.........................................................................................>>>
�
ชัยคฺ อับดุลลอฮฺ เคาะลัฟ อัซซับตฺ ถอดความและเรียบเรียงโดย :
ดร. อาเซ็ม อัชชะรีฟ Ph.D (Curiculum & Instructional Management) MA. (Usuluddin) M.Is (Islamic Civilization & Arabic Studies) B.ed (Arabic Language)
ออกแบบ / จัดรูปเลม / จัดพิมพ ศูนยอิกเราะมีเดีย Iqramedia Centre 090 505 0100 / 084 312 3996 / 084 749 0400 Hhpa.centre@gmail.com พิมพครั้งที่ 2 (เมษายน 2558) ราคา 75 บาท 1
�� ���>>> .........................................................................................
ความนํา มวลการสรรเสริญ เปนกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ � ทั้งที่ผานมาและภาย หนา ขอพรแหงความสุข ความสันติไดโปรดประสบแดทานนบีมุหัมมัด ผูทรง ซื่อสัตย ในการเผยแพรส ารจากพระผูเปน เจา ตลอดจนเศาะหาบะฮฺของทานผู บริสุทธิ์ ผูมีความจําเริญ โอ บรรดาผูที่ ห ลงใหลในความดี หนั ง สื อนี้เป น การรวบรวมประกาย ความคิดแหงการดะอฺวะฮฺ ที่ไดมาเติมเต็มใหแกหนังสือ “เสียงแผวเบาแหงการ เชิญ ชวน (ﺎت اﻟ ﱠﺪ ْﻋ َﻮة ُ ”) ََﳘ َﺴที่ได เผยแพร ไปก อนหน านี้ ซึ่งไดถ อดเสียงจากเทป บันทึกเสียงตางๆ ที่ผมไดนําเสนอมาแลว ซึ่งกลุมเยาวชนในชุมชนอัลฟยหาอได ทําการถอดเสี ยง โดยมี บะดัรฺ อัล-อัน ญะรียซึ่งเป นเด็กหนุมที่ฉลาดคอยเปน ที่ ปรึ ก ษาในการคั ด ลอกและเติ ม เต็ ม งานชิ้ น นี้ ใ ห ส มบู ร ณ ขอให อั ล ลอฮฺ � ประทานความดีงามทั้งหลายใหกับเขาดวยเถิด เปนเรื่องปกติของผมที่ไม คอยจะแก ไขงานที่ไดเขี ยน ผูใดที่ได อานการ เขียนนี้แลว ผมขออภัยในความบกพรอง ณ ที่นี้ดวย เพราะจริงๆ แลวคําพูดนั้น มิใชการเขียน แตบางที คําพูดนั้นจะมีอทิ ธิพลที่ยิ่งใหญกวา ขาพระองคขอวิงวอนใหอัล ลอฮฺผูทรงอานุ ภาพสู งสุด ทรงโปรดจั ดให บรรดากลุมเยาวชนที่ไดเขาโครงการครั้งนี้เปนผูเกื้อหนุนและทําหนาที่ดะอฺวะฮฺ โดยเจริญรอยตามแนวทางการทํางานศาสนาของบรรดาชาวซะลัฟที่ดดี วยเถิด ขอพระองคทรงตอบแทนความดีใหแดบรรดาผูจัดโครงการอบรมครั้งนี้ รวมถึงความพยายามทั้งหลายที่ทําใหงานนี้สําเร็จลุลวงดวยดี อับดุลลอฮฺ เคาะลัฟ อัซ-ซับตฺ 1 ชะอฺบาน ฮ.ศ.1426
2
�.........................................................................................���>>> ���
คํานําผูแปล มวลการสรรเสริญเปนกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ � ดวยความโปรดปราน จากพระองค การงานทั้งหลายก็ลุลวงไปดวยดี พรแหงความสุขและความสันติ พึงประสบแดทานนบีมุหัมมัด ตลอดจนบรรดาเศาะหาบะฮฺที่เจริญ รอยตาม แนวทางทานดวยดี หนั ง สื อ เล ม เล็ ก นี้ ไ ด ก ล า วถึ ง กฎเหล็ ก และบรรทั ด ฐานบางประการ สําหรับผูที่ทอดทางสูแนวทางการดะอฺวะฮฺ นับเปนการจุดประกายความคิดของ ชนทุ ก ยุคทุ ก สมัยไดเลย ถึ ง แม ป ระเด็ น ที่ ผูเขี ยนไดย กมาเปน ประเด็ น ที่ มีก าร ถกเถี ยงกั นมาชานาน แตการประยุกตใชสามารถนํามาใชไดอยางเหมาะสมใน ยุคปจจุบัน เพื่อเปนเสบียงในวิถีชีวิตที่เต็มไปดวยภาพลวงตา ภาพแหงสัจธรรม ยิ่งวันยิ่งสลั ว ด วยหัวขอที่ เป นบรรทัด ฐานนี้ ทําใหนัยนตาของเราสวางมากขึ้ น เสนทางดูเหมือนจะชัดเจนมากขึ้น นั่นคือ
การทําความเขาใจใหมกับการปฏิบัติและการเครงครัดในอิสลาม � จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรม � ความดุลยภาพในการเขาใจอิสลาม � จงเริ่มดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺจากในบาน �
การแปลชิ้น นี้อาจจะคลาดเคลื่ อนในบางประเด็ น เพราะไดถ อดความ จากภาษาพูด อยางไรก็ ต ามเสนห แห งการนํา เสนอจะเผยเด น ของความเป น เอกลักษณของแต ละงาน หวั งวาผูอานจะไดประโยชนมาก หากไดอานดวยใจ แลวพยายามแปลงนัยตางๆ เปนปญญา
ِﺼ ِ اﳊﻤ ُﺪ ﺎﳊﺎت ﷲ ﺑِﻨِ ْﻌ َﻤﺘِ ِﻪ ﺗَﺘِ ﱡﻢ اﻟ ﱠ َْ
3
อาเซ็ม อัชชะรีฟ 21 เชาวาล ฮ.ศ.1434
�� ���>>> .........................................................................................
4
�.........................................................................................���>>> ���
ประกายความคิดแรก ความเขาใจใหมเกี่ยวกับการปฏิบัต ิ และการเครงครัดในอิสลาม มนุ ษ ย จํ าเป น ต อ งมี จุด ยื น และหลั ก ศรั ท ธา โดยที่ ชี วิ ต ของเขา จะตองหมกมุนอยูกับ การแสวงหาแนวทางแห ง สั จ ธรรมนั้ น พร อมกั บ พิทักษในสิ่งที่เขาไดยึดมั่น ตราบจนชีวิตของเขาไดกลับคืนสูอัลลอฮฺ � จริงๆ แลว มนุษยถูกสรางขึ้นมาก็เพราะเหตุนี้เอง ทานทั้งหลายพึงทราบ ดีวา อัลลอฮฺ � ไดทรงสรางมนุษยในโลกนี้ พรอมกับหนาทีท่ ี่ใหญหลวง ِ ِ ﲈر ُة اﻷَ ْر นั่นคือ การสถาปนาพื้นแผนดินของพระองค (ض َ )ﻋการสถาปนานี้ ตองอาศัยปจจัย หลัก 2 ประการ: ประการแรก คือ การศรัทธาและยืน หยัด ในการทําอิบาดะฮฺตออัลลอฮฺ � มนุษยถูกสรางขึ้นมาก็ดวยเหตุ นี้ เอง ประการตอมาคือการสรางสรรคและพัฒนาพื้นแผนดินของพระองค ใหเจริญรุงเรือง บรรดาผูศรัทธานั้นไดถูกกําหนดหนาที่ หลัก 2 ประการ คื อ การ ปรับปรุงวิถีแหงการดําเนินชีวิต และการเปนอยูของมนุษย ดังที่อัลลอฮฺ � ทรงดํารัสไววา Q P O N M L K J I H G F E D C﴿
﴾ [ Z Y XW V U TSR ความวา และเรามิไดสรางญินและมนุษยมาเพื่ออื่นใดเวนแตเพื่อมา เคารพภักดี ตอ เรา (56) เรามีไดต องการป จจัย ยังชีพจากพวกเขา (٥٨-٥٦ : )اﻟﺬارﻳﺎت
5
�� ���>>> .........................................................................................
และใหพวกเขาตองมาใหอาหารกับเรา (57) แทจริงอัลลอฮฺคือผูทรง ประทานปจจัยยังชีพ ผูทรงอํานาจ (58)
แตท วา นาเสี ยใจอย างยิ่ง พวกเราไม เข าใจเหมื อ นกั บ ที่ มนุ ษ ย จํานวนมหาศาลไดเขาใจวา มนุษยมีทางเลือกแค 2 ทาง คือ เขาเปนบาว ของอัล ลอฮฺ � ที่ถูกกีดกันจากชีวิต ที่เพลิดเพลิ น หรือ ไมก็ เปน คนที่ ใช ชีวิตอยูบนโลกนี้ไปวันๆ หาความสุขไปตามที่เขาจะแสวงไดโดยไมยอมทํา อิ บ าดะฮฺ ต อ อั ล ลอฮฺ � ! นี่ นั บ ว า เป น ความคิ ด ที่ เ ลวร า ยซึ่ ง เป น แนวความคิด ที่ มีอิทธิพลมาจากบรรดาผูปฏิเ สธศรั ทธาในอั ล ลอฮฺ � พวกยิวและคริสเตียน อันเนื่องมาจากวา ศาสนาของพวกเขาเปนศาสนา ที่ ถู ก บิ ด เบื อ นจากพวกเขาเอง จนมนุ ษ ย ไ ม ส ามารถที่ จ ะรวมเอา 2 ประการดังกลาวได (กลาวคือ เขาไดแ ยกเอาการดํ าเนิ นชี วิ ตออกจาก ศาสนา ปล อยใหศ าสนาเป น เรื่อ งของนัก บุ ญ หรื อ พวกที่ เคร ง ครั ด ใน ศาสนา แตการดําเนินชีวิตก็ไมจําเปนตองคํานึงถึงศาสนาแตอยางใด-ผู แปล) สําหรับ พวกเรา เนื่องด วยความโปรดปรานของอั ล ลอฮฺ � ที่ พระองคไดทรงนําทางพวกเราไปสูศาสนาที่เที่ยงแท จริงๆ แลวมนุษยไม สามารถที่จ ะใชชีวิตที่ผ าสุกได เวนแตเมื่อมนุษยนั้นมีศาสนา เนื่ องจาก สาเหตุดังกลาว โอ พีน่ องครับ จําเปนที่เราจะตองทําความเขาใจวา อะไร คือชีวิตที่มีความสุข ความสุขในชีวิตเปนเชนไร การที่สื่อมวลชนไดเผยแพรมโนทัศนตางๆ ทําใหเราเห็นวาความสุข ที่แทจริงนั้นคือความเพลิดเพลินอันจอมปลอมแหงชีวิ ตดุนยา อันไดแก ทรัพยสิน ความร่ํารวย ตําแหนง และเกียรติยศ สิ่ งนี้ เป นส วนหนึ่ งของ ชีวิตเทานั้นเอง แตประสบการณชีวิตจริงไดยืนยันวา สิ่งเหลานี้ไมไดให ความสุขกับเราเลย เพราะเหตุนี้ พวกทานจงพิจารณาไปยังประชาชาติที่ 6
�.........................................................................................���>>> ���
ปฏิเสธศรัทธาในอัลลอฮฺ � ทั้งหลายในกลุมประเทศตะวันตก พวกเขา ร่ํารวยมหาศาลยิ่งกวาเรา พวกเขามีสิ่งอํานวยความสะดวกและความ เพลิดเพลินในชีวิตแหงดุนยามากกวาเรา พวกเขามีแม กระทั่ งทิวทั ศน ที่ เต็มไปดวยบรรยากาศที่เย็นสบาย ความเขียวชอุมและฝนตกชุกที่สงผล ใหอุดมสมบูรณกวาทีเ่ รามี แตทวาปจจัยตางๆ ที่ไดกลาวมานี้ ไมสามารถ ให ค วามสุ ข ที่ แ ท จ ริ ง แก พ วกเขาได เราได เห็ น ตามหน า หนั ง สื อ พิ ม พ มากมายวาพวกเขาตัดสินชีวิตดวยการฆาตัวตาย มิ หนํ าซ้ําเรายังได ยิน ตามขาวอีกวามีพวกเขามากมายที่ตองรักษาตัวตามโรงพยาบาลทางจิ ต พวกเขาตองประสบกับความสับ สนวุน วายในชีวิต ประจํ าวัน พวกเขาไม สามารถนอนหลับ เต็มตา ผูคนไมมีมนุษยสัม พันธอั นใกลชิ ดระหว างกั น เพราะสิ่งดังกลาวนี้เอง ทานจะพบวา หลังจากที่พวกเขาไดมั่นใจแลววาไม เหลือความดีใดๆ อีกแลวในหมูลูกหลานของพวกเขา สวนใหญ จากพวก เขาจึงหันไปเลี้ยงดูหมาและแมวแทน และพวกเขาทุมเงินเพื่อเลี้ ยงพวก มันมากกวาที่พวกเขาจะสละเงินเพื่อเลี้ยงลูกหลานของพวกเขา แทจริง ความเพลิดเพลินแหงดุนยานี้ไมสามารถใหความสุขที่แทจริงแกพวกเขาได ผูใดที่ไดเดินทางไปยังประเทศตางๆ เหลานี้ จะประจักษอยางชัดเจนทุก แงมุม บางทีในประเทศมุสลิมซึ่งเปน ประเทศที่ ยากจน แต ทวา ความ มั่นคงทางจิตใจจะมีระดับสูงกวา ระดับของความสวัสดิภ าพและความ สงบสุขจะมีมากกวา สิ่งนี้มิใชการวิเคราะหของพวกเรา แตทวามันคือคํา ดํารัสของอัลลอฮฺ � ที่วา (١٢٤ : )ﻃﻪ
﴾Ì ËÊ É È Ç Æ Å ﴿
ความวา และใครที่ผินหางจากการรําลึกถึงฉัน เขาจะมีชีวิต ที่คับ แคบ
7
�� ���>>> .........................................................................................
ผูที่ผินหางจากการรําลึกถึงอัลลอฮฺ � และอัลอิสลาม โดยที่เขา ผิ น ไปยึ ด มั่ น ต อ สิ่ ง อื่ น แล ว เขาผู นั้ น จะต อ งใช ชี วิ ต อย างอั ป ยศอดสู แมกระทั่งในปจจุบันนี้ ทานจะพบวาบรรดาผูที่ไมปฏิบัตลิ ะหมาด และไมมี ความรู ศ าสนา พวกเขาจะเกิ ด อาการทางสมอง นอนไม ค อ ยหลั บ ดัง กลาวนี้ หากใครที่ไปยัง โรงพยาบาลประสาท เขาจะไม พบบรรดาผู ละหมาดอยูในนั้น ถามีก็อาจเพียงแค 1 ใน 1,000 คน ทานจะไมพบคนที่ ไปมามัสญิด บอยๆ ในโรงพยาบาลดัง กลาวเวนแต จํานวนนอยมากที่เขา อาจจะมีปญ หาทางครอบครัว และเชนเดียวกันหากพิ จารณาถึ ง ความ ผิดปกติในเหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้น และพิจารณาถึงทางดานจํานวนผูถูก จับกุม อาชญากรรมและความปน ปวนตางๆ แม กระทั่ งบรรดาผูที่ใชยา กลอมประสาทและยานอนหลับจะพบในบรรดาผู ไปมามั ส ญิ ด มี จํานวน นอยมาก เพราะแทจริงสิ่งนี้มันสอดคลองกับคําดํารัสของอั ลออฮฺ � ที่วา Î Í Ì Ë Ê É È Ç Æ Å﴿ ! ÚÙØ×ÖÕÔÓÒ ÑÐÏ (١٢٦-١٢٤:)ﻃﻪ
﴾ *) ( ' & % $ # "
ความวา และผูใดผินหลังจากการรําลึกถึงขา แทจริงสําหรับเขาคือ
การมีชีวิตอยูอยางคับแคน (ถึงแมชีวิตที่เห็นจากภายนอกจะสุขสบายดีก็ตาม) และเราจะใหเขาฟนคืนชีพในวันกิยามะฮในสภาพของคนตาบอด เขา กลาววา “ขาแตพระผูอภิบาลของขาพระองค ทําไมพระองคจึงทรง ใหขาพระองคฟนคืนชีพขึ้นมาในสภาพของคนตาบอดเลา ทั้งๆ ที่ (ในโลกดุน ยา) ขาพระองคเคยเปนคนตาดี พระองค ตรั สวา “เชน นั้ น แหละ เมื่อ โองการทั้ ง หลายของเราได มี ม ายั ง เจา เจาก็ทําเปน ลื ม 8
�.........................................................................................���>>> ��� (ละเลย) และในทํา นองเดียวกัน โทษเปนการตอบแทนอยางสาสม)
วันนี้เจาก็จะถูกลืม (จะถูกละเลย และไดรับ
เมื่ออัลอฮฺ � ไดกลาวถึงพวกยิว คริสเตียนและบรรดาผูปฏิเสธ วาพวกเขามีลักษณะเชนเดียวกับบรรดาปศุสัตว แลวการงานของพวกเขา เปนอยางไรละ พระองคไดทรงดํารัสวา (١ : & ' ( )﴾ )ﳏﻤﺪ% $ # " ! ﴿
ความว า บรรดาผู ป ฏิ เสธศรั ท ธา และป ด กั้ น ให ห า งจากทาง
ของอัลลอฮฺนั้น พระองคไดทรงทําใหก ารงานของพวกเขาไรผล (ไมปรากฏรองรอยใหปรากฏในวันกิยามะฮฺ)
การงานของพวกเขาเพี ย งแค นี้ แ หละ ! ลั ก ษณ ะเช น นี้ เ ป น ลักษณะรวมที่มีอยูในสัต วตางๆ ซึ่งเมื่อพวกมั นตายไปแล วก็ จบกันไม มี รองรอยการงานใดๆ พวกมันไมปรารถนาสวรรคหรือนรก ดังนั้นพวกเขา กับสัตวก็ไมตางกันเลย ไมเพียงแตเทานั้น อัลลอฮฺ � ยังทรงดํารัสอีก วา (٤٤ : ﴾ )اﻟﻔﺮﻗﺎن1 0 / . ﴿
ความวา ยิ่งไปกวานัน้ พวกเขาเปนผูห ลงทางยิ่งกวา ดังนั้น พวกทานจําเปนที่จะตองประจัก ษวา การยึดมั่นในศาสนา นั้นเปนความมั่นคงแหงชีวิตเปนอันดับแรก และเปนความคิดที่ผิดสําหรับ บุคคลที่คิดวาแทจริงเมื่อมนุษยไดยึดมั่นในศาสนาของอัลลอฮ � อยาง เครงครัดแลว เขาจะไมสามารถที่จะใชชีวิตอยางเขาได แนวคิดที่มีอยูใน ปจจุบันเปนอิทธิพลที่ไดรับมาจากแนวคิดของพวกยิวและคริสเตียน ถึงแมประเด็นนี้เปนเรื่องเล็กนอย หากแตวามนุษยสวนมากมักจะ หลงลืมไป หากเราพิจารณาในดานการปฏิบัติอบิ าดะฮฺ เราก็จะพบวา สิ่ง 9
�� ���>>> .........................................................................................
ที่อัลลอฮฺ � ทรงบัญชาใชและทรงสั่งหามพวกเรานั้นมีนอยและทั้งหมด ลวนเปนประโยชนของเราเอง และสิ่งที่อัลลอฮฺ � ไดทรงอนุมัติแกพวก เรานั้นมีมากมาย ใช มนุษยบางคน กลาววา พวกทานไมมีอะไรนอกจาก วา นี่ก็ห ะรอม นั่น ก็หะรอม และนั่น ก็หะรอม หากแต ว าเมื่ อพวกท าน พิจารณาไปยังสิ่งที่ตองหามตางๆ ในศาสนาของอัลลอฮฺ � พวกทานจะ พบวามันมีนอย อาหารชนิดที่อนุญ าตใหรับประทานมีกี่ชนิด มีเยอะมาก ไมมีสิ้นสุด และสิ่งตองหามมีกี่ชนิด มีจํานวนจํากัด ชนิดเครื่องดื่มที่อัลลอ ฮฺ � ทรงหามก็มีแ ค สิ่งมึน เมา ชนิด อาหารที่อั ล ลอฮฺ � ทรงห ามก็ ไดแก ซากสัตว สุกร สัต วดุรายที่มีเขี้ ยว และนกที่มีเล็บ หมายความวา หากทานจะนับก็จะพบวามี 6 หรือ 7 ชนิดเทานั้น หากแตวา อาหารและ เครื่องดื่มชนิดที่อนุญาตใหรับประทานไดบนพื้นแผนดินนั้นมีมากเทาไหร? ไมมีสิ้นสุด ในเรื่องของเครื่องนุงหม (เสื้อผา) ก็เชนเดียวกัน สิ่งตองหาม ในเรื่องของเสื้อผามีนอยมาก และสิ่งที่อนุญาตในเรื่องเสื้อผาไมมีสิ้นสุด สิ่งที่ตองหามในเรื่องที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติตอกันในเรื่องของการคาขายก็ มีนอย และสิ่งที่อนุญาตในเรื่องนี้ก็ไมมีสิ้นสุด ดังนั้น หากเรามาดูสิ่งที่ทําใหพวกเราไดรับความสุขตามธรรมชาติ ในชีวิตประจําวัน เราจะพบวาไมมีสิ่งใดที่อิสลามหามมัน คํากลาวที่ผูคน ตา งกลา ววา พวกทา นไมมีสิ่ง ใดนอกจากการหาม เนื่ องจากว าชัยฏอน (มารราย) ปรารถนาที่จะใหพวกเขาทําสิ่งที่โสมม (ลามก) มารรายนั้นใช ใหพวกเขาทําสิ่งลามกและทําความชั่ว พวกเขาหมกมุนอยูกับเสี ยงรอง และดนตรี หมกมุ น อยู กับ เจว็ด ต า งๆ และพวกเขาหมกมุ น อยู กั บ สิ่ ง ตองหามตางๆ นานา และพวกเขากลาววา เพราะเหตุใดพวกทานจึงหาม สิ่งนี้ เสมือ นกับผูที่หลงลืมประเภทเครื่องดื่มอันมากมาย แล วกล าวว า เพราะเหตุใดจึงหามเหลาและของมึนเมา? 10
�.........................................................................................���>>> ���
ดัง นั้น จําเปนอยางยิ่งที่เราจะตองตระหนัก วาสิ่ง ที่ อัล ลอฮฺ � ทรงหามพวกเรานั้นมีนอย มนุษ ยป กตินั้นมีสิ ทธิที่ จะสรรหาความสุ ขใน ชีวิตของเขาอยางสมบูรณโดยที่ไมตองทรยศตออัลลอฮฺ � แตอยางใด ความคิดนี้เราจะตองฝงแนนในจิตใจของพวกเรา เสียงกระซิบกระซาบ จากชัยฏอนจึงไมม ายังพวกเรา ไมวาจะเปนชัย ฏอนจากบรรดามนุ ษยหรื อ ชัยฏอนจากบรรดาญินนฺ พวกเขามักจะกลาววา “พวกทาน ณ เวลานี้ ยังเปน วัยรุนตนๆ พวกทานกําลังเขาไปสูประตูของการปดกั้นตัวเอง” แตพวกเรา จะกลาววา ไมใช พวกทานตางหากที่ไดเขาไปสูประตูที่เปดกวาง และทุกๆ สิ่ง ที่อัลลอฮฺ � ทรงหาม ในบั้น ปลายแลว จะเกิ ด ความหายนะอยา ง แนนอน เพราะสิ่งดังกลาวนั้น ทุกๆ คนที่ดําเนินบนเสนทางดังกลาว เขา จะเสียใจอยางสุดๆ มนุษยนั้นในแรกเริ่มเดิมทีแลวจะเถลไถล ตราบที่ยังไมพบกลุมชน ที่คอยจูงมือเขาสูความดี ดวยเหตุนี้ พวกทานนั้นอยูในความโปรดปราน ของอั ล ลอฮฺ � ซึ่ ง พระองค ได ร วมท านกับ เพื่ อนๆ ที่ ดี เราขอดุ อ าอ ตออัลลอฮฺ � ใหพวกทานไดเขารวมกับกลุมที่ทานเราะซูล ไดกลาว วา ِ ِ ِ ِ ِ ِ اﷲ ٌ ... :ﻳﻮم ﻻ ﻇ ﱠﻞ إﻻ ﻇ ﱡﻠ ُﻪ َ اﷲ ﰲ ﻇ ﱢﻠﻪ ُ ﺷﺎب ﻧ ََﺸ َﺄ ﰲ ﻋﺒﺎدة ُ ))ﺳﺒﻌ ٌﺔ ُﻳﻈ ﱡﻠ ُﻬ ُﻢ
.ﻋﺰ وﺟﻞ(( ُﻣ ﱠﺘ َﻔ ٌﻖ ﻋﻠﻴﻪ
ความวา : มี 7 จํ าพวกมนุษ ยที่อั ลลอฮฺ � จะทรงบั ง พวกเขา ภายใต รม เงาแห ง พระองค ใ นวั น ที่ ไม มี ร ม เงานอกจากรม เงาของ พระองค (สวนหนึ่ง คือ) .. ชายหนุมที่เติบโตในการภักดีตออัลลอฮฺ
ดังนั้น ผูที่เติบโตมากับการเคารพภักดี ไมตอ งสงสัยเลยวา เขาผู นั้นจะดําเนินไปสูความดีที่ยิ่งใหญ 11
�� ���>>> .........................................................................................
