ลอว์นิวส์ หนังสือพิมพ์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
รวมข่าว เล่ากฎหมาย ให้สาระประชาชน ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
issn 2350-9848
ลอว์นิวส์
แจกฟรี
การเมืองไทยส่อวุ่นยืดเยื้อ
ในฉบับ
หนุน-ค้าน นายก ม.7
มหากาพย์ ก ารหาผู้ นำ � ประเทศ ส่อแววยืดเยื้อ หลัง “เพื่อไทย” ขู่ ฟ้อง ส.ว. ที่ร่วมหารือกับ “สุเทพ” นปช. ขู่ซ้ำ� มีนายกฯ ม.7 เมื่อไหร่ ยกระดับการชุมนุมทันที “สุรชัย” วอนร่ ว มกั น เสนอทางออก ด้ า น กปปส. เรียกร้องให้วุฒิสภาเดิน หน้าเต็มสูบ
ไทม์ ไลน์
ความวุน่ วายทางการเมืองทีล่ ากยาวมาตัง้ แต่ปที ี่ แล้วจนถึงขณะนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำ�ให้ นึกถึงเหตุการณ์นองเลือดทีเ่ กิดขึน้ เพราะการแย่ง ชิงอำ�นาจ จนทำ�ให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเป็น จำ�นวนมาก แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปีก็ตาม ก็ ยังไม่มีใครทราบถึงชะตากรรมของผูท้ สี่ ญ ู หายไป ในเหตุการณ์นั้น เรื่องราวเหล่านั้น เราจะหยิบยก ขึน้ มาเพือ่ เป็นบทเรียน ทีจ่ ะไม่ ให้เกิดความสูญเสีย เช่ น นั้ น อี ก ครั้ ง ในสถานการณ์ ค วามขั ด แย้ ง ณ ปัจจุบัน อ่านต่อหน้า 7
“พท.” เตรียมเล่นงาน ส.ว. เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ พรรคเพือ่ ไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่นาย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน วุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะรักษาการประธาน วุฒิสภา และว่าที่ประธานวุฒิสภา เรียก ประชุมนอกรอบพร้อมให้นายสุเทพ เทือก สุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชน เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิ ป ไตยที่ ส มบู ร ณ์ อั น มี พ ระมหา กษัตริยเ์ ป็นประมุข (กปปส.) เข้าหารือทีห่ อ้ ง รับรองร่วมกับ ส.ว. กลุ่มหนึ่ง ว่า ตนมองว่า นายสุเทพ กำ�ลังถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในข้อหากบฏแต่รักษาการประธานวุฒิสภา กลับหารือกับนายสุเทพ เรือ่ งนายกฯ มาตรา 7 ซึ่งไม่มีในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ นายสุร ชั ย ทำ � นอกเหนื อ อำ � นาจส่ อ ไปในทางผิ ด
กฎหมาย สนับสนุนและทำ�ความผิดร่วมกับ นายสุ เ ทพ เข้ า ข่ า ยผิ ด กฎหมายอาญา มาตรา113 ทั้งนี้รัฐธรรมนูญกำ�หนดว่าการ ดำ � เนิ น การของวุ ฒิ ส ภาต้ อ งชอบด้ ว ย กฎหมาย นายสุรชัยจึงไม่มีอำ�นาจเสนอ นายกฯ ตามมาตรา 7 เพราะรัฐธรรมนูญ กำ�หนดว่านายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. และสภา นายสุ ร ชั ย กำ � ลั ง ทำ � ผิ ด รั ฐ ธรรมนู ญ และ กฎหมายอาญามาตรา 113 ทั้งไม่เคารพ กระแสพระราชดำ�รัสที่ทรงเคยตรัสเรื่องนา ยกฯ มาตรา 7 ไว้แล้ว “ผมขอถามนายสุรชัย และ ส.ว. กลุ่มนี้ว่า หากศาลหรือองค์กรอิสระตัดสิน
คดี แ ล้ ว ไม่ มี ใ ครยึ ด ถื อ บ้ า นเมื อ งจะเป็ น อย่างไร นอกจากนีข้ อถามว่าการประชุมเมือ่ วันที1่ 2 พฤษภาคมทีผ่ า่ นมา ทีน่ ายสุรชัยและ กลุ่ม 40 ส.ว. พยายามเสนอนายกฯ มาตรา 7 เป็นการฉ้อฉลอำ�นาจใช่หรือไม่ อย่างไร ก็ตามวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. ฝ่ายกฎหมายพรรคเพือ่ ไทย จะไปยืน่ เรือ่ งต่อ กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ (ดีเอสไอ) เพือ่ เอาผิด นายสุรชัย และกลุ่ม 40 ส.ว. ตามกฎหมาย อาญา มาตรา 113 ฐานะสนับสนุนกบฏ” นายพร้อมพงศ์กล่าว นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่าสำ�หรับ อ่านต่อหน้า 3
เอกฉันท์ ศรธ. – ปปช. ฟัน “ยิ่งลักษณ์” พ้นเก้าอี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีค�ำ วินจิ ฉัยเป็นเอกฉันท์ 9-0 กรณีโยกย้าย “ถวิล” โดยมิชอบ ให้ “ยิ่ ง ลั ก ษณ์ ” พ้ น จากตำ � แหน่ ง นายก รัฐมนตรีพร้อม ครม. ปู1 ด้วย เจอ ปปช. มีมติเป็นเอกฉันท์ 7-0 ชี้มูลความผิดใน คดีทุจริตโครงการรับจำ�นำ�ข้าว ด้าน “ยิ่ง ลักษณ์” ออกแถลงการณ์ ขอบคุณคนไทย ทั้งประเทศ เมือ่ วันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 12.00น. ศาลรั ฐ ธรรมนู ญ ได้ นั ด อ่ า นคำ � วิ นิ จ ฉั ย สถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี สิ้น สุดลงแล้วหรือไม่ จากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำ�แหน่งเลขาธิการสภา ความมั่ น คงแห่ ง ชาติ (สมช.) ไม่ ช อบด้ ว ย รัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ กำ � หนดประเด็ น ในการพิ จ ารณาไว้ 3
ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นแรก พิจารณาว่าเมื่อมีการ ยุ บ สภาผู้ แ ทนราษฎรแล้ ว ปั ญ หาที่ ต้ อ ง พิจารณานายกรัฐมนตรีพ้นจากตำ�แหน่งตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง (2) ความ เป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ ศาลเห็นว่า แม้จะมีการยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 แต่เมื่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 กำ�หนดให้ คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำ�แหน่งเพื่อปฏิบัติ หน้าที่ต่อ จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีใหม่เข้า ปฏิบตั หิ น้าที่ สถานภาพความเป็นรัฐมนตรีจงึ ยังไม่สิ้นสุด ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีอำ�นาจ วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐธรรมนูญสิ้นสุดเฉพาะ ตัวได้ ศาลจึงมีอำ�นาจในการรับคำ�ร้องนี้ ประเด็นทีส่ อง การกระทำ�ของนายก รั ฐ มนตรี เ ป็ น การกระทำ � การต้ อ งห้ า มตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ประกอบมาตรา 266
(2) (3) ทำ�ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายก รัฐมนตรีตอ้ งสิน้ สุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่งหรือไม่ ศาลเห็นว่า คำ�สั่งโยก ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี แม้ผู้ถูกร้องจะอ้างว่า ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มการดำ�เนินการ แต่ผู้ถูกร้องมี ส่วนกระทำ�การในเรื่องนี้ด้วยหลายฝ่ายหลาย ประการ โดยเฉพาะการดำ�เนินการจนมีผลให้ นายถวิล พ้นจากตำ�แหน่งเลขาธิการ สมช.ไป เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการ ประจำ � และมี ก ารโยกย้ า ย รวมทั้ ง การที่ พล.ต.อ.เพรี ย วพั น ธ์ ดามาพงศ์ มาดำ � รง ตำ�แหน่ง ผูบ้ ญ ั ชาการตำ�รวจแห่งชาติ เห็นว่าผู้ ถูกร้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การ ทำ�หนังสือโอนย้ายก็ไม่เป็นไปตามการปฏิบัติ ราชการตามปกติ และมีการแก้เอกสารเป็นการ พิรุธอย่างชัดแจ้ง ศาลเห็นว่า ผู้ถูกร้องใช้อำ�นาจใน
ตำ�แหน่ง มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีวาระซ่อน เร้น จึงเป็นการดำ�เนินการที่ไม่ชอบด้วยหลัก นิติธรรม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 เป็นการ ก้าวก่ายแทรกแซง เพือ่ ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ที่เป็นเครือญาติของผู้ถูกร้องดำ�รงตำ�แหน่งผู้ บั ญ ชาการตำ � รวจแห่ ง ชาติ (ผบ.ตร.) การ ดำ�เนินการจึงไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ ประเทศชาติ และเป็นการดำ�เนินการไปเพื่อ ประโยชน์ของพวกพ้อง เป็นการกระทำ�ที่ ต้อง ห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ประกอบ มาตรา 266 (2) (3) จึงมีผลทำ�ให้ ความเป็น รัฐมนตรีของผูถ้ กู ร้องสิน้ สุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง ประเด็ น สุ ด ท้ า ย เมื่ อ ความเป็ น รัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ตาม อ่านต่อหน้า 3
2
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
บทบรรณาธิการ
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน และแล้วก็เหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมายังประเทศไทยเราเมือ่ ศาลรัฐธรรมนูญได้อา่ นคำ�พิพากษาในคดีเกีย่ วกับการโยกย้ายตำ�แหน่งของคุณ ถวิล เปลี่ยนศรี จึงมีผลให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีอีกจำ�นวน 9 ท่าน ต้องหลุดพ้นจากตำ�แหน่งในทันที ถ้ามองในแง่ดี คำ� พิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญก็ช่วยให้เรื่องที่ทั้งฝ่าย กปปส. และฝ่ายเสื้อแดงที่ถกเถียงกันมานานว่านายกรัฐมนตรีควรจะต้องออกจากตำ�แหน่งหรือไม่ เป็นสิ่งที่ช่วยยุติการถกเถียงกันได้ แต่ ก็ท�ำ ให้เกิดสุญญกาศทางการเมือง คงเป็นครัง้ แรกของประเทศไทยทีเ่ ราขาดนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีในชัว่ ขณะ และก็ยงั เป็นทีถ่ กเถียงกันต่อไปว่าเราควรจะต้องทำ�กันอย่างไร แสงอุโมงค์ ปลายทางอยู่ที่ไหน และเราจะผ่าทางตันนี้กันได้อย่างไร เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศโดยเร็ว สิ่งนี้คงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ถ้าหากทุกฝ่ายยอมที่จะหันหน้าเจรจากัน ช่วยกันเสนอ ยอมรับข้อเสนอของแต่ละฝ่าย ยอมถอยกันคนละก้าว โดยคำ�นึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก ปัญหาเหล่านี้ก็คงจะแก้ไขกันได้ไม่ยากนะคะ ในขณะทีท่ างฝ่ายบริหารเกิดภาวะสุญญกาศทางการเมืองซึง่ ต้องขาดนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอกี 9 ท่านนัน้ ก็เป็นทีน่ า่ ยินดีทที่ างฝ่ายนิตบิ ญ ั ญัตคิ อื ทางวุฒสิ ภาทีส่ ามารถเลือกตัง้ ประธานวุฒิสภาได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือท่านสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ซึ่งท่านเคยเป็นกรรมการบริหารของทางสภาทนายความ และได้ช่วยงานอื่น ๆ ของสภาทนายความมากมายมาโดย ตลอด ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับท่าน ส.ว. สุรชัย เลี้ยบุญเลิศชัยด้วย ที่ได้สร้างชื่อเสียงและเป็นหน้าเป็นตาให้กับคนในวงการทนายความของเรา ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำ�พิพากษาดังกล่าว ทางฝ่าย กปปส. ก็เริ่มเคลื่อนขบวนแบบดาวกระจายอีกครั้ง และได้ย้ายเวทีหลักจากสวนลุมพินี มารวมตัวกันใหม่ที่หน้าที่ทำ�การ สหประชาชาติ และกลับมาปิดถนนราชดำ�เนินทั้งสายอีกครั้งหนึ่ง โดยได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อวุฒิสภาให้สรรหานายกฯ และรัฐบาลที่เป็นกลางมาบริหารประเทศชั่วคราวโดยเร็ว เพื่อวางแนวทาง ในการปฏิรูปประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป มิเช่นนั้นแล้ว ทาง กปปส. จะดำ�เนินการด้วยวิธีการของตนเอง แต่ในทางฝ่ายคนเสื้อแดงก็ประกาศจุดยืนของฝ่ายตนเองเช่นกันว่าจะไม่ ยอมรับนายกฯ คนกลางและให้เดินหน้าเลือกต้องในวันที่ 20 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ให้ได้ นอกจากความวุน่ ไหวสัน่ สะเทือนทางการเมืองกับเก้าอีข้ องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอกี 9 ท่าน ก็เกิดภัยธรรมชาติครัง้ ใหญ่ทางภาคเหนือของประเทศไทยเช่นกัน การเกิดแผ่นดิน ไหวครั้งใหญ่ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งทำ�ให้บ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง สถานที่ราชการ และวัดวาอารามต้องเสียหายไปหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งเหตุเกิดแผ่นดินไหวนี้มีความรุนแรงถึง 6.1 ริก เตอร์ และยังมี after shock ตามมาอีกกว่า 400 ครั้ง และยังคงไหวต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ทีเดียว ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของประเทศไทยเราก็ว่าได้ เราคงต้องช่วยกันสวดอธิษฐานให้พระสยามเทวาธิราชจงปกปักษ์รักษาประเทศชาติของเราให้ผ่านวิกฤติทั้งทางการเมืองและทางธรรมขาติในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี และขอให้ปกปักษ์ รักษาคนไทยทุกคนด้วยนะคะ แอน พี. วรรณประทีป บรรณาธิการ
เรื่องและภาพโดย ปองกานต์ ขุนภาษี เรายินดีมากที่คณ ุ จะมาร่วมงาน นี่คือเอกสารการ จ้างงาน คุณอ่านรายละเอียดและเซ็นได้เลยค่ะ
ขอบคุณ มากค่ะ
31 ธันวาคม 25XX
สิ้นปีซะที! รอเงินเดือน ออก พร้อม โบนัส หุหุ
เซ็นเลย นะคะ!
ณ บริษัท XXX
ชั้นก็จะปรี๊ด เหมือนกัน แล้วนะยะ!
อะไรกันเนี่ย!
นี่สิ้นปีแล้ว แต่ทาไมดิชั้น ไม่ได้โบนัส เลยล่ะคะ!?
นี่คุณ! สัญญาจ้างฯระบุชัดเจน! ต้องเป็นไปตามนี้ โบนัสการัน ตี 2 เดือน! สัญญาต้องเป็น สัญญา เป็นหลักกม.ทั่วไปย่ะ! เดี๋ยวฟ้องซะเลยนี่!
อะไรกันคุณ กม.ไม่ได้กาหนดให้นายจ้าง ต้องจ่ายโบนัสให้พนักงานซักหน่อย!
