดด จะร้อน หรือจะหนาว สายพระเนตรของพระองค์ ท่ า นก็ จ ะเป็ น เช่ นนี้ ทุ ก ครั้ ง ไม่ เคยเห็ น ว่ า จะมี ตอนไหนสักครัง้ ทีจ่ ะเห็นว่าพระองค์ทา่ นเหน็ดหนือ่ ย หรือเบื่อเลย พระองค์ท่านจะทรงพระดำ�เนินเร็ว มาก สำ�หรับช่างภาพแล้ว อาจจะต้องบอกว่า ตามถ่ายรูปได้หนึ่งม้วน ภาพจะไหวใช้ไม่ได้ไป สักครึ่งม้วน ผมในฐานะช่างภาพสะพายกล้อง สามตัว ก็ตอ้ งวิง่ ตามให้ทนั เหนือ่ ยแล้วเหนือ่ ยอีก


happy+ | 33


happy heart

34 | happy+


อยากทราบเหมือนกันว่าทำ�ไมพระองค์ท่านจะ ต้องทรงพระดำ�เนินเร็วขนาดนั้น ...มาได้คำ�ตอบ จากนักข่าวต่างชาติที่มาด้วยกัน และเขากล้า ถามพระองค์ทา่ นด้วยคำ�ถามทีผ่ มอยากรูน้ แี่ หละ และคำ�ตอบของพระองค์ทา่ นก็คอื ‘...เพราะความ ทุกข์ยากของราษฎรนั้นรอไม่ได้’ ซึ่งเป็นคำ�ตอบที่ สมบูรณ์แบบในตัวเอง และสิ่งที่เราเห็นมาตลอด ก็เป็นเช่นนั้นว่า ทรงบำ�เพ็ญพระราชกรณียกิจอัน มากมายก็เพื่อต่อสู้กับความทุกข์ยาก ความเจ็บ ป่วย และทุกปัญหาของราษฎรมาตลอดระยะ เวลาอันยาวนานในรัชกาล “สำ�หรับรูปภาพทีพ่ ระองค์ทา่ นทรงถือแผนที่ ในพระหัตถ์ เป็นภาพที่ถ่ายที่บ้านแกน้อย อำ�เภอ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนั้นบ้านแกน้อย แห้งแล้งมาก มองไปทางไหนก็เป็นดินลูกรังแดง ฉานทั่วไปหมด ตอนเที่ยงวันนั้น พระองค์ท่านยืน ทอดพระเนตรแผนที่ แล้วจู่ ๆ ก็มลี มพัดแรง ฝุน่ แดง จากลมแรงปลิวคลุง้ ไปทัว่ ถึงกับทำ�ให้แผนทีห่ ลุด จากพระหัตถ์ พระองค์ท่านก็ทรงรวบแผนที่เอา ไว้ หลังจากนั้นก็ทรงถอดฉลองพระเนตรออกมา เช็ด ใส่กลับไปใหม่ แล้วทรงงานต่อเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึน้ ลมและฝุน่ ขนาดนัน้ ขนาดเรา ๆ ยังต้อง รีบตะครุบกล้อง ดึงเสื้อขึ้นมาคลุมเลย ขณะนั้น ผมกำ � ลั ง ถ่ า ยภาพพระองค์ ท่ า นอยู่ พ อดี จึ ง ได้ ภาพนั้นมา โดยที่ตัวเองก็นํ้าตากลบตา คือ ใน วินาทีนั้นแหละที่ถามตัวเองว่า ‘ทำ�ไมพระองค์ ท่านถึงต้องมาลำ�บากตรากตรำ�มากมายถึงขนาด นั้น’ ในวันรุ่งขึ้น หลังจากการเสด็จสวรรคต ผม ย้ อ นกลั บ ไปคิ ด ถึ ง เหตุ ก ารณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ที่ บ้ า น แกน้อย ก็เลยโพสต์รปู นีข้ นึ้ ไปในเฟซบุก๊ เล่าอธิบาย เหตุการณ์ให้ฟังอย่างที่เล่านี่แหละ หลังจากนั้นก็ มี ค นกดไลค์ กดแชร์ ออกไปเป็ นจำ� นวนมาก ผมคิดว่าทุกคนที่มาเห็นก็คงรู้สึกไม่ต่างกับผม ในวันนั้น “นอกจากนี้ ยังมีภาพที่หลาย ๆ คนอาจจะ เคยเห็นกันบ้างแล้ว คือ ภาพทีพ่ ระองค์ทา่ นทรงนัง่ พิงล้อรถ คุยกับชาวบ้านอยูบ่ นสะพาน ภาพนีถ้ า่ ย ตอนที่พระองค์ท่านทรงขับรถพระที่นั่ง ออกจาก

พระตำ�หนักทักษิณราชนิเวศน์ ซึง่ โดยปกติ การเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ก็ไม่มี ใครรู้ว่าแต่ละวันจะเสด็จฯ ไปที่ใด ระหว่างทาง พระองค์ทา่ นก็ทรงจอดเป็นระยะ ๆ จนกระทัง่ มาถึง ทุ่งนาแถวนั้น พระองค์ท่านก็ทรงหยุดรถพระที่นั่ง ทอดพระเนตรแผนที่ แล้วก็เสด็จฯ ลงไปพูดคุย กับชายคนหนึ่งที่นุ่งผ้าขาวม้ายืนอยู่แถว ๆ นั้น ทราบในภายหลังว่าชื่อ ลุงพร้อม หลังจากยืน คุยอยู่นานสองนาน จากนั้นก็เสด็จกลับขึ้นคุย กันต่อบนสะพาน สุดท้ายพระองค์ท่านเลยนั่ง พิงยางรถยนต์เลย คุยกันเกือบครึง่ ชัว่ โมงได้ ทำ�ให้ ช่างภาพที่ไปวันนั้นมีเวลาที่จะเลือกมุมถ่ายภาพ ให้ออกมาอย่างที่ตัวเองต้องการได้ เป็นอีกหนึ่ง ภาพที่ผมรู้สึกประทับใจ “ที่จริง เราจะสังเกตได้ว่า พระบาทสมเด็จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชโปรดการ ถ่ายภาพมาก เสด็จฯ ไหน ๆ ก็จะมีกล้องถ่ายรูป คล้องพระศอติดไปด้วยทุกครั้ง และระหว่างที่ ตามเสด็จฯ ผมจะเห็นพระองค์ทา่ นถ่ายภาพพืน้ ที่ ต่าง ๆ เช่น ภาพดินแห้งแล้ง ต้นไม้ตาย ภูเขา หัวโล้น ฯลฯ และรับประกันได้เลยว่า อีกไม่นานหลัง จากนัน้ จากภาพดินแห้งแล้ง ก็จะกลายเป็นชุม่ ฉํา่ หรื อ อาจจะกลายเป็ น อ่ า งเก็ บ นํ้ า จากภู เ ขา หัวโล้น ก็จะกลับอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยต้นไม้นานา พันธุ์ ขึน้ ปกคลุม ผมมองว่าเป็นภาพความสุขของ พระองค์ท่านจากประโยชน์ของการถ่ายภาพ แต่ เป็นความพอพระราชหฤทัยทีไ่ ด้ทอดพระเนตรเห็น ปวงพสกนิกรชาวไทยมีความสุข มีชวี ติ ทีด่ ขี นึ้ จาก โครงการต่าง ๆ นับร้อย นับพันที่ได้พระราชทาน แต่ไม่ใช่ความสุขอันเป็นส่วนพระองค์ และถ้าหาก อยากทราบว่ า การถ่ า ยภาพ ที่ เป็ น ความสุ ข ส่วนพระองค์เป็นอย่างไร ก็สามารถไปชมได้ที่ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจัดแสดง ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครตอนนี้ เช่ น รู ป ที่ พ ระองค์ ท่ า นทรงถ่ า ยภาพ สมเด็ จ พระนางเจ้าฯ และพระราชโอรสธิดาทุกพระองค์ และภาพอืน่ ๆ อีกมากมาย นัน่ คือ ความสุขอันเป็น

ส่วนพระองค์ทคี่ นไทยควรจะได้เห็น แล้วจะได้รวู้ า่ พระองค์ท่านมีความสุขส่วนพระองค์น้อยมาก ๆ เวลาทรงพระราชนิพนธ์เพลง หรือทรงดนตรียงั ไม่คอ่ ย จะมีเลย เพราะทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ของพระองค์ ท่านไปเพื่อพวกเราชาวไทยทุกคน ดูเอาเถอะว่า กีส่ บิ กีร่ อ้ ย กีพ่ นั แห่ง พืน้ ที่ หรือผืนดินแตกระแหง กีแ่ สนไร่ ทีไ่ ด้ทรงเปลีย่ นจากความแห้งแล้งให้เป็น ความอุดมสมบูรณ์ เปลีย่ นความท้อแท้สนิ้ หวังเป็น รอยยิ้ม เรียกได้ว่าทุกพื้นที่ ทุกหนแห่งที่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จ พระราชดำ�เนินไป ได้ทรงชุบชีวิตให้กลับคืนมา อย่างมีความหวัง ทั้งธรรมชาติและผู้คน “ตอนนี้ ผ มกำ � ลั ง ช่ ว ยทำ � หนั ง สื อ ประวั ติ โครงการหลวงทีน่ า่ จะพิมพ์เสร็จในเวลาอีกไม่นานนัก เป็นการรวมรวบภาพพืน้ ทีต่ า่ ง ๆ ในอดีตทีผ่ มเคย ตามเสด็จฯ ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์พัฒนา โครงการหลวง เช่น ศูนย์บ้านปางดะ ศูนย์ทุ่งเริง ศูนย์ทุ่งเรา ศูนย์อ่างขาง ศูนย์ขุนวาง รวมทั้งที่ บ้านแกน้อย ฯลฯ เพื่อเปรียบเทียบพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านั้นที่พัฒนา มีความก้าวหน้าของโครงการ อย่างไร กระทั่งถึงปัจจุบัน “ตัวอย่างเช่น ศูนย์พฒ ั นาโครงการหลวงอ่างขาง ผมเคยขึ้ น ไปถ่ า ยรู ป มาตั้ ง แต่ ปี พ.ศ. 2518 เมือ่ ครัง้ เป็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภาพทีช่ อบ มากคือมุมที่ถ่ายจากสันเขาออกไปทางดอยผ้า ห่มปก แลเห็นถนนไปบ้านนอแลอยูล่ บิ ๆ สมัยนัน้ ทั่วทั้งหุบเขานี้ มีแต่ทุ่งหญ้าคากว้าง ๆ ไม่มีต้นไม้ เลยสักต้นเดียว แต่ในวันนี้ที่ผมกลับไป ผมไม่ สามารถถ่ า ยภาพมุ ม เดิ ม ได้ อี ก แล้ ว ต้ อ งใช้ อุปกรณ์โดรนมาช่วยถ่ายภาพในมุมสูง เพราะทั่ว ทัง้ บริเวณนัน้ กลายเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ มีความสูงเกินสิบเมตรทั้งสิ้น ผมอยากบอกให้ พวกเรารู้ว่า ป่าไม้เหล่านี้รวมไปถึงทะเลหมอก ในหุบอ่างขาง กลับมาเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ธรรมชาติ ซ่อมตัวเอง แต่เป็นเพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านสร้างเอาไว้ให้พวกเรา... “สำ�หรับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ในอดีตก็คล้าย ๆ กัน คือ เป็นผืนดินแห้งแล้งและ happy+ | 35


happy heart

36 | happy+


ไร่ฝนิ่ แม้จะยังพอมีตน้ ไม้อยูบ่ า้ ง แต่ราษฎรชาวเขา ก็ตัดมาใช้เป็นฟืนเป็นไม้ใช้สอยไม่ได้ เพราะเป็น พื้นที่ป่าต้นนํ้า พระองค์ท่านก็รับสั่งให้น�ำ ไม้โตเร็ว มาปลู ก ไว้ เป็ น แปลงใหญ่ มี ค วามยาวเกื อ บ ๆ 1 กิโลเมตร สำ�หรับเป็นแหล่งเริม่ ต้นของความชุม่ ชืน้ ทีช่ าวบ้านสามารถตัดเอาไปใช้ได้ ...แล้วดูเดีย๋ วนีส้ ิ ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันจะได้ไปดูต้นพญาเสือโคร่งเมื่อ ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งขุนวาง... “ทุกพืน้ ทีท่ พี่ ระองค์ทา่ นเสด็จพระราชดำ�เนิน ไป เปลี่ยนจากความแห้งแล้งกลายเป็นความ อุดมสมบูรณ์แทบทัง้ สิน้ แม้กระทัง่ ความสวยงาม อย่างนี้ก็พระราชทานให้”

พระเมตตาแผ่ไพศาล

ปัจจุบัน คุณนภันต์ เสวิกุล เป็นที่ปรึกษา พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ศิ ริ ร าชพิ มุ ข สถาน ในช่ ว งเดื อ น กั น ยายน-พฤศจิ ก ายนที่ ผ่ า นมา ได้ จั ด แสดง นิทรรศการชุด “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ซึง่ เผยแพร่เรือ่ งราวเกีย่ วกับพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เพื่ อ น้ อ ม สำ � นึ ก ใ น พ ร ะ ม ห า ก รุ ณ า ธิ คุ ณ อันหาที่สุดมิได้ “จุ ด เด่ น ของนิ ท รรศการนี้ จั ด เป็ น ซุ้ ม สั ญ ลั ก ษณ์ ข นาดใหญ่ มองจากด้ า นนอกจะ เห็ น ภาพพี ร ะมิ ด หั ว กลั บ สี ท องอร่ า ม ซึ่ ง จั ด แสดงอยู่ภายนอกพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน โรงพยาบาลศิริราช นำ�เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ พระราชกรณียกิจทัง้ สีภ่ าค - ทัง้ ภาคกลาง เหนือ ใต้

และอีสาน ซึ่งหาชมได้ยาก เป็นภาพถ่ายครั้งทรง เสด็จฯ ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพสกนิกร “ซุ้มสัญลักษณ์นี้ เป็นแท่งกระจกสี่เหลี่ยม จัตุรัส มีความกว้าง 80x80 เซนติเมตร เสาแต่ละ แท่งตัง้ ห่างกัน 80 เซนติเมตร อยูใ่ นพืน้ ที่ 8x8 เมตร จำ�นวน 24 เสา จัดแสดงไว้กลางแจ้ง เพราะ ต้องการให้ผู้เข้าชมทุกท่าน ได้สัมผัสถึงความ รู้สึกและบรรยากาศของประชาชนที่มารอเฝ้ารับ เสด็จฯ และจะได้เห็นภาพพระองค์ท่านเสด็จฯ ไปในพื้นที่ทุรกันดาร ด้วยความยากลำ�บาก ต้อง อดทนต่อแดดร้อน ฉลองพระองค์เปียกชุ่มไปด้วย พระเสโท หรืออาจต้องทรงงานอยูท่ า่ มกลางสายฝน ซึ่ ง ก็ จ ะทรงบำ � เพ็ ญ พระราชกรณี ย กิ จ ในการ เยี่ยมเยียน และปัดเป่าทุกข์ร้อนของราษฎรเช่นนี้ ถึงปีละ 6-7 เดือน ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ถึง 70 ปี โดยไม่เคยแสดงออกถึงความเหนื่อย ยากแม้ครั้งเดียว “แท่งกระจก นอกจากจะสะท้อนให้เห็นภาพ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ แล้ว จะช่วยสะท้อน ใบหน้าของผู้เข้าชมแต่ละท่านในระดับสายตา ผูเ้ ยีย่ มชมอาจจะได้ตงั้ คำ�ถามกับตัวเองว่า เห็นการ ทรงงานของพระองค์ทา่ นเพือ่ พวกเราขนาดนีแ้ ล้ว เราเองได้ตอบแทนพระองค์ท่านบ้างหรือยัง ...เรา ได้ทำ�หน้าที่ ทำ�ความดีเพื่อประเทศไทยให้สมกับ ที่พระองค์ท่านทรงงานหนักขนาดนี้แล้วหรือยัง หากคำ�ตอบทีไ่ ด้ คือ เราทำ�ได้ดแี ล้ว ก็ขอให้รกั ษา ความดีนั้นต่อไป หากยังรู้สึกว่าบกพร่อง ก็ขอให้ เริ่มต้นทำ�ความดีตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

“ส่วนด้านบนมีสัญลักษณ์พีระมิดหัวกลับ สีทอง เราอ้างอิงจากส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ ในปี พ.ศ. 2525 โดยนักข่าวต่างชาติจากนิตยสาร National Geographic ตัง้ คำ�ถามว่า การเป็นกษัตริยน์ น้ั เป็ น อย่ า งไร? พระองค์ ท่ า นทรงคำ � ตอบด้ ว ย พระอัจฉริยภาพว่า “...เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า ราช อาณาจักรนั้นเปรียบเสมือนพีระมิด มีพระมหากษัตริย์อยู่บนยอด และมีราษฎรอยู่เบื้องล่าง แต่ สำ�หรับประเทศไทยแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนจะตรง กันข้าม นั่นเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องปวดคอ และ บริเวณไหล่อยู่เสมอ...” ซึ่งพระราชดำ�รัสองค์นี้ แม้จะทรงสอดแทรกด้วยพระอารมณ์ขัน แต่ก็จะ เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ ที่ ท รงถื อ เอาความทุ ก ข์ ย ากเดื อ ดร้ อ นของ ชาวไทยเป็นที่ตั้ง “ผมจึงอยากให้ทกุ คนรักพระองค์ทา่ น คิดถึง พระเมตตาคุ ณ พระกรุ ณาธิ คุณของพระองค์ ท่ า น เฉพาะอย่ า งยิ่ ง เราต้ อ งรั ก สถาบั น พระมหากษัตริย์มาก ๆ สถาบันนี้หลอมรวมเป็น หนึง่ เดียวทีแ่ สดงถึงความเป็น ‘ประเทศไทย’ ของเรา เพราะถ้ า เราไม่ มี ส ถาบั น พระมหากษั ต ริ ย์ เป็ น ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเอาไว้ ประเทศนี้ก็จะ ไม่ใช่ประเทศไทยอีกต่อไป ทุกวันนี้ ผมพยายาม จะเผยแพร่ พ ระราชกรณี ย กิ จ อั น โดดเด่ นของ พระองค์ท่านให้ได้มากที่สุดที่คนคนหนึ่งจะทำ�ได้ “เพราะเราคงไม่สามารถสรรหาคำ�คำ�ไหน มาเทียบเทียมพระมหากรุณาธิคณ ุ อันยิง่ ใหญ่ของ พระองค์ทา่ นทีม่ ใี ห้กบั พวกเราชาวไทยได้เลยครับ” happy+ | 37


feature

38 | happy+


ผู้อยู่เบื้องหลัง เรื่อง : It’s a bell / Patty Pom / Nasry ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี เดือนธันวาคมนี้ ขอส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันด้วยการพูดคุย กับบรรดาลูก ๆ ที่ประสบความสำ�เร็จในวันนี้ได้เพราะแรงบันดาลใจ กำ�ลังใจ และการสนับสนุนจากครอบครัวของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่ หรือญาติพี่น้อง ทำ�ให้เขาและเธอกลายเป็นบุคคลที่มี ประสิทธิภาพในสังคมของเรา ช่วยเสริมสร้างหรือจรรโลงให้โลกของเรา น่าอยู่ขึ้น ด้วยความสามารถที่มีอยู่ในตัวของแต่ละคนอันแตกต่างกัน ออกไป ไปดู กั น ดี ก ว่ า ค่ ะ ว่ า เขาและเธอที่ ที ม งานนิ ต ยสาร happy+ เลือกสรรเป็นอย่างดีเพื่อคุณผู้อ่านโดยเฉพาะ มีใครกันบ้าง happy+ | 39


feature

จุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ

น่าน หงษ์วิวัฒน์

เชื่อได้ว่าการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี ประสบความสำ�เร็จในชีวิต และสามารถเติบโตมาใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้อย่างมีความสุข คือสิ่งที่พ่อแม่ ทุกคนคาดหวัง แต่สงิ่ เหล่านีต้ อ้ งประกอบด้วยกำ�ลังใจ แรงผลักดัน ความพยายามฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยัง้ เช่นเดียวกับเชฟน่าน หงษ์วิวัฒน์ ผู้จัดการสำ�นักพิมพ์แสงแดด และพิธีกรรายการ C.I.Y. - Cook It Yourself กว่าที่เขาจะเป็นเชฟที่ครบเครื่อง ทั้งความสามารถ และมากประสบการณ์อย่างทุกวันนี้ ก็ต้องผ่านอะไรมามากมายหลายอย่าง แต่ที่ไม่เคยหายไปในทุกช่วงเวลาคือ แรงผลักดันจากผู้เป็น “พ่อ” “เริม่ แรกผมไม่ได้ชอบการทำ�อาหาร เพียงแต่ ทำ�เพือ่ เอาตัวรอดเท่านัน้ ผมเป็นเหมือนเด็กทัว่ ไป ทีส่ นใจเล่นสนุกอย่างอืน่ แต่ถา้ รูส้ กึ ชอบทำ�อาหาร จริง ๆ ตอนเรียนปริญญาโท ตอนนั้นไปเรียน เมืองนอกแล้วจำ�เป็นต้องทำ�อาหารกินเอง จริง ๆ คุ ณ พ่ อ เป็ น คนที่ จุ ด ประกายการเป็ น เชฟของ ผมเลย เพราะตอนแรกผมเริ่มทำ�ร้านกาแฟก่อน บ้านผมทำ�หนังสือ ผมก็เลยทำ�ร้านกาแฟข้าง ๆ 40 | happy+

ร้านหนังสือ พอเป็นร้านกาแฟผมก็ไปเรียนทำ�ร้าน กาแฟด้วยตัวเอง ในช่วงทีก่ �ำ ลังสร้างร้านกาแฟอยู่ คุณพ่อเป็นคนบอกว่าทำ�ไมไม่ขายอาหารควบคู่ ไปด้วย ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเรื่องอาหาร อยากจะ ขายแค่กาแฟอย่างเดียว คุณพ่อบอกว่าเรามีเรื่อง อาหารและบุคลากรอยูแ่ ล้ว ผมก็ใจง่าย พ่ออยาก ให้ทำ�ก็ท�ำ ก็ได้ (หัวเราะ) ตอนนั้นก็เลยเปลี่ยนจาก ร้านกาแฟเป็นร้านอาหารทันที

“คุณพ่อเป็นคนพลิกแผนหลายอย่าง ตั้งแต่ การที่ เข้ า มาช่ ว ยงานที่ บ้ า น เพราะเริ่ ม ต้ น ผม เรียนวิศวะผมไม่ได้คิดจะช่วยงานที่บ้านเท่าไหร่ และทีบ่ า้ นก็ไม่ได้คดิ ว่าผมต้องมาช่วยงานด้วยซํา้ เพราะท่านเลี้ยงลูกแบบปล่อยไปตามอิสระ ตาม สิ่งที่ลูกชอบ ไม่ได้คิดว่าเราทำ�ธุรกิจนี้ ลูกต้อง เรียนแบบนี้ เพื่อที่จะมาต่อยอดธุรกิจ จะไม่ใช่ แบบนัน้ เลย เพราะฉะนัน้ ลูกทัง้ สีค่ นจะเลือกเรียนตาม


ทีต่ วั เองชอบ จริง ๆ คุณพ่อเป็นคนสะกิดทุกขัน้ ตอน ตั้ ง แต่ ต อนที่ จ บใหม่ เริ่ ม ให้ ม าทำ � งานที่ บ้ า น เป็นคนจุดประกายให้ทำ�อาหารอย่างจริงจัง ท่าน คงไม่ได้คิดมากหรอก ท่านคงเห็นว่าผมหาอะไร ทำ�อยูแ่ ล้วคงประจวบเหมาะกับเวลาพอดี แต่ผมก็ ไม่ได้คดิ เยอะ พอท่านจุดประกายผมก็ท�ำ ต่อทันที” เชฟน่านเล่าต่อว่า คุณพ่อจะเปิดโอกาสให้ ได้ทำ�สิ่งต่าง ๆ โดยปราศจากกฎเกณฑ์ที่ตายตัว เพียงแต่ในพื้นที่นี้จะต้องเป็นพื้นที่เปิดให้คุณพ่อ สามารถเข้าไปได้ทุกเมื่อ “คุณพ่อจะเป็นฝ่ายสนับสนุนของลูก ๆ ทุกคน ท่ า นจะบอกเสมอว่ า ลู ก ต้ อ งมี พื้ น ที่ ข องลู ก ต้องมีพนื้ ทีท่ จี่ ะเติบโต จะให้ลกู เป็นลูกตลอดเวลา ไม่ได้ ในฐานะพ่อแม่ก็ต้องช่วยส่งเสริมให้เขามี พื้นที่ในการเติบโต คุณพ่อจะคอยสนับสนุนและ คอยผลักดันให้สร้างพื้นที่ของเราให้แข็งแรงและ เติบโตด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่คณ ุ พ่อจะมองอยูห่ า่ ง ๆ และ คอยให้คำ�ปรึกษาในเวลาที่เราต้องการ ท่านจะ ไม่ได้มคี �ำ สอนด้วยคำ�พูด แต่สงิ่ ทีท่ า่ นจะคอยเตือน คือ การให้ความสำ�คัญกับคนในครอบครัว การ คำ�นึงถึงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จิตใจกับคนรอบข้าง แล้วยิ่งผมมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ท่านก็จะ คอยดุ คอยสอน ในเรือ่ งการปฏิบตั กิ บั ภรรยาและลูก ว่าจะต้องอย่างไร บางทีตัวผมปฏิบัติเองเราจะ ไม่เห็นตัวเองหรอก คุณพ่อก็จะคอยเตือนผมอยู่ เสมอ ท่านเป็นคนละเอียดอ่อนมากจะให้ความ สำ�คัญกับเรื่องของความรู้สึกของคนอื่น ฉะนั้น เขาก็จะเห็นเราในมุมมองของครอบครัวเรา เขา อยากให้เรากลมเกลียวและอบอุ่น คำ�สอนของ พ่อผมนำ�มาปรับใช้กับครอบครัวตัวเองด้วย เรื่อง ทีค่ ณ ุ พ่อจะคอยสะกิดผมบ่อย ๆ คือการให้โอกาส ในการเติบโตของลูก ๆ ทำ�ให้ผมมีความคิดอยู่ใน ใจว่า เรามีหน้าที่สนับสนุนให้ลูกไปต่ออย่างที่เขา ต้องการ ให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาในเส้นทางที่เขา เลือก เราได้ให้กำ�เนิดเขาก็จริง แต่เราไม่ได้เป็น เจ้าของชีวิตเขา เรามีหน้าที่ทำ�ให้เขาเบ่งบานใน แบบของเขา ผมไม่ได้คาดหวังว่าลูกต้องมาทำ� กิจการที่บ้านหรือว่าจะต้องเป็นอะไร ขอแค่เขามี ความพร้อมในความเป็นเขาก็พอ “แต่ ข้ อ เสี ย ของครอบครั ว ผมคื อ คุ ณ พ่ อ คุณแม่ผมจะแสดงความรักกันไม่คอ่ ยเป็น พอผมมี ลูกเองก็เริ่มเรียนรู้แล้วว่าอันนี้คือสิ่งสำ�คัญที่ต้อง ปฏิบัติกับลูก จริง ๆ เราไม่ได้โทษคุณพ่อคุณแม่ ที่ท่านไม่ค่อยได้กอดและแสดงความรักกับเรา อาจจะเป็ น เพราะทั้ ง พ่ อ และแม่ เติ บ โตมาจาก ครอบครัวใหญ่ ไม่ได้มเี วลาและแสดงความรักกัน

คุณพ่อจะคอยสะกิดผมบ่อย ๆ คือเรื่องของ การให้โอกาสในการเติบโตของลูก ๆ เรามีหน้าที่ สนับสนุนให้ลูกไปต่ออย่างที่เขาต้องการ เราได้ให้ กำ�เนิดเขาก็จริง แต่เราไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตเขา บ่อย ๆ คุณพ่อเป็นลูกชายคนเล็กทีอ่ าจจะไม่ได้รบั ความสนใจ มาถึงวันนีเ้ ราก็เข้าใจได้วา่ ทำ�ไมเขาถึง ทำ�ไม่เป็น พอเขาแสดงความรักไม่เป็นกับเรา เรา ก็แสดงความรักกับท่านไม่เป็นไปด้วย ถ้าผมจะ แสดงความรักก็ต้องหาเทศกาล ไม่ใช่แบบมอนิ่ง แล้วมากอดกันไม่ค่อยมีเท่าไหร่” แต่ เมื่ อ เชฟน่ า นกลายเป็ น “พ่ อ ” เขาได้ แสดงออกความรักที่มีต่อลูกอย่างชัดเจน เพราะ เขาเชื่อว่าเด็กทุกคนสมควรได้รับความรักจาก พ่อแม่อย่างไม่มีเงื่อนไข “พอผมมีลูกเอง ก็คิดว่าไม่ได้แล้วเราต้อง แสดงความรักกับเขาบ่อย ๆ เรียกว่าต้องวาง ระบบกันใหม่หมด ผมแสดงความรักมากขึ้น ผม เห็นอะไรในชีวิตที่เราขาด เราก็อยากทำ�แบบนั้น เราก็จะถามลูกตลอดว่าจะหอมพ่อไปอีกนานแค่ไหน

ผมก็ รู้ สึ ก ดี ที่ วิ ถี ชี วิ ต เปลี่ ย นไปเพราะผมมี โอกาสมากกว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่เราเยอะ ผมมีบริษัท ของตัวเอง ผมสามารถเอาลูกมาทำ�งานด้วยได้ ผมมีเวลาไปรับลูกทีโ่ รงเรียน สามารถจัดสรรเวลาได้ ขณะที่ในยุคของพ่อแม่ทำ�แบบเราไม่ได้ ผมก็จะ คิดว่าเราจะใช้เวลาที่อยู่ร่วมกันอย่างไร เราจะ ทำ�ให้เขาเติบโตขึ้นได้อย่างไร ครอบครัวผมก็เป็น ครอบครัวที่ให้ความสำ�คัญกับลูกค่อนข้างเยอะ พยายามให้เขาทำ�กิจกรรมที่มีประโยชน์กับชีวิต เขา ให้เขาช่วยเหลือตัวเอง และให้มีความเคารพ ต่อผูอ้ นื่ ฉะนัน้ ลูกผมกับพีเ่ ลีย้ งเป็นเหมือนญาติกนั ทีจ่ ะยกมือไหว้สวัสดี พูดจาดี ๆ ให้ความเคารพกัน ผมอยากให้ลูกรู้สึกว่าทุกคนมีความเสมอภาค แต่ที่สำ�คัญคือเราต้องทำ�ให้เขาดู ถ้าเราอยากให้ ลูกเป็นอย่างไรเราต้องทำ�ให้เขาดูแบบนั้น” happy+ | 41


feature

คนเบื้องหลัง พลังในการก้าวไปข้างหน้า

ตรีมีน เจริญพิทักษ์

ทุกความสำ�เร็จมีคนทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังเสมอ ทุกการก้าวไปข้างหน้า ก็ตอ้ งมีพลังทีด่ สี นับสนุน อย่างทีค่ ณ ุ อีฟ ตรีมนี เจริญพิทกั ษ์ ได้บอกกับเราไว้ เพราะตั้งแต่ในวันที่เธอเป็นนักกีฬาลีลาศแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติ จนมาถึงวันที่ทำ�งานเป็นอาจารย์สอนลีลาศ การเต้นรำ� และการ ออกกำ�ลังกายที่ Latino Skyfly Studio คุณพ่อและครอบครัวของเธอ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และกำ�ลังสำ�คัญของเธอมาโดยตลอด และวันนี้ คุณอีฟได้มาเล่าถึงชีวิตที่มีเบื้องหลังที่แข็งแรงให้เราฟังค่ะ “ตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ครอบครัวอีฟก็สนับสนุนให้เรียนในเรื่องของการ แสดงมาตลอด เริ่มจากเรียนรำ�ไทย พอเรียน ชั้นประถมศึกษาก็ได้เข้าชมรมการแสดงของทาง โรงเรียน และมีโครงการของอาจารย์บญ ุ เลิศลีลาศ ทีส่ มัยก่อนจะเข้าไปทำ�โครงการกับโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ถามว่าสนใจจะนำ�เด็ก ๆ ไปร่วม โครงการหรือเปล่า โดยให้ทดลองเรียนฟรี ทาง 42 | happy+

โรงเรียนเลยส่งเด็กในชมรมนาฏศิลป์ไปเรียนก่อน ตอนแรกทีเ่ รียนรำ�ไทย แล้วอีฟก็ชอบการแสดงอยู่ แล้ว และสิ่งนี้เป็นนาฏศิลป์ทางตะวันตก พอได้ ไปเรียนก็รู้สึกว่าแปลกดี เลยเริ่มเรียนมาเรื่อย ๆ “หลังจากนัน้ ก็จะมีเรือ่ งของการแข่งขันเข้ามา ก็ยิ่งรู้สึกว่าสนุก ท้าทาย ทางบ้านก็ไม่ได้ปิดกั้น สนับสนุนทุกอย่าง เขาไม่ได้อยากให้เราเรียน หนังสือเพียงอย่างเดียว อยากให้เรามีกิจกรรม

ที่หลากหลาย ก็เลยสนับสนุนเราเต็มที่มาตั้งแต่ เด็ก ๆ อยู่แล้ว “แมตช์ สุ ด ท้ า ยก่ อ นที่ จ ะเลิ ก คื อ การแข่ ง ระดับประเทศ แล้วก็แข่งระดับนานาชาติด้วย อันดับสุดท้ายก็คือ อันดับ 3 ของประเทศ ใน ประเภท Standard ตอนที่อีฟได้เริ่มเต้นก็เริ่มจาก จังหวะละตินก่อน เด็ก ๆ ทุกคนจะเริม่ จากจังหวะ ละติ น เพราะเป็ นจั ง หวะที่ เร็ ว และสนุ ก สนาน


พ่อไม่ได้บังคับว่าเราต้อง ทำ�อะไร แต่เขาจะคอยดู อยู่ห่าง ๆ ว่าเราจัดการ ตัวเองได้หรือเปล่า แต่พ่อเห็นเราทำ�อะไร แล้วเรามีความสุข เขาก็สนับสนุนเต็มที่ ไม่นา่ เบือ่ แล้วก็ได้มาแข่งระดับประเทศ ก่อนทีจ่ ะ พักไปช่วงหนึ่งตอนช่วงที่จะเรียนจบ เพราะต้อง ทำ�โปรเจกต์เยอะ ที่บ้านก็เลยให้พักไว้ก่อน สนใจ เรื่องเรียนก่อน พอเรียนจบก็ไปทำ�งาน ก่อนที่จะ กลับมาแข่งอีกครั้ง ก็เปลี่ยนเป็นจากละตินมา เป็น Standard แล้วก็เริ่มแข่งกับคู่เต้นทั้งในและ นอกประเทศด้วย การแข่งนอกประเทศทีไ่ ด้อนั ดับ ดีที่สุดคืออันดับ 3 ของเอเชีย ในประเภท Singer Dance ที่ประเทศฮ่องกงค่ะ” และคุ ณ อี ฟ ได้ เ ล่ า ให้ เราฟั ง ถึ ง การแข่ ง ขั น ลีลาศในระดับนานาชาติ ทีเ่ ราอาจจะไม่เคยทราบ มาก่อนว่าเขามีการแข่งขันกันอย่างไร เพือ่ ทีเ่ ราจะ ได้เข้าใจกีฬาชนิดนี้มากขึ้น และอาจจะสนใจมา ลองเรียนและแข่งขันบ้าง “แต่ ล ะแมตช์ ก็ มี ค วามแตกต่ า งกั น ยิ่ ง เป็นการแข่งขันแมตช์ใหญ่ ๆ ก็จะยิ่งตื่นเต้นมาก คนระดับแชมป์โลกก็จะมาลงแข่งด้วย ก็ยิ่งสร้าง ความกระตือรือร้นให้กบั ตัวเรามากขึน้ ถ้าเป็นการ แข่งในประเทศเราก็จะพอรู้ว่า คู่แข่งของเราเป็น ใคร แต่ถ้าเป็นระดับนานาชาติ เราจะไม่รู้เลยว่า มีคแู่ ข่งมากขนาดไหน บางการแข่งขันมีถงึ 100-200 คู่ ที่มาแข่งด้วยกัน บางทีเขาก็จะเชิญอันดับต้น ๆ ของโลกมาร่ ว มแข่ ง ด้ ว ย ซึ่ ง เป็ น แรงผลั ก ดั น ให้เรากระตือรือร้นในการแข่งขัน ทำ�ให้เราพัฒนา ตัวเองมากขึ้น “ถ้าการแข่งขันที่มีผู้เข้าแข่งขันเยอะ ๆ ก็จะ มีการแบ่งเป็นฮีต ถ้าเยอะ ๆ ก็ประมาณ 3-5 ฮีต คัดทีละครึ่งเข้าสู่อีกรอบหนึ่ง คัดทีละครึ่งจนกว่า จะเหลือรอบชิงชนะเลิศ 6 คู่ บางทีก็แข่งกันตั้งแต่ เช้าจนถึงเที่ยงคืน” ตั้งแต่ที่เริ่มเรียน จนกระทั่งเติบโตมาเป็น

