Sabaidee Buriram Magazine Issue 20

Page 1

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

สะบายดี สะบายดี บุรรี มั ย์ ฉบับเทิดพระเกียรติ เนือ่ งในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๕๕๘

บุรีรัมย์


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 2 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

3

โดยได้รับพระราชทานพระราชานุญาตเผยแพร่พระฉายาลักษณ์


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 4 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

EDITOR’ S TALK

ทันทีทรี่ วู้ า่ จะต้องเขียนบทบรรณาธิการของเดือนนี้ ดิฉนั ก็เริม่ หนักใจขึน้ มา ทันที ผัดผ่อนน้องๆ ทีมงานมาหลายครัง้ จนถึงเส้นตายวันกำ�หนดส่งหนังสือกับ โรงพิมพ์ จึงต้องรีบลุกขึน้ มาจากเตียงตัง้ แต่ตหี า้ เพือ่ มาเขียนบทความชิน้ นี้ ก่อนจะ ออกเดินทางไปต่างจังหวัด ทำ�ไมนะ ทำ�ไม... การเขียนบทบรรณาธิการของเดือนสิงหาคม มันจึงยาก กว่าเดือนอื่นๆ ทุกที คำ�ตอบส่วนตัวก็คือ... เพราะเดือนนี้มีวันแม่... การเขียนถึงแม่... ไม่งา่ ยนะคะ ไม่ใช่เพียงเพราะในชีวติ ของดิฉนั ยังไม่เคย มีโอกาสเป็นแม่ แต่ถงึ จะให้เขียนจากมุมของลูก... ก็ยงั ไม่คดิ ว่าจะเป็นลูกทีด่ พี อ เลยสักหน (คิดในใจว่าแม่อ่านเจอตรงนี้คงพยักหน้าเห็นด้วย) ดิฉันเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ไม่ถึงกับยากจนแต่ก็ไม่ได้ ร่ำ�รวย ถึงอย่างนั้นพวกเราพี่น้องก็ไม่เคยต้องอด แทบทุกอย่างที่พวกเรา อยากได้ เราได้ตามที่พ่อแม่จะเห็นสมควร ตามที่กำ�ลังฐานะของเราจะหาได้ ครอบครัวดิฉันให้ความสำ�คัญกับการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะ พ่อและแม่ของดิฉัน ทำ�งานอยู่ในแวดวงการศึกษา แต่เพราะท่านเชื่อว่า ในวันหนึ่งหากท่านไม่อยู่กับพวกเราแล้ว “ความรู้” เท่านั้นที่จะติดตัว พวกเรา ให้ได้ใช้สอยเป็นวิชาหาเลี้ยงชีพสืบต่อไป แต่ยังไม่ทันจะจบ ม.6 พ่อก็มาด่วนจากไป ตรงนี้แหละ ที่ แม่...เข้ามาเทคโอเวอร์ทุกอย่าง ไปอย่างเนียนๆ จากเคยเป็น “แม่” ต้องมาสวมบทเป็น “พ่อ” ด้วย คงไม่งา่ ยนัก สำ�หรับ ผูห้ ญิงคนหนึง่ ซึง่ วิชา “การเป็นทัง้ พ่อและแม่” ก็ไม่เคยถูกบรรจุอยูใ่ นหลักสูตรของ โรงเรียนใด นอกจาก ”มหาวิทยาลัยชีวิต” หน้าที่ “หัวหน้าครอบครัว” ทีต่ อ้ งใช้พลังมหาศาล บวกกับความรับผิดชอบ ระดับเมก้าโปรเจคต์ แต่แม่ก็ไม่เคยสอบตกกับบทบาทนี้...

จนถึงวันนีท้ พี่ วกเราทุกคนเติบโต ปีกเริม่ กล้า ขาเริม่ แข็ง เรียนจบ มีงาน มีการทำ� มีชวี ติ เป็นของตัวเอง แต่ความรักความห่วงใยจากแม่กไ็ ม่เคยเปลีย่ นไป ตามกาลเวลาเลย แม่ยงั ต้องตะโกนปลุกเราทุกเช้า บังคับให้ทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ยังคอยโทรตามเวลาเรากลับบ้านไม่ตรงเวลา... แม่ยงั ทำ�ทุกอย่างเหมือนตอนทีเ่ ราเป็นเด็ก จนบางที ดิฉนั ก็นกึ สงสัยว่า ในสายตาของแม่ เราเองเคยเปลี่ยนไปบ้างไหม นับจากวันแรกที่เราลืมตา ออกมาดูโลก พี่โน้ต - อุดม แต้พานิช ขวัญใจไอดอลเด็กแนวคนหนึ่งของดิฉันเคย พูดถึงแม่ไว้ว่า “แม่จำ�ได้มั้ย... จากเล็กจนโต แม่ซื้อยาคูลท์ให้ผมดื่มมาตลอด แม่รมู้ ยั้ ว่านอกจากแลคโตบาซิลลัสแล้ว ผมยังได้สจั ธรรมบางอย่าง จาก เครื่องดื่มจุลินทรีย์ขวดเล็กๆ นี้ ยาคูลท์... มีบอกวันหมดอายุ แต่แม่ไม่มี ใครจะรูว้ า่ แม่จะหมดอายุเมือ่ ไหร่...” คำ�ขวัญหนึง่ ทีค่ นโง่ๆ อย่างผมจำ� ขึ้นใจกว่าคำ�ขวัญวันเด็ก ก็คือ แม่ไม่ใช่ยาคูลท์ ... รีบกตัญญูก่อนหมดอายุ” ค่ะ... เขียนมาจนถึงบรรทัดนี.้ .. รูด้ วี า่ เขียนต่อก็คงจะดราม่า อย่ากระนัน้ เลย ดิฉนั เชือ่ ว่า วันแม่เราไม่จำ�เป็นต้องซึง้ ไม่ตอ้ งถึงกับมานัง่ ร้องเพลงค่าน้ำ�นมให้แม่ ฟัง เพราะลูกหลายคนคงจะเขิน ส่วนแม่เองก็คงจะไม่ชนิ เอาเป็นว่า... ขอให้ลกู ๆ ทุกคน อย่าลืมที่จะแสดงความรักกับแม่ตามแบบฉบับของตัวเองนะคะ สะบายดี บุรรี มั ย์เล่มนี้ ได้รบั พระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ มีพระราชานุญาตให้นำ�พระสาทิสลักษณ์ขนึ้ ปก และให้นำ�พระฉายาลักษณ์ตพี มิ พ์ในเล่ม นับเป็นพระมหากรุณาธิคณุ ล้นเกล้าฯ แก่พวกเราชาวสะบายดี บุรีรัมย์ อย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยรัก วีรวรรณ คชรัตน์

06 Lucky Cafe’ 12 หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม “บ้านสนวนนอก” 14 ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�นครสวรรค์ 24 ฅ.ฅน บุรีรัมย์

นัยนา นพสุวรรณวงศ์

เปิดเรื่องลับ... กับนัยนา นพสุวรรณวงศ์

สะบายพุง

ช่วงเวลาแห่งกาแฟถ้วยโปรด

มหัศจรรย์เมืองแปะ

เลิศล้ำ�ภูมิปัญญา ผ้าไหมลายวิจิตร วิถีชีวิตชุมชน

กาลครั้งหนึ่ง

ต้มยำ�รสจัดจ้าน ความอร่อยที่ยาวนานกว่า 30 ปี

26 32 มารดาแห่งสรรพชีวิต 41 พาเหรดรักสีรงุ้ 42 ตำ�นานเมืองบุรีรัมย์

ตำ�นานวันแม่ ภาพเกา่ เลา่ เรื่อง

“มารู้จัก สะพานข้ามละลม อีกแห่งหนึ่ง” อักษราร่ายรำ�

ตะลุยต่างแดน

ส า ร บั ญ บรรณาธิการบริหาร วีรนุช คชรัตน์ บรรณาธิการ วีรวรรณ คชรัตน์ ทีป่ รึกษา ผศ.สุธามาศ คชรัตน์ อ.วันดี เธียรสวัสดิก์ จิ ทีป่ รึกษาฝ่ายต่างประเทศ ผศ.เรืองศักดิ์ อัมไพพันธ์ ทีป่ รึกษา ฝ่ายสุขภาพและกีฬา ผศ.พรพรรณ ค�ำเมือง ที่ปรึกษาฝ่ายภาษาไทยและวรรณคดีไทย ผศ.บุณย์เสนอ ตรีวิเศษ ที่ปรึกษาฝ่ายโบราณคดีและประวัติศาสตร์บุรีรัมย์ รศ.ดร.สมมาตร์ ผลเกิด ฝ่ายช่างภาพและกราฟฟิคดีไซน์ ปรัชญา ชัดทัน, ธนาภรณ์ นิสสัยดี, วสันต์ จันนวน, วัฒนา จันทร์เจริญ, ภาณุภทั ศรีบญุ เรือง, เกรียงไกร วิรยิ ะยอดยิง่ นักเขียนกิตติมศักดิ์ วิวฒั น์ โรจนาวรรณ นักเขียนประจ�ำคอลัมน์ วิภาวี สิงหวศิน, พีรยิ า หาญบ�ำรุงธรรม, วรพช คชรัตน์ นักเขียนรับเชิญ สุวชิ าดา ฉิมจารย์, ทัพพ์ปณั ณ์ ทวันเวทย์ ฝ่ายการตลาด วรัญญา ละขะไพ, กุลกัญญา สุนทรารักษ์ ส�ำนักงาน เค.เอส. ริชเชส เลขที่ 40/70 ถ.อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 31000 ฉบับที่ 19 ประจ�ำวันที่ 15 สิงหาคม 2558 ติดต่อโฆษณา 085 612 1010, 095 6173474


นัยนา นพสุวรรณวงศ์

ฅ. ฅนบุรีรัมย์

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 6 ไทรถเข็

เปิดเรื่องลับ... กับ

7

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

นัยนา นพสุวรรณวงศ์ กลับมาพบกันอีกครัง้ กับ ฅ.ฅนบุรรี มั ย์

“ พี่คิดว่าในชีวิตคนเรามันมี 5 อย่าง งาน ครอบครัว

ส่วนตัว สังคม เพื่อน ใน 5 อย่างนี้ เราต้องทำ�ให้มันสมดุลกัน ทั้งหมด ไม่ให้อันไหนมันสุดโต่งเกินไป สำ�หรับพี่ พี่ให้เวลากับ เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องสุดท้าย พี่คิดว่าเราต้องทำ�เพื่อสังคม รอบข้างก่อนแล้วค่อยมองกลับมาที่ตัวเอง พี่คิดอย่างนี้นะ

สถานที่ : โรงแรมเกษรบูติค

ฉบับวันแม่ฉบับนีเ้ ราจะพาทุกท่าน ไปรู้จักกับเรื่องราวชีวิตในอีกมุมหนึ่ง ของผู้บริหารหญิงคนเก่งแห่งยามาฮ่า “อึง้ ทงกี”่ ผูซ้ งึ่ เป็นทัง้ “แม่” และ “ลูก” ในเวลาเดียวกัน ตามไปล้วงลึกเบือ้ งหลัง ของการบริหารงานอย่างมืออาชีพ กับเรื่องราวลับสุดยอดที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ใด มาก่อน ไปพบกับ “คุณปุ๊ก - นัยนา นพสุวรรรณวงศ์” กันเลยค่ะ สะบายดี : แนะนำ�ตัวหน่อยค่ะ พี่ชื่อนัยนา นพสุวรรณวงศ์ ชื่อเล่นชื่อปุ๊ก มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน น้องชาย 3 คน พี่ชาย 2 คน แต่เสียไปคนหนึ่ง และก็มีน้องสาวอีกหนึ่งคน ที่บ้านมีแต่ผู้ชาย พี่เป็นลูกผู้หญิงคนโต นิสัยเลยไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) ป๋าพีเ่ ค้ามีพนี่ อ้ งทัง้ หมด 9 คน คำ�ว่า “นพสุวรรณวงศ์” ก็มาจากเลข 9 นีแ่ หละ นว หรือ นพ แปลว่าเก้า ครอบครัวพีน่ อ้ งของป๋าเค้าก็ทำ�ธุรกิจต่างๆ อยูใ่ น จังหวัดบุรรี มั ย์นแี่ หละ ป๋าเป็นคนรักพีร่ กั น้องมาก พวกพีก่ เ็ ลยรักกัน ลูกพีล่ กู น้อง ทั้งหมดก็จะรักกัน นี่คือความภาคภูมิใจของนพสุวรรณวงศ์ พี่เรียนจบชั้น ป.4 ที่โรงเรียนอนุบาล เรียน ป.5 - ป.7 ที่โรงเรียน ไตรคามสิทธิศิลป์ แล้วก็มาเรียน ม.ศ.1 - ม.ศ.5 ที่โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม จากนั้นก็เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยหอการค้า พอเรียนจบก็กลับมาทำ�งานร้าน ขายมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าชื่อ “อึ้งทงกี่” เป็นชื่อตั้งแต่สมัยอากงเลย คือที่บ้านพี่ เปิดร้านขายมอเตอร์ไซค์ แล้วพี่เป็นลูกสาวคนโตไง พี่ชายคนโตเค้าทำ�รับเหมา พี่ก็เลยต้องมาขายมอเตอร์ไซค์ (หัวเราะ) บ้านพี่เค้าตลกนะ เค้าบอกว่างาน มอเตอร์ไซค์เป็นงานของผู้หญิง งานรับเหมาเป็นงานของผู้ชาย แต่บ้านอื่นน่ะ งานมอเตอร์ไซค์มันต้องเป็นงานของผู้ชายอยู่แล้ว (หัวเราะ) พอช่วงปี 2546 พี่ไปเรียนต่อ MBA ที่มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง บุรีรัมย์ รุน่ ที่ 1 พอเรียนมาเลยร้อนวิชาไง เปิดสาขามันทุกปีเลย (หัวเราะ) เริม่ ตัง้ แต่ปี 48 แต่วา่ ตอนนีพ้ อแล้ว (หัวเราะ) พีท่ ำ�สาขามาครบ 10 ปีแล้ว ทัง้ หมด 4 สาขา ก็มี สาขาละหานทราย บ้านกรวด คูเมือง แล้วก็อำ�เภอเมือง ครอบครัวของพี่ดูแล ร้านมอเตอร์ไซค์ จากแรกเริม่ มาถึงวันนีก้ ป็ ระมาณ 27 ปี ทีบ่ า้ นเปิดร้านมาตัง้ แต่ สมัยรุ่นป๋าพี่ ก็ประมาณ 50 ปี ยามาฮ่าเลยเป็นเหมือนชีวิต จิตวิญญาณ เป็น ลมหายใจ เป็นความรัก ความผูกพัน มันอธิบายยากนะเพราะเราใช้เวลาอยู่กับ มันทั้งชีวิต จริงๆ ที่บ้านก็อยากให้เลิกขายมอเตอร์ไซค์นะ ไม่รู้ว่าเพราะเค้าห่วง กลัวเราเหนื่อย หรือเห็นเราเป็นผู้หญิง เพราะที่บ้านพี่มีธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง ก็คือทำ�ถนน น้องชายเค้าก็จะคอยพูดเสมอว่าสเกลมันต่างกัน แต่สำ�หรับ พี่แล้วเงินมันไม่ใช่คำ�ตอบสุดท้าย ถ้าพี่ไม่ทำ�อึ้งทงกี่ มันก็คือหายไป พี่มาเริ่มทำ�ธุรกิจมอเตอร์ไซค์ในปี 2531 ตรงใกล้ๆ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และมาทำ�ที่สาขาปัจจุบันนี้ตอนปี 2537 ตอนนั้นป๋าพี่ไม่เห็นด้วย ตอนเปิดร้าน ป๋าก็ไม่มางาน แถมแช่งว่าร้านจะต้องเจ๊งภายใน 6 เดือน (หัวเราะ) มันอาจจะ เป็นเพราะเค้าเห็นเราเป็นผู้หญิงไง แต่เรามันเป็นสไตล์แบบลุยอ่ะ บู๊... แต่ไม่ ล้างผลาญ(หัวเราะ) เป็นนิสัยผู้ชายแบบกล้าได้กล้าเสีย ชอบทำ�อะไรที่เป็นผู้นำ� ชอบทำ�อะไรแปลกๆ อยู่เรื่อยเลย ไม่ชอบทำ�อะไรตามใคร

