ปกรณัมแดนจันทรา 2: สาวน้อยหมวกโลหิต (Scarlet)

Page 1

The Lunar Chronicles

ปกรณั ม แดนจั น ทรา2

2

สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต Marissa Meyer เขี ย น ลมตะวั น แปล


ปกรณัมแดนจันทรา 2 สาวน้อยหมวกโลหิต Lunar Chronicles 2 Scarlet Marissa Meyer เขียน ลมตะวัน แปล First Published by Feiwel & friends an imprint of Macmillan Children’s Publishing and Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. All rights reserved Copyright © 2012 by Marissa Meyer สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เลขมาตรฐานสากลประจ�ำหนังสือ ISBN 978-616-91839-4-5 พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2557 ราคา 279 บาท ออกแบบปก ชลลดา ดวงเดือน ออกแบบรูปเล่ม Bookcreation จัดพิมพ์โดย ส�ำนักพิมพ์มิวส์ เลขที่ 888/61 HIVE SATHORN ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. 10600 โทรศัพท์ 080-330-6855, 086-899-6355 อีเมล th.musebooks@gmail.com เว็บไซต์ www.facebook.com/MusePublishing จัดจ�ำหน่ายทั่วประเทศโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ำกัด 108 หมู่ที่2 ถ.บางกรวย - จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9222, 0-2449-9500-6 Homepage : http://www.naiin.com


ค�ำน�ำ สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ขอเริ่มต้นด้วยการขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานของเราเช่นเคยค่ะ หลังจาก ซินเดอเรลล่าจักรกลของเราบุกเข้าไปในงานเต้นร�ำ ก็ได้เวลาที่สาวน้อยหมวกโลหิต จะหลอกล่อให้คุณหมาป่าออกเดินทางไปตามหาคุณย่ากับเธอบ้างแล้ว อย่าเพิ่งขยี้ตาไปค่ะ อ่านไม่ผิดจริงๆ นะคะ ปกรณัมแดนจันทรา ล�ำดับสองยังคง เป็นการน�ำเทพนิยายมาเล่าใหม่ให้รปู แบบของนวนิยายผจญภัยเช่นเคย ดังนัน้ ถ้า ซินเดอร์ ไม่ยอมอยู่เฉยๆ รอให้เจ้าชายน�ำรองเท้าแก้วมาให้ สการ์เล็ต นางเอก ประจ�ำเล่มนี้ก็ไม่ต้องรอให้นายพรานที่ไหนมาช่วยคุณย่าเช่นกัน แต่คุณผู้อ่านที่ เป็นห่วงไซบอร์กสาวของเราก็ไม่ตอ้ งกังวลไป เล่มนีเ้ ธอเองก็ต้องออกผจญภัยเพือ่ สืบค้นที่มาของตน และหาทางต่อกรกับราชินีเลวาน่าแห่งจันทรา พร้อมกับ เพื่อนร่วมทางคนใหม่ท่ี...ไม่ขอบรรยายดีกว่า แล้วจะรอช้าอยู่ไย รีบพลิกหน้า ต่อไปเพื่อพบกับเทพนิยายฉบับใหม่กันเถอะค่ะ ส�ำนักพิมพ์มิวส์ กันยายน 2557 ทีมงานมิวส์รอรับค�ำติชมอยู่ที่ www.facebook.com/MusePublishing และ ถ้าหากคุณผู้อ่านสนุกสนานกับ ปกรณัมแดนจันทรา เรื่องชุดล�ำดับสองของเรา โปรดให้ก�ำลังใจโดยการติดตาม ช็อกโกแลตสีเลือด เรื่องชุดล�ำดับที่หนึ่งของเรา ทั้งสองตอนคือ รักซ่อนพิษ และ รักซ่อนคม ด้วยนะคะ



แด่แม่และพ่อ กองเชียร์อันดับหนึ่งของฉัน


ภาค 1 เธอไม่รู้ว่าหมาป่านั้น เป็นสัตว์ที่มากเล่ห์ร้าย จึงมิได้หวาดกลัวเขา


1

สการ์เล็ตก�ำลังน�ำยานลงจอดในตรอกหลังร้านริเยอซ์ทาเวิร์น เมื่อพอร์ตสกรีน ที่เบาะข้างๆ ส่งเสียงปี๊บ ตามด้วยเสียงระบบอัตโนมัติแจ้งเตือนว่า “สื่อแจ้งถึง มาดมัวแซลสการ์เล็ต เบอนัวต์ จากแผนกคนหายในสังกัดหน่วยงานบังคับใช้ กฎหมายแห่งตูลูส” หัวใจของเธอเต้นแรง สการ์เล็ตหักหลบทัน ช่วยให้กราบขวาของยาน ไม่ตอ้ งเฉีย่ วผนังหินพอดี และดึงเบรกก่อนยานจะจอดสนิท เธอดับเครือ่ งและเอือ้ ม ไปคว้าพอร์ตสกรีนที่โยนทิ้งไว้ แสงสีฟ้าซีดจากหน้าจอสะท้อนกับแผงบังคับการ ในห้องนักบิน พวกเขาได้เบาะแสแล้ว ต�ำรวจตูลูสได้เบาะแสแล้วแน่ๆ “รับสาย!” เธอตะโกน แทบจะบีบเครื่องพอร์ตแหลกคามือ เธอคิดว่าจะได้เห็นวิดโี อสายตรงจากนักสืบทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้ดแู ลคดี ของคุณย่า แต่กลับได้รับเพียงข้อความไร้ภาพประกอบใดๆ 28 ส.ค. ต.ศ.126 อ้างถึง: คดีหมายเลข #AIG00155819 วันยื่นค�ำร้อง 11 ส.ค. ต.ศ.126 ข้อความนี้ถูกส่งมาเพื่อแจ้ง สการ์เล็ต เบอนัวต์ แห่งริเยอซ์ ฝรั่งเศส สหพันธ์โลก ว่า เมื่อเวลา 15.42 น. ของวันที่ 28 ส.ค. 126 คดีการสาบสูญของ มิแชลล์ เบอนัวต์ แห่งริเยอซ์ ฝรัง่ เศส สหพันธ์โลกถูกตัดสินให้ไม่มกี ารพิจารณา 1


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 ต่อ เนื่องจากไม่พบหลักฐานการใช้ความรุนแรงหรือการต่อสู้ใดๆ ข้อสันนิษฐาน: บุคคลดังกล่าวไปด้วยความสมัครใจ และ/หรือกระท�ำอัตวินิบาตกรรม ปิดคดี ขอขอบคุณที่สนับสนุนบริการสืบสวนของเรา ท้ายสื่อแจ้งดังกล่าวเป็นคลิปรณรงค์ของทางต�ำรวจ ย�้ำเตือนให้นักบิน ส่งของทั้งหลายค�ำนึงถึงความปลอดภัย และคาดสายรั้งนิรภัยขณะที่เครื่องยนต์ ท�ำงาน สการ์เล็ตจ้องจอเล็กจิ๋วนั่นจนข้อความทั้งหลายกลายเป็นเพียงแถบ สีขาวด�ำเลือนรางและพื้นยานก็คล้ายจะวูบหาย ฝาพลาสติกหลังเครื่องพอร์ต แตกคามือเธอ “พวกโง่นั่น” เธอค�ำรามในยานอันว่างเปล่า ค�ำว่า ปิดคดี หัวเราะเยาะเธอ เธอค�ำรามในคอและฟาดเครื่องพอร์ตใส่แผงควบคุมยาน หวังว่ามันจะ แตกเป็นเศษพลาสติก โลหะ และสายไฟ หลังฟาดหนักๆ สามที หน้าจอกลับเพียง แค่กะพริบอย่างร�ำคาญใจ “พวกโง่นั่น” สการ์เล็ตขว้างเครื่องพอร์ตลงบนพื้นที่นั่ง ฝั่งผู้โดยสาร ทิ้งตัวพิงเบาะ และทึ้งผมหยักศกของเธอ จู่ๆ สายรั้งที่คาดอยู่บนหน้าอกก็ท�ำให้เธอหายใจไม่ออก เธอกดปุ่มปลด และถีบประตูให้เปิดออก ก่อนจะกึง่ ก้าวกึง่ คะม�ำออกไปยังเงามืดภายในตรอก กลิน่ ไขมันและวิสกีจ้ ากร้านเหล้าท�ำให้สการ์เล็ตเกือบส�ำลักเมือ่ สูดลมหายใจ พยายาม ข่มโทสะด้วยเหตุผล เธอจะไปทีส่ ถานีตำ� รวจ เวลานีส้ ายเกินไปแล้ว คงต้องรอพรุง่ นี้ เธอจะไป ทีน่ นั่ ทันทีทเี่ ช้า จะใจเย็น มีเหตุผล และอธิบายให้ตำ� รวจฟังว่าพวกเขาเข้าใจผิดไป ตรงไหน เธอจะบังคับให้คนเหล่านั้นเปิดคดีขึ้นมาใหม่ สการ์เล็ตปาดข้อมือเข้ากับเครือ่ งสแกนข้างประตูทา้ ยยาน และกระชาก มันขึ้นแรงเกินกว่าที่ระบบไฮดรอลิกจะตามทัน เธอจะบอกนักสืบว่าเขาต้องค้นหาต่อไป เธอจะท�ำให้เขายอมฟัง ท�ำให้ เขาเข้าใจว่าย่าของเธอไม่ได้เต็มใจไป และที่แน่ๆ ก็คือย่าไม่ได้ฆ่าตัวตาย ลังพลาสติกครึง่ โหลซึง่ เต็มไปด้วยพืชผักสวนครัวอัดแน่นอยูท่ า้ ยยาน แต่ สการ์เล็ตแทบมองไม่เห็นมันเลย ใจเธอลอยไปไกลหลายไมล์ ไปถึงตูลูส ซักซ้อม 2


