นสพ รักบ้านเกิด ฉบับที่ 59 เดือนสิงหาคม 2559

Page 1

ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๙

พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช

www.nakhonforum.com

www.facebook.com/rakbaankerd

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จร่วมการแข่งขัน คีรีวง ครอส คันทรี และทรงยุติ ความขัดแย้งระหว่างนักอนุรักษ์กับผู้สนับสนุนการแข่งขัน คีรีวงจะเป็นที่รู้จักและมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ¹¤Ã´Í¹¾ÃÐ ¹¾.ºÑญ ­ ªÒ ¾§Éì¾Ò¹Ôª àÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ¨ÓÅͧ ½Ñ觪ŨԵà ชวนคิด ชวนคุย สุธรรม ชยันต์เกียรติ ทันโลกธุรกิจ ไพโรจน์ เพชรคง มุมมองรักษ์บ้านรักษ์เมือง สุเมธ รุจิวณิชย์กุล ท่องเที่ยวเมืองนคร ทาร์ซานบอย มองเมืองคอนผ่านเลนส์ นพ.รังสิต ทองสมัคร์

˹éÒ ò ˹éÒ ó ˹éÒ ๔ ˹éÒ ๗ ˹éÒ ñ๓ ˹éÒ ñ๖ ˹éÒ ñ๗

เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๖.๑๕ น. พระเจ้ า หลานเธอ พระองค์ เ จ้ า พั ช รกิ ติ ย าภา เสด็ จ ร่ ว ม การแข่ ง ขั น คี รี ว ง ครอส คั น ทรี (KIRIWONG Cross Country) ระยะทาง ๒๕ กิ โ ลเมตร ณ โรงเรี ย นไทยรั ฐ วิทยา ๗๔ (ชุมชนบ้านคีรีวง) อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นการส่วนพระองค์ โดยมี นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พลตรีเกื้อกูล อินนาจักร์ รองแม่ทัพภาคที่ ๔ พลต�ำรวจตรีวันไชย เอกพรพิชญ์ ผูบ้ งั คับการต�ำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกิตติพนั ธ์ >> อ่านต่อหน้า ๘ เพชรชู นายอ�ำเภอลานสกา


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๒

(bunchar.com การพระศาสนา, เพื่อแผ่นดินเกิด 20160520)

การประชุ ม คณะกรรมการมรดกโลกสมั ย สามัญ ครั้งที่ ๓๙ ณ กรุงบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ ๒๘ มิถุนายน – ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ คณะกรรมการ มรดกโลกของ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้บรรจุสถานที่แห่งใหม่ ๒๔ แห่งเข้าสู่บัญชี มรดกโลก และขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีก ๓ แห่ง และได้ประกาศรายชื่อ 'มรดกโลก' แห่งใหม่ เป็น ๒๗ แห่ง มรดกโลกจัดแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ ทางวัฒนธรรม ทางธรรมชาติ และแบบผสม การประกาศครั้งนี้มีมรดกโลกทางวัฒนธรรม ๒๔ แห่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ ๒ แห่ง และ มรดกโลกแบบผสม ๑ แห่ง ปัจจุบัน สถานที่ ที่เป็นมรดกโลกของยูเนสโกมีทั้งสิ้น ๑,๐๓๑ แห่ง ใน ๑๖๓ ประเทศ เมื่ อ พิ ศ ดู ม รดกโลกที่ เ พิ่ ง ได้ รั บ การประกาศ ก็ ช วนให้ วิ ต กหรื อ เสี ย ดายที่ ก ารเสนอพระ บรมธาตุ เ จดี ย ์ จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราชเป็ น มรดกโลกดูอึมครึมและเชื่องช้ากว่าสัญญาที่ ให้ไว้กับประชาชน เราจะเอาพระบรมธาตุเจดีย์ หรื อ วั ด พระมหาธาตุ ฯ ทั้ ง หมด ไม่ แ ม่ น ย� ำ เอกสารฉบั บ ภาษาไทยหรื อ ภาษาอั ง กฤษก็ ยั ง ไม่ เ สร็ จ คราวนี้ ญี่ ป ุ่ น เสนอซากโรงงาน อุตสาหกรรมโรงานเหล็กและถ่านหินก็ได้ไป อีกหนึ่งแห่ง สิงคโปร์เสนอสวนพฤกษากลาง เมืองก็ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก ส่วน พระบรมธาตุเจดีย์ของเรายังวังเวง

มเคยตั้งโจทย์การค้นคว้าผ่านรอยลูกปัดว่า จากคลองท่อมที่กระบี่ซึ่งพบลูกปัดมากมายเป็นลูกควน น่าจะมี เส้นทางการขนถ่ายค้าขายมาทางฝั่งทะเลตะวันออกแถบ เมืองนครด้วย ไม่เฉพาะแต่ไปตามเส้นทางคลองสินปุนขึ้น เหนือไปลงแม่นำ�้ ตาปีผา่ นเวียงสระบ้านส้อง ควนพุนพิน เขา ศรีวิชัย แล้วไปออกที่อ่าวบ้านดอนอย่างที่นิยมว่ากันอยู่โดย ทั่วไปเท่านั้น เนื่องจาก “ตามพรลิงค์” ที่ว่ากันว่า “ก็เป็น หนึ่ง” อยู่ที่ปากอ่าวเมืองแถบชายทะเลเมืองนครก็มีอยู่ร่วม ยุคและสมัย เท่ า ที่ ติ ด ตามอยู ่ ห ่ า งๆ และพอรู ้ บ ้ า งว่ า มี ก ารพบ ลู ก ปั ด ในนครไม่ ม าก เฉพาะที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑสถานแห่ ง ชาติ นครศรีธรรมราช มีแสดงอยู่เส้นหนึ่ง ยืมมาจากคุณแกะ ธรรมสุนทร ระบุว่าพบที่บ้านท่าเรือ อีกจ� ำนวนหนึ่งชี้ว่า พบจากการขุดค้นที่บ้านพังสิงห์ใกล้ๆ กัน นอกนั้นเป็นของ “เด็กเมือง ลิกอร์” โพสต์ทางเฟสบุ๊คส์ว่าพบที่หัวไทรไล่ลง ไปทางระโนดและสทิง้ พระ เคยถามไถ่ในพืน้ ที่ เล่ากันว่าเคย มีการพบทีแ่ ก้วแสน นาบอน อยูร่ ะหว่างคลองท่อมกับทุง่ สง แต่ตามลงไปไม่ได้ความชัดแจ้งเชิงประจักษ์ จนกระทั่งไม่ นานมานี้ มีการโพสต์เป็นระยะว่ามี “ลูกปัด แหล่งนคร” จาก แถบช้างกลาง ผมจึงประสานขอตามไปดู เมือ่ วันที่ ๒๖ มิถนุ ายน ๒๕๕๙ “ศราวุธ ศรีทพิ ย์” ได้ น�ำผมลงพื้นที่บริเวณริมคลองจันดี ที่ต่อแดนระหว่างบ้าน จันดีและบ้านนาวาซึ่งหากไล่ตามลายแทงของอาจารย์กลิ่น คงเหมือนเพชรว่าด้วยเส้นทางเดินเท้าของคนแต่ก่อน จาก คลองท่อมมานคร ก็อยูท่ เี่ ส้นทางจากคลองท่อม คลองสินปุน ทุ่งใหญ่ช่วง “ฉวาง-เขาธง” ก่อนจะเข้าสู่ลานสกาและเมือง นคร ซึง่ ถือว่าเป็นเส้นทางทีไ่ ม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาไกลและ สูงถึงระดับนี้ ศราวุธและคณะ บอกว่า ๑) ที่นี่ เคยมีการพบกระปุกเครื่องถ้วยโบราณเรื่อยๆ

เจ้าหน้าทีก่ รมศิลป์ฯ ก็เคยมาดูแล้วบอกว่าไม่นา่ มีอะไร แต่ได้ เอากระปุกมีหูเคลือบสีเหลืองเขียวของแม่ไปใบหนึ่ง บอกว่า ขอยืมไปศึกษา หลายสิบปีแล้วไม่เห็นส่งข่าวอะไร ๒) เมือ่ น�ำ้ ท่วมใหญ่ปี ๓๑ พวกเราพบแนวก�ำแพงก่ออิฐ ที่ริมฝั่งคลองจันดีเป็นแนวยาว ถามไถ่ใครก็ไม่ได้ความ แถม ในสวนยางริมคลอง ก็มีแนวอิฐอย่างก�ำแพงบ้าง อย่างกอง สิ่งปลูกสร้างบ้าง คุ้ยๆ ก็เจอกระเบื้องถ้วยมากมายหลาย แบบ เชื่อว่าน่าจะมีลูกปัด แต่เมื่อมีคนพบทอง เจ้าของจึง ห้ามเข้า ประกอบกับตัวเองก็ทำ� งานอยูก่ รุงเทพ จึงไม่ได้ตงั้ ใจ ส�ำรวจค้นคว้า ที่ส�ำคัญ พบว่ามีแนวเนินดินอย่างกับคันดิน คูน�้ำหลายชั้นแนว แถมที่ริมคลองยังมีที่หว�ำเข้ามาเป็นอ่าว หรืออูเ่ รือด้วย แต่ทวี่ เิ ศษสุดคือ พ่อเคยเจอรูปส�ำริดองค์หนึง่ ยังไม่รวู้ า่ รูปอะไร ? ๓) อาจารย์ชาลี ศิลปรัศมี ปราชญ์ท้องถิ่นที่ช้างกลาง เคยเข้ามาที่นี่พร้อมกับคณะนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย ทักษิณ เมือ่ ประมาณ ๑๐ ปีกอ่ น บอกว่าจะไปศึกษาค้นคว้า ต่อ แต่ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไร นอกจากข้อเสนอของ อาจารย์ชาลีว่านี้น่าจะคือเมืองพระนางเลือดขาว พี่ของพระ นางจันฑี ที่วัดมะนาวหวานมีอุโมงค์ลับมุดเข้าไปไกลออก อีกทีที่ใต้มณฑปพระพุทธบาทจ�ำลองตรงหาดทรายแก้วที่ องค์พระบรมธาตุโน่น เมื่อผมโทรถามว่าอาจารย์ใช้หลักฐาน อะไร ได้คำ� ตอบแต่วา่ “วิธศี กึ ษาของผมอิงนิทาน” ให้หมอมา ศึกษาทางประวัตศิ าสตร์โบราณคดีดว้ ย ๔) ศราวุธ ศรีทิพย์ บอกผมว่า พอดีตอนนี้มาท�ำงาน ประจ�ำอยู่ที่บ้านจึงมีเวลา และราคายางก็ตก ญาติที่เป็น เจ้าของสวนจึงไม่ว่าอะไรหากจะส�ำรวจ เพราะก�ำลังรอการ ประกาศขายทั้งแปลง เท่าที่ได้ลองขุดคุ้ยนอกจากร่องและ แนวดินกับมีอิฐเป็นบางแนวแล้ว ยังพบเศษกระเบื้องถ้วย มากมายหลายประเภทและยุคสมัย (อ่านต่อหน้า ๑๑)


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๓

ข้

อเขียนชิ้นนี้ชื่อเข้มข้น ท่านที่เห็น ภาพประกอบรู ป ปกหนั ง สื อ กั บ ผู ้ เขียนน่าจะเข้าใจทันทีว่าเป็นชื่อบทกวี เล่มหนึ่ง บทกวีเขียนโดยชาวนครศรีธรรมราช เขียนบนสมาร์ทโฟน โพสต์ในเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ให้อ่านเพื่อความสุข ความบันเทิงเริงใจ แฝงคติความคิด ‘เกี ย รติ น คร’ หรื อ สมเกี ย รติ ประดู่ : ผู้เขียน เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนวัด พระมหาธาตุ, โรงเรียนเบญจมราชูทิศ, วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช และคณะจิ ต รกรรม ประติ ม ากรรม และภาพพิ ม พ์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร ท� ำ งานพาณิ ช ย์ ศิ ล ป์ ป ระดั บ ไว้ ต าม ห้ อ งพั ก โรงแรมห้ า ดาวหลายร้ อ ยภาพ คลุ ก คลี กั บ งานนี้ จ นเกิ ด ประสบการณ์ น� ำ ประสบการณ์ ท างศิ ล ปะมาใช้ อ ย่ า ง และพั ฒ นาเป็ น นั ก ออกแบบตกแต่ ง กว้ า งขวาง กวี บ างบทเหมื อ นลายลู ก ไม้ อาคาร เมื่ออิ่มตัวกับงานเก่าๆ จึงหันมา บนผ้าไหม เหมือนภาพสีน�้ำวาดธรรมชาติ สนใจวัตถุมงคล ซึ่งเป็นเรื่องไม่ยากเย็น นัก เพราะผ่านการเรียนประวัติศาสตร์ ศิลป์และมีสนามพระท่าพระจันทร์หลัง มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ‘เกียรตินคร’ เป็นคนแรกที่เขียน บทกวีพรรณนาพุทธคุณวัตถุมงคลและ รูปเหรียญต่างๆ ประกอบการขายหรือ ให้ เ ช่ า โพสต์ ใ นเฟซบุ ๊ ค ปรากฏว่ า ได้ รั บ ความสนใจอย่างมาก ผมนั่ ง จิ บ กาแฟกั บ ‘เกี ย รติ น คร’ เป็ น ประจ� ำ เลยแนะน� ำ ให้ เ ขาทดลอง เขียนบทกวีโดยเปิดพื้นที่ไปยังเรื่องราว อื่ น ๆ หรื อ ปรากฏการณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ใน สั ง คม เขาจึ ง หั น มาเขี ย นอย่ า งจริ ง จั ง ถ้าใครอ่านบทกวีเล่มนี้ จะพบว่าเขาได้

อย่างฉับไว้ แต่บางภาพพูดเรื่องบาปบุญ สวยงามประหนึ่ ง จิ ต รกรรมฝาผนั ง ใน อุโบสถ บางรูปเขียนด้วยสีน�้ำมันละเลงลง ไปอย่างดุเดือดเข้มข้น พูดถึงนรกสวรรค์ ผลของกรรมดีกรรมชั่ว ‘เกี ย รติ น คร’ เขี ย นถึ ง ธรรมชาติ สังคม จักรวาล มาตั้งแต่กลางปี ๒๕๕๖ จนถึงกลางปี ๒๕๕๙ เขียนโดยสมาร์ทโฟนกั บ นิ้ ว ชี้ รวมกวี ก ว่ า ๑,๐๐๐ บท ผมกั บ เขาช่ ว ยกั น อ่ า นและคั ด เลื อ กบท ที่ เ ห็ น ว่ า มี ค วามงดงามทางภาษาและ เรื่องราวชวนขบคิด ๔๖๓ บท น�ำมาบรรจุ ไว้ใน 'อาทิตย์ขืนใจจันทร์' ชื่อเรื่องก็ชวน ให้ ข บคิ ด ตี ค วามไปได้ ทั้ ง จั ก รวาลและ พื้นพิภพ ที่ส�ำคัญกว่านั้น ‘เกียรตินคร’ นักเลง พระระดั บ กรรมการรั บ และตั ด สิ น พระ เครื่องภาคใต้ยอดนิยมของสมาคมผู้นิยม

พระเครื่ อ งพระบู ช าไทย ยั ง ประกาศ อย่างชัดเจนว่า รายได้จากการจ�ำหน่าย ทั้ ง หมดโดยไม่ หั ก ใช้ จ ่ า ยเขาจะน� ำ ไป มอบเป็นทุนการศึกษาของนักเรียนเรียน ดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในสถานศึกษา ต่างๆ ด้วยเจตนาที่ดีอย่างนี้จึงมีบุคคลที่ เขาเคารพนับถือแจ้งความจ�ำนงขอร่วม สนับสนุนมาแล้วหลายราย ทั้งในแวดวง วั ต ถุ ม งคล นั ก ธุ ร กิ จ และเพื่ อ นพ้ อ ง น้องพี่ ผู้อ่าน ‘รักบ้านเกิด’ ถ้าสนใจอ่าน บทกวี หรืออยากร่วมสนับสนุนทุนการ ศึ ก ษาส� ำ หรั บ เด็ ก นั ก เรี ย นเรี ย นดี แ ต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ หนังสือหนา ๔๒๔ หน้า ราคา ๓๙๐ บาท ติดต่อที่ ‘เกียรติ นคร’ โทร.๐๘๑-๙๕๖๕๖๙๗ กลางๆ สิงหาคมนี้เป็นต้นไป


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๔

โดย : นครา nagara@nakhonforum.com

สุธรรม ชยันต์เกียรติ

หนังสือพิมพ์รักบ้านเกิด ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือน สิงหาคม ๒๕๕๙ ขอบพระคุณคุณผู้อ่าน ผู้มีอุปการ คุณ ท่ีสนับสนุนตลอดมา แม้เป็นหนังสือพิมพ์ 'แจกฟรี' หรือ Free Copy กองบรรณาธิการพยายามเพิ่มคุณภาพให้เป็น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่สามารถหยิบฉวยได้อย่างสบายใจ

