Prakai dakwah

Page 1

.........................................................................................>>> 

�

ชัยคฺ อับดุลลอฮฺ เคาะลัฟ อัซซับตฺ ถอดความและเรียบเรียงโดย :

ดร. อาเซ็ม อัชชะรีฟ Ph.D (Curiculum & Instructional Management) MA. (Usuluddin) M.Is (Islamic Civilization & Arabic Studies) B.ed (Arabic Language)

ออกแบบ / จัดรูปเลม / จัดพิมพ ศูนยอิกเราะมีเดีย Iqramedia Centre 090 505 0100 / 084 312 3996 / 084 749 0400 Hhpa.centre@gmail.com พิมพครั้งที่ 2 (เมษายน 2558) ราคา 75 บาท 1


�� ���>>> .........................................................................................

ความนํา มวลการสรรเสริญ เปนกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ � ทั้งที่ผานมาและภาย หนา ขอพรแหงความสุข ความสันติไดโปรดประสบแดทานนบีมุหัมมัด  ผูทรง ซื่อสัตย ในการเผยแพรส ารจากพระผูเปน เจา ตลอดจนเศาะหาบะฮฺของทานผู บริสุทธิ์ ผูมีความจําเริญ โอ บรรดาผูที่ ห ลงใหลในความดี หนั ง สื อนี้เป น การรวบรวมประกาย ความคิดแหงการดะอฺวะฮฺ ที่ไดมาเติมเต็มใหแกหนังสือ “เสียงแผวเบาแหงการ เชิญ ชวน (‫ﺎت اﻟ ﱠﺪ ْﻋ َﻮة‬ ُ ‫ ”) َ​َﳘ َﺴ‬ที่ได เผยแพร ไปก อนหน านี้ ซึ่งไดถ อดเสียงจากเทป บันทึกเสียงตางๆ ที่ผมไดนําเสนอมาแลว ซึ่งกลุมเยาวชนในชุมชนอัลฟยหาอได ทําการถอดเสี ยง โดยมี บะดัรฺ อัล-อัน ญะรียซึ่งเป นเด็กหนุมที่ฉลาดคอยเปน ที่ ปรึ ก ษาในการคั ด ลอกและเติ ม เต็ ม งานชิ้ น นี้ ใ ห ส มบู ร ณ ขอให อั ล ลอฮฺ � ประทานความดีงามทั้งหลายใหกับเขาดวยเถิด เปนเรื่องปกติของผมที่ไม คอยจะแก ไขงานที่ไดเขี ยน ผูใดที่ได อานการ เขียนนี้แลว ผมขออภัยในความบกพรอง ณ ที่นี้ดวย เพราะจริงๆ แลวคําพูดนั้น มิใชการเขียน แตบางที คําพูดนั้นจะมีอทิ ธิพลที่ยิ่งใหญกวา ขาพระองคขอวิงวอนใหอัล ลอฮฺผูทรงอานุ ภาพสู งสุด ทรงโปรดจั ดให บรรดากลุมเยาวชนที่ไดเขาโครงการครั้งนี้เปนผูเกื้อหนุนและทําหนาที่ดะอฺวะฮฺ โดยเจริญรอยตามแนวทางการทํางานศาสนาของบรรดาชาวซะลัฟที่ดดี วยเถิด ขอพระองคทรงตอบแทนความดีใหแดบรรดาผูจัดโครงการอบรมครั้งนี้ รวมถึงความพยายามทั้งหลายที่ทําใหงานนี้สําเร็จลุลวงดวยดี อับดุลลอฮฺ เคาะลัฟ อัซ-ซับตฺ 1 ชะอฺบาน ฮ.ศ.1426

2


�.........................................................................................���>>> ���

คํานําผูแปล มวลการสรรเสริญเปนกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ � ดวยความโปรดปราน จากพระองค การงานทั้งหลายก็ลุลวงไปดวยดี พรแหงความสุขและความสันติ พึงประสบแดทานนบีมุหัมมัด  ตลอดจนบรรดาเศาะหาบะฮฺที่เจริญ รอยตาม แนวทางทานดวยดี หนั ง สื อ เล ม เล็ ก นี้ ไ ด ก ล า วถึ ง กฎเหล็ ก และบรรทั ด ฐานบางประการ สําหรับผูที่ทอดทางสูแนวทางการดะอฺวะฮฺ นับเปนการจุดประกายความคิดของ ชนทุ ก ยุคทุ ก สมัยไดเลย ถึ ง แม ป ระเด็ น ที่ ผูเขี ยนไดย กมาเปน ประเด็ น ที่ มีก าร ถกเถี ยงกั นมาชานาน แตการประยุกตใชสามารถนํามาใชไดอยางเหมาะสมใน ยุคปจจุบัน เพื่อเปนเสบียงในวิถีชีวิตที่เต็มไปดวยภาพลวงตา ภาพแหงสัจธรรม ยิ่งวันยิ่งสลั ว ด วยหัวขอที่ เป นบรรทัด ฐานนี้ ทําใหนัยนตาของเราสวางมากขึ้ น เสนทางดูเหมือนจะชัดเจนมากขึ้น นั่นคือ

การทําความเขาใจใหมกับการปฏิบัติและการเครงครัดในอิสลาม � จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรม � ความดุลยภาพในการเขาใจอิสลาม � จงเริ่มดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺจากในบาน �

การแปลชิ้น นี้อาจจะคลาดเคลื่ อนในบางประเด็ น เพราะไดถ อดความ จากภาษาพูด อยางไรก็ ต ามเสนห แห งการนํา เสนอจะเผยเด น ของความเป น เอกลักษณของแต ละงาน หวั งวาผูอานจะไดประโยชนมาก หากไดอานดวยใจ แลวพยายามแปลงนัยตางๆ เปนปญญา

ِ‫ﺼ‬ ِ ‫اﳊﻤ ُﺪ‬ ‫ﺎﳊﺎت‬ ‫ﷲ ﺑِﻨِ ْﻌ َﻤﺘِ ِﻪ ﺗَﺘِ ﱡﻢ اﻟ ﱠ‬ َْ

3

อาเซ็ม อัชชะรีฟ 21 เชาวาล ฮ.ศ.1434


�� ���>>> .........................................................................................

4


�.........................................................................................���>>> ���

ประกายความคิดแรก ความเขาใจใหมเกี่ยวกับการปฏิบัต ิ และการเครงครัดในอิสลาม มนุ ษ ย จํ าเป น ต อ งมี จุด ยื น และหลั ก ศรั ท ธา โดยที่ ชี วิ ต ของเขา จะตองหมกมุนอยูกับ การแสวงหาแนวทางแห ง สั จ ธรรมนั้ น พร อมกั บ พิทักษในสิ่งที่เขาไดยึดมั่น ตราบจนชีวิตของเขาไดกลับคืนสูอัลลอฮฺ � จริงๆ แลว มนุษยถูกสรางขึ้นมาก็เพราะเหตุนี้เอง ทานทั้งหลายพึงทราบ ดีวา อัลลอฮฺ � ไดทรงสรางมนุษยในโลกนี้ พรอมกับหนาทีท่ ี่ใหญหลวง ِ ِ ‫ﲈر ُة اﻷَ ْر‬ นั่นคือ การสถาปนาพื้นแผนดินของพระองค (‫ض‬ َ ‫ )ﻋ‬การสถาปนานี้ ตองอาศัยปจจัย หลัก 2 ประการ: ประการแรก คือ การศรัทธาและยืน หยัด ในการทําอิบาดะฮฺตออัลลอฮฺ � มนุษยถูกสรางขึ้นมาก็ดวยเหตุ นี้ เอง ประการตอมาคือการสรางสรรคและพัฒนาพื้นแผนดินของพระองค ใหเจริญรุงเรือง บรรดาผูศรัทธานั้นไดถูกกําหนดหนาที่ หลัก 2 ประการ คื อ การ ปรับปรุงวิถีแหงการดําเนินชีวิต และการเปนอยูของมนุษย ดังที่อัลลอฮฺ � ทรงดํารัสไววา Q P O N M L K J I H G F E D C﴿

﴾ [ Z Y XW V U TSR ความวา และเรามิไดสรางญินและมนุษยมาเพื่ออื่นใดเวนแตเพื่อมา เคารพภักดี ตอ เรา (56) เรามีไดต องการป จจัย ยังชีพจากพวกเขา (٥٨-٥٦ : ‫)اﻟﺬارﻳﺎت‬

5


�� ���>>> .........................................................................................

และใหพวกเขาตองมาใหอาหารกับเรา (57) แทจริงอัลลอฮฺคือผูทรง ประทานปจจัยยังชีพ ผูทรงอํานาจ (58)

แตท วา นาเสี ยใจอย างยิ่ง พวกเราไม เข าใจเหมื อ นกั บ ที่ มนุ ษ ย จํานวนมหาศาลไดเขาใจวา มนุษยมีทางเลือกแค 2 ทาง คือ เขาเปนบาว ของอัล ลอฮฺ � ที่ถูกกีดกันจากชีวิต ที่เพลิดเพลิ น หรือ ไมก็ เปน คนที่ ใช ชีวิตอยูบนโลกนี้ไปวันๆ หาความสุขไปตามที่เขาจะแสวงไดโดยไมยอมทํา อิ บ าดะฮฺ ต อ อั ล ลอฮฺ � ! นี่ นั บ ว า เป น ความคิ ด ที่ เ ลวร า ยซึ่ ง เป น แนวความคิด ที่ มีอิทธิพลมาจากบรรดาผูปฏิเ สธศรั ทธาในอั ล ลอฮฺ � พวกยิวและคริสเตียน อันเนื่องมาจากวา ศาสนาของพวกเขาเปนศาสนา ที่ ถู ก บิ ด เบื อ นจากพวกเขาเอง จนมนุ ษ ย ไ ม ส ามารถที่ จ ะรวมเอา 2 ประการดังกลาวได (กลาวคือ เขาไดแ ยกเอาการดํ าเนิ นชี วิ ตออกจาก ศาสนา ปล อยใหศ าสนาเป น เรื่อ งของนัก บุ ญ หรื อ พวกที่ เคร ง ครั ด ใน ศาสนา แตการดําเนินชีวิตก็ไมจําเปนตองคํานึงถึงศาสนาแตอยางใด-ผู แปล) สําหรับ พวกเรา เนื่องด วยความโปรดปรานของอั ล ลอฮฺ � ที่ พระองคไดทรงนําทางพวกเราไปสูศาสนาที่เที่ยงแท จริงๆ แลวมนุษยไม สามารถที่จ ะใชชีวิตที่ผ าสุกได เวนแตเมื่อมนุษยนั้นมีศาสนา เนื่ องจาก สาเหตุดังกลาว โอ พีน่ องครับ จําเปนที่เราจะตองทําความเขาใจวา อะไร คือชีวิตที่มีความสุข ความสุขในชีวิตเปนเชนไร การที่สื่อมวลชนไดเผยแพรมโนทัศนตางๆ ทําใหเราเห็นวาความสุข ที่แทจริงนั้นคือความเพลิดเพลินอันจอมปลอมแหงชีวิ ตดุนยา อันไดแก ทรัพยสิน ความร่ํารวย ตําแหนง และเกียรติยศ สิ่ งนี้ เป นส วนหนึ่ งของ ชีวิตเทานั้นเอง แตประสบการณชีวิตจริงไดยืนยันวา สิ่งเหลานี้ไมไดให ความสุขกับเราเลย เพราะเหตุนี้ พวกทานจงพิจารณาไปยังประชาชาติที่ 6


�.........................................................................................���>>> ���

ปฏิเสธศรัทธาในอัลลอฮฺ � ทั้งหลายในกลุมประเทศตะวันตก พวกเขา ร่ํารวยมหาศาลยิ่งกวาเรา พวกเขามีสิ่งอํานวยความสะดวกและความ เพลิดเพลินในชีวิตแหงดุนยามากกวาเรา พวกเขามีแม กระทั่ งทิวทั ศน ที่ เต็มไปดวยบรรยากาศที่เย็นสบาย ความเขียวชอุมและฝนตกชุกที่สงผล ใหอุดมสมบูรณกวาทีเ่ รามี แตทวาปจจัยตางๆ ที่ไดกลาวมานี้ ไมสามารถ ให ค วามสุ ข ที่ แ ท จ ริ ง แก พ วกเขาได เราได เห็ น ตามหน า หนั ง สื อ พิ ม พ มากมายวาพวกเขาตัดสินชีวิตดวยการฆาตัวตาย มิ หนํ าซ้ําเรายังได ยิน ตามขาวอีกวามีพวกเขามากมายที่ตองรักษาตัวตามโรงพยาบาลทางจิ ต พวกเขาตองประสบกับความสับ สนวุน วายในชีวิต ประจํ าวัน พวกเขาไม สามารถนอนหลับ เต็มตา ผูคนไมมีมนุษยสัม พันธอั นใกลชิ ดระหว างกั น เพราะสิ่งดังกลาวนี้เอง ทานจะพบวา หลังจากที่พวกเขาไดมั่นใจแลววาไม เหลือความดีใดๆ อีกแลวในหมูลูกหลานของพวกเขา สวนใหญ จากพวก เขาจึงหันไปเลี้ยงดูหมาและแมวแทน และพวกเขาทุมเงินเพื่อเลี้ ยงพวก มันมากกวาที่พวกเขาจะสละเงินเพื่อเลี้ยงลูกหลานของพวกเขา แทจริง ความเพลิดเพลินแหงดุนยานี้ไมสามารถใหความสุขที่แทจริงแกพวกเขาได ผูใดที่ไดเดินทางไปยังประเทศตางๆ เหลานี้ จะประจักษอยางชัดเจนทุก แงมุม บางทีในประเทศมุสลิมซึ่งเปน ประเทศที่ ยากจน แต ทวา ความ มั่นคงทางจิตใจจะมีระดับสูงกวา ระดับของความสวัสดิภ าพและความ สงบสุขจะมีมากกวา สิ่งนี้มิใชการวิเคราะหของพวกเรา แตทวามันคือคํา ดํารัสของอัลลอฮฺ � ที่วา (١٢٤ : ‫)ﻃﻪ‬

﴾Ì ËÊ É È Ç Æ Å ﴿

ความวา และใครที่ผินหางจากการรําลึกถึงฉัน เขาจะมีชีวิต ที่คับ แคบ

7


�� ���>>> .........................................................................................

ผูที่ผินหางจากการรําลึกถึงอัลลอฮฺ � และอัลอิสลาม โดยที่เขา ผิ น ไปยึ ด มั่ น ต อ สิ่ ง อื่ น แล ว เขาผู นั้ น จะต อ งใช ชี วิ ต อย างอั ป ยศอดสู แมกระทั่งในปจจุบันนี้ ทานจะพบวาบรรดาผูที่ไมปฏิบัตลิ ะหมาด และไมมี ความรู ศ าสนา พวกเขาจะเกิ ด อาการทางสมอง นอนไม ค อ ยหลั บ ดัง กลาวนี้ หากใครที่ไปยัง โรงพยาบาลประสาท เขาจะไม พบบรรดาผู ละหมาดอยูในนั้น ถามีก็อาจเพียงแค 1 ใน 1,000 คน ทานจะไมพบคนที่ ไปมามัสญิด บอยๆ ในโรงพยาบาลดัง กลาวเวนแต จํานวนนอยมากที่เขา อาจจะมีปญ หาทางครอบครัว และเชนเดียวกันหากพิ จารณาถึ ง ความ ผิดปกติในเหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้น และพิจารณาถึงทางดานจํานวนผูถูก จับกุม อาชญากรรมและความปน ปวนตางๆ แม กระทั่ งบรรดาผูที่ใชยา กลอมประสาทและยานอนหลับจะพบในบรรดาผู ไปมามั ส ญิ ด มี จํานวน นอยมาก เพราะแทจริงสิ่งนี้มันสอดคลองกับคําดํารัสของอั ลออฮฺ � ที่วา Î Í Ì Ë Ê É È Ç Æ Å﴿ ! ÚÙØ×ÖÕÔÓÒ ÑÐÏ (١٢٦-١٢٤:‫)ﻃﻪ‬

﴾ *) ( ' & % $ # "

ความวา และผูใดผินหลังจากการรําลึกถึงขา แทจริงสําหรับเขาคือ

การมีชีวิตอยูอยางคับแคน (ถึงแมชีวิตที่เห็นจากภายนอกจะสุขสบายดีก็ตาม) และเราจะใหเขาฟนคืนชีพในวันกิยามะฮในสภาพของคนตาบอด เขา กลาววา “ขาแตพระผูอภิบาลของขาพระองค ทําไมพระองคจึงทรง ใหขาพระองคฟนคืนชีพขึ้นมาในสภาพของคนตาบอดเลา ทั้งๆ ที่ (ในโลกดุน ยา) ขาพระองคเคยเปนคนตาดี พระองค ตรั สวา “เชน นั้ น แหละ เมื่อ โองการทั้ ง หลายของเราได มี ม ายั ง เจา เจาก็ทําเปน ลื ม 8


�.........................................................................................���>>> ��� (ละเลย) และในทํา นองเดียวกัน โทษเปนการตอบแทนอยางสาสม)

วันนี้เจาก็จะถูกลืม (จะถูกละเลย และไดรับ

เมื่ออัลอฮฺ � ไดกลาวถึงพวกยิว คริสเตียนและบรรดาผูปฏิเสธ วาพวกเขามีลักษณะเชนเดียวกับบรรดาปศุสัตว แลวการงานของพวกเขา เปนอยางไรละ พระองคไดทรงดํารัสวา (١ :‫ & ' ( )﴾ )ﳏﻤﺪ‬% $ # " ! ﴿

ความว า บรรดาผู ป ฏิ เสธศรั ท ธา และป ด กั้ น ให ห า งจากทาง

ของอัลลอฮฺนั้น พระองคไดทรงทําใหก ารงานของพวกเขาไรผล (ไมปรากฏรองรอยใหปรากฏในวันกิยามะฮฺ)

การงานของพวกเขาเพี ย งแค นี้ แ หละ ! ลั ก ษณ ะเช น นี้ เ ป น ลักษณะรวมที่มีอยูในสัต วตางๆ ซึ่งเมื่อพวกมั นตายไปแล วก็ จบกันไม มี รองรอยการงานใดๆ พวกมันไมปรารถนาสวรรคหรือนรก ดังนั้นพวกเขา กับสัตวก็ไมตางกันเลย ไมเพียงแตเทานั้น อัลลอฮฺ � ยังทรงดํารัสอีก วา (٤٤ :‫ ﴾ )اﻟﻔﺮﻗﺎن‬1 0 / . ﴿

ความวา ยิ่งไปกวานัน้ พวกเขาเปนผูห ลงทางยิ่งกวา ดังนั้น พวกทานจําเปนที่จะตองประจัก ษวา การยึดมั่นในศาสนา นั้นเปนความมั่นคงแหงชีวิตเปนอันดับแรก และเปนความคิดที่ผิดสําหรับ บุคคลที่คิดวาแทจริงเมื่อมนุษยไดยึดมั่นในศาสนาของอัลลอฮ � อยาง เครงครัดแลว เขาจะไมสามารถที่จะใชชีวิตอยางเขาได แนวคิดที่มีอยูใน ปจจุบันเปนอิทธิพลที่ไดรับมาจากแนวคิดของพวกยิวและคริสเตียน ถึงแมประเด็นนี้เปนเรื่องเล็กนอย หากแตวามนุษยสวนมากมักจะ หลงลืมไป หากเราพิจารณาในดานการปฏิบัติอบิ าดะฮฺ เราก็จะพบวา สิ่ง 9


�� ���>>> .........................................................................................

ที่อัลลอฮฺ � ทรงบัญชาใชและทรงสั่งหามพวกเรานั้นมีนอยและทั้งหมด ลวนเปนประโยชนของเราเอง และสิ่งที่อัลลอฮฺ � ไดทรงอนุมัติแกพวก เรานั้นมีมากมาย ใช มนุษยบางคน กลาววา พวกทานไมมีอะไรนอกจาก วา นี่ก็ห ะรอม นั่น ก็หะรอม และนั่น ก็หะรอม หากแต ว าเมื่ อพวกท าน พิจารณาไปยังสิ่งที่ตองหามตางๆ ในศาสนาของอัลลอฮฺ � พวกทานจะ พบวามันมีนอย อาหารชนิดที่อนุญ าตใหรับประทานมีกี่ชนิด มีเยอะมาก ไมมีสิ้นสุด และสิ่งตองหามมีกี่ชนิด มีจํานวนจํากัด ชนิดเครื่องดื่มที่อัลลอ ฮฺ � ทรงหามก็มีแ ค สิ่งมึน เมา ชนิด อาหารที่อั ล ลอฮฺ � ทรงห ามก็ ไดแก ซากสัตว สุกร สัต วดุรายที่มีเขี้ ยว และนกที่มีเล็บ หมายความวา หากทานจะนับก็จะพบวามี 6 หรือ 7 ชนิดเทานั้น หากแตวา อาหารและ เครื่องดื่มชนิดที่อนุญาตใหรับประทานไดบนพื้นแผนดินนั้นมีมากเทาไหร? ไมมีสิ้นสุด ในเรื่องของเครื่องนุงหม (เสื้อผา) ก็เชนเดียวกัน สิ่งตองหาม ในเรื่องของเสื้อผามีนอยมาก และสิ่งที่อนุญาตในเรื่องเสื้อผาไมมีสิ้นสุด สิ่งที่ตองหามในเรื่องที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติตอกันในเรื่องของการคาขายก็ มีนอย และสิ่งที่อนุญาตในเรื่องนี้ก็ไมมีสิ้นสุด ดังนั้น หากเรามาดูสิ่งที่ทําใหพวกเราไดรับความสุขตามธรรมชาติ ในชีวิตประจําวัน เราจะพบวาไมมีสิ่งใดที่อิสลามหามมัน คํากลาวที่ผูคน ตา งกลา ววา พวกทา นไมมีสิ่ง ใดนอกจากการหาม เนื่ องจากว าชัยฏอน (มารราย) ปรารถนาที่จะใหพวกเขาทําสิ่งที่โสมม (ลามก) มารรายนั้นใช ใหพวกเขาทําสิ่งลามกและทําความชั่ว พวกเขาหมกมุนอยูกับเสี ยงรอง และดนตรี หมกมุ น อยู กับ เจว็ด ต า งๆ และพวกเขาหมกมุ น อยู กั บ สิ่ ง ตองหามตางๆ นานา และพวกเขากลาววา เพราะเหตุใดพวกทานจึงหาม สิ่งนี้ เสมือ นกับผูที่หลงลืมประเภทเครื่องดื่มอันมากมาย แล วกล าวว า เพราะเหตุใดจึงหามเหลาและของมึนเมา? 10


�.........................................................................................���>>> ���

ดัง นั้น จําเปนอยางยิ่งที่เราจะตองตระหนัก วาสิ่ง ที่ อัล ลอฮฺ � ทรงหามพวกเรานั้นมีนอย มนุษ ยป กตินั้นมีสิ ทธิที่ จะสรรหาความสุ ขใน ชีวิตของเขาอยางสมบูรณโดยที่ไมตองทรยศตออัลลอฮฺ � แตอยางใด ความคิดนี้เราจะตองฝงแนนในจิตใจของพวกเรา เสียงกระซิบกระซาบ จากชัยฏอนจึงไมม ายังพวกเรา ไมวาจะเปนชัย ฏอนจากบรรดามนุ ษยหรื อ ชัยฏอนจากบรรดาญินนฺ พวกเขามักจะกลาววา “พวกทาน ณ เวลานี้ ยังเปน วัยรุนตนๆ พวกทานกําลังเขาไปสูประตูของการปดกั้นตัวเอง” แตพวกเรา จะกลาววา ไมใช พวกทานตางหากที่ไดเขาไปสูประตูที่เปดกวาง และทุกๆ สิ่ง ที่อัลลอฮฺ � ทรงหาม ในบั้น ปลายแลว จะเกิ ด ความหายนะอยา ง แนนอน เพราะสิ่งดังกลาวนั้น ทุกๆ คนที่ดําเนินบนเสนทางดังกลาว เขา จะเสียใจอยางสุดๆ มนุษยนั้นในแรกเริ่มเดิมทีแลวจะเถลไถล ตราบที่ยังไมพบกลุมชน ที่คอยจูงมือเขาสูความดี ดวยเหตุนี้ พวกทานนั้นอยูในความโปรดปราน ของอั ล ลอฮฺ � ซึ่ ง พระองค ได ร วมท านกับ เพื่ อนๆ ที่ ดี เราขอดุ อ าอ ตออัลลอฮฺ � ใหพวกทานไดเขารวมกับกลุมที่ทานเราะซูล  ไดกลาว วา ِ ِ ِ ِ ِ ِ ‫اﷲ‬ ٌ ... :‫ﻳﻮم ﻻ ﻇ ﱠﻞ إﻻ ﻇ ﱡﻠ ُﻪ‬ َ ‫اﷲ ﰲ ﻇ ﱢﻠﻪ‬ ُ ‫ﺷﺎب ﻧ َ​َﺸ َﺄ ﰲ ﻋﺒﺎدة‬ ُ ‫))ﺳﺒﻌ ٌﺔ ُﻳﻈ ﱡﻠ ُﻬ ُﻢ‬

.‫ﻋﺰ وﺟﻞ(( ُﻣ ﱠﺘ َﻔ ٌﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬

ความวา : มี 7 จํ าพวกมนุษ ยที่อั ลลอฮฺ � จะทรงบั ง พวกเขา ภายใต รม เงาแห ง พระองค ใ นวั น ที่ ไม มี ร ม เงานอกจากรม เงาของ พระองค (สวนหนึ่ง คือ) .. ชายหนุมที่เติบโตในการภักดีตออัลลอฮฺ

ดังนั้น ผูที่เติบโตมากับการเคารพภักดี ไมตอ งสงสัยเลยวา เขาผู นั้นจะดําเนินไปสูความดีที่ยิ่งใหญ 11


�� ���>>> .........................................................................................

