ฟาติมาสาร - ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน (14-09-2014)

Page 1

-1-

ฟาติมาสาร ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------------------------

วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02 - 245 - 1039, 02 - 642 - 9907, 02 - 247 - 5222, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-2-

อาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014 ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน บทอ่านจากพระวรสาร นักบุญ ยอห์น 3 :13-17 พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสว่า “ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์ นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์คือ บุตรแห่งมนุษย์เท่านั้น โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร ฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น......พระเจ้าทรงส่งบุตรแห่งมนุษย์มาในโลก มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลก แต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น...... วันฉลองเทิดทูนกางเขน โดยไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ พระเยซูเจ้าทรงกอบกู้เรา ให้รอดพ้นจากความตายนิรันดร โดยไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เราจึงได้รับชีวิต นิรันดร ความสาคัญของกางเขนคือกางเขนเป็นเครื่องหมายถึงการรับทรมานและการ สิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้า น่าแปลกที่ว่าเรื่องกางเขนสาหรับชาวกรีกเป็นเรื่องโง่เขลา สาหรับชาวยิวเป็นเรื่องสะดุด ชาวกรีกไม่เชื่อว่า การที่คนคนหนึ่งยอมตายบนไม้กางเขน เพื่อช่วยคนอื่นให้รอดเป็นเรื่องโง่เขลา สาหรับชาวยิว กางเขนมีไว้สาหรับลงโทษนักโทษที่ เป็นฆาตกร คนขายชาติ คนทรยศ แล้วทาไมพระคริสต์ต้องมารับโทษแบบนี้ ถือเป็นการ สะดุดต่อศาสนายิว สาหรับคริสตชน กางเขนเป็นอย่างไร ด้วยการเปิดเผยในพระคัมภีร์ถึง พระทรมานของพระเยซูเจ้า แม้ความตายแบบนี้เป็นการตายที่ไร้เกียรติ แต่พระคัมภีร์ เปิดเผยแก่เราว่า โดยการตายของพระองค์บนไม้กางเขนนี้ พระองค์ทรงยอมรับความตาย ของมนุษย์ ทรงสิ้นพระชนม์เหมือนมนุษย์ พระองค์สละตัวเอง ยอมถ่อมตนลงจนถึงที่สุด เพื่อเปิดเผยความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ เครื่องหมายกางเขน เป็นเครื่องหมายบอกเราว่า พระองค์ทรงรักมนุษย์เพียงใด เมื่อเราเทิดทูนไม้กางเขน เป็นการเทิดทูนความรักอันยิ่ง ใหญ่ที่สุดของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงเปิดเผยแก่เราในพระเยซูพระบุตรสุดที่รักของ พระองค์ บทอ่านจากหนังสือกันดารวิถี พูดถึงงูทองสัมฤทธิ์ที่ยกขึ้นบนไม้ในถิ่นทุรกันดาร เมื่อคนที่ถูกงูกัดมองรูปนี้ก็จะรอด ความหมายคือความตายอันมาจากงูพิษก็คือการไม่เชื่อ ฟังพระเจ้า การขาดความวางใจ แต่เมื่อพวกเขาเสียใจและอ้อนวอนขอ เมื่อมองดูรูปงูทอง ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-3-

สัมฤทธิ์นี้ ก็จะเห็นความรักและการอภัยของพระเจ้า หมายถึงการที่พระเยซูเจ้าทรงถูกยก ขึ้นบนไม้กางเขน ก็นาความรอดมาสู่มนุษย์ ไม้กางเขนคือสิ่งเตือนใจเรา เราเห็นว่าบาป ของเราได้รับการอภัย เรารอดพ้นจากความตายได้ เพราะพระองค์ตายเพื่อไถ่บาปเรา เราเห็นถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความรักของพระเยซูที่ทรงถ่อมองค์ลงจนถึงที่สุด เพื่อเรา พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่ง มนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้มีชีวิตนิรันดร ดังนั้นวัน ฉลองนี้จึงเป็นวันฉลองเทิดทูนความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ขอให้เราขอบคุณความรัก ยิ่งใหญ่นี้และเดินตามหนทางแห่งไม้กางเขน เพื่อนาเราไปสู่ความรอดพ้นและอยู่กับ พระคริสตเจ้าเสมอ...... คุณพ่อ สุรชัย กิจสวัสดิ์

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-4-

พระวรสารประจาสัปดาห์ (ยน 3:13-17) ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ คือบุตรแห่งมนุษย์ 14 เท่านั้น โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น 15 เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร 16 พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึง ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะ ไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร 17 เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้ มิใช่เพื่อตัดสิน ลงโทษโลก แต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น 13

***************************

ข้อคิดจากบทพระวรสาร(โดย คพ.ชัยยะ กิจสวัสดิ์) ชาวยิวบ่นว่าพระเจ้าและโมเสสที่พาพวกเขาออกจากประเทศอียิปต์มารับความ ทุกข์ยากและอดอยากในถิ่นทุรกันดาร พระเจ้าจึงลงโทษพวกเขาโดยโปรดให้งูพิษกัดผู้คน ล้มตายลงเป็นจานวนมาก เมื่อพวกเขาสานึกผิดและวอนขอพระเมตตา พระองค์จึงสั่ง โมเสสให้ทางูทองสัมฤทธิ์ติดไว้ที่เสาสูง ผู้ใดถูกงูกัด ถ้ามองที่งูทองสัมฤทธิ์ก็จะรอดชีวิต (กดว 21:4-9) ต่อมาชาวยิวหลงผิดหันไปกราบไหว้บูชางูทองสัมฤทธิ์เป็นพระเจ้า กษัตริย์เฮเซคี ยาห์จึงบัญชาให้ทาลายงูทองสัมฤทธิ์ที่โมเสสสร้างจนไม่เหลือซาก (2 พกษ 18:4) บรรดารับบีอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า ผู้ที่รักษาชาวยิวให้หายจากพิษงูร้ายคือ พระเจ้าผู้ทรงสั่งโมเสสให้สร้างงูทองสัมฤทธิ์ขึ้นมา ไม่ใช่เพราะงูทองสัมฤทธิ์มีฤทธิ์อานาจใน ตัวเอง โมเสส “ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร” เพื่อให้ชาวยิวที่มองดูจะได้ยกจิตใจขึ้นหา พระเจ้าและรอดพ้นจากความตายฉันใด พระเยซูเจ้า “ทรงถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน” เพื่อผู้ที่มองดูจะยกจิตใจขึ้นหาพระองค์ เชื่อพระองค์ และมีชีวิตนิรันดรฉันนั้น ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-5-