พวกท านพึ ง ทราบเถิ ด วา แทจ ริง การยึด มั่ น อย างเคร ง ครั ด ใน ศาสนานั้นไมใ ชการสละโลกีย หากแตวา การยึด มั่ น อย างเคร ง ครั ด ใน ศาสนานั้น คือ ชีวิต และสิ่งที่มนุษยกระทําความชั่ว รายนับ วาเป น สว น นอย (ผิดปกติ) เพราะเหตุนี้ พวกเขาจะไมกระทําตอหนามนุษย พวกทาน เคยเห็นคนที่อยูในทามกลางสังคมมุสลิมดื่มเหลาอยางเปดเผยบางรึเปลา พวกเราไมเคยเห็น หรือเคยเห็นเขาทําสิ่งลามกอยางเปดเผยบางรึเปลา พวกเราก็ไมเคยเห็น เพราะเหตุใดเลา เพราะวาถาหากสิ่งนั้นเปนสิ่งที่ ดี เราก็จะกระทํามันและผูคนก็จะกระทํามัน แตทวา พวกเขากลับหลบซอน ไปกระทําอยางลับๆ และนี่คือหลักฐานบงบอกวา เรื่องนี้ไมปกติ จริงๆ แลว มันเปนดังที่ทานนบี ไดกลาววา ِ ِﱠ ((ﺎس َ ))ا ِﻹ ْﰒُ ﻣﺎ ﺣ َ ﺻ ْﺪ ِرَك وَﻛ ِﺮْﻫ َ ﺎك ﰲ ُ ﺖ أَ ْن ﻳَﻄﻠ َﻊ َﻋﻠَﻴﻪ اﻟﻨﱠ ความวา “บาปนั้น เปนสิ่งที่กระวนกระวายในจิต ใจของทาน และ ทานรังเกียจที่จะใหมนุษยรเู ห็น” บันทึกโดยมุสลิม
ประเด็นแรกที่เกี่ยวกับการเคารพภักดีที่อัลลอฮฺ � ทรงสรางเรา มาเนื่องจากจุดประสงคนไี้ มไดหมายถึงการถูกจํากัดและตั้งไวชิดซาย แต มันหมายถึงวา จริงๆ แลว เรานั้นมีโอกาสที่ย่ิงใหญ ที่จะฝ กฝนชีวิตของ พวกเราใหสอดคลองกับพระประสงคของอัลลอฮฺ � ประเด็นที่ 2 เปาหมายของมนุษยปรากฏเปนจริงในชีวิตของเขา นั่นคือ ทางนําและความปลอดภัย และสิ่งนี้จะเปนจริงมิไดนอกจากผูที่ยดึ มั่น อยางเครง ครัด ในศาสนา เพราะเหตุนี้ พวกท า นจงพิ จารณาว า ณ เวลานี้ มีกี่ประเทศที่ยอมทุมงบประมาณเพื่อไดมาซึ่งถูกเรียกกันวา “การ สรางพลเมืองที่ดี” พวกเขาตองการอะไรจากพลเมืองที่ดี ผูที่ไมลักขโมย ไมรบราฆาฟนกัน ไมละเมิดตอกัน และไมทําสิ่งลามกกระนั้นหรือ เราขอ กลาววา พวกทานไมสามารถที่จะไดมาซึ่งพลเมืองที่ดีได เวนแตเมื่อทําให 12
�.........................................................................................���>>> ���
พวกเขาเปนมุสลิมที่แทจริงเสียกอน และเปนที่นาอดสูอยางยิ่ง ที่บรรดา ผูปฏิเสธในกลุมประเทศตะวันตกไดประจักษถึงเรื่องนี้ พวกเขาจึงเขาไป หาองคกรมุส ลิมและไดขอครูสอนใหไปทําการสอนในหองขัง เพราะว า พวกเขาพบวาใครที่เขารับอิสลามจากบรรดาผูตองขัง เขาจะไมกลับไปทํา อาชญากรรมอีก และใครก็ตามที่ไมรับ อิสลามจากบรรดาผูตองขัง เมื่อ เขาออกจากคุกเขาก็กระทําอาชญากรรมแลวก็กลับเขาคุกอีกครั้ง อะไรที่ ทําใหพวกปฏิเสธศรัทธาพึ่งไปปฏิบัติเฉกเชนนี้ เพราะวาพวกเขาเห็นถึงผล ของอิสลามที่มตี อบรรดาผูตอ งขัง ไมเพียงแตเทานั้น แทจริงผูจําคุกที่รับ อิสลามจะมี ลักษณะพิเศษที่กิริยามารยาทที่ดี ดั งที่ ผู ต องขั ง ได เปรีย บ เทียบกับคนอื่น สิ่งที่ ได รับ รูกัน จากสื่ อต างๆ วา ณ เวลานี้ ในประเทศต า งๆ ได ทุ ม คาใชจายงบประมาณมหาศาลในการสรางพลเมืองที่ดี สิ่งที่ปรากฏขึ้น บางที พลเมืองนี้เปนคนหนาไหวหลังหลอก บางทีปรากฏวา คนๆ หนึง่ ไมขโมยอยาง เปดเผย แตไปขโมยอยางลับๆ ไมมีจิตวิญญาณและความรูสึกผิดชอบชั่วดี จะ เห็นไดวาคนหนึ่งไมทําสิ่งลามกอยางเปดเผย แตวาเขาทํามันอยางลับๆ และ สิ่งที่สื่อมวลชนไดเผยแพร เรายังไมพบคนที่ดี เพราะวาในจํานวนนั้นไมมี มุสลิม เพราะสิ่งดังกลาว พวกเรากลาวไดวา ไมสามารถเปนพลเมืองที่ดี อยางแทจริงได เวนแตเมื่อเขาเปนมุสลิมที่แทจริง ดังนั้นจําเปนที่ตองรื้อ ฟนการคนควาในการสรางมุสลิมที่ดี +* ) ( ' & % $ # "! ﴿ (٩٦ : ﴾ )اﻷﻋﺮاف,
ความวา และหากวาชาวเมืองนั้นไดศ รัทธากั นและมีค วามยําเกรง
แลวไซร แนน อนเราก็เป ดบรรดาความเพิ่ มพูน (ใหฝนตกลงมาตาม 13
�� ���>>> ......................................................................................... ฤดูกาลและใหแผนดินงอกเงยซึ่งพืชผลอันเปนปจจัยยังชีพ) จากฟากฟ า
และแผนดินใหแกพวกเขาแลว
ดัง นั้น อิส ลามไดใหค วามปลอดภัยและความมั่ นคงแก ป ระเทศ เมื่อมนุษยนั้นมีศาสนาซึ่งหามพวกเขาจากการคดโกง การหลอกลวง และ ความชั่ ว ต า งๆ ดั ง นั้ น เมื่ อ ประชาชาติ น้ี ต อ งการที่ จ ะพั ฒ นาและ เปลี่ยนแปลงตัวของพวกเขา และมีค วามปลอดภัย ก็ ดวยการยึดมั่นใน ศาสนา หากแตวามนุษยในเริ่มแรกนั้น ขัดแยงกัน ดังที่มีคนกล าววา มี ปจจัยตางๆ นานา มนุษยทุกคนมีความสามารถทางด านสติปญ ญาและ รา งกาย โอพี่ น องครับ เราจํา เป น ที่ จ ะต องพิจ ารณาในสิ่ ง ที่ เราทุ ม เท ความสามารถ สิ่ ง ใดก็ ต ามที่ ม นุ ษ ย ทุ ม เทมั น เป า หมายก็ มุ ง ไปยั ง 2 ประการดวยกัน คือ 1. สนองความปรารถนาภายในของเขา 2. ไดรับเกียรติและทรัพยสินในโลกดุนยา สว นผูศรัทธานั้น เกียรติข องเขาคือ โลกอาคิ เราะฮฺ และเราได ติดตามและศึกษาปจจัยมากมาย เราไมพบวา เกียรติที่สนองรับซึ่งเกิดขึ้น จริง ทั้งดุ นยาและอาคิเราะฮฺ มีเพียงมนุษ ยที่เป น ผู นํ าบรรดาผู ยําเกรง ทั้งหลาย มนุษยที่เปนคนรักของอัลลอฮฺ � เขาจะไดรับความมั่นคงใน โลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ มีเกียรติและศักดิ์ศรี และเปนผูสูงสงในแผนดิน เพราะว า แท จ ริ ง มนุ ษ ย ส ว นมากชอบที่ จ ะได ตํ า แหน ง เป น รั ฐ มนตรี เลขานุการรัฐมนตรี หรือเปนรองประมุข แลวผู ที่ได รับ เกียรติ เป น ที่รั ก ของอัล ลอฮฺ � จะเปนเชนไรเลา มันชางยิ่ง ใหญ รั ฐ มนตรี แ หงโลกนี้ ตอ งเผชิญ ความเหน็ด เหนื่อย ตองอาศัยทรัพยสิ น ความอุ ตสาหะและ ความยากเย็น สวนรัฐมนตรีแหงโลกอาคิเราะฮฺ คือเปนคนรักของอัลลอฮฺ 14
�.........................................................................................���>>> ���
� เขาต อ งดํ า เนิ น งานที่ ใ หญ ก ว า แต ว า พวกเราสามารถทํ า ได แท จริงอัลลอฮฺ � ไมทรงบังคับสิ่งที่เราไมมีความสามารถ ดังนั้น คนใดใน หมูพวกเจาที่คิดที่จ ะเปนอยางอิมามอะหฺมัด อิบนุ หัน บัล อิ บนุ ตัยมี ย ะฮฺ มุหมั ัด อิบนุ อับดุลวะฮับ หรือบรรดานักตอสูจากบรรดาเศาะหาบะฮฺ ตา บีอีน และผูที่ติดตามพวกเขา หรือจะเปนอยางอิมามอัชชาฟอีย เปนตน โจทยคือ อะไรคืออุปสรรคที่จะใหคนหนึ่ งจากพวกเราเปนเฉกเชนพวกเขา เหลานั้น ไมมีสิ่งใดขวางกั้นเลยเวนเสียแตความทะเยอทะยานที่สูงและต่ํา เทานั้นเอง ปญญาชนคือผูที่สามารถใชและจัดการพละกําลังของเขาในสิง่ ที่ยิ่งใหญเสมอ พวกเรารําลึกถึง ฮารูน อัรรอชีด เปนบางครั้ง และรําลึกถึง เคาะลีฟะฮฺ บะนีอุมัยยะฮฺ และบนี อัลอับบาส เปนบางครั้ง แตวา อิมามอัลบุ คอรี มุสลิม อะหฺมัด ติรมีซีย อัชชาฟอี อิบนุคุซัยมะฮฺ และบรรดาอิมาม ในอิสลามไดถูกกลาวในทุกขณะ จริงๆ แลว พวกเขาเหลานีแ้ หละ คือผูนํา หรือนี่เปนการนําที่ถาวร บรรดากษัตริยโลกนี้วั นหนึ่ งก็จ ากไป บรรดาผู ร่ํารวยไดตายไปแลว ไมมีใครรูจักอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย หากแตวา ณ เวลานี้ พวกเราจะกลาววา อัลอะหฺนัฟ อะฎออฺ ไดกล าววา คนหนึ่งจาก บรรดาผูรูไดกลาววา พวกเขาไดกลายเปนผูนําแหงโลกนี้ และพวกเขา ไมมีความสามารถทางดานทรัพยสินหรือเกียรติยศใดๆ แตวาพวกเขา อดหลับอดนอนเพื่อที่จะศึกษาคัมภีรของอัลลอฮฺ � ทั้งทองจํา อาน และเขาใจ และศึกษาแนวทาง (ซุนนะฮฺ) ของทานนบี นี่คือสาเหตุที่ พวกเขาอดหลับ อดนอน ถามิเชนนั้น เมื่ออะฎออฺ อิ บ นุ อะบี เราะบาฮฺ ถู ก กลาวในหนัง สือตา งๆ โลกนี้จะสั่นสะเทือนให กั บเขา ก็ เพราะท านเป น เพียงทาส (บาว) ซึ่งหนาตาก็ไมหลอ แตวา ณ เวลานี้ ในหนังสือวิชาการ ทุกเลม จะกลาววา อะฎออฺไดกลาววา คําพูดของเขาเปนหลักฐาน อะไร 15
�� ���>>> .........................................................................................
คือสิ่ง ที่ทําใหเ ขาอยูในฐานะนี้ ไมใชอื่นใดนอกจากเขาได ทอ งจํ าคั มภี ร ของอัลลอฮฺ � และทองจําอัลหะดีษของทานนบี และปฏิบัติตามทั้ง 2 สิ่งนี้ ดังนั้น พวกทานจําเปนตองมีแรงบันดาลใจที่ทําใหเยาวชนคนหนุม แห งประชาชาตินี้ เปนนักวิชาการและเปนผูนําของบรรดาผู ยํา เกรงไม เปนไร หากมีบางทีคนที่เกงในวิชาการดานดุนยาแลวเขารับใชความรูนั้น แกบรรดามุสลิม เพราะแทจริงแลวเปนที่นาเสียใจอยางยิ่งที่มุสลิมทั่วไป ที่มีค วามรูทางดา นดุนยา พวกเขายังลาหลัง หากแต วาเราจําเป นต อ ง พยายามหาสาเหตุ ในการสร า งความใฝ ฝ น อั น แรงกล าไว ณ เวลานี้ เยาวชนคนหนุมสาวสวนใหญมีความใฝฝนอันแรงกลาที่จํากัด พี่นองครับ เราจําเปนที่จะตองมีความใฝฝนอันแรงกลาและยิ่งใหญ เปนความใฝฝนที่ ใหญกวาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ณ เวลานี้ โดยการที่ใหพวกเราคิดที่จ ะ เปนเหมือนกับ มุฮัมมัด อิบนุอับดุลวะฮับ อันศ็อนอานีย อัชเชากานีย ยิ่ง ไปกวานั้น ดังเชน ชัยคฺบินบาซ ชัยคฺอัล อัลบานีย ชั ยคฺอิบนุ อุษัยมีน ซึ่ ง ทั้งหมดนี้อยูในยุคสมัยปจจุบัน และสิ่งที่มากับพวกเขาเกี่ยวกับวิชาความรู นีเ้ ปนรางวัลจากฟากฟา โดยเฉพาะอยางยิ่ง อัซซะมัดชะรียไ ดกลาววา ฉันอดหลับอดนอนในยามค่ําคืน ในยามดึกดื่น ทานหลับสบาย แลวปรารถนาที่จะตามฉันไดหรือ ความตั้งใจอันแนวแนจะไมสอดคลองกับความตั้งใจที่ต่ําตอย เมื่อมนุษ ย นั้น ต องการให สิ่ง หนึ่ งเปน ของตั วเอง ดั ง นั้ น จํ า เป น ที่เขา จะตองรูวาแทจริงหนทางไปยังการเปน คนรัก ของอัล ลอฮฺ ไดมีมาใน รายงานของอัลบุคอรียในหะดีษกุดซีย ซึ่งอัลลอฮฺ ดํารัสวา 16
�.........................................................................................���>>> ��� ِ ِ ﳊ ْﺮ و َﻣﺎ َﺗ َﻘ ﱠﺮ َب ِإ َ ﱠﱄ َﻋ ْﺒ ِﺪي،ب َ )) َﻣ ْﻦ ﻋﺎ َدى ﱄ َوﻟ �ﻴﺎ َﻓ َﻘﺪْ آ َذ ْﻧ ُﺘ ُﻪ ﺑِﺎ ٍ َ ِﺑ َ و َﻣﺎ،ﺐ إِ َ ﱠﱄ ِﳑﱠﺎ ا ْﻓ َ َﱰ ْﺿ ُﺘ ُﻪ َﻋ َﻠ ْﻴ ِﻪ زال َﻋ ْﺒ ِﺪي َﻳ َﺘ َﻘ ﱠﺮ ُب ِإ َ ﱠﱄ ﴚء َأ َﺣ ﱡ ْ ِ ﺑِﺎﻟﻨﱠ ،ﺖ َﺳ ْﻤ َﻌ ُﻪ ا ﱠﻟ ِﺬي َﻳ ْﺴ َﻤ ُﻊ ﺑِ ِﻪ ُ ْ َﻓ ِﺈ َذا َأ ْﺣ َﺒ ْﺒ ُﺘ ُﻪ ُﻛﻨ،ﻮاﻓ ِﻞ َﺣ ﱠﺘﻰ ُأ ِﺣ ﱠﺒ ُﻪ ِ ، و َﻳﺪَ ُه ا ﱠﻟﺘِﻰ َﻳ ْﺒ َﻄ ُﺶ ِﲠﺎ،وﺑ َﴫ ُه ا ﱠﻟ ِﺬي َﻳ ْﺒ ُﴫ ﺑِ ِﻪ ور ْﺟ َﻠ ُﻪ ا ﱠﻟﺘِﻲ َﻳ ْﻤ ِﴚ ُ َ َ ِ ِ ِ َ اﺳ َﺘﻌﺎ َذ ِﲏ َﻷُ ِﻋ و َﻣﺎ َﺗ َﺮ ﱠد ْد ُت،ﻴﺬ ﱠﻧ ُﻪ ْ و َﻟﺌ ْﻦ، وإِ ْن َﺳ َﺄ َ�ﻨﻲ َﻷُ ْﻋﻄﻴَﻨﱠ ُﻪ،ِﲠﺎ ِ ﺲ اﳌ ِ ِﰲ َﳾ ٍء أ�ﺎ ِ ﻓﺎﻋ ُﻠ ُﻪ َﺗ َﺮ ﱡد ِد ْي َﻋ ْﻦ َﻗ ْﺒ ِ ﺾ َﻧ ْﻔ اﳌﻮت وأ�ﺎ َﻳ ْﻜ َﺮ ُه،ﺆﻣ ِﻦ َ ْ ((َأ ْﻛ َﺮ ُه َﻣﺴﺎ َء َﺗ ُﻪ
ความวา ผูใดปฏิปกษกับคนรัก ของขา ข าจะประกาศทําศึก
กับเขา บาวของขามิไดชิดใกลขาดวยสิ่งหนึ่งๆ ซึ่งเปนที่รักยิ่ง สําหรับขา มากกวาสิ่งที่ขาไดบัญญัตแิ กเขา บาวของขายังคง ชิดใกลขาด วยสิ่งสุ นัตจนกวาขาจะรัก เขา หากขารักเขาแลว ขาจะเปนการไดยินของเขาซึ่งเขาใชฟง ขาจะเปนการมองของ เขาซึ่งเขาใชมอง ขาจะเปนมือของเขาซึ่งเขาใชจับ และขาจะ เปนเทาของเขาซึ่งเขาใชเดิน หากเขาขอจากขาแนนอนขาจะ ประทานใหเขา และหากเขาขอความคุมครองจากขาแนนอน ขาจะคุมครองเขา ขาไมเคยลังเลยในสิ่งใดเลยทั้งๆ ที่ขาจะจะ ปฏิบัติสิ่งนั้น เชนการลังเลของขาตอการปลิดวิญญาณของผู ศรัทธา ทั้งๆ ที่เขาไมชอบความตายและขาก็ไมชอบที่จะใหราย เขา
และสิ่งนี้เปนสวนหนึง่ จากความประเสริฐที่ยิ่งใหญของผูศรัทธา ณ ที่อัลลอฮฺ มันมิใชเปนสิ่งที่งายเลย อัลลอฮฺ � ทรงดํารัสมีความวา “ขามิเคยลังเลในสิ่งที่ขาจะลงมือทํา เทากับการลังเลที่จะปลิดวิญญานของผูศรัทธา” 17
�� ���>>> .........................................................................................
เพราะเหตุดั งกลาว ณ เวลานี้ บรรดาผูที่เขน ฆา ทํ าสงคราม ในบรรดามุสลิม ทํารายมุสลิมและปฏิเสธมุสลิม พวกเขาไมเขาใจหะ ดีษนี้ พวกเขาไมเขาใจความหมายของมัน และอัลลอฮฺไดดํารัสในหะ ดีษนี้มีความวา “บาวของขามิไดเขาชิดใกลขาดวยสิ่งหนึ่ งๆ ซึ่งเป นที่รักยิ่ ง สําหรับขา มากกวาสิ่งที่ขาไดบัญญัติแกเขา” ทานจะกลายเปนคนรักของอัล ออฮไดอยางไร? พระองคดํารัสวา จงเริ่มดวยฟรฎตางๆ เพราะแทจริง มนุษยบางคน บางทีเขาทําสิ่งที่เปนสุนัตตางๆ อยางเรียบรอยสมบูรณ แตในเรื่องฟรฎตางๆ เขากลับขี้เกียจ อาทิเชน เขาอดหลับอดนอนใน ยามค่ําคืนเพื่อที่จะศึกษาหาความรู หลังจากนั้นเขาก็ ไมไดละหมาด ฟจฺรฺ จากฟรฎตางๆ ก็ไปยังสิ่งที่เปนสุนัตตางๆ ซึ่งไมมีสิ้นสุด หากแต วาสิ่งนี้ลวนตองการความอดทนและความแข็งแกรง โดยเฉพาะอยางยิ่ง สิ่งยั่วยวนแหง ชีวิต ในโลกนี้มีม ากมายเหลือเกิน เพราะเหตุดั งกลาว ณ เวลานี้ ท านจะพบนั ก ท อ งจํ า ในประเทศต า งๆ ที่ ยากจน และบรรดา อั จ ฉริ ย ะในประเทศต า งๆ ที่ ย ากจนมากกว า ประเทศต า งๆ ที่ ร่ํ ารวย สาเหตุมาจากอะไร ? แทจริงพวกเรามีสื่อที่ชักชวนใหเสเพลและสื่อที่ทํา ใหยุงกับสิ่งที่มนุษ ยเหลานั้นไมมี แทจ ริงที่เกง ในประเทศของเรา 1 คน จริง ๆ แลว จะมี ค นเกง ในประเทศอื่น 10 คน เพราะพวกเขาไม มี สื่ อ ที่ สามารถหันเหพวกเขาได ดังนั้น เยาวชนที่มุงสูการเครงครัดในศาสนา ทองจําอัลกุรฺอานพรอมกับทําความเขาใจนับเปนสิ่งมหัศจรรยในยุคสมัย นี้ ทั้ง ๆ ที่มีสื่อ ตางๆ เพียบพรอม แตมันถูกเมิ น เฉยเพื่ อ เรี ยนรูศ าสนา ของอัล ลอฮฺ � เนื่องจากการทองจําคัมภีรของอั ลลอฮฺ � จากการ เรียกรองสูอัลลอฮฺ แทจริงมันไมเทาเทียมกันสําหรับคนที่โอกาสเปดใหกับ 18
�.........................................................................................���>>> ���
เขาและคนที่สิ่งยั่วยวนตางๆ ทั้งหมดอํานวยใหแกเขาหลังจากนั้นเขาก็ละ ทิ้งมันเพราะหวังสิ่งที่มีอยู ณ ที่อัลลอฮฺ � ดังนั้น ผมขอยอนกลับและกลาววา แทจริงการเครงครัดในศาสนา มิไดหมายความถึงการหักหามจากสิ่ง ตางๆ หากแต วามันหมายถึง การ ตอบสนองความปรารถนาของมนุษยอยางสมบูรณ แตตองสอดคลองกับ สิ่งทีอ่ ัลลอฮฺทรงประสงค และอัลลอฮฺนั้นพระองคทรงรอบรูในสิ่งทีเ่ ปน ประโยชนตอเรา พระองคจึงประทานกฎหมาย (บทบัญญัติ) แกพวกเรา และประชาชาติตางๆ ที่ละทิ้งศาสนาเปนประชาชาติที่อยูในความปนปวน นีแ้ ละความเสียหายที่พวกเราเห็นทุกวันนี้ เพราะเหตุดังกลาว จึงจําเปนที่ เราจะตองยึดมั่นในศาสนาไมใชเกิดจากความรูสึก ไมใชเกิดจากเพื่อน แต เราตอ งยอมรับ วา นี่คื อ สิ่ ง ที่ทําใหเรามี เกีย รติ จริ ง ทั้ ง ในโลกนี้ และโลก อาคิเราะฮฺ และเราควรทราบวาศาสนานั้นใหความสําคัญกับความรู เราจึง เรียนรู โอเยาวชนทั้ง หลายครับ พวกทา น ณ เวลานี้ ยั ง ไมมีห นาที่ ความรั บ ผิ ด ชอบ ไม ว า ความรั บ ผิ ด ชอบในครอบครั ว ไม มี ห น า ที่ เกี่ยวกับคาใชจายหรือหนาที่ในการเลี้ยงดูลูกหลาน นี่แหละเปนเวลาที่ ตองการ ในเวลานี้สมองยังปลอดโปรง ทานมีความสามารถที่จะไดมา ในสิ่งที่คนอาวุโสไมสามารถจะไดมา และเพราะเหตุดังกลาว ทานอุมัร ไดกลาววา “พวกทานจงเขาใจศาสนากอนที่จะนําคนอื่น” กลาวคือ กอนที่พวกทานจะยุงอยูกับตําแหนงตางๆ ยุงเกี่ยวกับครอบครัว และ มีภ าระหนา ที่ ต างๆ ที่ ต อ งแบกรั บ จริ งๆ แล ว มั น เป น โอกาสที่ ไม สามารถชดเชยหรือแลกเปลี่ยนได หลังจากนั้น ผูที่ล ะทิ้งมั น เขาจะ เสียใจ และเมื่อนั้นความเสียใจจะไมยังประโยชนอะไรไดเลย 19
�� ���>>> .........................................................................................