พวกท านพึ ง ทราบเถิ ด วา แทจ ริง การยึด มั่ น อย างเคร ง ครั ด ใน ศาสนานั้นไมใ ชการสละโลกีย หากแตวา การยึด มั่ น อย างเคร ง ครั ด ใน ศาสนานั้น คือ ชีวิต และสิ่งที่มนุษยกระทําความชั่ว รายนับ วาเป น สว น นอย (ผิดปกติ) เพราะเหตุนี้ พวกเขาจะไมกระทําตอหนามนุษย พวกทาน เคยเห็นคนที่อยูในทามกลางสังคมมุสลิมดื่มเหลาอยางเปดเผยบางรึเปลา พวกเราไมเคยเห็น หรือเคยเห็นเขาทําสิ่งลามกอยางเปดเผยบางรึเปลา พวกเราก็ไมเคยเห็น เพราะเหตุใดเลา เพราะวาถาหากสิ่งนั้นเปนสิ่งที่ ดี เราก็จะกระทํามันและผูคนก็จะกระทํามัน แตทวา พวกเขากลับหลบซอน ไปกระทําอยางลับๆ และนี่คือหลักฐานบงบอกวา เรื่องนี้ไมปกติ จริงๆ แลว มันเปนดังที่ทานนบี  ไดกลาววา ِ ِ‫ﱠ‬ ((‫ﺎس‬ َ ‫))ا ِﻹ ْﰒُ ﻣﺎ ﺣ‬ َ ‫ﺻ ْﺪ ِرَك وَﻛ ِﺮْﻫ‬ َ ‫ﺎك ﰲ‬ ُ ‫ﺖ أَ ْن ﻳَﻄﻠ َﻊ َﻋﻠَﻴﻪ اﻟﻨﱠ‬ ความวา “บาปนั้น เปนสิ่งที่กระวนกระวายในจิต ใจของทาน และ ทานรังเกียจที่จะใหมนุษยรเู ห็น” บันทึกโดยมุสลิม

ประเด็นแรกที่เกี่ยวกับการเคารพภักดีที่อัลลอฮฺ � ทรงสรางเรา มาเนื่องจากจุดประสงคนไี้ มไดหมายถึงการถูกจํากัดและตั้งไวชิดซาย แต มันหมายถึงวา จริงๆ แลว เรานั้นมีโอกาสที่ย่ิงใหญ ที่จะฝ กฝนชีวิตของ พวกเราใหสอดคลองกับพระประสงคของอัลลอฮฺ � ประเด็นที่ 2 เปาหมายของมนุษยปรากฏเปนจริงในชีวิตของเขา นั่นคือ ทางนําและความปลอดภัย และสิ่งนี้จะเปนจริงมิไดนอกจากผูที่ยดึ มั่น อยางเครง ครัด ในศาสนา เพราะเหตุนี้ พวกท า นจงพิ จารณาว า ณ เวลานี้ มีกี่ประเทศที่ยอมทุมงบประมาณเพื่อไดมาซึ่งถูกเรียกกันวา “การ สรางพลเมืองที่ดี” พวกเขาตองการอะไรจากพลเมืองที่ดี ผูที่ไมลักขโมย ไมรบราฆาฟนกัน ไมละเมิดตอกัน และไมทําสิ่งลามกกระนั้นหรือ เราขอ กลาววา พวกทานไมสามารถที่จะไดมาซึ่งพลเมืองที่ดีได เวนแตเมื่อทําให 12


�.........................................................................................���>>> ���

พวกเขาเปนมุสลิมที่แทจริงเสียกอน และเปนที่นาอดสูอยางยิ่ง ที่บรรดา ผูปฏิเสธในกลุมประเทศตะวันตกไดประจักษถึงเรื่องนี้ พวกเขาจึงเขาไป หาองคกรมุส ลิมและไดขอครูสอนใหไปทําการสอนในหองขัง เพราะว า พวกเขาพบวาใครที่เขารับอิสลามจากบรรดาผูตองขัง เขาจะไมกลับไปทํา อาชญากรรมอีก และใครก็ตามที่ไมรับ อิสลามจากบรรดาผูตองขัง เมื่อ เขาออกจากคุกเขาก็กระทําอาชญากรรมแลวก็กลับเขาคุกอีกครั้ง อะไรที่ ทําใหพวกปฏิเสธศรัทธาพึ่งไปปฏิบัติเฉกเชนนี้ เพราะวาพวกเขาเห็นถึงผล ของอิสลามที่มตี อบรรดาผูตอ งขัง ไมเพียงแตเทานั้น แทจริงผูจําคุกที่รับ อิสลามจะมี ลักษณะพิเศษที่กิริยามารยาทที่ดี ดั งที่ ผู ต องขั ง ได เปรีย บ เทียบกับคนอื่น สิ่งที่ ได รับ รูกัน จากสื่ อต างๆ วา ณ เวลานี้ ในประเทศต า งๆ ได ทุ ม คาใชจายงบประมาณมหาศาลในการสรางพลเมืองที่ดี สิ่งที่ปรากฏขึ้น บางที พลเมืองนี้เปนคนหนาไหวหลังหลอก บางทีปรากฏวา คนๆ หนึง่ ไมขโมยอยาง เปดเผย แตไปขโมยอยางลับๆ ไมมีจิตวิญญาณและความรูสึกผิดชอบชั่วดี จะ เห็นไดวาคนหนึ่งไมทําสิ่งลามกอยางเปดเผย แตวาเขาทํามันอยางลับๆ และ สิ่งที่สื่อมวลชนไดเผยแพร เรายังไมพบคนที่ดี เพราะวาในจํานวนนั้นไมมี มุสลิม เพราะสิ่งดังกลาว พวกเรากลาวไดวา ไมสามารถเปนพลเมืองที่ดี อยางแทจริงได เวนแตเมื่อเขาเปนมุสลิมที่แทจริง ดังนั้นจําเปนที่ตองรื้อ ฟนการคนควาในการสรางมุสลิมที่ดี +* ) ( ' & % $ # "! ﴿ (٩٦ :‫ ﴾ )اﻷﻋﺮاف‬,

ความวา และหากวาชาวเมืองนั้นไดศ รัทธากั นและมีค วามยําเกรง

แลวไซร แนน อนเราก็เป ดบรรดาความเพิ่ มพูน (ใหฝนตกลงมาตาม 13


�� ���>>> ......................................................................................... ฤดูกาลและใหแผนดินงอกเงยซึ่งพืชผลอันเปนปจจัยยังชีพ) จากฟากฟ า

และแผนดินใหแกพวกเขาแลว

ดัง นั้น อิส ลามไดใหค วามปลอดภัยและความมั่ นคงแก ป ระเทศ เมื่อมนุษยนั้นมีศาสนาซึ่งหามพวกเขาจากการคดโกง การหลอกลวง และ ความชั่ ว ต า งๆ ดั ง นั้ น เมื่ อ ประชาชาติ น้ี ต อ งการที่ จ ะพั ฒ นาและ เปลี่ยนแปลงตัวของพวกเขา และมีค วามปลอดภัย ก็ ดวยการยึดมั่นใน ศาสนา หากแตวามนุษยในเริ่มแรกนั้น ขัดแยงกัน ดังที่มีคนกล าววา มี ปจจัยตางๆ นานา มนุษยทุกคนมีความสามารถทางด านสติปญ ญาและ รา งกาย โอพี่ น องครับ เราจํา เป น ที่ จ ะต องพิจ ารณาในสิ่ ง ที่ เราทุ ม เท ความสามารถ สิ่ ง ใดก็ ต ามที่ ม นุ ษ ย ทุ ม เทมั น เป า หมายก็ มุ ง ไปยั ง 2 ประการดวยกัน คือ 1. สนองความปรารถนาภายในของเขา 2. ไดรับเกียรติและทรัพยสินในโลกดุนยา สว นผูศรัทธานั้น เกียรติข องเขาคือ โลกอาคิ เราะฮฺ และเราได ติดตามและศึกษาปจจัยมากมาย เราไมพบวา เกียรติที่สนองรับซึ่งเกิดขึ้น จริง ทั้งดุ นยาและอาคิเราะฮฺ มีเพียงมนุษ ยที่เป น ผู นํ าบรรดาผู ยําเกรง ทั้งหลาย มนุษยที่เปนคนรักของอัลลอฮฺ � เขาจะไดรับความมั่นคงใน โลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ มีเกียรติและศักดิ์ศรี และเปนผูสูงสงในแผนดิน เพราะว า แท จ ริ ง มนุ ษ ย ส ว นมากชอบที่ จ ะได ตํ า แหน ง เป น รั ฐ มนตรี เลขานุการรัฐมนตรี หรือเปนรองประมุข แลวผู ที่ได รับ เกียรติ เป น ที่รั ก ของอัล ลอฮฺ � จะเปนเชนไรเลา มันชางยิ่ง ใหญ รั ฐ มนตรี แ หงโลกนี้ ตอ งเผชิญ ความเหน็ด เหนื่อย ตองอาศัยทรัพยสิ น ความอุ ตสาหะและ ความยากเย็น สวนรัฐมนตรีแหงโลกอาคิเราะฮฺ คือเปนคนรักของอัลลอฮฺ 14


�.........................................................................................���>>> ���

� เขาต อ งดํ า เนิ น งานที่ ใ หญ ก ว า แต ว า พวกเราสามารถทํ า ได แท จริงอัลลอฮฺ � ไมทรงบังคับสิ่งที่เราไมมีความสามารถ ดังนั้น คนใดใน หมูพวกเจาที่คิดที่จ ะเปนอยางอิมามอะหฺมัด อิบนุ หัน บัล อิ บนุ ตัยมี ย ะฮฺ มุหมั ัด อิบนุ อับดุลวะฮับ หรือบรรดานักตอสูจากบรรดาเศาะหาบะฮฺ ตา บีอีน และผูที่ติดตามพวกเขา หรือจะเปนอยางอิมามอัชชาฟอีย เปนตน โจทยคือ อะไรคืออุปสรรคที่จะใหคนหนึ่ งจากพวกเราเปนเฉกเชนพวกเขา เหลานั้น ไมมีสิ่งใดขวางกั้นเลยเวนเสียแตความทะเยอทะยานที่สูงและต่ํา เทานั้นเอง ปญญาชนคือผูที่สามารถใชและจัดการพละกําลังของเขาในสิง่ ที่ยิ่งใหญเสมอ พวกเรารําลึกถึง ฮารูน อัรรอชีด เปนบางครั้ง และรําลึกถึง เคาะลีฟะฮฺ บะนีอุมัยยะฮฺ และบนี อัลอับบาส เปนบางครั้ง แตวา อิมามอัลบุ คอรี มุสลิม อะหฺมัด ติรมีซีย อัชชาฟอี อิบนุคุซัยมะฮฺ และบรรดาอิมาม ในอิสลามไดถูกกลาวในทุกขณะ จริงๆ แลว พวกเขาเหลานีแ้ หละ คือผูนํา หรือนี่เปนการนําที่ถาวร บรรดากษัตริยโลกนี้วั นหนึ่ งก็จ ากไป บรรดาผู ร่ํารวยไดตายไปแลว ไมมีใครรูจักอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย หากแตวา ณ เวลานี้ พวกเราจะกลาววา อัลอะหฺนัฟ อะฎออฺ ไดกล าววา คนหนึ่งจาก บรรดาผูรูไดกลาววา พวกเขาไดกลายเปนผูนําแหงโลกนี้ และพวกเขา ไมมีความสามารถทางดานทรัพยสินหรือเกียรติยศใดๆ แตวาพวกเขา อดหลับอดนอนเพื่อที่จะศึกษาคัมภีรของอัลลอฮฺ � ทั้งทองจํา อาน และเขาใจ และศึกษาแนวทาง (ซุนนะฮฺ) ของทานนบี  นี่คือสาเหตุที่ พวกเขาอดหลับ อดนอน ถามิเชนนั้น เมื่ออะฎออฺ อิ บ นุ อะบี เราะบาฮฺ ถู ก กลาวในหนัง สือตา งๆ โลกนี้จะสั่นสะเทือนให กั บเขา ก็ เพราะท านเป น เพียงทาส (บาว) ซึ่งหนาตาก็ไมหลอ แตวา ณ เวลานี้ ในหนังสือวิชาการ ทุกเลม จะกลาววา อะฎออฺไดกลาววา คําพูดของเขาเปนหลักฐาน อะไร 15


�� ���>>> .........................................................................................

คือสิ่ง ที่ทําใหเ ขาอยูในฐานะนี้ ไมใชอื่นใดนอกจากเขาได ทอ งจํ าคั มภี ร ของอัลลอฮฺ � และทองจําอัลหะดีษของทานนบี  และปฏิบัติตามทั้ง 2 สิ่งนี้ ดังนั้น พวกทานจําเปนตองมีแรงบันดาลใจที่ทําใหเยาวชนคนหนุม แห งประชาชาตินี้ เปนนักวิชาการและเปนผูนําของบรรดาผู ยํา เกรงไม เปนไร หากมีบางทีคนที่เกงในวิชาการดานดุนยาแลวเขารับใชความรูนั้น แกบรรดามุสลิม เพราะแทจริงแลวเปนที่นาเสียใจอยางยิ่งที่มุสลิมทั่วไป ที่มีค วามรูทางดา นดุนยา พวกเขายังลาหลัง หากแต วาเราจําเป นต อ ง พยายามหาสาเหตุ ในการสร า งความใฝ ฝ น อั น แรงกล าไว ณ เวลานี้ เยาวชนคนหนุมสาวสวนใหญมีความใฝฝนอันแรงกลาที่จํากัด พี่นองครับ เราจําเปนที่จะตองมีความใฝฝนอันแรงกลาและยิ่งใหญ เปนความใฝฝนที่ ใหญกวาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ณ เวลานี้ โดยการที่ใหพวกเราคิดที่จ ะ เปนเหมือนกับ มุฮัมมัด อิบนุอับดุลวะฮับ อันศ็อนอานีย อัชเชากานีย ยิ่ง ไปกวานั้น ดังเชน ชัยคฺบินบาซ ชัยคฺอัล อัลบานีย ชั ยคฺอิบนุ อุษัยมีน ซึ่ ง ทั้งหมดนี้อยูในยุคสมัยปจจุบัน และสิ่งที่มากับพวกเขาเกี่ยวกับวิชาความรู นีเ้ ปนรางวัลจากฟากฟา โดยเฉพาะอยางยิ่ง อัซซะมัดชะรียไ ดกลาววา ฉันอดหลับอดนอนในยามค่ําคืน ในยามดึกดื่น ทานหลับสบาย แลวปรารถนาที่จะตามฉันไดหรือ ความตั้งใจอันแนวแนจะไมสอดคลองกับความตั้งใจที่ต่ําตอย เมื่อมนุษ ย นั้น ต องการให สิ่ง หนึ่ งเปน ของตั วเอง ดั ง นั้ น จํ า เป น ที่เขา จะตองรูวาแทจริงหนทางไปยังการเปน คนรัก ของอัล ลอฮฺ ไดมีมาใน รายงานของอัลบุคอรียในหะดีษกุดซีย ซึ่งอัลลอฮฺ  ดํารัสวา 16


�.........................................................................................���>>> ��� ِ ِ ‫ﳊ ْﺮ‬ ‫ و َﻣﺎ َﺗ َﻘ ﱠﺮ َب ِإ َ ﱠﱄ َﻋ ْﺒ ِﺪي‬،‫ب‬ َ ‫)) َﻣ ْﻦ ﻋﺎ َدى ﱄ َوﻟ �ﻴﺎ َﻓ َﻘﺪْ آ َذ ْﻧ ُﺘ ُﻪ ﺑِﺎ‬ ٍ َ ِ‫ﺑ‬ َ ‫ و َﻣﺎ‬،‫ﺐ إِ َ ﱠﱄ ِﳑﱠﺎ ا ْﻓ َ َﱰ ْﺿ ُﺘ ُﻪ َﻋ َﻠ ْﻴ ِﻪ‬ ‫زال َﻋ ْﺒ ِﺪي َﻳ َﺘ َﻘ ﱠﺮ ُب ِإ َ ﱠﱄ‬ ‫ﴚء َأ َﺣ ﱡ‬ ْ ِ ‫ﺑِﺎﻟﻨﱠ‬ ،‫ﺖ َﺳ ْﻤ َﻌ ُﻪ ا ﱠﻟ ِﺬي َﻳ ْﺴ َﻤ ُﻊ ﺑِ ِﻪ‬ ُ ْ‫ َﻓ ِﺈ َذا َأ ْﺣ َﺒ ْﺒ ُﺘ ُﻪ ُﻛﻨ‬،‫ﻮاﻓ ِﻞ َﺣ ﱠﺘﻰ ُأ ِﺣ ﱠﺒ ُﻪ‬ ِ ،‫ و َﻳﺪَ ُه ا ﱠﻟﺘِﻰ َﻳ ْﺒ َﻄ ُﺶ ِﲠﺎ‬،‫وﺑ َﴫ ُه ا ﱠﻟ ِﺬي َﻳ ْﺒ ُﴫ ﺑِ ِﻪ‬ ‫ور ْﺟ َﻠ ُﻪ ا ﱠﻟﺘِﻲ َﻳ ْﻤ ِﴚ‬ ُ َ َ ِ ِ ِ َ ‫اﺳ َﺘﻌﺎ َذ ِﲏ َﻷُ ِﻋ‬ ‫ و َﻣﺎ َﺗ َﺮ ﱠد ْد ُت‬،‫ﻴﺬ ﱠﻧ ُﻪ‬ ْ ‫ و َﻟﺌ ْﻦ‬،‫ وإِ ْن َﺳ َﺄ َ�ﻨﻲ َﻷُ ْﻋﻄﻴَﻨﱠ ُﻪ‬،‫ِﲠﺎ‬ ِ ‫ﺲ اﳌ‬ ِ ‫ِﰲ َﳾ ٍء أ�ﺎ‬ ِ ‫ﻓﺎﻋ ُﻠ ُﻪ َﺗ َﺮ ﱡد ِد ْي َﻋ ْﻦ َﻗ ْﺒ‬ ِ ‫ﺾ َﻧ ْﻔ‬ ‫اﳌﻮت وأ�ﺎ‬ ‫ َﻳ ْﻜ َﺮ ُه‬،‫ﺆﻣ ِﻦ‬ َ ْ ((‫َأ ْﻛ َﺮ ُه َﻣﺴﺎ َء َﺗ ُﻪ‬

ความวา ผูใดปฏิปกษกับคนรัก ของขา ข าจะประกาศทําศึก

กับเขา บาวของขามิไดชิดใกลขาดวยสิ่งหนึ่งๆ ซึ่งเปนที่รักยิ่ง สําหรับขา มากกวาสิ่งที่ขาไดบัญญัตแิ กเขา บาวของขายังคง ชิดใกลขาด วยสิ่งสุ นัตจนกวาขาจะรัก เขา หากขารักเขาแลว ขาจะเปนการไดยินของเขาซึ่งเขาใชฟง ขาจะเปนการมองของ เขาซึ่งเขาใชมอง ขาจะเปนมือของเขาซึ่งเขาใชจับ และขาจะ เปนเทาของเขาซึ่งเขาใชเดิน หากเขาขอจากขาแนนอนขาจะ ประทานใหเขา และหากเขาขอความคุมครองจากขาแนนอน ขาจะคุมครองเขา ขาไมเคยลังเลยในสิ่งใดเลยทั้งๆ ที่ขาจะจะ ปฏิบัติสิ่งนั้น เชนการลังเลของขาตอการปลิดวิญญาณของผู ศรัทธา ทั้งๆ ที่เขาไมชอบความตายและขาก็ไมชอบที่จะใหราย เขา

และสิ่งนี้เปนสวนหนึง่ จากความประเสริฐที่ยิ่งใหญของผูศรัทธา ณ ที่อัลลอฮฺ มันมิใชเปนสิ่งที่งายเลย อัลลอฮฺ � ทรงดํารัสมีความวา “ขามิเคยลังเลในสิ่งที่ขาจะลงมือทํา เทากับการลังเลที่จะปลิดวิญญานของผูศรัทธา” 17


�� ���>>> .........................................................................................

เพราะเหตุดั งกลาว ณ เวลานี้ บรรดาผูที่เขน ฆา ทํ าสงคราม ในบรรดามุสลิม ทํารายมุสลิมและปฏิเสธมุสลิม พวกเขาไมเขาใจหะ ดีษนี้ พวกเขาไมเขาใจความหมายของมัน และอัลลอฮฺไดดํารัสในหะ ดีษนี้มีความวา “บาวของขามิไดเขาชิดใกลขาดวยสิ่งหนึ่ งๆ ซึ่งเป นที่รักยิ่ ง สําหรับขา มากกวาสิ่งที่ขาไดบัญญัติแกเขา” ทานจะกลายเปนคนรักของอัล ออฮไดอยางไร? พระองคดํารัสวา จงเริ่มดวยฟรฎตางๆ เพราะแทจริง มนุษยบางคน บางทีเขาทําสิ่งที่เปนสุนัตตางๆ อยางเรียบรอยสมบูรณ แตในเรื่องฟรฎตางๆ เขากลับขี้เกียจ อาทิเชน เขาอดหลับอดนอนใน ยามค่ําคืนเพื่อที่จะศึกษาหาความรู หลังจากนั้นเขาก็ ไมไดละหมาด ฟจฺรฺ จากฟรฎตางๆ ก็ไปยังสิ่งที่เปนสุนัตตางๆ ซึ่งไมมีสิ้นสุด หากแต วาสิ่งนี้ลวนตองการความอดทนและความแข็งแกรง โดยเฉพาะอยางยิ่ง สิ่งยั่วยวนแหง ชีวิต ในโลกนี้มีม ากมายเหลือเกิน เพราะเหตุดั งกลาว ณ เวลานี้ ท านจะพบนั ก ท อ งจํ า ในประเทศต า งๆ ที่ ยากจน และบรรดา อั จ ฉริ ย ะในประเทศต า งๆ ที่ ย ากจนมากกว า ประเทศต า งๆ ที่ ร่ํ ารวย สาเหตุมาจากอะไร ? แทจริงพวกเรามีสื่อที่ชักชวนใหเสเพลและสื่อที่ทํา ใหยุงกับสิ่งที่มนุษ ยเหลานั้นไมมี แทจ ริงที่เกง ในประเทศของเรา 1 คน จริง ๆ แลว จะมี ค นเกง ในประเทศอื่น 10 คน เพราะพวกเขาไม มี สื่ อ ที่ สามารถหันเหพวกเขาได ดังนั้น เยาวชนที่มุงสูการเครงครัดในศาสนา ทองจําอัลกุรฺอานพรอมกับทําความเขาใจนับเปนสิ่งมหัศจรรยในยุคสมัย นี้ ทั้ง ๆ ที่มีสื่อ ตางๆ เพียบพรอม แตมันถูกเมิ น เฉยเพื่ อ เรี ยนรูศ าสนา ของอัล ลอฮฺ � เนื่องจากการทองจําคัมภีรของอั ลลอฮฺ � จากการ เรียกรองสูอัลลอฮฺ แทจริงมันไมเทาเทียมกันสําหรับคนที่โอกาสเปดใหกับ 18


�.........................................................................................���>>> ���

เขาและคนที่สิ่งยั่วยวนตางๆ ทั้งหมดอํานวยใหแกเขาหลังจากนั้นเขาก็ละ ทิ้งมันเพราะหวังสิ่งที่มีอยู ณ ที่อัลลอฮฺ � ดังนั้น ผมขอยอนกลับและกลาววา แทจริงการเครงครัดในศาสนา มิไดหมายความถึงการหักหามจากสิ่ง ตางๆ หากแต วามันหมายถึง การ ตอบสนองความปรารถนาของมนุษยอยางสมบูรณ แตตองสอดคลองกับ สิ่งทีอ่ ัลลอฮฺทรงประสงค และอัลลอฮฺนั้นพระองคทรงรอบรูในสิ่งทีเ่ ปน ประโยชนตอเรา พระองคจึงประทานกฎหมาย (บทบัญญัติ) แกพวกเรา และประชาชาติตางๆ ที่ละทิ้งศาสนาเปนประชาชาติที่อยูในความปนปวน นีแ้ ละความเสียหายที่พวกเราเห็นทุกวันนี้ เพราะเหตุดังกลาว จึงจําเปนที่ เราจะตองยึดมั่นในศาสนาไมใชเกิดจากความรูสึก ไมใชเกิดจากเพื่อน แต เราตอ งยอมรับ วา นี่คื อ สิ่ ง ที่ทําใหเรามี เกีย รติ จริ ง ทั้ ง ในโลกนี้ และโลก อาคิเราะฮฺ และเราควรทราบวาศาสนานั้นใหความสําคัญกับความรู เราจึง เรียนรู โอเยาวชนทั้ง หลายครับ พวกทา น ณ เวลานี้ ยั ง ไมมีห นาที่ ความรั บ ผิ ด ชอบ ไม ว า ความรั บ ผิ ด ชอบในครอบครั ว ไม มี ห น า ที่ เกี่ยวกับคาใชจายหรือหนาที่ในการเลี้ยงดูลูกหลาน นี่แหละเปนเวลาที่ ตองการ ในเวลานี้สมองยังปลอดโปรง ทานมีความสามารถที่จะไดมา ในสิ่งที่คนอาวุโสไมสามารถจะไดมา และเพราะเหตุดังกลาว ทานอุมัร  ไดกลาววา “พวกทานจงเขาใจศาสนากอนที่จะนําคนอื่น” กลาวคือ กอนที่พวกทานจะยุงอยูกับตําแหนงตางๆ ยุงเกี่ยวกับครอบครัว และ มีภ าระหนา ที่ ต างๆ ที่ ต อ งแบกรั บ จริ งๆ แล ว มั น เป น โอกาสที่ ไม สามารถชดเชยหรือแลกเปลี่ยนได หลังจากนั้น ผูที่ล ะทิ้งมั น เขาจะ เสียใจ และเมื่อนั้นความเสียใจจะไมยังประโยชนอะไรไดเลย 19


�� ���>>> .........................................................................................