สะบายดี : นอกจากขายมอเตอร์ไซค์แล้ว ตอนนี้พี่ปุ๊กทำ�ธุรกิจอะไรบ้างคะ ตอนนี้ทำ�ธุรกิจประมาณ 3 - 4 ตัว ที่นอกเหนือจากยามาฮ่า ก็มีหมู่บ้าน นภัสราที่พี่หุ้นกับเพื่อนสองคน เล่าแล้วก็ตลกมาก ที่หมู่บ้านชื่อนภัสรา เพราะว่า พี่กับเพื่อนชอบ “อาภัสรา หงสกุล” นางงามจักรวาลคนแรกของไทย คือเพื่อนพี่ ชื่อประภัสสร พี่ชื่อนัยนา เลยเอาชื่อสองคนมาเชื่อมกันได้เป็นหมู่บ้าน “นภัสรา” (หัวเราะ) นอกจากนี้พี่ก็มีร้านเซเว่นอยู่ตรงโรงแรมศิริพร แล้วก็มีโรงแรมเกษรเพลส โรงแรมเกษรบูติค พอดีเป็นสิ่งที่น้องชายเค้าทำ�ไว้ก็เลยต้องมาทำ�ต่อ สงสัยเพราะ พี่ถูกเลี้ยงมาแบบทำ�แต่งาน บ้างานน่ะ สงสัย DNA ของพ่อกับแม่เยอะกว่าคนอื่น (หัวเราะ) เลยต้องหางาน อยู่ดีไม่ว่าดี (หัวเราะ) สะบายดี : ยามาฮ่า “อึ้งทงกี่” สาขาบุรีรัมย์ ภายใต้การบริหารงานของ พี่ปุ๊กได้รับรางวัลมาเยอะมาก รางวัลเด่นๆ ทีภ่ าคภูมใิ จก็มี 2 รางวัลค่ะ รางวัลแรกเป็นการประกวดในโครงการ CSI Championship ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน ในปี 2010 (พ.ศ. 2553) แล้วก็ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ของประเทศ ในปีเดียวกันด้วย ก็คอื จะมีการแข่งขัน 300 กว่าดีลเลอร์ (ตัวแทนจำ�หน่าย) แล้วก็คดั เลือกออกมา รางวัลนี้ วัดจากระดับความพึงพอใจของลูกค้า สะบายดี : มีวิธีการในการบริหารคนและบริหารงานอย่างไร พีบ่ ริหารงานแบบ ETK Team (อึง้ ทงกีท่ มี ) คือต้องมีทมี งานทีไ่ ปด้วยกันได้ มี เป้าหมายร่วมกัน ต้องช่วยกันทำ�งาน พอดีพไี่ ด้นอ้ งคนหนึง่ มาเป็นลูกหม้ออยูป่ ระมาณ 7 ปี เค้าเป็นจีเอ็ม (ผูจ้ ดั การทัว่ ไป) อยูก่ บั พีม่ าตัง้ แต่อายุประมาณ 20 กว่าปี ตอนนี้ พีก่ อ็ ายุเยอะแล้ว ยามาฮ่าก็ออกรถรุน่ ใหม่ๆ มาตลอด จะให้พมี่ าขายรถแบบ R15, R3 ก็พดู ยากนะ พีไ่ ด้คนเก่งมาช่วยทำ�งาน ในการบริหารงานเราต้องดูคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น ต้องมีศาสตร์และศิลป์ เก่งงานไม่พอต้องเก่งคนด้วย มันต้องเป็นทีมงาน ที่แข็งแกร่ง ถึงจะไปด้วยกันได้ คอนเซ็ปต์ของพี่ก็คือ รักแบบลูก ดูแลแบบน้อง พี่ไม่เคยเรียกลูกจ้างสักที จะรักแบบพี่น้อง ดูแลกันแบบครอบครัว แล้วปัจจุบันมัน มีเทคโนโลยีช่วยให้เราทำ�งานได้ง่ายขึ้น อย่างที่ร้านก็จะมีกล้องวงจรปิด เราเห็น ทั้งหมดว่าใครทำ�อะไรยังไงพี่ก็เลยทำ�งานง่าย สบายๆ ยิ่งตอนนี้มีไลน์ พอเวลาที่ ลูกน้องขายรถได้ พี่ก็จะให้เค้าถ่ายรูปส่งไลน์ให้พี่ทุกคัน เชื่อมั้ยว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พี่ยอมให้ลูกน้องผ่อนโทรศัพท์เดือนละ 300 บาท เพื่อให้ใช้ไลน์ไง มันสะดวกค่ะ


8

นัยนา นพสุวรรณวงศ์

8

ฅ. ฅนบุรีรัมย์ ไทรถเข็น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง

คุณนัยนา นพสุวรรณวงศ์ (สถานที่ : ยามาฮ่า “อึ้งทงกี่” สาขาอำ�เภอเมืองบุรีรัมย์)

สะบายดี : การทำ�ธุรกิจสิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย นั่นก็คือความเครียด พี่ปุ๊กมีวิธี จัดการ หรือรับมือกับความเครียดอย่างไร เคล็ดลับการคลายเครียด เอาแบบง่ายๆ ถูกๆ เลยนะ พีช่ อบอาบน้ำ�สระผม (หัวเราะ) พอได้สระผมแล้วมันโล่ง สบาย ปัญหาที่เครียดอยู่มันก็จะทุเลาลง แล้วพี่เหมือนคนโรคจิต ต้องมีสบู่ประมาณสามสี่ยี่ห้อ ทั้งสบู่ก้อน สบู่เหลว แบบเปลี่ยนกลิ่นทุกวัน (หัวเราะ) เพราะการได้อาบน้ำ�สระผมเนี่ยมันเหมือนเป็น โลกส่วนตัว อีกอย่างคือพี่เป็นคนขี้ร้อนด้วย แม่พี่บอกว่าสมัยตอนแม่พี่เค้า ท้องพี่สงสัยกินยาจีนไง พี่เลยเป็นคนขี้ร้อน ไม่เหมือนคนอื่นๆ ใจร้อนด้วย หรือเปล่าไม่รู้ (หัวเราะ) พี่เป็นคนที่ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ไม่ค่อยสนใจพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รถยนต์ อะไรพวกนี้ จะเฉยๆ เหมือนตอนไปเมืองนอก เค้าให้พี่ ไปช้อปปิง้ 3 ชัว่ โมง โอ้ย... เมือ่ ไหร่จะหมดเวลาสักที (หัวเราะ) ไม่รจู้ ะซือ้ อะไร เป็นคน ซื้อของไม่ค่อยเป็น ชอบเที่ยวแต่ไม่ชอบช้อปปิ้ง นิสัยจะเหมือนผู้ชาย ก็คือ อยากจะได้อะไรก็​็ไปซื้อๆๆ จบ ไม่ใช่ไปเดินดูของเรื่อยๆ มันทำ�ไม่เป็น ใจจะขาด (หัวเราะ) สามชั่วโมงมันน๊านนาน สะบายดี : งานอดิเรกหลังจากเวลาทำ�งาน ส่วนใหญ่จะทำ�อะไรคะ พี่ชอบออกกำ�ลังกาย จะตีเทนนิส โยคะ ว่ายน้ำ� หรือไม่ก็ชอบเที่ยว เที่ยวนี่ หมายความว่าชอบเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ ชอบท่ีได้ไปเห็นบ้าน เห็นเมืองเห็นสิ่งต่างๆ ในที่อื่นๆ ส่วนมากจะเป็นทัวร์ของยามาฮ่า อย่างล่าสุดเนี่ย เพิ่งไปตุรกีมาเมื่อเดือนก่อน เดี๋ยวเร็วๆ นี้ ก็จะไปนครพนม

สะบายดี : ขอย้อนกลับไปถึงเรือ่ งในอดีตกันบ้าง สมัยเรียน พีป่ กุ๊ เป็นอย่างไรคะ เห็นหน้าตาพี่แบบนี้อย่าคิดว่าพี่เรียนเก่งนะ หน้าตาไม่สัมพันธ์กับการเรียน (หัวเราะ) คนอื่นเค้าเห็นหน้าหมวยๆ ก็นึกว่าพี่เรียนหนังสือเก่ง แต่จริงๆ แล้ว พี่ไม่ค่อยตั้งใจ ตอนเรียนอยู่โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม (บ.พ.) มีอาจารย์มา ฟ้องแม่ว่า “คนชื่อปุ๊ก ดื้อเนาะ น้องชายผมชื่อปุ๊กก็ดื้อเหมือนกัน” (หัวเราะ) ตอนเรียนมหาลัยพี่มีฉายาว่า “ลูกสาวเจ้าพ่อรถพ่วง” เพื่อนสนิทเค้าจะเรียกกัน เพราะที่บ้านรับเหมา (หัวเราะ) ตอนนั้นใช้ชีวิตเที่ยวเล่น ทำ�กิจกรรมออกค่ายเยอะ ดูแต่คอนเสิร์ต เพื่อนเยอะมาก มีเพื่อนแทบทุกคณะ สนิทกับคนไปทั่ว เพราะเรา ออกค่ายบ่อยไง ครัง้ หนึง่ ไปสนิทกับพีน่ งค์ คนขับรถของมหาวิทยาลัย วันหนึง่ เดินๆ ไปกับเพื่อน พอเจอพี่นงค์แล้วพี่ก็ยกมือไหว้ เพื่อนมันก็ถาม “ปุ๊กๆ ใครอ่ะ...” พี่ก็บอกว่าคนขับรถมหาลัย มันหัวเราะก๊ากเลย “เฮ้ย... เอ็งรู้จักแม้กระทั่งคนขับ รถมหาลัยเลยหรอวะ” (หัวเราะ) ช่วง 4 ปีในรั้วมหาลัยเนี่ย ไม่มีวันไหนไม่ดูคอนเสิร์ตเลย กลับบ้านค่ำ�ทุกวัน เพราะเรารู้ไงว่าเรียนจบก็ต้องกลับมาขายมอเตอร์ไซค์ ตอนนั้นแม่ซื้อบ้านให้อยู่ กับน้องสาวสองคน แต่เราก็ไม่ได้สำ�มะเลเทเมานะ ซือ้ พวกส้มตำ� น้ำ�ตก อะไรแบบนี้ เลีย้ งรุน่ น้อง แม่ให้เงินเดือนละ 2,500 ไม่เคยเหลือเลย แต่นอ้ งสาวเนีย่ เงินเหลือตลอด แล้วน้องสาวก็เรียนเก่งด้วย ได้สามกว่าทุกเทอม สะบายดี : ทราบมาว่าตอนเรียนมี “ความลับ” สุดยอดที่ยังไม่เคยบอกใคร ก็ครั้งหนึ่ง มันเหมือนจุดเปลี่ยนในชีวิตของเรา ไปออกค่ายเสร็จพี่ก็กลับมา ที่มหาวิทยาลัยประมาณ 4 ทุ่ม สมัยนั้นเขาติดประกาศผลสอบไว้ที่บอร์ดหน้าคณะ พีก่ ว็ งิ่ ไปดูเกรดปรากฏว่าพีต่ ดิ เอฟ 4 - 5 ตัว รูจ้ กั คำ�ว่าเข่าทรุดมัย้ ... พีแ่ บบ เข่าทรุด แทบจะยืนไม่อยู่ (หัวเราะ) ยังนึกภาพวันนัน้ ได้ชดั เลย คิดในใจว่า... เป็นลูกสาวอึง้ ทงกี่ นพสุวรรณวงศ์ด้วย ถ้าถูกรีไทร์ให้ออกจากมหาวิทยาลัยไป พ่อกับแม่พี่จะทำ�ยังไง ตั้งแต่นั้นมาก็เลยเปลี่ยนตัวเองใหม่ กลับบ้านอ่านหนังสือเลยนะ พี่เลิกหมดเลย ออกค่งออกค่าย กลับบ้านตรงเวลาเป๊ะ อ่านหนังสือ อ่านหนังสือ อ่านหนังสือ อย่างเดียว เทอมต่อมาได้เกรดเฉลีย่ 3.5 (หัวเราะ) คิดถึงวันนัน้ แล้วก็ยงั นึกขำ� เรือ่ งนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้หรอก ไม่กล้าบอกใคร อาย... (หัวเราะ) สะบายดี : ช่วงนี้เป็นช่วงวันแม่ เล่าเรื่องของคุณแม่ให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ แม่ของพี่ ชือ่ เกษร นพสุวรรณวงศ์ แม่เป็นผูห้ ญิงทีเ่ ก่ง ทัง้ ทำ�งานแล้วก็เลีย้ งดู ลูกด้วย ทำ�กับข้าวได้หมด น้องชายพี่บอกว่าพี่ได้ไม่ถึง 30% ของแม่ แต่ปีนี้พี่จะ ขยับให้ได้ 35% (หัวเราะ) แม่พี่บริหารงานเก่งมาก ใจกว้างอย่างกับมหาสมุทร เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แม่เป็นผู้หญิงที่ทำ�งานทั้งชีวิตเลยนะ ตอนนี้อายุ 74 แล้ว แต่ก็ยังทำ�งานอยู่เลย พี่ก็จะคล้ายๆ แม่ ตรงที่ไม่ค่อยชอบแต่งตัว ทำ�แต่งาน (หัวเราะ) แม่มหี ลานทัง้ หมด 15 คน เขาก็จะเป็นห่วงทุกคนเลย โทรศัพท์หาทุกวัน แม่เป็นผู้หญิงที่ทำ�งานมาก ชีวตมีแต่งานมีแต่ลูก สังคมเพื่อนเขาไม่เอาเลย ทุกคน ที่ร้านอึ้งทงกี่ก็จะเรียกแม่ว่า “อาม่า”

อ่านต่อหน้า 10

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์


นพสุวนรรณวงศ์ 100นั1ยนาไทรถเข็ ฅ. ฅนบุรีรัมย์ คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง

สะบายดี : มาพูดถึงลูกๆ กันบ้างดีกว่าค่ะ ในฐานะที่เป็นคุณแม่นักบริหาร มีการบริหารจัดสรรเวลาให้ กับลูกๆ อย่างไรคะ พีม่ ลี กู 3 คน ชือ่ ปิง ปอง และ ปัน เป็นแฝด 1 คู่ คือ ปิงกับปอง สามหนุม่ เลย เรียนทีโ่ รงเรียนมารีย์ อนุสรณ์ เห็นมั้ยชีวิตพี่คลุกคลีอยู่แต่กับผู้ชาย (หัวเราะ) พี่โชคดี ที่มีแม่บ้านเหมือนกับเป็นแม่นม ชื่อวรรณ ยายวรรณอยู่กับเรามา 36 ปี เลี้ยงลูกๆ ของบรรดาพี่น้องของพี่มาประมาณ 12 คน ยายวรรณก็เป็นเหมือนแม่ ดูแลทุกอย่างแทนพี่ วันจันทร์ อังคาร พุธจะเป็นเวรพี่ไปรับลูก ส่วนที่เหลือ จะเป็นเวรพ่อเค้า แต่พอช่วงนี้พี่มาทำ�โรงแรม เวรมันก็เลยเคลื่อน พี่ก็จะพยายามหาวันที่เรามีเวลาว่าง พาเค้าไปเที่ยวแทน สะบายดี : พี่ปุ๊กมีวิธีการในการเลี้ยงลูกอย่างไรคะ พี่ชอบให้ลูกเรียนรู้เอง พี่ส่งเค้าไปเรียนโรงเรียนประจำ�ที่โคราช พี่ก็เลยพาเค้านั่งรถไฟไปโคราช เค้าจะได้เห็นว่ารถไฟเป็นยังไง เห็นโลกอีกโลกหนึ่งที่เค้าไม่เคยเห็น พอขากลับก็พานั่งรถทัวร์ ถามว่า เราขับรถไปเองได้ไหม... ได้นะ สบายกว่าด้วย แต่เราอยากให้เค้าเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริงไง เค้า เคยไปซัมเมอร์ที่อินเดีย แล้วอยากอยู่ต่อ พี่ก็ให้ไปเรียนอินเดีย 1 ปี ให้เค้าไปอยู่ประจำ� แต่แค่ปีเดียว แล้วกลับมาเรียนมารีย์ต่อ พี่ไม่เลี้ยงลูกแบบประคบประหงมนะ เลี้ยงแบบที่พ่อพี่เลี้ยงพี่ไง วันหนึ่งพอเรา ไม่อยู่แล้ว เค้าก็จะต้องอยู่ให้ได้ พวกมือถือเนี่ย ไม่ซื้อให้นะ ไอฟงไอโฟน ไม่สนเลย พี่คิดว่ามัน ยังไม่ถึงวัย ไม่จำ�เป็น เหมือนตอนพี่เรียนหอการค้า พ่อไม่ซื้อให้เลยนะรถยนต์ พ่อบอกว่ามันยังไม่จำ�เป็น แต่ทำ�ไมพอรุ่นหลานมันมีทุกคนเลยวะ (หัวเราะ) ตอนสมัยพี่เรียนนะ ต้องขึ้นรถเมล์ แต่พี่ก็ชอบนะ ชีวิตแบบนั้น สะบายดี : เล่าเรื่องราวที่ประทับใจของครอบครัวให้ฟังหน่อยค่ะ มีเยอะมากเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นฝาแฝดเพิ่ง 2 - 3 ขวบ ครอบครัวพี่ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนกัน เรา จะเป็นประเภทติดดิน พักได้หมด ตั้งแต่ที่พักราคา 300 ไปยัน 5 - 6 ดาว ปีนั้นเราก็วางแผนจะไปดู ดอกบัวตองกัน แต่ดันไปผิดทาง มีแต่เหว ซ้ายก็เหว ขวาก็เหว ยายวรรณหน้าซีดเลย (หัวเราะ) แล้ว พวกเราก็พากันไปโบกรถให้คนเค้ามานำ�ทางเราออกไปจากตรงนี้ จำ�ไม่ลืมเลย (หัวเราะ) เมื่อสองปีก่อน ก็ได้ไปแม่ฮ่องสอนอีกนะ สรุปแล้วบ้านเราเหมือนจะชอบแม่ฮ่องสอนหรือเปล่า... (หัวเราะ) ชอบไปเที่ยว แบบไกลๆ ธรรมชาติ ป่าเขา ชอบลุย ครั้งที่แล้วไปปางอุ๋ง สวยมาก เป็นบ้านแบบสูงสุดของตรงนั้น ไปนอนบ้านชาวเขา

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

สะบายดี : สุดท้ายนี้ ช่วยฝากแนวคิดดีๆ ให้กับผู้อ่านหน่อยค่ะ ในเรื่องของการทำ�งาน สำ�หรับพี่ มันก็เหมือนตอนทำ� หมู่บ้านหรือตอนทำ�ร้านมอเตอร์ไซค์ ที่มีแต่คนบอกว่ายากๆๆ พีก่ เ็ ลยได้แนวคิดสำ�หรับการทำ�งานนะว่า ไม่มอี ะไรยากสำ�หรับเรา หรอก เพียงแต่เป็นของใหม่ที่เรายังไม่เคยทำ� ฉะนั้น เราก็ต้อง มาเรียนรู้ การจะทำ�งานอะไรก็ตามแต่ เราต้องสนุกกับมันก่อน แล้ว เราก็จะไม่รสู้ กึ เหนือ่ ยเลย ถ้าเราได้ทำ�ในสิง่ ทีเ่ รารัก รักในสิง่ ทีเ่ ราทำ� งานมันก็จะออกมาสำ�เร็จ ไม่ต้องไปทำ�ตามคนอื่นเค้า อีกอย่างทีพ่ มี่ าได้ถงึ ทุกวันนี้ พีไ่ ด้กำ�ลังใจจากแม่ ต้องขอบคุณ จริงๆ เพราะแม่เค้าก็ทำ�ร้านมอเตอร์ไซค์มาก่อนเหมือนกัน แม่จะรูว้ า่ เราท้อตรงไหน เราเหนือ่ ยยังไง อีกสิง่ หนึง่ คือ พีอ่ ยากให้คนบุรรี มั ย์ กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของเรา เราต้องรักแผ่นดินเกิดของเรา

