The Lunar Chronicles 3.5
ปกรณั ม แดนจั น ทรา
3.5
ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา Marissa Meyer เขี ย น ลมตะวั น แปล
หนั ง สื อ เล่ ม นี้ ข อมอบแด่ นั ก อ่ า น เหล่ า ลู น าร์ ติ ค แฟนๆ ทั้ ง หลาย ขอขอบคุ ณ ที่ ร ่ ว มเดิ น ทางสายนี้ ม ากั บ ฉั น
กระจกวิเศษจงบอกข้าเถิด ว่าใครงามเลิศในปฐพี
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5
เธอนอนอยู่บนกองไฟลุกโชติช่วง ถ่านร้อนฉ่าอยู่ใต้แผ่นหลัง ดวงตาพร่าพราย แต่สติยงั ไม่ยอมปรานีดบั วูบไปเสียที ล�ำคอแหบแห้งจากการกรีดร้อง กลิน่ เนือ้ หนัง ตัวเองไหม้ไฟช�ำแรกเข้ามาในจมูก ควันระคายตาจนแสบพร่า ตุ่มพุพองผุดขึ้น ทั่วผิว หนังลอกหลุดเป็นแผ่นๆ เผยให้เห็นเนื้อแดงสดข้างใต้ ความเจ็บปวดโถมทวีไม่หยุดยัง้ ความทรมานไม่ยอมสิน้ สุด เธอร�ำ่ ร้องขอ ความตาย แต่มันกลับไม่มาเยือน เธอเอื้อมมือข้างเดียวที่ยังดีอยู่ออกไป พยายามลากตัวเองออกจาก กองไฟ ทว่ากองถ่านกลับยุบตัวเพราะน�้ำหนักที่กดลงมา กลบฝังเธอ ฉุดเธอให้จม ลึกลงไปในถ่านร้อนแดงและเปลวควัน เธอเหลือบเห็นดวงตาอันอ่อนโยนคู่หนึ่งหลังม่านควัน รอยยิ้มอบอุ่น ปลายนิ้วกระดิกเรียกเธอ มานี่สิ น้องน้อย... เลวาน่าอุทานเฮือกและผุดลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มหนาพันแขนขายุ่งเหยิง ผ้า ปูเตียงเย็นชื้นเพราะเหงื่อกาฬที่หลั่งไหล แต่ผิวหนังยังร้อนผ่าวดั่งในฝัน ล�ำคอ แสบระบม เธอพยายามกลืนน�้ำลาย แต่มันกลับเจือรสควันที่ท�ำให้ใบหน้าเหยเก เธอนั่งตัวสั่นอยู่ท่ามกลางแสงอ่อนๆ ยามเช้า พยายามไล่ฝันร้ายไปให้พ้น ฝันร้าย เดิมๆ ที่ตามหลอกหลอนมานานเกินไป ที่ดูจะไม่มีวันหนีพ้นเสียที 2
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
เธอลูบแขนและสีข้างตัวเองซ�้ำๆ จนมั่นใจว่าเปลวไฟนั้นไม่ใช่ของจริง เธอไม่ได้ถูกเผาทั้งเป็น แต่ปลอดภัยดีและอยู่ตามล�ำพังในห้องส่วนตัว เลวาน่าสูดลมหายใจเสียงสั่นๆ กระเถิบไปยังเตียงอีกฝั่ง ห่างจากผ้า ปูเตียงชุ่มเหงื่อ และนอนลงตามเดิม เธอไม่กล้าหลับตา ได้แต่จ้องหลังคาเตียง สี่เสาและสูดลมหายใจลึกๆ ช้าๆ จนจังหวะหัวใจเริ่มนิ่งลง เธอหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจโดยคิดว่าวันนี้จะเป็นใครดี ความเป็นไปได้นบั พันผุดขึน้ ตรงหน้า แน่ละว่าเธอต้องงดงาม ทว่าความ งามก็มีมากมายหลายรูปแบบ สีผิว เส้นผม รูปตา ความยาวของล�ำคอ รอยกระที่ ถูกต�ำแหน่ง ท่วงท่าสง่างามยามเดิน เลวาน่ารู้จักความงามเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่รู้จักความอัปลักษณ์ เป็นอย่างดี แต่แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีพิธีศพ เธอครางออกมา การคงรูปมายาไว้ตลอดวันต่อหน้าผู้คนมากมาย