พระคัมภีร์ใช้คา hupsoō (ฮุฟซอโอ) ซึ่งแปลว่า “ยกขึ้น” กับพระเยซูเจ้าเพียง 2 กรณีเท่านั้นคือ 1.ทรงถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน เมื่อชาวยิวโต้เถียงพร้อมกับทูลถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นใคร” พระองค์ตรัสตอบว่า “เมื่อใดที่ท่านยกบุตรแห่งมนุษย์ขึ้น (hupsoō) เมื่อนั้นท่านจะรู้ว่า เราเป็น (พระบุตรของพระบิดา)” (ยน 8:25,28) อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า พระองค์ตรัสว่า “บัดนี้ ถึงเวลา ที่จะพิพากษาโลกแล้ว บัดนี้ เจ้านายแห่งโลกนี้กาลังจะถูกขับไล่ออกไป เมื่อเราจะถูก ยกขึ้นจากแผ่นดิน (hupsoō) เราจะดึงดูดทุกคนเข้ามาหาเรา” (ยน 12:31-32) 2.ทรงรับการยกขึ้นสู่พระสิริรุ่งโรจน์ในสวรรค์ ในวันเปนเตกอสเต เปโตรปราศรัย ต่อหน้าประชาชนว่า “พระองค์ทรงได้รับการเทิดทูน (hupsoō) ให้ประทับเบื้องขวาของ พระเจ้า” (กจ 2:33) และเปาโลย้าว่า “เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูน (hupsoō) พระองค์ขึ้น สูงส่ง และประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น” (ฟป 2:9) หมายความว่าการ “ยกขึ้น” ทั้งสองกรณีของพระองค์เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่าง แยกไม่ออกเพราะ “หากไม่มีกางเขนก็ไม่มีความรุ่งโรจน์” (No Cross, No Crown) ! สาหรับพระเยซูเจ้า กางเขนคือหนทางสู่ความรุ่งโรจน์ ! ที่สาคัญพระองค์ทรงยอม “ถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน” ก็ “เพื่อทุกคนที่มีความ เชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:15) “เชื่อในพระองค์” หมายความอย่างน้อย 3 สิ่งคือ 1.เชื่อว่าพระเจ้าพระบิดาทรงเป็นดังที่พระเยซูเจ้าทรงบอกเรา กล่าวคือ 1.1 พระบิดาทรงเป็นผู้ริเริ่มแผนการแห่งความรอด หลายครั้ง ศาสนาของเราได้รับการนาเสนอราวกับว่า อับราฮัม โมเสส และบรรดาประกาศกต้องคอยชักนาพระบิดาให้สงบสติอารมณ์และยกโทษให้ชาว อิสราเอล ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-6-

บางคนถึงกับพูดว่าพระบิดาน่าเกรงขาม โกรธง่าย และชอบจดจา ความผิด ส่วนพระบุตรนั้นอ่อนโยน น่ารัก และชอบให้อภัย บางคนไปไกลถึงกับกล่าวว่าพระบุตรทรงเป็นผู้เปลี่ยนทัศนคติของพระ บิดาจากชอบลงโทษมาเป็นให้อภัย แต่พระเยซูเจ้าทรงกล่าวชัดถ้อยชัดคาว่า พระบิดาทรงรักโลกอย่างมาก พระองค์ทรงริเริ่มแผนการแห่งความรอดโดยทรง “ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียว ของพระองค์” ให้ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ (ยน 3:16) 1.2 ธาตุแท้ของพระเจ้าคือความรัก เรามักคิดและเชื่อว่า พระเจ้าทรงเฝ้าคอยจับผิดมนุษย์แล้วลงโทษเฆี่ยนตี ผู้ที่เลินเล่อ ไม่เชื่อฟัง หรือทรยศ ให้หันกลับมาหาพระองค์ เรายังคิดและเชื่อกันอีกว่า พระเจ้าทรงเรียกร้องให้มนุษย์ศรัทธาและยอม ภักดีต่อพระองค์ก็เพื่ออวดศักดาและบารมีของพระองค์เอง แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่า พระเจ้าทรงกระทาทุกสิ่งเพื่อมนุษย์จะ “ไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) ไม่ใช่เพื่ออวดศักดาหรือทาให้โลกสยบอยู่แทบ พระบาท ของพระองค์ดังที่เราเข้าใจกัน และพระองค์จะไม่มีวันมีความสุขจนกว่าบรรดาลูก ๆ ของ พระองค์จะกลับถึงบ้านในสวรรค์อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เพราะธาตุแท้ของพระองค์คือ “ความรัก” ! 1.3 สิ่งที่พระเจ้าทรงรักคือโลก พระวาจานี้บ่งบอกถึงความกว้าง ความยาว และความลึกแห่งความรัก ของพระเจ้าว่ายิ่งใหญ่เพียงใด พระองค์มิได้ทรงรักเฉพาะชาวยิว เฉพาะคนดี หรือเฉพาะผู้ที่รักพระองค์ แต่ทรงรักคนทั้งโลก ! แม้แต่ผู้ที่น่ารังเกียจ หรือโดดเดี่ยวไร้คนเหลียวแล ทุกคนล้วนรวมอยู่ใน ความรักอันกว้างใหญ่ไพศาลของพระองค์ 2. เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-7-

พระองค์ตรัสว่า “ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจาก สวรรค์คือบุตรแห่งมนุษย์เท่านั้น” (ยน 3:13) ซึ่งเท่ากับเป็นการยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็น พระบุตรของพระเจ้าผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์ เพราะทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์จึงทรงล่วงรู้ความคิดและ จิตใจของพระเจ้าได้ดีที่สุดว่าทรงเป็น “พระบิดา” ผู้มีหัวใจแบบ “พ่อ” ที่ทรงรักโลกมาก สักเพียงใด ! พระองค์แต่ผู้เดียวทรงสามารถบอกความจริงทุกสิ่งเกี่ยวกับพระเจ้าแก่เราได้ 3. เชื่อฟังและนบนอบพระเยซูเจ้า เพราะทุกสิ่งที่พระองค์ตรัสสอนล้วนเป็นความจริง เราจึงต้องกล้าเดิมพัน ชีวิตนิรันดรของเราด้วยการปฏิบัติตามคาสั่งสอนของพระองค์อย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้ง 3 สิ่งนี้คือ “ความเชื่อ” ที่จะนาเราไปสู่ “ชีวิตนิรันดร” ! “นิรันดร” ตรงกับคากรีก aiōnios (ไอโอนีออส) ซึ่งบ่งบอก ความหมายเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพราะฉะนั้น “ชีวิตนิรันดร” จึงมิได้หมายถึงเพียง “ชีวิตที่ไม่มีวัน สิ้นสุด” หรือ “ชีวิตที่ไม่รู้จักตาย” ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง “ชีวิตที่มีคุณภาพเหมาะสมกับองค์พระผู้เป็นเจ้า”หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ “ชีวิตแบบพระเจ้า” “ชีวิตแบบพระเจ้า” คือชีวิตแห่ง “สันติสุข” 1. เรามีสันติสุขกับพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นบิดาของเรา เราจึงไม่ต้องกลัว พระเจ้าที่เรียกร้องเครื่องบูชาหรือคอยจ้องลงโทษเราอีกต่อไป 2..เรามีสันติสุขกับโลก เพราะผู้ที่สร้างโลกใบนี้คือพระเจ้าผู้ทรงมีหัวใจแบบ “พ่อ” คงไม่มีพ่อคนใดสร้างโลกที่เป็นศัตรูให้ลูกอยู่อาศัยอย่างแน่นอน เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ เราจึงเข้าใจความหมายของความทุกข์ยาก ต่าง ๆ ในชีวิตได้มากขึ้นว่า “ทุกสิ่ง” ล้วนอยู่ในแผนการของ “พ่อ” เพื่อสอนและเตรียม เราให้พร้อมสาหรับโลกใหม่ที่ดีกว่า เมื่อเข้าใจดังนี้ เราย่อมอดทนและเผชิญหน้ากับความ ทุกข์ยากต่าง ๆ ได้อย่างมีสันติสุข ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-8-

