บทที่ 3
พฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว By: อ.นำำขวัญ วงศ์ ประทุม
Topic ; • • • •
ใครคือนักท่ องเทีย่ ว ? กระบวนกำรตัดสิ นใจทีจ่ ะท่ องเทีย่ ว ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว แนวโน้ มพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ วและ กำรปรับตัวของธุรกิจ • ควำมสำ ำคัญของกำรศึกษำพฤติกรรมนัก ท่ องเทีย่ ว
1) ใครคือนักท่ องเทีย่ ว ?
Ogilvie (1933) นักท่ องเทีย่ ว หมำยถึง บุคคลที่ อยู่ห่ำงจำกบ้ ำนในช่ วงระยะเวลำใด ระยะเวลำหนึ่งแต่ ไม่ เกิน 1 ปี และใช้ เงินในสถำนทีซ่ ึ่งพวกเขำไปเยีย่ ม เยือนโดยไม่ ได้ รับรำยได้ ใด ๆ จำก สถำนทีน่ ้ัน
1) ใครคือนักท่ องเทีย่ ว ?
Cohen (1974) นักท่ องเทีย่ ว หมำยถึง บุคคลที่ เดินทำงชั่วครำวด้ วยควำมสมัครใจ โดยหวังจะได้ รับควำมสุ ขจำกสิ่ ง แปลกใหม่ และประสบกำรณ์ ทเี่ ปลีย่ น ไปในกำรเดินทำงทีย่ ำวนำนและจะ ไม่ เกินขึน้ อีก
1) ใครคือนักท่ องเทีย่ ว ?
Leiper (1975) นักท่ องเทีย่ ว หมำยถึง บุคคลที่ เดินทำงไปยังสถำนทีซ่ ึ่งไม่ ใช่ ทอี่ ยู่ ถำวรของตนเป็ นระยะเวลำชั่วครำว โดยพำำนักอยู่ในสถำนทีด่ งั กล่ ำวอย่ ำง น้ อย 1 คืนและต้ องไม่ ใช่ กำรเดินทำง เพือ่ หำรำยได้ จำกสถำนทีน่ ้ัน ๆ
1) ใครคือนักท่ องเทีย่ ว ?
WTO (1981)
นักท่ องเทีย่ ว หมำยถึง บุคคลใดก็ตำมที่ อำศัยอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งโดยไม่ คำำ นึง ถึงสั ญชำติ เดินทำงไปยังสำถนทีซ่ ึ่งไม่ ใช่ ทอี่ ยู่ อำศัยของตนภำยในประเทศดังกล่ำวเป็ นระยะ เวลำไม่ น้อยกว่ำ 24 ชม.หรือ 1 คืน โดยมี วัตถุประสงค์อนื่ ทีไ่ ม่ ใช่ เพือ่ กำรแสวงหำรำยได้ จำกสถำนทีด่ งั กล่ำว โดยมูลเหตุจูงใจของกำร เดินทำงดังกล่ำวอำจเป็ น 1) กำรพักผ่อน (นันทนำกำร , วันหยุด , สุ ขภำพ , กำรเรียน , ศำสนำ , กีฬำ) หรือ 2) ธุรกิจ , ครอบครัว , ภำรกิจ , ประชุ ม
2) กระบวนกำรตัดสิ นใจทีจ ่ ะท่ องเทีย่ ว
2) ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
1) พิจำรณำจำกลักษณะร่ วมทำง พฤติกรรมและบทบำททำงสั งคม - Cohen (1972) ได้ นำำแนวคิดด้ ำน ลักษณะร่ วมทำงพฤติกรรมและ บทบำททำงสั งคมมำจัดประเภท ของนทท.
