12/06 November - December 2013 www.scg.co.th
ปีที่ 12 ฉบับที่ 6 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2556
The
Editor’s Note
ใครคือ “โค้ช” ของคุณ? ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่นักกีฬา แต่หากนั่งนึกดูให้ดี คุณจะนึกออกว่า เราทุกคนล้วนมีโค้ชกันทั้งนั้น ตัง้ แต่เราลืมตาขึน้ มาดูโลก โค้ชชีวติ คูแ่ รกของเราคือพ่อแม่ พอเดินเท้า เข้าเรียนได้ โค้ชคนต่อมาคือครูอาจารย์ เมื่อเข้าสู่รั้วการท�ำงาน โค้ชคือ เจ้านายและองค์กร ครั้นในยามที่จิตใจต้องการที่พึ่งพิง โค้ชที่ว่าอาจเป็น ศาสนา จนถึงช่วงทีช่ วี ติ เต็มสมบูรณ์ เราก็จะได้พบ “โค้ชคนสุดท้าย” คนที่ ผ่านการหลอมรวมทุกสิง่ อย่างมาจนถึงวันนี้ นัน่ ก็คอื “ตัวเราเอง” ทีพ่ ร้อม จะเป็นโค้ชผู้ชี้แนะ กระตุ้น ให้ก�ำลังใจ และชมเชย ทั้งหมดก็เพื่อ ปลูกทักษะและทัศนคติทดี่ ี ซึง่ เป็นเชือ้ เพลิงส�ำคัญในการดึงศักยภาพสูงสุด ของคนคนนั้นออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับทั้งตนเอง ครอบครัว องค์กร สังคม ไปจนถึงประเทศชาติได้ SCG Delight ฉบับนี้จึงมาในธีมที่ชื่อว่า “The Coach” จุดไฟฝันกับ สองสุดยอดโค้ชแห่งยุค เริ่มต้นด้วยบทสนทนาใน Focus กับโค้ชเซียะ จือหัว ผู้อยู่เบื้องหลังความส�ำเร็จของน้องเมย์ - รัชนก อินทนนท์ และ วงการลูกขนไก่ไทย จากนั้นเปิดไปที่หน้า 100 เพื่อตอกย�้ำความส�ำเร็จกับ “โค้ชอ๊อต” สุดยอดโค้ชของนักตบลูกยางสาวไทย ที่จะมาเผยว่า การเป็น โค้ชทีด่ ตี อ้ งมีอะไรบ้าง ปิดท้ายด้วย 10 Things ไปดูสตั ว์กบั ความสามารถ พิเศษ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่าฝึกพวกมันให้ท�ำได้ เหนือสิ่งอื่นใด การเคร่งครัดอย่างแข็งขันในด้านใดด้านหนึ่งมากจน เกินไป ก็อาจท�ำให้ชีวิตขาดมิติอื่น ไปจนหมดสิ้น ฉะนั้น การยึดหลัก Work-Life Balance ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอย่าลืมว่า ชีวติ เราจะแช่มชืน่ ไม่ได้เลย ถ้าไม่เคยสัมผัสกับสีสนั ในมิตอิ นื่ ของชีวติ บ้าง “จงพยายามให้มากพอ เพื่อลิ้มรสความส�ำเร็จที่หอมหวาน และใช้ ชีวิตให้ครบทุกด้านอย่างคุ้มค่า” เพราะชีวิตเราจะดีที่สุดได้ เมื่อตั้งอยู่บน ความสมดุลเท่านั้น
เจ้าของ แผนกบริหารความสัมพันธ์หนุ้ กู้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้ โฆษณา จันทนิดา สาริกะภูติ บรรณาธิการบริหาร รชตพร ปัทมะศิริ คณะบรรณาธิการ นิภาวรรณ สกุลวิริยะธรรม, สุทธินุช กาญจนะวณิชย์, อลิสา ด่านกลาง, ภาวิณี ตะวันนาโชติ, ณัฏฐณิช ธิติศักดิ์สกุล กองบรรณาธิการ บรรณาธิการอำ�นวยการ ภัทราวรรณ พูลทวีเกียรติ ์ บรรณาธิการเล่ม ณัฐวีณ์ โชติกลุ สิทธิ์ กองบรรณาธิการ พงษ์อมร ต้นสายเพ็ชร, สุทธินี ใจสมิทธ์, ณัฐนันท์ ส่งแสงรัตน์
ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ศิริธร พรศิวะกิจ ศิลปกรรม ธนีฉตั ร กัลยาณสุต, อดิเรก ชิตนุกลู , พร้อมพันธุ์ สุวรรณประไพศรี อิมเมจไดเร็คเตอร์ สุภทั รา ศรีทองคำ� หัวหน้าช่างภาพ ชัยชนะ จารุวรรณากร ช่างภาพ สุรพล พวงศรี, ศักยะ บุญเสมอ, ถนอมพงศ์ ชัยชนะ, วิภทั ร พันธ์นุ ราวิกจิ รีทชั นรินทร์ มหัตธน ซับเอดิเตอร์และพิสจู น์อกั ษร จริญญา เมฆธรรม, อรจิรา มีญาณเยีย่ ม ธุรกิจสัมพันธ์ ณัชชา พัฒนะนุกิจ แทรฟฟิก เยาวลักษณ์ ทองพูนแก้ว โปรดักชั่น มานพันธ์ บุญประเสริฐ
รชตพร ปัทมะศิริ บรรณาธิการบริหาร
จัดทำ�โดย แผนกบริหารความสัมพันธ์หุ้นกู้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2586-2112 โทรสาร 0-2586-4977 ออกแบบและพิมพ์โดย บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จำ�กัด (มหาชน) โทร. 0-2422-9000 ต่อ 1200, 1213 ขอขอบคุณภาพประกอบคอลัมน์ จาก www.amarinphotobank.com หมายเหตุ : บทความ ทัศนะ และสถานที่ที่พิมพ์ในวารสาร SCG Delight เป็นความคิดเห็นและคำ�แนะนำ�ของผู้ประพันธ์ มิได้เกี่ยวข้องกับบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) แต่อย่างใด
24
18
36
12 48
CONTENTS
Vol. 12 No. 06 November - December 2013
01
Editor’s Note
52
06 SCG Spotlight 12
SCG 100 Years
กว่าจะเป็นเอสซีจี ตอนที่ 6 ก้าวสู่ปีที่ 100 ขึ้นแท่นผู้น�ำอาเซียนอย่างยั่งยืน
18
SCG Insight
ธนวงษ์ อารีรัชชกุล DNA ฉบับเอสซีจี สร้างคนเก่งและดีอย่างยั่งยืน
28
Money Tips
42 10 Things
จับตา! สภาพคล่อง ในระบบการเงินไทย กับไตรมาสสุดท้ายของปี 2556
เที่ยวป่าสน ชมยอดภู
52
Go Around
“How Coaching Works” 48 The Journey พลิกต�ำราโค้ช สร้างคนให้เก่งและดี แผลเป็นของเบอร์ลิน
2
Cover Story
36 Focus
44 Exotic Thai
32
24 Member’s Stage
ลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ คุณภาพจากความใส่ใจ
10 สัตว์สุดเจ๋งกับความสามารถ ที่คุณไม่คิดว่ามันฝึกได้
เซียะ จือหัว โค้ชเลือดมังกร เบือ้ งหลังความส�ำเร็จแบดมินตันไทย
ยี่เป็ง ลอยกระทงโคม ณ ดินแดนล้านนา
3
78
105
102
96
โครงการพระราชด�ำริ
78
56
112
Living with Style
“หลังคา” ใส่หมวกให้บ้านมีสไตล์ โครงการสวัสดิการสังคม ส่งต่อความช่วยเหลือสู่ประชาชน 84 Better Pix 58 ไทยคิด การจับจังหวะถ่ายภาพ “หยดน�้ำ” หุน่ ยนต์เสริมการกระตุน้ พัฒนาการ 88 Did You Know 90 Hot Events ผู้ช่วยบ�ำบัดเด็กออทิสติกไทย
72
106
คุยนอกจอ “วัฒนธรรมชุบแป้งทอด” เปิบความคิด สะกิดปัญญา
108 Tell Tales
ตัวจริง
112 Think White
60 Smart Life
92 Entertainment
94 Techno for Life
114 Mind & Spirit
95
เชาวลิต สาดสมัย เพราะหัวใจสั่งให้ผมเป็น “ครู”
พรกับปีใหม่
64 Talk to Doctor
96 Trend
98 Book Shelf
ความอยากที่ควรพัฒนา vs ความอยากที่น่าก�ำจัด 116 ไพ่ผ่อง ส่องชีวิต
102 Collection Room
118 Merit Room
มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคยอดฮิตของชายสูงวัย
App for Life
Camera Collections บันทึกความทรงจ�ำไว้ในม้วนฟิล์ม
เปลี่ยน “แว่นเก่า” ให้เป็น “แว่นใหม่” เพื่อเด็กด้อยโอกาส
68 Wine Curve
“ชิมไวน์” อย่างมีศิลปะ
70
Chef at Home
105 Teenager Hits
119 Thai Zone
72
Dining Out
เสริมฮวงจุ้ย
76
4
“ตี่จู่เอี้ย” จัดวางถูกหลัก ส่งเสริมโชคลาภ
อะไรๆ ก็ “แมว” วัฒนธรรมฮิตเหมียว เห่อกันสนั่นเมือง
10 สุภาษิตนี้...ท่านได้แต่ใดมา
120 Delight Quiz
SCG Spotlight
SCG 100th Anniversary Innovative Exposition
วันที่ 2 สิงหาคม - 1 กันยายน 2556
6
ศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ไทยพรีเมียร์ลีก “กิเลนผยอง พบ ฉลามชล” วันที่ 7 กันยายน 2556
7
นิวซีแลนด์ ดินแดนในฝัน (เกาะใต้) วันที่ 13 - 20 กันยายน 2556 8
9
iPad เรียนรู้ได้ ง่ายนิดเดียว วันที่ 14 - 15 กันยายน 2556
10
ข้อมูลผลตอบแทนจากตราสารหนี้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ตารางแสดงผลตอบแทนหุ้นกู้ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2556)* หุ้นกู้
อายุคงเหลือ (ปี)
ราคาที่ตกลงครั้งล่าสุด (บาท/หน่วย)
วันที่ตกลง แลกเปลี่ยนหุ้นกู้ ครั้งล่าสุด
อัตรา ผลตอบแทนถึง วันครบกำ�หนดไถ่ถอน
ส่วนต่างจาก ราคาหน้าตั๋ว (บาท/หน่วย)
SCC144A
0.50
1,004.37
30 กันยายน 2556
2.95%
4.37
SCC14OA
1.00
1,008.07
2 ตุลาคม 2556
3.03%
8.07
SCC154A
1.50
1,015.44
27 สิงหาคม 2556
3.40%
15.44
SCC15NA
2.08
1,023.66
29 กรกฎาคม 2556
3.39%
23.66
SCC164A
2.50
1,018.77
11 กันยายน 2556
3.71%
18.77
SCC16NA
3.09
1,012.29
9 กันยายน 2556
3.88%
12.29
SCC174A
3.50
1,008.02
13 กันยายน 2556
4.00%
8.02
ครั้งที่ 1/2553 ครั้งที่ 2/2553 ครั้งที่ 1/2554 ครั้งที่ 2/2554 ครั้งที่ 1/2555 ครั้งที่ 1/2555 ครั้งที่ 1/2556
* ท่านสามารถตรวจสอบราคาหุ้นกู้ประจำ�วันได้ที่ www.scg.co.th
ตารางแสดงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ� (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2556) ระยะเวลา
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์
1 ปี
2.375%
2.250%
2.300%
2.350%
2 ปี
2.625%
2.625%
2.550%
2.600%
3 ปี
2.625%
2.625%
2.550%
2.600%
ตารางอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2556) ระยะเวลา
อัตราผลตอบแทน
3 เดือน
2.53%
6 เดือน
2.60%
1 ปี
2.61%
2 ปี
2.96%
3 ปี
3.15%
4 ปี
3.35% 11
SCG 100 Years
กว่าจะเป็นเอสซีจี ตอนที่ 6
ก้าวสู่ปีที่ 100
ขึ้นแท่นผู้นำ�อาเซียนอย่างยั่งยืน
เรื่อง : กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล
การทบทวนอดีตซึ่งเต็มไปด้วยความส�ำเร็จ และล้มเหลว โอกาสและอุปสรรค หากท�ำความ เข้าใจอย่างเพียงพอ เก็บเกี่ยวบทเรียนอย่าง เปิดกว้าง ย่อมเป็นต้นทุนชั้นดีต่อการเผชิญ อนาคตที่มองเห็นชัดเจนว่า เต็มไปด้วยความ ท้าทายใหม่ๆ อันเกิดจากขีดความสามารถ ของเทคโนโลยีที่ท�ำให้โลกใบนี้หมุนรอบตัวเอง ในอัตราที่รวดเร็วขึ้นทางความรู้สึก
เอสซีจีในยุคปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์
ปี 2456 บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) ถือก�ำเนิดขึ้นจากแรงบีบคั้น ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งเรื่องการเมือง สงคราม วิกฤติเศรษฐกิจ เหมือนโชค ชะตาตั้ ง ใจทดสอบความสามารถเมื่ อ ต้ อ งเผชิ ญ หน้ า กั บ วิ ก ฤติ จนถึ ง วั น นี้ วันที่ 100 ปีผ่านพ้น ต้องถือว่าเป็นการ พิ สู จ น์ ต นเองที่ ม ากเพี ย งพอส� ำ หรั บ ปูนซิเมนต์ ไทย หรือที่รู้จักกันทั่วไป ณ เวลานี้ว่า “เอสซีจี” 12
วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หรือวิกฤติต้มย�ำกุ้ง คือหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดของเศรษฐกิจไทย ทีส่ ร้างความบอบช�ำ้ แก่เอสซีจอี ย่างหนัก ท�ำให้เกิด การปรับเปลีย่ นโครงสร้างองค์กรและการบริหาร เรียกว่าแทบทุกองศา จนผ่านพ้นห้วงยามแห่ง ความยากล�ำบากครัง้ นัน้ มาได้ และค่อยๆ ฟืน้ ตัว อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งอีกครั้ง ถึงแม้จะเกิด วิกฤติเศรษฐกิจหรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์อกี ครัง้ แต่ผลกระทบรุนแรงก็จ�ำกัดวงเฉพาะในซีกโลก ตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ มาถึงปี 2549 เป็นอีกปีทมี่ คี วามส�ำคัญ เพราะ เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผู้น�ำคนใหม่ขององค์กร คุณกานต์ ตระกูลฮุน ขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการ ผู ้ จั ด การใหญ่ เ อสซี จี เ มื่ อ วั น ที่ 1 มกราคม
2549 ต่อจากคุณชุมพล ณ ล�ำเลียง กล่าวได้ว่า คุณกานต์เป็นคนเก่าคนแก่ของเอสซีจี เพราะ ภายหลังจากจบการศึกษาทีค่ ณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนเกียรตินยิ ม อันดับ 1 ในปี 2520 คุณกานต์ก็เข้าท�ำงาน กับบริษัทปูนซิเมนต์ไทยในปีเดียวกันนั้นเอง งานอั น ดั บ ต้ น ๆ ของคุ ณ กานต์ ใ นฐานะ ผู้ดูแลเอสซีจีคือ การปรับการรับรู้ของสังคม ที่มีต่อแบรนด์เอสซีจี ณ ขณะนั้น ซึ่งช่วงนี้เอง
ที่เอสซีจีมีความเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ ในหลายด้านอย่างทีไ่ ม่เคยเกิดขึน้ มาก่อน เป็นยุค ที่เอสซีจีกลับมาให้ความส�ำคัญอีกครั้งกับการ สื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณะ ทั้งในแง่ตัวธุรกิจและการขับเคลื่อนด้านสังคม ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น เอสซีจีแบดมินตัน ค่ายวิทยาศาสตร์ SCG Sci-Camp และ SCG Sharing the Dream แต่สิ่งที่ถือเป็นรากฐานส�ำคัญยิ่งของเอสซีจี ซึ่งองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยยังให้ความ ส�ำคัญเพียงน้อยนิดคือ การลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนา (Research & Development: R&D) กลางปี 2551 เอสซีจปี ระกาศตนทีจ่ ะสร้าง องค์กรที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์ ด้านนวัตกรรม มีการทุ่มงบประมาณเพื่อการ วิจัยและพัฒนาถึง 6,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี โดยมีธงคือ การเป็นผู้น�ำธุรกิจในอาเซียน ซึ่ง ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ล�้ำมากในเวลานั้น ผลจากวิ สั ย ทั ศ น์ ข ้ า งต้ น ได้ พิ สู จ น์ ผ ่ า น ผลประกอบการ โดยเอสซีจมี ยี อดขายในปี 2555 ถึง 407,601 ล้านบาท จากปี 2549 ที่มียอดขาย อยูท่ ี่ 122,645 ล้านบาท ทัง้ ก�ำไรในปี 2549 จาก 17,547 ล้านบาท เพิม่ เป็น 27,281 ล้านบาทในปี 2555 ทั้ ง ยอดขายเครื อ ข่ า ยกิ จ การในอาเซี ย นของ
คุณกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของเอสซีจี
13
เอสซีจีก็เพิ่มขึ้นจาก 7,700 ล้านบาทในปี 2549 ออกมาเป็น “แนวทางปฏิบัติการพัฒนาอย่าง เป็น 31,200 ล้านบาทในปี 2555 ยั่งยืน” เพื่อใช้เป็นแนวทางการด�ำเนินงานด้าน ต่างๆ ของเอสซีจี ท�ำให้เอสซีจีได้รับการจัด การพัฒนาที่ยั่งยืน อันดับโดย Dow Jones Sustainability Indexes ปัจจุบัน เอสซีจีมีโครงสร้างธุรกิจหลัก 3 (DJSI) ให้ เ ป็ น บริ ษั ท ชั้ น น� ำ ด้ า นการพั ฒ นา ธุรกิจ คือ SCG Cement-Building Materials, อย่างยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง (Building SCG Chemicals และ SCG Paper ซึ่งทั้งสาม Materials & Fixtures) ต่อเนื่องถึง 8 ปี และ ธุรกิจหลักนี้ยังคงยึดแนวคิดองค์กรนวัตกรรม ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ในปี 2554 อย่างไม่เสื่อมคลาย เช่น การน�ำระบบ Radio โดยเฉพาะในด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ ม ซึ่ ง เป็ น Frequency Identification (RFID) มาใช้รว่ มกับ ประเด็นละเอียดอ่อนและสังคมให้ความสนใจ ระบบ Global Positioning System (GPS) เอสซีจีได้วาง 2 กลยุทธ์หลักเพื่อการเป็นธุรกิจ ในการติดตามสถานะการขนส่ง เพื่อท�ำให้การ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green Business ส่งสินค้ามีประสิทธิภาพ ตรงตามเวลา และลด คือกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้นทุนลง หรือการใช้กลยุทธ์ทมี่ ง่ ุ เน้นการตอบสนอง (Green Process) ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า โดยเน้นการสร้าง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับหลักการ มูลค่าเพิม่ ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการ 3R - Reduce, Reuse/Recycle และ Replenish พัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่าง ของลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุม่ ซึง่ การันตีได้จาก มีประสิทธิภาพสูงสุด และลดขยะที่เกิดจาก รางวัลต่างๆ ที่เอสซีจีได้รับ การผลิตให้เหลือศูนย์ ที่นับว่าน่าสนใจไม่แพ้กันและเป็นการวาง กลยุทธ์ประการที่ 2 คือ การวิจยั และพัฒนา แนวทางในอนาคตระยะยาวของเอสซีจีก็คือ สิ น ค้ า และบริ ก ารที่ เ ป็ น มิ ต รต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเอสซีจีอ้างอิง (Green Products) เป็นการวิจัยและพัฒนา จากแนวทางการด� ำ เนิ น การในระดั บ สากล สินค้าและบริการภายใต้โลโก้ “SCG eco value” ครอบคลุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองฉลาก สิง่ แวดล้อม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาลทีด่ ี จัดท�ำ “SCG eco value” แล้วกว่า 270 รายการ 14
คน: หัวใจของการเผชิญความท้าทาย ภายใต้การผนึกก�ำลัง องค์กรนวัตกรรม ถื อ เป็ น การตอกย�้ ำ ภาพลั ก ษณ์ ค วามเป็ น ใน AEC จากสามธุรกิจหลัก การมุ่งมั่นด้านการวิจัยและพัฒนา กระทั่ง องค์กรนวัตกรรมของเอสซีจีอีกครั้งผ่านงาน ของเอสซีจีที่ต่างคิดค้น “SCG 100 th Anniversary Innovative แตกดอกออกผลเป็นนวัตกรรมดังที่กล่าวมา นวัตกรรมอย่างไม่ Exposition” ทีเ่ พิง่ เสร็จสิน้ ไปเมือ่ วันที่ 1 กันยายน การพัฒนาศักยภาพบุคลากรก็นับรวมเป็นการ หยุดยั้ง ภายใต้กรอบ ที่ผ่านมา ภายในงานได้น�ำเสนอเรื่องราวของ วางรากฐานส�ำคัญในระยะยาวของเอสซีจีด้วย เอสซีจีตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ทั้งวิวัฒนาการ เช่นกัน และยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อ แนวคิด “Drawing ของนวัตกรรมทีต่ อบโจทย์ชวี ติ จากวันนีไ้ ปจนถึง เผชิญกับความท้าทายและโอกาสจากการเปิด the Future” อนาคต ประกอบไปด้วยโซนต่างๆ ภายใต้การ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC (ASEAN ผนึกก�ำลังจากสามธุรกิจหลักของเอสซีจีที่ต่าง คิดค้นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้กรอบ แนวคิด “Drawing the Future” เพื่อคุณภาพ ชีวติ ทีด่ ขี องคนไทยและสังคมไทยทีจ่ ะก้าวต่อไป อย่างยั่งยืน
Economic Community) ที่ก�ำลังจะมาถึง ในปี 2558 ซึ่งเป็นสิ่งที่เอสซีจีเตรียมการมา ตั้งแต่ปี 2550 เอสซีจีให้ความส�ำคัญกับการเตรียมคนเพื่อ รองรับ AEC ค่อนข้างสูง ผ่านระบบการคัดสรร และพัฒนาบุคลากร 4 ด้าน ประกอบด้วยการ 15
คัดเลือกคนที่ต้องเข้มงวดมากขึ้นในการสอบ สัมภาษณ์และข้อเขียนภาษาอังกฤษ การจัด หลักสูตรการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการปรับตัว ให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรอื่นๆ ในส่วนของ ผู้บริหารระดับสูงจะเพิ่มความรู้ความเข้าใจใน การท�ำธุรกิจ โดยการส่งไปเรียนหลักสูตรของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดปีละ 8 คน จากเดิม ที่ส่งไปเพียงปีละ 1 - 2 คน และการปรับปรุง รายได้ - สวั ส ดิ ก ารแก่ บุ ค ลากรที่ ไ ปท� ำ งาน ต่างประเทศเพือ่ เพิม่ แรงจูงใจ ทัง้ ยังก�ำหนดเกณฑ์ การพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ ความสามารถ และทั ก ษะที่ เ หมาะสมต่ อ การปฏิ บั ติ ง าน ในต่างประเทศใน 6 ด้านหลักคือ การจัดการ และการสื่ อ สารข้ า มวั ฒ นธรรม การบริ ห าร
วิธีการหนึ่งที่เอสซีจี ใช้เป็นช่องทางสร้าง บุคลากรที่มีคุณภาพคือ การสร้างความสัมพันธ์ กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในอาเซียน หรือที่เรียกว่า Campus Recruitment
16
จั ด การ การปรั บ ตั ว ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง บุคคล ธุรกิจระหว่างประเทศ และการจัดการ ความเปลี่ยนแปลง วิ ธี ก ารหนึ่ งที่ เ อสซี จี ใ ช้ เ ป็ น ช่ อ งทางสร้า ง บุคลากรที่มีคุณภาพคือ การสร้างความสัมพันธ์ กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในอาเซียน หรือทีเ่ รียกว่า Campus Recruitment โดยการเข้าไปทดสอบ ภาษาอังกฤษของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในอาเซียนเพื่อรับเข้าท�ำงาน อีกวิธีคือ การเชิญ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาศึกษาดูงาน และท�ำความรูจ้ กั เอสซีจี นัยหนึง่ ถือเป็นการสร้าง ความเชื่อมั่นให้คณาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วย นอกจากนี้ เอสซีจยี งั จัดตัง้ หน่วยงานทีเ่ รียก ว่า Country Business Support Office (CBSO)
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุน ทั้งหมดนี้คือการปูทางไปสู่เป้าหมายของ ในอาเซี ย น และเพื่อ ดูแ ลพนักงานเอสซีจีใน วิสัยทัศน์ของเอสซีจีที่ว่า ภายในปี 2558 เอสซีจี อาเซียนและในท้องถิ่นด้วย จะเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่น่าร่วมงานด้วย เป็นแบบอย่างด้านบรรษัทภิบาลและการพัฒนา เดินหน้าสู่อาเซียน อย่างยัง่ ยืน เป็นผูน้ ำ� ตลาดในภูมภิ าคทีม่ งุ่ ด�ำเนิน เอสซีจีได้วางรากฐานด้านนวัตกรรมและ ธุ ร กิ จ ควบคู ่ กั บ การเสริ ม สร้ า งความเจริ ญ บุคลากรอย่างเป็นระบบมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะ ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนให้แก่อาเซียนและชุมชน เดียวกันก็ได้เดินหน้าสู่การเป็นผู้น�ำในภูมิภาค ที่เข้าไปด�ำเนินงาน อาเซียนอีกขั้นหนึ่งผ่านแผนการลงทุน 5 ปี และนี่คือเรื่องราวการเดินทางตลอด (2557 - 2561) มูลค่าเกือบ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่ ง เป็ น การลงทุ น ส� ำ หรั บ โครงการต่ อ เนื่ อ ง 100 ปีที่ผ่านมาของเอสซีจี จากวันแรก และโครงการใหม่ เช่น โครงการปิโตรเคมี เมื่อปี 2456 จนถึงวันนี้ในปี 2556 ที่ได้ คอมเพล็ ก ซ์ ที่ เ วี ย ดนาม และโครงการผลิ ต เดินทางมาจนครบ “หนึง่ ศตวรรษ” อย่าง ปูนซีเมนต์ในพม่าและอินโดนีเซีย โดยยังไม่รวม เต็มภาคภูมิ ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยี การลงทุนเพื่อซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ นวัตกรรม และบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เอสซีจีพร้อมแล้วที่จะสร้างความเจริญ ซึ่งก�ำลังเจรจาอยู่หลายโครงการ ล่าสุด เอสซีจีได้ลงนามสัญญากับรัฐบาล ก้ า วหน้ า เพื่ อ เป็ น ก� ำ ลั ง หลั ก ส� ำ คั ญ ใน เวี ย ดนามซื้ อ ที่ ดิ น เพื่ อ ตั้ ง โรงโอเลฟิ น ส์ แ ละ การร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก และคาดว่าโครงการ สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ ให้เจริญ ต่างๆ จะเริ่มด�ำเนินการก่อสร้างได้ในปลายปี ก้าวหน้าขึ้นสู่ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน สืบต่อไป 2557 เสร็จในปี 2561 พร้อมกันนั้น เอสซีจียังเดินหน้าลงทุนอีก 12,400 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิต ปูนซีเมนต์แบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศพม่า ที่ก�ำลังจะกลายเป็นแหล่งลงทุนส�ำคัญของโลก ในอนาคต ตัง้ อยูท่ เี่ มืองเมาะล�ำไย โดยจะมีกำ� ลัง การผลิต 1.8 ล้านตันต่อปี และน่าจะเริม่ ด�ำเนิน การผลิตได้ประมาณกลางปี 2559 17
SCG Insight
ธนวงษ์ อารีรัชชกุล
DNA ฉบับเอสซีจี สร้างคนเก่งและดีอย่างยั่งยืน เรื่อง : ญาดา ปีระพละ ภาพ : วิภัทร พันธุ์นราวิกิจ
จากวิสัยทัศน์ของเอสซีจีที่มุ่งมั่นด�ำเนินธุรกิจตามแนวทางการ พัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกัน อีกทั้งยังให้ความส�ำคัญกับ พนักงานเป็นอย่างมาก เพราะตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานเป็น ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร โดยการพัฒนาประสิทธิภาพ การบริหารทรัพยากรบุคคล เริม่ ตัง้ แต่การสรรหาบุคลากรในเชิงรุก ที่ทั้งเก่งและดีเข้ามาร่วมงาน
19
15,000 คน ในขณะที่พนักงานเอสซีจี ทั้งหมดของเราอยู่ที่ประมาณ 47,000 คน อย่ า งในอิ น โดนี เ ซี ย ตอนนี้ มี พ นั ก งาน 6,500 คน เวียดนาม 6,500 คน แล้วจะ ขยายเข้าไปในพม่าอีก ฉะนั้นการเข้าไป สนั บ สนุ น ในแต่ ล ะประเทศจึ ง เป็ น เรื่ อ ง ส�ำคัญทีเ่ ราต้องเตรียม Platform ให้รองรับ กับการขับเคลื่อนทางธุรกิจ ไปสนับสนุน เขาให้ท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ราบรื่น”
DNA คนเอสซีจี คุณค่าที่จะยังคงอยู่ สืบไป
“เอสซีจีเชื่อมั่นในคุณค่าและศักยภาพ ของพนั ก งาน เราท� ำ งานร่ ว มกั น อย่ า ง สร้ า งสรรค์ ในบรรยากาศการท� ำ งาน ที่เปิดเผย โปร่งใส เปี่ยมด้วยพลังแห่ง ความกระตือรือร้น โดยพนักงานของเรา ทุกคนจะยึดมัน่ และปฏิบตั ติ ามอุดมการณ์ 4 และจรรยาบรรณของเอสซีจี ได้แก่ ตัง้ มัน่ ในความเป็นธรรม มุ่งมั่นในความเป็นเลิศ เชื่อมั่นในคุณค่าของคน ถือมั่นในความ รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งถือเป็นหลักใหญ่ ที่ เ ป็ น เรื่ อ งส� ำ คั ญ ของเรา” คุ ณ ธนวงษ์ อารีรัชชกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ด้าน การบริหารกลางของเอสซีจีเกริ่นเริ่มต้น ซึ่งหนึ่งในสิบของหน่วยงานที่เขาต้องดูแล รับผิดชอบอยู่ ณ ขณะนีค้ อื งานด้านบุคคล 20
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมงานด้าน R&D, IT & Business Continuity Management, Organization Development ที่เรียกว่า เป็นงานสนับสนุนและส่งเสริมการท�ำงาน ขององค์กรในด้านต่างๆ เพือ่ น�ำไปสูค่ วาม เป็นเลิศของความเป็นองค์กรชั้นน�ำ “ผมดู แ ลในส่ ว นของงานหลั ง บ้ า นที่ สนับสนุนในแต่ละฟังก์ชันของธุรกิจ โดย เฉพาะการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศ ต่างๆ อย่างอินโดนีเซียและเวียดนาม ที่ เราเข้าไปตั้งหน่วย CBSO (Country Business Support Office) ซึ่งในต่างประเทศ ตอนนี้เราลงทุนไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เรามีพนักงานที่ไม่ใช่ คนไทยอยูใ่ นประเทศต่างๆ รวมแล้วเกือบ
อย่างที่รับรู้กันว่า หนึ่งในอุดมการณ์ ของเอสซีจีคือเรื่องของทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งที่นี่มีระบบการคัดเลือกพนักงานใหม่ ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ปีละประมาณถึง 800 คน และโปรแกรมเทรนนิ่ ง ที่ มี ม าตรฐาน รวมถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชัน้ น�ำ สถาบั น ทั้ ง ในและต่ า งประเทศ เพื่ อ สนับสนุนการขับเคลือ่ นในแต่ละกลุม่ ธุรกิจ ของเครือเอสซีจี “ตอนนีเ้ รามีพนักงาน 47,000 คน มอง ไปข้างหน้าอาจจะถึง 60,000 คนในเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 2 - 3 ปี เรามี พนักงาน 26,000 - 27,000 คน ซึ่งถือว่า เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว ถึงแม้อัตราการเพิ่ม ของพนั ก งานมี ม าก แต่ ใ นทางกลับกัน พนักงานรุ่นพี่บางคนก็ต้องรีไทร์ไป ในมิติ ต่างๆ เหล่านี้ พวกเรือ่ ง Generation และ Diversity จะเข้ามามีผลมากขึ้น หากมอง ไปข้างหน้าในปี 2018 เราจะมีพนักงาน Gen Y ถึง 54 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่วา่ อย่างไร บริบทต่างๆ ทั้งในเรื่องวัฒนธรรมและ อุดมการณ์ขององค์กรที่เรายึดถือกันมา ก็ยังคงต้องมีการสืบสานกันต่อไป รวมทั้ง
เรื่อง Open กับ Challenge เพื่อให้เกิด Innovation เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “อย่างเวลาประชุม พนักงานรุ่นพี่ควร พูดเป็นคนสุดท้ายเพื่อที่จะ Encourage พนักงานรุ่นน้อง เพราะถ้าพี่ๆ พูดคนแรก อาจเป็ น การไปบล็ อ กไอเดี ย ของน้ อ ง พนั ก งานที่ ก� ำ ลั ง ไฟแรง พวกพนั ก งาน รุ ่ น พี่ จ ะมี ส ่ ว นช่ ว ยส� ำ คั ญ อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ก็คือ การไม่บล็อกและส่งเสริมให้น้องๆ ได้แสดงความคิดเห็นและไอเดียได้อย่าง อิสระมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไม สององค์ประกอบที่ว่านี้จึงส�ำคัญ เราจึง พัฒนาระบบเทรนนิง่ เพือ่ ให้พนักงานรุน่ พี่ สามารถโค้ชพนักงานรุน่ น้องในเรือ่ งเหล่านี้ ได้ง่ายขึ้น”
ก้าวสู่ระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน
ในขณะทีท่ กุ ภาคส่วนก�ำลังพูดถึง AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะเป็น ประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจระดับ ภู มิ ภ าคและระดั บ โลกต่ อ ไปในอนาคต องค์ ก รยั ก ษ์ ใ หญ่ อ ย่ า งเอสซี จี นั้ น ได้ มี การเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้เช่นกัน และได้เตรียมการมานานหลายปีแล้ว “ถ้าไปดูนโยบายขององค์กรที่ผ่านมา จะพบว่ า เราเป็ น บริ ษั ท แรกที่ ใ ช้ ค� ำ ว่ า อาเซียน เพราะเรามองว่าคนในอาเซียน จ�ำนวน 600 ล้านคนนั้นถือว่ามีขนาดใหญ่ ที เ ดี ย ว เราเตรี ย มการเรื่ อ งนี้ ม าเยอะ พอสมควร ดูจากตัวเลขการลงทุนในอาเซียน ที่อยู่ในระดับสูง จ�ำนวนพนักงานเอสซีจีที่ ไปประจ�ำการในประเทศเหล่านีก้ ม็ จี ำ� นวน มากขึน้ เรือ่ ยๆ และการเตรียมความพร้อม นับจากนีจ้ ะโตไปกว่านีอ้ กี มาก ถึงแม้วา่ เรา จะได้รบั รางวัลเรือ่ ง HR มาหลายปีแล้ว แต่ เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราต้องเตรียมมอง
ไปข้างหน้าอยู่เสมอ และยังคงให้ความ ส�ำคัญกับการพัฒนาคนเป็นเรื่องส�ำคัญ ทั้งกับคนไทยและคนต่างชาติที่ท�ำงานกับ เรา นอกจากนี้ เรื่องไอทีก็เป็นอีกเรื่องที่ ส�ำคัญ เพราะเทคโนโลยีเดีย๋ วนีม้ นั เร็วมาก การเข้าถึงข้อมูลต้องเป็นแบบเรียลไทม์ ต้ อ งให้ เ หมื อ นว่ า เรานั่ ง ท� ำ งานอยู ่ ใ นที่ เดียวกัน” คุณธนวงษ์เล่า แกนหลั ก ส� ำ คั ญ ของการขั บ เคลื่ อ น ธุรกิจให้ประสบความส�ำเร็จนั้น เรื่องคน เป็ น เรื่ อ งหลั ก ที่ ส� ำ คั ญ อี ก ทั้ ง การมี วั ฒ นธรรมองค์ ก รแบบ “พี่ ส อนน้ อ ง” ถ่ า ยทอดจากรุ ่ น สู ่ รุ ่ น ก็ เ ป็ น อี ก สิ่ ง หนึ่ ง ที่ต้องมีเพื่อสอดรับกัน “ที่นี่ไม่ว่าจะมีอายุมากกว่ากันแค่ไหน เราก็พอใจที่ จ ะเรี ย กกั น ว่ าพี่ - น้ อง การ ถ่ายทอด DNA เริม่ ตัง้ แต่รบั เด็กใหม่เข้ามา
มีการเทรน ครูคนแรกคือพี่กานต์ (คุณ กานต์ ตระกูลฮุน ซีอีโอของเอสซีจี) ที่จะ มาเล่า Core Value และ Vision ของ บริ ษัท ให้ น ้ อ งใหม่ ฟ ั ง พอถึ ง เวลาที่ เ ขา เข้าไปท�ำงานจริง เขาก็จะเจอพวกรุ่นพี่ ที่ช่วยถ่ายทอดซ�้ำอีกครั้ง เปรียบเสมือน เป็น Role Model “เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นผมยังเป็น จูเนียร์ แล้วได้มีโอกาสติดตามรุ่นพี่ไป ขึ้นโต๊ะเจรจา ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้น พวกเราเป็นฝ่ายได้เปรียบมากพอสมควร แต่สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ พวกเราจะไม่ท�ำ แบบนั้น การเอาเปรียบไม่ใช่วิถีของเรา เพราะมันไม่เป็นธรรม ทุกคนควรได้ท�ำ ธุรกิจตามความเหมาะสม ทุกฝ่ายควรจะ win-win ด้วยกัน ผลทีไ่ ด้คอื ความไว้วางใจ และความรูส้ กึ ดีๆ จากคูค่ า้ ทีบ่ อกกับเราว่า
21
การโค้ชคนคนหนึ่งให้มี DNA และอุดมการณ์ของ ความเป็นเอสซีจีร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเราก็ได้มี การปรับปรุงระบบการพัฒนา บุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ โดยไม่ได้ยึดติดกับระบบเดิม ที่ประสบความส�ำเร็จมาแล้ว
22
ท� ำ งานกั บ เราแล้ ว สบายใจ ทั้ ง หมดนี้ คือ Role Model ที่ผมได้เรียนรู้ตั้งแต่ ตอนเป็ น จู เ นี ย ร์ ซึ่ ง ช่ ว ยให้ ผ มมี วิ ธี คิ ด ที่ถูกต้อง และตั้งมั่นอยู่บนความเป็นธรรม จากนั้ น พอผมขึ้ น มาเป็ น รุ ่ น พี่ ผมก็ ส ่ ง ไม้ต่อเรื่องเหล่านี้ให้กับรุ่นน้องต่อๆ ไป ทั้งหมดจึงท�ำให้คนเอสซีจีทุกคนเดินอยู่ ในวิถีเดียวกันได้” คุณธนวงษ์เล่า
ตั้งมั่นอยู่บนความเป็นธรรม
การลงทุนในต่างประเทศของเอสซีจี เป็นอีกตัวอย่างหนึง่ ทีเ่ ห็นได้ชดั ในเรือ่ งของ การตัง้ มัน่ อยูบ่ นความเป็นธรรม ด้วยระยะ เวลากว่า 16 ปีที่คุณธนวงษ์ได้ร่วมงาน กับเอสซีจี ภาพทั้งหมดจึงปรากฏชัด “เอสซีจีมีนโยบายที่ชัดเจนว่า เวลา เดินทางออกไปท�ำธุรกิจในต่างประเทศ เรา ต้องไปเป็น Good Citizen ของประเทศ นัน้ ๆ ห้ามคิดเด็ดขาดว่าไม่ตอ้ งไปท�ำอะไร ให้ดีมาก คิดแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นอะไรที่ดี ที่สุดที่เมืองไทยใช้อยู่ อะไรที่ดีที่สุดที่โลก เขาใช้อยู่ เราต้องให้สิ่งนั้นกับเขาเช่นกัน เราไม่มีเรื่อง Double Standard เพราะ การสร้างความเชื่อถือเป็นเรื่องที่ส�ำคัญ “ยิ่งการท�ำธุรกิจในลักษณะร่วมลงทุน ไม่ ใ ช่ เ ราคนเดี ย วที่ มี อ� ำ นาจตั ด สิ น ใจ การร่ ว มลงทุ น ก็ เ หมื อ นเราแต่ ง งานกั น ต้องไม่คดิ จะเลิกกันง่ายๆ ไม่เอาเปรียบเขา ต้องจริงจังและจริงใจต่อกัน เพราะเราต้อง อยู่กันในระยะยาว ซึ่งเมื่อเขาเชื่อถือเรา แล้ว การเจรจาต่างๆ ก็จะง่ายขึ้นเอง” การโค้ชคนคนหนึ่งให้มี DNA และ อุดมการณ์ของความเป็นเอสซีจีร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเราก็ได้มีการปรับปรุง
ระบบการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ การเปลี่ ย นแปลง ในด้านต่างๆ โดยไม่ได้ยดึ ติดกับระบบเดิม ที่ประสบความส�ำเร็จมาแล้ว “ถ้ า มองย้ อ นกลั บ ไป เอสซี จี มี ก าร เปลี่ ย นแปลงมาโดยตลอด เราทุ ่ ม เท สร้ า งสรรค์ น วั ต กรรมสิ น ค้ า และบริ ก าร เพื่ อ ตอบสนองรู ป แบบการใช้ ชี วิ ต ที่ หลากหลายของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความเข้มแข็ง ให้กับสังคม และดูแลสิ่งแวดล้อมให้เกิด ความยั่งยืนเสมอมา การที่เอสซีจีเติบโต มาได้ดจี นถึงทุกวันนี้ ส่วนส�ำคัญมาจากการ ถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในองค์กรจากรุ่น สูร่ นุ่ เราพร้อมทีจ่ ะเรียนรูแ้ ละปรับตัวให้ทนั
กับการเปลีย่ นแปลง และเราก็ยงั มีเส้นทาง ที่ จ ะต้ อ งก้ า วเดิ น ต่ อ ไป เราเดิ น มาถึ ง ตรงนี้ได้ด้วยความร่วมมือของทีมงานและ พนั ก งานทุ ก คน ฉะนั้ น จะอี ก กี่ ร ้ อ ยปี ข้างหน้าก็ไม่น่าห่วง เพราะเราท�ำงาน ร่ ว มกั น เป็ น ที ม อย่ า งสร้ า งสรรค์ จ ริ ง ๆ” คุณธนวงษ์กล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม
23
Member’s Stage
ลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ คุณภาพจากความใส่ใจ เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : สุภัทรา ศรีทองคำ�
24
นับเป็นระยะเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว ที่ แ บรนด์ ชุ ด นั ก เรี ย น “ตราสมอ” ได้รับการยอมรับว่า เป็นชุดนักเรียน ที่มีคุณภาพดีและมีรูปแบบทันสมัย ด้วยแนวคิดง่ายๆ ของเจ้าของที่ว่า “อยากให้ทุกคนซื้อแล้วสบายใจ”
และหลังจากที่ท�ำงานไปได้ 10 ปี ก็มี เหตุจำ� เป็นทีท่ ำ� ให้เธอต้องตัดสินใจลาออก “ตอนนัน้ ดิฉนั มีลกู 3 คน ก็รสู้ กึ ว่าไม่ไหว เพราะไม่มพี เี่ ลีย้ งดูแลเด็ก บางทีลกู เจ็บไข้ ได้ ป ่ ว ยก็ ต ้ อ งโทรศั พ ท์ ไ ปตามเรากลั บ เราก็ เ กรงใจเจ้ า นายและเพื่ อ นร่ ว มงาน เพราะลูกป่วยบ่อยมาก ก็เลยคิดว่าต้อง คุณลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ เจ้าของ ลาออกมาดูลูกเอง” บริษัทสมอทองการ์เมนท์ จ�ำกัด ผู้ผลิตและ จัดจ�ำหน่ายชุดนักเรียนตราสมอ ก้าวเข้าสู่ ธุรกิจนี้ด้วยการเข้ามาบริหารธุรกิจตัดเย็บ “เราดู จ ากตั ว เราเองว่ า เรา เสื้อนักเรียนขนาดเล็กของครอบครัว เธอ ซื้อของก็อยากได้ของดี เรา ใช้เวลาในการท�ำงานอย่างมุง่ มัน่ และตัง้ ใจ ก็เลยอยากให้ของดีกับคนอื่น ที่จะผลิตสินค้าคุณภาพดีให้แก่ลูกค้า จน เช่ น กั น เราจึ ง ใส่ ใ จทั้ ง เรื่ อ ง ปัจจุบัน บริษัทสมอทองการ์เมนท์ จ�ำกัด คุณภาพ การตัดเย็บที่คงทน ได้กลายเป็นแบรนด์ชุดนักเรียนที่ได้รับ แพตเทิร์นที่ใส่แล้วสวยงาม” ความนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศ
จากพนักงานสู่ผู้บริหาร
แม้ว่าจะลาออกจากงานบริษัทเพื่อมา ดูแลลูก แต่เธอก็ได้เตรียมแผนการท�ำงาน ต่อไว้แล้ว “ตอนลาออก ก็มาขันอาสากับอากง ว่าจะเข้ามาท�ำบริษัทให้ คืออากงท�ำธุรกิจ เล็กๆ เย็บเสื้อนักเรียนเป็นหลัก แล้วก็มี เสื้อกันหนาว เสื้อแจ๊คเก็ต แต่ก็เป็นธุรกิจ ทีย่ งั ไม่โต เลยคิดว่าถ้าเราออกมาจะท�ำให้ ดีขึ้น” แน่นอนว่าเธอไม่ได้เพียงแต่คิด หากแต่ได้ลงมือสร้างบริษัทอย่างจริงจัง
หลังจากที่ส�ำเร็จการศึกษาในระดับ ปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และ การบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณ ลั ก ษมณ์ สุ นี ย ์ ก็ เ ข้ า ท� ำ งานในต� ำ แหน่ ง พนักงานบัญชีตามความรู้ที่ได้เรียนมา “ดิฉันท�ำงานเป็นพนักงานบัญชีให้กับ บริ ษั ท กรุ ง เทพอบพื ช และไซโล ซึ่ ง เป็ น ที่ท�ำงานที่สอนทั้งความรู้เรื่องบัญชี การ วางตัว การด�ำเนินชีวิต ถือว่ามีรุ่นพี่ที่ให้ ประสบการณ์เราอย่างมาก ท�ำให้รู้เลยว่า เรียนจบมา เราแทบจะไม่รู้ประสีประสา รายเล็กเจาะตลาด เนื่องจากธุรกิจที่มีอยู่เดิมมีขนาดเล็ก อะไรเลย พอมาท�ำงานก็ อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ” เธอย้ อ นอดี ต ไปถึ ง ครั้ ง แรกที่ ไ ด้ ท� ำ งาน คุ ณ ลั ก ษมณ์ สุ นี ย ์ จึ ง ต้ อ งคิ ด และมองหา
ลู่ทางใหม่ๆ ในการขายเสื้อนักเรียนโดย ไม่ตอ้ งใช้เงินทุนมาก เธอพบว่า การขายตรง กับนักเรียนน่าจะเป็นค�ำตอบที่ใช่ “สมัยนั้นเรายังเป็นธุรกิจเล็กๆ ไม่มี ทุนทรัพย์มากมาย เลยพยายามหาช่องทาง ที่ จ ะขายตรงให้ กั บ นั ก เรี ย นได้ เ ลย เรา เลยติดต่อไปทางโรงเรียนว่าจะเอาสินค้า มาวางขาย หากขายได้ จะแบ่งก�ำไรให้ โรงเรียน” ซึ่งช่องทางนี้ก็เป็นค�ำตอบที่ใช่ ส�ำหรับเธอจริงๆ เพราะจากฐานลูกค้าเดิม ที่ มี อ ยู ่ ใ นภาคอี ส านและภาคใต้ คุ ณ ลักษมณ์สุนีย์สามารถเจาะเข้าโรงเรียนใน กรุงเทพฯ ได้มากกว่า 10 โรงเรียน ภายใน 1 - 2 ปีแรก รวมทั้งอีกหลายโรงเรียนใน ภาคกลาง “จากกรุงเทพฯ เราก็บุกไปต่างจังหวัด ทัง้ สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ซึง่ กระแสตอบรับดีมาก ต้อง ขอบคุณอาจารย์ทกุ ท่านทีใ่ ห้การสนับสนุน เรา ดิฉันท�ำแบบนี้มาสิบกว่าปี” คุณลักษมณ์สนุ ยี ก์ ล่าวขอบคุณอาจารย์ ที่เคยให้โอกาสเธอ จากจุ ด นี้ เ องที่ ท� ำ ให้ บ ริ ษั ท สมอทอง การ์ เ มนท์ จ� ำ กั ด เริ่ ม ก้ า วเข้ า สู ่ ก ารมี ชุดนักเรียนวางขายในร้าน “พอสินค้าของเราเริ่มติดตลาด เริ่มมี นักเรียนมาถามหาสินค้าของเราตามร้าน ต่างๆ มากขึน้ เรือ่ ยๆ ร้านค้าเหล่านัน้ ก็เริม่ มั่นใจในสินค้าเรามากขึ้นว่า รับมาแล้ว ขายได้แน่ๆ เขาก็มารับของเราไปขาย หลายราย ท�ำให้เราขายดีมากจนผลิตไม่ทนั ” เธอเล่าด้วยความภาคภูมิใจ
25
ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ต่างจังหวัดหรือจ่ายงานไปทีอ่ นื่ เลย เพราะ จากประสบการณ์ “ลุยตลาด” ออกร้าน การท�ำแบบนั้นคุมคุณภาพไม่ได้ ท�ำให้ ขายปลีกด้วยตนเองของเธอ ก็ส่งผลให้ คุณภาพด้อยลง ส่วนการบริหารเรื่องคน บริษัทสมอทองการ์เมนท์ จ�ำกัด ได้เห็นถึง เราจะมีพนักงานระดับหัวหน้าที่เย็บเก่งๆ ปัญหาที่แท้จริงของสินค้า ไว้คอยคุมงาน คอยสอนงาน นอกจากนี้ “การที่ เ รามี โ อกาสได้ อ อกร้ า นขาย ปลีกเอง มีประโยชน์กับเราซึ่งเป็นผู้ผลิต มากๆ เพราะเราจะรู้ปัญหาว่ามีอะไรบ้าง อย่างเรือ่ งไซส์ทผี่ ลิตออกมาไม่พอกับความ ต้องการของเด็กนักเรียน เช่น กางเกง 1 ความยาว ของเราจะมีแค่ 3 เอว ซึ่งพอไป วัดเอวเด็ก เราตกใจเลย เพราะเด็กมีทกุ ไซส์ ปัจจุบันกางเกง 1 ความยาว เราจะมี 11 - 12 เอว ซึง่ รายละเอียดแบบนี้ ถ้าเรามัว แต่นั่งอยู่ในโรงงาน เราจะไม่มีทางรู้เลย” ไม่ เ พี ย งแต่ จ ะต้ อ งมี สิ น ค้ า ในขนาด ที่หลากหลาย บริษัทสมอทองการ์เมนท์ จ� ำ กั ด ยั ง มี ก ารตรวจสอบสถิ ติ ใ นเรื่ อ ง จ�ำนวนยอดขาย เพื่อคาดการณ์การผลิต ล่วงหน้าให้เพียงพอต่อความต้องการของ ตลาดในอีกทางหนึ่งด้วย อย่ า งไรก็ ดี สิ่ ง ที่ ท� ำ ให้ ชุ ด นั ก เรี ย น โรงงานเรายังมีการซอยแผนกเยอะ อย่าง ตราสมอเป็นทีย่ อมรับในกลุม่ นักเรียนและ เสือ้ ตัวหนึง่ เราซอยแผนกเย็บได้ถงึ 50 คน ผู ้ ป กครองคื อ เรื่ อ งของคุ ณ ภาพ คุ ณ และเรายังมีระบบ QC อย่างละเอียดทุกๆ ขั้นตอน แม้แต่กระบวนการจัดส่งก็ต้อง ลักษมณ์สุนีย์อธิบายว่า “เราดู จ ากตั ว เราเองว่ า เราซื้ อ ของ แม่นย�ำ ฉะนัน้ เรื่องงานทีผ่ ิดพลาดเรียกว่า ก็อยากได้ของดี เราก็เลยอยากให้ของดี แทบจะเป็นศูนย์” กับคนอืน่ เช่นกัน เราจึงใส่ใจทัง้ เรือ่ งคุณภาพ การตัดเย็บที่คงทน แพตเทิร์นที่ใส่แล้ว อนาคตตราสมอ หลังจากทีไ่ ด้ฟงั คุณลักษมณ์สนุ ยี เ์ ล่าถึง สวยงาม” เธอเสริ ม อี ก ว่ า “จุ ด แข็ ง ของเราคื อ คุ ณ ภาพและความใส่ ใ จในรายละเอี ย ด เราเป็นโรงงานตัดเย็บเสือ้ นักเรียนแห่งเดียว ของสินค้าชุดนักเรียนตราสมอ อีกทั้งยัง ทีผ่ ลิตจนจบกระบวนการ ไม่ได้สง่ ไปเย็บที่ ได้รบั การยอมรับอย่างล้นหลามจากตลาด
26
ชุดนักเรียน เราจึงเกิดค�ำถามในเรือ่ งของการ ขยายตั ว ของบริ ษั ท สมอทองการ์ เ มนท์ จ�ำกัด “บอกตรงๆ ว่าเราไม่กล้าขยาย เคย มี ค นชวนขยายสาขาไปอยู ่ ต ่ า งจั ง หวั ด เหมือนกัน แต่ปัญหาคือ ปัจจุบันพนักงาน ที่มีฝีมือหายากมาก แล้วเราก็ไม่อยากให้ สินค้าออกมาคุณภาพไม่ดี เราจึงเลือกทีจ่ ะ รั ก ษามาตรฐานของสิ่ ง ที่ เ รามี ใ ห้ ดี ที่ สุ ด ซึง่ น่าจะตอบโจทย์มากกว่า” คุณลักษมณ์สุนีย์ตอบอย่างชัดเจน “ส่วนเรือ่ งการเปิด AEC ถ้ามีคนติดต่อ มาเราก็ท�ำ เพราะทุกวันนี้เราเย็บส่งลาว กับกัมพูชาอยู่แล้ว ท�ำมานานเป็นสิบปี ด้วยชือ่ แบรนด์ตราสมอนีเ้ ลย” คุณลักษมณ์สุนีย์ตอกย�้ำในความแข็งแรงของแบรนด์
เด็กกับชุดนักเรียน
ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่เราได้เจอผู้ที่มี ประสบการณ์เกี่ยวกับชุดนักเรียนมานาน เกือบ 40 ปี เราจึงขอให้คุณลักษมณ์สุนีย์ แสดงความคิ ด เห็ น เกี่ ย วกั บ เรื่ อ งการใส่ ชุดนักเรียน ซึ่งก�ำลังเป็นข้อถกเถียงกัน ในวงกว้างอยู่ในขณะนี้ “เท่าที่ได้ยินมา ผู้ปกครองทุกคนก็ยัง อยากให้เด็กใส่ชุดนักเรียนอยู่ เพราะมัน ประหยัดและไม่ตอ้ งวุน่ วายเลือกเสือ้ ผ้าเยอะ ถ้าไม่อย่างนั้น ก่อนไปโรงเรียน เด็กๆ คงต้องเลือกชุดกันนาน อันทีจ่ ริงดิฉนั เชือ่ ว่า มีเด็กนักเรียนเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ ไม่อยากใส่ อยากท�ำตามฝรัง่ เพราะส่วนใหญ่ แล้วเขาก็ยังอยากใส่กันอยู่” เธอตอบ “อย่างไรก็ดี ผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า
เดีย๋ วนีช้ ดุ นักเรียนก็มแี ฟชัน่ เช่น ย้อนหลัง ไปก่อนหน้านี้ คุณจะเห็นนักเรียนหญิง ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ กระโดดไซส์ไปมาก เสื้อเบอร์เล็กจะขายได้น้อย กระโปรงก็จะ ใส่กนั ยาวๆ พอปัจจุบนั แฟชัน่ เปลีย่ น เขา จะใส่เสื้อตัวเล็กลง กระโปรงสั้น คือบางที โรงเรียนก็ตอ้ งเดินสายกลางให้เด็กด้วย ถ้า เด็กประพฤติตัวดี เรียนหนังสือดี ถ้าชุด ไม่ได้ถึงกับสั้นหรือรัดจนรับไม่ได้ ก็อย่า ไปบังคับฝืนใจเด็กมากนัก จนเขารู้สึกว่า ตัวเองเชย และอาจเกิดการต่อต้านได้ เขาก็ อยากทันสมัยบ้าง เราก็ต้องยอมเขาบ้าง”
ความประทับใจในเอสซีจี
ก่ อ นที่ เ ราจะจบบทสนทนา คุ ณ ลักษมณ์สุนีย์ได้กล่าวถึงความประทับใจ ต่อเอสซีจีว่า “ที่นี่ดูแลผู ้ ถื อหุ ้ น กู ้ ดี ม ากค่ ะ แล้ วก็ ไม่ใช่แค่คนที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้เท่านั้น แต่ ยังดูแลรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วย อย่าง เมื่อเร็วๆ นี้ ดิฉันกับครอบครัวได้ไปเที่ยว ระยองกัน ก็ได้เห็นป้ายที่เอสซีจีไปท�ำฝาย ให้กบั ชุมชน เรารูส้ กึ ว่าเขาเป็นต้นแบบทีด่ ี พูดจริงท�ำจริง เราเป็นผู้ถือหุ้นกู้ยังรู้สึก ภาคภูมิใจไปด้วย” เธอส่งรอยยิ้มจริงใจ
เรื่องราวของคุณลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ เจ้าของบริษัทสมอทอง การ์เมนท์ จ�ำกัด นี้ นับเป็นตัวอย่างทีด่ ี ที่ท�ำให้เราได้เห็นว่า แม้จะเริ่มต้นจาก การเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่หากใช้ วิสัยทัศน์ในการมองตลาด บวกกับ การน� ำ เสนอสิ น ค้ า ที่ มี คุ ณ ภาพดี ก็ ย ่ อ มจะท� ำ ให้ ธุ ร กิ จ เติ บ โตและ ประสบความส�ำเร็จได้อย่างงดงาม ในที่สุด
27
28
Money Tips
จับตา! สภาพคล่อง ในระบบการเงินไทย
กับไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 เรื่อง : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หากมองไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ก็ได้มีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สภาพ คล่ อ งของระบบการเงิ น ไทยมี แ นวโน้ ม ที่ จ ะ ตึงตัวขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านอุปสงค์ ต่ อ สภาพคล่ อ งที่ มี แ นวโน้ ม เติ บ โตได้ อ ย่ า ง ต่อเนือ่ ง และปัจจัยด้านอุปทานต่อสภาพคล่อง ที่มีทิศทางอ่อนแรงลง ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปเป็นประเด็นต่างๆ ได้ดังนี้
หนึ่ง - ความต้องการใช้สภาพคล่อง ของระบบการเงินประคองตัวอยู่ ใน ระดับสูง
โดยทั้งหมดนั้นมาจากหลายภาคส่วน ด้วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน อันประกอบ ไปด้วย การขยายตัวของสินเชือ่ ธนาคารพาณิชย์ จดทะเบียนในประเทศ มีอัตราการเติบโตได้เป็นเลข 2 หลัก เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีการคาดการณ์ ว่าจะขยายตัวได้ 11% ในปี 2556 (แม้วา่ จะ ชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2555 ที่เติบโตถึง 13.9%) น�ำโดยความต้องการสินเชื่อเพื่อ เงินทุนหมุนเวียนของลูกค้าผู้ประกอบการ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากต้นทุน การผลิ ต ที่ เ ร่ ง ตั ว ขึ้ น ตามราคาพลั ง งาน โลก และการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ของภาครัฐ ส่วนความต้องการสินเชื่อของ ลูกค้ารายย่อยนัน้ คาดว่ายังคงขยายตัวได้
29
จากความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ แม้จะเป็นอัตรา การเติบโตทีไ่ ม่หวือหวาเมือ่ เทียบกับในช่วง ที่ผ่านมา ความต้องการสภาพคล่องจากช่องทาง อื่นๆ ที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้ ง การระดมทุ น จากภาครั ฐ ตาม แผนการใช้ จ ่ า ยงบประมาณ และการ ลงทุนในโครงสร้างพืน้ ฐานขนาดใหญ่ ผ่าน การออกพันธบัตรและการใช้กลไกสถาบัน การเงินเฉพาะกิจ เพื่อด�ำเนินกิจกรรมกึ่ง การคลัง รวมถึงความต้องการระดมทุน ของภาคเอกชน ผ่ า นการออกตราสาร ทางเลือกอืน่ ๆ อาทิ การออกหุน้ กู้ การเสนอ ขายหุ้นทุน ตลอดจนการออกกองทุนรวม โครงสร้างพืน้ ฐาน ก็นา่ จะเป็นปัจจัยทีม่ ผี ล ในการดึ ง สภาพคล่ อ งออกจากระบบ การเงินไทยในระยะถัดไปด้วยเช่นกัน
สอง - อุ ป ทานของสภาพคล่ อ ง อาจอ่อนแรงลง
สื บ เนื่ อ งจากความไม่ แ น่ น อนของ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ แม้ดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มปรับตัว ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2556 คงจะช่วย ลดทอนผลกระทบจากความไม่แน่นอน ของเงินทุนเคลื่อนย้ายได้บางส่วน โดยมี รายละเอียดดังนี้ ความไม่ แ น่ น อนของกระแสเงิ น ทุ น เคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ซึ่งผูกโยงกับการคาดการณ์เกี่ยวกับ การปรับลดมาตรการ QE ของเฟด ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา ระบบ การเงินไทยนั้นมีสภาพคล่องจากเงินทุน
30
เคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่ไหลเข้ามา ลงทุนทัง้ ในตลาดตราสารหนีแ้ ละตลาดหุน้ ไทย อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่เหลือของ ปี 2556 นี้ ก็มีการคาดการณ์ว่า กระแส เงินทุนจากต่างประเทศอาจเคลื่อนไหวใน ทิศทางทีผ่ นั ผวนมากขึน้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในสถานการณ์ ที่ นั ก ลงทุ น ทั่ ว โลกยั ง คง เฝ้ า รอสั ญ ญาณและท่ า ที ที่ แ น่ น อนของ เฟดต่อการลดขนาดการซือ้ สินทรัพย์ภายใต้ มาตรการ QE ซึ่งหากเฟดเดินหน้าลด ขนาดการซื้อสินทรัพย์ภายในการประชุม อีก 2 ครัง้ ทีเ่ หลือของปี 2556 แล้ว ก็คาดว่า กระแสเงิ น ทุ น เคลื่ อ นย้ า ยคงไหลออก จากไทย และกลับสู่ประเทศแกนหลักอีก ระลอกหนึ่ง ซึ่งจะไปกดดันให้แรงหนุน สภาพคล่องของระบบการเงินไทยในช่วง ที่ เ หลื อ ของปี 2556 นี้ อ่ อ นก� ำ ลั ง ลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา แนวโน้ ม ดุ ล บั ญ ชี เ ดิ นสะพั ด ที่ มี โอกาส ปรับตัวดีขึ้นในช่วงท้ายปี 2556 อาจช่วย หนุนสภาพคล่องได้บางส่วน ทั้งนี้ แม้ว่าช่วง 8 เดือนแรกของปี 2556 ไทยจะบันทึกยอดขาดดุลบัญชีเดิน สะพัดแล้วกว่า 5,524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามภาคการส่งออกของไทยที่เผชิญกับ ภาวะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่า ตั ว เลขการส่ ง ออกของไทยที่ พ ลิ ก กลั บ ขยายตัวดีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2556 ถือ เป็นสัญญาณเบือ้ งต้นทีบ่ ง่ ชีว้ า่ การส่งออก ของไทยในช่วงทีเ่ หลือของปี 2556 นี้ น่าจะ ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับอานิสงส์ จากบรรยากาศเชิงบวกของเศรษฐกิจโลก ผนวกกับการเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่ง
ในที่สุดแล้ว คงมีส่วนช่วยหนุนให้ดุลบัญชี เดินสะพัดของไทยในช่วงท้ายปี 2556 ปรับตัว ดี ขึ้ น จนหนุ น ให้ ดุ ล บั ญ ชี เ ดิ น สะพั ด ของ ไทยตลอดทั้งปี 2556 ขาดดุลลดลงเมื่อ เทียบกับช่วง 8 เดือนแรกของปี ตลอดจน ช่วยลดทอนผลกระทบจากความไม่แน่นอน ของเงินทุนเคลื่อนย้ายได้บางส่วน และแม้วา่ เม็ดเงินใหม่ทจี่ ะเข้ามาเสริม สภาพคล่ อ งในระบบการเงิ น ไทยอาจ มี ทิ ศ ทางที่ อ ่ อ นแรงลง ผนวกกั บ ความ ต้องการระดมทุนจากหลายภาคส่วนที่ยัง มีอย่างต่อเนื่อง คงกดดันให้สภาพคล่อง ของระบบการเงินไทยในช่วงที่เหลือของปี 2556 ทยอยตึงตัวขึน้ เมือ่ เทียบกับช่วงครึง่ แรก ของปี อย่างไรก็ดี เชื่อว่าธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) น่าจะสามารถบริหาร จัดการสภาพคล่องของระบบการเงินผ่าน พันธบัตร ธปท. ทีม่ ยี อดคงค้างกว่า 3 ล้าน
ล้านบาท (ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2556) ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตลอดทั้งปี 2556 ได้อย่างไม่เป็นประเด็น ทีต่ อ้ งกังวล นอกจากนัน้ ศูนย์วจิ ยั กสิกรไทย คาดว่ า คงเห็ น การปรั บ ตั ว ของธนาคาร พาณิชย์เพื่อรับมือกับสภาพคล่องในระบบ การเงินที่อาจทยอยตึงตัวขึ้น รวมถึงเพื่อ แข่งขันกับช่องทางการออมอื่นๆ ด้วยการ ออกผลิตภัณฑ์เงินออมที่ให้ผลตอบแทน จูงใจ เพือ่ ระดมเงินออมและเสริมสภาพคล่อง ให้ เ พี ย งพอต่ อ การขยายสิ น เชื่ อ ในช่ ว ง ที่เหลือของปี 2556 ซึ่งถือเป็นจังหวะอันดี ของผูอ้ อมเงินทีม่ โี อกาสเลือกสรรผลิตภัณฑ์ เงินออมที่ตอบสนองความต้องการลงทุน ทั้งในมิติผลตอบแทนและเงื่อนไขได้อย่าง ตรงตามความต้องการ
31
Cover Story
“How Coaching Works”
พลิกตำ�ราโค้ช สร้างคนให้เก่งและดี เรื่อง : จักรวาล
หากพูดถึงค�ำว่า “โค้ช” ภาพที่เรามักนึกถึงกันคงจะวนเวียนอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล แวดวงกีฬามากกว่าจะนึกไปถึงแวดวงการท�ำงาน นั่นอาจไม่ ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะการโค้ชเพิ่งเข้ามาสู่วงการธุรกิจ และกลายมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนา บุคลากรเมือ่ ระยะหลังมานีเ้ อง เพราะเราปฏิเสธไม่ได้วา่ โลกในปัจจุบนั ได้เปลีย่ นแปลง ไปแล้ว จากการท�ำงานในยุคเกษตรกรรมทีเ่ รียบง่ายไม่ซบั ซ้อน เปลีย่ นผ่านเข้าสูย่ คุ อุตสาหกรรมทีก่ ารท�ำงานซับซ้อนมากขึน้ อีกทัง้ โครงสร้างของคนท�ำงานในสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป มีคนใน Generation X และ Y เพิ่มจ�ำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงท�ำให้ การพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคลมีรูปแบบที่ท้าทายมากขึ้นกว่าเดิม 32
ปัจจัยเหล่านี้เองที่ท�ำให้ปัจจุบันมีเทรนด์ใหม่ที่เรียกกันว่า “การโค้ช” เป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาทักษะและศักยภาพของ พนักงานที่องค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศก�ำลังหันมาให้ ความสนใจกันอย่างจริงจัง ในบ้านเราก็เช่นเดียวกัน การโค้ชคน เริ่มได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ
Coaching เทรนด์ใหม่ของการพัฒนาคน
ด้วยสถานการณ์ดา้ นแรงงานทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป ท�ำให้การโค้ช เริ่มทวีความส�ำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคุณสมบัติที่เหล่าองค์กร ต่างๆ มักจะเฟ้นหาจากตัวบุคคลากรนั้นคือ “ความเป็นผู้น�ำ” เพราะเป็ น หนึ่ ง ในปั จ จั ย ส� ำ คั ญ ที่ ไ ด้ รั บ การพิ สู จ น์ ม าแล้ ว ว่ า มีผลต่อความส�ำเร็จขององค์กรจริง เฮย์กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาชั้นน�ำระดับโลกด้านการบริหาร จัดการและพัฒนาองค์กร เปิดเผยถึงการวิจัยศึกษาในประเด็นนี้ ว่า บริษัทที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดผู้น�ำระดับโลก ไม่ว่า จะเป็น GE, P&G หรือ Samsung ต่างก็ให้ความส�ำคัญในเรื่อง ความเป็นผูน้ ำ� แทบทัง้ สิน้ ส่งผลให้บริษทั เหล่านีม้ ผี ลประกอบการ ที่ดีกว่าบริษัทระดับโลกอื่นๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ จะเป็นอย่างไรก็ตาม
หากมาวิ เ คราะห์ กั น แล้ ว จะพบว่ า ปัจจัยสู่ความส�ำเร็จขององค์กรเหล่านั้น มาจากการลงทุ น ที่ จ ริ ง จั ง ในสามเรื่ อ ง หลัก ได้แก่ หนึ่ง การสร้างโปรแกรม การพัฒนาผูน้ ำ� เชิงกลยุทธ์ สอง การพัฒนา ภาวะผู้น�ำแก่พนักงานในทุกระดับ และ สาม การเตรี ย มผู ้ สื บ ทอดต� ำ แหน่ ง จากภายในองค์กร โดยทั้งสามประเด็น ดังกล่าวนัน้ เป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งใช้ทงั้ ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งผู้น�ำที่กล้าลงทุนกับ เรื่องเหล่านี้ จัดว่าเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์เป็น อย่างมาก จึงจะสามารถตัดสินใจพัฒนา เรื่องนี้อย่างจริงจังได้ ดังกรณีศึกษาของ บริ ษั ท Samsung ที่ น อกจากจะมี ก าร เตรียมความพร้อมด้านผู้น�ำทั้งสามด้าน ดังกล่าวแล้ว ยังมีการปรับภาวะผู้น�ำให้ เข้าใกล้ความเป็น World Citizens เพิม่ ขึน้ อีกประการด้วย โดย Samsung จะใช้ วิธีอบรมเรื่องวัฒนธรรมประจ�ำชาติของ
33
แต่ละประเทศในโลกอย่างจริงจัง ผลก็คือ Samsung ประสบความส�ำเร็จในการสร้าง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้น�ำให้ เกิดขึ้นทั่วโลก นั่นหมายความว่าผู้บริหาร ของ Samsung ทุ ก คนจะมี ห ลั ก การ ค่ า นิ ย ม และวิ สั ย ทั ศ น์ ใ นแบบเดี ย วกั น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม
จะให้ความส�ำคัญกับความรูค้ วามสามารถ ในด้าน Strategic Thinking, Technical Expertise, Decision Making และ Teamwork เราลองไปดูตัวอย่างองค์กรชั้นน�ำ กันว่า เขามีวิธีคิดอย่างไรในการผลักดัน ศักยภาพพนักงาน เพื่อให้องค์กรเดินหน้า ก้าวไกลสู่สากลได้
Work Coaching: โค้ชคนตามวิถี เอสซีจี เพราะคนของเราส�ำคัญที่สุด องค์กร หนึ่ ง ในองค์ ก รชั้ น น� ำ แถวหน้ า ของ
องค์กรชั้นน�ำใหญ่ๆ หลายแห่งไม่ใช่ ไทย ที่ยืนระยะฝ่าฟันลมฝนหลายวิกฤติ แค่ เ พิ่ ง เริ่ ม ให้ ค วามส� ำ คั ญ กั บ การโค้ ช มาจนมีวันนี้ ในอายุครบ 100 ปี กับ หากแต่ ไ ด้ มี ก ารให้ ค วามส� ำ คั ญ และมี แผนการพัฒนาความรูค้ วามสามารถให้แก่ รูปแบบการโค้ชพนักงานที่ชัดเจนมาได้ ระยะใหญ่ๆ แล้ว ซึง่ ในภาพรวมนัน้ องค์กร
34
พนั ก งานอย่ างมี ร ะบบระเบี ย บ ร่างขึ้น มาเป็นโปรแกรมการโค้ชที่ชัดเจน จับต้อง และวัดผลได้จริงทั้ง 4 โปรแกรม ไม่ว่า จะเป็น Functional Training ทีเ่ ปิดโอกาส ให้พนักงานได้พฒ ั นาทักษะความสามารถ ทีจ่ ำ� เป็น เพือ่ น�ำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบตั ิ งาน Business Management & Leadership โปรแกรมนี้ แ ยกย่ อ ยออกไปตาม ระดับของพนักงาน ซึ่งจะได้รับการโค้ช ตามแต่ทักษะและหน้าที่ความรับผิดชอบ Oversea Expansion โปรแกรมเตรียม ความพร้อมส�ำหรับพนักงานทีจ่ ะไปปฏิบตั ิ งานในต่างประเทศ ซึ่งพนักงานจะถูกโค้ช ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือนก่อนเดินทาง ทัง้ เรือ่ งทักษะความสามารถและวัฒนธรรม
ของประเทศทีก่ ำ� ลังจะเดินทางไป Valued Innovation โปรแกรมที่ เ สริ ม สร้ า งให้ พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ เพือ่ ให้การ ท�ำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากการพัฒนาขีดความสามารถ ของพนั ก งานแล้ ว เอสซี จี ก็ ไ ม่ ลื ม ที่ จ ะ โค้ชในเรื่องของ “จิตส�ำนึก” เพื่อสานต่อ ทุกการพัฒนาให้ด�ำเนินไปในแนวทางที่ ยัง่ ยืน ไม่วา่ จะเป็นโครงการ Young Talent Manager เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ กลุ ่ ม ผู ้ บ ริ ห ารระดั บ ต้ น ที่ จ ะก้ า วไปเป็ น ผู ้ บ ริ ห ารระดั บ สู ง ในอนาคต และสภา กิจกรรม ทีเ่ ปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับ ได้มโี อกาสท�ำกิจกรรมนอกเวลางานร่วมกัน ทั้งพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม
Toyota Way รหัสความส�ำเร็จของ คนโตโยต้า
กลายเป็นเจ้าของพิมพ์เขียวของรอยทาง ความส�ำเร็จของหลายๆ องค์กรไปแล้ว ภายใต้การด�ำเนินงานด้วยเครือ่ งมือทีเ่ รียก ว่า ระบบ Lean ทีเ่ น้นการเรียนรูอ้ ย่างไม่มี ทีส่ นิ้ สุด เพือ่ การเติบโตขององค์กรทีย่ งั่ ยืน โดย Lean ที่ว่านั่นหมายถึง ระบบที่คน ในองค์กรใช้สมองในการท�ำงานเป็นหลัก เพื่ อ ลดความสู ญ เสี ย ให้ เ หลื อ น้ อ ยที่ สุ ด รวมถึ ง พั ฒ นาและปรั บ ปรุ ง การท� ำ งาน อย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา โตโยต้าจะใช้วิธีพัฒนาผู้จัดการให้ กลายเป็นโค้ชเพื่อสอนงานต่อๆ ไป และ งานของผู้จัดการจึงไม่ใช่แค่ท�ำงานของ ตัวเองให้สำ� เร็จและสามารถท�ำงานร่วมกับ ผู ้ อื่ น ได้ เ ท่ า นั้ น แต่ ยั ง เปรี ย บเสมื อ น ผู้ส่งต่อวิถีแห่งโตโยต้าให้พนักงานเห็น และเข้าใจถึงปรัชญาขององค์กรทั้งเรื่อง การท� ำ งานและวิ ธี ก ารคิ ด นั่ น จึ ง เป็ น
เหตุผ ลที่ว ่ า ท� ำ ไมโตโยต้ าจึ งไม่ ฝ ึ ก หั ด ผู ้ จั ด การใหม่ ที่ คั ด สรรมาจากภายนอก แต่จะพัฒนาคนจากภายในให้ก้าวขึ้นมา เป็นผู้จัดการเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องท�ำผ่าน กระบวนการเรียนรูซ้ ำ�้ แล้วซ�ำ้ เล่าอย่างไม่มี ที่ สิ้ น สุ ด นั่ น ถึ ง จะถื อ เป็ น หั ว ใจที่ ส� ำ คั ญ ของระบบ Lean อย่างแท้จริง
Life Coaching: งานยังต้องโค้ช ชีวิตไม่โค้ชได้อย่างไร
หากต้องประสบปัญหาในเรื่องหน้าที่ การงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทักษะ วิธีคิด ที่เกี่ยวข้องกับงานใดๆ องค์กรส่วนใหญ่ ก็จะมีโปรแกรมเพื่อพัฒนาบุคลากรคอย สนับสนุนกันอยู่แล้ว และหากปัญหาที่ เกิดขึน้ เป็นเรือ่ งชีวติ ส่วนตัวทีแ่ ก้ไม่ตกบ้าง เราจะมีวิธีรับมือมันอย่างไร การหาทางออกของแต่ ล ะคนอาจ แตกต่างกัน บางคนหันหน้าเข้าวัด ไหว้พระ สวดมนต์ ภ าวนา บางคนก็ ไ ปถามหา ทางออกกับหมอดูหมอเดาตามความเชื่อ หรือบางคนอาจเครียดมากถึงขนาดต้อง หันไปพึ่งพาจิตแพทย์ แต่ส�ำหรับประเทศ ทางฝั่งตะวันตกนั้น พวกเขามีบุคคลที่ เรียกว่า Life Coach ซึง่ เริม่ ได้รบั ความนิยม ในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผู้คนเริ่มวิตก ต่อสถานการณ์หน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ รวมไปถึงชีวิตคู่ ซึ่งจัดว่าก�ำลัง เป็ น กระแสที่ ม าแรงในหลายประเทศ ทั่วโลก ณ ขณะนี้ Life Coaching นั้นจะแตกต่างจาก การโค้ชในรูปแบบอื่น เพราะจะไม่เน้น ไปที่การชี้จุดเพื่อแก้ปัญหา แต่จะฝึกฝน จากภายในโดยใส่ ก รอบความคิ ด ที่ ว ่ า “คนทุกคนมีสติปัญญาและความสามารถ ในการแก้ ป ั ญ หาได้ ด ้ ว ยตนเอง” โดย
ผู้โค้ชจะเป็นเพียงนักตั้งค�ำถามและนักฟัง ที่ดี ใช้เทคนิคการถามที่เจาะไปถึงระดับ จิตใต้ส�ำนึก เพื่อให้ผู้รับการโค้ชเห็นแง่มุม ทีห่ ลากหลายและแตกต่างออกไป ทัง้ ยังใช้ หลักการจิตวิทยาเข้ามาเสริม จุดประสงค์ ก็เพื่อให้ผู้รับการโค้ชคิดหาค�ำตอบได้ด้วย ตนเอง ค้นพบทางเลือกอื่นๆ หลีกหนี จากภาวะจมปลั ก ส่ ง เสริ ม ก� ำ ลั ง ใจให้ สานต่อเส้นทางชีวิตต่อไปได้ และยังต้อง ท�ำหน้าที่กระตุ้นให้ผู้รับการโค้ชตระหนัก ได้วา่ ควรด�ำเนินชีวติ ไปในทิศทางใด เพือ่ ให้ พวกเขาเข้ า ใจตนเองและเกิ ด การปรั บ เปลี่ยนพฤติกรรมที่จะท�ำให้ชีวิตดีขึ้นได้ ในระยะยาว
เหนือสิ่งอื่นใด การโค้ชในด้านใด ก็ตามจะสัมฤทธิผลไม่ได้เลย หาก เจ้าของชีวิตไม่รู้จักสร้างสมดุลให้แก่ ชีวิต อย่าปล่อยให้มันหย่อนคล้อย หรื อ ตึ ง แน่ น ในด้ า นใดด้ า นหนึ่ ง จนเกินไป และรู้จัก “ใช้ชีวิต” ไม่ ใช่ “รับใช้ชีวิต” ในแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เชื่ อ ว่ า ความสุ ข จากชี วิ ต ที่ ส มดุ ล คงได้มาไม่ยากเย็นอย่างแน่นอน 35
36
Focus
เซียะ จือหัว
โค้ชเลือดมังกร เบื้องหลัง ความสำ�เร็จแบดมินตันไทย เรื่อง : พงษ์อมร ต้นสายเพ็ชร ภาพ : ศักยะ บุญเสมอ
ละอองแห่งความสุขของชาวไทยโปรยปรายจากความส�ำเร็จของ สาวน้อยมหัศจรรย์ เมย์ - รัชนก อินทนนท์ ในฐานะแชมป์โลกแบดมินตันหญิง สั ญ ชาติ ไ ทยคนแรกที่ อ ายุ น ้ อ ยที่ สุ ด ซึ่ ง ได้ ค รองแชมป์ ร ายการ แบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013
37
ความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ ล้วนเกิดจาก ความสามารถและการฝึกฝนของนักกีฬา หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความ ทุ่มเทของผู้อยู่เบื้องหลังอีกหลายต่อหลาย ชีวิต หนึ่งในนั้นมีชื่อของ เซียะ จือหัว ผูฝ้ กึ สอน ผูด้ แู ลเมย์ - รัชนก ซึง่ เปรียบเสมือน พ่อคนที่สอง ปรากฏอยู่อย่างชัดเจน วันนี้โค้ชเซียะให้เกียรติ SCG Delight มาร่วมพูดคุยถึงเส้นทางสายแบดมินตัน และแนวคิดวิธีการในการเป็นโค้ชที่น�ำพา ความส�ำเร็จมาสู่คนไทยทั้งประเทศ เรา เดิ น ทางมาถึ ง โรงเรี ย นแบดมิ น ตั น บ้ า น ทองหยอด โค้ชเซียะในชุดกีฬาท่าทาง ทะมัดทะแมงออกมาต้อนรับเราอย่างเป็น
กันเอง ก่อนทีบ่ ทสนทนาแห่งความภาคภูมใิ จ ถ้าอยากก็จะขอให้มาอยู่ที่โรงเรียนกีฬา จะเริ่มต้นขึ้น ด้วยกัน โรงเรียนจะดูแลทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นเรื่องกิน นอน เสื้อผ้า พ่อแม่ผม SCG Delight: เริ่มต้นในเส้นทาง เลยตอบตกลง แบดมินตันได้อย่างไร เข้าใจว่าฝีมือคงเข้าตาโค้ช ผมเลย โค้ชเซียะ: ตอนนั้นผมไม่มีทางเลือก ได้โอกาสแข่งข้ามรุ่นตลอด ถึงจะไม่ได้มี ประเทศจีนในตอนนัน้ ก็ยงั ไม่เจริญ ถ้าใคร พรสวรรค์อะไร แต่ตอ้ งบอกว่าผมได้โค้ชเก่ง เป็นนักกีฬา รัฐจะเลี้ยง จ�ำได้ว่าผมเริ่ม ขยั น ฝึ ก ซ้ อ ม พยายามมากกว่ า คนอื่ น ชีวิตนักกีฬาตอนอายุ 8 ขวบด้วยการได้ แต่ชว่ งนัน้ ก็หกั โหมมากเหมือนกัน ไม่นาน แชมป์วิ่งในระดับโรงเรียน ตอนนั้นมีโค้ช ก็เลยเจ็บจนซ้อมหนักไม่ได้ จากที่เคยเล่น แบดมินตันมาเห็นเข้า เขาเห็นว่าเราวิ่งเร็ว เดี่ยวเลยต้องไปเล่นคู่ สุดท้ายอาการเจ็บ มาก เลยชวนไปตีแบด เพราะแบดมินตัน ก็เรื้อรัง เลยผันตัวเองมาเป็นบล็อกเกอร์ ต้องการคนที่ขาเร็ว ว่องไว เขาก็ไปคุยกับ (คู่ซ้อมให้นักกีฬา) แทน พ่อแม่ผมว่า อยากให้ลกู เล่นแบดมินตันไหม
SCG Delight: แล้วท�ำไมอยู่ๆ ถึงมา ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย
โค้ชเซียะ: เหมือนความบังเอิญ เมื่อ ประมาณ 22 ปีทแี่ ล้ว ตอนนัน้ ผมเป็นผูช้ ว่ ย สอนของทีมชาติจนี แล้วก็ได้เจอกับแม่ปกุ (คุณกมลา ทองกร ผู้อ�ำนวยการโรงเรียน แบดมินตันบ้านทองหยอดในปัจจุบัน) ที่ ก�ำลังหาโค้ชชาวจีนมาสอนแบดมินตันให้ ลูกๆ เลยติดต่อมาทางโค้ชของผมอีกที ซึ่ ง เป็ น จั ง หวะเดี ย วกั บ ที่ โ ค้ ช ผมก็ ส นใจ จะมาเมืองไทยเหมือนกัน ก็เลยได้มาอยู่ จนถึงทุกวันนี้
SCG Delight: ในวันที่เปลี่ยนบทบาท มาเป็นโค้ช คุณใช้วิธีการแบบไหน ฝึกนักกีฬา
โค้ชเซียะ: ตอนทีเ่ ริม่ ฝึกเมย์ ตอนนัน้ เขา แค่ 6 ขวบเอง พ่อแม่เขาท�ำงานในโรงงาน บ้านทองหยอด เวลาผมไปสอน เด็กๆ ก็ จะพาเมย์ไปด้วย เพราะทีท่ ำ� งานพ่อแม่เขา มีแต่เตาร้อนๆ ผมไม่อยากให้เด็กอยูใ่ นนัน้ มันอันตราย ผมเลยดึงเขาออกมาตีแบด ดีกว่า เมย์เริ่มตั้งแต่เก็บลูกให้รุ่นพี่เลย
38
บางคนผมก็จะสัมผัสได้ ทันทีถึงความมุ่งมั่น เพราะ เวลาสอน เขาจะตั้งใจรับ สิ่งที่เราสอน ซึ่งหลายคน ก็แสดงให้เห็นว่า “มีแวว” อย่างเมย์เขาจะไม่เหมือน คนอื่น เขาเรียนรู้ได้เร็ว เกินอายุ ถือเป็นสาวน้อย มหัศจรรย์จริงๆ ตอนนั้นที่บ้านมีแค่คอร์ตเดียว เวลาเล่น ต้องผลัดกันตี ตอนแรกๆ เมย์ก็ไม่ค่อย ตี ห รอก ได้ แ ต่ เ อาลู ก ปาใส่ ก� ำ แพงเล่ น ว่างๆ ผมก็ลองสอนเขาให้ตลี มอยูก่ บั ทีบ่ า้ ง ยกมือแบ็กแฮนด์-โฟร์แฮนด์บ้าง วิ่งตีบ้าง ยืนตีบา้ ง ต่อมาก็ลองให้ตเี ชือก ตีบนตีลา่ ง ให้ มี ค วามรู ้ สึ ก แต่ ยั ง ไม่ ไ ด้ ฝ ึ ก ให้ ตี ลู ก เพราะการตี แ บดนั้ น ตี ใ ห้ ถู ก ลู ก ไม่ ย าก แต่ตีให้เก่งยากกว่า ต้องพร้อม ต้องจับ ความรู้สึกเก่ง และมือเท้าต้องสัมพันธ์กัน
