Med_Bunsuk

Page 1

Development of Thai Traditional Medicine School to Promote Thais รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนแพทย์แผนไทยมหาบุญ

Mr. Bunsuk Ounkaew นายบุญสุข อุ่นแก้ว

This Thesis is Partial Fulfillment Degree of Philosophy (M.Ed.) Bodhisastra University, FL. USA. Academic Year ๒๐๑๘

รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนแพทย์แผนไทยมหาบุญ นายบุญสุข อุ่นแก้ว Bodhisastra University, Florida State, United State of America ปีที่จบการศึกษา ๒๕๖๑


บทที่ ๑ ความเป็นมาและสาคัญของเรื่องปัญหา ๑. การแพทย์แผนไทยมีผลอย่างไรกับสังคมไทยในปัจจุบันและอนาคต สถานการณ์ของการแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ มีมติให้ มีการผลั กดัน ประเด็น นโยบายสาธารณะด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ ทางเลื อกให้ เ ป็ นระบบบริ การสุ ขภาพหลั กของประเทศคู่ขนานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ความเคลื่ อนไหวของ สถานการณ์การแพทย์แผนไทยยังนับว่ามีอุปสรรคปัญหาหลายประการที่ทาให้ยังไม่สามารถเป็นระบบบริการสุขภาพ หลักของคนไทยในเวลานี้ได้ สถานการณ์การใช้บริการการแพทย์แผนไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒, ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๖ โดย รัชนี จันทร์เกษ และคณะ เผยแพร่ ในวารสารวิจั ย ระบบสาธารณสุ ขฉบับเมษายน-มิถุนายน ๒๕๕๙ เป็นหนึ่งในงานศึกษาเกี่ยวกับ สถานการณ์การแพทย์แผนไทยที่น่าสนใจ กล่าวคือ เป็นการศึกษาด้านการแพทย์แผนไทยในภาพรวมของประเทศจาก เอกสารผลการสารวจอนามัยและสวั สดิการของสานักงานสถิติแห่งชาติปี พ.ศ. ๒๕๕๒, ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๖ เกี่ยวกับ ภาวะการเจ็บป่วยและการเข้ารับบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านจากการสัมภาษณ์ประชากรทั่ว ประเทศปีละ ๒๘,๐๐๐ ครัวเรือน ผลการศึกษาพบว่า ประชากรไทยที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่เลือกไปรักษาที่สถานพยาบาลภาครัฐ การไปหาหมอ พื้นบ้าน/หมอแผนโบราณ หรือหมอนวดไทยมีค่อนข้างน้อย ไม่ถึงร้อยละ ๒ ของประชากรที่เจ็บป่วย การรักษาด้วยยา สมุนไพรในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง โดยพบว่ากลุ่มอายุ ๒๕-๕๙ ปีที่เจ็บป่วยมีการใช้ยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพร ระหว่างร้อยละ ๕๑.๐-๖๐.๓ ของประชากรที่เจ็บป่วยทั้งหมด ที่น่าสนใจคือโรคปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ เป็นกลุ่มอาการที่พบมากเป็นอันดับสอง แต่กลับมีการใช้ยา แผนโบราณหรือสมุนไพรเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๓ ๓๓.๔ และ ๓๑.๑ ของประชากรที่ใช้ยาแผนโบราณหรือ สมุนไพรในปี พ.ศ.๒๕๕๒, ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๖ ตามลาดับ ข้อค้นพบสาคัญจากการศึกษาครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยังเป็นทางเลือกที่ สาคัญในการดูแลสุขภาพของคนไทย เห็นได้จากการเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกเพิ่มขึ้น แต่การใช้ยาแผนโบราณและยาสมุนไพรยังไม่สามารถทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากการขับเคลื่อน ดาเนิ นงานด้านยาแผนโบราณและยาสมุน ไพรที่ยังขยายตัว ได้ไม่มากนักแม้จะได้รับการสนับสนุนในระดับนโยบาย ค่อนข้างสูงก็ตาม ด้วยเหตุที่ปัจจัยสาคัญที่เกี่ยวกับสมุนไพรตั้งแต่ต้นน้าไปจนถึงปลายน้ายังมีปัญหา นับตั้งแต่ปัญหาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ทั้งปัญหาการขาดแคลนและปัญหาคุณภาพ โรงงานที่ผลิตส่วนใหญ่ยัง ไม่ได้มาตรฐาน GMP การผลิตยาสมุนไพรบางชนิดยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และแหล่งจาหน่ายยา สมุนไพรยังมีน้อย ยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติมีจานวนน้อยเกินไป และไม่เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยที่มีอาการ เจ็บป่วยด้วยโรคที่หลากหลาย ที่สาคัญแพทย์แผนปัจจุบันยังขาดความเชื่อมั่นในการสั่งใช้ยาสมุนไพร อันมีผลมาจากไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ สนับสนุน ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นอุ ปสรรคสาคัญที่ฉุดรั้งการขับเคลื่อนเรื่องของสมุนไพรให้มุ่งไปสู่เป้าหมายต่าง ๆ ตาม นโยบายได้


