ลอว์นิวส์
แจกฟรี
ฉบับที่ 19 1-15 ตุลาคม 2557
27th LAWASIA Conference
3 to 6 October 2014 Bangkok, Thailand CUTTING EDGE ISSUES FOR LAWASIA LAWYERS
issn 2350-9848
ฉบับต้อนรับการประชุ ม LAWASIA ครัง้ ที่ 27 รายชื่อสัมมนาอย่างละเอียด ท�ำความรู้จักกับวิทยากรในงาน (หน้า 9) ครบรอบ 100 ปี ทนายความยุ คใหม่ (หน้า 6) ชวนคุยเรื่อง การคุ้มครองสิทธิเด็กที่ถูกล่วงละเมิด (หน้า 3) 5 ภาพยนตร์เขย่าขวัญประจ�ำเดือนตุลาคม (หน้า 7)
2 EDITOR's LETTER
0
สวัสดีอกี ครัง้ เอ เราบีนะ วันนี้เรามีเรื่องมาถาม เกีย่ วกับการฉ้อโกงกับการลักทรัพย์หน่อยจ้ะ
ยินดีจา
กรณีที่สอง การแอบเอาทรัพยอยางอื่นใสเขาไปในกลอง พัดลม แลวจายเงินเฉพาะพัดลม เปนการเอาไปซึง่ ทรัพยของผูอนื่ โดยทุจริต เจาของทรัพยเขาไมไดตั้งใจมอบ การครอบครองใน ทรัพยที่แอบใสใน กลองพัดลมดวย เมื่อเอาทรัพยไป จึงเปน การลักทรัพยจะ
เพือ่ จะมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและทีด่ นิ และภาษีบำ� รุงท้อง ที่ โดยในร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่นั้นจะจัดเก็บภาษี แพงขึน้ เอากับทีด่ นิ รกร้างว่างเปล่าหรือไม่ทำ� ประโยชน์แก่ สภาพที่ดิน โดยจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี แต่ รวมแล้วไม่เกิน 4% ทุกท่านคงเคยได้มีโอกาสไปไหว้นมัสการหลวง พ่อโสธร ทีว่ ดั หลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรากันบ้างแล้ว นะคะ ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามมาก และมีผู้คนไปกราบไหว้ บนบาน ต่อองค์หลวงพ่อเป็นจ�ำนวนมากเช่นกัน แต่ที่น่า เสียดายกับเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ จากการทีพ่ อ่ ค้าแม่คา้ ทีข่ าย ของบริเวณรอบๆ วัดนั้น เกิดการทะเลาะวิวาท แย่งพื้นที่ ขายของกัน ซึ่งเป็นภาพที่ท�ำให้ดูเสื่อมเสียต่อวัดอันเป็น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอันมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้คง ต้องฝากผู้มีอ�ำนาจให้เข้าไปช่วยจัดสรร ควบคุม ดูแลการ แบ่งพื้นที่ขายของด้วยนะคะ หันมาดูข่าวต่างประเทศกันบ้าง ก็เป็นที่ทราบ กันแล้วว่าผลการโหวดจากประชาชนในประเทศสก็อต แลนด์ลงคะแนน NO เป็นการแสดงว่าชาวสก็อตแลนด์ไม่ ต้ อ งการให้ ป ระเทศของตนแยกตั ว ออกมาจากสหราช อาณาจักร โดยคะแนนเสียงที่ออกมาก็ค่อนข้างใกล้เคียง กันมาก แต่กส็ รุปได้วา่ ประเทศสก็อตแลนด์ยงั คงขึน้ อยูก่ บั สหราชอาณาจักรต่อไป และจากความพ่ายแพ้ในคราวนี้ นายอเล็กซ์ แซลมอนด์ นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์ได้ ประกาศลาออกจากต�ำแหน่งแล้ว
คืออย่างนี้นะ
จากทีส่ หรัฐได้ประกาศ ให้ ป ระเทศไทยตกลงมาอยู ่ ใ น บั ญ ชี Tier 3 ตั้ ง แต่ วั น ที่ 25 มิถนุ ายน 2557 ซึง่ ตามปกติสหรัฐ จะประกาศมาตราการตอบโต้ที่มิใช่ความช่วยเหลือเพื่อ มนุษยธรรมและความช่วยเหลือที่เกี่ยวกับการค้าภายใน 90 วัน ซึง่ ขณะนีค้ รบระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ด้วยเหตุทที่ าง สหรัฐเห็นว่าประเทศไทยได้พัฒนาการด้านปัญหาการค้า มนุษย์อย่างจริงจังและดีขึ้น ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีส�ำหรับ ประเทศไทยเรา เพราะจะส่งผลให้ธรุ กิจการส่งออกของไทย ไปสหรัฐและยุโรปดีขึ้นไปด้วยนั่นเอง ก่อนจากกันท้ายนี้ ขอประชาสัมพันธ์อกี ครัง้ หนึง่ ส�ำหรับงานสัมมนา 27th LAWASIA Conference ซึ่ง สภาทนายความได้เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานนี้ขึ้นใน วันที่ 3-6 ตุลาคม 2557 นี้ ณ โรงแรม Chatrium Riverside ก็อยากจะให้นักกฎหมายไทยไปร่วมงานกันมากๆ นะคะ ซึง่ จะเป็นโอกาสให้นกั กฎหมายไทยได้พบปะกับนัก กฎหมายจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียและได้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นซึ่งกันและกันค่ะ แอน พี. วรรณประทีป บรรณาธิการ
คือเราได้ยนิ มาว่า กรณีอุทาหรณ์ว่า หนึ่งต้องการซือ้ แจกันราคา 8,000 บาท แต่ทาํ การสลับป้ายราคากับ แจกันราคา 800 บาท เพื่อจ่ายเงินใน ราคา 800 บาท เป็ นการฉ้อโกง แต่ ถ้า หนึ่ง ซือ้ พัดลม แต่แอบเอาของ อย่างอื่นในร้านใส่กล่องพัดลม แล้ว ไปคิดเงินแต่กล่องพัดลม อย่างนี้เป็ น ลักทรัพย์ มันต่างกันอย่างไรล่ะเอ?
law cartoon กรณีแรกนะ การสลับปายราคาทรัพย ตอนไปจายเงิน หนึ่ง หลอกลวงเจาของทรัพยดว ย การแสดงขอความอันเปนเท็จและไดไปซึ่ง ทรัพยสินจากผูถูกหลอกลวง คือเจาของเขาเต็มใจสงมอบการ ครอบครองในตัว ทรัพยใหเพราะถูก หลอก เปนการ ฉอโกง
ดังนั้น หลักเกณฑประการหนึ่งทีเ่ ราเปรียบเทียบความแตกตางระหวางลัก ทรัพยตาม ป.อ. มาตรา 334 กับ ฉอโกง มาตรา 341 ได นั้นคือ ดูวา เจาของทรัพยนนั้ ไดมกี ารสงมอบการ ครอบครองในทรัพยใหหรือไม หากเจาของทรัพยเต็มใจ สงมอบการครอบครองใหผูกระทํา โดยถูกหลอกหรือถูก ปกปดขอความจริง แบบนี้ผูกระทํามีความผิดฐาน ฉอโกง แตถาเจาของทรัพย ไมไดสงมอบการครอบครอง ในตัวทรัพยใหแกผูกระทํา แลวผูกระทําเอาทรัพยไปโดย ทุจริต เชนนี้ผูกระทํามีความผิดฐานลักทรัพยจะ
ว้าว ขอบใจ มากๆ นะเอ
ไดเสมอจะ เรื่องและภาพ : ปองกานต์ ขุนภาษี
ที่ปรึกษา นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายพูลศักดิ์ บุญชู ผศ. ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุรพล สินธุนาวา นายชวน คงเพชร ดร. สุธรรม วลัยเสถียร นายสุมิตร มาศรังสรรค์ นายนิวัติ แก้วล้วน ดร. เกียรติศักดิ์ วรวิทย์รัตนกุล บรรณาธิการ นางแอน พลอยส่องแสง กองบรรณาธิการ นายสุวิทย์ เชยอุบล นายสุนทร พยัคฆ์ นายวิเชียร ชุบไธสง นางสาวอรอนงค์ เทศะบ�ำรุง นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ นายสุชาติ ชมกุล นายชลิต ขวัญแก้ว ร้อยตรีสุรศักดิ์ รอนใหม่ นายพิเชฐ คูหาทอง นายอาสา เม่นแย้ม นายผาติ หอกิิตติกุล นายวิทยา แก้วไทรหงวน นายวันรัฐ นาคสุวรรณ นายโอฬาร กุลวิจิตร นายวีรวัฒน์ จิตต์ปรุง นายยศกร ศรีอมร นางสุภัทธนีย์ พวงส�ำลี นางสาวฐิติพร อรุโณทัยวิวัฒน์ ศิลปกรรม นายฉัตรชัย ทองศักดิ์ นายสุวชัช ใจอิ่ม นางสาวปองกานต์ ขุนภาษี ผู้ผลิต สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนน ราชด�ำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 ติดต่อกองบรรณาธิการ 0-2280-1567 อีเมล lawnewslct@gmail.com เว็บไซต์ www.lawnewslct.blogspot.com พิมพ์ที่ 96 หมู่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
Cover page photo : www.shedexpedition.com
สวัสดีคะ่ ช่วงนีค้ ณ ุ พ่อคุณแม่ทงั้ หลายคงรูส้ กึ สบายขึน้ ทีไ่ ม่ ต้องตืน่ นอนกันแต่เช้าเพือ่ ไปส่งบุตรหลานทีโ่ รงเรียนนะคะ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมระหว่างภาคพอดี เด็กๆ เองก็ได้พกั ผ่อนช่วงปิดเทอมยาว ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือนอนดู โทรทัศน์อยู่บ้าน พูดถึงเรื่องโทรทัศน์ ช่วงนี้คงต้องจับตา มองกันค่ะว่าเราจะยังคงชมช่อง 3 แอนะล็อก กันต่อไปได้ หรือไม่ หรือจะต้องพบกับ จอด�ำ เนื่องจาก กสท. ได้มีค�ำ สั่งให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการแพร่ภาพในวันที่ 28 กันยายน 2557 เนื่องจากช่อง 3 แอนะล็อก จะสิ้นสุด การถูกคุ้มครองการเป็นโทรทัศน์ทั่วไป หรือฟรีทีวี ซึ่งใน ขณะนี้ ทางช่อง 3 และบริษทั เคเบิลทีวตี า่ งๆ ได้ยนื่ เรือ่ งต่อ ศาลปกครองกลางเพือ่ ขอให้เพิกถอนค�ำสัง่ กรรมการ กสท. ดังกล่าว คงต้องรอดูกนั ว่าประชาชนจะต้องอดชมละครและ รายการต่างๆ ทางช่อง 3 แอนะล็อก กันหรือไม่นะคะ ด้านกฎหมายที่น่าสนใจและได้รับความสนใจ เป็นอย่างมากในช่วงนีก้ ค็ อื เรือ่ ง ภาษีมรดก และภาษีทดี่ นิ ในส่วนภาษีมรดกนั้น กฤษฎีกาได้ยกร่างพระราชบัญญัติ ภาษีการให้และการรับมรดกฯ โดยมีข่าวออกไปต่างๆ นานาว่าอัตราการจัดเก็บภาษีจะเป็นเท่าไรกันแน่ จากที่ เคยออกมาว่าจะเป็นอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ 10% ถึง 40% แต่ล่าสุดนั้น อาจจะจัดเก็บที่ 10% แต่ทุกอย่างก็ยังไม่ แน่นอนเพราะข่าวคราวทุกอย่างนั้นถูกเก็บเป็นความลับ อย่างมาก และในส่วนกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่แก้ไขใหม่
3
THE LETTERS
LAWGIC
สวัสดีค่ะอยากมาเล่าความประทับใจให้ฟัง ค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบนสพ.ลอวนิวส์มากค่ะอ่านเพลิน มาก จริงๆเป็นคนไม่คอ่ ยอ่านนสพ.เท่าไหร่เพราะข่าว แต่ละข่าวนัน้ หดหูม่ ากๆ เช่นพวกข่าวฆาตกรรมท�ำนอง นี้ แต่กับลอว์นิวส์นี่ยอมจริงๆ ค่ะ อ่านเพลินมาก ได้ความรู้เรื่องกฎหมายด้วย อ่านไปไม่รู้สึกว่าทาง ผู ้ เขี ย น ยั ด เ ยี ย ด ใ ส ่ ม า เ ย อ ะ ๆ แ ต ่ อ ย ่ า ง ใ ด ต้องขอชมว่าคนเขียนหลายๆ ท่านมีส�ำนวนน่าอ่าน มากๆ ชอบหลายคอลั ม น์ ค ่ ะ โดยเฉพาะคอลั ม น์ anatomy of , binge watch , world news อยากให้ ท�ำต่อไปนะคะ จะติดตามตลอดเลยค่ะ สุดท้ายนีข้ อเป็น ก�ำลังใจให้ผู้จัดท�ำทุกท่านค่ะ ขอบคุณส�ำหรับสื่อดีๆ แบบนี้นะคะ ^_^ - Pan Pattaraphon / เฟซบุ๊ค ผมได้ตดิ ตามหนังสือพิมพ์ลอว์นวิ ส์มาสักพัก และชอบมากที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร แถมยังได้ฝึก ภาษาอังกฤษด้วย แต่มปี ญ ั หาว่าไม่สะดวกนักทีต่ อ้ งไป รับเองทีห่ อสมุดแห่งชาติและไม่ทราบว่ามีแจกแถวบ้าน ที่ไหนด้วย จึงขอรับผ่านทางไปรษณีย์ครับ ขอเป็นก�ำลังใจให้ทีมงานสร้างสรรค์ผลงาน ดีๆให้คนไทยได้อ่านกัน ขอชื่นชมจากใจจริง นับถืออย่างสูง - นายชุมพล นนท์พละ / อีเมล ผ ม เ ป ็ น นั ก ศึ ก ษ า ค ณ ะ นิ ติ ศ า ส ต ร ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นครับ รู้จักลอว์นิวส์จากที่เห็น เพื่อนในคณะน�ำมาอ่าน จึงค้นหาจาก google และ พบแฟนเพจครับ ชอบทุกส่วนของลอว์นวิ ส์และชอบส่วน LAW CARTOON และ LEGAL TALK เป็นพิเศษด้วย ขอ ขอบคุณสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ทีท่ ำ� สิง่ พิมพ์ทางกฎหมายแบบนี้ออกมาครับ - ณัฐวุฒิ แวงวรรณ / อีเมล
คุณณัฐวุฒิคือผู้โชคดีที่ได้รับหนังสือ “เมื่อคิดให้ดี โลกนี้ตลาด” จาก ส�ำนักพิมพ์ Bun Books ส่งความคิดเห็น ค�ำติ-ชม ที่มีต่อ นสพ. ลอว์นิวส์ ได้ที่ ส ภ า ท น า ย ค ว า ม ใ น พ ร ะ บ ร ม ร า ชู ป ถั ม ภ ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชด�ำเนินกลาง แขวง บวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 หรือทาง lawnewslct@gmail.com รายชื่อผู้โชคดีจาก Free For you ลอว์นิวส์ ฉบับ ที่ 17 ได้รับหนังสือ “โสดแล้วไปไหน” จาก Bun Books 1. สฤณชนก ไผทฉันท์ 2. วาสนา รักสลาม 3. กิตตินันท์ คงสุขวิวัฒน์ 4. Nattawee Champated