20


�.........................................................................................���>>> ���

ประกายความคิดที่

2

จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูใน สัจธรรม

แทจริงปญหาที่เยาวชนในโลกอิสลามไดเผชิญในปจจุบันนี้ คือ สิ่งที่ เราสามารถเรียกวา “ความเขาใจที่คละเคลา” เพราะเหตุดังกลาว ไมมี ประเทศใดที่เราไดแวะเวียนไปเวนแตจะตองมีคาํ ถามมากมายวาเราจะเดิน ไปกับใคร? เราจะเขาใจศาสนาไดอยางไร? สัจธรรมอยูที่ไหน? โดยเฉพาะ อยางยิ่ง เราไดใชชีวิตในสมัยที่เรียกวา “เทปบันทึกเสียง” นี่คือสิ่งที่ทําให คําพูด ตางๆ ไดแพรห ลายอยา งรวดเร็ว มาก คําพูด ตางๆ ในยุคนี้ไมรูจัก แยกแยะระหวา งการพู ด คุ ยในกลุม ทั่ ว ไปกั บการพูด คุย เปน การเฉพาะ ระหวางคําพูดของผูรคู นหนึ่งที่พูดในหลักการกับการฟตวาในบางประเด็น ซึ่งมาจากผูคนกลุ ม นอ ยบางกลุม สอดคลอ งกั บ ความรูอัน น อ ยนิด ของ มนุษยและการอานที่นอยเพียงนอยนิดโดยที่ตําราและหนังสือมีมากมาย ดวยเหตุ นี้ บรรดาผูที่อ ยูในสั จธรรม (อะฮฺ ลุ ล ฮัก ) ผูซึ่งปฏิบัติตามคนรุน กอนที่ทรงคุณธรรม (อะฮฺลุ สสะลั ฟ) และบรรดาผูมีความรูทั้งหลายเปน การเฉพาะ จําเปนอยางยิ่งที่จะตองเผชิญหนากับยุคอันเลวรายนี้เพื่อชี้แจง รากฐานของอะฮฺ ลุ ซ ซุ น นะฮฺ และแฉความเลวของพวกอุ ต ริ ก รรม ขอ ใหอัลลอฮฺ � ทรงเมตตาทา นอิบ นุก อยยิม ซึ่งไดก ลา วถึ งผูที่ห ลงอยูใน ตัณหาราคะและพวกอุตริกรรม วา 21


�� ���>>> .........................................................................................

การแฉสิ่งตําหนิและขอเสี ยของพวกเขาเหลานั้นเปนการตอ สูใน หนทางของอัลลอฮฺ � ผมคิดวาในปจจุบันนี้ เราทั้งหลายไดถูกทดสอบกับความเขาใจที่มี การคละเคลาและความเสียหาย ทุกคนตางยกเอกลักษณแหงคัมภีรอัลกุรฺ อาน อัซซุนนะฮฺ และเอกลักษณและจุดยืนของการเปนชาวซะลัฟ และตาง ก็เรียกรองผูค นสูสิ่งนี้ บรรดาผูค นก็นาสงสารยิ่งนัก พวกเขามิไดอานตํารา ของบรรดาอุ ล ะมาอ รุ น อาวุ โส พวกเขาไม ได รั บ รู คํ า พู ด ของบรรดา บุรุษชนซึ่งไดเจริญรอยตามบรรดาเศาะหาบะฮฺ  พวกเขาจึงไมสามารถ แยกแยะไดระหวางผูที่อยูบนแนวทางของชาวซะลัฟอยางแทจริงกับผูที่อาง ตนวาเปนชาวซะลัฟแงมุมหนึ่ง กับอีกแงมุมหนึ่งระหวางบรรดานักคิดซึ่ง ชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขาเปนที่รจู ักกันอยางกวางขวางในแวดวงมุสลิม พวกเขาไดเปลี่ยนจากสถานะนักเขียนซึ่งเปนนักคิด กลายเปนนักวิชาการ ผูใหคําฟตวา เหตุนี้เอง ผมพยายามที่เสนอหลักการและแนวทางที่จําเปน บางสวนโดยสังเขป เผื่อวาผูคนจะรูจักเสนทางที่เขาจะกาวไป พี่นองครับ ประเด็นแรก เราจะตองเชื่อมั่นอยางเหนียวแนนวาสัจ ธรรมที่ทานนบีมุหัม มัด  ไดนํา มา และบรรดาเศาะหาบะฮฺของทานได ตอสูและเผยแผออกไปประหนึ่งดังดวงอาทิตยที่สองแสงเจิดจรัส นั่นก็คือ (ฉันไดทิ้งไวใหพวกทานทั้งหลายบนแสงสวางทั้งในยามค่ําคืนและกลางวันพอๆ กัน) รายงานโดยอิบนุมาญะฮฺและอัลอัลบานียม ีความเห็นวาเปนหะดีษทีเ่ ศาะฮีฮฺ หมายถึง ชัดเจนและชัดแจง อัลลอฮฺ � ไดตรัสวา (١٧ :‫ ﴾ )اﻟﻘﻤﺮ‬ut s r q p o n﴿

22


�.........................................................................................���>>> ���

ความวา และแนนอน เราไดทําใหอัลกุรฺอานนั้น งายแก การรําลึก (การทองจําและการเขาใจ) แลวมีผูใดบางไหมที่จะรําลึก (ถือเปนขอ ตักเตือนและบทเรียน)

สาสนที่ชัดแจงดังกลาวไมจําเปนตองพึ่งพานักปรัชญาอีกแลว และ ไมตองอาศัยการถลําลึกเชิงปรัชญา กลาวคือ พอเพียงในความชัดเจนแลว จริงๆ แลว บรรดาเศาะหาบะฮฺสวนใหญในอดีตนัน้ คือ กลุมชนหนึ่งจากผูที่ ศรัทธามั่น โดยที่พวกเขาไมสามารถอานออกเขียนได ทานเราะซูล � ได กลาววา “พวกเราคือประชาชาติที่อานไมออกเขียนไมได” รายงานโดยอบูดาวูด และอัลอัลบานียม ีความเห็นวาเปนหะดีษที่เศาะฮีฮฺ

อยางไรก็ตาม หลักการศาสนาของพวกเขามีความชัดเจนและชั ด แจง บุคคลที่มาจากเมืองคุรอซาน หรือจากชานเมืองเปอรเซียและโรมัน แลวไดเขารับอิสลาม หลังจากนั้นระยะหนึ่ง การศรัทธามั่นและหลักการ ดําเนินชีวิตของเขาปรากฏวาชัดเจนมาก ทําไมละ? ก็เพราะวาเขาไดรบั เอา ศาสนานี้จากกลุมชนที่เปนแบบอยาง ซึ่งรับเอาแบบมาจากทานเราะซูล � ประหนึ่งดังดวงอาทิตย พี่นอ งครับ จํ าเป น อยา งยิ่ งที่ เราต องยึด มั่น และศรัทธาวา ศาสนา อิส ลามในตัว มั น เองนั้ น ชั ด เจน และการแยกแยะระหวา งความจริ งจาก ความเท็จนั้นงายและเรียบงายมาก ในระดับตนๆ เราหมายถึงศาสนา ณ ที่ นี้ คือ เรื่อ งหลั ก การศรั ท ธา ถ า มิ เชน นั้ น แล ว ประเด็ น ปญ หาต า งๆ ที่ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินและการดําเนินชีวิตประจําวันก็จะสูญหายไป แตวา การรูจักอั ลลอฮฺ ผูทรงสูงส ง รูจัก บรรดาพระนามและคุณลักษณะ ของพระองค รูจักสวรรคและนรก ความดีและความชั่ว ความเลวรายและ 23


�� ���>>> .........................................................................................

ความดีงามนั้นเปนเรื่องงายมาก ซึ่งเปนสิ่งที่จะเปนตัวบงชี้ทางนําและทางที่ หลงผิด การเขา สวรรค หรือ นรก ดังนั้น ศาสนานี้เปนศาสนาที่งายดาย ไมมีอะไรสลับซับซอน มันจึง ไมมีความคิดเชิงปรัชญาและความยุงยากแตอย างใดเลย ดั งนั้น บรรดา เศาะหาบะฮฺไดยึดมั่นกับศาสนาอยูบนความงายดายเปนอันดับแรก พวก เขาจึงไมเขาในการสาธยายของพวกมุ อฺ ตะซิ ละฮฺ อะชาอิ เราะฮฺ และนั ก ปรัชญาชาวกรีก พวกเขาก็ ไมเกิดป ญ หา ไมวาจะเปนประเด็นที่เกี่ยวกั บ การเกาะฎออและเกาะดัรฺ และพวกเขาก็จะไมถกเถียงวา ผูอภิบาลของเรา ทรงอยุติธรรมหรือยุติธรรม? สิ่งนี้ไมเกิด ขึ้น กับบรรดาเศาะหาบะฮฺแมแต นอย และเมื่อผูทรงอภิบาลไดกลาวแกพวกเขา มีความวา “พวกทานทั้งหลายจงขอพรตอฉัน ฉันจะตอบรับคําขอของพวกทาน แนนอน” อัล-ฆอฟร: 60 พวกเขาไมเคยกลาววา เราจะขอพรตอพระองคอยางไร? ครั้งหนึ่ง เบื้ อ งบน ครั้ งหนึ่ งเบื้ อ งล า ง และเมื่ อ พระองค ล งจากอั ร ชฺ ปรากฎว า พระองคปลอยใหวางเปลาหรือไมวาง? บรรดาเศาะฮาบะฮฺไมเคยถกเถียง เรื่องนี้เลย พวกเขาไดมอบหมายธรรมชาติของพวกเขากับคําดํารัสของผู อภิบาล แลวพวกเขาศรัทธาตอสิ่งที่ไดมาจากพระองคอัลลอฮฺ � ผานลิ้น ของศาสนฑูต ของพระองค ปราศจากการยึด ติด ขอ สงสั ยหรือ คําถามที่ ยุงยาก สวนปจจุบันนี้ สมมุติวาคุณกลาวแกใครบางคนวา สิ่งนีฮ้ ะรอม เขา ก็จะกลาววา อะไรคือฮิกมัตของเรื่องดังกลาว? โอพี่นอ งครับ เราทั้งหลายพึงไตรต รองบรรดางานเขียนของชัยคฺ มุฮัมมัด อิบนุอับดุลวะฮาบ (ขออัลออฮฺทรงเมตตาเขา) และเราก็พิจารณา หนังสือของกลุม ชนสมัยใหม คุณจะพบวา กลุ มชนรวมสมัยนี้เมื่อเขาจะ 24


�.........................................................................................���>>> ���

อธิบายหลัก การเตาฮีด อัรรุบูบียะฮฺ (แหงผูอภิบาล) พวกเขาจะอธิบ ายไว เปนชุดหนังสือเลยทีเดียว เราก็ไมทราบวามันเขา-ออกอยางไร มีเยาวชน หลายตอหลายคนเหมือนกันที่อานหนังสือตางๆ โดยที่เขาเองไมเขาใจอะไร สักอยาง แตเมื่อคุณมาอานหนังสือบางเลม อาทิ หนังสือ กัชฟุ อัชชุบุฮาต (เผยสิ่งที่คลุมเครือ) หรือหนังสือ กิตาบอัตเตาฮีด (หนังสือแหงหลักศรัทธา) หรือ หนังสือ อุศูลษะลาษะฮฺ (รากฐานหลักทั้งสาม) คุณจะพบวามีคําพูดที่ เรียบงาย มีพลังชัดเจน เพราะ การเขียนทุกที่จะมีการอางอายะฮฺและหะ ดีษ โดยพูดตรงๆ ผูคนก็เลยยืนหยัดดวยงานเขียนตางๆ นี้ อนึ่ง ในยุคนี้คุณ ฟงนักคุฏบะฮฺทั้งหลายเปนชั่วโมง คุณก็ยงั ไมทราบวาหัวขอของมันคืออะไร ก็เทากับที่มีผูกลาววา (เขาลืมตอนทายคือลืมตอนแรกเชนกัน) เหตุนี้ทาน ทั้งหลายพึงพิจารณาแมกระทั่งในเรื่องของฟกฮฺ พึงพิจารณาสํานวนที่แกรง ของพวกเขาเหล า นั้น หากทา นประสงค จ งอา นหนังสื อ ชั รหุ อัซ ซุน นะฮฺ (คําอธิบายซุนนะฮฺ) ของอิมามอัลบะเฆาะวีย ซึ่งทานไดนําประเด็นปญหามา แลวความคิด เห็ นและทั ศนะของบรรดาอิมามไดนํามาอยางรวบรัดและ แกรงกลา ดังนั้น มันจึงไดฟกฮฺที่ไมมีเรื่องปรัชญาที่บกพรอง โอพี่นองครับ แนนอนเราจะนําเสนอศาสนานี้แกมวลมนุษยทั้งหลาย ดังที่บรรดาเศาะฮาบะฮฺไดรับและเขาใจ แลวไดนําเสนอศาสนานี้แกผูที่เขา รับอิสลาม อะไรเลาเปนสัญลักษณแหงความชัดเจนซึ่งมีในศาสนานี้? เมื่อ ทานยังไมส ามารถที่จะเขาใจปญ หาก็จ งถามเพื่อ นของทา นที่ส นใจเรื่อ ง ปรัชญาดู ซิวา สิ่งนี้ทานอบู บักรฺ อั ศศิ ด ดีก อุ มั รฺ อิบนุอัล ค็อ ฏฏอบ หรือ เศาะฮาบะฮฺทานอื่นไดเคยกลาวหรือเปลา? นี่คือ สิ่งที่เรียกวาสั ญ ลักษณ พวกอุต ริก รรมแมก ระทั่ งพวกซึ่งอา งวาเป น ชาวซะลั ฟ ยังออกหา งจาก ประเด็นปญหาฟกฮฺของบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺ ถามิเชนนั้นแลว ทุกคนตางอาง 25


�� ���>>> .........................................................................................

วาปฏิบัติตามอัล กุรฺอ านและอั ลฮฺ ะ ดีษ แต วาบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺไดทํ าสิ่งนี้ หรือไม ? หากผมจะกลา วถึ งประเด็ น การเปลี่ยนแปลงความชั่ว หรือ วาจะ ออกจากการเชื่อฟงฝายปกครองที่ทําความชั่ว คนนี้ก็จะมายกอายาตและ หลักฐานตางๆ คําพูดอันยืดยาว แตทานจงกลาวแกเขาวา “เศาะฮฺาบะฮฺได กล าวและยกหลัก ฐานเหลา นี้ห รือ ไม? ณ ตรงนี้แหละ คําพูด ตางๆ ก็ จะ หยุด ชะงัก และจบเรื่อง เพราะเขาจะไม สามารถอางอิงรายงานใดๆ จาก บรรดาเศาะฮฺาบะฮฺ เพราะเหตุนี้ พึงเขาใจเถิดวา มันมิใชเปนเรื่องเลนๆ ที่ ทานนบี � ไดเชื่อมโยงทางนําดวยการกลาววา (ในสิ่งที่ฉันและเศาะฮฺาบะฮฺของ ฉันยึดถือไว) รายงานโดยอัตติรมีซีย และอัลอัลบานียมีความเห็นวาเปนหะดีษฮาซัน สิ่งนี้แหละคือตนแบบและตราชั่ง คําถามที่ 2 ทําไมเราถึงเนนย้ําสิ่งนี้? เพราะวาผูที่ถูกหักหามจากการดื่มน้ําจากสระของทานนบี � ในวัน กิยามะฮฺ จะมีการกลาวแกทานวา “(โอมุฮัมมัด) เจาไมรูหรอกวาพวกเขาได ทํ า อุ ต ริ ก รรมอะไรหลั ง จากสมั ย ของเจ า ” ดั งนั้ น บรรทั ด ฐานของเรา กลายเปนวา กลุมชนเหลานี้ไดเจริญรอยตามบนเสนทางที่ทานนบี � และ บรรดาเศาะฮาบะฮฺไดปฏิบัติ หรือ วาพวกเขาไดอุตริประดิษฐขึ้นมา? มีคน กลาวแกทานบี � วา “(โอมุฮัมมัด) เจาไมรูหรอกวาพวกเขาไดทําอุตริกรรม อะไรหลังจากสมัยของเจา” ทานจึงกลาววา “สมแลว สมแลว” (จากการรายงาน ของ อิมามอัลบุคอรียและอิมามมุสลิม) ทานนบี � ไดปลีกตัวจากชนกลุมหนึ่ง ในบรรดาประชาชาติข องทา น ทั้ งๆ ที่ ทา นทราบดี จากสั ญ ลัก ษณ และ รอ งรอยของการทํ าวุฎ อ ทานทราบดีวาพวกเขาเปนมุส ลิมแตพวกเขาได เบี่ยงเบนไปจากเสนทางของทาน 26


�.........................................................................................���>>> ���

หากศาสนาอิสลามชัดเจนและเรียบงายเชนนี้แลว ทําไมมนุษยยงั ไม รับรูเลา ? สาเหตุ ที่สํา คัญ ก็ คือ พวกเขายึดติดศาสนาของพวกเขาไวกั บ บุคคล พวกเขามิ ได ยอ นกลั บไปดู แกนหลั ก ของปญ หา แตก ลับกลา ววา คนนี้ คนนั้น นักแตงหนังสือคนนี้ อิมามทานนี้ ซึ่งเขาไดนําศาสนาของพวก เขาไปเกี่ยวพันกับบุคคลดังกลาว มิไดเชื่อมโยงบุคคลกับศาสนา สิ่งนี้เองจึง เปนรากฐานของป ญ หา ขณะนี้อาจมีคนหนึ่งถามวา สัจธรรมอยูที่ไหน? สัจธรรมอยูกับคนนี้หรือกับคนนั้น? โอ ไมใชแนนอน ขอสาบานตออัลลอฮฺ วา คําถามนี้ผิดแนนอน มิ ใชป ระเด็นอยูที่คนนั้น คนนี้ในหมูม นุษยดวยกั น แต วาประเด็นก็คือ สัจธรรมอยูที่ไหน? กฎเหล็ กที่ทราบกัน คือ คํากลาว ของทานอาลี  วา “โอฮาฺ ริษ จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรม” ดังนั้น ผมจะทําอยางไร? เมื่อมีคนมากลาววา กลุมตางๆ มากมาย หลักสูตรตางๆ ก็มาก ผูรแู ละนักวิชาการก็มากมาย ผมจะรวมพรอมกับคน นี้หรือจะอยูพรอ มกับคนนั้น ? เราตอ งกลาววา เปลาเลย อันดับแรก ให รูจักศาสนาเสียกอน เพราะแทจริง บางทีพวกเขาแสดงตัวใหทานเห็นวาอยู บนแนวทางซะลัฟ ทั้งๆ ที่พวกเขาไมใชกลุมชนสะลัฟ ในบางครั้ง คุณอาจ ถูกหลอกลวงดวยความโออาและสิ่งประดับ ประดาจากคําพู ดที่ แคลงใจ ตางหาก ผมขอนําตัวอยางหนึ่งเกี่ยวกับการถกเถียงในเรื่องการละหมาดและ การปฏิบัติสําหรับผูที่ตายชะฮีด เราจึงบอกวา เรื่องนี้เปนบิดอะฮฺ พวกเขา กลาววาทําไมละ นี่เปนผลบุญและเปนการอานเพื่อหวังวาอัลลอฮฺ � จะ ใหประโยชนดวยสิ่งดังกลาว ! เราไดกลาววา บรรดามุสลิมถูกจับเปนเชลย ในชวงสงครามกับโรมันมีมากเทาไหร? มีจํานวนมาก แลวพวกทานเคยได 27


�� ���>>> .........................................................................................

ยินวา มุสลิ มคนหนึ่งไดเรียกรองสูการละหมาด ซึ่งเรียกวาการละหมาด เพื่อเชลยศึกไหม ? เราก็ไมเคยไดยินพวกเขารักเชลยศึกของพวกเขาไหม? ใช พวกเขารัก และพวกเขาตองการทําความดีแกพวกเขาไหม? ใช ตองการ ผมเลยกลาววา ขอสาบานตออั ลลอฮฺวา การละหมาด ๒ ร็อกอัต ในช วง เวลากลางคืนของคนๆ หนึ่งโดยลับๆ แลว เขาวิงวอนตออัลลอฮฺ � จะมี ประโยชนย่งิ กวาที่เขาปฏิบัติสิ่งที่กลาวมา เหตุ นี้ เ อง หากการงานต า งๆ มี ก ารคละเคล า กั บ สิ่ ง อื่ น และ คลุมเครือ เราจําเปนตองพิจารณาวา บรรพชนยุคกอนเคยปฏิบัติหรือไม พรอมกับ แรงจูงใจที่ป ฏิ บัติเชน นั้น ? ดังที่ทา นอิม ามอะฮฺหมัด ไดโต ต อบ เกี่ยวกับประเด็นอัลกุรอฺ านเปนมัคลูกหรือไมเปน รวมถึงประเด็นอื่นๆ ทาน เพี ยงแคกลา ววา สิ่ งนี้เปน สิ่ งที่ทานนบี  ไดเขาใจเชน นี้หรือ มิได เข าใจ เชนนี?้ เราจะรูจักสัจธรรมนี้ไดอยางไร? ก็ดวยกับความรู และสัจธรรมนี้มี สัญลักษณใหเห็น และผูที่อยูในสัจธรรมก็มีสัญลักษณใหเห็น คุณจะเห็นได วา ญะมาอะฮฺหรือมัซฮับทุกกลุมจะมีผูกอตั้ง หมายถึงผูเปนแกนของกลุม สําหรับวิถีที่ถูกตองนั้น ผูเปนแกนนําคือบรรดากลุมชนยุคแรกไดแกเศาะ ฮาบะฮฺและบรรดาตาบีอีน ณ เวลานั้น ทานก็จะมีบรรทัดฐาน เสมือนเข็ม ทิศทางกิบลั ตซึ่งทา นวางไปในทางทิศทางไหนๆ มันก็จะมุงไปหาทิศทาง กิบลัต ดังนั้น เมื่อใดที่ทานมีบรรทัดฐาน แมมันจะถูกวาง ณ มุมไหนมันก็ จะมุงสูร ากฐานของมัน ศาสนาของเราดํารงอยูบนอัลกุรฺอานและอัลฮฺะดีษและความเขาใจ ของบรรดาเศาะฮาบะฮฺ เมื่อมีขอขัดแยงกันในความเขาใจแลว ก็จงกลับไป หาสิ่งนั้น จงพึงระวังจากการวางฐานครอบครัวบนศาสนาที่เสื่อมเสีย อะไร คือ ศาสนาที่เสื่อ มเสีย นี้? พวกเขาคือ บุ คคลที่ ปฏิ บัติต ามอารมณ ใฝต่ํ า 28


�.........................................................................................���>>> ���

เนื่องจากพวกเขาไมสามารถที่จะทําลายศาสนา จึงเขามาทําใหคลุมเครือ ในศาสนา ด วยเหตุ ดั งกล า วนี้ จํ า เป น ตอ งเตื อ นให ระวังจากทุก อยา งที่ ขัดแยงกับทางนําของทานนบี � ผมเคยอานหนังสือของบางคนวา อยาหลงเชื่อกับจํานวนของผูที่มา มั ส ญิ ด บอ ยๆ และจํ า นวนมุ ส ลิม ในมหานครมัก กะฮฺ แตจงพิจ ารณาวา หนั งสื อ และแนวคิ ด ต า งๆ ของพวกบิ ด เบื อ นและพวกไม มี ศ าสนานี้ ไ ด แพรกระจายในสังคมหรือ เปลา? หากเห็นวามันแพรกระจายนั้นก็พึงทราบ เถิดวาในหมูพวกเขามีผูออนแอ ณ เวลานี้ ทานพึงตรวจสอบในสังคม หากทานเห็นวาผูที่ยึดหลักเตา ฮีดเดนชัด และพวกอุตริกรรมทดถอยนอยลง พึงทราบเถิดวาผูคนยังอยูใน สภาพที่ดี หากทานมาที่สังคมหนึ่งๆ และเห็นวามีทั้งผูที่ยึดหลักเตาฮีดและ พวกอุตริกรรม พึงทราบเถิดวาผูที่ยึดหลักเตาฮีดกําลังหลับใหลและเฉื่อยชา พี่นอ งครับ นี่แหละคือกฎเกณฑและบรรทัดฐาน (การบิดอะฮฺจะไมยืนหยัดไดเวนแตสิ่งที่เปนซุนนะฮฺถูกทําใหตาย ผูที่ ปฏิบัติอุตริกรรมไมสูงสงเวนแตอยูบนที่การรับผิดชอบของผูที่ ปฏิบัติตามซุนนะฮฺ) ดังนั้น หากทานเห็นมัสญิดถูกคุมโดยพวกอุตริกรรม พึงทราบเถิด วาผูที่เครงครัดในศาสนาออนแอ นี่เปนแนวปฏิบัติที่มั่นคง ดังนั้น เราควร ทําความเขาใจเกี่ยวกับการเบี่ยงเบนดังที่หุซัยฟะฮฺ  ไดกลาวมีความวา (ผูคนเคยถามทานนบี � เกี่ยวกับความดี และผมไดถามเกี่ยวกับ ความเลวราย เนื่ องจากกลั วว าผมจะปฏิ บัติสิ่ง นั้น ) บัน ทึกโดยอิ มามอัลบุคอรียและอิมามมุสลิม

29


�� ���>>> .........................................................................................