ในขณะที่การบริการโดยหมอพื้นบ้าน หมอแผนโบราณ หมอนวดแผนไทย แพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือกมี แนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการบริการนวดไทย และทิศทางนโยบายของประเทศเอื้อต่อการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก แต่ระดับปฏิบัติยังไม่สามารถปรับตัวให้สอดรับกันนโยบายได้อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องของการขาดแคลน บุคลากรแพทย์แผนไทย และความเชื่อมั่นของแพทย์แผนปัจจุบันที่มีต่อการแพทย์แผนไทย ปัญหาด้านงบประมาณ ปัญหาด้านคุณภาพและมาตรฐานการบริการการแพทย์แผนไทย ตลอดจนการพัฒนาองค์ความรู้แพทย์แผนไทยและการ ให้ความสาคัญกับการแพทย์แผนไทยในสื่อสังคมยังกระจัดกระจาย มีแรงกระเพื่อมไม่มากนัก ในท้ายสุด ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะให้จัดทาแผนงานหรือโครงการที่สอดรับกับนโยบายและทิศทางการพัฒนา การแพทย์แผนไทย พัฒนาระบบการบริหารจัดการจัดสรรงบประมาณและบุคลากรทางการแพทย์แผนไทยให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามศักยภาพของหน่วยบริการ ตลอดจนกาหนดนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนความเข้มแข็ง ของการบริการการแพทย์แผนไทยในชุมชนและภาคธุรกิจเอกชน ๒. สถานการณ์การส่งเสริมโอกาสการเรียนแพทย์แผนไทยในสังคมไทยปัจจุบัน ครอบคลุมและเปิดโอกาส ให้คนทุกระดับเข้าถึงโอกาสจริงไหม ก่อนที่จะเปิดโรงเรียนนี้ สถานการณ์การส่งเสริมโอกาสการเรียนแพทย์แผนไทยในสังคมไทยปัจจุบัน ยังไม่เปิดโอกาสครอบคลุมและเปิด โอกาสให้คนทุกระดับเข้าถึงโอกาสจริง ซึ่งจะสังเกตได้จากจานวนโรงเรียนแพทย์แผนไทยที่ยังมีจานวนน้อยอยู่ หากเทียบ สัดส่วนกับประชากรของประเทศไทย ฉะนั้นหากมีการบูรณาการเรียนแพทย์แผนไทยเข้าไปในระบบสุขภาพของประเทศ โดยเฉพาะระบบบริการสุขภาพ ระดับปฐมภูมิ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง สร้างความมั่นคงทางด้าน สุขภาพให้กับท้องถิ่น ประชาชนสามารถพึ่งตนเองและช่วยเหลือสมาชิกในชุมชน ด้วยวิถีชุมชน ซึ่งเป็นการบริการที่มี ต้นทุนต่า และจาเป็นต้องพัฒนาการบริการให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามนโยบายประเทศไทย ๔.๐ และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิปัญญา ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจากอดีต และการเพิ่มความเชื่อมั่น ต่อประสิทธิภาพการรักษาด้วยองค์ความรู้แพทย์แผนไทย จาเป็นต้องศึกษาวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ด้วย ความเข้าใจในหลักการพื้นฐานองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย เพื่อให้สามารถเชื่อโยง ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ ประชาชนผู้รับบริการ การเรียนการแพทย์แผนไทยและการสาธารณสุขไทย ได้ฝังรากลึกในโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมไทยอย่าง ลึกซึ้ง และมีความสาคัญโดยตรงกับสุขภาพของคนไทยอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ ทั้งในยามปกติสุข และยามวิกฤต ซึ่ งภูมิ ปัญญาการแพทย์สมัยใหม่ไม่สามารถรองรับปัญหาเหล่านี้ได้ การละทิ้งภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยในอดีตที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการสูญเสียประโยชน์ของสังคมไทยที่จะได้รับ ประโยชน์จากประสบการณ์ของบรรพบุรุษ ในการดูแลสุขภาพของคนไทยมาช้านาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดารงความ เป็นชาติไทยมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมสุขภาพดีถ้วนทั่วหน้าอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพิงรัฐเป็นหลักเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งประเทศ กาลั งเผชิญปั ญหาความเหลื่ อมล้ าในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการด้านสุ ขภาพ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสี่ในการ ดารงชีวิต ปัญหาความคั บคั่งในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศ


ที่เห็นได้ชัดเจนคือ อัตราผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังไม่ติดเชื้อ สาเหตุสาคัญล้วนมาจากพฤติกรรมที่ก่อโรค เช่น วิถีชีวิต ที่เร่งรีบ มีการเคลื่อนไหวน้อยลง ขาดการออกกาลังกาย การรับประทานอาหาร การพักผ่อน ความเครียด สิ่งแวดล้อม และปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยตัวเอง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทาให้เกิดการเจ็บป่วย การที่ประชาชนมีความมั่นคงเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองในด้านสุขภาพได้จะ ช่วยลดงบประมาณค่าใช้จ่ายด้าน สุขภาพของรัฐ ซึ่งมีแนวทางดังนี้ ๑.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นให้เข้ามามีบทบาทในการกาหนดนโยบายด้านสาธารณะใน ประเด็นที่เกี่ยวข้อง ๒.ส่งเสริมและผลักดันให้นาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพมาใช้ในระบบสุขภาพโดยเฉพาะการดูแลตนเองให้เป็น รูปธรรมอย่างต่อเนื่อง จริงจัง ๓.ผลักดันให้มีโครงการและแผนงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาให้กับประชาชนในการนาสมุนไพรไทยมาใช้ ในการดูแล รักษา ในระบบสุขภาพอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ๔.ผลักดันให้มีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคด้านโภชนาการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง รวมทั้งการให้ข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้อง ๕. ส่งเสริมการดูแลสวัสดิการ รวมทั้งสุขภาพในผู้สูงอายุ ๓. โรงเรียนแพทย์แผนไทยแบบที่ดาเนินการจะมีผลดีกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง ทั้งต่อตนเอง คนเรียน คนสอนและ สังคมทั่วไปอันประกอบไปด้วย ๑. สร้างงานให้กับคนขาดโอกาสทางการศึกษา หลังจากที่ได้เปิดโรงเรียนแพทย์แผนไทยก็สามารถสร้างงานให้กับคนขาดโอกาสทางการศึกษาอย่างมากมาย สามารถนาไปใช้ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกิดอาชีพ สร้างรายได้ และเกิดคุณค่าต่อคนที่มาเรียน สามารถนาเอา ความรู้ไปบริการรับใช้สังคมในระดับต่าง ๆ ได้ เกิดคุณค่าในโรงเรียนก็คือมีคนได้มาเรียนด้านการนวด การประคบ การ อบสมุนไพร เป็นต้น ๒. สมุนไพรกับการรักษาโรค หลายคนที่มาเรียนเพราะได้คลุกคลีอยู่กับสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ใช้อยู่เป็นประจา เช่นเดียวกับครอบครัวมีความใกล้ชิดผูกพันธ์เป็นลักษณะของการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวและนามาประกอบอาชีพได้ ๓. การใช้ชีวิตและการรักษาแบบธรรมชาติ การรักษาโรคบางโรคทาได้ง่าย ๆ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแค่นั้นเอง หรืออาจใช้ยาสมุนไพรและการนวดก็ รักษาโรคได้ ซึ่งสามารถช่วยชาติประหยัดเงินได้หลายบาทเลย เพราะปัจจุบันรัฐบาลต้องจ่ายค่ายารักษาโรคและสุขภาพ เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี การหันมาใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติคงช่วยแก้ปัญหาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ๔. รู้และเข้าใจว่าการนวดก็รักษาโรคได้ การนวดเป็นศาสตร์ที่มหัศจรรย์มาก หลายคนตอนเริ่มเรียนแรก ๆ ก็ยังไม่แน่ใจมากนักว่าจะรักษาโรคได้จริง ๆ หรือเปล่า แต่พอได้ทาดูก็ทาให้ทราบว่าสามารถรักษาโรคได้ แม้ว่าจะไม่หายจากโรคแต่ก็สามารถบรรเทาอาการได้ ๕. ได้รักษาภูมิปัญญาไทย