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

บทพูด ใช้ทุกค�ำชักจูง ทุกเหตุผลที่พอจะนึกออก คุณย่าของเธอเกิดเรื่อง เรื่องร้ายด้วย และถ้าต�ำรวจไม่ยอมค้นหาท่าน ต่อ สการ์เล็ตจะฟ้องศาลและท�ำให้นักสืบหัวกลวงพวกนั้นถูกถอนใบอนุญาต กันทุกคน จะไม่มีวันได้ท�ำงานที่ไหนอีกและ... เธอคว้ามะเขือเทศสีแดงเปล่งปลั่งขึ้นมาด้วยมือข้างละลูก หันขวับไป ขว้างใส่ผนังหิน มะเขือเทศแตกโพละ น�ำ้ และเนือ้ กระจายทัว่ กองขยะทีร่ อเข้าเครือ่ ง บีบอัด มันท�ำให้เธอรูส้ กึ ดี สการ์เล็ตฉวยมะเขือเทศอีกลูก นึกถึงสีหน้าไม่เชือ่ ถือ ของนักสืบเมื่อเธอพยายามอธิบายให้เขาฟังว่าการหายตัวไปเสียเฉยๆ ไม่ใช่ พฤติ ก รรมตามปกติ ข องคุ ณ ย่ า เธอนึ ก ภาพมะเขื อ เทศแตกโพละกลางหน้ า ยโสโอหัง... ประตูเปิดออกในจังหวะเดียวกับที่มะเขือเทศลูกที่สี่ถูกบดขยี้ สการ์เล็ต ชะงัก มือเอื้อมไปคว้าลูกถัดไปแล้ว เมื่อเจ้าของร้านออกมายืนพิงที่กรอบประตู ใบหน้าเรียวผอมของฌิลส์ดูมันวับขณะมองกองสีส้มเละๆ ข้างร้านของเขา ซึ่งเกิด จากฝีมือของหญิงสาว “หวังว่านั่นคงไม่ใช่มะเขือเทศของฉันนะ” เธอชักมือออกจากลัง และเช็ดกับกางเกงยีนเปรอะดิน ใบหน้าเริ่ม ร้อนผ่าว ชีพจรเต้นไม่เป็นส�่ำ ฌิลส์เช็ดเหงื่อออกจากศีรษะที่เกือบจะโล้นและถลึงตา อันเป็นสีหน้า มาตรฐานของเขา “ว่าไง” “ไม่ใช่ของคุณ” สการ์เล็ตพึมพ�ำ ซึ่งก็เป็นความจริง พวกมันยังเป็นของ เธอจนกว่าเขาจะจ่ายเงิน เขาท�ำเสียงฮึ่มฮั่ม “ถ้างั้นฉันก็จะหักเงินเธอแค่สามยูนิฟเป็นค่าท�ำความ สะอาด เอาล่ะ ถ้าซ้อมยิงเป้าเสร็จแล้ว เธอก็คงพอจะลดตัวมาขนของเข้าร้านฉัน ได้สินะ ฉันเสิร์ฟแต่ผักกาดเหี่ยวๆ มาสองวันแล้ว” เขาผลุบกลับเข้าไปในร้านอาหารโดยเปิดประตูทิ้งไว้ เสียงจานชามและ เสียงหัวเราะแว่วออกมาที่ตรอก ช่างปกติจนพิลึกพิลั่น โลกของสการ์เล็ตพังลงตรงหน้า แต่กลับไม่มีใครสนใจเลย คุณย่าของ เธอหายตัวไป แต่กลับไม่มีใครสนใจ เธอหันกลับไปยังท้ายยาน ก�ำขอบลังแน่น รอให้หัวใจหยุดกระแทกใส่ 3


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 ลิ้นปี่ ถ้อยค�ำในสื่อแจ้งยังวนเวียนอยู่ในสมองของเธอ แต่ก็เริ่มจะเบาบางลงแล้ว ความรุนแรงระลอกแรกถูกทิ้งให้เน่าไปกับมะเขือเทศเละๆ เมือ่ กลับมาสูดลมหายใจได้คล่องคออีกครัง้ สการ์เล็ตก็เอาลังมะเขือเทศ ขึ้นซ้อนไว้บนลังมันฝรั่งรัสเซ็ตและยกลงจากยาน คนครัวทั้งหลายไม่สนใจสการ์เล็ตเลย ขณะที่เธอเบี่ยงตัวหลบกระทะ ควันฉุยของพวกเขาตรงไปยังห้องเก็บของสด เธอไสลังเข้าไปในชัน้ ตามต�ำแหน่งที่ เขียนระบุไว้ด้วยหมึก ซึ่งถูกขีดฆ่าและเขียนทับเป็นสิบๆ ครั้งแล้วในรอบหลายปีที่ ผ่านมา “บงชูร์ สการ์ลิ่ง!” สการ์เล็ตหันไป ปัดปอยผมออกจากต้นคอเหนียวเหนอะหนะ เอมิลยี มิ้ แฉ่งอยูท่ ปี่ ระตู ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความลับ ก่อนจะผงะ ถอยเมื่อเห็นสีหน้าของสการ์เล็ต “เป็นอะไร...” “ฉันไม่อยากพูดถึงมัน” เธอเบี่ยงตัวหลบสาวเสิร์ฟกลับไปในครัว แต่ เอมิลีแค่นเสียงเฮอะและเดินตามมา “งั้นก็ไม่ต้องพูด ฉันแค่ดีใจที่เธอมา” เธอควงแขนเข้ากับสการ์เล็ตและ ผลุบกลับออกไปที่ตรอกด้วยกัน “เพราะเขากลับมาแล้วล่ะ” แม้เรือนผมหยักศก สีทองที่ล้อมรอบใบหน้าของเอมิลีไว้จะท�ำให้เธอดูเหมือนนางฟ้า รอยยิ้มของเธอ กลับดูชั่วร้าย สการ์เล็ตดึงตัวออก อุ้มลังใส่หัวพาร์สนิปกับแรดิชขึ้นมาส่งให้สาวเสิร์ฟ เธอไม่พูดอะไร ไม่มีอารมณ์จะสนใจว่าเขาคือใคร และท�ำไมการกลับมาของเขา ถึงส�ำคัญนัก “เยี่ยมเลย” เธอว่า และโกยหอมแดงเปลือกบางใส่ตะกร้า “เธอจ�ำไม่ได้เหรอ ไม่เอาน่า สการ์ นักสู้สังเวียนเถื่อนที่ฉันเล่าให้ฟัง เมื่อวันก่อน... เอ๋ หรือฉันเล่าให้โซเฟียฟังนะ” “นักสู้สังเวียนเถื่อนเหรอ” สการ์เล็ตหลับตาปี๋สู้อาการปวดศีรษะตุบๆ “เอาจริงเหรอ เอ็ม” “อย่าพูดแบบนั้นสิ เขาน่ารักมากเลยนะ! แถมยังมาที่นี่เกือบทุกวันทั้ง สัปดาห์ และนัง่ ในโซนของฉันตลอดด้วย น่าจะมีความหมายอะไรบ้างใช่ไหมล่ะ” เมื่อสการ์เล็ตไม่ตอบ สาวเสิร์ฟก็วางลังลงกับพื้นและล้วงหมากฝรั่งออกมาจาก กระเป๋าผ้ากันเปื้อน “เขาเงียบมากๆ เลย ไม่เหมือนโรลองด์กับลูกสมุน ฉันว่าเขา ขีอ้ าย... แล้วก็ขเี้ หงา” เธอส่งหมากฝรัง่ แท่งหนึง่ เข้าปาก และยืน่ อีกแท่งให้สการ์เล็ต 4


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

“นักสู้สังเวียนเถื่อนผู้ขี้อายเนี่ยนะ” สการ์เล็ตโบกมือปฏิเสธหมากฝรั่ง “เธอฟังตัวเองพูดบ้างไหมฮึ” “เธอต้องเห็นเขาถึงจะเข้าใจ ดวงตาเขาช่าง...” เอมิลียกมือขึ้นพัด หน้าผาก เหมือนคนเป็นลมแดด “เอมิลี!” ฌิลส์ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูอีกครั้ง “เลิกขยับปากแล้วขยับตัว เข้ามาในนี้เสียที ลูกค้าโต๊ะสี่เรียก” เขาถลึงตาใส่สการ์เล็ตแทนค�ำขู่ว่าจะหักเงิน เพิ่ม ถ้าเธอไม่เลิกท�ำให้ลูกจ้างเขาเสียสมาธิ และกลับเข้าไปโดยไม่รอฟังค�ำตอบ เอมิลีแลบลิ้นไล่หลังไป สการ์เล็ตเหน็บตะกร้าหัวหอมเข้ากับสะโพก ปิดฝาท้ายยาน และแซง สาวเสิร์ฟไป “โต๊ะสี่ใช่เขาหรือเปล่า” “เปล่า เขานั่งโต๊ะเก้า” เอมิลีบ่นงึมง�ำและหอบผักขึ้นมา ขณะที่เดินผ่าน ครัวซึ่งคละคลุ้งไปด้วยไอร้อน เธอก็ร้องว่า “โอ๊ย ฉันนี่ทึ่มจริง! ฉันตั้งใจจะสื่อไป ถามเรื่องกรองด์แมร์ของเธอมาทั้งสัปดาห์เลยนะ ได้ข่าวอะไรบ้างไหม” สการ์เล็ตกัดฟันกรอด ถ้อยค�ำในสื่อส่งเสียงหึ่งๆ ราวกับมีฝูงต่อบินอยู่ ในหัว ปิดคดี “ไม่มีอะไรใหม่” เธอตอบก่อนจะปล่อยให้บทสนทนาจมหายไปในความ อึกทึกที่เกิดจากเสียงตะคอกใส่กันของเหล่าคนครัว เอมิลีตามเธอไปจนถึงห้องเก็บของสด และวางของลง สการ์เล็ตหันไป ง่วนอยู่กับการจัดเรียงตะกร้าใหม่ก่อนที่สาวเสิร์ฟจะทันพูดให้ก�ำลังใจ เอมิลี พยายามปลอบตามธรรมเนียมว่า “อย่าเครียดไปนะ สการ์ เดี๋ยวท่านก็กลับมา” ก่อนจะหายกลับเข้าไปในตัวร้าน สการ์เล็ตกัดฟันแน่นจนเริ่มจะปวดขากรรไกรแล้ว ใครๆ ก็พูดเหมือน คุณย่าของเธอเป็นแค่แมวหลง ที่พอหิวมากเข้าก็จะกลับมาบ้านเอง ไม่ต้องห่วง หรอก เดี๋ยวท่านก็กลับมา แต่ย่าหายไปกว่าสองสัปดาห์แล้ว หายตัวไปเฉยๆ โดยไม่ส่ือแจ้ง ไม่ บอกลา ไม่ทันให้เธอตั้งตัว ย่าไม่กลับมาฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่สิบแปดของ สการ์เล็ตด้วยซ�้ำ ทั้งที่ซื้อส่วนผสมส�ำหรับท�ำเค้กมะนาวสุดโปรดของสการ์เล็ต เตรียมไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ไม่มีคนงานในไร่คนไหนเห็นย่าออกไป ไม่มีแอนดรอยด์ในไร่ตัวไหนจับ ภาพความผิดปกติใดๆ ได้ เครื่องพอร์ตของย่าถูกทิ้งไว้ แต่ไม่มีเบาะแสใดๆ ใน 5


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 ข้อความสื่อสาร ปฏิทิน และประวัติการใช้เน็ตที่ถูกบันทึกไว้เลย แค่การที่ท่าน ไม่เอาเครื่องพอร์ตติดตัวไปก็น่าสงสัยพอแล้ว ไม่มีใครไปไหนมาไหนโดยไม่พก เครื่องพอร์ตหรอก แต่นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่เลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพอร์ตที่ถูกทิ้งไว้ หรือเค้กที่ไม่มีใครอบ สการ์เล็ตเจอชิปรหัสของย่าด้วย ชิปรหัสของย่า ถูกห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางที่เปรอะหยดเลือดของท่าน และ ทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ในครัวราวกับพัสดุเล็กจิ๋ว นักสืบบอกว่านั่นคือสิ่งที่ผู้คนท�ำกัน เมื่อต้องการหนีไปโดยไม่ให้ใคร ตามเจอ พวกเขาจะกรีดชิปรหัสทิง้ เขาพูดเหมือนเพิง่ ไขปริศนาส�ำเร็จ แต่สการ์เล็ต คิดว่าโจรลักพาตัวส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักลูกไม้นี้เหมือนกัน

