ธรรมและทรรศนะชีวิต วศิน อินทสระ
สํานักพิมพ เรือนธรรม ธรรมและทรรศนะชีวิต วศิน อินทสระ ISBN 974-90262-7-6 พิมพครั้งแรก : เมษายน 2545 จัดพิมพโดย สํานักพิมพ เรือนธรรม 290/1 ถนนพิชัย ดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท : 0-2243-1279-80 โทรสาร : 0-2243-1590 บรรณาธิการ : พรจิตต พงศวราภา พิมพคอมพิวเตอร : พรเพ็ญ สุภิรักษ ศิลปกรรม : ประทีป ปจฉิมทึก, ปยฉัตร คงอยู ถายภาพปก : ขวัญ เพียงหทัย พิสูจนอักษร : สมพร แสงสังข ประสานงานการผลิต : รัตนา โคว พิมพที่ : บริษัท โอเอส พริ้นติ้ง เฮาส จํากัด โทรศัพท 0-2424-6944 จัดจําหนายโดย : บริษัท อัมรินทร บุค เซ็นเตอร จํากัด โทรศัพท : 0-2882-2000 โทรสาร : 0-2434-1382
คํานํา หนังสือ “ธรรมและทรรศนะชีวิต” เลมนี้สําเร็จมาไดเพราะลูกศิษยผูไมประสงคออกนาม ไดคัดลอกขอความจากหนังสือตางๆ ที่เห็นวาดี นาสนใจไวกอน พรอมดวยบอกไวตอนทายของตอนนั้นๆ วามาจากหนังสืออะไร หนาอะไร เชน ปญญารัตนะ หนา 123 หมายความวา มาจากหนังสือปญญารัตนะ หนา 123 ของผูเขียน เลมอื่นๆก็บอกไวทํานองเดียวกัน ตอมาลูกศิษยบางคนผูไมประสงคออกนามเหมือนกัน อานแลวเห็นวาเปนประโยชน ควรเผยแผใหแพรหลาย จึงไดจัดพิมพขึ้นอยางที่ทานเห็นอยูนี้ ขาพเจาขออนุโมทนาตอทุกๆคนผูมีสวนรวมในการเผยแผ “ธรรมและทรรศนะชีวติ ” นี้ ขออวยพรใหมีความสุขและเจริญรุงเรืองในธรรมยิ่งๆขึ้นไป วศิน อินทสระ
การศึกษาที่ถูกตองยอมเปนพืน้ ฐานใหเกิดการปฏิบัติที่ ถูกตอง การปฏิบัติใหถูกตองยอมกอใหเกิดการบรรลุผลที่ดีงาม ถาทานรักศาสนาของทาน ขอใหทานศึกษา ทําความเขาใจเรื่องศาสนาของทานใหถูกตองเสียกอนทีจ่ ะลงมือปฏิบัติ มิฉะนั้น จะมีโอกาสผิดพลาดมาก ทานจะไมไดรบั ผลอะไรเลย เหมือนการกินยาผิดพลาด ยอมกอโทษแกผูกินอยางมากมาย อาจถึงตายก็ได โดยธรรมดาหรือโดยธรรมชาติของมนุษยและสัตวโลก ทั้งหลายนั้น ความปรารถนาที่จะสงบเปนพื้นฐานสําคัญอยูใน ชีวิตจิตใจ ถาไมมีเหตุอื่นมากระตุน ใหวุนวายแลว ชีวิตจิตใจก็ ตองการความสงบสุขอยูเสมอ ดังนั้น จึงกลาวไดวา ความสงบ เปนธรรมชาติอันแทจริงของชีวิต ผูรูจักความสงบ ชื่อวาไดรู จักธรรมชาติของชีวิตและความลี้ลับของชีวิต อยางที่ทานผูสงบ ทั้งหลาย มีพระพุทธเจา เปนตน ไดทรงรูจักมาแลว และนํามาเปดเผยแกเราทานทั้งหลาย การที่เราไดทําความผิดอะไร ไดสูญเสียอะไรไปแลว ก็ขอใหมันลวงเลยไป อยาเก็บเรื่องทีล่ วงไปแลวมาทรมานตนเอง อยายอมเปนทาสของอดีต อยาใหอดีตมาขยี้หัวใจเลน อยา นั่งอยูกับอดีตที่เศราหมอง อยาขังหรือจองจําตัวเองไวกบั อดีต อันทรมาน เพราะไมมีประโยชน และไมฉลาดเลย อดีตจะเปนอยางไรก็ตามใจ แตปจจุบนั และอนาคตยังเปนของเรา ขอใหเริ่มทําใหมสรางใหม ทําปจจุบันใหดีที่สดุ อนาคตยอมจะ ดีเอง ปจจุบนั จะกลายเปนอดีตของอนาคต เราสรางอนาคตกันดวยปจจุบันนัน่ เอง เพื่อนที่ชวยแกปญหาดีที่สุดคือกาลเวลา ทานจึงสอนวา เมื่อมืดและงงตอปญหาถึงที่สุด ก็ใหหยุดอยูกับที่ อยาทําสิ่งใด อันเปนเหตุกอปญหาใหม เพราะการกระทําในเวลานั้น อาจผิดพลาดไดมาก อุปมาเหมือนเมื่อยืนอยูใ นทีม่ ืด ไปทางไหนไมถูก ก็ควรยืนนิ่งอยูกับทีก่ อน ถาเราอดทนยืนอยูได เมื่อเวลาลวงไปๆ แสงสวางก็จะคอยๆ เกิดขึ้นเองโดยธรรมดา เหมือนสิ้นราตรี แสงสวางปรากฏขึ้นพรอมกับการเริ่มวันใหม เมื่อเราทราบวา ผลของกรรมไมมีทางที่เราจะหลีกเลี่ยง ได และความชัว่ เปนสิ่งที่ลบลางไดดว ยความดีดังกลาวมาแลว หนาที่ของเราก็คือหยุดทําบาปตั้งแตวนั นี้เปนตนไป และเริ่มทํา ความดีใหมากทีส่ ุดเทาที่จะมากได เพื่อเราจะไดไมเสียใจในภาย หลัง ความชั่วที่ทําแลวก็ถือวาแลวกันไป แตเมื่อไมทําซ้ําอีก สักวันหนึ่งมันก็ตองหมดลง เราก็เหลือไวแตผลแหงความดี ซึ่ง เราตั้งหนาตั้งตาทํา คอยใหผลเราอยูข างหนาอยางอบอุน ผูมี ปญญาไมควรประมาท แมในเรื่องบุญ วาไดทํามามากแลว เพราะถาไมเพิ่มมันก็หมดไปไดเหมือนกัน เพราะทุกอยางตกอยู ภายใตกฎอนิจจังทั้งสิ้น ความไมประมาทเปนตัวนําอันสําคัญยิ่ง ในการนําเราหลีกหลบทางแหงความเสื่อม และใหบรรลุถึงทาง แหงความเจริญไดตลอดกาล
1
ธรรมและทรรศนะชีวิต
การนําตนไปเทียบกับคนอื่น หรือนําคนอืน่ มาเทียบ กับตนแลวสรุปวา เราดีกวาเขา เสมอเขา หรือเลวกวาเขานั้นผิด ทางทีถ่ ูกไมควรเทียบเลย ถาจะเทียบก็ควรเทียบ กับอุดมคติของตนวา ระหวางอุดมคติกับการกระทําของตนหางกันเพียงใด หรือใกลเพียงใด ชีวิตของตนไดดําเนินไปใกลอุดมคติที่ตั้งไวเพียงใดแลว การพยายามเทียบตนกับอุดมคติอยูเสมอ ทําใหชวี ิตดําเนินถึงอุดมคติอันสูงสุดสําหรับตนเร็วขึ้น หลักมีอยูว า เราตองการผลเชนใด เราตองทําเหตุให เกิดผลอยางนั้น อยางนอยที่สุดควรใหเริ่มไปจากเรากอน เชน เราตองการมิตรที่แทจริง เราควรเปนมิตรที่แทจริงตอผูอื่น ที่ เราตองการคบเปนมิตรเสียกอน เขาเห็นความจริงของเราแลว ก็จะจริงตอบมา กลาวในเรื่องสวนตัว คนใจไมมนั่ คง ยอมเปน คนจับจดในการงาน จับอะไรไมมั่น ตองการผลเร็วเกินไปไมรู จักรอคอย เลยกลายเปนคนทําอะไรไมสาํ เร็จ จะทําเรือก็กลาย เปนไมเขี่ยปูนอยางในนิทาน ทําการอยางไฟไหมฟาง ลุก พึ่บพั่บขึ้นประเดี๋ยวประดาว แลวมอดไป สวนคนที่มีใจมั่นคงยอมคอยทําคอยไป จับทําอะไรแลว ไมวางงาย นึกอยูเสมอวา เมื่อไมเห็นผลในวันนี้ ก็ตองเห็นผลในวันหนา การทํางานใหญตอ งรอคอยผลนาน ทําการแบบไฟสุมขอน มีความเพียรพยายามสม่ําเสมอ ไมเรงเรียกรองผล เพราะผลเปนเรื่องของเหตุที่จะบันดาลใหเกิด หนาที่ของเราคือ ทําเหตุ เมื่อเหตุดีแลวความสําเร็จยอมมีมาเอง ขอแตใหจบั ใหมั่น ในโลกนี้ไมมอี ะไรนากลัวเทาบาปกรรม นับเปนศัตรูที่ มองไมเห็นตัวตน แตมีอิทธิพลรายแรงตอชีวติ มาก อีกหนึ่งนาทีขางหนาจะถึงตัวเราอยูแ ลว เราก็มองไมเห็นมัน เราไมรูจะหนีอยางไร ใครทีม่ ีศัตรูคือเวรกรรมก็นับวาโชครายมาก เพราะมันทําเราไดขางเดียว เราไมรูจะโตตอบมันอยางไร นอกจากมันมีกําลังมหาศาลแลว ยังมองไมเห็นตัวตนเสียอีกดวย ทานจึงสอนใหกลัวเวรกรรมไวใหมาก คนที่กําลังทําความชั่วอยู อาจไดรับความสุข ความ เจริญ ความมั่งคั่งสมบูรณ เพราะกรรมดีในปางกอนที่เขาเคย ทําไวกําลังใหผล สวนกรรมใหมทเี่ ขากําลังทําอยู ยังไมพรอม ที่จะใหผล ทําใหคนผูนนั้ เขาใจผิดไปวา เพราะกรรมชั่วที่ตน กําลังกระทําอยูน ี้เอง ตนจึงมีความสุขความรุงเรือง นี่คือหลุม พรางอันลอใหบุคคลผูนั้น กาวลึกลงไปในหวงเหวแหงความ ชั่วราย เขาสรางกรรมชั่วมากขึ้น มีความลําพองใจมากขึ้นวา กรรมชั่วหามีผลชั่วจริงไม แตเมื่อกรรมดีทเี่ ขาเคยสรางไวหมด กําลังลง กรรมชั่วเริ่มใหผล เขาก็จะเริ่มรูสึกวา บาปก็คือบาป แตสุดแกไขเสียแลว
2
ธรรมและทรรศนะชีวิต
คนดีมีปญญา ยอมไมละเลยคุณงามความดี ไมดูหมิ่นวาเล็กนอยแลวเพิกเฉยเสีย เขายอมหมั่นเก็บหมั่นสั่งสมคุณงามความดีวันละเล็กละนอย เทาที่กําลังกาย กําลังทรัพย และโอกาสจะอํานวย เหมือนคนเดินเขาไปในสวนดอกไม เก็บทีละดอกใสกระเชาหรือตะกรา ไมนานนักกระเชาหรือตะกรานั้น ยอมเต็มดวยดอกไม หลากสีหลากพันธุ และหลายสัณฐาน ความจริง ความดีที่จะตองทํานั้นมีมาก ที่ตอ งออกทรัพยก็มี ไมตองออกทรัพยก็มี โดยที่สุด การนั่งอยูเฉยๆ แลว แผเมตตาจิตไปยังสรรพสัตวไปทั่วสากลโลก นั่นก็เปนความดี การทําใจใหสงบผองแผวก็เปนความดี จะเห็นวาเราสามารถทํา ความดีไดทุกโอกาส การสั่งสมทรัพย อาจมีทั้งคุณและโทษ คนตองเสียชีวติ เพราะคุมครองทรัพยมาก แตการสั่งสมบุญ สั่งสมความดีมีแตคุณโดยสวนเดียว ทรัพยเลี้ยงชีวิตใหเปนสุขในโลกนี้ แตความดี ใหความสุข ความชื่นใจทั้งในโลกนี้และโลกหนา ทรัพยตามไปในปรโลกไมได แตความดีตามไปได บุญกุศลยอมคอยพิทักษรักษาคนผูมีความดี ใหมีความสุขความปลอดภัย บุญกุศลเปนผูคุมครองที่ดีกวาผูคุมครองใดๆ ความดีเปนสิ่ง ที่นาทําจริงๆ ความจริง ความสุขไมตองหาไกลเลย มันอยูในตัว ใน ใจของเรานี่เอง เพียงทําใจใหสงบวันละ 5 นาที 10 นาที ก็มี ผลเปนความสุขคุมไปทั้งวัน คนหาความสุขไมเปน ชอบแสวง หาความสุขเพื่อตน บนความทุกขของคนผูอื่น คนเชนนั้นยอม ไมไดสุขทัง้ ในโลกนี้และโลกหนา ความจริงความสุขนั้น เราไมตองแสวงหาก็ได หนาที่ ของเราเพียงแตลดความทุกขใหนอยลง ความสุขก็จะเพิ่มพูนขึ้น เหมือนความรอนลดลงมากเทาใด ความเย็นก็มีมากขึ้นเทานั้น พระพุทธศาสนากลาวโดยปริยายหนึ่ง ก็คอื ศิลปะในการลดความทุกข ความทุกขมีมลู เปนเหตุมาจากความอยาก ความอยากทําใจใหเรารอน เมื่อลดความอยากลงไดมากเทาใด ใจก็เย็นมากขึ้นเทานัน้ ความสุขก็เออตามขึ้นมา ความอยากและความไมอยากอยูที่ใจ เมื่อใดใจอยาก เมือ่ นั้นมีความดิน้ รน ยิ่งดิน้ รนมาก ยิ่งแปดเปอนมาก ตรงกันขามสงบมาก เยือกเย็นมาก ก็ผองใสมาก สุขมาก คนทําประโยชนกับคนไมทําประโยชน ก็ตอ งตายเหมือน กัน และตองผานวัยตางๆเหมือนกัน ขอตางกันก็คือ คนทําประโยชน เมื่อตัวตายแลวมีประโยชนเหลืออยู สวนคนไมทาํ ประโยชน ไมมีอะไรเหลือไวเปนอนุสรณแหงชีวิต เกิดมาเสีย เปลา ชีวิตของเขาเปนโมฆชีวิต
