เรื่อง : สุทธิพงษ์ สุริยะ ภาพ : KARB STUDIO โทรศัพท์ : 081-612-8853 Email : karb@karbstyle.com FB : KARB STUDIO
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ (ตอนที่ 1) 142
ME STYLE HOME AND LIVING
วันนี้ผมอยากจะมาเล่าถึง พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ ซึ่ งในอดีต บ้านโบราณแห่งนี้มีอายุ กว่า 50 ปี เป็นสถานที่ซ่ึ งผมเกิดและใช้ชีวิตตอนเด็กๆ อยู ่ท่ีน่ี ก่อนจะโยกย้ายไปเรียนหนังสือและตั้งรกราก ท�างานด้านดีไซน์อาหารที่กรุ งเทพฯ ผมครุ่นคิดอยู่เสมอว่า การจะอนุรักษ์บ้านอีสานคงไว้ให้ ลูกหลานเล็งเห็นคุณค่าของบรรพบุรุษได้อย่างไร เพราะถ้าไม่มีรากเหง้า แห่งอดีต ก็ไม่มีความภาคภูมิใจส่งมาถึงปัจจุบัน และเมื่อถึงจังหวะเวลา ในช่วงที่คุณแม่จากไปนั้น ผมได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง ทั้งรูปแบบ การใช้ ชี วิ ต วิ ถี ค วามสุ ข ที่ พ อเพี ย งของการเป็ น ผู ้ ใ ห้ ซึ่ ง สั ม ผั ส ได้ ถูกส่งต่อมาถึงผม นับเป็นความทรงจ�าที่งดงามยิ่งนัก การสร้างจึงเป็น หน้าที่ของลูกที่จะขยายผลโดยการน�าดีไซน์มาออกแบบชุมชนให้เกิด อัตลักษณ์แห่งท้องถิน่ เพือ่ ให้เป็นศูนย์การเรียนรูว้ ถิ ชี วี ติ และจิตวิญญาณ ของครอบครัวชุมชนอีสาน ทีพ่ งึ่ พาการเกษตรและวิถพี ทุ ธในการด�าเนินชีวติ ให้เกิดความสมดุล พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็น ต้นแบบ วิถีการสร้างเกษตรเชิงท่องเที่ยว ซึ่งผู้คนสมัยนี้ต่างชื่นชอบ และสนใจเรื่องธรรมชาติ รวมทั้งปราชญ์ชุมชน อยากจะเข้าไปสัมผัส และศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากจะสื่อสาร
เรื่องราวเกษตรอินเทรนด์ให้คงความร่วมสมัยตลอดกาล พิพิธภัณฑ์ หลายๆ แห่งถูกน�าเสนอให้สวยงาม แต่นานๆ ไปกลับถูกละเลยและลืม เพราะขาดการเอาใจใส่ และที่ส�าคัญคือขาดการมีส่วนร่วมของผู้คน ในชุมชนซึ่งมีส่วนส�าคัญที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน บ้านโบราณหลังนี้ ชั้นบนถูกออกแบบเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนชั้นล่าง ครอบครัวอาศัยอยู่ตามปกติ และนี่จึงเป็นที่มาของค�าว่า พิพิธภัณฑ์ ชุมชนมีชีวิต โดยด้ า นข้ า งพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ จ ะถู ก ออกแบบเป็ น พื้ น ที่ โ ล่ ง เพือ่ ให้ผคู้ นในละแวกชุมชนทีม่ อี าชีพท�าเครือ่ งจักสานของกลุม่ ผูเ้ ฒ่าผูแ้ ก่ (งานยามว่างจากการเกษตร) ได้มาอยู่รวมกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้มา สัมผัส ประสบการณ์จริง โดยชาวบ้านเป็นคนท�าเครื่องจักสานและเป็น ผูอ้ อกจ�าหน่ายเอง นักท่องเทีย่ วทีม่ าเทีย่ วชม หากสนใจก็สามารถลงมือ ขอฝึกท�าเดีย๋ วนัน้ ได้เลย นอกจากงานจักสานแล้ว ก็ยงั มีกจิ กรรมการท�า พานพุ่มใบตองใส่ดอกพุดตูมส�าหรับไหว้พระโดยฝีมือของกลุ่มผู้เฒ่า ผูแ้ ก่สตรี โดยนักท่องเทีย่ วจะได้มาเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบ บ้านๆ หากแต่ดีงาม