6


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

2

สการ์ เ ล็ ต เห็ น ฌิ ล ส์ ยื น อยู ่ ห ลั ง เตาไฟฟ้ า ก� ำ ลั ง ราดซอสครี ม เบชาเมลลงบน แซนด์วิชแฮม เธอเดินอ้อมไปอีกด้าน ตะโกนเรียก และได้รับสีหน้าหงุดหงิด ตอบกลับมา “เสร็จแล้ว” เธอขมวดคิ้วตอบ “มาเซ็นรับของด้วย” ฌิ ล ส์ ตั ก มั น ฝรั่ ง ทอดกองหนึ่ ง วางข้ า งแซนด์ วิ ช และผลั ก จานข้ า ม เคาน์เตอร์เหล็กกล้ามาหาเธอ “เอานี่ไปส่งโต๊ะเบาะตัวแรก ฉันจะเซ็นรอไว้เมื่อ เธอกลับมา” สการ์เล็ตเดือดปุดๆ “ฉันไม่ใช่ลูกจ้างคุณ ฌิลส์” “ฉันไม่ไล่เธอออกไปขัดตรอกหลังร้านก็ดแี ค่ไหนแล้ว” เขาหันหลังหนี เสือ้ เชิ้ตสีขาวเปลี่ยนเป็นเหลืองหลังซับเหงื่อมานานปี นิ้วของสการ์เล็ตคันยิบๆ อยากขว้างแซนด์วิชใส่ท้ายทอยอีกฝ่ายเพื่อดู ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเมือ่ เปรียบเทียบกับมะเขือเทศ แต่สหี น้าดุๆ ของผูเ้ ป็นย่า เข้ามาขัดจังหวะความฝันนัน้ อย่างรวดเร็ว ท่านจะผิดหวังขนาดไหน ถ้ากลับมาเจอ ว่าสการ์เล็ตท�ำลูกค้าขาประจ�ำคนหนึ่งหลุดมือไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ สการ์เล็ตคว้าจานเดินปึงปังออกไปจากครัว และเกือบถูกบ๋อยชนทันที ที่ประตูครัวปิดไล่หลัง ริเยอซ์ทาเวิร์นไม่ใช่ร้านหรูอะไร พื้นร้านเหนียวเหนอะ เครื่องเรือนเป็นเก้าอี้และโต๊ะถูกๆ ไม่เข้าชุดกัน และกลิ่นไขมันก็คลุ้งไปทั่ว แต่ใน เมืองซึ่งมีการดื่มและนินทาเป็นงานอดิเรกสุดโปรดแบบนี้ ร้านก็แน่นตลอดเวลา โดยเฉพาะในวั น อาทิ ต ย์ ซึ่ ง คนงานในไร่ แ ถวนี้ ส ามารถละเลยพื ช ผลได้ น าน 7


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 ยี่สิบสี่ชั่วโมงเต็มๆ ขณะที่รอให้ทางเปิด สการ์เล็ตก็หันไปเห็นเน็ตสกรีนหลังเคาน์เตอร์บาร์ ทั้งสามเครื่องล้วนฉายภาพข่าวเดียวกัน ซึ่งแพร่ทั่วไปในเน็ตตั้งแต่คืนก่อนแล้ว ใครๆ ก็พูดถึงงานเต้นร�ำประจ�ำปีของเครือจักรภพตะวันออก ที่ซึ่งมีราชินีจันทรา มาเป็นแขกพิเศษ และไซบอร์กสาวคนหนึ่งแทรกซึมเข้าไประเบิดโคมระย้าทิ้ง พร้อมพยายามลอบสังหารราชินีผู้มาเยือน... หรือไม่ก็จักรพรรดิที่เพิ่งขึ้นครอง บัลลังก์ ข้อสันนิษฐานของแต่ละคนดูจะแตกต่างกันไป เทคนิคหยุดภาพเคลือ่ นไหว ซูมให้เห็นเด็กสาวที่มีรอยเปื้อนบนใบหน้าและปอยผมชื้นแฉะที่หลุดจากหางม้า ยุ่งๆ ไม่มีใครรู้ว่าเธอหลุดเข้าไปในงานเต้นร�ำหลวงได้อย่างไร “พวกเขาน่าจะช่วยให้หล่อนพ้นๆ ทุกข์ไปซะตัง้ แต่ตกบันไดนัน่ ” โรลองด์ ขาประจ�ำของร้าน ซึง่ ดูเหมือนจะกอดเคาน์เตอร์เหล้ามาตัง้ แต่เทีย่ งพูด เขาชีน้ วิ้ ใส่ จอและท�ำท่ายิงปืน “เป็นฉันนะ จะยิงเจาะหัวหล่อนเลย ตายไปเสียได้ก็ดี” เสี ย งพึ ม พ� ำ เห็ น ด้ ว ยจากแขกรายอื่ น ที่ นั่ ง อยู ่ ใ กล้ ๆ ท� ำ ให้ ส การ์ เ ล็ ต กลอกตาอย่างรังเกียจ ก่อนจะเบียดตัวไปยังโต๊ะมุมตัวแรก เธอรูท้ นั ทีวา่ เขาคือนักสูส้ งั เวียนเถือ่ นสุดหล่อของเอมิลี ส่วนหนึง่ ก็เพราะ รอยแผลเป็นและรอยช�้ำบนผิวสีแทนของเขา แต่หลักๆ แล้วเป็นเพราะเขาคือ คนแปลกหน้าคนเดียวในร้านต่างหาก เขาดูกระเซอะกระเซิงกว่าที่เธอคาดไว้ หลังได้ยินค�ำพร�่ำเพ้อของเอมิลี ผมชี้เป็นกระจุกอย่างไม่เป็นทรง แถมยังมีรอยช�้ำ สดใหม่อยู่ใต้ตาข้างหนึ่ง ขาทั้งสองข้างเขย่าไม่หยุดราวกับหุ่นไขลานอยู่ใต้โต๊ะ จานวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้วตั้งสามใบ ล้วนเกลี้ยงเกลาเหลือเพียง คราบมัน สลัดไข่นิดหน่อย และมะเขือเทศกับผักกาดเขียวซึ่งไม่ถูกแตะต้อง สการ์เล็ตไม่รู้ตัวว่าจ้องอีกฝ่ายอยู่จนเขาสบตาเข้ากับเธอ ดวงตาคู่นั้น เป็นสีเขียวผิดธรรมชาติ เหมือนองุ่นดิบที่ยังคาอยู่บนต้น สการ์เล็ตก�ำจานแน่นขึ้น เข้าใจอาการเพ้อของเอมิลีขึ้นมาทันที ดวงตาเขานะ... เธอแหวกผู้คนไปวางแซนด์วิชลงบนโต๊ะ “สั่งคร็อคเมอซิเยอร์ใช่ไหม” “ขอบคุณครับ” เสียงของเขาท�ำให้เธอประหลาดใจ ไม่ได้ดงั หรือห้าวอย่าง ที่เธอคิด แต่กลับแผ่วเบาและลังเล บางทีเอมิลีอาจจะพูดถูก บางทีเขาอาจจะขี้อายจริงๆ “แน่ใจนะว่าไม่อยากสั่งหมูทั้งตัวน่ะ” สการ์เล็ตเปรยและหยิบจานเปล่า สามใบซ้อนกัน “คนเสิร์ฟจะไม่ต้องเสียเวลาวิ่งเข้าวิ่งออกครัว” 8


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และสการ์เล็ตก็เผลอคิดว่าเขาจะถามว่าสั่งได้ จริงหรืออยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วเขาก็ก้มมองแซนด์วิชตามเดิม “อาหารที่นี่ดีนะ” เธอกลั้นเสียงเฮอะไว้ “อาหารดีๆ” และ “ริเยอซ์ทาเวิร์น” คือสองวลีที่เธอ ไม่คิดว่าควรอยู่คู่กัน “การต่อสู้คงท�ำให้เจริญอาหารมากสินะ” เขาไม่ตอบ เอาแต่เขีย่ หลอดเล่น สการ์เล็ตเห็นได้วา่ โต๊ะเริม่ จะสัน่ เพราะ แรงเขย่าขาแล้ว “กินให้อร่อยละกัน” เธอเก็บจาน แต่แล้วก็นิ่งไป ก่อนจะเอียงมันให้เขา ดู “แน่ใจนะว่าไม่อยากกินมะเขือเทศ เป็นของทีอ่ ร่อยทีส่ ดุ ในจานเลยนะ แถมสวน ฉันยังปลูกเองอีกด้วย ผักกาดเขียวก็เหมือนกัน แต่มันไม่ได้เหี่ยวขนาดนี้ตอนฉัน เก็บมา ช่างเถอะ นายไม่อยากกินผักกาดเขียวหรอก แต่ไม่กนิ มะเขือเทศจริงเหรอ” แววขึงขังบนใบหน้าของนักสู้คลายลงเล็กน้อย “ผมไม่เคยลอง” สการ์เล็ตเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “ไม่เคยเลยเหรอ” หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็วางแก้วน�้ำและหยิบมะเขือเทศฝานบางๆ สองชิ้นขึ้นมายัดใส่ปาก เขาเคีย้ วและชะงักไป ท�ำท่าครุน่ คิด ดวงตาเหม่อลอย ก่อนจะกลืน “ไม่ใช่ อย่างที่คิด” เขาตอบและเงยหน้ามองเธออีกครั้ง “แต่ก็ไม่แย่ ผมสั่งเพิ่มได้ไหม” สการ์เล็ตขยับจานในมือ ระวังไม่ให้มีดทาเนยหล่น “นี่นาย ฉันไม่ได้ ท�ำงานที่นี่...” “มาแล้ว!” เสียงคนที่นั่งใกล้เคาน์เตอร์บาร์ดังขึ้น ก่อเสียงพึมพ�ำอย่าง ตื่นเต้นไปทั่วร้าน สการ์เล็ตช้อนตาขึ้นมองเน็ตสกรีน จอฉายภาพสวนเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยต้นไผ่ ดอกบัว และหยดน�้ำจากฝนกระหน�่ำที่เพิ่งซาไป แสงสีแดงเรื่อ เรืองจากงานเลีย้ งสาดลงมาตามบันไดหรูหรา กล้องนิรภัยอยูเ่ หนือประตู หันไปยัง เงาด�ำที่ทอดยาวลงบนทางเดิน ช่างงดงาม แสนสงบ “พนันสิบยูนิฟเลยว่าจะมีสาวสะดุดบันไดนั่นจนเท้าหลุด!” ใครคนหนึ่ง ตะโกน เรียกเสียงหัวเราะรอบวง “มีใครรับพนันไหม ไม่เอาน่า แต้มต่อดีจะตายไป” หลังจากนัน้ ครูห่ นึง่ ไซบอร์กสาวก็ปรากฏตัวบนหน้าจอ เธอวิง่ พรวดออก มาจากประตูและลงบันไดไป ท�ำลายความสงบของสวนด้วยชุดราตรีสีเงินพลิ้ว สการ์เล็ตกลัน้ ลมหายใจ รูว้ า่ จะเกิดอะไรขึน้ ตามมา แต่กย็ งั สะดุง้ เมือ่ เด็กสาวสะดุด ล้ม เธอกลิ้งลงไปนอนอยู่บนทางโรยกรวดที่เชิงบันไดในท่าอันทุลักทุเล แม้จะไม่มี เสียง สการ์เล็ตก็เหมือนได้ยินเสียงหอบหายใจของเด็กสาวขณะพลิกตัวขึ้น 9