20
�.........................................................................................���>>> ���
ประกายความคิดที่
2
จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูใน สัจธรรม
แทจริงปญหาที่เยาวชนในโลกอิสลามไดเผชิญในปจจุบันนี้ คือ สิ่งที่ เราสามารถเรียกวา “ความเขาใจที่คละเคลา” เพราะเหตุดังกลาว ไมมี ประเทศใดที่เราไดแวะเวียนไปเวนแตจะตองมีคาํ ถามมากมายวาเราจะเดิน ไปกับใคร? เราจะเขาใจศาสนาไดอยางไร? สัจธรรมอยูที่ไหน? โดยเฉพาะ อยางยิ่ง เราไดใชชีวิตในสมัยที่เรียกวา “เทปบันทึกเสียง” นี่คือสิ่งที่ทําให คําพูด ตางๆ ไดแพรห ลายอยา งรวดเร็ว มาก คําพูด ตางๆ ในยุคนี้ไมรูจัก แยกแยะระหวา งการพู ด คุ ยในกลุม ทั่ ว ไปกั บการพูด คุย เปน การเฉพาะ ระหวางคําพูดของผูรคู นหนึ่งที่พูดในหลักการกับการฟตวาในบางประเด็น ซึ่งมาจากผูคนกลุ ม นอ ยบางกลุม สอดคลอ งกั บ ความรูอัน น อ ยนิด ของ มนุษยและการอานที่นอยเพียงนอยนิดโดยที่ตําราและหนังสือมีมากมาย ดวยเหตุ นี้ บรรดาผูที่อ ยูในสั จธรรม (อะฮฺ ลุ ล ฮัก ) ผูซึ่งปฏิบัติตามคนรุน กอนที่ทรงคุณธรรม (อะฮฺลุ สสะลั ฟ) และบรรดาผูมีความรูทั้งหลายเปน การเฉพาะ จําเปนอยางยิ่งที่จะตองเผชิญหนากับยุคอันเลวรายนี้เพื่อชี้แจง รากฐานของอะฮฺ ลุ ซ ซุ น นะฮฺ และแฉความเลวของพวกอุ ต ริ ก รรม ขอ ใหอัลลอฮฺ � ทรงเมตตาทา นอิบ นุก อยยิม ซึ่งไดก ลา วถึ งผูที่ห ลงอยูใน ตัณหาราคะและพวกอุตริกรรม วา 21
�� ���>>> .........................................................................................
การแฉสิ่งตําหนิและขอเสี ยของพวกเขาเหลานั้นเปนการตอ สูใน หนทางของอัลลอฮฺ � ผมคิดวาในปจจุบันนี้ เราทั้งหลายไดถูกทดสอบกับความเขาใจที่มี การคละเคลาและความเสียหาย ทุกคนตางยกเอกลักษณแหงคัมภีรอัลกุรฺ อาน อัซซุนนะฮฺ และเอกลักษณและจุดยืนของการเปนชาวซะลัฟ และตาง ก็เรียกรองผูค นสูสิ่งนี้ บรรดาผูค นก็นาสงสารยิ่งนัก พวกเขามิไดอานตํารา ของบรรดาอุ ล ะมาอ รุ น อาวุ โส พวกเขาไม ได รั บ รู คํ า พู ด ของบรรดา บุรุษชนซึ่งไดเจริญรอยตามบรรดาเศาะหาบะฮฺ พวกเขาจึงไมสามารถ แยกแยะไดระหวางผูที่อยูบนแนวทางของชาวซะลัฟอยางแทจริงกับผูที่อาง ตนวาเปนชาวซะลัฟแงมุมหนึ่ง กับอีกแงมุมหนึ่งระหวางบรรดานักคิดซึ่ง ชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขาเปนที่รจู ักกันอยางกวางขวางในแวดวงมุสลิม พวกเขาไดเปลี่ยนจากสถานะนักเขียนซึ่งเปนนักคิด กลายเปนนักวิชาการ ผูใหคําฟตวา เหตุนี้เอง ผมพยายามที่เสนอหลักการและแนวทางที่จําเปน บางสวนโดยสังเขป เผื่อวาผูคนจะรูจักเสนทางที่เขาจะกาวไป พี่นองครับ ประเด็นแรก เราจะตองเชื่อมั่นอยางเหนียวแนนวาสัจ ธรรมที่ทานนบีมุหัม มัด ไดนํา มา และบรรดาเศาะหาบะฮฺของทานได ตอสูและเผยแผออกไปประหนึ่งดังดวงอาทิตยที่สองแสงเจิดจรัส นั่นก็คือ (ฉันไดทิ้งไวใหพวกทานทั้งหลายบนแสงสวางทั้งในยามค่ําคืนและกลางวันพอๆ กัน) รายงานโดยอิบนุมาญะฮฺและอัลอัลบานียม ีความเห็นวาเปนหะดีษทีเ่ ศาะฮีฮฺ หมายถึง ชัดเจนและชัดแจง อัลลอฮฺ � ไดตรัสวา (١٧ : ﴾ )اﻟﻘﻤﺮut s r q p o n﴿
22
�.........................................................................................���>>> ���
ความวา และแนนอน เราไดทําใหอัลกุรฺอานนั้น งายแก การรําลึก (การทองจําและการเขาใจ) แลวมีผูใดบางไหมที่จะรําลึก (ถือเปนขอ ตักเตือนและบทเรียน)
สาสนที่ชัดแจงดังกลาวไมจําเปนตองพึ่งพานักปรัชญาอีกแลว และ ไมตองอาศัยการถลําลึกเชิงปรัชญา กลาวคือ พอเพียงในความชัดเจนแลว จริงๆ แลว บรรดาเศาะหาบะฮฺสวนใหญในอดีตนัน้ คือ กลุมชนหนึ่งจากผูที่ ศรัทธามั่น โดยที่พวกเขาไมสามารถอานออกเขียนได ทานเราะซูล � ได กลาววา “พวกเราคือประชาชาติที่อานไมออกเขียนไมได” รายงานโดยอบูดาวูด และอัลอัลบานียม ีความเห็นวาเปนหะดีษที่เศาะฮีฮฺ
อยางไรก็ตาม หลักการศาสนาของพวกเขามีความชัดเจนและชั ด แจง บุคคลที่มาจากเมืองคุรอซาน หรือจากชานเมืองเปอรเซียและโรมัน แลวไดเขารับอิสลาม หลังจากนั้นระยะหนึ่ง การศรัทธามั่นและหลักการ ดําเนินชีวิตของเขาปรากฏวาชัดเจนมาก ทําไมละ? ก็เพราะวาเขาไดรบั เอา ศาสนานี้จากกลุมชนที่เปนแบบอยาง ซึ่งรับเอาแบบมาจากทานเราะซูล � ประหนึ่งดังดวงอาทิตย พี่นอ งครับ จํ าเป น อยา งยิ่ งที่ เราต องยึด มั่น และศรัทธาวา ศาสนา อิส ลามในตัว มั น เองนั้ น ชั ด เจน และการแยกแยะระหวา งความจริ งจาก ความเท็จนั้นงายและเรียบงายมาก ในระดับตนๆ เราหมายถึงศาสนา ณ ที่ นี้ คือ เรื่อ งหลั ก การศรั ท ธา ถ า มิ เชน นั้ น แล ว ประเด็ น ปญ หาต า งๆ ที่ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินและการดําเนินชีวิตประจําวันก็จะสูญหายไป แตวา การรูจักอั ลลอฮฺ ผูทรงสูงส ง รูจัก บรรดาพระนามและคุณลักษณะ ของพระองค รูจักสวรรคและนรก ความดีและความชั่ว ความเลวรายและ 23
�� ���>>> .........................................................................................
ความดีงามนั้นเปนเรื่องงายมาก ซึ่งเปนสิ่งที่จะเปนตัวบงชี้ทางนําและทางที่ หลงผิด การเขา สวรรค หรือ นรก ดังนั้น ศาสนานี้เปนศาสนาที่งายดาย ไมมีอะไรสลับซับซอน มันจึง ไมมีความคิดเชิงปรัชญาและความยุงยากแตอย างใดเลย ดั งนั้น บรรดา เศาะหาบะฮฺไดยึดมั่นกับศาสนาอยูบนความงายดายเปนอันดับแรก พวก เขาจึงไมเขาในการสาธยายของพวกมุ อฺ ตะซิ ละฮฺ อะชาอิ เราะฮฺ และนั ก ปรัชญาชาวกรีก พวกเขาก็ ไมเกิดป ญ หา ไมวาจะเปนประเด็นที่เกี่ยวกั บ การเกาะฎออและเกาะดัรฺ และพวกเขาก็จะไมถกเถียงวา ผูอภิบาลของเรา ทรงอยุติธรรมหรือยุติธรรม? สิ่งนี้ไมเกิด ขึ้น กับบรรดาเศาะหาบะฮฺแมแต นอย และเมื่อผูทรงอภิบาลไดกลาวแกพวกเขา มีความวา “พวกทานทั้งหลายจงขอพรตอฉัน ฉันจะตอบรับคําขอของพวกทาน แนนอน” อัล-ฆอฟร: 60 พวกเขาไมเคยกลาววา เราจะขอพรตอพระองคอยางไร? ครั้งหนึ่ง เบื้ อ งบน ครั้ งหนึ่ งเบื้ อ งล า ง และเมื่ อ พระองค ล งจากอั ร ชฺ ปรากฎว า พระองคปลอยใหวางเปลาหรือไมวาง? บรรดาเศาะฮาบะฮฺไมเคยถกเถียง เรื่องนี้เลย พวกเขาไดมอบหมายธรรมชาติของพวกเขากับคําดํารัสของผู อภิบาล แลวพวกเขาศรัทธาตอสิ่งที่ไดมาจากพระองคอัลลอฮฺ � ผานลิ้น ของศาสนฑูต ของพระองค ปราศจากการยึด ติด ขอ สงสั ยหรือ คําถามที่ ยุงยาก สวนปจจุบันนี้ สมมุติวาคุณกลาวแกใครบางคนวา สิ่งนีฮ้ ะรอม เขา ก็จะกลาววา อะไรคือฮิกมัตของเรื่องดังกลาว? โอพี่นอ งครับ เราทั้งหลายพึงไตรต รองบรรดางานเขียนของชัยคฺ มุฮัมมัด อิบนุอับดุลวะฮาบ (ขออัลออฮฺทรงเมตตาเขา) และเราก็พิจารณา หนังสือของกลุม ชนสมัยใหม คุณจะพบวา กลุ มชนรวมสมัยนี้เมื่อเขาจะ 24
�.........................................................................................���>>> ���
อธิบายหลัก การเตาฮีด อัรรุบูบียะฮฺ (แหงผูอภิบาล) พวกเขาจะอธิบ ายไว เปนชุดหนังสือเลยทีเดียว เราก็ไมทราบวามันเขา-ออกอยางไร มีเยาวชน หลายตอหลายคนเหมือนกันที่อานหนังสือตางๆ โดยที่เขาเองไมเขาใจอะไร สักอยาง แตเมื่อคุณมาอานหนังสือบางเลม อาทิ หนังสือ กัชฟุ อัชชุบุฮาต (เผยสิ่งที่คลุมเครือ) หรือหนังสือ กิตาบอัตเตาฮีด (หนังสือแหงหลักศรัทธา) หรือ หนังสือ อุศูลษะลาษะฮฺ (รากฐานหลักทั้งสาม) คุณจะพบวามีคําพูดที่ เรียบงาย มีพลังชัดเจน เพราะ การเขียนทุกที่จะมีการอางอายะฮฺและหะ ดีษ โดยพูดตรงๆ ผูคนก็เลยยืนหยัดดวยงานเขียนตางๆ นี้ อนึ่ง ในยุคนี้คุณ ฟงนักคุฏบะฮฺทั้งหลายเปนชั่วโมง คุณก็ยงั ไมทราบวาหัวขอของมันคืออะไร ก็เทากับที่มีผูกลาววา (เขาลืมตอนทายคือลืมตอนแรกเชนกัน) เหตุนี้ทาน ทั้งหลายพึงพิจารณาแมกระทั่งในเรื่องของฟกฮฺ พึงพิจารณาสํานวนที่แกรง ของพวกเขาเหล า นั้น หากทา นประสงค จ งอา นหนังสื อ ชั รหุ อัซ ซุน นะฮฺ (คําอธิบายซุนนะฮฺ) ของอิมามอัลบะเฆาะวีย ซึ่งทานไดนําประเด็นปญหามา แลวความคิด เห็ นและทั ศนะของบรรดาอิมามไดนํามาอยางรวบรัดและ แกรงกลา ดังนั้น มันจึงไดฟกฮฺที่ไมมีเรื่องปรัชญาที่บกพรอง โอพี่นองครับ แนนอนเราจะนําเสนอศาสนานี้แกมวลมนุษยทั้งหลาย ดังที่บรรดาเศาะฮาบะฮฺไดรับและเขาใจ แลวไดนําเสนอศาสนานี้แกผูที่เขา รับอิสลาม อะไรเลาเปนสัญลักษณแหงความชัดเจนซึ่งมีในศาสนานี้? เมื่อ ทานยังไมส ามารถที่จะเขาใจปญ หาก็จ งถามเพื่อ นของทา นที่ส นใจเรื่อ ง ปรัชญาดู ซิวา สิ่งนี้ทานอบู บักรฺ อั ศศิ ด ดีก อุ มั รฺ อิบนุอัล ค็อ ฏฏอบ หรือ เศาะฮาบะฮฺทานอื่นไดเคยกลาวหรือเปลา? นี่คือ สิ่งที่เรียกวาสั ญ ลักษณ พวกอุต ริก รรมแมก ระทั่ งพวกซึ่งอา งวาเป น ชาวซะลั ฟ ยังออกหา งจาก ประเด็นปญหาฟกฮฺของบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺ ถามิเชนนั้นแลว ทุกคนตางอาง 25
�� ���>>> .........................................................................................
วาปฏิบัติตามอัล กุรฺอ านและอั ลฮฺ ะ ดีษ แต วาบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺไดทํ าสิ่งนี้ หรือไม ? หากผมจะกลา วถึ งประเด็ น การเปลี่ยนแปลงความชั่ว หรือ วาจะ ออกจากการเชื่อฟงฝายปกครองที่ทําความชั่ว คนนี้ก็จะมายกอายาตและ หลักฐานตางๆ คําพูดอันยืดยาว แตทานจงกลาวแกเขาวา “เศาะฮฺาบะฮฺได กล าวและยกหลัก ฐานเหลา นี้ห รือ ไม? ณ ตรงนี้แหละ คําพูด ตางๆ ก็ จะ หยุด ชะงัก และจบเรื่อง เพราะเขาจะไม สามารถอางอิงรายงานใดๆ จาก บรรดาเศาะฮฺาบะฮฺ เพราะเหตุนี้ พึงเขาใจเถิดวา มันมิใชเปนเรื่องเลนๆ ที่ ทานนบี � ไดเชื่อมโยงทางนําดวยการกลาววา (ในสิ่งที่ฉันและเศาะฮฺาบะฮฺของ ฉันยึดถือไว) รายงานโดยอัตติรมีซีย และอัลอัลบานียมีความเห็นวาเปนหะดีษฮาซัน สิ่งนี้แหละคือตนแบบและตราชั่ง คําถามที่ 2 ทําไมเราถึงเนนย้ําสิ่งนี้? เพราะวาผูที่ถูกหักหามจากการดื่มน้ําจากสระของทานนบี � ในวัน กิยามะฮฺ จะมีการกลาวแกทานวา “(โอมุฮัมมัด) เจาไมรูหรอกวาพวกเขาได ทํ า อุ ต ริ ก รรมอะไรหลั ง จากสมั ย ของเจ า ” ดั งนั้ น บรรทั ด ฐานของเรา กลายเปนวา กลุมชนเหลานี้ไดเจริญรอยตามบนเสนทางที่ทานนบี � และ บรรดาเศาะฮาบะฮฺไดปฏิบัติ หรือ วาพวกเขาไดอุตริประดิษฐขึ้นมา? มีคน กลาวแกทานบี � วา “(โอมุฮัมมัด) เจาไมรูหรอกวาพวกเขาไดทําอุตริกรรม อะไรหลังจากสมัยของเจา” ทานจึงกลาววา “สมแลว สมแลว” (จากการรายงาน ของ อิมามอัลบุคอรียและอิมามมุสลิม) ทานนบี � ไดปลีกตัวจากชนกลุมหนึ่ง ในบรรดาประชาชาติข องทา น ทั้ งๆ ที่ ทา นทราบดี จากสั ญ ลัก ษณ และ รอ งรอยของการทํ าวุฎ อ ทานทราบดีวาพวกเขาเปนมุส ลิมแตพวกเขาได เบี่ยงเบนไปจากเสนทางของทาน 26
�.........................................................................................���>>> ���
หากศาสนาอิสลามชัดเจนและเรียบงายเชนนี้แลว ทําไมมนุษยยงั ไม รับรูเลา ? สาเหตุ ที่สํา คัญ ก็ คือ พวกเขายึดติดศาสนาของพวกเขาไวกั บ บุคคล พวกเขามิ ได ยอ นกลั บไปดู แกนหลั ก ของปญ หา แตก ลับกลา ววา คนนี้ คนนั้น นักแตงหนังสือคนนี้ อิมามทานนี้ ซึ่งเขาไดนําศาสนาของพวก เขาไปเกี่ยวพันกับบุคคลดังกลาว มิไดเชื่อมโยงบุคคลกับศาสนา สิ่งนี้เองจึง เปนรากฐานของป ญ หา ขณะนี้อาจมีคนหนึ่งถามวา สัจธรรมอยูที่ไหน? สัจธรรมอยูกับคนนี้หรือกับคนนั้น? โอ ไมใชแนนอน ขอสาบานตออัลลอฮฺ วา คําถามนี้ผิดแนนอน มิ ใชป ระเด็นอยูที่คนนั้น คนนี้ในหมูม นุษยดวยกั น แต วาประเด็นก็คือ สัจธรรมอยูที่ไหน? กฎเหล็ กที่ทราบกัน คือ คํากลาว ของทานอาลี วา “โอฮาฺ ริษ จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรม” ดังนั้น ผมจะทําอยางไร? เมื่อมีคนมากลาววา กลุมตางๆ มากมาย หลักสูตรตางๆ ก็มาก ผูรแู ละนักวิชาการก็มากมาย ผมจะรวมพรอมกับคน นี้หรือจะอยูพรอ มกับคนนั้น ? เราตอ งกลาววา เปลาเลย อันดับแรก ให รูจักศาสนาเสียกอน เพราะแทจริง บางทีพวกเขาแสดงตัวใหทานเห็นวาอยู บนแนวทางซะลัฟ ทั้งๆ ที่พวกเขาไมใชกลุมชนสะลัฟ ในบางครั้ง คุณอาจ ถูกหลอกลวงดวยความโออาและสิ่งประดับ ประดาจากคําพู ดที่ แคลงใจ ตางหาก ผมขอนําตัวอยางหนึ่งเกี่ยวกับการถกเถียงในเรื่องการละหมาดและ การปฏิบัติสําหรับผูที่ตายชะฮีด เราจึงบอกวา เรื่องนี้เปนบิดอะฮฺ พวกเขา กลาววาทําไมละ นี่เปนผลบุญและเปนการอานเพื่อหวังวาอัลลอฮฺ � จะ ใหประโยชนดวยสิ่งดังกลาว ! เราไดกลาววา บรรดามุสลิมถูกจับเปนเชลย ในชวงสงครามกับโรมันมีมากเทาไหร? มีจํานวนมาก แลวพวกทานเคยได 27
�� ���>>> .........................................................................................
ยินวา มุสลิ มคนหนึ่งไดเรียกรองสูการละหมาด ซึ่งเรียกวาการละหมาด เพื่อเชลยศึกไหม ? เราก็ไมเคยไดยินพวกเขารักเชลยศึกของพวกเขาไหม? ใช พวกเขารัก และพวกเขาตองการทําความดีแกพวกเขาไหม? ใช ตองการ ผมเลยกลาววา ขอสาบานตออั ลลอฮฺวา การละหมาด ๒ ร็อกอัต ในช วง เวลากลางคืนของคนๆ หนึ่งโดยลับๆ แลว เขาวิงวอนตออัลลอฮฺ � จะมี ประโยชนย่งิ กวาที่เขาปฏิบัติสิ่งที่กลาวมา เหตุ นี้ เ อง หากการงานต า งๆ มี ก ารคละเคล า กั บ สิ่ ง อื่ น และ คลุมเครือ เราจําเปนตองพิจารณาวา บรรพชนยุคกอนเคยปฏิบัติหรือไม พรอมกับ แรงจูงใจที่ป ฏิ บัติเชน นั้น ? ดังที่ทา นอิม ามอะฮฺหมัด ไดโต ต อบ เกี่ยวกับประเด็นอัลกุรอฺ านเปนมัคลูกหรือไมเปน รวมถึงประเด็นอื่นๆ ทาน เพี ยงแคกลา ววา สิ่ งนี้เปน สิ่ งที่ทานนบี ไดเขาใจเชน นี้หรือ มิได เข าใจ เชนนี?้ เราจะรูจักสัจธรรมนี้ไดอยางไร? ก็ดวยกับความรู และสัจธรรมนี้มี สัญลักษณใหเห็น และผูที่อยูในสัจธรรมก็มีสัญลักษณใหเห็น คุณจะเห็นได วา ญะมาอะฮฺหรือมัซฮับทุกกลุมจะมีผูกอตั้ง หมายถึงผูเปนแกนของกลุม สําหรับวิถีที่ถูกตองนั้น ผูเปนแกนนําคือบรรดากลุมชนยุคแรกไดแกเศาะ ฮาบะฮฺและบรรดาตาบีอีน ณ เวลานั้น ทานก็จะมีบรรทัดฐาน เสมือนเข็ม ทิศทางกิบลั ตซึ่งทา นวางไปในทางทิศทางไหนๆ มันก็จะมุงไปหาทิศทาง กิบลัต ดังนั้น เมื่อใดที่ทานมีบรรทัดฐาน แมมันจะถูกวาง ณ มุมไหนมันก็ จะมุงสูร ากฐานของมัน ศาสนาของเราดํารงอยูบนอัลกุรฺอานและอัลฮฺะดีษและความเขาใจ ของบรรดาเศาะฮาบะฮฺ เมื่อมีขอขัดแยงกันในความเขาใจแลว ก็จงกลับไป หาสิ่งนั้น จงพึงระวังจากการวางฐานครอบครัวบนศาสนาที่เสื่อมเสีย อะไร คือ ศาสนาที่เสื่อ มเสีย นี้? พวกเขาคือ บุ คคลที่ ปฏิ บัติต ามอารมณ ใฝต่ํ า 28
�.........................................................................................���>>> ���
เนื่องจากพวกเขาไมสามารถที่จะทําลายศาสนา จึงเขามาทําใหคลุมเครือ ในศาสนา ด วยเหตุ ดั งกล า วนี้ จํ า เป น ตอ งเตื อ นให ระวังจากทุก อยา งที่ ขัดแยงกับทางนําของทานนบี � ผมเคยอานหนังสือของบางคนวา อยาหลงเชื่อกับจํานวนของผูที่มา มั ส ญิ ด บอ ยๆ และจํ า นวนมุ ส ลิม ในมหานครมัก กะฮฺ แตจงพิจ ารณาวา หนั งสื อ และแนวคิ ด ต า งๆ ของพวกบิ ด เบื อ นและพวกไม มี ศ าสนานี้ ไ ด แพรกระจายในสังคมหรือ เปลา? หากเห็นวามันแพรกระจายนั้นก็พึงทราบ เถิดวาในหมูพวกเขามีผูออนแอ ณ เวลานี้ ทานพึงตรวจสอบในสังคม หากทานเห็นวาผูที่ยึดหลักเตา ฮีดเดนชัด และพวกอุตริกรรมทดถอยนอยลง พึงทราบเถิดวาผูคนยังอยูใน สภาพที่ดี หากทานมาที่สังคมหนึ่งๆ และเห็นวามีทั้งผูที่ยึดหลักเตาฮีดและ พวกอุตริกรรม พึงทราบเถิดวาผูที่ยึดหลักเตาฮีดกําลังหลับใหลและเฉื่อยชา พี่นอ งครับ นี่แหละคือกฎเกณฑและบรรทัดฐาน (การบิดอะฮฺจะไมยืนหยัดไดเวนแตสิ่งที่เปนซุนนะฮฺถูกทําใหตาย ผูที่ ปฏิบัติอุตริกรรมไมสูงสงเวนแตอยูบนที่การรับผิดชอบของผูที่ ปฏิบัติตามซุนนะฮฺ) ดังนั้น หากทานเห็นมัสญิดถูกคุมโดยพวกอุตริกรรม พึงทราบเถิด วาผูที่เครงครัดในศาสนาออนแอ นี่เปนแนวปฏิบัติที่มั่นคง ดังนั้น เราควร ทําความเขาใจเกี่ยวกับการเบี่ยงเบนดังที่หุซัยฟะฮฺ ไดกลาวมีความวา (ผูคนเคยถามทานนบี � เกี่ยวกับความดี และผมไดถามเกี่ยวกับ ความเลวราย เนื่ องจากกลั วว าผมจะปฏิ บัติสิ่ง นั้น ) บัน ทึกโดยอิ มามอัลบุคอรียและอิมามมุสลิม
29
�� ���>>> .........................................................................................
