บทที่ 1
ความหมายของ พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว By ; อ.นำำขวัญ วงศ์ประทุม
Topic ; • • • • •
พฤติกรรมการท่ องเทีย่ วและพฤติกรรมการบริโภค ความหมายของพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว องค์ ประกอบของพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว สาเหตุของการศึกษาพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว ประวัตศิ าสตร์ พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว
ความแตกต่ างของพฤติกรรมกทท./พฤติกรรมการบริโภค Clawson and Kaetsch : 1966
1) 2) 3) 4) 5)
ความคาดหวังก่ อนการซื้อ การแบ่ งส่ วนตลาด ประสบการณ์ ในสถานทีท่ ่ องเทีย่ ว ผลตอบแทนจากการท่ องเทีย่ ว การรื้อฟื้ นความทรงจำา
พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว(Tourist Behavior ) ? Horner and Swarbrooke คือ การศึกษาว่ าทำาไมคนถึงซื้อสิ นค้าพวกเขา การกระทำาและ วิธีการตัดสิ นใจเป็ นอย่ างไร Engle,Black well and Miniard คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคเป็ นกิจกรรมทีม่ ีส่วนเกีย่ วข้ อง โดยตรงในการบริโภคและซื้อสิ นค้าและบริการรวมทั้งกระบวนการ ตัดสิ นใจทีเ่ ชื่อมโยงกับการกระทำา Sollomon คือพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็ นกระบวนการเกีย่ วข้ องกับบุคคล หรือกลุ่มในการเลือกซื้อ ใช้ หรือจำาหน่ ายผลิตภัณฑ์ ความคิด หรือประสบการณ์ เพือ่ ตอบสนองความจำาเป็ นและความต้ องการ
พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว(Tourist Behavior ) ? หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งแสวงหา จัดซื้อ ใช้ ประโยชน์ และ ประเมิน สิ นค้ าบริการทีค่ าดว่ าจะสามารถสนองความต้ องการได้ ” การแสดงออกของแต่ ละบุคคลทีเ่ กีย่ วข้ องโดยตรงกับการใช้ สินค้ าและบริการใน อุตสาหกรรมท่ องเทีย่ ว รวมทั้งกระบวนการในการตัดสิ นใจทีม่ ผี ลต่ อการ แสดงออก - พฤติกรรมเกิดขึน้ ได้ ต้องมีสาเหตุทาำ ให้ เกิด - พฤติกรรมเกิดขึน้ ได้ จะต้ องมีสิ่งจูงใจหรือแรงกระตุ้น - พฤติกรรมทีเ่ กิดขึน้ ย่ อมมุ่งไปสู่ เป้ าหมายในการตอบสนองแรงจูงใจเหล่านั้น
พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ วศึกษา ? ด้ านภูมิหลัง (Back Ground)
ทัศนคติ (Attitude)
วางแผน พัฒนา และปรับปรุงการท่ องเทีย่ ว นักท่ องเทีย่ วพึงพอใจ
องค์ ประกอบของพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว 7 ประการ
1.เป้าหมาย
2.ความพร้ อม 3.สถานการณ์
6.ผลลัพธ์ ทตี่ ามมา
4.การแปล ความหมาย 5.การตอบสนอง 7.ปฏิกริ ิยาต่ อ ความผิดหวัง
ทำาไมต้ องศึกษาพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว? รูปแบบการตัดสิ นใจของนักท่ องเทีย่ ว ว่ า • เขาซื้อสิ นค้ าบริการอะไร • ทำาไมถึงซื้อบริการนั้น ซื้อบริการเมื่อไร • ซื้อบริการทีไ่ หน • ซื้อบริการบ่ อยแค่ ไหน • เขาประเมินบริการเหล่ านั้นอย่ างไร
การศึกษาพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว ศึกษา ?