นักกีฬา จนกระทั่งทำ�งานเป็นอาจารย์ สิ่งหนึ่ง ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ การสนับสนุนและ พลังจากคุณพ่อและครอบครัว ที่คอยผลักดัน ให้กำ�ลังใจ ให้คุณอีฟก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ อยู่เสมอ “ตัง้ แต่อฟี เริม่ แข่งสมัยยังเป็นนักเรียน อย่างแรก ที่เขาดูแลเราก็คือ เรื่องค่าใช้จ่าย เพราะกีฬานี้ เป็นกีฬาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าเรียน ค่าห้องซ้อม อุปกรณ์เครือ่ งแต่งกาย ค่าเดินทางไป ซ้อมทุก ๆ วัน ทีบ่ า้ นอีฟก็ไม่ใช่ครอบครัวทีฐ่ านะดี แต่กร็ สู้ กึ โชคดีทีว่ า่ ครอบครัวให้การสนับสนุน เขา เห็นเราอยากทำ� เขาก็สนับสนุนเต็มที่ โชคดีที่ มีครูเจี๊ยบ ที่เป็นเหมือนแม่บุญธรรม ก็สนับสนุน ช่วยเหลือ บางทีก็ไม่ได้คิดเต็มราคา ทางด้าน คุณพ่อและครอบครัวก็จะคอยช่วยเรา เพราะ รู้ว่าเราจะต้องทำ�กิจกรรมด้วย เรียนด้วย ก็จะ คอยช่วยอยู่เบื้องหลังคือ ช่วยเราแบ่งเวลาให้ถูก สนับสนุนอยู่ห่าง ๆ พ่อไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำ�

อะไร แต่เขาจะคอยดูอยูห่ า่ ง ๆ ว่าเราจัดการตัวเอง ได้ ห รื อ เปล่ า ถ้ า วั น ไหนเริ่ ม เกเร พ่ อ ก็ จ ะเริ่ ม เข้ามาจีเ้ ราแล้วว่าควรจะเป็นแบบนีน้ ะ ให้ก�ำ ลังใจ อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าบางทีจะมีคำ�สบประมาท จากคนอื่นว่า ทำ�ไมสนับสนุนลูกหลานตัวเองให้ ทำ�กิจกรรมเต้นกินรำ�กิน พ่อและทางบ้านก็ไม่ได้ ปิดกั้น เพราะสมัยก่อนเรื่องแบบนี้คนยังไม่ค่อย ยอมรับ แต่พ่อเห็นเราทำ�อะไรแล้วเรามีความสุข เขาก็สนับสนุนเต็มที่ “หรือบางทีเรามีปัญหา ไม่เข้าใจกับคู่เต้น หรือการแข่งขันครั้งนี้มันเครียดมาก ๆ หรือเรา ท้อมาก ๆ พ่อและครอบครัวก็จะคอยให้ก�ำ ลังใจเรา ให้เราสู้ หรือเวลาเรามีปัญหาแล้วไปเล่าให้เขาฟัง เราได้ระบายออกมา เขาก็จะคอยรับฟัง ทำ�ให้เรา มีก�ำ ลังสูม้ ากขึน้ ในวันต่อไป เวลาทีแ่ี ข่งในประเทศ พ่อก็จะตามไปเชียร์เกือบทุกครั้ง” ครอบครัวคือพลัง คือแบตเตอรีส่ �ำ รองทีค่ อย เติมไฟและกำ�ลังใจให้เราอยู่เสมอ จริงไหมคะ happy+ | 43


feature

สร้างจินตนาการ สานความฝัน

รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์ และคุณพ่อประเวทย์ เรือนเพ็ชร์ เบื้องหลังความสำ�เร็จของนักแสดงหลายคน นอกจากการได้รับโอกาสจากผู้จัด ค่ายต่าง ๆ และแฟนคลับแล้ว ยังมีบุคคลใกล้ตัวของเหล่า นักแสดงที่คอยเป็นแรงผลักดันและสนับสนุนพวกเขาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ กัน-รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์ ที่มีคุณพ่อประเวทย์ เรือนเพ็ชร์ ผู้ที่เป็น ทั้งแรงบันดาลใจและกำ�ลังใจสำ�คัญ พร้อมยอมทำ�ทุกอย่างเพื่อให้ ‘ลูก’ สู่ความสำ�เร็จที่ต้องการ กัน รัชชานนท์ เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกวง บอยแบนด์ EVO NINE ซึง่ ตอนนีห้ นั มาเอาดีทางด้าน งานแสดง และถือเป็นนักแสดงดาวรุง่ ทีน่ า่ จับตามอง เขามี ผ ลงานทางด้ า นการแสดงผ่ า นมาแล้ ว หลายเรือ่ งไม่วา่ จะเป็น ซีรสี ์ อรุณสวัสดิ์ Sunshine My Friend, Project X แฟ้มลับเกมสยอง, ตี๋ใหญ่ ดับดาวโจร, ตำ�นานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซี รี ส์ และล่ า สุ ด กำ � ลั ง จะมี ผ ลงานละคร 44 | happy+

เรื่อง ตี๋ใหญ่ ดับเครื่องชน 2 ทางช่อง Mono 29 (โมโน ทเวนตีไ้ นน์) ถึงแม้เขาจะมีบทบาททีเ่ ปลีย่ นไป ตามกาลเวลา แต่สง่ิ หนึง่ ทีไ่ ม่เคยเปลีย่ น คือเบือ้ งหลัง เขามีคุณพ่อที่คอยเกื้อหนุนทุกย่างก้าวเสมอ “ทั้งผมและแม่เขาจะคิดเหมือนกันว่า ลูกจะ ทำ�อะไรก็ได้ขอแค่มกี จิ กรรมอย่างใดอย่างหนึง่ ถ้า เราไม่มีกิจกรรมให้กับเด็กตั้งแต่เริ่มต้นเขาอาจจะ ไปทำ�อะไรที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ถ้าเรา

มีกิจกรรมให้ตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การกีฬา ดนตรี ร้องเพลงหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้า เด็กมีกิจกรรมที่อยู่ในสายตาพ่อแม่ดูแลได้ก็จะ ทำ�ให้เกิดกลุ่มของพ่อแม่ที่สนับสนุนลูกด้วยกัน ฉะนั้นกลุ่มเพื่อน ๆ ลูกและผู้ปกครองก็จะรู้จัก กันตลอดเวลา พอเราเข้าถึงเราก็จะรู้เลยว่าลูก ทำ�อะไรอยู่บ้าง แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีกิจกรรมให้เขา ตัง้ แต่เด็ก ปล่อยให้เด็กคบหากันเอง เมือ่ เขาโตขึน้


การควบคุมในกลุ่มของเพื่อนจะควบคุมลำ�บาก ผมคิดว่าเรื่องของอนาคตมันไม่แน่นอน ผมคิดว่า สิ่งแรกคือเรื่องของการศึกษา พอมีการศึกษา ก็อาจจะไม่เพียงพอสำ�หรับการดำ�รงชีวิต ผมจึง ให้มีกิจกรรมอื่นควบคู่กันไปด้วย ถ้าโตมาแบบ ไม่มีกิจกรรม มันจะมีจุดหนึ่งที่เคว้งและถ้าเลย ช่วงประถมเราจะบังคับเขาไม่ได้แล้ว ผมไม่ได้ ตั้ ง เป้ า หมายเขาไว้ ม ากมายว่ า สุ ด ท้ า ยต้ อ งมี อาชีพอะไร ขอให้เขามีความสุขในการทำ�งานจะ เป็นอาชีพอะไรก็ได้ พ่อก็จะสนับสนุนเขาเต็มที่” คุณพ่อประเวทย์กล่าว น้องกันพูดเสริมว่า การที่คุณพ่อหากิจกรรม ให้ทำ�ตั้งแต่เด็ก ช่วยทำ�ให้เขามีความรับผิดชอบ มีพฒ ั นาการและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ ในสังคมได้ดียิ่งขึ้น “คุ ณ พ่ อ และคุ ณ แม่ ผ ลั ก ดั นทุ ก อย่ า งครั บ ผมเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ จะมีเวที ประกวด ท่านก็จะส่งผมไปประกวด ท่านจะให้ ลองไปชิมลางร้องเพลงตั้งแต่อนุบาลสาม จริง ๆ แล้วตอนเด็ก ๆ พี่สาวผมไปเรียนร้องเพลงก่อน เพราะพีช่ อบร้องเพลงมาก แล้วผมก็ตามพีไ่ ปเรือ่ ย ๆ จนเหมือนเราได้คลุกคลีเพลงมากขึ้น ทำ�ให้ผม รู้ตัวเลยว่าผมชอบทางด้านร้องเพลง พอมีการ ประกวดแข่งขันที่ไหน ท่านก็จะส่งไปประกวด ตลอดครับ พอตอนนี้ก็ได้มีโอกาสเป็นนักแสดง คุณพ่อและคุณแม่ก็ยังคงสนับสนุนเหมือนเดิม ท่านเป็นกำ�ลังใจในการใช้ชวี ติ ทีส่ �ำ คัญมาก เพราะ เวลาที่ผมเหนื่อยและท้อส่วนใหญ่ผมมองที่พ่อ แล้วคิดว่า พ่อเหนื่อยกว่าผมหลายเท่าในการที่ ต้องเลีย้ งผมให้เติบโตและให้มชี วี ติ เป็นของตัวเอง ตอนแรกก็เหนือ่ ยพอเห็นพ่อเหนือ่ ยกว่า ผมรูส้ กึ ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ต้องสู้ต่อ และเชื่อได้เลย ว่าไม่มีทางที่ผมจะเหนื่อยกว่าพ่อได้แน่ ๆ ครับ “ส่วนใหญ่ครอบครัวผมจะคุยกันทุกเรือ่ ง ใน ไลน์กจ็ ะมีกลุม่ ครอบครัว ถ้าเราไม่เจอกันเราจะคุย กันตลอดเวลา จะคอยถามว่าทำ�อะไร ทีไ่ หน เรียกว่า ไม่มีใครมีความลับต่อกันเลย เราเป็นครอบครัว ที่เปิดเผย ทุกเรื่องเราจะแชร์กันทั้งหมด ไม่ว่าจะ

คุณพ่อคุณแม่ผลักดันทุกอย่าง ตอนนี้ก็ได้มีโอกาสเป็นนักแสดง ก็ยังคงสนับสนุนเหมือนเดิม ท่านเป็นกำ�ลังใจ ในการใช้ชีวิตที่สำ�คัญมาก เป็ น เรื่ อ งส่ ว นตั ว เรื่ อ งเรี ย น เรื่ อ งทำ � งานหรื อ เรื่องการพักผ่อนต่าง ๆ เราสามารถรู้เรื่องราวของ ทุกคนได้หมดเลย ถ้ามีอะไรก็จะคุยกันทันที ส่วนใหญ่ ครอบครัวเราจะสนุกสนานกันมากกว่าครับ” และถึ ง แม้ คุ ณ พ่ อ จะอยู่ ในสายงานวิ ศ วะ และน้องกันจะเดินอยู่บนเส้นทางสายบันเทิง แต่ คุณพ่อไม่เคยปิดกัน้ ทางความคิดและการตัดสินใจ เพราะท่ า นคิ ด ว่ า ทุ ก อาชี พ มี ค วามสวยงามอยู่ ในตัว “ผมจะอยูก่ บั งานก่อสร้างมีแต่เรือ่ งลุย ๆ พอ หันกลับมาที่ลูกซึ่งอยู่ในที่ที่สวยงามของวงการ บันเทิง (หัวเราะ) ตอนแรกก็ถามเขาว่าไม่อยาก เป็นวิศวะบ้างเหรอ แต่มาคิดอีกทีผมว่าอาชีพ ทุกอาชีพมีวงจำ�กัด ตรงนัน้ เราคิดว่าตรงนัน้ ดี แต่หา รู้ไม่ว่าถ้าเราอยู่กับคนบางกลุ่มที่เขาอยู่อีกสาย

อาชีพหนึ่ง เขาอาจมีความสุขมากกว่าอาชีพที่ เราเป็นก็ได้ ผมคิดว่าทุกอาชีพมีความหมายหมด ถ้าเราทำ�งานแล้วมีความสุข ตอนนีผ้ มไม่ได้คาดหวัง หรือวางเป้าหมายกับเขามาก ถ้าแยกเป็นสอง กรณี กรณีแรกถ้าในส่วนของวงการแสดง การ ทำ�งานก็คงเป็นไปตามที่เขาต้องการ ตราบใดที่ ยังมีงาน ยังมีใจรักและยังมีคนสนับสนุนอยู่ ผม ก็ ค งไม่ ไ ด้ ว่ า อะไรก็ อ ยากให้ ทำ � ต่ อ เนื่ อ งไปให้ เต็มที่ แต่เรื่องอนาคตเราคงคาดหวังอะไรได้ไม่ มาก กรณีที่สองคือ ในส่วนของการดำ�รงชีวิต ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในวงการแสดง เขาต้องมีอาชีพที่ เลีย้ งตัวเองในระดับหนึง่ ให้ได้ ทุกวันนีผ้ มภูมใิ จใน ตัวเขา เพราะเขามีความตั้งใจ ไม่ว่าอะไรก็แล้ว แต่ที่เขาจะเริ่มทำ� เขามีความตั้งใจมาก ถ้าเขา ชอบสิ่งนั้นเขาจะมุ่งมั่นจนทำ�ให้ได้” happy+ | 45


feature

ท่วงทำ�นองของงานเขียน

ผาด พาสิกรณ์ (วิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ) หากพูดถึงนักเขียนในนามปากกา ผาด พาสิกรณ์ เชื่อว่านักอ่านหลายท่านจะต้องเคยเห็นหรือเคยผ่านตาผลงานของเขาคนนี้มาบ้าง อย่างเรื่อง “เสือ เพลิน กรง” ที่คว้ารางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำ�ปี 2553 บอกเล่าเรื่องราวความเหงา ความรัก มิตรภาพของคนเมืองผ่าน สองวัฒนธรรม ด้วยสไตล์การเขียนทีใ่ ช้ภาษาอย่างลืน่ ไหลสวยงาม พร้อมแฝงด้วยอารมณ์ขนั แบบตลกร้ายนิด ๆ ทำ�ให้หลายคนรูจ้ กั ผาด พาสิกรณ์ หรือคุณนัฐ วิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ ผ่านผลงานเล่มนี้ ที่มีความหนากว่า 700 หน้า นอกจากนี้งานเขียนเรื่องอื่น ๆ ก็ล้วนแต่มีรางวัล การันตี คงต้องบอกว่าคุณนัฐ วิษณุฉัตร เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นทีเดียว “ผมไปเรียนอยู่ที่ต่างประเทศมา 16 ปี ตอน ที่ตัดสินใจกลับมาเมืองไทยก็ทำ�งานโฆษณาอยู่ พักหนึ่ง ซึ่งการทำ�งานที่เมืองนอกกับเมืองไทย ค่อนข้างต่างกันมาก จนกระทัง่ ถึงจุดหนึง่ ทีม่ านัง่ คิดว่า ตัวเองกำ�ลังทำ�อะไรอยู่ ต้องออกจากบ้านแต่เช้า รถติดอยูบ่ นถนน 2-3 ชัว่ โมง มาทำ�งานทีไ่ ม่ได้งาน และต้องอยูอ่ อฟฟิศต่อในตอนเย็น กลับบ้านไม่ได้ เพราะต้องเผชิญปัญหารถติดอีกครัง้ งานโฆษณา 46 | happy+

ทีค่ รัง้ หนึง่ เคยท้าทาย กลับไม่ใช่อาชีพทีต่ อบโจทย์ อีกต่อไป ก็เลยลาออก แล้วมุ่งมาสู่เส้นทางสาย นักเขียน เพราะรูต้ วั ว่าอยากเป็นนักเขียนมานานแล้ว ไม่อยากกลายเป็นคนแก่ทกี่ ลับมาเสียใจว่า ทำ�ไม วันนั้นเราถึงไม่ทำ�” แม้ว่าจะมีอุปสรรคด้านการใช้ภาษาไทยใน การขีดเขียนเพือ่ เล่าเรือ่ งอยูบ่ า้ ง แต่คณ ุ นัฐ วิษณุฉตั ร ไม่ เ คยย่ อ ท้ อ พยายามก้ า วผ่ า นกำ � แพงทาง

ด้านภาษา จนสามารถคลอดผลงานที่มีความ สละสลวย จนไม่นา่ เชือ่ ว่านีค่ อื ผลงานของคนทีใ่ ช้ เวลากว่าครึง่ ชีวติ อยูท่ เี่ มืองนอกมากกว่าเมืองไทย “ตอนที่กลับมาเมืองไทยใหม่ ๆ ก็ทำ�งานอยู่ ในสภาพแวดล้อมที่ต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ตลอดเวลา ถามว่าตอนนั้นพูดภาษาไทยได้ไหม ก็พอจะสื่อสารเรื่องทั่ว ๆ ไปได้ แต่เมื่อคิดจะมา เป็นนักเขียน ต้องใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกับ


การที่มีคุณพ่อเป็น นักเขียนใหญ่ ถ้าทำ�ได้ดีก็มีค่าเสมอตัว แต่ถ้าเสียก็จะเสีย พร้อมกันถึงสองคน ผูอ้ า่ น พบว่าเราอ่านภาษาไทยไม่คล่องนัก ภาษา เขียนยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึง เพราะไม่รจู้ กั คำ�ศัพท์หลายคำ� เช่น วาระการประชุมคืออะไร ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่อง เลย ทำ�ให้ช่วงนั้นพยายามอ่านหนังสือเยอะมาก และคิ ด อยู่ เ สมอว่ า นี่ คื อ ประเทศที่ เ ราเกิ ด นี่คือภาษาแม่ ถ้าคิดว่าจะทำ�ก็น่าจะทำ�ได้ ไม่ใช่ เรื่องยากอะไร เรียกง่าย ๆ ว่า ตัดสินใจไปตาย เอาดาบหน้า ซึ่งหากใครอ่านหนังสือของผมก็จะ พบว่า เป็นหนังสือที่สื่อสารด้วยคำ�ศัพท์ที่ไม่ได้ ยากเกินความเข้าใจ” หนึ่งในเหตุผลที่คุณนัฐ วิษณุฉัตร ก้าวเข้า สู่วงการนํ้าหมึก เปิดตัวในฐานะนักเขียนนามว่า ผาด พาสิกรณ์ อาจเป็นเพราะได้คลุกคลีและ เห็นการทำ�งานของนักเขียนผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด ในเมืองไทย เจ้าของอมตะผลงาน “เพชรพระอุมา” โดยปลายปากกา พนมเที ย น (ฉั ต รชั ย วิเศษสุวรรณภูมิ) ผู้เป็นคุณพ่อมาตั้งแต่วัยเยาว์ “ตอนเด็ก ๆ ผมค่อนข้างซนมาก ถึงจะชอบ อ่านหนังสือ แต่จะให้ความสำ�คัญกับการอ่านเป็น อันดับท้าย ๆ ต้องถูกทำ�โทษให้อยู่นิ่ง ๆ ถึงจะเอา หนังสือสักเล่มมานั่งอ่าน ตอนเด็ก ๆ ไม่ได้อ่าน หนังสือเพชรพระอุมาของคุณพ่อหรอกครับ เพราะ ยังอ่านไม่รเู้ รือ่ ง และหนังสือของคุณพ่อคือหนังสือ เล่มหนา ๆ ทำ�ให้เรารู้สึกกลัวการเป็นนักเขียนใน ตอนนัน้ แต่พอโตขึน้ ได้รจู้ กั กับหนังสือพ็อกเก็ตบุก๊ ที่ มี ค วามยาวประมาณ 100-200 หน้ า หรื อ เรื่องสั้นต่าง ๆ บวกกับการที่ผมชอบเล่น ชอบคุย ชอบเล่าเรือ่ งมาตัง้ แต่เด็ก ๆ เลยทำ�ให้จดุ ประกาย อยากเป็นนักเขียน ซึ่งตอนที่อยู่เมืองนอกก็เคย เขียนต้นฉบับเรือ่ ง พริว้ ไปในพรายเวลา เป็นภาษา อังกฤษมาก่อนที่จะเขียนขึ้นใหม่เป็นภาษาไทย “งานเขียนของคุณพ่อพอเราได้มาอ่านตอน ที่โตแล้วพบว่า สนุกมาก แต่ถ้าถามว่าเราจะ สามารถเขียนแบบทีค่ ณ ุ พ่อเขียนได้ไหม ผมคิดว่า

ผมไม่ ต ามเขา เขี ย นอะไรที่ เป็ นตั วของเราเอง จะดีกว่า คุณพ่อเป็นต้นแบบให้ผมในหลาย ๆ เรื่องไม่ใช่แค่เรื่องการเขียนเท่านั้น การที่มีคุณพ่อ เป็นนักเขียนใหญ่ มีชื่อของ พนมเทียน คํ้าคออยู่ ทำ�ให้ผมรู้สึกไม่กล้าเขียนงานออกมาชุ่ย ๆ เวลา ทำ � งานก็ ทำ � ด้ ว ยความตั้ ง ใจเพราะถ้ า ทำ � ได้ ดี ก็มีค่าเสมอตัว แต่ถ้าเสียก็จะเสียพร้อมกันถึง สองคน การเป็นลูกชายของพนมเทียน อาจมี ข้อดีตรงที่ สื่อต่าง ๆ อาจจะให้ความสนใจงาน เขี ย นของเรามากกว่ า นิ ด หน่ อ ย แต่ เมื่ อ มี ค น สนใจแล้ว มีสปอตไลต์ฉายมาทีต่ วั คุณแล้ว แต่ถา้ คุณไม่มีของ ก็คงจะทำ�งานอยู่ในวงการนี้ได้ยาก “คุ ณ พ่ อ ในวั ย เด็ ก สำ � หรั บ ผม เป็ น พ่ อ ที่ ดุ มาก ที่ห้องทำ�งานของคุณพ่อจะห้ามใครหยิบ อะไรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเรา 4 พี่น้อง เวลาอยู่บ้านจะต้องเล่นกันเงียบ ๆ คอยฟังเสียง คอมเพรสเซอร์แอร์ ถ้าติดอยู่คือพ่อนอนหลับ เล่นซนได้ แต่ถา้ คอมเพรสเซอร์แอร์ดบั แสดงว่าพ่อ ตืน่ แล้ว ต้องเงียบเพราะพ่อต้องใช้สมาธิในการเขียน หนังสือ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมกับพี่สาวตีปิงปอง กันอยู่ แล้วพี่สาวไปเหยียบลูกปิงปองจนบุบ เรา พยายามทำ�ให้ลกู ปิงปองกลับคืนสภาพเดิมให้เร็ว ที่สุดเพื่อที่จะเล่นกันต่อ ถ้าไปต้มนํ้าให้เดือดแล้ว ใส่ลูกปิงปองลงไปก็จะใช้เวลานาน ผมเลยเข้าไป ในห้องทำ�งานของพ่อเพื่อหยิบไฟแช็กมาลนที่ลูก ปิงปอง ปรากฏว่ามันลุกไหม้เร็วมาก จนลามไปถึง พรมทีพ่ นื้ ห้อง พวกเรารีบเอาแฟ้มต้นฉบับของพ่อ มาตบ ๆ ให้ไฟดับ จังหวะนั้นเองที่คอมเพรสเซอร์ แอร์ดบั ผมนีใ่ จตกไปอยูท่ ตี่ าตุม่ เลย คิดว่าโดนแน่ แล้ว พอพ่อเดินเข้ามาในห้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำ�ไมถึงเป็นแบบนั้น ด้วยความกลัวเราก็เลยเล่า ตามความจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด พ่อกลับ บอกง่าย ๆ ว่า คราวหลังอย่าทำ�แบบนี้อีกแล้วก็ จบเลย ผมมองย้อนกลับไป ทำ�ให้รู้สึกว่าพ่อเรา เท่จัง พยายามจะเป็นแบบพ่อให้ได้ อยากเลี้ยง ลูกชาย 2 คนของตัวเองให้ได้แบบนั้น เพราะพ่อ จะเป็นคนที่พูดน้อย แต่ในการพูดแต่ละครั้งของ พ่อ จะมีเรื่องที่ทำ�ให้เราต้องนำ�มาคิดต่ออยู่เสมอ “ช่วงที่ตัดสินใจมาเป็นนักเขียน คุณพ่อเคย มาเคาะประตูหอ้ งขออ่านต้นฉบับเรือ่ ง ณ กาลครัง้ หนึง่ หรืออย่างต้นฉบับภาษาอังกฤษเรื่องพริ้วไปใน พรายเวลา คุณพ่อก็เคยอ่านและให้คำ�แนะนำ� ผมคิดว่าคุณพ่อคงชอบแหละทีเ่ ราเดินตามรอยเขา มาเป็นนักเขียน เพียงแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเป็นนักเขียนในสมัยของพ่อเข้าสู่วงการยาก แต่ ห ากได้ เข้ า มาแล้ ว จะอยู่ ได้ น าน ในขณะที่ ปั จ จุ บั น คนเป็ นนั ก เขี ย นกั นง่ า ยขึ้ น แต่ ก าร

จะอยู่ต่อไปนาน ๆ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง กลับยากขึน้ เพราะไม่คอ่ ยมีทรี่ บั พิมพ์ผลงานมาก เท่าสมัยก่อน” และเมื่อคุณนัฐ วิษณุฉัตร ได้ปล่อยตัวเอง ให้จมลงไปในโลกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา ความ งดงามในท่วงทำ�นองดั่งดนตรีที่ถูกบรรเลงจึงเริ่ม ต้นขึ้น “เวลาที่คิดงานไม่ออก ต่อให้พยายามแค่ ไหนก็จะรูส้ กึ ว่ามันไม่ใช่ ตัวละครแบบนีไ้ ม่ควรทำ� แบบนั้น ทุกอย่างมันจะดูไม่ลงล็อก ไม่เป็นเหตุ เป็นผลกัน เราต้องรือ้ โครงเรือ่ งใหม่หรือปรับแก้จดุ ต่าง ๆ เพราะเมื่อตัวละครที่สร้างขึ้นมาเริ่มมีสีสันแล้ว เราต้ อ งเคารพตั ว ละครเหล่ า นี้ ข องเราให้ ม าก ซึ่งแตกต่างกับเวลาที่เขียนงานได้อย่างลื่นไหล เราจะไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เป็ นการจมลงไปในงานเขี ย นอย่ า งมี ค วามสุ ข เหมื อ นกั บ การเล่ น ประสานกั น ของดนตรี แต่ละชิ้น ที่จะมีอยู่จุดจุดหนึ่ง เมื่อดนตรีทุกชิ้น สอดประสานรับกันเป็นอย่างดี จะทำ�ให้ช่วงนั้น ดนตรีมีความไพเราะ เป็นจุดที่เราจะรู้สึกได้ว่า พระเจ้ามีอยู่จริง แต่ช่วงนี้จะอยู่กับเราไม่นาน แล้ ว ก็ จ ากไป เราจะรู้ สึ ก โหยหาวิ น าที นั้ น ว่ า เมือ่ ไหร่จะกลับมาอีกครัง้ เมือ่ ไหร่จะทำ�ได้แบบนัน้ อีก ณ ช่ ว งเวลาแบบนี้ แ หละครั บ ที่ ทำ � ให้ ผ มมี ความสุขกับงานเขียนและการเป็นนักเขียนครับ” happy+ | 47


ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล

ขอบคุณนะ...ธันวาคม

ลมเย็น ๆ ฟ้ามืด ๆ แสงไฟระยิบระยับ เป็นสัญญาณการมาถึงของเดือน สุดท้ายของปี หลายคนมักพูดว่า ทำ�ไมหนึ่งปีผ่านไปเร็วเหลือเกิน นัยของ คำ�พูดนี้มีหลายความน่าสนใจ ที่ว่าผ่านไปไว เพราะเราทำ�อะไรไม่ทัน หรือ เพราะเราได้สูญเสียอะไรไปตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา แล้วจะคงเป็น เช่นนี้ซํ้าแล้วซํ้าเล่า ตราบเท่าที่ชีวิตเรายังมีเดือนธันวาคม

เปิดต้นปีแห่งเดือนมกราคม เดือนทีเ่ ต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง ท่องเทีย่ ว พบปะสังสรรค์ เดือนที่บ่งบอกว่าเราเข้าสู่ปีใหม่ ชีวิตใหม่ และเป็นเดือนที่ ทำ�ให้เราหลายคนรู้ว่า สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ผ่านไป แต่คงน่าเสียดายมาก ถ้าเราทิ้งเดือนธันวาคมให้เป็นแค่เดือนส่งท้ายปีเก่า โดยที่เราไม่ได้ทบทวน ชีวิต ไม่ได้คิดว่า “ธันวาคม...เพาะบ่มอะไรให้เราบ้าง” เคยคิดหรือไม่ว่าในหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเสียอะไร และเราได้อะไร เรา เสียโอกาสและได้รับโอกาสอะไรบ้าง ในการทำ�งานและการเติบโตของชีวิต 48 | happy+

ผูค้ นมากมายเล็งเป้าหมายไปทีโ่ บนัส เล็งเป้าหมายไปทีส่ ดุ ท้ายปลายปี ว่า เราจะได้อะไรดี ๆ จากงานที่เราทำ� แต่นอกจากผลประโยชน์ใด ๆ ในงาน สิง่ ทีเ่ ราต้องทบทวนคือ หนึง่ ปีผา่ นไป เราได้พฒ ั นาทักษะวิธคี ดิ กระบวนการ สือ่ สาร กระบวนการลงมือทำ�อย่างไรบ้าง เพราะนัน่ คือปัจจัยสำ�คัญ ทีท่ �ำ ให้ เราได้รับหรือสูญเสียโอกาสมากมายในชีวิต อย่าละเลยที่จะทบทวนว่า เรา ได้พัฒนาตนเองให้ก้าวไปข้างหน้าบ้างหรือไม่ใน 1 ปี จะน่าเสียดายแค่ไหน ที่หลายโอกาสที่สวยงามเดินทางมาอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าเราไม่มีทักษะ จึงต้องสละโอกาสนั้นไป จะดีแค่ไหน ทีเ่ รามีทกั ษะมากมายทีอ่ ยูต่ รงหน้า แม้ไม่มโี อกาสอะไรเข้ามา เราก็ได้ชื่อว่า ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเอง เราเสียคนดี ๆ และมีคนดี ๆ เพิ่มมากแค่ไหนในชีวิต ที่ต้องโฟกัสที่คนดี ๆ เพราะคนดี ๆ คือ พลังงานดี ๆ ในชีวิตที่เราต้อง คิดทบทวน หลายคนเอาหัวใจไปจดจ่อกับคนที่ทำ�ร้ายหรือทำ�ลายชีวิตเรา นั่นยิ่งทำ�ให้พลังงานด้านดีในชีวิตถูกบั่นทอน เก็บบุคคลเหล่านั้นไว้เป็น


บทเรียนและเตือนใจ และเอาหัวใจมาใส่ใจที่คนดี ๆ จะดีกว่า หลายความคิด หลายคำ�พูด หลายการกระทำ�ของเรา ได้ทำ�ให้เรา เสียคนดี ๆ บางคนไป เพราะเราไม่ได้ใส่ใจและไม่ได้เข้าใจว่า คนเหล่านั้นมี คุณค่ากับชีวติ เราแค่ไหน เมือ่ หันกลับมามองอีกที เขาเหล่านัน้ อาจเดินไปไกล จนเราไม่สามารถเดินไปตามให้เขากลับมาในชีวติ ของเราได้ทนั นัน่ คือความ น่าเสียดายอย่างหนึง่ ของชีวติ ในขณะเดียวกัน ในหนึง่ ปีเราจะได้พบเจอคนดี ๆ ใหม่ ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มหลายนิยาม หลายการเรียนรู้ แต่คนดี ๆ เหล่านั้น จะไม่สามารถมีผลอะไรกับชีวิตเราได้เลย ถ้าเราไม่ได้เลือกที่จะเรียนรู้และ ไม่ได้รักษา สุดท้ายกาลเวลาก็จะทำ�ให้เราเสียดายครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นเดิม เราเสียความดี และได้เพิ่มความดีอะไรให้กับชีวิตเราบ้าง หลายคนเริม่ ตัง้ ความตัง้ ใจดี ในช่วงเริม่ ต้นปีวา่ จะทำ�อะไรทีเ่ ป็นความดี ให้กบั ชีวติ ของเราและคนทีเ่ รารักบ้าง เมือ่ เวลาผ่านไป ความตัง้ ใจดีนนั้ ยังคง อยู่ แต่ความชัดเจนในการลงมือทำ� กลับเบาบางลง จนสุดท้ายเราได้ทกั ทาย กับเดือนธันวาคม โดยทีค่ วามตัง้ ใจดี ๆ นัน้ ยังไม่ถกู เติมเต็ม ให้กลายเป็นการ กระทำ�สักที ความดีหลายอย่างไม่เพียงเราไม่ทำ� แต่เรายังเผลอหลงลืมไม่ รักษาไว้ ปล่อยให้การเวลาและความเป็นไปของโลก กลืนกินความดีนั้นไป

วันแล้ววันเล่า รู้ตัวอีกที ความดีที่เคยมีก็กลายเป็นอดีต ความดีอาจไม่ได้มีแล้วสวยหล่อทันที เหมือนการแต่งตัว แต่งหน้า แต่ จะทำ�ให้เรามีคุณค่าในระยะยาว แม้เวลาล่วงเลย วัยร่วงโรย ความดีจะยิ่ง ชัดเจน สดใสและเป็นแสงไฟ ที่ทำ�ให้ผู้ครองความดีดูดีจากภายใน และ ยั่งยืนในทุกที่ที่หยัดยืน หนึ่งปีที่ผ่านไปจึงควรสำ�รวจจิตใจว่า ความดีอะไรที่เราทำ�หล่นหาย ความดีอะไรที่เรารักษาไว้ และความดีอะไรที่เราได้เพิ่มเติมให้กับชีวิตเรา ธันวาคมเดือนแห่งการเพราะบ่มความคิด อย่าลืมถามตัวเองว่า เรา เสียโอกาสและได้โอกาสอะไรบ้าง เราเสียคนดี ๆ และมีคนดี ๆ คนไหนเพิ่ม มากขึ้นในชีวิตบ้าง เราเสียความดีและได้เพิ่มเติมคุณธรรมความดีอะไรให้ กับหัวใจเราบ้าง และที่สำ�คัญที่สุด หนึ่งปีที่ผ่านไปคือ ลมหายใจของเราที่ มีอยู่ในโลกใบนี้น้อยลง เราจะเติบโตแค่เพียงร่างกาย หน้าที่การงาน ความ มั่นคงมั่งคั่งไม่ได้ เราจะต้องเติบโตในมิติของหัวใจ ความมั่นคงทางอารมณ์ ความดีงามในการกระทำ� และความเป็นประโยชน์ตอ่ โลกใบนี้ โลกทีใ่ ห้โอกาส เราหยัดยืนต่ออีกหนึ่งปี หนึ่งปีแต่มีหลายแสนล้านการเติบโต ขอบคุณนะ...ธันวาคม happy+ | 49


คนคิดดี

50 | happy+


ทูน หิรัญทรัพย์ สร้างสังคมที่ดี ผ่านเยาวชนที่มีคุณภาพ เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี

ตลอดการเดินทางในชีวติ ของคุณทูน หิรญ ั ทรัพย์ ผ่านการใช้ชวี ติ มาหลายรูปแบบ ผ่านประสบการณ์การเรียนรูแ้ ละการทำ�งานมาหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความฝันและเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตมาโดยตลอดก็คือ การได้ทำ�อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น สังคมและประเทศชาติ จนวันหนึ่งมีความพร้อมและได้รับโอกาสที่ดี “ศูนย์เยาวชนพลเมืองดี สร้างสื่อ สร้างสรรค์สังคม หรือ Youth Civic Media Learning Center (YCM)” ภายใต้มลู นิธิ The Boss จึงเกิดขึน้ ด้วยความมุง่ หวังว่า จะสร้างสังคมทีด่ ใี นอนาคต โดยการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในวันนี้ ให้เขาคิดเป็น ทำ�เป็นและสร้างสังคมที่ดีด้วยตัวเองในอนาคตต่อไป โดยโครงการนีค้ ณ ุ ทูนทุม่ เททัง้ แรงกาย พลังใจ ประสบการณ์ แ ละความสามารถทั้ ง หมดที่ มี ให้แก่เด็ก ๆ ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ และ วันนีค้ ณ ุ ทูนได้มาเล่าถึงสิง่ ทีเ่ ขารักและกำ�ลังทำ�อยู่ ให้เราได้ฟังกันค่ะ “ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือแล้วผมมีคำ�ถาม กับตัวเองเสมอ เพราะตัวผมเองเรียนในโรงเรียน นานาชาติ สิง่ แวดล้อมจะไม่เหมือนกับในโรงเรียน ไทย เราจะเห็นว่าทำ�ไมเด็กต่างชาติหรือเพื่อน ๆ ที่เรียนในโรงเรียนเดียวกัน เวลาเขาพูดจาเขามี ความมั่นใจ เรื่องที่เขาพูดมักเป็นเรื่องที่กว้าง ๆ ฟังแล้วดูไม่มีอคติ มุมมองของทุกเรื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน กีฬา ครอบครัวมันเป็นเรื่อง ที่กว้าง ทำ�ไมเขาถึงคิดอย่างนี้ได้ ผมคิดเรื่องนี้มา ตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเราขาดอะไรไปนะ แต่ พอเราอยู่กับเขาไปเกือบ 10 ปี ความคิด การพูด และการแสดงออกของเราก็ไปทางเขาหมดเลย แต่ก็ยังมีวัฒนธรรมไทยอยู่ คือ อ่อนน้อม เอื้อเฟื้อ แล้วก็เฟรนด์ลี่ ยังคงไว้เรือ่ งของความเป็นไทย เรา ไม่ได้เอาวัฒนธรรมของต่างชาติมาเยอะ แต่เอา ความคิดของเขามาว่า เขามองโลกอย่างไร ทำ�ไม เขาจึงเจริญกว่าเรา “ตั้ ง แต่ ไปเรี ย นต่ า งประเทศกลั บ มา จน ทำ � งานและได้อ ยู่ในหลาย ๆ แวดวง รวมไป ถึ ง อุ ต สาหกรรมบั น เทิ ง อุ ต สาหกรรมทอผ้ า อุตสาหกรรมเหล็ก สแตนเลส ก็เข้าไปคลุกคลีมา หมดแล้ว แต่ก็ยังงง ๆ ว่า ทำ�ไมเรายังเดินช้าอยู่ ก็กลับไปตั้งต้นใหม่ ตามที่ในหลวงตรัสว่า เรา ควรทำ�ตัวให้เหมือนแก้วนํ้าที่ไม่เต็ม เราจะได้เติม ได้บ่อย ๆ ความหมายของท่านก็คือ เติมความรู้ ผมก็ เ ลยไปหาความรู้ เพิ่ม เติม ไปอบรมที่โน่ น ที่นี่ ช่วงนั้นมีเรื่องของบริษัทไดเร็คเซลส์ บริษัท เอ็มแอลเอ็มเข้ามา ก็มีนักบรรยายที่เก่ง ๆ เขียน

