ปที่ ๒๐ ฉบับที่ ๑๑๔ เดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๗
ÒŒ §
³ Ø ¤ ¤ § Ö Ò‹ ÈÖ¡É ¶ § Ö ¹ Ó ¤ Ò¡‹Í ¹· Ô駢Ç
www.facebook.com/plibai2012.tei
สื่อสดใสเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปีที่ ๒๐ ฉบับที่ ๑๑๔ กรกฎาคม – กันยายน ๒๕๕๗ ต้นอ่อน ๓ CARTOON CLUB : รูจ้ กั Ego Label จากทัว่ โลก (ตอนที่ ๑) ๔ ฟุดฟิด FOR FUN : ศัพท์ขยะน่ารู้ ๖ สัตว์โลกชวนฉงน : กลิ่นพิฆาต ๘ ผลิใบ AROUND THE WORLD : ๒๖ มรดกโลกแห่งใหม่ (ตอนที่ ๑) ๑๑ ผลิใบ IT : App วิทยาศาสตร์น่ารู้ ๑๒ มุมสร้างสรรค์ (CREATIVE CORNER) : ของขวัญท�ำเองได้ ไม่ต้องซื้อ ๑๔ วิวัฒนาการ...สะท้านโลก : วิวัฒนาการบัตรประชาชน ๑๖ นิทานสีเขียว : ครอบครัวรักษ์โลก ๑๘ เรื่องเล่าเยาวชน : เสื้อผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ๒๑ จิตรกรรุ่นเยาว์ : ค�ำนึงถึงคุณค่า ศึกษาก่อนทิ้งขว้าง ๒๒ บันทึกเด็กพันธุ์ใหม่ : บ้านฉันกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ๒๓ เรื่องเล็กไม่น้อย : Recycle / Reuse ท�ำง่ายได้ประโยชน์
ต้นกล้า ๒๔ สนามนักคิด : อนุสรณ์ สายนภา ๒๖ นวัตกรรมล�้ำโลก : ม้านั่งอัจฉริยะ ๒๗ ผลิใบรีไซเคิล : กระดาษเหลือใช้ มีประโยชน์กว่าที่คิด ๒๘ On The Move : ผจญภัยในถ�้ำค้างคาว ๓๐ ปลูกเพื่อโลก : ปาระเบิดให้โลกสวย ๓๑ Green Product : กระดาษมูลช้าง ๓๒ นอกรั้ว น่ารู้ : Water Footprint ๓๔ เพลินกวี : คนสร้างป่า ป่าสร้างคน ๓๕ รู้ใช้ รู้คิด : พลังงานจากขยะ ๓๖ เกร็ดวิทย์ ติดขอบเล่ม : ค้างคาวตาบอดจริงหรือ? ๔๐ ASEANs’ GAME : ทิ้งฉันให้ถูกที่
วารสารผลิใบได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทวารสารที่มีเนื้อหาทั่วไปเหมาะสมกับเยาวชน ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๓๘ – ๒๕๓๙ จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ วารสารผลิใบได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในวารสารอ่านเพิ่มเติมส�ำหรับห้องสมุดโรงเรียน สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๔๒ วารสารผลิใบได้รางวัลดีเด่น ประเภทสื่อมวลชน รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๕๐ เจ้าของ : มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย บรรณาธิการอ�ำนวยการ : ศ.ดร. สนิท อักษรแก้ว บรรณาธิการบริหาร : ดร. ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : คุณกมนนุช สมบุญธวงษ์ บรรณาธิการ : ณชชน พชรชัยกุล กองบรรณาธิการ : ภัทรา จิตรานนท์ เลขากองบรรณาธิการ : ศิริรัตน์ จุลพฤกษ์ ออกแบบ : ณชชน พชรชัยกุล โรงพิมพ์ : หจก. สตาร์ กราฟฟิก (2555)
ส�ำนักงาน : วารสารผลิใบ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ๑๖/๑๕๑ เมืองทองธานี ถนนบอนด์สตรีท ต�ำบลบางพูด อ�ำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๐๓-๓๓๓๓ โทรสาร ๐-๒๕๐๔-๔๘๒๖-๘ อีเมล : sirirat@tei.or.th, benchaporn@tei.or.th เว็บไซต์ : www.tei.or.th Facebook : http://www.facebook.com/Plibai2012.Tei
ºÃóҸԡÒÃ
เปิดบ้าน ผลิใบ สวัสดีค่ะ ชาวผลิใบ ช่วงนี้ก็ เข้ า สู ่ ฤ ดู ฝ นอี ก แล้ ว น้ อ งๆ ต้องดูแลสุขภาพกันให้ดีนะคะ เพราะถ้า โดนฝนบ่อยๆ อาจจะเป็นหวัดได้ ทางที่ดีน้องๆ ควรเตรียมความพร้อมด้วยการพกร่ม หรือเสื้อกันฝน ติดกระเป๋าเอาไว้เสมอ นอกจากฝนแล้วก็ยังมีพายุต่างๆ เข้ามาอีก เราหลายคนคงได้ ยิ น ค� ำ ว่ า พายุ กั น มาตั้ ง แต่ เ ด็ ก แต่ ท ราบหรื อ ไม่ ค ะว่ า พายุ คืออะไร ...พายุ ก็ คื อ ลมที่ มี ก ารเคลื่ อ นที่ ไ ปอย่ า งรวดเร็ ว และรุ น แรงกว่ า ลมธรรมดาทั่ ว ๆ ไป เกิ ด ขึ้ น จากความแปรปรวนของลมฟ้าอากาศ ลมพายุจะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามต�ำแหน่งที่เกิดและอัตราความเร็ว อย่างพายุดีเปรสชั่นจะความเร็วลมสูงสุดไม่เกิน ๖๓ กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุโซนร้อน ความเร็วลมอยู่ที่ ๖๓-๑๑๗ กิ โ ลเมตรต่ อ ชั่ ว โมง ส่ ว นพายุ ที่ มี ค วามรุ น แรงที่ สุ ด ก็ คื อ พายุ ใ ต้ ฝุ ่ น จะมี ค วามเร็ ว ลมตั้ ง แต่ ๑๑๘ กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ส่วนชื่อของพายุต่างๆ ที่เราคุ้นเคยอย่างไต้ฝุ่น ไซโคลน หรือเฮอริเคนนั้นมีที่มา อย่างไร ...น้องๆ บางคนคงทราบ แต่พี่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบ ว่าพายุเหล่านี้ถูกเรียกชื่อตามแหล่ง ที่เกิดพายุนั่นเองค่ะ โดยถ้าเกิดพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้จะเรียกว่า “ไต้ฝุ่น” พายุที่ เกิ ด ในมหาสมุ ท รอิ น เดี ย และอ่ า วเบงกอลเรี ย กว่ า “ไซโคลน” พายุ ที่ เ กิ ด ในมหาสมุ ท ร แอตแลนติกเหนือแถบทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโกเรียกว่า “เฮอริเคน” พายุท่ีเกิดใน ประเทศฟิลิปปินส์เรียกว่า “บาเกียว” พายุที่เกิดที่สหรัฐอเมริกาเรียกว่า “ทอร์นาโด” แต่ถ้าพายุนี้ไปเกิดที่ออสเตรเลียก็จะมีชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า “วิลลี่ วิลลี่” พูดถึงเรื่องฝนฟ้าอากาศไปแล้ว ทีนี้เรามาเข้าเรื่องเนื้อหาในเล่มกันบ้างค่ะ เล่ ม นี้ พี่ ไ ด้ น� ำ เรื่ อ งราวความรู ้ แ ละความบั น เทิ ง มาฝากน้ อ งๆ มากมายเช่ น เคย เริ่ ม จากเรื่ อ งของ Eco Label ที่ ห ลายประเทศให้ ค วามส� ำ คั ญ ซึ่ ง เราจะมา ท�ำความรู้จักหน้าตาของฉลากชนิดนี้จากทั่วโลกในคอลัมน์ Cartoon Club จากนั้นมา Update เรื่องราวของมรดกโลกแห่งใหม่ที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโกที่มีเพิ่มมา อีก ๒๖ แห่ง และน้องๆ จะได้มาฝึกฝีมือท�ำตุ๊กตาถุงเท้าสุดน่ารัก เป็นของขวัญให้เพื่อน ในคอลัมน์ Creative Corner ด้วยวิธีท�ำแสนง่ายที่ใครก็ท�ำได้ ในเล่มยังมีเนื้อหาน่ารู้และสนุกสนานอีกมากมาย รอให้น้องๆ เปิดอ่านอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ ณชชน พชรชัยกุล (พี่เปิ้ล) notchana@tei.or.th
รู้จัก ECO LABEL จากทั่วโลก ตอนที่ ๑
ทีค่ ณ ุ ตาเคยบอกว่าให้ เลือกใช้สนิ ค้าทีม่ ี Eco Label เพราะดีตอ่ สิง่ แวดล้อม หนูอยากรูจ้ งั เลยค่ะว่าประเทศอื่นๆ เค้ามีฉลาก สิง่ แวดล้อมเหมือนบ้านเราหรือเปล่า แล้ ว หน้ า ตาฉลากของแต่ ล ะ ประเทศเป็นยังไงคะ
iPad
Cartoon Club
โดย กองบรรณาธิการ
จริงๆ Eco Label หรือฉลากสิง่ แวดล้อม มีใช้กนั ก่อนบ้านเราเสียอีก เกิดขึน้ ครัง้ แรกทีป่ ระเทศเยอรมนี และ ต่อมาก็แพร่หลายไปทัว่ เรื โลก่องเลซึง่ าวัเยาวชน นนีต้ าก็จะแนะน�ำให้หลาน ได้รจู้ กั กับฉลากสิง่ แวดล้อมของประเทศอืน่ ๆ บ้าง ไปดูกนั เลย
Asia Eco Label Carbon Footprint ประเทศญี่ปุ่น เป็นฉลากที่ระบุปริมาณก๊ า ซ คาร์บอนไดออกไซด์ ที่ถูก ปลอดปล่อยออกมาใน ขั้นตอนการผลิต ท�ำขึ้นเพื่อ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่ชั้นบรรยากาศ
Eco Mark ประเทศญี่ปุ่น เป็นฉลากทีใ่ ช้สำ� หรับผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพดี และมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมต�่ำกว่าผลิตภัณฑ์ ในประเภทเดียวกัน ริเริ่มโดย ส ม า ค ม สิ่ ง แ ว ด ล ้ อ ม ญี่ ปุ ่ น ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๘๙
Energy Coservation Cirtification ประเทศจีน เป็นฉลากเพื่อรับรองคุณภาพ แ ล ะ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ข อ ง ผลิตภัณฑ์ ว่ามีการใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Green Choice Philippines ประเทศฟิลิปปินส์ เริ่มต้นขึ้นในปี ๒๐๐๒ เพื่อ Chaina Environmental Taiwan Green Mark เรียกร้องให้ภาครัฐ ประชาชน labeling ประเทศจีน ประเทศไต้หวัน และสังคมฟิลิปปินส์ หันมาให้ มอบให้ กั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี ส ่ ง ท�ำขึน้ ในปี ๑๙๙๒ เพือ่ ส่งเสริม ความส�ำคัญกับปัญหาสิง่ แวดล้อม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต�่ำ การรี ไ ซเคิ ล การลดมลพิ ษ และก� ำ หนดมาตรฐานด้ า น ต ล อ ด วั ฏ จั ก ร ชี วิ ต ข อ ง และการอนุรกั ษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมให้กับสินค้าอุปโภค ผลิตภัณฑ์นั้น บริโภค ที่มา สยามพิวรรธน์. เขียวสยาม.: ส.เอเชียเพรส (๑๙๘๙) จ�ำกัด, ๒๕๕๗. (หน้า ๑๗๔).
Singapore Green Label ประเทศสิงคโปร์ ใช้ กั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ่ ว นใหญ่ ยกเว้ น ประเภทเครื่ อ งดิื่ ม อาหาร และยา เริ่มครั้งแรก เมื่อ ค.ศ. ๑๙๙๒
Eco Mark ประเทศอินเดีย เกิดขึน้ ในปี ๑๙๙๑ เพือ่ ตระหนัก ถึงความส�ำคัญของการอนุรักษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มให้ กั บ ประชาชน และผู้ผลิตสินค้า โดยก�ำหนด เกณฑ์ ด ้ า นสิ่ ง แวดล้ อ มให้ กั บ สินค้าอุปโภคบริโภคให้มคี ณ ุ ภาพ ตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของ อินเดีย มีต่อฉบับหน้า 3
ฟุดฟิด FOR FUN โดย : Jump Out
้ ู ร า ่ น ะ ย ข ์ ท ศัพ
ปั ญ หาระดั บ ชาติ ใ นยุ ค นี้ ค งหนี ไ ม่ พ ้ น เรื่ อ งปั ญ หาขยะ นั่ น ก็ เ ป็ น เพราะว่ า ในทุ ก ๆ กิ จ กรรมของมนุ ษ ย์ อ ย่ า งเรา ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดขยะทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ก็สามารถสร้างขยะได้ตั้งแต่ลืมตาดูโลก ถ้าเรียนรู้เรื่องขยะกันอย่างจริงจัง น้องๆ ก็จะทราบว่าขยะบนโลกเรานั้นมีมากมายหลายชนิด ซึ่งขยะแต่ละชนิดก็มีทั้ง เรอ่ืงเลาเยาวชน ประโยชน์และโทษ ดังนั้นก่อนจะทิ้งเราควรแยกประเภทขยะเสียก่อน เพื่อสะดวกต่อการน�ำไปรีไซเคิลนะครับ ฟุดฟิด For Fun ฉบับนี้พี่ Jump Out ก็ได้น�ำเอาค�ำศัพท์เกี่ยวกับขยะประเภทต่างๆ มาให้นอ้ งๆ ได้รจู้ กั โดยมีการ แบ่งแยกประเภทเอาไว้อย่างชัดเจน เพือ่ ให้งา่ ยแก่การจดจ�ำ ถ้าน้องๆ พร้อมจะท่องศัพท์แล้ว ก็เริ่มได้เลยครับ
Non-hazardous Waste ขยะที่ไม่เป็นอันตราย เปนขยะที่ไม่มีสารพิษ และเชื้อโรค
Industrial Waste ขยะอุตสาหกรรม Hazardous Waste ขยะอันตราย เปนขยะที่อาจมีสารพิษ ติดไฟหรือระเบิดงาย ปนเปอน ดวยเชื้อโรค เชน กากสารเคมี วัตถุไวไฟ ผลิตภัณฑที่หมดอายุ
Solid Waste ขยะมูลฝอย
ขยะนี้อาจเกิดขึ้นระหว่าง การน�ำวัตถุดิบมาแปรรูป เป็นสินค้า หรือระหว่างผลิตสินค้า
ที่มา พลังงานทดแทนจากขยะภายในบ้าน จาก : http://53011711152.blogspot.com/2012/09/blog-post_8108.html (วันที่ค้นข้อมูล : ๒๓ กันยายน ๒๕๕๗).
4
General Waste สวนใหญเปนพวก ขยะทั่วไป อินทรียวัตถุที่ยอยสลายได เช่น มูลสัตว เศษหญา เศษพืชผัก
เปนขยะที่อาจมีสารพิษ
Hazardous Waste ติดไฟหรือระเบิดงาย ขยะอันตราย ปนเปอนดวยเชื้อโรค เช่น ภาชนะบรรจุยาปราบศัตรูพืช
Agricultural Waste ขยะจากการเกษตร ไดแก พวกของแข็งหรือสิ่งปฏิกูล ที่เกิดจากกิจกรรมดานการเกษตรชนิดตางๆ
Refuse / Rubbish ขยะแห้ง General Waste ขยะทั่วไป ขยะที่มีอันตรายนอย
สิ่งเหลือใชที่มีความชื้นอยูนอย จึงไมกอใหเกิดกลิ่นเหม็น
Garbage ขยะเปียก เป็นขยะที่มีความชื้นอยู มากกวารอยละ 50 จึงติดไฟ ไดยาก
Community Waste / Municipal Solid Waste ขยะชุมชน เป็นขยะที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ในการดํารงชีวิตของมนุษย์
Household Agricult Waste ขยะที่เป็นอันตรายในบ้านเรือน เป็นขยะประเภทบรรจุภัณฑ์ สารเคมีต่างๆ หลอดไฟ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 5
สัตว์โลกชวนฉงน โดย : หนอนนักสืบ
...กลิ่นพิฆาต... สัตว์ตัวน้อยหน้าตาบ้องแบ๊วที่น้องๆ เห็นในภาพนี้ ไม่ใช่กระรอกน้อยแสนเชื่องที่เราเลี้ยงไว้ตามบ้านหรอกนะ ครับ เจ้าตัวนี้มนั มีชอื่ ว่า “สกังก์” เห็นหน้าตาน่ารักแบบนีแ้ ต่เชือ่ ไหมว่ามันมีพษิ สงรอบตัวชนิดทีเ่ รียกว่า ใครปองร้ายต้องมีอนั เป็น ไปทุกราย ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ถ้าบังอาจมายั่วโมโหเจ้าสกังก์ละก็ รับรองว่าจะโดนผายลมใส่ทุกรายไป หลายคนอาจจะคิดว่า ก็แค่ตด แป๊บเดียวก็หายเหม็น แต่ประโยคนี้ใช้กับสกังก์์ไม่ได้ครับ เพราะตดของสกังก์นั้นเหม็นมาก เหม็นทน เหม็นยาวนาน จนศัตรูของมันแทบลมจับถ้าโดนกลิ่นนี้เข้าไป พวกมันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใช้กลิ่นเป็นอาวุธ มันใช้กลิ่นอย่างมีประโยชน์ ถ้าหากรู้สึกว่าถูกคุกคาม ขั้นแรกมัน จะยกหางขึ้นเพื่อเป็นการหยั่งเชิงเท่านั้น เพราะสกังก์จะไม่ตดพร�่ำเพรื่อ นั่นก็เพราะว่าหากสกังก์ตดสารพิษออกมาแล้ว ต้องใช้ เวลาอีกเป็น ๑๐ วัน กว่าที่ร่างกายจะสร้างสารเหม็นนี้ให้เต็มต่อมอีกครั้ง แต่ถ้ายกหางโชว์ก้นขึ้นแล้วศัตรูยังไม่ไปหรือเข้ามา รุกรานมากกว่าเดิม บางตัวจะกระทืบเท้า ๓ ครั้งเป็นสัญญาณเตือนว่า “ฉันจะปล่อยกลิ่นแล้วนะ” สกังก์จะเตือนศัตรูหลาย ครั้งก่อนจะท�ำสงครามเคมี มันจะพ่นสเปรย์ที่ท�ำจากซัลเฟอร์แอลกอฮอล์ ออกมาจากต่อมเหม็นขนาดเท่าผลองุ่นที่ห่อหุ้มด้วย กล้ามเนื้อทวาร เมื่อถึงเวลาจ�ำเป็นมันจะบีบต่อมแล้วดันของเหลวออกมาเป็นสาย เล็งเป้าหมายไปที่ใบหน้าของศัตรู นาทีนั้น ถ้าศัตรูโดนสารพิษนี้เข้าไปจะทรมานมาก ทั้งแสบทั้งร้อนเป็นเวลานาน ที่ส�ำคัญเหม็นมาก หากโดนตาอาจท�ำให้ตาบอดไป ชั่วขณะ เจ้าสกังก์ก็จะใช้จังหวะนี้หลบหนีไปครับ (ยิ่งกว่าแก๊สน�้ำตาอีกนะเนี่ย) ที่ส�ำคัญกลิ่นของมันจะตราตรึงไปอีกนาน ในตดของสกังก์จะมีสารบิวทิล เมอร์แคปเทน เป็นส่วนประกอบ ซึ่งนอกจากจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงแล้ว ยังเป็นสาร อันตรายอีกด้วย กลิ่นของมันแพร่ออกไปได้ไกลเป็นกิโลเมตร และถ้าสารเหม็นนี้มาติดเสื้อผ้าเราเข้าละก็ ทิ้งไปได้เลยครับ เพราะกลิ่นของมันติดทนนานชนิดที่ซักไม่ออกเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อน!! ถ้าน้องๆ คิดว่ากลิน่ ของสกังก์์เหม็นทีส่ ดุ แล้ว...อย่าเพิง่ สรุปครับ ถ้ายังไม่รจู้ กั แทสเมเนียนเดวิล ทีเ่ ป็นม้ามืดเบียดเอาต�ำแหน่งตัวเหม็นชนะเลิศไปครอบครอง ส�ำหรับสกังก์นนั้ ระดับความเหม็นอยูแ่ ค่ตำ� แหน่งรองแชมป์เท่านัน้ ครับ ปัจจุบันที่สหรัฐอเมริกา ได้มีการน�ำเอาสกังก์มาเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้าน ซึ่งสกังก์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงนี้จะถูกสัตวแพทย์ตัดต่อม กลิ่นออก จึงไม่สามารถปล่อยกลิ่นท�ำร้ายใครได้อกี จะว่าไปแล้วถ้าตัดเรือ่ งกลิน่ พิฆาตออกไป ก็ถอื ว่าสกัง๊ เป็นสัตว์ทนี่ า่ รักไม่แพ้ สุนขั หรือแมวเลยนะครับ แต่สตั ว์เหม็นในโลกนีไ้ ม่ได้มแี ค่สกังค์กบั แทสเมเนียนเดวิลหรอกนะครับ ไม่เชือ่ ก็ลองไปดูการจัดอันดับ สัตว์ทเี่ หม็นทีส่ ดุ ในโลกกันครับ 6
๑๐ อันดับสัตว์ที่เหม็นสุดในโลก มนุษย์มปี ระสาทการดมกลิน่ ไวกว่าประสาทการรับรสถึง ๑๐,๐๐๐ เท่า จึงท�ำให้สามารถรับกลิน่ รอบตัวได้อย่างรวดเร็ว มีสตั ว์หลายชนิดที่ อาจจะส่งกลิน่ ได้ตลอดเวลา และสัตว์บางชนิดก็จะส่งกลิน่ เฉพาะโอกาสส�ำคัญๆ ของมันเท่านัน้ เช่น การแสดงความรัก การป้องกันตัว ฯลฯ แต่จะให้วัดระดับความเหม็นด้วยจมูกของเราเองก็คงจะดูล�ำเอียงเกินไป นักวิทยาศาสตร์จึงคิดค้นอุปกรณ์ที่ชื่อว่า สเมลโอมิเตอร์ (Smell-O-Meter) มาเป็นตัววัดระดับความเหม็น เครื่องมือนี้สามารถเปรียบเทียบความเหม็นของสัตว์แต่ละชนิดได้อย่างเที่ยงตรงแม่นย�ำ ซึง่ หลังจากท�ำการเปรียบเทียบกลิน่ ของสัตว์ชนิดต่างๆ มาแล้ว ก็จดั อันดับความเหม็นได้ดงั นีค้ รับ
๑๐ อันดับที่ ๑๐ เม่น กลิ่นของเม่นเกิดจากต่อม เหม็นบวกกับความขี้เกียจ ท� ำ ความสะอาดร่ า งกาย แต่ ก ลิ่ น เหม็ น ของมั น ก็ มี เสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม เม่นตัวผูจ้ ะเดินไปทัว่ ป่าเพือ่ ฉีแ่ สดงสัญญาณให้เพศเมีย รูว้ า่ มันพร้อมผสมพันธุแ์ ล้ว หรือเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ศัตรูเม่นจะปล่อยกลิน่ ออก มาเพือ่ ขับไล่ศตั รู
๕
อันดับ ๕ วัวมัสค์ ทัง้ ตัวใหญ่และขนดก แถม ไม่เคยอาบน�้ำเลย แค่นี้ก็ เหม็นจนน่าสะอิดสะเอียน แล้ ว แต่ มั น ยั ง มี ก ลิ่ น รุ น แรงไปกว่ า นั้ น เมื่ อ มี ความต้ อ งการทางเพศ เพราะยิ่งใช้กลิ่นมากเท่าไร สัญญาณก็ยงิ่ แรงขึน้ และ กลิ่นจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ ทางเพศมากขึน้
๗ ๙
อับดับ ๙ บีเวอร์ มั น จะใช้ ก ลิ่ น รุ น แรง เพื่อประกาศอาณาเขต โดยการท�ำบ้านเหม็น ของตัวเองขึน้ มา บ้าน เหม็นของมันท�ำขึ้นจาก โคลน ไม้ มูลบีเวอร์ และของเหลวที่ ส กั ด จากต่ อ มของบี เ วอร์ ที่ เรียกว่า แคสโทเรียม (Castoreum)
๔
อันดับ ๔ วูลฟ์ เวอรีน มีตอ่ มทวารขนาดใหญ่ที่ เต็ ม ไปด้ ว ยสารกลิ่ น เหม็น มันจะถูตวั ไปกับ ก้ อ นหิ น และต้ น ไม้ ยามเดิ น ผ่ า น มั น จะ เดิ น ทางไกลถึ ง ๒๐ ไมล์ ต ่ อ คื น เพื่ อ หา อาหาร กลิน่ ของมันจะ อบอวลอยู่ตามที่ต่างๆ ทีม่ นั ผ่านไป
๘
อันดับ ๘ วาฬเบลูก้า ตัว ของวาฬไม่ได้มีก ลิ่นเหม็น หรอกนะครับ แต่อาหารทีม่ นั กินเข้าไปในปริมาณมาก แต่มี กระบวนการย่อยทีช่ า้ จึงท�ำให้ ลมหายใจของวาฬเบลูกา้ มีกลิน่ เหม็ น รุ น แรงชนิ ด ที่ ใ ครที่ ไ ด้ สู ด ดมกลิ่ น ลมหายใจของมั น เข้าไปจะเกิดอาการช็อคได้
๓
อันดับที่ ๓ ไฮยีน่า มีกลิน่ เหม็นจากต่อมกลิน่ ของมัน เอง และจากซากเน่าเปือ่ ยทีก่ นิ เป็นอาหาร ไฮยีนา่ นัน้ พิเศษตรง ทีเ่ หม็นแบบ ๒ ระดับ เพราะ สารที่ให้กลิ่นเหม็นของมันท�ำ จากสารเคมี ส องชนิ ด คื อ ของเหลวหนาสีขาวทีจ่ ะหลัง่ ออก มาก่อน จะเหม็นไปนานหลาย สัปดาห์ อีกส่วนคือสารเหลวๆ สีดำ� ทีจ่ ะถูกเคลือบทับสีขาวอีกที มี ก ลิ่ น เหม็ น เพี ย งไม่ กี่ ชั่ ว โมง เท่านัน้
อันดับ ๗ สุนัขจิ้งจอกแดง มันจะใช้ฉี่ หรือสารที่ หลั่ ง จากต่ อ มเพื่ อ พ่ น หรือถูตามเขตแดนของ ตน เช่นเดียวกับสุนขั และแมว
๒ อันดับ ๒ สกังก์ มั น ขึ้ น ชื่ อ เรื่ อ งความ เหม็น เพราะมีกลิน่ เป็น อาวุธ (ข้อมูลหน้า ๖)
๖
อันดับ ๖ แมลงสติง๊ ค์บกั๊ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ แต่ถา้ พวกมั น ถู ก คุ ก คามเมื่ อ ไหร่ มันจะปล่อยกลิ่นฉุนรุนแรง เพื่อป้องกันตัวไม่ให้ตกเป็น อาหารของสัตว์อนื่ ของเหลว กลิ่นเหม็นชนิดนี้นอกจากจะ ท� ำ ให้ ร สชาติ ข องพวกมั น ไม่ อร่อยแล้ว ยังท�ำให้ศัตรูไม่ กล้าเอาปากเข้ามาใกล้ตัวมัน ด้วยซ�ำ้
๑
อันดับ ๑ แทสเมเนียนเดวิล ปกติ ตั ว มั น ไม่ มี ก ลิ่ น เหม็ น อะไร แต่ อ ย่ า ได้ ไ ปสร้ า ง ความเครี ย ดให้ มั น ที เ ดี ย ว เพราะถ้ า มั น เครี ย ดเมื่ อ ไหร่ มั น จะปล่ อ ยกลิ่ น รุ น แรงที่ ท� ำ ให้ ม นุ ษ ย์ รู ้ สึ ก วิ ง เวี ย น กลิน่ ของสัตว์ชนิดนีเ้ หม็นเสีย จนจมูกแทบหลุดเลยทีเดียว ครับ
ที่มา (๑) จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/สกังก์. (วันที่ค้นข้อมูล ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๗). (๒) จาก : http://exocticpetplus.com/wp-content/uploads/2014/01/Skunks-2.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๗). (๓) ภาพประกอบจาก : http://exocticpetplus.com/skunks-sale-2/. (วันทีค่ ้นข้อมูล ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๗).
7
Ar
oun d Th
e
Wo
rl d
ผลิใบ Around The World โดย : ณชชน พชรชัยกุล
๒๖
ตอนที่ ๑
เรารู้จักมรดกโลกกันดีแค่ไหน? ทราบหรือไม่ว่าปัจจุบันมีมรดกโลกอยู่กี่แห่ง? แล้วมีการคัดเลือกมรดกโลกอย่างไร? หลากหลายค�ำถามเหล่านี้ปลุกเร้าให้พี่ผลิใบต้องไปหาค�ำตอบมาฝากน้องๆ มรดกโลก ก็คือมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่มีความโดดเด่นจนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งคัดเลือก โดยองค์การยูเนสโก ซึ่งสถานที่ใดก็ตามเมื่อเป็นมรดกโลกแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ถือว่าเป็นมรดกของมนุษยชาติทั้งโลก โดยแบ่งได้เป็น ๒ ประเภทคือ มรดกโลกทางวัฒนธรรม และมรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งสถานที่ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับการ ปกป้องคุ้มครอง อนุรักษ์ และฟื้นฟู โดยละเว้นการด�ำเนินการใดๆ ที่อาจจะท�ำลายมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติทั้ง ทางตรงและทางอ้อม ฉบั บ นี้ Around The World จะพาน้ อ งๆ ไปท� ำความรู ้ จั ก กั บ มรดกโลกแห่ ง ใหม่ ท่ี เ พิ่ ง ได้ รั บ คั ด เลื อ กจาก คณะกรรมการมรดกโลกขององค์ ก ารการศึ ก ษาวิ ท ยาศาสตร์ แ ละวั ฒ นธรรมแห่ ง สหประชาชาติ ห รื อ ยู เ นสโก เมื่ อ วั น ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งมีด้วยกันถึง ๒๖ แห่ง เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ๑,๐๐๗ แห่ง ใน ๑๖๑ ประเทศ ๑. Erbil Citadel ตั้งอยู่ในจังหวัดเออร์บิล ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ประเทศอีรกั เป็นป้อมปราการทีต่ งั้ อยูบ่ นเนินรูปไข่ขนาดใหญ่ เป็นเหมือนเมืองชัน้ ในทีม่ ี ก�ำแพงก่อตัวสูง ๒๕-๓๐ เมตรล้อมรอบพืน้ ที่ ๑๐๒,๐๐๐ ตารางเมตร เกิดจากสิง่ ปลูกสร้าง ของคนทีอ่ าศัยอยูท่ นี่ ใี่ นแต่ละยุคสร้างทับถมกันซ�ำ้ ไปซ�ำ้ มา สร้างขึน้ ตัง้ แต่กอ่ นจักรวรรดิ อัสซีเรีย ประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช ๒. Tomioka Silk Mill and Related Sites ตัง้ อยูใ่ นจังหวัดกุนมะ ทางเหนือของ กรุงโตเกียว ประเทศญีป่ นุ่ ถูกสร้างขึน้ ในปี ๑๘๗๒ โดยรัฐบาลญีป่ นุ่ ซึง่ ถือเป็น จุดเริ่มต้นยุคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โรงทอผ้าแห่งนี้มีฟาร์มทดลองส�ำหรับการผลิต รังไหม โรงเย็นส�ำหรับเก็บไข่หนอนไหม โรงงานส�ำหรับการม้วนรังไหมและปัน่ ไหมดิบ และโรงเรียนส�ำหรับให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงหนอนไหม ที่ขับเคลื่อนให้ญี่ปุ่นกลายเป็น ผูส้ ง่ ออกไหมดิบชัน้ น�ำของโลก ๓. Van Nellefabriek สร้างขึน้ ในปี ๑๙๒๐ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมสแปนส์โปลเดอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โรงงานแห่งนีเ้ ป็น หนึง่ ในสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมและสถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ ๒๐ เป็นส่วนผสม ของโรงงานรูปแบบใหม่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของค่านิยมของความทันสมัยและความ เอนกประสงค์ในยุคสงครามภายใน และผ่านประวัตศิ าสตร์ของอุตสาหกรรมและการค้า อันยาวนานของเนเธอร์แลนด์
8
๔. Historic Jeddah, the Gate to Makkah ทีถ่ กู ขนานนามให้เป็นประตูสเู่ มกกะ ตัง้ อยูฝ่ ง่ั ตะวันออกของทะเลแดง ประเทศซาอุดอิ าระเบีย ก่อตัง้ ขึน้ ในช่วงศตวรรษที่ ๗ เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่สำ� หรับการค้าขายในมหาสมุทรอินเดีย สร้างด้วยสถาปัตยกรรม แบบเฉพาะตัว มีบ้านหอคอยซึ่งสร้างในยุคศตวรรษที่ ๑๙ และการผสมผสาน ธรรมเนียมการสร้างบ้านด้วยหินปะการัง เข้ากับแนวคิดและงานศิลปะที่ได้จากการ ค้าขาย ๕. Qhapac Ñan, Andean Road System เป็นเครือข่ายถนนเพือ่ การคมนาคม การค้า และการป้องกันของอาณาจักรอินคาในอดีต มีความยาวกว่า ๓๐,๐๐๐ กม. โดยเชือ่ มต่อ ระหว่างกรุงคุสโก เมืองหลวงของอาณาจักรอินคา กับ ๖ ประเทศในอเมริกาใต้ต่ งั้ แต่ โคลอมเบียทางตอนเหนือ ลงมาถึงอาร์เจนตินา ผ่านเอกวาดอร์ เปรู และโบลิเวีย สูช่ ลิ ี ทางตอนใต้ สร้างขึ้นโดยชาวอินคาเมื่อหลายร้อยปีก่อน เส้นทางสายนี้เป็นหนึ่งใน เส้นทางทีม่ สี ภาพภูมปิ ระเทศหฤโหดทีส่ ดุ ในโลก ตัดผ่านป่าฝนเขตร้อน หุบเขา และ ทะเลทราย เชือ่ มต่อกับยอดเขาสูงของเทือกเขาแอนดีสไปจนถึงพืน้ ทีช่ ายฝัง่ ๖. Carolingian Westwork and Civitas Corvey ตัง้ อยูร่ มิ แม่นำ้� เวเซอร์ ชานเมือง เฮิร์กสตา ประเทศเยอรมนี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. ๘๒๒-๘๘๕ ในยุคราชวงศ์ Carolingian โบสถ์แห่งนีเ้ ป็นหนึง่ ในสถาปัตยกรรม Carolingian ทีม่ คี วามส�ำคัญทีส่ ดุ นับเป็นผลงานสร้างสรรค์และการแสดงออกเชิงสถาปัตยกรรม การตกแต่งสะท้อนให้ เห็นถึงบทบาททางศาสนาและการปกครองในจักรวรรดิ Frankish อย่างชัดเจน ๗. Namhansanseong เป็ น เมื อ งหลวงส� ำหรั บ กรณี ฉุ ก เฉิน ของราชวงศ์ โ ชซอน (ค.ศ. ๑๓๙๒-๑๙๑๐) ตัง้ อยูใ่ นพืน้ ทีภ่ เู ขาห่างจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ไปทาง ตะวันออกเฉียงใต้ราว ๒๕ กม. สามารถรองรับคนได้ถงึ ๔,๐๐๐ คน เมืองนีเ้ ป็นการ รวมแนวคิดด้านวิศวกรรมของกองทัพในยุคนัน้ เข้าด้วยกัน โดยได้รบั อิทธิพลจากทัง้ จีน และญีป่ นุ่ Namhansanseong เป็นเมืองทีม่ ผี อู้ ยูอ่ าศัยทุกยุคสมัย และเคยเป็นเมืองเอกมา เป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งอธิปไตยของเกาหลีใต้ ๘. The Grand Canal เป็นระบบเส้นทางน�ำ้ ขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตอนกลางของภาคตะวันออกของประเทศจีน พาดผ่านตัง้ แต่กรุงปักกิง่ ในภาคเหนือ ไปจนถึงมณฑลเจ้อเจียงในภาคใต้ การก่อสร้างเริ่มต้นเมื่อ ๕๐๐ ปีก่อนคริสตกาล เป็นต้นมา และถูกใช้เพือ่ เป็นเส้นทางการสือ่ สารเป็นครัง้ แรกในศตวรรษที่ ๗ (สมัย ราชวงศ์สยุ ) ต่อมาในศตวรรษที่ ๑๓ แกรนด์ คาแนล ถูกพัฒนาจนมีความยาวโดยรวม มากกว่า ๒,๐๐๐ กม. เชือ่ มต่อกับแม่นำ�้ ส�ำคัญของจีน ๕ สาย ๙. Silk Roads: Initial Section of the Silk Roads, the Routes Network of the Tian-shan Corridor เป็นทางสายไหมในช่วงเริม่ ต้น มีความยาว ๕,๐๐๐ กม. ตั้งแต่เมืองฉางอานหรือเมืองลั่วหยาง เมืองหลวงของจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่นและถัง ไปจนถึงภูมภิ าคเซ็ตติซใู นเอเชียกลาง สร้างขึน้ ในช่วง ๒๐๐ ปีกอ่ นคริสตกาลจนถึง ศตวรรษที่ ๑ และถูกใช้เรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ ๑๖ ถนนสายนี้เชื่อมต่อกับหลาย ประเทศท�ำให้การค้าขายกับดินแดนห่างไกลสะดวกสบายยิง่ ขึน้
9
๑๐. Rani-ki-Vav (the Queen’s Stepwell) at Patan, Gujarat ตัง้ อยูใ่ นเมืองปาตัน รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ใกล้แม่นำ�้ สาระสวาตี สร้างขึน้ เพือ่ เป็นอนุสรณ์สถานแด่ กษัตริยพ์ มิ เทพที่ ๑ (Bhimdev I) แห่งราชวงศ์โสลันกี ในศตวรรษที่ ๑๑ บ่อน�ำ้ แห่งนี้ เป็นระบบกักเก็บและแหล่งน�ำ้ ใต้ดนิ ทีม่ ลี กั ษณะโดดเด่น ค่อยๆ ถูกพัฒนามาตลอดตัง้ แต่ ยุค ๓,๐๐๐ ปีกอ่ นคริสตกาล จากตาน�ำ้ ใต้ดนิ จนกลายเป็นงานศิลป์และสถาปัตยกรรม ทีม่ คี วามสูงหลายชัน้ ในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์มารุ-คุชรา โดยแบ่งออกเป็น ๗ ชัน้ ประกอบด้วยประติมากรรมมากกว่า ๕๐๐ ชิ้น ภาพทางศาสนาและเทพเจ้ารวมกว่า ๑,๐๐๐ ชิน้ ๑๑. Pyu Ancient Cities รวมไปถึงอิฐ ๓ ก้อน ก�ำแพง และคูนำ�้ รอบเมือง ทีเ่ มือง หะลิน มองกะโม้ และศรีเกษตร ตัง้ อยูใ่ นบริเวณส่วนแห้งของลุม่ น�ำ้ อิรวดี ประเทศพม่า เมืองเหล่านีส้ ะท้อนให้เห็นอาณาจักรพยูทเี่ คยรุง่ เรืองนานกว่า ๑,๐๐๐ ปี ระหว่างยุค ๒๐๐ ปีกอ่ นคริสตกาล จนถึง ค.ศ. ๙๐๐ เมืองทัง้ สามเป็นส่วนหนึง่ ของสถานทีข่ ดุ ค้น ทางโบราณคดี โดยมีการค้นพบส่วนของป้อมปราการราชวัง ลานทีถ่ กู ฝัง รวมถึงสถูป อิฐของพุทธศาสนา ก�ำแพงอิฐ และระบบจัดการน�ำ้ ๑๒. Decorated Cave of Pont d’Arc, known as Grotte Chauvet-Pont d’Arc, Ardeche ตัง้ อยูบ่ ริเวณแม่นำ�้ Ardeche ประเทศฝรัง่ เศส เป็นภาพผนังถ�ำ้ ทีถ่ กู รักษาไว้ ในสภาพสมบูรณ์และเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุย้อนไปถึงยุค Aurignacian หรือ ๓๐,๐๐๐-๓๒,๐๐๐ ปีกอ่ นคริสตกาล ซึง่ เป็นหลักฐานของศิลปะยุคก่อนประวัตศิ าสตร์ชนั้ ยอด ถ�ำ้ แห่งนีถ้ กู ปิดเนือ่ งจากหินถล่มเมือ่ ประมาณ ๒๐,๐๐๐ ปีกอ่ นคริสตกาล จนกระทัง่ ถูก ค้นพบในปี ๑๙๙๔ ภายในถ�ำ้ ประกอบไปด้วยภาพเขียนบนผนังถ�ำ้ กว่า ๑,๐๐๐ ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพของมนุษย์และสัตว์ เช่น ช้างแมมมอธ หมี แมวป่า แรด กระทิงไบซัน และวัวป่า ภาพเหล่านีแ้ สดงให้เห็นถึงเทคนิค ทักษะการใช้สี การผสมผสานระหว่างการ วาดและการแกะลาย ความเทีย่ งตรงทางกายวิภาค การเขียนภาพ ๓ มิติ และภาพ เคลือ่ นไหว ภายในถ�ำ้ ยังมีซากดึกด�ำบรรพ์ของสิง่ มีชวี ติ ก่อนประวัตศิ าสตร์รวมถึงรอยเท้า มนุษย์โบราณจ�ำนวนมากด้วย ๑๓. Shahr-i Sokhta ตั้งอยู่ที่จังหวัดซิสถานและบาลูคิสถาน ในภาคใต้ของอิหร่าน ติดแม่น�้ำเฮลมานด์ ถูกค้นพบในช่วงต้นยุคปี ๑๙๐๐ จากหลักฐานพบว่าเมืองนี้มีอายุ ย้อนไป ๓,๒๐๐ ปีก่อนคริสตกาล มีขนาด ๑๕๑ เอเคอร์ นับเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ ที่สุดในโลกในยุคทองแดง Shahr-i Sokhta ได้รับชื่อนี้เนื่องจากมันถูกเผาท�ำลายถึง ๓ ครั้ง ก่อนจะถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิงเมื่อ ๒,๑๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ๑๔. The Vineyard Landscape of Piedmont: Langhe-Roero and Monferrato สถานที่แห่งนี้ครอบคลุมไร่องุ่นที่มีภูมิทัศน์โดดเด่น ๕ แห่ง รวมทั้งปราสาทแห่ง Cavour ตั้งอยู่ในภาคใต้ของแคว้น Piedmont ระหว่างแม่น�้ำ Po กับเทือกเขา Appenines ไร่แห่งนี้ได้รับการบุกเบิกตั้งแต่ช่วง ๕๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ภูมิภาคของ Piedmont ถือเป็นหนึ่งในภูมิประเทศที่ดีที่สุดในการปลูกองุ่นในอิตาลียุคโบราณ
10
(๑) 26 NEW WORLD HERITAGE SITES INSCRIBED IN 2014 จาก : http://en.unesco.org. (๒) จาก : http://www.thaiwhic.go.th. (๓) ภาพประกอบจาก : http://www.unesco.org/new/en/media-services/multimedia/photos/photos-for-the-new-inscriptions-2014. (๔) ภภาพประกอบจาก : http://ancientstandard.com/2007/04.