เพราะว า เราจํ า เป น ต อ งศรั ท ธาในอั ล ลอฮฺ และปฏิ เ สธ ฏอฆู ต คําถามที่ผูคนมักจะถามบอยๆ คือสัจธรรมอยูที่ไหน ? เราขอกลาววา สัจ ธรรมอยูพรอมกับอบูบักรฺอัศ ศิดดีก อุมัรฺ อิบนุอัล ค็อฏฏอบ อุษมาน อิบ นุอัฟฟาน และอะลี อิบนุอบูฏอลิบ เฉกเชนที่อิบนุมัสอูด ไดกลาวมีความวา (ผู ใดจะปฏิ บั ติ ต าม จงปฏิ บั ติ ต ามแนวทางของคนที่ ต ายแล ว เพราะวาคนที่ ยั งมี ชีวิ ต อยู จ ะไม รับ รองการเกิ ด ฟต นะฮฺในตัวเขา) จากหนังสือ มิชกาต อัล-มะศอบีหฺ

มีบางคนกลาววา ยุคเวลาขณะนี้ไดเปลี่ยนแปลงไปแลว ? เรากลาว วา แทจริงบรรดาหลักอะกีดะฮฺไมไดเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลง ของเวลา ไม มี ก ารถู ก ยกเลิก ไม มีก ารวินิจ ฉั ย ไมมี ก ารเที ย บเคี ยงใดๆ อัลลอฮฺ � ทรงแจงลักษณะของพระองคเองวา (อยูบนอัลอัรชฺ) ในยุคของ ท า นบี มุ ฮัม มัด และยุ คก อ นหน า นั้ น คื อ ยุ ค ของทา นนบี อ าดั ม  และ ลักษณะนี้จะคงอยูตราบถึงวันกิยามะฮฺ มีบางคนกลาววา ทานทั้ งหลายมักจะยอ นกลับไปหาพวกรุนกอ น ตลอดทั้งที่เราอยู ในยุ คป จ จุ บั น ? เรากลาววา ถู ก ตอ งครับ เราอยูในยุค ปจจุบันสมัยใหม เราพูดถึงเกี่ยวกับซะกาฮฺ เราเปดประเด็นเรื่องของการจะ ละหมาดบนเครื่องบินอยางไร? ใช นั่นคือปญหาใหมที่เราตางถกเถียงกัน แตประเด็นวาดวยบรรดามลาอิกะฮฺมีหรือไมมีนั้น เปนประเด็นเกาแก ไมมี การเปลี่ ยนแปลง พระผูอ ภิ บาลของเราทรงลงมาจากฟากฟา มาสูโลก พระผู อ ภิ บ าลของเราทรงหั ว เราะ เป น ต น นั่ น คื อ ข า วคราวต า งๆ ไม เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของเวลาแตอยางใด ดังนั้น เมื่อเรา กลาววา เปนหนาที่ที่เราจะตองยึดความเขาใจของบรรพชนแรกในตัวบท ดั งกล า วนี้ แต มี บางคนจากพวกเขามาหารือ ในเรื่อ งการละหมาดบน 30


�.........................................................................................���>>> ���

เครื่องบิน เราจะไมกลาวแกพวกเขาวา ใหยอนไปคนหาคําฟตวาของ อบูบักรฺ  ในประเด็นนี้ หรือถาใครสนในเรื่องของซะกาฮฺก็จงคนหา คํ า ฟ ต วาของท า นอุ มั ร  เพราะสิ่ ง ดั ง กล า วเป น เรื่ อ งใหม หรื อ ประเด็ นที่ผูพิพากษามาบอกวา เราไดกํา หนดค าปรั บ ต อผู ที่ล ะเมิ ด กฎ จราจร ประเด็นนี้เปนการอิจญติฮ าดของบรรดานัก ฟกฮฺและการชี้ขาด ของพวกเขา นาเสียใจที่ประเด็นใหมๆ จนกระทั่งปจจุบัน ยังไมใหสิทธิ์ใน การใหความสําคัญ การเอาใจใส การคนควาและการอิจฺติฮาด พวกเขา ละทิ้ง ประเด็นต า งๆ เหล านั้ นและต างไปอิ จ ญติ ฮ าดในเรื่ องหลั ก การ ศรัทธา บรรดาพระนามและลักษณะของอัลลอฮฺ � เรื่องการตั้งภาคี และการใหความเอกะตอพระองคอัลลอฮฺ � ซึ่งไมมีการอิ จญติ ฮาด ใดๆ ในเรื่องนีท้ ั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อเรากลาวแกผูคนวา ใหทุกคนมองยอนกลับไปสูคําพูด ของทา นอบู บัก รฺ ทานอุ มัร ทานอุษ มาน และทานอาลี รวมถึงบรรดา เศาะฮฺาบะฮฺทานอื่นๆ เรามิไดหมายถึง ใหกลับยอนสูพวกเขาในประเด็น ใหมๆ ทีต่ องการอิจญติฮาด เพราะวาบางคนยังสับสนในเรื่องนี้อยู พี่นองครับ เราจําเปนตองวางรากฐานแหงบรรทัดฐาน และวาง โครงสร า ง ด ว ยเหตุ นี้ ทํ า ไมบิ ด อะฮฺ ไ ม มี ก ารแพร ข ยายในกลุ ม เศาะฮาบะฮฺและตาบีอนี รุนอวุโส ก็เพราะวา พวกเขามีหลักที่จะเปนตัว ชั่งวัดเรื่องราวตางๆ ของพวกเขา ดังนั้น ผูใดที่วางตราชั่งเขาจะรูจั ก สัจธรรมและรูจัก ความเท็จ ดัง นั้น กิ จการตางๆ ก็ จ ะบนแนวทางที่ เที่ยงตรง เมื่อมันชัดเจนตอหนาเราแลว คําถามเกาๆ ที่วา เราจะไป พรอมกับใคร? เราตอบแกเขาวา จงรูจักสัจธรรม แลวคุณจะรูจักผูท ี่อยูใน สัจธรรมนั้น 31


�� ���>>> .........................................................................................

พี่นองครับ เราจําเปนที่จะตองเจียดเวลาหลักจากเวลาของเราใน การสรางความเขาใจในรากฐานของอิสลาม การฟ งบรรยายทั่วไปยังไม พอเพียง เราควรใหเวลาที่เหลือแกอัล ลอฮฺ � พระองค ทรงประทาน หลักฐานใหเรารับ ผิด ชอบ ทรงเอื้อ บรรยากาศที่ เหมาะสมและเตรี ยม ความพรอมตางๆ และทรงประทานปจจัยใหเราแสวงหาความรูดังนั้น เรา ไมมีคําอางอีกตอไปแลว เราจะพบอัล ลอฮฺ � ทั้ ง ที่เราไม รู จักหนทาง อยางนั้นหรือ ในขณะนี้ หากมนุษยคนหนึ่งตองการขึ้นตําแหนงของเขา พวกเขาจะกลาวแกเขาวา เราจะตองสงคุณไปตางประเทศ คุณจะเห็นวา เขาจากภรรยาและลูกเพื่อแลกกับตําแหนงนั้น เขาสามารถขอลาหยุดเพื่อ ปลีกตัวไปอานหนังสือ (อัล-อุศูลอัษ-ษะลาษะฮฺ)และหนังสือ เลมอื่นกับผูรู ได มิใชหรือ? เขาจะไดเรียนรูรากฐานของศาสนา อยางนอย เขาจะไมถูก ไลและสกัดกั้นจากการดื่มน้ําจากสระน้ําของทานนบี  ในวั นกิยามะฮฺ เราจะเจียดเวลาหยุดทํางาน 1 เดือนเพื่อเรียนรูความรูในเรื่องดังกล าว มิไดหรือ? พี่นองครับ เรื่องสุดทาย เราจําเปนตองมีความรูสึกหึงหวงตอซุน นะฮฺ เมื่อ มีค วามหึ ง หวงต อ ซุน นะฮฺข องเราะซู ล  และหนทางของ บรรดาเศาะหาบะฮฺแลว ความเกลียดชังตอพวกอุตริกรรมและพวกที่ตาม อารมณใฝต่ําก็จะผุดในใจของเรา เมื่อเปนเชนนั้นแลว เราจะไดยึดมั่นกับ สัจธรรมซึ่งอัลลอฮฺ � ทรงทําใหเราสําเร็จและทรงชี้ทางนําสูสิ่งนั้น ณ จุดนั้นมันจะเปนเหตุของการยกระดับ ความสูงสงใหกับซุนนะฮฺ และหาก เราละเลยกับผูอื่นโดยที่สรรหาคําอางทั้งวันทั้งคืน ซุนนะฮฺ ก็จะไมอุบัติขึ้น โอพี่นองครับ เราอยูในยุคที่พวกอุตริกรรมไดดําเนินมาทั้งกลางวัน และกลางคืน พวกเขาไดทําการแพรหลายสิ่งบิดอะฮฺของพวกเขา และพูด ถึงเรื่องนี้อยางกวางขวาง แลวเรามาใหคําอางของพวกเขา แตเราบอก เพื่อพวกเขาจะไดรูวาเราไมชอบวิธีนี้ เพื่อพวกเขาจะไดเห็นการนําเสนอสัจ 32


�.........................................................................................���>>> ���

ธรรมซึ่งเราไดยึดมั่นมัน จนกวาอัลลอฮฺจะทรงใหแนวทางของพระองค แข็ง แกรง ดว ยเหตุจ ากเรา สิ่ งนี้นับ เป นความภาคภู มิ ใจสํ าหรั บ มนุ ษ ย วาอัลลอฮฺไดท รงทําใหเขาเปนเหตุของการมีชีวิต ของซุ นนะฮฺ และการ ตายของบิดอะฮฺ นี่แหละคือการญิฮาด ดังนั้นพึงตอตานพวกอุตริกรรม มิ ใ ช ด ว ยคมดาบหรื อ ออกห างจากพวกเขา แต ด ว ยการชี้ แ จงความ ผิด พลาดของพวกเขาและเตือนผูคนใหระมั ด ระวั ง จากสิ่ ง นี้ พยายาม ชี้แจงในสิ่งที่พวกเขาเบี่ยงเบน พึงปฏิบัติดวยความนุมนวลและคําพูดที่ดี และนี่นับ วาเปนการเรียกรองของบทบัญญัติในอิ สลาม เพราะว า ไม ใช เปนเพียงประเด็นของเราเทานั้นที่จะกลาวกับบางคนวา คุณนั้นหลงทาง มิใชเชนนั้น เพราะสิ่งที่เราชอบมาก อัลลอฮฺทรงใหท างนําแก พวกอุ ตริ กรรมดวยเหตุจากเรา ในบางครั้ง คนที่นาสงสารคนนั้น ไมรูแนวคิดของ ผูรูตางๆ และก็ไดเดินไปตามเสนทางของพวกเขา หวังวา ดวยการดะอฺ วะฮฺของเรา ดวยวิธีที่นุมนวลและแข็งแกรง อัลลอฮฺ � จะทรงประทาน ทางนําสูแนวทางอันเที่ยงตรง พี่นองครับ เราควรทําใหสัจธรรมเผยเดนเหมือนกับเคยเดนในยุค ของชนแรก และเรายึดมั่นในสิ่งนี้ จนกวาผูคนจะทราบวานี่แหละคือสัจ ธรรม สวนตัวเราดังปจเจกชน เราไดเขาใกลกับสัจธรรมหรือเราออกหาง ขึ้น อยูก ารปริมาณของความพยามและการทํ างาน ดั ง นั้ น เมื่ อเราได กระทําสิ่งดังกลาวแลว อินชาอัลลอฮฺ เราจะเปนผูหนึ่งจากบรรดาผูที่ทํา ใหซุนนะฮฺของทานเราะซูล  เกิดขึ้น แลวจะถูกบันทึกความดีของการ ทําใหซุนนะฮฺเกิดขึ้นแกเรา บุค คลใดเรียกรอ งไปสู ทางนํ า ผลตอบแทน ความดีของเขาจะเปนดังเชน ความดีของผูปฏิ บัติตามคําเรียกรองของ เขา โดยที่ไมขาดตกบกพรองการตอบแทนแตอยางใด

33


�� ���>>> .........................................................................................

34


�.........................................................................................���>>> ���

ประกายความคิดที่

3

ความดุลยภาพในการเขาใจอิสลาม

พี่นองทั้งหลายครับ พวกทานทราบแลววา ในขณะที่อัลลอฮฺ � ไดท รงสงเราะซูล ของพระองค ปรากฏวา มนุ ษยในสมั ยของทานและ กอนหนาทาน ไดเอาแนวคิดแบบตางๆ ในดานความสัมพันธของพวกเขา ถึงพระเจาของพวกเขา บางสวนจากพวกเขาก็เลยเถิดในเรื่องการทําอิ บาดะฮฺ และไดทําใหบางสิ่งบางอยางเปนสิ่งจําเปนตอตนเองทั้งๆ ที่เขามี คัมภีรของนะศอรออยู และบางสวนจากพวกเขาแมกระทั่งสวนหนึ่งจาก ชาวอาหรั บ ที่ ทํ า ให บ างสิ่ งบางอย า งเป น สิ่ งต องห า มต อตนเอง และ บางสวนของพวกเขาละเลยในเรื่องนี้ จึงไดนําหินและอินทผลัมทํ าเป น พระเจาของเขาซึ่งเปนที่กราบไหวและบูชาที่พวกเขาสรางมันขึ้นมาดวย มือของเขาเอง สิ่งหะลาลและหะรอมกลายเปนดัง่ ที่เขาตองการ พวกเขา จึงกลาววา ณ เวลานี้ เดือนนี้เปนเดือนตองหาม (ในการทําศึก และการ ทําธุรกรรมดวยดอกเบี้ย เปนตน) หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาเห็นวามันมี ผลประโยชนในเดื อ นนี้ก็ อ นุ มัติ อีก อาทิ การกํ า หนดใหมี ด อกเบี้ยดั ง ปรารถนา นี่ คือ สิ่งที่ เกิ ด ขึ้ น กั บ มนุ ษ ย ดั งนั้น พระผู อ ภิบ าลจึง ทรงส ง เราะซูลของพระองค เพื่อที่จะนํามนุษยที่มีความขัดแยงกัน ซึ่งไดยึดเอา หนทางตางๆ ที่พวกเขาคิดวาดวยสิ่งนั้นทําใหพวกเขาใกลชิดกับอัลลอฮฺ ทา นเราะซู ล  ได มาเพื่ อที่ จ ะนํ า พาพวกเขาและชี้ แ นะพวกเขาไปสู 35


�� ���>>> .........................................................................................

หนทางที่ถูกตอง ซึ่งหากพวกเขาเดินตามทางนั้นพวกเขาก็จะถึงยังสวน สวรรคของอัล ลอฮฺ และเมื่อพวกเขาเหไปจากแนวทางนั้น ไมวาจะขวา หรือซาย พวกเขาก็จะไปไมถึง และหลังจากการสิ้นชีวิตของทานนบี และ หลังจากผานชวงเวลาไปชวงหนึ่ง รุนหลังสวนหนึ่งก็ถูกทดสอบดวยสิ่งที่ ผูคนรุนกอนที่จะมีทานนบีเคยถูกทดสอบ พวกเขาก็กลับไปสูสภาพเดิม อี ก ครั้ ง พวกเขาได ต ามแนวทางของคนที่ ม าก อ นพวกเขา พวกเขา แตกแยกและขัดแยงกันอีกครั้งหนึ่ง และพวกเขาไดกลายเปน กลุมเป น พรรค ดังเชนที่เคยเปนในสมัย ญาฮีลียะฮฺ ในป จ จุ บั น นี้ ประชาชาติ ซึ่ ง ถู ก ขนานนามวา ประชาชาติ แห ง อิ ส ลาม เมื่ อ เราได พิ จ ารณาแล ว เราจะพบวา แท จ ริ ง บางส ว นของ ประชาชาติแหงอิสลามไดตามพวกยะฮูดและนะศอรอ และบางสวนก็ได ตามพวกผูปฏิเสธพระเจาบนพื้นแผนดินนี้ บางสวนของประชาชาติแหง อิสลามไดเลยเถิดในเรื่องของศาสนาและคลั่งไคลตอสิ่งตางๆ ที่ไมมีใน ศาสนา และยึด เอาสิ่ งตา งๆ ที่พ วกเขาคิด วา มั น คือศาสนา และตอ สู มนุษยเพราะสาเหตุดังกลาว ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นไมนําพวกเขาไปยังอัลลอฮฺ พี่ นองทั้งหลายครับ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปจจุบัน เมื่อเราพิจารณาถึงเรื่องนี้ เราจะพบวาสภาพของมนุษ ยแมแ ตนักดะอฺ วะฮฺ ไปสูอัล ลอฮฺก็จ ะมีสว น จากสภาพดังกลาวดวย ทานจะพบวามนุษยสวนมากในเครื่องแบบของ นักดะอฺวะฮฺ จากผูคนที่พู ดดวยนามของอิสลาม และจากคนที่บรรยาย ดวยนามของอิสลาม ปรากฏวาเขาปรารถนาใหประชาชาตินี้ นะศอรอ และยะฮูด เป นประชาชาติ หนึ่งเดียว ไมมีความแตกตางกั น จริงๆ แลว ศาสนาไดรวมพวกเขาไวดวยกัน เราทั้งหลายมีเจตนาที่ดีที่จะกราบไหว ตออัล ลอฮฺ � หากแตวา พวกเขาเหลานั้นมี ศ าสนาของพวกเขาและ 36


�.........................................................................................���>>> ���

พวกเราก็มีศาสนาของพวกเรา แนนอน พวกเขาก็ตางหาเหตุผลดวยตัว บท พวกเขายกเหตุผลดวยคําตรัสของอัลลอฮฺ � วา ﴾ ÕÔ Ó Ò Ñ ﴿

ความวา “ไมมีการบังคับในเรื่องของศาสนา” อัลบากอเราะฮฺ 256 และคําตรัสของอัลลอฮฺ � อีกวา ﴾ @?> =<﴿

ความวา “ศาสนาของทานก็ของทานและศาสนาของฉันก็ของฉัน” อัลกาฟรูน 6

เรามิไดป ฏิเสธวา พวกยะฮูดีก็ยังคงเป นยะฮู ดี และนะศอรอก็ ยังคงเปนนะศอรอ เราก็มิไดปฏิเสธพวกเขา และเราพยายามสมานฉันท ระหวางศาสนาตางๆ ทําสิ่งนี้เพื่ออะไรเลา ? พวกเขากลาววา เราเพียง เปนศัตรูกับพวกที่ไมเชื่อในพระเจาและคอมมิวนิสต คนทั่วไปเทานั้นที่จะ เชื่อคํ าพูด นี้ ใชแ ลว นะศอรอใกลเคีย งกับ เรากวาพวกปฏิ เสธพระเจ า เพราะวาอัลลอฮฺทรงอนุญาตใหเราแตงงานกับผูหญิงของพวกเขา ดังนั้น เรานาจะปรองดองและชวยเหลือซึ่งกันและกัน จริงๆ แลว เขาไดลืมวา อัลลอฮฺได อมุมัติบางประการจากพวกเขา แตพระองคทรงจัดพวกเขา เปนผูปฏิเสธ ความฝนของพวกเขาเพียงแคลมๆ แลงๆ พระองคยังทรง ชี้แจงอีกวาพวกเขาอยูในความงมงาย เราไมควรที่จะตามพวกเขา พวก เขายัง ขัดกับทานเราะซูล  ในทุกๆ เรื่อง นะศอรอซึ่ง อยูในสมัย ของ ทานนบี บริสุทธิ์ สะอาดและดีกวานะศอรอ ณ วันนี้ อยางนอย นะศรอ ในยุค กอนยัง มีค วามหึง หวงในการที่จ ะแสดงตัว พวกเขามี ก ารรั กกาย สงวนตัว สวนนะศอรอในสมัยนี้ สิ่งที่ถูกพูดถึงจากความดีไมมีในพวกเขา เลย ในเรื่องของมารยาทแมกระทั่ง สัต วเดรัจฉาน ณ เวลานี้ ยังดี กว า 37


�� ���>>> .........................................................................................

พวกเขาเสียอีก เชนเดียวกันกับพวกยะฮูดี ในเรื่องที่เกี่ยวกับปญ หาเล็กๆ นอ ยๆ ที่เปนเรื่องธรรมดา ทานเราะซูล  ก็พยายามที่ จะใหแ ตกตา ง จากพวกเขาในเรื่องนั้น ทําไมละ? เพื่ อที่จะอบรมประชาชาติน้ีดว ยการ อบรมที่แทจริงและถูกตอง วาประชาชาตินี้จะตองไมตามผูใดทั้งสิน้ แต เราตองเดินบนหนทางซึ่งอัลลอฮฺ � ไดกําหนดมันใหแกประชาชาตินี้

ดังนั้น บรรดามุสลิม ณ เวลานี้ อยูในสภาพที่อาหรับ ยะฮูด และ นะศอรอไดอยูกอนสมัยการแตงตั้งนบี พวกเขาไดแตกแยกกัน ทําตาม อารมณใฝต่ํา และอุตริประดิษฐรูปแบบนักบวชขึ้นมา พวกเขา ณ เวลานี้ 38


�.........................................................................................���>>> ���

ก็มีผูที่อยูในรูปแบบนักบวชมากมาย พวกศูฟย มิใชสวนหนึ่ง จากผูที่อุต ริ ประดิ ษ ฐ รูป แบบนั ก บวชหรื อ ? ดั ง เช น ที่ พ วกนะซอรอได มี ก ารอุ ต ริ ประดิษฐรูปแบบอิบาดะฮฺ วิธีการและกระทําสิ่ งตางๆ ที่ เลยเถิดในทุก ๆ สิ่งที่อัลลอฮฺทรงบังคับใหพวกเขาทํา แตพวกศูฟยเหลานั้นกลับกล าวว า เราไดป ระดิษฐมันขึ้นมาเพื่อปรับ ปรุง ตัว ของพวกเราเอง เหมื อนกับ คํ า กลาวของพวกนะศอรอ ในขณะที่เขาประดิษฐศาสนาคริสตไมมีผิดเลย พี่นองทั้งหลายครับ นี่คือสภาพที่เกิดขึ้นกับพวกเราในวันนี้ ในทิศ ตะวันออกและตะวันตกของกลุ ม ประเทศอาหรั บ และประเทศที่ มิใ ช ประเทศอาหรับ สภาพที่เลวรายนี้ มี 2 ประเภทจากบรรดามุส ลิ มที่ น า สะพรึง กลั ว ยิ่ ง กว า นั่ น คื อ ประเภทแรกเห็ น ว า แท จ ริ ง มนุ ษ ย นั้ น ได หางไกลจากศาสนา พวกเขาทํามักงายในทุกๆ สิ่งที่มาจากซุนนะฮฺ เรื่อง ซุนนะฮฺเปนเพียงสิ่งของในตลาด พวกเขายึดมั่นในทุกๆ สิ่ง และจริงจัง อยางเลยเถิด ทําสิ่งเล็กๆ เปนเรื่องบาปใหญ หมด ยิ่งไปกวานั้นพวกเขายัง กลาวหาวาเปนกาฟรฺตอผูที่ทําสิ่งนั้นดวย เพราะเหตุนี้ ทานจะพบพวกที่ยึด มั่นจริงจังกับซุนนะฮฺอยางเลยเถิดเหลานั้น ไมมีขอสงสัยเลยวาสิ่งนั้นเปน ซุนนะฮฺ แตวาการเลยเถิดในสิ่งนั้นไมใชซุนนะฮฺพวกเขาเหลานั้นปรารถนา ที่จะปฏิรูปกระแสความมักงายและความละเลย พวกเขามิไดทําใหสิ่งนั้น ถูกตองไดดวยซุนนะฮฺที่ถูกตอง แตทําใหมันตรงดวยวิธีทตี่ รงกันขามกัน นั่นก็คือ การเลยเถิด อั ล ลอฮฺ ทรงปรารถนาให เราเป น ประชาชาติ ส ายกลาง ทรง ปรารถนาใหเรายึดมั่นในสิ่งที่พระองคทรงใช พวกเขาเหลานั้นเลยเถิดใน สิ่งตางๆ และยึดมั่นในสิ่งตางๆ โดยที่พวกเขาหลงลืมรากฐานที่ยิ่งใหญซึ่ง จากเหตุ นั้ น พระองค ท รงสร างเรา บรรดาเราะซู ล ได ม าก็ เพราะเหตุ ดัง กลาว นั่นคือ การเปด เผยสัจ ธรรมใหแกมนุษ ย เพราะเหตุดั ง กล า ว อัลลอฮฺ � ไดกําหนดใหมนุษยทั้งหมดวาอยูในภาวะขาดทุน แตก็ยกเวน 39


�� ���>>> .........................................................................................