กำรศึกษำบทบำทของนทท.ด้ วยวิธีของ Philip Pearce จำำแนกบทบำท role ต่ ำง ๆ ของนทท.ให้ เห็น ว่ ำมีควำมแตกต่ ำงจำกบุคคลทีม่ สี ถำนภำพอืน่ ๆ 1) บทบำทจะมีขอบเขตกว้ ำง ๆ ประกอบด้ วย บทบำทหลำยบทบำทในขอบเขตนั้นทีเ่ รียกว่ ำ (Range of roles)
2) บทบำทเหล่ ำนีแ้ ต่ ละบทบำทจะมีลกั ษณะ เด่ นทีแ่ ยกจำกกันชัดเจน (Role separation)
กำรศึกษำบทบำทของนทท.ด้ วยวิธีของ Philip Pearce
3) หำกเป็ นไปได้ ควรจะแสดงให้ เห็นดี กรีของควำมสั มพันธ์ ระหว่ ำงบทบำทต่ ำง ๆ ในข้ อ 2 (Index of role relatedness) 4) กระบวนกำรทีจ่ ะแยกบทบำทต่ ำง ๆ ของนทท.ต้ องกระทำำโดยกำรใช้ หลัก ประสบกำรณ์ กำรเดินทำงและลักษณะทำง สั งคมทีเ่ กีย่ วข้ องกับกำรเดินทำงเป็ น เกณฑ์ (Use of social/experiential criteria)
การจำา แนก / อธิบ าย บทบาททีเ่ กี่ย วข้อ งกับ กทท .
กระบวนการตัด สิน ใจ (Judgments process)
กระบวนการตัด สิน ใจที่จ ะท่อ งเที่ย ว ของ
ถูก กระตุ้น ให้ เกิด ความต้อ งการ ท่อ งเที่ย ว การให้ข ้อ มูล ย้อ นกลับ
Cooper & other
การรับ รู้ถ งึ ความ ต้อ งการที่เ กิด ขึน ้ การใช้เ วลาหาข้อ มูล เกี่ย ว กับ แหล่ง ทท.
แยกแยะตัว เลือ ก แหล่ง ทท.ต่า ง ๆ ประเมิน ตัว เลือ ก ต่า ง ๆ ตัด สิน ใจเลือ กแหล่ง ทท .
พฤติก รรมหลัง กทท.ที่จ ะส่ง ผลต่อ การตัด สิน ใจในอนาคต
การตัด สิน ใจที่จ ะ ทำา การท่อ งเที่ย ว
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 1.นัก ท่อ งเที่ย ว
(Tourist)
1) ถ่า ยรูป 2) ซื้อ ของที่ร ะลึก 3) ชมสถานที่ท ี่ม ีช อ ื่ เสีย ง 4) พัก อยูใ ่ นสถานที่แ ต่ล ะ แห่ง เป็น เวลาสั้น ๆ 5) ไม่ม ค ี วามเข้า ใจคนใน ท้อ งถิ่น
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
2.นักเดินทำง (Traveller)
1) 2) 3) 4) 5)
พักอยู่ในสถำนทีแ่ ต่ ละแห่ งเป็ นเวลำสั้ น ๆ ทดลองรับประทำนอำหำรพืน้ เมือง ชมสถำนทีท่ มี่ ีชื่อเสี ยง ถ่ ำยรูป ชอบสำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วยตัวเอง
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 3. ฮอลิเดย์ เมคเกอร์ (Holidaymaker)
1) ถ่ ำยรูป 2) ชมสถำนทีท่ มี่ ชี ื่อเสี ยง 3) มีควำมรู้สึกแปลกแยกจำกสั งคม 4) ซื้อของทีร่ ะลึก 5) มีส่วนเกือ้ กูลทำงเศรษฐกิจต่ อสั งคม ทีไ่ ปเยือน
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 4.กลุ่มคนในสั งคมชั้นสู ง (Jet – setter) 1) มีควำมเป็ นอยู่หรู หรำ 2) 3) 4) 5)
ระมัดระวังเกีย่ วกับสถำนภำพสั งคม ชอบควำมสุ ขทำงโลก ชอบคบหำกับคนในระดับสั งคมเดียวกัน ชมสถำนทีท่ มี่ ชี ื่อเสี ยง
Jetsetters
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
5.นักธุรกิจ (Businessman)
1) ระมัดระวังเกีย่ วกับสถำนภำพทำง สั งคม 2) มีส่วนเกือ้ กูลทำงเศรษฐกิจต่ อ สั งคมทีไ่ ปเยือน 3) ไม่ ชอบถ่ ำยรู ป 4) ชอบคบหำกับคนในระดับสั งคม เดียวกัน 5) มีควำมเป็ นอยู่หรูหรำ
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
