บทที่ 1 การติดต่อสื่อสาร By : อ.นาขวัญ วงศ์ประทุม
Topic 1. วัตถุประสงค์ของการติดต่อสื่อสาร 2. ความรู้เบื้องต้นในการติดต่อสื่อสาร 3. องค์ประกอบและกระบวนการติดต่อสื่อสาร 4. หลักการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
2
การสื่อสารคือ ?
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
4
ความหมาย การติดต่อสื่อสาร การติดต่อสื่อสารคือ การแสดงปฏิสมั พันธ์ทาง สังคมโดยใช้สัญลักษณ์และระบบสาร(George Gerbner) การติดต่อสื่อสารคือ กระบวนการในการถ่ายทอด ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างบุคคลหนึ่งหรือ หลายคนไปยังบุคคลหนึ่งหรือหลายคน (Douglas A. Benton) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
5
ผ่านสื่อต่างๆ
ผ่านสื่อต่างๆ
-ข้อมูลข่าวสาร -ข้อเท็จจริง -ความต้องการ -อารมณ์ ความรู้สึก 8/17/2014
-ข้อมูล ข่าวสาร -ข้อเท็จจริง -ความ ต้องการ -อารมณ์ ความรู้สึก copyright 2006 www.brainybetty.com
6
วัตถุประสงค์ของการติดต่อสื่อสาร 8/17/2014
แสดงความต้องการ แสดงผล อธิบาย โน้มน้าวใจ บริการ บันเทิง copyright 2006 www.brainybetty.com
7
ประเภทการติดต่อสื่อสาร 1.) จาแนกตามระดับ/หน่วยการวิเคราะห์ (แพร่หลายมากที่สุด) 1.1. การติดต่อสื่อสารภายในบุคคล ( Interpersonal Communication) บุคคลเดียวกันทาหน้าที่ผู้ส่งสาร-รับสาร (อาศัยประสาท หู ตา จมูก ลิ้น และผิวหนังเป็นผู้ส่งสาร การติดต่อสื่อสารของบุคคลเกิดเมื่อมีสิ่งเร้าจากสภาวะแวดล้อมกระตุ้นระบบ ประสาทส่วนใดส่วนหนึ่ง และประสาทจะส่งสิ่งเร้าไปยังสมอง สมองจะ แปลความหมายของสิง่ เร้า ทาให้เกิดการรับรู้ เกิดความเข้าใจ และเกิด ความรู้สึกต่างๆ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
8
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
9
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
10
8/17/2014
ตรงกลางระหว่างฉัน copyright 2006 www.brainybetty.com
11
อยู่เรือนพัง ดีกว่าคุก จนยังดี ดีกว่าปอง ถึงร้อนแดด ใช้พัดวี ถึงร้อนลม ร้อนก็คลาย แต่ร้อนแรง ร้อนทุกยุค อยากจะให้ ยึดพระธรรม
ยังดี หลายเท่า มีธรรม ทุจริต แผดเผา มีลม พรมน้า กลับระรื่น กิเลส ยิ่งกว่าไฟ คลายร้อน ธารา
ไม่มีทุกข์ ไม่เศร้าหมอง ค้าประคอง คิดร่ารวย เพียงเข้าร่ม ร้อนก็หาย ชื่นฉ่ากาย ชื่นอุรา เหตุแห่งทุกข์ ไหม้เคหา ผ่อนเมตตา มาประพรม
(จากหนังสือ สุขใจกับชีวิต...พอใจกับชีวติ ๒๕๔๖) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
12
1.2. การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล คือการตืดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล ตั้งแต่ 2 คนขึ้น ไป ทาการแลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน โดยที่ 2ฝ่าย จะผลัดกันทาหน้ารับ-ส่งสาร ผลัดกันแสดงปฏิกิริยา โต้ตอบกัน
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
13
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
14
3. การติดต่อสื่อสารกลุ่มย่อย คือการติดต่อสื่อสารของบุคคลเดียวหรือกลุ่ม บุคคลกลุ่มเล็กๆกับกลุ่มบุคคลกลุ่มเล็ก ที่สามารถ มองเห็นและแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกัน (การสอน ใน ชั้นเรียน การสัมมนา การปาฐกถา)
