นสพ รักบ้านเกิด ฉบับที่ 45 เดือนมิถุนายน 2558

Page 1

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๘

พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช

www.nakhonforum.com

www.facebook.com/rakbaankerd

นสพ.‘รักบ้านเกิด’ ฉบั บ เดื อ นมิ ถุ น ายน ๒๕๕๘ เสนอรายงาน เรื่ อ งปาล์ ม ที่ เ ป็ น พื ช เศรษฐกิ จ หลั ก ของภาคใต้ คู่กับยางพารา ที่มีราคาตกต�่ำจนกลายเป็นกระแส ความไม่พอใจที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแก้อย่างเร่งด่วน ¹¤Ã´Í¹¾ÃÐ ¹¾.ºÑญ ­ ªÒ ¾§Éì¾Ò¹Ôª àÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ¨ÓÅͧ ½Ñ觪ŨԵà ชวนคิด ชวนคุย สุธรรม ชยันต์เกียรติ ทันโลกธุรกิจ ไพโรจน์ เพ็ชรคง รักสุขภาพ นพ.ทฏะวัฎร์ พิลึกภควัต มุมมองรักษ์บ้านรักษ์เมือง สุเมธ รุจิวณิชย์กุล ท่องเที่ยวเมืองนคร ทาร์ซานบอย มองเมืองคอนผ่านเลนส์ นพ.รังสิต ทองสมัคร์

˹éÒ ò ˹éÒ ó

สถานการณ์ปาล์มทั่วภาคใต้-ปลายปี ๒๕๕๗ เกิดฝนทิ้งช่วง และเป็นช่วงปาล์มพักตัวผลผลิตจึงออกสู่ตลาดน้อย ราคาปาล์ม น�้ำมันในประเทศขยับสูงขึ้น ผู้ประกอบการ

˹éÒ ๔ ˹éÒ ๗ ˹éÒ ñ๒ ˹éÒ ñ๓ ˹éÒ ñ๖ ˹éÒ ñ๗

สนง.คุ้มครองผู้บริโภค ตรวจผู้ประกอบธุรกิจเมืองนคร ไม่พบ การกระท�ำผิดกฎหมาย วั น ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายสมเกียรติ จันหนู หัวหน้าส�ำนักงาน จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมหารือ ร่วมกับ ส�ำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ซึ่งน�ำโดยนายเดชาวัต แจ้งชื่น

นักประชาสัมพันธ์ ช�ำนาญการพิเศษ และคณะอนุ ก รรมการคุ ้ ม ครองผู ้ บริโภคประจ�ำจังหวัดนครศรีธรรมราช และลงพื้ น ที่ ต รวจคุ ้ ม ครองผู ้ บ ริ โ ภค ตามโครงการผลักดัน >> อ่านต่อหน้า ๙


หน้า ๒

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

ห กรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติเตรียมเสนอกฎหมาย เก็บภาษีพระที่มีรายได้เกิน ๒๐,๐๐๐ ต่อเดือน เก็ บ ภาษี วั ด ที่ จั ด กิ จ กรรมเชิ ง พาณิ ช ย์ และเจ้ า อาวาสมีวาระ ๕ ปี ซึ่งคณะสงฆ์แสดงความไม่เห็น ด้วย เนื่องจากพระสงฆ์ไม่มีลาภสักการะใดๆ วัด ในต่างจังหวัดมีพระสงฆ์เหลืออยู่ ๒-๓ รูป สวด อภิธรรมศพต้องนิมนต์พระจากวัดอื่นๆ มาสมทบ ปัจจัยที่เป็นรายได้ด้านอื่นๆ แทบไม่มี ทั้งยังต้อง จ่ายค่าไฟฟ้า ค่ายาเวลาอาพาธ พระที่บวชอยู่วัด ในกรุงเทพฯกับต่างจังหวัดมีรายได้แตกต่างกัน วัดราษฎร์กับวัดหลวงรายได้แตกต่างกัน ส่วนเจ้า อาวาสด�ำรงต�ำแหน่งวาระละ ๕ ปี คณะสงฆ์มี ความเห็นว่าพระสงฆ์เป็นผู้น�ำทางจิตวิญญาณ ซึ่ง ขึ้นอยู่กับศรัทธาของชาวบ้านด้วย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการ ปฏิ รู ป แนวทางและมาตรการปกป้ อ งพิ ทั ก ษ์ พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ อดีต ส.ว.สรรหา เสนอตอกย�้ำว่าพระต้องเสียภาษี แม้เป็นเงินจากการสวด เงินบังสุกุลก็ไม่เว้นเพราะ ว่าเป็นพุทธพาณิชย์ เรื่องนี้ถือว่าเป็นความเข้าใจ ‘พุทธพาณิชย์’ ผิดเพี้ยนไปไกลลิบลับ การสวด บังสุกุลศพเป็นประเพณี ถ้าเป็นพุทธพาณิชย์อาจ หมายถึงพระสงฆ์ท�ำงานรับจ้าง ปัจจัยถวายแก่ พระภิกษุสงฆ์ที่มอบแก่ไวยาวัจกรก็เพื่อให้เรียก ใช้ตามความจ�ำเป็น หากพระสงฆ์เกิดยอมรับขึ้น มาว่าเงินถวายเป็นรายได้ต้องเสียภาษี พระสงฆ์ สามารถปฏิเสธกิจกรรมเชิงพาณิชย์ไปเสียก็ได้ การสวดบั ง สุ กุ ล เป็ น พุ ท ธพาณิ ช ย์ ถ้ า จะปฏิ รู ป วงการสงฆ์ ต ้ อ งพิ จ ารณาให้ ต รงประเด็ น ที่ เ ป็ น ตัวปัญหา อย่าประเมินพระภิกษุสงฆ์ต�่ำว่าเป็นผู้ ท�ำงานรับจ้าง

ลังรายงานเรื่องรอยธรรมที่น่าจับตามองในเมืองนครเมื่อ ฉบับที่แล้ว มีหลายท่านถามไถ่ไปว่าเมืองนครคึกคักทาง ธรรมกันเหลือเกิน มีสถานปฏิบัติธรรมเกิดขึ้นเต็มไปหมด นี้ ขนาดยังไม่ครบ ขาดไปอีกหลายแห่ง เช่น บ้านยินดีทะเลที่ ชายทะเลสิชลโดยอาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม มูลนิธิชื่นฤทัย ในธรรมที่ท่าแพปากพูน แล้วยังที่พรหมสิริธรรมสถานของ มูลนิธิคุณแม่สิริ กรินชัย ในสวนมังคุดกลางเขาที่พรหมคีรีที่ ล้วนหมาดใหม่โอ่โถงทันสมัยมาก มากจน ผอ.ททท.นครถึง กับเอ่ยปากอยากให้ช่วยท�ำหนังสือน�ำเที่ยวปฏิบัติธรรมกันที่ เมืองนคร ในขณะที่อีกหลายคนถามกลับด้วยว่า ดูเหมือนจะ เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ฆราวาสลุกขึ้นมาท�ำกันเองทั้งนั้น แล้ว พระกะวัดท่านท�ำอะไรกันอยู่ ? พลอยตกใจใหญ่เมื่อมีคนถาม ว่ารู้เรื่องที่วัดวังตะวันตกหรือยัง ถึงขนาดพระถูกท�ำร้ายหลาย รูป มีการแจ้งความขึ้นโรงศาล ล่าสุดถึงกับยกท่านเจ้าคุณเจ้า อาวาสเจ้าคณะจังหวัดพ้นจากต�ำแหน่งกันอีกรอบแล้ว นครดอนพระฉบับนี้ ผมขอชวนออกไปไหว้พระที่นอก... นอก ออกไปถึงท่าซอมที่หัวไทรที่เคยมีข่าวใหญ่ให้ชื่นชมกันทั่ว

หอไตรในสระ กับ พระพุทธรูป หินแก้วผลึกองค์งาม หอไตร ศาลา และ กุฏิวัด พัทธสีมา ในส่วนที่เป็นอาคาร เก่า ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ สถานเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๔

ภาพถ่ายพระพุทธรูปแกะสลักจากหินแก้วผลึก พระเศียรครอบทองค�ำ ฐานท�ำเป็นชั้นบุด้วยเงิน ศิลปสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕ ทะเบียน พสม.๑๖๗๑/๒๕๔๙ ฐานกว้าง ๑๒.๒ ซม. สูง ๒๕ ซม.

ประเทศเมื่อสิบปีก่อนว่าพบกรุมหาสมบัติล�้ำค่าทางพระพุทธ ศาสนาในหอไตรกลางน�้ำที่ปิดตายมานาน จนชาวบ้านและ วัดท�ำการสืบค้นประวัติชุมชนท้องถิ่นเพื่อน�ำมาประกอบการ พัฒนาประกอบกับกรมการศาสนาสั่งให้ทางวัดท�ำทะเบียน โบราณวัตถุ เพื่อจะได้พิทักษ์รักษาไว้ให้ลูกหลานอย่างยั่งยืน นาน ด้วยการเปิดกรุน�ำออกมาขึ้นทะเบียนแล้วจัดแสดงใน พระอุโบสถกับวิหาร สร้างสีสันความคึกคักครั้งใหญ่ให้กับ ชุมชนท้องถิ่นจนทั่วทั้งเมืองนครว่าวัดพัทธสีมานี้คือศูนย์การ เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตชุมชน มี สกว.ลงมาท�ำการ วิจัยน�ำไปรายงานอย่างเอิกเกริกพร้อมกับข้อเสนอจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น โดยผมไม่มีเวลาและโอกาสได้ไปร่วม ชื่นชมเลยเพราะติดกิจอื่นสารพัด จนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่าน มา ได้ชวนกันไป (อ่านต่อหน้า ๑๙)


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

หน้า ๓

บ่

ายแก่ๆ ของวันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ผมนั่ ง จิ บ กาแฟที่ ร้านลิกอร์ (ท่าวัง) มีนักปั่นจักรยาน ปั่น รถคู่กายจอดไว้หน้าร้าน แล้วเข้ามาสั่ง อาหารกับเครื่องดื่มหวานๆ ดื่มกินอย่าง เอร็ดอร่อย บนถนนราชด�ำเนินมีนักปั่น ปั่นจักรยานท่าทางผ่อนคลาย ดูสบายๆ รถยนต์โฟร์วิีลส์ บางคันล็อควางจักรยาน ไว้กับแร็คบนหลังคาเพิ่งขับผ่านไป ผม ออกไปเข้ า ห้ อ งน�้ ำ พบน้ อ งช่ า งภาพคน หนึ่ ง แต่ ง ตั ว ทะมั ด ทะแมง เขากล่ า วค� ำ ทั ก ทาย ผมถามเขาว่ า มาจากไหน เขา ตอบว่ า มาจากตามถ่ า ยรู ป การแข่ ง ขั น จั ก รยานของกองทั พ ภาคที่ ๔ วั น นี้ กองทัพภาคที่ ๔ จัดการแข่งขันจักรยาน ‘Tour of Srivichai Open To AEC 2015’ ครั้งที่ ๓ หลังการแข่งขันครั้งที่ ๑ - ๒ ประสบความส�ำเร็จอย่างสูง มีนักปั่น เข้าร่วมกว่า ๓,๐๐๐ คน รวมผู้ติดตาม อี ก นั บ พั น เมื อ งนครจึ ง คึ ก คั ก ขณะ บรรยากาศปั ่ น จั ก รยานเพื่ อ สุ ข ภาพใน เมืองนครก็คึกคักมีสมาชิกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เรื่อยๆ การแข่งขันปีนี้กองทัพภาคที่ ๔ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครฯ, ททท. และชมรมจักรยานจังหวัดนครฯ องค์กร ความร่วมมือ ๑๒ หน่วย ประสบความ

ส�ำเร็จอย่างมาก การแข่งขันใช้สนามบินกองทัพภาค ที่ ๔ ค่ า ยวชิ ร าวุ ธ เป็ น จุ ด ปล่ อ ยตั ว และ เส้ น ชั ย ทั้ ง เสื อ หมอบ ๑๐๐ กิ โ ลเมตร, เสื อ หมอบและเสื อ ภู เ ขา ๗๐, มื อ ใหม่

๗๐ กิ โ ลเมตร และประเภททั่ ว ไปเพื่ อ สุขภาพ ๒๕ กิโลเมตร รายได้น�ำไปช่วย เหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและพิการจาก เหตุการณ์ความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอาศั ย นั ก กี ฬ าจั ก รยาน

มี ส ่ ว นเชื่ อ มโยงการก้ า วสู ่ ป ระชาคม เศรษฐกิ จ อาเซี ย น หรื อ ‘AEC 2015’ เพื่ อ ส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วถิ่ น ไทยภาค ใต้ Unseen Nakhon Si Thammarat อีกด้วย ขอบคุ ณ ภาพบรรยากาศสวยๆ จากนั ก ปั ่ น อาจารย์ ภิ ญ โญ เพชรแก้ ว และยุ ค ล จิ ต ส� ำ รวย (ร้ า นน�้ ำ ชากาแฟ และขนมจีนบ้านลานสกาใน-ริมเส้นทาง แข่งขัน)


หน้า ๔

สุธรรม ชยันต์เกียรติ

วั

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

นที่ ๒๑ มิถุนายนนี้ อ�ำเภอลานสกาเขาจัดงานวิ่ง มาราธอนเป็นปีที่ ๑๑ มีการยกระดับดีขึ้นอีกขั้น เน้นเรื่องการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยหยิบเรื่อง ‘ลานสกา เมื อ งอากาศดี ’ เข้าไปร่วมกัน ได้ทั้งสุขภาพและการ ท่ อ งเที่ ย ว ลานสกามาราธอนได้ รั บ การชื่ น ชมจาก บรรดานั ก วิ่ ง ทั่ วทั้ งประเทศ ฝัน อยากจะมาวิ่ ง สนามนี้ และถือว่าสนามนี้เป็นสนามที่ดีที่สุดของประเทศ ฉบับนี้ผมจึงขอคุยเรื่อง ‘ลานสกาเมืองอากาศดี’ ว่ า มี ดี อ ะไรจึ ง ได้ รั บ การยกย่ อ งติ ด อั น ดั บ ของประเทศ เมื่อปี ๒๕๕๒ ทางกรมควบคุมมลพิษได้ด�ำเนินการตรวจ สภาพอากาศในหลายเมืองทั่วประเทศ โดยการตรวจ สอบ ๕ ชนิด คือ ก๊าซซัลเฟอร์ไดอ็อกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดอ็อกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ก๊าซคาร์บอน มอนน็อกไซด์ ก๊าซโอโซนและฝุ่นละอองที่เล็กกว่า ๑๐ ไมครอน ผลการส� ำรวจทั่วประเทศปรากฏว่าค่า AQI (Air Quality Index : หมายถึง ดัชนีคุณภาพอากาศ ซึ่งค�ำนวณได้จากสารมลพิษในอากาศ ๕ ประเภท) อยู่ ระหว่ า ง ๑๗-๔๙ ที่ ดี ที่ สุ ด ของประเทศ คื อ ที่ อ� ำ เภอ ลานสกา ได้ รั บ ยกย่ อ งว่ า เป็ น ‘The Best Ozone in Thailand’ โดยทางกรมควบคุ ม มลพิ ษ เขาสรุ ป ถึ ง เหตุ ผ ลของลานสกาว่ า มี ส ภาพอากาศที่ ดี ที่ สุ ด ของ ประเทศด้วยปัจจัยเหล่านี้..คือ..

