1
เมืองนองต์ส แคว้นบริตตานี ค.ศ. 1489 ข้ามิได้มาถึงอารามแห่งเซนต์มอร์เทนเยี่ยงไก่อ่อนสอนขัน กว่าจะถูกส่งไปที่นั่น ยอดสังหารของข้าก็ปาเข้าไปสามศพแล้ว ทั้งยังผ่านมือชายมาถึงสองคน แต่ถึง กระนัน้ ก็ยงั มีสงิ่ ทีพ่ วกเขาสอนข้าได้ ศาสตร์แห่งยาพิษของซิสเตอร์เซราฟีนา วิธี ใช้ดาบของซิสเตอร์โธมีน และต�ำแหน่งทีเ่ หมาะสมต่อการลงมือทีส่ ดุ ของซิสเตอร์ อาร์เนตต์ ผู้แจกแจงจุดอ่อนบนตัวบุรุษราวกับนักดาราศาสตร์ระบุต�ำแหน่งของ ดวงดาว หากเพียงพวกเขาสอนให้ข้าทนมองผู้บริสุทธิ์ต้องวายชนม์ได้ดีเท่ากับ ที่สอนให้สังหารคน ข้าก็คงรับมือกับฝันร้ายที่ถูกผลักไสให้ต้องเผชิญได้ดีกว่านี้ ข้าหยุดอยู่เชิงบันไดวนเพื่อดูว่ามีใครมองอยู่หรือไม่ หญิงท�ำความ สะอาดก�ำลังขัดห้องโถงหินอ่อน เด็กรับใช้ยืนหลับอยู่ข้างประตู คนใดคนหนึ่ง อาจเป็นสายลับก็ได้ ต่อให้ไม่ได้ถูกส่งมาจับตาดูข้าโดยตรง ก็ย่อมมีคนที่ยินดี ปากโป้งเพื่อให้ได้ประโยชน์ตอบแทนสักกระผีกเสมอ ความระแวดระวังเป็นฝ่ายชนะ ข้าตัดสินใจขึน้ บันไดทิศใต้แล้วย้อนกลับ ลงไปชั้นล่างก่อนค่อยขึ้นสู่หอคอยทิศเหนือจากอีกฝั่ง ข้าจงใจย�่ำแต่บริเวณที่ หญิงรับใช้เพิ่งท�ำความสะอาดหมาดๆ และได้ยินเสียงนางสบถพึมพ�ำ ดีแล้ว ทีนี้
1
His
Fair Assassin
Dark
Triumph
ลิ ข ิ ต สั ง หาร ยอดหญิ ง มื อ สั ง หาร เล่ ม 2
Robin LaFevers ลมตะวัน แปล
เ ขี ย น
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ก็มั่นใจได้ว่านางเห็นข้าและจะไม่ลืมแน่หากมีใครซักถาม ชัน้ ล่างนีเ้ หลือคนรับใช้อยูไ่ ม่มากนัก ผูท้ ไี่ ม่ได้ถกู เฉดหัวล้วนง่วนอยูก่ บั งานของตน หรือหลบหายไปอย่างหนูที่รู้รักษาตัวรอด ปีกตึกทิศเหนือโล่งร้างเมื่อข้าไปถึง ข้าเร่งฝีเท้าไปยังหอคอยทิศเหนือ ทว่ามัวแต่เหลียวมองด้านหลังจนเกือบสะดุดร่างเล็กๆ ที่เชิงบันได ข้ากลั้นเสียงสบถด้วยความหงุดหงิดไว้แล้วก้มลงถลึงตามอง ร่างนั้น เป็นของเด็กน้อย เป็นเด็กหญิงเยาว์วัย “เจ้ามาท�ำอะไรที่นี่” ข้าตวาด เพียง เท่านี้ประสาทข้าก็ใกล้ขาดผึงแล้ว และเหตุกังวลใหม่นี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด “แม่ของเจ้าอยู่ที่ใด” เด็กหญิงช้อนตาสีมว่ งวาววามขึน้ มองและความกลัวก็พงุ่ เข้าจับขัว้ หัวใจ ข้า ไม่มีใครคิดเตือนนางเลยหรือว่าการเตร็ดเตร่อยู่ในปราสาทแห่งนี้ตามล�ำพัง เป็นอันตรายต่อเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเพียงใด ข้าอยากจะเอื้อมไปเขย่าตัวนาง เขย่ามารดานาง และตะคอกให้ส�ำนึกว่านางไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่บนบันไดนี้ เมื่อ อยู่ในปราสาทนี้ แต่กลับบังคับให้ตัวเองสูดลมหายใจเข้าลึกแทน “แม่ตายไปแล้วเจ้าค่ะ” เสียงของเด็กน้อยแหลมสูงและสั่นเครือ ข้าเหลือบมองบันได ที่ซึ่งภารกิจหลักรออยู่ แต่ก็ไม่อาจทิ้งเด็กคนนี้ไว้ ตรงนี้ “เจ้าชื่ออะไร” “โอเดตต์เจ้าค่ะ” นางตอบ ดูจะไม่แน่ใจว่าควรกลัวข้าหรือไม่ “โอเดตต์ นี่ไม่ใช่ที่เล่น ไม่มีใครคอยดูแลเจ้ารึ” “มีพี่สาวเจ้าค่ะ แต่เวลาที่พี่ท�ำงาน ข้าต้องซ่อนตัวให้ดีเหมือนหนู ตัวจ้อย” อย่างน้อยพี่สาวของนางก็ไม่ใช่คนโง่ “แต่นี่ไม่ใช่ที่ซ่อนที่ดีถูกหรือไม่ ดูสิว่าข้าเจอเจ้าได้ง่ายเพียงใด!” เด็กหญิงยิม้ ให้ขา้ อย่างเก้อเขินเป็นหนแรก และในชัว่ ครูน่ นั้ นางก็ทำ� ให้ ข้านึกถึงลูอีส น้องสาวคนเล็กเสียจนลมหายใจขาดห้วง ข้าเร่งใช้ความคิด จาก นั้นจึงจับมือนางและจูงกลับไปยังทางเดินหลัก เร็วเข้า เร็วเข้า เร็วเข้า ค�ำนั้นไล่กวดข้าราวกับสุนัขล่าเนื้อเห่าค�ำราม
2