เพราะว า เราจํ า เป น ต อ งศรั ท ธาในอั ล ลอฮฺ และปฏิ เ สธ ฏอฆู ต คําถามที่ผูคนมักจะถามบอยๆ คือสัจธรรมอยูที่ไหน ? เราขอกลาววา สัจ ธรรมอยูพรอมกับอบูบักรฺอัศ ศิดดีก อุมัรฺ อิบนุอัล ค็อฏฏอบ อุษมาน อิบ นุอัฟฟาน และอะลี อิบนุอบูฏอลิบ เฉกเชนที่อิบนุมัสอูด ไดกลาวมีความวา (ผู ใดจะปฏิ บั ติ ต าม จงปฏิ บั ติ ต ามแนวทางของคนที่ ต ายแล ว เพราะวาคนที่ ยั งมี ชีวิ ต อยู จ ะไม รับ รองการเกิ ด ฟต นะฮฺในตัวเขา) จากหนังสือ มิชกาต อัล-มะศอบีหฺ
มีบางคนกลาววา ยุคเวลาขณะนี้ไดเปลี่ยนแปลงไปแลว ? เรากลาว วา แทจริงบรรดาหลักอะกีดะฮฺไมไดเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลง ของเวลา ไม มี ก ารถู ก ยกเลิก ไม มีก ารวินิจ ฉั ย ไมมี ก ารเที ย บเคี ยงใดๆ อัลลอฮฺ � ทรงแจงลักษณะของพระองคเองวา (อยูบนอัลอัรชฺ) ในยุคของ ท า นบี มุ ฮัม มัด และยุ คก อ นหน า นั้ น คื อ ยุ ค ของทา นนบี อ าดั ม และ ลักษณะนี้จะคงอยูตราบถึงวันกิยามะฮฺ มีบางคนกลาววา ทานทั้ งหลายมักจะยอ นกลับไปหาพวกรุนกอ น ตลอดทั้งที่เราอยู ในยุ คป จ จุ บั น ? เรากลาววา ถู ก ตอ งครับ เราอยูในยุค ปจจุบันสมัยใหม เราพูดถึงเกี่ยวกับซะกาฮฺ เราเปดประเด็นเรื่องของการจะ ละหมาดบนเครื่องบินอยางไร? ใช นั่นคือปญหาใหมที่เราตางถกเถียงกัน แตประเด็นวาดวยบรรดามลาอิกะฮฺมีหรือไมมีนั้น เปนประเด็นเกาแก ไมมี การเปลี่ ยนแปลง พระผูอ ภิ บาลของเราทรงลงมาจากฟากฟา มาสูโลก พระผู อ ภิ บ าลของเราทรงหั ว เราะ เป น ต น นั่ น คื อ ข า วคราวต า งๆ ไม เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของเวลาแตอยางใด ดังนั้น เมื่อเรา กลาววา เปนหนาที่ที่เราจะตองยึดความเขาใจของบรรพชนแรกในตัวบท ดั งกล า วนี้ แต มี บางคนจากพวกเขามาหารือ ในเรื่อ งการละหมาดบน 30
�.........................................................................................���>>> ���
เครื่องบิน เราจะไมกลาวแกพวกเขาวา ใหยอนไปคนหาคําฟตวาของ อบูบักรฺ ในประเด็นนี้ หรือถาใครสนในเรื่องของซะกาฮฺก็จงคนหา คํ า ฟ ต วาของท า นอุ มั ร เพราะสิ่ ง ดั ง กล า วเป น เรื่ อ งใหม หรื อ ประเด็ นที่ผูพิพากษามาบอกวา เราไดกํา หนดค าปรั บ ต อผู ที่ล ะเมิ ด กฎ จราจร ประเด็นนี้เปนการอิจญติฮ าดของบรรดานัก ฟกฮฺและการชี้ขาด ของพวกเขา นาเสียใจที่ประเด็นใหมๆ จนกระทั่งปจจุบัน ยังไมใหสิทธิ์ใน การใหความสําคัญ การเอาใจใส การคนควาและการอิจฺติฮาด พวกเขา ละทิ้ง ประเด็นต า งๆ เหล านั้ นและต างไปอิ จ ญติ ฮ าดในเรื่ องหลั ก การ ศรัทธา บรรดาพระนามและลักษณะของอัลลอฮฺ � เรื่องการตั้งภาคี และการใหความเอกะตอพระองคอัลลอฮฺ � ซึ่งไมมีการอิ จญติ ฮาด ใดๆ ในเรื่องนีท้ ั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อเรากลาวแกผูคนวา ใหทุกคนมองยอนกลับไปสูคําพูด ของทา นอบู บัก รฺ ทานอุ มัร ทานอุษ มาน และทานอาลี รวมถึงบรรดา เศาะฮฺาบะฮฺทานอื่นๆ เรามิไดหมายถึง ใหกลับยอนสูพวกเขาในประเด็น ใหมๆ ทีต่ องการอิจญติฮาด เพราะวาบางคนยังสับสนในเรื่องนี้อยู พี่นองครับ เราจําเปนตองวางรากฐานแหงบรรทัดฐาน และวาง โครงสร า ง ด ว ยเหตุ นี้ ทํ า ไมบิ ด อะฮฺ ไ ม มี ก ารแพร ข ยายในกลุ ม เศาะฮาบะฮฺและตาบีอนี รุนอวุโส ก็เพราะวา พวกเขามีหลักที่จะเปนตัว ชั่งวัดเรื่องราวตางๆ ของพวกเขา ดังนั้น ผูใดที่วางตราชั่งเขาจะรูจั ก สัจธรรมและรูจัก ความเท็จ ดัง นั้น กิ จการตางๆ ก็ จ ะบนแนวทางที่ เที่ยงตรง เมื่อมันชัดเจนตอหนาเราแลว คําถามเกาๆ ที่วา เราจะไป พรอมกับใคร? เราตอบแกเขาวา จงรูจักสัจธรรม แลวคุณจะรูจักผูท ี่อยูใน สัจธรรมนั้น 31
�� ���>>> .........................................................................................
พี่นองครับ เราจําเปนที่จะตองเจียดเวลาหลักจากเวลาของเราใน การสรางความเขาใจในรากฐานของอิสลาม การฟ งบรรยายทั่วไปยังไม พอเพียง เราควรใหเวลาที่เหลือแกอัล ลอฮฺ � พระองค ทรงประทาน หลักฐานใหเรารับ ผิด ชอบ ทรงเอื้อ บรรยากาศที่ เหมาะสมและเตรี ยม ความพรอมตางๆ และทรงประทานปจจัยใหเราแสวงหาความรูดังนั้น เรา ไมมีคําอางอีกตอไปแลว เราจะพบอัล ลอฮฺ � ทั้ ง ที่เราไม รู จักหนทาง อยางนั้นหรือ ในขณะนี้ หากมนุษยคนหนึ่งตองการขึ้นตําแหนงของเขา พวกเขาจะกลาวแกเขาวา เราจะตองสงคุณไปตางประเทศ คุณจะเห็นวา เขาจากภรรยาและลูกเพื่อแลกกับตําแหนงนั้น เขาสามารถขอลาหยุดเพื่อ ปลีกตัวไปอานหนังสือ (อัล-อุศูลอัษ-ษะลาษะฮฺ)และหนังสือ เลมอื่นกับผูรู ได มิใชหรือ? เขาจะไดเรียนรูรากฐานของศาสนา อยางนอย เขาจะไมถูก ไลและสกัดกั้นจากการดื่มน้ําจากสระน้ําของทานนบี ในวั นกิยามะฮฺ เราจะเจียดเวลาหยุดทํางาน 1 เดือนเพื่อเรียนรูความรูในเรื่องดังกล าว มิไดหรือ? พี่นองครับ เรื่องสุดทาย เราจําเปนตองมีความรูสึกหึงหวงตอซุน นะฮฺ เมื่อ มีค วามหึ ง หวงต อ ซุน นะฮฺข องเราะซู ล และหนทางของ บรรดาเศาะหาบะฮฺแลว ความเกลียดชังตอพวกอุตริกรรมและพวกที่ตาม อารมณใฝต่ําก็จะผุดในใจของเรา เมื่อเปนเชนนั้นแลว เราจะไดยึดมั่นกับ สัจธรรมซึ่งอัลลอฮฺ � ทรงทําใหเราสําเร็จและทรงชี้ทางนําสูสิ่งนั้น ณ จุดนั้นมันจะเปนเหตุของการยกระดับ ความสูงสงใหกับซุนนะฮฺ และหาก เราละเลยกับผูอื่นโดยที่สรรหาคําอางทั้งวันทั้งคืน ซุนนะฮฺ ก็จะไมอุบัติขึ้น โอพี่นองครับ เราอยูในยุคที่พวกอุตริกรรมไดดําเนินมาทั้งกลางวัน และกลางคืน พวกเขาไดทําการแพรหลายสิ่งบิดอะฮฺของพวกเขา และพูด ถึงเรื่องนี้อยางกวางขวาง แลวเรามาใหคําอางของพวกเขา แตเราบอก เพื่อพวกเขาจะไดรูวาเราไมชอบวิธีนี้ เพื่อพวกเขาจะไดเห็นการนําเสนอสัจ 32
�.........................................................................................���>>> ���
ธรรมซึ่งเราไดยึดมั่นมัน จนกวาอัลลอฮฺจะทรงใหแนวทางของพระองค แข็ง แกรง ดว ยเหตุจ ากเรา สิ่ งนี้นับ เป นความภาคภู มิ ใจสํ าหรั บ มนุ ษ ย วาอัลลอฮฺไดท รงทําใหเขาเปนเหตุของการมีชีวิต ของซุ นนะฮฺ และการ ตายของบิดอะฮฺ นี่แหละคือการญิฮาด ดังนั้นพึงตอตานพวกอุตริกรรม มิ ใ ช ด ว ยคมดาบหรื อ ออกห างจากพวกเขา แต ด ว ยการชี้ แ จงความ ผิด พลาดของพวกเขาและเตือนผูคนใหระมั ด ระวั ง จากสิ่ ง นี้ พยายาม ชี้แจงในสิ่งที่พวกเขาเบี่ยงเบน พึงปฏิบัติดวยความนุมนวลและคําพูดที่ดี และนี่นับ วาเปนการเรียกรองของบทบัญญัติในอิ สลาม เพราะว า ไม ใช เปนเพียงประเด็นของเราเทานั้นที่จะกลาวกับบางคนวา คุณนั้นหลงทาง มิใชเชนนั้น เพราะสิ่งที่เราชอบมาก อัลลอฮฺทรงใหท างนําแก พวกอุ ตริ กรรมดวยเหตุจากเรา ในบางครั้ง คนที่นาสงสารคนนั้น ไมรูแนวคิดของ ผูรูตางๆ และก็ไดเดินไปตามเสนทางของพวกเขา หวังวา ดวยการดะอฺ วะฮฺของเรา ดวยวิธีที่นุมนวลและแข็งแกรง อัลลอฮฺ � จะทรงประทาน ทางนําสูแนวทางอันเที่ยงตรง พี่นองครับ เราควรทําใหสัจธรรมเผยเดนเหมือนกับเคยเดนในยุค ของชนแรก และเรายึดมั่นในสิ่งนี้ จนกวาผูคนจะทราบวานี่แหละคือสัจ ธรรม สวนตัวเราดังปจเจกชน เราไดเขาใกลกับสัจธรรมหรือเราออกหาง ขึ้น อยูก ารปริมาณของความพยามและการทํ างาน ดั ง นั้ น เมื่ อเราได กระทําสิ่งดังกลาวแลว อินชาอัลลอฮฺ เราจะเปนผูหนึ่งจากบรรดาผูที่ทํา ใหซุนนะฮฺของทานเราะซูล เกิดขึ้น แลวจะถูกบันทึกความดีของการ ทําใหซุนนะฮฺเกิดขึ้นแกเรา บุค คลใดเรียกรอ งไปสู ทางนํ า ผลตอบแทน ความดีของเขาจะเปนดังเชน ความดีของผูปฏิ บัติตามคําเรียกรองของ เขา โดยที่ไมขาดตกบกพรองการตอบแทนแตอยางใด
33
�� ���>>> .........................................................................................
34
�.........................................................................................���>>> ���
ประกายความคิดที่
3
ความดุลยภาพในการเขาใจอิสลาม
พี่นองทั้งหลายครับ พวกทานทราบแลววา ในขณะที่อัลลอฮฺ � ไดท รงสงเราะซูล ของพระองค ปรากฏวา มนุ ษยในสมั ยของทานและ กอนหนาทาน ไดเอาแนวคิดแบบตางๆ ในดานความสัมพันธของพวกเขา ถึงพระเจาของพวกเขา บางสวนจากพวกเขาก็เลยเถิดในเรื่องการทําอิ บาดะฮฺ และไดทําใหบางสิ่งบางอยางเปนสิ่งจําเปนตอตนเองทั้งๆ ที่เขามี คัมภีรของนะศอรออยู และบางสวนจากพวกเขาแมกระทั่งสวนหนึ่งจาก ชาวอาหรั บ ที่ ทํ า ให บ างสิ่ งบางอย า งเป น สิ่ งต องห า มต อตนเอง และ บางสวนของพวกเขาละเลยในเรื่องนี้ จึงไดนําหินและอินทผลัมทํ าเป น พระเจาของเขาซึ่งเปนที่กราบไหวและบูชาที่พวกเขาสรางมันขึ้นมาดวย มือของเขาเอง สิ่งหะลาลและหะรอมกลายเปนดัง่ ที่เขาตองการ พวกเขา จึงกลาววา ณ เวลานี้ เดือนนี้เปนเดือนตองหาม (ในการทําศึก และการ ทําธุรกรรมดวยดอกเบี้ย เปนตน) หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาเห็นวามันมี ผลประโยชนในเดื อ นนี้ก็ อ นุ มัติ อีก อาทิ การกํ า หนดใหมี ด อกเบี้ยดั ง ปรารถนา นี่ คือ สิ่งที่ เกิ ด ขึ้ น กั บ มนุ ษ ย ดั งนั้น พระผู อ ภิบ าลจึง ทรงส ง เราะซูลของพระองค เพื่อที่จะนํามนุษยที่มีความขัดแยงกัน ซึ่งไดยึดเอา หนทางตางๆ ที่พวกเขาคิดวาดวยสิ่งนั้นทําใหพวกเขาใกลชิดกับอัลลอฮฺ ทา นเราะซู ล ได มาเพื่ อที่ จ ะนํ า พาพวกเขาและชี้ แ นะพวกเขาไปสู 35
�� ���>>> .........................................................................................
หนทางที่ถูกตอง ซึ่งหากพวกเขาเดินตามทางนั้นพวกเขาก็จะถึงยังสวน สวรรคของอัล ลอฮฺ และเมื่อพวกเขาเหไปจากแนวทางนั้น ไมวาจะขวา หรือซาย พวกเขาก็จะไปไมถึง และหลังจากการสิ้นชีวิตของทานนบี และ หลังจากผานชวงเวลาไปชวงหนึ่ง รุนหลังสวนหนึ่งก็ถูกทดสอบดวยสิ่งที่ ผูคนรุนกอนที่จะมีทานนบีเคยถูกทดสอบ พวกเขาก็กลับไปสูสภาพเดิม อี ก ครั้ ง พวกเขาได ต ามแนวทางของคนที่ ม าก อ นพวกเขา พวกเขา แตกแยกและขัดแยงกันอีกครั้งหนึ่ง และพวกเขาไดกลายเปน กลุมเป น พรรค ดังเชนที่เคยเปนในสมัย ญาฮีลียะฮฺ ในป จ จุ บั น นี้ ประชาชาติ ซึ่ ง ถู ก ขนานนามวา ประชาชาติ แห ง อิ ส ลาม เมื่ อ เราได พิ จ ารณาแล ว เราจะพบวา แท จ ริ ง บางส ว นของ ประชาชาติแหงอิสลามไดตามพวกยะฮูดและนะศอรอ และบางสวนก็ได ตามพวกผูปฏิเสธพระเจาบนพื้นแผนดินนี้ บางสวนของประชาชาติแหง อิสลามไดเลยเถิดในเรื่องของศาสนาและคลั่งไคลตอสิ่งตางๆ ที่ไมมีใน ศาสนา และยึด เอาสิ่ งตา งๆ ที่พ วกเขาคิด วา มั น คือศาสนา และตอ สู มนุษยเพราะสาเหตุดังกลาว ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นไมนําพวกเขาไปยังอัลลอฮฺ พี่ นองทั้งหลายครับ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปจจุบัน เมื่อเราพิจารณาถึงเรื่องนี้ เราจะพบวาสภาพของมนุษ ยแมแ ตนักดะอฺ วะฮฺ ไปสูอัล ลอฮฺก็จ ะมีสว น จากสภาพดังกลาวดวย ทานจะพบวามนุษยสวนมากในเครื่องแบบของ นักดะอฺวะฮฺ จากผูคนที่พู ดดวยนามของอิสลาม และจากคนที่บรรยาย ดวยนามของอิสลาม ปรากฏวาเขาปรารถนาใหประชาชาตินี้ นะศอรอ และยะฮูด เป นประชาชาติ หนึ่งเดียว ไมมีความแตกตางกั น จริงๆ แลว ศาสนาไดรวมพวกเขาไวดวยกัน เราทั้งหลายมีเจตนาที่ดีที่จะกราบไหว ตออัล ลอฮฺ � หากแตวา พวกเขาเหลานั้นมี ศ าสนาของพวกเขาและ 36
�.........................................................................................���>>> ���
พวกเราก็มีศาสนาของพวกเรา แนนอน พวกเขาก็ตางหาเหตุผลดวยตัว บท พวกเขายกเหตุผลดวยคําตรัสของอัลลอฮฺ � วา ﴾ ÕÔ Ó Ò Ñ ﴿
ความวา “ไมมีการบังคับในเรื่องของศาสนา” อัลบากอเราะฮฺ 256 และคําตรัสของอัลลอฮฺ � อีกวา ﴾ @?> =<﴿
ความวา “ศาสนาของทานก็ของทานและศาสนาของฉันก็ของฉัน” อัลกาฟรูน 6
เรามิไดป ฏิเสธวา พวกยะฮูดีก็ยังคงเป นยะฮู ดี และนะศอรอก็ ยังคงเปนนะศอรอ เราก็มิไดปฏิเสธพวกเขา และเราพยายามสมานฉันท ระหวางศาสนาตางๆ ทําสิ่งนี้เพื่ออะไรเลา ? พวกเขากลาววา เราเพียง เปนศัตรูกับพวกที่ไมเชื่อในพระเจาและคอมมิวนิสต คนทั่วไปเทานั้นที่จะ เชื่อคํ าพูด นี้ ใชแ ลว นะศอรอใกลเคีย งกับ เรากวาพวกปฏิ เสธพระเจ า เพราะวาอัลลอฮฺทรงอนุญาตใหเราแตงงานกับผูหญิงของพวกเขา ดังนั้น เรานาจะปรองดองและชวยเหลือซึ่งกันและกัน จริงๆ แลว เขาไดลืมวา อัลลอฮฺได อมุมัติบางประการจากพวกเขา แตพระองคทรงจัดพวกเขา เปนผูปฏิเสธ ความฝนของพวกเขาเพียงแคลมๆ แลงๆ พระองคยังทรง ชี้แจงอีกวาพวกเขาอยูในความงมงาย เราไมควรที่จะตามพวกเขา พวก เขายัง ขัดกับทานเราะซูล ในทุกๆ เรื่อง นะศอรอซึ่ง อยูในสมัย ของ ทานนบี บริสุทธิ์ สะอาดและดีกวานะศอรอ ณ วันนี้ อยางนอย นะศรอ ในยุค กอนยัง มีค วามหึง หวงในการที่จ ะแสดงตัว พวกเขามี ก ารรั กกาย สงวนตัว สวนนะศอรอในสมัยนี้ สิ่งที่ถูกพูดถึงจากความดีไมมีในพวกเขา เลย ในเรื่องของมารยาทแมกระทั่ง สัต วเดรัจฉาน ณ เวลานี้ ยังดี กว า 37
�� ���>>> .........................................................................................
พวกเขาเสียอีก เชนเดียวกันกับพวกยะฮูดี ในเรื่องที่เกี่ยวกับปญ หาเล็กๆ นอ ยๆ ที่เปนเรื่องธรรมดา ทานเราะซูล ก็พยายามที่ จะใหแ ตกตา ง จากพวกเขาในเรื่องนั้น ทําไมละ? เพื่ อที่จะอบรมประชาชาติน้ีดว ยการ อบรมที่แทจริงและถูกตอง วาประชาชาตินี้จะตองไมตามผูใดทั้งสิน้ แต เราตองเดินบนหนทางซึ่งอัลลอฮฺ � ไดกําหนดมันใหแกประชาชาตินี้
ดังนั้น บรรดามุสลิม ณ เวลานี้ อยูในสภาพที่อาหรับ ยะฮูด และ นะศอรอไดอยูกอนสมัยการแตงตั้งนบี พวกเขาไดแตกแยกกัน ทําตาม อารมณใฝต่ํา และอุตริประดิษฐรูปแบบนักบวชขึ้นมา พวกเขา ณ เวลานี้ 38
�.........................................................................................���>>> ���
ก็มีผูที่อยูในรูปแบบนักบวชมากมาย พวกศูฟย มิใชสวนหนึ่ง จากผูที่อุต ริ ประดิ ษ ฐ รูป แบบนั ก บวชหรื อ ? ดั ง เช น ที่ พ วกนะซอรอได มี ก ารอุ ต ริ ประดิษฐรูปแบบอิบาดะฮฺ วิธีการและกระทําสิ่ งตางๆ ที่ เลยเถิดในทุก ๆ สิ่งที่อัลลอฮฺทรงบังคับใหพวกเขาทํา แตพวกศูฟยเหลานั้นกลับกล าวว า เราไดป ระดิษฐมันขึ้นมาเพื่อปรับ ปรุง ตัว ของพวกเราเอง เหมื อนกับ คํ า กลาวของพวกนะศอรอ ในขณะที่เขาประดิษฐศาสนาคริสตไมมีผิดเลย พี่นองทั้งหลายครับ นี่คือสภาพที่เกิดขึ้นกับพวกเราในวันนี้ ในทิศ ตะวันออกและตะวันตกของกลุ ม ประเทศอาหรั บ และประเทศที่ มิใ ช ประเทศอาหรับ สภาพที่เลวรายนี้ มี 2 ประเภทจากบรรดามุส ลิ มที่ น า สะพรึง กลั ว ยิ่ ง กว า นั่ น คื อ ประเภทแรกเห็ น ว า แท จ ริ ง มนุ ษ ย นั้ น ได หางไกลจากศาสนา พวกเขาทํามักงายในทุกๆ สิ่งที่มาจากซุนนะฮฺ เรื่อง ซุนนะฮฺเปนเพียงสิ่งของในตลาด พวกเขายึดมั่นในทุกๆ สิ่ง และจริงจัง อยางเลยเถิด ทําสิ่งเล็กๆ เปนเรื่องบาปใหญ หมด ยิ่งไปกวานั้นพวกเขายัง กลาวหาวาเปนกาฟรฺตอผูที่ทําสิ่งนั้นดวย เพราะเหตุนี้ ทานจะพบพวกที่ยึด มั่นจริงจังกับซุนนะฮฺอยางเลยเถิดเหลานั้น ไมมีขอสงสัยเลยวาสิ่งนั้นเปน ซุนนะฮฺ แตวาการเลยเถิดในสิ่งนั้นไมใชซุนนะฮฺพวกเขาเหลานั้นปรารถนา ที่จะปฏิรูปกระแสความมักงายและความละเลย พวกเขามิไดทําใหสิ่งนั้น ถูกตองไดดวยซุนนะฮฺที่ถูกตอง แตทําใหมันตรงดวยวิธีทตี่ รงกันขามกัน นั่นก็คือ การเลยเถิด อั ล ลอฮฺ ทรงปรารถนาให เราเป น ประชาชาติ ส ายกลาง ทรง ปรารถนาใหเรายึดมั่นในสิ่งที่พระองคทรงใช พวกเขาเหลานั้นเลยเถิดใน สิ่งตางๆ และยึดมั่นในสิ่งตางๆ โดยที่พวกเขาหลงลืมรากฐานที่ยิ่งใหญซึ่ง จากเหตุ นั้ น พระองค ท รงสร างเรา บรรดาเราะซู ล ได ม าก็ เพราะเหตุ ดัง กลาว นั่นคือ การเปด เผยสัจ ธรรมใหแกมนุษ ย เพราะเหตุดั ง กล า ว อัลลอฮฺ � ไดกําหนดใหมนุษยทั้งหมดวาอยูในภาวะขาดทุน แตก็ยกเวน 39
�� ���>>> .........................................................................................