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 นอนหงายและจ้องขึ้นไปยังประตูด้านบน เงาสาดลงบนบันได และร่างที่ดูไม่ออก ว่าเป็นใครหลายร่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า หลังได้ยินเรื่องนี้มาเป็นสิบหน สการ์เล็ตก็มองหาเท้าที่ยังค้างเติ่งอยู่บน บันได แสงไฟจากห้องเต้นร�ำสะท้อนเข้ากับโลหะ เท้าเทียมของเด็กสาวคนนั้น “เขาว่ากันว่าคนทางซ้ายคือราชินี” เอมิลีเอ่ย สการ์เล็ตสะดุ้ง เธอไม่ทัน รู้ตัวว่าสาวเสิร์ฟเดินมา เจ้าชาย ไม่สิ เป็นจักรพรรดิแล้ว เดินลงมาและย่อตัวลงหยิบเท้าข้างนั้น เด็กสาวเอื้อมไปจับชายกระโปรง พยายามดึงมันลงคลุมน่อง แต่ก็ไม่อาจบดบัง สายไฟไร้ชีวิตที่ห้อยระโยงระยางลงมาจากตอขาโลหะ สการ์เล็ตรู้ว่าคนลือกันอย่างไร ไม่เพียงแต่จะมีค�ำยืนยันแล้วว่าเด็กสาว คนนั้นเป็นชาวจันทรา เป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและเป็นอันตราย ต่อประชาคมโลก แต่เธอยังล้างสมองจักรพรรดิไคไปแล้วด้วย บางคนคิดว่าเธอ ต้องการอ�ำนาจ บ้างก็วา่ ความร�ำ่ รวย บางคนเชือ่ ว่าเธอพยายามจุดชนวนสงคราม ทีใ่ กล้จะปะทุมานานปี แต่ไม่วา่ จุดประสงค์ของเด็กสาวคนนัน้ จะเป็นอะไร สการ์เล็ต ก็อดสงสารเธอไม่ได้ อย่างไรเสีย เธอก็ยังเป็นแค่เด็กสาววัยรุ่น เด็กกว่าสการ์เล็ต ด้วยซ�้ำ และดูน่าเวทนาเหลือเกินเมื่อนอนอยู่ที่เชิงบันไดอย่างนั้น “ไหนใครว่าจะช่วยหล่อนให้พน้ ทุกข์นะ” ใครอีกคนทีเ่ คาน์เตอร์บาร์เอ่ยขึน้ โรลองด์ชี้ไปที่จอ “ว่าไหมล่ะ ฉันไม่เคยเห็นอะไรที่น่าขยะแขยงขนาดนี้ มาก่อนในชีวิต” ใครคนหนึ่งที่ปลายเคาน์เตอร์บาร์ชะโงกหน้าออกมาเพื่อมองข้ามแขก คนอื่นๆ ไปยังโรลองด์ “ฉันไม่เห็นด้วยนา ฉันว่าหล่อนน่ารักดีออก แสร้งท�ำเป็น ใสซื่อและไร้ทางสู้แบบนั้น บางทีแทนที่จะส่งหล่อนกลับดวงจันทร์ พวกนั้นน่าจะ ส่งหล่อนมาหาฉันแทน” เสียงหัวเราะกระหึม่ รับ โรลองด์ตบเคาน์เตอร์ ท�ำเอาถ้วยมัสตาร์ดสัน่ “ขา เหล็กนั่นน่าจะเป็นเพื่อนร่วมเตียงที่ดีเชียวล่ะ” “ไอ้หมูโสโครก” สการ์เล็ตพึมพ�ำ แต่ค�ำพูดของเธอถูกเสียงหัวเราะก๊าก กลบมิด “ฉันช่วยอุ่นให้ก็ได้!” ใครอีกคนเสริม และโต๊ะทั้งร้านก็สั่นไปด้วยเสียง หัวเราะและโห่ฮา ความโกรธเอ่อกลับขึ้นมายังคอหอยของสการ์เล็ต เธอกึ่งกระแทกกึ่ง 10


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ปล่อยกองจานให้หล่นกลับไปบนโต๊ะ ไม่สนใจสีหน้างุนงงรอบตัวและเบียดฝ่าผูค้ น ไปจนถึงหลังเคาน์เตอร์บาร์ บาร์เทนเดอร์ผู้งุนงงมองสการ์เล็ตผลักขวดเหล้าให้พ้นทาง และปีนขึ้น ไปยืนบนเคาน์เตอร์ซึ่งยาวตลอดแนวผนัง เธอเอื้อมขึ้นไปที่ผนังใต้ชั้นวางแก้ว คอนญัคและกระชากสายเน็ตลิงค์ออก จอทั้งสามดับลง สวนในพระราชวังและ ไซบอร์กสาวหายไป เสียงโห่ประท้วงก้องขึ้นรอบตัวเธอ สการ์เล็ตหันไปประจันหน้าคนเหล่านั้น บังเอิญเตะขวดไวน์ตกจาก เคาน์เตอร์ แก้วแตกเป็นเสีย่ งๆ แต่สการ์เล็ตแทบไม่ได้ยนิ เลยขณะทีโ่ บกสายเคเบิล ไปมาต่อหน้าลูกค้าผู้ขุ่นเคือง “ให้เกียรติกันบ้างสิ! เด็กคนนั้นจะถูกประหารนะ!” “เด็กนั่นเป็นชาวจันทรา!” ใครคนหนึ่งตะโกน “หล่อนสมควรจะโดน ประหารแล้ว!” ผู้คนพากันพยักหน้าสนับสนุน มีใครบางคนขว้างเปลือกขนมปังใส่ไหล่ ของสการ์เล็ต เธอยกมือทั้งสองขึ้นเท้าสะเอว “เธออายุแค่สิบหกเองนะ” เสียงโต้เถียงอย่างดุดนั ดังตอบ ทัง้ หญิงและชายต่างพากันยืนขึน้ โวยวาย เรื่องชาวจันทรา ความชั่วร้าย และเด็กนั่นพยายามฆ่าผู้น�ำของสหภาพ! “เดีย๋ ว เดีย๋ ว ทุกคนใจเย็นก่อน! อย่ากดดันสการ์เล็ตนักสิ!” โรลองด์ตะโกน กลิน่ วิสกีใ้ นลมหายใจยิง่ เสริมความมัน่ ใจของเขา เขาแบมือทัง้ สองไปทางกลุม่ คน ที่เบียดเสียดกัน “พวกเราก็รู้ดีว่าคนในตระกูลเธอมีเชื้อบ้า ทีแรกยายแก่นั่นก็หนี หายไป ตอนนี้สการ์ก็ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิชาวจันทรา!” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยโถมเข้าใส่สการ์เล็ต แต่กถ็ กู กลบด้วยเสียงอือ้ อึงใน หูของเธอเอง สการ์เล็ตไม่รู้ด้วยซ�้ำว่าลงจากเคาน์เตอร์ได้อย่างไร จู่ๆ เธอก็ยืนอยู่ กลางร้าน ขวดและแก้วแตกเกลื่อน หมัดกระแทกเข้าที่กกหูของโรลองด์ เขาร้องลั่นแล้วหันขวับไปหาเธอ “อะไร...” “ย่าฉันไม่ได้บา้ !” เธอคว้าคอเสือ้ เขา “นายบอกนักสืบอย่างนัน้ เหรอ ตอน ที่เขาสอบปากค�ำนาย นายบอกเขาว่าย่าฉันบ้าเหรอ” “ฉันก็ต้องบอกว่ายายแก่นั่นบ้าอยู่แล้ว!” เขาตะคอก กลิ่นแอลกอฮอล์ คลุง้ ไปทัว่ เธอก�ำเสือ้ เขาแน่นจนปวดมือ “พนันได้เลยว่าไม่ได้มแี ต่ฉนั คนเดียวด้วย ยายแก่นั่นอุดอู้อยู่แต่ในบ้านหลังเก่า คุยกับสัตว์และแอนดรอยด์เหมือนพวกมัน เป็นมนุษย์จริงๆ เอาปืนมายิงไล่ใครต่อใคร...” 11


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 “แค่ครั้งเดียวเอง และหมอนั่นก็เป็นเซลล์แมนขายหุ่นเพื่อนเที่ยว!” “ฉันไม่แปลกใจแม้แต่นดิ เดียวทีใ่ นทีส่ ดุ ยายแก่เบอนัวต์กห็ ลุดโลกไป ฉัน กะไว้ตั้งนานแล้ว” สการ์เล็ตใช้สองมือผลักโรลองด์อย่างแรง เขาเซไปชนเอมิลีซึ่งพยายาม เข้ามาขวาง สาวเสิร์ฟกรี๊ดและถอยหนีจนล้มฟาดโต๊ะ โรลองด์ทรงตัวกลับขึน้ มา ท�ำหน้าเหมือนไม่รวู้ า่ จะยิม้ เยาะหรือแยกเขีย้ ว ดี “ระวังหน่อยสิ สการ์ ไม่งั้นมีหวังลงเอยแบบเดียวกับยายแก่...” ขาโต๊ะส่งเสียงเอี๊ยดเมื่อครูดเข้ากับกระเบื้องปูพื้น มือข้างหนึ่งของนักสู้ คนนั้นรวบคอโรลองด์ไว้ ยกตัวเขาลอยขึ้นจากพื้น ทัง้ ร้านเงียบกริบ นักสูผ้ ไู้ ม่สะทกสะท้านยกตัวโรลองด์ลอยค้างราวกับเขา เป็นตุ๊กตา ไม่สนใจเสียงส�ำลักของโรลองด์ สการ์เล็ตอ้าปากค้าง ขอบเคาน์เตอร์บาร์กดท้องเธอ “ฉั น คิ ด ว่ า นายติ ด หนี้ ค� ำ ขอโทษเธอนะ” นั ก สู ้ พู ด ด้ ว ยน�้ ำ เสี ย งเบาๆ ราบเรียบตามแบบของเขา เสียงขย้อนดังออกมาจากปากของโรลองด์ เท้าเตะเปะปะเพื่อหาพื้น “เฮ้ย ปล่อยเขานะ!” ชายคนหนึ่งลุกพรวดลงจากเก้าอี้ “เดี๋ยวเขาก็ตาย หรอก!” เขาคว้าข้อมือของนักสู้ไว้ แต่ก็เหมือนพยายามแงะแท่งเหล็กเพราะมือ ของอีกฝ่ายแทบไม่ขยับเลย ชายคนนั้นหน้าแดงก�่ำและปล่อยมือเพื่อง้างหมัด เตรียมชก แต่ทันทีที่เขาออกหมัด มือข้างที่ว่างอยู่ของนักสู้ก็ขยับมากันไว้ สการ์เล็ตเซถอยจากเคาน์เตอร์ มองรอยสักตัวอักษรและตัวเลขไร้ ความหมายบนแขนของนักสูอ้ ย่างมึนงง นปพจ962 หน่วยปฏิบตั กิ ารพิเศษจันทรา นักสูย้ งั ดูโมโหอยู่ แต่แววขบขันจางๆ ก็ปรากฏขึน้ เหมือนเขาเพิง่ จ�ำกติกา ของเกมนีไ้ ด้ เขาหย่อนตัวโรลองด์ลงให้เท้าแตะพืน้ และปล่อยมือพร้อมๆ กับปล่อย หมัดของชายอีกคน โรลองด์ยันเก้าอี้พยุงตัวไว้ “แกเป็นบ้าอะไรน่ะ” เขาส�ำลักและนวดคอ ตัวเอง “เป็นพวกบ้าที่ย้ายมาจากเมืองใหญ่หรือไง” “นายท�ำตัวไม่สุภาพ” “ไม่สุภาพเรอะ” โรลองด์ตะคอก “แกเกือบจะฆ่าฉันนะ!” ฌิลส์ผลักประตูพรวดออกมาจากครัว “เกิดอะไรขึ้นที่นี่” “หมอนี่อยากมีเรื่อง” ใครบางคนในกลุ่มคนตะโกนมา 12


