ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน ๒๕๕๙
พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช
www.nakhonforum.com
www.facebook.com/rakbaankerd
ผู้ว่าฯ พีระศักดิ์ แถลงออกสื่อเรื่องการจัดงานประเพณีบุญสารท เดือนสิบและกาชาดจังหวัด สืบสานงานประเพณีของชาวปักษ์ใต้ พร้อมเชิญชวนชมขบวนแห่หมฺรับในวันที่ ๓๐ กันยายน เมื่ อ วั น ที่ ๒๖ สิ ง หาคม ๒๕๕๙ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผูว้ า่ ราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตอบค�ำถาม สื่อมวลชนถึงการเตรียมความพร้อมจัด งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ และ งานกาชาดจั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช ประจ�ำปี ๒๕๕๙
¹¤Ã´Í¹¾ÃÐ ¹¾.ºÑญ ªÒ ¾§Éì¾Ò¹Ôª àÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ¨ÓÅͧ ½Ñ觪ŨԵà ชวนคิด ชวนคุย สุธรรม ชยันต์เกียรติ ทันโลกธุรกิจ ไพโรจน์ เพชรคง มุมมองรักษ์บ้านรักษ์เมือง สุเมธ รุจิวณิชย์กุล ชีวิตติดล้อ บัญญัติ ลายพยัคฆ์ มองเมืองคอนผ่านเลนส์ นพ.รังสิต ทองสมัคร์
˹éÒ ò ˹éÒ ó ˹éÒ ๔ ˹éÒ ๗ ˹éÒ ñ๓ ˹éÒ ñ๖ ˹éÒ ñ๗
ผู้สร้างฝายมีชีวิตจัดเสวนาหาทางออก เหตุกรณี พิพาทที่ฝายสี่กั๊ก หน่วยงานท้องถิ่นแจ้งความด�ำเนินคดี ผู้สร้าง อาศัยกฎหมาย ปี ๒๔๕๖ ว่าด้วยการเดินเรือใน น่านน�้ำไทยว่าด้วยการสร้างสิ่งกีดขวางทางสัญจร
เมื่ อ วั น ที่ ๒๕ สิ ง หามคม ๒๕๕๙ นายสวั ส ดิ์ กฤตรั ช ตนั น ต์ อดี ต ผู ้ ว ่ า ราชการและอดี ต สมาชิ ก วุ ฒิ ส ภาจั ง หวั ด นครศรีธรรมราช ดร.ด�ำรง โยธารักษ์ ผู้อ�ำนวยการสถาบันการ เรียนรู้เพื่อจัดการตนเองพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายสมเดช คงเกื้อ แกนน�ำสร้างฝาย ภาคประชาชน >> อ่านต่อหน้า ๙
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๒
(bunchar.com การพระศาสนา, เพื่อแผ่นดินเกิด 20160520)
ห งานเทศกาลเดือนสิบประจ�ำปี ๒๕๕๙ ระหว่างวันที่ ๒๕ กันยายน – ๔ ตุลาคม มีเรื่องต้องหารือกับฝ่าย บ้านเมืองผู้รับผิดชอบ ซึ่งก็รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าจะมีลูก หลานชาวนครกลับมาร่วมท�ำบุญสารทเดือนสิบอุทิศ ส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับจ�ำนวนมาก บ้างเดินทางโดย เครื่องบิน บ้างขับรถยนต์มาพร้อมครอบครัวและนั่ง รถบัสประจ�ำทาง การเดิ น ทางมาร่ ว มงานเทศกาลมาพบญาติ พี่ น ้ อ ง และผองเพื่อนต้องการความปลอดภัยตลอดเส้นทาง หลายครั้งบางคนกลับไม่ถึง เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตหรือ บาดเจ็บกลางทางกลายเป็นความทุกข์ใหญ่หลวงของ ญาติมิตร เหตุจะเกิดเพราะตัวคนขับขี่เอง ถนนหนทาง ไม่ดี ไม่มีไฟฟ้าส่องทาง ป้ายจราจรไม่มีหรือมีแต่มอง ไม่ ชั ด เจน ฝ่ า ยจราจรต้ อ งตรวจสอบและเตรี ย มให้ พร้อม ถนนเป็นหลุมบ่อต้องถมหรือราดยางให้เสมอ โดยเฉพาะถนนสายเข้าตัวเมืองที่ผู้คนจะหลั่งไหลมา ร่วมขบวนแห่หมฺรับหรือมาเที่ยวมาสักการะพระบรม ธาตุเจดีย์สิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมือง งานเทศกาลเดือนสิบมีการออกร้านมีคาราวานสินค้า ล่องควบคู่กันมาเป็นร้อยเจ้า ในกองคาราวานมักมี นักย่องเบา ตีนแมว นักล้วงกระเป๋า และนักต้มตุ๋น เกาะเป็นเห็บไปทุกที่เพราะมีช่องทางประกอบอาชีพ ตามถนัด เนื่องจากมีผู้คนมาเที่ยวชมมาหาซื้อสินค้า เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพฉกชิงวิ่งราวหรือล้วงกระเป๋าเอา ทรั พ ย์ สิ น เงิ น ทอง ฝ่ า ยต� ำ รวจต้ อ งวางแผนจั ด การ บุคคลเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ประสานงานกับต�ำรวจต่าง จั ง หวั ด ที่ มี ง านเทศกาลอย่ า งเรา ขอแฟ้ ม ประวั ติ อาชญากรรมดู รู ป พรรณสั น ฐานและวิ ธี ป ฏิ บั ติ ง าน ของพวกอิจฉาชีพเหล่ านี้ใ ห้ พร้ อ มเท่ า กับ ป้ อ งกั น ไว้ ล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน กล้องวงจรปิดสามารถติดเพิ่มตามจุด ส�ำคัญๆ กล้องที่ใช้การไม่ได้ควรซ่อมบ�ำรุงให้พร้อมใช้ งานตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่ประชาชนควดหวังจากฝ่าย บ้ า นเมื อ งและผู ้ รั บ ผิ ด ชอบ ขออย่ า ละเลยและควร ปฏิบัติให้รัดกุมเคร่งครัด
ลักฐานที่อาจนับว่าส�ำคัญที่สุดที่พบในพื้นที่ “จันดีนคร ที่ ช ้ า งกลาง” นอกจากร่ อ งรอยคู น�้ ำ คั น ดิ น แนวอิ ฐ ต่างๆ ตลอดจนวัตถุที่พบหลายประเภทตั้งแต่เศษกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบ โลหะส�ำริด เหล็ก โดย เฉพาะเครื่องประดับท�ำจากหิน แก้วและทองค�ำ ที่ท�ำเป็น ลูกปัด หัวแหวนแล้ว รูปโลหะส�ำริดที่แรกเห็น ใครๆ ก็เอ่ย ถึง “เหวัชระ” ที่นับเป็นหนึ่งในรูปสัญญลักษณ์และเคารพ ส�ำคัญในพระพุทธศาสนาวัชรยานหรือมนตรยาน พบแพร่
หลายมากในสมัยศิลปะเขมร แต่มีความแตกต่างในหลาย ประการ กล่าวคือ เหวัชระ ที่พบโดยทั่วไปนั้น มี ๘ เศียร ๑๖ กร ๔ เพลา แต่องค์นี้ มีกึ่งหนึ่ง คือ ๔ เศียร ๘ กร ๒ เพลา โดยบางพักตร์ปรากฏมีเขี้ยวอย่างยักษ์ ในขณะที่พระกร ก็ท�ำมุทราต่างๆ ข้างหนึ่งถือกระดิ่งไว้ด้วย แตกต่างจาก เหวัชระทั่วๆ ไป ที่กล่าวกันว่ามาจากทิเบต หมายถึง เทพผู้ พิทักษ์ในคติพุทธมหายานแบบตันตระ หรือมนตรยาน ต่อ มาพัฒนาเป็นนิกายวัชรยาน ซึ่งแพร่หลายอยู่ในแถบทิเบต ภูฏาน จีน และเข้ามายังเขมรราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ โดย เทพผู้พิทักษ์เหล่านี้จะเรียกว่า “ยิ-ดัม” โดยลามะชั้นสูงจะมี ยิ-ดัม คอยปกปักรักษา มีหน้าที่คอยก�ำราบภูตผีปีศาจและ ดูแลมิให้สงิ่ ชัว่ ร้ายเกิดขึน้ ปรากฏเป็นชือ่ เหวัชระ, คุหยสมาช, มหามายา, สังวร, กาลจักร หรือชัมภละ เป็นต้น ที่พระ พักตร์มักเรียงกันสองด้านๆ ละ ๓ กับเบื้องบนอีก ๑ พระกร ก็มักถือหัวกะโหลก ยืนบนซากศพหรืออสูร แต่ที่ส�ำคัญรูป โลหะส�ำริดที่พบนี้ เป็นศิลปะอย่างชวา มีเนื้อและลวดลาย วิจิตรงดงามประณีตกว่าอย่างเขมรมาก บางท่านสันนิษฐาน ว่าอายุอาจร่วมสมัยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ ซึ่ง ก่อนกว่าเหวัชระในศิลปะเขมรที่พบโดยทั่วไป โดยได้แนบ ภาพออกเผยแพร่ทางเพจเฟสบุ๊ค “คัยกับหมอบัญชา” เมื่อ ปลายเดือนกรกฎาคม แล้วได้รับการแบ่งปันกันจนได้ข้อยุติ อย่างนี้ครับ คุยกับหมอบัญชา July 28 at 7:52am กรุณารออ่าน บางข้อเสนอจากน้องคนหนึ่งที่ก�ำลังเข้า มาช่วยหลายงานของพวกเราที่สวนโมกข์กรุงเทพ ว่าด้วย รูปเคารพส�ำริดนี้ นะครับเขาว่าคือ "ไตรโลกยวิชัย" ซึ่งเข้า ข่ายมากกว่า "เหวัชระ" ซึ่งผมก็เห็นว่าไม่น่าจะใช่ "เหวัชระ" อย่างที่หลาย ๆ คนนึกถึง Kotchaporn Kladnarong July 28 at 9:15am น่าสนใจค่ะ Naran Akharanitipirakool July 28 at 10:12am ผมคิดว่าน่าจะเป็น "ไตรโลกยวิชัย" ครับ ผมขอพูดใน แง่ของประติมาณวิทยาก่อน แล้วในโอกาสหน้าจะขอพูดใน
แง่ศิลปกรรม การก�ำหนดอายุ ...ท�ำไมถึงเป็นไตรโลกยวิชัย? ในคัมภีร์สาธนะมาลา ซึ่งเป็นคัมภีร์ส�ำคัญในการสร้างรูปเคารพ มหายานตันตระ โดยเฉพาะในสมัยปาละ ได้บอกลักษณะส�ำคัญของพระไตร โลกยวิชัยไว้ส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญมากคือ "จตุรมุขัม อัษฏกุชัม ปรถมมุขัม โกรธศฤงคารัม ทักษิณัม เราทรัม วามัม พีภัต สัม ปฤษฐัม วีรรสัม" แปลได้ว่า (พระองค์) มีสี่หน้า แปด กร หน้าแรกแสดงความโกรธ หน้าขวาแสดงการร้อง หน้า ซ้ายแสดงความกลัว หน้าหลังแสดงความกล้า (บางครั้ง ประติมากรรมก็ไม่นิยมแสดงหน้าหลัง บางครั้งหน้าบางหน้า ถูกน�ำไปไว้ด้านบน เช่น เอกทศมุขอวโลกิเตศวร) และส่วน ท้ายคัมภีร์บอกว่า "พุทธสัคทามมาลาทิวิจิตรามพราภรณะ" แปลว่ า สวมเครื่ อ งประดั บ อั น วิ จิ ต รและพวงมาลั ย รู ป พระพุทธเจ้าเป็นอาทิ ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นกุญแจส�ำคัญของ ไตรโลกวิชัย ซึ่งแตกต่างจากประติมากรรมพระองค์อื่นๆ ที่ ไม่มีพวงมาลัยเป็นพระพุทธเจ้าประดับ และมุทราตรงกลาง ที่ประติมากรรมองค์นี้ แสดง ภูตทามระมุทราหรือมุทรานี้ อีกชื่อคือ "ไตรโลกยวิชัยมุทรา" ครับ ...แล้วท�ำไมถึงไม่เป็นเหวัชระ? ตามปกติประติมากรรม เหวั ช ระจะต้ อ งมี พ ระกรมากกว่ า นี้ แ ละทุ ก มื อ จะต้ อ งถื อ กปาละหรือหัวกะโหลกรองเลือด และจะต้องมีพระพักตร์ ถึ ง ๘ หน้ า แต่ ป ระติ ม ากรรมนี้ มี เ พี ย ง ๔ หน้ า จากที่ กล่ า วมาทั้ ง หมด ผมจึ ง สั น นิ ษ ฐานว่ า ประติ ม ากรรมนี้ คื อ (อ่านต่อหน้า ๑๑) ไตรโลกยวิชัยครับ
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๓
เ
ป็นข่าวเล็กๆ ไม่สังเกตก็ไม่เห็น ใครไม่ เคยมีลูกหลานเป็นโรคหัวใจแต่ก�ำเนิด อาจไม่สนใจเอาเลยก็ได้ ลู ก ชายหั ว ใจรั่ ว แต่ ก� ำ เนิ ด คลอด ก่อนก�ำหนดเดือนกว่าๆ ต้องอย่ตู้อบโรง พยาบาลเซ็นทรัลเจนเนอรัลด์เดือนกว่า แม่ ต ้ อ งนั่ ง รถไปให้ น�้ ำ นมทุ ก วั น ---ตอน เกิดคุณหมอบอกให้ท�ำใจไว้บ้าง เพราะ หัวใจรั่วสามรู รูใหญ่อยู่ห้องล่าง เวลาจะ หายใจล�ำบากมาก การสูบฉีดออกซิเจน ไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ คุณหมอต้องให้ ยากระตุ้นหัวใจให้ท�ำงานเพิ่มขวดขนาด ลิโพวิตัน-ดี กินวันละหยดๆ ยาขมมาก ลูกชายกินยาอยู่ ๖ เดือน หมดยาไป ๓ ขวด ถ้ากินขวดที่ ๔ หมดอาจกลายเป็น เด็กไฮเปอร์ โชคดีผมได้รู้จักอาจารย์หมอโรค หั ว ใจ ชื่ อ เกรี ย งศั ก ดิ์ อนุ โ รจน์ ท่ า น แนะน�ำให้ลูกได้อยู่ในที่อากาศดีๆ ผมใช้ เวลาไม่นานย้ายครอบครัวกลับนครศรีธรรมราช เมื่อพาลูกไปตรวจเครื่องเอ็คโค่
นพ.บุญชอบ พงษ์พาณิชย์
ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๕ ธั น วาคม ๒๕๖๐ ที่ โ รงพยาบาล มหาราชนครศรีธรรมราช นพ.บุญชอบ กล่าวว่า มูลนิธิเด็ก ภายหลัง พบว่ารูรั่วหัวใจปิดหมดแล้ว ไม่ ต้องล�ำบากใจ ตอนนั้นผมท�ำนิตยสารในกรุงเทพฯ ผมติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารใหญ่ของ มู ล นิ ธิ เ ด็ ก โรคหั ว ใจ ในพระอุ ป ถั ม ภ์ ข อง สมเด็ จ พระเจ้ า พี่ น างเธอ เจ้ า ฟ้ า กั ล ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อน�ำเรื่องราวมาตีพิมพ์ ขอความรู้และ รูจ้ กั เอาไว้ เผือ่ จ�ำเป็นต้องฝากลูกเข้ารับการ รักษา แม้เป็นสิง่ ไม่นา่ ท�ำ แต่ตอ้ งท�ำครับ เราไม่มีวันรู้ชัดหรอกว่าเด็กเป็นโรค หัวใจแต่ก�ำเนิด เกิดจากฝุ่นละออง หรือ อะไรอีกหลายอย่าง พ่อแม่เด็กในชนบท บางคนลูกเสียชีวิต แต่มักรับรู้กันในนาม ไข้หวัด เดื อ นที่ แ ล้ ว นพ.บุ ญ ชอบ พงษ์ พาณิ ช ย์ ประธานคณะกรรมการมู ล นิ ธิ เด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิ ว าสราชนคริ น ทร์ เป็ น ประธานเปิดโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจ ๑,๘๐๐ ราย เฉลิ ม พระเกี ย รติ พ ระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคล
โรคหั ว ใจช่ ว ยเหลื อ เด็ ก ทั่ ว ประเทศมากว่ า ๑๐ ปี ใน โอกาสมหามงคล พระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทรง พระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ได้เริ่มโครงการผ่าตัด ๑,๘๐๐ ราย ตั้ ง แต่ ก ลางปี ที่ แ ล้ ว ทั้ ง ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ผ่าตัดไปแล้วกว่า ๗๐๐-๘๐๐ ราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นพ.บุญชอบ กล่าวว่า ประเทศไทย ท�ำได้เพราะมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสของพ่อแม่ที่ สงสัยว่าทารกหรือเด็กๆ อายุ ๑-๒ ปี เป็น โรคหัวใจก็น่าจะไปตรวจ และหาทางเข้า ให้ถึงมูลนิธิแห่งนี้ เด็กเกิดใหม่ที่เป็นโรคหัวใจรั่วต้อง ได้ รั บ การรั ก ษาโดยการผ่ า ตั ด ภายใน อายุ ๑ ปี หรือบางรายภายใน ๑ เดือน มิฉะนั้นจะเสียชีวิตหรือผ่าตัดไม่ได้ ไปตรวจกันครับ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชคงยินดี ภาพจาก thainews.prd.go.th
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๔
โดย : นครา nagara@nakhonforum.com
สุธรรม ชยันต์เกียรติ
ผ