• ประเภทของนักท่ องเทีย่ ว • ประเภทของลูกค้ า ทีม่ าใช้ บริการทางการท่ องเทีย่ ว
การศึกษาพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว ศึกษา ? วัฒนธรรม ประเพณี อาชีพ ฯลฯ ของนักท่ องเทีย่ ว แต่ ละชาติ แต่ ละกลุ่ม
การแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้ า ในการให้ บริการ ทีเ่ หมาะสม กับ เหตุการณ์
กำาหนดโปรแกรม ทัวร์ ให้ สอดคล้ องกับ พฤติกรรมของ นักท่ องเทีย่ วแต่ กลุ่ม แต่ ละประเภทได้
การเริ่มต้ นของการท่ องเทีย่ ว สมัยโบราณ
- ส่ วนมากจะเป็ นกทท.ในโลกตะวันตก - กทท.มีลกั ษณะการเดินทาง ของกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่ น กลุ่มชนชั้นสู ง เจ้ าขุนมูลนาย นักรบ นักบวช
สมัยโบราณ
ชาว Sumerians (ชาวยุโรปโบราณ) (ยุคหิน) ถือเป็ นต้ นกำาเนิดแห่ งองค์ ประกอบการท่ องเทีย่ ว
ชาวสุ เมเรียน ประมาณ 4,000 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราชชาวสุ เมเรียนได้ อพยพเข้ ามาตั้งถิน่ ฐานในบริเวณดินดอนสามเหลีย่ ม (Delta) ปากแม่ น้ำาไทกรีส-ยูเฟรตีส ซึ่งเรียกกัน ในเวลา ต่ อมาว่ าดินแดนซูเมอร์
หมู่บ้านยุคหินใหม่ ชุ มชนวัด
เมือง
เมืองเออร์ (Ur), เมืองอิเรค (Ereck) เมืองอิริดู (Eridu), เมืองลากาซ (Lagash) และเมืองนิปเปอร์ (Nippur)
นครรัฐ
(City State) แต่ละเมืองมีชุมชนเล็กๆ ที่รายรอบอยู่เป็ นบริวารต่างปกครองเป็ นอิสระแก่กนั
ชาวสุ เมเรียนยังเป็ นชนชาติแรกทีเ่ ริ่มทำาการค้ าขาย พวกเขารู้ จักการเดินทะเล การประมง ปกติคนโบราณจะ แสยงกับทะเลมากเพราะเชื่อว่าโลกแบนมีการดำาน้ำ าเพือ่ ลงไปค้ นหาทรัพยากรแปลกๆ สำ ารวจเกาะแก่ งทีย่ งั ไปไม่ ถึง เพือ่ ค้ นหาแร่ ธาตุ โลหะ หิน หรือแม้ กระทัง่ พันธุ์ไม้ ทหี่ าไม่ ได้ ในดินแดนของพวกเขา
สมัยโบราณ
ผู้คดิ ประดิษฐ์ ตวั อักษรขึน้ เป็ นครั้งแรกในโลก
เนื่องจากชาวสุ เมเรียนสามารถประดิษฐ์ “ล้อ” ซึ่งเป็ นเครื่องทุ่นแรงพืน้ ฐานในการขนส่ ง ใช้ ประกอบ กับยานพาหนะนำาไปเทียมสั ตว์ เช่ น ม้ า ลา หรือวัว โดยลักษณะทรงกลมของล้อนีเ้ องทำาให้ การ เคลือ่ นทีข่ องยานพาหนะเป็ นไปอย่างราบรื่นบนพืน้ ผิวของถนนหนทาง (Jan Van Hassel, 1994 :
สมัยโบราณ
มีการจ้ างงานและค่ าตอบแทนแรงงานในสั งคมเป็ นครั้งแรกของโลก รู้จกั กำรค้ำขำย ริ เริ่ มนำำโลหะมำแทนเงินตรำเป็ นพวกแรกๆ
Egypt
อาณาจักรอียปิ ต์ เป็ นศูนย์ กลางของอารยธรรมทีย่ งิ่ ใหญ่ ความเจริญดังกล่ าวได้ ส่งผลให้ เกิดการเดินทางการเพือ่ การท่ องเทีย่ ว อียปิ ต์ ยงั เป็ นชนชาติแรกๆทีม่ ีการพัฒนาการด้ วยการเขียน ประดิษฐ์ ตวั อักษรขึน้ ใช้