3. เรามีสันติสุขกับเพื่อนมนุษย์ เพราะได้รับการอภัยจากพระเจ้า เราจึงรู้จักให้ อภัยและมองเพื่อนมนุษย์เป็นลูกของพระบิดาเดียวกัน เรารวมเป็นครอบครัวเดียวกันด้วย ความรักและสันติสุข 4. เรามีสันติสุขกับตัวเอง ในโลกนี้ไม่มีใครรู้จักตัวเราเองดีไปกว่าตัวเรา เรารู้ว่า ตัวเราเป็นคนบาป อ่อนแอ และเหลวไหลมากสักเพียงใด จนบางครั้งเราเกิดความรู้สึก เกลียดชังตัวเอง ดูหมิ่นตัวเอง และสานึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรามี “สันติสุข” กับตัวเอง เพราะแม้เราจะ รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่ามากสักเพียงใดก็ตาม เรายังมีค่าเสมอในสายพระเนตรของพระเจ้าผู้ ทรงเป็น “พ่อ” ของเรา และพระองค์ยังทรงกางพระหัตถ์ต้อนรับเราในฐานะ “บุตรและ ทายาทสวรรค์” อยู่เสมอ “สันติสุข” เหล่านี้เริ่มต้นแล้วตั้งแต่ในโลกนี้ อีกทั้งยังเป็นความหวัง เป็นแรง บันดาลใจ และเป็นเป้าหมายในการดาเนินชีวิตของเราเพื่อบรรลุถึง “สันติสุข” ที่ครบ สมบูรณ์ในโลกหน้า ทั้งหมดนี้บังเกิดขึ้นได้เพราะพระเยซูเจ้าทรงยอม “ถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน” ! ขอสรรเสริญและ “เทิดทูนไม้กางเขน” ซึ่งนา “สันติสุข” และ “ชีวิตนิรันดร” มาสู่เราทุกคน !!!

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-9-

ข้อคิดเพื่อชีวิต เบนจามิน แฟรงคลินเคยกล่าวว่า ..“การลงทุนเรื่องความรู้ให้ดอกเบี้ยดีที่สุด” ดุจดังที่ Ben Graham กล่าวว่า “คุณอาจเข้าสู่ทางที่มีปัญหามากขึ้น ด้วยความคิดที่ดี มากกว่าความคิดที่แย่เพราะว่าคุณลืมไปว่า ความคิดดีนั้นมีความจากัด” Brandi L. Bates กล่าวว่า …“Be selective in you battles!” นั่นคือ เราต้องรู้จักเลือกการลงทุน เหมือนเลือกสมรภูมิรบ การลงทุนอย่างฉลาด คือให้แบ่งการลงทุนออกเป็น 7-8 อย่าง แทนที่จะลงทุนไปในธุรกิจ ตัวเดียว แบบที่ภาษาอังกฤษใช้สานวนกันว่า … “Put all (your) eggs in one basket” เพราะนั่น เหมือนกับการเอาไข่ทั้งหมดที่มีอยู่ทุกฟองใส่ลงไปในตะกร้าเดียว ซึ่งไม่ฉลาดนั ก เพราะ หากเคราะห์ร้าย ตะกร้าตกลงกระแทกพื้น ไข่ทั้งหมดอาจแตกได้ ผลคือ จบสิ้น คาแนะนานี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานความไม่แน่นอนของสถานการณ์เฉพาะหน้าทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต กล่าวคือ มีความเป็นไปได้หรือมีความเสี่ยงที่สถานการณ์อาจพลิกผันไม่ เป็นไปตามที่เราคุ้นเคยหรือคาดคิด เป็นสถานการณ์ที่เกินความสามารถในการควบคุมของเรา เราจึงต้องป้องกันหรือรอบคอบ ในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านั้น วิธีการหนึ่งก็คือ การลดความเสี่ยง ในการลงทุนทั้งหมดไม่ให้อยู่ในธุรกิจตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น หากพูดในภาษาปัจจุบันก็คือ เป็นการดีกว่าที่เราจะกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย เพราะเราไม่ รู้ว่าธุรกิจตัวใดจะล้มเหลว ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-10-

แต่เราต้องทาด้วยความฉลาดรอบคอบ มิฉะนั้น แทนที่จะลดความเสี่ยง เรากาลังกลับเพิ่ม ความเสี่ยงให้มากขึ้น โดยไม่จาเป็น เราต้องรู้ และเข้าใจในธุรกิจแต่ละตัวที่เราต้องการ ลงทุนอย่างกระจ่าง ดังนั้น วันนี้ ขอให้เราคิดดี ให้ถี่ถ้วนว่า เราควรจะลงทุนในเรื่องใด? เราต้องไม่ลงทุนในธุรกิจ(การค้าขาย)ใดที่เรามีความรู้ความเข้าใจเรื่องนั้นน้อยมาก ด้วย ความโลภ เพราะนั่นคือความเสี่ยงที่เราไม่สมควรจะเข้าไป เราต้องรู้จักสังเกต มองดู และ คอยคว้าโอกาสทองที่ผ่านเข้ามาแต่หากจะให้ดีกว่านั้น ก็คือ เราควรเป็นผู้ที่สร้างโอกาส ทองนั้นขึ้นมาเอง โดยการทูลขอสติปัญญาและการทรงนาจากพระเจ้าควบคู่ไปกับการมี ยุทธวิธีการลงทุนที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ Alan Gotthardt กล่าวไว้ว่า…“การลงทุนเงิน คือ กระบวนการทุ่มเททรัพยากรที่มีลงไป ในยุทธวิถีที่จะทาให้บรรลุเป้าหมายอันเจาะจง”ดังนั้น จะเป็นการดีอย่างยิ่ง หากว่าคุณจะ มียุทธวิธีลงทุนในธุรกิจที่เหมาะสมหลาย ๆ ตัว หรือหลาย ๆ ทาง เพื่อความปลอดภัยของ คุณเอง Paul Clitheroe แนะนาว่า … “จงลงทุนในตัวคุณเอง อาชีพของคุณคือเครื่องจักรกลแห่งความมั่งคั่งของคุณ” อย่างไรก็ ตาม…เราต้องไม่ลงทุนตามความคิดหรือความ(เพ้อ)ฝันของเรา เพราะบ่อยครั้งที่ความคิด ดี ๆ มักมีความจากัดที่เราไม่ควรมองข้าม ผู้เป็นสุข