กลุมที่รอดพนซึ่ง เปน ผูที่สั่ง เสียและตักเตือนซึ่ง กั นและกั น ดั ง คํ าตรั ส ของอัลลอฮฺ � ในซูเราะฮฺซึ่งมีสถานะที่ยิ่งใหญวา +*)('&%$#"!﴿ ﴾ 10 /. -,
ความวา “ขอสาบานกับ กาลเวลา แทจริง มนุษยนั้นอยูในภาวะ
ขาดทุ น นอกจากบรรดาผู ศ รั ท ธาและกระทํ าความดี ทั้ ง หลาย ตักเตือนซึ่งกันและกันในสิ่งที่เปนสัจธรรม และตักเตือนซึ่งกันและ กันใหมีความอดทน (แลวจะไดรับความสําเร็จ)” อัลอัศร 1-3
อัลลอฮฺ � ไดทรงบอกวามนุษยนั้นอยูในภาวะการขาดทุน และนี่ คือสภาพของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาไดหางไกลจากศาสนาของอัลลอ ฮฺ � แตสิ่งที่พวกเขากลาวคือ พวกเขาไดป รับเปลี่ยนการขาดทุน และ การหลงผิดนีด้ วยการจริงจังอยางเลยเถิดและเขมงวดกวดขัน และพวก เขายังกลาวอีกวา เมื่อพวกทานเห็นผูคนตกอยูในความขาดทุนและหลง ผิด ดงนั้นพวกทานจําเปนที่ตองศรัทธาตออัลลอฮฺ � และปฏิบัติสิ่งที่ดี หลังจากนั้นอัลลอฮฺ � ทรงยกเวนแกบุคคลที่มีลักษณะที่ยิ่งใหญ คือ ผูที่ เรียกรองเชิญชวนไปสูพระองคอัลลอฮฺ � ดังที่พระองคไดทรงตรัสวา (และพวกเขาสั่งเสียกันในเรื่องของสัจธรรม) การสั่งเสียในเรื่องของสัจ ธรรมก็คือ การเรียกรองเชิญชวนไปสูศาสนาของอัลลอฮฺ เพราะแทจริง มนุษยนั้นในขณะที่เขาสั่งเสียในเรื่องของสัจธรรมและเรียกรองดวยกับสัจ ธรรม และสั่งเสียในเรื่องสัจธรรมและกระทําสิ่งที่เปนสัจธรรม แทจริง เขาก็คือผูที่เรียกรองเชิญชวนไปสูอัลลอฮฺและโดยเฉพาะอยางยิ่งเขาคือ ผูที่ใชใหทําความดี และพระองคยังไดตรัสไวอีกมีความวา (และพวกเขา สั่งเสียกันใหมีความอดทน) ความหมายก็คือ แนนอน เมื่อพวกเขาใชใหทํา 40
�.........................................................................................���>>> ���
ดีและหามปรามจากความชั่ว และเผยแผศาสนาที่ ถูก ตองใหแ กผู ที่เลย เถิดและผูที่มักงายเขาจะตองเผชิญหนากับพวกเขา เพราะแทจริงผูที่ใชให มีสัจธรรม และเรียกรองไปสูสัจธรรม เขาจะกลายเปนศัตรูกับผูทมี่ ีความ เครง ครัด อย างเถิ ด เหล านั้ น ซึ่ ง คิด ว าผู นั้ นเป น คนมั ก ง า ย และเขาก็ กลายเปนศัต รูกับ ผูที่มักงายเหลานั้น ซึ่งคิดวา ผูนั้ นได นํา ศาสนาใหม ม า เพราะเหตุดังกลาวอัลลอฮฺ � ทรงใชใหผูที่ยึดมั่นในสัจธรรมใหอดทน อันดับแรก เราตองรูจักกับคําวา “ความเลยเถิด” ซึ่งมีการเตือน และต างคนต างพูด ถึงเรื่อ งนี้มาก กลา วคื อ ความเลยเถิ ด นั้ น คื อการ เพิ่มเติมในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และคําวา “ความสุดโตง” การกระทําเหนือกวา สิ่งที่อัลลอฮฺ � ทรงสั่งใช นี่ คือรากฐานเดิม ทานเราะซูล ไดกลาว วา ِ ﻓَﺈِﱠﳕﺎ أَﻫﻠَ ﱠ،) إِﻳﺎ ُﻛﻢ واﻟﻐُﻠُﱠﻮ ﰲ اﻟﺪﱢﻳ ِﻦ ( ﻳﻦ ِﻣﻦ ﻗَـْﺒﻠِ ُﻜ ْﻢ اﻟﻐُﻠُﱡﻮ ﰲ اﻟﺪﱢﻳ ِﻦ َ ْ ْ ّ َ ﻚ اﻟﺬ
ความวา พวกทานพึงระวังการเลยเถิดในเรื่องของศาสนา แทจริง ชนกอนหน าพวกท านได พิ น าศก็ เพราะการเลยเถิ ด ในเรื่ องของ ศาสนา (รายงานโดย อิบนุมาญะฮฺ และอัลอัลบานีมีความเห็นวาเปนหะดีษ เศาะฮีฮ)ฺ
หมายถึง การเพิ่มเติมจากสิ่งที่อัลลอฮฺ � ทรงบังคับ ทานเราะซูล ไดกลาววา ( َ)ﻫ َﻠ َﻚ اﳌ ُ َﺘﻨَ ﱢﻄﻌﻮنรายงานโดยมุสลิม มีความ วา (บรรดาผูที่เลยเถิ ดไดพิน าศแลว ) พวกเขาปฏิบัติเลยเถิด ในสิ่งตางๆ ที่อัลลอฮฺทรงสั่งใชพวกเขา อาจจะกลาวไดวา พวกเขาตองการที่จะปฏิบัติ อยางเครงครัดยิ่งกวาทานเราะซูล ถาหมายถึงเชนนี้ สิ่งที่เราไดยินมา จากวิท ยุ นิตยสาร หนังสือ พิม พ และคนที่พู ดถึงเกี่ยวกับการเลยเถิดนั้ น มิใชสิ่งที่เราเขาใจในอิส ลามแต อยา งใด ดังนั้ น การเลยเถิด ในทัศนะของ 41
�� ���>>> .........................................................................................
พวกเขาเหลานั้นก็คือ การเครงครัดในซุนนะฮฺและเรียกรองเชิญชวนสูการ ปฏิบัติสิ่งดังกลาว การเลยเถิดในทัศนะของพวกเขาคือ การไวเครายาวๆ การสวมเสื้อยาวกลางนอง เมื่อเห็นผูอื่นขัดกับซุนนะฮฺ เขาจะกลาวทันทีวา พี่นองครับ ทานไดขัดกับทางนําของทานนบี � นะครับ นี่คือ ความสุดโตง ในทัศนะของพวกเขา คํ านี้ถูก อธิบายเป นความหมายอื่น วันนี้ เมื่อทา น ตั ก เตื อ นผูคนเกี่ยวกั บ ซุ น นะฮฺ เขาก็ จ ะกลา ววา พี่น อ งครับ ท านอยาได เขมงวดในเรื่องของศาสนาเลย เปนคําพูดที่เราไดยินกันอยูทุกวี่ทุกวัน คนนี้ เมื่อ ถูก ทั ก วา ทา นอยา สวมเสื้ อ ยาวต่ํ ากวาตาตุ ม เขาจะกลา ววา ท า น อยาไดเขมงวดเลย คําพูดนี้เปนสิ่งที่เขาไดยินบอยๆ จากบรรดาผูตักเตือน คอฏีบ นักพูด และจากบรรดานักคิดอิสลาม คําพูดนี้สะสมในสมองของเขา วา การเรียกรองเชิญชวนไปสูซุ นนะฮฺ และการปฏิบัติซุนนะฮฺวาเปนสว น หนึ่งของการเลยเถิด การเข มงวดและความสุ ดโตง นี่เปนสิ่งที่ไมถูก ตอ ง ครับ การเขมงวดคือการที่เรานําซุนนะฮฺหนึ่งของทานนบี � แลวใหผูอื่น ยึดมั่นในซุนนะฮฺนั้นโดยเราไดเพิ่มเติมเหนือซุนนะฮฺนั้น และเขมงวดตอการ ปฏิบัติสิ่งนั้น นี่คือการเลยเถิด แตวาหากเรามาหาผูที่สะเพราและทําสิ่งที่ ขัดกับซุนนะฮฺ เขาจึงถูกเรียกรองเชิญชวนสูซ ุนนะฮฺของทานนบี � การเลย เถิดในเรื่องนี้อยูที่ไหน? นี่แหละ คือ ศาสนา พี่นองครับ การเลยเถิ ดนั้นคือการเกินขอบเขต มันเปนสิ่งที่มนุษ ย ประดิษฐคิดคนขึ้นมาใหม ซึ่งไมมีอยูในทางนําของทานนบี � เทาเทียมกัน ไมวาจะเปน การละเลยหรือการเขม งวด สว นการเรียกรอ งเชิญ ชวนไปสู ซุน นะฮฺของทานนบี � การปฏิ บัติและการเผยแผมั น ใหแกมนุษ ยนั้น คือ รากฐานของศาสนา แตเนื่องจากความโงเขลาของเกี่ยวกับขอเท็จจริงของ ศาสนา ผูคนสวนมากจึงคาดคิดวาสิ่งดังกลาวคือ การเครงครัดอยางเลย
เถิด 42
�.........................................................................................���>>> ���
พี่ น อ งครั บ เพราะเหตุ ใ ดจึ ง ถู ก กล า วเช น นี้ ? เพราะว า การ เรียกรองเชิญชวนในปจจุบันนีไ้ ดหลงไปจากทางของมันเสียแลว พวกเขา ปรารถนาที่จ ะนําชะรีอะฮฺมาใชในสัง คม จนกระทั่ ง ทุ กคนไปในทิศ ทาง เดียวกัน และพวกเขาคาดคิด วาการเรียกรองเชิ ญ ชวนสูซุ นนะฮฺ และ นํ า มาใช ใ นชี วิต และการยึ ด มั่ น ในซุ น นะฮฺ เ ป น เหตุ ให ม นุ ษ ย เกิ ด ความ แตกแยก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น การเรียกรองเชิญชวนไปสูซุนนะฮฺ การ ปฏิบัติซุนนะฮฺ การยึด มั่นซุนนะฮฺ และความละเอียดรอบคอบในเรื่ อ ง ปลีกยอยของหลักการอะกีดะฮฺ เปนสาเหตุใหเกิดประชาชาติที่เครงครัด และประชาชาติที่ขัดในเรื่องศาสนา เรื่องนี้เปนสิ่ งที่พวกเขาไม ตองการ พวกเขากล าวอา งวาจะทําใหก ารสถาปนารัฐ อิ ส ลามล าช า เพราะเหตุ ดังกลาว ทานจะพบวานักคิดจํานวนมากที่กลาววา พี่นองครับ พวกทาน ณ เวลานี้ ยุงอยูกับปญหาเล็กๆ นอยๆ ขณะที่คนอื่นไปถึงดวงจันทรแลว มนุษยไดทําสิ่งนั้น มนุษยไดทําสิ่งนี้ ตางๆ นานา คําพูด เหล านี้เราไดยิ น ทุกวันเชนกัน คําตอบก็คือ อะไรละเปนความสัมพันธระหวางสิ่งนี้กับสิ่ง นั้น มีความสัมพันธอะไร หากผมจะเครงครัดในซุนนะฮฺและเรียกรองเชิญ ชวนไปสูซุนนะฮฺ ในเวลาเดียวกันผมก็ดีเลิศในวิชาการตางๆ ในโลกดุนยา ถูกตองครับ บางคนก็เลยเถิดเกินไปถึงกับหักหามเรื่องตางๆ มากมายใน โลกนี้ นี่แหละเปนการเลยเถิดในเรื่องศาสนา แตไมได หมายความวาให เราละทิ้งศาสนา เมื่อเราเห็นคนๆ หนึ่งไวเครา ยึดมั่นในซุนนะฮฺ แตไดทํา ซีนา เราจะกลาวกับผูคนวา พวกทานจงโกนเคราซะ เพราะวาคนนี้ไดทําซี นา สิ่งนีเ้ ปนสิ่งที่รับไมไดสําหรับปญญาชนทั้งหลาย พี่นองครับ การที่ชน กลุมหนึ่งไดหักหามสิ่งตางๆ มิไดหมายความวา เราจะตองละทิ้งศาสนา ละทิ้งซุนนะฮฺของทานนบี � เนื่องจากสาเหตุจาก 10 หรือ 100 คนได สกัดกั้นการเขามัสยิด และการศึกษา สิ่งที่ค วรจะเป น เราตองกล าวว า 43
�� ���>>> .........................................................................................
พวกเขาเขาใจผิด พวกเราถูกใชใหยึดมั่นในซุนนะฮฺของทานนบี และให พวกเรานําพาซุนนะฮฺไปสูโลกอันไกลโพน นี่คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ บรรดาผูเลยเถิดหรือสุดโตงในการเขาใจศาสนานั้น ไมตองสงสัย เลยวา พวกเขาจะเปนอันตรายตออิสลาม เพราะพวกเขาหนีหางออกจาก อิส ลาม และทําใหมนุษ ยออกหางจากศาสนาของอั ลลอฮฺอี ก ดว ย และ บรรดาผูที่ทํามักงายนั้นอันตรายยิ่งกวาพวกเขาเสียอีก เพราะวาพวกเขา มองอิสลามเปนเรื่องเลน ผูที่ทําผิดคิ ด วาตอไปเขาจะเป นคนดี คนๆ นี้ แหละจะเติบโตในบรรดาพวกเราในอนาคตเปนเยาวชนซึ่งไมมีการใชใหทํา ดี ไมมีการปฏิเสธความชั่ว เพราะอะไรละ ? เพราะวา สิ่งตางๆ สําหรับ เขาแลวเทาเทียมกัน เขาไดยินคนๆ หนึ่งตั้งภาคีตออัลลอฮฺ และสาบาน ตอสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ พวกเขาก็ไมมีการเคลื่อนไหวตอตาน เพราะวา เขาไมรูเรื่องหลักศรัทธาและไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับศาสนา ทุกเรื่องสําหรับ เขาเทาเทียมกัน พี่นองครับ พวกเขาเหลานั้นก็ไมตรงกับซุนนะฮฺ บรรดาพวกที่เลย เถิดก็จะไมอยูบนทางนําของทานนบี และบรรดาพวกที่ทํามักงายและ ละเลยก็จะไมอยูบนทางนําของทานนบี แต ผูที่อยูบนทางนํานี้ก็คือผูที่ อยู ส ายกลาง นี่ คื อ เอกลั ก ษณ ข องประชาชาติ นี้ คื อ อยู ร ะหว างการ เครงครัดเกินไปและการละเลย อยูบนทางสายกลาง ดังที่พระผูอภิบาล ไดตรัสวา BA@?>=<;:﴿ (١٤٣ : ﴾ )اﻟﺒﻘﺮةF E D C
ความวา เฉกเชนเดียวกัน เราไดทรงใหพวกเจาเปน ประชาชาติที่มี
ดุลยภาพ เพื่อพวกเจาจะไดเปน สักขีพยานแกม วลมนุษยทั้งหลาย โดยที่เราะซูล (มุหัมมัด) จะเปนสักขีพยานแกพวกเจา 44
�.........................................................................................���>>> ���
การเปนสักขีพยานตอมนุษย หมายถึง การประเมินการปฏิบัติของ มนุษย ลัก ษณะพิเศษที่ยิ่งใหญนี้ อัล ลอฮฺ ไดประทานแกประชาชาติสาย กลาง พวกเขาเปนสักขีพยานตอมนุษย พวกเขาสามารถกลาวไดวา คนนี้ เลยเถิด ไดออกจากเสนทางแลว คนนี้มักงายไดออกจากเสนทาง พวกเขา เหลานั้นคือผูที่อยูในแนวทางนี้ อัลลอฮฺ � ทรงใหพวกเขาตัดสินมนุษยได แตวามนุษยนั้นไมใหคณ ุ คากับสิ่งเทาที่ควร ทําไมเลา ? เพราะวา พวกเขา ไมรูจักคุณคาของการเปนสักขีพยานตอมนุษย อาทิเชน ทานนําเด็กคนหนึ่ง จากถนนและตั้งใหเขาติดสินระหวางคน 2 คนที่มีปญหา ปญญาชนจะไม เขาใจอะไรเลย ตัวทานไดแตงตั้งเด็กคนนั้นในตําแหนงทิ่ย่งิใหญ แตวาเขา นั้นไมรู ดังเชน มนุษยบางคนที่อยูในตําแหนงที่ย่งิ ใหญของประชาชาติ แต วาเขานั้นไมรู นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชาติอิสลาม ณ เวลานี้ อัลลอฮฺ � ไดทรงใหประชาชาติอิสลามอยูในฐานะทิ่ยิ่งใหญ แตประชาชาติอิสลามไมรู คุณคาของฐานะนี้ มนุ ษยทั้งหลายจึงไดปฏิบั ติตามพวกยิวและคริสเตียน สติปญญาของพวกเขาอยูที่ไหน ? อัลลอฮฺ � ทรงประทานลักษณะพิเศษนี้แกพวกเราเพื่อใหพวกเรา ตัดสินผูที่เลยเถิดวาพวกเขาเปนผูที่เลยเถิด เพราะเหตุดังกลาว มุสลิมใน สมัยแรกๆ ไดตัดสินตอผูที่ทําบิดอะฮฺ พวกเขามีความเห็นที่ชัดเจน บรรพชนรุน แรกๆ นั้น ไดห า มไม ใหเข าหาสมาคมกั บ พวกทํ าบิ ด อะฮฺเหลา นั้ น เพราะเหตุใดละ ? เพราะวาพวกเขารูวา อัลลอฮฺ � ทรงใหพวกเขาเป น ประชาชาติสายกลางซึ่งจะตองตัดสินและประเมิน อาทิเชน อิมามอะหฺมัด อิบนุฮนั บัล กลาววา “ทานทั้งหลายอยานั่งรวมกับชายคนนั้น อยาอยูรวมวงกับชาย คนนั้น” ทานอิ มามมาลิ กไดหามมิใหเขารวมประชุม นั่งฟงเรื่อ งของนักเลา เรื่องและบทเรียนตางๆ ของพวกเขา สิ่งนี้ไรสาระใชไหม? ไมเลย แตพวก เขาไดทําหนาที่ซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงใหพวกเขาเปน สักขีพยานตอมนุษ ย 45
�� ���>>> .........................................................................................
เพื่อที่พวกเขากลาววาคนนี้ถกู ตองและคนนี้ผดิ เพราะวาเมื่อไมมพี ยานและ การพิพากษา เรื่องตางๆ ก็ไรผล อัลลอฮฺ � มิไดทรงกําหนดใหแกหนึ่งคน หรือ สองคน ดังที่เกิ ด ขึ้น กั บศาสนาอื่น แต พ ระองคท รงใหประชาชาตินี้ ทั้งหมดพิพากษา หากประชาชาตินี้ยึดมั่นตอแนวทางของพระองค และผูซึ่ง เป นพยานใหแก พวกเราก็คือ ทานเราะซูล เปน ผูที่ตัดสินวาคําตั ดสิน ของเรานั้นถูกหรือผิด ลักษณะ ตําแหนงและฐานะทิ่ย่งิ ใหญ หากแตวามัน ไดมาสูกลุมชนที่ไมมเี ห็นคุณคาของมันเทาที่ควรจะไดรบั คําถามยังคงอยูวา เพราะอะไรมนุษยถึงไดหันเหออกจากหนทางที่ ถูกตอง? ทั้งๆ ที่พวกเขาอานอั ลกุ รฺอานทั้งวั นและทั้งคืน และอัลกุรฺอาน ชี้แนะแนวทางแกพวกเขา ดังที่อัลลอฮฺ � ไดตรัสวา (١٧ : ﴾ )اﻟﻘﻤﺮut s r q p o n﴿
ความวา และแนนอน เราไดทําใหอัลกุรฺอานนั้น งายแก การรําลึก
(การทองจําและการเขาใจ) แลวมีผูใดบางไหมที่จะรําลึก (ถือเปนขอ ตักเตือนและบทเรียน)
และพระองคไดตรัสวา (٢٤ : ﴾ )ﳏﻤﺪh g f e d c b a ﴿
ความวา พวกเขามิไดพิ จ ารณาใครครวญอั ลกุรฺอ านดอกหรือ หรือวาหัวใจของเขามีกุญแจหลายดอกลั่นอยู
หมายถึงวา ผูใดที่ไตรตรองอัลกุรอฺ าน ถึงแมวาเขามีความเขาใจอัน นอยนิด เขาก็จะสามารถเขาใจรวมๆ ได เพราะอะไรมนุษยถึงหลงทางและ ไมยึดลักษณะที่เปนรากฐาน ซึ่งก็คือความดุลยภาพเลา ? ผูที่สังเกตจะเห็น วา มี ส ภาพที่ ไมดี เกิ ด ขึ้ น ซึ่ งศั ต รู ข องอิ ส ลามได ทุ ม เทความพยายามอั น 46
�.........................................................................................���>>> ���
ยาวนานที่จะใหมีขึ้นมา ผูคนไมสามารถที่จะปฏิสัมพันธกับสิง่ นี้ ดังนั้น พวก เขาจึงเลยเถิดในศาสนา สิ่งนี้ไมใชขออางสําหรับพวกเขา เพราะวาสภาพ อั น ขื่ น ขมที่ เ กิ ด ขึ้ น ไม อ าจเยี ย วยารั ก ษาได ด ว ยอารมณ ค วามรู สึ ก ได ดังกลาวนั้น ในขณะที่ทานเปนกอฎี (ผูพิพากษา) ทานไมสามารถที่จะตัดสิน โดยใช อ ารมณ ไ ด ท า นจะไม ตั ด สิ น นอกจากว า ท า นจะมี ห ลั ก ฐานที่ สติ ปญ ญายอมรับ ได นี่ คือ สิ่ งที่ ประชาชาตินี้ควรจะเป น ใชครับ แท จริง สภาพที่เกิดขึ้นนี้ไมดี แต เราตองรับมือดวยวิธีตรงกันขาม นั่นคือ การเลย เถิดกระนั้นหรือ? ไมครับ แตตนเหตุที่ใหญกวา – ในมุมมองของผม- คือ การไมรูในเรื่องศาสนาที่ถูกตอง มีผคู นกลาววา สภาพใดเลาที่พวกเขาไมรเู กี่ยวกับศาสนาทั้งๆ ที่เขา เปนผูบรรยาย เปนนักพูด เปนเคาะฏีบ และพวกเขาตางก็เขียนหนังสือและ วารสาร? ผมวา สิ่งนี้เปนการคิดดีตอพวกเขา เพราะหากเรากลาววาพวก เขารูแ ล วยั งหั น เหออกจากความรู แน น อนมั น จะกลายเป น เรื่ อ งใหญ หากแตวาพวกเราคิดดีวา สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเพราะความโงเขลาของ พวกเขาในเรื่องของศาสนา หากเรายอ นกลั บไปเล็ ก น อ ย เราจะกล าวอยา งไรกับ สติป ญ ญา ของอิบนุซีนา อัรรอซี อิบนุอัลฟาริฎ หรืออิบนุอะรอบี ? เมื่อทานไดอาน หนังสือตางๆของพวกเขา ปรากฏวาพวกเขาคือ อัจฉริยะ หากแตวา ทาน นําคํากลาวของพวกเขาแลวนําเสนอใหกั บหญิงแกคนหนึ่งที่รวมสมัยกั บ พวกเขา นางไมเขาใจสักอยางเลย และจะกลาววา คนบาเทานั้นที่จะกลาว สิ่งนี้ วาพระผูอภิบาลและมนุษยนั้นเปนหนึ่งเดียว !!! ไมถูกตอง เพราะวา ความเขาใจในเรื่องของศาสนานั้นเปนการประทานจากอัลลอฮฺ � ถาหากเรากลั บไปยังพวกที่ขึ้นไปถึงบนดวงจัน ทร และพวกเขาได สรางทุกๆ สิ่งที่เราเห็น ทานจะพบวาสติปญญาของพวกเขานั้นดอยกวา 47
�� ���>>> .........................................................................................
สติปญญาของสัตวเดรัจฉานเสียอีกในเรื่องของการปฏิสัมพันธกัน ประเทศ ญี่ปุน ณ เวลานี้นับเปนสุดยอดของความเจริญกาวหนา ทานจะพบวาคน หนึ่งในพวกเขาเมื่อเสร็จสิ้นจากการทํ างาน เขาจะไปหาพระพุทธรูปและ กราบไหวมัน !! สติปญ ญาของผูคนเหลานี้อยูที่ไหน ?! เราจะนึกภาพได อยางไรวาผูที่มีสติปญญาที่เปนอัจฉริยะซึง่ ไดสรางทุกๆ สิ่งในโลกดุนยา ใน ตอนเย็นเขาจะไปทีห่ ินแลวกมและกราบไหวมนั ! นี่คือ คนบาใชไหม? ไม ขอ สาบานดวยนามของอัลลอฮฺ � วาเขามีสติปญญา แตเขาอยูบนหนทางที่ ผิดพลาด พี่นอ งครั บ พวกเราอยาคิด วา การที่เรามีความรูดอ ยกวาใครคน หนึ่ง หนทางของคนนั้นจะถูกเสมอไป ไมครับ ดังที่ทานอาลี ไดกลาววา (จงรูจักสัจธรรม แลวทานจะรูจักผูที่อยูในสัจธรรมนั้น) สัจธรรมนั้นจะไมถูกวัด และประเมินโดยมนุษย แตวามนุษยนั้นแหละจะถูกวัดและประเมินดวยสัจ ธรรม และความไมรูในเรื่องของศาสนาเปนสิ่งที่ทําใหมนุษยเปนอยางที่เปน ขณะนี้ ทานไดฟงเขาบรรยาย ๑๐ ชั่วโมง และเขียนหนังสือตางๆ หากแต วา เขาเป น ผู ที่ โ ง เขลาในเรื่ อ งรากฐานของศาสนา เพราะเหตุ ใดเล า ? เพราะวาปญหานี้ แทจริงศาสนานั้นดํารงอยูบนการมอบตนตออัลลอฮฺ � และดํารงอยูบนการปฏิบัติตามทานเราะซูล บางครั้งเขาไดทําใหศาสนา ดํารงอยูบนสิ่งที่เขาไปในสมองของเขาเทานั้น !! เพราะเหตุดังกลาว เมื่ออา ยะฮฺและหลักฐานขัดกับสติปญญาของเขา เขาก็จะตีความและมวนมันไป ทางขวาและซาย เพราะวาเขาทําใหสติปญญาของเขาซึ่งเขาคิดวามันคือ ความชาญฉลาดอันยิ่งใหญในการเขาใจตัวบทตางๆ บางคนจากบรรดามุ ฟ ตี แ ละนั ก วิ นิ จ ฉั ย บทบั ญ ญั ติ อิ ส ลาม แมกระทั่งการพิพากษาดวยสิ่งนอกเหนือจากที่อัลลอฮฺ � ไดประทานมา พวกเขาก็ยงั นําหลักฐานมากลาววา กระทําได เราจะอธิบายสิ่งนี้อยางไร? 48
�.........................................................................................���>>> ���
เราบอกไดเต็มปากวา ทั้งหมดนี้เปนการไมรูในเรื่องของศาสนา ดังทีผ่ มเคย กลาววา หากเราคิด ในสิ่งที่ดีแลว ในขณะที่ทานเราะซูล ไดกล าวกั บ หญิงสาวนางหนึ่งวา อัล ลอฮฺอยู ที่ไหน? เขาจะกลาวแกทานวา ไมหรอก ทานเราะซูล มิไดหมายถึงเชนนั้น แตทานไดถามเทาเทียมกับสติปญญา ของนาง ! นั่นก็คือ ทานหยอกลอนาง !! พี่นองครับ จนกวาเราจะออกจากความโงเขลานี้ เราไมมีแนวทางใด นอกจากเราจะตองศึกษารากฐานอันยิ่งใหญ กลาวคือ เราตระหนักวาเรา คื อ บ า วของอั ล ลอฮฺ � และความหมายของการเป น บ า วนั้ น เราไม สามารถที่ จ ะเข าใจศาสนาหรือ นํ า เอาศาสนามาปฏิบั ติ นั้น เวน แตตอ ง ปฏิ บั ติ ต ามที่บ รรพชนรุน กอนได ปฏิบั ติ ม าแลว นี่คือทางออกจากความ พินาศซึ่งเรากําลังอยู หากพวกเราคนหาไปทางขวาหรือซายและรวบรวม บรรดาผูอ ัจฉริยะบนโลกนี้ เราจะไมมีขอสรุปใดๆ เลย แตเราจะมีขอสรุปก็ ตอเมื่อพวกเราไดมอบหมายเรื่องตางๆ แกอัลลอฮฺ � เราก็กลายเปนดังที่ อัรรอซีย ไดกลาววา (ผมปรารถนาที่จะไดตายบนศาสนาของคนเฒาคนแก) เพราะอะไรละ? เพราะวาการเขาใจศาสนาของคนเฒาคนแก รากฐานเดิม คือ การมอบตน พี่นองครับ รากฐานของศาสนานี้ก็คือการมอบตน เมื่อ เราไดมอบตนตออัลลอฮฺ � เราศรัทธาตอพระองคและเชื่อฟงพระองคใน เรื่องศาสนา ในเรื่องที่มีมาจากอัลลอฮฺ � และเราะซูล ชีวิตของเราก็ จะไดปลื้ มปติยินดี และเราจะไดอยูบนหนทางนี้ซึ่งไม ใชพวกเคร งศาสนา และไมใชพวกที่สะเพราและละเลย เพราะวานี่คือศาสนาของอัลลอฮฺ � และพวกเราเปนบาว อยางไรก็ตาม พวกเราก็ตอ งคิดในสิ่งที่ดี พวกทานไม เห็นหรือวา หากคนๆ หนึ่งถือศีลอดตอเนื่องถึงกลางคืนอยางขยันขันแข็ง โดยที่ เขาต อ งการความดี แต เขากลั บ เป น ผู ที่ ทํ า บาป! เพราะอะไร? 49
�� ���>>> .........................................................................................