ลิขิตสังหาร “เห็นประตูบานนั้นไหม” นางพยักหน้า ดวงตามองข้าอย่างไม่แน่ใจ “เข้าไปเสีย แล้วลงบันไดต่อไป ข้างล่างนั่นคือโบสถ์น้อย เป็นที่ซ่อนตัวที่เยี่ยม ที่สุด” และในเมื่อดัลเบรต์กับคนของเขาไม่เคยไปเยือนโบสถ์ นางก็จะปลอดภัย พอ “พี่สาวเจ้าชื่ออะไร” “ทิลเด้เจ้าค่ะ” “ดีมาก ข้าจะบอกทิลเด้เองว่าเจ้าอยูท่ ใี่ ด นางจะได้มารับเมือ่ เสร็จงาน” “ขอบคุณเจ้าค่ะ” โอเดตต์ตอบก่อนจะกึ่งก้าวกึ่งกระโดดไป ข้าอยาก พานางไปส่งให้ถึงที่ แต่เพียงเท่านี้ก็เสี่ยงจะไปไม่ทันการณ์แล้ว ข้ากลับหลังหันและก้าวขึ้นบันไดทีละสองขั้น ประตูไม้บานหนาที่ ชานพักบันไดเพิ่งใส่สลักชุดใหม่ซึ่งฝืดขัดเพราะขาดการใช้งาน ข้าค่อยๆ ยกมัน ขึ้น ระวังไม่ให้เกิดเสียงที่จะเตือนใครเข้า ทันทีที่ก้าวไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดเย็นเยียบของฤดูหนาว ลมเสียด กระดูกก็พัดผมของข้าปลิวหลุดจากตาข่ายคลุม ความระมัดระวังทั้งหลายท�ำให้ เสียเวลาอันมีค่าไปมาก และข้าก็ได้แต่ภาวนาว่าไม่ได้ขึ้นมาถึงบนนี้เพียงเพื่อ เฝ้าดูคนที่ข้ารักถูกสังหารโหดคาตา ข้าเร่งฝีเท้าไปยังก�ำแพงซึ่งเว้าเป็นช่องและมองลงไปยังทุ่งด้านล่าง อัศวินบนหลังม้าหนึง่ หยิบมือยืนม้ารออย่างอดทนขณะทีค่ นกลุม่ เล็กกว่าสนทนา กับเจ้าสมุหกลาโหมริเยอซ์หน้าโง่นั่น ข้าจ�ำองค์ดัชเชสได้ทันที ร่างบอบบางของ นางทรงสง่าอยูบ่ นอาชาสีเทา ดูเล็กจ้อยเหลือเกิน เล็กเกินจะแบกชะตากรรมของ อาณาจักรเราไว้บนแผงบ่าผอมบางนัน้ ได้ เพียงต้านการรุกรานของพวกฝรัง่ เศส ได้นานเท่านีก้ น็ า่ ทึง่ แล้ว ยิง่ ท�ำเช่นนัน้ ได้แม้จะถูกคณะทีป่ รึกษาทรยศไปกว่าครึง่ ยิ่งถือเป็นปาฏิหาริย์โดยแท้ เยื้องไปด้านหลังทางขวาของนางคืออิสเม พี่น้องร่วมใจของข้า ผู้อาจ เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของข้าด้วย หากสิ่งที่นางชีที่อารามพูดเป็นความจริง ชีพจรข้าเริม่ เต้นรัว แต่จะด้วยความปรีดาทีม่ ไิ ด้มาช้าเกินไป หรือเพราะพรัน่ พรึง ต่อสิ่งที่รู้ว่าจะเกิดขึ้นก็ไม่อาจบอกได้ ข้าจ้องอิสเมนิ่ง รวบรวมความกลัวและหวาดหวั่นทั้งหลายไว้ จากนั้น
3
ยอดหญิงมือสังหาร 2 จึงส่งมันไปหานาง ราวกับหินที่ถูกดีดจากเครื่องยิง นางไม่เหลือบมาทางข้าด้วยซ�้ำ เสียงครืนๆ แว่วมาจากด้านในของปราสาท ถัดไปทางตะวันออก เมื่อ ประตูชักรอกถูกยกขึ้น คราวนี้ข้าส่งจิตเตือนไป พร้อมกับสะบัดแขนทั้งสองข้าง ราวกับก�ำลังไล่ฝงู เป็ด ข้าหวังว่า ภาวนาว่า เราทัง้ สองจะยังมีสายสัมพันธ์ทที่ ำ� ให้ นางสัมผัสข้าได้ แต่ดวงตาของนางกลับจ้องเพียงดัชเชสที่อยู่ตรงหน้า และข้าก็แทบจะ กรีดร้องออกมาอย่างขัดใจ หนีไป ใจข้าร�่ำร้อง นี่เป็นกับดัก ทว่าเมื่อข้าเกรงว่า จะต้องกระโดดลงจากเชิงเทินเพื่อดึงดูดความสนใจเสียแล้ว อิสเมก็เงยหน้าขึ้น พอดี หนีไป ข้าอ้อนวอน จากนั้นจึงสะบัดแขนทั้งสองอีกหน มันได้ผล นางละสายตาจากข้าไปยังประตูตะวันออกและหันไปตะโกน ใส่ทหารข้างตัว ข้าโล่งใจจนเข่าอ่อน กองก�ำลังเล็กๆ กลางทุง่ เคลือ่ นไหวทันที ตะโกนออกค�ำสัง่ และร้องเรียก กันและกัน อิสเมชีม้ อื อีกครัง้ คราวนีไ้ ปทางทิศตะวันตก ดีแล้ว นางเห็นว่ากับดัก จะตีโอบเข้ามาจากทางใด ทีนี้ข้าก็เพียงแต่ต้องภาวนาว่าค�ำเตือนของตนมิได้ ล่าช้าเกินไป เมือ่ สมุหกลาโหมริเยอซ์และคนของเขาตระหนักว่าเกิดอะไรขึน้ ทัง้ หมด ก็ชักม้าควบกลับเข้าเมือง ดัชเชสและคนของนางจัดกระบวนทัพใหม่แล้ว แต่ยัง เคลื่อนขบวนไม่พ้นทุ่งโล่ง หนีไป! ค�ำนั้นรัวย�้ำในอกข้า แต่ข้าไม่กล้าเอ่ยมันออกมา เพราะกลัวว่า แม้จะยืนอยู่บนหอคอยไร้ผู้คนเช่นนี้ คนในปราสาทก็ยังอาจจะได้ยิน ข้าชะโงก ออกไป ก�ำหินเย็นหยาบที่ก่อเป็นเชิงเทินแน่นเสียจนบาดนิ้วที่ไร้ถุงมือ ทัพหน้าของดัลเบรต์ปรากฏให้เห็นที่หางตา น�ำโดยปิแอร์พี่ชายต่าง มารดาของข้าเอง จากนั้นเมื่อข้าแน่ใจว่าสายไปเสียแล้ว ทัพของดัชเชสก็แยก เป็นสอง และคนของดัชเชสเพียงหยิบมือก็ชักม้าหันกลับมาปะทะทัพใหญ่ที่ ถาโถม สิบสองต่อสองร้อย เสียงหัวเราะว่างโหวงเมื่อเห็นความเปล่าประโยชน์ เหล่านั้นหลุดออกจากปากข้า แต่แล้วก็ถูกสายลมหอบไปก่อนใครจะทันได้ยิน
4