กลุมที่รอดพนซึ่ง เปน ผูที่สั่ง เสียและตักเตือนซึ่ง กั นและกั น ดั ง คํ าตรั ส ของอัลลอฮฺ � ในซูเราะฮฺซึ่งมีสถานะที่ยิ่งใหญวา +*)('&%$#"!﴿ ﴾ 10 /. -,

ความวา “ขอสาบานกับ กาลเวลา แทจริง มนุษยนั้นอยูในภาวะ

ขาดทุ น นอกจากบรรดาผู ศ รั ท ธาและกระทํ าความดี ทั้ ง หลาย ตักเตือนซึ่งกันและกันในสิ่งที่เปนสัจธรรม และตักเตือนซึ่งกันและ กันใหมีความอดทน (แลวจะไดรับความสําเร็จ)” อัลอัศร 1-3

อัลลอฮฺ � ไดทรงบอกวามนุษยนั้นอยูในภาวะการขาดทุน และนี่ คือสภาพของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาไดหางไกลจากศาสนาของอัลลอ ฮฺ � แตสิ่งที่พวกเขากลาวคือ พวกเขาไดป รับเปลี่ยนการขาดทุน และ การหลงผิดนีด้ วยการจริงจังอยางเลยเถิดและเขมงวดกวดขัน และพวก เขายังกลาวอีกวา เมื่อพวกทานเห็นผูคนตกอยูในความขาดทุนและหลง ผิด ดงนั้นพวกทานจําเปนที่ตองศรัทธาตออัลลอฮฺ � และปฏิบัติสิ่งที่ดี หลังจากนั้นอัลลอฮฺ � ทรงยกเวนแกบุคคลที่มีลักษณะที่ยิ่งใหญ คือ ผูที่ เรียกรองเชิญชวนไปสูพระองคอัลลอฮฺ � ดังที่พระองคไดทรงตรัสวา (และพวกเขาสั่งเสียกันในเรื่องของสัจธรรม) การสั่งเสียในเรื่องของสัจ ธรรมก็คือ การเรียกรองเชิญชวนไปสูศาสนาของอัลลอฮฺ เพราะแทจริง มนุษยนั้นในขณะที่เขาสั่งเสียในเรื่องของสัจธรรมและเรียกรองดวยกับสัจ ธรรม และสั่งเสียในเรื่องสัจธรรมและกระทําสิ่งที่เปนสัจธรรม แทจริง เขาก็คือผูที่เรียกรองเชิญชวนไปสูอัลลอฮฺและโดยเฉพาะอยางยิ่งเขาคือ ผูที่ใชใหทําความดี และพระองคยังไดตรัสไวอีกมีความวา (และพวกเขา สั่งเสียกันใหมีความอดทน) ความหมายก็คือ แนนอน เมื่อพวกเขาใชใหทํา 40


�.........................................................................................���>>> ���

ดีและหามปรามจากความชั่ว และเผยแผศาสนาที่ ถูก ตองใหแ กผู ที่เลย เถิดและผูที่มักงายเขาจะตองเผชิญหนากับพวกเขา เพราะแทจริงผูที่ใชให มีสัจธรรม และเรียกรองไปสูสัจธรรม เขาจะกลายเปนศัตรูกับผูทมี่ ีความ เครง ครัด อย างเถิ ด เหล านั้ น ซึ่ ง คิด ว าผู นั้ นเป น คนมั ก ง า ย และเขาก็ กลายเปนศัต รูกับ ผูที่มักงายเหลานั้น ซึ่งคิดวา ผูนั้ นได นํา ศาสนาใหม ม า เพราะเหตุดังกลาวอัลลอฮฺ � ทรงใชใหผูที่ยึดมั่นในสัจธรรมใหอดทน อันดับแรก เราตองรูจักกับคําวา “ความเลยเถิด” ซึ่งมีการเตือน และต างคนต างพูด ถึงเรื่อ งนี้มาก กลา วคื อ ความเลยเถิ ด นั้ น คื อการ เพิ่มเติมในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และคําวา “ความสุดโตง” การกระทําเหนือกวา สิ่งที่อัลลอฮฺ � ทรงสั่งใช นี่ คือรากฐานเดิม ทานเราะซูล  ไดกลาว วา ِ ‫ ﻓَﺈِﱠﳕﺎ أَﻫﻠَ ﱠ‬،‫) إِﻳﺎ ُﻛﻢ واﻟﻐُﻠُﱠﻮ ﰲ اﻟﺪﱢﻳ ِﻦ‬ ( ‫ﻳﻦ ِﻣﻦ ﻗَـْﺒﻠِ ُﻜ ْﻢ اﻟﻐُﻠُﱡﻮ ﰲ اﻟﺪﱢﻳ ِﻦ‬ َ ْ ْ ّ َ ‫ﻚ اﻟﺬ‬

ความวา พวกทานพึงระวังการเลยเถิดในเรื่องของศาสนา แทจริง ชนกอนหน าพวกท านได พิ น าศก็ เพราะการเลยเถิ ด ในเรื่ องของ ศาสนา (รายงานโดย อิบนุมาญะฮฺ และอัลอัลบานีมีความเห็นวาเปนหะดีษ เศาะฮีฮ)ฺ

หมายถึง การเพิ่มเติมจากสิ่งที่อัลลอฮฺ � ทรงบังคับ ทานเราะซูล  ไดกลาววา (‫ َ)ﻫ َﻠ َﻚ اﳌ ُ َﺘﻨَ ﱢﻄﻌﻮن‬รายงานโดยมุสลิม มีความ วา (บรรดาผูที่เลยเถิ ดไดพิน าศแลว ) พวกเขาปฏิบัติเลยเถิด ในสิ่งตางๆ ที่อัลลอฮฺทรงสั่งใชพวกเขา อาจจะกลาวไดวา พวกเขาตองการที่จะปฏิบัติ อยางเครงครัดยิ่งกวาทานเราะซูล  ถาหมายถึงเชนนี้ สิ่งที่เราไดยินมา จากวิท ยุ นิตยสาร หนังสือ พิม พ และคนที่พู ดถึงเกี่ยวกับการเลยเถิดนั้ น มิใชสิ่งที่เราเขาใจในอิส ลามแต อยา งใด ดังนั้ น การเลยเถิด ในทัศนะของ 41


�� ���>>> .........................................................................................

พวกเขาเหลานั้นก็คือ การเครงครัดในซุนนะฮฺและเรียกรองเชิญชวนสูการ ปฏิบัติสิ่งดังกลาว การเลยเถิดในทัศนะของพวกเขาคือ การไวเครายาวๆ การสวมเสื้อยาวกลางนอง เมื่อเห็นผูอื่นขัดกับซุนนะฮฺ เขาจะกลาวทันทีวา พี่นองครับ ทานไดขัดกับทางนําของทานนบี � นะครับ นี่คือ ความสุดโตง ในทัศนะของพวกเขา คํ านี้ถูก อธิบายเป นความหมายอื่น วันนี้ เมื่อทา น ตั ก เตื อ นผูคนเกี่ยวกั บ ซุ น นะฮฺ เขาก็ จ ะกลา ววา พี่น อ งครับ ท านอยาได เขมงวดในเรื่องของศาสนาเลย เปนคําพูดที่เราไดยินกันอยูทุกวี่ทุกวัน คนนี้ เมื่อ ถูก ทั ก วา ทา นอยา สวมเสื้ อ ยาวต่ํ ากวาตาตุ ม เขาจะกลา ววา ท า น อยาไดเขมงวดเลย คําพูดนี้เปนสิ่งที่เขาไดยินบอยๆ จากบรรดาผูตักเตือน คอฏีบ นักพูด และจากบรรดานักคิดอิสลาม คําพูดนี้สะสมในสมองของเขา วา การเรียกรองเชิญชวนไปสูซุ นนะฮฺ และการปฏิบัติซุนนะฮฺวาเปนสว น หนึ่งของการเลยเถิด การเข มงวดและความสุ ดโตง นี่เปนสิ่งที่ไมถูก ตอ ง ครับ การเขมงวดคือการที่เรานําซุนนะฮฺหนึ่งของทานนบี � แลวใหผูอื่น ยึดมั่นในซุนนะฮฺนั้นโดยเราไดเพิ่มเติมเหนือซุนนะฮฺนั้น และเขมงวดตอการ ปฏิบัติสิ่งนั้น นี่คือการเลยเถิด แตวาหากเรามาหาผูที่สะเพราและทําสิ่งที่ ขัดกับซุนนะฮฺ เขาจึงถูกเรียกรองเชิญชวนสูซ ุนนะฮฺของทานนบี � การเลย เถิดในเรื่องนี้อยูที่ไหน? นี่แหละ คือ ศาสนา พี่นองครับ การเลยเถิ ดนั้นคือการเกินขอบเขต มันเปนสิ่งที่มนุษ ย ประดิษฐคิดคนขึ้นมาใหม ซึ่งไมมีอยูในทางนําของทานนบี � เทาเทียมกัน ไมวาจะเปน การละเลยหรือการเขม งวด สว นการเรียกรอ งเชิญ ชวนไปสู ซุน นะฮฺของทานนบี � การปฏิ บัติและการเผยแผมั น ใหแกมนุษ ยนั้น คือ รากฐานของศาสนา แตเนื่องจากความโงเขลาของเกี่ยวกับขอเท็จจริงของ ศาสนา ผูคนสวนมากจึงคาดคิดวาสิ่งดังกลาวคือ การเครงครัดอยางเลย

เถิด 42


�.........................................................................................���>>> ���

พี่ น อ งครั บ เพราะเหตุ ใ ดจึ ง ถู ก กล า วเช น นี้ ? เพราะว า การ เรียกรองเชิญชวนในปจจุบันนีไ้ ดหลงไปจากทางของมันเสียแลว พวกเขา ปรารถนาที่จ ะนําชะรีอะฮฺมาใชในสัง คม จนกระทั่ ง ทุ กคนไปในทิศ ทาง เดียวกัน และพวกเขาคาดคิด วาการเรียกรองเชิ ญ ชวนสูซุ นนะฮฺ และ นํ า มาใช ใ นชี วิต และการยึ ด มั่ น ในซุ น นะฮฺ เ ป น เหตุ ให ม นุ ษ ย เกิ ด ความ แตกแยก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น การเรียกรองเชิญชวนไปสูซุนนะฮฺ การ ปฏิบัติซุนนะฮฺ การยึด มั่นซุนนะฮฺ และความละเอียดรอบคอบในเรื่ อ ง ปลีกยอยของหลักการอะกีดะฮฺ เปนสาเหตุใหเกิดประชาชาติที่เครงครัด และประชาชาติที่ขัดในเรื่องศาสนา เรื่องนี้เปนสิ่ งที่พวกเขาไม ตองการ พวกเขากล าวอา งวาจะทําใหก ารสถาปนารัฐ อิ ส ลามล าช า เพราะเหตุ ดังกลาว ทานจะพบวานักคิดจํานวนมากที่กลาววา พี่นองครับ พวกทาน ณ เวลานี้ ยุงอยูกับปญหาเล็กๆ นอยๆ ขณะที่คนอื่นไปถึงดวงจันทรแลว มนุษยไดทําสิ่งนั้น มนุษยไดทําสิ่งนี้ ตางๆ นานา คําพูด เหล านี้เราไดยิ น ทุกวันเชนกัน คําตอบก็คือ อะไรละเปนความสัมพันธระหวางสิ่งนี้กับสิ่ง นั้น มีความสัมพันธอะไร หากผมจะเครงครัดในซุนนะฮฺและเรียกรองเชิญ ชวนไปสูซุนนะฮฺ ในเวลาเดียวกันผมก็ดีเลิศในวิชาการตางๆ ในโลกดุนยา ถูกตองครับ บางคนก็เลยเถิดเกินไปถึงกับหักหามเรื่องตางๆ มากมายใน โลกนี้ นี่แหละเปนการเลยเถิดในเรื่องศาสนา แตไมได หมายความวาให เราละทิ้งศาสนา เมื่อเราเห็นคนๆ หนึ่งไวเครา ยึดมั่นในซุนนะฮฺ แตไดทํา ซีนา เราจะกลาวกับผูคนวา พวกทานจงโกนเคราซะ เพราะวาคนนี้ไดทําซี นา สิ่งนีเ้ ปนสิ่งที่รับไมไดสําหรับปญญาชนทั้งหลาย พี่นองครับ การที่ชน กลุมหนึ่งไดหักหามสิ่งตางๆ มิไดหมายความวา เราจะตองละทิ้งศาสนา ละทิ้งซุนนะฮฺของทานนบี � เนื่องจากสาเหตุจาก 10 หรือ 100 คนได สกัดกั้นการเขามัสยิด และการศึกษา สิ่งที่ค วรจะเป น เราตองกล าวว า 43


�� ���>>> .........................................................................................

พวกเขาเขาใจผิด พวกเราถูกใชใหยึดมั่นในซุนนะฮฺของทานนบี  และให พวกเรานําพาซุนนะฮฺไปสูโลกอันไกลโพน นี่คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ บรรดาผูเลยเถิดหรือสุดโตงในการเขาใจศาสนานั้น ไมตองสงสัย เลยวา พวกเขาจะเปนอันตรายตออิสลาม เพราะพวกเขาหนีหางออกจาก อิส ลาม และทําใหมนุษ ยออกหางจากศาสนาของอั ลลอฮฺอี ก ดว ย และ บรรดาผูที่ทํามักงายนั้นอันตรายยิ่งกวาพวกเขาเสียอีก เพราะวาพวกเขา มองอิสลามเปนเรื่องเลน ผูที่ทําผิดคิ ด วาตอไปเขาจะเป นคนดี คนๆ นี้ แหละจะเติบโตในบรรดาพวกเราในอนาคตเปนเยาวชนซึ่งไมมีการใชใหทํา ดี ไมมีการปฏิเสธความชั่ว เพราะอะไรละ ? เพราะวา สิ่งตางๆ สําหรับ เขาแลวเทาเทียมกัน เขาไดยินคนๆ หนึ่งตั้งภาคีตออัลลอฮฺ และสาบาน ตอสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ พวกเขาก็ไมมีการเคลื่อนไหวตอตาน เพราะวา เขาไมรูเรื่องหลักศรัทธาและไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับศาสนา ทุกเรื่องสําหรับ เขาเทาเทียมกัน พี่นองครับ พวกเขาเหลานั้นก็ไมตรงกับซุนนะฮฺ บรรดาพวกที่เลย เถิดก็จะไมอยูบนทางนําของทานนบี  และบรรดาพวกที่ทํามักงายและ ละเลยก็จะไมอยูบนทางนําของทานนบี  แต ผูที่อยูบนทางนํานี้ก็คือผูที่ อยู ส ายกลาง นี่ คื อ เอกลั ก ษณ ข องประชาชาติ นี้ คื อ อยู ร ะหว างการ เครงครัดเกินไปและการละเลย อยูบนทางสายกลาง ดังที่พระผูอภิบาล ไดตรัสวา BA@?>=<;:﴿ (١٤٣ :‫ ﴾ )اﻟﺒﻘﺮة‬F E D C

ความวา เฉกเชนเดียวกัน เราไดทรงใหพวกเจาเปน ประชาชาติที่มี

ดุลยภาพ เพื่อพวกเจาจะไดเปน สักขีพยานแกม วลมนุษยทั้งหลาย โดยที่เราะซูล (มุหัมมัด) จะเปนสักขีพยานแกพวกเจา 44


�.........................................................................................���>>> ���

การเปนสักขีพยานตอมนุษย หมายถึง การประเมินการปฏิบัติของ มนุษย ลัก ษณะพิเศษที่ยิ่งใหญนี้ อัล ลอฮฺ ไดประทานแกประชาชาติสาย กลาง พวกเขาเปนสักขีพยานตอมนุษย พวกเขาสามารถกลาวไดวา คนนี้ เลยเถิด ไดออกจากเสนทางแลว คนนี้มักงายไดออกจากเสนทาง พวกเขา เหลานั้นคือผูที่อยูในแนวทางนี้ อัลลอฮฺ � ทรงใหพวกเขาตัดสินมนุษยได แตวามนุษยนั้นไมใหคณ ุ คากับสิ่งเทาที่ควร ทําไมเลา ? เพราะวา พวกเขา ไมรูจักคุณคาของการเปนสักขีพยานตอมนุษย อาทิเชน ทานนําเด็กคนหนึ่ง จากถนนและตั้งใหเขาติดสินระหวางคน 2 คนที่มีปญหา ปญญาชนจะไม เขาใจอะไรเลย ตัวทานไดแตงตั้งเด็กคนนั้นในตําแหนงทิ่ย่งิใหญ แตวาเขา นั้นไมรู ดังเชน มนุษยบางคนที่อยูในตําแหนงที่ย่งิ ใหญของประชาชาติ แต วาเขานั้นไมรู นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชาติอิสลาม ณ เวลานี้ อัลลอฮฺ � ไดทรงใหประชาชาติอิสลามอยูในฐานะทิ่ยิ่งใหญ แตประชาชาติอิสลามไมรู คุณคาของฐานะนี้ มนุ ษยทั้งหลายจึงไดปฏิบั ติตามพวกยิวและคริสเตียน สติปญญาของพวกเขาอยูที่ไหน ? อัลลอฮฺ � ทรงประทานลักษณะพิเศษนี้แกพวกเราเพื่อใหพวกเรา ตัดสินผูที่เลยเถิดวาพวกเขาเปนผูที่เลยเถิด เพราะเหตุดังกลาว มุสลิมใน สมัยแรกๆ ไดตัดสินตอผูที่ทําบิดอะฮฺ พวกเขามีความเห็นที่ชัดเจน บรรพชนรุน แรกๆ นั้น ไดห า มไม ใหเข าหาสมาคมกั บ พวกทํ าบิ ด อะฮฺเหลา นั้ น เพราะเหตุใดละ ? เพราะวาพวกเขารูวา อัลลอฮฺ � ทรงใหพวกเขาเป น ประชาชาติสายกลางซึ่งจะตองตัดสินและประเมิน อาทิเชน อิมามอะหฺมัด อิบนุฮนั บัล กลาววา “ทานทั้งหลายอยานั่งรวมกับชายคนนั้น อยาอยูรวมวงกับชาย คนนั้น” ทานอิ มามมาลิ กไดหามมิใหเขารวมประชุม นั่งฟงเรื่อ งของนักเลา เรื่องและบทเรียนตางๆ ของพวกเขา สิ่งนี้ไรสาระใชไหม? ไมเลย แตพวก เขาไดทําหนาที่ซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงใหพวกเขาเปน สักขีพยานตอมนุษ ย 45


�� ���>>> .........................................................................................

เพื่อที่พวกเขากลาววาคนนี้ถกู ตองและคนนี้ผดิ เพราะวาเมื่อไมมพี ยานและ การพิพากษา เรื่องตางๆ ก็ไรผล อัลลอฮฺ � มิไดทรงกําหนดใหแกหนึ่งคน หรือ สองคน ดังที่เกิ ด ขึ้น กั บศาสนาอื่น แต พ ระองคท รงใหประชาชาตินี้ ทั้งหมดพิพากษา หากประชาชาตินี้ยึดมั่นตอแนวทางของพระองค และผูซึ่ง เป นพยานใหแก พวกเราก็คือ ทานเราะซูล  เปน ผูที่ตัดสินวาคําตั ดสิน ของเรานั้นถูกหรือผิด ลักษณะ ตําแหนงและฐานะทิ่ย่งิ ใหญ หากแตวามัน ไดมาสูกลุมชนที่ไมมเี ห็นคุณคาของมันเทาที่ควรจะไดรบั คําถามยังคงอยูวา เพราะอะไรมนุษยถึงไดหันเหออกจากหนทางที่ ถูกตอง? ทั้งๆ ที่พวกเขาอานอั ลกุ รฺอานทั้งวั นและทั้งคืน และอัลกุรฺอาน ชี้แนะแนวทางแกพวกเขา ดังที่อัลลอฮฺ � ไดตรัสวา (١٧ :‫ ﴾ )اﻟﻘﻤﺮ‬ut s r q p o n﴿

ความวา และแนนอน เราไดทําใหอัลกุรฺอานนั้น งายแก การรําลึก

(การทองจําและการเขาใจ) แลวมีผูใดบางไหมที่จะรําลึก (ถือเปนขอ ตักเตือนและบทเรียน)

และพระองคไดตรัสวา (٢٤ :‫ ﴾ )ﳏﻤﺪ‬h g f e d c b a ﴿

ความวา พวกเขามิไดพิ จ ารณาใครครวญอั ลกุรฺอ านดอกหรือ หรือวาหัวใจของเขามีกุญแจหลายดอกลั่นอยู

หมายถึงวา ผูใดที่ไตรตรองอัลกุรอฺ าน ถึงแมวาเขามีความเขาใจอัน นอยนิด เขาก็จะสามารถเขาใจรวมๆ ได เพราะอะไรมนุษยถึงหลงทางและ ไมยึดลักษณะที่เปนรากฐาน ซึ่งก็คือความดุลยภาพเลา ? ผูที่สังเกตจะเห็น วา มี ส ภาพที่ ไมดี เกิ ด ขึ้ น ซึ่ งศั ต รู ข องอิ ส ลามได ทุ ม เทความพยายามอั น 46


�.........................................................................................���>>> ���

ยาวนานที่จะใหมีขึ้นมา ผูคนไมสามารถที่จะปฏิสัมพันธกับสิง่ นี้ ดังนั้น พวก เขาจึงเลยเถิดในศาสนา สิ่งนี้ไมใชขออางสําหรับพวกเขา เพราะวาสภาพ อั น ขื่ น ขมที่ เ กิ ด ขึ้ น ไม อ าจเยี ย วยารั ก ษาได ด ว ยอารมณ ค วามรู สึ ก ได ดังกลาวนั้น ในขณะที่ทานเปนกอฎี (ผูพิพากษา) ทานไมสามารถที่จะตัดสิน โดยใช อ ารมณ ไ ด ท า นจะไม ตั ด สิ น นอกจากว า ท า นจะมี ห ลั ก ฐานที่ สติ ปญ ญายอมรับ ได นี่ คือ สิ่ งที่ ประชาชาตินี้ควรจะเป น ใชครับ แท จริง สภาพที่เกิดขึ้นนี้ไมดี แต เราตองรับมือดวยวิธีตรงกันขาม นั่นคือ การเลย เถิดกระนั้นหรือ? ไมครับ แตตนเหตุที่ใหญกวา – ในมุมมองของผม- คือ การไมรูในเรื่องศาสนาที่ถูกตอง มีผคู นกลาววา สภาพใดเลาที่พวกเขาไมรเู กี่ยวกับศาสนาทั้งๆ ที่เขา เปนผูบรรยาย เปนนักพูด เปนเคาะฏีบ และพวกเขาตางก็เขียนหนังสือและ วารสาร? ผมวา สิ่งนี้เปนการคิดดีตอพวกเขา เพราะหากเรากลาววาพวก เขารูแ ล วยั งหั น เหออกจากความรู แน น อนมั น จะกลายเป น เรื่ อ งใหญ หากแตวาพวกเราคิดดีวา สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเพราะความโงเขลาของ พวกเขาในเรื่องของศาสนา หากเรายอ นกลั บไปเล็ ก น อ ย เราจะกล าวอยา งไรกับ สติป ญ ญา ของอิบนุซีนา อัรรอซี อิบนุอัลฟาริฎ หรืออิบนุอะรอบี ? เมื่อทานไดอาน หนังสือตางๆของพวกเขา ปรากฏวาพวกเขาคือ อัจฉริยะ หากแตวา ทาน นําคํากลาวของพวกเขาแลวนําเสนอใหกั บหญิงแกคนหนึ่งที่รวมสมัยกั บ พวกเขา นางไมเขาใจสักอยางเลย และจะกลาววา คนบาเทานั้นที่จะกลาว สิ่งนี้ วาพระผูอภิบาลและมนุษยนั้นเปนหนึ่งเดียว !!! ไมถูกตอง เพราะวา ความเขาใจในเรื่องของศาสนานั้นเปนการประทานจากอัลลอฮฺ � ถาหากเรากลั บไปยังพวกที่ขึ้นไปถึงบนดวงจัน ทร และพวกเขาได สรางทุกๆ สิ่งที่เราเห็น ทานจะพบวาสติปญญาของพวกเขานั้นดอยกวา 47


�� ���>>> .........................................................................................

สติปญญาของสัตวเดรัจฉานเสียอีกในเรื่องของการปฏิสัมพันธกัน ประเทศ ญี่ปุน ณ เวลานี้นับเปนสุดยอดของความเจริญกาวหนา ทานจะพบวาคน หนึ่งในพวกเขาเมื่อเสร็จสิ้นจากการทํ างาน เขาจะไปหาพระพุทธรูปและ กราบไหวมัน !! สติปญ ญาของผูคนเหลานี้อยูที่ไหน ?! เราจะนึกภาพได อยางไรวาผูที่มีสติปญญาที่เปนอัจฉริยะซึง่ ไดสรางทุกๆ สิ่งในโลกดุนยา ใน ตอนเย็นเขาจะไปทีห่ ินแลวกมและกราบไหวมนั ! นี่คือ คนบาใชไหม? ไม ขอ สาบานดวยนามของอัลลอฮฺ � วาเขามีสติปญญา แตเขาอยูบนหนทางที่ ผิดพลาด พี่นอ งครั บ พวกเราอยาคิด วา การที่เรามีความรูดอ ยกวาใครคน หนึ่ง หนทางของคนนั้นจะถูกเสมอไป ไมครับ ดังที่ทานอาลี  ไดกลาววา (จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรมนั้น) สัจธรรมนั้นจะไมถูกวัด และประเมินโดยมนุษย แตวามนุษยนั้นแหละจะถูกวัดและประเมินดวยสัจ ธรรม และความไมรูในเรื่องของศาสนาเปนสิ่งที่ทําใหมนุษยเปนอยางที่เปน ขณะนี้ ทานไดฟงเขาบรรยาย ๑๐ ชั่วโมง และเขียนหนังสือตางๆ หากแต วา เขาเป น ผู ที่ โ ง เขลาในเรื่ อ งรากฐานของศาสนา เพราะเหตุ ใดเล า ? เพราะวาปญหานี้ แทจริงศาสนานั้นดํารงอยูบนการมอบตนตออัลลอฮฺ � และดํารงอยูบนการปฏิบัติตามทานเราะซูล  บางครั้งเขาไดทําใหศาสนา ดํารงอยูบนสิ่งที่เขาไปในสมองของเขาเทานั้น !! เพราะเหตุดังกลาว เมื่ออา ยะฮฺและหลักฐานขัดกับสติปญญาของเขา เขาก็จะตีความและมวนมันไป ทางขวาและซาย เพราะวาเขาทําใหสติปญญาของเขาซึ่งเขาคิดวามันคือ ความชาญฉลาดอันยิ่งใหญในการเขาใจตัวบทตางๆ บางคนจากบรรดามุ ฟ ตี แ ละนั ก วิ นิ จ ฉั ย บทบั ญ ญั ติ อิ ส ลาม แมกระทั่งการพิพากษาดวยสิ่งนอกเหนือจากที่อัลลอฮฺ � ไดประทานมา พวกเขาก็ยงั นําหลักฐานมากลาววา กระทําได เราจะอธิบายสิ่งนี้อยางไร? 48


�.........................................................................................���>>> ���

เราบอกไดเต็มปากวา ทั้งหมดนี้เปนการไมรูในเรื่องของศาสนา ดังทีผ่ มเคย กลาววา หากเราคิด ในสิ่งที่ดีแลว ในขณะที่ทานเราะซูล  ไดกล าวกั บ หญิงสาวนางหนึ่งวา อัล ลอฮฺอยู ที่ไหน? เขาจะกลาวแกทานวา ไมหรอก ทานเราะซูล  มิไดหมายถึงเชนนั้น แตทานไดถามเทาเทียมกับสติปญญา ของนาง ! นั่นก็คือ ทานหยอกลอนาง !! พี่นองครับ จนกวาเราจะออกจากความโงเขลานี้ เราไมมีแนวทางใด นอกจากเราจะตองศึกษารากฐานอันยิ่งใหญ กลาวคือ เราตระหนักวาเรา คื อ บ า วของอั ล ลอฮฺ � และความหมายของการเป น บ า วนั้ น เราไม สามารถที่ จ ะเข าใจศาสนาหรือ นํ า เอาศาสนามาปฏิบั ติ นั้น เวน แตตอ ง ปฏิ บั ติ ต ามที่บ รรพชนรุน กอนได ปฏิบั ติ ม าแลว นี่คือทางออกจากความ พินาศซึ่งเรากําลังอยู หากพวกเราคนหาไปทางขวาหรือซายและรวบรวม บรรดาผูอ ัจฉริยะบนโลกนี้ เราจะไมมีขอสรุปใดๆ เลย แตเราจะมีขอสรุปก็ ตอเมื่อพวกเราไดมอบหมายเรื่องตางๆ แกอัลลอฮฺ � เราก็กลายเปนดังที่ อัรรอซีย ไดกลาววา (ผมปรารถนาที่จะไดตายบนศาสนาของคนเฒาคนแก) เพราะอะไรละ? เพราะวาการเขาใจศาสนาของคนเฒาคนแก รากฐานเดิม คือ การมอบตน พี่นองครับ รากฐานของศาสนานี้ก็คือการมอบตน เมื่อ เราไดมอบตนตออัลลอฮฺ � เราศรัทธาตอพระองคและเชื่อฟงพระองคใน เรื่องศาสนา ในเรื่องที่มีมาจากอัลลอฮฺ � และเราะซูล  ชีวิตของเราก็ จะไดปลื้ มปติยินดี และเราจะไดอยูบนหนทางนี้ซึ่งไม ใชพวกเคร งศาสนา และไมใชพวกที่สะเพราและละเลย เพราะวานี่คือศาสนาของอัลลอฮฺ � และพวกเราเปนบาว อยางไรก็ตาม พวกเราก็ตอ งคิดในสิ่งที่ดี พวกทานไม เห็นหรือวา หากคนๆ หนึ่งถือศีลอดตอเนื่องถึงกลางคืนอยางขยันขันแข็ง โดยที่ เขาต อ งการความดี แต เขากลั บ เป น ผู ที่ ทํ า บาป! เพราะอะไร? 49


�� ���>>> .........................................................................................