การแพทย์ แผนไทยเป็น ศาสตร์ที่สืบทอดจากรุ่นสู่ รุ่น ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานและอยู่กับคนไทยจน กลายเป็ น ส่ ว นหนึ่ งของชีวิ ตประจ าวัน ไปแล้ ว เพี ยงแต่ ค นไทยยัง ไม่ รู้ว่ าอะไรบ้ างที่เ ป็น ความรู้ข องแพทย์ แผนไทย ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การทานอาหารรสชาติต่าง ๆ ถ้ารู้สึกปวดท้องเพราะมีลม ผู้ใหญ่จะให้กินใบกะเพรา โหระพา ขิง ข่า เพราะผักพวกนี้เป็นสมุนไพรรสเผ็ดร้อน ซึ่งมีสรรพคุณในการขับลมนั่นเอง ๖. ได้ช่วยเหลือและรักษาผู้ป่วย หลายคนที่มาเรียนแพทย์แผนไทย เพราะอยากเรียนแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ว่าสอบไม่ติด แต่หลายคนก็ไม่ได้ยึด ติดว่าการรักษาโรคจะต้องเป็นแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น ศาสตร์ความรู้อื่น ๆ ก็สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้เช่นกัน เพราะ ไม่ว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไร แต่ท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนกัน คือ ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วย ๗. การพัฒนาแพทย์แผนไทยให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน การแพทย์แผนไทยยังต้องการนักพัฒนาอีกมาก ดังนั้น ไม่ว่าจบออกมาแล้วจะประกอบอาชีพอะไร ก็ยังคง มี หน้าที่พัฒนาต่อไป พวกเราอยากเห็นแพทย์แผนไทยกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีตอีกครั้งหนึ่ง และเป็นที่พึ่งทางด้าน กายและใจสาหรับพี่น้องประชาชนในยามเจ็บไข้ได้ป่วยตลอดไป ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ให้กับครอบต่อไป

บทที่ ๒ บทบาทชีวิตในการพัฒนาโรงเรียน ข้อมูล เรื่องราว กรณีศึกษาชีวิตมหาบุญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตเกิดขึ้นเมื่อประมาณกว่า ๑๐ ปีมาแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร และ ความก้าวหน้าทางวิชาการของแต่ละสาขาวิชามีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวิชาชีพทางด้านการแพทย์และ สาธารณสุขซึ่งมีการกระทาโดยตรงต่อร่างกายของมนุษย์ จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาความรู้ให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างรวดเร็วนั้น การศึกษาต่อเนื่องจะช่วยทาให้ผู้ประกอบวิชาชีพมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เสริ ม ความรู้ แ ละวิ ทยาการใหม่ ๆ ที่ เกี่ ย วข้ อ งซึ่ งเป็ นประโยชน์ กับ การประกอบวิช าชีพ เพิ่ มศั ก ยภาพ ทัก ษะและ ประสบการณ์ในการปฏิ บั ติวิช าชีพ เป็ น การยกระดับและพัฒ นาการประกอบวิช าชีพให้ ก้า วหน้าเป็นประโยชน์ต่ อ ผู้รับบริการ และทาให้ผู้รับบริการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่ได้เปิดโรงเรียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ก็มีดาเนินการตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วย จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๗ หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ข้อ ๗ กาหนดว่าผู้ประกอบวิชาชีพ (ซึ่งหมายถึงบุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสภาการแพทย์แผนไทย) พึงหมั่นศึกษาหาความรู้ ความก้าวหน้าทางวิชาการต่าง ๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ตามที่สภาวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยกาหนด โรงเรียนมหาบุญการนวดไทยมีความเห็นว่าบุคลากรของหน่วยงานมีศักยภาพที่จะช่วยพัฒนารูปแบบและสาระ เพื่อเป็นแหล่งการศึกษาต่อเนื่องสาหรับผู้ประกอบวิ ชาชีพการแพทย์แผนไทยนั้น จึงจัดทา “โครงการการศึกษาต่อเนื่อง


สาหรับผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยให้กับทุกคนที่มาศึกษาที่นี้ ซึ่งตอนนี้กาลังดาเนินการจัดทาห้องสมุด พร้อม ดาเนินการจัดทาห้องปฐมพยาบาล ตลอดถึงการประสานงานเกี่ยวตัวอย่างยาสมุนไพร พร้อมกับตัวอย่างตู้ยาสมุนไพร เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต จากก้าวแรกของเด็กด้อยโอกาส จนกลายเป็นหมอแผนไทย สุภาษิตโบราณบทหนึ่งได้กล่าวว่า “เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขา จะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย” จากเด็กน้อย ๆ อยู่บ้านนอกในถิ่นทุระกันดานมองเห็ นทุ่งนา ท้องไร่ สัตว์เล็กน้อยใหญ่ตาม ถิ่นที่ตนเองอยู่ ในขณะเดียวกันจะมองหาแสงไฟฟ้า หรือว่าสิ่งที่อานวยความสะดวกสบายนั้นก็มีน้อย หนทางที่เรา มองเห็นก็เต็มไปด้วยธรรมชาติ ความทุกข์ทางกายและทางใจอาจมีบ้าง เมื่อเกิดมาแล้ว ชีวิตคนเราต้องเดินหน้าต่อไป ตามวิถีทางของความเป็นมนุษย์ จากอดีตที่ผ่านมาการศึกษาของเด็กบ้านนอกก็ไม่แตกต่างอะไรมากนอกจากว่า การศึกษาเกี่ยวกับการดาเนิน ชีวิตตามวิถีทางของบิดามารดาของตนเอง บิดามารดามีอาชีพอะไรก็เรียนรู้ได้โดยท่านเป็นผู้นา บิดาของตนเองเป็นหมอ ธรรม ในการรักษาผู้ป่วยในชุมชนนั้นและได้เดินทางไปดูแลคนป่วยตามชาชนของตนเองและที่อื่น บิดาได้เป็นหมอธรรม จากการเรียนรู้จากเครือข่ายด้วยกันสมัยนั้นมีอยู่เกือบสิบท่าน มีบิดาคือนายเทิง อุ่นแก้ว ได้เรีนรู้จากหมออาจารย์ใหญ่ คือพ่อขาว อุ่นแก้ว ท่านได้รวมรวมหมอธรรมทั้งหมดโดยการสมตั้งมั่นในการสทานศีล ๕ จิตตั้งมั่นแนวแน่ ได้ศึกษา วิธีการปฏิบัติของหมอเทิง จนเราได้แนวทางในการดาเนินชีวิตต่อมา สิ่งที่ตนเองได้ประจักษ์เห็นในการเดินทางตามบิดาในการบาบัดรักษาคน นั้นก็คือการใช้ หัวไพล น้ามันมะพร้าว และใช้พานไถ่เก่า ๆ ที่ผ่านการใช้งานแล้วนาไปด้วยทุกครั้ งที่ติดตามบิดาของตนเองในตามที่ต่าง ๆ ถึงแม้ว่าจะมืดค่าก็ ต้องไปเพราะว่าเป็นหน้าที่ของความหมอพื้นบ้านในการช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นจากความทุกข์ ให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้น ไปตามสติปัญญา และความศรัทธาของผู้คนในสมัยนั้น แรงดูถูกแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันสู่เป้าหมาย คือเราจะไม่ไปใส่ใจกับคาดูถูก หรือเสียงหัวเราะเยาะ ของคนที่ด้อยสติปัญญาทาไม คนที่มีความสามารถที่ แท้จริง ต้องพิจารณาได้ว่า อะไรเป็นความคิดต่างที่มีคุณค่า และอะไรเป็นคาสอนหรือคาพูดที่เราไม่ควรไปให้ราคา อะไร เป็นความคิดเห็นสนับสนุน ที่เราสามารถนาไปขยายผลในสิ่งที่เราทาให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นได้ และอะไรเป็นแค่การประจบ สอพลอที่เปล่าประโยชน์ ที่เราควรจะลืมให้เร็วที่สุด ถ้าเราปล่อยให้คุณค่าของตัวคุณเองลดลง เพียงเพราะไปใส่ใจ กับคาพูดดูถูกของคนที่ด้อยสติปัญญาเรา เราต้อง ลุกขึ้นมาลงมือทา ลุกขึ้นมาทาในสิ่งที่ตนเองคิดดีแล้วว่ามันถูกต้องอย่างสุดความสามารถ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พร้อมที่จะทุ่มเทแรงกาย แรงใจทั้งหมดในการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองแบบไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ ไม่มีรถ ก็วิ่ง