เพราะวาเขาผิดทาง ความโงเขลาในเรื่องของศาสนาจะดึงและชักจูงมนุษย) ไปสูบิดอะฮฺไดงายๆ จนทําใหบิดอะฮฺและซุนนะฮฺเทาเทียมกันในทัศนะของ พวกเขา ทุกสิ่งทีท่ านกลาวกับเขาวา มันเปนบิดอะฮฺ เขาจะกลาววา พี่นอง ครับ ไม เปน ไรหรอก สิ่งนี้ทํา ใหจิตใจของผูคนสนิท สนมกัน สวนผูคนใน เวลานี้ไดหลงผิด ทานกลาวกับเขาวา พี่นองครับ ทานอยาฟงอนาซีดเลย เขาจะกลาววา มันดีกวาการฟงเพลง ! ทานกลาวกับเขาวา ทําไมทานถึง จัด งานวัน เกิ ด ในบา นของทาน ? เขาจะกลาววา เป น เรื่อ งที่ใหคนอื่น พึง พอใจ ! ผมจะกลาววา เรื่องของเราจะไมลดหยอนศาสนาเพื่อสอดคลอง กับผูคน แตกิจการของเราคือการที่เรายกมนุษยทั้งหมดเพื่อที่จะใหพวกเขา นั้นเดินอยูในขบวนของอัลลอฮฺ � นี่คือหนาที่ของศาสนา และหนาที่ของ ศาสนาคือ นํามนุษยที่กระจัดกระจายนั้นมาและรวมพวกเขาใหอยูบนทาง เดียวกัน เพราะเหตุ นี้ ประชาชาตินี้ไมส ามารถที่จะรวมตัว กั นไดและไม สามารถเดินอยูบนทางเดียวกั นได นอกจากเมื่อ ประชาชาตินี้เดิน อยูบน แนวทางของอัลลอฮฺ � ไมวาหนทาง สังกัด หลักการศรัทธาหรือสิ่งใดๆ ไมสามารถรวมเราได แตประชาชาตินี้จะตองเดินอยูบนแนวทางของทาน นบี เพราะวาอัลลอฮฺ � ทรงดํารัสวา (٣١ : ﴾ )آل ﻋﻤﺮانE D C B A @ ? >﴿
ความวา จงกลาวเถิด (มุฮัมมัด) วา หากพวกเจารักอัลลอฮฺ ก็จง ปฏิบัติตามฉันแนนอน อัลลอฮฺ ก็จะทรงรักพวกเจา
นี่แหละ คือหนทาง และพระองคยงั ไดดํารัสอีกวา º ¹ ¸ ¶ µ ´ ³ ² ± ° ¯ ® ¬﴿ (٦٥ :﴾ )اﻟﻨﺴﺎءÁÀ ¿ ¾ ½ ¼ »
50
�.........................................................................................���>>> ���
ความวา มิใชเชนนั้นดอก ขอสาบานตอพระผูอภิบาลของเจาวา
เขาเหล านั้ น จะยั ง ไม ศ รัท ธาจนกว าพวกเขาจะใหเจาตัด สิน ในสิ่ง ที่ ขัดแยงระหวางพวกเขา แลวพวกเขาก็ (เห็นชอบ) ไมรูสึกคับอกคับ ใจใดๆ ในจิตใจของพวกเขาจากสิ่งที่เจาไดตัดสินไป และพวกเขาก็ ยอมจํานนดวยดี เพราะดังกลาวนั้น มีนักคิดมุสลิมคนหนึ่งไดกลาววา เคราะหกรรม หากเราทั้งหมดเขารับอิสลามและปรารถนาที่จะเขาใจอัลกุรฺอานโดยที่ใน สมองของเรามี ข อ มู ล ตา งๆ นานา และเราประสงค ที่ จะปรั บ ตั ว บทให ถู ก ต อ ง และสิ่ ง ที่ ดี ที่ สุ ด การที่ เ ราจะปรั บ สิ่ ง ที่ มี อ ยู ใ นสติ ป ญ ญาของเราให สอดคลองกับตัวบท
สิ่งนี้ที่ทําใหผูคนเสียหาย ณ เวลานี้ ในสมองของพวกเขามีขอมูล และหลายสิ่งหลายอยางซึ่งไดรับมรดกตกทอด ซึ่งพวกเขาตองการที่จะ บังคับใหศาสนาสอดคลองกับสิ่งดังกลาว ตรงกันขามกันเปนสิ่งที่ถูกตอง คือ เราตองละทิ้งสิ่งที่มีอยูในจิตใจและสมองของเราแลวเราก็เดินอยูบน แนวทางที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค พี่นองทั้งหลายครับ ดังนั้น ทางออกของเราก็คือการเขาใจอิสลาม และการสถาปนาอาณาจักรอิสลามดวยการเขาใจอิสลาม กลาวคือ การ กลับไปสูชนรุนแรก อิมามอะหฺมัด อิมามชาฟอีย และผูที่มากอนและหลัง พวกเขาจากบรรดาผูนําที่ไดรับทางนําดํารงอยู หากเราเดินอยูบนแนวทาง นี้เราก็จะถึง และถาหากวาเราตามอิบ นุซีนา อัรรอซี อัล ฆอซาลีย หรื อ ผูใดในบรรดาผูคนและสังกัดตางๆ เราก็จะไปถึงฝงอยางแนนอน ยิ่งไป กวานั้นจะทําใหพวกเรายังคงเปนประชาชาติที่เสียหายอยู จนกระทั่งหาก มีคนหนึ่งจะตัดสินดวยนามแหงอิสลาม แตเขาไมสามารถตัดสินดวยนาม แหงอิสลามซึ่งอัลลอฮฺ � ทรงตองการได เพราะอะไร? เพราะเขาจะ 51
�� ���>>> .........................................................................................
ตัด สินตามสัง กัด และแนวทางตางๆ ที่มีอยูกับ เขา แท จ ริงผู ที่จะตั ด สิ น พวกเจาดวยกับอิสลามที่ถูกตองคือ ผูที่เชิญ ชวนไปสูอิสลามของบรรดา เศาะหาบะฮฺและตาบีอนี สํา หรับ ผู ที่ เรีย กรอ งเชิญ ชวนการตั ด สิ น ซึ่ ง ต องการให อิ ส ลาม พิพ ากษา เรากลา วแกพ วกเขาว า หากพวกท านต องการอิ ส ลามของ มุ หั ม มั ด บุ ต รของอั บ ดุ ล ลอฮฺ พวกทานจงทํ าความรู จัก ท าน เป น อันดับแรก แลวสอนใหมนุษยรูจักทาน และจงเครงครัดในการปฏิบัติตาม ทาน หลังจากนั้นก็ตัด สินดวยสิ่ง นั้น สวนเมื่อเราต องการการพิ พากษา ดวยอิสลามเปนเพียงเอกลักษณเทานั้น สิ่งนี้ทีแหละที่ป ระชาชาติไดรับ อีกไมชา ประเทศเหลานี้ไดยกเลิกกฎหมายและระเบียบการ เปลี่ยนจาก รูป แบบทุนนิยมและคอมมิว นิสตสูอิส ลาม แตมิใชอิ ส ลามที่ อัล ลอฮฺ� ทรงประสงค แตทวา เปน อิสลาม ตามที่พวกเขาตองการ ดวยเหตุนี้ พี่นองทั้ง หลายครับ เราขอกล าววา จํ าเป นที่ จ ะเผย อิสลามใหแกผูคนซึ่งเปนอิสลามที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค มิใชอิสลามที่ เสียหายและหลงลืมซึ่งแพรกระจายในตะวันตก ณ ขณะนี้ เราจําเปนตอง ทําใหมนุษยทราบเกี่ยวกับอิสลามแบบบรรพชนรุนแรก ซึ่งเปนอิสลามใน รูปแบบของบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตาบิอีน ตาบิอฺตาบิ อีน และบรรดาผูนํา ที่ ดําเนินตามทางนํา หากเราสามารถปฏิบัติเชนนี้ เราก็ไดทําใหอิสลามเผย เดน สิ่งนี้ค วรใหโลกเกิดขึ้นเนื่องดวยสิ่งนี้ และนี่ แหละ สิ่งที่ควรปฏิบั ติ สําหรับผูที่อยูในหลักการศรัทธา ผูใดที่เฉลียวฉลาดในเรื่องหลักศรัทธาให เผยเดนตอหนาผูคนทั้งหลาย เพราะเราเปนสักขี พยาน แลวเราก็จะถู ก สอบสวนตอหนาอัลลอฮฺ � พึงเตรียมคําตอบแลวกัน
52
�.........................................................................................���>>> ���
ประกายความคิดที่
4
เราจะเริ่มดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺจากจุดไหนดี ในหนากระดาษนี้ ผมพยายามที่จะอธิบายเรื่องที่สําคัญซึ่งผมเห็นวา มันจําเปนที่ตองชี้แจงและพูดถึงรายละเอียดของมัน เพื่อวาเราจะกลับไป พบกั บอัล ลอฮฺ � บนแนวทางที่ชัด เจน จนกวาอัลลอฮฺ � ทรงชี้นํ าเรา เผื่อวาเราจะไดรับใชพระองคในฐานะเราเปนบาวที่ดีและเปนนักเผยแผใน การเชิด ชูคํากล าว “ไม มีพระเจาอื่น ใดที่ค วรแกการกราบไหว ที่แทจริงนอกจาก อัลลอฮฺ และมุฮัมมัดนั้นเปนเราะซูลของอัลลอฮฺ” ประเด็นนี้ คือ เราจะเชิญชวนสูอิสลามไดอยางไร การดําเนินภารกิจ การเชิ ญ ชวนไปสูอิ ส ลามนั้น ในรู ปแบบป จเจกบุคคลหรือ วามัน เปน การ กระทําแบบกลุม เราจะเริ่ม ด ว ยการด า ทอว า บรรดาผูที่ ให ค วามสํา คัญ กับโลกดุนยา หรือไม? หรือวาเริ่มดวยการดาทอการปฏิเสธศรัทธาและพวกที่ปฏิเสธศรัทธา ในอัลลอฮฺ � ? เราเริ่มดวยการเดินประทวงและสรางความวุนวายใชไหม หรือ วาเราเริ่ ม ด วยการอ า นอั ล กุ รฺ อ านและไตร ตรองอายะฮฺตา งๆ ของอัลกุรฺอาน เราจะทําใหอิสลามอยูแนวหนาในพื้นที่แหงนี้ไดอยางไร
53
�� ���>>> .........................................................................................
และบรรดาผูที่ไมชอบหรือแสรงทําวาไม ตองการอิสลาม จริงๆ แลว พวกเขาเหลานั้นไมไดนบั ถือศาสนาเพื่ออัลลอฮฺ � หรือแคเปนเรื่องคลุมเครือ ที่เกิดขึ้นในสนามแหงการทํางานเพื่ออิสลาม
ณ เวลานี้ เอกลักษณตางๆนั้นมีมากมาย ไมวาจะเปนเอกลักษณ ตางๆ เพื่อการเชิดชูการญิฮาด เอกลักษณตางๆ ในการปฏิปกษกับบรรดา ชัยฏอนและสมุนของมัน เอกลักษณตางๆในการกอการปฏิวัติและปฏิรูป สิ่งนี้เปนที่ปรากฏขึ้นในบรรดามุสลิม ณ ปจ จุบัน! สิ่งตรงขามกั นนั้นก็ มี ปรากฏใหเห็นเชนกัน อาทิ เอกลักษณและสัญญานแหงการหลีกหนีจาก สภาพเปนจริง พวกเขาตางกลาววา พวกเราไมเกี่ยวของกับเรื่องนี้ เรา เพียงพอกับการละหมาดและอิบาดะฮฺของพวกเรา! สัจธรรมในเรื่องนี้อยู ที่ ไ หน เป น เรื่ อ งสั จ ธรรมใช ไหมที่ ค วามโง เขลาและความต่ํ า ช า ของ ประชาชนทั่วไปที่แสดงใหเห็นดวยคําเทศนาทั่วไปและคําด าทอบนแท น มิน บั รฺ หรือ วา สัจ ธรรมอยูกั บ ผู ที่ ล ะหมาด ถื อ ศี ล อดและจ ายซะกาฮฺ หลังจากนั้นก็ไมสนใจและรูสึกเดือดรอนวาโลกจะดีหรือจะราย โดยยึดบน หลักการความเขาใจที่ผิดพลาดในพระดํารัสของอัลลอฮฺ � วา (١٠٥ : ﴾ )اﳌﺎﺋﺪةF E D C B A @ ? > ﴿
ความวา พวกเจ าจงปกป องตั วของพวกเจ าเถิ ด (จากการฝ าฝ น บัญ ญั ติ ของอั ลลอฮฺ ) ผู ที่ ห ลงผิ ด จะไม ทํ า ให พ วกเจ า เดือ ดรอ น
พวกเจาไดรับทางนําแลว
เมื่อ
ไมตองสงสัยเลยวา ประเด็นนี้จําเปนตองมีการอธิบายรายละเอียด กั น อย า งยืด ยาว และการสานเสวนาอี ก หลายต อ หลายครั้ ง แต ผ มจะ พยายามทําใหมันงายที่สุ ดเทาที่ผมสามารถจะทํ าได และจะพยายามยก แนวคิดตางๆ ใหเห็นชัดมากขึ้น 54
�.........................................................................................���>>> ���
พวกเราทราบแลววาภารกิจ ดะอฺว ะฮฺนี้ -ดังที่ ผมพูดมาหลายครั้ ง แลววา- เปนอิบาดะฮฺ ไมตางกับการละหมาด การถือศีลอด การประกอบ พิธีหัจญ มัน มี ขอบเขตและหลั ก เกณฑ ตางๆ และเราทราบมาตลอดวา สังคมอิสลาม ณ เวลานี้นั้นไดหางไกลจากศาสนาของอัลลอฮฺ � ในเรื่อง ตางๆ มากมาย และที่สําคั ญที่สุด คือ การมอบหมายตนตออัลลอฮฺ � อยางสิ้นเชิง มนุ ษย ณ เวลานี้ แมกระทั่งผูที่ทําการละหมาดก็ออนแอใน เรื่องของการมอบตนตออัลลอฮฺ �อยางสิ้นเชิง สวนสามัญชนทั่วไป เมื่อมี สิ่งหนึ่งจากอัลลอฮฺ � พวกเขาจะกลาวกันวา พวกเราไมสามารถทําสิ่ง ดังกลาวนี้ได ไมไดห รอกสิ่งนี้มันยาก สิ่ งนี้มันเปน เรื่องเกินเหตุในศาสนา พวกเขาไมมีการมอบตนตออัลลอฮฺ � . -, +* )('&%$#" !﴿ (٣٦ : ﴾ )اﻷﺣﺰاب1 0 /
ความวา ไมบังควรแกผูศรัทธาทั้งชายและหญิง เมื่ออัลลอฮฺและเราะซูล ของพระองคไดใชใหกระทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดแลว จะมีทางเลือกสําหรับพวก เขาจากกิจการของพวกเขาเอง (แตพวกเขาจะตองยอมจํานนโดยดุษฏี)
สําหรับสามัญชนทั่วไปและมุสลิมสวนใหญ ไมไดปฏิบัตกิ ับอายะฮฺนี้ ไมไดหมายความวาพวกเขาปฏิเสธอายะฮฺนี้ ไมใชแนนอน แตวา พวกเขาได หางไกลจากสภาพความเปนจริงที่เกิดขึน้ กับพวกเขาและทําตัวของพวกเขา ใหหางไกลจากการเขาใจคัมภีรของอัลลอฮฺ � และศาสนาของพระองค ดวยเหตุดังกลาวนี้ ทานจะพบวามนุษยนั้นเคารพสักการะตออัลลอฮฺ � ไมส อดคลอ งกั บที่อั ล ลอฮฺ � ทรงประสงค แตมัน เหมือ นกับ ที่พวกเขา ตองการเทานั้น สิ่งนี้เกิดขึ้นกับมนุษยสวนใหญ เมื่อกลุมนักวิชาการและนัก อานอัลกุรฺอานไดเขารวมพรอมกับพวกเขา ทานจะพบเขากลาววา สํานัก 55
�� ���>>> .........................................................................................
คิดทางบทบัญญัติในอิสลาม และอิสลามนั้นดั่งทะเลกวาง สามารถรองรับ ไดทุกสิ่ง จากสิ่งดังกลาวนี้ ทานจะเห็นวานักคิดที่มีชื่อเสียงบางคน มีความ คิดเห็นในหนังสือของเขาวา เมื่อเราไปที่กลุมประเทศตะวันตก เราจะพบวา ผูหญิงตะวันตกนั้นมีคา พวกนางสามารถทํางานเลี้ยงตนเองได ทําสัญญา ดว ยกั บตั ว เองได ฯลฯ และคํ า พู ด เกี่ ยวกั บ สิ ท ธิเสรีภ าพของสตรีที่ มี ใน ตะวันตก เขากลาววา เมื่อเราไดดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺที่โนน เราไมจําเปน ที่ตองนําทัศนะของอิมามอะหฺมัดและอิมามมาลิก ในเมื่อพวกเรามีทัศนะ ของ อบูหะนีฟะฮฺ หรือคนอื่นๆ ที่สอดคลองกับสภาพเปนจริงของพวกเขา!! ความหมายว า พวกเราได เชิ ด ชู อิ ส ลามที่ ส อดคล อ งกั บ สั งคม ปจจุบันและ ณ เวลานี้ จนบานปลายถึงสังคมมุสลิมจนกระทั่งกลายเปนวา เราคนหาอิสลามที่สอดคลองกับสังคมตะวันตกที่บิดเบือนนี้ ดังนั้น นี่คือ สภาพความเปนจริงของมนุษย และนี่คือบทสรุปของมัน พวกเรามีรากฐานหลัก มันเปนเมล็ดพันธ นั่นคือ ครอบครัว และ ปจ เจกบุคคล แตละคนนั้นเปนบาวของตัวเองหรือเปนบาวของอัลลอฮฺ � ? นี่คือแกนแทของประเด็นปญ หา มันไมใชแกนแทของประเด็นในวันนี้วา จะสถาปนาบทลงโทษ (หุดูด) หรือไม? ผูหญิงเปนผูพิพากษาไดไหม หรือวา ผูชายจะเปนผูพิพากษา? ประเด็นหลักตอนนี้ไมใชอยูที่วารัฐมนตรีคนไหน โกงหรือไมโกง? สิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพออกมาในรูปแบบใด? สิ่งที่ กลาวมาทั้งหมดนีแ้ คผลพวงตามมาเทานั้น แตทวา แกนแทของประเด็น ณ เวลานี้ คือ อัล ลอฮฺ � เป น ที่เคารพสั ก การะดั งที่ พระองคทรงประสงค หรือไม หรือแคตามที่พวกเขาตองการเทานั้น? ดังนั้น ในเริ่มแรกจะเริ่ม ที่ ปจเจกบุ คคล ไมตอ งสนใจวาคนนี้เปน เศรษฐี นายกรัฐมนตรี สามัญ ชน ธรรมดา หรือโจร นี่แหละคือแนวทางที่ทานนบี ไดปฏิบัติในมักกะฮฺกับ 56
�.........................................................................................���>>> ���
พวกกุรอยชฺ พวกเราไมเคยไดยินทานพูดบนมิน บัรวฺ า พวกทานเปนขโมย พวกทานยัดยอกทรัพยสินของมนุษยในทางมิชอบ พวกทานเปนอยางนั้น! พวกเราไมเคยไดยิน สิ่งนี้เลย แตทานไดเริ่ม ดวยแตล ะคนในฐานะมนุษ ย ทานมาหาคนๆ หนึ่งแลวสอนเขาเกี่ยวกับการเคารพสักการะอัลลอฮฺ � เมื่อคนๆ นั้นไดเรียนรูแลว เขาก็จะไปสอนครอบครัวของเขา ดังนั้นจากแต ละคนกลายเปนครอบครัว แลวครอบครัวกลายเปนประชาชาติ ดังนั้น พวกเราจะมี 2 แนวทางดวยกันคือ แนวทางที่ 1 ซึ่งเรากํ าลั งเผชิญ อยู ณ ตอนนี้ ในโลกมุสลิ มซึ่งสิ่งที่ พวกเขาใหนามวา “การทําใหประชาชาติเปนอิสลาม” หมายความวา ทําให รัฐบาล กฎหมาย ระบบตางๆ และทุกสิ่งทุกอยางเปนอิสลาม แต อิสลามที่ พูดถึงนี้จะถูกวางในรูปแบบอยางไร พวกเขาเองก็ไมทราบ อะไรคือ บรรทัด ฐานและกรอบของการใหเปนอิสลาม สิ่งนี้ก็ไมเปนที่ทราบกัน!! เราขอกลา ววา แนวทางที่ ถู ก ตอ ง เราต อ งเริ่ม ที่ ครอบครัว และ ปจเจกบุคคล อบรมสั่งสอนพวกเขาบนพื้นฐาน “ไมมีพระเจาอื่นใดที่ควรแกการ สักการะเวนแตอัลลอฮฺ” และไมกราบไหวสักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮฺ � และอบรมสั่งสอนครอบครั วของเขาบนพื้ นฐานดังกลาว เฉกเชนนี้แหละ โลกก็ จ ะเริ่ ม ขึ้ น เมื่ อ พวกเขารั บ รูถึ งสิ ท ธิ์ แ หง การกราบไหว สัก การะที่ สมบูรณนั้น (อุบูดียะฮฺ) เปนกรรมสิทธิ์แดอัลลอฮฺ � และพวกเขาตางรับรู ว าไม มี สิ่ งที่ ค วรแก ก ารสั ก การะเว น แต อั ล ลอฮฺ อ งค เดี ยว ไม มี ผู ส รา ง ผู ประทานปจจัยยังชีพนอกจากอัลลอฮฺ เปนตน ณ ขณะนั้น มนุษยเหลานั้นก็ จะเปนดั่งเมล็ดพันธแรกที่ปฏิบัติศาสนาของอัลลอฮฺ � ดังเชนบรรดาเศาะ หาบะฮฺ พวกเขากอนหนานี้ไมเคยเปนมนุษยที่พิเศษเลย หลังจากนั้น พวก เขาก็รวมกลุมคนจํานวนหนึ่งจากชนชั้นตางๆ ของสังคม ไมวาจะเปนผูใหญ 57
�� ���>>> .........................................................................................