มื่ อ กลางเดื อ นก่ อ นได้ มี โ อกาสไป ร่วมกิจกรรม ‘เพลินธรรมน�ำชมวัด ศรี ท วี ’ โดยมี หั ว เรื อ สองท่ า น คื อ อาจารย์บัณฑิต สุทธมุสิก กับ คุณ หมอบัญชา พงษ์พานิช เป็นผู้น�ำชม อาจารย์ บั ณ ฑิ ต ท่ า นจะน� ำ ชม วั ด ศรี ท วี ส่ ว นคุ ณ หมอบั ญ ชาท่ า นก็ บรรยายภาพปริ ศ นาธรรมในห้ อ ง ปฏิบัติธรรมของวัดศรีทวีซึ่งเพิ่งปรับปรุงเสร็จใหม่ หลัง จากโดนไฟไหม้เมื่อปีก่อน ภาพปริศนาธรรมถูกถ่ายทอดถอดแบบมาจากโบสถ์ วั ด สวนโมกข์ จ� ำ นวนหนึ่ ง เสียดายผมมีภารกิจในช่วงบ่าย จึงไม่ได้เข้าไปฟังการ บรรยายภาพปริศนาธรรม ซึ่งผมมีความสนใจเป็นการ ส่วนตัวอยู่ แต่ก็ได้ฟังอาจารย์บัณฑิตเล่าเรื่องในภาคเช้า น่าสนใจมากเลยน�ำมาเล่าต่อให้ฟัง อาจารย์ บั ณ ฑิ ต ได้ เ ล่ า ถึ ง เรื่ อ งที่ ท ่ า นได้ ร ่ ว มกั บ พระครูเหมเจติยาภิบาล วัดพระนครไปหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ได้ไปค้นพบเอกสาร พงศาวดารสมัยกรุง ศรีอยุธยา มาฉบับหนึ่ง เป็นเรื่องราวของเมืองนครที่ยัง ไม่เคยมีการเผยแพร่มาก่อน ทั้งอาจารย์บัณฑิตและคุณ หมอบั ญ ชาก� ำ ลั ง รวบรวมพิ ม พ์ ขึ้ น มาเป็ น เรื่ อ งราวให้ ชาวนครได้ติดตามเรื่องความเป็นมาของบ้านเมืองเรา ที่ ยังไม่มีการเปิดเผยมาก่อนได้ฟังกันในโอกาสต่อไป อาจารย์ บั ณ ฑิ ต ได้ เ ล่ า เรื่ อ งที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ วั ด ท่ามอญหรือวัดศรีทวีให้ฟังว่า สมัยเมื่อโคตรเศรษฐีได้ อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารกับพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ร่วมกันสร้างเจดีย์พระบรมธาตุ ยังได้พาชาว มอญรามัญติดสอยห้อยตามมาอีก ๗๐๐ กว่าคน อพยพ

มาจากราชบุรี ตั้งหลักแหล่งก่อนอพยพต่อมายังเมือง นคร พระเจ้าศรีธรรมาโศกให้ตั้งชุมชนอยู่บ้านนอกโคก ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองในสมัยโน้น ปัจจุบันคือบริเวณสถานี รถไฟไปจนถึงวัดศรีทวี เมื่อตั้งเป็นชุมชนใหญ่ต้องมีการป้องกันโจรผู้ร้าย และสัตว์ร้ายรุกราน จึงมีการขุดคูรอบหมู่บ้าน โดยเริ่ม ขุดคูต่อจากคลองที่ไหลมาจากคลองมะม่วงสองต้น ผ่าน ท่ า วั ง มาบรรจบคลองท่ า วั ง โดยขุ ด ตั ด เข้ า มาทางฝั ่ ง ตะวันตกระหว่างสุสานคริสต์และสุสานมุสลิมที่คนนคร เรียกว่า หลาดผีหีบ หรือ ตลาดผีหีบ ขุดเป็นคลองลึก เรียกว่า คลองหูน�้ำ แล้วหักเลี้ยวไปทางทิศเหนือที่เรา เรียกว่า คลองทา จนไปจดกับคลองท่าวังอีกครั้งหนึ่ง ก่ อ นถึ ง สะพานราเมศวร์ ผื น ดิ น บริ เ วณสถานี ร ถไฟ ปัจจุบันก็คือบ้านนอกโคกแหล่งชุมชนมอญในสมัยโน้น (สถานีรถไฟนครศรีธรรมราชเดิมเรียกสถานีนอกโคก) มีบุคคลส�ำคัญอีกอีกสองท่านที่ติดตามโคตรเศรษฐี มาด้วย ท้าวสี กับ ท้าวราช นอกจากสร้างเมืองแล้ว ยัง มีการสร้างวัดอีกมากมาย โดยเฉพาะ วัดท่าช้างพระ อารามหลวง ซึ่งเป็นวัดอารามหลวงของเมือง มีอาณา บริเวณพื้นที่กว้างขวาง มีวัดบริวารถึง ๙ วัด คือ วัดเสมา ทอง วัดเสมาเงิน วัดส�ำฤทท์ (วัดสมิท) วัดไทรสามต้น วั ด ตะปั ง วั ด น�้ ำ ต� ำ วั ด ป่ า วั ด จั น พอและวั ด ทุ ่ ง พระ ปัจจุบันเป็นวัดร้างไปบ้างเปลี่ยนชื่อไปบ้าง ชาวมอญซึ่งเป็นคนที่มั่นคงอยู่ในพระพุทธศาสนา อยู่แล้วจึงมีการสร้างวัดขึ้นในเขตชุมชนของตนเองด้วย เรารู้จักกันในนาม วัดท่ามอญ มีคนสันนิษฐานกันต่างๆ นานาที่มาของชื่อ เช่นบางคนว่าบริเวณนั้นเป็นมอนดิน จึงเรียกวัด ท่ามอน ส่วนอีกคนว่าตรงบริเวณนั้นมีการ สานกระด้งมอน ใบขนาดใหญ่และจะมาตากเอาไว้ใน บริเวณนั้นมากมาย จึงเรียกว่า ท่ามอน ส่วนที่น่าจะใกล้ เคียงที่สุดก็คือ ตรงบริเวณนั้นเป็นชุมชนชาวมอญอาศัย อยู่มาก การขนส่งสมัยนั้นอาศัยทางน�้ำเป็นหลัก บริเวณ ชุมชนนั้นเป็นท่าเรือของชาวมอญ >> อ่านต่อหน้า ๑๔

ผู ้ ว ่ า ฯ พี ร ะศั ก ดิ์ หิ น เมื อ งเก่ า น� ำ หั ว หน้ า ส่ ว น ราชการ หน่ ว ยงานภาครั ฐ รั ฐ วิ ส าหกิ จ ภาคเอกชน และ กลุ ่ ม พลั ง มวลชนในจั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช ร่ ว มบั น ทึ ก เทปโทรทัศน์ถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ใน วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ และเป็นประธานในการปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติ และมอบกล้าพันธุ์ไม้ฟรีแก่ผู้เข้าร่วม โดย ส� ำ นั ก จั ด การทรั พ ยากรป่ า ไม้ ที่ ๑๒ ได้ น� ำ กล้ า ไม้ ม ามอบ แก่ ผู ้ ร ่ ว มบั น ทึ ก เทปฯ ให้ น� ำ ไปปลู ก ตามพระราชเสาวนี ย ์

วั น ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ผู ้ ว ่ า ฯ พี ร ะศั ก ดิ์ หินเมืองเก่า เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ พิธีสืบดวงพระชาตาและถวายผ้าไตรพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ ๖๔ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ ศาลา ๑๐๐ ปี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

บ่ายๆ วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๙ ผู้ว่าฯ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า (นครศรีฯ) กับผู้ว่าฯ พินิจ บุญเลิศ (กระบี่) เป็น ประธานพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่น 'ฝากไว้ในแผ่นดิน' จัด สร้างโดยจังหวัดนครศรีฯ เป็นเหรียญพระบรมธาตุตรีศูล ครบวาระ ๑๐๐ ปี (สร้างครั้งแรก ปี ๒๔๖๐) ณ วิหารหลวง วั ด พระมหาธาตุ ฯ รายได้ น� ำ ไปสร้ า งพระพุ ท ธสิ หิ ง ค์ ศ รี ธรรมาโศกราช หน้าตัก ๕๙ นิ้วและมอบเป็นทุนการศึกษา แก่นักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์ ร.ร.วัดพระมหาธาตุฯ

วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ดร.เบญจลักษณ์ น�้ำฟ้า กรรมการมู ล นิ ธิ ร างวั ล สมเด็ จ เจ้ า ฟ้ า มหาจั ก รี ประชุ ม คณะ กรรมการคั ด เลื อ ก 'ครู ' ผู ้ ส มควรได้ รั บ พระราชทานรางวั ล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งจังหวัดนครฯ มีครูที่ได้รับการพิจารณาเข้ารับรางวัล ๔ คน

บุ ญ ยจิ ต ต์ สุ ข ศิ ว านั น ผู ้ จั ด การ 'ซี - เอ็ ด ไอคิ ด ส์ ' สาขานครฯ น�ำคณะนักเรียน ๙ คน ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก การแข่งขันนวัตกรรมหุ่นยนต์ IYRC THAILAND ระดับประถม ศึกษาเข้าพบ ผู้ว่าฯ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า เพื่อขอพรและก�ำลัง ใจก่อนเดินทางเป็นตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการแข่งขัน นวัตกรรมหุ่นยนต์รอบชิงชนะเลิศ IYRC ๒๐๑๖ ระดับทวีปที่ เมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่าง ๙-๑๕ สิงหาคมศกนี้ อรุณ ไม้ทิพย์ พาณิชย์จังหวัดนครฯ จัดอบรมเสริม สร้างองค์ความรู้ ด้านการค้าระหว่างประเทศเจาะตลาดอาเซียน 'AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียน อย่างยั่งยืน' ซึ่งเป็นนโยบายของกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจรุ่นใหม่ไป ร่วมคับคั่ง Find Us On :

See Kuang BJ Diamond Gold

ทองซีกวง คูขวาง ใกล้สี่แยก

หน้า ๕ คาดเดาได้ ก็ ใ กล้ เคี ย ง---แต่ ห ลั ง จากเปิ ด ห้างเซ็นทรัลพลาซ่านครศรีธรรมราช ภาพจริงคงปรากฏ งานหนักจะตกอยู่กับฝ่ายแก้ ปั ญ หาและบรรเทา ทั้ ง การ จราจรยามปกติและช่วงหน้า ฝน ธีระพงษ์ ช่วยชู ป้องกัน จังหวัดนครฯ ได้งานจากเบือ้ ง บนเพิม่ แน่นอน

ที่ คิวคูตอน นครโบราณ ถนนอ้อมค่าย เร็วๆ นี้ ปัญหาขยะขยายใหญ่ โตขึ้นเรื่อยๆ รองผู้ว่าฯ ดนัย เจี ย มวิ เ ศษสุ ข ประชุ ม ร่ ว ม กั บ พฤกษ์ โสโน ผอ.สนง. ธีระพงษ์ ช่วยชู ทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล้อมจังหวัดฯ และ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง งาน ส�ำคัญเฉพาะหน้าคือแก้ไขปัญหาขยะตกค้างสะสมจากองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ๑๑ แห่ง เฉพาะของเทศบาลนครนครฯ พุ่งขึ้นไปถึง ๑.๒๔ ล้านตัน กลายเป็นแหล่งมลภาวะกองมหึมา

ได้รับมอบหมายจาก ‘นายใหญ่’ ให้ประสานงานด้าน บูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อนุวัตร ศรีไสยเพชร (บี บ่อล้อ) ชวน นิคม นกอักษร อดีตอาจารย์วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีฯ และพรชัย วัฒนพิจิตร (ช่างเปี๊ยก) เป็นที่ ปรึกษาอย่างส�ำคัญ เพราะว่าสถาปัตยกรรมคล้ายศรีวิชัยเป็น งานยาก และต้องให้ช่างกรมศิลปากรมาดูแล การบูรณะครั้ง นี้ ‘นาย’ จะสนับสนุนงบฯ ทั้งหมด ‘นาย’ คือประธานสโมสร เลสเตอร์ วิชัย ศรีรัตนประภา

๑๙ ก.ค. พ.ต.อ.โชคดี รั ก ษ์ วั ฒ นพงษ์ ผกก.สภ. วันที่ ๑๖-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เอพีฮอนด้าร่วมกับ สิชล ได้น�ำข้าราชการต�ำรวจเข้าวัดฟังธรรม ร่วมกิจกรรมเวียน เทียน เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ณ วัดเขาพนมไตย ม.๙ ต.สิชล ฮอนด้าศรีนคร จัดมอเตอร์สปอร์ต Honda Sport Day สนาม เพื่อปฎิบัติตนให้เป็นพุทธศาสนิกชนและแบบอย่างที่ดีให้กับ ที่ ๒ ณ ลานกิจกรรมข้างหอประชุมเมืองฯ สวนสมเด็จพระประชาชนในพื้นที่ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ให้ปฎิบัติใน ศรีนครินทร์ ๘๔ (ทุ่งท่าลาด) ผู้เข้าร่วมสนุกสนานตลอด ๒ วัน ก้าวไปข้างหน้า ... ธิติ-ปาลิกา จดทะเบียนบริษัทใหม่ วันส�ำคัญทางศาสนา นาม ‘บริษัทซีกวงโกลด์จ�ำกัด’ กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ใช้ตัว R ในวงกลม (Registered Trademark) ซึ่งจะได้รับการคุ้มครอง ตราสัญลักษณ์ (Logo) ตาม รูปภาพที่น�ำมาลง ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ เตรียมพบกับร็อคเกอร์รุ่นใหญ่ อ๊อฟ - พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง จะมาเขย่าเวที ณ ลานดนตรี กลางแจ้ง โรงแรมทวินโลตัส บัตรราคา ๒๐๐ บาท/ท่าน

Page เพชรทองซีกวง

ทองซีกวง ตลาดเสาร์-อาทิตย์

พบกับร้านโกปี๊ สาขาใหม่

: Seekuang¬_official

ทองซีกวง ท่าม้า ข้างศาลากลาง

ทองซีกวง ตลาดหัวอิฐ

Seekuang BJ

Line ID : @Seekuang

ทองซีกวง ชั้น 2 เซ็นทรัลพลาซ่า

Line ID : boonada

099-195-6996

เพชรทองซีกวง ถนนเนรมิต ท่าวัง เพชรทองซีกวง ชั้น 1 ห้างโรบินสัน เพชรทองซีกวง ชัน้ 1 ห้างโรบินสัน


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๖ อาทิตย์ ลิ้มอุดมพร คนร่วมสมัยใน ตลาดท่าวัง เรียกว่า ‘เล็ก ฝ่านหลุ่ง’ เขา เป็นลูกเจ้าของร้านขายผ้าชื่อ ‘ฝ่านหลุ่ง’ ตั้ ง อยู ่ ต รงกั น ข้ า มธนาคารกสิ ก รไทย สาขานครศรีธรรมราช ผู้คนจะเห็นเขา ขั บ รถจั ก รยานยนต์ ส ่ ง ผ้ า ให้ ลู ก ค้ า ใน ตลาดอย่างเอางานเอาการ ปั จ จุ บั น อาทิ ต ย์ เ ป็ น กรรมการ ผู ้ จั ด การบริ ษั ท ชุ ม พรโอเชี่ ย นกรุ​ุ ๊ ป จ� ำ กั ด กิ จ การในเครื อ โอเชี่ ย นอี ก แห่ ง เขาใช้ ชี วิ ต ท� ำ งานที่ ชุ ม พร ๓๒-๓๓ ปี มีประสบการณ์ด้านการบริหารดีพาร์ท-

ก็มาเช่าเซ็นทรัลเหมือนกัน ไม่เหมือนที่โรบินสัน โอเชียน (สาขา ๑) ซึ่ ง โรบิ น สั น ท� ำ เองทั้ ง หมด ทั้ ง พื้ น ที่ เ ช่ า และอื่นๆ” เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช อยู่นอกตัวเมือง ไปทางใต้ ถือว่าเป็นท�ำเลที่ดี อาทิตย์บอกว่าตัวเมืองนคร เป็ น รู ป สี่ เ หลี่ ย มไปมาสะดวก ไม่ เ ป็ น แนวยาวเหมื อ น ตัวเมืองชุมพร มีพื้นที่จอดรถยนต์ ๑,๕๐๐ คัน จักรยานยนต์ ๑,๕๐๐ คัน “เรื่ อ งเศรษฐกิ จ ...ผมว่ า ส่ ว นหนึ่ ง เป็ น เรื่ อ งของ อนาคต ถามว่าจริงๆ แล้วเศรษฐกิจมันลง...เรามองภาพ ว่าเศรษฐกิจมันเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วผมว่าเศรษฐกิจ เราไปได้ ปีนี้ทุเรียนราคาดีมากขนาดลงมาแล้วยัง ๘๐

วั

นที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ได้ไปเดินช้อปปิ้งในห้าง สรรพสินค้าโรบินสัน นครศรีธรรมราช (แห่งใหม่) ที่ เปิดในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช เปิด ให้ บ ริ ก ารเป็ น วั น แรก 'รั ก บ้ า นเกิ ด ' มี โ อกาสสนทนา กับ อาทิตย์ ลิ้มอุดมพร กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือ โอเชี่ ย นกรุ ๊ ป โดยมี คุ ณ สมพล เซี่ ย งเห็ น ประธาน กรรมการเครื อ โอเชี่ ย นกรุ ๊ ป พั ฒ นโชค พฤตธิ ป ถั ม ภ์ กรรมการอาวุโส และ วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสร่วมให้ข้อมูล สมพล เซี่ยงเห็น ประธานกรรมการเครือโอเชี่ยน กรุ๊ป มีความเห็นว่าอาทิตย์ เป็นชาวนครและเป็นกรรมการ ผู้จัดการใหญ่เหมาะสมกว่าตัวท่าน ผู้อ่านอาจสงสัยว่าโอเชี่ยนกรุ๊ปเกี่ยวข้องอะไรกับ 'ห้างเซ็นทรัล' หรือ 'ห้างโรบินสัน' อธิบายอย่างรวบรัดก็ คือ เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช เป็นธุรกิจในเครือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จ�ำกัด (มหาชน) หรือ ซี พี เ อ็ น ก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในนครศรีธรรมราช เปิด พื้นที่ให้ ‘โรบินสัน โอเชี่ยน’ เข้ามาเช่าพื้นที่ และตกแต่ง เป็น ‘ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ และนับว่าเป็นสาขาแห่งที่ ๒ ของโรบินสัน ที่เปิดกิจการในจังหวัดนครศรีธรรมราช โรบินสัน โอเชี่ยน เป็นการร่วมทุนของ บริษัท ห้าง สรรพสินค้าโรบินสัน จ�ำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีอาร์ นครศรีธรรมราช (ประเทศไทย) จ�ำกัด

สมพล เซี่ยงเห็น

พัฒนโชค พฤตธิปถัมภ์, สมพล เซี่ยงเห็น, อาทิตย์ ลิ้มอุดมพร และ วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์