เรือ่ งราวของ พีป่ กุ๊ - นัยนา นพสุวรรณวงศ์ ทีเ่ รานำ�มาให้ ทุกท่านได้รู้จักในอีกแง่มุมหนึ่ง ของคุณแม่นักบริหารในวันนี้ คงจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้แนวคิดในการทำ�งานและสร้าง รอยยิ้มให้กับผู้อ่านได้ไม่น้อยเลยนะคะ และในโอกาสแห่ง วันแม่นี้ สะบายดี บุรรี มั ย์ ขอเป็นกำ�ลังใจให้กบั “คุณแม่” ทุกคน ที่แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำ�งาน แต่ด้วย “ความรัก” ท่านก็ ยังยิ้มสู้อยู่เสมอ ขอให้โชคดีค่ะ


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 21 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

ลักษณพงษ์ กาญจนจิตติ

Lucky Café

Be lucky at Lucky Café

ช่วงเวลาแห่งกาแฟถ้วยโปรด

เมฆสี เ ทาดำ�ก้ อ นใหญ่ ป กคลุ ม ไปทั่ ว ราวกั บ จะกลื น กิ น ท้ อ งฟ้ า อั น กว้างใหญ่ให้มืดมิดไปด้วย ไม่นานนัก เม็ดฝนก็เริ่มหล่นลงมา เปาะแปะ.. เปาะแปะ.. แล้วก็กระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ แรงขึ้นทุกทีๆ นำ�พาความชุ่มฉ่ำ�กลับคืนสู่ ผู้คนและผืนดิน หอมกลิ่นไอดินคละคลุ้งปนอยู่ในอากาศ ท่ามกลางละอองฝน ที่สาดซัดเข้ามา โชคดีที่พวกเรามาถึงจุดหมายทัน จึงไม่ต้องถึงกับเปียกปอน บรรยากาศและกลิ่นอายธรรมชาติแบบนี้ คงพบได้ไม่บ่อยนักในตัวเมือง ที่มีแต่มลพิษ หมอกควัน ความรีบเร่ง แต่ที่นี่ ที่ Lucky Cafe’ (ลัคกี้ คาเฟ่) สถานที่ที่พวกเราหมายมั่นดั้นด้นมาเพื่อเสาะหาอะไรอร่อยๆ มาให้ท่านได้ สบายพุง ตามประสาคอลัมน์สะบายพุง ได้นั่งสบายๆ ชิลๆ กับร้านกาแฟ นอกเมืองบนถนนเส้นหลัก (เส้น 2075) ในเขตอำ�เภอบ้านกรวด ทางผ่านไปสถานที่ ท่องเที่ยวหลายแห่ง อาทิ ช่องสายตะกู เขื่อนห้วยเมฆา ไปแสวงหาความโชคดี กับ “Lucky Cafe’” ร้านกาแฟแห่งความโชคดีกัน

“Lucky Cafe’” เป็นร้านกาแฟทีถ่ กู ตัง้ ชือ่ ตามชือ่ เจ้าของร้านสุดหล่อ พีล่ คั กี้ ลักษณพงษ์ กาญจนจิตติ ผู้หลงใหลในรสชาติและความหอมกรุ่นของกาแฟ ซึ่งมีโอกาสไปตระเวนท่องโลกด้วยสองล้อเครื่องคู่ใจอยู่บ่อยๆ ทั้งในและต่าง ประเทศ พอมีโอกาสเมื่อไหร่เป็นต้องแวะพักรถชิมกาแฟตลอดทาง จากความชอบ จึ ง กลายมาเป็ น ร้ า นกาแฟเล็ ก ๆ ที่ อ บอวลไปด้ ว ยกลิ่ น หอมชวนลิ้ ม ลอง ของกาแฟที่มีบริการภายในร้าน นอกจากความหอมกรุ่นและรสชาติที่ถูกใจคอกาแฟแล้ว จุดที่น่าสนใจ อีกอย่างหนึ่งของร้าน Lucky Cafe’ นั่นก็คือ รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของ พี่ลัคกี้ ที่นำ�มาจอดเพื่อให้บรรดาลูกค้าหนุ่มสาวหรือผู้ที่ชื่นชอบได้ถ่ายรูปคู่ กับรถสองล้อสุดเท่ได้ตามใจชอบ และด้วยความเป็นช่างถ่ายภาพมืออาชีพ ทุ ก ตารางนิ้ ว ของ Lucky Cafe’ จึ ง ล้ ว นแล้ ว แต่ ถู ก ตกแต่ งให้ เ ป็ น มุ ม ที่ เหมาะกับการถ่ายภาพของบรรดาลูกค้าทั้งสิ้น

มองออกไปข้างนอก ฝนยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อากาศเย็นๆ อย่างนี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะหาอะไรร้อนๆ มาช่วยให้อุ่นสบายขึ้น ซึ่งก็คงจะเป็น อะไรไปไม่ได้นอกจาก “กาแฟ” ที่มีให้เลือกมากมายหลายหลากรสชาติ ไม่ว่า จะเป็นกาแฟเอสเพรสโซ (espresso) คาปูชิโน (capuccino) ลาเต้ (latte’) มอคค่า (mocha) อเมริกาโน (americano) หรือกาแฟน้ำ�ผึง้ สำ�หรับผูท้ ชี่ นื่ ชอบ รสหวานตามธรรมชาติ ยกขบวนตามมาด้วยเมนูเครื่องดื่มจำ�พวก “ชา” ได้แก่ ชาเขียวน้ำ�ผึ้ง ชาเขียว ชาไทย ชาองุ่น ชาแอปเปิ้ล ชามะนาว และเมนูพิเศษ อย่าง สมูตตี้เผือก สมูตตี้สตรอเบอรี่ และสมูตตี้กีวี แน่นอนว่าเมื่อมีเครื่องดื่ม ก็ต้องมีของอร่อยคู่กันอย่างขนมหวาน อาทิ ลัคกี้ฮันนี่โทสต์ แซนด์วิช นั๊กเก็ต ทั้งยังมีขนมไทย ขนมปัง ขนมเค้ก อีกมากมาย นอกจากความรักในการเดินทางแล้ว กิจกรรมยามว่างอันแสนรักอีกอย่างก็คอื “การถ่ายภาพ” พี่ลัคกี้ จึงเปิดสอนถ่ายภาพให้กับนักเรียนนักศึกษาฟรี อีกด้วย Lucky cafe’ เปิดบริการความอร่อยทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30 - 20.30 น. สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางหรืออื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 09 8391 3338 แล้วอย่าลืมมาแวะชิม พร้อมรับความโชคดีกันที่ Lucky cafe’ ให้ได้นะคะ

Lucky Cafe’ is a coffee shop located on the main road (Rd. No. 2075) of Ban Gruat district, the main path for many tourist attractions such as Mekha Dam, Sai Taku Route to Cambodia. Lucky Cafe’ has got its name after Pi Lucky-Kritsanapong Karnjanajitti, the handsome owner who is truly enchanted with the taste and a nice smell of coffee. On his motorbike travelling, he always stops to taste coffee. His fondness of coffee leads him to this small coffee shop business. A variety menu of coffee is made to satisfy customers, whatever tastes and types they prefer, no matter espresso, cappuccino, latte, mocha, Americano, or honeyed coffee. Various menus of tea and smoothies are waiting for you, for instance, green tea, honeyed green tea, lemon tea and some special smoothie recipes like taro smoothie, strawberry smoothie and kiwi smoothie. In addition, sweets such as Lucky honeyed toast, sandwiches, nugget, cake, bread and other Thai desserts. As a professional photographer, Pi Lucky has decorated every corner of his shop as well as his motorbike attractively and impressively for his customers. He also shares his knowledge and experience of being a photographer to those who are interested in taking photographs for free. Lucky Cafe’ is daily opened from 7.30 a.m. - 20.30 p.m. For more information, call 09 8391 3338. See you there.

13

Lucky Cafe’ สะบายพุง


หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม

15

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 41 ไทรถเข็

หมบู่ า้ นทอ่ งเที่ยวไหม “บนิตา้ มหั นสนวนนอก” ยสารสะบายดี บุรีรัมย์ ศจรรย์เมืองแปะ

“บ้านสนวนนอก”

Ban Sanuan Nok, a village you shouldn’t miss

นานๆ

จะได้เจอวันหยุดยาวสักที ขอเปลี่ยนบรรยากาศ ที่จำ�เจอยู่กับงานประจำ� พาแฟนๆ คอลัมน์มหัศจรรย์เมืองแปะ ออกไปสูดโอโซนนอกเมืองสักหน่อย จะไปต่างจังหวัดก็เสียดายเวลา ที่จะต้องนั่งรถทั้งวัน แถมรถก็ยังติดอีกด้วย เพราะใครๆ ก็รอโอกาส หยุดยาวแบบนีม้ านาน ตัดสินใจหาทีเ่ ทีย่ วภายในจังหวัดพอให้เพลิดเพลิน ไม่ตอ้ งเหนือ่ ยนัก ไม่ตอ้ งหนักกระเป๋า แถมได้ประชาสัมพันธ์ของดีบา้ นเรา ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย จุดหมายปลายทางของเราไม่ไกลนัก พอให้ขับรถได้สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน นานๆ จะมีรถสวนมาสักคัน ทำ�ให้พอมีเวลาได้ซึมซับ บรรยากาศรอบตัวอยูบ่ า้ ง ป้ายข้างหน้าเป็นตัวบอกเราว่ามาถูกทางแล้ว ด้วยตัวหนังสือขนาดพออ่านได้สบายๆ ว่า “อำ�เภอห้วยราช 12 กม.” สองข้างทางของถนนที่ทอดยาวไปสู่อำ�เภอห้วยราชเขียวขจี ไปด้วยต้นกล้าของพันธุ์ข้าวหลากชนิด ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สะบัดใบไปมาตามแรงลม ราวกับจะพร้อมกันโบกมือทักทายทุกคน

ที่เดินทางผ่านมาประหนึ่งจะบอกว่าฉันรอดตายแล้วนะ หลังจาก ที่รอคอยน้ำ�ฝนมายาวนาน รู้สึกอยากจะโผล่หน้าไปหยอกล้อ ทักทายต้นกล้าและบรรยากาศรอบตัวเสียจนต้องปรับกระจกรถลง ลมเย็ น พั ด มาปะทะใบหน้ า นานๆ จะได้ มี โ อกาสออกมาสู ด อากาศบริสุทธิ์สดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติท้องทุ่งอันสดใสอย่างนี้ สักที มองไปทางไหน ก็พบแต่ความมีชีวิตชีวาของต้นไม้ใบหญ้า เฮ้อ! แค่นี้ก็สุขเล็กๆ แล้วเรา ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำ�แหง สำ�นักงานพัฒนาฝีมอื แรงงาน แล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก พวกเราก็มองเห็นสามแยก แยกซ้าย แยกขวาและแยกที่เราขับรถอยู่ ป้ายเล็กๆ กลางสามแยกตรงหน้า มีลูกศรชี้ไปทางซ้ายเขียนว่า “อำ�เภอห้วยราช” ส่วนที่ชี้ไปทางขวา เขียนว่า“บ้านสนวนนอก” และเราก็ตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวขวา ใช่แล้ว วันนี้สะบายดี บุรีรัมย์จะพาทุกท่านไปพบความมหัศจรรย์ที่ “บ้านสนวนนอก” หมูบ่ า้ นท่องเทีย่ วไหม จังหวัดบุรรี มั ย์ของเรานีแ่ หละค่ะ

เลิศล้ำ�ภูมิปัญญา ผ้าไหมลายวิจิตร วิถีชีวิตชุมชน

เมื่อสองเท้าก้าวลงเหยียบพื้น สายฝนก็โปรยปรายลงมา ราวกับ จะบอกว่า “You are very welcome” ยินดีตอ้ นรับนะคะ ท่านนายก องค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านสนวนนอก นายบุญทัศน์ กะรัมย์ พร้อมด้วยท่านผู้ใหญ่บ้าน นายบุญทิพย์ กะรัมย์ ตระเตรียมกลุ่ม แม่บ้านกว่า 10 คน นำ�ทีมโดยคุณพงศ์ศรี แก้วพรม แต่งกายในชุด ผ้าไหมลายพื้นบ้านที่ถักทอด้วยฝีมือของตนเอง หลากสีหลายแบบ เพื่อแสดง “เรือมตร๊ด” หรือ “รำ�ตร๊ด” เพื่อต้อนรับทีมงานของเรา เป็นอย่างดี การแสดงในครั้งนี้ พี่โอ๋-ศุทธา โกติรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้บอกเล่าถึงขนบธรรมเนียมประเพณีนี้ว่า การแสดง “เรือมตร๊ด” หรือ “รำ�ตร๊ด” นั้น เป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวอีสานใต้มาตั้งแต่ โบราณ เป็นการละเล่นเพือ่ ความสนุกสนานในวันขึน้ ปีใหม่ของชาวไทย สมัยก่อน ที่ถือเอาเดือนเมษายนของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นการ บอกกล่าวเล่าแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่าจะมีงานบุญ เชื่อกันว่าเมื่อ

ขบวนรำ�นี้เดินไปถึงบ้านไหน ห้ามให้ผ่านเลยไป จะต้องให้ทั้งขบวน แวะเข้ามาในบ้าน เพือ่ ความเป็นศิรมิ งคล ร่มเย็นเป็นสุขให้กบั ผูอ้ ยูอ่ าศัย ในบ้าน ซึ่งปกติแล้วประเพณีนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือน 4 ถึง เดือน 6 หรือราวๆ ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนเท่านั้น แต่ปัจจุบัน จะจัดแสดงเมือ่ มีนกั ท่องเทีย่ ว กลุม่ นักเรียน หรือสือ่ ต่างๆ ติดต่อเข้ามา ขอเยี่ยมชม เพื่อให้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำ�หรับผู้ที่เข้ามาหาความรู้ และยังเป็นการแสดงการต้อนรับแขกที่มาเยือนทุกท่าน ผูใ้ หญ่บญุ ทิพย์ ได้เล่าเรือ่ งราว ความเป็นมาของบ้านสนวนนอก ที่มีตำ�นานเล่าขานกันมานานนมจากคนเฒ่าคนแก่ว่า เมื่อประมาณ 150 ปีเศษ หรือราวๆ ปี พ.ศ. 2348 บ้านสนวนมีสภาพเป็นป่าทึบ มีต้นไม้ชื่อว่า “ต้นสนวน” เกิดขึ้นมากที่สุดในหมู่บ้าน นายดำ� เป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด มีอาชีพเป็นช่างตีเหล็ก เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ เป็นคนแรก นายดำ�เห็นว่าในที่ที่ตนอยู่มีต้นไม้ชื่อว่าต้นสนวน จึง ตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านสนวน”


17

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 61 ไทรถเข็

หมบู่ า้ นทอ่ งเที่ยวไหม “บา้ มหันสนวนนอก” นิตศยสารสะบายดี จรรย์เมืองแปะ บุรีรัมย์

ต่อมา เมื่อนายดำ�เสียชีวิต นายจำ�นาญ (ไม่มี นามสกุลเช่นเดียวกัน) ซึ่งในขณะนั้นได้รับการแต่งตั้ง จากพ่อเมืองให้เป็นหลวงจำ�นาญ เป็นผูป้ กครองเขตพืน้ ที่ บ้านสนวน ซึ่งในสมัยก่อนนั้นบ้านสนวนเป็นพื้นที่ที่มี ความอุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติอันมากมาย อีกทั้งรอบๆ ตัวหมู่บ้านก็ยังแวดล้อมไปด้วยท้องทุ่ง เหมาะสำ�หรับเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ มีลำ�ห้วย ทีอ่ ดุ มไปด้วยพืชพันธุธ์ ญั ญาหารสมบูรณ์อย่างยิง่ และ ยังเป็นแหล่งอาหารของชาวบ้านในละแวกนั้นอีกด้วย โดยเฉพาะสัตว์น้ำ� จนมีคำ�พูดของคนรุ่นก่อนๆ ว่า “อยากอยู่ดีมีสุข ต้องไปอยู่บ้านสนวน” และยังได้รับ คำ�ชมจาก “นายฮ้อย” (พ่อค้าซือ้ ขายวัวควายทีม่ จี ำ�นวน มากตั้งแต่ 400 - 500 ตัวขึ้นไป) ซึ่งชอบแวะมาพัก ค้างคืนทีแ่ ถวเนินดินใกล้วดั สนวนนอกและเทีย่ วดูพนื้ ที่ รอบๆ พร้อมทัง้ เอ่ยชมว่า “บ้านนีน้ า่ อยู่ มีทำ�เลหากิน ที่อุดมสมบูรณ์ เพราะมีทั้งทางบกและทางน้ำ�” หาก ปีใดฝนแล้งก็จะมีเกวียนบรรทุกถ่านมาขายที่ตลาด ห้วยราช ซึ่งก็จะผ่านหมู่บ้านสนวนเป็นประจำ� บ้านสนวนนอกมีลกั ษณะเป็นแอ่งโบราณ พืน้ ทีเ่ ป็นเนินดินรูปทรงกลม มีกำ�แพงดินและคูนำ�้ ล้อมรอบ 3 ชัน้ แต่ปจั จุบนั ไม่บรรจบกันเนือ่ งจากติด ลำ�ห้วยทางด้านทิศตะวันตก ขนาดของกำ�แพงดินไม่สามารถวัดได้ครบ ทัง้ 3 ชัน้ เนือ่ งจากถูกทำ�ลายไป เหลือเพียงบางส่วนทีว่ ดั ได้ ก็คอื กำ�แพง ชั้นที่ 1 กว้าง 17 เมตร สภาพปัจจุบันคูน้ำ�ปรากฏร่องรอยให้เห็นเพียง เล็กน้อย ถูกทำ�ลายโดยชาวบ้านสร้างที่อยู่อาศัยทับและทำ�เกษตรกรรม คันดินอยูใ่ นสภาพทีเ่ หลือให้เห็นเพียงบางส่วนเท่านัน้ บริเวณคันดินนีจ้ ะมี ขีต้ ะกรันทับถมจำ�นวนมาก ปัจจุบนั ชาวบ้านได้จบั จองคันดินเป็นกรรมสิทธิ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและใช้ภาษาถิ่นเขมรในการสื่อสาร ระหว่างกัน มีสภาพแวดล้อมของชุมชนโบราณ มีสระน้ำ�อยู่ทางทิศ ตะวันออกใช้ในการอุปโภคบริโภค หลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ได้แก่ คันดินโบราณ คูน้ำ�โบราณ เศษภาชนะกระเบื้อง ขี้ตะกรัน จากการถลุง โลหะ ไหโบราณบรรจุกระดูก หินทราย อิฐ โบสถ์โบราณที่ทำ�ด้วยดินดิบ เมื่อการแสดงจบลง เราก็ได้ไปเยือนฐานต่างๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งมี ด้วยกัน 7 ฐาน คือฐานเลี้ยงไหม ฐานสาวไหม ฐานย้อมผ้า ฐานทอ ผ้าไหม ฐานแปรรูป ฐานเฟอร์นิเจอร์และฐานเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่ง ฐานต่างๆ เหล่านี้จะอยู่กระจายกันไปในหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านแถบนี้

