DOMESTIC LEGENDS
กว่าเมื่อก่อน และยิ่งถ้ามีโปรแกรมทีมชาติที่ใช้เด็กลง เล่น เด็กก็จะแข็งแกร่งขึ้น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ต่างแดน เจอคูต่ อ่ สูต้ า่ งชาติ เจอความกดดัน เจอแท็กติก ใหม่ๆ” ซึ่งช่วงปลายปีนี้ มหกรรมเอเชี่ยนเกมส์จะอุบัติ ขึ้นอีกครั้งที่เกาหลีใต้ ซึ่งอาไพโรจน์ก็เป็นหนึ่งในขุนพล ชุดประวัติศาสตร์ คว้าที่สี่ครั้งแรก เราจึงให้เขาปิดท้าย ด้ว ยการพู ดถึ ง โอกาสที่ ลู ก ชายจะสร้ า งอี ก สถิ ติ ด้วย การเป็นพ่อลูกคู่แรกที่เข้าถึงรอบตัดเชือกเอเชี่ยนเกมส์ “จริงๆ มันก็หนักมากนะ เพราะทีมในระดับเอเชีย แข็งแกร่งกว่าอาเซียนเยอะ ชุดเล็กของชาติอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ต่างก็เล่นลีกยุโรปหลายตัว แต่ไม่ใช่ว่าจะ ไม่มีสิทธิ์เลย เพราะปัจจุบัน เด็กสมัยนี้มีโอกาสได้เจอ กับนักเตะต่างชาติที่มีศักยภาพมากมาย ทั้งจากสเปน, บราซิล, แอฟริกา, ยุโรป หรือแม้กระทั่งญี่ปุ่น ซึ่งถ้ามี การบริหารจัดการที่ดี มีการเรียกเก็บตัวบ่อยๆ เหมือน ชุดซีเกมส์ ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นก็ได้”
THE OLD GUARD ไพโรจน์ พ่วงจันทร์
เต็มอิม่ กับเรือ่ งของลูกชายไปแล้ว ก็ถงึ คิวพูดคุยกับพ่วงจันทร์ซเี นียร์ อย่าง “ไพโรจน์ พ่วงจันทร์” ซึง่ Hattrick ขอทำ�หน้าทีเ่ ปิดพินย ั กรรม ลูกหนังแห่งตระกูลพ่วงจันทร์ ให้ทก ุ คนได้รจู้ ก ั คุณพ่อคนเก่ง ทีม ่ ด ี ก ี รี เป็นอดีตกองหลังจอมโหดทีมชาติไทยให้มากขึ้นกว่าที่เคย หลังเสร็จสิน้ การพูดคุยกับเจ้านิว ทีมงาน Hattrick ก็สานต่อ ภารกิจด้วยการสัมภาษณ์คุณอาไพโรจน์ต่อทันที “ตอนเด็ก ผมอยู่ที่นครปฐมครับ เริ่มเตะฟุตบอลด้วยใจรัก รวบรวม พรรคพวกเตะบอลเดินสาย จากนั้นก็ติดทีมโรงเรียน และ ก็เหมือนกับสเต๊ปนักฟุตบอลทั่วไป ที่ขยับขยายจากบอล โรงเรียน สู่จังหวัด เขต และระดับประเทศในที่สุด” และจากด้วยนิสัยที่จริงใจก็ทำ�ให้ “อาเด๋อ” ตัดสินใจสังกัด สโมสรเดียวตลอดทัง้ ชีวติ “จากนัน้ ผมได้เข้ามาเป็นนักเรียน จ่าอากาศปี 2528 ด้วยโควตาพิเศษ และก็สามารถติดชุด ใหญ่ของสโมสรทหารอากาศตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี โดย ได้ลงเล่นฟุตบอลถ้วย ก ตั้งแต่ปีแรก ซึ่งตอนนั้นฟุตบอล ถ้วย ก ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่สุดเทียบเท่าไทยพรีเมียร์ ลีกในปัจจุบัน โดยผมอยู่สโมสรทหารอากาศที่เดียว แบบ ไม่ย้ายไปไหนเลย เป็นเวลาทั้งหมดประมาณ 15 ปีแล้ว 26 HATTRICK FOOTBALL