ลิขิตสังหาร ขณะที่ดัชเชสและผู้ติดตามสองคนควบม้าหนี อิสเมกลับลังเล ข้ากัด ริมฝีปากไว้ไม่ให้เผลอตะโกนออกไป นางคงไม่ได้คิดว่าจะช่วยเหล่าอัศวิน ผู้ถึงฆาตได้หรอกใช่ไหม พวกเขาหมดหวังแล้ว กระทั่งทักษะของเราก็ไม่อาจ ช่วยชายทั้งสิบสองผู้ควบตะบึงสู่ความตายของตนอย่างห้าวหาญเหล่านั้นได้ “หนีไป” คราวนีข้ า้ เปล่งเสียง แต่สายลมหนาวเหน็บเสียดกระดูกก็หอบ มันขึ้นสู่ฟ้า ที่ซึ่งไม่มีใครได้ยิน เช่นเดียวกับเสียงหัวเราะก่อนหน้า ไม่ได้ไปสู่ผู้ที่ ข้าหวังจะเตือน หรือผู้ที่จะลงทัณฑ์ข้าโทษฐานที่ทรยศ ทว่าบางสิ่งอาจน�ำค�ำเตือนของข้าไปสูอ่ ิสเมได้จริง เพราะในทีส่ ุดนางก็ ตลบม้าควบตามดัชเชสไป วงแหวนเหล็กกล้าทีบ่ บี ปอดข้าอยูค่ ลายออกเล็กน้อย เพราะแม้การทนดูชายเหล่านี้พบจุดจบจะเป็นเรื่องล�ำบากใจนัก ข้าก็ไม่อาจทน ดูอิสเมตายได้ หรือร้ายกว่านั้น คือถูกจับเป็นเชลย หากเกิดเหตุเช่นนั้น ข้าจะลงมือสังหารนางเอง แทนที่จะปล่อยให้ตก อยู่ในมือของดัลเบรต์ เพราะเขาไม่มีทางปรานีนางแน่ หลังนางท�ำลายแผนร้าย ของเขาทีเ่ กรองด์และเกือบจะควักไส้เขาเยีย่ งปลาตัวหนึง่ เขามีเวลาลับความแค้น ของตนให้คมกริบอยู่นานหลายวัน ข้าช่างเขลานักที่รั้งอยู่ ข้าควรจะไปเสียแต่เดี๋ยวนี้ ขณะที่ยังไม่มีใคร พบเห็น แต่ก็ไม่อาจเบือนหน้าหนี กองทัพของดัลเบรต์โถมเข้าใส่เหล่าองครักษ์ ของดัชเชสราวกับกระแสน�้ำที่เอ่อท้นฝั่ง เสียงกึกก้องราวฟ้าผ่าดังขึ้นเมื่อเกราะ ปะทะเกราะ หอกแทงทะลุโล่ และดาบฟาดฟันกัน ความดุดันของกองก�ำลังพิทักษ์ดัชเชสท�ำให้ข้าตื่นตะลึง ทุกคนต่อสู้ ราวกับถูกวิญญาณของเซนต์คามูลอสเข้าสิง ฟาดฟันศัตรูราวกับชาวนาตวัดเคียว เกีย่ วข้าว ปาฏิหาริยใ์ ดสักอย่างบันดาลให้พวกเขาต้านทหารทีด่ าหน้าเข้ามา และ ชะลอกองก�ำลังของดัลเบรต์ไว้ได้นานพอเปิดทางให้กลุม่ ของดัชเชสหนีเข้าไปใน ทิวไม้อันปลอดภัย ฝ่ายดัลเบรต์ซึ่งมีคนมากกว่าจะเสียความได้เปรียบไปหาก ต้องมุดหลบกิ่งไม้และเถาวัลย์ เสียงแตรดังมาจากทิศตะวันออก ข้าขมวดคิ้วมองตาม กริ่งเกรงว่า
5
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ดัลเบรต์จะเตรียมทหารม้ากองทีส่ ามไว้ ทว่าไม่ใช่ ธงสีดำ� สลับขาวของกองทหาร แห่งเรนน์สะบัดพลิ้วตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าจัดเมื่อชายอีกสิบสองคนเข้าร่วมวง ตะลุมบอน รอจนดัชเชสและผู้ติดตามลับขอบฟ้าไปแล้ว ข้าถึงกล้าหายใจได้ ทั่วท้อง แต่แม้จะมีทหารกลุ่มใหม่มาสมทบ พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้อย่างราบคาบ กองก�ำลังของดัชเชสไร้ทางสู้ ไม่อาจต่อกรกับคนจ�ำนวนมากเช่นนั้น มือข้าใคร่ คว้าอาวุธ แต่มีดที่พกติดตัวไร้ประโยชน์ในระยะไกลเช่นนี้ หน้าไม้น่าจะได้ผล ทว่ายากนักที่จะพกติดตัวให้มิดชิด ข้าจึงได้แต่มองเท่านั้น ดัลเบรต์วางกับดักไว้เพียงชั้นเดียว เร่งบุก พิชิตชัย และชิงสิ่งที่หมาย มาดกลับไป ทันทีที่ตระหนักว่าเหยื่อหลุดมือไปแล้ว อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังรู้ตัว เขาก็สง่ สัญญาณให้ทหารถอยกลับสูก่ ำ� แพงปราสาท จ�ำกัดความเสียหายแต่เนิน่ ๆ ดีกว่าเสียคนให้กับแผนการอันล้มเหลวไปมากกว่านี้ การศึกด้านล่างใกล้จบแล้ว เหลือทหารเพียงนายเดียวเท่านัน้ ทีย่ งั สูอ้ ยู่ เป็นชายร่างใหญ่ลำ�่ ราวกับวัวกระทิงทีไ่ ม่รจู้ กั ตายให้เร็วอย่างคนอืน่ หมวกเกราะ ของเขาหลุดกระเด็น ธนูสามดอกปักคาเกราะนอกซึ่งมีรอยบุบนับสิบ เกราะโซ่ ถักขาดรุ่งริ่ง เลือดทะลักจากบาดแผลข้างใต้ แต่เขาก็ยังต่อสู้ด้วยพละก�ำลังที่ เกือบจะเหนือมนุษย์ ยังคงรุกเข้าไปในวงล้อมของศัตรู ไม่เป็นไรแล้ว ข้าปรารถนา จะบอกเขายิ่ง ดัชเชสน้อยของท่านปลอดภัยแล้ว สิ้นชีพอย่างสงบเสียเถิด ท่านเองจะได้ปลอดภัยเช่นกัน ศีรษะเขาสะบัดไปตามแรงกระแทก ดวงตาของเราสบกันข้ามระยะห่าง นั้น ข้าสงสัยขึ้นมาว่านัยน์ตาคู่นั้นเป็นสีใด และมันจะพร่ามัวรวดเร็วปานใดเมื่อ มรณะเทพรับเขาไป คนของดัลเบรต์ผหู้ นึง่ กระโจนเข้าไปตัดขาม้าศึกของอัศวินผูน้ นั้ เสีย เขา แผดเสียงโหยหวนขณะทรุดลง ก่อนจะถูกศัตรูเข้ากลุ้มรุมราวกับฝูงมดที่กรูเข้า ใส่เศษเนื้อ เสียงร้องก่อนสิ้นลมลอยขึ้นมาถึงยอดหอคอยและรัดพันหัวใจของข้า ไว้ เรียกร้องให้ตามไปสมทบ ความปรารถนาอันแรงกล้าผุดขึ้นในใจ ข้านึกริษยาอัศวินและความ