เพราะวาเขาผิดทาง ความโงเขลาในเรื่องของศาสนาจะดึงและชักจูงมนุษย) ไปสูบิดอะฮฺไดงายๆ จนทําใหบิดอะฮฺและซุนนะฮฺเทาเทียมกันในทัศนะของ พวกเขา ทุกสิ่งทีท่ านกลาวกับเขาวา มันเปนบิดอะฮฺ เขาจะกลาววา พี่นอง ครับ ไม เปน ไรหรอก สิ่งนี้ทํา ใหจิตใจของผูคนสนิท สนมกัน สวนผูคนใน เวลานี้ไดหลงผิด ทานกลาวกับเขาวา พี่นองครับ ทานอยาฟงอนาซีดเลย เขาจะกลาววา มันดีกวาการฟงเพลง ! ทานกลาวกับเขาวา ทําไมทานถึง จัด งานวัน เกิ ด ในบา นของทาน ? เขาจะกลาววา เป น เรื่อ งที่ใหคนอื่น พึง พอใจ ! ผมจะกลาววา เรื่องของเราจะไมลดหยอนศาสนาเพื่อสอดคลอง กับผูคน แตกิจการของเราคือการที่เรายกมนุษยทั้งหมดเพื่อที่จะใหพวกเขา นั้นเดินอยูในขบวนของอัลลอฮฺ � นี่คือหนาที่ของศาสนา และหนาที่ของ ศาสนาคือ นํามนุษยที่กระจัดกระจายนั้นมาและรวมพวกเขาใหอยูบนทาง เดียวกัน เพราะเหตุ นี้ ประชาชาตินี้ไมส ามารถที่จะรวมตัว กั นไดและไม สามารถเดินอยูบนทางเดียวกั นได นอกจากเมื่อ ประชาชาตินี้เดิน อยูบน แนวทางของอัลลอฮฺ � ไมวาหนทาง สังกัด หลักการศรัทธาหรือสิ่งใดๆ ไมสามารถรวมเราได แตประชาชาตินี้จะตองเดินอยูบนแนวทางของทาน นบี  เพราะวาอัลลอฮฺ � ทรงดํารัสวา (٣١ :‫ ﴾ )آل ﻋﻤﺮان‬E D C B A @ ? >﴿

ความวา จงกลาวเถิด (มุฮัมมัด) วา หากพวกเจารักอัลลอฮฺ ก็จง ปฏิบัติตามฉันแนนอน อัลลอฮฺ ก็จะทรงรักพวกเจา

นี่แหละ คือหนทาง และพระองคยงั ไดดํารัสอีกวา º ¹ ¸ ¶ µ ´ ³ ² ± ° ¯ ® ¬﴿ (٦٥ :‫﴾ )اﻟﻨﺴﺎء‬ÁÀ ¿ ¾ ½ ¼ »

50


�.........................................................................................���>>> ���

ความวา มิใชเชนนั้นดอก ขอสาบานตอพระผูอภิบาลของเจาวา

เขาเหล านั้ น จะยั ง ไม ศ รัท ธาจนกว าพวกเขาจะใหเจาตัด สิน ในสิ่ง ที่ ขัดแยงระหวางพวกเขา แลวพวกเขาก็ (เห็นชอบ) ไมรูสึกคับอกคับ ใจใดๆ ในจิตใจของพวกเขาจากสิ่งที่เจาไดตัดสินไป และพวกเขาก็ ยอมจํานนดวยดี เพราะดังกลาวนั้น มีนักคิดมุสลิมคนหนึ่งไดกลาววา เคราะหกรรม หากเราทั้งหมดเขารับอิสลามและปรารถนาที่จะเขาใจอัลกุรฺอานโดยที่ใน สมองของเรามี ข อ มู ล ตา งๆ นานา และเราประสงค ที่ จะปรั บ ตั ว บทให ถู ก ต อ ง และสิ่ ง ที่ ดี ที่ สุ ด การที่ เ ราจะปรั บ สิ่ ง ที่ มี อ ยู ใ นสติ ป ญ ญาของเราให สอดคลองกับตัวบท

สิ่งนี้ที่ทําใหผูคนเสียหาย ณ เวลานี้ ในสมองของพวกเขามีขอมูล และหลายสิ่งหลายอยางซึ่งไดรับมรดกตกทอด ซึ่งพวกเขาตองการที่จะ บังคับใหศาสนาสอดคลองกับสิ่งดังกลาว ตรงกันขามกันเปนสิ่งที่ถูกตอง คือ เราตองละทิ้งสิ่งที่มีอยูในจิตใจและสมองของเราแลวเราก็เดินอยูบน แนวทางที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค พี่นองทั้งหลายครับ ดังนั้น ทางออกของเราก็คือการเขาใจอิสลาม และการสถาปนาอาณาจักรอิสลามดวยการเขาใจอิสลาม กลาวคือ การ กลับไปสูชนรุนแรก อิมามอะหฺมัด อิมามชาฟอีย และผูที่มากอนและหลัง พวกเขาจากบรรดาผูนําที่ไดรับทางนําดํารงอยู หากเราเดินอยูบนแนวทาง นี้เราก็จะถึง และถาหากวาเราตามอิบ นุซีนา อัรรอซี อัล ฆอซาลีย หรื อ ผูใดในบรรดาผูคนและสังกัดตางๆ เราก็จะไปถึงฝงอยางแนนอน ยิ่งไป กวานั้นจะทําใหพวกเรายังคงเปนประชาชาติที่เสียหายอยู จนกระทั่งหาก มีคนหนึ่งจะตัดสินดวยนามแหงอิสลาม แตเขาไมสามารถตัดสินดวยนาม แหงอิสลามซึ่งอัลลอฮฺ � ทรงตองการได เพราะอะไร? เพราะเขาจะ 51


�� ���>>> .........................................................................................

ตัด สินตามสัง กัด และแนวทางตางๆ ที่มีอยูกับ เขา แท จ ริงผู ที่จะตั ด สิ น พวกเจาดวยกับอิสลามที่ถูกตองคือ ผูที่เชิญ ชวนไปสูอิสลามของบรรดา เศาะหาบะฮฺและตาบีอนี สํา หรับ ผู ที่ เรีย กรอ งเชิญ ชวนการตั ด สิ น ซึ่ ง ต องการให อิ ส ลาม พิพ ากษา เรากลา วแกพ วกเขาว า หากพวกท านต องการอิ ส ลามของ มุ หั ม มั ด บุ ต รของอั บ ดุ ล ลอฮฺ  พวกทานจงทํ าความรู จัก ท าน เป น อันดับแรก แลวสอนใหมนุษยรูจักทาน และจงเครงครัดในการปฏิบัติตาม ทาน หลังจากนั้นก็ตัด สินดวยสิ่ง นั้น สวนเมื่อเราต องการการพิ พากษา ดวยอิสลามเปนเพียงเอกลักษณเทานั้น สิ่งนี้ทีแหละที่ป ระชาชาติไดรับ อีกไมชา ประเทศเหลานี้ไดยกเลิกกฎหมายและระเบียบการ เปลี่ยนจาก รูป แบบทุนนิยมและคอมมิว นิสตสูอิส ลาม แตมิใชอิ ส ลามที่ อัล ลอฮฺ� ทรงประสงค แตทวา เปน อิสลาม ตามที่พวกเขาตองการ ดวยเหตุนี้ พี่นองทั้ง หลายครับ เราขอกล าววา จํ าเป นที่ จ ะเผย อิสลามใหแกผูคนซึ่งเปนอิสลามที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค มิใชอิสลามที่ เสียหายและหลงลืมซึ่งแพรกระจายในตะวันตก ณ ขณะนี้ เราจําเปนตอง ทําใหมนุษยทราบเกี่ยวกับอิสลามแบบบรรพชนรุนแรก ซึ่งเปนอิสลามใน รูปแบบของบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตาบิอีน ตาบิอฺตาบิ อีน และบรรดาผูนํา ที่ ดําเนินตามทางนํา หากเราสามารถปฏิบัติเชนนี้ เราก็ไดทําใหอิสลามเผย เดน สิ่งนี้ค วรใหโลกเกิดขึ้นเนื่องดวยสิ่งนี้ และนี่ แหละ สิ่งที่ควรปฏิบั ติ สําหรับผูที่อยูในหลักการศรัทธา ผูใดที่เฉลียวฉลาดในเรื่องหลักศรัทธาให เผยเดนตอหนาผูคนทั้งหลาย เพราะเราเปนสักขี พยาน แลวเราก็จะถู ก สอบสวนตอหนาอัลลอฮฺ � พึงเตรียมคําตอบแลวกัน

52


�.........................................................................................���>>> ���

ประกายความคิดที่

4

เราจะเริ่มดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺจากจุดไหนดี ในหนากระดาษนี้ ผมพยายามที่จะอธิบายเรื่องที่สําคัญซึ่งผมเห็นวา มันจําเปนที่ตองชี้แจงและพูดถึงรายละเอียดของมัน เพื่อวาเราจะกลับไป พบกั บอัล ลอฮฺ � บนแนวทางที่ชัด เจน จนกวาอัลลอฮฺ � ทรงชี้นํ าเรา เผื่อวาเราจะไดรับใชพระองคในฐานะเราเปนบาวที่ดีและเปนนักเผยแผใน การเชิด ชูคํากล าว “ไม มีพระเจาอื่น ใดที่ค วรแกการกราบไหว ที่แทจริงนอกจาก อัลลอฮฺ และมุฮัมมัดนั้นเปนเราะซูลของอัลลอฮฺ” ประเด็นนี้ คือ เราจะเชิญชวนสูอิสลามไดอยางไร การดําเนินภารกิจ การเชิ ญ ชวนไปสูอิ ส ลามนั้น ในรู ปแบบป จเจกบุคคลหรือ วามัน เปน การ กระทําแบบกลุม เราจะเริ่ม ด ว ยการด า ทอว า บรรดาผูที่ ให ค วามสํา คัญ กับโลกดุนยา หรือไม? หรือวาเริ่มดวยการดาทอการปฏิเสธศรัทธาและพวกที่ปฏิเสธศรัทธา ในอัลลอฮฺ � ? เราเริ่มดวยการเดินประทวงและสรางความวุนวายใชไหม หรือ วาเราเริ่ ม ด วยการอ า นอั ล กุ รฺ อ านและไตร ตรองอายะฮฺตา งๆ ของอัลกุรฺอาน เราจะทําใหอิสลามอยูแนวหนาในพื้นที่แหงนี้ไดอยางไร

53


�� ���>>> .........................................................................................

และบรรดาผูที่ไมชอบหรือแสรงทําวาไม ตองการอิสลาม จริงๆ แลว พวกเขาเหลานั้นไมไดนบั ถือศาสนาเพื่ออัลลอฮฺ � หรือแคเปนเรื่องคลุมเครือ ที่เกิดขึ้นในสนามแหงการทํางานเพื่ออิสลาม

ณ เวลานี้ เอกลักษณตางๆนั้นมีมากมาย ไมวาจะเปนเอกลักษณ ตางๆ เพื่อการเชิดชูการญิฮาด เอกลักษณตางๆ ในการปฏิปกษกับบรรดา ชัยฏอนและสมุนของมัน เอกลักษณตางๆในการกอการปฏิวัติและปฏิรูป สิ่งนี้เปนที่ปรากฏขึ้นในบรรดามุสลิม ณ ปจ จุบัน! สิ่งตรงขามกั นนั้นก็ มี ปรากฏใหเห็นเชนกัน อาทิ เอกลักษณและสัญญานแหงการหลีกหนีจาก สภาพเปนจริง พวกเขาตางกลาววา พวกเราไมเกี่ยวของกับเรื่องนี้ เรา เพียงพอกับการละหมาดและอิบาดะฮฺของพวกเรา! สัจธรรมในเรื่องนี้อยู ที่ ไ หน เป น เรื่ อ งสั จ ธรรมใช ไหมที่ ค วามโง เขลาและความต่ํ า ช า ของ ประชาชนทั่วไปที่แสดงใหเห็นดวยคําเทศนาทั่วไปและคําด าทอบนแท น มิน บั รฺ หรือ วา สัจ ธรรมอยูกั บ ผู ที่ ล ะหมาด ถื อ ศี ล อดและจ ายซะกาฮฺ หลังจากนั้นก็ไมสนใจและรูสึกเดือดรอนวาโลกจะดีหรือจะราย โดยยึดบน หลักการความเขาใจที่ผิดพลาดในพระดํารัสของอัลลอฮฺ � วา (١٠٥ :‫ ﴾ )اﳌﺎﺋﺪة‬F E D C B A @ ? > ﴿

ความวา พวกเจ าจงปกป องตั วของพวกเจ าเถิ ด (จากการฝ าฝ น บัญ ญั ติ ของอั ลลอฮฺ ) ผู ที่ ห ลงผิ ด จะไม ทํ า ให พ วกเจ า เดือ ดรอ น

พวกเจาไดรับทางนําแลว

เมื่อ

ไมตองสงสัยเลยวา ประเด็นนี้จําเปนตองมีการอธิบายรายละเอียด กั น อย า งยืด ยาว และการสานเสวนาอี ก หลายต อ หลายครั้ ง แต ผ มจะ พยายามทําใหมันงายที่สุ ดเทาที่ผมสามารถจะทํ าได และจะพยายามยก แนวคิดตางๆ ใหเห็นชัดมากขึ้น 54


�.........................................................................................���>>> ���

พวกเราทราบแลววาภารกิจ ดะอฺว ะฮฺนี้ -ดังที่ ผมพูดมาหลายครั้ ง แลววา- เปนอิบาดะฮฺ ไมตางกับการละหมาด การถือศีลอด การประกอบ พิธีหัจญ มัน มี ขอบเขตและหลั ก เกณฑ ตางๆ และเราทราบมาตลอดวา สังคมอิสลาม ณ เวลานี้นั้นไดหางไกลจากศาสนาของอัลลอฮฺ � ในเรื่อง ตางๆ มากมาย และที่สําคั ญที่สุด คือ การมอบหมายตนตออัลลอฮฺ � อยางสิ้นเชิง มนุ ษย ณ เวลานี้ แมกระทั่งผูที่ทําการละหมาดก็ออนแอใน เรื่องของการมอบตนตออัลลอฮฺ �อยางสิ้นเชิง สวนสามัญชนทั่วไป เมื่อมี สิ่งหนึ่งจากอัลลอฮฺ � พวกเขาจะกลาวกันวา พวกเราไมสามารถทําสิ่ง ดังกลาวนี้ได ไมไดห รอกสิ่งนี้มันยาก สิ่ งนี้มันเปน เรื่องเกินเหตุในศาสนา พวกเขาไมมีการมอบตนตออัลลอฮฺ � . -, +* )('&%$#" !﴿ (٣٦ :‫ ﴾ )اﻷﺣﺰاب‬1 0 /

ความวา ไมบังควรแกผูศรัทธาทั้งชายและหญิง เมื่ออัลลอฮฺและเราะซูล ของพระองคไดใชใหกระทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดแลว จะมีทางเลือกสําหรับพวก เขาจากกิจการของพวกเขาเอง (แตพวกเขาจะตองยอมจํานนโดยดุษฏี)

สําหรับสามัญชนทั่วไปและมุสลิมสวนใหญ ไมไดปฏิบัตกิ ับอายะฮฺนี้ ไมไดหมายความวาพวกเขาปฏิเสธอายะฮฺนี้ ไมใชแนนอน แตวา พวกเขาได หางไกลจากสภาพความเปนจริงที่เกิดขึน้ กับพวกเขาและทําตัวของพวกเขา ใหหางไกลจากการเขาใจคัมภีรของอัลลอฮฺ � และศาสนาของพระองค ดวยเหตุดังกลาวนี้ ทานจะพบวามนุษยนั้นเคารพสักการะตออัลลอฮฺ � ไมส อดคลอ งกั บที่อั ล ลอฮฺ � ทรงประสงค แตมัน เหมือ นกับ ที่พวกเขา ตองการเทานั้น สิ่งนี้เกิดขึ้นกับมนุษยสวนใหญ เมื่อกลุมนักวิชาการและนัก อานอัลกุรฺอานไดเขารวมพรอมกับพวกเขา ทานจะพบเขากลาววา สํานัก 55


�� ���>>> .........................................................................................

คิดทางบทบัญญัติในอิสลาม และอิสลามนั้นดั่งทะเลกวาง สามารถรองรับ ไดทุกสิ่ง จากสิ่งดังกลาวนี้ ทานจะเห็นวานักคิดที่มีชื่อเสียงบางคน มีความ คิดเห็นในหนังสือของเขาวา เมื่อเราไปที่กลุมประเทศตะวันตก เราจะพบวา ผูหญิงตะวันตกนั้นมีคา พวกนางสามารถทํางานเลี้ยงตนเองได ทําสัญญา ดว ยกั บตั ว เองได ฯลฯ และคํ า พู ด เกี่ ยวกั บ สิ ท ธิเสรีภ าพของสตรีที่ มี ใน ตะวันตก เขากลาววา เมื่อเราไดดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺที่โนน เราไมจําเปน ที่ตองนําทัศนะของอิมามอะหฺมัดและอิมามมาลิก ในเมื่อพวกเรามีทัศนะ ของ อบูหะนีฟะฮฺ หรือคนอื่นๆ ที่สอดคลองกับสภาพเปนจริงของพวกเขา!! ความหมายว า พวกเราได เชิ ด ชู อิ ส ลามที่ ส อดคล อ งกั บ สั งคม ปจจุบันและ ณ เวลานี้ จนบานปลายถึงสังคมมุสลิมจนกระทั่งกลายเปนวา เราคนหาอิสลามที่สอดคลองกับสังคมตะวันตกที่บิดเบือนนี้ ดังนั้น นี่คือ สภาพความเปนจริงของมนุษย และนี่คือบทสรุปของมัน พวกเรามีรากฐานหลัก มันเปนเมล็ดพันธ นั่นคือ ครอบครัว และ ปจ เจกบุคคล แตละคนนั้นเปนบาวของตัวเองหรือเปนบาวของอัลลอฮฺ � ? นี่คือแกนแทของประเด็นปญ หา มันไมใชแกนแทของประเด็นในวันนี้วา จะสถาปนาบทลงโทษ (หุดูด) หรือไม? ผูหญิงเปนผูพิพากษาไดไหม หรือวา ผูชายจะเปนผูพิพากษา? ประเด็นหลักตอนนี้ไมใชอยูที่วารัฐมนตรีคนไหน โกงหรือไมโกง? สิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพออกมาในรูปแบบใด? สิ่งที่ กลาวมาทั้งหมดนีแ้ คผลพวงตามมาเทานั้น แตทวา แกนแทของประเด็น ณ เวลานี้ คือ อัล ลอฮฺ � เป น ที่เคารพสั ก การะดั งที่ พระองคทรงประสงค หรือไม หรือแคตามที่พวกเขาตองการเทานั้น? ดังนั้น ในเริ่มแรกจะเริ่ม ที่ ปจเจกบุ คคล ไมตอ งสนใจวาคนนี้เปน เศรษฐี นายกรัฐมนตรี สามัญ ชน ธรรมดา หรือโจร นี่แหละคือแนวทางที่ทานนบี  ไดปฏิบัติในมักกะฮฺกับ 56


�.........................................................................................���>>> ���

พวกกุรอยชฺ พวกเราไมเคยไดยินทานพูดบนมิน บัรวฺ า พวกทานเปนขโมย พวกทานยัดยอกทรัพยสินของมนุษยในทางมิชอบ พวกทานเปนอยางนั้น! พวกเราไมเคยไดยิน สิ่งนี้เลย แตทานไดเริ่ม ดวยแตล ะคนในฐานะมนุษ ย ทานมาหาคนๆ หนึ่งแลวสอนเขาเกี่ยวกับการเคารพสักการะอัลลอฮฺ � เมื่อคนๆ นั้นไดเรียนรูแลว เขาก็จะไปสอนครอบครัวของเขา ดังนั้นจากแต ละคนกลายเปนครอบครัว แลวครอบครัวกลายเปนประชาชาติ ดังนั้น พวกเราจะมี 2 แนวทางดวยกันคือ แนวทางที่ 1 ซึ่งเรากํ าลั งเผชิญ อยู ณ ตอนนี้ ในโลกมุสลิ มซึ่งสิ่งที่ พวกเขาใหนามวา “การทําใหประชาชาติเปนอิสลาม” หมายความวา ทําให รัฐบาล กฎหมาย ระบบตางๆ และทุกสิ่งทุกอยางเปนอิสลาม แต อิสลามที่ พูดถึงนี้จะถูกวางในรูปแบบอยางไร พวกเขาเองก็ไมทราบ อะไรคือ บรรทัด ฐานและกรอบของการใหเปนอิสลาม สิ่งนี้ก็ไมเปนที่ทราบกัน!! เราขอกลา ววา แนวทางที่ ถู ก ตอ ง เราต อ งเริ่ม ที่ ครอบครัว และ ปจเจกบุคคล อบรมสั่งสอนพวกเขาบนพื้นฐาน “ไมมีพระเจาอื่นใดที่ควรแกการ สักการะเวนแตอัลลอฮฺ” และไมกราบไหวสักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺ � และอบรมสั่งสอนครอบครั วของเขาบนพื้ นฐานดังกลาว เฉกเชนนี้แหละ โลกก็ จ ะเริ่ ม ขึ้ น เมื่ อ พวกเขารั บ รูถึ งสิ ท ธิ์ แ หง การกราบไหว สัก การะที่ สมบูรณนั้น (อุบูดียะฮฺ) เปนกรรมสิทธิ์แดอัลลอฮฺ � และพวกเขาตางรับรู ว าไม มี สิ่ งที่ ค วรแก ก ารสั ก การะเว น แต อั ล ลอฮฺ อ งค เดี ยว ไม มี ผู ส รา ง ผู ประทานปจจัยยังชีพนอกจากอัลลอฮฺ เปนตน ณ ขณะนั้น มนุษยเหลานั้นก็ จะเปนดั่งเมล็ดพันธแรกที่ปฏิบัติศาสนาของอัลลอฮฺ � ดังเชนบรรดาเศาะ หาบะฮฺ พวกเขากอนหนานี้ไมเคยเปนมนุษยที่พิเศษเลย หลังจากนั้น พวก เขาก็รวมกลุมคนจํานวนหนึ่งจากชนชั้นตางๆ ของสังคม ไมวาจะเปนผูใหญ 57


�� ���>>> .........................................................................................