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
15
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
16
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
17
4.การติดต่อสื่อสารสาธารณะ คือการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล คนเดียว หรือกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล กลุ่มใหญ่ที่รวมอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่ผู้ส่งสารไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ กลับไปได้ (การหาเสียงของพรรคการเมือง) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
18
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
19
5. การสื่อสารมวลชน คือการ ติดต่อสื่อสารระหว่าง บุคคลที่มีการทางาน อย่างเป็นระบบกับคน จานวนมากที่อยู่ กระจัดกระจาย ไม่มี ความคุ้นเคยกัน มี
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
20
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
21
ประเภทการติดต่อสื่อสาร 2. จาแนกตามลักษณะการใช้สัญลักษณ์
1. วัจนะภาษา (Verbal Communication) ใช้คาตัวเลขเป็นรหัสในการสื่อสาร สัญลักษณ์ ภาษาเขียน ภาษาพูด เลขคณิตศาสตร์
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
22
Verbal Communication
• จดหมายธุรกิจ • บันทึกภายใน สานักงาน (Memorandum) • ข้อความทางโทรศัพท์ ที่ได้จดบันทึกไว้ 8/17/2014
• จดหมายข่าว • คู่มือเกี่ยวกับกฏ ระเบียบ • นโยบายต่างๆ
copyright 2006 www.brainybetty.com
ภาษาเขียน 23
ประเภทการติดต่อสื่อสาร 2. อวัจนะษา (NonVerbal Communication) ใช้สัญลักษณ์อื่นที่ไม่ใช่คา ตัวเลข
“การติดต่อสื่อสารที่แสดงออกทางพฤติกรรม”
๑ การเคลื่อนไหวของร่างกาย (Kinesic Behavior) ลักษณะท่าทาง สีหน้า สายตา 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
24
๒ ความใกล้ของสถานที่ (Proxemics)
อิทธิพลของสถานที่ มีผลต่อการติดต่อสื่อสาร
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
25
๓ ลักษณะของน้าเสียง (Paralanguage)
น้าเสียงที่เปล่งออกมาแสดงถึง อารมณ์และความรู้สึก
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
26
๔ วัตถุสิ่งของที่ใช้ (Object Language)
เกิดจากวัตถุสิ่งของที่ใช้ใน “การ ติดต่อสื่อสารที่แสดงออกทาง พฤติกรรม” 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
27
เครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารกับผลลัพธ์ที่ได้
พูด
เขียน
ด่วน กฎ จูงใจ อ้างอิง รายละเอียด ถึงทุกคน
8/17/2014
ท่าทาง
สัญลักษณ์
เห็น อารมณ์ มีส่วนร่วม
ไกล รวดเร็ว ทวน ความจา
copyright 2006 www.brainybetty.com
28
3. จาแนกตามช่องทางเดินของสาร มี 4 ประเภท 3.1 การติดต่อสื่อสารจากบน – ล่าง (Downward Communication)
คือ การติดต่อสื่อสารที่เป็นไปตามสายการบังคับบัญชา 3.2 การติดต่อสื่อสารจากล่าง-บน คือ การติดต่อสื่อสารจากผู้ใต้บังคับบัญชาไปสู่ ผู้บังคับบัญชา 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
29