3
ธรรมและทรรศนะชีวิต
คนฉลาดยอมพยายามทําใหความลําบากยากเข็ญ เปนขอนรองเหยียบไปสูความเจริญรุงเรืองและความสําเร็จ ทําลาภ ยศ ชื่อเสียง ใหเปนเครื่องมือสําหรับประกอบกรรมดียิ่งๆขึ้นไป แตคนโงกลับทําในสิ่งที่ตรงกันขาม ความโกรธแคน ทําใหใจเศราหมอง ขุนมัว เรารอน กระวนกระวาย จะนั่งจะนอนก็ไมมีความสุข นั่นคือไฟภายใน ซึ่งเกิดขึน้ ภายในและเผาบุคคลผูนั้นเอง ถาไมรูจักดับมันเสีย มันจะเผาใหรอนอยูร่ําไป ดับเสียก็เย็นสบายดีเอง ใครเขาเกลียด เราก็ชางเขา เพราะความเกลียดไดทําลายสุขภาพทางกายและ ทางจิตของเขาอยูแลว เราไมตองไปเกลียดตอบ เพราะการ เกลียดตอบเหมือนการไปตอไฟจากเขามาเผาตัวเราเองดวย คนชอบมองชอบเพงเล็งในแงใด สิ่งนั้นมักจะตกมาถึง ตน คนชอบกลาวรายผูอื่นในเรื่องใดมากๆ ในที่สุด ตนก็จะเปนอยางนัน้ ตรงกันขาม คนมองคนอื่นในแงดี หรือยกยอง สรรเสริญผูอื่นในแงใดมากๆ ในที่สุดตนก็จะเปนเชนนั้น ทั้งนี้ เพราะใจไปสั่งสมเอาสิ่งนั้นไวมาก เหมือนคนคลุกคลีอยูกับของ หอม ทําใหตนพลอยหอมไปดวย เมื่อคลุกคลีอยูกับของเหม็น ตนก็พลอยเหม็นไปดวย บุคคลผูมีสติปญญาไมควรตีโพยตีพาย ในเมื่อประสบ ความขมขื่นในบางครัง้ บางคราว เพราะสิ่งที่ทําใหขมขื่นในวันนี้ อาจกลายเปนสิ่งมีอุปการะอยางมากในวันหนา ทํานองเดียวกัน ไมควรหลงระเริงในความสําเร็จบางอยางจนเกินไป เพราะ สิ่งนั้นอาจชักนําไปสูความยุง ยากในภายหนาไดเหมือนกัน ปฏิบัติไดตามนี้แลว ยอมเปนผูคงที่ ไมหวัน่ ไหวหรือมีความ หวั่นไหวนอยทีส่ ุด นี่แหละคือวิถีนําไปสูความสงบสุข กอนนอนทุกคืน เราควรตั้งใจใหอภัยทุกสิ่งทุกอยางและ แกทุกคน ทําเสมือนหนึ่งวา เราจะไมตนื่ ขึน้ มาอีก ความตั้ง ใจอยางนี้ ทําใหใจของเราสงบและเราจะหลับไปอยางเปนสุข ตื่น ขึ้นพรอมดวยความสดชื่นแจมใส ขอจงทองจําไววา เมือ่ ใดใจ ของเราผูกเวร เมื่อนัน้ มองไปทางใดก็พบแตศัตรู แตเมื่อใดใจ ของเรามีเมตตา มองไปทางใดก็เจอแตมิตรไมตรี บุคคลบางคนจิตใจมัน่ คงดี สะอาด ไมมีแผลคือกิเลส เปนพื้นฐาน อารมณใดมากระทบก็ไมอาจซึมซาบได เหมือนน้ํา ไมซมึ ซาบลงไปในใบบัว ไมอาจซึมซาบลงไปในเพชรกอน บริสุทธิ์ไมมีรอยราว เราจะเห็นไดวา จิตของเรามีความสําคัญ ยิ่งกวาสิง่ ใดหมด อารมณภายนอกไมมีอิทธิพลตอผูมีจิตมั่นคง ดีแลว แตมันมีอิทธิพลมากตอผูที่จิตใจยังออนไหวอยู เมื่อพูด ถึงบาป บาปยอมไมมีแกผูไมทํา ไมเกี่ยวของ แมเขาจะอยูใน หมูคนบาป แตบาปก็หาแปดเปอนเขาไดไม
4
ธรรมและทรรศนะชีวิต
เขาอยูในโลกอยาง ผูไมมีบาป บริสุทธิ์ผองใส ยิ่งเห็นคนอื่นทําบาปมาก เขายิ่ง ทําตนเหินหางจากบาป เพราะไดมองเห็นตัวอยางแหงผูทําบาป แลว เกิดขยะแขยงขึ้นในใจ กรรมดีหรือชัว่ จะคอยติดตามบุคคลผูทําอยูเสมอ เหมือนเงาตามตัว แตการที่คนมองไมเห็นการตามของกรรม ก็เพราะดําเนินชีวิตอยูในทางมืด เหมือนบุคคลไมเห็นผูติดตาม ตนอยูในที่มืด พอเขาสูที่สวาง ถาเขาเหลียวไปมอง ยอมเห็นได บุคคลที่ไดรับการอบรมจิตใหสงบสะอาดและสวางขึ้นเทาใด ก็ยิ่งจะมองเห็นกรรมและผลของกรรมละเอียด ประณีตขึ้นเทานั้น ความทุกขยากลําบาก เปนบทเรียนอันสูงคาของชีวิต ชีวติ ยิ่งลําบากเทาใด เรายิ่งไดเปรียบมากเทานั้น ทั้งนี้หมายถึง เพื่อการศึกษาและความรอบรูของวิญญาณ คนสวนมาก มักตีคุณคาของชีวิตดวยลาภผลที่หาได เชน ตําแหนง ยศ ความสนุกสนานสําราญใจ ความจริงแลวสิ่งเหลานี้มีคุณคาแกชวี ิตนอย สิ่งที่มีคุณคาแกชีวิตจริงๆ คือพฤติกรรมอันทําใหเราสามารถพัฒนาจิตใจของเราใหขึ้นสูระดับสูง ความทุกขยากและความลมเหลว เปนสวนหนึ่งที่ทําใหเรารูจักโลกและชีวิตดีขึ้น เพราะจุดประสงคใหญของชีวติ ก็เพื่อพัฒนาอํานาจที่ซอนเรนอยูในตัวของเราใหเจริญถึงขีดสุด ประสบการณทุกชนิด ไมวาเล็กนอยหรือใหญ เปนสวนหนึ่งแหงบทเรียนของเรา แตนาเสียดาย ที่คนสวนมากมักลืมขอเท็จจริงอันนี้เสีย ไมยอมรับบทเรียนที่มหาวิทยาลัยโลกเสนอให จึงตองเรียนซ้ําแลวซ้ําอีก จนกวาบทเรียนนัน้ จะแจมแจงขึ้นในใจ ของเขาเอง ดวยความตั้งใจที่จะพึ่งตนเองและพึ่งธรรม ในการดําเนิน ชีวิต มนุษยจะกาวขึ้นสูวิถชี ีวิตใหม คือมีความมั่นใจในตน มั่น ใจในธรรม มีการดําเนินชีวติ ที่ราบเรียบมัน่ คง และสงบแจมใส ไมเลื่อนลอยไรหลักฐานอยางแตกอน เหมือนตนไมที่มีรากยึดดินแนนแลว หยั่งรากแกวลงลึกและมีรากใหญนอยแผยดึ ดิน ไวอยางมั่นคง พรอมที่จะเจริญเติบโต แผกิ่งกานออกไปทั้งสี่ ทิศ ตนไมเชนนี้ ยอมแตกตางจากเศษไมทลี่ อยน้ําเปนอันมาก คนที่มีภูมิปญญาสูง มักจะมีกําลังใจที่แข็งแกรงดวย ใน การเอาชนะความชั่วดําเนินอยูในทางดี ในกรณีที่อบรมปญญา นั้นใหเปนสัมมาปญญาแลว ชีวิตของเขาจึงสงบสุขและสวางไสว รุงเรืองกวาคนธรรมดา สวนผูมีภูมิปญ ญาต่ํามักมีกาํ ลังใจที่ออน แอ รวนเร ไมสามารถดําเนินชีวิตอยางมัน่ คงดวยตนเอง จึง มักปลอยตนใหขึ้นกับสิ่งแวดลอม สุดแลวแตสิ่งแวดลอมจะชักจูง ไป ถาเขาไดสิ่งแวดลอมดี ก็พอเอาตัวรอดได ถาเขาไดสิ่ง แวดลอมที่เลวเขาก็จะเอาตัวไมรอด โดยทัว่ ไปสิ่งแวดลอมใน สังคมมนุษยจงู ไปในทางเลวมากกวาในทางดี มนุษยทมี่ ีกําลังใจออนแอ รวนเร จึงไมอาจตานทานได
5
ธรรมและทรรศนะชีวิต
เหมือนดินที่พรอมจะเหลวเมื่อถูกน้ํา ดวยเหตุนี้ การศึกษาเพื่อเพิ่มพูนปญญาจึงเปนสิ่งจําเปนในชีวิตมนุษย เพราะปญญาและการศึกษา เลาเรียน การไดยินไดฟงมาก เปนสิ่งอาศัยกันและกันพัฒนาชีวิตใหดีขึ้น ตามธรรมดาสิ่งไรประโยชนและกอใหเกิดทุกขนั้นมี อํานาจยัว่ ยวนอยู จึงทําใหคนติดมันได เชนความสนุกความเพลิดเพลิน ความเคลิบเคลิ้มหลงใหล แตพอถึงระยะหนึ่งก็จะมี แตทุกขและทุกข ผูตองการหลีกทุกข พนทุกข จึงควรหลีกเลีย่ ง สิ่งที่ไรประโยชนอนั กอใหเกิดทุกข ควรแสวงหาสิ่งที่มีประโยชน อันจะกอใหเกิดสุข แตสิ่งเชนนั้นอาจตองฝนใจทําในเบือ้ งตน เหมือนการกินยาขม แตมีคุณแกชวี ติ จิตใจเปนอันมาก สิ่งที่ เปนประโยชน ซึ่งเขาทําไวนนั้ ก็จะดํารงอยูย ั่งยืนหลายรอยป อารมณของคนเปนเครื่องแตงใบหนาและกิริยาวาจาของ ตนใหนารักหรือนาเกลียดไดมากกวาสิ่งภายนอก เมื่อทานพูด ดวยความรัก วาจาของทานจะตางกับเมื่อพูดดวยความเกลียด หรือโกรธสักเพียงใด ทานเองก็เคยมีประสบการณเรื่องนี้มาแลว ทานตองฝกหัดและเปลี่ยนแนวจิตเสียใหม คือพอนึกเกลียดหรือ ไมชอบผูใด จงรีบแผเมตตาใหผูนั้นทันที และแผเมตตาแกตวั ทานเองดวย เพื่อไมใหทานตกเปนเหยื่อของอารมณรายหรือ ความโกรธแคน จริงอยูวิธีนี้อาจผิดลําดับในการแผเมตตาอยู บาง แตจําเปนตองทํา เพราะถือเปนเรื่องเรงดวน เปนกรณี ฉุกเฉิน ยอมทําอะไรขามลําดับไดบางเหมือนหมอลัดคิวใหคนไข ที่รอแรจวนจะตาย ขอใหมีอุดมคติ เพื่อทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งใหสําเร็จไปแตละ วัน แตละเดือน แตละป จนไมมีเวลาพอที่จะเสียไปกับความคิด อันเหลวไหลไรสาระ เชน ความโกรธแคน ขุนเคือง ความริษยา ความวิตกหมกมุนอันปรุงแตงขึ้นเพื่อใหเปนทุกขเปลาๆ คําวา “ชางเถอะ” จะชวยใหอารมณของเราแจมใสขึน้ จิตใจปลอดโปรง ปลอยวาง ไมยึดมัน่ ถือมั่นกับสิ่งใดมากเกินไป ความผิดพลาดบกพรองเปนสิ่งตองมีในการทํางาน เราคิด และพูดวา “ชางเถอะ” แลวทําใหม ที่พลาดไปเปนบทเรียน เหตุการณในชีวิตในสวนที่เปนทุกขนั้น เมื่อพิจารณา ดวยปญญาชอบ นาจะมีหลายๆอยางเปนดอกผลของกรรมที่เรา ตองชําระสะสางใหหมดสิ้นไป เราจึงตองตั้งใจตอสูปญหาชีวิต ดวยความทรหดอดทน เมื่อหนี้เกาหมดไปแลวหนี้ใหมเราไมได สราง ความทุกขกจ็ ะสิ้นไป เราจะไดมีโอกาสเสวยผลแหงกรรม ดีที่เราตั้งอกตั้งใจสรางไวอยางนาชืน่ ใจทีเดียว เหมือนชาวสวน ปลูกตนไมไวเปนอันมาก โอกาสที่จะเก็บเกี่ยวผลยอมตองมีเปน ธรรมดา คนไมอดทนนัน้ ไมมีใครอยากคบ เพราะไมรูจะปงปง ขึ้นมาเวลาไหน อนึ่ง เขามักกอความรอนหู รอนใจใหผูอื่นเสมอๆ เพราะความไมรจู กั อดทนของเขาเอง ฉะนั้น จึงไมเปนที่รักที่พอใจของผูอื่น 6