SCG Delight: ในสายตาโค้ช นักกีฬา แบบไหนที่จะประสบความส�ำเร็จได้ ก็แสดงให้เห็นว่า “มีแวว” อย่างเมย์เขาจะ SCG Delight: วางเป้าหมายให้เแก่ โค้ชเซียะ: คนเล่นแบดมินตันใช่ว่าจะ ไม่เหมือนคนอื่น เขาเรียนรู้ได้เร็วเกินอายุ เด็กๆ อย่างไรบ้าง เก่งหมดทุกคนนะ บางคนก็แค่เล่นเพื่อ ออกก�ำลังกาย เพราะแบดมินตันเป็นกีฬา ที่ดี ปลอดภัย แบ่งฝ่าย แบ่งพื้นที่กันเล่น ชัดเจน ไม่ตอ้ งมีการปะทะ ส่วนคนทีต่ งั้ ใจ เข้ามาฝึกเพื่อเอาดีทางนี้ บางคนผมก็จะ สัมผัสได้ทันทีถึงความมุ่งมั่น เพราะเวลา สอน เขาจะตัง้ ใจรับสิง่ ทีเ่ ราสอน ซึง่ หลายคน
ถือเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์จริงๆ นั่นคือ ข้อดีขอ้ แรก ประกอบกับเขามีวนิ ยั ในตัวเอง สู ง มาก เขาซ้ อ มหนั ก เขาเป็ น แชมป์ เยาวชนโลกตัง้ แต่อายุ 14 ปี เป็นแชมป์โลก ตอนอายุ 18 ปี ทั้งหมดมันฟ้องว่าการมี พรสวรรค์อย่างเดียวไม่พอ คุณต้องมีพรแสวง และมีความตั้งใจจริงด้วย
โค้ ช เซี ย ะ: ผมผู ก พั น กั บ โรงเรี ย น แบดมินตันบ้านทองหยอดมานาน ผูกพัน กับเด็กๆ เหมือนเป็นลูกหลาน เด็กบางคน เราเห็นเขามาตั้งแต่เขาเกิด ดูๆ ไปแล้ว ผมก็ เ หมื อ นพ่ อ คนที่ ส อง เพราะได้ พ า เขาไปกินไปเที่ยว ระหว่างที่พ่อแม่จริงๆ ของพวกเขาต้ อ งท� ำ งาน ถ้ า จะถามถึ ง 39
หลักๆ คือ ต้องฝึกให้เขาควบคุมสติและ อารมณ์ให้ได้ ถ้าตีแล้วแต้มหายก็อย่าไป คิดมาก เสียแล้วก็เสียไป เริ่มใหม่ ตีให้ดี แบบทีซ่ ้อมมา ซ้อมมาเท่าไร ใส่ไปให้หมด
SCG Delight: เห็นว่านอกสนามแข่ง โค้ชก็ยังช่วยดูแลเมย์ด้วยเหมือนกัน
เป้ า หมายที่ ว างไว้ ใ ห้ เ ด็ ก ๆ เป็ น ไปได้ ผมก็อยากให้พวกเขาไปได้ไกลถึงแชมป์ โอลิมปิก เพราะนั่นคือจุดสูงสุดของกีฬา ไม่ใช่แค่เมย์คนเดียวนะ แต่ผมอยากให้ ทุกคนทีม่ คี วามพยายามอย่างจริงจังไปถึง จุดนั้นได้ทั้งหมด
SCG Delight: แล้วเวลาพาเด็กไปแข่ง โค้ชต้องท�ำการบ้านเรื่องไหนบ้าง
โค้ชเซียะ: เราจะซ้อมไปเรื่อยๆ แต่จะ ค่อยๆ เพิ่มเทคนิค เพิ่มฝีมือ ฝึกให้เขา ใจนิ่ง ผมรู้ดีว่าการฝึกแบบหักโหมเกินไป มันได้ไม่คุ้มเสีย ต้องรักษาให้เขาเล่นได้ นานๆ เพราะอาการบาดเจ็บนั้นส่งผลต่อ ตัวนักกีฬามาก แต่สมัยนี้เทคโนโลยีก็ช่วย ให้เราท�ำงานง่ายขึน้ ข้อมูลในอินเทอร์เน็ต มี ห มดทุ ก อย่ า ง นั ก กี ฬ าคนไหนเป็ น อย่ า งไร บั น ทึ ก การแข่ ง ขั น ครั้ ง ก่ อ นมี รายละเอียดอะไรบ้าง ท�ำให้เราวิเคราะห์ ได้หมด ยกตัวอย่างตอนฝึกเมย์ให้ไปแข่ง
40
ถ้าอยากชนะก็ต้องรู้เขา รู้เรา รู้แต่เราไม่รู้เขาก็ไม่มี ทางชนะ เราไม่ได้ชนะด้วย การตีให้เขาตาย แต่ชนะ ด้วยการตั้งรับที่ดี สุขุม หาจังหวะ กับจีนนั้นมีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ เพราะ แรงปะทะเราสู้เขาไม่ได้ แต่ความแข็งแรง มีทั้งด้านดีและไม่ดี ความแข็งแรงมันดีนะ แต่อาจอยู่ได้ไม่ยาว ถ้าเรามีเทคนิคและ จังหวะที่ดี จะท�ำให้เราอยู่ได้นานขึ้น ถ้าอยากชนะก็ต้องรู้เขารู้เรา รู้แต่เรา ไม่รู้เขาก็ไม่มีทางชนะ เราไม่ได้ชนะด้วย การตีให้เขาตาย แต่ชนะด้วยการตั้งรับ ที่ดี สุขุม หาจังหวะ เขารีบตบใส่มา เราตี ออกซ้าย-ขวา พอเขาใจร้อน เขาจะพลาด
โค้ ช เซี ย ะ: ผมดู แ ลเขาในทุ ก ด้ า น ตอนนี้ มี ร ายได้ เ ข้ า มาเยอะ เรื่ อ งจิ ต ใจ ของเขาก็ เ ป็ น สิ่ งส� ำ คั ญ เขาต้ องอดทน ต่อสิ่งต่างๆ แต่พื้นฐานแล้วเมย์เป็นเด็กดี ตั้งแต่เขายังไม่มีชื่อเสียงจนเขาได้แชมป์ ประเทศไทย แชมป์เยาวชนโลก เขาก็ ยังเป็นเหมือนเดิม ยังมีวินัยในการซ้อม เหมือนเดิม ส่วนตัวเขาเป็นเด็กอารมณ์ดี ว่านอนสอนง่าย เป็นเด็กนิ่งๆ ว่างก็อ่าน หนังสือ ดูละคร เวลาไปแข่งต่างประเทศ ก็ไม่เห็นเขาออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน เขา จะพกโน้ตบุ๊กไปเครื่องหนึ่ง เอาไว้ดูละคร คลายเครียด
วิ ธีก ารสอนของผมไม่ ได้ แ ปลก ใหม่อะไร แต่ทั้งหมดเป็นเพราะความ หวังดีที่ผมมีต่อเด็กๆ เมื่อไปผสม รวมกั บ พรสวรรค์ แ ละวิ นั ย ในการ ฝึกซ้อมของพวกเขาแล้ว ผมก็เชือ่ ว่า การที่ประเทศไทยจะมีแชมป์โลกอีก กี่คน กี่สมัยก็ไม่ใช่เรื่องยาก ขอแค่ พั ฒ นาและสนั บ สนุ น เขาให้ ถู ก จุ ด วงการกีฬาไทยทุกประเภทก็สามารถ รุ ด หน้ า เที ย บชั้ น กั บ ประเทศชั้ น น� ำ อื่นๆ ของโลกได้อย่างแน่นอน
10 Things
10
เรื่อง : จักรวาล
แล้วคุณจะต้องแปลกใจ เพราะ ไม่ ใช่แค่คนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝน ได้ หากแต่ “สัตว์” ที่เรารู้จักกันดี หลายๆ ชนิดก็ฝึกให้แสนรู้ ได้เช่นกัน เราลองไปดูกันว่า จะมีสัตว์ชนิดไหน บ้างที่คนจับมาฝึกใส่ความสามารถ พิเศษแปลกๆ ลงไป ท�ำให้มันไม่ใช่แค่ สัตว์ธรรมดาอีกต่อไป
ฝึกหมูให้เป็นสัตว์เลี้ยง
อาจเป็ น ความรู ้ ใ หม่ ส� ำ หรั บ คนที่ ยั ง ไม่รู้จักเจ้าหมูไซส์จิ๋วชนิดนี้ มันมีชื่อว่า “Micro Pig (Teacup Pig)” ที่ได้มาจาก การตัดต่อพันธุกรรมของหมูหลายสายพันธุ์ ออกมาเป็ น หมู จิ๋ ว ที่ มี ล วดลายและสี สั น แปลกตาดึงดูดใจคน จนได้เลื่อนฐานะ มาเป็ น สั ต ว์ เ ลี้ ย งชนิ ด ใหม่ ข องมนุ ษ ย์ โดยหมู พั น ธุ ์ นี้ จ ะฉลาดกว่ า หมู ธ รรมดา ทัว่ ไป ตัวเล็ก เลีย้ งง่าย ฝึกให้ขบั ถ่ายเป็นที่ เป็นทางได้เช่นเดียวกับสุนขั และแมว แสนรู้ แบบนี้ น่าลองหามาเลี้ยงไว้ในบ้านสักตัว
42
กับความสามารถที่คุณไม่คิดว่า
ฝึกหนูให้เป็นนักโต้คลื่น
ฝึกช้างให้ ไถนา
น่าจะเป็นทีเ่ ดียว ในไทยและในโลก ที่ เ ราจะได้ เ ห็ น “ช้ า งไถนา” ที่ ต� ำ บลอมก๋ อ ยยั ง มี ชุ ม ชนชาวกะเหรี่ ย ง ที่ยังคงเลี้ยงชีพด้วยเกษตรกรรม และด้วย ความทีพ่ นื้ ทีอ่ าศัยอยูบ่ ริเวณเชิงเขาทีม่ ดี นิ แข็ง การใช้ควายไถนาจะท�ำให้ได้งานน้อย อีกทั้งพวกเขาก็ไม่มีทุนที่จะซื้อรถไถนา พวกเขาจึงลองฝึกช้างมาไว้ใช้ไถนา ซึ่ง ท�ำงานได้มากกว่าควายถึงสองเท่า แถมยัง ลากคันไถได้ถึงครั้งละสามคันเลยทีเดียว ช่ า งคิ ด ช่ า งสร้ า งสรรค์ จ ริ ง ๆ ชาวไทย ภูเขาของเรา
ฝึกสุนัขให้เล่น ผาดโผน
ถ้ า คุ ณ รู ้ จั ก “Parkour” คุณจะ รู้ดีว่า มันเป็นกีฬาสุดผาดโผนที่ผู้เล่นต้อง เสี่ยงไม่น ้ อย ทั้ งปี น ไต่ ก ระโดดข้ ามสิ่ ง กีดขวางต่างๆ อย่างรวดเร็ว กีฬาทีแ่ ม้แต่คน ยังบอกว่าเล่นยาก แต่แล้วเรากลับเห็น เจ้าตูบสี่ขาพันธุ์บูลเทร์เรียร์ที่ชื่อว่า “Tret” จากยูเครน สามารถเล่น Parkour ได้แบบ หน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น แบบไม่ต้องมีคน คอยสั่งคอยก�ำกับอยู่เลย พลิ้วได้ขนาดนี้ คงไม่ต้องถามต่อแล้วว่า มันต้องถูกเทรน มามากขนาดไหน
เห็นภาพแล้วอาจไม่เชื่อหรือคิดว่าเป็น ภาพตัดต่อแน่ๆ แต่สิ่งที่ก�ำลังเห็นนี้คือ เรื่ อ งจริ ง กว่ า สองปี ที่ เ ชน วิ ล ล์ ม อตต์ หนุ่มออสเตรเลียทุ่มเทฝึกหนูของเขาให้ เล่นกระดานโต้คลืน่ เป็น โดยเริม่ จากการฝึก ให้มันชินกับน�้ำ จากนั้นก็ฝึกให้มันทรงตัว บนเรือบังคับ และท้ายที่สุดก็จับมันวาง บนกระดานให้ เ ผชิ ญ กั บ คลื่ น ในทะเล แหม…เซียนทัง้ หนูทงั้ คน เชือ่ เขาเลยจริงๆ
ฝึกลิงให้เป็นเด็กเสิร์ฟ
ไหนๆ คิดจะฝึกสัตว์เลีย้ งทัง้ ทีแล้ว ฝึก ให้ใช้งานได้ไปเลยดีกว่าไหม ไอเดียของ คาโอรุ โอสึกะ เจ้าของบาร์ในประเทศญีป่ นุ่ ที่ฝึกลิงจ๋อแสนรู้ของเขาให้เป็นเด็กเสิร์ฟ โดยเจ้า “Yat-chan” ก็ไม่ท�ำให้เจ้านาย ต้องผิดหวัง เพราะมันช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่ม ให้ลูกค้าได้จริง แถมยังเสิร์ฟอย่างสุภาพ อีกต่างหาก สร้างความประทับใจให้แก่ ลูกค้าที่มาเยือนได้อย่างมาก ใครเปิดร้าน ลองเอาไอเดี ย นี้ ไ ปใช้ ดู ไ ด้ รั บ รองว่ า ลูกค้าติดตรึม
ฝึกกิ้งก่าให้เป็นนางแบบ
ฝึกวัวให้เป็นม้า
เรื่องของเรื่องเกิดจากเธอคนนี้ เรจินา เมเยอร์ สาววัยรุ่นที่ร้องขอให้พ่อแม่ซื้อม้า ให้ไม่ส�ำเร็จ เธอจึงจับเอาวัวในฟาร์มของ ครอบครัวมาฝึกเป็นม้าเองเสียเลย โดย เธอจะฝึกเจ้าวัวแสนเชือ่ งตัวนีท้ กุ วัน วันละ 1 ชั่วโมง และหลังจากฝึกเสร็จ เธอก็จะ แปรงขน ลูบขนมันเพื่อสร้างความคุ้นเคย โดยรวมเวลาทั้ ง หมดที่ ใ ช้ ฝ ึ ก คื อ 2 ปี จนตอนนี้ วั ว เทพตั ว นี้ ส ามารถให้ ขี่ ไ ด้ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้สมใจอยากเธอ เรียบร้อย แม้จะกระโดดได้ไม่สูงเท่าม้า แต่แค่นี้ก็เริ่ดกว่าวัวตัวอื่นแล้ว
ฝึกสุนัขให้เป็นนักประท้วง
ใครจะเชื่อว่าสัตว์ที่หน้าตาไม่ค่อยน่า พิสมัยอย่างกิ้งก่าก็เอามาฝึกให้มีมุมเก๋ไก๋ กับเขาได้เหมือนกัน โดย “Henry Lizardlover” ชายผูร้ กั กิง้ ก่าเป็นชีวติ จิตใจ เขาฝึก ให้เจ้าสัตว์แสนรักของเขาโพสท่าประหนึ่ง นางแบบก็ไม่ปาน ดูผ่านๆ เหมือนกิ้งก่า ที่ถูกสตัฟฟ์ไว้ แต่พวกมันยังมีลมหายใจ อยู่ครบถ้วน แล้วใช่ว่าจะฝึกกันง่ายๆ เสีย ฝึกไก่ให้หัวเราะ ต่อไปนี้ ทุกๆ เช้าลองตั้งใจฟังดูให้ดี เมื่อไร เพราะถ้าไม่ได้คลุกคลีและเลี้ยง กิ้งก่ามานานกว่า 30 ปีขนาดนี้ ก็อย่าหวัง เพราะไก่อาจไม่ได้ขัน แต่มันอาจก�ำลัง ว่าจะท�ำได้ เอาไปสิบคะแนนเต็มเลยรายนี้ หัวเราะอยู่ เรื่องจริงไม่ได้โจ๊ก เพราะที่ เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มีการ ฝึกให้พอ่ ไก่หวั เราะ โดยเขาจะฝึกกันตัง้ แต่ มันยังเป็นลูกไก่ ฝึกกันจริงจังถึงขนาดทีจ่ ดั การแข่งขันชิงแชมป์ไก่หวั เราะประจ�ำปีเลย ทีเดียว เขาบอกว่า ฝึกได้ทงั้ ให้มนั หัวเราะ รัวๆ อย่างเสียงปืนกล หรือจะหัวเราะเอิก๊ อ๊าก แบบคนก็ทำ� ได้ โอ้โห…สุดยอดจริงๆ
10
ส�ำหรับเคสนี้ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าใครเป็นโค้ช แต่เมื่อมีการ ประท้วงที่ไหน ต้องมีเจ้า “Loukanikos” สุนัขนักประท้วงตัวนี้ ที่ นั่ น โดยทุ ก ครั้ ง ที่มีการประท้วงเกิดขึ้น จะต้อ งเห็ น มั น วิ่ ง เป็นแนวหน้าอยูฝ่ ง่ั ผูป้ ระท้วงและคอยเห่าไล่ตำ� รวจอยูร่ ำ�่ ไป ซึง่ การ ปรากฏตัวของมันในแต่ละครัง้ สร้างบรรยากาศให้ผอ่ นคลายลงได้บา้ ง ฝึกแมวให้เป็นสายลับ ไม่ใช่เรือ่ งเล่าจากภาพยนตร์ แต่นคี่ อื เรือ่ งจริงทีค่ รัง้ หนึง่ ซีไอเอ เพราะด้วยความแสนรู้ ผูค้ นจึงเอ็นดูมนั ทัง้ สิน้ เรือ่ งของมันยังโด่งดัง ไปถึงหูของนิตยสาร Time จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน เคยฝึกแมวให้เป็น “สายลับ” ภายใต้ภารกิจทีช่ อื่ ว่า “Acoustic Kitty” Person of the Year ในหมวดผูป้ ระท้วงอีกด้วย…ดังใหญ่เลยนะเรา โดยสัตวแพทย์จะท�ำการฝังไมโครโฟนลงไปในหูของมันและใส่ตวั ส่งคลื่นวิทยุลงไป เพื่อเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้เป็นอุปกรณ์สอดแนม และยังฝึกให้มนั ไปคลอเคลียกับเหล่าเจ้าหน้าทีต่ า่ งชาติ เพือ่ ทีจ่ ะ ได้แอบฟังบทสนทนาอีกด้วย แต่การทดสอบกลับต้องล้มเหลว เมื่อเจ้าเหมียวตัวนี้ดันถูกรถแท็กซี่ทับเสียชีวิตเสียก่อน ท�ำให้ นักวิทยาศาสตร์ไม่มนั่ ใจในศักยภาพของเจ้าเหมียว จึงเบนเข็มไป สนใจสัตว์ชนิดอื่นแทน อ่านจบแล้วอย่าลืมไปพลิกหูเจ้าเหมียว ที่บ้านดู เผื่อใครมาแอบติดเครื่องดักฟังไว้ล่ะยุ่งเลย 43
Exotic Thai
ป่าสน
เที่ยว
ชมยอดภู
เรื่องและภาพ : วรศักดิ์ จรุงรัตนาพงศ์
01 01 ดอกไม้งามบนภูกระดึง 44
ประเทศไทยตัง้ อยู่ในพืน้ ทีป่ า่ เขตร้อน (Tropical Forest) อันเป็นส่วนหนึง่ ของผืนป่าที่ถือก�ำเนิดขึ้นบริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลก ท�ำให้ป่าเขตร้อน ได้รบั การขนานนามว่าเป็น “เข็มขัดสีเขียวของโลก” เพราะป่าเขตร้อนได้ ชือ่ ว่าเป็นผืนป่าทีม่ คี วามหลากหลายทางชีวภาพมากทีส่ ดุ พืชพรรณและ สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ภายในป่าเขตร้อนต่างด�ำรงชีวิตอยู่ภายใต้ระบบนิเวศ อันซับซ้อนและทรงคุณค่า โดยป่าเขตร้อนสามารถจ�ำแนกแยกย่อยได้อกี ตามลักษณะความสูง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ป่าสนเขา” ป่าที่ผมจะพาไป ท�ำความรูจ้ กั ในครัง้ นี้
ป่าสนเขาคือผืนป่าที่ได้รับการยกย่องว่ามีทัศนียภาพอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ มักพบได้บนพื้นที่ที่มีระดับความสูงประมาณ 500 - 1,800 เมตรเหนือระดับน�้ำทะเล ปานกลาง พบได้ทั่วไปในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณเทือกเขา เพชรบู ร ณ์ ป่ า สนเป็ น สั ง คมป่ า ไม่ ผ ลั ด ใบ มี ค วามหลากหลายทางพื ช พรรณ น้ อ ยกว่ า ป่ า ชนิ ด อื่ น ในบรรดาป่ า เขตร้ อ น เนื่ อ งจากสภาพพื้ น ดิ น เป็ น กรด อันเกิดจากการทับถมของใบสนจ�ำนวนมาก พรรณไม้เด่นของป่าชนิดนี้จึงมีเพียง สนสองใบและสนสามใบ ส่วนพื้นล่างเป็นพืชจ�ำพวกเฟิร์นและหญ้า ซึ่งองค์ประกอบ ของทุ่งหญ้าและทิวสนสูงชะลูดนี้เองที่ท�ำให้ใครหลายคนต่างหลงใหลในความงาม ของป่าสนที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้อย่างน่าตื่นตะลึง
02
ภูกระดึง ปฐมบทแห่งนักเดินป่า
ถ้ า จะพู ด ถึ ง การเดิ น ป่า ขึ้ น เขาชม ธรรมชาติ “ภูกระดึง” มักเป็นชื่อแรกๆ ที่ คนส่วนใหญ่นกึ ถึง ด้วยความสวยงามของ ป่าสนและอากาศอันหนาวเย็นในฤดูหนาว ที่นี่จึงมักเป็นบทเรียนแรกของผู้ที่อยาก สัมผัสธรรมชาติของป่าเขาล�ำเนาไพร ภูกระดึงตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเลย มี ลั ก ษณะภู มิ ป ระเทศเป็ น ภู เ ขาหิ น ทราย ยอดตั ด ด้ า นบนเป็ น ที่ ร าบขนาดใหญ่ มีพนื้ ทีก่ ว่า 60 ตารางกิโลเมตร ซึง่ มีลกั ษณะ คล้ายรูปหัวใจ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่ง ต้นน�ำ้ ของล�ำน�ำ้ พอง สายน�ำ้ ส�ำคัญสายหนึง่ ของดินแดนอีสาน เล่ากันว่า ภูกระดึง ถูกค้นพบโดยนายพรานที่ตามล่ากระทิง ขึ้ น ไปยั ง ยอดภู แ ห่ ง หนึ่ ง ที่ ไ ม่ เ คยมี ใ คร ขึ้นไปถึง และได้พบกับที่ราบอันงดงาม ด้วยทุ่งหญ้าและทิวสนสูงชะลูด บรรดา สัตว์ป่ามากมายต่างอาศัยอยู่กันเป็นฝูง ทั้งฝูงช้าง กระทิง และกวางป่า ดินแดน ที่ถูกซ่อนเร้นมานานแห่งนี้จึงได้รับการ เปิดเผยขึ้น ส่วนชื่อ “ภูกระดึง” นั้น มีที่มา จากการที่ทุกๆ วันพระ ชาวบ้านมักได้ยิน เสียงเหมือนระฆังดังมาจากยอดภู พวกเขา เชื่ อ ว่ า เป็ น เสี ย งระฆั ง ของพระอิ น ทร์ บนสวรรค์ จึงเรียกภูเขาแห่งนีว้ า่ “ภูกระดึง” ซึ่งมีความหมายว่า ภูเขาแห่งระฆังใหญ่
แม้การเดินเท้าพิชิตยอดภูกระดึงจะมี จุดพักและร้านอาหารให้บริการเป็นระยะๆ แต่ ก็ ต ้ อ งแลกกั บ หยาดเหงื่ อ และความ เมื่อยล้าจากการไต่ไปบนเส้นทางสูงชัน ระยะทางกว่า 5.5 กิโลเมตรจนถึงหลังแป อันเป็นประตูด่านแรกที่นักท่องเที่ยวจะ ได้พบกับความงามของทุ่งหญ้าและป่าสน แห่งภูกระดึง จากหลังแปจะมีทางเดิน ต่อไปยังจุดพักแรมศูนย์วังกวางที่อยู่ห่าง ออกไปประมาณ 3.6 กิโลเมตร และใน คืนเดือนมืด ท้องฟ้าเหนือลานกางเต็นท์ จะปรากฏแสงดาวระยิบระยับท่ามกลาง ลมหนาว ที่ น� ำ พาความหนาวเย็ น มา ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ในยามเช้ามืดของทุกวัน นักท่องเที่ยว ที่ ม าเยื อ นภู ก ระดึ ง จะเตรี ย มอุ ป กรณ์ กันหนาวอย่างพร้อมเพรียง ก่อนเดินเรียง แถวไปตามเส้นทางสู่ผานกแอ่น จุดชม พระอาทิตย์ขึ้นที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผานกแอ่นเป็นหน้าผาที่มี ลานหินรายล้อมด้วยทิวสน สามารถมองเห็น ทิวทัศน์เบื้องล่างได้กว้างไกล และเป็น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ได้รับความนิยม มากที่สุดของภูกระดึง ส�ำหรับเส้นทาง ท่องเทีย่ วบนภูกระดึง สามารถแบ่งออกเป็น
เส้นทางเดินส�ำรวจธรรมชาติภายในป่าปิด ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่น� ำทาง และเส้นทาง เดินส�ำรวจธรรมชาติปกติที่นักท่องเที่ยว สามารถเดินเทีย่ วชมเองได้ ทัง้ นีใ้ นเส้นทาง ปกตินี้ยังแบ่งออกเป็นเส้นทางชมน�้ำตก และเส้นทางที่เลียบไปตามหน้าผา โดยมี จุดสิ้นสุดอยู่ที่ผาหล่มสัก หน้าผาที่เป็นดั่ง สัญลักษณ์ของภูกระดึงที่หากใครพลาด คงมิอาจพูดได้เต็มปากว่ามาถึงภูกระดึง ผาหล่ ม สั ก เป็ น ความลงตั ว ของ ธรรมชาติที่แต่งแต้มชะง่อนหินกับต้นสน ให้ ก ลายเป็ น ภาพที่ ง ดงามดั่ ง ภาพวาด โดยเฉพาะในเวลาเย็ น ย�่ ำ ที่ ด วงอาทิ ต ย์ คล้ อ ยต�่ ำ ใกล้ ลั บ ฟ้ า ผู ้ ค นจ� ำ นวนมาก ต่างเดินเท้ากว่า 9 กิโลเมตรจากที่พัก ศูนย์วังกวางเพื่อมาชมพระอาทิตย์ตกกัน ทีผ่ าหล่มสักแห่งนี้ นอกจากผานกแอ่นและ ผาหล่มสักแล้ว บนภูกระดึงยังมีสถานที่ น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ผาหมากดูก จุดชมพระอาทิตย์ตกอีกแห่งหนึ่ง สระ อโนดาต สระน�้ ำ ที่ ร ายล้ อ มด้ ว ยดงสน น�้ำตกวังกวาง และน�้ำตกขุนพอง ภายใน 02 ทิวสนบนภูกระดึง 03 ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อน
03
45
05 04 ทุ่งดอกหงอนนาค ภูสอยดาว 05 ใบเมเปิ้ลบริเวณล�ำธาร ภูสอยดาว
04
ป่าปิดที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของใบเมเปิ้ล ในยามเปลี่ยนสี และด้วยความเปราะบาง ของธรรมชาติบนภูกระดึง ทางอุทยาน แห่ ง ชาติ ภู ก ระดึ ง จึ ง มี ก ารปิ ด ฤดู ก าร ท่องเทีย่ วในช่วงเดือนมิถนุ ายนถึงกันยายน ของทุกปี เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวและ คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
ภูสอยดาว ดินแดนแห่งสายหมอก กลางดงดอกไม้
ถ้าภูกระดึงคือดินแดนที่งดงามในฤดู หนาวแล้ว “ภูสอยดาว” ก็เป็นภูผาทีเ่ จิดจรัส ในห้วงฤดูฝน เพราะที่นี่จะงดงามด้วย ทิวสนบนผืนหญ้าเขียวขจี แซมด้วยทุ่ง ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนที่โอบไล้ไปด้วย สายหมอกแห่งปลายวสันตฤดู อุ ท ยานแห่ ง ชาติ ภู ส อยดาวตั้ ง อยู ่ บนพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเขตอ�ำเภอน�้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และอ�ำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
46
ลักษณะของพืน้ ทีเ่ ป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีลานสนบนเทือกเขาที่ระดับความสูงถึง 1,633 เมตรจากระดับน�้ำทะเลปานกลาง โดยลานสนบนภูสอยดาวจะมีลกั ษณะเป็น เนินเขาสูงต�ำ่ สลับกันไป พรรณไม้ทโี่ ดดเด่น คือสนสามใบ ส่วนพืชพื้นล่างเป็นทุ่งหญ้า และดอกไม้ดินชนิดต่างๆ เช่น สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน กระดุมทอง และ ที่พบเห็นได้มากที่สุดคือ ดอกหงอนนาค ดอกไม้สมี ว่ งอ่อน ออกดอกเป็นช่อทีป่ ลาย ยอด จะหุบดอกในยามเช้าแล้วจะบาน เมื่ อ ได้ รั บ แสงแดด มั ก ขึ้ น บริ เ วณลาน ดิ น ทรายที่ มี น�้ ำ ขั ง หรื อ บริ เ วณทุ ่ ง หญ้ า ป่าสนบนภูเขาสูง ซึง่ ทีภ่ สู อยดาวนับว่าเป็น ทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย นั ก ท่ อ งเที่ ย วส่ ว นใหญ่ นิ ย มมาพิ ชิ ต ยอดภู ส อยดาวกั น ในช่ ว งปลายฝน ประมาณเดื อ นสิ ง หาคม - กั น ยายน เนื่องจากเป็นช่วงที่ดอกหงอนนาคจะบาน สะพรั่ ง ไปทั่ ว ลานสน ทิ ว ทั ศ น์ ใ นยามนี้ ของภูสอยดาวจึงงดงามดั่งสรวงสวรรค์
แต่กว่าจะได้เห็นภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ ผู้มาเยือนต้องแลกกับความล�ำบากจาก การเดินเท้าที่ไกลถึง 6.5 กิโลเมตร และ ผ่านเนินส�ำคัญๆ ถึง 5 เนิน ได้แก่ เนิน ส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนิน เสือโคร่ง และเนินมรณะ ก่อนจะได้มาพบ กับลานสนสามใบทีป่ กคลุมไปด้วยทุง่ ดอก หงอนนาค พร้อมกับไอหมอกที่เคลื่อนตัว ไปตามสายลม นอกจากธรรมชาติ อั น งดงามของ ลานสนกลางสายหมอกและทุง่ ดอกไม้แล้ว ทีภ่ สู อยดาวยังมีสถานทีท่ างประวัตศิ าสตร์ ให้ได้สมั ผัสด้วย เพราะครัง้ หนึง่ พืน้ ทีแ่ ห่งนี้ เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ส�ำคัญของสมรภูมิ บ้านร่มเกล้า สงครามที่เพื่อนบ้านใกล้ชิด กันอย่างไทยและลาวต้องบาดหมางกัน จากเรื่องพิพาทดินแดน ดังนั้นเราจึงเห็น ร่ อ งรอยของหลุ ม บั ง เกอร์ ใ นอดี ต และ สืบเนื่องจากการเจรจาหยุดยิง จึงท�ำให้มี การปักปันเขตแดนจนปรากฏหลักเขตแดน ไทย-ลาว ขึ้นอยู่กลางลานสนในปัจจุบัน ฤดู ก าลในการท่ อ งเที่ ย วภู ส อยดาว ต่ า งมี ข ้ อ ดี ข ้ อ เสี ย แตกต่ า งกั น เพราะ แม้ ฤ ดู ฝ นจะเป็ น ฤดู ก าลที่ ผู ้ ค นนิ ย มมา ท่องเที่ยว เนื่องจากได้ชมทุ่งดอกไม้กลาง ดงสน แต่ต้องแลกกับการพักแรมบนพื้นที่
06 ทิวสนแห่งทุ่งนางพญา
ชื้นแฉะและการเดินทางที่ล�ำบาก ส่วนใน ฤดูหนาวแม้จะไม่มดี อกไม้ให้ดแู ละปริมาณ น�้ำบริโภคที่ค่อนข้างขาดแคลน แต่ก็ได้ เห็นท้องฟ้าเหนือทิวสนอันสดใส สามารถ ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากจุดชมวิว ส่วนในช่วงฤดูรอ้ น ระหว่างเดือนมกราคม มิถนุ ายน อุทยานแห่งชาติภสู อยดาวจะปิด ฤดูการท่องเที่ยวเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว
ทุง่ นางพญา ทุง่ หญ้าสะวันนาเมืองไทย
ป่าทุ่งหญ้าหรือรู้จักกันในชื่อทุ่งหญ้า สะวันนา เป็นสังคมพืชที่พบได้น้อยใน ประเทศไทย มีลักษณะเป็นทุ่งโล่งกว้าง มีหญ้าชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น มั กเกิ ดขึ้ นในพื้ น ที่ ค่อ นข้า งแห้ง แล้ง มี ปริ ม าณฝนต�่ ำ และดิ น ขาดสารอาหาร ท� ำ ให้ พื ช ตระกู ล หญ้ า ที่ มี ว งจรชี วิ ต สั้ น สามารถครองความเป็นใหญ่ในสังคมพืช รู ป แบบนี้ ในเมื อ งไทยสามารถพบป่ า ทุง่ หญ้าได้ทอี่ ทุ ยานแห่งชาติทงุ่ แสลงหลวง อุทยานที่ได้รับการขนานนามว่า “ดินแดน แห่งทุ่งสะวันนาเมืองไทย” ที่นี่นอกจาก สังคมพืชแบบทุ่งหญ้าแล้ว ยังมีป่าสนเขา ขึน้ ผสมผสานเคียงคูก่ บั ทุง่ หญ้าจนเกิดเป็น ทัศนียภาพอันงดงาม และหนึ่งในทุ่งหญ้า ทีไ่ ด้ชอื่ ว่ามีความงามเป็นเลิศจนติดอันดับ ต้นๆ ของทุง่ หญ้าและทิวสนของเมืองไทย คือ “ทุ่งนางพญา” ทุ ่ ง นางพญา หรื อ ชื่ อ เต็ ม คื อ “ทุ ่ ง นางพญาเมืองเลน” มีต�ำนานเล่าขานว่า ครั้งหนึ่ง มีเมืองชื่อเมืองเลน เจ้าเมืองที่นี่ ไม่สนใจในการปกครองบ้านเมือง ฝ่าย กองทัพศัตรูจึงยกทัพมา เพื่อหมายยึดเอา เมืองเลนมาครอบครอง พระมเหสีผู้ปรีชา ทรงเห็นว่ามิอาจต้านทานกองทัพศัตรูไว้
06
ได้เป็นแน่ จึงอพยพไพร่พลหนีมาตั้งเมืองใหม่ยังทุ่งกว้างแห่งหนึ่ง ทุ่งแห่งนี้จึงได้รับ การขนานนามว่า “ทุ่งนางพญาเมืองเลน” แม้ความเป็นจริงแห่งต�ำนานทุง่ นางพญาจะเป็นสิง่ ทีย่ ากแก่การพิสจู น์ แต่ความจริง ที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ ความงามของทุ่งนางพญาที่ประจักษ์ด้วยสายตาของผู้มาเยือน เพราะทุ่งหญ้ากว้างที่แซมด้วยต้นสนขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี เป็นความยิ่งใหญ่ของ ธรรมชาติที่งดงามไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใด การมาเยือนทุ่งนางพญาแห่งอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ถือว่าสะดวกกว่า ภูกระดึงและภูสอยดาว เพราะสามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์ขบั เคลือ่ นสีล่ อ้ บนถนนทีต่ ดั ผ่านพื้นที่ป่าภายในอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยาน แห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)
นอกจากป่ าสนแล้ ว ยั ง มี ป่ าเขตร้ อ นอี ก หลายชนิ ด ที่ มี ความส� ำ คั ญ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะป่าไม้คือต้นธารของชีวิต เป็นแหล่งทรัพยากร ส�ำคัญที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ การได้มาท่องเที่ยวป่าเขา นอกจากจะได้ ความเพลิดเพลินแล้ว ยังท�ำให้เราได้ตระหนักถึงความส�ำคัญ และร่วมกัน อนุรักษ์ทรัพยากรอันทรงคุณค่านี้ให้คงอยู่ยั่งยืนตลอดไป 47
The Journey • East Side Gallery ภาพศิลปะจากศิลปินทั่วโลกบนซากก�ำแพงเบอร์ลิน 48
แผลเป็นของเบอร์ลิน เรื่องและภาพ : พลอย มัลลิกะมาส
ฉันก้มลงมองตัวหนังสือบนแผ่นเหล็กเล็กๆ ที่แทรกตัว อยูบ่ นพืน้ ถนนทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหน้าอีกครัง้ ราวกับจะย�ำ้ ให้ตวั เอง แน่ใจว่า ฉันได้ดนั้ ด้นเดินทางข้ามน�้ำข้ามทะเลมาไกล จนมาถึง เมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป ที่ครั้งหนึ่งเคยถูก ท�ำลายอย่างย่อยยับจากสงคราม ก่อนจะถูกคัน่ กลางด้วย แนวก�ำแพงยาวราว 155 กิโลเมตร ในโลกแห่งความเสมอภาค ก�ำแพงแห่งนี้คือแนว เขตแดนที่มั่นคง และสัญลักษณ์ส�ำคัญของการต่อต้าน ระบบทุนนิยม หากแต่ในขณะเดียวกัน คนอีกมาก ในโลกเสรีบอกว่า นี่คือสัญลักษณ์ของความขัดแย้ง แห่ง “สงครามเย็น” ที่ดูเป็นรูปธรรมที่สุด นักท่องเที่ยวและคนส่วนมากอาจเลือกท�ำความ รู ้ จั ก “เบอร์ ลิ น ” เมื อ งที่ เ คยถู ก ขวางกั้ น คั่ น กลาง ด้วยก�ำแพงสีเทาที่รู้จักกันดีใน ชื่อว่า “ก�ำแพงเบอร์ลิน” มา ยาวนานกว่าสองทศวรรษ จาก อนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์กส�ำคัญ หรื อ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ร ะดั บ โลกที่ กระจัดกระจายอยูท่ วั่ ทัง้ ตัวเมือง หากแต่ ส� ำ หรั บ ฉั น การได้ มี โอกาสสั ม ผั ส “อดี ต ” จาก • อนุสรณ์สถานของ แนวก�ำแพงเบอร์ลิน
49
• สตรีทอาร์ตและศิลปะแบบกราฟิตี ที่หาดูได้ทั่วทั้งเบอร์ลิน
“ปัจจุบัน” ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่สุด ถนนเบอร์เนาเออร์ (Bernauer Strasse) น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการ เริ่มต้นท�ำความรู้จักกรุงเบอร์ลิน ด้วยว่า ก่อนก�ำแพงเบอร์ลินจะถูกสร้างขึ้น ผู้คน ที่อาศัยอยู่บนถนนสายนี้ในฝั่งตะวันออก แค่ เ ดิ น ออกจากบ้ า นเพี ย งก้ า วเดี ย ว ก็ ส ามารถเข้ า เขตเบอร์ ลิ น ตะวั น ตกได้ อย่างง่ายดาย ทว่าเมื่อก�ำแพงสร้างเสร็จ ทุ ก อย่ า งก็ เ ปลี่ ย นแปลงไปอย่ า งไม่ มี วั น หวนกลับ การข้ามเขตแดนเข้าออกจาก เยอรมนี ต ะวั น ออกไปยั ง ฝั ่ ง ตะวั น ตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และจุดจบ สุดท้ายของผู้ที่คิดจะฝ่าฝืนก็คือความตาย ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติสามัญที่มักเกิดขึ้น
• ซากปรักหักพัง - อดีตและ ความหลังในวันที่เบอร์ลิน ถูกขวางกั้นไว้ด้วยก�ำแพง 50
บริเวณก�ำแพง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เพราะอะไรถนนสายนี้จึงกลายเป็นถนน สายประวั ติ ศ าสตร์ ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยภาพ เหตุการณ์สำ� คัญต่างๆ เป็นต้นว่า ภาพของ ชาวเมื อ งที่ พ ยายามกระโดด ออกจากหน้ า ต่ า งบ้ า นตั ว เอง
ซึ่ ง ตั้ ง อยู ่ ใ นฝั ่ ง เบอร์ ลิ น ตะวั น ออกมายั ง เบอร์ ลิ น ตะวั น ตก ภาพการลั ก ลอบขุ ด อุโมงค์ที่มีความยาวกว่า 145 เมตร เพื่อ ด�ำดินจากฝั่งตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก ได้เป็นผลส�ำเร็จ และราวกับว่าเข็มนาฬิกาจะหยุดเดิน
• ภาพวาดแสดงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ตามแนวทางสังคมนิยมแบบฟาสซิสต์
• Checkpoint Charlie เส้นแบ่งอาณาเขตระหว่างเบอร์ลินตะวันตก กับเบอร์ลินตะวันออกในวันวาน
01
02
03 01-03 ตัวอย่างจ�ำลอง
วิธีการต่างๆ ในการ หลบหนีข้ามเขตแดน ของชาวเบอร์ลินตะวันออก ในพิพิธภัณฑ์เช็คพอยท์ ชาร์ลี
ไว้ที่ถนนเบอร์เนาเออร์สายนี้ เพราะในวัน ที่ ฉั น เดิ น ทางมาถึ ง ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า งบน ถนนสายนี้ยังคงถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพเดิม เหมือนเมื่อครั้งที่ “ก�ำแพงเบอร์ลิน” ยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาพก�ำแพงจ�ำลอง (ที่เหมือน ของจริงอย่างกับแกะ!) หรือบางส่วนของ ซากก�ำแพงที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ เมื่อได้มี โอกาสขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของศูนย์ข้อมูล ประวัติศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ในอดีต เคยถูกเรียกว่าเบอร์ลินตะวันตก แล้วมอง ลงมายังฝัง่ ตรงข้าม ก็ทำ� ให้พอจะเข้าใจได้ ว่า ความรูส้ กึ ของการได้แอบดูความเป็นไป ในฝั่งตะวันออกจากซีกตะวันตกเช่นใน วันเก่านั้นเป็นอย่างไร ในช่วง 28 ปี (ระหว่างปี ค.ศ. 1961 1989) ของการมีก�ำแพงเบอร์ลิน ว่ากันว่า
มี ผู ้ ค นจ� ำ นวนมากที่ รู ้ สึ ก ท้อแท้ สิน้ หวัง และพยายาม ปีนข้ามก�ำแพงสีเทานีม้ ากกว่า 5,000 คน และหากนั บ จ� ำ นวนคนที่ พยายามหนี ข ้ า มฝั ่ ง จากฝั ่ ง ตะวั น ออก มายั ง ตะวั น ตกอย่ า งจริ ง ๆ จั ง ๆ แล้ ว อาจนับได้มากถึง 40,000 คนเลยทีเดียว ส�ำหรับใครทีต่ อ้ งการสัมผัสกับประสบการณ์ การหนีเพือ่ ตามหาสิง่ ทีเ่ รียกว่า “อิสรภาพ” ที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อ ลมหายใจ และ ชีวิต แนะน�ำให้ไปแถวอนุสรณ์สถานเหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย (Der Gedenkstätte der Maueropfer am Reichstag) ทีแ่ วดล้อม ไปด้วยช่อดอกไม้และทิวไม้กางเขนที่วาง เรียงรายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารรัฐสภา ไรซ์ ส ตาก และถ้ า ยั ง อยากสั ม ผั ส กั บ เรือ่ งราวของก�ำแพงเบอร์ลนิ ให้ใกล้ชดิ ทีส่ ดุ ก็ ต ้ อ งไม่ พ ลาดพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ เ ปิ ด ที่ มี ชื่ อ ว่ า พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ เ ช็ ค พอยท์ ช าร์ ลี (Mauer-
museum - Museum Haus am Checkpoint Charlie) ที่รวบรวมเรื่องราวของก�ำแพง เบอร์ ลิ น ตั้ ง แต่ วั น แรกที่ เ ริ่ ม สร้ า งจนถึ ง วั น สุ ด ท้ า ยที่ ก� ำ แพงถู ก ทลายลง และ ภาพเหตุ ก ารณ์ ก ารหลบหนี ข ้ า มฝั ่ ง ของ ชาวเยอรมนี ต ะวั น ออกที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ย กลเม็ดเด็ดพรายต่างๆ ในการหลบหนี ฝ่าด่านมรณะที่มีชื่อว่า “เช็คพอยท์ชาร์ลี” ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าเศร้าสลดและหดหู่ที่สุด
ก่ อ นจะโบกมื อ ลาจากก� ำ แพง เบอร์ลินมาในวันนั้น ฉันอดนึกถึง ค�ำพูดที่ ใครบางคนเคยบอกไว้ ไม่ได้ ว่า เบอร์ลินเป็นเมืองหดหู่ ทั่วทั้ง ตั ว เมื อ งเต็ ม ไปด้ ว ยเรื่ อ งราวแห่ ง ความหลังและร่องรอยกระสุน ทว่า ใบเสร็ จ สงครามที่ ถู ก วางบิ ล ไว้ ทั่ ว ตัวเมืองแห่งนี้ ช่างล�้ำค่าเกินกว่าจะมี ใครสักคนช�ำระคืนให้ชาว “เบอร์ลิน” ได้หมด...ตราบชั่วชีวิต 51
52
Go Around
ยี่เป็ง ลอยกระทงโคม ณ ดินแดนล้านนา
เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์
แสงไฟสว่างสวยกระจ่างทัว่ ท้องฟ้า ในคืนวันเพ็ญจากโคมลอยนับร้อย นับพัน รวมกับแสงเทียนจากกระทง ที่ ล อยบนสายน�้ ำ บ่ ง บอกถึ ง พลั ง แห่งความศรั ทธา การน้ อ มร� ำ ลึ ก ถึ ง พระคุ ณ ของเทพยดาฟ้ า ดิ น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวล้านนานับถือและ ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานจนถึง ปัจจุบัน กับประเพณีที่มีชื่อเรียกว่า “ยี่เป็ง”
ย้อนต�ำนาน “ยี่เป็ง”
ยีเ่ ป็งเป็นค�ำทีม่ าจากภาษาล้านนาหรือ ภาษาค�ำเมืองของชาวเหนือ ค�ำว่า “ยี่” แปลว่า สอง ในที่นี้คือเดือนยี่ เมื่อนับตาม แบบของชาวล้านนาจะตรงกับช่วงเดือน พฤศจิกายนของทุกปี ส่วนค�ำว่า “เป็ง’” หมายถึง พระจันทร์เต็มดวง เมื่อรวมกัน จึงหมายถึง ประเพณีพระจันทร์เต็มดวง ในเดือนสอง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค�่ำ ของทุกปี หากย้ อ นเล่ า เรื่ อ งราวความเป็ น มา ของประเพณี ยี่ เ ป็ ง โดยสรุ ป นั้ น ตาม พงศาวดารโยนก และหนังสือจามเทวีวงศ์ บอกไว้ว่า สมัย พ.ศ. 1490 นครหริภุญชัย ได้เกิดโรคระบาด ผู้คนจึงอพยพไปอยู่ที่ เมืองหงสาวดี เมือ่ ข่าวโรคระบาดเงียบหายไป ชาวเมืองหริภญ ุ ชัยบางส่วนจึงกลับเมืองมา ด้วยความคิดถึง แต่บางส่วนยังคงอาศัยอยูท่ ี่ เมืองหงสาวดี พอถึงเดือนยี่เป็ง ชาวเมือง 53