ขนาดนั้นต้องเหนื่อยมากแน่ๆ เธอไม่อยากไปเลย แต่ไม่มีทางเลือก ช่างไม่สะดวกเอาเสียเลยที่ฝันร้ายโผล่มาสะเทือนสมาธิเธอในวันนี้ บางทีเธอคงต้องเลือกรูปมายาที่คุ้นเคยหน่อย เมื่อความฝันจมหายไปในจิตใต้ส�ำนึก เลวาน่าก็คิดเล่นๆ ว่าจะสวมรูป มายาเป็นมารดา ไม่ใช่ราชินีแจนนาลี่ยามสิ้นพระชนม์ แต่อาจจะเป็นพระนางใน วัยสิบห้าปี คงถือเป็นการแสดงความคารวะอยู่เหมือนกัน หากเธอเข้าร่วมพิธีโดย มีโหนกแก้มอย่างผู้เป็นมารดา และดวงตาสีม่วงจัดที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นเพียงมายา แม้จะไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาดังๆ เลวาน่าจินตนาการรูปลักษณ์ของมารดาเมือ่ ครัง้ อยูใ่ นวัยเดียวกับตนอยู่ สองสามนาที และปล่อยให้รูปมายาทาบทับกาย เส้นผมสีทองดุจแสงจันทร์ขมวด เป็นมวยต�่ำที่ท้ายทอย ผิวซีดเผือดราวกับน�้ำแข็ง เตี้ยกว่าตัวเธอยามโตเป็นผู้ใหญ่ เต็มตัวเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพูอ่อนจาง เพื่อไม่ให้แย่งความสนใจไปจากดวงตา 3
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 อันโดดเด่น ใจของเธอสงบลงเมือ่ ด�ำดิง่ สูร่ ปู มายา ทว่าทันทีทลี่ องสวมมันดู เธอก็รสู้ กึ ไม่ถูกต้อง เธอไม่อยากเข้าร่วมพิธีศพของบิดามารดาในรูปลักษณ์ของเด็กสาวที่ ตายไปแล้ว เสียงเคาะแผ่วเบาที่ประตูขัดจังหวะความคิด เลวาน่าถอนใจและรีบสวมรูปลักษณ์อีกแบบที่จินตนาการขึ้นมาเมื่อ หลายวันก่อน ผิวสีแทน จมูกโด่งได้รูป ผมสีด�ำขลับตัดสั้นน่าเอ็นดู เธอเปลี่ยนสีตา ไปเรื่อยก่อนจะหยุดที่สีเทาอมฟ้าสะดุดตา ปิดท้ายด้วยแพขนตาด�ำขลับ และฝังอัญมณีสีเงินไว้ใต้ดวงตาข้างขวา ก่อนจะทันเปลี่ยนใจ หยดน�้ำตา เป็นหลักฐานว่าเธอก�ำลังไว้ทุกข์ “เข้ามาได้” เธอร้องบอกและลืมตา นางก�ำนัลยกถาดอาหารเช้าเข้ามา เด็กสาวถอนสายบัวที่หน้าประตู สายตาตรึงติดกับพื้น ซึ่งท�ำให้รูปมายาของเลวาน่าไม่จ�ำเป็นเลย ก่อนจะก้าวเข้า มาที่เตียง “อรุณสวัสดิ์เพคะ” เลวาน่าลุกขึ้นนั่ง ปล่อยให้นางก�ำนัลวางถาดลงบนตักและเหน็บผ้ากัน เปือ้ นให้ ก่อนจะรินชามะลิลงในถ้วยกระเบือ้ งเคลือบเขียนลายด้วยมือซึง่ น�ำเข้ามา จากโลกเมือ่ หลายชัว่ คนก่อน และเติมใบสะระแหน่เล็กๆ สองใบกับน�ำ้ ผึง้ เล็กน้อย เลวาน่ า ไม่ พู ด อะไรสั ก ค� ำ ขณะที่ อี ก ฝ่ า ยเปิ ด ฝาครอบถาดใส่ ข นมอบไส้ ค รี ม ชิ้นเล็กจ้อยให้เธอเห็นสภาพยามครบชิ้น ก่อนจะใช้มีดเงินตัดมันเป็นชิ้นเล็กจิ๋ว พอดีค�ำ ขณะที่นางก�ำนัลท�ำงาน เลวาน่าก็เหลือบมองจานใส่ผลไม้สีสดใส ลูกพีช ผิวนวล ล้อมรอบด้วยลูกเบอร์รี่สีด�ำและแดง โรยน�้ำตาลไอซิ่ง “มีเรื่องใดให้หม่อมฉันถวายการรับใช้อีกไหมเพคะ” “ไม่ต้อง เท่านี้พอแล้ว แต่อีกยี่สิบนาที ส่งแม่คนนั้นขึ้นมาช่วยฉันเตรียม 4