๑. ลานสกาอยู่ในเทือกเขาหลวงซึ่งเป็นภูเขาสูง เหมือนหลังคาของภาคใต้ มีความสูงถึง ๑,๘๐๐ กว่า เมตรจากระดับน�้ำทะเล ๒. โดยรอบเมืองลานสกาล้วนเป็นเนื้อที่ป่าที่อุดม สมบูรณ์ขนาดใหญ่มาก มีเขตป่าดิบชื้นอยู่ทั่วไป ๓. ต�ำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในป่า แต่ไม่ไกลจากทะเล มากนั ก จึ ง ได้ รั บ อิ ท ธิ พ ลของ ลมมรสุ ม ทั้ ง สองฝั ่ ง มหาสมุ ท ร (โอโซน) ๔. พื้นที่มีฝนตกชุกทั้งปี พื้น ดินจึงอุดมสมบูรณ์ ไม่แห้งแล้ง ไม่ มีฝุ่นละออง ๕. ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ที่ ค อยสร้ า งมลพิ ษ ให้ กั บ ท้ อ งถิ่ น ก๊าซที่เป็นโทษจึงไม่มี ๖. การท� ำ การเกษตรของ คนลานสกาเน้ น ไปทาง ‘สวน สมรม’ ไม่ จ� ำ เป็ น ต้ อ งใช้ ปุ ๋ ย เคมี และยาฆ่าแมลง องค์ ป ระกอบเหล่ า นี้ จึ ง ส่ ง ผลให้อากาศในลานสกามีคุณภาพ การได้รับการรับรองว่าเป็นเมือง อากาศดี ท�ำให้การท่องเที่ยวของ คนในท้ อ งถิ่ น เริ่ ม คึ ก คั ก กลุ ่ ม จั ก รยานก็ ไ ม่ เ คยขาด วันเสาร์อาทิตย์จะมีจักรยานเป็นกลุ่มๆ ตลอดเส้นทาง มุ่งหน้าสู่ลานสกา การท่องเที่ยวไทยเขาให้ฉายาว่า ‘นคร สองธรรม’ คงจะหมายเอาเรื่องธรรมะและธรรมชาติ เป็นตัวประชาสัมพันธ์ ลานสกาก็เป็นเมืองหนึ่งที่มีอะไรๆ เป็นธรรมชาติเยอะ ไม่ต้องอื่นไกล ‘ผลไม้’ ที่เกิดขึ้นตาม ธรรมชาติในลานสกาก็ยังมีอยู่มาก เช่น มังคุดเขา ทุเรียน บ้าน จ�ำปาดะ ลูกลวน (เงาะป่า) ส้มเตียน (กระท้อน บ้าน) ลางสาดเขา ลูกประ ส้มปริง ส้มปราง ลูกมุดขี้กวาง ล้วนแล้วแต่เป็นผลิตผลจากป่าจากธรรมชาติ ‘ไม้ป่า’ ที่ อยู่ในธรรมชาติ เช่น ไม้หลุมพอ ไม้จ�ำปา ไม้ตะเคียน ไม้ ไข่เขียว ไม้มันหมู ไม้ตั้งหุน ไม้หอม ไม้บ้า ไม้ฝาด ไม้แดง เล็กลงมาหน่อยก็เป็นกลุ่มหมาก หมากเหลือง หมากเจ ต้นซก เต่าร้าง มหาสะด�ำ ไม้ทู่เรียน ไม้ไผ่ผาก ไผ่โปะ ไผ่คลาน ถ้าเป็น ‘ผักป่า’ มีมากยิ่งกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต อีก เช่น ผักกูด หยวกกล้วยเถื่อน ผักหนาม บอนเขียว บอนยายรัด ย่านส้มเค้า กลอย เห็ดแครง เห็ดจูน เห็ด ปลวง ลูกฉิ่ง ผักหม ดีปลีขี้นก ล้วนหากินง่าย ไม่ต้องซื้อ หา ‘สัตว์ป่า’ เช่น เสือ (ก็ยังเจอรอยอยู่บ่อย) อีแกะ เม่น มุดสัง (อีเห็น) จง ลิ่น ลิงจุน (นางอาย) กระรอก ได้จ้อน ไอ้เหลียะ ไก่เถื่อน ไก่ฟ้า นกหว้า (นกยูง) ลิง ค่าง ชะนี >> อ่านต่อหน้า ๑๔ หมี หมูเถื่อน ‘นกป่า’ เช่น

โดย : นครา nagara@nakhonforum.com หนังสือพิมพ์รักบ้านเกิด ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือน มิ ถุ น ายน ๒๕๕๘ เสาไฟฟ้ า สี เขี ยวสลับ สี ท อง ข้างบนมีหุ่นสัตว์ประจ�ำปีนักษัตร เชาวน์ วั ศ เสนพงศ์ ปักตลอดถนนกะโรม ไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาตรงหน้า วั ด พระมหาธาตุ ฯ เกิ ด เป็ น กระแสถกเถี ย ง ติ ด เรตติ้ ง ‘ดราม่า’ ว่ายกเอาสัตว์เดรัจฉานไปอยู่ปลายเสาสูงเหนือ คน แถมสั ต ว์ ยั งยื น อยู ่ บ นดอกบั ว มี ค� ำ ถามท้ า ทายว่ า ปราชญ์ เ มื อ งนครคิ ด อย่ า งไร...คนธรรมดาเดิ น ถนนขอ ตอบว่าเลอะ ลองเหลียวไปดูตราประจ�ำเมืองนครอีกครั้ง ว่าเป็นรูปอะไร ถ้าขุดคุ้ยว่าโครงการนี้สุจริตหรือทุจริตหรือ ไม่ น่าสนใจกว่าเยอะ

ศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครฯ น�ำ ข้าราชการและประชาชนนับร้อยคนร่วมตักบาตรและฟัง ธรรมในวันอาทิตย์ ซึ่งย้ายจากริมถนนราชด�ำเนิน มาจัด บริเวณลานโพธ์ิ...ความต่อเนื่องจะท�ำให้กิจกรรมกลาย เป็นประเพณี... อภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองปลัด กระทรวงมหาดไทยฝ่ายความมั่นคง ประธานอนุกรรมการ ก�ำกับติดตามผลการด�ำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติ ด น� ำ คณะที่ ป รึ ก ษา ณรงค์ สุ ว รรณเปี ่ ย ม, ธีรภัทร สันติเมทนีดล, พล.ท.สมร ศรีทันดร, วิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส ตามแผนปฏิบัติการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปี ๒๕๕๘


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

พิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง จัดแข่งขัน วิ่งซุปเปอร์ มินิมาราธอน “เฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปี ปากพนั ง ” ประจ� ำ ปี ๒๕๕๘ ในวั น อาทิ ต ย์ ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ ศาลาประชาสันต์ ริมแม่น�้ำปากพนัง สอบถามรายละเอียด/สมัครได้ที่ กองการศึกษาเทศบาล เมืองปากพนัง โทร.๐๗๕-๕๑๗-๖๓๐ ต่อ ๓๐๑ ในเวลา ราชการ ก้อนน�้ำมันดินมากองอยู่ตามชายหาด อ.ขนอม อ.สิ ช ล อ.ท่ า ศาลา ชาวบ้ า นพากั น ตื่ น ตกใจ เกรงมีอันตรายต่อสัตว์น�้ำไปตามกระแสอนุรักษ์ วีระศักดิ์ พึ่ ง รั ศ มี รองอธิ บ ดี ก รมเชื้ อ เพลิ ง ธรรมชาติ ม าชี้ แ จง ท�ำความเข้าใจและจะเร่งตรวจสอบให้สบายใจ

นครศรีธรรมราช

‘นครดี ซี ’ ขอแสดงความยิ น ดี กั บ นพ.พนม อาชาฤทธิ์ เจ้าของผลงานรางวัลรองชนะเลิศจากการส่ง ภาพถ่ายประกวดในกิจกรรม ‘Sony World Photography Awards National Award 2015’ จาก ๕๔ ประเทศ นพ.พนม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศของประเทศไทย ได้รับ อุปกรณ์ถ่ายรูปจากโซนี่ มูลค่ากว่า ๗๒,๙๘๐ บาท

วิ เ ชี ย ร กั ณ ฐ ตุ ริ ต แรงงานจังหวัดนครฯ บรรยาย ให้ความรู้ ข้อระเบียบ กฎหมาย เมื่ อ วั น ที่ ๑๙-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ บริ ษั ท และแนวทางปฏิ บั ติ แ ก่ ผู ้ น� ำ ฮอนด้ า ศรี น คร จ� ำ กั ด ได้ รั บ เกี ย รติ จ าก สิ ท ธิ ชั ย เผ่ า ท้องที่ ท้องถิ่น และอาสาสมัคร แรงงานในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ตามนโยบาย พันธุ์ นายอ�ำเภอหัวไทร และ ชาติชาย ทองเลี่ยมนาค ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมของรัฐบาล ณ ศาลาประชาคม ราช ให้เข้าร่วมโครงการ “นครปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัย สวมหมวกนิรภัย ๑๐๐%” ณ ที่ว่าการอ�ำเภอหัวไทร และ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมราช ตามล�ำดับ

โกเมศ วิศิษฎ์วุฒิพงศ์ เช่าห้องแถวอาคารพาณิชย์ ในบวรบาซาร์เปิดเป็น ‘ชมรมศรัทธาองค์พ่อจตุคาม’ เป็น แหล่งพบปะเพื่อนพ้องและเผยแพร่บารมีองค์พ่อ เพราะ พลังศรัทธาน�ำความส�ำเร็จมาสู่ตนเองเป็นปฐม ร้านติ่มซ�ำ สมบูรณ์โอชาเยื้องตลาดคูขวางขายดิบขายดีจนต้องขยาย ที่นั่งออกไปเรื่อยๆ

พระศรีธรรมประสาธน์ (ไมตรี ปภารตโน) ในนาม มมร.วิทยาลัยเขตศรีธรรมโศกราช ลงนามความร่วมมือกับ ดร.ส.สมบัติ มีสุนทร ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนโยธินบ�ำรุง ใน การเรียนพุทธศาสนา อบรมจริยธรรม ณ ศาลา ๑๐๐ ปี วัดพระมหาธาตุวรวิหาร เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ผู้ขับขี่ซ้อนท้าย เด็กเล็กที่ผู้ปกครองพาขึ้นจักรยานยนต์ไปส่งโรงเรียนควร สวมหมวกกันน็อคอย่างเคร่งครัด รถยนต์ รถใหญ่ขับรถ เอื้อเฟื้อ...ทุกคนต่างต้องการถึงที่หมายอย่างปลอดภัย... ด้วยความปรารถนาดี เปิดใหม่ทองซีกวง BoonJo@ถนนเนรมิต ท่าวัง โปรโมชั่นพิเศษส�ำหรับลูกค้าทองซีกวง โดย Boon & Jo ลดค่าก�ำเหน็ด ๓๐% ทันที เมื่อน�ำ หนังสือพิมพ์รักบ้านเกิดฉบับนี้มาที่ร้าน • ซื้อหรือ ฝากทองค� ำ รู ป พรรณกั บ เรา มี สิ ท ธิ์ ลุ ้ น ทองค� ำ รู ป พรรณ ๑ สลึง ทุกเดือน ซื้อหรือฝากมาก มีสิทธิ์ลุ้น มาก • แสดงวันเกิดตามบัตรประชาชน หรือแสดง การ์ ด อวยพรวั น เกิ ด จากทางร้ า น ลดค่ า ก� ำ เหน็ จ ทันที ๕๐% ในวันเกิดนั้น • ผ่ อ นทองดอกเบี้ ย ถู ก ติ ด ต่ อ เพขรทองซี ก วง โทร.๐๘๘-๗๖๑ ๒๔๕๑, ๐๘๔-๐๖๑ ๔๗๘๘

Not only you are contented with our fine diamond and gold jewels, but community also enjoys.

JEWELS OF NAKHON SI THAMMARAT

หน้า ๕

Diamond & Gold 1. Naeramit Road (Tawang) Diamond 2. Robinson 3. Sahathai Plaza Gold 4. Ta Ma 5. Hau It 6. Ku Kwang(Near Shell Gas Station) 7. Weekend Market On-line Shop 8. www.facebook.com/BOONADA Gold (HTY) 9. Chuan Heng Hat Yai


หน้า ๖

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จากวิ ท ยาลั ย ดุ สิ ต ธานี (Dusit Thani Colledge) รอบรู้เรื่องงานโรงแรมตั้งแต่ รั บ จนส่ ง ผู ้ เ ข้ า พั ก เรี ย นท� ำ อาหารกั บ อาจารย์ชาวต่างชาติตั้งแต่อยู่ชั้นปีที่ ๒ ทั้ ง อาหารยุ โ รป เบเกอรี่ และอาหาร ท� ำ จากแป้ ง (pasty) ความรั ก ชอบใน อาหารเริ่มจากญาติๆ ของแม่ ๒-๓ คน เป็นเชฟใหญ่ในฝรั่งเศสและสวีเดน เมื่อ

วิ

ลเลี ย ม เรมี โสภณ เป็ น คนที่ น ่ า สนใจมาก ส� ำ หรั บ คนหลงรั ก การ ปรุ ง อาหารหรื อ สนใจประกอบอาชี พ ด้านอาหารและเครื่องดื่ม เขาเตรียมเปิด โรงเรี ย นสอนท� ำ อาหารชาติ ต ะวั น ตก และเอเชีย ณ อาคารเลขที่ ๒๑/๖ ถนน ประตูลอด ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช ภายในเดื อ น มิถุนายน ๒๕๕๘ วิ ล เลี ย ม เป็ น ลู ก ชายของนาย ทวียศ โสภณ กับ นางอิงกรีด โสภณ ชาวสวี เ ดนเชื้ อ สายฝรั่ ง เศส วิ ล เลี ย ม เกิดที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุ ๑ ขวบกลับ ประเทศไทย เข้ า เรี ย นอนุ บ าลลู ก รั ก , ศรี ธ รรมราชศึ ก ษา, กั ล ยาณี ศ รี ธ รรม-

เซ็นทรัล กะรน วิลเลจ เป็นผู้ช่วยเชฟ ใหญ่ ด ้ า นอาหารตะวั น ตก (Western Style) นาน ๓ เดือน จากนั้นจึงกลับมา ฝึกที่โรงแรมโนเวเทล บางนา เป็นผู้ช่วย ด้านอาหารเอเชีย (Asian Style) เน้น อาหารไทย จีนและญี่ปุ่น อีก ๓ เดือน เรียนจบวิลเลียมได้รับเชิญไปปรุง อาหารไทยที่ ร ้ า นอาหารเวี ย ดนามชื่ อ Thai Buffet Restaurant ที่ เ มื อ ง สตราสบูร์ก (strasbourg) นาน ๖ เดือน และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารยุโรป ไวน์ วิสกี้ และบรั่นดี (ไวน์ปีอะไร ควรดื่ม กับอาหารชนิดไหนเป็นต้น) วิลเลียมน�ำประสบการณ์ทั้งมวลมา เปิดโรงเรียนสอนท�ำอาหารในเมืองนคร โดยออกแบบไว้ ๒ หลักสูตร หลั ก สู ต รแรกส� ำ หรั บ เด็ ก เน้ น พั ฒ นาการสมองสองซี ก ที่ ต ้ อ งน� ำ หลั ก วิชาคณิตศาสตร์และศิลปะมาประยุกต์ ใช้กับอาหาร หลักสูตรสองส�ำหรับผู้ใหญ่ สนใจ เรียนต้องคุยให้ทราบถึงจุดประสงค์กัน ก่อน ว่าจะน�ำไปปรุงรับทานในบ้านหรือ ประกอบอาชีพ วิลเลียมอยากเห็นครอบครัวมาเรียนด้วยกัน (Family Kitchen) เขาคาดหวังว่าจะมีบางครอบครัวสนใจ วิ ล เลี่ ย มเปิ ด เผยว่ า ในแต่ ล ะวั น ๆ เขาต้ อ งการปรุ ง อาหารอร่ อ ยๆ แบบ Limited Edition บริการพร้อม Free Coffee เช่น ปรุงอาหารส�ำหรับ ๔ คน ซึ่งลูกค้าสั่งล่วงหน้าว่าจะทานอะไร เวลา ไหน จะได้เตรียมวัตถุดิบคุณภาพดีและ พอดี กั บ กลุ ่ ม เขามี ป ระสบการณ์ ป รุ ง อาหารเสิ ร ์ ฟ ให้ ป าร์ ตี้ ส ่ ว นบุ ค คล (Private Party) ใครจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ลอง ราช และปริญญาตรี สาขาการจัดการ ญาติๆ มาเยี่ยมแม่ก็ลงมือท� ำอาหารให้ ปรึกษา วิลเลียม เรมี โสภณ ดู สนใจเรียนท�ำอาหารโทรสอบถาม โรมแรม หลั ก สู ต รบริ ห ารธุ ร กิ จ สาขา รั บ ประทานก็ เ กิ ด ความหลงใหล ตอน วิ ช าการจั ด การโรงแรมและภั ต ตาคาร เรี ย นปริ ญ ญาตรี ไ ปฝึ ก งานที่ โ รงแรม ที่ โทร.๐๙๓-๗๔๗-๖๐๑๒

โครงการพั ฒ นาศู น ย์ ก ระจายสิ น ค้ า ภาคใต้ - ทุ ่ ง สงคื บ หน้ า ลานกอง ตู้คอนเทนเนอร์เปิดใช้ปี ๒๕๕๙ วันนี้ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นาย สมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการฝ่ า ยปฏิ บั ติ ก ารเพื่ อ ขั บ เคลื่อนโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า ภาคใต้ - ทุ่งสง โดยมีหัวหน้าหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับทราบความก้าวหน้า ของ ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอ ทุ่งสงและเทศบาลเมืองทุ่งสงเป็นผู้ด�ำเนิน การมาตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ ขณะนี้

จังหวัดได้รับงบประมาณจากกลุ่มจังหวัด ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ๑๓ ล้านบาท ด�ำเนินการ โดย บริษัท Planning and Mapping Consultants a Co., ltd ออกแบบเสร็จแล้ว ส่วนงานก่อสร้างรางรถไฟแยกทางเข้าศูนย์

กระจายสินค้า ซึ่งได้ปีงบประมาณ ๒๕๕๕ วงเงิน ๒๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเทศบาล เมืองทุ่งสงสมทบอีก ๒,๘๑๙,๐๐๐ บาท วงเงินใช้ก่อสร้างรางรถไฟเชื่อมต่อจากสาย ประธานเข้าสู่โครงการฯ ๓๐,๘๑๙,๐๐๐ บาท ขณะนี้ ไ ด้ ป ระกอบประแจเชื่ อ มต่ อ รางรถไฟสายหลักเข้าสู่โครงการแล้ว เหลือ เพียงการส่งมอบ และการตรวจรับงาน แต่ ยั ง มี ป ั ญ หาในการเชื่ อ มต่ อ ประแจ ระบบ รางเข้ า ศู น ย์ ก ระจายสิ น ค้ า ภาคใต้ - ทุ ่ ง สง ซึ่ ง เทศบาลเมื อ งทุ ่ ง สงต้ อ งเสี ย ค่ า ใช้ จ ่ า ย ติ ด ตั้ ง ประแจ ค่ า ใช้ จ ่ า ยฝ่ า ยการเดิ น รถ และในการจั ด หาพนั ก งานรั ก ษาประแจ ๑๘,๓๘๘,๘๐๐ บาท ตลอดอายุสัญญา ๓๐ ปี จังหวัดนครศรีธรรมราช และเทศบาล