นายจ้าง
แป่วว.. จบ
หนังสือพิมพ์ลอว์นิวส์ จัดทำ�โดยสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ปรึกษา นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายพูลศักดิ์ บุญชู ผศ. ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุรพล สินธุนาวา นายชวน คงเพชร ดร. สุธรรม วลัย เสถียร, นายสุมิตร มาศรังสรรค์, นายนิวัติ แก้วล้วน, ดร. เกียรติศักดิ์ วรวิทย์รัตนกุล บรรณาธิการ, ผู้พิมพ์, ผู้โฆษณา นางแอน พลอยส่องแสง กองบรรณาธิการ นายสุวิทย์ เชยอุบล นายสุนทร พยัคฆ์ นายวิเชียร ชุบไธสง นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ นายสุชาติ ชมกุล นายชลิต ขวัญแก้ว ร้อยตรีสุรศักดิ์ รอนใหม่ นายพิเชฐ คูหาทอง นายอาสา เม่นแย้ม นายผาติ หอกิติ ติกลุ นายวิทยา แก้วไทรหงวน นายวันรัฐ นาคสุวรรณ นายโอฬาร กุลวิจติ ร นายวีรวัฒน์ จิตต์ปรุง ศิลปกรรม นายฉัตรชัย ทองศักดิ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567 แฟกซ์ 0-2282-9908 E-mail : lawnewslct@gmail.com
ลอว์นิวส์ ต่อจากหน้า 1 : การเมืองไทยส่อวุ่นยืดเยื้อ กรณีคณะรัฐบุคคล นำ�โดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สส. และนายไชยวัฒน์ สิน สุวงศ์ แกนนำ�กลุม่ เครือข่ายคนไทยหัวใจรัก ชาติ พยายามเสนอทางออกทีไ่ ม่ตา่ งจากข้อ เสนอของนายสุเทพ ในลักษณะแยกกันเดิน ร่วมกันตีแต่ไม่พดู ตรงๆ ว่า ต้องการนายกฯ มาตรา 7 แต่กลับผลักภาระไปให้ ผบ.ทบ. เป็นผู้ทูลเกล้าฯ เสนอนายกฯ มาตรา 7 ซึ่ง ตนมองว่า ความคิดของ พล.อ.สายหยุดเป็น ความคิดที่ตกยุค และขอเรียกร้องว่า หาก พ.อ.สายหยุด ไม่อยากเสียคนตอนแก่ อย่า เอาแต่ใจตัวเอง ควรไปเรียกร้อง กกต. ให้ เร่ ง จั ด การเลื อ กตั้ ง เรี ย กร้ อ งให้ พ รรค ประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง เรียกร้องให้นายสุ เทพและกลุ่ม กปปส. อย่าขัดขวางการเลือก ตั้ง จะดีกว่าการโยนภาระให้กองทัพ “ผมขอชื่ น ชม พล.อ.ประยุ ท ธิ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ออกมาแสดงจุดยืนว่า ต้องรักษากฎกติกา และกองทัพต้องฟังคำ�สัง่ ของ ศอ.รส. ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดย กองทัพจะต้องยืนหยัดอย่างไรก็ตามจุดยืน ของผบ.ทบ.ขณะนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นหลักให้ บ้านเมือง และจะสามารถแก้ปัญหาบ้าน เมืองได้” นายพร้อมพงศ์กล่าว แดงพร้อมลุย หากมีนายก ม.7 วันเดียวกัน ที่เวทีการชุมนุมแนว ร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอุทยาน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แถลงว่า นปช. ขอยืนยันว่า กรณีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ตามข้อเรียกร้องของ นายสุเทพ เทือก สุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เป็นสิ่งที่ผิด กฎหมายและยังเป็นการสร้างวิกฤตให้เกิด ขึน้ ในประเทศตัง้ แต่ทมี่ าของนายสุรชัย เลีย้ ง บุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภาไม่ถูกต้อง มาตั้งแต่แรก เพราะมีการสอดไส้วาระการ ประชุมในการเลือกประธานวุฒิสภา อีกทั้ง ประเทศยังไม่เข้าสู่สุญญากาศทางการเมือง ที่ จ ะต้ อ งมี ก ารเลื อ กนายกรั ฐ มนตรี ต าม มาตรา 7 ดังนั้นหากวันนี้ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ทาง นปช. จะมีการแถลงการณ์ยกระดับการ ชุมนุมครั้งใหญ่ทันที นายจตุพร กล่าวอีกว่า นอกจาก นี้ขอเรียกร้องให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ที่ดูแลกิจการการเลือกตั้ง ให้ทบทวน บทบาทการทำ�หน้าที่ของตนเอง ว่าปฏิบัติ หน้าทีข่ องตัวเองดีแล้วหรือไม่ซงึ่ เห็นได้จาก การเลือกตัง้ เมือ่ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ทผี่ า่ นมา กกต. ยังอยากทำ�หน้าทีข่ องตัวเองต่อไปหรือ ไม่ เพราะอยู่ไปก็เปลืองข้าวสุก ทั้งนี้ นปช. ไม่ได้กระหายการเลือกตั้ง แต่ยืนยันจุดยืน ของตนไม่เอานายกรัฐมนตรีมาตรา 7 และ รัฐประหาร “สุรชัย” วอนทุกฝ่ายช่วยกันหาทางออก วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่ รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รอง ประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และว่าที่ประธาน วุฒิสภา แถลงข่าวก่อนเป็นประธานการ
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ประชุมสมาชิกวุฒิสภานอกรอบ เพื่อหารือแก้ไข ปัญหาทางการเมืองว่า เนื่องจากเราเฝ้าติดตาม การแก้ปัญหาบ้านเมืองมา 6-7 เดือนแล้ว แต่ กลไกฝ่ายบริหารที่มีหน้าที่โดยตรงทั้งรัฐบาล ศูนย์อำ�นวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ. รส) กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทยไม่มี ทีท่าว่าจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ดังนั้นใน ฐานะวุฒิสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติที่เหลืออยู่ เพียงองค์กรเดียวไม่สามารถนิง่ เฉยได้จงึ ขอความ กรุณาทุกฝ่ายอย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง ตนยังไม่ เคยมีการเสนอแนวทางใดออกมาทั้งสิ้น ตนรับ ทุกข้อเสนอ แต่สุดท้ายการตัดสินใจต้องอยู่บน พื้ น ฐานของประเทศชาติ แ ละประโยชน์ ข อง ประชาชนถ้ า ไม่ อ ยากให้ มี ก ารหยิ บ นายก รั ฐ มนตรี ม าตรา 7 ขึ้ น มา ก็ ต้ อ งช่ ว ยกั น หา ทางออกของประเทศให้ได้ “แค่ ป ระชุ ม วุ ฒิ ส ภาวั น แรกก็ ยั ง มี พรรคการเมืองบางพรรคจะแจ้งจับผมและคณะ ในข้อหากบฏ แต่ผมทำ�งานในฐานะวุฒสิ ภาเป็น ผู้ แ ทนปวงชนชาวไทย ขอความกรุ ณ าอย่ า บั่นทอนกำ�ลังใจในการทำ�งานเพื่อชาติและบ้าน เมือง หาก ส.ว. ท้อแท้ ผมและคณะจะวางมือ เรา ทำ�งานในฐานะนิติบัญญัติ ซึ่งตอนนี้แทบไม่มี งานอะไรให้เราทำ�เลย เราจะขอเปิดประชุมสมัย วิสามัญก็มีปัญหารายทางเต็มไปหมด ทั้งนี้หาก มี ห น่ ว ยงานไหนออกมายื น ยั น ให้ พี่ น้ อ ง ประชาชนมัน่ ใจว่า พร้อมทีจ่ ะนำ�ความสงบคืนให้ ประเทศชาติผมและคณะก็พร้อมทีจ่ ะถอนตัวออก จากภารกิจนี้ทันที ดังนั้นระหว่างที่ผมและคณะ ทำ�งานอย่าบั่นทอนกำ�ลังใจกัน เรามาจับมือช่วย กันทำ�งานก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ให้ได้ เชื่อมั่นว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น” นายสุรชัย กล่าว เมื่อถามว่า วันนี้ตัวแทนรัฐบาลไม่มา มี ก ารส่ ง ตั ว แทนหรื อ จะมี ก ารนั ด หมายฝ่ า ย รัฐบาลอีกครั้งหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ตน มอบหมายให้เลขาสำ�นักงานวุฒสิ ภาติดต่อไปยัง ฝ่ายรัฐบาล โดยตนเปิดกว้าง ส่วนกรณีทมี่ กี ลุม่ ผู้ ชุมนุม กปปส. อยู่บริเวณรอบรัฐสภานั้นจะเป็น อุปสรรคให้ฝา่ ยรัฐบาลไม่กล้าเข้ามาชีแ้ จงหรือไม่ นั้น ตนเห็นว่าอาคารรัฐสภายังสามารถเข้า ออก ได้ด้วยความปลอดภัย เพราะสมาชิกวุฒิสภาทุก คนก็ เข้ า ออกได้ อ ย่ า งปลอดภั ย แต่ ห ากฝ่ า ย รัฐบาลกังวลก็พร้อมหาสถานที่อื่นเพื่อรองรับได้ จึ ง ขอให้ ม าช่ ว ยกั น ระดมความเห็ น เพื่ อ แก้ ไข ปัญหาดีกว่า “เทือก” ขอ ส.ว. เดินหน้า ต่อมา เวลา 16.00 น. นายสุเทพ เทือก สุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำ� อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายบรรเจิด สิงคะเนติ นายสมบัติ ธำ�รงธัญวงศ์ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ร่วมอ่าน แถลงการณ์ของ กปปส.ฉบับที่ 2 โดยนายสุเทพ ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ประเทศในขณะนี้อยู่ใน ภาวะที่ ไ ม่ มี น ายกรั ฐ มนตรี บ ริ ห ารราชการ แผ่นดิน ส่วนผู้ที่อ้างว่ารักษาการนายกฯ ไม่มี อำ � นาจตามกฎหมายที่ จ ะสั่ ง การการบริ ห าร ราชการแผ่นดินสถานการณ์แบบนีห้ ากปล่อยไป จะส่ ง ผลเสี ย หายต่ อ ประเทศ เพราะหลั ง จาก รัฐบาลยุบสภาก็มีปัญหาอยู่แล้ว อาทิ การจ่าย เงินให้ชาวนา และขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจของ ประเทศก็มีมากขึ้นจนเศรษฐกิจจะเข้าสู่สภาวะ ชะงักงันและผูท้ อี่ า้ งว่าเป็นรักษาการแทนนายกฯ ก็ ไ ม่ ส ามารถใช้ น โยบายการคลั ง มากระตุ้ น
เศรษฐกิจแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้ ยิ่งจะ เป็นการซ้�ำ เติมปัญหาปากท้องของประชาชน จึงเป็นความจำ�เป็นเร่งด่วนที่จะต้องหานา ยกฯ และรัฐบาลอำ�นาจเต็มมาทำ�หน้าที่ โดย ต้องทำ�ตามประเพณีการปกครองของไทยที่ ผ่านมา ซึง่ มีวฒ ุ สิ ภาเพียงองค์กรเดียวทีเ่ ป็น องค์กรโดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นอำ�นาจ โดยชอบธรรมทีว่ ฒ ุ สิ ภาจะเร่งหารัฐบาลใหม่ มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จ่ายเงินให้ชาวนา และเดิ น หน้ า ปฏิ รู ป ประเทศให้ เ ป็ น ประชาธิ ป ไตยที่ ส มบู ร ณ์ อั น มี พ ระมหา กษัตริยเ์ ป็นประมุข จึงขอถือโอกาสนีบ้ อกไป ยังประชาชนทุกภาคส่วน ทุกองค์กร ช่วยกัน เรียกร้องไปยังประธานวุฒสิ ภาเพือ่ ให้หานา ยกฯ ตามความคาดหวังของประชาชนโดย ทันที
ต่อจากหน้า 1 : ยิ่งลักษณ์ พ้นเก้าอี้ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) จะทำ�ให้ความเป็น รัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องสิ้นสุด ลงด้วยหรือไม่ ศาลเห็นว่า เฉพาะคณะรัฐมนตรี ทุกคนที่ร่วมประชุมและลงมติโยกย้าย นาย ถวิล เปลี่ยนศรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 6 กันยายน 2554 เป็นเหตุให้ความเป็น รัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวไปด้วย “ยิ่งลักษณ์” แถลงขอบคุณ ต่อมา ในเวลา 16.00 น. ทีส่ �ำ นักงาน ปลั ด กระทรวงกลาโหม ถนนแจ้ ง วั ฒ นะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงข่าวภายหลัง ฟังคำ�ตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่า ตลอด ระยะเวลาทีร่ ฐั บาลนีไ้ ด้ท�ำ หน้าที่ และตนได้ท�ำ หน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ได้ทำ�หน้าที่ อย่างเต็มที่ในการที่จะขับเคลื่อนนโยบายของ รัฐบาลตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาเพื่อพัฒนา ประเทศและความเป็นอยูข่ องประชาชนทัง้ เรือ่ ง เศรษฐกิ จ ในการสร้ า งสมดุ ล ให้ ร ะบบ เศรษฐกิจ สร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจทั้ง ภายในและนอกประเทศ ด้านสังคมที่มุ่งสร้าง ความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน แก้ปัญหา ความเหลือ่ มล้� ำ ลดช่องว่างของผูท้ รี่ ายได้นอ้ ย และผูม้ รี ายได้มาก เพือ่ ให้ประชาชนมีคณ ุ ภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ รวมถึงการพัฒนาให้ไทยมีบทบาทอยู่ ในเวทีของอาเซียนเพื่อเป็นศูนย์กลางเพื่อก้าว สู่ประชาคมอาเซียน ยืนยันว่าตนและรัฐบาล ตั้งใจ ทุ่มเทในการทำ�งานเพื่อประชาชน ตาม ที่ประชาชนได้ไว้วางใจเลือกรัฐบาลนี้ โดยยึด หลักความซือ่ สัตย์สจุ ริตและไม่มพี ฤติกรรมการ ทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ให้อื่นผู้ใด หรือ การฝ่าในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญอย่างที่กล่าว หา นอกจากนี้ มีการดำ�เนินการขับเคลื่อน นโยบายเรื่องการทุจริตเสมอมา ทัง้ นี้ ขอถือโอกาสนีข้ อขอบคุณพีน่ อ้ ง ข้าราชการที่สนับสนุนการทำ�งานของรัฐบาล ตลอด 2 ปีทผี่ า่ นมา ทีส่ �ำ คัญขอบคุณประชาชน ที่ให้ความไว้ใจตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับใช้ประชาชนตลอดมาและกำ�ลังใจที่ให้ ตลอดการทำ�งานไม่วา่ ช่วงยากลำ�บากเพียงใด ช่ ว งที่ เ ดื อ ดร้ อ นในการแก้ ปั ญ หาเศรษฐกิ จ สังคมหรือเหตุการณ์ทางการเมืองก็ได้รบั กำ�ลัง
3
ใจเสมอมา เป็นสิ่งที่ทำ�ให้ตนมีกำ�ลังใจในการ ทำ�งานและทำ�งานด้วยความทุ่มเท ทุกครั้งท ทำ�งานเป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน 2 วัน ทุกๆ นาท ทุกๆ วันอยู่บนความภูมิใจที่เป็นได้ทำ �หน้าที่ นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนและ ก้าวเข้าสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีมาด้วยวิถีทาง ประชาธิปไตย ซึ่งตนภูมิใจที่ได้ทำ�งานในหน้าท นี้ด้วยความตั้งใจและทุ่มเท ต่อไปนี้ไม่ว่าสถานะ ใดตนขอเดินตามเส้นทางประชาธิปไตยยึดมัน่ ใน หลักนิติรัฐ นิติธรรม สุดท้ายนี้ไม่ว่าอยู่ตำ�แหน่ง ไหน ขอยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนคนไทย ตลอดไป เมื่ อ ถามว่ า ตั้ ง แต่ ทำ � หน้ า ที่ น ายก รัฐมนตรีเสียใจเรื่องไหนมากที่สุด นางสาวยิ่ง ลักษณ์ กล่าวว่า เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้รับใช้พ น้องประชาชนหลังจากนี้ เชือ่ มั่นว่า ไม่วา่ สถานะ ไหนเราก็เคียงข้างประชาชนและยืนยันจะรับใช้ ประชาชนไม่ว่าสถานะไหนก็ตาม ดิฉันเป็นเด็ก ต่ า งจั ง หวั ด มี ค วามผู ก พั น กั บ ประชาชนและที่ สำ � คั ญ เป็ น คนไทยด้ ว ยกั น ไม่ ว่ า สถานะไหนก็ ทำ�งานช่วยเหลือประเทศชาติได้
“เพื่อไทย” แถลงคัดค้าน วันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 12.30 น. ท พรรคเพื่อไทย แกนนำ�พรรคเพื่อไทยพร้อมคณะ กรรมการกิจการพรรคร่วมแถลงข่าวโต้แย้งคำ� วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายพร้อมพงศ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนอ่าน แถลงการณ์ ว่ า ตามที่ ศ าลรั ฐ ธรรมนู ญ มี คำ � วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ และรัฐมนตรีอีก 9 คนสิ้นสุดลง พรรคเห็นว่าคำ� วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายหลายประการ อาทิ การกล่าวหา รัฐมนตรีที่จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีต้อง สิน้ สุดลงเฉพาะตัว รัฐธรรมนูญมาตรา 182 วรรค หนึ่ง (7) ต้องมีการยื่นคำ�ร้องกล่าวหารัฐมนตร คนนัน้ เป็นคนคนไป หรือถ้าเห็นว่าร่วมกันทำ�ผิด ต้องกล่าวหาร่วมกันในคำ�ร้อง เมื่อไม่มีการกล่า วหารัฐมนตรีคนอืน่ ๆร่วมกระทำ�การอันต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญด้วย จึงถือว่ารัฐมนตรีเหล่านั้น เป็นบุคคลนอกคดี ไม่มโี อกาสต่อสูค้ ดีในศาล ดัง นั้นจะวินิจฉัยให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ นอกจากนี้ บางคนถู ก ปรั บ เปลี่ ย นโยกย้ า ย ตำ�แหน่ง ความเป็นรัฐมนตรีของบุคคลที่เกิดขึ้น ภายหลังย่อมจะไม่พ้นไปตามคำ�วินิจฉัย เพราะ ตำ�แหน่งเดิมได้หมดสิน้ ไปแล้ว มีการโปรดเกล้าฯ ใหม่ ถวายสัตย์ใหม่ เป็นเรื่องคณะรัฐมนตรีต่าง คณะ การทำ�หน้าที่ต่างกรรมต่างวาระ การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกฯ ก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตัง้ ข้าราชการ เป็นการ ใช้และตีความกฎหมายคลาดเคลื่อน ทำ�ให้เกิด ปัญหาต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ต่อไปเมื่อ มีการโอนย้ายข้าราชการ หากผู้ถูกย้ายไม่พอใจ จะอาศัยช่องทางยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองในที่สุด จึง เป็นครัง้ แรกทีศ่ าลรัฐธรรมนูญวินจิ ฉัย ดำ�เนินคดี และดำ � เนิ น กระบวนการพิ จ ารณาซ้ำ � กั บ ศาล ปกครอง เป็นทีน่ า่ สงสัยว่ามีเหตุผลทางการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ มีข้อน่าสงสัยว่าเหตุ ใดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายไพบูลย์ นิตติ ะวัน ส.ว.สรรหา ผูย้ นื่ คำ�ร้องจึง ได้กล่าวในหลายเวทีถึงความมั่นอกมั่นใจในผล ของคำ�วินจิ ฉัยทีจ่ ะเกิดขึน้ นายอภิสทิ ธิ์ เวชชาชีวะ อ่านต่อหน้า 4
4
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ต่อจากหน้า 3 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้ นายกฯ ตัดสินใจรับข้อเสนอของตนเองก่อนศาล รั ฐ ธรรมนู ญ จะวิ นิ จ ฉั ย คนพวกนี้ แ สดงออก เสมือนรู้ผลการวินิจฉัยล่วงหน้า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อมุ่ง หวังแย่งชิงอำ�นาจทางการเมืองโดยวิถีทางที่ไม่ เป็นประชาธิปไตย มีการวางแผนเป็นขัน้ ตอน ขัน้ ตอนแรกใช้ ก ลไกในสภา เมื่ อ ไม่ ไ ด้ ผ ลจึ ง ใช้ มวลชนกดดันนอกสภาชุมนุมขับไล่ใส่ร้ายป้ายสี แต่ยงั ไม่บรรลุผลจึงอาศัยองค์กรในกระบวนการ ยุติธรรมและองค์กรอิสระบางองค์กรเป็นเครื่อง มือ หากยังไม่ได้ผลจะมีการเคลื่อนไหวสร้าง เงื่ อ นไขให้ เ กิ ด ความรุ น แรงเพื่ อ ให้ ท หารทำ � รัฐประหาร หรือร่วมกับทหารบางกลุ่มทำ�การ รัฐประหาร โดยอาศัยประชาชนออกหน้ายึด หน่วยงานราชการต่างๆ ให้รัฐบาลไม่สามารถ บริหารและสั่งราชการได้ โดยมีทหารบางกลุ่ม หนุนหลัง เพือ่ สุดท้ายจะอ้างได้วา่ เป็นการปฏิวตั ิ ประชาชน หลังจากนั้นจะเสนอตั้งนายกฯ และ คณะรัฐมนตรีที่เตรียมการไว้ กระบวนการนี้จะ ทำ�ให้เกิดหายนะต่อบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง จะ มีประชาชนทีค่ ดั ค้านออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง จนประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พรรคเพือ่ ไทยขอเรียกร้องให้บคุ คลและ กลุม่ บุคคลทัง้ ทีแ่ สดงออกโดยเปิดเผยและทีแ่ อบ อยู่เบื้องหลัง เพื่อหวังได้อำ �นาจการปกครอง ประเทศโดยวิถที างนอกรัฐธรรมนูญได้ส�ำ นึกและ เห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความ เดือดร้ อนของพี่ น้ อ งคนไทยทั้ ง ประเทศ และ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจและการลงทุน รวมถึง ความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ ยุติการกระทำ� และร่วมกันเดินหน้าจัดการเลือกตัง้ ให้ส�ำ เร็จตาม ที่ กำ � หนดไว้ เพื่ อ จะได้ รั ฐ บาลที่ ม าจากความ ยินยอมของคนไทยทั้งประเทศ ฝ่ายกฎหมาย พรรคจะศึกษาคำ�วินจิ ฉัยส่วนตัวของตุลาการศาล รัฐธรรมนูญอย่างละเอียด อาจฟ้องร้องประเด็น ทีว่ นิ จิ ฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีทงั้ 9 คนสิน้ สุดลง ขั ด ต่ อ รั ฐ ธรรมนู ญ หรื อ ไม่ เพราะไม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ น คำ�ร้อง ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจง ด้ า นนายนพดล ปั ท มะ ที่ ป รึ ก ษา กฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวว่า พรรคเพือ่ ไทยได้รบั ทราบจากข้าราชการ ระดั บ สู ง ว่ า มี ข บวนการสมคบคิ ด ล้ ม รั ฐ บาล พยายามให้มกี ารตัดสินคดีให้รฐั มนตรีทยี่ งั เหลือ อยู่หลุดออกจากตำ�แหน่งตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ไป เพื่อเปิดทางให้มีนายกฯ คนกลาง การวินิจฉัย ใดๆ ที่จะเกิดขึ้นต้องอธิบายได้ โดยเฉพาะคณะ ป.ป.ช.ต้องยึดมั่นในกฎหมาย สำ�นวนคดี และ ต้องยึดโยงเฉพาะบุคคลทีถ่ กู ไต่สวนเท่านัน้ หาก วินิจฉัยแล้วทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการ เมืองจะเกิดกลียุค และสงครามกลางเมือง ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เห็นว่าการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย การตัดสิน 9 รัฐมนตรีให้พ้นจาก ตำ�แหน่งไม่เป็นธรรม ไม่เปิดโอกาสให้ชแี้ จงหรือ โต้ แ ย้ ง การโยกย้ า ยนายถวิ ล เปลี่ ย นศรี เลขาธิการสมช. พ.ต.ท.ทักษิณเห็นว่า ทำ�ถูกต้อง ไม่ผิดอะไรคล้ายสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่โยก ย้ายเลขาธิการ สมช.
นิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) และอดีตประธาน รัฐสภา ออกแถลงการณ์ “แนวทางปฏิบัติภาย หลั ง ศาลรั ฐ ธรรมนู ญ วิ นิ จ ฉั ย ให้ ค วามเป็ น รัฐมนตรีของนายกฯและรัฐมนตรีอื่นสิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7)” ว่า 1.ครม. ควร รอคำ�วินิจฉัยกลางและคำ�วินิจฉัยส่วนตนของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาก่อน 2.ครม.ควรนำ�คำ�วินจิ ฉัยนัน้ หารือ กับคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าได้วินิจฉัยเป็นไป ตามหลักนิติธรรมหรือไม่ เนื่องจากตุลาการที่ เป็นองค์คณะพิจารณาวินจิ ฉัยเป็นผูม้ สี ว่ นได้เสีย กับเรื่องที่พิจารณา อีกทั้งการวินิจฉัยคดีไม่มี กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธพี จิ ารณา ของศาลรัฐธรรมนูญรองรับ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคหก ส่งผลให้ค�ำ วินจิ ฉัยมีปญ ั หา ความไม่ช อบด้ว ยรัฐธรรมนู ญ ตกไปทั้ งฉบั บ 3.ระหว่างรอคำ�วินิจฉัยและความเห็นของคณะ กรรมการกฤษฎีกา ให้นายกฯ และรัฐมนตรี ทัง้ หมดอยูใ่ นตำ�แหน่งปฏิบตั หิ น้าทีต่ อ่ ไป จนกว่า ครม.ใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 4.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำ�เนินการเลือกตั้ง ส.ส.โดยเร็วเพื่อให้ได้ ครม. ชุดใหม่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ ควร ทำ�ประชามติไปในคราวเดียวกันว่า ครม.ชุดเดิม จำ�เป็นต้องปฏิบัติตามคำ�วินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 5.ประชาชนที่ไม่เห็น ด้วยกับการวินจิ ฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือเห็น ว่ า การพิ จ ารณาวิ นิ จ ฉั ย คดี ที่ ผ่ า นมาของศาล รัฐธรรมนูญได้กระทำ�ไปโดยไม่มกี ฎหมายรองรับ อันเป็นการจงใจใช้อ�ำ นาจหน้าทีข่ ดั ต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย สามารถเข้าชือ่ กัน ไม่น้อยกว่า 20,000 คน เพื่อขอให้ถอดถอน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกจากตำ�แหน่งได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164
ป.ป.ช. ชี้มูลจำ�นำ�ข้าว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ทีส่ �ำ นักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุ จ ริ ต แห่ ง ชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุมคณะ กรรมการ ป.ป.ช. เพื่ อ พิ จ ารณาการไต่ ส วน ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี กรณีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการ ทุจริตและเกิดความเสียหายในโครงการรับจำ�นำ� ข้าว ภายหลังการประชุมเป็นเวลา 6 ชั่วโมง นาย ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าว ว่า องค์คณะไต่สวนได้รวบรวมข้อเท็จจริงคดี จำ�นำ�ข้าวส่งให้ทปี่ ระชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่พจิ ารณา ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ว่า มีมลู เพียงพอทีจ่ ะส่งเรือ่ งให้ ส.ว. ดำ�เนิน การถอดถอนนางสาวยิง่ ลักษณ์ออกจากตำ�แหน่ง ต่อไป ก่อนหน้านีอ้ งค์คณะไต่สวนกรณีจ�ำ นำ� ข้าวได้ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีมติ 7 ต่อ 0 ว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหามีมูลเป็นการส่อว่า จงใจใช้อำ�นาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 และส่ อ ว่ า จงใจใช้ อำ � นาจหน้ า ที่ ขั ด ต่ อ บทบั ญ ญั ติ ก ฎหมาย อั น เป็ น เหตุ แ ห่ ง การ ถอดถอนออกจากตำ�แหน่ง จึงส่งสำ�นวนให้ที่ ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่พิจารณา ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช. พิจารณาเห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาดำ�รง ฉะคำ�วินิจฉัยไม่ชอบด้วย รธน. วันเดียวกัน นายอุกฤษ มงคลนาวิน ตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีและอยู่ในฐานะหัวหน้า ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลัก รัฐบาล ซึ่งได้กำ�หนดนโยบายจำ�นำ�ข้าวมาตั้งแต่
ต้น และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบาย ข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีอำ�นาจกำ�หนดนโยบาย และมีส่วนร่วมบริหารโครงการ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้มี หนังสือแจ้งไปยังผูถ้ กู กล่าวหา 2 ครัง้ ว่า โครงการ ดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาและความเสียหาย อย่างยิง่ ในการทุจริตทุกขัน้ ตอนของกระบวนการ รั บ จำ � นำ � ข้ า ว อี ก ทั้ ง ผู้ ถู ก กล่ า วหายั ง รั บ ทราบ ปัญหาการดำ�เนินโครงการจากการอภิปรายใน สภาฯ และรายงานผลการดำ�เนินโครงการทีผ่ า่ น มาว่า มีผลขาดทุนสะสมสูงถึง 3 แสนล้านกว่า บาท นอกจากนี้ หนังสือของสำ�นักงานตรวจ เงินแผ่นดินได้แจ้งผลการตรวจสอบโครงการสรุป ว่าโครงการมีจุดอ่อนและความเสี่ยงทุกขั้นตอน ตัง้ แต่การขึน้ ทะเบียนเกษตรกรจนถึงการระบาย ข้าวเป็นช่องทางนำ�ไปสู่การสวมสิทธิการจำ�นำ� และการทุจริต เกิดผลกระทบสร้างความเสียหาย ต่องบประมาณแผ่นดินและเสี่ยงต่อระบบการ คลังของประเทศ ไม่เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน แม้ พยานหลักฐานในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าผู้ ถูกกล่าวหามีส่วนร่วมในการทุจริตหรือสมยอม ให้เกิดการทุจริต แต่การทีผ่ ถู้ กู กล่าวหาไม่บริหาร ราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามนโยบายบริหาร ราชการแผ่นดินทีแ่ ถลงไว้ตอ่ สภาฯว่า จะป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐอย่างจริงจัง โดยยึดหลักความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของ การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และไม่พิจารณา ระงับยับยัง้ โครงการตัง้ แต่เริม่ รับทราบความเสีย หายอันร้ายแรงที่สุดของประเทศอันเกิดจากการ ดำ�เนินโครงการ ดั ง นั้ น ที่ ป ระชุ ม ป.ป.ช. มี ม ติ 7 ต่อ 0 ว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการส่อ ว่าจงใจใช้อ�ำ นาจหน้าทีข่ ดั ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 และส่ อ ว่ า จงใจใช้ อำ � นาจหน้ า ที่ ขั ด ต่ อ บทบัญญัติกฎหมายตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน มาตรา 11 (1) อันเป็นเหตุแห่ง การถอดถอนผูถ้ กู กล่าวหาออกจากตำ�แหน่งตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 270 จึงให้ส่งสำ�นวนไปยัง วุฒิสภา เพื่อดำ�เนินการตามอำ�นาจหน้าที่ต่อไป แม้นายกฯ จะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้น จากตำ�แหน่งไปแล้ว แต่ ป.ป.ช. ต้องส่งเรื่องให้ ส.ว.พิจารณาถอดถอนต่อไป เพราะหากนายกฯ ถูก ส.ว. ลงมติถอดถอน จะมีผลต่อการถูกตัดสิทธิ ทางการเมือง 5 ปี คาดว่าจะส่งเรือ่ งไปให้วฒ ุ สิ ภา ได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนการไต่สวนคดีอาญาของ นางสาวยิง่ ลักษณ์และบุคคลอืน่ ๆ อยูร่ ะหว่างการ ไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่ง ป.ป.ช.จะไต่สวนต่อไป จนกว่าสิ้นกระแสความ จะไม่ตัดพยานที่ผู้ถูก กล่าวหานำ�มาอ้างขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเพิ่มเติม ล่าสุด ให้นำ�พยานส่วนนี้ไปพิจารณาในสำ�นวน คดีอาญาต่อไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะ พิจารณาเสร็จเมื่อใด ส่วนกระแสข่าวทีว่ า่ ป.ป.ช.จะพิจารณา เอาผิดไปถึงนายนิวฒ ั น์ธ�ำ รง บุญทรงไพศาล รอง นายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนา ยกฯ ตลอดจน ครม. คนอื่นๆ ที่ร่วมเห็นชอบใน โครงการรับจำ�นำ�ข้าวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความ จริง กรณีนเี้ ป็นการร้องเอาผิดเฉพาะนายกฯเพียง คนเดี ย วเท่ า นั้ น นายนิ วั ฒ น์ ธำ � รงไม่ มี ส่ ว น เกี่ ย วข้ อ งกั บ คดี ด้ ว ย เป็ น เพี ย งพยานที่ ป.ป.ช.เรี ย กมาให้ ก ารในฐานะพยานบุ ค คล เท่านั้น นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ยืนยันว่า ป.ป.ช.เปิดโอกาสให้
นางสาวยิ่งลักษณ์ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ตาม ระเบียบของ ป.ป.ช. โดยให้นางสาวยิ่งลักษณ์ อ้างพยานหลักฐานและชี้แจงอย่างเต็มที่ ส่วน การตัดพยาน 7 ปากของนายกฯ นัน้ เนือ่ งจาก เห็นว่า ป.ป.ช. เห็นว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ คดี แ ละ ป.ป.ช. มี ข้ อ มู ล ในส่ ว นนี้ อ ยู่ แ ล้ ว อย่างไรก็ตามล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ยนื่ ขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 6 ปาก ซึ่ง เป็นพยานใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพยานที่เคย เสนอมาก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. จะไม่ตัดพยาน เหล่านี้ นำ�พยานทั้ง 6 ปาก ไปพิจารณารวม ในการไต่สวนคดีอาญาต่อไป เพือ่ ให้ความเป็น ธรรม ด้านนายพิชติ ชืน่ บาน ทีมกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนที่ ป.ป.ช. จะชี้มูล ความผิดโครงการจำ�นำ�ข้าว ทีมทนายได้ไปยืน่ หนังสือขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มอีก 6 ปาก เป็นพยานใหม่ทั้งหมด เป็นข้าราชการ ประจำ� 5 ปาก อาทิ อธิบดีและรองอธิบดีกรม การค้าภายใน และอีก 1 ปาก เป็นพ่อค้าข้าว เพื่ อ นำ � มาหั ก ล้ า งข้ อ กล่ า วหาของคณะ อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำ�นำ�ข้าวที่ว่า โครงการขาดทุ น รวมถึ ง ชี้ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า การ กำ�หนดราคาข้าว 15,000 บาทต่อตัน ไม่ใช่ เรือ่ งเสียหาย และไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ ของประเทศ แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมฟังพยานทีเ่ ป็น นั ก การเมื อ ง จึ ง เปลี่ ย นเป็ น พยานที่ เ ป็ น ข้าราชการและพ่อค้า เผื่อ ป.ป.ช. จะฟังคำ� ชี้แจงบ้าง เมื่อ ป.ป.ช. ไม่รับฟัง และลงมติชี้ มู ล ความผิ ด นายกฯ ในคดี ถ อดถอนแล้ ว นางสาวยิ่งลักษณ์คงต้องเตรียมหลักฐานไป ชี้แจงในชั้นวุฒิสภาต่อไป ลุ้นฟันอาญาเพิ่ม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พอใจ ในการตัดสินและการทำ�หน้าที่ของ ป.ป.ช. ถือว่าอธิบายได้ชัดเจน แต่สิ่งที่ต้องลุ้นกันต่อ ไปคือคดีทุจริต ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ หากมีความผิดจะถูกส่งสำ�นวนไปยัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำ�รงตำ�แหน่ง ทางการเมือง แม้นางสาวยิ่งลักษณ์จะขอเพิ่ม พยานอีก 6 ปาก โดย ป.ป.ช. อนุญาตก็ตาม แต่ถา้ ไม่มสี าระใหม่ ป.ป.ช. สามารถตัดพยาน ได้ เชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์คงไม่รอด เพราะ ข้อเท็จจริงยังคงเป็นข้อเท็จจริงเดียวกับผลของ การถอดถอน และ ป.ป.ช. ได้สอบเรื่องนี้มา 1 ปี 10 เดือนแล้ว หากผลสอบพัวพันไปถึงใคร ในการขายข้าวแบบจีทูจี หรือรัฐต่อรัฐ เช่น บริษัทค้าข้าวต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วย ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ โดนข้อหาละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่ผิดมาตรา 157 อีก ครม. ที่ร่วม ลงมติก็ต้องถือว่าร่วมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไปด้วย
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
5
ขบข่าวเอามากั ด ABC นิรนาม
tnews.co.th
กปปส. = กลับไปปิดสภา? ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ไม่มีใคร ไม่ รู้ จั ก “ลุ ง กำ � นั น ” ในฐานะเลขาธิ ก าร กปปส. หรือ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อ การเปลี่ ย นแปลงประเทศไทยให้ เ ป็ น ประชาธิปไตยทีส่ มบูรณ์อนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข” (ถามจริงๆ เถอะว่า จะมีสัก กี่คนที่ท่องชื่อนี้ได้โดยไม่ผิดแม้แต่คำ�เดียว) เป็นชื่อกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ยาวที่สุด ตั้งแต่มีการบันทึกมา ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง ชาติ” หรือ นปช. ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น “ลุงกำ�นัน” เริ่มชุมนุมมาตั้งแต่ “วันปล่อยผี” 31 ตุลาคม 2556 โดยครั้งแรก มี เ ป้ า หมายสำ � คั ญ ที่ ก ารต่ อ ต้ า น พ.ร.บ. นิ ร โทษกรรมเหมายกเข่ ง จนยกระดั บ มา เป็นการขับไล่รฐั บาลในทีส่ ดุ ตลอดระยะเวลา การชุมนุม มีการประกาศระดมพลเดินขบวน อยูห่ ลายครัง้ แต่ครัง้ ทีฮ่ อื ฮากับมากทีส่ ดุ ก็คอื เมื่ อ วั น ที่ 24 พฤศจิ ก ายน และวั น ที่ 9 ธันวาคม ทีม่ มี วลมหาประชาชนมาร่วมขบวน กั น เป็ น จำ � นวนมาก โชคดี ที่ ข ณะนั้ น ประเทศไทยอยูใ่ นช่วงฤดูหนาวทีก่ รุงเทพฯ มี มวลมหาอากาศเย็นมากกว่าหลายๆ ปีทผี่ า่ น มา หลายคนจึงเลือกออกมา “เดินเล่น” บน ท้องถนน เป็นการเปลีย่ นบรรยากาศและเพิม่ ตัวเลขให้ผู้เดินขบวนในคราวนั้น ในช่วงแรก ทุกคนต่างคาดว่าจะ ชุมนุมกันไม่นาน ไม่เกินวันที่ 5 ธันวาคม เพราะไม่มีใครเคยชุมนุมทางการเมืองในวัน
สำ�คัญนี้ แม้กระทัง่ คราวทีพ่ นั ธมิตรประชาชน เพื่ อ ประชาธิ ป ไตย (นี่ ก็ ชื่ อ ยาวไม่ แ พ้ กั น ) ชุมนุมขับไล่อดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมือ่ ปี 2551 ก็รบี ฉวยโอกาสทีศ่ าลรัฐธรรมนูญ มีคำ�วินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน ใน การสลายโต๋ จ ากการชุ ม นุ ม ในวั น ที่ 2 ธันวาคม แต่ใครจะเชื่อ ผ่านวันปีใหม่มาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งปีใหม่ฝรั่ง (1 มกราคม) ปีใหม่จีน (วันตรุษจีน) ปีใหม่ไทย (วันสงกรานต์) ม็อบ ลุง กำ�นัน ก็ยัง ไม่ย อมแยกย้ า ยไปไหนกั น เสียที มีแต่จะเคลือ่ นย้ายเวทีการชุมนุมไปทัว่ กรุงเทพฯ เท่านั้น ถ้านับเฉพาะเวทีการชุมนุมที่ผ่าน มา ก็อาจจะเรียกได้วา่ เป็นการ “ตะลอนทัวร์” ทัว่ ทัง้ กรุงเทพฯ แล้ว ไม่วา่ จะเป็นสถานีรถไฟ สามเสน, อนุ ส าวรี ย์ ป ระชาธิ ป ไตย, สวนลุ ม พิ นี , สี่ แ ยกปทุ ม วั น , สี่ แ ยกราช ประสงค์, ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ห้า แยกลาดพร้าว, สโมสรตำ�รวจ ถนนวิภาวดี, ทำ�เนียบรัฐบาล ฯลฯ และ “เหยือ่ ” รายล่าสุด ก็ คื อ สำ � นั ก งานสหประชาชาติ ป ระจำ � ประเทศไทย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งนับเป็นการยกระดับการชุมนุมที่ตั้งใจจะ ให้ได้ยินกันไปทั้งโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ “รัฐสภา” ซึ่งถือเป็น สถานที่สำ�คัญอีกแห่ง ก็มีการตั้งเวทีใหญ่เวที ที่สอง เพื่อใช้เป็นสถานที่สำ�หรับการเกาะติด การแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองโดยวุฒิสภา
นัยหนึ่งอาจมองได้ว่า เพื่อเป็นการปกป้อง การทำ�งานของ ส.ว. (สูงวัย) ทั้งหลาย จาก การข่มขู่คุกคามของขั้วการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ชุมนุมกันอยู่แถวๆ ปริมณฑล แต่ในอีกนัย หนึง่ ก็อาจมองได้วา่ เป็นการกดดันกลายๆ ว่า ถ้ า ไม่ เ ป็ น ไปตามที่ ต้ อ งการเมื่ อ ไหร่ ก็ ใ ห้ เตรียมตัวไว้ลว่ งหน้าให้ดี ซึง่ ท่าทีของประธาน วุฒิสภาในตอนนี้ ก็ดูจะเป็นที่ชอบอกชอบใจ บรรดาผู้ ชุ ม นุ ม อยู่ ไ ม่ น้ อ ย แต่ ต ราบใดที่ เหรี ย ญยั ง ไม่ ห ยุ ด หมุ น ก็ ยั ง คงคาดเดา ผลลัพธ์ไม่ได้ว่าจะออกหัว ก้อย หรือไม่ออก อะไรเลย แต่อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าจะไม่มที ี่ ใดที่ได้รับความนิยมมากเท่ากับ “อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย” อีกแล้ว เพราะขนาดเคยใช้ เป็นเวทีหลักตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ชุมนุมกันจน กระทั่งถึงก่อนช่วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ เมื่อถึง เว ล า จ ะ ย้ า ย ม า อ ยู่ ที่ ห น้ า สำ � นั ก ง า น สหประชาชาติ ก็ ยั ง คงหวนคิ ด ถึ ง อาลั ย อาวรณ์ ในสถานทีช่ มุ นุมเดิม จนในทีส่ ดุ ต้อง ย้ า ยกลั บ มานอนค้ า งที่ นี่ กั น อี ก ครั้ ง ไม่ รู้ เหมือนกันว่าที่นี่มีอะไรดีนักหนา ถึงได้ไป แล้วไม่ไปลับ ยังหวนกลับกันมา การโยกย้ายสถานทีช่ มุ นุมในแต่ละ ครั้ง นอกจากจะทำ�ให้เกิดปัญหาจราจรใน ขณะกำ�ลังเคลื่อนขบวนกัน รวมถึงการปิด พืน้ ทีก่ ารจราจรเพือ่ ใช้เป็นพืน้ ทีช่ มุ นุม ทำ�ให้ ชาวกรุ ง เทพต้ อ งตื่ น ขึ้ น มาเล่ น เกม “เขา วงกต” กันทุกเช้า เพือ่ หาเส้นทางสำ�หรับการ
เดินทางไปทำ�งานในแต่ละวัน ซึ่งแน่นอนว่า รวมถึง “สภาทนายความ” ของเราด้วย ที่มี ผู้ชุมนุมมาจับจองพื้นที่สำ�หรับการพักผ่อน กันอย่างคับคั่ง จนทำ�ให้เจ้าหน้าที่และผู้มา ติดต่อต้องเดินเข้าทางด้านหลังอาคารแทน แต่การกลับมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยในครั้งนี้ไม่เหมือนกันคราว ก่อน เนือ่ งจากเวทีหลักไม่ได้อยูท่ นี่ แี่ ล้ว ทำ�ให้ ไม่มีเสียงรบกวนต่างๆ จากเวที รวมถึงเสียง นกหวีดจากมวลมหาประชาชน รวมถึงผูค้ นก็ ไม่ได้หนาแน่นแออัดเท่าคราวก่อน และด้วย เหตุนี้ ทำ�ให้บรรดาร้านค้าต่างๆ พากันมา แย่งเอาสีสเปรย์ฉีดตีเส้นอาณาเขตจับจอง พืน้ ทีบ่ นถนนราชดำ�เนินกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจว่าจะไปกีดขวางหน้าร้านหรือ สำ�นักงานแถวนัน้ หรือไม่ รวมถึงบริเวณทีม่ ผี ู้ ร่วมชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตในคราวการสลาย การชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยงั มีการไปตัง้ ร้านค้าและกางเต็นท์นอนอยู่ ใกล้ๆ ชนิดไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น การกลับไปปิดสภาในครัง้ นี้ ทุกคน ก็ ไ ด้ แ ต่ ห วั ง ว่ า จะเป็ น การชุ ม นุ ม “ครั้ ง สุดท้าย” จริงๆ เสียที เพราะยิ่งแกนนำ�ใช้คำ� นี้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำ�ให้ความขลังของคำ� นี้เสื่อมคลายลงเรื่อยๆ เพราะไม่ใช่ “ครั้ง สุดท้าย” ตามที่ลั่นวาจาไว้เสียที ซึ่งจะกลาย มาเป็นกระแสต่อต้านมวลมหาประชาชนมาก ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ชัยชนะที่รอคอย อาจ มาไม่ถึงก็เป็นได้
6
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ยกคำ�ร้องรือ ้ คดี ตร. เพชรเกษม เหตุ รู้กฎหมายดีแต่เพิกเฉย
ลอว์นิวส
dailynews.co.th
ความเท็ จ และ หลังได้ถูกฟ้องฐานเบิกความเท็จที่ คงจะได้ออกจาก ศาลมีค�ำ พิพากษาจำ�คุกแล้ว 9 เดือน คุ ก ก่ อ น ส า มี โดยคดีนนั้ ก็ถงึ ทีส่ ดุ แล้วเมือ่ ไม่มกี าร ตนเอง ทั้งที่เป็น อุทธรณ์ฎกี า ดังนัน้ เราจะบรรยายให้ คนปรั ก ปรำ � และ ศาลอุทธรณ์เห็นเพือ่ พิจารณา แต่ถา้ สร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งหญิงสาวผู้เสีย ผลคำ�อุทธรณ์จะยกคำ�ร้องอีก ก็ต้อง หายก็เป็นคนสารภาพกับตนเองว่า ดูกฎหมายอีกครัง้ ว่าสามารถยืน่ ฎีกา เป็นคนสร้างเรื่องขึ้นและยินดีจะเบิก ได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีเรายังเชื่อว่า ความช่วยเหลือครอบครัวพี่ให้ถึงที่ เหตุที่ผู้เสียหายเบิกความเท็จนั้นจะ สุด และอยากให้ศาลให้ความเมตตา นำ�มารื้อฟื้นคดีได้ ด้านนายนันทศักดิ์ พูลสูข สักด้วย ซึ่งสามีตนถูกจำ�คุกมากว่า 3 อธิ บ ดี อั ย การสำ � นั ก งานคดี พิ เ ศษ ปีแล้ว ข ณ ะ ที่ น า ย ส ง ก า น ต์ กล่าวว่าผู้ร้องยังใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ กล่าวว่า ต่ อ ได้ ส่ ว นที่ มี ก ารอ้ า งเรื่ อ งที่ ศ าล ตามกฎหมายสามารถยืน่ อุทธรณ์ได้ พิพากษาถึงทีส่ ดุ ให้จ�ำ คุกผูเ้ สียหายที่ ภายใน 15 วัน เราก็จะดำ�เนินการ ได้ เ บิ ก ความเท็ จ ซึ่ ง อ้ า งเป็ น เหตุ โดยคาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 รื้ อ ฟื้ น นั้ น ก็ ส ามารถยกให้ ศ าล วัน อย่างไรก็ดี ตาม พ.ร.บ.การ อุ ท ธรณ์ พิ จ ารณาได้ เพราะตาม รื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่นั้น เงื่อนไขที่บัญญัติใน พ.ร.บ.การรื้อ บั ญ ญั ติ ถึ ง เงื่ อ นไขที่ ใ ห้ รั บ ฟั ง ได้ ไว้ ฟืน้ คดีฯ ก็มไี ว้ ซึง่ การรือ้ ฟืน้ คดีไม่ใช่ ตามมาตรา 5 (1) (2) ว่า หากพยาน มีแต่เพียงเงื่อนไขปรากฏพยานหลัก บุคคลซึ่งเป็นหลักในการพิพากษา ฐานใหม่เท่านั้นแต่การบรรยายให้ คดีที่ร้องขอรื้อฟื้นในภายหลังพบว่า ศาลรับฟังก็ต้องชี้ให้เห็นว่า การที่ผู้ คำ�เบิกความของพยานนั้นเป็นเท็จ เสียหายกลับให้การใหม่นั้นเป็นไป เป็นพยานหลักฐานปลอมหรือเป็น ด้วยความสุจริตใจ กระทั่งมีการฟ้อง เท็จ หรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง คดี ฐ านเบิ ก ความเท็ จ จนศาลที่ สามารถนำ�พยานหลักฐานต่อสู้ได้ ซึง่ คดีทเี่ ราร้องนัน้ พบว่าพยานทีเ่ ป็น พิจารณาคดีนั้นรับฟังและลงโทษ ผู้เสียหายได้กลับคำ�ให้การและภาย อย่างเต็มที่ ส่ ว น ก า ร ที่ ผู้ เ สี ย ห า ย ยอมรับสารภาพในศาลชัน้ ต้นว่าเบิก ความเท็จเพื่อปรักปรำ�จำ�เลยทั้งสอง โดยอ้างว่าสำ�นึกผิดนัน้ เห็นว่าอาจมี เหตุจูงใจอื่นนอกจากการสำ�นึกผิด ส่วนทีผ่ เู้ สียหายเข้าเครือ่ งจับเท็จของ กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วไม่พบว่า คำ�ให้การมีพิรุธนั้น ถือว่าเป็นการ แสวงหาข้ อ เท็ จ จริ ง อย่ า งหนึ่ ง แต่ เครือ่ งมือดังกล่าวผูเ้ ชีย่ วชาญก็ระบุวา่ มีความผิดพลาดได้ 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ ความของ พ.ต.ท. สุวชิ ชัย แก้วผลึก คำ�ร้องจึงยังไม่มีเหตุให้รื้อฟื้นคดีขึ้น สำ � นั ก งานอั ย การสู ง สุ ด ถนน พยานปากสำ�คัญซึ่งมีน้ำ�หนักรับ ใหม่ จึ ง มี คำ � สั่ ง ยกคำ � ร้ อ งและส่ ง รัชดาภิเษก นายนันทศักดิ์ พูลสุข ฟังได้มากน้อยแค่ไหน และมีความ สำ�นวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อ โฆษกสำ � นั ก งานอั ย การสู ง สุ ด น่าเชื่อถือแค่ไหน ไป แถลงถึ ง ความคื บ หน้ า การยื่ น ส่ ว นประเด็ น การสื บ ภ า ย ห ลั ง ศ า ล มี คำ � สั่ ง อุ ท ธรณ์ ค ดี อ ้ ุ ม ฆ่ า นายโมฮั ม หมั ด พยานลั บ หลั ง จำ � เลยในต่ า ง จำ � เลยทั้ ง สองกล่ า วเพี ย งสั้ น ๆว่ า อั ล รู ไ ว ลี่ นั ก ธุ ร กิ จ ช า ว ประเทศ ก็มปี ญ ั หาข้อกฎหมายโดย “รู้ สึ ก ผิ ด หวั ง และเสี ย ใจเป็ น อย่ า ง ซาอุ ด ิ อ าระเบี ย ว่ า อั ย การมี ค วาม เฉพาะคำ � ให้ ก ารพยานในต่ า ง มาก แต่ก็จะอุทธรณ์สู้คดีต่อไป” เห็ น ควรให้ ยื่ น อุ ท ธรณ์ และส่ ง ประเด็นหากมีเจ้าหน้าที่ที่มีความ ด้านนางสายนภา แอ๊ดมา สำ�นวนให้อัยการสูงสุดพิจารณา น่าเชื่อถือ ซึ่งเรียกว่า “โนตารีพับ ภรรยา ด.ต.นุโลมกล่าวทั้งน้ำ�ตาว่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งสำ�นวน ลิค” ให้การรับรองคำ�ให้การแล้ว รู้สึกเสียใจที่ศาลมีคำ�สั่งไม่รื้อฟื้นคดี ให้ อั ย การสำ � นั ก งานคดี ศ าลสู ง ก็น่าจะใช้รับฟังได้ประหนึ่งว่ามา โดยสามีตนบอกว่าเป็นเวรเป็นกรรม พิจารณา โดยจะครบกำ�หนดยื่น ให้การในศาล ในอดีตตนเคยว่า อะไร ทัง้ ทีไ่ ม่ได้เป็นผูก้ ระทำ� ตนก็ได้ อุทธรณ์ในวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่ง ความคดีทรัพย์สนิ ทางปัญญา และ แต่บอกให้อดทนและคิดอยู่เสมอจะ หากยืน่ อุทธรณ์ไม่ทนั ก็สามารถขอ เคยให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นโนตารีพับ ต้ อ งพาสามี ก ลั บ บ้ า นให้ ไ ด้ ขณะ ขยายเวลาได้อีกครั้ง ส่วนประเด็น ลิครับรองคำ�ให้การพยานในต่าง เดียวกันก็รู้สึกสงสารแม่ของสามีที่ การยื่ น อุ ท ธรณ์ จ ะคั ด ค้ า นคำ � ประเทศมาแล้วซึง่ ศาลก็รบั ฟัง และ เฝ้ า รอลู ก ชายอยู่ โ ดยไม่ ท ราบว่ า พิพากษาในประเด็นเกีย่ วกับแหวน ยังมีประเด็นทีค่ คู่ วามได้เสนอศาล ลูกชายติดคุก ซึง่ จะขอต่อสูค้ ดีตอ่ ไป ซึ่งเป็นพยานหลักฐานชิ้นใหม่ไม่ รัฐธรรมนูญเรื่องการสืบพยานลับ เพราะถึงอย่างไรศาลฎีกาก็พพิ ากษา เคยปรากฏในสำ�นวนมาก่อนว่า หลั ง จำ � เลยขั ด กั บ รั ฐ ธรรมนู ญ ให้จำ�คุก 20 ปี และสู้มาจนไม่เหลือ แหวนดั ง กล่ า วมี ค วามน่ า เชื่ อ ถื อ มาตรา 40 หรือไม่ อะไรแล้ว สำ�หรับหญิงผู้เสียหายที่ อย่ า งไรบ้ า ง และบั น ทึ ก คำ � เบิ ก อ้าวว่า ถูกข่มขืนตอนนี้ถูกจำ�คุกอยู่ ในเรือนจำ�มา 5 เดือนแล้ว ฐานเบิก
ศาลอาญายกคำ�ร้องขอ รื้ อ ฟื้ น ค ดี ส อ ง ตำ � ร ว จ สน.เพชรเกษม รุ ม โทรมหญิ ง อายุ 16 ปี เนื่องจากตำ�รวจทั้ง สองรู้ ก ฎหมายดี แต่ ไ ม่ ย ก ประเด็ น แจ้ ง ความเท็ จ เป็ น ข้ อ ต่อสู้ในชั้นพิจารณาคดีดังกล่าว ภรรยาจำ � เลยร่ำ � ไห้ “สู้ จ นไม่ เหลื อ อะไรแล้ ว ” ด้ า นทนาย เตรียมอุทธรณ์ค�ำ สัง่ ต่อไป อธิบดี อัยการคดีพิเศษชี้ ต้องบรรยาย ให้ เ ห็ น ถึ ง ความสุ จ ริ ต ใจของ จำ�เลย วันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัด ฟังคำ�สัง่ รือ้ ฟืน้ คดีอาญา อฟ.2/2557 ที่นางฐพัฒน์นาถ โททอง ภรรยา ด.ต.มงคล โททอง และนางสายนภา แอ๊ดมา ภรรยา ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา ได้ยื่นคำ�ร้องขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีขึ้น พิจารณาใหม่ ตาม พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดี อาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 มาตรา 5 ในคดีหมายเลขดำ� อ.4264 /2553 ที่ ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา กับพวก รวม 2 คน อดีตตำ�รวจ สน.เพชรเกษม ต้องคำ�พิพากษาศาลฎีกาจำ�คุก 20 ปี ฐานกระทำ�ชำ�เราหญิงอายุ 16 ปีเศษ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง คำ � ร้ อ งรื้ อ ฟื้ น คดี ร ะบุ ว่ า ด.ต.มงคล โททอง และ ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา ถูกพนักงานอัยการฟ้องร้อง ดำ�เนินคดีในความผิดฐานร่วมกัน ข่มขืนกระทำ�ชำ�เรา น.ส.เอ (นาม สมมติ) อายุ 16 ปีเศษ ซึง่ มีใช่ภรรยา โดยใช้กำ�ลังประทุษร้าย โดยผู้เสีย
หายไม่ยนิ ยอมแล้วได้ผลัดเปลีย่ นกัน ข่ ม ขื น ผู้ เ สี ย หาย อั น มี ลั ก ษณะ เป็นการโทรมหญิง เหตุเกิดที่ สน.เพชรเกษม แขวงหลัก สอง เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งศาล ฎีกามีค�ำ พิพากษายืนตามศาลชัน้ ต้น ว่ากระทำ�ผิดให้จำ�คุกคนละ 20 ปี และปรับคนละ 40,000 บาท ต่อมา ภรรยายของ ด.ต.มงคล และด.ต.นุ โลม ได้ไปร้องขอความเป็นธรรมต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้ดำ�เนินการสืบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากภายหลัง น.ส.เอ (นาม สมมติ) ผู้เสียหายได้สารภาพว่าได้ ปรั ก ปรำ � ใส่ ร้ า ยเจ้ า หน้ า ที่ ตำ � รวจ สน.เพชรเกษมให้ได้รับโทษจริง ต่อ มาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงได้รวบรวม หลักฐานและให้ทนายความฟ้องร้อง น.ส.เอ ข้อหาเบิกความเท็จ ซึ่งศาล ชั้นต้นพิพากษาจำ�คุกรวม 18เดือน แต่จำ�เลยรับสารภาพลดโทษ เหลือ จำ�คุก 9 เดือน ศาลพิ จ ารณาคำ � ร้ อ งขอ รื้อฟื้นคดีแล้วเห็นว่า จำ�เลยทั้งสอง เป็นเจ้าหน้าที่ตำ�รวจย่อมรู้กฎหมาย เป็นอย่างดี หากผู้เสียหายแจ้งความ เท็จกล่าวหาว่าจำ�เลยทัง้ สองว่าข่มขืน ผู้เสียหาย จำ�เลยก็สามารถฟ้องร้อง แจ้งความดำ�เนินคดีกบั ผูเ้ สียหายเพือ่ ให้รบั โทษทางอาญาในความผิดฐาน แจ้งความเท็จได้ มิใช่เพิ่งมายื่นฟ้อง ผู้เสียหายในความผิดฐานแจ้งความ เท็จหลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ตัดสินไปแล้ว ซึ่งระยะเวลาผ่านล่วง เลยมานาน ประกอบกับระหว่างการ พิจารณาคดีของศาลจำ�เลยทั้งสองก็
อัยการเดินหน้า อุทธรณ์คดีอัลรูไวลี่
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
7
ไทม์ ไลน์ วีรจิตต วัฒนบำ�รุง
พฤษภาทมิฬ
ความวุ่นวายทางการเมืองที่ลากยาวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ทำ�ให้นกึ ถึงเหตุการณ์นอง เลือดที่เกิดขึ้นเพราะการแย่งชิงอำ�นาจ จนทำ�ให้มีผู้เสียชีวิตและ สูญหายเป็นจำ�นวนมาก แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปีก็ตาม ก็ยัง ไม่มี ใครทราบถึงชะตากรรมของผู้ที่สูญหายไปในเหตุการณ์นั้น เรือ่ งราวเหล่านัน้ เราจะหยิบยกขึน้ มาเพือ่ เป็นบทเรียน ทีจ่ ะไม่ ให้ เกิดความสูญเสียเช่นนั้นอีกครั้ง ในสถานการณ์ความขัดแย้ง ณ ปัจจุบัน พ.ศ. 2534 23 กุมภาพันธ์ คณะรักษาความสงบเรียบร้อย แห่งชาติ (รสช.) ก่อการยึดอำ�นาจจากรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ในขณะที่พลเอก ชาติชาย กำ�ลังพาพลเอกอาทิตย์ กำ�ลังเอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปถวาย สัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ณ พระตำ � หนั ก ภู พิ ง ค์ ร าชนิ เวศน์ จั ง หวั ด เชียงใหม่ คณะ รสช. ยังได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 ด้วย
25 กุมภาพันธ์ คณะ รสช. มีประกาศฉบับที่ 26 เรื่องให้อายัดและห้ามจำ�หน่ายจ่ายโอน ทรัพย์สิน โดยให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ทรั พ ย์ สิ น ซึ่ ง มี พ ลเอกสิ ท ธิ จิ ร โรจน์ เป็ น ประธานคณะกรรมการ เพื่ อ ตรวจสอบ ทรัพย์สินของนักการเมืองที่ร่ำ�รวยผิดปกติ
7 ธันวาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมาก 262 ต่อ 7 เสียง โดยนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติกล่าวว่าได้ รับรายชือ่ สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นี้ 6,856,280 รายชื่อ ในขณะที่มีผู้คัดค้าน เพียง 2,141 รายชื่อเท่านั้น