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

คนพูด

“และสการ์เล็ตก็ท�ำจอพัง!” “ฉันไม่ได้ท�ำพัง นายงั่ง!” สการ์เล็ตตะคอก แม้จะไม่แน่ใจว่าใครเป็น

ฌิลส์กวาดตาส�ำรวจหน้าจอที่ดับไป โรลองด์ที่ยังนวดคอตัวเองอยู่ เศษ ขวดและแก้วทีก่ ระจายเกลือ่ นบนพืน้ เปียกๆ เขาถลึงตาใส่นกั สูส้ งั เวียนเถือ่ น “นาย” เขาชี้ “ออกไปจากร้านฉัน” ท้องไส้สการ์เล็ตบิดเกร็ง “เขาไม่ได้ท�ำอะไร...” “อย่าเริ่มนะ สการ์เล็ต วันนี้เธอคิดจะก่อความเสียหายมากแค่ไหนกันฮึ เธอพยายามท�ำให้ฉันปิดบัญชีกับเธอหรือไง” สการ์เล็ตเดือดจัด ใบหน้ายังแดงก�่ำ “งั้นฉันจะเอาของที่มาส่งกลับไป ละกัน จะได้เห็นกันว่าแขกของคุณชอบกินผักเน่าขนาดไหน” ฌิลส์เดินอ้อมเคาน์เตอร์บาร์มากระชากสายเคเบิลออกจากมือสการ์เล็ต “เธอคิดว่าไร่ของตัวเองเป็นไร่แห่งเดียวในฝรั่งเศสจริงเหรอ ให้ตายสิ สการ์ ฉันสั่ง ผักจากเธอก็แค่เพราะย่าเธอจะก่อกวนไม่หยุดถ้าฉันไม่สั่งเท่านั้น!” สการ์เล็ตเม้มปาก กลั้นค�ำพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ในใจ ไม่ย�้ำว่าใน เมื่อย่าเธอไม่อยู่แล้ว ก็เชิญเขาไปสั่งผักจากใครก็ได้ที่ต้องการ ฌิลส์หันกลับไปหานักสู้ “ฉันบอกให้ออกไป!” นักสูไ้ ม่สนใจเขา แต่กลับยืน่ มือให้เอมิลซี งึ่ ยังคูต้ วั ติดโต๊ะ ใบหน้าของเธอ แดงก�่ำ กระโปรงชุ่มเบียร์ แต่ดวงตากลับวาววามด้วยความปลาบปลื้มขณะที่ ปล่อยให้อีกฝ่ายฉุดขึ้นยืน “ขอบคุณค่ะ” เธอว่า เสียงกระซิบแว่วไปไกลในความเงียบอันประหลาดนี้ ในที่สุดนักสู้ก็หันไปเผชิญกับสีหน้าถมึงทึงของฌิลส์ “ผมไปก็ได้ แต่ผม ยังไม่ได้จ่ายค่าอาหารเลย” เขาลังเล “ผมออกค่าแก้วที่แตกไปให้ด้วยก็ได้” สการ์เล็ตกะพริบตา “อะไรนะ” “ฉันไม่ต้องการเงินของนาย!” ฌิลส์ตะคอกเหมือนถูกดูแคลน ซึ่งท�ำให้ สการ์เล็ตยิ่งประหลาดใจกว่าเดิม เธอเคยแต่ได้ยินฌิลส์บ่นเรื่องเงินและว่าคนส่ง ของเอาแต่ขูดเลือดเขา “ฉันต้องการให้นายออกไปจากร้านฉัน” ดวงตาสีซีดของนักสู้ปราดมาทางสการ์เล็ต และชั่วขณะนั้น เธอก็รับรู้ได้ ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา พวกเธอเป็นคนนอกคอกกันทั้งคู่ ไม่มีใครต้องการ เป็นบ้า 13


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 สการ์เล็ตกดความคิดนัน้ ลงไปด้วยใจทีเ่ ต้นรัว ชายคนนีค้ อื ตัวปัญหา เขา สูก้ บั คนอืน่ เพือ่ หาเลีย้ งตัวเอง หรืออาจจะเพือ่ ความสนุกด้วยซ�ำ้ เธอไม่รเู้ หมือนกัน ว่าแบบไหนแย่กว่า นักสู้หันหนีและก้มศีรษะในท่าที่เกือบจะเหมือนการขอโทษ ก่อนจะเดิน ลากขาไปยังประตู ขณะที่เขาเดินผ่านไป สการ์เล็ตก็อดคิดไม่ได้ว่าแม้เขาจะดู ป่าเถื่อนเพียงใด ตอนนี้เขากลับดูคุกคามพอๆ กับสุนัขที่ถูกเจ้านายดุมา

14


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

3

สการ์เล็ตลากลังมันฝรั่งลงมาจากชั้นล่างสุด ปล่อยให้มันกระแทกพื้นดังตุบ ก่อนจะลากลังมะเขือเทศมาวางทับ หัวหอมกับหัวเทอร์นพิ ตามมาอยูข่ า้ งๆ เธอต้อง เดินกลับออกไปที่ยานอีกสองรอบ และนั่นท�ำให้หญิงสาวโมโหกว่าเรื่องไหนๆ หมดกันกับการเดินจากมาอย่างมีเกียรติ เธอคว้าหูลังใบล่างไว้และยกมันขึ้น “ท�ำอะไรอีกล่ะ” ฌิลส์ยืนอยู่ที่ปากประตู ผ้าเช็ดมือพาดอยู่บนไหล่ ข้างหนึ่ง “ขนของพวกนี้กลับไปน่ะสิ” ฌิลส์ถอนใจและเอนตัวพิงผนัง “สการ์... ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น” “ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่นะ” “ฟังนะ ฉันชอบย่าเธอ ชอบเธอด้วย ใช่ ย่าเธอคิดค่าผักแพงเกินไป และ เธอก็กวนประสาทฉันจริงๆ และบางครั้งพวกเธอก็เพี้ยนนิดหน่อย...” เขายกมือ ทัง้ สองขึน้ เป็นเชิงห้าม เมือ่ เห็นสการ์เล็ตเริม่ จะเดือดปุดๆ “เฮ้ เธอคือคนทีป่ นี ขึน้ ไป กล่าวสุนทรพจน์บนเคาน์เตอร์นะ อย่าเสียเวลาเถียงเลย” เธอย่นจมูกใส่เขา “แต่สดุ ท้ายแล้ว กรองด์แมร์ของเธอก็มไี ร่ทดี่ ี และเธอก็ยงั ปลูกมะเขือเทศ ที่ดีสุดในฝรั่งเศสได้ปีแล้วปีเล่า ฉันไม่อยากปิดบัญชีกับเธอ” สการ์เล็ตตะแคงลังให้ลูกกลมสีแดงสุกปลั่งกลิ้งเบียดกันไปมา “เอาไปคืนที่เดิม สการ์ ฉันเซ็นจ่ายค่าของไปแล้ว” 15


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 เขาผละไปก่อนที่สการ์เล็ตจะทันอาละวาดอีกครั้ง สการ์เล็ตเป่าเกลียวผมสีแดงให้พ้นใบหน้า ก่อนจะวางลังลงและใช้เท้า ยันลังมันฝรั่งคืนต�ำแหน่งใต้ชั้น เธอได้ยินเสียงคนครัวหัวเราะข�ำเรื่องอลหม่านใน ร้าน พวกพนักงานเสิร์ฟพากันแต่งเติมจนมันเป็นต�ำนานไปแล้ว คนครัวเล่ากันว่า นักสูส้ งั เวียนเถือ่ นคนนัน้ ฟาดขวดแก้วใส่หวั โรลองด์จนอีกฝ่ายหมดสติและท�ำเก้าอี้ พังไปอีกตัวหนึง่ เขาคงจะลงมือกับฌิลส์แล้ว ถ้าเอมิลไี ม่เข้าไปปลอบให้เขาเย็นลง ด้วยรอยยิ้มน่ารักของเธอ สการ์เล็ตไม่สนใจจะแก้ข่าว จึงแค่เช็ดมือเข้ากับกางเกงยีนและกลับ เข้าไปในครัว ความเย็นชาก่อตัวขึน้ ระหว่างเธอกับพนักงานร้านระหว่างเธอเดินไป ยังเครื่องสแกนข้างประตูหลัง ฌิลส์หายไปไหนไม่รู้ และเสียงหัวเราะคิกคักของ เอมิลีก็แว่วมาจากห้องอาหาร สการ์เล็ตหวังว่าคงคิดไปเองว่าใครๆ ก็หลบตาเธอ และสงสัยว่าข่าวลือจะแพร่ไปทั่วเมืองเร็วแค่ไหนกัน สการ์เล็ต เบอนัวต์ปกป้อง ไซบอร์ก! ชาวจันทรา! หล่อนเสียสติไปแล้ว เหมือนกับ... เหมือนกับ... เธอปาดข้อมือเข้ากับเครื่องสแกนรุ่นโบราณ และตรวจค�ำสั่งซื้อบน หน้าจอด้วยความเคยชิน ให้แน่ใจว่าฌิลส์ไม่ได้ตุกติกอย่างที่ชอบท�ำ และเห็นว่า เขาหักค่ามะเขือเทศที่เธอขว้างทิ้งไปสามยูนิฟจริงๆ 687ยู โอนเข้าบัญชีผู้ขาย: เบอนัวต์ฟาร์มแอนด์การ์เด้น เธอออกไปทางประตูหลังโดยไม่แวะบอกลาใคร แม้ตรอกจะยังอุน่ อยูเ่ พราะยามบ่ายแดดจัดทีเ่ พิง่ ผ่านไป เงาทีท่ อดลงมา ก็ทำ� ให้เธอรูส้ กึ สดชืน่ เมือ่ เทียบกับครัวทีร่ อ้ นอบอ้าว สการ์เล็ตปล่อยให้มนั ท�ำให้ใจ เธอเย็นลงระหว่างจัดลังทีท่ า้ ยยาน เธอสายไปมากแล้ว กว่าจะกลับถึงบ้านก็คงค�ำ่ เธอต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อไปที่สถานีต�ำรวจตูลูส ไม่อย่างนั้นก็จะเสียเวลาไปอีก วันเปล่าๆ โดยไม่มีใครขยับนิ้วท�ำอะไรเพื่อช่วยตามหาคุณย่าของเธอ สองสัปดาห์ ย่าของเธออยู่ข้างนอกคนเดียว ไร้ทางสู้ ถูกหลงลืมตั้ง สองสัปดาห์เต็มๆ และบางที... บางทีอาจจะตายไปแล้วก็ได้ อาจจะถูกลักพาตัว ไปฆ่าและทิ้งศพไว้ในท้องร่องมืดๆ ที่ไหนสักแห่ง แต่ท�ำไมล่ะ ท�ำไมท�ำไมท�ำไม น�้ำตาแห่งความอัดอั้นเอ่อขึ้นมา แต่เธอกะพริบตากลั้นมันไว้ สการ์เล็ต กระแทกฝาปิดท้ายยาน เดินอ้อมไปด้านหน้า และชะงักกึก นักสู้คนนั้นยืนพิงผนังหินของอาคารอยู่ เฝ้าดูเธอ สการ์เล็ตต้องประหลาดใจเมื่อน�้ำตาร้อนๆ ไหลออกมา เธอปาดมันทิ้ง 16