เมืองทุ่งสงต่อรองขอยกเว้นค่าใช้จ่ายกรณี พนั ก งานรั ก ษาประแจกั บ การรถไฟแห่ ง ประเทศไทย เพราะเมื่อสร้างทางแยกแล้ว เสร็จการรถไฟฯ จะได้รับประโยชน์จาก ค่าระวางและค่าลากจูงรถที่น�ำไปบรรทุก อย่างมาก ส�ำหรับความคืบหน้าในงานก่อสร้าง ลานคอนเทนเนอร์ (เฟส ๑) และตู้บรรจุ สินค้าเพื่อการขนส่งต่อเนื่องเชื่อมต่อจาก ระบบถนน ระบบรางรถไฟและระบบเรือ เทศบาลเมืองทุ่งสงจะจัดสรรงบประมาณ ปี ๒๕๕๘ วงเงิน ๑๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท และสามารถเปิดให้บริการศูนย์กระจาย สินค้าในลักษณะ Container Yard ภายใน ปีงบประมาณ ๒๕๕๙


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

าถึงค�ำถามส�ำคัญมาก ในการเลือกท�ำ ธุ ร กิ จ จะต้ อ งท� ำ อย่ า งไร? ในปั จ จุ บั น ทักษะในการเลือกมีความจ�ำเป็นมากขึ้นการ เลือกให้แม่นจึงเป็นเรื่องส� ำคัญ ดังนั้น เรา ต้องมาพิจารณาเรื่องความเชื่อ (ข้อคิดเห็น บวกความรู้สึก), ความจริง (ข้อเท็จจริงบวก สิ่งที่เป็นจริง) โดยเฉพาะการเริ่มต้นท�ำธุรกิจ ใหม่ เรามาด้วยความอยากท�ำ (เป็นความ รู ้ สึ ก ) แต่ ก ารสร้ า งธุ ร กิ จ ต้ อ งท� ำ ด้ ว ยความ เข้าใจ แต่ก่อนที่เราจะเลือกจึงต้องผ่านขั้น ตอนแรกคื อ ท� ำ ให้ ค วามกลั ว -กั ง วล-ความ

สงสัย ค่อยหมดไป ด้วยการใช้ข้อมูลชุดความ รู้ที่เป็นจริงให้มากที่สุด เพื่อให้ความกลัวลด ลงกลายเป็นความกล้า และท�ำให้ความกังวล ลดลงกลายเป็นความเชื่อ ลดความสงสัยเป็น ความเข้าใจ ปัจจุบันนี้แหล่งข้อมูลข่าวสารมี มากมาย การรู้จักตั้งค�ำถามค้นหาข้อมูลต่างๆ และสอบถามผู ้ ที่ เ ขาส� ำ เร็ จ มาก่ อ น รวมถึ ง การหาที่ปรึกษาคือผู้ส�ำเร็จจะช่วยผ่อนแรง ย่ น ระยะเวลาในการลองผิ ด ลองถู ก ของคน ท�ำธุรกิจได้มากขึ้น การท�ำธุรกิจในยุคนี้ไม่ได้ อาศัยคนเก่งเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีทักษะ

นครศรีธรรมราช

การเลือกที่แม่นด้วย แล้วก็ท�ำอย่างคนเก่งที่ เขาส�ำเร็จท�ำกัน ล�ำดับแรก คือวิธีคิด ที่เลือกจากเป้า หมายปลายทางที่เราอยากได้ อยากมี อยาก เป็น พูดให้เข้าใจง่ายๆ เราท�ำธุรกิจนี้เพื่อ….. อะไร? และเมื่อไร? เช่นเราต้องการก�ำไรสุทธิ เท่าไร? ต่อปี เพื่อไปตอบโจทย์การลงทุนว่า จะต้องเท่าไร? และ คืนทุนเมื่อไร? เมื่อถ้า เราชัดเจนในเรื่องเป้าหมายแล้ว ก็จะมาหาวิธี การท�ำที่ถูกต้อง ที่มืออาชีพเขาท�ำกัน “ส�ำคัญที่สุดก็คือการเรียนรู้ และหา

หน้า ๗

ที่ปรึกษาที่รู้จริงมาช่วยโค้ช ในระหว่างทาง ที่ ก� ำ ลั ง สร้ า งธุ ร กิ จ เพราะจะผิ ด พลาดซ�้ ำ แบบในอดีตไม่ได้อีกแล้ว” เลือกจะเรียนรู้ จากผู้ส�ำเร็จแล้วลงมือท�ำเพราะเมื่อเรียนรู้ก็ เกิดความเข้าใจ ความมั่นใจ และกล้าลงมือ ท�ำจนเกิดผลลัพธ์ เมื่อเกิดผลลัพธ์ก็ยิ่งเพิ่ม ความมั่นใจ ความเชื่อก็จะมีมากขึ้น พลังใน การลงมือท�ำก็เพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ก็เพิ่มขึ้นเป็น เช่นนี่เอง สิ่งที่ต้องแลกมีสองอย่าง คือ การ ใช้เวลาบวกความตั้งใจและความรับผิดชอบ แบบ ๑๐๐% ผมเชื่อว่าเมื่อคุณมีทักษะการ เลือกที่แม่นมากบวกวิธีคิดที่ถูกต้อง กับวิธี การที่ถูกต้องก็จะประสบความส�ำเร็จในเวลา ที่คุณต้องการ สุดท้าย ผมมีข้อมูลธุรกิจดาว เด่น-ดาวร่วง ในปี ๒๕๕๘, และธุรกิจที่มีแนว โน้ ม จะเป็ น ดาวดั บ ในอนาคต มาให้ คุ ณ ใช้ ทักษะในการเลือกครับ!

เดือนมิถุนายน ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค�่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะแม (วิสาขบูชา) วันอังคารที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันแรม ๘ ค�่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะแม วันจันทร์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันแรม ๑๔ ค�่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะแม วันอังคารที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันขึ้น ๘ ค�่ำ เดือนแปด (๘) ปีมะแม วันอังคารที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค�่ำ เดือนแปด (๘) ปีมะแม นายไพโรจน์ เพชรคง ๑๕ พ.ค. ๕๘


หน้า ๘

เรือ่ งจากปก

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๔ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

<< ต่อจากหน้า ๑

โรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคจากน�้ำมัน ปาล์ม เสนอให้รัฐบาลน�ำเข้า ต่อมาสมาคมปาล์มน�้ำมัน ทั่วประเทศยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อคัดค้าน เพราะเกรงว่าราคารับซื้อฤดูกาลใหม่จะตกต�่ำ และมีการ ลักลอบน�ำเข้าน�้ำมันปาล์มดิบมาท�ำลายตลาด แต่การ คัดค้านไม่เป็นผล ราคาปาล์มฤดูกาลใหม่ตกต�่ำ วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๘ ตัวแทนเกษตรกร ตัวแทน กลุ่มโรงงาน และส่วนข้าราชการประชุมสรุปว่า ต้นทุน การปลูกที่ทุกคนยอมรับได้ คือ ๓.๓๘ บาท/กิโลกรัม แล้ว หารือต่อว่าเกษตรกรควรได้ก�ำไรกี่เปอร์เซ็นต์จากต้นทุน ตั ว แทนเกษตรกรเสนอกรมการค้ า ภายในให้ พิ จ ารณา ราคา ๔.๗๓ บาท และ ๕.๐๗ บาท ต่อมาราคาปาล์มร่วง ลงมาที่กิโลกรัมละ ๒.๗๐ บาท วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ชาวสวนปาล์มจังหวัด กระบี่น�ำผลปาล์ม ๒๐ ตันมาเทที่หน้าศาลากลางเรียกร้อง แก้ให้ซื้อกิโลกรัมละ ๕ บาท นายกฤษดา ชวนะนันท์ นายกสมาคมโรงสกัดน�้ำมัน ปาล์ม กล่าวว่าจังหวัดกระบี่เร่งด� ำเนินมาตรการที่เรียก ว่า ‘กระบี่โมเดล’ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน�้ำมันอย่าง ยั่งยืน จังหวัดตรัง--นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคม ชาวสวนปาล์มน�้ ำมันจังหวัดตรัง และประธานสหกรณ์ เกษตรอุตสาหกรรมตรัง พร้อมตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร ชาวสวนปาล์มจังหวัดตรังทั้ง ๓ องค์กร ยื่นข้อเรียกร้อง ๕ ข้อ คือ ให้รัฐบาลแทรกแซงราคาปาล์มน�้ำมันหน้าลาน เทและโรงงาน ในส่วนต่างที่ต�่ำกว่ากิโลกรัมละ ๕ บาท, ให้ รัฐบาลสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตกรชาวสวนปาล์ม น�้ำมัน ในอัตราไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท ไม่เกิน ๕ ไร่, แต่งตั้ง คณะกรรมการแก้ ไ ขปั ญ หาปาล์ ม น�้ ำ มั น ตกต�่ ำ ในระดั บ จังหวัด โดยให้มีตัวแทนเกษตกรในอัตราส่วนที่เท่ากันกับ หน่วยงานภาครัฐ, ให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกปาล์ม น�้ำมันกับหน่วยงานภาครัฐก่อนได้รับความช่วยเหลือ และ

ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน วั น ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ รั ฐ บาลประชุ ม ด่ ว น และออกประกาศจากอธิบดีกรมการค้าภายในเพื่อแก้ไข สถานการณ์ ไ ม่ ใ ห้ บ านปลาย แต่ ผู ้ ที่ ไ ด้ รั บ เชิ ญ เข้ า ร่ ว ม ประชุมกลับเป็นกลุ่มผู้แทนโรงสกัดน�้ำมันปาล์ม, กลุ่ม ผู้แทนโรงกลั่นน�้ำมันปาล์ม, ผู้แทนผู้ผลิตไบโอดีเซล ผู้ แทนเกษตรกรส่วนน้อยจาก สุราษฎร์ธานี, กระบี่ และ ชุมพร เข้าร่วมเสนอความคิดเห็น ผลการประชุมจึงไม่ เป็นกลาง กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมจึงออกมาบังคับใช้ โดย เฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการรับซื้อตามเปอร์เซ็นน�้ำมันปาล์ม เกษตรกรส่วนใหญ่ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ตัดปาล์มดิบไป ขาย โรงงานและลานเทมักตั้งแง่เพื่อกดราคารับซื้อ จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช--วั น ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์ม นครศรีธรรมราช และกรรมการสมาพันธ์สมาคมชาวสวน ปาล์มแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าหลังพูดคุยกับหลาย ฝ่ า ยถึ ง มาตรการที่ ก ระทรวงพาณิ ช ย์ ก� ำ หนดเพื่ อ แก้ ไ ข ปั ญ หาราคาปาล์ ม ที่ ก� ำ ลั ง ตกต�่ ำ อย่ า งหนั ก และได้ ข ้ อ สรุปตรงกันคือ ปฏิเสธมาตรการนี้แน่นอน เนื่องจากไม่ สามารถช่วยอะไรได้อย่างเป็นรูปธรรมและไม่มีความรับ ผิดชอบใดๆ จากการบริหาร และการน�ำเข้าน�้ำมันปาล์มที่ ผิดพลาด วั น ที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ มี ก ารประชุ ม เครื อ ข่ายชาวสวนปาล์มน�้ำมันและยางพารา ภาคใต้ที่โรงแรม เมืองลิกอร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพร ศรีเพชร

กล่าวว่า “รัฐบาลไม่รักษาสัจจะ เรื่องราคาปาล์ม ๕ บาท ปั ญ หาการน� ำ เข้ า น�้ ำ มั น ปาล์ ม ดิ บ จากต่ า งประเทศ ๕๐,๐๐๐ ตัน ท�ำให้ราคาปาล์มน�้ำมันในประเทศดิ่งเหว ประกาศของกรมการค้าภายใน ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นประกาศที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม เพราะ แฝงประโยชน์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมน�้ำมันปาล์ม เรื่อง การรับซื้อปาล์มทะลายจากเกษตรกรตามเปอร์เซ็นน�้ำมัน ปาล์ม ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีลานเทใด หรือโรงงานใด ใช้เครื่อง มือในการทดสอบเปอร์เซ็นน�้ำมันปาล์ม ท�ำให้ลานเทและ โรงงานเอาเปรียบเกษตกรได้” นายทศพล ชวัญรอด ต�ำหนิรัฐบาลเรื่องการจัดการ ยางพาราแต่ไม่ขอพูดอะไรมาก วันนี้เป็นทุกข์ของชาวสวน ปาล์ม กระนั้นก็ได้แนะน�ำว่ารัฐบาลควรน�ำยางพารา ไป ท�ำถนนลาดยาง และพัฒนาอุตสาหกรรมยางรถยนต์ใน ประเทศไทยให้ดีขึ้น เพื่อยกระดับราคายางให้ดีขึ้น การ ประชุมก็เป็นไปอย่างสงบ วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายสมพร ศรีเพชร น�ำคณะเข้าพบนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน, พลโทปราการ ชลยุทธ์ แม่ทัพภาคที่ ๔ เพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนราคารับซื้อผล ปาล์มทะลาย, ผลปาล์มร่วงและน�้ำมันปาล์มดิบแนะน�ำ ตามประกาศส�ำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคา สินค้าและบริการ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ วั น ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายพี ร ะศั ก ดิ์ หิ น เมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุม คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจาก ผลผลิตราคาตกต�่ำ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการและผู้แทนเกษตรกร สืบเนื่องจากนายกสมาคมชาวสวนปาล์มน�้ำมันจังหวัด นครศรีธรรมราชและคณะเข้ายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้อง ผ่านไปยังรัฐบาลให้ทบทวนราคารับซื้อผลปาล์มทะลาย, ผลปาล์ ม ร่ ว งและน�้ ำ มั น ปาล์ ม ดิ บ แนะน� ำ ตามประกาศ ส�ำนักคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ ลงวั น ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ที่ ก� ำ หนดราคารั บ ซื้ อ ปาล์มน�้ำมันที่มีเปอร์เซ็นต์อัตราน�้ำมัน ๑๗ เปอร์เซ็นต์ที่ กิโลกรัมละ ๔ บาท และปาล์มที่มีอัตราน�้ำมันมากกว่า ๑๗ เปอร์เซ็นต์ราคาจะเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ ๓๐ สตางค์ ซึ่งทาง สมาคมฯ ไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้อง เช่น ราคา ปาล์มทลายต้องไม่ต�่ำกว่า ๕ บาทต่อกิโลกรัม เครื่องมือ วัดเปอร์เซ็นต์น�้ำมันปาล์มของลานเทและโรงงานยังไม่มี และให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันการลักลอบน�้ำเข้าน�้ำมัน ปาล์มเถื่อน


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๔ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ชาวสวน ปาล์ ม ไม่ ส ามารถขายผลปาล์ ม เปอร์ เ ซ็ น ต์ น�้ ำ มั น ๑๗ เปอร์เซ็นต์ ในราคากิโลกรัม ละ ๔ บาท ตามที่ตกลงกันไว้ ได้ เนื่องจากตัวแทนชาวสวนปาล์ม-สมาคมโรงสกัดน�้ำมัน ปาล์มดิบ-สมาคมโรงกลั่นน�้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ได้ตกลง ร่วมกันที่จะช่วยพยุงราคาผลปาล์มที่ตกต�่ำลงมากกว่า ๓ บาท/กิโลกรัม ด้วยการประกาศจะรับซื้อผลปาล์ม (๑๗ % น�้ำมัน) ที่ราคา ๔ บาท/กิโลกรัม ขณะที่โรงสกัดน�้ำมัน ปาล์มดิบจะขายน�้ำมันปาล์มดิบให้กับโรงกลั่นน�้ำมันปาล์ม บริสุทธิ์ที่ราคา ๒๕ บาท/กิโลกรัม และโรงกลั่นน�้ำมัน ปาล์มบริสุทธิ์จะขายปลีกน�้ำมันปาล์มบรรจุขวดไม่เกิน ขวดละ ๔๒ บาท “เรื่ อ งของเรื่ อ งก็ คื อ เปอร์ เ ซ็ น ต์ น�้ ำ มั น ปาล์ ม ๑๗ เปอร์ เ ซ็ น ต์ ร าคา ๔ บาท เป็ น ข้ อ เสนอมาจากสภา เกษตรกรสาขาปาล์ม โดยอ้างอิงมาจากต้นทุน ๓.๓๘ บาท/กิโลกรัม บวกด้วยก�ำไร ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ตามตัวเลข ของ สศก. หรือประมาณ ๔.๓๐ บาท แต่ถ้าจะซื้อผล ปาล์มในราคานั้น โรงกลั่นจ�ำเป็นต้องขึ้นราคาน�้ำมันปาล์ม ขวด จึงมาตกลงกันที่ ๑๗ เปอร์เซ็นต์ ที่ ๔ บาท ทว่าใน ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือ เป็นการซื้อขายกันระหว่าง ชาวสวนกับลานเท ตรงนี้ต่างคนต่างโทษกันว่าเปอร์เซ็นต์ น�้ำมันไม่ถึง ซึ่งเป็นธรรมดาว่าชาวสวนปาล์มอยากได้ราคา สูงสุด และลานเทก็อยากท�ำก�ำไรจากการรวบรวมปาล์ม ส่งโรงงานสกัด” วั น ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นาย พี ร ะศั ก ดิ์ หิ น เมื อ งเก่ า เป็ น ประธานการ ประชุ ม ส่ ว นราชการที่ รั บ ผิ ด ชอบ ขอฟั ง ความคิ ด เห็ น จากตั ว แทนลานเทปาล์ ม น�้ำมัน ๒๑๓ แห่ง และโรงงานสกัดน�้ำมัน ปาล์ม ๔ โรง เพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหา ปาล์มน�้ำมันทั้งระบบ โดยมุ่งหาจุดร่วมเพื่อ ให้โรงาน ลานเท และเกษตรเกษตรกรอยู่ ได้ โดยที่ประชุมมีข้อสรุป คือ ขอความร่วม มือเจ้าของโรงงานสกัดน�้ำมันปาล์ม ลานเทรับซื้อปาล์ม ปฏิบัติตามประกาศส�ำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วย ราคาสินค้าและบริการ เรื่องราคารับซื้อผลปาล์มทะลาย และผลปาล์มร่วง และน�้ำมันปาล์มดิบแนะน�ำ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ส่วนเกษตรกรต้องไม่ตัดผลปาล์ม ดิบ/ปาล์มที่มีขนเม่นไปขาย ทั้งลานเทและเกษตรกรต้อง ไม่ฉีดน�้ำผลปาล์มก่อนขายให้โรงงาน และไม่มีการแยกลูก ร่วง ส่วนโรงงานก็ต้องไม่รับซื้อผลปาล์มดิบ และต้องชั่งรถ บรรทุกปาล์มก่อนเพื่อแก้ไขปัญหารถติดคิวชั่งเพราะหาก รอคิวชั่งน�้ำหนักนานจะท�ำให้น�้ำหนักปาล์มลดลง นายบริรักษ์ ชูสิทธิ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปาล์มน�้ำมัน/น�้ำมันปาล์ม เป็นสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ และ เป็ น สิ น ค้ า ชนิ ด เดี ย วที่ มี ก ฎหมายควบคุ ม ดู แ ลทั้ ง ระบบ ตั้งแต่การก�ำหนดให้ลานเท/โรงงานสกัดฯ ต้องปิดป้าย ราคารับซื้อ ดังนั้น ขอให้ลานเท/โรงงานติดป้ายราคารับ ซื้อในที่สามารถมองเห็นให้ชัดเจนด้วย ศูนย์วิจัยปาล์ม สุราษฎร์ธานี แจ้งว่า จากการวิจัยพบว่าหากเกษตรกร ตัดผลปาล์มสุกคือมีระยะนับตั้งแต่ดอกบานถึงเก็บเกี่ยว ประมาณ ๒๓ สัปดาห์ คือมีผลร่วงมากกว่า ๑๐ ผลต่อ ทลาย เมื่ อ น� ำ ไปสกั ด จะมี น�้ ำ มั น ในอั ต รามากกว่ า ๒๒ เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาอยู่ที่เกษตรกรตัดปาล์มดิบหรือ ปาล์มกึ่งสุกไปขาย ขณะที่โรงงานก็ยังรับซื้อปาล์มดิบจึง ท�ำให้ผลผลิตไม่มีคุณภาพ ซึ่งผลเสียจะตกอยู่กับเกษตรกร