เมื่อฟื้นจากนอนสามต่อไปอีก 7 วันตัวไหมก็จะมีช่วง “นอนสี่” อีก ครั้ง หลังจากนอนสี่แล้วก็ถึง “นอนห้า” รอตัวไหมสุก ตัวที่แก่เต็มที่แล้ว เรียกอีกอย่างว่า “ไหมสุก” ซึ่งตัวไหมจะทำ�ฝักและทำ�รังเป็นสีเหลืองทอง อร่าม ก่อนจะนำ�ไปทอ เราจะต้องนำ�ตัวไหมสุกมาวางตากแดดให้ตัวไหม ตายเสียก่อน จากนั้นจึงนำ�ไปต้มและสาวเอาใยไหมออกมา ส่วนตัวไหม ที่เหลืออยู่ก็กลายเป็นอาหารอันโอชะของเรานั่นเอง

นอกจากอาชีพหลักคือการทำ�นาแล้ว ยังมีอาชีพรอง ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น นั่นก็คือการปลูกหม่อน เลี้ยงไหมและ การทอผ้าไหมผืนงาม บางคนทอผ้าเป็นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนกระทั่ง อายุ 70 กว่ายังทอผ้าอยู่ คนในหมูบ่ า้ นนีห้ ลายคนมีฝมี อื มากจนได้รบั เชิญ ให้ไปออกรายการแจ๋วทางโทรทัศน์ช่อง 3 อย่างเช่นคุณยายบุญเลื่อม เพชรเลิศ ยังคงนั่งหลังตรงนุ่งโจงกระเบนทอผ้ายาวเป็นสิบๆ เมตร ได้อย่างสบาย และคุณตาเปลื้อง เพชรเลิศ ผู้ตีเกลียวเส้นไหมได้ สวยที่สุดในหมู่บ้าน เพราะฝีมือคุณตานั้นเที่ยงมาก เส้นไหมจะเป็น เกลียวเท่ากันทั้งเส้น และคุณตาจะเก็บขี้ไหมหรือเศษไหมที่โผล่ออกมา จากเส้นไหมออก จึงมีคนมาจ้างวานให้ตีเกลียวเส้นไหมให้อยู่ตลอด เดินออกมาอีกหน่อย ก็จะเห็นบ้านทีก่ ำ�ลังเลีย้ งตัวไหม การเลีย้ งไหม ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะผู้เลี้ยงจะต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ หลังจากตัวไหมฟักไข่ออกมาแล้ว ก็จะต้องดูแลให้อาหาร ซึ่งก็คือ ใบหม่อนอ่อนๆ ตัดและโรยลงไปบนตัวไหม ผ่านไป 4 - 5 วัน ตัวไหม ก็จะเริม่ นอน เรียกว่า “นอนหนึง่ ” มันนอนนิง่ เงียบและสงบ พอผ่านไป ประมาณ 1 - 2 วัน ตัวไหมก็จะตื่น ผู้เลี้ยงก็จะต้องนำ�ใบหม่อนมาเลี้ยง อีกครัง้ ประมาณ 7 วัน ก็จะถึงวัน “นอนสอง” เมือ่ ตัวไหมตืน่ ขึน้ มารอบนี้ ไม่ต้องให้อาหาร จากนั้นผ่านไปอีก 7 วันก็จะถึงเวลา “นอนสาม”

ส่วนเมนูอาหารบ้านป่าทีเ่ รียกได้วา่ ใครมาแล้วไม่ได้ทาน ถือว่ามาไม่ถงึ บ้านสนวนนอกแห่งนี้ ก็คือ “แกงกล้วย” หรือ “ซันลอว์เจ๊กจ์” ที่ใช้ กล้วยหอมทิพย์ดิบ ปอกเปลือก แกงใส่หมูสามชั้นหรือไก่ นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ได้แก่ แกงมะรุมใส่ปลาย่าง (ซันลอมะรุมดะตรัยอัง) แกงขี้เหล็กใส่ไข่มดแดง (ซันลออังกันดะปวงอังกรอง) แกงกบใส่เผือก (ซันลออังแกบดะตราว) ตำ�มะเขือ (เบ๊าะตร๊อบ) น้ำ�พริกกากหมู (เบ๊าะกาก คลัน) แกงบวดบุก ข้าวตู ข้าวต้มด่าง และที่จะขาดไม่ได้นั่นก็คือ เมนูที่ ทำ�จาก “ดักแด้” ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ�ดักแด้ ยำ�ดักแด้ เมี่ยงดักแด้ ดักแด้ คั่วเกลือ ซึ่งแต่ละเมนูล้วนแล้วแต่หากินได้ยากในท้องตลาด แถมรสชาติ อาจจะไม่ “ดั้งเดิม” เหมือนกับที่นี่ ท่านใดที่สนใจอยากจะมา “สัมผัสวิถีชาวบ้าน รับประทานอาหารป่า ทอผ้าไหมผืนงาม” แล้วละก็ บ้านสนวนนอกมีโฮมสเตย์ที่สะอาดน่าอยู่ ค่าที่พักรวมอาหารเช้าราคาย่อมเยา หรืออาจจะพักแบบรีสอร์ททันสมัย ในหมู่บ้าน ซึ่งรับผู้เข้าพักได้กว่า 100 คน สามารถติดต่อที่หมายเลข โทรศัพท์ พี่โอ๋ - 08 5410 6146 หรือทางผู้ใหญ่บุญทิพย์ - 09 5472 7422 ได้ตลอดเวลาค่ะ ทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า กว่าจะผลิตผ้าไหมออกมาแต่ละผืนนั้น ต้องอาศัยหยาดเหงื่อ แรงกาย และการทุ่มเทความรัก ความเอาใจใส่ ให้มากมายขนาดไหน ฉะนั้นก่อนกลับบ้าน อย่าลืมแวะที่ศูนย์จำ�หน่าย ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย ทางเข้าหมู่บ้านสนวนนอก ซื้อของฝากติดไม้ติดมือ กลับไปกันคนละชิ้นสองชิ้นนะคะ ที่นี่มีผ้าไหมสำ�เร็จรูปหรือสามารถ สัง่ ทำ�ผืนใหม่ได้ ไม่วา่ จะเป็นผ้าไหมลายเอกลักษณ์โบราณของท้องถิน่ ได้แก่ ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าโสร่ง ผ้าไหมคลุมไหล่ยกดอกแก้ว หรือผ้าไหม แปรรูป อาทิ กระเป๋า หมวก ก็มีให้เลือกตามความต้องการ ราคาก็ไม่แพง อย่างที่คิด ฉบับหน้าจะพาไปพบกับความมหัศจรรย์ของสถานที่ใดนั้น ต้องติดตามกันให้ได้นะคะ สำ�หรับฉบับนี้ สวัสดีค่ะ

Located in Huairat district, about 12 kilometres from Buriram province, Ban Sanuan Nok is a vil age you shouldn’t miss. Sanuan Nok vil age has got its name after Sanuan trees, widely and plentifully grown in this area. The man who named it firstly is Mr. Dam, the blacksmith of the vil age. Ban Sanuan Nok is an ancient vil age situated on a piece of historical land. A lot of things from the past found in this area, for examples, earthen dykes, swamps, potteries, jars of human skeletons, sandstones, bricks, and earth church. On your arrival at Ban Sanuan Nok, you’ll be warmly welcome with the Khmer traditional dance named ‘Ruamtrot or Ramtrot’ performed by a group of female vil agers. Nowadays, this performance is performed for shows of for receiving visitors only. In Ban Sanuan Nok is divided into 7 bases according to the vil agers’ interests: a base of sericulture or silk farming; a base of filature or drawing silk from cocoons; dyeing base; a base of agriproduct processing; a furniture base; and a base of sufficient economy base. These bases are scattering throughout the vil age. In addition, some jobs are taken as minor careers such as silk weaving, mulberry planting. If you come to stay at its homestays, you’ll have chances tasting traditional delicious menus rarely found in markets, for instance, Banana curry with pork (แกงกล้วย หรือ ซันลอว์เจ๊กจ์), Marum curry with smoked fish (แกงมะรุมใส่ ปลาย่าง/ซันลอมะรุมดะตรัยอัง), Khilek (cassod leave) curry with ants’eggs (แกงขี้เหล็กใส่ไข่มดแดง/ซันลออังกันดะปวงอังกรอง), Frog curry with taro (แกงกบใส่เผือก/ซันลออังแกบดะตราว) Eggplant salad (ตำ�มะเขือ/เบ๊าะตร๊อบ) and Chil i paste with crackling (น้ำ�พริกกากหมู/เบ๊าะกากคลัน). The menu which is a must is all the menus made of pupas, namely, Papaya salad with papus (ส้มตำ�ดักแด้), Pupa salad (ยำ�ดักแด้), Pupa wrapped in leaves (เมี่ยงดักแด้), and Fried pupas with salt (ดักแด้คั่วเกลือ). Various types of souvenirs are awaiting for you to choose for your friends and relatives, such as beautiful silks, hats, bags, etc. For those who are interested in staying at Ban Sanuan Nok and have a natural touch, call Khun Oh at 08 5410 6146, and call Mr. Boonthip at 09 5472 7422 at any time.


การเลือกผ้ามศรี่านห ้องนอน ตะวัน ผ าม าน ้ ่

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 81 ไทรถเข็

19

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

การเลือกผา้ มา่ นหอ้ งนอน โดย... ศรีตะวันผา้ มา่ น

“ห้องนอน” ถือว่าเป็นอีกห้องหนึ่งภายในบ้าน ที่คุณ จะต้องให้ความสำ�คัญไม่แพ้ห้องอื่นๆ เพราะเป็นห้องที่คุณต้อง ใช้เวลาในการพักผ่อนอยู่กับห้องนี้ไม่ตำ�่ กว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ฉะนั้นการเลือกผ้าม่านให้กับห้องนอนของคุณนั้น ไม่ใช่แค่เลือก ผ้าม่านตามความชอบเพียงเท่านั้น แต่ควรใส่ใจกับรายละเอียด ต่างๆ ประกอบกันไปด้วย ไม่วา่ จะเป็น สีสนั ลวดลาย แบบห้อง หรือแม้กระทั่งคุณสมบัติของผ้า วันนี้สะบายดีกับเรื่องราวดีดี นำ�เรื่องของวิธีการเลือกผ้าม่านมาฝากกันค่ะ

4. เลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งบ้าน อาทิ บ้าน สไตล์โมเดิร์น ควรเลือกผ้าม่านลายเก๋ๆ หรือสีผ้าม่านตัด กับสีห้องของคุณจะทำ�ให้ห้องดูทันสมัยขึ้น ส่วนบ้านในสไตล์ คันทรี หรือชอบความคลาสสิคในแบบเทมโพรารี่ละก็ ควรเลือก ผ้าม่านสีเอิร์ธโทน มีลายนิดหน่อย สีใกล้เคียงโทนสีของห้อง ส่วนบ้านสาวๆ สไตล์วินเทจ ก็หนีไม่พ้นสีพาสเทลแน่นอนค่ะ 5. คุณสมบัติของเนื้อผ้าเป็นสิ่งที่สำ�คัญมากที่ควรเลือกใช้ ให้เหมาะสม เพราะผ้าม่านบางชนิดนั้น มีน้ำ�หนักค่อนข้างเยอะ และถอดซักยากค่อนข้างลำ�บาก ดังนั้นคุณก็ควรเลือกผ้าที่มี การเคลือบผิว เพราะผ้าชนิดนี้ไม่ดูดซึมน้ำ�และดูแลรักษาง่าย แค่ดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งก็พอ ที่สำ�คัญผิวของผ้าม่านที่มีความ มันวาว จะสะท้อนแสงได้ดีกว่า ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำ�ให้ผ้าม่าน คงความใหม่ได้นานขึ้น ส่วนผ้าม่านที่ผลิตจากผ้าฝ้าย หรือ ผ้าลินิน ถึงแม้จะสกปรกง่ายไปสักนิด แต่เนื้อผ้าค่อนข้างโปร่ง

1. การเลือกสีสันของผ้าม่าน ห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง อยูแ่ ล้ว สามารถเลือกผ้าม่านทีม่ ลี วดลายหรือสีเข้มได้ตามใจชอบ สำ�หรับห้องนอนเล็กๆ ก็ควรจะเลือกโทนสีผา้ ม่านทีใ่ กล้เคียงกับ สีห้อง หรือเป็นสีสว่างไปเลยก็จะช่วยทำ�ให้ห้องนอนดูกว้างขึ้น 2. ควรดูตามดีไซน์หน้าต่าง เลือกขนาดให้เหมาะสมและ พอดีกบั ขนาดของหน้าต่าง หากเป็นหน้าต่างทีม่ ขี อบโค้งมนก็ควร เลือกผ้าม่านที่มีลักษณะตรงกับความต้องการ โดยอาจเลือกใช้ เพียง 5 ข้อง่ายๆ ในการเลือกใช้ผ้าม่านนี้ ก็ทำ�ให้ เฉดสีออ่ นๆ ช่วยทำ�ให้หอ้ งของคุณดูนา่ รักและสวยงามมากยิง่ ขึน้ ห้องนอนของคุณน่านอนขึ้นเป็นกองเลยล่ะค่ะ ไว้โอกาสหน้า สะบายดี จะหาเรือ่ งราวดีๆ ทีเ่ กีย่ วกับการเลือกผ้าม่านในห้องอืน่ ๆ 3.ต้องคำ�นึงถึงทิศทางแสงและอากาศในห้อง หากหน้าต่าง มาให้คุณผู้อ่านได้ติดตามกันนะคะ ในห้องนอนของคุณอยู่ในทิศทางที่มีแสดงแดดเข้า ให้เลือกใช้ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์ kapook.com ผ้าเนื้อบางเบา สีโทนเข้ม ความหนาพอประมาณ อย่างเช่นผ้า และผ้าม่านคุณภาพดีจากร้านศรีตะวันผ้าม่าน ระบบการติดตั้ง โพลีเอสเตอร์ หรือผ้าม่านที่มีซับใน จะช่วยกันแดดได้ดีกว่า ทันมัย รับประกันไร้ฝุ่น โทร. 0 4461 5031, 0 87873 2131


02 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง ไทรถเข็น

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

เฝอหม้อไฟ

ผู้ชนะเลิศลำ�ดับที่ ๑ การประกวดเรียงความเรื่อง “แม่” นางสาว ศิริวรรณ เหมสมาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

“แม่”

ใครกัน คือผู้หญิงคนแรกที่กอดเรา ผู้หญิงคนแรกที่อาบน้ำ�กับเรา ผู้หญิงคนแรกที่เราเรียกชื่อได้ ผู้หญิง คนแรกที่เราได้ซบอก ผู้หญิงคนแรกที่รักเราตั้งแต่ยังไม่เคยเห็นหน้า ผู้หญิงคนเดียวที่ยอมให้เราอาศัยอยู่ในร่างกาย ตลอด ๙ เดือน ผู้หญิงคนแรกของเราคนนี้ คือใครกัน “แม่” เป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตเรา เป็นคนที่เราสามารถรักได้อย่างสุดหัวใจ ทุ่มให้สุดตัวไม่กลัวว่าจะต้องเสียใจ เลยสักนิดเดียว แม่ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้หญิงคนแรกของเรา หากแต่แม่นั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต “แม่” เป็นหนังสือที่เราอ่านได้ออกตั้งแต่เรายังไม่ลืมตาดูโลกใบนี้ เราสามารถอ่านความรักที่มีต่อเรา ได้ตั้งแต่วินาทีที่ตัวเรามีร่างกาย มีหัวใจกำ�ลังเต้น และหนังสือเล่มนี้ยังเป็นหนังสือที่เราอ่านได้ในทุกๆ วัน อ่านได้ตลอดเวลา เพราะความรักนั้นแม่มีให้เราตลอดทุกวินาที ตราบเท่าที่เรายังหายใจอยู่ หรืออาจจะเป็นผงธุลี แต่ความรักที่แม่มีให้เรานั้น เรายังสามารถสัมผัสและรับรู้ผ่านหนังสือเล่มนี้ได้ตลอดเวลา หนังสือที่ชื่อว่า “แม่” ครูที่คอยสั่งสอน อบรม บ่มนิสัยเรา ครูที่ทุ่มเทเวลาในการสั่งสอนเรื่องต่างๆ ให้เราผ่านทางการกระทำ� คำ�พูด และแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความหวังดี ครูคนนี้ ไม่เคยให้การบ้านเรา หากแต่จับมือเราเขียน แม้จะเป็นครูที่ดูจู้จี้ ตีเจ็บ แต่ผลที่ออกมานั้นทำ�ให้เรากลายเป็นคนที่มีความเป็นคน กลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ ครูที่สอนเราตลอดทั้งชีวิต ของท่าน ครูคนนี้ ครูที่เราเรียกว่า “แม่” “แม่” เป็นตำ�รวจที่ทำ�งานตลอดเวลา คอยปกป้องเราทุกๆ เข็มนาฬิกาที่เดินไป ตั้งแต่ตำ�รวจคนนี้รู้ว่ามีเราอยู่ ในร่างกายเธอ เธอนั้นคอยเฝ้าระวัง ประคับประคอง ดูแลเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ และต่อจากนี้ ตำ�รวจคนนี้ก็ยังปกป้อง เราอยู่ หากมีใครมาทำ�ให้เราเจ็บ ร้องไห้ เสียใจ ตำ�รวจคนนี้จะรีบตามจับคนร้ายและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เรามีพยาบาลประจำ�ตัว ที่คอยดูแลยามเราป่วยไข้ไม่สบาย พยาบาลคนนี้ไม่ใช่พยาบาลวิชาชีพ ไม่มีใบปริญญา แต่กลับเป็นพยาบาลที่ดูแลเราได้ดีที่สุด พยาบาลที่ไม่เคยฉีดยาให้เรา หากแต่ฉีดความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่ จนเรานั้นหายดี นี่ล่ะหนอพยาบาลที่ได้ชื่อว่า “แม่” “แม่” เป็นเชฟกระทะเหล็ก ที่คอยรังสรรค์อาหารอร่อยๆ ให้เรากินทุกวัน อาหารของเชฟคนนี้ไม่ได้ทำ�จากวัตถุดิบ ราคาแพง แต่ก็อร่อยที่สุดแล้วสำ�หรับเรา “แม่” คือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ ดั่งพระในบ้าน แม่ให้เลือด ให้เนื้อ ให้ชีวิต ให้จิตใจกับเรา แม่ยอมให้เราทรมานร่างกายแม่ อย่างแสนสาหัสเพื่อที่จะได้เห็นหน้าเรา แม่เลือกที่จะเอาชีวิตแลกชีวิต แม่ไม่เคยอยากได้อะไรจากเรา มีแต่ให้ ให้ ให้ และ ให้แก่ลูกคนนี้เสมอมา ในวันที่เรายังเด็ก แม่ประคองเรา จับมือเราเดิน แม่ระมัดระวังในทุกๆ วินาทีที่สัมผัสร่างกายน้อยๆ ของเรา หากวันใดที่แม่เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง ก็ถึงคราวที่เราต้องจับมือแม่ไว้ ระมัดระวังในทุกๆ อย่าง อย่าให้กระทบร่างกายและ จิตใจ “แม่” ผู้หญิงคนนี้ให้เราเสมอมา เราต้องใช้ชีวิตทั้งหมดที่เรามี ทำ�ให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข

“ คิดถึงแม่ขึ้นมาน้ำ�ตามันก็ไหล อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่ ในอ้อมกอดรักจริงที่เที่ยงแท้ ในอกแม่สุขเกินใคร… ”


“แม่”

เทิดพระเกียรติพระราชินี

ตั้งแต่เล็กพอที่ฉันจะจำ�ความได้ ฉันก็ถูกผู้ใหญ่ในบ้านสอนอยู่เสมอว่า ให้เคารพ เทิดทูนพระราชินีของเรา นอกเหนือไปจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เวลานอนดูโทรทัศน์ แม่ก็จะห้ามฉัน ไม่ให้เอาเท้าหรือเอาขาไปทาง พระสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่าน ที่แขวนไว้บนผนังบ้าน และเมื่อฉันเดินผ่านแต่ละบ้าน ฉันสังเกตว่าจะมีรูปของพระองค์แขวนอยู่ ทุกบ้าน เหมือนกับบ้านของฉัน ในร้านค้า ร้านไหนที่เก่าแก่ ก็จะมีภาพที่เป็นสีขาวดำ�ไปจนถึงภาพที่มีสีสัน รูปของพระองค์ท่าน จะอยู่เคียงคู่กับรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลาที่ฉันไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ก่อนที่หนังจะเริ่มฉายทุกคนต้องลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความเคารพในเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ถูกบรรเลงควบคู่ไปกับวีดิทัศน์แสดงพระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ในพื้นที่ทุรกันดาร ในท้องถิ่นต่างๆ ฉันตั้งคำ�ถามเสมอว่า ทำ�ไมถึงเห็น สองพระองค์อยู่เสมอไม่ว่าจะที่ไหน ตลอดเวลา 60 ปี สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินนี าถ ทรงเสด็จพระราชดำ�เนินเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ไปทัว่ ทุกหนแห่ง ของประเทศไทย ดินแดนที่เสด็จย่างพระบาทไป ไม่ว่าจะเป็นดินแดนที่สวยงามหรือทุรกันดาร พระองค์ก็มิเคยทดท้อพระราชหฤทัยหรือเหน็ดเหนื่อย หากแต่มีปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะเสด็จเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปยังพื้นที่เหล่านั้น เพื่อจะได้รู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดกับพสกนิกรของ พระองค์เอง แม้แต่เขตชายแดนของประเทศ พระองค์กท็ รงตรากตรำ�พระวรกายด้วยพระอุตสาหะ เสด็จไปดูแลทุกข์สขุ ของพสกนิกร และพระราชทาน ขวัญกำ�ลังใจให้กับกองทหารต่างๆ ถึงฐานปฏิบัติการ ยังมาซึ่งความปลาบปลื้มใจให้แก่รั้วของชาติทั้งหลายเป็นอันมาก นอกจากจะทรงเป็น ‘คู่บุญ คู่พระราชหฤทัย’ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จ ไปเยี่ยมเยือนอาณาราษฎรในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกแล้ว เมื่อพระองค์ทรงทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ ยังทรง ห่วงใย และทรงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้หมดสิ้นไป เพื่อขจัดปัดเป่าความทุกข์ ความยากของราษฎร และเสริมสร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของ โครงการในพระราชดำ�ริอนั หลากหลาย เพือ่ พัฒนาและสร้างสรรค์ แก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงโครงการที่เสริมสร้างอาชีพให้​้ความรู้แก่ประชาชน และ รวมถึงโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ประเพณีอันงดงาม แม้ว่าฉันจะเกิดไม่ทันสมัยที่ได้เห็นพระองค์ทรงเสด็จเคียงข้างพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเพื่อเยี่ยมราษฎรในที่ต่างๆ ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านหรือตำ�บลที่ขบวนเสด็จ ของพระองค์ผ่านไปถึงและไม่ได้เป็นชาวบ้านที่มารอรับเสด็จ แต่ฉันเกิดในช่วงที่บ้านเมือง กำ�ลังถูกปลุกปั่นด้วยกระแสทุนนิยมอย่างหนัก แต่ฉันก็เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และประจักษ์ แก่สายตาตนเองแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง เป็นผู้ทรงเคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำ�ประเทศฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ มาได้ ผลสำ�เร็จอันเนื่องมาจาก โครงการในพระราชดำ�ริต่างๆ นั้น ล้วนเป็นโครงการที่มุ่งเน้นประโยชน์เพื่อราษฎร ของพระองค์โดยแท้

รางวัลรองชนะเลิศลำ�ดับที่ ๑ การประกวดเรียงความเรื่อง “แม”่ นางสาว ธัญรักษ์ อุไรแข นางสาวธัญรักษ์ อุไรแข โรงเรียนพระครูพิทยาคม โรงเรียนพระครูพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 22 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

ทันตกรรมรากฟันเทียม Dental Implant

ท่านกำาลังประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ? ฟันปลอมที่ใส่หลุดง่าย สูญเสียความมั่นใจเนื่องจากสูญเสียฟัน รู้สึกอึดอัดที่ใส่ฟันปลอมถอดได้ ไม่อยากรอฟันเพื่อทำาฟันปลอมชนิดสะพานฟัน

KTM RC390 สปอรต์ สายพันธุ์ใหมท่ ี่จะทำาใหช้ ีวิตทุกวันคือความทา้ ทาย

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 22 ไทรถเข็

ทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไปดวย ้ ทันตกรรมรากฟันเทียม Dental Implant

ปรึกษาทันตกรรมรากเทียมได้ที่...

รักฟันคลีนิค

ทันตกรรมรากฟันเทียม คือ วิทยาการที่วิจัยพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติ ที่สูญเสียไป โดยทันตแพทย์จะทำาการฝังรากฟันเทียม ที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน ลงบน กระดูกขากรรไกร เพื่อสร้างฐานที่มั่นคงสำาหรับเป็นหลักยึดฟันปลอมและรองรับแรงบด เคี้ยวจากฟันปลอมสู่รากฟันเทียม ข้อดีของการทำารากฟันเทียม

มีลักษณะที่สวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม พูดคุย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กรณีทมี่ กี ารถอนฟันไปบางซีแ่ ล้วต้องกรอฟันธรรมชาติขา้ งเคียงเพือ่ ทำาฟัน ปลอมแบบสะพานฟันติดแน่น หากทำารากฟันเทียมไม่จาำ เป็นต้องกรอเนือ้ ฟันธรรมชาติ การทำารากฟันเทียมจะช่วยการยึดติดของฟันปลอมได้กระชับแน่นกว่ากรณี ฟันปลอมชนิดถอดได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว ความแข็งแรงและมั่นคงของรากฟันเทียมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว ทำาให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ บูรณะโครงสร้างของใบหน้า ทำาให้เกิดความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น รู้สึกสบายใกล้เคียงฟันธรรมชาติ

TEL. 044 601 087, 091 064 4784


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 42 ไทรถเข็

25

นิตยสารสะบายดี์ บุรีรัมย์ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�นครสวรรค กาลครั้งหนึ่ง

กว๋ ยเตี๋ยวตม้ ยำ�นครสวรรค์ ตม้ ยำ�รสจัดจา้ น ความอรอ่ ยที่ยาวนานกวา่ 30 ปี

Kuai Tieo Tom Yam Nakon Sawan, Good Food & Good Price

หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในยุคที่น้อยคนนักจะรู้จัก “ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำ�” หรือถ้ามีก็คงไม่แพร่หลายเหมือนอย่างเช่นในทุกวันนี้ แต่เมื่อ ช่วงราวๆ พุทธศักราช 2519 นั่นเอง ก็ได้มีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�แห่งแรก ถือกำ�เนิดขึน้ ในจังหวัดบุรรี มั ย์ ชือ่ ร้านว่า “นครสวรรค์” มัน่ ใจว่าผูใ้ หญ่หลายๆ ท่านจะต้องปิ๊ง...! นึกออกขึ้นมาทันที หากอยากรู้ว่า ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�ชามนี้จะ อร่อยสมคำ�ร่ำ�ลือแค่ไหน ตามไปชิมในคอลัมน์กาลครั้งหนึ่งกันเลยค่ะ สำ�หรับใครที่เคยมีโอกาสไปเยือนจังหวัดนครสวรรค์อาจจะเคยได้ยิน ชื่อของ “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�วัดไทร” มาก่อนอย่างแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวสูตรของ นครสวรรค์นั้นจะเน้นหนักและปรุงเครื่องชามต่อชาม ซึ่งแต่ละชามนั้นการันตี ได้โดย คุณสุพร ศาศวัตรายุ เจ้าของร้าน ผูร้ เิ ริม่ สูตรก๋วยเตีย๋ วต้มยำ�นครสวรรค์ แห่งแรกในบุรีรัมย์ ที่ได้จากบ้านเกิดเมืองนอนไกลถึงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมา ใช้ชีวิตร่วมกับสามี ที่จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งสองท่านไม่ว่าจะไปไหนมาไหน เป็นต้องแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�สูตรเด็ดนี้อยู่ตลอด จนเกิดความคิด

ที่อยากจะให้คนในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รู้จักหน้าตาและรสชาติแปลกใหม่ ของก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�รสแซ่บ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ แรกเริ่มเดิมทีเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวนครสวรรค์ ในมหาวิทยาลัยราชภัฏ บุรีรัมย์ครั้งเมื่อยังเป็นวิทยาลัยครูได้ 7 - 8 ปี ก่อนที่จะย้ายมาลงหลักปักฐาน ขายที่บ้านของตนเองจนถึงปัจจุบัน บั ด นี้ เวลาล่ ว งเลยมากว่ า 30 ปี แ ล้ ว แต่ ค วามอร่ อ ยเข้ ม ข้ น ของก๋วยเตี๋ยวต้มยำ�นครสวรรค์ชามนี้ก็ไม่เคยจืดจางลงเลย เส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ลวกด้วยความประณีต ราดด้วยน้ำ�ซุปกระดูกหมูหวานๆ เน้นเครื่องต้มยำ� สุดจัดจ้าน ทัง้ พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รสชาติของน้ำ�มะนาวสดๆ เปรีย้ วจีด๊ เข้ากันกับความเผ็ดแซ่บ เพิ่มความหอมมันจากถั่วลิสงคั่วสดบดใหม่ โรยด้วย เนื้อหมูแดง หมูสับ ไก่สับ เกิดเป็นความอร่อยเข้ากันอย่างลงตัว เพียงได้ ลิ้มลองต้องไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ต้ อ งขอบอกว่ า เมนู เ ด็ ด ขายดี ที่หารับประทานได้ยากในเขตอีสานใต้อย่างเรา นัน่ ก็คอื “ขนมจีนน้ำ�เงีย้ ว” และ “ข้าวซอย” ทีเ่ สิรฟ์ คู่กับเครื่องเคียง อาทิ ผักกาดดอง หอมแดง พริกคั่วแห้ง พร้อมบริการให้กับทุกท่านที่ชื่นชอบ อาหารของภาคเหนือ โดยไม่ตอ้ งไปไกลถึงเชียงใหม่ แล้ว แต่ถ้ายังไม่อิ่มกันอีกที่นี่เขายังขายข้าวคลุก กะปิ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวมันไก่ ข้าวราดแกง และอาหารตามสัง่ อีกด้วย หากใครยังพอเหลือทีว่ า่ ง ในกระเพาะล่ะก็ แนะนำ�ติม่ ซำ�นึง่ ร้อนๆ เรียงรายอยู่ ในตู้ มีทงั้ ฮะเก๋า ขนมจีบกุง้ จีบปู จีบหมู ซาลาเปา ไส้ตา่ งๆ อร่อยได้หลากหลายเชือ้ ชาติกนั เลยทีเดียว เสร็จสิน้ ภารกิจจากอาหารคาวแล้วต้องตบท้าย ด้วยเมนูของหวานกันอีกสักหน่อยกับลอดช่องไทย

ลอดช่องทับทิม เฉาก๊วย มันเชื่อม กล้วยเชื่อม ลูกชิด และขนมปังเย็น เป็นอันครบโภชนาการ อาหาร 5 หมู่ นอกจากอาหารจะอร่อยถูกปากแล้ว ที่ร้านยังตกแต่งบรรยากาศ ให้สะดุดตาผู้ที่มา นัง่ รับประทาน ด้วยของสะสมน่ารักๆ ของลูกสาว นับร้อยๆ ชิน้ จำ�พวกตุก๊ ตาหรือของเล่นต่างๆ ตูป้ ลาขนาดใหญ่ตรงกลางร้าน และของโบราณ ของคุณพ่อที่ตั้งโชว์ภายในร้าน ดูๆ ไปก็คล้าย พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ เลย ร้านนครสวรรค์ตงั้ อยูข่ า้ งศาลากลางเก่า เยื้องทวีกิจพลาซ่าหน้าอำ�เภอ เปิดบริการทุก วันตั้งแต่เวลา 6.00 - 16.00 น. สอบถาม รายละเอียดได้ที่ 044 612 147 จะอร่อยสม คำ�ร่ำ�ลืออย่างไร ต้องตามไปชิมกันให้ได้นะคะ

Only an hour for lunch is a short time for a big meal or for going out to a restaurant on the outskirts. Moreover, the traffic of Buriram these days is very crowded with all types of vehicles; cars, bicycles, motorcycles, vans, trucks, buses, or even ambulances. So it’s a good idea to find a food shop which is not so far away from the workplaces for a simple order of a dish of fast food as fried rice, stewed pork leg with rice, or various types of noodles. Various menus of rice and curry, noodles, sweets, etc. are to be served. All menus are carefully prepared and cooked to satisfy all of consumers. According to Khun Suporn Sasawatrayu, the shop owner, Nakon Sawan food shop was opened to serve its customers in 2519 (1976). It was the first shop that served Kuai Tieo Tom Yam in Buriram. The secret of this menu is the sweeten and nice smell soup from the pork bone broth and many kinds of Thai herbals such as lemon grass, galangal, chilli, kaffir lime leaves, fresh lemon juice, and ground roasted peanuts. The other menus introduced are Khanom Jean Nam Ngeaw (ขนมจีนน้ำ�เงี้ยว) and Khao Soi (ข้าวซอย) which are served with side dishes such as shallots, pickled mustard, and roasted chil i. In addition, the menus like steamed chicken with rice, shrimp paste fried rice, rice crispy pork, etc. are also served as well as some Thai sweets. Nakon Sawan is situated on Jira Rd. opposite the Buttercup Bakery, near Taweekit department store. It is open daily from 6 a.m. to 4 p.m. For more information, call 0446 12147. Enjoy your lunch.