เม้นต์ สโตร์ ในภาคใต้อย่างโชกโชน อาทิตย์พูดถึงการเข้ามาบริหารห้างโรบินสัน สาขา ๒ “ผมเกิ ด ที่ น ครฯ ผมขอพู ด ในนามโอเชี่ยนก่อนว่า เราก่อสร้าง ที่นครฯ เราเป็นลูกหลานคนนครฯ ช่วงแรกโรบินสันเข้ามาหุ้นด้วย คือ โรบินสันโอเชี่ยนสาขา ๑ ที่อยู่ในตัว เมือง ส่วนสาขา ๒ คือที่นี่เรามอง เห็ น ว่ า ด้ ว ยศั ก ยภาพของจั ง หวั ด นครศรีธรรมราชเอง เรามีประชากร ที่มีจ�ำนวนมาก คือประมาณล้านห้าแสนกว่า เป็นประตูสู่ AEC ระหว่างสามเหลี่ยมไทย อินโดฯ มาเลย์ เราตัดสินใจ มาเปิดสาขา ๒ สัญญาในการเปิดสาขา ๒ โอเชี่ยนหุ้นด้วย ๕๐ เปอร์เซ็นต์กับโรบินสัน” เซ็นทรัลพลาซามีพื้นที่ทั้ง หมด ๑๕๐,๐๐๐ ตาราง เมตร “ของเขาเป็นเซ็นทรัลพัฒนาซึง่ เป็นผูบ้ ริหารพืน้ ทีเ่ ช่า ทั้งหมด เพราะเขาเห็นศักยภาพการลงทุนในจังหวัดใหญ่ อย่างนครศรีธรรมราช โรบินสันเป็นดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์

กว่าบาท ยาง ๕๐ กว่าบาท จังหวัดนครฯเรามีครบ แต่ยัง ขาดอีกนิด” อาทิตย์ยิ้มกับผู้บริหารที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนเปิดความคิดเห็นที่ค้างเอาไว้ “ถ้าเราสามารถดึงการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ได้ แต่ ข องเรายั ง มึ น ๆ อยู ่ ทั้ ง ๆ ของเรามี ป ระวั ติ ศ าสตร์ ความเป็ น มายาวนาน แต่ เ ราไม่ ไ ด้ เ อาตรงนี้ ม าใช้ มา สร้างเป็นสตอร์รี่ที่คนต้องมาเที่ยวมาค้าง” (อ่านต่อหน้า ๙) อาทิตย์มองเรื่องการลงทุน


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๗

มออกเดินทางไปเรียนรู้และท�ำธุรกิจ กับคนรุ่นใหม่ ท�ำให้มีมุมมองใหม่ๆ เกิ ด ขึ้ น จนแทบจะตั้ ง ค� ำ ถามกั บ ตั ว เอง ไม่ได้ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นใหม่ของผมอีก ครั้งเท่ากับผมเริ่ม Set ปรับมาที่จุดศูนย์ อีกครั้ง ยอมรับกับตัวเองว่าผมไม่รู้อะไร เลยปรับระดับความคิดที่จะเป็นผู้ฟังและ เฝ้าสังเกตการณ์ท�ำงานของคนรุ่นใหม่ว่า พวกเขาเหล่านั้นประสบความส�ำเร็จได้ อย่างไร ? อะไรคือกุญแจที่น� ำทางเปิด ประตูไปสู่ความส�ำเร็จในระยะอันสั้นและ รวดเร็วเช่นนี้ ผมมักจะมีค�ำถามกลับไปสู่ พวกเขาเสมอว่า “คุณคิดอย่างไร ?” จึง ประสบความส�ำเร็จได้รวดเร็วต่างจากคน ยุคก่อนๆ มากนัก ค�ำถามแรกก็คอื “ท�ำไม ถึงต้องส�ำเร็จอย่างรวดเร็ว?” ค�ำตอบที่ ได้รบั ก็คอื “ความรัก” รักตัวเอง ต้องการ มีเวลาทีจ่ ะไปใช้ชวี ติ อย่างทีตอ้ งการ ไม่ใช่ ท� ำ งานหนั ก ไปตลอดชี วิ ต แล้ ว ต้ อ งมา เกษียนตอนแก่ จะไปใช้ชีวิตอย่างที่อยาก ไป – อยากเห็น – อยากใช้ – อยากได้ แต่ ก็ทำ� ไม่คอ่ ยได้ หรือ ได้แต่ฝนั ไม่เคยท�ำฝัน ให้เป็นจริงได้ ผมอดสงสัยไม่ได้ พวกเขา รักตัวเองหรือเห็นแก่ตัว แต่ในความเป็น จริงแล้วคนเรารักตัวเองกันทุกคนไม่วา่ คน ยุคไหน หรือคุณว่าไม่จริง ถ้าอย่างนัน้ เรา คงต้องมาแยกแยะว่าการรักตัวเอง อาจ ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวไปเสียทุกเรื่องจริง ไหมครับ ! ผมได้สติว่าคนเราไม่อาจยึด

ติดกับความส�ำเร็จในอดีต เพราะชีวิตเรา อยู่กับเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิต ซึ่งไม่มีใคร อาจรูแ้ ละก�ำหนดได้จะเหลืออยูก่ วี่ นั กีป่ ี ดัง นั้นการท�ำอะไรให้ส�ำเร็จเร็วจึงท�ำให้เราได้ รับความสุขจากการได้รับรางวัลจากความ ส�ำเร็จในแต่ละครั้งภายในเวลาที่ท�ำให้เรา เฉลิมฉลองได้อย่างทันอกทันใจ เพือ่ การไป ต่อกับความส�ำเร็จใหม่ที่จะเกิดขึ้นใหม่ใน อนาคต .. ค�ำถามที่ ๒ ก็คอื อะไรเป็นตัว จุดฉนวนไปสูค่ วามส�ำเร็จ ความเชือ่ ความ มั่นใจ ในอาชีพที่ท�ำ เพราะมันส่งผลให้ เกิดความมุ่งมั่นแน่วแน่ กล้ายืนหยัด นาน พอจนส�ำเร็จ? ไม่ล้มเลิกกลางคัน วิ่งไปให้ ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ ผมเฝ้าสังเกตคนส�ำเร็จ พวกเขาช่างกล้าหาญ ไว้วางใจได้ รักษา ค�ำมัน่ สัญญากับตัวเอง พวกเขาไม่กลัวอะไร เลยหรือ แต่ความจริง พวกเขาท�ำทัง้ ทีก่ ลัว คือ แค่ลงมือท�ำ..ท�ำ..ท�ำๆ ค�ำถามต่อมา อะไรเป็นแหล่งพลังงาน ที่ขับเคลื่อนให้

เดื อ นสิ ง หาคม ๒๕๕๙ วันพุธที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๙

แรม ๑๕ ค�่ำ เดือนแปด(๘) ปีวอก

วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ขึ้น ๘ ค�่ำ เดือนเก้า(๙) ปีวอก วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๙ ขึ้น ๑๕ ค�่ำ เดือนเก้า(๙) ปีวอก วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๙

แรม ๘ ค�่ำ เดือนเก้า(๙) ปีวอก

พวกเขาลงมือท�ำไปสูเ่ ป้าหมายจนส�ำเร็จ? ค�ำตอบส่วนใหญ่ “ความรักที่มีต่อครอบครัว ต่อคนที่เขารัก” ด้วยความกตัญญู บุญคุณต่อผูม้ พี ระคุณทีย่ งิ่ ใหญ่ คือ คุณพ่อคุณแม่ และคนที่เขารักด้วยความจริงใจ... ที่ผมสัมผัสได้ คนรุ่นใหม่ที่รักตัวเอง รัก ครอบครัว และกตัญญูรู้คุณ พวกเขาจะมี พลังที่เหลือล้นในการลงมือท�ำได้อย่างเต็ม ก�ำลัง ไม่เลิกรา ไม่ยอ่ ท้อ ต่ออุปสรรคต่างๆ ทีถ่ าโถมเข้ามา ช่างน่าประทับใจจริงๆ ค� ำ ถามหนึ่ ง ที่ ผ มถามพวกเขาว่ า เมือ่ พวกคุณส�ำเร็จแล้วได้อะไรบ้าง?..พวก เขาย้อนกลับมาถามว่า แล้วแต่ว่าต้องการ อะไรของแต่ ล ะคน ซึ่ ง อาจมี ค วามแตก ต่างกันบ้าง แต่รวมความแล้วคือ ความสุข ผมถามกลั บ ว่ า ความสุ ข ในความหมาย ของคนส่ ว นใหญ่ มี อ ะไรบ้ า งละ? มี เ งิ น **มีเวลา** มีสุขภาพที่ดี สามอย่างนี้ก็ น่าจะโอเคนะ! แล้วอะไรอีก ขึน้ อยูก่ บั ความ

หมายที่คุณใส่เข้าไปแล้วคุณสัมผัสได้ด้วย ความจริงว่า มันท�ำให้คณ ุ อิม่ เอิบใจ ปลอด โปร่ง ไร้กงั วล ไม่กดดัน ไม่เครียด ชีวติ ผ่อนคลาย สบายๆ คือไม่ทุกข์ใจก็น่าจะ ใช่นะ สิ่งที่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่ ทีป่ ระสบความส�ำเร็จในวัยเยาว์ พวกเขา ยังมีเป้าหมายถัดไปคืออะไร? เมื่อยังมี เวลาทีเ่ หลืออยูอ่ กี หลายปี เพราะประสบการณ์ในอาชีพของผมที่ผ่านมา คือเส้น ทางของการเลือกอาชีพ ที่ต้องใช้เวลา นาน ตัง้ ๒๐ ปี ๔๐ ปี ๖๐ ปี และมาถึง วันนี้ ก็ยงั ต้องท�ำงานอยู่ ช่วงเวลาของการ ท�ำงานหนัก ๔๐ ปี แล้วก็หยุดพักผ่อน เมื่อวัย ๖๐ ปี ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเส้น ทางที่ไม่ได้เลือก ในขณะที่คนรุ่นใหม่ใช้ เวลาไม่เกิน ๑๐ ปี ของการท�ำงาน แล้ว พวกเขาก็สามารถไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเอง ต้องการได้มากกว่า หรือมันเป็นเพราะ พวกเขาเลือกมันชัดเจนมาตั้งแต่จุดแรก ที่เขาเลือก คือเลือกที่ผลลัพธ์ก่อนเป็น ล�ำดับแรก แล้วมาพิจารณาอาชีพที่จะ พาไปสู่ผลลัพธ์ ด้วยการเรียนรู้จากคน รุ่นก่อน ที่ผ่านมา แล้วคุณคิดว่าเลือก อะไร? ระหว่าง อาชีพ กับ ผลลัพธ์ หรือ ว่ายุคสมัยได้เปลี่ยนไป ท�ำให้คนรุ่นใหม่ ปรับตัวให้เข้ากับยุคของ “การแบ่งปัน โอกาส” ที่ เ ปิ ด กว้ า งมากขึ้ น อยู ่ ที่ ใ คร จะปรับแนวคิด มองเห็นอุปสรรค และ ปัญหาเป็นหน้าต่างของโอกาสเสมอ กับ คนที่ ม องเห็ น แต่ ป ั ญ หา และอุ ป สรรค จนปิดประตู แห่งโอกาสในการใช้ชวี ติ ของ ตัวเอง แล้วคุณเป็นแบบไหน? ครับ ไพโรจน์ เพชรคง ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๘

เรือ่ งจากปก

<< ต่อจากหน้า ๑

ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๔ คณะกรรมการ จัดการแข่งขันและราษฎรบ้านคีรีวงเฝ้ารับเสด็จอย่าง หนาแน่น พระเจ้ า หลานเธอ พระองค์ เ จ้ า พั ช รกิ ติ ย าภา ทรงวิ่งร่วมกับนักวิ่งชาย-หญิงที่เข้าร่วมการแข่งขัน ในระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางวิ่งส่วนใหญ่ ร้อยละ ๘๐ เป็นภูเขา มีทั้งเส้นทางลาดยาง คอนกรีต และถนนลูกรัง โดยพระองค์ทรงวิ่งถึงเส้นชัย เวลา ๑๑.๐๓ น. ใช้เวลา ๔.๔๘ ชั่วโมง ประชาชนที่ไป เฝ้ารับเสด็จและนักวิ่งปรบมือพร้อมเปล่งเสียงทรง พระเจริ ญ ดั ง กึ ก ก้ อ ง สร้ า งความปลื้ ม ปี ติ แ ก่ นั ก วิ่ ง ที่ เ ข้ า ร่ ว มการแข่ ง ขั น ราษฎรบ้ า นคี รี ว ง อ� ำ เภอ ลานสกา และชาวนครศรีธรรมราช เป็นอย่างมาก ซึ่ ง นายพี ร ะศั ก ดิ์ หิ น เมื อ งเก่ า ผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด นครศรีธรรมราช ได้เฝ้าทูลถวายเหรียญที่ระลึกแก่

พระองค์ด้วย คี รี ว ง ครอส คั น ทรี แบ่ ง การแข่ ง ขั น เป็ น ๓ ประเภท คือระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ๒๕ กิโลเมตร และ ๕๐ กิโลเมตร มีนักวิ่งชาย-หญิงจากทั่วประเทศ และนักวิ่งชาวต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขันประมาณ ๘๐๐ คน จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราชประชุ ม หั ว หน้ า ส่ ว น ราชการเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มาตั้งแต่วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นางวรรณา อักษรวงศ์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช หน่วยงานในพื้นที่อ�ำเภอ ลานสกา และหัวหน้าส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับ พันเอก จักรพงษ์ ขันมั่น กรมวังผู้ใหญ่ประจ�ำพระองค์ ๙๐๘ และคณะ ส่ ว นล่ ว งหน้ า ได้ เ ดิ น ทางลงพื้ น ที่ ณ จุ ด ต่ า งๆ เพื่ อ ส� ำ รวจสภาพพื้ น ที่ เ ส้ น ทางการแข่ ง ขั น อาทิ พื้ น ที่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๔ (ชุมชนบ้านคีรีวง) หมู่ที่ ๙ ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่ ง เป็ น จุ ด ปล่ อ ยตั ว นั ก กี ฬ า และจุ ด เข้ า เส้ น ชั ย การ


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๙ แข่งขัน KIRIWONG Cross Country วั น เสาร์ ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙ พระเจ้ า หลานเธอ พระองค์ เ จ้ า พั ช รกิ ติ ย าภา เสด็ จ ถึ ง ท่ า อากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา ๑๗.๔๕ น. และ วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๖.๐๐ น. จึงเสด็จร่วมการแข่งขัน ก่ อ นการแข่ ง ขั น จะเริ่ ม ขึ้ น ประมาณ ๑ เดื อ น กลุ ่ ม อนุ รั ก ษ์ คี รี ว งกั บ ชาวบ้ า นบางส่ ว นไม่ เ ห็ น ด้ ว ย กั บ การแข่ ง ขั น ครั้ ง นี้ เกรงว่ า นั ก กี ฬ าที่ เ ข้ า แข่ ง ขั น จ� ำ นวนมากจะเข้ า ไปเหยี ย บย�่ ำ ท� ำ ลายผื น ป่ า และ ล�ำธาร มีการถกเถียงกันทางสื่อออนไลน์ เมื่อทราบ ว่าพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จ ร่วมแข่งขันเป็นการส่วนพระองค์ การถกเถียงก็หยุด ไป ประชาชนชาวนครศรี ธ รรมราช และชาวคี รี ว ง ต่างปลื้มปีติและพร้อมใจกันถวายการต้อนรับ การ แข่งขันประสบความส�ำเร็จสร้างชื่อเสียงแก่คีรีวงและ อ�ำเภอลานสกา จังหวัด นครศรี ธ รรมราชที่ ไ ด้ ชื่ อ ว่ า อากาศดี ที่ สุ ด ใน ประเทศมากยิ่งขึ้น ต่าง เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะ เดินทางมาคีรีวงเพิ่มขึ้น เช่นกัน ขอบคุณรูปจาก ส�ำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์

<< ต่อจากหน้า ๖ ท� ำ ธุ ร กิ จ ในนครศรี ธ รรมราช “ใจจริ ง ส่ ว นหนึ่ ง เรา ต้องการรองรับความเจริญของชุมพร เราคนนครฯอยาก ให้ที่นี่เจริญ สมัยก่อนคนที่มาลงทุนที่นครฯเป็นพวก บ้า อย่างทีค่ ุณไพโรจน์ เพชรคง (ที่ปรึกษา ซีอาร์ นคร ศรีฯ) เคยว่า...มีคอมมิวนิสต์พวกหนึ่งกับโจรพวกหนึ่ง ที่ลงทุน...พวกโจรท�ำโรงแรม พวกคอมฯ มาท�ำห้าง คือ บ้าทั้งคู่ แต่กลายเป็นกลุ่มท�ำให้ทิศทางของเมืองนคร เปลี่ยนไป เป็นเมืองไม่น่ากลัวที่จะมาลงทุน ผมว่า... คุณก็รู้นครฯ เราเป็นเมืองประวัติศาสตร์ เหมือนจะเป็น เมืองหลวงทางใต้ แต่เราพลาดไปนิด” อาทิ ต ย์ พู ด ถึ ง การบริ ห าร “ผมเป็ น กรรมการ บริหารของซีอาร์ นครศรีฯ แต่เวลาบริหารเราจะแยกว่า ทางโรบินสันเป็นผู้บริหาร สินค้าที่วางขายเป็นของคนอื่น แต่เรามาบริหารคล้ายๆ กินเปอร์เซ็นต์ สินค้าบางตัว เป็นเฮ้าส์แบรนด์ หรือสินค้าที่เราท�ำเอง มันจะแยกกัน ระหว่างที่นี่กับสาขา ๑ ในตัวเมือง” เขากล่าวย้อนไปยังโรบินสัน โอเชี่ยนที่เปิดบริการ มาร่วม ๓๐ ปี “ตอนนี้ ป รั บ ปรุ ง ใหม่ เราลงทุ น ไป ๑๐๐ กว่ า ล้าน เน้นกลุ่มวัยรุ่น สไตล์วัยรุ่น แต่ทางสาขา ๒ เพิ่ม

ทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น ด้วยแบรนด์เนมที่หลากหลาย ตามไลฟ์ ส ไตล์ ข องคนรุ ่ น ใหม่ ที่ โ น่ น มี ร ้ า นอาหาร โรง ภาพยนตร์ ส่ ว นพลาซา...ที่ นี่ จ ะหรู ห ราและสวยมาก ผู ้ บ ริ ห ารทุ ก คนมี ค วามเห็ น เหมื อ นกั น ว่ า ที่ นี่ ส วยที่ สุ ด ตั้งแต่ที่เราเปิดห้างมา เฉพาะโรบินสันเราลงทุนไป ๕๖๐ ล้าน” เกี่ ย วกั บ อนาคตของธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก อาทิ ต ย์ ม องว่ า “...สุดท้ายมันก็ไปอยู่กับยักษ์ใหญ่ เราเองต้องไปร่วมมือ กับโรบินสัน ๕๐-๕๐ แต่อย่างไรก็ตาม...โรบินสันยังรับ พนั ก งานเป็ น คนในท้ อ งถิ่ น มากกว่ า เพราะว่ า คนใน ท้องถิ่นพูดง่ายกว่า” สินค้าในเซ็นทรัลพลาซากับโรบินสันหลายอย่างอาจ

เหมือนกัน ซึ่งเป็นการแข่งขันตามผู้บริหารโรบินสัน "เรา พยายามจะท�ำให้ห้างเราน่าสนใจ ท� ำให้แตกต่างจาก เซ็นทรัลฯ ดึงลูกค้าเข้าห้าง เราเอาเงินมาลงเรื่องของ การตกแต่ง สินค้าเหมือนกัน แข่งขันกันได้ ต้องอาศัย การดึงดูด สินค้าเหมือนกัน ท�ำอย่างไรให้ลูกค้าซื้อของ เรามากกว่า สร้างบูธ สร้างอารมณ์ มันเป็นเรื่องกลไก ทางการตลาด สุดท้ายลูกค้าจะเป็นผู้เลือก” นอกจากขายหน้ า ร้ า น โรบิ น สั น ยั ง เปิ ด การขาย สินค้าออนไลน์ ลูกค้าสามารถเลือกที่จัดส่งสินค้าได้ทั้ง ที่บ้านและเลือกมารับเองที่ห้างฯ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ ลูกค้าสะดวกขึ้น เพราะถ้ามารับสินค้าที่ห้าง ก็จะส่งผลให้ เกิดการจับจ่ายเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง ก่อนจบการสนทนา ‘รักบ้านเกิด’ ถามถึงความ ร่วมมือกับชุมชนหรือการสนับสนุนกิจกรรมของสังคม อาทิตย์เปิดเผยว่านโยบายของโรบินสันคือการวางงบ ประมาณล่วงหน้าเพราะเป็นแนวทางของบริษัท ภาพ : สายยันต์ ยรรยงนิเวศน์


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๐

ภิ

กษุ ท. ! พอที ! พวกเธอทัง้ หลาย อย่าหมายมัน่ กัน เลย, อย่าทะเลาะกันเลย, อย่าโต้เถียงกันเลย อย่า วิวาทกันเลย (ดังนีถ้ งึ ๒-๓ ครัง้ ). เมื่ อ ตรั ส อย่ า งนี้ แ ล้ ว มี ภิ ก ษุ บ างรู ป ทู ล ขึ้ น ว่ า “ข้าแต่พระผูม้ พี ระภาคเจ้าผูเ้ ป็นธรรมสามี ! ขอพระองค์ จงหยุดไว้กอ่ นเถิด พระเจ้าข้า ! ขอจงทรงขวนขวายน้อย เถิด พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระผูม้ พี ระภาคเจ้า ! ขอจงทรง ประกอบในสุขวิหารในทิฏฐธรรม อยู่เถิด พระเจ้าข้า ! พวกข้าพระองค์ทงั้ หลายจักท�ำให้เห็นด�ำเห็นแดงกัน ด้วย การหมายมัน่ กัน ด้วยการทะเลาะกัน ด้วยการโต้เถียงกัน ด้วยการวิวาทกัน อันนีเ้ อง” ดังนี.้ กาลนั้ น แล ในเวลาเช้ า พระผู ้ มี พ ระภาคเจ้ า ทรงครองจี ว ร ถื อ บาตร เสด็ จ เข้ า ไปสู ่ เ มื อ งโกสั ม พี เพื่อบิณฑบาต. ครั้นทรงเที่ยวบิณฑบาตในเมืองโกสัมพี แล้ว ภายหลังภัตตกาล กลับจากบิณฑบาตแล้ว ทรงเก็บ บริขารขึน้ มาถือไว้ แล้วประทับยืน ตรัสคาถานีว้ า่ :-

“คนไพร่ๆ ด้วยกัน ส่งเสียงเอ็ดตะโร แต่หามีคน ไหนส�ำคัญตัวว่าเป็นพาลไม่. เมื่อหมู่แตกกัน ก็หาได้มี ใครรูส้ กึ เป็นอย่างอืน่ ให้ดขี นึ้ ไปกว่านัน้ ได้ไม่. พวกบั ณ ฑิ ต ลื ม ตั ว สมั ค รที่ จ ะพู ด ตามทางที่ ต น ปรารถนาจะพูดอย่างไร ก็พูดพล่ามไปอย่างนั้น หาได้ น�ำพาถึงกิเลสทีเ่ ป็นเหตุแห่งการทะเลาะกันไม่.” พวกใด ยังผูกใจเจ็บอยูว่ า่ ‘ผูน้ นั้ ได้ดา่ เรา ได้ทำ� ร้าย เรา ได้เอาชนะเรา ได้ลกั ทรัพย์ของเรา’ ; เวรของพวกนัน้ ย่อมระงับไม่ลง. พวกใด ไม่ผูกใจเจ็บ ‘ผู้นั้นได้ด่าเรา ได้ท�ำร้ายเรา ได้เอาชนะเรา ได้ลักทรัพย์ของเรา’ ; เวรของพวกนั้น ย่อมระงับได้. ในยุคไหนก็ตาม เวรทั้งหลาย ไม่เคยระงับได้ด้วย การผูกเวรเลย, แต่ระงับได้ด้วยไม่มีการผูกเวร. ธรรมนี้ เป็นของเก่าทีใ่ ช้ได้ตลอดกาล. คนพวกอื่น ไม่รู้สึกว่า ‘พวกเราจะแหลกลาญก็ เพราะเหตุน’ี้ ; พวกใด ส�ำนึกตัวได้ในเหตุที่มีนั้น ความมุ่งร้ายกัน ย่อมระงับได้เพราะความรูส้ กึ นัน้ . ความกลมเกลียวเป็นน�้ำหนึ่งใจเดียวกัน (ในการ

ท�ำตามกิเลส) ยังมีได้แม้แก่พวกคนกักขฬะเหล่านั้น ที่ปล้นเมืองหักแข้งขาชาวบ้านฆ่าฟันผู้คน แล้วต้อน ม้า โค และขนเอาทรัพย์ไป ; แล้วท�ำไมจะมีแก่พวก เธอไม่ได้เล่า ? ถ้าหากไม่ได้สหายที่พาตัวรอด เป็นปราชญ์ ที่มี ความเป็นอยู่ดี เป็นเพื่อนร่วมทางแล้วไซร้, ก็จงท�ำตัว ให้เหมือนพระราชา ที่ละแคว้นซึ่งพิชิตได้แล้วไปเสีย แล้วเที่ยวไปคนเดียว ดุจช้างมาตังคะ เที่ยวไปในป่า ตัวเดียว ฉะนัน้ . การเที่ยวไปคนเดียว ดีกว่า เพราะไม่มีความเป็น สหายกันได้กับคนพาล. พึงเที่ยวไปคนเดียว และไม่ ท�ำบาป ; เป็นคนมักน้อยดุจช้างมาตังคะ เป็นสัตว์มัก น้อย เทีย่ วไปในป่า ฉะนัน้ ”. ดังนีแ้ ล้ว ได้เสด็จไปยัง พาลกโลณการคาม. ๑

บาลี พระพุทธภาษิต อุปกั กิเลสสูตร อุปริ. ม. ๑๔/๒๙๕/๔๔๐, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ทิ่มแทงกันด้วยหอกคือปาก จนภิกษุ รูปหนึ่ง ทูลขอร้องให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไประงับเหตุ ณ ทีโ่ ฆสิตาราม ใกล้เมืองโกสัมพี.

ที่ยวเมืองมรดกโลกวันนี้ ขอวกมาเมือง นครเรา เมืองที่ก�ำลังเขียนรายงานเพื่อ น�ำเสนอพระบรมธาตุเป็นมรดกโลกกับ เขาด้วย เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ที่ ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการใน การน�ำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขึ้นบัญชีเป็น มรดกโลก ที่ ป ระชุ ม ได้ พู ด ถึ ง เรื่ อ งการ บูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ หลังจาก ที่มีการตั้งนั่งร้านขึ้นไปตรวจสภาพการ ช�ำรุด รวมทัง้ ทีเ่ ป็นสีเหมือนคราบสนิมบน บริเิ วณปล้องไฉน สรุปเป็นสามสีเ่ รือ่ ง คือ.. ๑. แผ่ น ตะกั่ ว หนาประมาณ ๓ มิลลิเมตรที่ใช้หุ้มภายในปลียอดทองค�ำ เกิดช�ำรุด เกิดเป็นคราบสนิมสีขาวและ สีเทา ไหลซึมผ่านแผ่นทองค�ำทีห่ มุ้ ปลียอด ผ่านกลีบบัวคว�ำ่ บัวหงายทองค�ำ จนมาถึง บริเวณปล้องไฉน ซึ่งเป็นปูนเคลือบ ทา ด้วยสีอะคริลิค คราบสนิมสีขาวสีเทาได้ เปลี่ยนเป็น 'สีน�้ำตาลคล้ายสีสนิมเหล็ก' แต่อย่างไรก็ตามคราบนีพ้ นื้ ผิวในส่วนทีถ่ กู บังแสง จะไม่เห็นเป็นคราบสนิมสีน�้ำตาล จึ ง มี ก ารสั น นิ ฐ านเบื้ อ งต้ น ว่ า น่ า จะเกิ ด จากการ 'ท�ำปฏิกิริยาทางเคมี' จากคราบ สีขาวสีเทากับสารเคมีที่ผสมในสีอะคริลิก แสงแดดและแสงไฟส่องสว่าง

๒. แผ่นทองค�ำที่หุ้มบริเวณปลียอด ช� ำ รุ ด เสี ย หายบ้ า งบางส่ ว นโดยเฉพาะ บริเวณรอยเชือ่ มของแผ่นทอง ๓. ตะปูที่ใช้ยึดกลีบบัวคว�่ำบัวหงาย ทองค�ำ ซึ่งใช้วัสดุเหล็กเคลือบสังกะสีเกิด ความช�ำรุดมีคราบสนิมไม่มากนัก และไม่ ได้เป็นสาเหตุหลักของคราบสนิมสีนำ�้ ตาล ๔. บริเวณองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่ ใช้ 'ปูนต�ำเคลือบ' แล้วทาด้วยสีอะคริลกิ นัน้ พืน้ ผิวมีสภาพช�ำรุดโดยทัว่ ไป แต่ไม่มากนัก ส่ ว นเรื่ อ งการบู ร ณะนั้ น ทางกรม ศิลปากรได้น�ำทีมช่างสิบหมูที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในการบูรณะ โดยก�ำหนด วิธกี ารบูรณะดังนี้

๑. จะเปลี่ ย นวั ส ดุ ที่ ใ ช้ หุ ้ ม ปลี ย อด ทองค�ำจากเดิมเป็นตะกั่วมาเป็นแผ่นโลหะ ผสมระหว่างดีบุก ๗๐% และตะกั่ว ๓๐% และแผ่นทองค�ำจะถอดออกมาซ่อมแซม ให้ มี ค วามมั่ น คงแข็ ง แรงและประณี ต โดยจะมี ก ารเพิ่ ม จ� ำ นวนทองค� ำ ลงไปให้ เหมาะสมด้วย ๒. กลีบบัวคว�่ำบัวหงายทองค�ำ จะ เปลี่ยนตะปูซึ่งปราศสนิมยึดกลีบบัวคว�่ำ บัวหงายทองค�ำกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์ รวมทั้งพิจารณาสร้าง 'สายเข็มขัดทองค�ำ' รั ด โดยรอบอี ก ชั้ น หนึ่ ง เพื่ อ ความมั่ น คง แข็งแรง โดยค�ำนึงถึงรูปแบบที่เหมาะสม และงดงามด้วย

๓. องค์ พ ระบรมธาตุ เ จดี ย ์ ที่ เ ป็ น ปูนต�ำแล้วเคลือบด้วยสีอะคริลิกนั้น จะ ท�ำการขัดล้างกะเทาะสีอะคริลกิ ออก แล้ว ใช้วัสดุปูนต�ำเพียงชนิดเดียว (ขัดปูนต�ำ อย่างโบราณ) ส� ำ หรั บ ทองค� ำ พระราชทรั พ ย์ ที่ คุ ณ จิ ม มี่ ชวาลาและผู ้ มี จิ ต ศรั ท ธาร่ ว ม กันถวายผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นั้น ทางกรมศิลปากรและจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้น�ำเข้าร่วม 'บูรณะปลียอด ทองค�ำ' ครั้งนี้ด้วย โดยได้มีการประสาน งานอย่างใกล้ชดิ เพือ่ พิจารณาการจัดสร้าง 'เข็ ม ขั ด ทองค� ำ รั ด กลี บ บั ว คว�่ ำ บั ว หงาย ทองค�ำ' ให้มีความมั่นคงแข็งแรงและมีรูป แบบทีเ่ หมาะสมงดงามต่อไป ขณะนีง้ านก็ได้เริม่ ด�ำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการผูกนั่งร้านเพิ่มเติม ท�ำ ลิ ฟ ท์ ป ลอดภั ย เพื่ อ ส่ ง สิ่ ง ของมี ค ่ า ลงมา เก็บ จัดท�ำห้องนิรภัย (ห้องคลัง) ส�ำหรับ ประดิ ษ ฐานและเก็ บ โบราณวั ต ถุ ส� ำ คั ญ ต่างๆ รวมทั้งจัดซื้อทองค�ำมาเพิ่มในส่วน ที่ช�ำรุด คาดว่าการบูรณะจะแล้วเสร็จใน เดือนพฤศจิกายนนี้ เขียนมาเล่าเพื่อให้ได้ติดตามไม่ตก ข่าวครับ


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้าพิเศษ ๑


หน้าพิเศษ ๒

ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้าพิเศษ ๓

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า

นายบัญญัติ ลายพยัคฆ์

ผู้อ�ำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช และเหล่าข้าราชการ ลูกจ้าง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครศรีธรรมราช หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช 80320 โทร. 0-7539-6363 โทรสาร 0-7539-6364 E-mail : nakhon.sci@gmail.com


หน้าพิเศษ ๔

ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๑

นพ.บัญชา พงษ์พานิช

นครดอนพระ << ต่อจากหน้า ๒

ที่ต�ำแหน่งหนึ่งน่าจะเป็นกรุอะไร มีก่ออิฐ เป็น ๔ ช่อง ในนัน้ พบฐานรูปท�ำด้วยส�ำริด คนละชิน้ กับรูปทีพ่ อ่ เจอเมือ่ นานมาแล้ว จากการส�ำรวจเร็วๆ ในพื้นที่และที่ เขาเก็บรักษาไว้ ผมเห็นในลักษณะเดียวกัน ว่า อาจเป็นศาสนสถาน หรือสถานีพกั และ อาจจะเป็นนครน้อยๆ ตั้งอยู่ริมคลองจันดี ณ บ้านจันดี ไม่ไกลจากมะนาวหวาน และ เชิงเขาเหมน หรือพระสุเมรุแห่งเมืองนคร ล่างลงมาจากน�้ำตกท่าแพและบ้านนา ไม่ ไกลจากปลายคลองที่ไหลลงมาจากสันปัน น�้ำที่เขาธง ซึ่งกั้นระหว่างนอกเขา (ฉวางช้างกลาง-นาบอน-ถ�้ำพรรณรา-ทุ่งใหญ่ทุ่งสง) กับ เหนือ (ลานสกา-พรหมคีรี-นบ พิ ต� ำ ) เส้ น ทางนี้ ถื อ เป็ น หนึ่ ง ในเส้ น ทาง ศักดิ์สิทธิ์แห่งทักษิณ เพราะพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ท่านน�ำท�ำการบุกเบิกแผ้วถาง สร้ า งทางจนเป็ น หนึ่ ง ในสายหลวงสาย เอเซียอย่างเช่นทุกวันนี้ ที่บนยอดสันเขา ใกล้ๆ กับป้ายอากาศดีทสี่ ดุ ในประเทศไทย มีหอพ่อท่านกับส�ำนักสงฆ์สงบงามตัง้ อยู่ กล่าวคือ นอกจากพืน้ ทีก่ ว้างและราบ เรียบริมคลองจันดีหลายสิบไร่ ระบุว่าข้าม ฝั่งไปทั้งสองฟากคลอง มีแนวเนินดินยาว กับคูตื้นๆ สองสามชั้น แนวหนึ่ง โดยที่ริม คลองเป็นแนวอิฐยาวตลอด โดยเฉพาะที่ ริมตลิ่ง มีอิฐเรียงซ้อนกันลงไปด้วย ส่วน ในบริเวณที่ดิน ทั้งที่เป็นสวนยาง และ ป่า ละเมาะรก มีเนินอิฐอยู่ ๓ เนินใหญ่ พบร่อง รอยขุดส�ำรวจร่อนเล็กๆ น้อยๆ เนินหนึ่ง เป็นบริเวณที่พบรูปส�ำริด อีกหลุมหนึ่งพบ เหรียญเงินตีตราดอกจันอย่างศรีวิชัย เศษ เครื่องถ้วยพบเต็มไปหมด ทั้งดินเผาและ เครื่องเคลือบจากหลายถิ่นวัฒนธรรม ที่ เป็นที่สังเกต ได้แก่ฐานรูปเคารพพบในกรุ ก่ออิฐ เป็นฐานปัทม์หงายงดงาม แต่ปลาย เท้าทั้งสองหักเสียแล้ว จึงไม่รู้ว่ารูปอะไร, ขาส�ำริด มีวงคล้ายกับที่รองสิ่งของ และ ก้อนหินกลมมนมีรูกลาง อย่างที่พบของ มนุ ษ ย์ โ บราณลึ ก ถึ ง สมั ย หิ น ส่ ว นเครื่ อ ง ดินเผามีทั้งเนื้อหยาบและละเอียด มีรอย เขม่าเผาด�ำ กับที่เป็นขาแหลม ที่เคลือบ เขี ย วไข่ ก า และขาว อย่ า งสมั ย ถั ง และ ซ้องมีมากมายหลายรูปแบบและลักษณะ เคลือบฟ้าอย่างบัสราที่เปอร์เซียก็มีนิดนึง มีอักขระและลายต่างๆ ก็พบด้วย เครื่อง โลหะ มี ทั้ ง ส� ำ ริ ด และเหล็ ก ดู เ หมื อ นจะ มีชิ้นส่วนกลองมโหระทึกกับก้อนตะกรัน เหล็กด้วย ที่แปลกกว่าที่ไหนๆ คือ พบ ดิ น สอหิ น จ� ำ นวนหนึ่ ง แสดงว่ า คนที่ นี่ นิยมเขียนหนังสือกันในสมัยนัน้ ทีพ่ เิ ศษอีก ประการคือ พบเศษกระเบื้องแก้วอย่างที่ ว่ากันว่ามาจากแดนเมดิเตอเรเนียนตะวัน