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ก่อนจะทันอาบแก้ม และจ้องอีกฝ่ายตอบ พลางชั่งใจว่าท่าทางของเขาดูคุกคาม หรือไม่ เขายืนห่างจากหัวยานของเธอไปสิบกว่าก้าว สีหน้าดูลังเลมากกว่าจะ อันตราย แต่ก็นั่นล่ะ มันก็ไม่ได้ดูอันตรายตอนที่เขาเกือบจะบีบคอโรลองด์ตาย เหมือนกัน “ผมแค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าคุณไม่เป็นไร” เขาเอ่ย เสียงเกือบกลืนหาย ไปกับเสียงจ้อกแจ้กจากร้าน เธอทาบมือลงบนท้ายยาน หงุดหงิดที่รู้สึกใจหวิวๆ เหมือนไม่รู้ว่าควรจะ กลัวหรือปลื้มดี “สภาพฉันยังดีกว่าโรลองด์” เธอบอก “ตอนฉันออกมา คอเขาเริ่มขึ้น รอยช�้ำแล้ว” เขาเหลือบมองประตูครัว “หมอนั่นควรโดนหนักกว่านี้อีก” เธออยากยิม้ แต่ไม่เหลือพลังงานแล้ว หลังต้องข่มความโกรธและอัดอัน้ ตันใจมาตลอดบ่าย “นายไม่น่าเข้ามายุ่งด้วยเลย ฉันควบคุมสถานการณ์อยู่น่า” “ก็จริง” เขาหรี่ตามองเธอราวกับพยายามไขปริศนา “แต่ผมกลัวว่า คุณจะชักปืนใส่เขา ซึ่งไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรต่อคุณ หมายถึงไม่ได้ช่วยยืนยัน ว่าคุณไม่บ้าน่ะ” ขนที่คอเธอลุกซู่ มือของสการ์เล็ตเลื่อนไปแตะบั้นเอวโดยอัตโนมัติ ที่ซึ่ง ปืนกระบอกเล็กแนบอยู่กับผิวกาย คุณย่าให้มันเป็นของขวัญวันเกิดปีที่สิบเอ็ด พร้อมค�ำเตือนแสนหวาดระแวงว่า เราไม่มที างรูจ้ ะมีคนแปลกหน้ามาบังคับให้เรา ไปไหนด้วยเมื่อไหร่ ย่าสอนสการ์เล็ตใช้ปืน และตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่เคยออกจาก บ้านโดยไม่พกมันติดตัว ไม่ว่ามันจะดูไม่จ�ำเป็นหรือน่าขันแค่ไหนก็ตาม เจ็ดปีทผี่ า่ นมา เธอมัน่ ใจว่าไม่เคยมีใครสังเกตเห็นปืนทีเ่ ธอซ่อนไว้ใต้เสือ้ มีฮู้ดสีแดงตัวเก่งเลย จนกระทั่งตอนนี้ “นายรู้ได้ยังไง” เขายักไหล่ หรือท�ำท่าที่คงเรียกได้ว่ายักไหล่ถ้ามันไม่ได้กระตุกและเกร็ง ขนาดนั้น “ผมเห็นด้ามปืนตอนที่คุณปีนขึ้นไปบนเคาน์เตอร์” สการ์เล็ตเลิกเสื้อขึ้นพอให้ชักปืนจากขอบกางเกงได้ พยายามสูดลม หายใจเข้าออกเป็นจังหวะ แต่อากาศอวลไปด้วยกลิ่นเหม็นของหัวหอมและขยะ ในตรอก “ขอบใจที่เป็นห่วงนะ แต่ฉันไม่เป็นไร ฉันต้องไปแล้ว ส่งของช้า... ช้าไป 17


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 หมด” เธอก้าวไปยังประตูนักบิน “คุณมีมะเขือเทศอีกไหม” เธอนิ่งไป นักสู้ถดตัวลึกเข้าไปในเงามืด ท�ำท่าเขินๆ “ผมยังหิวอยู่นิดหน่อย” เขา พึมพ�ำ สการ์เล็ตแทบจะได้กลิ่นมะเขือเทศบนผนังทางด้านหลัง “ผมจ่ายได้นะ” เขารีบพูด เธอส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก เรามีเหลือเฟือ” เธอถอยไปโดยไม่ละสายตา จากอีกฝ่าย เปิดท้ายยานอีกครั้ง และหยิบมะเขือเทศลูกหนึ่งกับแครอตหงิกงอ สองสามหัวออกมา “เอ้านี่ พวกนี้กินดิบก็อร่อยเหมือนกัน” เธอโยนให้ เขารับไว้อย่างง่ายดาย มือใหญ่ข้างหนึ่งก�ำมะเขือเทศมิด ขณะที่มือ อีกข้างคว้าส่วนใบของหัวแครอตไว้ เขาส�ำรวจมันอย่างละเอียด “นี่คืออะไรน่ะ” สการ์เล็ตหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ตงั้ ใจ “แครอตไง ล้อเล่นหรือเปล่า” เขาท�ำท่าเขินที่พูดอะไรแปลกๆ ออกไปอีกแล้ว คนตรงหน้าเธอห่อไหล่ เหมือนจะท�ำตัวให้ลีบ แต่ก็เปล่าประโยชน์ “ขอบคุณครับ” “แม่นายคงไม่เคยบังคับให้กินผักเลยสินะ” ดวงตาของทัง้ สองสบกัน ความกระอักกระอ่วนเกิดขึน้ ทันที บางสิง่ ในร้าน แตกดังเปรื่อง ท�ำให้สการ์เล็ตสะดุ้งเฮือก แต่สิ่งที่ตามมาคือเสียงหัวเราะ “ช่างเถอะ มันอร่อยนะ นายต้องชอบแน่” เธอปิดท้ายยานและเดิน อ้อมไปที่ประตูอีกครั้ง ก่อนจะทาบชิปรหัสลงบนเครื่องสแกนของยาน ประตูเปิด ออก ก่อให้เกิดก�ำแพงระหว่างทั้งคู่ และไฟยานก็ติดสว่าง มันเน้นให้เห็นรอยช�้ำ รอบดวงตาของนักสู้ ท�ำให้ดูคล�้ำยิ่งกว่าเดิม เขาถดตัวหนีราวกับอาชญากรที่ถูก สาดไฟใส่ “ผมสงสัยว่าคุณต้องการคนงานในไร่บา้ งไหม” เขารีบพูดจนฟังไม่คอ่ ยชัด สการ์เล็ตนิ่งไป เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าท�ำไมเขาถึงรอเธอ ท�ำไมถึงถ่วงเวลา นานขนาดนี้ เธอส�ำรวจไหล่กว้างๆ และแขนล�่ำๆ ของอีกฝ่าย เขาถูกสร้างขึ้นมาใช้ แรงงาน “นายหางานอยู่เหรอ” เขายิม้ นิดๆ เป็นรอยยิม้ ทีด่ ซู กุ ซนอย่างร้ายกาจ “การต่อสูท้ ำ� เงินได้ดกี จ็ ริง แต่ไม่ใช่อาชีพที่ดีเท่าไหร่ ผมคิดว่าคุณคงจ่ายค่าจ้างเป็นอาหารได้” เธอหัวเราะ “หลังจากเห็นความอยากอาหารของนายในนั้นแล้ว ขืนไป 18