ทีก่ ลับมาได้จดั เตรียมธูป เทียน เครือ่ งสักการะ อาหาร สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ใส่ลงใน “สะเปา” ลักษณะคล้ายเรือทีส่ ามารถบรรจุ ของได้ แล้ ว ลอยไปตามน�้ ำ โดยหวั ง ให้ ไปถึงเมืองหงสาวดี เพือ่ แทนความระลึกถึง ญาติพนี่ อ้ งทีห่ า่ งไกลกัน โดยพิธดี งั กล่าวนัน้ อาณาจั ก รล้ า นนาโบราณจะเรี ย กกั น ว่ า “ลอยโขมด” หรือ “ลอยประทีป” ซึ่งมี รูปแบบคล้ายกับการลอยกระทงในปัจจุบนั
สืบสานประเพณีศักดิ์สิทธิ์
ประเพณียี่เป็งเป็นประเพณีส�ำคัญของ ภาคเหนือทีจ่ ดั ขึน้ เป็นประจ�ำทุกปีในหลาย จังหวัดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ล�ำปาง ฯลฯ โดยจัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน เมื่อ ใกล้ถงึ วันงาน จะเห็นภาพผูค้ นอุน่ หนาฝาคัง่ ครอบครัวกลับมาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้า พร้อมตา เพื่อรอร่วมงานประเพณีอย่าง ใจจดใจจ่อ
54
วันแรกเริ่มของประเพณีนั้น ตรงกับ วันขึ้น 13 ค�่ำ หรือที่เรียกกันอีกชื่อตาม ชาวเหนือว่า “วันดา” แต่ละบ้านจะส่ง ตัวแทนฝ่ายหญิงผูม้ หี น้าทีด่ แู ลเรือ่ งอาหาร การกินและสิ่งของเครื่องใช้ออกมาจ่าย ตลาดในตอนเช้า เพือ่ น�ำกลับไปจัดเตรียม ให้ พ ร้ อ มสรรพส� ำ หรั บ การท� ำ บุ ญ ในวั น ถัดไป ช่วงนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะเริ่มรักษา ศีล 5 และท�ำจิตใจให้บริสุทธิ์
ต่อมาในวันขึน้ 14 ค�ำ่ ตอนเช้ามืด ผูค้ น จะน�ำข้าวของที่เตรียมไว้และมุ่งหน้าสู่วัด สถานที่รวมใจของชาวพุทธ เพื่อตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม เพิ่มความเป็นสิริมงคล จากนั้นจึงช่วยกันตกแต่ง “ซุ้มประตูป่า” เพื่ อ ก� ำ หนดบริ เ วณพื้ น ที่ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ซึ่ ง ท�ำด้วยใบมะพร้าว ต้นกล้วย ต้นอ้อย ดอก บานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง รวมทั้งตกแต่ง บ้านเรือน วัด ถนนหนทางให้สะดุดตา แก่ผู้พบเห็น ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียง พูดคุยไม่ขาดสาย พอถึงยามเย็น จะพากัน เข้าไปบูชาเทียนในวิหารหรือพระอุโบสถ ร่ ว มท� ำ กระทงขนาดใหญ่ ที่ ส ามารถน� ำ ข้ า วของเครื่ อ งใช้ ม าใส่ ต ามจิ ต ศรั ท ธา แก่ ผู ้ ย ากไร้ พร้ อ มทั้ ง ประดิ ษ ฐ์ ก ระทง ส่วนตัวตามชอบ แล้วจึงแยกย้ายกันกลับ และเมื่อถึงวันขึ้น 15 ค�่ำ ทุกคนจะ พร้อมใจกันแต่งกายสวยงามตามแบบฉบับ ชาวเหนือ เพือ่ เดินทางไปฟังเทศน์มหาชาติ และปฏิบตั ธิ รรมตลอดช่วงเช้าและกลางวัน พอตกเย็น พระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า ก็จะน�ำกระทงท�ำมือหลากหลายรูปแบบ
ทีป่ กั ดอกไม้ ธูป เทียนมาอธิษฐานและลอย ลงสู่ผืนน�้ำ เพื่อบูชาเทพและขอขมาต่อ พระแม่คงคา จากนั้นจะส�ำรวมกายและ ท�ำจิตใจให้สงบ เพือ่ เข้าสูพ่ ธิ สี ำ� คัญ นัน่ คือ การ “ปล่อยโคม” หรือที่เรียกว่า “โกม” ในภาษาเหนือ โดยจะจุดไฟด้านในโคม ให้สว่างแล้วปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับ ระลึกถึงพระคุณของพระเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่ช่วยปกปักรักษา คุม้ ครองให้บา้ นเมืองร่มเย็นเป็นสุข นับเป็น การเสร็ จ สิ้ น พิ ธี ก ารงานประเพณี ยี่ เ ป็ ง อย่างสมบูรณ์ โดยมาก การจัดงานในคืน สุดท้ายนี้ มักมี “การจิบอกไฟ” หรือการจุด บัง้ ไฟของชาวล้านนา ทีค่ นมักนิยมจุดเล่น กันตามงานเทศกาลในภาคเหนือ นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการแสดงมหรสพต่างๆ มีการละเล่นไทยนานาชนิด เพื่อเพิ่มสีสัน และความสนุกสนานให้ผู้มาร่วมงานได้ อิ่มบุญอิ่มใจกันไปตลอดคืน
ภาพของโคมลอยจ� ำ นวนมากบน ท้องฟ้าในคืนยีเ่ ป็ง ส่องแสงประดุจดวงดาว งามเด่น เป็นมนตร์เสน่ห์ที่เชื้อเชิญให้ใคร หลายคนอยากสั ม ผั ส ประเพณี โ บราณที่ ไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แม้วา่ จะมี การปรับเปลี่ยนรูปแบบตามยุคสมัย แต่ “ยี่เป็ง” ยังคงเป็นสิ่งแทนพลังความรัก ความสามัคคีของชาวเหนือในการสืบทอด และธ� ำ รงรั ก ษาประเพณี อั น ทรงคุ ณ ค่ า เอาไว้ให้คงอยู่สืบไปชั่วกาลนาน
เกร็ดความเชื่อ
• ตามความเชือ่ โบราณกล่าวไว้วา่ อานิสงส์จากการลอยประทีปโคมในเทศกาล ยี่เป็งนั้น จะส่งให้ผู้ที่บูชามีผิวพรรณผุดผ่อง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เพราะการปล่อยโคม เปรียบเสมือนการสะเดาะเคราะห์ ช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ แสงสว่างจากโคม จะน�ำพาไปพบเจอกับความสุข หากคู่รักได้มาปล่อยโคมร่วมกันแล้ว จะท�ำให้ ความรักยั่งยืนยาว และยังเป็นที่รักทั้งกับคนและเทวดา รวมถึงจะได้ไปเกิด บนสรวงสวรรค์ด้วย • ในการลอยเคราะห์ไปกับสายน�้ำนั้น ตามความเชื่อจะมีการใส่ผมกับเล็บ ของผู้ลอยลงไปในกระทง รวมถึงใส่เงินเพื่อบริจาคทานไปในตัวด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ http://www.culturecm.com ส�ำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ http://library.cmu.ac.th
55
โครงการพระราชด�ำริ
โครงการสวัสดิการสังคม ส่งต่อความช่วยเหลือสู่ประชาชน เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์
ในยามที่สังคมเกิดภัยพิบัติต่างๆ หรือเกิดโรคระบาด ร้ า ยแรงที่ ท� ำ ให้ ป ระชาชนได้ รั บ ความเดื อ ดร้ อ น และ ไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงทรงจัดตัง้ มู ล นิ ธิ ต ่ า งๆ ขึ้ น เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ ตามความต้ อ งการ ในแต่ละด้าน ภายใต้ โครงการในพระราชด�ำริที่มีชื่อว่า "โครงการสวัสดิการสังคม" โครงการสวัสดิการสังคมหรือสังคมสงเคราะห์
จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงชักน�ำประชาชนให้ช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ ซึง่ มีผโู้ ดยเสด็จพระราชกุศลมากมาย เฉพาะเงินสดมีจำ� นวนมาก ถึง 11 ล้านบาท เมื่อพระราชทานความช่วยเหลือแล้ว ปรากฏว่า มีเงินเหลืออีก 3 ล้านบาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ก่อตั้งเป็นมูลนิธิฯ นี้ขึ้น และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยโดย ฉับพลัน ช่วยสงเคราะห์ด้านการศึกษาให้แก่ประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อน และยังช่วยป้องกันสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทั่วประเทศด้วย ดังพระราชด�ำรัสตอนหนึ่งของพระองค์ ที่ทาง มูลนิธิฯ ยึดถือปฏิบัติตลอดมา “การช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ป ระสบภั ย นั้ น จะต้ อ งช่ ว ยในระยะสั้ น หมายความว่า เป็นเวลาที่ฉุกเฉินต้องช่วยโดยเร็ว และต่อไปก็ จะต้องช่วยให้ต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการช่วยเหลือในระยะยาวก็มี ความจ�ำเป็นเหมือนกัน เป็นผลว่าเขาได้รับการดูแลเหลียวแลมา จนกระทั่งได้รับการศึกษา ที่สามารถท�ำมาหากินได้โดยสุจริต และโดยมีประสิทธิภาพ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ” ประชาชนที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนมูลนิธิฯ ได้เช่นเดียวกัน ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของ มูลนิธิฯ www.rajk.org/index.php/donation
โครงการสวัสดิการสังคม เป็นโครงการทีช่ ว่ ยเหลือประชาชน ให้มชี วี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ ขจัดความทุกข์เมือ่ เกิดมหันตภัยทาง ธรรมชาติ อุบัติเหตุ หรือเกิดโรคระบาดร้ายแรง เพื่อช่วยเหลือ ให้ประชาชนมีปจั จัยสีท่ เี่ ป็นพืน้ ฐานในการด�ำรงชีวติ ทัง้ อาหาร น�ำ้ ทีอ่ ยูอ่ าศัย พืน้ ทีท่ ำ� กิน และมีเครือ่ งอ�ำนวยความสะดวกทีจ่ ำ� เป็น ต่อชีวิต เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น สามารถพออยู่ พอกินได้ มีความสุขทั้งกายและใจ ซึ่งความช่วยเหลือต่างๆ นั้น มาจากทั้งภาครัฐบาลและเอกชน โดยพระองค์ทรงพระกรุณา โปรดเกล้ า ฯ ให้ ตั้ ง เป็ น สมาคมหรื อ มู ล นิ ธิ ที่ อ ยู ่ ใ นพระบรมราชูปถัมภ์ ดังพระราชด�ำรัสตอนหนึ่งว่า “ประชาชนทั่วๆ ไป เมื่อทราบว่า เพื่อนร่วมชาติได้รับความ เดือดร้อนก็อยากจะช่วยเหลือด้วย ฉะนั้นจะต้องตั้งโครงการ อย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทางราชการ เพื่อที่จะประสานน�้ำใจเมตตา มูลนิธสิ ายใจไทย: รวมใจทหารเป็นหนึง่ อีกหนึง่ มูลนิธสิ ำ� คัญเพือ่ ช่วยเหลือบุคคลผูป้ ฏิบตั หิ น้าทีป่ กป้อง ปราณีของคนทั่วประเทศ” ประเทศ และเป็นก�ำลังส�ำคัญของชาติ ทั้งเหล่าทหาร ต�ำรวจ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์: สงเคราะห์ผู้ประสบภัย พลเรือน รวมถึงอาสาสมัครที่ยอมอุทิศชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ มู ล นิ ธิ ร าชประชานุ เ คราะห์ ในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ มี เพื่อรักษาความปลอดภัยและความร่มเย็นเป็นสุขของชาวไทย ความหมายว่า “พระราชาและประชาชนอนุเคราะห์ซงึ่ กันและกัน” จึงก่อให้เกิด “มูลนิธิสายใจไทย” ขึ้น โดยพระบาทสมเด็จ เกิดขึ้นจากเหตุการณ์วาตภัยและ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อุ ท ก ภั ย ที่ แ ห ล ม ต ะ ลุ ม พุ ก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
56
สายใจไทยฯ ได้ ซึ่ง ผู้ที่สนใจอยากร่วม ช่วยเหลือ สามารถ ส นั บ ส นุ น สิ น ค ้ า จ า ก ร ้ า น มู ล นิ ธิ สายใจไทยฯ หรือ ร่ ว มสมทบทุ น โดย ดู ร ายละเอี ย ดได้ ที่ www.saijaithai.or.th สยามบรมราชกุมารี ทรงด�ำรงต�ำแหน่ง ประธานกรรมการบริ หารมู ล นิ ธิ ฯ และ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับมูลนิธิฯ ไว้ ใ นพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ เ มื่ อ วั น ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2518 ดังใจความตอนหนึ่ง ในพระราชด�ำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “ในวันที่ 2 เมษายน 2518 อันเป็นวันเกิด ของข้าพเจ้า แทนที่จะท�ำบุญเลี้ยงพระ เช่นเคย ข้าพเจ้าได้รวบรวมเงินเพื่อที่จะ ช่ ว ยทหาร ต� ำ รวจ และอาสาสมั ค รที่ บาดเจ็บพิการ และเสียชีวิตจากการต่อสู้ ป้องกันประเทศชาติ” สิง่ นีแ้ สดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ที่ทรงมีต่อทหารและผู้ท�ำหน้าที่รับใช้ชาติ ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อป้องกันประเทศเอาไว้ และยังได้ขยายความช่วยเหลือไปถึงครู ผู้เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้าย ใน 4 จังหวัดของภาคใต้ด้วย นอกจากนี้ ยังดูแลถึงความเป็นอยู่ ของผู ้ ทุ พ พลภาพต่ อ เนื่ อ ง จนเกิ ด เป็ น “สายพัฒนาอาชีพ” ตามพระราชด�ำริ เพื่อ ให้สมาชิกรวมถึงครอบครัวสามารถเรียนรู้ และพัฒนาอาชีพ จนสามารถผลิตผลงาน ที่ ส วยงามออกมาเป็ น สิ น ค้ า ของมู ล นิ ธิ
มูลนิธริ าชประชาสมาสัย: ช่วยผูป้ ว่ ย โรคเรื้อน
แรกเริม่ มูลนิธฯิ นีก้ ำ� เนิดขึน้ จากการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้าง “สถาบัน ราชประชาสมาสัย" ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2503 ชือ่ สถาบันมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ และประชาชนย่อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและ กัน” เพื่อเป็นสถานฝึกอบรมและค้นคว้า เกี่ยวกับโรคเรื้อน เมื่อพระองค์ได้เสด็จ พระราชด� ำ เนิ น ไปทอดพระเนตรความ เป็นอยูข่ องผูป้ ว่ ยโรคเรือ้ นทีส่ ถานพยาบาล แห่งนี้ ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยเด็กๆ ซึ่งเป็นบุตรของผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ต้องถูก แยกออกจากพ่ อ แม่ ม าเลี้ ย งไว้ ต ่ า งหาก เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ และเมื่อเด็กโตขึ้น จึงส่ง ไปให้สถานสงเคราะห์เด็กของกรมอนามัย เพื่อให้ศึกษาเล่าเรียนต่อไป พระองค์จงึ ได้พระราชทานเงินส่วนหนึง่ ก่อตัง้ กองทุน "มูลนิธริ าชประชาสมาสัย" ขึน้ เพื่อช่วยเหลือกิจการด้านค้นคว้าป้องกัน รั ก ษาและสงเคราะห์ ผู ้ ป ่ ว ยโรคเรื้ อ น จากนั้นในปี พ.ศ. 2506 ได้พระราชทาน พระราชทรั พ ย์ ส ่ ว นพระองค์ จั ด สร้ า ง
โรงเรี ย นส� ำ หรั บ บุ ต รผู ้ ป ่ ว ยโรคเรื้ อ นขึ้ น เพื่ อจะได้ ไ ม่ เ กิ ด ความแปลกแยก และ พระราชทานชื่ อ โรงเรี ย นว่ า "โรงเรี ย น ราชประชาสมาสัย" ที่อ�ำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาแล้ว ก็สามารถเข้าเรียนต่อในระดับ อุดมศึกษาได้ และสามารถประกอบอาชีพ ได้โดยไม่เป็นภาระแก่สังคม หนึ่ ง ในความส� ำ เร็ จ ของมู ล นิ ธิ ฯ นี้ คือ ได้เผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับโรคเรื้อน แก่ ส าธารณชน ท� ำ ให้ ค นทั่ ว ไปเข้ า ใจ เกี่ยวกับลักษณะของโรคเเละการติดต่อ อย่างถูกต้องมากขึ้น ไม่มีการรังเกียจกัน เกิดขึ้น ขจัดความทุกข์ของสังคมผู้ป่วย โรคเรื้อนไปได้หมดสิ้น และยังสามารถ ควบคุมโรคเรื้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วประเทศด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงชุบ ชี วิ ต ผู ้ ป ่ ว ยโรคเรื้ อ นที่ สิ้ น หวั ง ในชี วิ ต จนสามารถมีที่ท�ำกิน มีรายได้เลี้ยงตนเอง แม้ผู้ป่วยโรคเรื้อนจะมีจ�ำนวนลดน้อยลง แต่มูลนิธิฯ ก็ยังให้ความช่วยเหลือด้าน สวัสดิการอยู่ ทัง้ เรือ่ งการฟืน้ ฟูความพิการ ของผูป้ ว่ ยโรคเรือ้ นทีห่ ายป่วยและปราศจาก เชือ้ โดยผูท้ มี่ จี ติ ศรัทธาสามารถร่วมบริจาค ได้ที่ www.thaileprosy.org
โครงการสวัสดิการสังคมภายใต้ มูลนิธิใดก็ตาม ถือได้วา่ เป็นโครงการ ที่ ใ ห้ ก ารช่ ว ยเหลื อ โดยตรงจาก พระมหากษัตริย์สู่ราษฎรทุกหย่อม หญ้ า เป็ น การพึ่ ง พาอาศั ย ซึ่ ง กั น และกั น ด้ ว ยพระมหากรุ ณาธิ คุ ณ อันหาที่สุดมิได้ 57
ไทยคิด
หุ่นยนต์เสริม การกระตุ้นพัฒนาการ
ผู้ช่วยบำ�บัดเด็กออทิสติกไทย เรื่อง : ผศ. ดร.ปัณรสี ฤทธิประวัติ และคณะ สนับสนุนโดย : ส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
“เด็กออทิสติก” หนึง่ ในเด็กทีม่ ี ความผิดปกติทางสมอง ส่งผล ต่ อ การปฏิ สั ม พั น ธ์ กั บ ผู ้ อื่ น ได้ โ ด ย ค ว า ม ผิ ด ป ก ติ ข อ ง เ ด็ ก เหล่ า นี้ เ กิ ด ขึ้ น ในหลายรู ป แบบ ทั้งที่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่น ได้ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา ไม่สมบูรณ์อย่างเด็กทั่วไป หรือ ในบางคนอาจมีพฤติกรรมท�ำสิ่ง เดิ ม ซ�้ ำ ๆ ทั้ ง นี้ ขึ้ น อยู ่ กั บ อาการ ของเด็กแต่ละคนทีม่ ไี ม่เท่ากัน อีกทัง้ ในปั จ จุ บั นจ� ำ นวนเด็กออทิสติก ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ท�ำให้การ บ�ำบัดรักษาเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง นั ก กิ จ กรรมบ� ำ บั ด ก็ ข าดแคลน ส่งผลให้ปัญหาในเรื่องนี้เริ่มทวี วงกว้างมากขึน้ ในทุกขณะ
58
ด้วยเหตุนี้ ผศ. ดร.ปัณรสี ฤทธิประวัติ พั ฒ นาการให้ แ ก่ เ ด็ ก ออทิ ส ติ ก ในด้ า น และคณะ ได้ เ ล็ ง เห็ น ความส� ำ คั ญ ของ ที่ แ ตกต่ า งกั น เริ่ ม ตั้ ง แต่ หุ่นช่างท�ำ ปัญหา จึงคิดค้นและพัฒนา “หุ่นยนต์ หุ ่ น ยนต์ ที่ พั ฒ นาขึ้ น เพื่ อ กระตุ ้ น ทั ก ษะ เสริ ม การกระตุ ้ น พั ฒ นาการเด็ ก ในการเลียนแบบให้แก่เด็กออทิสติก เพราะ ออทิสติก” ภายใต้การสนับสนุนจาก การเลี ย นแบบนั้ น เป็ น ทั ก ษะพื้ น ฐานที่ ส� ำ นั ก งานพั ฒ นาวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ ส� ำ คั ญ ของการมี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ กั บ สั ง คม เทคโนโลยี แ ห่ ง ชาติ (สวทช.) ตั้ ง แต่ โดยหุ ่ น ช่ า งท� ำ นี้ จ ะเลี ย นแบบท่ า ทาง ปี 2554 - ปัจจุบัน และได้ทุนสนับสนุน ของเด็กโดยอัตโนมัติ และยังกระตุ้นให้ ต่ อ เนื่ อ งเพื่ อ พั ฒ นาห้ อ งเรี ย นต้ น แบบ เด็กท�ำท่าทางเลียนแบบหุ่นด้วยเช่นกัน จากโครงการ “การจัดการความรู้และ ตั ว ต่ อ มาเป็ น หุ่นช่างพูด หุ ่ น ยนต์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีดา้ นหุน่ ยนต์เสริม ชนิ ด นี้ พั ฒ นาขึ้ น เพื่ อ ช่ ว ยแก้ ไ ขปั ญ หา การกระตุน้ พัฒนาการเด็กออทิสติก การพูด การสื่อสารให้แก่เด็ก โดยหุ่นจะ เพื่ อ สร้ า งห้ อ งเรี ย นส� ำ หรั บ เด็ ก ตรวจสอบค�ำที่เด็กพูดออกมาว่าชัดเจน ออทิ ส ติ ก แนวใหม่ ” จากส� ำ นั ก งาน เพี ย งใด หากเด็ ก พู ด ชั ด เจน หุ ่ น ยนต์ คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จะแสดงอาการชื่ น ชมยิ น ดี แต่ ก รณี ที่ เด็ ก ออกเสี ย งไม่ ชั ด หุ ่ น ยนต์ ก็ จ ะท� ำ หุ่นยนต์ 3 แบบ กระตุ้นการเรียนรู้ ท่าทางปฏิเสธเพื่อสื่อสารว่าค�ำที่เด็กพูด 3 สไตล์ ยังไม่ถกู ต้อง และให้เด็กพูดซ�ำ้ ใหม่อกี ครัง้ ในส่วนของหุ่นยนต์ที่ได้มีการพัฒนา โดยผู ้ บ� ำ บั ด สามารถเลื อ กค� ำ ที่ ต ้ อ งการ ขึ้นมานั้นมีด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งจะกระตุ้น ให้เด็กฝึกผ่าน GUI (Graphical User
ผลงานวิจัยนี้ได้ถูกนำ�ไปจัดแสดงตาม นิทรรศการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล้วนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก Interface) ซึ่งช่วยให้เด็กฝึกฝนได้บ่อย ตามต้องการ และส� ำ หรั บ หุ ่ น ยนต์ ตั ว สุ ด ท้ า ยคื อ หุน่ ช่างคุย ที่ถูกออกแบบมาแก้ไขปัญหา การพูดให้แก่เด็กเช่นเดียวกับหุ่นช่างพูด แต่ ค วามพิ เ ศษที่ ม ากกว่ า ของหุ ่ น ยนต์
ประเภทนีอ้ ยูท่ ขี่ นาดของหุน่ ยนต์ทใี่ หญ่กว่า แสดงท่าทางประกอบได้หลากหลายกว่า และยังมีแท็บแล็ตที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า ของตัวหุ่นยนต์ เพื่อใช้แสดงรูปของปาก ที่ ต ้ อ งการฝึ ก ฝน ช่ ว ยให้ เ ด็ ก เห็ น ถึ ง ลักษณะของรูปปากที่ถูกต้องในการออก เสียงค�ำนั้นๆ ได้
แรงสนั บ สนุ น ปั จ จั ย ที่ จ ะขยาย ความช่วยเหลือสู่วงกว้าง
ผลงานวิจยั นีไ้ ด้ถกู น�ำไปจัดแสดงตาม นิทรรศการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล้วนได้ รั บ ความสนใจเป็ น อย่ างมาก ทั้งยังได้รับรางวัลการประกวดสิ่งประดิษฐ์ ระดับนานาชาติจากงาน 41st International Exhibition of Inventions of Geneva ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดย คว้ามาได้ 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล เหรียญทองเกียรติยศ และรางวัล พิเศษจาก Taiwan Invention Association อีกทั้งได้รับการ ตีพมิ พ์ลงในวารสารการประชุม วิ ช าการทั้ ง ระดั บ ชาติ แ ละ นานาชาติ ม ากมาย และ ที่ส�ำคัญที่สุดคือ มีผู้แสดง เจตจ�ำนงชัดเจนว่า อยากให้มีการ ผลิตเพือ่ จัดจ�ำหน่ายออกสูว่ งกว้าง อีกด้วย
ปั จ จุ บั น โครงการวิ จั ย หุ ่ น ยนต์ เสริ ม การกระตุ ้ น พั ฒ นาการเด็ ก ออทิสติกได้เข้าสู่การวิจัยในปีที่ 3 แล้ ว โดยหุ ่ นทั้ ง 3 ประเภทอยู่ ใน ระหว่ า งทดลองทางคลิ นิ ก และใน ส่ ว นของการสนั บ สนุ น ในด้ า น การวิจัย การถ่ายทอดองค์ความรู้ และต่ อ ยอดไปสู ่ เ ชิ ง พาณิ ช ย์ นั้ น ทางภาครัฐได้เป็นก�ำลังหลักในการ สนั บ สนุ น แล้ ว เหลื อ เพี ย งก็ แ ต่ ภาคการผลิ ต เพื่ อ จ� ำ หน่ า ย ซึ่ ง จ�ำเป็นต้องอาศัยภาคเอกชนในการ สนับสนุน เพื่อน�ำไปใช้ประโยชน์กับ กลุม่ เด็กออทิสติกต่อไป ชื่องานวิจัย การจัดการความรู้และ ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์เสริม การกระตุ้นพัฒนาการเด็กออทิสติก เพือ่ สร้างห้องเรียนส�ำหรับเด็กออทิสติก แนวใหม่ ผู ้ วิ จั ย ผศ. ดร.ปัณรสี ฤทธิประวัติ และคณะ ได้รับการสนับสนุนจาก ส�ำนักงาน คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
59
Smart Life
เชาวลิต สาดสมัย
เพราะหัวใจสั่งให้ผมเป็น “ครู” เรื่อง : ณัฐ พิสณฑ์ยุทธการ ภาพ : วิภัทร พันธุ์นราวิกิจ
ค�ำว่า “ครู” ในสายตาใครหลายคนอาจเป็นนิยามของความเก่ง ความ สามารถทางร่างกายและสติปัญญา ทว่าส�ำหรับคนที่ไม่สมประกอบเหล่านี้ ค�ำถามก็คือ “เขาสามารถเป็นครูด้วยหัวใจได้หรือไม่” ครูเชาว์ - เชาวลิต สาดสมัย ครูผู้มีร่างกายไม่สมบูรณ์ด้วยโรคโปลิโอ ในวัยเด็กและระดับสติปัญญาที่เคยถูกประเมินว่าต�่ำกว่ามาตรฐาน ทว่าเขา กลั บ ใช้ หั ว ใจน� ำ ทางไปสู ่ ก ารเป็ น ครู นั ก พั ฒ นาชุ ม ชนบริ เ วณใต้ ส ะพาน พระรามแปด วันนี้เขาจะพาเราไปพบกับวิถีชิวิตและงานที่เขาอุทิศด้วย ความตั้งใจ
60
61
“ผมตัง้ เป้าว่าอยากมาสอนหนังสือตาม ชุมชน แต่ผมจะท�ำได้ก็ต่อเมื่อผมเรียนจบ เสียก่อน เพื่อให้ดูว่ามีอนาคต จากนั้นผม จะมาเป็นครูสอนเด็กด้อยโอกาสที่สังคม มองไม่เห็นคุณค่า” ครู เ ชาว์ เ ริ่ ม ต้ น การสนทนาระหว่ า ง ทางเดินไปยังบ้านของผู้สูงอายุหลังหนึ่ง ในชุมชน ซึง่ เป็นเป้าหมายแรกของครูเชาว์ วันนี้ พร้อมบอกเล่าถึงอีกหนึ่งภารกิจของ ครูเชาว์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน ที่อาศัยอยู่ใต้สะพานพระรามแปด “ผมจะช่วยเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ คือเวลาทีใ่ ครต้องการความช่วยเหลืออะไร เด็กๆ ก็จะมาบอกผมที่ศูนย์ฯ ถ้าเป็นเด็ก บอกผมเชื่อนะ เพราะเด็กไม่โกหกอยู่แล้ว เขาเห็นสภาพแบบไหนมา เขาก็เล่าให้ผม
62
ฟังแบบนั้น แต่ถ้าเป็นค�ำบอกเล่าของพวก ผู้ใหญ่ ผมต้องเช็คให้ละเอียด เพราะเขา อาจมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงมาด้วย” “เป็นอย่างไรบ้างครูเชาว์” ค�ำทักทาย อย่างเป็นกันเองจากชาวชุมชนดังขึ้นเป็น ระยะๆ ตลอดเส้นทางที่เราก�ำลังเดินไป ยังจุดหมายที่สอง ศูนย์พัฒนาเด็กก่อน วัยเรียน วัดดาวดึงษาราม อีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งครูเชาว์ทุ่มเทพัฒนา สถานที่ซึ่งเป็น เสมื อ นบ้ า นหลั ง ที่ ส องของเด็ ก เล็ ก ที่ ยั ง ขาดการดูแลในละแวกนั้น “ผมท�ำงานตรงนี้มา 9 ปีแล้ว ปีแรก ที่ผมมาท�ำงานอยู่ที่ศูนย์นี้ ผมเป็นตั้งแต่ ภารโรงจนถึงผู้อ�ำนวยการศูนย์เลย ซึ่ง ช่วง 3 ปีแรก ผมยังไม่ถือว่าตัวเองเป็นครู เต็มขั้น ช่วงนั้นผมใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป
มานั่งกินข้าว นั่งพูดคุยกับพวกแม่ค้า ชาวบ้าน วินมอเตอร์ไซค์ ว่าทีน่ เี่ ป็นยังไง ผมจะไม่ถือปากกา ดินสอ แต่ผมจะใช้ วิธีจ�ำเอาว่าบ้านนี้เป็นยังไง ครอบครัวนี้ เป็นยังไง พอเข้าปีที่ 4 - 5 การท�ำงาน ของผมก็ เ ริ่ ม เป็ น รู ป เป็ น ร่ า งมากขึ้ น ” ครูเชาว์เล่าถึงเส้นทางชีวิตในช่วงเริ่มต้น ท�ำงานให้กบั ศูนย์ฯ ตลอดทางทีเ่ ดินผ่าน ชุมชน กระทั่งเรามาถึงศูนย์พัฒนาเด็ก ก่อนวัยเรียน ซึ่งแม้จะเป็นเพียงอาคาร หลังเล็กๆ แต่กอ็ ดั แน่นไปด้วยจิตอาสาและ ชาวชุมชนที่มีจิตกุศลมาช่วยเหลือกัน “ที่นี่มีเด็กประมาณ 30 คน ครู 2 คน และพี่เลี้ยงอีก 1 คน คนที่มาเป็นพี่เลี้ยง นีไ่ ม่ได้เรียนหนังสือมานะ ผมไม่ได้เน้นว่า เขาต้องเรียนเก่งหรือเรียนด้านปฐมวัยมา แต่ผมมองว่า ถ้าต้องจ้าง ก็น่าจะเอา คนในชุม ชนด้ วยกันนี่ แหละมาท�ำ งาน มาดูแลเด็กในชุมชนของเขาเองดีกว่า ไปจ้างคนอืน่ อีกทัง้ ยังท�ำให้เขามีกำ� ลังใจ มากขึ้นด้วย” นอกจากนี้ ครูเชาว์ยังเล่าให้ฟังถึง ตัวอย่างหนึ่งที่ภาคภูมิใจว่า “อย่างในกรณีของน้องบุรินทร์ที่มีพ่อ แม่อายุ 18 ปี เรียนจบแค่ ม.6 เรียกว่า ยังเด็กอยู่ทั้งคู่ น้องบุรินทร์เกิดมาก็เป็น เด็กพิการหัวโต แต่ไม่ได้ทำ� สมุดประจ�ำตัว คนพิ ก าร สวั ส ดิ ก ารเรื่ อ งค่ า รั ก ษาจึ ง ไม่มี ผมเลยอาสาเข้าไปช่วยเพื่อให้เขา ได้มีสิทธิ์รักษาตามโรงพยาบาลเหมือน คนพิการทั่วไป ทุกวันนี้น้องมีสุขภาพที่ ดีขึ้น ผมบอกกับพ่อแม่เขาว่า ผมจะช่วย ปูทางอนาคตให้เอง ไม่ต้องไปรอเทวดา ที่ไหนมาช่วย เราท�ำตัวเราให้มีค่าก็พอ” ระหว่างทางกลับ ครูเชาว์ได้พูดคุย กั บ เราถึ ง มุ ม มองที่ มี ต ่ อ ความเป็ น ครู
“ในหลวงคือแรงบันดาลใจ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม ท่านทรงท�ำในสิ่งที่ให้ประโยชน์สูงสุด แก่ประชาชน ท่านทรงไม่เคยบ่น ว่าเหนื่อย แล้วถ้าเราท�ำแค่นี้ ก็พูดว่าเหนื่อยแล้ว ผมว่ามันไม่ใช่”
ประโยคบอกเล่าสัน้ ๆ ทีค่ รูเชาว์ได้พดู กับเรา ว่า “ครูคือผู้เสียสละ” ท�ำให้เราไม่สงสัย เลยว่ า ท� ำ ไมครู เ ชาว์ จึ ง ทุ ่ ม เทแรงกาย แรงใจทั้งหมดให้กับเยาวชน และพัฒนา ศูนย์สร้างโอกาสเด็กจนเป็นรูปเป็นร่าง ส�ำเร็จได้จนถึงวันนี้ กระทั่ ง ตอนนี้ บทบาทของครู เ ชาว์ ค่อยๆ เด่นชัดขึ้น พร้อมๆ กับงานพัฒนา ชุมชนทีก่ ำ� ลังเป็นรูปเป็นร่าง หลายคนมอง มาที่เขาแล้วเริ่มเอ่ยปากเรียก “ครูเชาว์” ได้อย่างเต็มปาก ทั้งหมดเกิดจากความ พยายามและความเชือ่ มัน่ ในศักยภาพของ ตัวเอง และนีค่ อื สิง่ ทีค่ รูเชาว์ใช้เพือ่ แลกกับ การยอมรับจากคนในสังคม “ตัง้ แต่เด็ก ผมถูกพ่อแม่ทไี่ ม่พร้อมทิง้ ไว้ ที่ โ รงพยาบาล และถู ก ส่ ง ไปยั ง สถานสงเคราะห์ พอโตขึ้นมาหน่อย ผมอยาก เรียนหนังสือ จึงไปสมัครเข้าเรียน เจ้าหน้าที่ มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็ไม่รับผม ผมรูส้ กึ สะเทือนใจมาก เราไม่มคี า่ ขนาดนัน้ เลยหรือ ท�ำไมสังคมไม่มองว่าเด็กที่มา จากมูลนิธิก็มีหัวใจ ถ้าคุณพัฒนาเขา เขา ก็ออกมาพัฒนาสังคมต่อได้ ผมไม่ยอมแพ้
กลั บ ไปยื่ น ใบสมั ค รอี ก ครั้ ง และครั้ ง นี้ เขาคงเห็นในความมุง่ มัน่ จึงลองรับผมเป็น นักเรียน แต่ถึงผมจะไปเรียนด้วยสภาพ แบบนี้ ผมก็ ไ ม่ ไ ด้ ยื ม จมู ก ใครหายใจ นอกจากเรียนแล้ว ผมยังท�ำกิจกรรมทุกอย่าง ทั้งออกค่ายอาสา เป็นนักกีฬาไปแข่งขัน พาราลิมปิกด้วย ผมพิสูจน์ตัวเองทุกๆ อย่าง จนสุดท้ายผมก็ได้เข้าเรียนต่อทีค่ ณะ ศึกษาศาสตร์ เอกพลศึกษา มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และได้มาเป็นครูอย่างทีผ่ ม ตัง้ ใจ” รอยยิม้ บางๆ ของครูเชาว์ปรากฏชัด บนใบหน้า สิ่งที่ครูเชาว์ทุ่มเทมาทั้งหมด อาจดู มากมายเกินกว่าที่ใครหลายคนจะท�ำได้ ทว่ า ในความรู ้ สึ ก ของครู เ ชาว์ ยั ง ถื อ ว่ า เล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับการทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็น แรงบันดาลใจสูงสุดของครูเชาว์ “ในหลวงคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ ที่ สุ ด ของผม ท่ า นทรงท� ำ ในสิ่ ง ที่ ใ ห้ ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ท่านทรง ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย แล้วถ้าเราท�ำแค่นี้ ก็พูดว่าเหนื่อยแล้ว ผมว่ามันไม่ใช่”
ทุกวันนี้ครูเชาว์อาศัยอยู่อย่าง เรี ย บง่ า ยในชุ ม ชน หารายได้ จ าก การเก็ บ ขวดพลาสติ ก ไปขายและ น�ำเงินมาสร้างสรรค์กจิ กรรมดีๆ ให้แก่ เด็กด้อยโอกาสต่อไป ใครที่แวะเวียน มาบริเวณสะพานพระรามแปดแห่งนี้ ลองแวะไปเยี่ยมเยียนครูเชาว์ที่ศูนย์ สร้ า งโอกาสเด็ ก พระรามแปดดู แล้วคุณจะพบว่า ด้านล่างของสะพาน สู ง ใหญ่ ที่ คุ ณ สั ญ จรผ่ า นไปมานั้ น มีอีกหลายชีวิตที่ยังต้องการน�้ำใจ ไมตรี จ ากเพื่ อ นร่ ว มทางในสั ง คม เช่นคุณ ร่วมสนับสนุนสิง่ ของจ�ำเป็นส�ำหรับ เด็กและผูส้ งู อายุ อาทิ ผ้าอ้อมส�ำเร็จรูป อุปกรณ์การเรียน หรือขนมส�ำหรับเด็กๆ ได้ที่ ศูนย์สร้างโอกาสเด็กพระรามแปด 2153 ซอยอรุ ณ อมริ น ทร์ 57 แขวง บางยี่ ขั น เขตบางพลั ด กรุ ง เทพฯ 10700 โทร. 08-0075-4417 63
Talk to Doctor
มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคยอดฮิตของชายสูงวัย เรื่อง : นพ.อิศเรศ สายศร ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่มีผู้ป่วยเพศชายสูงวัยมาให้ผมรักษาอยู่บ่อยๆ และ กลายเป็นโรคยอดฮิตของคนสมัยนีไ้ ปแล้วนัน่ คือ “โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก” ซึง่ ติดอันดับมะเร็งทีพ่ บมากในเพศชาย อีกทัง้ ประชากรไทยก็ยงั เป็นโรคมะเร็ง เพิม่ มากขึน้ ทุกปี อาจฟังดูนา่ กลัวเมือ่ ได้ยนิ ชือ่ และรูถ้ งึ สถิติ แต่ความจริงแล้ว โรคนีส้ ามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้ารูจ้ กั หมัน่ สังเกตตัวเองและตรวจร่างกาย เป็นประจ�ำทุกปี จะท�ำให้สามารถรักษาโรคนี้ได้อย่างทันท่วงที
64
เคสล่าสุดที่ผมได้รักษา คนไข้เข้ามา ปรึกษาผมว่า “มีอาการปัสสาวะติดๆ ขัดๆ ไม่ค่อยออก และมักปัสสาวะบ่อยในตอน กลางคื น รู ้ สึ ก ว่ า ผิ ด ปกติ จึ ง อยากรู ้ ว ่ า เป็นอะไร เพราะปกติก็แข็งแรงดี ไม่ได้ เป็นโรคประจ�ำตัวอะไรด้วย จึงไม่ได้ตรวจ ร่ า งกายเป็ น ประจ� ำ ทุ ก ปี ” ซึ่ ง เมื่ อ ผม สอบถามประวัติผู้ป่วยแล้วพบว่า เขาอายุ 50 ปี และคุณพ่อของเขาก็มีประวัติเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก อีกทั้งตัวเขาเองก็ ไม่ได้ตรวจร่างกายเป็นประจ�ำทุกปี ผมจึง สั น นิ ษ ฐานว่ า เขาอาจเป็ น โรคมะเร็ ง ต่อมลูกหมาก เพราะเข้าข่ายปัจจัยเสี่ยง ที่อาจจะเป็นโรคนี้ได้ทั้งสิ้น
คนปกติ สุดท้ายคือเรือ่ งของอาหารการกิน เนื่องจากชาวตะวันตกเป็นโรคนี้กันมาก ท� ำ ให้ เ ชื่ อ ว่ า การรั บ ประทานอาหารที่ มี ไขมันสูงจะมีโอกาสเสีย่ งมากกว่า และการ รับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน ต่างๆ เป็นประจ�ำ จะช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิ ด โรคมะเร็ ง ต่ อ มลู ก หมากให้ น้อยลงได้
ผมจึงอยากแนะน�ำให้ ผู้ชายทุกคนตรวจร่างกาย เป็นประจ�ำทุกปี โดยเฉพาะ ผู้ชายอายุ 40 - 50 ปีที่อยู่ ในกลุ่มเสี่ยง หรือแม้แต่ผู้ที่ ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ของทางเดินปัสสาวะ ก็ควร จะไปรับการตรวจหามะเร็ง ต่อมลูกหมาก เพราะถ้าพบ ในระยะเริ่มแรกยังสามารถ รักษาให้หายขาดได้
ปัจจัยเสี่ยงโรคร้าย
ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงหน้าที่ของต่อม ลูกหมากก่อนว่า เป็นอวัยวะหนึง่ ของระบบ สืบพันธุ์เพศชาย มีหน้าที่สร้างน�้ำเมือก หล่อเลี้ยงเชื้ออสุจิ โดยท่อปัสสาวะเป็น ทางเดินร่วมของทัง้ น�ำ้ ปัสสาวะและน�ำ้ อสุจิ ในเพศชาย ต่อมลูกหมากจึงเกีย่ วข้องกับทัง้ ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ ส่วนทางด้านหลังของต่อมลูกหมากเป็น ล�ำไส้ตรง ซึ่งเป็นล�ำไส้ใหญ่ส่วนสุดท้าย ก่ อ นถึ ง ทวารหนั ก ซึ่ ง แพทย์ จ ะตรวจ เพื่อหามะเร็งต่อมลูกหมากจากทางนี้ ส่วนสาเหตุที่ท�ำให้เกิดโรคนี้ ยังไม่ ทราบอย่างแน่ชัด แต่มีหลายคนเชื่อว่า ฮอร์ โ มนเพศชายเป็ น ต้ น เหตุ ส� ำ คั ญ จากการวิจยั พบว่า อายุกเ็ ป็นอีกหนึง่ ปัจจัย เสีย่ งต่อการเกิดโรคมะเร็ง เมือ่ อายุมากขึน้ โอกาสที่ จ ะเป็ น มะเร็ ง ก็ ม ากขึ้ น ด้ ว ย โดยโรคนี้จะพบมากในผู้ชายอายุ 50 ปี ขึน้ ไป รวมถึงผูท้ มี่ พี อ่ หรือพีน่ อ้ งเป็นมะเร็ง ต่อมลูกหมาก ก็จะมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่า
จนมีขนาดใหญ่ขนึ้ และไปกดเบียดอวัยวะ ใกล้เคียง จนท�ำให้เกิดอาการต่างๆ หาก ไม่รีบรักษาจะร้ายแรงมากขึ้นกว่านี้ และ ยังอาจท�ำให้มีอาการของโรคมะเร็งทั่วไป ได้แก่ เบื่ออาหาร น�้ำหนักลด ปวดเมื่อย ตามร่างกายและกระดูกตามมาด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน จึง ควรที่จะไปตรวจร่างกายเป็นประจ�ำทุกปี
อย่าละเลยจนเกิดอาการ
ส�ำหรับอาการของโรคนี้ ในระยะแรก มักไม่แสดงอาการ เนื่องจากมะเร็งต่อม ลูกหมากจะเจริญเติบโตอย่างช้าๆ ท�ำให้ ใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการออกมา แต่ถา้ รอจนมีอาการ ผูป้ ว่ ยอาจอยูใ่ นระยะ ที่มะเร็งลุกลามแล้ว ท�ำให้การรักษายาก ล�ำบากมากขึน้ และอาจมีอาการซ�ำ้ ซ้อนกับ โรคต่อมลูกหมากโตได้ดว้ ย ดังนัน้ จากเคส ของผู้ป่วยที่บอกว่า ปัสสาวะไม่ออก ติดๆ ขัดๆ และปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนนัน้ แสดงให้เห็นว่า ก้อนมะเร็งอาจเริ่มเติบโต