ธรรมและทรรศนะชีวิต
และเปนผูมากไปดวยศัตรูคูเวรอะไรนิดอะไรหนอยก็กลายเปนเรื่องใหญเสมอ เลยกลาย เปนผูมีโทษมีภัยอยูรอบดาน สวนคนมีความอดทน ยอม รูจักใหอภัยในการลวงเกินของผูอื่น ในความเฉยเมยของผูอื่น และในการกระทําอันรูเทาไมถึงการณของผูอื่น เขาไดเรียนรูวา คนเรายอมมีอารมณดี อารมณเสียอยูเ สมอ บางวันในวันเดียว เปลี่ยนเปนดีบางเสียบางตั้ง หลายครั้ง เราอาจไปพบเขาในเวลาที่อารมณเขากําลังเสียก็ได เราจึงไดรับการตอนรับดวยใบหนาที่เราไมนึกวาจะไดพบ หากเราไมรจู ักใหอภัย เราไมอดทน อาจเสียเพื่อนที่ดีไปก็ได เราหัดอดทนเสียหนอย เรื่องตางๆก็จะคลี่คลายไปทาง ดีเสมอ เมื่อบุคคลไมทําความพยายาม ไมทําการใหเหมาะสม แมจะปรารถนาอยูซึ่งความสําเร็จ ก็หาสําเร็จไดไม แตเมื่อ บุคคลพยายามอยู ทํากิจใหเหมาะสมอยู แมจะไมปรารถนา ความสําเร็จ ก็ยอมสําเร็จอยูเอง เพราะไดกอเหตุขึ้นแลว ผล จะตองตามมา เมื่อคํานึงถึงวาผูที่ใชความพยายามดวย ทํากิจใหเหมาะสมและปรารถนาความสําเร็จดวย ผลจะมีมากมายปานใด แตสิ่งที่ทํานั้น บางทีและบางเรื่องก็สําเร็จชา ผูทําจะตองมีความอดทน รอไดคอยได คนที่จะทําความดีอยูไดเสมอตนเสมอปลาย ก็เพราะเปน คนมักนอย หากมักมากแลว มันทําไปไดไมตลอด เพราะตองการแตจะทําความดีอวดคนอยางเดียว อะไรที่คนไมเห็นหรือ ใหผลไมทันใจก็ไมอยากทํา แตคนมักนอยกลับตรงกันขาม คือ เมื่อทําความดี ก็ไมตอ งการใหใครรูใครเห็น สวนผลจะไดหรือ ไมไดกไ็ มเดือดรอน พอใจอยูแ ตในเรื่องที่ไดทําความดี ในชีวิตนี้ไมมอี ะไรเปนที่พึ่งทางใจของคนไดดีเทาการ ระลึกถึงความดีที่ตนเคยทํา มันใหรูสึกเอิบอาบในดวงจิตอยาง บอกไมถูก ทรัพยภายในคือบุญ หรือกุศลสุจริตนี้ ใหความสุข ใจทุกครั้งที่ระลึกถึง จึงเปนอาหารทิพยที่พอระลึกก็สําเร็จ ประโยชนทนั ที ตามธรรมดาสิ่งไรประโยชนและกอใหเกิดทุกขนั้นมีอํานาจยัว่ ยวนอยู จึงทําใหคนติดมันได เชนความสนุกความเพลิดเพลิน ความเคลิบเคลิ้มหลงใหล แตพอถึงระยะหนึ่งก็จะมี แตทุกขและทุกข ผูตองการหลีกทุกข พนทุกข จึงควรหลีกเลีย่ ง สิ่งที่ไรประโยชนอนั กอใหเกิดทุกข ควรแสวงหาสิ่งที่มีประโยชน อันจะกอใหเกิดสุข แตสิ่งเชนนั้นอาจตองฝนใจทําในเบือ้ งตน เหมือนการกินยาขม แตมีคุณแกชวี ติ จิตใจเปนอันมาก สิ่งที่ เปนประโยชน ซึ่งเขาทําไวนนั้ ก็จะดํารงอยูย ั่งยืนหลายรอยป อารมณของคนเปนเครื่องแตงใบหนาและกิริยาวาจาของ ตนใหนารักหรือนาเกลียดไดมากกวาสิ่งภายนอก เมื่อทานพูด ดวยความรัก วาจาของทานจะตางกับเมื่อพูดดวยความเกลียด หรือโกรธสักเพียงใด 7
ธรรมและทรรศนะชีวิต
ทานเองก็เคยมีประสบการณเรื่องนี้มาแลว ทานตองฝกหัดและเปลี่ยนแนวจิตเสียใหม คือพอนึกเกลียดหรือ ไมชอบผูใด จงรีบแผเมตตาใหผูนั้นทันที และแผเมตตาแกตวั ทานเองดวย เพื่อไมใหทานตกเปนเหยื่อของอารมณรายหรือ ความโกรธแคน จริงอยูวิธีนี้อาจผิดลําดับในการแผเมตตาอยู บาง แตจําเปนตองทํา เพราะถือเปนเรื่องเรงดวน เปนกรณี ฉุกเฉิน ยอมทําอะไรขามลําดับไดบางเหมือนหมอลัดคิวใหคนไข ที่รอแรจวนจะตาย ขอใหมีอุดมคติ เพื่อทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งใหสําเร็จไปแตละ วัน แตละเดือน แตละป จนไมมีเวลาพอที่จะเสียไปกับความคิด อันเหลวไหลไรสาระ เชน ความโกรธแคน ขุนเคือง ความริษยา ความวิตกหมกมุนอันปรุงแตงขึ้นเพื่อใหเปนทุกขเปลาๆ คําวา “ชางเถอะ” จะชวยใหอารมณของเราแจมใสขึน้ จิตใจปลอดโปรง ปลอยวาง ไมยึดมัน่ ถือมั่นกับสิ่งใดมากเกินไป ความผิดพลาดบกพรองเปนสิ่งตองมีในการทํางาน เราคิด และพูดวา “ชางเถอะ” แลวทําใหม ที่พลาดไปเปนบทเรียน เหตุการณในชีวิตในสวนที่เปนทุกขนั้น เมื่อพิจารณา ดวยปญญาชอบ นาจะมีหลายๆอยางเปนดอกผลของกรรมที่เรา ตองชําระสะสางใหหมดสิ้นไป เราจึงตองตั้งใจตอสูปญหาชีวิต ดวยความทรหดอดทน เมื่อหนี้เกาหมดไปแลวหนี้ใหมเราไมได สราง ความทุกขกจ็ ะสิ้นไป เราจะไดมีโอกาสเสวยผลแหงกรรม ดีที่เราตั้งอกตั้งใจสรางไวอยางนาชืน่ ใจทีเดียว เหมือนชาวสวน ปลูกตนไมไวเปนอันมาก โอกาสที่จะเก็บเกี่ยวผลยอมตองมีเปน ธรรมดา คนไมอดทนนัน้ ไมมีใครอยากคบ เพราะไมรูจะปงปง ขึ้นมาเวลาไหน อนึ่ง เขามักกอความรอนหู รอนใจใหผูอื่นเสมอๆ เพราะความไมรจู กั อดทนของเขาเอง ฉะนั้น จึงไมเปนที่รักที่พอใจของผูอื่น และเปนผูมากไปดวยศัตรูคูเวร อะไรนิดอะไรหนอยก็กลายเปนเรื่องใหญเสมอ เลยกลาย เปนผูมีโทษมีภัยอยูรอบดาน สวนคนมีความอดทน ยอมรูจักใหอภัยในการลวงเกินของผูอื่น ในความเฉยเมยของผูอื่น และในการกระทําอันรูเทาไมถึงการณของผูอื่น เขาไดเรียนรูวา คนเรายอมมีอารมณดี อารมณเสียอยูเ สมอ บางวันในวันเดียว เปลี่ยนเปนดีบางเสียบางตั้ง หลายครั้ง เราอาจไปพบเขาในเวลาที่อารมณเขากําลังเสียก็ได เราจึงไดรับการตอนรับดวยใบหนาที่เราไมนึกวาจะไดพบ หากเราไมรจู ักใหอภัย เราไมอดทน อาจเสียเพื่อนที่ดีไปก็ได เราหัดอดทนเสียหนอย เรือ่ งตางๆก็จะคลี่คลายไปทาง ดีเสมอ เมื่อบุคคลไมทําความพยายาม ไมทําการใหเหมาะสม แมจะปรารถนาอยูซึ่งความสําเร็จ ก็หาสําเร็จไดไม แตเมื่อ บุคคลพยายามอยู ทํากิจใหเหมาะสมอยู แมจะไมปรารถนา ความสําเร็จ ก็ยอมสําเร็จอยูเอง 8
ธรรมและทรรศนะชีวิต
เพราะไดกอเหตุขึ้นแลว ผล จะตองตามมา เมื่อคํานึงถึงวาผูที่ใชความพยายามดวย ทํากิจใหเหมาะสมและปรารถนาความสําเร็จดวย ผลจะมีมากมายปานใด แตสิ่งที่ทํานั้น บางทีและบางเรื่องก็สําเร็จชา ผูทําจะตองมีความอดทน รอไดคอยได คนที่จะทําความดีอยูไดเสมอตนเสมอปลาย ก็เพราะเปน คนมักนอย หากมักมากแลว มันทําไปไดไมตลอด เพราะตองการแตจะทําความดีอวดคนอยางเดียว อะไรที่คนไมเห็นหรือ ใหผลไมทันใจก็ไมอยากทํา แตคนมักนอยกลับตรงกันขาม คือ เมื่อทําความดี ก็ไมตอ งการใหใครรูใครเห็น สวนผลจะไดหรือ ไมไดกไ็ มเดือดรอน พอใจอยูแ ตในเรื่องที่ไดทําความดี ในชีวิตนี้ไมมอี ะไรเปนที่พึ่งทางใจของคนไดดีเทาการ ระลึกถึงความดีที่ตนเคยทํา มันใหรูสึกเอิบอาบในดวงจิตอยาง บอกไมถูก ทรัพยภายในคือบุญ หรือกุศลสุจริตนี้ ใหความสุข ใจทุกครั้งที่ระลึกถึง จึงเปนอาหารทิพยที่พอระลึกก็สําเร็จ ประโยชนทนั ที หลายคนพูดวา เราตองลิขิตชีวิตของเราเอง ทานเชื่อ หรือวาเราจะลิขิตมันไดเสมอไป อาจมีบางครั้งเหมือนกันที่เราจะ ตองปลอยไปตามโชคชะตา ถาทุกคนสามารถลิขิตชีวิตของตนได หมด ใครเลาจะจน ใครเลาจะเจ็บ หรือใครเลาจะตองพลัดพราก จากกัน บางคราวเหมือนมีอะไรมาบังคับ และชักนําใหเห็นดีเห็น งามไปทั้งๆที่ทางนั้นหาใชทางอันถูกตองไม ทานเชื่อโชคชะตา บางไหม ขาดกําลังใจเสียแลว ถึงอยางอื่นจะมีก็ไรความหมาย กําลังกาย กําลังสมอง กําลังเงินก็ใชไมได ยิ่งความเพียรยิง่ หมดเลย ฉันเคยเห็นเคยทราบวาคนที่มกี ําลังกายแข็งแรง เงินดี สติปญญาเลิศ แตพอกําลังใจเสียทุกอยางก็เสียไปหมด ฉันเคยเห็นเด็กหนุมที่มีเงิน ฉลาด รางกายแข็งแรง และมีความรัก แตพอหญิงซึ่งเขารักตีตนออกหางไปมีรักใหม กําลังใจของเขาหมด เงิน ความฉลาด และรางกายอันแข็งแรงนัน้ ก็ไรความหมายไปโดยสิ้นเชิง ขุมพลังอันสําคัญที่สุดในชีวิตตอนนัน้ คือกําลังใจ เปนอาวุธอันสําคัญที่สุดในการตอสูสงครามชีวิต สงครามภายนอก เราตอสูดวยอาวุธและเสบียงอาหาร แตสงครามชีวติ ซึ่งยืดเยื้อเทากับชีวิตของเรานั้น ตองตอสูดวยกําลังใจ ถึงอยางอื่นจะขาดไป แตเมื่อกําลังใจยังมีอยู ก็ยังไมแพ แตเมื่อกําลังใจหมดสิ้น เมื่อนัน้ ผูนั้นจะตองพายแพในสงครามชีวิตอยางแนนอน เพราะฉะนัน้ ฉันจึงกลาววา กําลังใจสําคัญที่สุด คนที่เปนอาชาไนย จะตองมีกําลังใจเขมแข็งอยูต ลอด กําลังใจไมลด สมาธิ เปนฐานกําลังอันสําคัญของดวงจิต เปนทั้งแหลง พักแหลงเพาะกําลังของดวงจิต ปญญา ความรูแจงตามความ เปนจริงในสิ่งตางๆ เปนเสมือนศัสตราคมของดวงจิต สมาธิ และปญญานีแ้ หละ คือเครื่องมืออันสําคัญที่ชาวพุทธจําเปนตองมี เพื่อฟาดฟนขาศึกคือกิเลส เหมือนมีดคมอยูในมือและกําลังแขน