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ตกลงด้วย ฉันคงเหลือแต่ตวั เปล่าๆ พอดี” สการ์เล็ตหน้าแดงทันทีทคี่ ำ� นัน้ หลุดออก ไป เขาต้องนึกภาพเธอเปลือยอยู่แน่ๆ แต่แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจ เมื่อสีหน้า ของเขายังสงบเหมือนเดิม สการ์เล็ตรีบพูดต่อก่อนทีส่ มองเขาจะท�ำงาน “ว่าแต่นาย ชื่ออะไรน่ะ” ยักไหล่อย่างกระอักกระอ่วนอีกแล้ว “คนที่สังเวียนเรียกผมว่าวูล์ฟ” “วูล์ฟเหรอ ช่าง... สมเป็นนักล่าดีนะ” เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม สการ์เล็ตกลั้นยิ้ม “นายอาจจะอยากข้ามเรื่องนักสู้สังเวียนเถื่อนไปตอน เขียนใบสมัครงานนะ” เขาเกาข้อศอก รอยสักประหลาดนั้นแทบจะมองไม่เห็นในความมืด เธอ ท�ำให้เขาอายหรือเปล่า บางทีวูล์ฟอาจจะเป็นชื่อเล่นที่เขารักมาก “เอาล่ะ ฉันชื่อสการ์เล็ต ใช่ ชื่อเหมือนสีผมเลย ฉลาดนะที่สังเกตเห็น” สีหน้าของเขาอ่อนโยนลง “สีผมที่ไหนกัน” สการ์เล็ตพาดแขนลงกับประตูหน้าและเท้าคางลงไป “ตอบได้ดี” เขาท�ำท่าเหมือนพออกพอใจในตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง และสการ์เล็ตก็พบว่า เธอเริ่มจะใจอ่อนกับคนแปลกหน้าคนนี้ คนพิลึกคนนี้ นักสู้สังเวียนเถื่อนเสียงนุ่ม คนนี้ ค�ำเตือนผุดขึ้นในหัวเธอ เธอก�ำลังเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ คุณย่า ของเธออยู่ข้างนอกนั่น อยู่คนเดียว หวาดกลัว ตายอยู่ในท้องร่อง สการ์เล็ตก�ำประตูแน่นเข้า “ขอโทษจริงๆ นะ แต่เรามีคนงานพอแล้ว ฉัน ไม่ต้องการคนเพิ่ม” แววตาของอี ก ฝ่ า ยหมองลง และเขาก็ ก ลั บ ไปดู อึ ด อั ด อี ก ครั้ ง ในชั่ ว พริบตา ดูอัดอั้น “ผมเข้าใจ ขอบคุณส�ำหรับอาหารครับ” เขาเตะก้านดอกไม้ไฟบน ฟุตบาท เศษซากจากงานฉลองสันติภาพเมื่อวันก่อน “นายน่าจะไปตูลูส ไม่ก็ปารีส เมืองใหญ่มีงานเยอะกว่า และคนแถวนี้ก็ ไม่ชอบคนแปลกหน้าเท่าไหร่ อย่างที่นายคงเห็นแล้ว” เขาเอียงคอคล้ายก�ำลังข�ำ ท�ำให้ดวงตาสีมรกตคู่นั้นยิ่งเรืองรองใน แสงไฟเจิดจ้าจากยาน “ขอบคุณส�ำหรับค�ำแนะน�ำ” สการ์เล็ตหันหนีและทิ้งตัวลงบนที่นั่งนักบิน วูล์ฟขยับไปหาผนังตึกเมื่อเธอสตาร์ทเครื่อง “ถ้าคุณเปลี่ยนใจเรื่อง 19


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 คนงานขึ้นมา ก็หาตัวผมได้ที่บ้านร้างของครอบครัวมอเรลแทบทุกคืนนะ ผมอาจ เข้ากับคนไม่เก่งนัก แต่ว่าน่าจะท�ำงานในไร่ได้ดีเลยล่ะ” แววขบขันปรากฏที่ มุมปาก “พวกสัตว์รักผม” “แหงอยู่แล้วละ” สการ์เล็ตแสร้งยิ้มให้ก�ำลังใจ และปิดประตูก่อนจะ พึมพ�ำว่า “สัตว์ในฟาร์มที่ไหนจะไม่รักหมาป่ากัน”

20


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

4

ชีวติ ในห้องขังของคาร์สเวลล์ ธอร์นเริม่ ต้นอย่างไม่ราบรืน่ นัก ทัง้ เพราะการกบฏสบู่ ซึ่งจบลงด้วยหายนะและเรื่องอื่นๆ ทว่าตั้งแต่ถูกย้ายมาขังเดี่ยว เขาก็กลายเป็น สุภาพบรุษตัวอย่างมารยาทงาม และหลังจากท�ำตัวน่าชมเชยมานานหกเดือน เขา ก็กล่อมผู้คุมสาวที่มีอยู่คนเดียวจนยอมให้เขายืมพอร์ตสกรีนได้ในที่สุด เขาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีทางท�ำส�ำเร็จแน่ ถ้าผู้คุมไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเขา เป็นไอ้ทมึ่ ทีไ่ ม่มปี ญ ั ญาท�ำอะไรอืน่ ได้ นอกจากนับวันนับคืนและค้นรูปวับๆ แวมๆ ของสาวๆ ทั้งที่เขารู้จักจริงๆ และคิดไปเอง ซึ่งเธอก็คิดถูกนะ ธอร์นไม่มีหัวด้านเทคโนโลยีเอาเสียเลย และไม่มีทาง ใช้อุปกรณ์นั่นให้เกิดประโยชน์ได้แน่ ต่อให้ได้คู่มือ “วิธีหนีจากคุกด้วยเครื่อง พอร์ตสกรีน” ฉบับละเอียดยิบมาก็เถอะ เขาเข้าระบบสื่อสารของตัวเองไม่ส�ำเร็จ เชือ่ มต่อกับเครือข่ายข่าว หรือหาข้อมูลใดๆ ว่าด้วยคุกนิวเป่ยจิงและพืน้ ทีโ่ ดยรอบ ก็ไม่ได้ แต่กร็ จู้ กั ชืน่ ชมภาพวับๆ แวมๆ เหล่านัน้ ถึงจะถูกเซ็นเซอร์ไปเยอะก็เถอะ เขาไล่ดูภาพในอัลบั้มส่วนตัวอยู่ในวันที่ 228 ของการคุมขัง พลางสงสัย ว่าซินญอร่าซานติอาโกยังแต่งงานกับนายกลิ่นหัวหอมหึ่งคนนั้นอยู่หรือเปล่า เมื่อ เสียงหวีดแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นท�ำลายความสงบของห้องขัง เขาเหลือบตาขึ้นไปด้านบน หรี่ตามองเพดานสีขาวเรียบลื่น เสียงนัน้ เงียบลงและถูกแทนทีด่ ว้ ยเสียงสวบสาบ เสียงตุบสองสามที และ เสียงครืดคราด 21


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 ธอร์นชักขาขึ้นมานั่งสมาธิอยู่บนเตียงและรอ ขณะที่เสียงนั้นเข้ามา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เงียบเสียง และดังขึ้นใหม่ เขาต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะระบุ เสียงแปลกใหม่นี้ได้ แต่หลังจากฟังและคิดอยู่พักใหญ่ เขาก็สรุปว่ามันคือเสียง สว่านไฟฟ้า สงสัยนักโทษสักคนจะปรับโฉมห้องขังใหม่อยู่ เสียงเงียบไป แต่ยังทิ้งร่องรอยไว้เป็นแรงสั่นสะเทือนในผนัง ธอร์นมอง ไปรอบตัว ห้องขังของเขาเป็นกล่องลูกบาศก์ที่มีผนังสีขาวเรียบลื่นทั้งหกด้าน ภายในนั้นมีเตียงสีขาวล้วน โถส้วมซึ่งจะเลื่อนเข้าออกจากผนังเมื่อกดปุ่ม และ ตัวเขาในเครื่องแบบสีขาว ถ้าใครสักคนก�ำลังปรับโฉมห้องขังใหม่จริง เขาก็หวังว่าห้องขังของเขาจะ เป็นคิวถัดไป เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ระคายหูกว่าเดิมเสียอีก จากนั้นสกรูตัวยาวก็ทะลุ เพดานลงมาและร่วงลงกลางพื้นห้องขัง สกรูอีกสามตัวหล่นตาม ธอร์นชะเง้อมองสกรูตัวหนึ่งกลิ้งไปอยู่ใต้เตียง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง กระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็ร่วงจากเพดานลงมาดัง แคร้ง ตามด้วยขาที่ห้อยต่องแต่งสองข้าง และเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจ ขาที่ว่าสวมชุดหมีผ้าฝ้ายสีขาวเหมือนกับธอร์น แต่แทนที่จะสวมรองเท้าสีขาว เรียบๆ อย่างเขา เท้าที่ต่อกับขาคู่นั้นกลับเปลือยเปล่า ข้างหนึ่งหุ้มด้วยผิวหนัง อีกข้างหุ้มด้วยโลหะวาววับ เด็กสาวค�ำรามฮึดฮัดเมื่อปล่อยมือจากเพดานและทิ้งตัวลงนั่งคุดคู้อยู่ กลางห้องขัง ธอร์นเท้าข้อศอกลงทีห่ วั เข่าและโน้มตัวไปข้างหน้า เพือ่ มองเธอให้ชดั ขึน้ โดยไม่ขยับจากผนังห้องอันปลอดภัย เธอเป็นสาวร่างเล็ก มีผิวสีแทน และผม สีน�้ำตาลเหยียดตรง มือซ้ายของเธอท�ำจากโลหะเช่นเดียวกับเท้าซ้าย เด็กสาวทรงตัวไว้ได้ และลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นจากชุดหมี “ขอโทษนะ” ธอร์นเอ่ย เธอหันขวับมาหาเขา ดวงตาดูตื่นๆ “ดูเหมือนเธอจะเข้าผิดห้อง จะให้บอกทางกลับไปไหม” เธอกะพริบตา 22


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ธอร์นยิ้ม เด็กสาวนิ่วหน้า อาการหงุดหงิดท�ำให้เธอน่ารักกว่าเดิมอีก ธอร์นเกยคางเข้ากับฝ่ามือและ พิจารณาอีกฝ่าย เขาไม่เคยพบไซบอร์กมาก่อน อย่าว่าแต่จีบเลย แต่ทุกเรื่องย่อม มีครั้งแรกเสมอ “ห้องขังแถบนี้ไม่ควรจะมีใครอยู่” เธอว่า “สถานการณ์พิเศษน่ะ” เธอเพ่งพินิจเขาอยู่นาน คิ้วขมวดเข้าหากัน “ฆาตกรรมเหรอ” รอยยิ้มของเขากว้างกว่าเดิม “ขอบใจนะ แต่ไม่ใช่ ฉันก่อการจลาจลใน ลานคุกน่ะ” เขาขยับคอเสื้อก่อนจะเสริมขึ้น “พวกเราประท้วงเรื่องสบู่” สีหน้าของเด็กสาวดูสับสนกว่าเดิม และธอร์นก็สังเกตว่าเธอยังตั้งท่า ระวังตัวอยู่ “สบู่” เขาพูดซ�้ำ สงสัยว่าเธอได้ยินเขาหรือเปล่า “มันแห้งเกินไป” เธอไม่พูดอะไร “ผิวฉันแพ้ง่าย” เธออ้าปาก เขาคิดว่าจะได้รับความเห็นใจ แต่กลับได้ยินเพียงค�ำว่า “เหรอ” อย่างไร้อารมณ์ เด็กสาวยืดตัวขึ้น เตะกระเบื้องเพดานให้พ้นจากเท้า ก่อนจะเดินวนเป็น วงกลมเพือ่ ส�ำรวจห้องขัง เธอเบะปากอย่างหงุดหงิด “งีเ่ ง่า” เธอพึมพ�ำกับผนังทาง ซ้ายของธอร์นและทาบฝ่ามือลงไป “ผิดไปหนึ่งห้อง” จู่ๆ ขนตาของเธอก็กระพือถี่ราวกับเจอฝุ่น เด็กสาวค�ำรามและใช้ฝ่ามือ ตบขมับสองสามครั้ง “เธอก�ำลังหนี” “ตอนนีน้ ะ่ ไม่ใช่” เธอตอบลอดไรฟันและสัน่ ศีรษะโดยแรง “แต่กใ็ ช่ หลักๆ แล้วก็อย่างนั้น” สีหน้าของเธอสดชื่นขึ้นเมื่อเห็นเครื่องพอร์ตบนตักเขา “เครื่องรุ่น อะไรน่ะ” “ไม่รู้สิ” เขาส่งมันให้เธอ “ฉันก�ำลังท�ำอัลบั้มภาพสาวที่เคยรักอยู่” เด็กสาวผละจากผนัง คว้าเครือ่ งพอร์ตไป และพลิกมัน ปลายนิว้ ไซบอร์ก ของเธอเปิดออก เผยให้เห็นไขควงอันเล็ก ไม่นานนักเธอก็ถอดแผ่นปิดหลังเครื่อง ออกได้ส�ำเร็จ 23