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
ชุดไว้ทุกข์ด้วยนะ” “เพคะองค์หญิง” หล่อนตอบ แม้ทั้งสองจะรู้ดีว่าไม่มีแม่คนนั้นหรอก นางก�ำนัลทุกคนในพระราชวังคือแม่คนนั้น เลวาน่าไม่สนใจว่าใครจะถูกส่งขึ้นมา ตราบเท่าที่ใครคนนั้นช่วยเธอสวมชุดสีเทาทรงเพรียวที่ช่างตัดเสื้อน�ำมาส่งเมื่อ วันก่อนได้ วันนี้เลวาน่าไม่อยากเปลืองแรงใช้มายากับทั้งชุดและใบหน้า เธอมี เรื่องต้องคิดมากมายเกินไป นางก�ำนัลถอนสายบัวอีกครัง้ ก่อนจะผลุบออกจากห้อง ปล่อยให้เลวาน่า จ้องถาดอาหารเช้า เธอเพิ่งตระหนักว่าตัวเองไม่หิวเพียงใด ท้องของเธอปวดนิดๆ คงเป็นผลพวงจากฝันร้ายนั่น หรืออาจเป็นความเศร้าก็ได้ แต่เธอว่าไม่น่าจะ ใช่หรอก เธอไม่ได้รู้สึกสูญเสียอะไรนักกับความตายของบิดามารดา ซึ่งจากไป นานกว่าครึ่งวันยาว หรือเทียบเท่ากับแปดคืนเทียมแล้ว1 ทั้งสองตายอย่างน่า สยดสยอง ถู ก ลอบสั ง หารโดยเปลื อ กซึ่ ง อาศั ย ภู มิ คุ ้ ม กั น ต่ อ พรสวรรค์ อ ย่ า ง ชาวจันทราลักลอบเข้ามาในพระราชวัง ชายคนนั้นยิงราชองครักษ์สองคนที่ศีรษะ ก่อนจะบุกขึ้นไปถึงห้องบรรทมชั้นสาม ฆ่าองครักษ์อีกสามนาย และปาดคอ เสด็จแม่ลึกจนกระดูกสันหลังแหว่ง จากนั้นจึงตรงไปยังห้องที่เสด็จพ่อบรรทมอยู่ กับนางสนมคนหนึ่ง และจ้วงแทงเขาที่อกถึงสิบหกแผล นางสนมยังกรีดร้องไม่หยุด เลือดเปรอะเต็มใบหน้า เมื่อราชองครักษ์ สองคนไปพบเข้า ฆาตกรผู้เป็นเปลือกก็ยังแทงไม่หยุดเช่นกัน เลวาน่าไม่เห็นศพ แต่ได้เห็นห้องบรรทมในเช้าวันถัดมา และความคิด แรกที่ผุดขึ้นในหัวก็คือเลือดพวกนั้นน่าจะเป็นลิปสติกที่สวยดี เธอรู้ว่ามันไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่เชื่อว่าบิดามารดาจะคิดอะไรอื่นที่ดี กว่านี้ได้หากเธอเป็นฝ่ายถูกฆ่า 1
ดูเพิ่มเติมที่ “ชีวิตบนดาวจันทรา” ท้ ายเล่ม
5
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 เลวาน่ากินขนมอบไปได้ค่อนชิ้นกับลูกเบอร์รี่เล็กๆ อีกห้าลูก เมื่อประตู ห้ อ งนอนเปิ ด ออกอี ก ครั้ ง สิ่ ง แรกที่ ผุ ด ขึ้ น ในสมองคื อ โมโหที่ ถู ก บุ ก รุ ก เช่ น นี้ นางก�ำนัลมาเร็วกว่าเวลา จากนั้นจึงนึกได้ว่าต้องตรวจสอบว่ารูปมายาของตัวเอง ยังอยู่ดีหรือไม่ เธอรู้ว่าจัดล�ำดับความส�ำคัญผิดไป แต่คนที่โฉบเข้ามาในห้องคือพี่สาวของเธอ ไม่ใช่นางก�ำนัลไร้หน้าที่ไหน “แชนนารี่!” เลวาน่าตวาด ผลักถาดออกจากตัว ชากระฉอกจากถ้วยลงไปนอง อยู่ในจานรองข้างใต้ “ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้พี่เข้ามา” “ถ้ า งั้ น เธอก็ น ่ า จะล็ อ คประตู ” แชนนารี่ เ ดิ น นวยนาดเข้ า มาราวกั บ ปลาไหลที่คลานไปบนพรม “แถวนี้มีฆาตกรอยู่นะรู้ไหม” หล่อนยิ้มอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ ก็จะทุกข์ไปท�ำไมกัน ฆาตกรถูก ประหารทันทีที่เหล่าองครักษ์พบตัว มีดเปื้อนเลือดยังอยู่ในมือ ใช่ว่าเลวาน่าจะไม่คิดว่าข้างนอกนั่นอาจยังมีพวกเปลือกที่โกรธแค้น และบ้าคลั่งพอจะโจมตีอีกครั้งหลงเหลืออยู่หรอกนะ แชนนารี่คงโง่เต็มทีถ้าคิด เป็นอื่นไป และนั่นก็คือส่วนหนึ่งของปัญหา แชนนารี่โง่เต็มทีจริงๆ แต่หล่อนเป็นคนโง่ผเู้ ลอโฉม ซึง่ เป็นประเภททีแ่ ย่ทสี่ ดุ พีส่ าวของเธอมีผวิ สีแทนสวย เส้นผมสีน�้ำตาลเข้ม และหางตาที่ชี้ขึ้นพอเหมาะจนดูเหมือนยิ้มอยู่ ตลอดแม้ในยามที่ไม่ใช่เลย เลวาน่าเชื่อว่าความงามของพี่สาวเป็นเพียงรูปมายา มั่นใจว่าคนที่ภายในฟอนเฟะขนาดนั้นไม่อาจมีภายนอกที่งดงามเพียงนี้ แต่ แชนนารีไ่ ม่เคยแพร่งพรายว่าเป็นอย่างใดกันแน่ หากรูปมายาของหล่อนมีชอ่ งโหว่ เลวาน่าก็ยังหาไม่เจอ ยายพี่สาวโง่นั่นไม่สะทกสะท้านกับกระจกเงาด้วยซ�้ำ แชนนารีแ่ ต่งตัวพร้อมเข้าร่วมพิธศี พแล้ว แม้จะมีเพียงสีเทาหม่นของผ้า ทีบ่ ง่ บอกว่ามันคือชุดไว้ทกุ ข์ กระโปรงผ้าตาข่ายบานออกแทบจะตัง้ ฉากกับต้นขา ราวกับชุดบัลเลต์ ขณะที่ท่อนบนรัดรูปปักเลื่อมสีเงินเป็นพันๆ ชิ้น แขนทั้งสองมี ลวดลายสีเทาซึ่งถูกวาดให้เลื้อยพันจากข้อมือขึ้นไปจรดกันเป็นรูปหัวใจกลางอก 6
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
ภายในหัวใจมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า คิดถึงตลอดไป ผลลัพธ์ที่ออกมาท�ำให้เลวาน่าอยากจะอ้วก “ต้องการอะไร” เลวาน่าถามพร้อมชักขาออกจากผ้าห่ม “ก็มาดูให้แน่ใจว่าวันนี้เธอจะไม่ท�ำให้ฉันขายหน้าน่ะสิ” แชนนารี่เอื้อม มาหยิกเนื้อใต้ดวงตาของเลวาน่าเพื่อทดสอบว่าอัญมณีที่ฝังไว้จะหลุดหรือไม่ เลวาน่าสะดุ้งและปัดมืออีกฝ่ายทิ้ง แชนนารี่ยิ้มเยาะ “ซึ้งดีนะ” “จอมปลอมน้อยกว่าการอ้างว่าจะคิดถึงพวกเขาละกัน” เลวาน่าถลึงตา ใส่รูปหัวใจนั่น “จอมปลอมเหรอ ผิดถนัด ฉันจะคิดถึงพวกท่านมากต่างหาก โดยเฉพาะ งานเลี้ยงที่เสด็จพ่อทรงจัดในวันโลกเต็มดวง แล้วก็การยืมเสื้อผ้าเสด็จแม่ใส่ไป ช็อปปิ้งที่เออาร์-4” หล่อนชะงักไป “แต่ตอนนี้ฉันยึดช่างเสื้อของเสด็จแม่มาใช้ ได้แล้วนี่นะ สรุปแล้วก็อาจไม่น่าเสียดายเท่าไหร่” หล่อนหัวเราะคิกคัก นั่งลงที่ ขอบเตียง และฉวยลูกเบอร์รบี่ นถาดมือ้ เช้าไปหย่อนใส่ปาก “เธอควรจะเตรียมพูด อะไรสักหน่อยในพิธีศพวันนี้ด้วยนะ” “ฉันเนี่ยนะ” เป็นความคิดที่น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน ทุกคนจะจ้องมอง เธอ วิเคราะห์ว่าเธอเศร้าแค่ไหน เลวาน่าไม่คิดว่าจะเสแสร้งได้ดีพอ “เธอก็เป็นลูกของทั้งคู่เหมือนกันนี่นา แล้ว...” จู่ๆ แชนนารี่ก็พูดไม่ออก ปลายนิว้ ซับหางตาป้อยๆ “ฉันไม่เข้มแข็งพอจะท�ำทุกอย่างคนเดียวหรอกนะ ความ เศร้าจะเอ่อท่วมใจฉัน ฉันอาจจะเป็นลมและต้องให้องครักษ์อุ้มไปพักท�ำใจในที่ มืดๆ เงียบๆ” หล่อนหัวเราะพรืด แววเศร้าทัง้ หลายเลือนหายอย่างฉับพลันพอๆ กับ ตอนปรากฏขึ้น “น่าสนใจดีนะเนี่ย ฉันอาจจะจัดฉากให้เกิดเหตุใกล้กับองครักษ์ หนุ่มผมหยิกหน้าใหม่คนนั้น เขาดู... โอนอ่อนผ่อนตามดี” เลวาน่าชักสีหน้า “พีจ่ ะทิง้ ให้ฉนั น�ำคนทัง้ อาณาจักรไว้ทกุ ข์เพียงคนเดียว เพื่อให้พี่ไปเริงร่ากับองครักษ์สักคนงั้นเหรอ” 7
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 “โอ๊ย พอที” แชนนารี่ยกมือขึ้นปิดหู “เธอนี่น่าร�ำคาญจริงเวลางอแง” “พี่จะขึ้นเป็นราชินนี ะ แชนนารี่ พี่จะต้องกล่าวสุนทรพจน์ และตัดสินใจ เรื่องส�ำคัญๆ ที่จะส่งผลต่อทุกคนบนดาวจันทรา พี่ไม่คิดบ้างเหรอว่าได้เวลาเอา จริงเอาจังกับงานนี้แล้ว” แชนนารี่หัวเราะร่าและเลียผงน�้ำตาลที่ค้างอยู่บนปลายนิ้ว “จริงจัง เหมือนเสด็จพ่อเสด็จแม่น่ะเหรอ” “พ่อแม่เราตายไปแล้ว นะ ถูกฆ่าด้วยน�้ำมือของประชาชนที่เห็นว่า พวกเขาท�ำงานได้ไม่ดีพอ” แชนนารี่โบกมือปัด “การเป็นราชินีคือสิทธิ์นะจ๊ะน้องน้อย เป็นสิทธิ์ที่ ท�ำให้เรามีผู้ชาย มหาดเล็ก นางก�ำนัล และชุดสวยๆ มากมายไม่มีวันหมด ปล่อย ให้พวกข้าราชส�ำนักกับผูใ้ ช้เวทดูแลรายละเอียดน่าเบือ่ พวกนัน้ ไปเถอะ ส่วนฉันจะ เป็นคนที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ในฐานะราชินีผู้ไม่เคยหยุดหัวเราะ” หล่อนสะบัด ผมไปด้านหลังแล้วกวาดตาส�ำรวจห้อง ทัง้ ผนังลายทองและม่านปักด้วยมือ “ท�ำไม ในนี้ถึงไม่มีกระจกเงา ฉันอยากเห็นว่าตัวเองสวยแค่ไหนก่อนจะออกไปเล่นบท สาวเจ้าน�้ำตา” เลวาน่าขยับลงจากเตียงและสวมเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนเก้าอี้ “พี่ก็รู้ดีว่า ท�ำไมถึงไม่มีกระจกเงา” เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มของแชนนารี่ก็กว้างขึ้น หล่อนกระโดดลงจาก เตียงตามไป “อ๋อ นัน่ สินะ พักหลังนีร้ ปู มายาของเธอสวยเสียจนฉันเกือบลืมไปแน่ะ” พลันแชนนารี่ก็สะบัดหลังมือใส่เลวาน่าอย่างรวดเร็วราวกับงูเห่าฉก ท�ำให้นอ้ งสาวเซไปชนเสาเตียง เลวาน่าร้องออกมา อาการตกใจท�ำให้เธอประคอง รูปมายาไม่อยู่ “อยูน่ เี่ อง แม่ลกู เป็ดขีเ้ หร่ของฉัน” แชนนารีท่ ำ� เสียงอ่อนเสียงหวาน หล่อน ก้าวเข้ามาประชิด คว้าคางของเลวาน่า และบีบมันแน่นก่อนที่เธอจะทันยกมือขึ้น กุมแก้มทีร่ อ้ นระบมเสียอีก “ขอให้นกึ ถึงเรือ่ งวันนีไ้ ว้นะ ถ้าเธอคิดจะขัดค�ำสัง่ ฉันอีก 8
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