การเดินทางทางเรือเป็ นหัวใจสำ าคัญของชาวอียปิ ต์ เนื่องจากตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่ น้ำาไนล์ ทะเลแดงและทะเล เมดิเตอร์ เรเนียน การเดินทางทางเรือจึงเป็ นกิจกรรมทั้งทางการค้ าและการพักผ่ อน ดังปรากฏหลักฐานในจารึกว่ า พระราชินีฮัทเชพซุท (Hatshepsut) แห่ งอาณาจักรใหม่ ได้ เสด็จโดยทางเรือล่ องไปตามแม่ น้ำาไนล์ เพือ่ การท่ อง เทีย่ วและพักผ่ อน (Robert W. McIntosh, Charles R. Goeldner, 1990 : 23) ในปี 1490 ก่ อนคริสต์ ศักราช
อาณาจักรกรีซ อาณาจักรกรีซ ซึ่งเกิดขึน้ เมื่อประมาณ 1,400 ปี ก่ อน ค.ศ. มี ความชำานาญในการเดินเรือ เพือ่ ติดต่ อค้าขาย การทำาสงคราม และการผจญภัย เกีย่ วกับเรื่องการเดินทางเพือ่ การทำาสงคราม และการผจญภัยของกรีก กวีชาวกรีกชื่อ โฮเมอร์ (Homer) ได้ รวบรวมเรื่องจากบทร้ องลำานำาเกีย่ วกับวีรกรรมต่ างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ระหว่ าง 1,100 – 800 ปี ก่อน ค.ศ. บันทึกไว้ ในมหากาพย์ อีเลียด (Ilid) และ โอเดสเซ (Odyssey) ในมหากาพย์ โอเดสเซ ได้ เล่ า เรื่องการผจญภัยทางทะเลของ โอเดสเซอุส (Odysseus) หรือ ยูลิ ซีส (Ulysses) วีรบุรุษของชาวกรีกโบราณ (Burns, Mcnall and Others, 1982 : 171-172)
เมืองทีส่ ำ าคัญในยุคสมัยกรีซโบราณ เช่ น กรุงเอเธน เมืองสปาริต้า และครีต
การเดินทางเพือ่ การแข่ งขันกีฬาโอลิมปิ ค (Olympic Games) ของชาวกรีก ได้ เริ่มต้ นครั้งแรก เมือ่ 776 ปี ก่ อน ค.ศ. (Pond, 1993 : 3) และสิ้นสุ ดลงในปี ค.ศ. 393 ในสมัยจักรพรรดิ ธีโอโดซิอสั ที่ 1 แห่ งอาณาจักรโรมัน นับเป็ นการเดินทางเพือ่ การกีฬาและการพักผ่ อนหย่อนใจ นับได้ ว่าเป็ นการเดินทาง แบบมวลหมู่ (mass travel) ทีจ่ ัดการเดินทางกันเองประกอบไปด้วยผู้เป็ นนักกีฬาทีเ่ ข้ าแข่ งขัน ผู้ เกีย่ วข้ องกับการกีฬาและผู้ชมที่เดินทางมาจากสถานที่ต่าง ๆ ทั้งภายในนครรัฐกรีกและนครรัฐอืน่ ๆ โดย วัตถุประสงค์ เพือ่ เข้ าร่ วมกิจกรรมกีฬาทีย่ งิ่ ใหญ่
ยุคโรมัน
(อยู่ระหว่ าง 44 ปี ก่อนคริสตกาลถึงปลายค.ศ.69) - ความเจริญก้ าวหน้ าทางด้ านการเดินทางของอาณาจักรโรมัน เกิด จากสาเหตุหลายประการ เช่ น ความเข้ มแข็งทางด้ านการเมืองและ การทหาร ทำาให้ เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง - การเจริญเติบโตด้ านการค้ า ทำาให้ ชนชั้นกลางร่ำ ารวย มีเงินในการ เดินทางท่ องเที่ยว - ชาวโรมันใช้ เงินตราในการแลกเปลีย่ น และการพัฒนาการคมนาคม ทั้งทางบกและทางน้ำ า