9
ธรรมและทรรศนะชีวิต
ที่ทรงพลัง พรอมเสมอที่ฟาดฟนเชือก หรือสายใยอันยุงเหยิง คือปญหาชีวิตตางๆ ใหสิ้นไป โดยอาศัยยืนบนพื้นอันมัน่ คง คือศีล อยาหาความสุขจากความฟุมเฟอย สุรุยสุราย และจากความเกียจคราน แตจงหาความสุขจากการทํางาน การ ศึกษาหาความรู การประกอบคุณงามความดีใหเปนรายรับ ประจําวันของเรา ขอใหตระหนักวาชีวิตที่ผาสุกและดีงามนัน้ คือ ชีวิตที่เรียบงาย ชีวิตทางศีลธรรม และศาสนา เปนชีวิตที่ดีที่ สุด สําหรับผูตองการความสงบสุข ทั้งในชีวติ นี้และชีวิตหนา วิถีชีวิตเต็มไปดวยความเหนือ่ ยลา การตอสูดิ้นรน มีผลเปนความเหนือ่ ยยาก สวนมากไมคุมเหนื่อย เพราะมนุษยสว นมาก เมินตอความสุขอันสืบเนื่องจากความสงบ แตมุงหนาแสวงหาความสุขจากความสมอยากในโลกียวัตถุ มุงเอาชนะผูอื่น อยูเ หนือผูอื่น ไมคิดจะเอาชนะความดิ้นรน ความทะยานอยากในใจของตนเอง เหมือนเรายืนอยูกลางแดดตอนเที่ยงวัน ทนยืนเอา หนอยไมเทาไร พระอาทิตยมนั ก็บายคลอยไปเอง ความรอน แรงของแสงอาทิตยก็จะคอยๆคลายลงทีละนอย ความสุขมันเกิด ไดแลวมันก็เสื่อมสลายไดเชนกัน ไมมีอะไรยั่งยืนอยูตลอดไป เรา ยืนอยูก ับที่แลวโลกมันจะหมุนไปเอง ไมตองวิตกอะไร ทานให ได นอนใหหลับ บํารุงสุขภาพใหดี รักษาจิตใหสงบอยูเสมอ คุณก็จะไดพบขุมทรัพยอันประเสริฐ ซึ่งอยูในตัวคุณเอง การอยูใกลคนฉลาดนั้น แมจะอยูในนรกก็ยงั ดีกวาอยู รวมกับคนโงบนสวรรค เพราะคนฉลาดยอมสามารถแสวงหา ความสุขได แมในเรื่องหรือเหตุการณที่นาจะทุกข มองในมุม กลับ คนโงยอมประสบความทุกข แมในเรื่องทีน่ าสุข การใหอภัยเปนสิ่งจําเปนมาก ในการสมาคมดวยมนุษย เพราะมนุษยสวนใหญยังมีขอบกพรอง ยังทําความผิด โดยเฉพาะผูยงั ของอยูดวยกามตัณหา ก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดมากขึ้น เมื่อเราตั้งใจจะสมาคมดวยคนใด เราตองเตรียมตัวพรอมอยู เสมอ ที่จะใหอภัยและใหอภัย มิฉะนั้นแลวเราจะคบใครไมได บางคนมีความผิดเพียงเล็กนอย ถาเราถือเปนเรื่องใหญ เราก็ จะเสียมิตรทีด่ ไี ปหนึ่งคน การเสียสละ เปนคุณธรรมสําคัญประการหนึ่งของมนุษย คนที่ไมยอมเสียสละอะไรไป ก็จะไมไดอะไรมาเลย แตการเสีย สละควรทําดวยความบริสุทธิ์ใจ มิฉะนั้นแลว การเสียสละ ก็จะมีคาเพียงเหยื่อลอเทานั้นเอง
10
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ความสุขและความรุงโรจนนนั้ บางทีก็เปนเสมือนเครื่อง ลวงตา ใหเราถูกหลอกหลอน ไมมีทางจะทราบความจริงได ความยากลําบากตางหากเลา ที่ทําใหคนรูจักตัวเอง รูจ กั คนอื่น รูจักมิตรแทมติ รเทียม รูจักชีวิตและโลก อยาโอดครวญร่ํารองถึงความทุกขยากลําบาก จงกัด ฟนตอสู ฝาฟนอุปสรรคตางๆที่ขวางอยูเบื้องหนา อยารองขอ ความเห็นใจจากใคร แตจงเห็นใจผูอื่นที่ทาํ ผิดพลาด อยาซ้ําเติมคนผิด เมื่อเขารูสึกตัวแลว จงใหกําลังใจ เพื่อใหเขาทําความดีตอไป บวงคือ รูปอันสวยงาม เสียงที่ไพเราะ กลิ่นหอม รส อรอย และโผฏฐัพพะ (สัมผัส) อันนุมนวลยวนใจนัน้ เปน เครื่องดักคนและสัตวไวในภพ ใหสยบติดอยูในอารมณอันหยั่ง ความรูสึก สิ่งนี้แหละที่พระพุทธองคตรัสวาเปนโลกามิส เหยื่อ ของโลก ประหนึ่งเหยื่อที่นายพรานเกีย่ วไวกับเบ็ด คอยฉุด กระชากลากถูบุคคลผูติดมัน ใหวนวายอยูใ นทะเลคือสังสารวัฏฏ ตลอดกาลยาวนาน พอไดเรียนรูมาวา การปองกันการทะเลาะวิวาทใน ครอบครัวไดประการหนึ่งก็คือ เมื่อเหตุการณกําลังตึงเครียดใน การโตเถียง ถาใครคนหนึ่งพูดเปนทํานองชวนขันเสีย เรื่องตึง เครียดก็จะผอนคลายลง เรื่องอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางดีได เรื่องทํานองนี้ใชกนั มากในวงการสนทนา และแมในวงการเมือง ระดับชาติ ระหวางประเทศหรือระดับโลก มนุษยเรามืดอยูดวยอวิชชาหรือโมหะ จึงมองไมเห็น กรรม แยกกรรมไมคอยออก แมกรรมในปจจุบันที่มองเห็นแลว วาอะไรดีอะไรชัว่ ทําแลวผลจะเปนอยางไรก็ยังอดทํากรรมดํา คือกรรมชั่วไมได เพราะพายแพตออํานาจของกิเลส ซึ่งผลักดันอยูเบื้องหลัง จึงวนเวียนทํากรรมชัว่ ทางกายบาง ทางวาจาบาง ทางใจบางอยูท ุกวัน โดยเฉพาะกรรมชั่วทางใจ เมื่อทําลงไปแลวก็มีผลเปนความทุกข ความทุกขนนั่ เอง เปนแรงผลักดันใหผมู ีปญญานอย มีกิเลสเกิดขึ้นในใจอีก เชนโกรธเคืองขุนแคน ริษยา พยาบาท เห็นผิดแลวทํากรรม ชั่วตอไป การทําความดีนับวายากแลว แตการรักษาความดียัง ยากกวา เพราะใจเราคอยจะตกไปอยูใ นอํานาจฝายต่ําอยูเสมอ เหมือนเรือที่ลอยไปตามน้ํา ตองแจว พาย ถอ หรือมีเครื่อง ยนตตอตานกระแสน้ํา จึงจะแลนทวนกระแสน้ําขึ้นไปได เราตองใชพลังแรงกายแรงใจมากกวาปลอยเรือไปตามกระแสน้ํา แมเราจะเปนคนดี ซึ่งเปนการงายที่จะทําความดี (สุกรํ สาธุนา สาธุ) แตการรักษาความดีกย็ งั เปนเรื่องยาก เพราะยิ่งเปนคนดีมากขึ้นเทาใด สิ่งยั่วยวนทีจ่ ะใหเราเสียใจ ก็จะยิ่งละเอียดซับซอนมากขึ้นเทานั้น เลหก ลมายาของมารก็จะ ลึกซึ้งมากขึ้น ลาภ ยศ สรรเสริญ ชื่อเสียงมีมากขึ้น คนหอมลอมปอยอมีมากขึ้น หลุมพรางตางๆมากขึ้น จนทําใหแยกไมออกวา 11
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ใครเปนมิตรแท ใครเปนมิตรเทียม ใครหวังดี จงรักภักดีจริง ใครหวังประโยชนชื่อเสียง ลาภ ยศ สรรเสริญ อันเปนผลของความดีที่เราอุตสาหทํามานัน้ ถาไมระวังจริงๆแลว ทําใหเราเมา พอเมาก็ลืมตัว คราวนี้ความชั่วราย ตางๆก็ไดโอกาสทําใหเราเสียคน คนเรามาเสียเอาตอนขึน้ สูฐานะสูงมากแลวก็มีอยู นี่แหละการรักษาความดีเปน เรื่องยาก ในชีวิตมนุษยเรานั้น ใครเปนศัตรูก็ไมรายเทากับตนเปน ศัตรูของตัวเอง คนอื่นเปนศัตรู พอหาทางปองกันได ตัวเรา เองปองกันบาง ญาติมิตรชวยปองกันบาง บานเมืองชวยบางก็พอพนภัยไปได แมจะถูกทํารายอยางมากก็เพียงแคตาย ตาย แลวไมตองไปอบาย ถาเราประพฤติตัวดี แตถาตัวเองเปน ศัตรูของตนเอง โดยการทําความชั่ว เวนความดี ดวยตนเอง เสียแลว ใครเลาจะชวยปองกันได ในเรื่องนี้ก็ทํานองเดียวกัน ใครสงเสริมหรือทําให ก็ทําไดไมเหมือนเราทําเอง พอแมญาติ พี่นองทําได ก็เพียงแตอบรม แนะนํา พร่ําสอน สวนการลงมือ ทําเปนเรื่องของเราเองอยาเหลียวแลหาที่พึ่งใหบอ ยนัก จงหัดพึ่งตัวเองจนสุด ความสามารถเสียกอน คนอื่นเห็นความพยายามของเราแลว หากเขาเห็นสมควร ก็จะโอบอุมชวยเหลือเอง เรียนรูอะไรตองใหรูจริง อยางนอยสักอยางหนึ่ง ใหเปนความรูหลักเอาไว นอกนัน้ ใหรูไวบาง เพื่อเปนความรูประกอบ เหมือนเครื่องทองเครื่องเพชรเปนสิ่งประกอบ เครื่องแตงกาย คือเสื้อผา การประพฤติธรรม เราตองประพฤติพรอมๆกันหลายอยาง ไมใชเพียงอยางเดียว เหมือนรถคันหนึ่งจะวิ่งไปไดโดยไมตดิ ขัด จะตองมีปจ จัยพรอมมากมาย เครื่องของมันทุกสวน ตองทํางานตามหนาที่ ลอตองดี คนขับเปน ถนนไมมีสงิ่ กีดขวาง และวิ่งตามกฎจราจร เปนตน ศรัทธากับปญญาตองเสมอกัน คนที่มีศรัทธามากเกินไป แตปญญาออน ยอมจะเชื่อในสิ่งที่ไมควรเชือ่ หรือมักเชื่ออยางไรเหตุผล สวนคนที่ปญญามากเกินไป แตศรัทธาออน ยอมไมเชื่อแมในสิ่งที่ควรเชื่อ เปนคนทะนงเกินไป และมักไขวเขวออกนอกทาง เพราะฉะนัน้ ศรัทธากับปญญาตองมีเสมอกัน กรรมในอดีตสรางเรามาก็จริง แตผูมีความรูเรื่องชีวิตดี ยอมสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนใหดีขึ้นไดดวยการสรางกรรมใหมดี เปรียบเหมือนเราเขาอยูอาศัยในบานซึ่งสรางไวแลว ถาเรามีความรูเรื่องการกอสราง เรายอมดัดแปลงแกไขสวนที่บกพรองใหดีขึ้นตามความตองการของเรา ใหเหมาะสมกับกิจการของเรา แตถาเราไมมีความรูในการกอสราง หรือไมสามารถใหชางมาดัดแปลงได ก็ตองทนอยูไปอยางนั้น เรื่องของชีวิตก็เหมือนกัน แมกรรมในอดีตจะสรางเรามาบางแลว ก็ยังสามารถแกไขได ดวยความรูความเขาใจในเรือ่ งชีวิต ไมควรทอถอย 12