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
30
3. จาแนกตามช่องทางเดินของสาร มี 4 ประเภท 3.3 การติดต่อสื่อสารตามแนวนอน
คือ การติดต่อสื่อสารกับคนในระดับเดียวกันขององค์กร 3.4 การติดต่อสื่อสารทแยงมุม คือ การติดต่อสื่อสารกับแผนกอื่นในองค์กรเดียวกัน
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
31
4. การติดต่อสื่อสารตามการส่งข้อมูลย้อนกลับ 4.1 การติดต่อสื่อสารแบบทางเดียว (One-Way Communication) คือ การติดต่อสื่อสารฝ่ายเดียว ไม่มีการซักถาม/ส่งข้อมูล ย้อนกลับ การติดต่อสื่อสารทางเดียวปรากฏในรูปลายลักษณ์ อักษร เช่น นโยบาย คาสั่ง ประกาศ
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
32
ข้อเสีย
ข้อดี
1. รวดเร็ว ประหยัดเวลา 1. ข้อมูลไม่ถูกต้อง อาจผิดพลาดได้ 2. คาสั่งเด็ดขาด 2. อาจไม่มีผู้ให้ความร่วมมือ 3. ผู้รับคาสั่งอึดอัด 3.ผู้ส่งไม่อึดอัด 4. ได้ผลงานตามที่ตั้งใจ 4. หากรับคาสั่งไม่ชัด ผู้ปฏิบัติขาดความมั่นใจ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
33
4.2 การติดต่อสื่อสารแบบสองทาง (Two – Way Communication) คือการติดต่อสื่อสารที่ผู้พูดและผู้รับสารมี โอกาสโต้ตอบกัน
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
34
ข้อดี 1.
ข้อเสีย
ได้ข้อมูลจากมาก
1. เกิดความล่าช้า เสียเวลา
หลากหลายความคิด
2. นาไปสู่ความขัดแย้ง เพราะความคิดไม่ตรงกัน
2. มีบรรยากาศแห่งพันธมิตร
3. ถ้าเป็นการสั่งการ ผู้สั่งจะรู้สึกอึดอัด
3. ทาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
เมื่อถูกซักถาม
4. ได้ข้อมูลถูกต้องเพราะซักถามได้
4. คาสั่งไม่ศักดิ์สิทธิ์
5. เชื่อมั่นในข้อมูล เพราะสื่อกันได้
5. แย่งกันพูด หากคู่สนทนาไม่มีมารยาท
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
35
5.) การติดต่อสื่อสารจาแนกตามลักษณะการใช้ 5.1 การติดต่อสื่อสารแบบพิธีการ (Formal Communication) คือ การติดต่อสื่อสารอย่างมีระเบียบ กฎเกณฑ์ เช่น หนังสือ
ว. ในราชการ 5.2 การติดต่อสื่อสารแบบไม่เป็นพิธีการ (Informal Communication)
คือ การติดต่อสื่อสารที่ไม่ได้ดาเนินการตามแบบแผนที่ กาหนดอาศัยความคุ้มเคยการสนทนา 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
36
องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร ผู้ส่ง (Sender) ผู้เริ่มต้นของการเผยแพร่ข่าวสาร การใส่รหัส (Encoding) ขบวนการแปลความหมาย
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
37
องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร
ข่าวสาร (Message) ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากการใส่รหัส “ข่าวสารที่ส่งไปให้ผู้รับต้องอาศัย สื่อ (Medium)” 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
38
องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร
ผู้รับ (Receiver) บุคคลที่ต้องการให้ข่าวสาร เปลี่ยนมือไปถึง 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
39
องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร การถอดรหัส(Decoding) กระบวนการแปล สัญลักษณ์ที่ได้รับให้อยู่ใน รูปของข่าวสารที่เข้าใจ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
