Kwanphayao Magazine@56000 : November 2012

Page 1


2

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

บรรณาธิการ E - mail : kwan.magazine@gmail.com Facebook Fanpage : Kwanphayao Magazine@56000.com

e-mail : e-asta@hotmail.com

ถ่ายภาพโดย

ลอยกระทงแล้ ว คงจะโชคดี เทศกาลแรก ที่เปิดรับฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัด และฉบับ นีม้ าพบกันในช่วงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี โบราณ ในความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปมากถึงมาก ที่ สุ ด (โดยเฉพาะการเล่ น ดอกไม้ ไ ฟเหมื อ น สงครามกลางเมืองอย่างใดอย่างนั้นและไม่ใช่

เทศกาลหาคู่) หลายๆฝ่ายน่าจะย้อนกลับมาดูในเรื่องนี้อย่าให้ผิดเพี้ยนไปมากกว่านี้ เริ่มต้นที่ครอบครัว และผู้ใหญ่ ถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดีงามจากรุ่นถึงรุ่น ในประเพณี กุศโลบายเพื่อน�ำประเพณีขอสุมาเจ้าแม่คงคาปีหนึ่งก็จะมาขออภัย และร�ำลึกบุญคุณ ของสายน�้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตและน�้ำคือชีวิต และนับถอยหลังมุ่งสู่ AEC เริ่มกันครับ กลับมาดูบา้ นเราก่อน เพือ่ การเปิดโลกเสรีเพือ่ นบ้านอาเซียน พร้อมกันหรือยัง (รักษา วัฒนธรรมกันก่อนน่ะครับและเป็นจุดเริม่ ต้นของทุกสิง่ อย่าง) ใครจะสีขา้ ว ใครจะจับปลา ใครจะท�ำงานบ้าน ใครจะสร้างรถไฟฟ้าอีก 10 สาย ใครจะตัดกล้วยไม้ ??? ถ้าแรงงานพี่ น้องชาวพม่าเดินหันหลังให้นายจ้าง เพือ่ กลับไปกอบโกยโอกาสทีบ่ า้ นเกิด เมือ่ พม่าเปิด ประเทศ เริ่มกันครับ ให้ครบทุกๆมิติ เพื่อสร้างบ้านให้แข็งแรง แข่งขันอย่างเป็นธรรม และอยู่ร่วมกันกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน..กระทงอาเซียน เชิดชูความดีและวัฒนธรรมรักน�้ำรักษ์กว๊านพะเยากันครับ ธีรศักดิ์ สิทธิชัยธนะกิจ บรรณาธิการ โทร. 081 - 884 - 8824

กองบรรณาธิการ ธีระศักดิ์ ดร.ปราณี ดร.นภนันต์ ดร.ประกอบศิริ ผศ.ดร.สุขทัย ผศ.ก�ำธร อ.อุเทน กนกวรรณ พฤหัส ทรงวุฒิ จรัส ธิดาเดือน กัญญาณี

สิทธิชัยธนะกิจ pop_eye16@hotmail.com อยู่ศิริ pranee_usiri@hotmail.com ศุภศิริพงษ์ชัย noppanun@hotmail.com ภักดีพินิจ prakobsirip@hotmail.com พงศ์พัฒนศิริ sukthai_p@hotmail.com ธรรมพิทักษ์ thorn97@yahoo.com ธัชศฤงคารสกุล uthen@hotmail.co.uk ประภากรณ์ ann194@hotmail.com ใจลา paruhat0292@hotmail.com หาญธัญพงศ์ ptyk@hotmail.com สุทธิกุลบุตร jr.asia@hotmail.com อุตยานะ nanamcha@hotmail.com พันธุวัฒน์ 2psociety@gmail.com

กลุ่มพะเยาโฟโต้คลับ www.phayaophotoclub.com ---------------------------------------ศุภพงษ์ ชัยทัศน์ นพดล เชี่ยวพาณิชย์กุล ณรงค์ชัย สุทธิกุลบุตร ปิยะพงษ์ ตุลาชม ชาคริส พรหมโมบล ไปยวัตร ยะตา เกรียงศักดิ์ ขวัญสง่า np.phayao@gmail.com

จากพะเยาแดนปลาส้ม สู่เยอรมันแดนไส้กรอก(จบ)

ทิวทัศน์ระหว่างทางไปประเทศสวิส

คณะเดินทางของเราต่างใจจดใจจ่อรอวันทีจ่ ะเดินทางไปเทีย่ วประเทศสวิสเซอร์แลนด์(Switzerland ) หรือเรียกสัน้ ๆว่า สวิส(Swiss ) เป็นดินแดน ใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวหรือผู้คนจากทั่วโลกอยากจะมาสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต ความสมบูรณ์หลากหลายทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า ป่าเขา หิมะ ธารน�้ำแข็ง ทะเลสาบและน�้ำตกมีครบทุกอย่างบวกกับความสวยงาม สะอาด เป็นระเบียบของบ้านเมืองและอัธยาศัยของผูค้ นซึง่ กลายเป็นจุดแข็งของการท่องเทีย่ วประเทศสวิสมาจนถึงปัจจุบนั และเป็นประเทศล�ำดับต้นๆ ที่ผู้คนทั่วโลกอยากจะมาท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีค่าครองชีพสูงลิบลิ่วก็ตาม ท่านผู้อ่านที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับผู้เขียนคงพอจะจ�ำกันได้ว่า เมื่อสมัยตอนเป็นเด็ก ส่วนใหญ่เคยดื่มนมผงตราหมีกันมา แล้วและคงคุ้นเคยกับฉลากที่ติดข้างกระป๋อง เป็นรูปทิวทัศน์ในประเทศสวิสสวยงามมากจนสร้างความประทับใจให้กับผู้เขียนและเป็นความใฝ่ฝันใน วัยเด็กว่า อยากจะไปเที่ยวภูเขาลูกนี้(ในภาพ)เพื่อดูวัวกินหญ้า ซึ่งก็เชื่อว่า มีเด็กอีกจ�ำนวนไม่น้อยสมัยนั้นคิดเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ต้องยกนิ้ว(เครดิต)ให้ กับผู้ออกแบบฉลากนมเพราะสามารถออกแบบให้ติดตาคนทั่วโลกได้ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้ายี่ห้อตราหมีก�ำลังให้นมลูก โดนใจจริงๆ การไปเทีย่ วประเทศสวิสซึง่ ถือว่าเป็นประเทศทีม่ คี า่ ครองชีพสูงมากๆสิง่ ส�ำคัญจะต้องมีการวางแผนท่องเทีย่ วให้ดี โดยเฉพาะค่าทีพ่ กั แพงมาก จะ ต้องคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ได้ อีกทั้งเป็นประเทศที่ครบเครือ่ งเรือ่ งแหล่งชม ชิม ช็อป อยู่แล้ว ใจต้องหนักแน่นไม่เช่นนั้นกระเป๋าตังค์จะฉีกเป็นริ้วๆ เมื่อมาเปรียบเทียบกับเมืองไทยของเราก็มีครบเหมือนกับเขา เผลอๆจะมากกว่าเขาด้วยซ�้ำ แต่การบรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวช่างห่างไกล เสียเหลือเกิน องคาพยพของการท่องเทีย่ วในประเทศไม่วา่ จะระดับส่วนกลางหรือท้องถิน่ ก็ตามต่างไม่สอดรับประสานกัน นโยบายรัฐไปทางหนึง่ ส่วน เอกชนก็ไปอีกทางหนึ่ง นี่คือ ข้อเท็จจริงระบบการท�ำงานเมืองไทยของเรา แต่นี่ยังไม่นับรวมคุณภาพของคน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ ยังไม่ได้รบั การแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาล ทัง้ ๆทีค่ วรจะเป็นวาระแห่งชาติและต้องได้ รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สิ่งที่ควรท�ำกลับไม่ท�ำ ไปท�ำในสิ่งที่ไม่น่ารีบท�ำ โดยเฉพาะที่ เห็นกันอยู่ในตอนนี้ คือ การรณรงค์อย่างไม่ลืมหูลืมตาเพื่อให้คนไทยเตรียมตัวเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community) ในปีพ.ศ.2558 รัฐบาล โดยผ่านกระทรวงศึกษาธิการพยายามให้เด็กไทยหรือคนไทยได้เรียนรู้คนอื่น(ประเทศ รอบบ้าน) เพือ่ จะได้มโี อกาสไปแข่งขันกับเขา แต่ไม่เคยคิดทีจ่ ะเรียนรูต้ นเองให้ถอ่ งแท้ จึงเข้าท�ำนองทีว่ า่ รูเ้ ขาแต่ไม่รเู้ รา รบ(ค้าขาย)ร้อยครัง้ ก็แพ้รอ้ ยครัง้ โดยลืมคิดไปว่า สิง่ ทีจ่ ะเป็นพลังขับเคลือ่ นให้เศรษฐกิจของประเทศก้าวไปข้างหน้าก็คอื คุณภาพของคนใน ชาติต่างหาก! และประเทศสวิสก็คือหนึ่งในตัวอย่างนั้นจะเห็นว่า การรักษาความ รุ่มรวยทางธรรมชาติและวัฒนธรรม อีกทั้งความสงบสุขของบ้านเมืองล้วนขึ้นอยู่กับ นมผงตราหมี ยอดเขายุงเฟรายอร์ค คุณภาพของคนในชาติทั้งสิ้น สิ่งนี้เองท�ำให้ประเทศสวิสประสบความส�ำเร็จเรื่อง การ


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555 ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคง ในฤดูกาลท่องเทีย่ วของสวิสจะอยูช่ ว่ งฤดูใบไม้ผลิราวเดือนเมษายนจนไปถึงปลายฤดูใบไม้รว่ งราวเดือนพฤศจิกายน ซึง่ อากาศก�ำลังเย็นสบายเหมาะส�ำหรับการไปเทีย่ ว อย่างไรก็ตามผูเ้ ขียนไปช่วงปลายเดือนมีนาคมก็ถอื ว่าอากาศพอใช้ ได้ไม่หนาวมากเกินไป(อุณหภูมิตอนกลางวันประมาณ 6 องศาเซลเซียส) คณะผู้เขียนเลือกสถานที่พักโฮมสเตย์ใน ประเทศเยอรมันซึ่งอยู่ติดกับชายแดนประเทศสวิส เพราะราคาถูกกว่าหลายเท่าในประเทศสวิส แม้จะเสียเวลานิด หน่อยกับการเดินทางแต่ก็คุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อักโข เหมือนทีไ่ ด้เกริน่ น�ำเอาไว้วา่ ทีน่ คี่ า่ ครองชีพสูงมาก ฉะนัน้ ส่วนใหญ่จงึ ได้แต่ดู แค่อมิ่ ตาอิม่ ใจก็เพียงพอแล้วส�ำหรับ เรา(ผู้เขียน)มาครั้งนี้ได้มีโอกาสแวะไปเมืองอินเตอร์ลาคเคน (Interlaken) เพื่อจะไปนั่งรถไฟขึ้นยอดเขายุงเฟรา ยอร์ค( Jungfraujoch) อันเลื่องชื่อถือว่าเป็น Top of Europe คือหมายถึงสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปเมื่อเพื่อน ในคณะซือ้ ตัว๋ เสร็จ พอเห็นราคาตัว๋ แทบเข่าอ่อน แรกๆคิดว่าดูผดิ ทีไ่ หนได้เป็นของจริงราคาตัว๋ 190.20 ยูโร/คนถ้าคิด เป็นเงินไทยปาไปเกือบแปดพันบาท ไหนๆก็ไหนๆคิดเสียว่า เราก็ไม่ได้มาบ่อย จึงค่อยๆท�ำใจได้และนั่งรถไฟไปด้วย อารมณ์สงบเงียบมากกว่าปกติ เมือ่ นัง่ ไปสักพักก็เริม่ เห็นทิวทัศน์สองข้างทางสวยขึน้ เรือ่ ยๆและเมือ่ ผ่าน มาถึงหมูบ่ า้ นเลาเทอร์บรุนเนน(Lauterbrunen) ซึง่ เป็ น หมู ่ บ ้ า นในหุ บ เขามี น�้ ำ ตกสู ง ใหญ่ ชื่ อ สเตาบ์บาค(Staubbach Falls) ไหลพลิว้ ลงมาจาก หน้าผาระดับความสูงประมาณ 200 เมตรราวกับ ม่านแพรไหมผืนใหญ่สะกดผู้คนที่นั่งในรถไฟมองดู น�ำ้ ตกอย่างไม่ลดละสายตา มีแต่เสียงโห ..อ้า..แทรก เป็นระยะๆทีน่ เี่ ป็นหมูบ่ า้ นปลอดรถยนต์เพราะไม่มี ถนนขึน้ มาถึงต้องนัง่ กระเช้าไฟฟ้าขึน้ มาหรือไม่กน็ งั่ รถไฟ จึงกลายเป็นหมูบ่ า้ นปลอดมลพิษอย่างแท้จริง พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ในระหว่างที่นั่งรถไฟไปเรื่อยๆใจก็ผุดคิดถึงเมือง พะเยาของเราเพราะก็มคี วามสวยงามเหมือนกัน แม้จะแตกต่างสถานที่ แต่ความแตกต่างนีแ่ หละ! คือ เสน่หส์ สี นั ท�ำให้ โลกของเราสวยสดงดงามหลากหลายรูปแบบ กระทั่งเวลาตอนบ่ายรถไฟแล่นไปถึงสถานีสุดท้ายคือ ยอดเขายุงเฟรายอร์ค ผู้เขียนเหลือบไปมองเทอร์โมมิเตอร์ ที่สถานี อ่านอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศาเซลเซียส เที่ยวยอดเขามาก็หลายที่เพิ่งมาประจักษ์ค�ำว่า ความหนาวเหน็บเข้า กระดูกก็ที่นี่เอง ทั้งๆที่เป็นเวลาตอนกลางวันถ้าเป็นเวลากลางคืนจะขนาดไหน เพราะทั้งหนาวและมีลมพัดแรงคณะ ของเราส่วนใหญ่จงึ ได้แต่ชะโงกออกไปดูววิ ได้ไม่นานก็ตอ้ งกลับเข้ามาในตัวอาคาร การได้เห็นความสวยงามแบบเวิง้ ว้าง มีแต่สีขาว ก็เป็นความงดงามอีกแบบหนึ่งท�ำให้มนุษย์เรารู้สึกสัมผัสถึงความสงบ สว่างในสภาวะธรรมและแลเห็น สัจธรรมว่า” แท้ที่จริงชีวิตมีแต่ความว่างเปล่าหรือไม่มีอะไรเลย!” การเดินทางตะลอนๆท่องเที่ยวในยุโรปหลายวันได้มาสิ้นสุดที่เมืองมิวนิค(Munich) คณะเดินทางเหลือเวลาแค่ 3 วันส�ำหรับการเทีย่ วในเมืองมิวนิคก่อนกลับเมืองไทยแม้วา่ เวลาจะเหลือไม่มากแต่กพ็ ยายามใช้โอกาสให้มากทีส่ ดุ ส�ำหรับ นครใหญ่แสนสวยเช่นนี้ เพราะมีเรื่องราวมากมายชวนให้ค้นหา ตามประวัติศาสตร์เมืองมิวนิคเคยถูกฝ่ายสัมพันธมิตร ถล่มจนราบเรียบ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ด้วยหัวใจเหล็กและความมีวินัย(สุดๆ)ของคนเยอรมัน ท�ำให้เยอรมัน สามารถพลิกฟื้นเมืองขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพียงระยะเวลาไม่นานนัก สถานทีน่ า่ เทีย่ วน่าชมในเมืองมิวนิคมีหลายแห่ง แต่ตอ้ งเลือกชมเพราะเวลามีจำ� กัดเพือ่ ความสะดวก รวดเร็วและ