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-11-

Pope Report ในที่สุด มิสซาเช้ากับพระสันตะปาปา ที่วัดน้อยประจาหอพักซางตา มาร์ธา ก็กลับมาจัดกันอีกครั้ง หลังหยุดพักไปเป็นเวลา 2 เดือน นั่นหมายความว่า จากนี้ไป ความเข้มข้นของบทเทศน์พระสันตะปาปาจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม และเพื่อไม่ให้ เสียเวลา เราไปดูกันว่า มีเรื่องน่าสนใจอะไรกันบ้างเลย ในเขตวัดและกลุ่มคริสตชน ต้องไม่มีการนินทา วันพุธที่ 27 สิงหาคม พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พร้อมสอนคาสอนสัตบุรุษ โดยวันนี้ พระสันตะ ปาปาทรงเทศน์สอนเน้นเรื่อง “ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน” เป็นหลัก พระสันตะปาปา ตรัสว่า “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีบาปหลายประการที่เกิด จากความแตกแยกในพระศาสนจักร ขอให้เราอย่าคิดถึงแค่ความแตกแยก แต่ขอให้คิดถึง ความผิดพลาดแบบพื้นๆ ในเขตวัดของเรา นี่คือบาปของกลุ่มคริสตชน ชุมชนวัดถูกตั้งมา เพื่อเป็นสถานที่แห่งการแบ่งปัน แต่บางครั้ง มันน่าเศร้าที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายจาก การอิจฉา ความริษยา และความเกลียดชัง กล่าวคือ ทุกคนนินทากัน มันต้องไม่มีการ นินทาในเขตวัด! พ่อขอย้าเลยนะ!” “พ่อขอถามหน่อยว่า มันดีหรือไม่ดี ถ้าหากมีใครบางคนได้รับเลือกให้เป็น ประธานหน่วยงานของวัด แต่แล้วมันก็มีการนินทาเขาลับหลัง ถ้าหากคนๆ นั้นได้รับเลือก ให้เป็นประธานครูคาสอน แล้วเกิดมีการนินทาคนๆ นั้นล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ไม่ใช่พระ ศาสนจักร เราต้องอย่าทาแบบนี้เด็ดขาด” “พ่อไม่ได้บอกให้พวกท่านตัดลิ้นตัวเองทิ้ง พ่อไม่ได้พูดแบบนั้น แต่พ่อขอพระเจ้า โปรดประทานพระหรรษทานของการอดทนอดกลั้นให้กับเรา กล่าวคือ การนินทาคือ ความเป็นคน แต่มันไม่ใช่ความเป็นคริสตชน! การนินทาเกิดเพราะเราให้ตัวเองเป็น ศูนย์กลางของทุกสิ่ง มันเกิดเมื่อเราดิ้นรนแสวงหาความสาเร็จส่วนตัวและทาให้เรา ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-12-

ตัดสินคนอื่น เราต้องเลิกทานิสัยนี้ให้ได้ เพราะมันทาให้เราแตกแยก มากกว่าจะรวมเรา เป็นหนึ่งเดียวกัน” “พ่ออยากแบ่งปันเรื่องหนึ่งให้ฟัง ในสังฆมณฑลที่พ่อเคยรับผิดชอบ พ่อได้ยินเรื่อง น่าสนใจและเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ มันเป็นเรื่องของหญิงชราท่านหนึ่งซึ่งทางานรับใช้วัด มาตลอดชีวิต บางคนที่รู้จักเธอดี พูดว่า ‘หญิงคนนี้ไม่เคยพูดจาให้ร้ายใครเลย ไม่เคย นินทาใคร เธอมีแต่ยิ้มอย่างเดียว’ ผู้หญิงแบบนี้แหละที่จะสามารถถูกแต่งตั้งเป็น นักบุญได้ในวันพรุ่งนี้เลย นี่เป็นเรื่องดีและเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ” 14 กันยายน พระสันตะปาปาถวายมิสซาแต่งงานครั้งแรกในสมณสมัย วันนี้ (อาทิตย์ที่ 14 กันยายน) พระสันตะปาปา ฟรังซิส จะถวายมิสซางาน แต่งงานเป็นครั้งแรกในสมณสมัยของพระองค์ โดยจะเป็นการประกอบพิธีแบบสมรส หมู่ให้กับบ่าวสาวจานวน 20 คู่ ซึ่งจะจัดที่มหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซาสมรสหมู่ครั้งนี้ พระสันตะปาปาทรงจัดเป็นกรณีพิเศษโอกาสเริ่มการประชุม สมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ภายใต้หัวข้อเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 519 ตุลาคม 2014 ที่วาติกัน นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ.2000 ที่พระสันตะปาปาจะเป็นประธานมิสซา สมรส โดยพระสันตะปาปาองค์สุดท้ายที่ถวายมิสซาสมรสได้แก่ นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 ที่ ถวายมิสซาโอกาสปีปีติมหาการุญเพื่อครอบครัว ศาสนาและกีฬาสามารถร่วมกันสร้างสันติได้ วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พระสันตะปาปาทรงต้อนรับบรรดานักฟุตบอลระดับโลก กว่า 50 คน ทั้งยังค้าแข้งอยู่และรวมถึงเลิกเล่นไปแล้ว ซึ่งมาเข้าเฝ้าภายในหอประชุม เปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน การเข้าเฝ้านี้ มีขึ้นก่อนเกมฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อสันติภาพ ณ สนามฟุตบอลสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม นักฟุตบอลและโค้ชชื่อดังที่มาเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ประกอบไปด้วย ดีเอโก้ มา ราโดน่า, โรแบร์โต้ บาจโจ้, เปาโล มัลดินี่, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, อันเดรีย ปีร์โล่, ฟิลิปโป้ อินซากี้, จานลุยจิ บุฟฟ่อน, อังเดร เชฟเชนโก้, ซามูเอล เอโต้, ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-13-

รัดย่า เนียงโกลัน, การ์ลอส วันเดอร์ราม่า, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, โฮเซ่ ชาม็อต, อาร์แซน เวน เกอร์ และ ตาต้า มาร์ติโน่ โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า “เกมการแข่งขันในคืนนี้ จัดเป็น เครื่องหมายสาคัญอย่างยิ่งที่จะแสดงออกถึงความเป็นไปได้ที่จะสร้างวัฒนธรรมแห่งการ พบหน้ากันและสร้างโลกแห่งสันติ ซึ่งบรรดาผู้มีความเชื่อในศาสนาต่างๆ จะได้รักษาอัต ลักษณ์ความเชื่อของตนเอง และสามารถดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเคารพกัน และกัน” “ศาสนาคือเครื่องมือแห่งสันติภาพ ไม่ใช่เครื่องมือของความเกลียดชัง ศาสนา และกีฬาสามารถร่วมมือกันมอบเครื่องหมายแห่งความเสมอภาคให้กับสังคมยุคใหม่ ซึ่ง มนุษย์จะได้ไม่ต้องหยิบดาบขึ้นมาฟาดฟันกันอีก” เรามีอัตลักษณ์คริสตชนอยู่ในตัวหรือเปล่า มิสซาเช้าวันอังคารที่ 2 กันยายน พระวรสารประจามิสซานี้ พระเยซูทรงขับไล่ ปีศาจออกจากตัวชายคนหนึ่ง ทาให้ผู้คนประหลาดใจพร้อมพูดว่า “วาจานี้คือสิ่งใด จึงมี อานาจและฤทธานุภาพขับไล่ปีศาจร้าย และมันก็ออกไป” (ลูกา 4:31-37) พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “พระเยซูไม่ใช่ผู้เทศนาทั่วๆ ไป เพราะอานาจของพระองค์มาจากการเจิมจากพระจิต พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงถูกเจิมและถูกส่งไปประกาศเทศนาสั่งสอน เพื่อนาความรอดและอิสรภาพมา มอบให้เราทุกคน แต่ว่า มีบางคนได้รับความอัปยศจากสไตล์การเทศน์สอนของพระเยซู เขาอับอายขายหน้าเพราะอัตลักษณ์คริสตชนและเสรีภาพของพระองค์” “พวกเราก็ควรถามตัวเองเหมือนกันนะว่า อัตลักษณ์ของเราในฐานะที่เป็น คริสตชนคืออะไร นักบุญเปาโลพูดไว้ได้ชัดเจนมากๆ ในวันนี้ ท่านกล่าวว่า ‘เราพูดสิ่ง เหล่านี้ไม่ใช่เพราะปรีชาญาณที่มนุษย์สอนให้’ การเทศน์สอนของนักบุญเปาโลไม่ได้ เป็นผลมาจากการจบหลักสูตรจากมหาวิทยาลัยลาเตรัน หรือมหาวิทยาลัยเกรโกเรี่ยน! ไม่ ไม่ ไม่! มันไม่ได้เกิดจากปรีชาญาณของมนุษย์ แต่ทุกสิ่งเกิดจากการสั่งสอนของ พระจิต กล่าวคือ นักบุญเปาโลเทศน์สอนด้วยการเจิมจากพระจิตเจ้า มนุษย์ไม่สามารถ ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-14-