ค่อยเลิกเล่นฟุตบอล” ไม่น่าแปลกใจเท่าไรกับความจงรักภักดีของอาไพโรจน์ เพราะนี่คือความใฝ่ฝันเดียวตั้งแต่เด็ก “ผมอยากรับ ราชการทหารอากาศตั้งแต่เด็กแล้วครับ พอเริ่มเล่น บอลก็ใฝ่ฝันอยากสังกัดทีมทหารอากาศ ประกอบกับ ช่วงนั้น ทีมทัพฟ้ากำ�ลังดังสุดๆ เป็นทีมที่เราแอบปลื้ม และติดตามเชียร์อยู่ตลอด แนวรุกตอนนั้นมีดาราอย่าง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, ชลอ หงษ์ขจร และประทีป ปาน ขาว เป็นตัวชูโรง ซึ่งช่วงที่เรียน ม.ปลาย จำ�ได้ว่าอยาก ลงสนามเคียงข้างสามคนนี้ และสุดท้ายฝันก็เป็นจริง” เป็นที่รู้กันว่า ซีซั่นใหม่นี้ “อินทรีทัพฟ้า” แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดเก่าสามารถกลับสู่ลีกสูงสุดได้ อีกครั้งในรอบ 10 ปี “รู้สึกดีมากครับที่แอร์ฟอร์ซเลื่อน ชั้นกลับขึ้นมาได้ ต้องให้เครดิตกับความร่วมมือร่วมใจ
ของทุกฝ่ายในสโมสร ผมเองก็รับใช้ราชการเป็นทหาร อากาศในปัจจุบัน ซึ่งผูกพันกับสโมสรนี้มาเกือบ 30 ปี ก็รู้สึกดีใจครับ” อาไพโรจน์เล่าถึงความในใจต่อสโมสร ที่รักอย่างอิ่มเอม “การได้ขึ้นมาไทยพรีเมียร์ลีกช่วงที่ กำ�ลังบูมสุดขีดตอนนี้ มันทำ�ให้คิดไปถึงตอนที่ทหาร อากาศอยู่แถวหน้าของลีก ช่วงที่ไทยลีกเคยบูมอยู่พัก หนึง่ เมือ่ ประมาณเกือบยีส่ บิ ปีทแี่ ล้ว ยุคทีม่ สี ามประสาน “ปิยะพงษ์ - ประทีป - ชลอ” ซึ่งทหารอากาศยุคนั้น เปรียบได้กับทีมใหญ่อย่าง เมืองทองฯ หรือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในยุคนี้เลยทีเดียว” ยุคสมัยนั้น ถ้าพูดถึงคู่กองหลังที่เหนียวแน่น และน่า หวั่นเกรงที่สุด คงหนีไม่พ้นคู่ของไพโรจน์ พ่วงจันทร์ กับสมศักดิ์ คำ�มณี ในทีมทหารอากาศ “ผมกับสมศักดิ์ เป็นกองหลังสไตล์เข้าบอลหนัก ถึงลูกถึงคน เรียกได้วา่ กองหน้าบางคนต้องขยาดถึงขนาดถอดใจ ไม่กล้าเลีย้ ง เข้าหา หรือไม่กล้าเข้าบอลกับผมเลย แต่ทงั้ นีท้ งั้ นัน้ มัน เป็นแค่สไตล์การเล่นในเกมฟุตบอลเท่านั้น” เราวกมาชวนอาไพโรจน์เปลี่ยนอารมณ์คุยเรื่องทีมชาติ กันบ้าง “เมื่อก่อนทีมชาติจะดูจากผลงานที่ลงเล่น ให้กับสโมสรต่างๆ ในถ้วย ก นะ โดยเกียรติประวัติผม ก็ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชุดนักเรียนไทย 18 ปี รุ่ น เดี ย วกั บ นั ก เตะอย่ า ง กั ม ปนาท อั้ ง สู ง เนิ น , ส่งเสริม มาเพิ่ม และ คำ�รณ สำ�ราญพันธ์” จนในที่สุด “อาเด๋อ” ก็ติดทีมชาติชุดใหญ่กับเขา