ก็อย่างที่เธออุตส่าห์เตือนไป ฉันจะขึ้นเป็นราชินี และฉันจะไม่ยอมให้ใครมาคิด แย้งค�ำสั่งของฉันเด็ดขาด โดยเฉพาะแม่น้องน้อยผู้น่าสมเพชของฉัน เธอจะขึ้น ไปพูดแทนฉันในพิธีศพ” เลวาน่าเบือนหน้าหนี กะพริบตาถีๆ่ เพือ่ กลัน้ น�ำ้ ตาทีเ่ อ่อขึน้ และเร่งสวม รูปมายาคืนที่ เพื่อบดบังความพิกลพิการของตน เพื่อแสร้งท�ำเป็นว่าตนก็งดงาม ไม่แพ้กัน หางตาของเธอเหลือบเห็นนางก�ำนัลคนหนึ่งชะงักค้างอยู่ที่ปากประตู แชนนารี่ไม่ได้ปิดมันหลังเข้ามา และเลวาน่าก็มั่นใจว่านางก�ำนัลผู้นั้นเห็นทุกสิ่ง นางก�ำนัลหัวไวรีบหลบสายตาและถอนสายบัว แชนนารี่ปล่อยคางของเลวาน่าก่อนจะถอยออก “สวมชุดไว้ทุกข์เสีย น้องน้อย” แชนนารี่กลับมายิ้มหวานตามเดิม “วันนี้มีงานใหญ่รอเราอยู่”
ท้องพระโรงเต็มไปด้วยสีเทา เรือนผมสีเทา เครือ่ งส�ำอางสีเทา ถุงมือสีเทา ชุดราตรี สีเทา ถุงน่องสีเทา เสื้อสูทสีเทาเข้มกับชายแขนเสื้อสีเทาหม่น รองเท้าสีเทาอ่อน และหมวกทรงสูงสีเทาด�ำ แต่แม้สีสันจะหม่นหมอง แขกเหรื่อในงานกลับไร้แวว ระทมทุกข์ใดๆ เพราะสีเทาทั้งหลายมาจากชุดราตรีประดับริบบิ้นฟูฟ่อง อัญมณี เจียระไน และดอกไม้แก้วขุ่นซึ่งเบ่งบานอยู่บนผมที่โป่งเป็นทรงรังผึ้งราวกับ สวนขนาดจิ๋ว เลวาน่าคิดว่าช่างเสือ้ ชาวอาร์เทมิเซียคงยุง่ มากมากทีเดียวตัง้ แต่เกิดการ ลอบสังหาร ชุดของเธอเองนัน้ พอใช้ได้ เป็นชุดราตรียาวกรอมพืน้ ตัดจากผ้าก�ำมะหยี่ สีเทายกดอกสีเทาเช่นเดียวกัน คอเสื้อทรงสูงขลิบด้วยลูกไม้อย่างที่เลวาน่าคิดว่า น่าจะรับกับเรือนผมตัดสัน้ สีดำ� ของรูปมายาทีเ่ ธอใช้ มันไม่ได้ฉดู ฉาดสะดุดตาอย่าง 9
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 แชนนารี่ แต่อย่างน้อยตัวเธอก็พอจะมีศักดิ์ศรีบ้าง เครือ่ งโฮโลแกรมบนยกพืน้ ทางด้านหน้าของท้องพระโรงฉายภาพกษัตริย์ และราชินีผู้ล่วงลับในวัยหนุ่มสาว เสด็จแม่สวมชุดแต่งงาน วัยไล่เลี่ยกับเลวาน่า ในตอนนี้ เสด็จพ่อประทับอยู่บนบัลลังก์ ไหล่กว้าง คางคมสัน แน่ละว่ามันคือภาพ ที่ศิลปินรังสรรค์ขึ้นเอง เพราะมีกฎห้ามบันทึกภาพราชนิกุลโดยเด็ดขาด แต่ศิลปิน ก็เก็บรายละเอียดรูปมายาของทั้งสองได้เกือบสมบูรณ์แบบ ทั้งดวงตาสีเทาขึงขัง ของเสด็จพ่อ และกิริยาขยับนิ้วโบกมือแสนสง่าของเสด็จแม่ เลวาน่ายืนอยู่ข้างแชนนารี่บนยกพื้น รับฟังค�ำแสดงความเสียใจและ จุมพิตที่มือจากครอบครัวชาวอาร์เทมิเซียที่ทยอยกันเดินผ่านไป ท้องไส้ของ เลวาน่าปั่นป่วน รู้ดีว่าแชนนารี่ตั้งใจละทิ้งหน้าที่ในฐานะธิดาองค์โตและบังคับให้ เธอกล่าวสุนทรพจน์แทน แม้จะฝึกฝนมานานปี เลวาน่าก็ยงั นึกกลัวอย่างไร้เหตุผล ทุกครั้งที่ต้องพูดต่อหน้าสาธารณชน ว่าจะควบคุมรูปมายาไม่อยู่ ว่าทุกคนจะเห็น โฉมหน้าที่แท้จริงของเธอ ล�ำพังข่าวลือก็แย่พอแล้ว เสียงกระซิบกระซาบทีว่ า่ เจ้าหญิงพระองค์นอ้ ง มิได้งดงามเลย แต่กลับพิกลพิการจนน่าสยดสยองเพราะอุบัติเหตุอันน่าเศร้า