3

ประหยัด(ข้อนี้ส�ำคัญ) ผู้เขียนจึงใช้บริการ ระบบขนส่ ง มวลชนรถไฟใต้ ดิ น ซึ่ ง มี ประสิ ท ธิ ภ าพมากตามมาตรฐาน(สู ง )ของ เยอรมันจุดเด่นทีน่ า่ สนใจนักท่องเทีย่ วมักจะ ไปคือ จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ซึง่ อยูใ่ นใจกลางเขตเมืองเก่าเสมือนเป็นหัวใจ ของเมือง เหมาะส�ำหรับเป็นที่นัดพบคนหรือ ไม่ก็อาจจะนั่งจิบกาแฟสักแก้วหนึ่งฟังเสียง เพลงจากนักดนตรีสญ ั จร ซึง่ เล่นได้อย่างยอด เยีย่ มระดับมืออาชีพ บริเวณรายรอบจัตรุ สั มา จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่ามิวนิค เรียนพลัทซ์ประกอบด้วยสถานทีส่ ำ� คัญหลาย แห่งเช่น ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า(Neues Rathaus) เป็นอาคารศิลปะโคธิก (Gothic) สไตล์บาวาเรียนอันงดงาม หรือ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหาร Frauenkirche ซึ่งดูโออ่าอลังการเป็นสถานที่ฝังพระศพกษัตริย์ราชวงศ์ Wittelsbach หลาย พระองค์ รวมทั้งพระศพของพระเจ้าลุควิกที่ 1 ผู้สร้างเมืองมิวนิคให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรมบาวาเรียนผู้ เขียนได้แวะไปดูตลาดพื้นเมือง Viktualienmarkt ซึ่งเป็นตลาดเก่าที่มีอายุกว่า 200 ปี ที่นี่มีของอร่อยขายมากมาย แต่ที่น่าสนใจคือ ไส้กรอกเยอรมันอร่อยมาก จะสังเกตว่าไส้กรอกที่นี่มีสีสันไม่ค่อยน่ากินเพราะไม่ได้ใส่สารจ�ำพวก โซเดียมไนไตรท์( NaCo3 ) ผิดกับไส้กรอกที่ขายในเมืองไทยมีสีสันสดน่ากิน ก็เพราะใส่สารโซเดียมไนไตรท์ ซึ่งสารนี้ เป็นสารก่อมะเร็ง ผู้ที่กินไส้กรอกบ่อยๆพึงระวังโอกาสความเสี่ยงสูงจะเป็นมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขก็ตามที ทั้งๆที่ รู้ แต่ไม่เคยคิดจะรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักรับรู้ถึงพิษภัยเหล่านี้ สงสารแต่เด็กๆเยาวชนส่วนใหญ่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ชอบกินกันมากเพราะมีขายกันในโรงเรียน คิดแล้วก็น่าอเนจอนาถส�ำหรับคุณภาพชีวิตคนไทยในยุคนี้ สิ่งปรารถนาสุดอยากจะมาดูที่เมืองมิวนิคครั้งนี้คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ”อัลเทอร์พินาโคเทค”(Alte Pinakothek) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมและแสดงงานศิลปะสุดยอดของจิตรกรเอกระดับโลกชาวยุโรปในยุคศตวรรษที่ 14-18 ไม่ว่าจะ เป็นลีโอนาโด ดาวินชี( Leonardo da Vinci), รูเบ็นส(Rubens),เรมแบรนท์ (Rembrandt)และอีกหลายคน เวลากว่า 3 ชั่วโมงหมดไปโดยไม่รู้ตัวส�ำหรับการดูภาพเขียนฝีมือระดับโลก ก่อนจะจากลาไปพิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล กันนักคือ พิพิธภัณฑ์สมบัติกรุงทรอย (Kampf um Troja) เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของโลกเมื่อนักโบราณคดีชาว เยอรมันคือไฮน์รชิ ชลีมานน์ (Hienrich Schliemann) สามารถขุดพบซากเมืองทรอย (Troy) ของชาวโทรจัน( Trojan) ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่า เป็นแค่เมืองในต�ำนานจากมหากาพย์อีเลียต( Iliad) ของ “โฮเมอร์” (Homer) กวีชาวกรีกแต่ แล้วมีอยูจ่ ริงในประวัตศิ าสตร์สำ� หรับโบราณวัตถุทนี่ ำ� มาจัดแสดงเป็นงานประติมากรรมแกะสลักหินชิน้ เยีย่ มทัง้ นัน้ คุม้ ค่ากับราคาตั๋วเข้าชมจริงๆจะสังเกตว่า พิพิธภัณฑ์ทุกแห่งที่เข้าไปชมเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เป็นผู้สูงวัยทั้งสิ้น การเห็น คุณค่าทรัพยากรบุคคลแม้จะอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ตามแต่ยังสามารถท�ำงานได้ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องชมเชยส�ำหรับผู้ บริหารเมืองหรือองค์กร ซึ่งพิพิธภัณฑ์เมืองไทยเราน่าจะเอาตัวอย่างดีๆอย่างนี้มาใช้บ้าง ยกเว้นเสียแต่ว่า ผู้มีหน้าที่รับ ผิดชอบจะมืดบอดทางปัญญา “ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา”ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องเดินทางกลับบ้าน อย่างไงๆปลาส้มพะเยาก็ยังอร่อยกว่าไส้กรอก เยอรมันเป็นไหนๆ เพราะกลิน่ มันยัว่ ยวนกว่ากันเยอะ เออ!เพียงแต่...ยังลังเลอยูน่ ดิ หนึง่ เพราะไม่มนั่ ใจว่าปลาส้มโอท๊อป ของเรามีปริมาณสารโซเดียมไนไตรท์เกินขีดมาตรฐานหรือปล่าว?ถ้าใครมีโอกาสช่วยลองสอบถามสาธารณสุขจังหวัด ดู อย่างน้อยเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เผื่อปลาส้มโอท๊อปของเราจะได้โกอินเตอร์กับเขาบ้าง หรือท่านผู้ อ่านคิดเห็นอย่างไร?


4

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

มอบของฝากจากหอการค้า

เมืองคอบ

อาคารที่ทำ�การเมืองคอบ

บ้านใกล้ชิด มิตรใกล้บ้าน

ตั้งแต่มติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติยกระดับด่านบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ให้เป็นด่านถาวรในวันที่ 15 มกราคม 2555แล้วนั้นบทความนี้ก็ได้พูดถึงความส�ำคัญและศักยภาพที่ด่านบ้านฮวก มาโดยตลอด มา ณ วันนี้วันที่12พฤศจิกายน2555ได้มีมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด่านบ้านฮวกอีกครั้งหนี่งนั้นก็คือ ครม.เห็นชอบในหลักการควักงบฯ1.4พันล้านบ.ช่วยสปป.ลาวสร้างถนน โดย ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสน อ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด�ำเนินโครงการปรับปรุงและก่อสร้างถนน ช่วงบ้านฮวก (จ.พะเยา)-เมืองคอบ-เมืองเชียงฮ่อน และเมืองคอบ-เมืองปากคอบ-บ้านก้อนตื้น สปป.ลาว ตาม ประมาณการราคาเบื้องต้น จ�ำนวน 1,473.88 ล้านบาท และส�ำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศ เพือ่ นบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) จะได้ศกึ ษา ส�ำรวจออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างให้เสร็จเรียบร้อย และ น�ำผลศึกษาประมาณราคาค่าใช้จา่ ยเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมตั ริ ปู แบบวิธกี าร และเงือ่ นไขการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินที่เหมาะสมแก่โครงการดังกล่าวต่อไป ต่อไปอีก 18 กิโลเมตรก็จะถึงแม่น�้ำโขงซึ่งเรียกว่า “ปากคอบ”ซึ่งที่ปากคอบแห่งนี้จะเป็นจุดที่เชื่อมจังหวัด พะเยากับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น�้ำโขง (GMS)

คณะผู้บริหารเมืองคอบให้การต้อนรับ

คณะผู้บริหารเมืองคอบ

ความสนิทแนบแน่น

สร้างสัมพันธ์ ม่วนซื่น เปตอง กีฬาเพื่อความสามัคคี

เงินช่วยเหลือที่รัฐบาลไทยจะให้แก่ทาง สปป.ลาว เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างถนนนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส (2 ช่วง)นั้นคือ ถนนช่วงแรก จากเมืองคอบ ลงไปทางทิศใต้ถึง ”เมืองเชียงฮ่อน”ที่เมืองเชียงฮ่อนนี้สามารถเชื่อมต่อไป ถึง “เมืองหงสา” เมืองที่มีเหมืองลิกไนต์ขนาดใหญ่และ มีการลงทุนท�ำโรงงานไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ซึ่งจะ เป็นแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ของอาเซียนต่อจากเมืองหงสา สามารถต่อไปถึงเมืองมรกตโลกนัน้ ก็คอื “หลวงพระบาง” ถนนช่วงที่สองจากเมืองคอบ ขึ้นไปทางทิศเหนือ ถึง ”บ้านก้อนตื้น”ที่บ้านก้อนตื้นเป็นหมู่บ้านร่องทองอยู่ ริมแม่น�้ำโขงจากบ้านก้อนตื้นสามารถต่อไปถึงเมืองปาก ทาเข้าสู่ถนน R3a เพื่อมุ่งหน้าสู่จีนตอนใต้ได้นอกจาก นี้ยังสามารถเชื่อมไปถึงภาคเหนือของเวียตนามได้โดย ผ่านแขวงอุดมไชย สปป.ลาวเข้าสู่ “เดียนเบียนฟู” ของ เวียตนามแล้วต่อไป “ฮานอย” ได้ นั้นก็คือเมื่อถนนมูลค่า 1,473.88 ล้านบาท สร้าง เสร็จจะท�ำให้ยทุ ธศาสตร์ทเี่ มืองพะเยาจะเป็นประตูเชือ่ ม สูอ่ าเซียน และกลุม่ GMS ได้สำ� เร็จเป็นรูปร่างทีช่ ดั เจนจับ ต้องได้ ในขณะที่นโยบายระดับประเทศได้ด�ำเนินไปแต่ ความก้าวหน้าและการสร้างความสัมพันธ์ในระดับพื้นที่ ก็มีอย่างต่อเนื่องโดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีความ ก้าวหน้า ดังนี้ วัน ที่ 25 ตุล าคม 2555 ท่า นนายอ�ำเภอภูซาง นายวิบูลย์ จิรภากรณ์ได้น�ำคณะไปเจรจาเพื่อสร้างความ สัมพันธ์อันดีกับทางคณะผู้บริหารเมืองคอบโดยผมได้

ติดตามร่วมคณะไปด้วยในฐานะประธานหอการค้ากลุ่ม จังหวัดภาคเหนือตอนบน2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) และเป็นตัวแทนภาคเอกชนในจังหวัดพะเยาการเจรจา พบปะกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ส� ำคัญอย่างเป็นทางการ และเต็มคณะครั้งแรกซึ่งผลเป็นที่พอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายที่จะ พัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้นจะมีกิจกรรมร่วม กันอีกหลายอย่างโดยผมจะได้นำ� มาพูดคุยในโอกาสต่อไป วันที่ 26 ตุลาคม 2555 คณะกรรมการธิการ ต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาศึกษาดู ข้อมูล ณ ด่านชายแดนบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่ง ภาคเอกชนก็ได้เสนอให้คณะกรรมาธิการฯได้ช่วยผลัก ดันให้มีเงินช่วยเหลือแก่ทาง สปป.ลาว ให้การพัฒนา และสร้างทางที่ด่านบ้านฮวก – เมืองคอบ และผลที่ ตามมาคือ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการ และให้ทางส�ำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจ กับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้ ศึกษา ส�ำรวจออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างเสนอ ให้ครม.พิจารณาอนุมตั ริ ปู แบบวิธกี าร และเงือ่ นไขการ ให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่เหมาะสมแก่โครงการ ดังกล่าวต่อ ไป.. ศึกษา ส�ำรวจออกแบบรายละเอียด การก่อสร้างเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมตั ริ ปู แบบวิธกี าร และเงือ่ นไขการให้ความช่วยเหลือทางการเงินทีเ่ หมาะ สมแก่โครงการดังกล่าวต่อ ไป..

