วารสารผลิใบ ฉบับ 120

Page 1

เติบใหญผลิใบ หัวใจรักษสิ่งแวดลอม

ปท่ี 22 ฉบับที่ 120 เดือน,มกราคม-มีนาคม 2559

Eco Life Issue

Animal Wonders นักปลูกปาผูน า รัก

Let’s go Green Carbon Offset / Carbon Credit

www.facebook.com/plibai2012.tei

English for Fun Eco not Ego



cover.pdf

Editor’s Note

เติบใหญผลิใบ

หัวใจรักษ ปท่ี 22 ฉบับ ที่ 120 เดือน,มกรา สิ่งแวดลอม คม-มีนาคม 2559

Eco Life I

ssue

C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K

English for Fun Eco not Ego

Animal Won ders นักปลูกปาผูน า รั ก

Let’s go Gree n Carbon Offse t / Carbon Cred it

เจ้าของ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บรรณาธิการอ�ำนวยการ ศ.ดร. สนิท อักษรแก้ว บรรณาธิการบริหาร ศ.ดร. ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา กมนนุช สมบุญธวงษ์ บรรณาธิการ ณชชน พชรชัยกุล กองบรรณาธิการ ภัทรา จิตรานนท์ วิไลลักษณ์ แสงทักษิณ ดร. กัญญาณี แสงเกียรติยุทธ ภิญญดา เจริญสิน รัชพร สิงขโรทัย กรองจิต กิติกาศ เลขากองบรรณาธิการ ศิริรัตน์ จุลพฤกษ์ ออกแบบ ณชชน พชรชัยกุล โรงพิมพ์ บจก. มาตา การพิมพ์ ส�ำนักงาน : วารสารผลิใบ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย 16/151 เมืองทองธานี ถนนบอนด์สตรีท ต�ำบลบางพูด อ�ำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทรศัพท์ : 0 2503 3333 โทรสาร : 0 2504 4826-8 อีเมล : plibai.book@gmail.com, sirirat@tei.or.th, notchana@tei.or.th เว็บไซต์ : www.tei.or.th Facebook : http://www.facebook.com/Plibai2012.Tei

m/plibai2012.tei

ศ.ดร. ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล บรรณาธิการบริหาร

11:58:27

www.facebook.co

บทบาทของประเทศไทยได้มีการ เปลี่ยนแปลงจากประเทศเกษตรกรรม เข้ า สู ่ ก ารเป็ น ประเทศอุ ต สาหกรรม มากขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเป็น ตัวขับเคลื่อนให้ประเทศเกิดการพัฒนา แต่ สิ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น ระหว่ า งการพั ฒ นาใน หลายๆ ด้ า นก็ คื อ “ผลกระทบต่ อ สิ่งแวดล้อม” ที่ส่งผลโดยตรงต่อความ เป็นอยู่ของมนุษย์ เมื่ อ สิ่ ง แวดล้ อ มย�่ ำ แย่ ล งทุ ก วั น ท�ำให้เกิดค�ำถามมากมายว่า ท�ำอย่างไร เราจึงจะเรียกร้องเอาความสมดุลของ ธรรมชาติกลับคืนมา? ค� ำ ถามนี้ เ องที่ เ ป็ น ตั ว กระตุ ้ น จิตส�ำนึกให้เราๆ ท่านๆ ทุกคนหันมา สนใจความเป็ น ไปของสิ่ ง แวดล้ อ ม รอบตัว โดยคิดค้นสารพัดหนทางที่จะ ท�ำให้มนุษย์อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมใน แบบพึ่งพา ซึ่งในผลิใบฉบับนี้ก็ได้น�ำ ความรูเ้ กีย่ วกับการใช้ชวี ติ แบบ Ecology หรือแบบทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมมาให้ น้ อ งๆ ได้ อ ่ า นและสามารถน� ำ ไปใช้ ในชีวติ ประจ�ำวัน เพราะถ้าเราเริม่ ตัง้ แต่ วั น นี้ อาจยั ง ไม่ ส ายเกิ น ไปที่ เ ราจะมี น�ำ้ สะอาด มีพลังงาน และมีอากาศบริสทุ ธิ์ ให้หายใจต่อไป

• วารสารผลิใบได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทวารสาร ทีม่ เี นือ้ หาทัว่ ไปเหมาะสมกับเยาวชน ประจ�ำปี พ.ศ. 2538 – 2539 จากคณะกรรมการส่งเสริม และ ประสานงานเยาวชนแห่งชาติ • วารสารผลิ ใ บได้ รั บ คั ด เลื อ กให้ เ ป็ น หนึ่ ง ใน วารสารอ่านเพิ่มเติมส�ำหรับห้องสมุดโรงเรียน สั ง กั ด ส� ำ นั ก งานคณะกรรมการประถมศึ ก ษา แห่งชาติ ประจ�ำปี พ.ศ. 2542 • วารสารผลิใบได้รางวัลดีเด่นประเภทสือ่ มวลชน รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 9 พ.ศ. 2550

1 31/3/25 59


วิไลลักษณ์ แสงทักษิณ กองบรรณาธิการ

ุทธ

รติย

ภิญญดา เจริญสิน กองบรรณาธิการ

เกีย แสง าณี าร ัญญ าธิก ดร.กงบรรณ กอ ์ ฤกษ ิการ จุลพ าธ ัตน์ รรณ ศิริร ขากองบ เล

ณชช น บรร พชรชัย ณาธ กุล ิการ

ก กองรองจิต บรร กิติก ณาธ าศ ิการ

ัย ขโรท าร ร สิง าธิก รัชพ งบรรณ กอ

Book Inspiration 3 Movie Inspiration 3 IT Generation 4 Let’s go Green 5 Green Mind 6 Animal Wonders 8 English for Fun 10 Think Out of the Box 12 Grew the Earth 13 Evaluation Fun Facts 14 Green Energy 17 The Question Mark 19 Think Tank 24 Young Storryteller 25 On The Move 26 Young Artist 28 Cover Story 22 What the World Offers? 30 Give and Share 39 Membership 40

Trainee ภัท กอง รา จิต บรร รานน ณาธ ท์ ิการ

Contents


Inspiration Book

หนังสือ ตะลุยโลกสิ่งแวดล้อม : ชุด Why? “Why? ตะลุ ย โลกสิ่ ง แวดล้ อ ม” เป็ น หนั ง สื อ การ์ ตู น วิ ท ยาศาสตร์ ที่ ส ถาบั น วิทยาศาสตร์แห่งชาติเกาหลีแนะน�ำให้อา่ น หนังสือได้รบั รางวัลยอดเยีย่ มจากสถาบันวิจยั ด้านอุตสาหกรรม ที่มีเนื้อหาส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องราวของสิ่งแวดล้อมผ่านการ์ตูน เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การประหยัดวัตถุดิบจากธรรมชาติ ปัญหาโลกร้อน การท�ำลายวงจรชีวติ มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน�ำ้ มลพิษในดิน และอีกหลากหลาย เรื่องราวด้านสิ่งแวดล้อม การ์ตูนชุดนี้สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (สาระที่ 2 ชีวติ กับสิง่ แวดล้อม) พร้อมด้วยภาพประกอบสวยงาม ซึง่ ครูสามารถน�ำไปปรับใช้ ท�ำกิจกรรมต่างๆ เพือ่ ดึงดูดความสนใจเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

Inspiration Movie

WALL-E ภาพยนตร์แอนิเมชัน่ เรือ่ ง WALL-E นับเป็นภาพยนต์เพือ่ สิง่ แวดล้อมทีส่ ะท้อนให้เห็น ถึงการกระท�ำของมนุษย์ในยุคบริโภคนิยมแบบทิ้งขว้างและเผาผลาญทรัพยากรอย่าง ไร้ขอบเขต จนท�ำให้ในปี ค.ศ. 2805 โลกกลายเป็นแหล่งทิง้ ขยะขนาดใหญ่ ไม่สามารถอาศัย อยู่ได้อีกต่อไป เนื้อหาของภาพยนตร์ใช้หุ่นยนต์คัดแยกและบดอัดขยะชื่อ WALL-E เป็นตัว ด�ำเนินเรื่อง WALL-E ถูกสร้างขึ้นในโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจัดการ กับขยะที่มนุษย์ช่วยกันทิ้งได้ส�ำเร็จ จนในอีก 700 ปีต่อมา จึงเหลือแต่ WALL-E และ แมลงสาปอีก 1 ตัว ในแต่ละวัน WALL-E ก็ยังคงท�ำงานคัดแยกขยะอย่างต่อเนื่อง และเก็บ สะสมของมีค่าในสายตาของตัวเอง WALL-E อยู่ได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตั้ง เวลาส�ำหรับอาบแสงอาทิตย์ในตอนเช้า พอตกกลางคืนมันก็ต้องหลบ พายุทะเลทรายทีเ่ ป็นผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ มันอยู่อย่างอ้างว้างจนกระทั่งการมาของ ‘อีฟ’ หุ่นยนต์ล�้ำสมัยที่ถูกส่งมายังโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหา ‘สิ่งมีชีวิตที่สามารถสังเคราะห์แสงได้’ ท�ำให้ชีวิตของ WALL-E เปลี่ยนแปลงไป 3

ผลิใบ


IT Generation โดย ผลิใบ

ECOLIFE App โดย ศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ECOSHOP Common เป็น Application ที่จะช่วย ลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเปลี่ยนแปลงการเดินทางให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเดิน ปั่นจักรยาน หรือขับรถยนต์ โดยทุกครั้ง ของการเดินทางเราจะได้คะแนนสิง่ แวดล้อมหรือ Ecopoints เช่น ทุก 10 นาทีของการเดินจะได้รบั 50 Ecopoints ปัน่ จักรยาน 10 นาที ได้ 30 Ecopoints และขับรถ (เฉลี่ยที่ความเร็ว 80 km/hr) 10 นาที ได้ 7.8 Ecopoints น้องๆ จะเห็นว่าถ้าเราเลือกที่จะเดินแทนการใช้รถยนต์จะได้ Ecopoints สูงสุดเพราะไม่เป็นการท�ำลายสิ่งแวดล้อม แต่การ ขับรถยนต์จะได้ Ecopoints น้อยที่สุดเนื่องจากทุกขณะที่ใช้รถยนต์จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และยังใช้พลังงาน เชื้อเพลิงอีกด้วย แต่ถ้าเราอยากได้ Ecopoints มากๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราสามารถสะสม Ecopoints เพื่อแปลงเป็นสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย จากร้านค้ากว่า 30 ร้าน และที่ส�ำคัญ Ecopoints ที่ได้จะถูกแปลงเป็นค่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เราลดได้ในทุกการเดินทาง พร้อมทั้งรายงานผลแคลอรี่ที่เผาผลาญได้จาก กิจกรรมในแต่ละครั้ง นอกจากนี้จะมีการน�ำจ�ำนวนต้นไม้ที่เปรียบเทียบกับจ�ำนวนคาร์บอนที่ลดได้ โดยทีมงานจะน�ำรวบรวมจ�ำนวน ต้นไม้จากผู้ใช้ ECOLIFE App ทั้งหมด ‘ไปปลูกจริง’ สามารถค้นหาแอป ‘ECOLIFE’ ส�ำหรับมือถือได้ทั้ง iTunes Store หรือ Google Play หรือดาวน์โหลดได้ฟรีที่ ECO Life app for iOS https://itunes.apple.com/th/app/ecolife/id906658236?l=th&mt=8 ECO Life app for Android https://play.google.com/store/apps/details?id=com.wisdomlanna.ecolife ข้อมูล : http://www.mxphone.net/110315-ecolife-app/ ภาพประกอบ : http://www.iurban.in.th/inspiration/eco-life-app/

4

ผลิใบ


Let’s go Green โดย ผลิใบ

รอบรู้เรื่อง ถ้าน้องๆ ได้ติดตามข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อม คงจะเคยได้ยิน ค�ำว่า Carbon Credit กันมาบ้าง เนือ่ งจากในขณะนีป้ ระชาคมโลก ได้ตนื่ ตัวเรือ่ งของภาวะโลกร้อนจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังพิธีสารเกียวโต ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการ เปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ทีบ่ นั ทึกข้อตกลงระหว่างประเทศให้ มีเป้าหมายผูกพันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นเครือ่ งมือ หลักทีร่ ฐั บาลทัว่ โลกต้องใช้เพือ่ จัดการกับภาวะโลกร้อน โดยก�ำหนด ให้ประเทศพัฒนาแล้ว 41 ประเทศ (Annex I) ลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกโดยเฉลี่ย 5.2% ต่อปี (ในปัจจุบันกลุ่มประเทศ Annex I ไม่สามารถท�ำการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายในประเทศของตนเองได้แล้ว ท�ำให้จะต้องมีการสร้างความร่วมมือ กับประเทศกลุ่ม Non-Annex I โดยผ่านกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism หรือ CDM) เพื่อใช้เป็น Carbon Credit ของตนเอง) ซึง่ ณ ปัจจุบนั ประเทศทีม่ คี า่ การปล่อย ก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น หลายคนอาจคิดว่าอเมริกากับญีป่ นุ่ ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก มากทีส่ ดุ ก็เป็นความเดือดร้อนของ 2 ประเทศสิไม่เห็นจะเกีย่ วกับเรา แต่ในความจริงแล้วไม่ได้หมายความว่าทุกประเทศจะมีสทิ ธิป์ ลดปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่าใดก็ได้ เพราะเราใช้อากาศร่วมกันทัว่ โลก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไมต้องมีระบบ Carbon Credit ขึ้นมา โดยปัจจุบันมีกองทุนคาร์บอนเครดิตระดับโลกและระดับประเทศ มากมาย เช่น กองทุนของธนาคารโลก ที่สนับสนุนเงินทุนให้ผู้ที่มี Carbon Credit ส่วนเหล่าประเทศทีต่ อ้ งการ Carbon Credit มาก อย่าง 2 ประเทศข้างต้น ก็ต้องหา Carbon Credit มาทดแทนโดย การท�ำ Carbon Offset หรือเรียกง่ายๆ ว่าการซื้อ Carbon Credit เป็นการชดเชย โดยการจ่ายเงินบริจาคให้กับคนที่ท�ำธุรกิจ โครงการ หรือกิจกรรมที่รักษาสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการปลูกป่า ธุรกิจพลังงานสะอาดต่างๆ (พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน�ำ้ ) หรือแม้แต่ธรุ กิจรีไซเคิลเพือ่ น�ำค่าคาร์บอนทีย่ งั ไม่ได้ใช้

CARBON CREDIT CARBON OFFSET

ไปหักลบกับส่วนที่บริษัทนั้นๆ ใช้ไป เราจะเรียกผู้รับบริจาคว่า Carbon Offset Provider ซึ่งองค์กรเจ้าของโครงการ (Carbon Offset Provider) จะมีวิธีค�ำนวณแปรอัตราการปล่อยคาร์บอนฯ ของบริษัทออกมาเป็นจ�ำนวนเงินที่ควรบริจาค สรุปคือท�ำลาย สิ่งแวดล้อมไปเท่าใดก็ต้องตอบแทนกลับมาเท่านั้น ท�ำความเข้าใจง่ายๆ คือ Carbon Offset เป็นค่าทีไ่ ด้จากการ ท�ำกิจกรรมใดๆ ทีล่ ดการปลดปล่อยคาร์บอนฯ ทดแทนกิจกรรมใน รูปแบบเดิมๆ เช่น ปกติโรงงานพลังงานไฟฟ้าในการให้แสงสว่าง (ท�ำให้เกิดคาร์บอนฯ) แต่เปลีย่ นมาติดตัง้ แผงโซล่าร์เซลล์แทน ท�ำให้ ลดปริมาณการสร้างคาร์บอนลง นัน่ คือ Carbon offset ของโรงงาน หรือคนทัว่ ไปทีเ่ คยใช้รถยนต์แต่เปลีย่ นไปปัน่ จักรยานแทนเราก็จะ ได้คา่ Carbon Offset จากการปัน่ จักรยาน เป็นระยะทาง (km) x 1.5 = Carbon offset (kg) ปัจจุบนั ประเทศไทยมีองค์กรมหาชน เรียกว่า องค์การบริหาร จัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ในการวิเคราะห์ กลั่นกรองและท�ำความสะอาด รวมทั้งติดตาม ประเมินผลโครงการที่ได้รับค�ำรับรอง รวมถึงเป็นศูนย์กลางข้อมูล การด�ำเนินงานและให้การสนับสนุนการด�ำเนินงานและให้การ สนับสนุนด้านก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนให้ค�ำแนะน�ำแก่ภาครัฐ และเอกชนเกี่ยวกับการจัดการก๊าซเรือนกระจก

ข้อมูล : www.vcharkarn.com/ www.l3nr.org ภาพประกอบ : www.tribu12.com/how-to-maximize-your-savings/

5

ผลิใบ


วริศ บุญหมื่นไวย์

ECO STICKER ฉลากเพื่อรถ..เพื่อโลก

ในหลายๆ ฉบับที่ผ่านมาเรามักพูดถึงเรื่องของฉลากเพื่อสิ่งแวดล้อมมาหลายชนิด โดยที่ฉลากเหล่านี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า ผู้ผลิตค�ำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในทุกขั้นตอนการผลิต และในฉบับนี้เราจะแนะน�ำให้ น้องๆ ได้รู้จักกับ Eco Sticker ที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคที่มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม Eco Sticker หรือ ป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ชีลี ออสเตรเลีย บราซิล สิงคโปร์ และประเทศในเครือสหภาพยุโรป (EU) ส�ำหรับในประเทศไทยนัน้ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวง การคลังได้มีการจัดท�ำป้ายข้อมูลรถยนต์ขึ้นในปี พ.ศ. 2558 โดยข้อมูลรถยนต์ดังกล่าวเป็นฉลากที่มีการระบุข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และผลการทดสอบตามมาตรฐานที่ส�ำคัญของรถยนต์ในด้านความ “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” ซึ่งมาตรฐานทั้ง 3 ข้อแสดง รายละเอียด ดังนี้

1. ความสะอาด = ในกรอบสีแดง ทั้ง 2 กรอบ จะแสดงถึงมาตรฐานด้านความสะอาดของการใช้รถยนต์

คันนี้ โดยในรายละเอียดทีแ่ สดงคือ กล่องด้านบน จะแสดงถึงอัตราการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะขับขี่ ซึง่ รถคันนีจ้ ะปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 103 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อการวิง่ ที่ ระยะทาง 1 กิโลเมตร และในกล่องด้านล่างจะแสดงถึงมาตรฐานด้านมลพิษที่ผ่านการทดสอบแล้วจากทั้ง มอก. และมาตรฐาน EURO ซึ่ง เป็นมาตรฐานมลพิษของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป อัตราการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

มาตรฐานด้านมลพิษที่ผ่านการทดสอบแล้ว

6

ผลิใบ


2. ความประหยัด = ในกรอบชมพู จะแสดงถึงความประหยัดของรถยนต์คันนี้ โดยกรอบด้านบนจะแสดง