ออก แถบซีเรียทุกวันนี้ จ�ำนวนไม่นอ้ ย ส่วนลูกปัด เท่าที่เห็น มีหินคาร์เนเลียน กับ หินแก้วผลึก (rock crystal) ไม่ เห็ น อะเกต จากนั้ น ก็ แ ก้ ว อิ น โดแปซิ ฟ ิ ค หลายสีและเป็นหลอด มีอำ� พันเงิน (silver sandwich) รวมทัง้ เศษลูกปัดโมเสกหน่อย หนึ่ง นอกนั้นซึ่งระบุว่าพบในอีกบริเวณ เป็นแก้วม้วนพัน มิใช่หลอดดึงอย่างลูกปัด แก้วอินโดแปซิฟิค กับยังมีก้อนโลหะและ เม็ดข้าวสารจ�ำนวนมากด้วย ผมประมวลเบือ้ งต้นจากสิง่ ทีพ่ บว่า ๑) มีสิ่งของจากหลากหลายวัฒนธรรม ทั้ ง ของท้ อ งถิ่ น และจากจี น ผ่ า น ตังเกี๋ย ลงมาย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปอินเดีย ถึงเปอร์เซีย เมดิเตอเรเนียน เด่นมากคือข้าวของจากจีน อินเดีย และ เมดิเตอเรเนียน ๒) อายุสมัย จากสิง่ ของทีพ่ บ น่าจะ ร่วมสมัยกับที่พุมเรียง - ไชยา และ เกาะ คอเขา - ตะกั่ ว ป่ า คื อ ประมาณพุ ท ธ ศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๕ ซึ่งร่วมสมัยราชวงศ์ ถัง-ซ้อง หรือ ศรีวชิ ยั ในย่านละแวกนี้ ซึง่ ล่า กว่าทีค่ ลองท่อม แต่พอ้ งกับ "candi-จันทิ" ในชวา-สุมาตรา นอกจากสิ่งของชุดแรกที่ได้เห็นจาก การรวบรวมไว้โดย ๒ บุรุษแห่งบ้านจัน ดีแล้ว ยังมีอีกบางสิ่งที่นับเป็นเครื่องบ่งชี้

สมั ย และอารยธรรมสั ม พั น ธ์ ไ ด้ คื อ ๒ หั ว แหวนตราประทั บ ท� ำ ด้ ว ยหิ น โกเมน และคาร์เนเลียนเป็นรูปคล้ายกวางน้อย เหลียวหลัง สัญญลักษณ์ที่นิยมท�ำมากในแวดวง พระพุทธศาสนา สัมพันธ์กับป่าอิสิปตน มฤคทาวั น และการแสดงปฐมเทศนา อาสาฬหบูชา โดยในระยะหลังในย่านแหลมมลายู นี้ นิ ย มใช้ เ ป็ น ตราราชวงศ์ ปรากฎบน เหรียญทองค�ำโบราณ และแม้ธนบัตรบาง รุ่นของมาเลเซียโดยแก้วโกเมนนี้ ส่วนมาก ที่ พ บ น่ า จะมาจากแหล่ ง อิ น เดี ย ตอนใต้ ส�ำหรับตราบนคาร์เนเลียน รู้สัตว์หมอบ คล้าย ๆ มังกร และมีเดือนอยู่เหนือขึ้นไป บริเวณกลางหลัง ชวนคิดได้ว่าอาจจะเป็น รอยวั ฒ นธรรมจากเปอร์ เ ซี ย หรื อ ไกลไป ถึงจีน ก็อาจจะได้ ผมยังไม่มีความรู้พอ ส่วนเหรียญเงินตีตรา ๔ อันนั้น ด้านหนึ่ง เป็นดอกจัน ๔ กลีบอีกด้านเป็นอักขระ นั้ น ในแวดวงดู เ หมื อ นจะสรุ ป กั น ทั่ ว ไป แล้วว่าเป็นเงินตราสมัยศรีวิชัย พบแพร่ หลายลงไปจากคาบสมุทรไทย-มาเลย์ลง ไปถึงสุมาตรา-ชวา กล่าวกันว่าน่าจะพุทธ ศตวรรษที่ ๑๒-๑๕ พบมากเป็นพิเศษที่ พุมเรียง-ไชยา เครื่ อ งประดั บ ทองค� ำ ทั้ ง ที่ เ ป็ น เศษ โดยเฉพาะที่เป็นชิ้นสมบูรณ์นั้น ลวดลาย ลักษณะ นึกถึงอย่างชวา-สุมาตรามากๆ บริเวณหัวที่ว่างโหว่ เขาบอกว่าแรกเจอมี แก้วอย่างเดียวกับหลายๆ แผ่นที่วางเรียง อยูเ่ หนือขึน้ ไป กล่ า วโดยสรุ ป ณ ขณะนี้ ผมขอ เรี ย กแผ่ น ดิ น นี้ ว ่ า “จั น ดี น คร/JanDee Nagara” ทีอ่ งิ ชือ่ “บ้านจันดี” และ “คลอง

จันดี” ที่คลี่คลายกลายเป็น “ชุมชน-ย่าน ตลาด-สถานี ร ถไฟ-เทศบาลคลองจั น ดี ” ซึ่งไม่มีใครรู้ที่มาของชื่อ “จันดี” อาจารย์ ชาลีบอกว่าคือชื่อของพระนางจัณฑี แต่ ผมสั น นิ ษ ฐานว่ า อาจจะมาจาก “จั น ทิ Candi” ที่พบเป็นกู่หรือบัวอย่างที่พวกเรา คนนครนิยมเรียกกัน แต่ที่อินโดนีเซียทั้ง เกาะชวา-สุมาตรา ต่างเรียกว่า “Candiจันทิ” กันทั้งนั้น และดูเหมือนจะเรียกต่อ กันมาแสนนาน ไม่รู้ตั้งแต่สมัยไหน อาจ จะเกี่ยวกับ “จันดี” ของเราก็ได้ และขอ สันนิษฐานเสริมไว้อีกชั้นว่าจันดีนครแห่ง นี้ น่าจะมีอิทธิพลศิลปะอย่างศรีวิชัยเมื่อ สมัยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๕ หรือกว่าพันปีมาแล้ว โดยเฉพาะรูปส�ำริด ที่พบนี้ หลายผู้สันทัดกรณีบอกว่า อย่างนี้ เป็นศิลปะชวาโบราณที่ไม่เคยพบในแผ่น ดินประเทศไทยมาก่อน อายุสมัยประมาณ พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๓ ส่วนเป็นรูป อะไรนั้น ยังไม่เป็นที่ยุติ ส่วนใหญ่ว่านึกถึง เหวัชระ แต่ลักษณะไม่ตรงตามต�ำราที่ว่ามี ๘ เศียร ๓ เนตร ๑๖ กร ๔ เพลา เพราะ ท่านมี ๔ เศียร ๘ กร ๒ เพลา บางพักตร์ มีเขี้ยวอย่างอมนุษย์และเทพเทวา หัตถ์ ก็ มี มุ ท ราที่ ง ดงาม มิ ไ ด้ ถื อ สิ่ ง ที่ ไ ม่ เ ป็ น มงคล โดยมี เ คื่ อ งถนิ ม พิ ม พาภรณ์ แ ละ ผ้าภูษาที่งดงามอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมา ก่อนเลย ขอเชิ ญ ชวนพวกเราชาวนครและ ชาวไทยได้ร่วมกันยินดีที่มีการพบหลักฐาน ส�ำคัญนี้ และร่วมกับพิทักษ์รักษารวมทั้ง ท�ำการศึกษาค้นคว้าร่วมกับชาวช้างกลาง และชาวนครกันต่อไปนะครับ ๒๔ กค.๕๙


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๒

www.nortongethealthy.com

พญ.กาญจนา วงศ์ศิริ

จิตแพทย์ประจ�ำ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จิตแพทย์ประจ�ำ คลินิกหมอกาญจนา

มอเคยพบเจอคนที่ทุกข์ตรมกับความรัก แบบที่เรียกว่า “อกหัก” มาทุกรูปแบบ ทุกเพศ ทุกวัย เจอกันตั้งแต่อายุ สิบต้นๆ ยัน รุน่ ตายาย เจ็ดสิบปลายๆ ไม่จำ� กัดว่าใครท�ำงาน อะไร จะรวยหรือจน หรือจะเรียนจบอะไรมา “อกหัก” ถึงแม้จะฟังคุ้นหูแต่ก็ไม่อาจ เข้ า ใจได้ อ ย่ า งลึ ก ซึ้ ง ถ้ า ไม่ เ คยได้ ลิ้ ม รสด้ ว ย ตนเอง แต่ละคนที่โดนหักอกจน อกหัก ล้วน แล้วแต่มีอาการต่างกันไป ประเภทรักมากหวัง มากก็เจ็บมากแบบแปรผันตรง “อกหักปางตาย” และตายจริงมีกม็ เี ยอะ มาก ถ้าฟังข่าวก็ได้ยินบ่อยๆ ว่านอกจากจะฆ่า ตัวตายสังเวยความรักแล้ว ก็ยังพาลจะฆ่าคน ที่มาหักอกด้วย ร้ายกว่านั้นคือแค้นมาก ฆ่ายก ครัวเลยก็มี “อกหั ก มี ฤ ทธิ์ รุ น แรงมาก” ในบางคน ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคนอนไม่ หลับ ร่างกายทรุดโทรมหนักได้มากถึงขนาดไป เรียนไม่ได้ ไปท�ำงานไม่ไหว หรือถึงขัน้ ขีเ้ กียจจะ หายใจ อยากตายให้พน้ ๆ การท�ำร้ายตัวเองของ คนไข้ ส�ำหรับหมอแล้ว มันหมายถึงการทีค่ นไข้ คนนั้น หมดปัญญาจะหาทางออกด้วยตนเอง และก�ำลังร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่ แล้วก็หมดหนทาง ส�ำหรับบางคนการท�ำร้าย ตนเองอาจเป็นเพียงแค่ต้องการให้คนรักแสดง ความสนใจแสดงความห่วงใย หรืออาจเป็นวิธี การง้อขอโทษแบบหนึ่งประมาณว่าฉันผิดไป แล้ว ฉันลงโทษตัวเองแล้วให้อภัยฉันเถอะแบบ นีอ้ าจไม่ได้หวังจะตายจริง คนกลุม่ นีอ้ าจสังเกตุ ได้ว่าบาดแผลจะน้อยๆ ไม่รุนแรงเช่นกรีดข้อ มือเลือดพอซึมๆ ไม่ต้องเย็บหรือไม่ก็อาจกินยา บางชนิดที่คิดว่าไม่ท�ำให้ถึงชีวิตแน่ๆ แค่มีฤทธิ์ ให้แฟนเห็นใจสนใจก็พอ ก่อนท�ำร้ายตัวเองอาจ มีการไปโพสเฟสบุค๊ ส่งไลน์บอกกันก่อนล่วงหน้า ประมาณว่าฉันอยากให้เธอรู้ว่าฉันรอให้เธอมา หาฉันตรงนีน้ ะ แต่ ก็ มี ค นอกหั ก อี ก ประเภทนึ ง ที่ ทุ ก ข์ ทรมานกับการอกหักมาก ประมาณว่าถ้าเธอ ไม่มีฉันเพียงคนเดียว นั่นหมายความว่าเธอไม่ รักฉันแล้ว ชีวติ ของฉัน คุณค่าของฉันหมดสิน้ ไป พร้อมๆ กัน ไม่รจู้ ะมีชวี ติ ไปท�ำไม ฉันต้องตาย หมอเองพบคนที่พยายามฆ่าตัวตาย (แต่ ไม่ส�ำเร็จถ้าส�ำเร็จก็คงไม่ได้มาเจอกัน) เพราะ ทนทุกข์ต่อการนอกใจของคนรัก หรือการถูก บอกเลิกไม่ได้ บางคนเจอปัญหาแบบนีเ้ อาตอน ลูกสามบางคน ที่หมอพบเป็นยายของหลานๆ แล้ ว หลายคนก็ มี (ไม่ น ่ า เชื่ อ แต่ ก็ เ กิ ด ได้ จ ริ ง เพราะตัณหาในมนุษย์นั้นมันไม่สิ้นสุด) ความ รักเองก็ไม่ใช่อาหาร ที่ถ้าแบ่งให้ใครแล้วจะ หมดกัน ความรักสามารถสร้างให้มากขึ้นได้ไม่ สิน้ สุด การทีเ่ ค้ารักคนอืน่ ด้วยก็ไม่ได้แปลว่าเค้า ไม่รักคุณ ยกตัวอย่างเช่นว่า คนที่เป็นพ่อหรือ เป็นแม่คน เมื่อมีลูกคนแรกก็รักจนหมดหัวใจ แต่พอมีลกู คนทีส่ อง คนทีส่ าม ก็สามารถรักจน

ล้นใจได้อีก โดยที่ยังรักลูกคนแรกเหมือนเดิม นัน่ หมายความว่าเป็นไปได้มยั้ ทีเ่ ค้าจะรักคนอืน่ ด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะรักคุณน้อยลง แบบประมาณ ว่าพีร่ กั ทุกคน พีด่ แู ลทุกคนได้ ส�ำหรับบางคนที่เมื่อใครคนนั้นไม่ใยดีต่อ คุณอีก ไม่เห็นคุณค่าในตัวคุณ คุณก็ไม่ควรไป เห็นค่ามันคนนั้น อย่าต้องไปเจ็บ ไปตายให้คน ที่ไม่เห็นค่าเรา จะไปท�ำตัวเองให้เจ็บปวด เพื่อ สังเวยกับคนทีไ่ ม่เห็นคุณค่าของคุณท�ำไม ความรักท�ำให้คนตาบอดจริงๆ บอดถึง ขนาดว่าชีวิตก่อนหน้านี้เราเคยอยู่ได้โดยไม่มี เค้า บอดจนมอง ไม่เห็นว่ายังมีคนที่รักเราล้น ใจตายแทนเราได้ คือพ่อแม่ที่รอเราอยู่ตาบอด จนไม่เห็นคุณค่า ว่าตัวเรานั้นแสนจะส�ำคัญกับ งานทีเ่ ราท�ำ เพือ่ นทีเ่ รารัก ญาติพนี่ อ้ งหรือลูกๆ ที่ต้องพึ่งพิงเรา คุณค่าในตัวเรายังคงล้นเปี่ยม เหมือนเดิม ถึงเค้าคนนั้นจะไม่อยู่กับคุณ แต่ใช่ ว่าเค้าจะพรากคุณค่าจากตัวคุณไปด้วยได้ การยอมรั บ ในความรู ้ สึ ก ว่ า เราเสี ย ใจ ยอมรับว่าเราเหงา ว่าเราคิดถึง ว่าเราเศร้าเป็น เรื่องที่ท�ำได้ต่อให้คุณ เคยเป็นคนเข้มแข็งแค่ ไหนก็ตาม เพราะมันเป็นอารมณ์ปกติของคน อกหัก เราไม่ได้บรรลุโสดาบันขนาดปลงตกได้ ทันที อารมณ์ ความคิด ค�ำถามมากมาย เข้ามา จนสับสนในช่วงที่เราผิดหวังเพราะมันสามารถ อธิบายในเชิงจิตวิทยาได้ว่า ธรรมชาติของการ อกหั ก มั น คล้ า ยกั บ การสู ญ เสี ย คนรั ก ดั ง นั้ น อารมณ์ ความคิด จากความรู้สึกพลัดพรากจะ คล้ายๆ กัน แต่ตา่ งกันตรง “ความรูส้ กึ ไร้คา่ ” อกหักท�ำให้หลายคนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เรามันไม่ดีพอที่เค้าจะเลือก เราไม่ได้ถูกเลือก ซึ่งจะต่างจากความรู้สึกจากการเสียคนรักหรือ สิง่ ทีร่ กั อืน่ ๆ เช่นเสียพ่อแม่ญาติลกู เพือ่ นๆ หรือ แม้แต่สตั ว์เลีย้ งแสนรัก เพราะจะเป็นความรูส้ กึ เศร้าผสมกับความรูส้ กึ ผิดทีเ่ ราดูแลไม่ดพี อ หรือ เรายังอยากท�ำอะไรให้เค้ามากกว่านีแ้ ต่ไม่ได้ทำ� ช่วงเริม่ ต้นอกหัก อารมณ์และความคิดจะ วุ่นวายสับสน ความรู้สึกแรกของการถูกปฎิเสธ อาจเป็นภาวะช็อค รู้สึกชาๆ งงๆ กับตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นมันเป็นจริงรึเปล่าไม่ยอมรับการถูก บอกเลิกแต่เมือ่ สักพักทีห่ ายช็อคแล้ว ก็จะเริม่ ยอมรับว่าสิง่ ทีต่ นพบเจอไม่ใช่แค่ ฝันร้าย แต่เป็นเรื่องจริงอันแสนเจ็บปวด สิ่งที่ ตามมาคือหนีไม่พน้ ความเสียใจ ความรูส้ กึ โกรธ ว่าท�ำไมท�ำกับฉันได้ขนาดนี้ โกรธที่ถูกหักหลัง โกรธคนที่ท�ำให้เธอเปลี่ยนใจไปจากฉัน โกรธที่ ฉันทุม่ เทและดีกบั เธอขนาดนีเ้ ธอยังท�ำกับฉันได้ เกิดความรู้สึกไร้ค่าคิดว่าตนเองคงไม่ดีพอ เค้า