มอยู ่ ร ะหว่ า งพั ก ฟื ้ น หลั ง การผ่ า ตั ด ต้ อ กระจก หมอสั่ ง ให้ พั ก ทั้ ง สายตา และการออกก�ำลังกาย จึงเป็นช่วงที่น่า อึดอัดทีส่ ดุ แต่ ป ะเหมาะเคราะห์ ดี ต รงเข้ า กั บ ฤดูกาลเข้าพรรษา จึงถือโอกาสเข้าพรรษา พระราชสุเมธาจารย์ (พระอาจารย์โรเบิร์ต สุเมโธ) แบบฆราวาสเสียเลย เปิดยูทูปในมือถือได้ ฟังแสดงธรรมจากพระนักเทศน์หลายองค์ นอกเหนือจากฟังของท่านพุทธทาส ท่าน อาจารย์ปญ ั ญานันทภิกขุ อาจารย์คกึ ฤทธิ์ อาจารย์ปราโมทย์ และอาจารย์สุรศักดิ์ อย่างจุใจแล้ว ยังได้ฟังของพระภิกษุชาว ต่างประเทศอีก ๒ รูป คืออาจารย์ชยสาโร เพื่อให้พ้นทุกข์สืบเสาะจนทราบ และอาจารย์สุเมโธ แสดงธรรมเป็นภาษา ว่า ถ้าจะศึกษาปฎิบัติธรรมอย่าง ไทยได้ชดั เจนดีมาก จริงจังละก็ต้องไปฝึกกับพระสาย ผมใช้ เ วลาหลายปี ย กชั้ น ไปวั ด ทุ ก วัดป่า ในจ�ำนวนนี้มีอยู่วัดหนึ่งที่ วันพระ หมุนเวียนกันไปไม่ซ�้ำวัด เกือบจะ ภาคอีสานชือ่ 'หลวงพ่อชา' แห่ง ครบ ๓๐๐ วัด พักหลังนีก้ ง็ ดเดินสายเพราะ พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ วัดหนองป่าพง จังหวัดอุดรธานี เห็นว่าได้ประโยชน์น้อยกว่า เป็นการท�ำ บุญแบบท่องเทีย่ วทัศนาจร คิดว่าสมควรแล้วก็อยูป่ ระจ�ำ ท่านจึงดั้นด้นเดินธุดงค์ไปหาครูบาอาจารย์ด้วยเชื่อมั่นใน เสียที่ใดที่หนึ่งน่าจะดีก็เลือกเอาวัดศรีทวี เหตุเพราะอยู่ ตัวอาจารย์ชาว่าเป็น 'พระอรหันต์' ท่านอาจารย์ชาพูด ใกล้ที่ท�ำงานของเพื่อนๆ หลายๆ คน เจ้าอาวาสท่านก็ ภาษาฝรั่งไม่ได้ สั่งสอนหรือแสดงธรรมก็เป็นภาษาอีสาน เมตตาให้ใช้อุโบสถเพื่อใช้ปฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์ ซึ่ง ฟังไม่คอ่ ยรูเ้ รือ่ ง ด้านอาหารการกินก็เป็นอาหารชาวบ้าน วัดนี้ก�ำลังอยู่ในช่วงการปรับปรุงพื้นที่ สถานที่เพื่อให้ อีสานไม่คุ้นลิ้น กุฏิที่พักสงฆ์บ้านนอกบ้านป่าก็ไม่สะดวก เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม มีสวนธรรม ห้องฝึกสมาธิ เหมือนในเมือง จึงต้องใช้ความเพียรและอดทนมากกว่า ภาวนา นับเป็นสถานที่ที่สัปปายะอีกวัดหนึ่งของเมือง พระชาวไทยทีเ่ คยชินและเป็นวิถชี วี ติ ของตนอยูแ่ ล้ว แถม นคร ผมรูส้ กึ ทึง่ กับฝรัง่ ทัง้ สองรูปนีม้ าก ติดตามอ่านและ ท่านอาจารย์ชาก็ไม่ให้มีอภิสิทธิ์พิเศษกว่าพระสงฆ์อื่นๆ ฟังเรื่องภาวนาของท่านทั้งสอง อยากจะมาชวนคิดชวน ด้วย ท่านสุเมโธเล่าตอนหนึง่ ว่า ชาวบ้านถามท่านว่าท่าน คุยกับท่านผูอ้ า่ น พอได้รบั รูว้ า่ ฝรัง่ มังค่าเขาคิดอย่างไรถึง พูดภาษาฝรั่งไม่ได้ ฝรั่งพูดอีสานไม่ได้ แล้วท่านจะสอน ได้มาบวชเป็นพระสงฆ์ในสายเถรวาทอย่างพวกเรา อะไร ท่านอาจารย์ชาตอบว่า "ก็สอนเหมือนสอนวัวสอน พระสองรูปนี้เป็นลูกศิษย์ของ 'หลวงพ่อชา' สาย ควายนั่นแหละ" ท่านรู้เข้าก็เกิดอารมณ์โกรธมาก หาว่า วัดป่าหนองป่าพง บวชเรียนมาสามสิบกว่าพรรษา ใช้ ดูถูกคนฝรั่ง สุดท้ายภายหลังถึงจะได้รู้ว่าท่านสอนเรื่อง ภาษาไทยและบาลีได้ดีมาก เดิมท่านนับถือศาสนาคริสต์ การฝึกยึดมัน่ ถือมัน่ เรือ่ งตัวกูของกู ถึงได้ไปกราบขอโทษ แต่ก็ไม่เคร่งครัดเหมือนคนอื่นในครอบครัว สถานะการ อาจารย์ทไี่ ด้ลว่ งเกินถือโกรธท่าน งานอาชีพก็ค่อนข้างดีมีการศึกษาสูง แต่ยังมีความทุกข์ พระอาจารย์สุเมโธบวชได้ไม่กี่พรรษาก็ได้รับมอบ จึงออกแสวงหาความสุขและหาความหมายของชีวิต ว่า หมายให้ไปเป็นเจ้าอาวาส 'วัดป่าอเมริกาวาส' เนื่องจาก "มนุษย์เกิดมาเพือ่ อะไร" เดินทางแสวงหาความหมายของ พระชาวอเมริ กั น ไปอยู ่ จ� ำ นวนมาก แต่ ภ ายหลั ง ต้ อ ง ชีวิตตั้งแต่อินเดีย ธิเบต จีนและญี่ปุ่น สุดท้ายได้รับค�ำ เปลีย่ นเป็น 'วัดป่านานาชาติ' แทน เนือ่ งจากพระชาติอนื่ แนะน�ำให้มาทีเ่ มืองไทย แล้วก็มาบวชอยูท่ วี่ ดั ในเมืองไทย ที่เข้ามาบวชบ่นน้อยใจในชื่อ 'อเมริกาวาส' ภายหลังก็ได้ ก็ยังไม่พอใจเพราะพบแต่พิธีกรรมต่างๆ มากมาย ไม่สม ไปเปิ ด สาขาวั ด ป่ า ในกรุ ง ลอนดอน ชื่ อ 'วั ด อมราวดี ' ตามที่เขาแนะน�ำมาว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ฝึกฝน วัดอมราวดีมพี ระสงฆ์จำ� พรรษาอยู่ >> อ่านต่อหน้า ๑๑
หนังสือพิมพ์รักบ้านเกิด นครศรีธรรมราช ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน ๒๕๕๙ ขอขอบพระคุณผู้อ่าน ผู้มีอุปการคุณที่สนับสนุนให้ยืนหยัดอยู่ครบ ๕ ปี
วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๙.๐๐ น. รองผู้ว่าฯ ดนัย เจียมวิเศษสุข เป็นผู้แทนประกอบพิธีอัญเชิญพวงมาลา หลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชิ นี น าถ, สมเด็ จ พระบรมโอรสาธิ ร าชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ฯ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้ า วรวงศ์ เ ธอ พระองค์ เ จ้ า โสมสวลี พระวรราชาทิ นัดดามาตุ ฯลฯ วางหน้าหีบศพจ่าสิบต�ำรวจ สมพร สุดชาดา ณ ศาลาวัดท่าไทร ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครฯ ซึ่งเสีย ชีวิตจากความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ผู้ว่าฯพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า เป็นประธานในพิธีถวายพุ่มเครื่องราชสักการะ (พุ่ม ดอกมะลิ) จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล กล่าวถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติ และกล่าวน�ำถวายพระพรชัยมงคล เบื้องหน้า พระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา มีเหล่าข้าราชการหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษา พ่อค้าประชาชนเข้าร่วมประมาณ ๓,๐๐๐ คน พร้อมใจสวมใส่ เสื้อสีฟ้าเข้าร่วมพิธีและร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา นครศรีธรรมราช จัดพิธี จุดเทียนชัยถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชิ นี น าถ เนื่ อ งในวั น แม่ แ ห่ ง ชาติ โดยได้ รั บ เกี ย รติ จ าก พล.ต.คุ ณ วุ ฒิ หมอแก้ ว ผู ้ แ ทนแม่ ทั พ ภาค ๔ และพี่ น ้ อ ง ประชาชนในจังหวัดเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง สิ้ น กั น ยายน ๒๕๕๙ ผู ้ ว่าฯ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า เกษียณ อายุราชการไปใช้ชีวิตอย่างคนหนุ่ม มากประสบการณ์และขอให้ค้นพบ ความสุ ข แบบ Utopia ที่ ส ร้ า งขึ้ น เอง มีความสุขต่อเนื่องไปทีละวันๆ พระบรมธาตุเจดีย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของเมืองนครโปรดคุ้มครองป้องกัน
หน้า ๕ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ รองผู้ว่าฯ ดนัย เจียม วิเศษสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ การจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๓ คัดเลือก ภาค ๔ 'เมืองคอนเกมส์' ระหว่าง ๒๐-๒๙ ตุลาคมนี้ เพื่อ คัดเลือกนักกีฬาจาก ๑๔ จังหวัดภาคใต้ เป็นตัวแทนเข้าร่วม การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๓ ที่จังหวัดชุมพร และ ระนอง ระหว่าง ๑๖- ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๐ วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙ รองผู้ว่าฯ ดนัย เจียม วิเศษสุข พร้อมคณะท�ำงานเข้ารับฟังการบรรยายและประชุมเชิง ปฏิบัติการเพื่อยกระดับการพัฒนาระบบการ บริหารงานจังหวัด ตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (Public Sector Management Quality Award : PMQA) ผ่านระบบวีดิทัศน์ ทางไกลรับสัญญาณจากกระทรวงมหาดไทยครั้งนี้เพื่อสร้าง ความรู้ ความเข้าใจการบริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน
วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ รัตนะ สวามีชัย ผู้ช่วยปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดสัมมนาขับเคลื่อนการพัฒนา อาชีพและส่งเสริมรายได้ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน�้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ประจ�ำปี ๒๕๕๙ ของ สนง.เกษตร และสหกรณ์จังหวัดนครฯเพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ดี เกิดความ ร่วมมือกันอย่างบูรณาการเพื่อให้การพัฒนาอาชีพและส่งเสริม รายได้ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน�้ำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ มีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานต่างๆ ๒๘๐ คน
รายชื่อของผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นพ่อดีเด่นระดับ จังหวัดของนครฯ ปี ๒๕๕๙ ประกอบด้วย แปลก ชุมทอง อดีต ข้าราชการบ�ำนาญ (อ.ชะอวด), สมพร อักษรน�ำ (อ.ทุ่งสง) และ คล�้ำ เหมทานนท์ (อ.เมือง) ซึ่งจะเข้ารับเกียรติบัตรเป็นพ่อ ซื้ อ เครื่ อ งประดั บ ทองหรื อ เพชรเลอค่ า เชิ ญ ที่ ทอง ตัวอย่างแห่งชาติในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ อาคารใหม่สวน ซีกวง @Central Plaza นครศรีธรรมราช ชั้น ๒ ในราคาที่ อัมพร กทม. สมเหตุสมผล ร้านตกแต่งภายในร้านสไตล์ contemporary เรียบหรู โปร่ง สบาย อบอุ่น ชมภาพหนังตะลุงอันวิจิตร อ.วาที ทรัพย์สิน ท่านสนใจ-ขาย ซื้อ แลกเปลี่ยน ขายฝาก ผ่อน/ วั ช รี จิ ต ต์ ว รจิ น ดา หน.สนง.จังหวัดนครฯ ประชุม ออมทอง หรืองานสั่งท�ำทางร้านพร้อมบริการ เจ้าหน้าที่เรื่องการจัดท� ำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้ จ่ายงบประมาณ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแนวทางการ ด�ำเนินงาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เมืองนครมีแผนงาน-ผลผลิต/ โครงการ-กิจกรรม การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ๓ ส่วน คือ พัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาการท่องเที่ยวและบริการ และสร้าง โอกาสเพิ่มรายได้ งบฯ รวม ๓๐๗,๖๖๓,๗๐๐ บาท
ไม่รู้ว่าจะถึงมือชาวบ้านจริงๆ หรือเปล่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าท�ำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขต ป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายจัดที่ดินท�ำกินให้ชุมชน ตาม นโยบายรัฐบาลแก่ราษฎร ๒๗๒ ราย ประกอบด้วย ป่าสงวน แห่งชาติ ป่าเลนปากน�้ำ ๙๔ ราย ป่าเลนปากพนัง ๓๗ ราย และ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลนปากพญา-ปากนคร ๑๐๑ ราย รวม ที่ดิน ๓,๙๖๔ ไร่ ๖๙ ตารางวา Find Us On :
See Kuang BJ Diamond Gold
ผศ. ดร.บ�ำรุง ศรีนวลปาน อาจารย์หลักสูตรนิเทศศาสตร์ และรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะวิทยาการจัดการ ม.ราชภัฏนครฯ เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติในฐานะ สถาบันที่ท�ำงานร่วมกับสื่อสาธารณะ จาก ฯพณฯ พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี ในการประชุมสมัชชาเครือข่าย เพื่อนสื่อสาธารณะ ระดับชาติ ประจ�ำปี ๒๕๕๙ ศิริพันธุ์ ส่งเจริญ (บี) อยู่บ้าน ว่ า งๆ ท� ำ เค้ ก กล้ ว ยหอมสู ต รไม่ ใ ช้ เนย ใช้ น�้ ำ มั น คาโนลาแทนเพื่ อ คน รักสุขภาพ คุกกี้ธัญพืชน�้ำผึ้งจากเขา หลวง คัพเค้ก ซาลาเปาการ์ตูน ฯลฯ สนใจสั่งซื้อทางไลน์ : beeloveface หรือโทร.๐๘๘-๗๕๒-๙๑๒๙
Page เพชรทองซีกวง
: Seekuang_central
Seekuang BJ
'๑๒ สิงหาคมมหาราชินี' ฮอนด้าศรีนคร ร่วมประสาน กาชาดจังหวัด โรงพยาบาลมหาราช และพี่น้องชาวนครผู้ใจบุญ ร่วมบริจาคโลหิตน�ำไปใช้ประโยชน์แก่ผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยและผู้ ต้องการใช้จริงๆ ยามฉุกเฉิน ผู้บริจาคทุกคนมีรอยยิ้มเบิกบาน เป็นสุข ร้านโกปี๊ สาขาคิวคูตอน ถนนอ้อมค่าย เชิญชิมเชิญชม บรรยากาศงามๆ สไลต์โกปี๊ แล้วพบกันนะครับ
Line ID : @Seekuang
Line ID : boonada
099-195-6996
เพชรทอง 1. ถ.เนรมิต ท่าวัง 2. ชั้ น 1 โซนเพชรทอง ห้างโรบินสัน 3. ชั้ น 1 โซนเพชรทอง ห้างสหไทยพลาซ่ า ทอง 4. ชั้ น 2 โซนร้านทอง ห้างเซ็นทรัลพลาซ่ า (สิงหาคม 2559) 5. ท่าม้า ข้างศาลากลาง 6. หัวอิฐ 7. คูขวางใกล้ส่ีแยก 8. ตลาดเสาร์อาทิตย์ ติด ซ.ศรีนคร 9. สะพานยาว (ข้างโลตัสเอ็กเพรส เร็วๆ นี้) เพชรทองออนไลน์ 10. www.facebook.com/BOONADA ทอง (หาดใหญ่)
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๖ อากง-อาม่ามีลูก ๑๐ คน" ปรับปรุงและตกแต่งก็ขึ้นป้าย ‘ห้าง สหไทย’ ชื่อนี้อากงเป็นคนตั้ง "…เราเอาช่างจากกรุงเทพฯ มาท�ำ อย่างดี สมัยนั้นถือเป็นร้านแปลกใหม่ ขาย เสื้อผ้า รองเท้า เราชวนแบรนด์ดังๆ เขาไม่ มา เพราะเราเป็นห้างใหม่ อย่างรองเท้า เราต้องไปสั่งตัดแล้วติดยี่ห้อสหไทย ถือว่า เป็ น แนวคิ ด ที่ แ ตกต่ า งจากร้ า นค้ า ทั่ ว ไป มี ขึ้ น ป้ า ยลดราคา ๓๐ เปอร์ เ ซ็ น ต์ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ สมัยก่อนเขาไม่ติดราคา ลูกค้า เข้ามาจะถามว่าเท่าไร พ่อผมเริ่มติดราคา เริ่มมีป้ายบอก โปรโมชั่น เอาแบรนด์รองๆ เข้ามา---แบรนด์ดังๆ ไม่มา เราชวน PIAS เขามา เพราะยังไม่ดัง ตอนหลัง PIAS ดัง ขึ้นมาเปลี่ยนชื่อเป็น bsc” กิติพงศ์บอกเล่าถึงความเติบโตของ สหไทย "พ่อขยับมาเป็นสหไทยที่อยู่ข้างโรง หนังวิโรจน์เก่า ที่นั่นเราท�ำซูเปอร์มาร์เก็ต เข้าใจว่าเป็นแห่งแรกในภาคใต้เลย ก่อนนี้