วันแม่​่

ตำ�นานเมืองบุรีรัมย์

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 62 ไทรถเข็

วันแม่

Mother’s Day ๐ รักเอ๋ยรักแท้ เพราะรักของสาวหนุ่มชุ่มชื่นใจ หรือรักของพี่น้องผองญาติมิตร ยังเปลี่ยนแปลงตะแบงบิดฤทธิ์เงินตรา (คัดจากบางตอนของ บทดอกสร้อยแม่จ๋า

12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ ไม่ต้องพูดย้ำ� ก็เชื่อว่าเราทุกคนคงจำ�ได้และตระหนักเป็นอย่างดีว่า วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติ วันสำ�คัญอีกวันหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ เราชาวบุรรี มั ย์เท่านัน้ หากแต่ชาวไทยทัง้ ประเทศ ตลอดจนคนไทยทีอ่ ยูใ่ นทีต่ า่ งๆ ทั่วทุกมุมโลก ต่างก็ให้ความสำ�คัญกับ “วันแม่แห่งชาติ” เช่นเดียวกัน สะบายดี บุรีรัมย์จึงขอถือโอกาสอันพิเศษนี้ หยิบยกประวัติความเป็นมาของ “วันแม่” มาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้ทราบกันว่า กว่าจะมาเป็นวันแม่นั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร หลายท่านอาจจะเข้าใจว่า อันวันแม่แห่งชาตินี้มีเฉพาะในประเทศไทย เท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว “วันแม่” ได้มีขึ้นครั้งแรกในประเทศอเมริกา โดย คุณครูแอนนา เอ็ม.จาร์วสิ (Anna Marie Jarvis) ชาวอเมริกนั แห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พยายามเรียกร้องให้มีการกำ�หนด “วันแม่” ขึ้นมา ซึง่ กว่าเธอจะประสบความสำ�เร็จได้ ก็ตอ้ งใช้เวลาถึง 2 ปี ในทีส่ ดุ ประธานาธิบดี โทมัส วูดโรว์ วิลสัน (Thomas Woodrow Wilson) ประธานาธิบดีคนที่ 28 ของสหรัฐอเมริกาก็ได้ประกาศวันแม่แห่งชาติขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของโลก ในปี ค.ศ. 1914 หรือ พ.ศ. 2457 โดยกำ�หนดให้ถือเอาวันอาทิตย์ ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม เป็นวันแม่แห่งชาติของอเมริกา และให้ใช้ดอกคาร์เนชัน่ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์สำ�หรับวันแม่ของชาวอเมริกัน และยังกำ�หนดด้วยว่า ครอบครัวที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ก็ให้ประดับตกแต่งบ้านหรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่น สีชมพู แต่ถ้าแม่เสียชีวิตแล้วก็ให้ประดับ ตกแต่งด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว สำ�หรับวันแม่แห่งชาติของประเทศไทยเรานัน้ จัดให้มขี นึ้ ครัง้ แรก เมือ่ วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่เนื่องจาก ช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป หลังสงคราม ได้มีความพยายามจัดงานวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำ�เร็จ เท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำ�หนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2493

รักอะไรของใครแน่ยังสงสัย ก็ยังไม่ดำ�รงคงเส้นวา รักชีวิตรักชาติศาสนา รักของแม่นั่นแลว่ารักแท้เอย ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา)

รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 15 เมษายน เป็นวันแม่แห่งชาติ และได้เริ่มจัดตั้งแต่ ปีนั้นเป็นต้นมา โดยมีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำ�ขวัญ วันแม่ การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความสำ�คัญ ของแม่ และเพื่อเพิ่มความสำ�คัญของวันแม่ให้ยิ่งขึ้นไป ด้วยเหตุนี้วันแม่จึงเป็น งานประจำ�ของชาติ ตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในเวลานัน้ เรียกกันว่า วันแม่ของชาติ และได้มกี ารจัดกิจกรรมวันแม่ของชาติตดิ ต่อ กันมาหลายปี ภายหลังกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ก็ขาดผู้สนับสนุน วันแม่ของชาติก็ต้องหยุดชะงักลงอีก ต่อมาในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 สมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทยก็ได้ รื้อฟื้นการจัดงานวันแม่ของชาติขึ้นอีกครั้ง แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น กระทั่งปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำ�นวยการสภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำ�หนดวันแม่ขึ้นใหม่ โดยถือเอา วันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และกำ�หนดให้ใช้ ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ วันแม่แห่งชาติ เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมไกลและ หอมนาน ออกดอกทั้งปี อีกทั้งยังนำ�ไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำ�รุงหัวใจได้ อีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ กลับบ้านวันนี้ อย่าลืมซื้อดอกมะลิไปกราบแม่กันนะคะ ความรัก และพระคุณที่แม่มีต่อเรานั้น ทดแทนอย่างไรก็ไม่มีวันหมด สำ�หรับท่านใด ทีค่ ณุ แม่ไม่ได้อยู่ดว้ ยแล้ว ก็อย่าเสียใจไปเลยนะคะ เชื่อว่าท่านยังคงมองดูเราอยู่ คอยเป็นกำ�ลังใจให้เราในยามที่เราทุกข์ เราท้อและเหน็ดเหนื่อยและพร้อม เป็นพลังใจให้เราเสมอ

Mother’s Day is a celebration honoring one’s mother and motherhood, maternal bonds, and the influence of mothers in society. It is celebrated on various days in many parts of the world. The first official celebration of Mother’s Day in the world was held at St. Andrews Methodists Episcopal Church in 1908. This happened because of Anna Maria Jarvis’s attempts to arrange the Mother’s Day to commemorate her mother. In 1914, President Woodrow Wilson proclaimed the second Sunday of May as a public expression of our love and reverence for the mothers of the country and carnation flowers were announced the symbol of American’ Mother’s Day. Within only a few years of its conception, the celebration extended into many foreign countries. In Thailand, the first Mother’s day was celebrated on 10th March, 2486 (1943) at Suan Amporn(สวนอัมพร), Bangkok by the Ministry of Public Health. Because it was during World War II, the celebration was cancelled in the following years. In 2493 (1950)Marshal Plaek Piboolsongkram (ฯพณฯ จอมพล ป.พิบลู สงคราม), 3rd Prime Misnister of Thailand proclaimed 15 April National Mother’s Day and started the celebration annually since then. The celebration concluded many activities such as religious ceremony (พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา), slogan contest (การประกวดคำ�ขวัญวันแม่), Mother’s competition (การประกวดแม่ของชาติ). Later, when the Ministry of Culture which

27

ตยสารสะบายดี บุรีรmore ัมย์ was in charge of the celebration นิwas defunct, no celebrations were held again. Though, there were attempts to rearrange the celebration of the Mother’s Day, but unsuccessful. In 2519 (1976) Mother’s day was celebrated again. This time Queen Sirikit’s birthday was proclaimed the Mother’s Day of Thailand. Jasmines were used as the symbol flowers of the Mother’s Day. Jasmines are the white flowers with the unique and last-long fragrance and they can be used as cardiac tonic. Such quality of the jasmines can be compared to pure love of the mothers to their children, love that is full of kindness, sweetness, care and safety. You can forget anything, but not your mother, the person who has done more for you than anyone in the world. What you can do in return for your mother is doing good and being a good child. Please take the auspicious opportunity of this coming Mother’s Day to make her happy. Give her a big hug and tell her that you really love her.

ภาพ : ปรัชญา ชัดทัน


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 82 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

Soul Yoga Studio @Burirum A place for peaceful mind, healthy body and blissful สถานที่เพื่อจิตใจที่สงบ ร่างกายที่แข็งแรง และชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข “โยคะ” เป็นการออกกำ�ลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยดูแลรักษาทั้งสุขภาพร่างกายและ สุขภาพจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีผู้คนกำ�ลังให้ความสนใจและฝึกปฏิบัติกันเป็นจำ�นวนมาก เนื่องด้วย โยคะนั้นช่วยในเรื่องของข้อต่อตามส่วนต่างๆ ในร่างกายให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ไม่เกิดการติดขัด ของข้อต่อและยังช่วยชะลอความเสื่อมของข้อต่ออีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยทำ�ให้ผู้ฝึกรู้สึก ผ่อนคลาย เพราะจะต้องฝึกจิตให้จดจ่อกับการกำ�หนดลมหายใจเข้าออกเรียกได้ว่าเป็นการฝึก สมาธิและสติไปในตัวอีกด้วย วันนี้สะบายดีจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับสถานที่ฝึกโยคะแห่งใหม่ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งรวบรวมครูฝึกมืออาชีพจากสถาบันชื่อดัง ตามไปฝึกกันเลยดีกว่าค่ะ ที่ “Soul Yoga Studio @Buriram” “Soul Yoga Studio @Buriram” เป็ น สตู ดิ โ อที่ เ หมาะสำ�หรั บ ผู้ รั ก สุ ข ภาพ อย่างแท้จริง เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมานี้ โดยเปิดบริการ สอนโยคะและให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำ�ลังกายที่ถูกต้องกับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำ�ลังกายแบบกลุ่มเป็นคลาส หรือการออกกำ�ลังกายเฉพาะบุคคล โดยมี คุณหวาน - รัตนา ปรุรัตน์ ปริญญาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ซึ่งผ่านการอบรมโยคะจากสถาบัน Yoga Alliance 200 ชั่วโมง และยังมีประสบการณ์ในการสอน 3 ปี รวมไปถึงอาหารมื้อสุขภาพ อาทิ สลัด แซนด์วิช และน้ำ�ปั่นเพื่อสุขภาพ สำ�หรับคนที่ต้องการควบคุมอาหารไปพร้อมๆ กับการออกกำ�ลังกาย นอกจากนี้ คุณขงเบ้ง - กวีเทพ เหลืองเดชานุรักษ์ ปริญญาบัณฑิต วิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของสตูดิโอผู้มีประสบการณ์ ในการสอนฟิตเนสกว่า 3 ปี จะมาสอนเคล็ดลับในการออกกำ�ลังกาย Free style Training เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกส่วน เครื่องออกกำ�ลังกายชนิดนี้สามารถออกกำ�ลังกายได้ทุกส่วนของร่างกาย “Soul Yoga Studio @Buriram” เงียบสงบ ครบครันเรื่อง สุขภาพ เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายจากสภาวะความตึงเครียด ภายนอกได้เป็นอย่างดี สตูดิโอแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันยกเว้น วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น. ตั้งอยู่โครงการหลังตลาด แฮปปี้ไลฟ์ มาร์เก็ต หน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซอยแรกฝั่งซ้ายมือ ติดต่อสอบถามหมายเลข 08 3031 4642, 08 6388 3632

คุณกวีเทพ เหลืองเดชานุรักษ์

คุณรัตนา ปรุรัตน์


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 03 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์


ภาพเก่าเล่าเรื่อง โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan 32 ไทรถเข็ น 23 วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง

“มารู้จัก สะพานข้ามละลม อีกแห่งหนึ่ง” สะบายดี บุรีรัมย์ ฉบับที่ 19

ได้เล่าเรื่องและลงรูปภาพ “สะพานข้าม ละลม” หรือ “สะพานยาว” กันมาแล้ว สะบายดี บุรีรัมย์ ฉบับนี้ ยังจะ เล่าเรื่องและลงรูปภาพของ “สะพานข้าม ละลม” อีกแห่งหนึ่ง สะพานนี้ รถยนต์หรือ รถมอเตอร์ไซค์ใช้ข้ามไม่ได้ ใช้สำ�หรับ ให้คนเดินข้ามเท่านั้น ตั้งต้นกันที่สะพานยาว ที่คนบุรีรัมย์ รุ่นเก่ารู้จักกันดี แต่คนบุรีรัมย์รุ่นใหม่ไม่รู้จัก กันแล้ว โดยจะเริ่มจากถนนหน้าห้องสมุด ประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ มุ่งหน้าไปทางวัด อีสาน ซึ่งจะมีละลมอยู่ทางขวามือ ถนนเส้นที่ตั้งชื่อไว้ว่า ถนนอนุวรรตน์ เส้นนี้ผ่านถนนหลักเมือง ซึ่งเป็นถนนสายที่ ตั้งต้นมาจากจุดตัดกันของรางรถไฟกับถนน บุรรี มั ย์ - พุทไธสง จากนัน้ ก็จะผ่านถนนนคร เป็นสายที่สอง ถึงช่วงนี้ขอให้มองไปทาง ด้านซ้ายมือก็จะเห็น ศาลเจ้าแม่บัวลอย ภาพที่ 1. สะพานไม้ขา้ มละลม อยูร่ ะหว่าง ชุมชนหลักเมืองกับชุมชนฝัง่ ละลม ไม่ชดั เจนเรือ่ งปีทถี่ า่ ย หลังใหม่ ถัดไปอีก ก็จะเห็นป้ายบอกว่า คาดว่าคงตกอยู่ในช่วงหลัง พ.ศ. 2500 (เจ้าของภาพ คุณสว่างจิตต์ สุขอนันต์) บริเวณนี้เป็น “ชุมชนหลักเมือง”

ภาพที่ 2. คุณลำ�พักตร์ ชาญรัมย์ (เสียชีวิตแล้ว) สตรีผู้นำ�ของ ชุมชนหลักเมือง ยืนอยู่บนสะพานไม้ข้ามละลม สันนิษฐานว่าภาพนี้ก่อน ปี พ.ศ. 2510 เป็นช่วงทีภ่ าพสียงั ไม่แพร่หลาย (ไม่ทราบชือ่ ผูถ้ า่ ย เป็นภาพ จากการประกวดภาพถ่ายเก่าของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ปี พ.ศ. 2550)

ภาพที่ 3. กลุ่มผู้ชายที่น่าจะเป็นชาวบ้านในชุมชนหลักเมือง สันนิษฐานว่าภาพนี้ก่อนปี พ.ศ. 2510 เป็นช่วงที่ภาพสียังไม่แพร่พลาย (ไม่ทราบชื่อผู้ถ่าย เป็นภาพจากการประกวดภาพถ่ายเก่าของเทศบาล เมืองบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.2550)

ภาพที่ 4. สตรีวัยรุ่นบนสะพานไม้ข้ามละลม เวลาของ การถ่ายภาพคงเช่นเดียวกันกับภาพ ที่ 2 และ 3 (เจ้าของภาพ นางสมมุห์ วิทยาประโคนชัย)

เมื่อมองไปทางขวามือ ก็จะเห็นหมู่ต้นตาล 6 ต้น ที่ปลูกอยู่ริมฝั่ง ละลม และห่างออกไปไม่กี่เมตร ก็จะเห็นสะพานข้ามละลม ที่วันนี้สร้างเป็น สะพานคอนกรีตทีม่ รี าวสะพานเป็นถนนกว้างขนาดคนเดินสวนกันได้ ความยาว เมื่อประมาณจากสายตา คงยาวไม่ต่ำ�กว่า 40 เมตร สะพานที่เห็นกันในปี พ.ศ. 2558 นี้ สร้างขึ้นตอนต้นปี พ.ศ. 2553 พร้อมกับมีการบูรณะ “ละลมลูกที่ 4” หรือที่กรมศิลปากรเรียกในชื่อ “คลอง ละลมด้านตะวันออก” สำ�หรับคนที่มีอายุ 60 ปี อย่าง นายผัน รุ่งโรจน์ (ภาพที่ 7.) ชาวคุ้มโรงต้มหรือชาวชุมชนหลักเมืองวันนี้ นายผันผู้เกิดปี พ.ศ. 2499 เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเป็นสะพานคอนกรีตอย่างที่เห็นกันในวันนี้ เคยมี การสร้างสะพานข้ามละลมตรงนี้มาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน นายผันเล่าจากความทรงจำ�ว่า น่าจะเป็นระยะช่วงปีหลัง พ.ศ. 2500 ที่สะพานข้ามละลมหลังแรกได้สร้างเป็นสะพานไม้ (รูปภาพที่ 1 และ 2) ต่อมามีการปรับปรุงสะพานโดยทำ�ราวสะพานเพิม่ เติมขึน้ มา (รูปภาพที่ 3 และ 4) นายผันบอกว่า ต่อมาหลังปี พ.ศ. 2520 ทางเทศบาลเมืองบุรรี มั ย์สะพาน ข้ามละลม หลังที่ 2 โดยสร้างเป็นสะพานคอนกรีตทัง้ หลัง และกึง่ กลางสะพาน ทำ�เป็นสะพานโค้ง เพื่อให้เรือข้างล่างสามารถผ่านได้ (รูปภาพที่ 5) นายผันพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ว่า สะพานหลังที่ 2 ที่เป็นคอนกรีตนี้ เคยมีการตั้งชื่อไว้ 2 ชื่อ และทำ�ป้ายติดไว้ที่ตีนสะพานด้านถนนอนุวรรตน์ ครั้งแรกใช้ชื่อว่า “สะพานชัชวาลรังสรรค์” ต่อมาอีกหลายปี จึงเปลี่ยนมา เรียกว่า “สะพานประชาราษฎร์รังสรรค์” (รูปภาพที่ 6) สะบายดี บุรีรัมย์ ฉบับนี้ขอทำ�หน้าที่บันทึกเรื่องและภาพ ที่ดูเหมือนว่า ไม่สลักสำ�คัญ แต่ในยามที่บ้านเมืองกำ�ลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เกิดการรื้อ (ภาพที่ 5) เกิดการสร้างใหม่ ขึ้นตลอดเวลา หากไม่บันทึกไว้บ้าง ใครจะ จำ�ได้ว่าตรงบริเวณนี้เคยเป็น เคยมี อะไรมาก่อน

ภาพที่ 5. สะพานคอนกรีตที่ทำ�เป็น สะพาน ภาพที่ 6. ป้ายชื่อสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ตีน ภาพที่ 7. นายผัน รุ่งโรจน์ ผู้ให้ข้อมูล โค้งเพื่อให้เรือลอดได้ ถ่ายในขณะที่กำ�ลังรื้อเพื่อ สะพานฝั่งชุมชนหลักเมือง ถ่ายในปี พ.ศ. 2553 และยืนยันความถูกต้องของภาพที่นำ�มาใช้ครั้งนี้ เปลี่ยนสภาพละลมลูกที่ 4 ในช่วงปี พ.ศ. 2553 ก่อนหน้าทีจ่ ะรือ้ ทิง้ ไม่กวี่ นั (เจ้าของภาพ นายวิวฒั น์ เป็นชาวคุ้มโรงต้ม หรือ ชาวชุมชนหลักเมือง (เจ้าของภาพ นายหินผา ปราณไพร) โรจนาวรรณ) โดยกำ�เนิด เกิดปี พ.ศ. 2499 (เจ้าของภาพ นายวิวัฒน์ โรจนาวรรณ)


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 2 ไทรถเข็

43 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง

เทศกาลบ้านเฮา

วัเทศกาลบ้ นสารทจี น านเฮา

สนับสนุนโดยสำ�นักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์

35

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

วันสารทจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งหลาย คงกำ�ลังเตรียมข้าวของเครื่องใช้ สำ�หรับเทศกาลสำ�คัญอันใกล้จะมาถึง ในวันที่ 28 สิงหาคม 2558 นี้ นั่นก็คือ “วันสารทจีน” ซึ่งเป็นวันที่ชาวจีนจะแสดงความรัก ความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ เทศกาลบ้านเฮาฉบับนี้จึงขอนำ�เรื่องราว ของวันสารทจีน และการไหว้แบบสารทจีน มาให้ชาวบุรรี มั ย์ ทัง้ เชือ้ สาย ไทยและเชื้อสายจีนได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวในวันนี้กันค่ะ ตามปฏิทินทางจันทรคติ เทศกาลสารทจีน จะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ซึ่งลูกหลานจะนำ�อาหารที่อยู่ในความเชื่อ รวมทั้งผลไม้ต่างๆ มาทำ�พิธีเซ่นไหว้เทพเจ้า และบรรพบุรุษที่ตน นับถือ ตำ�ราจีนหนึง่ กล่าวไว้วา่ วันที่ 15 เดือน 7 เป็นวันที่ “เช็งฮีไต๋ต”ี๋ จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์ และส่ง วิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้าย จึงทำ�บุญอุทิศส่วนกุศลให้ นรกจึงเปิดประตู เพื่อให้วิญญาณร้าย ออกมารับกุศลผลบุญได้ ใน วันสารทจีน นั่นเอง ฉะนั้นในวันสารทจีน จะมีการไหว้ที่แตกต่างไปจากสารทอื่นๆ โดยแบ่งการไหว้ ออกเป็น 3 ชุด คือ ชุดแรก สำ�หรับไหว้เจ้าที่ จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวาน ขนมไหว้ก็ใช้ ถ้วยฟู กุยช่าย ซึ่งต้องมีสีแดงแต้มเป็นจุดเอาไว้ ส่วนขนมไหว้พิเศษที่ต้องมี นั่นก็คือ ขนมเข่ง ขนมเทียน นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำ�ชา หรือเหล้าจีน และ กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดทีส่ อง สำ�หรับไหว้บรรพบุรษุ คล้ายของไหว้เจ้าที่ พร้อมด้วย กับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ ตามธรรมเนียมต้องมีน้ำ�แกง หรือขนม