หรือเด็ก บาวหรืออิสรชน แลวรวมตัวเปนกลุมชนกลายเปนประชาติขึ้นมา จนกระทั่งไดจัดกองทัพที่สามารถพิชิตโลกและเผยแผศาสนานี้ ดังนั้น ขั้นแรกเริ่ม จากตัวของพวกเราเองกอน พวกเราตองศึกษา อิสลาม และทุกคนผลักตัวเองและบุคคลรอบๆ ตัวใหปลอดพนจากไฟนรก นี่คือ เปาหมายที่ย่ิงใหญ เพราะเหตุใดพวกเราถึงพยายามดําเนินภารกิจ ดะอฺวะฮฺไปสูอัลลอฮฺ � เพราะเหตุ ใดพวกเราถึ งพยายามที่จะสถาปนา ปฏิ บัติใ ชบ ทลงโทษ เพราะเหตุ ใดพวกเราถึ งพยายามดํ า รงไวซึ่งความ ยุ ติ ธ รรม เพราะเหตุ ใ ดพวกเราถึ ง พยายามให ทุ ก คนเคารพสั ก การะ ตออัลลอฮฺ � ก็เพื่อเหตุผลเดียวเทานั้น นั่นคือ การที่พวกเราจะไดรอดพน จากไฟนรก และเปนสาเหตุที่ทําใหพวกเราไดเขาสูสวนสวรรค เมื่อสิ่งนี้ไดฝงลึกในสติปญญาและหัวใจของพวกเราแลว เมื่อนั้นแห ละ เราไม ส นใจวา มนุ ษ ยจ ะพู ด อะไร เพราะวา การคน หาคํา ตอบนั้น ได กลายเปนชีวิตของเราเอง วาสิ่งนี้ทําใหผมเขาใกลอัลลอฮฺ � หนึ่งกาวและ หางไกลจากไฟนรกไหม หรือตรงกันขามกัน ดั ง นั้ น พื้ น ฐานแรกซึ่ ง เราจํ า เป น ที่ ต อ งหมกมุ น อยู กั บ มั น ก็ คื อ ครอบครัว ถาหากเรื่องนี้เปนที่ชัดเจนสําหรับพวกเราแลว ก็ยายไปสูเรื่อง ถั ด ไป และบรรดาผู ที่ ก ล า ววา ไม มี สิ่ ง ใดที่ พ วกเราต อ งเกี่ ย วข อ งด ว ย ความคิดของพวกเขานั้นเปนความคิดที่ผิด เพราะวามนุษยนั้น อยูในความ ลุ ม หลงตราบที่ ไม กํ า ชั บ ให ทํ า ความดี แ ละไม ห า มจากความชั่ ว แต ว า ประชาชาตินี้จะดํารงอยูไดอยางไร บรรดามุสลิมเคยประสบกับเสนทางที่ทําใหพวกเขาหลงทาง ดิ่งตก ลงในเหวลึก พวกเขาไดปฏิบัติตามพวกคอมมิวนิสตและพวกวิญญานนิยม พวกเขาได ขยายเซลลตางๆ อยา งมื ดบอด ไม รูจุด เริ่มและจุด ปลายทาง แนวทางนี้ ถู ก ใช ใ นประเทศมุ ส ลิ ม มั น จึ งทํ า ลายพวกเขา ทํ า ไมล ะ ก็ 58
�.........................................................................................���>>> ���
เพราะวาพวกเขาเหลานั้นเปลี่ยนการตอสูเพื่ออิสลามไปเปนการตอสูแยง ชิงบัล ลังก เพราะเหตุ นี้ เอง พวกเขาไดทํ า ใหป ระเด็น ของพวกเราเลื อ น หายไป ประชาราษฎร ณ เวลานี้เปนกลุมชนที่มีความเตรียมพรอมที่จะนํา บทบัญญัติแหงอัลลอฮฺ � ไปใชหรือไม ผมเห็นวาประชาราษฎรทั้งหลาย ณ เวลานี้ตองไดรับการตัรฺบียะฮฺ (การอบรมบมนิสัยและการขัดเกลาจิตใจสูการเปน บาวที่ภั กดี ตอ อั ล ลอฮฺ องค เดี ย ว) หลั ก ฐานที่ บ ง ชี้สิ่ งดั งกล า ว คื อ พวกเขา สามารถละทิ้งดอกเบี้ยแตไมละทิ้งมัน และคนที่กินดอกเบี้ยสวนใหญเปน คนที่ ล ะหมาด และผู ที่ ก ระทํ า สิ่ งต อ งห า มส ว นมากอยู ใ นหมู บ รรดาผู ละหมาด ดังนั้น ประชาราษฎรจําเปนตองไดรับความรู ความพยายาม และ ความอุตสาหะ ดังนั้น การที่จะเปลี่ยนอิสลามทั้งหมดไปสูอิสลามที่ขัดแยง อยูต ลอดเวลากั บ ฝายปกครองสงผลใหบ รรดามุ ส ลิม เสียเวลาจากการ ตัรฺบียะฮฺ มุส ลิม คนหนึ่งจึ งไมเอาใจใสตอบ าน เพื่อ นบาน ครอบครัว และ บุคคลรอบๆ ตัวเขา ที่จะตองอบรมสั่งสอนพวกเขาบนฐาน “ไมมีพระเจา อื่นใดที่ควรแกการสั กการะเวน แตอั ลลอฮฺ” หากแตวาเขาเอง ณ เวลานี้ กลายเป น คนที่ ไมรูจั ก อิ ส ลามอี ก ต า งหาก ยิ่ งไปกวา นั้ น นัก ดะอฺ วะฮฺ ผู ยิ่งใหญบางคนยังไมรูจักวาอะไรคืออิสลาม ทานอานหนังสือตางๆ ของเขา ทานมั่นใจเลยวาทานผูนี้ไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับอิสลาม บางทีคําพูดนี้แปลก มากๆ แตรากฐานแหงอิสลามนั้นเปนสิ่งที่สมบูรณแบบอยูบนฐานแหงการ เชื่อฟงและภักดี การมอบตน การนอบนอมและการภักดีตออัลลอฮฺ � ไม วาจะสอดคลองกับสติปญญาของพวกเรา หรือขัดแยงก็ตาม นักคิดบางคน ในสมั ยนี้ เห็ น วา พวกเราควรที่ จ ะปฏิ เสธบรรดาหะดี ษ ในตํา ราเศาะฮี หฺ อั ล บุคอรียและมุ ส ลิ ม เพราะมั น ไม ส อดคล อ งกั บสิ่งที่เราคิด ไว!! ดังนั้ น อิสลาม ณ เวลานี้กลายเปนสิ่งซึ่งไมใชเปนการนอบนอมยอมตนตออัลลอฮฺ 59
�� ���>>> .........................................................................................
� อยางสิ้นเชิง แตเปนสิ่งที่ตองสอดคลองกับสติปญญาและอารมณใฝต่ํา ของพวกเรา คนประเภทนี้มีม ากในบรรดาป ญ ญาชน ยิ่ งไปกวานั้ น จาก บรรดาผูรทู ั้งหลาย แลวสามัญชนทั่วไปเลา จะเปนเชนไร ปรากฏการณ ที่ พ บเห็ น ทั่ ว ไปเฉกเช น นี้ และการสอดแทรกที่ สลับซับซอนในขบวนการตางๆ ทําใหโอกาสทางการตัรฺบียะฮฺที่จะตองมีตอ บรรดามุสลิมลดเลือนหางหายไป สิ่งที่ทําใหเราหมกมุนอยู ไมใชการพัฒนา ใหเขาใจอิสลาม และไมใชการตัรฺบียะฮฺบนพื้น ฐานแหงอิสลามในการผลิต เยาวชนทีห่ วงแหนและรักอัลอิสลาม ทานทั้งหลาย ลองคํานวณดูวา กลุมเคลื่อนไหวที่ทํางานเพื่ออิสลาม ไดทุมเทและเสียสละทั้งดานวัตถุและทรัพยากรมนุษยมากนอยแคไหน ซึ่ง ไดแลกเปลี่ยนกับความวางเปลาและไรคา ทําไมละ เพราะวา รากฐานแรก ของศาสนา คือ การตั กเตื อ นกั น ไมใชก ารหลอกลวงกัน แมก ระทั่งการ บรรลุถึงการนําบทบัญ ญั ติ อิส ลามในการปกครองจะไมเกิดขึ้นนอกจาก ดวยการตักเตือนกัน ไมใชดวยการหลอกลวงกัน ดังนั้ น สิ่ งที่ ทํ า ให บ รรดามุ ส ลิม เสีย โอกาส คื อ พวกเขาได ล ะทิ้ ง แนวทางแรกที่ถูกตอง นั่นคือ การสรางครอบครัวที่เคารพภักดีตออัลลอฮฺ � ชุมชนที่เคารพภักดีตออัลลอฮฺ � แลวก็หมูบานที่ภักดีตออัลลอฮฺ � หลังจากนั้นก็เปนเมืองที่ภักดีตออัลลอฮฺ � นี่เปนการทําใหรากฐานแหง อิสลามเลือนหายไป ดังนั้น จําเปนที่จะตองนํามันกลับคืนมา สวนอัน ดับ ที่ 2 พวกเขายุงอยูกั บขบวนการแหงการละเลน ที่ ไม รู จุดเริ่มตนจนกระทั่งจบ สวนใหญแลวเนนทางดานจิตใจที่วางเปลา เราพูด ไดไหมวา ความสับสนวุนวายนั้นสามารถใชไดดี คําตอบก็คือไม เรามองวา แทจริงรากฐานของระบบและขั้นตอนทางดานศาสนานั้นมีอยู บรรดามุสลิม เปนผูริเริ่มระบบบานของ อัรกฺ อ็ ม (ดารุลอัรฺก็อม) ซึ่งเปนแหลงเรียนรูบรรดา 60
�.........................................................................................���>>> ���
มุสลิมเปนผูริเริ่มใชยุทธศาสตรแหงการทําศึกสงครามโดยใชทหารกองยอย และเปนผูริเริ่มใชการวิจัยและการพิสูจนดานการถายทอดองคความรู และยัง เปนผูริเริ่มที่รูจักการวางรากฐานการปกครอง พวกเขาเหลานั้นเปนมุสลิม ซึ่งเปนสมาชิกของศาสนานี้ ทานเราะซูล � ไดจัดวางไววา เมื่อ 3 คนจะ เดินทาง จําเปนที่จะตองมีผูนําจากบรรดาพวกเขา ณ เวลานี้ เราไดพบวา ในบรรดากลุมนักเดินทางตางชาตินั้นจะมีการเลือกผูนําในหมูพวกเขา แต พวกเขามักจะเรียกวา หัวหนากลุม ทุกคนจําเปนที่จะตองเชื่อฟงคําสัง่ ของ เขาและปฏิบัติตาม ความจําเปนไดบังคับพวกเขาใหปฏิบัติเชนนั้น ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺไดกลาววา “ถาหากสิ่งนี้ไดดําเนินในเรื่องของการเดิน ทาง แลวในเรื่องของการก อสรางและเรื่องที่เกี่ยวกั บสาธารณประโยชนของมนุษยนั้น จะตองใหความสําคัญยิ่งกวา” ผูนํานั้นเปนผูที่คอยกําหนดวาเมื่อไหรที่จะหยุด ขบวน หรือเมื่อไหรที่จะเคลื่อนขบวน ดังนั้น ระบบในเชิงหลักการศาสนานี้มี อยูและเปนสิ่งที่ถูกเรียกรองใหมีขนึ้ เราจะตองเรียกรองและเผยแผเรื่องนี้ ไม มีประชาชาติใดบนพื้นแผน ดินนี้นอกจากจะตองมีการทํางานที่เปนระบบ ดังนั้นบริษัทตางๆ ก็มีระบบ สโมสรตางๆ ก็มีระบบซึ่งเปนระบบที่ชัดเจน ดังนั้น จําเปนที่จะตองเริ่มในเรื่องของการเรียงลําดับ คือ ครอบครัว ที่เปนอิสลามและชีวิตที่เปนมุสลิม และหมูบานที่เปนอิสลาม แลวเมืองที่ เปน อิ ส ลาม นี่คื อ การกระจายตามธรรมชาติ หากแตวา บนรากฐานนี้ จําเปนที่จะตองใหบรรดามุสลิมนั้นมีระบบที่สามารถรวมพวกเขาไดโดยไมตอง กอความวุนวายขึ้น ยิ่งไปวานั้นระบบของพวกเขาจะตองไมตั้งขึ้นมาบนการ หลอกลวง การรังเกียจบุคคลใดและการเกลียดชังบุคคลใด แตระบบของ พวกเขานี้จะทําใหพวกเขารวมตัวกันและจัดตั้งกองทุนซะกาฮฺที่ชวยเหลือผู ที่มีความตองการ ใหบริก ารแกคนจนและคนรวยของพวกเขา งานต างๆ 61
�� ���>>> .........................................................................................
เชนนี้แหละไดดําเนินขึ้น และสิ่งนี้จําเปนจะตองปรากฏขึน้ ดังนั้นเมื่อสิ่งแรก นั้นเปนจริงขึ้นมา นั่นคือ การดะอฺวะฮฺในครอบครัว หลังจากนั้นก็ขยายตัว ใหญกวาครอบครัว แลวบรรดามุสลิมก็จะตองจัดระบบสภาพของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาจะกลายเปนผูที่มีแนวคิดและทัศนวิสัยที่ชัดเจนมากขึ้น ณ เวลานี้ โลกไดกลายเปนกลุมตางๆ แมกระทั่งพวกคริสเตียนใน ประเทศมุสลิมมีการกอ ตั้งสหพันธคริสตจักร พวกเขามีการจัดตั้งสหพันธ บริษัทตางๆ กลุมบาฏินียะฮฺก็เชนเดียวกัน แลวทําไมเลา พวกเราผูซึ่งอยูใน สัจธรรมตองกีดกันสิ่งดังกลาวนี้ดวย สิ่งนี้ไมใชสิ่งปกปดอะไรเลย หากแต วามันถูกเปดเผยแมแตในหนังสือพิมพ การจัดการกับระบบการศึกษา การ บรรยายตางๆ การจัดตั้งองคกรบริหารซะกาฮฺ และการกอสรางมัสยิด เปน ตน ทั้งหมดนี้ไมใชเปนเรื่องทีจ่ ะตองปกปด แตชัยฏอนพยายามหลอกหลอน ใหมุสลิมเกิดความหวาดกลัว และดูเหมือนวาพวกเขาเหลานั้นคอยจองมอง พวกเขาอยูตลอดเวลา และสิ่ งตางๆ นี้ ลว นมาจากชัยฏอนทั้งสิ้น ดั งนั้น ความไมมีระบบนั้นไมใชการงานที่ดี แมแตผูที่ชอบทํางานอยางไมเอาจริง เอาจัง เมื่อไดอยูในระบบ พวกเขาก็พบวามันเปนสิ่งที่จริง ศาสนาและการ ดะอฺวะฮฺนั้นจําเปนจะตองอยูในระบบยิ่งกวา ดังนั้ น บทสรุ ป ของเรื่ อ งนี้คื อ เราจํ า เป น ที่ จ ะต อ งดํ า เนิ น ภารกิ จ ดะอฺวะฮฺอยางมีระบบ มิใชดวยความปนปวนวุนวาย และใชประโยชนจาก กาลเวลาใหคุมคา แทจริงทานเราะซูล � ไดปฏิบัติสิ่งนี้ ทานไดจัดเวลา ดวยการผลัดวันในการสอนแกบรรดาผูหญิงและบรรดาผูชาย เชนเดียวกัน กับการจัดระบบกองทหาร ซึ่งสิ่งนี้ไมมีใครสักคนปฏิเสธไดเลย ดังนั้น ถา หากสิ่ ง นี้ มี ก ารขยายวงกว า ง กิ จ การงานต า งๆ บริ ษั ท ต า งๆ และ สาธารณประโยชนทั้งหลายของบรรดามุสลิมไดมกี ารจัดเปนระบบ รวมถึง การจัด สถาบั น เฉพาะสํ า หรั บ อบรมลู ก หลานของพวกเขาบนฐานหลั ก 62
�.........................................................................................���>>> ���
ศรัทธาในอัลลอฮฺองคเดียว สิ่งกีดขวางเหลานี้คืออะไรเลา? การที่ผมจะทํา ตามใจของผม ผมจะสอนในเวลาที่ผมตองการ คนนี้ทําอยางนี้ อีกคนทํา อยา งนี้ ดังนั้น บรรดามุ ส ลิม ก็ จะยั งคงวนเวียนอยูกั บ ที่ ไม ส ามารถผลิต ประชาชาติและไมอ าจกาวไปขา งหนา ไดดั งเชน สภาพที่ได เกิด ขึ้นในโลก มุสลิมปจจุบัน ณ เวลานี้ พวกเราแบงออกเปนกลุม ๆ ระหวางพวกที่หาม ทุกอยางกับพวกที่เปดกวางโดยไมรูตนตอตั้งแตตนจนจบ อิสลามนั้นคือการเชิญชวนแบบเปดเผยไมใชซุกซอน เปนการเชิญ ชวนผูมีอํานาจ ทรชน ผูที่ต่ํ าตอยและผูที่ร่ํารวย ทุกคนลวนถูกเรียกรอ งสู การดะอฺวะฮฺอันประเสริฐนี้ เมื่อเขารับการเชิญชวน บรรดาสรรเสริญ และ การประทานลวนมาอัลลอฮฺ � ผูทรงกรุณาเพียงพระองคเดียว และหาก เขาปฏิเสธ การอภั ยโทษก็ ขึ้นอยูกับพระองค นี่คือหนาที่ที่จํา เปน สําหรับ พวกเรา ดังนั้ นจํ า เป นที่ เรื่ อ งของการเชิ ญ ชวนนั้ นต อ งมี ค วามชัด เจน สิ่ ง ดังกลาวนั้น พวกเราอยากลัวที่จะบอกใหมนุษยทราบเกี่ยวกับการเชิญชวน ของเรา เพราะการเชิญชวนนั้นไมมคี วามลับที่ควรปกปดหรือซุกซอน และไมใช การหลอกลวง ไมใชดวยการเจตนาที่ไมดี ไมใชการเจตนาทีจ่ ะมีการปฏิวัติ ใดๆ ทั้งสิ้น ไมใชการเจตนาที่จะลอบสังหารคนใดคนหนึ่ง แตเราจะกลาว แก ม นุ ษ ย ว า พวกท า นจงมากล า วว า “ไม มี พ ระเจ า อื่ น ใดที่ แ ท จ ริ ง เว น แตอัลลอฮฺ” และนําอิสลามมาใชในบานของพวกทาน ดังนั้นเมื่อเรือ่ งนี้ไป ถึงประชาชาตินี้ ดังนั้นพวกเขาก็จะเปนประชาชาติมุสลิม ซึ่งเปนสาเหตุทํา ใหสภาพตางๆ ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอยางมิตองสงสัย ดังนั้น เราจํ า เป น จะต อ งยึด เอาป จจั ยเหตุตา งๆนี้ เป น ป จจั ยแห ง ความเข มแข็งในยุคสมัยนี้ ดวยการจัด ระบบชีวิต ของเรา จัด ระบบความ เพียรพยายาม แลวเราจะไดรับประโยชนจากสิ่งนี้อยางแนนอน เราจะเชิญ 63
�.........................................................................................���>>> ���
การดะอฺวะฮฺในบาน ณ เวลานี้ ประชาชาติตางมุ งหนาสูเรื่องศาสนิสลามเปนสวนหนึ่ง แตอี ก หลายส ว นจากประเด็ น ต า งๆ ของศาสนาไดล า หลั งจากอิ ส ลาม เนื่อ งจากวา การดํ า เนิ น ภารกิ จ ดะอฺ ว ะฮฺ ได ข ยายกวา งสู น อกบา น องค ความรูไดแผขยายกวางตามมัสญิด ในวงเพื่อนฝูง ไดมีการดะอฺวะฮฺในเวลามี การทองเที่ยวกับมิตรชิดใกล แตภายในบานถูกรุกรานโดยผูอื่น ในบานของ มุสลิม แมแตในบานของนั กดาอียเองจะถู กคุ กคามจากเพื่ อนบานที่ไม ดี จากรายการโทรทัศน หนังสือพิมพ หรือจากการคลุกคลีของลูกๆ กับลูกๆ ของเพื่อ นบานที่ไมปฏิบัติอ ยางเครงครัดตามซุน นะฮฺของทานเราะซูล ซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงชี้นําเราผานทาน และพระองคทรงประทานความดี งามแกเราเหนือกวามนุษยคนอื่นๆ เพราะวามันเปนนิอฺมัตที่ยิ่งใหญ ที่คนๆ หนึ่งไดปฏิบัติตามแนวทางของบรรพชนที่ดีในยุคกอน มนุษยจะไมประจักษ คุณคาของมันเวนแตเมื่อรูผลพวงของผูที่อยูนอกหนทางที่ไรสาระนี้ ทั้งๆ ที่ เขาได ล ะหมาด ถื อ ศีล อด เพียรพยายาม และพลีท รัพ ยสิ น เพื่ อ ชิ ด ใกล กับอัลลอฮฺ � แตนาเวทนายิ่งนัก เขาไมไดรบั ประโยชนอะไรจากสิ่งนั้นเลย เพราะเขาเดินอยูบนเสนทางที่ขัดกับเสนทางที่จะนําเขาสูสวนสวรรค ผูที่อยู บนเสนทางของอิสลาม อัลลอฮฺ �จะทรงชี้นําแนวทางแกเขา นี่แหละคือ การประทานจากพระองค มิใชเปนความฉลาดปราดเปรื่องจากตัวพวกเขา เอง และพวกเขามิใชวาถูกสรางจากดินที่ตางจากการสรางคนอื่น พวกเขา ก็เหมือนคนอื่น ๆ แตผูที่อยูบนฐานหลักศรัท ธาจะถูกคุกคามและเปนเปา สายตาตลอดเวลาเปนการเฉพาะ และตอบรรดามุสลิมอื่นๆ โดยทั่วไป พี่นอ งที่มีเกี ยรติครั บ เราควรหั น มามองความเจริ ญ รุงเรื อ งของ บรรดามุสลิมในวันนี้ เราจะพบวามุสลิมโดยทั่วไปมีอิทธิพลทางศาสนาใน 65
�� ���>>> .........................................................................................
ประเด็นหลักแหงชีวิตยิ่งลดนอยลง ทําไมละ เพราะการดะอฺวะฮฺมิไดเนนใน บานและครอบครัว นักดาอียจํานวนไมนอยไดละเลยสิ่งนี้ แลวสามัญ ชน ทั่วไปละจะเปนเชนไร? สวนบรรพชนในสมัยบรรดาเศาะฮฺาบะฮฺและตาบิอีน จะเจียดสวนหนึ่งภายในบานเปนสถานที่สําหรับละหมาด (มุศ็อลลา) เพื่อ อะไรละ ก็เพื่อเชื่อมโยงสายสัมพันธมนุษยกับพระผูอ ภิบาลและการภักดีตอ พระองค การรายงานจากทานอิมามมุสลิมไดบันทึกวา ทานหญิงอาอิชะฮฺ ไดทําความสะอาดและพรมน้ําหอมสถานที่ละหมาดในบานของนาง สวน อุมมุซะละมะฮฺเมื่อตองการจัดสวนหนึ่งในบานเปนสถานที่ละหมาด นางก็จะ ชวนท า นนบี มาละหมาด ณ ส ว นนั้ น และตั ว อย า งอี ก มากมายใน ประวัติศาสตร ดังนั้น จะเห็นไดวา บานของบรรดาบรรพชนยุคกอนจะมีมุม หนึ่งไวสําหรับปฏิบัติอิบาดะฮฺ แตในสมัยนี้จะพบวา มีบรรดาหญิงและลูก นอยรวมถึงพอ บานอีก จํา นวนไมนอยที่ล ะหมาดหน าโทรทัศ น เขากํ าลัง ละหมาดโดยมีเสียงวิทยุดังแววอยู บางครั้ง เขากําลังละหมาดแตยังมีเสียง รบกวนจากคนนั้นคนนี้ แลวเขาจะคุชูอฺในการละหมาดไดอยางไร และเขา จะไดรับผลบุญและผลพลอยจากการละหมาดไดอยางไร ทานเราะซูล ได บอกเราวา แทจริงคนๆ หนึ่งจะไดรับผลบุญ จากการละหมาดเทาที่จิตใจ ของเขาอยูกับตัว พี่นอ งครั บ เราควรพิ จารณาวา เรานํา เรื่อ งราวกลับ ไปสูรากฐาน เดิ ม ของมั น ได อ ย า งไร นั่ น คื อ เราควรจะเริ่ ม ต น การดะอฺ ว ะฮฺ ภ ายใน ครอบครัวกอน เพราะวา อัลลอฮฺ � ทรงตรัสวา ﴾²± ° ¯ ®¬ « ﴿ ความวา โอบรรดาผูศรัทธาเอย จงปกปองตัวและครอบครัวของ เจาจากนรกเถิด (٦ :)اﻟﺘﺤﺮﱘ
66
�.........................................................................................���>>> ���
อัลลอฮฺ � ทรงตรัสวา ﴾ RQ P O﴿ ความวา จงตักเตือนวงศาคณาญาติที่ใกลชิดของเจา (٢١٤ :)اﻟﺸﻌﺮاء
มีกฎเกณฑที่ทราบกันดีวา บรรดาวงศญาติที่ใกลชิดดีควรกระทํายิ่ง กวา ดังนั้นเมื่อคนๆ หนึ่งมีเงินและจะใหศีลทานแกคนอื่น ดังนั้นการใหทาน แกครอบครัวของเขาจะไดผลบุญ 2 เทา ไมตอ งสงสัยเลยวา แท จริงการ เชิญชวนครอบครัวตนเองนั้นจะไดผลบุญอยางมากมายกวา ดังนั้น เราควร อยางยิ่งที่ตองนําการเชิญชวนนี้กลับไปสูภายในบาน และใหความรูแกคน ในครอบครัว และแมแตผูที่ไม มีความรูก็ส ามารถใหเทปบัน ทึกเสียงและ วารสารตางๆ โดยที่เขาเอาเทปมาเปดแลวเรียกประชุมครอบครัวของเขาใน ที่ๆ เฉพาะสําหรับการละหมาดหรือหอ งสมุด ไมวาจะเปนแม ภรรยา ลูก ๆ และกลาววา วันนี้เราจะมาฟงการบรรยายของผูรูทานนี้ พวกเขาจะไดเคย ชินกับการไดรับฟงความรู ทําใหสตรีนั้นเคยชินกับการใชเวลาในการฟงอัล กุรฺอานและอัลหะดีษ ลูกๆ ก็จะไดเติบโตขึ้นมาแตกตางกับการเติบโตที่มอี ยู ในสภาพปจจุบัน พี่นองครับ ผมเคยเห็นลู กหลานของเราจํานวนมาก เมื่อทานถาม พวกเขาในเรื่องของศาสนา ในขณะที่พวกเขาเหลานั้นมีอายุ 13 หรือ 14 ป ทานจะพบวาเขาไมรูอะไรเลย และในขณะที่ทานพิจารณาไปยังสภาพของผู เปน พอ จริงๆ แลว พอ นั้นก็ เป น สว นหนึ่งของบรรดานัก ดาอีย สว นใหญ ขอมูลตางๆ เกี่ยวกับศาสนานั้น ลูกไดรับจากโรงเรียน เฉกเชนเดียวกันกับ สภาพของสตรีบางคน เมื่อทานไดถ ามนางเกี่ยวกับปญ หาพื้นฐานทั้งๆ ที่ สามีของนางจากบรรดาพวกพองของเรา เรื่องนี้บงชี้วา สามีของนางคนนี้ มิไดสอนนางเรื่องศาสนาเลย! ดังนั้น เราตองใหเวลาแกครอบครัว มิใชการ 67
�� ���>>> .........................................................................................