ME STYLE HOME AND LIVING
143
144
ME STYLE HOME AND LIVING
ภายในตัวบ้านโบราณ หากสังเกตรายละเอียด พื้นที่ตัวบ้าน ถูกปูดว้ ยไม้แผ่นใหญ่และฝาบ้านก็จะเป็นแผ่นไม้ยาว แต่ทเี่ ห็นสะดุดเด่น ก็คือ ตรงกรอบบานประตูทรงสูง แต่ละบานมีกรุรายละเอียดสวยงาม โดดเด่น และด้านบนก็จะมีช่องระบายให้ลมผ่าน เพราะบ้านสมัยก่อน ล้วนพึ่งพาธรรมชาติ ส่วนองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ จับปลา การเกษตร ก็น�ามาแขวนประดับไว้ข้างฝาบ้านและจัดวางข้าวของ หม้ อ ไหไว้ ต ามมุ ม ต่ า งๆ เพิ่ ม พื้ น ที่ สี เ ขี ย วของใบไม้ แ ละธรรมชาติ เติมชีวติ ใส่ลงไป นอกจากโถงระเบี ย งซึ่ ง ใช้ เ ป็ น ที่ รั บ แขกแล้ ว ยั ง มี ห ้ อ งครั ว ทีผ่ า่ นการใช้งานมาค่อนชีวติ สังเกตเห็นแรกสุดก็คอื ตัง่ ทรงสูงทีใ่ ช้สา� หรับ วางเตาถ่านอั้งโล่เพื่อใช้นึ่งข้าวเหนียวอยู่มุมในสุด และประดับประดา แขวนอุปกรณ์ในครัวตามฝาบ้านโทนสีน�้าตาลด�าจากควันเขม่าถ่านไฟ โดยมีช่องระบายความร้อนอยู่ด้านบนและด้านข้างเพื่อให้อากาศถ่ายเท สะดวก ส่วนอีกด้านของครัวก็ยังมีตู้ชั้นวางจานชาม ภาชนะต่างๆ และ ตามมุมก็จะถูกแขวนตกแต่งไปด้วยกระติบ๊ ข้าวเหนียว และหม้อชุดนึง่ ต่างๆ ที่ส�าคัญไฮไลท์ในครัวอีสานยังมีไหปลาร้าที่จะขาดไม่ได้เลย เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นไม่มีที่สิ้นสุด ที่ผมอยาก บุกเบิกและอนุรักษ์ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โอกาสดีๆ ในชีวิตสักครั้ง กับการที่ได้เริ่มต้นจากครอบครัว เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้สังคม ได้ตระหนักเห็นคุณค่ารายละเอียดที่อยู่รอบตัว
การได้บรู ณะบ้านทีเ่ ราเกิดเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ ท�าเป็นพิพธิ ภัณฑ์ ชุ ม ชนมี ชี วิ ต ให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย วมาพบเจอคนเก่ า แก่ ซึ่ ง มี อ งค์ ค วามรู ้ ท้องถิ่นมากมายมาแลกเปลี่ยนมุมมองกันและส่งต่อศิลปวัฒนธรรม ที่มีผ่านกาลเวลา โดยน�าระบบดีไซน์มาจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จะออกแบบอย่ า งไรให้ ตั ว ตนของชุ ม ชนยังคงอยู่ หากแต่เปี่ยมด้วย เสน่หช์ วนมองทุกอย่างล้วนผ่านการคิดออกแบบทีต่ อ้ งพอดี เปีย่ มด้วยคุณค่า นอกจากนี้ ใ นพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ชุ ม ชนมี ชี วิ ต แห่ ง นี้ ผมอยากส่ ง ต่ อ มวลแห่งความสุขของการเป็นผู้ให้ที่ผมเคยได้รับจากแม่ และนั่นจึงเป็น ทีม่ าให้ผมได้กา้ วมาเป็นอาสาสมัครมูลนิธโิ ครงการหลวง เมือ่ 11 ปีทแี่ ล้ว จนถึงปัจจุบัน โดยฉบับหน้าผมจะมาถ่ายทอดประสบการณ์จากการทีไ่ ด้ไปสัมผัส โครงการหลวงต่างๆ หลายแห่ง ซึ่งเป็นต้นแบบที่ประสบความส�าเร็จ และผมได้น�ามาปรับใช้กับชุมชนของตนเอง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน กลายเป็นศูนย์เรียนรู้มีชีวิต เล่าเรื่องผ่านบ้านโบราณที่ทรงคุณค่ายิ่ง (พบกันในฉบับหน้าครับ)
ME STYLE HOME AND LIVING
145