รายละเอียดถึงอัตราการสิ้นเปลืองน�้ำมันโดยรถคันนี้จะสิ้นเปลืองน�้ำมันไปเพียง 4 ลิตร ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือ คิดเป็น 25 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งปกติรถยนต์รุ่นนี้จะมีอัตราการสิ้นเปลืองน�้ำมันอยู่ที่ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อลิตร จะเห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าว สามารถลดอัตราการสิ้นเปลืองน�้ำมันลงไปได้ถึง 5 กิโลเมตรต่อลิตร เลยทีเดียว อัตราการสิ้นเปลืองน�้ำมัน อัตราการใช้น�้ำมันอ้างอิง

3. ความปลอดภัย = ในกรอบสีสม้ จะแสดงรายละเอียดทีร่ ถยนต์คนั นีส้ ามารถผ่านการตรวจสอบจากมาตรฐาน

ด้านความปลอดภัยต่างๆ คือ ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ได้แก่ มาตรฐานระบบเบรก (R13 หรือ R 13H) และระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องเมือ่ เกิดเหตุ (Passive Safety) ได้แก่ มาตรฐานปกป้องผูโ้ ดยสาร จากการชนด้านหน้าของตัวรถ (R94) และมาตรฐานปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านข้างของตัวรถ (R95) ในส่วนของ ระบบเบรกก็มกี ารติดตัง้ อุปกรณ์ปอ้ งกันการล็อก (ABS) และระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) อีกด้วย

รายละเอียดด้านมาตรฐานความปลอดภัย จะเห็นว่า ในปัจจุบันรถยนต์นอกจากจะมีความปลอดภัยในการขับขี่และประหยัดน�้ำมันที่เป็นคุณสมบัติหลักแล้ว เรื่อง ความสะอาดก็เป็นสิ่งส�ำคัญที่จะช่วยให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจและผู้บริโภคยังได้ประโยชน์จากการขับขี่รถยนต์ที่มีทั้งความ ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังได้รักษาสิ่งแวดล้อมให้โลกได้อีกด้วย ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ที่มา: http://www.car.go.th/new/ ภาพประกอบ : http://www.autoexpert.ca/en-ca/green-cars http://www.dentplanetdefender.com/ http://www.dumblittleman.com/

7

ผลิใบ


Animal Wonders โดย ผลิใบ

แทบทุกวันทีเ่ ราเห็นข่าวจากสือ่ ต่างๆ เรือ่ งการลักลอบตัดไม้ จากป่าสงวนหรือในพื้นที่เขตอนุรักษ์ ทั้งที่เราทุกคนรู้ดีว่าการไม่มี ป่าจะท�ำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย แต่กย็ งั มีกลุม่ นายทุนบางกลุม่ ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนไม่มองถึงผลกระทบต่อส่วนรวม ถึงแม้จะมีนกั อนุรกั ษ์พยายามรณรงค์ให้คนเห็นประโยชน์ของ ป่าไม้ ช่วยกันดูแลรักษาป่า ตลอดจนปลูกป่า ทดแทน แต่ต้นไม้ก็ไม่สามารถเติบโตได้ทันคน ตัดไม้เพียงวันเดียว นอกจากมนุษย์อย่างเรา ทีป่ ลูกป่าแล้ว น้องๆ ทราบ หรือไม่คะว่ายังมีสัตว์อีก หลายชนิดที่ช่วยปลูกป่า ในทางอ้อมโดยวิธีทางธรรมชาติอีกด้วย หลายคนคงทราบแล้วว่าหนึง่ ในนัน้ จะต้องเป็นนกเงือก อย่างแน่นอน เพราะมันมีชื่อเสียงกระฉ่อนในเรื่อง 8

ผลิใบ

ของการปลูกป่า และเป็นดัชนีชวี้ ดั ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยงานวิจัยของโครงการศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของนก เงือก ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหิดล กล่าวว่า “นกเงือกเป็นตัวกลางเชือ่ มโยงดุลยภาพ ต ่ า ง ๆ ใ น สั ง ค ม ป ่ า เ ข ต ร ้ อ น ใ ห ้ ค ง อ ยู ่ ไม่เปลี่ยนแปลง นกเงือกอาจมีอายุยืนถึง 30 ปี แต่ละตัวสามารถช่วยกระจาย เมล็ ด พั น ธุ ์ ไ ม้ ม ากกว่ า 100 ต้ น /สั ป ดาห์ ต้ น ไม้ เ หล่ า นี้ จ ะมี อัตรารอดตาย เติบโตเป็นไม้ใหญ่ ราว 5 % หนึง่ ชีวติ ของนกเงือก จึงสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ป่าได้ถึง 500,000 ต้น เพราะนกเงือกกินผลไม้ได้ มากกว่า 300 ชนิด 100 สกุล 40 วงศ์ โดยเฉพาะผลไม้ทมี่ ขี นาดผลใหญ่กว่า 1.5 ซม ซึง่ นกขนาดเล็ก ไม่สามารถช่วยกระจายเมล็ดได้ จึงต้องอาศัย นกเงือกเป็นก�ำลังส�ำคัญ นกเงือกจึงช่วย รักษาความหลากหลายของพืช” จากข้อมูลนี้ เราคงต้องมอบอันดับ 1 ของนักปลูกป่า ผูน้ า่ รักให้กบั นกเงือกไปครอง แต่ในพืน้ ทีป่ า่ อันกว้างใหญ่ยงั มีสตั ว์อกี หลายชนิดทีช่ ว่ ยปลูก ป่าในทางอ้อม ถึงแม้ปริมาณการปลูกจะไม่ได้ มากมายอย่างนกเงือก แต่กน็ บั ว่าเป็นประโยชน์ ไม่นอ้ ยโดยเฉพาะนกปรอดทีก่ นิ ผลไม้หลากหลาย


ชนิด และมีรัศมีหากินในวงกว้าง มันจึง เป็นนักปลูกต้นไม้ชั้นแนวหน้าอีกชนิดหนึ่ง โดยขณะที่มัน กินลูกไม้เสร็จก็ถ่ายเมล็ดไปตกลงตรงไหน ต้นกล้าก็ขึ้น ตรงนัน้ นกปรอดจึง มีความส�ำคัญอย่างยิ่งในฐานะ ตัวกระจายพันธุ์พืช ตามธรรมชาติ และช่วยคืนสมดุล ให้กับสภาพแวดล้อม ที่เสื่อมโทรม นกปรอดหัวโขน เป็นนกที่มีถิ่นอาศัยในเขต ป่าเสื่อมโทรม เช่น รอยต่อระหว่างพื้นที่ป่า กับชุมชน พวกมันมีอาณาเขตหากินกว้างไกล จึงน�ำเมล็ดพันธุ์จากลูกไม้ที่กินไว้ ไปขับถ่ายยังพื้นที่อื่นๆ ท�ำให้เกิด ความหลายหลายทางชีวภาพไปในทางอ้อม นอกจากนกแล้วยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กจ�ำพวก สัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก กระแต กระจ้อน และหนูที่อาศัยอยู่ใน ป่า พวกมันมีบทบาทในการขยายพันธุพ์ ชื ด้วยเช่นกัน ถ้าน้องๆ เคย ดูภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่อง ICE AGE คงจะจ�ำเจ้ากระรอกตัวป่วนที่ คาบลูกโอ๊คไปฝังไว้ตามทีต่ า่ งๆ นัน่ ละค่ะนิสยั ของกระรอกทีม่ กั คาบ ลูกไม้ไปฝังไว้ตามดินหรือโพรงไม้เพื่อสะสมไว้เป็นอาหารในยาม ขาดแคลน แต่หารูไ้ ม่วา่ ลูกไม้ทมี่ นั ฝังเอาไว้นนั้ ได้งอกงามเติบโตขึน้ มาเป็นป่าเมื่อเมล็ดพันธ์ุถูกฝังไว้เป็นเวลานาน เมือ่ เรารูว้ ธิ กี ารกระจายพันธุพ์ ชื โดยวิธกี ารทางธรรมชาติแล้ว ก็สามารถน�ำเอาความรูน้ ไี้ ปประยุกต์ใช้ในการฟืน้ ฟูปา่ โดยการปลูก พันธุ์ไม้ที่สัตว์เหล่านี้ชอบ เพื่อดึงดูดให้พวกมันมาอยู่และกระจาย พันธุ์พืชต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด

สัตว์ปลูกป่าได้โดยวิธีใด ผลหรือเมล็ดถูกสัตว์กินเข้าไปแล้วผ่านทาง เดินอาหารโดยไม่ถกู ท�ำลาย ในทีส่ ดุ ถูกขับ ถ่ายออกมา ผล และเมล็ดทีผ่ า่ นการแพรก่ ระจายแบบนีต้ อ้ งมี ลกั ษณะพิเศษ ที่ล่อให้สัตว์มากินเป็นอาหาร เช่น มีสี กล ิ่น ขนาด หรือ มีอาหารสะสมเป็นทีช่ นื่ ชอบของสัตว์ตา่ งๆ เป็นพิเศษ หรอื ผลและเมล็ดมีเปลอื กแข็งช่วยปอ้ งกนั การย่อยเม อื่ ผ่านไปตาม ล�ำไส้ของสัตว์ ผลหรือเมล็ดแพร่กระจายไปโดยติดไปกับ อวัยวะของสัตว์ เช่น ผิวหนัง ขน เท้าหร ือกีบสัตว์ ผล หรือเมล็ดเหล่านี้ต้องมีลักษณะพิเศษ เช่น มีหนาม หนาม แบบตะขอ มีขน มีเมือกเหนียว ผลหรอื เมลด็ แพร่กระจายไปโดยสตั ว์ขนยา้ ยน ำ� ไปเก็บไว้เป็นอาหารส�ำรองตามรังที่อยู่อาศั ย อาจสะสมไว้ เพือ่ เป็นอาหารในฤดูแล้งหรอื ฤดหู นาวทีข่ าดอ าหารยาวนาน หรือเก็บไว้เป็นอาหารของตัวอ่อน การแพร่ กระจายแบบนี้ พบว่ากระรอก ค้างคาว และหนู เป็นพาห ะที่ส�ำคัญที่สุด

ข้อมูล : http://www.sc.mahidol.ac.th (วันที่สืบค้น 9 กุมภาพันธ์ 2559) มัมมี่ขี้สงสัย เล่ม 1 ตอน สัตว์โลกพิศวง (วันที่สืบค้น 9 กุมภาพันธ์ 2559) ภาพประกอบ : http://brendanwenzel.info/344/great-hornbill/ https://www.flickr.com

9

ผลิใบ


English for Fun โดย ดร.กัญญาณี แสงเกียรติยุทธ, ศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์

ภาษาไทยของเรามีค�ำพ้องรูป พ้องเสียง ภาษาอังกฤษ Eco Product หมายถึง ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ ก็เช่นเดียวกัน “ค�ำพ้องรูป (Homograph)” คือ ค�ำ ที่เขียน หรือบริการ ที่ตอบสนองความต้องการในการ ใช้งานอย่างคุ้มค่า รูปเดียวกัน แต่มกี ารสะกดและออกเสยี งทีต่ า่ งกัน ส่วน “ค�ำพ้ องเสียง แต่ ใ นขณ ะเดี ย วกั น ก็ ยั ง เป็ น มิ ต รกั บ สิ่ ง แวด ล้ อ มอี ก ด้ ว ย ซึ่ ง (Homophone)” คือ ค�ำที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่ เขียน ผลิตภัณฑ์หรือบริการเหล่านี้จะได้รับการออก แบบ ปรับปรุง ไม่เหมือนกัน และเป็นค�ำที่มีความหมายต่างกัน ดังค�ำกลอ น ตลอดทัง้ กระบวนการเพือ่ ลดผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม โดย ค�ำนึง ค�ำพ้องรูป เขียนรูปเหมอื นกัน ความหมายมนั หมุนเวียน เพี ย้ นไป ถึ ง การ ใช้ พ ลั ง งาน ทรั พ ยาก ร และ ผลก ระท บที่ จ ะเกิ ด กั บ เป็นหลายค�ำ ส�ำเนียง เสียงใด อ่านแลว้ ไม่ เหมอื นกัน ขันดี สิง่ แวดล้อมตลอดทงั้ วงจรชีวติ ของผลิตภัณฑ์ เริม่ ตัง้ แต่ในขั น้ ตอน เพลารถยนต์ พักเพลาเย็น เสลาเป็น เสลา ทันที จัดหาวัตถุดิบ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ขนส่ง การใช้งาน การ โคลงเรือ เรือโคลงเคลงดี จอกแหนมี แหน มาเร็วไว ซ่อมบ�ำรุง และการก�ำจัดเมื่อสิ้นอายุใช้งาน นอกจากนี ้ในบาง แต่ก็มีค�ำบางค�ำที่ออกเสียงคล้ายๆ กัน ต้องระวังให้ด ผลิตภัณฑ์ก็ได้มีการค้นคว้าและออกแบบให้สามารถน�ำกลับมา ี รีไซเคิลหรือคืนสภาพได้อีกด้วย ตัวอย่างสินค้าที่เป็นมิ ค�ำว่า อีโค (Eco) และ อีโก้ (Ego) เป็นค�ำที่ออกเ ตรกับ สียง สิ่งแวดล้อม เช่น Eco Car หรือ Ecology Car หมา คล้ายกันมากแต่มคี วามหมายต่างกันคนละขัว้ แค่ออกเสีย ยถึง งผิดนิด รถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดียวคนฟังก็อาจเขา้ ใจผดิ เพีย้ นไปได้ ทีนมี้ าดูกนั ว่า ค�ำสอง ค�ำนีม้ ี เป็ น หลั ก รถย นต์ ป ระเ ภทนี้ มี ความหมายแตกต่างกันอย่างไร? Eco (อีโค) เป็นค�ำที่มาจาก Ecology (ระบบนิเวศ) ความโดดเด่นด้านการปล่อย มลพิษตํ่า วัสดุที่ใช้ผลิตสามารถ กับ Economy (เศรษฐกิจ) การน�ำ Eco ไปวางหน้าค�ำ ที่สื่อถึง ย่อยสลายง่ายหรือมีการนําชิ้นส่วน สินค้าและบริการใดๆ ก็จะมีความหมายถึง สินค้าและบริ การที่มี ที่ ไ ม่ ใ ช้ แ ล้ ว กลั บ มาใ ช้ ใ หม่ (Re cyc le) ความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับเศรษฐกิจ หรือเรียกง่า ยๆ ว่า ประหยัดนํ้ามัน และใช้วัสดุสิ้นเปลืองต�่ำ มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นั่นเอง 10

ผลิใบ


หรือหากเราไปเที่ยวก็อาจพบเห็น Eco Resort หรือ โรงแรมแนว Eco หมายถึง โรงแรมทีใ่ ห้บริการแกล่ กู ค้าไม่ทำ� ลาย สิ่งแวดล้อม มีการจัดการแบบประหยัดพลังงาน มีสุนทรียภาพ (Aesthetics) กลมกลืนและไม่รุกล�้ำธรรมชาติ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการทีเ่ ราจะทราบได้วา่ สินค้าและบริการทีม่ ี ค�ำว่า Eco (อีโค) อยู่ข้างหน้านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริง หรือไม่นั้น สามารถดูได้จาก Eco Label (ฉลากสิ่งแวดล้อม) ฉลากเขียว (Green Label: Thailand) เป็นฉลากสิ่งแวดล้อม ภายใต้การดูแลโดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ที่ให้การรับรอง สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยจะพิจารณา การกระบวนการผลิตและบริการตลอดช่วงวัฎจักรชีวิต (Life Cycle Consideration) ปัจจุบนั ฉลากเขียวได้ให้การรับรองผลติ ภัณฑ์และบริการ จ�ำนวนทั้งสิ้น 494 รุ่น 25 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และ 65 บริษัท/ผู้ผลิต ซึ่งสินค้ า ดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ส�ำนักงานและส�ำหรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เช่น รถยนต ์ เครื่องถ่ายเอกสาร กระดาษ หลอดไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาด ฯลฯ โดยท่านสามารถเข้าชมสินค้าและบรกิ ารทีม่ เี ครือ่ งหมายฉลากเขียวได้ทางเว็บไซต์ http://www.ecoprothailand.com/thai/index.php

ส�ำหรับค�ำว่า Ego (อีโก้) ที่อาจได้ยินกันบ่อยๆ จน บางคนคิดว่า เป็นค�ำที่มีความหมายในเชิงลบ เพราะคิดว่า คนที่ มีอีโก้สูง น่าจะหมายถึง ความเห็นแก่ตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว หมายถึง ความถือตัวเองเป็นส�ำคัญ ซึ่งหลายคนตีความหมายว่า ความเย่อหยิ่งซึ่งผิดเพี้ยนไปจากความหมายที่ควรจะเป็น ในเชิง วิชาการ นักจิตวิทยาชื่อดังชาวออสเตรเลีย ซิกมันด์ ฟรอยด์ อธิบายว่า บุคลิกภาพเป็นผลแหง่ ระบบโครงสร้างของจิต 3 ระบบ คือ Id (อิด) Ego (อีโก้) และ Superego (ซูเปอร์อีโก้) ที่ท�ำ หน้าทีส่ อดประสานกันจนกลายมาเป็นบุคลิกของมนุษย์แต่ละคน ซึ่งแต่ละคนก็จะแสดงออกมาในระดับที่แตกต่างกันไป Id คือ ส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณ หรือจิตไร้ส�ำนึกที่ มีมาแต่กำ� เนิด เป็นตัวทีม่ พี ลังขับให้คนเราแสดงพฤติกรรมออกมา ตามความพึงพอใจของตนเอง Ego จะเป ็ น สิ่ ง ที่ อ ยู ่ คั่ น กลาง ระหว ่ า ง Id และ Superego เพื่อท�ำให้เกิดดุลยภาพในความต้องการขั้นพื้นฐาน

ซึ่ง Ego จะเป็นส่วนที่คอยควบคุมขัดเกลาพฤติกรรมของคนเรา เพื่อให้แสดงความต้องการตามสัญชาตญาณ ที่เกิดจาก Id ไปใน ทางที่เหมาะสมกับโลกแห่งความเป็นจริง และเป็นที่ยอมรับกัน ทางสังคม Superego จะอยตู่ รงข้ามกับความต้องการทีเ่ กิด จาก Id เพราะตั้งอยู่บนหลักขนบธรรมเนียม ประเพณี และ จริยธรรม อันเป็นที่ยอมรับ

หากจะออกเสียงค�ำว่า ีโก้ (Ego) อีโค (Eco) และ อ คงต้องระวังกันสักนิด คนฟัง เพราะหากออกเสียงผิด อาจเข้าใจผิดได้...

