นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 2 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
3
Edit or
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 4 ไทรถเข็ Sabaidee Magazine
ontents Director วีรนุช คชรัตน์
บรรณาธิการ วีรวรรณ คชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป วรพช คชรัตน์ ทีป่ รึกษา ผศ.สุธามาศ คชรัตน์ อ.วันดี เธียรสวัสดิก์ จิ ทีป่ รึกษาฝ่ายต่างประเทศ ผศ.เรืองศักดิ์ อัมไพพันธ์ ทีป่ รึกษาฝ่ายสุขภาพและกีฬา ผศ.พรพรรณ ค�ำเมือง ทีป่ รึกษาฝ่ายภาษาไทยและวรรณคดีไทย ผศ.บุณย์เสนอ ตรีวเิ ศษ ทีป่ รึกษาฝ่ายโบราณคดีและประวัตศิ าสตร์บรุ รี มั ย์ รศ.ดร.สมมาตร์ ผลเกิด ฝ่ายช่างภาพและกราฟฟิคดีไซน์ วัฒนา จันทร์เจริญ, พัชรพร ปัตตังเว, ภาคิไนย ปรินรัมย์ นักเขียนกิตติมศักดิ์ วิวฒั น์ โรจนาวรรณ นักเขียนประจ�ำคอลัมน์ วิภาวี สิงหวศิน, พีรยิ า หาญบ�ำรุงธรรม ฝ่ายการตลาด วรัญญา ละขะไพ, กุลกัญญา สุนทรารักษ์, วชิราฑิณี จันทร์สม
นิตยสารสะบายดี บุรรี มั ย์ ส�ำนักงาน เค.เอส. ริชเชส 40/70 ถ. อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 31000
http://www.sabaideeburiram.com/
ติดต่อโฆษณา 085 612 1010, 095 617 3474, 087 458 8547
“ซ่าาาาา...” เสียงน้�ำ สาดมากระทบผิวหนัง ปะทะกับเสียงดนตรีแบบในเธคทีล่ อยมา เป็นสัญญาณว่า เทศกาลสงกรานต์ได้เวียนกลับมาบรรจบครบอีกปีแล้ว ปีน้ี อากาศร้อนกว่าทุกปี เสียงน้�ำ ทีส่ าดกัน โครมๆ ล้วนแล้วแต่จบลงด้วยเสียง “ฉ่าาา...” ของหยดน้�ำ ทีต่ กกระทบลงบนพืน้ ผิวถนนคอนกรีต ร้อนระอุ ก่อนจะระเหยกลายเป็นไอภายในเวลาชัว่ พริบตา สงกรานต์ปนี บ้ี รรยากาศไม่คกึ คักเอาเสียเลย ทีเ่ ห็นส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กน้อยๆ ยืนฉีดน้�ำ สายยาง หลายบ้านพากันซือ้ สระยางเป่าลม ใส่น�ำ้ ใส่น�ำ้ แข็ง แล้วลงไปนอนแช่กนั ทัง้ เด็กทัง้ ผูใ้ หญ่ คงเพราะปีนอ้ี ากาศร้อนเสียจนบางครัง้ ก็แอบนึกสงสัยว่านีเ่ ราอาศัยอยูใ่ นทะเลทรายกันหรือเปล่า นึกๆ ไป ก็อดคิดถึงเรือ่ งราวสมัยเป็นเด็กเมือ่ เกือบยีส่ บิ ปีทแ่ี ล้วไม่ได้ พีส่ าวเล่าให้ฟงั ว่า สมัยเด็กๆ ฉันและน้องชายชอบเล่นน้�ำ มาก ด้วยบ้านก็อยูต่ ดิ ถนนใหญ่ พวกเราก็จะมองเห็นรถกระบะ ทีบ่ รรทุกโอ่งใส่น�ำ้ มีวยั รุน่ นัง่ ด้านหลังจนเต็ม ตระเวนคอยสาดน้�ำ สาวๆ ไปทัว่ เมือง มันช่างคึกคักใน หัวใจ จนฉันต้องไปขอพ่อให้เราได้ไปเล่นน้�ำ ข้างถนนแบบเด็กบ้านอืน่ ๆ บ้าง แต่พอ่ กลับไม่เห็นดีดว้ ย อาจด้วยฉันเป็นผูห้ ญิง คงกลัวว่าจะมีวยั รุน่ หนุม่ ๆ มาทำ�รุม่ ร่าม แต่สดุ ท้ายพ่อก็ทนลูกตือ๊ ของลูกไม่ได้ ยอมให้เราเอาถังน้�ำ เล็กๆ มาตัง้ ไว้รมิ ถนนหน้าบ้าน เอาไว้เล่นสงกรานต์อย่างคนอืน่ ๆ เขา จะต่างกัน นิดเดียวก็ตรงทีพ่ อ่ เอาเจ้าแม็ค เจ้าไมค์ สุนขั พันธุผ์ สม (ผสมระหว่างหมาวัดกับหมาฝรัง่ ) ตัวสูงเท่าเอว มาผูกไว้ขา้ งๆ ถังน้�ำ ด้วย เผือ่ หนุม่ ๆ คนไหนวิง่ ลงมาจะปะแป้งฉัน ก็จะได้ถกู องครักษ์สข่ี าสองตัวนี้ ไล่กวดแตกกระเจิงกันไป คิดแล้วก็อดขำ�ไปกับความหวงลูกสาวในแบบของพ่อไม่ได้ สะบายดี บุรรี มั ย์ ฉบับที่ 28 เดือนเมษายนนี้ เป็นอีกเล่มทีเ่ ราภาคภูมใิ จทีจ่ ะนำ�เสนอ เรือ่ งราวและสาระต่างๆ เกีย่ วกับจังหวัดบุรรี มั ย์บา้ นเรา โดยเฉพาะอย่างยิง่ เราได้รบั เกียรติจาก คุณทวี โรจนสินวิไล และครอบครัว เจ้าของห้างสรรพสินค้าในเครือทวีกจิ กรุป๊ ห้างสรรพสินค้าที่ อยูค่ กู่ บั เมืองบุรรี มั ย์ของเรามาอย่างยาวนาน จะได้มาบอกเล่าถึงเรือ่ งราวและชีวติ การต่อสูข้ องท่าน ก่อนจะมามีวนั นี้ ไปดูกนั ว่าก่อนทีจ่ ะประสบความสำ�เร็จแบบในปัจจุบนั ครอบครัวนีต้ อ้ งฟันฝ่าและ ผ่านอุปสรรคอะไรกันมาบ้าง และเนือ่ งในโอกาสวันสงกรานต์ ซึง่ ถึงว่าเป็นวันปีใหม่ของไทย ดิฉนั ขออัญเชิญอำ�นาจ คุณพระศรีรตั นตรัย และสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ ง้ั หลายในสากลโลก จงช่วยดลบันดาลให้แฟนๆ สะบายดี บุรรี มั ย์ ทีร่ กั ทุกท่าน จงมีสขุ ภาพพลานามัยทีแ่ ข็งแรง สมบูรณ์ คิดสิง่ ใดก็ขอให้สมความปรารถนา เงินทองไหลมาเทมา มีคนดีๆ และสิง่ ดีๆ เข้ามาในชีวติ ตลอดทัง้ ปีนแ้ี ละตลอดไปนะคะ
ด้วยรัก วีรวรรณ คชรัตน์ บรรณาธิการ
Contents
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
20th April 2016
6
12
36
44
สะบายพุง
ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ตะลุยต่างแดน
บ้านชายน้ำ� 6
25
สีสันแห่งอีสาน กับอาหารจานพิเศษ
33
ถนนรมย์บุรี
เทพีเสรีภาพ
ก่อนถึงวันนี้
Statue of Liberty
13 ฅ.ฅน บุรีรัมย์
6 คุณทวี โรจนสินวิไล 6
สะบายพุง
13 Library Cafe’ มหัศจรรย์เมืองแปะ
16 มหัศจรรย์ วิถีทุ่ง วิถีถิ่น กาลครั้งหนึ่ง
่วทอด เกี๊ยวกรอบ 25 ถัโรงเรี ยนอนุบาลบุรีรัมย์ ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ยของการ “พบ” 33 ยุและคสมั“จาก” 16
ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 6 ไทรถเข็ ผมเป็นคนมีความใฝ่ฝัน เป็นคนชอบทอฝัน หากความฝันของผม ไดก้ ลายเป็นความจริงขึ้นมา ผมก็จะเป็นสุขอย่างยิ่ง
ภาพสมาชิกครอบครัวโรจนสินวิไล
เส้นทางชีวิต ของ.... ทวี โรจนสินวิไล
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
เจ้าของอาณาจักรค้าปลีก ในเครือทวีกิจกรุ๊ป
กว่า 40 ปีมาแล้ว ทีพ่ วกเราชาวจังหวัดบุรรี มั ย์ได้รจู้ กั กับห้างสรรพสินค้าทีม่ ชี อ่ื ว่า “ทวีกจิ ” เรียกได้วา่ เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในภาคอีสานเลยก็วา่ ได้ วันนี้ คอลัมน์ ฅ.ฅน บุรรี มั ย์ ได้รบั เกียรติจาก “คุณทวี โรจนสินวิไล” เจ้าของห้าง ผูบ้ กุ เบิก ก่อตัง้ ทวีกจิ ทุกสาขา และครอบครัว ได้กรุณาให้สมั ภาษณ์ เชือ่ ว่าจากบทสัมภาษณ์ของท่านในครัง้ นี้ จะทำ�ให้ผอู้ า่ นทุกท่านรูส้ กึ ซาบซึง้ อิม่ เอมใจ สุขใจ และโล่งใจตามไป ราวกับกำ�ลังอ่านนวนิยายเรือ่ งหนึง่ เลยทีเดียว ต่างกันที่ ทุกฉาก ทุกตอน ทีท่ า่ นกำ�ลังติดตามอ่านอยูน่ ค้ี อื “เรือ่ งจริง” ช่วยแนะนำ�ตัวพร้อมเล่าเรื่องความหลังครั้งสมัยยังเป็นเด็ก ให้ฟงั หน่อยค่ะ ผมชือ่ ทวี โรจนสินวิไล ผมเกิดมาจากครอบครัว ทีย่ ากจนมาก ไม่มอี ะไรเลย แม้กระทัง่ บ้านของตัวเองก็ไม่มี ต้องไปเช่าเขาอยูต่ รงหลังสถานีรถไฟ เป็นบ้านไม้อยูใ่ กล้ๆ กับสีแ่ ยกหอนาฬิกา เป็นห้องแถวไม้แบบชัน้ เดียว หลังคา สังกะสีขน้ึ สนิม ผมไม่ได้นกึ เสียใจเลย ทีเ่ กิดมาในครอบครัว ยากจน แต่ทเ่ี สียใจอย่างหนึง่ คือผมไม่มพี อ่ ตัง้ แต่ผมยังเล็กๆ คุณพ่อผมเสียตัง้ แต่ผมอายุเพียง 3 ขวบ ผมจำ�ไม่คอ่ ยได้ เหมือนกัน จำ�ได้เพียงรางๆ ว่าคุณพ่อเป็นคนดีมาก มากจน ไม่รจู้ ะเทียบยังไงดี เพราะว่าถ้าคุณพ่อไม่ใจบุญมากเกินไป ปัจจุบนั ท่านก็อาจยังคงมีชวี ติ อยู่ เพราะท่านไปช่วยสุนขั ที่ มันกัดกัน แต่ตวั ทีท่ า่ นไปช่วยมันเป็นโรคพิษสุนขั บ้า แล้ว ท่านก็โดนมันกัด สมัยก่อนไม่มกี ารฉีดยากันโรคพิษสุนขั บ้า จนในทีส่ ดุ คุณพ่อผมก็เสียชีวติ ผมมีพี่น้อง 2 คน คุณแม่ของผมเป็นคุณแม่ ที่ดีมาก เรายากจนแต่แม่ไม่เคยยอมให้ใครดูถูก ท่านต่อสู้ ชีวิต เป็นแบบอย่างที่ดีของพวกผม รวมทั้งหลานๆ ด้วย ท่านทำ�หน้าที่ทั้งพ่อและแม่ ตอนเด็กๆ ผมได้เรียนหนังสือ แค่ชั้น ป. 3 ผมก็ต้องออกมาช่วยคุณแม่ทำ�งานขายของชำ� ขายพวกกะปิ ปลาทู ปลาร้า ยาเส้นต่างๆ พอผมอายุ 18 ปี แม่ก็ให้ผมรับช่วงเป็นคนดูแลร้านต่อ วันแรกที่มา รับหน้าที่นี้ต่อจากแม่ คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลย ตื่นเต้น (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าจะทำ�ยังไง ทำ�แล้วจะดีกว่าตอนคุณแม่ทำ� หรือเปล่า แต่ในที่สุดผมก็ทำ�ได้ ใจจริงแล้ว ผมไม่ชอบร้านขายพวกกะปิ ปลาทู แต่เมื่อมาทำ�แล้วก็ค่อยๆ ปรับไปจนกลายเป็นสรรพสินค้า เล็กๆ โดยเรามีนโยบายคือการ “ขายถูก” ภาษาจีนเขาใช้ คำ�ว่า “เปาะหลีตอเชียว” ซึ่งหมายถึง เราเอากำ�ไรต่อชิ้น น้อยๆ แต่เราขายปริมาณเยอะๆ มันก็ได้กำ�ไรเยอะ และ ผมก็ใช้นโยบายนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร ก็ตาม เราจะไม่มีการฉกฉวยโอกาส ไม่กักตุนสินค้า ซื้อมา ถูกก็ขายถูก ต่อมาผมก็เริ่มสั่งเสื้อมาขาย ได้กำ�ไรตัวละ 5 บาท จากนั้นเราก็ขายกางเกง ขายดิบขายดี ลูกค้า บอกกันปากต่อปากว่าเราขายถูก จนพื้นที่ไม่พอ จึงต้อง ย้ายมาเปิด 2 คูหา ในปี 2504 ชื่อร้าน“แต้มุ้ยฮวด”
ความใฝ่ฝันของคุณทวีตั้งแต่เด็กๆ คืออะไรคะ ผมเป็นคนมีความใฝ่ฝัน เป็นคนชอบทอฝัน แล้วหากความฝันของผม ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมา ผมก็จะเป็นสุขอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าผมจะได้เรียนมาน้อย ก็ตาม แต่ผมได้อ่านหนังสือ ว่าที่ต่างประเทศมีห้าง สรรพสินค้าที่ขายสินค้าหลากหลาย ผมจึงใฝ่ฝันไว้ว่า สั ก วั น หนึ่ ง อยากจะสร้ า งห้ า งสรรพสิ น ค้ า แห่ ง แรก ในภาคอีสานขึ้นมา ซึ่งในช่วงนั้น ภาคอีสานไม่ว่าจะเป็น ขอนแก่น โคราช อุดรหรืออุบล ก็ไม่มีห้างสรรพสินค้า เลย มีแต่ที่เป็นตึกแถว ขายของ ขายเสื้อ ขายผ้า
เงียบมาก คนที่ผมรู้จักเขาพนันกันเลย ว่าเรา ไปไม่รอดแน่ๆ แต่ผมก็มีเหตุผลที่เลือกพื้นที่ ตรงนั้น เพราะมันอยู่ใกล้กับราชภัฏ ซึ่งมี นักศึกษามากมาย แล้วในที่สุดเราก็ไปรอด ซึ่งสาขาที่ 2 นี้ เปิดในปี 2529 พอสาขาหน้าอำ�เภอเต็ม เราก็เริ่ม มีความคิดขยับขยายไปต่างอำ�เภอ จึงไปเปิด ที่นางรอง แล้วก็ประสบความสำ�เร็จ ปี 2535 เปิดทวีกิจสระบุรี ปี 2540 เปิดวีมาร์ท ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ที่นวนคร และบุรีรัมย์
จุดเริ่มต้นของการทำ�ห้างทวีกิจ ผมเป็นคนประหยัด ใช้เงินไม่เป็น แต่หาเงิน เป็น ประหยัดจนกระทั่งแม้แต่รถก็ไม่กล้าซื้อ (หัวเราะ) จนกระทั่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็เลยคิดขยับขยาย จน ในที่สุด คุณแม่ผมก็ได้ไปหาที่ตรงทวีกิจ 1 (ตรงข้าม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา) อย่างที่ผมได้บอกไปว่าตอนนั้น ในแถบอีสานบ้านเราไม่เคยมีห้าง เราสร้างเป็นคนแรก ซึ่งก็ไปได้แบบมาจากห้างเซ็นทรัลสีลม ลงมือสร้างเอง คุมเอง ไม่ได้กู้ธนาคารเลย ขุดชั้นใต้ดินด้วย เริ่มสร้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2516 จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2517 ใช้เวลาทั้งหมด 1 ปี ตอนนั้นเราโฆษณาว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของภาคอีสาน แต่ไม่ได้ติดแอร์ คือเราทำ�ธุรกิจ เราทำ�เป็นขั้นๆ ไป ตอนแรกเราก็สร้าง แค่ครึ่งเดียวก่อน เพราะเราไม่อยากจะกู้เงิน แล้วอีก ครึ่งหนึ่ง เมื่อมีเงินเราค่อยสร้างต่อทำ�ต่อให้สำ�เร็จ
ขยายออกไปเยอะขนาดนั้น มีปัญหามั้ยคะ ตอนนั้น รู้สึกผิดพลาดอย่างมาก ทีข่ ยายสาขามากเกินไป พวกเราคงรูจ้ กั วีมาร์ท ใช่มั้ยครับ วีมาร์ทเนี่ย เกิดเมื่อประมาณวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540 ช่วงนั้นธุรกิจค้าปลีก ประเภทซูเปอร์เซ็นเตอร์กำ�ลังมาแรงมาก ผม ได้ไอเดียมาจากห้าง Wall Mart ที่อเมริกา เขามีวอลล์มาร์ท เราก็มีวีมาร์ท (หัวเราะ) แต่ ตอนนั้นเศรษฐกิจกำ�ลังตกต่ำ� อยู่ในช่วงที่เขา เรียกกันว่า “วิกฤตต้มยำ�กุ้ง” เมื่อเราสร้าง วีมาร์ท มันก็เลยมีปัญหา บางประเทศเวลา เศรษฐกิจไม่ดี เขาลดดอกเบี้ย แต่ประเทศไทย เวลาเศรษฐกิจไม่ดี กลับไปเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ถามว่าแล้วเราจะอยู่ได้ยังไง และตอนนั้น เรา กู้เงินมาทำ� เพราะว่าเราเปิดหลายสาขา ทั้ง นวนคร ทั้งสระบุรี ยังมีอีกหลายที่ มันมาก เกินไป แล้วเราก็ไปกู้เงิน เมื่อผ่านการอนุมัติ วงเงิน ก็เป็นช่วงที่รัฐบาลสั่งปิด 54 ไฟแนนซ์ เงินที่อนุมัติก็ยังอยู่ในไฟแนนซ์ ยังเบิกไม่ได้ พอไฟแนนซ์ถูกปิดไป จึงทำ�ให้มีปัญหาติดขัด หมุนเงินไม่ทัน ผมจึงปรึกษากับครอบครัวว่า จะทำ�อย่างไร ก็ได้ข้อสรุปว่า เราจำ�เป็นต้อง ปิดวีมาร์ททั้ง 2 สาขา เพื่อห้ามเลือด จึง เหลือเพียงทวีกิจหน้าอำ�เภอ และทวีกิจสระบุรี จึงทำ�ให้ “วีมาร์ท” ถูกปิดตัวลงเมื่อวันที่ 13