ถึงไม่ตอ้ งการ ขณะเดียวกันหลายคนยังมีความหวังว่า จะได้คนรักกลับคืนมาอีกครั้ง โดยเริ่มมีการต่อ รอง เช่น เธอกลับมาเถอะ ฉันจะเปลีย่ นตัวเอง ท�ำแบบที่เธอปรารถนา เธออาจแค่งอนหรือ เพลิดเพลินกับการหลงผิด สักพักเดี๋ยวเธอก็คง กลับมา แบบว่า มโนเพื่อให้ก�ำลังใจตัวเอง แต่ เมื่อท้ายที่สุดแล้วต้องพบว่ามันไม่สามารถกลับ ไปเป็นเหมือนได้ ถึงจุดนั้นก็ต้องยอมจ�ำนนต่อ ตัวเอง พร้อมก้มหน้ายอมรับความเป็นจริง ระยะเวลาในการรักษาแผลใจในแต่ละ คนไม่เหมือนกัน แต่หมอมีคำ� แนะน�ำส�ำหรับคน ที่ผิดหวังต่อความรัก ว่าเราจะท�ำยังไงได้บ้าง เพื่อลดความเจ็บปวดนั้น และใช้ระยะเวลาใน การรักษาแผลใจให้นอ้ ยทีส่ ดุ อันดับแรก จงยอมรับความรูส้ กึ ตัวเองซะ ว่าเศร้า ว่าเสียใจ ว่าแค้นใจ ว่าผิดหวัง ว่าโกรธ หรือแม้แต่ความรู้สึกว่ายังรักรักและยังคิดถึง เค้าอยู่ การเก็บกดความรู้สึกตัวเองยิ่งท�ำให้เรา ก้าวผ่านมันได้ชา้ และยิง่ จะเหนือ่ ยกับการหลอก ตัวเอง ถัดไปคือปักหมุดว่าเรามีค่าพอ ถึงแม้ว่า เราไม่ถกู เลือกจากเค้าคนนัน้ เรายังมีคา่ กับสิง่ ที่ เราท�ำ พ่อแม่ทรี่ กั เรา ญาติพนี่ อ้ ง เพือ่ นๆ เรายัง ท�ำอะไรได้อีกมากมายเพราะคุณค่าอยู่ที่ตัวเรา เค้าไม่ได้เอาจากตัวเราไปด้วย จงให้คุณค่ากับสิ่งที่ให้คุณค่าเรา ถ้าใคร คนนั้ น ไม่ เ ห็ น คุ ณ ค่ า ในตั ว คุ ณ คุ ณ จะไปเห็ น คุณค่าเค้าท�ำไม ไปทุกข์ตรมกับคนที่ไม่เห็นค่า ของคุณท�ำไม มันช่างเปล่าประโยชน์เพราะมีสงิ่ อื่นที่ต้องการคุณอีกมากมาย อย่าไปให้คุณค่า แก่มนั เกินกว่าทีม่ นั ควรจะเป็น จงรักตัวเองให้เป็น ถ้าเรายังรักตัวเองไม่ ลง แล้วจะไปหวังให้ใครทีไ่ หนมารักเรา จริงมัย้ จงอย่ า หมกมุ ่ น กั บ สิ่ ง ที่ ท� ำ ให้ เ ราหม่ น หมอง เช่นเปิดเอาภาพเก่าๆ มาดูเคล้าน�้ำตา หยิบของทีเ่ ค้าเคยให้มารูปคล�ำ อย่าท�ำเด็ดขาด เพราะมันยิง่ ท�ำให้กระตุน้ ความปวดร้าว และตัว คุณเองจะเสพติดความทุกข์ไปโดยไม่รู้ตัว หมอ แนะน�ำให้คุณจัดการมันออกไป อะไรก็ตามที่ ท�ำให้คุณหวนระลึกถึงแล้วเศร้าขึ้นมา อาจใช้ วิธเี อาไปบริจาค หรือไม่กท็ งิ้ ไปซะ อย่าปล่อยให้ มันมาท�ำร้ายความรูส้ กึ เราซ�ำ้ ๆ จงลากตัวเองออกมาเจอโลกแห่งความ จริงให้เร็วที่สุด ก่อนที่ตัวคุณจะถูกความเศร้า ทับถมกลบตัวคุณ จนหมดแรงซะก่อน จงขุด ตัวเองออกมาจากเตียงให้ได้ อย่านอนจมกอง น�้ำตา หมอรู้ว่ามันยากมากที่จะออกไปไหนมา

ไหนให้เหมือนปกติเพราะแค่นั่งอยู่เฉยๆ น�้ำตา ก็อาจไหลมาเองได้ จนไม่อยากออกไปไหน ไม่ อยากให้ใครต้องมาทักว่าท�ำไมตาบวม ท�ำไมดู โทรมจัง เป็นอะไรไป หัดเบีย่ งความสนใจตนเอง แน่นอนว่ามัน ไม่ได้ลืมกันง่ายๆ แน่ๆ แต่ถ้าคุณมัวแต่ให้เวลา นั่งคิดถึงมัน มันก็จะเข้ามาหาคุณไม่ไปไหนสัก ที ดังนั้นจงอย่าให้เวลากับมัน ไปหาอย่างอื่น ท�ำ ไปออกก�ำลังกาย ดูหนัง แหกปากร้องเพลง หาอะไรกินที่อร่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความหิว ก็ตาม เพือ่ นชวนไปไหนห้ามปฎิเสธเด็ดขาด สุ ด ท้ า ยแล้ ว เมื่ อ คุ ณ ไม่ ใ ห้ โ อกาสมั น (ความเศร้า) เข้ามาหาคุณ สักพักมันก็จะหนีหา่ ง จากคุณไปเอง ไปท�ำอะไรก็ได้ให้ตนเองรูส้ กึ มีคณ ุ ค่า เช่น ท�ำบุญ ดูแลพ่อแม่ ช่วยงานกุศลอะไรก็ได้ทคี่ ณ ุ ได้ช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน มัน จะช่วยให้คณ ุ อุน่ ใจ และมัน่ คงในตัวเองมากขึน้ ลองมองในแง่มมุ ใหม่ เชิงบวก เช่น - ดีนะทีเ่ ลิกกันตอนนี้ ดีกว่าแต่งงานมีลกู แล้วมาเลิกกันทีหลัง - ก็ดีเหมือนกันนะฉันจะได้เอาเวลานี้ไป ท�ำอย่างอื่นที่อยากท�ำ เพราะตอนที่มีเธอฉันไม่ ว่างได้ทำ� เลย - การไม่มเี ธอท�ำให้ฉนั รูว้ า่ จริงๆ แล้ว ฉัน ดูแลตัวเองได้และท�ำอะไรได้หลายอย่างกว่าที่ ฉันคิด - ดีเหมือนกันไม่ตอ้ งเสียแรงไล่เธอออกไป จากชีวติ ฉัน เพราะฉันก�ำลังเบือ่ เธอพอดี - เป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้เจอคนใหม่ๆ ที่ อาจจะแซบกว่าเธอก็เป็นได้ - ปล่อยคนโง่ๆ ไปเถอะ ฉันดีขนาดนี้ยัง จะไม่เอา (ประมาณว่าเรานั้นหน้าตาดี มีฐานะ มีการศึกษาสูง เลือกได้) ก่อนนอน ฝึกยกโทษให้ตวั เอง เพราะไม่มี ทางที่เราจะคิดอะไรถูกเสมอไป ฝึกขอบคุณตัว เองในวันนี้ที่ พาเราไปเจอสิ่งดีๆ อื่นๆ อีกตั้ง หลายอย่าง พร้อมกับนึกถึงสิง่ ดีๆ ทีเ่ จอในวันนี้ (มันต้องมีบา้ งแหละน่า) ขอบคุณสิง่ ทีผ่ า่ นมาใน ชีวิต ถึงแม้จะท�ำให้เราเจ็บปวด เพราะมันช่วย สอนเราว่า สิง่ ทีเ่ ราเคยคิดเคยท�ำไปนัน้ มันไม่ใช่ แล้ว ต้องไปทางอืน่ ไม่งนั้ เราจะต้องเจ็บอีก หมอหวังว่าคุณจะไม่หมดหวังและยัง คงให้คุณค่าในตัวเองได้โดยไม่ต้องรอรับจาก คนอืน่ แต่ถา้ มันเหนือ่ ยมันหนักเกินกว่าจะรับ ไหว จนมีปญ ั หากระทบต่อร่างกาย กระทบต่อ การเรียน การท�ำงานหรือคนใกล้ชดิ สามารถ ขอค�ำปรึกษาจากจิตแพทย์ เพื่อจะช่วยให้ คุณผ่านมันไปได้ง่ายขึ้น และกลับมายืนอย่าง มัน่ คง เป็นคุณคนเดิมอีกครัง้


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๓

๑๒ สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

าก ๒ ตอนแรกทีผ่ มได้ลงบทความเรือ่ ง “ได้อะไรเชิงวิชาการจากฝายมีชีวิต” โดย ดร.ด�ำรง โยธารักษ์ ได้สรุปเป็นประเด็น ต่างๆ ไว้แล้วคือ ๑. ในประเด็ น การพั ฒ นา โดย เปลี่ ย นกระบวนการคิ ด จากการพั ฒ นาที่ เอาเงินน�ำหน้าปัญญา มาเป็นการเริ่มจาก กระบวนการเรียนรูท้ ที่ ำ� ให้เกิดปัญญาก่อน ๒. ในประเด็นของการขุดลอกคลอง ทีเ่ ป็นปัญหา ท�ำให้ได้องค์ความรูท้ จี่ ะสร้าง สมดุลของระบบนิเวศขึน้ ใหม่ ๓. ในประเด็นปริมาณน�้ำที่เก็บได้ และพื้ น ที่ ท� ำ การเกษตร พบว่ า สามารถ รวบรวมมี น�้ ำ ที่ ม องไม่ เ ห็ น มาใช้ ใ นพื้ น ที่ การเกษตรได้อย่างพอเพียง โดยไม่ได้อาศัย การสร้างเขื่อนแบบที่ท�ำกันอยู่ซึ่งมีผลกระ ทบต่อระบบนิเวศ ๔. ในประเด็นเศรษฐกิจ ฝายมีชีวิต เป็นกระบวนการหรือกลยุทธ์ในการสร้าง ความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ก็คอื สภาพการอยูด่ ี กินดีของประชาชน ในฉบั บ นี้ จ ะลงต่ อ ในประเด็ น อื่ น ๆ จนถึ ง บทสรุ ป ที่ ใ ห้ ข ้ อ คิ ด ที่ เ ป็ น แนวทาง สร้างความเป็นบ้านเมืองน่าอยูอ่ ย่างยัง่ ยืน ๕. ในประเด็นนิตศิ าสตร์ เมื่ อ ตั ว ฝายเสร็ จ ได้ น�้ ำ ได้ สั ต ว์ น�้ ำ ได้ต้นไม้สองฝั่งคลองคืนมา ประการต่อ มาที่ ส� ำ คั ญ ไม่ ยิ่ ง หย่ อ นไปกว่ า กั น ก็ คื อ กระบวนการหาข้อตกลงร่วมกันของชุมชน เพื่อรักษาคลองของชุมชน กล่าวคือชาว บ้ า นจะต้ อ งเป็ น ผู ้ อ อกกฎหมายในการ ปกป้อง ดูแลรักษาทรัพยากรของเขาและ เพื่ อ การด� ำ รงชี วิ ต ที่ ทุ ก คนอยู ่ ร ่ ว มกั น ได้ เรียกว่า ธรรมนูญคลอง ตามหลักการแล้ว กฎหมายต้องมาจากวัฒนธรรม (วิถีชีวิต) กระบวนการของฝายมีชีวิตในส่วนของการ จัดกระบวนการให้ชาวบ้านได้ออกกฎหมาย ของชุมชนเอง เป็นกระบวนการทีฝ่ กึ ให้ชาว บ้านได้ออกกฎหมายด้วยตัวเขาเอง เมื่อ ได้เป็นกฎหมายในระดับชุมชน แล้วค่อย ยกระดับเป็นกฎหมายของหมู่บ้าน ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด ผมคิดว่าถ้าใช้กระบวนการ

ร่ า งกฎหมายดั ง กล่ า วแล้ ว ในท้ า ยที่ สุ ด รัฐธรรมนูญของประเทศไทยก็จะมีเพียงไม่กี่ มาตรา ไม่ซบั ซ้อน และเข้าถึงง่าย ๖. ในประเด็นการเมือง (รัฐศาสตร์) ฝายมีชีวิตเป็นเครื่องมือในการเรียน รู ้ ค วามเป็ น พลเมื อ งซึ่ ง เป็ น คุ ณ สมบั ติ พื้ น ฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝายมีชีวิตเป็นกระบวนการฝึกให้เกิดความ เป็นพลเมืองจากการปฏิบัติจริง เรียนรู้จาก การปฏิบัติโดยเริ่มตั้งแต่เรียนรู้เรื่องน�้ำใน คลอง ท�ำไมน�้ำในคลองจึงแห้ง ท�ำไมคลอง จึ ง ตื้ น ต้ น ไม้ ข ้ า งคลองมี ป ระโยชน์ อ ะไร แล้วมันหายไปไหน ท�ำไมถึงหายไป สัตว์ น�้ำในคลองมีอะไรบ้าง ปัจจุบันท�ำไมมันจึง หายไป เป็นต้น โดยใช้หลักการสิทธิและ เสรีภาพ และหลักความเสมอภาค กล่าว คือ ที่ประชุมต้องให้โอกาสทุกคนได้แสดง ความคิ ด เห็ น โดยใช้ ก ติ ก าต้ อ งเขี ย นก่ อ น แล้วพูด (โดยปกติถา้ ปล่อยให้พดู ก่อน ก็จะ ได้พูดเพียงไม่กี่คนโดยเฉพาะคนที่พูดเก่ง) เรียนรู้ว่าเมื่อมีหลายทางเลือก เราจ�ำเป็น ต้องเลือกแนวทางที่จ�ำเป็นโดยผ่านการคิด อย่างรอบด้าน และส�ำคัญที่สุดคือ เมื่อได้ ทางเลือกแล้วต้องไม่เกิดความขัดแย้ง วิธี การที่ชุมชนร่วมกันเรียนรู้คือ การร่วมกัน สร้างตารางวิเคราะห์ทางเลือก โดยการช่วย กันคิดเกณฑ์ในการพิจารณาทางเลือก เช่น เกณฑ์งบประมาณ เกณฑ์ความร่วมมือของ ชุมชน เกณฑ์ความสุขที่ชุมชนจะได้ เกณฑ์ ผลกระทบที่มีต่อชุมชน เกณฑ์ผลกระทบ ต่อระบบนิเวศ เป็นต้น แล้วช่วยกันให้ค่า คะแนนของแต่ละแนวทาง เมือ่ รวมคะแนน ทั้งหมด จะได้แนวทางที่มีคะแนนมากที่สุด เป็ น มติ ข องที่ ป ระชุ ม โดยไม่ เ กิ ด ความขั ด แย้งตามมา (ไม่ใช้การโหวตหรือเอาชนะ ด้วยการยกมือ) วิธีการดังกล่าวเป็นกระ บวนการที่ท�ำให้ผู้เข้าร่วมยอมรับมติแม้จะ มีเหตุผลที่ต่างกัน และเมื่อมีการคิดอย่าง รอบด้านแล้วก็จะเห็นว่าวิธีการไหนที่ดีและ เหมาะสมทีส่ ดุ นับว่าเป็นกระบวนการแก้ไข ความขัดแย้งในกรณีทเี่ หตุผลไม่ตรงกัน เรียนรู้เรื่องการตั้งเป้าหมายและขั้น ตอนในการท�ำให้เป้าหมายส�ำเร็จตามหลัก

นิติธรรมที่เป็นการก�ำหนดกติกา กฎเกณฑ์ การท�ำงาน และการอยู่ร่วมกันเพื่อความ สงบสุขของชุมชน แล้วลงมือท�ำกันเองก่อน ที่เหลือบ่ากว่าแรงค่อยให้คนอื่นเข้ามาช่วย ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในอดีตเรามักจะเห็นว่าเมื่อเหตุผลไม่ ตรงกันก็มักจะแก้โดยการโหวต ผลที่ตาม มาก็คือ ความไม่พอใจของฝ่ายที่แพ้โหวต แม้ว่าจะมีเหตุผลที่ดีกว่า แต่ถ้าใช้วิธีการ ดังกล่าวก็จะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิด จากการโหวตได้ เพราะการโหวตอาจเกิด จากความเกรงใจ ความสนิทส่วนตัว ผล ประโยชน์ทับซ้อน เป็นต้น แต่ถ้าใช้ตาราง วิเคราะห์ทางเลือกซึ่งใช้เกณฑ์ต่างๆ เป็น การพิจารณาแล้วแต่ละคนช่วยกันให้คะแนน และดูคะแนนรวมของแต่ละวิธีการว่าแนวทางไหนได้คะแนนรวมมากที่สุด ตามหลัก การใช้เหตุผลอย่างรอบด้านกล่าวได้ว่า ใน วิถีชีวิตของสังคมประชาธิปไตย ผู้คนต้อง รู้จักรับฟังเหตุผลของผู้อื่นและเมื่อเหตุผล ไม่ตรงกันก็ใช้กระบวนการทีก่ อ่ ให้เกิดความ สมานฉันท์และเป็นมติของเสียงข้างมาก อย่างแท้จริง (มิใช่แค่การยกมือ) ขั้นตอน ทั้งหมดที่กล่าวมา เราเรียกมันว่า กระบวน การท�ำประชาเข้าใจ กล่าวโดยสรุป ประชาเข้าใจ หมายถึง กระบวนการเรียนรูข้ อ้ มูลทุนของชุมชน โดย ชุมชน เรียนรู้จนกระทั่งชุมชนสามารถลุก ขึน้ มาจัดการทุนของเขาได้เอง และสามารถ ก�ำหนดทิศทางของเขาเองได้ อีกทัง้ ยังมีแผน งานการจัดการอย่างเป็นระบบ ที่เหลือบ่า กว่าแรงค่อยขอสนับสนุนจากภายนอก บทส่ ง ท้ า ย(สุ เ มธ)..มุ ม มองจาก บทความนี้ ผมขอแสดงความนั บ ถื อ ต่ อ คณะนี้เป็นอย่างสูง ซึ่งยังมีบุคคลส�ำคัญที่