(วันทีค่ น้ ข้อมูล (วันทีค่ น้ ข้อมูล (วันทีค่ น้ ข้อมูล (วันทีค่ น้ ข้อมูล
: : : :
๑ ๑ ๑ ๑
กรกฎาคม กรกฎาคม กรกฎาคม กรกฎาคม
ทีม่ า ๒๕๕๗). ๒๕๕๗). ๒๕๕๗). ๒๕๕๗).
ผลิใบ IT
โดย : ทันโลก
ในชีวิตประจ�ำวันของเรานั้นล้วนมีความเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น ถ้าน้องๆ เป็นคนช่างสังเกตสักนิดก็จะรู้ว่า ทุกย่างก้าวของเราจะพบเจอกับวิทยาศาสตร์ได้ตลอดเวลา ผลิใบฉบับนี้จึงได้น�ำ Application สนุกๆ ที่จะมอบความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ในรูปแบบทีไ่ ม่จำ� เจ มาแนะน�ำให้นอ้ งๆ ได้รจู้ กั รับรองว่าถ้าได้ลองเล่นแล้วจะได้ทงั้ ความสนุกและความรูแ้ น่นอนครับ The Chemical Touch เป็ น โปรแกรมที่ ช ่ ว ยให้ นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทางเคมีต่างๆ โดย เราสามารถที่จะทดลองผสมเคมีต่างๆ ดู เพื่อเรียนรู้ องค์ประกอบของธาตุตัวนั้นๆ โปรแกรมยังจะให้ของมูล และรายละเอียดผ่านทาง Wikipedia อีกด้วย https://itunes.apple.com/us/app/chemicaltouch-lite-edition/id300111574?mt=8 SimplePhysics เป็นเกมในการสร้างอาคาร ตึก โดย น้องๆ จะได้ออกแบบอาคารและโครงสร้าง พร้อมกับ ท�ำการทดสอบ เป็นเกมที่ท้าทาย ที่จะให้ผู้เล่นคิดและ ออกแบบอาคารให้แข็งแรงและสวยงามได้ด้วยตัวเอง ด้วยหลักการทางฟิสิกส์ http://android.mob.org/game/simplephysics.html Solar Walk เป็ น การเรี ย นรู ้ เ กี่ ย วกั บ ระบบ สุริยจัก รวาล ดูก ารโคจรของดวงดาวต่างๆ และ ทางช้างเผือก น้องๆ จะได้เรียนรูข้ อ้ มูลต่างๆ เกีย่ วกับ โลกและดวงดาว เช่ น น�้ ำ หนั ก ขนาดเส้ น ผ่ า ศูนย์กลางของโลก ฯลฯ https://play.google.com/store/apps/ details?id=com.vitotechnology.SolarWalkFree Bobo Explores Light เป็นโปรแกรมเชิงวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม ส�ำหรับเด็กอายุ ๔-๑๒ ปี เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจทาง วิทยาศาสตร์ เช่น เลเซอร์ สี ภาพ ๓ มิติ และอืน่ ๆ อีกมากมาย https://itunes.apple.com/en/app/boboexplores-light/id463809859?mt=8 ทีม่ า (๑) จาก: (๒) จาก: (๓) จาก: (๔) จาก:
http://software.thaiware.com/1763-HappyBook-App.html. (วันทีค่ น้ ข้อมูล ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๗) https://itunes.apple.com/us/app/simplephysics/id408233979?mt=8. (วันทีค่ น้ ข้อมูล ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๗) http://forums.thoughtsmedia.com/f387/solar-walk-ipad-98213.html. (วันทีค่ น้ ข้อมูล ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๗) http://thenextweb.com/apps/2011/09/28/bobo-explores-light-is-perhaps-the-most-fun-kids-can-have-learning-on-the-ipad/. (วันทีค่ น้ ข้อมูล ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๗)
11
ของขวัญ
iPad
มุมสร้างสรรค์ (Creative Corner) โดย : นักประดิษฐ์
ท�ำเองได้ไม่ต้องซื้อ
ใกล้ถึงวันเกิดเพื่อนรักเข้าไปทุกที นักประดิษฐ์อย่างเราก็คิดๆๆๆ ว่าจะซื้ออะไรให้เพื่อนดี.. คิดไปคิดมาก็ได้ไอเดียว่า จะให้ของขวัญเพื่อนรักทั้งที ท�ำไมไม่ท�ำเองล่ะ เพื่อนจะได้ปลื้ม ว่าแต่จะท�ำอะไรน่ะเหรอ ในคลังไอเดียของนักประดิษฐ์มีอยู่ มากมายเลยละ และแล้วก็เลือกมา ๑ ไอเดีย เป็นตุ๊กตาถุงเท้าแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ท�ำได้ นอกจากจะน่ารักไม่ซ�้ำใครแล้ว ยัง ประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย เพื่อนๆ ยังสามารถชวนคุณแม่มาท�ำด้วยกันได้ด้วยนะคะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
วชน
เตรียมให้พร้อม
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๑. ถุงเท้าสั้น (ที่ใส่แล้วไม่เอานะจ๊ะ เดี๋ยวผู้รับจะไม่ประทับใจ) สีสันตามชอบ ๒. ปลอกแขนสีเนื้อ หรือสีขาว ๓. ไหมปักสีแดง และสีด�ำ (ส�ำหรับท�ำผมจะใช้ไหมพรมแทนก็ได้) ๔. เข็ม (ขนาดใดก็ได้ตามถนัด) ด้าย (สีเข้ากับถุงเท้า) ๕. กระดุมหลากสี ๖. ใยสังเคราะห์ ๗. กรรไกร ๘. ลูกปัดสีด�ำขนาดเล็ก
ลงมือทำ� ๑ ตัดถุงเท้าออกจากกันเป็นสองส่วน โดยแบ่งส่วนของปลายเท้าเอาไว้สำ� หรับท�ำหมวก ส่วนด้านทีเ่ หลือเอาไว้ทำ� ตัว ๒ ส่วนทีจ่ ะท�ำตัวตุก๊ ตา ใช้กรรไกรตัดแยกออกจากกันลึกประมาณ ๑-๑.๕ เซนติเมตร เพือ่ ให้ดเู หมือนขาแยกออกจากกัน ๓ เย็บส่วนทีเ่ ป็นขาติดกันด้วยวิธดี น้ ถอยหลังตามรอยประ (ดูวธิ กี ารด้นถอยหลังจากล้อมกรอบ) ๔ กลับตะเข็บออก จะได้ตวั ตุก๊ ตาทีม่ ขี าดังรูป อ๊ะ!!! แต่ยงั ขาดแขนค่ะ เราจะต้องมาท�ำแขนกันต่อ ๕ ใช้ดา้ ยสีใกล้เคียงกับถุงเท้าเย็บแบบด้นถอยหลังตามรอยประทัง้ สองข้าง จะได้เป็นเหมือนกับแขนก�ำลังล้วงประเป๋า ๖ ยัดใยสังเคราะห์ลงไปให้แน่น จะได้ตวั ตุก๊ ตาอ้วนกลม ๗-๑๐ น�ำปลอกแขนมาตัดยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร แล้วเนารูดตามรอยประ (ดูวธิ กี ารเนารูดจากล้อมกรอบ) ๑๑ ยัดใยสังเคราะห์ลงไปให้แน่น จัดให้เป็นทรงกลมแล้วเย็บปิด ๑๒-๑๓ น�ำหัวมาเย็บต่อกับส่วนของตัว โดยเปิดส่วนของคอเสือ้ ออกเล็กน้อยแล้วเย็บเพือ่ ไม่ให้เห็นรอยต่อ (ดังรูป ๑๒) ๑๔-๑๖ ใช้ใหมปักสีแดงปักเป็นปาก จะให้เป็นขีดตรงๆ ยิม้ หรือแบบไหนก็ได้ตามชอบ แต่ทสี่ ำ� คัญต้องเย็บลงมาจากกลางหัว เพราะจะเป็นการซ่อนปมไหมไว้ใต้ผมอักที จากนัน้ ใช้ไหมสีดำ� ปักเป็นลูกตาซึง่ รูปแบบก็ตามชอบเช่นกัน ๑๗ ใส่ตาด�ำให้นอ้ งตุก๊ ตาด้วยการปักลูกปัดลูกเล็กๆ ลงไป (จะท�ำให้ดมู ชี วี ติ มากขึน้ ) ในทีน่ เี้ ราปักให้เหมือนกับก�ำลังเหลือบมอง ๑๘-๑๙ น�ำเส้นไหมมาผูกแบ่งครึง่ เพือ่ ท�ำเป็นผม จากนัน้ น�ำมาติดกลางศีรษะ แล้วเย็บด้วยไหมสีดำ� ติดกับหัวให้แน่น ๒๐ น�ำส่วนปลายถุงเท้ามาครอบทับเป็นหมวก แล้วเย็บติด เท่านีก้ เ็ สร็จแล้วค่ะ **ส�ำหรับการปักหน้าตาและตกแต่งอืน่ ๆ สามารถท�ำได้ตามใจชอบเลยค่ะ จะหน้าตี๋ หมวย ตกใจ ร่าเริง ก็ตามแต่จนิ ตนาการ ของเพือ่ นๆ นะคะ 12
เย็บตามรอยประ
๑
๒
๓
๔
เนารูดตามรอยประ
เย็บตามรอยประ
๕
๖
๗
๙
๑๐
๑๑
๑๓
๑๔
๑๕
๑๗
๑๘
๘
๑๒
๑๖
๑๙
๒๐
ดูแล้วเหมือนจะยาก แต่พอท�ำแล้วไม่ยากอย่างทีค่ ดิ ใช่ไหมคะ ถ้าเพือ่ นๆ ท�ำออกมาน่ารักก็ลองโพสต์ขายใน Internet หรือขายตามงานต่างๆ (นักประดิษฐ์ทำ� ขายมาแล้วนะ) อาจจะเป็นรายได้เสริมให้กบั เพือ่ นๆ ก็ได้คะ่ อ้อ!!! ถ้าท�ำเป็นคูช่ ายหญิงก็จะ น่ารักไปอีกแบบนะคะ วิธกี ารท�ำก็เหมือนกัน แค่เปลีย่ นทรงผมกับไม่มขี นตาเท่านัน้ ค่ะ ส�ำหรับฉบับหน้านักประดิษฐ์สญั ญาว่าจะหาไอเดียดีๆ มาฝากเพือ่ นๆ อีกแน่นอนค่ะ
ล้อมกรอบ การด้นถอยหลัง
การเนา
Finish 13
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการสะท้านโลก โดย : ดาร์วิน
บัตรประจำ�ตัวป ะ ร ชาชน
คนไทยทีม่ อี ายุตงั้ แต่ ๗ ปีบริบรู ณ์จำ� เป็นจะต้องมีบตั รประจ�ำตัวประชาชน ทัง้ นีก้ เ็ พือ่ ยืนยันตัวบุคคลนัน้ ๆ และเป็นเอกสารทีม่ คี วามส�ำคัญกับการด�ำเนินชีวติ ของทุกคน เป็นอย่างมาก เพราะเราต้องใช้บตั รประจ�ำตัวประชาชนในการติดต่อ หรือท�ำธุรกรรมทุกอย่าง เราทุกคนรูจ้ กั บัตรประชาชนกันเป็นอย่างดี แต่คงจะมีนอ้ ยคนทีท่ ราบว่าตัวเลข ๑๓ หลักประจ�ำตัวเรานัน้ แต่ละหลักหมายถึง อะไรบ้าง วันนีพ้ ดี่ าร์วนิ จะมาให้ความรูเ้ รือ่ งเลขบัตร รวมถึงวิวฒั นาการของบัตรประจ�ำตัวประชาชนว่ามีทมี่ าทีไ่ ปอย่างไร ไปดูกนั เลยครับ ตัวเลขหลักที่ ๑ หมายถึงประเภทบุคคล ซึง่ มีอยู่ ๘ ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ ๑ คือ เด็กคนใดก็ตามทีเ่ กิดตัง้ แต่วนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นต้นไป เมือ่ ผูป้ กครองไปแจ้งเกิดที่ อ�ำเภอหรือส�ำนักทะเบียนในเขตทีอ่ ยูภ่ ายใน ๑๕ วัน นับแต่เกิด เด็กคนนัน้ ก็ถอื เป็นบุคคลประเภท ๑ และจะมีเลขประจ�ำตัวขึน้ ด้วยเลข ๑ ประเภทที่ ๒ คือ เด็กคนใดก็ตามทีเ่ กิดตัง้ แต่วนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นต้นไป แล้วผูป้ กครองไม่ไปแจ้งเกิดที่ อ�ำเภอหรือเขตภายใน ๑๕ วันตามก�ำหนด เมือ่ ไปแจ้งภายหลังเด็กคนนัน้ ก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท ๒ มีตวั เลขตัวแรกใน ทะเบียนบ้านขึน้ ด้วยเลข ๒ ประเภทที่ ๓ คือคนไทยและคนต่างด้าวทีม่ ใี บส�ำคัญประจ�ำตัวคนต่างด้าว และมีชอื่ อยูใ่ นทะเบียนบ้านตัง้ แต่กอ่ นวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ บุคคลนัน้ ถือว่าเป็นบุคคลประเภท ๓ และก็จะมีเลขประจ�ำตัวขึน้ ต้นด้วยเลข ๓ ประเภทที่ ๔ คือ คนไทยหรือคนต่างด้าวทีม่ ใี บส�ำคัญคนต่างด้าว ทีอ่ าจจะเป็นบุคคลประเภท ๓ คือมีชอื่ อยูใ่ นทะเบียน บ้านเดิมอยูแ่ ล้ว แต่ยงั ไม่มเี ลขประจ�ำตัวก็ขอย้ายบ้านไปเขตหรืออ�ำเภออืน่ ก่อนช่วง ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ก็จะเป็นบุคคล ประเภท ๔ ทันที ประเภทที่ ๕ คือคนไทยทีไ่ ด้รบั อนุมตั ใิ ห้เพิม่ ชือ่ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกส�ำรวจหรือกรณีอนื่ ๆ เช่น คนทีถ่ อื ๒ สัญชาติ ประเภทที่ ๖ คือผูท้ เี่ ข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผูท้ เี่ ข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแต่อยูใ่ นลักษณะชัว่ คราว เช่น ชนกลุม่ น้อยตามชายแดนหรือชาวเขา กลุม่ นีถ้ อื ว่าเป็นผูเ้ ข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลทีเ่ ข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยูช่ วั่ คราว เช่น นักท่องเทีย่ วหรือชาวต่างชาติทเี่ ดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมี สามีหรือภรรยาคนไทยจึงไปขอท�ำทะเบียนประวัตเิ พือ่ ให้มชี อื่ อยูใ่ นทะเบียนบ้านสามีหรือภรรยา คนทัง้ สองแบบทีว่ า่ นีถ้ อื ว่าเป็นบุคคล ประเภท ๖ ประเภทที่ ๗ คือบุตรของบุคคลประเภทที่ ๖ ซึง่ เกิดในประเทศไทย คนกลุม่ นีใ้ นทะเบียนประวัตจิ ะมีเลขประจ�ำตัวขึน้ ต้น ด้วยเลข ๗ ประเภทที่ ๘ คือคนต่างด้าวทีเ่ ข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือผูท้ ไี่ ด้รบั ใบส�ำคัญประจ�ำตัวคนต่างด้าวหรือคนทีไ่ ด้รบั การแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนทีไ่ ด้รบั การให้สญั ชาติไทยตัง้ แต่หลังวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นต้นไปจน ปัจจุบนั ประเภทที่ ๙ คือพระบรมวงศานุวงศ์ชนั้ สูง ตัวเลขแรกจะขึน้ ต้นด้วยเลข ๙ ตัวเลขหลักที่ ๒–๕ หมายถึงจังหวัดทีอ่ ยู่ ส่วนหลักที่ ๔ และ ๕ หมายถึงเขตหรืออ�ำเภอในจังหวัดนัน้ ๆ ตัวเลขหลักที่ ๖–๑๐ หมายถึงกลุม่ ของบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก ซึง่ ทางส�ำนักทะเบียนในแต่ละแห่งก็จะจัดกลุม่ เรียงไป ตามล�ำดับของเขตนัน้ ๆ ตัวเลขล�ำดับที่ ๑๑–๑๒ หมายถึงล�ำดับทีข่ องบุคคลในแต่ละกลุม่ ประเภทเป็นการจัดล�ำดับว่าเป็นคนทีเ่ ท่าไรในกลุม่ ของบุคคลนัน้ ๆ ตัวเลขหลักที่ ๑๓ เป็นตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลขทัง้ ๑๒ หลักแรก ตัวเลขหลักที่ ๖–๑๓ เป็นการจัดหมวดหมูแ่ ละเรียงล�ำดับบุคคลในแต่ละประเภทของส�ำนักทะเบียนในแต่ละท้องที่ ระบบตัวเลข แต่ละหลักนีท้ ำ� ให้สามารถรองรับจ�ำนวนประชากรได้มากถึง ๑๘ ปี 14
รูจ้ กั ความหมายของเลขบัตรประชาชนกันไปแล้ว ทีนเ้ี รามาย้อนดูววิ ฒ ั นาการของบัตรประจ�ำตัวประชาชนของไทยกันบ้างครับ ต้นก�ำเนิดของบัตรประจ�ำตัวประชาชนมีทมี่ าจากหนังสือเดินทางส�ำหรับราษฎร เพือ่ ใช้เดินทางไปยังท้องทีอ่ นื่ เพือ่ ท�ำการค้าขายหรือ ติดต่อกัน จะมีกรมการอ�ำเภอเป็นผูท้ ำ� หนังสือเดินทางตาม พ.ร.บ.บัตรประจ�ำตัวประชาชน พุทธศักราช ๒๔๘๖ ถือเป็นกฎหมายว่าด้วย บัตรประจ�ำตัวประชาชนฉบับแรกของไทย ผลของการออกหนังสือเดินทางส�ำหรับราษฎรตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๗๕ ท�ำให้ทางราชการเห็นความจ�ำเป็น ทีจ่ ะต้องท�ำเอกสารเป็นหลักฐาน เพือ่ แสดงว่าใครคือใคร อยูท่ ไ่ี หน รูปพรรณเป็นอย่างไร เพือ่ ประโยชน์ในการปกครองท้องที่ และการ ควบคุมราษฎรของทางราชการ รวมทัง้ ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ในการติดต่อซึง่ กันและกันโดยเฉพาะการท�ำมาค้าขาย พ.ศ. ๒๔๘๖ ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ได้มพี ระราชบัญญัตบิ ตั รประจ�ำ ตัวประชาชน พุทธศักราช ๒๔๘๖ ขึน้ เป็นกฎหมายฉบับแรกทีเ่ กีย่ วกับการจัดท�ำบัตรประจ�ำตัวประชาชนให้แก่ คนไทย เฉพาะราษฎรในจังหวัดพระนคร และจังหวัดธนบุรเี ท่านัน้ โดยให้ผมู้ อี ายุ ๑๖-๗๐ ปีบริบรู ณ์ตอ้ งมี บัตรประจ�ำตัวประชาชน ลักษณะของบัตรจะคล้ายแผ่นพับขนาดเล็ก ๔ ตอน ขนาด ๓ x ๔ นิว้ มีทงั้ หมด ๘ หน้า เริม่ ใช้ตงั้ แต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ จนถึงสิน้ ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ มีอายุการใช้ ๑๐ ปี ------------------------------------------------------------------------------พ.ศ. ๒๕๐๕ มี พ.ร.บ. บัตรประจ�ำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๐๕ ขึน้ บังคับใช้ตงั้ แต่วนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๖ ขยาย อายุผมู้ บี ตั รเป็น ๑๗-๗๐ ปี บัตรมีลกั ษณะสีเ่ หลีย่ มผืนผ้า ขนาดพกพาติดตัวได้สะดวกมี ๒ ด้าน มีรปู ถ่ายผูถ้ อื บัตร เป็นรูปขาว-ด�ำ พิมพ์รายการผูถ้ อื บัตรด้วยเครือ่ งพิมพ์ดดี ธรรมดา และเคลือบด้วยพลาสติกใส เริม่ ใช้ตงั้ แต่ตน้ ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ จนถึงสิน้ ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ รวมทัง้ สิน้ ๓๐ ปี บัตรมีอายุการใช้งาน ๖ ปี -----------------------------------------------------------------------------------พ.ศ. ๒๕๒๖ มี พ.ร.บ. บัตรประจ�ำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ขึน้ โดยลดอายุของผูท้ จี่ ะต้อง ขอมีบัตรจาก ๑๗ ปีบริบูรณ์ เป็น ๑๕ ปีบริบูรณ์เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครอง แรงงาน การนับอายุผขู้ อมีบตั ร ๑๕ ปีบริบรู ณ์ให้นบั ชนวันเดือนปีเกิดของแต่ละบุคคล มีลกั ษณะคล้ายกับบัตรรุน่ ทีส่ อง จุดแตกต่างคือรูปถ่ายผูถ้ อื บัตรเป็นรูปสีธรรมชาติ พิมพ์รายการผูถ้ อื บัตรด้วยเครือ่ งคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ และเคลือบด้วยวัสดุปอ้ งกันการปลอมแปลงชนิดพิเศษ เริม่ ใช้ตง้ั แต่วนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๑ --------------------------------------------------------------------------วันที่ ๒๗ มิถนุ ายน ๒๕๓๘ กรมการปกครองเปิดระบบให้บริการจัดท�ำบัตรประจ�ำตัว ประชาชนแบบใหม่เป็นครัง้ แรก ณ ทีว่ า่ การอ�ำเภอเมืองปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร เรียกว่า บัตร ประชาชนไฮเทค หรือบัตรแบบแถบแม่เหล็ก มีลกั ษณะคล้ายบัตรเครดิต กว้าง ๕.๔ ซม. ยาว ๘.๖ ซม. มี แถบแม่เหล็กบันทึกข้อมูลเจ้าของบัตร และผลิตด้วยคอมพิวเตอร์ทงั้ ระบบ รายการใหม่ทเี่ พิม่ เติมขึน้ มาในบัตรรุน่ นี้ คือ การระบุหมูโ่ ลหิตเพือ่ ประโยชน์ในเรือ่ งคลังข้อมูลแหล่งโลหิตของสภากาชาดไทย บัตรรุน่ นีเ้ ริม่ ใช้ครัง้ แรกเมือ่ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๙ ------------------------------------------------------------------------------------กลางปี ๒๕๔๗ เริม่ การน�ำร่องบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด มีรปู แบบคล้ายบัตรประชาชนรุน่ ที่ ๔ แต่เพิม่ ไมโครชิพ บันทึกข้อมูลและเพิม่ รายการเจ้าของบัตร มีชอื่ สกุลภาษาอังกฤษ ด�ำเนินการโดยส�ำนักบริหารการทะเบียน กรมการ ปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทีร่ ว่ มลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ๙๔ หน่วยงาน เชือ่ มโยงการใช้ขอ้ มูลในการใช้ สมาร์ทการ์ดใบเดียวไม่ตอ้ งพกบัตรหลายใบ เช่น บัตรประกันสังคม บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล การใช้ บัตรประชาชนต่อใบอนุญาตหนังสือเดินทาง โดยไม่ตอ้ งใช้ทะเบียนบ้าน อนาคตขยายการเชือ่ มต่อข้อมูลในบัตรกับ ส่วนราชการอืน่ ๆ มาจนกระทัง่ ปัจจุบนั และตัง้ แต่วนั ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ มีการก�ำหนดอายุของบุคคล สัญชาติไทยทีจ่ ะต้องมีบตั ร คือ ให้ผมู้ อี ายุครบ ๗ ปีบริบรู ณ์ (๑) จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/เลขประจ�ำตัวประชาชนไทย. (๒) จาก : http://www.pattanakit.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=525611&Ntype=120. (๓) จาก : http://stat.bora.dopa.go.th/card/card.htm. (๔) ภาพประกอบจาก : http://tabianprawet.blogspot.com/2011/09/blog-post_30.html.