ตอนห้างเปิดใหม่ๆ กลัวมั้ยคะ ว่าจะไปไม่รอด ตอนแรกๆ ใครๆ ก็พูดกัน ว่าจะไปได้เหรอ เพราะว่าห้างอย่างนี้ ราคาขายมาตรฐานอย่างนี้ ขายได้ เหรอ แต่ในที่สุดเราก็ทำ�ได้ เพราะเรามีความจริงใจกับ ลูกค้า เราขายของราคาถูก ไม่ได้ขายแพง หลังจากนั้น ประมาณ 3-4 ปี ก็กลายเป็นว่ามันยังเล็กเกินไป เรา จึงขยายด้านหลังต่อ แต่ในที่สุดมันก็ไม่พออีก เพราะ ที่จอดรถของเรามีไม่เพียงพอ เลยต้องขยายสาขาไปยัง ทวีกิจพลาซ่า 2 หน้าอำ�เภอ ช่วงนั้นบริเวณหน้าอำ�เภอ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 8 ไทรถเข็
ภาพวาดจากความทรงจำ� : คุณทวีได้ให้ศิลปินวาดภาพที่มาจากความทรงจำ�เมื่อสมัยยังเด็ก เป็นภาพห้องแถวชั้นเดียว อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และหอนาฬิกา ด้านขวาของภาพ เป็นคาราวานเกวียนของคนประโคนชัย ที่เดินทางเข้ามาขายปลาแห้งให้กับคนบุรีรัมย์ในสมัยนั้น ด้านซ้ายพี่สาวคุณทวีกำ�ลังนั่งตักน้ำ�อยู่ที่บ่อน้ำ�ใกล้สถานีรถไฟ ส่วนคุณแม่กำ�ลังยืน ขายของอยู่ที่หน้าร้าน และตัวคุณทวีเองกำ�ลังเดินหาบน้ำ�กลับบ้าน
เดือนเมษายน พ.ศ. 2541 หลังจากเปิดบริการได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ผมยังจำ� วันที่ปิดวีมาร์ทได้ไม่มีวันลืม ผมติดป้ายบอกลูกค้าว่า “ปิดปรับปรุง” ลูกค้ามาบอกว่า “ยังสวยอยู่เลย จะปิดปรับปรุงทำ�ไม” ผมฟังแล้วน้ำ�ตาตกใน สัญญากับลูกค้า และ ตั้งใจกับตัวเองว่า “สักวันหนึ่งเราต้องเปิดห้างนี้ขึ้นมาใหม่ให้ได้” ช่วงนั้นมีข่าวลือว่าคุณทวีถึงกับกินยาเพื่อฆ่าตัวตาย เรื่องนี้เป็นมาอย่างไรคะ (หัวเราะ) ตอนนั้นพอเราปิดวีมาร์ท มีปัญหาเรื่องการเงิน คนในตลาดก็เลย พากันลือว่าเฮียทวีกิจเครียดมาก รับไม่ได้ กินยาตายแล้ว แต่อันที่จริงผมไม่ได้ทำ�ครับ ผมไม่ได้หนีปัญหา แต่ผมกลับเดินเข้าไปสู้กับปัญหา ทำ�สมาธิด้วย ตอนที่มีปัญหาก็ไป กราบพระ เอากำ�ลังใจจากหลวงพ่อ คือผมก็ยังเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรามีแรงบันดาลใจ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด
ภาพบน : คุณทวีขณะกำ�ลังเล่าเรื่องราวในอดีตให้หลานชายฟัง ภาพล่าง : ทักทายลูกค้าเก่าแก่ในห้างทวีกิจ
แล้วแก้ปัญหาอย่างไรคะ ช่วงนั้นลำ�บากมาก ทุกคนในครอบครัวกลุ้มใจหมด หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้ จะทำ�ยังไง อยู่มาคืนหนึ่ง นอนคิดไปคิดมาจนเผลอหลับไป เหมือนกับในสมาธิ มอง เห็นที่ไหนสักที่ เขากางเต็นท์ขายของ จัดรายการให้ลูกค้ามาซื้อ มองเห็นลูกค้า มากมาย แล้วเราก็สะดุ้งตื่น พอตื่นขึ้นมาก็มานั่งคิดว่า เอ... มันก็เป็นไปได้นะ ทำ�ไม เราไม่เอาของที่เรามีอยู่แล้วมาแปรเป็นเงิน แทนที่จะไปหากู้เงินนอกระบบ ดอกเบี้ย สูงๆ รุ่งเช้าจึงได้ปรึกษาบุตรสาว (คุณศิรินันท์) ที่เป็นคนดูแลเรื่องจัดซื้อ จึงตัดสินใจ ไปจัดรายการขายสินค้าที่อำ�เภอกระสัง ใกล้ๆ กับตลาด ไปกางเต็นท์ ไปแห่รถ และก็เอา ของไปขาย ลูกค้าพากันแห่มาซื้อแบบมืดฟ้ามัวดินเลย เพราะว่าสินค้าของเราถูกกว่า เจ้าอื่นๆ ลูกค้าก็เลยมาซื้อที่เรา หลังจากนั้น เราก็จัดงานแฟร์ไปเรื่อยๆ แต่ก็เริ่มคิดว่า ถ้าจัดแบบนี้ไปเรื่อยๆ สินค้าก็จะช้ำ�เสียหาย เราจึงไปเช่าที่ที่กระสัง เปิดทวีกิจสาขา เล็กเป็นที่แรก หลังจากนั้นเราก็ค่อยๆ ขยายไปที่สตึก และอีกหลายๆ ที่ จนในที่สุด สถานการณ์ทุกอย่างก็ดีขึ้น เราสามารถชำ�ระหนี้ซัพพลายเออร์ทุกบริษัทได้ทั้งหมด
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 01 ไทรถเข็
ที่สำ�คัญ ผมต้องขอขอบคุณวิกฤติปี 2540 สิ่งที่ไม่ดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ดี หาก ไม่มีวิกฤติครั้งนั้น ผมคงไม่ได้เปิดสาขาได้ถึง 125 สาขาในวันนี้
หน้าห้อง แล้วก็ร้องไห้ เพราะพ่อป่วยหนัก อยู่ห้อง ICU สาเหตุเกิดจาก การสูบบุหรี่ เราเลยคุยกันทั้งบ้าน และตกลงกันว่าเราจะเลิกขายของ พวกนี้ เลิกแบบหักดิบ เราจึงจัดงาน “เทเหล้า เผาบุหรี่” ขึ้น ในปี พ.ศ. 2546
คุณทวี กับ ความภาคภูมิใจในวันนี้
แล้วในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เราก็ได้ฤกษ์กลับมาเปิด “วีมาร์ท” อีกครั้ง โดยได้ เปลี่ยนชื่อเป็น “ทวีกิจ ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Taweekit Supercenter)” ตอนแรกที่จะเปิด ลูกๆ ของผมไม่มีใครเห็นด้วยเลย ที่จะเปิดวีมาร์ทขึ้นมาใหม่ ในครอบครัวทั้งหมดเจ็ดคน มีแค่ ผมคนเดียวที่จะเปิด แล้วก็มีผู้ช่วยอีกคนหนึ่งชื่อสุวรรณที่เห็นด้วย ตัวผมเองรู้ดีว่าถ้าไม่เปิด ก็มีแต่ดับ ถ้าเราเปิดแล้วมันสำ�เร็จขึ้นมา เราก็มีโอกาสรอด ตอนนั้นผมไม่มีเงิน เชลฟ์ วางสินค้าก็โดนยึดไปหมด ผมใช้วิธีเครดิตไม้อัดและเหล็กมา โดยให้ผู้ช่วยของผมออกแบบ แล้วสั่งช่างผลิตเชลฟ์สินค้าขึ้นมาเองทั้งหมด ใช้มา 13 ปี เพิ่งจะเปลี่ยนใหม่ ผมขอขอบคุณ ซัพพลายเออร์ทุกบริษัทที่ให้ความสนับสนุนส่งสินค้าให้เราขายอย่างเต็มที่ ในส่วนของการขยายสาขาขนาดเล็ก เราได้ขยายไปตามอำ�เภอ และตำ�บลต่างๆ ทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง ถึงวันนี้รวมแล้ว 125 สาขา ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ดังเดิม ที่ว่า “ทวีกิจนำ�ความประหยัดและความสุขไปสู่ชุมชน” ที่สำ�คัญ ผมต้องขอขอบคุณวิกฤติปี 2540 สิ่งที่ไม่ดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ดี หาก ไม่มีวิกฤติครั้งนั้น ผมคงไม่ได้เปิดสาขาได้ถึง 125 สาขาในวันนี้ ทราบมาว่าที่นี่มีนโยบายไม่ขายเหล้า เบียร์ และบุหรี่ (คุณเพียรใจ - บุตรสาว) แต่ก่อนเราก็ขายนะคะ แต่ของเหล่านี้มันเป็นอบายมุข เป็นหนึ่งในมิจฉาอาชีวะ เรารู้ว่ามันไม่ดี ตอนแรกๆ เราก็ยังไม่เลิกขาย เพราะยอดขายมันเยอะ มาก แต่พอเราได้เห็นถึงโทษภัยของมัน ประกอบกับได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อมาอีกทางหนึ่ง เราจึงจัดอบรมพนักงาน นิมนต์พระอาจารย์มาบรรยายธรรม มีอยู่ตอนหนึ่งพระอาจารย์แจก กระดาษให้พนักงานเขียนความทุกข์ที่สุดในชีวิตของตัวเอง พอเอามาประมวลดูแล้ว ก็เห็นว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของความทุกข์ของพนักงานเรามาจากเหล้า และบุหรี่ เช่น บางคนเขียนว่า “หนูรักพ่อมากเลย พ่อเป็นคนดี แต่พอพ่อกินเหล้าพ่อก็ไปทะเลาะกับแม่” บางคนออกมาพูด
การเลิกขายสินค้าประเภทแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ส่งผลกระทบอะไร ต่อยอดขายของห้างมั้ยคะ (คุณดรุณี - บุตรสาว) พอเราจัดงานเทเหล้าเผาบุหรี่ขึ้น ก็ตรงกับกระแสของ สสส. (สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ) ที่กำ�ลังรณรงค์เรื่องนี้พอดี ทั้งสื่อช่อง 7 ช่อง 3 สะเก็ดข่าว ก็มาถ่ายทำ� แล้วเราก็กลายเป็นกรณีศึกษาของ สสส. ไปด้วย พอเรา ไม่ขายของพวกนี้ ตอนแรกๆ ลูกค้าก็ไม่เข้าใจ เพราะคิดว่ามาห้าง ต้องได้ของครบ และลูกน้องก็ไม่เห็นด้วย เพราะเหมือนกับตัดยอดขาย ไปเป็นล้านต่อเดือน แต่เราก็เลือกที่จะทำ�และสื่อถึงลูกค้าว่า “ทวีกิจ ไม่ขายเหล้า เบียร์ บุหรี่ เพราะเราห่วงใยคุณและทุกคนในครอบครัว” ซึ่งภายหลังลูกค้าก็เข้าใจ และได้รับกระแสชื่นชมจากสังคมอีกด้วย ในปี 2557 ทวีกิจครบรอบ 40 ปี ด้วยความที่คุณพ่อ ทวีได้เรียนแค่ชั้นประถม 3 ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อ จึงได้เกิด ความตั้งใจ และริเริ่มโครงการ “ต้นกล้าคุณธรรม” เพื่อสนับสนุนทุน การศึกษาให้กับน้องๆ เด็กนักเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งจัดต่อเนื่องทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ล่าสุด เมื่อวันเด็กที่ผ่านมา ทวีกิจได้มอบทุนการศึกษา ไปแล้วรวมกว่า 500 ทุน และในช่วงเทศกาลวันเด็ก ทวีกิจได้ร่วมกับ โรงภาพยนตร์ MVP นำ�ภาพยนตร์สอนศีลธรรมมาฉายให้ชมฟรี ซึ่งมี น้องๆ นักเรียนเข้าชมกว่า 6,000 คน หลายๆ คนได้เขียนความรู้สึก ว่าประทับใจภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และจะตั้งใจเป็นลูกที่ดีของ คุณพ่อคุณแม่ จะไม่ทำ�ให้ท่านเสียใจ ฯลฯ ทวีกิจขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะ สร้างสรรสิ่งดีๆ ให้กับชุมชน และสังคมตลอดไป อยากจะฝากอะไรถึงผู้อ่าน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ คนคะ จริงๆ แล้วธุรกิจที่ผมทำ�อยู่คือสิ่งที่ผมชอบ ผมรัก ถ้าเรารัก มันก็มีความสุข ผมบอกแล้วว่าผมชอบฝัน ฝัน...แล้วก็สร้างความฝัน ให้เป็นความจริง ผมอยากจะฝากขอบคุณชาวบุรีรัมย์ทุกท่าน ขอบคุณ ลูกค้าทุกคน ทุกรุ่นด้วย บางทีเจอลูกค้าเก่าแก่อายุ 60 - 70 ที่ว่าเป็น ลูกค้ากันมาตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียน นักศึกษา จนตอนนี้เป็นอาจารย์ จนเกษียณไปแล้วก็มี (หัวเราะ) ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริงๆ ที่ได้ให้ความสนับสนุน และให้โอกาสทวีกิจได้อยู่คู่กับชาวบุรีรัมย์มายาวนานจนถึงวันนี้ และ ตลอดไป ผมหวังว่าเรื่องราวของผม อาจช่วยเป็นกำ�ลังใจให้กับใครๆ หลายคน ที่กำ�ลังสู้ชีวิตอยู่เหมือนกันนะครับ
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 21 ไทรถเข็
liBRary Cafe “เติมเต็มวันสบายๆ ด้วยร้านคาเฟ่รูปแบบใหม่ สไตล์ Chic & Chill ที่มีหนังสือให้ทุกท่าน เลือกอ่านกว่าหนึ่งพันเล่ม พร้อมดื่มด่ำ�ไปกับ กาแฟถ้วยโปรด ในมุมอ่านหนังสือที่สบายที่สุด แห่งแรกและแห่งเดียว ในจังหวัดบุรีรัมย์” The Library Cafe' Buriram
Drink Read Chill คาเฟ่อยู่ในโครงการบุรีรัมย์ คาสเซิล หลังสนามไอโมบาย สเตเดียม ใกล้ Watsons คาเฟ่เปิดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 21.00 เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 21.00 น. โทร 044600844
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Library Cafe’ เติมเต็มวันสบายๆ ด้วยคาเฟ่รูปแบบใหม่ สไตล์ Chic & Chill
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ ไม่ว่าใครก็อยากอยู่ในที่ห้องแอร์เย็นๆ มีของสารพัด ให้เลือกซื้อเลือกหา แต่ถ้าจะไปห้างในเวลาแบบนี้ ก็ต้องแลกกับขบวนรถที่ติดยาวเป็นหางว่าว และ ผู้คนที่เบียดเสียดพลุกพล่าน เพราะนาทีนี้ ใครๆ ก็อยากจะไปช้อปในที่เย็นๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ถึงอากาศจะร้อน... แบบนี้ ก็อย่าเพิ่ง หงุดหงิดไป เพราะตอนนี้ ชาวบุรีรัมย์โชคดี ที่เรา มี Buriram Castle ศูนย์รวมร้านอาหารและแหล่ง