ปิดไฟบ้านละดวง ช่วยโลกได้


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

มหาวิทยาลัยพะเยาเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ณ วัดบุญโยง บ้านแม่ต�๋ำบุญโยง

มหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมกิจกรรมโครงการสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ณ องค์การบริหารส่วนต�ำบลบ้านตุ่น จ.พะเยา

คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยพะเยา น�ำโดย นายสัตวแพทย์สมชาติ ธนะ หัวหน้าสาขา สัตวศาสตร์ น�ำทีมบุคลากรและนิสติ มหาวิทยาลัยพะเยา กว่า 20 คน เข้าร่วมโครงการสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วม กับส�ำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา ณ องค์การบริหารส่วนต�ำบลบ้านตุ่น จ.พะเยา โดยร่วมกิจกรรมให้บริการตรวจ รักษาสัตว์ปว่ ย ฉีดวัคซีนป้องกันโรคสัตว์ ฉีดยาคุมก�ำเนิด ผ่าตัดท�ำหมัน และแนะน�ำส่งเสริมการเลีย้ งสัตว์ ให้กบั ชุมชน ต�ำบลบ้านตุน่ จ.พะเยา ทัง้ นีเ้ พือ่ เปิดโอกาสให้นสิ ติ ได้ลงพืน้ ทีป่ ฏิบตั จิ ริงและเป็นการพัฒนานิสติ ในด้านจิตอาสาในการ ช่วยเหลือชุมชน โดยได้รับการตอบรับจากชาวบ้านในชุมชนน�ำสัตว์เลี้ยงมาตรวจรักษาและฉีดวัคซีนเป็นจ�ำนวนมาก เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจ�ำปี 2555 ทอดถวาย ณ วัดบุญโยง บ้านแม่ต�๋ำบุญโยง ต�ำบลแม่กา อ�ำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริ ม ศรี อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย พะเยา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนิ สิ ต มหาวิ ท ยาลั ย พะเยา โดยมี ย อดกฐิ น สามั ค คี รวม 232,043 บาท (สองแสนสามหมื่นสองพันสี่สิบสามบาท) เพื่อ สมทบทุนในการบ�ำรุง พุทธศาสนาและเป็นการท�ำนุบ�ำรุงศิลป วัฒนธรรม สร้างความรักความสามัคคีระหว่างมหาวิทยาลัยกับ ชุมชน โดยมีประชาชนในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำ หมูบ่ า้ น ชมรมผูส้ งู อายุ ตลอดจนทุกภาคส่วน ได้มสี ว่ นร่วมในการ จัดงานทอดกฐินสามัคคีในครัง้ นีจ้ ำ� นวนมาก เมือ่ วันที่ 15 พ.ย. 55 ที่ผ่านมา

เชิญชมนิทรรศการการแสดงผลงานนิสิตชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตย์ จัดแสดงระหว่างวันที่ 23 พ.ย. - 12 ธ.ค. 55 ณ คณะสถาปัตย์ มพ.

เปิดท�ำการแล้ว รับข้อเสนอพิเศษ สาขาพะเยา โทร. 0-5441-0261-9

2 1 พ ฤ ศ จิ ก า ย น 2 5 5 5 น า ย ชู ช า ติ กีฬาแปง ผูว้ า่ ราชการ จังหวัดพะเยา ประธาน ในพิ ธีเ ปิ ด ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ สาขาพะเยาแห่งใหม่ ถ.พหลโยธิน (อาคารข้าวซอยโกพงษ์เดิม) ทางไปวัดศรีโคมค�ำ

สัมผัสกว๊าน สัมผัสโซกู้ด...

5

เปิดจันทร์ - อา. : 10.00 - 24.00 น.

ส�ำรองที่นั่งได้ที่ 054-484-424 , 082-190-9009

งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยพะเยา โทรศัพท์. 0 5446 6666 ต่อ 1011-1014 โทรสาร. 0 5446 6690 เว็บไซต์ www.up.ac.th


6

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

ก่อนจะเป็นกว๊านพะเยา

ภาพถ่ายก่อนจะเป็นกว๊านพะเยา

กว๊านพะเยา ที่เราเห็นเป็นผืนน�้ำกว้างใหญ่ไพศาลในปัจจุบัน เกิดจากการที่กรมประมงฯได้มาสร้างประตูกั้นแม่น�้ำอิงที่บริเวณสถานีประมงน�้ำ จืดจังหวัดพะยา เมื่อพ.ศ. 2482 หลังจากประตูกั้นน�้ำสร้างเสร็จ ก็เริ่มมีการกักเก็บน�้ำที่ไหลมาจากตามขุนเขาต่างๆรอบกว๊านพะเยา โดยเฉพาะช่วงฤดู ฝนจะมีน�้ำปริมาณมากส�ำหรับการกักเก็บเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ปริมาณน�้ำก็ได้สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเอ่อท่วมขยายพื้นที่น�้ำกว้างออกไปในที่สุดได้ กลายเป็นบึงขนาดใหญ่และมีชื่อเรียกขานกันต่อมาว่า “กว๊านพะเยา” แต่ดั้งเดิมก่อนจะมาเป็นกว๊านพะเยา บริเวณแห่งนี้เป็นที่ราบลุ่มแม่น�้ำกว้างใหญ่ มีแม่น�้ำอิงเป็นแม่น�้ำส�ำคัญสายหลัก ไหลลดเลี้ยวไปมาเป็น แนวยาวขนานกับเทือกเขาด้านทิศตะวันตก หรือที่เรียกว่า “ดอยหลวง” แล้วไหลผ่านเมืองโบราณ”เวียงลอ” เขตอ�ำเภอจุนและต่อไปยังอ�ำเภอเทิง กระทั่งออกสู่แม่น�้ำโขงที่อ�ำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย บริเวณทีร่ าบลุม่ แม่นำ�้ อิงเป็นพืน้ ทีอ่ ดุ มสมบูรณ์เคยเป็นทีต่ งั้ หลักแหล่งของชุมชนโบราณมาก่อน ปัจจุบนั ยังปรากฏหลักฐานหลงเหลืออยูเ่ ป็นซาก โบราณสถานจมอยูใ่ นกว๊าน จากการส�ำรวจทางโบราณคดีเมือ่ ปีพ.ศ. 2553 พบว่ามีไม่ตำ�่ กว่า 17 แห่ง ค�ำว่า“กว๊าน”เป็นภาษาท้องถิน่ หมายถึง บึงตอนลึก ทีเ่ กิดจากบวก หนอง แม่นำ�้ และล�ำน�ำ้ ไหลมารวมกันในบริเวณทีร่ าบลุม่ แห่งนีจ้ ะมีกว๊านอยู่ 2 แห่ง คือ “กว๊านน้อย” จะอยูแ่ ถบทางด้านทิศตะวันตกของ แม่น�้ำอิงใกล้กับท้ายหมู่บ้านสันเวียงใหม่ต�ำบลบ้านสาง และ “กว๊านหลวง”จะอยู่แถบด้านตะวันออกของแม่น�้ำอิงค่อนมาทางตัวเมืองพะเยา กว๊านน้อยและกว๊านหลวงประกอบด้วยหนองน�ำ้ หลายแห่งและล�ำน�ำ้ สาขาหลายสาย ส�ำหรับหนองน�ำ้ ต่างๆจะอยูต่ ามบริเวณรอบๆกว๊านเช่น เขต ต�ำบลเวียงได้แก่หนองช้างแดง, หนองหญ้าม้าและหนองเอีย้ ง เขตต�ำบลต๋อมได้แก่หนองวัวแดงและหนองเหนียว นอกจากนัน้ ยังมีหนองน�ำ้ อีกแห่งหนึง่ อยู่ ค่อนมาทางบ้านร่องไฮต�ำบลแม่ใส ชือ่ ว่า ” หนองเต่า”เป็นชือ่ เรียกกันมาแต่โบราณปรากฏหลักฐานอยูใ่ นศิลาจารึก เป็นหนองน�้ำเก่าแก่ทมี่ คี วามส�ำคัญ ทางประวัติศาสตร์ ช่วงยุคสมัยพญายุทธิษฐิระ มาเป็นเจ้าเมืองพะเยาเมื่อปีพ.ศ. 2017 บริเวณหนองเต่าแห่งนี้ ได้ถูกประกาศยกให้เป็นเขตสังฆาราม หรือเขตศักดิส์ ทิ ธิข์ องพุทธศาสนาฝ่ายนิกายลังกาวงศ์ใหม่ ซึง่ เป็นนิกายใหม่ ขณะนัน้ ก�ำลังแผ่อทิ ธิพลไปทัว่ ล้านนาเพราะได้รบั การสนับสนุนจากพระเจ้า ติโลกราช เมืองเชียงใหม่ บริเวณสังฆารามหนองเต่ามีวัดในสังกัดนิกายใหม่ไม่ต�่ำกว่าสิบวัด และวัดที่ส�ำคัญๆมีอยู่2 วัดคือ วัดโลกติลกสังฆารามและ วัดติโลกอาราม ส่วนล�ำน�้ำสาขามีหลายสายที่ไหลลงสู่กว๊านต่างมาจากแต่ละท้องที่ เช่นเขตอ�ำเภอเมืองได้แก่ น�้ำแม่ใส ,แม่นาเรือ, แม่ตุ่น, แม่ต�๊ำและ แม่ต๋อม เขตอ�ำเภอดอกค�ำใต้ได้แก่ น�้ำแม่ต�๋ำ ส่วนเขตอ�ำเภอแม่ใจได้แก่ น�้ำแม่จว้า แม่สุกและแม่อิงเป็นต้น สมัยที่ยังไม่มีประตูกั้นน�้ำกว๊านจะมีน�้ำมากเฉพาะช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายนของทุกๆปี หลังจากนั้นน�้ำก็จะเริ่มแห้ง ขอดจนถึงฤดูแล้ง ชาวบ้านที่อยู่ตามชนบทฝั่งตรงข้าม(หล่ายกว๊าน) สามารถจะเดินทางไปมาเข้าสู่ตัวเมืองพะเยาได้อย่างสะดวก เส้นทางสมัย