หนังสือขายดีอะไรต่าง ๆ มาพูด ผมก็ไปฟัง แล้ว ก็คิดว่าทำ�ไมเขาทำ�ได้ เขาไม่ได้ลงทุนอะไรเลย เรื่องประสบการณ์ชีวิต เรื่องการค้นหาวิจัย แล้ว ก็ออกมาเป็นหนังสือขาย พอทำ�ออกมาขายก็มี คนซือ้ และติดตามเป็นจำ�นวนมาก จนกระทัง่ ประสบ ความสำ�เร็จ ทำ�ไมเขาถึงสร้างอะไรแบบนั้นได้ เพราะฉะนั้นเราก็สรุปได้อย่างเดียวว่า ความคิด ของเขาแตกต่าง จากจุดนัน้ ผมก็เริม่ ไปอบรม อ่าน หนังสือเยอะ ๆ เรียนเยอะ ๆ แล้วก็เริ่มเขียนของ ตัวเองขึน้ มาจากเพาเวอร์พอยต์ เวลาลูก ๆ หลาน ๆ มีปญ ั หาเราก็คยุ ตามนัน้ ไป หัวข้อเรือ่ ง คุณเป็นใคร คุณมาทำ�ไมบนโลกนี้ คุณมาอยู่กับครอบครัวนี้ ได้ยังไง ทำ�ไมใช้นามสกุลนี้ อะไรต่าง ๆ แต่ไม่ได้ ลงลึก คุยกว้าง ๆ ว่าเกิดมาทำ�ไม มีจุดประสงค์ ในชีวิตอย่างไร และเคยคิดเคยฝันที่จะทำ�อะไร หรือเปล่า เพราะฉะนัน้ สิง่ ทีส่ งั คมไทยหรือเจเนอเรชัน่ คนรุ่ น ใหม่ ๆ ที่ ข าดก็ คื อ จิ นตนาการ ก็ เ ลย สรุปออกมาเป็นเรื่องของความฝัน มนุษย์ไม่มี ความฝันมันไปต่อยอดอะไรไม่ได้ ก็เลยเริ่มเอา คอนเซ็ปต์ของเรา บวกกับการที่ได้ไปเรียนรู้จาก หลาย ๆ ที่ จากการอ่านหนังสือ มาบอกว่าอันนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกับเยาวชนได้ เขาจะได้มองว่า ตัวเองมีคณ ุ ค่า กล้าคิดกล้าแสดงออก คิดอย่างเดียว ไม่พดู ไม่แสดงออกก็ไม่ไปไหน ตรงนีเ้ ลยเป็นจุดเริม่ ต้น ว่าทำ�ไม YCM ศูนย์เยาวชนพลเมืองดีต้องมี “ที่ ผมตั้ งเป็ นศูนย์ เ ยาวชนเพราะว่ าเราไม่ อยากเป็ น องค์ ก รที่ เป็ น สถาบั น เราอยากเป็ น องค์กรทีใ่ ห้การอบรมกระบวนการความคิดอย่างเดียว ถ้ า มนุ ษ ย์ ไ ม่ มี ค วามคิ ด ที่ ถู ก ต้ อ ง ไม่ มี ก าร วางแผน ไม่มีการแสดงออก ก็จะอยู่แค่นั้น เรา เห็ นตั ว อย่ า งมาเยอะ ทำ � ไมถึ ง ไม่ บ อกเด็ ก ๆ สตีฟ จอบส์คอื ใคร เอดิสนั คือใคร บิล เกตส์คอื ใคร เขาเริ่มมาจากตรงไหน เราไม่ได้เน้นว่าเขาจะต้อง

เก่งนะ เราเน้นอย่างเดียวว่า เขาจะต้องฝัน จะ ต้องจินตนาการได้ แล้วเขาจะได้มีความสนใจ ที่อยากจะไปต่อยอดให้ตัวเอง เราเริ่มจากจุดนี้ คือ จากความคิดแรกก็ขมวดมาเป็นทฤษฎี แล้ว ก็เอามาร่างเป็นการสอน เริ่มกล้าที่จะไปบรรยาย ตามโรงเรียนต่าง ๆ ในเวลา 11 ปีเต็ม ๆ เขาเชิญ ผมไปเป็นวิทยากรพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หลั ก สู ต รของการบริ ห ารธุ ร กิ จ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ แต่ละคณะก็ไม่เหมือนกัน แล้วผม ก็สอดแทรกเรือ่ งนีเ้ ข้าไปตลอด เลยมีความรูส้ กึ ว่า เราไปไหนก็ได้กับแค่ความคิดอย่างเดียวว่า คุณ ต้องมีกระบวนการความคิดก่อน เหมือนการขึ้น บันไดที่ต้องมีสเต็ปที่ 1, 2, 3, 4 เพราะฉะนั้นเป็น เรื่องปกติที่เราจะโง่ก่อนฉลาด เป็นเรื่องปกติที่เรา จะลำ�บากแล้วก็สบาย เป็นเรือ่ งทีเ่ ราจะเจอปัญหา แล้วหาคำ�ตอบ หาทางออกได้ แต่อย่าให้เป็นเรือ่ ง เรื้อรัง คือไม่ทำ�อะไรเลย”

ก้าวแรกการทำ�งาน

เมื่อได้แนวคิดและคอนเซ็ปต์การทำ�งานที่ ดีแล้ว ก็ต้องเริ่มทำ�ทีละเล็กทีละน้อย และเมื่อได้ พบผู้ที่คิดเห็นและมีแนวทางที่ตรงกัน การทำ�สิ่ง ดี ๆ ร่วมกันจึงเกิดขึน้ และก้าวไปข้างหน้าได้อย่าง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ “จากความคิ ด ตรงนั้ น เลยเกิ ด ขึ้ น มาเป็ น หลักสูตร และจากประสบการณ์ที่ได้จากการไป บรรยาย ผมคิดว่าน่าจะทำ�กับเด็ก ๆ มากกว่า ผม เลยสร้างตรงนี้มา แล้วก็ไปที่โรงเรียนเลย ผิดถูก ไม่วา่ ขอให้ได้ท�ำ ก่อน ลองผิดลองถูกมาจนกระทัง่ ได้ แล้ว เราเห็นเด็กยิ้ม เด็กทุกโรงเรียนจะเหมือนกัน ก็คอื สมาธิสนั้ ยิง่ ยุคทีม่ มี อื ถือยิง่ สมาธิสนั้ เพราะ ฉะนั้นจะทำ�อย่างไรที่จะสะกดให้เขาฟังสิ่งที่เรา มานำ�เสนอ จาก 100 กว่าโรงเรียนที่ผมได้ไปมา happy+ | 51


คนคิดดี

ตอนนี้ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ตอนนั้น ก็มีหลายคำ�ถามว่าทำ�ไปทำ�ไม ทำ�เพื่ออะไร ทำ� แล้วได้เงินไหม เลี้ยงตัวเองได้รึเปล่า ผมก็ตอบ ไปว่า เป็นเรื่องปกติที่คุณจะถามผมแบบนี้ เป็น เรือ่ งปกติของคนรวยทีจ่ ะถามว่าได้เงินไหม คุม้ ค่า กั บ เวลาที่ เ สี ย ไปไหม คำ � ถามน่ ะ มี ได้ แต่ คุ ณ เคยคิดถึงคำ�ตอบไหม แล้วถ้าคุณได้รับคำ�ตอบ แล้ว คุณจะไปต่อยอดยังไง เคยมีเศรษฐีมาถาม ผมตอนที่ผมไปขอทุนที่จะมาทำ�ตรงนี้ เขาถาม ผมว่าช่วยเหลือตัวเองก่อนดีไหม ก่อนทีจ่ ะไปช่วย เหลือคนอื่นและสังคม ผมก็หนักใจ ไม่รู้จะตอบ ยังไง พอดีมีเพื่อนแนะนำ�ให้ผมรู้จักกับ ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ แรก ๆ ดร.วิสุทธิก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ วิธกี าร เพราะว่าความคิดของเราเร็วกว่าการกระทำ� คนฟังก็จะตามไม่ทัน เพราะยังมองไม่เห็นเป็น รูปธรรม เป็นแต่นามธรรม ทำ�ให้ยงั ไม่เห็นผลลัพธ์ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ ดร.วิสทุ ธิมพี นื้ ฐานความคิด ที่ว่า อยากจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ ดีขึ้น แล้วท่านอยู่ในแวดวงนี้ ท่านก็เห็นว่าอันนี้ น่าจะดีกว่าสิ่งที่องค์กรของท่านนั้นทำ �อยู่ คือ มูลนิธเิ ดอะบอสส์ ทีใ่ ห้ทนุ การศึกษาอยูท่ กุ ปี ตรงนี้ ดร.วิสทุ ธิเห็นด้วยในแนวความคิดทีว่ า่ สร้างคน ดีกว่า ให้ทุนการศึกษาอย่างเดียว ถามว่ายังให้อยู่หรือ เปล่า ก็ยังให้อยู่แต่สัดส่วนก็อาจจะน้อยลง และ หันมาสร้างทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเยาวชนให้ เติบโตในทางทีถ่ กู ต้อง และในทางทีเ่ ขาจะพัฒนา ต่อได้ ทำ�ให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเองและไปสร้าง คุณค่าให้แก่ชุมชน สังคมต่อได้ ก็เลยกลายเป็น ว่าการเริ่มของ YCM มาจากตรงนี้” จากการทำ�งานด้านเยาวชนมากว่า 10 ปี ทำ � ให้ คุ ณทู น มองเห็ น แนวทางที่ ชั ด เจนในการ 52 | happy+

ทำ�งานกับเยาวชน และมองเห็นความหวัง เห็น การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนซึ่งเกิดขึ้นกับเยาวชนที่ ได้เข้าร่วมโครงการ ตรงนี้จึงเป็นแรง เป็นพลัง ให้ คุณทูนยังคงทำ�โครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ “ความคาดหวังก็คือ ผมอยากจะให้คนรุ่น ใหม่ ซึง่ ก็คอื เยาวชนทีเ่ ราสร้างเมือ่ 3-4 ปีกอ่ น สะสม มาเป็นกองทัพเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มีทางเลือก คิดเองได้ ก่อกำ�เนิดอะไรใหม่ ๆ สรุปก็คือ เป็นมนุษย์ที่คิดต่างแบบสตีฟ จอบส์ คื อ เป็ น คนที่ มี ค วามคิ ด ที่ แ ตกต่ า งจากคนอื่ น คนที่อยากเห็นอะไรที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ เขาไม่ต้อง เหมือนสตีฟ จอบส์หรอกครับ เป็นตัวของตัวเองได้ อันแรกคือ ต้องรักตัวเอง รู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเอง มีคุณสมบัติอะไร มีคุณค่าแบบไหน แค่นั้นก่อน พอได้ตรงนั้นแล้วจะได้เรื่องของกระบวนการคิด การวางแผน ทัศนคติ และสองการดำ�เนินชีวิต ที่ มี คุ ณ ภาพ คุ ณ ภาพไม่ ไ ด้ เ กิ ด ขึ้ น กั บ ตั ว เอง คุณภาพเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณไปสร้างให้คนอื่นต่อ คือ ชุมชน สังคมและประเทศ เพราะฉะนั้นอันนี้ คือ พฤติกรรม (Behavior) สร้างแล้ว เริ่มพัฒนา แล้ว อันที่สาม เมื่อสร้างแล้วผลลัพธ์ที่ตามมา อีกกี่ปีก็แล้วแต่ ผมบอกตรง ๆ ว่าไม่ช้าเกินรอ ความคิดของคนรุน่ ใหม่ แม้กระทัง่ ตอนนีจ้ ะเป็นช่วง ริมโบ้อยู่ คือจะไปทางไหนดี เรากำ�ลังจะไปเปลีย่ น ตรงนี้อยู่ระหว่างพฤติกรรมกับผลลัพธ์ เราจะ เปลี่ยนได้หรือไม่ก็ขอลองดู เราไม่ได้บอกว่าเรา จะเปลี่ยนได้นะ “เช่นผมไปเจอแรลลี่ วินเกต ซึ่งผมชื่นชอบ เขามาก คนคนนีบ้ า้ บิน่ เป็นเศรษฐีทลี่ ม้ แล้วล้มอีก แต่ก็ลุกขึ้นแล้วลุกขึ้นอีก เขาพูดว่า สิ่งที่เขาทำ� ไม่ได้สอนให้คุณเป็นดีไซเนอร์ชีวิตคุณเลย คุณโง่

เพราะคุณอยากจะโง่ คุณจนเพราะคุณอยากจน เขาพูดแค่นี้ ผมเก็ตเลย แล้วทำ�อย่างไรเราจะรวย ทำ�อย่างไรเราจะฉลาด เราเห็นเขารวยก็อยาก เป็นอย่างเขา แต่ไม่เคยคิดว่าทำ�อย่างไรละ ตรงนี้ แรลลี่เขาบอกว่า ต้องเป็นตัวเอง ต้องสร้างและ ออกแบบตัวเองใหม่ เขามีรายการเรียลิตี้ ทีไ่ ปบ้าน คนจน พอเข้าไปพบว่า ในบ้านรก ของวางเกะกะไม่ เป็นระเบียบ เขาบอกเลยว่า ผมรูแ้ ล้วทำ�ไมคุณจน คุณไม่มีวินัย ถ้าคุณไม่มีวินัยในการเก็บของ คุณ จะมีวินัยในการดำ�เนินชีวิตได้อย่างไร อย่างที่สอง ที่เขาเจอก็คือ บนโต๊ะอาหารไม่มีอาหาร แปลว่า คุณไม่กินอาหารที่โต๊ะ จุดที่สาม เดินไปที่ห้อง รับแขก มีโต๊ะแบบพับได้วางอยู่แล้วมีจานอาหาร มีเบอร์เกอร์วางอยู่หน้าทีวี ชาวอเมริกันชอบกิน ข้าวหน้าทีวี กินไปดูไป พอไม่มีวินัยทุกอย่างก็จบ เรามาดูประเด็นที่สอง ขี้เกียจ บ้านหลังนี้ขี้เกียจ เขาถึงบอกคุณขี้เกียจไง คุณถึงไม่ประสบความ สำ�เร็จ “เรื่องพวกนี้ผมเอามาจากหลาย ๆ ที่ มา ผนวกเป็นหลักสูตรของ YCM เอาหลาย ๆ อันมา รวมกัน เพราะมันดีไง ก็เอาสิ่งดี ๆ มาให้ เพราะ ผมอยากให้คณ ุ คิดบวกผมก็ตอ้ งบอกแต่ดา้ นบวก ตลอด มันเป็นจิตวิทยาย้อนครับ อันทีส่ าม คุณจะ เป็นคนทีเ่ ฉยเมย ไม่สนใจอะไรทัง้ สิน้ ผลักภาระให้ คนอืน่ นีค่ อื คนทีไ่ ม่ประสบความสำ�เร็จเพราะมีอยู่ 3 อาการ คือ โง่หรือเปล่า ขีเ้ กียจหรือเปล่า เฉยเมย หรือเปล่า ทีนี้มาดูว่าคุณจะประสบความสำ�เร็จ ได้อย่างไร ต้องมี 3 ข้อเหมือนกัน ข้อแรก หยุดฟัง เสียงตัวเอง ข้อสอง ฟังเสียงคนอื่น ข้อสาม ออก มาจากความสบาย อย่าทำ�ตัวสบายเกินไป ถาม ว่าผมได้อันนี้มาจากไหน ผมได้มาจากการอ่าน หนังสือ ไปอบรม ทีผ่ มพูดมาทัง้ หมดนี้ คือสิง่ ทีผ่ ม ให้เด็ก ๆ ให้เขามีทางเลือก ถามว่าแล้วเขาจะไป เป็นอะไรในเวทีที่กว้างขึ้น เวทีที่กว้างขึ้นคือ บ้าน ครอบครัว กว้างขึ้นกว่านั้นคือ ชุมชน โรงเรียน แล้วสังคมกว้างขึน้ มาอีก แต่ทกุ อย่างต้องเริม่ ด้วย ตัวเอง คุณจนเพราะคุณอยากจน ฉันโง่เพราะ


ไม่เคยหยิบหนังสือมาอ่าน You are stupid because you want to be, You are poor because you want to be เพราะถ้าเราเปลีย่ นหนึง่ หน่วยได้ เขาก็จะไป เปลี่ยนคนรอบ ๆ ตัวเขา คือ ครอบครัว เพราะว่า คุณเปลีย่ นก่อนไงเขาถึงเปลีย่ น จากนัน้ ก็กว้างขึน้ ๆ แต่ตอ้ งปฏิบตั ติ ลอด ไม่ใช่ท�ำ ดีวนั เดียว อบรม 2 วัน แล้วจะเป็นได้มันไม่ใช่ คุณต้องใช้ ต้องเอาไป ประยุกต์ทุกอย่าง ทฤษฎีกระบวนการความคิดที่ เราผนวกทุก ๆ เรื่อง Mind Map แผนที่ชีวิต พลัง สมอง พลังแห่งความคิด หมวก 6 สี 6 ใบ การ คิดคู่ขนาน ผมไม่ได้คิดเองเลยนะเรื่องพวกนี้ ผม ไม่ใช่อาจารย์หรือกูรู แต่ผมเป็นคนที่รู้ ที่จะไปเอา ทุกอย่างมาผสมกันได้ ผมรูแ้ ค่วา่ ตรงนีด้ ที ส่ี ดุ แล้วเอา มาให้เขาแค่นี้แหละ ถ้าถามว่าผมต้องการอะไรที่ ทำ�ตรงนี้ ผมต้องการ WCWC และคำ�นี้ประโยคนี้ ผมไม่ได้เป็นคนคิดนะ เยาวชนที่เราอบรมเขาเป็น คนคิด เราต้องให้เครดิตเขา เป็นกลุ่มที่ไปอบรมที่ สหประชาชาติเขาคิดออกมา We Change World Change เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน อบรมแค่ 3 วัน คิดประโยคนี้ได้ ยูเอ็นก็ขอไปใช้ กทม. มาร่วม พันธมิตรกับเราก็ขอไปใช้ แต่เขาไปเปลี่ยนว่า เรา เปลี่ยน กรุงเทพฯ เปลี่ยน ผมไม่ใช่นักบุญ แต่เป็น นักทำ� เป็นคนปฏิบัติ “โดยเฉลี่ยแล้ว 3 ปีที่ผ่านมา เราอบรมเด็ก ปีละ 1,000 คน จำ�นวนของโรงเรียนและสถาบัน การศึกษาก็เป็นร้อย 3 ปีที่ผ่านมา เหมือนเราไป สร้างเมล็ดพันธุ์ สร้างความตระหนักว่าถ้าเราไม่ เปลี่ยนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแค่นั้นเอง เด็กจะอยู่ใน ระดับไหน ชั้นไหน ปีไหนหรือทำ�งานแล้วเขาก็จะ ไม่ลืมตรงนี้ เขาจะไม่ลืมว่า วันหนึ่งเขาได้โอกาส

มีคนมาบอกเขาว่ามีทางเลือกนะ เพราะฉะนัน้ 3 ปี ที่ทำ�ตรงนี้มาสะสมตรงนี้มานั่นก็คือจบเฟสที่ 1 “เข้าสู่เฟสที่ 2 เรายังมีการอบรมต่อ และ เราก็จะทำ�โครงการที่ชื่อว่า SBC ผมต้องบอกว่า WCWC เป็นโครงใหญ่ ใน กทม. เป็นโครงการ SBC เราเป็นคนบอกว่าหาพันธมิตรมาแล้วมาทำ� กันเถอะ ก็คือกรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่ Sustainable Bangkok Campaign ก็คือ เมืองน่าอยู่และยั่งยืน อันนีท้ กุ คนเห็นด้วย พันธมิตรเห็นด้วยก็เลยมาทำ� ด้วยกัน และเราก็เริ่มทำ�ต่างที่จังหวัด มีที่ชลบุรี เขาต้ อ งการ Health ที่ ม าบตาพุ ด จ.ระยอง เขาต้องการ Green ที่ขอนแก่น ต้องการวินัย จิตสำ�นึกเรื่องมารยาทในการจราจร มารยาทใน สังคม แต่ละพื้นที่เขามีสิ่งที่อยากได้ไม่เหมือนกัน เราก็มีหน้าที่ไปทำ�ตรงนี้ ใน 1 ปีแรกทำ�ให้เขาเห็น สร้างกองทัพก่อน ก็เหมือนทีเ่ ราสร้างมาตลอด 3 ปี พอเข้าปีที่ 2 ปีที่ 3 คือ เริ่มเกิดผลแล้ว ผมจะ ยกตั ว อย่ า งว่ า จะทำ � ยั ง ไง อย่ า งเมื่ อ วานนี้ เรา ประชุมสรุปกันแล้ว ทุกครั้งที่เราไปทำ�การอบรม 2 ชัว่ โมงแรก จะเป็นการปรับทัศนคติให้รวู้ า่ วันนีค้ อื อะไร ทำ�อะไร และคุณมีโอกาสแค่ไหน คือกระบวนการ ความคิด ชั่วโมงถัดไปเป็นหัวข้อเรื่องของการเป็น พลเมืองดี หลังจากนั้นก็คือ เรื่องของสื่อ ผลิตสื่อ รณรงค์เพือ่ จะแก้ไขปัญหา ก็เบ็ดเสร็จภายใน 3 วัน แล้วก็มผี ลงานออกมา แต่เราอยากได้มากกว่านัน้ ก็มาคิดว่าทำ�ไมไม่เอาท้ายมาไว้ข้างหน้า เอา ภาคปฏิบตั มิ าไว้ขา้ งหน้า ให้เขาทำ�ก่อนแล้วถึงจะ เอาวันที่ 1 มาเป็นวันที่ 2 ให้เหตุผลเขา ผมต้องการ อะไรใหม่ ๆ เวลาสอนผมจะสนุก เวลาสอนผม ใส่ใจ ผมสังเกตดูว่าอาการเป็นอย่างไร นั่นจึงเป็น

เหตุผลว่าทำ�ไมเราถึงเป็นคนที่เปลี่ยนบ่อย ๆ และ เอาอย่างนี้มา เพราะเราต้องการเอาของดีมาให้ เขา ก็เลยกลับมาถามว่า หวังผลอะไรยังไง ผมก็ บอกว่าปริมาณคนไม่ส�ำ คัญเท่าคุณภาพ แต่เราก็ ต้องเอาปริมาณเพราะว่าในมุมของการตลาดมัน เป็นกระแส โครงการของเราตรงนี้ถามว่า จะทำ� อีกกี่ปี ผมว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด ทำ�ได้เรื่อย ๆ และ คนรุ่นหลังก็จะมาทำ�ต่อ เพราะฉะนั้นในปีแรกเรา สร้างลีดเดอร์ พอคนติดตามเรา เราก็บอกว่าใคร อยากจะมาอบรมเป็นลีดเดอร์ เจเนอเรชั่นต่อไป เขาก็จะสมัครกันมาเอง”

ความสำ�เร็จคือ การได้ทำ�

การสร้างสิ่งดี ๆ อาจจะไม่สามารถเห็นผล ได้ในเร็ววัน ทำ�ให้หลาย ๆ คนท้อแท้และท้อถอย ที่จะทำ�ความดี แต่ถ้าวันนี้เราไม่เริ่มทำ�มันก็คงไม่ เกิดขึ้น ความสำ�เร็จอาจไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่ อาจจะสำ�เร็จตั้งแต่เริ่มลงมือทำ� “ความภูมใิ จของผมคือ มันอาจยังไม่เห็นผล 100% แบบทีอ่ ยากจะเห็น แต่ภมู ใิ จตรงทีว่ า่ จะทำ� อะไรในชีวติ ก็แล้วแต่ขอให้เริม่ ฝัน เริม่ คิด เริม่ พูดคุย เริ่มขายไอเดียและแนวความคิด คิด พูดและทำ� ผมทำ� 3 อย่างนีแ้ ล้ว ผมตายด้วยความภาคภูมใิ จ ว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เริ่มทำ�แล้ว ผมก็ภูมิใจที่ได้ มีส่วนร่วมในการเริ่มทำ�” ช่องทางการติดต่อ E-mail : ycmyouth.center@gmail.com Facebook : www.facebook.com/ycmcenter happy+ | 53


family in love เรื่อง : ผศ.ดร. วีรณัฐ โรจนประภา

ราชาธรรม “คนอยากทำ�ดีนั้นมีมาก แต่คนที่ทำ�ดีนั้นเหลือไม่มาก” วลีนี้มิใช่ ของผู้รู้ใด แต่เป็นผมที่ว่าเอาไว้เอง จากประสบการณ์การทำ�งานด้าน สาธารณประโยชน์มาระยะหนึ่ง ทำ�ให้แม้จะชื่นใจกับสังคมไทยที่มีผู้อยาก อุทิศตนทำ�ความดีเพื่อคนอื่นมากมายจริง ๆ แต่ในเวลาถัดมาไม่นาน ก็ เกิดบทสรุปที่เป็นวลีหลังคือคนทำ�ดีนั้นเหลือไม่มาก จนรู้สึกเศร้าใจว่าทำ�ไม ความอยากทำ�ดีของคนจำ�นวนมาก ถึงได้มอดลงเร็วเหลือเกิน สุดท้ายก็มา ได้คำ�ตอบว่าด้วยเพราะสังคมเรากันเองนั่นเอง ที่ผลักคนใจดีออกจากวิถี แห่งการทำ�ดีนี้ ผลักด้วยความคิดระแวง การพูดดูแคลน การนินทากล่าวร้ายว่าคนทำ� มีเบื้องหลัง คนทำ�ทำ�เอาหน้า คนทำ�ทำ�หวังประโยชน์ ไปจนถึงการอาศัย ความใจดีนั้น ย้อนกลับมาเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ทำ�ความดี การคิด การพูด การกระทำ�อันทำ�ร้ายจิตใจคนทำ�ดีเช่นนี้นี่เอง ทำ�ให้หลายคนจึงเลิก เอามือ ซุกหีบ เลิกเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ ขอกลับ ไปใช้ชีวิตของตนสงบ ๆ ดีกว่า แต่ขณะเดียวกันก็น่าสนใจว่า ในกลุ่มคนคิดดีที่ยังคงทำ�ดีได้อย่าง 54 | happy+

ต่อเนื่อง แม้จะเป็นคนหมู่น้อยนั้น อะไรที่เป็นปัจจัยที่ทำ�ให้พวกเขายังรักษา ปณิธานไว้ได้ ซึ่งคำ�ตอบก็เพราะพวกเขามี “แรงบันดาลใจ” ที่ทรงพลัง มากนั่นเอง โดยเฉพาะแรงบันดาลใจที่เกิดจากการได้เห็นการทรงปฏิบัติ พระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึง่ เป็นแรงขับเคลือ่ นชัน้ เลิศ ทีร่ กั ษา ปณิธานของพวกเขาไว้ได้ คนกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกร่วมกันอยู่สิ่งหนึ่ง คือ ยามที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแล้วพวกเขาจะเกิดความ พยายามอย่างถึงทีส่ ดุ ทีจ่ ะทำ�เพือ่ สังคมให้ได้เศษเสีย้ วของพระองค์ ทัง้ ยังจะ รูส้ กึ อยากตอบแทนพระคุณของพระองค์ทา่ น ด้วยการเดินตามรอยพระบาท มิใช่เพียงปากพรํ่าพูด ที่สำ�คัญคือ พวกเขาได้เข้าใจถึงความเป็นบรมครูของพระองค์ท่าน ที่ มีพระอัจฉริยะในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้ทั้ง 3 ระดับ ตั้งแต่ขั้น “สอน ให้รู้” ที่พระองค์พระราชทานพระบรมราโชวาทให้เข้าใจ ให้มีความรู้แท้ใน ทุกเรื่องจนสามารถนำ�ความรู้นั้นมาแก้ไขปัญหาได้ ต่อมาถึงขั้น “ทำ�ให้ดู” ทีพ่ ระองค์ทรงปฏิบตั พิ ระราชกรณียกิจเป็นแบบอย่างให้เห็นมาตลอดรัชสมัย จนสามารถนำ�แนวทางโครงการพระราชดำ�ริมาเป็นต้นแบบได้ และขัน้ สูงสุด


คือ “อยู่ให้เห็น” ที่พระองค์ทรงแสดงพระจริยวัตรอันงดงามยิ่งให้พวกเรา ดูเป็นแบบอย่าง จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะรักษาวิถีแห่งความดีนี้ไว้ได้ ในวาระเดือนแห่งพ่อนี้ จึงขอนำ�หลักธรรมทีพ่ ระองค์ทรงใช้มาตลอด 70 ปี แห่งการทรงงานที่เราควรน้อมนำ�มาประยุกต์ใช้กับตนมาเสนอให้ได้เดิน ตามรอยพระบาทของพระองค์ท่านกัน นั่นคือหลักวิถีแห่งทศพิธราชธรรม ที่แม้ชื่อจะหมายถึงธรรม 10 ประการของพระราชาหรือผู้ปกครอง แต่ก็มิได้ มีข้อจำ�กัดใดที่ประชาชนจะนำ�มาฝึกฝนให้เกิดในตนเองไม่ได้ ทั้งยังเป็นการ สมควรด้วย เพือ่ ทีต่ อ่ ไปธรรมนัน้ จะได้ตกผลึกในตัวบุคคลนัน้ ก่อเกิดผลผลิต ออกมาเป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่าแก่สังคม ซึ่งหลักทศพิธราชธรรม 10 ประการนั้นประกอบด้วย 1. ทานํ คือ การให้ การสละสิ่งของตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น 2. สีลํ คือ การมีศีล การไม่เบียดเบียนผู้อื่น 3. บริจาคํ คือ การบริจาค สละความสุขส่วนตนเพื่อผู้อื่น

4. อาชฺชวํ คือ ความซื่อตรง ความสุจริตต่อหน้าที่ ทั้งหน้าที่การงาน และหน้าที่ต่อสังคม 5. มทฺทวํ คือ ความอ่อนโยน ความอ่อนน้อมถ่อมตน 6. ตปํ คือ ความเพียร ความขยันขันแข็ง 7. อกฺโกธํ คือ ความไม่โกรธ ไม่แสดงความโกรธ 8. อวิหิงสา คือ ความไม่เบียดเบียนตนเอง ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ด้วยความเป็นกลาง 9. ขนฺติ คือ ความอดทน ความอดกลั้น ต่อสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่ต้อง ประสบ 10. อวิโรธนํ คือ ความเที่ยงธรรม ความหนักแน่น ยึดธรรมเป็นใหญ่ ส่งท้ายนี้หากระลึกถึงพระองค์ท่านก็ควรมองไปที่ “รูปที่มีทุกบ้าน” แล้วให้เกิดแรงบันดาลใจอยากจะศึกษาสิง่ ทีพ่ อ่ สอน ทำ�ตามสิง่ ทีพ่ อ่ ทำ� และ พยายามอยู่ด้วยธรรมของพ่อ เช่นนี้ถึงจะถือว่าได้แสดงกตัญญูจริงครับ

ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut http://www.veeranut.com happy+ | 55


นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม

ด้วยรัก...แต่ทำ�ร้าย ห ลายวั น ก่ อ น ในขณะที่ นั่ ง รั บ ประทาน อาหารกันหลายคน รุ่นน้องคนหนึ่งได้เล่าให้ฟัง เกีย่ วกับน้องชายของเขา ทีต่ อนนีอ้ ายุราว 30 ปีแล้ว แต่กย็ งั ไม่พยายามเรียนให้จบ เพือ่ จะได้หางานทำ� เขาอาศั ย อาหารและเงิ นจากพ่ อ แม่ แ ละพี่ ๆ ในการประทังชีวิต โดยแทบจะไม่สนใจหรือใส่ใจ อะไร และใช้ เวลาส่ ว นใหญ่ ให้ ห มดไปกั บ การ เล่นเกมอยู่ที่บ้าน ฟงั จบผมก็นกึ ถึงเพือ่ นบ้านคนหนึง่ ทีม่ คี วาม คล้ายคลึงกัน เป็นชายอายุ 30 กว่า เรียนไม่จบ ปริญญาสักที ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น เกม เวลาที่เหลือก็จะหมดไปกับการกิน นอน ดื่ม แอลกอฮอล์ เทีย่ ว ผมจึงเล่าให้ฟงั แบบขำ� ๆ ว่าน่าจะ จับเอาสองคนนีม้ าอยูด่ ว้ ยกัน เพือ่ นร่วมโต๊ะอีกคน จึงพูดถึงน้องชายของเพื่อนอีกคน ที่เป็นแบบนี้ เหมือนกัน ก็น่าจะจับมาอยู่รวมกันจะได้รู้ตัวบ้าง ว่าคนแบบตัวเองเป็นคนแบบไหน ในขณะทีพ่ ดู กันสนุก ๆ เรือ่ งทีค่ ยุ กันก็สะกิดใจ ผม แล้วทำ�ให้นึกขึ้นมาได้ว่า จริง ๆ แล้วตัวผม ก็ไม่ได้แตกต่างจากชาย 3 คนดังกล่าวมากนัก โดยพื้นฐานผมก็เป็นคนชอบเล่นเกม ไม่อยาก รับผิดชอบ และไม่ค่อยรักการเรียนสักเท่าไหร่ ตอนเรียนผมก็ไม่คอ่ ยตัง้ ใจเรียนมากนัก เดชะบุญ 56 | happy+

ที่ ผ มพยายามเรี ย นให้ จ บปริ ญ ญาตรี และมี แรงบันดาลใจเรียนต่อปริญญาโท ไม่อย่างนั้น ทุกวันนีผ้ มอาจจะเป็นแบบ 3 คนนัน้ หรือแย่กว่านัน้ ผมจึงคิดว่า โดยเนื้อแท้ 3 คนนั้นอาจจะเก่ง กว่าผมก็ได้ แต่ก็มีบางอย่างที่ทำ�ให้ชีวิตของผม ไม่ได้เดินไปในเส้นทางเดียวกับ 3 คนนั้น จ ากการวิ เคราะห์ ข องผม (ซึ่ ง อาจจะผิ ด หรือถูกก็ได้) ผมคิดว่าสิง่ ทีท่ �ำ ให้เกิดความแตกต่าง ระหว่างผมกับอีก 3 คน ก็คือ “คนรอบข้าง” เพราะเท่ า ที่ ผ มทราบ คนรอบข้ างบางคนของ 3 คนนัน้ โดยเฉพาะพ่อแม่ จะรักและห่วงใยลูกของ ตนมาก มากจนพยายามเข้าข้างและเอาใจ จนไม่ สนใจว่าเป็นเรื่องที่ควรหรือไม่ ซึ่งเป็นการส่งเสริม ให้เกิดพฤติกรรมทีไ่ ม่ดี ไม่เหมาะสม ในขณะทีพ่ อ่ แม่พนี่ อ้ งและญาติ ๆ ของผม จะพยายามบอกอยู่ เสมอว่าสิง่ ไหนดี สิง่ ไหนควรทำ� และไม่สง่ เสริมให้ เกิดพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น คนรอบข้างผมจะบอกว่า ต้องเรียนให้จบให้เร็ว ให้เห็นใจพ่อแม่ที่เลี้ยงดู มา พี่สาวน้องสาวก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการ เรียน เรื่องสุรายาเสพติดทุกคนก็จะบอกเสมอว่า ไม่ดีและควรออกห่าง ผมควรรับผิดชอบตัวเอง ในเรือ่ งการทำ�งานการสร้างความมัน่ คงให้แก่ชวี ติ

ตัวเองให้เร็วทีส่ ดุ ตอนเด็ก ๆ เห็นผมไม่คอ่ ยเอาถ่าน ก็ส่งผมไปอยู่โรงเรียนประจำ�เพื่อให้สามารถดูแล ตัวเองได้ และไม่สนับสนุนทางการเงินในเรื่องที่ ไม่เหมาะสม เช่น เอาไปเล่นเกม เอาไปดืม่ แอลกอฮอล์ รวมถึงไม่เคยส่งเสริมหรือสนับสนุนพฤติกรรมผิด ๆ ด้วยการบอกว่าเรียนไม่จบไม่เป็นไร ไม่มีงานทำ� ไม่เป็นไร สูบบุหรีด่ มื่ แอลกอฮอล์เป็นสิง่ ดี เล่นเกม เป็นสิ่งที่ทำ�มาก ๆ ไม่เป็นไร เป็นต้น คำ�พูดและ การกระทำ�ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นสิ่งที่ “ขัดใจ” ผมแทบทุกอย่าง แต่การขัดใจนั้นก็ช่วยให้ผมรู้ว่า อะไรควรอะไรไม่ควร และผลักดันให้ผมพยายาม ทำ�แต่สิ่งที่ควรทำ� ในขณะที่พ่อแม่ของ 3 คนนั้น บางคนก็บอก ลูกว่าเรียนไม่จบไม่เป็นไร พ่อแม่เลี้ยงได้ บางคน ก็ให้บัตรเครดิตลูกไปเพื่อเล่นเกมเดือนละหลาย หมื่นบาททุกเดือน บางคนก็ยังคงซักผ้าให้ลูก เวลาลูกหยิบอาหารของคนอื่นในบ้านไปกินโดย ไม่ขอไม่ถาม ก็ไม่สอนว่าเป็นสิ่งไม่ดี กลับเข้า ข้างแล้วบอกว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปพูดถึง มันอีก เวลาลูกขอเงินไปเที่ยวไปดื่มแอลกอฮอล์ ก็สนับสนุนให้ไป (ปากอาจจะห้าม แต่ก็ให้เงิน ทุกครั้ง) และอื่น ๆ อีกมากมายที่นอกจากจะ “ไม่สั่งสอน” ไม่บอกให้ลูกของตนรู้ว่า “อะไร