เข้าใจเรื่องของพระจิตด้วยพละกาลังของตนเอง มนุษย์ไม่มีวันเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ แน่นอน!” “อัตลักษณ์ของคริสตชน ได้แก่ จงอย่ามีจิตตารมณ์ทางโลก อย่ามีวิธีการคิด และตัดสินแบบทางโลก พวกท่านอาจจะมีปริญญาเทวศาสตร์ 5 ใบ แต่ท่านไม่มี พระจิตของพระเจ้าก็ได้นะ! บางที ท่านอาจจะเป็นนักเทวศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ท่านไม่ได้ เป็นคริสตชน เพราะท่านไม่มีพระจิตของพระเจ้าประทับอยู่! พระจิตจะทรงมอบอานาจ ให้เรา พระจิตจะให้อัตลักษณ์คริสตชนกับเรา” “นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทาไมผู้คนถึงไม่รักพวกธรรมาจารย์ ไม่รักพวกครูอาจารย์ เรื่องกฏบัญญัติ เพราะพวกเขาเอาแต่พูดเรื่องเทวศาสตร์ พวกเขาไม่ได้พูดออกมาจาก ใจ สิ่งที่เขาสอนไม่ได้ให้เสรีภาพ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถช่วยผู้คนได้พบอัตลักษณ์ของตน เพราะพวกเขา(ธรรมาจารย์) ไม่ได้รับการเจิมจากพระจิต” “อานาจของพระเยซูและอานาจของคริสตชน มาจากความสามารถในการเข้าใจ เรื่องของพระจิตและความสามารถในการพูดภาษาของพระจิต ทุกสิ่งเกิดจากการเจิมจาก พระจิต หลายๆ ครั้ง เราได้พบกับคนธรรมดาทั่วไปนี่แหละ บางคนไม่ได้เรียนสูงๆ ด้วย แต่พวกเขาสามารถพูดกับเราได้ดีกว่าพวกนักเทวศาสตร์ด้วยซ้า เพราะอะไร เพราะ พวกเขามีพระจิตของพระคริสตเจ้าอยู่ไง มันเหมือนนักบุญเปาโลนั่นแหละ เราจาเป็น ต้องวอนขอสิ่งนี้กับพระเจ้า ขอพระองค์ประทานอัตลักษณ์คริสตชนแก่เรา โปรด ประทานพระจิตและวิธีการคิด วิธีการรู้สึก และวิธีการพูดให้กับเราด้วย” พระ สันตะปาปาตรัสปิดท้าย AVE MARIA

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-15-

กางเขนคือเครื่องหมายแห่งรัก ( โดย ดร.วรรณีย์ ลิขิตธรรม)

วันอาทิตย์นี้คือ 14 กันยายน ตรงกับวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน สาหรับฉันแล้ว กางเขนสื่อให้คิดถึงความตาย รวมทั้งความทุกข์ยากลาบากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางใจ เป็นความทรมานเจ็บปวดแสนสาหัส เป็นยาขมหม้อใหญ่ที่น่าสพึงกลัวและฉัน อยากจะหนีให้พ้น ไม่แปลกเลยที่พระเยซูเจ้าทรงภาวนาต่อพระบิดาเจ้าในสวนมะกอกว่า “พระบิดาเจ้าข้า พระองค์ทรงทาทุกสิ่งได้ โปรดทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด” (มก 14:36) พระเยซูเจ้าทรงเป็นมนุษย์เหมือนเราทุกคน ทรงกลัวความเจ็บปวดและความตาย แต่เพราะความรักต่อวิญญาณของเรา และต้องการช่วยให้มนุษย์ได้รอดไปสวรรค์ จึงทรง ฝืนใจตนเองยอมรับในสิ่งที่น่าสพึงกลัว ทรงภาวนาต่อไปทันที “แต่ว่าอย่าให้เป็นไปตามใจ ข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” (มก14:36) กางเขนมิใช่มีความหมายแต่ในแง่ลบเท่านั้น ในแง่บวกคือกางเขนเป็นเครื่อง หมายแห่งชัยชนะ ดังคาที่ว่า “NO CROSS, NO CROWN” หากไม่มีกางเขน ก็จะไม่มี มงกุฎ นักบุญเปาโลจึงเขียนถึงชาวฟิลิปปีว่า “พระเยซูเจ้าทรงถ่อมพระองค์ จนถึงกับทรง ยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูน พระองค์ขึ้นสูงส่งและประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริญกว่านามอื่นใด ทั้งสิ้น เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพจะย่อเข่าลงนมัสการ พระนาม ‘เยซู’ นี้ และเพื่อชนทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์ พระผู้เป็นเจ้า” เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้า พระบิดา” (ฟป2:8-11) พระเยซูเจ้าทรง พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ได้ทรงมีชัยชนะต่อความตาย คือชนะบาป เราแต่ละคนซึ่งติดตาม พระองค์โดยการแบกกางเขนในชีวิตประจาวันของเรา ก็จะได้กลับคืนชีพเช่นเดียวกับ พระองค์ พระบิดาเจ้า ได้ทรงประทานพระเกียรติมงคล(มงกุฎ)แด่พระเยซูเจ้าฉันใด พระองค์ก็จะประทานให้แก่เราฉันนั้น ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-16-