ไม่ได้เอ่ยนามในการเป็นแกนน�ำมากมาย อีกหลายท่าน ฝายแต่ละตัวต้องใช้ความ พยายามสร้างความเข้าใจและความร่วม มืออย่างจริงจังจึงเกิดขึ้นได้ เท่าที่ทราบได้ ลงมื อ ท� ำ จริ ง ทุ ก ภาคทั่ ว ประเทศเกิ น กว่ า ๒๒๐ ตัวแล้ว (ทราบมาว่าที่เรียกตัวเพราะ มันมีชีวิต) สิ่งที่ผมประทับใจคือการใช้หลัก การให้ผู้คนในชุมชนลงความเห็นพ้องต้อง กันจึงจะลงมือ ซึ่งผมก็เชื่อว่าคงไม่ได้เห็น ด้วยกันทุกแง่มุมหรอกครับ แต่เมื่อเสียง ส่วนใหญ่ยอมรับก็จะให้ความร่วมมือตาม ก� ำ ลั ง ของตน แต่ ล ะฝายไม่ เ พี ย งแต่ เ ป็ น ความส�ำเร็จของชุมชนตนเองเท่านั้น ยังยก คณะไปช่วยคิดช่วยท�ำให้ชุมชนอื่นๆ ที่เพิ่ง เริ่มต้นด้วย สร้างความร่วมมือไม่เลือกว่า จะเป็นชาวบ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น นักเรียน ทหาร และแม้ ก ระทั่ ง พระสงฆ์ ส� ำ หรั บ คนเมือง (คนที่พ�ำนักอยู่ในเมือง) อย่าเพิ่ง ตัดสินว่าเขาไม่สนใจ แต่ตอ้ งให้เขาได้รบั รูถ้ งึ อานิสงส์ทไี่ ด้จากฝายมีชวี ติ และสร้างความ ร่วมมือในหนทางที่เขาพึงจะช่วยได้ เพราะ มีวิถีชีวิตการท�ำมาหากินที่แตกต่างกันไป... นี่เป็นแนวทางหนึ่งที่จะสร้างประชาธิปไตย ที่มาจากฝายมีชีวิต แนวคิดนี้สามารถน�ำไป ประยุกต์ใช้ในด้านอื่น ๆ ได้แม้กระทั่งเรื่อง การเมืองซึง่ ไม่มใี ครจะบังคับใครให้เชือ่ หรือ ให้ท�ำตามได้ แม้กระทั่งโครงการที่เป็นของ รั ฐ อั น อาจจะมี ผ ลกระทบต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม หรือส่วนรวมก็น่าจะต้องสร้างความเข้าใจ และการยอมรับของประชาคมก่อน ซึ่งเป็น หลักเบื้องต้นของประชาธิปไตยจึงจะลงมือ ท�ำ... ผมอยากเห็นประชาธิปไตยแนวนีค้ รับ หมายเหตุ ทราบว่าก�ำลังมีการจัดพิมพ์ หนังสือคูม่ อื “ฝายมีชวี ติ ” ทีม่ รี ายละเอียดทุก ขัน้ ตอน คงต้องหาอ่านกันเองนะครับ


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๔

ทานตะวัน เขียวน�้ำชุม (ครูแจง) ห้องเรียนธรรมชาติบ้านลมฝน

ในความเป็นจริงที่ตามักมองไม่เห็น หาดแต่ละหาดมีชีวิตชีวามากกว่านั้น แต่ ถ้าเราสังเกตดูดีๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดทราย หาดหิน หรือหาดเลน ต่างเป็นบ้านและ โรงอาหารของสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิด สัตว์ใหญ่น้อย กระทั่งพืชที่อาศัยอยู่ริมหาด ต้องสุดยอดอดทน สัตว์บางตัวอยู่ในแนว

ายหาดที่ดีควรมีทรายขาวดูสะอาด ตา…จริงไหม ? หาดทรายเป็ น พื้ น ที่ ค ล้ า ยทะเล ทรายจึ ง ไม่ ค ่ อ ยมี สั ต ว์ อ าศั ย อยู ่ … เป็ น อย่างนั้นหรือเปล่า ? คนทั่วไปมักคิดอย่างนั้น แต่ที่จริง แล้ว…ไม่ใช่สักหน่อย เมื่ อ พู ด ถึ ง หาด คนมั ก คิ ด ถึ ง แต่ หาดทรายขาวทอดยาวสะอาดตา เหมาะ แก่การพักผ่อนในวันหยุด แต่ความจริง หาดมี ห ลายแบบ หาดทราย หาดเลน หาดหิน ต่างมีศักดิ์ศรีนับเป็นหาดที่ดีได้ เท่าเทียมกัน ทุ ก วั น นี้ หาดทรายมี ค ่ า แค่ เ ป็ น สถานที่ท่องเที่ยว หาดเลนกลายเป็นที่ เฉอะแฉะเปรอะเปื้อนไม่มีประโยชน์ คิด แต่ ว ่ า มี ไ ว้ เ พื่ อ พั ฒ นาเป็ น เขตอุ ต สาหกรรม ส่วนแนวโขดหินชายฝั่งทะเล ดู เหมื อ นเป็ น หิ น โสโครกที่ เ กะกะและ อันตราย << ต่อจากหน้า ๔

จึงเรียกว่า ท่ามอญ เมื่อสร้างวัดก็เรียก วัดท่ามอญ เล่าความก่อนเกิดก็ล�ำบาก อย่างนี้แหละ การขึ้นทะเบียนเป็นวัดท่ามอญใน สมัยหลังก็เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๘ ก็ล่วงเลยมา ๑๖๐ กว่าปีแล้ว เพิ่งมาเปลี่ยนเป็น 'วัด ศรี ท วี ' ในภายหลั ง โดย ท่ า นเจ้ า คุ ณ พั ฒ น์ ท่ า นตั้ ง ชื่ อ เช่ น นั้ น เพราะวั ด นี้ มี พระที่มาเป็นเจ้าอาวาส มีสมณศักดิ์ว่า 'ศรีสุธรรมทัต ทั้ง ๒ รูปติดต่อกัน ค�ำว่า ทวิหรือทวี แปลว่า ๒ ก็เลยเรียกพระศรี ทั้งสองว่า ศรีทวิ หรือ ศรีทวี เพราะดูดี แต่ชื่อเดิม วัดท่ามอญ ก็บอกเรื่องราว ประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปได้ดีเหมือนกัน ใกล้ๆ วัดท่ามอญไปทางทิศตะวัน

ตก สมัยก่อนมีสะพานยาวมากอยู่สะพาน หนึ่ง ซึ่งพ่อท่านย่อง หรือพระครูกาชาด ย่อง เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก (ผู้สร้างกุฏิ โบราณ ๓ หลัง เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑) พระนั ก พั ฒ นาท่ า นหนึ่ ง ได้ ชั ก ชวน ชาวบ้านสร้างเพื่อแก้ปัญหาการสัญจรของ ชาวบ้านในฤดูน�้ำหลาก ซึ่งน�้ำจะท่วมทุ่ง บริเวณนั้น (ทุ่งปรัง) เป็นทะเลสาบอยู่นาน นับเดือน ภายหลังมีการสร้างสถานีรถไฟ เข้ามา ทางรถไฟจะมาสิ้นสุดที่วัดท่ามอญ นี้เอง จนมีค�ำกล่าวว่า ทางรถไฟจากกรุงเทพฯ มาสิ้นสุดที่กุฏิ ท่านจุฬ พ่อท่านจุฬ เป็นพระอาวุโสวัดศรีทวี ที่ มี เ รื่ อ งเล่ า สนุ ก สนานมากมาย โด่ ง ดั ง เรื่ อ งส� ำ นวนภาษาอั ง กฤษที่ ท ่ า นสอนลู ก ศิษย์ลูกหาซึ่งเป็นศิษย์วัดถึง ๔๐-๕๐ คน

เมื่ อ มี ก ารขุ ด คลองลั ด จากคลอง พรหมโลกเข้ามาคลองท่าวังอีกคลองหนึ่ง ชาวพรหมคี รี พรหมโลก นอกท่ า บ้ า น เกาะ หลวงครู น�้ำแคบ มาตามคลองนอก ท่าขึ้นมาท�ำมาค้าขายสินค้าเช่นผลไม้ได้ สะดวกขึ้น ท่าวังท่ามอญจึงมีความเจริญ ทางการค้าจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เกร็ ด เรื่ อ งเล็ ก ๆ อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง คื อ โรงเรียนสตรีประจ�ำจังหวัดซึ่งแยกมาจาก

น�้ำขึ้นน�้ำลง น�้ำขึ้นตัวก็เปียก พอน�้ำลด ตัวแห้ง แถมต้องตากแดดไปทั้งวัน หลาย ชนิดที่ทนเปียกทนตากแห้งไม่ไหว ก็มัก เลือกอาศัยตรงน�้ำท่วมนาน ส่วนพืชต้อง รับมือกับลมแรง ละอองเกลือ แดดจ้า มี น�้ำจืดและแร่ธาตุน้อย เรียกว่าพืชที่ขึ้น ชายหาดต้องเป็นสุดยอดนักปรับตัวให้อยู่ ในสภาพแวดล้อม รุนแรง ไม่ใช่แค่นั้น หาดยังมีซากที่ถูกคลื่น ซัดขึ้นมาเกยเป็นแนวยาว อาจเป็นซาก พืช สัตว์ หรือขยะ ซึ่งบอกร่องรอยของ หาดหรือทะเลแห่งนั้นได้ไม่น้อย “นักสืบชายหาด” จึงเป็นผู้ส�ำรวจ ปริศนาและความเป็นไปในหาดท้องถิ่น นักสืบชายหาดที่หมั่นเก็บข้อมูลและเฝ้า ระวั ง หาดในท้ อ งถิ่ น ยั ง สามารถบอกให้ สังคมได้รู้ด้วยว่าควรจะจัดการและดูแล พื้นที่ชายหาดอย่างไร ห้ อ งเรี ย นธรรมชาติ บ ้ า นลมฝนจึ ง ชวนเด็ ก ๆ ออกไปเป็ น นั ก สื บ ชายหาด กัน ห้องเรียนของเราครั้งนี้กว้างใหญ่ใน ทะเล ชายหาด และป่าชายเลน...เราจะ ไปดูโลมาสีชมพู เรียนรู้นิเวศป่าชายหาด ที่ ช ายหาดขนอม แล้ ว ไปดู น ก เพาะ กล้า ปลูกป่าชายเลน และเรียนรู้วิถีชีวิต หมู ่ บ ้ า นประมงมุ ส ลิ ม ที่ บ ้ า นแหลมโฮม สเตย์กันค่ะ ๓ วัน ๒ คืน ในวันที่ ๒-๔ กันยายน ๒๕๕๙ เป็นช่วงที่ทะเลอ่าวไทย สงบสบาย ใครสนใจสอบถามมาได้ที่ครูแจง ๐๘๑ ๘๒๔ ๘๘๘๐ e-mail : jangtawan@gmail.com หรื อ ดู ร ายละเอี ย ดได้ ใ นเฟสบุ ๊ ค ที่ https://www.facebook.com/ events/1040225109366342/ โรงเรียนสุขุมาภิบาล (วัดท่าโพธิ์) มาตั้ง ที่ นี่ ส่ ว นโรงเรี ย นประจ� ำ จั ง หวั ด ก็ คื อ เบญจมราชู ทิ ศ โรงเรี ย นสตรี ป ระจ� ำ จังหวัดสมัยที่อยู่วัดศรีทวีเรียนอยู่ในโรง เรือนใต้ร่มจัน ปัจจุบันโรงเรียนนี้ย้ายไป อยู่ที่ตั้งพลับพลาหน้าเมือง ชื่อ โรงเรียน กั ล ยาณี ศ รี ธ รรมราช ยั ง ถื อ เอาร่ ม จั น เป็นร่มเงาเหมือนเดิม วั ด ศรี ท วี ไ ด้ ค นข้ า งวั ด อย่ า ง หมอ บัญชาและอาจารย์บัณฑิตสองแรงใหญ่ จนเป็ น วั ด บั น ดาลใจ เป็ น วั ด ที่ ส งบ ร่มรื่น มีการสร้างสวนธรรมชาติขึ้น มีจิต อาสาหนุ ่ ม สาวเข้ า มาจั ด กิ จ กรรมเป็ น ประจ�ำ เป็นที่เรียนรู้ของเยาวชนใช้เป็นที่ ศึ ก ษาปฏิ บั ติ ธ รรมกั น จริ ง จั ง สั ง คมได้ ใช้สอยวัดอย่างเต็มที่ เป็นตัวอย่างอีกวัด หนึ่ ง ที่ น ่ า สนั บ สนุ น น่ า อนุ โ มทนาเป็ น อย่างดี เครดิตรูป www.sptcenter.org


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๕ หล่อเย็นจะถูกบ�ำบัดโดยการเติมอากาศ เพิ่มค่าออกซิเจน ปรับสภาพน�้ำให้เป็น กลางและท�ำให้ตกตะกอนแล้วรีดน�้ำออก จากตะกอนด้วยเครือ่ งรีดตะกอน จากนัน้ จะถูกระบายสู่บ่อพักน�้ำแรก ๓ วัน เพื่อ ลดอุณหภูมิและลดตะกอนอีก จากนั้น จะถู ก สู บ ไปยั ง บ่ อ พั ก น�้ ำ ที่ ส องเพื่ อ เติ ม อากาศเพิ่มค่าออกซิเจน ลดอุณหภูมิและ ตกตะกอนอี ก ครั้ ง โดยจะอยู ่ ที่ บ ่ อ พั ก นี้ ๖ วัน ดังนั้นน�้ำจะเป็นปกติก่อนระบาย ออกไม่ ไ ด้ เ ป็ น น�้ ำ ร้ อ น และแทบจะไม่ เปลีย่ นแปลงจากน�ำ้ ก่อนสูบเข้าเลย

อาจารย์แก้ว (ตอนที่ 3 ต่อจากฉบับทีแ่ ล้ว)

นปัจจุบันที่ประเทศไทยก�ำลังมีปัญหา ต้ น ทุ น การน� ำ เข้ า เชื้ อ เพลิ ง ฟอสซิ ล เป็นจ�ำนวนเงินสูงในแต่ละปี การใช้ชีวมวลเพื่ อ ผลิ ต ไฟฟ้ า เป็ น ทางเลื อ กที่ น ่ า สนใจอย่างมาก นอกจากประโยชน์ที่เห็น ได้อย่างชัดเจนในแง่ของการลดต้นทุน การน�ำเข้า และการจัดการกับเศษวัสดุ ทางการเกษตร รวมทั้ ง การเกิ ด งานใน ท้องถิ่นดังที่ได้กล่าวข้างต้น ในแง่ของผล กระทบทางสิ่งแวดล้อม นับว่า การผลิต ไฟฟ้าจากชีวมวล เป็นทางเลือกที่เหมาะ สมและได้ รั บ ความสนใจอย่ า งยิ่ ง ทั้ ง นี้ โดยผ่านการศึกษาและติดตามเทคโนโลยี ใหม่ๆ ทีม่ ปี ระสิทธิภาพอยูเ่ สมอ หากมอง ในด้านของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วย จากเชื้อเพลิงฟอสซิลยังมีราคาแพง แต่ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปริมาณมาก เมื่อคิดต้นทุนต่อหน่วยจึงนับว่า การผลิต ไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงชนิดนี้ยังคงถูกอยู่พอ สมควรเพราะเป็นการใช้เชื้อเพลิงอย่างมี ประสิทธิภาพ ในขณะที่เมื่อเทียบกับชีว มวล ต้องยอมรับว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้า จากชีวมวลยังค่อนข้างสูง แต่ขอ้ ได้เปรียบ ของไฟฟ้าชีวมวลในด้านของราคานี้ก็คือ ไม่เสียเงินตราต่างประเทศ จะไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางไกล ผลิตและ ใช้ได้ในพื้นที่ และตั้งได้ตามจุดต่างๆ ที่ เป็นแหล่งผลิตเชือ้ เพลิงเหล่านัน้ โรงไฟฟ้ า ชี ว มวลกั บ สิ่ ง แวดล้ อ ม ตามที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า ชีวมวลเป็น พลังงานที่เมื่อมีการน�ำไปใช้งานจะไม่เพิ่ม ปริมาณสุทธิของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในชัน้ บรรยากาศ เชือ้ เพลิงเหล่านีส้ ามารถ เกิ ด ทดแทนใหม่ ไ ด้ ต ลอดเวลาท� ำ ให้ มี ความมั่นคงของแหล่งพลังงานไม่เหมือน เชือ้ เพลิงฟอสซิลทีจ่ ะหมดไปตามการใช้ โครงการโรงไฟฟ้าห้วยยอด จังหวัด ตรัง เป็นตัวอย่างของโรงไฟฟ้าพลังงาน ชี ว มวลที่ ป ระสบความส� ำ เร็ จ ที่ นี่ เ ป็ น โรงงานไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้เศษไม้ยางพารา และกะลาปาล์มเป็นเชือ้ เพลิง ผลิตกระแส ไฟฟ้าเพื่อขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย เป็นตัวอย่างหนึ่งของโรง ไฟฟ้าชีวมวลที่มุ่งเน้นระบบการจัดการ