40
องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสาร สิ่งรบกวน (Noise) สิ่งที่สอดแทรก หรือ ก่อกวนในการสื่อสาร ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
41
กระบวนการติดต่อสื่อสาร ความ คิด
การส่ง ข้อมูล
การรับ ข่าวสาร
แปล ความ
เข้าใจ
ผู้รับสาร
ผู้ส่งสาร
1. ความคิด (Thought) คือ ข่าวสาร/ข้อมูลที่อยู่ในความคิด ของผู้ส่งสาร “จงคิดก่อนพูด” 2. การส่งข้อมูล/การเข้ารหัส (Encoding) คือการเลือก สัญญาณการสื่อสาร จะใช้ภาษาพูด/เขียน 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
42
กระบวนการติดต่อสื่อสาร
ขั้นตอนการติดต่อสื่อสาร ความคิด
8/17/2014
ประมวล ความคิด
ถ่าย ทอด
copyright 2006 www.brainybetty.com
รับ สาร
ถอด ความ
พฤติกรรม ตอบสนอง
43
กระบวนการติดต่อสื่อสาร กระบวนการติดต่อสื่อสารจาแนกตามพื้นฐานประสบการณ์ของบุคคล
สื่อ
ผูส ้ ง ่
สาร
- รวบรวม/ บูรณาการ -ประสบการณ์ - ความคิด - อารมณ์
- ข้อเท็จจริง - เรื่องราว - เหตุผล
8/17/2014
- วาจา - สีหน้า - ท่าทาง
copyright 2006 www.brainybetty.com
ผู้รับ สาร - ภูมิหลัง -ประสบการณ์ - ความคิด 44
3. การติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 1. ผู้ส่งสารมีความชัดเจนในความคิด/ความน่าเชื่อถือ และผู้รับสารมีความมั่นใจ เต็มใจรับสาร 2. มีวัตถุประสงค์การสื่อสารที่ความหมายชัดเจน 3. ผู้ส่งสารมีความรู้ในการส่งสาร 4. ผู้รับสารมีความรู้การรับสาร 5. ผู้ส่งสารต้องตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของลักษณะ
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
45
3. การติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 6. ข่าวสารที่ส่งต้องใช้ถ้อยคาที่ดี / เหมาะสม / ได้ใจความ 7. การแสดงท่าทางแววตา ต้องสอดคล้องกับ การสื่อความหมาย 8. ผู้ส่งสารต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เพราะการฟังจะรู้รายละเอียด 9. ช่องทางข่าวสารต้องใช้เหมาะสมกับตัวสาร/ผู้รับสาร 10. ใช้การสื่อสาร 2 ทาง 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
46
สาเหตุของความล้มเหลวในการติดต่อสื่อสาร
1. ผู้ส่งสาร - บกพร่องอวัยวะ - ขาดความรู้ - ขาดความชานาญ - ขาดการฝึกฝน - ทัศนะคติไม่ดีต่อผู้รับสาร - ไม่มีแผนในการส่งสาร - ใช้ภาษาไม่เหมาะสม - มีเจตนาบิดเบือนข่าวสาร - เลือกวิธีส่งสารที่ไม่เหมาะ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
47
สาเหตุของความล้มเหลวในการติดต่อสื่อสาร 2.ผู้รับ - ไม่มีความรู้ประสบการณ์ - ทัศนะคติไม่ดีต่อผู้ส่ง - ความจาไม่ดี - ขาดทักษะความชานาญในการรับสาร - ชอบสรุปตามความเห็นส่วนตัวมากกว่าใช้จากข้อมูลข่าวสาร -ชอบพูดมากกว่าชอบฟัง
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
48
สาเหตุของความล้มเหลวในการติดต่อสื่อสาร 3.ข่าวสารและตัวสื่อ - สารยากเกินไป ผู้รับจะเข้าใจ - สารยาวเกินไปยากที่จะสรุปความ - ข่าวสารไม่ชัดเจนกากวม - ข่าวสารไม่ทันสมัย - พิมพ์ เขียนไม่ชัดเจน - การรบกวนของสื่อที่สอดแทรก 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