ชาวบ้านก�ำลังตักน�้ำที่บ่อน�้ำกลางกว๊านพะเยา

นั้นที่มักนิยมใช้กันมี 2 เส้นทางคือ เส้นทางมาจากบ้านทุ่งกิ่ว ผ่านบ้านสันกว๊าน ,สันช้างหิน,แม่นาเรือ,แม่ใส,ร่องไฮ แล้วผ่านเนินสันธาตุ( วัดติโลกอาราม ) กระทั่ง มาข้ามฟากแม่น�้ำอิงที่สะพานไม้ไผ่ขัดแตะหน้าโรงเหล้าของหลวงพิสิษฐ์กัยกรและ หลวงศรีนครานุกุล ( ปัจจุบันคือ บริเวณกว๊านหน้าบ้านโบราณ ) จากนั้นจึงเดินเข้าสู่ ตัวเมือง อีกเส้นทางหนึ่งมาจากบ้านตุ่น ผ่านบ้านสาง ,งิ้ว,สันบัวบก,สันเวียงใหม่ และ บ้านสันป่าค่างแล้วเดินลัดทุ่งนา ป่าละเมาะ แล้วข้ามฟากแม่น�้ำอิงที่บ้านท่าต้นกุ่ม กระทั่งเดินถึงบ้านแท่นดอกไม้ซึ่งใกล้กับวัดพระเจ้าตนหลวง จากนั้นก็เข้าสู่ตัวเมืองไป ตามถนนสายพหลโยธินระยะทางประมาณ 3 กม. เมื่อบ้านเมืองเริ่มขยายตัว ประชากรก็เพิ่มขึ้น ท�ำให้ปริมาณการใช้น�้ำกว๊าน มากขึ้นเรื่อยๆ จนในฤดูแล้งบางปีน�้ำไม่พอใช้ และกลายเป็นปัญหาสืบต่อเนื่องกันมา จนกระทัง่ ปีพ.ศ. 2447 ทางราชการเคยคิดแก้ปญ ั หาโดยจะย้ายเมืองไปอยูบ่ ริเวณบ้าน แม่ตำ�๋ หล่ายอิงแต่แล้วแผนการนีไ้ ม่ประสบความส�ำเร็จเพราะพืน้ ทีๆ่ จะอพยพไปอยูน่ นั้ เป็นชุมชนของพวกเงีย้ ว ความบาดหมางและความหวาดกลัวต่างๆ จากกรณีเหตุการณ์ กบฏเงี้ยวก่อการจลาจลในภาคเหนือ เมื่อพ.ศ. 2445 ยังไม่ทันจางหายเพราะเพิ่งผ่าน เหตุการณ์ไปไม่นาน ท�ำให้ประชาชนในเมือง ส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองไม่ค่อยยอม อพยพไป จึงท�ำให้ในตัวเมืองยังต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน�ำ้ ต่อไปจนภายหลัง ได้มีอาชีพใหม่เกิดขึ้นคือ อาชีพขายน�้ำ จะมีชาวบ้านไปตักน�้ำที่บ่อกลางกว๊านบ้างหรือ บ่อน�ำ้ ซึมทีร่ อ่ งผักแป๋มบ้าง( ปัจจุบนั ใกล้กบั สุสานประตูเหล็ก ) แล้วใส่ปบ๊ี บรรทุกเกวียน ไปขายในตัวตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นน�้ำใช้ดื่มใช้กิน ราคาขายเมื่อปีพ.ศ.2472 ปี๊บละ 1 สตางค์ และราคาขยับขึ้นมาเป็นปี๊บละ 5 สตางค์ช่วงปีพ.ศ. 2480 พอถึงปีพ.ศ. 2484 การก่อสร้างประตูกนั้ น�ำ้ กว๊านเสร็จสมบูรณ์ ท�ำให้ปญ ั หาการขาดแคลนน�ำ้ ก็บรรเทาลง ไป เมื่อปริมาณน�้ำสะสมในกว๊านมีมากพอ การประปาส่วนภูมิภาคจึงเริ่มการผลิตน�้ำ ประปาบริการขายแก่ประชาชน ในปีพ.ศ. 2501 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน


IT

irus ไวรัส

ไวรัสคอมพิวเตอร์ในปัจจุบนั นัน้ มีมากซะจนเราไม่รวู้ า่ คอมพิวเตอร์ตดิ ไวรัสจนเครือ่ งแฮงค์ หรือว่าระบบโปรแกรม ในเครื่องเราแฮงค์เองจากการใข้งาน บางคนก็บอกว่า Mac ไม่มีไวรัส อาจมีการเข้าใจผิดกันในเรื่องนี้อยู่บ้าง Virus ทีท่ ำ� งานบน Windows ได้ จะไม่สามารถท�ำงานบน Mac ได้ ผูใ้ ช้ Mac น้อยกว่า Windows มาก ประมาณ Windows 80% : Mac 8% ซึ่งแปลว่า เมื่อ Hacker จะสร้าง Virus ขึ้นมาสักตัวหนึ่งนั้น เขาจึง focus ที่กลุ่มเป้า หมายกว้างมากกว่า ท�ำให้ Windows ที่เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดนจ้องเจาะระบบมากกว่า ถ้าหากวันนึง Mac สามารถท�ำให้คนใช้งานได้สักครึ่งหนึ่งของ Windows เดี๋ยว Virus มันก็ตามมาเองแหละครับ แต่เมื่อใดที่เราน�ำ Flash Drive จากเครื่องที่มีไวรัส ทั้ง Mac หรือ Windows แล้วน�ำมาเสียบที่เครื่องของเรา โดยที่รันขึ้นมาเลย ไม่สแกนไวรัสก่อน คุณอาจตกเป็นเป้าหมายของไวรัสในการแฝงตัวท�ำอันตรายในเครื่องคุณได้ วันนี้มีวิธีป้องกันไวรัสอย่างง่ายๆมาแนะน�ำ 1. อย่าเปิดอ่านอีเมลแปลก ๆ เวลาทีค่ ณ ุ เช็กอีเมล ถ้าเผอิญเจออีเมล์ชอื่ แปลก ทีไ่ ม่รจู้ กั ให้สงสัยไว้กอ่ นเลยว่าต้อง มีไวรัสแน่นอน แม้ว่าชื่อหัวข้ออีเมลจะดูเป็นมิตรแค่ไหน ก็อย่าเผลอกดเข้าไปเด็ดขาดล่ะ 2. ใช้โปรแกรมตรวจจับและก�ำจัดไวรัส (Anti-virus) ต้องยอมรับว่า ไม่มีโปรแกรมตรวจจับและก�ำจัดไวรัส โปรแกรมใดสมบูรณ์แบบ จะต้องอัพเดตโปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและก�ำจัดไวรัสอย่างสม�่ำเสมอเพื่อให้ครอบ คลุมถึง ไวรัสชนิดใหม่ ๆ 3. อย่าโหลดเกมส์มากเกินไป เกมส์คอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีไวรัสซ่อนอยู่ ไม่ควรโหลดมาเล่นมาก เกินไป และควรโหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น บางทีเว็บไซต์จะมีเครื่องหมายบอกว่า “No virus หรือ Anti virus” อยู่แบบนี้ถึงจะไว้ใจได้ 4. สแกนไฟล์ต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท ควรท�ำการสแกนไฟล์ รวมทั้งข้อมูลจากภายนอก ก่อนเข้ามาใช้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CD, Diskette หรือ Handydrive ต้องใช้โปรแกรมค้นหาไวรัสเสียก่อน 5. หมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม�่ำเสมอ เช่น หน่วย ความจ�ำ, การติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ลงไป, อาการแฮงค์ (Hang) ของเครื่องเกิดจากสาเหตุใด บ่อยครั้งหรือไม่ ซึ่งคุณ อาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกบริการ (Utilities) ต่าง ๆ เพิ่มเติมในเครื่องด้วย ขอให้มีความสุขในช่วงหน้าหนาวนี้ทุกท่านครับ

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555 พฤหัส ใจลา

7

ปลายฝนต้นหนาว

เรามอบสาระและโปรโมชั่นแรงๆมาฝาก

ยางรันแฟลตกับเทคโนโลยีแห่งความปลอดภัย

ยางรันแฟลต เป็นเทคโนโลยีทที่ ำ� ให้ยางสามารถดูแลตัวเองได้เพือ่ ให้รถสามารถขับขีต่ อ่ ไปได้ในระยะทางหนึ่ง แม้ว่าจะไม่มีความดันลมยางเหลืออยู่ก็ตาม POTENZA S001 RFT ยาง RFT เป็นยางที่วิ่งได้แม้ไม่มีลมยาง สามารถใช้งานได้เมื่อ ยางรั่วซึมหรือถูกต�ำทะลุจนไม่มีลมเหลืออยู่ภายในยาง ซึ่งต่างกับยางปกติทั่วไปที่เมื่อยาง แบนหรือสูญเสียความดันลมยางแล้วจะไม่สามารถรับน�ำ้ หนักของตัวรถได้อีก และจะถูกบด เสียหายหากพยายามที่จะขับขี่ต่อไป คุณสมบัติเด่น - ยางรันแฟลตสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 80 กม. ที่ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. แม้ไม่มีลมยาง* - ปลอดภัย ไม่สูญเสียการควบคุมรถและสามารถขับขี่ต่อไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย ไม่เสียเวลา เสียงต่ออันตราย - รักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่จ�ำเป็นต้องมียางอะไหล่ ท�ำให้น�้ำหนักรถลดลงจึงช่วยประหยัดน�้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น - เพิ่มประโยชน์ใช้สอย พื้นที่ใช้สอยในรถเพิ่มขึ้นเมื่อไม่ต้องมียางอะไหล่ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น สะพายความสุขไปทุกเส้นทาง


8

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

ดร.ประกอบสิริ ภักดีพินิจ สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยพะเยา prakobsirip@hotmail.com

เฮือนวาน@แม่นาเรือ

สวัสดีคะผู้อ่านทุกท่าน ฉบับนี้ตอนรับเทศกาลลอยกระทง ก็ขอเชิญชวนทุกท่านออกมาสัมผัสกับบรรยากาศ เทศกาลลอยกระทงทีก่ ว๊านพะเยา ซึง่ ปีนมี้ กี ารจัดงานทีก่ ว๊านพะเยาสองจุดหลักคือ จุดแรกเริม่ ตัง้ แต่หน้าลานอนุสาวรีย์ พ่อขุนง�ำเมือง ไปจนถึงสนามกีฬาหลังเทศบาลเมืองพะเยา และอีกจุดคือทีบ่ ริเวณท่าเรือโบราณบ้านทุง่ กิว่ ต�ำบลบ้านตุน่ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมองกว๊านพะเยาที่มีฉากหลังเป็นแสงสีของเมืองพะเยาก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียวคะ งานลอยกระทงทีก่ ว๊านพะเยามักเริม่ คึกคักกันเมือ่ เลยเวลาโพล้เพล้ไปแล้ว ช่วงแดดร่มลมตกทีอ่ อกจากบ้านก่อนไป ลอยกระทงฉบับนีก้ ข็ อเชิญชวนให้ไปเยีย่ มชมชุมชนบ้านแม่นาเรือ ซึง่ เป็นชุมชนทีต่ งั้ อยูห่ ล่ายกว๊าน หรือกว๊านพะเยาฝัง่ ตะวันตก ชุมชนแห่งนีเ้ ป็นชุมชนเก่าแก่ทมี่ บี า้ นหลายหลังคาเรือนทีย่ งั คงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของเรือนพืน้ ถิน่ ของพะเยาไว้ได้ จากการทีด่ ฉิ นั และอาจารย์อมั เรศ เทพมา รองคณบดีฝา่ ยวิชาการของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลงานวิจัย “การสืบค้นและการจัดการมรดกทางวัฒนธรรม เมืองพะเยาเพื่อการพัฒนาเมืองยั่งยืนอย่างสร้างสรรค์” ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ไปเยือนชุมชนแม่นาเรือ ท�ำให้พบ ว่าชุมชนแม่นาเรือ มีบ้านหลายหลังที่สร้างในช่วง พ.ศ. 2490 - 2500 เป็นเรือนพื้นถิ่นที่มีรูปแบบของการก่อสร้าง โดยการก�ำหนดรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของช่าง หรือ “สล่า” ที่เป็นช่างใหญ่ ประจ�ำชุมชนเพียงไม่กี่กลุ่ม โดยมีการ สลับสับเปลี่ยนกันเป็น “สล่าเก๊า” หรือนายช่างใหญ่ เป็นผู้ควบคุมรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและวิธีการก่อสร้าง ใช้ แรงงานการก่อสร้างโดยอาศัยเครือญาติและเจ้าของบ้านเป็นแรงงานทีช่ ว่ ยเหลือในการก่อสร้าง โดยอาศัยไหว้วาน หรือ การลงแขกขอแรงกันสลับสับเปลี่ยนกันก่อสร้างไปตามบ้านต่างๆ จนเป็นเหตุผลที่มาของการเรียกชื่อ “เฮือนวาน” ลักษณะส�ำคัญของเฮือนวานบ้านแม่นาเรือคือ เสาบ้านเป็นเสาปูนแต่ไส้ในเป็นไม้ไผ่ โดยปูนที่ใช้ในการก่อสร้างมา พร้อมกับทางรถไฟสายกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ซึ่งพ่อค้าในสมัยนั้นไปรับปูนซีเมนต์จากจังหวัดล�ำปางมาขายที่จังหวัด พะเยา รูปทรงหลังคามีลักษณะหลายจั่ว ท�ำให้ระบายอากาศได้ดี อุณหภูมิในบ้านก็จะเย็นสบาย วัสดุที่ใช้มุงหลังคา เป็นกระเบื้องหล่อจากปูน มีน�้ำหนักมากแต่มีความคงทน มีชานแดด ส่วนไม้ที่ใช้ในการปลูกสร้างบ้านเรือนส่วนใหญ่