หรือเด็ก บาวหรืออิสรชน แลวรวมตัวเปนกลุมชนกลายเปนประชาติขึ้นมา จนกระทั่งไดจัดกองทัพที่สามารถพิชิตโลกและเผยแผศาสนานี้ ดังนั้น ขั้นแรกเริ่ม จากตัวของพวกเราเองกอน พวกเราตองศึกษา อิสลาม และทุกคนผลักตัวเองและบุคคลรอบๆ ตัวใหปลอดพนจากไฟนรก นี่คือ เปาหมายที่ย่ิงใหญ เพราะเหตุใดพวกเราถึงพยายามดําเนินภารกิจ ดะอฺวะฮฺไปสูอัลลอฮฺ � เพราะเหตุ ใดพวกเราถึ งพยายามที่จะสถาปนา ปฏิ บัติใ ชบ ทลงโทษ เพราะเหตุ ใดพวกเราถึ งพยายามดํ า รงไวซึ่งความ ยุ ติ ธ รรม เพราะเหตุ ใ ดพวกเราถึ ง พยายามให ทุ ก คนเคารพสั ก การะ ตออัลลอฮฺ � ก็เพื่อเหตุผลเดียวเทานั้น นั่นคือ การที่พวกเราจะไดรอดพน จากไฟนรก และเปนสาเหตุที่ทําใหพวกเราไดเขาสูสวนสวรรค เมื่อสิ่งนี้ไดฝงลึกในสติปญญาและหัวใจของพวกเราแลว เมื่อนั้นแห ละ เราไม ส นใจวา มนุ ษ ยจ ะพู ด อะไร เพราะวา การคน หาคํา ตอบนั้น ได กลายเปนชีวิตของเราเอง วาสิ่งนี้ทําใหผมเขาใกลอัลลอฮฺ � หนึ่งกาวและ หางไกลจากไฟนรกไหม หรือตรงกันขามกัน ดั ง นั้ น พื้ น ฐานแรกซึ่ ง เราจํ า เป น ที่ ต อ งหมกมุ น อยู กั บ มั น ก็ คื อ ครอบครัว ถาหากเรื่องนี้เปนที่ชัดเจนสําหรับพวกเราแลว ก็ยายไปสูเรื่อง ถั ด ไป และบรรดาผู ที่ ก ล า ววา ไม มี สิ่ ง ใดที่ พ วกเราต อ งเกี่ ย วข อ งด ว ย ความคิดของพวกเขานั้นเปนความคิดที่ผิด เพราะวามนุษยนั้น อยูในความ ลุ ม หลงตราบที่ ไม กํ า ชั บ ให ทํ า ความดี แ ละไม ห า มจากความชั่ ว แต ว า ประชาชาตินี้จะดํารงอยูไดอยางไร บรรดามุสลิมเคยประสบกับเสนทางที่ทําใหพวกเขาหลงทาง ดิ่งตก ลงในเหวลึก พวกเขาไดปฏิบัติตามพวกคอมมิวนิสตและพวกวิญญานนิยม พวกเขาได ขยายเซลลตางๆ อยา งมื ดบอด ไม รูจุด เริ่มและจุด ปลายทาง แนวทางนี้ ถู ก ใช ใ นประเทศมุ ส ลิ ม มั น จึ งทํ า ลายพวกเขา ทํ า ไมล ะ ก็ 58


�.........................................................................................���>>> ���

เพราะวาพวกเขาเหลานั้นเปลี่ยนการตอสูเพื่ออิสลามไปเปนการตอสูแยง ชิงบัล ลังก เพราะเหตุ นี้ เอง พวกเขาไดทํ า ใหป ระเด็น ของพวกเราเลื อ น หายไป ประชาราษฎร ณ เวลานี้เปนกลุมชนที่มีความเตรียมพรอมที่จะนํา บทบัญญัติแหงอัลลอฮฺ � ไปใชหรือไม ผมเห็นวาประชาราษฎรทั้งหลาย ณ เวลานี้ตองไดรับการตัรฺบียะฮฺ (การอบรมบมนิสัยและการขัดเกลาจิตใจสูการเปน บาวที่ภั กดี ตอ อั ล ลอฮฺ องค เดี ย ว) หลั ก ฐานที่ บ ง ชี้สิ่ งดั งกล า ว คื อ พวกเขา สามารถละทิ้งดอกเบี้ยแตไมละทิ้งมัน และคนที่กินดอกเบี้ยสวนใหญเปน คนที่ ล ะหมาด และผู ที่ ก ระทํ า สิ่ งต อ งห า มส ว นมากอยู ใ นหมู บ รรดาผู ละหมาด ดังนั้น ประชาราษฎรจําเปนตองไดรับความรู ความพยายาม และ ความอุตสาหะ ดังนั้น การที่จะเปลี่ยนอิสลามทั้งหมดไปสูอิสลามที่ขัดแยง อยูต ลอดเวลากั บ ฝายปกครองสงผลใหบ รรดามุ ส ลิม เสียเวลาจากการ ตัรฺบียะฮฺ มุส ลิม คนหนึ่งจึ งไมเอาใจใสตอบ าน เพื่อ นบาน ครอบครัว และ บุคคลรอบๆ ตัวเขา ที่จะตองอบรมสั่งสอนพวกเขาบนฐาน “ไมมีพระเจา อื่นใดที่ควรแกการสั กการะเวน แตอั ลลอฮฺ” หากแตวาเขาเอง ณ เวลานี้ กลายเป น คนที่ ไมรูจั ก อิ ส ลามอี ก ต า งหาก ยิ่ งไปกวา นั้ น นัก ดะอฺ วะฮฺ ผู ยิ่งใหญบางคนยังไมรูจักวาอะไรคืออิสลาม ทานอานหนังสือตางๆ ของเขา ทานมั่นใจเลยวาทานผูนี้ไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับอิสลาม บางทีคําพูดนี้แปลก มากๆ แตรากฐานแหงอิสลามนั้นเปนสิ่งที่สมบูรณแบบอยูบนฐานแหงการ เชื่อฟงและภักดี การมอบตน การนอบนอมและการภักดีตออัลลอฮฺ � ไม วาจะสอดคลองกับสติปญญาของพวกเรา หรือขัดแยงก็ตาม นักคิดบางคน ในสมั ยนี้ เห็ น วา พวกเราควรที่ จ ะปฏิ เสธบรรดาหะดี ษ ในตํา ราเศาะฮี หฺ อั ล บุคอรียและมุ ส ลิ ม เพราะมั น ไม ส อดคล อ งกั บสิ่งที่เราคิด ไว!! ดังนั้ น อิสลาม ณ เวลานี้กลายเปนสิ่งซึ่งไมใชเปนการนอบนอมยอมตนตออัลลอฮฺ 59


�� ���>>> .........................................................................................

� อยางสิ้นเชิง แตเปนสิ่งที่ตองสอดคลองกับสติปญญาและอารมณใฝต่ํา ของพวกเรา คนประเภทนี้มีม ากในบรรดาป ญ ญาชน ยิ่ งไปกวานั้ น จาก บรรดาผูรทู ั้งหลาย แลวสามัญชนทั่วไปเลา จะเปนเชนไร ปรากฏการณ ที่ พ บเห็ น ทั่ ว ไปเฉกเช น นี้ และการสอดแทรกที่ สลับซับซอนในขบวนการตางๆ ทําใหโอกาสทางการตัรฺบียะฮฺที่จะตองมีตอ บรรดามุสลิมลดเลือนหางหายไป สิ่งที่ทําใหเราหมกมุนอยู ไมใชการพัฒนา ใหเขาใจอิสลาม และไมใชการตัรฺบียะฮฺบนพื้น ฐานแหงอิสลามในการผลิต เยาวชนทีห่ วงแหนและรักอัลอิสลาม ทานทั้งหลาย ลองคํานวณดูวา กลุมเคลื่อนไหวที่ทํางานเพื่ออิสลาม ไดทุมเทและเสียสละทั้งดานวัตถุและทรัพยากรมนุษยมากนอยแคไหน ซึ่ง ไดแลกเปลี่ยนกับความวางเปลาและไรคา ทําไมละ เพราะวา รากฐานแรก ของศาสนา คือ การตั กเตื อ นกั น ไมใชก ารหลอกลวงกัน แมก ระทั่งการ บรรลุถึงการนําบทบัญ ญั ติ อิส ลามในการปกครองจะไมเกิดขึ้นนอกจาก ดวยการตักเตือนกัน ไมใชดวยการหลอกลวงกัน ดังนั้ น สิ่ งที่ ทํ า ให บ รรดามุ ส ลิม เสีย โอกาส คื อ พวกเขาได ล ะทิ้ ง แนวทางแรกที่ถูกตอง นั่นคือ การสรางครอบครัวที่เคารพภักดีตออัลลอฮฺ � ชุมชนที่เคารพภักดีตออัลลอฮฺ � แลวก็หมูบานที่ภักดีตออัลลอฮฺ � หลังจากนั้นก็เปนเมืองที่ภักดีตออัลลอฮฺ � นี่เปนการทําใหรากฐานแหง อิสลามเลือนหายไป ดังนั้น จําเปนที่จะตองนํามันกลับคืนมา สวนอัน ดับ ที่ 2 พวกเขายุงอยูกั บขบวนการแหงการละเลน ที่ ไม รู จุดเริ่มตนจนกระทั่งจบ สวนใหญแลวเนนทางดานจิตใจที่วางเปลา เราพูด ไดไหมวา ความสับสนวุนวายนั้นสามารถใชไดดี คําตอบก็คือไม เรามองวา แทจริงรากฐานของระบบและขั้นตอนทางดานศาสนานั้นมีอยู บรรดามุสลิม เปนผูริเริ่มระบบบานของ อัรกฺ อ็ ม (ดารุลอัรฺก็อม) ซึ่งเปนแหลงเรียนรูบรรดา 60


�.........................................................................................���>>> ���

มุสลิมเปนผูริเริ่มใชยุทธศาสตรแหงการทําศึกสงครามโดยใชทหารกองยอย และเปนผูริเริ่มใชการวิจัยและการพิสูจนดานการถายทอดองคความรู และยัง เปนผูริเริ่มที่รูจักการวางรากฐานการปกครอง พวกเขาเหลานั้นเปนมุสลิม ซึ่งเปนสมาชิกของศาสนานี้ ทานเราะซูล � ไดจัดวางไววา เมื่อ 3 คนจะ เดินทาง จําเปนที่จะตองมีผูนําจากบรรดาพวกเขา ณ เวลานี้ เราไดพบวา ในบรรดากลุมนักเดินทางตางชาตินั้นจะมีการเลือกผูนําในหมูพวกเขา แต พวกเขามักจะเรียกวา หัวหนากลุม ทุกคนจําเปนที่จะตองเชื่อฟงคําสัง่ ของ เขาและปฏิบัติตาม ความจําเปนไดบังคับพวกเขาใหปฏิบัติเชนนั้น ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺไดกลาววา “ถาหากสิ่งนี้ไดดําเนินในเรื่องของการเดิน ทาง แลวในเรื่องของการก อสรางและเรื่องที่เกี่ยวกั บสาธารณประโยชนของมนุษยนั้น จะตองใหความสําคัญยิ่งกวา” ผูนํานั้นเปนผูที่คอยกําหนดวาเมื่อไหรที่จะหยุด ขบวน หรือเมื่อไหรที่จะเคลื่อนขบวน ดังนั้น ระบบในเชิงหลักการศาสนานี้มี อยูและเปนสิ่งที่ถูกเรียกรองใหมีขนึ้ เราจะตองเรียกรองและเผยแผเรื่องนี้ ไม มีประชาชาติใดบนพื้นแผน ดินนี้นอกจากจะตองมีการทํางานที่เปนระบบ ดังนั้นบริษัทตางๆ ก็มีระบบ สโมสรตางๆ ก็มีระบบซึ่งเปนระบบที่ชัดเจน ดังนั้น จําเปนที่จะตองเริ่มในเรื่องของการเรียงลําดับ คือ ครอบครัว ที่เปนอิสลามและชีวิตที่เปนมุสลิม และหมูบานที่เปนอิสลาม แลวเมืองที่ เปน อิ ส ลาม นี่คื อ การกระจายตามธรรมชาติ หากแตวา บนรากฐานนี้ จําเปนที่จะตองใหบรรดามุสลิมนั้นมีระบบที่สามารถรวมพวกเขาไดโดยไมตอง กอความวุนวายขึ้น ยิ่งไปวานั้นระบบของพวกเขาจะตองไมตั้งขึ้นมาบนการ หลอกลวง การรังเกียจบุคคลใดและการเกลียดชังบุคคลใด แตระบบของ พวกเขานี้จะทําใหพวกเขารวมตัวกันและจัดตั้งกองทุนซะกาฮฺที่ชวยเหลือผู ที่มีความตองการ ใหบริก ารแกคนจนและคนรวยของพวกเขา งานต างๆ 61


�� ���>>> .........................................................................................

เชนนี้แหละไดดําเนินขึ้น และสิ่งนี้จําเปนจะตองปรากฏขึน้ ดังนั้นเมื่อสิ่งแรก นั้นเปนจริงขึ้นมา นั่นคือ การดะอฺวะฮฺในครอบครัว หลังจากนั้นก็ขยายตัว ใหญกวาครอบครัว แลวบรรดามุสลิมก็จะตองจัดระบบสภาพของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาจะกลายเปนผูที่มีแนวคิดและทัศนวิสัยที่ชัดเจนมากขึ้น ณ เวลานี้ โลกไดกลายเปนกลุมตางๆ แมกระทั่งพวกคริสเตียนใน ประเทศมุสลิมมีการกอ ตั้งสหพันธคริสตจักร พวกเขามีการจัดตั้งสหพันธ บริษัทตางๆ กลุมบาฏินียะฮฺก็เชนเดียวกัน แลวทําไมเลา พวกเราผูซึ่งอยูใน สัจธรรมตองกีดกันสิ่งดังกลาวนี้ดวย สิ่งนี้ไมใชสิ่งปกปดอะไรเลย หากแต วามันถูกเปดเผยแมแตในหนังสือพิมพ การจัดการกับระบบการศึกษา การ บรรยายตางๆ การจัดตั้งองคกรบริหารซะกาฮฺ และการกอสรางมัสยิด เปน ตน ทั้งหมดนี้ไมใชเปนเรื่องทีจ่ ะตองปกปด แตชัยฏอนพยายามหลอกหลอน ใหมุสลิมเกิดความหวาดกลัว และดูเหมือนวาพวกเขาเหลานั้นคอยจองมอง พวกเขาอยูตลอดเวลา และสิ่ งตางๆ นี้ ลว นมาจากชัยฏอนทั้งสิ้น ดั งนั้น ความไมมีระบบนั้นไมใชการงานที่ดี แมแตผูที่ชอบทํางานอยางไมเอาจริง เอาจัง เมื่อไดอยูในระบบ พวกเขาก็พบวามันเปนสิ่งที่จริง ศาสนาและการ ดะอฺวะฮฺนั้นจําเปนจะตองอยูในระบบยิ่งกวา ดังนั้ น บทสรุ ป ของเรื่ อ งนี้คื อ เราจํ า เป น ที่ จ ะต อ งดํ า เนิ น ภารกิ จ ดะอฺวะฮฺอยางมีระบบ มิใชดวยความปนปวนวุนวาย และใชประโยชนจาก กาลเวลาใหคุมคา แทจริงทานเราะซูล � ไดปฏิบัติสิ่งนี้ ทานไดจัดเวลา ดวยการผลัดวันในการสอนแกบรรดาผูหญิงและบรรดาผูชาย เชนเดียวกัน กับการจัดระบบกองทหาร ซึ่งสิ่งนี้ไมมีใครสักคนปฏิเสธไดเลย ดังนั้น ถา หากสิ่ ง นี้ มี ก ารขยายวงกว า ง กิ จ การงานต า งๆ บริ ษั ท ต า งๆ และ สาธารณประโยชนทั้งหลายของบรรดามุสลิมไดมกี ารจัดเปนระบบ รวมถึง การจัด สถาบั น เฉพาะสํ า หรั บ อบรมลู ก หลานของพวกเขาบนฐานหลั ก 62


�.........................................................................................���>>> ���

ศรัทธาในอัลลอฮฺองคเดียว สิ่งกีดขวางเหลานี้คืออะไรเลา? การที่ผมจะทํา ตามใจของผม ผมจะสอนในเวลาที่ผมตองการ คนนี้ทําอยางนี้ อีกคนทํา อยา งนี้ ดังนั้น บรรดามุ ส ลิม ก็ จะยั งคงวนเวียนอยูกั บ ที่ ไม ส ามารถผลิต ประชาชาติและไมอ าจกาวไปขา งหนา ไดดั งเชน สภาพที่ได เกิด ขึ้นในโลก มุสลิมปจจุบัน ณ เวลานี้ พวกเราแบงออกเปนกลุม ๆ ระหวางพวกที่หาม ทุกอยางกับพวกที่เปดกวางโดยไมรูตนตอตั้งแตตนจนจบ อิสลามนั้นคือการเชิญชวนแบบเปดเผยไมใชซุกซอน เปนการเชิญ ชวนผูมีอํานาจ ทรชน ผูที่ต่ํ าตอยและผูที่ร่ํารวย ทุกคนลวนถูกเรียกรอ งสู การดะอฺวะฮฺอันประเสริฐนี้ เมื่อเขารับการเชิญชวน บรรดาสรรเสริญ และ การประทานลวนมาอัลลอฮฺ � ผูทรงกรุณาเพียงพระองคเดียว และหาก เขาปฏิเสธ การอภั ยโทษก็ ขึ้นอยูกับพระองค นี่คือหนาที่ที่จํา เปน สําหรับ พวกเรา ดังนั้ นจํ า เป นที่ เรื่ อ งของการเชิ ญ ชวนนั้ นต อ งมี ค วามชัด เจน สิ่ ง ดังกลาวนั้น พวกเราอยากลัวที่จะบอกใหมนุษยทราบเกี่ยวกับการเชิญชวน ของเรา เพราะการเชิญชวนนั้นไมมคี วามลับที่ควรปกปดหรือซุกซอน และไมใช การหลอกลวง ไมใชดวยการเจตนาที่ไมดี ไมใชการเจตนาทีจ่ ะมีการปฏิวัติ ใดๆ ทั้งสิ้น ไมใชการเจตนาที่จะลอบสังหารคนใดคนหนึ่ง แตเราจะกลาว แก ม นุ ษ ย ว า พวกท า นจงมากล า วว า “ไม มี พ ระเจ า อื่ น ใดที่ แ ท จ ริ ง เว น แตอัลลอฮฺ” และนําอิสลามมาใชในบานของพวกทาน ดังนั้นเมื่อเรือ่ งนี้ไป ถึงประชาชาตินี้ ดังนั้นพวกเขาก็จะเปนประชาชาติมุสลิม ซึ่งเปนสาเหตุทํา ใหสภาพตางๆ ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอยางมิตองสงสัย ดังนั้น เราจํ า เป น จะต อ งยึด เอาป จจั ยเหตุตา งๆนี้ เป น ป จจั ยแห ง ความเข มแข็งในยุคสมัยนี้ ดวยการจัด ระบบชีวิต ของเรา จัด ระบบความ เพียรพยายาม แลวเราจะไดรับประโยชนจากสิ่งนี้อยางแนนอน เราจะเชิญ 63



�.........................................................................................���>>> ���

การดะอฺวะฮฺในบาน ณ เวลานี้ ประชาชาติตางมุ งหนาสูเรื่องศาสนิสลามเปนสวนหนึ่ง แตอี ก หลายส ว นจากประเด็ น ต า งๆ ของศาสนาไดล า หลั งจากอิ ส ลาม เนื่อ งจากวา การดํ า เนิ น ภารกิ จ ดะอฺ ว ะฮฺ ได ข ยายกวา งสู น อกบา น องค ความรูไดแผขยายกวางตามมัสญิด ในวงเพื่อนฝูง ไดมีการดะอฺวะฮฺในเวลามี การทองเที่ยวกับมิตรชิดใกล แตภายในบานถูกรุกรานโดยผูอื่น ในบานของ มุสลิม แมแตในบานของนั กดาอียเองจะถู กคุ กคามจากเพื่ อนบานที่ไม ดี จากรายการโทรทัศน หนังสือพิมพ หรือจากการคลุกคลีของลูกๆ กับลูกๆ ของเพื่อ นบานที่ไมปฏิบัติอ ยางเครงครัดตามซุน นะฮฺของทานเราะซูล  ซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงชี้นําเราผานทาน และพระองคทรงประทานความดี งามแกเราเหนือกวามนุษยคนอื่นๆ เพราะวามันเปนนิอฺมัตที่ยิ่งใหญ ที่คนๆ หนึ่งไดปฏิบัติตามแนวทางของบรรพชนที่ดีในยุคกอน มนุษยจะไมประจักษ คุณคาของมันเวนแตเมื่อรูผลพวงของผูที่อยูนอกหนทางที่ไรสาระนี้ ทั้งๆ ที่ เขาได ล ะหมาด ถื อ ศีล อด เพียรพยายาม และพลีท รัพ ยสิ น เพื่ อ ชิ ด ใกล กับอัลลอฮฺ � แตนาเวทนายิ่งนัก เขาไมไดรบั ประโยชนอะไรจากสิ่งนั้นเลย เพราะเขาเดินอยูบนเสนทางที่ขัดกับเสนทางที่จะนําเขาสูสวนสวรรค ผูที่อยู บนเสนทางของอิสลาม อัลลอฮฺ �จะทรงชี้นําแนวทางแกเขา นี่แหละคือ การประทานจากพระองค มิใชเปนความฉลาดปราดเปรื่องจากตัวพวกเขา เอง และพวกเขามิใชวาถูกสรางจากดินที่ตางจากการสรางคนอื่น พวกเขา ก็เหมือนคนอื่น ๆ แตผูที่อยูบนฐานหลักศรัท ธาจะถูกคุกคามและเปนเปา สายตาตลอดเวลาเปนการเฉพาะ และตอบรรดามุสลิมอื่นๆ โดยทั่วไป พี่นอ งที่มีเกี ยรติครั บ เราควรหั น มามองความเจริ ญ รุงเรื อ งของ บรรดามุสลิมในวันนี้ เราจะพบวามุสลิมโดยทั่วไปมีอิทธิพลทางศาสนาใน 65


�� ���>>> .........................................................................................

ประเด็นหลักแหงชีวิตยิ่งลดนอยลง ทําไมละ เพราะการดะอฺวะฮฺมิไดเนนใน บานและครอบครัว นักดาอียจํานวนไมนอยไดละเลยสิ่งนี้ แลวสามัญ ชน ทั่วไปละจะเปนเชนไร? สวนบรรพชนในสมัยบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺและตาบิอีน จะเจียดสวนหนึ่งภายในบานเปนสถานที่สําหรับละหมาด (มุศ็อลลา) เพื่อ อะไรละ ก็เพื่อเชื่อมโยงสายสัมพันธมนุษยกับพระผูอ ภิบาลและการภักดีตอ พระองค การรายงานจากทานอิมามมุสลิมไดบันทึกวา ทานหญิงอาอิชะฮฺ ไดทําความสะอาดและพรมน้ําหอมสถานที่ละหมาดในบานของนาง สวน อุมมุซะละมะฮฺเมื่อตองการจัดสวนหนึ่งในบานเปนสถานที่ละหมาด นางก็จะ ชวนท า นนบี  มาละหมาด ณ ส ว นนั้ น และตั ว อย า งอี ก มากมายใน ประวัติศาสตร ดังนั้น จะเห็นไดวา บานของบรรดาบรรพชนยุคกอนจะมีมุม หนึ่งไวสําหรับปฏิบัติอิบาดะฮฺ แตในสมัยนี้จะพบวา มีบรรดาหญิงและลูก นอยรวมถึงพอ บานอีก จํา นวนไมนอยที่ล ะหมาดหน าโทรทัศ น เขากํ าลัง ละหมาดโดยมีเสียงวิทยุดังแววอยู บางครั้ง เขากําลังละหมาดแตยังมีเสียง รบกวนจากคนนั้นคนนี้ แลวเขาจะคุชูอฺในการละหมาดไดอยางไร และเขา จะไดรับผลบุญและผลพลอยจากการละหมาดไดอยางไร ทานเราะซูล  ได บอกเราวา แทจริงคนๆ หนึ่งจะไดรับผลบุญ จากการละหมาดเทาที่จิตใจ ของเขาอยูกับตัว พี่นอ งครั บ เราควรพิ จารณาวา เรานํา เรื่อ งราวกลับ ไปสูรากฐาน เดิ ม ของมั น ได อ ย า งไร นั่ น คื อ เราควรจะเริ่ ม ต น การดะอฺ ว ะฮฺ ภ ายใน ครอบครัวกอน เพราะวา อัลลอฮฺ � ทรงตรัสวา ﴾²± ° ¯ ®¬ « ﴿ ความวา โอบรรดาผูศรัทธาเอย จงปกปองตัวและครอบครัวของ เจาจากนรกเถิด (٦ :‫)اﻟﺘﺤﺮﱘ‬

66


�.........................................................................................���>>> ���

อัลลอฮฺ � ทรงตรัสวา ﴾ RQ P O﴿ ความวา จงตักเตือนวงศาคณาญาติที่ใกลชิดของเจา (٢١٤ :‫)اﻟﺸﻌﺮاء‬

มีกฎเกณฑที่ทราบกันดีวา บรรดาวงศญาติที่ใกลชิดดีควรกระทํายิ่ง กวา ดังนั้นเมื่อคนๆ หนึ่งมีเงินและจะใหศีลทานแกคนอื่น ดังนั้นการใหทาน แกครอบครัวของเขาจะไดผลบุญ 2 เทา ไมตอ งสงสัยเลยวา แท จริงการ เชิญชวนครอบครัวตนเองนั้นจะไดผลบุญอยางมากมายกวา ดังนั้น เราควร อยางยิ่งที่ตองนําการเชิญชวนนี้กลับไปสูภายในบาน และใหความรูแกคน ในครอบครัว และแมแตผูที่ไม มีความรูก็ส ามารถใหเทปบัน ทึกเสียงและ วารสารตางๆ โดยที่เขาเอาเทปมาเปดแลวเรียกประชุมครอบครัวของเขาใน ที่ๆ เฉพาะสําหรับการละหมาดหรือหอ งสมุด ไมวาจะเปนแม ภรรยา ลูก ๆ และกลาววา วันนี้เราจะมาฟงการบรรยายของผูรูทานนี้ พวกเขาจะไดเคย ชินกับการไดรับฟงความรู ทําใหสตรีนั้นเคยชินกับการใชเวลาในการฟงอัล กุรฺอานและอัลหะดีษ ลูกๆ ก็จะไดเติบโตขึ้นมาแตกตางกับการเติบโตที่มอี ยู ในสภาพปจจุบัน พี่นองครับ ผมเคยเห็นลู กหลานของเราจํานวนมาก เมื่อทานถาม พวกเขาในเรื่องของศาสนา ในขณะที่พวกเขาเหลานั้นมีอายุ 13 หรือ 14 ป ทานจะพบวาเขาไมรูอะไรเลย และในขณะที่ทานพิจารณาไปยังสภาพของผู เปน พอ จริงๆ แลว พอ นั้นก็ เป น สว นหนึ่งของบรรดานัก ดาอีย สว นใหญ ขอมูลตางๆ เกี่ยวกับศาสนานั้น ลูกไดรับจากโรงเรียน เฉกเชนเดียวกันกับ สภาพของสตรีบางคน เมื่อทานไดถ ามนางเกี่ยวกับปญ หาพื้นฐานทั้งๆ ที่ สามีของนางจากบรรดาพวกพองของเรา เรื่องนี้บงชี้วา สามีของนางคนนี้ มิไดสอนนางเรื่องศาสนาเลย! ดังนั้น เราตองใหเวลาแกครอบครัว มิใชการ 67


�� ���>>> .........................................................................................