6.ผู้อพยพ (Migrant) 1) มีปัญหำในด้ ำนภำษำ 2) ชอบทีจ่ ะมีปฏิสัมพันธ์ กับคนพวกเดียวกัน 3) ไม่ เข้ ำใจคนในท้ องถิ่น 4) ไม่ มีชีวติ ทีห่ รู หรำ 5) ไม่ เอำเปรียบคนในท้ อง ถิ่น
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 7.นักอนุรักษ์ นิยม (Conservationist)
1) สนใจในสิ่ งแวดล้ อม 2) ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก 3) ไม่ เอำเปรียบคนในท้ องถิน่ 4) ชอบสำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วยตนเอง 5) ชอบถ่ ำยรู ป
Conservationists
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 8.นักสำ ำรวจ (Explorer) 1) สำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วยตนเอง
2) 3) 4) 5) สนใจ
สนใจในสิ่ งแวดล้อม ชอบเสี่ ยงอันตรำย ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก สั งเกตสั งคมทีไ่ ปเยือนด้ วยควำม
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
9.นักสอนศำสนำ (Missionary) 1) ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก
2) แสวงหำควำมหมำยของชีวติ 3) ไม่ ใช้ ชีวติ ทีห่ รู หรำฟุ่ มเฟื อย 4) ไม่ แสวงหำควำมสุ ขทำงโลก 5) สั งเกตสั งคมทีไ่ ปเยือนด้ วยควำม สนใจ
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
10.นักศึกษำต่ ำงชำติ (Overseas student)
1) ทดลองรับประทำนอำหำรพืน้ เมือง
2) ไม่ เอำเปรียบคนในท้ องถิน่ 3) ชอบถ่ ำยรู ป 4) สั งเกตสั งคมทีไ่ ปเยือนด้ วยควำม สนใจ 5) ชอบกิจกรรมทีเ่ สี่ ยงอันตรำย
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 11. นักมำนุษยวิทยำ (Anthropologist) 1) สั งเกตสั งคมทีไ่ ปเยือนด้ วยควำม
สนใจ 2) สำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วยตนเอง 3) สนใจในสิ่ งแวดล้อม 4) ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก 5) ชอบถ่ ำยรู ป
Anthropologists study culture
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง
12. ฮิปปี้ (Hippie)
1) ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก 2) ไม่ ใช้ ชีวติ ทีห่ รู หรำ 3) ไม่ สนใจในสถำนภำพทำงสั งคม 4) ไม่ ถ่ำยรู ป 5) ไม่ มสี ่ วนเกือ้ กูลทำงเศรษฐกิจต่ อ สั งคมทีไ่ ปเยือน
Hippies
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 13.นักกีฬำต่ ำงชำติ (International athlete) 1) ไม่ มคี วำมรู้ สึกแปลกแยกจำกสั งคม
ของตนเอง 2) ไม่ เอำเปรียบคนในท้ องถิ่น 3) ไม่ เข้ ำใจคนในท้ องถิน่ 4) สำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วยตนเอง 5) แสวงหำควำมหมำยของชีวติ
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 14. นักข่ ำวต่ ำงประเทศ (Overseas journalist)
1) ชอบถ่ ำยรู ป 2) สั งเกตสั งคมทีไ่ ปเยือนด้ วย ควำมสนใจ 3) ไปชมสถำนทีท่ มี่ ีชื่อเสี ยง 4) ชอบกิจกรรมทีเ่ สี่ ยงอันตรำย 5) ชอบสำ ำรวจสถำนทีต่ ่ ำง ๆ ด้ วย ตนเอง
พฤติกรรมทีเ่ กีย่ วกับกำรเดินทำง 15. นักแสวงบุญ (Religious pilgrim) 1) 2) 3) 4) 5)
แสวงหำควำมหมำยของชีวติ ไม่ มีชีวติ ทีห่ รู หรำ ไม่ สนใจสถำนภำพทำงสั งคม ไม่ เอำเปรียบคนในท้ องถิ่น ไม่ ซื้อของทีร่ ะลึก