ช้อปปิ้งแห่งใหม่ ตั้งอยู่ภายในบริเวณสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม ภายใน Buriram Castle เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหารชิคๆ ชิลๆ มากมาย โดยวันนี้เราจะ พาทุกท่านไปรู้จักกับคาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะ มีอาหารและเครื่องดื่มมาให้อิ่มท้อง ยังมี “หนังสือ” เป็นอาหารสมอง มาให้อิ่มความรู้กันอีกด้วยค่ะ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ท่านจะได้พบ กับกองทัพหนังสือที่สูงจากพื้นจรดเพดาน อารมณ์ ประหนึ่งว่าเรากำ�ลังอยู่ในห้องสมุด ลองจับๆ พลิกๆ ดู หนังสือแต่ละเล่มก็ไม่ธรรมดา มีทั้งนวนิยาย การ์ตูน หนังสือสารคดี และหนังสือให้ความรู้ ซึ่งล้วนแต่เป็น หนังสือดี ระดับ Best Seller ทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่จะมีผู้คนมาให้ความสนใจกับคาเฟ่หนังสือ หรือ Library Cafe แห่งนี้กันอย่างล้นหลาม ไปถึงกะว่าจะสั่งคาปูชิโน กาแฟสุดเบสิค ที่สั่งบ่อยๆ แต่พลันเหลือบไปเห็นเมนูสะดุดตา ชื่อว่า “ไลบรารี่ คอฟฟี่” กะว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน แน่ๆ จึงลองถามกับพนักงานดู ก็ได้รับคำ�ตอบมาว่า ไลบรารี่ คอฟฟี่ เป็นกาแฟที่มีส่วนผสมของแคนตาลูป ซึ่งเป็นเมนูเฉพาะของทางร้าน ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
เป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง เพราะแคนตาลูป นั้น เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของจังหวัดบุรีรัมย์ของเรา ในปัจจุบันนั่นเอง เรามีโอกาสได้พบและพูดคุยกับ คุณหนึ่ง พรหมมินทร์ ภัณฑะประทีป เจ้าของ Library Cafe’ แห่งนี้ถึงที่มาของคาเฟ่ไอเดียเก๋ๆ แห่งนี้ ซึ่งคุณหนึ่ง ก็ได้เล่าให้เราฟังว่า คุณหนึ่งเคยไปทำ�งาน และใช้ชีวิต อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมานาน พอกลับมาเมืองไทยก็อยาก จะเปิดร้านกาแฟของตัวเอง จึงลองฉีกแนวจากร้าน ที่นั่งชิลได้ ถ่ายรูปได้ มาเป็น “อ่านหนังสือ” ได้ ซึ่ง จุดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้ ก็คือหนังสือหลากหลายสไตล์ ที่ลูกค้าสามารถหยิบอ่านได้ฟรี ซึ่งหนังสือในร้าน ก็มี ทั้งหนังสือที่คุณหนึ่งเองเก็บสะสมไว้ และหนังสือที่มี คนนำ�มาให้ นอกจากเมนูแนะนำ�อย่าง “ไลบรารี่ คอฟฟี่” ที่นี่ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้ได้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น
14
Library Cafe’ สะบายพุง
สะบายพุง
41 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง ไทรถเข็น
ฮันนี่โทสต์ บานาน่าช็อคโทสต์ นูเทลล่าสตรอโทสต์ สตอร์เบอรรี่โทสต์ ช็อคลาวา มัทฉะลาวา มิกซ์เครปเค้กสตรอเบอรี่ มิกซ์เครปเค้กช็อคโกแลต ปังเย็น ภูเขาไฟ เอนกายลงพิงเบาะนุ่มๆ ในร้านแอร์เย็นๆ จิบกาแฟรสชาติหอมหวาน เพลิดเพลินไปกับหนังสือ เล่มโปรดจนลืมไปว่าอากาศข้างนอกร้อนแรงเพียงไร ถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกดิน วันนี้เราจะยังไม่กลับ ไหนๆ ก็มาเป็นลูกค้าตั้งแต่เปิดร้าน 10.30 น. แล้ว ขออยู่ เป็นเพื่อนช่วยเขาปิดร้านตอน 21.00 น. เลยแล้วกัน ท่านใดสนใจมานั่งเล่นเป็นเพื่อนกันชิลๆ แต่มาไม่ถูก ล่ะก็ โทรมาที่ร้านได้เลยนะคะ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 094 437 4376 ตอนนี้ ขอตัวไปอ่านหนังสือต่อก่อน นะคะ ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ
Contact Me
คาเฟ่อยู่ในโครงการบุรีรัมย์ คาสเซิล หลังสนามไอโมบาย สเตเดียม ใกล้ Watsons คาเฟ่เปิดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 21.00 เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 21.00 น. โทร 094 437 4376
Modern Chick & Chil Style Being located in Buriram Castle behind I-mobile stadium, Library cafe’ is a must -visit chic & chil style cafe’. It is not only a cafe’ ith a variety of refreshments, but it is also a library of various types of books for readers of all ages such as novels, cartoons, fictions, and features. Many of them are from the Best Seller classification. So Library cafe’ is a good place for those who love reading whilst sipping their favorite drinks. To avoid extremely hot weather outside you can soak up the pleasant atmosphere and books at Library cafe’ as long as you want to. Mr.Neung - Prommin Panthaprateep, the owner of Library cafe’ told us that after a long period of time working in Japan, he
decided to come back to Thailand and run a business of his own and a cafe’ is his target. In order to satisfy customers his cafe’ is not only a place of drinks, but also a place of entertainment and knowledge. The outstanding signature menu is Library coffee which has cantaloupe, an economic plant of Buriram, in its ingredient. In addition, many favorite menus include Honey Toast, Banana Choc Toast, Nutella Straw Toast, Strawberry Toast, Choc Lava, etc. Library cafe’ is open daily from 10.30 a.m. to 9.00 p.m. For more information please call 094 437 4376.
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
15
หมบู่ า้ นทอ่ งเที่ยวไหม “บนิตา้ มหั นสนวนนอก” ยสารสะบายดี บุรีรัมย์ ศจรรย์เมืองแปะ
16
บุรีรัมย์ คาสเซิล มหัศจรรย์เมืองแปะ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 61 ไทรถเข็
มหัศจรรย์ วิถีทุ่ง วิถีถิ่น นอนกลางดิน กินกลางทุ่ง ณ บ้านสวายสอ BURIRAM LOCAL LIFE “ในน้ำ�มีปลา ในนามีข้าว แผ่นดินของเรานี้แสนอุดมสมบูรณ์”
ข้างต้นนี้ คือเนื้อร้องท่อนหนึ่งของเพลง “ในน้ำ�มีปลา ในนามีข้าว” บทประพันธ์ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ หลายๆ ท่านก็คงจะเคยได้ยิน เพลงนี้มาบ้าง วันนี้ สะบายดี บุรีรัมย์ จะพาทุกท่านไปชมความมหัศจรรย์ ของผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีทั้งน้ำ� ทั้งปลา และทั้งข้าว ครบถ้วนตาม เนื้อเพลงกันเลยทีเดียวค่ะ ลืมตาขึ้นมา ด้วยเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงบอกเวลาตีห้าครึ่ง เช้าแล้ว แต่ใจยังไม่อยากตื่นเลยสักนิด ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอีกหลายรอบ คิดในใจว่า ไม่น่ารับปากไปทำ�คอลัมน์นี้เลย จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้” แต่ในที่สุด หน้าที่ก็ชนะความขี้เกียจ ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำ� แต่งตัว ทั้งที่ยัง สะลึมสะลือ นึกถึงตอนไปถ่ายรูป “ทุ่งปอเทือง” วันนี้ก็คงสนุกและสวยงาม ไม่แพ้กัน จะต่างกันก็ตรงที่วันนี้เรากะจะไปตายเอาดาบหน้าจริงๆ ไม่มี การเตรียมอาหาร น้ำ�ดื่มหรืออุปกรณ์ยังชีพใดๆ ติดตัวไปเลย เราตั้งใจ จะไปลองใช้ชีวิตแบบลูกชาวนา “นอนกลางดิน กินกลางทุ่ง” กันดูสักที เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า ตามคำ�เชิญของ น้องจิ๋ว - สุทธิพงษ์ ศักดิ์สถาพร และ น้องซิง - ปัญญา ทันดี ที่บอกกับเราว่า จะพาเราไป “หว่านแห จับปลา ดูพระอาทิตย์ตกดิน ปีนเก็บมะพร้าว ทำ�กับข้าวกิน เอง” ซึ่งนี่คือที่มาของทริปในวันนี้
เราขับรถออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ผ่านแยกกระสัง และมุ่งหน้า ตามเส้นทางไปอำ�เภอนางรอง มองออกไปรอบๆ สองข้างทางยังไม่เห็นความ อุดมสมบูรณ์เลย อากาศยังคงร้อนและแห้งแล้ง ถนนหนทางจากที่รถเคยวิ่ง สวนกันแค่สองเลน กลับกลายเป็นถนนสี่เลนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันสังเกต ชาวบ้านชาวช่องพากันเปลี่ยนอาชีพและวิถีชีวิต ยกฐานะจากชาวนามาเป็น พ่อค้าแม่ขาย อู่ซ่อมรถ ปั๊มน้ำ�มันเล็กๆ ประจำ�หมู่บ้าน ร้านโชห่วย ร้าน อาหารน้อยใหญ่เรียงรายแทบไม่ขาดตลอดสองข้างทาง ฝุ่นและควันลอยมา จากที่ไหนสักแห่งบ่งบอกถึงลมที่พัดแรง แต่ดูเหมือนจะน้อยกว่าความร้อน ที่แผดเผาของแสงแดดในยามนี้ สมัยเด็ก เคยคิดว่า คงเฉพาะหน้าร้อนนี่แหละที่เค้าเรียกกันว่า หน้าแล้ง แต่ที่ไหนได้ เพิ่งมารู้ว่าจริงๆ แล้ว หน้าแล้งนั้นเริ่มมาตั้งแต่ช่วง หน้าหนาว คือตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา จนถึงปลายหน้าแล้ง หรือราวๆ เดือนเมษายน หรือจะว่าให้เข้าใจกันง่ายๆ ก็คือช่วงที่ไม่มีฝน นั่นแหละ พอความชุ่มชื้นจากผืนดินเริ่มหมดไป ฝนฟ้าไม่ตก นอกจากจะมี มรสุม และด้วยสภาพอากาศที่เย็นมากหรือร้อนมาก จึงทำ�ให้บรรดาสัตว์ ต่างๆ ทั้งตัวเล็กตัวน้อยพากันหามุมหลบภัยเพื่อเอาชีวิตรอด หรือที่เรา เรียกกันว่า การจำ�ศีล (hibernation) เพื่อรอให้อากาศอบอุ่นหวนคืนมา อีกครั้ง หรือรอว่าเมื่อไรฟ้าจะเป็นใจส่งน้ำ�ฝนมาให้
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
มัวแต่นกึ ถึงเรือ่ งดิน ฟ้า อากาศ จนเพลิน เผลอขับรถเลยจุดนัดพบ กับน้องๆ เอาไว้ มารูต้ วั อีกทีกต็ อนมีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามา พร้อมปลายสาย ทีบ่ อกว่า “พี่ครับ พี่เลยไปแล้ว” ฮา... เราวนรถกลับมาอีกครัง้ แล้วขับรถเข้าไปในซอยเล็กๆ ตามคำ�บอกเล่า ของเจ้าของสถานที่ ไปถึงก็ได้พบกับน้องจิว๋ และน้องซิงทีก่ �ำ ลังพยายามคืนชีพ ให้รถกระบะคันเก่า พร้อมกับชาวบ้านอีกหลายคน ทีช่ กั ชวนกันแห่มาดู เมือ่ รู้ ว่าจะมีนติ ยสารจากในเมืองจะเข้ามาถ่ายภาพ บ้านแถบนี้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านปูนชั้นเดียว นานๆ ที จึงจะเห็น บ้าน 2 ชั้นแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นบนมักจะเป็นไม้ที่มีสภาพค่อนข้างเก่า บ่งบอกว่าบ้านเหล่านี้คงจะผ่านการดีดบ้าน ซึ่งเป็นการต่อเติมด้านล่างของ บ้าน ซึ่งเดิมอาจเป็นบ้านไม้ไต้ถุนสูง ให้แข็งแรง และมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น บางบ้านมีสวนเล็กๆ ไว้สำ�หรับปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งถึงแม้ที่ดินจะไม่กว้าง มากนัก แต่เจ้าของกลับนำ�มาใช้ได้อย่างคุ้มค่า ทั้งฟักเขียวลูกใหญ่ ต้นหอม ผักชี ยี่หร่า สะระแหน่ พริก มะเขือ และผักใบเขียวนานาชนิด ทั้ง คะน้า ดอกกะหล่ำ� กวางตุ้ง และอื่นๆ อีกสารพัด ขณะที่รอการกู้ชีพเจ้ากระบะคันฮ่างอยู่นั้น พวกเราก็เที่ยวเดินชม หมู่บ้านไปพลางๆ จนสักพักได้ยินเสียง “บรื้นนน...” พร้อมควันขโมงออก จากท่อไอเสีย เป็นสัญญาณว่าเจ้ารถสีน้ำ�เงินเข้มคันนี้ได้คืนชีพขึ้นมาแล้ว
หันไปเห็นหน้ามอมๆ ของสองหนุ่ม ที่กำ�ลังตะโกนแข่งกันมาว่า “พร้อม แล้วครับพี่ ไปกันเถอะ” แล้วทั้งสองก็แบกแห 2 ปาก ใส่รถ พร้อม ด้วยถังใบเล็กสีเหลือง 1 ใบ “ตามมานะครับพี่ หมู่บ้านใกล้ๆ นี้ เค้า มีลงปลาพอดีเลย” เราขับรถตามเข้าไปใน “หมู่บ้านใกล้ๆ” ที่จิ๋วบอก ซึ่งระหว่าง ทาง เราก็แทบอยากจะเขกกะโหลกน้อง เพราะหมู่บ้านใกล้ๆ ที่ว่านั้น ต้องขับรถลึกเข้าไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง พอใกล้ๆ จะถึงเราก็ได้ยินเสียง เพลงหมอลำ� ซึ่งน่าจะมาจากเครื่องขยายเสียงตัวยักษ์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ที่กลางหมู่บ้านนั่นเอง ขับต่อมาอีกเพียงอึดใจ เราก็มาถึงหนองน้ำ� ที่ชาวบ้านกำ�ลังลงปลากันอยู่อย่างสนุกสนาน อ่านป้ายหมู่บ้านดู ถึงได้รู้ ว่าที่นี่คือ บ้านหนองม่วง ตำ�บลบ้านยาง อำ�เภอลำ�ปลายมาศ แหม... หมู่บ้านใกล้ๆ ของซิงกับจิ๋วนี่ถึงกับต้องขับรถข้ามอำ�เภอกันเลยทีเดียว คำ�นวณคร่าวๆ ด้วยตา ชาวบ้านที่ลงไปจับปลาในหนองน้ำ� แห่งนี้ มีกว่า 50 คน แถมยังมีอีกกว่าร้อยชีวิตที่ยืนเป็นกองเชียร์ คอย ให้กำ�ลังใจอยู่โดย บ้างดื่มสุรา บ้างนั่งพูดคุยกัน บ้างก็ร้องรำ�ทำ�เพลง กันอยู่อย่างสนุกสนาน บางส่วนก็เริ่มเตรียมสำ�รับสำ�หรับมื้อเที่ยง ก่อไฟ เตรียมเครื่องปรุงจำ�พวก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม กระเทียม ไว้ รอเพียงแต่พระเอกของงาน ที่กำ�ลังถูกล้อมจับอยู่ในมาหนองน้ำ�เท่านั้น
18
มหัศจรรย์ วิถีทุ่ง วิถีถิ่น มหัศจรรย์เมืองแปะ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 81 ไทรถเข็