วิ่งไม่ได้ก็เดิน เดินไม่ได้ก็คลาน เรารู้ว่ามันเหนื่อย แต่ก็ต้องทาและบางครั้งเวลาที่เราเปรียบเทียบกับคนด้อยกว่าเรา บาง คนที่มีเงินมากกว่าเรา รู้จักคนมากกว่าเราอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบเราทุกอย่าง เราอาจจะท้อบ้าง รู้สึกน้อยใจในวาสนา ของตัวเองบ้าง ว่าทาไมเราถึงไม่มีอะไรเหมือนคนอื่นเขา ไม่มีใครมาช่วยมากมายแบบคน ๆ นั้น คือ เราท้อได้ น้อยใจได้ แต่ต้องลืมมันให้เร็วที่สุด แล้วมาลุยต่อ ถ้าเราเป็นคนที่คิดน้อยใจ แล้วท้อแท้ยอมแพ้ เลิกล้มความตั้งใจ นั่นก็แสดงว่าเรา เป็นคนที่สมควรให้คนอื่นดูถูกจริง ๆ นั่นแหละ คนที่จะได้รับการยอมรับว่าเก่งจริงจะต้องเป็นคนที่เก่ง ที่จะเอาชนะ อุปสรรค เก่งที่จะอดทนต่อสู้ไม่ยอมแพ้ เก่งที่จะเผชิญหน้า กับข้อจากัดทุกอย่าง จนในที่สุดก็ประสบผลสาเร็จไปหนึ่ง ระดับ บทเรียนจากการเริ่มต้นของบิดา มารดา คือการสอนให้เราได้รู้จักวิธีการดูแลคนป่วยจริง เอาใจเขามาใสใจเรา และต้องตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงามจากการเป็นลูกมือให้บิดา มารดาเริ่มต้นนั้นคือชีวิตที่ได้เรียนรู้ ต่อจากนั้นเป็น บทเรียนกับพระอาจารย์น้อย ทองสา แห่งวัดศรีขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ การตั้งใจเรียนรู้และนามาใช้จริงได้ผลจริง ก็คือ การลงมือปฏิบัติอย่างเต็มกาลัง มีสติปัญญา จากหมอตระเวนนวดจนมาเป็นผู้อานวยการโรงเรียนนวด จากเดิมชื่อว่า บุญสุข อุ่นแก้ว เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือนสิบ ปี ระกา ๒๕๑๒ ที่บ้านเลขที่ ๕๓ ม.๔ ต.สิ บ้านโนนสว่าง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ มีพี่น้องร่วมสายเลือด ๖ คน ๑.นายทวี อุ่นแก้ว จบ ป .๔ ๒ นายเกษม อุ่นแก้ว ถึงแก่ความตาย . ๓ นางเพ็ญศรี อุ่นแก้ว แต่งงานมีลูก .๑ คน จบ ป.๔ ๔นายบุญสุข อุ่นแก้ว จบ ปริญญาโท พุทธศาสตรศาสนา กาลังเรียน ปริญญาเอก . ๕นายบุญช่วย อุ่นแก้ว กาลังเรียน ปริญญาตรี . ๖นางสาวสารวย อุ่นแก้ว ถึงแก่ความตาย . บิดา ชื่อ นายเทิง อุ่นแก้ว อายุประมาณ ๘๑ ปี ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ที่ บ้าน โนนสว่าง ม.๔ ต.สิ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ มารดาชื่อ นางราตรี อุ่นแก้ว เกิดปี ๒๔๘๑ ถึงแก่การสิ้นอายุขัย ๗๖ ปี เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่ บ้านโนนสว่าง ม.๔ ต.สิ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้ารับการศึกษาตามเกณฑ์ที่โรงเรียนบ้านโนนอ้อ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ มีคุณเกษม และคุณครูสมทรง ครูอุทัย โนนใหญ่ ชั้น ป.๑ สมัยนั้นใช้กระดาษฉนวน เขียนลบเขียนลบ ระบบไฟฟ้าไม่มี อาศัยเดินเท้าไปเรียนและนาวัวควาย ไปเลี้ยงด้วย ช่วงพักเที่ยงจะพากันกลับบ้านไปหาข้าวกินกัน หรือบางวันก็ไปหากินข้าววัดซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน


เข้าเรียนได้ถึง ชั้นประถมปีที่ ๔ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๐ – ๒๕๒๓ ทางราชการได้มีการสร้างอาคารเรียนยกสูงขึ้นอีกหนึ่ง หลังเพื่อให้นักเรียนได้เรียนชั้นประถมปีที่ ๕ และปีที่ ๖ กระผมเป็นรุ่นแรกที่ได้เข้าเรียนชั้นประถมปีที่ ๕ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ บิดา มารดา ได้เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเสี่ยงโชคด้วยการขุดพลอยที่จังหวัดจันทร์ได้ยิน แต่บิดามารดาบอกว่าดูแลน้องสองคนนะ และให้ใช้เงินวันละ ๑ บาท สมัยนั้น ก็ได้ปฏิบัติตามที่บิดา มารดา สั่งไว้ โดย มีวัว และ ควาย อีก ๔ ตัวในการดูแล พร้อมกับน้องอีก ๒ คน ข้าพเจ้าได้แบ่งงานน้อง ๆ ได้ช่วยพี่ทางานเพื่อเป็น การดาเนินชีวิตต่อไป ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ถึงหลังจากจบการศึกษาประถมศึกษาปีที่ ๖ ไดบวชเป็นสามเณรให้คุณยาย คุณมารดา บิดา ที่วัดศรีขุนหาญ ต.สิ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดยมีหลวงพ่อน้อย ทองสา (เป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น บวชให้) เป็นพระอุปัชฌา ซึ่งท่านสอนด้านการนวด การบีบ การเลื้อยไม้ และอื่น ๆ นี้คือการดาเนินชีวิตที่ได้รับความรู้ จากครูอาจารย์ที่วัดศรีขุนหาญ ในปี ๒๕๒๖ ได้ออกเดินทางไปยังสานักปฏิบัติธรรมที่วัดไร่ส้ม ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรีเพื่อศึกษาปฏิบัติ ในปี ๒๕๒๙ ได้ย้ายสานักเรียนมาเรียนที่วัดพิชัยสงคราม ต.ปากน้า อ.เมือง จ.สมุทรปราการโดย ท่าน พระ มหาไพรินทร์ นันทสิงห์ นามาฝากและได้ศึกษาวิชาบาปีลีจบสอนได้เปรียญธรรม สามประโยค ในปี ๒๕๓๕ ได้อุปสมบทที่วัดศรีขุนหาญ โดยมีพระครูภัทรกิจวิธาน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า สุทธิญาโณ ได้ปฏิบัติครูอาจารย์แล้ว ได้รับจดหมายจากท่าน พระมหาจรัส ลีกา พระมหาโท จินากุล วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม จังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้เข้า เรี ย นที่มหาวิท ยาลั ยมหาจุฬ าลงกรณราชวิ ทยาลั ย ณ วัดสวนดอก อ.เมือง จ. เชียงใหม่ จนประสบความสาเร็จในปี ๒๕๔๐ พ.ศ. ๒๕๔๐ จบปริญญาตรี พธบ. เอกสังคมวิทยา วิทยาเขตเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ -๒๕๔๒ ได้สมัครเป็นครูอาสาที่โรงเรียนพรานวิบูลย์วิทยา ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้ดาเนินการแบบอย่างของครูอัตราในการพัฒนาอาชีพและความคิดให้กับนักเรียนเป็นความคิดของตนเอง โดยเน้น ความประหยัด พึ่งพาตนเองโดยการปลูกผักและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ใน ปี พ.ศ. ๒๕๔๓/๒๕๕๓ ได้มาปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์แผนไทยที่สานักงานสาธารณสุข จังหวัดนครราชสีมาใช้ชีวิตเป็นแบบเรียบง่าย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้ลาออกจากงานที่ทาประจากสานักสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาใช้ชีวิตที่ตนเอง ชอบและคิดงานในการสร้างสถานที่เรียน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จบปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาเขตนครราชสีมา

จังหวัดนครราชสีมา


จุดเปลี่ยนของชีวิตและแนวทางการทางาน ในเมื่อต้นสังกัดมีการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ นั้นเราสามารถเข้าดูได้แต่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้ารับการฝึกอบรม แต่ ทั้งนี้และทั้งนั้นการกาหนดคุณสมบัติเป็นสิ่งที่สาคัญ เมื่อสิ่งที่เราปรารถนาแล้วมิได้ดังใจปรารถนาก็เป็นเรื่องที่แสนจะ ลาบาก การทางานต้องมีความรักความสามัคคีกันถึงจะไปรอด การทางานในช่วงนี้เป็นการทางานตามคาสั่งและตาม นโยบายของงานที่ต้นเองรับผิดชอบ ในที่สุดต้องพบกับความจริงว่า ชีวิตของคนเรามีขึ้นก็ย่อมมีลง เหตุการณ์ทั้งหลายที่ เกิดขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา นั้นก็คือ ๑. การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารนายแพทย์สาธารณสุขคนใหม่ ๒. เปลี่ยนงานที่เคยรับผิดชอบด้านการแพทย์แผนไทยก็ให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นแทน เช่นงดการออกหน่วยพบปะ ประชาชน งดการจัดรายการวิทยุ ๓. มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง เช่น มารดาจากไป ภรรยา จากไป อื่นๆ จุดเปลี่ยนแปลงของชีวิตตนเอง เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปจากที่เคยอบอุ่นและมีความสุขกับครอบครัวมีบิดา มารดา และครอบครัว ตลอดถึงมีการ งานทา มีกัลป์ยานมิตรที่ดีงาม ต้องมาพบกับคาว่า มีพบมีจาก “ตามโลกธรรม” มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ มีสุข มี ทุกข์ เป็นไปตามสัจจะธรรมของไตรลักษณ์ ในที่สุดต้องมาอยู่เพียงลาพังคนเดียว เมื่อทุกอย่างจากไปเหมือนตอนเรา เกิดมาไม่มีอะไรติดตัวมา วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ได้ประกาศขายตึกชั้นเดียวเนื้อที่ ๔๔ ตารางเมตร แถวบ้านหนองขอน ต.โคกกรวด อ. เมือง จ.นครราชสีมา ในเดือน สิงหาคม ๒๕๕๓ ได้ตัดสินใจซื้อที่ดิน ๑ งาน ๗๓ ตารางวา จากคุณพี่บุญธรรม บวชกระโทก ม.๘ ต. ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา หลักการทางานในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมา ๑. ๒. ๓. ๔.

มีความพอใจและมีใจรักในสิ่งที่ตนเองจะทา มีความเพียรอย่างไม่ย่อถ้อกับสิ่งทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น มีจิตใจหนักแน่นในเรื่องที่ตนเองจะทาคือโรงเรียน มีสติพิจารณาในการทางานของตนเองว่าจะออกมาเป็นเช่นไร

แนวคิดในการจัดตั้งโรงเรียนต้องประกอบไปด้วย


๑๐

๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖.