คือสิ่งที่ควรทำ� อะไรไม่ควรทำ�” ตัวเองกลับเป็น ผูส้ นับสนุนให้ลกู มีพฤติกรรมทีไ่ ม่ดี ทำ�ให้ลกู กลาย เป็นคนติดเกม เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบ ฯลฯ กล่าวได้ว่า พ่อแม่บางคนรักลูก พยายาม ทำ�ทุกอย่างเพื่อลูก “ตามใจ” ลูก เพราะความรัก (กลัวลูกไม่รัก กลัวลูกเสียใจ) แต่ความรักที่มีมาก เกินไปกลับบังตา บังใจ บังปัญญา ทำ�ให้มองไม่ เห็นว่าสิ่งไหนควรทำ�กับลูก สิ่งไหนไม่ควร และ ทำ�ให้ลูกเองก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งไหนควร สิ่งไหนไม่ควร ความปรารถนาดีนั้นจึงกลายเป็นการทำ�ร้ายลูก เหมือนทีห่ ลายคนเรียกการกระทำ�แบบนีว้ า่ พ่อแม่ รังแกฉัน (พ่อแม่รักลูกมาก แต่ความรักและการ กระทำ�นั้น กลับทำ�ร้ายลูก เพราะทำ�ให้ลูกกลาย เป็นคนที่มีพฤติกรรมบางอย่างไม่ดี) เรื่องดังกล่าว ทำ�ให้ผมนึกถึงคำ�สั่งสอนของ พระพุทธเจ้าที่พระองค์สอนว่า ในฐานะพ่อแม่ (หรือญาติมิตรที่ปรารถนาดี) มี 5 อย่างที่ควรจะ ทำ� คือ จะต้อง “สั่งสอน” ให้ลูกห่างไกลจากการ ทำ�ชั่วทำ�บาป สอนให้ทำ�บุญ ให้ความรู้ให้การ ศึกษา หาคู่ครองที่เหมาะสมให้ และให้เงินตาม ความเหมาะสม (มิใช่รกั และตามใจ จนลูกเสียคน หรือดูแลเลี้ยงดูตัวเองไม่ได้)

ในขณะเดียวกัน นอกจากความรักในแบบ ที่ถูกต้องของพ่อแม่แล้ว เรื่องดังกล่าวก็ทำ�ให้ ผมนึ ก ถึ ง ความรั ก ความห่ ว งใยที่ เราควรมี ต่ อ คนรอบข้างในฐานะมิตรที่ดี (รวมถึงสามีภรรยา) ที่ เราก็ ค วรจะทำ � ให้ ถู ก ต้ อ งเหมาะสม เหมื อ น อย่ า งที่ พ ระพุ ท ธเจ้ า ตรั ส ว่ า เราควรจะห้ า ม เวลาเพื่อนทำ�บาป ส่งเสริมให้ทำ�บุญ ให้ความ ช่วยเหลือกัน เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข และ แนะนำ�สิ่งดี (มิใช่พยายามเอาใจ ตามใจเพื่อให้ ได้ความรักความไว้ใจ) ยกตัวอย่างในเรื่องใกล้ตัวก็เช่น เราไม่ควร ตามใจคนที่เรารักด้วยการให้กินของที่ชอบมาก เกินไป จนทำ�ให้อ้วนหรือสุขภาพไม่ดี หลังจาก กินข้าวเสร็จ เราไม่ควรเอาใจคนที่เรารักด้วยการ บอกให้เขานั่งอยู่เฉย ๆ จะได้สบายและไม่เมื่อย เพราะการทำ�แบบนั้นทำ�ให้ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ร่างกาย ซึ่งอาจทำ�ให้ระบบย่อยอาหารทำ�งาน ได้น้อยลง เป็นผลเสียต่อเขามากกว่าผลดี เรา ควรจะชักชวนและพาเขาไปเดิน เพื่อให้ร่างกาย ได้เคลื่อนไหวได้เผาผลาญพลังงาน และช่วยให้ ระบบย่อยอาหารทำ�งานได้ดีขึ้น หรือสำ�หรับคนทีร่ า่ งกายไม่แข็งแรง เราก็ไม่ควร

จะเอาใจในแบบผิด ๆ ด้วยการบอกว่า ไม่ควร เดินมาก ไม่ควรเคลื่อนไหวมาก เพราะการส่ง เสริมให้เขาทำ�แบบนัน้ จะยิง่ ทำ�ให้รา่ งกายของเขา ไม่แข็งแรง เราควรจะพยายามชักชวนและนำ�พาให้ เขาเดินและเคลื่อนไหวให้มากขึ้น เพื่อให้เลือดลม ได้สบู ฉีด เพือ่ ให้มกี ารใช้งานกล้ามเนือ้ และอวัยวะ ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งจะทำ�ให้แข็งแรงมากขึ้น จากตัวอย่างที่กล่าวมาทั้งหมด เราก็คงจะ เห็นภาพแล้วว่า ความรักที่เรามี สามารถทำ�ร้าย คนที่เรารักได้อย่างไร ผมอยากจะสรุปว่า หากเรารักแล้วตามใจ เอาใจ โดยไม่ใช้สติพิจารณาว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหน ไม่ดี เราก็กำ�ลังตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาและ ความรัก และสิ่งที่เราทำ�ลงไปก็จะเป็นการทำ�ร้าย ทำ�ลายคนที่เรารัก ในทางตรงกันข้าม หากเราเห็นคนที่เรารัก เราหวังดี กำ�ลังทำ�ในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร การ ตั้งสติแล้วขัดใจเขาด้วยการเตือน การแนะนำ� และพยายามนำ � พาเขาให้ ทำ � ในสิ่ ง ที่ ถู ก ต้ อ ง คือ การกระทำ�ที่ควรทำ�ในฐานะพ่อแม่ที่ดีหรือ กัลยาณมิตรที่ดีของเขา

สอบถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Nutpobtum, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57


wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ

อย่าเผลอให้ ‘การทำ�งานหนัก’ ฆ่าคุณ เมื่ อ เดื อ นมิ ถุ น ายนปี นี้ Stefanus Taofik วิสัญญีแพทย์วัย 35 ปี โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อินโดนีเซีย เสียชีวิตในหอผู้ป่วย ด้วยภาวะหัวใจ ล้มเหลว การเสียชีวติ ของเขาถูกนำ�มาเปรียบเทียบ กับ Mark David Dehesa ที่อายุ 35 ปีเท่ากัน ซึ่ง เสียชีวติ ตอนต้นปี รายหลังทำ�งานเป็นนักวางแผน ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Ogilvy & Mather เสียชีวิต จากภาวะแทรกซ้อนและอาการปอดบวม การ เสียชีวติ ของพวกเขาถูกสือ่ นำ�มารวมอยูใ่ นกลุม่ เดียว กับการเสียชีวิตของ Miwa Sado, Mita Diran ฯลฯ ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาววัยทำ�งาน ที่เสียชีวิตจากการ ทำ�งานหนักเกินไป และทำ�ให้คำ�ศัพท์ Karõshi กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งครับ Karõshi เป็ น ศั พ ท์ ที่ บั ญ ญั ติ จ ากประเทศ ญี่ ปุ่ น ซึ่ ง หมายถึ ง การเสี ย ชี วิ ต ฉั บ พลั น จาก การทำ � งานหนั ก ซึ่ ง ผมต้ อ งอธิ บ ายก่ อ นครั บ ว่า เสียชีวิตเพราะทำ�งานหนักในนิยามนี้ไม่ได้ หมายความว่ า ทำ � งานมาหลายปี จ นสุ ข ภาพ ทรุดโทรมแล้วเสียชีวติ แต่การจะบอกว่าคนคนหนึง่ เสียชีวติ เนือ่ งจาก Karõshi ก็ตอ้ งมีความสัมพันธ์ที่ แสดงออกชัดเจนว่า การทำ�งานหนักเกินไป (Overwork) ก่อให้เกิดความเหนื่อยล้าต่อเนื่อง (Chronic 58 | happy+

Fatigue) กระทบสมองกับหัวใจ ซึ่งในที่สุดนำ�ไปสู่การตายแบบฉับพลันได้สองกรณี กรณีแรกคือ ทำ�งานหนักต่อเนื่องจนนำ�ไปสู่ภาวะเจ็บป่วยทางกายที่รุนแรงจนเสียชีวิต ไม่ว่าจะ เป็นหัวใจวายหรือเกิดเส้นเลือดสมองแตก เช่น กรณีคุณหมอ Stefanus Taofk ที่ทำ�งานและอยู่เวรใน โรงพยาบาลติด ๆ กันจนไม่ได้พักผ่อน แล้วเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจนนำ�ไปสู่หัวใจล้มเหลว หรือ กรณีที่สองคือ ทำ�งานหนักจนกระทบสุขภาพจิต นำ�ไปสู่การฆ่าตัวตาย เช่น กรณี Matsuri Takahashi หญิงชาวญี่ปุ่นอายุ 24 ปี ที่ฆ่าตัวตายโดยก่อนหน้านั้นเธอโพสต์ข้อความว่า “ฉันอยากตาย” “สภาพ ร่างกายกับสุขภาพจิตของฉันยับเยินไปหมดแล้ว” และทิง้ จดหมายลาตายให้แม่วา่ “ทำ�ไมอะไรต่อมิอะไร ในโลกใบนี้ถึงหนักหนาสาหัสเหลือเกิน” และเมื่อศาลได้พิจารณาคดีก็พบว่า บริษัท Dentsu ซึ่งเป็น นายจ้างของเธอกำ�หนดชั่วโมงการทำ�งานที่มากเกินจากข้อตกลงมาตรฐาน จึงสั่งให้จ่ายค่าชดเชยแก่ ครอบครัวของเธอ และเป็นเหตุให้ประธานบริษัท Dentsu ขอลาออกเนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเท่ากับ ยอมรับว่า ‘งาน’ มีผลต่อการเสียชีวิตของลูกจ้างจริง ๆ Karõshi อาจจะเป็นศัพท์ญปี่ นุ่ และเป็นปัญหาทีพ่ บมากในวัฒนธรรมแบบญีป่ นุ่ แต่มนั คืออุบตั กิ ารณ์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลกนะครับ เพราะร่างกายของคนไม่ว่าจะเป็นคนไทย, อเมริกา หรือญี่ปุ่น ฯลฯ ล้วนมีหลักการทำ�งานเหมือนกันหมดคือ ทุกอวัยวะมีขีดจำ�กัดในการทำ�งานมันต้องการการพักผ่อนที่ เหมาะสม การที่คนจำ�นวนมากทำ�งานหนักจนสุขภาพเสื่อมโทรม จนป่วยเป็นโรคหรือรุนแรงจนเสียชีวิต อย่าง Karõshi ไม่ใช่ความผิดของบริษทั กับนายจ้างเสมอไป แต่บอ่ ยครัง้ เกิดจากเราไม่เข้าใจการทำ�งาน ของร่างกายมนุษย์ Mita Diran ก๊อบปี้ไรเตอร์ชาวอินโดนีเซียทวีตว่า “ทำ�งานติด ๆ กันมา 30 ชั่วโมงแล้ว และจะทำ� ต่อไปอย่างเข้มแข็งงงงงง” ก่อนทีเ่ ธอจะหมดสติและเสียชีวติ จากการทำ�งานหนักต่อเนือ่ งในเวลาต่อมา ทวีตของเธอเป็นตัวอย่างความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยเลยครับคือ การเชื่อว่า ‘กำ�ลังใจดี’ ก็คงไม่เป็นไร ตราบใดที่ยังรู้สึกสู้ไหว ร่างกายของเราก็จะยังร่วมสู้ไปจนถึงเป้าหมายได้ เพราะความเชื่อนี้มองข้าม


ข้อเท็จจริงของร่างกายว่า ‘หัวใจ’ ของมนุษย์ที่ทำ�หน้าที่สูบฉีดโลหิตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำ�ลังใจ การทำ�งานของหัวใจและอวัยวะของเราสามารถแปรผันตามการออกแรง (Exertion) หรือ ความเครียด (Stress) นัน่ หมายความว่า ต่อให้คณ ุ ไม่ได้ท�ำ งานแบบยกกระสอบข้าวสารขึน้ เขา แค่นงั่ โต๊ะ พิมพ์งานหน้าจอเฉย ๆ แต่การนั่งทำ�งานต่อเนื่องติดต่อกันนาน ๆ ซึ่งก่อความเครียด, การขาดสาร อาหาร, ความอ่อนล้า ฯลฯ ล้วนมีผลต่อการเต้นของหัวใจทัง้ สิน้ ซึง่ นัน่ ทำ�ให้ตน้ เหตุการเสียชีวติ ส่วนใหญ่ ของ Karõshi ก็คือ ภาวะหัวใจล้มเหลวนั่นเอง ดังนั้นต่อให้คุณรู้สึกสู้ แต่หัวใจของคุณก็ล้มเหลวได้ นอกจากนี้การทำ�งานต่อเนื่องหรืออยู่กับความเครียดโดยไม่พัก ยังส่งผลต่อโรคประจำ�ตัวที่มี อยู่แล้วด้วย เช่น ถ้าคุณมีโรคเบาหวานแล้วเครียดต่อเนื่อง หรือกินอาหารไม่ตรงเวลาก็จะมีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงระดับนํ้าตาลในเลือด แล้วก็จะนำ�ไปสู่ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น ช็อกจากระดับนํ้าตาลในเลือดสูง (หรือตํ่า) ผิดปกติ ฯลฯ ซึง่ ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ เราจะเห็นนะครับว่าไม่ใช่แค่ ‘การทำ�งานหนัก’ ทีส่ ามารถฆ่าคน แต่มนั ยัง รวมถึงกิจกรรมใด ๆ ก็ตามทีใ่ ช้งาน ‘ร่างกายและจิตใจ’ ของมนุษย์โดยไม่คดิ ถึงความสมดุล ก็สามารถ ทำ�ให้คุณเสียชีวิตได้ เช่น กรณี Brian Vigneault ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ เขาเป็นชายอายุ 35 ปี ซึ่งเป็น เกมเมอร์ชาวอเมริกาที่ประกาศถ่ายทอดสดการเล่นเกมต่อเนื่องยี่สิบสี่ชั่วโมง เพียงยี่สิบสองชั่วโมงที่ นั่งเล่นเกมติดต่อกัน เขาเดินออกไปสูบบุหรี่แล้วก็เสียชีวิตทันที โดยการวินิจฉัยจากแพทย์เชื่อว่ามา จากการนอนไม่เพียงพอและมีภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ ดังนัน้ จุดสำ�คัญในการป้องกัน Karõshi จึงไม่ใช่แค่หวังพึง่ พาองค์กรหรือนายจ้าง ทีจ่ ะจัดสรรชัว่ โมง การทำ�งานที่เหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องสร้างความสมดุลหรือที่เรียกว่า Work-Life Balance โดยตั้งต้นจากความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ว่า อวัยวะของเราไม่ว่าจะหัวใจหรือสมอง ล้วน ต้องการการพักผ่อน เหมือนเครื่องจักรที่แข็งแกร่งแค่ไหนถ้าไม่พักก็จะรวน ซึ่งก็จะเป็นต้นเหตุที่นำ�ไป สู่สุขภาพเสื่อมโทรมและการเสียชีวิตที่ไม่คาดฝัน

คำ�ว่า ‘สมดุล’ ไม่มีสูตรสำ�เร็จหรอกครับว่า คุณจะทำ�งานติดต่อกันกี่ชั่วโมงแล้วจะพักกี่นาที เพราะเราแต่ละคนมีเงื่อนไขชีวิตที่ต่างกัน แต่การ จะเกิดสมดุลได้นั้น ต้องเริ่มจากเราทุกคนต้อง เริ่มทำ�ความรู้จักตัวเอง ไล่ตั้งแต่พื้นฐานสุขภาพ ร่างกายของตัวเอง (มีโรคประจำ�ตัวหรือไม่, ได้นอน เพียงพอหรือเปล่า ฯลฯ) และพยายามสร้างวินัย ในการพักผ่อนเช่นเดียวกับวินยั ในการทำ�งาน รูจ้ กั เปลี่ยนแปลงอิริยาบถเมื่อต้องอยู่ท่าเดิมนาน ๆ กินอาหารให้ตรงเวลา ละจากงานตรงหน้าเพื่อ คลายเครียดเป็นครั้งคราว ฯลฯ ‘กำ�ลังใจ’ ไม่ได้ป้องกันความตายจากการ ทำ�งานหนัก ความฮึกเหิมหรือเพลิดเพลินขณะ ทำ�งานจนไม่แบ่งเวลาพักผ่อน อาจเป็นหลุมพราง ที่ทำ�ให้เราประมาทแล้วทำ�งานไปเรื่อย ๆ โดยลืม ความเหนือ่ ยล้า เผลอคิดว่าไว้มสี ญ ั ญาณเตือนก่อน จึงค่อยหยุดพัก แต่ในความเป็นจริงอวัยวะของ คนเราไม่ได้ทำ�งานแบบนั้น บางครั้งมันก็หยุด ทำ�งานฉับพลันหลังเหนื่อยล้าอย่างยาวนาน โดย ไม่ให้เราตั้งตัว และนั่นก็หมายถึงความตายหรือ Karõshi

ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59


ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ

สุดแผ่นดิน ท่ า ม ก ล า ง ช่ ว ง เว ล า ที่ เศ ร้ า โ ศ ก ข อ ง ประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ผม ตัดสินใจขับรถออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปรับลม หนาวที่รอยต่อแผ่นดินอีสานและภาคกลาง ช่วง จังหวัดลพบุรแี ละชัยภูมิ เป้าหมายวางไว้ทหี่ น้าผา แห่งหนึ่งที่มีความหมายสอดคล้องกับช่วงเวลานี้ พอสมควร หน้าผาจุดชมวิว “สุดแผ่นดิน” คงเป็นสถานที่ ทีเ่ หมาะกับการไปปล่อยความคิด และมองโลกกว้าง เพื่อเดินทางชีวิตต่อไป หน้าผาสุดแผ่นดินนีเ้ ป็นหนึง่ ในจุดท่องเทีย่ ว ของอุทยานแห่งชาติปา่ หินงาม จังหวัดชัยภูมิ เป็น หน้าผาบนยอดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย ที่เป็น ขอบทีร่ าบสูงอีสาน พืน้ ทีล่ าดชันของเทือกเขาด้าน ตะวันตก เชื่อมต่อผืนป่ายาวเหยียดกับเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ในอำ�เภอลำ�สนธิ จังหวัด ลพบุรี ในอดีตผมเคยมาเยือนทีท่ อ่ งเทีย่ วแห่งนีส้ าม สี่ครั้ง ตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสือก็เคยผ่านมาดู ร่องรอยทีอ่ ดีตอนุทวีปทางธรณีกาลอย่างฉานไทย ที่ฝั่งลพบุรีมามุดตัวเข้าใต้อินโดไชนาหรือแผ่นดิน 60 | happy+

อินโดจีน โดยว่ากันทางวิชาการว่า แผ่นทวีปฉานไทย ด้านล่างนั้นล่องลอยมาบนชั้นเปลือกโลกเหลว จากซี ก โลกใต้ ฝั่ ง มหาทวี ป กอนด์ ว านาทาง ออสเตรเลียปัจจุบันเมื่อสักสี่ห้าร้อยล้านปีที่แล้ว โน่น สมัยเรียนจบใหม่ ๆ ก็เคยจัดทริปมาเทีย่ วกับ เพือ่ น ๆ อีกครัง้ สองครัง้ เพือ่ ดูทงุ่ ดอกกระเจียวบาน บนลานหิน ในฤดูฝน และมาเที่ยวดูลานก้อนหิน รูปร่างประหลาด ที่ลานหินงามอีกครั้งในช่วงฤดู หนาว จำ�ได้ว่าหน้าหนาวเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ผม กับเพื่อน ๆ ที่อายุเลยวัยรุ่นมาไม่กี่ปีเพิ่งทำ�งาน มาก่อไฟทำ�อาหารหน้าบ้านพักอุทยาน พร้อม พูดคุยแลกเปลีย่ นประสบการณ์ทเี่ พิง่ ทำ�งาน และ รำ�ลึกความหลังครั้งเรียนหนังสือกันสนุกสนาน โดยมีเพื่อนคนหนึ่งที่กำ�ลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เป็นทั้งลมชักและเดินละเมอ แน่นอนว่าช่วงวัยรุ่น แบบนั้ น เครื่ อ งดื่ ม แก้ ห นาวย่ อ มเป็ น เครื่ อ งมื อ เพิ่มอรรถรสในการสนทนา พ วกเราพยายามควบคุ ม ไม่ ให้ เพื่ อ นคน ที่มีปัญหาสุขภาพคนนั้นดื่มมากนัก แต่ปัจจัย

จากปริมาณแอลกอฮอล์น่าจะน้อยกว่าอารมณ์ สนุ ก สนานที่ เราพู ด คุ ย แซวกั น กลางแสงดาว กระทั่ ง มี ก ารแข่ ง ขั น ต่ อ กลอนกั น รอบกองไฟ บรรยากาศพาให้เราหัวเราะกันร่วนสรวลเสเฮฮา กันแทบเป็นแทบตาย จำ � ได้ แ ม่ น ว่ า คื น นั้ น พวกเราเกื อ บสิ บ คน นอนรวมกันในห้องใหญ่ ๆ ห้องเดียว น่าจะช่วง ตีสองตีสามหลับไปไม่นานเจ้าเพื่อนที่มีปัญหา เดินละเมอก็ออกฤทธิ์ เหมือนเป็นลมชักสักพัก ผุดลุกขึ้นเสียงดัง ผมจำ�ได้ว่าผมยังหลับไม่สนิท ก็เรียกเพื่อนให้ตื่นช่วยกันจับ สมัยนั้นที่บ้านพัก ช่วงกลางคืนไฟฟ้าดับ เราจุดเทียนเห็นหน้าเพื่อน ลุกตาขวางเหมือนผีเข้า บรรยากาศน่ากลัวมาก เพื่อนผู้ชายตัวใหญ่เข้าล็อกแขนไว้พยายามเรียก สติและกดให้นอน เพื่อนที่ละเมอมีแรงมากผิด ปกติ ดิ้นอาละวาดฟาดแขนจนคนจับเจ็บตัวกัน ไปพอควร แต่ก็จับไว้ได้ ผมเห็นแววตาเขามอง มาทางผม แต่เหมือนสายตาไม่ได้มองเห็นผม แต่ มองไปทีด่ า้ นหลังผมทีไ่ ม่มใี ครเหมือนกำ�ลังสือ่ สาร ตื่นกลัวอะไรอยู่ ผมขนลุกแล้วสวดมนต์เพราะ ไม่รู้จะทำ�อย่างไรดี ดีที่เพื่อนผมค่อย ๆ อ่อนลง


พวกเราค่อย ๆ จับเขานอนลงจนได้ เราดับไฟนอนต่อ แต่อกี พักเดียวมีใครตะโกนว่าเจ้าเพือ่ นคนนัน้ หาย ไปแล้ว พวกเราตกใจ กลัวเพือ่ นเดินออกจากบ้าน เข้าป่า ตกเหว รีบจุดเทียนตามหา นอกห้องลม หนาวพัดแรง จำ�ได้ว่าเป็นทริปที่ไม่มีความพร้อม ที่จะลำ�บาก เพราะตัดสินใจมากันกะทันหันไม่ได้ เตรียมแม้กระทั่งไฟฉาย เพราะรู้ว่าจะไปนอนที่ บ้านพัก จำ�แม่นว่าเพื่อนคนหนึ่งจุดเทียนเดินไป ตามระเบียงยาวของห้อง เขาเล่าว่าเดินไปเรื่อย ๆ มองอะไรไม่เห็นมากนัก ลมแรง มือก็ป้องเทียน เดินจะรีบตามเพื่อนให้เจอในความมืด เดินไปสุด ฝาห้อง เดินต่อไม่ได้ กลัวก็กลัว ตะโกนให้เพื่อน ช่วย แต่ไม่มีใครไปช่วย ต้องตั้งสติเดินกลับมา ในความชุลมุนจำ�ไม่ได้ว่าเราไปเจอเพื่อนที่ละเมอ ทีไ่ หน แต่กช็ ว่ ยกันประคองดันเหมือนเป็นหางเสือ ต้อนให้กลับมาที่ห้องจนได้ แล้วค่อย ๆ ปลอบให้ นอน เพื่อนผมมันครางฮือ ๆ อยู่จนเราหลับไปถึง เช้า กว่าจะผ่านคืนนั้นไปได้ เหนื่อยกันแทบตาย แต่ความเป็นหนุ่มก็ถือว่าเป็นความสนุกสนาน เมื่อทุกคนเล่าความรู้สึกกับการผจญภัยในความ มืดกันชุลมุนเหมือนในหนังผี นั่นเป็นความทรงจำ�ของผมเมื่อยืนอยู่บน

หน้าผาสุดแผ่นดิน ที่ดูเหมือนว่าถนนอย่างดีมา แทนทีถ่ นนลูกรังเหมือนทีผ่ มจดจำ� และวิวป่าเบือ้ งล่าง ดูแน่นทึบกว่าสมัยก่อนมาก เวลาผ่านไปเนิ่นนาน มีเรื่องมากมายผ่านไป ผมครุ่นคำ�นึงว่าวัยหนุ่ม สาวที่ ส นุ ก สนานมั นค่ อ ย ๆ หายไปนานนม แม้เราจะยังอารมณ์ดี มีความสุขกับการทำ�งาน ที่รัก และอารมณ์สนุกสนานกับเพื่อนแบบนั้นมัน ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว ภาระการงานและชีวิต พลัดพรากไป พร้อมกับวัยทีเ่ พิม่ ขึน้ เป็นธรรมชาติ ทีไ่ ม่สามารถหลีกเลีย่ งได้ เหมือนแผ่นดินทีถ่ งึ เวลา ต้องเปลี่ยนกาลสมัย ผมเดินจากหน้าผาสุดแผ่นดินลงมาพร้อม กับสิ่งที่ครุ่นคิดเยอะแยะ ก่อนที่จะเดินทางต่อมา แวะชมทุ่งหญ้า ที่ไม่มีดอกกระเจียวในฤดูปลาย ฝนต้นหนาว และลานหินงามที่มีหมู่หินรูปร่าง ประหลาดมากมาย ที่ยังร้อนแม้ลมเย็นจะพัดแรง เส้นทางท่องเทีย่ วในป่าหินงาม ทีผ่ มประทับใจ ในทริปนี้กลับเป็นจุดที่ไม่มีใครไปเยือนมากนัก เป็นพื้นที่ราบที่มีชั้นหินผุพังระเกะระกะสมชื่อว่า “ลานหินหน่อ” ผมคาดไว้แล้วว่า อาจจะได้เจอ ดอกไม้เล็ก ๆ ที่ชอบขึ้นบนลานหินในช่วงฤดูฝน พอไปถึงเห็นอากาศแห้งมาก ก็รู้ว่าเลยช่วงที่จะ

มีดอกไม้แบบนั้นมาก ๆ เสียแล้ว ผมเดิ น ดุ่ ม เข้ า ไปอย่ า งน้ อ ยก็ ค งได้ ดู ชั้ น หินทรายสวย ๆ แปลก ๆ ทางธรณีวิทยาบ้าง แต่ ปรากฏว่าดอกไม้สวย ๆ จิ๋ว ๆ ตามลานหินยังมี พอสมควร ดอกไม้สมี ว่ งจัด รูปทรงคล้ายไมยราบ บนก้านแข็งยาวทอดตัวอยูก่ บั ลานหินสีเทาดูตดั กัน สวยงาม ดอกไม้สีแดงจัดรูปทรงคล้ายดอกชบา แต่ขนาดเล็กกว่าหลายสิบเท่า ยังมีให้ถ่ายรูป สวย ๆ รอบ ๆ มีร่องรอยดอกกระดุมเงินจิ๋วสีขาว ที่เพิ่งแห้งไป ผมตัดสินใจปีนก้อนหินขึ้นไปสำ�รวจด้านบน ที่เป็นแผ่นชั้นหินกว้าง แค่โผล่หน้าพ้นก็พบดง ดอกไม้รปู ทรงคล้ายอัญชันจิว๋ ๆ สีมว่ งจัดดงใหญ่ สลับกับกล้วยไม้ดินสีเหลืองเข้มจี๊ด ที่รอยแตก ของกองหิน มีกอไม้จิ๋ว ๆ ดอกสีชมพูขึ้นมากมาย ผมถ่ายรูปจนพออกพอใจ จิตใจพองฟู จดจ่อ กับการค้นหาความงามจิ๋ว ๆ ในลานหินหน่อ เดินไปพบดงกระดุมเงิน ที่พื้นดินกว้างหลบหลัง หินใหญ่อยู่หลายกอ ดงดอกไม้ก้านแข็งสีเหลือง ทีไ่ ม่เคยจำ�ชือ่ ได้ พัดไสวอยูก่ บั ลมหนาวแรกของปี เดินไปอีกไม่ไกลก็พบ ทุ่งดอกไม้สีฟ้าอมม่วงอ่อน เกสรสีเหลือง เมื่อมองมุมเงยก็พบว่า มันโบกบิน เหมือนผีเสื้อตัดกับสีฟ้าเข้มและเรือนยอดของป่า เต็งรังที่ฉากหลัง ทางดอกไม้พาผมไปถึงลำ�ห้วยเล็ก ๆ นํา้ ใสแจ๋ว ไหลผ่านแผ่นหินทราย เสียงนํ้าในห้วยช่างเสนาะ เพราะพริง้ ผมมุดเข้าไปนัง่ อยูบ่ นเถาวัลย์ใหญ่เส้น หนึ่ง มองป่ารอบ ๆ ตัวเหมือนคนได้กลับถิ่นฐาน บ้านช่องที่คุ้นเคย ดอกไม้จิ๋ว ๆ บานส่งท้ายฤดูกาลปีนี้ แล้ว ก็แห้งหายไปกับลมหนาวแห้งแล้ง แต่เมล็ดพันธุ์ ของชีวิตยังเก็บความงามไว้ในกลไกสืบทอดตาม ธรรมชาติ แม้ในซอกหินแตกแข็งกร้าน เมื่อฝน หน้ามาใหม่ ชีวิตงดงามก็เติบโตผลิบานรอการ ค้นพบความงดงามจากใครสักคนทีม่ ีจติ ใจค้นหา ความงาม ที่จะได้พบกัน บันทึกไว้ที่ “สุดแผ่นดิน” ปี 2560 happy+ | 61


take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา

9 สาเหตุที่ทำ�ให้คุณจดจ่อกับงานไม่ได้ ใส่ใจ จดจ่อ สมาธิ มีสติ คำ�เหล่านี้นับเป็นคำ�ที่แทนความหมายของการใช้ชีวิตบนความตระหนักรู้ ถือเป็นสิ่งที่จำ�เป็นในการใช้ชีวิตและ การทำ�งาน แต่ในยุคปัจจุบนั ทีส่ ภาพสังคมสิง่ แวดล้อมต่าง ๆ เปลีย่ นแปลงไป หลายคนมักจะพบว่าตนเองไม่สามารถจดจ่อ มีสมาธิกบั การทำ �งาน ได้นานพอ จนบางครั้งรู้สึกไม่พึงพอใจในตนเองหรือถูกคนรอบข้างตำ�หนิได้ และเมื่อรู้สึกว่าเป็นปัญหาหลายคนเลยแก้ไขด้วยวิธีตรงไปตรงมาก็ คือ ‘พยายามจดจ่อกับงานให้มากขึ้น’ ซึ่งมีไม่น้อยที่ล้มเหลว เนื่องจากไม่รู้ตัวว่าเบื้องหลังการจดจ่อกับงานไม่ได้นั้น มีสาเหตุที่ไม่ได้รับการแก้ไข หลบซ่อนอยู่ และนี่คือ 9 สาเหตุที่พบได้บ่อยที่ทำ�ให้คุณไม่สามารถจดจ่อมีสมาธิกับการทำ�งานได้ 62 | happy+


1. นอนไม่พอ

คนเราโดยเฉลี่ยแล้วต้องการการนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยจะต้องเป็นการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ นั่น คือมีช่วงหลับลึกอย่างเพียงพอ ซึ่งหากไม่เพียงพอจะทำ�ให้สูญเสียความ สามารถในการทำ�งาน ทีต่ อ้ งใช้ความคิดหรือการวิเคราะห์จดจำ� ซึง่ ผลก็คอื ไม่สามารถจดจ่อกับการทำ�งานได้ หรือจดจ่อได้แต่ว่าไม่สามารถใช้งาน ข้อมูลนัน้ ได้ สำ�หรับการดืม่ กาแฟเป็นทางแก้เพียงชัว่ คราว เพราะกาแฟจะมี ผลจริง ๆ เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

2. ขาดนํ้า ขาดอาหาร

ร่างกายของเราจะมีระบบที่คอยสอดส่องดูว่า เรามีนํ้าและพลังงาน เพียงพอหรือไม่ ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดนํ้า จะเกิดการกระตุ้นให้เกิดการ กระหายนํ้า ซึ่งในคนที่กำ�ลังทำ�งานอยู่ บางครั้งไม่สะดวกในการลุกออกไป หรือแม้แต่การอยู่ในห้องที่มีการปรับอากาศทำ�ให้รู้สึกเย็นสบาย ซึ่งไปกลบ ความรู้สึกกระหายนํ้า ก็เลยทำ�งานต่อไปทั้ง ๆ ที่ร่างกายกำ�ลังขาดนํ้า สำ�หรับการขาดอาหารและพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการอดเป็นบางมื้อ ซึ่งหากมีเรื่องให้กังวลเกิดขึ้นแล้วเรา “คิด” ขึ้นมา จะเกิดการสลับไป เช่น ในมือ้ เช้า หรือการทีถ่ งึ เวลากินอาหารแต่ไม่ได้ไปกิน ก็สามารถทำ�ให้เกิด มาของความคิดในสมอง ซึง่ การต้องคิดเรือ่ งทีก่ งั วล สลับกับการทำ�งานนีแ่ หละ อาการอารมณ์ไม่ดี ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ เกิดอาการกระสับกระส่าย ที่ทำ�ให้เราไม่มีสมาธิในการทำ�งานได้ หงุดหงิดง่าย ซึ่งเป็นผลจากการตอบสนองของร่างกายที่ต้องการให้เราลุก ไปหาอะไรมากิน 4. มีโรคทางกาย บางครั้งเราจะพบว่าอาการสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้นั้น 3. มีเรื่องให้กังวล จริง ๆ เกิดมาจากโรคบางอย่างของร่างกายที่หลบซ่อนอยู่ เช่น โรคทาง ความเครียดหรือการมีเรื่องให้กังวล เป็นส่วนสำ�คัญที่ทำ�ให้เราไม่ ไทรอยด์ (ไม่ว่าจะไทรอยด์ตํ่ากว่าปกติหรือไทรอยด์เป็นพิษ), โรคเบาหวาน, สามารถจดจ่อมีสมาธิกับการทำ�งานได้ เพราะว่าตามธรรมชาติของมนุษย์ โรคไต, โรคโลหิตจาง เมื่อเกิดความเครียดในเรื่องอะไรขึ้นมาก็ตาม เราจะเกิดการ “คิด” ตามมา หรือโรคใด ๆ ก็ตาม ทีไ่ ปทำ�ให้สมองถูกรบกวน ไม่วา่ จะจากการมีของเสีย กระบวนการคิดจากเรื่องเครียด ๆ นี้ เป็นกระบวนการตามปกติ โดยมนุษย์ มากเกินไป, ขาดออกซิเจน ขาดเลือดหรือนํ้าตาลอันเป็นส่วนสำ�คัญใน เราจะ “คิดกังวล” คือจินตนาการไปก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง และ การทำ�งานของสมอง ซึ่งหลายครั้งผู้ป่วยไม่มีอาการใดให้เห็นเลย นอกไป “คิดหาทางออก” ว่าถ้าหากเป็นตามทีเ่ ราจินตนาการขึน้ มาแล้ว เราจะแก้ไข จากอาการทางอารมณ์หรือความคิด อะไรได้บ้าง

5. มีโรคทางจิตใจ

ภาวะและโรคทางจิตเวชต่าง ๆ สามารถส่งผลให้สูญเสียประสิทธิภาพ ในการจดจ่อมีสมาธิได้ เช่น ภาวะการปรับตัวผิดปกติ โรคใด ๆ ก็ตามที่มี อาการซึมเศร้า เช่น ในโรคซึมเศร้าหรือโรคอารมณ์แปรปรวน ซึ่งในคนที่เป็น มักจะเกิดความคิดความกังวลวนไปวนมา แล้วไม่สามารถหยุดความคิด เหล่านั้นได้ จึงทำ�ให้ไม่อาจจดจ่อกับงานได้นาน เพราะเกิดความคิดสลับไป สลับมาระหว่างงานกับความคิดความกังวลในหัว

6. โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

เราอาจจะเคยได้ยินโรคสมาธิสั้นว่าเป็นโรคที่พบในเด็ก แต่ในผู้ใหญ่ก็ สามารถพบได้เช่นกัน โดยในสหรัฐอเมริกาคาดว่ามีผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นใน ผู้ใหญ่ราว ๆ 3-5% และครึ่งหนึ่งของเด็กที่เป็นสมาธิสั้นจะมีอาการติดตัว ไปจนเป็นผู้ใหญ่ โดยผู้ที่เป็นจะมีปัญหาในการทำ�งานหลาย ๆ อย่าง เพราะ ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้นานพอ จำ�คำ�สั่งได้ไม่ดี จำ�ข้อมูลไม่ได้ ตัดสินใจ เรื่องสำ�คัญ ๆ ได้ไม่ดี หรือแม้แต่มีสมาธิจดจ่อกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงาน โดย บางครั้งเจ้าตัวหรือคนรอบข้างอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นลักษณะนิสัยส่วนตัว happy+ | 63


ให้เราติด เพื่อจะได้ใช้สินค้าและบริการนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสี การทำ� Notifif cation เพื่อเตือนกระตุ้นให้เราเข้าไปอ่าน การจัดว่าจะนำ�เสนอ อะไรให้เราอ่าน ซึ่งส่วนมากการดึงดูดความสนใจ มักจะมาในรูปแบบของ โซเชียลมีเดีย และจะใช้หลักทีว่ า่ กระตุน้ เตือนให้เราเข้าไปอ่าน เข้าไปดูไม่ตอ้ ง นานแต่ว่าบ่อย ๆ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ เมื่อเราอ่านหรือดู เราจะเกิด “ความ สนใจตกค้าง” เช่น อ่านแล้วคิดตาม อ่านแล้วอยากอ่านต่อ อ่านแล้วอยาก แสดงความเห็น ซึง่ ความคิดเหล่านีจ้ ะไปรบกวนสมาธิในการทำ�งานให้เสียไป

แล้วเราจะแก้อย่างไรดี

7. มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรกับร่างกาย

ลักษณะทางกายภาพต่าง ๆ ของที่ที่เราใช้ทำ�งาน สามารถส่งผลต่อ ร่างกายของคนทำ�งานได้ หากแสงไม่เพียงพอ เสียงรบกวนดังเกินไป โต๊ะ เก้าอี้สูงหรือตํ่าเกินไป อุณหภูมิความชื้นไม่เหมาะสม ก็จะทำ�ให้คนที่กำ�ลัง ทำ�งานอยูต่ อ้ ง “ฝืน” ร่างกายเพือ่ การทำ�งาน ซึง่ พอฝืนมาก ๆ แล้วเกิดอาการ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ก็จะค่อย ๆ เสียสมาธิในการทำ�งานไป

8. มีสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเรา

เสียงเพลงที่เปิดคลอ ทีวีที่เปิดไว้เป็นเพื่อน หรือของบนโต๊ะที่วาง เกะกะ อาจจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไรกับการทำ�งาน แต่ความจริงแล้วมันส่งผล ได้มากกว่าที่เราคิด เช่น มีงานวิจัยในปี 2551 ที่พบว่า หากเปิดโทรทัศน์ไว้ ในห้องขณะทีเ่ ด็กกำ�ลังเล่นของเล่นอยู่ จะทำ�ให้เด็กผละออกจากของเล่นเร็ว กว่าการอยูใ่ นห้องเงียบ ๆ หรืองานวิจยั ทีพ่ บว่า การเปิดเพลงคลอไประหว่าง การอ่านหนังสือสามารถช่วยสร้างสมาธิในการอ่านได้ในคนบางคน แต่กลับ ทำ�ลายสมาธิในการทำ�งานของคนบางคน เรื่องนี้มีผู้พยายามอธิบายว่า เกิดจากสมองของเราพยายามรับและ แปลข้อมูลของสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเพื่อดูว่าสิ่งที่เข้ามามีความสำ�คัญหรือไม่ มีเพลงก็พยายามคิดตามความหมายเพลง มีเสียงทีวีก็พยายามฟังว่ามีข่าว อะไร มีของบนโต๊ะก็อาจจะมองแล้วคิดเรือ่ งทีเ่ กีย่ วกับของชิน้ นัน้ ๆ ซึง่ แม้จะ เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำ�ลายสมาธิในการทำ�งานได้

9. เทคโนโลยีเข้าถึงตัวเรามากขึ้น และเขาพยายามดึงดูดความ สนใจจากเราให้มากที่สุด

ทุ ก วั น นี้ เราอาศั ย ในโลกที่ อุ ป กรณ์ สื่ อ สารเข้ า ถึ ง ได้ ง่ า ยขึ้ น และ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของสินค้าก็หาทางต่าง ๆ ที่จะให้เราไปสนใจสินค้า หรือบริการของเขาให้มากที่สุด จึงมีการออกแบบต่าง ๆ เพื่อทำ�อย่างไรก็ได้

64 | happy+

1. จัดสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ให้ เ หมาะกั บ การอยู่ อ าศั ย ทำ � งาน จั ด การพื้ น ที่ ทำ � งาน ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง ต า ม ห ลั ก ข อ ง การยศาสตร์ (Ergonomic) จัดการแสง เสียง อุณหภูมิ ให้ เหมาะสมต่อการทำ�งาน จัดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ ให้เมื่อทำ�งาน ไปแล้วไม่เกิดอาการปวดเมื่อย เหนือ่ ยล้าจนรบกวนการทำ�งาน 2. จั ด จุ ด ที่ ทำ � งานให้ มี สิ่ ง รบกวนน้ อ ยที่ สุ ด จั ด โต๊ ะ ให้เป็นระเบียบและปราศจาก สิ่งของที่ไม่จ�ำ เป็น ไม่เปิดเพลง หรือรายการใด ๆ คลอไปด้วย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำ�ลายสมาธิ ยกเว้นแต่จะมั่นใจจริง ๆ ว่า เป็ น คนที่ มี ส มาธิ ม ากขึ้ น เวลา เปิดเพลง หรือหากไม่ต้องการ นัง่ ทำ�งานเงียบ ๆ ก็อาจจะเลือก เพลงทีป่ ราศจากเนือ้ ร้องจะมีผล ต่อสมาธิน้อยกว่า 3. ใช้เทคนิคจับเวลา หรือ ทีเ่ รียกกันว่าเทคนิค Pomodoro ซึ่ ง เป็ น การใช้ เ ครื่ อ งจั บ เวลา มาตั้งเวลาเตือนไว้ที่ 25 นาที จากนั้นในระหว่างที่นาฬิกายัง ไม่ดัง เราจะต้องนั่งทำ�งานต่อ เนื่องไปโดยไม่สนใจสิ่งอื่น จน

กระทั่งเมื่อนาฬิกาดังขึ้นก็ให้หยุด ทำ�งานแล้วก็พักประมาณ 5 นาที ก่อนจะเริม่ ต้นทำ�ใหม่ วิธนี เี้ หมาะ กับคนที่มีปัญหาเรื่องวินัยในการ ทำ�งาน และยังเป็นตัวเตือนให้เรา ไม่ทำ�งานหนักเกินไป เพราะจาก การศึกษาจะพบว่า คนเรามักจะ จดจ่ อ กั บ งานได้ เ ต็ ม ที่ ป ระมาณ 20-25 นาทีก่อนจะเริ่มเสียสมาธิ 4. นั่งสมาธิ หรือหัดอยู่กับ ตัวเองเงียบ ๆ โดยการที่เราอยู่ กับตัวเองเงียบ ๆ และปราศจาก สิ่งเร้าภายนอก เป็นเหมือนการ บังคับให้เราไม่คดิ อะไรหลายอย่าง เป็นเหมือนกับการฝึกให้เราจดจ่อ กับสิ่งสิ่งเดียวไปในตัว 5. ปิดการติดต่อสื่อสารที่ไม่ จำ�เป็นให้หมด ใช้โทรศัพท์เฉพาะ เรื่องที่สำ�คัญ หากมีใครโทรมา ระหว่างการทำ�งาน ก็ให้ถามก่อน ว่าเป็นเรื่องสำ�คัญหรือไม่ หากไม่ ด่วนก็ขอให้เขาโทรกลับมาอีกครัง้ ในเวลาอื่น 6. ไปพบแพทย์ สำ�หรับคน ทีร่ สู้ กึ ว่าอาการจดจ่อกับงานไม่ได้ ของตนไม่ใช่เรื่องธรรมดา สงสัย เป็นโรคซึมเศร้า หรือว่าลองแก้ ทุกวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบ แพทย์ครับ เพื่อค้นหาภาวะอื่น ๆ ที่อาจจะหลบซ่อนอยู่ได้


เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a

อาการนิ้วล็อก

Q A

ได้ยนิ คนพูดถึงอาการนิว้ ล็อก ข้อล็อกบ่อยๆ พฤติกรรมหรือภาวะใด ทีเ่ สีย่ งจะเป็นบ้างคะ แล้วถ้ามีอาการเราจะแก้ไขได้อย่างไรคะ อาการนิ้วล็อกเป็นโรคยอดฮิตอีกโรคขวัญใจของแม่บ้านครับ แต่ใน ผูช้ ายก็เกิดได้เช่นกัน โดยรวมแล้วมักจะเกิดกับกลุม่ คนทีต่ อ้ งใช้มอื ทำ�งานหนัก ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน ที่ต้องกำ�ไม้กวาด กำ�ไม้ถูพื้น บิดผ้า หิ้วถุงสินค้า หรืองานช่างของผู้ชาย เช่น การใช้ไขควง การใช้ค้อน เป็นต้น การทำ�งานทีอ่ อกแรงบิดหรือมีแรงกระแทกทีม่ อื บ่อย ๆ จะส่งผลให้เกิด การบวมของเส้นเอ็นบริเวณนิ้วมือ เมื่อเอ็นนิ้วมือเกิดการบวมขึ้น จะทำ�ให้ เกิดอาการนิ้วล็อก เนื่องจากเอ็นที่บวมจะไม่สามารถขยับผ่านปลอกเอ็นที่ หุ้มอยู่ได้ง่าย บางคนอาจจะต้องค่อย ๆ นวด หรือใช้อีกมือช่วยยืดนิ้วออก จึงจะสามารถขยับได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บบริเวณโคนนิ้ว และ ก่อความรำ�คาญ ไม่สะดวกในการใช้ชวี ติ ประจำ�วัน บางรายจะมีอาการนิว้ ติด และปวดนิ้วในช่วงเช้า อาจจะมีอาการชา รู้สึกลดลง เนื่องจากการกดทับ เส้นประสาทบริเวณนิ้ว การรักษาก็มีหลายรูปแบบครับ ในเบื้องต้นอาจจะรักษาด้วยการ ประคบร้อน เอามือแช่นํ้าอุ่น นวดมือ การทำ�กายภาพบำ�บัด ร่วมกับการ รับประทานยาแก้ปวด (ยาแก้ปวดกลุม่ NSAIDs ซึง่ มีผลข้างเคียงทีค่ อ่ นข้าง อันตราย ควรปรึกษาแพทย์ / เภสัชกรก่อนใช้ยา) และที่สำ�คัญคือ การพัก การใช้งานครับ เช่น เว้นการบิดผ้า ลดการยกของหนัก และหากอาการยังไม่ดขี นึ้ คงจะต้องพบแพทย์ เพือ่ ปรึกษาแนวทางการ รักษา ซึง่ อาจจะมีตงั้ แต่การฉีดยาลดการอักเสบบวมเข้าทีบ่ ริเวณนิว้ การใช้ ยารับประทานเพือ่ ลดอาการปวด และสุดท้ายหากอาการยังไม่ดขี นึ้ คงต้อง

พึ่งการผ่าตัด เพื่อตัดปอกหุ้มเอ็นออกครับ ซึ่งเป็นการ ผ่าตัดเล็ก มักใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ คุณหมออาจจะใช้ เวลาในการทำ�เพียง 10 นาที ทำ�เสร็จก็กลับบ้านได้ ไม่ จำ�เป็นต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาล การป้องกันอาการนิ้วล็อก ก็คือการลดความเสี่ยง ทีท่ �ำ ให้เกิดนิว้ ล็อก นัน่ ก็คอื ลดความรุนแรงของการใช้งาน ของมื อ ตนเอง ใช้ เครื่ อ งมื อ อย่ า งถู ก ต้ อ งเหมาะสม อ่านคู่มือการใช้งานของเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อลดโอกาส การบาดเจ็บของบริเวณเอ็นนิ้วมือ เช่น การสวมถุงมือ ก่อนใช้ค้อน การใช้รถเข็นแทนการหิ้วถุงสินค้า เป็นต้น เพราะหากไม่ ป้ อ งกั น แล้ ว นิ้ ว อื่ น ๆ ก็ มี โ อกาสเกิ ด การบาดเจ็ บ และบวมขึ้ น มาจนกลายเป็ นนิ้ ว ล็ อ กได้ อีกหลายครั้งเลยครับ

นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65


ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii

ห่างไกลอาการปวดต่าง ๆ จากออฟฟิศซินโดรม

อาการออฟฟิศซินโดรม ยังคงเป็นหนึง่ ในปัญหาหลักของคนวัยทำ�งานนะคะ ด้วยอิรยิ าบถและสภาพแวดล้อมในทีท่ �ำ งานทีไ่ ม่เหมาะสม ส่งผล ให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดข้อมือ ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ซึ่งอาจจะเป็นเรื้อรัง และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำ�วันได้ เพื่อไม่ให้อาการปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลุกลาม จนกลายเป็นโรคเรื้อรัง เรามาบริหารร่างกายในแต่ละวัน เพื่อลดอาการเหล่านี้กัน ดีกว่าค่ะ 66 | happy+


ท่าเหยียดกล้ามเนื้อคอ บ่า และไหล่

เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง เหยียดแขนไปทางด้านหลังและประสานมือ กันไว้ ใช้แขนข้างซ้ายดึงแขนข้างขวาไปทางซ้าย พร้อมเอนคอไปทางด้าน ซ้าย ค้างไว้ 5 วินาทีก่อนกลับมาท่าปกติ และใช้มือข้างขวาดึงมือข้างซ้าย ไปทางด้านขวา พร้อมเอนคอไปทางขวา ค้างไว้ 5 วินาที รวมเป็น 1 เซต ทำ�ซํ้า 3 เซต

ท่าเหยียดกล้ามเนื้อรอบกระดูกสะบัก

ยืนตัวตรง ยืดแขนทัง้ สองข้างไปด้านหน้า ประสานฝ่ามือเข้าหากันโดย หันฝ่ามือออกด้านนอกลำ�ตัว เหยียดแขนจนสุด ค้างไว้ 5 วินาที ก่อนจะยกแขน ทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ฝ่ามือยังคงประสานกันอยู่ ทำ�ค้างไว้ 5 วินาที และยกแขนลง ทำ�ซํ้า 3 เซต

ท่ายืดลำ�ตัว และหลัง

ท่าบริหารมือ

นั่งบนเก้าอี้ ยืดหลังตรง เหยียดแขนทั้งสอง ข้างไปข้างหน้า กางฝ่ามือออกจนสุด ก่อนจะกำ� เข้าหากัน ทำ�สลับไปมา 10-15 ครั้ง

ท่าเหยียดกล้ามเนื้อข้างลำ�ตัว

นั่งบนเก้าอี้ ยืดหลังตรง ยกแขนทั้งสองข้าง ตัง้ ฉากก่อนพับแขนลงมาซ้อนกัน เอีย้ วตัวไปทาง ซ้ายจนสุด ค้างไว้ 10 วินาที ก่อนกลับมาท่าปกติ แล้วเอี้ยวตัวไปทางขวา ค้างไว้อีก 10 วินาที และ กลับมาท่าปกติ ทำ�ซํ้า 3 เซต

นั่ ง บนเก้ า อี้ ยื ด หลั ง ตรง ยกแขนซ้ า ยขึ้ น เท้าเอว และเอนตัวไปทางด้านขวา พยายามให้ มือขวาแตะถึงพื้นให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที และกลับมาท่าปกติ สลับข้างโดยยกแขนขวาขึ้น เท้าเอว และเอนตัวไปทางด้านซ้าย พยายามให้ มือซ้ายแตะถึงพื้นให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ 5 นาที ทำ�ซํ้า 3 เซต บริหารร่างกายแบบนี้เป็นประจำ�ทุกวัน จะ ทำ�ให้ห่างไกลจากอาการปวดต่าง ๆ และโรค ออฟฟิศซินโดรมได้ค่ะ happy+ | 67


HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ฝ้าห่างไกล...สมุนไพรกู้หน้าใส ฝ้า (Melasma) มาจากคำ�ว่า Melas ในภาษากรีก ซึ่งแปลว่า สีดำ� เป็นภาวะที่ผิวหนังมีเม็ดสีหรือเมลานินมากขึ้น เนื่องจากเซลล์สร้างเม็ดสี เพิ่มจำ�นวนและทำ�งานมากขึ้น เม็ดสีดังกล่าวจะสะสมตัวอยู่ในผิวหนังชั้นหนังกำ�พร้าหรือชั้นหนังแท้ เป็นปื้นด้านซ้ายและขวาของใบหน้า หรือ กระจายอยู่ทั่วไป ถ้าสังเกตเห็นขอบเขตชัดเจน แสดงว่าฝ้าเกิดในชั้นผิวหนังตื้น ๆ บริเวณหนังชั้นกำ�พร้า มักมีสีนํ้าตาลอ่อนหรือเข้ม แล้วแต่ ความรุนแรง ฝ้าชนิดนีจ้ ะตอบสนองต่อการรักษาได้ดี เนือ่ งจากเม็ดสีเมลานินอยูใ่ นระดับทีไ่ ม่ลกึ แต่ถา้ ขอบเขตไม่ชดั เจน มองเห็นเบลอ ๆ แสดงว่า ฝ้าเกิดในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป มักมีสีนํ้าตาลผสมเทาเข้ม หรือออกฟ้าหม่น ฝ้าชนิดนี้รักษายาก อาจจะไม่ตอบสนองต่อการรักษา เนื่องจาก เม็ดสีเมลานินอยู่ในระดับที่ลึกมาก ในบางคนอาจพบฝ้าชนิดเกิดที่ผิวหนังตื้น ๆ ผสมกับที่เกิดในผิวหนังชั้นลึกได้

แม้ว่าการเกิดฝ้าจะไม่มีผลกระทบร้ายแรง ต่อร่างกาย แต่มีผลต่อความสวยงามและความ มั่นใจในการใช้ชีวิต รอยฝ้าจะเกิดในบริเวณที่ถูก แสงแดด เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริม ฝีปากบน กราม คาง ในคนที่ตากแดดเป็นประจำ� อาจพบฝ้าที่ลำ�คอและแขนด้านบนด้วย ปัญหานี้ มักพบมากในผูห้ ญิงวัยกลางคน เมือ่ อายุ 30-40 ปี ขึ้นไป หรือหลังหมดประจำ�เดือน และพบในคน ผิวเหลือง หรือผิวเข้ม เช่น ชาวเอเชีย ชาวแอฟริกา มากกว่าคนผิวขาวอย่างฝรั่ง ฝรั่งนั้นมักจะเป็น 68 | happy+

กระมากกว่าฝ้า เนือ่ งจากมีเม็ดสีในปริมาณทีน่ อ้ ย กว่าคนผิวเข้มนัน่ เอง และอาศัยอยูใ่ นเขตทีส่ มั ผัส กับแสงอาทิตย์น้อยกว่า นอกจากแสงแดดที่เป็น สาเหตุอนั ดับหนึง่ แล้ว เครือ่ งสำ�อาง ภาวะตัง้ ครรภ์ พันธุกรรม การใช้ยา และโรคบางชนิด ก็เป็น สาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน

การตอบสนองต่อการรักษาในแต่ละราย การดูแล ฝ้าที่ดีอย่างเป็นองค์รวมเราต้องพุ่งเป้าหมายไปที่ เม็ดสีเมลานินโดยยับยั้งการผลิตหรือการทำ�งาน ของเม็ ด สี เมลานิ น และเพิ่ ม การทำ � ลายเม็ ด สี เมลานิน โดยการเลือกใช้สมุนไพรทีม่ ฤี ทธิด์ งั กล่าว เช่น มะขามป้อม ดูท่ ุง่ ว่านตาลเดีย่ ว ผักเบีย้ ใหญ่ รักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าด้วยการดื่มนํ้าใน บำ�รุงผิวหน้า รักษาฝ้าอย่างองค์รวม ปริมาณที่เพียงพอ พอกหน้าด้วยแตงกวาหรือ การรักษาฝ้านัน้ ใช้เวลานานหลายเดือน ซึง่ ไม่ มะเขือเทศเป็นประจำ� หรือใช้ครีมบำ�รุงทีเ่ หมาะสม อาจระบุเวลาได้ชดั เจน ขึน้ อยูก่ บั ความรุนแรงและ หลีกเลี่ยงหรือป้องกันแสงแดด ที่เป็นตัวกระตุ้น


ให้ เ กิ ด ฝ้ า รั บ ประทานอาหารที่ มี ส ารต้ า น อนุมลู อิสระ เช่น ผักใบเขียว มะขามป้อม สมอไทย และอาหารที่ อุ ด มไปด้ ว ยวิ ต ามิ นซี วิ ต ามิ น อี วิตามินเอ ไลโคปีน ดูแลการขับถ่ายให้เป็นปกติ ออกกำ�ลังกายสมํ่าเสมอ เพื่อให้เลือดลมดี ดูแล ด้วยยาจากภายในโดยดื่มยาต้ม ถ่ายนํ้าเหลือง และบำ�รุงเลือด เช่น เถาวัลย์เปรียง ฝาง และดูแล อารมณ์จิตใจให้สงบ ผ่อนคลาย ไม่เครียด เพียง เท่านีก้ ส็ ามารถไกลฝ้า ช่วยให้ผวิ พรรณสวยอย่าง ธรรมชาติได้แล้ว การป้องกันฝ้า ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดเป็นประจำ� สมํ่าเสมอ หลีกเลี่ยงการออกแดดในเวลาแดดจัด โดยเฉพาะในช่ ว งเวลาสิ บ โมงเช้ า ถึ ง สี่ โมงเย็ น หากจำ � เป็ นควรสวมอุ ป กรณ์ ป้ อ งกั น แสงแดด เช่น หมวกปีกกว้าง แว่นตา และร่ม เนื่องจาก การทาครีมกันแดดอย่างเดียวไม่สามารถป้องกัน แสงแดดได้ทั้งหมด ที่สำ�คัญไม่ควรหลงเชื่อคำ� โฆษณา ซื้อครีมรักษาฝ้ามาใช้ โดยไม่มีหลักฐาน ทีแ่ สดงว่าครีมนัน้ ปลอดภัยจริง เพราะอาจพบสาร อันตราย เช่น ปรอท สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน (ทั้งไฮโดรควิโนนและสารสเตียรอยด์เป็นยารักษา ฝ้าที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ ผูเ้ ชีย่ วชาญ) ซึง่ สารอันตรายเหล่านีอ้ าจให้ผลดีใน ระยะแรก ๆ แต่กลับส่งผลเสียร้ายแรงต่อผิวหนัง ในระยะยาว เช่ น ทำ � ให้ เ กิ ด ฝ้ า ถาวรหรื อ เป็ น มากขึ้น ทำ�ให้ผิวหนังด่าง เกิดสิวสเตียรอยด์ ผิวหนังบาง เส้นเลือดขยายตัว เสีย่ งต่อการเป็นมะเร็ง ผิวหนัง และอาจสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

สมุนไพรที่ช่วยรักษาฝ้าให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี

มะขามเปียก : มีกรดอินทรีย์โมเลกุลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า AHA จากธรรมชาติ ทำ�ให้ฝ้าจาง ลดการ สร้างเม็ดสี ช่วยให้ผลัดเซลล์ผิว ผิวเนียนสวย วิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงนำ�เนื้อมะขามเปียกมาขยี้ ผสมนํ้า เล็กน้อยให้เข้ากัน แล้วนำ�มาพอกให้ทวั่ ใบหน้า ทิง้ ไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยนํา้ สะอาด หรือนำ�เนือ้ มะขามเปียกมาขยีก้ บั นํา้ ผึง้ เล็กน้อยให้เข้ากัน แล้วนำ�มาพอกผิวหน้าหรือทาตามส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการให้ทั่ว (ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนทุกครั้ง) มะขามป้อม : มีสาร Emblicanin ช่วยต้านอนุมลู อิสระ เพิม่ ความยืดหยุน่ และลดริว้ รอย ในสมัยก่อน จะใช้รักษาฝ้าโดยการฝนผลหรือกิ่งกับนํ้าซาวข้าว ส่วนที่นอนก้นทาหน้าทิ้งไว้ก่อนนอนเป็นประจำ� แล้วล้างออกในตอนเช้า ใบฝรั่ง : มีเคอร์ซิติน ลดการสร้างเม็ดสี ต้านอนุมูลอิสระ ให้นำ�ใบฝรั่งมาขยี้กับนํ้าให้เป็นเนื้อ เดียวกัน แล้วนำ�มาพอกผิวหน้าบ่อย ๆ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง (ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนทุกครั้ง) ดูท่ งุ่ : พบฐานข้อมูล (CosIng) ในยุโรป ระบุสรรพคุณไว้วา่ ทำ�ให้ผวิ ขาว (Bleaching) บำ�รุงผิวพรรณ (Skin Conditioning) และต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) พื้นบ้านใช้หัวฝนกับนํ้าหรือนํ้ามะนาว ทาหน้า ปัจจุบันอภัยภูเบศรพัฒนาเป็นเซรั่มแอนติดาร์กสปอต และดาร์กสปอตคอเรคเตอร์สำ�หรับ ดูแลผิวที่เป็นฝ้า ตาลเดีย่ ว : สารสกัดจากตาลเดีย่ วมีฤทธิใ์ นการยับยัง้ เอนไซม์ไทโรซิเนส ทีเ่ ป็นสาเหตุของผิวหมองคลํา้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำ�ให้ผิวขาว หัวฝนกับนํ้าทาหน้า เมล็ดบานเย็น : แกะเนื้อหุ้มเมล็ดออก ใช้ขยี้ทาหน้า มีการค้นพบว่าสารในกลุ่มกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) เป็นทางเลือกใหม่ของการรักษาฝ้า สารนี้พบมากในเมล็ดบานเย็นและผักเบี้ยใหญ่ มี ประสิทธิภาพดีและมีผลข้างเคียงน้อยมาก นอกจากมีฤทธิย์ บั ยัง้ การผลิตเม็ดสีเมลานินแล้ว ยังสามารถ ทำ�ลายเม็ดสีเหล่านี้อีกด้วย ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ทำ�ให้ฝ้าจางลง ผักเบี้ยใหญ่ : ตำ�ให้ละเอียดนำ�มาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก ทำ�เป็นประจำ� และกิน ผักเบี้ยใหญ่เป็นอาหารด้วย เพราะเป็นผักที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการระคายเคือง ชะลอการแก่ ของเซลล์ สร้างคอลลาเจน ต้านริ้วรอย ป้องกันการทำ�ลายของรังสี UVB ต่อผิวหนัง ยับยั้งการสร้าง เม็ดสี ทำ�ให้ผิวกระจ่างใส happy+ | 69


well being เรื่อง : ญาดารัตน์

ผู้อยู่เบื้องหลัง เด็กผู้ชายคนหนึ่งเกิดมาท่ามกลางความรัก ความพร้อมทุกอย่างรอบตัว แต่เมื่ออายุ 2 ขวบ กลั บ เกิ ด อุ บั ติ เหตุ ต กบั น ได สมองถู ก กระทบ กระเทือน ส่งผลให้เขาเรียนรู้ช้ากว่าเด็กในวัย เดียวกัน “พ่อ” คือ บุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุด ของเขา “พ่อ” สอนให้เขาเป็นลูกผูช้ าย ผูท้ ตี่ อ้ งแข็งแรง ยืนได้ด้วยตัวเองบนโลกใบนี้ สอนให้พยายาม พึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด และที่สำ�คัญ สิ่งหนึ่งที่ พ่อบอกเสมอคือ แม้เราจะเรียนรู้ช้ากว่าคนอื่น แต่ใช่ว่าเราจะเรียนรู้ไม่ได้ เพียงแต่หากคนทั่วไป ใช้ ค วามพยายาม 10 แต่ ตั ว เขาอาจต้ อ งใช้ 70 | happy+

ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเป็น 20 ตั้งแต่จำ�ความได้ แม่จะเป็นผู้ท�ำ อาหารและ มอบให้เด็กชายเป็นผู้ที่นำ�ไปใส่บาตรทุกเช้า ทำ� แบบนี้มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ได้มีใครมา อธิบายว่า ทำ�ไมเขาต้องทำ�สิ่งนี้ และเขาก็ไม่เคย ตั้งคำ�ถาม แต่พ่อบอกว่า เขาต้องทำ�ทุกวันเพื่อ ตัวเอง เขาเชือ่ พ่อ โดยปราศจากความสงสัยใด ๆ เขาต้องตื่นแต่เช้า ออกกำ�ลังกาย ใส่บาตร มีหน้าที่ช่วยเหลือกิจการครอบครัว ด้วยการเป็น คนส่งสินค้าให้กับลูกค้าขาประจำ� พ่อสอนให้ เดินทางโดยรถเมล์ ไม่ตอ้ งกลัวว่าเขาจะจำ�สายรถ ไม่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครโกง เพราะเขา อาจเรียนรูใ้ นบางเรือ่ งช้า แต่ในเรือ่ งความจำ�ด้าน

ตัวเลข เขาคืออัจฉริยะ พ่อไม่เคยบังคับหรือสอนให้เขาคิด แต่พ่อ สอนให้ลงมือทำ�... พ่อบอกว่า เตรียม แล้วต้องปฏิบัติ เมื่อเข้าที่...ระวัง...แล้วต้องไป... ปัจจุบนั เด็กผูช้ ายคนนี้ เป็นชายชรา อายุ 67 ปี หากให้นิยามความสุขของคนว่าคือ การกินอิ่ม นอนหลับ เขาคือหนึ่งในคนกลุ่มนั้น พ่อจากไปเมือ่ ประมาณ 20 ปีทแ่ี ล้ว หลังจากนัน้ แม่ก็จากไปอีก เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ อย่าง มีความสุขกับพี่น้องและหลาน ๆ เป็นบุคคลที่ ทุกคนในบ้านรัก เขาชอบดูกีฬาและติดตามชม ทุกรายการ สามารถปรับตัวเข้ากับระบบทีวดี จิ ทิ ลั


ได้อย่างง่ายดาย ใครมาล้อเลียนหรือแหย่อะไร เขาก็ไม่ค่อย โกรธ ยกเว้นอย่างเดียว อย่ามาปรามาสเขาว่า รู้ไม่จริงเรื่องกีฬา เขาจะเถียงหัวชนฝา เพราะ เขาคือแฟนพันธุ์แท้ด้านกีฬา เขามั่นใจว่ารู้จริง เพราะฉายาเขาคือ เปเล่ประจำ�ซอย นี่คือความ ภาคภูมิใจของเขา เรื่องราวของคุณลุงของเพื่อนรุ่นน้อง ที่ฉัน ได้ รู้ จั ก ท่ า นผ่ า นการบอกเล่ า ทำ � ให้ ฤ ดู ฝ นที่ เศร้าสร้อยในปีนี้ ดูอบอุ่นขึ้นมามากทีเดียว ชีวิตคนเรามักมีแง่มุมที่หลากหลาย ในวันที่ ท้องฟ้าฉํ่าไปด้วยนํ้า จนเกินกว่าที่จะรับไหว พื้น ถนนจึงเจิ่งนอง เฉอะแฉะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉั น เรี ย กแท็ ก ซี่ ก ลั บ บ้ า น...รถติ ด หนั ก มาก ยาวเหยียดไม่ขยับเลย

“ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำ� ๆ กบมันก็ ร้องงึมงำ� ระงมไปทั่ว ท้องนา” เสี ย งเพลงจากวิ ท ยุ ใ นแท็ ก ซี่ ช่ า งเข้ า กั บ บรรยากาศเสียจริง ๆ ลุงคนขับพูดขึ้นมาว่า “ฝนตกอย่างนี้ หากอยู่บ้านนอกก็ออกไปหาปลา กันสนุก แต่พอลูกเรียนหนังสือสูงขึ้น จะมัวสนุก หาปลามันก็ไม่ได้แล้ว” เขาหัวเราะแบบขื่น ๆ “ส่งลูกเรียนจบผมก็กลับบ้านนอกแล้วคุณ... เชื่อไหมครับ ตั้งแต่ขับแท็กซี่มา 6 ปี ส่วนใหญ่ผม กินข้าวในถุงบนรถนีแ่ หละ มีชอ้ นคันเดียวพอแล้ว เป็นอุปกรณ์ยังชีพ ฉันนิ่ง...ฟังเรื่องราวของลุง เพลงจากวิทยุยัง ดังอยู่ แต่ทำ�ไมฉันรู้สึก เงียบจังเลย... เงียบ…เหงา...เข้าไปถึงหัวใจ มีสิ่งเดียวที่อยากพูดเสียงดัง ๆ ให้ได้ยินไป

ถึงลูกของลุงว่า “ตั้งใจเรียนให้สำ�เร็จ ทำ�งานที่ สุจริต และอย่าลืมดูแลพ่อนะคะ” ก่อนจากกันในวันนัน้ ฉันพูดกับลุงว่า “ลุงคะ หากการหาปลาที่บ้านนอกคือความสุขของลุง ลุงก็กลับไปหาปลาบ้างนะคะ ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ยังดี”

ไฮกุ ; ญาดารัตน์

ฝนตก เย็นชื่นฉํ่า ทั่วท้องนา ดินแตกระแหง ขนมนี้... พ่อชอบ happy+ | 71


beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art

สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ

ตอน 20 สูตรความงามแบบธรรมชาติจากกูรูความงามแบรนด์ดัง (จบ)

สวัสดีสิ้นปี 2560 แล้วนะคะเดือนนี้ เร็วไวอะไรจะปานนั้น ดิฉันมาเรียนโยคะและฝึกงานที่คณะวิจัยปรัชญาศาสนาและอักษรศาสตร์อินเดีย ที่ KAIVALYADHAMA S.M.Y.M. SAMITI’S GORDHANDAS SEKSARIA COLLEGE OF YOGA & CULTURAL SYNTHESIS ที่เมืองโลนาฟลา ประเทศอินเดีย หนึ่งในสถาบันโยคะที่เก่าแก่ที่สุด เป็นเวลา 1 ปีกับ 6 เดือนแล้วค่ะ ความรู้คลาสสิกเก่าแก่ดั้งเดิมทั้งหลายมากมายก่ายกองซะจนเต็มสมองทั้งซ้ายขวาของ ดิฉันแล้วตอนนี้ อยากกลับมาเมืองไทย แล้วเอาเมมโมรี่ทั้งหลาย แชร์ให้ทุกท่านที่สนใจจริง ๆ เลยค่ะ เป็นความรู้ที่เกี่ยวกับประโยชน์อันมหาศาลและความ น่าทึ่งของธรรมชาติ ที่ทำ�ให้ชีวิตมนุษย์งดงามในทุก ๆ มิติของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความสวยความงาม เป็นอะไรที่ผลิตภัณฑ์ความงามสมัยใหม่แบรนด์ดัง ต่าง ๆ ต้องแข่งกันค้นคว้าหาสูตรเด็ดเคล็ดลับกันเลยทีเดียว ดิฉันยังมีอีก 7 สูตรความงามจากกูรูความงามแบรนด์ดัง ที่ยังรอแชร์ให้สาวงามทุกท่านได้ไปลองทำ�กันดู มาต่อกันที่

14. สูตรนํ้าแคร์รอต

สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ • แคร์รอต 4-6 หัว • ขิงปอกเปลือกแล้ว ชิ้นเล็ก ๆ • นํ้าสะอาด สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ หั่นแคร์รอตและ ขิงเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำ�ไปคั้นแยกกาก ผสม นํ้าเปล่าเล็กน้อย เพื่อเจือจางความเข้มข้นของนํ้า แคร์รอตให้สมดุลกับที่ร่างกายต้องการ ให้เราดื่ม เป็นประจำ�ทุกเช้า วันเว้นวันค่ะแอนติออกซิแดนต์ ในแคร์ ร อตจะช่ ว ยล้ า งพิ ษ ในร่ า งกายและส่ ง ผลดีต่อผิวพรรณ เบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ไม่เพียงแต่ชว่ ยให้ผวิ สุขภาพดี ยังช่วยเรือ่ งสายตา อีกด้วยค่ะ 72 | happy+

15. สูตรนํ้ามะระขี้นก

16. สูตรนํ้าส้มคั้น

สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ • ส้ม 3-4 ผล • มะระขี้นก 2-3 ผล • เกลือและพริกไทยดำ� เพิ่มรสชาติ • นํ้ามะนาวคั้น 2 ช้อนชา สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ คั้นนํ้าส้ม จากนั้น • เกลือและพริกไทยดำ� เพิ่มรสชาติ เติ ม เกลื อและพริกไทยดำ�เพือ่ รสชาติทอี่ ร่อยยิง่ ขึน้ สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ ปอกเปลือกมะระ ขีน้ ก เอาเมล็ดออก และนำ�ไปล้างให้สะอาด จากนัน้ ดื่มนํ้าส้มคั้น 1 แก้ว เป็นประจำ�ทุกวัน หั่น เป็ นชิ้ นเล็ ก ๆ แล้ วนำ �ไปปั่ นกั บนํ้ ามะนาว สุ ดท้ า ยตามด้ วยเกลื อและพริ กไทยดำ� ปั่ นให้ 17. สูตรแซฟฟรอน สิง่ จำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ เข้ากัน ให้ดื่มเป็นประจำ�ทุกวัน วันละครั้ง หรือ • นํ้าผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ วันเว้นวันก็ได้ค่ะ • แซฟฟรอน 2-3 เส้น มะระขี้นกช่วยในเรื่องระบบย่อยและขจัด สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ แช่แซฟฟรอนลง อาการติดเชือ้ ทุกชนิด ทีส่ �ำ คัญทำ�ให้ผวิ ผ่อง เปล่ง ประกายค่ะ