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ความเพียรพยายามที่จะทํานัน้ ตองถูกจุดและเหมาะ สมจึงจะสําเร็จได ถาไมถูกจุดผิดที่ ผิดเรื่องราว ยอมไมอาจให สําเร็จผลได แมจะใชความเพียรพยายามเขมงวดสักปานใดก็ตาม เหมือนคนตองการน้ํามัน แตไปบีบเอาทีเ่ ม็ดทราย หรือคนตองการน้ํานมโค แตไปบีบเอาที่เขาโค จะคั้นสักเทาใดก็หาสําเร็จไม บางคนอาจไปคั้นเอาที่หางโค เทาโค แตพอคั้นที่นมโคก็ไดน้ํานมที่ตอ งการ เพราะฉะนั้น ความพยายาม วิธีการ และจุดมุงหมาย จะตองเปนไปถูกตองพอดีพองาม เพียงแตความตั้งใจดี และจุดมุงหมายดีอยางเดียวหาเพียงพอไม สิ่งที่มีคุณคาตองอยูในที่ที่คนรูจัก คุณคาจึงจะสําเร็จ ประโยชนตามคุณคานั้น คนมีประโยชนตองอยูในทีท่ ี่คนรูจัก ประโยชนของเขา เขาจึงจะอํานวยประโยชนใหได เหมือนน้ํา ออยแฝงอยูในลําออย ตองคนคั้นเปนจึงจะไดน้ําออยดื่มชื่นใจ คนคัน้ ไมเปนนําไปฟาดกับเสา มีแตจะทําใหออ ยนั้นหักยับเยิน ไปเสียเปลา เงินนั้นถายอมใหมันเปนนาย เราจะลําบากมากเหลือ เกิน เพราะมันเปนนายที่โงและทารุณ จะใชเราทําชั่วตางๆ คน บางคนเวนความชั่วไดเพราะไมมีเงิน ทําความดีบางอยางได เพราะยังจนอยู พอรวยเขาก็ลืม เงินใชมันมากเกินไปก็ไมได เพราะพอมันหมด แลวหาใหมมาไมได เราก็เดือดรอน เราตองใชอยางมิตรสหาย ใชแตพอดีๆ เมือ่ จําเปน ก็บอกใชไหววานได มันจะเปนมิตรกับเราไดตลอดไป เงินไมชอบคนที่ดูถูกมัน และไมชอบคนทีย่ กยองเทิดทูนมันเกินไป แมไมถูกเบียดเบียนจากผูอื่น และตนเองก็ไมเบียดเบียน ใคร แตมนุษยก็ไมพน ทุกขเสียทีเดียว เพราะยังมีการเบียดเบียน ตนเองใหเดือดรอนอยูเปนอันมาก เชน ความวิตกกังวล ความ ปรารถนาที่ไมสมหวัง ความไมไดดังใจ ความตองพลัดพราก จากบุคคลอันเปนที่รักที่พอใจ และความทุกขอื่นๆ อันเนื่องมาจากการถูกกิเลสแผดเผา เหลานี้ตองอาศัยหลักธรรมทางศาสนา มาชวยผอนคลายแกไข จึงจะทําได ปลงได ความเรารอนภายในใจจึงจะระงับลงได มีโอกาสชื่นชมกับชีวติ บางตามสมควร การชวยเหลือตัวเองกับกฎแหงกรรมมีความสัมพันธกัน อยางแยกไมออก หมายถึงวา กรรมเปนสิ่งที่เราทําเอง การทําเองถาเปนกรรมดีก็เปนการชวยเหลือตัวเอง ถาเปนกรรมชั่วก็ เปนการลงโทษตัวเอง บีบคัน้ ตัวเอง ความดีที่เราทําเองจะกลาย เปนมิตรทั้งบัดนี้และภายหนา ขอใหเราเชื่อในเรื่องกรรมและบาก บั่นพยายามในการชวยตนเอง ขอใหมีความตั้งใจในเรื่องนี้อยาง มั่นคง เราจะไมผิดหวัง ในโลกนี้มีทั้งคุณและโทษติดกันอยู ขึ้นอยูกับเวลาไหน ดานไหนจะแสดงออกมาเทานั้น ใหมีปญญารูสิ่งเหลานี้ตามความ เปนจริง แลวเราก็จะวางใจไดถูกตองตามกระแสของธรรมดา 13
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ก็ไมตองไปเบียดเบียนกันดวย กาย วาจา ใจ ความคิด ตองรูจักยอมในคราวที่ควรยอม ตองรูจักยกยองผูอื่นในคราวที่ควรยกยอง ไมถือรั้นดวยทิฐิมานะ ซึ่งเปนเหตุใหเบียดเบียน ผูอื่นบาง ขอใหตระหนักวาในโลกนี้ ไมมีใครเปนผูช นะอยูตลอด ไป หรือเปนผูแพตลอดไป ยอมเขาบาง ยกเขาบางในคราวนี้ คราวตอไปตองยอม ถึงคราวยกยองตองยกยองตามสมควร ไม ตะเบ็งแข็งขัน ไมดื้อรั้น ถือดี มีทิฐิมานะ ที่เปนเหตุใหเดือด รอนเปลาๆ คนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราตองดูเปาหมายของชีวิต นั้นคืออะไร ถาเราหาคําตอบวาเปาหมายของชีวิตก็คือ ความ สงบรมเย็น ถาเผื่อวาผูใดก็ตามสามารถที่จะมีชีวิตอยูอยางสงบ รมเย็นได ผูนนั้ ถือวามีคุณภาพชีวิตที่ดี ทีจ่ ริงความสงบรมเย็น ก็เปนที่ตองการของคนทุกคน เพียงแตวาเขาจะไปถึงที่ตรงนั้นได หรือไม หรือระยะถี่ของความรมเย็นมีมากแคไหน ทุกคนมีเปนครั้งคราว ไมใชไมมีเลย แตวาคนที่มีคณ ุ ภาพชีวิตทีด่ ี จะมีชวงของความสงบรมเย็นยาว อาจจะมีความเดือดรอน ความไมสบายเปนครั้งคราว แตถามีความเดือดรอน มีความไมสงบสุขอยูเปนประจําแลว นานๆจึงจะมีความสงบรมเย็นสักที แสดงวาคุณภาพชีวติ ของเราแย สติเปนธรรมมีอุปการะมากในการทํา พูด คิด มีคนเปนอันมากที่ไมหมั่นเจริญสติ ทํา พูด คิด อยางไมมีสติ คือขาดความระมัดระวัง จึงเปนเหตุใหทําผิด พูดผิด คิดผิด จะเริ่มตนจากความคิดผิดกอนแลวจึงทําผิดหรือพูดผิด เมือ่ ผิดพลาด แลวก็ไดรับความทุกข จากการติเตียนของผูอื่นบาง จากความสํานึกผิดของตนเองบาง เมื่อจิตมีทุกข อาการ แหงผูมีทุกขกป็ รากฏออกมาทางสรีระ เชน สีหนาเศราหมอง ดวงตาไมแจมใส ตําหนิตนเอง ลงโทษตัวเอง กําลังกาย กําลังใจถดถอยลง ทําใหแกเร็ว และอายุสั้น วิธีตัดกรรมทีถ่ ูกตองคือวิธีตัดกิเลส วิธีลดกรรมคือวิธี ลดกิเลส เราควรฝกใหกลัวกิเลสมากกวากลัวกรรม เพราะเปน การกลัวที่ตนตอ เหมือนกับการกลัวความเกิดมากกวากลัว ความตาย เพราะความเกิดเปนเบื้องตนของความตาย แตคนสวนมาก ชื่นชมยินดีกับความเกิด แตมีความกลัวตาย สิ่งที่ควรกลัวกวาก็คือความเกิด เพราะมันเปนเบื้องตน เมื่อมีเกิดแลวจะหลีกเลีย่ งความตายไดอยางไร ลดไมได ทุกครั้งที่กิเลสลด กรรมลด ผลกรรมก็ลด วิธีที่ดีที่สุดในการตัดกรรม ลิดรอน กรรมใหกรรมนอยลงก็คือ พยายามทีจ่ ะลิดรอนกิเลส ควบคุมกิเลสเปนทางที่ดีที่สุด เรื่องของกรรมเนนใหคนเรารูจักรับผิดชอบตัวเอง ไม มัวไปโทษนั่นโทษนี่ โทษอะไรมากเกินไปเกินเหตุ ซึ่งเปนเรื่อง ปกติวิสัยของคนโดยทัว่ ไป ที่จะโทษนั่นโทษนี่จนเกินเหตุ โดยไมคอยรับผิดชอบตัวเอง ไมรับผิดชอบการกระทําของตนเอง โทษสิ่งแวดลอมบาง โทษพันธุกรรมบาง ไมเคยโทษตัวเอง แตหลักกรรมของพระพุทธเจานัน้ เนนในเรื่องใหคนเรารับผิดชอบ ตัวเอง 14
ธรรมและทรรศนะชีวติ
รับผิดชอบการกระทําของตัวเอง เมื่อทําลงไปแลวเกิด ผลอะไรขึ้นมา เราตองยอมรับอยางหนาชืน่ ตาบาน เหมือนเปนหนี้เขาแลวก็ตองใช ใชจนกวาหนี้จะหมดไป ไมสรางหนี้ใหมขึ้นมา ก็มีแตจะเบาตัวขึ้น หนี้ใหมไมมี มีแตจะเปนผูใหหนี้ตอไป ทุกคนมีอดีต บางคนอาจจะมีความสุขและความฝน อันบรรเจิดถึงอดีตอันนารื่นรมย แตบางคนอาจจะระทมดวยอดีต ที่แสนเศรา มันไดลวงไปแลวทั้งอดีตที่รื่นรมยและระทมทุกข และแลวก็ลบเลือนไปเสมือนทิวาและราตรี ไมมีอะไรจริงจังยั่ง ยืนเลยแมแตอยางเดียว ความไมยงั่ ยืนเทานั้น ที่ยั่งยืนอยูได ตลอดไป ความสุขของสามีภรรยานั้นอยูที่ความเขาใจกัน ความ รักที่ปราศจากความเขาใจกันนั้น เปนความรักทีไ่ มมั่นคง เปราะ และทําลายงาย แตความรักที่มีมูลฐานมาจากความเขาใจและเห็นใจกัน เปนความรักทีม่ ั่นคง ปองกันการทะเลาะวิวาทไดอยางดีทสี่ ุด ความจริงเราโกรธเขา เกลียดชังเขา แตตวั เรานั่นแหละ ตองเดือดรอนกอนเขาหรือมากกวาเขา ยิ่งถาเขาเฉยๆไมโกรธ ตอบ เราก็ตองเดือดรอนขางเดียว เขาสบายกายสบายใจ เรา เอาความโกรธมาทําลายความสุขของเราเอง มันเกิดขึน้ ในตน แลวทําลายตนของผูนนั้ ทานจึงสอนมิใหเราทําลายตนเอง โดย ยอมใหความโกรธมีอํานาจเหนือ การศึกษา การอบรม ก็เพื่อใหมนุษยรูจกั เอาชนะ อํานาจฝายต่ํามากขึน้ และเพิ่มพูนกําลังใจอํานาจฝายสูงมากขึ้น เพื่อจักไดเอาชนะอํานาจฝายต่ําไดทุกครั้ง เมื่ออํานาจทั้งสอง มาพบกันเขา เมื่อชนะบอยเขาก็จะกลายเปนนิสัย เมื่อพอกพูน มากขึน้ ก็จะไมมีอํานาจฝายต่ําใดๆมาเอาชนะไดอีก คือพอรูวาอะไรเปนความชัว่ ไมควรทํา ก็ละเวนไดทกุ อยาง อะไรที่ยังละ เวนไมได ก็พยายามลดใหนอยลง และพยายามละใหสิ้นไปในที่สุด การจะเอาชนะอํานาจฝายต่ํานั้น สิ่งสําคัญที่สุดคือ กําลังใจ ถามีกําลังใจเขมแข็งจริง ก็เอาชนะไดทกุ อยาง คนที่ พยายามจะเลิกอะไรสักอยางหนึ่งแตเลิกไมไดนั้น นาสงสารมาก เพราะทุกครั้งที่เขาทําลงไป เขารูสึกวาเปนความผิด แตตอ งทํา เพราะสูอํานาจยัว่ ยวน หรืออาการเรงเราทางกายหรือทางใจไมได สิ่งสําคัญอยางหนึ่งในการเอาชนะฝายต่ําหรือ ชนะตน คือการฝกฝน การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความไมประมาท และการบรรเทาใหนอยลงจนหมดสิ้นไปในที่สุด