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 “ท�ำอะไรน่ะ” “ถอดสายสัญญาณภาพ” “จะเอาไปท�ำอะไร” “สายฉันเสีย” เธอดึงสายไฟสีเหลืองออกจากเครื่อง โยนมันคืนไว้ท่ีตักธอร์น ก่อนจะ ทรุดตัวลงนัง่ ขัดสมาธิบนพืน้ ธอร์นมองอย่างงุนงง ขณะทีอ่ กี ฝ่ายปัดผมไปด้านหนึง่ และถอดแผงปิดที่ท้ายทอยออก จากนั้นนิ้วของเธอก็หยิบสายไฟหน้าตาเหมือน เส้นทีเ่ ธอเพิง่ ขโมยไปจากเขา แต่ปลายสายไหม้จนด�ำออกมา เด็กสาวนิว่ หน้าอย่าง ใช้สมาธิขณะต่อสายไฟเส้นใหม่ เธอถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนจะปิดแผงเข้าที่และโยนสายไฟเส้นเก่าไว้ ข้างๆ ธอร์น “ขอบใจนะ” เขาขมวดคิ้ว ถดตัวหนีสายไฟ “เธอมีพอร์ตสกรีนอยู่ในหัวเหรอ” “อะไรท�ำนองนั้น” เด็กสาวลุกขึ้นลูบผนังอีกครั้ง “อา ดีขึ้นมากเลย ทีนี้ ยังไงต่อ...” เธอเงียบไปพร้อมกดปุ่มที่มุมห้อง ผนังสีขาวเรียบลื่นเปิดออก โถส้วม เคลือ่ นออกมาอย่างง่ายดาย ปลายนิว้ ของเธอล้วงหาอะไรบางอย่างในหลืบระหว่าง สุขภัณฑ์กับผนัง ธอร์นกระเถิบหนีสายไฟทีถ่ กู ทอดทิง้ ไว้บนเตียง และลบภาพอีกฝ่ายเปิด ฝาทีก่ ะโหลกศีรษะออกไปจากใจ เขากลับมาสวมบทบาทสุภาพบุรษุ ตัวอย่าง และ พยายามชวนเด็กสาวคุยขณะที่เธอท�ำงาน เขาถามว่าเธอติดคุกด้วยข้อหาอะไร และกล่าวชมว่าชิ้นส่วนโลหะของเธอช่างเป็นงานฝีมืออันประณีต แต่เธอไม่สนใจ เขา และท�ำให้ธอร์นสงสัยขึน้ มาครูห่ นึง่ ว่าเขาถูกตัดขาดจากประชากรสตรีมานาน จนสูญเสียเสน่ห์ไปหมดแล้วหรือเปล่า ไม่น่าจะใช่หรอก หลังจากนั้นสองสามนาที เด็กสาวก็เหมือนจะเจอสิ่งที่มองหาแล้ว และ ธอร์นก็ได้ยินเสียงสว่านไฟฟ้าอีกครั้ง “ตอนทีจ่ บั เธอมาขังไว้” ธอร์นถาม “พวกเขาไม่คดิ เลยหรือว่าคุกนีอ้ าจจะ มีช่องโหว่ด้านการรักษาความปลอดภัย” “ตอนนั้นมันยังไม่มีหรอก มือนี้ฉันเพิ่งได้มา” เธอนิ่งไปและจ้องมุมหนึ่ง ของหลืบ ราวกับพยายามมองให้ทะลุผนัง เธออาจจะมีดวงตาเอกซเรย์กไ็ ด้ แหม ถ้าเรือ่ งนัน้ เขาหาทางใช้ประโยชน์ 24


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ได้แน่

“ขอเดานะ” ธอร์นเอ่ย “ข้อหาบุกรุกสถานที่ใช่ไหม หลังส�ำรวจกลไกเลือ่ นโถส้วมอยูค่ รูห่ นึง่ เด็กสาวก็ยน่ จมูก “ถ้านายอยาก รู้จริงๆ น่ะนะ ก็มีข้อหากบฏสองกระทง ขัดขืนการจับกุม ใช้พลังชีวไฟฟ้าโดย ผิดกฎหมาย อ้อ อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย แต่พูดตามตรงนะ ฉันว่า ข้อหาหลังออกจะเกินไปหน่อย” เขาหรีต่ ามองท้ายทอยของเด็กสาว ตาซ้ายเริม่ จะกระตุก “เธออายุเท่าไหร่” “สิบหก” ไขควงในนิว้ เธอเริม่ หมุนอีกครัง้ ธอร์นรอจนกระทัง่ มันหมุนช้าลง “เธอชือ่ อะไร” “ซินเดอร์” เด็กสาวตอบ ตามด้วยเสียงหึ่งๆ อีกรอบ เมื่อเสียงเงียบลง “ฉันชื่อกัปตันคาร์สเวลล์ ธอร์น แต่คนส่วนใหญ่เรียก ฉันว่า...” ครืดคราด “ธอร์น หรือกัปตัน หรือกัปตันธอร์น” เด็กสาวไม่ตอบ แต่กลับล้วงเข้าไปในหลืบใหม่ ดูเหมือนเธอก�ำลังบิดอะไร บางอย่าง แต่มันไม่ยอมขยับ เพราะหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ถอยออกมาและพ่น ลมหายใจอย่างหงุดหงิด “ฉันมองออกว่าเธอต้องการผู้สมรู้ร่วมคิด” ธอร์นเอ่ยและลูบชุดหมีให้ เรียบ “โชคดีของเธอนะเนี่ยที่ฉันบังเอิญเป็นอาชญากรสมองเพชร” เธอถลึงตาใส่เขา “ไปให้พ้น” “ดูจากสถานการณ์แล้ว ท�ำตามได้ยากอยู่นะ” เธอถอนใจและปัดเศษพลาสติกสีขาวออกจากไขควง “เธอจะท�ำยังไงเมื่อหนีออกไปได้แล้ว” เขาถาม เด็กสาวหันกลับไปหาก�ำแพง เสียงครืดคราดดังขึ้นอีกพักหนึ่ง ก่อนเธอ จะหยุดพักและบิดคอไปมาแก้เมื่อย “เส้นทางที่ออกจากเมืองได้ง่ายที่สุดคือ ขึ้นเหนือ” “โถๆ นักโทษมือใหม่ผู้น่ารัก เธอไม่คิดหรือว่านั่นคือสิ่งที่พวกเขาคาดว่า เธอจะท�ำ” เธอจิ้มไขควงเข้าไปในหลืบ “ช่วยหยุดท�ำให้ฉันเสียสมาธิเสียทีได้ไหม” 25


ปกรณั ม แดนจั น ทรา 2 “ฉันแค่จะบอกว่าเราอาจช่วยเหลือกันและกันได้” “อย่ามายุ่งกับฉัน” “ฉันมียานนะ” ดวงตาของเธอปราดมาจ้องเขาเพียงชั่วครู่... แทนค�ำเตือน “ยานอวกาศ” “ยานอวกาศ” เธอลากเสียง “มั น พาเราขึ้ น ไปบนชั้ น บรรยากาศได้ ใ นสองนาที แถมยั ง จอดอยู ่ นอกเมืองนี่เอง ไปเอาได้ง่ายมาก ว่าไงล่ะ” “ฉันว่าถ้านายไม่หยุดพูดและปล่อยให้ฉันท�ำงานซะ เราจะไม่มีวันไปถึง ชั้นไหนแน่” “รับทราบ” ธอร์นยกสองมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ “ฝากให้หัวสวยๆ นั่นเก็บ ไปคิดต่อละกัน” เด็กสาวเกร็งขึ้นมา แต่ก็ยังท�ำงานต่อ “มาคิดๆ ดูแล้ว มีร้านติ่มซ�ำอร่อยสุดยอดอยู่ห่างไปแค่ช่วงตึกเดียว ด้วยนา ซาลาเปาหมูร้านนั้นนะ อร่อยจนลืมตายเลยล่ะ รสเข้มข้นเนื้อชุ่มฉ�่ำ” เขา จีบปลายนิ้วเข้าด้วยกัน ความทรงจ�ำท�ำเอาน�้ำลายสอ ซินเดอร์นิ่วหน้าและนวดต้นคอ “ถ้ามีเวลา เราน่าจะแวะซือ้ เสบียงไว้กนิ ระหว่างทางนะ ฉันอยากกินอะไร ดีๆ บ้าง หลังต้องทนกินขยะไร้รสชาติที่คนแถวนี้เรียกว่าอาหาร” เขาเลียปาก แต่ เมื่อหันไปมองเด็กสาวอีกที สีหน้าเจ็บปวดของเธอกลับยิ่งแย่ลง เหงื่อผุดขึ้นที่ หว่างคิ้ว “เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาเอื้อมไปหาอีกฝ่าย “นวดหลังให้ไหม” เธอปัดมือเขาทิ้ง “ขอร้องล่ะ” เด็กสาวยกมือทั้งสองขึ้นกันเขาไว้ และสูด ลมหายใจเข้าอย่างล�ำบาก ภาพของเด็กสาวกะพริบต่อหน้าต่อตาธอร์น ดูคล้ายไอร้อนที่โชยขึ้นมา จากรางแม่เหล็ก เขาเซถอยไป หัวใจเต้นถี่ อาการแปลบปลาบผุดขึน้ ในสมองและ แล่นไปตามเส้นประสาท เธอช่าง... งดงาม ไม่สิ เลิศเลอราวกับสวรรค์สร้าง ไม่สิ สมบูรณ์แบบ 26


ตอน สาวน้ อ ยหมวกโลหิ ต

ชีพจรเขาเต้นแรง สมองเขาได้แต่คิดว่าจะเทิดทูนและทุ่มเทให้เธอ ยอม ศิโรราบ เชื่อฟังแต่โดยดี “ขอร้องล่ะ” เธอพูดซ�้ำ ซ่อนใบหน้าไว้หลังมือโลหะ น�้ำเสียงเจือแวว สิ้นหวังขณะทิ้งตัวพิงผนัง “หยุดพูดเสียที ขอแค่...อย่ายุ่งกับฉัน” “ได้เลย” ความสับสนผุดขึ้น ไซบอร์ก เพื่อนร่วมคุก นางฟ้า “ได้แน่นอน ทุกสิ่งที่เธอปรารถนา” ธอร์นเซถอยไปด้านหลัง น�้ำตาคลอเบ้า และทิ้งตัวนั่งลงบน เตียงเหมือนคนตาบอด

27


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.