อีกกลุ่มหนึ่งที่สนุกไม่แพ้กันก็คือพวกเด็กๆ บางคนก็ปีนอยู่บนยอดมะม่วง แล้วโหนข้ามไปกิ่งมะขาม จากนั้นก็กระโดดลงน้ำ�เสียงดัง ตูม ตูม แล้วก็ดำ�ผุด ดำ�ว่าย น้ำ�ในสระสูงเพียงเอวเท่านั้น เพราะเขาสูบน้ำ� ออกไปบ้างแล้ว จึงไม่เป็นอันตรายสำ�หรับเด็กๆ สระน้ำ� แห่งนี้เป็นสระน้ำ�ประจำ�หมู่บ้าน ปีหนึ่งๆ จะมีการลง จับปลาเพียง 1 ครั้ง และผู้ที่จะลงไปจับปลาได้นั้น ต้อง เสียค่าลงปลาคนละ 100 บาท และหลังจากที่เสร็จสิ้น ฤดูลงปลาแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็จะนำ�เงินที่ได้ ไปซื้อพันธุ์ ปลามาปล่อยและเลี้ยงต่อไปอีกปี รอจนกว่าวันลงปลา จะหวนกลับมาอีกครั้งในปีถัดไป พวกเราแยกย้ายกันไปทำ�ตามหน้าที่ ตากล้อง ก็เดินด้อมๆ มองๆ หามุมเก็บภาพสวยๆ ส่วนที่เหลือ ก็แยกย้ายกันไปเก็บข้อมูลในศาลาบ้าง นั่งคุยกันอยู่บ้าง สักพัก ซิงก็ยกแหพร้อมกับถังน้ำ�มาวางใกล้ๆ ค่อยๆ บรรจงแกะปลาใหญ่น้อยที่ติดแหออกมาใส่ถังอย่างช้าๆ เสร็จแล้วก็เหวี่ยงแหออกไปแล้วลากกลับขึ้นมาใหม่อีก พวกเราที่นั่งเชียร์กันอยู่ในศาลาก็ตื่นเต้นกันเสียยกใหญ่ วิ่งเข้าวิ่งออกติดขอบสระ ไปๆ มาๆ ก็เลยช่วยกันปลด ปลาออกจากแหใส่ ลงไปในถัง วันนี้เราได้ปลาหมอเล็กๆ 1 พร้อมกับกุ้งฝอยและหอยจูบ รวมๆ เกือบครึ่งถัง เท่านี้ ก็คงพอแล้วสำ�หรับปากท้องของคน 6 คน สนุกสนานกับการจับปลากันจนพอแล้ว เราก็ เดินทอดน่องเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางได้ยินเสียง รถอีแต๋นแว่วมาเป็นระยะๆ ตลอดแนวถนนเข้าหมู่บ้าน มีพุ่มดอกรักสีขาวและสีม่วงเต็มสองข้างทาง ต้นงิ้วกำ�ลัง สุก เริ่มปริแตกออกจนมองเห็นปุยนุ่นสีขาว ต้นข้าว ที่เคยงอกงามเขียวชอุ่ม บัดนี้เหลือเพียงซังสีข้าวเหลือง กรอบแกรบบนผืนดินที่แห้งผากแตกระแหง อากาศร้อน
6
น้องจ๋า เสียจนเรามองเห็นไอแดดเต้นระริกๆ ตัดกับถนนฝุ่น จากการไปยืนให้กำ�ลังใจชาวบ้านเขาจับปลา หายเป็นปลิดทิ้งทีเดียวเชียว สีน้ำ�ตาลอ่อนเส้นนี้ บ้านของซิงเป็นบ้านทีส่ ร้างด้วยตัวเอง พวกเราย้อนกลับมาที่บ้านของซิงอีกครั้ง แม่ของน้องซิงอาสาจะลงมือทำ�อาหารจากปลาที่ได้ หลังไม่ใหญ่ไม่เล็ก ยกพื้นสูง ด้านในแบ่งพื้นที่ จากการหว่านแหให้พวกเรากิน แม่คงนึกว่าถ้าปล่อย สำ�หรับเป็นห้องนอน กั้นห้องเล็กๆ เป็นที่เอาไว้ ให้พวกเราทำ� ปีนี้คงไม่ได้กินข้าวกันแน่ ระหว่างรอ เก็บข้าวของเครื่องใช้ และกั้นเป็นห้องไว้เปลี่ยน แม่ทำ�กับข้าว น้องจิ๋วได้โชว์การใช้มือเปล่า และวิชา เสื้อผ้า มีมุมเล็กๆ สำ�หรับวางถังข้าวสาร และ ตัวเบาปีนขึ้นยอดมะพร้าว ไปเก็บมะพร้าวอ่อนมาให้ ตระกร้าใส่น้ำ�ปลา น้ำ�ตาล เกลือ และบรรดา เราได้กินกัน กะเอาจากสายตา ต้นมะพร้าวสูงราวๆ เครื่องปรุงง่ายๆ และที่ขาดไม่ได้เลยสำ�หรับครัว 10 เมตรเห็นจะได้ แต่จิ๋วก็อาศัยประสบการณ์และ ของคนไทยพื้นบ้านก็คือ “ปลาร้า” ข้างบ้านมี ความสามารถเฉพาะตัวขึ้นไปเก็บได้อย่างสบายๆ พื้นที่เล็กๆ เอาไว้สำ�หรับจอดรถ ใกล้ๆ กัน แค่แป๊บเดียว เราก็ได้มะพร้าวลูกใหญ่ขนาดเกือบเท่า มีกรงเลี้ยงไก่ ที่จะออกไข่ทุกวัน วันละ 3 - 4 ลูกฟุตซอลมากินกันคนละลูก น้ำ�มะพร้าวทั้งหอม ฟอง ครัวก็เป็นแบบง่ายๆ ใช้เตาถ่าน ด้าน ทั้งหวาน เนื้อมะพร้าวไม่หนามากนัก แต่นุ่มกำ�ลังดี หลังบ้านมีบ้านหลังเล็กๆ อีกหลัง มีห้องน้ำ� ได้กินน้ำ�มะพร้าวอร่อยๆ แบบนี้ ทำ�เอาความเหนื่อย ก่ออิฐฉาบปูนแบบง่ายๆ ด้านหลังเป็นสวน มี แคร่ไม้เอาต้อนรับเวลามีแขกใครไปมา คนที่นี่ อยูก่ นั อย่างง่ายๆ สบายๆ แต่ทกุ สายตาทีเ่ รา มองเห็น ล้วนเปีย่ มความสุขทีอ่ อกมาจากใจอย่าง แท้จริง ถึงตอนนี้ ปลาทอดฝีมือแม่ซิงใกล้จะ เสร็จแล้ว ก็ได้เวลาลงมือตำ�ส้ม เตรียมเครื่องปรุง เสร็จสรรพ เราก็เริ่มครกแรกกันที่ตำ�มะยม โขลก พริก กระเทียม ใส่น้ำ�ตาลลงไปเพื่อกันไม่ให้พริก กระเด็น ตามด้วยมะยมเปรี้ยวจี๊ด ตำ�ให้ละเอียด ปรุงรสชาติตามใจชอบ พอครกต่อไปก็ตำ�ลาว ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างที่เรามี โยนมะเขือเปราะ มะเขือเทศ ลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อยและสีสัน ให้น่ากินยิ่งขึ้น ครกสุดท้ายก็เป็นตำ�ซั่วขนมจีน ปรุงรสให้แซ่บถึงใจ พอตำ�เสร็จ ปลาทอดก็มา พอดี พวกเราไม่พูดพล่ามทำ�เพลง แย่งกันจก น้ อ งปอยและน้ อ งหวา แย่งกันหยิบกันคนละหมับสองหมับ นี่แหละน้า
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ที่คนเค้าพูดกันว่า “ส้มตำ�ต้องแย่งกันกิน ถึงจะ ของเราหมดแล้วแต่เพียงเท่านี้ การใช้ชีวิตแบบ บ้านๆ ของพวกเราในตอนที่เหลือ จะสนุกสนาน อร่อย” เราเพลิดเพลินอยู่กับอาหารตรงหน้า แค่ไหน ติดตามอ่านกันได้ในฉบับหน้านะคะ อีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง จนอิ่มแปร้ ก็ค่อยๆ ทยอย ถอยทัพออกจากวงข้าวมาหามุม “นอน” กัน ติดต่อเยี่ยมชมหมู่บ้านได้ที่ เฮ้อ... ช่างเป็นชีวิตที่แสนสบาย ไร้กังวลเสียจริง น้องซิง - นายปัญญา ทันดี หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว เราก็ บ้านเกษตรบูรณะ เลขที่ 84 หมู่ 9 เตรียมตัวเดินทางกันต่อ เย็นนี้ เราจะไปขุดปูนา ตำ�บลสะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พายเรือเก็บดอกบัวสาย และหว่านแหปลาอีก โทร : 092 - 601 - 9455 สักรอบก่อนกลับบ้าน แต่เสียดายที่พื้นที่กระดาษ
น้องจิ๋ว
20
มหัศจรรย์ วิถีทุ่ง วิถีถิ่น มหัศจรรย์เมืองแปะ
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 02 ไทรถเข็
The weather in this summer is extremely hot. Buriram is recorded one of the hottest provinces in Thailand, with the temperature of over 40 degree Celsius. In such circumstance of weather some animals like frogs, small toads, tadpole, etc. are in hibernation in order to protect themselves from heat, waiting for rains to come. At the same period of time there are many different ways of interesting local lifestyle such as cast fishing, probing ants’eggs, digging crabs, etc. We are going to introduce you to a vil age, not so far from Buriram, to learn more about local lifestyles of the vil agers. We took off very early, heading along the road to Nangrong. We didn’t even know where the vil age of our destination is and what its name is. A few weeks before, without hesitation we accepted our friends’ invitation to see vil agers’ lifestyles.
Though we live in Isaan, we seldom experience lifestyles of the people in the outskirt vil ages. And this is the reason for our trip today. Cast fishing is the first activity we experienced. Our two friends , Jew – Sutthipong Saksathaporn and Sing – Panya Thandee, took us to the big pond at Nong Muang vil age of Lam Plai Mat district. Around 50 men gathered at the bank of the pond, ready to catch fishes after they paid 100 baht each. Cast fishing here can be done only once a year. When the season for catching fishes is over, the head of the vil age buys baby fishes and feed them in this pond for next year activity. We are so proud to tell you that our big lunch that day was fried fish caught by Jew and Sing. (to be continued in the next issue.)
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
6 ร้าไทรถเข็ นขนมหวาน เย็ น สบาย ผ่ อ นคลายในหน้ า ร้ อ น น 22 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
ทอฟฟี่ (Toffee)
ร้อนๆ แบบนี้ ต้องขอพึ่งความเย็นจากคาเฟ่ ที่มีเมนูขนมหวานเย็นชื่นใจ อย่าง “ทอฟฟี่” ตกแต่งร้าน เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น ของคุณทราย - ศศิธร ศรีจันทึก และ คุณอู๊ด - จิตอาวรณ์ พูลสิริ ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอิ่ม แบบเบาๆ อาทิ สเต๊กสูตรหมักสไตล์ยุโรป แต่รสชาติ จัดจ้าน ถูกปากคนไทย ตามด้วยเมนูของหวานที่พลาด ไม่ได้ คือ ช็อคโก้ลาวา พร้อมชาเขียวหอมหวานที่ใคร ได้ลองแล้วจะติดใจ ใครมีีหนังสือ สะบายดี บุรีรัมย์ ลดทันที 10% ตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. 2559 เวลาเปิด - ปิดร้าน : 10.30 - 20.30 น. ทีอ่ ยู่ : ติดกับโรงเรียนกวดวิชาเคมี อ.อุ๊ ทางไปคลองถม หนองแปบ Facebook : Toffee Buriram โทร : 044116088
แอลทวิน คาเฟ่ บุรรี มั ย์ (L TWIN Caffe Buriram) L Twin Caffe’ Buriram โดดเด่นทีด่ ไี ซน์ สไตล์ลอฟท์ ซิกเนเจอร์ของทางร้านทีไ่ ม่ควรพลาด คือ เค้กส้ม และเมนูทม่ี าพร้อมกับความสดชืน่ แตกต่าง ไม่ เหมือนใคร “น้�ำ มะขามโซดา” หนึง่ เดียวในบุรรี มั ย์ กับ สูตรลับเฉพาะ ทีเด็ดของ L TWIN เสริมทัพความอิม่ ท้อง ด้วยวากิวเบอร์เกอร์และข้าวกะเพราเนือ้ สูตรเด็ดของร้าน โดย คุณพิมลรัตน์ ฉันทไกรวัฒน์ โทร : 083-5591888 Facebook : L TWIN CAFFE at Ducati Buriram เวลาเปิด - ปิดร้าน : 08.00 – 19.30 น. ทีอ่ ยู่ : 248 ม.15 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 31000 (ติดโชว์รมู รถ Ducati)
มอร์มลิ ค์ (MoreMilk) สูตรลับร้านนมแสนอร่อยทีเ่ ปิดมานานกว่า 20 ปี “มอร์มลิ ค์” ทีต่ กแต่งสไตล์องั กฤษ โทนฟ้า - ชมพู โดยคุณต่าย - สิรริ ตั น์ เชียงกูล กลิน่ หอมหวานของ ขนมและเครือ่ งดืม่ ทีล่ อยมาในอากาศ ยิง่ ทำ�ให้ความ อยากอาหารเพิม่ ขึน้ เมนูอาหารสูตรเด็ด ข้าวผัดกุง้ ข้าวหมูผดั พริกไทยดำ� มาม่าผัดขีเ้ มา และยิง่ ในช่วงที่ อากาศร้อนแบบนีต้ อ้ งนีเ่ ลย “บานาน่าสปลิท” แถมยก ขบวนเครือ่ งดืม่ มาให้ชมิ อาทิ โกโก้ปน่ั วิปครีม แดง โซดา เขียวโซดา บลูโซดา โทร : 081-6603243 เวลาเปิด - ปิดร้าน : 07.00 - 20.30 น. ทีอ่ ยู่ : เยือ้ งโรงเรียนอนุบาลบุรรี มั ย์ ติดกับร้านซีเอ็ด
23 29
6 ร้านขนมหวาน เย็น สบายนัผ่ก อนคลายในหน้ ร้อน เต้นเท้าบุราไฟ นิ ต ยสารสะบายดี นิตยสารสะบายดี บุรีรีรัมัมย์ย์
เมานม (Mao Milk) นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
สำ�หรับใครทีช่ อบดืม่ “นม” มาสัมผัสความอร่อย รูปแบบใหม่กนั ได้ทร่ี า้ น “เมานม” แต่งร้านสไตล์โมเดิรน์ เหมาะสำ�หรับผู้ท่ชี ่นื ชอบความหวานและเครื่องดื่มเย็นๆ กับรสชาติแสนอร่อย โดยคุณอ้อม - ภัณฑิรา อึงพงศ์พนั ธ์ ทีน่ ำ�เสนอรูปแบบใหม่ของการดืม่ นม พร้อมให้เพลินช่วง หน้าร้อนแบบนี้ พลาดไม่ได้กบั “เมานม” ทีเ่ ป็นซิกเนเจอร์ ของร้าน ตามด้วยเมนู “ปังเย็น” ไม่วา่ จะเป็นปังเย็นชมพู โกโก้ ชาเขียว นมสด แต่ทพ่ี ลาดไม่ได้คอื “เมานมทาวเวอร์” ทีพ่ ร้อมให้เมากันยกแกงค์ โทร : 092 1691699 Facebook : เมานม MaoMilk Buriram เวลาเปิด - ปิดร้าน : 11.00 - 22.00 น. ทีอ่ ยู่ : ตลาดบ๊อกซ์สแควร์ ตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฏ บุรรี มั ย์
ไอติมกะลา
ด้วยความหอมหวานของไอติมกะทิ เสิรฟ์ บน กะลามะพร้าว ทำ�ให้นา่ รับประทานมากยิง่ ขึน้ คุณวิวฒั น์ ยังรัมย์ ตกแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ ดับร้อนด้วยปูนเปลือย นอกจากไอติม ยังมีเมนูทจ่ี ะทำ�ให้ทกุ ท่านสดชืน่ อาทิ วุน้ มะพร้าว เฉาก๊วยนมสด มะพร้าวปัน่ นมสด และ มะพร้าวปัน่ โปรโมชัน่ ดีๆ ซือ้ ไอติม 2 ถ้วย แถมน้�ำ มะพร้าว 1 แก้ว Facebook : กะลาไอศครีมกะทิสด coconutmilk icecream โทร : 0876835028 เวลาเปิด - ปิดร้าน : 10.00 - 21.00 น. ทีอ่ ยู่ : อยูใ่ นโครงการบุรรี มั ย์คาสเซิล