15
ธรรมและทรรศนะชีวติ
การตามใจตนเองเปนมูลเหตุสําคัญของความพายแพ การฝนใจตนเองใหอยูในทางทีต่ นปรารถนา เปนมูลเหตุสําคัญ ของความชนะ การชนะใจตนเองได ชนะอํานาจฝายต่ําได ชนะ กิเลสได นั่นแหละถือวาเปนชัยชนะอันประเสริฐ ประเสริฐกวา นักรบผูชนะขาศึกไดเปนลานในสงคราม คนในโลกนี้ สวนใหญพอใจ แตในความวิบัติลมจมของผูอื่น ถือเปนอาหารปากอันโอชะ เพื่อจะไดไวเคีย้ วเลนในวงสมาคมเวลาวาง แมเขาจะไมตองการภาวะเชนนั้น ถาเกิดกับตัวของเขาเอง บุคคลผูไมเชื่อโลกหนา ทําบาปไดงายกวาผูเชื่อ เพราะ เห็นวาถาเอาตัวรอดไปไดในโลกนี้ก็ปลอดภัย แตคนเชื่อโลกหนา แมจะทําชั่วในที่ลับ ก็เกรงภัยในโลกหนา จึงไมกลาทํา ถาทํา ก็ทําอยางหวาดหวัน่ ตอผลในโลกหนา เมือ่ ทําความดีก็มคี วาม มั่นคงกวาคนไมเชื่อโลกหนา เพราะมีความหวังวา หากกรรม นัน้ ยังไมใหผลในโลกนี้ ก็จะใหผลในโลกหนา ตราบใดที่มนุษยยงั ยอมเปนทาสแหงอารมณ ยังไมเปน นายของตัวเอง ยังเอาชนะตนเองไมได ตราบนั้นมนุษยก็ตอง แสวงหาที่พึ่งทางอารมณ และทางจิตใจจากภายนอกอยูร่ําไป สิ่งที่ทําใหบุคคลลําบากเดือดรอนอยูเสมอนั้น มิใชสิ่งภายนอก หรืออื่นใด อันทีแ่ ทมันคืออารมณตัว อารมณตัวซึ่งคอยรบเรา เงางอดไปทางใดทางหนึ่งที่เจาตัวพยายามเอาชนะ แตก็เอาชนะ ไมได อารมณรัก อารมณชัง อารมณโกรธ อารมณหลง คลุกเคลาผสมผสานอยูในกระแสธารแหงชีวิตอันไหลเลื่อนอยูมิ ขาดสาย ชีวิตทุกชีวิตยอมดําเนินไปตามครรลองแหงกรรม และ เจตจํานงที่เจาของชีวิตสรางขึ้นใหม ในรูปรอยแหงกรรมปจจุบัน จริงอยูชีวิตมนุษยยอมเปนไปตามกรรม กรรมเปนสิ่งสรรคสราง และจําแนกชีวติ มนุษยใหตางกัน แตจะโทษกรรม ไดอยางไร ในเมือ่ มนุษยเปนผูส รางกรรมขึ้นมาเองกอน แลวผลของกรรมก็ยอกยอนมาหาผูทําในภายหลัง บางครั้ง ก็ตองมีหนาชุมดวยน้าํ ตา ทนเสวยผลแหงกรรมไปจนกวาจะหมดฤทธิ์ของมัน ความพรองนัน่ เอง ทําใหคนตองแสวงหาความรักและสิง่ ที่รัก ที่คนรักกันนั้น มิใชเพราะมีอารมณรัก แตเพราะรูสึกวา ถาไมไดรกั ดูเหมือนจะขาดอะไรไปสักอยางหนึ่งในชีวิต ตราบใดทีย่ ังไมมีที่รัก ตราบนั้นดูเหมือนวา ชีวิตยังไมมีความสมบูรณแท ฉะนัน้ การที่เรารักจึงมิใชเพราะความรักอะไรเลย ที่แทเปนเพราะความรักชวยใหเรามีความรูส ึกสมบูรณไมขาด ไมพรอง ดังนั้น ผูมีความสมบูรณอยูใ นตน ยอมไมตองการสิ่งใด ไมตอ งการที่รัก ไมตองการความรัก พวกเราสวนใหญตั้งจุดมุงหมายไววา จะขึน้ ใหถึงความ สุขอันสมบูรณ แตอะไรเลาคือความสุขอันสมบูรณ ถาเรายังหาคําตอบที่ถูกตองไมได การกระเสือกกระสนเพื่อใหไดมา 16
ธรรมและทรรศนะชีวติ
เพื่อความสุขอันสมบูรณก็เปนสิ่งที่ไรผล ดังนั้น มนุษยเรา จึงตองเปนทาสของความดิ้นรนกันตอไป เปนเหยื่อของโลก คลุกคลีกับเหยื่อของโลกกันตอไป และแลวก็จบจากชีวิตลงดวยน้ําตา ความเศรา ฆราวาสควรจะสนใจธรรมะเรื่องอะไรบาง ควรจะมี ธรรมะเรื่องอะไรบาง พูดกันอยางนีก้ ็มีเยอะทีเดียว แตวาพระ ธรรมนี้ทานทั้งหลาย แมจะมีมากมายเหลือเกินก็จริง แตวา คลายๆกับเถาวัลยตนหนึ่ง รากมันก็มีรากเดียว แลวก็มลี ําตน ขึ้นมา แลวเปนกิ่งเปนอะไร เถาวัลยจะแผกระจายไปทั่วหมด ถาขึ้นที่ตนไม มันก็แผกระจายไปที่ตน ไม ถาเราจับเอาสวนใด สวนหนึ่งของเถาวัลยแลวเขยาจับที่โคนหรือจับที่ปลายเขยาดู มัน จะกระเทือนไปหมดทั้งตนเลย อันนี้ลักษณะของเถาวัลยเปน อยางไร ลักษณะของธรรมะก็เปนอยางนั้น ทานจับใหไดสัก หมวดหนึ่ง แลวธรรมะอื่นๆเปนอันมากจะกระเทือนถึงหมด ทานปฏิบัติเพียงหมวดเดียวแลวเหมือนกับไดธรรมะอื่นๆหมด ดวย สัจจะนัน้ ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจาทานบอกวาจะใหไดประโยชน ตองเปนสัจจะที่เปนประโยชนและเปนธรรม คือถามันเปนความจริง แตมันไมเปนประโยชนและไมเปนธรรม เราก็ไมรักษาสิ่งนั้น การพูดความจริง แตไดทดสอบดวยปญญาแลววา ความจริงอันนี้ไมเปนประโยชน แลวก็ไมเปนธรรม เชนวาเราจะ กลาวหาใครสักคนหนึ่ง ก็รูสกึ วามันไมเปนธรรมแกคนที่เรากลาว หาเขาเลย เขาไมมีโอกาสแกตวั เลย เรากลาวหาเขาขางเดียว ไมเปนธรรม ก็อยาใช ทานไมใหใช คือวาเปนความจริงแต มันไมเปนประโยชน จริง ไมใชไมจริง อะไรพูดออกไปแลวทําใหคนตีกัน ทะเลาะกัน มีแตเสียอยางเดียวก็ไมรูวาจะพูดทําไม นี่สัจจะ ความคิดเบียดเบียนคือ คิดทําใหผูอื่นสัตวอื่นเดือดรอน โดยมิไดมเี รื่องโกรธเคืองอะไรกันมากอน การคิดเบียดเบียนนี้อาจสืบเนือ่ งมาจากมุงประโยชนของตนแสวงหาความสุขเพื่อตน บนความทุกขความเดือดรอนของผูอื่น เชนคาขายเอากําไร เกินควร เบียดเบียนสัตวเพื่อความสนุกเพลิดเพลินของตนรังแกผูออ นแอไมมีทางสู ความคิดเบียดเบียนนี้ ทานใหเอาชนะ ดวยความกรุณา คือความเอ็นดู ความเห็นใจ ความอยากชวย ใหผูอนื่ พนทุกข ตรงกันขามกับความคิดอยากใหเขามีทุกข เปนผูมีจิตใจออนโยนตอสัตวทั้งหลาย คนสวนมาก กระหายตอคํายกยองชมเชย หรือนิยม สรรเสริญ แตตามความเปนจริงแลว สําหรับคนใจสูงแลว คํา นิยมยกยองเหลานั้นมีคานอยเหลือเกิน ถาเรายังไมรูสึกเหนื่อย หนายตอการยกยองชมเชยแลว เราจะไปสูแ สงสวางไดอยางไร การกลัวเสียงติกับความกระหายตอคํายกยอง ยอมมีสวนสัมพันธกันอยูเสมอ คือเรากระหายตอการยกยองมากเทาใด 17
ธรรมและทรรศนะชีวติ
เรายอมเกรงกลัวตอเสียงตําหนิติเตียนมากเทานั้น เมื่อเรายังไมสิ้นกิเลส ควรตระหนักอยูเสมอวา คําสรรเสริญเยินยอใดๆ ที่เราไดรับนั้นเปนสิ่งนากลัว เพราะจะทําใหเราหลงตัวเอง และนําตนไปสูอันตรายแหงการปฏิบัติธรรม เราควรลดตัวเองใหเหลือศูนย เพื่อไมใหมีอหังการ ซึ่งเปนเสมือนมานทึบที่มาบดบังแสงสวางไว และเปนเครื่องทําลายความสงบสุขของเรา การไมอหังการหรืออัสมิมานะนัน้ พระพุทธเจาทรงถือวาเปนบรมสุข การทําหนาที่ของตนใหสมบูรณนั้น ควรถือเปนเปา หมายสําคัญของชีวิต ทําหนาที่เพื่อหนาที่นนั่ เอง (duty for duty) เรื่องอื่นๆ เชน ลาภ ยศ ชือ่ เสียง เปนตน ใหถือเปน เพียงผลพลอยได ตามธรรมดาผลเหลานี้ ยอมเกิดขึน้ แกผูทํา หนาที่อนั ดีอยูแ ลว แมไมหวังก็ยอมไดโดยธรรมดา เหมือนคนปลูกตนไมเพราะรักตนไม ผลพลอยไดอื่นๆจากตนไม ยอมมีมากมาย เชน ความรมเย็น อากาศดี มีดอกสวยใหชม มีผลใหบริโภค เปนตน เหลานี้ลวนเปนผลพลอยไดของการมีตนไมทั้งสิ้น บุคคลสะสมอารมณใดไวมากในจิต หรือวิญญาณ สิ่ง นั้นยอมรวมตัวกันเปนนิสยั และอุปนิสัยของผูนั้น พฤติกรรมซึ่ง เปนการแสดงออกของนิสัยและอุปนิสัยนัน้ เนื่องมาจากสิ่งที่เขา สะสมไวนั่นเอง เชน คนหนึ่งสะสมความโกรธไวมาก ทําใหเขามีนิสัยขี้โกรธ มักโกรธ โกรธงาย หงุดหงิดงาย จิตใจไมมั่นคง มีอะไรกระทบนิดหนอยก็โกรธปงปงออกมา เหมือนมีเชื้อพรอมอยูแลว พอเจอไฟก็ลุกทันที สวนคนที่สะสมความเมตตากรุณาไวมาก มีความโนมเอียงทางนั้นอยู พอมีสิ่งภายนอกมากระตุน นิดเดียว เมตตากรุณาก็แสดงออกมาทันที เชน เห็นคนตกทุกขไดยาก เขามีใจกรุณาอยากชวยใหพนทุกข สวนจะชวยไดแคไหนอยางไรนั้น ยอมสุดแลวแตวิสัยสามารถของเขา และสถานการณที่จะเอื้ออํานวยใหทํา คนไทยสวนใหญ นับถือพระพุทธศาสนาก็จริง แตสวน มากของผูนับถือพระพุทธศาสนาเหลานัน้ ยังมิไดรูจกั พระพุทธ ศาสนา ยังมิไดมองเห็นความสําคัญแหงพระธรรมซึ่งเปนตัวแทน แหงพระศาสนา เขาเอาชีวิตไปแขวนไวกับพระสงฆที่เขานิยม เลื่อมใส เมื่อเห็นพระสงฆรูปนั้น ปรวนแปรไปจากที่เขานิยม นับถือ หรือมิไดเปนอยางที่เขาหวังไวก็เสือ่ มศรัทธา หรือถอย หางจากพระพุทธศาสนา เขายังมิไดรูอยางถองแทวา พระพุทธ ศาสนาคือคําสอนอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจา สวนพระสงฆ นั้นเปนปจเจกชน ที่เขามาบวชในพุทธศาสนาซึ่งมีดีบางเลวบาง ถาเห็นพระสงฆประพฤติมิชอบแลว ถอยศรัทธาจากพุทธศาสนา ก็เปนการเสียประโยชนของตนเอง คือเสื่อมจากประโยชนที่ตนถึง ไดจากพระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจา พระสงฆจะเปน อยางไรก็ตาม ถาเขานําพระธรรมของพระพุทธเจาไปปฏิบัติตาม เขายอมไดรับประโยชนตามสมควรแกการปฏิบัติอยางแนนอน เรื่องรายในชีวติ ของคนนั้น ไมมีอะไรรายแรงเทาความ ตาย ทานพยายามทําใจอยาใหกลัวตาย เมื่อไมกลัวตายเสียได เรื่องอื่นๆก็ไมมีอะไรที่จะตองกลัวอีก วิธีฝกไมใหกลัวตายก็คอื พยายามนึกเสมอๆวา 18