ในนํ้าผึ้ง ประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำ�นํ้าผึ้งทา ทั่วใบหน้าและลำ�คอ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก ด้วยนํ้าสะอาด ทำ�เป็นประจำ� 3-4 วันต่อสัปดาห์ แซฟฟรอนถูกใช้มานานตัง้ แต่สมัยโบราณ เพือ่ ผิว สว่างกระจ่างใสค่ะ

18. สูตรนมสด

สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ • นมสด 2 ช้อนชา • นํ้าผึ้ง 1 ช้อนชา • แป้งบีซาน 1 ช้อนชา (แป้งแกรม) สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ นำ�นมสด นํ้าผึ้ง และแป้งบีซาน ผสมให้เข้ากันจนเป็นเนือ้ เนียนนุม่ จากนั้นนำ�มาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือทิง้ ไว้จนแห้ง แล้วล้างออกด้วยนํา้ อุน่ ทำ� เป็นประจำ� 2 ครัง้ ต่อสัปดาห์ สูตรนีเ้ ป็นสูตรชะลอวัย และทำ�ให้ผิวกระจ่างสว่างใสค่ะ

ให้ทั่วใบหน้าและลำ�คอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยนํ้าสะอาด จากนั้นนำ�นํ้าแข็งมาถู ให้ทวั่ ใบหน้าประมาณ 2-3 วินาที ให้ทำ�เป็นประจำ� 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ วิตามินเอ บี ซี และอี รวมทั้ง แร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียมในกล้วยและนมทำ�ให้ผวิ ชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดีค่ะ

20. สูตรเปลือกส้ม

สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ • เปลือกส้ม 2-3 ชิ้น • นํ้ากุหลาบ 2 ช้อนชา สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ ปั่นเปลือกส้มกับ นํ้ากุหลาบให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน นำ�มาทาทั่ว ใบหน้าแล้วทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วย นํ้าเย็น ทำ�เป็นประจำ� 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำ�ให้ผิว สดชืน่ ปราศจากสิว และผิวยังดูเปล่งประกายเป็น ธรรมชาติอีกด้วยค่ะ ในทีส่ ดุ ก็ครบ 20 สูตรความงามแบบธรรมชาติ 19. สูตรกล้วย จากกูรูผู้มากประสบการณ์ในวงการผลิตภัณฑ์ สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องการมีดังนี้ ความงามแบรนด์ดัง ซึ่งหันมาดำ�เนินชีวิตแบบ • กล้วยสุก 1 ผล Back to the Origin จริง ๆ จัง ๆ เป็นของขวัญ • นมสด 2 ช้อนชา ปีใหม่สำ�หรับสาวงามทุก ๆ ท่านเลยนะคะ • นํ้าแข็ง 1 ก้อน ดิฉันขออวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความงดงาม สิ่งจำ�เป็นที่เราต้องทำ� คือ บดกล้วยให้เข้า สดชื่น สดใส ทั้งกายใจ ตลอดปีใหม่ ปี 2561 กันกับนมสดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำ�มาทา และตลอดไปค่ะ happy+ | 73


สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Nasry ภาพ : TepiN

“ผ้าพันคอ” ไอเท็มสุดคลาสสิกตลอดกาล

ภารดี เทศรัตนวงศ์ ใครที่ คิ ด ว่ า ผ้ า พั นคอควรหยิ บมาใช้ แค่ ใน หน้ า หนาวเท่ า นั้ น บอกเลยว่ า คิ ด ผิ ด แล้ ว ค่ ะ เพราะผ้าพันคอสามารถเป็นไอเท็มสุดชิคให้กับ การแต่งตัวในแต่ละวันของคุณได้ ทำ�ให้การแต่งตัว ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ไอเท็มชิ้นนี้ยังช่วยเพิ่มสีสันให้ เสื้อผ้าได้อย่างง่ายดาย แม้คุณจะใส่แค่เสื้อยืด ธรรมดา ๆ ก็ทำ�ให้กลายเป็นแฟชั่นสุดเก๋ได้ด้วย ผ้าหนึ่งผืนที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับ เสื้อผ้าได้หลากหลายชุด ทำ�ให้ คุณหมู-ภารดี เทศรัตนวงศ์ ผู้จัดการอาวุโส “เคทีซี” หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำ�กัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งคนที่ หลงใหลในเสน่ห์ของผ้าพันคอเป็นอย่างมาก “ผ้าพันคอทีห่ มูมไี ม่ได้มมี ลู ค่ามากมาย แต่มี 74 | happy+

คุณค่าทางจิตใจมาก ๆ ค่ะ สำ�หรับหมูคิดว่ามัน เป็นสัญลักษณ์ของความอบอุ่น จุดที่เริ่มสะสม คือ หมูได้ผ้าพันคอผืนแรกเป็นของขวัญ ซึ่งเป็น ผืนที่ชอบและรักมากที่สุด เป็นผ้าพันคอที่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว คนที่ทำ�งานเขาไปเที่ยวประเทศตุรกี แล้วให้มาเป็นของฝาก พอใช้แล้วรู้สึกว่าอบอุ่น จริง ๆ และอยู่คู่กับหมูมานานมาก พอเริ่มชอบก็ กลับมาดูทบี่ า้ นตัวเองทำ�ให้รวู้ า่ ผ้าพันคอทีบ่ า้ นเรา ก็มีเยอะมากเหมือนกัน เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ เป็นคนชอบแต่งตัวทัง้ คู่ แล้วตอนทีพ่ วกท่านหนุม่ ๆ สาว ๆ มีโอกาสได้เดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ด้ว ย ค วาม ที่ แม่ ช อ บ แต่ ง ตั ว พ่ อ จึ ง ช อ บ ซื้อผ้าพันคอให้แม่ หมูเลยได้มรดกผ้าพันคอจาก

แม่มา หมูได้เห็นรูปแม่ตอนสาว ๆ เห็นว่าท่านจะ แต่งตัวเรียบ ๆ เสื้อยืดธรรมดาที่ใช้ผ้าพันคอผูก จนหลัง ๆ เป็นมรดกที่แม่ให้มา ทำ�ให้มีคุณค่า ทางจิตใจมาก ๆ ค่ะ “ผ้าพันคอทีม่ ที งั้ หมดตอนนีป้ ระมาณ 100 ผืน ส่ ว นมากเป็ น ผ้ า พั น คอที่ ไ ด้ จ ากคนอื่ น ให้ ม า ไม่วา่ ราคาถูกไปจนถึงแพง หมูกไ็ ม่ทงิ้ หมูจงึ เข้าใจ ว่า ทำ�ไมเราถึงมีผ้าพันคอเยอะมาก (หัวเราะ) เพราะเราไม่เคยทิ้งของที่คนให้เรามาเลย ถึงไม่ได้ มีคุณค่าทางมูลค่า แต่มีคุณค่าทางจิตใจสำ�หรับ หมูมาก แล้วด้วยความที่เป็นผ้าพันคอ ทุกครั้ง ทีเ่ ราใช้จงึ มีความผูกพันและอบอุน่ จากคนทีใ่ ห้มา หมู ว่ า เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการให้ แ ละรั บ ในเวลา


เดียวกัน เขาให้เพราะเขามีความรู้สึกที่ดีกับเรา เราก็รู้สึกว่าเราได้ความอบอุ่น ความผูกพันจาก เขา สิ่งที่เราให้ต่อก็คือ เราได้สนับสนุนคนที่ผลิต และขาย สิง่ สำ�คัญคือ ผ้าพันคอทุกผืนมีคณ ุ ค่ากับ หมูมากจริง ๆ ค่ะ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ราคาหรือเวลาที่ ยาวนานแค่ไหน หรือบางวันหมูรสู้ กึ แย่หรือท้อแท้ หมูหยิบผ้าพันคอบางผืนมาใช้ จะรู้สึกว่าได้พลัง ความอบอุ่นจากผ้าและจากคนที่ให้เรามา ส่วน ที่ซื้อเองก็เป็นผ้าที่ไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในต่าง จังหวัด เวลาที่เห็นผ้าพื้นเมือง หรือเวลาที่เห็นคน พื้นเมืองเขาถักทอ หมูรู้สึกว่าอันนี้มีคุณค่า เราก็ จะซื้อเป็นของที่ระลึกกลับมา” ถึงแม้อากาศเมืองไทยจะร้อนมากและหนาว น้อย แต่คุณหมูบอกว่า ผ้าพันคอเป็นอุปกรณ์ สำ�คัญที่ทำ�อะไรได้มากกว่าที่คุณคิด “สำ � หรั บ หมู ผ้ า พั นคอช่ ว ยได้ ห ลายอย่ า ง นอกจากจะทำ � ให้ ก ารแต่ ง ตั ว ดู ไม่ น่ า เบื่ อ ยั ง ช่วยเรื่องคลุมแดด ห่มเวลาขึ้นรถหรือเครื่องบิน แม้กระทั่งกันฝน มัดผม คาดผม แต่งกระเป๋า ทำ�เครือ่ งประดับ หรือจะมาผูกทำ�เป็นเสือ้ กระเป๋า เก๋ ๆ ก็ได้หมูใช้ประโยชน์จากผ้าพันคอมากมาย ค่ะ จริง ๆ ผ้าพันคอทุกผืนมีเรื่องราวและความ

ทรงจำ�ที่ดีมาก อย่างของคุณแม่จะเป็นผ้าพันคอ แฟชั่นในยุคก่อน เวลาคุณแม่เขาให้เรามา ตอน เราเอาออกมาใช้ ท่านเห็นท่านก็จะมีเรื่องเล่า ว่า วันนัน้ ไปงานนัน้ หรือมีโอกาสเขาก็จะเล่าให้ฟงั ว่า ผ้าผืนนี้ได้มาอย่างไร” ก่อนจะจากกันคุณหมูกล่าวว่า การสะสม ของอะไรสักอย่างหนึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการ ได้ท�ำ ในสิง่ ทีเ่ รารักมักจะทำ�ให้มคี วามสุข แม้สงิ่ นัน้ จะเป็นสิ่งที่คนอื่นมองว่าไร้สาระหรือฟุ่มเฟือย มากแค่ไหนก็ตาม “ก็อาจจะจริงถ้าคนอื่นจะมองว่าการสะสม เป็นเรื่องไม่จำ�เป็นในชีวิต เพราะถ้าเรารู้สึกว่าเรา ต้องเอาเงินทีเ่ รามีไม่มาก ไปซือ้ ของราคาแพงเพือ่ นำ�มาอวดใครก็ไม่รู้ ทีไ่ ม่ได้มคี ณ ุ ค่าอะไรกับตัวเรา แต่ผ้าพันคอที่หมูมีมากกว่าครึ่ง เป็นของที่คนอื่น ให้มา หมูไม่เคยรู้เลยว่าผ้าพันคอที่เขาให้มามี มูลค่าเท่าไหร่ แต่ส�ำ หรับหมูมคี ณ ุ ค่ามหาศาล เป็น ของทีห่ มูจะไม่ทิง้ สักผืน บางผืนทีไ่ ด้มาพร้อมของ แจกก็เก็บไว้ เพราะมีที่มาที่ไป และมีประโยชน์ ใช้สอยอยู่ในตัว ผ้าพันคอไม่ว่าเขาเกิดมาราคา เท่าไหร่ เขาจะมีประโยชน์กับคนถ้าเรารู้จักใช้ค่ะ “หมูมองว่า เรือ่ งของการสะสมต้องมาจากใจ

จากสิ่งที่เราชอบ และต้องไม่เป็นภาระกับตัวเรา มีหลายคนพูดว่าของสะสมไม่มีประโยชน์ เอา เงินไปจมเสียมากกว่า หรือบอกว่า เอามาเพื่อไป โชว์คนอื่น แต่หมูพยายามเปลี่ยนความคิดว่า ถ้า เราจะสะสมอะไรสักอย่าง ขอให้เป็นสิ่งที่มีคุณค่า กับความคิดและจิตใจของเราจริง ๆ วันนี้เราจะ เก็บไปจนมีเรื่องราวไปเล่าถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ไม่ มองว่าเก็บเพื่อที่วันหนึ่งจะมีราคาแพง หรือเก็บ เพราะว่าอยากให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเรา แต่ เราเก็บเพราะสิ่งพวกนี้มีคุณค่ากับเรา ถ้ามันมี ประโยชน์อะไรกับเรา เราจะรูส้ กึ ว่าของทีเ่ ราสะสม สักชิ้น ก็จะทิ้งไม่ได้เลยค่ะ” happy+ | 75


travelogue เรื่องและภาพ : It’s a bell

1

เซี่ยงไฮ้ ปารีสตะวันออก ฉบับที่แล้วเราพาไปท่องเที่ยวที่เมืองหางโจวกันไปแล้ว ฉบับนี้จะขอพาทุกท่านกลับเข้าสู่เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นปารีสตะวันออก และเป็นเมือง สำ�คัญทางเศรษฐกิจของประเทศจีน นั่นก็คือ เซี่ยงไฮ้ นั่นเองค่ะ เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองท่าที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก เป็นมหานครที่ใหญ่ติดอันดับ 5 ของโลก รองจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นิวยอร์ก ลอนดอน และปารีส เซี่ยงไฮ้มีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุน การค้า แฟชั่น และการท่องเที่ยว จนกลายเป็น ผู้น�ำ ทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเมื่อได้ไปเยือนสถานที่แห่งนี้แล้ว จะสัมผัสได้ถึงความทันสมัย ความก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกัน วัฒนธรรมต่าง ๆ ของจีนก็ยังคงอยู่ เป็นการผสมผสานตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน กลายเป็นเสน่ห์ที่ส�ำ คัญของมหานครแห่งนี้ 76 | happy+


1 บรรยากาศยามคํา่ คืน จุดชมวิวหาดไว่ทนั 2 อาคารแบบจีนโบราณ ตลาดเฉินหวังเมีย่ ว 3 ร้านอาหารใกล้ทพ่ี กั 4 ปลาหมึกผัดพริกกะทะร้อน

2

หลังจากพวกเราเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง จากหางโจวกลับเข้าสู่เซี่ยงไฮ้กันแล้ว พวกเราก็ เดินทางไปยังที่พักซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากหาดไว่ทัน หรือชื่อที่ทุกคนรู้จักก็คือ The Bund ซึ่งตั้งอยู่ทาง ฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าหวงผู่ เนื่องจากพวกเรา เดิ นทางถึ ง ที่ พั ก ในเวลาค่ อ นข้ า งเย็ น แล้ ว จึ ง เดินเล่นแถวโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่จะออกไปท่องราตรีกัน สำ�หรับบางคนที่ไม่ค่อยถูกโรคกับอาหารจีน สักเท่าไหร่ เพราะรสชาติค่อนข้างรสจัดไปทางใด ทางหนึ่ง (ส่วนมากจะค่อนข้างเค็ม) และมีนํ้ามัน ลอยละล่อง คงต้องบอกว่าเป็นอย่างนั้นจริงค่ะ แต่เราสามารถเลี่ยงได้ เพราะไม่ใช่ทุกเมนูจะเป็น อย่างนั้น หลังจากเดินเลือกร้านอาหารกันสักพัก เราก็ได้รา้ นหนึง่ ทีด่ เู ก่าแก่ สไตล์บา้ น ๆ มีกลิน่ อาย

2

3

จีนอย่างแท้จริง และที่สำ�คัญแต่ละเมนูมีภ าพ ประกอบให้พร้อมสรรพ สนใจเมนูไหน จิม้ เลือกได้ ตามอัธยาศัย และก็ได้ 4 เมนูน่าสนใจ ซุปเต้าหู้ เสฉวน เป็ดย่างกรอบนอกนุ่มใน กะหลํ่าปลีผัด นํ้าปลา และปลาหมึกผัดพริกกระทะร้อน หลังจากอิ่มหนำ�กันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ เดินทางไปยัง หาดไว่ทนั หรือ The Bund เพือ่ ชม ความงามยามคํา่ คืนของอาคารสำ�คัญสไตล์ยโุ รป ที่เรียงรายตลอดแนวยาว ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยู่ภายใต้อาณานิคม และ วิวทิวทัศน์จากฝั่งผู่ตง หรือฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็น ย่ า นเมื อ งใหม่ ที่ เต็ ม ไปด้ ว ยตึ ก หน้ า ตาทั น สมั ย สูงแข่งกัน และตึกสำ�คัญที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ หอไข่มุกตะวันออก จุดชมวิวที่หาดไว่ทันจึงเป็นการผสมผสาน ระหว่ า งอาคารเก่ า ทางด้ า นไว่ ทั น กั บ อาคาร ทันสมัยทางด้านผู่ตงเอาไว้อย่างลงตัว เป็นจุดที่ นักท่องเทีย่ วเดินทางมาอย่างคับคัง่ และยังเป็นฉาก ในภาพยนตร์ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อีกด้วย พวกเรา จึงเดินเล่นถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย เดี๋ยว จะหาว่ามาไม่ถึงนครเซี่ยงไฮ้ หลังจากชื่นชมวิวทิวทัศน์พร้อมรับลมเย็น ริมแม่นา้ํ หวงผูเ่ รียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินเท้าต่อไป ยั ง แหล่ ง ช้ อ ปปิ้ ง ที่ คึ ก คั ก และทั น สมั ย ที่ สุ ด นัน่ ก็คอื ถนนนานจิง (East Nanjing Road) ถนน

4

ทีไ่ ม่เคยหลับใหล เป็นแหล่งช้อปปิง้ ทีส่ �ำ คัญของชาว เซี่ยงไฮ้และนักท่องเที่ยวจำ�นวนมาก สองฝั่งถนน จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า มากมาย สินค้าแบรนด์เนมมากมายจากทัว่ โลกได้ มาอยู่ที่นี่พร้อมให้จับจ่ายเลือกสรร และแน่นอน ว่ายังคงเป็นอาคารเก่าไสตล์ยุโรปตลอดเส้นทาง ทีถ่ นนนานจิงแห่งนีจ้ ะไม่มรี ถวิง่ ปิดเป็นถนนคนเดิน แต่มรี ถรางชมวิวให้บริการอยู่ แหล่งช้อปปิง้ แห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนจำ�นวนมาก มิจฉาชี3พ ก็มีมากไม่แพ้กัน แนะนำ�ว่าหากมาที่นี่ให้สะพาย กระเป๋าไว้ด้านหน้าจะดีที่สุด เพราะแต่ละคน รู้หน้าไม่รู้ใจ ขโมยกระเป๋ากันซึ่ง ๆ หน้าเลยก็มี ระวังตัวเองและทรัพย์สินไว้หน่อยก็ดีค่ะ วันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Museum) ลง ใต้ดนิ สถานี People’s Square ทางออก 1 เดินผ่าน สวนสาธารณะกลางจัตรุ สั ประชาชนไปไม่นาน จะ พบกับตึกรูปทรงเก๋ไก๋ ออกแบบเป็นโดมทรงกลม มีฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ สวรรค์และโลกมนุษย์ตามคติโบราณ ซึ่งรวบรวม เครื่องทองเหลือง เครื่องเซรามิก งานวาด งาน เขียนลายมือ งานแกะสลัก เครื่องหยก เหรียญ เครื่องแต่งบ้านสมัยราชวงศ์ชิงและราชวงศ์หมิง ตราประทั บ ฯลฯ ซึ่ ง สะท้ อ นให้ เห็ นถึ ง ความ ปราดเปรื่องของชาวจีนสมัยก่อน และแนวคิด happy+ | 77


5

ปรัชญาต่าง ๆ ที่แฝงเอาไว้ ซึ่งภายในอาคารแบ่ง ออกเป็น 4 ชั้น 11 ห้องแสดงศิลปะ และ 3 ห้อง นิทรรศการ เมื่อเดินชมวัตถุโบราณต่าง ๆ จนครบ เรียบร้อยแล้ว ก็แอบเมื่อยขากันนิดหน่อย จึงแวะ พักจิบนํ้าชาร้อน ๆ กลิ่นหอมยวนใจในร้านสไตล์ โรงเตีย๊ มภายในพิพธิ ภัณฑ์เซีย่ งไฮ้ หลังจากนัน้ จึง ไปต่อยังสถานที่ถัดไป พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ผั ง เมื อ งแห่ ง นครเซี่ ย งไฮ้ (Shanghai Urban Planning Museum) เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบนั ทีโ่ ถงชัน้ ล่างมีแบบจำ�ลองอาคารเด่น ๆ ของเซีย่ งไฮ้ตงั้ อยู่ ไม่วา่ จะเป็น หอไข่มกุ ตึกจินเหมา ตึกไฟแนนเชียล ทีช่ นั้ 2 จัดแสดงภาพเมืองเซีย่ งไฮ้ 7

78 | happy+

6

ในอดีต เช่น สะพานเหล็กอันเก่าแก่ในสมัยก่อน ภาพบ้านเรือน ตึกสำ�คัญ ๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ชั้น 3 จัดแสดงตึกจำ�ลองทั้งหมดของมหานคร เซี่ยงไฮ้ ทั้งชั้นมอบให้กับความอลังการของกลุ่ม อาคารปลูกสร้าง ซึง่ ถือว่าเป็นการนำ�เสนอทีน่ า่ สนใจ มากเลยทีเดียว และทีช่ นั้ 4 จัดแสดงภาพในอนาคต ทางด้ า นความเจริ ญ ของตั ว เมื อ งที่ เติ บ โตขึ้ น เป็นทางเดินวนรอบ 360 องศา นำ�เสนอด้วย เทคนิคแสง สี เสียงที่ทันสมัย มองลงไปด้านล่าง จะเห็นโมเดลเมืองจำ�ลองที่ชั้น 3 อีกด้วย ชั้น 5 เป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นรอบนอกอาคาร เช่น สวนสาธารณะจัตุรัสประชาชน สี่แยกถนน นานจิง พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น

88


5 อาคารโดดเด่น พิพธิ ภัณฑ์เซีย่ งไฮ้ 6 หัวมังกร จัดแสดงอยูใ่ นห้อง “เครือ่ งแต่งกาย” 7 รูปปัน้ ต่างๆ ทำ�จากกระเบือ้ งพอร์ซเลนลงสีและ เคลือบผิว 8 เสีย่ วหลงเปาลูกใหญ่ในสวนอีห้ ยวน 9 ปราสาทเจ้าหญิงในเซีย่ งไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ต 10 เครือ่ งเล่น Seven Dwarfs Mine Train

9

10

มาต่อกันที่ ตลาดเฉินหวังเมี่ยวและสวน อีห้ ยวน (Yu Garden) ซึง่ เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ด้วยเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรม แบบจีนโบราณ ทำ�ให้ตลาดแห่งนีไ้ ด้รบั ความนิยม มากจากนักท่องเที่ยว และไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็ คือ การนั่งจิบชาในร้าน Huxin Pavilion โรงนํ้าชา เก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางนํ้า และการรับประทานเสี่ยว หลงเปาเจ้าเด็ด ที่คนต่อแถวยาวมาก มีให้เลือก 2 แบบ คือ เสี่ยวหลงเปาและซาลาเปาในนํ้าซุป นึง่ มาแบบร้อน ๆ ซึง่ เป็นเสีย่ วหลงเปาขนาดใหญ่ที่ ต้องใช้หลอดดูดนํ้าซุปกระดูกหมูขึ้นมา ก็แปลกดี แต่แอบรู้สึกว่ารสชาติที่ได้รับไม่คุ้มกับเวลาที่เสีย ไปตอนต่อคิวนิดหน่อย ข้อแนะนำ�สำ�หรับการซื้อ

ของฝาก งานฝีมือ งานหัตถกรรม และของเก่าใน ย่านนี้ คือ อย่าใช้แบงก์ใหญ่เพือ่ แตกเงินในการซือ้ ของ เพราะย่านนี้ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องแบงก์ปลอม ควรใช้แบงก์เล็ก ๆ พอดีกับราคา หรือรับเงินทอน เล็กน้อย เพื่อป้องกันเงินปลอมที่ตาดีได้ตาร้าย อาจจะเสียรู้ เพราะร้านค้าร้านใหญ่ ๆ ของจีน มักจะมีเครื่องตรวจแบงก์ปลอมไว้ด้วย และแล้วเราก็เดินทางมาถึงวันสุดท้ายใน ประเทศจีน พวกเราจึงเลือกสถานที่ในฝันของ เด็กและผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ก่อนจะเดินทางกลับ ประเทศไทยในคืนนี้ นั่นก็คือ เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ต (Shanghai Disney Resort) สวนสนุก ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นดิสนีย์แลนด์อันดับ 2 ของโลก รองจากดิ ส นี ย์ แ ลนด์ อ อร์ แ ลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งแลนด์มาร์กของที่นี่ คงหนีไม่พ้น ปราสาทเจ้าหญิง (The Enchanted Storybook Castle) ภายในมีถึง 6 ธีมพาร์คด้วยกัน คือ Adventure Isle, Mickey Avenue, Gardens of Imagination, Tomorrowland, Treasure Cove และ Fantasyland เรียกว่า ในหนึ่งวันนั้นเล่นเครื่องเล่น ไม่พอ ต้องยอมสละบางอย่างไปบ้าง เครื่องเล่น ที่น่าสนใจที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ต แห่งนี้ คงหนี ไม่ พ้ น TRON มอเตอร์ ไซค์ ไฟฟ้ า สุ ด ลํ้ า (TRON Light Cycle) จากเรื่องตรอน ที่เพิ่มความ หวาดเสียวขึน้ อีกระดับ เพราะเปลีย่ นจากรถไฟเหาะ ทีม่ เี ข็มขัดรัดแน่นหนา เป็นการขีม่ อเตอร์ไซค์เหาะ ที่ มี เ พี ย งตั ว ยึ ด ที่ ห ลั ง เท่ า นั้ น หรื อ จะเป็ น

Roaring Rapids คล้าย ๆ กับแกรนด์แคนยอน ล่องแก่งของสวนสนุกดรีมเวิลด์ในบ้านเรา Camp Discovery ปีนเขาจำ�ลอง อารมณ์คล้าย ๆ ไปค่าย ฝึกลูกเสือเล็กน้อย Seven Dwarfs Mine Train รถไฟเหาะภายในเหมืองของคนแคระทั้ง 7 และ เอาใจแฟน ๆ สตาร์วอร์สด้วย Star Wars Launch Bay ซึ่งภายในเป็นสตูดิโอเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ สตาร์วอร์ส ที่ฉันชอบมากที่สุดคือ มีดาร์ธเวเดอร์ ตัวเป็น ๆ ออกมาให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันด้วย ปิดท้ายของวันด้วยขบวนพาเหรดของเหล่าตัว ละครต่าง ๆ ในดิสนีย์แลนด์ที่สวยงามประทับใจ พร้ อ มโชว์ จ บที่ เป็ นการฉายโปรเจกเตอร์ ไปยั ง ปราสาทเจ้าหญิงที่สวยงาม ออกมาด้านนอก แล้วก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก Disneytown ให้ เราได้ซือ้ ของติดไม้ตดิ มือกลับไปบ้าน นอกจากนี้ ระหว่างทางที่พวกเราเดินไปขึ้นรถแท็กซี่เพื่อตรง ไปยังสนามบิน ก็ยังมีส่วนของ Wishing Star Park สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ พร้อมทางเดิน เลียบริมทะเลสาบประดับไฟทีส่ วยงามยามคํา่ คืน เรียกได้ว่าราคาบัตรค่าเข้าที่เสียไปคุ้มค่าสมนํ้า สมเนื้ อ เลยที เดี ย ว เพราะสวนสนุ ก จะพาคุ ณ ย้อนกลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้งหนึ่ง เที่ยวที่เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ตหนึ่งวัน ทำ�ให้เราลืมโลกของความ เป็นจริง พร้อมก้าวเข้าสู่ความฝันอันสวยงามได้ ไม่ยากเลยละค่ะ หลังจากเข้าคิวรอรถแท็กซีม่ ารับไปสนามบิน สักพักใหญ่ ๆ พวกเราก็เดินทางมาถึงสนามบิน นานาชาติผู่ตงเป็นที่เรียบร้อย ราคาค่าแท็กซี่ใน ตอนกลางคืนเรตจะสูงกว่าตอนกลางวันนิดหน่อย แต่เนื่องด้วยเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ตอยู่ไม่ไกลจาก สนามบินมากนัก พวกเรามากัน 4 คน และมี สัมภาระมากมาย ค่าเดินทางจึงถือว่าไม่แพงนัก เมื่อคิดออกมาต่อคน เรียกได้วา่ ทริปเซีย่ งไฮ้ของพวกเราจบลงโดย สมบูรณ์แบบ มีความสุขกันถ้วนหน้า แถมยังได้ ท่องเทีย่ วแบบครบรส ทัง้ วัดวาอาราม พิพธิ ภัณฑ์ ชมธรรมชาติ ช้อปปิ้ง และที่สำ�คัญได้กลับไปเป็น เด็กอีกหนึ่งวันด้วย สมญานามปารีสตะวันออก ไม่ทำ�ให้เราผิดหวังจริง ๆ ค่ะ ครั้งหน้าพวกเราจะ เดินทางไปที่ไหนต่อ อย่าลืมติดตามกันนะคะ happy+ | 79


การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : TuKTiK

1

ไปเชียงใหม่ ไหว้พระเก้าวัด สวัสดีคะ่ คุณผูอ้ า่ น ฉบับนีเ้ ราจะพาทุกท่านขึน้ เหนือไปเยือนจังหวัดเชียงใหม่กนั ค่ะ จังหวัดทีเ่ ราคุน้ เคยกันดี และเป็นทีท่ ราบกันว่าเชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า เมืองเก่า เมืองชิค อาหารอร่อย ผู้คนใจดี แต่การมาเยือนเชียงใหม่ของเราครั้งนี้ ใช้เวลาสั้น ๆ ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปไหว้พระทำ�บุญเก้าวัดขอพรกัน เพื่อ ความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต แต่จะมีวัดไหนบ้าง ตามพวกเราไปเลยค่ะ เริ่มกันที่วัดแรกเลยค่ะ นั่นก็คือ วัดดับภัย วัดแห่งนีจ้ ดั เป็นหนึง่ ในวัดมงคลนามของเชียงใหม่ คือมีชื่อที่เป็นมงคล ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพร จาก “หลวงพ่อดับภัย” พระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่ อ ขึ้ นด้ ว ยทองสั ม ฤทธิ์ แบบศิ ล ปะล้ า นนา เชียงแสนยุคแรก ๆ เป็นที่เคารพสักการะของ ประชาชนทัว่ ไป โดยมีความเชือ่ กันว่า เพือ่ ดับโรคภัย 80 | happy+

ไข้เจ็บและทุกข์ภัยทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิตหรือ ที่ กำ � ลั ง เกิ ด ขึ้ น อยู่ เพื่ อ สร้ า งขวั ญ กำ � ลั ง ใจให้ เข้มแข็งที่จะต่อสู้กับโรคภัยต่าง ๆ และภายใน บริ เวณวั ด มี บ่ อ นํ้ า ที่ เรี ย กว่ า “บ่ อ นํ้ า ดั บ ภั ย ” เชือ่ ว่าเป็นบ่อนํา้ ศักดิส์ ทิ ธิ์ นำ�ไปสรงนํา้ พระพุทธรูป หรือเพื่อสืบดวงชะตาได้อีกด้วยค่ะ เดิ นทางต่ อ ไปยั ง วั ด ที่ ส อง ซึ่ ง อยู่ ไม่ ไ กล

จากวั ด ดั บ ภั ย มากนั ก นั่ นก็ คื อ วั ด พระสิ ง ห์ วรมหาวิหาร เป็นวัดสำ�คัญวัดหนึ่งของเชียงใหม่ ประดิ ษ ฐาน “พระพุ ท ธสิ หิ ง ค์ ” พระพุ ท ธรู ป ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ วัดพระสิงห์มพี ระอุโบสถและสถาปัตยกรรม พื้นเมืองล้านนา ที่มีลวดลายแกะสลักสวยงาม เรามาถึงวัดกันแต่เช้า ซึง่ นักท่องเทีย่ วยังไม่มากนัก


1 พระพุทธสิหิงค์ 2 เจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ฐานช้างล้อม วัดเชียงมั่น 3 เจดีย์ทองคำ� วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร

2

จึงมีโอกาสเดินชมและเก็บภาพสถาปัตยกรรม และความสวยงามของวัดไปเรือ่ ย ๆ จนมาถึงหน้า วิหารลายคำ� ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ จึงเข้ามากราบไหว้ขอพรและชมความสวยงาม ของจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร วั ด แห่ ง นี้ ยั ง เป็ น ที่ ป ระดิ ษ ฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งบรรจุอยู่ใน “พระธาตุหลวง” ที่ ตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัด ใกล้กับวิหารลายคำ� และอุโบสถของสงฆ์ โดยพระธาตุองค์นี้ถือเป็น พระธาตุประจำ�ปีมะโรง ดังนัน้ ผูท้ เ่ี กิดในปีนกั ษัตรนี้ ควรจะหาโอกาสมากราบขอพรเพื่ อ ความเป็ น สิริมงคลสักครั้งนะคะ มาถึงวัดทีส่ าม นัน่ ก็คอื วัดหมืน่ เงินกอง เป็น อีกหนึ่งวัดสำ�คัญ ที่จัดอยู่ในเส้นทางการไหว้พระ ทำ�บุญเก้าวัด เนื่องจากชื่อที่เป็นมงคล เชื่อกันว่า หากได้มีโอกาสมากราบไหว้สักการะ ก็จะมีเงิน ทองไหลมาเทมา ทำ�มาค้าขายรํ่ารวย ประกอบ 1 อาชีพเจริญรุ่งเรือง ภายในบริเวณวัดมีสถานที่ น่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น พระวิหารโบราณ เป็นวิหารทรงพืน้ เมืองล้านนา มีลวดลายแกะสลัก ที่งดงาม ต่อมาคือ วิหารพระนอนประดิษฐาน พระพุทธรูปปูนปั้นปางไสยาสน์ เป็นศิลปะแบบ ล้านนาประทับอยู่บนฐานบัว และมีความเชื่อ ว่าใครที่มีปัญหาสูญเสียทรัพย์สินเงินทองให้มา

ตัง้ จิตอธิษฐานทีว่ หิ ารพระนอนแห่งนี้ จะได้ทรัพย์ กลับคืนมา ยังมีสถานทีส่ ำ�คัญอีกแห่งหนึง่ ในวัดนี้ ที่ เมื่ อ มาถึ ง แล้ ว ต้ อ งแวะมากราบไหว้ นั่ นก็ คื อ พระธาตุหมื่นเงินกอง ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำ�บุญ ใส่บาตรพระธาตุประจำ�ปีเกิด เพื่อให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต มีโชคมีลาภ มีเงินทองเป็นกอง ๆ เหมือนดังชื่อวัดแห่งนี้ วัดที่สี่ วัดหมื่นล้าน เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีนาม เป็นมงคล และจัดอยูใ่ นเส้นทางการทำ�บุญไหว้พระ เก้ า วั ด ที่ ทุ ก คนไม่ ค วรพลาด เป็ น วั ด เก่ า แก่ ที่ ตั้ ง อยู่ ภ ายในเขตคู เมื อ ง ย่ า นเมื อ งเก่ า ของ เชียงใหม่ เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาผสม พม่า มีวิหาร เจดีย์ หอไตรแบบพม่าหรือล้านนา มีชื่อเดิมว่า วัดหมื่นสามล้าน วัดแห่งนี้เป็นที่ ประดิษฐาน “หลวงพ่อมหาสิทธิโชคหมื่นล้าน” พระพุทธรูปที่ผู้คนศรัทธามาก ชาวเชียงใหม่และ นักท่องเที่ยวต่างมากราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อ มหาสิทธิโชคหมื่นล้าน โดยเชื่อว่าจะทำ�ให้มีโชค มีลาภ มีเงินทองเป็นหมืน่ ล้าน ประสบความสำ�เร็จ ในหน้าที่การงาน ทำ�มาค้าขายเจริญรุ่งเรือง วัดที่ห้า วัดชัยพระเกียรติ แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดชัยผาเกียรติ”์ วัดแห่งนีป้ ระดิษฐานพระประธาน “พระพุทธรูปเมืองราย” หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “พระเจ้าห้าตื้อ” เหตุที่ชื่อนี้เพราะพระประธานที่