49
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
50
วิธีการสื่อสารที่ดี การสื่อสารที่ดีสรุปไว้ให้ 7C ตัวที่ 1 credibility คือความน่าเชื่อถือ หมายถึงสารที่ สามารถทาให้ผู้รับสารเกิดความเชื่อถือในสารนั้น ๆ ตัวที่ 2 คือ content สาระ ว่าสารนั้นมีสาระให้เกิด ความพึงพอใจ เร่งเร้าและชี้แนะให้เกิดการตัดสินใจได้ในลักษณะ อย่างไรบ้าง ตัวที่ 3 คือ clearly ความชัดเจน หมายถึงการเลือกใช้ คาหรือข้อความที่เข้าใจง่าย ๆ ข้อความไม่คลุมเครือนั่นเอง 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
51
ตัวที่ 4 คือ context ความเหมาะสมกับ โอกาส หมายถึง การเลือกใช้ภาษาและใช้สิ่งที่ส่งสาร ตลอดจนผู้รับเหมาะสมกับสังคม วัฒนธรรมและ สิ่งแวดล้อมนั้นๆ เพียงใด ตัวที่ 5 คือ channel ช่องทางการส่งสาร หมายถึง การเลือกวิธีการส่งข่าวสารได้เหมาะสมและ รวดเร็วที่สุดในลักษณะไหน 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
52
ตัวที่ 6 คือ continuity consistency ความ ต่อเนื่องและแน่นอน การสื่อสารกระทาอย่างต่อเนื่อง มีความแน่นอนถูกต้อง ตัวที่ 7 clarity of audience ความสามารถของ ผู้รับสารนั่นเอง หมายถึงการเลือกใช้วิธีการส่งสารซึ่งมั่นใจว่า ผู้รับสารจะสามารถ รับสารได้ง่ายและสะดวกโดยคานึงถึง ความรู้ เจตคติ อุปนิสัย ทักษะการใช้ภาษา สังคมวัฒนธรรม ของผู้รับสารเป็นสาคัญ 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
53
คาถามท้ายบท บทที่ 1 1. องค์ประกอบและกระบวนการติดต่อสื่อสารมี ความสาคัญอย่างไรในการติดต่อสื่อสาร ? 2. การติดต่อสื่อสารช่วยให้ท่านเรียนรู้หรือเข้าใจใน กระบวนการติดต่อสื่อสารที่จะนาไปสู่การเชื่อมโยงทาง วัฒนธรรมได้อย่างไรบ้าง ? 3. การติดต่อสื่อสารที่ดีควรมีลักษณะเป็นเช่นไร ? 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
54
แบ่งกลุ่มศึกษาข้อมูล แนวคิดการติดต่อสื่อสาร 1) แนวคิดของอริสโตเติล 2) แนวคิดของเอบีเอกซ์นิวคอมบ์ (ABX-Newcomb) 3) แนวคิดของบอล – โรคิชและเดอเฟลอร์ (Ball-Rokeach and DeFleur) 4) แนวคิดของแคร์รอล (Carroll) 5) แนวคิดของคอมสตอค (Comstock and others) 6) แนวคิดของแดนซ์ (Dance) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
55
แบ่งกลุ่มศึกษาข้อมูล แนวคิดการติดต่อสื่อสาร 7) แนวคิดของเดอร์เฟลอร์ (DeFleur) 8) แนวคิดของดันโนฮิวและทิพตัน 9) แนวคิดของเจิร์บเนอร์ (Gerbner) 10) แนวคิดของกิเบอร์และจอห์นสัน (Gieber & Johnson) 11) แนวคิดของออฟแลนด์ (Hovland & other) 12) แนวคิดของแคทซ์และลาซารส์เฟลด์ (Katz & Lazarsfeld) 13) แนวคิดของลาสเวลล์ (Lasswell)
8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
56
แบ่งกลุ่มศึกษาข้อมูล แนวคิดการติดต่อสื่อสาร 14) แนวคิดของแมคครอสกี้ (McCrosky) 15) แนวคิดของออสกูด (Osgood) 16) แนวคิดของไรลีย์และไรลีย์ (Riley&Riley) 17) แนวคิดของโรเจอร์ (Rogers) 18) แนวคิดของชแรมม์ (Schramm) 19) แนวคิดของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon and Weaver) 20) แนวคิดของเบอร์โล (Berlo) 21) แนวคิดของไวท์ (White) 8/17/2014
copyright 2006 www.brainybetty.com
57