(วันที่ค้นข้อมูล (วันที่ค้นข้อมูล (วันที่ค้นข้อมูล (วันที่ค้นข้อมูล
๑๘ ๑๘ ๑๘ ๑๘
มิถนุ ายน มิถุนายน มิถุนายน มิถุนายน
ทีม่ า ๒๕๕๗) ๒๕๕๗) ๒๕๕๗) ๒๕๕๗)
15
นิทานสีเขียว โดย : พี่เปิ้ล
บ้านน้อยหลังงาม อยู่กันสามคน คนหนึ่งชอบขน ขยะมากอง เอาไว้หน้าบ้าน ทางย่านสัญจร เป็นการบั่นทอน สุขภาพผู้คน
แม่จึงสอนว่า จะทิ้งทุกครา ศึกษาวิธี เริ่มจากแยกก่อน ไม่ได้ซับซ้อน ถ้าหนูนิ่งนอน ไม่เป็นผลดี
16
หนูน้อยเชื่อฟัง คำ�คุณแม่สอน ไม่เกี่ยงไม่งอน คัดแยกทันที ขยะเปียกขยะแห้ง พี่น้องจัดแจง แยกออกจากกัน
เศษผักเศษอาหาร ที่เหลือจากทาน คือขยะเปียก เศษกระดาษไม่ใช้ แยกไว้ขยะแห้ง ขวดสารเคมี พวกนี้ห้ามใช้ เป็นขยะอันตราย ทิ้งไปถังแดง
หลังจากวันนั้น ครอบครัวสุขสันต์ ร่วมด้วยช่วยกัน ทำ�บ้านน่ามอง เก็บทุกขยะ เก็บทุกข้าวของ ไม่เอามากอง ไว้รวมรวมกัน จัดเป็นระเบียบ แยกเป็นหมวดหมู่ น้องน้องหนูหนู ทำ�ได้ทุกคน 17
เรอ่ืงเลาเยาวชน
โดย : กองบรรณาธิการ
ผลงานการประกวดบทความ โครงการนักเขียนรุน่ เยาว์ ปีที่ 8 รางวัลชนะเลิศระดับประถมศึกษา
หัวข้อ “ผลิตภัณฑ์สงิ่ แวดล้อมทีฉ่ นั อยากท�ำ”
เสื้อผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เด็กหญิงกรชกร สุวรรณสุนทร ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านบ่อ)
18
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สิ่ ง แวดล้ อ มที่ ฉั น อยากท� ำ คื อ “เสื้อผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” เนื่องจากเสื้อผ้าเป็น หนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์จ�ำเป็นต้องสวมใส่เพื่อสร้าง ความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้าง บุ ค ลิ ก ภาพที่ ดี อี ก ด้ ว ย อย่ า งไรก็ ต ามในปั จ จุ บั น กระบวนการผลิ ต เสื้ อ ผ้ า ส่ ว นใหญ่ มั ก เกิ ด ขึ้ น ใน โรงงานอุ ต สาหกรรม เป็ น อุ ต สาหกรรมสิ่ ง ทอ ที่ ส ร้ า งมลพิ ษ แก่ สิ่ ง แวดล้ อ ม เนื่ อ งจากใช้ ใยสังเคราะห์และสารเคมีเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่า ในอดี ต ภู มิ ป ั ญ ญาในการผลิ ต เสื้ อ ผ้ า ของคนไทย มักใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งปลอดภัยและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ฉันจึงน�ำภูมิปัญญาดังกล่าวมาใช้เป็น แนวคิ ด หลั ก ในการสรรค์ ส ร้ า งเสื้ อ ผ้ า อนุ รั ก ษ์ สิ่งแวดล้อม ภาษิตไทยโบราณกล่าวว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เป็นความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์ทุกคนย่อมสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อช่วยเสริมสร้าง บุคลิกภาพที่ดี ทั้งนี้เสื้อผ้าที่ฉันจะผลิตนอกจากจะมี ความสวยงามและทันสมัยแล้ว ยังมุ่งเน้นการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมเป็นส�ำคัญ เริ่มตั้งแต่การผลิตเส้นใยเพื่อ ใช้ในการถักทอเสื้อผ้าจะต้องเป็นเส้นใยที่ได้มาจาก ธรรมชาติ ไม่ใช้ใยสังเคราะห์ที่ปนเปื้อนสารเคมีจาก โรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ ตัวอย่างเช่น เส้นใยที่ ได้ ม าจากตั ว หม่ อ นและเส้ น ใยที่ ไ ด้ ม าจากพื ช อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเส้นใยจากธรรมชาติจะขาด ความแข็งแรงและผลิตได้ช้ากว่าโรงงานอุตสาหกรรม ฉั น จึ ง ต้ อ งน� ำ วิ ท ยาการทางด้ า นอุ ต สาหกรรม การเกษตรมาช่วยพัฒนากระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นั่นคือพัฒนางานวิจัยที่ช่วย ให้พืชและตัวหม่อนผลิตเส้นใยที่แข็งแรงและมีปริมาณ
มากขึ้น และสามารถน�ำเส้นใยดังกล่าวไปใช้ในการทอด้วยกี่อิเล็กทรอนิกส์เพื่อความรวดเร็วในการผลิต ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ วิธีทอผ้าด้วยกี่แบบภูมิปัญญาโบราณ เพื่อสงวนวัฒนธรรมที่ดีงามในการทอผ้าแบบดั้งเดิมของไทยไว้ และพัฒนานวัตกรรมแบบ ใหม่ให้ผสมผสานกันทั้งของเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว จะเห็นได้ว่าข้อดีของการใช้เส้นใยจากธรรมชาติจะช่วยท�ำให้ผู้สวมใส่รู้สึก เย็นสบาย ไม่ระคายเคืองหรือเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย ไม่สร้างมลพิษจากการทิ้งสารเคมีลงในแม่น�้ำล�ำคลอง หรือควันพิษจาก กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ต่อมาคือขั้นตอนของการย้อมสีเส้นใย ฉันจะไม่ใช้สีเคมีที่มีสารปนเปื้อนที่สร้างความระคายเคืองให้แก่ผิวหนัง แต่จะใช้ สีสันที่ได้มาจากธรรมชาติทดแทน ตัวอย่างเช่น สีแดงจากครั่ง สีเหลืองจากขมิ้น สีม่วงจากอัญชัน สีน�้ำเงินจากต้นคราม สีน�้ำตาลจากเปลือกไม้ สีด�ำจากกาบมะพร้าวเผาหรือย้อมโคลน และสีสันอื่นๆ อีกมากมายจากพืชและผักผลไม้ตามธรรมชาติ โดยมีการคิดค้นสีสันที่มีความแปลกใหม่ในธรรมชาติเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความสวยงามและสีสันของเสื้อผ้าที่แปลกตาออกไป เช่น คิดค้นสีสันจากพืชป่าชายเลน สกัดกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดต่างๆ มาอบร�่ำแบบโบราณเพื่อให้เนื้อผ้ามีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการสวมใส่เสื้อผ้าได้มากยิ่งขึ้น โดยการออกแบบและตัดเย็บจะต้องตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่ม ผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพอากาศ ทุกสาขาอาชีพ และทุกฐานะทางสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ที่ส�ำคัญบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุเสื้อผ้าจะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมด้วย กล่าวคือไม่ใช้ถุงพลาสติกหรือหีบห่อที่สร้างขยะหรือเกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่จะต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตมาจาก สิ่งแวดล้อมด้วย ตัวอย่างเช่น อาจน�ำกระบอกไม้ไผ่ปล้องใหญ่สีเขียวมาบรรจุเสื้อที่ม้วนอย่างเป็นระเบียบ หรืออาจน�ำภาชนะ จักสานจากภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้บรรจุเสื้อผ้าก็ได้ เพื่อให้เกิดความสวยงามตามแบบไทย แล้วติดป้ายสอดแทรกความรู้เรื่องการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างง่ายให้ผู้บริโภคได้อ่าน เพื่อรณรงค์ส่งเสริมจิตส�ำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางอ้อมได้อีกด้วย แน่นอนว่า ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าดังกล่าวย่อมเหมาะแก่การซื้อหาไปเป็นของขวัญหรือของฝากได้ในหลากหลายโอกาส เพื่อสะท้อน ความห่วงใยที่มีต่อบุคคลที่รักและสิ่งแวดล้อมที่เราต้องรู้รักษ์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ หากสามารถส่งออกเสื้อผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไปยังตลาดในต่างประเทศได้ ย่อมมีส่วนช่วยกระตุ้นสภาพคล่องทางเศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้น ทั้งยังเป็นการเผยแพร่ภูมิปัญญา ในการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของคนไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกอีกด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ แม่ของแผ่นดินพระผู้ทรงมีพระราชเสาวนีย์ในการอนุรักษ์ดิน น�้ำ ป่า ให้คนและธรรมชาติพึ่งพากันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และทรงส่งเสริมการอนุรักษ์สืบสานผ้าไทยให้คงคุณค่ามาโดยตลอด ดังนั้น เสื้อผ้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดังกล่าวจึงเป็นการสืบสานแนวพระราชปณิธานของแม่แห่งแผ่นดินด้วยอีกทางหนึ่ง เสมือนเป็นการน�ำ ต้นทุนทางวัฒนธรรมของคนไทยในการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างสร้างสรรค์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถต่อยอดท�ำเป็นธุรกิจตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงกิจการขนาดใหญ่ได้ เนื่องจาก ประเทศไทยเป็นดินแดนเกษตรกรรม ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย ประกอบกับต้นทุนทางภูมิปัญญา ด้านการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของคนไทยในอดีตมาผสมผสานกับวิทยาการและความเจริญก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมเกษตร และสิ่งทอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อมท�ำให้คุณค่าแบบเก่าและความเจริญทันสมัยแบบใหม่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว จนสามารถเป็นแบบอย่างให้บุคคลทั่วไปได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของการผสานกาย ผนวกใจ และผนึกความคิดเพื่อช่วยกัน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน 19
NT
I A N A B T L S E U M S O r VEM fo E
องคการธุรกิจเพื่อการพัฒนาอยางยั่งยืน Thailand Business Council for Sustainable Development http://www.tei.or.th/tbcsd/
ฉบับที่แล้วพี่ผลิใบให้โจทย์น้องๆ ในหัวข้อ “ค�ำนึงถึงคุณค่า ศึกษาก่อนทิ้งขว้าง” ไป ก็มีนอ้ งๆ ส่งผลงานเข้ามากมาย ทัง้ ภาพทีต่ กแต่งด้วยเทคนิคต่างๆ และบทความสัน้ ๆ ซึง่ ก็มผี ลงานหลายชิน้ ทีโ่ ดดเด่น และพีก่ ไ็ ด้เลือกผลงานทีเ่ ข้าตากรรมการมา ๔ ชิน้ มาดูกันค่ะ ว่าผลงานของใครได้รับคัดเลือก ส�ำหรับฉบับหน้าพี่ผลิใบขอเชิญน้องๆ ทุกระดับชั้นส่งภาพมาร่วมสนุก ภายใต้หัวข้อ “อยู่ร่วมกัน แบ่งปัน สุขใจ” โดยน้องๆ สามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยการวาดภาพระบายสี และแต่งเติมภาพโดยไม่จ�ำกัดเทคนิค ไม่ว่าน้องๆ จะน�ำวัสดุมาปะติด หรือใช้เทคนิคอื่นๆ ตาม ความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งเขียนบรรยายภาพความยาวไม่เกิน ๑๐ บรรทัด ส่งมาที่ วารสารผลิใบตามที่อยู่ด้านหน้า หรือส่งอีเมลล์มาที่ sirirat@tei.or.th, notchana@tei.or.th ผลงานของน้องๆ คนใดที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับรางวัลพิเศษจากผลิใบด้วยค่ะ
จิตรกรรุ่นเยาว์
โดย : กองบรรณาธิการ
ด.ช. รณชัย ทองไฟ ชั้น ป.๔/๔ โรงเรียนบ้านนาทวี สงขลา
ด.ญ. ปทิตตา หน่อสกูล ชั้น ป.๔/๔ โรงเรียนจุลสมัย สงขลา
ด.ช. วุฒิภัทร ส�ำเร็จ ชั้น ม.๓/๗ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ชลบุรี
เมื่อเห็นขยะ เราทุกคนจะมองว่าขยะเป็น สิ่ ง ที่ ส กปรกและไม่ เ ป็ น ที่ ต ้ อ งการของเรา หากเรามองและคิดแบบนี้กันทุกคน ขยะจะ ไม่มีคุณค่าอะไรเลย แต่ความเป็นจริงแล้วขยะ นั้นมีประโยชน์หากเราน�ำมาคัดแยกแต่ละชนิด และทิ้งให้ลงถังอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นการลด ปริมาณขยะ ซึ่งมีอยู่ ๔ ประเภท คือ ขยะที่ ย่อยสลายได้ เช่น เศษอาหารต่างๆ กิ่งไม้ ใบไม้ เราควรทิ้งลงถังสีเขียว ขยะรีไซเคิล หรือขยะที่สามารถน�ำไปขายได้ เช่น ขวด พลาสติก ขวดแก้ว กระดาษ และโลหะต่างๆ เราจะทิ้งลงถังสีเหลือง ขยะทั่วไปเป็นขยะที่ ย่อยสลายยากและไม่สามารถน�ำกลับมาใช้ได้ อีก เช่น ถุงพลาสติก ซองบะหมี่ ถุงขนม เราจะทิ้งลงในถังสีน�้ำเงิน ขยะพิษเป็นขยะที่มี พิษ เราต้องเก็บรวบรวม และน�ำไปก�ำจัดให้ ถู ก วิ ธี เช่ น หลอดไฟฟ้ า ถ่ า นไฟฉาย กระป๋องยาฆ่าแมลง ต้องทิ้งลงถังสีส้ม จะเห็นได้ว่า ขยะที่ไม่ใช่เป็นที่น่ารังเกียจ เลย หากเรามี ก ารคั ด แยกและก� ำ จั ด อย่ า ง ถูกวิธี
โลกของเราในปั จ จุ บั น มี ข ยะมากมาย หากเรารู้ถึงวิธีการก�ำจัดขยะเหล่านี้ก็คงจะดี การศึกษาก่อนทิ้งก็ส�ำคัญ เพราะขยะบางชิ้น อาจท� ำ ประโยชน์ ใ ห้ กั บ มนุ ษ ย์ อ ย่ า งมากมาย มหาศาล การที่ เ ราจะทิ้ ง ของสิ่ ง ใดสิ่ ง หนึ่ ง นั้ น จะต้องมีเหตุผลในการทิ้ง เช่น ของชิ้นนั้น อาจจะเก่า ของชิ้นนั้นอาจจะไม่ทันสมัย หรือ ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่ถ้าเราคิดสักนิดว่า ถ้ า เราน� ำ ของที่ เ ราคิ ด ว่ า ไร้ ค ่ า แล้ ว น� ำ มา แปรรู ป เพื่ อ ใช้ ใ หม่ ค งจะดี ก ว่ า การที่ เ ราทิ้ ง สิ่งเหล่านั้นไปอย่างไม่เห็นคุณค่าของมัน การค�ำนึงถึงคุณค่า และศึกษาวิธีก�ำจัด ขยะก่อนทิ้ง จะท�ำให้โลกของเราน่าอยู่ทั้งใน ปัจจุบันและอนาคตภายหน้า เราควรปลูก จิตส�ำนึกให้ทุกคน หยุดคิดสักนิด “ค�ำนึง ถึงคุณค่า และศึกษาก่อนทิ้ง”
โรงเรียนของผมเป็นโรงเรี ยนที่ ส ะอาด ร่มรืน่ ไร้มลพิษ ซึง่ เป็นทีน่ า่ ชืน่ ชมกับผูท้ มี่ าเยือน โรงเรียนของผมมีถังขยะ ๔ ประเภท เพื่อไว้ แยกขยะมูลฝอยประเภทต่างๆ ถังขยะใบแรก มีสีเขียว ใช้ทิ้งขยะประเภทย่อยสลายเพื่อน�ำไป ท�ำปุ๋ยหมัก ถังขยะใบที่สองมีสีเหลือง ใช้ทิ้ง ขยะประเภทรี ไ ซเคิ ล เพื่ อ น� ำ ไปดั ด แปลงใหม่ ถั ง ขยะใบที่ ส ามมี สี แ ดง ใช้ ทิ้ ง ขยะประเภท อันตราย เพื่อน�ำไปฝังกลบไม่ให้เป็นอันตราย ต่อผู้อื่น ถังขยะใบที่สี่มีสีน�้ำเงิน ใช้ทิ้งขยะ ประเภททั่วไปที่รีไซเคิลไม่ได้ ทั้ง นี้เพื่อเป็นการดูและรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน ผมและเพื่อนๆ ก็ ไ ด้ ช ่ ว ยกั น ท� ำ ความสะอาด จนปั จ จุ บั น นี้ โรงเรี ย นของผมก็ ส ะอาดและสวยงาม ทุกบริเวณครับ ในสังคมปัจจุบันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป มากมาย ความเจริญเข้ามาแทนที่ ความทันสมัย เข้ามาครอบง�ำ มีแต่การแก่งแย่งชิงดีกนั ทุกคน ชอบความสะดวกสบาย เพราะจะได้ไม่เสียเวลา ในการท�ำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ได้หันไปมอง ว่าบางทีสิ่งของต่างๆ ที่เราใช้แล้ว สามารถ น�ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก แต่กลับมองข้าม สิ่งเหล่านั้นไป ที่ โ รงเรี ย น คุ ณ ครู ค อยสอนเสมอว่ า ตอนนี้เราต้องมาช่วยกันสร้างโลกให้น่าอยู่ ท� ำ อะไรก็ ไ ด้ ที่ เ ป็ น ประโยชน์ โ ดยค� ำ นึ ง ถึ ง คุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่ จะได้ไม่สิ้นเปลือง และมีไว้ให้เราใช้นานๆ ด.ญ. ปทิตตา หน่อสกูล ชั้น ป.๔/๔ โรงเรียนจุลสมัย สงขลา 21
โดย : กองบรรณาธิการ
ด.ช. พนธกร พงศ์สถิตสิริ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