ในภาวะปัจจุบนั ทีม่ กี ารตืน่ ตัวด้านปัญหาโลกร้อนอันเนือ่ ง มาจากสภาพภูมอิ ากาศเปลีย่ นแปลงท�ำให้ใครๆ ก็อยากมสี ว่ นร่วม ในการรักษาโลกของเราให้น่าอยู่ตลอดไป ตรงนี้บางคนก็อาจคิด หาทางที่จะท�ำให้โลกหายร้อนด้วยวิธีการต่างๆ ยากบ้าง ง่ายบ้าง ตามแต่ความคดิ และจนิ ตนาการทีแ่ ตกต่างกันออกไป ซึง่ การรกั ษา โลกของเราด้วยวิธงี า่ ยๆ สามารถท�ำได้โดยการหันมาเลือกใช้สนิ ค้า และบริการทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม เพียงเท่านีท้ า่ นก็จะเป็นฮีโร ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Hero) คนหนึ่งไม่แพ้กับ ซุปเปอร์แมนเลยทีเดียวค่ะ ข้อมูล 1. โครงการฉลากเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย www.tei.or.th 2. ความหมายแท้จริงของ“อีโก้” http://www.manager.co.th/Around / ViewNews.aspx?NewsID=9480000175 563

11

ผลิใบ


Think Out of the Box โดย ผลิใบ

Consol’s Solar Jar

สว่างได้ไม่ง้อพลังงานไฟฟ้า

ในแต่ละวันมีขยะจ�ำนวนมากถูกทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งมีน้อยครั้งนักที่จะมีการน�ำเอา กลับมาใช้ใหม่ เมื่อขยะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ปัญหาต่างๆ ก็ตามมามากมาย ทั้งเรื่อง กลิ่น เชื้อโรค และส่งผลกระทบต่อการเกิดสภาวะโลกร้อน เรื่องการน�ำสิ่งของเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่นับเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ แต่จะดีแค่ไหนถ้า ของใช้นั้นช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย แนวคิดนี้ถูกน�ำมาพัฒนาโดย บริษัทคอนโซล (Consol) ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เขาพัฒนาขวดโหล “Consol Solar Jar” โดยที่ ฝาขวดจะมีการติดตัง้ แผงโซล่าเซลล์เพือ่ เก็บพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน และเมือ่ ถึงเวลา กลางคืน หลอด LED เล็ก ๆ ในขวดจะส่องแสงสว่างออกมา ฝาของขวดโหลจะท�ำหน้าที่เป็น ตัวเก็บพลังงานในระหว่างวัน ซึ่งในการชาร์ต 1 ครั้ง จะท�ำให้หลอด LED สว่างได้นานประมาณ 6 ชั่วโมง “Consol Solar Jar” จึงถือเป็นนวัตกรรมสุด Green อย่างหนึ่งที่ควรได้รับการสนับสนุน เพราะถึงแม้จะเป็นแนวคิดเล็กๆ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการประหยัดพลังงานอย่างถูกที่ถูกทาง เป็นที่สุด...สามารถหาซื้อได้ที่ www.solarlife.co.za หรือจะน�ำแนวคิดนี้มาใส่ขวดโหลเป็น ไฟประดับสวนหน้าบ้านในยามค�่ำคืนก็ได้นะคะ ข้อมูล : http://entermyattic.blogspot.com/2014/09/consol-solar-jar.html ภาพประกอบ : http://www.stpp.co.za/product/consol-solar-jars/ http://www.designindaba.com/ http://mytrendycorner.com/lampara-ecologica-consol-solar-jar/

12

ผลิใบ


Grow the Earth โดย ผลิใบ

l a i r e t a M Green ักษ์ ื โลกที่เราร ัก เพ่อ

‘ทองกวาว’ ต้นไม้ที่ออกดอกแสนสวย

สีส้มสดในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเราจะได้เห็นกันบ่อยๆ ตามสองข้ า งทางเวลานั่ ง รถมุ ่ ง หน้ า ขึ้ น เหนื อ นอกจากสรรพคุณทางยาที่มีอยู่มากจนขึ้นชื่อเป็น พืชสมุนไพรอันดับต้นๆ แล้ว ใบของทองกวาวยังถูกน�ำมา แปรรูปเป็นวัสดุใช้สอยเพื่อช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก น�ำโดยอาจารย์ ประจ�ำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันวิจัยผลงานบรรจุภัณฑ์จากใบไม้สด ท�ำเป็นผลิตภัณฑ์ รักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้กล่องโฟม ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่ท�ำขึ้นมาเป็นจาน ชาม จากใบทองกวาว ใบไทร และใบสัก ที่สามารถทิ้งให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติได้ แนวคิดการท�ำบรรจุภัณฑ์จากใบไม้สดสืบเนื่องมากจากการ มองเห็นปัญหาของสิ่งแวดล้อมจากการใช้กล่องโฟม ที่เมื่อใช้เสร็จแล้วก็เกิดเป็นขยะสะสม ทางคณะอาจารย์ใช้เวลาท�ำวิจัย ประมาณ 1 ปี ก่อนจะได้บรรจุภัณฑ์จากใบไม้สด จากการทดลองใช้ใบไม้หลายชนิดพบว่า ใบทองกวาว ใบยาง ใบไทร และ ใบสัก สามารถขึ้นรูปและน�ำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ได้โดยน�้ำไม่ซึมผ่านรั่วไหล นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนา เคลือบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้สวยงามขึ้น โดยการน�ำแป้งมาเป็นส่วนผสมกับสารเคลือบที่ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ท�ำให้บรรจุภัณฑ์จากใบไม้สดมีความคงทนและสวยงามมากขึ้น ซึ่งบรรจุภัณฑ์จากใบไม้สดเตรียมที่ จะน�ำไปเปิดตัวในงานประเพณีสงกรานต์ มหกรรมอาหารและพิษณุโลกแกรนด์เซลส์ ประจ�ำปี 2559 ของจังหวัดพิษณุโลก ถือเป็นงานที่ประสบผลส�ำเร็จในการที่จะช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมเตรียมประสานร่วมมือเทศบาล นครพิษณุโลก รณรงค์ให้พ่อค้าแม่ค้าน�ำไปใช้แทนถ้วยจานโฟม ในงานมหกรรมอาหารฯ ในช่วง เทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปีอีกด้วย

ที่มา : www.matichon.co.th/ ภาพประกอบ : www.matichon.co.th/

13

ผลิใบ


Evaluation Fun Facts โดย ผลิใบ

Car Evaluation

ในอดีตก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์เราใช้การ เดินเท้าเพือ่ สัญจรไปมา ต่อมามีการพัฒนาโดยการขีห่ ลังสัตว์ เช่น ช้าง ม้า จนกระทั่งมาใช้การเทียมเกวียน และรถม้า ตามล�ำดับ หลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มมีผู้คิดค้นต่อยอด การพัฒนาด้านยานพาหนะเพือ่ การเชือ่ มต่อสือ่ สารทีร่ วดเร็ว ขึ้น จึงได้เริ่มน�ำพลังงานมาใช้ในการขับเคลื่อน ทีนี้มาดูกันค่ะว่าพลังงานต่างๆ ที่น�ำมาใช้ควบคู่ไปกับ วิวัฒนาการของรถยนต์นั้นมีอะไรบ้าง และวิวฒ ั นาการของ รถยนต์บนโลกเรานัน้ ก้าวไกลไปเพียงใด

รถยนต์คันแรกสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2262 โดยวิศวกร ชาวฝรั่งเศสชื่อ นิโคลาส กูโย (Nicolas Cugnot) สร้าง รถยนต์ 3 ล้อขึน้ โดยทีล่ อ้ ของรถยนต์ทำ� มาจากเหล็ก แล่น ด้วยพลังงานจากเครื่องจักรไอน�้ำ ในปี พ.ศ. 2313 นิโคลาส กูโย ก็ได้สร้างรถยนต์ขนึ้ ใหม่ ส�ำหรับบรรทุกอาวุธ ซึง่ นับได้วา่ เป็นรถยนต์คนั ทีเ่ ก่าแก่ทสี่ ดุ ในโลก : ในยุคของรถจักรไอน�ำ้ มีการตัดไม้เพือ่ ใช้เป็นเชือ้ เพลิง ในการผลิตไอน�ำ้ จนป่าไม้เริม่ ร่อยหรอ คนเริม่ เห็นคุณค่าของ ไม้มากขึ้น จึงมีการพัฒนาจากการใช้เครื่องจักรไอน�้ำไปใช้ พลังงานในรูปแบบอื่น

14

ผลิใบ


ในปี พ.ศ. 2428 คาร์ล เบนซ์ ได้ พัฒนายนตรกรรม คันแรกของโลกที่ผลิตภายใต้แนวคิดแบบองค์รวม โดยมี การน�ำตัวยานพาหนะ และเครื่องยนต์มาผสมผสานเข้า ไว้ดว้ ยกันเพือ่ สร้างระบบเครือ่ งจักรกลอันมีประสิทธิภาพ ทีน่ า่ ทึง่ ขึน้ เป็นครัง้ แรก ระบบขับเคลือ่ นโดยห้องเผาไหม้ เชื้ อ เพลิ ง ภายในของเครื่ อ งยนต์ เ ป็ น แบบสู บ เดี ย ว 4 จังหวะ โครงสร้างของตัวถังท�ำจากเหล็กที่ตัดเชื่อมให้ โค้งงอเข้ารูป เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง เขาจึงตัดสินใจให้รถยนต์คนั นีม้ เี พียึ งสามล้อเท่านัน้ โดยที่ ล้อหน้าติดตั้งในลักษณะเหมือนกับล้อรถจักรยานและ ควบคุมการเคลือ่ นที่ ด้วยแรงดึงจากเฟืองซึง่ เชือ่ มต่อกับ ข้อเหวี่ยง Benz ได้ผลิตล้อแบบซีล่ วดและยางตันด้วยตัวของ เขาเอง ล้อหน้าท�ำงานด้วยลูกปืนล้อส่วนล้อหลังงมีปลอก ท�ำด้วยดีบกุ หุม้ ป้องกันการเสียดสี ขับเคลือ่ นด้วยโซ่ทอี่ ยู่ ด้ า นซ้ า ยและขวาขับ เคลื่อนเพลาถ่วงดุลน�้ำหนักเบา ที่ ล ้ อ หลั ง ซึ่ ง จะส่ ง ผลต่ อ ตั ว รถเช่ น เดี ย วกั บ เพลาหลั ง แบบแข็งและสปริงรูปไข่ มีเพียงเกียร์เดียวและไม่มีเกียร์ ถอยหลัง ความเร็วที่ใช้ในการขับเคลื่อนได้มาจากเพลา ถ่ ว งดุ ล ที่ ป ระกอบด้ ว ยจานขั บ ตั ว หลั ก และเฟื อ งขั บ พร้อมทั้งตัวควบคุมรอบเดินเบา ลิ้นเปิดปิดควบคุมการ ท�ำงานระหว่างเครื่องยนต์กับเพลาถ่วงดุลย์ท�ำหน้าที่ เช่นเดียวกับคลัทช์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ท�ำโดยหมุน สายพานที่อยู่ระหว่างจานที่ควบคุมรอบเดินเบากับจาน ขับหลัก

ในปี พ.ศ. 2439 เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) ได้สร้าง รถยนต์ 4 ล้อ ได้ส�ำเร็จเป็นคนแรก โดยเขาได้รับมอบหมาย ให้ ศึ ก ษาและพั ฒ นาเครื่ อ งยนต์ ที่ ใ ช้ เ ชื้ อ เพลิ ง จากน�้ ำ มั น จนกระทัง่ สามารถพัฒนารถยนต์สลี่ อ้ คันแรกส�ำเร็จในปี 2439 เขาตั้งชื่อว่า “ฟอร์ด ควอดริไซเคิล” (Ford Quadricycle) : เป็นยุคทีร่ ถยนต์ทใี่ ช้เชือ้ เพลิงจากพลังงานฟอสซิลเป็น ครั้งแรก

: เป็ น ยุ ค จั ก รกลเครื่ อ งยนต์ สั น ดาปภายในกั บ การควบคุมของปลอกลูกเลื่อนที่อยู่ใต้เบาะที่นั่งคนขับ ต่ อ มามี ก ารพั ฒ นาด้ า นรู ป ลั ก ษณ์ แ ละ เครือ่ งยนต์มาเรือ่ ยๆ แต่ยงั คงใช้พลังงานฟอสซิล อย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ทั้ง น�้ำมันเบนซิน น�้ำมันดีเซล และก๊าซลดลงอย่าง รวดเร็วจึงต้องมีการหาพลังงานทดแทนอย่างอืน่ ต่อไป 15

ผลิใบ


ยุคเริม่ ถดถอยของพลังงานฟอสซิล (กินเวลามากกว่า 15 ปี) จึงมีการคิดคนพลังงานที่จะท�ำให้ปริมาณการกิน น�้ำมันน้อยลง หรือเลือกใช้พลังงานทางเลือกอื่น เช่น CNG LPG น�้ำมันโซฮอล ไบโอดีเซล ในปี 2540 ได้มีการผลิตรถยนต์ไฮบริดขึ้นเป็นครั้ง แรกโดยค่ายรถยนต์ Toyota ซึ่งรถยนต์ Hybrid คือ รถที่ มีแหล่งก�ำเนิดของพลังงานมากกว่า 1 แห่ง เช่น ใช้มอเตอร์ ไฟฟ้ า กั บ เครื่ อ งยนต์ ป ระเภทเผาไหม้ ภ ายใน หรื อ ใช้ เครือ่ งยนต์กบั ล้อช่วยแรง หรือ มอเตอร์ไฟฟ้ากับล้อช่วยแรง หรือกังหันแก๊สกับล้อช่วยแรง เป็นต้น

หลังจากรถยนต์ City Car ขนาดเครื่องยนต์ 1500 CC. ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผู้ผลิตก็เริ่มผลิตรถยนต์ Eco Car (Ecology Car) หรือรถทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม และ ประหยัดน�้ำมันเชื้อเพลิง โดย น�้ำมัน 1 ลิตร จะวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินมีความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร และเครือ่ งยนต์ดเี ซล ทีก่ ำ� หนดให้มขี นาดไม่เกิน 1.4 ลิตร

รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ไฟฟ้าโดยใช้พลังงานไฟฟ้าซึง่ เก็บอยูใ่ นแบตเตอรีห่ รืออุปกรณ์ เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่นๆ โดยมีการชาร์จไฟแบตเตอรี่จากระบบไฟฟ้า มีส่วน ประกอบทีส่ ำ� คัญ คือ มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบควบคุมมอเตอร์ แบตเตอรีร่ ถยนต์ไฟฟ้า มีความคุม้ ค่าด้านราคาเชือ้ เพลิง ซึง่ ได้มกี ารประมาณค่าใช้จา่ ยส�ำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อยู่ที่ 30 - 60 สตางค์ ต่อกิโลเมตร อดีตรถพลังงานไฟฟ้าเคยได้รับความนิยม นั่นคือช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึง 20 จนกระทั่งมนุษย์สามารถประดิษฐ์เครื่องยนต์สันดาปภายในได้รถไฟฟ้าก็เสื่อม ความนิยมลง จนกระทัง่ ปี พ.ศ. 2513 ถึง 2523 เกิดวิกฤตการณ์ทางพลังงาน ท�ำให้ รถพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ และในต้น ศตวรรษที่ 21 (พ.ศ. 2544-2643) จึงได้กลับมาผลิตรถพลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เนื่องจากแบตเตอรี่ท่ีมีประสิทธิภาพดีขึ้น ระบบจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ประกอบ ด้วยราคาน�้ำมันโลกที่พุ่งสูง และความต้องการที่จะลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก 16

ผลิใบ


Green Energy โดย ผลิใบ

์ ย ต ิ ท า อ ง ส แ ั ง ล พ แผ่นปูถนน เพือ่ ก้าวทีย่ งิ่ ใหญ่ในการมุง่ หน้าไป

สูห่ นทางแห่งการใช้พลังงานสีเขียว ขณะนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้ประกาศถึงแผนการ ระยะยาว ที่มาพร้อมข้อก�ำหนดในช่วง เวลา 5 ปีตอ่ จากนี้ ส�ำหรับการติดตัง้ ระบบ แผงวงจรโซล่าร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร (621 ไมล์) บนท้องถนน ด้วยเป้าหมายหลัก คือ การ จั ด หาพลั ง งานทดแทนให้ เ พี ย งพอต่ อ ความต้องการของประชาชนกว่า 5 ล้าน ชีวติ ซึง่ คิดเป็น 8% ของจ�ำนวนประชากร ทั้งหมดในประเทศฝรั่งเศส โดยถนนพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ได้มีการใช้ระบบ Wattway เทคโนโลยี แผงโซล่ า ร์ เ ซลล์ ข องบริ ษั ท Colas ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาชั้นน�ำ ที่ เพิง่ ถูกเปิดตัวไปเมือ่ เดือนตุลาคมปี 2015 ที่ ผ ่ า นมา ทั้ ง นี้ ต ามที่ Mr.Segolene Royal รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ฝรัง่ เศสได้เปิดเผย โครงการครัง้ นีจ้ ะได้รบั เงินทุนสนับสนุนจากภาษีเรียกเก็บที่เพิ่ม ขึน้ ของเชือ้ เพลิงฟอสซิล ซึง่ จะเป็นเครือ่ ง มื อ ช่ ว ยให้ แ ผนงานด� ำ เนิ น การออกมา ประสบความส�ำเร็จ อย่างไรก็ตามแม้ว่า ประเทศฝรั่งเศสจะไม่ใช่ประเทศแรกที่มี การก่ อ สร้ า งถนนพลั ง งานแสงอาทิตย์

เพราะถูกประเทศเนเธอร์แลนด์แซงหน้าไป ก่ อ นในปี 2014 แล้ ว ก็ ต าม แต่ ท ว่ า แผนการก่ อ สร้ า งถนนความยาวกว่ า 1,000 กิโลเมตรนี้นับเป็นความพยายาม ขัน้ สุดยอดของประเทศฝรัง่ เศสเลยทีเดียว ซึ่งตามที่หน่วยงานทางภาครัฐด้านการ จั ด การสิ่ ง แวดล้ อ มและพลั ง งานคาด การณ์ไว้ ระยะทางของพื้นถนนพลังงาน แสงอาทิตย์ประมาณ 4 เมตร (13 ฟุต) จะ สามารถมอบพลังงานแก่บ้านเรือนหนึ่ง หลังได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์และตรงกับ ความต้องการอย่างแน่นอน พร้อมกันนั้น ในระยะทางความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร (3,281 ฟุต) ของเส้นทางยังสามารถสร้าง กระแสไฟฟ้าทีต่ อบสนองกับผูอ้ ยูอ่ าศัยได้ มากถึง 5,000 ชีวิตอีกด้วย จากการพัฒนาเทคโนโลยี Wattway มาเป็นระยะเวลากว่าครึ่งทศวรรษ ด้วย รูปแบบการเก็บเกี่ยวพลังงานโดยการใช้ แผ่นฟิลม์ แผงโซล่าร์เซลล์ขนาดบางเฉียบ ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline) ซึ่งหนาแค่เพียง 7 มิลลิเมตร ทนทานแข็ง แรงรองรับกับทุกสภาพชนิดของรถยนต์ บนท้องถนน รวมถึงทนต่อน�ำ้ หนักของรถ บรรทุก นอกจากนีย้ งั ป้องกันอุบตั เิ หตุของ ลื่นไถลพลิกคว�้ำไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ตาม ที่ Mr. Herve Le Bouc ประธานบริหาร