ใหเวลาที่มานั่งพูดคุยกัน หยอกลอสนุกสนานกัน –สิ่งนี้ก็สําคัญ - แตเปน เวลาที่ใชในการแลกเปลี่ยนเรียนรู เผื่อวาบานของเราจะไมกลายเปนสุสาน รา งและพั งทลาย แต เป ยมดว ยเสี ยงการอ า นอั ล กุรฺอ านและอัล หะดี ษ สมาชิกในบานตางมานั่งลอมและศึกษาหนังสือ “ริยาฎศศอลีหนี -สวนเรือก แหงบรรดากั ล ญานชน” สอนหนั งสื อ “ฟ ก ฮุซซุน นะฮฺ-ฟกฮฺแบบฉบับ ซุน นะฮฺ” แกพวกเขา สวนภรรยาก็สอนศาสนาแกลูกๆ ของนาง ดังนั้นเมื่อการ สงครามทางปญญาที่อาจมีจากสถาบันตางๆ ลูกนอยจะไดมีภูมิคมุ กัน เมื่อ การคุกคามทางปญญามาจากโทรทัศน พวกเขาทั้งหลายจะรูวาอะไรเปน สิ่งที่อนุมัตแิ ละอะไรเปนสิ่งตองหาม เมื่อถึงจุดนี้ พวกเราเปนประชาชาติทมี่ ี วัคซีน ภูมิคุมกันและเกราะคุมกันจากการคุกคามตางๆ ซึ่งมาจากทุกทิศ ทุกทาง และเปนที่ทราบกันวา มนุ ษยนั้นอาจเปนผูเชิญ ชวนหรือเปนผูถู ก เชิญชวน บางทีก็เปนผูทําใหเกิดผลและสามารถสะกิดใจผูอื่นหรือผูที่ไดรับผล และคลอยตาม ดังนั้นจะไมมเี ปนคนกลุมที่ ๓ เพราะวา ณ เวลานี้ หากเรา มองดูสภาพตางๆ ของผูคน ทานจะพบวาบางทีก็เปนสวนหนึ่งของพวกฝา ฝนและดื้อรั้นซึ่งพวกเขาไมรูอะไรเกี่ยวกับศาสนาเลย และบางทีก็เปนสวน หนึ่งของพวกที่เขาใจหลักการศาสนาและดํารงมั่นในศาสนา โดยที่เขาคอย ละหมาดต อ หลั งจากละหมาดแรกเสร็ จ เขาจะถื อ ศีล อดและภัก ดี กั บ หลัก การศาสนาเป นประจํา นี่คือผูที่มีความยึดมั่นกั บศาสนา เมื่อ เขาไม ขับ เคลื่อ นเขาจะเฉื่อ ยชา ไมเพียงแตเทานั้น เขาก็ อ าจจะตายได ดังที่มีผู กล าววา (การขังทหารหาญจากการทํ าศึก เสมือ นการฆาเขา) มุสลิ ม ก็ เชน กัน -ไม วาผูชายหรือ ผูหญิง- เมื่อเขาขั งตัวเองและไม ทํา การตอสูใน หนทางของอัลลอฮฺ � และไมเพียรพยายามเผยแผอิสลาม เขาจะไรชีวิต และพายแพตอชัยฏอน เพราะวาเขาจะถูกจูโจมจากชัยฏอนในรางมนุษ ย 68
�.........................................................................................���>>> ���
และญินนฺ ไมตองสงสัยเลยวา ผูที่นั่งเตะทานั้นเปนที่ปราชัย หากแตวา ผูที่ ลุกตอสูนนั้ จะมีชัยและชัยฏอนจะหนีเขาไป พี่นองทั้งหลายครับ ดังนั้น เราถูกเรียกรองใหขับเคลื่อนเปลี่ยนผัน จากที่เคยเปนกลุมชนที่ยึดมั่นและทําดีเพื่อตัวของพวกเขาเอง เปนกลุมชน ที่ตอสูกูที่พักพิงแหงชัยฏอน ในขณะนั้น สตรีก็จะกลายเปนนักเชิญชวน พอ นั้นก็เปนนักเชิญชวน ลูกนั้นก็เปนนักเชิญชวนและประชาชาติทั้งหมดก็จะ เปนนักเชิญชวน การคุกคามทางปญ ญาหรืออิทธิพลจากตางประเทศไดม า เยือนเมื่อใด มันก็จะไมมีทางเขาสูประชาชาตินี้ สิ่งนี้แหละคือการขยายวง กวางที่แทจริงในเรื่องของการเชิญ ชวน -ดังที่เราไดอธิบายมาแลว- และ สําหรับการขยายตัวซึ่งมาจากเบื้องบน ทานจะทราบวามันเปนการขยายตัว ที่ไมดีและไมมีประโยชนอะไรเลย อัลลอฮฺ � ไดทรงสัญญาอยางหนักแนนวาเราจะตองเปนปวงบาว และการภักดีของการเปนบาวทีเ่ ปนสิ่งที่ย่ิงใหญที่สุด คือ การที่เราจะตอง ดําเนินภารกิจดะอฺวะฮฺและเรียกรองสูอัลลอฮฺ � เราตองกําชับใหมีการทํา ดี และห า มปรามการทํ า ชั่ ว เราต อ งดํ า เนิน เริ่ม จากในบ า นของเราเอง สําหรับผูที่ไมรูหนังสือใหเขาฟงจากเทป ผูที่ไมเขาใจสิ่งที่เขาอานใหไปหา เพื่อนพองที่สามารถใหความกระจางและความเขาใจ หลังจากนั้น ใหบาน ทุกหลังมีหองสมุดเล็กๆ -และบรรดาการสรรเสริญขอมอบแดอัลลอฮฺ � - ห อ งสมุ ด ต า งๆ เริ่ม มี กั น เกื อ บทุ ก บ า นแล ว หากแต วา มั น ยั ง ไม เกิ ด ประโยชนเทาใดนักดังที่มันควรจะเปน ไมมีบานไหนนอกจากจะตองมีตํารา มากมาย แม ก ระทั่ งหนั ง สื อ ของอิ ม ามอะหฺ มั ด อิ บ นุ หั น บั ล หากแต ว า ประโยชนยังนอย เพราะวามันไมไดถูกใชและไมไดรับประโยชน สวนเมื่อ สตรีไดรูวาจะใชมันอยางไรและรูวาจะใชเทปอยางไร และรูวาเมื่อมีผูหญิงมา เยี่ยมเยียนที่บาน นางสามารถเปลี่ยนจากการชุมนุมที่มีการติฉินนินทาวา 69
�� ���>>> .........................................................................................
รายตางๆเปนการชุมนุมที่ไดรับฟงพจนารถแหงอัลลอฮฺ � และคํากลาว ของท านเราะซู ล และแล วประชาชาตินี้จ ะเปน ประชาชาติ ที่มีค วามรู ประชาชาติที่กําชับใชใหทําความดีและหามปรามทําความชั่ว พี่นองครับ ใน ยุคสมัยนี้ ทานไมส ามารถที่จะปลีก ตั วแยกครอบครัว ของทานออกจาก บริบทสังคมได ถึงแมวาทานไดแตงงานกับหญิงที่มีความยําเกรงที่สุดบน หนาผืนแผน ดิน ทานก็จะตองพบกับบรรดาผูหญิงชั่วอย างแนน อน นี่คือ สภาพที่เกิดขึ้นที่เราใชชีวติ อยู เราจําเปนตองรับฟงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา ในโลกนี้ หากแตวา เราจําเปนทีจ่ ะตองปกปองสิ่งเหลานีด้ วยความรู มีผูคนไดกลาววา หากเราอยูในบานของเรา แลวเราจะเชิญชวนผูที่ อยูนอกบานอยางไร? พวกเราจะพยายามอยางไร? เราขอกลาววา การมี ดุลยภาพและสมดุลเปนสิ่งจําเปน พี่นองทั้งหลายครับเพราะวารากฐานเดิม คือ เปาหมายหลักของการเชิญชวนคือไดรับผลบุญ และสิ่งที่เรากระทําทุก อยางเราก็หวังใหพระองคอัลลอฮฺ � ทรงตอบรับสิ่งนั้น แลวพระองคให พวกเราเขาสูสวนสวรรค นี่คือเปาหมายหลักของบรรดามุสลิมและบรรดา ผูที่เชื่อในพระเจาองคเดียว ในเมื่ออัลลอฮฺ � ผูซึ่งทรงบัญชาใชพวกเราให เชิญชวนไปสูพระองค ทรงใชใหเราเคารพภักดีตอพระองค และทรงใชให เราดําเนินภารกิจนี้ พระองคก็ไดต รัส ใหก ารเชิญ ชวนเริ่ม จากครอบครัว เสียกอน พระอง๕ยังตรัสกับพวกเราผานลิ้นของทานนบี วา ِِ ِ ٌ ُ وﻛُ ﱡﻠﻜُ ﻢ َﻣ ْﺴﺆ،ٍ))ﻛُ ﱡﻠﻜُ ﻢ راع وﻫ َﻮ ُ ،واﻟﺮ ُﺟ ُﻞ راعٍ ﰲ َأ ْﻫﻠِ ِﻪ ﱠ،ول ﻋَ ﻦ َرﻋ ﱠﻴﺘﻪ ِ واﳌﺮأ َ ُة،ول ﻋَ ﻦ ر ِﻋﻴﺘِ ِﻪ ِ ،راﻋﻴ ٌﺔ ﰲ ﺑﻴ ِﺖ زَ و ِﺟﻬﺎ ٌ َُﻣ ْﺴﺆ وﻫ َﻲ َﻣ ْﺴﺆُ و َﻟ ٌﺔ ﻋَ ﻦ ْ َْ َ َ ﱠ ِ ِ . َرﻋ ﱠﻴﺘﻬﺎ(( ﻣﺘﻔﻖ ﻋﻠﻴﻪ
ความวา “พวกทานทุกคนมีหนาที่ที่ตองรับผิดชอบและพวกทานทุก คนตองถูกสอบสวนจากหนาที่นั้น สามีมีหนาที่ที่ตองดูแลครอบครัว 70
�.........................................................................................���>>> ���
ของเขา และเขาจะตองถูกสอบสวนเกี่ยวกับหนาทีน่ นั้ ภรรยามีหนาที่ที่ ตองดูแลบานของสามีและนางตองถูกสอบสวนเกี่ยวกับหนาที่นั้น” อัลลอฮฺ � ทรงบอกพวกเราวาพวกเรามีหนาที่ปกปองครอบครัว ของเราใหพนจากไฟนรก โดยที่พระองคทรงตรัสมีความวา “โอบรรดาผู ศรัทธาเอย จงปกปอ งตั ว และครอบครัว ของเจา จากนรกเถิด ” และสิ่งที่ ตักเตือน ณ ที่นี้คือ การที่ผูคนอยูแตในบานแลวเปนขออางในการที่ไมเขา รวมแลกเปลี่ยนเรียนรูศึกษาหาความรู ! ไมไปเยี่ยมใครและไมเคลื่อนไหว อะไร ! ไม พยายามรว มกับพี่นอ งของเขา ! เพียงข ออางวากําลังยุงอยูกับ การใหความรูและปกปองครอบครัว นี่คือการละเลยและนั่นคือการเลยเถิด และมุส ลิม นั้ นตองอยูก ลางๆ และสมดุ ล คือ เราจําเปน ตองใหสิ่งจํ าเปน ตางๆ ตอสังคมและการดะอฺวะฮฺของเรา และเราก็ตองใหสิทธิแกครอบครัว ของเราในสิ่งที่พวกเขาพึงจะไดรับ นี่คือหนทางที่เที่ยงตรงสําหรับเรา และ ทําใหประเด็นปญหาของเรานั้นปลอดภัยสําหรับเรา ซึ่งมันเปนสิ่งที่เราตาง ปรารถนาใหสังคมมุ ส ลิ ม ที่ยื นหยั ด อยูบ นฐาน กะลีม ะฮฺข องอั ล ลอฮฺ � นั้น สูงสงยิ่งและกะลีม ะฮฺ ของบรรดาผูปฏิเสธนั้น ต่ําตอ ยยิ่งนั ก ดังนั้น พวกเรา ตองไมทิ้งการเชิญ ชวนผูคนภายนอก การขวนไขวใฝห าความรู และการ พบปะรวมกับพี่นองของเรา และเราก็จะไมละทิ้งครอบครัวของเราจนพวก เขาไมรเู กี่ยวกับหลักคําสอนของอิสลาม ฉันใดสิ่งนี้ไมเที่ยง สิ่งนั้นก็ไมเที่ยง ฉัน นั้น สิ่งที่ถู กตอ งและเที่ยงตรงเพียงแคเสน ทางที่อ ยูบนฐานของความ สมดุลซึ่งอัลลอฮฺ � ไดทรงกําชับใหเราปฏิบัติเทานั้น พี่นองครับ ณ เวลานี้ บรรดาลูกนอยของเราที่มีอายุระหวางอายุ 710 ขวบ อีกไมนาน พวกเขาก็จะเปนเยาวชนหนุมสาวที่ภักดีตออัลลอฮฺ � (เยาวชนร็อ บบานี ย ) นั บ เป น การก อ ร า งสรา งตั ว ที่ ถู ก ตอ ง เพราะเหตุ 71
�� ���>>> .........................................................................................
ดังกลาว หวังวาพวกทานคงสังเกตวา จริงๆ แลวชาวคริสเตี ยนและพวก บาฏินียะฮฺ ณ เวลานี้นั้น ตางพยายามที่จะเอาเด็กๆ มุสลิมในแอฟริกา และ เอเชีย ตะวัน ออกเฉี ย งใต เป น ตน แลว จั ด ที่พั ก พิ งเฉพาะใหกั บ พวกเขา เพราะอะไรครับ? เพราะวา พวกเขาเห็นวา เด็กๆ เหลานี้ หากไดปลูกฝง ความเขาใจแบบพวกเขา เด็กๆเหลานั้นก็จะเติบโตขึ้นบนฐานความเขาใจ นั้น พวกเราควรใหความสําคัญยิ่งกวาพวกเขา เราจําเปนที่จะต องใหบุตร หลานของพวกเราจดจําอัลกุรฺอานและจดจําวิชาความรู และจัดใหมีในหมู พวกเขาบุคคลที่เปนผูนํา เฉกเชนเดียวกันกับสภาพของบรรพชนที่ดี พวก เขานั้น เคยเปนผูนําคนผานสถาบั นครอบครัว มัสญิด และสังคม ทั้งหมดนี้ ลวนเปนภารกิจดะอฺวะฮฺซงึ่ เปนการเชิญชวนไปสูอลั ลอฮฺ � ทั้งสิ้น เยาวชน เหลานี้จากลูกหลานของเรา ลู กหลานของพี่น องของเรา และวงคญาติที่ ใกลชิดของเรา หากพวกเราไดทุมเทแรงกายเพื่อพวกเขาก็จะไดรับผลอัน ยิ่งใหญ แตละคนในบรรดาพวกเรา อยางนอยก็มีลูกหลาน 10 คน ซึ่งเปน ลู ก ของพี่ช าย ลูก ของพี่ ส าว และลู ก ของอา เป น ต น ดังนั้น หากพวกเรา ทั้งหมดใหความสําคัญที่จะอบรมพวกเขาเหลานั้นในบานของพวกเขา และสอน หลักการอิสลามและหลักศรัทธาที่ถูกตองใหแกพวกเขาเราก็นับวาไดสราง ประภาคารไม ให เป น ชาวคริ ส เตี ย นและพวกบาฏิ นี ย ะฮฺ สํ า หรั บ เด็ ก ๆ เหลานั้นเมื่อมีอายุเขา 13-15 ป ความคิดที่หลงผิดไดเริ่มซึมซาบเขามาสูพ วก เขา พวกเราก็จะเสียใจ ! ทานอยูที่ไหน กอนที่ลูกหลานเหลานี้จะเปนพวก นั้น?
พวกเราบางคนถึง ขั้นเขลาเบาปญ ญา เขาจะรูสึ กรําคาญเมื่ อได เห็นญาติของพวกเขารวมกลุมกับนักดาอียบ างคน เขาจึงเริ่มที่จะพยายาม ดึงญาติของเขากลับมาจากนักดาอียค นนั้น ทั้ง ๆ ที่ช ายคนนั้นเปนญาติ ของเขาไมละหมาด และไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับศาสนา เขาเปนคนละเลย 72
�.........................................................................................���>>> ���
มาก และเขาจะรูสึกรําคาญก็เมื่อเห็นญาติของเขาเขามาในมัสญิด พี่นอง ครับ การดะอฺวะฮฺสูอัลลอฮฺ � มิใชออกมาในรูปแบบนี้ เสมือนกับวาเขา ไมรูสึกอึดอัดใจกอนหนานี้ที่ญาติคนนั้นไมละหมาด! และเขาไมคิดถึงเรื่องนี้ กอนหนานั้น นอกจากเมื่อเห็นญาติคนนั้นเขามัสยิดโดยผานการดะอฺวะฮฺ ของคนอื่น !! แลวกอนหนานี้ เขาอยูที่ไหนละ ?! โอพี่นองทั้งหลายครับ ผมขอกลาววา พวกเราจําเปนที่จะตองคิดใน เรื่ อ งที่ เกี่ ย วกั บ คนที่ อ ยู ร อบๆ ตั ว เรา ในเรื่ อ งที่ เกี่ ย วกั บ บรรดาเด็ ก ๆ เหลานั้นจากวงคญาติที่ใกลชิดของเรา จนกระทั่งเมื่อพวกเขาเหลานั้นโต เปนผูใหญ ปรากฏวา หลังจากนั้น พวกเขาเปนลูกหลานแหงการดะอฺวะฮฺ อันศิริมงคลนี้ และปรากฏวาพวกเขากลายเปนผูแบกรับการเชิญชวนสูการ เอกภาพของอัลลอฮฺ � (เตาฮีด) และปรากฏวาพวกเขารูจักและสามารถ แยกแยะซุนนะฮฺจากสิ่งบิดอะฮฺ พวกเขาเจริญเติบโตบนฐานของเตาฮีด มิใช เติบโตมาบนความบิดอะฮฺ มิใชเติบโตมาบนฐานความโงเขลาในเรื่องของ ศาสนา และมิใชเติบโตมาบนฐานความเอียงเอนในเรื่องศาสนา บางทีพนี่ อง นาชาย หรืออาชายรูสึกอึดอัดใจเมื่อเขาไดเห็นลูกของ เขาอยูกั บคนแปลกหนา หากแตว า เมื่ อ เขาเห็นลูก ของเขาอยูกับ พี่หรือ นองชายของเขา หรืออยูกับลูกพีล่ ูกนองของเขา เขาก็ไมรูสึกอึดอัดใจก็ได พวกเราละเลยผูคนจํานวนมาก ทั้งๆ ที่มันงายมากตอนนี้ แตวาเมื่อจํานวน คนเหล า นั้ น ไดเติ บ โต แล ว แนวคิ ด รว มสมั ยที่ เขา มาคุ ก คามในโลกของ บรรดามุสลิม จนถึงเวลานั้น มันก็เปนสิ่งที่ยากลําบากสําหรับเรา เพราะวา คันธนูก็ไดโคงงอแลว และมันจะหักเมื่อทานจะดัดมัน ณ เวลานั้น พี่นอ ง ทั้ งหลายครับ เรื่อ งนี้เกิด ขึ้น จริงครับ ผมไม ได พูด เกิน ไป วามี บางคนไม ละหมาด เนื่องจากญาติพี่นองที่ใกลชดิ บางคนของพวกเขาพยายามดึงพวก 73
�� ���>>> .........................................................................................
เขาไปยังพวกเขา ทั้งที่กอนหนานี้เขาเคยอยูกับกลุมอืน่ ดังนั้นเขาก็ผละจาก พวกนี้และพวกนั้ นเลย เพราะอะไรละครับ? เพราะวา พวกเราละเลยใน ชวงแรก หากวาเราริเริ่มกอนหนานี้ กอนที่ไมเสานี้จะตรง แลวเราก็รดน้ํา ดวยการเชิญ ชวนสูเสนทางที่เที่ยวตรงและการเตาฮีด และเราไดสอนเขา เกี่ยวกับซุนนะฮฺและบิดอะฮฺ เขาก็จะดํารงอยูและเติบโตมาบนฐานเหลานั้น พี่นองทั้งหลายครับ ดั งนั้น เราจํ าเปน ตอ งหวนคิด คําถึ งถึ งเรื่องนี้ และนําการดะอฺวะฮฺกลับไปสูภายในบาน โดยการนําเอาลูกหลานของเรา รวมถึงลูกหลานของญาติพี่นองของเราไปเที่ยว ผูหนึ่งควรจะเสียสละพาพี่ นองของเขาและลูกหลานของเขาไปทําอุมเราะฮฺพรอมกับเขาเพียงเพื่อหวัง ผลบุญจากอัลลอฮฺ � เพื่อที่จะอบรมพวกเขาใหอยูบนการภักดีตออัลลอฮฺ � พี่นองทั้งหลายครับ เวลามันหมุนไปเร็วกวาที่เราคิด มีเด็กๆจํานวนมาก เทาไรที่ทานเคยเห็นพวกเขา แต ณ เวลานี้เขาอยูใ นมหาวิทยาลัยแลว หรือ วาพวกเราจะเปนดั่งที่เขาวา “เราไดใหดื่มน้ําแกคนไกล แตคนที่อยูรอบๆ ตัวเรากระหาย”
พี่นองบางคนกลาววา การเชิญชวนวงศาคณาญาตินั้นสรางความ ยากลํ าบากยิ่ ง นัก ใชค รับ เราก็เห็น ด ว ย แต มัน ควรแก การได ผลบุ ญ ทวีคูณ ผลบุญที่ไดรับเทียบเทากับปริมาณของความลําบากหากแตวา เรา พึงเลือกวิธีการที่ดี และเลือกสื่อที่เหมาะสมและเราหวังในผลบุญของสิ่ง นี้ ณ อั ลลอฮฺ � ดัง นั้นสิ่ง นี้เปน ความดีอันมากมายและสิ่ ง นี้ คื อการ เชื่อมสัมพันธกับเครือญาติ มันจะประเสริฐกวาการที่เราใหอาหารและ เครื่ อ งดื่ ม แก ญ าติ มิ ต รชิ ด ใกล เสี ย อี ก เพราะว า เขาต อ งการเตาฮี ด ตองการศาสนาซึ่งเขาจะมีชีวิตดวยสิ่งนั้น บางทีเขาจะไมหิวตายเนื่องจาก 74
�.........................................................................................���>>> ���
หิวโหยเมื่อเขาไมไดกิน หากแตวาถาเขาไมละทิ้งบิดอะฮฺ เขาจะตายในบิด อะฮฺน้นั พี่นองทั้งหลายครับ ทานลองจินตนาการดูวา หากลูกหลานของเรา ลูกหลานของพี่นองของเรา ลูกๆ ของวงคญาติและลูกๆ ของคนที่อยูรอบๆ ตัวเราไดคลานมาในวันกิยามะฮฺในสภาพที่เขาออนเพลีย ตองการที่จะดื่ม น้ําจากสระน้ําของทานนบี ทันใดนั้นเขาถูกหามจากสระน้ํานั้น ! ทานจะ เจ็บปวดมากเทาไหรเมื่อ เห็นลูกๆ ของพี่ชายทาน ลูก ๆ ของญาติทานถูก หามจากการเขาใกลสระน้ํานั้น มันเรื่องใหญมาก ทานรูสึกเจ็บปวดหากวัน ใดวันหนึ่งลูก หลานของทานไมไดกิ นอาหาร แลวหากเขาถูกหา มเข าใกล สระน้ําของนบี จะเปนอยางไรเลา!! และสภาพใดเลาหากเขาตกจาก ศิรอฏลงสูนรกญะฮันนัม ขออัลลอฮฺ � ทรงคุมครองพวกเราทั้งหมดจากสิ่ง ที่ดังกลาวดวยเถิด!
ดังนั้นจําเปนที่เราตองมองไปยังครอบครัวของเราที่อยูรอบๆ ตัว เรา แล ว ทุม เทความพยายามเพื่อที่ ชว ยเหลือ พวกเขา และเราจะเป น สาเหตุในการเขาสวรรคของพวกเขา ดังนั้น หากเราไดทําสิ่งนีเ้ ราไดทําให การเชื่อมสัมพันธเครือญาติเปนจริงขึ้นมาดังที่อัลลอฮฺ � ทรงประสงค
75
�� ���>>> .........................................................................................
บทสรุป ทายนี้ เราหวั งวา หนั งสือเลมเล็ กนี้จะนํา พาเราสูการไดพบปะกั น พรอมกับไดกอบโกยผลประโยชน และผมหวังจากอัลลอฮฺ � ใหเยาวชน ทั้งหลายเปน ดั่งแกว ตาดวงใจ และเพี ยรพยายามสูขั้น การนํา พาอิส ลาม และขอดุ อ าอจากพระองคใหพวกเขาเปน ดั่งที่วาดหวังไวจริง เพื่อ สนอง รับคําตรัสของพระองควา SRQPONMLKJ ﴿
﴾ UT ความวา และเราไดจัดใหบางคนในบรรดาพวกเขาเปนผูนํา ซึ่งพวก เขาไดรับทางนําดวยคําบัญชาของเรา ตราบที่พวกเขายังคงอดทน และพวกเขามั่นใจในสัญญานของเรา (٢٤ :)اﻟﺴﺠﺪة
เทานั้น
ความทรงเกียรติทั้งโลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ อยูที่การเปนผูนําศาสนา
ผูปกครองควรแบกรับภารกิจอีกประการหนึ่ง คื อ การทอดทาง ความสะดวกใหกับลูกหลานสูการไขวค วาการนําพา การมีเกียรติ ความ สู ง ส ง แล ว ทุ ก คนจะรั บ ความผาสุ ก แน แ ท สิ่ ง นั้ น มิ ใ ช เ ป น เรื่ อ ง ยากลําบากสําหรับอัลลอฮฺ � เลย
76