ค�ำกล่าวที่ว่า “สิ่งแวดล้อมที่ดีเริ่มที่บ้าน” นั้นเป็นเรื่องจริงค่ะ เพราะถ้าเราได้อยู่อาศัยในบ้านที่ จั ด การเรื่ อ งสิ่ ง แวดล้ อ มได้ ดี ก็ จ ะท� ำ ให้ สุ ข ภาพกาย และสุขภาพใจของเราดีตามไปด้วย ทีนี้เรามาดูกันค่ะ ว่าบ้านของน้องๆ แต่ละคนมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กันอย่างไรบ้าง ทีมงานได้คัดเลือกผลงานของน้องๆ ที่เขียน Mind Maps กันเข้ามา ๖ ภาพด้วยกัน ซึ่ง แต่ ล ะบ้ า นก็ มี ก ารอนุ รั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มที่ น ่ า สนใจ ด้วยกันทั้งสิ้น แถมยังมีฝีไม้ลายมือในการตกแต่ง Mind Maps ได้อย่างสวยงาม ส�ำหรับน้องๆ คนใด ทีย่ งั ไม่ได้รบั การคัดเลือกไม่ตอ้ งเสียใจนะคะ ฉบับหน้า พยายามใหม่ในหัวข้อ “กิจกรรมตามรอยเท้าพ่อของฉัน”
บ้านฉัน กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
บันทึกเด็กพันธุ์ใหม่
ด.ญ. ศุภพร สวนกัน โรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร)
ด.ญ. อิสริยาภา เข็มจันทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
รีบๆ ส่งกันเข้ามานะคะ มีของรางวัลรอน้องๆ อยู่ อีกมากมายค่ะ
ด.ช. คมสัน จิตตะประสาท โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ด.ญ. สุกัญญา แพนไธสง โรงเรียนจักรค�ำคณาทร
ด.ช. จิรภัทร สงวนศักดิ์ โรงเรียนจักรค�ำคณาทร 22
ECYCLE / REUSE
เรื่องเล็ก ไม่น้อย
โดย : เล็กน้อย
ทำ�ง่ายได้ประโยชน์
การอุปโภคบริโภคของมนุษย์ในปัจจุบัน ดูเหมือนจะกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาระดับโลกไปแล้ว นั่นคือปัญหาขยะ ในแต่ละวันทุกครัวเรือนล้วนสร้างขยะ เมื่อรวมกันแล้วจะกลายเป็นขยะจ�ำนวนมหาศาลที่พร้อมจะล้นโลกได้ทุกเมื่อ ซึ่งปัญหานี้ได้ รับการแก้ไขด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผาก�ำจัด การฝังกลบ ซึ่งแต่ละวิธีที่กล่าวมาล้วนแต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ สิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น โดยเฉพาะขยะประเภทโฟม และพลาสติก ที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการย่อยสลาย แนวคิดในการรีไซเคิลและรียูส จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นทางออกในการลดปัญหาขยะ ถึงแม้จะเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมานาน แต่ก็ยังคงเป็นวิธีที่ได้ผลดีอยู่ ซึ่งในฉบับนี้พี่ผลิใบจะมาแนะน�ำการรีไซเคิลและรียูสในชีวิตประวัน ซึ่งท�ำได้ง่ายและมีประโยชน์ มหาศาลเลยค่ะ ก่อนอื่นเรามาทบทวนความหมายของการรีไซเคิล กับรียูสกันก่อนนะคะ เรารู้จักการรีไซเคิลและรียูสกันมายาวนาน รีไซเคิล (Recycle) แต่บางครั้งก็หลงลืมที่จะท�ำ แต่ถ้าเราหลงลืมหรือ เป็นการน�ำเศษวัสดุของเหลือกิน ปล่อยผ่านบ่อยๆ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก็จะหวนกลับ เหลือใช้มาแปรรูปใหม่เพื่อน�ำกลับมาใช้ มาสูต่ วั เราในวันหนึง่ เพราะฉะนัน้ เรามาเตือนความจ�ำ งานอีกครั้ง เป็นการจัดการวัสดุเหลือใช้ กันหน่อยดีกว่าค่ะว่าของเหลือใช้อะไรบ้างที่เราใช้อยู่ ที่ก�ำลังจะเป็นขยะโดยน�ำไปผ่าน บ่อยๆ และสามารถน�ำกลับมาใช้ได้ ที่ส�ำคัญอย่าลืม ี กระบวนการแปรสภาพ และน�ำ และปฏิบัติให้เป็นนิสัยค่ะ เพราะหากเราตั้งใจท�ำอย่าง กลับมาใช้ใหม่ จริงจังก็จะสามารถลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและ ลดปัญหาขยะลงได้มากทีเดียว ในความเป็ น จริ ง เราคงไม่ ส ามารถน� ำ ขยะ มารีไซเคิลเองได้ แต่สามารถแยกขยะแล้วน�ำไปขายให้ ใช้เป็นกระดาษทด ปริ๊นซ์งานที่ไม่เป็นทางการ กับร้านรับซื้อของเก่า พ่อค้าที่รับซื้อก็จะน�ำไปขายให้ โรงงานอุตสาหกรรมอีกที ซึ่งทางโรงงานก็จะเอาขยะ ไปรีไซเคิลเพื่อน�ำมาใช้ใหม่อีกครั้ง แถมยังเป็นการ น�ำไปผลิตเป็นเยื่อกระดาษใหม่ สร้างรายได้เสริมให้เราด้วยนะคะ ในแต่ ล ะวั น ถ้ า เราทุ ก คนช่ ว ยกั น คั ด แยกขยะ ขยะเหล่านี้ก็จะไม่ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ต้อง ะ เข้าสู่กระบวนการก�ำจัดขยะที่เสียทั้งงบประมาณและ น�ำไปบดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจ ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม น� ำ กลั บ มา ผลิ ต เป ็ น กร ะป ๋ อ ง การรีไซเคิลและการรียูสแม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ ส�ำหรับบรรจุอาหารใช้ใหม่ ก็เป็นเรื่องที่เราควรท�ำให้เป็นนิสัย อย่างน้อยเรา น�ำไปผลิตเป็นขาเทียม ก็ ไ ด้ ใ ช้ ท รั พ ยากรอย่ า งคุ ้ ม ค่ า และอยู ่ ร ่ ว มกั บ สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
Reuse กระดาษ
Recycle
Recycle อลูมิเนียม Recycle
น�ำไปหลอมผลิตเป็นของใช้อื่นๆ ต่อไป พลาสติก
ที่มา (๑) การจัดการขยะ : ขยะรีไซเคิล จาก : http://www.environnet. in.th/?p=3514 (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗). (๒) ภาพประกอบจาก : http://4.bp.blogspot.com/-i8p0M8rHu5U /UWHPfH8xbVI/AAAAAAAAAmI/8zXTUS13pZg/s1600/Zdjęcie0059.jpg (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗). (๓) ภาพประกอบจาก : http://2.bp.blogspot.com/_Nf0IBaYIVN 0/Sw12szq_FTI/AAAAAAAAAMc/PJOOJ675kqo/s1600/ petBottleZ.jpg (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗).
23
สนามนักคิด
โดย : กองบรรณาธิการ
อนุสรณ์ สายนภา ชีวิตเพียงพอ บนวิถีพอเพียง
เมืองชายทะเลทีช่ าวบ้านมีรายได้จากการท่องเทีย่ วและการประมงอย่างชลบุรี เมืองเล็กๆ แห่งนี้จึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และน�ำปัญหาสังคมตามมาด้วย ไม่วา่ จะเป็นความฟุง้ เฟ้อ และอบายมุขต่างๆ ทีม่ าพร้อมกับความเจริญ บ้านธารตะวัน ชุมชนต้นแบบที่เกิดจากแนวความคิดของนักพัฒนาชุมชน ที่ชื่อ อนุสรณ์ สายนภา เขาคิดจะปลูกฝังให้คนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กๆ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามแนวพระราชด�ำริฯ ทั้งความเป็นอยู่ อาหารการกิน รวมทั้งของใช้ต่างๆ ที่ล้วนท�ำขึ้นมาเองทั้งสิ้น คนที่นี่ไม่ต้องออกไปท�ำต่างถิ่น เพราะเขาท�ำให้ผืนแผ่นดินที่เขาอยู่นั้นมีทุกสิ่งที่ต้องการ พี่อนุสรณ์ สายนภา อดีตนักดนตรีเพื่อชีวิต ที่รักการเล่นดนตรีเป็น ชีวิตจิตใจ อาชีพนี้ท�ำให้เขาไม่เคยอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว เขาใช้ชีวิตในเมือง อยู่ห้องเช่าเล็กๆ ส่วนภรรยาก็ต้องไปท�ำงานต่างถิ่น สาเหตุที่พี่อนุสรณ์ กลับบ้านเกิดมาเป็นนักพัฒนาชุมชน เพราะต้องการให้ครอบครัวที่แยกกันไป ท�ำงานต่างถิ่นได้กลับมาอยู่ร่วมกัน ช่วงแรกๆ พี่อนุสรณ์ปลูกผักสวนครัวเอาไว้กินเอง ต่อมาก็เริ่มขยายไป ศึกษาการปลูกผักกินใบ จนพื้นที่เล็กๆ หน้าบ้านของเขากลายเป็นสวนผัก ขนาดย่อม ที่นอกจากจะเอาไว้กินแล้วยังขายเป็นรายได้อีกด้วย พี่อนุสรณ์เล่าว่า “เคยลองค�ำนวณดูว่าในแต่ละเดือนต้องใช้อะไรบ้าง แล้วก็ได้ข้อสรุป เช่น ซื้อพริก ๕ บาท ๓ วัน ก็ตกเดือนละ ๕๐ บาท ปีนงึ ค่าพริก ๖๐๐ บาท โหระพา ข่า ตะไคร้ ทีต่ อ้ งใช้อยูบ่ อ่ ยๆ สัก ๕ อย่าง ก็ ๓,๐๐๐ บาทแล้ว” นอกจากการปลูกผักเลี้ยงปลาแล้ว ของใช้ในบ้านอย่าง สบู่ ยาสระผม น�้ำยาล้างจาน เขาก็ท�ำขึ้นเองทั้งหมดเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและลดปริมาณขยะที่ ย่อยสลายยาก 24
สบู่ของบ้านธารตะวัน
“สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ของใช้ที่จ�ำเป็นต่างๆ เดือนนึงใช้เยอะมาก ก็เลยคิดว่าถ้าท�ำทุกอย่างได้ เองก็จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ อย่างน�้ำยาล้างจาน เราก็ ท� ำ จากน�้ ำ มั น ที่ ใ ช้ แ ล้ ว โดยจะมี ก รรมวิ ธี มีสูตรต่างๆ สบู่ ยาสระผมที่ใช้อยู่นี่ก็ท�ำเองหมด สบู่ที่เราท�ำก็จะมีสบู่ขมิ้น สบู่นม สบู่กาแฟ สบู่ งาด�ำ สบูช่ าเขียว ส่วนผสมก็จะเป็นไปตามสภาพผิว และคุ ณ สมบั ติ ข องน�้ ำ มั น เช่ น สบู ่ ส� ำ หรั บ คนผิวแห้งก็จะใส่นำ�้ มันมะพร้าวเยอะหน่อย น�ำ้ มัน มะกอกน้อยหน่อย ส่วนกาแฟใส่เพื่อช่วยขัดผิว ฝรั่งจะชอบใช้เพราะรูขุมขนเขาใหญ่ เวลาเราใส่น�้ำ กาแฟก็จะใส่กากลงไปด้วย สบู่ขมิ้นส�ำหรับคน เป็นผื่นคันหรือเป็นแผลพุพอง ส่วนสบู่น�้ำนม แพะจะผสมนมเยอะเพื่อช่วยบ�ำรุงผิว สบู่งาด�ำก็จะ ช่วยบ�ำรุงผิวและขัดผิวได้เหมือนกัน ส�ำหรับชาเขียว จะช่วยฆ่าเชื้อได้ โดยมีสูตรว่าใส่อะไรกี่กรัม เป็น สั ด ส่ ว นที่ ค� ำ นวณไว้ ก ่ อ น พอเสร็ จ ต้ อ งทิ้ ง ไว้ ประมาณ ๑๕ วัน ถึง ๑ เดือน เพื่อให้ความ เป็นกรดเป็นด่างลดลง อีกอย่างสบู่ของเราไม่ใส่ สารกันบูด เพราะสารกันบูดจะเป็นตัวท�ำให้เกิด สารก่อมะเร็ง” “เครือ่ งท�ำน�ำ้ ร้อนเราก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หม้ อ หุ ง ข้ า วก็ เ ป็ น หม้ อ หุ ง ข้ า วพลั ง แสงอาทิ ต ย์ ส่วนหลังบ้านก็ท�ำที่เผาถ่าน เราจะพึ่งพลังงาน ไฟฟ้าให้น้อยที่สุด” ทุกวันนี้หลายครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ กับบ้านธารตะวัน ไม่ต้องออกไปท�ำงานต่างถิ่น อีกแล้ว พวกเขามีข้าวกิน มีผักปลอดสารพิษ มี ปลาที่เลี้ยงกันเอง และที่ส�ำคัญฟาร์มที่พวกเขา ร่วมกันสร้างนี้ ได้สร้างความสุขอย่างมหาศาลให้ กับคนในชุมชน
เครื่องสีขาวเล็กๆ ส�ำหรับครอบครัว
บ่อปลาดุกหน้าบ้าน
“ส�ำหรับโครงการที่ท�ำให้เยาวชนก็มีเรื่องสอนเด็กวาดภาพ เล่น ฟุตบอล เล่นดนตรี ที่ท�ำแบบนี้เพราะต้องการแก้ปัญหาที่เกิดกับเยาวชน คือ อยากให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ นอกจากนี้ ยังเปิดอบรมให้ชาวบ้านท�ำสบู่ ยาสีฟัน โดยจะติดป้ายไว้ว่าเดือนไหนจะ สอนท�ำอะไรบ้าง ใครอยากท�ำอะไรก็มาเรียน” นอกจากนีพ้ อี่ นุสรณ์ยงั เข้าไปสอนเด็กๆ ในโรงเรียนเรือ่ งการปลูกฝัง ให้รู้จักคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ การรู้ค่าของเงิน การออมเงิน ตลอดจนการรักถิ่นฐานบ้านเกิด และลด ละ เลิก ค่านิยมที่ผิดๆ โดยทางโรงเรียนได้บรรจุเอาโครงการของบ้านธารตะวันไว้ในคาบวิชา เรียนด้วย พี่อนุสรณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้เงินจะเป็นสิ่งจ�ำเป็น แต่ไม่ใช่สิ่ง ส�ำคัญที่สุด สิ่งส�ำคัญคือการที่จะท�ำให้อยู่อย่างมีความสุขต่างหาก ลอง หันมาพึ่งพาตนเองและธรรมชาติบ้าง เราก็จะมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิตของเรามันก็หาได้จากธรรมชาติ นี่แหละ” จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของคนตัวเล็กๆ ได้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้ชุมชน เป็นมากกว่าสถานที่ซึ่งคนปลูกสร้างบ้านอยู่ร่วมกัน ชุมชนแห่งนี้มีความ อบอุ่นที่พวกเขาแบ่งบันน�้ำใจไมตรีให้แก่กัน จึงสามารถเรียกได้ว่าชุมชน แห่งนี้เป็นชุมชนแห่งความสุขอย่างแท้จริง
25
นวัตกรรมล้ำ�โลก
โดย : กองบรรณาธิการ
ม้านั่งอัจฉริยะ ยุคนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เห็นแต่คนใช้สมาร์ทโฟน ทั้งคุยทั้งแชทจนกลายเป็นที่มาของสังคมก้มหน้า แต่จะให้หลีกเลี่ยง ก็คงจะไม่ได้ พี่ผลิใบเข้าใจค่ะว่าเวลาน้องๆ นั่งรถโดยสารกลับบ้านแล้วเจอรถติดนานๆ มันก็เบื่อ เจ้าโทรศัพท์มือถือประเภท สมาร์ทโฟนก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนแก้เบื่อของใครหลายคน ที่เมืองบอสตันเอาใจคนยุคสมาร์ทโฟนด้วยการน�ำม้านั่งอัจฉริยะที่สามารถเสียบชาร์ทสมาร์ทโฟนได้ โดยใช้พลังงาน แสงอาทิตย์ ไปติดตั้งไว้ยังสวนสาธารณะรอบๆ เมือง โดยบริษัท โซฟา (Soofa) ผู้พัฒนาเฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะยุคใหม่ และยัง เป็นหนึ่งในแล็บทดลองด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่แยกตัวจากสถาบัน MIT ได้น�ำเอาผลงานเก้าอี้ม้านั่งพลังงาน แสงอาทิตย์มาติดตั้งเพิ่มเติมที่เมืองบอสตัน และเมืองเคมบริดจ์ ม้านั่งอัจฉริยะนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากมหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป เพราะถูก ตั้งเป้าหมายให้เป็นม้านั่งส�ำหรับคนเมืองในการพบปะสังสรรค์ ที่ส�ำคัญเป็นการผสานเทคโนโลยีกับพลังงานสะอาดอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างน่าชื่นชม เห็นแบบนี้แล้วพี่ผลิใบก็อยากให้เมืองไทยของเรามีนวัตกรรมล�้ำๆ แบบนี้บ้าง เพราะนอกจากเป็นการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยัง เป็นการน�ำเอาพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย น้องๆ คนไหนที่ชอบวิทยาศาสตร์ รักเทคโนโลยีและนวัตกรรม ก็ลองคิดค้น ทดลอง ไม่แน่นะคะว่าวันข้างหน้าอาจจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากฝีมือ น้องๆ ก็เป็นได้ค่ะ ที่มา Boston Testing Solar-Powered Benches That Charge Smartphones. จาก : http://mashable.com/2014/07/13/solar-powered-smart-bench-soofa. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗). (๑) ภาพประกอบ http://cdn.cultofmac.com/wp-content/uploads/2014/07/IMG_2141.jpg. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗). (๒) http://images.gizmag.com/inline/boston_benches_solar_powered-1.jpg. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗).
26
ผลิใบรีไซเคิล
กระดาษเหลือใช้ มีประโยชน์กว่าที่คิด
โดย หัวใส
วันนี้พี่หัวใสช่วยคุณแม่ท�ำความสะอาดบ้าน ก็ต้องพบกับกระดาษกองโตในห้องเก็บของ มีทั้งกระดาษหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร คุณแม่บอกว่าจะทิ้งก็เสียดายเพราะกระดาษยังดีอยู่ พี่หัวใสกับคุณแม่ก็เลยมานั่งคิดกันว่าจะเอากระดาษ พวกนี้มาท�ำประโยชน์อะไรได้บ้าง จึงไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ก็ได้พบกับไอเดียการน�ำเอากระดาษหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารเก่าๆ ทีไ่ ม่ได้ใช้แล้ว มาดัดแปลงท�ำเป็นเฟอร์นเิ จอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน โอ้โห!! ทัง้ คุณแม่และพีห่ วั ใสทึง่ เลยครับ เพราะของแต่ละชิ้นที่เค้าท�ำขึ้นมา นอกจากจะใช้ประโยชน์ได้จริงแล้ว ยังสวยงามจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าท�ำมาจากกระดาษ เหลือใช้ พี่หัวใสก็เลยน�ำภาพมาฝากน้องๆ เผื่อใครอยากท�ำตาม หรือน�ำแนวความคิดไปต่อยอดก็ไม่ผิดนะครับ
ทีม่ า (๑) ภาพประกอบ : http://www.iurban.in.th/inspiration/recycle-newspaper-to-coo. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗). (๒) ภาพประกอบ : http://www.ciiwa.com/extraordinary-recycled-interior-design-ideas/
cool-recycled-magazine-baskets-for-interior-design-decoration.
(วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗).
27
On The Move โดย : พี่รอบรู้
เมือ่ พูดถึงถ�ำ้ น้องๆ นึกถึงอะไรครับ ภาพหินงอกหินย้อย ภาพเขียนผนังถ�ำ้ หรือว่ามนุษย์ถำ�้ ครับ แน่นอนว่าคนไทยเรามี ความคุ ้ น เคยกั บ ถ�้ ำ มาตั้ ง แต่ ยุ ค โบราณ จากหลั ก ฐานทาง โบราณคดีทแี่ สดงให้เห็นว่ามนุษย์โบราณนัน้ ใช้ถำ�้ เป็นทีอ่ ยูอ่ าศัย ท�ำให้คนยุคปัจจุบันอย่างเรากระหายใคร่รู้ที่จะเข้าไปผจญภัยใน ปล่องโถงมืดมิดทีม่ หี ลากหลายความน่าพิศวงซ่อนตัวอยู่ แล้วถ�ำ้ เกิดขึน้ ได้อย่างไร? หลายคนคงมีคำ� ถามนีอ้ ยูใ่ นหัว ถ�้ ำ ถื อ เป็ น ปรากฎการณ์ ท างธรรมชาติ ที่ เ กิ ด จากการ เคลื่ อ นที่ ข องเปลื อ กโลกจึ ง ท� ำ ให้ เ กิ ด การเปลี่ ย นแปลง 28
โครงสร้างของชั้นหิน เช่น เกิดการยกตัว รอยแตก ของชั้นหิน หรือบางส่วนจะเกิดเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ท�ำให้หินแตกหักเกิดเป็นช่องว่างหรือโพรงถ�้ำ ส่วนความ สวยงามแปลกตาของหินรูปร่างต่างๆ ภายในถ�้ำนั้น เกิดจาก น�้ำฝนตกลงมารวมตัวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์์ในอากาศ ท�ำให้น�้ำฝนมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ หรือที่เรียกกันว่ากรด คาร์บอนิค มีคุณสมบัติสามารถละลายหินปูน หรือหินที่อยู่ ในกลุ่มแคลคาร์เรียส เมื่อซึมมาจนถึงชั้นหินปูนหรือซึมผ่าน รอยแตกในหินปูน น�้ำกรดจะละลายเนื้อหินปูนออกเรื่อยๆ จนกลายเป็นโพรงถ�้ำ และเมื่อมีการตกผลึกของแร่แคลไซต์ ใหม่อีกครั้งก็จะเกิดเป็นหินงอกหินย้อย โดยถ้าน�้ำที่มีสาร หินปูนละลายอยู่ไหลหรือหยดมาตามเพดานถ�้ำและตกผลึกใหม่ ก็จะเกิดเป็นหินย้อย ส่วนน�้ำที่หยดจากเพดานถ�้ำลงสู่พื้นก็จะ ตกผลึกพอกตัวสูงขึ้นจนกลายเป็นหินงอก หลายประเทศทั่ ว โลกก็ มี ถ�้ ำ อยู ่ เ ช่ น กั น แถมยั ง มี อ ยู ่ มากมายหลายประเภทอีกด้วยครับ แต่ว่าบ้านเรานั้นมีถ�้ำอยู่ เพียง ๒ ประเภทเท่านัน้ นัน่ ก็คอื ถ�ำ้ หินปูน และถ�ำ้ ชายฝัง่ ซึง่ ในฉบับนี้ พีร่ อบรูจ้ ะพาน้องๆ ไปผจญภัย ในถ�ำ้ หินปูนทีเ่ ต็ม ไปด้วยค้างค้าว ใช่แล้วครับ...น้องๆ อ่านไม่ผดิ หรอก มันคือถ�ำ้ ค้างคาวจริงๆ ซึ่งถ�้ำค้างคาวที่เขาช่องพราน จังหวัดราชบุรี มีลกั ษณะเป็นถ�ำ้ ทีห่ นิ ปูนขนาดใหญ่ มีเนือ้ ทีป่ ระมาณ ๗๗ ไร่ ที่ใจกลางถ�้ำพบรอยพระพุทธบาท ภายในถ�้ ำ มี พ ระพุ ท ธรู ป มากกว่า ๑๐๐ องค์ ที่ส�ำคัญคือพระพุทธรูปปางไสยาสน์ องค์ใหญ่มคี วามยาวถึง ๙ เมตรเศษ สูง ๑ เมตรเศษ นักท่องเทีย่ ว ที่มาท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นสู่บนยอดเขาช่องพราน เพื่อ นมัสการพระบรมธาตุบวรวิสุทธิเจดีย์ และด้านบนยอดเขานี้ นักท่องเทีย่ วยังสามารถชมทิวทัศน์อนั กว้างไกล ชมพระอาทิตย์ ลั บ ขอบฟ้ า บนจุ ด ชมวิ ว ของยอดเขา และจุ ด นี้ ยั ง เป็ น จุ ด ชมค้ า งคาวที่ อ อกมาหากิ น จากปากถ�้ ำ ซึ่ ง เป็ น Unseen Thailand อีกด้วย ถ�้ำนี้เป็นที่อาศัยของค้างคาวนับล้านชีวิต พวกมันเป็น สัตว์หากินตอนกลางคืน กลางวันจะไม่ชอบแสงแดดมากนัก มันจึงมักซ่อนตัวอยู่ตามถ�้ำ และพอตกเย็นจะเริ่มออกหากิน มันจะกินแมลงต่างๆ กับผลไม้สุก มูลของพวกมันจึงเป็นปุ๋ย ชั้นดี โดยเฉพาะมูลค้างคาวกินแมลงจะมีคุณค่าทางอาหาร ดีกว่าค้างคาวที่กินผลไม้ ในกรณีที่เขาช่องพราน จุดเด่นที่สุด ของค้างคาวที่นี่คือ เป็นที่เดียวในโลกที่ค้างคาวสร้างวัดกับ สร้างโรงเรียนให้เด็ก ยังไงน่ะเหรอครับ ก็ด้วยการขายมูล ค้างคาวแล้วน�ำเงินที่ได้มาสร้างวัด สร้างโรงเรียนยังไงล่ะ
เอ...แต่ว่ามูลค้างคาวมันมีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้นเลยหรือ? มูลค้างคาวที่นี่เขาขายกันเป็นกิโลครับ ซึ่งการเก็บมูล ค้างคาวมักท�ำกันในฤดูแล้ง เพราะถ้ามูลโดนฝนจะท�ำให้จุลชีพ มาย่อยสลายมูลค้างคาว ก็จะท�ำให้เกิดก๊าซแอมโมเนียที่มีกลิ่น รุนแรง ค้างคาวที่เขาช่องพรานนี้ ส่วนมากเป็นค้างคาวหางหนู ซึ่งเป็นค้างคาวขนาด เ ล็ ก ที่ มี ห า ง ย า ว หน้าสั้น จมูกไม่มี แผ่นเนือ้ ด้านข้าง หู ใหญ่ แ ต่ ใ บหู ชั้ น ใน เล็กและสัน้ หางยาว ปลายหาง ไม่มีหนัง ปีกยึด ค้างคาวนั้น เป็ น สั ต ว์ ป ี ก ชนิ ด เดียวที่เลี้ยงลูกด้วยนม เวลามันออกหากินลูกค้างคาวก็จะเกาะ อยู่ที่อกแม่ตลอดเวลาเรียกว่าแม่ไปไหนหนูไปด้วย ค้างคาวในถ�้ำนี้ที่มีจ�ำนวนมาก เมื่อมันถ่ายมูลลงมาจึงมี ปริมาณมากตามไปด้วย ซึ่งทางวัดก็จะก�ำหนดการเข้ามาเก็บ มู ล ค้ า งคาวกั น ทุ ก วั น เสาร์ เพื่ อ เอาไปขายท� ำ ปุ ๋ ย แล้ ว มู ล ค้ า งคาวที่ เ ขาช่ อ งพรานนี้ ก็ เ ป็ น มู ล แท้ ๆ บริ สุ ท ธิ์ ไ ม่ มี อ ะไร เจือปน คุณภาพสูงปรี๊ดทีเดียวนะครับ
มูลค้างคาวแท้ต้องมีลักษณะคล้ายดินร่วน เบา หรือ รวมตั ว เป็ น ก้ อ นเล็ ก ๆ ประกอบไปด้ ว ย ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียม ในปริมาณที่สูงกว่ามูลของสัตว์ ชนิดอื่น จึงเป็นที่นิยมน�ำมาเป็นส่วนผสมในดินที่ใช้ในการ ปลูกพืชเกษตรหรือน�ำมาท�ำปุ๋ยนั่นเอง โดยปุ๋ยมูลค้างคาวเป็น ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสสูงเช่นเดียวกับปุ๋ยขี้ไก่ แต่ไม่เหม็นเท่าขี้ไก่ ซึ่ ง ฟอสฟอรั ส นี้ ก็ จ ะไปช่ ว ยในการออกดอกของต้ น ไม้ ใ ห้ สวยงามสะพรั่ง
นอกจากการมาเที่ยวที่นี่จะได้มาศึกษาเรื่องมูลค้างคาว แล้ว ยังมีอีก ๑ ปรากฏการณ์แห่งความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ในบริเวณวัดเขาช่องพรานนี้ด้วย ปรากฏการณ์ที่ว่านี้เป็นที่ สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยในเวลา ๑๘.๐๐ น. ของทุกวันจะมีคนมานั่งรอดูกันอย่างมากมาย เขามาดูอะไรกัน เนี่ย
โว้โว้โว้!!!! ออกมาแล้วครับ ค้างคาวจ�ำนวนมหาศาลบิน ออกมาจากโพรงถ�้ำ ท่วงทีลีลาการบินที่ตื่นตาตื่นใจนี้ สร้าง ความประทับใจแก่ผู้คนในพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาจากต่างถิ่นเพื่อมาเฝ้าดูขบวนค้างคาวบินพรั่งพรูออกจาก ปากถ�้ำเหมือนจะไม่มีวันหมด เคลื่อนตัวเป็นสายไปข้างหน้า อย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า ๒ ชั่วโมง พวกมันออกหากิน ตรงเวลาอย่างนี้ทุกวัน และจะกลับมายังบริเวณถ�้ำแห่งนี้ก่อน เช้า เป็นภาพอันน่าประทับใจของปรากฎการณ์มหัศจรรย์ทาง ธรรมชาติเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ที่มา (๑) ภาพประกอบจาก : http://welshrandomadventures.blogspot.com/2012/09 /ardeche-caving-part2-exploring-peyrejal.html. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗) (๒) ภาพประกอบจาก : http://www.khaoyaizone.com/images/upload_images /0034555001314261994.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗) (๓) ภาพประกอบจาก : http://www.mnphitsanuloktravelandtour.com/private _folder/Krabee/Viking1.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗) (๔) ภาพประกอบจาก : http://static.panoramio.com/photos/large/52008195.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗) (๕) ภาพประกอบจาก : http://www.todayza.com/wp-content/uploads/2012/12/ ค้างคาว.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗) (๕) ภาพประกอบจาก : http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/ 114986.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗)
29
ปลูกเพื่อโลก
โดย : โลกสวย
สมัยพีโ่ ลกสวยยังเด็ก มีอย่างนึงทีช่ อบเล่นมากๆ เลย ก็คอื ขว้างลูกเทนนิสค่ะ ยิง่ ขว้างได้ไกลเท่าไหร่กย็ งิ่ รูส้ กึ สนุก ท้าท้าย แต่บางครัง้ พลาดไปโดนกระจกหน้าต่างบ้านจนแตกก็ เคยมีคะ่ (แบบนีเ้ รียกว่าขว้างแบบไม่สร้างสรรค์) ฉบับนีเ้ ลย อยากจะชวนน้องๆ มาแข่งกันขว้างปาอย่างสร้างสรรค์กันค่ะ สงสัยแล้วใช่ไหมล่ะคะว่าขว้างปาอะไรจึงสร้างสรรค์ ค�ำตอบก็ คือ “ปาระเบิด” ค่ะ อ๊ะอ๊ะ!! อย่าเพิง่ คิดไปไกลค่ะ ระเบิดทีว่ า่ ไม่ใช่ระเบิดของทหารหรือกองโจรใดๆ ทัง้ สิน้ แต่เป็นระเบิด เพือ่ โลกทีน่ ยิ มเรียกกันว่า Seedbomb นัน่ เองค่ะ Seedbomb ทีม่ ลี กั ษณะเหมือนลูกระเบิดนี้ ถูกผสม ขึน้ จากดินเหนียว ปุย๋ และเมล็ดพันธุพ์ ชื ชนิดต่างๆ ทีผ่ า่ นการ ค้นคว้ามาแล้วว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ กินได้ และไม่เป็นพิษ เป็นภัยต่อคนหรือสัตว์ เจ้า Seedbomb ทีว่ า่ นีจ้ งึ กลายเป็น อาวุธชัน้ ยอดของนักอนุรกั ษ์มอื ลึกลับ ทีอ่ ยากจะปลูกต้นไม้ตาม ทีร่ กร้าง หรือทางสาธารณะได้อย่างง่ายดาย (แถมสนุกด้วยนะ) เพียงขว้าง Seedbombs ออกไป มันก็จะแตกตัวออก พอได้นำ�้ ฝน ก็จะงอกออกมาเป็นต้นไม้ ดอกไม้สวยงาม
ส ่ ว น S e e d b o m b อี ก แ บ บ มี ลั ก ษณะคล้ า ยกั บ ขี ป นาวุ ธ ปล่ อ ยลงสู ่ พื้นราบโดยเครื่องบิน เมื่อถูกทิ้งลงไปแล้ว เจ้าแคปซูลในขีปนาวุธนี้จะกระจายตัว และ ตกลงในพื้นที่ที่เราก�ำหนดไว้ เช่น ป่าไม้ โดยในแคปซูลจะมีอาหารและความชื้นอยู่ใน ขนาดพอเหมาะส� ำ หรั บ เลี้ ย งต้ น กล้ า จาก เมล็ ด พั น ธุ ์ ใ ห้ ส ามารถอยู ่ ร อดและเติ บ โต หลังจากนั้นแคปซูลก็จะถูกย่อยสลายไปเอง และปล่ อ ยให้ ต ้ น ไม้ ข องเราเติ บ โตไปตาม ธรรมชาติ ให้ร่มเงากับหลายๆ ชีวิตบนโลก ต่อไป
ภาพแสดงการย่อยสลายของแคปซูล เป็นยังไงคะน้องๆ เห็นถึงความพยายามของคนที่ คิดค้นสารพัดวิธีเพื่อจะให้โลกของเราสวยงามน่าอยู่กันแล้วใช่ ไหมคะ ไอเดียนี้นับว่าสร้างสรรค์และท�ำได้จริง ได้รับความ นิยมอย่างมากในต่างปรเทศ เห็นอย่างนี้แล้วน้องๆ รู้สึก อยากปาระเบิด เอ้ย!! อยากปลูกต้นไม้กันขึ้นมาบ้างหรือยังคะ รับรองได้ว่า น้องๆ จะได้กลายเป็น มือระเบิดที่โลก ไม่ลืมเลยค่ะ
ทีม่ า : จาก http://kabloomshop.co.uk/products (วันทีค่ น้ ข้อมูล : วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗). ภาพ : จาก http://www.amazon.co.uk/SUCK-Flower-Grenade-Throw-Grow/dp/B003O28F8U/ref=pd_sim_sbs_lp_1/278-5619850-0712566?ie=UTF8&refRID=0FE6M 353TZTHDH7MB938. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗). จาก http://www.waitgreen.com/en/garden/seedbom-a-guerrilla-gardening-flower-bomb/. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗).