ยุคโรมัน
(อยู่ระหว่ าง 44 ปี ก่อนคริสตกาลถึงปลายค.ศ.69)
- ชาวโรมันใช้ ภาษาลาตินและภาษากรีก เป็ นสื่ อกลางในการติดต่ อ จึงทำาให้ การเดินทางมีความสะดวกขึน้ - ลักษณะกทท.ของชาวโรมันในอดีต – ปัจจุบัน ไม่ แตกต่ างกัน Ex. 1) ไปเทีย่ วชมสถานทีท่ มี่ ีชื่อเสี ยง , ใช้ บริการมัคคุเทศก์ , ใช้ หนังสื อแนะนำาการเดินทาง และทิง้ ร่ องรอยการมาเยือนไว้ 2) นทท.ส่ วนใหญ่ เป็ นเพศชายมากกว่ าเพศหญิง (ค้ าขาย , นักสู้ , ทหารม้ านำาสาร
ชาวโรมันนิยมเดินทางไปยังกรีซ เพือ่ เยีย่ มชมบ้ านเมืองในกรีซและอียปิ ต์ เพือ่ เยีย่ มชมปิ รามิด (Pyramids) และ สฟิ งค์ (Sphinx) ซึ่งเป็ นสิ่ งมหัศจรรย์ของโลกในสมัยโบราณ (ชยาภรณ์ ชื่นรุ่งโรจน์ , 2537 : 3 – 5)
สิ่ งทีย่ งั คงหลงเหลือ Ex. อ่ างอาบน้ำ าโรมัน ณ เมืองBath ในประเทศอังกฤษ
ยุคมืด
(ช่ วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 1100-750 ก่อนคริสตศักราช หรือ ยุคกลางตอนต้น) - เกิดการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน คนรวยน้ อยลง
เหตุผลทีเ่ รียกว่ายุคมืด เพราะเป็ นความมืดทางอารยธรรมและวัฒนธรรมทีล่ ่ มสลายลงพร้ อมกับการล่ มสลาย ของจักรวรรดิโรมัน
• ก่ อนหน้ านี้ โรมในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน มีอาณาเขตกว้ างขวางมาก จนมีการแบ่ งการปกครองเป็ นสองส่ วนตะวันออกกับตะวันตก แต่ แทนที่จะมีการ ปกครองที่ดขี นึ้ ทั้งสองฝั่งกับทำาสงครามกันเองเพือ่ ความเป็ นใหญ่ • ค.ศ.476 เผ่าเยอรมันปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ ายของโรมันตะวันตก ถือเป็ นการ สิ้นสุ ดจักรวรรดิโรมัน ดินแดนยุโรปจึงแบ่ งแยกออกเป็ นอาณาจักร ชนเผ่ าต่ าง ๆ เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสั งคม • ค.ศ.800 พระเจ้ าชาร์ เลอมาญ ได้ รวบรวมดินแดนในยุโรปเป็ นหนึ่งเดียวได้ สำาเร็จ ได้ รับการอภิเษกจากสั นตะปาปา ภายใต้ ชื่อ"จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire)" หลังสิ้นสมัยพระเจ้ าชาร์ เลอมาญ ยุโรปถูกแบ่ งเป็ น 3 ส่ วน ต่ อมากลายเป็ น ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี
ชนเผ่ าเยอรมันต่ างๆเข้ ามาแทนทีจ่ ักรวรรดิโรมัน ได้ แก่ ชาวแองเกิลส์ และชาวแซ็กซอนในอังกฤษ ชาวแฟรงก์ ใน ฝรั่งเศส ชาววิซิกอธในสเปน ชาวแวนดัลในแอฟริกา ชาวออสโตรกอธในอิตาลี แต่ จักรวรรดิโรมันตะวันออกนั้น ยังอยู่ย้งั ยืนยง แต่ ในยุโรปตะวันตกนั้น อารยธรรมโรมันค่ อยๆสู ญสลาย เมื่อบ้ านเมืองไม่ มีขอื่ มีแป การค้ าขาย และคุณภาพชีวติ จึงเสื่ อมลง มีเพียงสถาบันศาสนาทีย่ งั คงประดิษฐานมัน่ คงเป็ นทีพ่ งึ่ ของประชาชน
ยุคเริ่มสว่ าง หลังยุคมืด - หลายอย่างเริ่มฟื้ นตัว - เริ่มนำาเทคโนโลยีจากยุคก่อนมาปรับใช้ เพือ่ ให้ อยู่ รอดอย่ างมีความสุ ข (ท่ อส่ งน้ำ า) - เกิดการเดินทางเพือ่ แสวงบุญของชาวคริสเตียน - เกิดการเดินทางทีเ่ กีย่ วข้ องกับศาสนา มาก - กลุ่มคนทีส่ ำ าคัญ Marco Polo, Christopher Columbus (ค้ นพบทวีปอเมริกา เหนือ ระหว่ างเดินทางไปทวีปเอเซีย)
Marco Polo
เป็ นชาวยุโรปรายแรกทีบ่ ันทึกการเดินทางไปยังประเทศจีน ในยุคจักรวรรดิ์มองโกลของกุบไลข่ าน
หนังสื อ Il Milione Autore Rustichello da Pisa e Marco Polo 1ª ed. originale circa 1298 Genere saggio Lingua originale italiano
หนังสื อของ มาร์ โค โปโล ได้ รับความสนใจอีกครั้งเมือ่ มีการประดิษฐ์ แท่ นพิมพ์ ในยุโรปในศตวรรษที่ 15 อิทธิพล สำ าคัญของหนังสื อเล่ มนีค้ อื แรงบันดาลใจให้ โคลัมบัสต้ องการเดินทางไปจีนโดยเส้ นทางอืน่ (ทะเล) จนไปพบ ทวีปอเมริกาในทีส่ ุ ด
ยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ The Renaissance
ยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ “Renaissance” - เริ่มต้ นประมาณคริสตศตวรรษที่ 15 และสิ้นสุ ดลงประมาณคริสต ศตวรรษที่ 17 (รวมราว 300 ปี ) คำาว่า Renaissance เป็ นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “การเกิดใหม่ ” หมายถึง - การรื้อฟื้ นอารยธรรมคลาสสิ คของกรีกและโรมันขึน้ มาอีกครั้งหนึ่ง - ยุคนี้ เปลีย่ นแปลงจากยุคกลาง ทีม่ ่ ุงเน้ นการสอนให้ คนยอมรับชะตา กรรมตามทีเ่ ป็ น สู่ ยุคสมัยที่ยกย่ องเห็นคุณค่ าของชีวติ มนุษย์ ในลักษณะ ทีเ่ น้ นมนุษยนิยม (humanism) มากยิง่ ขึน้ กล่าวคือ มีความเชื่อในความ ก้าวหน้ าและความสร้ างสรรค์ ของปัจเจกบุคคล ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็ น ศูนย์กลางของการค้ า เป็ นจุดเริ่มต้ นของการฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ เพราะมี การติดต่ อค้ าขายกับกรีก รวมทั้งเป็ นทีต่ ้งั ของอาณาจักรโรมันโบราณ
ยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ “Renaissance” - ความรู้ในยุคนี้ แพร่ หลายได้ มากขึน้ เพราะมีความเจริญของการพิมพ์ ประกอบกัน โดยมีการประดิษฐ์ แท่ นพิมพ์ขนึ้ เป็ นครั้งแรกใน ค.ศ. 1448 ทีเ่ ยอรมนี ทำาให้ หนังสื อราคาถูกลง ในส่ วนของวรรณกรรมและปรัชญา จึงมีนักคิดและนักเขียนเกิดขึน้ หลายคน - ผู้คนเริ่มเดินทางเพือ่ สั มผัสวัฒนธรรมต่ าง ๆ และเรียนรู้ สิ่งใหม่ ทเี่ จอใน การเดินทาง - การเดินทางท่ องเทีย่ วเชิงการศึกษา โดยเด็กหนุ่มชนชั้นสู ง เดินทางพร้ อม กับ(ผู้ร้ ู = ครู ) ไปในแดนยุโรป เพือ่ ศึกษาศิลปะและวิทยาการ + วัฒนธรรม บันทึกไว้ ใน Grand Tour
Grand Tour
• ในราวศตวรรษที่ 16 ได้ เกิดความนิยมเดินทางท่ องเทีย่ วแบบแกรนด์ ทวั ร์ (Grand Tour)หรือการท่ องทวีปยุโรปทีก่ นิ ระยะเวลายาวนานหลายเดือน • ผู้ทเี่ ดินทางในรูปแบบแกรนด์ ทวั ร์ นีจ้ ะเดินทางเพือ่ ศึกษาหาความรู้ และ ประสบการณ์ ชีวติ หรือเพือ่ เตรียมตัวเพือ่ เข้ ารับราชการ โดยจะเดินทางไป พำานักตามเมืองทีเ่ ป็ นศูนย์ กลางทางศิลปวิทยาการ เช่ น ปารีส ในประเทศ ฝรั่งเศส และเมืองฟลอเรนซ์ ในประเทศอิตาลี เป็ นต้ น แนวคิดนีถ้ ูกนำามา ปฏิบัติตลอดศตวรรษที่ 17 - 18 ก่อนทีว่ ตั ถุประสงค์ ในการเดินทางจะเปลีย่ น มาเป็ นทั้งเพือ่ การศึกษาและความเพลิดเพลินในเวลาต่ อมา • แกรนด์ ทวั ร์ จงึ ถือเป็ นจุดเริ่มต้ นแห่ งวิวฒ ั นาการของการจัดการท่ องเทีย่ วที่ สำ าคัญมากประการหนึ่ง (พลอยศรี โปราณานนท์ , 2540, สมบัติ กาญจนกิจ, 2544 )
- โดยเดินทางเป็ นวงรอบ (Circuit) ในระยะแรก ของการเดินทางนี้ ผู้เดินทางจะใช้ เวลาประมาณ 4 ปี - เกิดความสั มพันธ์ ทางการฑูตขึน้ ซึ่งถือได้ ว่า เป็ นการเดินทางเพือ่ ธุรกิจเป็ นกลุ่มแรก - ต่ อมาได้ พบบ่ อน้ำ าแร่ ทยี่ ุโรปเป็ นจำานวนมาก ซึ่งเชื่อว่ าน้ำ าแร่ สามารถรักษาความเจ็บป่ วย ได้ กทท.เพือ่ สุ ขภาพเป็ นครั้งแรก
ในช่ วงศตวรรษที่ 19
• ได้ มีคนค้ นพบน้ำ าทะเลเป็ นสิ่ งทีด่ ใี นการรักษาโรค ด้ วยเหตุนีช้ ายทะเล จึงเป็ นทีน่ ิยมและเป็ นกิจกรรมของครอบครัวต่ อมา • การเดินทางในช่ วงนีไ้ ด้ เปลีย่ นแปลงไป คือ จากทีค่ นชนชั้นสู งมักจะ เดินทางท่ องเทีย่ วก็เริ่มกระจายมาสู่ ชนชั้นกลาง โดยส่ วนใหญ่ มี วัตถุประสงค์ เพือ่ การสั งคมและจิตใจ • มีการเปลีย่ นแปลงทางด้ านเทคโนโลยี คือ การสร้ างรถไฟ
โทมัส คุก (Thomas Cook)