1 มีนาคม คณะ รสช. ประกาศใช้ธรรมนูญ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ การปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2534 ใน 9 ธันวาคม การนี้ พลเอกสุนทรได้เสนอชื่อนายอานันท์ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2534 ปันยารชุน ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระ เหตุผลในการก่อรัฐประหาร: เพื่อขจัดปัญหา ปรมาภิไธยแต่งตั้งเป้นนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2535 สำ�คัญ 5 ประการ ที่จะนำ�พาให้ประเทศชาติ 3 มกราคม นาวาอากาศตรีฐิติ นาครทรรพ พบกับความหายนะ ได้แก่ 2 มีนาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมี นายทหารคนสนิทของพลอากาศเอกเกษตร 1. พฤติการณ์ฉ้อราษฎร์บังหลวง พระบรมราชโองการแต่งตั้งนายอานันท์ ปัน (หนึง่ ในคณะ รสช.) ก่อตัง้ พรรคสามัคคีธรรม 2. ข้าราชการการเมืองใช้อำ�นาจกดขี่ข่มเหง ยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนายณรงค์ วงศ์วรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ข้าราชการประจำ�ผู้ซื่อสัตย์สุจริต ส่วนคณะ รสช. แปรสภาพเป็น สภารักษา และนาวาอากาศตรีฐิติ เป็นเลขาธิการพรรค 3. รัฐบาลเป็นเผด็จการทางรัฐสภา ความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (สรสช.) 4. การทำ�ลายสถาบันทางทหาร 21 มกราคม พลตรี จำ � ลอง ศรี เ มื อ ง 5. การบิดเบือนคดีล้มล้างสถาบันพระมหา 6 มีนาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มี หัวหน้าพรรคพลังธรรม ลาออกจาตำ�แหน่งผู้ กษัตริย์ พระบรมราชโองการแต่งตัง้ คณะรัฐมนตรี 35 ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อลงรับสมัคร ตำ�แหน่ง โดยคณะรัฐมนตรีชดุ นีเ้ ป็นพลเรือน เลื อ กตั้ ง สมาชิ ก สภาผู้ แ ทนราษฎร โดย ทัง้ คณะ เว้นแต่ พลเรือเอกประพัฒน์ กฤษณะ ประกาศตั ว พร้ อ มเป็ น นายกรั ฐ มนตรี ห าก คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ: จันทร์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชาชนต้องการ 1. พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการ และ พลเอกอิ ส ระพงศ์ หนุ น ภั ก ดี เป็ น ทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะ รสช. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ซึง่ ทัง้ สอง 22 มีนาคม มีการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ 2. พลเอก สุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการ คนนี้ยังเป็นสมาชิกของ รสช. ด้วย ผลการเลือกตัง้ ปรากฏว่า พรรคสามัคคีธรรม กองทัพบก เป็นรองหัวหน้าคณะ รสช. ได้รบั เลือกตัง้ มาเป็นลำ�ดับทีห่ นึง่ แต่นางมาร์ 3. พลเรือเอก ประพัฒน์ กฤษณะจันทร์ 9 มีนาคม รสช. ปล่อยตัว พลเอก กาเร็ต แท็ตไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่าง ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองหัวหน้าคณะ ชาติชาย เพือ่ เรียกคะแนนเสียงสนับสนุนจาก ประเทศของสหรัฐอเมริกาได้แถลงว่า นาย รสช. ประชาชน ซึ่งพลเอกชาติชาย ก็ได้เดินทางลี้ ณรงค์มีความใกล้ชิดกับผู้ค้ายาเสพติดราย 4. พลอากาศเอก เกษตร โรจนนิล ผู้ ใหญ่ จึงถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามไม่สามารถขอ ภัยไปพำ�นักที่อังกฤษทันที บัญชาการทหารอากาศเป็นรองหัวหน้าคณะ วีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาได้ จึงมีการ รสช. 15 มีนาคม มี พ ระบรมราชโองการ เสนอชื่ อ พลเอกสุ จิ น ดา คราประยู ร ขึ้ น 5. พลเอก อิสระพงษ์ หนุนภักดี รองผู้ แต่ ง ตั้ ง สมาชิ ก สภานิ ติ บั ญ ญั ติ แ ห่ ง ชาติ ทูลเกล้าฯ ให้ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี บัญชาการทหารบก เป็นเลขาธิการคณะ จำ � นวน 292 คน เพื่ อ ดำ � เนิ น การร่ า ง รสช. 7 เมษายน มีพระบรมราชโองการโปรด รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย ภายหลังได้แต่งตั้ง พลตำ�รวจเอกสวัสดิ์ เกล้าฯ ให้พลเอกสุจินดา คราประยูร เป็น อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำ�รวจ เป็นรอง 3 สิงหาคม พลเอกชาติชาย เดินทาง นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจาก หัวหน้าคณะ รสช. เพิ่มขึ้นอีกตำ�แหน่ง กลั บ ประเทศไทย เพื่ อ รั บ การไต่ ส วนคดี ประชาชนให้นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือก ตัง้ ทำ�ให้พรรคการเมืองฝัง่ รัฐบาลได้รบั ฉายา คอร์รัปชั่นตามที่ถูก รสช. กล่าวหา 24 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 27 พฤศจิกายน คณะกรรมการตรวจสอบ ว่า “พรรคมาร” มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตัง้ ให้ ทรัพย์สิน (คตส.) ประกาศยึดทรัพย์สินของ พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ เป็นหัวหน้าคณะ พล.อ. ชาติ ช าย และภรรยา รวมมู ล ค่ า รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ประมาณ 603.2 ล้านบาท
8 เมษายน ร้อยตรีฉลาด วรฉัตร เริ่มอด อาหารวันแรก เพื่อประท้วงให้พลเอกสุจินดา ลาออกจากตำ�แหน่ง ถือเป็นบุคคลผูม้ ชี อื่ เสียง คนแรกที่ต่อต้านรัฐบาลในขณะนั้นอย่างเปิด เผย 17 เมษายน มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งสิ้น 51 ตำ�แหน่ง ซึ่ง มีรัฐมนตรีที่ถูกยึดทรัพย์รวมอยู่ด้วย 3 คน ทั้งๆ ที่ รสช. อ้างเหตุแห่งการก่อรัฐประหาร ว่ า ต้ อ งการกำ � จั ด การทุ จ ริ ต คอร์ รั ป ชั่ น จาก รัฐบาลของพลเอกชาติชาย 20 เมษายน พรรคฝ่ายค้านเริ่มการปราศรัย โจมตีพลเอกสุจนิ ดาทีล่ านพระบรมรูปทรงม้า มีผู้ร่วมชุมนุมเกือบ 100,000 คน 23 เมษายน รัฐบาลของพลเอกสุจนิ ดาแถลง นโยบายต่อรัฐสภา เกิดวาทกรรม “เสียสัตย์ เพื่ อ ชาติ ” เนื่ อ งจากพลเอกสุ จิ น ดาเคยให้ สัมภาษณ์หลายครัง้ ว่าตนเองและ รสช. จะไม่ รับตำ�แหน่งใดๆ ทางการเมือง 4 พฤษภาคม ประชาชนกว่า 60,000 คน และพรรคฝ่า ยค้า นรวมตัวกันที่ท้องสนาม หลวงเพื่อประท้วงการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ของพลเอกสุจินดา พลตรีจ�ำ ลอง ศรีเมือง เริม่ อดอาหาร ประท้วงวันแรก เพื่อกดดันให้พลเอกสุจินดา ลาออกจากตำ�แหน่ง 7 พฤษภาคม พลเอกสุจินดา แถลงนโยบาย ต่อรัฐสภา แต่พรรคฝ่ายค้านไม่เข้าร่วม ขณะ เดี ย วกั น บริ เวณหน้ า รั ฐ สภามี ผู้ ชุ ม นุ ม ร่ ว ม ประท้ ว ง จนต้ อ งมี ก ารปิ ด ประชุ ม โดย กะทันหัน 8 พฤษภาคม พลเอกสุจนิ ดา แถลงถึงเหตุผล ที่ต้องมารับตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี พลตรีจำ�ลอง นำ�กลุ่มผู้ชุมนุมออก จากท้องสนามหลวง และย้ายไปชุมนุมบน ถนนราชดำ � เนิ น แทน เนื่ อ งจากจะมี ก าร ประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนา ขวัญ
8
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
9 พฤษภาคม นายอุ ก ฤษ มงคลนาวิ น ประธานรัฐสภาประสานให้พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านร่วมกันตกลงว่าจะแก้ไข รัฐธรรมนูญบางประการ พลตรี จำ � ลอง ประกาศเลิ ก อด อาหาร พร้อมทั้งลาออกจากหัวหน้าพรรค พลังธรรม 11 พฤษภาคม พลตรีจำ�ลอง ประกาศสลาย การชุมนุมและประกาศชุมนุมใหม่อีกครั้งใน วั น ที่ 17 พฤษภาคม หากในวั น ที่ 15 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันที่พรรคร่วมรัฐบาลให้ สัญญาว่าจะแถลงถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีความคืบหน้า 14 พฤษภาคม กลุ่มผู้ชุมนุมแถลงการณ์ตั้ง “สมาพันธ์ประชาธิปไตย” โดยมีกรรมการ 7 คน ได้แก่ นายปริญญา เทวานฤมิตกุล, นาย แพทย์เหวง โตจิราการ, นายแพทย์สนั ต์ หัตถี รัตน์ (ประธาน), นายสมศักดิ์ โกสัยสุข, นาง ประทีป อึง้ ทรงธรม ฮาตะ, นายฉลาด วรฉัตร (ภายหลังได้ถอนตัวออกไป และให้นางสาว จิตราวดี วรฉัตร มาเป็นแกนนำ�แทน) และ นายวีระ มุสกิ พงศ์ (ปัจบุ นั เปลีย่ นชือ่ เป็น นาย วีระกานต์ มุสิกพงศ์) 15 พฤษภาคม พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยน ท่ า ที เ รื่ อ งแก้ ไขรั ฐ ธรรมนู ญ โดยอ้ า งว่ า เป็นการให้สัมภาษณ์โดยพลการของ นาย อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่าจะแก้ให้มบี ทเฉพาะกาล ว่า นายก รัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งพลเอกสุ จินดา ต้องดำ�รงตำ�แหน่งจนครบวาระ 4 ปี เสียก่อน 16 พฤษภาคม สมาชิกพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน แต่งชุดดำ�หรือสวมปลอกแขนดำ�เพื่อแสดง การต่อต้านการแต่งตั้ง พลเอกสุจินดาเป็น นายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภา 17 พฤษภาคม รัฐบาลจัดคอนเสิร์ตต้านภัย แล้งสกัดม็อบที่สนามกีฬากองทัพบกและวง เวียนใหญ่ โดยขนรถสุขาของกรุงเทพฯ มาไว้ ณ พื้นที่จัดงาน 13.00 น. เริ่มตั้งเวทีปราศรัย ณ ท้องสนามหลวง 18.00 น. ทหารรักษาพระนคร 2,000 นาย รถดับเพลิง 10 คัน และรถ พยาบาล 1 คัน ประจำ�เตรียมพร้อมที่บริเวณ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ 19.30 น. จำ�นวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้น อย่างรวมเร็วเป็น 300,000 คน ด้านทหาร ช่ า งก็ ไ ด้ ข นลวดหนามมาวางขวางถนน ราชดำ�เนินกลางบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ 21.00 น. กรรมการสมาพั น ธ์ ประชาธิปไตยนำ�ประชาชนผู้มาร่วมชุมนุม กล่าวปฏิญาณต่อพระแก้วมรกตและพระบรม มหาราชวัง ว่าจะเคารพเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต่อสูก้ บั เผด็จการ และให้มีประชาธิปไตยที่มีนายกรัฐมนตรีมา
จากการเลื อ กตั้ ง โดยยึ ด มั่ น ในหลั ก การ อหิ ง สาสั น ติ วิ ธี ก่ อ นที่ น ายแพทย์ เ หวงจะ ประกาศให้ประชาชนเดินไปทำ�เนียบรัฐบาล เพือ่ ขอคำ�ตอบจากพลเอกสุจนิ ดา โดยมีพลตรี จำ�ลองร่วมเดินไปด้วย 21.30 น. ประชาชนกลุ่มแรกเดิน มาถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พยายามใช้ไม้ กระแทกสิ่ ง กี ด ขวาง รวมถึ ง ใช้ ก ระดาษ หนังสือพิมพ์หุ้มมือดึงลวดหนาม พลตำ�รวจ โทวิโรจน์ เปาอินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย สั่งให้ใช้รถดับเพลิงฉีด น้ำ�สกัดผู้ชุมนุม โดยใช้น้ำ�ครำ�เน่าเหม็น ผู้ ชุ ม นุ ม บางคนเสี ย หลั ก ลื่ น ล้ ม เกิ ด อาการ ฉุนเฉียว ขว้างปาก้อนหินและขวดน้ำ�ใส่เจ้า หน้าที่ ในขณะเดียวกัน โทรทัศน์รวมการ เฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้รายงานว่าพล ตรี จำ � ลองนำ � ประชาชนมุ่ ง หน้ า ไปยั ง พระ ตำ�หนักจิตรลดารโหฐาน และรัฐบาลได้ออก แถลงการณ์ให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้านโดย ด่วน 22.15 น. พลตรี จำ � ลองสั่ ง ให้ ผู้ ชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศนั่งลง ส่วนเจ้าหน้าทีก่ น็ �ำ ลวดหนามมาขึงไว้เหมือน เดิม 23.00 น. เกิดเหตุปะทะกันบริเวณ หน้ากรมโยธาธิการ กลุม่ ผูช้ มุ นุมสามารถยึด สถานีดบั เพลิงภูเขาทอง และสน.นางเลิง้ ไว้ได้ 18 พฤษภาคม 00.30 น. รั ฐ บาลประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 01.30 น. กระทรวงมหาดไทยมี ประกาศห้ามชุมนุมมั่วสุมเกิน 10 คนในเขต พื้นที่ที่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน 03.00 น. มีประกาศเพิ่มเติมว่า พลตรีจำ�ลองได้นำ�ประชาชนก่อการจลาจล เผารถ เผาสถานีต�ำ รวจดับเพลิงภูเขาทอง ยึด สถานีตำ�รวจนครบาลนางเลิ้ง กองกำ�กับการ สวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ทางราชการจึง ต้องเข้าระงับความรุนแรงโดยเร็วที่สุด 04.00 น. กองกำ � ลั ง ทหารและ ตำ�รวจเคลื่อนพลจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ มุ่งหน้าสู่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนจะกราด ยิงใส่ผชู้ มุ นุมจนมีผไู้ ด้รบั บาดเจ็บและเสียชีวติ หลายราย 06.00 น. พลตรีฐิติพงษ์ เจนนุวัตร ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 พร้อมตัวแทน เข้า เจรจากับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ส.ส.พรรค พลังธรรม ขอให้กลับไปชุมนุมที่ท้องสนาม หลวง แต่ไม่สำ�เร็จ 13.00 น. ทหารตั้งกำ�ลังปิดพื้นที่ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ท่าพระจันทร์ สี่ แยกคอกวัว และวางรัว้ ลวดหนามบริเวณกรม ประชาสัมพันธ์ กันไม่ให้ประชาชนเข้ามา สมทบการชุมนุม 14.00 น. พลเอกสุ จิ น ดา ออก โทรทัศน์แถลงว่า พลตรีจำ�ลองและพวกเป็น ภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยุยงปลุก ปั่นให้ทำ�ร้ายเจ้าหน้าที่และทำ�ลายทรัพย์สิน
ของทางราชการ จึงต้องปราบปรามขั้นเด็ด ขาด 15.00 น. กองกำ�ลังรักษาพระนคร เข้าสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ตั้งแต่ สะพานผ่ า นฟ้ า ลี ล าศจนถึ ง หน้ า กรม ประชาสัมพันธ์ ทหารบางคนกราดปืนยิงใส่ผู้ ชุมนุม บางคนก็ถือไม้กระบองไล่ทุบตี พลตรี จำ�ลองถูกจับกุม และถูกนำ�ตัวขึ้นรถออกไป จากพืน้ ทีช่ มุ นุมทันที และยังได้จบั กุมผูช้ มุ นุม เป็นจำ�นวนมาก 18.00 น. ประชาชนราว 50,000 คน กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ตั้งแต่หน้ากรม ประชาสั ม พั น ธ์ ไ ปจนถึ ง หน้ า กระทรวง ยุตธิ รรม และเกิดเหตุทหารกราดยิงประชาชน อีกครั้ง มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลาย ราย 22.00 น. กรมประชาสัมพันธ์ถูก เผา แต่มีผู้มาดับเพลิงได้ทัน และยังเกิดเหตุ เพลิงไหม้ที่สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 19 พฤษภาคม 00.00 น. กลุม่ รถจักรยานยนต์ออก มาก่อกวนทุบทำ�ลายป้อมจราจรและสัญญาณ ไฟจราจรหลายแห่งทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร ตั้ ง แต่ บ ริ เวณถนนพระรามสี่ สะพานขาว เยาวราช ราชวงศ์ หัวลำ�โพง ท่าพระ ฯลฯ 03.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้กรม ประชาสั ม พั น ธ์ ขึ้ น อี ก ครั้ ง หลั ง จากมี ผู้ นำ � รถเมล์และรถน้ำ�มันเข้ามาในพื้นที่ได้ และ ไม่มีใครดับเพลิงได้ทัน 12.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้กรม สรรพากร ช่ ว งค่ำ � กลุ่ ม ผู้ ชุ ม นุ ม ที่ ไ ม่ ไ ด้ ถู ก จับกุมย้ายสถานที่ชุมนุมไปที่มหาวิทยาลัย รามคำ�แหง สื่อของรัฐบาลรายงานว่าไม่มีผู้เสีย ชีวิตจากเหตุปราบปรามผู้ชุมนุม แต่สื่อต่าง ชาติและหนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานข่าว การสลายการชุมนุมว่ารัฐบาลใช้กำ�ลังปราบ ปรามผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง 20 พฤษภาคม 01.00 น. ผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้รับคำ� สั่งให้ถอนตัวออกจากพื้นที่การชุมนุม 04.45 น. หน่ ว ยแพทย์ ที่ ตั้ ง อยู่ ที่ โรงแรม รัตนโกสินทร์ได้รบั แจ้งว่าจะมีการปราบปราม ขั้นสุดท้ายในเวลา 05.00 น. จึงประกาศให้ ทุกคนในหน่วยแพทย์นั้นเตรียมรับมือกับ สถานการณ์ 05.00 น. กองกำ�ลังทหารเดินเรียง หน้ากระดานระดมยิงใส่ผู้ชุมนุมตั้งแต่หน้า กรมประชาสัมพันธ์ ปิดล้อมทุกด้าน (ยกเว้น ด้านสะพานสมเด็จพระปิน่ เกล้าซึง่ เปิดไว้ให้ผู้ ชุมนุมวิ่งออกไปได้) หวังจะสลายการชุมนุม ให้เสร็จสิ้นก่อนรุ่งสาง ทำ�ให้ผู้ชุมนุมถูกต้อน มารวมกันอยูท่ หี่ น้าโรงแรมรัตนโกสินทร์กอ่ น จะถูกจับกุมกว่า 2,000 คน โดยทั้งหมดถูก ส่งตัวไปยังโรงเรียนพลตำ�รวจบางเขน 19.30 น. รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 21.00-