ชาวบ้านแม่นาเรือจะท�ำล้อวัว (เกวียณ) ไปลาก ไม้จากในป่า แต่ก็มีบางบ้านท�ำล้อวัวไปแลกเอา ไม้มาสร้างบ้าน ซึ่งในอดีตชุมชนแห่งนี้เป็นแหล่ง ผลิตล้อวัวที่ขายในพะเยาและพื้นที่ใกล้เคียง แต่ ปัจจุบันก�ำลังจะสูญหายไปหากไม่มีการอนุรักษ์ สืบสานเอาไว้ สุ ด ท้ า ยนี้ ก็ ข อเชิ ญ ชวนทุ ก ท่ า นได้ ไ ปเยื อ น ชุมชนแห่งนี้ด้วย หากไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนก็เริ่ม ที่บ้านแม่ต่อมแก้วก่อนได้ ซึ่งบ้านแม่ต่อมแก้วอยู่ ห่างจากวัดประมาณร้อยเมตร เป็นบ้านหลังแรก ๆ ของชุมชนที่สร้างขึ้นในลักษณะสถาปัตยกรรม แบบนี้ และยินดีต้อนรับทุกคนที่ไปเยือนและ พร้ อ มจะแนะน� ำ ให้ ไ ด้ ไ ปเยื อ นหลั ง อื่ น ๆด้ ว ย นอกจากนี้แล้วผู้ใหญ่บ้าน และนายกองค์การ บริหารส่วนต�ำบลแม่นาเรือ ก็พร้อมต้อนรับและ ส่งเสริมให้อนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของ บ้านแม่นาเรือไว้ เพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และ ท่องเที่ยวของคนที่สนใจ และสุดท้ายหากเราได้ ไปเยือนแล้วอาจได้ความคิดใหม่ ๆ ในการสร้าง บ้านประหยัดพลังงานไม่ตอ้ งใช้เครือ่ งปรับอากาศ ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนไปในตัวด้วยนะคะ

โป้ง

คนใช้พลังงาน อย่างไม่รู้คุณค่า


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

อโรคยาปรมาลาภา

ภญ.จิราภรณ์ หาญธัญพงศ์ กลุม่ งานเภสัชกรรม รพ.พะเยา โทร. 054 - 409300 - 3

Hang เหล้า

“ เมาค้าง” เป็นอาการที่ร่างกายขาดน�้ำหลังการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถรับได้ส่ง ผลให้เสียสมดุลของฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาท และสารทางชีวภาพอื่นๆ ในร่างกาย อาการเมาค้างโดย ทั่วไป ได้แก่ ปวดหัวเวียนหัว คอแห้ง ผิวหน้าแห้ง ริมฝีปากแห้ง หน้าบวม ตาบวม ผื่นแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว เบื่ออาหาร นอนไม่ได้ สะลึมสะลือ มือสั่น ใจสั่น เหนื่อย อ่อนเพลียกล้ามเนื้อเกร็ง (ตะคริว) ความดันโลหิตลดลงหัวใจเต้นเร็ว ขึ้น คนที่เป็นโรคหัวใจมีอัตราการเสี่ยงที่จะเสียชีวิตง่ายกว่าคนปกตินอกจากนี้อาการเมาค้างยังส่งผลเสียต่อประสาท โดยท�ำให้ การแพร่ของคลื่นสมองช้ากว่าปกติเป็นเวลาหลายชั่วโมง วิธีการดูแลบรรเทาอาการเมาค้างเบื้องต้น • เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน�้ำเย็นและประคบด้วยผ้าเย็นบริเวณใบหน้าและศีรษะ • ดื่มน�้ำเปล่ามากๆ เพื่อให้ความเป็นพิษหมดไปโดยเร็ว • ดื่มน�้ำหวาน เช่น น�้ำส้ม เครื่องดื่มเกลือแร่ น�้ำหวานต่างๆ • ดื่มน�้ำผลไม้คั้นที่มีรสเปรี้ยวจัด เช่น น�้ำส้ม หรือน�้ำมะนาวแก้ไขการอาเจียนและเร่งการเผาผลาญแอลกอฮอล์ • จิบเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น น�้ำชา ชามะนาว (ไม่ควรดื่มกาแฟ เนื่องมาจากคาเฟอีนในกาแฟ จะท�ำให้ร่างกายขาดน�้ำ มากขึ้น) • ดื่มน�้ำผลไม้สดๆ หรือผลไม้สดแช่เย็นฉ�่ำ เพื่อชดเชยวิตามินซี และช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด • สูดกลิ่นหอม โดยใช้น�้ำมันหอมระเหยหรือสูดอากาศบริสุทธิ์ ท�ำให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลดลงจนรู้สึกสดชื่น • พยายามมองภาพที่เป็นสีฟ้า หรือ สีน�้ำเงิน จะช่วยลดอาการปวดศีรษะ วิธีป้องกันอาการ “เมาค้าง” • อย่าดื่มขณะท้องว่างถ้าท้องว่างจะท�ำให้แอลกอฮอล์ ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป • แนะน�ำให้ทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไก่ไข่เนื่องจากอาหารประเภทโปรตีนจะมีสารที่เรียกว่า ซิสเทอีน จะมี ฤทธิ์ต้านอาการเมาค้างได้ดี • ทานอาหาร/กับแกล้มสลับกับการดื่มหลีกเลี่ยงอาหารไขมันหรืออาหารรสจัดเพราะจะท�ำให้อาเจียนได้ง่าย • ควรดื่มน�้ำตามหลังการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้การขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย • ควรดื่มน�้ำผลไม้/น�้ำผสมน�้ำตาลเกลือแร่ก่อนเข้านอนเพื่อลดอาการเวียนศรีษะและอ่อนเพลีย ยาและอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง • Aspirin หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่ steroid ตัวอื่น ๆ เช่น ibuprofen , naproxen จะช่วยบรรเทาอาการ ปวดศรีษะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ(ไม่ควรทานพาราเซตตามอลในขณะดื่มหรือหลังจากดื่มเพราะทั้งแอลกออล์และ พาราเซตามอลมีความเป็นพิษต่อตับเมื่อทานพร้อมกันจะท�ำให้ความเป็นพิษต่อตับเพิ่มขึ้น) • ยาลดกรดในกระเพาะอาหารจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนกระเพาะอาหารอักเสบ • วิตามินบี 6จากการศึกษาพบว่าวิตามินบี 6ขนาด 400mgสามารถป้องกันและบรรเทาอาการเมาค้าง • ยาหอมผสมน�่ำอุ่นยาธาตุ และขมิ้นชันจะท�ำให้ระบบย่อยอาหารเป็นปกติ ท้ายนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์แก่นักดื่มทั้งหลายแต่เหนือสิ่งอื่นใดควรพยายามลด ละ เลิก การดื่ม เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ทกุ ชนิดหันไปดืม่ เครือ่ งดืม่ ทีม่ ปี ระโยชน์ตอ่ สุขภาพแต่ถา้ หลีกเลีย่ งไม่ได้จริง ๆ ก็ไม่ควรดืม่ จนเกินลิมติ ของ ตัวเอง ถ้ารู้สึกมึน ๆ ก็น่าจะหยุดได้แล้ว มิใช่ฝืนดื่มจนร่างกายไม่ไหว.

9

“Wealthy & Healthy”

“วันรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล” โดย ผศ.กำ�ธร ธรรมพิทักษ์ คณะวิทยาการจัดการสารสนเทศศาสตร์ มหาวิยาลัยพะเยา ตำ�บลแม่กา อำ�เภอเมือง จังหวัดพะเยา 56000

“วั น รณรงค์ ล ดการใช้ ร ถยนต์ ส ่ ว นบุ ค คล” จัดขึ้นทุกทุกปี ในวันที่ 22 กันยายน (ในเมืองไทยจะใช้ วันที่ 23 กันยายน) ใช้วลีภาษาอังกฤษว่า “Car Free Day” แปลตรงๆว่า วันปลอดรถ กิจกรรมในวันนี้จะมี การรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ รถจักรยาน และเดินสัญจรในระยะใกล้ เพือ่ ลดปริมาณ รถยนต์บนท้องถนนครับ ซึง่ จะมีผลตามมาหลายๆอย่าง สาระพัดนึก จนถึงค�ำสุดท้าย ลดโลกร้อนเท่าที่อ่าน จ�ำได้บ้าง ลืมบ้าง น่าจะเริ่มที่ประเทศสหรัฐ ปี 1958 นิวยอร์ก (เทียบเป็นบ้านเรายุคสร้างชาติปี 2500 สมัย จอมพล ป.) ส�ำหรับบ้านเรา ทีเ่ ป็นเหตุการณ์กล่าวขวัญ ถึงคือ สมัยนายกชวน หลีกภัย ปี 2000 (พ.ศ. 2543) ช่วงหลังวิกฤตต้มย�ำกุ้ง รณงค์ให้ประชาชนประหยัด และใช้วันนี้ปั่นจักรยานมาท�ำงานที่ท�ำเนียบรัฐบาล แต่ แหล่งข่าวไม่ได้น�ำเสนอว่าตอนเย็นท่านปั่นจักรยาน กลับหรือเปล่า และถือเอาวันนี้และปีนั้นจัดกิจกรรม รณงค์ทุกๆปีสืบมา (เงียบบ้างดังบ้าง) ส�ำหรับจังหวัด พะเยาวันที่ 23 กันยายน เราปั่นจักรยานเริ่มต้นที่ลาน

พ่อขุน ผ่านเทศบาล ผ่านหน้าสถานีต�ำรวจและ หน้าตลาด กลับสู่ลานพ่อขุนเหมือนเดิม เป็นอัน เสร็จพิธีกรรมสร้างขวัญก� ำลังใจให้ชาวจักรยาน “อย่างน้อย 1 วันใน 1 ปี”เป็นวันของฉันกิจกรรม ต่อไปพวกเราก็ปั่นไปท่องเที่ยวเส้นทางบ้านจ�ำป่า หวาย บ้านปิน แยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกย้อน ไปออกบ้านแม่กาหลวงอีกกลุ่มวกกลับมาออกที่ ดอกค�ำใต้กลับสู่เมืองพะเยา กลุ่มย่อยอี่นๆ แตก กระเด้นระหว่างเส้นทางกลับบ้าน ช่วงเวลานี้ของ ทุกปีครับ ใครมีเวลาว่างเสาร์อาทิตย์ ไปเที่ยวตาม เส้นทางนอกเมือง จะสวยมากข้าวเขียว 2 ข้างทาง สุดลูกหูลูกตา ใช้ค�ำนี้เลย


10

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา

กับการคุ้มครองผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในจังหวัดพะเยา ดร. นภนันต์ ศุภศิริพงษ์ชัย อาจารย์ประจ�ำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

ดั ง ที่ได้กล่าวไปในฉบับที่แล้วว่าลวดลายโบราณ ของผ้ า ทอพะเยานั้ น สามารถได้ รั บ ความคุ ้ ม ครอง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 ได้ หากเข้าหลักเกณฑ์ตามกที่กฎหมายก�ำหนด และ เมื่อผู้มีสิทธิขอจดทะเบียนได้ยื่นขอจดทะเบียน และต่อมา นายทะเบียนได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ส�ำหรับ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นแล้ว ผลก็คือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนนั้นจะได้รับการคุ้มครองตามพระ ราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 โดย มาตรา 20 ก�ำหนดให้ การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันยื่นค�ำขอขึ้นทะเบียน ซึ่งก็หมายความ ว่าหากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ใด ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิสาสตร์นั้นจะมีผลย้อนไปตั้งแต่ วันยื่นค�ำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้น ไม่ใช่มีผล นับแต่วันที่สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้นได้รับการขึ้นทะเบียน โดยการคุม้ ครองสิง่ บ่งชีท้ างภูมศิ าสตร์ภายใต้พระราชบัญญัติ คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 สามารถแบ่งได้ เป็นสองแบบ โดยการคุม้ ครองแบบแรกเรียกว่า การคุม้ ครอง สิง่ บ่งชีท้ างภูมสิ าสตร์แบบธรรมดาส�ำหรับสินค้าทุกชนิดโดย ทั่วไป ซึ่งวางหลักเกณฑ์ไว้ในมาตรา 27 ที่ห้ามการใช้สิ่งบ่งชี้ ทางภูมศิ าสตร์เพือ่ แสดงหรือท�ำให้บคุ คลอืน่ หลงเชือ่ ว่าสินค้า ที่มิได้มาจากแหล่งภูมิศาสตร์ที่ระบุในค�ำขอขึ้นทะเบียนเป็น สินค้าที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์ดังกล่าว และห้ามการใช้สิ่ง บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์โดยประการใดที่ท�ำให้เกิดความสับสน หรือหลงผิดในแหล่งภูมิศาสตร์ของสินค้าและในคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะอื่นของสินค้านั้น เพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผปู้ ระกอบการค้ารายอืน่ ส่วนการคุม้ ครองแบบที่ สองก็คอื การคุม้ ครองสิง่ บ่งชีท้ างภูมศิ าสตร์เป็นพิเศษส�ำหรับ สินค้าเฉพาะอย่างตามมาตรา 28 ซึง่ วรรคแรกของมาตรานีไ้ ด้ ก�ำหนดให้ “รัฐมนตรีอาจประกาศให้สินค้าประเภทใดเป็น สินค้าเฉพาะอย่างก็ได้โดยก�ำหนดในกฎกระทรวง” และต่อ