ในวัยเยาว์ ว่าฟ้าปรานีแล้วที่พวกเขาไม่จ�ำเป็นต้องเห็นใบหน้าของเธอ ว่าทุกคน โชคดีแล้วที่เธอใช้มายาเก่งถึงเพียงนี้ จะได้ไม่ต้องทนเห็นความอัปลักษณ์เช่นนั้น ในราชส�ำนักอันแสนจะเลิศเลอเช่นนี้ เธอเพิง่ จะก้มศีรษะลงกล่าวขอบใจสตรีตรงหน้าทีพ่ ดู ปดว่าพ่อแม่ของเธอ ช่างทรงเกียรติน่านับถือเพียงใด เมื่อเหลือบเห็นชายผู้หนึ่งซึ่งยังอยู่ถัดไปอีกหลาย ล�ำดับ หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปโดยอัตโนมัติ พยักหน้า ยื่นมือ พึมพ�ำว่าขอบใจ ขณะที่โลกทั้งใบกลายเป็นเพียงคลื่นสีเทา เซอร์เอฟเร็ต เฮย์ลเข้ารับต�ำแหน่งราชองครักษ์สว่ นพระองค์ของเสด็จพ่อ ตั้ ง แต่ เ ลวาน่ า เพิ่ ง จะแปดขวบ และเธอก็ ต กหลุ ม รั ก เขาตั้ ง แต่ นั้ น เป็ น ต้ น มา 10
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
ประวัติศาสตร์ของดาวจันทรา และ ชีวิตบนดาวจันทรา
165
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
ชีวิตบนดาวจันทรา
เมืองทั้งหมดบนดาวจันทราตั้งอยู่ในโดมซึ่งผ่านการปรับสภาพ แวดล้อมให้คล้ายโลก และมีทางเชือ่ มถึงกัน โดมเหล่านีส้ ร้างขึน้ ด้วยเรโกลิธ อันเป็นสสารที่พบอยู่มากมายบนดวงจันทร์ ซึ่งถูก น�ำมาหลอมเป็นวัสดุเนือ้ หนาคล้ายแก้ว อาคารในเมืองส่วนใหญ่ จึงเป็นสีด�ำด้านเนื่องจากสร้างด้วยเรโกลิธหล่อขึ้นรูป วัสดุ ก่อสร้างตามธรรมชาติอื่นๆ รวมถึงหินบะซอลต์ ไทเทเนียม และ ซิลิกอน ท้องฟ้านอกโดมเป็นสีดำ� ตลอดเวลา และดวงดาวก็ปรากฏให้เห็น ตลอดเวลาเช่นกัน โดมที่หันเข้าหาโลกจะมองเห็นดาวโลก ซึ่ง สว่างกว่าดวงจันทร์ทมี่ องเห็นจากพืน้ โลกหกสิบเท่าและใหญ่กว่า สี่เท่า
169
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 หนึ่งวันและหนึ่งคืนบนดาวจันทรา (นับจากการที่ดาวจันทรา หมุนรอบตัวเองหนึง่ รอบ) จะเทียบเท่ากับ 28 วันบนดาวโลก หรือ หนึ่งเดือนบนดาวโลก ซึ่งนับจากวันเพ็ญหนึ่งไปจนถึงวันเพ็ญ ถัดไป วันและคืนเช่นนี้จะถูกเรียกว่าวันยาวและคืนยาว ชาว จันทราออกแบบโดมให้สามารถทึบแสงได้ในช่วงหนึ่งวันยาว และเรืองแสงอาทิตย์เทียมในช่วงหนึง่ คืนยาวเพือ่ จ�ำลองรูปแบบ กลางวันและกลางคืนบนดาวเคราะห์โลกซึ่งกินเวลา 24 ชั่วโมง วันและคืนเช่นนี้จะถูกเรียกว่าวันเทียมและคืนเทียม พลังงานทีใ่ ช้บนดาวจันทรามาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึง่ ตัง้ อยูร่ อบ “ยอดเขาแห่งแสงนิรนั ดร์” หรือขอบหลุมอุกกาบาต แพรี่ โรงไฟฟ้าดังกล่าวเชือ่ มต่อกับระบบจ่ายไฟซึง่ ส่งไฟฟ้าเข้าไป ในเมือง ขณะที่แหล่งน�้ำอยู่ในสภาพน�้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายใน หลุมอุกกาบาตที่ด้านมืดของดวงจันทร์ นครอาร์เทมิเซีย เมืองหลวงของจันทรา