ธรรมและทรรศนะชีวติ
คนเราเกิดมาแลวตองตายดวยกันทุกคน ไมเร็วก็ชา เมื่อไหนๆก็จะตองตายแลว จะตายเมื่อไหรกช็ างเถิด และความตายนั้น ดูๆไปแลวมิใชเรื่องรายแรงอะไร มีความดีอยูม ากในความตายนัน้ คนที่เคยจองลางจองผลาญเปนศัตรูก็จะเลิกคิดทําราย เลิกเปนศัตรู คนที่เคยรักอยูแ ลว ก็จะรักมากขึ้น ความดีที่เคยทําไว ซึ่งไมปรากฏชัดในสมัยเมื่อยังมีชวี ิตอยู ก็เดนขึ้นทันที คนไทยสวนใหญ นับถือพระพุทธศาสนาก็จริง แตสวน มากของผูนับถือพระพุทธศาสนาเหลานัน้ ยังมิไดรูจกั พระพุทธ ศาสนา ยังมิไดมองเห็นความสําคัญแหงพระธรรมซึ่งเปนตัวแทน แหงพระศาสนา เขาเอาชีวิตไปแขวนไวกับพระสงฆที่เขานิยม เลื่อมใส เมื่อเห็นพระสงฆรูปนั้น ปรวนแปรไปจากที่เขานิยม นับถือ หรือมิไดเปนอยางที่เขาหวังไวก็เสือ่ มศรัทธา หรือถอย หางจากพระพุทธศาสนา เขายังมิไดรูอยางถองแทวา พระพุทธ ศาสนาคือคําสอนอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจา สวนพระสงฆ นั้นเปนปจเจกชน ที่เขามาบวชในพุทธศาสนาซึ่งมีดีบางเลวบาง ถาเห็นพระสงฆประพฤติมิชอบแลว ถอยศรัทธาจากพุทธศาสนา ก็เปนการเสียประโยชนของตนเอง คือเสื่อมจากประโยชนที่ตนถึง ไดจากพระธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจา พระสงฆจะเปน อยางไรก็ตาม ถาเขานําพระธรรมของพระพุทธเจาไปปฏิบัติตาม เขายอมไดรับประโยชนตามสมควรแกการปฏิบัติอยางแนนอน เรื่องรายในชีวติ ของคนนั้น ไมมีอะไรรายแรงเทาความ ตาย ทานพยายามทําใจอยาใหกลัวตาย เมื่อไมกลัวตายเสียได เรื่องอื่นๆก็ไมมีอะไรที่จะตองกลัวอีก วิธีฝกไมใหกลัวตายก็คอื พยายามนึกเสมอๆวา คนเราเกิดมาแลวตองตายดวยกันทุกคน ไมเร็วก็ชา เมื่อไหนๆก็จะตองตายแลว จะตายเมื่อไหรกช็ างเถิด และความตายนั้น ดูๆไปแลวมิใชเรื่องรายแรงอะไร มีความดีอยูม ากในความตายนัน้ คนที่เคยจองลางจองผลาญเปนศัตรูก็จะเลิกคิดทําราย เลิกเปนศัตรู คนที่เคยรักอยูแ ลว ก็จะรักมากขึ้น ความดีที่เคยทําไว ซึ่งไมปรากฏชัดในสมัยเมื่อยังมีชวี ิตอยู ก็เดนขึ้นทันที มีใครในโลกนีบ้ า งไหมที่รูสึกอยากเปนตัวของตัวเอง ลวนแตอยากเปลีย่ นกันทั้งนั้น ทุกอยางเมื่อมองดูเพียงหางๆ ดู เหมือนจะเปนสิ่งสมบูรณ นาอยู นาเปน เสียนีก่ ระไร แตพอเขาไปใกลหรือคลุกคลีกับสิ่งนั้นเขา ยอมเห็นขอบกพรองไมมากก็นอย เมื่อพบขอบกพรองก็ไมอยากอยู และไมอยากเปนอยางนัน้ ตองการสลัดสิ่งนั้นและใฝควาหาของใหม ในที่สุดก็ตองเจอภาวะเดียวกันอีก เมื่อตองประสบกับความเจ็บปวดรุนแรง ก็ทําใหเห็น ความวางเปลาในการติดสิ่งสมมุติ จึงหันมาแสวงหาทางออก ทีถ่ ูกตอง คือการปฏิบัติธรรม ดํารงตนอยูใ นศีลธรรม บางคนอาจสายไปหนอย แตไมสายเกินไปที่จะกลับตัว
19
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ชีวิตที่เปนประโยชนแกผูอื่นเปนชีวิตที่มีคา พรรณไมที่ ทําประโยชนได แมอยูในปาลึกแสนลึก คนยังดนดั้นเขาไปเอา จนถึง แตพรรณไมที่ไรประโยชน แมอยูใกลๆเขาก็รังเกียจ มนุษยที่ดนี ั้นหาไดยาก โลกนี้ยังตองการคนดีอีกมากนัก บางคราวในความสลดหดหูข องคนเราก็ยังมีความภูมใิ จ แอบแฝงอยู แตบางคราวในความภูมใิ จนัน่ เอง ก็มีความสลดหด หูอนั ล้ําลึกเจือปนอยูด วย นี่คือสภาพจิตของปุถุชนที่ยังคลุกเคลา อยูดวยความรัก โลภ โกรธ และหลง การมัดไมวามัดอะไร เราไมสามารถมัดดวยของแข็งได ตองมัดดวยของออนๆทั้งนั้น แมเหล็กก็ตองเปนเหล็กที่ออน ดัดใหโคงไดงอได จึงจะมัดอะไรตออะไรไดอยางงายดาย ยิ่ง หัวใจคนเปนสิ่งที่ออนอยูโดยธรรมชาติแลว จะตองใชความออน โยน ออนหวานและออนนอมเทานั้น มาเปนเครื่องมือสําหรับมัด ขาพเจาตองการสอนพวกคนงานพวกนั้นวา ความแข็ง กระดางไมใชอุบายที่ดีในการเอาชนะผูอื่น โดยเฉพาะเจานาย เหนือตน น้ําซึ่งออนแสนออน แตยังสามารถเอาชนะสิ่งที่แข็ง ที่สุดคือหินได ความเมตตาอารี การเอื้อเฟอชวยเหลือซึ่งกันและกัน มีบญ ุ คุณตอกัน ก็ถือวาเปนหนีท้ างจิตใจ ที่ตองชําระไมวันใดก็ วันหนึ่ง บาปกรรมที่เราทําไว จะมากนอยเทาไรก็ตาม เปน หนี้ที่เราตองชําระเชนเดียวกัน ไมยกเวนวาผูนั้นจะยากดีมีจน อยางไร หรือมีอํานาจ อยางไร เพราะมันเปนกฎยุติธรรมสากล คนคงแกเรียนคือคนที่มีความรูเหลือหลาย มิใชมีแต เฉพาะพอทําหนาที่ของตัวไดเทานั้น แตมีพอที่จะแจกจายใหคน อื่นอีกดวย แตถามีความตระหนี่ความรูอยูใ นใจ ความรูน ั้นก็ หาประโยชนอันใดมิไดเลย เหมือนทรัพยที่เก็บไวเฉยๆ นอกจาก จะหาประโยชนอันใดมิไดแลว มันรังแตจะเบียดเบียนบีบคัน้ ให ลําบากอีกดวย เมื่อชีวิตเปนสิง่ ที่ตองทนตองตอสู ในการตอสูจะตองมี ศิลปะ มีแบบมีแผนมีตัวอยาง เหมือนทหารจะเขาสงคราม ตอง เรียนรูเกีย่ วกับเรื่องการรบ หรือ ศิลปะในการยิง การตั้งทัพ การ ถอยหนี เปนตน การทําความดีก็เชนกัน ถาดีเกินไป มันก็เสียดี แลว ผลที่ตามมาก็คือไมไดดี ขาพเจาขอยกตัวอยางเชน ความหวังดีตอผูอื่นนั่นเปนความดี แตถาหวังดีมากเกินไปจนคอยเอา 20
ธรรมและทรรศนะชีวติ
เรื่องเอาธุระกับชีวิตกับเรื่องสวนตัวของเขาไปเสียทุกอยาง นั่นแปลวา ความหวังดีของทาน เริ่มไปกอความรําคาญใหผูที่ ทานหวังดีเสียแลว มนุษยเราโดยปกติไมชอบใหใครสอน และไมชอบใหใคร บอกวาตนทําอะไรผิด เพราะฉะนั้น ทางที่ ดีที่สุดในการสอน มนุษย ก็คือการสอนโดยมิใหเขารูวา เราสอน และการสอนที่ดี ที่สุด คือการทําตัวอยางใหดู การโตเถียงขัดแยง ถาหลีกเลี่ยงไดทานควรพยายามหลีกเลี่ยงเสีย แตถา หลีกเลี่ยงไมพน ก็ควรจะเสนอแนวคิดของ ทาน เพียงเพือ่ ใหคูสนทนาไดพิจารณา ไมจําเปนที่ทานจะใช ถอยคําลําหักลําโคน เพื่อเอาชนะคูส นทนาของทาน ถาทานทําอยางนั้น เปนการแนนอนวา แมทานจะชนะในการสนทนา แตทานจะชนะใจคนไมไดเลย เพราะการไมอดทนตอความทุกขเพียงเล็กนอย และไม หาวิธีปฏิบัติเพื่อกําจัดทุกขใหหมดไป มนุษยจึงตกเปนทาสของ อารมณชั่วแลน และเพราะอารมณชนิดนี้ เมื่อไดประกอบกรรม ชั่วลงไปแลว จะเปนเพราะโลภะ โทสะ หรือโมหะก็ตาม เขาจะตองชดใชหนี้กรรมที่เขาทําไว ใหเหมาะสมกับสัดสวนแหง เหตุที่เขาไดทําไว ผูใครความสุข ทะยานอยากในความสุขชนิดที่มีอามิสนัน้ ตองเที่ยวดิน้ รนแสวงหาจากภายนอก ยอมเปนไปไมไดที่จะสมปรารถนาทุกครั้งไป ยอมมีเหตุขัดของอุปสรรค ความขัดแยงซึ่งเปนเหตุใหเกิดทุกข เพราะความสุขภายนอกไมอาจสนองความตองการของเขาไดทุกครั้งไป ในปริมาณและความเขมขนที่เขาตองการ เมื่อเปนเชนนี้เขายอมกระหายตอความสุขยิง่ ขึ้น แสวงหาตอไปไมพบจุดอิ่มจุดพอ เทีย่ ววิ่งรานแสวงหาเรื่อยไป และความสุขที่มีอามิสนี้ ก็มักตองมีทุกขลงทุนไปกอน บางคราวก็ไดสมหวังพอถอนทุนคืนได หรือ อาจไดกําไรนิดหนอย แตบางคราวก็ไมไดความสุขอยางที่ตั้งความหวังเอาไว ถอนทุนไมขึ้น ขาดทุน สวนความสุขที่เกิดขึ้นในใจโดยคุณธรรม ความสงบ อํานวยใหเกิดขึน้ เปนความสุขแท เปนกําไรของชีวิตไมเจือดวยความทุกข หรือไมมีทุกขตามมา การชนะรักตามทรรศนะของพุทธศาสนาคือ ความไมรัก มีใจเปนอิสระ ไมตองตกเปนทาสของอารมณหรือสิ่งอันเปนที่รัก การปรารถนาความสุขจากภายนอกนั้นไมมีวันสนองความอยากใหเต็มบริบูรณได เพราะโดยสภาวะแลวสิ่งเหลานั้นมีความบกพรองอยูในตน เมื่อไดสิ่งนั้นมาจึงตองรับเอาความบกพรองเขามาดวย ตัวอยางเชน คนที่ตองการความสุขจากการมีรถยนต ยอมจะตองมีทกุ ข มีภาระกังวลกับรถยนตนั้นดวยเปนธรรมดา ผูตองการความสุขจากการมีบุตร มีภรรยาหรือสามีก็ทาํ นองเดียวกัน
21
ธรรมและทรรศนะชีวติ