- ในปี ค.ศ. 1841 โทมัส คุก (Thomas Cook) ได้ เริ่มเดินรถไฟขบวน พิเศษจากไลเซสเตอร์ (Leicester) ไปลัฟโรห์ (Loughborugh) ซึ่งมี ระยะทางยาว 12 ไมล์ และในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคมของปี นั้น รถไฟ ของโธมัส คุกก็รับผู้โดยสารไปกลับถึง 570 คน ในราคาคนละ 1 ชิลลิง่ ซึ่งเชื่อกันว่ าเป็ นรถไฟเดินทางระยะสั้ นทีม่ กี ารโฆษณาเผยแพร่ เป็ นครั้ง แรก จึงเป็ นทีย่ อมรับกันโดยทัว่ ไปว่า โธมัส คุกเป็ นตัวแทนท่ องเทีย่ ว รถไฟระยะทางสั้ นๆเป็ นคนแรก และความพยายามของเขาก็ถูกผู้คน เลียนแบบกันไปทัว่ โลก แต่ อย่ างไรก็ตามบริษัทของโธมัส คุกก็เติบโต อย่างรวดเร็ว
โทมัส คุก (Thomas Cook)
- มีการจัดท่ องเทีย่ วโดยมีผู้คอยบริการอำานวยความสะดวกไปสู่ ยุโรป และ ต่ อมาก็นำาไปสู่ สหรัฐอเมริกา ต่ อมาอีกก็นำาไปสู่ การท่ องเทีย่ วทัว่ โลก แม้ กระทัง่ ทุกวันนีบ้ ริษทั ของโธมัส คุกก็ยงั คงดำาเนินกิจการอยู่ และเป็ น บริษัทหรือองค์ การทางการเดินทางท่ องเทีย่ วทีใ่ หญ่ ทสี่ ุ ดในโลกอยู่เช่ น เดิม
ศตวรรษที่ 20
• มีเรือกลไฟเกิดขึน้ จึงสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ เป็ นจำานวนมาก • ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ มีเครื่องบินเดินทางและในเชิงพาณิชย์ มากยิง่ ขึน้ • เกิดการเปลีย่ นแปลงเกีย่ วกับการท่ องเทีย่ วอีกหลายประการ คือ 1. ความปรารถนาทีจ่ ะเดินทาง 2. การลดอุปสรรคในการเดินทาง
การท่ องเทีย่ วในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา • เริ่มขึน้ ในศตวรรษที่ 19 ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็ นต้ นกำาเนิดนวัตกรรมทีเ่ กีย่ วข้ องกับการ ท่ องเทีย่ ว คือ สวนสนุก (The Park) พิพธิ ภัณฑ์ พัฒนาแหล่ งท่ องเทีย่ วบันเทิง
การท่ องเทีย่ วในแอฟริกา • ในช่ วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 ประเทศเคนยาได้ รับ ความนิยมจากชาวตะวันตก เนื่องจากเป็ นดินแดนแห่ ง การล่ าสั ตว์ แต่ ความนิยมเริ่มลดน้ อยลงเพราะว่ า จำานวนสั ตว์ ได้ ลดจำานวนลงและทางรัฐบาลก็ต่อต้ าน • ประเทศโมร็อกโกเป็ นแหล่งท่ องเทีย่ วทีส่ ำ าคัญ ได้ รับ ความนิยมจากชาวตะวันตกโดยเฉพาะช่ วงฤดูหนาว และได้ ขยายไปยังประเทศต่ างๆมากขึน้ จนถึงปัจจุบัน
ตะวันออกกลาง
• เป็ นดินแดนแห่ งการแสวงบุญทีม่ ี ความสำ าคัญทีส่ ุ ด เพราะว่ าเป็ นภูมภิ าค ของศาสดาทีส่ ำ าคัญในโลก ได้ แก่ มุสลิม คริสต์ และยูดา
ทวีปเอเชีย • ประเทศไทยได้ รับการขนานนาม จากนักท่ องเทีย่ วชาวยุโรปว่ าเป็ น แหล่ งพักผ่ อนเพือ่ ธรรมชาติ มี สถานทีพ่ กั ตากอากาศเยอะ