บริ ษั ท Colas ได้ อ อกมายื น ยั น ถึ ง ผล ทดสอบทีป่ ระสบผลส�ำเร็จในการขับขีบ่ น พื้นผิวของถนนพลังงานแสงอาทิตย์ โดย จากกว่า 1 ล้านรอบของการขับรถ หรือ ประมาณ 20 ปีของการจราจรบนท้อง ถนนตามปกติพื้นถนนก็ไม่มีการแตกหัก แต่อย่างใด ทั้งยังทนต่อการทดสอบด้วย การใช้งานเครื่องกวาดหิมะอีกด้วย แต่ อย่างไรก็ตามทางบริษัทแนะน�ำให้การ ปฏิบัติงานด้วยเครื่องมือต่างๆ บนพื้น ถนนนี้จ�ำเป็นต้องมีความระมัดระวังและ ได้รบั การใส่ใจดูแลมากกว่าพืน้ ถนนทัว่ ไป เป็นพิเศษ ทั้ ง นี้ ส� ำ หรั บ พื้ น ที่ ที่ จ ะใช้ ใ นการ ก่อสร้างถนนทางทีมงานยังคงไม่มีการ เปิดเผย แต่ยอดเงินทุนที่ได้มาจากการ เก็บภาษีเชือ้ เพลิงฟอสซิล คาดว่าจะน�ำมา ซึ่งเม็ดเงินจ�ำนวนมหาศาลกว่า 200-300 ล้านยูโร (220-400 ล้านเหรียญดอลลาร์ สหรัฐ) เลยทีเดียว โดยโครงการความคิด ในการใช้ศักยภาพของพลังงานทดแทน จากแผงโซล่าร์เซลล์ นับเป็นอีกก้าวหนึ่ง เพื่อการมุ่งหน้าไปสู่อนาคต จะเริ่มต้น ท� ำ การทดสอบและติ ด ตั้ ง ระบบในอี ก ไม่นานเกินรออย่างแน่นอน ที่มา : www.energysavingmedia.com

17

ผลิใบ


ในโลก

ญ่สุด โซล่าร์ฟาร์มลอยน�้ำให

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นอาจจะขาดแคลนทรัพย์สินทางที่ดิน

สิง่ แวดล้อมบนพืน้ ดินอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามประเทศญีป่ นุ่ เอง ก็ไม่เหลือพื้นที่ที่เป็นประโยชน์เพียงพอต่อการก่อสร้างระบบ ฟาร์มโซล่าร์เซลล์ขนาดใหญ่เช่นกัน สถานที่นี้จึงเหมาะสมและ ลงตัวทีส่ ดุ เลยก็วา่ ได้ ซึง่ หากมีการติดตัง้ แผงโซล่าร์เซลล์ครบทัง้ 50,000 แผงแล้วล่ะก็ จะมียอดก�ำลังการผลิตปริมาณกระแสไฟฟ้า รวมกันสูงถึง 13.7 MW เลยทีเดียว

โดยเมื่อท�ำการเปรียบเทียบพื้นที่ภายในประเทศทั้งหมดกับ ขนาดของรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็มีขนาดเล็กกว่า อย่างเห็นได้ชัด แต่เหตุผลดังกล่าวนี้ไม่ได้ท�ำให้พวกเขาหยุด ที่จะพัฒนาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งใหญ่ ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยรูปแบบของฟาร์มโซล่าร์เซลล์ที่ลอยอยู่ บนน�้ำ ซึ่งสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอและตอบสนอง โดยอ่างเก็บน�้ำ Yamakura ไม่ได้เป็นโรงไฟฟ้าระบบ ต่อการใช้งานส�ำหรับผู้อยู่อาศัยได้มากถึง 5,000 หลังคาเรือน โซล่าร์ฟาร์มที่ลอยอยู่บนน�้ำแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นและ ทัง้ นีต้ อ้ งขอบคุณความช่วยเหลือจากบริษทั อิเล็กทรอนิกส์ ของบริษทั Kyocera แต่ความส�ำเร็จทีแ่ ท้จริง คือ การเป็นแหล่ง Kyocera ผู้อยู่เบื้องหลังความส�ำเร็จของโครงการซึ่งก�ำลังจะ พลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเกือบ 2 ล้านตารางฟุต ซึ่งใหญ่ที่สุด บรรลุผลกลายมาเป็นฟาร์มโซล่าร์เซลล์ลอยน�้ำใหญ่ที่สุดในโลก ภายในประเทศและมีแนวโน้มว่าจะใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกอีกด้วย ทัง้ นี้ เท่าทีเ่ คยมีมา โดยขณะนีแ้ ผนการก่อสร้างก็ได้เริม่ ต้นขึน้ แล้วใน โครงการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในไม่เกินปี 2018 นี้ อ่างเก็บน�้ำ Yamakura จังหวัดชิบะ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก อย่างแน่นอน เฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญีป่ นุ่ ด้วยรูปแบบของโครงการ ที่มา : www.energysavingmedia.com ที่อยู่บนผืนน�้ำ ท�ำให้ไม่มีการส่งผลกระทบแก่ธรรมชาติและ

18

ผลิใบ


ในยุคที่สภาพอากาศ

เปลีย่ นแปลงอย่างรุนแรงเช่น นี้ ท�ำให้เราต้องตระหนักถึง การรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการดูแลป่า และช่วยกันปลูกป่าในทุกครั้ง ที่มีโอกาส ป่ า ที่ พี่ ผ ลิ ใ บพู ด ถึ ง ไม่ เฉพาะแต่ปา่ ไม้ใหญ่ แต่ยงั รวม ถึงป่าชายเลน ทีม่ กั จะมีโครงการ ให้อาสาสมัครไปช่วยกันปลูกอยู่บ่อยๆ แต่เอ๊ะ!!! ท�ำไมเราต้องปลูกป่า ชายเลนด้วยล่ะ เพราะ‘ป่าชายเลน’ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘ป่าโกงกาง’ เป็น ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบไปด้วยพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์หลายชนิด ด�ำรงชีวิตร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่เป็น ดินเลน น�้ำกร่อย และมีน�้ำทะเลท่วมถึงอย่างสม�่ำเสมอ ‘ป่าชายเลน’ จึงเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของ ประเทศ เนื่องมาจาก เป็นแหล่งพลังงาน และแหล่งวัตถุดิบไม้ใช้สอยและ ก่อสร้างในครัวเรือน ติดไฟทนทาน ไม่มีควัน ไม่ปะทุแตกไฟ ได้ก้อนถ่านสวยงาม ไม้ป่าชายเลน ขายได้ราคาดี ไม้เสาเข็ม-ไม้ค�้ำยัน-ไม้ก่อสร้าง-แพปลา-อุปกรณ์การประมง สกัดได้แทนนิน-ท�ำน�้ำหมึก-ท�ำกาว-ย้อมอวน-ฟอกหนัง-สารกันบูด เป็นแหล่งพืชผัก และพืชสมุนไพร ผักพื้นบ้านจากป่าชายเลน ได้แก่ ใบชะคราม ยอดเป้ง ยอดผัก เบี้ยทะเล ต้นจาก ส่วนสมุนไพรที่ได้จากป่าชายเลน ได้แก่ เหงือกปลา หมอ มะนาวผี ใช้รักษาโรคผิวหนัง ผลของตะบูนขาวใช้รักษาโรคบิด และโรคท้องร่วง รากตาตุ่มทะเลใช้แก้อักเสบ แก้ไข้ แก้คัน เป็นแหล่งอาหารที่ส�ำคัญของสัตว์น�้ำ กระบวนการย่อยสลายของเศษซากพืช ท�ำให้เกิดสารอินทรีย์ที่ สาหร่ายและจุลินทรีย์ต่างๆ ใช้เป็นอาหาร ซึ่งจุลินทรีย์ก็เป็นแหล่ง อาหารที่ส�ำคัญของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนเช่นกัน ข้อมูล : จาก กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ภาพประกอบ : จาก www.ความรู้รอบตัว.com

เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์นำ�้ วัยอ่อน และเป็นทีอ่ ยูอ่ าศัยของสัตว์ สัตว์เศรษฐกิจหลายชนิด เช่น ปลากะพงขาว ปลากระบอก ปลาเก๋า กุง้ กุลาด�ำ กุง้ แชบ๊วย หอยนางรม ฯลฯ ใช้ปา่ ชายเลนเป็นแหล่งอนุบาล ตัวอ่อนก่อนที่จะเติบโตและออกสู่ทะเล และยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ อาศัยป่าชายเลนเป็นที่อยู่ตลอดช่วงชีวิต เช่น ปูทะล ช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่ง ป่าชายเลนมีบทบาทในการรักษาสมดุลของธาตุอาหาร ส่งผลให้ เกิดความสมบูรณ์ของแหล่งประมง ช่วยป้องกันดินพังทลายชายฝั่งทะเล รากของต้นไม้ในป่าชายเลนช่วยบรรเทาความเร็วจากกระแส น�้ำลง ท�ำให้ท�ำให้ตะกอนที่กับน�้ำทับถมเกิดเป็นแผ่นดิน ผ่านไปนานๆ ก็จะขยายออกไปในทะเลเกิดเป็นหาดเลน ท�ำให้พันธุ์ไม้ป่าชายเลนมี การขยายต่อไป เป็นพื้นที่ส�ำหรับดูดซับสิ่งปฏิกูลต่างๆ รากของต้นไม้ในป่าชายเลนที่งอกออกมาเหนือพื้นดิน จะคอย ดักกรองสิง่ ปฏิกลู และสารมลพิษต่างๆ จากบนบกไม่ให้ลงสูท่ ะเล ขยะ และคราบน�้ำมันก็จะถูกดักกรองไว้ในป่าชายเลนเช่นกัน ช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัย บริเวณชายฝั่งจากภัย ธรรมชาติ ช่วยบรรเทาความรุนแรงของคลื่นและลมให้ลดน้อยลง เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งศึกษาธรรมชาติ ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลนจึงเหมาะสม จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและศึกษาธรรมชาติ ช่วยลดปริมาณก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ไม้ในป่าชายเลนมีอตั ราการสังเคราะห์แสงสูงจึงช่วยลดปริมาณ ก๊ า ชคาร์ บ อนไดออกไซด์ และเพิ่ ม ปริ ม าณออกซิ เ จนได้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ 19

ผลิใบ


NT

INABLE M A T S U S O r VEM o f E

องคการธุรกิจเพื่อการพัฒนาอยางยั่งยืน Thailand Business Council for Sustainable Development http://www.tei.or.th/tbcsd/


สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โทร 0 2503 3333 โทรสาร 0 2504 4826 – 8 www.tei.or.th

สีทาบ้านฉลากเขียว “ไอซีไอ” ของ Akzo Nobel ไม่มีอันตรายจาก สารปรอท ตะกั่ว แคดเมี่ยม

สารหนู หรือโลหะหนักอื่นๆ ไม่เสี่ยงอันตรายจากสารอินทรีย์ที่ระเหยง่าย สารท�ำละลายฮาโลเจน และ ฟอร์มาลดีไฮด์ทเี่ ป็นพิษ ซึง่ มีผลร้ายต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง ตับ ไต ระบบประสาทส่วนกลางและ เป็นสาเหตุของมะเร็งได้ รวมทั้งไม่เป็นสาเหตุของอาการหอบหืดในเด็ก

เครื่องถ่ายเอกสารฉลากเขียว “ชาร์ป” นอกจากมีประสิทธิภาพการใช้งานและ

ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานแล้ว ฝุ่นและสารเคมีที่ออกมาจากการถ่ายเอกสาร จะไม่อยูใ่ นระดับอันตรายต่อสุขภาพ ไม่มเี สียงดังรบกวนทีน่ า่ ร�ำคาญ ชิน้ ส่วนองค์ประกอบ ของผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบให้รีไซเคิลได้ง่าย แบตเตอรี่ หมึกพิมพ์ และสารเติมแต่งต่างๆ ไม่มีโลหะหนักและสารก่อมะเร็ง และมีอะไหล่รองรับหลังการเลิกผลิตไม่น้อยกว่า 5 ปี

รถยนต์ นั่ ง ฉลากเขี ย วของ “ฮอนด้ า ” ไม่ใช้สารท�ำความเย็นที่ท�ำลาย

บรรยากาศชั้ น โอโซน มี ร ะดั บ เสี ย งไม่ ก ่ อ ให้ เ กิ ด ความร� ำ คาญในระหว่ า ง การใช้งานไม่เกิน 74 – 78 เดซิเบล (เอ) ควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนไดออกไซด์) ในระดับสากลไม่เกิน 119 – 280 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามขนาดมวลรถยนต์) สีทใี่ ช้ปราศจากสารอันตราย การปล่อยไอเสียเป็นไปตาม มาตรฐานยูโร 4 และการออกแบบชิ้นส่วนอุปกรณ์ง่ายต่อการรีไซเคิล

แผ่นฉนวนกันความร้อนฉลากเขียว “ตราช้าง” ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมผลิต

จากวัสดุรไี ซเคิลจึงช่วยประหยัดทรัพยากร และลดปริมาณการเกิดขยะและของเสีย ไม่ใช้สารกลุม่ ซีเอฟซีทที่ ำ� ลายบรรยากาศชัน้ โอโซน ซึง่ ช่วยลดความเสีย่ งมะเร็งผิวหนังและต้อกระจกของนัยตา และไม่มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็งและอันตรายอื่นๆ



ประกาศผลรางวั ลผู ้ ช นะการประกวดในโครงการ YOUNG CREATIVE ENVIRONMENT ARTIST ภายใต้ CONCEPT “OUR LIVING ENVIRONMENT” ระดับประถมศึกษา หัวข้อ แบบอย่างในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิน่ ของฉัน รางวัลชนะเลิศ ด.ญ. ภิมวรีย์ ดวงแดง ได้รับทุนการศึกษา 8,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ รางวัลรองชนะเลิศ ด.ญ. พศิกา เกตุจันทร์ ได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนนิคมสร้างตนเองเขื่อนเพชร (พิบูลสงเคราะห์ 1) ด.ญ. ณัฐสุภา เอี่ยมสอาด ได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนนิคมสร้างตนเองเขื่อนเพชร (พิบูลสงเคราะห์ 1) รางวัลชมเชย ด.ญ. อนุตตรีย์ ดนตรี ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนพร้อมพรรณวิทยา ----------------------------------------------------------------------------------------------------------ระดับประถมศึกษา หัวข้อ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รางวัลชนะเลิศ ด.ญ.เปรมณิกา วาสนาพันธ์พงศ์ ได้รับทุนการศึกษา 8,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนมาร์มาร่า วิชัยวิทยา รางวัลรองชนะเลิศ ด.ญ. สิริรัช รัตตมณี ได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา รางวัลชมเชย ด.ช. ปริยวิศว์ สิงห์โกราช ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนวารีเชียงใหม่ ด.ญ. อรชพร จงสุข ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนมาร์มาร่า วิชัยวิทยา ด.ช. ณัฐสิทธิ์ สิริศุภวิชญ์ ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ----------------------------------------------------------------------------------------------------------ระดับมัธยมศึกษา หัวข้อ ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างรู้ค่าเพื่อพัฒนาอาชีพ รางวัลชนะเลิศ - ได้รับทุนการศึกษา 8,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ รางวัลรองชนะเลิศ - ได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ รางวัลชมเชย นายณภรรท เต็มสิทธิโชค ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนสาธิตมศว.ประสานมิตร รางวัลผู้ร่วมโครงการ น.ส.ปาลิตา พันธุ์สุข ได้รับทุนการศึกษา 1,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนศึกษานารี *** หัวข้อนี้ไม่มีผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------ระดับมัธยมศึกษา หัวข้อ ธุรกิจที่ฉันอยากท�ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน รางวัลชนะเลิศ ด.ญ. วิกาวี รัตตมณี ได้รับทุนการศึกษา 8,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนสภาราชินี รางวัลรองชนะเลิศ น.ส. ศิริยากรณ์ ทาทอง ได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม รางวัลชมเชย ด้าน Conecpt น.ส. วโรดม เตชศรีสุธ ี ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ด้านความคิดสร้างสรรค์ น.ส.สุธาทิพย์ ศรีโกศะบาล ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ไม่ระบุโรงเรียน


Think Tank โดย ผลิใบ

Sacdsfgh Seed Face...เมล็ดพันธุ์ยุคใหม่ ทุกวันนี้บรรดานักอนุรักษ์พยายามสร้างกุสโลบายให้คน

หันมาปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสุด Hip อย่างการท้าผู้กล้า ปลูกต้นไม้แล้วแชร์ แอปพลิเคชั่น We Grow หรือแม้แต่กิจกรรม ปลูกป่าทีผ่ เู้ ห็นคุณค่าของสิง่ แวดล้อมมักจะเข้าร่วมอยูเ่ สมอ แต่จะ ดีแค่ไหนถ้าคนทุกเพศทุกวัยหันมาให้ความส�ำคัญกับการปลูกต้นไม้

Kelsey Pike’s Sustainable Papercraft Studio ได้ท�ำให้ การปลูกต้นไม้เป็นเรือ่ งน่าตืน่ เต้นส�ำหรับเด็กๆ โดยการน�ำกระดาษ รีไซเคิลมาห่อหุ้มเมล็ดพันธุ์ แล้วอัดลงในแม่พิมพ์รูปหน้าคนขนาด เล็กน่ารัก เวลาจะปลูกก็น�ำหน้าคนไปแช่น�้ำ หรือโยนลงบนพื้นที่ ชื้นแฉะ ประมาณ 5 วันก็จะมีต้นอ่อนเล็กๆ งอกขึ้นมาจากใบหน้า เหล่านั้น ซึ่งต้นอ่อนของถั่วเราสามารถน�ำมารับประทานได้ หรือ จะปลูกไว้จนโตให้ออกดอกออกผลขยายพันธุ์ต่อไปก็ได้ จริงๆ แล้วถ้าน้องๆ อยากจะท�ำ Seed Face ในรูปแบบของ ตัวเองก็สามารถท�ำได้งา่ ยๆ โดยการน�ำกระดาษทีไ่ ม่ใช้แล้วไปแช่นำ�้ จนเปือ่ ยยุย่ กรองเอาเนือ้ กระดาษผสมกับแป้งเปียก และเมล็ดพันธุ์ พืชที่ต้องการ ใส่ลงในพิมพ์รูปอะไรก็ได้ จากนั้นก็น�ำไปตากแดด ให้แห้งดี เก็บใส่บรรจุภณ ั ฑ์สวยๆ สามารถน�ำไปเป็นของช�ำร่วยหรือ ของฝากที่รับรองว่าถูกใจผู้รับอย่างแน่นอนค่ะ

ที่มา : http://www.etsy.com/shop/KelseyPike. ภาพประกอบ : http://www.etsy.com/shop/KelseyPike.