กิ
ติพงศ์ ปัญจคุณาธร กรรมการบริหาร 'ห้างสหไทย สรรพสินค้า' หรือ บริษัท ห้างสหไทยสรรพสินค้า จ�ำกัด ลูกชายคนที่ ๒ ของจรินทร์ ปัญจคุณาธร เล่าว่าเมื่อ ๕๓ ปีก่อน ญาติของเขาชักชวนมาเที่ยวนครศรีธรรมราช ญาติที่เมืองนครซึ่งนับย้อนไป 'อากง' (ปู่) ของพวกเขา เคยอาศั ย อยู ่ ห มู ่ บ ้ า นเดี ย วกั น ในประเทศจี น เมื่ อ หนุ ่ ม กรุงเทพฯ มาถึงเมืองนครก็มีคนแนะน�ำให้เซ้งห้องแถว ใกล้สี่แยกท่าวัง (เยื้องๆ ร้านจิมมี่) “คุณพ่อเป็นคนกรุงเทพฯ ญาติอยู่นครฯ เลยมาเที่ยว ทางญาติ (โกอันเจ้าของร้านทอง) ชวนมาเปิดร้าน สมัย ก่อนมีอาคารพาณิชย์เป็นไม้ เขาจะให้เซ้งสนใจไหม ปู่ลงมา ดูเห็นว่าท�ำเลดี อีกอย่างเห็นว่าสินค้าที่ขายในตลาดราคา ค่อนข้างสูง--- บ้านพ่อผมดั้งเดิมเป็นร้านขายรองเท้า ขาย ของกระจุกกระจิกแถวบางรัก เวลาจะไปเอาสินค้ามาขาย ก็ไปเอาตามส�ำเพ็ง โบ้เบ๊ พอเห็นโอกาส เพราะร้านที่นครฯ ค่อนข้างขายราคาสูง พ่อว่าถ้าเราซื้อจากทางโน้นมาขาย ทางนี้--- ถ้าเราขายในราคาต�่ำกว่านี้ลูกค้าก็จะได้ประโยชน์ และเราเองก็ยังพอมีก�ำไร เลยตกลงเซ้งและปรับปรุง หา ช่ า งจากกรุ ง เทพฯ ลงมาท� ำ สมั ย นั้ น คนลื อ ว่ า เศรษฐี จากกรุ ง เทพฯมาเปิ ด ร้ า น แต่จ ริง ๆ ฐานะเราไม่ไ ด้ดีนัก
เถ้าแก่ต้องไปหยิบให้ลูกค้า แต่ที่นี่ลูกค้าเดินเลือกเอง ยุค แรกๆ จุดเด่นของเราและเป็นจุดแข็งของคนสมัยนั้น คือ ต้องขยัน อดทน แล้วก็ประหยัด สิ่งนี้อยู่ในตัวพ่อผม แล้ว ยังสอนลูกหลานให้ใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยการกระท�ำ" กิ ติ พ งศ์ เ ติ บ โตและเห็ น พ่ อ เดิ น อยู ่ ใ นร้ า นจนชิ น ตา "ปัจจุบันก็ยังขยันเดินไปเดินมาช่วยพนักงาน ผมว่าพ่อยัง ท�ำงานหนักกว่าลูกๆ เสียอีก ทั้งๆ ที่เพลาๆ ลงแล้ว สมัย ก่อนกว่าจะปิดร้านเข้านอนดึกมากกว่าจะได้นอน...การที่ พ่อเดินในร้านท�ำให้มีความใกล้ชิดลูกค้า ถ้าลูกค้าติชมอะไร ก็พูดคุยได้เลย พูดคุยกับเจ้าของ ท�ำให้ความเป็นสหไทย มีความใกล้ชิดกับคนนครฯ ใกล้ชิดกับท้องถิ่น...” กิติพงศ์เล่าต่อ "พนักงานของเราจะอยู่กับเรานาน คนที่ท�ำงานกับเราเกิน ๒๐ ปี มี ๖๐ กว่าคน เกิน ๓๐ ปี เกือบ ๑๐ คน เขาผูกพันกับเพื่อนร่วมงาน องค์กร และ เจ้าของโดยเฉพาะพ่อผม อยู่กันเหมือนครอบครัว มีการ ช่วยเหลือกันในเรื่องงาน ลูกหลานพนักงานจะเข้าเรียน ชีวิตส่วนตัว การเก็บเงิน การบริหารเงิน ของเราพนักงาน เก็ บ เงิ น เราสมทบให้ เราท� ำ ตั้ ง แต่ ไ ม่ มี ก ฎหมายแรงงาน บังคับหลายสิบปีก่อน หักจากเงินเดือน สมมติว่า ๓๐๐ เรา สมทบให้ ให้พนักงานรู้จักอดออมบริหารชีวิตไม่เดือดร้อน
ไม่เป็นหนี้เป็นสิน ซึ่งพ่อไม่ชอบเรื่องการเล่นพนัน เป็น หนี้เป็นสิน ใช้จ่ายเกินตัว พ่อจะสอนพนักงานตลอด..." นโยบายของสหไทยที่ยึดมั่นมานานขายของราคาถูก "เราไม่ เ อาเปรี ย บ...เราจะให้ ลู ก ค้ า ได้ ซื้ อ ในราคา ประหยัด ห้างพอมีก�ำไร ลูกค้าจะได้ซื้อของราคาถูก เรา ไมได้เอาสินค้าถูกมาล่อ ลูกค้ามาซื้อทุกตัวเราบวกก�ำไรนิด เดียวพอให้เราอยู่ได้ มาที่เราลูกค้าจะมีความมั่นใจว่าเขา จะได้ซื้อสินค้าในราคาประหยัด ไม่ต้องกังวลว่าพอเอากลับ ไปแล้วรู้ว่าที่อื่นถูกกว่าตั้งสิบบาท เราจึงมีลูกค้าประจ�ำมาก เรามีจุดยืนของเรา" เมืองนครมีห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นหลังห้างเซ็นทรัล กั บ โรบิ น สั น เปิ ด บริ ก าร กิ ติ พงศ์ บ อกว่ า สหไทยผ่ า นการ แข่งขันมาตลอดและผ่านมาได้ "แต่พอเมืองเริ่มใหญ่ขึ้นมีห้างจากกรุงเทพฯ มีห้าง ต่ า งชาติ เ ข้ า มามากขึ้ น มั น ท� ำ ให้ ลู ก ค้ า มี ท างเลื อ ก แล้ ว แต่ละห้างก็มีจุดแข็ง ห้างต่างชาติอาจมีที่จอดรถสะดวก สบาย พื้นที่กว้างขวางเดินสะดวก มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวก หลายอย่าง คนที่มีฐานะเขาอาจจะชอบห้างแบบนี้ จ่าย แพงกว่าเขาไม่กังวล ขณะที่ลูกค้าสหไทยต้องการประหยัด ฉลาดซื้ อ อยากจะได้ ค วามมั่ น ใจว่ า เขาจะได้ ซื้ อ ของถู ก แม้แต่สินค้าลูกค้าเราก็จะทราบความแตกต่างเพราะเรา หามาเอง เพราะฉะนั้นเราจะไม่ซ�้ำกับที่อื่น ถ้าแบรนด์ดังๆ ห้างเปิดใหม่ก็มีเราก็มี แต่ถ้าเป็นสินค้าอีกกลุ่มเราหามาเอง เป็นสินค้าประหยัด แล้วเราจะได้กลุ่มลูกค้า เราไม่พูดเรื่อง การแข่งขัน แต่เราจะพูดเรื่องความแตกต่าง เพราะต่างคน ต่างยืนในจุดยืนของตัวเอง เราปรับตัวมาตลอด ปรับตัวไป ตามธรรมชาติ เราคุ้นเคยกับการสร้างความแตกต่างและ เรามีจุดยืนของเรา" การปรับตัวที่น่าสนใจคือการรุกไปเปิดสหไทยสาขา ทุ่งสงเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว “...เราปรับตัวตลอดเวลา มีจุดยืนชัดเจน การปรับ ตัวคือการพัฒนาตัวเอง สมัยเปิดสหไทยที่ทุ่งสงเราคิดว่ามี โอกาส ตอนนี้ย่างเข้าปีที่ ๗ แล้ว ช่วงนั้นเรามีความพร้อม เพราะพี่น้องเริ่มกลับมา พี่ชายน้องชายกลับมา เซ็ลทรัลก็ เริ่มออกต่างจังหวัด เรามองตรัง กระบี่ ทุ่งสง อยากไปอยู่ ในจุดที่หลีกเลี่ยงการแข่งขัน เราเลยเลือกทุ่งสง เพราะไม่ ช้าตรังก็ต้องเปิด กระบี่ต้องเปิด แต่ทุ่งสงในแง่เศรษฐกิจ ประชากร ภู มิ ป ระเทศก็ เ หมาะสม เป็ น จุ ด กึ่ ง กลางที่ เศรษฐกิจดี ก�ำลังซื้อดี ตกลงกันว่าจะไปทุ่งสง เราอยู่นครฯ เหมือนไปพัฒนาจังหวัด เราสร้างงานในนครฯ ให้มากขึ้น ปีแรกอาจกระท่อนกระแท่นนิดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ดีขึ้น ตอนแรกเราตอบสนองลูกค้าไม่ได้ เราก็ปรับตัวเองให้เป็นที่ ชื่นชอบของคนที่นั่น มีอะไรที่เขาต้องการ อะไรที่จะสนอง เขาได้ ช่วงแรกเปิดมีร้านค้ามาเปิดกับเราราวๆ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ผ่านมาสามปีมีร้านค้าเปิดมากกว่า ๙๕ เปอร์เซ็นต์" พี่ชายชื่อ สมโพธิ น้องชายคนที่ ๓ ชื่อ ณภัทร และ น้องคนที่ ๔ ชื่อ สุริยัณห์ “ผมโชคดี ๓ ข้อ ข้อแรก-พ่อแม่ที่ดี ท�ำงานหนัก ดูแล เรา สอนเราในแง่ปฏิบัติให้เราเห็น ข้อสอง-ผมมีพี่น้องที่ ดี เวลาเราท�ำงานงานร่วมกันแน่นอนว่าต้องมีความคิดเห็น แตกต่าง แต่เราสามารถประนีประนอมกันได้ งานก็เป็น งานพอจบปั๊บกินข้าวกัน ไปเที่ยวกัน เรามีความสามัคคี กันในพี่น้อง ข้อสาม-ผมมีพนักงานที่ดีที่อยู่กันมานานและ พนักงานใหม่ๆ คนที่อยู่มานานจะสอนรุ่นน้อง พนักงาน แต่ละคนสามัคคีกัน ท�ำงานกันเป็นทีม ช่วยเหลือกันทั้งงาน รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวด้วย ท�ำให้เรามีกองก�ำลังมีกองทัพที่ เข้มแข็งที่จะพัฒนาธุรกิจของเรา" (อ่านต่อหน้า ๘)
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๗
ผ่
านเดื อ นสิ ง หาคมในช่ ว งเทศกาล วันแม่และวันหยุดที่หลายฝ่ายโดย เฉพาะภาคธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก -ร้ า นอาหารสถานที่ ท ่ อ งเที่ ย ว ฯลฯ ต่ า งคาดหวั ง กั น ว่ า นี่ คื อ ช่ ว งเวลาของการต้ อ นรั บ ลู ก ค้ า และนั่ น คื อ ยอดขายที่ เ พิ่ ม มาก ขึ้ น เป็ น เช่ น นี้ ทุ ก ๆ ปี เดื อ นสิ ง หาคม คื อ เดื อ นที่ มี ย อดขายรองมาจากเดื อ น ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่และ มี วั น หยุ ด ยาวหลายวั น แต่ ส� ำ หรั บ ภาค ใต้ แ ละโดยเฉพาะนครศรี ธ รรมราชที่ เพิ่งเปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล พลาซ่ า นครศรี ธ รรมราช ไปเมื่ อ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ ที่ทุกคนไม่คาดฝัน การเกิดระเบิดและ ไฟไหม้ขึ้นหลายจุดในภาคใต้ ไล่มาตั้งแต่ หัวหินจนถึงสามจังหวัดภาคใต้ ส่งผลให้ เทศกาลวันแม่ ๑๒ สิงหาคม เงียบเหงา ไปทันที ยอดขายปลีกในห้างสรรพสินค้า ลดลงจากปี ที่ แ ล้ ว ประมาณ ๓๐-๔๐% เป็นสิ่งคนท�ำธุรกิจทั่วไปไม่อยากให้เกิด ขึ้ น แต่ ก็ ค วบคุ ม ไม่ ไ ด้ เหตุ ผ ลที่ ค นใน แวดวงธุรกิจจึงต้องยอมรับความเสี่ยงนี้ และถือว่าเป็นอุปสรรคที่จะสร้างโอกาส ใหม่ ๆ ในการท� ำ ธุ ร กิ จ ต่ อ ไป จากเหตุ การณ์ ท� ำ ให้ ห ลายธุ ร กิ จ ต้ อ งกลั บ มา พิ จ ารณาปรั บ ตั ว เองโดยเฉพาะเรื่ อ ง มาตรการรั ก ษาความปลอดภั ย ให้ กั บ
ลู ก ค้ า และทรั พ ย์ สิ น ของธุ ร กิ จ ให้ อ ยู ่ ใ น เกณฑ์มาตรฐานมากยิ่งขึ้น นี่คือด้านของ โอกาสอีกทางหนึ่ง เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป จะท�ำอย่างไรให้มียอดขายกลับมา? เพื่อ ท�ำให้เดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนของการ ท�ำยอดขายได้ตามเป้าหมาย หรือถ้าไม่ได้ ต้องท�ำอย่างไรในเดือนกันยายน-ตุลาคม จนถึงธันวาคมเพื่อสร้างยอดขายมาท�ำให้ เป้าหมายทั้งปีได้ตามที่ตั้งไว้ นั่นคือโอกาส ในการค้ น คิ ด กลยุ ท ธ์ ใ หม่ ๆ เพื่ อ ตอบ สนองความต้องการของลูกค้า และรักษา ยอดขายของธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ จาก แนวคิดดังกล่าวข้างต้น ผู้บริหารธุรกิจจึง ไม่มีเวลามานั่งพร�่ำบ่นกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น ไม่มีเวลาที่จะมีเรื่องราวกับความเสีย หายที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจ พลังงานของ คนท�ำธุรกิจที่ประสบความส�ำเร็จ “จึงอยู่
เดื อ นกั น ยายน ๒๕๕๙ วันพฤหัสบดีที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๙ แรม ๑๔ ค�่ำ เดือนเก้า(๙) ปีวอก วันศุกร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๙
ขึ้น ๘ ค�่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีวอก
วันศุกร์ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๙
ขึ้น ๑๕ ค�่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีวอก
วันเสาร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๙
แรม ๘ ค�่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีวอก
ที่จิตส�ำนึก-จิตใต้ส�ำนึก-อยู่ที่ภาษาที่คุณ ป้อนเข้าไปสู่ตัวคุณเอง” พวกเขาเข้าใจ กฎข้อนี้ดี จึงพาตัวเองเข้าสู่การค้นคิดหา โอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ยังคงตื่นเช้าเหมือน ทุกวันท�ำงานกับทีมงานและพนักงานเป็น ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พฤติกรรมสู่ความส�ำเร็จท�ำให้พวก เขา คิดก่อน-ท�ำก่อน สร้างโอกาสก่อน “Be Proactive” พวกเขาจะสร้างพลัง แห่ ง ความเชื่ อ ด้ ว ยการคิ ด ว่ า ต้ อ งส� ำ เร็ จ ต้องได้ตามเป้าหมาย ไม่เคยคิดว่าจะท�ำไม่ ได้ ค�ำถามที่ป้อนเข้าสู่ตัวเอง “จะท�ำให้ ดี ขึ้ น ได้ อ ย่ า งไร?” จะท� ำ ให้ ม ากขึ้ น ได้ อย่างไร? มีค�ำกล่าวจากผู้ส�ำเร็จท่านหนึ่ง “คุณจะเห็นอุปสรรคเป็นสิ่งที่น่ากลัว ก็ ต่อเมื่อคุณละสายตาจากเป้าหมาย” ใน ภาคธุรกิจที่ต้องการความส�ำเร็จและยืน
อยู่ให้ได้อย่างมั่นคง จึงจ�ำเป็นต้องมีการ ก� ำ หนดเป้ า หมายทางธุ ร กิ จ ที่ ชั ด เจน เพราะ “ผู้ที่ส�ำเร็จต้องคู่กับความชัดเจน ในเป้าหมาย” เมื่อคุณผ่านความอดทนต่อความ ยากล�ำบาก = “คุณชนะตัวเอง” การ ไม่ ล ะทิ้ ง ความพยายาม พาคุ ณ ไปสู ่ ค น ส�ำเร็จ เพราะ “คนส�ำเร็จไม่เคยล้มเลิก แต่คนล้มเลิกไม่เคยส�ำเร็จ” จึงขอเป็น ก�ำลังใจให้คนท�ำธุรกิจที่ต้องการประสบ ความส�ำเร็จทุกท่านครับ “ขอเพียงเรา ยืนหยัดที่จะก้าวต่อไป แม้นเพียงก้าว เล็กๆ แต่สุดท้ายก็ถึงซึ่งเป้าหมาย” นายไพโรจน์ เพชรคง ๒๐ ส.ค. ๕๙
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๘
เรือ่ งจากปก
<< ต่อจากหน้า ๑
ว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชก�ำหนดจัดงานประเพณีบุญ สารทเดือนสิบและงานกาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึง่ ถือเป็นงานบุญทีส่ ำ� คัญของพีน่ อ้ งชาวนครศรีธรรมราช และชาวปักษ์ใต้ระหว่างวันที่ ๒๕ กันยายน– ๔ ตุลาคม ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์’ ๘๔ (ทุง่ ท่าลาด) และวัด ต่างๆ ทั่วจังหวัด โดยก�ำหนดให้มีกิจกรรมต่างๆ ภายใน งานอย่างหลากหลาย ทั้งของภาคราชการ เอกชน กลุ่ม พลังมวลชนและภาคส่วนต่างๆ ส่วนของภาคราชการ จะมีการแบ่งกิจกรรมความรับผิดชอบออกเป็น ๔ กลุ่ม คือ กลุม่ เศรษฐกิจฐานราก, กลุม่ วิถชี วี ติ /ศิลปวัฒนธรรม ย้อนยุค, กลุ่มสร้างสรรค์นันทนาการและกีฬา และกลุ่ม อ�ำนวยการ/ประสานงาน/ดูแลความสงบเรียบร้อย โดย กิจกรรมหลักที่ส�ำคัญของงานประเพณี คือการจัดประ ทองค�ำพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม กวดหมฺรับและริ้วขบวนแห่หมฺรับ เพื่อชิงรางวัลหมฺรับ บรมราชกุมารีนนั้ ก�ำหนดจัดในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙
<< ต่อจากหน้า ๖ กิติพงศ์เป็นบัณฑิต สาขา การตลาด คณะบริ ห ารธุ ร กิ จ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ MBA จาก University of La Verne, California ระหว่างเรียนไปเป็น พนักงานเสิร์ฟหาประสบการณ์ และหารายได้ไปด้วย "ที่ ส หไทยตั ว ผมจะดู แ ล ด้านการตลาด พัฒนาธุรกิจขยาย สาขาเป็นหลัก พี่ชาย (สมโพธิ) จะดู แ ลเรื่ อ งเซ็ น เช็ ค จ่ า ยเงิ น เรื่องจัดซื้อสินค้า เจรจาต่อรอง กับซัพพลายเออร์ สั่งของอย่างไร ให้ เ ราประหยั ด ต้ น ทุ น ผมเป็ น
ลูกคนที่สอง คนที่สาม (ณภัทร) ดูแลตรวจสอบบัญชี เอกสารเรื่อง ค่าใช้จ่าย เขามีความสามารถใน การบริหารการเงิน พอมีก�ำรี้ก�ำไร ...พอมีเงินสะสมเราจะซื้ออะไรดี ซื้ อ ที่ ดิ น หรื อ ไปลงทุ น ในตลาด หลั ก ทรั พ ย์ ท� ำ ให้ เ งิ น มั น งอกเงย ขึ้นเพื่อที่เราจะได้เอาเงินส่วนนั้น มาพั ฒ นาธุ ร กิ จ ขยั บ ขยายสาขา ต่อไป น้องชายคนเล็ก (สุริยัณห์) จะดูการบริหารภาพรวมฝ่ายขาย แม้ แ ต่ เ รื่ อ ง IT เพราะเขาจบ วิ ศ วกรรมศาสตร์ เรื่ อ งของงาน ช่าง เราท�ำงานเป็นทีม สมมติว่า ผมไม่อยู่น้องชายเข้ามาช่วยดูได้
เวลา ๐๙.๐๐ น. โดยปล่อยริ้วขบวนหมฺรับ จากบริเวณ ศาลาประดู ่ ห ก สนามหน้ า เมื อ ง เคลื่ อ นไปตามถนน ราชด�ำเนินยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นายพีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการ ประกวดหมฺรบั และริว้ ขบวนแห่หมฺรบั แล้ว ภายในงานยัง จัดให้มกี ารประชันหนังตะลุง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัด ประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช การออกสลากกาชาด การกุศล การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิน่ กิจกรรมตลาด ย้อนยุค การประกวดร้องเพลงลูกทุง่ และการท�ำบุญตาม ประเพณี เป็นต้น น้ อ งชายไม่ อ ยู ่ ผ มดู ไ ด้ เราไม่ ไ ด้ แ ยกว่ า คนหนึ่ ง สาขานี้ คนหนึ่ ง สาขาโน้ น ...เรามองว่ า เราท� ำ งานกั น เป็ น ที ม ได้ เราก็ท�ำเป็นทีม" ถามว่ าหลั งห้ างเซ็นทรัลนครฯเปิ ดบริ การสหไทย ได้รับผลกระทบหรือไม่ กิติพงศ์ยอมรับ เพราะขนาดของ เซ็นทรัลใหญ่มากและมีก�ำลังดึงดูดลูกค้าเก่าใหม่เข้าไป เซ็ น ทรั ล มี ป ระสบการณ์ ความเชี่ ย วชาญและมี เ ครื่ อ ง มือด้านกิจกรรมการตลาดกระตุ้นลูกค้าและมีพันธมิตร มาก แต่เขามองว่าสหไทยเป็นมวยรุ่นเล็ก "หลายคน ถามผมว่าจะแข่งกันอย่างไร ผมตอบว่าเรารักษาจุดยืน ของเรา คือสร้างความแตกต่าง เราไม่ได้มองในแง่การ แข่งขันว่า เหมือนมวยคนละรุ่น เราอาจจะเก่งรุ่นเล็ก เราเล็กเราชกรุ่นเล็ก เขารุ่นใหญ่เขาก็ชกรุ่นใหญ่ ของเรา เล็กแบบคล่องแคล่วมีเทคนิค เช่น ลูกค้าเราน้อยกว่า แต่ ต้นทุนเราต�่ำกว่า เราบริหารต้นทุนการสร้างอาคารเรา ต�่ำกว่า เราจะไปคาดหวังว่าต้นทุนเราต�่ำกว่าเราจะต้อง ไปชนะเขานี่ เราไม่คิด เพราะคนละรุ่น แต่ภาพรวมท�ำ ยังไงให้เศรษฐกิจจังหวัดนครศรีธรรมราชโต เซ็ลทรัลมา เปิดคนในพื้นที่ก็มีงานท�ำ พอมีงานท�ำเขาจะจับจ่ายยังไง บางคนเป็นลูกจ้างเขาอาจมาซื้อสินค้าที่สหไทย พนักงาน สหไทยมีช่วงเวลาพิเศษบางทีก็อาจไปทานข้าวที่เซ็นทรัล คือท�ำให้เงินมันหมุนรอบเยอะๆ ท�ำให้คนภายนอกรู้ว่า นครศรี ธ รรมราชเศรษฐกิ จ ดี ---การตลาดของเราจุ ด สุดท้ายคือท�ำให้ลูกค้าตัดสินใจมาเรา เขาอยู่บ้านพอคิด จะซื้อของต้องไปสหไทย อันนี้ค่อยๆ สร้างให้เขาเลือกที่ จะมาหาเราก่อน" ห้างสหไทย พลาซาใหม่ถนนศรีปราชญ์ปรับปรุงจะ ครบ ๓ ปี และได้รับการตอบรับดีตลอดมา ขณะนี้ ส หไทยทุ ก สาขาก� ำ ลั ง ฉลองวาระครบ ๕๓ ปี ด้วยการจ�ำหน่ายสินค้าราคา ๕๓ บาท ตามอายุ โดย คัดสินค้าประมาณ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ รายการมาจ�ำหน่าย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องแต่งตัว ซูเปอร์มาร์เก็ตมีสบู่ ยาสีฟัน น�้ำปลา ฯลฯ สินค้าบางตัวขอความร่วมมือจาก ซัพพลายเออร์เป็นพิเศษมาตอบแทนลูกค้าปีละครั้ง 'รักบ้านเกิด' สนทนากับกิติพงศ์ยาวกว่านี้ ได้ทราบ มุมมองต่างๆ ต่อจังหวัดนครฯ อย่างน่าสนใจ แต่พื้นที่มี จ�ำกัด
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๙
รายงาน
และผู ้ ส นใจเข้ า ร่ ว มระดมความคิ ด หาแนวทางแก้ ปัญหาพิพาทเกี่ยวกับการสร้างฝายมีชีวิตที่ห้องประชุม หอสมุดแห่งชาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เข้าร่วม ประมาณ ๘๐ คน นายสวัสด์ กฤตรัชตนันต์ กล่าวถึงปัญหาทางข้อ กฎหมายเกี่ยวกับการสร้างสิ่งรุกล�้ำล�ำคลองทางสัญจร จนเกิ ด กรณี พิ พ าทที่ ฝ ายสี่ กั๊ ก ต� ำ บลเขาแก้ ว อ� ำ เภอ ลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งองค์กรปกครอง ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่แจ้งความกลุ่มชาวบ้านที่สร้างฝาย มีชีวิต ขณะนี้เรื่องผ่านขั้นตอนการสอบสวนเพ่ือยื่นฟ้อง อัยการเพื่อส่งด�ำเนินคดี ฝายที่ เ กิ ด กรณี พิ พ าทระหว่ า งชาวบ้ า นกั บ ส่ ว น ราชการ คือ ฝายสี่กั๊ก บ้านสี่กั๊ก ต้นน�้ำมาจากน�้ำตกกะ โรมและเขาธง ซึ่งเป็นพื้นที่ท�ำการเกษตรของชาวบ้าน แกนน� ำ สร้ า งฝายสี่ กั๊ ก ๕ คน ถู ก ฟ้ อ งร้ อ งด้ ว ยข้ อ หา ตาม พรบ.การเดินเรือในน่านน�้ำไทย ปี ๒๔๕๖ ที่กรม เจ้าท่าเป็นผู้ควบคุมก�ำกับตามกฎหมายนี้ เพราะผู้สร้าง ฝายสร้างโดยไม่ขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นการ ขวางทางสัญจรของประชาชน ทั้งที่ฝายแห่งนี้ได้รับการ สนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด เห็ น ชอบ ซึ่ ง กรณี พิ พ าทแรกในการสร้ า งฝาย คิ ด ว่ า จั ง หวั ด นครฯ จะมี ฝ ายมี ชี วิ ต ถึ ง ๓๕๐-๓๘๐ ฝาย สร้ า งตามสภาพภู มิ ศ าสตร์ แ ละความต้ อ งการน�้ ำ เพื่ อ การเกษตรและอุปโภคในชีวิตประจ�ำวัน หลังเกิดภัยแล้ง ยาวนานในบางปี สืบเนื่องจากกรณีนี้นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัด จังหวัดนครฯ แถลงต่อสื่อมวลชนว่าฝายมีชีวิตถือเป็น กลยุทธ์ในการบรรเทาปัญหาแก่ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ทั้ง เรื่องปัญหาภัยแล้ง ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ส่งผลให้ เกิดการอยู่ดีกินดีของประชาชน อย่างไรก็ตามฝายมีชีวิต ไม่ใช่จะสร้างได้ทุกพื้นที่ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หาก ล�ำคลองบางพื้นที่เป็นทางระบายน�้ำควรงดการสร้างสิ่ง ใดเข้าไปขวางล�ำน�้ำ หากเป็นหมู่บ้าน ต�ำบล สามารถ สร้ า งฝายมี ชี วิ ต ได้ เ พื่ อ ใช้ เ ก็ บ กั ก น�้ ำ ไว้ ใ ช้ ย ามจ� ำ เป็ น ราชการเข้าใจดีว่าฝายมีชีวิตไม่เพียงเป็นการจัดการน�้ำ เท่านั้น แต่ยังเป็นการจัดการความรู้และภูมิปัญญาท้อง ถิ่นให้กลับคืนมา รวมทั้งเป็นการสร้างความรักความ สามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชน ฝ่ายราชการมองเห็นประโยชน์ แต่องค์กรท้องถิ่น
นายสวัสด์ กฤตรัชตนันต์
ดร.ด�ำรง โยธารักษ์
กลับแจ้งความด�ำเนินคดี ที่ ประชุมเห็นว่าอาจเกิดจาก ผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งผมไม่ขอพูดเรื่องนี้ให้เสีย เวลา อั ย ก า ร ที่ เ ข ้ า ร ่ ว ม เสวนาท่านหนึ่งกล่าวต่อที่ ประชุ ม ว่ า กฎหมายเมื่ อ มี นายภีม ภคเมธาวี ผลบังคับใช้ถ้าหากไม่ยกเลิก หรือแก้ไข ก็ยังมีผลบังคับตลอดไป ผู้สร้างฝายต้องไป ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าเพราะสมัยโบราณใช้ล�ำคลอง ล�ำเลียงสินค้าไปค้าขายหรือทางสัญจรในชีวิตประจ�ำวัน ของประชาชน เจ้ า หน้ า ที่ ด ้ า นการประปากล่ า วว่ า โดยภาพรวม ฝายมี ป ระโยชน์ ต ่ อเกษตรกร ชะลอผลกระทบของภั ย แล้งและน�้ำท่วม ฝ่ายราชการ ผู้น�ำชุมชนต้องร่วมกันแก้ ปัญหา และช่วยกันกระจายฝายไปตามสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ ให้ชุมชนมีแหล่งน�้ำของตัวเองไว้พึ่งตนเอง เจ้าหน้าที่จากส�ำนักบริหารที่ ๕ กรมอุทยานฯ มี ความเห็นว่าการก่อสร้างฝายลงคลองกว้างฝายจะอยู่ไม่ได้ แต่ในพื้นที่อนุรักษ์บางพื้นที่ท�ำได้เพราะฝายไม่ต้านแรงน�้ำ นายรังสรรค์ รัตนสิงห์ อดีตนายอ�ำเภอท่าศาลา ผู้ ผลักดันและสนับสนุนให้สร้างฝายมีชีวิตที่หุบเขาช่องคอย ขณะด�ำรงด�ำแหน่งนายอ�ำเภอจุฬาภรณ์ กล่าวว่า การท�ำ งานราชการมีอุปสรรคและปัญหาเสมอ ตนใช้หลักการ ประนีประนอม ที่ช่องคอยนั้นตนไม่ยึดติดกับหลักนิติศาสตร์ เพราะฝายช่ อ งคอยมี ค วามจ� ำ เป็ น ต่ อ ชุ ม ชน เกษตรกรรมอย่างมาก ตนยึดหลักรัฐศาสตร์โดยเฉพาะ พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ ปี ๒๔๕๗ ที่สอดคล้องกับ
วิถีชุมชน ตามกฎหมายนี้นายอ�ำเภอที่เกิดกรณีพิพาท สามารถเรียกคู่กรณีและผู้น�ำมาไกล่เกลี่ยประสานความ เข้าใจ เรื่องหนักจะกลายเป็นเบา พ.อ.นพ.วิเชียร ชูเสมอ กล่าวว่า เหมือง ฝายไหล หรือริน ที่ใช้ส่งน�้ำเข้านาเป็นเครื่องมือที่อยู่ในวัฒนธรรม ข้าว เริ่มต้นโดยหลายกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม หรือไทย-กะไดที่สร้าง water wind เอาน�้ำเข้าทุ่งนา ประเด็นของเราก็คือเราใช้กฎหมายที่ออกแบบมามาแล้ว ๑๓๐ ปีแล้ว สมัยนั้นเรากลัวอังกฤษ ฝรั่งเศส จึงออก กฎหมายการเดินเรือในน่านน�้ำให้กรมเจ้าท่ารับผิดชอบ การจะแก้กฎหมายนี้ ถ้าอาศัยข้าราชการในกรมเจ้าท่า คงเป็นไปไม่ได้ ประเทศไทยเป็นเอกรัฐก็จริง แต่มีรัฐซ้อน รัฐอยู่เต็มไปหมด กรมเจ้าท่ามีอ�ำนาจถึงในห้วยในหุบเขา เชิงเขา แล้วจริตนักการเมืองคิดถึงแต่ผลประโยชน์ไม่ คิดถึงประชาชน นายกวี ไกรสิ ท ธิ์ ข้ า ราชการครู เ กษี ย ณอายุ ซึ่ ง เป็น ๑ ใน ๕ ผู้ต้องหา เปิดใจต่อที่ประชุมว่า ก่อนสร้าง ฝายได้มีการท�ำ 'ประชาเข้าใจ' เมื่อท�ำแล้วเกิดประโยชน์ ระบบนิเวศฟื้น ชุมชนฟื้น ต้องค�ำนึงถึงสิทธิของชุมชน ทุกเรื่องมีทางออก นักการเมืองต้องรู้ระบบน�้ำนักวิชาการ ช่วยท�ำให้เมืองนครมีน�้ำใช้ตลอดชีวิต ถ้าจะต้องติดคุก ตนก็ยอม เจ้าหน้าที่จากส�ำนักงานยุติธรรมจังหวัดไปรับฟัง และให้ความเห็นว่า ทางส�ำนักงานยุติธรรมเฝ้ามองกรณี พิพาทนี้อยู่และหาทางเข้าไปดูแลบางเรื่องหากคดีถึง ศาล ทั้งหมดตกอยู่ที่ดุลพินิจของอัยการสูงสุดหรือศาล ยุติธรรม นายภี ม ภคเมธาวี อาจารย์ ม หาวิ ท ยาลั ย วลั ย ลักษณ์ กล่าวสรุปว่า การจัดการน�้ำอาศัยทั้งกฎหมาย จารีต ธรรมเนียม แต่ต้องมุ่งถึงประโยชน์ของประชาชน ผู้รักษากฎหมายต้องยึดเอาประประชาชนเป็นศูนย์กลาง และค� ำ นึ ง ถึ ง สาธารณะประโยชน์ กรณี นี้ เ ป็ น กรณี ตัวอย่างที่จะท�ำให้การสร้างฝายเข้มแข็งขึ้น กรมเจ้าท่า จะต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนเรื่องลุกล�้ำ ฝายมีข้อดีมากกว่า ข้ อ เสี ย เพราะสามารถฟื ้ น ฟู ร ะบบนิ เ วศ การอนุ รั ก ษ์ พันธุ์ปลา ลดการทิ้งขยะ เป็นศูนย์เรียนรู้ เสริมสร้างจิต สาธารณะ เพราะชาวบ้านเป็นผู้ลงแรงและจัดหาวัสดุใน พื้นที่ สร้างความสามัคคีปรองดองและสร้างทรัพยากร ท่องเที่ยว ฝายหนึ่งฝายให้ประโยชน์ต่อประชาชนไม่ต�่ำ กว่า ๓๐๐ คน ที่มีน�้ำใช้ในฤดูแล้งโดยไม่ใช้งบประมาณ ของส่วนราชการอุดหนุน ชาวบ้านอาจทอดผ้าป่าหรือ เลี้ยงน�้ำชาสมทบทุน การสร้างพลังของชุมชนต้องด�ำเนิน ต่ อ ไปและต้ อ งเชื่ อ มต่ อ เครื อ ข่ า ยให้ ก ว้ า งออกไปจึ ง สามารถสร้างพลังร่วมท�ำให้เกิดการย้อนกลับ ที่ประชุมคาดหวังว่าการเสวนาครั้งส�ำคัญนี้จะเป็น แนวทางแก้ปัญหาการสร้างฝายทั่วประเทศและการส่ง ผลต่อการแก้กฎหมายล้าหลังบางมาตรา
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๐
ซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ลูก ช้างเหล่านั้นไม่รู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ ;
ภิ
กษุ ท. ! เรื่องนี้เคยมีมาแล้ว : มีสระใหญ่ในที่ใกล้ ป่าแห่งหนึ่ง. ช้างทั้งหลายได้อาศัยหากินในสระ ใหญ่แห่งนั้น. มันลงสู่สระแล้ว ใช้งวงถอนหัวบัวและ รากบัวขึ้นมา แล้วแกว่งไปแกว่งมาในน�้ำ ท�ำให้หมด เปือกตมแล้วใส่ปากเคี้ยวให้ดีเสียก่อน จึงกลืนลงไป. การกินอย่างนี้ของช้างเหล่านั้นย่อมท�ำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่ง มีพละก�ำลัง และไม่ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์ เจียนตาย ; เพราะข้อที่ช้างนั้นรู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ.
ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ภิกษุผู้เถระทั้งหลาย ใน กรณีนี้ เวลาเช้าครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้าน หรือนิคม เพื่อบิณฑบาต, พวกภิกษุผู้เถระเหล่านั้น ย่อม กล่าวธรรมอยู่ในที่นั้นๆ ; พวกคฤหัสถ์ผู้เลื่อมใสต่อภิกษุ ผู้เถระเหล่านั้น ย่อมท�ำอาการแห่งผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวก ภิกษุผู้เถระนั้นเล่าก็ไม่ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในลาภนั้ น ๆ, เป็ น ผู ้ ม องเห็ น ส่ ว นที่ เ ป็ น โทษ เป็ น ผู ้ รู ้ แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ แล้วจึง ท�ำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เถระ ภิกษุ ท. ! ส่วนพวกลูกช้างเล็กๆ อยากจะเอาอย่าง เหล่านั้น ย่อมท�ำให้มีร่างกายสุกใส มีพละก�ำลัง และไม่ถึง ช้างใหญ่ๆ บ้าง, มันจึงลงสู่สระบัวนั้น ใช้งวงถอนหัวบัว ซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ท่าน และรากบัวขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แกว่งไปแกว่งมาในน�้ำ เหล่านั้นรู้จักการท�ำการฉันนั้นเองเป็นเหตุ. มีเปือกตมติดอยู่ ก็เอาเข้าใส่ปาก ไม่ได้เคี้ยวให้ดีเสียก่อน กลืนลงไปแล้ว. การกินอย่างนี้ของพวกลูกช้างเล็กๆ นั้น ภิกษุ ท. ! ส่วนพวกภิกษุผู้หย่อนวัย อยากจะเอา ย่อมไม่ท�ำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่งมีพละก�ำลัง แล้วยังจะถึง อย่างพวกภิกษุผู้เถระเหล่านั้นบ้าง, เวลาเช้า ก็ครองจีวร
ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้านหรือนิคมเพื่อบิณฑบาต. พวกเธอก็ ก ล่ า วธรรมอยู ่ ใ นที่ นั้ น ๆ ; พวกคฤหั ส ถ์ ผู ้ เลื่อมใสต่อภิกษุผู้หย่อนวัยเหล่านั้น ย่อมท�ำอาการแห่ง ผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวกภิกษุผู้หย่อนวัยนั้นเล่า ก็ติดอก ติดใจ สยบอยู่ เมาหมกอยู่ ในลาภนั้นๆ, เป็นผู้ไม่ มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบาย เป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ ท� ำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เด็กๆ เหล่านั้น ย่อมไม่ ท�ำให้มีร่างกายสุกใส มีพละก�ำลัง (ชนิดเดียวกับผู้ที่ บริโภคเพียงเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่การประพฤติ พรหมจรรย์) แต่ได้กลับถึงซึ่งความตาย หรือได้รับ ทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ภิกษุเด็กๆ เหล่านั้น ไม่รู้ จักการท�ำการฉัน นั้นเองเป็นเหตุ. ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ พวกเธอทั้ง หลาย พึงส�ำเหนียกใจไว้ว่า “เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในปัจจัยลาภ มีปรกติ มองเห็ น ส่ ว นที่ เ ป็ น โทษ เป็ น ผู ้ รู ้ แ จ่ ม แจ้ ง ในอุ บ าย เป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ ท�ำการบริโภคปัจจัยลาภ นั้นๆ” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงส�ำเหนียก ใจไว้อย่างนี้แล.
วั
นนี้ ว กกลั บ มาดู เ รื่ อ งพระบรมธาตุ ของเราที่ก�ำลังเตรียมการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกกันบ้าง เพื่อติดตามความ คืบหน้าของการเตรียมการ เพราะผมได้ เป็นคณะกรรมการด้วยคนหนึ่ง เรื่ อ งแรกที่ จ ะเล่ า ให้ ฟ ั ง คื อ เรื่ อ ง 'คณะกรรมการมรดกโลก' ทางจังหวัด ได้มีการแต่งตั้งคณะท�ำงานมาตั้งแต่ยุค ผู้ว่าฯ วิโรจน์ จิวะรังสรรค์ มีรายชื่อร่วมๆ ๑๕๐ คน มีการเชิญเข้ามาประชุมท�ำงาน เพียง ๔๐ กว่าคน ส่วนมากมารับรู้เรื่อง การท�ำงานและให้ค�ำเสนอแนะเสียส่วน ใหญ่ ท�ำงานกันอยู่จริงไม่ถึงสิบคน แต่ ผลงานก็เต็มไปด้วยคุณภาพ จะอ่อนด้อย ก็คือเรื่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์ แม้ จะมีคณะท�ำงานถึง ๒๐ คนก็ตาม เพราะ ยั ง ยึ ด รู ป แบบการประชาสั ม พั น ธ์ แ บบ โบราณ คนทั้งเมืองจึงไม่สามารถรับรู้เป็น หนึ่ ง เดี ย วกั น ได้ ทั้ ง ที่ โ ลกสื่ อ สารพั ฒ นา ก้าวหน้าไปแล้วมากมาย ผมจึงขอรายงาน ให้กับแฟนๆ 'รักบ้านเกิด' จะได้รับทราบ บางส่วนที่ผมได้รับรู้มา งานที่เขาปรับปรุงไปเสร็จแล้วเช่น เปลี่ ย นหลั ง คากระเบื้ อ งวิ ห ารคดเสร็ จ สวยงามโดยรอบแล้ว ย้ายสิ่งก่อสร้างที่ น�ำมาวางไว้ใหม่ที่มิใช่ของแท้และดั้งเดิม ไปจั ด อยู ่ ใ นอุ ท ยานด้ า นทิ ศ ใต้ ข องพระ-
พระบรมธาตุสู่มรดกโลก บรมธาตุ โดยได้ รั บ ความเห็ น ชอบจาก ผู ้ ที่ มี จิ ต ศรั ท ธาสร้ า งถวาย ปรั บ ทางเดิ น ตั ว หนอนออกใหม่ เ ป็ น ทางเดิ น โดยรอบ ปรับแต่งหาดทรายแก้วเป็นหาดกว้างขึ้น ยังมีปัญหาเรื่องน�้ำยังไหลช้าอยู่ ก�ำลังท�ำ คูระบายน�้ำอย่างเก่ามาช่วยเสริม ที่มีเศษ วัสดุอุดตันท่อจากการก่อสร้างอื่นก็ได้ขุด รื้อออกเรียบร้อยแล้ว ถนนหน้าวัดพระธาตุ ที่ส�ำนักพุทธรับผิดชอบว่าจ้างก็ยังมีปัญหา แตกหักให้ช่างมาซ่อมแซมเพราะยังอยู่ใน
สัญญาต้องรับผิดชอบอยู่ สายไฟฟ้าลงดิน เทศบาลกับไฟฟ้าก็ดำ� เนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้าในเรื่องอื่นๆ ที่จะ ด�ำเนินการต่อไป เช่น จากการขุดค้นทาง โบราณคดีที่ฐานองค์เจดีย์ ผลการพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์เรื่องอายุฐานพระเจดีย์ที่ ขุดพบลึกลงไป อายุระหว่าง ๑,๑๐๐ ปี ถึง ๑,๒๐๐ ปี สรุบว่าองค์เจดีย์เดิมอายุ พ.ศ. ๑,๓๐๐-๑,๔๐๐ ปี เปลี่ยนจากเดิมที่เชื่อ ว่าสร้างเมื่อ พ.ศ.๑,๘๐๐ เศษ เก่าแก่ไปอีก
พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๓๑๓/๖๗๘.
ร่วม ๔๐๐ ปี องค์เจดีย์ก็ขึ้นนั่งร้านอยู่เรียบร้อย แล้ ว ก� ำ ลั ง จะมี ก ารซ่ อ มยอดทองค� ำ ที่ มี โ ครงรั ด ท� ำ ให้ เ กิ ด สนิ ม โดยจะเปลี่ ย น โครงลวดเป็นสแตนเลสปลอดสนิม บุแผ่น ดีบุกใหม่ เพิ่มทองค�ำลงไปในบางสวนที่ ช�ำรุด ท�ำสายรัดกลีบบัวด้วยทองค�ำ โดย ใช้เงินของ 'มูลนิธิราชประชานุเคราะห์' พี่พระองค์ท่านให้น�ำมาบูรณะตามความ ประสงค์ของผู้ทูลเกล้าถวายเงิน เพื่อให้ จัดซื้อทองค�ำมาบูรณะพระบรมธาตุ คือ 'คุณจิมมี่ ชวาลา' ได้ทูลเกล้าถวายท่านมา แล้วแต่ต้น เนื่องด้วย 'ดร.อัมรา ศรีสุชาติ' จาก กรมศิ ล ปากร ผู ้ รั บ ผิ ด ชอบท� ำ แหล่ ง มรดกโลกของประเทศไทย เพิ่งกลับจาก การประชุ ม มรดกโลกที่ ป ระเทศตุ ร กี ท่ า นได้ เ สนอแนะว่ า แหล่ ง มรดกโลกที่ ประเทศไทยเราน�ำเสนอไปพร้อมกับของ พระบรมธาตุ น ครนั้ น เช่ น 'ภู พ ระบาท' 'แก่ ง กระจาน' 'เชี ย งใหม่ ' ล้ ว นประสบ ปั ญ หา มี ข ้ อ ท้ ว งติ ง เรื่ อ งหลั ก ฐานทาง โบราณคดี ที่ รั บ รองทางวิ ท ยาศาสตร์ ได้ เห็นควรที่นครควรขุดเพิ่มอีก ๙ จุด ย่อยๆ เพื่อให้หลักฐานสมบูรณ์ เช่นเดียว กั บ ที่ เ ราขุ ด ค้ น ฐานพระบรมธาตุ ซึ่ ง ได้ หลักฐานทางอายุชัดเจนแล้ว และทางยู เนสโกเขาให้เวลาเราท�ำรายงานภายใน ๑๐ ปี ซึ่งขณะนี้เราเริ่มมาแล้วเป็นปีที่ ๒ จึงยังพอมีเวลาอีกมากที่จะเตรียมการ
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๑
นพ.บัญชา พงษ์พานิช
นครดอนพระ << ต่อจากหน้า ๒
...ไตรโลกยวิชัยคือใคร? ไตรโลกยวิชัย หรือ "ผู้มีชัยเหนือสามโลก" ความเชื่อหนึ่ง ว่า ท่านเป็นภาคปรากฏอีกภาคของพระอัก โษภยพุทธเจ้า พระธยานิพุทธทิศตะวันออก ตามคติพุทธศาสนานิกายมหายาน-ตันตระ
ซึ่งทุกวันนี้ยังมีการบูชาอยู่อย่างเห็นได้ชัด บางอ้อซะที ในประเทศญี่ปุ่น นิกายชินงอน (ขอขอบคุณ ศราวุธ ศรีทิพย์ July 28 at 4:08pm ข้อมูลการแปลสาธนมาลาจาก จาก อ.เชษฐ์ ข้อมูลเยี่ยมมากครับผม ติงสัญชลี ครับ) พุฒิพัฒน์ อุนสวัสดิ์อาภา July 28 at 5:38pm
สุ ด ยอดไปเลยครั บ เฮ้ า ...ว่ า งๆจะมา เรียนรู้ด้วยนะ ฐิตวิ ฒ ั น์ สันทัดเลขา July 28 at 5:42pm ขอบคุณมากครับคุณหมอ ตอนแรก ผมนึกว่าเป็น "ศิวะนาฏราช" การร่ายร�ำของ พระศิวะ เสียอีก
ภาพอธิบาย เหวัชระ
๑
๒
๑. ประติมากรรมไตรโลกวิชัย ศิลปะญี่ปุ่น สมัยเฮอัน สังเกตุ ที่ มุ ท ราตรงกลางแสดง 'ภู ต ทามระ' มุทราหรือ 'ไตรโลกยวิชัย มุทรา' ๒. ศิ ล ปะจี น สมั ย ราชวงศ์ ถั ง สังเกตุที่มุทราตรงกลางแสดง 'ภู ต ทามระ' มุ ท ราหรื อ 'ไตร โลกยวิชัย มุทรา' ๓. ประติมากรรมไตรโลกวิชัย ศิลปะอินเดีย สมัยปาละ แสดง ให้เห็นถึง การสวมพวงมาลัย รูปพระพุทธเจ้าเป็นอาทิ
พระครูเหมเจติยาภิบาล แซ่ภู่ July 29 at 5:55pm
ขออนุญาตเสริมความรู้เรื่องเทวรูปที่ จันดีนคร น่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ไตรโลกย 28 at 11:47am วิชยะ (สันสกฤต: ไตรโลกฺ เยี่ยมเลยครับ เฮ้า Agate Jeep July 28 ยวิ ช ย,) ไตรโลกยวิ ช ยะมี ๔ เศี ย ร ๘ กร แต่ละเศียรแต่ละหน้าแสดงอารมณ์ต่างกัน at 12:40pm สุ ด ยอดเลยครั บ ถึ ง คือ เศียรด้านหน้าแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด คุยกับหมอบัญชา July
๓
เศียรด้านขวาแสดงอารมณ์โกรธ เศียรด้าน ซ้ายแสดงอารมณ์เกลียดชัง เศียรด้านหลัง แสดงอารมณ์กล้าหาญ พระหัตถ์ถือกระดิ่ง วัชระ ดาบ ขอสับช้าง ลูกศร คันศร บ่วงและ จาน ประทับยืนท่าปรัตยสีฒะ เป็นที่นิยม นับถือในทิเบตและญี่ปุ่น ในประเทศไทยพบ ภาพสลักของวิทยราช/พระโพธิสัตว์องค์นี้ที่ ปราสาทหินพิมาย ข้อมูลจากวิกิพีเดียและ อาจารย์ชัยวุฒิ พิยะกุล
บิ๊ก หนุ่ม นคร สุดยอดมากคับข้อมูล ดีน่าสนใจคับ หนังหมุน น้อย การสวมมาลัยพระ แบบนี้ เ ที ย บเคี ย งคนปั จ จุ บั น แขวน พระเครื่องได้หรือไม่ครับ ขอบพระคุณท่านพระครูเหมเจติยาภิบาล แห่งวัดพระบรมธาตุเมืองนคร นาย เฮ้ า ส์ แห่ ง หอจดหมายเหตุ พุ ท ธทาส อิ น ทปั ญ โญ ตลอดจนคุ ณ โอ้ แห่ ง ภาคี เ พลิ น ธรรมน�ำชมของหอจดหมาเยหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และท่านทั้งหลายนะครับ ส่วน คุณบิ๊ก หนุ่ม นคร และ หนังหมุน น้อย ที่ ถามตามมาล่ า สุ ด นั้ น ผมยั ง ไม่ มี ค� ำ ตอบ เช่นเดียวกับผมก็ยังไม่ได้ค�ำตอบว่าจะท�ำ อย่างไรกันต่อไปดี ทั้งกับ “จันดีนครที่ช้าง กลาง” และ “พระผู้มีชัยเหนือสามโลกแห่ง จันดีนครองค์นี้” ฝากคนนครที่ รั ก บ้ า นเกิ ด ช่ ว ยกั น ขบคิดด้วยนะครับ. ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๙
<< ต่อจากหน้า ๔
ประมาณ ๑๒-๑๕ รูปในทุกปี มีสามเณร และแม่ ชี อี ก ๑๐ รู ป มี ชี ป ะขาวซึ่ ง มา ถือศีลฝึกหัดก่อนบวชพระคล้ายๆ กับบ้าน เราสมัยก่อน ท่ า นได้ เ ล่ า ถึ ง ความแตกต่ า งบาง ประการของพระไทยกับพระฝรั่งให้ฟังว่า พระไทยส่ ว นมากจะบวชตามประเพณี บวชสามวันเจ็ดวันอย่างมากก็ ๑ พรรษา ส่วนพระฝรั่งไม่มีธรรมเนียมประเพณีใน การบวช จึงมีเฉพาะผูท้ สี่ นใจธรรมจึงบวช เพื่อศึกษาธรรม พระไทยเมื่อบวชแล้วจะ ต้องมีพิธีกรรมต่างๆ ให้กับชาวบ้าน ส่วน พระฝรัง่ ส่วนใหญ่จะบวชอยูใ่ นสายพระป่า จึ ง มุ ่ ง ฝึ ก ฝนตนเองท� ำ สมาธิ ภ าวนาเป็ น
หลัก โดยเฉพาะสายหลวงพ่อชา ถ้าเป็น วันพระตืน่ เช้าท�ำวัตรเช้า บิณฑบาต ฉันมือ้ เดียว ตอนเย็นภาวนาจนรุ่งเช้า ถ้าพระที่ บวชเรียนเพื่อสนุกหรือบวชตามประเพณี อย่างเดียว ก็เห็นจะอยูย่ าก ต้องอาศัยความ เพียรและความศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงจะ อดทนได้ ท่ า นอาจารย์ สุ เ มโธและอาจารย์ ชยสาโร ต่างเล่าตรงกันว่าท่านเป็นฝรั่งที่มี บุญมากที่ได้มารู้จักค�ำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่อง 'อริยสัจสี่' สอนให้รู้ เรือ่ งทุกข์ รูเ้ หตุทเี่ กิดทุกข์ วิธดี บั ทุกข์ และ 'มรรค ๘' ที่สอนเรื่อง 'การพัฒนาชีวิตให้ เป็ น มนุ ษ ย์ ที่ ดี ' ตอบค� ำ ถามที่ ท ่ า นสงสั ย เรื่องความหมายของชีวิตว่า "มนุษย์เกิดมา เพือ่ อะไร" โดยมีญาติโยมชาวบ้านถามท่าน
ว่าได้ค้นพบหรือยัง ท่าน บอกว่าได้ยินค�ำพระท่าน พู ด เสมอๆ แต่ เ พิ่ ง ฉุ ก คิ ด ได้คอื ค�ำว่า "เพือ่ิ ประโยชน์ และความสุขของข้าพเจ้า ทั้ ง หลายตลอดกาลนาน เทอญ" ท่านบอกว่าเป็นค�ำ รูปจาก www.youtube.com สอนที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา จิต เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตนเอง กันยากมาก ถ้าศาสนาอื่นจ�ำนวนน้อยจะ และผู้อื่นในระยะยาวนานจนถึงตลอดกาล ถูกเบียดเบียน หากมีจ�ำนวนไล่เลี่ยกัน ก็ ท่านบอกว่า 'ปรัชญา' ศาสนาอืน่ ทีท่ า่ นเคย มักจะเกิดศึกสงคราม ส่วนเมืองไทยมีคน เห็นไม่เป็นอย่างนี้ ต้องเชื่อฟังถึงจะได้รับ นับถือพุทธศาสนาถึงกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ รางวัลหรือความเมตตาหากไม่เชื่อฟังก็ถูก คนคริสต์และมุสลิมไม่ถูกเบียดเบียนจาก ลงโทษ และอีกเรื่องหนึ่งที่ท่านชื่นชม แต่ คนนับถือพุทธ นับเป็นศาสนาที่มีเมตตา เราคนไทยรู้สึกเฉยๆ เป็นปกติ ท่านเล่าว่า ธรรมสู ง ที่ สุ ด ท่ า นจึ ง ได้ เ ลื อ กเดิ น ทาง บ้านเมืองของท่านศาสนาอื่นที่มาอยู่ร่วม สายนี้
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๒
พญ.กาญจนา วงศ์ ศิ ริ
จิ ต แพทย์ ป ระจ� ำ รพ.มหาราช นครศรี ธ รรมราช จิ ต แพทย์ ป ระจ� ำ คลิ นิ ก หมอกาญจนา
เ
ข้าพรรษานี้หลายคนเอาช่วงเวลานี้เป็นฤกษ์ งามยามดีที่จะเริ่มต้นหยุดดื่มเหล้า มีบาง คนใจแข็งและอดทนมากใช้วิธีการหักดิบคือ หยุดดื่มเหล้าทันที ผลที่ตามมาจากความตั้งใจ ดี โดยการหยุดดืม่ เหล้าแบบนีอ้ าจส่งผลรุนแรง ต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง พูดง่ายๆ เลยก็คือ เกิดอาการลงแดงโดยเฉพาะคนที่ดื่มหนักมา ก่อน เช่นบางคนถึงขัน้ ชักบางคนถึงขัน้ มีอาการ ประสาทหลอนสับสน ความคุมอารมณ์และ พฤติกรรมตนเองไม่ได้ อาการลงแดงหรื อ อาการถอนเหล้ า ใน แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน คนทีด่ มื่ เหล้าปริมาณ มากและดื่มมานานมีโอกาสเกิดอาการลงแดง หนั ก กว่ า และคนที่ ห ยุ ด ดื่ ม เหล้ า ทั น ที จ ะมี อาการลงแดงมากกว่าคนทีค่ อ่ ยๆ หยุด อาการ ลงแดงจะเกิดขึ้นประมาณสัปดาห์แรกที่หยุด หรือลดปริมาณการดืม่ แต่อาการอยากดืม่ สุรา สามารถยังคงมีอยู่ได้หลายเดือนถึงแม้จะหยุด ดืม่ ไปได้หลายวันหรือเป็นเดือนแล้วก็ตาม ตารางด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงอาการ ถอนเหล้า ซึ่งสัมพันธ์กับระยะเวลาที่ลดหรือ หยุดดืม่ สุรา ระยะเวลาที่หยุด หรือ ลดดื่มสุรา ๖ - ๒๔ ชม. ๗ - ๔๘ ชม. ๔๘ - ๗๒ ชม.