Pilgrims to Mecca,Saudi Arabia
• แทรกรูปหน้า 68
กลุ่มที่ 1
กลุ่มพฤติกรรมกลุ่มที่ 1 กลุ่มกำรท่ องเทีย่ วแบบสนใจในสภำวะแวดล้ อม (Environmental travel)
อยู่ในช่ องขวำมือด้ ำนล่ ำง ประกอบด้ วย - นักมำนุษยวิทยำ - นักอนุรักษ์ และ - นักสำ ำรวจ เป็ นตัวแทนกลุ่มนทท.ทีม่ ีสำำนึกเกีย่ วกับ สภำพแวดล้ อมและสั งคม - ชอบกำรผจญภัย - มีควำมเป็ นนักวิชำกำร
กลุ่ม ที่ 2
กลุ่มพฤติกรรมกลุ่มที่ 2 กลุ่มกำรท่ องเทีย่ วแบบใกล้ชิด (High-contact travel)
กระจุกอยู่บริเวณส่ วนล่ำงของแผนภูมิ ประกอบด้ วย - นักข่ ำวต่ ำงประเทศ - นักเดินทำง - นักศึกษำต่ ำงชำติ จะมีลกั ษณะเด่ นคือ มีกำรติดต่ อกับคนใน ท้ องถิน่ อย่ำงใกล้ชิด
กล่ มุ 3
กลุ่มพฤติกรรมกลุ่มที่ 3 กลุ่มกำรท่ องเทีย่ วแบบเน้ นควำมสนุกสนำน (Pleasure-first travel)
กระจุกรวมกันทำงซีกล่ำงด้ ำนซ้ ำยมือของแผนภูมิ คือ - เป็ นตัวแทนของนทท.ทีช่ อบควำมฉำบฉวย - เทีย่ วแบบผ่ ำน ๆ - นิยมซื้อของทีร่ ะลึก - เน้ นควำมมีหน้ ำมีตำ - ต้ องกำรควำมปลอดภัยสู ง - ต้ องกำรควำมสะดวกสบำยอย่ ำงเต็มทีจ่ นทำำให้ ดู เป็ นกำรเอำเปรียบคนในท้ องถิน่
กล่ มุ 4
กลุ่มพฤติกรรมกลุ่มที่ 4 กลุ่มกำรท่ องเทีย่ วทีม่ ลี กั ษณะเอำเปรียบคนในท้ องถิ่น (Exploitative travel)
อยู่ค่อนไปทำงด้ ำนซ้ ำยมือซีกบนของ แผนภูมิ โดยมีลกั ษณะเอำเปรียบคนใน ท้ องถิน่ ดังนี้ - ควำมนิยม - ควำมหรู หรำฟุ่ มเฟื อย - ควำมสะดวกสบำยในด้ ำนทีพ่ กั - กำรบริโภค - กำรพักผ่ อนหย่ อนใจ
นทท.กลุ่มนี้ - จะไม่ มีควำมสำ ำนึกในเรื่องของสภำพ แวดล้ อมและสั งคม - ไม่ เข้ ำใจคนในท้ องถิน่ (ไม่ ได้ สัมผัส) - นทท.ในแวดวงสั งคมชั้นสู ง (jetsetter) จัดอยู่ในกลุ่มทีพ่ ฤติกรรมทีเ่ หลือ่ มกันระหว่ ำง ทีเ่ น้ นควำมสนุกสนนำนเป็ นหลัก กับกลุ่มที่ มีแนวโน้ มจะเอำเปรียบคนในท้ องถิน่
กล่มุ ที่ 5
กลุ่มพฤติกรรมกลุ่มที่ 5 กลุ่มกำรท่ องเทีย่ วเพือ่ จิตใจ (Spiritual travel) กระจำยอยู่ทำงซีกขวำมือด้ ำนบน ประกอบด้ วย - กลุ่มผู้ทเี่ ดินทำงเพือ่ แสวงบุญ - นักบุญศำสนำ - ฮิปปี้ ลักษณะเด่ นของนทท.คือ - ไม่ สนใจกับควำมมีหน้ ำมีตำ / สภำพทำงสั งคม - ไม่ มสี ่ วนเกือ้ กูลทำงเศรษฐกิจแก่สังคมทีไ่ ปเยือนเลย - ควำมต้ องกำรอยู่ทกี่ ำรแสวงหำควำมหมำยทีแ่ ท้ จริงของ ชีวติ
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
2) พิจำรณำจำกกำรปฏิสัมพันธ์ ทำงสั งคม - Smith (1977) จะจำำแนก ประเภทของนทท.เป็ นกลุ่ม ย่ อยมำกกว่ ำ Cohen
เที่ย วตามแนวทางของโคเฮ็น และของ สมิท โดยพิจ ารณาจากการปะทะ สัง สรรค์ท างสัง คมเป็น แนวทาง
ตำรำงเปรียบเทียบประเภทของนักท่ องเทีย่ วตำมแนวทำงของโคเฮ็นและของ สมิทโดยพิจำรณำจำกกำรปะทะสั งสรรค์ทำงสั งคมเป็ นแนวทำง
บทบำททำงสั งคมและเงื่อนไขของกำรปะทะสั งสรรค์ ทำงสั งคม ของ โคเฮ็น