04.00 น. 20.00 น. พลเอกเปรม ติณสูลา นนท์ นำ�พลเอกสุจินดาและพลตรีจำ�ลอง เข้า เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสให้ทั้งสอง ฝ่ายคำ�นึงถึงความเสียหายของประเทศชาติ เป็นสำ�คัญ 24.00 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะ กิจแห่งประเทศไทย นำ�เทปบันทึกการเข้า เฝ้าฯ มาออกอากาศ 21 พฤษภาคม กลุ่มผู้ชุมนุมที่มหาวิทยาลัย รามคำ � แหงยุ ติ ก ารชุ ม นุ ม แต่ ยั ง คงอยู่ ใ น บริ เวณมหาวิ ท ยาลั ย เนื่ อ งจากมี ป ระกาศ เคอร์ฟิว จนถึงเวลา 04.00 น. จึงทยอยเดิน ทางกลับ 24 พฤษภาคม พลเอกสุจนิ ดา และพลตรี จำ�ลอง แถลงการณ์ร่วมกันผ่านโทรทัศน์รวม การเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยพลเอกสุ จินดา ประกาศลาออกจากตำ�แหน่ง ส่วนพล ตรี จำ � ลอง ได้ เรี ย กร้ อ งให้ ผู้ ก่ อ เหตุ ค วาม วุน่ วายยุตกิ ารกระทำ�ดังกล่าว หลังจากพลเอก สุจนิ ดาลาออกจากตำ�แหน่งแล้ว นายมีชยั ฤชุ พันธุ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้ทำ�หน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี 10 มิถุนายน แกนนำ�จัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อ พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรค ชาติไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ใน ฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร และรักษา การประธานรั ฐ สภา ตั ด สิ น ใจนำ � ชื่ อ นาย อานันท์ ปันยารชุน ขึ้นทูลเกล้าฯ และได้มี ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอานันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ใน ค่ำ�วันนั้น 29 มิถุนายน นายอานันท์ ทูลเกล้าฯ ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการแก้จากรัฐสภา และร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพื่อให้มี การเลือกตั้งใหม่ 30 มิถุนายน มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาเพื่อ ให้มีการเลือกตั้งใหม่ทั่วทั้งประเทศ 1 สิงหาคม นายอานันท์ มีคำ�ลั่งปลดนาย ทหาร 3 นาย ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรับผิด ชอบในเหตุปะทะเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ พลอากาศเอกเกษตร โรจน นิล หนึ่งในคณะ รสช. ซึ่งนายทหารทั้งสาม ต่างกล่าวอ้างว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นไปตามคำ�สั่งของพลเอกสุจินดา 13 กั น ยายน มี ก ารเลื อ กตั้ ง ใหญ่ ทั่ ว ทั้ ง ประเทศซึ่งมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งราวร้อยละ 42 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนเสียงมา เป็นลำ�ดับหนึ่ง นายชวน หลีกภัย ได้เป็น นายกรัฐมนตรี
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ทีว. ราชดำ ่แห่�เนิงนนี้ เมื่ อ กล่ า วถึ ง เหตุ ก ารณ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ประชาธิปไตย คงไม่มีที่แห่งไหนจะเป็นที่ จดจำ�ได้มากเท่ากับถนนราชดำ�เนิน ถนน สายประวัติศาสตร์ที่มีความสวยงามแรก สร้างเทียบเท่ากับฌอง เอลิเซย์แห่งปารีส แต่ ก ลั บ ถู ก เปลี่ ย นโฉมให้ ก ลายเป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ ข องประชาธิ ป ไตยในยุ ค ของ “ท่านผูน้ �ำ ” จนถึงปัจจุบนั ทีแ่ ห่งนี... ้ “ถนน ราชดำ�เนิน” ถนนราชดำ�เนินเป็นถนนสายเก่า แก่รุ่นแรกๆ ของกรุงเทพฯ สร้างขึ้นตามพระ ราชประสงค์ ข องพระบาทสมเด็ จ พระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เพื่อใช้ เป็ น เส้ น ทางเชื่ อ มต่ อ ระหว่ า งพระบรม มหาราชวังและพระราชวังสวนดุสิต แบ่งเป็น ถนนราชดำ�เนินนอก ถนนราชดำ�เนินกลาง และถนนราชดำ�เนินใน โดยเริ่มสร้างถนน ราชดำ�เนินนอก เมื่อ พ.ศ. 2442 (นับเป็น ถนนสายแรกทีม่ กี ารใช้คา่ ทีด่ นิ ในการเวนคืน เ พื่ อ ส ร้ า ง ถ น น ) ก่ อ น จ ะ ส ร้ า ง ถ น น ราชดำ�เนินกลางและราชดำ�เนินในเวลาไล่เลีย่ กันเมื่อ พ.ศ. 2444 โดยปลูกต้นมะฮอกกานี ไว้ ต ลอดสองข้ า ง ดั ง ปรากฏในพระราช หัตถเลขา ฉบับลงวันที่ 19 สิงหาคม ร.ศ. 123 (พ.ศ. 2447) ถึงเจ้าพระยาเทเวศรวงษ์วิวัฒน์
มีความว่า “...ด้วยเข้าใจว่าต้นมหอกคินียังมีอยู่ มาก เห็นว่าที่ข้างถนนราชดำ�เนินกลางแถว ใน ทัง้ 2 ข้าง การทีจ่ ะทำ�ตึกก็ยงั จะช้า ถ้าปลูก ต้นมหอกคินีเสียข้างละแถว อย่างต้นหูกวาง ถนนราชดำ�เนินนอกจะดี เมือ่ ทำ�ตึกเมือ่ ไร จึง ตัดต้นมหอกคินีเสีย เอาไม้ไปใช้ทำ�อะไรๆ ก็ได้ ให้คิดอ่านปลูกต้นมหอกคินีตามที่ว่า นี้...” ทีโ่ คนต้นมะฮอกกานีแต่ละต้นจะมี เก้ า อี้ เ หล็ ก ที่ โ คนต้ น ไม้ พ ร้ อ มไฟส่ อ งสว่ า ง ตลอดทางตามแบบอย่างจากต่างประเทศ สร้างบรรยากาศให้รื่นรมย์ และเป็นสถาน ทีพ่ กั ผ่อนหย่อนใจสำ�หรับชาวพระนครในยุค นั้น แต่ต่อมา ก็ได้มีการตัดต้นมะฮอกกานี ออกเมื่อ พ.ศ. 2485 ในสมัยของจอมพล ป. พิบลู สงคราม เพือ่ ขยายถนนราชดำ�เนินกลาง และทางเท้าสองฝั่งให้กว้างขึ้น รวมทั้งปลูก สร้างอาคารตลอดแนวถนนราชดำ�เนินกลาง ปัจจุบนั ได้มกี ารปลูกชงโค กาหลง ราชพฤกษ์ และประดู่สองข้างฝั่งแทนต้นมะฮอกกานี เส้นทางของถนนราชดำ�เนินนอก เริ่มตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรม รูปทรงม้า) ผ่านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ทำ�เนียบรัฐบาล กองบัญชาการกองทัพบก สะพานมั ฆ วานรั ง สรรค์ ข้ า มคลองผดุ ง
กรุ ง เกษม ผ่ า นหน้ า สำ � นั ก งานองค์ ก าร สหประชาชาติประจำ�ประเทศไทย สนามมวย ราชดำ�เนิน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ จนมาสิ้นสุดที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำ�เนินกลาง เริ่มตั้งแต่ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ผ่านหน้าป้อมมหากาฬ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ (เดิมเป็นที่ ตั้งของศาลาเฉลิมไทย) นิทรรศรัตนโกสินทร์ สภาทนายความ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุ ส รณ์ ส ถาน 14 ตุ ล า สี่ แ ยกคอกวั ว สำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (หลังเก่า) โรงแรมรัตนโกสินทร์ จนมาสิ้นสุดที่สะพาน ผ่านพิภพลีลา ถนนราชดำ � เนิ น ใน เริ่ ม ตั้ ง แต่ สะพานผ่านพิภพลีลา ผ่านหน้าซุ้มเฉลิมพระ เกียรติกาญจนาภิเษก อุทกทาน (พระแม่ธรณี บีบมวยผม) เลียบมาตามท้องสนามหลวง ผ่านหน้ากระทรวงยุติธรรม ศาลฎีกา จรด ถนนหน้าพระลาน บริเวณหน้าศาลหลักเมือง ถนนราชดำ � เนิ น เข้ า มามี บ ทบาท สำ�คัญเกี่ยวกับประชาธิปไตยในการปฏิวัติ สยาม 2475 และเมื่อมีการสร้างอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยขึ้นในปี 2482 ที่นี่จึงเปรียบ เสมือนสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยของไทย ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการเมืองและการเรียกร้องประชาธิปไตย ล้ วนแต่ จั ดขึ้ น หรื อ เดิ น ขบวนมุ่ งหน้ ามายั ง ถนนสายนี้ ไม่วา่ จะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม
9
2516, เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519, เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 2535, การชุมนุมของพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2549 และ 2551, การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อ ต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พ.ศ. 2552 และ 2553 และการชุ ม นุ ม ของคณะกรรมการ ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ เป็ น ประชาธิ ป ไตยที่ ส มบู ร ณ์ อั น มี พ ระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พ.ศ. 25562557 ที่กำ�ลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ตาม นอกจากนี้ เมื่อคราวเกิดเหตุความไม่ สงบทางการเมือง สถานทีร่ าชการหลายแห่งบน ถนนราชดำ�เนินก็มกั จะเป็นเป้าหมายแรกๆ ของ การเผาทำ�ลาย โดยเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ และสำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ปัจจุบัน ที่ ตั้ ง ของกรมประชาสั ม พั น ธ์ ถู ก รื้ อ ถอนไปแล้ ว ส่วนสำ�นักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำ�ลังถูกรื้อ ถอนอาคาร) รวมถึงการใช้กำ�ลังปราบปรามผู้ ชุมนุมในเหตุการณ์ต่างๆ ทำ�ให้มีผู้เสียชีวิตเป็น จำ � น ว น ม า ก โ ด ย เ ฉ พ า ะ บ ริ เว ณ ถ น น ราชดำ�เนินกลาง จนกล่าวกันว่า ทุกตารางนิ้ว บนถนนราชดำ�เนินกลาง เคยเปือ้ นเลือดมาแล้ว ก็ยิ่งทำ�ให้ภาพของถนนราชดำ�เนินแตกต่างไป จากความตั้งใจเมื่อคราวแรกสร้างเข้าไปทุกที ถนนราชดำ�เนินจึงเป็นถนนที่บันทึก เหตุการณ์ต่างๆ มากมายตลอดระยะเวลากว่า ร้อยปี แม้ถนนสายนีไ้ ม่อาจเอ่ยปากเล่าเรือ่ งราว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่เราก็สามารถศึกษา และเรี ย นรู้ ไ ด้ จ ากบรรดาอาคารและสถานที่ ต่างๆ ที่รายล้อมถนนราชดำ�เนินทั้งสามสาย ที่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพร้อมกับถนนสายนี้ ถนน ที่เป็นทั้งความงดงาม ความทรงจำ� และความ เจ็บปวดของคนไทยทุกคน
ถนนราชดำ�เนิน
10
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
LAW CITIZEN PRINCE ประสบการณ์ ที่ ป ระทั บ ใจในการทำ � งาน วงการกฏหมายเรื่ อ งแรก การอบรม Compliant ให้องค์กร ให้กบั พนักงานประมาณ 500 คน ทุกระดับ พนักงาน ผู้บริหาร ซึ่งก็ เ ห มื อ น กั น ไ ด้ เ ป็ น ก า ร พรี เ ซนต์ ตั ว เอง อธิ บ าย กฎหมายที่ เ กี่ ย วกั บ ธุ ร กิ จ ได้รื้อฟื้นข้อกฎหมายต่างๆ ตอนนี้ ทำ � งานเป็ น ผู้ จั ด การฝ่ า ย ไ ด้ พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ กฎหมาย ของบริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ เคยได้ ยิ น ไหม (ประเทศไทย) จำ�กัด เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการ ขาย ติดตัง้ ซ่อมแซมลิฟต์และบันไดเลือ่ น ปกติ ครั บ ว่ า การอบรมเป็ น การ งานของผมจะเรียกว่าอินเฮ้าส์ (ฝ่ายกฎหมาย เปลี่ ย นความกลั ว ให้ เ ป็ น ประจำ�บริษัท) ก็มีหน้าที่กำ�กับดูแลเรื่องคดี ความกล้า ก่อนหน้าที่ผมจะ ได้ รั บ ชิ้ น งานนี้ ก็ ตื่ น เต้ น สัญญา การลงทุน ภาษี เพราะต้ อ งพู ด ต่ อ หน้ า คน ตัง้ แต่เรียนจบมาก็สอบเนฯ เรียนโท เป็นร้อยคน แต่พอได้เตรียม ที่จุฬาฯ ไปด้วย แล้วก็ทำ�งานมาหลายที่ตาม เอกสาร เตรียมการพูดไปก็ สำ�นักงานกฎหมายต่างๆ มีสอบใบอนุญาตว่า สนุ ก พออบรมจบแล้ ว ความ เมือ่ ก่อนก็เคยไปศาล แต่ปจั จุบนั จะหนัก ผู้บริหารอยากหาเรื่องมาให้ ไปทางให้คำ�ปรึกษามากกว่า เช่นจะมาลงทุน เราอบรมต่อ เราเองก็อยาก ในประเทศไทยจะต้องเตรียมตัวยังไง มีสิทธิ หาความรู้ใหม่ๆ มาอบรมอีก พิเศษไหม? หรือกรณีนี้ควรฟ้องไหม? เรือ่ งทีส่ อง ตอนอยูท่ ี่ เวลาว่างผมก็ชอบดูหนังฟังเพลง ซึ่ง ทำ � งานเก่ า สมั ย เป็ น ทนาย แรงบันดาลใจในการเรียนกฎหมายก็อาจมา รุ่นเยาว์ ตอนนั้นหัวหน้าเขาไว้ จากการได้ดูหนังด้วย เช่น เรื่อง Sleepers, วางใจ มอบงานให้ไปลุยคดีใน Devil’s Advocate, Rainmaker ซึ่งคนที่ได้ ศาล มู ล ค่ า หลายสิ บ ล้ า น รับบทบาทเป็นผูพ้ พิ ากษาหรือทนายดูเท่ ดูเก่ง ประทับใจเพราะเราไปคนเดียว นอกจากดูหนังแล้วก็ไปออกกำ�ลังกาย ไปต่าง แล้วก็เป็นเด็กด้วย แต่ฝ่ายตรง ข้ า มเป็ น พาร์ ท เนอร์ ห รื อ เจ้ า จังหวัดบ้าง ฉบับนี้พาไปรู้จักกับตำ�แหน่งฝ่ายกฏ หมายประจำ�บริษัท หรือที่เรียกติดปากกันว่า อินเฮ้าส์ คุณเบิร์ท-มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ ผูจ้ ดั การฝ่ายกฎหมายหนุม่ แห่งบริษทั มิตซูบชิ ิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จะมาแบ่งปัน ประสบการณ์การทำ�งานให้เราได้ทราบกัน หาก รู้สึกว่าคุ้นหน้าก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเขาเคย ผ่านงานโฆษณาและเล่นมิวสิควิดโี อมาบ้างแล้ว
สัภารการ มภาษณ์ ต้ น เดื อ นที่ ผ่ า นมา เราได้ มี ที วี ดิจิตอลกันเป็นครั้งแรก ภาพ ชัดขึ้น มีรายการเพิ่มเป็นทาง เลือกให้เราอีกหลายช่องหลาย รายการ เรามีโอกาสได้เห็นการ เปลี่ ย นย้ า ยโอนถ่ า ยบุ ค ลากร ช่ อ งนั้ น ไปช่ อ งนี้ และได้ เ ห็ น บุคลากรหน้าใหม่ๆ ช่อง PPTV นั้น เป็นช่องหนึ่งที่มีรายการที่น่าสนใจน่า ติ ด ตาม แถมยั ง มี พิ ธี ก รเก่ ง ๆ หลายคน วั น นี้ เ รามี นั ด กั บ พิ ธี ก รสาวอารมณ์ ดี เจ้ า ของฉายา “โซ้ยหมวย” ประจำ�รายการ “กระบี่มือหนึ่ง” ปอเปี๊ยะกาลเวลา เสาเรือน เราลองไปทำ�ความรู้จักความเป็นมา และบทบาทใหม่ของเธอกัน “ปอเปีย๊ ะเริม่ จากเรียนนิเทศศาสตร์ ทีม่ หาลัยกรุงเทพ ค่ะ จากนั้นก็ประกวด MC Talent ของทางมหาลัย ซึ่งตอนนั้น กำ�ลังเรียนอยู่ปี 3 แล้วก็ได้งานทำ�ที่รายการ Living at home
ของลอว์เฟิร์ม 2-3 คนแล้วก็มีเสมียนอีกสอง รวมเป็นห้า ส่วนผมยืนคนเดียวอยูอ่ กี ฝัง่ ก็ตอ้ ง ซักพยาน โจทก์ จำ�เลย แต่เราก็รวู้ า่ เราเป็นมวย รองเยอะ เขาก็มีลีลา เราก็ต้องใช้ไหวพริบลูก
บุคคลที่เป็นแบบอย่างในวิชาชีพ มี อาจารย์ที่จุฬาฯ อ.ณรงค์เดช สรุโฆษิต สมัยที่ ผมเรียนกับท่าน เหมือนท่านเพิ่งจบมาด้วย เกียรตินิยมอันดับ 1 แล้วก็ไปต่อที่มหาวิทยา ลัยเคมบริด จ์ที่อังกฤษ กลับ มาก็ ไฟแรง เป็นคนที่มีความเห็นทาง กฎหมายที่ดี ผมก็มีโอกาสทำ�งาน กับท่านตอนช่วงซัมเมอร์ ท่านเป็น คนไฟแรง บอกว่ า นอนวั น ละ 4 ชั่วโมง แต่ก็พูดได้ทั้งวัน ทั้งตอน สอน ทั้งตอนไม่สอน ตอนนั้นผม เองก็อยากเป็นอาจารย์เหมือนกัน แต่ยังไม่มีช่องทาง เพราะตื่นเต้น เวลาพูดกับคนหมูม่ าก แต่ตอนนีไ้ ม่ แน่ อาจจะเปลี่ยนใจแล้ว
ตอนนี้ผมก็จะทำ�หน้าที่ของตนเอง ให้ดี่สุด อย่างงานอินเฮ้าส์ ก็ถือว่า มาได้ระดับหนึง่ แล้ว เพราะอายุกย็ งั ไม่ ไ ด้ ม าก ในอนาคตก็ อ าจขยั บ ขยาย ทำ�งานที่มันชิ้นใหญ่มากขึ้น ล่ อ ลู ก ช น หรือรับงานพิเศษเป็นอาจารย์ ก็เป็นทางเลือก เ ป็ น ค ดี ที่ดี เพราะก็ได้ต่อยอดความรู้ และได้รู้จักคน แรกก็เจอคู่ มากขึ้น ชกรุ่นใหญ่ แต่สุดท้าย ฝากไปถึ ง ผู้ ที่ ส นใจในงานด้ า น ฝ่ า ย ผ ม ก็ กฎหมายทุกคนว่า ทำ�งานสายนีก้ ส็ นุก ทำ�งาน เ ป็ น ฝ่ า ย ไปได้แก้ปัญหาไปตลอด เด็กรุ่นใหม่ถ้าเกรด ชนะคดี ไม่ดีก็ไม่ต้องกังวล ไม่มีปัญหากับการทำ�งาน แน่นอน ฝึกตัวเอง มีความตั้งใจจริง ก็ประสบ ความสำ�เร็จได้เช่นกัน
ทางช่อง Nation Chanel จากนั้นก็ออกมาทำ�รายการ Motor World และ รายการพลิกฟื้นคืนชีวิต สังเกตุได้ว่าแต่ละ รายการเป็นคนละประเภทเลย แต่ปอเปี๊ยะก็แฮปปี้ที่ จะได้เจอคนหลายๆ รูปแบบ หลังจากนั้นก็ได้ ทราบข่าวว่าทางทีวีบูรพาเปิดรับสมัคร คนเดิน เรื่อง ของรายการคนค้นคน ซึ่งปอเปี๊ยะชอบ รายการนีม้ ากเลยไปแคสติง้ แบบไม่ตอ้ งคิดนาน เลย ซึ่งผลออกมาคือไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) เพราะ ว่าคาแรคเตอร์ไม่ได้เลย จากนัน้ ทีวบี รู พาก็มกี าร แคสติ้งพิธีกรรายการกระบี่มือหนึ่ง ซึ่งปอเปี๊ยะก็ ผ่านการแคสติ้งมาได้ และงานล่าสุดนี้คือผู้ประกาศ ข่าวบันเทิง ประจำ�รายการ “ยกทัพข่าวเช้า” ทางช่อง PPTV HD36 ค่ะ “งานข่าวสายบันเทิงเนี่ยเป็นอะไรที่ปอเปี๊ยะมองข้าม ไป ทั้งๆที่มันเป็นอะไรที่ใกล้ตัวปอเปี๊ยะเลยนะ เพราะปอเปี๊ยะ โตมากับโทรทัศน์ โตมากับละครจักรๆ วงศ์ๆ (หัวเราะ) และด้วย ความที่เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เลยคิดว่าตัวเองจะเอาอะไรไป สู้คนอื่นเค้า (หัวเราะ) แต่พอมาลองทำ�แล้วคือมันเหมือนเราไม่ ได้มาทำ�งาน มันคงเป็นเพราะเราสนุกไปกับงานค่ะ “สิ่งที่ปอเปี๊ยะสนใจในช่วงนี้ก็คืออยากทำ�รายการ
บันเทิงค่ะ แต่เป็นรายการบันเทิงน้ำ�ดี ที่ผู้ชมจะได้ ประโยชน์หรือสาระอะไรจากสิ่งที่เรานำ�เสนอ เช่น สกูป๊ ชีวติ ดารานักแสดงแต่ละคนทีก่ ว่าจะมาถึงความ สำ�เร็จในทุกวันนี้เป็นมายังไง หรือ เป็นรายการ บันเทิงที่ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม คือปอเปี๊ยะเชื่อว่า ถ้าเราช่วยกันส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของไทยไปใน สื่อบันเทิง เราก็ไม่แพ้เกาหลีเลยนะ คือถ้าเราทำ�กัน จริงๆ เรามีอะไรให้นำ�เสนอมากกว่าเยอะเลย และที่ อยากทำ�บันเทิงน้ำ�ดีเพราะว่า อย่างที่บอกเลยว่าปอ เปี๊ยะโตมากับโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อ เยาวชน ยิ่งเราอยู่ในยุคที่สื่อเข้าถึงง่ายมากเพียง ปลายนิ้ว เรายิ่งต้องนำ�เสนอแต่สิ่งดีๆ “สุดท้ายนี้อยากฝากให้ติดตามเป็นกำ�ลัง ใจให้ปอเปี๊ยะด้วยนะคะกับรายการ “กระบี่มือหนึ่ง” ทางช่อง 7 และรายการ “ยกทัพข่าวเช้า” ทุกวันจันทร์ ถึงศุกร์ทชี่ อ่ ง PPTV HD36” หรือถ้าอยากจะตามติด ชีวิตกันไปเลยก็เข้าไปที่แฟนเพจ www.facebook. com/porpeerfanpage หรื อ Instagram : @porpeer ค่ะ