ต้องบอกตัวเองว่านี่เป็นสัจจะและความรับผิด ชอบต่อการตัดสินใจ มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง ตัวเองให้ได้ ถ้าท่านมาหาหมอเพราะ เมียให้ มา แม่ให้มา นายให้มา ท่านเตรียมรับสิง่ ทีเ่ กิด ขึน้ ได้เลยคะ ว่าไม่มที างเลิกได้ การเลิกยาเสพ ติดทุกชนิดต้องเริ่มต้นจากความตั้งใจของผู้ที่ ต้องการบ�ำบัดก่อน ขอให้ท่านอดทน มีสติกับ ตนเองว่าความตัง้ ใจครัง้ นีท้ า่ นท�ำเพือ่ อะไร ถ้า เปลี่ยนแปลงได้ท่านจะได้สิ่งใดกลับมาในชีวิต ส่วนปัจจัยอืน่ ๆ ทีเ่ หลือเรามาช่วยกันคะ ปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยให้ท่านผ่านพ้นไปได้นั่น คือ ความเข้าใจจากครอบครัว เพือ่ นฝูง สังคม ปัจจัยเหล่านี้ส�ำคัญมากที่จะเป็นก�ำลังใจให้ ท่าน และช่วยป้องกันไม่ให้ท่านกลับไปเสพอีก ส่วนเรือ่ งยานัน้ จะช่วยให้ทา่ นผ่านมันไปได้โดย ไม่ทรมานกายนัก (พูดง่ายๆ คือช่วยลดอาการ ลงแดงนัน่ เอง) เริม่ ต้นจากตัวเองก่อน ท่านต้องถามตัวเองและตอบตัวเองอย่าง ซือ่ สัตย์วา่ ท่านดืม่ เหล้าแล้วมันท�ำให้ทา่ นรูส้ กึ ดี เพราะอะไร เช่น ท่านดืม่ เหล้าเวลาเครียด มัน ช่วยคลายเครียด คลายเบือ่ คลายเหงา
อาการ หงุดหงิด มือสั่น ความดันขึ้น หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ มีอาการประสาทหลอน มีอาการชัก มีอาการสับสน มีอาการประสาทหลอน หน้าแดง มือสั่น ความดันขึ้นและชีพจรเต้นเร็ว
คนที่มีอาการถอนเหล้าไม่รุนแรงอาจมี อาการเพียงแค่ หงุดหงิด มือสั่น ความดันขึ้น หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ แต่จะ ไม่มีอาการถึงขนาดชักหรือสับสน อาการชัก และสับสนกรณีจากการถอนเหล้ารุนแรงมักจะ เกิดช่วงที่หยุดหรือลดการดื่มช่วงหนึ่งถึงสอง วันแรก อาการถอนเหล้าจะสัมพันธ์กับการติด เหล้า ถ้าสงสัยว่าตนเองติดเหล้าหรือไม่ให้ลอง ตอบแบบค�ำถามด้านล่างต่อไปนีด้ ู ๑) ท่านเคยคิดเหมือนกันว่าควรจะเลิกดืม่ หรือเคยพยายามเลิกดืม่ แล้วแต่ทำ� ไม่สำ� เร็จ ๒) ท่านเคยถูกต�ำหนิจากคนอื่นเกี่ยวกับ การดืม่ เหล้า ๓) ท่านเคยรูส้ กึ ผิดหรือเคยรูส้ กึ แย่กบั การ ดืม่ เหล้าของท่าน ๔) ตื่นเช้ามาท่านต้องดื่มเหล้าก่อนทุก ครั้ง ไม่งั้นจะรู้สึกว่าตนเองจะท�ำอะไรต่อไม่ได้ ในวันนัน้ ถ้าท่านตอบกับตัวเองว่า “ใช่” มากกว่า สองข้อขึน้ ไป จงพึงตระหนักว่าท่านเข้าข่ายคน ติดเหล้าไปแล้ว แล้วจะเริม่ ต้นหยุดเหล้าอย่างไรดี อันดับแรกเลยส�ำหรับคนที่อยากเลิกดื่ม ด้วยเหตุผลใดหรือด้วยแรงจูงใจใดก็ตาม ท่าน
ท่านดื่มเหล้าเพื่อจะช่วยให้ท่านเข้าสังคม ได้ง่ายขึ้น คือประมาณว่าถ้าเหล้าไม่เข้าปากก็ พูดไม่ออก ถ้าไม่ดมื่ เหล้าก็ไม่รจู้ ะนัง่ คุยอะไร ท่านดืม่ เหล้าเพือ่ รักษาอาการนอนไม่หลับ หรือเหตุผลอืน่ ๆ ถ้าการดื่มเหล้าเป็นการบรรเทาสิ่งที่ท่าน ไม่สบายใจหรือไม่สบายกาย นั่นอาจไม่ใช่ทาง แก้ทถี่ กู ต้อง ทุกข์กต็ อ้ งแก้ทเี่ หตุแห่งทุกข์ ไม่ใช่ แก้ดว้ ยเหล้า หลีกหนีตวั กระตุน้ หลายๆ คนเพื่อนวงเหล้าเยอะมาก เลิก งานแล้วต้องเดินผ่านวงเหล้าทุกวัน ท่านไม่ กล้าปฎิเสธ กลัวเพื่อนไม่รัก กลัวเพื่อนหาว่า หยิ่ง แต่ท่านเคยนึกมั้ยเวลาท่านป่วยมีเพื่อน ในวงเหล้ามาดูแลท่านมั้ย จากประสบการณ์ที่ หมอดูแลคนไข้ติดเหล้า ข้างๆ เตียงที่มาคอย เฝ้า คอยอดหลับอดนอนดูแลท่าน ล้วนแต่เป็น ลูก เมีย ญาติๆ ท่านทัง้ สิน้ คงเหมือนทีเ่ ค้าบอก กันว่าเพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก ท่าน ต้องใช้ปัญญาเลี่ยงๆ บ้าง พยายามไม่ไปพบ เจอสิง่ กระตุน้ เช่นถ้ารูว้ า่ ใครทีช่ อบชวนดืม่ วง เหล้าวงนี้ นัง่ ดืม่ ตรงนีป้ ระจ�ำ ก็เดินเลีย่ งๆ บ้าง ถ้าบังเอิญเลี่ยงไม่ได้ก็บอกเค้าไปตรงๆ เลยว่า ก�ำลังเลิกเหล้าอยู่ หรือไม่ก็เอาหมอไปอ้างก็ได้
ว่าไปตรวจสุขภาพแล้วหมอบอกสุขภาพไม่ดี หมอห้ามไม่ให้ดมื่ เหล้าเด็ดขาด ส�ำหรับท่านที่ชอบนั่งโม้ในวงเหล้า ท่าน ก็เข้าไปโม้กับเค้าได้ แต่ไม่จ�ำเป็นต้องดื่มเหล้า ท่านก็นงั่ ดืม่ ชา กาแฟ หรือ อืน่ ๆ ไป หมอช่วยอะไรคุณได้บา้ ง - หมอช่วยรักษาสาเหตุที่อาจน�ำท่านไป ดื่มสุรา เช่น โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคนอน ไม่หลับ หรืออืน่ ๆ - หมอช่วยให้ยารักษาอาการลงแดงหรือ อาการถอนเหล้า เพื่อไม่ให้ท่านเกิดอาการข้าง เคียงตามมา เช่นอาการกระสับกระส่าย อาการ นอนไม่หลับ อาการหลอน ป้องกันอาการชัก และอาการไม่สบายตัว อืน่ ๆ - หมอไม่ได้ให้คุณต้องกินยาไปตลอดชีวิต การให้ยาช่วยให้คุณเลิกเหล้าได้อย่างสบายตัว และลดอาการ ข้างเคียงจากการถอนเหล้า เมือ่ หมดภาวะทีจ่ ำ� เป็นต้องใช้ยาแล้วก็หยุดได้ กฎหมายเกีย่ วกับการดืม่ สุรา เคยสั ง เกตมั้ ย คะว่ า ข้ า งขวดสุ ร ามี เ ขี ย น ค�ำว่า "ดื่มมาตรฐาน (Standard drink)" เหล้า แต่ละขวด แต่ละชนิด ก็จะเขียนไม่เหมือนกัน แล้วมันคืออะไร เอาไว้ทำ� อะไรแล้วจะดืม่ ได้แค่ ไหนเวลาขับรถจะได้ไม่ถกู ต�ำรวจจับ ดืม่ มาตรฐาน (Standard drink) คือ หน่วย อ้างอิงของจ�ำนวนการดืม่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ทุกชนิด โดยจะบ่งชี้ถึงขนาดของแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิด นั้นๆ ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละประเทศทั้งนี้ จ�ำนวนดื่มมาตรฐานจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้น ของแอลกอฮอล์ ประเทศไทยเราใช้ ๑ ดื่ม มาตรฐานจะมี ป ริ ม าณแอลกอฮอล์ บ ริ สุ ท ธิ์ จ�ำนวน ๑๐ กรัม ซึง่ ๑ ดืม่ มาตรฐานสามารถ ท� ำ ให้ เ พิ่ ม ระดั บ แอลกอฮอล์ ใ นเลื อ ดได้ ประมาณ ๑๕-๒๐ มก.% กฎหมายไทยห้าม ขั บ ขี่ ย านพาหนะหากมี ป ริ ม าณแอลกอฮอล์ ในเลือดเกิน ๕๐ มก.% ดังนั้นปริมาณเหล้า ที่ท่านดื่มได้ไม่เกินกว่าที่กฏหมายก�ำหนดคือ ๑ ออนซ์ มีปริมาตร ประมาณ ๓๐ ซีซี หน่วยเป็น ดืม่ มาตรฐาน ๑ ดีกรี หรือ ๑ กรัมเปอร์เซ็นต์ หมายถึง เอทานอลแอลกอฮอล์ ๑ กรัม ๑ ดืม่ มาตรฐาน จะต้องทราบปริมาตรของ ภาชนะทีบ่ รรจุเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ และความ เข้ ม ข้ น ของเครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ ช นิ ด นั้ น ๆ ด้วย เพื่อจะได้ค�ำนวณและทราบถึงจ�ำนวน ดื่มมาตรฐานของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขวด บรรจุขนาดนัน้ ๆ ได้ ตัวอย่างการค�ำนวณหาจ�ำนวนดื่มมาตรฐานของเบียร์และสุราในภาชนะบรรจุแต่ละ ชนิด ตัวอย่าง เบียร์ ทีม่ คี วามเข้มข้น ๖% = ๐.๐๖ ๑ กระป๋อง มีแอลกอฮอล์ ๓๓๐ ซีซี x
๐.๐๖ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๑๕.๖๒ กรัม/๑๐ กรัม = ๑.๕๖ หรือ ประมาณ ๑ ๑/๒ ดื่ม มาตรฐาน ๑ ขวดเล็ ก มี แ อลกอฮอล์ ๓๕๕ ซี ซี x ๐.๐๖ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๑๖.๘๐ กรัม/ ๑๐ กรัม = ๑.๖๘ หรือประมาณ ๑ ๓/๔ ดืม่ มาตรฐาน ๑ ขวดใหญ่ มีแอลกอฮอล์ ๖๔๐ ซีซี x ๐.๐๖ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๓๐.๒๙ กรัม/๑๐ กรัม = ๓.๐๓ หรือประมาณ ๓ ดืม่ มาตรฐาน สุราทีม่ คี วามเข้มข้น ๔๐ ดีกรี = ๐.๔๐ ๑ เป๊ก มีแอลกอฮอล์ ๕๐ ซีซี x ๐.๔๐ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๑๕.๗๘ กรัม/๑๐ กรัม = ๑.๕๘ หรือประมาณ ๑ ๑/๒ ดืม่ มาตรฐาน ๑ กั๊ก มีแอลกอฮอล์ ๑๕๐ ซีซี x ๐.๔๐ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๔๗.๓๔ กรัม/๑๐ กรัม = ๔.๗๓ หรือประมาณ ๕ ดืม่ มาตรฐาน ๑ แบน มีแอลกอฮอล์ ๓๗๕ ซีซี x ๐.๔๐ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๑๑๘.๓๕ กรัม /๑๐ กรัม = ๑๑.๘๓ หรือประมาณ ๑๒ ดืม่ มาตรฐาน ๑ ขวด มีแอลกอฮอล์ ๗๕ ๐ ซีซี x ๐.๔๐ x ๐.๗๘๙ เท่ากับ ๒๓๖.๗ กรัม /๑๐ กรัม = ๒๓.๖๗ หรือประมาณ ๒๔ ดืม่ มาตรฐาน เมื่อปริมาตรของภาชนะที่บรรจุเท่าเดิม แต่ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น จะ ท�ำให้คา่ ดืม่ มาตรฐานเพิม่ ขึน้ จากข้ อ มู ล ขององค์ ก ารอนามั ย โลก ปี ๒๕๕๖ ประเทศทีบ่ ริโภคเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ต่อหัวประชากรมากทีส่ ดุ ในโลก ได้แก่ ๑. มอลโดวา ๒. ไอร์แลนด์ ๓. สาธารณรัฐเช็ก ๔. ฮังการี ๕. รัสเซีย ประเทศที่ประชากรดื่มแอลกอฮอล์มาก ที่สุด ๒๐ อันดับแรกของโลก เป็นประเทศใน ยุโรปถึง ๑๙ ประเทศ โดยมีประเทศนอกยุโรป เพียงประเทศเดียวเท่านัน้ คือ เกาหลี ใ ต้ คนเกาหลี ใ ต้ ดื่ ม เครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ เที ย บเป็ น แอลกอฮอล์ บ ริ สุ ท ธิ์ คนละ ๑๔.๘ ลิตรต่อคน ต่อปี ส่วนในทวีปเอเชีย ประเทศที่ประชากร ดืม่ แอลกอฮอล์มากทีส่ ดุ ๕ อันดับแรก ได้แก่ ๑. เกาหลีใต้ ๒. เนปาล ๓. ญีป่ นุ่ ๔. ไทย ๕. ลาว
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
ค
ำกล่าวคล้องจองของรุ่นพ่อเฒ่าเราที่ พาดพิงถึงคนยุคนั้นว่า ถ้าอยากเป็น อะไรก็ให้ฝากลูกหลานไปบวชเรียนหรือ เป็นลูกศิษย์วัดนั้นๆ ในตัวเมืองนคร และ แน่ น อนว่ า มี ค วามจริ ง แฝงอยู ่ ที่ อ ธิ บ าย ความได้ ฉบั บ นี้ ผ มก� ำ ลั ง พู ด ถึ ง วั ด จั น ที่ ชาวบ้ า นเรี ย กกั น ซึ่ ง ตั้ ง อยู ่ ต� ำ บลท่ า วั ง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มี ทางเข้าอยู่ติดถนนราชด�ำเนินมีซุ้มประตู วั ด แคบๆ ขนาบด้ ว ยห้ อ งแถวสองด้ า น เวลาขับรถผ่านถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็น ซึ่ง เป็นลักษณะเดียวกันอีกหลายวัดบนถนน ราชด� ำ เนิ น ที่ แ ทบจะไม่ รู ้ เ ลยว่ า มี วั ด อยู ่ หลังห้องแถว (ขออนุญาตไม่เอ่ยนามวัด นั้นๆ) ผมเชื่อว่าคนนครรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ไม่รู้จักวัดนี้ ทั้งๆ ที่มิได้เป็นวัดใหม่ แต่ เป็นวัดโบราณกว่า ๒๕๐ ปีที่มีประวัติและ ต�ำนานมากมาย รวมทัง้ ได้เกีย่ วพันกับเรือ่ ง ราวของตระกูลต่างๆ ในละแวกนี้ และ บุ ค คลส� ำ คั ญ ด้ า นศิ ล ปะซึ่ ง ได้ แ ก่ ศิ ล ปิ น แห่งชาติ ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ จาก ครอบครัวตระกูลช่างที่อยู่ข้างวัดก็ได้เรียน หนังสือสมัยเป็นเด็กจากวัดนี้ ผมเคยเขียน เรื่องอดีตของโรงเรียนเบญจมราชูทิศจาก ค�ำบอกเล่าของพ่อตาผม (จิตต์ มาศดิตถ์) ที่เคยมาอาศัยอาคารเรียนที่วัดจัน เพราะ ที่วัดท่าโพธิ์นักเรียนมากขึ้นจนห้องเรียนไม่ พอ และยังไม่ได้ยา้ ยไปอยูท่ สี่ นามหน้าเมือง อาคารเรียนหลังนีก้ ย็ งั คงอยูใ่ ช้งานอยูจ่ นถึง ปัจจุบนั วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๔๐ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๓๕๐ และยังคงเป็นวัด ที่มีพระสงฆ์และชาวพุทธมาปฏิบัติศาสน กิจตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ ได้มีการสร้าง หรือปรับปรุงอาคารต่างๆ มาตามยุคสมัย วัดนี้ตามที่ได้น�ำเรื่องตอนต้นว่าใครอยาก เป็นช่างให้อยูว่ ดั จัน นัน่ หมายถึงวัดนีม้ กี าร ฝึ ก ช่ า งไม้ แ ละงานศิ ล ปะเป็ น เอกลั ก ษณ์ ส่วนเรื่องรายละเอียดครูช่างหรือผลงาน มากน้อยประการใดผมไม่ได้ศึกษาค้นคว้า มา แต่ทางหน่วยศิลปากรที่ ๘ (นครศรีธรรมราช) ได้มาส�ำรวจจริงจังเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้พบพระขนมต้ม ๒ องค์ และ ฐานศิวลึงค์แผ่นใหญ่ จึงได้ขอกับทางวัด ขึน้ ทะเบียนโบราณวัตถุไปเก็บแสดงทีพ่ พิ ธิ ภั ณ ฑ์ แ ห่ ง ชาติ จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช และต่อมาได้ขอตูพ้ ระธรรมขาหมูลายรดน�ำ้
หน้า ๑๓