1) นักท่ องเทีย่ วแบบมหำชนทีเ่ ป็ นระบบ (Organized Mass Tourist) - คือ นทท.ทีเ่ ดินทำงโดยซื้อ Packages Tour ซึ่งอยู่ใน สภำพแวดล้ อมของฟองสบู่ และไม่ มีโอกำสปะทะสั งสรรค์ กับคนในท้ องถิน่ เลย 2) นักท่ องเทีย่ วแบบมหำชนแบบอิสระ (Individual Mass Tourist) - ค่อนข้ ำงจะเป็ นอิสระจำกสภำพแวดล้อมของฟองสบู่ เพรำะบำงครั้งออกจำกควำมดูแลของหัวหน้ ำทัวร์ ไปเทีย่ ว ตำมลำำพัง แต่ สถำนทีท่ ่ องเทีย่ วมักจะเป็ นสถำนทีท่ มี่ ีชื่อ เสี ยง เป็ นทีร่ ู้ จกั กันของคนทัว่ ไป
บทบำททำงสั งคมและเงื่อนไขของกำรปะทะสั งสรรค์ ทำงสั งคม ของ โคเฮ็น 3) นักท่ องเทีย่ วประเภทนักสำ ำรวจ (The Explorer) - พวกนีจ้ ะเรียกว่ำ (non-institutionalized types) นทท.พวกนีจ้ ะพยำยำมเลีย่ งกิจกรรมทีจ่ ดั ไว้ - พยำมยำมทีจ่ ะเรียนรู้ ภำษำและวัฒนธรรมของ ท้ องถิน่ - เต็มใจทีจ่ ะรับควำมลำำบำกและสละควำม สะดวกสบำยบำงอย่ำง 4) นักท่ องเทีย่ วแบบพเนจร (The drifter) - จะหลีกเลีย่ งประสบกำรณ์ กำรท่ องเทีย่ วแบบ ทัว่ ไปเท่ ำทีจ่ ะทำำได้
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว 3) พิจำรณำจำกแนวคิดในเรื่องศูนย์กลำงของ นทท.ทีก่ ่อให้ เกิดพฤติกรรม - Plog (1972) ได้ นำำเสนอประเภทของ นทท.โดยใช้ หลักของ Cognotivenormative model มำก่อน Cohen ซึ่งทั้ง สองคนได้ ใช้ แนวควำมคิดเชิงสั งคมวิทยำใน เรื่องของศูนย์ กลำงแนวคิด ซึ่งถือว่ ำใน แต่ ละสั งคมจะมีจุดเด่ น หรือข้ อดีของตัว เอง ซึ่งจุดเด่ นนีถ้ อื เป็ นข้ อดีของสั งคม
ตำรำงเปรียบเทียบประเภทของนักท่ องเทีย่ วตำมแนวทำงของพล็อกและโคเฮ็นโดยพิจำรณำ จำกCognitive-normarive models
ตำรำงเปรียบเทียบประเภทของนักท่ องเทีย่ วตำมแนวทำงของพล็อกและโคเฮ็นโดยพิจำรณำ จำกCognitive-normarive models
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
4) พิจำรณำจำกประสบกำรณ์ ของนทท. - Cohen (1972) ได้ เสนอรู ปแบบประสบกำรณ์ ของนทท. 5 รู ปแบบ ได้ แก่ 4.1) นทท.ทีต่ ้ องกำรกำรพักผ่ อนหย่ อนใจ (recreational tourist) เป็ นกทท.เพือ่ ผ่ อน คลำยควำมเคลียด ไม่ ได้ ต้องกำรประสบกำรณ์ กำรเรียนรู้ ใด ๆ จำกกทท. 4.2) นทท.ทีต่ ้ องกำรสิ่ งแปลกใหม่ (Diversionary tourist) เป็ นพวกที่ต้องกำรหลีกหนีควำมจำำเจ ต้ องกำรลืมควำมน่ ำเบื่อหน่ ำยทีเ่ ห็นอยู่เป็ น ประจำำ ไม่ สนใจในประสบกำรณ์
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
4) พิจำรณำจำกประสบกำรณ์ ของนทท. Cohen (1972) 4.3) นทท.เพือ่ หำประสบกำรณ์ (experiential tourist) เป็ นพวกที่ต้องกำรได้ รับประสบกำรณ์ ที่ เป็ นของแท้ จริง เป็ นประบกำณณ์ จำกกำรได้ ยนิ ได้ ดู ได้ ชมสิ่ งแปลกใหม่ ในแหล่งทท. 4.4) นทท.ทีช่ อบทดลอง (experimental tourist)เป็ นพวกทีต่ ้ องกำรเข้ ำไปสั มผัสชีวติ ของ คนในท้ องถิน่ มีส่วนร่ วมในกิจกรรมของคนใน สั งคมอืน่ ทีเ่ ป็ นควำมเป็ นอยุ่อย่ ำงแท้ จริง
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
4) พิจำรณำจำกประสบกำรณ์ ของนทท. Cohen (1972) 4.5) นทท.ทีต่ ้ องกำรเข้ ำไปใช้ ชีวติ อยู่ (existential tourist) เป็ นพวกทีต่ ้ องกำรเข้ ำไปฝังตัวอยู่ใน วัฒนธรรมและวิถชึ ีวติ ของสั งคมทีพ่ วกเขำเข้ ำ ไปทท. ทำำตัวเสมือนเป็ นคนในพืน้ ที่ ไม่ สนใจสิ่ ง อำำนวยควำมสะดวกสำ ำหรับนทท.