ตอนที่ 6

มาได้มีการออก “กฎกระทรวงก�ำหนดรายชื่อประเภทสินค้า เฉพาะอย่างและก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธกี ารในการใช้สงิ่ บ่ง ชี้ทางภูมิศาสตร์ที่เหมือนหรือพ้องกัน พ.ศ. 2547” ซึ่งข้อ 1 ของกฎหระทรวงฉบับนี้ได้ก�ำหนดให้สินค้า 4 ประเภทต่อไป นี้เป็นสินค้าเฉพาะอย่างคือ 1) ข้าว 2) ไหม 3) ไวน์ 4) สุรา โดยมาตรา 28 วรรคสองบัญญัติไว้ว่า เมื่อประกาศให้สินค้า ประเภทใดเป็นสินค้าเฉพาะอย่างแล้ว การใช้สิ่งบ่งชี้ทาง ภูมิศาสตร์กับสินค้าที่มิได้มีแหล่งภูมิศาสตร์ที่ระบุในค�ำขอ ขึ้นทะเบียนถือเป็นการกระท�ำโดยมิชอบแม้ว่าผู้ใช้จะได้ระบุ แหล่งภูมิศาสตร์อันแท้จริงของสินค้านั้นไว้ด้วย หรือได้ใช้ค�ำ หรือได้กระท�ำการใดที่แสดงให้ทราบถึงแหล่งภูมิศาสตร์อัน แท้จริงของสินค้านั้นก็ตาม ในส่วนนี้จะเห็นได้ว่าพระราช บัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะให้ความคุ้มครอง สินค้าเฉพาะอย่างเป็นพิเศษ โดยก�ำหนดให้การใช้สงิ่ บ่งชีท้ าง ภูมิศาสตร์กับสินค้าที่มิได้มีแหล่งภูมิศาสตร์ตามที่ระบุไว้ใน ค�ำขอขึ้นทะเบียนถือเป็นความผิดตามมาตรา 28 วรรคสอง ถึงแม้ผู้ใช้จะระบุแหล่งภูมิศาสตร์อันแท้จริงของสินค้านั้นไว้ ด้วยก็ไม่อาจน�ำมาเป็นข้ออ้างเพือ่ ให้หลุดพ้นจากความรับผิด ได้ ซึง่ การคุม้ ครองสิง่ บ่งชีท้ างภูมศิ าสตร์สำ� หรับสินค้าเฉพาะ อย่างตามมาตรา 28 นั้นน่าจะเป็นประโยชน์ส�ำหรับสินค้า ท้องถิ่นบางอย่างของจังหวัดพะเยา ที่เห็นได้ชัดคือในส่วน ของ “ไหม” ที่จัดเป็นสินค้าเฉพาะอย่างตามกฎกระทรวงดัง กล่าวด้วยเช่นกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่า ชื่อทางภูมิศาสตร์ที่ ใช้ประกอบกับสินค้าประเภท “ไหม” ของจังหวัดพะเยา จะ สามารถน�ำไปขึ้นทะเบียนและได้รับการคุ้มครองแบบสินค้า เฉพาะอย่างตามมาตรา 28 ได้ เมือ่ ได้รบั การขึน้ ทะเบียนแล้ว ผลก็คือ คนในท้องถิ่นสามารถน�ำชื่อที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสิ่ง บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไปใช้ประกอบกับสินค้าประเภท “ไหม” ของคนในท้ อ งถิ่ นนั้ นได้ หากบุ ค คลภายนอกน� ำ ชื่ อ ที่ ขึ้ น ทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไปใช้ประกอบหรืออ้างอิง กับสินค้าประเภท “ไหม” ของตนทีม่ ไิ ด้มแี หล่งภูมศิ าสตร์ตรง กับทีร่ ะบุในค�ำขอขึน้ ทะเบียน ก็ถอื เป็นการกระท�ำโดยมิชอบ ตามมาตรา 28 และเป็นการละเมิดสิง่ บ่งชีท้ างภูมศิ าสตร์ทไี่ ด้ จดทะเบียนไว้แล้ว ถึงแม้ว่าบุคคลภายนอกจะได้ระบุแหล่ง ภูมิศาสตร์อันแท้จริงของสินค้านั้นไว้ด้วยก็ตาม

วัด

ละอ่อน..

เยาวชนเมือง

ละอ่อน...วัด อาทิตย์ละ 1 วันกับสิ่งดีๆทั้งชีวิต พลังเยาวชนจิตอาสา ตามต่อกับเยาวชนบ้านห้วยบง หมู่ 14 ต.แม่ปืม เยาวชนต้นแบบที่หน้าติดตาม ทุก เช้าวันอาทิตย์ของสัปดาห์เยาวชนของหมู่บ้านแห่งนี้ ได้รวมตัวกัน กิจวัตรเริ่มตั้งแต่ปั่นจักรยานออกก�ำลัง กายตอนเช้า จากนัน้ เข้าวัดเป็นละอ่อน...วัด สวดมนต์ ท�ำวัตรเช้า นัง่ สมาธิ การรูจ้ กั รักษาศีล การรูจ้ กั เคารพ รุน่ พีร่ นุ่ น้อง(พีส่ อนน้อง)พีบ่ า้ งคนพ่อแม่ไปท�ำงานต้อง เลีย้ งดูนอ้ งน�ำน้องมาร่วมกิจกรรมด้วยรูจ้ กั การให้การ รั บ ที่ ดี ล ะลายพฤติ ก รรมเติ ม ส่ ว นที่ ข าด กิ จ กรรม นันทนาการ วาดรูป เขียนหนังสือ งานฝีมือ เช่นท�ำ กระทง งานฝีมอื รับประทานอาหารร่วมกัน กิจกรรม ท�ำความสะอาดล้างห้องน�ำ ้ เก็บขยะ ตัดหญ้า บริการ

ธีระศักดิ์ สิทธิชัยธนะกิจ

บรรณาธิการ

ชุมชน โดยยึดวัดเป็นศูนย์กลาง บ้าน+วัด+โรงเรียน กิจกรรมสร้างคนดีให้สังคมต่อยอดส่งต่อ ติดตาม ประเมินผล โดยไม่พึ่งงบประมาณของทางราชการ แต่ได้รับการสนับสนุนจากพระคุณเจ้า พระครูศรีวร คุณ (เจ้าอาวาสวัดห้วยบง) และผู้ใหญ่ใจดี ปู่ ย่า ตา ยาย ในหมู่บ้านทุกคน และยุคเยาวชนมุ่งสู่ AEC นี้ ขอสอง บ.ครับ รู้จักบาป รู้ บุญ พฤติกรรมไม่ต้องห่วง ครับ จอทีวเี วลาของมุตตาแรงเงาไม่ตอ้ ง+18 ต้นกล้า ต้นแบบที่ดี เริ่มต้นที่ครอบครัวและชุมชน ปรบมือ ให้ดังๆกับเยาวชน ละอ่อน...วัดบ้านห้วยบง หมู่ 14 ต.แม่ปมื อ.เมือง จ.พะเยา ... ชุมชนอืน่ เริม่ หรือยังครับ


11

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

Sudden death in sport การเสียชีวิตฉับพลันในนักกีฬา

ดร.ปราณี อยู่ศิริ

ฉบับนี้ตามสัญญาค่ะว่าจะได้พูดถึงการเสียชีวิตขณะท�ำการแข่งขัน ของนักกีฬาฟุตบอล ที่ต่อเนื่องมาจากการบาดเจ็บทางการกีฬาในฉบับ ก่อนจากข่าวการเสียชีวิตขณะออกก�ำลังกายหรือแข่งขันกีฬาของนักกีฬา ระดับโลก ท�ำไมถึงเสียชีวิตได้ง่ายดาย ทั้งที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป โดย เฉพาะนักกีฬาฟุตบอล อย่าง ปิแอร์มาริโอ โมโรซินี่ อายุ 25 ปีกลองกลาง ของทีม ลิวอร์โน่ประเทศอิตาลี เมื่อ 15 เม.ย. 2555 และก่อนหน้านั้น ใน ฟุตบอลลีกของอินเดีย ดี. เวนคาเตช กองหน้าวัย 27 ปีของสโมสรบังกาลอร์ มาร์ส เกิดวูบหมดสติกลางสนามและเสียชีวติ ระหว่าง น�ำส่งโรงพยาบาล นอกจากนั้นในประเทศไทยเอง การสูญเสียคนในแวดวงกีฬาที่ส�ำคัญอย่าง คุณธราวุธ นพจินดา ผู้ประกาศ ข่าวกีฬาช่อง 5 ผู้บรรยายกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลของทรูวิชั่น ภายหลังจากไปออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ ซึ่งมีลักษณะการเสีย ชีวิตเหมือนพี่ชาย “ย.โย่ง” คุณเอกชัย นพจินดา ที่ท�ำให้ช๊อควงการกีฬาไทยอย่างยิ่งในช่วงเวลานั้นเมื่อเกิดอาการแน่นหน้าอก และหายใจไม่ออกขณะเล่นเทนนิสทีส่ นามกีฬาภายในสถานีโทรทัศน์ชอ่ ง 7 สี ได้ถกู น�ำตัวส่งโรงพยาบาลและได้เสียชีวติ ลง หลัง จากนั้นเพียง 2-3 ชั่วโมงต่อมา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2540 ด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเรียกกันว่าหัวใจวาย ( Acute Coronary Syndrome หรือ Heart Attack) การเสียชีวิตฉับพลันในนักกีฬา (Sudden death in sport) สาเหตุหลักทางกายภาพของนักกีฬาที่ท�ำให้เสียชีวิต นั้นเกิด จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ทีแ่ ฝงอยูใ่ นตัวนักกีฬาทัง้ ทีร่ ตู้ วั และไม่รตู้ วั ซึง่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุม่ คือ กลุม่ ทีม่ อี ายุนอ้ ย กว่า 35 ปี และกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 35 ปี พบว่า ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี ผู้เสียชีวิตมักเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่ก�ำเนิด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจผิดปกติแต่ก�ำเนิด โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ ท�ำให้สูบฉีดเลือดออกจากหัวใจได้ยากโรคหลอดเลือด หัวใจตีบ โรคหัวใจเต้นผิดปกติ และโรคลิ้นหัวใจรั่ว เป็นต้นส่วนในกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 35 ปี มีสาเหตุมาจาก โรคหลอดเลือด หัวใจตีบ แข็ง มีประวัติเจ็บหน้าอก หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ และโรคลิ้นหัวใจ เป็นต้น ส่วนใหญ่ นักกีฬาที่เสียชีวิตจะไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ และละเลยสังเกตอาการของตน จนกระทั้งล้มลงคาสนามและบาง รายต้องเสียชีวิตไป ส�ำหรับบุคคลทั่วไปที่ออกก�ำลังกายเป็นประจ�ำและไม่มีประวัติการเป็นโรคหัวใจ สามารถออกก�ำลังกายกัน ต่อไปด้วยความสบายใจนะคะ โดยไม่ต้องกังวล เพราะการออกก�ำลังกายนั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งตามสถิติการเสียชีวิตฉับพลันในนักกีฬานั้นมีน้อยมาก โดยพบว่า อัตราการตายของนักกีฬาในปัจจุบันอยู่ที่ 1: 50,000 ราย และพบว่า 80-90% ของคนที่เสียชีวิตขณะเล่นกีฬาเกิดจากโรคหัวใจ และ 1 ใน 500 คนที่เล่นกีฬา จะมีอาการซ่อนเร้นเกี่ยว กับการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว แต่ทที่ ำ� ให้เกิดความตืน่ ตระหนกของผูค้ นทัว่ ไป เนือ่ งมาจากการรับรูข้ า่ วสาร และการน�ำเสนอทีไ่ ม่ รอบด้านของสื่อสารมวลชนของการเสียชีวิตฉับพลันของนักกีฬาขณะแข่งขัน ที่นาน ๆ ทีจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง จึงท�ำให้เป็นที่สนใจ และตืน่ กลัว ปัจจุบนั โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการป่วยและเสียชีวติ ของคนไทยสูงเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและ อุบัติเหตุจราจรค่ะ อย่างไรก็ตาม ควรรีบปรึกษาแพทย์และท�ำการตรวจหาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจเช่นมีอาการ เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นรัวเร็วแรง หน้ามืดหมดสติ และในกรณีทหี่ ยุดการออกก�ำลังกายมานานแล้วคิดจะเริม่ ออกก�ำลังกายใหม่โดย เฉพาะผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจ�ำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกก�ำลังกาย โรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ด้วย การออกก�ำลังกาย การรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ การพักผ่อนให้เพียงพอ และที่ส�ำคัญต้องท�ำให้จิตใจให้เบิกบาน อย่าเครียดนะคะ ก็จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้ค่ะ ในระหว่างนี้อยากจะขอเชิญชวนผู้อ่าน ได้ร่วมกันให้ก�ำลังใจเชียร์ น้อง ๆ นิสิตนักกีฬา ม.พะเยา ที่ก�ำลังมุ่งมั่นฝึกซ้อมกัน อย่างหนัก เพื่อไปท�ำการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 หรือ “พลบดีเกมส์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-15 มกราคม พ.ศ. 2556 ที่จังหวัดชลบุรี โดยมีสถาบันการพลศึกษาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กันด้วยนะคะส่วนรายละเอียดจะ มาน�ำเสนอใครคราวต่อไปค่ะ


12

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

ค�ำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ

ในกรณีโครงการรับจ�ำน�ำข้าวของรัฐบาล โดย อุเทน ธัชศฤงคารสกุล อาจารย์ประจำ�คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