“ใครอยากเป็นนาย ให้อยู่วัดท่าโพธิ์ ใครอยากกินหนมโค ให้อยู่วัดวัง ใครอยากเป็นช่าง ให้อยู่วัดจัน ใครอยากไปสวรรค์ ให้อยู่วัดพระนคร”
จ�ำนวน ๓ ชิน้ มาขึน้ ทะเบียนโบราณวัตถุไป เก็บแสดงอีก และในปี พ.ศ.๒๕๕๒ คณะ ท�ำงานโครงการค้นคว้าวิจัยทางโบราณคดี แห่ ง คาบสมุ ท รสยาม ได้ ม าขุ ด ค้ น ทาง โบราณคดี ใ นบริ เ วณวั ด ๒ หลุ ม ได้ พ บ เศษเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง-สมัยห้า ราชวงศ์ในชั้นดินสุดท้าย ก�ำหนดอายุราว พุทธศตวรรษที่ ๑๕ และมีพื้นที่ทางด้าน ทิศใต้ของวัด เนื้อที่ ๑ ไร่ ๙๖ ตารางวา ที่กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนและ ก�ำหนดเป็นเขตโบราณสถาน โดยมีอาคาร กุฏิโบราณอยู่ ๓ หลังเรียงกันอยู่ในบริเวณ นี้ และเจ้าอาวาสรูปสุดท้ายที่ได้พักในกุฏิ หลังกลางก่อนปล่อยทิ้งร้างไป น่าจะเป็น ท่านพระครูกาเดิม(คลิ้ง) ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ ต�ำแหน่งทีเ่ ป็นผูพ้ ทิ กั ษ์องค์พระบรมธาตุ จุดเด่นส�ำคัญของกุฏิโบราณคือเป็น อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ยกใต้ถุนสูง มีลักษณะ รูปทรงทางสถาปัตยกรรมทีส่ วยงาม หลังคา ทรงปั้นหยาแบบทางปักษ์ใต้ แต่ทุกหลัง มีรายละเอียดที่ถือเป็นงานศิลปะชั้นครูที่ แตกต่างกันคือ กุ ฏิ ด ้ า นทิ ศ ตะวั น ออก มี บั น ไดทาง ขึ้นด้านทิศเหนือบันไดเดียว หน้าบันแกะ ลายไม้ เ ป็ น รู ป เทพพนมในกลุ ่ ม พรรณ พฤกษา หลังคามุงกระเบือ้ งว่าว กุฏิหลังกลาง เป็นกุฏิอดีตเจ้าอาวาส มีบันไดก่ออิฐถือปูนแบบที่นิยมกันทางท้อง ถิน่ ขึน้ ซ้ายขวา ๒ ทางด้านทิศเหนือ ชัน้ บน แบ่งเป็น ๓ ห้อง ทีช่ อ่ งลมแกะสลักลวดลาย เป็นรูปดอกไม้ ลายเทพพนม ลายมงกุฎ ขนาบด้วยสิงห์ ไม้เชิงชายฉลุลายขนมปัง ขิง ที่หน้าบันด้านหน้าทิศเหนือมีลายแกะ ไม้ เ ป็ น รู ป พญานาคล้ อ มอยู ่ ใ นลายกนก ด้านล่างเขียนตัวอักษรฉลุไม้ว่า “พระพุทธ ศักราช ๒๔๕๘” กระเบื้องหลังคาเดิมเป็น กระเบื้องว่าว แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้
กระเบือ้ งลอนคูแ่ ทน กุฏิด้านทิศตะวันตก มีบันไดก่ออิฐ ถือปูน ขึน้ ๒ ทางหันเข้าหากัน ไม้เชิงชาย ฉลุลายขนมปังขิง หน้าบันด้านหน้าเขียน ตัวอักษรฉลุไม้วา่ “พระพุทธศักราช ๒๔๖๕ ปีจอ” กุ ฏิ โ บราณดั ง กล่ า วนี้ อ ยู ่ ใ นสภาพ ทรุดโทรม ไม้โครงสร้างและลายฉลุไม้ได้ ผุ พั ง ช� ำ รุ ด ตามกาลเวลา มี ก ารซ่ อ มแซม เปลี่ ย นแปลงวั ส ดุ กั น ที่ ผิ ด เพี้ ย นจากของ เดิม และเมื่อขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร จึงไม่สามารถแตะต้องปรับปรุงกันเองได้ จึงถูกทิ้งร้างไว้รอการบูรณะ ผมได้ถามกับ หัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ ๘ ถึงเรือ่ งนีท้ ราบ ว่ า ทางกรมศิ ล ปากรได้ มี ก ารออกแบบ ปรับปรุงอาคารไว้แล้ว แต่ยงั ไม่ได้อนุมตั งิ บ ประมาณลงมาด�ำเนินการ มุ ม มองของผมเห็ น ว่ า ทั้ ง เรื่ อ งราว ความเป็นมาของวัด และอาคารสถานที่ ของวั ด จั น ทาราม มี คุ ณ ค่ า ทางประวั ติ ศาสตร์ ทีค่ วรแก่การดูแลและบันทึกไว้เป็น หลักฐานเพือ่ เป็นมรดกของชาติ รวมทัง้ การ ศึกษาความเป็นชุมชนโบราณยุคสมัยต้น รัตนโกสินทร์ พร้อมๆ กับวัดอืน่ ๆ ทีม่ หี ลาย
แห่งใกล้กัน นครศรีธรรมราช มีต้นทุนในการเป็นเมืองท่อง เที่ ย วเชิ ง ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละ วัฒนธรรม จึงต้องโยงสถานที่ เหล่านี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เรี ย นรู ้ เ พิ่ ม ขึ้ น นอกเหนื อ จาก วัดพระบรมธาตุที่ก�ำลังอยู่ใน กระบวนการขอขึ้ น ทะเบี ย น เป็ น มรดกโลก จึ ง มี ค วาม จ� ำ เป็ น อย่ า งเร่ ง ด่ ว นที่ จ ะ ต้ อ งหาทางบู ร ณะอาคารกุ ฏิ โบราณดังกล่าวก่อนที่จะผุพัง สลายไป ประเด็ น ส� ำ คั ญ คื อ ภาครั ฐ เห็ น ความส� ำ คั ญ เรื่ อ ง นี้หรือไม่ หรือจะให้ภาคเอกชนหรือหน่วย งานอื่นเข้ามาช่วยหรือเปล่า ผมได้รู้จักกับ กลุ่มสถาปนิกรุ่นใหม่ทั้งจากองค์กรท้องถิ่น จากสถาบันการศึกษา และเอกชนได้ให้ ความสนใจเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่ทราบว่าจะ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไร อยาก ฝากให้กรมศิลปากรหาแนวทางใหม่ๆ ใน การอนุรักษ์โดยการยินยอมให้องค์กรอื่น ที่พอจะมีความรู้หรือมีก�ำลังด้านต่างๆ มา ช่วยงานให้เกิดความรวดเร็วขึ้น ซึ่งการที่ จะอาศัยก�ำลังคนหรืองบประมาณจากภาค รัฐเพียงด้านเดียว บางเรื่องอาจช้าเกินไป จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทนั แต่สำ� หรับ อาคารสถานที่ ข องเอกชนที่ ดู แ ลกั น เอง โดยที่เจ้าของมีก�ำลังทรัพย์เพียงพอ ก็จะ ช่วยให้สามารถรักษาสิง่ ทีม่ คี ณ ุ ค่าได้เช่นกัน มีกรณีตัวอย่างบ้านโบราณกว่าร้อยปี ตรง ข้ามวัดพระบรมธาตุ (บ้านท่านขุนรัฐวุฒิ วิจารณ์) ได้ดแู ลบูรณะจนเป็นทีร่ บั รูข้ องนัก ท่องเที่ยวและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม ภาพความเป็นเมืองเก่าได้เป็นอย่างดี แล้ ว ท่ า นในฐานะคนนครรู ้ จั ก กุ ฏิ โบราณวัดจันที่เป็นมรดกทางศิลปะนี้แล้ว หรือยัง ?
หน้า ๑๔
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
ทานตะวัน เขียวน�้ำชุม (ครูแจง) ห้องเรียนธรรมชาติบ้านลมฝน
ค่
ายเพื่อนตัวจิ๋วในป่าเขาหลวง ครั้ง ที่ ๑ พาเด็ ก ๆ และครอบครั ว ไป ท่องเที่ยวเรียนรู้ ท�ำความรู้จักกับชีวิตใน ธรรมชาติ ทั้งแมลงบนบก ในอากาศ ใน น�้ำ ในถ�้ำ รวมถึงพืช และสัตว์อื่นๆ ที่ใช้ ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ณ อุทยาน แห่งชาติเขาหลวง หน่วยน�้ำตกอ้ายเขียว และชุ ม ชนชาวสวนรอบๆ เขาขุ น พนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ให้ทุก คนได้หลีกออกมาจาก Comfort Zone ที่ เ คยชิ น สั ก สองวั น หนึ่ ง คื น เพื่ อ สร้ า ง ภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ตัวเด็กๆ ได้รับอากาศ บริสุทธิ์ ไปพร้อมๆ ขยับร่างกายไปตาม จังหวะธรรมชาติ หนักบ้างเบาบ้าง แดด บ้าง ฝนบ้าง ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ไปพร้อมๆ กับจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นและอ่อน โยนขึ้นจากการได้สังเกต มองเห็น และ สัมผัสสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ได้คิด ได้วิเคราะห์ และบันทึกเรื่องราวรายทาง ครอบครั ว ที่ ม าเข้ า ร่ ว มกิ จ กรรมมา จากหลากหลายจังหวัด ทั้งจากกรุงเทพฯ ตรัง สุราษฎร์ธานี ทั้งจากตัวเมืองและข้าม น�้ำข้ามทะเลมาจากเกาะสมุย จากจังหวัด ตรั ง สงขลา ภู เ ก็ ต และเจ้ า ถิ่ น อย่ า ง นครศรี ธ รรมราช รวมทั้ ง หมด ๔๐ คน เด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมก็มีตั้งแต่ ๒ ขวบ จนถึงวัยประถมปลายเลยค่ะ ทุกครอบครัวน่ารักมากที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พบ ประสบการณ์จริงๆ จากธรรมชาติ ได้ร่วม คิด ร่วมชี้ชวนชม ร่วมเรียนรู้ ร่วมบันทึก ประสบการณ์ไปพร้อมๆ กัน ล้มลุกคลุก คลานกันบ้าง เหนื่อยบ้าง ล้าบ้าง แล้วมา ให้ก�ำลังใจกัน
โดยมีครูเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ผู้ เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติอันดับต้นๆ ของ เมืองไทย โดยเฉพาะเรื่องผีเสื้อและแมลง มาพาเด็กๆ ไปเปิดโลกเรียนรู้ธรรมชาติ มอบความรู้ สาระอย่างมีความสุข เห็น ได้จากทุกแววตาของเด็กๆ รอยยิ้ม เสียง หัวเราะ เสียงค�ำถามและเสียงแข่งกันค�ำ ตอบอย่ า งสนุ ก สนาน เป็ น แรงผลั ก ดั น และเป็นช่วงเวลาที่น่าหลงใหลที่สุด ขอบคุณ "ธรรมชาติป่าเขาหลวง" เป็ น ที่ สุ ด ส� ำ หรั บ ความอุ ด มสมบู ร ณ์ ที่ ยังคงมีอย่างล้นเหลือให้เด็กๆ ได้เข้าไป สัมผัสเรียนรู้ต่อไป แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ... ติดตามข่าวสารกิจกรรมธรรมชาติ ต่างๆ ได้ที่เฟสบุ๊คกลุ่ม Tarzan Junior นะคะ
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๕
อาจารย์แก้ว
ใ
ครที่ ติ ด ตามข่ า วสารทางสื่ อ หรื อ ไป ตามธนาคารสาขาต่ า งๆ ตลอดจน ตู้ ATM และเว็บไซต์ Internet Banking ก็ จ ะเห็ น การโปรโมตเกี่ ย วกั บ บริ ก าร PROMPT PAY (พร้อมเพย์) เต็มไปหมด และชวนคุ ณ มาสมั ค รใช้ บ ริ ก ารด้ ว ย บริการนี้คืออะไร เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ท�ำไม ทุ ก ธนาคารถึ ง โปรโมตเรื่ อ ง PROMPT PAY (พร้อมเพย์) เหมือนกันหมด อยากรู้ มาดูรายละเอียดกัน ก่ อ นที่ จ ะเริ่ ม PROMPT PAY นี้ ริ เ ริ่ ม โดยกระทรวงการคลั ง ที่ ตั้ ง ใจจะ เปลี่ ย นแปลงระบบการช� ำ ระเงิ น แบบ ใหม่ โดยบัตรประชาชนแบบชิพ (SmartCard) โดยใช้ชื่อว่า Any ID ก่อนที่จะมา เป็นชื่อ PROMPT PAY (พร้อมเพย์) โดย เกิดขึ้นจากนโยบายของทางรัฐบาล ซึ่ง ประเทศไทยมี แ นวคิ ด ส่ ง เสริ ม เกี่ ย วกั บ Digital Economy (เศรษฐกิ จ ดิ จิ ทั ล ) ท� ำ ให้ ก ระทรวงการคลั ง ผลั ก ดั น ระบบ การช�ำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ National e-Payment
โดยบริการ PROMPT PAY (พร้อม เพย์) ชื่อเดิมคือ Any ID ถือเป็นโครงการ แรกใน ยุทธศาสตร์ National e-Payment ของรัฐบาลไทย เพื่ออ�ำนวยความ สะดวกทั้งประชาชนในการโอนเงิน และ ภาครัฐในการจ่ายสวัสดิการของรัฐ และ เกี่ ย วกั บ การคื น เงิ น ภาษี แ ก่ ป ระชาชน ด้วย ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา PROMPT PAY คือ บริการโอนเงิน และรับเงินโอนแบบใหม่ โดยผูกบัญชีเงิน ฝากธนาคารกับ หมายเลขบัตรประชาชน หรือ เบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะท�ำให้ ประชาชนโอนเงินสะดวกง่ายขึ้น แค่จ�ำ หมายเลขบัตรประชาชนปลายทางที่จะ โอน หรือจ�ำหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ไม่
ต้องจดหมายเลขบัญชีเงินฝากธนาคารที่ ยาวและจ�ำยาก บริการนี้ด�ำเนินการโดย ธนาคารแห่ ง ประเทศไทยและธนาคาร พาณิชย์ทุกแห่ง ได้ร่วมมือพัฒนาขึ้น เพื่อ สนับสนุนระบบการช�ำระเงินแบบ Any ID ภายใต้ โ ครงการ National e-Payment ลดการใช้เงินสดในการพกเงินเยอะๆ ใช้ จ่ายผ่านทาง e-payment มากขึ้นง่ายด้วย ปลายนิ้ว ทั้งนี้ PROMPT PAY ในเฟสแรก เริ่มที่ ประชาชนทั่วไปก่อน เพื่อให้บัญชีธนาคาร ผูกกับบัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งในอนาคตการรับเงินภาษีคืน การ รับเบี้ยยังชีพทั้งผู้สูงอายุและคนพิการ ก็ ด�ำเนินการผ่านทาง PROMPT PAY เช่นกัน ซึ่งจะไม่ต้องรับเช็คไปสาขาธนาคารเพื่อรับ เงินแล้ว เพราะรัฐบาลจ่ายเงินให้เราทาง PROMPT PAY ทันที และยังสามารถโอน เงินให้ญาติ หรือเพื่อนๆ กันเอง หรือคน อื่นๆ ได้ด้วย และจะรองรับโอนเงินกับร้าน ค้าต่างๆ ในอนาคต จุดเด่นของระบบ PROMPT PAY คือ การโอนเงิ น เข้ า ธนาคารเดี ย วกั น หรื อ ต่างธนาคารผ่านระบบ Prompt Pay ช่วย ประหยัดค่าธรรมเนียมเยอะมาก โดย วงเงินไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทไม่เสียค่า ธรรมเนียม วงเงิน ๕,๐๐๑-๓๐,๐๐๐ บาทคิดค่า ธรรมเนียมไม่เกิน ๒ บาทต่อรายการ วงเงิน ๓๐,๐๐๑-๑๐๐,๐๐๐ บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน ๕ บาทต่อรายการ วงเงินมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาทขึ้น ไปคิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน ๑๐ บาทต่อ รายการ