24

ผลิใบ


Young Storyteller โดย พราวน�้ำเพชร จิดาพชรพงศ์

ุ่นเยาว์ปีที่ 9 ร น ย ี เข ก ั น ร า โครงก ญาท้องถิ่น หัวข้อ ภูมิปัญ ์พลังงาน ษ เพื่อการอนุรัก

ในสังคมปัจจุบนั นีพ้ ลังงานมีความจ�ำเป็นอย่างมากในการด�ำรงชีวติ เพราะ

พลังงานเปรียบเสมือนสายเลือดที่คอยล�ำเลียงปัจจัยต่างๆ ให้เชื่อมเข้าด้วยกัน จึงท�ำให้ทุกคนหันมาอนุรักษ์พลังงานกันมากขึ้น จึงท�ำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ที่จะ ช่วยกันสร้างและส่งเสริมสิง่ ของขึน้ มาใช้มาทดแทนปัจจัยสีท่ ใี่ ช้ในการด�ำรงค์ชวี ติ กันมากขึ้น รางวัลชนะเลิศ ภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในชีวิตของคนชนบท ด.ญ. พราวน�้ำเพช ซึ่งคนในสังคมเมืองบางคนไม่ค่อยจะสนใจและเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น ร จิดาพชรพงศ์ โรงเรียนจุลสมัย กันมากนัก แต่ส�ำหรับตัวของฉันแล้ว ฉันคิดว่ามันมีคุณค่ามากมายมหาศาล ในช่วงโรงเรียนปิดภาคเรียนฉันได้มีโอกาสเดินทางไปบ้านของคุณยาย ซึ่งอยู่ในแถบชนบทของจังหวัดสงขลา แถวนั้นชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิต ของคนชนบทอยูม่ ีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ท�ำไร่ ท�ำนา และท�ำตาลโตนด ที่แถวนั้นมีต้นตาลโตนดอยู่มากมายยืนแถวเรียงต้นอยู่ตามคันนาเต็มไปหมด และต้นตาลโตนดเหล่านี้แหละมันมีประโยชน์มากมาย มหาศาล ท�ำให้ชาวบ้านมีอาชีพใช้เลีย้ งครอบครัวกันมายาวนานแล้ว เพราะต้นของมันตัง้ แต่รากจนถึงปลายใบสามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ ได้มากมาย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนแท้ๆ ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานเหล่านั้น ขึ้นมาจนถึงลูกหลานในปัจจุบัน ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ฉันจะกล่าวถึงก็คือ “จาก” ซึง่ ท�ำมาจากส่วนของใบตาลโตนดมาเรียงซ้อนกันใช้เชือกเย็บติดกับแกนไม้ไผ่เรียง กันยาวประมาณ 1 เมตร น�ำมาใช้มุงหลังคากั้นฝาบ้าน จากมีความทนทาน และสามารถลดค่าใช้จ่ายประหยัดพลังงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ไม่ต้อง ไปเปลืองกับการซือ้ กระเบือ้ งมามุงหลังคา ซือ้ ไม้มาท�ำฝาบ้านถ้าเราใช้จากแทน ท�ำให้เราช่วยอนุรักษ์พลังงานและอนุรักษ์ป่าไม้ของเราได้มากทีเดียว บ้านที่ สร้างด้วยจากเย็นสบายอากาศไม่ร้อนเหมาะกับภูมิประเทศของเรา คุณยายบอกว่า ตอนนีท้ างหน่วยงานของภาครัฐได้เข้ามามีบทบาทและส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้จากตาลโตนดโดยเฉพาะ “จาก” กันมากขึน้ ซึ่งท�ำให้จากของหมู่บ้านเป็นที่รู้จักและผู้คนสนใจกันเป็น อย่างมาก ฉันคิดว่า...นีแ่ หละนะบางครัง้ สิง่ ของทีเ่ ราไม่คอ่ ยเห็นคุณค่าแต่บรรพบุรษุ ของเราพยายามสร้างมัน และสืบทอดมาให้เรา ถ้าเราสามารถสืบต่อไปจนถึงคนรุ่นต่อๆ ไปได้ก็จะท�ำให้สังคมของเราน่าอยู่ และมรดกค�ำว่า “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” อยู่คู่กับเราต่อๆ ไปได้ยาวนาน

25

ผลิใบ


On the Move โดย ผลิใบ

Greens Concept

ท่องเที่ยวยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมนั้น เราสามารถท�ำได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวก็ถือเป็น

ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึง สิ่งแวดล้อม จึงสร้างแนวคิด 7 Greens Concept ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางด้วยความสุข สนุกสนาน พร้อม หัวใจที่เคารพต่อวิถีธรรมชาติ เพื่อสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ฉบับนี้ผลิใบจึงขอน�ำเสนอเรื่องราวดีๆ ที่ก่อนจะเดินทางท่องเที่ยวเราควรจะทราบไว้เพื่อปฏิบัติตัวได้อย่าง ถูกต้องตามแนวทาง 7 Greens Concept

GREEN Heart นักท่องเทีย่ วควรตระหนักถึงการ เ ข ้ า ไ ป สั ม ผั ส วิ ถี ธ ร ร ม ช า ติ วัฒนธรรม และประเพณีดั้งเดิม ของคนในท้องถื่น เรียนรู้และ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของแหล่ง ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ แหล่งท่องเที่ยวที่มีระบบนิเวศที่ส�ำคัญและเปราะบาง มีคุณค่า ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี หรือเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตอันเก่าแก่ โดยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว ก่อนออกเดินทาง เพื่อร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

GREEN Logistics

การเดิ น ทางท่ อ งเที่ ย วโดยเลื อ กใช้ พ าหนะที่ เ ป็ น มิ ต รกั บ สิ่งแวดล้อม คือเลือกวิธีการเดินทางและรูปแบบการให้บริการ ในระบบการคมนาคม หรือการขนส่งทางการท่องเที่ยว จาก แหล่งที่พักอาศัยไปยังแหล่งท่องเที่ยว ต้องเน้นการประหยัด พลังงาน การใช้พลังงาน ทดแทน การลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก และช่วย รักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้รถ เรือ ใช้พลังงาน แสงอาทิตย์ ใช้ระบบ ขนส่งมวลชนอย่าง Who : ทุกคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรง คุ้มค่า ขี่จักรยาน เพื่อชมทิวทัศน์รอบเมืองแทนการขับรถ และทางอ้อม How : ตระหนักและระมัดระวังถึงผลกระทบทีจ่ ะตามมาทุกครัง้ Who : ผู้ประกอบการขนส่งที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว How : สร้างทางเลือกและรูปแบบการเดินทางที่เน้นการลด ที่ประกอบกิจการท่องเที่ยว ใช้พลังงาน ใช้พลังงานทดแทน และลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจก

26

ผลิใบ


GREEN Attraction

ภาคภูมิในวิถีชีวิต และรู้สึกเป็น หนึ่ ง เดี ย วกั บ ชุ ม ชน เห็ น แก่ ส่วนรวม อีกทั้งต้องเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ว่าชุมชนที่มีความเข้มแข็ง ทัง้ ในเรือ่ งท่องเทีย่ วและการอนุรกั ษ์ สิง่ แวดล้อม จะท�ำให้การท่องเทีย่ ว ของชุมชนยั่งยืนไปได้ตลอด

แหล่งท่องเที่ยว ต้องมีการบริหาร จัดการตามกรอบ นโยบาย และ การด�ำเนินงาน ในทิ ศ ทางของ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นการประสานการใช้ประโยชน์เพื่อ Who : องค์กร กลุ่ม บุคคลในชุมชน การท่องเที่ยวกับสภาพดั้งเดิมของแหล่งไว้ให้ได้ ภายใต้การจัดการ How : ร่วมกันแสดงออกของชุมชนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน Who : หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล และเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว How : บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยมุ่งให้เกิดความยั่งยืนทาง GREEN Service ทรัพยากรเป็นหลัก รูปแบบการให้บริการของธุรกิจท่องเที่ยวแขนงต่างๆ ที่สร้างความ ประทับใจแก่นกั ท่องเทีย่ วด้วยมาตรฐานคุณภาพทีด่ ี เลือกใช้วตั ถุดบิ GREEN Activity ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้รวมถึงการจัดระบบบ�ำบัด กิจกรรมทีส่ ามารถท�ำได้ ของเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูลที่เกิดจากนักท่องเที่ยวด้วย เพื่ อ ความสนุ ก สนาน Who : ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว เพลิดเพลิน ตราบเท่าที่ How : จัดรูปแบบการบริการที่ได้มาตรฐานโดยไม่กระทบต่อ ไม่ ท� ำ ลายสิ่ ง แวดล้ อ ม สิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ ไม่ ว ่ า จะเป็ น ขี่ จั ก รยาน ปีนเขา ด�ำน�้ำ GREEN Plus Who : ผู้ประกอบการที่ให้บริการกิจกรรม และนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาหรือเเจ้าของกิจการธุรกิจการ How : ประกอบกิจการด้านการท่องเดี่ยวโดยค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยว ก็ควรมีกิจกรรมหรือการตอบแทนสังคมด้วยความเต็มใจ เป็นหลัก พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ และมุ่งหวังให้สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่นักท่องเที่ยว Who : ทุกคน How : สร้างโอกาสในการดูและโลกอย่างสม�่ำเสมอ GREEN Community ______________________________________________ แหล่งท่องเทีย่ วชุมชนทัง้ ในเมืองและชนบท ต้องมีความรูท้ จี่ ะบริหาร ที่มา : 7 Greens Concept ททท. : http://www.manager.co.th จัดการการท่องเทีย่ วในทิศทางทีย่ งั่ ยืน พร้อมทีจ่ ะด�ำเนินงานทีเ่ น้น ภาพประกอบ https://travelblog.expedia.co.th, http://btsstation.com http://www.tatcontactcenter.com การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ส�ำคัญต้องคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม และวิถี http://www.aloha-hawaii.com, http://www.bsgolfclub.com ชีวิตอันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน เพราะคนในชุมชนต้องมีความ

27

ผลิใบ


Young Artist โดย ผลิใบ

จากความร่วมมือระหว่างองค์กรธุรกิจเพือ่ การพัฒนาอย่างยัง่ ยืน (TBCSD) และวารสารผลิใบ ได้จดั การประกวดงานศิลปะ

เพื่อพัฒนาอาชีพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในโครงการ Young Creative Environment Artist ภายใต้แนวคิด Our Living Environment ขึ้น ซึ่งโครงการนี้ได้มีน้องๆ สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจ�ำนวนมาก ทางหน่วยงานจึงได้ คัดสรรคณะกรรมการผูท้ รงคุณวุฒผิ เู้ ชีย่ วชาญทางด้านศิลปะ สิง่ แวดล้อม และสือ่ มัลติมเี ดีย เพือ่ ร่วมท�ำการตัดสินผลงานของน้องๆ อย่างเป็นธรรมและโปร่งใส จนได้ผลการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ (ดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลหน้า 23) โดยผลงานของน้องๆ ทุกคนที่ส่งเข้าประกวด ทางวารสารจะทยอยลงภาพของน้องทุกคนในวารสารผลิใบเป็นล�ำดับต่อไป ซึ่งในฉบับนี้เราจะได้ชมภาพการตัดสินของคณะกรรมการ และผลงานของน้องๆ ในระดับมัธยมศึกษาที่ส่งผลงานเข้าประกวด ในหัวข้อ ธุรกิจทีฉ่ นั อยากท�ำเพือ่ อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม และพลังงาน (สร้างสรรค์ภาพไม่จำ� กัดเทคนิคและขนาด)

บรรยากาศการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานโดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ 28

ผลิใบ


รางวัลชนะเลิศ หัวข้อ ธุรกิจที่ฉันอยากท�ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน เด็กหญิงวิกาวี รัตตมณี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง เทคนิค : สื่อผสม ขนาดของผลงาน : A1 (22 x 30 นิ้ว) แนวความคิด เป็นภาพที่สื่อให้เห็นถึงธุรกิจ “Home Stay” วิถีชุมชนแบบ พอเพียงและยั่งยืน ที่คนกับธรรมชาติต่างก็อาศัยพึ่งพาและ พึ่งพิงซึ่งกันและกัน ด้วยการช่วยกันดูแลรักษาให้ควอยู่ โดย ไม่เข้าไปท�ำลายป่า ทั้งนี้ก็ให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้ ศึกษา ความเป็นอยู่แบบธรรมชาติ แบบวิถีดั้งเดิมของชุมชนนั้น ในธุรกิจของ Home Stay

รางวัลรองชนะเลิศ หัวข้อ ธุรกิจที่ฉันอยากท�ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน นางสาวศิริยากรณ์ ทาทอง โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม จังหวัดศรีสะเกษ เทคนิค : สื่อผสม ขนาดของผลงาน : A1 (22 x 30 นิ้ว) แนวความคิด กิจการรับซื้อน�้ำมันใช้แล้วจากครัวเรือน น�ำมาใช้เป็นพลังงาน และเชื้อเพลิง

29

ผลิใบ


What the World Offers? โดย กองบรรณาธิการ

ปาฐกถาพิเศษ:

สร้าง “หุ้นส่วนเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อคน-เพื่อป่าที่ยั่งยืน” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

กราบเรียน ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุน ท่านอาจารย์ สมศักดิ์ ท่านวิทยากร ท่านผู้จัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ และพี่น้องชาวชุมชนลูกโลกสีเขียวทั้งหลาย เมื่อเช้านี้สองจิตสองใจที่จะมาที่นี่ ใจแรกอยากจะมาก่อนเวลา บรรยายที่เขาก�ำหนดไว้ประมาณหนึ่ง แต่เมื่อเหลือบดูว่ามีผู้ใด จะบรรยายในเช้าวันนี้ ผมคิดว่าคงจะขาดทุนไม่ได้แล้ว ควรจะมา ก่อนเวลาสักหน่อยหนึ่งจะได้มาฟังเพิ่มเติม พอมาถึงน้อง ปตท. คนหนึ่งถามว่ามีไฟล์ไหมเดือนที่ผ่านมานั้นผมมีอาการหูดับไป ข้างหนึ่งเวลานี้ไม่ได้ยินเลยนะครับหูขวา น้องเขาก็มาพูดทางด้าน ซีกขวา ผมฟังไปว่า เอาควายมาด้วยหรือเปล่า ผมก็เลยบอก วันนี้ ไม่ได้เอามาหรอกครับ ความจริงไฟล์ตามความเข้าใจของผมนั้น เจ้าหน้าที่เขาเตรียมมา ผมดูๆ แล้วมันไม่เข้าท่าก็เลยขอเปลี่ยนรูป ฟอร์มใหม่ เป็นการทอล์คโชว์ ก็แล้วกันนะครับพูดสบายฟังสบายจะ สะดวกกว่าสังเกตเห็นตั้งแต่เช้ามาเราซีเรียสกันมากเลยนะครับ เงียบกันสนิทไม่ค่อยหัวเราะ นานๆทีถึงหัวเราะทีหนึ่ง ผมคิดว่า ปัญหาที่เราเผชิญข้างหน้ามันก็ทุกข์พอแรงแล้ว ถ้าอารมณ์เรา เป็นทุกข์เข้าไปอีก เราจะไม่มีก�ำลังใจที่จะท�ำอะไร และตั้งแต่เช้า เป็นต้นมาก็เป็นเรื่องของผู้รู้ขึ้นมาพูด รายการตบท้ายก่อนอาหาร กลางวันเอาคนทีร่ นู้ อ้ ยทีส่ ดุ คือตัวผมเองนะครับมาพูด ไม่ได้ออกตัว นะครับเพราะว่าพื้นฐานผมเอง 30

ผลิใบ

ท่านประธานอานันท์ ท่านทราบดีว่าผมจบคล้ายๆ ท่าน เนีย่ แหละครับ ผมควรไปอยูก่ ระทรวงต่างประเทศ ผมจบรัฐศาสตร์ การทูต ผมมีชีวิตที่หวังว่าจะไปอยู่เมืองนอก ตลอดเวลาก็สมหวัง นะครับ ตั้งแต่ปี 2512 กลับมาบ้านไปนอกตลอดเลยนะครับ คือ บ้านนอก ท่านทั้งหลายครับปัญหาที่เราพูดมาตั้งแต่เช้านั้นดูเสมือน กับว่า ดิน น�้ำ ลม ไฟ ป่า ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็น เรือ่ งหนึง่ และตัวเรานัน้ เป็นอีกเรือ่ งหนึง่ ผมคิดว่าต่อไปนีม้ นั คงจะ แยกส่วนไม่ได้แล้วนะครับทุกสิง่ ทุกอย่างมันเป็นหนึง่ หนึง่ เดียวด้วย ผมนั้นบวช 4 ครั้งแล้ว ระหว่างที่บวชเป็นพระป่าอยู่ที่สกลนคร มีสุภาพสตรีคนหนึ่งร้องห่มร้องไห้มาหาอาจารย์ผมถามว่าเสียใจ เรื่องอะไรเขาบอกว่า พี่สาวตาย อาจารย์ผมบอกว่า เขาไม่ได้ตาย จากไปที่ไหนหรอก เขามาจากไหน เขาก็กลับไปตรงนั้นแหละ เขากลับคืนสูท่ เี่ ดิม อันทีจ่ ริงแล้ว ดิน น�ำ้ ลม ไฟ ก็คอื ชีวติ เรานัน่ เอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ทรงรับสัง่ เรือ่ งหนึง่ น�ำ้ คือ ชีวิต พระองค์เอาน�้ำเป็นพาหะ เพราะจริงๆ แล้วนั้นน�้ำเป็นส่วน ประกอบส�ำคัญของทุกสิ่ง จะถูกท�ำลายหรือไม่ท�ำลายก็เพราะน�้ำ ทั้งนั้นเลย เพราะน�้ำนั้นเป็นพาหะ และตัวเราเองก็เป็นที่รู้กันอยู่ แล้วว่ามีน�้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายถึง 70 % พอมาถึงเรื่อง น�้ำจะเห็นว่า ชีวิตมันสัมพันธ์กันหมดเลย เวลานี้เราบ่นพร�่ำกันว่า