นครศรีธรรมราช

หากทุกฝ่ายร่วมมือกันก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบ การโรงสกัดน�้ำมันปาล์ม ว่า ที่ประชุมขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการโรงสกัดน�้ำมันปาล์มในการก�ำหนดราคา รับ ซื้อผลปาล์มสดที่มีเปอร์เซ็นต์น�้ำมัน ๑๗ เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ ๔.๒๐ บาท ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกับที่ลาน เทรับซื้อ แต่ลานเทจะหักค่าใช้จ่ายในการน�ำไปส่งต่อให้ โรงสกัด ดังนั้น เกษตรกรจึงควรน�ำไปจ�ำหน่ายที่โรงสกัด โดยตรง เพื่อจะได้กิโลกรัมละ ๔.๒๐ บาท วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังเป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน�้ำมัน แห่งชาติ หรือ กนป. ว่า ที่ประชุมได้มีการวางแนวทาง การแก้ไขปัญหาปาล์มน�้ำมัน ออกเป็น ๓ ระยะ เพื่อวาง รากฐานการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน�้ำมัน โดยในระยะ เร่ ง ด่ ว น ที่ ป ระชุ ม ได้ อ นุ มั ติ ใ ห้ มี ก ารรั บ ซื้ อ ปาล์ ม ทลาย ผลสุกคุณภาพที่มีเปอร์เซ็นต์น�้ำมัน ๑๗ เปอร์เซ็นต์ ใน กิโลกรัมละ ๔.๒๐บาท หน้าโรงงานสกัด และจะมีการ เพิ่มราคาให้อีก ๓๐ สตางค์ หากคุณภาพของปาล์มมี เปอร์เซ็นต์มากกว่า ๑๗ เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในระยะกลาง จะมีการพิจารณาแก้ไขและหาแนวทางด�ำเนินการให้ได้ ภายใน ๓ เดือน ส่วนในระยะยาวนั้น ต้องหารือกันอีกครั้ง และจะต้องใช้เวลาในการด�ำเนินการ เพราะต้องศึกษาราย

หน้า ๙

ละเอียดของเนื้อหาเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาตามมาภาย หลัง นายอ�ำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ระบุ ว ่ า ที่ ป ระชุ ม มี ก ารเห็ น ชอบ หลักการที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เสนอให้ใช้งบ ประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วย เหลือเกษตรกร หรือ คชก. กว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท ในการ ไปรับซื้อน�้ำมันปาล์มดิบจากโรงสกัดมาไว้ในสต๊อก หาก ราคาของปาล์มน�้ำมันตกลง เพื่อพยุงราคาปาล์มน�้ำมันไว้ ที่ ๑๗ เปอร์เซ็นต์ ในราคา ๔.๒๐ บาท โดยจะเริ่มได้ต่อ เมื่อ คชก. เห็นชอบและอนุมัติวงเงิน นายเสรีย์ แป้นคง เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ใน ๒๓ อ�ำเภอ จังหวัดนครศรีธรรมราช มี เกษตรกรขึ้ น ทะเบี ย นผู ้ ป ลู ก ปาล์ ม น�้ ำ มั น ๒๗,๓๐๘ ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูก ๓๗๐,๔๖๐ ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต ๓๓๒,๕๓๘ ไร่ ผลผลิต ๙๙๒,๓๕๓ ตัน แปลงปลูกมีการ จับ GPS และทุกแปลงต้องมีเอกสารสิทธิ์ ปัญหาปาล์มน�้ำมันของจังหวัดนครศรีธรรมราชส่วน หนึ่งเกิดจากนักลงทุนไม่สามารถเข้ามาตั้งโรงงานน�้ำมัน ปาล์มเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการต่อต้านด้านสิ่งแวดล้อมและ เรื่องผังเมืองที่ต้องปรับแก้กันซึ่งต้องใช้เวลา เกษตรกร ชาวสวนปาล์มคาดหวังว่าถ้าหากมีพระราชบัญญัติปาล์ม น�้ำมันและน�้ำมันปาล์มแห่งชาติจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ปัจจุบันหากกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถผลักดันให้ราคา ปาล์ ม ยื น อยู ่ ที่ กิ โ ลกรั ม ละ ๕ บาท เครื่อข่ายเกษตรกร ปาล์มทั่วประเทศก็คงกดดัน รัฐบาลต่อไป (ข้อมูล : จังหวัดนครศรีธรรมราช, ผู ้ จั ด การออนไลน์ , ประชาชาติ ออนไลน์ , ข่ า วสด และสมาคม ปาล์ ม น�้ ำ มั น จั ง หวั ด นครศรี ธรรมราช)

รายงาน กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของประชาชน หรือ สคบ. สัญจร ซึ่งแบ่งกลุ่มลงตรวจใน สถานประกอบการในพื้นที่อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่ การตรวจฉลากสินค้าที่ควบ คมฉลาก ในร้านจ�ำหน่ายทองรูปพรรณ ร้านจ�ำหน่าย ข้าวสารบรรจุถุง และร้านจ�ำหน่ายสังฆทาน จ�ำนวน ๑๓ แห่ง, การตรวจฉลากสินค้าที่ควบคุมโฆษณา ใน ห้างสรรพสินค้า ๔ แห่ง, การตรวจสอบธุรกิจที่ควบคุม สัญญาและหลักฐานการรับเงิน ๑๑ แห่ง รวมถึง ตรวจ สอบธุรกิจขายตรง ๓ แห่ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบผู้ ประกอบการธุรกิจทั้ง ๔ กลุ่ม ไม่พบการการกระท�ำผิด ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคแต่อย่างใด นายสมเกียรติ จันหนู กล่าวว่า การตรวจครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่ให้ค�ำแนะน�ำ สร้างความเข้าใจ และ กระตุ้น ในการรักษาสิทธิแก่ผู้บริโภค ที่จะต้องตรวจ สอบคุณภาพสินค้าก่อนซื้อและใช้ช่องทาง สคบ. ใน การร้องเรียนหากถูกเอาเปรียบและให้ผู้ประกอบการ

จ� ำ หน่ า ยสิ น ค้ า และบริ ก ารให้ ด� ำ เนิ น กิ จ การตามกฎหมาย สคบ. โดยเฉพาะการติดป้ายแสดงราคาสินค้า นายประยง เฉลิมทิศ นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติ การ ส�ำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าว ขณะลงพื้ น ที่ ต รวจสอบธุ ร กิ จ ที่ ค วบคุ ม สั ญ ญาและ หลั ก ฐานการรั บ เงิ น ว่ า ส� ำ หรั บ โครงการตรวจตรวจ สอบผู ้ ป ระกอบธุ ร กิ จ เพื่ อ การคุ ้ ม ครองผู ้ บ ริ โ ภคครั้ ง นี้เป็นโครงการ สคบ. สัญจร ๓ จังหวัด คือ จังหวัด สุ ร าษฎร์ ธ านี นครศรี ธ รรมราชและจั ง หวั ด ตรั ง เพื่ อ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรับรู้รับทราบกฎหมาย สคบ. โดยการตรวจเรื่องตัวสัญญาจองรถและหลักฐาน การรับเงิน การบริการ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ด�ำเนินการอย่างถูกต้อง ส�ำหรับบริษัทใดที่ยังปฏิบัติไม่ ถูกต้องในเรื่องข้อมูลเอกสารทางคณะกรรมการแนะน�ำ ให้ ด� ำ เนิ น การแก้ ไ ข เช่ น ระบบการบริ ก ารของศู น ย์ บริการอะไหล่ยังด�ำเนินการไม่เป็นระบบว่าเป็นอะไหล่ ใหม่ หรือ อะไหล่เก่า โดยได้ด�ำเนินการแจ้งให้มีการ แก้ไขปรับปรุงต่อไป (กรมประชาสัมพันธ์)


หน้า ๑๐

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย! ชาย เทวดาอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา อย่างนี้แล.

หบดีและคหปตานีทั้งหลาย การอยู่ ร่วม ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็น อย่างไรเล่า ? คือ :๑. ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผี ๒. ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา ความตระหนี่ครอบง�ำ ด่าและบริภาษสมณ ๓. ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผี ๔. ชายเทวดา อยูร่ ว่ มกับหญิงเทวดา พราหมณ์อยู่ครองเรือน. คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย ! ชายผี คหบดี แ ละคหปตานี ทั้ ง หลาย! ก็ อยู่ร่วมกับหญิงผี อย่างนี้แล. ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผีอย่างไร ? คหบดี แ ละคหปตานี ทั้ ง หลาย! ก็ สามี ใ นโลกนี้ เ ป็ น ผู ้ มั ก ฆ่ า สั ต ว์ ลั ก ทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่ม ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงเทวดาอย่างไร ? สามีในโลกนี้เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ ฯลฯ น�้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความประมาท เป็นคนทุศีล มีบาปธรรม ด่ า และบริ ภ าษสมณพราหมณ์ อยู ่ ค รอง มีใจอันมลทิน คือความตระหนี่ครอบง�ำ เรือน ส่วนภรรยาของเขาเป็นผู้งดเว้นจาก ด่าและบริภาษสมณพราหมณ์ อยู่ครอง การฆ่ า สั ต ว์ จากการลั ก ทรั พ ย์ จากการ เรือน แม้ภรรยาของเขาก็เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ ประพฤติผิดในกาม จากการพูดเท็จ จาก ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ฯลฯ เป็น การดื่ ม น�้ ำ เมา คื อ สุ ร าเมรั ย อั น เป็ น ที่ ตั้ ง คนทุ ศี ล มี บ าปธรรม มี ใ จอั น มลทิ น คื อ แห่งความประมาท มีศีลมีกัลยาณธรรม มี

คหบดี แ ละคหปตานี ทั้ ง หลาย! การอยู่ร่วม ๔ ประการอย่างนี้แล. ภรรยาและสามี ทั้ ง สองเป็ น ผู ้ ทุ ศี ล เป็ น คนตระหนี่ มั ก ด่ า ว่ า สมณพราหมณ์ ชื่อว่าเป็นผีมาอยู่ร่วมกัน. สามีเป็นผู้ทุศีล มีความตระหนี่ มัก ด่าว่าสมณพราหมณ์ ส่วนภรรยาเป็นผู้มี ศีล รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจาก ใจปราศจากมลทิน คือความตระหนี่ ไม่ด่า ความตระหนี่ ภรรยานั้นชื่อว่าเทวดาอยู่ ไม่บริภาษสมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน. ร่วมกับสามีผี. คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย ! ชายผี สามีเป็นผู้มีศีล รู้ความประสงค์ของ อยู่ร่วมกับหญิงเทวดา อย่างนี้แล. ผู้ขอปราศจากความตระหนี่ ส่วนภรรยา คหบดี แ ละคหปตานี ทั้ ง หลาย! ก็ เป็นผู้ทุศีล มีความตระหนี่ มักด่าว่าสมณ พราหมณ์ ชื่ อ ว่ า หญิ ง ผี อ ยู ่ ร ่ ว มกั บ สามี ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผีอย่างไร ? สามีในโลกนี้เป็นผู้งดเว้น จากการฆ่า เทวดา. สัตว์ ฯลฯ อยู่ครองเรือน ส่วนภรรยาของ ทั้ ง สองเป็ น ผู ้ มี ศ รั ท ธา  รู ้ ค วาม เขาเป็นผู้มักฆ่าสัตว์ ฯลฯ ด่าและบริภาษ ประสงค์ ของผู ้ ข อมี ค วามส� ำ รวม เป็ น สมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน. คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย ! ชาย อยู่โดยธรรม ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น เจรจาถ้อยค�ำที่น่ารักแก่กันและกัน ยอ่ม เทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผี อย่างนี้แล. มีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก คหบดี แ ละคหปตานี ทั้ ง หลาย! ก็ ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ชายเทวดาอยูร่ ว่ มกับหญิงเทวดาอย่างไร ? ไม่มีใจร้ายต่อกัน ครั้นประพฤติธรรม ใน สามีในโลกนี้เป็นผู้งดเว้น จากการฆ่า โลกนี้ แ ล้ ว ทั้ ง สองเป็ น ผู ้ มี ศี ล และวั ต ร สัตว์ ฯลฯ ไม่ด่าไม่บริภาษสมณพราหมณ์ เสมอกั น ย่ อ มเป็ น ผู ้ เ สวยกามารมณ์ อยู่ครองเรือน แม้ภรรยาของเขาก็เป็นผู้งด เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก. เว้น จากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ ไม่ด่า ไม่บริภาษ จตุกฺก. อํ. ๒๑/๗๔/๕๓. สมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