ประดิษฐานในวิหารนั้น มีนํ้าหนักทองที่หล่อเป็น องค์พระพุทธรูปอยู่ 5 ตื้อ (1 ตื้อ เท่ากับ 10 โกฏิ) จึงเรียกพระนามว่า “พระเจ้าห้าตือ้ ” วัดชัยพระเกียรติ ถือเป็นหนึ่งในวัดนามมงคลของเชียงใหม่ ที่ผู้คน นิยมมาสักการะพระเจ้าห้าตื้อ เพื่อความเป็น สิริมงคล โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมเกียรติยศ ชื่อเสียง ประสบความสำ�เร็จในหน้าที่การงาน และรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง แป๊บเดียวเราก็เดินทางมาถึงวัดที่หกแล้วค่ะ วัดดวงดี เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ เป็นอีก หนึง่ วัดทีม่ นี ามเป็นมงคลอย่างยิง่ ทำ�ให้มผี คู้ นเข้ามา กราบไหว้สักการะอย่างไม่ขาดสาย ภายในพระ วิหารประดิษฐาน “พระพุทธรูปดวงดี” พระพุทธรูป เก่ า แก่ ที่ อ ยู่ คู่ กั บ วั ด ดวงดี ม าเป็ น เวลาช้ า นาน เป็นพระประธานปางมารวิชัย ซึ่งเป็นที่เคารพ สักการะของคนทัว่ ไป โดยผูค้ นมักเข้ามากราบไหว้ ขอพรตามความเชื่ อ ที่ ว่ า จะทำ � ให้ ค นที่ ด วงดี อยู่แล้ว ดียิ่งขึ้นไปอีกตามชื่อของวัด มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวติ การดำ�เนินชีวติ เป็นไปอย่างปกติสขุ วัดที่เจ็ด วัดลอยเคราะห์ เป็นอีกหนึ่งวัด ทีม่ นี ามเป็นมงคล ทีช่ าวเชียงใหม่และนักท่องเทีย่ ว นิยมไปกราบไหว้สักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ ชี วิ ต แต่ เ ดิ ม วั ด นี้ มี ชื่ อ ว่ า “วั ด ร้ อ ยข้ อ ” (วัดฮ้อยข้อ) ภายในพระวิหารของวัดประดิษฐาน “พระพุทธศุภโชคศรีลอยเคราะห์มิ่งมงคล” ซึ่ง เป็นที่เคารพของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป มีความเชือ่ กันว่า หากผูใ้ ดมาสักการะจะหมดเคราะห์ หมดทุกข์ หมดโศกทั้งปวง วัดลอยเคราะห์จึงเป็น

3 happy+ | 81


4 4 เจดีย์พระประธาน วัดดวงดี 5 วิหารลายคำ� วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร

ที่พึ่งทางใจที่สำ�คัญอีกแห่งหนึ่งของคนมีความ ทุกข์ เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ที่ผู้คน เดินทางมาทำ�บุญเพื่อโชคลาภ เพราะมีชื่อที่เป็น มงคล เปรียบเสมือนการลอยทุกข์ลอยโศกให้หมด ไป เหลือไว้แต่สิ่งที่ดี ๆ แก่ชีวิต วัดที่แปด วัดชัยมงคล แต่เดิมเป็นวัดมอญ มีชื่อว่า วัดมะเล่อหรือมะเลิ่ง ซึ่งมีความหมาย ว่า รุ่งแจ้ง หรือรุ่งอรุณ ภายหลังได้มีการเรียก ชื่อกันใหม่ว่า วัดอุปาเพ็งหรือวัดอุปาพอก จนถึง สมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้มีการ เปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็นวัดชัยมงคล ภายในวิหารเป็น ที่ประดิษฐาน “พระพุทธชัยมงคล” พระพุทธรูป ปางมารวิชัยก่ออิฐ ลงรักปิดทอง มีความเชื่อว่า ถ้าได้มากราบไหว้ขอพรจากท่าน จะเป็นสิรมิ งคล แก่ชวี ติ ทำ�ให้มชี อื่ เสียงมีบารมี และมีความเจริญ ก้าวหน้าในการทำ�งาน นอกจากนี้ที่ตั้งของวัดซึ่ง อยูต่ ดิ กับแม่นาํ้ ปิง จึงเป็นทีน่ ยิ มของชาวเชียงใหม่ และนักท่องเทีย่ วทีต่ า่ งพากันมาทำ�บุญปล่อยปลา เต่า กบ หอย และนก เพือ่ ให้พน้ ทุกข์ พ้นโศก พ้นโรค พ้ น ภั ย ให้ ไหลไปกั บ แม่ นํ้ า ปิ ง เพื่ อ ความเป็ น สิริมงคลแก่ชีวิต มาถึงวัดที่เก้ากันแล้ว ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายของ ทริปนี้ นั่นก็คือ วัดเชียงมั่น เป็นวัดที่เก่าแก่ ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ และถือเป็นวัดแห่งแรก ในเขตกำ�แพงเมือง วัดเชียงมั่นมีความสำ�คัญต่อ 82 | happy+

ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเป็น พระอารามหลวงแห่งแรกในเขตกำ�แพงเมือง และ เมือ่ ถึงเทศกาลสลากภัต หรือทานก๋วยสลาก จะมี การทานข้าวสลากที่วัดนี้ก่อน แล้วจึงจะทำ�ที่วัด อื่น ๆ ต่อไป วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป สําคัญของเชียงใหม่ คือ “พระเสตังคมณี” หรือ “พระแก้วขาว” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาว เชียงใหม่ เป็นพระพุทธรูปที่นับถือกันว่ามีความ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย และเสริมมงคลแก่ผู้ที่เคารพสักการะ เพื่อให้ชีวิต ประสบแต่ความมัน่ คงตลอดไป ปราศจากอุปสรรค ทั้งปวง และมีอายุมั่นขวัญยืนเหมือนกับชื่อวัด อีกด้วยค่ะ สำ � หรั บ ทริ ป ไหว้ พ ระเก้ า วั ด นี้ ก็ จ บลง เรียบร้อย เป็นทริปที่เต็มไปด้วยความสุข ความ สบายใจ และรู้สึกประทับใจในความงดงามของ สถาปัตยกรรมของวัดต่าง ๆ มาก จนอยากให้ ทุกท่านได้มาสัมผัสแบบนี้บ้าง ที่เชียงใหม่ยังมี วัดอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ที่เรายังไม่ได้ไปเยี่ยมชม ต้องขอบอกว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีวัดวาอาราม ที่สวยงามและเก่าแก่อีกมากมาย เรียงรายอยู่ ตลอดเส้นทาง ถ้ามีโอกาสเราจะต้องกลับมาที่นี่ อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ 5


เรื่องและภาพ : TepiN one happy day

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี happy+ | 83


พิพธิ ภัณฑ์ธรณีวทิ ยา (พิพธิ ภัณฑ์แร่และหิน) ตั้ ง อ ยู่ ชั้ น 1 อ า ค า ร ม ร ก ต สำ � นั ก วิ จั ย ซากดึกดำ�บรรพ์และพิพธิ ภัณฑ์ธรณีวทิ ยา ภายใน กรมทรัพยากรธรณี ถนนพระราม 6 จัดตัง้ ขึน้ ด้วย จุดประสงค์เพือ่ ให้เป็นแหล่งรวบรวม และเผยแพร่ ความรู้ทางด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี เป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ประชาชนเห็นคุณค่า ของทรั พ ยากรธรณี ซึ่ ง จะนำ � ไปสู่ ก ารช่ ว ยกั น อนุ รั ก ษ์ ต่ อ ไป โดยมุ่ ง หมายให้ เป็ น พิ พิ ธ ภั ณฑ์ ธรณีวทิ ยาทีส่ มบูรณ์ น่าศึกษาเรียนรู้ ด้วยรูปแบบ ทีน่ า่ สนใจทีผ่ ชู้ มสามารถทดลองสัมผัส และเรียนรู้ ได้ด้วยตนเอง ความเป็นมาของพิพธิ ภัณฑ์ธรณีวทิ ยา เดิมทีนน้ั พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาแห่งแรกของประเทศไทย เกิดขึน้ เมือ่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2467 โดย กรมราชโลหกิจและภูมวิ ทิ ยา กระทรวงเกษตราธิการ ได้สั่งตัวอย่างแร่และหินจากต่างประเทศมาจัด แสดงไว้ในพิพธิ ภัณฑ์เป็นจำ�นวนมาก เพือ่ ให้คนไทย ได้ มี โอกาสศึ ก ษาแร่ แ ละหิ นชนิ ด ต่ า ง ๆ จาก 84 | happy+

ของจริง ต่อมาแร่และหินทั้งหมดถูกนำ�ไปจัดแสดง ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑสถานแห่ ง ชาติ พระนคร และ ภายหลังได้น�ำ ไปเป็นอุปกรณ์การศึกษาของแผนก ธรณีวทิ ยาและเหมืองแร่ ซึง่ เปิดสอนเป็นครัง้ แรกที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2476 แผนกธรณีวิทยา กรมที่ดิน และโลหกิจ เริ่มรวบรวมตัวอย่างแร่และหินใน ประเทศไทยอย่างเป็นระบบ และนำ�มาจัดแสดง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 จากนั้น พ.ศ. 2491 จึงมี การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์แร่และหินขึ้น ณ บริเวณ ห้องโถง อาคารกรมโลหกิจ ซึ่งต่อมาคือ กรม


ทรัพยากรธรณี และในภายหลังเมื่ออุตสาหกรรม แร่มีความก้าวหน้า ทำ�ให้ประชาชนมีความสนใจ ในทรัพยากรแร่เพิ่มขึ้น กรมทรัพยากรธรณีจึงได้ สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้นใหม่ เพื่อแสดงเนื้อหา ได้มากขึ้น โดยก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จเมือ่ ปี พ.ศ. 2519 และจัดสร้างนิทรรศการถาวรเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2527 จากนั้นในปี พ.ศ. 2548 ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา และมีการปรับปรุง เนือ้ หาสาระและการจัดแสดงภายในพิพธิ ภัณฑ์ให้ ทันสมัย มีวดี ทิ ศั น์ และสือ่ ผสมต่าง ๆ ให้ได้เรียนรู้ ภายในพิพธิ ภัณฑ์แบ่งเนือ้ หาเป็นส่วนหลัก ๆ ดังนี้ 1. ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ นำ� เสนอข้อมูลความเป็นมาในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ธรณีวิทยา 2. ธรณีประวัติ มีข้อมูลเกี่ยวกับการ กำ � เนิ ด โลก และการเคลื่ อ นที่ ข องเปลื อ กโลก 3. ทรัพยากรแร่ ให้ขอ้ มูลความรูเ้ กีย่ วกับคุณสมบัติ ต่าง ๆ เกีย่ วกับแร่ ลักษณะของแร่ ประโยชน์ของแร่ โดยมีตวั อย่างแร่ อัญมณี และหินมีคา่ ชนิดต่าง ๆ ให้ได้ชม รวมทั้งจำ�ลองรูปแบบการขุดเจาะและ

การทำ�เหมืองแร่ประเภทต่าง ๆ ด้วย 4. หินและ นํ้าบาดาล นำ�เสนอวัฏจักรของหินในรูปแบบสื่อ ผสม 5. เชื้อเพลิงธรรมชาติ ถ่านหิน หินนํ้ามัน และปิโตรเลียมในประเทศไทย 6. วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต นำ�เสนอข้อมูลเกี่ยวกับตารางอายุ ทางธรณีวิทยา ไดโนเสาร์ที่ค้นพบในประเทศไทย เช่น ภูเวียงโกซอรัส สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส รวมทั้งซากฟอสซิลดึกดำ�บรรพ์ต่าง ๆ 7. ธรณีวิทยาประเทศไทย นำ�เสนอแหล่งท่อง เทีย่ วทางธรณีวทิ ยาทีน่ า่ สนใจ และ 8. ธรณีวทิ ยา ประยุกต์ ส่วนสุดท้ายของการจัดแสดง นำ�เสนอ ประโยชน์ของการศึกษาธรณีวิทยา รวมทั้งเรื่อง ธรณีพิบัติภัย สาเหตุและการรับมือเมื่อเกิดธรณี พิบัติ รอบ ๆ อาคารยั งมี รูปปั้ นนูนตํ่ าเกี่ ยวกั บ ยุคของสิ่งมีชีวิตดึกดำ�บรรพ์ อาทิ ยุคไทรแอสสิก ยุ ค จู ร าสสิ ก ยุ ค ครี เ ทเชี ย ส เป็ น ต้ น และ ยั ง มี หุ่ น จำ � ลองไดโนเสาร์ ห ลากหลายชนิ ด ตั้ ง เรี ย งรายอยู่ ตั้ ง แต่ ด้ า นหน้ า จนถึ ง ด้ า นใน พิพิธภัณฑ์เลยค่ะ

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา • ตั้งอยู่ที่ อาคารมรกต ชั้น 1 สำ�นักวิจัย ซากดึกดำ�บรรพ์และพิพธิ ภัณฑ์ธรณีวทิ ยา กรมทรัพยากรธรณี ถนนพระราม 6 เขต ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 • วัน-เวลาทำ�การ : อังคาร-อาทิตย์ 08.3016.30 น. (ปิดวันจันทร์ และวันหยุด นักขัตฤกษ์) • โทรศัพท์ : 0-2621-9647 happy+ | 85




green corner เรื่องและภาพ : TepiN

อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สวนสาธารณะภายใต้แนวคิด ป่าในเมือง

การพัฒนาพื้นที่ในเขตเมือง นอกจากการก่อสร้างถนนหนทาง และอาคารต่าง ๆ เพื่อรองรับผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาในกรุงเทพมหานครแล้ว สิ่งสำ�คัญ ไม่แพ้กันคือ การพัฒนาพื้นที่สีเขียว ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสำ�หรับประชาชน อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University Centenary Park) เป็นโครงการสวนสาธารณะใจกลางเมืองในพื้นที่กว่า 30 ไร่ เน้นให้เป็นสถานที่สำ�หรับกิจกรรมที่หลากหลาย รวมทั้งสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อการเรียนรู้ สำ�หรับนิสิตและประชาชนทั่วไป เน้นปลูกต้นไม้ท้องถิ่น เช่น ไม้มะค่า ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน จามจุรี 88 | happy+


สำ�หรับการออกแบบสวนแห่งนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากการเติบโต ของกิง่ รากจามจุรี ต้นไม้ประจำ�จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีม่ กี ารแผ่ขยาย ออกไปอย่างเรียบง่าย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามบริบท และกลมกลืน ไปกับทัศนียภาพโดยรอบ จุดเด่นของสวนแห่งนี้ คือ Green Roof หรืออาคารอเนกประสงค์ ที่ มีลักษณะแบบลาดเอียง ซ่อนตัวอยู่ใต้เนินหญ้าด้านในสุดของสวน ด้าน บนอาคารสามารถมองภาพสวนมุมกว้างได้ทงั้ หมด แบบไม่มอี ะไรบัง และ ยังเห็นวิวเมืองโดยรอบอีกด้วย ส่วนต้นไม้บนอาคารนั้นไม่ได้มีเพื่อความ สวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดอุณหภูมิของอาคาร ซึ่งเป็นแนวคิดที่ อาคารหลายแห่งทั่วโลกใช้กัน หน้าที่หลักของอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือ การ กักเก็บนํ้าและรองรับนํ้าในเขตเมือง พื้นที่โดยรวมของสวนถูกยกขึ้นจน ลาดเอียงเพื่อให้นํ้าฝนไหลมารวมกันที่สระรับนํ้าด้านหน้าสุด (Retention Pond) รวมถึงไหลลงด้านข้างที่เป็นพื้นที่ชุ่มนํ้า (Wetland) และสวนนํ้าฝน (Rain Garden) ซึ่งเป็นแนวสวนที่เรียงรายด้วยไม้พุ่มและพืชคลุมดิน ต้นไม้ เล็ก ๆ เหล่านี้ จะช่วยซับนํา้ เอาไว้ บริเวณทีเ่ ป็นพืน้ คอนกรีตจะใช้คอนกรีต รูพรุน (Porous Concrete) แทนคอนกรีตปกติ ทำ�ให้นํ้าซึมลงสู่ด้านล่างได้ อย่างรวดเร็ว ไม่มีนํ้าขัง

นอกจากกักเก็บนํ้า อุทยานนี้ยังช่วยบำ�บัดนํ้าเสียให้กลับใสสะอาด โดย การเชื่อมต่อไปยังพื้นที่โดยรอบ รับนํ้าที่ผ่านการบำ�บัดแล้วรอบหนึ่งมาบำ�บัด ต่อ ที่ส่วนระบบบำ�บัดนํ้าของสวนอีกด้วย ภายในสวนยังประกอบไปด้วย ห้องเรียนกลางแจ้งถึง 8 แห่ง บริเวณสวน ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง โดยแต่ละห้องจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เช่น Earth Room จะมีดินจากแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศให้ได้ศึกษา Herb Room เป็นส่วนของสวน สมุนไพร และ Sand Room ลานทราย และเครื่องเล่น ให้เด็ก ๆ ได้มาเล่นสนุก ต้นไม้ในห้องเรียนกลางแจ้งก็จะเลือกเป็นไม้ประจำ�ถิน่ ในประเทศไทย โดยแต่ละ ห้องก็จะมีพันธุ์ไม้ที่แตกต่างกัน อุทยานแห่งนี้ จะไม่ใช่แค่เพียงสวนสาธารณะยุคใหม่ ที่เป็นปอดฟอก อากาศให้เมือง แต่ยังเป็นห้องทดลองนวัตกรรม สถานที่แห่งการเรียนรู้ และ เป็นพื้นที่ที่ช่วยตอบโจทย์ต่าง ๆ ให้กับชุมชนโดยรอบ และเมืองของเราใน อนาคตด้วยค่ะ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • ตั้งอยู่ข้าง I’m Park จุฬาฯ ซอย 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 05.00-22.00 น. happy+ | 89


ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก

เก็บเมล็ดพันธุ์ ภารกิจกู้โลกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน happy+ กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมมีเรื่องดี ๆ มาฝากกันเช่นเคยครับ ฉบับนี้เป็นเรื่องราวของการ เก็บเมล็ดพันธุผ์ กั ไว้ใช้เอง ซึง่ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดค่าใช้จา่ ยในการซือ้ หาเมล็ดพันธุม์ าปลูกแล้ว ยังเป็นปฏิบตั กิ ารกูโ้ ลกทีเ่ ราต่างช่วยกันทำ�ได้ทบี่ า้ น ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยนะครับ มีแนวทางอย่างไรบ้างนั้น ลองมาติดตามอ่านกันดูเลยครับ

มารู้จักเมล็ดพันธุ์กันสักหน่อย

ก่อนที่เราจะเริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์ มาทำ�ความรู้จักเมล็ดพันธุ์ประเภทต่าง ๆ กันก่อนนะครับ ปัจจุบัน เมล็ดพันธุ์ผักที่เรานำ�มาปลูกกัน อาจแบ่งออกได้ เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามแหล่งทีม่ า คือ เมล็ดพันธุท์ างการค้าและเมล็ดพันธุ์ พื้ น บ้ า น ซึ่ ง เมล็ ด พั น ธุ์ ท างการค้ า นั้ น ยั ง สามารถแบ่ ง ออกได้ เ ป็ น อี ก 2 ประเภท ก็คือ เมล็ดพันธุ์ผสมเปิดและเมล็ดพันธุ์ลูกผสม ซึ่งเมล็ดพันธุ์ ผสมเปิดนั้น เป็นเมล็ดพันธุ์ที่เกิดจากการเก็บ คัดเลือก รวบรวมพันธุ์พืชที่มี อยู่ตามธรรมชาติ และนำ�มาขยายหรือเพิ่มจำ�นวนให้มากขึ้น เพื่อนำ�ไปปลูก 90 | happy+

หรือจำ�หน่ายจ่ายแจกต่อไป ซึง่ ในการผลิตเมล็ดพันธุแ์ บบนีน้ ัน้ เปิดโอกาสให้เกิดการผสมพันธุไ์ ด้ ตามธรรมชาติ จึงสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ปลูกต่อได้ โดยที่ลักษณะ ของพันธุเ์ หล่านัน้ ไม่ได้เปลีย่ นแปลงไปมาก ในขณะทีเ่ มล็ดพันธุล์ กู ผสมนัน้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ปรับปรุงขึ้น โดยการผสมพันธุ์ของพืชต่างสายพันธุ์กัน อย่างน้อย 2 พันธุข์ นึ้ ไป เพือ่ ให้ได้พนั ธุใ์ หม่ตามทีต่ อ้ งการ ดังนัน้ เมล็ดพันธุ์ ลูกผสมจึงไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ปลูกในรุ่นถัดไปได้ เพราะจะมี ลักษณะไม่ตรงตามพันธุ์ที่ต้องการนั่นเอง


เมล็ดพันธุ์พื้นบ้านทางออกที่ยั่งยืน ของความมั่นคงทางอาหาร

นอกจากเมล็ ด พั น ธุ์ผ สมเปิ ด ที่เราสามารถเก็ บ พั น ธุ์ต่อ ได้ แ ล้ ว นั้น เมล็ดพันธุพ์ ื้นบ้านที่มีการเก็บรวบรวม แบ่งปันกันในชุมชน หรือที่หาได้เองใน แต่ละท้องถิน่ นัน้ เป็นทางเลือกและทางออกทีย่ งั่ ยืน ในการพึง่ พาตนเองด้าน เมล็ดพันธุ์ เพราะพันธุ์พื้นบ้านนั้นมีความหลากหลายตามสภาพภูมิประเทศ ท้องถิ่นและวัฒนธรรมการกินอยู่ของผู้คนและชุมชนที่มีพันธุกรรมเหล่านั้น จึงมีตวั เลือกทีม่ ากมายสำ�หรับการผลิตและการบริโภค ตลอดจนการแบ่งปัน ร่วมกัน วิธีการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์พืชที่ดีที่สุดก็คือ การนำ�ไปปลูก เก็บ รักษาและแบ่งปันพันธุ์พืชให้แก่กันนั่นเอง การเก็บเมล็ดพันธุ์ของพวกเราทุกคนจึงมีความสำ�คัญต่อความยั่งยืน ของการเกษตรและความมั่ นคงทางอาหารของพวกเรานั่ น เอง ฉบั บ นี้ หน้ากระดาษไม่พอเสียแล้ว ฉบับหน้าผมจะมาแนะนำ�วิธีการเก็บเมล็ดพันธุ์ ผักชนิดต่าง ๆ ให้ได้ไปลองฝึกเก็บเมล็ดพันธุ์กัน ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ happy+ | 91


กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้

ชุดอาหารจานเหลือง

ตลาดชุมชนบ้านเรามีตลาดเช้าสองแห่ง คือ กาดจันทร์และกาดพุธ วันนีแ้ วะไปเทีย่ วซือ้ หาอาหารต่าง ๆ จากกาดจันทร์ได้มาหลายชนิด สีเหลือง ๆ ดูแล้วเพลิดเพลิน จนต้องลองจัดชุดอาหารจานเหลืองดูสักครั้ง โดยเลือกให้มีฟักทอง พริกหวานสีเหลือง เส้นหมี่เหลือง เต้าหู้เหลืองที่ท�ำ จากแป้งถั่วลันเตา แตงใหญ่สีเหลือง (เนื้อเหมือนฟักเขียว) เสาวรส ส้มเล็กส้มใหญ่ ผักนิดหน่อย แล้วรีบกลับเข้าครัว จัดทำ�ชุดอาหารที่ควรได้ครบทั้งคาว หวาน และนํ้าดื่ม และเป็นอาหารจานง่ายที่ทุกครัวน่าจะปรุง ได้เอง ไม่เคร่งครัดเรื่องสูตรของสัดส่วนสักเท่าไร เรียกว่า ปรุงอย่างที่ชอบจะดีที่สุด 92 | happy+


อาหารคาว เส้นหมีเ่ หลืองผัดราดซอส ฟักทอง และซุปแตงเหลือง

• เส้นหมี่เหลืองเป็นเส้นที่สุกแล้ว นำ�มา ผัดเนยผสมกับแคร์รอต มะเขือเทศ พริกหวาน หัน่ ชิน้ เล็ก ๆ เคล้าเกลือและออริกาโน โรยพริกไทย พอหอม • ซอสฟักทอง ได้จากการนึ่งฟักทอง เอา เปลื อ กออกแล้ ว ยี เ นื้ อ กั บ เกลื อ ป่ น พริ ก ไทย เนยสดนิดหน่อยและนมสดต้มร้อน ๆ คนให้ เข้ากัน กะให้ขน้ พอเคล้าเส้นหมีไ่ ด้ ไม่เป็นนาํ้ ราด เจิ่งนอง • จีเ่ นือ้ เต้าหูเ้ หลืองส่วนหนึง่ และตัดเป็นชิน้ ทอดเสียส่วนหนึ่ง แล้ววางจัดจาน พร้อมพริก หวานหั่นขวาง วางเส้นหมี่ผัด แล้วราดซอส ฟักทอง • แตงเหลืองใหญ่ปอกเปลือก คว้านไส้ เอาแต่เนือ้ ต้มซุปใสใส่เกลือ หอมใหญ่ แคร์รอต พริกไทย

อาหารหวาน ทาร์ตเลม่อน

• ขนมปังโฮลวีต 3 แผ่น รีดให้แบน ทาเนย โรยนาํ้ ตาล แล้วจับเป็นรูปกระทง เสียบไม้จมิ้ ฟัน นำ�เข้าเตาอบ อบขนมปังให้พอกรอบ • ไข่ไก่ 1 ฟอง ผสมนม ⅓ ถ้วย เนย 1 ช้อนโต๊ะ นํา้ ตาล 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ¼ ช้อนชา นํา้ เลม่อน 3-4 ช้อนโต๊ะ ผิวเลม่อนซอยนิดหน่อย เน้นรสเปรี้ยวนำ� ผสมกันแล้วตุ๋นจนงวดพอจะ ตักเป็นไส้ได้ • ตักไส้เลม่อนใส่ในกระทงขนมปัง แต่งหน้า ด้วยชิ้นเลม่อนคลุกนํ้าตาล แล้วเข้าอบอีกครั้ง แค่พอระอุ ทิ้งไว้ให้เย็น ค่อยรับประทาน

เครือ่ งดืม่ นา้ํ ส้มเสาวรส

• คัน้ นํา้ ส้มสด 3 ผล ผสมกับเสาวรส 1 ผล • เติมเกลือแค่ติดปลายช้อน ไม่ใส่นํ้า ไม่ ผสมนํ้าตาล จัดชุดครบแล้ว รับประทานเป็นชุดเช้าหรือ ชุดเที่ยงก็แล้วแต่สะดวก ได้สารสีเหลืองหรือ เบต้าแคโรทีนมากมาย อิม่ แล้วผิวอาจเหลืองผ่อง โดยไม่ ง้ อ การขั ด ผิ ว ด้ ว ยขมิ้ น ผงอย่ า งโบราณ เสร็จชุดอาหารประจำ�วันจันทร์แล้ว ก็พกั เพือ่ คิด ชุดอาหารสำ�หรับวันอังคารต่อไป happy+ | 93


ชวนชิม เรื่อง : Patty Pom ภาพ : กมลชล วิเศษเสาวภาคย์

IfItIs อีฟอิทอีส

• ร้าน IfItIs ตัง้ อยูท่ ่ี ทองหล่อ 23 ซอยสุขมุ วิท 55 • เปิดทุกวัน 11.00-24.00 น. วั น พุ ธ -วั น อาทิ ต ย์ มี ด นตรี ส ด 20.00-24.00 น. • โทรศัพท์ : 09-4449-4426 • www.ifitis.com • www.facebook.com/IfItIs

กลางใจเมืองที่แสนจะคึกคักอย่างย่านทองหล่อกลับมีร้านอาหารเล็ก ๆ บรรยากาศน่ารักและเงียบสงบ ซ่อนตัว อยูใ่ นสวนสีเขียวเล็ก ๆ พร้อมต้นหิรญ ั ญิการ์พมุ่ ใหญ่หน้าร้านให้เราได้แวะมาพักกายพักใจ การตกแต่งมีสไตล์ โดดเด่น ทัง้ สีสันและลูกเล่นผสมผสานกันอย่างลงตัว มากไปด้วยเมนูสร้างสรรค์ แปลกใหม่ แบบอาหารคอนฟิวชั่นฟู้ดและ อาหารไทยฟิวชั่นฟู้ด ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ รับรองว่าถูกปากถูกใจทุกท่านแน่นอนค่ะ เมนูที่เราภูมิใจนำ�เสนอก็มีมากมายค่ะ เช่น เฟรนช์ฟรายส์ (275 / 385 บาท) เฟรนช์ฟรายส์โฮมเมดชิ้นใหญ่กรอบ ก บั ต ร KTC ใช้ จ่ า ย นอกนุ่มในพร้อมดิพ 3 หรือ 7 ชนิด จากที่มีให้เลือกกว่า 40 ชนิด เช่น ตับบด ซาวครีม นํ้าพริกหนุ่ม แกงกะหรี่ญี่ปุ่น สมาชิ ผ่านบัตรรับส่วนลด 10% ถึง ครีมชีส วาซาบิมาโย โรตีชสี (145 บาท) ทีใ่ ช้เชดด้าชีสอย่างดี ทานแกล้มผักสด คอหมูครีมชีส (225 บาท) ความพิเศษ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ครีมชีสสูตรอาหรับ มีส่วนผสมของโยเกิร์ตเปรี้ยวหวานลงตัว เมนูเด็ดของร้านอีกอย่างคือ ตับหวาน (220 บาท) มาเป็นเซตพร้อมข้าวเหนียวและนํ้าจิ้มแจ่ว หอมข้าวคั่ว อร่อยมากค่ะ ต้มยำ�กุ้งหมี่ขาว (250 บาท) เมนูคุ้นเคยที่มาใน รูปแบบใหม่ ต้มยำ�กุ้งนํ้าข้นทานพร้อมหมี่ขาวอร่อยไปอีกแบบนะคะ สปาเกตตีซูเปอร์ไข่ (315 บาท) หอม นุ่ม พร้อมไข่ถึง 4 ชนิด ไข่กุ้ง ไข่เยี่ยวม้า ไข่ดิบ และไข่แซลมอน นอกจากของคาวแล้ว ของหวานยังมีให้เลือกทานมากมาย แต่ทเี่ ราภูมใิ จนำ�เสนอ คือ กล้วยทอดคาราเมล และ Let’s Go to the Bed Set ที่ไม่อยากจะอวดสรรพคุณให้มากมาย แต่รับรองว่าทุกท่านต้องตกหลุมรักและชื่นชอบอย่างแน่นอนค่ะ ทางร้านมีห้องหลากหลายขนาด จะมาเป็นคู่ มากับครอบครัวหรือมาปาร์ตี้ครบแก๊ง ก็ครบทุกความต้องการ และคนรักสัตว์ก็สามารถพาน้องแมวน้อง หมามาได้ด้วยค่ะ ถูกใจคนรักสัตว์สุด ๆ ไปเลยใช่ไหมคะ 94 | happy+


แสนแซ่บ • ร้านแสนแซ่บมีทง้ั หมด 6 สาขา อาหารที่ถูกปาก ถูกใจ และครองความนิยมมาโดยตลอด คงไม่พ้นอาหารอีสาน และร้านแสนแซ่บ ผู้ที่เชี่ยวชาญ ดังนี้ สยามพารากอน ชั้น 4, และเป็นร้านอาหารอยู่ในใจนักกินมาถึง 10 ปี ก็ยังคงไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ความแซ่บเช่นเดิม แต่ได้พัฒนาและมีเมนูใหม่ ๆ เทอร์มนิ ลั 21 ชัน้ 5, Int’ Intersect พระราม 3 ชัน้ 2, The Nine มาเอาใจลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ด้วยความใส่ใจ การคิดค้นและตามหาสิ่งที่ดีที่สุด จึงเกิดเป็นเมนูสร้างสรรค์ที่เราและทาง พระราม 9 ชัน้ 2, เสนา เฟส ร้านแสนแซ่บ ภูมิใจนำ�เสนอ เจริญนคร ชัน้ 2, The Circle ราชพฤกษ์ ตำ� 5 ลุม่ นํา้ (499 บาท) ในรูปแบบขันโตกทีอ่ ร่อยและแปลกใหม่ นํา้ ปลาร้าจาก 5 ลุม่ นํา้ ทีแ่ ตกต่างและมีเอกลักษณ์ • www.facebook.com/ เฉพาะตัว ขันโตกสำ�รับขุนแผน ของดีจังหวัดสุพรรณบุรี ตำ�พร้อมปลาป่นและเข้าคู่กับกุ้งแม่นํ้าเผาตัวใหญ่ ขันโตกภูไท Sansabrestaurant แสนแซ่บ ปลาร้าจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ตำ�พร้อมกุง้ ฝอยคัว่ และเม็ดกระถิน พร้อมปลานิลทอดแสนอร่อย ขันโตกสะบายดี • Instagram : Sansabrestaurant ปลาร้าจากลุ่มนํ้างึมประเทศลาว รสชาติแซ่บนัวคู่กับไก่ย่างสูตรเฉพาะตัวของแสนแซ่บ ขันโตกสายบัวแซ่บนัว ปลาร้า จากจังหวัดอุดรธานี เค็มหวานลงตัวคลุกกับสายบัวสด ๆ พร้อมกับลาบเป็ด ของดีเมืองอุดร และขันโตกดูเรียนตำ�พริ้ว ทีท่ า้ ให้ลอง ปลาร้าจากแม่นาํ้ จันทบูร หมักด้วยสับปะรดพันธุภ์ ชู วาทีเ่ ข้ากันได้ดกี บั ทุเรียนหมอนทองอ่อน ทานคูก่ บั เส้นจันทน์ผดั ปูนมิ่ ไม่นา่ พลาดทัง้ 5 เมนูคะ่ นอกจากนางเอกอย่างส้มตำ�แล้ว เมนูอื่น ๆ ก็เด็ดไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดนํ้าพริกกากหมู+หมูแดดเดียว (180 บาท) ข้าวผัดนา้ํ พริกมันกุง้ +กุง้ เบิม้ (240 บาท) ที่อร่อยลงตัว และแซ่บสมชื่อร้าน เมี่ยงปลาทู (180 บาท) ที่ถูกใจคนรักสุขภาพและสาว ๆ แน่นอน มากด้วยประโยชน์จากปลา ผักสด ความ อร่อยอัดแน่น ไก่ยา่ งออกรบ (220 บาท) ไก่ที่ย่างจนหนังกรอบ และสามารถปรุงนํ้าจิ้มให้ถูกใจได้เอง สร้างสรรค์เลยละค่ะเมนูนี้ นี่แค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ร้านแสนแซ่บยังมีเมนูรอคุณอยู่อีกมากมาย รวมถึงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ดีต่อสุขภาพ และมีของหวานตบท้าย ที่จะ ทำ�ให้อาหารมื้อนี้เต็มไปด้วยความสุข ถ้าคิดถึงอาหารอีสานรสแซ่บ ให้แสนแซ่บคือคำ�ตอบของคุณนะคะ happy+ | 95


beauty recommended

EXTREME SOFT TOUCH LIPSTICK

“ลิปสติกเนือ้ แมตต์มอยส์เจอร์” คืออะไร? ถ้ า ทุ ก คนได้ ท ราบคงต้ อ งอยากลองหามาเป็ น เจ้าของแน่นอน เพราะมันคือลิปสติกเนื้อแมตต์ ซึ่งเป็นเนื้อที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของเหล่า นักศึกษาและสาวออฟฟิศ เพราะเนื้อแมตต์มี พิกเมนต์ที่ละเอียดแน่น เนื้อสีชัด สามารถกลบ ริ ม ฝี ป ากได้ อ ย่ า งเรี ย บเนี ย นสนิ ท เนื้ อ แมตต์ มอยส์เจอร์นนั้ คือลิปสติกเนือ้ แมตต์ทมี่ คี ณ ุ ค่าของ ออยล์จากธรรมชาติอย่าง Rose Hip Oil, Avocado Oil, Macadamia Oil และ Apricot Kernel Oil ที่ ทำ�หน้าที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ มอบความชุ่มชื้น และลดอนุมลู อิสระสาเหตุของการเกิดริว้ รอย เพือ่ ริมฝีปากอวบอิม่ ไม่แห้ง แตกหรือลอกเป็นขุย อีกทัง้ ยังมีส่วนประกอบของ Base Wax ผิวที่บอบบาง แพ้งา่ ย ก็สามารถใช้ได้หายห่วง และติดทนยาวนาน ถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของสาว ยุ ค ใหม่ ที่ ชื่ นชอบความท้ า ทายและกิ จ กรรม เอ็กซ์ตรีมมากเลยละ • • • • happy+ | 96

facebook : Extica Cosmetic IG : Extica Cosmetic Website : www.preciosathailand.com Tel. 0-2101-3672-3 # 144

และนี่คือคุณสมบัติของ Extica Extreme Soft Touch Lipstick หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ลิ ปแมตต์ มอยส์ ” ที่ ถูกคิ ด ค้ นขึ้ นจากแล็บใน ประเทศเกาหลี โดยผู้ เชี่ ยวชาญที่สามารถนำ� แมตต์กบั มอยส์เจอร์มารวมกันได้อย่างลงตัว เพือ่ ลบปัญหาของลิปเนือ้ แมตต์ทมี่ กั แห้ง แตกลอก ไม่ สบายผิวปาก เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่แห่งการทา ลิปสติกเนื้อแมตต์กันเลยละค่ะ ลิปแมตต์มอยส์ 8 สีสันสวย ตั้งแต่โทนนู้ดไป จนถึงสีสันสดใส และร้อนแรงอย่างสีแดง ทั้งสวย ทั้งบำ�รุง แถมยังติดทนนานขนาดนี้ สาว ๆ ที่ ส นใจสามารถหาซื้ อ กั น ได้ ที่ ร้ า น eveandboy, beautrium, robinson หรือสอบถามได้ ที่หน้าเพจ Extica Cosmetic