การคุ้มครองสิทธิเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ในช่วงระยะเวลาหลายเดือนทีผ่ า่ น มา ประเทศไทยมีขา่ วเกีย่ วกับการล่วงละเมิด ทางเพศเด็กอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่ า วกรณี ข ่ ม ขื น แล้ ว ฆ่ า บนรถไฟในเดื อ น กรกฎาคมที่ผ่านมา น�ำไปสู่การเรียกร้องให้ มี ก ารแก้ ไขโทษของกฎหมายข่ ม ขื น โดย เฉพาะการกระท� ำ ต่ อ เด็ ก ให้ เ ปลี่ ย นจาก โทษจ�ำคุกเป็นโทษประหารสถานเดียว ดังที่ สื่อต่างๆ ได้น�ำเสนอไปอย่างครึกโครมและ กว้างขวางแล้วนั้น กรณีล่าสุดที่สภาทนายความได้ให้ความช่วย เหลือแก่ประชาชน คือกรณีการล่วงละเมิด ทางเพศเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) วัย 10 ปี ซึ่งนางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เป็นมารดา มี ความประสงค์ ข อความช่ ว ยเหลื อ ทาง กฎหมายจากสภาทนายความ โดยคดีนี้ ได้ รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 เมือ่ นางสาวบีสงั เกตพฤติกรรมว่าเด็กหญิงเอ มี เ งิ น ซื้ อ ขนมมากผิ ด ปกติ จึ ง ได้ ส อบถาม ความจริงจึงพบว่า เด็กหญิงเอถูกนายเล็ก (นามสมมติ) ล่วงละเมิดทางเพศมาหลายครัง้ โดยให้เงินครั้งละ 50 บาท พร้อมข่มขู่ไม่ให้ น� ำ เรื่ อ งไปฟ้ อ งใคร มิ เช่ น นั้ น จะขู ่ ท� ำ ร้ า ย ร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อนางสาวบีทราบเรื่องจึงได้ไป แจ้งความ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ใน วั น รุ ่ ง ขึ้ น แต่ อ ย่ า งไรก็ ดี เมื่ อ พนั ก งาน สอบสวนได้ควบคุมตัวและฝากขังในชั้นแรก 5 วั น แล้ ว ผู ้ ต ้ อ งหาก็ ไ ด้ รั บ การปล่ อ ยตั ว ชั่ ว คราว โดยใช้ ห ลั ก ทรั พ ย์ เ ป็ น ประกั น 400,000 บาท เมื่อนายเล็กได้รับการปล่อยตัว ชั่วคราว ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ วนเวียนอยู่หน้าบ้านของผู้ร้องคดี จึงท�ำให้ เด็กหญิงเอไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่สามารถใช้ ชีวติ ตามปกติได้ ส่วนนางสาวบี ก็ตอ้ งถูกออก จากงาน เนื่องจากใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ ดูแลบุตรสาวจนท�ำให้ขาดงานบ่อย
เรือ่ งราวยังปรากฏต่อไปอีกว่า ใน วันรุ่งขึ้น ภรรยาและญาติของนายเอกได้มา รบเร้าและแจ้งให้เด็กหญิงเอ กลับค�ำให้การ และยอมความไม่ เ อาผิ ด กั บ นายเอก โดย ภรรยาของผูต้ อ้ งหายืน่ ข้อเสนอให้เงินจ�ำนวน 500,000 บาท หรือแต่งงาน แต่เด็กหญิงเอ และนางสาวบีปฏิเสธข้อตกลงนี้ นางสาวบีจงึ ขอความช่ ว ยเหลื อ ทางกฎหมายจากสภา ทนายความเนือ่ งจากกลัวว่าจะไม่ได้รบั ความ เป็นธรรม ในกรณีนี้ เมื่อพิจารณาถึงสิทธิ มนุ ษ ยชนและสิ ท ธิ เ ด็ ก ที่ จ ะได้ รั บ ความ คุ้มครองนั้น จะเห็นได้ว่า รัฐมีหน้าที่ในการ ให้ ค วามคุ ้ ม ครองสิ ท ธิ เสรี ภ าพ และ สวัสดิภาพของประชาชนในประเทศ โดย เฉพาะอย่างยิ่ง เด็กจะต้องได้รับความช่วย เหลือตามทีไ่ ด้ระบุไว้ในอนุสญ ั ญาว่าด้วยสิทธิ เด็ก (Convention on the Right of the Child) ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ทุก คนควรได้รับความคุ้มครอง แต่เมือ่ กลับมามองในประเทศไทย กลับแทบไม่ได้ให้ความส�ำคัญกับเรื่องนี้ โดย มักจะมีการด�ำเนินการคุ้มครองสิทธิเด็กเป็น อั น ดั บ หลั ง เนื่ อ งจากในขณะที่ ด� ำ เนิ น กระบวนการสอบสวนเด็กนัน้ ก็มกั จะปรากฏ ภาพและชื่อของเด็กผู้ตกเป็นผู้เสียหายจาก การกระท�ำความผิด (ซึง่ แม้จะเป็นชือ่ เล่นของ เด็กนั้น) รวมถึงภาพและชื่อของผู้ปกครอง โดยปราศจากการปิ ด บั ง ใดๆ ตามการ รายงานข่าวของสื่อมวลชน ท�ำให้เด็กที่ตก เป็นเหยือ่ ของอาชญากรรมนัน้ ต้องกลับกลาย มาเป็นเหยือ่ ของสือ่ มวลชนไปด้วย โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ผลกระทบกระเทือนทางจิตใจของ เด็ ก ที่ บ อบช�้ ำ จากการเป็ น ผู ้ เ สี ย หาย ซึ่ ง สมควรได้ รั บ การเยี ย วยามากกว่ า การน� ำ เสนอบาดแผลทางจิตใจนัน้ ผ่านทางสือ่ ต่างๆ การคุ ้ ม ครองเด็ ก ที่ ต กเป็ น เหยื่ อ ของ อาชญากรรมให้ได้รับการศึกษาตามปกติ ก็ เป็ น อี ก กรณี ที่ ส� ำ คั ญ เนื่ อ งจากเหยื่ อ
อาชญากรรมมักได้รับความอับอาย ทั้งจาก การน�ำเสนอข่าวของสื่อมวลชนและข่าวลือที่ เกิดขึ้นในสังคมที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ เมื่อไป โรงเรียนก็มักจะถูกเพื่อนและครูบางคนล้อ เลียนหรือพูดจาถูกหมิ่นเหยียดหยาม ท�ำให้ เกิดการกระทบกระเทือนทางจิตใจจนเด็กไม่ อยากไปโรงเรี ย น และน� ำ ไปสู ่ ก ารย้ า ย โรงเรียน ท�ำให้เด็กที่กลายเป็นเหยื่อของ อาชญากรรมนัน้ ไม่สามารถได้รบั การศึกษา อย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่ส�ำคัญอีกประการหนึ่งก็ คือ การถูกข่มขู่คุกคามจากผู้กระท�ำความผิด ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อตัวเด็ก แต่อาจยัง กระทบถึงผู้ปกครองและผู้ที่มีหน้าที่ดูแลเด็ก นั้น ให้เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าด�ำเนิน คดี กั บ ผู ้ ก ระท� ำ ความผิ ด นั้ น ซึ่ ง การข่ ม ขู ่ คุกคามนี้อาจเป็นไปได้ทั้งการข่มขู่ให้ได้รับ อันตรายแก่กาย จิตใจ หรือชีวิตของเด็กหรือ บุคคลรอบข้าง ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กมีภาวะซึม เศร้า ไม่กล้าเผชิญหน้าผู้คนในสังคมเพราะ หวัน่ เกรงในอันตรายทีอ่ าจเกิดขึน้ หากตนไม่ ยอมท�ำตามทีถ่ กู ผูก้ ระท�ำความผิดข่มขูม่ านัน้ แนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ คือ รัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือทันที ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการน�ำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทุกแขนง การให้คุ้มครองด้านการศึกษาเป็น กรณี พิ เ ศษแก่ เ ด็ ก ที่ ต กเป็ น ผู ้ เ สี ย หายจาก อาชญากรรม การให้ความคุ้มครองความ ปลอดภัยแก่เด็กและครอบครัว รวมถึงการให้ ความช่วยเหลืออื่นๆ ที่จ�ำเป็นแก่เด็ก มิใช่รอ ให้การด�ำเนินคดีเสร็จสิ้นลงก่อนจึงเข้ามาให้ ความช่วยเหลือ เนื่องจากความปลอดภัย สภาพจิตใจ และการศึกษา ของเด็ก ถือเป็น เรือ่ งส�ำคัญ หากผูท้ มี่ หี น้าทีเ่ กีย่ วข้องไม่ยนื่ มือ เข้ามาช่วยเหลือเด็กแล้ว การละเว้นนีเ้ องทีจ่ ะ กลายเป็นอาวุธที่สร้างแผลเป็นในใจเด็กให้ กลายเป็นเหยือ่ ของกระบวนการยุตธิ รรมทีไ่ ม่ เป็นธรรมแก่เด็กนั้นเอง /-Abc นิรนาม
4
world news
ศาลบราซิลตัดสินรับรอง เด็ก 1 พ่อ มี 2 แม่ บังกลาเทศฟันยกกระบิ จับเด็กหญิงแต่งงาน
รัฐบาลบังกลาเทศเตรียมออกกฎหมายใหม่ เอาผิดพ่อแม่ เจ้าบ่าว และนายทะเบียนที่จดั ให้มีการแต่งงานกับเด็กหญิงอายุ ต�ำ่ กว่า 18 ปี หวังลดจ�ำนวนเหยื่อกามารมณ์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายมูชาราฟ ฮอสเซน บุยยัน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของ ประเทศบังกลาเทศ เผยว่า รัฐบาลบังกลาเทศมีมติเห็นชอบ ผ่านร่างกฎหมายก�ำหนดโทษจ�ำ คุกสูงสุด 2 ปี ส�ำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดให้ผู้หญิงอายุต�่ำกว่า 18 ปี แต่งงาน โดยกลุ่ม เป้าหมายที่เสี่ยงต่อการถูกด�ำเนินคดีในข้อหานี้ คือ พ่อแม่ผู้ปกครอง นายทะเบียน และเจ้าบ่าว แต่ผู้หญิงที่แต่งงานกับผู้ชายที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายก�ำหนด ถือว่าไม่มีความผิด โดย รัฐบาลหวังว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะได้รับการอนุมัติและมีผลบังคับใช้จริงภายในการประชุม รัฐสภาสมัยนี้ “เราไม่ได้ต้องการจะจับคนมาเข้าคุก แต่เป้าหมายที่แท้จริงก็คือการป้องกันพลเมือง จากการกระท�ำที่ไม่ดีนี้” นายมูชาราฟ กล่าว กฎหมายนีม้ อี อกมาเพียงไม่กวี่ นั หลังจากเมือ่ ช่วงต้นเดือนกันยายนทีผ่ า่ นมา กองทุน เพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เผยรายงานที่ระบุว่า เด็กหญิงบังกลาเทศราว 2 ใน 3 แต่งงานก่อนจะเข้าสู่ช่วงอายุที่เป็นผู้ใหญ่ ทางการจึงต้องการปรับปรุงภาพลักษณ์ของประเทศ ในด้านนี้ โดยกฎหมายฉบับปัจจุบัน ระบุว่า ให้ผู้ที่จะแต่งงานได้ ผู้หญิงต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ชายต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ผู้ที่ละเมิดมีโทษจ�ำคุกสูงสุด 3 เดือน แต่กฎหมายก็แทบจะไม่มี ผล เพราะการบังคับใช้เป็นไปอย่างหละหลวม ทั้งนี้ รายงานของยูนิเซฟยังระบุอีกว่า การแต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก ท�ำให้ผู้หญิงเหล่านี้ เสี่ยงต่อการถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว
จีนล้างบางคอร์รัปชัน่ ฟันบริษัทยาอังกฤษอ่วม เมื่อวันที่ 19 กันยายน ทางการจีนสัง่ ปรับเงินบริษัท“แกล็กโซสมิธไคลน์ หรือจีเอสเค ผู ผ ้ ลิตยายักษ์ใหญ่ของอังกฤษเป็นเงินมหาศาล 3,000ล้านหยวน (ประมาณ 16,000 ล้านบาท) ในข้อหาติดสินบนแพทย์ในจีนเพื่อให้ใช้ ยาของบริษัทซึ่งเป็นการลงโทษครัง้ รุ นแรงที่สดุ จากศาลจีนโดยศาลในเมืองจางชาทางตอนใต้ของจีนพิพากษาลงโทษจ�ำ คุกนายมาร์คเรลลี อดีตประธานของบริษัทจีเอสเค เป็นระยะเวลา 3 ปี และผู ้บริหาร ระดับสูงอีก 4 คนในจีนระหว่าง 2-3 ปี แต่โทษจ�ำคุกให้รอลงอาญาเนื่องจากผู ้ต้องหา รับสารภาพส่วนตัวนายมาร์ค เรลลีจะถูกเนรเทศด้วย โดยส�ำนักข่าวซินหัวรายงาน ว่าจ�ำเลยทุกคนยอมรับในค�ำพิพากษาดังกล่าว และจะไม่ยื่นอุ ทธรณ์ใดๆ นับเป็นการลงโทษทีร่ นุ แรงเป็นประวัตศิ าสตร์หลังมีขอ้ กล่าวหาว่าบริษทั ยายักษ์ใหญ่ แห่งนีจ้ า่ ยเงินก้อนโตเพือ่ ติดสินบนแพทย์และโรงพยาบาลเพือ่ ให้สงั่ ซือ้ และส่งเสริมสินค้าของตัว เอง บริษัทจีเอสเคยังได้ออกแถลงการณ์ขออภัยต่อรัฐบาลและประชาชนชาวจีนว่า “รู้สึก เสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” “นี่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งส�ำหรับจีเอสเค” แอนดรูว์ วิตตี้ ผู้บริหารของจีเอสเค กล่าว อย่างไรก็ดี บริษทั จีเอสเคก็ได้เปิดเผยว่าจะยังคงลงทุนในจีนต่อไป และสนับสนุนการ วิจัยค้นคว้ายาชนิดใหม่ๆ พร้อมทั้งสัญญาว่าจะท�ำให้ผู้คนในชนบทสามารถเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น และมีราคาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทางการจีนประกาศเป็นครัง้ แรกว่าพวกเขาก�ำลังท�ำการสอบสวนบริษทั จีเอสเคในเดือน ก.ค.ปีที่แล้วในคดีที่เชื่อกันว่าเป็นการคอร์รัปชั่นที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับบริษัทต่างชาติในรอบ หลายปีมานี้
Photo : www.timeslive.co.za, www.scmp.com, www.429.com
ศาลแห่งหนึ่งในประเทศบราซิลพิพากษาให้เด็กเป็นบุ ตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิง 2 คน ซึ่ง เป็นคู่รักเลสเบีย้ น กับชายอีก 1 คน ซึ่งบริจาคสเปิ ร์มให้แก่คู่รักเลสเบีย้ น เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายราฟาเอล ปันญอน กุนญา ผู้พิพากษาแห่งรัฐรีโอกรันดีโดซูล ทางตอนใต้ ของประเทศบราซิล มีค�ำพิพากษา ให้เด็กคนหนึ่งซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นบุตรโดย ชอบด้วยกฎหมายของหญิง 2 คน และชาย 1 คน หลังได้รับการยื่นเรื่องจากบุคคลทั้ง 3 ซึ่งเป็นพ่อแม่ ทางพันธุกรรม และคู่รักเลสเบี้ยนของผู้เป็นแม่ ซึ่งนับเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในอเมริกาใต้ นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้การอยูร่ ว่ มกันของหญิงรักหญิงคูน่ ไี้ ด้รบั การรับรองจากกฎหมาย รวมถึงชายผูเ้ ป็นพ่อของ เด็กด้วย นางสาวเฟอร์นันดา บาตาลญี โครเปนสกี วัย 26 ปี และคู่รักของเธอ นางสาวมาริอานี กีเดส ซานตีอาโก วัย 27 ปี ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันกว่า 4 ปี ได้ร้องขอให้นายลุยส์ กิลเลร์เม บาร์โบซา เพื่อนที่ เป็นผู้ชายของพวกเธอ ช่วยบริจาคสเปิร์มสานฝันการมีลูกให้เธอทั้งคู่ ลุยส์รับปากในทันที เพียงแต่มี ข้อแม้ว่าต้องให้เขาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ในฐานะ “พ่อ” ด้วย ต่อมา นางสาวเฟอร์ นันดาและนางสาวมาริอานีก็ได้แต่งงานกันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในใบสูตบิ ตั รของเด็กคนนีจ้ ะระบุให้นายลุยส์เป็นบิดา โดยมีนางสาวเฟอร์นนั ดาและนางสาว มาริอานีเป็นมารดาของเด็ก ผู้พิพากษากล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเป็นพลเมืองของเด็กน้อยคนนี้ ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับ สิ่งที่จ�ำเป็นต่อชีวิตของเธอ นั่นก็คือครอบครัวที่มีองค์ประกอบหลากหลาย ซึ่งเต็มไปด้วยความรักและ ห่วงใย “การเป็นพ่อและแม่นั้นอยู่เหนือสิ่งใดๆ ผมมั่นใจว่าเด็กคนนี้จะต้องมีความสุขอย่างมาก แน่นอน” ผู้พิพากษาราฟาเอลกล่าว นางมาเรีย เบเรนิเช ดิแอส ประธานคณะกรรมการความหลากหลายแห่งสมาคมทนายความ ของรัฐรีโอกรันดีโดซูล กล่าวว่า ค�ำกล่าวของท่านผู้พิพากษาและการตัดสินครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลงหน้า ประวัติศาสตร์ และย�้ำชัดเจนว่า กฎหมายควรปรับตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม ประเทศบราซิลเป็นประเทศที่ 3 ในทวีปอเมริกาใต้ที่รับรองการสมรสของคนเพศเดียวกัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา
5
WOMEN's RIGHT
MISSCOVERY
Photo : www.smdweddingsaus.com, www.instagram.com/bewty_bewty
ชายหญิงแต่งงานกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส ลูกจะมีสิทธิตามกฎหมายอย่างไรบ้าง (ตอน 2) เราได้ทราบกันไปแล้วถึงเงื่อนไขที่จะท�ำให้ บุตรซึง่ เกิดจากคูส่ มรสทีม่ ไิ ด้จดทะเบียนสมรส กัน เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชาย ด้วย ซึ่งมีด้วยกัน 3 วิธี (ในที่นี้ขอให้เข้าใจว่า มิใช่การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม) ในครั้ง นีเ้ ราจะมากล่าวถึงสิทธิและหน้าทีข่ องพ่อและ เด็ก ทีเ่ กิดจากการสมรสทีม่ ไิ ด้จดทะเบียนกัน บ้าง แต่เดิม กฎหมายก�ำหนดให้การ เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชายมีผล นับแต่วันที่พ่อแม่ได้จดทะเบียนกัน หรือวันที่ พ่ อ จดทะเบี ย นรั บ เป็ น บุ ต ร หรื อ วั น ที่ ค� ำ พิพากษาว่าเป็นบุตรนัน้ ถึงทีส่ ดุ (มาตรา 1557 เดิม) แต่กฎหมายทีแ่ ก้ไขใหม่นนั้ บัญญัตไิ ว้วา่ ให้มีผลย้อนไปถึงวันที่เด็กเกิด แต่ต้องไม่ กระทบต่อบุคตคลภายนอกที่สุจริต (เทียบค�ำ พิพากษาศาลฎีกาที1่ 0220/2551) และเมือ่ ถือ เด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของพ่อแล้ว สิทธิและหน้าที่ระหว่างพ่อและเด็กจะเป็นไป ตามกฎหมายครอบครัวและกฎหมายมรดก เหมื อ นกั บ บุ ต รที่ เ กิ ด จากพ่ อ และแม่ ที่ จ ด ทะเบียนสมรสกัน เช่น มีอ�ำนาจปกครองบุตร หรือมีสิทธิได้รับอุปการะเลี้ยงดูจากบุตร และ มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูบุตร รวมถึงมีสิทธิและ หน้าที่ในมรดกของกันและกันด้วย แต่ ห ากเป็ น การที่ พ ่ อ ของเด็ ก กระท� ำ เพี ย งการรั บ รองบุ ต รโดยไม่ ไ ด้ จ ด ทะเบียน เช่น ให้ใช้นามสกุล หรือส่งเสียเล่า เรียน หรือแสดงออกด้วยวิธีใดๆ ให้บุคคล ทัว่ ไปรับรูไ้ ด้วา่ เด็กนัน้ คือบุตรของชายคนนัน้ ผลทางกฎหมายจะเปลีย่ นไปบางประการ คือ เพียงแต่การรับรองว่าเด็กนั้นเป็นบุตรตน ไม่ ท�ำให้เด็กเป็นบุตรทีช่ อบด้วยกฎหมายของพ่อ แต่อย่างใด พ่อไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของ เด็ก แต่ในทางกลับกันเด็กนั้นสามารถมีสิทธิ ในทรัพย์มรดกของพ่อได้ เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627 “บุ ต รนอกกฎหมายที่ บิ ด า รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนัน้ ให้ถอื ว่าเป็น ผู ้ สื บ สั น ดาน เหมื อ นกั บ บุ ต รที่ ช อบด้ ว ย กฎหมายตามความหมายแห่ ง ประมวล กฎหมายนี้” ขอให้ดูค�ำพิพากาศาลฎีกาที่ 452/2553 “ป.พ.พ มาตรา 1547 บัญญัติ ว่า เด็กเกิดจากบิดามารดาทีม่ ไิ ด้สมรสกันจะเป็น บุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดา มารดาได้ สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียน
ว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่า เป็นบุตร ดังนี้ พฤติการณ์รบั รองว่าผูเ้ ยาว์เป็นบุตร เช่น การให้ผู้เยาว์ใช้ชื่อสกุลของจ�ำเลย และการที่ จ�ำเลยอุปการะเลีย้ งดูผเู้ ยาว์อย่างบิดากับบุตร จึงไม่ใช่เหตุทกี่ ฎหมายรับรองท�ำให้ผเู้ ยาว์เป็น บุ ต รโดยชอบด้ ว ยกฎหมายของจ� ำ เลยได้ จ�ำเลยจึงไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้เยาว์” เมื่อเป็นเพียงการรับรองบุตรโดย ไม่จดทะเบียนอันไม่กอ่ ให้เด็กเป็นบุตรทีช่ อบ ด้วยกฎหมายของชาย จึงท�ำให้ไม่มีหน้าที่ อุปการะซึ่งกันและกันตามกฎหมาย ดังนั้น หากมีผใู้ ดท�ำละเมิดให้เด็กหรือฝ่ายชายถึงแก่ ความตาย แม้ขณะมีชวี ติ อยูฝ่ า่ ยใดฝ่ายหนึง่ จะ ได้อุปการะกันอย่างเช่นการเป็นบุตรที่ชอบ ด้วยกฎหมายก็ตาม อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่มีสิทธิ ฟ้องเรียกเอาค่าขาดไร้อุปการะเอาจากผู้ท�ำ ละเมิดได้ เพราะพ่อและเด็ก ต่างไม่มีหน้าที่ ต่อกันตามกฎหมายในการที่จะต้องอุปการะ เลี้ยงดูซึ่งกันและกันแต่อย่างใด ขอให้ดูค�ำ พิพากษาศาลฎีกาที่ 3369/2540 “ขณะเกิด เหตุโจทก์ที่ 2 และที่ 4 ซึ่งเป็นบุตรมีอายุเกิน 20 ปีเป็นบุคคลบรรลุนิติภาวะแล้ว และค่า สินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะตาม ป.พ.พ.มาตรา 443 วรรคสาม จะต้องเป็นการ ขาดไร้อุปการะตามกฎหมายหาได้มีความ หมายรวมไปถึงการขาดไร้อปุ การะตามหน้าที่ ศี ล ธรรมไม่ อี ก ทั้ ง ในข้ อ ที่ บิ ด าจ� ำ ต้ อ งให้ อุ ป การะเลี้ ย งดู บุ ต รตามกฎหมายนั้ น ป.พ.พ.มาตรา 1564 บัญญัตใิ ห้บดิ ามารดาจ�ำ ต้ อ งอุ ป การะเลี้ ย งดู แ ละให้ ก ารศึ ก ษาตาม สมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ บิดา มารดาจ�ำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุ นิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหา เลี้ยงตนเองมิได้ เมื่อขณะเกิดเหตุโจทก์ที่ 2 และที่ 4 มิใช่ผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเอง มิได้ โจทก์ที่ 2 และที่ 4 จึงไม่มีสิทธิได้รับค่า ขาดไร้อปุ การะตาม ป.พ.พ.มาตรา 443 วรรค สาม” ค�ำพิพากษาคดีนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีการก�ำหนดค่าขาดไร้อุปการะให้กับ ภริ ย าที่ ต ้ อ งสู ญ เสี ย สามี อั น เป็ น ที่ รั ก ยิ่ ง ไป ด้วย /-แอน พี. วรรณประทีป และ ยศกร ศรีอมร
Mommy feels good พอมีลูก และกลายร่างมาเป็นคุณแม่เข้ากะ 24 ชัว่ โมง รู้สึกว่าชีวิตช้ ามาก ขึน้ (อย่าไปนับความวุ ่นวายที่มาเป็นระลอก เพราะลูกลิง 2 ตัว) slow life healthy food มากขึน้ ได้เริ่มฝึ กโยคะ ได้เจอคนในวันธรรมดาตามซู เปอร์มาเก็ต ปั ม๊ น�ำ้ มัน ธนาคาร ฯลฯ ได้เดินถนน ตากแดดตากลม ได้เห็นคนอื่นนอกจากตัวเองมากขึน้ ผิด กับตอนเรียนหนังสือ-ท�ำงาน ที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ego สูงปรีด๊ รีบ และเหนื่อย แทบตลอดเวลา พอว่าง ได้พัก ก็ลัลล้าไม่สนใจใคร ขอฉันฟิ น แฮปปี้ ก็เพียงพอใจ ช่วงชีวิตตอนนี้รู้สึกว่าได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ คนที่ไม่ใช่เพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง ลูกค้า ลูกน้อง เจ้านาย เวลาเจอคนน่ารัก ยิ้มแย้ม ร่าเริงกับเรา ที่ไม่ใช่เพราะความรักและ หน้าที่ แต่เพราะเราเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ดีใจและรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันดีๆ ที่ได้เจอคนดีๆแบบนี้ แค่คนเดียวก็รู้สึกดีทั้งวัน เป็นคนดีขึ้น มีความสุขง่ายขึ้น appreciate กับสิ่งรอบตัวมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้มี ผลกับลูกและครอบครัว (อ๋อ.. กับสามี ยังเป็นผู้หญิงปรี๊ดๆ คนเดิมอยู่ค่ะ) --- เพราะสิ่งที่เรา แสดงต่อคนอื่นทุกๆ วัน คือสิ่งที่ลูกรับรู้ คือสิ่งที่เราได้สอนลูกจากตัวอย่างในชีวิตจริง --
ถ้าเราไม่เคยผงกหัว ยิ้มให้ยามหน้าหมู่บ้าน ถ้าเราไม่เคยนั่งคุย ดูละครกับพี่เลี้ยง ถ้าเราไม่เคยเม้ามอย กินส้มต�ำกับแม่บ้าน ถ้าเราไม่เคยสบตา ยิ้มและพูดขอบคุณกับแคชเชียร์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าเราไม่เคยยกมือขอโทษเวลาเผลอไปปาดหน้าใคร ถ้าเราไม่เคยแสดงความเห็นใจต่อเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยก ถ้าเราไม่เคยแม้แต่มองหน้าคนที่เดินสวนกัน ถ้าเราไม่เคยท�ำสิ่งเหล่านี้ ลูกก็จะไม่ท�ำ และไม่รู้สึกว่าต้องท�ำ และเมื่อวันที่เขารู้สึกว่าเขาน่าจะท�ำ เขาก็จะต้องรู้สึกแย่แทนพ่อแม่ และรู้สึกไม่ดีกับความไม่สนใจโลกของตัวเอง
ทุกคนมีปัญหาชีวิตของตัวเองทั้งนั้น แต่เราก็ไม่จ�ำเป็นต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งวัน คนข้างนอกไม่รับรู้และไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์เหล่านี้ คลายหัวคิ้ว และคลี่อารมณ์ของเราให้ แจ่มใสดีกว่า พอใจเป็นสุข ปัญหาก็จะเล็กลงไปเอง ลูกมองเห็นการมองโลกของพ่อแม่ และเลียนแบบการปฏิสมั พันธ์กบั คนอืน่ ๆ ตลอด เวลา ทัศนคติแบบนีเ้ หมือนพระอาทิตย์ คุณเลือกได้วา่ จะเป็นพระอาทิตย์ยามเช้า พระอาทิตย์ ตอนเที่ยงตรง หรือพระอาทิตย์อัสดงยามเย็น
มองคนอื่นบ่อยๆ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ใครๆ ก็อยากได้สายตา รอยยิ้ม ค�ำขอโทษ ค�ำขอบคุณ ถ้าจะให้ดี มีค�ำชมสั้นๆตามความเป็นจริง อย่าง กาแฟอร่อยมากค่ะน้อง ห้องน�้ำสะอาดมากค่ะป้า ขยันจังเลยนะคะลุง ... แค่นี้ก็พอแล้ว จากคนธรรมดา ในวันธรรมดาหนึ่งวัน /-Bewtyfulmom
TIMELINE
1
2
ครบรอบ 100 ปี
ทนายความยุคใหม่ อาชีพทนายความเป็นอาชีพที่เก่าแก่อาชีพหนึ่งของไทย โดยมี ห ลั ก ฐานปรากฏในพระอั ย การลั ก ษณะรั บ ฟ้ อง พ.ศ. 1899 ซึ่งปรากฏค�ำว่า “ทนาย” เป็นครัง้ แรก ซึ่งใน ระยะแรกนัน้ ทนายความเป็นแต่เพียงผู ้ท่ีเข้ามารับว่าคดี ต่างๆ โดยอาศัยเพียงวาทศิลป์ ในการเจรจาเพือ่ ช่ วยให้ลกู ความของตนพ้นผิด ท�ำให้ทนายความในยุ คแรกมีภาพ ลักษณ์ท่ีไม่ค่อยดีนัก จวบจนกระทัง่ มีการตรากฎหมาย เพื่อควบคุมจริยธรรมและมาตรฐานของทนายความ จึง ได้รบั การยกย่องให้เป็นวิชาชีพหนึ่งทีม่ เี กียรติไม่แพ้วชิ าชีพ ใด และเป็ น การเริ่ม ต้ น สู่ยุ คใหม่ของทนายความอย่ า ง แท้จริง เนือ่ งในโอกาสครบรอบ 100 ปี วชิ าชีพทนายความ ยุ คใหม่ จึงขอพาท่านผู ้อ่านไปพบกับเหตุการณ์ส�ำคัญ ด้านวิชาชี พทนายความ รวมถึงการศึ กษาอบรมด้าน กฎหมายที่ส�ำคัญดังนี ้
ภาพประกอบ 1. บรรยากาศการพิจารณาคดีในศาล พระราชอาญาในสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุ ลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว 2. ที่ท�ำการแห่งใหม่ของสภาทนายความ ในพระบรมราชู ปภัมถ์ (คาดว่าจะแล้ว เสร็จในปี 2559)
2440 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวง ราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้น เพื่อให้การ อบรมศึกษาด้านนิติศาสตร์ ณ ห้องเสวยของเสนาบดี กระทรวงยุติธรรม 2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงตัง้ เนติบณ ั ฑิต ยสภาเพือ่ ควบคุมจริยธรรมและวิชาชีพทนายความ และตรา พระราชบั ญ ญั ติ ท นายความ พ.ศ. 2457 เพื่ อ ควบคุ ม คุณสมบัตผิ ทู้ จี่ ะประกอบอาชีพทนายความ และประพฤติตน อยู่ในมรรยาทอันดีงาม โดยมีสาระส�ำคัญคือ 1. มีการแบ่งทนายความเป็น 2 ชั้น ได้แก่ - ทนายความชั้นหนึ่ง ได้แก่ผู้ที่สอบไล่วิชา กฎหมาย และได้รับประกาศนียบัตรเป็นเนติบัณฑิตไทย มี สิทธิว่าความได้ทั่วราชอาณาจักร - ทนายความชัน้ สอง ได้แก่ผทู้ อี่ ธิบดีผพู้ พิ ากษา ศาลอุทธรณ์ได้สอบสวนคุณวุฒคิ วามรูค้ วามช�ำนาญ มีสทิ ธิ ว่าความได้เฉพาะศาลในเขตกรุงเทพมหานครหรือหัวเมือง ตามก�ำหนดไว้ในใบอนุญาต 2. อธิบดีผ้พู พิ ากษาศาลอุทธรณ์ เป็นผูม้ ีอำ� นาจในการออก ใบอนุญาตทนายความซึ่งมีอายุเพียง 1 ปี 3. การควบคุมมรรยาททนายความเป็นอ�ำนาจของอธิบดีผู้ พิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยสามารถออกค�ำสั่งห้ามมิให้ ทนายความว่าความในศาล มีก�ำหนดไม่เกิน 3 ปี หรือจะ ออกค�ำสั่งให้ลบชื่อออกจากทะเบียนก็ได้ 2473 มี ท นายความหญิ ง คนแรกของไทย คื อ นางสาวแร่ ม พรหโมบล 2476 ย้ายโอนโรงเรียนกฎหมายมาอยูท่ มี่ หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเมือง 2477 มีการตราพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2477 มีสาระ ส�ำคัญคือ 1. การเพิ่มเติมคุณสมบัติทนายความ โดยก�ำหนดให้ผู้ที่ ส� ำ เร็ จ การศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาตรี ท างนิ ติ ศ าสตร์ จ าก มหาวิทยาลัย สามารถเป็นทนายความชั้นหนึ่งได้ 2. การก�ำหนดวันหมดอายุใบอนุญาตทนายความในวันที่ 31 มีนาคม แห่งปีทไี่ ด้รบั อนุญาตให้วา่ ความ และจะต้องต่อ ใบอนุญาตทุกปี จึงจะไม่ขาดจากทะเบียน 2481 มีการตราพระราชบัญญัติทนายความ (ฉะบับที่ 2) พ.