6
ลิขิตสังหาร ดับสูญที่รับเขาไปยิ่งนัก เขาเป็นอิสระแล้ว เฉกเช่นฝูงแร้งที่วนเวียนอยู่เบื้องบน พวกมันช่างโฉบไปมาได้ง่ายดายเหลือเกิน บินสูงลิบเหนืออันตรายนานา ข้า ไม่แน่ใจว่าจะกลับไปสู่กรงของตนได้หรือไม่ กรงที่สร้างจากค�ำลวง ความระแวง และความหวาดกลัว กรงที่เต็มไปด้วยความมืดและเงาด�ำจนแทบไม่ต่างจาก ความตาย ข้าชะโงกไปข้างหน้า เหยียดร่างเลยเชิงเทินออกไป สายลมตวัดผ้าคลุม คล้ายจะพาข้าให้โผบินไปเช่นหมู่นกหรือดวงวิญญาณของอัศวิน ไปเถิด มัน ร�ำ่ ร้อง ข้าจะพาเจ้าไปยังทีไ่ กลแสนไกล ข้าอยากหัวเราะสะใจไปกับความรูส้ กึ นัน้ ข้าจะรับเจ้าเอง มันผิวปากอย่างยั่วยวน จะเจ็บไหมนะ ข้าคิดพลางจ้องแง่หินเบื้องล่าง ข้าจะรู้สึกถึงวินาทีที่ ตกกระทบหรือไม่ ข้าหลับตา นึกภาพร่างปลิวออกไปสู่ความเวิ้งว้าง ร่วงลง เร็วขึ้นเรื่อยๆ ไปสู่ความตายของตน ว่าแต่จะได้ผลหรือเปล่าเถอะ เหล่านางชีผู้รับใช้มอร์เทนที่อารามหวง ความรู้เรื่องทักษะและความสามารถในการบันดาลความตายของเราราวกับคน ตระหนี่หวงเหรียญเงิน ข้ายังไม่เข้าใจอ�ำนาจที่มรณะเทพมอบให้ดีนัก มิหน�ำซ�้ำ องค์เทพยังปฏิเสธข้าแล้วถึงสองหน หากพระองค์ทรงท�ำเช่นนั้นเป็นครั้งที่สาม ท�ำให้ข้าต้องอยู่กับร่างที่แหลกเหลวและไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ไปชั่วชีวิต มี แต่ต้องพึ่งพาความเมตตาของคนรอบตัวเล่า เพียงคิดข้าก็สั่นไปทั้งตัวและ ถอยจากก�ำแพง “ซีเบลล่ารึ” ความกลัวระลอกใหม่อุบัติขึ้นในใจ ข้าคล�ำหาไม้กางเขนที่ซุกอยู่ในจีบ กระโปรงทันที เพราะมันไม่ใช่ไม้กางเขนธรรมดา หากแต่เป็นมีดที่ถูกซ่อนไว้ อย่างแนบเนียนซึ่งทางอารามออกแบบมาเพื่อข้าโดยเฉพาะ ข้าหันกลับไป เบิกตากว้างราวกับก�ำลังตื่นเต้นและยักมุมปากทั้งสองขึ้นอย่างท้าทาย จูเลียนยืนอยู่ที่ปากประตู “เจ้ามาท�ำอะไรข้างนอกนี่” เขาถาม ข้าท�ำตาเป็นประกายอย่างพึงใจ ราวกับดีใจทีเ่ ห็นเขาแทนทีจ่ ะขุน่ เคือง จากนัน้ จึงหันกลับไปยังเชิงเทินเพือ่ ตัง้ สติ ข้าข่มความคิดและความรูส้ กึ ทีแ่ ท้จริง
7
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ไว้ภายใน เพราะแม้จูเลียนจะอ่อนโยนกว่าใครๆ เขาก็ไม่ใช่คนโง่ และเขาก็อ่าน ข้าเก่งมาแต่ไหนแต่ไร “ชมการศึกน่ะสิ” ข้าจงใจท�ำเสียงสั่นๆ ด้วยความตื่นเต้น อย่างน้อยกว่าเขาจะมาพบข้าก็หลังจากที่ข้าเตือนอิสเมแล้ว เขาตามมาสมทบทีก่ ำ� แพง ใกล้เสียจนข้อศอกของเราสัมผัสกัน และมอง ข้าอย่างชื่นชมแกมขบขัน “เจ้าอยากดูรึ” ข้ากลอกตาอย่างดูแคลน “ดูไปก็เท่านั้น นกน้อยหนีไปได้” จูเลียนละสายตาจากข้าและมองไปยังทุ่งด้านล่างเป็นครั้งแรก “ดัชเชส หนีไปได้รึ” “เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น” เขาหันขวับมา แต่ข้าสวมหน้ากากเหยียดหยามไว้แน่นหนาราวกับ เกราะเหล็ก “เขาไม่พอใจแน่” จูเลียนว่า “ถูกต้อง และพวกเราทีเ่ หลือก็ตอ้ งชดใช้” ข้ามองเขาราวกับเพิง่ สังเกต ว่าเขาไม่ได้สวมชุดศึก “เหตุใดท่านจึงไม่อยู่ในสนามรบกับคนอื่นๆ” “ข้าถูกสั่งให้รั้งอยู่ที่นี่” ความกลัวเข้าบีบหัวใจข้าวูบหนึ่ง ดัลเบรต์จับตาดูข้าใกล้ชิดถึงเพียงนี้ เชียวหรือ จูเลียนส่งแขนให้ “เราต้องกลับไปข้างในก่อนเขาจะกลับมา” ข้ายิ้มจนแก้มบุ๋มและซุกตัวเบียดแขนของเขาจนมันเกือบจะแตะถูก หน้าอกตน นีค่ อื อ�ำนาจเพียงหนึง่ เดียวทีข่ า้ มีเหนือเขา ต้องทอดไมตรีให้บอ่ ยพอ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าต้องใช้ก�ำลังบังคับเอามา เมือ่ ถึงประตูหอคอย จูเลียนก็เหลียวกลับไปมองเชิงเทินก่อนจะมองข้า ด้วยสายตาที่ยากจะตีความ “ข้าจะไม่บอกใครว่าเจ้าขึ้นมาบนนี้” เขาว่า ข้ายักไหล่ราวกับไม่เห็นว่าเรือ่ งนัน้ จะสลักส�ำคัญอันใด แต่ถงึ กระนัน้ ข้า ก็เกรงว่าเขาจะบังคับให้ข้าตอบแทนความกรุณาครั้งนี้ เพียงเท่านี้ข้าก็เริ่มจะเสียใจที่ไม่ได้กระโดดลงไปเมื่อมีโอกาสแล้ว 8