ผู้เขียนจะขอแบ่งปันพระวาจาของพระบิดาเจ้า ซึ่งแมทธิว เคลลี่ บันทึกไว้เมื่อ วันที่ 30 พค. 1993 ดังนี้ “ถ้าลูกรักใคร ลูกจะทาทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ในสิ่งที่เล็กน้อยที่สุด เพื่อคนที่ลูกรักอย่างดี ดีที่สุด ลูกต้องทาเช่นนั้นกับเราด้วย ถ้าลูกรักเรา ลูกต้องรักให้ถึง ที่สุด รักน้าพระทัยของเราจนหยดสุดท้าย นั่นหมายความว่าแม้แต่การมอบชีวิตของลูกแก่ เราก็ตาม นี่คือสิ่งที่ความรักหมายถึง เราได้ประทานพระบุตรของเรา พระเยซูคริสตเจ้า มาบนโลกนี้ เพื่อสอนลูกเกี่ยวกับความรัก และการรักลูกๆ ของเราคือการแบกกางเขน ลูก ไม่สามารถจะรักบ้างไม่รักบ้างในแต่ละวัน แต่สิ่งที่เกิดกับลูกคือความเห็นแก่ตัวที่ขัดขวาง ความรักนั้น ความรักไม่เห็นแก่ตัวและความรักคือการยอมรับกางเขน นี่คือสิ่งที่พระเยซู คริสตเจ้าทรงกระทา และนี่คือสิ่งที่ลูกๆ แต่ละคน ทุกๆ คนต้องทา ลูกต้องรัก และต้อง รักกางเขนด้วย ถ้าลูกไม่รักกางเขน ความรักของลูกที่มีต่อเรานั้นก็ตื้นเขิน และบางทีอาจ เป็นความรักตนเองเท่านั้น และบ่อยครั้งที่ความรักของมนุษย์เป็นเช่นนี้ การแบกกางเขนและความทุกข์ยากลาบากจะช่วยวิญญาณมากมายให้รอด เพือ่ นรักเอ๋ย ลูกจะรู้จักกับความรัก ลูกจะรู้จักกับความรักที่ได้รู้ว่า พระเจ้าพบพระวิหาร สาหรับพระองค์ในตัวลูก ลูกจะสัมผัสกับความชื่นชมยินดีที่รู้ว่า พระองค์ประทับในตัวลูก และไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนความชื่นชมยินดีนั้นได้ ชีวิตของลูกจะเปลี่ยนทิศทางใหม่ อย่ากลัวเลย เราจะอยู่กับลูก” ขอให้กางเขนของพระมหาเยซูเจ้าเตือนใจเราว่าพระเจ้าทรงรักเรา จึงทรง สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเรา และเพราะเรารักพระองค์ เราจึงยอมแบกกางเขน ติดตามพระองค์ไป

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-17-

Fatima Kids September 2014 สวัสดีชาวฟาติมาคิดต์ทุกๆ คนนะคะ เข้าสู่เดือนกันยายนซึ่งเป็นเดือนที่ผู้คนต่าง ฉลองวันเกิดให้กับพระแม่มารีย์ ซึ่งตรงกับวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา แต่เด็กๆทราบไหมคะ ว่ายังมีอีกวันหนึ่งที่มีความสาคัญเช่นเดียวกันคือ วันที่ 14 กันยายน เป็นวันฉลองเทิดทูนไม้ กางเขน เอ…แล้วเด็กๆทราบที่มาและความสาคัญของวันนี้กันหรือเปล่าเอ่ย ใครพร้อม อยากทราบคาตอบแล้ว ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน (14 กันยายน) จากหลักฐานพบว่าการฉลองเทิดทูนไม้กางเขนมีมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 4 ตาม บันทึกเหตุการณ์แห่งอเล็กซานเดรีย จักรพรรดินีเฮเลนาได้พบไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 320 ต่อมาวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 335 วัดแห่งไม้กางเขน และวัดแห่งการกลับคืนชีพที่กรุงเยรูซาเล็มได้รับอภิเษก วันรุ่งขึ้นมีการแสดงไม้กางเขนที่ จักรพรรดินีเฮเลนาได้พบอย่างสง่า เพื่อให้สัตบุรุษนมัสการ เหตุการณ์เหล่านี้ได้กลับกลาย เป็นพื้นฐานของการเฉลิมฉลองเป็นประจาทุกปี วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่คอนสแตนติโนเบิลเริ่มทาการฉลองในศตวรรษที่ 5 และที่โรมเริ่มทาการฉลองตอนปลายศตวรรษที่ 7 หลังจากนั้นก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมถือ ปฏิบัติตลอดมา ในพิธีกรรมกัลป์ลิกของศตวรรษที่ 8 มีวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนอีกวันหนึ่งคือ วันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 628 ซึ่งเป็นวันที่จักรพรรดิเฮราคลิอุสได้นาพระธาตุไม้กางเขนซึ่ง ถูกชาวเปอร์เซียยึดไปกลับมาและมีขบวนแห่พระธาตุไม้กางเขนไปที่กรุงเยรูซาเล็ม วันนี้จึง ได้ถูกนาไปลงในปฏิทินคาทอลิกในปี ค.ศ. 1741 แต่สุดท้ายพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ได้ยกเลิกวันนี้ออกจากปฏิทินคาทอลิก การฉลองวันนี้เป็นวันที่ให้พวกเราระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าบนไม้ กางเขนและการกอบกู้มนุษย์ให้พ้นจากบาป ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-18-

หนูฟาติมาสงสัย ช่วงนี้หนูเห็นตามห้างสรรพสินค้าขายขนมไหว้พระจันทร์กัน เยอะแยะเลย สงสัยจังเลยค่ะว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์มีที่มาอย่างไรคะ ตานานการไหว้พระจันทร์เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทพเจ้าของจีนค่ะกล่าวถึงเทพธิดา แห่งดวงจันทร์ ชื่อฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นหญิงคนรักของโฮวอี้ นักยิงธนูแห่งสวรรค์ที่ใช้ธนูยิง ดวงอาทิตย์ตกลงไป 9 ดวง จากทั้งหมด 10 ดวงซึ่งเป็นการกระทาที่ฝ่าฝืนบัญชาสวรรค์ จึงโดนลงโทษให้ไปใช้ชีวิตธรรมดาบนโลกมนุษย์กับฉางเอ๋อ แต่แล้วโฮวอี้ก็ถูกคนสนิททรยศ ฆ่าตาย ส่วนฉางเอ๋อได้ดื่มน้าอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะแล้วเหาะกลับไปยังดวงจันทร์อีก ครั้งด้วยความเศร้า ในยุคของฮั่นเหวินตี้ แห่งราชวงค์ฮั่นได้ทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยว ชมพระราชวังบนดวงจันทร์และได้พบกับฉางเอ๋อกาลังร่ายราอยู่อย่างงดงาม ในพระสุบิน พระองค์ทรงเพลิดเพลิน กระทั่งเมื่อตื่นบรรทม โปรดให้สุบินเป็นความจริง จึงรับสั่งให้นาง สนมแต่งตัวและร่ายราเลียนแบบเทพธิดาฉางเอ๋อที่พระองค์ได้พบเจอมา จนแพร่หลายไป สู่ประชาชนและกลายเป็นประเพณีสืบต่อมา ในอดีตหญิงสาวชาวจีนจะสวดขอพรจาก ฉางเอ๋อ เพื่อขอให้มีความสาวและงดงามเหมือนนาง นิทานหรรษาอาเซียน นิทานพื้นบ้านลาว ในสมัยพุทธกาล มีพญานาคตนหนึ่งชื่อว่า พระยาสุทโธทนาก และมีเพื่อนที่ครอง เมืองบาดาลด้วยกันชื่อ พระยาสุวรรณนาคา ทั้งสองรักกันเหมือนพี่น้องและได้สัญญากัน ว่า “หากมีสัตว์ตกลงในหนองน้าของผู้ใด ก็ให้นาสัตว์ตัวนั้นมาแบ่งครึ่งกัน” อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีช้างเชือกหนึ่งตกลงในหนองน้าของพระยาสุวรรณนาคา พระยาสุวรรณนาคาก็ได้นา ช้างตัวนั้นมาแบ่งให้กับพระยาสุทโธทนากตามที่ได้ตกลงกันไว้ ต่อมาอีกสามวัน ได้มีเม่นตัวหนึ่งตกลงมาในหนองน้าของพระยาสุทโธทนาก พระยาสุทโธทนากก็ได้นาเม่นมาแบ่งให้ พอพระยาสุวรรณนาคาเห็นเนื้อเม่นก็เกิดความไม่ พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเนื้อช้างที่เคยแบ่งให้พระยาสุทโธทนากมีขนน้อย ส่วนเนื้อเม่นที่ ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-19-