ศ. 2481 แก้ไขเรื่องการร้องเรียนเรื่องประพฤติผิดมรรยาท ทนายความจากเดิมทีจ่ ำ� กัดเฉพาะกรณีทมี่ ผี รู้ อ้ งเรียนเท่านัน้ จึ ง จะตั้ ง คณะกรรมการสอดส่ อ งความประพฤติ ข อง ทนายความนั้นได้ ให้สามารถตั้งคณะกรรมการสอดส่อง ความประพฤติได้แม้จะไม่มีผู้ขอให้ด�ำเนินการก็ตาม 2483 มีการตราพระราชบัญญัติทนายความ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2483 แก้ไขวันสิ้นอายุใบอนุญาตทนายความให้ตรงกับวัน สิ้นปีที่เปลี่ยนไป จากเดิมวันที่ 31 มีนาคม เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2500 ก่อตั้ง “สมาคมทนายความ” เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เพือ่ ให้เป็นสถาบันอิสระ เป็นตัวแทนของทนายความ ทัว่ ประเทศ ในการบ�ำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ประชาชนและสังคม ส่วนรวม ทั้งเอื้ออ�ำนวยผลประโยชน์ ดูแลสวัสดิการแก่ ทนายความด้วยกัน จึงถือว่าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น “วันทนายความ” อันเป็นวันส�ำคัญของผู้ประกอบ วิชาชีพทนายความตลอดมาจนถึงปัจจุบัน 2508 มีการพระราชบัญญัตทิ นายความ พ.ศ. 2508 มีสาระส�ำคัญ คือ 1. โอนอ�ำนาจในการออกใบอนุญาตว่าความไปไว้ที่เนติ บัณฑิตยสภา 2. แก้ไขคุณสมบัติของทนายความชั้นหนึ่งและชั้นสอง โดย ทนายความชั้นหนึ่ง ได้แก่ผู้ที่ส�ำเร็จวิชากฎหมายและเป็น สามัญสมาชิกแห่งเนติบณ ั ฑิตยสภา ส่วนทนายความชัน้ สอง ได้แก่ผทู้ สี่ อบได้เนติบณ ั ฑิต และสอบนิตศิ าสตร์ในไทยและ
เป็นสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา 3. ให้ทนายความชั้นสอง มีสิทธิว่าความได้ในศาลในเขต จังหวัดทีต่ นได้ขนึ้ ทะเบียนไว้และจังหวัดทีม่ เี ขตติดต่อกันอีก ไม่เกิน 4 จังหวัด 2514 แก้ไขให้ทนายความชั้นสองสามารถว่าความได้ในศาลใน เขตจังหวัดทีต่ นได้ขนึ้ ทะเบียนไว้และจังหวัดอืน่ ๆ อีกรวมกัน ไม่เกิน 10 จังหวัด รวมถึงการแก้ไขคุณสมบัติผู้ที่ส�ำเร็จการ ศึกษานิติศาสตรบัณฑิตแต่มิได้เป็นสามัญสมาชิกแห่งเนติ บัณฑิตยสภา สามารถเป็นทนายชั้นหนึ่งได้ 2517 นายมารุต บุนนาค นายกสมาคมทนายความ ซึง่ เป็นสมาชิก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในขณะนั้น เสนอร่างพระราช บัญญัติทนายความเพื่อก่อตั้ง “สภาทนายความ” เข้าสู่การ พิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2518 เปลี่ ย นแปลงชื่ อ สมาคมทนายความเป็ น “สมาคม ทนายความแห่งประเทศไทย” 2528 มีการตราพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 โดยมี สาระส�ำคัญคือ 1. ตั้ง “สภาทนายความ” เพื่อเป็นสถาบันของผู้ประกอบ วิชาชีพทนายความและมีฐานะเป็นนิติบุคคล 2. ให้สภาทนายความ เป็นผู้มีอ�ำนาจจดทะเบียนออกใบ อนุญาตว่าความ และควบคุมมรรยาททนายความ แทนเนติ บัณฑิตยสภา 3. แก้ไขคุณสมบัติของผู้ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียน และรับ ใบอนุ ญ าตเป็ น ทนายความ ที่ น อกจากจะเป็ น ผู ้ ส� ำ เร็ จ ปริญญาตรีทางนิติศาสตร์แล้ว ยังต้องผ่านการฝึกอบรม มรรยาททนายความ หลักปฏิบัติเบื้องต้นในการว่าความ และการประกอบวิชาชีพทางกฎหมายตามข้อบังคับสภา ทนายความ ว่าด้วยการฝึกอบรมวิชาชีพว่าความ 4. ยกเลิกทนายความชัน้ สอง และให้ผทู้ เี่ ป็นทนายความชัน้ สองอยูก่ อ่ นวันทีพ่ ระราชบัญญัตทิ นายความ พ.ศ. 2528 ใช้ บังคับให้ถือว่าเป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนและรับในอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ นี้ และมีสทิ ธิขอต่ออายุใบอนุญาต หรือ ขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ได้ 5. ก�ำหนดให้มกี องทุนสวัสดิการทนายความ เพือ่ ช่วยเหลือ ทนายความที่ ไ ด้ รั บ ความเดื อ ดร้ อ นหรื อ ทายาทของ ทนายความที่ถึงแก่ความตาย ซึ่งได้รับความเดือดร้อน ให้ ได้รับเงินสงเคราะห์จากกองทุน สวัสดิการทนายความ 6. ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย รวมทั้งจัดให้มีกองทุนช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย 2544 สภาทนายความจัดอบรมทนายความสิง่ แวดล้อมรุน่ ที่ 1 เพือ่ เตรียมรับกับปัญหาสิง่ แวดล้อมทีก่ ำ� ลังขยายตัวเพิม่ ขึน้ ตาม ความเจริญของโลกที่ก�ำลังก้าวหน้าไป 2546 สภาทนายความจัดอบรมหลักสูตรทนายความผู้ ท�ำค�ำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร รุ่นที่ 1โดยได้รับความ สนใจจากทนายความเข้าร่วมอบรม 391 คน 2553 สภาทนายความได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสภา ทนายความไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2557 สภาทนายความเปิดอบรมหลักสูตรทนายความช�ำนาญการ กฎหมายเฉพาะทาง 32 หลักสูตร เพือ่ เพิม่ พูนความสามารถ ของทนายความให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อเตรียม ความพร้อมให้แก่ทนายความผู้สนใจในการเข้าสู่ประชาคม อาเซียน ผูส้ นใจสามารถติดตามประกาศรับสมัครผูเ้ ข้าอบรม ได้ที่ www.lawyerscouncil.or.th ตลอดระยะเวลา 100 ปีทผี่ า่ นมา ทนายความทุก คนได้มสี ว่ นในการพิสจู น์แล้วว่า มิได้มงุ่ แต่จะว่าความเพียง เพื่อเลี้ยงชีพของตนโดยไม่ค�ำนึงถึงความเป็นธรรมเท่านั้น หากแต่ทนายความยังจะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และต้องผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับแก่ สังคม อันจะเป็นการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของทนายความ ไว้ได้ /-วีรจิตต วัฒนบ�ำรุ ง
Photo : GTH, Sahamongkol Film International, Five Star, Kantana
6
CULTURE CLUB
GONE GIRL
TV
THE FACE THAILAND
THE COUPLE OCTOBER ISSUE
ROMANTIC HORROR
แทบจะเป็นธรรมเนียมของเดือนตุลาคม ทุกปี ก็จะมีภาพยนตร์สยองขวัญออกมาเรียงรายให้ดูกัน ปี นมี้ ีให้ดูกันทัง้ ผีไทย ผีเทศ ผีเรื่องเล่าพืน้ บ้าน ผีร้ายที่อาศัยในร่างตุ๊กตา ผีดุติดห้าอันดับในอาเซียน คนอยากเห็นผีมากันครบ ไหนๆ หนังผีก็ออกกันมาเยอะ ก็มักจะถูกน�ำเสนอออกมาในแนวทางอื่นๆ เช่ น หนังผีแบบตลกข�ำๆ อย่าง โอ.ที. ผีโอเวอร์ไทม์ หรือจะออกมาแนวรักหลอนที่ท�ำออกมาฉายพร้อมกันอย่าง The Couple รัก ลวง หลอน หรือ The Eyes Diary คนเห็นผี
ANNABELLE
ต้นฉบับเป็นรายการค้นหานางแบบหน้าใหม่ โดยมีซูเปอร์โมเดล 3 คน เลือก นางแบบเข้ามาในทีม ในแต่ละสัปดาห์จะมีการแข่งขัน คัดคนที่มีคุณสมบัติ น้อยที่สุดออก สัปดาห์สุดท้ายประกาศผลผู ้ชนะที่เพียบพร้อมและตรงตาม คุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น THE FACE มาเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้ักับ สินค้า โดยรายการนีไ้ ด้ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปท�ำในหลายประเทศ ทัง้ อังกฤษ ออสเตรเลีย เร็วๆ นีจ้ ะมีฝรัง่ เศสและแคนาดา ล่าสุดครัง้ แรกในเอเชีย มี THE FACE THAILAND โดยมีโค้ช 3 ทีมได้แก่ ลูกเกด-เมทินี พลอย-เฌอมาลย์ และหญิง-รฐา โดยจุ ดประสงค์ของรายการ คือ ต้องการหาผู ห้ ญิงที่มคี วาม สามารถรอบด้านทัง้ การแสดง ร้องเพลง เพื่อที่จะสามารถรับงานได้มาก ขึน้ THE FACE THAILAND ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 17.30 ทางช่ อง 3
BABADOOK
O.T. ผีโอเวอร์ไทม์
THE EYES DIARY
ANNABELLE ไปร่วมในหนังเขย่าขวัญที่สร้ างจากเรื่ องจริ งและหลอนจนประสบความส�ำเร็ จทังรายได้ ้ และค�ำวิจารณ์อย่าง The Conjuring เมื่อปี ที่แล้ ว มาครัง้ นี ้แยกออกมาเป็ นหนังเดี่ยว โดยเล่าเรื่ องราวต้ นก�ำเนิดของตุ๊กตาผี ก่อนที่เราจะได้ ร้ ูจกั ความสยอง ของมัน (2 ตุลาคม) BABADOOK เล่าเรื่ องราวของแม่-ลูกคูห่ นึง่ ที่ถกู สิง่ ที่เรี ยกว่าบาบาดูค ตัวละครจากนิทานเขย่าขวัญออกมา ตามล่า ทังคู ้ ่ต้องหาทางก�ำจัดบาบาดูค ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป น่าดูตรงที่นกั วิจารณ์ บอกว่าน่ากลัวกว่า Conjuring! (9 ตุลาคม) หลังจากไปเป็ นหนึง่ ในหนังผีสามตอนของค่ายไฟว์สตาร์ อย่าง ตีสามและตีสามคืนสอง คราวนี ้เรย์-แมคโดนัลด์กบั ชาคริ ต แย้ มนาม กลับมาอีกครัง้ คราวนี ้สมทบด้ วย อนันดา เอเวอร์ ริ่งแฮม ร่วมก๊ วนแกล้ งลูกน้ องที่ชอบเล่นเฟซบุก เล่นอินสตาแก รม ในเวลางานแล้ วค่อยมาปั่ นท�ำงาน ตอนช่วงเย็นเพื่อหวังได้ โอที ใน โอที ผีโอเวอร์ ไทม์ (23 ตุลาคม) THE EYES DIARY คน เห็นผี เล่าเรื่ องราวกลุม่ คนที่อยากเห็นผี ทดลองวิธีตา่ งๆ เพื่อให้ ได้ เห็นคนรักที่จากไปแล้ วอีกครัง้ ก�ำกับภาพยนตร์ โดย มะเดี่ยว ชู เกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่เคยก�ำกับหนังอย่าง “คนผีปีศาจ” และ “13 เกมสยอง” มาแล้ ว (30 ตุลาคม) THE COUPLE รั ก ลวง หลอน จากค่ายน้ องใหม่ ที่ประสบความส�ำเร็จกับหนังเรื่ องแรกของค่ายไปแล้ วกับ Last Summer ฤดูร้อนนัน้ ฉันตาย คราวนี ้กลับมาครัง้ ใหม่ พร้ อมทีมนักแสดงชุดใหญ่ (30 ตุลาคม)
HORROR VERSION OF
HORMONES THE SERIES จากที่ประสบความส�ำเร็จจาก ฮอร์โมน เดอะซีร่สี ์อย่างถล่มทลาย จน มีซีซนั่ 1 2 ที่ก�ำลังจะจบ และ 3 ที่ก�ำลังจะตามกลับมาในปี หน้า ระหว่าง นัน้ GTH เสนอซีร่สี ์สุดหลอนเรื่องใหม่ ที่จะมาครอบครองแอร์ ไทม์คืน วันเสาร์ส่ที ุ่มหลังฮอร์โมนส์ลาจอ “เพือ่ นเฮีย้ น..โรงเรียนหลอน” เป็นละครซีรสี ช์ ุ ดใหม่ผลงานจาก ผู ้ก�ำกับไฟแรงทัง้ 13 คนและ 13 ตอนเรื่องเล่าสุดหลอนรอบรัว้ โรงเรียน น�ำแสดงโดยนักแสดงหน้าคุ้นเคยจากฮอร์โมนส์อย่าง ปั นปั น-สุทัตตา มาร์ช-จุ ฑาวุ ฒิ สมทบด้วยนักแสดงวัยรุ ่นจากจีทีเอชอย่างคับคัง่ ออกอากาศทุกวันเสาร์ 4 ทุ่ม ทางช่ อง GMM CHANNEL และ GTH ON AIR ที่กล่อง GMM Z เริม่ 1 พฤศจิกายน 2557
MULTITALENTS IT GIRL
CARA DELEVINGNE แม้ว่าจะโด่งดังเป็นที่รู้จักในฐานะนางแบบสุดฮอตแห่งยุ คนี้ แต่ทว่า Cara Delevingne ไม่หยุ ดนิง่ ที่จะพัฒนาศักยภาพของเธอให้เป็น ที่รู้จักในฐานะคนบันเทิงเต็มตัว จริงๆ แล้ วความใฝ่ ฝั นในวัยเยาว์ของ Cara คือการเป็ นนักแสดง และนัก ร้ อง โดยงานแสดงชิ น้ แรกที่ เ ธอร่ ว มแคสคื อ บท Alice จาก ภาพยนตร์ Alice in Wonderland ของ Tim Burton ก่อนจะพลาดบทให้ กับ Mia Wasikowski ก่อนที่ จะได้ ชิมลางงานแสดงเป็ นครั ง้ แรกกับ ภาพยนตร์ Anna Karenina เมือ่ ปี 2012 ก่อนทีจ่ ะทิ ้งงานแสดงไป เนือ่ งจาก งานนางแบบที่ก�ำลังรุ่งโรจน์ และในปี 2014 ก็ถงึ เวลาที่เธอจะกลับมาท�ำ ตามความฝั นอีกครัง้ โดยในปี 2014 เธอได้ แสดงน�ำในภาพยนตร์ เรื่อง The Face of An Angel ภาพยนตร์ ทดี่ ดั แปลงจากคดีฆาตกรรมทีส่ ร้ างจากเรื่อง จริ ง รวมทังภาพยนตร์ ้ เรื่ อง Pan ภาพยนตร์ ที่บอกเล่าเรื่ องราวของ Peter Pan โดยเธอรับบทเป็ นนางเงือก ล่าสุดเธอได้ รับบทน�ำในภาพยนตร์ เรื่ อง Paper Town ทีด่ ดั แปลงจากนิยายของนักเขียนชือ่ ดัง John Green เจ้ าของ ผลงานหนังสือเบสต์เซลเลอร์ ทถี่ กู น�ำมาท�ำเป็ นภาพยนตร์ จนประสบความ ส�ำเร็ จอย่าง The Fault in our stars ซึง่ John ประทับใจในความสามารถ ของ Cara จนถึงกับชื่นชมผ่านทาง Twitter ส่วนตัวเลยทีเดียว นอกจากงานแสดงแล้ ว เธอยังคงขวนขวายที่จะตามล่าความ ฝั นในการเป็ นนักร้ อง หลังจากเป็ นศิลปิ นเฉพาะกิจให้ กบั Katie Grand และออกเพลงร่วมกับเพื่อน Will Heard ในเพลง Sonnentanz (The Sun don’t Shine) ล่าสุดมีรายงานว่า Simon Cowell ก�ำลังอยูใ่ นขันตอนการ ้ เจรจากับ Cara เพื่อปั น้ เธอเป็ นนักร้ องคนใหม่ เรี ยกได้ วา่ เป็ นคนบันเทิงรุ่นใหม่ที่มีศกั ยภาพรอบด้ าน และคง กลายเป็ นดาวค้ างฟ้าได้ ไม่ยาก