ป่าภาคเหนือนั้นถูกท�ำลายไปหมดแล้ว คนกรุงเทพฯ รู้สึกว่าไม่ได้ เดือดร้อนอะไร แต่หารู้ไม่ว่าข้างบนตาย ข้างล่างก็ตายครับ แม่น�้ำ เจ้าพระยานัน้ มาจากไหน เรียนกันมาตัง้ แต่เล็กแต่นอ้ ยแล้วมาจาก ปิง วัง ยม น่าน ใช่ไหมครับเวลานี้ไปดูเถอะครับ พื้นที่ตน้ น�ำ้ ปิง วัง ยม น่าน เป็นภูเขาหัวโล้นหมดแล้ว พอข้างบนตาย ข้างล่างไม่ตายหรือ ครับ เวลานี้น�้ำทะเลก็ไหลสวนทางขึ้นมาไม่รู้ว่าไปถึงไหน เกือบจะ ถึงอยุธยาอยู่แล้วในบางช่วงบางจังหวะ ล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นี้ ประปาวิง่ มาหาผม ไม่มนี ำ�้ ท�ำน�ำ้ ประปาครับ เพราะน�ำ้ เค็มทะลัก เข้ามาแล้วและเกิดภาวะแห้งแล้งด้วย สุดท้ายก็ตอ้ งเอาน�ำ้ ทีค่ ลอง 5 คลอง 6 ที่พระเจ้าอยู่หัวฯ สร้างไว้แล้วและไม่มีใครสนใจ พื้นที่ 3,000 ไร่ ที่กรมธนารักษ์ถวาย ท่านบอกไม่ต้องท�ำอะไรขุดบ่อเก็บ น�้ำไว้เถอะ แล้ววันนี้ก็ได้ใช้ช่วยพยุงไร่นาบริเวณรอบๆ นัน้ และท�ำ ประปา เพราะจริงๆแล้ว ทีท่ กุ คนพูดกันหมด รวมทั้งท่านประธานได้ จบลงท้ายว่ามันเป็นหน้าที่ของเราทุกคนจะต้องรักษาชีวิต

ผมคิดว่าเป็นสัญชาตญาณในการรักษาชีวิตที่ดีที่สุดนั้นคือ ท�ำอย่างไรให้ปจั จัยแห่งชีวติ นัน้ อยูย่ งั่ ยืน มีความสมบูรณ์ ไม่ใช่เพียง อยู่ในช่วงชีวิตเราเท่านั้น เราต้องส่งต่อปัจจัยนี้เป็นมรดกให้กับลูก ให้กบั หลาน ให้กบั คนรุน่ หน้าต่อไปด้วย ผมไปบรรยายทีไ่ หนผมจะ เตือนว่าเราจะใจด�ำถึงขนาดจะส่งพืน้ ดินทีไ่ ม่มปี า่ เลย จะส่งน�ำ้ เน่าๆ จะส่งอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ ส่งต่อให้ลูกหลานเราหรือ แต่นั่น แหละครับ เราก็ไม่รู้จะฝืนโลกยังไง เพราะตอนนี้โลกทั้งโลกนั้น ก็ยังมุ่งที่จะสร้างอัตราความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอยู่ทั่ว โลกก็หวังทีจ่ ะสร้างความร�ำ่ รวย ต้องการชีวติ ความเป็นอยูท่ สี่ ะดวก

สบาย มี Innovation หรือว่านวัตกรรมที่จะเอื้ออ�ำนวยให้ชีวิต ของเราสะดวกสบายขึ้น ทุกคนหวังที่จะสร้างความร�ำ่ รวยให้กับ ตัวเอง แต่ที่จริง สัจจธรรมก็หนีไม่พ้นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเริ่ม ชี วิ ต มาตั้ ง แต่ เ ช้ า จรดเย็ น เครื่ อ งอ� ำ นวยความสะดวกทุ ก สิ่ ง ทุกประการ ความร�ำ่ รวยเงินทุกบาท ถึงแม้วา่ อยูใ่ นแบงก์นนั้ ก็ลว้ นแล้ว แลกมาด้วยความเสียหายของทุนธรรมชาติทเี่ รามีอยู่ อุตสาหกรรม จะยิ่งใหญ่จะทันสมัยแค่ไหน หนีไม่พ้นที่ต้องใช้ ดิน น�้ำ ลม ไฟ เป็นปัจจัยการผลิตทั้งสิ้น ทางซีกตะวันออกเมือ่ 4-5 ปีทแี่ ล้ว จ�ำได้ไหมครับแถวโรงงาน อุตสาหกรรมปิโตรเคมีแถบนิคมมาบตาพุดอุตสาหกรรมต่างๆ เกิด ขึ้นมากมาย เผลอๆ น�้ำไม่มีครับ ปีหนึ่งผมยังจ�ำได้ คิดที่จะเอาน�้ำ จากจันทบุรมี าโน้นอุตสาหกรรมก็ตอ้ งใช้นำ�้ เกษตรก็ตอ้ งใช้นำ�้ ทุก คนหลีกเลี่ยงไม่พ้นหรอกครับ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถ้าเรา ไม่ลกุ ขึน้ มาตัดสินใจท�ำอะไร เราพูดกันเยอะ เราพูดเรือ่ งการพัฒนา ที่ยั่งยืน บางคนไปสุดกู่ถึงขนาด Back to Basic กลับคืนสู่สามัญ ว่างั้นเถอะเราก็ได้แต่พูดอย่างนี้ เมื่อกี้ท่านประธานเตือนเราว่า มีการประชุมโลกร้อนกันที่ปารีสประเทศยิ่งใหญ่แค่ไหน ยิ่งรวย เท่าไหร่ ยิ่งถลุงโลกเท่านั้นแหละครับ ตัวเลขบ่งชี้มาแล้ว ประเทศ ที่พูดภาษาชาวบ้าน ที่เป็นฝรั่งทั้งหมดนั้นบริโภคมากกว่าพวกเรา 3 เท่า แล้วอย่าลืมนะครับ การบริโภค หมายถึงทุกสิง่ ทุกอย่างทีเ่ รา บริโภคนั้นเราก็ผลิตขยะมาในจ�ำนวนเท่ากันครับ เราเรียนมาแต่ เล็กแต่น้อยแล้วสสารไม่หายไปไหน เรากินไปเท่าไหร่ เราดื่มน�้ำไป เท่าไหร่ ออกมาเป็นน�้ำเสียเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราใช้ คือ ทรัพยากรธรรมชาติที่ดัดแปลงมาแล้ว เราใช้เสร็จแล้วเราก็ทิ้งเป็น ขยะ คุณส่งเกียรติมาเตือนเราแล้ว วันนี้ 7 พันล้านคน UN ประกาศ มา คุณส่งเกียรติใช้ค�ำว่ากลางศตวรรษที่ 21 เพื่อให้ดูมันไกลๆ ขึ้น ว่ากันจริงๆ แล้ว อีก 30 ปีเท่านั้นเองนะครับ อีก 30 ปี ข้างหน้านี้ กระโดดขึ้นจาก 7,000 ล้าน เป็น 9,000 ล้าน และโลกที่รองรับ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วยมันเท่าเดิมนะครับ และบางครั้งที่ ผมรู้สึกว่ามันเล็กลงด้วย เพราะมันท�ำหน้าที่เลี้ยงดูเรามาเป็นเวลา ช้านานแล้ว อย่างน้อยทีส่ ดุ ก็มนุษย์เป็นโฮโมแฮบิลสิ (Homo habilis) ที่ว่ากันนี้ 2 ล้านปีที่ผ่านมานี้ โลกเราถูกถลุง ถูกท�ำลาย ความโลภ ความต้องการบริโภค จากการบริโภคแท้จริงส่วนหนึ่ง เกิดจาก 31

ผลิใบ


ความโลภอีกส่วนหนึ่ง ถูกท�ำลายไปเยอะแล้วจากอิทธิพลของ บริโภคนิยม ผมอ่าน States ofthe world เขาประมาณว่าทรัพยากร ทั่วโลกนี้ถูกท�ำลายไปแล้ว เศษ 1 ส่วน 3 หายไปแล้ว 30 % ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เราพูดกัน คุณสมบูรณ์ก็พูด ใครก็พูด หลายท่านก�ำลัง พยายามที่จะฟื้นฟู แต่ในความจริงส่วนรวมมันหายไป 30 % และ ในมุมกลับคนที่จะใช้ คนที่จะถลุง คนที่จะท�ำลายนั้น สวนกลับขึ้น มาเพิ่มกว่าอีก 30 % เราอยู่ได้ไหม ไม่รู้สิครับ มีอย่างเดียวที่ตอบ ได้คืออยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่ เราจะยืดเวลานั้นให้นานขึ้นมาสัก เท่าไหร่ เพราะมนุษย์ทั่วโลกก็คิดอย่างนี้นะ ท�ำอย่างนี้นะครับ ในปี 2524 ผมท�ำโครงการพระราชด�ำริต่างๆ มีคนมาหากัน ไม่เว้นแต่ละวัน ทุกคนมุ่งจะปลูกป่ากันหมด และสังเกตเห็นทั่วไป มาเพือ่ เอาต้นไม้ลงหลุมทัง้ นัน้ ไม่คดิ อะไรเกินไปกว่านัน้ ขอพูดตรงๆ อย่างนี้ ความจริงก็ไม่ได้ลงหลุมหรอก เจ้าหน้าทีเ่ ขาลงไปเรียบร้อย

32

ผลิใบ

หมดแล้ว มาถึงก็เขี่ยสองทีและหน้าก็หันไปดูทีวี แล้วต้นไม้จะรอด หรือไม่รอดก็ไม่รู้ ผูใ้ หญ่ไปเยอะก็ตอ้ งเตรียมไม้แต่ละคนไปอีกสองดุน้ ปักดุน้ หนึง่ และป้ายชือ่ ดุน้ หนึง่ วันหนึ่งก่อนหน้าที่พระเจ้าอยู่หวั ฯ เสด็จ ผมไปตรวจงานก่อน คนจัดงานหวังดีเชิญผมไปปลูกต้นไม้ ต้นหนึ่งตามธรรมเนียม เมื่อปลูกเสร็จตามธรรมเนียมก็ติดป้ายไว้ พระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาถึงก็บอกว่า เอ้อ...ต้นไม้นี้ชืjอสุเมธหรือ มันมีคณ ุ สมบัตยิ งั ไง มันมีลกู กินได้ไหม ดอกมันสวยไหม เราฟังแล้ว พระองค์ทา่ นมีวธิ เี ตือนแบบนิม่ นวลนะครับ แต่เจ็บเข้าไปทีห่ วั ใจเลย และอีก 2-3 วันถัดมา ก็ไม่มีใครสนใจต้นไม้นั้นอีก ชื่อผมก็โดน เหยียบแล้วเหยียบอีกคือมันตกลงไปอยูท่ พี่ นื้ ดิน เรามีประพฤติอย่าง นีม้ าโดยตลอด โดยไม่เคยถามเลยว่า ต้นไม้ที่เราปลูกนั้นให้อะไร กับเรา ความจริงบทเรียนนีเ้ ราเรียนมาเเล้ว ประมาณ 2,558 ปี นะครับ พระพุทธเจ้าสอนพระองค์แรกเลย ปัจจัย 4 อาหารจากป่า เสือ้ ผ้านี้ จากป่า ยารักษาโรคจากป่า บ้านอยู่อาศัยจากป่า ไม่มีอะไรที่ไม่มา จากป่าเลย แต่เวลาเราปฏิบตั กิ บั ป่านัน้ เราไม่ปฏิบตั จิ ากฐานความรู้ ที่เรามี ต้นไม้อะไรสะดวกก็จัด อะไรก็ใส่ลงไป รอดไม่รอดไม่รู้ ผมการันตีได้เลยครับ โครงการไม่วา่ ขององค์กรไหน ตาย 90 % ครับ คุณส่งเกียรติเถียงผมไหมนอกจากปตท. ยกเว้นไว้ เพราะว่ามี กระบวนการจัดการดูแลใช่ไหมครับ ร้อยทั้งร้อยปลูกทิ้งทั้งนั้น ใช่หรือเปล่า มันไม่มีการไปดูแล ดูช่วงนี้ยังมีบางหน่วยปลูกอยู่เลย ว่าเฮ้ย ..ต้นไม้หน้าหนาวเขานอนหลับแล้ว นี่ผมไม่เรียน ผมเรียนการฑูตนะผมยังรู้เลย ยังไปปลูกต้นไม้ หน้าหนาว ผมก็เลยอบรมเจ้าหน้าที่และโครงการว่า ทุกครั้งที่เรา ประคองต้นไม้ลงหลุมนัน้ อันนีไ้ ด้มาจากพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ถามตัวเอง เสียก่อน พระองค์ทา่ นรับสัง่ ง่ายๆ ว่าปลูกด้วยใจและปลูกด้วยจิตนะ


จากประโยคสั้นๆ ท่านสอนสั้นๆ ใจนั้นคือให้มันมีจิตส�ำนึกตาม ต้นไม้นั้นไปด้วย จิตนั้นคือให้เอาปัญญาแสวงหาค�ำตอบจากต้นไม้ ทุกต้นทีเ่ ราเอาลงหลุมด้วย เราจะปลูกริมถนนทีก่ รุงเทพฯ มันก็เป็นป่า ป่าในกรุงมันก็เป็นป่า ปตท. ก็ยงั ท�ำป่าในกรุงเลย มันก็ตอ้ งดูหน้าที่ ของต้นไม้ของเรา บ้านเรารถยนต์เยอะ คาร์บอนมอนอกไซด์เยอะ เพราะฉะนัน้ ต้องแสวงหาต้นไม้อะไร ทีม่ ใี บทีจ่ ะสามารถมีขดี ความ สามารถที่ จ ะดู ด ซั บ คาร์ บ อนมอนอกไซด์ ม ากที่ สุ ด ใช่ ไ หมครั บ พวกเราก็ไปดูงานญีป่ นุ่ ต้นไม้แต่ละต้นอธิบายได้หมดเลย สามารถ ดูดซับมลพิษเท่านัน้ เท่านีเ้ พือ่ อนาคตเขาถึงเลือกเอาต้นไม้ชนิดนัน้ ชนิดนี้มาปลูกไว้ ของเราไม่รู้ต้นอะไรก็ได้ ปลูกไว้ สายไฟข้างบน ก็มยี าวเหยียด อัญเชิญต้นประดูแ่ ดงมาปลูกไว้ พออีก 3 ปี ต้นประดูแ่ ดง ขึน้ ไปรบกับสายไฟข้างบน ตอนนีก้ ย็ งุ่ สิครับพอหน้าฝนก็ไปจ้างคนมา ใช้คำ� ว่า ลิด ตกแต่ง แต่มาถึงพีแ่ กไม่ฟงั เสียงครับตัดสวบเลย แล้วลอง สังเกตนะครับพวกท่านอยู่ต่างจังหวัด ผมเดินทางอยู่ตลอดเวลา ต้นไม้รมิ ทางนัน้ เวลานีว้ ธิ กี ารลิด เขาลิดอย่างไร ลิดขอบตัดกลางต้นเลย มันสะดวกดี สะดวกดีครับแล้วประโยชน์เอือ้ กันทุกฝ่ายเลย ฝ่ายท้องถิน่ ก็ดีใจมันจะไม่ไปเกี่ยวกับสายไฟฟ้า คนตัดก็ได้เงินเบิ้ล ก็ได้เงิน ค่าตัดด้วย เนื่องจากกิ่งมันใหญ่ ได้เงินที่สองคือต้องขนกิ่งไปทิ้ง ได้เงินทีส่ ามอีกครับไม่ใช่ไปทิง้ ครับไปส่งโรงไฟฟ้า เป็น Biomass ครับ คือเดีย๋ วนีโ้ รงไฟฟ้า Biomass รับซือ้ เศษไม้ อ้างว่าเศษไม้ ไม้ตายในป่า แต่วา่ ไม่ใช่ครับ มันพันกันหมดนโยบายแต่ละนโยบายถ้าก�ำหนดไว้ ไม่ดี มันจะส่งผลกระทบหมดเลย ตกลงสุดท้ายเราไม่ได้อะไรสักอย่าง คุม้ หรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่างเมือ่ กีน้ คี้ ำ� ถามหนึง่ เรือ่ งต้นยางท�ำไมต้องตัด เดิมเป็นต้นไม้ปา่ นะครับ แถวบราซิลมันเป็นต้นไม้ปา่ ถ้าเอาพืน้ ทีค่ นื ผมไม่เห็นจะยากอะไรทิ้งไว้ให้เขาไว้ตรงนั้น สบายเสียอีกไม่ต้อง ปลูกไม้นำ� แล้วก็เอาต้นไม้ซงึ่ ก็ปลูกแทรกไป ผลสุดท้ายป่าก็กลับคืนมา ท�ำไมต้องไปตัดเขาด้วย ผมถามชาวบ้านว่าเป็นไง ยางราคาตกนี่เป็นไง น�้ำตาตกซิ จ�ำได้ไหมผมพูดเมือ่ 10 ปีทแี่ ล้วว่าปลูกกัน ปลูกกัน ปลูกทั่วไปหมด ทั้งที่ราบ ทั้งบนเขา ภาคเหนือไม่เคยมียางเลย ก็มียางปลูกไปด้วย ก็ผมเคยพูดนะ ดังๆ ด้วยว่า วันหนึง่ ระวังน�ำ้ ตาตกแล้วนัง่ ซดน�ำ้ ยาง แล้ววันนี้ก็เป็นแล้ว ผมไปบ้านทับคริสต์ สุราษฎร์ธานี ที่อาจารย์ ใช้ค�ำว่าขนาด ดร. ขวัญ ยังถามผมเลย ว่าสวนสมรมของอาจารย์ สมศักดิค์ อื อะไร อาจารย์ใช้ศพั ท์ปกั ษ์ใต้ ไปบ้านทับคริสต์ ไปเปิด