Homestay
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว - ลอร์ น วิทเทิล (Lorne Wnitues,18) ได้ ผสมผสำนทฤษฎีของโคเฮ็น (1979) + ทฤษฏีของปำร์ คเกอร์ (Parker,1983) ในกำรจำำแนกแบบแผนชีวติ ของคน ออกเป็ นกลุ่มต่ ำง ๆ โดยพิจำรณำจำก อิทธิพลของงำนที่เข้ ำมำบดบังส่ วนที่ เป็ นเวลำว่ ำงหรือกำรพัก
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว ปำร์ คเกอร์ (Parker,1983) ได้ เสนอรู ปแบบ ควำมสั มพันธ์ ของงำนกับกำรใช้ เวลำว่ำงใน 3 รู ปแบบ 1) กำรต่ อต้ ำนกำรทำำงำน (Opposition Patterns) 2) สภำพควำมเป็ นกลำง (Neutrality Patterns) 3) งำนทีแ่ ผ่ เข้ ำไปครอบคลุมส่ วนทีเ่ ป็ นเวลำว่ ำงของ คนเรำไม่ ว่ำในพืน้ ฐำนเดิมคนเหล่ำนั้นจะให้ เวลำ ส่ วนใหญ่ กบั งำนหรือกับเวลำว่ำงก็ตำม
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว - ทฤษฏีของปำร์ คเกอร์ + โคเฮ็น มีควำมคล้ำยคลึงกัน ในรู ปแบบของประสบกำรณ์ กำรท่ องเทีย่ ว ดังนี้ กลุ่ม 1 ปำร์ คเกอร์ โคเฮ็น
-เน้ นองค์ประกอบทำงด้ ำนกำร ฟื้ นฟู (Recuperative) -เน้ นกำรพักผ่ อนหย่ อนใจเป็ น หลัก
-ไม่ ให้ ควำมสำ ำคัญกับควำมเป็ น ของแท้ จำกประสบกำรณ์ กำรเดิน ทำงมำกนัก โดยสำมำรถยอมรับ
กลุ่มต่ อต้ ำน กำร ทำำงำน(Oppositi on)
กลุ่มทีต่ ้ องกำรเพียงแค่ พักผ่ อนหย่ อนใจ (Recreational) โคเฮ็น
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว
- ทฤษฏีของปำร์ คเกอร์ + โคเฮ็น มีควำม คล้ำยคลึงกันในรูปแบบของ ประสบกำรณ์ กำรท่ องเทีย่ ว ดังนี้ กลุ่ม2 ปำร์ คเกอร์ โคเฮ็น ไปให้ พ้นจำกควำมน่ ำเบื่อ กลุ่มสภำพควำม พวกทีต่ ้ องกำร ในชีวติ ประจำำวัน (Escaping เป็ นกลำง ควำมแตกต่ ำงจำก routine) ควำมจำำเจจำกงำน
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเทีย่ ว กลุ่ม 3
ทฤษฏีของปำร์ คเกอร์ + โคเฮ็น มีควำมคล้ำยคลึง กันในรู ปแบบของประสบกำรณ์ กำรท่ องเทีย่ ว ปำร์ คเกอร์ โคเฮ็น ดังนี้