Monsters ไอติมผัด
ความอร่อยและลีลาปนความสนุกที่ลูกค้า สามารถเลือกรสชาติ “ไอติมผัด” ได้เอง เนือ้ ไอติมโดยเชฟ ฝีมอื ดี ทีเ่ ลือกทานคูก่ บั อะไรก็อร่อยทัง้ นัน้ ไม่วา่ จะเป็น ช็อคโกแลต มอนสเตอร์ บลูเบอรีช่ อ็ คชิพ กล้วยหอมโอริโอ้ สตรอเบอรีก่ วี ่ี “Monster” เป็นร้านไอติมผัดร้านแรกและ ร้านเดียวในจังหวัดบุรรี มั ย์ โปรโมชัน่ ซือ้ 10 แก้ว ฟรี 1 แก้ว และยังทานฟรีในวันเกิดได้ 1 แก้วอีกด้วย โทร : 082-3644642 Facebook : ปู กรรกฎ เวลาเปิด - ปิดร้าน : 10.00 - 21.00 น. ทีอ่ ยู่ : อยูใ่ นโครงการบุรรี มั ย์คาสเซิล
22
ทุ่งปอเทือง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 42 ไทรถเข็
แอดสยามคิด
ถั่วทอด เกี๊ยวกรอบ โรงเรียนอนุบาล
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
กรอบ อร่อย ใครชิม เป็นต้องติดใจ
Pa Lai’s Deep Fried Wontons and Bean Cakes ในบรรดาของกินเล่นจำ�พวกขนมขบเคีย้ ว ต่างๆ เชือ่ ว่า “เกีย๊ วทอด” คงเป็นหนึง่ ในเมนูโปรด ของใครหลายคนอย่างแน่นอน ด้วยความกรอบนอก นุม่ ใน สอดไส้หมูหมักเครือ่ งปรุง ทอดลงในกระทะ ร้อนๆ จนสุกเหลืองกรอบ จิม้ น้�ำ จิม้ หวานแกมเผ็ด แนมด้วยผักสดจำ�พวกผักชี ผักสลัด ก็เพิม่ รสชาติ ความอร่อยได้อกี แบบ หลังจากที่กาลครั้งหนึ่งได้เคยพาทุกท่าน ไปชิมความอร่อยของร้านปอเปีย๊ ะทอดห้าดาวเจ้าเก่า ในตลาดโต้รงุ่ (เก่า) กันมาแล้วในฉบับที่ 25 ฉบับนี้ เราจะพาท่านไปแวะชิมความอร่อยของ “เกีย๊ วทอด” เจ้าเก่ายอดนิยมอีกเจ้าหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามแยก ทางฝั่ง ทิ ศ ตะวั น ตกของโรงเรี ย นอนุ บ าลบุ รีรัม ย์ ปากทางเข้าร้านอาหารอิสาณ หรือก่อนถึงร้านเบเกอรี่ ซาซากิ (Sasaki) นัน่ เอง เรียกว่าอร่อยกันแบบไม่มี ชือ่ ร้านมายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว ลูกค้าทีแ่ วะเวียน มาต่างเรียกกันว่า “ปอเปีย๊ ะทอด โรงเรียนอนุบาล” “จากความชอบ กลายเป็นอาชีพ” ป้าลัย - ผกาพรรณ พันธุส์ งิ ห์ เจ้าของสูตรเด็ดความอร่อย เกีย๊ วกรอบ ถัว่ ทอด เยือ้ งโรงเรียนอนุบาล เล่าให้ฟงั ว่า “เมือ่ ก่อน บริเวณหน้ามูลนิธสิ ว่างจรรยาธรรม เคยมี เกีย๊ วทอดอยูเ่ จ้าหนึง่ ขายดีมาก ป้าก็ชอบไปซือ้ แล้วก็ ได้แต่สงสัยว่าทำ�ไมเค้าขายดีจงั ตอนป้าอยูบ่ า้ นนอก มีเกีย๊ วทอดเจ้าหนึง่ ขายดีมาก แล้วก็มขี นมกระป๋อง ซึง่ มีถว่ั อยูข่ า้ งใน ขนมกระป๋องนี้ ถ้าในเมืองเขาจะเรียก ขนมขาหมู ขาไก่ ถัว่ ทอด ตือคาโค ฯลฯ แต่ถา้ เป็น บ้านนอกนะ เค้าเรียกกันว่า ขนมกระป๋อง เพราะทอด ในพิมพ์รปู ร่างคล้ายกระป๋อง กลมๆ แบนๆ บ้านเราในสมัยก่อนเคยขายแต่กล้วยทอด มันทอด ปา้ จึงคิดอยากลองขายดูบา้ ง เมือ่ ก่อนป้าเข็น รถเข็นขาย มาขายแรกๆ ป้าขายอยูแ่ ถวๆ ติดกับร้าน น้�ำ พุ ขายได้พกั หนึง่ ก็ยงั ขายไม่คอ่ ยดี พอตอนสายๆ ป้าก็จะเข็นไปขายทีต่ ลาดนัดหน้าอำ�เภอ พอช่วงเย็นๆ ป้าก็เห็นว่าถนนเส้นนี้คนเยอะดีเพราะอยู่ใกล้โรงเรียน ป้าก็เลยไปตั้งขายอยู่ฝ่งั ต้นมะม่วงใหญ่ฝ่งั ตรงกันข้าม ขายมาเรือ่ ย ประมาณ 10 ปี จนกระทัง่ ได้มโี อกาสย้าย มาอยูท่ ต่ี รงนี้ เพราะเจ้าของบ้านตรงนีเ้ ค้าให้เช่า ก็ได้ มาทำ�ตรงนีต้ อ่ อีกประมาณ 10 ปีแล้ว
ยนอนุบาล 26 ถั่วทอด เกี๊ยวกรอบหมูโรงเรี สะเต๊ะ โรงหนังเก่า 25 กาลครั้งหนึ่ง
62 คอลัมน์“กาลครั้งหนึ่ง ไทรถเข็น
พอเศรษฐกิจมันเปลี่ยน ของก็แพงขึ้น ป้าก็เลยต้องขายแพงขึ้น ลูกค้าทุกคนจะพูดกับป้าว่า เนี่ย ถ้าของแพงขึ้น ก็ใส่น้อยลงหน่อย แต่ป้าจะบอกลูกค้าว่า อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ ป้าทำ�ของเหมือนเดิม แต่ป้าขอเพิ่มราคา นิดหน่อย จะได้กินของอร่อยๆ เหมือนเดิม
”
กาลครั้งหนึ่ง
ตำ�ผลไม้ ป้าลัย - ผกาพรรณ พันธุ์สิงห์
ตำ�มะขาม
หนังไก่ทอด
ป้าลัยขายเกี๊ยวทอดมาตั้งแต่อายุ 25 ปี จนตอนนี้ 45 ปีแล้ว ตั้งแต่ถั่วทอดราคา 3 ชิ้น 5 บาท แล้วป้าก็ขึ้นราคามาเป็นชิ้นละ 2 บาท พอเศรษฐกิจมันเปลี่ยน ของก็แพงขึ้น จากชิ้นละ 2 บาท ป้าก็ขาย 4 ชิ้น 10 บาท แล้วก็มาเป็นชิ้นละ 4 บาท แล้วปัจจุบันป้าขาย ชิ้นละ 5 บาท ลูกค้าหลายคนพูดกับป้านะ เค้าจะบอกว่า “เนี่ยนะ ของก็แพงขึ้น ก็ใส่ให้ มันน้อยๆ ลงหน่อย” แต่ปา้ จะบอกลูกค้าว่า “อย่าว่าอย่างนูน้ อย่างนีเ้ ลยนะ ป้าทำ�ของเหมือนเดิม แต่ป้าขอเพิ่มราคานิดหน่อย จะได้กินของอร่อยๆ เหมือนเดิม” นอกจากความอร่อยทีไ่ ม่เคยเปลีย่ นแล้ว ป้าลัยยังเน้นทีค่ ณุ ภาพ ของวัตถุดบิ ทีน่ �ำ มาปรุง และทีส่ �ำ คัญไม่แพ้กนั นัน่ ก็คอื ความสะอาด เมนูท่ี เป็นพระเอกและนางเอกของร้านเลย ก็คอื “เกีย๊ วทอด” และ “ถัว่ ทอด” จะมี อย่างอืน่ แจมมาขายด้วย อาทิ ปอเปีย๊ ะทอด เต้าหูท้ อด พร้อมน้�ำ จิม้ รสเด็ด มรดกตกทอดจากคุณยาย ทีป่ า้ ลัยได้ร�ำ่ เรียนมา ทำ�ให้ลกู ค้าหลายๆ คน ติดอกติดใจ แวะมาเป็นลูกค้าขาประจำ�อยูอ่ ย่างสม่�ำ เสมอ ถัว่ ทอด เกีย๊ วกรอบของป้าลัย เปิดร้านพร้อมจำ�หน่ายความอร่อย ทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ ตัง้ แต่เวลา 9.00 - 16.30 น. ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ ตัง้ แต่เวลา 9.00 - 20.00 น. แต่บอกไว้กอ่ นนะคะ ว่ามาช้าระวังของหมด อดกิน ส่วนใหญ่ไม่เกินบ่ายสามโมง ของก็เริม่ หมดแล้วค่ะ พิกดั ร้านตัง้ อยู่ บริเวณสามแยกก่อนถึงร้านซาซากิ เยือ้ งโรงเรียนอนุบาลบุรรี มั ย์ โทรศัพท์ 088 371 3762 อย่าลืมไปอุดหนุนนะคะ Deep fried wontons and bean cakes are stil favored after 20 years. Aunt Lai – Phakapan Pansing told us that she has started selling deep fried wontons and bean cakes since she was 25 years of age. At first, her stall shop was near Nam Phu bookstore. Later, she moved to the same area of her shop now, but on the opposite side of the road. After 10 years she moved to the present place. Her secret is using high-quality ingredients for any of her menus, including deep fried wontons, bean cakes, spring rolls, bean curd. Aunt Lai’s shop is located on Palad Muang Rd. near Anuban School, or on the same side as Sasaki bakery. It is open daily, from 9.00 a.m. – 4.30 p.m. on Mondays – Fridays, and from 9.00 a.m. – 8.00 p.m. on Saturdays and Sundays.
Contact
ตำ�ถาด
ร้านถั่วทอด เกี๊ยวกรอบ โรงเรียนอนุบาล ตัง้ อยูต่ รงสามแยกก่อนถึงร้านซาซากิ เยือ้ งโรงเรียนอนุบาลบุรรี มั ย์ ร้านเปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ 9.00 - 16.30 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 9.00 - 20.00 น. โทร : 088 371 3762
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
“ รับราชการแล้ วตัดสิน ไทรถเข็ น มน์กาลครั้งหนึ่ง 82 คอลัใจลาออกมาขายประกั น ท่ามกลางเสียงคัดค้าน จากครอบครัวและคน รอบข้าง ”
“พรุ่งนี้”
โตเกียว ทำ�เอง ส่งหลัง 16 ชัชฎา โสภณกังวาฬ ผูจ้ ดั การสาขาบุรรี มั ย์ บริษทั โตเกียวมารีน ประเทศไทย จำ�กัด
พรอ้ มบทสัมภาษณ์ ที่จะทำ�ให้ทา่ นรูจ้ ัก “ประกัน” มากขึ้น
สะบายดี : ก่อนทีจ่ ะเข้ามาสูธ่ รุ กิจประกันชีวติ ประกอบอาชีพอะไรมาก่อน ชัชฎา : รับราชการค่ะ เหตุผลทีล่ าออกจากงานราชการ เรารูส้ กึ ว่างานทุกงานไม่ได้เหมาะ กับทุกคน และคนทุกคนก็ไม่ได้เหมาะกับทุกงาน และเราก็เป็น 1 ในนัน้ เราทุกคนอยากได้ มากทีส่ ดุ คือ อิสรภาพด้านเวลา เพราะเราต้องทำ�งานแข่งกับเวลา แต่สว่ นตัวเห็นว่าเราคง ไม่เหมาะกับงานราชการแบบนี ้ เพราะคิดว่าหลังอายุ 60 ปี คงเทีย่ วไม่สนุกแล้ว พ่อแม่คง ไม่อยูร่ อให้เราเลีย้ งดูแล้ว ลูกๆ ก็คงไม่ตอ้ งการเวลาให้เราเลีย้ งดูแล้วตอนนัน้ และทีส่ �ำ คัญ การทำ�งานประจำ�เป็นกะเป็นเวร กับงานประกัน ไม่ Balance กันเท่าไหร่ จึงอยากเปิดโอกาส ให้คนอืน่ ประมาณว่า Put the right man on the right job นะคะ เมือ่ ถึงเวลาทีเ่ หมาะสม จึงลาออก เพือ่ จะได้ท�ำ ตามสิง่ ทีเ่ ราถนัดและตอบโจทย์ในชีวติ ของเราได้มากกว่านี้ ในเมือ่ ลูกค้าได้มอบหมายให้เราดูแล และเขาก็หวังกับประกันชีวติ ของเขา เราก็อยากทำ�ให้เต็มที่ ตามปณิธานว่า “เราขอดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว” เพราะความจริงใจ จะทำ�ให้ ลูกค้าเชือ่ มัน่ และให้ความไว้วางใจ ให้เราดูแลเขา ส่วนทีมงาน ส่วนตัวแล้วจะเน้นให้ทมี เห็นว่า “ตัวแทนและทีมงานทุกท่าน จะต้องถ่ายทอดความมุง่ มัน่ และตัง้ ใจ ในการมอบ การบริการทีด่ ที ส่ี ดุ ให้ลกู ค้าและแสดงให้ลกู ค้าของทุกท่านเห็นว่า การบริการของเรานัน้ มา จากความจริงใจของทีมงานทุกคน” สะบายดี : เข้ามาสูธ่ รุ กิจประกันชีวติ ได้อย่างไร ชัชฎา : เข้ามาในธุรกิจนีเ้ ป็นครัง้ ที่ 3 แล้ว เพราะ 2 ครัง้ แรกขาดผูน้ �ำ คอยชีแ้ นะ จึงทำ�ให้ ไม่ประสบผลสำ�เร็จ ตอนนีเ้ ราเป็นผูน้ �ำ แล้ว เราจะคอยใกล้ชดิ กับทีมงาน คอยชีแ้ นะตัวแทน อย่างใกล้ชดิ เพราะเป็นสิง่ สำ�คัญมากสำ�หรับตัวแทน อาชีพนีจ้ ะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็งา่ ย สะบายดี : เคยพบอุปสรรคทีท่ ำ�ให้เส้นทางสะดุดไปบ้างรึไม่ เล่าถึงอุปสรรคดังกล่าว ชัชฎา : อุปสรรคมีแน่นอน เมือ่ ตัดสินใจมาขายประกันกับแฟน พ่อแม่ ญาติ หรือเพือ่ น ร่วมงาน ต่างก็ไม่พอใจ เพราะคนส่วนมากเชือ่ ว่างานรับราชการ คือสิง่ ทีด่ ที ส่ี ดุ ส่วนตัว เราเองก็วา่ ดี แต่มนั ไม่เหมาะกับเรา ดังนัน้ จึงต้องหมัน่ ทุม่ เทกับงานประกันอย่างเต็มที่ จึง จะประสบความสำ�เร็จ สะบายดี : มีกลยุทธ์หลักในการทำ�งานในธุรกิจประกันชีวติ อย่างไร ชัชฎา : กลยุทธ์ในการทำ�งานประกัน ส่วนตัวก็เหมือนกับการอ่านหนังสือก่อนสอบ เราเริม่ อ่านตัง้ แต่เนิน่ ๆ ผลสอบออกมาแต่ละครัง้ เราจึงผ่าน แต่คนทัว่ ไปจะอ่านหนังสือหน้าห้อง ก่อนสอบ แน่นอนว่าผลสอบออกมาไม่เป็นทีน่ า่ พอใจ เราจึงจะสอนทีมงานตลอดว่าให้อา่ น หนังสือตัง้ แต่เนิน่ ๆ เพือ่ ผลสอบจะได้ออกมาดี ให้เหมือนกันทุกคน พูดง่ายๆ ว่าอยากอยู่ ในทีมเรา ผลสอบต้องเกิน100% นะ
สะบายดี : ปัจจุบนั มีทมี งานอยูใ่ นการดูแลกีค่ น และมีวธิ กี ารบริหารและสร้างแรงจูงใจ ให้ทมี งานอย่างไร ชัชฎา : ปัจจุบนั มีทมี งาน 40 คน ผูจ้ ดั การหน่วยอีก 4 หน่วย การบริหารทีมคือ เราจะ ตัง้ เป้าหมายแต่ละทีม เราจะคอยให้ค�ำ ชีแ้ นะ จนกว่าทีมงานจะบรรลุเป้าหมาย ทีส่ �ำ คัญ ขอขอบคุณ คุณสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร ทีไ่ ด้มอบผลิตภัณฑ์ ดีๆ อย่าง Pension Choice ทำ�ให้เราบรรลุเป้าหมายเร็วขึน้ ขอบคุณท่านรองทัพพ์เทพ จาตุพรพิพฒั น์ และ ผูจ้ ดั การดรุณี เซีย้ งสอน ทีแ่ นะนำ�ธุรกิจโตเกียวมารีน ขอขอบคุณ ผอ.อธิวฒั น์ พัฒนพันธ์ชยั และ ผูจ้ ดั การวรินดา สิรธิ นาสาร NAA อันดับ 1 ปี 2556 ผูค้ อยชีแ้ นะในธุรกิจและยังเป็นไอดอลอีกด้วย สะบายดี : ความสำ�เร็จล่าสุดคืออะไร/ ได้รบั รางวัลแห่งความสำ�เร็จอะไรบ้าง ชัชฎา : ความสำ�เร็จ บริษทั เดิมได้ Of the Year Recruiter อันดับ 1 ปี 2556 MDRT 4 ปีซอ้ น 1 ท่าน เราตัวแทนในส่วน MDRT 2 ท่านในปี 2558 Of the Year Recruiter อันดับ 3 ปี 2558 ผูจ้ ดั การ SDM อันดับ 1 เดือนมกราคม 2559 การแข่งขันยอด ระหว่าง ไทย - มาเลเซีย ปี 2558 ผูจ้ ดั การยอดเยีย่ มอันดับ 9 คุณวุฒทิ อ่ งเทีย่ ว อเมริกา - แคนนาดา 2013, บราซิล - อาเจนตินา 2015, ล่องเรือโอเอซิส Of the Sea 2016 คุณวุฒทิ อ่ งเทีย่ วญีป่ นุ่ , พม่า, มาเก๊า นอกจากนัน้ ยังมีผลงานกับโตเกียวมารีน 2 ปี เบีย้ ประกันรวม 20 ล้านบาท สะบายดี : บริษัทให้การสนับสนุนอย่างไรบ้าง ชัชฎา : สนับสนุนให้มีสาขาบุรีรัมย์และมีการจัดการที่ดี คอยซัพพอร์ต มีทีมงาน ที่สุดยอด มีกิจกรรมที่ดี ขอบคุณงาน Mini money expo ที่บุรีรัมย์ คอยสนับสนุน ให้มีแบบประกันที่ดีทำ�ให้เราทำ�งานได้ง่ายและสะดวกขึ้น สะบายดี : ตัง้ เป้าหมายอนาคตของธุรกิจนีไ้ ว้อย่างไร ทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาวและ จำ�นวนเบีย้ ทีท่ ำ�ได้และวางไว้ ชัชฎา : เป้าหมายในอนาคต ตอนนีต้ วั ดิฉนั เองอยูใ่ นตำ�แหน่ง SDM ซึง่ ถือว่าเป็นจุด ทีส่ งู ทีส่ ดุ ในตำ�แหน่งของผูจ้ ดั การ โดยตัง้ เป้าหมายว่าในปี พ.ศ. 2560 จะมียอดให้สาขา บุรรี มั ย์ 60 ล้านบาท มีทมี งานเพิม่ 60-100 ท่าน ผูจ้ ดั การใต้สงั กัดอีก 5 ท่าน และจะ เป็น AVP ในปี พ.ศ. 2560 สะบายดี : อยากฝากอะไรถึงผูช้ มทางบ้านทีก่ ำ�ลังมองธุรกิจประกันชีวติ เป็นทางเลือกหนึง่ ชัชฎา : เชือ่ ว่าโอกาสเป็นของทุกท่าน เงินอยูร่ อบๆ ตัวเรา ถ้าเรามีความมุง่ มัน่ ตัง้ เป้าหมายในชีวติ ทุม่ เทให้กบั มัน อาชีพไหนๆ ก็ส�ำ เร็จได้คะ่ ท่านสามารถติดตามอ่านเรือ่ งราวนีฉ้ บับเต็มได้ในหนังสือพิมพ์เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 322 ประจำ�วันที่ 16 - 30 เมษายน 2559