ขอขอบคุณบทความจากเว็บไซต์หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง ภาพจากเว็บไซต์ : http://www.dmc.tv/images/Sart-Chin-Day.jpg

น้ำ�ใสๆ วางข้างชามข้าวสวย และน้ำ�ชา จัดชุดตาม จำ�นวน ของบรรพบุรุษ ถ้าเป็นคนมีฐานะก็นิยมไหว้โหงวแซ คือมี เป็ด ไก่ หมู ตับ ปลา พร้อมด้วยกับข้าวอีกหลายอย่าง แล้วแต่วา่ จะจัดที่บรรพบุรุษชอบ หรือจะจัดแบบที่ลูกหลาน คนที่ ไ ด้ กินจริงชอบ แต่ตามธรรมเนียมการไหว้บรรพบุรุษ ต้องมีของ น้ำ�สำ�หรับซดให้คล่องคอ จะเป็นน้ำ�แกงก็ได้ หรือเป็น ขนม น้ำ� ใสๆ เช่น อี๊ (คือขนมบัวลอย) ก็ได้ วางเคียงกับ ชามข้าว สวยและน้ำ�ชา ของหวานก็มี ขนมเข่ง ขนมเทียน ผ ล ไ ม้ และกระดาษเงินกระดาษทอง ทีข่ าดไม่ได้กค็ อื ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลไม้ และกระดาษเงินกระดาษทอง ชุดที่สาม สำ�หรับไหว้วิญญาณพเนจร ผีไม่มีญาติ ซึ่งไม่มี 3 ลูกหลานกราบไหว้ เรียกว่า “ไป๊ฮ้อเฮียตี๋” หรือบางแห่งเรียกว่า “ฮ้อเฮียตี”๋ จะต้องไหว้นอกบ้าน ของไหว้มที งั้ ของคาวหวาน กับผลไม้ ตามต้องการ และทีพ่ เิ ศษคือ มีขา้ วหอมแบบจีนโบราณ คอปึง่ เผือกนึง่ ผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำ�ชา และกระดาษ เงินกระดาษทองแบบเฉพาะ ที่เรียกว่า อ่วงแซจิว จัดทุกอย่าง วางอยู่ด้วยกันสำ�หรับเซ่นไหว้ นอกจากนีย้ งั มีความเชือ่ อีกว่า ลูกสาวทีแ่ ต่งเรือนออกไปแล้ว ก็จะต้องกลับมาไหว้สารทจีนทีบ่ า้ นเดิมของตนอีกด้วย ทราบกันแล้วว่า ในวันสารทจีน มีความสำ�คัญและวิธีการไหว้ผีต่างๆ อย่างไร ก็อย่าลืมเตรียมตัวกันให้พร้อมนะคะ

ภาพ : จิรภัทร คติรัมย์


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 63 ไทรถเข็ โดย อาจารย์ปูรณ์

12ราศี

เปิดดวง

ประจำ�วันที่ 15 มิ.ย. 58 – 15 ก.ค. 58

รับตรวจดวงผ่านรูปถ่าย แบบถามมาตอบไปตรงประเด็น พร้อมแนะนำ�ให้คำ�ปรึกษาและแก้ไข ประสบการณ์การตรวจดวง ตั้งแต่ อายุ 16 ปี จนปัจจุบัน ตรวจดวงมาแล้วกว่า 5,000 ดวง รับตรวจดวงชะตา ประจำ�อยู่ที่เว็บไซต์ญาณเทพ www.yantep.com รับตรวจดวงชะตาทางช่อง TV Pool music ทุกวันจันทร์ 06.00-08.00 น. รับตรวจดวงฟรีประจำ�เพจเฟซบุ๊ก Love Horo (คลับคนรักดวง) by poondoopic รับตรวจดวงจากเบอร์มือถือผ่านเพจเฟซบุ๊ก Indy Number Poon Singhawasin 04/01/2014 03:04 Poon Singhawasin Line ID: poondoopic E-mail: s.wiparwee@hotmail.com รับตรวจดวงประจำ�เว็บไซต์ ญาณเทพ www.yantep.com ห้อง อ.ปูรณ์ รูปถ่ายฉายกรรม

รับจองคิวตรวจดวงผ่านภาพถ่ายทุกวันทาง

092 294 3269

ราศีเมษ (14 เมษายน – 14 พฤษภาคม)

ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน)

ราศีมิถุน (15 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม)

ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม)

ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม – 16 กันยายน)

ราศีกันย์ (17 กันยายน – 17 ตุลาคม)

ราศีตุลย์ (18 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน)

ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม)

ราศีธนู (16 ธันวาคม - 14 มกราคม)

ราศีมังกร ( 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์)

ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม)

ราศีมีน (15 มีนาคม – 13 เมษายน)

การงาน/เรียน คุณจะได้รับข่าวดีจากเรื่องงาน/ เรียน แต่ระวังอย่าไปร่วมวงนินทาใครในช่วงนี้ อาจ เดือดร้อน การเงิน เงินที่ถูกหยิบยืมไปมีโอกาสได้ คืน หรือเงินที่คุณจะไปหยิบยืม ยื่นกู้ มีแนวโน้ม ว่าจะสำ�เร็จ มีโอกาสได้ซื้อของถูกใจที่อยากได้มา นาน หรืออาจหมดไปกับการซื้อของกิน ความรัก คนโสดที่จะมีโอกาสแอบชอบ ตกหลุมรักใครเข้า หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีเสน่ห์ สำ�หรับคนมี คู่ ระวังมีปากเสียงกันเพราะคนอื่น การงาน/เรียน มีเรือ่ งให้เครียด หรือต้องรีบสะสาง ทัง้ งานนอกบ้านและในบ้าน ระวังมีปญั หากับคนใน ครอบครัว การเงิน รายจ่ายเข้ามาพร้อมๆกัน ระวัง การหมุนเงินไม่ทัน ที่สำ�คัญไม่ควรให้ใครหยิบยืม มีโอกาสไม่ได้คืน ความรัก คนรักของคุณจะใช้ จ่ายเยอะเป็นพิเศษ ตักเตือนกันให้ดี คนโสดยัง ไม่มีโอกาสพบคนถูกใจ

การงาน/เรียน การงานดูเรียบง่าย ปกติไม่มีอะไร ให้นา่ ตืน่ เต้น หรือต้องทุกข์ใจ การเรียนยังไม่มอี ะไร ให้ตอ้ งกังวล การเงิน สามารถควบคุมค่าใช้จา่ ยได้ เป็นระบบมากขึ้น แต่ถ้าได้เก็บออมไว้ก็จะดีมาก ความรัก คนมีคู่มีโอกาสตั้งครรภ์ หรือได้รับข่าวดี จากคนรัก คนโสดยังไม่มโี อกาสได้พบเจอใคร แต่ ก็มีความสุขดี

การงาน/เรียน ชีวิตเรียบง่ายกว่าหลายๆ เดือน ทีผ่ า่ นมา จะทำ�อะไรก็จะได้รบั การสนับสนุน และ ช่วยเหลือ การเงิน ไม่ขดั สนมีใช้เรือ่ ยๆ ไม่ขาดมือ ระวังอย่าประมาทเป็นดีทสี่ ดุ ความรัก คนมีคมู่ โี อกาส ชวนกันไปเข้าวัดทำ�บุญ ทำ�ทาน หรือพากันไปพัก ผ่อนหย่อนใจ คนโสดจะรูส้ กึ อยากเข้าหาทางธรรม

การงาน/เรียน คุณจะได้รบั ความช่วยเหลือจากคน รอบข้างให้ได้งาน หรือโอกาสในการก้าวหน้า รวม ถึงผลงานในการทำ�งานก็จะเข้าตาผู้ใหญ่ คนทำ� ธุรกิจในระยะนี้คล่องตัวกว่าเดือนที่ผ่านมา การ เงิน เป็นเดือนที่เหมาะกับการลงทุนอาชีพเสริม เล็กๆ น้อยๆ แต่ยังไม่มีลาภลอย ค่าใช้จ่ายหมด ไปกับของฟุม่ เฟือย ความรัก ระยะนีด้ จู ดื ชืด หมัน่ เติมความหวานให้กันเรื่อยๆ หรือหากิจกรรมทำ� ร่วมกับคู่รักจะดีมาก การงาน/เรียน เดือนแห่งการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ที่ดีๆ เดือนแห่งความสำ�เร็จตามปรารถนา การ เงิน มีโอกาสได้รับโชคจากการเสี่ยงโชค หรือมี รายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ความรัก ความสัมพันธ์ที่ไม่ ชัดเจน จะนำ�มาซึ่งความผิดหวัง คนโสดมีโอกาส ได้เริ่มต้นรักครั้งใหม่

การงาน/เรียน ระยะนีด้ วงผูใ้ หญ่อปุ ถัมภ์ มีโอกาส โยกย้ายกลับบ้าน หรือมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น การเงิน คุณจะรู้สึกถึงการใช้จ่ายเงินที่มากเกินไป แต่ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือไม่ให้คุณลำ�บาก ความรัก คนมีคู่ระยะนี้ชีวิตเรียบง่าย คนโสดมี โอกาสพบคนถูกใจ และอาจจะมีอายุมากกว่า

การงาน/เรียน ความเหนือ่ ยล้าจากการทำ�งาน หรือ การเรียนจะสิ้นสุดลง เดือนนี้คุณจะรู้สึกสบายตัว มากขึ้น การเงิน การเงินปกติดีสามารถหมุนเงิน ได้ดี แต่ระวังคุณอาจต้องเสียเงินเพราะคำ�ชักชวน ความรัก คนมีคอู่ าจมีปากเสียงเพราะความไม่ไว้ใจ หรือความเจ้าชู้ของอีกฝ่าย คนโสดเพลิดเพลินไป กับเพื่อนสนิทมิตรสหาย

การงาน/เรียน งานหลายอย่างจะต้องรีบสะสาง ในช่วงนี้ ระวังความประมาทขาดสติ จะทำ�ให้ การทำ�งานผิดพลาด ใครที่กำ�ลังเรียน เตรียมตัว รับศึกหนักจากการมอบหมายให้ทำ�รายงาน การ เงิน หมุนเงินแทบไม่ทัน จะได้เสียเงินไปเพราะ ความจำ�เป็น ลดของฟุ่มเฟือยลงจะช่วยได้มาก ความรัก คนมีครู่ ะวังมีปากเสียงกันเพราะเรือ่ งเงินๆ ทองๆ คนโสดมีโอกาสเจอคนฐานะดี

การงาน/เรียน อาจถูกตำ�หนิจากเจ้านาย ลูกค้า ครูอาจารย์ หรือญาติผใู้ หญ่ น้อมรับคำ�ตำ�หนิแล้ว ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี การเงิน ระยะนีท้ งั้ คุณและ ครอบครัวส่วนใหญ่จะประสบปัญหาการเงิน รวม ถึงเรื่องสุขภาพ หรือการพลัดพราก รักษาสุขภาพ อยู่เสมอ และระมัดระวังการถูกยืมเงินแล้วไม่ได้ คืน ไม่เหมาะกับการเริ่มลงทุน ความรัก ระวัง การมีปากเสียงอาจจะทำ�ให้ต้องแยกทางกันไปซัก พัก ไม่ควรคุยกันด้วยอารมณ์จะดีที่สุด การงาน/เรียน คุณอาจจะได้รบั ความผิดหวังจากสิง่ ที่มุ่งหวัง ตั้งใจ ขยัน และอดทนจะทำ�ให้คุณดีขึ้น การเงิน ระยะนี้คุณจะกังวลถึงการเงินในอนาคต มากขึน้ และคุณอยากได้เงินมากกว่าทีม่ อี ยูใ่ นตอนนี้ ความรัก คนมีคู่ระวังพากันไปสร้างหนี้ และอาจ เกิดภาระในภายหลัง คนโสด หากมีเงินติดกระ เป๋ามากๆ จะใช้เงินเก่ง

การงาน/เรียน มีโอกาสได้รับข่าวดีเรื่องความ ก้าวหน้าจากการทำ�งาน งานอาจจะมีมากขึ้น แต่ เงินก็มากตาม หรือได้รบั คำ�ชมจากผูใ้ หญ่ การเงิน มีโชคด้านการเสี่ยงโชค อาจได้รับเงินก้อนจาก คนในครอบครัว หรือการทำ�งาน ความรัก คน มีคู่ระยะนี้จะพากันใช้เงินเก่ง คนโสดมีโอกาสพบ เจอคนถูกใจในสถานบันเทิง หรือห้างสรรพสินค้า

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์


บุรีรัมย์ เปิดศึก 2 ลอ้

น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 83 ไทรถเข็

ดวลความเร็วสนัน่ แทร็กชา้ งฯ

พร้อมสนุกสุดมันส์กับ

เอเชีย โรด้ เรซซิ่งฯ

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

28 - 30 ส.ค. นี้

ชา้ ง บุรีรัมย์ ไบค์ ปาร์ตี้

สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เตรียมเปิดแทร็ก ระดับโลกรองรับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2015 สนาม 4 ระหว่างวันที่ 28-30 สิงหาคมนี้ ร่วมเชียร์นักบิดไทยลุ้นแชมป์โฮมเรซ สนุกสุดมันส์ กับกิจกรรม ช้าง บุรีรัมย์ ไบค์ ปาร์ตี้ รวมคนรักมอเตอร์ไซค์ทั่วฟ้าเมืองไทย พิเศษสุดบัตรเข้าชมราคาเริ่มต้นเพียง 100 บาท เท่านั้น

สำ�หรับ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2015 มีนักบิดไทยหลายคน เข้าร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ได้แก่ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ และ จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิง่ ไทยแลนด์, สุหทัย แช่มทรัพย์ และ พงศ์พีระ คัคนคุปต์ จาก ไทย ฮอนด้า ไทยแลนด์, อนุภาพ ซามูล และ อนุชา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รวมถึง เอกชัย เซี่ยงหว่อง จาก แมนวล เทค เควายที คาวาซากิ

ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2015 มีคิวแข่งขันทั้งสิ้น 6 สนามในฤดูกาลนี้ โดยล่าสุดผ่านการแข่งขันไปแล้ว 3 สนาม ที่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสนามล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศไทยถูกบรรจุ เป็นสนามที่ 4 โดยจะแข่งขันกันในวันที่ 28 - 30 สิงหาคมนี้ และสนามที่ 6 ในวันที่ 4 - 6 ธันวาคมนี้ ทีส่ นามช้าง อินเตอร์เนชัน่ แนล เซอร์กติ จ.บุรรี มั ย์

ส่วนรุ่นอื่นๆ อาทิ เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. มี 5 นักบิดไทย ลงแข่งขัน ได้แก่ อภิวฒั น์ วงศ์ธนานนท์ ซึง่ นำ�เป็นจ่าฝูงหลังผ่านไป 3 สนาม รวมถึง นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ และ วรพงศ์ มาลาหวล เพื่อนร่วมทีมจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ส่วนอีก 2 คนเป็นนักบิดจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม อย่าง พีรพงศ์ บุญเลิศ และ พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง

เพื่อเป็นการแสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพปีที่ 2 บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำ�กัด ได้จัดงานแถลงข่าวการจัด การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ขึ้นเมื่อวันจันทร์ ที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมี นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำ�กัด นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผูอ้ ำ�นวยการบริษทั บุรรี มั ย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชัน่ แนล เซอร์กติ จำ�กัด และ มร.เคซี ทีโอ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ.ทูวีล มอเตอร์ เรซซิ่ง จำ�กัด ตัวแทน ผูจ้ ดั การแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิง่ แชมเปีย้ นชิพ 2015 ร่วมแถลงข่าวในครัง้ นี้

รวมถึง ซูซูกิ เอเชียน ชาลเลนจ์ เรซแรก มี พาทิศ ชูประเทศ ลงแข่งขันและรั้งรองจ่าฝูงหลังผ่านไป 3 สนาม ขณะที่ เอเชีย ดรีมคัพ ในปีนี้มี มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวไทยวัย 22 ปี ลงแข่งขันด้วยฟอร์ม อันร้อนแรง นำ�เป็นจ่าฝูงเหนือนักบิดชายชั้นนำ�จากทุกประเทศในเอเชีย หลังผ่านไป 3 สนาม

นอกจากแฟนความเร็วชาวไทยจะได้ลุ้นนักแข่งไทยขึ้นโพเดี้ยมในการ แข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ในบ้านเกิด ยังมีกิจกรรมการวมตัวกันของ บรรดาผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ กว่า 20,000 คัน ภายใต้งาน “ช้าง ความยิ่งใหญ่ของ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ คือเกมความเร็ว บุรรี มั ย์ ไบค์ ปาร์ต”ี้ โดยผูเ้ ข้าชมงานจะได้พบรถจักรยานยนต์หลากหลายค่าย แบบ 2 ล้อที่ได้รบั การติดตามมากที่สดุ ในเอเชีย โดยปีทแี่ ล้วรายการนี้ได้กลับ รวมถึงกิจกรรม สุดมันส์จากผู้สนับสนุนทุกรายด้วย มาแข่งขันในเมืองไทยอีกครั้ง หลังจากเว้นวรรคไปนานกว่า 16 ปี แต่ก็ยัง ได้รบั การตอบรับจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเป็นอย่างมาก พร้อมปลุกให้ สำ�หรับบัตรเข้าชมการแข่งขัน ที่นั่งไซด์สแตนด์ ราคา 100 บาท/1 วัน วงการมอเตอร์ไซค์บ้านเราตื่นตัวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากมีสนามระดับ และ 150 บาท/2 วัน, แกรนด์สแตนด์ ราคา 200 บาท/1 วัน และ เกรดเอ ของสมาพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) ที่บุรีรัมย์ 300 บาท/2 วัน ส่วนบัตร วีไอพี ราคา 1,000 บาท/1 วัน และ 1,500 บาท/2 วัน สิทธิพิเศษสำ�หรับลูกค้าของผู้สนับสนุนสนาม รับส่วนลด 25% สำ�หรับบัตร ในปีนกี้ ารแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิง่ แชมเปีย้ นชิพ จะมีขนึ้ ในเมืองไทย แกรนด์สแตนด์ และรับส่วนลด 50% สำ�หรับบัตรไซด์สแตนด์ ถึง 2 ครั้ง ที่บุรีรัมย์ เริ่มจากสนาม 4 ในวันที่ 28-30 สิงหาคมนี้ และ สนามที่ 6 ในวันที่ 4-6 ธันวาคมนี้ แน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งรายการแข่งขัน ทีเ่ ข้มข้น เนือ่ งจากในรายการนีม้ นี กั แข่งไทยหลายคนลงล่าแชมป์ในแทบทุกรุน่