คนทั้งหลาย เมื่อทําความชั่วแลว ไมตองการไดรับผลชั่ว คอยนึกคอยคิดคอยอธิษฐานวา ขออยาใหผลชัว่ ตกมาถึงเราเลย ถาจะใหผลก็ขอใหยดื เวลาไปใหนานที่สุดเทาที่จะนานได แตเมื่อทําความดีแมเพียงเล็กนอยก็นั่งรอ นอน รอ ขอใหผลดีนั้นตกถึงตน และขอใหใหผลเร็วๆ ถาความตองการของเขาสมปรารถนา ก็แสดงวาเหตุปจ จัยมีพอที่จะใหเปนเชนนั้น แตสวนมากไมไดดังใจหวัง กรรมชั่วยอมใหผลชั่ว กรรมดียอมใหผลดีตามพืชของตนๆ เหมือนบุคคลปลูกขนุนไว มันยอมออกผลมาเปนขนุน จะนั่งออนวอนสักเทาใดใหเปนมะมวงก็หาสําเร็จไม อนึ่ง กรรมดี กรรมชั่วที่บุคคลทําแลว จะใหผลเร็วหรือชา มากหรือนอยอยางไร ยอมขึ้นอยูก ับเหตุปจจัยประกอบในเวลานัน้ วาเปดโอกาสใหกรรมดีหรือกรรมชั่ว ใหผลมากนอยเพียงใด บุคคลจะมีกําเนิดดีสักเทาใดก็ตาม ถายังเวียนวายตายเกิดอยูแลว ยอมตองประสบทุกขมากบางนอยบางตามฐานะของตนๆ แมสุขที่ไดก็ไมยั่งยืนและยังเจืออยูดว ยทุกขเสียเปนสวนมาก ทั้งนี้เพราะยังมีกิเลสอยู จิตยังไมบริสทุ ธิ์ เหมือนน้ําไมบริสุทธิ์ กินเขาไปพอระงับความกระหายไดก็จริง แตก็มโี ทษแกรางกายเจือปนอยูดว ย ตองคอยระวังคอยแกไขกันอยูตลอดเวลา นาเบื่อหนายไมมีที่สิ้นสุด มองในแงนี้แลว การทําจิตใหบริสุทธิ์ เปนสิ่งจําเปนสําหรับทานผูตองการพนทุกขโดยเด็ดขาด ตองการไดรบั ความสุขอันสมบูรณและไมเจือดวยทุกข มวลมนุษยเปนผูนาสงสาร เพราะวิ่งพลานอยูในทะเลทุกข ดูเหมือนทะเลนี้ ชางกวางไกลลึกล้ําเสียจริงๆ ยากที่จะขามใหพนได มนุษยไดผูกพันชีวติ ไวกับความหวัง หวัง วาเมื่อพนจากสภาพนี้ไปสูสภาพใหมแลว คงจักไดพนทุกข พบกับความสุขเสียที แตพอกาวเขาสูสภาพใหมจริงๆ ก็ ตองเจอกับทุกขอยางใหมเขาอีก บางคนก็ทอใจวา ชาตินี้คงไมมีโอกาสไดพบความสุขเสียแลว แตบัณฑิตหรือผูมี ความคิด แมประสบทุกขก็ไมควรสิ้นหวังในความสุข ควรหาวิธีอยางใดอยางหนึ่ง ใหชวี ิตไดลิ้มรสแหงความสุขตาม สมควรแกฐานะของตนๆ ไมควรยอมพายแพเสียโดยงาย การปลอยอุปาทาน เหมือนการปลงภาระอันหนักลงได ยอมมีความสุข ความโปรงใจ เบาใจเหมือนคนแบกภาระหนักมา นาน เมื่อปลงเสียได ไมยดึ ภาระอื่นไว ก็ยอมเบาสบาย ปลอด โปรงฉันใดฉันนั้น บุคคลอุมสิ่งใดไว ยอมหนักเพราะสิ่งนัน้ กายที่อุมภาระ ไดไว เชน แมอุมเด็กยอมหนักเพราะภาระนั้น ยิ่งอุมนานและเดินทางไกลก็ยิ่งหนัก และเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นฉันใด ใจที่อุมกิเลสไว อุมเอาอุปาทานไวก็ยอมหนักฉันนั้น แมปากจะบนวาไมไหวแลว แตกย็ ังอุมไว สิ่งที่อุมไวนั้นยังเปนสังขารมีปจจัยปรุง มีความทรุดโทรมคร่ําคราเปนธรรมดาเขาอีก 22
ธรรมและทรรศนะชีวติ
ผูอุมเอาไวจึงตองแกไขปรับปรุง ยุงเหยิงอยูเนืองนิตย เพียงขันธ 5 หรือกายใจของตนเพียงคนเดียว ก็หนักแสนหนักอยูแ ลว ยังอุมเอาสิ่งอื่นภายนอกตนไวอีก ดวยอุปาทานอันมั่นคงวา “เรา” และ “ของเรา” ลองคิดดูเถิดวาจะตองหนักสักเพียงใด คนสวนมากแสวงหาลาภ ยศ และสรรเสริญดวยคิดวา ถาไดมันมาก็จะทําใหตนมีความสุขขึ้น เปนผูสมบูรณขึ้น จะเปนจริงดังนี้ไดก็ตอเมื่อผูนั้นทําตนอยูเหนือลาภ ยศ และสรรเสริญ แตถาไดมันมาแลวกลับตกเปนทาสมัน เขาก็จะมีแตความเศราโศกเปนเบื้องหนา ตองหยั่งลงสูทุกข (ทุกโข ติณณา) มีทุกขเปนเบื้องหนา (ทุกขปารตา) อยางแนนอน เพราะสิ่งนี้พระพุทธเจาผูมีพระปญญาอันยอดเยีย่ มไดตรัสบอกไว แลววา “ไมเที่ยงเปนทุกข มีความแปรปรวนเปนธรรมดา- อนิจโจ ทุกโข วิปริณามธมฺโม” ในโลกนี้มนุษยเปนใหญกวาสัตวโลกอื่นๆ สัตวโลกชนิดอื่น มักตองพลอยสุขพลอยทุกขอยูเสมอ ในมนุษยจติ เปนใหญ ถาจิตดีก็มีความสุข จิตไมดกี ็มีความทุกข ทุกขในเรื่องที่นาจะสุข แตถาจิตเขาดี เขามีสุขแมในเรื่องที่นา จะทุกข ในจิตอะไรเปนใหญ ธรรมเปนใหญ เพราะจิตทีม่ ีธรรมเทานั้น จึงจะครองความเปนใหญจริงๆได ใครๆก็ตองยอมใหโดยไมตองบังคับขูเข็ญ การปฏิบัติธรรมจึงเปนเรื่องสําคัญอยางหนึ่งของชีวิตและสําคัญอยางยิ่งยวดดวย มหาบุรุษที่โลกยกยอง ใหเกียรติเคารพบูชานั้น ลวนเปนนักใหอภัยทัง้ สิ้น ไมเอาเรื่องกับสิ่งเล็กๆนอยๆ หรือเรื่องใหญก็ทําเปนเรื่องเล็กเสีย ทานเหลานั้นมุงมั่นในอุดมคติ จนไมมีเวลาสนพระทัยหรือสนใจในเรื่องเล็กนอย แตทานเหลานี้จะสนใจในเรื่องเล็กๆนอยๆ อันเกี่ยวกับสุขทุกขของผูอื่นเสมอ สวนเรื่องรายที่คนอื่นกระทําแกทาน ทานไมสนใจ จิตใจของคนเรา กลับกลอก แปรปรวนเร็ว เดีย๋ วจะเอาอยางนั้น เดี๋ยวจะเอาอยางนี้ ตามไมคอยทัน เพราะความนึกคิดของคนนัน้ ไมเที่ยง มีเหตุปจจัยปรุง เมื่อเหตุปจจัยปรุงใหดีกด็ ีไปชั่วคราว พอเปลี่ยนเหตุปจจัยใหม คือไดเหตุปจ จัยชัว่ ก็กลับเปนชัว่ เสียอีก นาเบือ่ หนาย พระอริยเจาทั้งหลาย ทานจึงฝกจิตทําใจของทานใหมนั่ คง แจมใสจนเหตุปจจัยอะไรๆทําใหแปรปรวนไมได คงที่สงบอยูอยางนัน้ ไมตองขึ้นๆ ลงๆ เหมือนเด็กๆทีป่ ระเดี๋ยวก็หวั เราะ ประเดีย๋ วก็รองไห บุคคลจะมีความรูความสามารถปานใดก็ตาม ถาความรู และความสามารถนั้นยังอยูใ นขอบเขตของโลกียธรรม กลาวคือเรื่องอยางโลกๆแลว 23
ธรรมและทรรศนะชีวติ
เขาหาไดขามแดนแหงความมืดมนไปไดไม ในดวงจิตของเขา ในความรูสึกของเขา ยังมีความมืดมนครอบงําแผปกคลุมอยูนั่นเอง เขายังอยากรูอะไรๆตอไปอีก การที่เขาอยากรูนั้น เพราะเขารูสึกตนวาสิ่งนั้นซึง่ เมื่อรูแลว ทําใหรูสิ่งทั้งปวงไดนั้น เขายังไมมี ตนของเขายังไมเต็มบริบูรณ ยังพรองอยู ยังมีความกระวนกระวายอยู เหมือนคนมีโรคอยูในตน แมหมอจะคนไมพบ บอกไมไดวาเปนอะไร แตตนเขารูตนเองวา มีโรคอยูในตน เพราะมีอาการแหงโรคที่ปรากฏใหตนรูสึกเนืองๆ เมื่อความมืดมนยังปกคลุมชีวิตอยู ชีวิตจะพนไปจากความผิดหาไดไม ความผิดความบกพรองอันเกิดขึ้น เพราะความมืดมนนั่นเอง ทําใหชวี ิตเศราหมองลงไปอีก เปรียบเหมือนบุคคลที่เดินอยูในความมืดยอมเดินพลาดไดงาย อาจถึงหกลม การหกลมยอมตองทําใหตวั เปรอะเปอนโคลน หรือฝุนละออง ทําใหรางกายเศราหมอง ถามนุษยเราไมเบียดเบียนประทุษรายกัน โลกมนุษย สังคมมนุษยจะสงบสุข ปราศจากความหวาดระแวง มีโอกาสไดชื่นชมตอชีวิตของตนและของผูอื่นที่เกี่ยวของตามสมควร นอกจากเวนการเบียดเบียนกันเองแลว มนุษยควรเวนการเบียดเบียนสัตวโลกประเภทอื่นๆดวย เพราะเปนเพื่อนรวม ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน การประทุษรายกันจึงเปนการกอความทุกขใหเกิดแกเพื่อนรวมทุกขเพิม่ ขึ้นอีก จากความทุกขซึ่งเขาไดรับอยู โดยปกติธรรมดาแลว ใชเวลาใหเปนประโยชน เพราะเวลาที่ลวงไปแลว ไมหวนกลับมาอีก เสียไปแลวก็เปนอันเสียไปเลย คาของเวลาอยูท ี่เราใชมันใหเปนประโยชน คนไมทําอะไรชีวิตสึกหรอไปเปลาๆ สวนคนขยัน เมื่อชีวิตลวงไปก็นําเอาประโยชนติดไปดวย คนทํางานมาก อาจไมไดเปนคนสําคัญทุกคน แตคนสําคัญทุกคนตองทํางานมาก และขยันเสมอ คาของคน เขาวัดกันที่ผลของงานและที่ความดีประจําตน ของในโลกนี้บางอยางมีโทษโดยสวนเดียว บางอยางมีโทษเมือ่ เกินพอดี บางอยางมีคุณเมือ่ ปฏิบัติถูกตอง และ ใหโทษเมื่อเกินพอดี หรือไมถึงขีดพอดี หรือจะกลาวใหสั้นก็คือ ของในโลกนี้มีคุณและโทษ จะเปนคุณถาเขาไปเกี่ยวของในดานคุณ และจะเปนโทษเมื่อเขาไปเกีย่ วของในดานโทษ จะเปนคุณเมื่อปฏิบัติถูกตอง ควบคุมใหอยูใ นทางที่เหมาะสม และเปนโทษเมื่อปฏิบัติไมถูกตอง ไมไดรับการควบคุมใหเหมาะสม พระพุทธเจาทรงอนุญาตใหพระฉันอาหารที่ปรุงผสมสุราได ก็เพราะทรงคํานึงถึงจํานวนที่ไมถึงขั้นเปนโทษของมัน ชาวพุทธสวนใหญ ยังเขาใจและสนใจพุทธศาสนาเพียงในแงของพิธีกรรม ไมคอยสนใจพุทธศาสนาในสวนที่เปนเนื้อหาสาระ อันจะเปนเครื่องมือชวยเหลือตนในคราวมีทุกขมีความกังวล หรือความผิดหวังพลั้งพลาด พอสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงจึงพะวาพะวังจับอะไรไมถูก 24
ธรรมและทรรศนะชีวติ
บางทีก็นําตนใหตกเปนเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ ที่แฝงตนเขามาในรูปของนักบุญ หรือนักบวช พุทธบริษัทเหลานี้เปนผูนาสงสาร แตจะชวยเขาไดอยางไรเลา ในเมื่อเขาไมคิดชวยตัวเองบางเลย ในการสราง ที่พึ่งแกจิตใจของตนเอง
25
ธรรมและทรรศนะชีวติ