ไปให้ พ้นจำกควำมน่ ำ กำรพักผ่อนกับกำรทำำงำนเกือ้ กูลกัน พวกทีต่ ้ องกำรควำมลึกซึ้ง เบือ่ ในชีวติ ประจำำวัน ซึ่งจะทำำให้ ชีวติ ของคนมีควำมหมำย (Profound)/แสวงหำควำม (Escaping routine และได้ รับควำมพึงพอใจ หมำย (Meaning) -ท่ องเทีย่ วเพือ่ พัฒนำศักยภำพในกำร - พึงพอใจกับกำรได้ เห็น/ดู ทำำงำนให้ ดียงิ่ ขึน้ จึงต้ องเป็ นกำรท่ อง ชีวติ ควำมเป็ นอยู่ทแี่ ท้ จริง เทีย่ วเพือ่ ให้ เกิดควำมงอกงำมทำงสติ ของคนในสั งคมอืน่ ปัญญำและจิตวิญญำณ
ประเภทและพฤติกรรมของนักท่ องเที่ยว
5) พิจำรณำแบบแผนชีวติ - Arild Steen มีแนวคิดว่ ำ กำรทีเ่ รำจะ ทำำควำมเข้ ำใจพฤติกรรมทำงสั งคมนั้น นอกจำกเรำจะต้ องเข้ ำใจในอิทธิพลของ - ปัจจัยทำงด้ ำนสั งคม - ปัจจัยทำงด้ ำนเศรษฐกิจ - ปัจจัยทำงด้ ำนประชำกรศำสตร์ - ปัจจัยทำงด้ ำนแบบแผนชีวติ (บรรทัดฐำน + ค่ ำนิยมทีย่ ดึ ถือ)
Model กำรจำำแนกแบบแผนชีวติ ของ Arild Steen
แบบแผนชีว ิต มีก ารจำา แนก เป็น 4 แบบ
1) กลุ่มรักสนุก (The hedonist) คือ กลุ่มทีห่ ำควำมพึงพอใจจำกควำม สนุกสนำนของวันหยุดอย่ ำงเต็มที่ กำร ทำำงำนเป็ นเพียงวิธีกำรทีจ่ ะได้ มำซึ่งกำร ใช้ โอกำสและเวลำของควำมสนุกสนำน พวกนีจ้ ะใช้ จ่ำยเกีย่ วกับกำรท่ องเทีย่ ว อย่ ำงไม่ อ้นั พวกรักสนุกมักจะเป็ นคนพวกแรกที่ จะค้ นหำแหล่ งท่ องเทีย่ วใหม่ ๆ (ควำม สนุก = มีไว้ ให้ เสพย์ )
Hedonists & Hedonistic tourism
2) กลุ่มนิเวศน์ นิยม (The ecological person) คนพวกนีค้ ล้ ำยกับพวกรักสนุกตรงทีม่ ่ ุง ควำมสนุกสนำนมำกกว่ ำมุ่งงำน พวกนีน้ ิยมสิ่ งแวดล้อมทีเ่ ป็ นธรรมชำติ (เพรำะไม่ ต้องแลกด้ วยเงินมำก) นิยมกำรเดินทำงด้ วยพำหนะทีธ่ รรมดำ ๆ สิ่ งอำำนวยควำมสะดวกในลักษณะธรรมดำๆ ไม่ ร้ ูสึกว่ ำตนเองเป็ นเหมือนนทท.ทั้ง หลำย
3) กลุ่มจริยธรรมโปรเตสแตนท์ (The Protestant ethics)
คนพวกนีถ้ ือว่ ำวันหยุดและกำรพักผ่ อนวัน หยุดเป็ นกำรเสี ยเวลำ (สิ่ งมีค่ำ เช่ น เงิน + เวลำ) ควรใช้ เพือ่ กำรลงทุนไม่ ใช่ เพือ่ กำรบริโภค คนกลุ่มนีถ้ ้ ำเดินทำงท่ องเทีย่ วเพรำะควำม กดดันจำกสภำพแวดล้อม คนกลุ่มนีไ้ ม่ มคี วำมสำ ำคัญในทำงสถิตขิ องวัน หยุด(เพรำะหยุดพักน้ อยมำก) และเมือ่ หยุดพัก ผ่ อนก็จะเลือกกำรพักผ่ อนในรู ปแบบถูกทีส่ ุ ด