โดยสามารถติดต่อซื้อบัตรได้ที่หน้าสนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดียม ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 - 18.00 น.หรือ สั่งซื้ออนไลน์ทาง www.bric-ticket.com สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม โทร. 091 716 3366 ที่ Chang International Circuit By Buriram United

ขอบคุณภาพจาก Chang International Circuit


มารดาแห่งสรรพชี วิต อักษราร่ายรำ�

0841 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง ไทรถเข็น

41

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

มารดาแห่งสรรพชีวิต จะกล่าวถึงโลกา ผู้บุตรแห่งสุริยา ปรากฏเนิ่นกัลปา เกินจะหาผู้จดจำ� สี่พันหกร้อยล้านปี โลกนี้ถือกำ�เนิด สัจจะแห่งการเกิด หาได้มีชีวิตใด หากเมื่อสืบย้อนไป ราวห้าร้อยล้านปี เหตุใดในภายหลัง ชีวิตยังประดามี ก่อเกิดสรรพชีวี ณ พิภพที่มีมา อุบัติการณ์ผ่านเคลื่อน ในพร่าเลือนแห่งสัญญา ดาวหางผู้แกร่งกล้า มหาอุกกาบาตพุ่งชน โลกาทะเลเพลิง แรงเริงประลัยจล เนิ่นนานกว่าผ่านพ้น คลายร้อนผ่อนสู่เย็น ระหว่างกาลหันเหียน ท่ามแปรเปลี่ยนจำ�เป็น ดวงดาวอื่นก็ขื่นเข็ญ ดาวหางชนแตกกระจาย ทุกทุกรอบร้อยปี ในท่วงทีผู้ถล่มทลาย การก่อเกิดจากการตาย คือวิถีแห่งจักรวาล โลกาผู้เหือดแห้ง พื้นผิวแล้งไร้สิ่ง เอื้ออวยให้อุ่นอิง การมีอยู่ของชีวิต คลี่ปมผสมผสาน ก่อน้ำ�ก๊าซออกซิเจน คาร์บอนไนโตรเจน ดาวหางปรุงสร้างทำ� การก่อเกิดเกิดก่อ ก็ถักทอธำ�รง สัตว์พืชเจตจำ�นง ทั้งเริงร่าและเริงรำ� จากเซลล์เล็กสู่เซลล์ใหญ่ การเคลื่อนไหวเหนือกาลา จำ�เนียรกาลนานช้า กว่ามีร่างอย่างมนุษย์ มนุษย์สัตว์ผู้ประเสริฐ การก่อเกิดอันพิสุทธิ์ นานเนิ่นกว่าเดินรุด กว่าเรียกตนมนุษย์มนา สี่พันหกร้อยล้าน สี่พันหกร้อยล้าน สี่พันหกร้อยล้าน สี่พันหกร้อยล้าน

เป็นวานวันที่ห่างหาย กับเรื่องราวผู้ทำ�ลาย และก่อเกิดกำ�เนิดตน เนิ่นนานและชอบกล ว่าอุกกาบาตคือบรรพชน คือต้นสาย ‘มารดา’ ตัว เนิ่นนานการพันพัว คืนวันเฝ้าหวั่นกลัว กลัวดาวหางจะพุ่งชน เมื่อเนิ่นนานผ่านพ้น แต่หัวจิตหัวใจอลวน หลงลืมทั้งตนและมารดา

ภูรี ทีป์ธัช triwiset-0169@hotmail.com


Rainbow Parade Hurricane Harbor 42 42 ไทรถเข็น 24 Rainbow Parade ตะลุยต่างแดน ตะลุยต่างแดน คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง

43

RAINBOW PARADE มาดามทุสโซ นิวยอร์ก

ตะลุยต่างแดน นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

พาเหรดรักสีรงุ้

เมือ่ ช่วงเดือนมิถนุ ายนทีผ่ า่ นมา สังเกตว่าหลายๆ ท่านได้ตกแต่ง

รูปโปรไฟล์ในเฟสบุก๊ ให้เป็นสีรงุ้ บางท่านก็รถู้ งึ ความหมาย บางท่านก็ชอบ ที่สีสันแปลกตาและสวยงาม ตะลุยต่างแดนวันนี้ไม่ได้จะพาท่านไปตะลุย ดินแดนแห่งเฟสบุก๊ หรอกนะคะ แต่เราจะพาท่านไปเทีย่ วชมขบวนพาเหรด สีรงุ้ ไกลถึงเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกากันเลย จะสวยงาม และแปลกตาขนาดไหนนั้น เราไปตะลุย “Rainbow Parade” กันเลย ก่อนจะไปเยือนถิ่น Rainbow กัน มาทราบถึงที่มาที่ไปกันก่อน ดีกว่าค่ะว่าทำ�ไมต้องเป็นสีรุ้ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 หลังที่ผ่านมา มีกฎหมายรองรับการแต่งงานของเพศเดียวกันเพียงในบางรัฐเท่านั้น นับเป็นก้าวสำ�คัญในการเปิดเสรีทางความรักของคนทุกกลุ่ม ไม่เพียง เฉพาะคู่รักหนุ่ม - สาว แต่รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลาย ทางเพศ หรือ LGBT มีที่มาจากอักษรตัวแรกของคำ�ว่า lesbian (เลสเบีย้ น), gay (เกย์), bisexual (ไบเซ็กชวล) และ transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) ทีไ่ ด้รวมตัวกันเป็นหนึง่ คนทัว่ โลกต่างก็รว่ มเฉลิมฉลองให้แก่ วันสำ�คัญนี้ ด้วยการประดับธงสีรุ้ง ธงสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBT แม้แต่ ในโลกออนไลน์ หลายคนต่างออกมาร่วมฉลองด้วยการประดับภาพโปรไฟล์ ด้วยสีรุ้ง รวมถึง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้สร้างเฟสบุ๊ก ก็ได้ออกมาร่วม เปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของเขาเป็นสีรุ้งด้วยเช่นกัน ผ่านทางแอพพลิเคชั่น พิเศษของเฟซบุ๊กในหน้า celebratepride ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ ของเราให้เป็นสีรุ้งอัตโนมัติ ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ณ เมืองซานฟรานซิสโก จะมีเทศกาล ที่โด่งดังเรียกว่า “Rainbow Parade” เป็นขบวนพาเหรด ที่รักร่วมเพศ แต่ละคนจะได้แต่งกายเสื้อผ้าชุดสีรุ้งมาร่วมประกาศก้องร้องให้ดังว่า “รักแท้นี้ไร้พรมแดน” ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 45 แล้ว ภายในงานจะมีการเดิน พาเหรดที่ทั้งสวยงามอลังการและแปลกแหวกแนวมากกว่า 200 ขบวน มีการออกร้านค้า กว่า 300 ร้าน และการแสดงดนตรีในเวทีต่างๆ กว่า 20 แห่งภายในบริเวณที่จัดงาน ท่านใดที่พลาดพาเหรดขบวนนี้ละก็ ต้องขอบอกว่าปีหน้าจะต้อง เตรียมตัวให้พร้อมนะคะ เพราะท่านจะได้เห็นเทศกาลที่สนุกสนาน สดใสแบบนี้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ฉบับหน้า ตะลุยต่างแดนขอพาข้ามรัฐ ไปเที่ยวที่สูงๆ วิวสวยๆ กันบ้าง แต่จะเป็นที่ไหน ติดตามพบกันใหม่ ในฉบับหน้านะคะ สวัสดีค่ะ


น คอลัมน์Buriram กาลครั้งหนึ่ง United 4Futsal 4 ไทรถเข็

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

J.Press Cup 2015

คุณกรุณา ชิดชอบ ประธานแฟนคลับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ คุณวีระวัฒน์ เป้าศรีวงศ์ ทีป่ รึกษากรรมการผูจ้ ดั การบริษทั ไทยเจเพรส จำ�กัด มอบถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัลให้กับ ทีมราชวินิตบางเขน แชมป์ฟุตซอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ.เพรส คัพ 2015 เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา นายเสรี สีหไตร ผู้ว่าราชการจังหวัด บุรีรัมย์ ได้เป็นประธานในการเปิดพุทธอุทยาน “ทำ�ดี ละชั่ว กลัวบาป” ณ วัดสนวนนอก ตำ�บลสนวน อำ�เภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีพระราชปริยัติกวี พระประสาธน์สารคุณ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ และนายสุธี คำ�มาเมือง นายอำ�เภอห้วยราช เข้าร่วมในพิธีเปิด ดังกล่าว พร้อมร่วมพิธีเปิดถนน “รวมพลังชุมชนถนนสู่สวรรค์” และพิธีหล่อเทียนพรรษา อธิษฐานจิต “ทำ�ดี ละชั่ว กลัวบาป” โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้มีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวพุทธประวัติ เป็นอนุสรณ์เตือนสติให้ทุกครอบครัวประพฤติตนเป็นคนดี ละเว้นความชั่ว และเกรงกลัว ต่อบาป ตามธรรมนูญหมูบ่ า้ นสันติสขุ 9 ดี นอกจากนี้ กิจกรรม “รวมพลังชุมชนถนนสูส่ วรรค์” ยังแสดงถึงความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคี และการพึง่ พาตนเองของชุมชนในการสร้างถนน โดยไม่รองบประมาณจากทางราชการ ตามธรรมนูญหมู่บ้านสันติสุข 9 ดี และพิธีหล่อเทียน พรรษาอธิษฐานจิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวิสาขบูชาและวันเข้าพรรษา ส่งเสริมให้ ประชาชนทุกครอบครัวได้มโี อกาสปฏิบตั กิ จิ กรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน สร้างความสามัคคี รักษาวัฒนธรรมประเพณี และปฏิบัติตนตามหลักศีล 5 ทุกครอบครัว


บ า น สามออ 3 (ริมนํ้า)

สำ�นักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์

ไทรถเข็ นยืน ล้มมลุน์กตำ�แหน่ กาลครั า ง คอลั 6 4 40จังอัหวักษราร่ดบุราีรยรำัม�ย์้งหนึประจำ่ง �เดืองน สิงานว่ งหาคม 2558 บริษัท ศรีวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำ�กัด (ผลิตกระแสไฟฟ้า) 1.ผู้ควบคุมหน่วยงานผลิต (Switchboard Control) (1 อัตรา) ช (อายุ) 25-35 (ปวช.-ป.ตรี) สาขาที่เกี่ยวข้อง เข้าใจระบบ ควบคุม DCS ระบบ กังหันไอน้ำ� ระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงแข็ง 2.ช่างซ่อมบำ�รุงยานพาหนะ (Switchboard Control) (2 อัตรา) ช (อายุ) 20-35 (ม.6-ปวส.) ซ่อมรถตัก รถแมคโคร รถสิบล้อ สนใจติดต่อ บริษัท ศรีวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำ�กัด 4 ม.10 ถ.โชคชัย-เดชอุดม ต.อีสาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ 31110 โทร.044-666633-4, 093-3274808 คุณศกลวรรณ/ คุณภัสราภรณ์ ร้าน H2O (จำ�หน่ายเครื่องกรองน้ำ�) 1.พนักงานขาย (20 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20-25 (ม.3-ป.ตรี) ลักษณะงานขายสินค้า บริการลูกค้า อัตราจ้างสวัสดิการ ค่าจ้าง 300บ./วัน ค่าน้ำ�มัน ค่าพาหนะสึกหรอ ค่าคอมมิชชั่น โบนัส เบี้ยขยัน (รายเดือน/ ราย 3 เดือน/ ราย 6เดือน/ รายปี) สนใจติดต่อ ร้าน H2O 344/95 ม.1 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 31150 โทร.084-7272754 คุณศรียา ฟานเบก (ผู้จัดการ) บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำ�กัด 1.เจ้าหน้าทีป่ อ้ งกันการสูญเสีย (ด่วน) (3 อัตรา) ช (อายุ) 22+ (ปวส.-ป.ตรี) บุคลิกภาพดี รักบริการ ผ่านการเณฑ์ทหารแล้ว อัตราจ้างสวัสดิการ ตามโครงสร้างบริษัทฯ สนใจติดต่อ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำ�กัด 55 ม.1 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-110800 ต่อ 205, 061-4045078 น.ส.กรวิภา มหาลี (เจ้าหน้าที่ สรรหาและว่าจ้าง) ร้าน Princess House (จำ�หน่ายเครื่องสำ�อาง) 1.พนักงานขาย (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ม.6+) ขายเครื่องสำ�อาง ครีม โลชั่น อุปกรณ์แต่งหน้า ติดต่อลูกค้า ขายสินค้าทาง Internet มีสาขาที่ ทวีกิจ และโรบินสันบุรีรัมย์ สนใจติดต่อ ร้าน Princess House อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.087-9557217 คุณปฐมพงศ์ อำ�มุกคะ (เจ้าของกิจการ)

นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์

บริษัท โฮมเมก้ามาร์ท จำ�กัด (จำ�หน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง) 1.พนักงานคลังสินค้า (3 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.6+) 2.พนักงานขนส่ง (7 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.6+) 3.พนักงาน PC (3 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.6+) 4.พนง.รักษาความปลอดภัย (1 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.6+) สนใจติดต่อ บริษัท โฮมเมก้ามาร์ท จำ�กัด 555 ม.1 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-602602 คุณปริญญาภรณ์ สหุนาฬุ (เจ้าหน้าที่บุคคล) บจก. บุรีรัมย์ยูไนเต็ดสปอร์ตโฮเต็ล (โรงแรม) 1.ผู้จัดการแผนกช่าง (1 อัตรา) ช (อายุ) 35+ (ป.ตรี) 2.ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกแม่บ้าน (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 35+ (ม.3+) 3.หัวหน้าพนักงานต้อนรับส่วนหน้า (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 35+ (ป.ตรี) 4.พนักงานทำ�ความสะอาดห้องพัก (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัด) 5.พนักงานทำ�ความสะอาดทั่วไป (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัด) 6.กุ๊ก (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 35+ (ไม่จำ�กัด) อัตราจ้างสวัสดิการ วันหยุด 2 วัน/สัปดาห์ พักร้อน นักขัตฤกษ์ ชุด พนักงาน อาหาร ประกันสุขภาพ ประกันชีวติ ประกันสังคม กองทุนสำ�รอง เลี้ยงชีพ กิจกรรมสำ�หรับพนักงานประจำ�ปี สิทธิพักผ่อนในเครือ สนใจติดต่อ บจก. บุรีรัมย์ยูไนเต็ดสปอร์ตโฮเต็ล 444 ม.15 ถ.บุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-111444 คุณพนมพร วิภาดา (ผู้จัดการฝ่ายบุคคล) บจก.สยามนิสสันบุรีรัมย์ (2006) (ศูนย์บริการรถยนต์) 1.พนักงานรับรถศูนย์บริการ (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ปวส.-ป.ตรี) อัตราจ้างและสวัสดิการ ตามโครงสร้างบริษัทฯ สนใจติดต่อ บจก.สยามนิสสันบุรีรัมย์ (2006) 519 ม.10 ถ.บุรีรัมย์-นางรอง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-602173-5 คุณปทิตตา สุขเกษม (พนักงานการเงินและบัญชี) บริษัท วีวราออยล์ จำ�กัด (สถานีบริการน้ำ�มัน) 1.พนักงานฝ่ายการตลาด (4 อัตรา) ฃ/ญ (อายุ) 20+ (ปวส.+) 2.พนักงานขับรถส่งของ (2 อัตรา) ช (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัด) 3.พนักงานทำ�สวน (2 อัตรา) ช (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัด) สนใจติดต่อ บริษัท วีวราออยล์ จำ�กัด 74 ม.9 ถ.บุรีรัมย์-นางรอง กม.2 (ขาเข้าเมือง) ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-690011-2

***ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน สำ�นักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ได้ที่ www.doe.go.th/buriram,facebook : สำ�นักงานจัดหางาน จังหวัดบุรีรัมย์, รายการวิทยุ แรงงาน สถานีวิทยุ กระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดบุรีรัมย์ (สวท.บุรีรัมย์) FM 101.75 MZH ทุกวันพุธ เวลา 09.30-10.00 น. และสถานีวิทยุกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ FM 100.75 MZH ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 17.00 - 18.00 น.

บริหารโครงการโดย

บริษัท สามออ จํากัด

บานสวยหรู มีระดับ 3 หองนอน 3 หองนํ้า 1 หองอเนกประสงค ดวยวัสดุชั้นดี

มีคุณภาพ ทําเลดีที่สุด ใจกลางเมืองบรรยากาศติดริมนํ้า การันตีความพอใจ มั่นใจใน คุณภาพในงานกอสราง แข็งแรงคงทน ไดมาตรฐาน µÔ´µ‹Í

สามออ

โทร. 081-9997915 086-8709235 085-6117425

ทางไป ม.ราชภัฏบุรีรัมย์

เข้าเมือง

สี่แยกเสนสิริ

สามออ บานสามออ 3 (ริมนํ้า)

Email : 3OR.office@gmail.com line : oung1414 Facebook : บริษัทสามออ จํากัด@facebook.com

ไปคูเมือง

เทศบาลอิสาณ

ทางไปโรงพยาบาลบุรีรัมย์

สี่แยกกระสัง

ไปนางรอง


น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 84 ไทรถเข็


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.