แต่ด้วยความ ทรงจำ�ที่สีจางลงจึงทำ�ให้อาไพโรจน์นั่งเล่าความหลัง ไปพรางนึ ก คิ ด ไป “ผมติ ด ชุ ด ใหญ่ ตั้ ง แต่ ป ระมาณ ปี 2530 ครับ ซึ่งถ้าจำ�ไม่ผิดน่าจะเป็นศึกคิงส์คัพ ช่วงนัน้ ก็มี “พีห่ นุย่ ” เฉลิมวุฒิ สง่าพล และก็สามประสาน “ปิ ย ะพงษ์ - ประที ป -ชลอ” เป็ น ดาวดั ง ” แต่ ด้ว ย ตำ�แหน่งในสนาม อาเด๋อก็ไม่ลมื ทีจ่ ะนึกถึงคูห่ เู ซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ “ส่วนใหญ่ในทีมชาติ ผมจะลงสนามคู่กับนที ทองสุกแก้ว ซึ่งนที เขาติดทีมชาติก่อนผมหนึ่งปี ผม กับเขาสนิทกันมากนะตอนนั้น และนอกจากนทีแล้ว ผมก็จะสนิทกับ รณชัย สยมชัย และ วรกรณ์ วิจารณ์ ณรงค์”ประสบการณ์ในทีมชาติถือเป็นสิ่งที่นักฟุตบอล ร้อยทัง้ ร้อยจะภาคภูมใิ จเสมอเวลาทีไ่ ด้เล่าให้คนรุน่ หลัง
“ช่วงแรกทีเ่ ล่นทีมชาติไทย ผมมีความทรงจำ�ทีด่ อี ยูส่ อง เหตุการณ์ในปี 2533 คือการคว้าแชมป์ คิงส์คัพ ครั้ง ที่ 21 ที่ชนะทีมจากรัสเซียอย่าง โรเตอร์ วอลโกกราด 2-1 ในรอบชิงฯ รวมถึงการสร้างประวัตศิ าสตร์ เข้ารอบ รองชนะเลิศเอเชี่ยนเกมส์ได้เป็นครั้งแรก โดยมีแมตช์ สำ�คัญที่สามารถชนะ จีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพได้ถึงถิ่น 1-0 จากประตูชัยของประเสริฐ ช้างมูล” ทว่าสุดยอด ความทรงจำ�ที่เป็นที่มาของการสร้างประวัติศาสตร์เป็น พ่ อ -ลู ก คู่ แ รกที่ ส ามารถคว้ า เหรี ย ญทองซี เ กมส์ ไ ด้ เกิ ดขึ้ น ในสามปี ใ ห้ ห ลั ง “ผมเล่ น ซี เ กมส์ ทั้ ง หมด 3 สมัย ตั้งแต่ครั้งที่ 15, 16 และ 17 โดยสองครั้งแรก ไม่ประสบความสำ�เร็จได้เพียงแค่อนั ดับสี่ และรองแชมป์ ตามลำ�ดับ จนมาถึงครั้งที่ 17 ในปี 2536 ที่สิงคโปร์ ทีมชาติไทยก็สามารถคว้าเหรียญทองได้สำ�เร็จ โดยนัด ชิงชนะเลิศ ชนะพม่าแบบสุดมันส์ 4-3 จากลูกโหม่งของ “ซิโก้” เกียรติศกั ดิ์ เสนาเมือง ทีต่ อนนีก้ ลายมาเป็นโค้ช ทีมชาติของลูกชาย ตอนนั้นภูมิใจมากเลยครับที่ทำ�ได้ สำ�เร็จสักที เพราะซีเกมส์ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สุดยอด มากในระดับอาเซียนขณะนั้น” ปัจจุบันซีเกมส์มีการจำ�กัดอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งทำ�ให้ มนต์ขลังของรายการนี้ถูกลดทอนลง “สมัยก่อนไม่ จำ�กัดอายุ ความสนุกตื่นเต้นก็ย่อมต่างจากปัจจุบัน แต่ทจี่ ริงมันก็ดนี ะ เพราะจะได้ถอื โอกาสสร้างเด็กไปใน ตัว เนื่องจากเรากำ�ลังมีลีกที่เติบโต เด็กมีการพัฒนา FOR THE BEAUTY OF THE GAME 27