หน้า ๑๑

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์

“พ

ระบรมธาตุ เ จดี ย ์ น ครศรี ธ รรมราช” ถื อ กั น ว่ า เป็ น เจดี ย ์ ใ หญ่ ที่ เ รี ย กกั น ว่ า “จอมเจดี ย ์ ” ๑ ใน ๘ ของประเทศไทย ประวั ติ ศ าสตร์ ก ารสร้ า งนั้ น ชาวนครและผู้สนใจเรื่องประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช และประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในประเทศไทยคงจะรู้กันพอ สมควรแล้ว แต่เรื่องพระบรมธาตุเจดีย์สร้างโดยกษัตริย์ สามอาณาจั ก ร น่ า จะเป็ น เรื่ อ งใหม่ ที่ ท ้ า ทายผู ้ อ ่ า นและ สนใจพอควร ฉบับนี้จึงน�ำเรื่องนี้มาเสนอเพื่อเป็นประเด็น ค�ำถามที่ท้าทาย จากหลั ก ฐานทางประวั ติ ศ าสตร์ โ บราณคดี เ ชื่ อ ได้ ว่ า พระบรมธาตุ น ครศรี ธ รรมราชเป็ น สถู ป เจดี ย ์ ที่ ไ ด้ รั บ อิ ท ธิ พ ลพระพุ ท ธศาสนาเถรวาทลั ง กาวงศ์ สร้ า งขึ้ น ราว พ.ศ.๑๗๑๙ (หรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘) ขณะนั้น พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทในลังกาเจริญมาก ภิกษุพม่า มอญ และไทย (รวมทั้ ง นครศรี ธ รรมราช) จึ ง ไปศึ ก ษา พระธรรมวิ นั ย ที่ นั่ น เมื่ อ เดิ น ทางกลั บ ก็ ชั ก ชวนภิ ก ษุ และช่างชาวลังกามาตั้งคณะสงฆ์ และสร้างสถูปเจดีย์ขึ้น ที่หาดทรายแก้ว โดยใช้แบบสถูปเจดีย์ “รุวัลเวริเสยะ” มาเป็ น แนวในการสร้ า ง เป็ น เหตุ ใ ห้ พ ระพุ ท ธศาสนา เถรวาทลั งกาวงศ์ เติ บ โตขึ้ น ในดิ น แดนคาบสมุ ท รเอเชี ย ตะวันออกเฉียงใต้ ก่ อ นหน้ า จะมี พ ระบรมธาตุ เ จดี ย ์ ขึ้ น (คื อ ในราว พุทธศตวรรษที่ ๑๗) ชุมชนนครศรีธรรมราชเจริญรุ่งเรื่อง ในชื่อ “ตมลิ ง คะ (Tamlinga)” หรือ “ตามพรลิ ง ค์ ” ซึ่งแปลว่า “ศิวลึงค์ทองแดง” พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เริ่ ม ปฏิ เ สธอ� ำ นาจของศรี วิ ชั ย ซึ่ ง นั บ ถื อ พุ ท ธศาสนา มหายาน ในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ปรากฏหลักฐาน ของจีนกล่าวถึงคณะทูตจาก “ต่านหม่าลิง” (หรือตามพรลิ ง ค์ ) ไปถวายบรรณาการต่ อ ราชส� ำ นั ก จี น ใน พ.ศ. ๑๖๑๓ และจารึ ก ลั ง กาสมั ย โปโลนนานุ ว ะให้ ข ้ อ มู ล ว่ า พระเจ้ า วิ ก รมพาหุ ที่ ๑ ซึ่ ง ครองราชย์ ใ น พ.ศ.๑๖๕๔๑๖๗๕ ได้ ท รงพระอนั น ทเถระเป็ น สมณทู ต ไปประกาศ พระพุทธศาสนาเถรวาทส�ำนักมหาวิหารที่ตามพรลิงค์ ซึ่ง นับเป็นหลักฐานลายลักษณ์ที่ส�ำคัญของการประดิษฐาน พระพุทธศาสนาเถรวาทที่นครศรีธรรมราช นอกจากนี้จารึก พุกามซึ่งจารขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๗๓๙ ได้กล่าวว่า พ.ศ.๑๗๑๙ พระเจ้านรปติสิทธูโดยความเห็นชอบของกษัตริย์ลังกาได้ เดินทางจากเมืองพะโคมาตั้งเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ และมีการสถาปนาพระสังฆราชของเมืองด้วย ในประเด็น นี้สะท้อนให้เห็นว่าการประดิษฐานพระพุทธศาสนาแบบ เถรวาทในนครศรีธรรมราชทีความสัมพันธ์กับอาณาจักรที่ รุ่งเรืองอยู่ในช่วงเวลานั้นทั้งสองอาณาจักร คือ ลังกาและ พุกาม นอกจากนี้ยังพบจารึกภาษามอญโบราณที่มีอายุราว พุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่าง เมืองนครศรีธรรมราชกับเมืองพะโคด้วย เหตุดังนี้จึงเชื่อ ได้ว่าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช (องค์ที่เห็นอยู่

ในปัจจุบัน) น่าจะสร้างในช่วง พ.ศ. ๑๗๑๙ ในสมัยพระเจ้า ศรีธรรมาโศกราชซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปทุมวงศ์ ผู้ปกครองอาณาจักรนครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) ถ้าเป็นเช่นที่กล่าวตามหลักฐานข้างต้น ก็แสดงให้เห็น ว่าการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ที่หาดทรายแก้วในช่วงต้น พุทธศตวรรษที่ ๑๘ (ราว พ.ศ.๑๗๑๙) เป็นการสร้างจาก ความร่วมมือของกษัตริย์สามอาณาจักรในคาบสมุทรเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้และคาบสมุทรอินเดีย คือ ๑. พระเจ้ า ปรากรมพาหุ (พ.ศ.๑๖๙๖-๑๗๒๙) กษัตริย์แห่งลังกาซึ่งครองราชย์โปโลนนาลุวะ เกียรติคุณ ของพระองค์ ต ่ อ พระพุ ท ธศาสนาที่ จั ด ว่ า ยิ่ ง ใหญ่ ม ากก็ คื อ การสร้ า งสถู ป เจดี ย ์ “กิ ริ เ วเหระ” ที่ เ มื อ งโปโลนนา ลุ ว ะ สถู ป เจดี ย ์ นี้ น ่ า จะเป็ น แรงผลั ก ดั น ให้ เ กิ ด การสร้ า ง พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ซึ่งต�ำนานพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราชระบุว่าสร้างในเวลาไล่เลี่ยกัน ๒. พระเจ้านรปติสิทธู (พ.ศ.๑๗๑๐-๑๗๒๕) กษัตริย์ แห่งพม่าซึ่งครองราชย์ที่พุกาม จารึกและพงศาวดารหลาย ฉบับกล่าวถึงการประดิษฐานพระพุทธศาสนาลังกางวศ์ใน พุกาม ว่ามีเรื่องราวคล้ายกับการประดิษฐานพระพุทธศาสนา ลังกาวงศ์ในนครศรีธรรมราช ๓. พระเจ้ า ศรี ธ รรมาโศกราช ปฐมกษั ต ริ ย ์ ร าชวงศ์ ปทุ ม วงศ์ ที่ ท รงรั บ พระพุ ท ธศาสนาลั ท ธิ ลั ง กาวงศ์ จ ากศรี ลังกาแล้วสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ที่หาดทรายแก้ว เมื่อ พ.ศ. ๑๗๑๙ จากหลักฐานข้างต้น จึงท�ำให้เราพอจะเห็นได้ชัดขึ้น

มาระดั บ หนึ่ ง ว่ า พระบรมธาตุ เ จดี ย ์ อ งค์ นี้ น ่ า จะเป็ น ผล งานความร่ ว มมื อ ในการสร้ า งสถู ป ใหญ่ ส� ำ หรั บ ประกาศ พระศาสนาขึ้นในดินแดนภาคใต้ อันถือได้ว่าเป็นการสร้าง แบบ “สามประสาน” ระหว่าง “สามอาณาจักร” (คือ ลังกา พุกาม และนครศรีธรรมราช) ในราว พ.ศ.๑๗๗๓ อั น ป็ น ช่ ว งเวลาที่ พ ระเจ้ า จั น ทรภาณุ ไ ด้ ขึ้ น ครองราชย์ ทรงประกาศถึ ง ความเข้ ม แข็ ง ของตามพรลิ ง ค์ และปฏิ เ สธความสั ม พั น ธ์ กั บ ศรี วิ ชั ย อย่ า งชั ด เจน และประกาศพระนามในจารึ ก ว่ า “ธรจนทรภาณุปาธิ ศรีธรรมราช” ครั้นใน พ.ศ.๑๗๘๙ และ พ.ศ.๑๗๙๓ เสด็จยาตราทัพไปโจมตีลังกาถึงสอง ครั้งเพื่อไปอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วและพระพุทธสิหิงค์มา ประดิษฐานที่อาณาจักรนครศรีธรรมราช คงไม่ เ ป็ น การกล่ า วเกิ น ความจริ ง เลยว่ า พระบรม ธาตุ น ครศรี ธ รรมราชเป็ น ปั จ จั ย หลั ก ของการสถาปนา “อาณาจักรนครศรีธรรมราช” เมื่อพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ซึ่ ง เจริ ญ รุ ่ ง เรื อ งสู ง สุ ด ในช่ ว งพุ ท ธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ มี เ มื อ งสิ บ สองนั ก ษั ต รร้ อ ยรั ด ด� ำ รงอยู ่ จ ดแหลมมลายู ด้ ว ยดุ ล ยภาพและสั ม พั น ธภาพทางพุ ท ธศาสนาและ จริ ย ธรรมโดยมี พ ระบรมธาตุ เ จดี ย ์ อ งค์ นี้ เ ป็ น ตั ว แทน อาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพุทธานุภาพเป็นระบบตาม ศรัทธา มีธรรมานุภาพเป็นระบบการปกครอง จนกล่าว ได้ว่าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชคือ มรดกธรรมที่ สั่งสมอยู่บนดินแดนคาบสมุทรไทยกว่า ๘๐๐ ปีแล้ว


หน้า ๑๒

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

เรียบเรียงโดย นพ.ทฎะวัฏร์ พิลึกภควัต จิ ต แพทย์ เ ด็ ก และวั ย รุ ่ น

http://www.tammikaclinic.com/a23.php

อย่างไรจึงจะสงสัย ? • มีพัฒนาการช้าหลายๆ ด้านมาตั้ง แต่เล็กๆ (เช่น เดิน พูดล่าช้ากว่าวัยที่ควร ท�ำได้) • ระดั บ ความสามารถและการ เรี ย นรู ้ ช ้ า กว่ า เด็ ก ในวั ย เดี ย วกั น (โดยที่ แน่ใจว่าเด็กได้รับการกระตุ้น สอน และ เปิดโอกาสให้ได้ฝึกฝนอย่างเพียงพอตาม ความเหมาะสมกับวัยแล้ว) • ถ้าเด็กวัยเรียนก็มักจะเรียนอ่อน พอๆ กันในทุกๆ วิชา ตรวจสอบอย่างไรว่าเป็น? หากสงสั ย ว่ า เด็ ก มี ภ าวะบกพร่ อ ง ทางเชาวน์ปัญญา ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขใกล้บ้านของท่าน เพื่อแนะน�ำ ส่ ง ต่ อ มาพบแพทย์ เ พื่ อ ประเมิ น และ ให้การวินิจฉัยอย่างถูกต้อง นอกจากการ ซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นแล้ว แพทย์จะส่งตรวจวัดระดับเชาวน์ปัญญา (ไอคิ ว ) ด้ ว ยแบบทดสอบมาตรฐาน ซึ่ ง ทดสอบโดยนั ก จิ ต วิ ท ยา สามารถแบ่ ง ระดับคะแนนออกมาได้ดังนี้ คะแนน ≥ ๑๓๐ ๑๒๐-๑๒๙ ๑๑๐-๑๑๙ ๙๐-๑๐๙ ๘๐-๘๙ ๗๐-๗๙ < ๗๐

อยู่ระดับ ฉลาดมาก ฉลาด สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ค่าเฉลี่ยปกติ ต�่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ คาบเส้น บกพร่องเชาวน์ปัญญา

และในกลุ ่ ม ที่ บ กพร่ อ งทางเชาวน์ ปั ญ ญา แบ่ ง ความรุ น แรงตามระดั บ คะแนน ดังนี้

เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ? มี ทั้ ง ทราบสาเหตุ แ ละไม่ ท ราบ สาเหตุ หากเป็ น ระดั บ รุ น แรงน้ อ ย ซึ่ ง เป็นกลุ่มที่พบมากที่สุด มักไม่ทราบสาเหตุ แต่ ก ลุ ่ ม ที่ ท ราบสาเหตุ เกิ ด จากสาเหตุ ต่ อ ไปนี้ เช่ น มารดามี ภ าวะแทรกซ้ อ น ระหว่างการตั้งครรภ์ และการคลอด, กลุ่ม อาการต่างๆ เช่น ดาวน์ซินโดรม, มีความ ผิดปกติทางสมองที่เกิดขึ้นภายหลัง เช่น การติ ด เชื้ อ ในสมอง อุ บั ติ เ หตุ ท างศี ร ษะ เป็นต้น จะช่วยเหลือ รักษาได้อย่างไร ? • ภาวะบกพร่องทางเชาวน์ปัญญา ไม่มียารักษาเฉพาะโรค ใช้ยาในกรณีที่มี ภาวะร่วม เช่น เป็นโรคสมาธิสั้น อารมณ์ ผิดปกติ • เด็กควรได้รับการประเมิน ส่งต่อ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม

www.huffingtonpost.com

ด็กชายก้อง อายุ ๘ ปี อยู่ ป.๒ ครูบอก ว่ายังอ่าน เขียนไม่คล่อง ท�ำงานช้า สอบ ตกวิชาหลักทุกวิชา ครูเคยให้ซ�้ำชั้น ป.๑ หนึ่ ง ปี เวลาถามอะไรก้ อ งจะคิ ด นาน เข้ า ใจช้ า กั บ หลายๆ เรื่ อ ง แก้ ป ั ญ หาไม่ ค่อยเป็น ก้องไม่ค่อยมีเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ก้องชอบเล่นกับน้อง ป.๑ มากกว่า ภาวะบกพร่ อ งทางเชาวน์ ป ั ญ ญา คืออะไร? ภาวะบกพร่ อ งทางเชาวน์ ป ั ญ ญา หรือ ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา หรือ สมัยก่อนเรียกว่าปัญญาอ่อน คือ ภาวะที่ มีระดับเชาวน์ปัญญาต�่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่าง มีนัยส�ำคัญ (ไอคิวน้อยกว่า ๗๐ คะแนน) ร่ ว มกั บ มี ค วามสามารถในการปรั บ ตั ว บกพร่ อ ง อย่ า งน้ อ ย ๒ ด้ า นของความ สามารถต่อไปนี้ คือ การสื่อสาร การดูแล ตนเอง การด�ำรงชีวิตในบ้าน ทักษะทาง สังคม การใช้สาธารณสมบัติ การควบคุม ตนเอง ทักษะด้านวิชาการที่จ�ำเป็น การ ท� ำ งาน การพั ก ผ่ อ น และสุ ข ภาพและ ความปลอดภัย โดยต้องเริ่มมีอาการก่อน อายุ ๑๘ ปี

• ในรายที่เป็นเด็กเล็ก การฝึกกระตุ้นพัฒนาการเป็นสิ่งส�ำคัญมากที่จะช่วย ให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ • ในเด็กวัยเรียน ควรดูแลช่วยเหลือ เรื่องการเรียนรายบุคคล กับทางโรงเรียน วางแผนเกี่ยวกับการศึกษา และอาชีพใน อนาคต • ควรฝึ ก ฝนเรื่ อ งทั ก ษะชี วิ ต การ ดูแลตนเอง การดูแลความปลอดภัย การ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ หากพ่อแม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ หมั่นฝึกฝน ไม่เลี้ยงดูแบบปกป้อง ตามใจเกินไป จะ ช่วยให้ลูกพัฒนาศักยภาพได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนอาจพัฒนาไปได้ใกล้เคียงกับคนปกติก็ เป็นได้ • ภาวะนี้ ส ามารถขึ้ น ทะเบี ย นผู ้ พิ ก ารทางสติ ป ั ญ ญาได้ โดยสามารถขอ เอกสารรั บ รองความพิ ก ารได้ จ ากสถาน พยาบาลของรัฐ


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

ารเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นในการ จัดผังเมืองรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ มี ประชาชนจากอ�ำเภอท่าศาลาและอ�ำเภอ หัวไทร แสดงการคัดค้านในประเด็นการ เปิ ด ให้ มี พื้ น ที่ เ อื้ อ ต่ อ การให้ โ รงงานและ สถานเก็บเคมีภัณฑ์อันตรายในพื้นที่อ�ำเภอ ท่ า ศาลา และเอื้ อ ต่ อ การสร้ า งโรงงาน ไฟฟ้ า พลั ง งานความร้ อ น (พลั ง งานจาก ถ่ า นหิ น ) ที่ อ� ำ เภอหั ว ไทร ซึ่ ง อาจส่ ง ผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง (โดยรองอธิบดี) ร่วมกับ จังหวัดนครศรีธรรมราช (โดยผู้ว่าราชการ จั ง หวั ด ) ผู ้ จั ด การประชุ ม ไม่ ส ามารถให้ ค� ำ ตอบได้ จ นต้ อ งยุ ติ ก ารเปิ ด เวที ผู ้ ว ่ า ราชการจังหวัดได้ชี้แจงว่า ประชาชนได้ มี ก ารน� ำ เอาประเด็ น บั ญ ชี แ นบท้ า ยการ แก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ ไ ด้ ป ระกาศเมื่ อ ๒ เดื อ นที่ แ ล้ ว ขึ้ น มา แต่เวทีนี้เป็นประเด็นใหม่ในการที่จะเสนอ ร่ า งขึ้ น ใหม่ เ พื่ อ ใช้ แ ทนผั ง เมื อ งรวมที่ จะต้ อ งใช้ จ นครบก� ำ หนดข้ อ บั ง คั บ ของ กฎหมายผั ง เมื อ งเพื่ อ น� ำ ไปสู ่ ก ารพั ฒ นา เมือง ส่วนผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนมองว่ า ภาคประชาชนไม่ ไ ด้ คั ด ค้ า น การร่ า งผั ง เมื อ งใหม่ แต่ ผู ้ ที่ แ ก้ ป ระกาศ เป็นแค่คณะกรรมการกลุ่มหนึ่งเพียงไม่กี่ คน (ความจริงมีกระบวนการทางการจัด ท�ำผังเมืองมากกว่านั้นครับ) และกังวลว่า จะเปิดโอกาสให้ตั้งโรงงานที่พึงประสงค์ แต่ไม่ได้คัดค้านการพัฒนา เช่นโรงไฟฟ้า พลั ง งานจากบ่ อ ขยะ ซึ่ ง ควรระบุ ใ ห้ ชั ด ส่ ว นตั ว ผมเองนั้ น เข้ า ใจความรู ้ สึ ก ของ ภาคประชาชนเจ้าของพื้นที่ และเห็นใจ ผู้ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ในภาครัฐที่ต้อง สนองความต้ อ งการของภาคประชาชน โดยต้องมีการพัฒนาเมืองไปข้างหน้าที่จะ หยุดไม่ได้ เลยต้องมาตั้งโจทย์กันใหม่ ใน กระบวนการจัดท�ำผังเมืองทั้งระดับจังหวัด และระดับอ�ำเภอว่ามันควรจะท�ำอย่างไร มุมมองของผมเห็นว่าการเริ่มต้นโดย การให้มีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนได้เสียเป็น เรื่องส�ำคัญมาก ตั้งโจทย์แรกว่าประชาชน คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ต้องการอะไร และส่ง ผลต่อมิติต่างๆ ของความเป็นอยู่อย่างไร เช่ น มิ ติ ท างวิ ถี ชี วิ ต (อาชี พ ความเป็ น