อบรมเรื่องน�้ำของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ผมก็บอกว่า ว่าไงพวกเรายังท�ำ สวนยางอยู่อีกสิ โอ้ย...อาจารย์ อาจารย์ล้าสมัยแล้ว ผมท�ำตาม พระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วผมไม่ท�ำสวนยางครับ ผมท�ำป่ายางครับ อาจารย์ มันเป็นยังไง ป่ายาง พาไปดูซิ เข้าไปถึงปั๊บต้นยางยังอยู่ ราคาเท่าไหร่ชา่ งมันเถอะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ยังตัง้ ชือ่ สวนของท่านว่าชัง่ หัวมัน ไม่มไี ว้ขาย ขายเท่าไหร่อย่าไปห่วง ธรรมชาติ สร้างไว้เป็นอาหารการกิน ใครคิดรวยจากสิง่ ทีเ่ ขาสร้างมาให้กนิ นัน้ วุ่นแล้วแล้วมันวุ่นทุกอย่างเลยสังเกตเถอะ ไปถึงปั๊บ เขาไม่ตัด ยังรักษาป่ายางไว้ กรีดราคาเท่าไหร่ก็ช่าง ถือว่าเป็นผลพลอยได้ คิดกลับเลย ระหว่างต้นยางมีเงาะ มีมงั คุด มีทเุ รียน มีความหลากหลาย ทางชีวภาพนะครับ มีไม้ผล แล้วก็เป็นไม้ป่า เดิมเป็นไม้ป่าเรามา ปลูกเป็นสวนเอง ช่วงทีว่ า่ งเขาลิดกิง่ ปาล์ม ไปลิดแล้วก็ขอมาฟรีดว้ ย เขาก็ให้รกสวนเขาด้วยซ�ำ้ ไป มาถึงมากองระหว่างต้นยาง กองจนกระทัง่ เปือ่ ยเน่า พอเปือ่ ยเน่าเสร็จ เอาเชือ้ เห็ดโรย ปลูกเห็ดเข้าไปอีกครับ ตกลงมียาง มีไม้ผล มีเห็ด วันนั้นเก็บเห็ดพอดีเลย ถามว่ากิโลเท่า ไหร่ 60 วันนี้ก็ได้แค่ 20 กิโล ผมคูณในใจ 1,200 นะครับ 1,200 แล้วไปส่งที่ไหน เปล่าครับไปกองข้างหน้าเดีย๋ วเขาเอารถมารับเอง เงินมันเข้ามากับไอ้ปา่ เนีย่ นะครับ เปลีย่ นสวน คือราคายาง จาก 100 ตอนนีเ้ หลือเท่าไหร่ ขีเ้ กียจถามแล้ว แต่นปี้ รากฏว่า เดีย๋ วเงาะออก เดี๋ยวมังคุดออก เดี๋ยวเห็ดออก เดี๋ยวอะไรออก เบ็ดเสร็จแล้วถาม ว่ามันดีไหม อาจารย์รงู้ ผี้ มท�ำมานานแล้ว โง่อยูต่ งั้ นาน อย่าปลูกพืช เชิงเดี่ยวครับ มันเสี่ยง ปลูกให้มันหลากหลายเข้าไว้ สรุปประเด็นว่าหากจะปลูกป่าฟื้นฟูป่าต้องปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างคือ เป็นไม้เนื้อแข็งเพื่อที่อยู่อาศัยได้ สองไม้กิน 33

ผลิใบ


ตั้ ง แต่ ผั ก หญ้ า ไปถึ ง ไม้ ผ ลทุ ก ชนิ ด ประจ� ำ ถิ่ น และไม้ ที่ ส ามคื อ ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งต้องเป็นไม้จ�ำพวกโตเร็วพอกับการเอามาเป็น พลังงานต่างๆ ถ้าปลูกครบอย่างนี้ ประโยชน์เฉพาะอย่างเกิดขึ้น 3 ประการแล้วก็คลุมดินสร้างความชุม่ ชืน้ ได้เป็นประโยชน์ประการ ที่ 4 ด้วย และป่าชนิดนี้กับคนก็จะอยู่อย่างยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่เคยใช้ค�ำว่าร�่ำรวย ไม่เคยใช้วา่ มัง่ คัง่ แต่เป็นประโยชน์ทผี่ า่ นสมองเรามาทุกคนเป็น เวลาช้านานแล้วด้วย ทรงใช้คำ� ทีป่ ระเสริฐทีส่ ดุ “ประโยชน์สขุ ” ท�ำอย่างไรให้พนื้ ทีท่ กุ ตารางเมตรมันเกิดประโยชน์ ไม่มงุ่ เรือ่ งเงิน แต่ถา้ เงินได้เยอะมันก็ดี แต่กอ่ นค�ำว่าร�ำ่ รวยคิดถึงประโยชน์กอ่ น และพอทุกตารางเมตร ต้นไม้ทุกต้น พืชทุกอย่างเกิดประโยชน์ ขึน้ มามีความสุขแน่นอน เงินเข้ามา อาหารเข้ามา ประโยชน์เข้า มาทุกอย่างเลย แล้วชีวติ ของเราก็มคี วามสุข เหมือนอย่างทีท่ า่ น ท�ำในเวลานี้ หลายแห่งเริม่ ท�ำขึน้ มาเหมือนกับจะใช้หลักการนีช้ วี ติ เราก็มภี มู คิ มุ้ กัน เลิกพูดทีเถอะครับว่าป่ากับคนอยูก่ นั ได้ ถ้าเรายัง ปลูกป่ากันอยู่อย่างนี้ มันอยู่ไม่ได้หรอกครับ มันไม่มีทาง ชีวิต คนเราไม่ใช่กินหน่อไม้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี แล้วมันไม่ออก ทั้งปีด้วย มันออกเฉพาะหน้าฝน แต่ท�ำอย่างไรให้ต้นไม้ทุกต้น พุ่มไม้ทุกพุ่ม สามารถสร้างปัจจัย 4 รวมทั้งเงินด้วยนะ และมันยัง คงอยู่ เพราะฉะนั้นเวลานี้ผมท�ำยังไงเวลาปลูกป่า อยากเอาไม้ ตามแฟชั่นก็เชิญปลูก แค่เอาไผ่เสียบไว้ เอาสมุนไพรเอาไว้ที่โคน ไปห้วยฮ่องไคร้ คุณจะเห็นว่าเขาเอาพริกไทยเกาะที่ต้นไม้ ไม่รู้ทุก 34

ผลิใบ

ตารางเอาเสียบเงินไว้เลย เสียบเงินไว้ให้หมด ถ้าสมุนไพรแตกขึ้น มาเก็บยอด เก็บใบขาย และอีกขัน้ หนึง่ ท�ำแห้งไว้ ท�ำบดไว้ ใส่ถงุ ไปขาย ว่ า งๆ ลองไปที่ แ ม่ ส อดไปบ้ า นมู เ ซอด� ำ ถ้ า ผมจ� ำ ไม่ ผิ ด บ้านห้วยปลาหลด เดิมเหมือนเหตุการณ์ทั่วไป เขาอยู่บนเขา เขาอยูท่ ไี่ หนเขาจะถางป่า ปลูกข้าวไร่ ปลูกสิง่ ทีจ่ ำ� เป็นต่อชีวติ ก็ตอ้ ง บริโภค คราวนี้นโยบายก็เลื่อนพวกเขามาอยู่ที่ตีนเขา ป่าข้างบน ก็โหว่เข้าไปเลย ป่าต้นน�ำ้ ก็หายไป แล้วมาอยู่ที่ตนี เขาก็ถางอีกแล้ว ไปทีไ่ หนมันต้องปลูกอะไรกิน ปรากฏว่าเสีย 2 แห่ง พระเจ้าอยูห่ วั ฯ ให้ติดป้ายไว้เลยนะ ถ่ายรูปไว้ด้วยซ�้ำ พระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จไปเยี่ยมเขาเมื่อปี 2520 กว่าๆ มาถึง วันนี้ 30 กว่าปี ทรงตรัสว่าระวังนะวันข้างหน้าจะอดน�้ำตายให้รีบ ไปปลูกป่า ท่านไม่ได้บอกนะว่าให้สร้างเขื่อนแต่ท่านบอกให้รีบไป ปลูกป่าข้างบนซะ ชีวิตจะได้รอด เขาบันทึกเอาไว้เลยว่ารับสั่ง อย่างไร แล้วตั้งแต่วันนั้นมาเขาถูกย้ายไปอยู่ข้างล่างแต่ทุกวัน เขาขึ้นไปปลูกบนยอดเขา เขาขึ้นไปปลูกทุกวันเลย ท่านครับวันนี้ ข้างบน เขาพาผมไปดูเป็นป่าทึบเลย แล้วใครอย่าไปแตะนะ เขาเข้าเวรรักษาไฟป่า วิ่งไปดับ บ้านนี้ไม่มีสระ ไม่มีที่เก็บน�้ำ มีล�ำธารเส้นหนึ่งผ่านหมู่บ้านเท่านั้น สิ่งไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นครับ แท็งก์ธรรมชาติอยู่บนยอดเขานั่นแหละครับคือป่า และเขาสร้าง ภูมิสถาปัตย์อย่างแท้แล้วกลายเป็นแท็งก์น�้ำธรรมชาติที่ระบาย ทยอยน�้ำมาให้ใช้ตลอดปี ผมมักจะเปรียบเทียบแบบคนไม่มีความ รู้อย่างผม บอกว่าน�้ำ มันเหมือนเงินเดือน เดือนหนึ่งมันมาหนหนึ่ง


แต่จะเกลี่ยใช้ตลอดทั้งเดือนได้ยังไง ฉันใดฉันนั้น น�้ำก็มา 3 เดือน อีก 9 เดือนจะท�ำอย่างไร ก็เกลี่ยไว้ใช้ให้ครบ 9 เดือนที่เหลือ หลัก การบริหารอย่าเปิดต�ำราว่าเลยปวดหัว หลักใหญ่ๆแค่นี้แหละครับ 100 หยดทั้งประเทศเก็บไว้เท่าไหร่ 8 หยด ไหวหรือ อีสานเก็บไว้ เท่าไหร่ที่บ่นแห้งๆ 3.2 หยดครับ แล้ววันนี้บ่น เขาว่าอีสานแล้งวัน นี้ยังท่วมเลยครับบางแห่ง จะบอกให้ทั้งอีสานนะครับ ปริมาณน�้ำ มากกว่าทุกภาคในประเทศไทย 245,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร แต่เก็บไว้ได้ 3 หยดแล้วบางทีอ้างว่าเก็บไม่ได้น�้ำมันซึม แต่ไปดูบา้ นลิม่ ทองแถวบุรรี มั ย์ บ้านแถวโคราช ใช้ภมู ปิ ญ ั ญา ชาวบ้านไม่ต้องอะไรเลย เอาควายที่เมื่อเช้าเขาถามผมไว้ว่าเอามา ด้วยหรือเปล่าเนีย่ พอขุดสระเสร็จปล่อยควายลงไป ให้มนั นอนกลิง้ มันอึมาเหยียบย�ำ่ เราไม่มเี ครือ่ งบูลโดเซอร์ไม่มเี ครือ่ งอัดดินใช่ไหม ใช้ควายอัด บอกว่าน้องควายช่วยหน่อยเถอะ ดินมันก็แน่นมันเก็บได้ ขุดเฉยๆ แน่นอนมันก็เก็บน�้ำไม่ได้หรอก และเวลานี้ความพิถีพิถัน ขุดสระมีทไี่ หน มาถึงจ้างรถขุดมาขุด เขาขุดอย่างคร่าวๆ แล้วท�ำให้ ดินแตก ท�ำให้น�้ำซึมมากขึ้นด้วย เขาไม่ได้ย�่ำ เขาไม่ได้คลุก ไม่งั้น ก็ตอ้ งจ่ายเพิม่ ขึน้ ไปอีก ท�ำแบบพิถพี ถิ นั ซิครับ รับรองว่าเก็บน�ำ้ ได้ครับ และเป็นน�ำ้ ทีด่ ดี ว้ ย เสร็จแล้ว มูลควาย จุลนิ ทรียอ์ ะไรต่ออะไรต่างๆ ก็เกิดขึน้ พอน�ำ้ ท่วมนีเ้ ป็นอาหารปลา พร้อมปล่อยปลาได้เลยอย่างนี้ เป็นต้น เล่าห้วยปลาหลดยังไม่หมด เขาอยู่อุดมสมบูรณ์เลยนะครับ ในพื้นที่เล็กในหุบ เขาพาผมไปดู อาจารย์ตอนนี้หน้าฝนนะ ผมใช้ เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง เศรษฐกิ จ พอเพี ย งไม่ ใ ช่ ไ ปสอนท� ำ เกษตร อย่างเดียว วิธคี ดิ ส�ำคัญกว่าครับ ค�ำแรกคือพอประมาณ พอประมาณ

คือท�ำประเมินอะไรเสียก่อน ประเมินสภาพแวดล้อมของตัวเองก่อน ตอนช่วงนี้หน้าฝนน�้ำเยอะ เพราะฉะนั้นมันโยงไปที่ Crop หรือว่า พืชพันธุ์ว่าจะปลูกอะไรดี เลือกปลูกผักที่มันแตกยอดเร็วเพราะ น�้ำเยอะ ผักขายยอดเฉยๆ เด็ดวันเว้นวันไปขายก็ได้ เดี๋ยวพอล่วง มาถึงหน้าหนาว หน้าหนาวน�ำ้ เริม่ ลดแล้ว เปลีย่ นเป็นพืชเมืองหนาว อายุ สั้ น เปลี่ ย นปลู ก พื ช ไปตามปริ ม าณน�้ ำ ที่ มี อ ยู ่ โ ดยประเมิ น เสียก่อน ประมาณตนคือประเมินเสียก่อนคือในตอนไหนแต่ละเดือน สภาพมันเป็นอย่างไร แล้วอย่าลืมล�ำธารนัน้ ยังอยูน่ ะครับ ช่วยพยุง ไว้ได้ พอเข้าหน้าแล้งปั๊บปลูกพืชหน้าแล้งไว้เลย จะเป็นหอม กระเทียมอะไรไม่รู้ เป็นหัวต้องการน�้ำน้อยหน่อย เอาวิดน�้ำรด เข้าไปมันก็อยูไ่ ด้แล้ว ชาวเขาเขาไม่ได้เรียนอะไรเลย เขารูจ้ กั บริหาร ตั้งแต่เขาสร้างป่าข้างบนนั้น บัดนี้ในล�ำธารน�้ำก็ไม่เคยเหือดแห้ง อีกเลย ไม่ตอ้ งขุดสระ เดีย๋ วนีผ้ มตัง้ เป็นพิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติเสียเลย เมื่อกี้นี้บอกว่าให้มีเครือข่าย ก็ให้กลุ่มจากมูเซอด�ำ เขาไปคุยกับม้ง ผมท�ำ ท�ำแล้วรอดแล้ว ท�ำไมเธอไม่ท�ำบ้างล่ะ เขาข้ามเขาไปอีก ลูกหนึ่งว่าพรุ่งนี้เขาจะไปคุยกับพวกกะเหรี่ยงหรือพวกอาข่า เขา เริ่ ม ชั ก จู ง กั น เอง เพราะพวกนี้ ชั ก จู ง ง่ า ยเพราะอะไร เขาเห็ น พระเจ้าอยู่หัวฯ บอกว่าเรื่องอย่างนี้อย่าไปอธิบายวิชาการเขาไม่เข้าใจหรอก ท�ำให้เขาดู พระองค์ท่านสอนอย่างนั้น เพราะฉะนั้นโครงการ พระราชด�ำริ แท้ทจี่ ริงเป็นบทเรียนครับ หลายคนดูวา่ พระเจ้าอยูห่ วั ฯ ไปช่วยชาวบ้าน แต่แท้ทจี่ ริงเป็นบทเรียนครับ สามพันสีพ่ นั บทเรียน ทัว่ ประเทศเลย ใครต้องการเรียนเรือ่ งน�ำ้ ไปเรียนจากโครงการจริงๆ ใครเรียนเรื่องพืช ใครเรียนเรื่องฟื้นฟูป่าไม้ต้องปลูกท�ำอย่างไร

35

ผลิใบ


สอนไว้หมดเลยแต่เราไม่ค่อยใช้ เรามองข้ามสิ่งต่างๆ เหล่านี้ แท้ที่จริงท่านก�ำลังไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนนั่นเอง คือน�ำเอาชีวิตให้ เรารอดและทรัพยากรที่เกี่ยวโยงกับชีวิตของเรา และบทเรียน สุดท้ายที่ผมได้จากมูเซอด�ำ เขากราบท่านครับในป่าที่ทางราชการ มาปลูกไว้ท่านไปดูกับผมหน่อย ผมไปถึง อาจารย์สมศักดิ์เราเรียน วนศาสตร์มานี่ ระดับสูงประมาณเกือบ 800 - 900 เมตรก็มี สนสองใบขึ้นเป็นป่าสวยมาก เป็นป่าสนสองใบเต็มเลย ชาวบ้าน เขาถาม อาจารย์ครับ เอาผมมาอยู่ในป่าสนสองใบเนี่ย ให้ผมกิน อะไรครับ ให้ต้มเปลือกสนกินหรือครับ หรือเก็บเม็ดสน คนมันอยู่ ร่วมไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าท�ำให้คนกับป่าอยู่กันได้ ต้องท�ำให้เกิด สภาพความเป็ น จริ ง ขึ้นมา จะอยู่โดยเงินที่ไ ด้จ ากรายได้ห รือ อยู่โดยตรงจากผลผลิตที่ได้จากป่านั้นให้พยุงชีวิตเขาได้ ให้มันเกิด ในภาพความเป็นจริงด้วย เขาจะต้องอาศัยป่าด�ำรงชีวติ อยูใ่ ห้ได้และ ที่ส�ำคัญคือป่าก็ยังอยู่อย่างยั่งยืน ผมจะเล่าตัวอย่างสุดท้ายสมเด็จพระเทพฯ เอาเมล็ดอะไรมา ให้ผมก็ไม่รู้ วิธสี อนงานแบบพระเจ้าอยูห่ วั ก็ดี สมเด็จพระเทพฯ ก็ดี ให้ใช้ขีดความสามารถของเราผสมลงไปด้วย ไม่อธิบายหมด ไปดูสิ เขาว่าเป็นน�้ำมันชา พอค�ำว่า ชาปั๊ป เราคิดว่า ชาชง ลุยเลย เค้าว่า มาจากเมืองจีนลองไปดูเอามาปลูกเมืองไทยสิ ไปลุยป่าชาอยู่ สวน ชาๆ ปลูกพืชเดียวเรียกสวนหมด ต้องแปลงสภาพเป็นป่าให้หมด นะครับจะได้อยู่ได้ แท้ที่จริงมันไม่ใช่หลังจากนั้นก็ไปบรรลุธรรม แถวหนานหนิงครับ แท้ที่จริงเป็นต้นไม้ ใหญ่ ออกลูกมากลมๆ แล้วกะเทาะข้างในเป็นเม็ด แล้วเม็ดนั้นเอามาหีบได้เป็น Virgin Oil และคุณสมบัติดีกว่า น�้ำมันมะกอก น�้ำมันมะกอกเป็นน�้ำมันมหัศจรรย์ของตะวันตก ปรากฎว่าน�ำ้ มันชานีเ้ ป็นน�ำ้ มันสวรรค์ของตะวันออกครับ สมเด็จ พระเทพฯ ไปเจรจากับจีน จีนทีแรกไม่ค่อยสนใจแต่เค้าขายแพง มากเป็นน�้ำมันชั้นสูงของเขา ปรากฏเอาเข้าห้อง Lab มีโอเมก้า 3 บ�ำรุงผิว โอเมก้า 6 บ�ำรุงหัวใจ โอเมก้า 9 บ�ำรุงสมอง โฆษณาไป ด้วยนะครับ ใครต้องการซือ้ ไปทีร่ า้ นภัทรพัฒน์ ทีร่ า้ นมีขายขวดละ 100 กว่าบาทเท่านัน้ สมเด็จพระเทพฯ บอกใช้ใส่ตงั้ แต่หวั ถึงเท้าเลย แล้วก็ใส่น�้ำมันสลัดกินได้เวลานี้ กุ๊กต่างๆ โรงแรมต่างๆ เริ่มเอาไป 36