CULTURE CLUB
8
FOLLOW HER ON
เ ป็ น แ บ ร น ด์ แ อ ม บ า ส เ ด อ ร์ ใ ห้ กั บ นิตยสารหัวนอกสัญชาติฝรัง่ เศสอย่าง ลอฟฟี เซียล ถึงฤดูกาลแฟชัน่ วีค เรา ได้เห็นชมพู ่-อารยา เอ. ฮาร์เก็ต วิง่ เข้า-ออก ชมแฟชัน่ ของแบรนด์ต่างๆ ในหลากหลายลุ ค ผ่ า นอิ น สตาแกรม ลอฟฟี เชียลและของเธอเอง แฟนคลับ พากันเชี ยร์ ชื่ นชมประหนึ่งไปเธอแข่ง กีฬาโอลิมปิ คเลยทีเดียว
@lofficielthailand
WILDERNESS WITHIN
ANMOM
เราอาจจะจ� ำ เขาได้ จ ากหลายๆ เอ็ ม วี ข อง Trasher Bangkok เป็ นนั ก แสดงคู่ บุ ญตี คู่ กั บ เจนนี่ ปาหนั น มาติ ด ๆ อี ก ด้ า น “สิทธิพันธ์ ต่ายทรัพย์” หรือ “Anmom” เรียกได้ว่าเป็นนักวาดภาพ ประกอบที่ มี ง านให้ ไ ด้ เ ห็ น บ่ อ ย จากนิ ต ยสาร a day ดิ ฉั น Women’s health หลายคนให้ ค� ำ จ� ำ กั ด ความงานของเขาว่ า สวยละมุ น จากการได้ตดิ ตามผลงานมาเรือ่ ยๆ เราได้เห็นว่า Anmom เป็นคนที่ชอบทดลองเทคนิคใหม่ๆ ล่าสุดเขาได้จัดนิทรรศการรวมกับ ศิลปิ นอีก 3 ท่านในชื่อ Wilderness Within ภายใต้ธีมของการ โหยหาที่จะกลับไปสัมผัสกับโลกของธรรมชาติ และหลีกหนีจากการใช้ ชิวิตในเมืองกรุ งเทพอันแสนแออัดและวุ ่นวาย นิทรรศการจัดที่ JAM ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2557 ด้วยงานที่ละมุ นเป็นเอกลักษณ์ ท�ำให้เรา อยากรู้ เราถามเขาถึงแรงบันดาลในการท�ำงาน
EMMA WATSON
#HEFORSHE
1. ALPHONSE MUCHA @lofficielthailand
คนนี้ตอนเห็นงานครั้งแรกสมัยเด็กๆ คือตรึงตรามาก โตมายิ่งรู้ว่าเค้าเป็น คนยุคแรกๆ ที่วาดภาพในเชิงพาณิชย์ ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
2. ANTHONY GOICOLEA
@chomismaterialgirl
เห็นแรงบันดาลใจ ให้เราตระหนักได้ว่าถ้าตั้งใจท�ำอะไร ก็ท�ำได้หมดล่ะ เค้าเป็นทั้งนักวาด ช่างภาพ ผกก. หรือไฟน์อาร์ตไปเลยแบบ อินสตอลเลชั่นอาร์ตก็ยังได้ อารมณ์ในงานสูงมาก เป็นคนที่หยิบจับ อะไรก็งามไปหมด
3. HENRY SCOTT TUKE MOVIE
THE HOMESMEN
หลังจากก�ำกับภาพยนตร์ เป็ นครัง้ แรกเมือ่ ปี 2006 กับ The Three Burials of Melquiades Estrada นักแสดงมากความสามารถ Tommy Lee Jones ได้ กลับมาก�ำกับภาพยนตร์ พร้ อมแสดงน�ำอีกครัง้ กับ The Homesman ศรัทธา ความหวัง แดนเกียรติยศ ภาพยนตร์ เรื่ อง The Homesman ดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันที่บอกเล่า เรื่ องราวเมื่อผู้หญิงเสียสติสามคนต้ องเดินทางข้ ามรัฐไปเพื่อรักษา Mary Bee Cuddy (Hilary Swank) อาสาเป็ นคนพาพวกเธอไป George Briges (Tommy Lee Jones) ชาย ที่ต้องโทษพร้ อมท�ำทุกอย่างเพื่อให้ ตวั เองรอดชีวิตจากการถูกแขวนคอ ได้ ให้ ค�ำสัญญา กับแมรี่ วา่ เขาจะพาผู้หญิงเหล่านันไป ้ การเดินทางของทังห้ ้ าชีวิตที่จะต้ องเผชิญหน้ ากับ อันตรายและค�ำสัญญาที่อาจต้ องแลกมาด้ วยชีวิต ซึง่ นอกจากน�ำแสดงโดย Tommy Lee Jones & Hilary Swank แล้ ว ภาพยนตร์ เรื่ องนี ้ยังได้ Meryl Streep และ Hailee Steinfeld ร่วมแสดง และได้ ฉายรอบปฐมทัศน์ ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ด้วย
@lofficielthailand
เป็นศิลปินที่ไม่ดังมากในยุค Impressionist แต่งานมีเอกลักษณ์มากในยุค นั้นคนนึงเลย เป็นแรงบันดาลใจเราในเรื่องถ้าชอบอะไรก็ท�ำไม่ได้สนกฎ เกณฑ์หรือกระแสอะไร เราชอบที่เค้าเป็นตัวเค้าแล้วเค้าก็ท�ำแบบนั้นตลอด เสมอต้นเสมอปลาย
4. ART SCHOOL CONFIDENTIAL @chomismaterialgirl
Photo : www.instagram.com/lofficielthailand, www.anthonygoicolea.com, www.stephaniescript.wordpress.com
หลังจากเป็นที่รักของบรรดาแฟนคลับทั่วโลก ในบทบาทแม่มดน้อยจาก ภาพยนตร์ชุดสุดฮิต Harry Potter นักแสดงสาว Emma Watson ได้กลับ มาครองใจแฟนๆ ทั่ ว โลกอี ก ครั ้ง ในฐานะฑู ต สั น ถวไมตรี ข ององค์ ก ร สหประชาชาติ โดยเปิ ดตัวภารกิจแรกด้วยแคมเปญ HeForShe โดยแคมเปญ HeForShe เป็ นแคมเปญที่มงุ่ หวังให้ ความรุนแรงและความ ไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศลดลง "ถึงเวลาแล้วที เ่ ราทุกคนควรจะเลิ กจ� ำกัดเพศ เลิ กนิ ยามว่าเพศนัน้ เพศนี ้ ควรไม่ควรท�ำอะไร" "คุณอาจจะคิ ดว่ายัยเด็กผูห้ ญิ งจาก Harry Potter คนนีเ้ ป็ นใคร มาท�ำ อะไรทีอ่ งค์การสหประชาชาติ ฉันก็ถามตัวเองเหมื อนกัน แต่สิ่งทีฉ่ นั รู้คือฉันแค่เป็ น ห่วงปั ญหาความไม่เท่าเทียมกันนี ้ และหวังว่าจะช่วยแก้ไขปั ญหาและพัฒนาเรื ่องนี ้ ให้ดีขึ้น" ซึง่ จากการเปิ ดตัวแคมเปญดังกล่าว Emma ได้ รับเสียงชืน่ ชม และการตอบ รับอย่างดี และมีคนดังเปิ ดตัวสนับสนุนแคมเปญนี ้ ไม่ว่าจะเป็ น Logan Lerman, Matthew Lewis, Douglas Booth และ Tom Hiddleston เป็ นต้ น
หนังอาร์ตตลกร้ายที่เบสจากการ์ตูนเรื่องเดียวกัน แต่ทุกอย่างในหนังบวก กับจังหวะที่ได้ดูในตอนนั้น คือเป็นตอนที่ยังเรียนอยู่ ทุกค�ำที่ออกมาจาก หนังนั่นคือตรงมากๆ บางค�ำตอบของครูอาจาร์ยยังตรงกันเลยด้วยซ�้ำ หนังเล่นประเด็นอุดมคติของคนที่สุดท้ายมันไม่ได้มีอะไร ซึ่งท�ำให้เราแน่ว แน่ในทางของตัวเอง
27th LAWASIA
9
MEET THE SPEAKERS
SPECIAL ADDRESS
THE HON MICHAEL KIRBY AC CMG
G L SANGHI MEMORIAL LECTURE
VENUGOPAL K.K
- Senior Advocate, Supreme Court of India - Enrolled as an Advocate, January 1954 Designated Senior Advocate (The Indian equivalent of the Queen’s Counsel in England) by the Supreme Court of India, March 1972 - Was Additional Solicitor General of India, 1979-80 - Was conferred by the President of India the “Padma Bhushan” Award on the occasion of the Republic Day, 2002 Was conferred the Honoris Causa Degree of Doctor of Laws (LL.D.) by Utkal University, Orissa, at its 42nd Convocation in 2010 - President, Supreme Court Bar Association of India, 1990-91, 1994-95 and 1999-2000 - President, SAARCLAW (The International Association of Lawyers of the SAARC Countries), 1995-97 - President, Union Internationale des Avocats 1996-97 (The oldest among international associations of lawyers, with headquarters at Paris) - In 1997, received the “Grand Cross” award and medal from the Bar Association of Bagota, Columbia, as well as a medal and citation from the Bar Association of Buenos Aires and Matanza, Argentina, in recognition of his achievement in human rights and legal multi-lingualism and multi-culturalism - Vice-President, Bar Association of India Honorary Member, American Bar Association - Received the Global Award 2003 from the Chief Minister of Kerala, and the Eswara Iyer “Distinguished Lawyer Award” from the Kerala Bar Federation - Editor-in-Chief of the Third and Fourth Editions of the Book “Justice Bachawat’s : Law of Arbitration & Conciliation” - Delivered a number of lectures and published articles on various legal topics. Mr. Venugopal K.K will be on Plenary Session: G L SANGHI MEMORIAL LECTURE: Poverty as an Assault on Human Rights (Oct. 5)
SPECIAL ADDRESS
DR. SRIPRAPHA PETCHARAMESREE Having her first degree in political science from Thammasat University, she furthered her studies in the same discipline and received her D.E.A. and then Ph.D. (Doctorat) in international politics with distinction from the University of Paris-X Nanterre, France. Her first formal contact with human rights works started when she served as a social worker at the UNICEF’s Emergency Operations for Cambodian Refugees. She joined the Department of Technical and Economic Cooperation until 1996 when she accepted an offer from Mahidol University. Until June 2007, she chaired the first International Master Program in Human Rights ever established in Thailand and in Asia. She is currently chairing the International Ph.D. Program in Human Rights and Peace Studies, the first of its kind in SEA. Active in human rights field among academic community and human rights activists both at national and regional levels, she works closely with NGOs, grassroots people and some marginalized groups, ethnic minorities, migrant workers, asylum seekers, etc. Her recent works focus mainly on issues of ASEAN and human rights, citizenship, statelessness, access to justice of the poor and non citizen, human rightsbased to poverty eradication, community rights, human rights and business accountability, and human rights education both within and outside educational system. She is preparing two books one dealing with the issues of citizenship, statelessness, and borders, and another on ASEAN and Human Rights. From October 2009 to December 2012, she was serving as the Thai Representative to the ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights. Dr Sriprapha Petcharamesree will be on Plenary Session: ESTABLISHING A REGIONAL APPROACH TO HUMAN RIGHTS-RELATED BUSINESS DEVELOPMENT – ANY POSSIBILITY? (Oct. 5)
Photo : www.rk.com.au, www.zanthier.com, www.thehindu.com, www.dw.de, http://m.mfa.go.th
When he retired from the High Court of Australia on 2 February 2009, Michael Kirby was Australia’s longest serving judge. He was first appointed in 1975 as a Deputy President of the Australian Conciliation & Arbitration Commission. Soon after, he was seconded as inaugural Chairman of the Australian Law Reform Commission (1975-84). Later, he was appointed a judge of the Federal Court of Australia, President of the New South Wales Court of Appeal and, concurrently, the Court of Appeal of Solomon Islands. His appointment to the High Court came in 1996 and he served thirteen years. In later years, he was Acting Chief Justice of Australia twice. In addition to his judicial duties, Michael Kirby served on three university governing bodies being elected Chancellor of Macquarie University in Sydney (1984-93). He also served on many national and international bodies. Amongst the latter have been service as a member of the World Health Organisation’s Global Commission on AIDS (1988-92); President of the International Commission of Jurists, Geneva (1995-8); as UN Special Representative Human Rights in Cambodia (1993-6); a member of the UNESCO International Bioethics Committee (1995-2005); a member of the High Commissioner for Human Rights’ Judicial Reference Group (2007-) and a member of the UNAIDS Reference Group on HIV and Human Rights. Since his judicial retirement, Michael Kirby was elected President of the Institute of Arbitrators & Mediators Australia from 2009-2010. He also serves as Editor-inChief of The Laws of Australia. He has been appointed Honorary Visiting Professor by twelve universities. And he participates regularly in many local and international conferences and meetings. He has been awarded many honorary doctorates. In 2010, he was awarded the Gruber Justice Prize. He was also a member of the Eminent Persons Group (2010-11) which was investigating the future of the Commonwealth of Nations; and has been appointed to the UNDP Global Commission of HIV and the Law (2010-12). In 2010, he was appointed to the Arbitration Panel of the International Centre for Settlement of Investment Disputes (World Bank). In 2013 he was appointed a Commissioner of the UNAIDS Commission on Sustainable Health (2013-14). Later in 2013 he was appointed by the President of the UN Human Rights Council pursuant to a resolution of the Council, to head the Commission of Inquiry on Alleged Human Rights Violations in the Democratic People's Republic of Korea (2013-14). The Honourable Michael Kirby will be on Plenary Session: UN COMMISSION REPORT DPRK – A SPECIAL CHALLENGE FOR ASIA’S LAWYERS (Oct. 6)