ลิขิตสังหาร
2
ข้าเร่งฝีเท้าคู่ไปกับจูเลียน ไม่ยอมปล่อยให้ใจพะวักพะวนกับความเป็นไปได้ ต่างๆ นานา ข้าเชิดหน้าขึ้น แววเดียดฉันท์คนรอบตัวฉายชัด ไม่ได้เสแสร้ง แต่อย่างใดเพราะข้าเกลียดชังเกือบทุกคนที่นี่ ตั้งแต่บริวารและผู้ติดตามของ ดัลเบรต์ไปจนถึงขุนนางชาวบริตตานีตาขาวทีไ่ ม่ขดั ขืนสักนิดเมือ่ เขาชิงปราสาท ของดัชเชสไป พวกขี้ข้าสอพลอประจบประแจง ข้าชังน�้ำหน้าพวกมันนัก จูเลียนรั้งอยู่หน้าท้องพระโรง รอให้เหล่าผู้ติดตามขุนนางหยิบมือหนึ่ง ผ่านไปก่อนจึงตามเข้าไป เพื่อลดโอกาสที่จะมีใครสังเกตเห็นการมาถึงของเรา แม้จะพอใจที่ได้เห็นว่าเขาตั้งใจช่วยปกปิดความลับ ข้าก็ได้แต่สงสัยว่าเขาจะ เรียกร้องสิ่งใดตอบแทน ภายในท้องพระโรงนัน้ คนรับใช้วงิ่ วุน่ ไปมาแต่ไร้สมุ้ เสียง ทัง้ ยกเหยือก ไวน์ เติมเชือ้ ไฟ คาดเดาความต้องการทัง้ หลายก่อนจะถูกดุดา่ หรือลงทัณฑ์โทษ ฐานทีต่ อบสนองได้ไม่เร็วพอ ผูค้ นจับกลุม่ ซุบซิบกันเป็นหย่อมๆ ทัว่ ห้อง เห็นชัด ว่าพวกเขาทราบแล้วว่าหมากตานีด้ ลั เบรต์เป็นฝ่ายแพ้และจะไม่ได้ชยั ชนะติดมือ กลับมา คนเพี ย งคนเดี ย วในห้ อ งซึ่ ง เบาปั ญ ญาเสี ย จนไม่ รู ้ จั ก ระวั ง ตั ว คื อ สมุหกลาโหมริเยอซ์หน้าโง่ เขาเดินพล่านอยู่หน้าเตาผิง โวยวายกับมาดาม ดินองว่าเกียรติของตนถูกดัลเบรต์ทำ� ลายเมือ่ อีกฝ่ายวางกับดักทัง้ ทีร่ เิ ยอซ์ชกั ธง
9
ยอดหญิงมือสังหาร 2 สงบศึกอยู่ ช่างกล้าดีเหลือใจทีอ่ า้ งเรือ่ งเกียรติเช่นนี้ ทัง้ ทีเ่ ขาเองก็เป็นพระอาจารย์ และผู้อนุบาลขององค์ดัชเชสเองแท้ๆ จนถึงวันที่หักหลังนางและเข้าร่วมกับ ดัลเบรต์ ด้วยแน่ใจว่าเมือ่ ก�ำลังพลของทัง้ สองรวมกันจะต้องเกลีย้ กล่อมให้ดชั เชส ยอมรับได้เป็นแน่ว่านางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากท�ำตามความปรารถนาของ พวกเขา ทว่านางก็ท�ำให้ทุกคนประหลาดใจ เสียงกีบม้ากระหึ่มก้องขึ้นในลานกลางปราสาทเมื่อเหล่าทหารกลับมา ตามด้วยเสียงอึกทึกของกองทัพ เสียงอาวุธถูกโยนทิ้ง แผ่นหนังเสียดสี เกราะ โซ่กระทบเข้ากับเกราะเหล็ก ปกติแล้วจะมีเสียงตะโกนอย่างผู้มีชัยและเสียง หัวเราะแหบห้าวปะปนอยู่ด้วย ทว่าไม่ใช่วันนี้ วันนี้ทุกคนเงียบงันจนชวนขนลุก เสียงตุ้บดังขึ้นเมื่อประตูเปิดผาง ฝีเท้าหนักๆ ซอยถี่ก้าวเข้ามาพร้อม เสียงกรุง๊ กริง๊ ของเดือยเกราะเท้า คนทัง้ ห้อง—ริเยอซ์กด็ ว้ ย—พากันเงียบกริบรอ พายุที่ก�ำลังจะพัดเข้ามา คนรับใช้หลบลี้หนีหาย ขณะที่ผู้ติดตามใจขลาดบางคน รีบหาข้ออ้างออกไปจากห้อง ความปรารถนาทีจ่ ะไปให้พน้ จากทีน่ นี่ นั้ แรงกล้าเสียจนข้าต้องทุม่ เทแรง ใจทัง้ หมดทีม่ จี กิ เท้าลงกับพืน้ แทนทีจ่ ะกลับหลังหันและลีภ้ ยั ขึน้ บันไดไปยังห้อง ชัน้ บน แต่ความผิดทีก่ อ่ ไว้ทำ� ให้ขา้ ต้องอยูท่ นี่ แี่ ละแสดงให้ดลั เบรต์เห็นว่าข้าไม่มี สิ่งใดต้องปกปิด ดังนั้นแทนที่จะหนี ข้าจึงเอนตัวไปกระซิบกับจูเลียนว่า “ท่าน ว่ามาดามดินองกับสมุหกลาโหมริเยอซ์เป็นชู้รักกันหรือไม่” แม้จเู ลียนจะยิม้ ข�ำ เขาก็ยงั บีบแขนข้าเพือ่ ให้กำ� ลังใจ ข้าชักสีหน้าอย่าง หงุดหงิดและสะบัดแขนออก เขารู้จักข้าดีเกินไป ดีเกินไปจริงๆ จากนั้นดัลเบรต์ก็ปรากฏกาย ปราดเข้ามาในห้องพร้อมกับไอร้อน และแรงท�ำลายล้างดุจพายุเพลิง กลิ่นคาวเลือด โคลน และเหงื่อลอยตามมา ติดๆ ใบหน้าของเขาเผือดสีด้วยโทสะ ท�ำให้หนวดเครายิ่งดูด�ำผิดธรรมชาติ แบร์ทรองด์ เดอลูร์ หัวหน้ากองทหาร ผูเ้ ป็นสมุนมือขวาของเขาตามมาติดๆ จาก นัน้ ก็เป็นขุนนางและผูต้ ดิ ตามอีกสิบสองคน สองคนในกลุม่ นัน้ บารอนจูลเิ ยร์และ วิเยนน์ เป็นข้าในพระองค์ของดัชเชสเองแท้ๆ แต่กลับพร้อมจะพิสูจน์ความ