นครศรีธรรมราช

อยู่) มิติทางสังคม (วัฒนธรรม ศาสนา) มิติทางสิ่งแวดล้อม (มลภาวะต่างๆ) ฯลฯ คงไม่ มี ใ ครในชุ ม ชนที่ ต ้ อ งการสิ่ ง ที่ ม า เปลี่ยนแปลงอะไรแล้วความเป็นอยู่แย่กว่า เดิ ม แน่ น อน แต่ ใ นขณะเดี ย วก็ มี มิ ติ ท าง เทคโนโลยีและวิชาการที่มาช่วยให้ความ เป็นอยู่ดีขึ้น โดยต้องไม่กระทบต่อความ ต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือกระทบ น้อยที่สุด ฟังดูเหมือนโจทย์จะยาก แต่หาก เริ่มต้นถูกทางแล้วจะสอดคล้องกันเสมอ ผมเองเคยเขียนบทความกรณีตัวอย่างมา หลายครั้งลงในหนังสือพิมพ์นี้ มักจะพูด ถึงการขอมีส่วนรับรู้ของประชาชนก่อนที่ จะจัดท�ำโครงการสาธารณะของรัฐ โดย ไม่ ต ้ อ งเกรงว่ า ประชาชนจะไม่ มี ค วามรู ้ หรือจะคัดค้าน เพราะเป็นพื้นฐานเบื้อง ต้นในการร่วมกันรับผิดชอบต่อบ้านเมือง

หากผิดพลาดเสียหายประชาชนเท่านั้นที่ จะเป็นผู้รับเคราะห์ ส่วนภาครัฐก็อาจแค่ เปลี่ยนแปลงบุคคลที่ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ผมน� ำ เรื่ อ งเก่ า มาเล่ า ใหม่ ใ นการมี ส่ ว นร่ ว มของภาคประชาชนที่ ตั้ ง กั น เอง เช่ น ชมรมรั ก บ้ า นเกิ ด นครศรี ธ รรมราช ชมรมรั ก คลอง ชมรมรั ก พระบรมธาตุ ฯลฯ ที่ ไ ด้ แ สดงความคิ ด เห็ น จนมี ก าร เปลี่ยนแปลงในบางเรื่อง เช่น สนามหน้า เมือง สวนสาธารณะศรีธรรมโศกราช การ เสนอให้สายไฟฟ้าริมถนนลงใต้ดินในเขต เมืองเก่า เป็นต้น แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่ชาว เมื อ งยั ง ไม่ ท ราบจนสร้ า งเสร็ จ เรี ย บร้ อ ย แล้ว แม้ว่าจะเป็นเรื่องทางวิชาการก็ตาม เช่น การมีท่อระบายน�้ำใหญ่จากบ้านเรือน แยกออกจากการระบายน�้ำที่มาจากธรรมชาติโดยฝังไว้ใต้คลองไม่ปนกัน การสร้าง ผนังคอนกรีตสูงท่วมหัวที่คลองท่าวังเพื่อ ป้องกันน�้ำเอ่อล้นเข้ามาบนถนนสายท่าโพธิ์ การจัดท�ำซุ้มตกแต่งคล่อมถนนแต่ละ พื้นที่ เป็นต้น ผมคงไม่วิจารณ์ความถูกผิด หรือความพอใจหรือไม่ แต่มีคนตั้งค�ำถาม ถึงผมเสมอๆ ในเรื่องเหล่านี้ที่ผมตอบไม่ ได้ เพราะไม่ใช่เป็นผู้รับผิดชอบ ต้องให้ไป ถามหน่วยงานรับผิดชอบกันเอง ปัญหาการพัฒนาเมืองที่เมืองหลวง คือกรุงเทพมหานครมีมากและซับซ้อนกว่า เรามาก แต่เขาก็โชคดีที่มีกลุ่มนักวิชาการ และนักวิชาชีพต่างๆ เช่น สถาปนิก นัก ผั ง เมื อ ง นั ก ภู มิ ทั ศ น์ นั ก สั ง คม ทั้ ง ส่ ว น บุ ค คลและสถาบั น มาช่ ว ยกั น คิ ด อย่ า งมี กระบวนการโดยมี ส ่ ว นร่ ว มจากชุ ม ชน

หน้า ๑๓

การขอมีส่วนรับรู้ของประชาชน ก่อนที่จะจัดท�ำโครงการสาธารณะของรัฐ โดยไม่ต้องเกรงว่าประชาชนจะไม่มีความรู้ หรือจะคัดค้าน เพราะเป็นพื้นฐานเบื้องต้น ในการร่วมกันรับผิดชอบต่อบ้านเมือง หากผิดพลาดเสียหาย ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นผู้รับเคราะห์ ส่วนภาครัฐก็อาจแค่เปลี่ยนแปลงบุคคล ที่ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

เช่ น เริ่ ม จากประชาคมห้ ว ยขวาง จน ขยายวงเป็ น ประชาคมต่ า งๆ มากมาย เชื่อมเป็นเครือข่ายกัน และมีพลังมากใน การต่ อ รองกั บ ภาครั ฐ เช่ น การพั ฒ นา คลองให้เ ป็น เส้ น ทางคมนาคมทางเลือ ก ที่ มี คุ ณ ภาพ การเปลี่ ย นแนวเส้ น ทาง เดินรถไฟฟ้าผ่านชุมชน การแสดงความ คิดเห็นคัดค้านสร้างทางเดินเลียบแม่น�้ำ เจ้าพระยาที่ใหญ่จนเกินไปใช้งบประมาณ ถึ ง ๑.๔ หมื่ น ล้ า นบาท การขอให้ ก าร รถไฟพิจารณาที่ดินรถไฟที่มักกะสันให้เป็น สวนสาธารณะ มากกว่าหาผลประโยชน์ เป็ น ห้ า งสรรพสิ น ค้ า (สั ด ส่ ว นพื้ น ที่ ส วน สาธารณะซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น ปอดของเมื อ งใน กรุ ง เทพฯ ยั ง น้ อ ยกว่ า เกณฑ์ ม าตรฐาน มาก) กรณีตัวอย่างเหล่านี้ก็ต้องมีแกนน�ำ ที่มีความรู้ (ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นนักวิชาการ อาจเป็ น ใครหรื อ หน่ ว ยงานที่ รั บ ผิ ด ชอบ โดยตรงก็ได้) ในการช่วยคิดเบื้องต้นตาม กระบวนการตั้ ง โจทย์ ใ ห้ ถู ก ต้ อ งที่ ก ล่ า ว แล้วข้างต้น จนความคิดตกผลึกจึงจะมา ถึงการจัดท�ำเป็นโครงการจริงแล้วน�ำมาท�ำ ประชาพิจารณ์เพื่อขัดเกลาอีกครั้ง แม้ว่า อาจต้ อ งใช้ เ วลามากแต่ ก็ มี ค วามจ� ำ เป็ น แต่ในภาคประชาชนเองก็ต้องเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็นต่างจากทุกฝ่าย เพราะยัง มี ห ลายเรื่ อ งที่ เ ราเองยั ง ไม่ มี ค วามรู ้ ห รื อ ประสบการณ์มากพอ และมีอีกหลายมิติ ที่เข้าใจไม่ตรงกัน มิฉะนั้นเราจะเดินต่อไป ข้างหน้าได้ยาก

ผมขอมี ส ่ ว นร่ ว มในการสร้ า งกระบวนการเพื่อพัฒนาเมืองดังนี้ครับ (แม้ว่า จะไม่เป็นไปตามระบบราชการ) ๑. สร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนต่างๆ ในทุกมิติ (จะโดยใครหรือหน่วยงานไหน ก็ตาม) จนน�ำไปสู่การสร้างความต้องการ ที่แท้จริงของชุมชน ๒. น�ำเสนอความต้องการของชุมชน ต่อหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ และหน่วย งานๆ นั้นจะต้องให้ความส�ำคัญแม้ว่าเป็น โครงการเล็กๆ ก็ตาม ท�ำได้หรือไม่ได้ยัง ไม่ควรเก็บเข้าลิ้นชัก ๓. หน่ ว ยรั ฐ น� ำ ข้ อ เสนอจากชุ ม ชน ต่างๆ มารวมกันเพื่อบูรณาการเป็นโครงการเครือข่าย โดยอาศัยนักวิชาการหรือ ผู ้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ม าช่ ว ย ไม่ ใ ช่ คิ ด กั น เองใน หน่วยงานเท่านั้น ๔. การตั้งโครงการ ควรให้ผู้ที่มีส่วน ได้เสียเข้ามาร่วมตั้งแต่เป็นร่างเบื้องต้น คิดจนตกผลึกจึงเขียนออกมาเป็นโครงการ ที่ จ ะสร้ า งจริ ง และเข้ า สู ่ ก ระบวนการ เสนอภาครัฐตามระเบียบหรือข้อกฎหมาย ต่อไป ผมยั ง มี ค วามหวั ง ว่ า การปฏิ รู ป ประเทศไทยครั้ ง นี้ คงจะมี อ ะไรใหม่ ที่ สามารถน� ำ พาการพั ฒ นาไปในทางที่ ถู ก ต้อง และลดความขัดแย้งและแตกแยกที่ ไม่มีใครชนะแม้แต่ฝ่ายเดียว


หน้า ๑๔

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นวาระครบรอบ ๒๐ ปี ศู น ย์ วิ ท ย์ เ มื อ ง คอน ได้มีการจัดค่ายครอบครัว Family science camp ครั้ ง ที่ ๙ ขึ้ น เมื่ อ วั น ที่ ๑-๓ พ.ค.๒๕๕๘ โดยจัดให้มีกิจกรรมจาก ต้นสายสู่ปลายน�้ำ ส�ำรวจและประเมินนิเวศ ล� ำ คลองนอกท่ า ตั้ ง แต่ ต ้ น น�้ ำ ที่ น�้ ำ ตกพรหม โลก จนกระทั่ ง ถึ ง ปลายน�้ ำ ที่ ป ากน�้ ำ ปาก พูน มีครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ๑๖ ครอบครัว รวม ๔๖ คน ได้พบข้อสรุปจากผล ส�ำรวจและเรียนรู้ร่วมกันต่างๆ อย่างน่าสนใจ ล�ำคลองนอกท่า (คลองปากพูน) ถือ เป็นล�ำน�้ำธรรมชาติไม่ไหลเป็นเส้นตรง แต่ จะคดเคี้ยวบ้างไม่มากก็น้อยตามความลาด ชันและความแข็งความอ่อนของแผ่นดินที่ได้ ไหลเซาะผ่าน รูปร่างล�ำน�้ำก�ำหนดลีลาการ ไหลของน�้ำ ความที่ล�ำน�้ำคดเคี้ยว กระแสน�้ำ จึงไหลเร็วบ้างช้าบ้าง ไม่เท่ากันตลอดสาย ท�ำให้เกิดบริเวณน�้ำตื้นและลึกคละกัน มีพื้น หินและตะกอนขนาดต่างกัน เป็นบ้านที่ดีของ

สัตว์ เพราะเหมาะแก่การด�ำรง ชีวิตของสัตว์น�้ำหลากหลายชนิด หากเราแบ่ ง ล� ำ น�้ ำ คลอง นอกท่ า ออกเป็ น ๓ ช่ ว ง ตาม ลักษณะวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กันกับ ล� ำ น�้ ำ จะแบ่ ง ได้ เ ป็ น ช่ ว งต้ น สายน�้ำ เป็นสวนสมรม ช่วงกลาง ล�ำน�้ำ เป็นท้องนา และช่วงปลาย น�้ำ เป็นปากน�้ำออกสู่ทะเล จะพบว่าลักษณะ ของสายน�้ำจะมีความแตกต่างกัน ช่วงต้นสายน�้ำ (สวน) เริ่มตั้งแต่น�้ำตก พรหมโลก ถึ ง สะพานบ้ า นนา (วั ด อิ น คี รี ) จากจุดต้นน�้ำตก บริเวณสองฝั่งล�ำน�้ำจะพบ

พืชพันธุ์ไม้ขึ้นอย่างหลากหลาย ร่มรื่นและ อุ ด มสมบู ร ณ์ พื ช เฉพาะถิ่ น ที่ พ บส่ ว นใหญ่ จะเป็นต้นเฟิร์น ต้นเลา ต้นบอน เนื่องจาก มีความชื้นสูงจากภูเขา อากาศมีอุณหภูมิต�่ำ น�้ำเย็นใต้ร่มไม้จึงช่วยให้สัตว์น�้ำหลบพักได้ สบาย ล�ำน�้ำจะมีความลึกน้อยที่สุด ลักษณะ ทางกายภาพล� ำ คลองจุ ด นี้ จ ะมี ส ภาพอุ ด ม สมบูรณ์ ท้องน�้ำพบก้อนหินขนาดใหญ่และ กรวดจ�ำนวนมากทับถมกันอยู่ รวมถึงมีขอน ไม้ ท�ำให้ส่งผลดีต่อคุณภาพน�้ำบริเวณนี้ น�้ำ มีสภาพเป็นด่างเล็กน้อยและปราศจากความ เค็ ม สั ต ว์ ส ามารถอาศั ย อยู ่ ไ ด้ อ ย่ า งหลาก หลาย การไหลของกระแสแรงและเร็ว ท�ำให้ น�้ ำ ที่ ม าปะทะก้ อ นหิ น ช่ ว ยเพิ่ ม ให้ ป ริ ม าณ ก๊าซออกซิเจนในน�้ำได้มาก น�้ำที่ตื้นและใส แสงแดดจึงสามารถส่องถึงได้ง่าย ส่งผลดีใน ด้านกระบวนการหายใจและการสังเคราะห์ แสงของสั ต ว์ แ ละพื ช จึ ง มี สั ต ว์ ที่ ต ้ อ งการ สภาพน�้ ำดีมากอาศัยอยู่ได้ จึ งกล่าวได้ว่า

<< ต่อจากหน้า ๔

นกบินหลา นกกรงหัวจุก นกกรงดีปลี เจ้าตัวนี้ขยายพันธุ์ดีปลีขี้นกได้เต็มป่า ที เ ดี ย ว ‘สั ต ว์ เ ลื้ อ ยคลาน’ งู ก ะปะ งู บองหลา งูเห่าช้าง แลน (ตะกวด) กิ้งก่า สารพั ด ในห้ ว ยในคลองก็ มี ป ลาที่ อ ยู ่ ในธรรมชาติแปลก เช่น ปลาแฮ่ (ปลา พลวง) ประโสด (กระสูบ) ปลาเลียหิน ปลาทีง ปลาหมูแกะ ปลาหยา ปลาปก ปลาดุก ปลามัด ปลาล่องไม้ตับ ถ้าเป็น ชาวเมืองคงรู้จักปลาน�้ำจืดเพียงปลาดุก

อุยกับปลาทับทิมของซีพีเพียงอย่างเดียว เมื่ อ มาเดิ น ทางจากตั ว เมื อ งนครไป ลานสกา เราจะผ่ า นบ้ า นศาลาสั ง สี ผม เคยพบในจดหมายเหตุ ใ นสมั ย รั ช กาล ที่ ๕ เรียกตรงนี้ว่า ‘ประตูป่า’ ถนนเส้น

ตรงนี้ยาวมาก ก่อนจะถึงตัว อ�ำเภอเขาเรียกกันว่า ‘ท่อง ควน’ (ทุ ่ งนาที่ไ ม่ เ ป็ น โคก เป็นควน) แล้วเรามองไปยัง เทื อ กเขาเบื้ อ งหน้ า เราจะ เห็นภูเขาขนาดต่างๆ เจ็ดลูก เรี ย งสลั บ กั น สวยงามมาก ท� ำ ให้ นึ ก ถึ ง เมืองในพุทธประวัติที่พูดถึงเมือง ‘เบญจ คีรี’ หุบเขาลานสกาในช่วงนี้เราน่าจะตั้ง ฉายาว่าเป็น ‘เมืองปัญจคีรี’ ก็ไม่น่าจะ เกินจริง ใช่ไหมครับ