เรื่อง : Patty Pom ภาพ : Nasry ชวนอ่านสานสุข

เถือ่ นแปด / เรือ่ ง : วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล / The Uncommoners ผจญภัยในดินแดนไม่ กุหลาบยมทูต / เรือ่ ง : อรพิม / สำ�นักพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์ : a book / ราคา : 495 บาท ธรรมดา / เรือ่ ง : Jennifer Bell แปล : อลิซ / คำ�ต่อคำ� / ราคา : 370 บาท หลงทางกลางทะเลทรายนามิบ, ไปขยิบตา สำ�นักพิมพ์ : NANMEEBOOKS / ราคา : จะดีสักแค่ไหน ถ้าเราได้รับโอกาสในการ ให้เช เกวารา, เผชิญหน้ากับชาวโสมแดง, ร้อนแรง 225 บาท กลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง อิสรีย์ แพทย์ กั บ สาวญี่ ปุ่ น ในหนั ง เอวี , มี ฮ าที่ ม าไซมารา, ไปผจญซาฟารีกับแม่, อาการร่อแร่ที่คิลิมันจาโร แถมยังโผล่ไปสนทนากับตาลีบัน นี่คือ 8 ทริปดิบ เถื่อน ที่พ่อแม่ไม่อยากให้เราไป แต่วรรณสิงห์ไป พิสูจน์มาให้เราแล้ว กลายมาเป็นหนังสือเล่มที่ เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ประสบการณ์ที่ทั้งดีและแย่ แถมสนุ ก เหมื อ นเราได้ เดิ นทางตามเขาไปใน ดินแดนทีย่ ากจะเข้าถึง เหนือ่ ยยากทัง้ กายและใจ จากเถือ่ นเจ็ดทีค่ ดิ ว่าโหดแล้ว ยังเด็ก ๆ ไปเลย ขอ เชิญทุกท่านพิสูจน์เล่มนี้กันก่อนค่ะ

แฟน ๆ นวนิยายผจญภัยแฟนตาซี ได้ออก ผจญภัยกันอีกครั้งในโลกใต้ดินของกรุงลอนดอน ที่ ข องใช้ ธ รรมดาสามั ญ ที่ เราเห็ นกั น อยู่ ทุ ก วั น กลายมาเป็นของวิเศษ และคนตายอยู่ร่วมกับ คนทั่วไปได้ตามปกติ ไอวีและเซบ ต้องพบกับ เหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อพบเห็นขนนกที่ขีด เขียนเองได้บนผนังห้องครัวของคุณย่า จนหลง เข้าไปในโลกพิสดารแห่งลันดินอร์ ถูกไล่ล่าจาก สมาคม แถมยังค้นพบว่าครอบครัวของตัวเอง นั้นไม่ธรรมดา เราขอชวนทุกท่านผจญภัยไปใน เมืองใต้พภิ พ ทีม่ อี ะไรไม่ธรรมดามากกว่าทีต่ าเห็น

นิติเวชผู้ถูกฆ่าโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้รับโอกาส จากยมทูตให้ฟนื้ คืนชีพอีกครัง้ ในร่างของเด็กสาว ผู้บกพร่องทางสติปัญญา แต่มีเงื่อนไขว่าเธอจะ ต้องตามจ ับวิญญาณ 3 ดวงทีห่ ลบหนีจากยมโลก กลับมาให้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นวิญญาณของเธอ ต้องกลับสูย่ มโลกเสียเอง แต่เรือ่ งราวกลับวุน่ วาย เพราะชายหนุม่ 2 คนทีเ่ ข้ามาพัวพัน ภารกิจสะกด วิญญาณหรือจะสู้ภารกิจรักของเขา งานนี้สงสัย ว่าจะหนักไม่ใช่เล่นนะคะ

เมื่อลูกทัพฟ้าหน้าขรึมอย่าง ผู้กองกรัณย์ เกิด ตกหลุมรัก ดอกเตอร์ไอรีน ภรรยาในนามที่มา ทำ�ภารกิจลับระดับชาติ แม้ว่าสถานการณ์จะเลว ร้ายเพียงใด เขาก็จะยอมเสีย่ งภัยเพือ่ ช่วยเธอ การ ทำ�ภารกิจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเอาชีวิตเป็น เดิมพัน แต่เขาก็ทมุ่ เททุกอย่าง เพราะชีพนีเ้ พือ่ ชาติ หัวใจรักเพื่อเธอ หากภารกิจเสร็จสิ้น ความหวัง เดียวของเขาคือ กลับไปโอบกอดเธออีกครั้งใน ฐานะภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ

บั นทึ ก ความทรงจำ � จากลู ก สาวถึ ง พ่ อ คน หนึง่ ผูซ้ งึ่ มีความรักแบบไม่แสดงออก ความใส่ใจ ที่ไม่ใกล้ชิด สอนการเรียนรู้ชีวิตแบบนอกกรอบ หล่อหลอมให้คนคนหนึง่ เติบโตมาอย่างกล้าแกร่ง และกล้าหาญ ใช้ชวี ติ อยูก่ บั ความเป็นจริงอย่างมี สติ เมื่อถึงวันหนึ่งที่พ่อป่วยและล้มลง เราจึงได้ เห็นถึงความสัมพันธ์อนั อบอุน่ ทีอ่ ยูร่ อบตัวของเธอ และพ่อ ที่บางครั้งเราก็อมยิ้ม บางครั้งก็นํ้าตารื้น โดยไม่รู้ตัว ทำ�ให้เรากลับมามองตัวเองอีกครั้งว่า เราใช้จ่ายเวลากับคนที่เรารักอย่างไร เพื่อที่จะได้ ไม่ต้องเสียใจในวันสุดท้าย

ตืน่ ตะลึงและเพลิดเพลินแก่ผชู้ ม เธอทำ�ให้ชายผูม้ ี อำ�นาจที่สุดแห่งยุคลุ่มหลง แต่เมื่อยามที่ประเทศ เกิดสงคราม ชะตาชีวิตก็ผกผัน ทำ�ให้เธอตก เป็นผู้ต้องสงสัยและถูกตั้งข้อหาจารกรรม แต่ อาชญากรรมเดียวของเธอก็คือ การเป็นสตรีที่มี อิสระเสรี นี่จึงเป็นเรื่องราวที่เราไม่อาจลืมเลือน จากปลายปากกาของนักเขียนชื่อดังระดับโลก เจ้าของผลงาน ‘ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน’ เนื้อเรื่อง จึงสละสลวยและดึงดูดใจยิ่งนัก

The Spy สายลับ / เรื่อง : Paulo Coelho ยึดฟ้าหาพิกดั รัก / เรือ่ ง : ทองหลาง / สำ�นักพิมพ์ : แปล : ติกขปัญญ์ มณีนุ่ม / สำ�นักพิมพ์ : Post Books / ราคา : 365 บาท จดหมายถึงผู้ชายคนแรก / เรื่อง : รณิดา NANMEEBOOKS ADULT / ราคา : 158 บาท อีกหนึ่งเหล่าทัพในนวนิยายรักหวานซึ้งสุด บุญฤทธิ์ / สำ�นักพิมพ์ : Her Publishing / นวนิยายชีวประวัติของมาตา ฮารี นักเต้น เข้มข้นชุด ‘ภารกิจรัก’ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ราคา : 220 บาท ที่ มี ชื่ อ เสี ย งที่ สุ ด แห่ ง กรุ ง ปารี ส ผู้ ส ร้ า งความ

happy+ | 97


horoscopes

พยากรณ์ เดือนธันวาคม 2560

สวัสดีคุณผู้อ่านนิตยสาร happy+ ทุกท่านครับ ฉบับนี้เป็นฉบับเดือนธันวาคม วันพ่อปีนี้อาจจะ ดูตา่ งไปจากปีกอ่ น ๆ เมือ่ พ่อของแผ่นดินอันเป็นทีร่ กั ยิง่ ของปวงชนชาวไทย ได้เสด็จสูส่ วรรคาลัยแล้วนัน้ กระผมในฐานะลูกของแผ่นดิน ขอน้อมส่งเสด็จพระองค์ท่านและยังคงสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่านมิมีวันเสื่อมคลาย ถ้ากล่าวถึงความสำ�เร็จของลูก ๆ ทุกคน คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ส่วนหนึ่งที่สำ�คัญยิ่งที่ก่อให้เกิด ความสำ�เร็จได้นั้น มาจากพระคุณของบิดามารดาที่เลี้ยงดูเรามานั่นเอง “แม่” ผู้ที่อยู่เบื้องหน้า ผู้ที่ เราลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นท่านเป็นคนแรก และอีกหนึ่งพลังรักที่ยิ่งใหญ่ที่ขาดไม่ได้ ผู้สร้างและผู้อยู่เบื้องหลังทุกความสุข ผู้ที่คอยปกป้องให้เรารู้สึกปลอดภัย เปรียบเสมือนรอยเท้าที่ยิ่งใหญ่ ที่แผ้วถางทางก้าวเดินให้เราเติบโตอย่างมั่นคง นั่นคือ “พ่อ” ของเราทุกคนนั่นเองครับ ผมเองเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่ง ที่เกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์ และมีคุณพ่อที่เป็นพ่อที่ประเสริฐที่สุด ท่านให้สิ่งที่ดีที่สุดสำ�หรับผม นั่นก็คือ “การศึกษา” ท่านต้องทนเหนื่อย ทำ�งานหนัก เพื่อให้ลูก ๆ ของท่านได้ศึกษาเล่าเรียน ได้มีความรู้ เพื่อจะได้ไม่ลำ�บาก แม้แดดจะร้อน งานจะหนักหรือจะ เจ็บป่วยอย่างไร ท่านก็ไม่เคยปริปากให้ลูกได้ยินสักคำ� ท่านทำ�ได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูก ๆ สุขสบาย และพร้อมจะเป็นกำ�ลังใจและผลักดันให้ลูกเสมอ ผมใน ฐานะลูก จึงอยากให้ท่านผู้อ่านได้ตระหนักถึงพระคุณของพ่อของทุกท่าน รักและดูแลท่านให้มาก ๆ ทำ�ทุกวันให้เหมือนกับที่ท่านทำ�ให้เรา ไม่ต้องถามว่า จะเริ่มยังไง เริ่มเมื่อไร เพียงแค่เริ่มตอนนี้ ไม่ต้องหาสิ่งมีค่าใดไปตอบแทนท่าน แค่เพียงความรักเอาใจใส่ ความห่วงใย ถามทุกข์สุขท่าน แม้บางทีอาจเป็น เพียงคำ�พูดธรรมดา แต่ผมคิดว่า เป็นสิ่งลํ้าค่าที่สุดแล้วครับ “วันนี้ เรามาบอกรักพ่อด้วยกันนะครับ” ติดตามผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. สามารถดูฤกษ์งามยามสบายและคาถาเด็ดได้ทุกวันที่ Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : akhata.c ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้รับพลังชีวิต เพิ่มพลังใจจากการไปเที่ยวพักผ่อนกันทุกคนนะครับ 98 | happy+


เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร

ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) “ไพ่ 10 ดาบ” คาดหวังมากก็เสียใจมาก มี เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การทำ�งานยุ่งยาก มีแต่ งานมาสุม กว่าจะสะสางได้ก็แทบแย่ อย่าไปคิด พึ่งพาใคร เงินทองมีจ่ายจุกจิกแบบเสียไม่ได้ แต่ พอเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ก็มีเรื่องดี ๆ เข้ามา ช่วง กลางมีโอกาสในการทำ�กำ�ไรทีด่ ี มีงานเสริม หยิบ จับอะไรก็มือขึ้น เป็นเวลาแห่งโชคลาภ ความรัก ให้ออมคำ�พูดกันหน่อย คนโสดมีรกั กุก๊ กิก๊ ค่อย ๆ ศึกษากัน รักจะได้ยงั่ ยืน สุขภาพเจ็บป่วย มีเกณฑ์ ผ่าตัดเข้าโรงพยาบาล

ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) มากความคิดไม่เคยอยูเ่ ฉย การทำ�งานราบรืน่ การเจรจาต่ อ รองไม่ เป็ น ปั ญ หา ลื่ น ไหลเอา ตัวรอดได้ตลอด อยากทำ�อะไรให้รีบลงมือ “ไพ่ 8 เหรียญ” การเงินแม้ยังไม่เห็นเป็นกอบเป็นกำ� แต่ก็นับว่าหมุนเวียนคล่อง มีรายรับหลายทาง ติดอยูต่ รงทีค่ ณ ุ เองก็มอื เติบ หามาก็ใช้ไป ความรัก เริ่มเจ้าชู้ มีหลายคนเข้ามาให้เลือก คนโสดไม่ เท่าไร แต่ถา้ มีคนรักแล้วต้องระวังตัวให้ดี ถูกจับได้ โดนแน่ ช่วงปลายมีแนวโน้มขัดแย้งกัน สุขภาพ อ่อนเพลีย โรคประจำ�ตัวกำ�เริบ

ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) มีดวงเดินทางไกล “ไพ่ 9 คทา” การทำ�งาน มีการโยกย้าย เปลี่ยนงาน เพิ่มโอกาสให้ตัวเอง ช่วงนี้คิดอะไรออกให้รีบลงมือ เวลาดี ๆ มีอยู่ไม่ นาน เข้าหาผู้ใหญ่ได้รับการสนับสนุน การเงิน หมุนเวียนสะดวก ได้ลาภจากคนทีม่ อี ายุมากกว่า รูจ้ กั เก็บรูจ้ กั ใช้ ช่วงนีร้ วยแน่ ๆ เล่นหุน้ ต้องปรึกษา ผู้ ใหญ่ ผู้ รู้ จ ะไปได้ ดี ความรั ก กุ๊ ก กิ๊ ก กั นตลอด ช่วงนีห้ วานชืน่ จนน่าอิจฉา ส่วนคนโสดคงต้องเร่ง ให้ผู้ใหญ่ช่วยลุ้น เดินทางจะทำ�ให้พบรัก สุขภาพ ความดันขึ้น ทรงตัวไม่ดี

ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) “ไพ่ The Tower” เลื อ ดจะไปลมจะมา อารมณ์เสียง่าย การทำ�งานหัวปั่น งานล้นมือ ต้องหยิบนั่นจับนี่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน แต่ ทีน่ า่ ปวดหัวก็ตรงการประสานงาน การเงินหน้าชืน่ ตาบาน ได้ของขวัญได้ของถูกใจ แต่กม็ เี รือ่ งอึดอัด ในการจับจ่ายเหมือนกัน เสียเปรียบอย่างเดียว ความรักเดีย๋ วดีเดีย๋ วร้าย ช่วงต้นรักกันปานจะกลืน พอช่วงปลายร้ายกันเหลือเกิน คนโสดมีคนแนะนำ� ให้เหมือนกัน แต่ไม่โดนใจ สุขภาพมึนหัว หน้ามืด ถ้าไม่ระวังจะหกล้ม

ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) ออกอาการคิดมาก คิดไกลจนเกินเหตุ การ ทำ�งานถูกกดดัน พูดอะไรมากก็ถูกเพ่งเล็ง ช่วงนี้ จะทำ�อะไรต้องรอบคอบไว้กอ่ น ใช้ไหวพริบให้เกิด ประโยชน์ การเงินถึงช่วงทีต่ อ้ งเก็บออม คิดก่อนใช้ มีลาภในการเสี่ยงลุ้น แต่ต้องไม่โลภ ความรัก ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองจนกลายเป็นคนมี เสน่ห์ มีความเชื่อมั่น คนโสดเร็ว ๆ นี้มีข่าวดี ส่วนถ้ามีคู่แล้วหวานบ้าง คิดมากบ้างสลับกัน ชีวิตมีรสชาติ “ไพ่ 9 ดาบ” สุขภาพทรุดโทรม พักผ่อนไม่เพียงพอ

ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) เกิดความลังเลหลายอย่าง ทัง้ งานและความรัก “ไพ่ 3 คทา” การทำ�งานมีงานเข้ามาให้เลือก มีโอกาสก้าวหน้าสูง แต่ต้องไม่ลังเล เลือกในสิ่ง ที่คุณชอบและถนัด จะทำ�ได้ดี การเงินถึงแม้จะ ใช้เงินเก่ง มีรายจ่ายเยอะ แต่ก็มีไหวพริบ ช่วงนี้ โชคเข้าข้าง มีรายรับเสริม เงินไหลเข้ามาไม่ขดั สน รักพีเ่ สียดายน้อง ตัดสินใจยากเหลือเกิน ถ้ามีคนรัก แล้ ว เป็ นช่ ว งที่ กำ � ลั ง หวาน ได้ พั ก ผ่ อ น ดู ห นั ง ฟังเพลงด้วยกัน สุขภาพมีปัญหากับช่องหู ได้ยิน เสียงวี้ตลอด ทำ�ให้นอนไม่หลับ

ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) “ไพ่ 7 ดาบ” รูส้ กึ เหงา ๆ อยากหาทีพ่ กั พิงใจ การทำ�งานเหนื่อยท้อทั้งเนื้องานและผู้ร่วมงาน คงต้องอดทนเพือ่ รอจังหวะ โอกาสดี ๆ กำ�ลังเข้ามา เพียงแต่คณ ุ ต้องพยายามเต็มทีด่ ว้ ย การเงินมีแวว ว่าจะได้เงินก้อนจากการเดินทาง ใครที่กำ�ลังรอ ฟังข่าวดี คงได้ยิ้มออก ช่วงปลายระวังความลับ จะถูกเปิดเผย ความรักลุ่ม ๆ ดอน ๆ คาดหวัง อะไรไว้ยังไม่เป็นจริง ต้องค้นต้องหาคนที่ใช่ต่อไป เป็นรักไม่เปิดเผย แอบรักเขา แอบรักคนมีเจ้าของ สุขภาพระวังถูกของมีคมบาด

ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) ปวดหัวเพราะเรือ่ งเงินทอง “ไพ่ 2 ดาบ” การ ทำ�งานลำ�บากใจ ต้องรับผิดชอบงานใหญ่ ให้ใช้ ความมัน่ ใจและเด็ดขาด จะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ การเงินหืดขึ้นคอ หันไปทางไหนก็มีแต่รายจ่าย ความหน้าใหญ่ใจโตทำ�ให้คุณตกที่นั่งลำ�บาก แต่ ด้วยความเจ้าเล่ห์เฉลียวฉลาด ก็สามารถเอาตัว รอดได้ ความรักก็ดันมาสะดุดเพราะความเจ้าชู้ ของคุณอีก ส่วนคนโสดเนื้อหอม ใครต่อใครก็ อยากเป็นเจ้าของคุณ สุขภาพอ่อนเพลีย เป็นหวัด เป็นไข้ง่าย ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ

ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) คิดมากเกินไป การทำ�งานไม่ค่อยคืบหน้า คงต้องรอเวลาสักหน่อย โอกาสดี ๆ จะเข้ามา เอง “ไพ่ 4 ดาบ” การเงินขึ้น ๆ ลง ๆ ช่วงต้น มาดี มีรายรับพอจะเก็บออมได้บ้าง แต่พอช่วง ปลายกลับดีแตก มีรายจ่ายยุบยับไปหมด ต้อง เอาเงินเก็บมาใช้อีกต่างหาก ความรักยังดูเชิงกัน อยู่ การเผยความในใจมันช่างยากเย็นเหลือเกิน ถ้ามีคนรักแล้วระวังเรือ่ งเข้าใจผิด จากความหึงหวง สุขภาพไมเกรน ปวดหัว พลอยทำ�ให้มีปัญหา เกี่ยวกับลำ�ไส้ กระเพาะอาหาร

ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) อาการใกล้เคียงวัยทองเข้าไปทุกที อารมณ์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย การทำ�งานรู้สึกเหมือนสิ่งที่ทำ� ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ถึงเวลาที่ต้องหากันใหม่ ช่วงนี้ ใกล้ชิดใครความคิดมักจะเปลี่ยนแปลงไปตาม คนนั้นได้ง่าย ต้องระวังด้วย การเงินมีโชค ได้ เงินง่าย หยิบจับทำ�อะไรก็ประสบผลดี แต่ต้อง ไม่ฟุ่มเฟือย “ไพ่ The Devil” ความรักยิ่งวิ่งหา ก็เหมือนจะยิ่งไกลออกไป ช่วงนี้มีแต่เรื่องคาว ๆ รักจริงหวังฟัน แต่ขาดรักแท้ สุขภาพให้ระวัง อุบัติเหตุ ห้ามใจร้อนเด็ดขาด

ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) มี ค วามสามารถพิ เศษ สามารถทำ � อะไร หลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน การทำ�งานแม้จะ วุ่นวาย มีงานเยอะอย่าง แต่คุณก็ไม่หวั่น เมื่อ นึกถึงเงินเข้ามา งานก็เดินได้อย่างมีพละกำ�ลัง “ไพ่ 6 เหรียญ” การเงินมือเติบไปบ้าง แต่ช่วงนี้ก็ นับว่าจ่ายได้สบาย เพราะมีรายรับเข้ามามาก มี ลาภจากการเสน่หา กินอิ่มเงินอยู่ครบ ความรัก เสน่ห์แรง บริหารเสน่ห์ได้เรื่อย ๆ ช่วงนี้มีกิ๊กเพิ่ม ถ้ายังโสดก็ไม่เป็นไร แต่ถา้ มีคนรักแล้วต้องสับราง ให้ดี สุขภาพร้อนใน เจ็บคอ ดื่มนํ้ามาก ๆ

ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) เรือ่ งคาใจกำ�ลังจะถูกปลดปล่อย เรือ่ งเครียด ๆ ทิ้ ง ไปบ้ า ง เก็ บ แต่ สิ่ ง ดี ๆ เอาไว้ ดี ก ว่ า การ ทำ�งานวุ่นวายในการปรับเปลี่ยนที่ทางบ้าง แต่ ไม่เป็นปัญหา ช่วงนีใ้ ห้คดิ ดีท�ำ ดี แล้วคุณจะได้ผล ตอบแทนที่ดี การเงินอยู่ตัว ทั้งหาทั้งใช้พอเหมาะ มีลาภจากการเสน่หา “ไพ่ 6 ถ้วย” ความรักมีลม พัดหวน รักเก่า ๆ จะกลับมาหอมหวานอีกครัง้ คน โสดชอบนักแอบรักคนอื่น แต่ก็มีเค้าว่าเขาจะเล่น ด้วย พยายามต่อไป สุขภาพระวังการเคลื่อนไหว หมอนรองกระดูก happy+ | 99


กิจกรรมนำ�สุข

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหาร บมจ.นาํ้ มันพืชไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบทุนมูลนิธชิ ยั พัฒนา

นายวิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน) พร้อมคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินรายได้จากการจัดทำ�โครงการ “สุขกี มั ปานี” (Thailand Social Enterprise) รูปแบบในการดำ�เนินกิจกรรมเพือ่ สังคม เนือ่ งในวาระทีบ่ ริษทั ฯ ครบ 50 ปี โดยจัดทำ�แอปพลิเคชัน “พอดี” ซึ่งได้แนวคิดจากหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบ 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน 2 เงื่อนไข คือ ความรู้ คู่คุณธรรม เพื่อส่งเสริมให้คนรู้จักใช้ชีวิตด้วยความพอดี และมีความสุข บริษัทฯ ได้เปลี่ยนยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว เป็นจำ�นวนเงิน เพื่อสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sukeecompany.com และ FB: sukeecompany 100 | happy+


The Boss Night ครั้งที่ 4

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคม The Boss และสมาชิก The Boss รุ่น 85 จัดงาน The Boss Night ครั้งที่ 4 ขึ้น ณ สโมสรสังกะสี ในธีมงานวัด เพื่อสมาชิก The Boss ได้พบปะ สังสรรค์ ทำ�ความรู้จักกันมากขึ้นในบรรยากาศที่เป็นกันเอง กระชับความสัมพันธ์ และ แลกเปลี่ยนความคิด นอกจากนั้นยังเป็นการรับน้องรุ่น 86, 87 และเลี้ยงขอบคุณรุ่นพี่ 83, 84 นอกจากการรับประทานอาหาร ร้องเพลง สมาชิกทุกท่าน ยังได้ร่วมเล่นเกม พร้อมรับของรางวัลต่าง ๆ จากสมาชิกที่ให้การสนับสนุนงาน The Boss Night ครั้งที่ 4 ในครั้งนี้ ติดตามงานของสมาคม The Boss ครั้งต่อ ๆ ไปได้ที่ www.facebook.com/thebossthai happy+ | 101


MPI : The Boss Learn on the Road เรื่อง : ผศ.ดร. ปิติ ศรีแสงนาม

ย่างกุ้ง... ย่างก้าว

The BOSS Learn on the Road ครั้งที่ 9 ย่างกุ้ง-ทิลาวา คือหนึ่งในทริปที่ผม ตั้งตารอคอยมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้ มีโอกาสร่วมเดินทางเรียนรู้ไปพร้อมกับคณะ นักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย ยัง มีโอกาสพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อ เรียนรู้ประสบการณ์ตรง นอกจากจะได้รับฟัง ข้อมูลสถานการณ์ล่าสุด จากเจ้าหน้าที่ของ รั ฐ บาลไทยในต่ า งประเทศแล้ ว สิ่ ง ที่ เ ป็ น ไฮไลต์ที่สุดของทริปนี้คือ การได้ร่วมเดินทาง ไปกับ ศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร ชุตนิ ธรานนท์ ศาสตราจารย์ ด้ า นประวั ติ ศ าสตร์ ที่ ร อบรู้ เรือ่ งราวของเมียนมาดีทสี่ ดุ คนหนึง่ ไม่ใช่เพียง แต่ในประเทศไทย หากแต่เป็นในเวทีวิชาการ ระดับโลก 102 | happy+

เช่นเดียวกับ LOTR รอบก่อนหน้าที่เรื่องราว ซึ่ ง น่ า สนใจในทุ ก แง่ มุ ม ของเศรษฐกิ จ สั ง คมวัฒนธรรม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยั ง คงเป็ น ข้ อ มู ล ที่ ส ดใหม่ แ ละมี คุ ณ ภาพสู ง หากแต่ปริมาณข้อมูลทีไ่ ด้รบั ตลอดทัง้ การเดินทาง มีจำ�นวนมหาศาล เพื่อให้สามารถสรุปลงในพื้นที่ บทความที่มีจำ�กัด ผมจะขออนุญาตเล่าประเด็น ที่น่าสนใจเป็นพิเศษดังนี้ครับ เมี ย นมา คื อ ความหวั ง ... แน่ น อนครั บ ประเทศเมียนมาปิดตัวในเวทีโลกตั้งแต่ปี 1962 ภายหลังการรัฐประหารโดยนายพลเนวิน ระบอบ เผด็จการทหารที่ประกาศใช้นโยบายสังคมนิยม แบบของตนเอง ต่างชาติถูกยึดกิจการ กิจการ ทุกประเภทตกเป็นของรัฐ และยังถูกควํ่าบาตร ทางเศรษฐกิจจากประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำ�ให้ เมื่อเมียนมาปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปเศรษฐกิจ อย่างจริงจังในปี 2010 นัน่ เท่ากับว่า ขุมทรัพย์แห่ง

ทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล ไม่ว่า จะเป็นแหล่งแร่ ก๊าซธรรมชาติ ป่าไม้ พื้นที่เกษตร ประมง ยังมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ในประเทศ เมียนมา เช่นเดียวกับจำ�นวนประชากรมากกว่า 54 ล้านคน ทีห่ มายถึงตลาดภายในประเทศทีม่ ขี นาด ใหญ่ ทีม่ าพร้อมกับกำ�ลังแรงงานวัยฉกรรจ์จ�ำ นวน มากกว่า 37 ล้านคน แต่นั่นก็ยังไม่สำ�คัญเท่ากับ ทำ�เลที่ตั้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจที่สามารถ เชื่อมโยงเข้ากับประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งเป็น มหาอำ�นาจใหม่ในโลกเศรษฐกิจแห่งศตวรรษที่ 21 ระเบียงเศรษฐกิจของจีนภายใต้โครงการ One Belt One Road มีแผนการจะลากระเบียงเศรษฐกิจ ผ่านประเทศเมียนมา ถึง 2 ระเบียง ในขณะเดียว กับทีร่ ฐั บาลอินเดียก็ก�ำ ลังมุง่ สร้างปฏิสมั พันธ์ทาง ตะวันออก (Act East Policy) และคาดว่าถนน India-Myanmar-Thailand Trilateral Highway จะแล้วเสร็จภายในปี 2020 เมียนมากำ�ลังจะ


ทวงคืนความเป็นเมืองท่าที่สำ�คัญที่สุดของเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตำ�แหน่งเดิมที่ย่างกุ้ง เคยเป็นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ท่าเรือและเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา (Thilawa) เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของเมียนมา ที่ เปิ ด ทำ � การและมี ก ารลงทุ นจริ ง เกิ ด ขึ้ น พื้ นที่ 15,000 ไร่ ริมแม่นาํ้ ห่างจากศูนย์กลางเมืองย่างกุง้ 24 กิโลเมตร สามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุน กับทั่วโลกผ่าน Myanmar International Terminal Thilawa ท่าเรือขนาดกลางที่กำ�ลังขยายตัว และ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยและบริหารงานโดย Hutchison Whampoa ของฮ่องกง น่าจะเป็นเครือ่ ง รับประกันระบบโลจิสติกส์ได้อย่างแน่นอน บริษทั ข้ามชาติจ�ำ นวนมากเข้ามาเปิดโรงงาน 44 โรงงาน จากญี่ปุ่น และ 14 โรงงานจากประเทศไทยกำ�ลัง จะเปิดทำ�การ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ดึงดูด นักลงทุนต่างชาติ อาจจะยังไม่ส�ำ คัญเท่ากับการที่ ผู้พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้คือ หน่วยงาน ของรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) ร่วมกับภาคเอกชนยักษ์ ใหญ่ของญี่ปุ่น อันได้แก่ Mitsubishi, Marubeni และ Sumitomo แน่นอนว่า ถ้าญี่ปุ่นมาลงทุน นัน่ หมายถึงระบบโครงสร้างพืน้ ฐานชัน้ ดี และการวาง ยุทธศาสตร์ในการปิดความเสีย่ งต่าง ๆ ตามสไตล์ ของนักลงทุนญีป่ นุ่ ดังนัน้ จุดอ่อนทีเ่ กิดจากความ ไม่แน่นอนของเมียนมาก็ถูกบรรเทาลง ด้ า นนั ก ลงทุ น ไทยที่ ป ระสบความสำ � เร็ จ คุณชูเกียรติ หัตถสุวรรณ (The Boss รุน่ 75) ปัจจุบนั เปิดโรงงานอยู่ในเขต South Dagon ทางทิศใต้ ของนครย่างกุ้ง เพื่อผลิตกางเกงยีนส์ส่งออกไป ยังแบรนด์แฟชั่นระดับโลกของยุโรป ก็เข้ามาร่วม แชร์ประสบการณ์ เช่นเดียวกับกลุ่มนักธุรกิจไทย ในเมียนมา ที่รวมตัวกันในนาม Thai Business Association of Myanmar (TBAM) ที่เข้ามาทำ� Business Networking ร่วมกัน ณ สถานทูตไทย พร้อม กับตัวแทนภาครัฐทีม่ าบรรยาย ทัง้ อัครราชทูตไทย ท่านจักร บุญ-หลง และอัครทูตที่ปรึกษาฝ่าย การพาณิชย์ท่านผกาเนต์ เล่งอี้ จากสำ�นักงาน Thai Trade ต่างก็อนุเคราะห์บรรยายบอกเล่า

ข้อมูลเรื่องราวสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ และ ร่ ว มรั บ ฟั ง การบรรยายหั ว ข้ อ Myanmar: The Untold Politics โดยศาสตราจารย์ ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ อาจารย์สุเนตรเริ่มต้นการบรรยายโดยบอก เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพม่า ที่ ยิ่ ง ใหญ่ ในอดี ต โดยเริ่ ม ต้ นจากมิ ติ ท างด้ า น ภู มิ ศ าสตร์ ที่ ทำ � ให้ พ ม่ า ในอดี ต กลายเป็ น แอ่ ง อารยธรรมสำ�คัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการแผ่ขยายของวัฒนธรรมแบบพม่า เข้า มายังภาคเหนือของไทย สปป.ลาว และทั่วทั้ง ภูมิภาค อันทำ�ให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างลุ่ม แม่นํ้าโขงกับลุ่มแม่นํ้าอิรวดี อย่างไรก็ตาม ความ มัน่ ใจของพม่าสูญสลายไปเมือ่ อังกฤษเข้ายึดพม่า เป็นอาณานิคมในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 หากแต่พม่าภายใต้การปกครองของอังกฤษ ก็ได้รับการพัฒนา ในพม่าโดยเฉพาะ ย่างกุ้ง ได้ พั ฒ นาเป็ น เมื อ งท่ า ที่ สำ � คั ญ ที่ สุ ด ของเอเชี ย แน่นอนโครงสร้างเศรษฐกิจของเมียนมาได้ถูก เจ้าอาณานิคมเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พม่า กลายเป็นจุดศูนย์กลางทางการค้า การเดินเรือ การขนส่งทางอากาศ พม่ากลายเป็นผู้ผลิตข้าว ไม้สัก อัญมณี แร่ธาตุโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ และนํ้ามัน อย่างไรก็ตาม ความรุ่งเรืองนี้ก็ยุติลง หลังการปิดประเทศในปี 1962 อย่างไรก็ตาม ยักษ์ตนนี้ที่หลับไปกว่า 50 ปี ตื่นขึ้นอีกครั้งในปี 2010 เมียนมาคือ ความหวัง เช่นเดียวกับทีผ่ มเล่าให้ฟงั ในช่วงต้น แต่นัน่ แหละ ครั บ ท่ า มกลางความหวั ง ความท้ า ทายของ เมียนมาในอนาคตก็เป็นเรื่องที่เราต้องพิจารณา

ด้ ว ยเช่ นกั น โดยประเด็ น สำ � คั ญ ที่ ต้ อ งจั บ ตา น่าจะมาจาก 5 มิตหิ ลัก อันได้แก่ 1) ประเด็นกลุม่ ชาติพนั ธุท์ ตี่ อ้ งการสิทธิในการปกครองและบริหาร จัดการทรัพยากรของตนเอง 2) ประเด็นความ สัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ซึง่ ยังมีอ�ำ นาจ อยู่มาก การงัดข้อ อาทิ กองทัพไม่ต้องการแก้ไข รัฐธรรมนูญทีร่ ฐั บาลพยายามจะแก้ และการถ้อยที ถ้อยอาศัย อาทิ การยินยอมให้กองทัพจัดการ เรื่องโรฮีนจา-เบงกาลี ทำ�ให้การรักษาเสถียรภาพ ภายในประเทศมี ต้ นทุ นที่ สู ง 3) อนาคตที่ ไม่ แน่นอนของพรรค NLD เนื่องจากคุณอองซาน ซูจเี ป็นผูน้ �ำ หลักทีไ่ ม่มที มี งาน ไม่มที ายาททางการ เมือง และพรรค NLD เองก็ไม่ได้มีความเป็น สถาบัน เหล่านี้ล้วนทำ�ให้การเมืองเมียนมาหาก อองซาน ซูจเี กิดอุบตั เิ หตุทางการเมือง ถือเป็นเรือ่ ง ที่ไม่แน่นอนอย่างยิ่ง 4) การศึกษาของเมียนมา ยังไม่ได้รับการพัฒนาไปเท่าที่ควร กำ�ลังแรงงาน กว่า 37 ล้านคนยังไม่มีคุณภาพสูงพอ ซึ่งจะ ทำ�ให้การพัฒนาประเทศในระยะยาวจำ�เป็นต้อง ลงทุนเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพิ่มขึ้นอีก อย่างมาก และ 5) ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่ง เมื่อเปิดประเทศขุมทรัพย์เหล่านี้ต้องได้รับการ อนุรักษ์ มิฉะนั้นความเสื่อมโทรมจะเกิดขึ้นอย่าง ไม่สามารถควบคุมได้ การเดินทางของ The BOSS ทำ�ให้เราได้เรียนรู้ ในทุกมิติ ย่างกุ้งยังคงย่างก้าวพัฒนาอย่างต่อ เนื่องไม่หยุดยั้ง หากแต่การย่างก้าวเข้าสู่ย่างกุ้ง ดิ น แดนแห่ ง โอกาสของนั ก ธุ ร กิ จ The BOSS คงต้ อ งเป็ น ย่ า งก้ า วที่ ร อบคอบและมองให้ รอบด้าน happy+ | 103


โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน

โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นิตยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน

เพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขทั้งกาย ใจ และสังคม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุ ชื่อโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิตยสาร happy+ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันความสุข และมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมไทย เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)

ใบสมัครสมาชิก

สมาชิกทั่วไป

สมาชิกอุปถัมภ์

พิเศษ

วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5

สมัครสมาชิก happy+ เดือนธันวาคม รับทันที

*กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)

พิเศษยิ่งกว่า

104 | happy+

ซีซี ครีม และ ไฮเดรติง้ เจล ผักเบีย้ ใหญ่ จาก อภัยภูเบศร สำ�หรับสมาชิกที่ต่ออายุ ในเดือนธันวาคม รับเพิ่ม บอดี้ โลชั่น ผักเบี้ยใหญ่ จาก อภัยภูเบศร



happy ending

“...เหมือนขาของเราที่จะต้องเดินสามัคคีกัน หมายความว่า ก้าวไปข้างหน้า แล้วอีกข้างหนึ่งก็ยันข้างหลัง และเมื่อยันข้างหลังเรียบร้อยแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้าอีกข้าง คราวนี้ก็สามารถเดินได้ และไม่หกล้ม ซึ่งถ้าไม่สามัคคี ก็บอกแล้วว่า ประเทศจะประสบความหายนะ ไม่ได้ใช้คำ�ว่าหายนะ แต่ก็คล้ายกัน ว่าถ้าไม่สามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ประเทศชาติล้ม ถ้าล้มก็ผลของการล้มนั้นมีหลายอย่าง ถ้าทางกายก็ร่างกายกระดูกหัก และต้องเข้ารักษา บางทีรักษานาน ๆ ไม่มีสิ้นสุด…” พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตฯ วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2550




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.