ด้วยการตรวจเลือดเช็คค่า PSA (Prostatic Specific Antigen) เพราะในระยะเริ่มต้น อาจไม่สามารถตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมาก ทางทวารหนักได้ หากเซลล์มะเร็งไม่ได้ รับการรักษาจะแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อ บริเวณใกล้เคียงต่อมลูกหมาก และมีการแพร่ กระจายไปยังส่วนของท่ออสุจิ ท�ำให้ผปู้ ว่ ย มีอาการปัสสาวะบ่อยและถ่ายปัสสาวะ ล�ำบาก หากเป็นถึงระยะสุดท้ายที่รุนแรง แล้ ว เซลล์ ม ะเร็ ง จะแพร่ ก ระจายไปยั ง ต่อมน�้ำเหลืองหรืออวัยวะส่วนอื่นๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะ ล�ำไส้ตรง กล้ามเนื้อ 65
หรือกระดูก เป็นต้น โดยระยะนีผ้ ปู้ ว่ ยอาจ มีอาการปวดกระดูก น�ำ้ หนักลด อ่อนเพลีย และอาจเป็นอัมพาตได้ ผมจึ ง อยากแนะน� ำ ให้ ผู ้ ช ายทุ ก คน ตรวจร่างกายเป็นประจ�ำทุกปี โดยเฉพาะ ผู้ชายอายุ 40 - 50 ปีที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือแม้แต่ผทู้ ไี่ ม่มอี าการผิดปกติใดๆ ของ ทางเดินปัสสาวะ ก็ควรจะไปรับการตรวจ หามะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะถ้าพบใน ระยะเริ่มแรกยังสามารถรักษาให้หายขาด ได้ แต่ถ้าเป็นในระยะที่สองแล้ว จะท�ำให้ การรักษาซับซ้อนมากขึ้น
แต่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายประจ�ำปี หรือมีการเจาะเลือดเช็คค่า PSA ผู้ป่วย กลุ่มนี้มักจะตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมาก ในระยะเริ่มแรก ท�ำให้สามารถรักษาให้ หายขาดได้ ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ ปัจจุบัน มีการรักษาแบบใหม่โดยไม่ต้องมี แผลผ่าตัด ทีเ่ รียกว่า “HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)” เป็นการรักษา ด้วยการรวมคลื่นเสียงให้มีความเข้มข้น สูง ส่งผ่านไปยังจุดรวมคลืน่ เสียง ลักษณะ คล้ายกับการใช้แว่นขยายรวมแสงไปที่จุด เดียว ท�ำให้เกิดความร้อนสูงปริมาณ 85 - 90 องศาเซลเซียส ค้างอยู่ที่จุดรวมคลื่นเสียง ทางเลือกใหม่ รักษาได้ด้วย HIFU เป็นเวลา 1 - 5 วินาที ท�ำให้เนื้อเยื้อตรง ในส่ ว นของผู ้ ป ่ ว ยที่ ไ ม่ แ สดงอาการ จุดรวมแสงนั้นถูกท�ำลาย เปรียบเหมือน ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมลูกหมาก การยิงฆ่าเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรก
ข้ อ ดี ส� ำ หรั บ การรั ก ษาด้ ว ยวิ ธี นี้ คื อ มีความแม่นย�ำสูง ไม่ทำ� ลายเนือ้ เยือ้ บริเวณ โดยรอบ ท� ำ ให้ ผ ลกระทบในเรื่ อ งการ กลั้นระบบขับถ่ายของเสียและเรื่องของ สมรรถภาพทางเพศมีความเสี่ยงน้อยกว่า การรั ก ษาด้ ว ยวิ ธี อื่ น สามารถรั ก ษาซ�้ ำ ต่อจากวิธีอื่นที่รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถ ตรวจสอบผลการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ค่า PSA ลดต�่ำภายหลังได้รับการรักษาเพียง 3 - 6 เดือน มีผลข้างเคียงระยะยาวน้อยมาก มีความปลอดภัยสูง ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว นอนพักที่โรงพยาบาลเพียงแค่ 1 - 3 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ถือเป็นอีกหนึง่ ทางเลือกใหม่ในการรักษาทีอ่ ยากแนะน�ำ เพื่ อ ให้ ผู ้ ป ่ ว ยมี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดีขึ้ น อย่ า งรวดเร็ ว โดยไม่ต้องทนทรมานกับโรคร้ายนี้ อย่างไรก็ตาม โรคนีจ้ ะไม่กลายเป็นโรคยอดฮิตทีแ่ พทย์จะต้องมารักษา อยู่บ่อยๆ ก็ต่อเมื่อทุกคนรู้จักดูแลตัวเองและหมั่นไป ตรวจร่างกายเป็นประจ�ำทุกปี เพราะยิ่งอายุมากขึ้น การตรวจอย่างละเอียดเป็นประจ�ำ ก็นบั เป็นเรือ่ งส�ำคัญ และจ�ำเป็นที่ทุกคนควรใส่ ใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น ร่างกายเรา จะได้สมบูรณ์และอยู่คู่กับเราไปได้นานๆ
66
Wine Curve
“ชิมไวน์” อย่างมีศิลปะ
เพราะ “ไวน์” ไม่ ใช่เครื่องดื่มที่ดาษดื่น เหมือนกับเครื่องดื่มธรรมดาๆ ทั่วไป อีกทั้ง ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีความซับซ้อนอย่างลึกล�้ำ ทั้ ง ในแง่ มุ ม ของประวั ติ ศ าสตร์ แ ละรสชาติ ที่ ป ระกอบขึ้ น จากเงื่ อ นไขต่ า งๆ มากมาย ทั้ ง สายพั น ธุ ์ ข ององุ ่ น พื้ น ที่ ข องไร่ ที่ ป ลู ก ระยะเวลาที่ ใช้ ในการหมัก อุณหภูมิที่ ใช้ ใน การเก็บรักษา แม้กระทั่งวิธีการเปิดก๊อกไวน์ ทั้งหมดนี้ถ้าท�ำผิดวิธี ผิดขั้นตอน จะส่งผล ต่ อ รสชาติ ข องไวน์ ไ ด้ ทั้ ง สิ้ น ซึ่ ง กว่ า จะได้ เครื่ อ งดื่ ม ที่ มี ศิ ล ปะเหล่ า นี้ อ อกมานั้ น ไม่ ใ ช่ เรื่ อ งง่ า ยเลย ดั ง นั้ น จึ ง เป็ น เหตุ ผ ลว่ า ท� ำ ไมถึ ง ต้ อ งมี ก ารชิ ม ไวน์ หรื อ ที่ เ รี ย กว่ า “Wine Tasting” ก่อนชิมไวน์
หากว่าวันหนึ่ง คุณได้รับค�ำเชิญให้ไปร่วมงาน เปิดตัวไวน์หรือกิจกรรม Wine Tasting สิ่งส�ำคัญ ข้อแรกทีค่ ณ ุ จะลืมไม่ได้เลย นัน่ ก็คอื อย่าใส่นำ�้ หอม หรือท�ำกิจกรรมใดๆ ที่มีกลิ่นติดทนก่อนการไป ร่วมกิจกรรมเป็นอันขาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์อื่นใดมาขัดจังหวะและเป็นตัวกวน ตอนที่ชิมไวน์ได้
68
ถ้ามีทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ควรเริ่มต้นที่ไวน์ขาวก่อน แล้ว จึงต่อด้วยไวน์แดงทีหลัง เนื่องจากคาแร็คเตอร์ของไวน์แดงนั้น ไม่ว่าจะมาจากองุ่นสายพันธุ์ใดก็ตาม จะมีความเข้มข้นมากกว่า ไวน์ขาวเสมอ หากเราเริ่มต้นด้วยการชิมไวน์แดงก่อน จะท�ำให้ ความฝาดของไวน์แดงติดแน่นอยู่ที่ปลายลิ้น เมื่อมาดื่มไวน์ขาว ตาม เราก็จะไม่สามารถรับรสชาติที่ดีของไวน์ขาวได้อีกเลย จากนัน้ เมือ่ ถึงเวลาชิม สิง่ ทีค่ วรระวังเรือ่ งทีส่ องนัน่ ก็คอื อย่า จับที่ตัวแก้วไวน์ แต่ให้จับที่ก้านของแก้วแทน เหตุก็เพราะว่า อุณหภูมคิ วามร้อนจากมือของเรา อาจส่งผ่านไปท�ำให้ไวน์ในแก้ว เสียรสชาติได้ แถมยังดูเป็นการเสียมารยาทอีกด้วย โดยการจับ ที่ตัวแก้วนั้นจะเหมาะกับการจับแก้วบรั่นดีมากกว่า เพราะเหล้า บรั่นดีนั้นนิยมดื่มกันแบบอุ่นๆ การจับที่ตัวแก้วถือเป็นการวอร์ม ให้เครื่องดื่มขับรสชาติออกมาได้มากขึ้น หลั ก การพิ จ ารณาตั ว ไวน์ ใ นเบื้ อ งต้ น นั้ น ประกอบด้ ว ย การ ดู ค วามใส หรื อ สิ่ ง แปลกปลอมที่ อ าจเจื อ ปนหลงมา ขั้ น ต่ อ ไปให้ ดู ป ระกายของไวน์ ซึ่ ง ปกติ ไ วน์ ค วรจะมี สี ที่ เ ป็ น ประกาย โดยเฉพาะไวน์ ข าว แต่ ถ ้ า เป็ น ไวน์ แ ดง เรื่องประกายอาจไม่ต้องพิจารณา จากนั้นไป ดูสี อันเป็นสิ่งที่ บ่งบอกคุณสมบัติของไวน์ได้หลายอย่าง เช่น ปีที่เก็บเกี่ยวไวน์ อายุของไวน์ ความสุกขององุ่นที่ใช้ การเก็บบ่ม ความหวาน ต่อจากนั้นจึงมา ดูขาไวน์ หรือน�้ำตาไวน์ เป็นลักษณะการไหล ลงมาของไวน์ที่ขอบแก้ว ท�ำได้ด้วยการรินไวน์ประมาณ 1 ใน 3 ของแก้ ว เอี ย งและแกว่ ง แก้ ว โดยใช้ ก ระดาษหรื อ ผ้ า ขาว รองไว้ด้านหลังแก้ว เพื่อประโยชน์ในการพินิจขาไวน์ ควรดู ในแสงที่เป็นเดย์ไลท์ ไม่ควรใช้แสงไฟจากหลอดนีออน โดย ขาไวน์ นี้ จ ะบ่ ง บอกถึ ง อายุ ข องไวน์ รวมไปถึ ง ความเข้ า กั น ระหว่างไวน์กับแอลกอฮอล์ ถ้าไวน์มีการไหลหรือเคลื่อนตัว ลงมาเร็ว นั่นแสดงว่าไวน์และแอลกอฮอล์ยังไม่รวมตัวกันดี เราจะเห็ น ขาไวน์ มี ข นาดเล็ ก นั่ น แปลว่ า ไวน์ ยั ง มี อ ายุ น ้ อ ย แต่หากไวน์ไหลหรือเคลื่อนตัวลงมาช้า นั่นแสดงว่าไวน์และ แอลกอฮอล์ได้รวมตัวกันดีแล้ว เราจะเห็นขาไวน์มีขนาดใหญ่ นั่นแปลว่าไวน์นั้นมีอายุมากแล้ว กล่าวโดยสรุปง่ายๆ ก็คือ หากมีขาไวน์ใหญ่ คือไวน์ที่มีบอดี้มาก (เข้มข้นมาก) แต่ถ้ามี ขาไวน์เล็ก คือไวน์ที่มีบอดี้น้อย (เข้มข้นน้อย) นั่นเอง
ของการชิมไวน์ สิ่งที่ควรท�ำก่อนการชิมคือ ควรสูดกลิ่นหอม เพื่อดื่มด�่ำกลิ่นก่อนรินเข้าปาก และเมื่อหยดแรกเข้าไปแล้ว ควรอมไว้สักครู่ก่อนจะกลืนลงไป เพื่อที่จะได้สัมผัสกับทั้งกลิ่น และรสชาติของไวน์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรียกได้ว่าควรจะ “ดู-ดม-อม-กลืน” ให้ครบทุกกระบวน ไม่ใช่แต่จะเร่งรีบดื่ม กลืนลงคอแต่เพียงเท่านั้น จากนั้นให้สังเกตประสาทสัมผัสของคุณว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้ชิมไวน์นั้นๆ ถ้ายังไม่ช�ำนาญก็หมั่นฝึกฝน และ สังเกตการจับจุดวิจารณ์ของพวกนักชิมชั้นเซียนดูในเบื้องต้นว่า เขาเหล่านัน้ ตัง้ ข้อสังเกตและให้ความส�ำคัญไปในเรือ่ งไหน เพราะ กิจกรรม Wine Tasting นั้น ถือเป็นสังคมแห่งการแลกเปลี่ยน ความรู้ในเรื่องของไวน์ที่เหล่าคอไวน์พึงให้ความสนใจและศึกษา
กฎเหล็กของการชิมไวน์
สิง่ ส�ำคัญประการสุดท้ายทีไ่ ม่ควรละเลย อันเปรียบเสมือนกฎ เบื้องต้นของการชิมไวน์เลยนั่นก็คือ ไวน์ขาวคู่กับปลา ไวน์แดงคู่ กับเนื้อวัว หรือเอาแบบเข้าใจง่ายๆ คือ ไวน์เบาคู่กับอาหารหนัก ไวน์หนักคูก่ บั อาหารเบา ซึง่ ความหนักเบาของไวน์นหี้ มายถึงบอดี้ ที่วัดจากความเข้มข้นของตัวไวน์แต่ละชนิด หรืออาจลองชิมไวน์ โดยจับคูก่ บั เหล่า “อาหารคูค่ ลาสสิก” เพือ่ ฝึกลิน้ ไปก่อนก็ได้ เช่น ดื่ม Bordeaux (บอร์โด) คู่กับเนื้อแกะอบ ดื่ม Chablis (ชาบลี) คู ่ กั บ หอยนางรม หรื อ อาจใช้ วิ ธี จั บ คู ่ ไ วน์ ที่ มี ก ลิ่ น ผลไม้ แ ละ ไม่มีกลิ่นควัน เพื่อรับประทานคู่กับเมนูอาหารประเภทตุ๋น-อบ ก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ
เหนื อ สิ่ ง อื่ น ใด การชิ ม ไวน์ จ ะไม่ ส นุ ก และไม่ ส ร้ า ง ความสุขให้แก่ตัวผู้ชิมได้เลย หากผู้ชิมพยายามจะเลือก แต่ ไ วน์ ที่ มี ชื่ อ เสี ย งเพื่ อ ช่ ว ยสร้ า งภาพลั ก ษณ์ ใ ห้ ต น ดูดีเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้มองว่า ตนไม่ได้ชื่นชอบ ไวน์ ช นิ ด นั้ น เลยด้ ว ยซ�้ ำ เพราะกฎทองในการชิ ม ไวน์ หรือดื่มไวน์ที่คอไวน์ทุกคนควรจ�ำให้ขึ้นใจคือ ต้องเลือก ดื่มไวน์ที่ตัวเองหาซื้อได้ โดยไม่เดือดร้อน สนุกไปกับมัน ได้ ในแบบที่ไม่ต้องกังวลถึงสายตาของคนอื่น เพราะ รสนิ ย มในเรื่ อ งของไวน์ นั้ น ค่ อ นข้ า งจะเป็ น รสนิ ย ม ส่วนตัวจริงๆ ซึ่งการจะรู้ ได้ว่าไวน์ไหนถูกใจ ถูกจริต ขณะชิมไวน์ กั บ เราได้ นั้ น ต้ อ งอาศั ย การชิ ม และสรรหาอย่ า งมี และแล้วก็มาถึงขัน้ ตอนทีค่ อไวน์ทกุ คนตัง้ ตารอคอย กับขัน้ ตอน ศิลปะเท่านั้น 69
Chef at Home
เรื่อง : ชโลทร วรวงศา ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี
แซลมอนต้มเค็ม By เชฟมินี่ - โอบอุ้ม จูตระกูล
หนึ่ ง ในสาวไทยคนดั ง ผู ้ ไ ปสร้ า ง ชือ่ เสียงให้อาหารไทยเป็นทีร่ จู้ กั ทัว่ ประเทศ อังกฤษ คุณมินี่ - โอบอุม้ จูตระกูล ทีแ่ ม้จะ เกิดและเติบโตในครอบครัวคนรักอาหาร แต่เธอกลับไม่ชอบเอาเสียเลย “จุดเปลี่ยนส�ำคัญที่ท�ำให้กลายมาเป็น คนรักอาหาร เป็นเพราะมีวันหนึ่งได้ชม รายการอาหารทางทีวี พบว่าเมนูนั้นคือ แกงเขียวหวานไก่ แต่หน้าตาอาหารที่เห็น มันไม่ใช่เลย ผิดจากความเป็นจริงไปมาก เลยเกิดความรูส้ กึ อยากเผยแพร่อาหารไทย ที่แท้จริงให้คนทั่วไปรู้จัก” เธอกล่าว จากนั้ น เธอจึ ง สะสมประสบการณ์ อย่ า งหลากหลาย ทั้ ง ดู แ ลร้ า นอาหาร ของครอบครัว ร่วมงานกับ BBC เพื่อท�ำ รายการอาหาร จัดท�ำต�ำราอาหาร 2 เล่ม คือ 100 Great Thai Dishes และ Healthy Dairy-free Eating ท�ำรายการอาหารของ ตัวเองในชื่อว่า Global Thailand เป็น ที่ปรึกษาด้านอาหารให้ S Medical Spa และเธอยังนั่งแท่นผู้บริหารของ Quintessentially Thailand อีกด้วย 70
วั น นี้ เ ธอขนเมนู อ ร่ อ ย ท� ำ ได้ ง ่ า ยๆ เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่มีแคลอรีต�่ำมาฝาก จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่การโคจรมาพบกัน ของปลาแซลมอนและกะปิ เราลองมาท�ำ ดูว่า จะอร่อยเด็ดขนาดไหน
วิธีท�ำ • ลวกเนื้อปลาแซลมอน 15 - 20 วินาที ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน�้ำ • โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยด�ำ ให้ละเอียดเข้ากัน เติมกะปิแล้วโขลกต่อ จนเข้ากันดี • ตัง้ น�ำ้ มันในหม้อต้มให้รอ้ น น�ำส่วนผสม ส่วนผสม (ส�ำหรับ 2 ที่) เนื้ อ ปลาแซลมอนลอกหนั ง หั่ น เป็ น ชิ้ น ทีโ่ ขลกไว้ลงผัดด้วยไฟอ่อนจนหอม เติมน�ำ้ ครึง่ ถ้วย เร่งไฟแรง พอน�ำ้ เดือดใส่เนือ้ ปลา ขนาด 2 นิ้ว 150 กรัม แซลมอนลงต้ม น�้ำเปล่า 1 ถ้วย รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ • ปรุงรสด้วยซีอวิ๊ ขาวและน�ำ้ ตาลมะพร้าว ใส่แครอทและหัวไช้เท้า เติมน�้ำที่เหลือ กระเทียมกลีบใหญ่ ต้มต่ออีก 5 นาที ปอกเปลือก 4 กลีบ เม็ดพริกไทยด�ำ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ • ยกลงจากเตา โรยหน้ า ด้ ว ยขึ้ น ฉ่ า ย กะปิอย่างดี 1 - 4 ช้อนชา ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ น�้ำมันเมล็ดทานตะวัน 1½ ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ น�้ำตาลมะพร้าว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่นแฉลบ 150 กรัม หัวไช้เท้าหั่นแฉลบ 250 กรัม ขึ้นฉ่ายหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ น�้ำส�ำหรับลวกเนื้อปลา
เรื่อง : ชโลทร วรวงศา ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี
ขนมถั่วแปบเค็มไส้กุ้ง By เชฟมาดามตวง - อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์
หลายคนอาจได้รู้จักมาดามตวง - อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์ เซเลบริตี้เชฟชื่อดังจาก ผลงานต�ำราอาหาร การเปิดสอนท�ำอาหาร รับจัดงานเลีย้ ง รวมทัง้ ยังเป็นผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลัง เมนูอร่อยของหลายร้าน เรียกได้วา่ เป็นมาดามทีค่ รบเครือ่ งตัวจริงเสียงจริง เธอเล่าถึงเมนูที่ประทับใจให้ฟังว่า เป็นมะพร้าวขูดผัดกับกุ้ง มีรสพริกไทย กินคู่กับ ข้าวเหนียวมูนขมิ้นโบราณราดหน้าด้วยน�้ำกะทิ ซึ่งหาทานไม่ได้แล้วในทุกวันนี้ เธอจึง น�ำเมนูนี้มาดัดแปลงใหม่ กลายเป็นสูตรของว่างที่หยิบมาแนะน�ำกันในวันนี้
น�้ำเปล่า 1 ถ้วย ผงขมิ้น 2 ช้ อ นชา เกลือ 1 ช้ อ นชา มะพร้าวขูดขาวนึ่ง 1 - 2 กิโลกรัม น�้ำเปล่าส�ำหรับต้มแป้ง 2 - 3 ถ้วย ใบมะกรูดซอยส�ำหรับโรยหน้า หัวกะทิเล็กน้อยส�ำหรับหยอดหน้า
เติมเกลือ น�้ำตาลมะพร้าว น�้ำตาลทราย ใส่ สี ผ สมอาหารแล้ ว ผั ด ต่ อ จนแห้ ง วิธีท�ำ • ผสมขมิ้น เกลือ และแป้งข้าวเหนียว โรยใบมะกรูดซอย ตักขึ้นพักไว้ ให้เข้ากัน เทน�้ำลงไปแล้วนวดจนเนื้อแป้ง เนียน ปัน้ แป้งเป็นก้อนกลมขนาดประมาณ ส่วนผสมกะทิ 3 - 4 นิว้ วางเรียงบนถาด คลุมด้วยผ้าขาวบาง น�้ำกะทิ 2 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ หมาดๆ พักไว้ เกลือ 1 ช้ อ นชา • ต้มน�ำ้ ให้เดือด แผ่แป้งเป็นแผ่นกลมแบน น�้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ หย่อนลงในน�้ำเดือด พอแป้งสุกจะลอย จึงตักขึน้ สะเด็ดน�ำ้ วางบนจานทีม่ มี ะพร้าว โรยเกลือเล็กน้อย วิธีท�ำ ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน น�ำไป • ตักไส้กุ้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะวางบน มุ ม หนึ่ ง ของแผ่ น แป้ ง แล้ ว พั บ มุ ม แป้ ง วิธีท�ำ ตั้งไฟ คนพอเดือด ยกลงจากเตา ด้านทีเ่ หลือมาห่อไส้ให้มดิ คลุกกับมะพร้าว • ตัง้ กระทะใส่นำ�้ มันเล็กน้อย ใส่กระเทียม จนทั่ ว จั ด ใส่ จ าน โรยใบมะกรู ด ซอย พริ ก ไทย และรากผั ก ชี โ ขลกละเอี ย ด ส่วนผสมแป้ง หยอดหน้าด้วยน�้ำกะทิเล็กน้อย ผั ด พอหอม ใส่ กุ ้ ง และมะพร้ า วลงผั ด แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วย
ส่วนผสมไส้กุ้ง (ส�ำหรับ 4 - 5 ที่) เนื้อกุ้งสับหยาบ 100 กรัม มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย น�้ำตาลมะพร้าว 1 - 3 ถ้วย น�้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 3 ช้อนชา กระเทียม พริกไทย และรากผักชี โขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย 10 ใบ สีส้ม (สีผสมอาหาร) 1 ช้อนชา น�้ำมันพืชเล็กน้อย
71
Dining Out
02
01
แอ่วเมืองเหนือ กิน-เที่ยว “เชียงใหม่”
หน้าหนาวมาแล้ว อากาศเย็นสบายช่วงปลายปีแบบนี้ เชือ่ ว่าหลายครอบครัว น่าจะเลือกขับรถกันไปนอนตากลมหนาวกันที่ภาคเหนือแน่ๆ ยิ่งใกล้เทศกาล หยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ดว้ ยแล้ว การหนีไปสูดอากาศบริสทุ ธิ์ เห็นจะ เป็นทางเลือกในการพักผ่อนที่ไม่ใกล้ไม่ไกลและน่าสนใจทางหนึ่งใช่ไหมล่ะคะ ยิง่ เป็น “เชียงใหม่” จังหวัดยอดฮิตทีไ่ ปภาคเหนือทีไร ใครๆ ก็แวะกันด้วยแล้ว เชื่อว่าหลายครอบครัวไม่พลาดแน่ๆ Dining Out ฉบับนี้ จึงอาสาจัดให้ พาท่านผู้อ่านไปแวะเวียนชิมริมดอยกับสี่ร้านอร่อย บรรยากาศสุดบรรยาย ซึ่งถ้าผ่านไปเชียงใหม่แล้ว…ต้องแวะทานให้ได้จริงๆ
ธารทอง
อร่อยสไตล์พื้นบ้าน กลางบรรยากาศหุบเขา เรื่อง : kin - kin ภาพ : ฝ่ายภาพอมรินทร์พริ้นติ้ง
ใครจะรูว้ า่ กลางหุบเขาทีร่ ม่ ครึม้ ไปด้วย มวลแมกไม้เขียวขจีเช่นนี้ ยังมีสวนอาหาร เล็กๆ ซ่อนอยู่ ที่นี่คุณจะได้ทานอาหาร ท่ามกลางทัศนียภาพที่แสนจ�ำเริญใจ แว่ว เสี ย งริ น เอื่ อ ยไหลของธารน�้ ำ ตกที่ อ ยู ่ ไม่ไกลกันนัก ในบรรยากาศร้านที่ตกแต่ง ให้ดูสบายตาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ลมเย็น โปร่งสบาย รายล้อมด้วยธรรมชาติรอบ ทิศทาง 72
เมนูเด่นของทีน่ เี่ ป็นเมนูพนื้ บ้านทีเ่ ลือกใช้ วัตถุดบิ ของดีในท้องถิน่ ไม่วา่ จะเป็นใบชา ใบมะขามอ่อน และผักสดปลอดสารพิษ ของโครงการหลวง ที่เลือกมาปรุงอาหาร ในหลายเมนู เริ่ ม ต้ น ที่ อ าหารพื้ น บ้ า น ต�ำรับธารทองอย่าง น�้ำพริกลาฮู ซึ่งเป็น น�้ำพริกของชาวเขาเผ่ามูเซอ หรือที่เรียก อีกชือ่ ว่า เผ่าลาฮู รสชาติคล้ายน�ำ้ พริกหนุม่ แต่อร่อยถึงใจกว่า เพราะเพิม่ ส่วนผสมเด็ด สูตรเฉพาะของทีน่ ลี่ งไป เพือ่ ขับให้นำ�้ พริก มีรสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รับประทาน คู ่ กั บ เครื่ อ งเคี ย งอย่ า งไข่ ต ้ ม และผั ก สด ช่วยเรียกน�้ำย่อยรอจานต่อไปได้ดีจริงๆ เมนู ต ่ อ มาที่ ไ ม่ ค วรพลาดคื อ ต้มส้มไก่
03 04 01 เจริญอาหารกลางหุบเขาเขียวขจี 02 ต้มส้มไก่ใบมะขาม 03 ย�ำใบชาปลากระป๋อง 04 น�้ำพริกลาฮู
ใบมะขาม ที่มาพร้อมกับน�้ำซุปรสจัดจ้าน ซดคล่องคอ ให้รสเปรีย้ วน�ำจากใบมะขาม ได้ ร สเผ็ ด หอมจากพริ ก แห้ ง คั่ ว เนื้ อ ไก่ ก็นุ่ม แน่น เคี้ยวเต็มค�ำ โรยหน้าให้สวย น่าซดด้วยใบผักชีฝรั่งที่มาช่วยชูรสชาติ และดับคาวได้ดี ปิดท้ายที่จานสุดท้ายกับ ย�ำใบชาปลากระป๋อง ทีค่ ดั เฉพาะยอดใบชา หอมๆ น�ำมาย�ำรวมกับปลากระป๋องเนือ้ แน่น เพิ่มเนื้อมะเขือเทศสดลงไป คลุกเคล้า ให้ เ ข้ า กั น จั ด ค� ำ แรกเข้ า ไปก็ อ ร่ อ ยจน วางช้อนไม่ลงแล้ว วันหยุดยาวดีๆ แบบนี้ ถ้าได้พักผ่อน ใกล้ชิดธรรมชาติ แถมได้ฝากท้องไว้กับ รสอร่อยของอาหารท้องถิ่นที่สด สะอาด ไว้ ใจได้แบบนีแ้ ล้ว เชือ่ ว่ามวลความสุขของ จิตใจต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นกองแน่ๆ ธารทอง ต�ำบลห้วยแก้ว อ�ำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 08-1961-3538, 0-5331-7642 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 -19.00 น.
03
สวนทูนอิน
ลิ้มรสอาหารไทยโบราณ ณ รังพญาอินทรีแห่งสวนอักษร เรื่อง : kin - kin ภาพ : ฝ่ายภาพอมรินทร์พริ้นติ้ง
เชือ่ ว่าหลายคนต้องเคยได้ยนิ ชือ่ เสียง ของ “สวนทูนอิน” ดินแดนแสนสุนทรีของ พญาอินทรีในสวนอักษร ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ผ้ลู ว่ งลับ กั น มาบ้ า ง แต่ จ ะมี สั ก กี่ ค นที่ เ คยได้ ไ ป เยี่ยมเยือน ทว่ า วั น นี้ ส วนทู น อิ น ก� ำ ลั ง เปลี่ ย นไป กลายเป็ น พื้ น ที่ พ บปะความอร่ อ ย ต้ น ความคิ ด มาจากคุ ณ สุ ม าลี วงษ์สวรรค์ ภรรยาของคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ทีไ่ ม่อยาก ให้บรรยากาศของสวนทูนอินแห่งนี้ต้อง เงี ย บเหงาไป เธอจึ ง เปิ ด พื้ น ที่ เ ป็ น ร้ า น อาหารท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของ ม่อนดอยและสรรพต้นไม้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “TUNE IN GARDEN: the writer’s secret restaurant” ทีย่ งั คงรักษากลิน่ อาย ของความเป็น ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ไว้อย่าง ครบถ้วน เพื่อให้มิตรรักแฟนน�้ำหมึกที่ เดินทางมาได้มโี อกาสย้อนระลึกถึงนักเขียน ชื่อดังได้ด้วย เมนูของที่นี่เป็นอาหารไทยโบราณทั้ง
06
04
02
คาวและหวาน หลากหลายเมนูสืบทอด กันมาตามต�ำรับ “เมนูบา้ นท้ายวัง” ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เรื่องเครื่องปรุง วัตถุดิบ รวม ไปถึ ง ผั ก ที่ ใ ช้ เ ป็ น ผั ก ปลอดสารพิ ษ ที่ ส ด สะอาดปลอดภัย เริ่มต้นด้วยจานเรียก น�้ำย่อยอย่าง ม้าฮ่อ อาหารว่างโบราณ ที่ ท านแกล้ ม กั บ ผลไม้ ร สเปรี้ ย ว ที่ นี่ ใ ช้ สับปะรดหั่นพอดีค�ำ วางหน้าด้วยไส้ที่ หน้าตาละม้ายไส้สาคูไส้หมู เพิ่มถั่วลิสง ขับความหอมมัน เมื่อรับประทานร่วมกับ สับปะรดซึ่งมีรสเปรี้ยว จึงอร่อยเข้ากันดี จานต่อมาคือ พระรามลงสรง เมนูที่มี ต้นต�ำรับมาจากจีน แต่คนไทยรับมาปรับให้ ถูกปาก รสชาติน�้ำแกงเข้มข้นกลมกล่อม ให้กลิน่ หอมมันกะทิ ทานคูก่ บั ผักบุง้ ทีล่ วก พอสุกกรอบกับหมูลวกเนื้อนุ่มเด้ง ท�ำให้ เมนูนี้ยิ่งอร่อยล�้ำ จานที่สามตามมาติดๆ กับ กะหล�่ำปลีผัดซี่โครงหมู ที่เลือกใช้ ซีโ่ ครงหมูนมุ่ ๆ น�ำมาผัดเข้ากับกะหล�ำ่ ปลี สดกรอบ เคล้ า รสด้ ว ยซอสมะเขื อ เทศ เพื่อเพิ่มความเข้มข้น รับประทานคู่กับ
05
01 รับประทานทานอาหาร เคล้าความเย็นตาของแมกไม้ 02 ม้าฮ่อ 03 กะหล�่ำปลีผัดซี่โครงหมู 04 ผัดเปรี้ยวหวานหมูสับทอด 05 พระรามลงสรง 06 คุณสุมาลี วงษ์สวรรค์
ข้ า วสวยร้ อ นๆ...ก็ อ ร่ อ ยถึ ง ใจ จากนั้ น ปิดท้ายด้วย ผัดเปรี้ยวหวานหมูสับทอด ทีป่ รุงมาในซอสเปรีย้ วหวานข้น คลุกเคล้า มากับผักกรอบๆ เติมหมูสับทอดกรุบนุ่ม ลงไปอีกหนึง่ ก�ำลัง ก็ทำ� ให้จานนีอ้ ร่อยเด็ด ปิดจ๊อบได้สวยงาม มาแสวงหาความสงบส� ำ ราญใน บรรยากาศร่ ม รื่ น เขี ย วขจี ด ้ ว ยต้ น ไม้ สระน�้ ำ ใสเย็ น เห็ น ปลาตั ว โตแหวกว่ า ย และลิ้ ม ลองกั บ ทุ ก เมนู ที่ แ ม่ ค รั ว คนเก่ ง ปรุ ง ขึ้ น ด้ ว ยความรั ก ความพิ ถี พิ ถั น ที่ พ ร้ อ มส่ ง ถึ ง ใจให้ ผู ้ ม าเยื อ นสั ม ผั ส ถึ ง ความอิ่มอร่อยและความสุขสบายได้แบบ ไม่ผิดหวังจริงๆ
สวนทูนอิน ถนนสายแม่ริม-สะเมิง (40 นาทีจากตัวเมืองเชียงใหม่) โทร. 0-5387-9251, 08-7185-2951 เปิดรับเฉพาะการจองล่วงหน้าเท่านั้น 73
01
04
02
03
ริมระเบียง @ Canary Natural Resort เลิศรสอาหารไทยใหญ่ ริมระเบียงธรรมชาติ เรื่อง : kin - kin ภาพ : ฝ่ายภาพอมรินทร์พริ้นติ้ง
ด้วยเพราะถูกปากในรสชาติอาหาร ของแม่ครัวชาวไทยใหญ่มานานกว่า 20 ปี เมื่อมีโอกาสเปิดบ้านเป็นรีสอร์ท เจ้าของ จึงอยากแบ่งปันให้นกั ท่องเทีย่ วได้พกั ผ่อน และอิ่มอร่อยไปด้วยกัน เมนูอาหารสไตล์ไทยใหญ่ของทีน่ ไี่ ม่หวง เครือ่ ง ไม่หวงผัก แถมยังใช้ผกั ปลอดสารพิษ ทีป่ ลูกเองกับมือเป็นวัตถุดบิ ถือเป็นสวรรค์ ของคนที่ชื่นชอบผักสดๆ โดยแท้ เริ่มที่ จานแรก ข้าวซอยน้อย หน้าตาอาจดูไม่ คุ ้ น ตาเหมื อ นข้ า วซอยที่ เ ราเคยเห็ น กั น เพราะข้าวซอยน้อยจานนี้น�ำแป้งข้าวเจ้า มาท�ำให้เป็นแผ่นบาง แล้วน�ำไปนึ่งจนสุก หอม สอดไส้ผักตามฤดูกาล ทานคู่กับ น�ำ้ พริกทีท่ ำ� จากพริกคัว่ โขลกกับกระเทียม 74
และถั่ ว ป่ น จากนั้ น บี บ มะนาวตามไป เล็กน้อย อร่อยเปรี้ยวปรี๊ดจนกระพุ้งแก้ม ร้องรัวเลยเชียว จานต่อมาคือ ข้าวผัดไทยใหญ่ เมนู มั ง สวิ รั ติ ป ระจ� ำ บ้ า น สู ต รลั บ เฉพาะ ของชาวไทยใหญ่ ผัดด้วยข้าวดอยรสหนึบ หวานติดปลายลิ้น อร่อยรับประทานง่าย ได้ทั้งครอบครัว ปิดท้ายกับเมนูลูกผสม อย่าง สปาเกตตีไส้อั่ว ที่มิกซ์แอนด์แมทช์ ได้อย่างลงตัว ด้วยเส้นสปาเกตตีต้มสุก ที่ด้านในยังกรุบหนึบเคี้ยวอร่อย ใส่ไส้อั่ว สูตรพิเศษที่ท�ำเอง เนื้อหมูไม่ติดมัน เคี้ยว แต่ละค�ำได้รสเนือ้ หมูแน่นเต็มๆ แถมยังให้ รสเผ็ดแบบพอดีๆ อร่อยกลมกล่อม หอม เครื่องสมุนไพร
05 01 ร้านอาหารบรรยากาศรีสอร์ท 02 สปาเกตตีไส้อั่ว 03 ลิ้มรสชาติท่ามกลางขุนเขา 04 ข้าวผัดไทยใหญ่ 05 ข้าวซอยน้อย
รับประทานอาหารไทยสไตล์ล้านนา ในบรรยากาศธรรมชาติ ที่ อุ ด มไปด้ ว ย หมู่มวลพฤกษาในอ้อมกอดของทิวเขาที่ ไกลสุดสายตา ก็ทำ� ให้รวู้ า่ แค่มอื้ อาหารดีๆ สร้างความส�ำราญได้ ไม่แพ้ที่เที่ยวไหนๆ เหมือนกัน ริมระเบียง @ Canary Natural Resort บ้านปางริมกรณ์ ต�ำบลแม่กรณ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โทร. 0-5372-6611, 08-1926-4747 เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 - 19.00 น.
05 02
03
01
KOPI-O (โกปิ-โอ) หอมกรุ่นหวานลิ้น เรื่อง : kin - kin ภาพ : ฝ่ายภาพอมรินทร์พริ้นติ้ง
ด้วยบรรยากาศคลาสสิกเหมือนย้อน กลับไปอยู่ในห้วงเวลาเมือ่ 30 ปีกอ่ น อีกทัง้ กลิ่นอายสไตล์เรโทรที่ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ ตั้งใจบอกเล่าเรื่องราวแสนเฟื่องฟูผ่าน กาลเวลา ดี ไ ซน์ อ อกมาเป็นพื้นที่เ ล็กๆ แสนอบอุ ่ น ชวนให้ แ วะมานั่ ง ละเลี ย ด กาแฟหอมๆ เคล้ากลิ่นขนมปัง ที่อบอวล ไปทั่วร้าน เพื่อสร้างความสุขแสนลงตัวให้แขก ทุ ก คนที่ ม าเยื อ น ภายใต้ ก ารรั ง สรรค์ ความอร่อยจากทีมงานมืออาชีพชุดเดียว กั บ โรงแรม De Naga ที่ ไ ด้ เ สกสรร ความอร่อยด้วยการเลือกใช้แต่วัตถุดิบ คุณภาพออกมาเป็นขนมปังโฮมเมดต่างๆ อาทิ French Baguette, Ciabatta, Sourdough, Multi Grain, Poppy Seed, Focaccia, Sunflower Seed หรื อ จะเป็ น แซนด์ วิ ช หน้ า ตาน่ า ทานอี ก หลากเมนู ไม่ว่าจะเป็น แซนด์วิชขนมปัง
06 04 01 นั่งบริเวณเอ๊าต์ดอร์ก็ได้อีกบรรยากาศ 02 มิกซ์แอนด์แมทช์ขนมปังที่คุณชื่นชอบ 03 แยมโฮมเมด ของฝากยอดนิยม
Ciabatta หน้าปลาแซลมอนรมควันกับ ครีมชีส หรือจะเป็นแซนด์วชิ ส�ำหรับคนรัก สุขภาพทีช่ นื่ ชอบผักอย่าง แซนด์วชิ ขนมปัง Focaccia หน้าผักย่าง ก็อร่อยแปลกลิ้น ไม่หยอก ด้านมุมขนมหวานแสนโอชะ ก็เป็นสไตล์โฮมเมดเช่นกัน เมนูที่แนะน�ำ ก็มีอีกหลากหลายให้ได้เลือกตามเลเวล ความหวาน ทั้ ง เค้ ก แบล็ ก ฟอเรสต์ , โฮมเมดบานานาช็ อ กโกแลตพาย และ ทาร์ตซีซนั นอลฟรุต ตบท้ายด้วยเครือ่ งดืม่ ขึ้ น ชื่ อ ของโกปิ - โอ คงต้ อ งยกให้ แ ก้ ว นี้ พินาเบอร์รี่ สมูต้ ทีสตู รสุขภาพทีม่ สี ว่ นผสม ของสับปะรด กล้วย และสตรอว์เบอร์รี่ ปั ่ น กั บ นมถั่ ว เหลื อ ง ดู ด ค� ำ แรกก็ ห วาน สดชื่นโดนใจ หรือจะเป็น แมงโก้ ปิ-โอ สมู้ตทีรสหอมติดปาก ที่มีส่วนผสมของ มะม่วงสด ส้ม และสมุนไพรไทยอย่างข่า ที่ช่วยบ�ำรุงร่างกายและไล่เลือดลมได้ดี
04 พักผ่อนกับมุมส่วนตัวได้ที่ชั้นสอง 05 พินาเบอร์รี่ สมู้ตทีสูตรสุขภาพ 06 อร่อยกับแซนด์วิชสไตล์โฮมเมด
ก่อนโบกมือลาจาก หากประเมินแล้วว่า คงอดใจคิดถึง KOPI-O ไม่ไหว แนะน�ำให้ หยิบเมนูของฝากที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยม อย่างโฮมเมดแยม ท�ำจากส่วนผสมสดใหม่ ของผลไม้สดจากไร่โครงการหลวง ทีม่ ีให้ เลือกสรรกันหน�ำใจหลายสีหลายรสชาติทงั้ แยมเสาวรส แยมมะพร้าวหอม แยมสตรอว์เบอร์รี่ แยมสับปะรด และแยมส้มเขียวหวาน ซื้อไปรับประทานคู่กับขนมปังหรือบิสกิต กรอบ ก็อร่อยง่ายๆ หายคิดถึงแล้ว KOPI-O (โกปิ-โอ) เพียงแค่ 10 นาทีจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มุ่งหน้ามายังข่วงประตูท่าแพ ด้านในคูเมือง ร้านอยู่ก่อนถึงประตูท่าแพ 100 เมตร บริเวณปากซอยราชมรรคา 2 อยู่ติดกับร้านอาหารอิตาเลียนที่อยู่ด้านหน้า ของโรงแรม De Naga โทร. 0-5320-8598 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 - 20.30 น. 75
เสริมฮวงจุ้ย
“ตี่จู่เอี้ย”
จัดวางถูกหลัก ส่งเสริมโชคลาภ เรื่อง : อาจารย์ณรงค์ศักดิ์ ฐิติวัฒนากร กรรมการฝ่ายวิชาการ สมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
ชาวไทยและชาวจีนเชื่อในเรื่องเจ้าที่เจ้าทางเหมือนกัน แต่การจัดวางศาลเจ้าที่นั้น แตกต่างกัน ชาวไทยจะตั้งศาลลักษณะเหมือนบ้าน มีเสา 4 หรือ 6 ต้น ตั้งอยู่ นอกตัวบ้าน ส่วนชาวจีนมักนิยมตั้งศาลเจ้าที่ (ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ตี่จู่เอี้ย) ที่มี ลั ก ษณะเป็ น ศาลเจ้ า ทรงจี น สี แ ดงไว้ ภ ายในตั ว บ้ า น เพราะเชื่ อ ว่ า จะช่ ว ยคุ ้ ม ครอง ปกปักรักษาให้คนที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ ร่มเย็นเป็นสุข รวมถึงช่วยอ�ำนวยอวยพร ให้เกิดโชคลาภ มั่งมีศรีสุขตามหลักเบญจธาตุ ศาลเจ้าที่หรือตี่จู่เอี้ย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นธาตุดนิ จึงต้องวางไว้บนพืน้ แต่หาก มีความจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องแก้ฮวงจุย้ แล้ว ตาม หลักของมาตรวัดหลูปงั (ปรมาจารย์ฮวงจุย้ ท่านหนึง่ ) ได้กล่าวไว้วา่ ฐานรองศาลเจ้าที่ ควรมีความสูง 1 - 2 นิว้ ฟุต หรือ 7 - 10 นิว้ ฟุต เท่านั้น ไม่ควรสูงเกินจากนี้ และไม่ควร มี ค วามสู ง ระหว่ า ง 2.2 - 6.5 นิ้ ว ฟุ ต ศาลเจ้าทีต่ อ้ งเป็นศาลไม้สแี ดง จึงจะถูกหลัก กว่าศาลที่ท�ำจากหินอ่อนสีชมพู เพราะ ตัวศาลที่ท�ำจากไม้ (ธาตุไม้) ทาสีแดง (ธาตุไฟ) นั้นถือเป็นต้นก�ำเนิดของธาตุดิน อันเป็นธาตุประจ�ำตัวของตี่จู่เอี้ย จะช่วย เสริมโชคลาภได้อย่างครบถ้วน แต่ทั้งนี้ ทัง้ นัน้ ก็ยงั คงมีความเชือ่ ผิดๆ เกีย่ วกับการ จัดวางศาลเจ้าที่ตี่จู่เอี้ยอยู่หลายประการ เราลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เจ้าที่ควรจะสมดุลกับตัวบ้าน หากบ้าน ใหญ่โต แล้วมีศาลเจ้าทีใ่ หญ่กถ็ อื ว่าสมดุล แต่ ใ นกรณี บ ้ า นหลั ง เล็ ก แต่ อ ยากรวย จึงจัดหาศาลเจ้าที่ขนาดใหญ่มาวาง เพื่อ หวังให้ร�่ำรวย นับเป็นความคิดที่ผิดถนัด เพราะการกระท� ำ ใดๆ ก็ ต ามแต่ ที่ ผิ ด ธรรมชาติ ขาดสมดุล จากที่มันควรจะดี ก็อาจเปลี่ยนเป็นผลเสียได้ ผู้อยู่อาศัย อาจขาดความรักความสามัคคี พบเจอแต่ อุปสรรค ดังนั้น ควรแก้ไขด้วยการเปลี่ยน ศาลเจ้าที่ให้มีขนาดที่สมดุลกับบ้าน หรือ อาจคิดตามตรรกะง่ายๆ บ้านก็หลังเล็ก อยูแ่ ล้ว แต่กลับเอาศาลเจ้าทีใ่ หญ่ๆ มาวาง เปลืองทั้งพื้นที่ แถมยังเกะกะ แล้วจะ เหมาะสมได้อย่างไร
ความเชือ่ ผิดๆ ข้อทีส่ องคือ ‘“อยากรวย จึงถวายของเจ้าที่มากๆ” คือมีทั้งก้อนเงิน ความเชื่อผิดๆ ข้อแรกคือ “ศาลเจ้าที่ ก้อนทอง (ปลอม), สับปะรดเงิน สับปะรด ยิ่งใหญ่ เจ้าของยิ่งรวย” ถือเป็นความ ทอง (ปลอม), กบเซียมซู้ (กบสามขา เข้าใจทีผ่ ดิ อย่างมาก เพราะขนาดของศาล คาบเงินคาบทอง), ปี่เซี๊ยะ ฯลฯ เรียกว่า
76
จับเอาทุกสิ่งอย่างสารพัดมาวางเต็มหน้า ศาลเจ้าที่จนแทบไม่มีที่ว่างเหลือ อย่างนี้ จะกลายเป็นอัปมงคลแทน ดังนั้น จึงควร วางให้พอเหมาะพอควร ดูแล้วสวยงาม ไม่รกเลอะเทอะจนเกินไป ความเชื่อข้อที่สามที่คิดว่า “ตั้งศาล ให้สูงเข้าไว้ จะได้สูงส่งเหนือผู้อื่น” เป็น ความเข้ า ใจที่ ผิ ด เพราะตามหลั ก แล้ ว ค�ำว่า “ตี่จู่เอี้ย” คือเจ้าที่ที่อยู่กับพื้นดิน การตั้งศาลเจ้าที่จึงควรตั้งไว้กับพื้น การ จะตั้ ง ให้ สู ง ขึ้ น ต้ อ งเป็ น กรณี ที่ ตั ว บ้ า น อยู่ต�่ำกว่าพื้นถนน หรือต�่ำกว่าบ้านฝั่ง ตรงข้ามเท่านั้น เพราะถ้าบ้านอยู่ต�่ำกว่า พื้นถนน จะท�ำให้ผู้อยู่อาศัยขาดโชคลาภ มีอุปสรรคในชีวิต สุขภาพอ่อนแอ เกิด โรคภัยไข้เจ็บบ่อยๆ เราจึงต้องแก้ไขฮวงจุย้ ด้ ว ยการปรั บ พื้ น บ้ า นให้ สู ง ขึ้ น หรื อ ใช้ การจัดศาลเจ้าที่ให้สูงขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย ในสัดส่วนที่เป็นมงคล โดยต้องไม่สูงและ ไม่ต�่ำกว่าที่ก�ำหนดนี้คือ
• สูงจากพื้น 5 เซนติเมตร จะสม ความปรารถนาในทุกสิ่ง • สูงจากพื้น 16.5 - 21.5 เซนติเมตร จะส่ ง ผลดี จ นถึ ง บุ ต รหลานให้ เ จริ ญ ก้าวหน้า