เมื่อสมัคร PROMPT PAY สามารถ ผูกบัญชีอย่างไรได้บ้าง ? รูปที่ ๑ บัญชีธนาคาร สามารถผูกกับ บัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มอื ถือได้ รู ป ที่ ๒ บั ญ ชี ธ นาคารผู ก กั บ บั ต ร ประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือหลาย เบอร์ได้ สูงสุด ๓ เบอร์ต่อ ๑ บัญชี รูปที่ ๓ หากมี ๒ บัญชี ก็ บัญชีนึงผูก กับบัตรประชาชน ซึ่งบัญชีนั้นจะมีความ ส�ำคัญในกรณีคืนเงินภาษี หรือรับเงินกับ สวัสดิการภาครัฐ อีกบัญชีนึงผูกกับเบอร์ โทรศัพท์มือถือได้สูงสุด ๓ เบอร์ ไว้ส�ำหรับ โอนเงิน ท�ำธุรกรรม รูปที่ ๔ ส�ำหรับคนมีบัญชีเยอะและ เบอร์มือถือเยอะ ก็สามารถผูกได้ลักษณะนี้ ได้ ๑ เบอร์ ต่อ ๑ บัญชี แต่ อ ย่ า งไรก็ ต ามบริ ก าร PROMPT PAY นี้บัญชีธนาคาร สามารถผูกกับบัตร ประชาชนได้เพียง ๑ ใบ และเบอร์มือถือ ๓ เบอร์ ต่อ ๑ คนเท่านั้น และ ๑ คนที่ใช้ บริการ Prompt Pay ผูกกับบัญชีธนาคาร สูงสุดเพียง ๔ บัญชี หากสนใจสมัคร PROMPT PAY ท�ำ อย่างไร เตรียมบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแส รายวัน + บัตรประชาชน + เบอร์โทรศัพท์ มือถือ
โดยสามารถลงทะเบี ย นได้ ทั้ ง ๔ ช่องทาง คือ สาขาธนาคาร, ตู้ ATM, Internet Banking, Mobile Banking ของ ธนาคารที่คุณใช้บริการอยู่ เริ่มลงทะเบียน PROMPT PAY ทุก ธนาคาร ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ (โดย ธนาคารบางแห่ ง เปิ ด ลงทะเบี ย นล่ ว ง หน้ า แล้ ว วั น นี้ จนถึ ง ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ และทางธนาคารจะแจ้งผลการ สมัครบริการผ่านทาง SMS ตั้งแต่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ) อ ย ่ า ง ไ ร ก็ ต า ม ก า ร ใ ห ้ บ ริ ก า ร PROMPT PAY เป็นการให้บริการที่แล้ว แต่ ค วามสมั ค รใจของผู ้ ใ ช้ และอาจจะ ยังไม่เห็นความจ�ำเป็นต้องรีบสมัครทันที เพราะกว่าจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบ จริงๆ ในช่วงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ส�ำหรับการ เบิกจ่ายเงิน โอนเงิน หรือ การท�ำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบเก่าก็ ยังให้บริการได้ปกติ ควบคู่กันไป หลายๆ ท่านที่คิดว่ามันยุ่งยากไม่ต้องวิตกกังวล กับเทคโนโลยีใหม่นี้ ค่อยๆ เรียนรู้สักวัน นึงก็จะเกิดความช�ำนาญแล้วจะทราบว่า มันง่ายไม่ยุ่งยากและมีความปลอดภัยสูง ด้วยความปรารถนาดี อาจารย์แก้ว
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๖ บัญญัติ ลายพยัคฆ์ ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา นครศรีธรรมราช
ส
วัสดีครับคุณผู้อ่าน 'รักบ้านเกิด' ทุก ท่าน นี่เป็นฉบับปฐมฤกษ์ของคอลัมน์ 'ชีวิตติดล้อ' ซึ่งผมจะมาเล่าประสบการณ์ การปั ่ น จั ก รยานที่ ต ่ า งๆ ทั้ ง ปั ่ น แข่ ง ขั น สนามใหญ่ ๆ ปั ่ น แบบทั ว ร์ ริ่ ง ไกลๆ จาก นคร - กทม. เพื่ อ สุ ข ภาพ รวมทั้ ง ปั ่ น ชิลล์ๆ เล่นๆ แต่แฝงไว้ด้วยความสุข และ มิตรภาพบนหลังอานของทุกคน ขอเรียนว่าผมไม่มุ่งเขียนให้ความรู้ เกี่ ย วกั บ จั ก รยาน เพราะคิ ด ว่ า ผู ้ ที่ ส นใจ สามารถหาอ่ า นจากเว็ บ ไซต์ ห รื อ ดู ค ลิ ป ทั่วๆ ไปได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ผมจะเล่า
ประสบการณ์ที่เคยปั่นไปพบสถานที่ต่างๆ มาแชร์ความงามเล็กๆ ที่เกิดขึ้นให้ทุกคนมี ความสุขร่วมไปด้วย ผมต้ อ งออกตั ว ก่ อ นนะครั บ ว่ า ผม ไม่ใช่นักปั่นตัวยงอะไร แต่มีโอกาสไปมา หลายที่ และได้พบเห็นสิ่งที่ไม่ เคยเห็น และถ่ายทอดให้บาง ท่านได้รับรู้ไปบ้าง ส่วนท่านที่ ไปเห็นมาแล้ว รับรู้มาแล้ว จะ แชร์ประสบการณ์หรือชี้แนะ ก็ ยินดีอย่างยิ่งครับ ผมเริ่มปั่นจักรยานอย่าง จริ ง จั ง เมื่ อ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ แค่ ๕ ปีมานี้เอง แต่ ผมปั ่ น (เกื อ บ) ทุ ก วั น ไปมา
เกื อ บทุ ก ที่ ทั่ ว ประเทศไทย และไปปั ่ น ต่างประเทศ (สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว) มาแล้ว ไปปั่น สปป. ลาว มาแล้ว ๓ ครั้ง ไกลสุดจาก เวียงจันทน์ เขื่อนน�้ำงึม ก่ อ นหน้ า นั้ น ก็ ป ั ่ น จั ก รยานที่ สั่ ง ซื้ อ มาจากอินเตอร์เน็ต และไปซื้อจักรยานมือ สองมาปั่นเป็นปีเหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่ง ไปปั่นกับเพื่อน เกิดข้อสงสัยว่าเราก็ใช้แรง เท่าเพื่อน หรืออาจมากกว่าเพื่อน แต่ท�ำไม ความเร็วน้อยกว่า จึงถามเพื่อน เพื่อนตอบ ว่าเป็นที่จักรยานไม่เหมาะปั่นไกลๆ เอา จักรยานอย่างนี้มาไล่เขายังไงก็ไม่ทันแน่ๆ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ จึ ง ไปซื้ อ จักรยานใหม่ทันที และตั้งแต่นั้นมาก็ปั่น
อย่างจริงจัง คันแรกที่ซื้อเป็นยี่ห้อ HARO จากนั้นก็ซื้อ JAVA และ Wheeler ๕๐๗ (ปัจจุบัน HARO JAVA และ Wheeler ๕๐๗ เปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว) เป็นเสือภูเขา ๒ คัน และเป็นหมอบ ๑ คัน ปัจจุบันก็เป็นรถพับยี่ห้อ Brompton มิ นิ ห มอบ Alex Moulton และ ทัวร์ริ่ง Trek ๕๒๐ แต่ละคันก็ให้อารมณ์ความรู้สึกแตก ต่างกัน วัตถุประสงค์การใช้งานก็ต่างกัน ฉบับหน้าค่อยมาติดตามกันว่า ทั้ง ๖ คัน ปั่นไปที่ใดบ้าง และใช้ในโอกาส ไหนบ้าง อย่าลืมติดตามกันนะครับ
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
นพ.รังสิต ทองสมัคร์ ผมได้รับค�ำชวนให้ไปถ่ายภาพการแสดงโขน ของวิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช เป็นครั้งที่สองที่ได้ถ่ายการแสดงโขน... ครั้งแรกผมขับรถไปถ่ายถึงพัทลุง ครั้งนี้แสดงตรงสนามบาสเก็ตบอลของวิทยาลัย ฯ เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ แสงสีสันตระการตามาก มีนักแสดงซึ่งเป็นนักเรียนทั้งหมดเป็นร้อยชีวิต ฉากต่างๆ ลงทุนสมจริงสมจัง วงดนตรีปี่พาทย์วงใหญ่ นักถ่ายภาพเดินเวียนรอบเวทีแสดงเกือบยี่สิบคน คงได้ภาพการแสดงที่ดีกันทุกคน ใครสนใจ จะมีการแสดงแบบนี้ทุกสองปี เพราะต้องสลับกับทางจังหวัดพัทลุง ขอบคุณทางวิทยาลัย ฯ ที่มีการแสดงดีดีแบบนี้เพื่อนคนนครศรี ฯ
หน้า ๑๗
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๘
โ
อ ลั่ลล้า ฉบับนี้ ขอบอกเล่ากิจกรรมดีดี อีกหนึ่งกิจกรรม จาก สมาคมธุรกิจการ ท่องเที่ยว จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้ การขับเคลื่อนของ นางชนันธร ธนานราสิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และคณะ กรรมการ รวมไปถึงเครือข่ายพันธมิตร ที่ได้ สื บ สานกิ จ กรรมสร้ า งความรั ก ความผู ก พั น ระหว่ า งครอบครั ว และสานสั ม พั น ธ์ ค วาม รั ก ระหว่ า งแม่ กั บ ลู ก ซึ่ ง จั ด กั น มาอย่ า งต่ อ เนื่องในทุกยุคทุกสมัยของการด�ำรงต�ำแหน่ง นายกสมาคม .. ด้วยเหตุผลที่เราเชื่อมั่นว่า ความรักอันยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์นั้น ไม่อาจมี รักใดๆ เทียบเท่าความรักที่แม่ทุกคนมีให้กับ ลูก สิงหาพาแม่เที่ยวชื่อกิจกรรมง่ายๆ ที่ทาง สมาคมน�ำมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหลัก เพื่อ เทอดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสพระชนมายุ ๘๔ พรรษาในปีนี้ เราได้รับความสนใจจากแม่ลูก ที่เข้าร่วมสมัครทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจั ง หวั ด ใกล้ เ คี ย ง อาทิ สุ ร าษฎร์ ธ านี , หาดใหญ่, พัทลุง ฯลฯ เส้นทางที่เราเลือกสรร มาให้ กั บ มวลสมาชิ ก ให้ ไ ด้ เ ป็ น ที่ รู ้ จั ก ในปี นี้ นั้น คณะผู้ด�ำเนินงานได้เลือกเส้นทาง อ�ำเภอ
เมือง - อ�ำเภอเชียรใหญ่ และสิ้นสุดที่อ�ำเภอ ชะอวด ขบวนคาราวานของเราได้ตั้งขบวน เก็บภาพเป็นที่ระลึกกันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เมื่ออิ่มอร่อยจากอาหารเช้า และสวม เสื้อสวยสีฟ้าตามสโลแกนสิงหาพาแม่เที่ยว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทยนครศรีธรรมราช โดย ผู้อ�ำนวยการ การจัดท�ำเสื้อให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทุ ก คน พิ ธี เ ปิ ด และปล่ อ ยขบวนคาราวาน โดย นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช และแขกผู้มีเกียรติ มากมาย ส่วนเส้นทางที่เลือก เรามุ่งเน้นเส้น ทางตาม ธรรมะ และธรรมชาติ รวมไปถึง กิจกรรมที่เรียกความซาบซึ้ง ซึ่งอาจบอกได้ ว่าสุขทั้งน�้ำตา หลังจากรับฟังธรรม จากเจ้า
อาวาสวัดแม่เจ้าอยู่หัว และได้น�ำผ้าประพรม ด้วยน�้ำอบเช็ดฝ่าเท้าให้กับแม่ พร้อมมอบ พวงมาลั ย และบอกรั ก กั บ แม่ ภาพที่ แ ม่ ลู ก ตระกองกอดบอกรักต่อกัน ล้วนเป็นภาพที่ ประทับใจยิ่งทั้งคู่แม่ลูก และผู้เข้าร่วมขบวน คาราวาน การดูแลประคองแม่ตลอดเส้นทาง ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใสทั้งจาก ริมฝีปากของผู้เป็นแม่ รวมไปถึงเสียงหัวเราะ สนุกสนานท่ามกลางลูกๆ หลานๆ ผู้ติดตาม ล้วนเป็นภาพที่มองแล้วเต็มไปด้วยความสุข ... และถึงแม้การเดินทางของกองคาราวาน ในบางช่วงจะเจอฝน แต่ก็มิได้ป็นอุปสรรคต่อ ขบวนคาราวานนักท่องเที่ยวของเรา การได้ ไปเยี่ยมเยียน เรียนรู้ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียงบ้านวังอ่าง หนึ่งในโครงการพระราชด�ำริ และพักรับประทานอาหารกลางวัน ล้วนท�ำให้ผู้เข้าร่วมคาราวานประทับใจกับ อาหารกลางวันแบบพื้นบ้าน รวมไปถึงผลไม้ สุดฮิต ทุเรียน(บ้าน), เงาะ และมังคุดที่เรียก ว่ า อิ่ม อร่อ ยกัน แบบไม่ อั้ นเลย หลัง จากอิ่ ม กันถ้วนหน้าขบวนคาราวานก็มุ่งหน้าเข้าสู่ อ� ำ เภอชะอวด เพื่ อ ไปสนุ ก สนานต่ อ กั น ที่ หนานมดแดง พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ใคร สนใจล่องแก่ง - เล่นน�้ำ, นวดเท้า หรือ อบ สมุนไพร ก็แล้วแต่ความชื่นชอบ แต่ที่แน่ๆ ที่หนานมดแดง มีสถานที่ให้ได้เซลฟี่กันแบบ ไม่รู้เบื่อทีเดียวค่ะ หลังจากสนุกสนานกันเต็ม ที่ที่หนานมดแดงแล้ว เราก็เดินทางกลับมารับ ประทานอาหารเย็นกันที่ อ�ำเภอชะอวด ณ มะปรางรีสอร์ท ชมการแสดงพื้นบ้าน สินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนของดีเมืองชะอวด งานนี้น�ำ
เงิ น จากระเป๋ า นั ก ท่ อ งเที่ ย วลงสู ่ ชุ ม ชนของ แท้จริงๆ อาหารเย็นแสนอร่อย และกิจกรรม แจกของรางวั ล จากสมาคมฯ ท� ำ เอาผู ้ ร ่ ว ม คาราวานในครั้ ง นี้ มี ร อยยิ้ ม ยิ้ ม อิ่ ม ทั้ ง ใจอิ่ ม ทั้งท้องกันไปทุกคน .. ต้องขอขอบคุณรอย ยิ้มทุกรอยยิ้ม ภาพประทับใจ และสีสันแห่ง ความสุขของนักท่องเที่ยวคาราวานสิงหาพา แม่เที่ยวทุกท่าน ที่ได้สร้างความสุขและความประทับใจ ร่วมกับเราอีกครั้ง ปีหน้า "สิงหาพาแม่เที่ยว ปี ๖๐" อย่าลืมมาเจอกันใหม่นะคะ แล้วพบ กันฉบับหน้าค่ะ ขอขอบคุณ .. ผู้สนับสนุนที่ร่วมสร้าง กิจกรรมความรักระหว่างแม่ลูก ผู้บังคับการต�ำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจทุกท่าน การท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย ส�ำนักงานนครศรีธรรมราช บริ ษั ท อี ซู ซุ น ครมอเตอร์ เ ซลส์ (๑๙๙๑) จ�ำกัด สาขานครศรีธรรมราช (หัวอิฐ) ทุ่งสง Water Park บมจ.หาดทิพย์ บจก.ยุ่ยล้ง โฮม เอ็กซ์เพิร์ท หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช บจก. สิงห์ คอร์เปอเรชั่น MSIG ประกันภัย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ๔ พระยา ร้านอาหาร โกปี๊
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙
หน้า ๑๙
หน้า ๒๐
ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๐ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