30
iPad
Green Product
โดย : รักษ์โลก
เรื่องเลาเยาวชน
กระดาษมูลช้าง ไหนๆ ฉบับนี้เราก็พูดถึงแต่เรื่องเหม็นๆ ทั้งขยะ ทั้งมูลสัตว์กันมาแล้ว ในคอลัมน์ Green Product นี้ พี่รักษ์โลกก็ขอน�ำเสนอเรื่องของมูลอีกสักเรื่อง แต่รับรองว่าเป็นมูล ที่ มี ป ระโยชน์ แ ถมยังไม่มีกลิ่น เหม็น น่า รังเกียจอีกด้วยนะคะ มูล ที่พูดถึง ก็คือมูล ของ สัตว์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองไทยอย่าง “ช้าง” ยังไงล่ะคะ มูลช้างเอามาท�ำอะไรได้? ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีชา้ งอยูใ่ นความดูแลจ�ำนวนหนึง่ ในแต่ละวันช้างเหล่านี้ จะถ่ายของเสียออกมาเป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องการก�ำจัด ทางศูนย์ อนุรกั ษ์ชา้ งไทยจึงได้มกี ารจัดการกับของเสียเหล่านัน้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกวันมูลช้าง จะถูกจัดเก็บมาเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบส�ำคัญในการผลิตก๊าชมีเทนที่ใช้ในการหุงต้ม และ เป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยชีวภาพ ส่วนมูลช้างที่เหลือก็จะน�ำมาผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อและ ฟอกสีผลิตเป็นกระดาษมูลช้าง อ๊ะอ๊ะ!! อย่าเพิ่งร้องยี๋กันนะคะน้องๆ มูลช้างไม่ได้มีอะไรที่สกปรกเลยค่ะ เพราะ อาหารที่ช้างกินและขับถ่ายออกมาก็อุดมไปด้วยเส้นใยของพืชล้วนๆ เพราะฉะนั้นจึงเอามา ท�ำกระดาษได้สวยงามคล้ายๆ กับกระดาษสาที่เราชอบซื้อมาท�ำงานประดิษฐ์นั่นแหละค่ะ
เป็นยังไงคะ เพื่อนตัวใหญ่ ของเรานอกจากช่วยท�ำงานหนักได้ สารพัดแล้ว แม้แต่มูลของมันก็ยัง มีประโยชน์สร้างมูลค่าได้ รูอ้ ย่างนี้ แล้วน้องๆ ควรช่วยกันสนับสนุน สิ น ค้ า เพื่ อ สิ่ ง แวดล้ อ มอย่ า ง กระดาษมูลช้าง และที่ส�ำคัญต้อง ไม่ลืมอนุรักษ์ช้างไทยของเราด้วย นะคะ
ขั้นตอนการท�ำกระดาษจากมูลช้าง ๑. เก็บมูลช้าง า ๕ ชั่วโมง ๒. น�ำมูลช้างไปล้างและต้มเป็นเวล เป็นเวลา ๓ ชั่วโมง แล้วเติมสี ๓. น�ำมูลช้างไปปั่นเพื่อตัดเส้นใย กๆ เท่าๆ กัน ๔. น�ำไปชั่งน�้ำหนักและแบ่งเป็นลู ให้กระจายไปให้ทั่วๆ เฟรม ๕. น�ำลูกที่ได้นี้ไปละลายในเฟรม ๖. น�ำเฟรมนั้นไปตากแดด ่อแห้งแกะออกจากเฟรม ๗. น�ำกระดาษออกจากเฟรม เมื งๆ ๘. น�ำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่า ภาพประกอบจาก : http://www.handmade-chiangmai.com/admin/resources/craft/company/gallery/ 2000130328154556130405050509130426133847.jpg. (วันที่ค้นข้อมูล ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗) http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=net-mania&month=10-01-2011&group=8&gblog=2. (วันที่ค้นข้อมูล ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗)
31
WATER FOOTPRINT ร่องรอยการใช้น้ำ�
พื้นที่ของโลกทั้งหมดมีน�้ำมากถึง ๓ ส่วน มองอย่าง ผิ ว เผิ น ก็ เ หมื อ นกั บ ว่ า ทรั พ ยากรน�้ ำ จะเป็ น ทรั พ ยากรเพี ย ง อย่างเดียวที่เราจะฟุ่มเฟือยได้ แต่น้องๆ ทราบหรือไม่คะว่า ใน ๓ ส่วนที่เป็นน�้ำทั้งหมด ๑.๔ พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตรนั้น มีน�้ำจืดอยู่เพียง ๓๕ ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็น ๒.๕% ของน�้ำทั้งหมด และข้อมูลที่น่าตกใจกว่า นั้นคือ น�้ำจืดกว่า ๒๔ ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร หรือ ประมาณ ๗๐% ของน�ำ้ จืดทัง้ หมดเป็นน�ำ้ แข็ง และหิมะปกคลุม ในแอนตาร์กติก และเกือบ ๓๐% ของน�้ำจืดเป็นน�้ำบาดาล ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดิน ดังนั้นมนุษย์มีน�้ำสะอาดส�ำหรับ อุปโภคและบริโภคไม่ถึง ๑% ของน�้ำจืดทั้งหมดของโลก เห็นตัวเลขแล้วเริ่มตระหนักถึงทรัพยากรน�้ำกันบ้างหรือยังคะ
32
มาลองคิดกันเล่นๆ ทุกวันการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน ของเราใชน�้ำไปเท่าไหร่ ทุกวันคนเราดื่มน�้ำวันละประมาณ ๒-๔ ลิตร แต่ในการผลิตอาหารเพื่อคนต่อ ๑ วันนั้น ต้องใช้น�้ำมากถึง ๒,๐๐๐-๕,๐๐๐ ลิตร ข้าว ๑ กิโลกรัม ต้องใช้น�้ำในการผลิต ๒,๕๐๐ ลิตร เนื้อวัว ๑ กิโลกรัม ใช้น�้ำในการผลิต ๑๕,๔๐๐ ลิตร หรือการผลิตผ้า Cotton ๑ กิโลกรัม ใช้น�้ำ ๑๐,๐๐๐ ลิตร เป็นต้น เมื่อเราเห็นตัวเลขของการใช้น�้ำคร่าวๆ กันแล้ว น้องๆ คิดว่าจะดีแค่ไหนคะถ้าเราจะได้ทราบว่าทุกอย่างที่เราใช้อยู่ใน ชีวิตประจ�ำวันนั้นมีอัตราการใช้น�้ำเท่าไหร่ นี่เป็นเหตุผลที่จะ ต้องมี ร่องรอยการใช้น�้ำ หรือ Water Footprint Water Footprint เป็ น อี ก หนึ่ ง แนวคิ ด เพื่ อ รั ก ษา สิ่งแวดล้อม โดย Professor William Rees ที่ได้วิจัย เกี่ยวกับด้านนิเวศวิทยา และได้ก�ำหนดคําว่ารอยเท้านิเวศ หรือ Ecological Footprint มาใช้ในงานวิจัย โดยใช้ เป็ น การประเมิ น ความต้ อ งการของมนุ ษ ย์ ต ่ อ ระบบนิ เ วศ ต่อมามีคําว่า รอยเท้าคาร์บอน หรือ Carbon Footprint และมีการเริ่มใช้คําว่ารอยเท้านํ้า หรือ Water Footprint เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ส่วนใหญ่มีการใช้นํ้าและทําให้นํ้า ปนเปือ้ นมลพิษต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นกิจกรรมจากภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคชุมชน และภาคครัวเรือน จากข้อมูลข้างต้น น้องๆ จะเห็นว่าน�้ำที่เราใช้ส�ำหรับ อุปโภคบริโภคนัน้ เป็นทรัพยากรทีม่ อี ยูอ่ ย่างจ�ำกัด และมีแนวโน้ม จะลดลงเรื่อยๆ สวนทางกับจ�ำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่าง รวดเร็ว ดังนั้นเราจึงจ�ำเป็นต้องมี Water Footprint ใน การบ่ ง บอกถึ ง การใช้ น�้ ำ ในกระบวนการผลิ ต สิ น ค้ า หรื อ บริการนัน้ ๆ อย่างชัดเจน ซึง่ ใน Water Footprint จะแสดง ปริมาณน�้ำที่ใช้ และปริมาณน�้ำเสียที่ปล่อยออกมา รวมทั้ง สถานที่และระยะเวลาที่เกิดการใช้น�้ำ ซึ่งจะท�ำให้สามารถ ค�ำนวณปริมาณน�ำ้ จากผลรวมของทุกขัน้ ตอน ตลอดจนห่วงโซ่ ของการผลิ ต สิ น ค้ า และบริ ก าร ตั้ ง แต่ ก ารผลิ ต วั ต ถุ ดิ บ
การแปรรูป การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการ ของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน Water Footprint แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ ๑. Water footprint of a product หมายถึง ปริมาณ การใช้ นํ้ า ในกระบวนการผลิ ต สิ น ค้ า และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต ่ า งๆ ทั้งการใช้นํ้าทางตรง และการใช้นํ้าทางอ้อม ๒. Water footprint of a business หมายถึง ปริมาณ การใช้นํ้าในการดําเนินธุรกิจขององค์กร โดยรวมทั้งการ ใช้นํ้าทางตรงและการใช้นํ้าทางอ้อมในการดําเนินธุรกิจ ๓. Water footprint of national consumption หมายถึง ปริมาณนาํ้ ทีใ่ ช้ในการผลิตสินค้าและบริการตามความต้องการ ของแต่ละประเทศ โดยจะแบ่ง Water Footprint ออกเป็น ๓ สี คือ Blue Water Footprint / Green Water Footprint และ Gray Water Footprint
Water Footprint จึงเป็นการประเมินการใช้น�้ำจากห่วงโซ่ อุปทานการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนั่นเองค่ะ ตัวอย่าง การค�ำนวณ Water Footprint ของผลิตภัณฑ์ Coca-Cola
จะเห็นได้ว่า น�้ำที่น�ำมาค�ำนวณนั้นมาจากสองส่วน คือ ทางอ้อม : เกิดจากห่วงโซ่การผลิต อันมาจาก หีบห่อ ได้แก่ เม็ดพลาสติก และวัตถุดบิ คือ น�ำ้ ตาล ทางตรง : จากการผลิตในโรงงาน เกิดจากการผสมสูตร ต่างๆ รวมไปถึงการล้างขวด และบรรจุขวด
ปริมาณการใช้น�้ำจากความชื้นใต้ดิน
Blue Water Footprint คือดัชนีชี้วัดปริมาณการใช้น�้ำ จากแหล่งน�้ำบริสุทธิ์ในธรรมชาติ ทั้งแหล่งน�้ำผิวดิน เช่น น�้ำในแม่น�้ำ ทะเลสาบ น�้ำพุร้อน น�้ำในอ่างเก็บน�้ำ และ แหล่งน�้ำใต้ดิน เช่น น�้ำบาดาล ที่ใช้ในการผลิตสินค้า และบริการ Green Water Footprint คือ ปริมาณน�้ำที่อยู่ในรูปของ ความชื้นใต้ดิน ที่ถูกน�ำมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร Gray Water Footprint คือ ปริมาณน�้ำเสียที่เกิดจาก กระบวนการผลิตสินค้าและบริการ สรุปคือ Blue Water Footprint และ Green Water Footprint เป็นการตรวจสอบปริมาณน�้ำสะอาดที่ถูก ใช้ไป ส่วน Gray Water Footprint เป็นการตรวจสอบ ปริมาณน�้ำเสียที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต ดังนั้น
ภาพแสดงการแยกส่วนว่าน�้ำที่น�ำมาผลิตมาจากแหล่งใดบ้าง
ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้นํ้าต่อคนอยู่ในอันดับที่ ๓ ของโลก ส่วนในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทยมีสัดส่วน การใช้นํ้าอยู่ในอันดับที่ ๑ จากข้ อ มู ล สถิ ติ นี้ ค งจะพอท� ำ ให้ น ้ อ งๆ ได้ ท ราบว่ า ทรัพยากรน�ำ้ เรือ่ งใกล้ตวั ทีเ่ รามองข้าม อาจหมดไปจากโลก ของเราได้ภายในเวลาอันใกล้ ถ้าวันนี้เรายังไม่ใช้น�้ำให้เกิด ประโยชน์สงู สุด โดยเฉพาะประเทศไทยทีข่ นึ้ ชือ่ ว่าในน�ำ้ มีปลา ในนามีขา้ ว อาจต้องเป็นประเทศทีข่ าดแคลนน�ำ้ เสียเองก็ได้ ทีม่ า : Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) waterfootprint.จาก : http://www.waterfootprint.org.
(วันที่ค้นข้อมูล : ๙ มิถุนายน ๒๕๕๗).
จาก : http://catalog.flatworldknowledge.com/bookhub/reader/3157?e=gittell _1.0-ch04_s05. (วันที่ค้นข้อมูล : ๙ มิถุนายน ๒๕๕๗). ภาพประกอบจาก : http://images.flatworldknowledge.com/gittell/gittell-fig04_x019.jpg.
(วันที่ค้นข้อมูล : ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗).
33
เพลินกวี โดย
: กองบรรณาธิการ
สวัสดีค่ะน้องๆ ที่มีหัวใจรักการเขียน ไม่ว่าจะเป็นร้อยแก้ว โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน พื้นที่ตรงนี้รอคอยให้น้องๆ ได้มา ประชันความสามารถกันเสมอค่ะ ในยุคไซเบอร์เช่นนี้น้อยคนนักที่จะได้ใกล้ชิดบทกวีดังเช่นสมัยก่อน พี่ผลิใบจึงไม่อยากให้น้องๆ ลืม ความเป็นไทยไปเสีย และในฉบับนี้ก็มีผลงานส่งเข้ามามากมายในหัวข้อ “คนสร้างป่า ป่าสร้างคน” มาดูกันค่ะว่าฝีมือการร่ายบทกวีของ ใครที่ได้รับคัดเลือกมาลงในฉบับนี้ กลอนสุภาพ ไม้ถกู ตัดสัตว์ถกู ล่าป่าหมองหม่น ธรรมชาตินอ้ ยลงไปในทุกวัน ปลูกต้นไม้เพิม่ คุณค่าป่าสีเขียว ดุจเกาะแกร่งป้องกันภัยให้ปวงชน
เพราะว่าคนท�ำลายไร้สขุ สันต์ ต้องหวาดหวัน่ เกิดภัยทัว่ แผ่นดิน เป็นหนึง่ เดียวสามัคคีมเี ป็นผล ป่าสร้างคนคนสร้างป่าค่ามากมี
น.ส. จารุวรรณ พันธุส์ ุ ชัน้ ม.๔/๑ โรงเรียนกบินทร์วทิ ยา ปราจีนบุรี
คนสร้างป่าปกป้องคุม้ ครองป่า รักษาป่ามากกว่าตัวไม่กลัวตาย ป่าสร้างให้ผองชนด�ำรงอยู ่ ร่วมสืบสานงานต่อพ่อภูมพิ ล
สร้างคุณค่าป่าไทยไม่สญู หาย ไม่เสียดายแม้ชวี ติ อุทศิ ตน ป่าสร้างอูส่ ร้างอาหารบันดาลฝน สร้างให้คนคูป่ า่ สืบช้านาน
เด็กหญิงณัฐนิชา ขุนทอง ม.๓/๒ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรุงเทพฯ
เมือ่ ความโลภเข้าครอบง�ำน�ำความคิด ลืมถูกผิดจิตมัวเมาเคล้าตัณหา ท�ำร้ายสัตว์ตดั ต้นไม้ไร้เมตตา เสียงเรียกร้องเกินเยียวยาป่ามีภยั หลอมรวมใจให้เป็นหนึง่ พึงรักษา อนุรกั ษ์เสริมคุณค่าพาสดใส คนสร้างป่าป่าสร้างคนเกือ้ กูลไป อนุรกั ษ์ไว้โลกสีเขียวจักร่มเย็น
ต้นไม้ตน้ น�ำ ้ ผลิตอากาศ ท�ำลายชีวติ ต้นน�ำ้ หายไป
เกิดตามธรรมชาติ สะอาดเพือ่ ใคร คนคิดตัดไม้ สร้างใหม่ยงั ทัน
ด.ช. พีระภัทร ส่องรส ชัน้ ป.๖/๓ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ชลบุรี
ป่าไม้ของเรา ขาดป่าเราโศก โลกทุกวันนี ้ เพราะโลกของเรา
เป็นเงาของโลก เหมือนโลกไร้เงา ไม่มปี า่ เขา โดนเขาท�ำลาย
ด.ช. พรพิพฒ ั น์ เทพจันทร์ ชัน้ ป.๕/๒ โรงเรียนจุลสมัย สงขลา
กาพย์ยานี ๑๑ ป่าไม้คอื ชีวติ ควรสร้างจิตคิดรักษา ชุม่ ชืน้ ชืน่ ชีวา มากคุณค่าป่าไม้ไทย ป่าไม้คอื ต้นน�ำ ้ ช่วยชีน้ ำ� ทางสดใส สร้างป่าสร้างดวงใจ รักษาไว้ให้ยงั่ ยืน
น.ส. มณีนชุ ตุม้ สุวรรณ ชัน้ ม.๖/๑ โรงเรียนกบินทร์วทิ ยา ปราจีนบุรี
ด.ญ. สิรมิ า จวงสอน ชัน้ ม.๓/๑ โรงเรียนสายมิตรศึกษา ปราจีนบุรี
กลอนดอกสร้อย ป่าเอ๋ยป่าไม้ ควรรักษ์ไว้มคี ณ ุ ค่ามหาศาล เหล่าพฤกษานานาล้วนผลิบาน งามตระการให้แช่มชืน่ รืน่ ฤดี ประโยชน์มมี ากมายคณานับ ดัง่ สินทรัพย์ลำ�้ เลิศเพริศแพรวศรี น�ำ้ มีปลานามีขา้ วเหลือทวี ป่าไม้นชี้ แี้ นวทางสร้างสุขเอย
ป่าไม้ในไพรี ป่านัน้ เปรียบดัง่ บ้าน ร่วมแรงร่วมใจกัน ธรรมชาติแสนน่ายล
สร้างชีวที กุ ถิน่ ฐาน สร้างอาหารแก่ผคู้ น สร้างป่าพลันจักเกิดผล ทุกแห่งหนควรดูแล
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ พงไพรมนุษย์สร้าง หว่านพืชเมล็ดดี ราษฎร์ลว้ นสมานฉันท์ ป่านีส้ สิ ร้างคน
ฤดีพร่างกระจ่างศรี นิรมิตธราดล อุระมัน่ ประโยชน์ผล นิรทุกข์ขจรไกล
น.ส. ธนัชชา กิจโสภี ชัน้ ม.๔/๒ โรงเรียนสายมิตรศึกษา ปราจีนบุรี
กลอนสักวา สักวาป่าไม้ได้ชมุ่ ชืน้ คือสมบัตขิ องชาติราษฎร์เปรมปรีดิ์ เราคนไทยควรต้องรูร้ กั ษา ป่าคือบ้านควรรูจ้ กั รักผูกพันธ์
ไทยร่มรืน่ พาร่มเย็นเป็นสุข เป็นชีวขี องเราเท่านิรนั ดร์ คนสร้างป่าป่าสร้างคนล้นสุขสันต์ พวกเรานัน้ ควรรักษาป่าไม้เอย
ด.ญ. สุรรี ตั น์ พิทกั ษ์ราษฎร์ ชัน้ ม.๓/๑ โรงเรียนสายมิตรศึกษา ปราจีนบุรี
กลอนสี่ นาคะเสถียร ทุกคนมีสทิ ธิ ์ ผืนแผ่นดินนี ้ ได้คนดีไว้
ผูเ้ ปลีย่ นความคิด รักษาป่าไม้ โชคดีแค่ไหน รักษาป่าเอย
ด.ญ. กวินธิดา เด็นละ ชัน้ ป.๕/๓ โรงเรียนจุลสมัย สงขลา
34
นายธนวัตร ตะเภาพงษ์ ชัน้ ม.๕/๒ โรงเรียนสายมิตรศึกษา ปราจีนบุรี
น.ส.ปาริฉตั ร จ้อยสาคู ชัน้ ม.๖/๑ โรงเรียนกบินทร์วทิ ยา ปราจีนบุรี
ส�ำหรับฉบับต่อไปน้องๆ สามารถส่งบทความมาได้เช่นเคยภาย ใต้หัวข้อ “เยาวชนรุ่นใหม่ ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” โดยกติกามีอยู่ว่า บทร้อยแก้วให้เขียนลงบนกระดาษ A๔ ความยาวไม่เกิน ๑๐ บรรทัด ส่วนบทร้อยกรอง สามารถส่งบทกวีแบบใดก็ได้ ทัง้ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย ความยาว ๒ บท เขียนถูกต้องตามฉันทลักษณ์ พร้อมทัง้ ระบุประเภทของกลอนทีแ่ ต่ง ทีส่ ำ� คัญอย่าลืมเขียนชือ่ นามสกุล ชัน้ โรงเรียน และทีอ่ ยูข่ องน้องๆ แล้วส่งผลงานมาทีว่ ารสารผลิใบตาม ทีอ่ ยูห่ น้าสารบัญ หรือส่งอีเมลมาที่ sirirat@tei.or.th หรือ notchana @tei.or.th บทกวีของใครได้รบั คัดเลือกลงวารสารจะมีของทีร่ ะลึกส่งให้ ด้วยค่ะ
รู้ใช้ รู้คิด
โดย : คิดดี
ช่วงนี้ไม่ว่าพี่คิดดีจะเปิดทีวีช่องไหน ก็มีแต่ข่าวเรื่องพลังงานราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นน�้ำมัน น�้ำประปา ไฟฟ้า ก๊าซ ฯลฯ สาเหตุก็เพราะว่าพลังงานธรรมชาติของเราใกล้จะหมดลงทุกทีนั่นเอง มันน่าใจหายไหมล่ะครับ ที่อยู่ๆ พลังงานที่เราคุ้นชินกับการใช้ อย่างไม่คิดก�ำลังร่อยหรอลงไป... มนุษย์เราจึงคิดที่จะน�ำเอาพลังงานทดแทนต่างๆ มาใช้แทนพลังงานฟอสซิล เช่น การน�ำพลังงานน�้ำและพลังงานลมมาปั่น เป็นกระแสไฟฟ้า น�ำแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากน�้ำอ้อยหรือกากน�้ำตาลมาเป็นเชื้อเพลิงก๊าซโซฮอลล์ น�ำน�้ำมันปาล์มหรือน�้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิต ไบโอดีเซล นอกเหนือจากพลังงานทดแทนที่พี่คิดดีกล่าวมาแล้ว น้องๆ ทราบหรือไม่ครับว่าขยะก็น�ำมาเป็นพลังงานทดแทนเชื้อเพลิง ฟอสซิลได้เช่นกัน ขยะที่เหลือทิ้งจากกิจกรรมในชีวิตของคนเรานั้นนอกจากจะเป็นหนึ่งในตัวการส�ำคัญของภาวะโลกร้อนแล้ว ยังเป็น แหล่งสะสมเชื้อโรค แต่ถ้าเราก�ำจัดขยะอย่างถูกวิธี หรือน�ำพลังงานจากขยะกลับมาใช้ประโยชน์ด้วยวิธีการทางเทคโนโลยีต่างๆ ก็จะเกิด ประโยชน์ต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก ซึ่งในประเทศเราก็มีเทคโนโลยีการจัดการและก�ำจัดขยะให้เลือกหลายแบบเลยทีเดียวครับ • เทคโนโลยีก�ำจัดขยะที่สามารถแปลงขยะเป็นพลังงานและใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ขยะที่ถูกฝังในหลุมฝังกลบจะเกิดการย่อยสลาย จนเกิดก๊าซชีวภาพที่สามารถน�ำมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพก๊าซและท�ำให้เป็นของเหลว • เทคโนโลยีเตาเผาขยะ สิ่งที่ได้จากการเผาขยะ ได้แก่ พลังงานความร้อน>>น�ำมาใช้ในการผลิตไอน�้ำหรือท�ำน�้ำร้อนและผลิต กระแสไฟฟ้า ก๊าซ>>น�ำไปก�ำจัดเขม่าก่อนส่งสู่บรรยากาศ ขี้เถ้า>>น�ำไปฝังกลบหรือใช้เป็นวัสดุปูพื้นส�ำหรับสร้างถนน • เทคโนโลยีการผลิตก๊าชเชื้อเพลิงจากขยะ โดยสารอินทรีย์ในขยะจะท�ำปฏิกิริยากับอากาศหรือออกซิเจนปริมาณจ�ำกัด ท�ำให้ เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจน และก๊าชเชื้อเพลิง ซึ่งน�ำไปผลิตไฟฟ้าหรือให้ความร้อนโดยตรงต่อไป • เทคโนโลยีย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน เป็นการน�ำขยะประเภทเศษอาหาร เศษผัก และผลไม้ไปหมักในบ่อหมักขยะแบบปิด ผลของการย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจนจะท�ำให้สารอินทรีย์ย่อยสลายเปลี่ยนเป็นก๊าชชีวภาพ สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิต พลังงานได้ • เทคโนโลยีผลิตเชื้อเพลิงขยะ น�ำขยะมูลฝอยมาผ่านกระบวนการคัดแยกวัสดุที่เผาไหม้ได้ ผานกระบวนการทางกายภาพและ ทางเคมีท�ำให้เป็นเชื้อเพลิงขยะ ขยะที่ผ่านกระบวนการเหล่านี้จะได้ค่าความร้อนสูง มีคุณสมบัติเป็นเชื้อเพลิงที่ดีกว่า • เทคโนโลยีพลาสมาอาร์ก เป็นการใช้ก๊าซร้อนซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า ๓,๐๐๐ องศาเซลเซียส ท�ำให้ขยะเกิดการหลอมละลาย สารอนินทรีย์ในขยะจะกลายเป็นเศษแก้ว ส่วนสารอินทรีย์และไฮโดรคาร์บอน เช่น พลาสติกหรือยาจะกลายเป็นก๊าช • เทคโนโลยีการแปรรูปขยะเป็นน�้ำมันเชื้อเพลิง เป็นการเปลี่ยนขยะประเภทพลาสติกให้เป็นน�้ำมัน โดยวิธีการเผาในเตาแบบ ไพโรไลซิส ด้วยการควบคุมอุณหภูมิและความดัน และใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เหมาะสมท�ำให้เกิดการสลายตัวของโครงสร้างพลาสติก ได้ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงเป็นของเหลว สามารถน�ำไปผ่านกระบวนการกลั่นเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงเหลวในเชิงพาณิชย์ได้
ภาพแสดงประโยชน์ของพลังงานจากขยะ
ที่มา ปาฎิหารย์พลังงานจากขยะ. จาก http://www.vcharkarn.com /varticle/38672. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖). http://www.eppo.go.th. (วันทีค่ น้ ข้อมูล : ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๖).