ผู้อยู่อาศัยทุกวัน ควรจุดธูปและเปิดไฟ ที่ศาลเจ้าที่ตี่จู่เอี้ยให้สว่างไสวเข้าไว้เพื่อ กระตุ้นให้เจ้าที่ขยัน ซึ่งหากมองในหลัก ฮวงจุย้ เบญจธาตุ ก็ถอื เป็นการเสริมธาตุไฟ ให้ท�ำงานมากขึ้น เพื่อไปกระตุ้นให้เจ้าที่ ตี่จู่เอี้ยซึ่งเป็นธาตุดินท�ำงาน แต่หากมอง ในหลักวิทยาศาสตร์แล้ว สีแดงและแสงไฟ เป็นสีที่ช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่า ช่วยเร่งให้เกิดความกระตือรือร้น เมื่อ ผู้อยู่อาศัยไหว้เจ้าช่วงเช้าจึงเหมือนถูก ปลุกจิตประสาทให้ตื่นตัว ให้ขยันขันแข็ง ในการท�ำงาน
ส่วนดวงไฟของศาลเจ้าที่ตี่จู่เอี้ยก็มี ผลต่อผู้อยู่อาศัยเช่นกัน หากผู้อยู่อาศัย ท� ำ งานรั บ ราชการ ต้ อ งการให้ มี ผ ลดี ในด้านต�ำแหน่งหน้าที่การงาน ควรเลือก ศาลเจ้าทีต่ จี่ เู่ อีย้ ทีม่ เี ส้นตรงบนหลังคาศาล ตรงกับไฟดวงตรงกลาง แต่ถ้าหากเป็น พ่อค้าทีม่ งุ่ หวังในเรือ่ งของรายได้ ผลก�ำไร โชคลาภเงินทอง ก็ควรเลือกศาลที่ไฟดวง แต่สำ� หรับเรือ่ ง “ขนาด” ของศาลเจ้าที่ ตรงกลางอยู่ระหว่างเส้นตรงบนหลังคา นั้น ปัจจุบันนี้แทบไม่ต้องกังวล เพราะ ร้ า นที่ จ� ำ หน่ า ยศาลเจ้ า ที่ จ ะผลิ ต ตาม หากต้องการให้เจ้าที่ตี่จู่เอี้ยช่วยเหลือ มาตรวัดหลูปังแทบทั้งสิ้น ส่วนการตั้งนั้น
เคล็ดลับง่ายๆ คือ หันหน้าออกหน้าบ้าน ยกเว้ น ถ้ า ใครรู ้ ศ าสตร์ ฮ วงจุ ้ ย จะปรั บ ตามปี ก็ ไ ด้ ต ามต้ องการ ส่ วนด้ านหลัง ของศาลเจ้าทีจ่ ะต้องเป็นผนังทึบ ไม่ตงั้ หน้า ห้ องน�้ ำ ไม่ ตั้ งใต้ โต๊ ะ และที่ ส� ำ คัญ คือ วันที่ตั้งศาลเจ้าที่ควรเป็นวันที่ฤกษ์ยามดี ด้วยเช่นกัน
เมื่ อ ท� ำ ทุ ก อย่ า งถู ก ต้ อ งและ พอดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งส�ำคัญที่ขาด ไม่ ไ ด้ นั่ น ก็ คื อ การกราบไหว้ บู ช า อย่างสม�่ำเสมอ เพราะหากจัดวาง ทุกอย่างชนิดที่เรียกว่า “เป๊ะ” แต่ กลับลืมเคารพบูชาแล้ว ท�ำอย่างไร โชคลาภก็ ย ากที่ จ ะถามหา ฉะนั้ น จึ ง ควรให้ ค วามส� ำ คั ญ ในเรื่ อ งนี้ ด้วยเช่นกัน 77
Living with Style
เรื่อง : ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์ ภาพ : ฝ่ายภาพนิตยสาร room และนิตยสารบ้านและสวน
“หลังคา”
ใส่หมวก ให้บ้านมีสไตล์
78
หนึ่งในส่วนที่ส�ำคัญที่สุดของบ้าน ส่วนที่ปกป้องบ้าน จากทั้ ง ความร้ อ น ความเปี ย กชื้ น และมลภาวะต่ า งๆ นอกจากหน้าที่ส�ำคัญในการเป็นร่มไทรให้บ้านแล้ว หลังคา ยังเป็นหนึง่ ในสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของเจ้าของบ้าน และผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้การจะตกแต่งบ้านให้สวยงามดั่งใจ ด้ ว ยสไตล์ ใ ดๆ ก็ ต าม ก็ ไ ม่ ค วรลื ม ให้ ค วามส� ำ คั ญ กั บ การสรรหาประเภทของหลังคาที่จะน�ำมาใช้ ให้เหมาะกับ รูปแบบบ้านด้วยเช่นกัน Living with Style ฉบับนี้ จะพาคุณไปท�ำความรู้จักกับหลังคา ประเภทต่างๆ เพือ่ ให้คณ ุ หยิบมาใส่ให้เข้ากับสไตล์บา้ นทีค่ ณ ุ ชืน่ ชอบ ได้อย่างลงตัว
79
หลังคาเรียบ: เรียบง่าย แต่มีลูกเล่น
เป็นหลังคาที่นิยมใช้กับบ้านสไตล์โมเดิร์น ทั้งยัง เป็นหลังคาทีส่ ามารถใช้ผสมผสานกับหลังคาทรงอืน่ ๆ ได้ด้วย ซึ่งสามารถท�ำได้ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ 1. หลังคาคอนกรีต หลั ง คาประเภทนี้ ใ ช้ ก ารหล่ อ คอนกรี ต ขึ้ น รู ป เป็นหลังคา จะมีความแบนเรียบ หรืออาจหล่อได้ตาม รูปทรงของบ้าน ซึ่งเป็นได้ทั้งสี่เหลี่ยม ทรงโค้ง และ ฟรีฟอร์ม การใช้งานก็ง่าย การดูแลรักษาก็สะดวก ในขณะทีข่ อ้ ควรค�ำนึงก็มเี ช่นกันคือ การสะสมความร้อน ของคอนกรีต และการแตกร้าวของผิวคอนกรีต ทีอ่ าจ ท�ำให้น�้ำรั่วซึมได้ หากบ้านคุณใช้หลังคาประเภทนี้ ควรป้ อ งกั น สองปั ญ หาดั ง กล่ า วด้ ว ยการป้ อ งกั น ความร้อน ซึ่งท�ำได้หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ท�ำระบบกันซึม วางแผ่นโซลาร์สแล็บ หรือโรยกรวด
2. หลังคาซ่อน ใช้ ก ารมุ งกระเบื้ องหลั งคา แล้ วท� ำ ขอบปิ ด โดยรอบเพื่ อไม่ ใ ห้เห็น หลั ง คา จึ ง ท� ำ ให้ บ ้ า นเป็ น ทรงกล่ อ งคล้ า ยกั บ การท� ำ หลั ง คาคอนกรี ต หลังคาประเภทนี้นิยมมุงด้วยเมทัลชีทหรือกระเบื้องลอน ซึ่งสามารถ มุงให้เอียงในองศาน้อยๆ ได้ ท�ำให้ประหยัดกว่า น�ำ้ หนักเบา และมีชอ่ งว่าง ใต้หลังคามากกว่าหลังคาคอนกรีตทั่วไป อีกข้อส�ำคัญที่ลืมไม่ได้ส�ำหรับผู้ที่เลือกใช้หลังคาเรียบก็คือ หลังคา ประเภทนี้จะไม่มีชายคา เราจึงควรท�ำกันสาดเพื่อปกป้องตัวบ้านจากทั้ง แสงแดดและสายฝน โดยท� ำ กั น สาดให้ อ ยู ่ เ หนื อ ช่ อ งเปิ ด ยื่ น ออกมา 1 - 1.5 เมตร • โรยกรวด
• วางแผ่นโซลาร์สแล็บ 80
หลังคามุงกระเบื้อง: ตอบโจทย์ฝนฟ้าของเมืองไทย
หลั ง คาประเภทนี้ เ หมาะกั บ ประเทศที่ มี ส ภาพอากาศฝนชุ ก อย่างในบ้านเรา เพราะจะช่วยระบายน�้ำได้ดี ข้อส�ำคัญของหลังคา ประเภทนี้คือ ต้องท�ำหลังคาให้ลาดเอียงตามค�ำแนะน�ำของผู้ผลิต กระเบื้องแต่ละชนิด ส่วนวัสดุที่ใช้ในการมุงหลังคานั้นมีหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละ ประเภทก็ มี คุ ณ สมบั ติ ที่ แ ตกต่ า งกั น ไป ตามแต่ ค วามต้ อ งการ ของผู้ใช้ ได้แก่ • กระเบื้องเกล็ดปลา 1. กระเบื้องเกล็ดปลา เป็นกระเบื้องดินเผาที่มีลักษณะเป็นแผ่นเล็กๆ มีทั้งแบบเนื้อ ดินเผาและแบบเคลือบสี เหมาะกับบ้านที่ต้องการเสริมภาพลักษณ์ ความเป็นไทย การท�ำหลังคาประเภทนีค้ วรท�ำให้ลาดชันไม่นอ้ ยกว่า 25 องศา เพราะจะช่วยลดโอกาสในการรั่วซึมได้ 2. หลังคาไม้ซีดาร์ เป็นไม้สนชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกในทวีปอเมริกาเหนือ เพราะ แมลงไม่ กั ด กิ น แถมยั ง มี ก ลิ่ น หอมเล็ ก น้ อ ย มี ทั้ ง แบบผิ ว เรี ย บ • หลังคาไม้ไผ่ทุบ และผิ ว คลื่ น ติ ด ตั้ ง โดยใช้ วิ ธี ร องด้ ว ยแผ่ น ไม้ อั ด ทนความชื้ น • หลังคาไม้ซีดาร์ หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์และแผ่นยางกันน�้ำ ส่วนการมุงหลังคา ควรมุ ง ให้ ชั น ไม่ น ้ อ ยกว่ า 25 องศาเช่ น เดี ย วกั น กั บ กระเบื้ อ ง 3. หลังคาไม้ ไผ่ทุบ เกล็ดปลา ผลิ ต จากไผ่ เ ลี้ ย งที่ ไ ด้ จ ากป่ า ปลู ก น� ำ มาผ่ า นกรรมวิ ธี รั ก ษาเนื้ อ ไม้ ป ้ อ งกั น เชื้ อ รา ท� ำ ให้ มี อ ายุ ก ารใช้ ง านนาน 7 - 10 ปี การติดตั้งจะท�ำลักษณะเดียวกันกับหญ้าคา แต่ถ้าจะ ให้คงทนมากขึ้น ควรรองด้านล่างด้วยแผ่นไม้อัดทนความชื้น หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์และแผ่นยางกันน�้ำ ข้อส�ำคัญคือ ก่ อ นการติ ด ตั้ ง ควรทาเคลื อ บน�้ ำ ยาป้ อ งกั น แมลงอี ก ครั้ ง เพื่อช่วยให้เนื้อไม้เงางามและทนทานมากขึ้น
• หลังคากระเบื้องดินเผา
4. กระเบื้องดินเผา ข้อดีของดินเผาคือ เป็นวัสดุที่ไม่สะสมความร้อนและ คายความร้อนเร็ว ท�ำให้บ้านเย็นไวขึ้น การเลือกกระเบื้อง ชนิดนี้ ควรเลือกแบบที่มีการดูดซึมน�้ำต�่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ และควรมี ร ะบบป้ อ งกั น น�้ ำ เพื่ อ ช่ ว ยลดการเกิ ด ราด� ำ และ การรั่วซึม 81
หลังคาโค้ง: โมเดิร์นแบบมีสไตล์
82
การท�ำหลังคาให้โค้งเพื่อสร้างความ สวยงามอย่ า งแตกต่ า งให้ กั บ บ้ า นนั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ น ่ า สนใจ นอกจากจะหล่ อ คอนกรี ต เพื่ อ ท� ำ เป็ น หลั ง คาโค้ ง แล้ ว ยังมีวัสดุมุงหลังคาอีก 3 ชนิดที่สามารถ น�ำมามุงเป็นหลังคาตรงปกติ และน�ำมา ท�ำเป็นหลังคาแบบดัดโค้งได้เช่นกัน
1. หลังคายางมะตอย หรือที่เรียกกันว่า แอสฟัลต์ ชิงเกิ้ล รูฟ (Asphalt Shingle Roof) เป็นวัสดุสงั เคราะห์ทที่ ำ� จากไฟเบอร์กลาส หุม้ ด้านหน้า-หลัง ด้ ว ยยางมะตอย มี น�้ ำ หนั ก เบา ติ ด ตั้ ง ง่ า ย สามารถติ ด บน หลั ง คาโค้ ง ได้ เ กื อ บทุ ก รู ป ทรง ซึ่ ง ในการติ ด ตั้ ง จะต้ อ งรอง ด้านล่างด้วยแผ่นไม้อัดทนความชื้นหรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และแผ่ น ยางกั น น�้ ำ ที่ จ� ำ หน่ า ยในบ้ า นเราจะมี 2 ชนิ ด คื อ แบบชั้นเดียวและแบบสองชั้น
• หลังคายางมะตอย
2. หลังคาทองแดง เป็ น แผ่ น ทองแดงที่ น� ำ มาขึ้ น รู ป เป็ น กระเบื้ อ งหลั ง คา สามารถดัดโค้งและสั่งผลิตได้ตามความต้องการ มีทั้งชนิดที่ เป็ น ทองแดงทั้ ง ชิ้ น และชนิ ด ที่ เ ป็ น แผ่ น ทองแดงเคลื อ บบน แผ่ น ยางมะตอย จุ ด เด่ น ของทองแดงคื อ เมื่ อ ใช้ ไ ปนานๆ จะเกิ ด เป็ น สนิ ม ทองแดงที่ เ ป็ น สี เ ขี ย ว ท� ำ ให้ ดู แ ปลกตาและ สวยงามไปอี ก แบบ เห็ น ได้ จ ากตั ว อย่ า งโดมของพระที่ นั่ ง -
รูปแบบของหลังคาที่เป็นที่นิยม มี 5 ทรงด้วยกัน ได้แก่ 1. จั่ว (Gable)
• หลังคาทองแดง
อนันตสมาคม และนิยมใช้กับบ้านที่เป็นหลังคาโดมหรือ หลังคาบ้านสไตล์คลาสสิก 3. หลังคาโลหะรีดลอน เป็ น แผ่ น เหล็ ก เคลื อ บโลหะผสมอะลู มิ เ นี ย มและ สังกะสี ซึ่งทนต่อการกัดกร่อนและเป็นสนิม มีทั้งชนิด ที่ เ ป็ น สี โ ลหะและชนิ ด ที่ เ คลื อ บสี ใ ห้ ส วยงาม บางรุ ่ น ยั ง มี ก ารกรุ ฉ นวนกั น ความร้ อ นมาพร้ อ มกั น มี ค วาม ทนทานสูง น�้ำหนักเบา ดัดโค้งได้ง่าย ไม่มีปัญหารั่วซึม เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นและบ้านร่วมสมัย
หลังคาทรงนี้ใช้ได้กับทั้งบ้านสไตล์ตะวันออกและ ตะวั น ตก ขึ้ น อยู ่ กั บ วั ส ดุ มุ ง หลั ง คา ระยะยื่ น ชายคา และความลาดเอี ย งของหลั ง คา ท� ำ ให้ บ้ านมี สไตล์ ที่ แตกต่างกัน
2. ปั้นหยา (Hip)
เป็นทรงหลังคาที่มีชายคาอยู่รอบด้าน ท� ำให้ช่วย ป้องกันแดดและฝนได้ดี เหมาะกับบ้านสไตล์ร่วมสมัย และทรงโมเดิร์นทรอปิคัล
3. มะนิลา (Hip-Gable)
เป็นทรงหลังคาที่มีส่วนผสมของหลังคาทรงจั่วและ ทรงปั้นหยา เหมาะกับบ้านสไตล์ไทยร่วมสมัย
4. เพิงหมาแหงน (Lean-to)
• หลังคาโลหะรีดลอน
แล้วต่อจากนี้ ประโยคที่ว่า “บานสวยด้วย หลังคา” ก็จะไม่ ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป เพราะ ทั้งรูปทรง สีสัน รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้นั้น ได้มา จากการคัดสรรอย่างดีจากเจ้าของบ้าน จนได้มา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด กลมกลืนกับตัวบาน มากที่สุด แค่นี้ก็ท�ำให้บ้านธรรมดาๆ ดูมีสไตล์ เฉพาะตัวขึ้นอีกเป็นกองแล้ว
เป็นหลังคาทรงเอียงด้านเดียว นิยมน�ำมาปรับใช้กับ บ้านสไตล์โมเดิรน์ และสไตล์รว่ มสมัย สามารถผสมผสาน กับหลังคาเรียบๆ ได้อย่างดี
5. ปีกผีเสื้อ (Butterfly)
เป็นทรงหลังคาทีแ่ หงนออกทัง้ สองด้าน แล้วท�ำรางน�ำ้ ตรงกลาง ช่วยเสริมให้บ้านดูโดดเด่น แต่ควรท�ำกันสาด อีกชั้น เพื่อป้องกันแดดส่องและฝนสาดเข้าบ้าน และ ควรท�ำรางน�้ำให้ดี เพราะรางน�้ำจะอยู่กลางบ้าน 83
Better Pix
เรื่องและภาพ : พิจักษณ์ ทนันชัยบุตร
การจับจังหวะถ่ายภาพ
“หยดน�้ำ”
ช่วงปลายหน้าฝนแบบนี้ หลายคนคงหาโอกาสออกไป ถ่ายภาพยากเสียหน่อย แต่หากคุณมีสายเลือดช่างภาพ ความรู ้ สึ ก ที่ อ ยากกดชั ต เตอร์ ค งรบกวนจิ ต ใจอยู ่ พอสมควร แต่จะมองไปทางไหน สายฝนก็ยังโปรยปราย ลงมาแบบไม่เปิดโอกาส เหลือบไปเห็นหยดน�้ำที่เกาะอยู่ ตามใบไม้ ใบหญ้า ก็เกิดสะกิดใจในความงามที่ธรรมชาติ เป็นผู้ทิ้งร่องรอยไว้ ผมเลยหันมาเก็บช่วงเวลาชุ่มฉ�่ำ แบบนี้บันทึกลงในเฟรมบ้าง 84
หยดน�ำ้ ในรูปแบบปกติทเี่ ราคุน้ ตากันดี น่าจะหนีไม่พน้ ภาพของหยดน�ำ้ พร่างพราย ทีเ่ กาะอยูต่ ามดอกไม้ใบหญ้าต่างๆ แต่ครัง้ นี้ อยากชวนให้คุณมาลองเก็บความทรงจ�ำ ในมุมที่ต่างออกไป อย่างการถ่ายภาพ ณ ขณะทีห่ ยดน�ำ้ ก�ำลังตกลงมากระทบทีด่ อก หรือใบ ดูอย่างภาพ 01 นี้ ผมถ่ายได้ตอน ฝนตก ตอนที่ถ่ายผมพยายามจะจับภาพ เม็ ด ฝนให้ ไ ด้ แต่ ด ้ ว ยความที่ เ ม็ ด ฝนมี ขนาดเล็กและมีความเร็วมาก การจับการ เคลือ่ นทีข่ องมันจึงไม่ใช่เรือ่ งทีง่ า่ ยนัก และ ส�ำหรับช่างภาพทีย่ งั ไม่ชำ� นิชำ� นาญ อาจยิง่ ต้องใช้เวลากว่าจะได้ภาพในลักษณะนี้ คุณอาจต้องออกไปตากฝนซึ่งนั่นจะเป็น สาเหตุที่ท�ำให้กล้องพัง แถมคุณเองก็อาจ ป่วยได้ด้วย ผมแนะน�ำอีกทางที่ง่ายกว่า ส�ำหรับการฝึกหัด นั่นคือให้ลองถ่ายภาพ หยดน�ำ้ จากทีบ่ า้ น สิง่ ทีต่ อ้ งเตรียมก็คอื โถ ส�ำหรับใส่น�้ำและน�้ำ ขั้นตอนก็คือ ให้หยด คุ ณ อาจใช้ แ สงไฟจากโคมไฟอ่ า น น�้ำและพยายามกดชัตเตอร์ในจังหวะที่น�้ำ หนังสือเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความสว่างให้ กระทบกับพื้นน�้ำให้ได้ มากขึ้ น เพราะการถ่ า ยภาพลั ก ษณะนี้ ต้องการความเร็วชัตเตอร์ทสี่ งู พอทีจ่ ะหยุด การเคลื่อนที่ของหยดน�้ำได้ ต้องบอกว่า 01 Lens 105 mm., F4/500, ISO 400 ความเร็วชัตเตอร์ถือเป็นพระเอกส�ำหรับ 02 Lens 17-55 mm., F4/500, ISO 400 ภาพถ่ายแบบนีเ้ ลย อย่างความเร็วชัตเตอร์ 01 ในระดับ 500 - 1000 จะสามารถหยุดการ เคลื่อนที่ของหยดน�้ำได้ในระดับหนึ่ง ใน กรณีที่หยดน�้ำไม่เร็วมากนัก ภาพ 02 นี้ ผมใช้ที่หยดสี (Dropper) ในการหยดน�้ำ เพราะจะช่วยให้เราคุมให้หยดน�้ำค่อยๆ หยดลงมาช้าๆ แต่ต่อเนื่องได้ ภาพ 02 นี้ผมใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 500 รูรับแสงที่ 5.6 เพื่อคุมช่วงความชัด เอาไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าน�้ำจะหยดลงมา ในต�ำแหน่งเดิมหรือไม่ เราจึงต้องใช้ช่วง ความชัดที่มากคุมไว้ก่อน และที่ขาดไม่ได้ ส�ำ หรับ การถ่ า ยภาพลั ก ษณะนี้ คื อขาตั้ ง
กล้อง เพราะจะช่วยให้กล้องนิง่ ในต�ำแหน่ง เดิมเสมอ ถือเป็นการคุมการท�ำงานให้มี เพียงหยดน�ำ้ เท่านัน้ ทีเ่ คลือ่ นที่ อีกประการ คือ ให้ใช้ระบบ Manual Focus โดยให้ กะต�ำแหน่งของน�้ำแล้วโฟกัสทิ้งไว้ ซึ่งใน ระบบ Auto Focus จะไม่สามารถท�ำเช่นนี้ ได้แน่ๆ พอกะทุกอย่างเข้าที่ก็ค่อยๆ เริ่ม หยดน�้ำลงไป พยายามให้จังหวะการหยด สม�่ ำ เสมอ และใช้ ก ารบั น ทึ ก ภาพแบบ ต่อเนือ่ งห้าภาพต่อวินาที เมือ่ หยดน�ำ้ หลุด ออกจากปลาย Dropper ก็ให้กดชัตเตอร์ ต่อเนื่องไปทีละชุดเลย แล้วเราค่อยมา เลื อ กภาพที่ ดี ที่ สุ ด ในตอนหลั ง และ ด้วยความที่มันเป็นหยดน�้ำ เป็นของเหลว ที่อ่อนตัว เมื่อมารวมตัวกับการจับจังหวะ ที่เหมาะสม เราก็อาจได้ภาพนามธรรม ทีด่ เู หมือนหยดน�ำ้ ลอยขึน้ ได้อย่างภาพ 03 ซึ่ง ถื อ เป็ นการสร้ า งอารมณ์ ใ ห้ กั บ ภาพ ในมุมมองที่แปลกใหม่ได้อีกทาง 85
03
ถ่ายไปถ่ายมาชักเริ่มอยากจะสร้างสรรค์ภาพในรูปแบบอืน่ ๆ บ้าง ผมเลยลอง เอาใบไม้มาถ่ายคู่กับตัวหยดน�้ำดูบ้าง แต่ คราวนี้ ผมจะใช้ แ ฟลชเข้ามาช่วย เป็น แฟลชแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คือให้ถ่าย ภาพตามก�ำลังไฟแฟลช (เปิดแฟลชเต็ม ก� ำ ลั ง ) และใช้ ค วามเร็ ว ชั ต เตอร์ สู ง สุ ด ที่สัมพันธ์กับแฟลชได้คือที่ 250 เพราะ ถ้าต�่ำกว่านี้ มันจะหยุดการเคลื่อนที่ของ น�้ ำ ไม่ ไ ด้ แต่ ถ ้ า ตั้ ง สู ง กว่ า นี้ ภาพก็ จ ะ ด� ำ ไปครึ่ ง หนึ่ ง เพราะม่ า นชั ต เตอร์ จ ะ เคลื่อนที่ปิดเร็วกว่าไฟแฟลช ข้อเสียของ แฟลชก็ คื อ อาจจั บ จั ง หวะไม่ ทั น หาก ก� ำ ลั ง ไฟของแฟลชมี ไ ม่ พ อ กล่ า วคื อ รูปแรกไฟอาจจะเต็ม แต่รปู ถัดๆ ไปไฟอาจ ไม่ พ อก็ ไ ด้ ซึ่ ง จะท� ำ ให้ ภ าพมื ด เกิ น ไป ส่วนข้อดีคือ จะท�ำให้ได้ภาพที่ชัดกว่า ภาพ 04 นี้ เ กิ ด ขึ้ น จากการที่ ผ มอยาก ลองหาสิ่งอื่นมาประกอบคู่กับหยดน�้ำบ้าง ผมจึงน�ำใบไม้มาหนีบไว้แล้วให้เพื่อนคอย หยดน�้ำลงมาให้ จากนั้นให้คอยกะจังหวะ แล้ ว จึ ง ใช้ แ ฟลชที่ ต ่ อ เข้ า กั บ สายพ่ ว ง ด้านข้างแล้วถ่าย ผลปรากฏว่า แฟลช ไม่ ส ามารถหยุ ด การเคลื่ อ นที่ ข องน�้ ำ ได้ ทั้งๆ ที่ ภ าพนี้ ใ ช้ ค วามเร็วชัตเตอร์ 250 สูงสุดที่แฟลชจะสามารถท�ำได้แล้วก็ตาม 86
04
05
03 Lens 17-55 mm., F4/250, ISO 400 04 Lens 105 mm., F4/250, ISO 100 05 Lens 24-105 mm., F11/250, ISO 100
ยกเว้นหยดทีก่ ำ� ลังจะร่วงลงอย่างในภาพนี้ ซึ่งก็ท�ำให้ภาพที่ได้ดูแปลกตาไปอีกแบบ เท่านัน้ ยังไม่พอ ผมลองจับคูส่ ร้างสรรค์ อีกคู่ คือลองเอาดอกไม้เล็กๆ มาวางใน ขวด แล้วหยดน�้ำลงไป จากนั้นใช้เลนส์ ถ่ายใกล้ๆ คาดหวังว่าจะได้การกระจายตัว ของหยดน�ำ้ เวลาทีห่ ยดน�ำ้ ตกลงมากระทบ ผมจึงเอากระดาษสีด�ำมาวางไว้ด้านหลัง ให้ฉากหลังมืด หยดน�้ำจะได้เด่นขึ้นมา ก็จะได้ภาพที่แปลกตากว่าน�้ำทีเ่ ป็นหยดๆ แบบธรรมดา
การถ่ายภาพหยดน�ำ้ เป็นการถ่าย ภาพสิง่ ใกล้ตวั ทีส่ ามารถฝึกได้งา่ ยๆ จากที่บ้าน แถมยังสร้างสรรค์ภาพ ให้ ส นุ ก มากขึ้ น ด้ ว ยการหยิ บ จั บ สิง่ ต่างๆ มาเข้าคูก่ นั เพือ่ สร้างความ แปลกใหม่ ที่ ไ ม่ จ� ำ เจให้ แ ก่ ภ าพถ่ า ย ได้ ลองฝึกถ่ายไปเรื่อยๆ แล้วคุณ จะพบว่า มุมมองของภาพหยดน�้ำ ในจินตนาการของคุณจะไม่ธรรมดา อีกต่อไป
Compact Camera Tips
ส� ำ หรั บ กล้ อ งตั ว เล็ ก ๆ อย่ า งกล้ อ ง คอมแพ็ ค ท์ กั บ การถ่ า ยภาพหยดน�้ ำ ใน ลักษณะนี้ ต้องบอกว่าค่อนข้างยาก เพราะ กล้องคอมแพ็คท์ส่วนใหญ่จะท�ำงานด้วย ระบบอัตโนมัติ และมักจะใช้เวลาประมวล ผลที่นาน ยิ่งในกล้องรุ่นเก่าๆ ก็จะยิ่งถ่าย ยากมากขึ้ น ไปอี ก อย่ า งไรก็ ต าม นั่ น ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้กล้องตัวเล็ก ถ่ายภาพแบบนี้กับเขาบ้างไม่ได้
06 07
06 Leica C-Lux 2, ISO Auto (Sport mode), IS on 07 Leica C-Lux 2, ISO Auto, IS on, Flash
สิ่งแรกที่ต้องท�ำคือ ให้ใช้ขาตั้งกล้อง และความเร็วชัตเตอร์สูง โดยให้ปรับไป ที่ โ หมด S หรื อ โหมดที่ ป รั บ ความเร็ ว ชัตเตอร์เอง แล้วกล้องจะเลือกหน้ากล้อง โดยอัตโนมัติ หรือถ้าปรับไม่ได้ ให้ปรับไป ที่โหมดการถ่ายภาพกีฬาแทน เพราะใช้ หลักการเดียวกัน นอกจากนี้ ควรจะปรับ กล้องให้เป็นโหมด Macro ด้วย เพราะ หยดน�้ำมักจะมีขนาดเล็ก และพอถึงตอน ถ่ายให้ใช้การถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง พอ เริ่มหยดน�้ำก็เริ่มกดเลย จากนั้นให้กดไป เรื่อยๆ แล้วค่อยมาคัดเลือกภาพที่สวย ในตอนหลัง ในภาพ 07 นี้ ผมใช้แฟลชมาช่วยเพื่อ หยุดหยดน�้ำและเพิ่มความคมชัดให้ภาพ แต่ก็ต้องอาศัยการจับจังหวะที่พอดิบพอดี เข้ามาเสริมด้วย เพราะเมื่อถ่ายภาพด้วย แฟลชแล้ว กล้องจะถ่ายต่อเนื่องไม่ได้ เพราะต้องรอชาร์จก�ำลังไฟแฟลช ท�ำให้กด ได้ครั้งละภาพเท่านั้น ท�ำให้เราต้องอาศัย การจับจังหวะที่ดีเข้าช่วยเพื่อให้ได้ภาพ ในแบบที่ต้องการ 87
Did You Know
เรื่อง : ชวิศ เชษฐชัยยันต์
โครเอเชียสุดเจ๋ง ฝึก “ผึ้ง” ให้กู้ระเบิด
โอ้แม่เจ้า! ไอโฟนกินไฟมากกว่าตู้เย็น
คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะจากการศึกษาของบริษัทดิจิตอล เพาเวอร์กรุป๊ พบว่า ตูเ้ ย็นขนาดกลางแบบมาตรฐานจะใช้พลังงาน อยูท่ ี่ 322 กิโลวัตต์/ชัว่ โมง/ปี ในขณะทีไ่ อโฟนจะใช้พลังงานอยูท่ ี่ 361 กิโลวัตต์/ชั่วโมง/ปี ทั้งนี้เป็นผลจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต แทบจะตลอดเวลาของเหล่าสาวกสมาร์ทโฟน และไม่เพียงแต่ โทรศัพท์มือถือเท่านั้น อุตสาหกรรมไอซีทีทั้งหลายก็ใช้พลังงาน ไม่น้อยเช่นกัน ด้วยความที่ต้องเปิดระบบไว้ตลอดเวลานั่นเอง ดังนั้น หันมาช่วยกันคนละไม้คนละมือด้วยการ “ปิดเครื่อง” ในเวลากลางคืน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังป้องกันไม่ให้คลื่นโทรศัพท์มารบกวนคลื่นสมองยามนอนหลับ ได้อีกทางด้วย
ใครจะว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว เพราะวันนี้ “ผึ้ ง ” อาจได้ อ าชี พ ใหม่ โดยนั ก วิ จั ย ชาวโครเอเชี ย ที่ ฝ ึ ก ให้ มั น สามารถค้ น หาต� ำ แหน่ ง กั บ ระเบิ ด ได้ ส� ำ เร็ จ โดยอาศัยคุณสมบัติเฉพาะตัวที่สามารถได้กลิ่นสิ่งที่ตัวเอง ก�ำลังค้นหาได้กว้างไกลถึง 4.5 กิโลเมตร ทั้งนี้พวกมัน จะถูกส่งไปท�ำหน้าที่ค้นหากับระเบิดบนแผ่นดินที่เคยถูก เรียกว่ายูโกสลาเวีย อดีตพื้นที่สงครามที่ยังคงมีระเบิด ฝังลืมไว้มากกว่า 250,000 ลูก ที่ท�ำอันตรายแก่ประชาชน และทหารที่ลงไปเก็บกู้หลายร้อยรายแล้ว ซึ่งการได้ผึ้ง มาช่วยงานนีก้ เ็ ท่ากับช่วยลดความเสีย่ งของทหารให้นอ้ ยลง ได้เป็นอย่างดี
“ภูมิคุ้มกันบ�ำบัด” ทางออกของโรคมะเร็ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งโปรดฟังทางนี้ วันนี้เรามีวิทยาการใหม่ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถ เพิ่มภูมิคุ้มกันได้เอง ด้วย “ภูมิคุ้มกันบ�ำบัด” โดยจะเจาะเลือดของคนไข้ เพื่อไป คัดเอาเฉพาะเซลล์ภมู คิ มุ้ กันทีม่ ปี ระสิทธิภาพ มาท�ำการเพิม่ จ�ำนวนเซลล์ภมู คิ มุ้ กันให้มี มากขึ้น ผ่านการกระตุ้นเซลล์ที่ต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ ซึ่งเมื่อครบก�ำหนดเวลาแล้ว ก็จะน�ำเซลล์เหล่านั้นไปให้คนไข้ผ่านทางเส้นเลือดเหมือนการให้น�้ำเกลือ หรือในคนไข้ บางคนทีไ่ ม่สามารถใช้เลือดของตัวเองได้ ก็ตอ้ งอาศัยเลือดจากผูบ้ ริจาค เลือดจากญาติ แทน แม้วิทยาการสมัยใหม่จะช่วยยื้อชีวิตคนจากโรคร้ายได้มากขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว การรักษาตนให้อยู่ห่างจากโรคก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเช่นเดิม...คุณว่าจริงไหม 88
“วัดล้านขวด” วัดรีไซเคิลตัวจริงเสียงจริง
ไม่ต้องไปหาต้นแบบรักษ์โลกที่ไหนมาดูให้ยุ่งยาก เพราะที่อ�ำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีวดั ทีส่ ร้างจาก “ขวด” ให้ดกู นั จริงๆ นัน่ คือ “วัดป่ามหาเจดียแ์ ก้ว” หรือวัดล้านขวด แต่เดิมบริเวณนีเ้ คยเป็นป่าช้ามาก่อน แต่เมือ่ หลวงปูล่ อด ถิรคุโณ ได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ และเห็นว่าในละแวกนี้มีขยะจ�ำพวกขวดที่ถูกน�ำมาทิ้งเป็น จ�ำนวนมาก จึงเกิดไอเดียน�ำขวดมาใช้ประโยชน์ในการสร้างวัด และเมื่อข่าวนี้ แพร่สะพัดออกไป ก็มีผู้ใจบุญน�ำขวดมาบริจาคเพิ่มให้อีกมากมาย ท�ำให้วัดแห่งนี้ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาด้วยขวดล้วนๆ อย่างที่เห็นกัน ช่วยประหยัดทั้งงบประมาณ แถมยังท�ำให้วดั ดูแตกต่างสวยงามไปอีกแบบขนาดนี้ ขอปรบมือให้หลวงปูด่ งั ๆ เลย
ใกล้รู้แล้ว “โมนาลิซา” ตัวจริงคือใคร
หนึ่งในต�ำนานภาพวาดที่โด่งดังที่สุดในโลกที่ยังคงเป็นที่ โจษจันถึงตัวจริงของเธอตราบจนทุกวันนี้ คงหนีไม่พ้นภาพ “โมนาลิซา” ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีได้ไขความข้องใจ ด้ ว ยการสกั ด ดี เ อ็ น เอจากโครงกระดู ก ของครอบครั ว เดล จิโอคอนโด เพราะเชื่อว่า นางลิซา เจอรัลดินี ภรรยาของ นายฟรานเชสโก เดล จิ โ อคอนโด นั่ น เองที่ เ ป็ น แบบให้ ดาวินชีวาด เพือ่ ทีจ่ ะน�ำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอจากโครงกระดูก ของอดีตแม่ชีของส�ำนักชีเซนต์ เออร์ซูลา เพราะว่ากันว่าเป็น โครงกระดู ก ของ นางลิซา เจอรัลดินี ที่ ไ ด้ บ วชเป็ น แม่ ชี และเสี ย ชี วิ ต ที่ นั่ น ซึ่งเมื่อสามารถจับคู่ ดี เ อ็ น เอได้ แ ล้ ว ก็ จะสามารถสร้ า ง เค้ า โครงใบหน้ า ที่ แท้จริงของเธอ เพื่อ น�ำไปเปรียบเทียบกับ ภาพวาดโมนาลิ ซ า ได้ แม้เวลาจะผ่าน มานานแค่ไหน แต่ โมนาลิซาคนนี้ก็ยัง คงฮ็ อ ตไม่ เ ปลี่ ย น จริงๆ
ฝันดับเครียดได้จริงหรือ
ว่ากันว่าร่างกายของเราใช้ความฝันเป็นตัวสมานแผลและ เยียวยาจิตใจจากความเครียดและความทุกข์ทั้งปวง เรื่องนี้ เราไม่ ไ ด้ พู ด เองเออเอง เพราะ ดร.โรซาลิ น คาร์ ท ไรท์ จากศูนย์การแพทย์เซนต์ลุกในชิคาโก ได้ท�ำการศึกษาแล้วว่า เมื่อสแกนสมองของกลุ่มตัวอย่างที่เครียดแล้วหลับไป และ สมองเข้าถึงขั้น REM ที่สมองยังท�ำงานอยู่และลูกตามีการ เคลือ่ นไหว ซึง่ เป็นช่วงทีเ่ ราจะฝันแล้วนัน้ สมองส่วนอะมิกดาลา (Amygdala) จะท� ำ งานดี ขึ้ น เพราะสารเคมี เ ครี ย ด (Norepinephrine) ลดลง ท�ำให้เมือ่ ตืน่ ขึน้ มา อารมณ์จะดีขนึ้ อย่างเห็นได้ชัด เพราะร่างกายได้ฝันเพื่อลดระดับเคมีเครียด ในร่างกายลง ซึ่งความฝันที่ดีที่สุดจะเป็น “ฝันตอนใกล้ตื่น” ยิ่งถ้าฝันในช่วงนี้เป็นฝันที่ดีแล้วละก็ ตื่นมาก็เตรียมอารมณ์ดี หน้าบานกันไปทั้งวันได้เลย 89
Hot Events
ช่วงกลางเดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือน พฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่เหยี่ยว หลากหลายสายพั น ธุ ์ จั บ กลุ ่ ม กั น บิ น หนี อากาศหนาวเย็นและฤดูขาดแคลนอาหาร จากฝั่งประเทศมองโกเลีย รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี มุ่งหน้าสู่ดินแดนที่อุดม สมบูรณ์กว่าอย่างแถบประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และทางภาคใต้ ของไทย จึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ร่วม ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และชมปรากฏการณ์ 15 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน 2556 ทางธรรมชาติ กั บ การเดิ น ทางไกลกว่ า เทศกาลดูเหยี่ยวอพยพ 4,000 กิโลเมตรของฝูงเหยี่ยว พร้อมชม 17 พฤศจิกายน 2556 ณ เขาดินสอ อ�ำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร นิทรรศการและกิจกรรมดีๆ อีกมากมาย ประเพณียี่เป็ง ณ ถนนช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่ ก๊วนคนรักนกไม่ควรพลาด
2 - 3 พฤศจิกายน 2556 ศิลปะแห่งการแบ่งปัน ครั้งที่ 2 ณ TK park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
สังคมคงแห้งแล้ง ถ้าเราไม่รจู้ กั “ปันกัน” ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึง่ ของสังคม แห่งการแบ่งปันไปกับนิตยสาร happening และ TK park ในงาน “ศิลปะแห่งการแบ่งปัน ครั้งที่ 2” ท่านจะได้พบปะ แบ่งปัน เสวนา เวิรค์ ชอป และประมูลงานศิลปะจากคนดัง ซึ่งรายได้มอบให้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็ก จากมูลนิธิยุวพัฒน์ เพลิดเพลินเดินงาน พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ จากศิลปินรับเชิญ อีกมากมาย อย่าลืมไปเปิดหูเปิดตา และ ท�ำบุญให้เด็กๆ กัน
ภาพโคมนับร้อยนับพันดวงที่สุกสว่าง ยามค�่ำคืน ก�ำลังลอยละล่องขึ้นสู่ท้องฟ้า ของเชี ย งใหม่ อั น เป็ น ภาพที่ ติ ด ตา ของประเพณี ล อยกระทงแบบล้ า นนาที่ แสนงดงาม การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนนักท่องเทีย่ ว ทุกท่านมาสัมผัสความงดงามนั้นในงาน ประเพณียามค�ำ่ คืน ชืน่ ชมงานแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา ร่วมขบวนแห่กระทงโคม ยีเ่ ป็ง พร้อมเทีย่ วให้สำ� ราญกันทีเ่ มืองเหนือ แห่งนี้กันสักครั้ง แล้วความตระการตา จะกุมหัวใจทุกท่านไว้ตลอดไป
29 - 30 พฤศจิกายน 2556 Pattaya International Fireworks Festival 2013 ณ ชายหาดพัทยากลาง จังหวัดชลบุรี
ในช่ ว งปลายปี อั น เป็ น เวลาแห่ ง การพั ก ผ่ อ นเช่ น นี้ เมื อ งพั ท ยา ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมดื่มด�่ำกลางหาดทรายยามค�่ำคืน กับเทศกาล พลุนานาชาติที่นานที่สุดของเมืองพัทยา พร้อมชมกิจกรรมมากมาย ทั้ ง การแสดงจากดารา-นั ก ร้ อ งชั้ น น� ำ ที่ ม าร่ ว มกั น สร้ า งสี สั น ส่ ง ต่ อ ความบันเทิงให้แก่ผู้ชม พร้อมร่วมกิจกรรมแสนเพลิดเพลินได้ตลอด ทั้งงาน พลาดครั้งนี้ต้องรออีกทีปีหน้าเลย 90
7 ธันวาคม 2556 Overcoat Music Festival 2013
ณ Starlight by Jollyland เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
หน้าหนาวปีนี้จะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะบรรยากาศเทศกาลดนตรี ฤดูหนาวที่เมืองไทยจะห่อหุ้มหัวใจให้อุ่นยิ่งขึ้น ร่วมขับกล่อมบทเพลงรัก ให้กอ้ งกังวานไปทัว่ ขุนเขา กับเหล่ากองทัพศิลปินทีจ่ ะไม่ปล่อยให้คณ ุ ต้อง อยู่ล�ำพัง อาทิ บี - พีระพัฒน์, ETC, Flure, Mild, Musketeers, ตู่ - ภพธร, Lipta, สิงโต น�ำโชค และอีกมากมาย แถมยังได้พกั ผ่อนเคียงข้างธรรมชาติ ที่สวยงามของเขาค้อ แวะชมทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดล�ำดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกด้วย
13 - 22 ธันวาคม 2556 ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก
ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ไปเยือนกรุงเก่าของไทย ปลายปีนี้โอกาสได้มาถึงแล้ว กับงานเฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่ “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี เพื่ อ เฉลิ ม ฉลองที่ คณะกรรมการมรดกโลกแห่งองค์ก ารสหประชาชาติ ไ ด้ ป ระกาศ ขึน้ ทะเบียนให้อทุ ยานประวัตศิ าสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นหนึง่ ในมรดกโลก ทางวัฒนธรรม ภายในงานท่านจะได้รับชมการแสดงแสงสีเสียงที่มีรูปแบบเนื้อหา แปลกใหม่ ตืน่ ตาตืน่ ใจกว่าทุกครัง้ ทีผ่ า่ นมา หรือจะสลับไปเดินเล่นตลาดย้อนยุค จับจ่าย สินค้าโอทอปเลื่องชื่อ ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน พร้อมชมการประกวดอันสนุกสนาน สวยงามอีกมากมาย
วันนี้ - 31 ธันวาคม 2556 สิบนิ้ววันทา ไหว้สา 9 พระธาตุ 3 จังหวัด ณ จังหวัดแพร่ น่าน และอุตรดิตถ์
ร่ ว มไหว้ พ ระเสริ ม สิ ริ ม งคลและดวงชะตา ต้อนรับปีใหม่กับกิจกรรม “สิบนิ้ววันทา ไหว้สา 9 พระธาตุ 3 จังหวัด” ตามรอยเส้นทางท่องเทีย่ ว ในพืน้ ทีล่ า้ นนาตะวันออกกับ 3 จังหวัด แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ เที่ยวชมโบราณสถาน เก็บเกี่ยว ความรูป้ ระวัตศิ าสตร์ พร้อมทัง้ ประทับตราสะสม จากทุกเส้นทาง เพื่อแลกรับของที่ระลึกอันเป็น สิริมงคลจาก ททท. ส�ำนักงานแพร่ ร่วมเดินทาง ท่ อ งเที่ ย วเชิ ง ประวั ติ ศ าสตร์ พร้ อ มเสริ ม บุ ญ ให้กายใจเป็นสุขรับปีใหม่กันดีกว่า
วันนี้ - 31 มีนาคม 2557 เทศกาลศิ ล ปวั ฒ นธรรมอาเซี ย น กรุงเทพฯ (BAAF)
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดพื้นที่การ รับรู้เรื่องประชาคมอาเซียนในด้านสังคม วัฒนธรรม และสร้างการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชน ภายใต้แนวคิด “เปิดรับและ แบ่งปัน” ในเรื่องความหลากหลายทาง วัฒนธรรมของ 10 ประเทศในอาเซียน และ ในวันที่ 13 - 15 ธันวาคม เวลา 16.00 น. จะมีการจัดงาน “ASEAN Nights: ASEAN Beyond Frontier” ภายในงานท่านจะได้ ชมหนังกลางแปลง การแสดงสด และ ชิ ม อาหารของชาติ ต ่ า งๆ ในอาเซี ย น ณ ลานด้านหน้าของหอศิลปฯ อีกด้วย เตรียมความพร้อมกันได้แล้ววันนี้ ไม่ต้อง รอให้ถึงปี 2558
91
Entertainment
คอนเสิร์ตคุณพระช่วยส�ำแดงสด ๔ รวมแผ่นดิน
1 - 3 พฤศจิกายน 2556 (โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์) พบกับความรื่นเริงแสนเฮฮาของสามน้าจ�ำอวดหน้าม่าน และความสนุกจากทุกภาค ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาที่คัดสรรมาไว้บนเวทีเดียว ชมโชว์สุดอลังการจากเวทีการประกวด ระดับโลก ครื้นเครงไปกับบทเพลงไพเราะจากนักร้องชั้นน�ำของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ต้อย - เศรษฐา, วินัย พันธุรักษ์, บี - พีระพัฒน์, ลูกน�้ำ - อรธนา, หนิม AF5, เก่ง - ธชย, เต้ย - จักริน, อุ๊บอิ๊บ - จูเลียต และเหล่านักร้องนักแสดงที่มาร่วมให้ความบันเทิงกันอีกคับคั่ง
เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล
21 พฤศจิกายน - 8 ธันวาคม 2556 (เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์) หลั ง จากที่ พั บ โปรเจ็ ค ท์ เก็บไปตอนปลายปี 2555 วันนี้ เลื อ ดขั ต ติ ย า เดอะมิ ว สิ คั ล กลับมาอีกครัง้ กับความท้าทาย ของเหล่านักแสดงเซตใหม่ที่จะมาถ่ายทอดบทประพันธ์แสนกินใจ น�ำทีมโดย แกงส้ม เดอะสตาร์ ทีม่ ารับบท อโณทัย หนูนา - หนึง่ ธิดา รับบท เจ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี และอาร์ - อาณัตพล ที่รับบท เจ้ า ชายไชยยั น ต์ พร้ อ มด้ ว ยนั ก แสดงสมทบชื่ อ ดั ง อี ก มากมาย ทีต่ บเท้ากันมาสร้างความประทับใจในบรรยากาศเทคนิคแสงสีเสียง ซึ่งได้มาตรฐานระดับมิวสิคัลต่างประเทศ การันตีคุณภาพโดย เจ้าพ่อละครเวที บอย - ถกลเกียรติ วีรวรรณ
The Secret Life of Walter Mitty
Thor: The Dark World