27th LAWASIA
10
FRANCHISING
ANDREW TERRY EMPLOYMENT LAW
WONG KEAT CHING
Photo : www.thewomenscollege.com.au, www.klbar.blogspot.com, www.lawasia.asn.au
Wong Keat Ching is a partner in the Industrial Relations practice group at ZUL RAFIQUE & partners. She is a graduate from the University of Nottingham, UK and subsequently obtained her Certificate in Legal Practice in Malaysia. She was admitted as Advocate & Solicitor of the High Court of Malaya in 1998. Keat Ching is listed in Chambers Asia and the Asialaw Profiles under Labour and Employment. Keat Ching is an active litigator in the Malaysian Courts. She has appeared in the Federal Court (Malaysia’s highest Court) to argue issues such as the High Court’s supervisory powers over the Industrial Court’s decisions, dismissal of trade union officials, proportionality of punishment and gender discrimination in retirement age. Keat Ching also provides regular advice on corporate restructuring affecting employees, in particular M&A exercises; voluntary separation scheme (VSS); restructuring of senior management positions, establishment and closure of business of foreign companies in Malaysia as well as IR due diligence. Keat Ching served a short stint with Melbourne law firm, Maddocks in 2004. In November 2013, she was selected by the China Law Society to attend the 7th China-ASEAN Legal Training Course and was appointed as Visiting Research Fellow of the China-ASEAN Legal Research Centre at the Southwest University of Political Science & Law, Chongqing. Keat Ching now serves on the Bar Council of Malaysia’s Industrial Law Committee. She is also the co-author of the Malaysia chapter of Global Legal Insights Employment & Labour Law, 2nd Edition. In her spare time, the mother of two is active in the Malaysian Bar netball team. In 2008, she received the Bar Council’s Sports Personality award. Wong Keat Ching will be on Employment Law. (Oct. 5)
Andrew Terry is Professor of Business Regulation and Chair of the Discipline of Business Law, in The University of Sydney Business School and holds the title of Emeritus Professor from the University of New South Wales. His primary area of specialisation is franchising and he has researched and published extensively on franchising development and regulation, and on legal and commercial aspects of thefranchisor/franchisee relationship. He has been closely associated with the Australian franchise sector over a long period in a number of roles and his contribution has been recognised by his induction into the Australian Franchising Hall of Fame. He is a former director of the Franchise Council of Australia and is currently Governor of the Australian Franchise Academy-the Franchise Council’s educational arm. Professor Terry has a particular interest in franchising as a strategy for SME business development in the developing countries in the Asia Pacific region. He has worked with governments and franchise organisations in the region in relation to franchise development and regulation and drafted Vietnam’s Franchise Laws. He is Honorary Dean of Beijing Normal University’s Franchise Management School which offers the world’s first, and only, dedicated undergraduate franchising degree and is Chair of Lawasia’s Franchising Committee. He has recently received and an AusAID grant for a project to assist the development of franchising within ASEAN nations as part of a wider strategy to encourage SME business development. Andrew Terry will be on Franchising. (Oct. 6)
TAXATION
Sachit Jolly is a senior member of the DMD’s Taxation Group. Mr. Jolly is a lawyer by profession and has been practicing Taxation Laws for over 7 years. Apart from advising various Indian and foreign MNCs, he has had the experience of representing various clients in the aviation, pharma, education, oil and gas sectors before the AAR, Income tax Appellate Tribunal and the High Court. Mr. Jolly specializes in the niche area of international taxation, with special emphasis on taxation of royalties, technical services and issues of permanent establishment and attribution of income thereof. Mr. Jolly also regularly represents clients before the Income tax Tribunal in connection with transfer pricing disputes. Sachit Jolly will be on Taxation (Oct. 4)
THE HON JUSTICE JULIE WARD
Justice Ward studied arts/law at the University of Sydney, graduating in law in 1982 with First Class Honours and the University Medal. Her Honour was admitted as a solicitor of the Supreme Court in 1982. Following graduation, Justice Ward worked for a year as the associate to Sir Nigel Bowen, the first Chief Justice of the Federal Court. Justice Ward worked for Stephen Jaques Stone James (now King & Wood Mallesons) for two years, then completed a BCL with first class honours at Oxford University, having won a post-graduate scholarship from Sydney University. Justice Ward was made a partner of Mallesons in 1988. At that time she was the youngest female partner to be appointed at that firm. Her Honour was appointed to the Supreme Court of New South Wales in September 2008. She was the first female solicitor directly appointed to the Supreme Court bench. She sat in the Equity Division of the Court, until her appointment to the Court of Appeal in November 2012. The Hon Justice Julie Ward will be on Criminal . (Oct. 5)
CORPORATE SECURITIES AND INVESTMENT
ESTATE PLANING
Henning von Zanthier founded the law firm VON ZANTHIER & SCHULZ in Berlin in 1992 with its main focus on business law in Germany and Poland. Since 1995 he has been the owner of the law firm in Poznań (Poland). After studying law in Germany and France, he was awarded the title Master of Law (LL.M.) in the USA. In 1991 he was called to the Bar in Berlin where he worked as a lawyer in a leading international law firm. Since 2009 he is the first nonPolish attorney (radca prawny) to be admitted to the bar in Poznań/Poland. From 2004-2009 he was a lecturer in Polish law at Freie Universität Berlin. In addition, he also lecturers at the Adam Mickiewicz University in Poznań/Poland on the law of international sale of goods. Henning Von Zanthier will be on Corporate Securities and Investment (Oct. 5)
John is Chairman of Russell Kennedy Lawyers in Melbourne and a Law Institute of Victoria Business Law Accredited Specialist. He is a past president of both the Law Council of Australia and the Law Institute of Victoria and currently sits on the Boards of Mercy Health and Aged Care and the Legal Practitioners Liability Committee. John is a commercial lawyer and specialises in the area of retirement villages and aged care. He has a national practice with many of his clients being Australia’s major providers of aged care and retirement villages. John often represents major peak industry bodies in their dealings with industry members and government. John was named Best Lawyers’ 2013 “Lawyer of the Year” and recognised in 2012 and 2014 for expertise in Retirement Villages and Senior Living Law. He is increasingly assisting his clients with their Estate Planning needs working with the specialist Russell Kennedy Estate Planning team. John Corcoran will be on Estate Planning. (Oct. 4)
HENNING VON ZANTHIER
SACHIT JOLLY
CRIMINAL
JOHN CORCORAN
15.00 Delegate Registration
ECOTOURISM
at Chatrium Ballroom Foyer
18.00 Welcome Reception at Chatrium Ballroom
SAT 4 OCT 9.00 Opening Ceremony
at Chatrium Ballroom Address: LAWASIA President – Mr Isomi Suzuki (JAPAN) Address: President Lawyers Council of Thailand – Mr Dej-Udom Krairit (THAILAND) Inaugural Address – His Excellency Professor Atthaniti Disatha-amnarj, His Majesty, the King’s Privy Councillor 10.30 Networking Morning Tea at Chatrium Ballroom Foyer 11.00 FAMILY LAW Getting to `Maybe’ in International Family Disputes at Chatrium Ballroom
11.00 ECOTOURISM Environmental and Tourism LawsConflicts and Marriages at Ravipa Room It is quintessential that the twin peaks of glory and gain in the form of environment and tourism must always be balanced. Achieving the benefits of tourism without unacceptable environmental, cultural and social impacts must be the forerunner of all modern day laws and regulations. Regulators and stakeholders must be inspired in their duties by the thought that every today well lived makes every yesterday a rewarding tomorrow. Chair : Justice Brian Preston, Chief Judge, Land & Environment Court of New South Wales (AUSTRALIA)
Different forms of ADR in family disputes - mediation, collaborative practice and arbitration. Does the subject matter of the dispute impact on what type of ADR works best?; finality of settlement agreements; cross-border enforcement; recognition of settlement agreements.