35
เกร็ดวิทย์ ติดขอบเล่ม โดย : นักสืบไฮเทค
ค้างคาวตาบอดจริงหรือ ? หลังจากพีน่ กั สืบไฮเทคไปเทีย่ วถ�ำ้ ค้างคาวมา ก็มคี ำ� ถามค้างคาใจว่าค้างคาวนับล้านๆ ตัวทีบ่ นิ กรูกนั ออกมาจากถ�ำ้ พร้อมๆ กัน ท�ำไมไม่มีตัวไหนบินชนกันเลยสักตัว ทั้งที่มีใครหลายๆ คนบอกว่าค้างคาวตาบอด เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่น้องๆ คง สงสัยกันใช่ไหมล่ะครับ พี่เองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เลยไปหาข้อมูล ก็ท�ำให้ได้ทราบว่าจริงๆ แล้วค้างคาวนั้นไม่ได้ตาบอด เหมือนที่ใครๆ พูดกัน แต่สายตาของมันก็ไม่ได้มองเห็นได้ชัดเจนสักเท่าไรนัก ยิ่งเป็นสัตว์ที่หากินกลางคืนด้วยแล้ว มันจะมอง เหยื่อได้อย่างไรทั้งๆ ที่ตาก็ไม่ค่อยจะดี แต่สายตาก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการด�ำเนินชีวิตของเจ้าค้างคาวนักหรอกครับ ถึงเราจะจับมันปิดตามันก็ยังบินได้ สบาย เพราะว่ามันไม่ได้ใช้สายตาในการน�ำทาง แต่ค้างคาวใช้หูในการมองเห็นครับ เอ๊ะยังไง...ใช้หูมอง? (พีน่ กั สืบไฮเทคก็ พยายามใช้หูมองอยู่หลายครั้งแต่ก็ท�ำไม่ส�ำเร็จสักที) การใช้หูในการมองเห็นของค้างคาวก็คือ มันจะหาทิศทางการบินด้วยการปล่อยเสียงที่มีความถี่สูง (คลื่นซูเปอร์โซนิก) ออกไปกระทบสิ่งกีดขวางแล้วคอยดักจับคลื่นสะท้อน มันก็จะรู้ได้ว่าต�ำแหน่งของวัตถุที่อยู่ข้างหน้าอยู่ที่ต�ำแหน่งใด ท�ำให้ค้างคาว รู้ทิศทางว่าจะบินไปทางใดจึงจะไม่ชนสิ่งกีดขวาง Rolf Müller นักฟิสิกส์ จาก Shandong University ประเทศจีน พบว่าเสียงคลื่นความถี่สูงนั้นสะท้อนกลับใน โครงสร้างส่วนกลางไปหาส่วนหลังของจมูกที่เรียกว่า Sella และส่งคลื่นที่มีความกว้างของคลื่นต�่ำออกจากช่องจมูก ในขณะที่ เสียงคลื่นความถี่ต�่ำนั้นจะสะท้อนกลับในส่วนช่องจมูกที่เรียกว่า Lancet ที่อยู่ปลายสุดของแผ่นจมูก ร่องเสียงใน Lancet ก่อให้เกิดแหล่งก�ำเนิดเสียง ๔ แหล่ง คลื่นโซนาร์ถูกสร้างจากแหล่งก�ำเนิดเสียงรวมถึง ๖ แหล่ง ท�ำให้คลื่นที่มันปล่อยออก มามีความกว้างมากขึ้น ส่งผลให้เสียงกระจายได้ดียิ่งขึ้น คลื่นเสียงที่มีความกว้างมากนั้นอาจจะมีประโยชน์ต่อระบบน�ำทางโดย ทั่วไป แต่คลื่นเสียงที่ความกว้างน้อยกว่าก็จะมีประโยชน์ต่อเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น การไล่ล่าเหยื่อ
โซนาร์
คลื่นเสียงสะท้อนกลับ
ในเวลาทีม่ นั หาเหยือ่ ทีม่ ขี นาดใหญ่จะใช้เสียงทีม่ คี วามถี่ ๒๗.๒ ± ๐.๒ กิโลเฮิรตซ์ แต่เวลาหาเหยือ่ ขนาดเล็ก มันจะใช้ความถี่ ๕๓.๖ ± ๐.๖ กิโลเฮิรตซ์ ซึง่ แสดงให้เห็นว่าค้างคาวเป็นสัตว์ทสี่ ามารถปรับความถีเ่ สียงทีส่ ง่ ออกไปเพือ่ หาเหยือ่ ได้นนั่ เองครับ
36
ที่มา (๑) จาก : http://www.vision-systems.com/articles/2011/11/scientists-study-bats-for-ultrasound-improvements.html (วันที่ค้นข้อมูล : ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗). (๒) จาก : http://askabiologist.asu.edu/echolocation (วันที่ค้นข้อมูล : ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗).
ประกวดนักเขียนรุ่นเยาว์ ปี ๙ วารสารผลิใบร่วมกับองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนขอเชิญชวนนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ประถม ๔-๖) และระดับมัธยมศึกษา (มัธยม ๑-๖) ส่งบทความเข้าประกวดในโครงการนักเขียนรุน่ เยาว์เพือ่ สร้างนักธุรกิจเพือ่ สิง่ แวดล้อมในอนาคต ปีที่ ๙
นักเขียนระดับประถมศึกษา
นักเขียนระดับมัธยมศึกษา
เลือกเขียนบทความ ๒ หัวข้อตามความสนใจ ได้แก่ ๑. “ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน” นิยามหัวข้อ ให้นักเรียนกล่าวถึง ภูมิปัญญาชาวบ้าน ทีเ่ กิดจากไอเดีย ประสบการณ์ แนวคิดหรือแนวปฏิบตั ทิ ี่ สังคมหรือชุมชนสืบสานต่อกันมา ซึ่งเป็นความรู้ในการ ส่ ง เสริ ม ด้ า นการประกอบสั ม มาอาชี พ ที่ ค� ำ นึ ง ถึ ง การ ประหยัดพลังงาน หรือสนับสนุนการใช้เป็นพลังงาน ทดแทน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ให้แก่ สังคมหรือชุมชนนัน้ ๆ ๒. “เทคโนโลยีสีเขียว เพื่อเรา เพื่อโลก” นิยามหัวข้อ ให้นักเรียนกล่าวถึง เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมใหม่ๆ หรือแนวทางต่างๆ ที่เป็นมิตรกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือการอนุรักษ์ พลั ง งาน แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง กระบวนการท� ำ งานของ เทคโนโลยีเหล่านี้ว่าช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้กับมนุษย์ และโลกอย่างไรบ้าง โดยไม่จำ� กัดว่าจะต้องเป็นเทคโนโลยี ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิด มุมมองและโลกทัศน์ทกี่ ว้างขึน้ ส�ำหรับเยาวชนรุน่ ใหม่ โดย ให้แสดงแนวคิดว่าเราจะน�ำเทคโนโลยีสเี ขียวเหล่านีม้ าเป็น แบบอย่ า ง ต่ อ ยอด หรื อ ประยุ ก ต์ ใ ช้ กั บ ภาคธุ ร กิ จ ภาคอุตสาหกรรม และสังคมของเราได้อย่างไร
เลือกเขียนบทความ ๒ หัวข้อตามความสนใจ ได้แก่ ๑. “ฉลากสิ่งแวดล้อมกับเยาวชนไทย” นิยามหัวข้อ ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นในแง่มมุ ในฐานะของผูบ้ ริโภค รุ่นเยาว์ยุคใหม่ ว่าท�ำไมจึงต้องตระหนักและสนับสนุนในการเลือกซื้อ เลือกใช้สินค้า/ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ นั ก เรี ย นมี ค วามคิ ด เห็ น อย่ า งไรเกี่ ย วกั บ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งฉลาก สิง่ แวดล้อมกับสินค้าทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม และท�ำไมสังคมไทยต้องให้ ความส� ำ คั ญ ต่ อ การเลื อ กซื้ อ เลื อ กใช้ สิ น ค้ า ที่ ไ ด้ รั บ การรั บ รองฉลาก สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทั้งนี้ในฐานะเยาวชนไทยจะมีบทบาทอย่างไร ในการสื่ อ สารเกี่ ย วกั บ ประโยชน์ ข องฉลากสิ่ ง แวดล้ อ มให้ แ ก่ ค นใน ครอบครัว ชุมชน และสังคมรับรูแ้ ละปรับเปลีย่ นพฤติกรรมให้เป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อมได้ ๒. “ด�ำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม” นิยามหัวข้อ ให้นกั เรียนกล่าวถึง ต้นแบบในการด�ำเนินธุรกิจทีถ่ กู ต้อง ตามท�ำนองคลองธรรม ค�ำนึงถึงความสมดุลด้านสิง่ แวดล้อม ไม่วา่ จะเป็น มลพิษทางน�ำ้ อากาศ ดิน เสียง และเป็นแบบอย่างทีด่ ใี นการให้ความ เคารพในด้านสิทธิมนุษยชนต่อบุคลากรและชุมชนทีอ่ ยูใ่ กล้เคียง โดยไม่มี การเข้าไปแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของบุคคลในชุมชนนั้นๆ มีการตรวจสอบผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนจากการด�ำเนินธุรกิจของตน และให้มกี ารตอบสนองผลกระทบนัน้ อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการ สือ่ สารกับสาธารณชนเมือ่ มีขอ้ กังวลเกิดขึน้
รางวัล
รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ รางวัลชมเชย
ทุนการศึกษา ๔,๐๐๐ บาท จ�ำนวน ๔ รางวัล ทุนการศึกษา ๒,๐๐๐ บาท จ�ำนวน ๔ รางวัล ทุนการศึกษา ๑,๐๐๐ บาท จ�ำนวน ๒๐ รางวัล
กติกา ๑. บทความที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเขียนขึ้นด้วยตัวเอง ไม่ลอกเลียนตัดต่อมาจากที่อื่น หากยกค�ำพูดหรือข้อความใดๆ ต้องระบุที่มา และ งานเขียนนั้นต้องไม่เคยได้รับรางวัลมาก่อน ๒. ความยาวไม่เกิน ๒ หน้ากระดาษ A๔ ตัวอักษรพิมพ์ขนาด ๑๖ พอยต์ หรือเขียนด้วยลายมือบรรจง ๓. ไม่ต้องมีภาพประกอบ ๔. การให้คะแนนพิจารณาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ถ้อยค�ำสละสลวย ใช้ภาษาถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ วางขอบเขตเนื้อหาตาม หัวข้อที่ตั้งไว้อย่างเหมาะสม และสื่อความหมายชัดเจนและถูกต้องตามข้อมูลเชิงวิชาการ ส่งผลงานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หมดเขตรับผลงานวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ทางอีเมล์ที่ sirirat@tei.or.th หรือ notchana@tei.or.th จ่าหัวเรื่อง (subject) ว่า นักเขียนรุ่นเยาว์ ทางจดหมายที่ นักเขียนรุ่นเยาว์ วารสารผลิใบ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ๑๖/๑๕๑ เมืองทองธานี ถนนบอนด์สตรีท ต�ำบลบางพูด อ�ำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทรศัพท์สอบถาม ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๓๓ ต่อ ๕๓๔ สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: http://www.facebook.com/Plibai2012.Tei 37
ใบสมัครสมาชิก
วารสารผลิใบ วันที่…..........เดือน….....…………….พ.ศ.……… (นาย / นาง / นางสาว / เด็กชาย / เด็กหญิง) ชื่อ …….....................................................…………………. นามสกุล …………............................................……………. อายุ ……… ปี อาชีพ .....................………………………. หน่วยงาน ………………………........................................... สถานที่ติดต่อ ………………………. …………………… .......…………………............................................................. รหัสไปรษณีย์ ………………โทรศัพท์ ……........................... โทรสาร ………………อีเมล ...........………………………. ขอสมัครสมาชิกวารสารผลิใบ อัตราค่าสมัคร [ ] ๑ ปี / ๖ ฉบับ / ๒๑๖ บาท (รวมค่าจัดส่ง) [ ] ๒ ปี / ๑๒ ฉบับ / ๔๓๒ บาท (รวมค่าจัดส่ง) ประเภทสมาชิก [ ] สมาชิกสามัญเริ่มต้นฉบับที่ ………... ถึงฉบับที่ ...……… [ ] โครงการห้องสมุดอุปถัมภ์เริม่ ต้นฉบับที่ ……… ถึงฉบับที่ …......… ห้องสมุดโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ [ ] ระบุเอง ชื่อโรงเรียน ………………………......................................... ที่อยู่ ……………………….................................................... ...............................................รหัสไปรษณีย์ ………………… [ ] ต้องการให้วารสารผลิใบคัดเลือกโรงเรียนให้อำ�เภอ/ จังหวัดทีต่ อ้ งการ ………………………............................................................. การชำ�ระเงิน [ ] เงินสด [ ] ธนาณัติ สัง่ จ่าย ปณ.ปากเกร็ด ในนาม “สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย” [ ] โอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองทองธานี บัญชีออมทรัพย์ ชือ่ บัญชี “สถาบันสิง่ แวดล้อมไทย” เลขทีบ่ ญั ชี ๑๔๗ – ๑ – ๑๓๗๔๐ - ๖ วารสารผลิใบ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ๑๖ / ๑๕๑ เมืองทองธานี ถนนบอนด์สตรีท ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๐๓-๓๓๓๓ โทรสาร ๐-๒๕๐๔-๔๘๒๖-๘ Email info@tei.or.th
38
สมัครสมาชิกวารสารผลิใบ
๕ ท่านแรก รับทันที
กระติกน�้ำ ดีไซน์เก๋ มูลค่า ๓๐๐ บาท
จาก มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
รายนามผู้สนับสนุนโครงการห้องสมุดอุปถัมภ์ เพื่อมอบของขวัญอันทรงคุณค่าด้วยการส่งเสริมให้เยาวชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนวัฒนธรรมการอ่าน
สำ�นักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด
ชื่อโรงเรียน
จังหวัด
ชื่อโรงเรียน
จังหวัด
โรงเรียนอนุบาลศรีสำ�โรง โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา โรงเรียนสามัคคีมีชัยวิทยา โรงเรียนหนองบัวรีราษฎร์อุทิศ โรงเรียนบ้านตลาดไทร โรงเรียนบางอำ�พันธ์วิทยาคม โรงเรียนชุมชนบัวบานสามัคคี โรงเรียนพิศาลปุณณวิทยา โรงเรียนบ้านพระคือหนองโพธิ์วิทยา โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ โรงเรียนสายปัญญาสมาคม โรงเรียนบ้านหนองสระ โรงเรียนน้ำ�พร้าสามัคคี โรงเรียนบ้านเหล่าหมากคำ� โรงเรียนขุนไกรพิทยาคม โรงเรียนชุมชนบ้านท่าแหน โรงเรียนอรุโณทัย โรงเรียนบ้านสะแกงาม โรงเรียนบ้านกงกะยาง โรงเรียนยุวบัณฑิตวิทยา โรงเรียนอนุชนวัฒนา โรงเรียนบ้านสามหลัง โรงเรียนรวมศูนย์วัดห้วยแก้ว โรงเรียนวัชรวิทยา โรงเรียนท่าปลาอนุสรณ์ 1 โรงเรียนวัดใหม่โพธิ์ทอง โรงเรียนวัดเพิ่มประสิทธิผล โรงเรียนวัดทุ่งมน โรงเรียนวัดบึง โรงเรียนระเบียบวิทยา โรงเรียนวัดแสงสรรค์ โรงเรียนบ้านลำ�พยา โรงเรียนวัดบางแขม โรงเรียนวัดท่าด่าน โรงเรียนวัดคีรีวัน โรงเรียนอนุบาลหันคา (วัดท่ากฤษณาสุชัยประชาสรรค์) โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นางรอง โรงเรียนมหาธิคุณวิทยา โรงเรียนวัดเสือข้าม โรงเรียนวังจันทร์วิทยา โรงเรียนอุดมวิทยานุกูล โรงเรียนอนุบาลเมืองปราจีนบุรี โรงเรียนวัดประสาธน์รังสรรค์ โรงเรียนชุมชนวัดแสนตุ้ง โรงเรียนบ้านเนินตะบก โรงเรียนบ้านว่าน โรงเรียนบ้านไทรงามโนนภูดิน โรงเรียนบ้านทุ่งแต้ โรงเรียนศิลาทองพิทยาสรรค์ โรงเรียนวัดวิจิตรรังสรรค์
จ.สุโขทัย จ.กำ�แพงเพชร จ.บุรีรัมย์ จ.นครราชสีมา จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.อุตรดิตถ์ จ.มหาสารคาม จ.สุโขทัย จ.ลำ�ปาง จ.ลำ�ปาง จ.เพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ จ.กำ�แพงเพชร จ.อุตรดิตถ์ จ.สระแก้ว จ.สิงห์บุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.ปทุมธานี จ.นครปฐม จ.นครปฐม จ.นครนายก จ.นครนายก จ.ชัยนาท
โรงเรียนตากสินราชานุสรณ์ โรงเรียนชุมชนบ้านป่ามะม่วง โรงเรียนบ้านคลองสัก โรงเรียนบ้านคลองห้วยทราย โรงเรียนบ้านเกาะอ้ายด้วน โรงเรียนบ้านท่าเล่ โรงเรียนบ้านท่าไม้แดง โรงเรียนชุมชนบ้านไม้งาม โรงเรียนเด่นวิทยา โรงเรียนวัดปากห้วยไม้งาม โรงเรียนบ้านน้ำ�ดิบ โรงเรียนบ้านเนินมะลื่น โรงเรียนบ้านบ่อไม้หว้า โรงเรียนบ้านโป่งแดง โรงเรียนบ้านน้ำ�ด้วน โรงเรียนบ้านมูเซอ โรงเรียนบ้านโพรงตะเข้ โรงเรียนบ้านสะแกเครือ โรงเรียนบ้านลานห้วยเดื่อ โรงเรียนบ้านลานมะคร้อ โรงเรียนบ้านลานสาง โรงเรียนบ้านวังประจบ โรงเรียนบ้านไร่ โรงเรียนบ้านหนองกระโห้ โรงเรียนบ้านหนองบัวใต้ โรงเรียนบ้านวังม่วง โรงเรียนบ้านลานเต็ง โรงเรียนบ้านตลุกกลางทุ่ง โรงเรียนบ้านตลุกป่าตาล โรงเรียนบ้านชะลาดระฆัง โรงเรียนบ้านชะลาด โรงเรียนบ้านทรัพย์สมบูรณ์ โรงเรียนชุมชนบ้านวังหิน โรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม โรงเรียนบ้านหนองบัวเหนือ โรงเรียนบ้านหนองร่ม
จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก
จ.บุรีรัมย์ จ.สระแก้ว จ.สิงห์บุรี จ.ระยอง จ.ระยอง จ.ปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.ตราด จ.ตราด จ.หนองคาย จ.หนองคาย จ.ยโสธร จ.ยโสธร จ.ชัยนาท
โรงเรียนบ้านหนองนกปีกกา โรงเรียนบ้านหนองแขม โรงเรียนบ้านหนองเสือ โรงเรียนบ้านห้วยนึ่ง โรงเรียนอนุบาลตาก โรงเรียนบ้านห้วยเหลือง
จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก จ.ตาก
39
ASEANs’ GAME โดย : คนขี้เล่น
ทิ้งฉันให้ถูกที่
ฉบับนี้เรามีความรู้เรื่องขยะมาน�ำเสนอให้น้องๆ ได้อ่านกันไปแล้ว คิดว่าหลายคนคงเห็นความส�ำคัญของการคัดแยก ขยะ เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวแล้ว ยังท�ำได้ไม่ยากอีกด้วย ทีนี้อยากให้น้องๆ ช่วยน�ำขยะเหล่านี้ลงถัง ให้ถูกประเภท ด้วยการโยงเส้นจากขยะไปยังถังที่เหมาะสม ไปเริ่มกันเลยครับ
¢ÂÐà»Â‚¡
¢ÂÐá˧Œ
¢ÂÐÃäÕ«à¤ÅÔ
ขยะเปียก
ขยะแห้ง
ขยะรีไซเคิล
เฉลย เกมจับผิดภาพ ป่าชายเลน ฉบับ ๑๑๓ มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ ๖ จุด
40
¢ÂÐ͹ѵÃÒÂ
ขยะอันตราย
41
42