ตั้งอยู่บนดวงจันทร์ฝั่งที่ หันเข้าหาโลก ใกล้กับขั้วโลกเหนือ ริมทะเลมาเร ฟริโกลิส หรือ ทะเลเย็น โดยเป็นทัง้ ศูนย์กลางของงานราชการ และทีพ่ ำ� นักของ เชือ้ พระวงศ์ชาวจันทรากับเหล่าขุนนาง โดมรอบนอกถูกสร้างขึน้ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะและออกแบบให้รองรับอุตสาหกรรมที่ แตกต่างกันไป ซึ่งรวมถึงการท�ำเหมืองและแปรรูปเรโกลิธ การ ผลิตสินค้าต่างๆ และการเกษตร
170
ตอน ราชิ น ี ก ั บ กระจกเงา
การเดินทางระหว่างโดมเกิดขึน้ ใต้พนื้ ผิวของดวงจันทร์เพียงอย่าง เดียว ด้วยระบบรถไฟใต้ดินอันซับซ้อน ซึ่งสร้างขึ้นในโพรงท่อ ลาวาทีม่ อี ยูแ่ ต่เดิมแล้วเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนีย้ งั ใช้โพรงลาวา ที่ปรับสภาพบรรยากาศแล้วเป็นท่าอวกาศยานอีกด้วย ข้อความภาพและเสียงจากราชวงศ์และราชส�ำนักจะถูกฉายขึ้น บนผนังโดมและจอภาพในระบบรถไฟใต้ดิน การสื่อสารเหล่านี้ เป็นระบบปิดและควบคุมโดยรัฐบาลทั้งหมด ชาวจันทราทั่วไป ไม่มีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารใดๆ จากดาวโลก
171
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5
คุยกับนักเขียน
172
ปกรณั ม แดนจั น ทรา 3.5 คุณเคยเขียนแฟนฟิคจริงๆ หรือคะ จริงสิ! ฉันเคยเขียนแฟนฟิคเซเลอร์มูนอยู่ตั้งสิบปี เขียนจบไป เกือบ 50 เรื่อง แถมมีหลายเรื่องยาวเท่ากับนวนิยายเล่มเต็มๆ เชียวค่ะ ฉันได้เพื่อนที่ดีมากมายจากชุมชนแฟนฟิค ได้รับก�ำลัง ใจเยอะแยะ และฝึกทักษะกับวินัยการเขียนจากที่นั่น ฉันเชื่อ ว่าการเขียนแฟนฟิคพัฒนาทักษะของฉันได้มากมายเลยค่ะ ฉันเขียนแฟนฟิคหนังสือของคุณได้ไหมคะ ได้เลยค่ะ! ฉันเชือ่ ว่าแฟนฟิคเป็นประโยชน์ตอ่ ทัง้ ตัวผูส้ ร้างสรรค์ ผลงานและเหล่าแฟนคลับ และสนับสนุนให้ทกุ คนหยิบตัวละคร และโลกที่ฉันสร้างขึ้นไปเล่นสนุกได้ตามใจชอบค่ะ แต่ถึงอย่าง นัน้ ฉันก็ไม่สามารถอ่านแฟนฟิคหนังสือของตัวเองได้ ด้วยเหตุผล ทั้งทางกฎหมายและเหตุผลส่วนตัวค่ะ คอสเพลย์คืออะไรและคุณเคยแต่งตัวเป็นใครบ้างคะ คอสเพลย์หมายถึงการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครต่างๆ ซึง่ เรามัก จะเห็นในงานทีม่ แี ฟนคลับของการ์ตนู ภาพยนตร์ นวนิยาย เกม หรือ ซีรี่ย์ต่างๆ มารวมกัน ตอนวัยรุ่น ฉันแต่งคอสเพลย์บ่อยมากค่ะ (หลักๆ แล้วก็เป็นเพราะแม่ฉนั เจ๋งมากและเป็นช่างตัดเสือ้ มือหนึง่ ) แต่เดีย๋ วนีฉ้ นั แทบไม่ได้แต่งคอสเพลย์แล้ว สมัยก่อนฉันเคยแต่ง คอสเพลย์เป็นเซเลอร์มนู (ทัง้ ชุดเซเลอร์และชุดเจ้าหญิง) เจ้าหญิง เซลด้าจากเกมลีเจนด์ออฟเซลด้า อลิซในแดนมหัศจรรย์ ราชินี โพแดง อาโอชิจากเรือ่ งซามูไรพเนจรเคนชิน และเมือ่ นานแสนนาน มาแล้ว ฉันก็เคยแต่งเป็นเจ้าหญิงเลอาจากสตาร์วอร์ด้วยค่ะ
180