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
11
BINGEWATCH Bo
Once Upon A Time การตีความใหม่ ของนิทานกาลครั้งหนึ่ง ในโลกนี้ไม่มอี ะไรดีสดุ ขัว้ ชัว่ สุดขีด ระหว่างขาวและดำ�ย่อมมีสเี ทา คงจะเป็นคำ�พูดที่ไม่ผดิ นัก แต่ส�ำ หรับนิทานกาลครัง้ หนึง่ ทีเ่ ราเคย ได้รับฟังตอนเด็กๆ ล่ะ ทุกเรื่องที่เราได้รับฟัง มักจะจำ�แนกตัว ละครเป็นตัวดีและตัวร้ายออกอย่างชัดเจน แต่จริงๆ แล้วตัว ละครเหล่านั้นดีพร้อม หรือร้ายกาจขั้นสุดจริงๆอย่างที่เราเคย รับรู้จริงหรือ
Maleficent อีก 1 มุมมองของเทพนิยาย ที่คุณอาจไม่เคยรู้ Sleeping Beauty หรือเจ้าหญิงนิทรา เป็นเทพนิยายสุด คลาสสิค ซึ่งเชื่อได้ว่าผู้ ใหญ่และเด็กๆทุกคนเคยรับฟัง และก็ ตกหลุมรักไม่มากก็นอ้ ย ด้วยความทีเ่ ป็นเทพนิยายทีแ่ ต่งแต้ม จินตนาการของเด็กๆทัง้ ชายและหญิงอย่างครบเครือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นเรื่องราวของเจ้าหญิง เจ้าชาย แม่มด คำ�สาป โดยเจ้า หญิงนิทราถูกพัฒนาจากงานเขียนภายใต้ชอื่ ต่างๆกันนานถึง 400 ปี โดยสามารถสื บ ไปถึ ง เรื่ อ งที่ เ ก่ า ที่ สุ ด คื อ Perceforest ซึ่งเป็นนิยายฝรั่งเศสที่ไม่ทราบผู้แต่ง ในปี 1527
ซึ่งเจ้าหญิงนิทราก็เคยถูกทำ�เป็นภาพยนตร์อนิเม ชั่นโดย Disney เมื่อปี 1959 โดยใช้เวลาสร้างนานกว่า 10 ปี โดยฉบับที่ ใกล้เคียงกับการตีความของ Disney มากที่สุด คือฉบับฝรั่งเศสของ Charles Perrault โดยในฉบับนี้ได้ ดัดแปลงตัวร้ายจากราชินกี ลายเป็นนางฟ้าใจร้าย และได้เพิม่ เรื่องราวของเจ้าชายและจุมพิตแก้คำ�สาป ซึ่งแน่นอนว่า ภาพยนตร์เรือ่ งนีข้ นึ้ แท่นเป็นภาพยนตร์อนิเมชัน่ สุดคลาสสิค ได้ไม่ยากทั้งจากเรื่องราวที่เข้าถึงง่ายและลายเส้นที่สวยงาม และตัวละคร Princess Aurora ก็กลายเป็นตัวละครที่เด็กๆ ใฝ่ฝันและชื่นชอบได้ไม่ยากเช่นกัน หากมองในมุมเด็กๆอาจไม่คดิ อะไรมาก เพราะตัว ร้ายก็คอื ตัวร้าย แต่หากมองในมุมกลับ แค่ไม่เชิญไปร่วมงาน เลีย้ งจะทำ�ให้แม่มดโกรธถึงกับต้องร่ายมนต์ค�ำ สาปเชียวหรือ โดยเมื่อปี 2009 ทาง Disney ได้ประกาศสร้างภาพยนตร์ Maleficent ภาพยนตร์ทบี่ อกเล่าเรือ่ งราวเบือ้ งลึกปูมหลังของ ตัวร้ายระดับตำ�นานจากภาพยนตร์เรื่อง Sleeping Beauty
โดยมี Angelina Jolie รับบทเป็นตัวร้ายสุดคลาสสิคนี้ ด้วยความที่ Angelina Jolie เป็นคุณแม่ของลูกๆ 6 คน (Maddox, Pax, Zahara, Shiloh, Knox & Vivienne) เมื่อเธอบอกกับลูกๆว่าเธอจะรับบทเป็นตัวร้าย ระดับตำ�นาน ลูกๆได้คัดค้านเพราะ “Maleficent เป็นตัว ร้ายนะแม่” ซึ่ง Angie ได้บอกพวกเขาไปว่า เธอจะเล่า ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยของ Maleficent ให้ฟัง และก็ บอกเล่าเรื่องราวจากภาพยนตร์ และแน่นอนว่าได้เปลี่ยน มุมมองของเด็กๆที่มีต่อตัวร้ายไปตลอดกาล “เธอมีด้านมืด เธอเป็นตัวร้าย แต่บททดสอบ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ว่าเราจะสนุกกับตัวร้ายได้ อย่ า งไร แต่ เ ป็ น เรื่ อ งราวที่ ว่ า อะไรที่ เ ปลี่ ย นแปลงคน ธรรมดาให้กลายเป็นวายร้าย โหดร้าย ป่าเถื่อน ทารุณ อะไรที่ทำ�ให้เธอสาปเจ้าหญิงเพียงเพราะไม่ได้ร่วมงาน ฉลองวันเกิดเท่านั้นหรอกหรือ แน่นอนมันต้องมีอะไร มากกว่านั้น” โดย Maleficent เป็นการกลับมาแสดงภาพยนตร์ ของ Angelina Jolie หลังจากทีห่ า่ งหายจากจอภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี 2010 ร่วมไขคำ�ตอบความลับของตัวร้ายที่หลายๆคน รักทีจ่ ะเกลียดได้จากภาพยนตร์ Maleficent กำ�เนิดนางฟ้า ปีศาจ ได้ทุกโรงภาพยนตร์ในวันที่ 12 มิถุนายน 2557
Once Upon A Time เป็นซีรี่ย์อเมริกันชื่อดังที่ออก อากาศทางช่อง ABC ตั้งแต่ปี 2011 ปัจจุบันออกอากาศมาแล้ว 3 Season โดยซีรี่ย์เรื่องนี้เริ่มต้นเรื่องราวเมื่อเหล่าตัวละครสุด รักในเทพนิยายต้องคำ�สาปจากแม่มดใจร้ายจากเรื่อง Snow White อย่าง The Evil Queen และมาใช้ชีวิตในโลกของเรา ดิน แดนที่ไม่มี Happily Ever After OUAT ดำ�เนินเรื่องสลับไปมาระหว่างโลกเทพนิยาย และโลกของเรา โดยตัวละครในเทพนิยายที่เป็นที่นิยมต่างยก ขบวนกันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Snow White, Cinderella, Belle จาก Beauty And The Beast เป็นต้น จุดเด่นของซีรี่ย์ เรื่องนี้คือการตีความและต่อยอดเทพนิยายที่เรารู้จักต่อออกไป และแสดงให้เห็นถึงความคิด จิตใจของตัวละครต่างๆ บางครั้ง ตัวละครที่โผล่ในเรื่องหนึ่ง อาจไปโผล่ในอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหาก ตีความตามเทพนิยายต้นฉบับแล้ว เป็นเทพนิยายคนละเรือ่ งกัน เลยทีเดียว และนอกจากเทพนิยายต่างๆ ในเรือ่ งนีแ้ ล้ว บางตอน ยังมีการผูกเรื่องจากวรรณกรรมชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Frankenstein, Peter Pan และ The Wizard of Oz เป็นต้น นอกจากนี้ด้วยความที่ซีรี่ย์เรื่องนี้ออกอากาศทางฃ่อง ABC ซึ่งมีบริษัทแม่คือ Disney Media Network ทำ�ให้ซีรี่ย์ เรือ่ งนีม้ กี ารดึงเรือ่ งราวตัวละครจากภาพยนตร์อนิเมชัน่ ต่างๆของ Disney มาด้วย โดยล่าสุดในตอนจบ Season 3 Elsa ตัวละคร ที่หลายๆคนตกหลุมรักจากภาพยนตร์อนิเมชั่นสุดฮิตของ Disney อย่าง Frozen ได้ปรากฎกายด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้สร้าง ได้ให้สมั ภาษณ์วา่ อยากบอกเล่าเรือ่ งราวของ Elsa & Anna จาก Frozen รวมถึง Merida จาก Brave ผ่านมุมมองในแบบฉบับ ของ Once Upon A Time ด้วย โดย 1 ในโปรดิวเซอร์ของซีรยี่ เ์ รือ่ งนีค้ อื Adam Horowitz 1 ในโปรดิวเซอร์ผสู้ ร้างซีรยี่ ย์ อดนิยมอย่าง Felicity และ Lost เรียกได้ว่าหากคุณหลงใหลในเทพนิยาย หรือชอบเรื่องราว แฟนตาซี ไม่ควรพลาดซีรี่ย์เรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง
12
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
สิแอนทพีธิ. วรรณประที สตรีป และ ยศกร ศรีอมร
MISSCOVERY Bewtyfulmom
กฎหมายครอบครัว กับสิทธิและหน้าที่ของหญิงไทย : การสิ้นสุดแห่งการสมรส ว่ากันด้วยเรื่องของ... พี่เลี้ยง ดูชื่อบทความคราวนี้แล้วผู้อ่านหลายท่าน คงคิดว่าฟังดูเศร้า แต่คงปฏิเสธมิได้ว่าคน เราเมื่อมีพบก็มีจาก การสมรสจะสิ้นสุดลง นั่นมิใช่ว่าเกิดจากการหย่าวิธีเดียว แต่ กฎหมายยังกำ�หนดไว้ด้วยว่าความตายก็ เป็นเหตุทที่ �ำ ให้การสมรสสิน้ สุดลงด้วยเช่น กั น นอกจากนี้ ยั ง มี ก ารสิ้ น สุ ด แห่ ง การ สมรสโดยคำ�พิพากษาอีกด้วย (ป.พ.พ. มาตรา 1501) การสมรสที่ สิ้ น สุ ด ลงโดยคำ � พิพากษาก็เช่น การขอให้ศาลเพิกถอนการ สมรสที่ เ ป็ น โมฆี ย ะ โดยเหตุ โ มฆี ย ะคื อ บรรดาการสมรสที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของการ สมรส หรือการสำ�คัญผิดในตัวคูส่ มรส การ สมรสโดยถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่ การ สมรสที่มิได้รับความยินยอมจากบุพการี หรือผู้ปกครอง ซึ่งเหตุเหล่านี้ได้เคยกล่าว ไปแล้วในบทความเรื่องเงื่อนไขของการ สมรส โดยที่การฟ้องขอให้ศาลเพิกถอน การสมรสทีเ่ ป็นโมฆียะนัน้ หากคูส่ มรสอีก ฝ่ายรู้เหตุแห่งโมฆียะแต่ยังฝ่าฝืนทำ�การ สมรส ก็จะต้องรับผิดชดใช้ความเสียหาย ให้แก่คสู่ มรสฝ่ายทีฟ่ อ้ งศาลด้วย เหตุเหล่า นี้มีบัญญัติอยู่ใน ป.พ.พ. ตั้งแต่มาตรา 1502-1513 เหตุแห่งการสิน้ สุดของการสมรส อีกเรื่องคือ การหย่า ซึ่งการหย่ากระทำ�ได้ 2 วิธีคือ หย่าโดยความยินยอมของทั้งสอง ฝ่ า ย และหย่ า โดยคำ � พิ พ ากษาของศาล (ป.พ.พ. มาตรา 1514) ซึ่งการหย่าโดย สมัครใจ ต้องไปแสดงความยินยอมกันต่อ หน้าเจ้าพนักงานเพื่อให้จดทะเบียนหย่า จะทำ�การมอบอำ�นาจไปทำ�การหย่ามิได้ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ต้องทำ�เอง ในกรณีถ้าคู่สมรสต้องการหย่า แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอม ก็มิได้หมายความว่า จะไม่สามารถหย่าขาดจากกันได้ ให้มาดู เรื่อง “เหตุฟ้องหย่า” ซึ่งบัญญัติอยู่ใน มาตรา 1516 มีด้วยกัน 12 สาเหตุ ส่วน รายละเอียดของเหตุหย่าแต่ละข้อ รวมถึง
สิทธิและหน้าที่ที่จะใช้สิทธิในการฟ้องหย่านั้น จะถูกบัญญัติไว้ตั้งแต่มาตรา 1517-1530 ที่ผู้ เขียนไม่กล่าวโดยละเอียดเพราะไม่สนับสนุนให้ คนหย่ากัน อยากให้หันหน้าเข้าหากัน รักษา สถาบันครอบครัวให้เข้มแข็งไว้ แต่เมื่อถึงทางตัน ต้องทำ�การหย่ากัน จริงๆ การหย่าโดยความยินยอมของทัง้ สองฝ่าย จะมีผลต่อเมื่อได้จดทะเบียนหย่ากัน ส่วนการ หย่าโดยคำ�พิพากษา จะใช้อ้างกับบุคคลอื่นได้ ต่ อ เมื่ อ นำ � เอาคำ � พิ พ ากษาที่ ถึ ง ที่ สุ ด ไปจด ทะเบียนหย่ากับพนักงานเจ้าหน้าที่ เมือ่ หย่ากัน แล้วก็ตอ้ งแบ่งทรัพย์สนิ ของคูส่ มรสแต่ละฝ่ายกัน ในกรณีหย่าโดยความยินยอมก็ให้แบ่งตามที่มี อยูข่ ณะจดทะเบียนหย่ากัน และในกรณีหย่าโดย คำ�พิพากษาก็ให้แบ่งตามทีม่ อี ยูใ่ นวันทีฟ่ อ้ งหย่า ส่วนสินสมรสหรือความรับผิดในหนี้ ก็ให้แบ่ง กันไปคนละครึ่งเช่นกัน ฟังดูอาจจะไม่คอ่ ยเป็นธรรมกับฝ่ายที่ ใช้สทิ ธิฟอ้ งหย่าทีต่ อ้ งถูกแบ่งส่วนในทรัพย์สนิ ที่ ทำ�มาหาได้ในระหว่างสมรส (สินสมรส) ทำ�ให้ มี คำ � ถามต่ อ ไปว่ า คู่ ส มรสสามารถกำ � หนด ขอบเขตการจัดการ กำ�หนดส่วนของทรัพย์สิน ระหว่างกันได้หรือไม่ คำ�ตอบจะอยู่ในบทความ ครัง้ หน้าคือเรือ่ ง “ทรัพย์สนิ ระหว่างสามีภริยา” ซึ่งมีเรื่องที่น่าสนใจคือ “สัญญาก่อนสมรส” ในครั้ ง นี้ ข อทิ้ ง ท้ า ยไว้ ด้ ว ยถ้ อ ยคำ � วิ นิ จ ฉั ย บางตอนของคำ � พิ พ ากษาศาลฎี ก าที่ 6083/2546 “ ศาลเห็นว่า ความรักเป็นสิง่ ทีเ่ กิด จากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริงคือ ความปรารถนาดีตอ่ คนทีต่ นรัก ความยินดีทคี่ น รักของตนมีความสุข การให้อภัยเมือ่ คนทีต่ นรัก ทำ�ผิด และการเสียสละความสุขของตน เพื่อ ความสุขของคนที่ตนรัก จำ�เลยปรารถนาจะยึด ครองผู้ตายเพื่อความสุขของจำ�เลยเอง เมื่อไม่ สมหวังจำ�เลยก็ฆา่ ผูต้ าย เป็นความคิดและการก ระทำ�ที่เห็นแก่ได้ของจำ�เลยโดยฝ่ายเดียว มิได้ คำ�นึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ตาย หาใช่ ความรักไม่ "
เรื่องที่กังวลใจมากที่สุดระหว่างตั้งท้องคือ เรื่องพี่เลี้ยง อัน นี้ยอมรับว่าดิฉันเป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้ งานบ้านแล้วแต่อารมณ์ งานครัวอย่าให้พูด ติดเตาแก็สต้มมาม่ายังเก้ๆ กังๆ ตอนแรกตั้งใจจะจ้างจากศูนย์จัดหางาน แต่เงื่อนไขเยอะ เหลือเกิน ทั้งค่าจ้าง ค่านายหน้า ค่าโอที วันหยุด วันลา ไหนจะต้อง เรียกสัมภาษณ์ ดูประวัติ ประสบการณ์ สร้างความไว้วางใจ โอ้ย ปวด เฮดค่ะ บอกเลย (เข้าใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเลยว่ารู้สึกยังไง) สุดท้าย คุณนายแม่บา้ นชาวต่างชาติประจำ�บ้านก็ได้รบั มอบ หมายหน้าที่นี้ นางเป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้ รู้ใจ ไม่เคยบ่น พอเรา ออกปากขอให้ช่วยนางก็ไม่อิดออดเลย ตั้งแต่น้องเกิด นางก็วิ่งรอก ทำ�งานบ้านให้เสร็จ เพื่อมาช่วยเฝ้าน้อง อุ้มน้อง อาบน้ำ�น้อง ช่วยทุก อย่าง ช่วงแรกๆ แอบกลัวว่าเนื้อตัวจะสกปรกจากการทำ�งานบ้าน ไม่ ค่อยอยากให้อมุ้ น้อง และกลัวจะทำ�น้องหล่น และกลัวจะติดโรค เรียก ว่านอยด์ไปสิบแปดอย่าง สุดท้ายนางก็ทำ�ได้ ปลื้มปริ่มฟินนาเล ยิ่งกว่าได้ไปฮันนีมูนที่โบราโบรา ลุกขึ้นยืนปรบมือให้นางรัวๆ 30 ที แต่กน็ ะคะ ไม่ใช่ทกุ บ้านจะโชคดีกบั การแสวงหาพีเ่ ลีย้ ง นีค่ อื ความเห็น ส่วนตัวในเรื่องนี้ 1. พี่เลี้ยง มีหน้าที่เลี้ยงน้อง ดูแลความปลอดภัย ความ สะอาด กิจวัตรประจำ�วันของน้องในเวลาทีพ่ อ่ แม่ผปู้ กครองไม่วา่ ง *ย้�ำ ว่าไม่ว่าง ถ้าว่าง คุณควรเลี้ยงลูกเอง การอาบน้ำ� ป้อนข้าว เล่นกับลูก อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกๆ วันเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ทุก นาทีมคี า่ อย่าอ้างเรือ่ งงาน ถ้าคิดว่างานมีความสำ�คัญมากกว่า จงอย่า มีลูก! 2. คุณควรเลีย้ งลูกเองในเวลากลางคืน งานพีเ่ ลีย้ งก็เหมือน งานอื่นๆ ต้องมีเวลาพัก เวลานอน เวลาส่วนตัว ถ้ากลางคืนยังต้อง เลี้ยงน้องอีก พี่เลี้ยงจะอดนอน เบื่อน้อง และเซ็งเจ้านายอย่างคุณ แน่นอน 3. อย่าคาดหวังกับพีเ่ ลีย้ งทีจ่ บมาเฉพาะทาง หรือได้รบั การ เทรนด์มาจากศูนย์ฯ หรือมีประสบการณ์ความชำ�นาญ คุณสมบัติที่ สำ�คัญที่สุดคือทัศนคติและสัญชาตญาณความเป็นแม่ อย่าเพิ่งบ่นว่า โอ้ย! ดูยาก นามธรรม จับต้องไม่ได้ ดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามนุษย์ แม่ทุกคนสามารถเซนซ์ได้ในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าจะต้องกลับ ไปทำ�งาน หรือเลี้ยงเองไม่ไหว (อย่างดิฉัน) จัดจ้างไว้ก่อนตั้งแต่ท้อง แก่ ง่ายๆก็คอื ตัง้ แต่กอ่ นลูกจะมา ให้มาช่วยจัดห้องน้อง ซือ้ ของเตรียม ของให้น้อง นั่งดูละครเป็นเพื่อน ยังให้ช่วยดูแลเราช่วงใกล้คลอดได้ ด้วย อย่าเสียดายเงิน จ้างมาให้รู้จักรู้จิตรู้ใจว่าเป็นอย่างไร วาจาคำ� พูด กิริยาท่าทางจะบ่งบอกทัศนคติได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่ า ได้ พี่ เ ลี้ ย งดี นอกจากพ่ อ แม่ - ผู้ ใ หญ่ ใ นบ้ า น สบายใจ ลูกก็จะได้ทั้งความรักและทัศนคติที่ดีจากพี่เลี้ยงด้วย รับรอง ว่ายิงปืนครั้งเดียว ได้นกทั้งฝูงค่ะ
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
13
Changes to investment rules signal next stage of journey for Chinese insurance industry By Andrew Holderness of Clyde & Co LLP
The China Insurance Regulatory Commission (CIRC) has historically played a prominent role in managing competition in the insurance market. However, with the launch of its new Insurance Company Mergers and Acquisitions Regulations, they are relaxing a number of competition rules to effect significant change in the industry. From 1 June, insurers in China – including Chinese-based foreign insurers and domestic insurers – will for the first time be allowed to buy shares in more than one company operating in competing lines of business. This brings it in line with other competition laws now in place in the country. The way in which capital can be contributed is also changing; under the new rules companies will be permitted to use external debt to fund acquisitions, up to a limit of 50% of the overall price, subject to approval from the CIRC. The next stage These changes are the latest steps in a process which has seen the CIRC make a number of moves to liberalize the industry – for example in 2012 it opened up the motor third-party liability insurance market to foreign invested insurers in China. Foreign insurers have struggled to expand in China – market share for overseas insurance firms declined to 4.3% in 2012 from 8.9% in 2005 according to CIRC data. This is due in part to the previous restrictions on M&A that made it difficult for them to achieve scale and maximize advantages in underwriting techniques in China.