ใหเวลาที่มานั่งพูดคุยกัน หยอกลอสนุกสนานกัน –สิ่งนี้ก็สําคัญ - แตเปน เวลาที่ใชในการแลกเปลี่ยนเรียนรู เผื่อวาบานของเราจะไมกลายเปนสุสาน รา งและพั งทลาย แต เป ยมดว ยเสี ยงการอ า นอั ล กุรฺอ านและอัล หะดี ษ สมาชิกในบานตางมานั่งลอมและศึกษาหนังสือ “ริยาฎศศอลีหนี -สวนเรือก แหงบรรดากั ล ญานชน” สอนหนั งสื อ “ฟ ก ฮุซซุน นะฮฺ-ฟกฮฺแบบฉบับ ซุน นะฮฺ” แกพวกเขา สวนภรรยาก็สอนศาสนาแกลูกๆ ของนาง ดังนั้นเมื่อการ สงครามทางปญญาที่อาจมีจากสถาบันตางๆ ลูกนอยจะไดมีภูมิคมุ กัน เมื่อ การคุกคามทางปญญามาจากโทรทัศน พวกเขาทั้งหลายจะรูวาอะไรเปน สิ่งที่อนุมัตแิ ละอะไรเปนสิ่งตองหาม เมื่อถึงจุดนี้ พวกเราเปนประชาชาติทมี่ ี วัคซีน ภูมิคุมกันและเกราะคุมกันจากการคุกคามตางๆ ซึ่งมาจากทุกทิศ ทุกทาง และเปนที่ทราบกันวา มนุ ษยนั้นอาจเปนผูเชิญ ชวนหรือเปนผูถู ก เชิญชวน บางทีก็เปนผูทําใหเกิดผลและสามารถสะกิดใจผูอื่นหรือผูที่ไดรับผล และคลอยตาม ดังนั้นจะไมมเี ปนคนกลุมที่ ๓ เพราะวา ณ เวลานี้ หากเรา มองดูสภาพตางๆ ของผูคน ทานจะพบวาบางทีก็เปนสวนหนึ่งของพวกฝา ฝนและดื้อรั้นซึ่งพวกเขาไมรูอะไรเกี่ยวกับศาสนาเลย และบางทีก็เปนสวน หนึ่งของพวกที่เขาใจหลักการศาสนาและดํารงมั่นในศาสนา โดยที่เขาคอย ละหมาดต อ หลั งจากละหมาดแรกเสร็ จ เขาจะถื อ ศีล อดและภัก ดี กั บ หลัก การศาสนาเป นประจํา นี่คือผูที่มีความยึดมั่นกั บศาสนา เมื่อ เขาไม ขับ เคลื่อ นเขาจะเฉื่อ ยชา ไมเพียงแตเทานั้น เขาก็ อ าจจะตายได ดังที่มีผู กล าววา (การขังทหารหาญจากการทํ าศึก เสมือ นการฆาเขา) มุสลิ ม ก็ เชน กัน -ไม วาผูชายหรือ ผูหญิง- เมื่อเขาขั งตัวเองและไม ทํา การตอสูใน หนทางของอัลลอฮฺ � และไมเพียรพยายามเผยแผอิสลาม เขาจะไรชีวิต และพายแพตอชัยฏอน เพราะวาเขาจะถูกจูโจมจากชัยฏอนในรางมนุษ ย 68


�.........................................................................................���>>> ���

และญินนฺ ไมตองสงสัยเลยวา ผูที่นั่งเตะทานั้นเปนที่ปราชัย หากแตวา ผูที่ ลุกตอสูนนั้ จะมีชัยและชัยฏอนจะหนีเขาไป พี่นองทั้งหลายครับ ดังนั้น เราถูกเรียกรองใหขับเคลื่อนเปลี่ยนผัน จากที่เคยเปนกลุมชนที่ยึดมั่นและทําดีเพื่อตัวของพวกเขาเอง เปนกลุมชน ที่ตอสูกูที่พักพิงแหงชัยฏอน ในขณะนั้น สตรีก็จะกลายเปนนักเชิญชวน พอ นั้นก็เปนนักเชิญชวน ลูกนั้นก็เปนนักเชิญชวนและประชาชาติทั้งหมดก็จะ เปนนักเชิญชวน การคุกคามทางปญ ญาหรืออิทธิพลจากตางประเทศไดม า เยือนเมื่อใด มันก็จะไมมีทางเขาสูประชาชาตินี้ สิ่งนี้แหละคือการขยายวง กวางที่แทจริงในเรื่องของการเชิญ ชวน -ดังที่เราไดอธิบายมาแลว- และ สําหรับการขยายตัวซึ่งมาจากเบื้องบน ทานจะทราบวามันเปนการขยายตัว ที่ไมดีและไมมีประโยชนอะไรเลย อัลลอฮฺ � ไดทรงสัญญาอยางหนักแนนวาเราจะตองเปนปวงบาว และการภักดีของการเปนบาวทีเ่ ปนสิ่งที่ย่ิงใหญที่สุด คือ การที่เราจะตอง ดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺและเรียกรองสูอัลลอฮฺ � เราตองกําชับใหมีการทํา ดี และห า มปรามการทํ า ชั่ ว เราต อ งดํ า เนิน เริ่ม จากในบ า นของเราเอง สําหรับผูที่ไมรูหนังสือใหเขาฟงจากเทป ผูที่ไมเขาใจสิ่งที่เขาอานใหไปหา เพื่อนพองที่สามารถใหความกระจางและความเขาใจ หลังจากนั้น ใหบาน ทุกหลังมีหองสมุดเล็กๆ -และบรรดาการสรรเสริญขอมอบแดอัลลอฮฺ � - ห อ งสมุ ด ต า งๆ เริ่ม มี กั น เกื อ บทุ ก บ า นแล ว หากแต วา มั น ยั ง ไม เกิ ด ประโยชนเทาใดนักดังที่มันควรจะเปน ไมมีบานไหนนอกจากจะตองมีตํารา มากมาย แม ก ระทั่ งหนั ง สื อ ของอิ ม ามอะหฺ มั ด อิ บ นุ หั น บั ล หากแต ว า ประโยชนยังนอย เพราะวามันไมไดถูกใชและไมไดรับประโยชน สวนเมื่อ สตรีไดรูวาจะใชมันอยางไรและรูวาจะใชเทปอยางไร และรูวาเมื่อมีผูหญิงมา เยี่ยมเยียนที่บาน นางสามารถเปลี่ยนจากการชุมนุมที่มีการติฉินนินทาวา 69


�� ���>>> .........................................................................................

รายตางๆเปนการชุมนุมที่ไดรับฟงพจนารถแหงอัลลอฮฺ � และคํากลาว ของท านเราะซู ล  และแล วประชาชาตินี้จ ะเปน ประชาชาติ ที่มีค วามรู ประชาชาติที่กําชับใชใหทําความดีและหามปรามทําความชั่ว พี่นองครับ ใน ยุคสมัยนี้ ทานไมส ามารถที่จะปลีก ตั วแยกครอบครัว ของทานออกจาก บริบทสังคมได ถึงแมวาทานไดแตงงานกับหญิงที่มีความยําเกรงที่สุดบน หนาผืนแผน ดิน ทานก็จะตองพบกับบรรดาผูหญิงชั่วอย างแนน อน นี่คือ สภาพที่เกิดขึ้นที่เราใชชีวติ อยู เราจําเปนตองรับฟงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา ในโลกนี้ หากแตวา เราจําเปนทีจ่ ะตองปกปองสิ่งเหลานีด้ วยความรู มีผูคนไดกลาววา หากเราอยูในบานของเรา แลวเราจะเชิญชวนผูที่ อยูนอกบานอยางไร? พวกเราจะพยายามอยางไร? เราขอกลาววา การมี ดุลยภาพและสมดุลเปนสิ่งจําเปน พี่นองทั้งหลายครับเพราะวารากฐานเดิม คือ เปาหมายหลักของการเชิญชวนคือไดรับผลบุญ และสิ่งที่เรากระทําทุก อยางเราก็หวังใหพระองคอัลลอฮฺ � ทรงตอบรับสิ่งนั้น แลวพระองคให พวกเราเขาสูสวนสวรรค นี่คือเปาหมายหลักของบรรดามุสลิมและบรรดา ผูที่เชื่อในพระเจาองคเดียว ในเมื่ออัลลอฮฺ � ผูซึ่งทรงบัญชาใชพวกเราให เชิญชวนไปสูพระองค ทรงใชใหเราเคารพภักดีตอพระองค และทรงใชให เราดําเนินภารกิจนี้ พระองคก็ไดต รัส ใหก ารเชิญ ชวนเริ่ม จากครอบครัว เสียกอน พระอง๕ยังตรัสกับพวกเราผานลิ้นของทานนบี  วา ِ​ِ ِ ٌ ُ‫ وﻛُ ﱡﻠﻜُ ﻢ َﻣ ْﺴﺆ‬،ٍ‫))ﻛُ ﱡﻠﻜُ ﻢ راع‬ ‫وﻫ َﻮ‬ ُ ،‫واﻟﺮ ُﺟ ُﻞ راعٍ ﰲ َأ ْﻫﻠِ ِﻪ‬ ‫ ﱠ‬،‫ول ﻋَ ﻦ َرﻋ ﱠﻴﺘﻪ‬ ِ ‫ واﳌﺮأ َ ُة‬،‫ول ﻋَ ﻦ ر ِﻋﻴﺘِ ِﻪ‬ ِ ،‫راﻋﻴ ٌﺔ ﰲ ﺑﻴ ِﺖ زَ و ِﺟﻬﺎ‬ ٌ ُ‫َﻣ ْﺴﺆ‬ ‫وﻫ َﻲ َﻣ ْﺴﺆُ و َﻟ ٌﺔ ﻋَ ﻦ‬ ْ َْ َ ‫َ ﱠ‬ ِ ِ . ‫َرﻋ ﱠﻴﺘﻬﺎ(( ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ‬

ความวา “พวกทานทุกคนมีหนาที่ที่ตองรับผิดชอบและพวกทานทุก คนตองถูกสอบสวนจากหนาที่นั้น สามีมีหนาที่ที่ตองดูแลครอบครัว 70


�.........................................................................................���>>> ���

ของเขา และเขาจะตองถูกสอบสวนเกี่ยวกับหนาทีน่ นั้ ภรรยามีหนาที่ที่ ตองดูแลบานของสามีและนางตองถูกสอบสวนเกี่ยวกับหนาที่นั้น” อัลลอฮฺ � ทรงบอกพวกเราวาพวกเรามีหนาที่ปกปองครอบครัว ของเราใหพนจากไฟนรก โดยที่พระองคทรงตรัสมีความวา “โอบรรดาผู ศรัทธาเอย จงปกปอ งตั ว และครอบครัว ของเจา จากนรกเถิด ” และสิ่งที่ ตักเตือน ณ ที่นี้คือ การที่ผูคนอยูแตในบานแลวเปนขออางในการที่ไมเขา รวมแลกเปลี่ยนเรียนรูศึกษาหาความรู ! ไมไปเยี่ยมใครและไมเคลื่อนไหว อะไร ! ไม พยายามรว มกับพี่นอ งของเขา ! เพียงข ออางวากําลังยุงอยูกับ การใหความรูและปกปองครอบครัว นี่คือการละเลยและนั่นคือการเลยเถิด และมุส ลิม นั้ นตองอยูก ลางๆ และสมดุ ล คือ เราจําเปน ตองใหสิ่งจํ าเปน ตางๆ ตอสังคมและการดะอฺวะฮฺของเรา และเราก็ตองใหสิทธิแกครอบครัว ของเราในสิ่งที่พวกเขาพึงจะไดรับ นี่คือหนทางที่เที่ยงตรงสําหรับเรา และ ทําใหประเด็นปญหาของเรานั้นปลอดภัยสําหรับเรา ซึ่งมันเปนสิ่งที่เราตาง ปรารถนาใหสังคมมุ ส ลิ ม ที่ยื นหยั ด อยูบ นฐาน กะลีม ะฮฺข องอั ล ลอฮฺ � นั้น สูงสงยิ่งและกะลีม ะฮฺ ของบรรดาผูปฏิเสธนั้น ต่ําตอ ยยิ่งนั ก ดังนั้น พวกเรา ตองไมทิ้งการเชิญ ชวนผูคนภายนอก การขวนไขวใฝห าความรู และการ พบปะรวมกับพี่นองของเรา และเราก็จะไมละทิ้งครอบครัวของเราจนพวก เขาไมรเู กี่ยวกับหลักคําสอนของอิสลาม ฉันใดสิ่งนี้ไมเที่ยง สิ่งนั้นก็ไมเที่ยง ฉัน นั้น สิ่งที่ถู กตอ งและเที่ยงตรงเพียงแคเสน ทางที่อ ยูบนฐานของความ สมดุลซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงกําชับใหเราปฏิบัติเทานั้น พี่นองครับ ณ เวลานี้ บรรดาลูกนอยของเราที่มีอายุระหวางอายุ 710 ขวบ อีกไมนาน พวกเขาก็จะเปนเยาวชนหนุมสาวที่ภักดีตออัลลอฮฺ � (เยาวชนร็อ บบานี ย ) นั บ เป น การก อ ร า งสรา งตั ว ที่ ถู ก ตอ ง เพราะเหตุ 71


�� ���>>> .........................................................................................

ดังกลาว หวังวาพวกทานคงสังเกตวา จริงๆ แลวชาวคริสเตี ยนและพวก บาฏินียะฮฺ ณ เวลานี้นั้น ตางพยายามที่จะเอาเด็กๆ มุสลิมในแอฟริกา และ เอเชีย ตะวัน ออกเฉี ย งใต เป น ตน แลว จั ด ที่พั ก พิ งเฉพาะใหกั บ พวกเขา เพราะอะไรครับ? เพราะวา พวกเขาเห็นวา เด็กๆ เหลานี้ หากไดปลูกฝง ความเขาใจแบบพวกเขา เด็กๆเหลานั้นก็จะเติบโตขึ้นบนฐานความเขาใจ นั้น พวกเราควรใหความสําคัญยิ่งกวาพวกเขา เราจําเปนที่จะต องใหบุตร หลานของพวกเราจดจําอัลกุรฺอานและจดจําวิชาความรู และจัดใหมีในหมู พวกเขาบุคคลที่เปนผูนํา เฉกเชนเดียวกันกับสภาพของบรรพชนที่ดี พวก เขานั้น เคยเปนผูนําคนผานสถาบั นครอบครัว มัสญิด และสังคม ทั้งหมดนี้ ลวนเปนภารกิจดะอฺวะฮฺซงึ่ เปนการเชิญชวนไปสูอลั ลอฮฺ � ทั้งสิ้น เยาวชน เหลานี้จากลูกหลานของเรา ลู กหลานของพี่น องของเรา และวงคญาติที่ ใกลชิดของเรา หากพวกเราไดทุมเทแรงกายเพื่อพวกเขาก็จะไดรับผลอัน ยิ่งใหญ แตละคนในบรรดาพวกเรา อยางนอยก็มีลูกหลาน 10 คน ซึ่งเปน ลู ก ของพี่ช าย ลูก ของพี่ ส าว และลู ก ของอา เป น ต น ดังนั้น หากพวกเรา ทั้งหมดใหความสําคัญที่จะอบรมพวกเขาเหลานั้นในบานของพวกเขา และสอน หลักการอิสลามและหลักศรัทธาที่ถูกตองใหแกพวกเขาเราก็นับวาไดสราง ประภาคารไม ให เป น ชาวคริ ส เตี ย นและพวกบาฏิ นี ย ะฮฺ สํ า หรั บ เด็ ก ๆ เหลานั้นเมื่อมีอายุเขา 13-15 ป ความคิดที่หลงผิดไดเริ่มซึมซาบเขามาสูพ วก เขา พวกเราก็จะเสียใจ ! ทานอยูที่ไหน กอนที่ลูกหลานเหลานี้จะเปนพวก นั้น?

พวกเราบางคนถึง ขั้นเขลาเบาปญ ญา เขาจะรูสึ กรําคาญเมื่ อได เห็นญาติของพวกเขารวมกลุมกับนักดาอียบ างคน เขาจึงเริ่มที่จะพยายาม ดึงญาติของเขากลับมาจากนักดาอียค นนั้น ทั้ง ๆ ที่ช ายคนนั้นเปนญาติ ของเขาไมละหมาด และไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับศาสนา เขาเปนคนละเลย 72


�.........................................................................................���>>> ���

มาก และเขาจะรูสึกรําคาญก็เมื่อเห็นญาติของเขาเขามาในมัสญิด พี่นอง ครับ การดะอฺวะฮฺสูอัลลอฮฺ � มิใชออกมาในรูปแบบนี้ เสมือนกับวาเขา ไมรูสึกอึดอัดใจกอนหนานี้ที่ญาติคนนั้นไมละหมาด! และเขาไมคิดถึงเรื่องนี้ กอนหนานั้น นอกจากเมื่อเห็นญาติคนนั้นเขามัสยิดโดยผานการดะอฺวะฮฺ ของคนอื่น !! แลวกอนหนานี้ เขาอยูที่ไหนละ ?! โอพี่นองทั้งหลายครับ ผมขอกลาววา พวกเราจําเปนที่จะตองคิดใน เรื่ อ งที่ เกี่ ย วกั บ คนที่ อ ยู ร อบๆ ตั ว เรา ในเรื่ อ งที่ เกี่ ย วกั บ บรรดาเด็ ก ๆ เหลานั้นจากวงคญาติที่ใกลชิดของเรา จนกระทั่งเมื่อพวกเขาเหลานั้นโต เปนผูใหญ ปรากฏวา หลังจากนั้น พวกเขาเปนลูกหลานแหงการดะอฺวะฮฺ อันศิริมงคลนี้ และปรากฏวาพวกเขากลายเปนผูแบกรับการเชิญชวนสูการ เอกภาพของอัลลอฮฺ � (เตาฮีด) และปรากฏวาพวกเขารูจักและสามารถ แยกแยะซุนนะฮฺจากสิ่งบิดอะฮฺ พวกเขาเจริญเติบโตบนฐานของเตาฮีด มิใช เติบโตมาบนความบิดอะฮฺ มิใชเติบโตมาบนฐานความโงเขลาในเรื่องของ ศาสนา และมิใชเติบโตมาบนฐานความเอียงเอนในเรื่องศาสนา บางทีพนี่ อง นาชาย หรืออาชายรูสึกอึดอัดใจเมื่อเขาไดเห็นลูกของ เขาอยูกั บคนแปลกหนา หากแตว า เมื่ อ เขาเห็นลูก ของเขาอยูกับ พี่หรือ นองชายของเขา หรืออยูกับลูกพีล่ ูกนองของเขา เขาก็ไมรูสึกอึดอัดใจก็ได พวกเราละเลยผูคนจํานวนมาก ทั้งๆ ที่มันงายมากตอนนี้ แตวาเมื่อจํานวน คนเหล า นั้ น ไดเติ บ โต แล ว แนวคิ ด รว มสมั ยที่ เขา มาคุ ก คามในโลกของ บรรดามุสลิม จนถึงเวลานั้น มันก็เปนสิ่งที่ยากลําบากสําหรับเรา เพราะวา คันธนูก็ไดโคงงอแลว และมันจะหักเมื่อทานจะดัดมัน ณ เวลานั้น พี่นอ ง ทั้ งหลายครับ เรื่อ งนี้เกิด ขึ้น จริงครับ ผมไม ได พูด เกิน ไป วามี บางคนไม ละหมาด เนื่องจากญาติพี่นองที่ใกลชดิ บางคนของพวกเขาพยายามดึงพวก 73


�� ���>>> .........................................................................................

เขาไปยังพวกเขา ทั้งที่กอนหนานี้เขาเคยอยูกับกลุมอืน่ ดังนั้นเขาก็ผละจาก พวกนี้และพวกนั้ นเลย เพราะอะไรละครับ? เพราะวา พวกเราละเลยใน ชวงแรก หากวาเราริเริ่มกอนหนานี้ กอนที่ไมเสานี้จะตรง แลวเราก็รดน้ํา ดวยการเชิญ ชวนสูเสนทางที่เที่ยวตรงและการเตาฮีด และเราไดสอนเขา เกี่ยวกับซุนนะฮฺและบิดอะฮฺ เขาก็จะดํารงอยูและเติบโตมาบนฐานเหลานั้น พี่นองทั้งหลายครับ ดั งนั้น เราจํ าเปน ตอ งหวนคิด คําถึ งถึ งเรื่องนี้ และนําการดะอฺวะฮฺกลับไปสูภายในบาน โดยการนําเอาลูกหลานของเรา รวมถึงลูกหลานของญาติพี่นองของเราไปเที่ยว ผูหนึ่งควรจะเสียสละพาพี่ นองของเขาและลูกหลานของเขาไปทําอุมเราะฮฺพรอมกับเขาเพียงเพื่อหวัง ผลบุญจากอัลลอฮฺ � เพื่อที่จะอบรมพวกเขาใหอยูบนการภักดีตออัลลอฮฺ � พี่นองทั้งหลายครับ เวลามันหมุนไปเร็วกวาที่เราคิด มีเด็กๆจํานวนมาก เทาไรที่ทานเคยเห็นพวกเขา แต ณ เวลานี้เขาอยูใ นมหาวิทยาลัยแลว หรือ วาพวกเราจะเปนดั่งที่เขาวา “เราไดใหดื่มน้ําแกคนไกล แตคนที่อยูรอบๆ ตัวเรากระหาย”

พี่นองบางคนกลาววา การเชิญชวนวงศาคณาญาตินั้นสรางความ ยากลํ าบากยิ่ ง นัก ใชค รับ เราก็เห็น ด ว ย แต มัน ควรแก การได ผลบุ ญ ทวีคูณ ผลบุญที่ไดรับเทียบเทากับปริมาณของความลําบากหากแตวา เรา พึงเลือกวิธีการที่ดี และเลือกสื่อที่เหมาะสมและเราหวังในผลบุญของสิ่ง นี้ ณ อั ลลอฮฺ � ดัง นั้นสิ่ง นี้เปน ความดีอันมากมายและสิ่ ง นี้ คื อการ เชื่อมสัมพันธกับเครือญาติ มันจะประเสริฐกวาการที่เราใหอาหารและ เครื่ อ งดื่ ม แก ญ าติ มิ ต รชิ ด ใกล เสี ย อี ก เพราะว า เขาต อ งการเตาฮี ด ตองการศาสนาซึ่งเขาจะมีชีวิตดวยสิ่งนั้น บางทีเขาจะไมหิวตายเนื่องจาก 74


�.........................................................................................���>>> ���

หิวโหยเมื่อเขาไมไดกิน หากแตวาถาเขาไมละทิ้งบิดอะฮฺ เขาจะตายในบิด อะฮฺน้นั พี่นองทั้งหลายครับ ทานลองจินตนาการดูวา หากลูกหลานของเรา ลูกหลานของพี่นองของเรา ลูกๆ ของวงคญาติและลูกๆ ของคนที่อยูรอบๆ ตัวเราไดคลานมาในวันกิยามะฮฺในสภาพที่เขาออนเพลีย ตองการที่จะดื่ม น้ําจากสระน้ําของทานนบี  ทันใดนั้นเขาถูกหามจากสระน้ํานั้น ! ทานจะ เจ็บปวดมากเทาไหรเมื่อ เห็นลูกๆ ของพี่ชายทาน ลูก ๆ ของญาติทานถูก หามจากการเขาใกลสระน้ํานั้น มันเรื่องใหญมาก ทานรูสึกเจ็บปวดหากวัน ใดวันหนึ่งลูก หลานของทานไมไดกิ นอาหาร แลวหากเขาถูกหา มเข าใกล สระน้ําของนบี  จะเปนอยางไรเลา!! และสภาพใดเลาหากเขาตกจาก ศิรอฏลงสูนรกญะฮันนัม ขออัลลอฮฺ � ทรงคุมครองพวกเราทั้งหมดจากสิ่ง ที่ดังกลาวดวยเถิด!

ดังนั้นจําเปนที่เราตองมองไปยังครอบครัวของเราที่อยูรอบๆ ตัว เรา แล ว ทุม เทความพยายามเพื่อที่ ชว ยเหลือ พวกเขา และเราจะเป น สาเหตุในการเขาสวรรคของพวกเขา ดังนั้น หากเราไดทําสิ่งนีเ้ ราไดทําให การเชื่อมสัมพันธเครือญาติเปนจริงขึ้นมาดังที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค

75


�� ���>>> .........................................................................................

บทสรุป ทายนี้ เราหวั งวา หนั งสือเลมเล็ กนี้จะนํา พาเราสูการไดพบปะกั น พรอมกับไดกอบโกยผลประโยชน และผมหวังจากอัลลอฮฺ � ใหเยาวชน ทั้งหลายเปน ดั่งแกว ตาดวงใจ และเพี ยรพยายามสูขั้น การนํา พาอิส ลาม และขอดุ อ าอจากพระองคใหพวกเขาเปน ดั่งที่วาดหวังไวจริง เพื่อ สนอง รับคําตรัสของพระองควา SRQPONMLKJ ﴿

﴾ UT ความวา และเราไดจัดใหบางคนในบรรดาพวกเขาเปนผูนํา ซึ่งพวก เขาไดรับทางนําดวยคําบัญชาของเรา ตราบที่พวกเขายังคงอดทน และพวกเขามั่นใจในสัญญานของเรา (٢٤ :‫)اﻟﺴﺠﺪة‬

เทานั้น

ความทรงเกียรติทั้งโลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ อยูที่การเปนผูนําศาสนา

ผูปกครองควรแบกรับภารกิจอีกประการหนึ่ง คื อ การทอดทาง ความสะดวกใหกับลูกหลานสูการไขวค วาการนําพา การมีเกียรติ ความ สู ง ส ง แล ว ทุ ก คนจะรั บ ความผาสุ ก แน แ ท สิ่ ง นั้ น มิ ใ ช เ ป น เรื่ อ ง ยากลําบากสําหรับอัลลอฮฺ � เลย

76


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.