สวัสดีครับท่านผูอ้ า่ นทีเ่ คารพ ส�ำหรับบทความในฉบับ นีจ้ ะน�ำเอาค�ำสัง่ ศาลรัฐธรรมนูญในกรณีโครงการรับจ�ำน�ำข้าว ของรัฐบาลมาพิจารณาในประเด็นกฎหมายกัน เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ รองศาสตราจารย์ ดร. อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า กับคณะรวม ทั้งสิ้น ๑๔๖ รายชื่อ ได้ยื่นหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ อ�ำนาจตามกฎหมายเพื่อยับยั้ง หรือยุติโครงการรับจ�ำน�ำข้าว ของรัฐบาลอันเป็นการจัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งต่อมาทางศาล รัฐธรรมนูญได้ขอเอกสารประกอบเพิ่มเติม และได้มีการน�ำ เอกสารเพิม่ เติมมายืน่ ให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ในค�ำร้องนี้ได้แสดงความเห็นว่า๑) โครงการ การรับจ�ำน�ำข้าวของรัฐบาลจากเกษตรกร หรือผู้ที่มีสิทธิ์ ซึ่ง รัฐบาลได้ด�ำเนินการมาแล้ว และจะเริ่มรอบใหม่ได้ใช้เงินไป แล้วจ�ำนวนหลายแสนล้านบาท และมีตน้ ทุนอีกมากมาย๒) ผิด หลักของการจ�ำน�ำ คือ การให้ราคาจ�ำน�ำที่ต�่ำกว่าราคาตลาด ในระดับทีเ่ หมาะสม เพือ่ เปิดโอกาสให้เกษตรกรมาไถ่ถอนเพือ่ น�ำไปขายในตลาดเมือ่ ข้าวราคาสูงขึน้ แต่โครงการรับจ�ำน�ำข้าว ของรัฐบาลจงใจตัง้ ราคารับจ�ำน�ำให้สงู กว่าราคาตลาดอย่างชัด แจ้งโดยมิได้มีเจตจ�ำนงให้เกษตรกรไถ่ถอนคืน ท�ำให้การกระ ท�ำของรัฐบาลจึงมิใช่การรับจ�ำน�ำ๓) การกระท�ำของรัฐบาล กลายเป็นพ่อค้าข้าวรายใหญ่ที่สุดรายเดียวของประเทศอัน เป็นการผูกขาดตัดตอน ท�ำลายระบบการค้าของไทย และส่ง ผลต่อระบบการผลิตข้าวที่บิดเบือนกลไกการตลาด จากความเห็นดังกล่าวท�ำให้ประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับ ไม่คุ้มกับทรัพยากรส่วนรวมของชาติที่เสียไป และการกระ ท�ำของรัฐบาลในโครงการดังกล่าวจึงเป็นการกระท�ำที่ขัดต่อ แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๘๔ (๑) ที่ ก�ำหนดให้รฐั สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรี และเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาด เว้นแต่จ�ำเป็นเพื่อประโยชน์ในการักษา ความมั่งคงของรัฐ รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม หรือการจัดให้ มีสาธารณูปโภค โดยผู้ร้องเรียนกับคณะได้ยื่นหนังสือต่อศาล รัฐธรรมนูญครั้งนี้โดยอ้างอ�ำนาจตามรัฐธรรมนูญในมาตรา

๒๑๒ ที่ก�ำหนดให้ บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพที่ รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้มีสิทธิยื่นค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อมีค�ำวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัด หรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญได้ และต้องเป็นกรณีที่ไม่อาจใช้สิทธิโดยวิธีการ อื่นได้แล้ว ทั้งนี้ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญได้มี ค�ำสั่งไม่รับค�ำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้เหตุผลดังต่อไปนี้ ๑) ค�ำร้องนีเ้ ป็นกรณีทไี่ ม่อยูใ่ นอ�ำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ เนือ่ งจากศาลรัฐธรรมนูญจะรับค�ำร้องใดไว้พจิ ารณาวินจิ ฉัยจะ ต้องมีบทบัญญัตขิ องรัฐธรรมนูญ และกฎหมายให้อำ� นาจไว้ แต่ ค�ำร้องนี้ไม่อยู่ในอ�ำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ๒) ผู้ร้องยังมิใช้บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพอัน สืบเนื่องมาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และยังมิใช่เป็นการ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๒๑๒ ซึ่งค�ำวินิจฉัยเหล่านี้อาจให้เหตุผลได้ว่า มาตรา ๘๔ (๑) นัน้ อยูใ่ นหมวด ๕ แนวนโยบายพืน้ ฐานแห่งรัฐ ซึง่ รัฐธรรมนูญ ก�ำหนดไว้เพือ่ ให้รฐั บาลปฏิบตั ติ ามแนวทางนี้ และมีรฐั สภาเป็น ผูต้ รวจสอบอย่างชัดแจ้ง ตลอดจนโครงการดังกล่าวอาจเข้าข้อ ยกเว้นในมาตรา ๘๔ (๑) ให้รฐั เข้าแทรกแซงได้หากจ�ำเป็นเพือ่ ประโยชน์ในการักษาความมั่งคงของรัฐ รักษาผลประโยชน์ ส่วนรวม หรือการจัดให้มีสาธารณูปโภค หรืออาจเข้าเงื่อนไข ในมาตรา ๘๔ (๘) ที่ให้คุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของ เกษตรกรในการผลิตและการตลาด ส่งเสริมให้สินค้าเกษตร ได้รับผลตอบแทนสูงสุด นอกจากนี้ หากพิจารณาอ�ำนาจของ ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กรณีนี้ต้องชัดเจนว่าผู้ที่ยื่นค�ำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญต้อง เป็นผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ และเห็น ว่ากฎหมายใดขัดรัฐธรรมนูญ จนท�ำให้ถูกละเมิดสิทธิ์และ เสรีภาพ รวมทั้งต้องไม่อาจจะใช้ในทางอื่นได้แล้วจึงจะเป็น ไปตามมาตรา ๒๑๒ ได้

ข้าวมันไก่ร้านนี้ มีความพิเศษคือ ไก่ต้มเนื้อนุ่ม สูตรไม่เหมือนใคร น�ำ้ จิม้ สูตรเด็ด ใส่หวั ใจไก่และใส่หวั ใจความเป็นนักกีฬาของเจ้าของร้าน ลุงด�ำ-ป้าเจ๊ ร้านตั้งอยู่ถนนชายกว๊าน ใกล้ 7-11 สาขากว๊านพะเยา 2 คูหาบรรยายกาศริมกว๊านพะเยา ร้านคิกออฟ ฮ่าๆ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า ถึง บ่าย 2 โมง หรือจนกว่าของจะหมด บางวันไม่เปิดจะพาเด็กไปแตะบอลตาม หัวใจนักกีฬาและแจ้งล่วงหน้าทาง fb เพิ่มเติมกับอาหารตามสั่งและ ข้าวกล่อง ส�ำรองที่นั่ง 086-429-8747 พฤหัส ใจลา รายงาน เช็คอิน ริมกว๊าน อิ่มอร่อย และชมงานศิลป์ ใน บรรยากาศสบายๆ Style Home Kitchen & Gallery ที่ร้านเช็คอิน ริมกว๊าน เมนูแนะน�ำ : สเต็ก สลัด สปาเก็ตตี้ ผัดไทกุง้ สด ฯลฯ เปิดบริการ : 11.00 - 14.00 น. และ 16.00 - 22.00 น. Tel. 080-4987754 และ 083-8653241


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

13

สปีดชัตเตอร์ ท�ำอะไรได้บ้าง

ณรงค์ชัย สุทธิกุลบุตร

สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว กับปลายฝนต้นหนาว

ปลายฝน ต้นหนาว ได้มาบรรจบอีกรอบ เข้าสูฤ่ ดูการถ่ายภาพ ซึง่ เป็นช่วงเวลาทีผ่ ชู้ นื่ ชอบการถ่ายภาพ อยากจะถ่ายภาพเก็บบรรยากาศมากที่สุดในรอบปี บางคนเริ่มที่จะออกไปเก็บภาพหมอกยามเช้าอัน แสนจะนุ่มนวล บ้างก็ขึ้นเขาขึ้นดอยเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ เพื่อจะเก็บดาว เก็บเดือน เก็บตะวัน ของปี บ้างก็ไปเก็บภาพท้องนาที่เหลืองสวยอร่ามงามตา กับวิถีชีวิตการเกี่ยวข้าว บ้างก็เก็บบรรยากาศ พระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้า โดยเฉพาะกว๊านพะเยา ช่วงนีจ้ ะเป็นช่วงทีส่ วยทีส่ ดุ ของกว๊านพะเยา ในเดือน พฤศจิกายนนี้ ก็ยังมีเทศกาลประเพณีลอยกระทง ผมว่างานลอยกระทงจะเป็นงานรวมเหล่าจอมยุทธที่ หลงใหลการถ่ายภาพมากที่สุด ไปตรงไหนก็จะเจอแต่คนสะพายกล้องถ่ายรูปเต็มไปหมด เจอหน้ากัน อย่าลืมทักกันนะครับ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบชมภาพสวย ๆ อย่าลืมติดตามผลงานของเหล่าตากล้อง ได้ใน www.phayaophotoclub.com รับรองว่าเดือนนี้มีภาพสวย ๆ ให้ชมกันมากทีเดียว อย่าลืมติดตามในเว็ปนะครับ

ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นๆ และมีหมอกให้เห็นบางๆ ในตอนเช้าแล้ว บรรยากาศเหมาะแก่การเก็บภาพที่หา ได้ยากในภูมภิ าคอืน่ แถมได้ตนื่ ตอนเช้าๆสูดอากาศดีๆ พร้อมกับมีกล้องคูใ่ จในมือ เป็นอะไรทีม่ คี วามสุขพอดู เลยครับ แหะๆๆๆ เพ้อไปไกลอีกแล้ว เจอกันครั้งนี้ เราจะมาพูดถึงการเล่นกับสปีดชัตเตอร์กันครับ สปีดชัตเตอร์นั้น ถ้าเรารู้จักใช้ รู้จักประยุกต์ มันจะท�ำให้เราได้ภาพหลากหลาย และไม่เพียงแต่ท�ำหน้าที่ในการเปิดรับให้แสงผ่านเข้าม่านชัตเตอร์อย่างเดียว แต่สปีดชัตเตอร์ยังสามารถหยุดการเคลื่อนไหว หรือท�ำให้เหมือนจะมีการเคลื่อนไหวในภาพได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การลากสปีดชัตเตอร์ช้าๆ หรือรัวสปีดชัตเตอร์เร็วๆ ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาต่างกันแน่นอนครับ ในกล้อง DSLR นั้น เราควบคุมสปีดชัตเตอร์ได้อยู่แล้ว แต่ส�ำหรับกล้องคอมแพคหรือกล้องมือถือนี่เป็น บางรุ่นนะครับ ดังนั้นก่อนจะใช้ลองศึกษาคู่มือกันก่อน จะได้ไม่หาเก้อ และใครยังไม่รู้ว่าสปีดชัตเตอร์ปรับตรง ไหน แนะน�ำว่าให้ไปหาคู่มือมาอ่านนะครับ ^^ แน่นอนว่าไม่มกี ำ� หนดตายตัวครับว่าควรใช้เท่าไหร่ เพราะแต่ละสภาพแสงนัน้ ให้คา่ ต่างกัน รวมถึงความเร็ว ในการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุทเี่ ราจะถ่ายด้วย ซึง่ ตรงนีแ้ หละครับ ทีม่ นั สนุก ท�ำให้เราได้เรียนรูแ้ ละลองผิดลองถูกกับมัน

และเหมือนเดิมครับ ผมได้แนบรูปทีเ่ กีย่ วกับการเล่นกับสปีดชัตเตอร์มาด้วย ซึง่ ตัวอย่างครัง้ นี้ จะเป็นการเล่นกับสปีดชัตเตอร์เร็ว เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวแล้วหาจังหวะที่ใช่ ลองแล้วลองอีกจน ได้รูปที่ต้องการ(หรือจะเรียงกันหลายรูปในเฟรมเดียวก็สนุกไปอีกแบบ) ลองมองแล้ว เรียงดูเล่นๆก็ได้ครับว่าจังหวะไหนเกิดก่อนหลัง fufupixx ถ่ายภาพให้มีความสุขนะครับ ขอบคุณครับผม ^^