4) กลุ่มประโยชน์ นิยม (The Utilitarian) - พวกนีต้ ้ องกำรคุณค่ ำในทำงปฏิบตั จิ ำก วันหยุด จำกทีไ่ ด้ จ่ำยไป - มีเวลำไม่ มำกสำ ำหรับวันหยุด ดังนั้นจึง ต้ องกำรควำมคุ้มค่ ำทีส่ ุ ด - อยู่ภำยใต้ อทิ ธิพลของวิธีทำงกำรตลำด เพรำะจะเปรียบเทียบด้ วยหลักกำรและเหตุผล ต่ อสิ่ งทีเ่ ขำจะซื้อเพือ่ ให้ คุ้มค่ ำเงินทีส่ ุ ด - พวกนีเ้ ห็นว่ ำกทท.วันหยุดเป็ นโครงกำร ทีต่ ้ องปฏิบตั ใิ ห้ ลุล่วงไป
3. แนวโน้ มพฤติกรรมนทท.และกำรปรับตัวของธุรกิจท่ องเทีย่ ว
3.1 แสวงหำกำรบริกำรทีส่ ะดวกรวดเร็ว 3.2 เทีย่ วบ่ อยขึน้ ด้ วยระยะเวลำทีส่ ้ ั นลง 3.3 มีควำมห่ วงใยสุ ขภำพมำกขึน้ 3.4 มีควำมรับผิดชอบต่ อสิ่ งแวดล้ อมมำกยิง่ ขึน้ 3.5 ควำมต้ องกำรบริกำรทีม่ ีรูปแบบเฉพำะ บุคคล (Customization)
4. ควำมสำ ำคัญของกำรศึกษำพฤติกรรมนทท. 4.1 ควำมสำ ำคัญในด้ ำนกำรออกแบบสิ นค้ ำ (Product) 4.2 ควำมสำ ำคัญในกำรตั้งรำคำสิ นค้ ำท่ องเทีย่ ว (Price) 4.3 ควำมสำ ำคัญในกำรหำช่ องทำงจำำหน่ ำยสิ นค้ ำ ท่ องเทีย่ ว (Place) 4.4 ควำมสำ ำคัญในด้ ำนกำรออกแบบกลยุทธ์ ในกำร ประชำสั มพันธ์ สินค้ ำท่ องเทีย่ ว (Promotion)
สรุป
พฤติกรรมนทท. มีรำกฐำนมำจำกแนวคิด ของ Cohen (1974) คือ กำรตัดสิ นว่ ำใคร เป็ นนทท.นั้นต้ องพิจำรณำจำกหลำยหลัก เกณฑ์ ได้ แก่ - ควำมถำวร - ควำมสมัครใจ - ทิศทำง - ระยะทำงในกำรเดินทำง - กำรเกิดซ้ำ ำ - วัตถุประสงค์ ในกำรเดินทำง
คำำถำมท้ ำยบท บทที่ 2
1) ปัจจัยในกำรตัดสิ นใจทีม่ ผี ลต่ อกำร แสดงออกของพฤติกรรมนักท่ องเทีย่ ว คืออะไร ได้ แก่อะไรบ้ ำง ? 2) เรำสำมำรถสั งเกตพฤติกรรมกำร แสดงออกของนักท่ องเทีย่ วได้ จำกสิ่ งใด บ้ ำง ? 3) พฤติกรรมนทท.ช่ วยในเรื่องของกำร ทำำกำรตลำดอย่ำงไรได้ บ้ำง ?
4) ให้ นักศึกษำค้ นหำคำำศัพท์ ดงั ต่ อไปนี้ ในตำรำงด้ ำนล่ำง All centric Hedonist Ecological Charter Migrant Explorer Hippie Elite Unusual
A
L
L
C
E
N
M
N
E
R
H
R
L
I
B
D
F
I
L
X
D
E
E
A
L
X
Z
U
G
E
I
N
D
R
C
T
C
H
A
R
T
E
R
O
O
I
L
V
E
U
A
M
H
O
N
L
G
O
T
X
N
N
A
I
R
I
P
O
I
S
P
U
T
C
P
I
S
X
L
E
N
L
S
M
R
P
R
T
E
O
J
E
O
U
T
T
I
E
R
A
C
C
O
R
A
L
L
E
C
I
I
E
T
T
I
L
T
E
R
I
C