คุณภาพล�ำน�้ำในช่วงต้นสายน�้ำนั้นดีมาก ช่วงกลางล�ำน�้ำ (นา) เริ่มตั้งแต่สะพาน บ้านนา ถึง สะพานน�้ำแคบ ระดับความลึก จะเพิ่มขึ้นมากกว่าจุดต้นน�้ำ ขนาดล�ำน�้ำกว้าง มากขึ้นและอุณหภูมิของน�้ำสูงขึ้น พบก้อนหิน และกรวดในปริมาณที่น้อยลง บริเวณนี้มีการ ขุดลอกคลองเพื่อการระบายน�้ำ เนื่องจากมี โป๊ะกั้นการไหลของน�้ำอยู่เป็นระยะ ลักษณะ ท้องน�้ำส่วนใหญ่จะพบตะไคร่น�้ำ จุดนี้ยังมี แสงแดดส่องถึงบ้างเล็กน้อย มีตะกอนหรือ ดิ น โคลนมาก เพราะเป็ น เขตน�้ ำ ไหลเอื่ อ ย และนิ่ง อนุภาคต่างๆ จึงตกตะกอนทับถมกัน หนาแน่น เมื่อมองด้วยตาเปล่าสีของน�้ำจะมี ลักษณะสีขุ่นมองไม่เห็นท้องน�้ำ ไม่มีสัตว์เกาะ ตามท้องน�้ำ อากาศในน�้ำจะถ่ายเทไม่สะดวก สภาพน�้ำเป็นด่างเล็กน้อย พบตัวอ่อนสัตว์ เล็กน�้ำจืดซึ่งเป็นสัตว์ที่ต้องการน�้ำสะอาดแต่ ทนน�้ำสกปรกได้บ้าง แต่สัตว์บางชนิดก็จะอยู่ ได้ดี เช่น ไส้เดือนน�้ำ และพบว่าท้องน�้ำมีเศษ ขยะมูลฝอย เพราะเป็นบริเวณที่มีชาวบ้าน อาศัยอยู่เป็นผลให้การไหลของกระแสน�้ำลด ลง คุณภาพล�ำน�้ำในช่วงกลางล�ำน�้ำนี้จึงอยู่ ในระดับพอใช้ ช่ ว งปลายน�้ ำ (ปากน�้ ำ ) เริ่ ม ตั้ ง แต่ สะพานน�้ ำ แคบ ถึ ง ปากน�้ ำ ปากพู น เป็ น บริ เ วณที่ น�้ ำ มาบรรจบกั น ระหว่ า งน�้ ำ จื ด และน�้ำเค็ม ท�ำให้เป็นบริเวณน�้ำกร่อย เกิด เป็นรอยต่อระหว่างชุมชนน�้ำจืด และน�้ำเค็ม น�้ ำมีอุ ณ หภู มิแ ละค่า ความเค็ ม สู ง ขึ้น เรื่ อยๆ ลั ก ษณะล� ำ น�้ ำ จะกว้ า ง เกิ ด การทั บ ถมของ ตะกอนที่ปากน�้ำ ความเร็วของกระแสน�้ำลด ลงทันทีจนนิ่ง มีจุดที่ลึกที่สุดที่เชื่อมต่อกับฝั่ง ทะเล ลักษณะทางกายภาพมีการขุดสร้างท่า เทียบเรือ และน�้ำทะเลจะหนุนขึ้นมาท�ำให้ ความลึกของล�ำคลองเพิ่มมากขึ้น น�้ำจุดนี้เริ่ม เน่าเสีย บริเวณท้องน�้ำเป็นโคลนตม มีบ้าน เรือนอาศัยอยู่และทิ้งเศษขยะมูลฝอยลงท้อง น�้ำ แสงแดดไม่สามารถส่องลงไปถึงใต้ท้อง น�้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์ และ พืชใต้ท้องน�้ำบริเวณนั้น จึงพบตัวสัตว์ที่ทนน�้ำ สกปรกได้อาศัยอยู่ และกล่าวได้ว่าคุณภาพ ล�ำน�้ำในช่วงปลายน�้ำอยู่ในระดับไม่ดีแต่ยัง ไม่ถึงกับแย่มาก จะเห็นได้ว่าสายน�้ำตลอดสาย มีความ แตกต่างปรับเปลี่ยนไปตามสภาพธรรมชาติ ท�ำให้บริเวณต่างๆ ของล�ำน�้ำเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์น�้ำได้อย่างหลากหลาย ปลาหลาย ชนิดวางไข่ตามกองกรวดบริเวณแก่งน�้ำไหล เร็ว และหลบภัยบริเวณแอ่งน�้ำลึก ส่วนสัตว์ เล็ก เช่น แมลงในน�้ำชนิดต่างๆ ก็ชอบอยู่ใน พื้นที่ที่มีลักษณะแตกต่างกันไป ลักษณะพื้นที่ ใต้น�้ำที่หลากหลายจึงเปรียบเสมือนเมืองใหญ่ ใต้น�้ำ รากฐานส� ำ คั ญ ของล� ำ น�้ ำ ที่ อุ ด มสมบูรณ์ต้องมีกายภาพล�ำน�้ำที่ดี หมายถึงล�ำน�้ำ ที่มีความหลากหลายตามธรรมชาติ ไม่ถูก รบกวนด้วยสิ่งก่อสร้างมากเกินไป หรือ ถูก เข้าใจผิดว่า การลอกคลอง หรือ การขุด คลองให้เป็นเส้นตรง จะเป็นการท�ำให้น�้ำ ตลอดสายมีคุณภาพดี


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช หน้า

๑๕

อาจารย์แก้ว

บั บ นี้ ขอต้ อ นรั บ เปิ ด เทอมด้ ว ยเทคโนโลยีส�ำหรับเด็ก ซึ่งเป็นได้ทั้งนาฬิกา อัจฉริยะ และ GPS tracker ติดตามพฤติกรรมลูกรักตลอดวัน ทั้งยังป้องกันเด็กหาย ได้ อ ย่ า งดี ตอบรั บ ความต้ อ งการของพ่ อ แม่ ที่ ต ้ อ งการสื่ อ สารกั บ ลู ก ได้ ต ลอดเวลา หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์จริงที่ต้อง พลั ด หลงกั บ ลู ก ในขณะเดิ น ทางท่ อ งเที่ ย ว ช้ อ ปปิ ้ ง ตามห้ า งสรรพสิ น ค้ า จึ ง ต้ อ งการ เครื่ อ งมื อ ที่ จ ะมาช่ ว ยดู แ ลลู ก ทางบริ ษั ท POMOHOUSE จึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่ มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์ส�ำหรับ กลุ ่ ม เด็ ก และครอบครั ว โดยเฉพาะ เพื่ อ ช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกัน ปัญหาเด็กหายจากต้นเหตุ จากความร่ ว มมื อ กั บ ที ม งานจาก ไต้หวันพัฒนาขึ้นเป็น “POMO KidsWatch” เพื่ อ ตอบสนองไลฟ์ ส ไตล์ ข องเด็ ก และผู ้ ปกครองยุคใหม่ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ ดูแลลูกๆ ได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ก็ ยั ง สามารถป้ อ งกั น ปั ญ หาการติ ด สมาร์ ท โฟนของเด็กๆ ก่อนวัยอันควรอีกด้วย จุด เด่นของ POMO KidsWatch คือ จะเป็นทั้ง โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ติดตามตัวใน เครื่องเดียวกัน ซึ่งท�ำงานร่วมกับแอปพลิเค ชัน POMO Kids ซึ่งถูกออกแบบโดยค�ำนึงถึง ความปลอดภัยของเด็ก และความพอดีใน การใช้งานเป็นส�ำคัญ POMO Kidswatch มา พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนอง และ ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ใช้ งานง่ายเพียงแค่ใส่ซิมการ์ด และเชื่อมต่อ กับโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน POMO

Kids ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนตัว เด็กออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่ก�ำหนดไว้ก็

ได้เองโดยค�ำนึงถึงชีวิตประจ�ำวันของพ่อแม่ จะได้ รั บ สั ญ ญาณแจ้ ง เตื อ นทางโทรศั พ ท์ และไม่รบกวนเวลาเรียนรู้ของเด็กไม่ว่าจะ มือถือ และทราบทันทีว่าขณะนี้เด็กก�ำลัง เป็นเวลาเรียน หรือการท�ำกิจกรรม อยู่ในส่วนไหนของแผนที่ ๔. รายงานอุ บั ติ เ หตุ ไ ด้ ทั น ท่ ว งที คุ ณ สมบั ติ ที่ น ่ า สนใจของ POMO Kids- ด้วย Accident Report กรณีที่เด็กได้รับ watch อุ บั ติ เ หตุ ห รื อ หกล้ ม ก็ จ ะได้ รั บ สั ญ ญาณ ๑. ทั้งรับ และโทร.ได้ในเครื่องเดียว แจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความ (Voice Calling) โดยสามารถก�ำหนดเบอร์ ช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที โทรศั พ ท์ ค นในครอบครั ว ให้ ส ามารถโทร. ๕. เซ็นเซอร์ตรวจจับนาฬิกาหลุด หา POMO Kidswatch ได้สูงสุด ๘ เบอร์ (Watch fall off alarm) กรณีที่นาฬิกาถูก ในขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทร.ออกไปยัง ถอดออกจากไปจากข้ อ มื อ ของเด็ ก หรื อ เบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวที่ตั้งค่าไว้ได้ หลุ ด โดยบั ง เอิ ญ จากการท� ำ กิ จ กรรม พ่ อ สูงสุด ๓ เบอร์ ตามปุ่มบนนาฬิกา แม่จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ ๒. ระบบ GPS ติดตามนาฬิกา (Smart มื อ ถื อ และสามารถให้ ค วามความช่ ว ย Locator ) ถู ก ออกแบบมาให้ ท� ำ งานร่ ว ม เหลือได้ทันทีในกรณีที่เด็กถูกลักพาตัว กันระหว่าง GPS และระบบ 3G ดังนั้น ผู้ ๖. เชื่ อ มต่ อ ผ่ า นบลู ทู ธ ( Anti-lost ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกา alarm in short-distance travel) การเดิน และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ที ทางไปท่ อ งเที่ ย วกั บ เด็ ก ในสถานที่ ที่ ไ ม่ มี ละหลายคนพร้อมกัน สัญญาอินเทอร์เน็ต ก็ยังสามารถเชื่อมต่อ ๓. พื้นที่ปลอดภัยที่ก�ำหนดเอง (Safe นาฬิ ก ากั บ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ไว้ ด ้ ว ยกั น ผ่ า น Zone ) เริ่ ม ต้ น ใช้ ง าน บลูทูธ เมื่อเด็กห่างจากผู้ปกครองไป ๒๐ ฟั ง ก์ ชั น Safezone ได้ เมตร ก็ จ ะได้ รั บ สั ญ ญาณแจ้ ง เตื อ นทาง หลั ง จากที่ ด าวน์ โ หลด โทรศัพท์มือถือ แอปพลิ เ คชั น POMO ๗. ส่ ง ข้ อ ความเสี ย งสั้ น ๆ ฉั บ ไว K i d s แ ล ะ เ ชื่ อ ม ต ่ อ (Voice Messageing) สามารถส่งข้อความ สั ญ ญาณผ่ า น network เสียงสั้นๆ ไปยังนาฬิกาได้โดยที่ไม่ต้องกด 3G ฟั ง ก์ ชั น นี้ จ ะช่ ว ยให้ โทร.ออก ก� ำ หนดพื้ น ที่ ป ลอดภั ย ของเด็ ก ให้ เ หมาะสม ต่ อ กิ จ กรรมต่ า งๆ เช่ น พื้นที่ในบริเวณโรงเรียน การท� ำ กิ จ กรรมนอกชั้ น เรียน ร้านหนังสือ หรือ แม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อ

๘. ปุ่ม SOS เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน (Intelligent Emergency) อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุก ที่ทุกเวลา เมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือ เร่งด่วนแค่เพียงกดปุ่ม “SOS” นาฬิกาจะ ท� ำ การโทร.ออกไปยั ง เบอร์ โ ทรศั พ ท์ ต าม ล�ำดับตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าไว้ หลังจากโทร.ออกเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาจะ ท�ำการอัปเดตสถานที่ของนาฬิกาในขณะ นั้นทุก ๖๐ วินาที ผ่านระบบ SMS มายัง โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ทุ ก เบอร์ เ พื่ อ ไม่ ใ ห้ พ ลาด ความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ๙. เครื่ อ งนั บ ก้ า ว ( Pedometer ) สามารถตรวจสอบการออกก�ำลังกายของ เด็ก ๆ จากจ�ำนวนการก้าวเดินของเด็กๆ ใน แต่ละวัน ผ่านฟีเจอร์ Pedometer ๑๐. กันยุงก็ได้หายห่วง (Mosquito repellent ) POMO สามารถป้ อ งกั น ยุ ง ได้ ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงพิเศษที่ปล่อยออก มาที่ 16-20 KHz จากคุ ณ สมบั ติ ที่ ก ล่ า วมาน่ า จะตอบ โจทย์ความต้องการของผู้ปกครองได้ครบ ถ้วน ส�ำหรับท่านที่สนใจสินค้าตัวนี้สามารถ หาซื้ อ ได้ ต ามร้ า นตั ว แทนจ� ำ หน่ า ยได้ ทั่ ว ประเทศหรือ เข้าชมได้ที่เว็บไซต์ pomohouse.com และ iTrueMart.com ด้วยความปรารถนาดี อาจารย์แก้ว

Facebook : https://www.facebook.com/rakbaankerd.news


หน้า ๑๖

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

Tarzanboy

ามล้อสองแถว ...ต�ำรวจ พรานป่า ตากล้อง ! ...เหล่านี้ เขาว่ากันว่า เจ้าชู้นักแล อย่างอื่นก็พอเข้าใจได้นะ แต่ ว่า อาชีพพรานป่าอย่างผมเนี่ย ไฉนตกเป็น จ�ำเลยซะงั้น อย่าเพิ่งข�ำครับ เพราะผมก�ำลังจะพูดเรื่องซีเรียสกัน เลยทีเดียว สามล้อสองแถวนั้น ย่อมเป็นไปได้เพราะต้อง พานพบกับผู้คนหลากหลายในทุกวี่วัน ส่วนต�ำรวจนั้นด้วย มียศฐาและน่าเกรงขาม ใครๆ ต่างก็พากันอยากได้ความ คุ้มครอง ก็เข้าทางทั่นๆ ซะงั้น ตากล้อง...อันนี้น่าสนใจ วิเคราะห์ อ่า ผมคิดว่า ด้วยการมีมุมมองที่พิเศษ เจาะลึก ส� ำ หรั บ ผมแล้ ว อาจจะเป็ น ความเข้ า ใจผิ ด อย่ า ง ความงดงามในทุกซอกมุม คนไม่สวยยังถ่ายออกมาสวย มาก หากใครมองว่ า ความรั ก พื้ น ๆ แบบมายามนุ ษ ย์ ได้ สาวๆ ถึงได้หลงใหลกันเป็นพิเศษ ส่วนพรานป่า ...จะ นั้น สมควรให้ความส�ำคัญ...หากให้พูดกันตามใจลึกๆ ผม วิเคราะห์ยังไงดีนะ (แบบว่ากลัวเข้าตัวไงก็ไม่รู้) ชอบฟั ง เพลงอกหั ก รั ก คุ ด มาก หากทว่ า ในความหมาย ของเพลงเหล่ า นั้ น ผมกลั บ คิดถึงป่าคิดถึงภูเขามาเป็น อันดับต้นๆ หรือกระทั่งว่า เพลงรักวัยรุ่น กลับท�ำให้ผม อยากสารภาพรักกับต้นไม้ แทบทุกต้น ...ฉันอยากดูแล เธอ ฉั น อยู ่ เ พื่ อ เธอ ...ว่ า กั น ไ ด ้ ป ร ะ ม า ณ นั้ น เ ล ย ส� ำ หรั บ ผม มุ ม มองความ รั ก อาจจะพิ ศ ดารหน่ อ ย

เพราะเหล่ า นี้ ผ มได้ เ ห็ น บางมุ ม จากป่ า ได้ เ ห็ น ความ ลั บ อั น ซ่ อ นเร้ น จากภู เ ขา รั ก แท้ คื อ การปรารถนาดี ครั บ และมั น จะไม่ มี วั น เปลี่ ย น ไม่ ว ่ า สิ่ ง ที่ คุ ณ รั ก จะเป็ น เช่นไร ..ภูเขาไม่สามารถสูงชันได้มากเท่าที่เคยสูงชัน หาก คุ ณ รั ก มั น ก็ ไ ม่ มี เ หตุ ผ ลข้ อ อ้ า งใดไปเกลี ย ดความสู ง ชั น นี้ หากคุณรักป่าคุณรักต้นไม้ จะเห็นได้ว่า รักของคุณนั้น หลากหลายถึงขั้น เจ้าชู้ได้อย่างหน้าตาเฉย ...ต้นไม้ต้นนั้น ไม่เหมือนต้นนี้ อืม น่าสนใจน่ารักอีกแบบ หินก้อนนั้นต่าง จากก้อนนี้ สวยไปคนละแบบ ไม่มีอะไรแทนอะไรได้ คุณจึง สามารถมีความรักนิรันดร์กับหลายสิ่งพร้อมๆ กันได้ และ มันได้รวมกันเป็น ป่าแห่งความรัก ...แต่หากคุณรักแบบ นี้กับมนุษย์กลับท�ำไม่ได้ ดูเหมือนความปราถนาจะเป็น เจ้าของอยู่เหนือความปราถนาดีแบบความรักที่กล่าวมา เรา เปลี่ยนมารักกันแบบ รักป่ามั้ยครับ หากใครมี รั ก แบบมนุ ษ ย์ ที่แสนวุ่นวายน�้ำเน่า อยากน�ำ เสนอว่า มารักกันและปรารถนา ดี ต ่ อ กั น แบบป่ า แบบภู เ ขามั้ ย ครับ หรือเคยมั้ย คุณเคยเจอคน หรื อ สิ่ ง ที่ รั ก ...ที่ คุ ้ ม ค่ า แก่ ก าร สารภาพรักจริงๆ บ้างรึยัง ถ้า ยัง !! ...ผมยินดีแบ่งให้ครับ เอา ภูเขาไปซัก ๒ ลูกโตๆ !!