10
ลิขิตสังหาร จงรักภักดีที่มีต่อดัลเบรต์เสียจนยอมติดตามเขาไปวางกับดัก ทั้งที่รู้ว่าเขามี วัตถุประสงค์เช่นใดต่อนายของตน ข้าจึงเบิกบานยิ่งนักเมื่อเห็นว่ามอร์เทนได้ประทับหมายตราแห่งความ ตายไว้บนตัวของทัง้ สองแล้ว ทัง้ คูม่ ปี น้ื เงาสีดำ� อยูก่ ลางหน้าผาก เมือ่ รวมกับการ ที่ดัชเชสหนีได้ส�ำเร็จ วันนี้ก็ไม่เลวร้ายเท่าใดนัก “เหตุใดจึงยิ้มเล่า” จูเลียนถาม ข้าละสายตาจากชายทัง้ สอง “เพราะงานนีน้ า่ จะสนุกยิง่ ” ข้าพึมพ�ำ ก่อน เสียงของดัลเบรต์จะแผดขึ้นราวกับแส้ “ส่งคนขึ้นไปบนหอคอยทุกหอ ไปดูว่ามี ใครที่ไม่ควรขึ้นไปบนนั้นบ้าง หากมีใครส่งค�ำเตือนออกไป ก็น่าจะใช้หอคอย ทิศเหนือ” ข้าพิงแผ่นหลังเข้ากับผนังและนึกอยากให้เหล่านางชีสอนคาถาล่องหน ไว้เสียจริง “ไปลากตัวปิแอร์มา!” ดัลเบรต์สงั่ ต่อ “มันควรจะออกมาจากประตูตะวัน ตกให้เร็วกว่านี้ ความเกียจคร้านของมันท�ำให้รางวัลของข้าหลุดมือไป” เขาสะบัด มือทั้งสองข้างออกและเด็กรับใช้ก็ปราดเข้ามาถอดถุงมือเกราะข้างขวา แต่ก่อน ที่เด็กนั่นจะทันถอดถุงมือซ้าย ดัลเบรต์ก็หันไปออกค�ำสั่งต่อแล้ว เด็กรับใช้ กระโจนหลบให้ไกลมือและรออย่างหวาดระแวง ไม่กล้าเข้าประชิด แต่ก็กลัวจะ อยู่ไกลเกินรับค�ำสั่งยิ่งกว่า “ส่งคนสะกดรอยตามดัชเชสไปและรายงานความ เคลื่อนไหวของนางกับองครักษ์ หากสบโอกาสให้ชิงตัวนางทันที ผู้ที่น�ำตัวนาง มาให้ข้าจะได้รับรางวัลอย่างงาม” ขณะที่เดอลูร์ถ่ายทอดค�ำสั่ง เด็กรับใช้อีกคนก็ยืนรออยู่ใกล้ๆ พร้อมจะ ส่งจอกไวน์ให้ดัลเบรต์ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากเสียอีก ดัลเบรต์เอื้อมมือออกไปโดย ไม่ชายตามองด้วยซ�้ำ จากนั้นเราทุกคนก็ได้แต่กลั้นใจรอขณะที่เขาดับกระหาย มาดามดินองก้าวออกไปราวกับจะปลอบประโลมเขา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เมือ่ ดืม่ ไวน์หมดจอกแล้ว เขาก็จอ้ งมันอยูน่ านก่อนจะขว้างมันใส่เตาผิง เสียงแก้วเจียระไนแตกดังเปรื่องก้องไปทั่วห้องอันเงียบงัน เขาหันกลับมาอย่าง เชื่องช้า ใช้ความเงียบเป็นอาวุธได้คล่องแคล่วไม่แพ้ดาบ ปล่อยให้มันทวีขึ้นจน
11
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ตึงยิ่งกว่าหนังกลองเสียอีก “ทหารจากเรนน์มาทันเวลาได้อย่างไรฮึ” เสียงของ เขาแผ่วเบาขัดกับความรู้สึก น่ากลัวยิ่งกว่ายามแผดเสียงอีก “เป็นไปได้อย่างไร มีคนทรยศอยู่ในหมู่เรารึ” ทัง้ ห้องเงียบกริบ ทุกคนต่างรูด้ เี กินจะเสีย่ งตอบค�ำถามนัน้ เรารูว้ า่ มีคน ทรยศอยู่ในหมู่เรามากมาย การทรยศเด็กสาวเยาว์วัยนั้นเป็นเรื่องง่าย ทว่าจะมี ใครกล้าทรยศดัลเบรต์ไหมนั้นเป็นอีกเรื่อง สมุหกลาโหมริเยอซ์ก�ำหมัดทั้งสองแน่นแล้วก้าวออกไปหาดัลเบรต์ ดินองเอื้อมไปจะรั้งเขา ทว่าอีกฝ่ายเร็วเกินไป พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด หากเขา ไม่ใช่คนที่กล้าหาญที่สุดที่ข้าเคยพบ ก็ต้องเป็นคนที่โง่เขลาที่สุดเป็นแน่ “จะมีใครทรยศท่านได้อย่างไรในเมือ่ ไม่มใี ครรูแ้ ผนการของท่านสักคน” ริเยอซ์ถาม ดัลเบรต์ปรายตามองหมัดทีก่ ำ� แน่นของริเยอซ์อย่างเกียจคร้าน “ข้าเพิง่ ตัดสินใจในนาทีสุดท้าย” “ถึงกระนั้นข้าก็ควรจะได้รู้ ข้าให้ค�ำมั่นแล้วว่าดัชเชสจะปลอดภัยใน ระหว่างเจรจา” บ้าจริง เจ้างั่งนั่นไม่รู้สึกเลยหรือว่าทรายในนาฬิกาชีวิตของตน ไหลเร็วเพียงใดเมื่อยั่วโทสะดัลเบรต์เช่นนี้ ดัลเบรต์หนั มามองริเยอซ์เต็มตา จูเลียนทีย่ นื อยูข่ า้ งข้าเกร็งตัว “นัน่ ละ สาเหตุทขี่ า้ ไม่บอกท่าน ท่านให้คำ� มัน่ ไปแล้ว และก็มแี ต่จะบ่นบ้าเหมือนยายเฒ่า” ริเยอซ์ไม่พดู อะไร จะเป็นเพราะค�ำตอบของดัลเบรต์ทำ� ให้เขาอึง้ งันหรือ เป็นเพราะในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงอันตรายแล้วข้าก็ไม่แน่ใจ “อีกอย่าง” เสียงของดัลเบรต์เปลี่ยนเป็นเยาะหยัน “ลองดูเอาเองสิว่า ลมปากของท่านกล่อมนางได้ดีขนาดไหน มีแต่แม่ทัพไร้น�้ำยาเท่านั้นที่จะวาง กลศึกไว้เพียงอย่างเดียว” จากนัน้ สีหน้าของดัลเบรต์กเ็ ปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่าปรอทเสียอีก มิได้เพียงแค่เหยียดหยามแล้ว ทว่าน่าสะพรึงกลัว “ท่านคง ไม่ได้ล่วงรู้แผนการนี้และไปเตือนนางหรอกนะ เพื่อรักษาเกียรติของท่าน” ริเยอซ์ถดตัวหนี สิง่ ใดก็ตามในแววตาของดัลเบรต์ทำ� ให้เขาชะงักไปใน ที่สุด “ไม่” เขาตอบห้วนๆ
12
ลิขิตสังหาร ดัลเบรต์สบตาอีกฝ่ายอยู่นานก่อนจะหันกลับมา “กองทหารจากเรนน์ มาช่วยนางได้อย่างไรกัน ท�ำไมถึงเป็นตอนนี้ ท�ำไมถึงเป็นวันนี้ เวลานี้” ดวงตา ของท่านเคานต์เป็นประกายอย่างน่ากลัว “ค�ำอธิบายเพียงข้อเดียวก็คือต้องมี คนทรยศอยู่ในหมู่เรา” อย่างน้อยการมาถึงของกองทหารม้าจากเรนน์ก็เบี่ยงเบนความสนใจ ของเขาไปจากหอคอยทางทิศเหนือได้ในตอนนี้ “ดัชเชสและดูนัวส์น�ำข่าวของพวกฝรั่งเศสมา” ริเยอซ์เปลี่ยนเรื่อง กะทันหัน ดัลเบรต์เอียงคอรอ “พวกเขาบอกว่าพวกฝรั่งเศสรุกข้ามพรมแดนเข้ามาในบริตตานีแล้ว และยึดเมืองไปได้ถึงสามเมือง รวมถึงอองเซนีส์ด้วย” อองเซนีส์คือฐานที่มั่นของสมุหกลาโหมริเยอซ์ ดัลเบรต์เม้มปากและ พิจารณาอีกฝ่าย “ดูนัวส์คงคิดจะเบี่ยงเบนความสนใจของท่าน” ดัลเบรต์ร้องสั่ง แบร์ทรองด์ เดอลูร์ “ส่งหน่วยลาดตระเวนไปยืนยัน” เดอลูร์พยักหน้า แต่เขายังไม่ทันถ่ายทอดค�ำสั่งเมื่อดัลเบรต์ก�ำชับเพิ่ม “เมือ่ เสร็จงานแล้วก็สอบปากค�ำคนทัง้ หมดเสีย ดูวา่ มีใครไปทีเ่ รนน์ในช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมาหรือไม่ หากมี อย่าลืมน�ำตัวพวกมันมาให้ข้าสอบปากค�ำเองเมื่อกลับ มาถึง” ทหารสวมเกราะพากันเงียบกริบ หลายคนหน้าซีดเผือด เพราะเป็นที่รู้ กันดีว่าวิธีสอบปากค�ำของดัลเบรต์นั้นหลุดมาจากฝันร้ายแท้ๆ เดอลูร์พยักหน้า นิดหนึ่งก่อนจะไปปฏิบัติตามค�ำสั่งของผู้เป็นนาย ระหว่างก้าวออกไปนั้น เขา เหลือบมองข้าและขยิบตาให้ ข้าแสร้งท�ำเป็นไม่เห็น และจ้องปิแอร์ผู้เป็นพี่ชาย ที่เดินสวนกับนายกองผู้นั้นแทน เขาหนีบหมวกเกราะไว้ใต้วงแขน คางเชิดขึ้น สีหน้าไม่น่าดูสักนิด แผลเป็นสีขาวที่คิ้วซ้ายเด่นชัดราวกับถูกตีตรา “เกิดอะไร ขึ้น” เขาร้องถามขณะถอดถุงมือออก “นางหนีไปได้อย่างไร” ดัลเบรต์เงยหน้าขวับ “คนของเจ้ามาช้า” ค�ำกล่าวหานั้นท�ำให้ปิแอร์ชะงักกึก ความรู้สึกมากมายที่ปนเปอยู่บน
13
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ใบหน้าของเขาคงน่าขันยิง่ นักหากสถานการณ์มไิ ด้ตงึ เครียดเช่นนี้ “พวกพลเรือน ที่พยายามกีดขวางประตูไม่ให้เราออกไปสมทบกับท่านท�ำให้เราเสียเวลา” ดัลเบรต์จ้องเขาอยู่นาน หาค�ำตอบว่าเขาโป้ปดหรือไม่ “เจ้าน่าจะฆ่า พวกมันเสีย” “ฆ่าไปแล้ว” ปิแอร์ตอบ ริมฝีปากอวบอิ่มของเขาเบะออก “เจ้าน่าจะฆ่าให้เร็วกว่านี้” ดัลเบรต์พึมพ�ำ และเสียงหัวเราะขมขื่นก็ เกือบจะหลุดจากล�ำคอของข้า พี่ชายข้าสังหารคนได้ไม่เร็วดังใจเขา แต่สุดท้าย แล้วดัลเบรต์ก็พยักหน้าหนึ่งที อันเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับค�ำชมจากเขาที่สุด เสียงอึกทึกท�ำลายความตึงเครียดขึ้นเมื่อทหารกลุ่มหนึ่งต้อนชาย ครึ่งโหลเข้ามา ดูจากสภาพแล้ว พวกเขาน่าจะเป็นเพียงคนรับใช้ ดัลเบรต์เคาะปลายนิ้วเข้ากับริมฝีปาก “พบตัวพวกมันบนหอคอยรึ” เดอลูร์เตะชายคนหนึ่งซึ่งยังคู้ตัวได้ไม่ต�่ำถูกใจเขา “ไม่ใช่ขอรับ แต่ พวกมันไม่มีหน้าที่และไม่มีพยานยืนยันที่อยู่ขณะเราบุกโจมตี” ดัลเบรต์เอียงคอเหมือนนกแร้งขี้สงสัย เขาย่างสามขุมเข้าไปหาบริวาร ของดัชเชสทีม่ กี นั เพียงหยิบมือ “พวกเจ้าจงรักภักดีมากอย่างนัน้ รึ” เสียงของเขา นุ่มนวลราวผ้าก�ำมะหยี่ชั้นเลิศ เมื่อไม่มีผู้ใดตอบ เขาก็ยิ้ม ข้าเสียวสันหลังวาบ “บอกข้ามาเถอะ ข้า ชื่นชมความจงรักภักดียิ่งนัก” ชายทีอ่ ายุมากทีส่ ดุ ในกลุม่ พยายามยืดตัวให้ตรง แต่กเ็ ห็นชัดว่าเขาถูก ซ้อมเสียจนขาใช้การได้ไม่เต็มที่ “ขอรับท่าน” เขาตอบอย่างภาคภูมิ “เรารับใช้ องค์ดัชเชสมาตั้งแต่นางลืมตาดูโลกและไม่คิดจะล้มเลิกเสียตอนนี้” “ทองของพวกฝรั่งเศสซื้อเจ้าไม่ได้รึ” ข้าหลับตา ภาวนาให้ตาเฒ่าผู้โง่เขลาระวังปากและค�ำนึงถึงสวัสดิภาพ ของตน ทว่าเขามัวแต่อวดอ้างเกียรติที่มี “ขอรับ พวกมันซื้อเราไม่ได้” ดัลเบรต์ขยับมาอีกก้าวหนึ่ง ร่างใหญ่โตของเขาสูงท่วมหัวอีกฝ่าย สายตากวาดส�ำรวจไปทั่ว “พวกเจ้าคนใดกันที่ล่วงรู้แผนการต้อนรับของเราแล้ว ลอบไปเตือนดัชเชส”
14
ลิขิตสังหาร “พวกเราไม่รหู้ รอกขอรับ” ตาเฒ่าตอบ และข้าก็เริม่ ถอนใจอย่างโล่งอก แต่เจ้างัง่ นัน่ ยังทะนงในเกียรติของตนไม่หายและเสริมว่า “แต่หากรู้ เราต้องเตือน นางแน่” ดัลเบรต์หนั ไปมองปิแอร์อย่างร�ำคาญใจ “เจ้านีร่ อดตาเราไปได้อย่างไร” พีช่ ายข้ายักไหล่ “กระทัง่ กับดักทีด่ ที สี่ ดุ ก็ไม่อาจจับหนูได้ทกุ ตัวในคราว แรกขอรับ” ดัลเบรต์เงื้อมือที่ยังสวมถุงมือเกราะขึ้นฟาดใบหน้าของชายชราโดย ไม่มีการเตือนล่วงหน้า ล�ำคอของเขาสะบัดไปด้านหลัง ก่อให้เกิดเสียงเป๊าะ จูเลียนบีบมือข้าโดยแรง เตือนให้ข้านิ่งและเงียบไว้ และแม้ข้าจะอยากกระโจน เข้าใส่ดลั เบรต์ ข้าก็ไม่ได้ขยับตัว ข้าต้องไม่ถอยร่นจากทีม่ นั่ ของตน เฉกเช่นอัศวิน ผู้ห้าวหาญนายสุดท้ายในสนามรบ ในฐานะนางสนองพระโอษฐ์แห่งมรณะเทพ ข้าต้องอยู่ในต�ำแหน่งที่จะลงมือได้เมื่อเวลามาถึง ยิ่งในตอนนี้ เมื่อการทรยศอัน อุกอาจย่อมต้องท�ำให้ดัลเบรต์ได้รับหมายตราที่ข้าเฝ้ารอมาตลอดหกเดือนอัน ยาวนานแล้วเป็นแน่ นอกจากนี้ ตาเฒ่าผู้นั้นก็ตายไปแล้ว โทสะของข้าไม่อาจช่วยอะไรเขา ได้ ข้าสวดมนต์ให้วิญญาณที่จากไป ข้าท�ำได้เพียงเท่านี้ แม้จะรู้ว่าไม่เพียงพอ สักนิด สมุหกลาโหมริเยอซ์ถลันออกไปอย่างเดือดดาล ทว่าดัลเบรต์คำ� รามขึน้ ก่อนที่เขาจะทันเอ่ยค�ำใด “ข้าอุตส่าห์ไว้ชีวิตเน่าๆ ของพวกเจ้า” เสียงของเขา กระหึ่มก้องราวกับฟ้าผ่า ในที่สุดคนรับใช้ที่เหลือก็มีสติพอจะคู้ตัวด้วยความ หวาดกลัว “แต่กลับตอบแทนข้าเช่นนีร้ ”ึ เสียงเคร้งดังขึน้ เมือ่ เขาชักดาบ ท้องไส้ ข้าหดเกร็งเป็นก้อนกลมและพยายามจะย้อนกลับขึ้นมาที่คอหอย ทว่าข้ายังไม่ ทันร้องเตือนสักค�ำเมื่อดาบนั้นฟันคนที่เกาะกลุ่มกันอยู่ เลือดกระเซ็นนองพื้น จากนั้นดาบที่สองก็จัดการคนที่ยังเหลือ ข้าเพิง่ จะรูต้ วั ว่าเผลอก้าวไปข้างหน้าก็เมือ่ รูส้ กึ ถึงแขนของจูเลียนทีข่ ยับ มารั้งเอวไว้ “ระวังหน่อย” เขาพึมพ�ำ ข้าหลับตา รอให้อาการปั่นป่วนในท้องทุเลาลง จูเลียนสะกิดเบาๆ และ
15
ยอดหญิงมือสังหาร 2 ข้าก็ลืมตาโพลง ตีสีหน้าเรียบเฉย สายตามากเล่ห์ของดัลเบรต์จ้องเราอยู่และ ข้าก็แสยะปากราวกับซากสยองที่เขาก่อขึ้นนั้นน่าขบขัน “พวกโง่” ข้าพึมพ�ำ โชคดีที่ข้าไม่มีหัวใจแล้ว เพราะหากยังมีอยู่ มันก็คงแหลกสลายเป็นแน่ “จูเลียน!” ดัลเบรต์ตะเบ็งเสียง และข้าก็รู้สึกว่าจูเลียนสะดุ้งเฮือก เขา ผละจากข้า “ขอรับท่านพ่อ” “เก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อย ส่วนเจ้า ลูกสาวข้า” ดวงตาสีด�ำไร้อารมณ์ ของดัลเบรต์จับจ้องมายังข้าและข้าก็บังคับตัวเองให้สบตาเขาโดยไม่เผยความ รูส้ กึ ใดเว้นแต่อาการขบขันจางๆ “ไปดูมาดามดินอง ดูเหมือนนางจะเป็นลมไป” ขณะที่ข้าผละจากผนังหินอันปลอดภัยเพื่อท�ำตามค�ำสั่งของบิดา ข้าก็ นึกเสียใจอีกครัง้ เสียใจเหลือเกินทีจ่ เู ลียนมาพบข้าบนหอคอยเข้าพอดี หากบิดา ของเรารู้ว่าข้าท�ำอะไรลงไป เขาจะสังหารข้าอย่างง่ายดายไม่แพ้กับที่สังหาร คนเหล่านั้น ทว่าอาจไม่ปล่อยให้ข้าตายเร็วเท่า
16