ต้องมีงบประมาณ คือทุนในเบื้องต้น เช่น ต้องมีที่ดิน มีเงิน มีอาคารสถานที่ เป็นต้น การขออนุญาตการก่อสร้างจากเทศบาลตาบลด่านเกวียน การขออนุญาตใช้ชื่อโรงเรียนจากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต ๒ การเขียนโครงการจัดตั้งโรงเรียน การเขียนหลักสูตรและการขออนุญาตใช้หลักสูตร การจัดตั้งคณะกรรมการในการตรวจประเมินทั้งอาคารสถานที่และหลักสูตรที่ขอมา ฯลฯ

เปิดโอกาสให้ลูกศิษย์จนเขาเกิดอาชีพด้วยแพทย์แผนไทย ผู้ที่ได้สาเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนมหาบุญการนวดไทย ทุกคนมีโอกาสในความสาเร็จในหน้าที่การงานของ ตนเองและสามารถสร้างโอกาสให้กับตนเองได้เสมอ ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราจะทาอย่างไรให้คนอื่นได้มาหาเรา แล้วกลับไปอย่างมีความสุข ทั้งทางกายและทางใจ นอกจากนั้นเรายังเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ทุกคนมีอาชีพด้านการแพทย์ แผนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศเยอรมัน ร้านสุกัญญา สามารถสร้างอาชีพให้แก่ลู กศิษย์ที่ไปทางาน ยังประเทศเยอรมัน หลายรัฐด้วยกัน ประเทศออสเตรีย ร้านเปิ้ลมาสซาส สามารถสร้างอาชี พให้แก่ลูกศิษย์ที่ไป ทางาน ในจั งหวัดนครราชสี มา มีลู กศิษย์ ได้ไปเปิดร้านแพทย์แผนไทย เช่น ธัญญพงษ์คลิ นิกแพทย์แผนไทย, ร้าน พิชญญาดานวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา, ร้านอัมพรนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ อาเภอปาก ช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นส่วนหนึ่งแห่งความภาคภูมิใจในการสร้างงานสร้างอาชีพระยะสั้น ๆ ให้กับพี่น้องชาวไทย

หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข ๑. หลักสูตรนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ ๖๐ ชั่วโมง ๒. หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ ๑๕๐ ชั่วโมง ๓. หลักสูตรการนวดด้วยน้ามันหอมระเหยเพื่อสุขภาพ ๑๕๐ ชั่วโมง ๔. หลักสูตรการนวดสวีดิส ๑๕๐ ชั่วโมง หลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากระทรวงศึกษาธิการประกอบไปด้วย ๑. หลักสูตรการให้บริการสปาเพื่อสุขภาพ ๕๐๐ ชั่วโมง ๒. หลักสูตรผู้ดาเนินการสปา ๑๐๐ ชั่วโมง เอกสารในการรับสมัครเรียนหลักสูตรระยะสั้น ๑. สาเนาบัตรประชาชนหรือราชการ ๒. สาเนาทะเบียนบ้านและรูปถ่ายไม่เกิน ๖ เดือน ตารางการเรียนการสอน


๑๑

๑. นอนตื่นเช้า ตี ๕ กว่า ๆ ทากิจวัตรสวนตัว เช่น บางกลุ่มทากับข้าว บางคนทาความสะอาด บริ ๒. เวลา ๗.๐๐ น. รับประทานอาหารพร้อมๆ กัน ๓. เวลา ๐๗.๓๐ น. ไหว้พระ สวดมนต์ และเจริญสมาธิภาวนา และต่อด้วยกิจกรรมการออกกาลังท่าฤษีดัดตน วันละ ๑๕ ท่า ๔. เวลา ๐๙.๐๐ น.-๑๒.๐๐ น. เข้าห้องเรียน (มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ) ๕. เวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. พักรับประทานอาหาร ๖. เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. เข้าเรียนตามปกติ ๗. เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไปนักเรียนที่พักก็รับประทานอาหารและทบทวนการเรียน หมายเหตุ กาหนดการตารางการเรียนการสอนให้เป็นไปตามหลักสูตรที่กาหนด และเมื่อนักเรียนได้เรียนครบตาม จานวนหลักสูตรเฉพาะในห้องเรียนแล้ว กิจกรรมต่อไปคือ การออกหน่วยบริการประชาชนตามหน่วยงานที่ขอมา เช่น ตามวัด ตามโรงเรียนและตามมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยการเก็บเคส คนล ๓๐ ราย ปัญหาที่พบบ่อยสาหรับผู้คนมาเรียน ๑. เรื่องครอบครัว เช่น การแยกทางกันอยู่ ๒. เรื่องหน้าที่การงาน เช่น ออกจากงาน หรือ หรือลาออกจากงานที่ทาอยู่เพื่อเปลี่ยนงานใหม่ ๓. ต้องการเปิดกิจการของตนเอง ต้องการเดินทางไปทางานต่างประเทศ ๔. ไม่มีใบประกอบการด้านนั้นจึงได้มาเรียน หลักสูตรวิชาชีพการแพทย์แผนไทยรับรองหลักสูตรโดยสภาการแพทย์แผนไทย ๑. ประเภทเวชกรรมไทยในระยะเวลาเรียน ๓ ปี ๒. ประเภทเภสัชกรรมไทย ระยะเวลาเรียน ๒ ปี ๓. ประเภทการนวดไทย ใช้ระยะเวลาเรียน ๒ ปี ๔. ประเภทการผดุงครรภ์ไทย ใช้ระยะเวลาเรียน ๑ ปี ระเบียบและมาตรฐานการขึ้นสอบเพื่อรับใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ๑. ผ่านการศึกษาเล่าเรียนที่สถาบันการศึกษาที่ได้รับรองจากสภาการแพทย์แผนไทยตามเกณฑ์ ผ่าน ๖๐% ๒. ได้รับหนังสือรับรองการศึกษาจากสถาบัน ๓. สมัครสอบออนไลน์ตามระยะเวลาที่สภากาหนด ๔. ชาระค่าสมัครสอบภาคทฤษฎีที่ธนาคารกรุงไทย รายวิชาละ ๕๐๐ และชาระค่าเอสเอมเอส ๓๐ บาท ๕. ชาระค่าขึ้นสอบภาคปฏิบัติ รายวิชาละ ๕๐๐ บาท อัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (๑) ค่าขึน้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท (๒) ค่าต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท (๓) ค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพ


๑๒

การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๕๐๐ บาท (๔) ค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท (๕) ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท ผลสาเร็จของการศึกษาหลักสูตรระยะสั้น (ไทย เท้า ออย สวีดิส) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ สาเร็จการศึกษาชาย ๑๐ คน หญิง ๑๐๐ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ สาเร็จการศึกษาชาย ๕ คน หญิง ๒๐๐ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สาเร็จการศึกษาชาย ๒๐ คน หญิง ๓๕๐ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ สาเร็จการศึกษาชาย ๑๐ คน หญิง ๓๔๐ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ สาเร็จการศึกษาชาย ๗ คน หญิง ๓๖๐ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ สาเร็จการศึกษาชาย ๓๐ คน หญิง ๔๐๐ คน มกราคม ถึง ตุลาคม ๒๕๖๑ ผลสาเร็จของการศึกษาหลักสูตรวิชาชีพแพทย์แผนไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐

ประเภทผดุงครรภ์ไทย ส่งสอบ ๖ สอบผ่าน ๔ ประเภทผดุงครรภ์ไทย ส่งสอบ ๙ สอบผ่าน ๖ ประเภทการนวดไทย ส่งสอบ ๑๐ สอบผ่าน ๖ คน ประเภทเภสัชกรรมไทย ส่งสอบ ๑๒ สอบผ่าน ๗ คน ประเภทเวชกรรมไทย ส่งสอบ ๓ สอบผ่าน ๒

ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ เตรียมตัวสอบภาคปฎิบัติระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ประเภทผดุงครรภ์ไทย ส่งสอบ ๑๔ สอบผ่าน ๘ ประเภทการนวดไทย ส่งสอบ ๑๒ สอบผ่าน ๖ คน ประเภทเภสัชกรรมไทย ส่งสอบ ๑๕ สอบผ่าน ๑๐ คน ประเภทเวชกรรมไทย ส่งสอบ ๗ สอบผ่าน ๕ คน ผลสาเร็จของผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความเป็นมืออาชีพ มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ ยอมรับของ ชุมชนและสังคม ใช้กระบวนการพัฒนาคุณภาพงาน มีการกระตุ้นการทางาน การนิเทศจากเขตการศึกษา การ ติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงาน ครูทุกคนผ่านการอบรม ตามโครงการพัฒนาครูผู้รับมอบตัวเป็นศิษย์ จากสภาการแพทย์แผน ไทย โรงเรียนได้รับการพัฒนาให้น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน มีบรรยากาศที่สะอาด ร่มรื่น สวยงาม ปลอดภัย และเป็นโรงเรียน ปลอดยาเสพติด นอกจากนั้นโรงเรียนยังสร้างภาคีเครือข่ายร่วมมือพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่หลากหลายจากทุกภาค ส่วน โรงเรียนมีการพัฒนาระบบการริหาร ระบบประกันคุณภาพภายในจนได้รับความการประกันคุณภาพจาก กระทรวงศึกษาธิการ


๑๓

บทที่ ๓


๑๔

สรุปผลการศึกษา ถ้าเราจะสร้างโรงเรียนให้สาเร็จนั้น แต่ละท่านอาจมีแนวคิดไม่เหมือนกัน บางคนอาจคิดว่าทาแบบง่าย ๆ ก็ได้ บางคนไม่มีทุนที่จะทาแต่อาศัยมีสติปัญญาก็ต้องอาศัยคนอื่นมาทา แต่บางคนอาจมองหาแต่ผลกาไรด้านการเงินอย่าง เดียวก็มีเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้และทั้งการจัดตั้งโรงเรียนและการบริหารเป็นไปพร้อมกันก็ย่อมมีอุปสรรค์บาง แต่ต้องผ่าน จุดนั้นไปให้ได้ เมื่อทาได้แล้วเราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาเรียนรู้ “สิ่งที่สาคัญ อย่ามองเห็น ว่าเงินเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเรามองเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่เราจะเต็มไปด้วยความโลภ ถูกความโลภครอบงา ในที่สุดก็จะพัง” แต่ถ้าสร้างด้วย ใจที่รักและศรัทธาในวิชาชีพของตนเองเพื่อประโยชน์สุขของคนสวนมาก เราจะอยู่อย่างมีความสุข ไม่รวย ไม่จน แต่คุณค่าทางจิตใจมากกว่า คื อได้อริยทรัพย์ภายใน” ความสาเร็จในการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์แผนไทยต้องประกอบ ไปด้วย ๑. ต้องมีทุนในการจัดตั้งโรงเรียน ทุนที่เราจะมาจัดสร้างโรงเรียนนั้นเป็นเรื่องสาคัญ ประการแรกก็คือเรื่องของที่ดิน ที่ดินนั้นต้องเป็น นส.๓ หรือจะต้องเป็นโฉนด เท่านั้นหรือจะเป็นที่ดินเช่าก็ได้ ประการที่สองคือต้องมีเงิน เงินทุนที่สาคัญในการดาเนินกิจการ ทุกอย่างสาหรับค่าจ้างเป็นปัจจัยหลักในเรื่องแรก ๒. ต้องมีอาคารสถานที่ปลอดโปรง อาคารสถานที่นั้นต้องแข็งแรง ปลอดภัย บริเวณต้องร่มรื่นคือ สิ่งแวดล้อม รอบๆ ต้องดูดีสะอาดตา แม้กระทั่งเรื่องระบบน้าอุปโภคและบริโภค การสัญจรไปมาพอสะดวก อากาศ ถ่ายเทได้สบาย ไม่มีสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ๓. บุคลากรของโรงเรียนต้องเป็นผู้ที่เสียสละ สาหรับครูที่ทาการสอนต้องเป็นผู้มีจิตอาสา เป็นครูที่มีความรู้ ความสามารถในวิชานั้นๆ ตามหลักสูตรที่กาหนด มีอัธยาศัยดี มารยาทดี ตลอดถึงเป็นบุคคลตัวในการทาหน้าที่ของ ตนเองและ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับบรรดาลูกศิษย์ได้ และให้คาปรึกษาได้ตลอดเวลา การเสียสละเป็นการ เสียสละเวลาบ้าง เสียสละทรัพย์บาง นอกจากนั้นทางโรงเรียนเองต้องให้ความสาคัญกับบุคลากรที่ทาการสอน ส่งเสริม ให้ครูทั้งหลายมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อไป ๔. การจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนการสอนต้องเป็นไปตามหลักสูตรคือเนื้อหาของหลักสูตรตั้งแต่เช้าถึงเย็นวันละ ๖ ชั่วโมงสาหรับอาชีพ เบื้องต้น เริ่มแต่การไหว้พระสวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา แผ่เมตตา จนครบกระบวนการ ต่อจากนั้นเริ่มเข้าเรียน ตั้งแต่เวลา ๘.๐๐ น.ถึง ๑๒.แ๐๐ น. และเข้าเรียนต่อ ๑๓.๐๐ ถึง ๑๖.๐๐ น. ต่อจากนั้นจึงได้เลิกเรียน จากเรียนตัว ต่อตัวก็มี เป็นกลุ่มก็มี และเรียนตามอัธยาศัยไปด้วย ตามให้ทันตามยุคตามสมัย เรียนระบบใหม่ ๆ