ประเทศจีน • มีการท่ องเทีย่ วมาช้ านาน ตั้งแต่ ราชวงศ์ ชิง ได้ จดั พระราชวังเฉพาะหรับการเดินทางในฤดูร้อน • ในหลายศตวรรษทีผ่ ่ านมา ประเทศจีนก็มีการท่ องเทีย่ ว เฉพาะชนชั้นสู งเท่ านั้นจนไม่ กที่ ศวรรษนีก้ ไ็ ด้ แผ่ ขยาย มาสู่ ชนชั้นกลางและชั้นล่ างมากขึน้
ประเทศอินเดีย • ส่ วนใหญ่ จะเกีย่ วข้ องกับการจาริก แสวงบุญ • เมือ่ ไม่ นานนีบ้ ริเวณชายฝั่งทะเล ได้ กลายเป็ น แหล่ งท่ องเทีย่ วทีด่ งึ ดูดชาวอินเดีย และได้ รับ การพัฒนามากขึน้
วิวฒ ั นาการของการท่ องเทีย่ วในประวัตศิ าสตร์ ยุคต่ างๆ บอก ? การท่ องเทีย่ วเกิดขึน้ บนพืน้ ฐานของปรากฏการณ์ ต่ างๆ ทีห่ ลากหลายในประวัติศาสตร์
การผลิตสิ นค้ าและบริการ ต่ างๆ เพิม่ มากขึน้ ในสั งคม
เกิดเงินตราและเวลาว่างเพือ่ การพักผ่ อนของ ผู้คนมากขึน้ ประชาชนทีไ่ ด้ รับการศึกษาดีกจ็ ะนิยมเดินทางท่ องเทีย่ วมากขึน้ การปรับปรุงการคมนาคมขนส่ งช่ วยทำาให้ การเดินทางท่ องเทีย่ ว รวดเร็วขึน้ ง่ ายขึน้ ราคาถูกลงและมีความปลอดภัยมากขึน้ การสื่ อสารคมนาคมโดยผ่ านระบบการพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ช่ วยทำาให้ ระบบการตลาดของอุตสาหกรรมท่ องเทีย่ วง่ ายขึน้
คำาถามท้ ายบท บทที่ 1 1. พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว คืออะไร ? พิจารณาได้ อย่ างไร ? ยกตัวอย่ างประกอบ 2. การท่ องเทีย่ วในแต่ ละยุคสมัยส่ งผลให้ เกิด พัฒนาการและพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ วเป็ น อย่ างไร ? 3. จงบอกความแตกต่ างของการท่ องเทีย่ วมหาชน (Grand Tour)
งานกล่ ุม
1. แบ่ งกลุ่มศึกษา Model พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว และการตัดสิ นใจซื้อ ของนักท่ องเทีย่ ว 1) Anderseason’s model of consumer behavior 2) A summary description of the Nicosia model 3) The Howald-sheth model of buyer behavior 4) Some issures that arise during stages in the consumption process 5] A stimulus-response model of buyer behavior 6] consumer decision-making framework 7] Characteristics of tourism 8] Typology of motivators in tourism
แนวการศึกษาข้ อมูล
1. ให้ นักศึกษาศึกษาแนวคิดทฤษฏีทเี่ กีย่ วข้ องกับพฤติกรรม นักท่ องเทีย่ ว โดยให้ นำาเสนอประเด็นดังต่ อไปนี้ - ประเด็นในการศึกษา - อธิบายความเชื่อมโยงของ Model - ยกตัวอย่ างประกอบ 2. นำาเสนอเป็ น PPT. ในวันศุกร์ ที่ 29 สค. 57