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

นพ.รังสิต ทองสมัคร์

ต้นไม้รายรอบเขต มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผลิหน่อ แตกใบอ่อน ในวันเวลาและฤดูกาลที่สุดสวย ขอบคุณธรรมชาติ ที่สร้างงานศิลปะได้ทุกมุมมอง

หน้า ๑๗


หน้า ๑๘

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

อลั่ลล้าฉบับนี้ขอเชิญชวนท่านผู้อ่าน ไปลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นบ้านรสชาติ ลงตัวมีทั้งจัดจ้าน กลมกล่อม อร่อยลงตัว เพียงล้อหมุนออกจากตัวเมือง ขับตรงเส้น ถนนกะโรม ตรงไปยังสี่แยกเบญจมฯ เส้น ทางไปอ�ำเภอพรหมคีรี ตรงผ่านสี่แยกไฟแดง และมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช (ทางหลวงแผ่ น ดิ น หมายเลข ๔๐๑๖ พรหมคีรี) ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มองทางซ้ายไว้ ก็ จะเจอป้ายร้านไก่บ้าน เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไป ยังลานจอดรถ บรรยากาศร่มรื่นสะอาดตา ตัวร้านเป็นไม้ยกเสาเรือนสูง เปิดบริการมา นานมากและยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ ได้ดีตลอดจนปัจจุบัน .. เดินขึ้นไปด้านบน จะเจอกับหม้อสแตนเลสใบใหญ่จัดเรียงราย ใส่อาหารรสเด็ดให้เราได้ลองลิ้มชิมรส .. .. อยากบอกว่าร้านนี้ราคาอาหารค่อน

ข้างจะสูง แต่ถ้าดูให้ลึกไปถึงวัตถุดิบที่ทาง ร้านเลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นภาชนะ วัตถุดิบที่ น�ำมาปรุงอาหาร ความสะอาด ความใส่ใจ ต่ อ คุ ณ ภาพ ความสดของคุ ณ ภาพอาหาร ก็ ส มควรกั บ ราคานะคะ ข้ า วสวยของที่ นี่ เสิ ร ์ ฟ เป็ น ข้ า วนึ่ ง ใส่ ถ ้ ว ยอลู มิ เ นี ย มมาแบบ ร้อนๆ เลยค่ะ ... ผักสดของที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่ ปลอดสารพิษ กรุบกรอบสดได้ใจจริงๆ เมนู เด็ดของร้านนี้ ถ้าอันดับหนึ่งคงจะต้องยกนิ้ว ให้แกงพริกไก่บ้าน เพราะใช้ไก่บ้านจริงๆ ถึง เครื่องแกงพริกรสชาติเข้มข้น เครื่องแกงเข้า เนื้อ หอมใบมะกรูดซอยโรยหน้า ทานเคียง คู่กับน�้ำพริกผักกูดกุ้งสด ราดกะทิหอมข้นมา บนจาน เข้าปากแล้วรับรู้ถึงรสชาติหวานมัน

กรอบของผักและกุ้งสด ส่วนน�้ำพริกของที่นี่จะแตก ต่างไปจากทุกร้านเพราะไม่เน้น รสเผ็ ด จะเด่ น ที่ อ อกหวานอม เปรี้ยว รับประทานได้เพลิน เคียง คู่กันมาด้วยปลาช่อนแดดเดียว ทอดหอมเนื้อนุ่มอร่อยลิ้นจริงๆ แกงส้ ม ผั ก บุ ้ ง ที่ นี่ ก็ น�้ ำ ใสผั ก บุ ้ ง กรอบเคี้ยวเพลินเพราะใส่ลงพอให้ผักสะดุ้ง ทานพร้อมกับไข่เจียวฟูๆ ปิดท้ายด้วยเมนูไก่ บ้านต้มขมิ้นหอมกรุ่นติดจมูก รสชาติน�้ำซุป ซดแล้วชื่นใจค่ะ ที่นี่จะไม่มีขนมหวาน หรือ ผลไม้ น ะคะ แต่ มี ตู ้ ไ อศกรี ม เอาไว้ ใ ห้ เ ลื อ ก ตามแต่ ใ จชอบค่ ะ ‘ป้ า ยม’ เจ้ า ของร้ า นที่

ให้ ก ารต้ อ นรั บ ท� ำ เองทุ ก อย่ า ง ก่ อ นจะ กลับป้ายังบอกกับเราว่า อาหารที่นี่ท�ำด้วย ความพิถีพิถัน อยากให้ลูกค้าได้ทานของดี ดีและอร่อย เชื่อค่ะ แม้บางท่านจะบ่นว่า แพงโหด ..แต่ก็ไม่ว่ากันนะคะ อาหารการ กินขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันในการเลือกรับ ประทาน ถ้ า อาหารสดจริ ง อร่ อ ย และเชื่ อ มั่ น เรื่ อ งการ ปรุ ง รสที่ ถู ก สุ ข อนามั ย และ สะอาด แถมยั ง เป็ น ของที่ ปราศจากยา เพราะแหล่ ง ที่ มามาจากชาวบ้านโดยตรงถึงผู้ บริโภคทันทีโดยไม่มีมือที่สาม และไม่ผ่านการแช่แข็งก็น่าจะ คุ้มกับการเดินทางและราคา.. มี เ วลาก็ ล องแวะไปชิ ม กั น ได้ การันตีความอร่อยค่ะ


ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘

นครศรีธรรมราช

หน้า ๑๙

นพ.บัญชา พงษ์พานิช

นครดอนพระ << ต่อจากหน้า ๒ ขอชื่นชมโดยเดินทางไปสายเขาพระบาทตาม ค�ำแนะน�ำของอาจารย์ฉัตรชัย แล้วเลี้ยวซ้าย วกวนผ่ า นถนนดิ น หลายตอนจนถึ ง วั ด ที่ ตั้ ง อยู่ในชุมชนที่ “ดีทีเดียว” สภาพวัดก็สะอาด เรียบร้อย เห็นก�ำลังเชื่อมรั้วหรือราวลูกกรง กันอยู่ จึงมุ่งเข้าไปถามหาพิพิธภัณฑ์วัด แล้ว ถูกบอกให้เข้าไปพบท่านเจ้าอาวาสในกุฏิซึ่ง มีภาพถ่ายพระหินแก้วผลึกองค์งามใส่กรอบ แขวนอยู่ที่เสา

พระครูสิริธรรมาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพัทธสีมา, พระอาจารย์หนูจัน วัดพัทธสีมา

“หายหมดแล้วโยม” คือค�ำตอบตรงไป ตรงมาและชัดถ้อยค�ำของท่านพระครูสิริธรรมาภิรักษ์ เจ้าอาวาสที่ดูไม่น่าเชื่อว่าจะอายุ ๘๐ ปี แ ล้ ว พร้ อ มกั บ ลุ ก ขึ้ น หยิ บ ลู ก กุ ญ แจ ขนาดใหญ่หลายลูกที่ถูกเลื่อยตัดขาด ผมจับ ความโดยรวมได้อย่างนี้ ว่า “ยังแต่รูปกับไอ้นี่ เอาไม่อยู่ เข้ากันมาหลายวิธี มีถ่ายรูปไปแล้ว สั่งให้มาเอาตามไปกันทีละองค์สององค์ ชิ้น สองชิ้น ตอนนี้พระพุทธรูปก็เหลือไม่กี่องค์ ถ้วยชามก็เหลือแต่ใบเล็กๆ ไม่มีอะไรเด่น ก็ รวมเก็บไว้ในห้องมิดชิดเปิดให้ดูไม่ได้แล้ว รอ แต่ว่าไม่รู้ตอใดจะได้พิพิธภัณฑ์ ที่มาว่าๆ กัน ไว้หายแหม็ด” เรียกว่างงนะจังงังอย่างบอกไม่ถูก โดย เฉพาะขณะที่ท่านบอกว่า “มากันดูดีทั้งนั้น นั่งรถเก๋งเข้ามาถามนี้นั่นนู้น” ไม่ต่างจาก ที่พวกเราก็เข้าไปในลักษณะเดียวกัน โดย ไม่เห็นว่าจะน่าถามอะไรในเรื่องของเก่าทั้ง หลายรวมทั้งเรื่องพิพิธภัณฑ์ต่อไปอีก ก็พอดี เห็ น กระดานเขี ย นกลอนของท่ า นอาจารย์ พุ ท ธทาสบทที่ ว ่ า เขามี ส ่ ว นเลวบ้ า งช่ า งหั ว เขาฯ กั บ รู ป ถ่ า ยครู บ าอาจารย์ ข องวั ด ก็ เปลี่ ย นเรื่ อ งเสี ย เลย เพราะพระอาจารย์

ของวัดนี้ล้วนเป็นรูปส�ำคัญของเมืองนคร โดย เฉพาะท่านชูเฒ่าที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๓๘๒ อุปสมบทที่วัดนี้เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๓ จนเป็นเจ้า อาวาสในปี พ.ศ.๒๔๒๘ กระทั่งมรณภาพใน ปี พ.ศ.๒๔๗๐ อายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗ เป็นที่ นับถือในด้านเมตตากรุณาด้านการรักษาการ ป่วยไข้ ถือสันโดษ รักษาพระวินัย และดูแล พัฒนาวัด ส่วนท่านหนูจันที่มีหลายรูปแขวน อยู ่ นั้ น ไม่ ไ ด้ ถ ามไถ่ ได้ เ อกสารมาฉบั บ หนึ่ ง จากท่ า นเจ้ า อาวาส บอกว่าตามต�ำนานวัด นี้ ตั้ ง โดยพลิ ติ - พลิ มุ ย ชาวลังกาที่เข้ามาร่วม สร้างพระธาตุโดยได้ สร้างวิหารพระม้าไว้ พระอาจารย์ชูเฒ่า กับ แล้วระหว่างเดินทาง กลับ ได้แวะสร้างพระ ลิติ-พระลิมุ้ยไว้ที่วัดเขาแก้ววิเชียร จากนั้นจึง มาสร้างวัดพัทธสีมากับวัดเสาธงและวัดโคกมราม (โคกคราม ?) ก่อนกลับลังกาซึ่งได้หยุด สร้างพระไสยาสน์ที่วัดถ�้ำคูหาภิมุขเมืองยะลา ด้วย (ไปยังไง ?) และยังระบุด้วยว่าปรากฏชื่อ วัดพัทธสีมาในสมุดพระอัยการสมัยพระเจ้า บรมโกศ (พ.ศ.๒๒๗๕-๒๓๐๑) มีบัญชีเป็นที่ เลณฑุ บ าตในพนั ง สมั ย พระเพทราชา (พ.ศ. ๒๒๓๑-๒๒๔๕) และรับพระราชทานกัลปนา วัดหลวงในสมัยพระเอกาทศรถ (พ.ศ.๒๑๘๔๒๑๖๓) สรุปว่าอย่างน้อยตามหลักฐานเชิง ประวั ติ ศ าสตร์ ทั้ ง ๓ วั ด นี้ ก็ เ ก่ า ตั้ ง แต่ พุ ท ธ ศตวรรษที่ ๒๒ จากหลักฐาน ๓ รัชสมัย พระ เอกาทศรถ พระเพทราชาและพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ ผมไม่มีจังหวะจะถามถึงทะเบียนที่ท�ำ ส่งกรมการศาสนาเมื่อสมัยนั้น ตลอดจนผล การฟื้นฟูจากการศึกษากับ สกว. เพราะท่าน เจ้าอาวาสตัดบทว่าพระรูปที่เป็นหลักในคราว นั้นคือรองของท่านเอง แต่ตอนนี้ออกไปจาก วัดนานแล้ว เพราะท่านบอกแต่เพียงว่าหาย หมดๆ ที่เหลือก็เล็กๆ น้อยๆ ใส่กรงรวมๆ กัน ไว้กันหายอีก กลับมาค้นในอินเตอร์เน็ตก็มี

ภาพถ่ า ยตู ้ ใ ส่ พ ระพุ ท ธรู ป ๙ องค์ ที่น�ำออกมาจัดแสดง หลัง น� ำ ออกมาจากหอไตรเพื่ อ การ ส�ำรวจท�ำทะเบียน และทะเบียน การส� ำ รวจเมื่ อ ปี พ.ศ.๒๕๔๙ แต่ทุกวันนี้หายเกือบหมดแล้ว

ฐานข้อมูลในระบบน้อยมาก ได้มาแต่เพียง บันทึกของ สกว.ที่ยกคณะมาชื่นชม มีข้อมูล ระบุ ว ่ า มี โ ครงการศึ ก ษาทุ น ทางวั ฒ นธรรม ของวั ด และชุ ม ชนพั ท ธสี ม า งบประมาณ ๕๒,๕๐๐ บาท เป็ น โครงการวิ จั ย ประยุ ก ต์ สาขาสังคมวิทยา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘ ด�ำเนิน การโดย สกว. ระบุ ว ่ า “เป็ น การศึ ก ษาทุ น ทางวั ฒ นธรรมของวั ด และชุ ม ชนพั ท ธสี ม า ตามค�ำบอกเล่าต่อๆ กันมาของคนเฒ่าคนแก่ ในชุมชน ๑) เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา ของวัดพัทธสีมา ประวัติโบราณวัตถุ ที่มีอยู่ ในวัดพัทธสีมา ๒) เพื่อศึกษาบทบาทของวัด พัทธสีมา ในการจัดการศึกษาทั้งทางโลกและ ทางธรรม บทบาทในการแพทย์พื้นบ้านและ บทบาทอื่ น ๆ และ ๓) เพื่ อ ศึ ก ษาพิ ธี ก รรม และงานประเพณี ส� ำ คั ญ ที่ วั ด พั ท ธสี ม าเป็ น ศูนย์กลางในการจัดและความหมายทางสังคม ของพิธีกรรมและประเพณีดังกล่าว” กับได้ พบทะเบียนเอกสารบัญชีสังเขปหนังสือสมุด ไทย วัดพัทธสีมา ต�ำบลท่าซอม อ�ำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช จ�ำนวน ๙ หน้า จัด ท�ำโดยกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ระบุว่า “รวบรวมบัญชีรายชื่อหนังสือสมุดไทย ของวัด พัทธสีมา ต�ำบลท่าซอม อ�ำเภอหัวไทร จังหวัด นครศรีธรรมราช โดยบอกลักษณะตัวอักษร ภาษา และลักษณะของสมุด” แต่ยังไม่ได้ตาม ดูในรายละเอียด ตามรอยธรรมรอบนี้ได้บทสรุปว่า “มัน เป็นเช่นนี้ อย่างนี้ตามธรรมดาแห่งเหตุและ ปัจจัย” หนีไม่พ้นกฎแห่งพระไตรลักษณ์ที่ว่า ต่างก็เกิดขึ้น ตั้งปรากฏอยู่ แล้วไม่อาจทนอยู่ ได้ เปลี่ยนแปลงเสมอไปตามเหตุแห่งปัจจยการ หาได้มีตัวตนอันเที่ยงแท้ถาวรไม่ ดังที่ พระพุทธองค์ทรงประมวลไว้ให้เราจ�ำกันมา

ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และ อิทัปปัจจย ตา พร้ อ มกั บ เสนอแนวแห่ ง การรู ้ แ ละเท่ า ทันอยู่ภายในพร้อมกับเข้าไปจัดการตามสม มุตินั้นๆ ด้วยปฏิจจสมุปบันธรรมฝ่ายนิโรธ วาร มิให้เป็นสมุทยวาร รวมทั้งหากท�ำได้ก็ พึงเข้าใจและอาศัยสมมุตินั้นๆ เข้าไปจัดการ เหตุ แ ละปั จ จั ย เท่ า ที่ จ ะพอท� ำ ได้ ใ ห้ ดี ต าม สมมุตินั้นๆ กันไป กรณีที่วัดพัทธสีมา ท่าซอม หัวไทรนี้ ถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของ “รอยธรรม(ที่ เป็นไปตามธรรมดา)ที่เมืองนคร” กล่าวคือ หนีไม่พ้นกฎแห่งธรรมดา ขึ้นอยู่กับเหตุและ ปัจจัย ซึ่งมีมนุษย์เป็นหน่วยจัดการส�ำคัญที่ จะท�ำให้นานาสมมุตินั้นตั้งด�ำรงอยู่อย่างเป็น ประโยชน์ได้ประมาณไหน สืบต่อจากที่พ่อ แม่ครูบาอาจารย์และบรรพชนได้ริเริ่มและ พัฒนาสร้างสมส่งมาถึงคนรุ่นเรา ท�ำหน้าที่ ปกปักรักษาและน�ำมาพัฒนาขยายผลให้สม คุณค่าได้อย่างไร ซึ่งก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครจะ เป็นผู้ตอบว่าควรประมาณไหนและอย่างไร ชุมชนสนใจน�ำมาประกอบการพัฒนา สกว. น�ำกระบวนวิจัยจัดการความรู้มาหนุนเสริม กรมการศาสนาให้ท�ำทะเบียนเพื่อการปกปัก รักษา กรมศิลปากรมาส�ำรวจท�ำบัญชีและ ขึ้นทะเบียน จากนั้นผ่านมา ๑๐ ปี ที่ผมกับ คณะแวะไปหวังว่าจะได้ชื่นชม ก็ได้พบว่ากฎ แห่งความเป็นธรรมดานี้ยังแรงเสมอและยาก ที่จะทัดทาน ถือเป็นอีกกรณีศึกษาส�ำหรับ การขบคิดพัฒนาว่าจะจัดการปัจจยการฝ่าย นิโรธวารกันได้อย่างไรต่อแต่นี้ไป. สุธีรัตนามูลนิธิ นครศรีธรรมราช ๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ บนเครือ่ งเข้ากรุงเทพเพือ่ พาคณะ ไปภาวนาอาจารยบูชาพระอาจารย์จวน กุลเชษโฐ ที่ภูทอก บึงกาฬ


หน้า ๒๐

นครศรีธรรมราช

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๔๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.