Speakers: - Mr V Shekhar, Senior Advocate, Vice President, Supreme Court Bar Association (INDIA) - Dr Orapan Nabangchang, Deputy Director, Economy and Environment Program for Southeast Asia (THAILAND) - Dr Anton Maurer, CMS Hasche Sigle (GERMANY)
Chair : Ms Malathi Das, Joyce A Tan & Partners (SINGAPORE)
12.30 Lunch at River Barge Restaurant
Panellists : - Mr TL Yap, TL Yap & Associates (SINGAPORE) - Mr Justin Dowd, Watts McCray (AUSTRALIA) - Mr David Lawrence, Tilleke and Gibbins Internatinal Ltd (THAILAND) - Ms Mikiko Otani, Otani Law Offices (JAPAN) - Ms Serene Ong (MALAYSIA)
13.30 ESTATE PLANNING Thinking Ahead at Chatrium Ballroom
11.00 CORPORATE SECURITIES & INVESTMENT Hot FDI Destinations of ASEAN Community 2015 at The River Room
Chair: Mr Lester Huang, PC Woo & Co (HONG KONG)
With the ASEAN Economic Community coming into effect in 2015, this session will examine the legal landscapes in ASEAN countries that will be especially attractive to foreign direct investment. Chair : Mr Jeff Leong, Jeff Leong, Poon & Wong (MALAYSIA) Speakers: - Mr San Lwin, JLPW Legal Services (Myanmar) Co Ltd (MYANMAR) - Mr Ma Wei, Dacheng Law Offices (CHINA) - Mr Michael S Carl, Soewito Suhardiman Eddymurthy Kardono (INDONESIA) - Mr André Brunschweiler, LALIVE (SWITZERLAND)
This session will encompass discussion on wills, trusts, succession and the cross border issues that emerge around the Asia Pacific region.
Speakers: - Mr John Corcoran, Chairman, Russell Kennedy (AUSTRALIA) - Mr John Wilson, John Wilson Partners (SRI LANKA) - Ms Claudia Wai-Shan Ling, PC Woo & Co (HONG KONG) 13.30 ENERGY & RESOURCES Opportunities in Asia Pacific - Resources for a Region at The River Room Coordinator : Mr Matthew Baird, Barrister (AUSTRALIA / THAILAND) Speakers: - Mr Guy Dwyer, Tutor, Macquarie University (AUSTRALIA) - Mr Matthew Baird, Barrister (AUSTRALIA / THAILAND)
13.30 ADR Trends and Developments at Ravipa Room Various national and international initiatives are taking place, which are entrenching the role of ADR. This session will address current initiatives in a number of key commercial jurisdictions. Coordinator : Mr Niten Chauhan, JPC Law (UNITED KINGDOM) Speakers: - Mr Umang Gupta, Agarwal Law Associates (INDIA) - Mr Ferdinand J Kim, Soorun Asia Law Offices (KOREA) - Mr Michihiro Mori, Nishimura & Asahi (JAPAN) - Mr Tony Budidjaja, Budidjaja & Associates (INDONESIA) 15.00 Networking Afternoon Tea at Chatrium Ballroom Foyer 15.30 BAR ISSUES Maintaining Professional Independence at Chatrium Ballroom Bar leaders share experiences in a range of issues that may impact upon professional independence, including intimidation, discrimination, government interference and dual regulation. Chair : Mr Ian Haynes, Vice President, LAWASIA (NEW ZEALAND) Panellists: - Mr Steven Thiruneelakandan, Vice President, Bar Council Malaysia (MALAYSIA) - Mr Husnu Al Suood, President, Maldives Bar Association (MALDIVES) - Dr Martin Abend, Vice President, Bundesrechtsanwaltskammer -The German Federal Bar (GERMANY) - Mr Michael Colbran QC, President, Law Council of Australia (AUSTRALIA) Address : Mr Chulwan We, President, Korean Bar Association KBA Initiative – Legislation Evaluation System 15.30 TAXATION Current Tax Laws: Economic Enabler or Social Amputator? at The River Room Brief insight on the current state of tax affairs in India, Thailand, Malaysia, Maldives and Hong Kong Chair : Mr Murad Ali, Messrs K’mura & Co (MALAYSIA) Panellists: - Mr Picharn Sukparangsee, Siam City Law Offices Limited (THAILAND) - Mr Sachit Jolly, DMD Advocates, (INDIA)
- Mr Saravana Kumar, Lee Hishamuddin Allen & Gledhill (MALAYSIA) - Mr M Shahdy Anwar, Suood Anwar LLP (THE MALDIVES) - Mr Michael Lorenz, Lorenz & Partners Co Ltd (HONG KONG) 15.30 LAW MANAGEMENT Strategy and Business Planning at Ravipa Room The value and benefits of planning, an overview of the planning process, undertaking a situational analysis, developing practice objectives and related strategy, formulating the action plan, and execution and review. Coordinator/Chair : Mr Antony Dapiran, Davis Polk & Wardell LLP (HONG KONG) Presenter : Mr Paul Malliate, PSS Global Pty Ltd (AUSTRALIA) 18.00 River Cruise Dinner (optional)
SUN 5 OCT 9.00 Plenary Session : ESTABLISHING A REGIONAL APPROACH TO HUMAN RIGHTS-RELATED BUSINESS DEVELOPMENT – ANY POSSIBILITY? Dr Sriprapha Petcharamesree, Mahidol University (THAILAND) Chair : The Honourable TF Bathurst AC, Chief Justice of New South Wales (AUSTRALIA) 9.50 Plenary Session : G L SANGHI MEMORIAL LECTURE : Poverty as an Assault on Human Rights Mr KK Venugopal, Senior Advocate, Supreme Court of India (INDIA) 10.45 Networking Morning Tea at Chatrium Ballroom Foyer 11.00 BANKING & FINANCE Regulating Asia: Resuscitating or Suffocating the Banking and Finance Industry? at Chatrium Ballroom With financial scandals gracing the front page of our newspapers every other day, regulators are scrambling to minimise further damage. Do we not already have enough regulation? Will further regulation breathe life into the banking industry or be another nail in the coffin? Coordinator/Chair : Mr Jal Othman, Shook Lin & Bok LLP (MALAYSIA) Panellists: - Mr Irfan Chatta, Irfan Chatta Law Associates (PAKISTAN) - Mr Suriya Nachin, ZICOLaw (Thailand) Limited (THAILAND) - Dr Pinky Anand, Additional Solicitor General (INDIA)
Photo : www.manilapicture.com
FRI 3 OCT
27th LAWASIA
11
27th LAWASIA
12 11.00 ENVIRONMENTAL IMPACT ASSESMENT Recent Developments in Environmental Assessment in Asia at The River Room
13.30 ENVIRONMENTAL / JUDICIAL Improved Resolution of Environmental Disputes by Judicial Specialisation at The River Room
Legal regime and jurisprudence in the region
How courts and tribunals have addressed environmental cases in Asia-Pacific region, including examples of specialised environmental courts and tribunals (green courts in Australia, New Zealand, India, China), specialised divisions (green benches in Thailand Courts of Justice and Administrative Courts), or trained or accredited judges (green judges in Philippines/Indonesia).
Chair/Speaker : Mr Matthew Baird, Barrister (AUSTRALIA/THAILAND) Speakers: - Ms Melissa Pang, Pang & Associates (HONG KONG SAR) - Dr Leonie Kelleher OAM, Kellehers Australia (AUSTRALIA) - Mr Yoshimichi Makiyama, Kitamura & Makiyama (JAPAN) - Dr Yogeswaran Subramaniam (MALAYSIA) 11.00 EMPLOYMENT LAW Personal Privacy Rights and Workplace Obligations at Ravipa Room Chair : Mr Bernard Banks (NEW ZEALAND) Speakers: - Ms Keat Ching Wong, ZUL RAFIQUE & Partners (MALAYSIA) - Mr Stephen Hughes, Carter Newell (AUSTRALIA) - Ms Ruwani Dantanarayana, John Wilson & Partners (SRI LANKA) - Mr Tada Sasarasitit, Chavalit Group (THAILAND)
12.30 Lunch at River Barge Restaurant 13.30 CORPORATE SECURITIES AND INVESTMENT The Morning After –Dealing with Post-Signing Surprises in CrossBorder M&A at Chatrium Ballroom Nasty surprises can occur after the champagne has been drunk and the glasses tossed from the 101st floor. How should the parties deal with material adverse changes, force majeure and other imponderables? The panellists will explore the “morning-after” pills to prescribe to the parties. Chair : Mr Manoj Chhabra, Astra Law Offices (INDIA) Speakers: - Mr Henning von Zanthier, Von Zanthier & Schulz (GERMANY) - Mr Severin Roelli, Pestalozzi Law (SWITZERLAND) - Dr William Wong SC, Des Vouex Chambers (HONG KONG) - Ms Chisako Takaya, Mori Hamada & Matsumoto (JAPAN) - Mr Hyeong Gun Lee, Lee & Ko (KOREA)
Chair/ Coordinator : Justice Brian Preston, Chief Judge, Land & Environment Court of New South Wales (AUSTRALIA) Speakers: - The Honourable TF Bathurst AC, Chief Justice of New South Wales (AUSTRALIA) - Justice Suntariaya Muanpawong, Environmental Division, Supreme Court (THAILAND) 13.30 INTERNATIONAL MOOT COMPETITION FINAL ROUND at Ravipa Room 15.00 Networking Afternoon Tea at Chatrium Ballroom Foyer 15.30 INTELLECTUAL PROPERTY Infringement vs Enforcement: Who is Winning the IP Battle? at Chatrium Ballroom This session will cover a range of current topics in the region’s intellectual property arena from ISDS to media piracy. Chair: Mr Alan Moyle, Moyle & Associates (AUSTRALIA) Speakers: - A/Prof David Price, School of Law, Charles Darwin University (AUSTRALIA) - Dr Murray Green, Media Lawyer (AUSTRALIA) - Mr Jun Takahashi, Flag Law Office (JAPAN) - Mr Kenneth Choy, Choy Cheung & Co (HONG KONG)
15.30 CRIMINAL Where Law and Justice May Collide at The River Room In specific countries of the region, some laws or application of them may be seen to single out various sectors of society for different treatment. What are the issues for the legal profession in laws that are seen as discriminatory? Chair : Dato’ MAH Weng Kwai, Court of Appeal (MALAYSIA)
Speakers: - Mr Christopher Leong, President, Malaysian Bar (MALAYSIA) - The Hon Justice Julie Ward, Supreme Court of New South Wales (AUSTRALIA) - Mr Mohammad Akram Sheikh, Senior Advocate (PAKISTAN) - Mr Prashant Kumar, KPA Legal (INDIA) - Dr Joseph Patrick Meissner, Vice Director, Friendship Foundation American – Vietnamese (UNITED STATES) 15.30 INTERNATIONAL MOOT COMPETITION FINAL ROUND at Ravipa Room 19.00 Conference Dinner at Chatrium Ballroom
MON 6 OCT
the pressure for regulatory reform flowing from the introduction of the AEC. Franchising implications of the AEC and template format presentations on key issues/developments in franchise law/regulation in ASEAN countries. Chair : Mr Andrew Terry, The University of Sydney Business School (AUSTRALIA) Presenters: - Mr Tee Jim Tan SC, Lee & Lee (SINGAPORE) - Dr Nguyen Ba Binh, Hanoi Law University (VIETNAM) - Mr Chavalit Uttasartor or Mr P Nakaranuruck, Chavalit & Associates (THAILAND) - Dr Pornchai Wisuttisak, Chiang Mai University (THAILAND)
9.00 Plenary Session : UN COMMISSION REPORT DPRK – A SPECIAL CHALLENGE FOR ASIA’S LAWYERS The Honourable Michael Kirby AC CMG (AUSTRALIA) Chair : Mr Isomi Suzuki, President, LAWASIA (JAPAN) Address : Mr Chulwhan We, President, Korean Bar Association (KOREA) Session sponsored by the Korean Bar Association 10.00 ANTI-CORRUPTION Anti-Corruption Measures in the Asia Pacific Region: Success or Struggle? at Chatrium Ballroom Are legislative and regulatory efforts in LAWASIA countries capable of dealing adequately with the scourge of corruption? Where do the challenges lie and have these changed? Chair: Mr Akio Harada (JAPAN) Presenters: - Mr Mark Trowell QC, Albert Wolff Chambers (AUSTRALIA) - Prof John McDermott, Loyola Law School (UNITED STATES) - Ms Sarah Hutchinson, Law Society of England & Wales (UNITED KINGDOM) 10.00 FRANCHISING Franchising and the ASEAN Economic Community at The River Room The establishment of the AEC presents both opportunities and challenges for franchisors in the region. The AEC will expose local markets to competition from foreign brands but will also help local brands to build regional scale that will facilitate global expansion. This session will focus on legal and regulatory developments in franchising in ASEAN member countries and
DATA PROTECTION 10.00 DATA PROTECTION Is Asian Data Protection Legislation Living up to the LAWASIA Privacy Principles? at Ravipa Room In 2009, the LAWASIA Council settled the LAWASIA Declaration on the need for Adequate Privacy Laws in the Asia Pacific Region and the LAWASIA Privacy Principles which sought to broker a common legislative approach within the region to ensuring that personal information relating to an individual would not be used or handled in a manner inconsistent with the individual's reasonable expectations. Four years on, this session will consider whether recent developments within the region are consistent with this aspiration and, specifically, whether there is an increasing level of protection of privacy emerging within the Asia-Pacific region. Chair : Mr Datuk DP Naban, Lee Hishammuddin Allen & Gledhill (MALAYSIA) Presenters: - Mr Rajesh Sreenivasan, RAJAH & TANN (SINGAPORE) - Mr Mitsuhiro Kato, Patent & Law Firm JuJu (JAPAN) - Dr Gordon Hughes, Ashurst (AUSTRALIA) - Mr Sunil DB Abeyaratne, Attorneyat-Law (SRI LANKA) 11:30 Networking Morning Tea at Ballroom Foyer 11:45 CLOSING CEREMONY (moot presentation &farewell)
TIMELINE
13
1914-2014 100 YEARS of LAWYER PROFESSION
A criminal trial held at the royal courts during the reign of King Rama V.