๕. การมีส่วนรวมและการสนับสนุนจากชุมชน การทางานได้ของโรงเรียนได้นาทุกนึกศึกษาออกหน่วยเพื่อไป บริการทางสังคม เช่น การนวด การตรวจโรคทางหัตถเวช การแจกยาสมุนไพร การประคบ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนที่


๑๕

เป็นทุกข์ได้หายทุกข์ทางกาย และทุกข์ทางใจ ทั้งหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน ตามวัด ตามชุมชน เป็นต้น นอกจากนั้นต้องได้รับการสนับสนุนจากชุมชนรอบข้างทุก ๆ ด้าน ๖. การวางแผนร่วมกัน หมายถึงว่าทางโรงเรียนต้องมีความวางแผนร่วมกันระหว่างผู้บริหารโรงเรียน ครูบุคล ลากรตลอดถึงผู้นาชุมชนนั้น เทศบาล เป็นต้น ๗. มีเป้าหมายและความหวังร่วมกันทางานความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การทางานเพื่อให้ถึงเป้าหมาย เป็นเรื่องที่สาคัญ ทุกท่านต้องมีความหวังในด้านการพัฒนาทุกด้าน และตลอดถึงต้องมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอัน เดียวกันในการทางาน ทุก ๆ รับฟังความคิดเห็น ๘. มีระเบียบวินัย ทุกท่านที่อยู่ในหน่วยงานต้องมีความเป็นวินัย กฎข้อบังคับทั้งผู้บริหาร ทั้งนักเรียนและ๘ ชุมชนรอบข้าง เพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ๙. ความสาเร็จในการบริหารโรงเรียน การบริหารโรงเรียนนั้น เราไม่ได้มองที่เงินเป็นหลัก แต่เรามองคุณค่าทางด้านจิตใจมากกว่า และมองว่าเมื่อทุก คนมีความรู้ ความสามารถและปฏิบัติได้จริงแล้ว เพื่อนมนุษย์บนโลกนี้จะมีแต่คนมีสุขภาพพลานามัยที่ดีไม่มีโรคภัยไข้ เจ็บมาเบียดเบียน เมื่อจิตมีความสุขในการให้ แล้วส่วนอื่น ๆ ก็จะตามมา สังคมก็จะพบแต่ความสงบร่มเย็น มีความสุข พอเพียง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและสังคม ประเทศชาติสืบไป สมดังพุทธพจน์และปรัชญาของโรงเรียนที่ว่า อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ แนวทางและข้อคิดในการทางานเกี่ยวกับโรงเรียน ๑. ทางกายสามารถปฏิบัติตามหลักวิชาชีพแพทย์แผนไทยได้จริง เช่น การตรวจ การวินิจฉัย การปฏิบัติ ๒. ทางใจได้นาหลักธรรมทางศาสนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้มากน้อยแล้วแต่สติปัญญา ๓. ได้สร้างงานมีอาชีพสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัว ๔. ได้เผยแพร่ศิลปะภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยไปยังพี่น้องประชาชนทั่วภูมิภาค ๕. ได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยเอาไว้ต่อไป ๖. ได้ความรักความสามัคคีกัน และได้กัลยาณมิตรที่ดีตลอดไปนั่นคือเครือข่ายมีอยู่ทั่วประเทศ

ภาคผนวกรูปภาพเกี่ยวกับการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ


๑๖

การเรียนการสอน


๑๗


๑๘

ภาคเช้าการไหว้พระสวดมนต์

ประวัติผู้วิจัย


๑๙

ชื่อ บุญสุข อุ่นแก้ว วัน/เดือน/ปีเกิด : ๑ กันยายน ๒๕๑๒ สถานที่เกิด : ๕๓ บ้านโนนสว่าง ม.๔ ต.สิ ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ๓๓๑๕๐ ประวัติการศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๕: ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านโนนอ้อ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พ.ศ. ๒๕๓๕ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนพิจิตวิทยาคม อ.เมือง จ.พิจิตร พ.ศ.๒๕๔๐ ปริญญาตรี – พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ) วิชาเอกสังคมวิทยา มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ปริญญาโท – พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พระพุทธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๓๑ นักธรรมเอก สานักเรียนวัดพิชัยสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ..๒๕๓๕ ป.ธ.๔ สานักเรียนวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทและครู ประเภท การนวดไทย พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยและครู ประเภทการผดุงครรภ์ไทย ประวัติการทางาน พ.ศ.๒๕๓๘-๒๕๔๐ ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโขงขาว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พ.ศ.๒๕๔๐-๒๕๔๒ ครูอัตราจ้างโรงเรียนพรานวิบูลวิทยา ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พ.ศ.๒๕๔๓-๒๕๕๓ เจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย สานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.๒๕๕๕ จนถึงปัจจุบัน ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนมหาบุญการนวดไทยไทย พ.ศ.๒๕๕๘ รางวัล การบริหารโรงเรียนเอกชนนอกระบบระดับดี จาก กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๕๙ รางวัล ผู้บริหารการศึกษานอกระบบดีเด่น จาก ท่านหญิง (หม่อมเจ้า) มาลินีมงคล ยุคล อมาตยกุล พ.ศ.๒๕๖๐ รางวัล การบริหารโรงเรียนเอกชนนอกระบบระดับดี จาก กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๖๐ รางวัล ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนนอกระบบดีเด่น จาก สมาคมอาเชียนแห่งประเทศไทย


๒๐

พ.ศ.๒๕๖๐ รางวัล ศิษย์เก่าดีเด่น ผู้บาเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา หน้าที่ปัจจุบัน :ผู้รับใบอนุญาตและ ผู้บริหารโรงเรียนมหาบุญการนวดไทย พ.ศ.๒๕๕๕ โรงเรียนมหาบุญการนวดไทย ๘๑ ม.๘ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เข้าศึกษาปัจจุบัน ปริญญาเอก คณะพุทธศาสตร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา ที่อยู่ปัจจุบัน : ๘๑ ม.๘ ซ.สุขาภิบาล ๓ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โทร ๐๙๙๒๙๒๖๑๙๕ ๐๘๙๒๘๖๓๗๒๒


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.