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 03 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Art Gallery: Souvenir: Art workshop เปนที่รวมการจัดแสดงงานสีน้ำ งานศิลปะ โปสการด ของที่ระลึก งานออกแบบดีไซนแปลกๆที่หายากจากนักออกแบบ สินคาทองถิ่นที่คัดสรรแลว หนังสือภาพสวยๆ อุปกรณงานศิลปะ
Watercolor FOR KIDS ความถนัดทางสถาปตย
พบกับหลักสูตร การเขียนสีน้ำ การเขียนการตูน การเรียนรูทางศิลปะดานตางๆ การออกแบบ ความถนัดทางสถาปตย สำหรับเด็ก เยาวชนและบุคคลทั่วไป นำโดยครูพร สอนศิลปและสีน้ำ และศิลปน ครูศิลปะดานตางๆที่หลากหลาย
"มาลองเขียนสีน้ำ แลวคุณจะรักสีน้ำ "
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ สีน้ำอะเตอลิเยร ในโครงการ Buriram Castle
Facebook; Srinam Artelier Tel 086-245-8552(พี่น้ำ), 062-325-8552(อ.พร)
Watercolor And Sketching
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 432 ไทรถเข็
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 23 ไทรถเข็
ปนัดดา
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
33
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ยุคสมัยของการ “พบ” และ “จาก” ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์
1 ในช่วงปี พ.ศ. 2500 - 2515 ที่ทางหลวง แผ่นดินของประเทศไทย ยังไม่ได้มีการก่อสร้างอย่าง ทั่วถึงนั้น การจะเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ หรือจะไป อีสาน คนไทยทุกชนชั้น ต้องอาศัยรถไฟเป็นพาหนะ หลัก และสถานที่สำ�คัญที่ต้องไปขึ้นรถไฟ ก็คือ “สถานี รถไฟ” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือที่เรารู้จัก กันดีในชื่อ “สถานีรถไฟหัวลำ�โพง” นั่นเอง ส่วนชาวบุรีรัมย์นั้น เมื่อจะเดินทางไปต่าง จังหวัด ก็ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ อาคาร สถานีหลังแรกสุดเป็นอาคารไม้ สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2468 ต่อมาได้ย้ายอาคารไม้หลังแรกนี้ไปสร้าง เป็นสถานีรถไฟหนองตาดและสถานีรถไฟแสลงพัน ส่วนอาคารสถานีแห่งใหม่ สร้างเป็นอาคารคอนกรีต จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2498 ซึ่งก็คืออาคารที่ยัง
เห็นกันในปี พ.ศ. 2559 (ภาพและเรื่องเคย ตีพิมพ์อยู่ใน “สะบายดี บุรีรัมย์” ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2014/2558) ในช่วงก่อนหน้า หรือหลังปี พ.ศ. 2500 เล็กน้อย หากมีใครที่จะเดินทางจาก บุรีรัมย์ หรือเดินทางมาอยู่ที่บุรีรัมย์ มักจะมี ขบวนคนไปรับไปส่งกันที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ในกรณีที่ไปส่ง ก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนตัว ออกจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ผู้ที่ไปส่งกับผู้ที่ จะเดินทาง มักจะถ่ายภาพหมู่ร่วมกันก่อน หากเป็นกรณีที่ไปรับ ก็จะมีการถ่ายภาพหมู่ ให้เห็นถึงการมาของอาคันตุกะ และขบวน ของผู้ที่ไปรับ ดังภาพถ่ายทั้ง 4 ภาพที่นำ�มา ให้ชมกันใน “สะบายดี บุรีรัมย์ ฉบับที่ 28”
บรรยากาศ และภาพถ่ายแบบนี้ จะไม่มใี ห้เห็น กันอีกแล้วสำ�หรับผูค้ นในปี พ.ศ. 2559 เพราะต่างไม่นยิ ม การเดินทางด้วยรถไฟ แต่มกั จะหันไปนิยมการเดินทาง ด้วยเครือ่ งบินกันแล้ว ยุคนี้ เราคงต้องไปรับผู้ที่เดินทาง มาบุรีรัมย์ และส่งผู้ที่จะเดินทางไปจังหวัดอื่นกัน ที่ “สนามบินสตึก” แทนแล้วครับ ภาพที่ 1 : เข้าใจว่าภาพนี้ น่าจะถ่ายโดย ผู้ที่กำ�ลังจะเดินทางออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ถ่าย ได้ถ่ายบนโบกี้รถไฟที่กำ�ลังจะเคลื่อนจากสถานี ด้าน หลังของภาพ เขียนด้วยลายมือว่า “ถ่ายวันส่ง ครูเล้า ที่สถานีรถไฟ จ.บุรีรัมย์” วันที่ 10 มิ.ย. 99 อีกบรรทัด เขียนว่า “ครูเล้า + บุญส่ง สุขอนันต์ ย้ายไปอยู่ เชียงราย 524 ถนนสุขสถิต จ.เชียงราย”
34
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 43 ไทรถเข็
เมื่อสอบถามจากผู้สูงอายุของเมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนที่ เห็นในภาพถ่ายนี้ (ยกเว้นเด็ก) ส่วนใหญ่เสียชีวิตไปหมดแล้ว และ ครูเล้า คือครูสอนภาษาจีนโรงเรียนฮั่วเคี้ยว และเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูป ดาวศิลป์ และคาดว่าน่าจะเป็นคนกดชัตเตอร์ภาพนีด้ ว้ ย ส่วนคุณบุญส่ง สุขอนันต์ ชาวคุ้มสะพานยาว ในอดีตเคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมือง บุรีรัมย์ มาหลายสมัย ทั้งครูเล้าและคุณบุญส่ง ยังมีชีวิตอยู่” (เจ้าของ ภาพ นายสุนัย โรจนาวรรณ)
2
ภาพที่ 2 : ผู้ใหญ่ที่รู้ข้อมูลเล่าให้ฟังว่า สตรีจากซ้ายไปขวา ทั้ง 3 คน ไปส่งคนที่กำ�ลังจะเดินทางจากบุรีรัมย์ คือ สตรี 3 คน ที่อยู่ ทางด้านขวาของภาพ สตรีคล้องกระเป๋าถือสีขาว คือ คนไทยที่เป็น ผู้พาสตรีทั้ง 2 คน ที่แต่งกายในชุดแบบจีน มาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ที่ อพยพมาจากประเทศจีน แล้วมาตั้งรกรากอยู่ที่ บ. กระสัง ต. อิสาณ อ. เมือง จ. บุรีรัมย์ (เจ้าของภาพ ครอบครัว ตั้งจรรยาธรรม ภาพนี้ ถ่ายเมื่อปี พ.ศ. 2500) ภาพที่ 3. เจ้าของภาพนี้ คือ นายประยงค์ ตั้งจรรยาธรรม (เสียชีวิตแล้ว) ซึ่งเป็นผู้ที่สวมกางเกงขายาวสีเนื้อ เสื้อแขนสั้นสีขาว ยืนติดกับพระภิกษุ พิมพ์ข้อความไว้ใต้ภาพว่า 9 ต.ค. 2501 ภาพ ไปส่ง “นายชู สุคนธมัต” ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ย้ายไปดำ�รง ตำ�แหน่ง ผวก.พังงา (เจ้าของภาพ ครอบครัว ตั้งจรรยาธรรม)
3
4
ภาพที่ 4. นายประยงค์ ตั้งจรรยาธรรม (เสียชีวิตแล้ว) คนที่ สวมเสื้อแขนสั้นสีขาว ยืนกลางภาพซึ่งเป็นเจ้าของภาพนี้ เขียนไว้ใน อัลบัม้ ภาพ ว่า “ภาพไปส่ง พ.ต.ต.เสมอ ดามาพงศ์” เดินทางไปรับราชการ ในตำ�แหน่งสารวัตร์ใหญ่ ตำ�รวจนครบาล บางรัก 31 กรกฏาคม 2501” (เจ้าของภาพ ครอบครัว ตั้งจรรยาธรรม)
ภาพที่ 5. สตรีที่สวมเสื้อลายดอก ถือกระเป๋ามีสายสีดำ� อยู่ตรงกลางภาพ น่าจะเป็นอาคันตุกะ ที่กลุ่มคนแต่งชุดข้าราชการ ไปต้อนรับ บุรุษที่สวมเสื้อแขนยาวสีขาว ผูกเนคไท อยู่หลังสุด คือ นายประทีป โรจนากาศ อดีตผู้อำ�นวยการสำ�นักงานประถมศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ (ยังมีชีวิตอยู่) (เจ้าของภาพ นางยุพดี วรรณสุทธิ์) 5
ภาพเก่าเล่าเรื่อง วิวัฒน์ โรจนาวรรณ/ โครงการตามหาเมืองแป๊ะ/www.facebook/”Wiwat Rojanawan”
35
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
Robinson
Buriram Update ไทรถเข็น
63 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
บ้านสนวนนอก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
BURIRAM’S BEST BUYS นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
ขาย โครงการลาวิลล่า พืน้ ทีเ่ ริม่ ต้น 50 ตร.ว. บ้านเดีย่ วสไตล์อติ าลี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้�ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องครัว จอดรถ 2 คัน แถมฟรี ตูเ้ สือ้ ผ้า เตียงนอน โซฟา โทร 081 470 6611 คุณพลอย
ขาย ตึกแถวบ้านหนองโพรง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้�ำ 1 ห้องครัว พร้อมพืน้ ทีซ่ กั ล้าง ทีจ่ อดรถ แถมฟรี ปัม๊ น้�ำ และถังน้�ำ ใกล้หา้ งสรรพสินค้าต่างๆ ทางสัญจรหลายทาง โทร คุณสุชาดา - 088 803 8231 คุณก้อง - 086 8799931
ขาย บ้านพรรณธิกา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้�ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว เกรด A น้�ำ ไฟ พร้อมอยู่ ทีจ่ อดรถ 2 คัน ฉนวนกันความร้อน แถมฟรี แอร์ 1 ถัง+ปัม๊ น้�ำ 1 เครือ่ งทำ�น้�ำ อุน่ 1 โทร 081 879 1902, 044 611464 คุณวิจติ รา
สนใจลงโฆษณาขาย/เช่า เช่า เอสบี แมนชัน่ ห้องพักหรูระดับโรงแรมใกล้รายวัน/รายเดือน ใกล้ตวั เมือง บรรยากาศดี ใหม่ สะอาด กว้าง แอร์ ทีวี เครือ่ งทำ�น้�ำ อุน่ โทรศัพท์ ฟรีไวไฟ แม่บา้ นทำ�ความสะอาด เฟอร์นเิ จอร์บวิ ท์อนิ ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด รปภ. โทร 044 111 781, 088 594 2787
บ้าน ห้องพัก โรงแรม อพาร์ทเมนต์ คอนโด
โทร. 0874588547 คุณเนส หรือติดต่อที่บ้านสะบายดี 40/70 ถ.อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
12ราศี
เปิดดวง
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 83 ไทรถเข็
ประจำ�เดือนเมษายน 2559
- ประสบการณ์การตรวจดวงตั้งแต่อายุ 16 ปี
- ปัจจุบันอยู่สังกัดของเว็บไซต์ ญาณเทพ (www.yantep.com) - ปี 2558 ติดอันดับ 57 หมอดูระดับพระกาฬ ในนิตยสารแพรว (fortune) - รับจองคิวตรวจดวงทุกวันทาง
ราศีเมษ (14 เมษายน – 14 พฤษภาคม)
การงาน เรื่องงานยังมีเรื่องให้เครียด ให้ต้องคิด ตลอดเวลา ระวังมีปัญหากับคนในครอบครัว การเงิน คุณจะรู้สึกถึงการใช้จ่ายเงินที่มากเกินไป แต่ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือไม่ให้คุณลำ�บาก ความรัก คนรักของคุณจะใช้จ่ายเยอะเป็นพิเศษ ตักเตือนกันให้ดี คนโสดยังไม่มโี อกาสพบคนถูกใจ
ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม)
ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน)
การงาน คุณอาจจะได้รบั ความผิดหวังจากสิง่ ทีม่ งุ่ หวัง ทั้งการงาน หรือการเรียน ตั้งใจ ขยัน และอดทน จะทำ�ให้คุณดีขึ้น การเงิน มีโอกาสได้รบั โชคจากการเสีย่ งโชค หรือมี รายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ความรัก คนมีคอู่ าจได้รบั ข่าวดีจากคนรัก คนโสด มีโอกาสได้เริ่มต้นความรักดีๆ กับใครบางคน
ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม – 16 กันยายน)
092 294 3269
ราศีมิถุน (15 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม)
ราศีกันย์ (17 กันยายน – 17 ตุลาคม)
การงาน คุณจะพบกับความเรียบง่าย กว่าที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุน และช่วยเหลือ การเงิน ในระยะนี้ทั้งคุณและครอบครัวส่วนใหญ่ จะประสบปัญหาการเงิน รวมถึงสุขภาพ หรือการ พลัดพราก ระมัดระวังการถูกยืมเงินแล้วไม่ได้คืน เดือนนี้ยังไม่เหมาะกับการเริ่มลงทุน ความรัก คนมีครู่ ะวังพากันไปสร้างหนี้ และอาจเกิด ภาระในภายหลัง คนโสด หากมีเงินติดกระเป๋ามาก จะใช้เงินเก่ง