The Legal profession is one of the oldest professions in Thailand. The first recorded instance in the legal history of Thailand of the use of the Thai word for “Lawyer” was in the first Procedural Law relating to institution of Complaints A.D. 1356. In the beginning, a lawyer was known to be a person who conducted a case with the use of rhetoric, thereby helping a client to be acquitted. Lawyers during the formative years of the profession have not enjoyed the most positive of reputations until Ethical Standards for lawyers was enacted into law. Since then the legal profession has been regarded as among the most honorable professions, heralding the commencement of the modern age of lawyers. In commemoration of the 100th anniversary of the legal profession in the modern age, the Lawyer’s Council of Thailand takes the opportunity to show you the milestones achieved by the legal profession: 1897 HRH Holy Lord Rapee Ratchaburi Direk established the law school for legal education at the dining room of the Chancellor of Justice. 1914 The King Rama VI established the Thai Bar for ethical and professional supervision of lawyers. The Lawyers Act A.D. 1914 was enacted which recognized; 1. 2 tiers of lawyers; - The 1st tier of Lawyers who had passed the requisite legal examination and obtained the certificate of being Thai barrister-at-law and accordingly allowed to conduct cases across the Kingdom. - The 2nd tier of lawyers who were ordinary persons who displayed uncommon expertise and knowledge of the law and were authorized by the Chief Judge of the Court of Appeals to conduct cases only in specific courts within the Bangkok District or provinces as defined by the terms of the license they had been permitted to hold. 2. The Chief Judge of the Court of Appeals exercised the authority to issue the lawyers license which is valid for 1 year. 3. The supervision of professional ethics of lawyers was placed under the authority of the Chief Judge of the Bangkok Court of Appeals, who was empowered to forbid lawyers guilty of misconduct from presenting a case in Court for a period not exceeding 3 years or alternatively in serious cases to issue an order to remove a lawyer from the record
1930 The first female lawyer in Thailand; Miss Ram Promobol is permitted to practice. 1933 Law school moved to the University of Moral and Political Sciences 1934 The Lawyers Act A.D. 1934 was enacted which recognized; 1. Additional required qualifications of lawyers by now including those persons holding a Bachelor of Laws to qualify as 1st tier lawyer 2. Stipulating the expiration date of a lawyer’s license as 31 March of the year following the year that the lawyer was permitted to practice and subject to the condition of renewal of the license every year in order to maintain registration. 1938 The Lawyers Act (No.2) A.D. 1938 was enacted which essentially amended the complaints relating misconduct of the lawyers, from previously the committee shall be established only when the complaint was filed to the committee shall be establish even there is no any complaint.
1940 The Lawyers Act (No.3) A.D. 1940 was enacted which essentially amended the expiration of the lawyer license from 31 March to 31 December. 1957 The “Lawyers Association” was established on 20 February A.D. 1957 as an independent institute to represent lawyers of the country and for public services to individuals and society besides providing welfare benefits to lawyers. Therefore, it was henceforth deemed that the 20th day of February of every year is “Lawyer’s Day” in recognition of the importance of the profession. 1965 The Lawyers Act No. 3 (the Lawyers Act A.D. 1965) included further amendments; 1. Transferred the authority of issuance of lawyers licenses to the Thai Bar 2. Amended the qualification of the 1st and 2nd tier of lawyers. Eligibility to the 1st tier of lawyers now included persons who had graduated in legal subjects and were members of the Thai Bar. For the 2nd tier lawyers, eligibility was curtailed to Thai barristers-at-law holding Bachelors of Law in Thailand and being an extraordinary member of the Thai Bar. 3. The 2nd tier lawyers are able to conduct a case in the Court that they register and nearby provinces not more than 4 provinces.
14 LEGAL TERMS
The Lawyers Council’s New Office (Expected to be completed in 2016)
MUSAWAMAH
1971 The 2nd tier lawyers are able to conduct a case in the Court that they register and other provinces not more than 10 provinces including amended the qualification of being the lawyer to include a person who held a Bachelor of Law but not being a member of the Thai Bar to qualify as a 1st tier lawyer. 1974 Mr. Marut Bunnag, president of the Lawyers Association and then member of the National Legislative Assembly proposed the establishment of a statutory body under the Lawyers Act to be known as the “Lawyers Council” for consideration by the National Legislative Assembly. 1975 Changed the name of the Lawyers Association to the “Lawyers Association of Thailand” 1985 The Lawyers Act A.D. 1985 was enacted which recognized; 1. “The Lawyers Council” was recognized as a juristic person and a formal institute for Thai lawyers. 2. The Lawyers Council was empowered with the authority to issue the lawyers license and oversee the professional ethics of lawyers in place of the Thai Bar. 3. Amended the required qualifications of a person who desires to register and obtain a license for being a lawyer which now in addition to holding a Bachelor of Laws, also included mandatory training in professional ethics for lawyers, introduction to the procedural principles and the legal profession as defined in the regulations of the Lawyers Council on professional legal training. 4. Canceled the 2nd tier of lawyers and persons who were such 2nd tier lawyers before the Lawyers Act A.D. 1985 were deemed to be a persons who had registered and obtained the license according to the Act and were accorded the right to renew their license and register themselves as per the Act.. 5. Established the Welfare Fund for lawyers for supporting lawyers in need and for the heirs of deceased lawyers also in need of assistance. 6. Set up the Board of Legal Aid including the Legal Aid Fund. 1993 The Lawyers Council established the project “Volunteer Lawyers for the Government” for supporting government officers in matters relating to the law. This project continues till date. 2001 The Lawyers Council arranged a training program called Environmental Lawyers Generation 1 to support the raising awareness of environmental issues pertinent to the accelerated development of the world. 2003 The Lawyers Council arranged a training program called for the Notary Lawyer Generation 1 with the 391 lawyers who enlisted . 2010 The Lawyers Council received royal commendation from His Majesty, The King and was formally inducted under Royal Patronage. 2014 The Lawyers Council opened 32 training programs for specialized legal professionals and lawyers, in anticipation of the AEC, the details appeared on www.lawyercouncil.or.th It is evident that profession has evolved and grown over time, and even acquired altruistic objectives to serve the general public. The quest for knowledge coupled by serving and upholding the ends of justice are the distinguishing traits of the legal profession.
Last issue we discussed the concept of Murabahah, which is essentially a sale at a disclosed cost plus and agreed profit margin. This month we consider the appropriate term where the cost to acquire the object sold is not disclosed. Musawamah (noun). This term literally means “bargaining”. It is a sale where a party sells a good for a lump sum price without disclosing the cost or profit to the buyer. The price of the good sold would be a lump sum amount determined by the mutual consent of the seller and the buyer. This form of transaction should be used when the seller himself cannot determine the exact cost of the item. It should not be used in order to gain excess profit from an item. In a typical musawamah transaction, a customer requests a financier to purchase a certain item from a third party. The price of the item is usually unknown to the customer. (If the price is known, then the parties should instead proceed under a murabahah transaction). Upon acquiring the item, the financier would add its own profit amount and offer to sell it to the customer who then has the right to accept, refuse or bargain over the price. Once the financier and customer agree on the price, the customer can pay the agreed amount for the item in agreed installments over a period of time. Musawamah transactions are typically used to finance local purchases such as cars, homes, appliances, equipment and machinery.
Example 1 : Because the bank did not disclose the purchase price of the machine to the bank customer, the parties proceeded with a musawamah transaction instead of a murabahah transaction. Example 2 : Musawamah can be an ideal transaction structure where the seller is not in a position to ascertain precisely the costs of commodities that he is offering to sell. Example 3 : Musawamah transactions are typically used to finance local purchases such as cars, homes, appliances, equipment and machinery. Example 4 : Whereas a murabahah transaction requires the seller to disclose the cost of goods sold plus an agreed profit margin, a musawamah transaction is essentially the opposite: a good is sold for a lump sum without any reference to cost or profit. Please note that the contents and views expressed in this issue are strictly those of the authors, and do not necessarily represent the views of the Lawyers Council of Thailand, its leadership or its members. /-Courtesy of Ployprathip
International Law Office Co., Ltd (PILO)
entering the aecs
15
WAT PHRA KAEW, BANGKOK Photo : www.jmacedophotography.com
ENTERING THE AECS
THAILAND
In 1932, Thailand became a constitutional monarchy structured similarly to the United Kingdom. Under the constitution, the government is divided into three branches: the executive, the legislative and the judiciary. While His Majesty the King signs all laws, acts and decrees, the decision making is left to the three government bodies.
ENVIRONMENT FOR FOREIGNER
There are a large number of foreigners living and working in Thailand. Japanese represent the largest number of expatriates followed by Americans and Europeans. All foreigners wishing to live or work in Thailand must comply with the country’s strict immigration and work-permit regulations. English is fairly widely spoken and most international business including contracts, documentation, and banking transactions is conducted in English. In most cases, official dealings with the Thai government must be conducted in Thai. Most foreigners enjoy living in Thailand as housing, health care, foreign schools, foods, sports and recreation facilities are of high quality. There are many foreign business associations, two daily English language newspapers and a Japanese newspaper. a) Visas - Visa rules vary according to nationality. Visitors to Thailand from certain countries can enter for a 30-day period with no visa, and others can obtain a visa waiver on arrival and are permitted to stay for 15 days. However, certain nationals must obtain a visa before entering the Kingdom. For longer stays, single or multiple entry 60day tourist visas are available at Thai consulates or embassies. b) Work Permits - All foreigners must obtain a work permit to engage in paid or unpaid work in Thailand. A foreigner must first obtain a non-immigrant visa from overseas and then subsequently apply for a work permit with the Employment Department after entering the Kingdom. Certain nationals are required to obtain pre-work permit approval before they can obtain a non-immigrant visa.
LEGAL SYSTEMS Thailand’s legal system is based on civil law systems with common law influences. The body of Thai law is not as extensive as in Western countries; so many aspects of the law are not as specific or explicit, thus leaving more room for interpretation. Trial by jury is not practiced. The 2014 Constitution is the highest law of the land and includes various codes, decrees, and multiple governmental notifications and regulations. It also established the Constitutional Court to settle matters pertaining to the Constitution. The Administrative Courts settle any disputes and litigation between the private sector, the Government, and State organs. The Court of Justice is the Kingdom’s civil and criminal court system and includes the Court of First Instance, the Court of Appeal, and the Supreme Court (Dika). Courts of First Instance are located in Bangkok and all provinces and include the Specialized Courts located in Bangkok. The regional Courts of Appeal hear civil and criminal cases from all parts of the country and either reaffirm or revise the lower courts’ decisions. The Supreme Court is located in Bangkok and only hears appeals on points of fact which are based on important material arguments; however, Tax and Labor Court cases go directly to the Supreme Court when under appeal. Its decisions are final, but not binding, and lower courts tend to follow the decisions of the Supreme Court with recent precedent carrying more weight than older cases. Judicial precedent as understood in English common law does not apply in the Thai Supreme Court; though, the judges generally try to follow decisions made previously. Alternate dispute resolution practices are an important part of the Kingdom’s legal system, and Thailand was an early adopter of the 1958 New York Convention on the Uniform Enforcement of Arbitral Awards. Enforcement of foreign judgments is not possible in the Kingdom; however, as a signatory to the New York Convention, Thailand does ensure the effective enforcement of awards made in other signatories’ jurisdictions. The 1987 Arbitration Law was amended in 2002, and the Thai Arbitration Institute (TAI) is the main arbitration body in Thailand.
TYPE OF BUSINESS ORGANIZATIONS
a) Sole Proprietorship - Under the law a person acting as a sole proprietor can engage in almost any lawful type of business with the exception of those businesses which have been otherwise regulated by the government. Taxation of a sole proprietorship business is calculated on a progressive personal tax rate. b) Unregistered Ordinary Partnership - An Unregistered Ordinary Partnership is when two or more persons join together to conduct business without formally registering their operation. Unregistered ordinary partnerships are taxed as natural persons, but each partner must also separately file their own personal tax return. c) Registered Ordinary Partnership - To form a Registered Ordinary Partnership, all particulars including the partnership contract, capital contribution, management and objectives must be submitted to the Ministry of Commerce. Partner profits are subject to taxation, so profits are subject to two levels of taxation. d) Limited Partnership - In a limited partnership, the managing partners who are jointly held personally liable for the partnership's debts with other non-managing partners only liable for the amount of any undelivered or withdrawn capital contribution. Partner profits are subject to taxation, so profits are subject to two levels of taxation. e) Private Limited Company - Basically a corporation, a Private Limited Company must have a minimum of seven persons join together to start a business with the capital divided into shares of equal par value. A Private Limited Company is taxed as a juristic entity. f) Public Limited Company - A Public Limited Company is formed in order to offer shares to the general public and must have a minimum of 15 persons join together. A Public Limited Company is a juristic entity and taxed as one. Individual shareholders must pay tax on their earnings, and foreign corporate shareholders pay tax on all dividends. g) Joint Venture - In Thailand, a Joint Venture is not a legal entity under the Civil and Commercial Code. If two parties do enter into an agreement to work together as a Joint Venture, it is valid as long as it conforms to Thai laws. A Joint Venture’s income is subject to corporate tax as a single entity. h) Branch Office - A Branch Office does business on behalf of a company located in another country. Over a period of five years, the establishing company must remit at least 5 million Baht of working capital into the country with 2 million Baht remitted in the first year. For tax payment, a Branch Office is treated as a juristic person. i) Representative Office - A Representative Office only differs from a Branch Office in that it cannot engage in revenue earning activities in Thailand; therefore, it pays no taxes.
LaWNEWS
OCTOBER 1-15, 2014
ENTERING THE AECS :
THAILAND
page 15
27th LAWASIA CONFERENCE
1914-2014 100 YEARS of LAWYER PROFESSION free!!
ลอว์นิวส์
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567 E-mail : lawnewslct@gmail.com Website : www.lawnewslct.blogspot.com
MEET THE SPEAKERS
page 9
TIMELINE :
LEGAL PROFESSION HISTORY page 13
ชำ�ระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547 ปณ.ราชดำ�เนิน เหตุขัดข้องที่นำ�จ่ายผู้รับไม่ได้ 1. จ่าหน้าไม่ชัดเจน 2. ไม่มีเลขที่บ้านตามจ่าหน้า 3. ไม่ยอมรับ 4. ไม่มีผู้รับตามจ่าหน้า 5. ไม่มารับภายในกำ�หนด 6. เลิกกิจการ 7. ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ 8. อื่นๆ ลงชื่อ.........................................