Genre: Action / Adventure เข้าฉาย: 7 พฤศจิกายน 2556 สานต่อเรือ่ งราวการผจญภัย ของธอร์ ทีต่ อ้ งต่อสูเ้ พือ่ ปกป้อง โลกและดิ น แดนทั้ ง เก้ า จาก ศัตรูลึกลับ ผู้ที่มุ่งร้ายหมายจะ ครอบครองจั ก รวาล ศั ต รู ที่ แม้ แ ต่ โ อดิ น และแอสการ์ ด ก็ ยั ง ไม่ ส ามารถรั บ มื อ ได้ การต่อสูเ้ พือ่ ปกป้องดินแดนจึงบังเกิดขึน้ ธอร์จะท�ำเช่นไร กับอันตรายเบื้องหน้าที่รอท้าทายอยู่ หรือว่าเขาจะต้อง เสียสละทุกสิ่งเพื่อปกป้องจักรวาลเอาไว้
Genre: Comedy / Drama เข้าฉาย: 26 ธันวาคม 2556 ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของเจมส์ เทอร์เบอร์ เล่าถึงบรรณาธิการหนังสือที่ชอบฝัน ลมๆ แล้งๆ เพราะในชีวติ จริงนัน้ เขามักจะท�ำอะไรผิดพลาดเสมอๆ เขาจึงจินตนาการถึงชีวติ ทีน่ า่ ตืน่ เต้น ในแบบฉบับของเขาขึ้นมาเอง ถ่ายทอดความสนุกและก�ำกับการแสดงโดย เบน สติลเลอร์ พระเอก คอมเมดี้มากความสามารถ 92
Japao 2
Genre: Jazz ลิซ่า โอโนะ นักร้องและ นั ก กี ต าร์ แ นวบอสซาโนวา จากแดนอาทิตย์อุทัย ขวัญใจ คอเพลงฟังสบาย กับผลงาน ชุดใหม่สไตล์แจ๊สบอสซ่าที่แสนไพเราะเช่นเดิม และครั้งนี้เธอได้หยิบบทเพลง J-Pop Classic มาขับร้องใหม่ในสไตล์ของเธอเอง และยังน�ำเพลง Goodbye My Love ของ Teresa Teng ที่เธอ ชื่นชอบมาขับร้องใหม่ในอัลบั้มนี้อีกด้วย
Saxophone Ballads
Genre: Jazz / Ballad อัลบั้มที่รวบรวมเพลงบรรเลง จากเส้นเสียงของแซ็กโซโฟน ด้วย ฝีไม้ลายมือของศิลปินมากความ สามารถด้านดนตรีมากมาย อาทิ Scott Hamilton, Hans Ulrik, George Garzone และ Gil Ventura ที่จะมาถ่ายทอดบทเพลงอเมริกันซองบุ๊คที่โด่งดังอย่าง My Foolish Heart, Tenderly, What A Wonderful World, Soultrane และอื่ น ๆ อี ก มากมาย ผ่ า นเสี ย งแซ็ ก โซโฟน อั น อบอุ ่ น ละเมี ย ดละไม ท� ำ ให้ บ ทเพลงน่ า ฟั ง เบาสบาย ฟังง่ายทั้งอัลบั้ม
another by คุณโอ๋
Genre: Jazz / Bossa / Chill Out โปรเจ็คท์สุดพิเศษที่ท�ำขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ด้วยผลงานของ “โอ๋” หรือที่รู้จักกันในนาม โอ๋ ซีเปีย หรือ โอ๋ ดูบาดู โดยคัดสรรบทเพลงที่อยู่ในความทรงจ�ำช่วง 10 ปีแรกของ ค่ายแกรมมี่ เช่น ฝากฟ้าทะเลฝัน, สบายดีหรือเปล่า, แทนค�ำนั้น, หมากเกมนี้, พลิกล็อค, เรามีเรา และอื่นๆ มาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ ฟังสบายๆ โดยศิลปินคุณภาพ บันทึกเสียงด้วยระบบ Audiophile ระดับมาสเตอร์พีซ ที่ท�ำให้อัลบั้มนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสทางดนตรี ที่แสนหวาน ไพเราะ และลงตัวที่สุด
DUETS
Genre: Pop / Rock ที่สุดของเพลงร้องคู่ที่แสนประทับใจ จากนักร้องเสียงดีการันตีคุณภาพที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก กับ 30 เพลงใน 3 ซีดี ที่บรรจุมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น เข้าใจฉันไหม - ดา เอ็นโดรฟิน & ตู่ ภพธร, Will you marry me? - ปั๊บ โปเตโต้ & ลุลา, คนบนฟ้าต้องการให้รัก - อ๊อฟ - ปองศักดิ์ & ลิเดีย, ไม่พดู ก็เข้าใจ - แพรว - คณิตกุล & โต๋ - ศักดิส์ ทิ ธิ,์ กลัวความห่างไกล - โดม - จารุวฒ ั น์ & แก้ม วิชญาณี และอื่นๆ อีกมากมายที่คัดสรรมาแล้วเพื่อคุณโดยเฉพาะ 93
Techno for Life
เรื่อง : Seputo
HAPIfork
ส้อมไฮเทค เพื่อสุขภาพ
Moveo
สกู๊ตเตอร์ฉบับกระเป๋า ไม่ง้อที่จอด น �้ ำ มั น แพงหู ฉี่ ข นาดนี้ ลองเปลี่ ย นไปใช้ ร ถเล็ ก ๆ กั น ดู ไ หม กั บ สกูต๊ เตอร์ไฟฟ้าจิว๋ แต่แจ๋วตัวนี้ “Moveo” ทีข่ บั เคลือ่ นด้วยมอเตอร์ทงั้ ล้อหน้า และหลัง สามารถท�ำความเร็วได้ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่กินน�้ำมันเพราะ ใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยเวลาชาร์จเพียงหนึ่งชั่วโมงก็พาคุณวิ่งได้ไกลถึง 35 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทัง้ ยังมีนำ�้ หนักเพียง 25 กิโลกรัม เบาเสียจนคุณนึกไม่ถงึ ว่า มันจะเป็นยานพาหนะได้ เมื่อใช้เสร็จก็พับเก็บ ลากขึ้นรถลงเรือจนคนอื่น คิดว่าเป็นกระเป๋าเดินทาง ไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดให้ล�ำบากอีกต่อไป สนนราคาขายอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท ใครสนใจก็ลองตามข่าวกันดู บริษัทผู้ผลิตแจ้งมาว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ (ปี 2014) น่าจะได้จับจองเป็นเจ้าของ กันอย่างแน่นอน (http://moveoscooter.com)
เ หมือนสวรรค์มาโปรดเหล่าผูท้ กี่ ำ� ลังลดน�ำ้ หนัก เสียจริงๆ จึงได้ส่งเจ้า “HAPIfork” ส้อมอัจฉริยะ ตั ว นี้ ม าเป็ น ผู ้ ช ่ ว ยในการควบคุ ม อาหาร ด้วยความสามารถเกินส้อมธรรมดาที่จะตามติด พฤติ ก รรมการกิ น อาหารในแต่ ล ะค� ำ ของคุ ณ ตั้ ง แต่ ค วามเร็ ว ในการกิ น และปริ ม าณที่ กิ น โดยหากคุ ณ กิ น เร็ ว ก็ จ ะสั่ น เตื อ นเพื่ อ ให้ คุ ณ กินช้าลง เคี้ยวอย่างละเอียดมากขึ้น การท�ำงาน จะมีสองระบบให้เลือกคือ ผ่านบลูทธู และยูเอสบี เพื่ อ ส่ ง ข้ อ มู ล การรั บ ประทานอาหารของคุ ณ ไปยังสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ วางก�ำหนดการ เปิดตัวไว้ในปี 2014 ทีร่ าคา 99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามพันกว่าบาท) ใครรูต้ วั ว่าสุขลักษณะ การรับประทานอาหารยังไม่ดี น่าหามาเป็นผูช้ ว่ ย ไว้สกั อัน รับรองว่าสุขภาพดีขนึ้ ทันตาเห็นแน่นอน (http://www.hapilabs.com)
Ultrasonic Jewelry Cleaner and DVD Cleaner
จิเวลรี่สวยหมดจด
94
หมดเวลากับการนั่งขัดสีฉวีวรรณให้เหล่าบรรดาเฟอร์นิเจอร์เลอค่าของคุณเสียที เพราะ วันนี้คุณมี “Ultrasonic Jewelry Cleaner” ผู้ช่วยที่จะมาทำ�ให้การทำ�ความสะอาดของรัก ของหวงของคุณทั้งง่ายขึ้นและสะอาดขึ้น ด้วยมอเตอร์ที่ควบคุมการหมุนทั้ง 3 ระดับ (เบาปานกลาง-สูง) ที่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อการดูแลความสะอาดในระดับที่แตกต่างตามที่ผู้ใช้ ต้องการ ด้วยเทคโนโลยี Soundwave ที่จะขจัดสิ่งสกปรกให้คุณอย่างหมดจด ใช้ได้ดีกับ ทั้งจิเวลรี่ นาฬิกาข้อมือ แว่นตา หรือแม้กระทั่งแผ่นดีวีดีและซีดี ก็ใหม่เอี่ยมอ่องได้โดย ไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆ (http://www.brookstone.com/ultrasonic-jewelry-cleaner-dvdcleaners)
ThaiFlight Category: Travel Compatible with: iPhone, iPod touch และ iPad
วันพระ Category: Reference Compatible with: iOS และ Android
ท �ำไมเวลาโทร.ไปถามคอลเซ็นเตอร์ แล้วต้องเจอแต่ระบบ ตอบรับอัตโนมัติที่แสนจะร�ำคาญใจ กดไปเบอร์ไหนๆ ก็ไม่เจอ คนรับสายเสียที ปัญหาน่าเบือ่ เหล่านีก้ ำ� ลังจะเป็นอดีตไป เพียงแค่ คุณโหลดแอพพลิเคชัน่ นีต้ ดิ เครือ่ งเอาไว้ จะเช็คเทีย่ วบิน ราคาตัว๋ ของสายการบินไหน แอพนีจ้ ดั ให้คณ ุ ได้ทงั้ หมด ถ้าคุณเป็นคนหนึง่ ที่เดินทางโดยเครื่องบินบ่อย ควรโหลดไว้ เพราะมันทั้งดี สะดวก รวดเร็ว และอินเทรนด์ แถมโหลดฟรีอกี ต่างหาก ครบเครือ่ งแบบนี้ จะรอช้าอยู่ไย
แ ล้ วคุ ณจะไม่ พ ลาดวั น พระอี กต่ อไป หนึ่ง ใน แอพพลิเคชัน่ ดีๆ มีประโยชน์สำ� หรับคนทีช่ อบท�ำบุญ สุนทาน แอพนี้จะช่วยเตือนให้คุณไม่พลาดวั น พระ ตลอดทั้งปี พร้อมแชร์ข้อมูลเพื่อบอกบุญแก่เพื่อนๆ ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟชบุ๊กและทวิตเตอร์ หรือจะเซตไว้เพื่อแจ้งเตือนวันพระล่วงหน้าก็ท�ำได้ ง่ายๆ สะดวกสบาย ไม่ต้องมานั่งจด นั่งกางปฏิทิน ให้วุ่นวายอีกต่อไป
Thai Dict Lens Category: Utilities Compatible with: iPhone, iPod touch และ iPad แล้วอุปสรรคเรื่องภาษาจะสร้างปัญหาให้คุณไม่ได้อีกต่อไป เพียงคุณมีแอพพลิเคชั่นสุดคูลตัวนี้ ไว้ในสมาร์ทโฟน แค่คุณสแกนคำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ต้องการรู้ความหมายด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ รอสักครู่เพื่อให้โปรแกรมจับโฟกัสคำ�เหล่านั้น จากนั้นระบบก็จะประมวลผลเป็นความหมายภาษาไทย ออกมาให้คุณทราบทันทีทันใด ใช้ง่ายแถมสะดวกสบายขนาดนี้ หากเจอศัพท์ภาษาอังกฤษคำ�ไหน ไม่คุ้นตา ก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว 95
Trend
เรื่องและภาพ : DerHippo
Wood Wood - Bowery Hat (สอบถามราคาที่ร้าน)
Velour by Nostalgi - Richard (Central World)
Surface to Air Classic Shirt V8 (Beacon Zone Central World)
Velour by Nostalgi - Henri Navy/Red (Central World)
Wood Wood - Printed Scarf (Beacon Zone - Central World) Velour by Nostalgi - Hugues (Central World)
Soft Power
Velour by Nostalgi - Adan Flower Print (Central World) 96
ส�ำหรับหนุม่ ๆ แล้ว สไตล์การแต่งตัวด้วยสีโทนพืน้ ทีเ่ รียบง่าย ยังคงเป็นทีน่ ยิ มอยูเ่ สมอ ไม่วา่ จะหนุม่ เล็กหรือหนุม่ ใหญ่ แต่เสน่ห์ ในการสร้างความแตกต่างนั้นเป็นเรื่องที่สอนกันยาก เพื่อความ ไม่จ�ำเจ คุณอาจลองหยิบของชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ที่มีลวดลายเยอะๆ ซึ่งอาจไม่ค่อยมีโอกาสหยิบมาใช้ เอามา แมทช์กับชุดสูทสีฟ้าหรือสีกากี เท่านี้ก็เปลี่ยนลุคได้แล้ว บอกลา ชุดสูทแบบแข็งทื่อไปได้เลย
Wood Wood - Gavin Shoe (Beacon Zone - Central World)
Sanshai - Adrian Collection (Thai Designer Zone - The Emporium)
Lizzie Fortunato - Gold Wheatfield II Necklace (Cloud 9 - The Emporium)
Red Carpet ไม่ว่าจะเป็นสาวไหน ก็อยากจะสวยเหมือนยืนบนพรมแดง กันทั้งนั้น ธีมรอบนี้จึงจัดไปให้เกรียวกราวกับ Red Carpet ด้วยชุดค็อกเทลที่อาจหาโอกาสใส่ได้ไม่บ่อย โดยหยิบเลือกชุด ที่เข้ากับรูปร่าง แถมช่วยซ่อนข้อบกพร่องไปด้วยในตัว และ สิ่งส�ำคัญคือ ต้องไม่ลืมเรื่องสถานที่ จะได้จัดเต็มไปให้พอดีๆ ไม่อลังการเกินงาม
Patinya - Oliver Top 9,990.(Siam Paragon, Central World)
Lizzie Fortunato - Birds of Paradise Necklace, Iridescent Green (Cloud 9 - The Emporium)
Christian Louboutin - Plitz Clutch (Gaysorn)
Christian Louboutin - So Kate (Gaysorn)
Christian Louboutin – Artifice 120 Satin Black Broderies (Gaysorn)
97
Book Shelf
ชีวิตไร้ขีดจ�ำกัด ส�ำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ราคา 185 บาท หนังสือดีสร้างแรงบันดาลใจให้คนได้มากกว่าค�ำพูด ผู้ชายไม่ธรรมดาคนนี้ “Nick Vujicic” หนุ่มออสเตรเลียผู้พิการไร้แขนขาแต่ก�ำเนิด เอาชนะอุปสรรคด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความฝันและ แรงศรัทธา เขาก้าวข้ามผ่านนานาอุปสรรคจนชีวิตได้เจอกับความสุขสมหวัง แถมยังเดินทางไป มอบแรงบันดาลใจดีๆ แก่คนอื่นกว่าค่อนโลก เพื่อพิสูจน์ว่า หากชีวิตด�ำเนินด้วยศรัทธา ก็ไม่อาจ มีอะไรมาหยุดยั้งได้
สร้างเสน่ห์ จับใจคน Vol.1 ส�ำนักพิมพ์ DMG Books ราคา 295 บาท เพราะเสน่หท์ สี่ ะท้อนออกมาจากภายในนัน้ เป็นเสน่หท์ ดี่ ที สี่ ดุ หนังสือทีถ่ า่ ยทอดเทคนิคการสร้าง เสน่หช์ นั้ เซียนจากนักจิตวิทยาชัน้ น�ำของโลก ทีจ่ ะมาปูพนื้ ให้คณ ุ ตัง้ แต่การปรับทัศนคติ การสนทนา การวางตัว การแสดงออก การลงมือปฏิบัติ รวมถึงเทคนิคการสื่อสาร พร้อมแบบฝึกหัดส�ำหรับการ พัฒนาต่อยอด เพื่อให้คุณท�ำลายก�ำแพงที่ปิดกั้นตัวตนที่แท้จริงของคุณ และพัฒนาบุคลิกภาพใหม่ ให้ทุกคนประทับใจได้ไม่รู้ลืม
เที่ยวเสาร์ อาทิตย์ 6 ส�ำนักพิมพ์บีวาว ราคา 255 บาท อ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบ แล้วออกไปสนุกกัน กับจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ อย่างสมุทรสงคราม ที่มี แง่มมุ ของความสุขรอให้เราออกไปกิน เทีย่ ว ช็อป และพักผ่อนกันให้หน�ำใจ ตอบโจทย์นกั อ่านหัวใจ ท่องเทีย่ วทุกคนได้อย่างครบถ้วน กับเนือ้ หาทีค่ ดั สรรมาเน้นๆ ทัง้ รูปสวย ข้อมูลสดใหม่ลน้ ทะลักเล่ม ให้คุณได้ไปเก็บเกี่ยวความสุขสุดสัปดาห์ ให้ทั่วทั้งสมุทรสงครามแบบไม่เสียเที่ยว เพลิดเพลิน จนลืมกรุงเทพฯ กันไปเลย
98
วิธีฝึกวินัยและวิธีคิดให้เด็กเล็ก ส�ำนักพิมพ์ Bee Media ราคา 165 บาท ผู้ใหญ่ที่ประสบความส�ำเร็จในวันนี้ เกิดจากการวางรากฐานทางความคิดที่ดีตั้งแต่ยังเด็ก ทัง้ เรือ่ งของความคิด ความรับผิดชอบ รวมไปถึงพืน้ ฐานจิตใจทีด่ ที จี่ ะสามารถช่วยเหลือตนเองและ ผู้อื่นได้ ซึ่งทุกอย่างเกิดจากการวางรากฐานของพ่อแม่ที่ต้องปลูกฝังเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 6 ขวบ หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Jim Fay และ Charles Fay ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการเลี้ยงลูก ที่จะช่วยให้พ่อแม่ได้เตรียมความพร้อม เพื่อปลูกฝังความคิดที่ถูกต้องให้เด็กน้อยได้เติบโตอย่าง มั่นคงทั้งกายและใจ เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้าได้
วิธีพาตัวเองออกจาก “กล่อง” ใบเล็ก ส�ำนักพิมพ์ WeLearn ราคา 160 บาท เพราะมุมมองของตัวเราเองต่อสิ่งต่างๆ นั้นเป็นเรื่องส�ำคัญ วันนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือมอง ตัวเองในแบบไหน หนังสือเล่มนี้น่าจะไขความชัดเจนต่อมุมมองของคุณได้ดียิ่งขึ้น จุดเด่นของ หนังสือเล่มนี้คือ การอธิบายถึงขั้นตอนความคิดของเราต่อสิ่งต่างๆ แบบ Step by Step ถ่ายทอด ออกมาให้เข้าใจได้ง่ายๆ ด้วยการเขียนเป็น State Diagram ที่ช่วยให้ผู้อ่านคิดต่อยอดตามได้ง่าย เมื่ออ่านจบ คุณจะไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ�้ำว่า มุมมองของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ตอนไหน
กายบริหารอายุยืน สูตรคุณหมอ 100 ปี ส�ำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ราคา 99 บาท ด้วยท่ากายบริหารและรูปแบบการใช้ชีวิตที่ถูกต้องนี่เอง ที่เป็นกลเม็ดเคล็ดลับให้คุณหมอ ชิเงะอะกิ ฮิโนะฮะระ อายุยืนได้ถึงขนาดนี้ หนังสือเล่มนี้จะมาเล่าให้เราฟังว่า การมีชีวิตอยู่อย่าง ยืนยาวและมีคุณภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีวินัยในการดูแลเอาใจใส่สุขภาพ ปฏิบัติตนให้ ห่างไกลโรคภัย ด้วยสูตรการกิน นอน และเคลื่อนไหวเพื่อชีวิตที่ยั่งยืนด้วย 8 ท่าบริหาร รวมถึง 6 หลักการง่ายๆ เพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาว
99
โค้ชอ๊อต “สุดยอดโค้ช”
วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย หากพูดถึงกระแสความชืน่ ชมของ วงการกีฬาไทยในชั่วโมงนี้ เห็นทีจะ ไม่มีใครช่วงชิงความป็อปปูลาร์ของทีม วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยไปได้ อีกแล้ว กับผลงานที่มือตบสาวไทย ต่ า งตั้ ง ใจ เพื่ อ น� ำ ความภาคภู มิ ใ จ และเกี ย รติ ป ระวั ติ ม าสู ่ ป ระเทศไทย ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และการมุ่งสู่ ชัยชนะครัง้ นีจ้ ะส�ำเร็จไม่ได้เลย ถ้าทีม ปราศจาก “โค้ช” ทีม่ ากความสามารถ
จุดเปลี่ยนส�ำคัญที่ท�ำให้เขาเดินหน้าเข้าสู่ เส้นทางโค้ชในเวลาต่อมา ใช่ว่าเส้นทางการเป็นโค้ชจะเรียบง่าย หลังจากที่เขาเข้ามาเป็นโค้ชเต็มตัวแล้ว เขาต้ อ งเผชิ ญ กั บ อุ ป สรรคมากมาย ทั้งถูกเกลียด ถูกแบน ถูกต่อว่าและครหา ว่าเข้มงวดมากจนเกินไป ฝึกซ้อมลูกทีม เหมือนซ้อมทหารไปออกรบ ทั้งยังมีข่าว ต่างๆ อีกมากมายที่เข้ามาทดสอบจิตใจ ของโค้ชอ๊อตคนนี้
โค้ชอ๊อต - เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตนักวอลเลย์บอลชายของทีมชาติไทย ผู้อยู่เบื้องหลังความส�ำเร็จของสาวนักตบ ลูกยางทีมชาติไทยทุกคน เขาคือเจ้าของ นิยาม “สุดยอดโค้ชผูป้ น้ ั คน” ท�ำให้ทมี ชาติไทย ขึ้นมาผงาดบนแถวหน้าของโลกได้ส�ำเร็จ หนั ง สื อ เล่ ม นี้ เ ล่ า ถึ ง เรื่ อ งราวชี วิ ต ของโค้ชตัวจริงคนนี้ ตัง้ แต่วยั เด็กทีเ่ ติบโตมา ในรัว้ ค่ายทหารสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เติบใหญ่ขึ้นมาก็ได้มีโอกาสรับใช้ทีมชาติ ไทย ทั้งยังเป็นก�ำลังหลักในการพาทีมไป คว้าแชมป์ซีเกมส์มาได้หลายสมัย และ
แต่แล้วด้วยก�ำลังใจทีเ่ ข้มแข็งหนักแน่น ในจุดยืน ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจ อีกทั้ง ยั ง ยอมสละความสุ ข ส่ ว นตั ว ในชี วิ ต ไป มากมาย ก็ท�ำให้สมาคมฯ เห็นถึงความ ตั้งใจ จึงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ ท� ำ ให้ เ ขามี แ รงฮึ ด ในการปลุ ก ปั ้ น ที ม วอลเลย์ บ อลหญิ ง ชุ ด ประวั ติ ศ าสตร์ ใ ห้ เกิดขึ้นได้จริงในที่สุด อย่างที่เราเห็นกัน ในวันนี้ นอกจากจะได้ รู ้ จั ก กั บ โค้ ช อ๊ อ ต มากขึ้ น แล้ ว เรายั ง จะได้ รู ้ ถึ ง เทคนิ ค การโค้ช ยุทธศาสตร์การท�ำงาน วิธีการ
100
ค้ น หาสิ่ ง ที่ ดี ที่ สุ ด ที่ จ ะพาที ม ไปให้ ถึ ง เป้ า หมายที่ ตั้ ง ไว้ ภ ายใต้ ข ้ อ จ� ำ กั ด ที่ มี อยู่มากมาย อีกทั้งแง่มุมจิตวิทยาที่เขา สามารถรวมหัวใจของลูกทีมทุกคน ให้มา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ส�ำเร็จ “การท�ำทีมมีอปุ สรรคเยอะ แต่อปุ สรรค เป็นสิ่งที่เราต้องเอาชนะให้ได้ เวลาสอน เด็ก ผมจะเต็มที่มาก บางครั้งก็อาจฝึก เด็ ก หนั ก เกิ น ไป แต่ ผ มเรี ย นโค้ ช และ วิทยาศาสตร์การกีฬามา ผมต้องสอนให้ เด็กรับมือกับความเครียดในการซ้อมและ การแข่งขันให้ได้ ผมต้องดึงความสามารถ ของพวกเขาออกมาให้หมด ผมพยายาม ตั้งเป้าหมายการท�ำทีมให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ลู ก ที ม ก็ ตั้ ง เป้ า หมายของเขาเหมื อ นกั น เมื่ อ ทุ ก คนตั้ ง เป้ า หมายของตั ว เองแล้ ว สุดท้ายก็จะส่งผลให้เป้าหมายของทั้งทีม ส�ำเร็จไปด้วย” ผลงานในวันนีข้ องทีมวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย คงจะช่วยนิยามได้แล้วว่า ค� ำ ว่ า “สุ ด ยอดโค้ ช ” มี ห น้ า ตาเป็ น อย่างไร เพราะจากความฝันของผู้ชาย หัวใจแข็งแกร่งเพียงคนเดียวที่ใครๆ อาจ มองว่าเป็นไปไม่ได้ในวันนั้น แต่มาถึง วันนี้ ทุกฝันที่เคยฝันไว้ เขาได้พาคนไทย ทั้งประเทศเอื้อมถึงแล้วในที่สุด
Collection Room
Camera Collections
บันทึกความทรงจำ�ไว้ในม้วนฟิล์ม เรื่อง : Mr. Collector
หากถามถึง “สวรรค์” ส�ำหรับคนรักการถ่ายภาพ คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้จับกล้องตัวโปรด แล้ว บรรจงกดชัตเตอร์ลงช้าๆ เพื่อเก็บเกี่ยวความทรงจ�ำ อันล�้ำค่า ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเอาไว้ แต่เมื่อวันเวลา • Rolleiflex 2.8F White Face ผ่านไป กล้องก็มีวิวัฒนาการไปข้างหน้าไม่ต่างกัน จาก “กล้องฟิล์ม” เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็น “กล้องดิจิทัล” ได้มากเท่านั้น โดยสาเหตุที่ท�ำให้นักเล่นกล้องเก่าหลงใหล เป็น ทีท่ ำ� ให้การถ่ายภาพดูงา่ ยขึน้ เห็นภาพได้ทนั ทีทนั ใด ทันใจ เพราะความสามารถทีโ่ ดดเด่นในการถ่ายภาพขาวด�ำ ด้วยเลนส์ที่ คนยุคใหม่ที่สมาธิถูกหารไปกับสิ่งต่างๆ มากมาย มีการไล่ Grey Scale ที่ดีเยี่ยม ท�ำให้ได้ภาพขาวด�ำที่คมชัดมาก หากแต่เสน่ห์อย่างหนึ่งของการถ่ายภาพที่คงมีแต่คนรุ่นเก่า เท่านัน้ ทีจ่ ะเข้าใจว่า การถ่ายภาพทีต่ อ้ งอาศัยความละเมียดละไม และความพิถีพิถันในการฝากความทรงจ� ำไว้ในม้วนฟิล์มนั้น ทรงคุณค่าเพียงไร โดยก่อนที่ค�ำว่ากล้องฟิล์มจะถูกลบออกไป จากความทรงจ�ำในวันข้างหน้า เราอยากชวนท่านผู้อ่านกลับไป สัมผัสกล้องตัวเก่าที่เก็บรักษาความทรงจ�ำครั้งเก่าก่อนกันดูว่า มีกล้องรุน่ ไหนตัวไหนบ้าง ทีเ่ หล่าคนรักการถ่ายภาพเก็บรักษาไว้ ประหนึ่งสมบัติล�้ำค่าก็ไม่ปาน
และหากพูดถึงกล้องรุน่ ยอดนิยมทีส่ ร้างชือ่ ให้ Rollei แล้ว คง หนีไม่พ้น Rolleiflex 2.8F ซึ่งหลายเสียงกล่าวว่า เป็น Rolleiflex รุน่ ทีส่ มบูรณ์ทสี่ ดุ โดยรุน่ หลังๆ ได้มกี ารปรับปรุงรูปลักษณ์เพือ่ ให้ กล้องดูทนั สมัยมากขึน้ ภายใต้ชอื่ ใหม่ทเี่ รียกกันว่า Rolleiflex 2.8F White Face ซึ่ ง โมเดล White Face นี้ ก็ ยั ง แยกย่ อ ย ออกได้อีก 5 รุ่น ได้แก่ Rolleiflex T (Type 3), Rolleiflex 3.5F (Type 5), Rolleiflex 2.8F (Type 4) และ Rolleicord Vb (Type 3) ซึง่ ส�ำหรับสาวก Rollei แล้ว หากได้ถา่ ยภาพขาวด�ำด้วย Rolleiflex 2.8F White Face ก็คงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “สวรรค์บนดินมีอยู่จริง” (ราคาประมาณ 45,000 - 70,000 บาท)
Rolleiflex 2.8F White Face: กล้องเลนส์คู่ Leica M6: เรียบหรู คู่นักสะสม ในต�ำนาน ถ้าขึน้ ชือ่ ว่าเป็นหนึง่ ในนักสะสมกล้องฟิลม์ ตัวจริงแล้ว จะต้อง
• ภาพถ่ายจาก Rolleiflex 2.8F White Face 102
ย้ อ นกลั บ ไปเมื่ อ ปี 1928 “Rollei” กล้องยอด นิยมอันดับต้นๆ ของโลก ได้ถือก�ำเนิดขึ้น หนึ่งใน ค่ า ยที่ ผ ลิ ต กล้ อ ง Twin Lens Reflex (TLR) ออกมา มากเท่ า ไรก็ ค รองใจคน
มีกล้องยีห่ อ้ นี้ “Leica” สุดยอดนวัตกรรมจากเยอรมนีทมี่ ตี ำ� นาน มายาวนาน กับความโดดเด่นไร้ผู้เทียมทานในเรื่องของ “เลนส์ คุณภาพสูง” แถมราคาก็สงู มากเช่นกัน (สูงชนิดทีว่ า่ เลนส์บางรุน่ ของ Leica ราคาสูงเหมือนซื้อบอดี้กล้องบางรุ่นได้ถึง 2 - 3 ตัว เลยทีเดียว) สาเหตุที่เลนส์มีราคาสูงเป็นเพราะชิ้นเลนส์ของ Leica ผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมนี ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีทรายที่ดี ทีส่ ดุ ในโลก (Leica ใช้ทรายในกระบวนการท�ำเลนส์) อีกทัง้ เลนส์
ความทนทานไว้ ไ ด้ อ ย่ า งเหนี ย วแน่ น เช่ น กั น (ราคาประมาณ 45,000 60,000 บาท) ส่วนรุ่น Special Edition ของกล้องรุ่นนี้ที่ออกมาเอาใจนักสะสมคือ Leica M6 Platinum บอดี้กล้องท�ำด้วยทองค�ำขาว ผลิตขึ้นในปี 1989 เพื่อฉลองครบรอบ 75 ปีของ Leica และฉลองครบรอบ 150 ปีของการ ถ่ายภาพด้วย (ราคาประมาณ 240,000 - 250,000 บาท)
Hasselblad 500C/M: นวัตกรรม กล้องสองสัญชาติ
ของ Leica ยังผ่านการหมักเลนส์ เพื่อให้เลนส์ คงสภาพอยู่ได้หลายปี ทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็ง ที่ Leica ยังคงรักษาไว้ได้ดี อีกทัง้ ดีไซน์เรียบหรู มี เอกลักษณ์ แข็งแรง ทนทาน โดยกล้อง Leica รุน่ ยอดนิยมเห็นจะหนีไม่พน้ ตระกูล M ซึง่ เป็นกล้อง แบบ Rangefinder ขนาดเล็ก แต่คณ ุ ภาพคับแก้ว เสน่ห์ของกล้องตระกูล M ของ Leica อยู่ที่ ระบบการท�ำงานทีไ่ ม่ซบั ซ้อน โดยกล้อง Leica M นี้ มีรุ่น M3 เป็นรุ่นแรก ผลิตขึ้นในปี 1954 ไล่เรียง เรื่อยมาจนถึง Leica M6 ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่น ยอดนิ ย มของซี รี่ ส ์ M โดย Leica M6 นั้ น ได้พัฒนามาจาก Leica M3 แม้จะเกิดทีหลัง แต่ ยั ง คงรั ก ษารู ป ลั ก ษณ์ ท รงอมตะของ M3 อยู ่ อย่ า งไม่ เ สื่ อ มคลาย ทั้ ง ยั ง รั ก ษาคุ ณ ภาพและ
อีกหนึง่ นวัตกรรมกล้องถ่ายภาพลูกครึง่ สองสัญชาติ “สวีเดน - เยอรมนี” คือตัวกล้อง ผลิตที่สวีเดน ส่วนเลนส์นั้นใช้เลนส์ระดับ โลกจากค่ายเลนส์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี อย่าง Carl Zeiss Hasselblad เป็นกล้อง Medium Format ที่มีขนาดของฟิล์ม 6x6 เซนติเมตร ท�ำให้ ภาพที่ ถ ่ า ยออกมาจะมี ลั ก ษณะเป็ น ภาพ สี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งแตกต่างจากกล้องทั่วไป และด้ ว ยขนาดของฟิ ล ์ ม ที่ ใ หญ่ ก ว่ า ปกติ ท� ำ ให้ Hasselblad นิ ย มใช้ ใ นงานเชิ ง พาณิชย์ที่ต้องการคุณภาพสูง แม้กระทั่ง นาซายังเคยเลือกใช้ เพื่อน�ำขึ้นไปถ่ายภาพ บนอวกาศมาแล้ว Hasselblad ได้ผลิตออกมาให้สาวกได้เลือกใช้และเก็บรักษาหลากหลายรุน่ ด้วยกัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเห็นจะเป็น Series V หรือตระกูล 500 เช่น 500C, 500CM, 501CM, 503CW ฯลฯ ยิ่งเป็นรุ่น Hasselblad 500C/M ด้วยแล้ว จัดว่ายอดนิยมที่สุด ด้วยความสามารถที่ถ่ายได้ทั้งสไตล์ แฟชั่น ทิวทัศน์ หรือลงนิตยสาร ที่ต้องการภาพคุณภาพสูง กล้อง รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนแมกกาซีน ใส่ฟิล์มเป็นขนาดต่างๆ ได้ตาม ต้ อ งการ หรื อ จะใส่ เ ป็ น ฟิ ล ์ ม โพลารอยด์ก็ได้เช่นกัน ส�ำหรับบ้านเรา กล้องรุ่นนี้ ยังมีโมเดลที่ชื่อว่า Hasselblad 500 C/M Gold Exclusive (30th Anniversary) กล้องส�ำหรับ 103
นักสะสมตัวจริง ที่ผลิตขึ้นเมื่อปี 1987 ในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปีของการก�ำเนิดกล้องรุ่น 500 C/M โดยรุ่นนี้ผลิตขึ้น จ�ำนวนจ�ำกัดเพียง 1,400 ชิ้นทั่วโลกเท่านั้น (ราคาประมาณ 150,000 บาท)
LOMO LC-A: King of Lomography
ช่างภาพเด็กแนวอย่าเพิ่งเปิดหน้านี้หนีไป เพราะกล้องฟิล์ม ขวัญใจช่างภาพวัยรุ่นก็มีมาแนะน�ำกัน กับเจ้า LOMO LC-A หนึง่ ในกล้องทีไ่ ด้รบั การบันทึกไว้ในหน้าประวัตศิ าสตร์วา่ เป็นตัว จุดประกายให้เกิดการเคลือ่ นไหวของภาพ Lomography สีจดั จ้าน • ภาพถ่ายจาก LOMO LC-A ที่หลายคนบอกว่า ท�ำให้ภาพเดิมๆ ดูน่าสนใจขึ้นเป็นกอง ย้อนกลับไปในช่วงปี 1984 ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย กล้อง LOMO LC-A ได้รับการพัฒนาต่อยอด จากกล้องคอมแพ็คท์สัญชาติญี่ปุ่นต้นแบบอย่าง Cosina CX-1 โดยน�ำมาดัดแปลงให้กะทัดรัดขึ้น ใช้ส่วนประกอบที่ถูกลง และ ใช้เลนส์แก้วอย่าง Minitar 1 ที่ได้รับการยอมรับว่า ให้สไตล์ภาพ ทีส่ วยฉูดฉาดอย่างมีเอกลักษณ์ ให้สที อี่ มิ่ ตัว พร้อมทัง้ มี Vignette หรื อ ขอบด� ำ ตรงมุ ม ของภาพถ่ า ยด้ ว ย กล้ อ งรุ ่ น นี้ จึ ง นั บ เป็ น รูปแบบหนึง่ ในการพัฒนาไปอีกระดับของกล้องฟิลม์ ทีม่ เี อกลักษณ์ เฉพาะตัวของยุคนี้จริงๆ (ราคาประมาณ 10,000 บาท) • LOMO LC-A
นอกจากนี้ ยังมีกล้องรุ่นพิเศษอีกสองตัวที่สาวกชาว LOMO ไม่ควรพลาดเก็บสะสม ได้แก่ LOMO LC-A+ 20th Anniversary Edition ซึ่งเป็นกล้องรุ่นพิเศษที่ผลิตมาจ�ำนวนจ�ำกัด เพื่อฉลอง วาระครบรอบ 20 ปีของ LOMO และอีกรุ่นคือ LOMO LC-A+ Russia Day รุ่น Limited Edition ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นที่ระลึก ของรุ่น LC-A รุ่นดั้งเดิมจากรัสเซียนั่นเอง (ราคาประมาณ 13,000 - 15,000 บาท)
• ภาพถ่ายจาก LOMO LC-A
• LOMO LC-A+ Russia Day 104
เพราะเสน่ห์ของ “กล้องฟิล์ม” ไม่อาจเล่าผ่าน ตั ว อั ก ษร หากแต่ สั ม ผั ส ได้ จ ากความละเมี ย ดละไม ของการถ่ายภาพด้วยกล้องชนิดนี้เท่านั้น ซึ่งก็ไม่อาจ หาได้ จ ากการใช้ ก ล้ อ งดิ จิ ทั ล แต่ เ หนื อ สิ่ ง อื่ น ใดแล้ ว การจะถ่ายภาพให้สวยได้นนั้ มิใช่เพียงแค่การมีกล้องดีๆ อย่างเดียว การมีมุมมองที่ดีต่างหากที่จะท�ำให้ภาพ ทีจ่ นิ ตนาการเอาไว้กบั ภาพทีถ่ า่ ยออกมา บรรจบรวมกัน ได้อย่างสวยงามที่สุด
Teenager Hits
อะไรๆ ก็
“แมว”
วัฒนธรรมฮิตเหมียว เห่อกันสนั่นเมือง เรื่อง : Seputo
“นี่มันอะไรกัน ทุกวันนี้จะหันไป ทางไหน ท�ำไมเห็นแต่ ‘แมว’ เต็ม ไปหมด” หนึ่งในเสียงสนทนาที่เรา บังเอิญได้ยินจากโต๊ะข้างๆ พลางให้ หยุดคิดได้เหมือนกันว่า ท�ำไมอยู่ๆ วัยรุ่นไทยถึงหันมาชื่นชอบแมวกัน มากขนาดนี้ เราลองไปหาค�ำตอบกัน
กับแมวบ้าง จนปัจจุบนั มีคาเฟ่แมวในญีป่ นุ่ มากกว่า 100 แห่งแล้ว ส�ำหรับในบ้านเรา คาเฟ่แมวก็ก�ำลัง ได้รบั ความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดย คาเฟ่แมวที่ว่านั้น ความจริงแล้วก็คือร้าน เบเกอรี่ที่พิเศษกว่าร้านทั่วไปตรงที่ภายใน ร้านจะมีกองทัพแมวน่ารักๆ มาวิ่งเล่น สร้างความรื่นรมย์ให้ผู้มาเยือนได้ลูบไล้ ให้อิ่มเอม ท�ำให้ผู้ที่มาเยือนนอกจากจะ ได้อร่อยแล้ว ยังได้เล่นได้หยอกเย้ากับ เจ้าเหมียวขีอ้ อ้ นกันอย่างใกล้ชดิ เรียกได้วา่ เหมาะกับวิถคี นเมืองทีเ่ ร่งรีบ อาจไม่มเี วลา เลี้ยงและดูแลสัตว์ด้วยตัวเอง การมีพื้นที่ ตรงนีก้ น็ า่ จะช่วยสนองความต้องการเล็กๆ เมื่ออยากเล่นสนุกกับสัตว์ได้บ้าง
Cat Breading คือแมวที่มีขนมปังอยู่บน ใบหน้า เกิดจากความสนุกของเจ้าของ ที่ อ ยากหยอกล้ อ กั บ แมวในมุ ม ตลกๆ ดู บ ้ า ง ซึ่ ง ทั้ ง หมดนี้ ก� ำ ลั ง ระบาดอยู ่ ใ น กลุม่ วัยรุน่ บนโลกออนไลน์ทสี่ นุกกับการเล่น ธี ม แมวกั น อย่ า งคั บ คั่ ง บ้ า งก็ ห ยอกล้ อ อย่างไรก็ตาม แมวก็ยังขึ้นชื่อว่า เสี ย ดสี ป ระเด็ น สั ง คม บ้ า งก็ ท� ำ สนุ ก ๆ ไม่มีประเด็นอะไร มีเพียงแค่ความบันเทิง เป็ น สิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ ต ้ อ งการความรั ก “แมว” วัฒนธรรมป๊อปๆ ของวัยรุ่น เป็นที่ตั้ง ความเอาใจใส่ หากได้ มี โ อกาส ทุกวันนี้ เมือ่ เข้าสูโ่ ลกโซเชียลเน็ตเวิรค์ เลี้ ย งดู เ ขาแล้ ว ก็ ค วรทะนุ ถ นอม สิ่งที่เรามักจะเจอกันเต็มนิวส์ฟีดก็มักจะ “Cat Cafe” พืน้ ทีเ่ หมียวๆ ยึดใจวัยรุน่ ให้ ส ม�่ ำ เสมอ อย่ า แค่ ห ลงเห่ อ เป็ น และไม่ใช่แค่กระแสความนิยมชมชอบ แฟชั่นกันเท่านั้น มีแต่แมว แมว แมว แล้วก็แมว ทัง้ เจ้ามารุ, ทาร์ด, ไมเคิล, การ์ฟลิ ด์, คูเปอร์, คิตเลอร์ เจ้าเหมียวจะหยุดอยูแ่ ค่ในจอคอมพิวเตอร์ และยังมีอีกมากมายที่ดาหน้ากันเข้ามา แต่ยังล้นทะลักออกมาในโลกแห่งความ Cataholic Cafe จนแทบจะยึ ด ครองโลกอิ น เทอร์ เ น็ ต ไป เป็นจริง จนมีธุรกิจแบบเหมียวๆ ผุดขึ้น ทั้งหมดแล้ว ค�ำถามต่อมาก็คือ อะไรเป็น รั บ กระแสไม่ แ พ้ ก ารงอกของดอกเห็ ด โครงการ Ozono Plaza ซอยสุขมุ วิท 39 สาเหตุให้เจ้าสัตว์เลี้ยงสี่ขา ขี้อ้อน และ เพราะในปัจจุบันมีสิ่งที่เรียกกันว่า “Cat โทร. 08-4664-4936, 08-1539-2824 Purr Cat Cafe Club ชอบเอาแต่ใจอย่าง “แมว” กลายเป็น Café” พืน้ ทีท่ คี่ นรักแมวจะได้มาผ่อนคลาย กันอีกด้วย ซึ่งหากจะเสาะหาถึงที่มาของ ซอยสุขุมวิท 53 โทร. 0-2108-3604 ปรากฏการณ์ท่วมจอในโลกออนไลน์ Chico Interior Products & Cafe คอนเซ็ ป ต์ แ มวที่ นิ ย มเล่ น กั น ในโลก การเกิดธุรกิจรูปแบบนี้ คงต้องย้อนกลับ ออนไลน์นั้นมีมากมายหลายแบบด้วยกัน ไปเมื่ อ ปี 2005 ฮานาดะ โดริ ม าสะ ซอยสุขุมวิท 53 โทร. 0-2258-6557 Kitty Cat Cafe ไม่ว่าจะเป็น LOL Cats คือแมวที่อยู่ใน ชาวญี่ปุ่น คือผู้ที่เริ่มต้นท�ำธุรกิจคาเฟ่แมว แอ๊คชั่นตลกๆ ก�ำกับข้างใต้ด้วยข้อความ เป็นคนแรก โดยตั้งชื่อคาเฟ่ของเขาว่า ซอยอินทราภรณ์ ข�ำๆ ทีเ่ มือ่ เห็นทีไรก็อดยิม้ ไม่ได้ทกุ ที หรือ “เนโกะ โนมิต” ด้วยความทีช่ าวญีป่ น่ ุ ส่วนใหญ่ หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ จะเป็น Long Cat แมวทีเ่ จ้าของอุม้ เพือ่ โชว์ จะอาศัยกันตามอพาร์ตเม้นท์ทไี่ ม่อนุญาต โทร. 0-2934-6633 ความยาวของช่วงล�ำตัว ซึ่งถ้ามองเผินๆ ให้เลี้ยงสัตว์ เขาจึงเกิดไอเดียในการเปิด ก็ดูตลกแปลกตาดีเหมือนกัน หรือจะเป็น พื้นที่เพื่อให้คนรักแมวได้มีโอกาสใกล้ชิด 105
คุยนอกจอ
“วัฒนธรรมชุบแป้งทอด” เปิบความคิด สะกิดปัญญา เรื่อง : Commentator
หากคุ ณ เป็ น คนหนึ่ ง ที่ นึ ก สงสั ย ใคร่ รู ้ กับ ประเด็ นรอบตัว ชอบตั้งค�ำถาม ชวน ถกเถี ย งถึ ง เรื่ อ งต่ า งๆ ที่ ก� ำ ลั ง เกิ ด ขึ้ น ในสั ง คมกั บ คนนั้ น ที ค นนี้ ที วั น นี้ คุ ณ ได้ เพื่อนใหม่แล้ว รายการสารคดีชบุ แป้งทอดทีด่ แู ล้วสมองดูดซับ ความรู้ได้ง่าย ทั้งยังชวนให้ขบคิดในหลายแง่มุม กับประเด็นสังคมแสนใกล้ตัว ผ่านคนจากแวดวง ต่างๆ ที่มาร่วมถกแถลงในหัวข้อเดียวกัน ไม่ว่า จะเป็นปรากฏการณ์ตา่ งๆ วัฒนธรรมร่วมสมัยใดๆ ของสังคมไทย ที่มาตั้งวงชวนคุยได้อย่างน่าสนใจ และน่าติดตาม
จุดประเด็นให้คิดต่อ ไม่ปล่อยผ่าน
จุดเด่นของรายการนี้อยู่ตรงที่การน�ำประเด็น ง่ายๆ แต่ใกล้ตัว มาเขย่าใหม่ ใส่ส่วนผสมทาง ความคิดที่เปรียบได้กับเครื่องปรุงทางปัญญา เพื่อ พูดคุยและคิดต่อยอดจากประเด็นนั้นๆ ซึ่งนับว่า เป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้ผู้ชม ไม่ เ พี ย งแต่ รั บ สารเพี ย งฝ่ า ยเดี ย ว แต่ ร ายการ
106
ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เปิดสมอง เติมความคิดใหม่ๆ ลงไป ไม่ใช่แค่เพียง ฟังแล้วปล่อยผ่านเลยไปเช่นเคย สามารถต่อเติมความคิดจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็ น สี่ จากสี่ เ ป็ น แปด ด้ ว ยเจตนาที่ ดี ที่ ห วั ง ให้ ผู ้ ช มเกิ ด พลั ง ทางปั ญ ญาแบบทบเท่ า ทวี คู ณ ทางความคิ ด ซึ่ ง ต่ อ ยอดไปได้ เ รื่ อ ยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ความคิดเห็นต้องหลากหลาย