อนาคตของโรงไฟฟ้าชีวมวล

คุณภาพอากาศและน�ำ้ เพือ่ ไม่ให้เกิดปัญหา สิ่งแวดล้อมก่อนหน้านั้นมีการก�ำจัดกะลา ปาล์มและเศษไม้ยางพาราด้วยการเผาโดย ไม่มีการควบคุมที่ได้มาตรฐานท�ำให้เกิด ควันเมื่อน�ำวัสดุทั้งสองมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ในระบบการเผาไหม้ที่เหมาะสมในขั้นต้น จึ ง ก� ำ จั ด ปั ญ หานี้ ไ ปได้ ทั น ที สิ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น จากโรงไฟฟ้าคือ ขีเ้ ถ้า และฝุน่ รวมทัง้ ก๊าซ ต่าง ๆ ซึง่ ทัง้ หมดนีอ้ าจสร้างความกังวลแก่ ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่โรงไฟฟ้า แต่ ด้วยการศึกษาอย่างเป็นระบบ โครงการโรง ไฟฟ้าห้วยยอดได้ก�ำหนดที่จะมีการจัดการ กับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชน ข้างเคียง โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีระบบ บ�ำบัดทีส่ ำ� คัญดังนี้

มาใกล้แผ่นเหล็กที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูง ขั้วลบ จะถูกสนามไฟฟ้าเหนี่ยวน�ำฝุ่นให้มี ขั้วไฟฟ้าเป็นลบ จากนั้นฝุ่นที่มีขั้วลบลอย เข้าใกล้แผ่นเหล็กขั้วไฟฟ้าถัดไป มันจะ ถูกสนามไฟฟ้าซึ่งมีขั้วเดียวกันผลักให้ลอย ห่างไปจากสนามไฟฟ้านั้น เลี้ยวเบี่ยงเบน ทิศทางไปยังแผ่นเหล็กดูดฝุ่นขั้วบวก ขั้ว ต่างกันจะดูดกัน จึงถูกดูดให้เข้าไปติดแผ่น เหล็กนัน้ เมือ่ ฝุน่ จับหนามากพอแล้ว ค้อน จะเคาะแผ่นเหล็กทีจ่ บั รวมตัวกันหนาหล่น ลงสู่กรวยเก็บฝุ่นด้านล่างด้วยระบบการ จัดการกับเถ้าและฝุ่นจึงท�ำให้แทบจะไม่ เกิดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในพื้นที่ เลย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงไฟฟ้าชีว มวลจะไม่ท�ำให้เกิดฝนกรด เนื่องจากเชื้อ เพลิงเศษไม้ทใี่ ช้ มีปริมาณก�ำมะถันต�ำ่ มาก

การก�ำจัดเถ้า ใช้เครื่องดักเถ้า

การจัดการน�้ำ

เครื่องดักเถ้าลอยระบบลมหมุนวน เพื่ อ ดั ก เถ้ า ที่ อ อกมาจากกระบวนการ ท�ำงานโดยใช้หลักการของแรงเหวี่ยงหนี ศูนย์ คือ เมือ่ ก๊าซร้อนและเถ้าลอยจากการ เผาไหม้ไหลเข้าสู่เครื่องดักเถ้าลอยนี้ ก๊าซ จะถู ก บั ง คั บ ให้ ห มุ น วน เมื่ อ ไหลผ่ า นใบ บังคับลม เถ้าลอยซึ่งมีน�้ำหนักมากจะถูก เหวี่ยงออกไปอยู่ตามขอบของลมวนและ รวมตัวกันตกลงสูด่ า้ นล่าง ในขณะทีอ่ ากาศ ร้อนจะถูกพัดลมดูดสวนกลับขึ้นด้านบน ท�ำให้ก๊าซที่ลอยออกมา มีปริมาณเถ้าลอย ลดน้อยลง เป็นก๊าซร้อนทีส่ ะอาดขึน้

ส่วนน�้ำที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้า นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นน�้ำคุณภาพเดียว กับที่สูบเข้าไปใช้ เพราะโรงไฟฟ้าชีวมวล ใช้น�้ำส�ำหรับระบบหล่อเย็นเท่านัน้ ซึง่ เป็น ระบบหมุนเวียนแบบปิดเพื่อประหยัดน�้ำ นั่นคือ เมื่อน�้ำรับความร้อนจากเครื่องจักร แล้ว จะมีความร้อนประมาณ ๔๒ องศา เซลเซียส แล้วถูกส่งมายังหอหล่อเย็น โดย ฉีดให้กระจายเป็นหยดเล็กๆ ตกลงมาสวน กั บลมที่ ถู ก พั ด ลมดู ด อากาศดู ด ขึ้ น ความ ร้อนจะระบายไปกับลม เมื่อน�้ำตกลงสู่บ่อ ด้านล่างจะร้อนไม่เกิน ๓๔ องศาเซลเซียส น�้ ำ เย็ น จากบ่ อ น�้ ำ หอหล่ อ เย็ น จะถู ก สู บ การก�ำจัดฝุ่น ไประบายความร้ อ นจากเครื่ อ งจั ก รอี ก หมุนเวียนอยูเ่ ช่นนีต้ ลอดเวลา เช่นเดียวกับ โดยเครื่องดักฝุ่นระบบไฟฟ้าสถิตย์ มีหลักการท�ำงาน คือ เมือ่ ฝุน่ ลอยเข้า หม้อน�ำ้ ในรถยนต์ น�ำ้ ทีร่ ะบายออกจากหอ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้พอจะสรุป ได้ว่าแนวโน้มการใช้พลังงานชีวมวลยังมี อนาคตที่สดใสและจะถูกน�ำมาใช้ส�ำหรับ โรงไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อทดแทนพลังงาน ฟอสซิลซึ่งต้องน�ำเข้าและนับวันพลังงาน ฟอสซิลก็จะยิ่งราคาแพงหายากและหมด ไปในที่สุด นอกจากนี้เนื่องจากชีวมวล ยังมีข้อดีในด้านของสิ่งแวดล้อมไม่เพิ่ม ปริมาณสุทธิของคาร์บอนไดออกไซด์ใน บรรยากาศจึ ง ไม่ ท� ำ ให้ เ กิ ด ภาวะเรื อ น กระจกตลอดจนมีปริมาณก�ำมะถันต�่ำ มี แหล่งผลิตมากมายในประเทศสามารถ เกิดหมุนเวียนได้ตลอดทัง้ ปี อย่ า งไรก็ ต ามปั ญ หาจากการใช้ พลั ง งานชี ว มวลก็ ยั ง พอจะเห็ น ได้ นั่ น คือ ต้นทุนการก่อสร้างระบบยังมีราคา สูง เมื่อเทียบกับไฟฟ้าที่ได้จากเชื้อเพลิง ฟอสซิ ล ชี ว มวลมี ป ริ ม าณไม่ แ น่ น อน แม้ว่าจะมีตลอดทั้งปีแต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพ ดิ น ฟ้ า อากาศบางครั้ ง แม้ จ ะมี ม ากแต่ ก็ ต้องรวบรวมจากหลายที่เพื่อน�ำมาป้อน โรงไฟฟ้า จึงเท่ากับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการ ขนส่งชีวมวลด้วยท�ำให้ต้นทุนการผลิต ไฟฟ้าต่อหน่วยในปัจจุบันยังสูงกว่าไฟฟ้า จากเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งนี้หน่วยงานของ รั ฐ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ ศึ ก ษาวิ จั ย และพั ฒ นา เทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง ชี ว มวล เพื่ อ ชั ก จู ง ให้ เ กิ ด การสร้ า งโรง ไฟฟ้ า ชี ว มวลให้ ม ากขึ้ น ในอนาคต ถื อ เป็ น การวางแนวทางเลื อ กของการใช้ พลังงานของประเทศในอนาคตในรูปแบบ หนึ่ง เพราะโดยรวมแล้ว ถือว่า ชีวมวล เป็ น ทางเลื อ กของเชื้ อ เพลิ ง ที่ มี อ นาคต ยาวไกล ด้วยความปรารถนาดี อาจารย์แก้ว


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๖

Tarzanboy

สียงฝนกระทบใบไม้ เสียงนั้นกราวไปทั้ง ราวป่า เสียงสูงต�่ำ แรง และเบาไปตาม แรงลมไหว ไม่นานนัก ...เสียงซาและเงียบ ลงเหลือเพียงหยดน�้ำกระซิบ ทว่า เสียง เพี ย งไม่ กี่ ห ยดนี้ เ องที่ สั่ น ไหวโสต ที ล ะ หยด...ทีละหยด เมื่อน�้ำหล่นจากฟ้าสูงนั้น ใจหนึ่งอยากเอ่ยถามถึงปริมาณที่มีอยู่ มัน มากมายแค่ไหน จะหยดกระทบใบไม้นี้อีก นานแค่ไหน แล้วอีกนับร้อยหยดที่กระซิบ ในราวไพรนั้นเล่า จะเงียบสงัดลงเมื่อใด สายฝนทีก่ ระหน�ำ่ พรู เราอาจจะไม่สามารถ จ�ำแนกขนาด หรือปริมาณแต่ละหยดได้ ของหยดน�้ำ ดังราวกับงานซ้อมเต้นร�ำเข้า คงแตกกระจาย อีกหลายหยดหล่นบนใบ หากแต่ในคืนที่กายล้าใจตื่นนี้ ทุกสัมผัส จังหวะ หลายหยดกระทบลงบนหิน และ เฟิร์นป่า และหยดร่วงกราวผ่านใบไม้อีก หลายใบ อีกหลายๆ ใบ... ปริมาณน�้ำฝนที่ค้างบนฟ้าในค�ำถาม นั้ น อาจจะไม่ ใ ช่ ส าระส� ำ คั ญ ของค�่ ำ คื น เดือนมืด หากแต่เวลาทุกนาทีที่ผ่านไปนี้ ...เที่ยงตรง และเท่าเดิม หนึ่งนาทีเท่ากับ หนึ่งนาที และหนึ่งชั่วโมงที่แสนนานเนิ่น ยังคงเท่าหนึ่งชั่วโมงของเมื่อวันวาน เวลา ไม่เคยเพิม่ หรือหดหายในปริมาณ ไม่วา่ สาย ฝนจะกระหน�ำ่ หนักสักเท่าได แต่เวลายังคง รักษาปริมาณในตัวเองได้อย่างไม่หวั่นไหว รายรอบราวป่า อีกนับร้อยนับพันสรรพ เสียง แม้จะรวมหลากหยดน�้ ำที่พร่างพรู นี้ ก็ยังคงมีสรรพสัตว์ขยับไหวกาย จิ้งหรีด

ไพรกรีดร้องรับ เรไรกังวาน เจ้านกระวัง ไพรส่งส�ำเนียงในล�ำคอ ...แม้ปลาล�ำธารใน ดงดิบ ก็ยังตื่นมากระโดดงับเหยื่อ ...โลก ไหวกาย และไหวอยู่ทุกนาที และเฉกเช่น กัน ไม่ใช่ปริมาณสิ่งใดจะเอาชนะมากน้อย ในการเคลื่ อ นไหวนี้ เพราะเวลา ยั ง คง จัดการทุกอย่างแบบเสร็จสรรพ หนึ่งนาที ยังคงเท่ากับหนึ่งนาที หนึ่งฤดูกาล ก็ยังคง เท่าหนึ่งฤดูกาล ไม่ว่าเราจะแข่งขันหรือ กอบโกยสิง่ ใดไป เราก็แค่นำ� ไปทิง้ ซากเหล่า นัน้ ไว้ ณ ห้วงเวลาใดเวลาหนึง่ เท่านัน้ บนเปลเดีย่ ว...ในป่า ใต้รม่ ไม้ใหญ่ ใน คืนทีด่ าวกระจ่างหลังพายุ สรรพสิง่ เคลือ่ นไหวเกินจดจ�ำ หากทว่า ...เวลาทัง้ หมด ผ่าน ไปเพียงคืนหนึง่ เท่านัน้ !


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

นพ.รังสิต ทองสมัคร์

หน้า ๑๗


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๘

ากพนั ง กลั บ มามี ชี วิ ต ชี ว าอย่ า งน่ า แปลกใจ มีผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยว มากมาย อาจเกิดจากความร่วมมือร่วมใจ ของกินของดียงั ได้รบั การรักษา ขนมจีนเจ้า เก่า ขนมเจ้าเก่าที่อร่อยถูกปากมาช้านาน อาหารทะเลสดๆ ตลาดโบราณกลายเป็น แหล่งดึงดูดใจผู้คนจากต่างจังหวัด และ ต่างอ�ำเภอ ขับรถยนต์ไปเยือนไม่ขาดสาย นี่ยังไม่พูดถึงคอนโดนกนางแอ่นหรือแม่น�้ำ ทีเ่ ป็นเสน่ห์ ไป 'เมืองนัง' เที่ยวล่า ไปชื่นชมพิธี งานมอบทุ น การศึ ก ษาของชมรมชาว ปากพนัง (กรุงเทพฯ) ที่ยกขบวนมามอบ ทุนแก่นักเรียนโรงเรียนในอ�ำเภอปากพนัง ล้านกว่าบาททีโ่ รงเรียนปากพนัง ขอชืน่ ชม ลู ก หลานชาวปากพนั ง อาวุ โ สที่ ป ระสบ ความส�ำเร็จกลับมาทดแทนคุณบ้านเกิด

เสร็จงานก็ชวนกันไปกินข้าวเที่ยง ร้านอาหารอร่อยๆ มีหลายแห่ง แต่เลือก 'บ้านชายคลอง' ที่รีโนเวทอย่างงดงาม ดู สว่างและสดใสให้เพลิดเพลินวิถชี วี ติ แม่นำ�้ เดิ น เข้ า ซอยแยกจากถนนพานิ ช สัมพันธ์ ถนนสายเก่าแก่เลียบแม่น�้ำ พบ ภาพเขียนสีสดใสบนฝาเรือนบอกเล่าวิถี ชีวิตของชาวปากพนัง เขียนไว้ให้เป็นจุด 'เช็คอิน' หรือเซลฟีต่ ามสมัยนิยม ร้านอาหารกว้างใหญ่ของอดีตนายก เทศมนตรีชยั ณรงค์ สวัสดีนฤนาท มี คุณ

ย�ำไข่ปลากระบอก

ปลาก๋วยเตี๋ยว

แกงคั่วไข่ปู

หมี่ผัดเมืองนัง

สายวรุณ สวัสดีนฤนาท ผู้ดูแลการบริการ เราเลื อ กโต๊ ะ ที่ ม องเห็ น ภู มิ ทั ศ น์ ส องฝั ่ ง ชัดเจน สั่งอาหารแนะน�ำ 'หม่ีผัดเมืองนัง, ปลาก๋วยเตี๋ยว, ย�ำไข่ปลากระบอก, แกงคั่ว ไข่ ปู และอื่นๆ อีกสองอย่าง อย่าห่วงว่า อาหารจ�ำกัด รายการอาหารในเมนูมีหลาย สิบรายการ โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น ปลา ส�ำลีทอดย�ำมะม่วง, พล่าหอยแมลงภู,่ ปูทะเล ผัดผงกะหรี่, แกงส้มปูไข่, หอยแมลงภู่อบ หม้อดิน เป็นต้น ไป 'เมืองนัง' ต้องสัง่ ผัดหมีม่ าลอง เส้น หมี่ผัดกับน�้ำแกงสูตรเฉพาะรสหอมหวานมี รสเผ็ดลิน้ พอรับรู้ มีเครือ่ งเคียงจานใหญ่เป็น ผักนานาชนิด และพริกขีห้ นูดอกยาวให้เคีย้ ว ตาม ถูกใจคนชอบผัก แม่ครัวปรุงมาชาม ใหญ่ อนุญาตให้น�ำกลับบ้านได้ ย�ำไข่ปลา

กระบอกเลือกฝักโตๆ รสเค็มอมเปรี้ยว ไม่ เค็มจัด ปรุงด้วยน�ำ้ ส้มจาก ถือเป็นกับแกล้ม ทีท่ ำ� ให้เหล้าเบียร์หวานรืน่ คอ ยอมรับว่าไม่เคยชิมปลาก๋วยเตี๋ยวมา ก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กิน ปรุงจากเนื้อ ปลากะพงทอด ซอสปรุงคล้ายๆ ราดหน้า รสออกหวาน รองก้นด้วยก๋วยเตีย๋ วเส้นใหญ่ ผัดไข่ อร่อยและน่าลอง แกงคัว่ ไข่ปู เครือ่ ง แกงคั่วเข้มข้น แกงกับไข่ปูม้าใส่ใบชะพลู โรยใบมะกรูดหัน่ ซอย รสเผ็ดพอดีๆ ชวนให้ อยากกินข้าว ถามคุณสายวรุณว่าท�ำไมไม่ใช้ ปูดำ� เธอบอกว่าไข่ปดู ำ� แพงมาก เอามาปรุง อาหารจะแพงไปเปล่าๆ ไข่ปูม้าปากพนัง หัวไทรก็อร่อยดีอยูแ่ ล้ว บ้ า นชายคลองมี เ รื อ ล่ อ งปากอ่ า ว บริการ เช่าไปเป็นกลุม่ ๔๐ คน จัดอาหาร ขึ้นเรือล่องแม่น�้ำชมทิวทัศน์ ชมคอนโดนก บนฝั่งทาสีสดๆ ก็เพลินตาเพลินใจ ค่าเช่า เรือ ๒ ชัว่ โมง ๔,๕๐๐ บาท ชัน้ บนของร้าน เป็นห้องพักไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว มี ๑๕ ห้อง ราคา ๖๐๐-๘๐๐ บาทต่อคืน นึกถึงปากพนัง นึกถึงบ้านชายคลอง ทุกอย่างพร้อมต้อนรับ โทร. ๐๗๕-๓๓๓๘๓๑, ๐๘๑-๙๕๖-๖๐๐๗


ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

หน้า ๑๙


หน้า ๒๐

ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.