พระยาสุทโธทนากแบ่งคืนให้กลับมีขนที่แข็งและแหลมจานวนมาก แต่ส่วนที่เป็นเนื้อกลับ มีเพียงเล็กน้อย พระยาสุวรรณนาคาไม่ยอมรับเนื้อเม่น และด้วยความโมโหจึงได้นากาลังไปบุก เมืองของพระยาสุทโธทนาก ทาให้เมืองทั้งสองต่อสู้กันจนทาให้สัตว์ใต้บาดาลล้มตายเป็น จานวนมาก พระอินทร์บนสววรค์เห็นเหตุการณ์จึงเข้ามายุติศึก โดยสั่งให้พญานาคทั้งสองแข่ง กันสร้างน้า หากตัวใดสร้างน้าเสร็จก่อนจะได้ปลาที่มีเนื้อมากกว่าปลาน้าจืดใดๆเป็นรางวัล พระยาสุทโธทนากได้สร้างในส่วนแม่น้าของ ส่วนพระยาสุวรรณนาคาได้สร้าง ส่วนของแม่น้าน่าน ผลปรากฏว่าพระยาสุทโทนากสร้างเสร็จก่อน พระอินทร์จึงตัดสินให้ เป็นผู้ชนะและได้มอบ ปลาบึก ให้เป็นรางวัล เราจึงได้เห็นปลาบึกใหญ่อาศัยอยู่ในแม่น้า ของมาจนถึงปัจจุบัน *** แม่น้าของ คือ แม่น้าโขงในภาษาไทย วันนี้สาคัญไฉน วันที่ 19 กันยายน วันพิพิธภัณฑ์ไทย วันนี้มีที่มาจากการที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯให้มีการจัดพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ที่พระที่นั่งราชฤดีเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นที่จัดตั้ง แสดงสิ่งสะสมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงรวบรวมไว้ตั้งแต่ครั้งก่อน เสด็จขึ้นครองราชย์ และต่อมาได้ย้ายมาจัดแสดงที่พระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ อันเป็น ที่มาของคาว่า พิพิธภัณฑ์ ในเวลาต่อมาเมื่อมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มี การจัดตั้ง มิวเซียม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สถานสาหรับประชาชนแห่งแรกขึ้น ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 Fatima-kids@hotmail.com ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-20รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา.14 กย. 14 ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร ครอบครัวของ พี่น้อง12 คน“ว่องวิไลกุล” ขอพร ครอบครัว สุปฏิญญา ขอพร คุณแม่ลัดดาวัลย์ ชัยประสิทธิ์ ขอพร หน้าที่การงานลูกทั้ง 5 ขอพร วันเกิด ลูกา กฤษณะ เจียมวงศ์ ขอพร แมทธิว กานต์ ไตรอัมพวงศ์ ขอพร ยวง สุธี, ยวง สุพัฒน์ ตุลยาพิศิษฐ์ ขอพร สุขภาพ คุณสุธาทิพย์ สุวรรณบรรณ ขอพร ครอบครัว มารีอา รุ่งนภา สาธรกิจ* 07.00 น. ขอพร สุขภาพ อักแนส จินตนา อุกฤษฏ์ ขอพร มารีอา วิศนี เพ่งพิทักษ์ธรรม ขอพร คุณวรรัฐ อ่วมสะอาด ขอพร คุณจรีย์ สวนกระต่าย อุทิศ เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ยวงบัปติสตา ลิ่มสุง, เบเนดิกโต ลิม่ ชุน คพ.สุชาติ อุทิศ ลูซีอา อังเจลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ อันตน สว่าง-มารีอา สวาท ประกอบกิจ อุทิศ คุณลกเซีย้ ง แซ่อึ้ง อุทิศ เปโตร ประวิทย์ ตุลยาพิศิษฐ์ อุทิศ ยวง บอสโก ชวน สุปฏิญญา อุทิศ มารีอา มักดาเลนา ซุ่ยฮุ้ง, กาโล เที๊ยเชียง อุทิศ เปโตร วิเชียร สุขสาราญ อุทิศ เปาโล ไสว - คุณจาเนียร สุขบุญลือ อุทิศ คุณกิมเข่ง - คุณสายคา แซ่เล็ก อุทิศ อันนา ประไพ, ยอแซฟ วีรชัย สุปฏิญญา อุทิศ มารีอา เพ็กเชียง, อักแนส มาลี อุทิศ นพ.พิสิทธิ์ - โยเซฟิน รัตนา พันธุมจินดา อุทิศ คุณพ่อ เปโตร เต็กจุ่น แซ่อึ้ง อุทิศ เยียกอาเก่ง ลิบจือ แซ่หว่องและภรรยา อุทิศ ยอแซฟ วิโรจน์ ว่องวิไลกุล อุทิศ วิญญาณในไฟชาระทุกท่าน 09:00 น. ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว คพ.สุรชัย โมทนาคุณพระมารดานิจจานุเคราะห์ ขอพร มารีอา อารมณ์, ยวง บอสโก เกรียงศักดิ์ ขอพร ครอบครัว ชาญนาสิน ขอพร สุขภาพ มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน 17.30 น. ขอพร ครอบครัว พงษ์ธนานิกร ขอพร สุขภาพ เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ คพ.ศรีปราชญ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยวงบัปติสตา เสนาะ ธวัชวงษ์ อุทิศ คุณยับจิ้นฟู อุทิศ อลิซาเบธ ยับพันซิ้วเงีย๊ ด มิสพัน อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ ยวงบัปติสตา ก้าน - มารีอา วิไลลักษณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง จ. 15 กย.14 ระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ โมทนาคุณแม่พระ ขอพร ครอบครัว เปโตร สมเกียรติ, บุตรทั้ง 3 06.15 น. ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร มีคาแอล พรพล พัธนพันธุ์ คพ.สุรชัย อุทิศ มาติลดิ , บิเบียโน บาตัล อุทิศ พ่อแม่ญาติพี่น้อง เทเรซา ดาว ซอแซฟวัน อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-21จ. 15 กย.14

ระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ โมทนาคุณพระเมตตาของพระเป็นเจ้า ขอพร หน้าที่การงาน เปาโล วิชชา โพธิปัสสา 19.00 น. ขอพร วันเกิด พันตรี รณชัย รัตนภักดี ขอพร พ.ต.อ.วิทูร โพธิปัสสา อุทิศ เทเรซา อานวย โพธิปัสสา อุทิศ ยอแซฟ ไพโรจน์ ระดมกิจ คพ.สุชาติ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย, ยวงบัปติสตา หวล อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง อ. 16 กย. 14 ระลึกถึง น.คอร์เนเลียส พระสันตะปาปาและ น.ซีเปรียน พระสังฆราชและมรณสักขี โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร ยาโกเบ เสรี, อักแนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล 06.15 น. ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร วันเกิด มัทธิว ภูรินทร์ เกษตรบริบูรณ์ คพ.สุรชัย อุทิศ บาทีเมอาส นุกรณ์ อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระมารีอา ขอพร ครอบครัว ปัณฑวังกูร , ลิ้มประยูร 19.00 น. ขอพร สันติภาพในทุกภูมภิ าค ขอพร ครอบครัว เลาหไทยมงคล ขอพร การเตรียมสอบของบุตรหลาน ขอพร การเรียน, การสอบของหลานๆ ผู้ขอ คพ.สุชาติ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง ประยูร เสนะวีณิน อุทิศ มารีอา มาลี วัฒนประภากร อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ ผู้ล่วงลับที่ไม่มีใครคิดถึง พ. 17 กย.14 น.โรเบิร์ต แบลลาร์มีโน พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร โมทนาคุณพระเจ้าสาหรับพระพรต่างๆ ขอพร แคทรีน ไอยศรา 06.15 น. ขอพร ยอแซฟ จุนนา จิน และครอบครัว ขอพร ยอแซฟ สุรเสียง - แคทธิรีน จินดารัตน์ คพ.สุรชัย อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ พระสงฆ์ นักบวชซาเลเซียนทีล่ ่วงลับ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร แพททริเซีย จารุภรณ์, อักแนส ณัฐพัชร์ 19.00 น. ขอพร ครอบครัว เลิศสถิตสกุล ขอพร ผู้ที่ละทิ้งพระเจ้าให้กลับใจ อุทิศ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง คพ.สุชาติ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ มารีอา ลมูล เจริญวงศ์* อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง พฤ.18 กย.14 อาทิตย์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร แคทรีน ไอยศรา 06.15 น. ขอพร การงาน ออกัสติน ขอพร ครอบครัว มารีอา สุกญ ั ญา แซ่ซิน คพ.สุรชัย อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ เทเรซา ลี่เค็ง แซ่เอี้ยว อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-22พฤ.18 กย.14

อาทิตย์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร ขอพร การงาน โรซา เพ็ชรา ระดมวิวัฒน์ ขอพร วันเกิด อันนา วันดี สุขบุญลือ อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนิกา เสนอ เสนาจักร 19.00 น. อุทิศ พี่น้องเสนาจักร อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง คพ.สุชาติ อุทิศ บรรพบุรุษลิขิตธรรม อุทิส ยอแซฟ จินเหงีย่ น - มารีอา สมถวิล อุทิศ เปาโล ไสว - คุณจาเนียร สุขบุญลือ* อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ศ. 19 กย. 14 น.ยานูอารีโอ พระสังฆราชและมรณสักขี โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร แคทรีน ไอยศรา , โนเอล เดชา 06.15 น. ขอพร มารีอา ดวงใจ ขอพร มารีอา อารยา คพ.สุรชัย อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ ฟรังซิส ทวน อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณแม่พระ ขอพร สุขภาพ, ปรีชาญาณ พระสงฆ์ฟาติมา ขอพร ยอแซฟ สุรเสียง - แคทธิรีน จินดารัตน์ ขอพร ยอแซฟ พอล- ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล 19.00 น. อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ คพ.สุชาติ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ คุณกฤษดา ยังถาวร อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ส.20 กย. 14 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ น.เปาโล จง ฮาซังและเพื่อนมรณสักขีชาวเกาหลี ขอพร ครอบครัว เทเรซา ประภัสสร-อุดมสรรพัญญุติ โมทนาคุณพระเจ้าและแม่พระ 06.15 น. ขอพร การงาน ออกัสติน ขอพร แคทรีน ไอยศรา, เทเรซา จิราภรณ์ คพ.สุรชัย อุทิศ อากาทา มาลัย, มีคาแอล ต่อม อุทิศ อันนา บังอร , อันนา อรพิน อุทิศ อูร์ซูลา อาพรรณ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ ขอพร ยอแซฟ ฉัตรชัย-คาทาลีนา บุษราคัมและบุตร โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร วินเซนต์สุรนิ ทร์ กุลตังวัฒนาและครอบครัว 19.00 น. ขอพร มารีอา สุทธินยี ์, เทเรซา วินิตา ขอพร เทเรซา ปิยกานต์ ,หลุยส์ ธนพงศ์ ขอพร เพื่อสันติภาพของโลก อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน - มารีอา เง็กเอ็ง แซ่ฉวั่ คพ.สุชาติ อุทิศ เทเรซา จวง อุดมสิทธิพัฒนา อุทิศ ทอมัส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศ หลุยส์ ชาญ สุวรรณกุล อุทิศ เปาโล เปียงชิ้น, เปาโล คณิต แก้วแตง อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-23-

1. คาทอลิกไทยพร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคา สวดสายประคา วัดในเขต 2 ณ วัด นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ สามเสน วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม กาหนดการ เริ่ม 8.30 น ลงทะเบียน 9.00น เริ่มกิจกรรมต่างๆ 9.45 น-10.15 น กลุ่มที่ 1 วัดแม่พระฟาติมาและอีก 3 วัด สวด สายประคา พิธีเสร็จสิ้นเวลา 12.30 น (ดูป้ายประกาศหน้าวัด) 2. เรื่องการเยี่ยมศูนย์มาร์ติน วัดแม่พระมหาการุณย์ วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2557 รถออกจากวัด เวลา 10.30 น. (เดือนนี้ งดประชุมกลุ่มวิถีชุมชนวัด) 3..เรื่องรับบริจาค เงินสด (ใส่กล่องหน้าวัดหรือมอบคุณพ่อ) เสื้อผ้าเด็กและวัยรุ่น ซัก สะอาด ที่ค่อนข้างใหม่หรือใหม่ ของเล่นเด็กขนม ข้าวสาร อาหารแห้งและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ เสียหรือไม่ใช้แล้ว (ให้ที่สานักงานวัด) เพื่อช่วยเหลือเด็กศูนย์มาร์ติน 4. ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนี้ ทางมิสซังจะมาเริ่มกั้นพื้นที่สาหรับสร้างอาคารรองรับ ENGLISH PROGRAM บริเวณทีจ่ อดรถจะหายไปครึ่งหนึ่ง ทางวัดยกเลิกการเช่าที่จอดรถ แล้ว ดังนั้นอาจจะไม่สดวกสาหรับพี่น้องสัตบุรษที่นารถมา จึงกราบขออภัย 5. ขอขอบคุณ คุณไพริน ระดมวิวัฒน์ ที่กรุณาสละเวลา 6 เดือน เป็นอาสาสมัครทางาน สานักงานวัด ขอพระตอบแทนน้าใจดีงามนี้ คุณเจนจิรากลับมาจากการเรียนภาษาอังกฤษ ที่สหรัฐอเมริกา ทางานเจ้าหน้าที่สานักงานวัดเช่นเดิม 6. เชิญประชุมสภาภิบาล วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2557 เวลา 10.00 น. ที่บ้านสิริมารีย์ **ประกาศการแต่งงาน** ประกาศครั้งที่ 1 ฝ่ายชาย : นายรชตะ สมมิตร บุตร : นายสมหมาย สมมิตร + นางสุหร่าย สมมิตร ฝ่ายหญิง : มารีอา อาไพ มาลาวาลย์ บุตรี : ฟรังซิสโก ปราโมทย์ มาลาวาลย์+นางสาวสุรีรัตน์ เสตะปุระ ทัง้ สองจะเข้าพิธีสมรส วันอังคารที่ 27 กันยายน 2014 เวลา 10:30 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง

มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


-24-

“พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2014


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.