ผลิใบ


ใช้แล้ว ปรากฏ Ionic acid ที่ล้างหลอดเลือด มีปริมาณที่สูงกว่า น�้ำมันมะกอกแต่คนยังไม่รู้จักก็เลยต้องโปรโมทต้นชาชนิดนีข้ นึ้ ใน พืน้ ทีส่ งู ตัง้ แต่ 1,200 เมตรขึน้ ไปเราก็กลัวนักวิชาการอย่างพีส่ มศักดิ์ มาต�ำหนิผมอีก ว่านี่มันไม่ใช่ตน้ ไม้ทอ้ งถิน่ ไปเอาต้นไม้ตา่ งประเทศ มาปลูก ขัดหลักใช่ไหมอาจารย์ ปรากฏว่าดอยอินทนนท์มีเต็มเลย คนไม่รู้จัก มันเป็นต้นไม้ดั้งเดิมของเรา ต้องพูดศัพท์เทคนิคหน่อย นะ Camellia อาจารย์ยืนยันใช่ไหม ดอยอินทนนท์มี เป็นต้นไม้ ดั้ ง เดิ ม ของเรา เราไม่ ค ่ อ ยสนใจ ไม้ ก็ ใ ช้ ไ ม่ ไ ด้ อ ะไรก็ ใ ช้ ไ ม่ ไ ด้ Camellia Oleifera Olive มันก็น�้ำมันในภาษาลาติน ที นี้ เ ราท� ำ ยั ง ไงเอาคนให้ อ ยู ่ ไ ด้ เ อาปลู ก น� ำ ไปก่ อ นเลย สมเด็จพระเทพฯ ขอมา 950,000 ต้น บอกการบินไทยว่าคราวนี้ เปลีย่ นเครือ่ งได้ไหมแอร์บสั ขนไม่หมด คราวนีเ้ อาจัมโบ้มาเลยและ ขอให้แวะเชียงรายด้วยจะได้เอาของลง แวะสักครึ่งชั่วโมงแล้ว บินต่อกลับกรุงเทพฯ ก็ขนมาเลยครับ เอาเม็ดมาเพาะปลูกชายแดน ขึ้นผลคือ 1) เราได้ป่ากลับคืนมา เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่สูง 7-8 เมตร น�ำไปก่อนเลย 2) เราได้คนรักป่า เพราะอะไร มันไม่ได้เป็นไม้สักที่คุณค่า อยู่ที่เนื้อไม้ ไม่ได้เป็นไม้อะไรที่ตัดกันล้างผลาญอยู่นี้ ไม่ใช่พยุง แต่มูลค่ามันอยู่ที่ลูกไม้ เพราะฉะนั้นเราแบ่งเลย ชุมชนนี้ 200 คน จะเอาสักกี่ไร่ เอาเลยเป็นเจ้าของเลย แต่ต้องใส่ปุ๋ยพรวนดินเอง ตั้งแต่วันปลูกก็ได้ค่าแรงแล้วมีแต่ได้กับได้ แล้วต้นไม้นี้เหมือน ต้นมะกอกอยูไ่ ด้เป็น 100 ปีครับ จนถึงลูกถึงหลานเลย เพราะฉะนัน้ เมื่อผลประโยชน์ไปอยู่ที่ลูก ระวังรักษากัน ไฟขึ้นนิดหนึ่งวิ่งกันไป ดับกันเลย เพราะอะไร รายได้มันหายต้องรักษาต้นไม้ให้ได้ จะได้ เก็บลูกมาขาย เพราะฉะนั้นเวลาฟื้นฟูป่ากับชุมชนที่อยู่ห่างไกลอย่างนี้ ต้องท�ำอย่างไร ให้มูลค่ามันอยู่ที่ใดสักแห่ง ที่เขารักต้นไม้น้ัน ลองไปดูสิครับแล้ววันหนึ่งให้เขาเป็นเจ้าของป่าเลย พอลูกชาออก มาก็เก็บของมาส่ง แล้วเรารับซื้อกิโลละ 20 บาท รวยไม่รู้เรื่อง แล้วนักวิชาการก็เข้าไปประกบอบรมให้ ตอนไหนจะต้องใส่ปุ๋ย ตอนไหนต้องลิดกิ่ง ตอนนั้นความหลากหลายทางชีวภาพก็เข้ามา เอาไม้อนื่ ผสมเข้าไป เราก็ได้ปา่ ต้นน�ำ้ ทีส่ มบูรณ์ ซึง่ ตามหลักคนอืน่

ก็ปลูกไม่ได้ เพราะว่าเป็นพื้นที่ต้นน�้ำโซน A อาจารย์ พอเจอโซน A ใครจะไปแตะไม่ได้นะ ก็เลยต้องใช้กรมป่าไม้เป็นตัวน�ำ ใช้เป็น โครงการวิจยั นีแ้ หละครับเป็นโครงการสร้างป่าอย่างยัง่ ยืนทีส่ ดุ เลย เป็นป่าที่ชาวบ้านไม่ตัดเหมือนต้นสัก ไม่ตัดเหมือนไม้มะค่า ไม้ที่มี ราคาทั้งหลาย เพราะมูลค่ามันไม่ได้อยู่ที่เนื้อไม้มันอยู่ที่ลูกไม้ และ ท�ำให้ชุมชนเข้มแข็ง เริ่มพัฒนาแล้วเอาเงินต่างๆ มาเป็นกองทุน หมู่บ้านท�ำประโยชน์ส่วนหนึ่ง เข้ากระเป๋าตัวเองส่วนหนึ่งอย่างนี้ ครับประโยชน์สุขเกิดขึ้นยิ้มได้ทั้งหมู่บ้าน จากชานี้ เห็นไหมครับ ป่าก็อยู่อย่างยั่งยืน

โดยสรุปตอนนี้จะท�ำอะไรนั้น ผมในฐานะไม่รู้ มีนิดเดียว ท�ำไปเถอะครับ คุณสมบูรณ์กบ็ อกขอให้คดิ ตามไปเถอะ พระเจ้าอยูห่ วั ฯ ก็บอกคิดตาม จะเอาต้นไม้ตน้ นีล้ ง ต้นไม้สงู มันมีอะไร ก็เอาต้นเดิม นั่นแหละลง พอเขยิบมาลงเตี้ยหน่อย มีต้นไม้อะไรก็ลง นั้นก็ใช้ ปัญญาแล้วส�ำเร็จไหม ส�ำเร็จ ความจริงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนะครับ แต่วา่ ทัง้ หลายทัง้ ปวงทีเ่ ราจะพูดในวันนี้ และเราจะพูดในบ่ายวันนี้ มีเรื่องส�ำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือ 1) คุณบังคับใจคุณได้ไหม คุณขอรวยอย่างยั่งยืนได้ไหม เราไม่ปฏิเสธความรวย เดี๋ยวหาว่าผมพูดฝืนโลกฝืนอะไรต่ออะไร รวยเอาเถอะ แต่ให้รวยยั่งยืนเถอะได้ไหม ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจนั้น เรารวยไม่รู้เรื่องนะครับ GDP11 กว่านะครับ 3 ปีซ้อนแล้วบึ้มเลย ฟองสบู่ รวยมันไม่ได้ตั้งบนฐานอะไรเลย NPL ก็ตามมาร่วม อย่างนั้นเขาเรียกว่ารวยไม่ยั่งยืน เราคงไม่ต้องการหรอก

37

ผลิใบ


2) เรารวยนัน่ เรารวยยัง่ ยืนไหม เรารวยจนถึงชัว่ อายุเราไหม ความรวยไปถึงลูกหลานเราไหม และต้นทุนความรวยของเรา ยังอยู่ไหมนั้นแหละครับ ง่ายๆ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ความยั่งยืน ป่ายังอยู่ เรายังอยู่ ลูกหลานเราอยู่ ทรัพยากรเราอยู่ และสภาพแวดล้อม เรานัน้ สะอาดไม่มมี ลพิษ น�ำ้ ยังใส นัน่ แหละครับเขาเรียกว่า “ความยัง่ ยืน” และสุดท้ายผมจะจบเหมือนท่านประธาน เหมือนอาจารย์ สมศักดิ์ อย่าท�ำคนเดียว มันไม่มพี ลัง มันเหงา มันน่าเบือ่ ชักชวนกัน ไปท�ำ รู้รักสามัคคี เรารู้แล้วเรามีความรัก ความเมตตาผลักดัน ให้เราท�ำ อย่าลืมสามัคคีคืออย่าเก่งคนเดียว รวบรวมกันเป็นกลุ่ม เป็นเหล่า ท�ำกันเป็นจุดเป็นจุด ทั้งประเทศท�ำอย่างนี้ ผมคิดว่า ประเทศไทยเป็นเมืองสวรรค์ครับและจะมีความผาสุกได้ตลอดไป อย่างยั่งยืนด้วย ขอบคุณมากครับ

38

ผลิใบ


Give and Share

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยสนับสนุนโครงการห้องสมุดอุปถัมภ์ เพือ่ มอบของขวัญอันทรงคุณค่าด้วยการส่งเสริมให้เยาวชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนวัฒนธรรมการอ่านให้กับโรงเรียนต่างๆ ดังรายนามต่อไปนี้ โรงเรียน

จังหวัด

โรงเรียน

จังหวัด

โรงเรียน

จังหวัด

โรงเรียนบ้านโกตาบารู

จ.ยะลา

โรงเรียนบ้านหมี่วิทยา

จ.ลพบุรี

โรงเรียนวรนารีเฉลิม

จ.สงขลา

โรงเรียนธีรวิทยา

จ.ยะลา

โรงเรียนพัฒนานิคม

จ.ลพบุรี

โรงเรียนวิเชียรชม

จ.สงขลา

โรงเรียนคณะราษฎรบำ�รุง

จ.ยะลา

โรงเรียนพระนารายณ์

จ.ลพบุรี

โรงเรียนวงศ์วิทย์

จ.สงขลา

โรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด

จ.ร้อยเอ็ด

โรงเรียนอนุบาลลพบุรี

จ.ลพบุรี

โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ

จ.สงขลา

โรงเรียนสตรีศึกษา

จ.ร้อยเอ็ด

โรงเรียนบรรจงรัตน์

จ.ลพบุรี

โรงเรียนบ้านหน้าควนลัง (ราษฎร์สามัคคี)

จ.สงขลา

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย

จ.ร้อยเอ็ด

โรงเรียนเมืองใหม่ (ชะลอราษฎร์รังสฤษฏ์)

จ.ลพบุรี

โรงเรียนพลวิทยา

จ.สงขลา

โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด

จ.ร้อยเอ็ด

โรงเรียนอนุบาลลำ�ปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์)

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนมหาวชิราวุธ

จ.สงขลา

โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 101เฉลิมพระเกียรติ จ.ร้อยเอ็ด

โรงเรียนเทศบาล 5 (บ้านศรีบุญเรือง) จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนบ้านนาทวี

จ.สงขลา

โรงเรียนชาติเฉลิม

จ.ระนอง

โรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนจุลสมัย

จ.สงขลา

โรงเรียนอนุบาลระนอง

จ.ระนอง

โรงเรียนเขลางค์นคร

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนเทศบาล 3 โศภนพิทยาคุณานุสรณ์

จ.สงขลา

โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร

จ.ระนอง

โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนอนุบาลสงขลา

จ.สงขลา

โรงเรียนอนุบาลระยอง

จ.ระยอง

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนอนุบาลสตูล

จ.สตูล

โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร"

จ.ระยอง

โรงเรียนบ้านใหม่รัตนโกสินทร์

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนกำ�แพงวิทยา

จ.สตูล

โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง จ.ระยอง 1

จ.ระยอง

โรงเรียนแม่เมาะวิทยา

จ.ลำ�ปาง

โรงเรียนวัดบางฝ้าย

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนระยองวิทยาคม

จ.ระยอง

โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์

จ.ลำ�พูน

โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนบ้านมาบตาพุด

จ.ระยอง

โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม

จ.ลำ�พูน

โรงเรียนสมุทรปราการ

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนวัดห้วยโป่ง (จันทร์ราษฎร์บำ�รุง)

จ.ระยอง

โรงเรียนอนุบาลลำ�พูน

จ.ลำ�พูน

โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนเซนต์โยเซฟระยอง

จ.ระยอง

โรงเรียนศรีสงครามวิทยา

จ.เลย

โรงเรียนราชประชาสมาสัย ฝ่ายมัธยม รัชดา

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนวัดป่าประดู่

จ.ระยอง

โรงเรียนเมืองเลย

จ.เลย

โรงเรียนราชประชาสมาสัยใน พระบรมราชูปถัมภ์

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนดำ�เนินวิทยา

จ.ราชบุรี

โรงเรียนอนุบาลเลย

จ.เลย

โรงเรียนอนุบาลวัดพิชยั สงคราม จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช)

จ.ราชบุรี

โรงเรียนเลยพิทยาคม

จ.เลย

โรงเรียนอนุบาลพระสมุทร เจดีย์

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนท่ามะขามวิทยา

จ.ราชบุรี

โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย

จ.ศรีสะเกษ

โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนอนุบาลราชบุรี

จ.ราชบุรี

โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ

โรงเรียนวัดบางโปรง

จ.สมุทรปราการ

โรงเรียนอนุบาลโพธาราม (ชุมชนวัดบ้านสิงห์)

จ.ราชบุรี

โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา

จ.ศรีสะเกษ

โรงเรียนท้ายหาด

จ.สมุทรสงคราม

โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์

จ.ราชบุรี

โรงเรียนบ้านกันทรารมย์

จ.ศรีสะเกษ

โรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย

จ.สมุทรสงคราม

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี

จ.ราชบุรี

โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล

จ.สกลนคร

โรงเรียนอนุบาลสมุทรสงคราม

จ.สมุทรสงคราม

โรงเรียนสายธรรมจันทร์

จ.ราชบุรี

โรงเรียนบ้านวานรนิวาส (ราษฎร์ บำ�รุง)

จ.สกลนคร

โรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ

จ.สมุทรสาคร

โรงเรียนโพธาวัฒนาเสนี

จ.ราชบุรี

โรงเรียนอนุบาลสกลนคร

จ.สกลนคร

โรงเรียนวัดท่าเสา

จ.สมุทรสาคร

โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ

จ.ลพบุรี

โรงเรียนน้ำ�พุงจัดระเบียบวิทยา

จ.สกลนคร

โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย

จ.สมุทรสาคร

โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์สองเหล่าสร้าง

จ.ลพบุรี

โรงเรียนจะโหนงพิทยาคม

จ.สงขลา

โรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร

จ.สมุทรสาคร

39

ผลิใบ


Membership แบบฟอร์มสมัครสมาชิก (สามารถถ่ายสำ�เนาได้) ชื่อ / สกุล …………............................................…………….......…………….. อายุ ………......................วันเกิด........................................................................... อาชีพ .....................………………………............................................................... หน่วยงาน ………………………........................................................................... สถานที่ติดต่อ ………………………. ……………………............................... รหัสไปรษณีย์ …………........……โทรศัพท์ …….......................................... โทรสาร ………....………อีเมล ...........…………………......................……....

GREEN INNOVATION มูลค่า 250 บาท

cover.pdf

1 31/3/2559

11:58:27

เติบใหญผลิใบ

หัวใจรักษสิ่งแวดลอ ปท่ี 22 ฉบับ ที่ 120 เดือ ม น,มกราคม-มี นาคม 2559

Eco Life

C

M

ฉบับ 120

Issue

Y

CM

MY

CY

CMY

K

English for Fun Eco not Ego

Animal Wond ers นักปลูกปาผูน า รัก

www.facebook.com/plib

วารสารย้อนหลัง

ai2012.tei

Let’s go Green Carbon Offset / Carbon Credit

cover_119_2.pdf 1 11/2/2559 11:25:59

ปที่ ๒๑ ฉบับที่ ๑๑๘ เดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๘

ปที่ 21 ฉบับที่ 119 เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558

ÃÇ‹ ÁÊà §Ê Green ÒŒ Soc §Ñ ¤Á iet

Recycle

ÂÕ Ç ue ÊàÕ ¢ Iss y

เติบใหญผลิใบ หัวใจรักษสิ่งแวดลอม

เติบใหญผลิใบ หัวใจรักษสิ่งแวดลอม

C

Reject

M

Y

CM

MY

Reuse

CY

CMY

K

Green Society

Repair

The Question Mark

ขวดกลับหัว

นํ้าหายไปไหน

Animal Wonders

IT Generation

“ลีเมอร” สัตวโลก (สีเขียว)

ฉบับ 119

cover_116 copy.pdf 11-Nov-14 10:36:55 AM

ตบิ ใ หญผ ล ปท ใิ บ

Think Tank สรางนักวิทย สูนักวิจัย

ฉบับ 118 อ แว ด ล หัวใจรักษสิ่ง

Do It Yourself

มหัศจรรยพลังนํ้า

Reduce

๘ ๒๕๕ ี่ ๒๑ าคม ฉบับที่ ๑๑๖ เดือนมกราคม-มีน

C

C

M

M

Y

Y

CM

CM

MY

MY

CY

CY

CMY

CMY

K

K

www.facebook.com/plibai2012.tei

ฉบับ 117

ฉบับ 116

www.facebook.com/plibai2012.tei

Green Energy

cover_117_2.pdf 1 30-Jun-15 10:40:07 AM

วารสารผลิใบ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย 16/151 เมืองทองธานี ถนนบอนด์ สตรีท ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0 2503 3333 โทรสาร 0 2504 4826-8 Email plibai.book@gmail.com

กระเป๋าผ้า

รับทันที

www.facebook.com/plibai2012.tei

สมัครสมาชิก ราย 1 ปี / 4 ฉบับ / 216 บาท (รวมค่าจัดส่ง) ราย 2 ปี / 8 ฉบับ / 432 บาท (รวมค่าจัดส่ง) สมาชิกสามัญเริ่มต้นฉบับที่ ……......…... ถึงฉบับที่ ...………..... สั่งซื้อวารสารย้อนหลัง ฉบับที่ …….........ถึงฉบับที่ ...………..... โครงการห้องสมุดอุปถัมภ์ (Give & Share) เริ่มต้นฉบับที่ ……...… ถึงฉบับที่ …........…... ห้องสมุดโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ ระบุเอง ชื่อโรงเรียน ………………………....................................................................... ที่อยู่ ………………………....................................................................................... ............................................................................รหัสไปรษณีย์ ………………… ต้องการให้วารสารผลิใบคัดเลือกโรงเรียนให้อำ�เภอ/จังหวัด ที่ ต้องการ ………………………............................................................. การชำ�ระเงิน เงินสด โอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองทองธานี บัญชี ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย” เลขที่บัญชี 147-1-13740-6

สมัครสมาชิกวารสารผลิใบ




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.