การงาน เดือนนี้ มีโอกาสเริม่ ต้นอะไรใหม่ๆ ทีด่ ๆี เดือนแห่งความสำ�เร็จตามปรารถนา การเงิน ระยะนี้คุณจะกังวลถึงการเงินในอนาคต มากขึ้น และคุณอยากได้เงินมากกว่าที่มีอยู่ตอนนี้ ความรักให้ระวังการมีปากเสียงอาจจะทำ�ให้ต้อง แยกทางกันไปสักพัก ไม่ควรคุยกันด้วยอารมณ์จะดี ที่สุด คนโสดจะตกอยู่ในอาการเหงากายและใจ อยู่พอสมควร
การงาน มีโอกาสได้รับข่าวดีเรื่องความ ก้าวหน้าจากการทำ�งาน งานอาจจะมีมากขึน้ มีเกณฑ์ ได้รับคำ�ชมจากผู้ใหญ่ การเงิน เดือนนี้ยังเป็นเดือนที่เหมาะกับการลงทุน อาชีพเสริมเล็กๆน้อยๆ แต่ยังไม่มีลาภลอย ค่าใช้ จ่ายหมดไปกับของฟุ่มเฟือย ความรัก อาจดูจืดชืด หมั่นเติมความหวานให้กัน เรือ่ ยๆ คนโสดมีโอกาสได้ไปท่องเทีย่ วกับเพือ่ น หรือ ญาติพี่น้อง
ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม)
ราศีธนู (16 ธันวาคม - 14 มกราคม)
ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม)
ราศีมีน (15 มีนาคม – 13 เมษายน)
ราศีตุลย์ (18 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน)
การงาน คุณอาจจะถูกตำ�หนิจากเจ้านาย ลูกค้า ครูอาจารย์ หรือญาติผู้ใหญ่ น้อมรับคำ�ตำ�หนิแล้ว ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ปกติดีสามารถหมุนเงินได้ แต่ระวังคุณอาจต้อง เสียเงินเพราะคำ�ชักชวน ไม่ควรค้ำ�ประกัน ความรัก คนมีคู่มีโอกาสชวนกันไปเข้าวัดทำ�บุญ ทำ�ทาน หรือพากันไปพักผ่อนหย่อนใจ คนโสดจะ รู้สึกอยากเข้าหาทางธรรม
ราศีมังกร ( 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์)
การงาน หลายอย่างจะต้องรีบสะสาง ในช่วงนี้ ระวังความประมาท ขาดสติจะทำ�ให้การ ทำ�งานผิดพลาด ใครที่กำ�ลังเรียน เตรียมรับศึกหนัก จากการมอบหมายให้ทำ�รายงาน การเงิน รายจ่ายเข้ามาพร้อมๆ กัน ระวังการหมุนเงิน ไม่ทัน ไม่ควรให้ใครหยิบยืม หรือไปค้ำ�ประกันใคร ความรัก คนมีคู่มีโอกาสตั้งครรภ์ หรือได้รับข่าวดี จากคนรัก คนโสดยังไม่มีโอกาสได้พบเจอใคร แต่ มีความสุขดี
การงาน ความเหนื่อยล้าจากการทำ�งาน หรือการเรียนจะน้อยลง การเงิน เดือนนี้คุณจะรู้สึกสบายตัวมากขึ้นเงินที่ ถูกหยิบยืมไปมีโอกาสได้คืน หรือเงินที่คุณจะไป หยิบยืม ยื่นกู้ มีแนวโน้มว่าจะสำ�เร็จ มีโอกาสได้ ซื้อของถูกใจที่อยากได้มานาน ความรัก คนมีคู่อาจมีปากเสียงเพราะความไม่ไว้ใจ หรือความเจ้าชู้ของอีกฝ่าย คนโสดเพลิดเพลินไปกับ เพื่อนสนิทมิตรสหาย
การงาน ระยะนี้ดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์ มีโอกาสโยกย้ายกลับบ้าน หรือมีเวลาพักผ่อนมากขึน้ การเงิน ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นระบบ มากขึ้น แต่ถ้าได้เก็บออมไว้ก็จะดีมาก ความรัก คนมีครู่ ะยะนีช้ วี ติ เรียบง่าย คนโสดมีโอกาส พบคนถูกใจ และอาจจะมีอายุมากกว่า
การงาน คุณจะได้รับความช่วยเหลือจาก คนรอบข้าง ให้ได้งาน รวมถึงผลงานในการทำ�งาน ก็จะเข้าตาผู้ใหญ่ การเงิน คนทำ�ธุรกิจในระยะนีค้ ล่องตัวกว่าทีผ่ า่ นมา มีโอกาสได้ลองทำ�อะไรใหม่ๆ เป็นประสบการณ์ที่ดี อาจได้รับเงินก้อนจากคนในครอบครัว การทำ�งาน หรือลาภลอย ความรัก คนมีครู่ ะวังมีปากเสียงกันเพราะเรือ่ งเงินๆ ทองๆ คนโสดมีโอกาสเจอคนฐานะดี การงาน คุณจะได้รับข่าวดีจากเรื่องงาน หรือเรื่องเรียน แต่ระวังอย่าไปร่วมวงนินทาใครใน ช่วงนี้ อาจเดือดร้อน การเงิน อาจจะหมุนเงินแทบไม่ทัน จะเสียเงินไป เพราะความจำ�เป็น ลดของฟุม่ เฟือยลงจะช่วยได้มาก ความรัก คนมีคู่ระยะนี้จะพากันใช้เงินเก่ง คนโสด มีโอกาสพบเจอคนถูกใจในสถานที่ต่างๆเช่น ห้าง สรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง การงาน ดูปกติไม่มอี ะไรให้นา่ ตืน่ เต้น หรือ ต้องทุกข์ใจ อาจเกิดความเบื่อหน่ายบ้างให้อดทน การเงิน ไม่ขดั สนมากนักมีใช้เรือ่ ยๆ ไม่ขาดมือ ระวัง อย่าประมาทเป็นดีทสี่ ดุ คิดลงทุนหาธุรกิจเสริมได้ผลดี ความรัก เดือนนี้เป็นเดือนของคนโสดที่จะมีโอกาส แอบชอบ ตกหลุมรักใครเข้า หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นช่วงที่มีเสน่ห์ สำ�หรับคนมีคู่ ระวังมีปากเสียง กันเพราะคนอื่น
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์ นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 04 ไทรถเข็
เลี้ยงผีโรง
พิธีกรรม ประเพณีและความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ย้อนกลับไปสมัยทีค่ วามศิวไิ ลซ์ยงั มาไม่ถงึ หัวเมืองรอบนอก ในพืน้ ทีท่ ยี่ งั คงความเป็นชนบท ห่างไกลความเจริญ บางพืน้ ทีย่ งั คงเป็น ป่ารกชัฏ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งน้�ำ ลำ�ธาร ผลหมากรากไม้ บางแห่งก็ยงั คง เป็นดินแดนแร้นแค้นทุรกันดาร ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ไม่ตอ้ งพูดถึง น้�ำ ใช้ในการเพาะปลูกเลย แม้จะหาน้�ำ ดืม่ น้�ำ ใช้กแ็ สนจะลำ�บาก บางพืน้ ที่ อยูใ่ นหุบเขา การเดินทางแสนเหนือ่ ยยาก ยามป่วยไข้จะหาหยูกยารักษา หรือสุขศาลาใกล้บา้ น ยังต้องใช้เวลาเดินทางนานนับชัว่ โมง บางแห่งอยูต่ ดิ ชายแดนประเทศเพือ่ นบ้าน วันดีคนื ดีตอ้ งนอนขวัญผวากับเสียงปืนและ การรบราฆ่าฟันกันไม่หยุดหย่อน ไม่ตอ้ งพูดถึงเสือ้ ผ้าสีสนั สวยงาม หมวก ใบเก๋ รองเท้าส้นสูงและรถหรูราคาแพง ขอเพียงสามารถห่อห่มร่างกาย ให้คลายจากอากาศหนาวหรือร้อนจนเกินไป เพียงรองเท้าแตะสักคูเ่ อาไว้ใส่ กันความร้อนหรือขวากหนามได้กเ็ กินพอ บางชุมชนมีวดั เป็นทีพ่ งึ่ และ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ในขณะที่บางพื้นที่ยังต้องอาศัยพ่อมดหมอผีและ ไสยศาสตร์
ด้วยต่างทีอ่ ยู่ ต่างทีม่ า และต่างสภาพแวดล้อม ขาดทีย่ ดึ เหนีย่ ว จิตใจ กอปรกับวัฒนธรรมความเชือ่ หลากหลายรูปแบบ เพือ่ ให้ความต้องการ ของกลุ่มคนในชุมชนเป็นจริงขึ้นมา หรือเพื่อช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ ทีเ่ กิดขึน้ จึงก่อให้เกิดพิธกี รรมต่างๆ อาทิ พิธี “แห่นางแมว” อันเป็นความเชือ่ ว่าจะทำ�ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล หรือ “การแห่บงั้ ไฟพญานาค” เพือ่ บูชาพระยาแถน ซึง่ เชือ่ ว่าจะช่วยดลบันดาลให้ฝนตก เช่นเดียวกัน พิธกี รรม “ร่างทรง” ซึง่ เชือ่ ว่าสามารถติดต่อสือ่ สารกับวิญญาณ หรือ “การครอบครู ไหว้ครู” ไม่ว่าจะเป็นครูทางดนตรี ศิลปะ นาฏศิลป์ หรือแม้แต่ไหว้ครู แบบเขมรของกลุม่ คนทีเ่ ชือ่ หรือนับถือไสยศาสตร์ โดยแต่ละสำ�นัก จะมีการ จัดไหว้ครูขึ้นปีละครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของ ครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชามา ยังมีพธิ กี รรมทีค่ ล้ายคลึงกันกับพิธไี หว้ครูทมี่ แี บบอย่างมาจาก โบราณ หากต่างกันตรงทีเ่ ป็นพิธกี รรมทีจ่ ดั ขึน้ เพือ่ เลีย้ งผีบรรพบุรษุ เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทีไ่ ด้ลว่ งลับไปแล้ว พิธกี รรมนีย้ งั มีจดั ขึน้ ในหลาย ท้องถิน่ โดยยังมีความเชือ่ ทีค่ ล้ายคลึงกัน นัน่ ก็คอื “การเลีย้ งผีโรง” ซึง่ มักจะจัดขึน้ เมือ่ บ้านใดมีคนในครอบครัวเจ็บป่วยหนัก หรือจนแทบจะ เอาชีวิตไม่รอด เป็นต้น ฉบับนี้ เราจะพาท่านไปรู้จักกับการเลี้ยงผีโรง ที่บ้านหนองรี อำ�เภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์กันค่ะ ตาแช่ม (นามสมมติ) เป็นคนในหมูบ่ า้ นหนองรี ตาแช่มโชคร้าย ตกจากรถมอเตอร์ไซค์ มีอาการปวดหลังปวดเอวมาเรือ่ ยๆ ต่อมาอาการ ของแกก็หนักขึน้ ทีว่ า่ หนักขึน้ ก็คอื แปลกหนักขึน้ บางครัง้ แกก็พดู คนเดียว บางทีกเ็ งียบไม่คยุ กับใครเลย บางทีกพ็ ดู มากจนผิดปกติ การแต่งกายของ คนป่วยทัว่ ๆ ไป มักจะชอบแต่งกายสบายๆ เพือ่ ไม่ให้อดึ อัด แต่ตาแช่ม กลับต่างไป พักหลังๆ มานี้ ตืน่ เช้ามาแกก็จะนุง่ ผ้าไหมไปทำ�สวน ชอบ ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ แต่อาการป่วยของตาแช่มกลับทรุดลงเรื่อยๆ แล้วก็ หมดแรง พวกญาติพี่น้องก็กังวล จึงพากันไปหาหมอดู หมอดูบอกว่า ผีบรรพบุรษุ อยากให้เลีย้ งผี อยากมาอยูด่ ว้ ย ญาติๆ ก็เฝ้าสังเกตอาการ ของตาแช่มมาเรื่อยๆ ดูจากสีหน้าของตาแช่มตอนนี้ผิดกันกับเมื่อก่อน มาก จึงตกลงพากันไปปรึกษาที่บ้านนายโรง เพื่อจัดพิธีกรรม “เลี้ยง ผีโรง” ขึ้น การเลี้ยงผีโรงนั้น ก่อนถึงพิธีหนึ่งวันจะต้องตั้งโรงพิธีเอาไว้ เตรียมขนมและของเซ่นไหว้ให้พร้อม ขนมและของเซ่นทีใ่ ช้ จะคล้ายกับ ที่ใช้ในพิธีแต่งงาน เช่น เหล้า หัวหมู ไก่ ขนมต้ม นางเล็ด ขนม ฝักบัว มะพร้าวอ่อน เมื่อถึงวันพิธีในตอนเช้า ญาติๆ ก็พาตาแช่มไป
ละลม เมืองลับแล ตำ�นานเมืองบุรีรัมย์
41
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
อาบน้�ำ อาบท่าให้สะอาดสะอ้าน แล้วพาตาแช่มมาจับผ้ามอญ ผ้ามอญนี้ คือผ้าขาว ในพิธเี ชือ่ ว่าผ้ามอญนีเ้ ป็นสือ่ ระหว่างคนกับดวงวิญญาณ ทุกคน ทีท่ �ำ หน้าทีเ่ ป็นร่างทรงก็ตอ้ งไปจับผ้ามอญด้วยเช่นกัน เมือ่ เริม่ พิธี ก็จะมี การบรรเลงดนตรีไปเรือ่ ยๆ เป็นเพลงมอญต่างๆ เพือ่ อัญเชิญดวงวิญญาณ เมือ่ วิญญาณของผีบรรพบุรษุ เข้าร่างทรงแล้ว (บางทีดวงวิญญาณ อาจจะไม่ได้เข้าคนทีเ่ ป็นร่างทรงเสมอไป อาจจะมาเข้าทีต่ วั คนป่วยเลย ก็ม)ี ร่างทีถ่ กู เข้าทรง ก็ดเู หมือนจะลืมตัวเองไปเสียหมด นัง่ ตัวสัน่ งันงก ผุดลุกขึ้นรำ� หันไปคุยกับวงปี่พาทย์ว่าเพลงไม่เพราะบ้าง เสียงระนาด ไม่คอ่ ยดังบ้าง เปลีย่ นเพลงหน่อย บรรดาญาติมติ รก็จะมีการพูดคุยถามไถ่ ว่าเป็นใคร ต้องการอะไร ทำ�อย่างไรจึงจะให้ผู้ป่วยหาย มีใครทำ�อะไร ให้ผดิ ใจและก็มกั จะลงเอยด้วยการขอให้เลิกทำ�ร้ายผูป้ ว่ ย ขอให้ผปู้ ว่ ยหาย เมื่อผีตัวหนึ่งออกแล้ว ร่างทรงก็หยุดรำ�แล้วล้มฟุบลงไป หากว่ามีผตี วั อืน่ อยากจะเข้ามาอีก ร่างทรงก็จะหมดสติลม้ ลง แล้วลุกขึน้ รำ�ใหม่อีกครั้ง จนกว่าจะหมดผีตัวสุดท้าย จึงถือเป็นเสร็จสิ้นพิธีนี้ ไม่สามารถคาดคะเนระยะเวลาในการเข้าทรงได้ ในการเลี้ยงผีโรงนี้ บางทีก็จะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น เช่น ผีไม่ประทับกับร่างทรง แต่ไป ประทับกับญาติของผู้ป่วยหรือตัวของผู้ป่วย ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคย เต้นเคยรำ� หรือรำ�ไม่เป็นเอาเสียเลย แต่พอเข้าทรงกลับลุกขึ้นร่ายรำ� อย่างสวยงามก็มี เสร็จจากพิธแี รก ก็จะมีการเล่นชนไก่ แต่ในทีน่ จี้ ะเป็นไก่ทนี่ �ำ ผ้าขาวม้ามาพับเป็นรูปไก่ แล้วนำ�มาตีกัน หากในพิธีครั้งนั้นมีร่างทรง สองคน ก็จะแบ่งเป็นสองฝ่าย ร่างทรงคนแรกให้อยูฝ่ า่ ยบรรพบุรษุ ร่างทรง อีกคนหนึ่งให้อยู่ฝ่ายลูกหลาน หากว่ามีร่างทรงเพียงคนเดียว ก็จะให้ ลูกหลานเข้าไปเล่นแทน โดยมีความเชื่อว่าจะต้องให้ฝ่ายลูกหลานตีไก่ ชนะฝ่ายบรรพบุรุษ เพราะเชื่อว่า ถ้าฝ่ายลูกหลานแพ้ ลูกหลานจะอยู่ ไม่เป็นสุข แต่หากชนะฝ่ายลูกหลานก็จะอยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นก็จะ มีพิธีท่ีเรียกว่า “พิธีทุบมะพร้าว” เชื่อว่าเป็นการทุบเอาสิ่งไม่ดีออกไป เหมือนเราได้ล้างความทุกข์ความโศกออกจากตัว หลังจากนี้ก็จะทำ�ให้ ชีวิตเราพบแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นมงคล จากนั้นก็จะมีพิธีผูกขวัญ โดยให้ ผู้เฒ่าผู้แก่มาผูกแขนให้คนป่วย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี เราไม่สามารถบอกได้ว่า พิธีกรรมเหล่านี้สามารถช่วยรักษา อาการเจ็บป่วยของคนได้จริงหรือไม่ มีเพียงความเชื่อที่ผู้ใหญ่บางท่าน กล่าวว่าเป็นกุศโลบายช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับชาวบ้านที่ยังคงนับถือ ผีบรรพบุรุษอยู่ แต่ด้วยความเจริญที่ย่างกรายเข้ามาจนทำ�ให้ชาวบ้าน ในชนบทได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ ไม้สอย หยูกยา การรักษาพยาบาล การสือ่ สาร ตลอดจนการคมนาคม ที่สะดวก รวดเร็วและทั่วถึง ก็ดูจะทำ�ให้ความเชื่อและศาสตร์ลี้ลับ ซึ่ง มีมานมนานแล้ว เริ่มถอยห่างออกจากชาวบ้าน และยังคงเหลือน้อย เต็มที แต่กย็ งั คงมีชาวบ้านบางกลุม่ บางชุมชนทีย่ งั คงนับถือพิธโี บราณ และยังถือปฏิบัติสืบมา ขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูล คุณญาณกร เฮงวาณิชย์ คุณศุภนิมิตร ฤาไชยสา และคุณมานพ ประสงค์ทรัพย์