14

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

ตอนที่ 9 Art go Green

Phayao Rice@พะเยา อาสาพาไปเขียวครับ art go Green คือ ศิลปะที่ร่วม (มุ่งสู่) รักษ์สิ่งแวดล้อมการจินตนาการ การสื่อ การสะท้อน ในลักษณะและรูปแบบ ต่างๆ ผ่านศิลปะที่เน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสู่คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งครับร่วมกัน go green (รักษ์สิ่งแวดล้อม)แต่ เขียว นั้น ที่พะเยา เขียว นั้นคงหนีไม่พ้นข้าวแน่นอน และการปลูกข้าวก็เป็นศิลปะแบบหนึ่งที่สืบสานกันเป็นวัฒนธรรมของคนเอเชียซึ่งข้าวของคนพะเยาก็ดังไม่ใช่เบา นะครับ ข้าวปลอดภัยที่ปลูกกันแบบถนอมดินและรักษ์ (ชีวิต) สิ่งแวดล้อม และข้าวก�่ำที่จุนที่สร้างชื่อเสี่ยงให้กับจังหวัดพะเยาพอสมควรเลย ครับการปลูกข้าวเพื่อปาก-ท้องก็มี เพื่อสุขภาพ วัฒนธรรม ศิลปะก็มีอยู่ ดังเช่น การตั้งชื่อพันธุ์ข้าวก็ยังมีจินตนาการที่สอดคล้องกับพันธุ์พืชอื่น คือ พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ ที่มีลักษณะสีขาวเหมือนดอกมะลิ มิใช่ หอมดอกมะลิ ซึ่งเป็นชื่อตามการค้าต่างๆ สีข้าวสีข้าวนั้นมีหลากสีนอกจากสี เขียวอ่อน-สีเขียวเข้ม โดยสีที่สะท้อนของต้นและใบ สีของรวงข้าว ดังเช่น สีด�ำ สีม่วง สีทอง สีส้มหรือแสด จากภาพปีกอ่ นๆทีเ่ คยพานิสติ มหาวิทยาลัยพะเยาปลูกด�ำนาข้าวและเกีย่ วข้าว เป็นประติมากรรมบนผืนนา ในรูป ต่างๆ โดยในปีแรก(ตั้งแต่ปี 49)นั้น เป็นรูป “๘๐ รักในหลวง”และก็มาเป็นรูปช้างในปีทัดๆมา ปีนี้ลองหาที่ใหม่อยาก ให้ฝั่งกว๊านฝั่งตะวันตกนั้นมีผู้คนพะเยาและนักท่องเที่ยวมาแวะเยี่ยมเยือนบ้าง จึงลอยท�ำสวนผักลอยน�้ำ (Floating plant) โดยความร่วมมือของผู้หลักผู้ใหญ่แถวนั้น (กลุ่มชุมชนคนหล่ายกว๊าน) โดยเฉพาะพ่อหลวงโก๊ะและทีมผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันกว๊าน ต�ำบลบ้านตุ่น เลยลองน�ำข้าวไปปลูกลอยน�้ำ เพื่อโอกาสหน้าจะกลายมาเป็น “ประติกรรมบนผิวน�้ำที่กว๊านพะเยา (ฝั่งตะวันตก)” ให้กว๊านพะเยาฝั่งตะวัน ตกที่น่าสนใจไปพักผ่อนและต่อการท่องเที่ยวชุมชน (Community Tourism)เพื่อจะช่วยให้พื้นที่ชุมชนของคนพะเยาอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวกับเค้าบ้าง อะไปช่วยกัน like ให้ Phayao Rice และ กด LiKe ด้วย ที่บ้านสันกว๊าน ด้วยครับ และครั้งหน้าโปรดรอคอยอ่านสิ่งใหม่ๆ ข้าวลอยน�้ำที่กว๊านพะเยาอีก


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

15


16

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

เปิดจองด่วน จำานวนจำากัด

ลูกเดือยข้าวเหนียวหุงสุกเร็ว ตรา พี-ไลฟ์ ได้รับรางวัลที่ 2 การประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์

อาคารธุรกิจหน้าม.พะเยา

“อาหารเพื่อสุขภาพ” DIP 2012 Industrial Innovation Award จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

เพี ย ง 200 เมตร จาก หน้าม.พะเยา ติดกับกรมอนุรักษ์ป่าไม้ กรมอนุรักษ์ ป่าไม้ ไปเชียงราย ม ห า วิ ท ย า ลั ย

พะเยา

ถ.พลโยธิน

ไปลำาปาง

สนใจติดต่อ

081-646-6222 , 087-065-7700

เหตุ ผ ล ที่คุณต้องเลือกเป็นเจ้าของ กลุ่มอาคารพาณิชย์นี้

1. กลุ่มอาคารแห่งใหม่ของจังหวัดพะเยา 2. ขนาดอาคารที่ใหญ่กว่าและใช้วัสดุที่มีมาตราฐาน 3. ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณตัวอาคาร พร้อมที่จอดรถและสิ่งอำานวยความสะดวก 4. แหล่งศูนย์รวมนักศึกษาและชุมชมบริเวณใกล้เคียง 5. โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย 6. ห่างจาก หน้า ม.พะเยา เพียง 200 เมตร 7. พื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำาหรับประกอบธุรกิจ 8. แหล่งรวม Lifestyle ชั้นนำาแห่งใหม่ในอนาคต


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

17

แนะน�ำหนังสือออกใหม่

โครงการ ตู้ยามศิวิไลย์

ในเดือนตุลาคมนี้ ต�ำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ได้ ให้การต้อนรับท่านผู้บังคับการต�ำรวจภูธรจังหวัด พะเยาคนใหม่ คือท่าน พลต�ำรวจตรีชชู ยั ขุนคลังมีวน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล นโยบาย ในการท�ำงานของท่านมุ่งเน้นการให้ความสะดวก รวดเร็ว ในการให้บริการแก่ประชาชน โครงการตู้ ยามศิวไิ ลซ์ ก็เป็นนโยบายอย่างหนึง่ ทีท่ า่ นมีแนวคิดที่ จะปรับปรุง ตู้ยามต�ำรวจทุกแห่งในสังกัดต�ำรวจภูธร จังหวัดพะเยา ให้มีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะ เป็นอาคารสถานที่ การปฏิบตั งิ านของเจ้าหน้าที่ เพือ่ พิทักษ์รับใช้และบริการประชาชน เป็นการกระจาย การบริการประชาชนอย่างทั่วถึงทั้งในการรับแจ้ง เหตุเบื้องต้น ตลอดจนการไกล่เกลี่ย ข้อพิพาทต่างๆ เป็นการลดขั้นตอนและประหยัดเวลาของประชาชน ในพื้นที่ รวมถึงเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของส�ำนักงาน ต�ำรวจภูธรจังหวัดพะเยา

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ต�ำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ได้ก�ำหนดหลักการ คือการปรับปรุงตู้ยาม ให้มีความ มั่นคง แข็งแรง สะอาดสวยงาม การปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจประจ�ำตู้ยาม ต้องให้บริการ ประชาชนอย่างสะดวก รวดเร็ว มีความยุติธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ ตามนโยบายหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนปลอดภัย และหากพีน่ อ้ งประชาชนชาวจังหวัด พะเยามีความคิดเห็น หรือต้องการให้ต�ำรวจภูธร ปรับปรุงการให้บริการ หรือปรับปรุงสถานที่ตาม ตู้ตาม สายตรวจต�ำบลต่าง สามารถให้ค�ำติชม ส่ง มาได้ที่ ต�ำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ซึ่งเรายินดีน้อม รั บ ค� ำ ติ ช มต่ า ง ๆ เพื่ อ ปรั บ ปรุ ง การท� ำ งาน เพื่ อ ประโยชน์ของประชาชนชาวจังหวัดพะเยา กองบังคับการต�ำรวจภูธรพะเยา โทร. 054-431401,482254

ตามรอยเสด็จพายัพ

เป็นเรื่องราวในปี พ.ศ. 2448 หรือเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว เมื่อครั้งรัชกาลที่ 6 ทรง ด�ำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร ได้เสด็จประพาสมณฑลพายัพ ตัง้ แต่เมืองแพร่ ล�ำปาง พะเยา เชียงราย ล�ำพูน และเชียงใหม่ จัดพิมพ์เนื่องวโรกาส ครบรอบวันเกิด 96 ปี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดศรีโคมค�ำ อ.เมือง จ.พะเยา หอวัฒนธรรมนิทัศน์ ผู้จัดพิมพ์

สนใจติดต่อซื้อได้ที่ หอวัฒนธรรมนิทัศน์ อ.เมือง จ.พะเยา โทร. 054 - 410058 - 9

เล่มละ 179 บาท

หมดปัญหาหยิบนิตยสารไม่ทัน สมัครสมาชิกรายปีโดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง 200 บาท ( 12 เล่ม) และรอรับนิตยสารถึงบ้าน (ถ่ายเอกสารใบสมัครได้)

ข้อมูลผู้สมัครสมาชิก

ที่อยู่ในการจัดส่ง

ชื่อ....................................นามสกุล......................................... เพศ ชาย หญิง อายุ......................................... อีเมล....................................................................................... โทรศัพท์ที่ท�ำงาน............................โทรสาร............................ โทรศัพท์มือถือ........................................................................

หมู่บ้าน/บริษัท.................................................................... หน่วยงาน/แผนก................................................................. เลขที่.............ซอย.............................ถนน........................... ต�ำบล/แขวง..............................อ�ำเภอ/เขต......................... จังหวัด..........................รหัสไปรษณีย.์ ..................................

วิธีการช�ำระเงิน

โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาพะเยา เลขที่ 209-232953-7 ในนาม นายธีระศักดิ์ สิทธิชัยธนะกิจ ส่งอีเมลใบสมัคร พร้อม ใบน�ำฝากที่ kwan.magazine@gmail.com (10% ค่าสมาชิกสมทบกองทุนท�ำบุญปลูกปัญญาบริจาคหนังสือห้องสมุดโรงเรียน) ทางไปรษณีย์ 737/2 หน้าวัดราชคฤห์ ถนนพหลโยธิน อ�ำเภอเมือง จังหวัดพะเยา 56000 โทร. 081 - 8848824, 081 - 0302547


18

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555 นายหั ส นั ย แก้ ว กุ ล (ประธานหอ การค้าจ.พะเยา) พร้อมทั้งคณะกรรมการ หอการค้าจังหวัดพะเยาร่วมงานเฉลิมฉลอง 80 ปีหอการค้าไทยและงานสัมนาหอการค้า ทั่วประเทศครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2555 ณ.อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์ประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี ใน โอกาสนี้หอการค้า จ.พะเยาได้รับรางวัล หอการค้ายอดเยี่ยมประจ�ำปี 2555 โดยได้ รับมอบโล่รางวัลจากนายพงษ์ศักดิ์ อัสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย

ชาวจังหวัดพะเยา ขอต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการ จ.เชี ย งใหม่ เดิ น ทางมารั บ ต� ำ แหน่ ง ผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด พะเยาพร้ อ มด้ ว ยนางวราภรณ์ กี ฬ าแปง นายกเหล่ากาชาด จ.พะเยา และในโอกาสเดินทางมารับต�ำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้เดินทางไป สักการะ ศาลหลักเมือง อนุสาวรียพ์ อ่ ขุนง�ำเมือง และสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิค์ บู่ า้ น คูเ่ มือง และเดินทางเข้ากราบนมัสการ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดพะเยา

การปฏิบัติการตรวจสอบโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง

18 พ.ย.2555 นายจรัส สุทธิกุลบุตร(ประธานหอการค้าภาคเหนือตอนบนกลุ่มที่ 2) และนางเฟื่องฟ้า ตุลาธรรม พาณิชย์จงั หวัดพะเยา ตัวแทนหอการค้าจ.พะเยา และชาวพะเยาร่วมแสดงความยินดีกบั นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจ.ภูเก็ต ได้รับรางวัลผู้ว่าส�ำเภาทองในขณะด�ำรงต�ำแหน่งผู้ว่าราชการจ.พะเยา และ อดีตรองผู้ว่าราชการ จ.พะเยา นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจ.ขอนแก่นได้รับรางวัลขณะด�ำรง ต�ำแหน่งผูว้ า่ ราชการจ.ศรีสะเกษ โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมต.กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี มอบรางวัล ในงานสัมมนา หอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 30 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี ชมรมคนรักบอลเทศบาล 6 น�ำโดย คุณกฤษฎา จันทร์ จิราภิวัฒน์(หน่อง) ร่วมกับ คุณชูเกียรติ จันทร์ผ่องศรี ผอ.โรงเรียนเทศบาล 6 จัดแข่งฟุตบอลท.6 พรีเมียร์ลีก ต่อต้านยาเสพติด เพื่อให้เยาวชนมีเวลาว่างออกก�ำลัง กายห่างไกลยาเสพติด ระหว่างวันที่ 19 พ.ย 2555 ถึง วันที่ 25 ธ.ค 2555

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ส�ำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์พะเยา จัดการประชุมผ่านระบบ VDO Conference น�ำโดย นายมานะ โภคินมาศ นักวิชาการตรวจสอบบัญชีช�ำนาญการพิเศษ พร้อมด้วย ผู้สอบบัญชี และสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ข้าร่วมรับฟัง และประชุมเรื่อง การปฏิบัติการตรวจสอบโครงการพัฒนาศักยภาพ สถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางผ่านระบบการสอน ทางไกล (Video Conference) โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และอธิบดีกรมตรวจบัญชี สหกรณ์ นายจักรี สุจริตธรรมร่วมแถลงข่าวการตรวจสอบโครงการ พัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุ ม คณะกรรมการร่ ว มภาคเอกชน 3 สถาบั น จังหวัดพะเยา(กกร.จ.พย.)ประกอบด้วย หอการค้าจ.พะเยา ,สภาอุตสาหกรรมจ.พะเยา,ชมรมธนาคาร จ.พะเยา รวมพลังร่วม ขับเคลือ่ น ร่วมกันพัฒนาจังหวัดคูข่ นานในการท�ำงานร่วมภาครัฐเอกชนและสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรม ผลักดันโครงการต่างๆให้มี ประสิทธิภาพสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดพะเยาอย่างยั่งยืน ประจ�ำเดือนตุลาคม ณ ห้องอาหารแสงจันทร์


: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555

19


20

: ฉบับที่ 9 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2555


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.