By Shannon Doyle Barna Of King & Spalding LLP
A number of insurance regulators across the Asia Pacific region have expressed the view that there are too many industry participants and have either indicated that new licenses will not be issued, or at the very least, new entrants will be encouraged to enter local markets through acquisition rather than new start-ups. These new rules in China are exactly in line with this philosophy, aiming to achieve consolidation in the market to allow stronger domestic and foreign insurers to invest in weaker peers – facilitating a stronger and more competitive insurance sector. As well as foreign investment, it is likely that there will be more domestic consolidation and rationalization of existing ownership structures. Those insurers who are seeking investment partners or an injection of capital will find it easier to do so under the new rules. Where next? The direction of travel is clearly set and it will be interesting to see what happens next. China may also look at opening up other key areas of the market and changes around pensions, retirement products, tax incentives and health insurance could allow foreign insurers to leverage their knowledge and expertise, ultimately paving the way for more transaction activity. Equally, from a stronger base, domestic insurers may look to move more rapidly into other mature markets, and the deal flow will reverse with more Chinese inbound investment to come to markets such as Lloyd’s, Europe and the US.
Progress on the Trans-Pacific Partnership (TPP) currently is at a standstill while the United States and Japan engage in bilateral trade negotiations. Talks in April were not as fruitful as many had hoped, with issues surrounding automobiles and agriculture leaving the two countries at an impasse. Many in the United States are encouraging the Obama administration to hold firm to its negotiating position, suggesting that the TPP negotiations should not be concluded without serious concessions from Japan. One of the main concerns for the United States is Japan's agricultural tariffs. Japan is fighting to maintain tariffs on five key farm product categories: rice, wheat, beef and pork, dairy products, and sugar. Japan currently imposes a 778 percent tariff on imported rice, a 252 percent tariff on imported wheat, and a 360 percent tariff on imported butter. The United States would like to see substantial cuts in these tariff rates at the very least, but ideally would prefer full market access for U.S. agricultural products as part of the TPP. Japan and Australia recently engaged in similar discussions over agriculture as part of bilateral economic partnership agreement negotiations. In early April, Japan agreed to cut the tariff on frozen beef in half over 18 years and to increase Australia's duty-free quota for cheese. These concessions eventually may have wider implications for Japan's negotiations with the United States and the TPP negotiations generally. The automotive industry is another key point of contention between the United States and Japan. Some sources estimate that auto-related trade accounts for nearly 75 percent of the U.S. trade deficit with Japan. The Japanese auto market maintains high barriers to imports, and the United States currently has tariffs in place on Japanese cars and light trucks. One U.S.
proposal reportedly would have the United States phasing out these tariffs over a period of 30 years, provided that Japan agrees to maintain a minimum level of automotive imports from the United States. Japan reportedly feels that the proposed phase-out period for U.S. tariffs is unusually long, particularly because the United States agreed to phase out tariffs against South Korean automobiles over a period of ten years under the U.S.-Korea Free Trade Agreement. Several members of Congress reportedly are using a letter to U.S. Trade Representative Michael Froman and Agriculture Secretary Tom Vilsack to urge the Obama Administration not to support a TPP deal with Japan if barriers to the Japanese market are not removed for U.S. agricultural products. Similarly, U.S. agricultural groups previously threatened to oppose TPP's eventual ratification if Japan is an involved party and does not lower its tariffs and other barriers to agricultural imports. On April 16, U.S. meat and poultry groups wrote a letter to President Obama praising his "strong stance" in TPP talks with Japan. Ambassador Froman and Japanese Minister of State for Economic and Fiscal Policy Akira Amari held several meetings in April to attempt to close the gaps between the two countries' negotiating positions. On April 24 and 25, President Obama and Japanese Prime Minister Shinzo Abe met in Japan, hoping that bilateral talks on the highest level could lead to a breakthrough in negotiations. However, the two leaders failed to reach an agreement. While the official joint statement issued by the White House indicates that Japan and the United States made unspecified progress, it tellingly goes on to state that "there is still much work to be done to conclude TPP.
14
ลอว์นิวส
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
LEGAL TERMS & CONCEPTS MADE EASY Ann & Edward Thiravej Ploysongsang
We continue our focus on the legal profession in other countries. In this issue we look east to Japan to their main legal professional, the bengoshi. Bengoshi (noun). This is the Japanese word for advocate or lawyer. As in other jurisdictions, they are the only professionals authorized to represent others in court and offer advice on legal matters. Historically, 75% of a bengoshi’s work was spent on trial work and only 10% spent on general business consulting although those percentages may have changed. The licensing requirement to become a bengoshi presents a steep barrier to entry in this profession. Prior to 2006, the number of bengoshi was deliberately kept small with the main barrier to entry being the national bar examination, which had a legendarily low pass rate of about 3 – 5%. The reasons most often given for such a low pass rate was mainly cultural: Because Japan is not a litigious society and instead prefers to settle disputes in consensual ways, the need for
Comparison with Thailand and the US
BENGOSHI
Japan’s definition of lawyer seems more similar to Thailand and the US definition: namely a person licensed to represent clients in courts of law and advise on legal matters. Still, however, the Japanese legal profession does consist of several other law related practitioners including administrative scriveners, judicial scriveners, patent specialists, and tax agents. So in that way Japanese professions that work in the legal arena are diverse. Please note that the contents and views expressed in this issue are strictly those of the authors, and do not necessarily represent the views of the Lawyers Council of Thailand, its leadership or its members.
lawyers is not great. It was also feared that if the number of lawyers was large, this would change the nature of Japanese society and make them more litigious (i.e., that more lawyers would promote greater litigation). Whether the second reason is true or not is a subject best left to other newspaper columns, but certainly the first reason made sense. From 2006, the numbers of bengoshi have increased due primarily to a higher pass rate on the national bar examination, now 33% as
opposed to 3 – 5%. The easement was brought about by the realization that there simply were not enough bengoshi to handle work in such areas as international mergers and patent disputes. As a result, there are now about 32,000 bengoshi now working in Japan with about 25% of them admitted in the past 5 years. The numbers are likely to increase over the next several decades though not likely to the same levels as seen in some Western countries.
Aside from passing the national bar examination, bengoshi must also seek membership with the bar association where they practice. For bengoshi practicing in Tokyo, they must belong to one of the three Tokyo Bar Associations: Tokyo Bar Association, First Tokyo Bar Association, and the Second Tokyo Bar Association. Example 1: It is now possible for foreign law firms to hire bengoshi directly whereas previously they had to work through Japanese law firms.
Example 2: Admitted bengoshi are required to complete a one-year internship of one year under the supervision of the Legal Research and Training Institute of the Supreme Court of Japan. Example 3: It is still possible for attorneys at foreign law (gaikokuho jimu bengoshi) or gaiben to be admitted to practice the law of their jurisdiction in Japan. Such foreign bengoshi are essentially foreign legal consultants.
Domain name + ripoff report = bad faith (By John C. Greiner of Graydon istered the domain name schwartzap- domain name is confusingly similar, panel’s view, this was bad faith. The troll never appeared in the fellawyers.com to transfer the name to and that the troll registered the offend- Head & Ritchey LLP) A New York based law firm recently won an arbitration proceeding in a fight over the use of a domain name. The arbitrator ruled the domain name was confusingly similar to the name of the law firm. It also applied a novel “bad faith” standard. That’s good news for the law firm, but maybe not so great for Web site operators who want to vent their gripes about customer service. The law firm in question is Schwartzapfel Lawyers, P.C. It sought a ruling under the Uniform Domain Name Dispute Resolution Policy (UDRP) to compel the party who reg-
the law firm. The law firm was not happy that visitors to the Web site got routed to a Ripoff Report page dedicated to disparaging the firm. The UDRP arbitration process is a relatively quick and low cost method for resolving disputes about domain names. It was adopted back in the day when “cybersquatting” was a money making endeavor. There was a time when trolls would register trademark brand names as domain names, and offer to sell the name to the trademark holder. The UDRP requires the trademark holder to demonstrate that the
ing domain name in bad faith. In this case, item one wasn’t too hard to prove – “schwartzapfellawyers.com” is unquestionably similar to “Schwartzapfel Lawyers, P.C.” As the panel noted, merely removing the letters “P.C.” at the end doesn’t lessen the confusion to any degree. The bad faith element, though, was a little trickier. Typically, bad faith consists of the troll offering to sell the name back to the trademark holder. That wasn’t the case here. The troll just wanted the world to hear its beef with the firm, which apparently consisted of a “series of explicit insults aimed at attacking” the firm. In the
proceeding to defend itself, so it’s no great surprise that it lost. But the decision raises some troubling issues. Is it really “bad faith” to criticize a law firm (or a restaurant or a mechanic for that matter)? And wouldn’t anyone who was initially confused by the domain name realize it was not the law firm’s site the minute it landed on the Ripoff Report site? The UDRP process is a great tool to prevent misconduct. I’m just not sure it should be used to stifle criticism.
ลอว์นิวส์
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
15
Entering the AEC
Courtesy by Dej-Udom & Associates
INDONESIA (2) Visas & Work Permits
Banking and Foreign Exchange
In Indonesia, all foreigners wishing to live or work in Indonesia must comply with the country’s complex, bureaucratic immigration and work‐permit regulations. English is not widely spoken except in the big cities and tourist areas.
Under Indonesian law, there are only two bank types: commercial and rural. The rural banks are not directly involved in the payment system and have restricted operational areas. Operationally, Indonesian banks are classified as Sharia or Non‐Sharia. At the 2009 Indonesian Annual Banking Summit, a national banking industry policy was drafted to prepare the industry for the arrival of the ASEAN Economic Community in 2015 and to increase protection from the effects of a global economic crisis.
a) Visas - All visitors to Indonesia need visas, and free 30‐day Short Term Visitor Visas are available for some ASEAN members including Brunei, Malaysia, the Philippines, Thailand, Vietnam, and Singapore. Visitors from 64 countries are eligible for a 30‐ to 60‐day Visa on Arrival for tourism purposes. 60‐day Business Visas are also available for normal business activities and must be obtained at an Indonesian embassy or consulate outside the country. To receive this visa, a person must be sponsored and cannot be locally employed or receive payments. For employment, Indonesia has strict and complicated immigration requirements for foreigners. A regular employment visa is only valid for 60 days, and for longer stays, a Temporary Residence Permit is needed. b) Work Permits - To live and work in Indonesia, foreigners must obtain work permits. They are usually issued for 12 month periods and may be extended. Along with a work permit, foreigners must also obtain a Limited Stay Permit (KITAS), and Indonesia is serious about only having foreigners in positions that cannot be filled by locals. Companies that hire foreigners must provide education and training programs for Indonesians to replace the foreigners within certain time frame.
Intellectual Property Protection The Directorate General of Intellectual Property Rights (DGIP) is responsible for all of Indonesia’s intellectual property matters and offers protection for patents, trademarks, designs, plant varieties, and copyright. Foreign businesses with no local place of business must use an Indonesian IP attorney or agent for all IP applications. Indonesia is a member of WTO and WIPO, compliant with the TRIPS Agreement and part of the Berne Convention since1997, the Paris Convention since 1950, the Patent Cooperation Treaty since 1997 and the Hague Agreement since 1950. Its Copyright Law and Trademark Law provide a solid foundation for enforcement, and the Copyright Law requires courts to try cases and render judgments within 90 days. Labor Under the 2003 Labor Law, the Ministry of Manpower and Transmigration (MOMT) is responsible for
all labor matters. The country’s employees have a wide range of fundamental labor rights, and employee termination is highly regulated and requires permits from unions, management and the MOMT. Types of Business Organizations a) Sole Proprietorship - Sole proprietorships are very informal and require no formal registration. b) Partnership - The three types of partnerships are Persekutuan Perdata, Persekutuan Firma, and Persekutuan Komanditer and only apply to Indonesian citizens. c) Company - Indonesia has three company types: the PT Biasa or Local Company, the Domestic Investment Company (PT PMDN), and the PMA Company or Foreign Investment Company. 100% foreign-owned PMA companies are possible in many cases. d) Joint Venture Company A Joint Venture Company is a foreign direct investment company between foreign and domestic capital that is owned by Indonesian citizens or organizations or through straight investment. e) Branch Office - Except in the banking sector, a branch office is not allowed. f) Representative Office - A foreign company is permitted to establish a representative office in Indonesia. It can only perform marketing and promotional activities and market & business opportunity research, and it cannot generate revenue or engage in business.
Taxation Indonesia’s tax system is governed by the General Tax Provisions and Procedures Law, the Income Tax Law, and the Value-Added Tax and Luxury Sales Tax Law, and Indonesia has Double Taxation Agreements with 59 countries. a) Value Added Tax (VAT) & Luxury Goods Sales Tax –A 10% VAT rate is levied on the import of goods and the sale of almost all goods and services. Consumption of foreign services or intangible goods is also taxed at the 10% VAT rate. b) Personal Income Tax Personal Income Tax rates apply for tax residents and nonresidents. Tax residents have a progressive tax rate that runs up to 35%, and nonresidents pay a flat 20% tax rate on their Indonesian income. A tax resident is someone who resided in Indonesia for 183 days or more in any 12 month period. c) Corporate Income Tax Indonesia has a flat Corporate Income Tax rate of 25%. Capital assets are depreciated differently for tax and accounting purposes, and carrying back tax losses is not allowed and tax consolidation is not available. d) Withholding Tax - The comprehensive Withholding Tax system applies to both resident and non‐ resident taxpayers. Dividend, royalty, interest, and branch remittance payments along with technical services fees remitted abroad are subject to a 20% rate. Under certain tax treaties, reductions are possible.
LAWNEWS
ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 วันศุกร์ที่ 16 - วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ลอว์นิวส
BULLETINS
Friday - Saturday, May 16 - 31, 2014
Free!!
Japan joins fight against international child abduction
ลอว์นิวส์
goldenageofgaia.com
Ye a r s o f e f f o r t h a v e achieved a milestone in the fight against parents who take or keep their own children across international borders to gain an advantage in custody disputes. On January 24, 2014, Japan signed the 1980 Hague Convention on the Civil Aspects of International Child Abduction (“Hague Abduction Convention”). On April 1, 2014, the Hague Abduction Convention entered into force between Japan and the United States. In many ways, just this one country signing on to one international treaty represents a major victory and heralds ever more progress in the future. For many years the left behind parent of a child who was wrongfully removed to or retained in Japan by the Japanese parent had few if any remedies. Two main factors made this so: Japan’s failure to ratify the Hague Abduction Convention, and Japanese legal tradition and culture in custody matters. As
abductions, that involve Japanese citizens increased, so did the international pressure on Japan to ratify the Hague Abduction Convention. Japan’s accession to the Hague Abduction Convention, thus, is a win for all who are affected by this area of the law. It is a symbolic victory because Japan was the only G7 country that had never acceded to the Hague Abduction Convention. Japan finally has become one more in a long list of countries from North America and most of Europe, much of Central and South America, and Australia, to formally adopt the Hague Abduction Convention. It is a substantive victory too, because now future left behind parents can seek return of their children (the Hague Abduction Convention only applies prospectively). Now also, at least in theory, a legal mechanism exists to seek enforcement of foreign custody order access terms in Japan, something that before was missing. Unfortunately, the Japanese legal system and culture, which long have been at odds with notions of
reuters.com
By Hadrian N. Hatfield of the number of international Shulman Rogers Gandal marriages, and consequently failed marriages and child Pordy & Ecker PA
joint custody, two parent involvement, and enforcement of foreign custody orders, remain as obstacles. How, and how quickly, Japanese law and society will respond and turn theory into reality remains to be seen. The larger context, meanwhile, is encouraging. Changes in the law inevitably and by definition reflect changes in society. The law changes slowly because society changes slowly. Japanese society is no exception; but change it will. From only
a few countries in the beginning, the Hague Abduction Convention now counts over 90 members. Many of these countries have faced, and overcome, societal obstacles, including internal judicial ignorance and resistance. Many societies, including the United States, have changed the way they view parental roles, sometimes in a relatively short time span. International treaties, such as the Hague Abduction Convention, have played a role in this change. And they
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567
รวมข่าว เล่ากฎหมาย ให้สาระประชาชน
will continue to play a role. For example, expect soon that our own domestic relations laws will use “country of habitual residence” more, and will require the “voice of the child” be heard and reflected more in custody determinations. These coming changes are the result of international treaties addressing family law issues, and are evidence that the international community can and does influence – and change - domestic culture and law.
ชำ�ระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547 ปณ.ราชดำ�เนิน เหตุขัดข้องที่นำ�จ่ายผู้รับไม่ได้ 1. จ่าหน้าไม่ชัดเจน 2. ไม่มีเลขที่บ้านตามจ่าหน้า 3. ไม่ยอมรับ 4. ไม่มีผู้รับตามจ่าหน้า 5. ไม่มารับภายในกำ�หนด 6. เลิกกิจการ 7. ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ 8. อื่นๆ ลงชื่อ.........................................