กาแฟ
ายรำ� 42 อักษราร่ไทรถเข็ น
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
24 คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง เกรี้ยวกราด หวาดกลัว ถูกทายท้า หลงผิด ว่าชีวิต พึงสังวร ยกตัวตน เด่นดี กว่าคนอื่น กดข่ม ระราน มานานยาว ในนาม ผู้ซื่อสัตย์ เสียสละ ยิ่งอวดตัว อัตตา ร่าเริงรำ� คารมคมปราชญ์ผู้เกรียงไกร ยิ่งอำ�นาจ ยิ่งเมตตา ยิ่งบารมี ให้เกียรติเขา เราก็ดี ผู้มีเกียรติ สุดยอดคน ผู้อ่อนโยน ทุกโมงยาม จะเกรี้ยวกราด หวาดกลัว ไปทำ�ไม ฉากสุดท้าย ทุกคน ไม่พ้นโลง
หลง
สุนัขบ้า หลงเงา จึงเห่าหอน ไม่แน่นอน ดำ�รงอยู่ เพียงครู่คราว ผ่านวันคืน ร้าวเจ็บ เพราะเหน็บหนาว นาม “คนดี” ขี่ม้าขาว มากู้ธรรม ภารธุระ แก้ปม สังคมต่ำ� ยิ่งก่อเวร สร้างกรรม ในนามดี ยิ่งเป็นใหญ่ ยิ่งอ่อนน้อม ค้อมศักดิ์ศรี ยิ่งอวดเบ่ง เขย่งฤทธี ยิ่งเสื่อมทราม ไม่ต้องเหยียด หยันใคร ให้เกรงขาม สุดยอดทราม ผู้หลงนาม ทุกยามโมง จะต่ำ�สูง เล็กใหญ่ หรือดังโด่ง ใครเลย คดโกง ความชั่วคราว
ภูรี ทีป์ธัช triwiset-0169@hotmail.com 01.03.04.2559.07:37
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
SF
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 44 ไทรถเข็
Vietnam เวี ย ดนาม หลังจากที่ได้พาแฟนๆ สะบายดีนั่งเครื่องตะลุยเมืองลุงแซม ดินแดนแห่งความศิวิไลซ์กันไปหลายเมืองแล้ว ฉบับนี้ เปลี่ยนมาใช้ชีวิต ติดดิน นัง่ รถเทีย่ วกันแบบยาวๆ วันหนึง่ สามประเทศเลยกันดีกว่า อ๊ะ อ๊ะ ไม่ได้พดู เล่นนะคะ สามประเทศจริงๆ จุดหมายปลายทางของเราในวันนีก้ ค็ อื ... ประเทศเวียดนาม... หนึ่งในสิบประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนนั่นเอง คณะทัวร์ของพวกเราออกเดินทางจากจังหวัดบุรรี มั ย์ในตอนดึก แวะจอดรับลูกทัวร์ทสี่ รุ นิ ทร์และศรีสะเกษแล้วก็นงั่ ยาวไปจนสว่าง ล้างหน้า ล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่มุกดาหารโน่นเลยทีเดียว หลังจากรับประทาน อาหารเช้ากันเสร็จสรรพ เราก็เปลีย่ นรถทัวร์คนั ใหม่ เพราะว่าคันเดิมเป็นรถ ที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งได้แค่ในประเทศไทยเท่านั้น เมื่อเปลี่ยนรถเรียบร้อย โชเฟอร์กพ็ าเราตรงดิง่ ไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทีส่ ะพานมิตรภาพไทย ลาว ซึง่ เชือ่ มระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว หลังจากผ่านด่านเป็นทีเ่ รียบร้อย ก็ถงึ เวลาทีร่ ถทัวร์คนั น้อยพาเราแล่นขึน้ ไป บนสะพานที่มีความยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร และกว้าง 12 เมตร เมื่อรถ แล่นไปได้สกั ระยะหนึง่ เราก็รสู้ กึ แปลกใจระคนตกใจเล็กน้อย เมือ่ มองเห็น ถนนไขว้สลับกันไปมา และอีกไม่กอี่ ดึ ใจต่อมา เราก็รสู้ กึ ว่าโชเฟอร์ได้เปลีย่ น เลนวิง่ รถ จากทีข่ บั รถวิง่ ชิดซ้ายมาตลอด กลายเป็นขับชิดขวา พอตัง้ สติ ได้กร็ สู้ กึ ว่าอันทีจ่ ริงก็ไม่นา่ แปลกใจเท่าไหร่ เพราะหลังจากทีเ่ ดินทางไปเทีย่ ว ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็พบเห็นการใช้ถนนเลนขวาเช่นเดียวกัน ในทีส่ ดุ ล้อรถทัวร์ของเราก็วงิ่ เข้าไปในแผ่นดินประเทศลาวอย่าง เป็นทางการ ทางด้านซ้ายมือของเราจะมองเห็นอาคารขนาดใหญ่หรือ ทีร่ จู้ กั กันในนาม “สะหวันเวกัสและคาสิโน” ซึง่ มีคนจำ�นวนมากนิยมพา
กันไปแสวงโชค ซึ่งส่วนใหญ่วาดหวังว่าจะมากอบโกย แต่ก็อาจหมดตัว เกลีย้ ง... กันทีน่ ี่ เราใช้เวลาอีกราวๆ 3 - 4 ชัว่ โมง ก็เดินทางมาจนใกล้ถงึ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอีกด่านหนึ่ง ก่อนถึงด่าน พวกเราแวะรับประทาน อาหารกลางวันกันตรงจุดแวะพักรถ อาหารที่นี่รสชาติถูกปากคนไทย ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น แกงจืด ผัดผัก ไข่เจียว ผัดเผ็ดหมู ยำ�แตงกวา ทอดมัน และเมนูที่เราอยากลองชิมมากที่สุดก็คือ “ส้มตำ�” เพราะเรา ได้รับการบอกเล่าจากหลายๆ คนที่เคยเดินทางไปประเทศเวียดนามกัน ก่อนหน้านี้ มาแล้วว่า “ทานให้เยอะๆ นะคะ นี่จะเป็นอาหารรสเผ็ดมื้อ สุดท้ายทีท่ า่ นจะได้รบั ประทาน” แล้วเราก็พบว่าไม่มสี ม้ ตำ�ทีไ่ หนจะอร่อย และเผ็ดได้สะใจเท่ากับบ้านเราอีกแล้ว
เวียดนาม
ตะลุยต่างแดน
45
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
และแล้ว... เราก็เดินทางถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศ เวียดนาม ระหว่างรอตรวจเอกสาร เราก็สงั เกตเห็นว่าทีน่ เี่ ป็นแหล่งของฝาก มากมาย ไม่ว่าจะเป็นถั่วหลากหลายชนิด ช็อคโกแลต กระเป๋า เข็มขัด และแอลกอฮอล์สารพัดดีกรี บรรดาลูกทัวร์ไทยซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น “นักช็อปอะฮอลิค” ทั้งหลายก็เริ่มต้นวาดลวดลาย การช็อปทันทีตั้งแต่ยังไม่ทันเหยียบเข้าประเทศเวียดนามเลยด้วยซ้ำ� ช็อปพอหอมปากหอมคอกันแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อ ภูมิประเทศและ ทิวทัศน์โดยรอบ ชวนให้นกึ ถึงบรรยากาศทางภาคเหนือของประเทศไทย แต่ความชุม่ ชืน่ และเย็นสบายมากกว่าหลายเท่า ถนนเส้นเล็กๆ รายล้อม ด้วยธรรมชาติและภูเขาอันเขียวชอุ่ม มีหมอกปกคลุมไปทั่ว แม่น้ำ�สาย
เล็กๆ ไหลผ่านตลอดสองข้างทาง บางช่วงก็เจอน้ำ�ตก บางคราวก็เจอ ชาวบ้าน บ้างก็อาบน้ำ� บ้างก็หว่านแห โชคดีที่เราเดินทางช่วงอากาศ เย็นสบาย บรรยากาศดีจนเวลาล่วงเข้าหกโมงเย็นโดยไม่รู้ตัว ความเมื่อยล้าจากการเดินทางเป็นเวลานาน ทำ�ให้ความง่วง เข้ามาเยือน หนังตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ก่อนความคิดจะหยุดชะงักลง ความคิดหนึง่ ก็แว่บเข้ามาบอกกับตัวเองว่า เราเดินทางข้ามสามประเทศ แล้วหรือนี่ ไทย ลาวและเวียดนาม เพียงวันเดียวเท่านั้นเอง เป็นไปได้ อย่างไรกัน สมองของฉันยังไม่ทนั ได้ตอบคำ�ถามของตัวเองเลยด้วยซ้�ำ … หนังตาก็ปิดสนิทลงเสียแล้ว (อ่านต่อฉบับหน้า)
สำ�นักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์
ลม้ ลุตำ�แหน่ กนยืน ง งานว่ า ง ไทรถเข็ 40 64จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำ�เดือน เมษายน 2559 อักษราร่ายรำ� คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง
สำ�นักงานจัดหางาน จังหวัดบุรีรัมย์ เว็บไซต์ : www.doe.go.th/buriram
บจก.ป้อมกิจ (สำ�นักงานใหญ่) 1. เจ้าหน้าที่บัญชี (5 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 22-30 (ป.ตรี) สนใจติดต่อ 383 ม.8 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30310 โทร. 044-955100-3 081-7900596 คุณยุทธพงศ์ จรูญชัย บจก.ซีอาร์ซี ไทวัสดุ 1. จนท.ป้องก้นการสูญเสีย (1 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ป.ตรี) 2. พนง.คลังสินค้า (2 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.3+) 3. พนง.ขายเครื่องมือช่าง (1 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.3+) 4. พนง.ขายประตู (1 อัตรา) ช (อายุ) 22-35 (ม.3+) สนใจติดต่อ 55 ม.1 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 044-110800, 061-4045078 คุณรัตนา วงค์ละคร เจ้าหน้าที่สรรหา บจก.ห้องเย็นสมพงษ์บุรีรัมย์ 1. พนักงานขาย (3 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ม.6 - ป.ตรี) 2. พนักงานขับรถยนต์ (8 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 22+ (ม.3+) 3. เสมียน (4 อัตรา) ช (อายุ) 35+ (ม.6 - ป.ตรี) 4. พนักงานขับรถ-โฟล์คลิฟท์ สนใจติดต่อ 409 ม.3 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 086-3008480 คุณนงนุช กีรติรัตน์ ผู้จัดการ บมจ.ไมด้าแอสเซ็ท 1. พนักงานเก็บเงิน (4 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ม.3 - ป.ตรี) 2. พนักงานตรวจสอบ (4 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ม.6 - ป.ตรี) 3. ตัวแทนขาย (5 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 18+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 369/3-5 ม.10 ถ.บุรรี มั ย์-นางรอง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ โทร.089-2803027, 044-617062,044-690076 คุณปรีดา น้อยพรหม หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น 1. ผู้ช่วยผู้จัดการ (1 อัตรา) ช (อายุ) 21+ (ปวช.) 2. พนักงานขับรถ (1 อัตรา) ช (อายุ) 21-35 (ม.6) 3. คนทำ�สวน (1 อัตรา) ช (อายุ) 21-45 (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร.044-614431,086-3658117 คุณเอกราช ชิดชอบ ฝ่ายบุคคล บจก.กิจมงคลบุรีรัมย์ 1. พนักงานบัญชี (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ปวส. ขึ้นไป) 2. พนักงานขาย (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 25+ (ปวส. ขึ้นไป) สนใจติดต่อ 116/1 ม.1 ถ.บุรรี มั ย์-สตึก ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรรี มั ย์ 31000 โทร. 044-613218, 085-4956777 คุณมนตรี ดำ�รงมงคลกิจ ร้านสโนว์วิช (Snow wish) 1. พนักงานขาย (4 อัตรา) ญ (อายุ) 20 - 30 (ม.6 ขึ้นไป) สนใจติดต่อ 68/6 ถ.ธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.081-9052599 คุณจิรายุ ชาญอุไร ผู้จัดการ เอราวัณรีสอร์ท 1. เสมียน (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ม.6 ขึ้นไป) สนใจติดต่อ 138 ม.18 ถ.บร-สตึก ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร.044-621123 ฝ่ายบุคคล
บจก.ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) 1. พนักงานโรงงาน(โม่หิน) (7 อัตรา) ช (อายุ) 18-35 (ไม่จำ�กัดวุฒิ) 2. ผู้ช่วยช่างไฟ (2 อัตรา) ช (อายุ) 21-35 (ปวช. ขึ้นไป) 3. พนักงานขับรถพ่วง (1 อัตรา) ช (อายุ) 21-45 (ม.6 ขึ้นไป) 4. พนักงานบัญชี-การเงิน (2 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 21+ (ปวช. ขึ้นไป) สนใจติดต่อ 30/2 ม.4 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. 085-4956777 คุณมนตรี ดำ�รงมงคลกิจ ฝ่ายบุคคล บจก.แอ็ดเวลเฮลตี้บุรีรัมย์ 1. ผู้จัดการ (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ปวส.) 2. ผู้ช่วยผู้จัดการ (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ปวช.) 3. แม่บ้าน (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ม.6) สนใจติดต่อ 33/4-5 ม.9 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. .089-4654522, 086-3155126 คุณพรรณณารักษ์ ทูปแป้น ผูจ้ ดั การฝ่ายบุคคล บจก.เดอะแรซซ์ แอท บุรีรัมย์ 1. พนักงานแคชเชียร์ (1 อัตรา) ช/ญ (อายุ) 20+ (ปวส.) 2. แม่บ้าน (1 อัตรา) ญ (อายุ) 20+ (ไม่จำ�กัดวุฒิ) สนใจติดต่อ 33/3 ม.9 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 31000 โทร. โทร.089-4654522, 086-3155126 คุณพรรณณารักษ์ ทูปแป้น ผูป้ ระสานงาน
นิตยสารสะบายดี บุรีรัมย์
น คอลัมน์กาลครั้งหนึ่ง 84 ไทรถเข็
แอด