แง่มุมที่ชวนให้ตั้งข้อสังเกตของรายการนี้คือ “แขกรับเชิญ” ที่ได้เชื้อเชิญ ให้ ม าถกประเด็ น กั น มี บ ้ า งในบางเทปที่ เ รามั ก จะเห็ น คนที่ อ ยู ่ ใ นแวดวง เดียวกันเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงเกิดค�ำถามขึ้นว่า ถ้าเป็นเช่นนีแ้ ล้ว ความคิดเห็น ที่สื่อสารออกมาจะกว้างและครอบคลุมถึงขนาดเป็น “ความเห็นของมวลชน ในภาพรวม” ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเราปฏิเสธไม่ได้วา่ กรอบความคิดของ คนในแต่ละสาขาอาชีพมักมีตรรกะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าแขกรับเชิญ เหล่านั้นมีแต่บุคคลที่มาจากคนในวงการเดียวกันแล้ว สิ่งที่สื่อสารออกมาอาจ จะติดกรอบของ “อคติ” เข้าได้ ฉะนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าส่วนผสมทางความคิด มีที่มาที่หลากหลาย ทั้งที่มาจากต่างวงการ ต่างสาขาอาชีพ ต่างเพศ ต่างวัย ทัง้ หมดนีก้ เ็ พือ่ ให้รายการมีแง่มมุ ความคิดทีไ่ ม่จำ� เจจนเกินไป อีกทัง้ ยังช่วยให้ ครอบคลุมความคิดเห็นของมวลชนในภาพรวมได้อย่างแท้จริง
ชวนคนไทย ใช้ความคิด
ในด้านของประเด็นที่รายการนี้หยิบยกมาพูดถึงนั้น นับว่ามี ความหลากหลาย ทั้งยังเป็นเรื่องราวรอบตัวที่ผู้ชมทุกคนเข้าถึง ได้ง่าย ไม่ไกลตัวจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็น “ท�ำไมต้องกวดวิชา” ที่รายการตั้งค�ำถามขึ้นมาว่า ท�ำไมเด็กไทยถึงต้องกวดวิชากัน มากมายถึงขนาดทีค่ ล้ายจะเป็นเงาของวงการการศึกษาไปเสียแล้ว
หรื อ จะเป็ น หั ว ข้ อ “เรามี สิ ท ธิ์ ที่ จ ะขี้ เ กี ย จ” ที่ ช วนพู ด คุ ย ในเรือ่ งความขยัน ค่านิยมทางสังคมทีถ่ กู ตีตราว่าเป็นสิง่ ทีด่ ี ทว่า ในบางมุมทีเ่ ราเริม่ เหนือ่ ยล้า มันก็ยงั แอบขยักให้สมองเราขบถขึน้ มาเบาๆ ว่า แล้วคนอย่างเราไม่มีสิทธิ์ที่จะขี้เกียจกับใครเขาบ้าง เลยหรื อ หรื อ จะเป็ น ประเด็ น ฮ็ อ ตฮิ ต อย่ า ง “ท� ำ ไมต้ อ งใส่ เครื่องแบบ” ที่ก�ำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ในช่วงนี้ หรือจะเป็นเรื่อง “แชะ แชร์ โชว์” ที่ตั้งค�ำถามว่า ท�ำไมคนเราถึงชอบถ่ายรูปก่อนรับประทานอาหารและแชร์ลง โซเชี ย ลเน็ ต เวิ ร ์ ค และอื่ น ๆ อี ก มากมาย ที่ ส ะท้ อ นให้ เ ห็ น ทั้งแง่มุมของความคิดเห็นส่วนบุคคล ไปจนถึงเหตุผลทางสังคม และวัฒนธรรมที่สอดรับขึ้นมาอีกด้วย
เหนื อ สิ่ ง อื่ น ใด ถ้ า ทุ ก คนได้ มี โ อกาสติ ด ตามชม รายการนี้ในทุกตอนแล้ว เชื่อว่าสังคมในอนาคตน่าจะมี ผู้บริโภคที่ดีเพิ่มขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะหากคุณ เริ่มสังเกต เริ่มคิด เริ่มตั้งค�ำถามต่อเรื่องใดๆ ก็ตาม ที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าคุณจะประสบพบเจอเรื่องนั้นด้วย ตัวเอง หรือจะเป็นเรื่องที่สังคมก�ำลังกล่าวถึงกันอยู่ ก็ตาม ต่อไปสมองของคุณจะตอบรับด้วยการ “ฉุกคิด อย่างอัตโนมัติ” ไม่ปล่อยให้เรื่องต่างๆ ไหลผ่านเลยไป เช่นเดิมแน่นอน 107
Tell Tales
ตัวจริง เรื่อง : ประภาส ชลศรานนท์
พรุง่ นีแ้ ล้วทีผ่ มจะได้ไปพบคนทีช่ อื่ รูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนผมทุกอย่าง มายื น ล้ อ มผม ก็ ค งไม่ มี ท างท� ำ ให้ ผ ม สุธเี หมือนผม ฟั น ทุ ก ซี่ ขนทุ ก เส้ น รอยบุ ๋ ม ตรงคาง คิ ด ว่ า ความคิ ด นี้ เ ป็ น ความคิ ด ที่ ดี ไ ปได้ ผมยอมรับว่าผมตื่นเต้นมากจนนอน ไม่หลับ และหลังจากที่ผมขึ้นรถไฟใต้ดิน ไปสนามหลวง เพื่อไปวิ่งรอบสนามหลวง มาแล้วสามรอบ ผมก็พบว่าผมยังนอน ไม่หลับอยู่ดี แล้วไอ้การทีผ่ มลุกขึน้ มาจากเตียงเพือ่ มาเขียนบันทึกกลางดึกอย่างนี้ก็ไม่ใช่วิสัย ของผมเสียด้วย จะว่าไปแล้วผมไม่ชอบ เขียนบันทึกนัก แต่จะให้ผมไปสนามหลวง เพือ่ วิง่ อีกสามรอบคงไม่ไหว ไม่ใช่ผมไม่มี แรงหรืออะไร รถไฟฟ้าใต้ดนิ ต่างหากทีไ่ ม่ น่าหยุดวิง่ ตอนเทีย่ งคืน เพราะผมไม่ชอบเลย ที่จะต้องไปสนามหลวงโดยขึ้นรถสองแถว ใต้ดิน แล้วยังไอ้ตุ่มใสๆ ตรงนิ้วโป้งของผม อีกล่ะ มันก่อกวนการจับปากกาของผม เหลือเกิน แต่ผมคิดว่าอย่างไรเสีย ผมก็ จะทนเขียนมันไปเรื่อยๆ เพราะถึงผมจะ ไม่ชอบเขียน แต่ผมก็คิดว่าผมชอบอ่าน บางทีผมอาจจะรู้สึกดีกว่าตอนนี้ เมื่อตอน กลับมาอ่านมันอีกครั้งหนึ่ง อ่านมันหลังจากทีค่ นื อันเลวร้ายของผม คืนนี้ผ่านไปแล้ว ผมก� ำ ลั ง นึ ก ถึ ง ผู ้ ช ายคนที่ ผ มจะพบ วันพรุง่ นี้ แน่นอน ชือ่ ของเขาเหมือนชือ่ ผม
108
หรือแม้แต่ลายนิ้วมือ ผมเคยสงสัยว่าจะมี มนุษย์โคลนนิ่งคนไหนบ้างไหมที่หน้าตา ของเขาไม่เหมือนต้นแบบเลย ผมรู้ว่ามัน เป็นไปไม่ได้ แต่เหตุการณ์หลายอย่าง ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ก็เคยมีทีท่าว่าจะเป็นไป ไม่ได้ตงั้ หลายครัง้ แล้วมันก็เป็นไปได้ทกุ ที มั น คงจะดี ไ ม่ น ้ อ ยถ้ า มั น จะเกิ ด ขึ้ น กั บ มนุษย์โคลนนิ่งคนที่ผมนึกถึงอยู่ ผมว่า ผมคงจะไม่ตื่นเต้นอย่างที่เป็นอยู่นี้ ถ้าเขา จะมีอะไรสักอย่างที่แตกต่างไปจากผม บางทีเขาอาจจะมีหูดบางเม็ดที่ขึ้นมา ทีหลัง หรืออาจจะมีขี้แมลงวันสักปื้นหนึ่ง ขึ้นมาแถวๆ แก้ม ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ผมยังสงสัยตัวเองอยูเ่ ลยว่า ท�ำไมวันนัน้ ผมถึ ง คิ ด อยากมี ใ ครสั ก คนที่ มี ห น้ า ตา เหมือนตัวเองทุกกระเบียดนิ้ว เหมือนทั้ง ท่าเดิน เหมือนทั้งการพูดจา และรวม ไปถึงเสียงเรอ ผมเคยได้ ยิ น นั ก เทศน์ ห ลายคนพู ด ว่าน่าจะเป็นเรื่องดี เพราะมันอาจท�ำให้ เราเห็ น ภาพตั ว เองในแบบที่ เ ราไม่ เ คย เห็ น ไม่ ใ ช่ เ ห็ น ภาพตั ว เองอย่ า งที่ เ ห็ น ในกระจกเงา หรือดูจากวิดีโอที่ถ่ายไว้ แต่ถึงวันนี้ ต่อให้นักเทศน์อีกสิบคน
ผมยอมรับว่าสามสี่ปีมานี้ ผมอธิษฐาน ต่อหน้าพระเสมอว่า ถ้าหากผมเจอนาย สุธีโคลนนิ่งคนนั้น ขอให้เขาไว้ผมทรงอื่น ที่ไม่เหมือนผม หรืออย่างน้อยที่สุด ถ้าผม ของเขายาวเท่ากันกับของผม ขอให้เขา หวีเป๋ไปทางซ้าย อย่าได้หวีเป๋มาทางขวา เหมือนผมเลย มันคงเป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ จะมี ใครที่ไหนหวีผมเป๋ไปทางซ้ายได้ ถ้าขวัญ บนหัวของเขาอยู่ทางซ้ายเหมือนของผม ผมคิดว่าผมคงกลัวอะไรบางอย่างอยู่ แล้วเขาจะกลัวเหมือนผมไหม ถ้าเขา เหมือนผมทุกอย่างจริง ผมหยุดเขียนไปเกือบสิบนาที รู้สึกได้ เลยว่าไอ้ตุ่มใสๆ ตรงนิ้วโป้งของผมมันโต ขึ้นอีกเกือบเท่าหนึ่ง หรือว่าผมจับปากกาแน่นเกินไป? อันที่ จริงผมควรจะหยุดเขียน แล้วใช้เวลาตอนนี้ ไปวิ่งรอบสนามหลวงจะดีกว่า…ใช่ไหม ผมถามเองแล้วผมก็ตอบตัวเองได้เลย ว่าไม่มีทาง ถึงอย่างไรผมก็ไม่มีทางท�ำ อย่างนัน้ ผมจะไม่ยอมให้ไอ้เด็กรถสองแถว ใต้ดินที่ไหนเอากระบอกตั๋วมาเคาะหัวผม เล่นอีก ผมไม่เข้าใจเลยว่าเขารับไอ้คน
นิสัยแย่ๆ พรรค์นั้นมาท�ำงานได้อย่างไร อย่าว่าแต่ให้งานท�ำเลย แค่ให้ผ่านการ คัดเลือกดีเอ็นเอระดับสิบเอ็ด มันก็ไม่นา่ จะ ผ่านอยู่แล้ว ไม่รู้ว่ามันผ่านการคัดเลือก ใหญ่เมื่อปี 2620 มาได้ด้วยวิธีไหน สงสัย ไม่ติดสินบนก็คงปลอมแปลงไมโครชิป หรื อ ว่ า เจ้ า เด็ ก รถสองแถวคนนั้ น มันเป็นมนุษย์โคลนนิ่ง ผมคงต้องท�ำอะไร สักอย่างแล้ว ผมกลั บ มาเขี ยนบันทึกอีกที ตอนนี้ เกือบจะตีสองแล้ว ผมเพิ่งกลับมาจากสนามหลวง เปล่า เลย ผมไม่ได้วงิ่ ออกก�ำลังกายให้มนั เหนือ่ ย อะไร ผมตัง้ ใจเพียงแค่จะไปขึน้ รถสองแถว ใต้ ดิ น คั น นั้ น เพื่ อ จะได้ เ จอเจ้ า เด็ ก รถ สองแถวนิสัยเสียที่ผมคิดว่าคงเป็นมนุษย์ โคลนนิ่งที่ทางต�ำรวจต้องการตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นอย่างที่ผมนึกไว้ มันเป็น มนุษย์โคลนนิ่งจริงๆ ผมไม่ได้เจอตัวมันหรอก มันถูกเอาตัว ไปท�ำลายตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว ขาไปสนามหลวง ผมนั่งมองเด็กรถ สองแถวคนใหม่อย่างไม่วางตา เท่าที่ผม เห็นจากหน้าตาและท่าทางการโหนรถของ เขา ผมว่าเขาน่าจะเป็นคนดีกว่าคนก่อน เพราะผมไม่เห็นเขาใช้กระบอกตัว๋ แกว่งไป
แกว่งมาเลย ผมตัง้ ใจว่าคราวหน้าถ้าได้ขนึ้ สองแถวอีกครัง้ ผมจะพยายามรูจ้ กั เขาให้ดี กว่านี้ บังเอิญขากลับจากสนามหลวงครัง้ นี้ ที่นั่งข้างหลังมันเต็มหมด ผมจึงไปนั่งข้าง หน้า ข้างๆ คนขับซึง่ มันท�ำให้ผมได้รู้เรื่อง อะไรที่ผมไม่รู้อีกมากมาย ความจริงบริการรถสองแถวใต้ดนิ นี้ จะ ว่าไปแล้วตัวผมนั้นถือว่าเป็นลูกค้าประจ�ำ คนหนึง่ เลยทีเดียว เพราะเวลาหลังเทีย่ งคืน ที่รถไฟฟ้าใต้ดินสายสนามหลวงไปศูนย์ ไฮเปอร์ดิจิทัลหยุดวิ่ง ผมก็ต้องใช้บริการ รถสองแถวเป็นประจ�ำ ผมไม่เคยได้คุยกับ คนขับเลย แม้วา่ จะแอบช�ำเลืองมองเขาอยู่ บ่อยๆ ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นชายวัยกลางคน ที่น่ารักคนหนึ่ง แม้จะไว้หนวดปรกปาก จนท� ำ ให้ ดู เ หี้ ย มเกรี ย มไปเสี ย สั ก หน่ อ ย เขาเป็นคนคุยสนุก ชื่อของเขาฟังดูแปลก มาก เขาชื่ อ สมชาย ผมไม่ เ คยได้ ยิ น คนชื่อแปลกๆ อย่างนี้เลย ลุงสมชายคนนี้คงเป็นหนอนไมโครชิป ตั ว ยง ผมแอบเห็ น ขั้ ว เสี ย บโผล่ ม าจาก ทัดดอกไม้ของเขา มันมีขนาดใหญ่นา่ เกลียด คล้ายๆ ไส้อั่วล�ำพูน ผมเดาว่ามันน่าจะ ต่อไว้กับเมมโมรี่ที่ฝังในหัวเขาไม่ต�่ำกว่า 100 กิ๊กกะไบต์ มิน่าเล่า เขาจึงมีความรู้ มากมายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นคนบนถนน ทั่วไปมีมาก่อน
ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาตีสองครึ่งแล้ว ผมเตรียมเอาปืนเลเซอร์มาชาร์จไฟไว้ ผมตัดสินใจที่จะไม่นอนในคืนนี้ เพราะถ้า ผมฝืนตัวลงนอนบนเตียงแล้วนอนไม่หลับ ผมคงต้องเครียดมากกว่าเดิม ตุ่มใสๆ ที่นิ้วโป้งของผมหายไปแล้ว ผมเอาเข็มมาเจาะให้น�้ำมันไหลออกไป แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่าท�ำไมผมไม่รู้สึก เจ็บเลย บางทีผมอาจเครียดมากเกินไป จริงๆ เสียงเตือนจากเครื่องชาร์จปืนเลเซอร์ ที่ดังขึ้นเมื่อครู่ท�ำให้ผมตกใจมาก ห้องนี้ มันคงจะเงียบเกินไป หลังจากทีผ่ มดึงปลัก๊ เครื่องชาร์จปืนเลเซอร์ออก ผมก็ตัดสินใจ ทีจ่ ะชาร์จเครือ่ งอืน่ ต่อทันที คราวนีผ้ มพ่วง ชาร์จดาบเลเซอร์ ค้อนเลเซอร์ เคียวเลเซอร์ และตะหลิ ว เลเซอร์ ไ ว้ ด ้ ว ยกั น ทั้ ง หมด ใครจะว่าผมขี้ขลาดตาขาวอย่างไรผมไม่ สนใจหรอก ผมต้องมั่นใจว่าผมมีอาวุธที่ พร้อมทีส่ ดุ ก่อนทีจ่ ะเผชิญหน้ากับมันพรุง่ นี้ ลุ งสมชายคนขั บ รถสองแถวแกบอก ผมว่า มนุษย์โคลนนิง่ อาจท�ำร้ายร่างกายเรา ในระหว่างพูดคุยได้โดยไม่ใ ห้เ ราตั้งตัว พวกนี้ มั ก มี อ ารมณ์ ผั น แปรตลอดเวลา ผมไม่คอ่ ยเข้าใจค�ำอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ ของแกเท่าไหร่หรอก ว่าท�ำไมมนุษย์โคลนนิง่ ทีเ่ หมือนต้นแบบทุกอย่าง แต่เมือ่ เวลาผ่านไป 109
ถึงหนึง่ ในสิบของเวลาชีวติ ดีเอ็นเอของมัน จะเริ่มบิดเบี้ยว ลุงสมชายแกบอกว่า จาก ข่าวสารทีแ่ กเพิง่ รับมาระบุว่า มันอาจจะ เกิดอะไรขึ้นได้มากมายกับมนุษย์โคลนนิ่ง โดยที่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ มิ น ่ า เล่ า โครงการลั บ ก� ำ จั ด มนุ ษ ย์ โคลนนิง่ จึงเกิดขึน้ ด้วยงบประมาณมหาศาล ลุ ง สมชายแกยั ง บอกอี ก ว่ า ถึ ง ตอนนี้ โครงการนี้ใกล้จะลุล่วงแล้ว หมายความว่าอย่างไร มนุษย์โคลนนิ่ง ถูกก�ำจัดใกล้หมดแล้วหรือ? ผมมัวแต่ไปท�ำอะไรอยู่ จึงปล่อยให้ เป็นคนเกือบกลุ่มสุดท้ายที่แจ้งให้ทางการ มาก�ำจัดมนุษย์โคลนนิ่งของตัวเอง แต้ม ประชากรเกรดบีของผมอาจถูกลดขั้นก็ได้ ตอนที่รถสองแถวจอดส่งผมที่หน้าตึก ลุงสมชายยื่นหน้ามาบอกผมอีกว่า จาก สถิ ติ เกื อ บร้ อ ยเปอร์ เ ซ็ น ต์ ข องมนุ ษ ย์ โคลนนิง่ จะมีนสิ ยั เปลีย่ นไปในทางโหดร้าย มากขึน้ แกบอกว่าให้ผมระวังตัวให้ดี พวกนี้ ชอบท�ำลายข้าวของ ชอบลักขโมย ชอบ ข่ ม ขู ่ และสุ ด ท้ า ยพวกนี้ จ ะเปลี่ ย นไป จนกลายเป็นมนุษย์ที่มีนิสัยชอบฆ่าคน ถึงตอนนีผ้ มว่าเราต้องยอมรับกันแล้วว่า มนุษย์คงเป็นได้เพียงผู้รักษาและผู้ท�ำลาย เท่านั้น มนุษย์ไม่น่าคิดเหิมเกริมยกตัวเอง ขึ้นมาเป็นผู้สร้างอย่างพระเจ้าได้ เพราะ ถึงที่สุดแล้ว สิ่งที่มนุษย์คิดว่าตัวเองเป็น ผูส้ ร้างนัน้ ทีแ่ ท้แล้วมันคือการท�ำลายชัดๆ
แล้ว ความตืน่ เต้นยังคงวิง่ วนอยูร่ อบๆ ตัว ผมไม่ได้หายไปไหน บางทีผมก็มองเห็นว่า มันวิ่งเร็วกว่าเดิมด้วยซ�้ำ อาวุธเลเซอร์ ของผมชาร์จไฟเต็มหมดแล้ว มีอะไรให้ผมต้องท�ำอีกไหม ผมส�ำรวจ ความคิดตัวเองอีกทีว่ามีอะไรให้ผมต้อง ชาร์จเพิม่ อีกไหม ไดรเป่าผม ใช่! ผมลืมไป เสียสนิท ผมจ�ำเป็นต้องใช้มันทันทีในวัน พรุ่งนี้ ทันทีที่ผมรู้ว่าเจ้าสุธีมนุษย์โคลนนิ่ง คนนั้นมันหวีผมเป๋ไปทางเดียวกับผม ผมจะไม่ยอมให้มนั ไว้ผมทรงเดียวกับผม เป็นอันขาด อย่างไรผมก็ไม่มีทางยอม ผมย้ายมาเขียนที่ระเบียงตึกแล้ว เก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือในห้องนั่งไม่ สบายเอามากๆ พนักพิงของมันหนาจนผม พิงไม่ถนัด ไม่รู้ว่าช่างประจ�ำตึกมาเปลี่ยน ผ้านวมหุม้ พนักพิงตัง้ แต่เมือ่ ไร พิงไม่ถนัด เอาเสียเลย แสงไฟตามถนนรอบๆ ตึกยังคงเปิด สว่างอยู่ ผมก�ำลังมองหาสิง่ มีชวี ติ สักอย่าง ทีอ่ ยูบ่ นถนน ดึกดืน่ ป่านนีแ้ ล้วคงไม่มใี คร ออกมาท�ำอะไรนอกตึกแน่ ทีเ่ กาะกลางถนน ผมพอเห็นเงาตะคุ่มๆ ของต�ำรวจจราจร ที่ยังคงนั่งอยู่ที่โดมสัญญาณไฟ เขาชื่อ อะไรนะ...จ่าสมศักดิ์...ใช่แล้ว ชื่อสมศักดิ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีชื่อที่แปลกมาก ใครๆ ก็รวู้ า่ จ่าสมศักดิม์ มี นุษย์โคลนนิง่ จากตัวเขาคนหนึง่ มันถูกก�ำจัดไปเมือ่ เดือน ที่แล้วนี่เอง ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ผมหยุดเขียนไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมยังจ�ำได้ดี นาฬิ ก าตอนนี้ อี ก สิ บ ห้ า นาที ก็ จ ะตี สี่ จ่าสมศักดิ์นัดจ่าสมศักดิ์ที่เป็นมนุษย์
110
โคลนนิง่ มาพบกันทีส่ นามกีฬา โดยบอกว่า ให้มาดูกายกรรมจากดาวพลูโตด้วยกัน ซึ่ ง ความจริ ง แล้ ว เป็ น เรื่ อ งหลอกลวง กายกรรมนั้นมาจากดวงจันทร์แถวดาว เสาร์หรือดาวพฤหัสนี่เอง ไม่ได้มาจาก ดาวพลูโตเลย ตอนทีส่ องคนยืนคุยกันอยูท่ สี่ นามกีฬา นั้น ผมหลับอยู่กับต�ำรวจนักแม่นปืนฝูง ใหญ่แถวๆ เก้าอี้คนดู ผมยังจ�ำภาพที่เจ้า โคลนนิง่ ตัวนัน้ มันล้วงกระเป๋าจะหยิบอาวุธ มาท�ำร้ายจ่าสมศักดิ์ แสงเลเซอร์เกือบห้าสิบเส้นวิง่ ออกจาก กระบอกปืนของต�ำรวจเข้าหาร่างของมัน อย่างพร้อมเพรียง ไม่ทันถึง 5 วินาที มันก็เป็นจุณไปแล้ว พรุ่งนี้ผมก็จะใช้แผนเดียวกันนี้ก�ำจัด เจ้าสุธีโคลนนิ่ง ผมขอก�ำลังต�ำรวจไปร้อยกว่านาย ใคร จะว่าผมท�ำอะไรเกินเลยไป หรือจะว่าผม ขี้ ข ลาดตาขาวก็ เ ชิ ญ ผมไม่ ส นหรอก เพราะถ้าผมถูกลดเกรดประชาชนลงไปอีก ผมจะอยู่ในเมืองนี้อย่างไร ผมอยากรู้ใครจะช่วยผมด้วย เจ้าสุธี ตัวปลอมคนนั้นหรือ มันแทบจะไม่มีลมเอาเสียเลย ใครจะไปคิดว่าอากาศตอนกลางคืน จะร้อนอบอ้าวอย่างนี้ แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว ก็ไม่รู้ นาฬิกาของผมเพิ่งพังไปเมื่อกี้นี้เอง ผมไม่ น ่ า ขว้ า งมั น ลงพื้ น เลย ผมคงจะ หงุดหงิดเกินไปทีอ่ ากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่าผดเม็ดใหญ่ขึ้น มันขึ้นอยู่
กลางหลังผม หรือมันมีมาตั้งนานแล้ว ผมคงไม่ได้ ไปสังเกตมันเองต่างหาก ผมเอามือเอือ้ มไป จับมันดู ขนาดมันใหญ่ประมาณลูกปิงปอง ได้ มินา่ เล่า ผมถึงนัง่ พิงพนักเก้าอีไ้ ม่ถนัด พิงแล้วมันนูนๆ อย่างไรพิกล ผมคิดว่าผมคงจะไปหาหมอในวันพรุง่ นี้ ตอนบ่ายๆ จะได้ให้หมอดูไอ้ผดเม็ดนี้ เสียหน่อย ขอให้ผมท�ำธุระส�ำคัญเสร็จก่อน เถอะ ผมลองกดเนื้อนูนๆ ข้างหลังดูแล้ว มันนิ่มคล้ายลูกชิ้นทีเดียว ผมว่าผมไม่รู้สึกเจ็บนะ ผมก�ำลังนึกไปถึงวันที่ผมไปสมัครเป็น อาสาสมั ค รในโครงการโคลนนิ่ ง มนุ ษ ย์ หนึ่งล้านคน ผมจ�ำได้ว่าผมไม่ได้มีความ กลัวแม้แต่น้อย ใครๆ ก็รู้ว่าเทคโนโลยี โคลนนิ่งน่ะมันมีมากว่าร้อยปีแล้ว เรา โคลนนิ่งพืชและสัตว์กันเป็นว่าเล่น มีแต่ มนุษย์เท่านั้นแหละที่กฎหมายเพิ่งยอมได้ เมื่อยี่สิบกว่าปีมานี้ ความจริงผมน่าจะฟังค�ำทักท้วงจาก ลินดาบ้าง เธอบอกว่าโลกนี้ ไม่ควรมีคน สองคนที่มีทุกอย่างเหมือนกัน ผมน่าจะ เชื่อเธอว่าความเป็นมนุษย์จะหมดไปทันที ที่มีคนอีกคนหนึ่งเหมือนกับเราทุกอย่าง ผมเคยเถียงเธอว่าแล้วฝาแฝดเล่า เธอ ยืนยันว่าฝาแฝดเป็นมนุษย์คนละคนกัน ไม่ใช่คนเดียวกัน ผมยอมรั บ ว่ า ผมเสี ย ใจที่ เ ธอไปจาก ชีวิตผม เธอบอกว่าเธอไม่สามารถอยู่ร่วม กับคนทีเ่ ถียงข้างๆ คูๆ ได้ แต่ทจี่ ริงผมรูว้ า่ เธอจากไปเพราะอะไร
เธอคงไม่ ส ามารถมี ค นรั ก ที่ มี อี ก คน หนึ่งในโลกนี้เหมือนกับเขาทุกอย่างได้ แล้ ว ไอ้ บ ้ า นั่ น มั น ก็ เ หมื อ นผมจริ ง ๆ เสียด้วย มี อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ซึ่ ง ถ้ า ผมไม่ บั น ทึ ก ไว้ บันทึกฉบับนีก้ ค็ งไม่สมบูรณ์ ลุงสมชายเพิง่ บอกกับผมในวันนีเ้ องว่า ถ้าเรายังปล่อยให้ มนุษย์โคลนนิ่งของเราลอยนวลอยู่ มนุษย์ โคลนนิ่งบางคนอาจจะมีโครโมโซมหรือ ดีเอ็นเออะไรสักอย่างนีแ่ หละเปลีย่ นแปลง อย่างรุนแรง และแตกเซลล์มากขึ้น ผมฟังแล้วผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไร นักหรอก เพียงแต่รู้สึกว่ามันสอดคล้อง กับข้อความแปลกๆ ที่ลินดาฝากไว้ใน โทรศัพท์เมื่อเดือนก่อน เธอบอกว่าถ้าเรา ปล่อยให้สุธีตัวโคลนนิ่งมีชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ เราอาจจะมีสุธีเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าสองคน นี่คุณก�ำลังจะบอกผมหรือว่า เจ้าสุธี ตัวปลอมตัวนัน้ มันจะเติบโตแตกตัวเหมือน เชื้อโรค ผมว่ามันเป็นความคิดที่บ้าที่สุด
ถนนทั้งเดือนเหมือนอย่างปีที่แล้วเป็นแน่ ผมเอาอาวุธเลเซอร์ของผมใส่ถุงผ้ามา วางไว้บนระเบียงเพื่อรอที่จะยกมันขึ้นรถ ผมยังสงสัยอยู่ว่าท�ำไมมันถึงหนักขนาดนี้ มันหนักจนผมเดินแทบไม่ไหว หรือผมไม่ควรเอามันไปทั้งหมด? ผมคงจะเขียนบันทึกหน้านี้เป็นหน้า สุดท้าย ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร ผม จะกลับมาเขียนมันต่อ แสงเรืองๆ เริ่มจับที่ขอบฟ้าแล้ว ผม ไม่ง่วงเลยจริงๆ ผมตัดสินใจทีจ่ ะเอาปืนเลเซอร์ไปเพียง กระบอกเดียว อาวุธทุกอย่างมันพังหมด แล้ว มันพังตอนที่ผมหยิบมันออกมาจาก ถุงแล้ววางลงกับพื้น อันที่จริงจะว่าผม วางลงกับพื้นก็ไม่ถูกนัก ผมขว้างมันลง กับพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มีต่างหาก ผมคง หงุดหงิดเกินไปจริงๆ ผมชักเริ่มรู้สึกว่าตัวผมหนักมากขึ้น ตุม่ ใสๆ ข้างหลังผมมันใหญ่ขนึ้ อย่างนัน้ หรือ บ้าน่า...อย่าบอกว่าอีกไม่นานไอ้ตุ่มใสๆ ทีอ่ ยูข่ า้ งหลังผมมันจะเริม่ เติบโตกลายเป็น คนอีกคนหนึ่ง แล้วนัน่ ต�ำรวจมาจากไหนกันเยอะแยะ นี่มันยังไม่หกโมงเลย ผมนัดพวกเขาไว้ เก้าโมงเช้านี่นา
ผมเพิ่งกลับเข้าไปในห้อง และออกมา ที่ระเบียงอีกครั้งหนึ่ง ผมเข้าไปเพื่อเปิด คอมพิ ว เตอร์ ดู ว ่ า ตอนนี้ มั น กี่ โ มงแล้ ว มี ใ ครบางคนตั ด สายออนไลน์ ข องผม คอมพิวเตอร์ของผมเปิดไม่ได้เลย หรือว่า เจ้าสุธีตัวปลอมนั่นมันรู้ตัวแล้ว ผมว่าผมเห็นพวกเขาเล็งปืนมา มันคงก�ำลังจะเล่นงานผม ผมถอดเสื้อออกเมื่อกี้นี้เอง อากาศ ทางนีน้ ะ ด้านนอกยังคงร้อนอบอ้าวอยู่มาก นี่มัน เดื อ นธั น วาคมแท้ ๆ แล้ ว นี่ ถ ้ า ถึ ง เดื อ น เมษายน ผมว่าคงไม่มีใครออกมาเดินบน
111
112
Think White
พรกับปีใหม่ เรื่อง : คุณหญิงจำ�นงศรี หาญเจนลักษณ์ ภาพ : taeeeee
ปีใหม่กับพรเป็นของคู่กัน เมื่อสมัยอายุยังน้อยและรถไม่ติด เหมือนทุกวันนี้ ข้าพเจ้าไปไหว้ญาติผู้ ใหญ่ทุกปีและรับพรมา ทุกครัง้ ท�ำนองให้เป็นสุข เจริญรุง่ เรือง ท�ำอะไรได้สมใจนึก ฯลฯ ด้วยความที่เป็นคนขี้สงสัย ท�ำให้รู้สึก ประดั ก ประเดิ ด เป็ น ยิ่ ง นั ก เมื่ อ ตั ว เอง กลายเป็น “ผู้ใหญ่” ที่จะต้องให้พรคนอื่น กริ่งใจน่ะสิว่า ค�ำพรเราจะเป็นแค่ค�ำลม เพราะรู ้ ตั ว ว่ า ไม่ มี ว าจาศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ห รื อ อิทธิฤทธิ์ใดๆ ที่จะเชิญทวยเทพมาช่วย ให้พรนั้นประสิทธิผล ให้พรเขินๆ ไปสักพักก็เกิดวิวฒ ั นาการ ขึน้ มาตามธรรมชาติ ทีนพี้ อตัง้ ท่า ใจก็เข้า เกียร์ว่าง หน้าต่างใจเปิดให้ความรู้สึกดีๆ ไหลเข้า แล้วจึงขอให้สิ่งดีงามที่ผู้รับพรได้ เคยท�ำมาส่งผลให้สุขกายสุขใจ ฯลฯ นี่ เป็นวิธีที่เอาเหตุต้นและผลปลายไปอยู่ที่ ตัวผู้รับ ภาษาเทนนิสว่า ตีลูกเข้าไปอยู่ใน คอร์ตเขา ก็ให้เขาได้ใช้ทักษะที่สะสมไว้ ตีลูกได้สวยๆ มี อ ยู ่ ค รั้ ง หนึ่ ง ที่ ข ้ า พเจ้ า ได้ เ ห็ น การ ให้พรที่จ�ำได้ติดใจมาจนทุกวันนี้ เช้าหน้าหนาวเมื่อหลายปีมาแล้ว มีรถ ราคาแพงสีแดงเงาวับวิง่ มาจอดขวับตรงหน้า ศาลาวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร คนขั บ ลงจากรถรี่ ม ากราบพระอาจารย์ แบน ธนากโร ขอให้เจิมรถทีเ่ พิง่ ออกจากอู่ เมื่ อ ท่ า นอาจารย์ เ ดิ น ตามเขาไป ข้าพเจ้าก็ตามดูเหตุการณ์ด้วยความสงสัย ตามฟอร์ม
เจ้าของเปิดประตูรถ นิมนต์ให้ท่านนั่ง สักนิด จับพวงมาลัยสักหน่อย “เพื่อเป็น สิ ริ ม งคล” ท่ า นอาจารย์ ไ ม่ พู ด ปฏิ เ สธ แต่กลับเดินช้าๆ พินิจรถโดยรอบอย่าง สนอกสนใจ ท�ำให้เจ้าของชื่นอกชื่นใจ เป็นยิ่งนัก พอท่ า นหยุ ด ที่ ห น้ า รถ ก็ รี บ กระวีกระวาดน�ำกระแจะเครือ่ งเจิมทีเ่ ตรียม ไว้มาถวาย ท่ า นอาจารย์ ถ ามเสี ย งอ่ อ นโยนว่ า “รถคันนี้เครื่องดีมากใช่ไหม” เจ้าของตอบว่า “ใช่” “อืม…เบรกก็ดีมากใช่ไหม” ตอบว่า “ใช่” อีก “เครือ่ งดี เบรกดี คนขับเป็นคนดี มีสติ ก็เป็นสิริมงคลอยู่แล้ว จะไปเจิมรถใหม่ๆ ให้มนั เปือ้ นท�ำไม” ท่านว่ายิม้ ๆ ความเมตตา ประกายในแววตา นั ย ของเครื่ อ งกั บ เบรกครอบคลุ ม กว้างลึกกว่าตัวรถไปถึงกายใจผู้รับ อะไร เล่าจะประเสริฐไปกว่าสติที่จะรู้ว่าอะไร และเมื่อใดในชีวิตที่ควรจะวิ่ง จะหักเลี้ยว หรือจะถอย รูว้ า่ อะไรและเมือ่ ใดควรจะหยุด และหยุดอย่างไร คิดๆ ดู รถเครื่องแจ๋ว แต่ เ บรกแตกนั้ น ออกจะสยองขวั ญ อยู ่ เบรกดีแต่เครือ่ งเสียบ้างดีบา้ งก็ไปไม่ถงึ ไหน สิ่งที่ท่านอาจารย์ให้เป็นทั้งศีลและพร ศีล
คือเบรก ส่วน “พร” นั้น เปรียญท่านหนึ่ง อธิบายว่า คือสิ่งประเสริฐ สิ่งที่ปรารถนา สิ่งที่ให้ได้ ค�ำฝรั่งที่เห็นทั่วไปตามบัตรอวยพรทั้ง หลายคือ “wish” ไม่ตรงกับค�ำว่า “อธิษฐาน” เพราะ wish ทีเ่ ป็นกริยา หมายถึง ปรารถนา เชิงใฝ่ฝนั แต่ “อธิษฐาน” ซึง่ แปลตรงตัวว่า ฐานอันยิง่ ใหญ่ อันทีจ่ ริงค�ำว่า “ฐาน” นัน้ ก็ แปลว่าทับหรือหนักอยูแ่ ล้ว การอธิษฐานจึง เป็นการตัง้ สิง่ ทีป่ รารถนาไว้ เพือ่ ทีจ่ ะท�ำให้ ได้มา ไม่ใช่ขอลอยๆ หรือสวดมนต์วงิ วอนใคร การอธิ ษ ฐานหน้ า พระพุ ท ธรู ป หรื อ สิ่งที่ ตนเคารพ เป็นการอัญเชิญมาเป็นพลังใจ ให้ตั้งมั่นในการบากบั่นสู่สิ่งที่ปรารถนา ไม่ใช่เป็นการขอให้ประทานให้ หรือให้ ท�ำนายอะไร ฉะนั้น ค�ำอธิษฐานจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ อยู่ที่ความหนักแน่นของตัวเองไม่น้อยเลย และก็อยูท่ ปี่ จั จัยแวดล้อมด้วย ถ้าหนักแน่น จริงแล้ว ไม่ว่าจะส�ำเร็จหรือไม่ ก็ยังได้ ความเข้มแข็งและการเรียนรู้มาจากความ เพียรในเส้นทางสู่เป้าหมายที่อธิษฐานไว้ ยังไงๆ ก็ไม่สูญเปล่า
ส่วนสิ่งประเสริฐที่เรียกว่า “พร” นั้นอยู่ในตัวเราเองจริง จะหามันเจอ หรือไม่กข็ นึ้ กับตัวเราอีกนัน่ แหละ 113
Mind & Spirit
ความอยากที่ควรพัฒนา
vs ความอยากที่น่ากำ�จัด เรื่อง : ว.วชิรเมธี
ค�ำถาม: 1. การทีเ่ ราตัง้ เป้าหมายอยากเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ถือเป็นกิเลสไหมคะ ถ้าเป็น ก็หมายความว่า เราต้องใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆ เรียนที่ไหนก็ ได้ ได้งานแบบไหนก็ได้อย่างนั้นหรือเปล่าคะ แต่ถ้าไม่ ใช่ แล้วแค่ไหนถึงจะ เรียกว่ากิเลสคะ 2. ความอยากกับการมีจดุ หมายต่างกันอย่างไรคะ (พุทธศาสนาสอนว่า ความอยากเป็นกิเลส แต่ทางโลกถือว่าการมีจุดหมายเป็นสิ่งที่ดี เพราะ แสดงว่าเราได้ปักธงไว้ล่วงหน้าแล้ว) ค�ำตอบ:
ความต้ อ งการหรื อ ความอยาก เป็นธรรมะที่มีคนเข้าใจผิดกันมากที่สุด เรือ่ งหนึง่ ในหมูช่ าวพุทธหรือไม่ใช่ชาวพุทธ ก่อนจะตอบค�ำถามของหนู จึงขอกล่าวถึงตัว “ความรู”้ เรือ่ งความอยากนีใ้ ห้ชดั เสียก่อน ความอยากหรือความต้องการในภาษาบาลี หรือในภาษาธรรมมี 2 ประเภทด้วยกัน นั่นคือ 1. ความอยากฝ่ายกิเลส (ไม่ด)ี เรียกว่า “ตัณหา” 2. ความอยากฝ่ายธรรมะ (ดี) เรียกว่า “ฉันทะ” ตัณหาเกิดจากกิเลส อันได้แก่ กามตัณหา (อยากสนองประสาทสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจด้วยความเขลาด้วยความ ขาดสติ) ภวตัณหา (อยากมีตัวตน อยาก 114
เป็นนัน่ เป็นนี่ อยากเป็นทีร่ จู้ กั ) วิภวตัณหา (อยากสลัดให้พ้นจากภาวะหรือสิ่งที่ตน ไม่ ช อบใจ) หรื อ เรี ย กอี ก อย่ า งหนึ่ ง ว่ า ความอยากที่เกิดจากแรงจูงใจฝ่ายลบ ฉั น ทะเกิ ด จากปั ญ ญา เกิ ด จาก แรงจูงใจในทางที่ดี ที่เป็นบุญเป็นกุศล ตัวอย่างของความอยากทั้งสองนี้ก็เช่น ถ้านักศึกษาคนหนึ่งอยากเป็นแพทย์ เพราะมีเป้าหมายว่าการเป็นแพทย์ท�ำให้ ได้เงินเดือนสูง มีชอ่ งทางเปิดคลินกิ ส่วนตัว ได้อีกต่างหาก หรือไม่เช่นนั้นก็ท�ำงาน ที่ โ รงพยาบาลเอกชนคู ่ กั บ โรงพยาบาล ของรัฐก็ได้ ท�ำให้ได้เงินจากหลายช่องทาง ไม่กี่ปีก็รวยแล้ว อย่างนี้จัดเป็นความอยากฝ่ายลบที่เป็น “ตัณหา”
ถ้านักศึกษาคนหนึ่งอยากเป็นแพทย์ เพราะมีเป้าหมายว่าการเป็นแพทย์ท�ำให้ ได้ช่วยเหลือคน ได้ท�ำงานที่ตัวเองรัก ได้ ช่วยเหลือคนอื่นแล้วมีความสุข ทุกวันนี้ คนมุ่งไปทางนิเทศศาสตร์กันหมด แพทย์ ก็ไม่พอ ตามโรงพยาบาลในชนบทก�ำลัง ขาดแคลนแพทย์อย่างยิ่ง เราน่าจะเรียน แพทย์ดกี ว่า จะได้ชว่ ยแก้ปญ ั หาขาดแคลน แพทย์ได้ดว้ ย ได้ชว่ ยเหลือคนด้วย และได้ ท�ำในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ ด้วย อย่ า งนี้ จั ด เป็ น ความอยากฝ่ า ยบวก ที่เป็น “ฉันทะ” ถ้านักศึกษาคนหนึง่ อยากสอบเข้าคณะ รัฐศาสตร์ เพราะฝันว่าวันหนึง่ จะต้องเป็น นักการเมืองแถวหน้า หากมีโอกาสก็นา่ จะ ได้เป็นหัวหน้าพรรคหรือนายกรัฐมนตรี การเป็นนักการเมืองมีโอกาสรวยได้ง่าย ที่สุด เพราะเมื่อเข้าสู่อ�ำนาจรัฐได้แล้ว ก็ ไม่ตอ้ งท�ำงานอาบเหงือ่ ต่างน�ำ้ หาช่องทาง
คอร์ รั ป ชั่ น ให้ แ นบเนี ย น ปี ส องปี ก็ เ ป็ น มหาเศรษฐี เป็นผู้มีชื่อเสียง และมีอิทธิพล ได้แล้ว อย่างนี้จัดเป็น “ตัณหา” ถ้านักศึกษาคนหนึง่ อยากสอบเข้าคณะ รัฐศาสตร์ เพราะฝันว่าวันหนึง่ จะต้องสร้าง การเมืองใหม่ที่นักการเมืองเป็นตัวแทน ของประชาชนจริงๆ ให้ได้ เพราะทุกวันนี้ นั ก การเมื อ งเป็ น เพี ย งตั ว แทนของกลุ ่ ม ผลประโยชน์เท่านั้น ไม่มีใครเป็นตัวแทน ของประชาชนจริงๆ กันเลย และหากได้เป็น นักการเมืองแล้ว จะต้องสร้างมาตรฐาน การเมื อ งใหม่ ที่ ไ ม่ มี ค อร์ รั ป ชั่ น จะวาง รากฐานการศึกษาของประเทศให้ดีที่สุด อย่างนี้จัดเป็น “ฉันทะ” จากทีก่ ล่าวมาคงตอบได้แล้วว่า ความ อยากในทางลบซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ทีแ่ ท้จริงของสิง่ ทีเ่ ราอยากเป็น จัดเป็นกิเลส ทีเ่ รียกว่า “ตัณหา” ส่วนความอยากในทาง
ความอยากในทางลบซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสิ่งที่ เราอยากเป็น จัดเป็นกิเลสที่เรียกว่า “ตัณหา” ส่วนความอยาก ในทางบวกอันตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสิ่งที่เราอยากเป็น จัดเป็นธรรมะที่เรียกว่า “ฉันทะ” บวกอันตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ สิ่งที่เราอยากเป็น จัดเป็นธรรมะที่เรียก ว่า “ฉันทะ” นี่คือองค์ความรู้ส�ำหรับแยกให้ได้ว่า ความอยากอย่ า งไหนเป็ น กิ เ ลส และ อย่างไหนไม่เป็น พอได้องค์ความรู้มาแล้ว ก็วินิจฉัยได้เลยว่า ถ้าหนูอยากสอบเข้า มหาวิทยาลัยดีๆ เพราะมีเป้าหมายทีเ่ ป็นบวก (อยากพัฒนาตนให้มีการศึกษา มีอาชีพ
การงานที่ดี มีชีวิตที่ประสบความส�ำเร็จ ในทางที่ถูก) ก็ไม่เป็นกิเลส แต่ถ้าอยาก สอบเข้าเพราะมีเป้าหมายในทางลบ (อย่างที่ ยกตัวอย่าง) ก็เป็นกิเลส ส่วนการตัง้ เป้าหมายก็ใช้เกณฑ์เดียวกับ เรือ่ งความอยากนัน่ แหละ ถ้าตัง้ เป้าหมาย ในทางสร้างสรรค์ เช่น อยากมีบริษัท เป็นของตัวเอง เพราะจะได้มีความมั่นคง ในชีวิตที่สร้างจากมันสมองและสองมือ ก็ ไ ม่ เ ป็ น ตั ณ หา แต่ ถ ้ า ตั้ ง เป้ า หมายว่ า จะต้องหาโอกาสโกงกิน เบียดเบียนผู้อื่น ทุกวิถีทาง สักวันหนึ่งชีวิตจะได้ไปพ้นจาก ความยากล�ำบาก อย่างนี้ก็เป็นตัณหา การตัง้ เป้าหมายด้วยแรงจูงใจเชิงบวก (ฉันทะ) เป็นสิ่งที่ดีและไม่ผิด ดูอย่าง พระโพธิสตั ว์ทตี่ งั้ เป้าว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า หรือตั้งเป้าหมายว่าถ้าไม่บรรลุธรรมก็จะ ไม่ลุกจากที่นั่งที่ใต้ต้นโพธิ์สิ จะเห็นว่า พระโพธิสตั ว์กใ็ ช้การตัง้ เป้าหมายเหมือนกัน แต่ถ้าตั้งเป้าหมายในทางลบในทางใฝ่ต�่ำ ในทางผิดศีลธรรม อันนั้นก็ไม่ดี
จะเห็นว่า ถ้าเข้าใจเรือ่ งความอยาก ให้ชัด ก็จะรู้ด้วยว่าการตั้งเป้าหมาย อย่างไหนดีหรือไม่ดี ความอยากเป็น สิ่งที่จ�ำเป็นส�ำหรับชีวิตของคนเรา เราต้องรู้จักพัฒนาความอยากใน ทางที่ดี และก�ำจัดความอยากในทาง ที่ ไ ม่ ดี ถ้ า จั ด การความอยากให้ ดี ทุกอย่างที่เหลือก็จะดีได้ โดยไม่ยาก แต่ถา้ จัดการความอยากกันไม่ดหี รือ ไม่เป็น ความอยากนี่ละจะเป็นต้นตอ ของความยุง่ เหยิงทัง้ ปวงในชีวติ 115
ไพ่ผ่อง ส่องชีวิต
คำ�ทำ�นายระหว่างเดือน
พฤศจิกายน - ธันวาคม 2556 เรื่อง : อาจารย์บอย
ท่านที่เกิดวันอาทิตย์
ท่านที่เกิดวันจันทร์
ท่านที่เกิดวันอังคาร
ท่านที่เกิดวันพุธ
ไพ่ผ่องส่องชี้ว่า ช่วงนี้มี เกณฑ์เข้าใจผิดกับคนใกล้ชิด แนะน�ำว่าให้ใจเย็น สอบถาม ให้ถี่ถ้วน ช่วงนี้ใจจะร้อนและ ขี้หงุดหงิด การตัดสินใจใดๆ ควรท�ำอย่างรอบคอบ การงาน ยั ง ต้ อ งเร่ ง สะสาง สิ่งที่ค้างคา ในกรณีที่ติดต่อ ต่างประเทศ ระวังข้อผิดพลาด จากเอกสารสัญญา การเงิน รายรั บ ยั ง คงเข้ า มา อย่างสม�่ำเสมอ อีกทั้งยังอาจ จะมีรายได้เสริมจากลาภลอย สุขภาพ ระมั ด ระวั ง อาการ กล้ามเนื้ออักเสบและไขข้อ
ไพ่ผอ่ งส่องชีว้ า่ ปัญหาเก่า จากคนเดิมๆ จะกลับมาสร้าง ความหนั ก ใจให้ ท ่ า น วิ ธี แ ก้ ก็คงแบบเดิมๆ ตัวท่านเองต้อง ไม่ตามใจคนใกล้ชิดจนอาจจะ ก่อให้เกิดความเสียหาย การงาน ยังคงต้องน�ำงานเก่า มาปั ด ฝุ ่ น เพื่ อ ปรั บ ปรุ ง ให้ สามารถน�ำมาใช้ใหม่ได้ การ ติ ด ต่ อ อาจจะติ ด ขั ด ถ้ า มี คนกลาง การเงิน ยั ง คงสะพั ด ยั ง มี ความคล่องตัวดี แต่จะติดขัดได้ ถ้าน�ำเงินมาใช้ผิดประเภท สุขภาพ อาจเกิ ด อุ บั ติ เ หตุ เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ได้ท�ำให้ เกิดการบาดเจ็บรุนแรง
ไพ่ผอ่ งส่องชีว้ า่ หากท่าน ท� ำ ตนล� ำ เอี ย งตั ด สิ น เข้ า ข้ า ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ท่านจะได้รับ ผลกระทบในครั้ ง นี้ อ ย่ า ง แน่ น อน ท่ า นที่ เ ดิ น ทางไป ต่างประเทศ ระวังเรือ่ งเอกสาร และทรัพย์สินสูญหาย การงาน ส�ำหรับท่านที่ท�ำงาน หลายงาน อาจจะมี ผ ลเสี ย ส�ำหรับบางงาน อาจจะต้อง ให้เวลาเพิ่ม ท่านที่เพิ่งจะได้ เลื่ อ นขั้ น อาจจะต้ อ งเผชิ ญ ปัญหาจากผู้ใต้บังคับบัญชา การเงิน มีรายได้เพิม่ แต่ขณะ เดี ย วกั น รายจ่ า ยก็ เ พิ่ ม ตาม และมีแนวโน้มว่ารายจ่ายจะ แซงหน้ารายได้ สุขภาพ มีอาการเครียด อาจ จะต้องหาวิธีผ่อนคลายบ้าง
ไพ่ ผ ่ อ งส่ อ งชี้ ว ่ า เป็ น ช่วงดวงดีอีกช่วงหนึ่ง จะได้ อสังหาริมทรัพย์อย่างคาดไม่ถงึ ในราคาทุน หรือเป็นราคาที่ ใครรู้ก็ต้องอิจฉา ท่านมีเกณฑ์ เดิ น ทางไกล แต่ ท ่ า นเลื อ ก ที่จะไม่ไป คนใกล้ตัวสร้างสุข สร้างรอยยิ้ม การงาน ก้าวหน้าอย่างยิ่ง มี สิทธิร์ บั เงินก้อนจากงานใหญ่ๆ ท่ า นที่ เ ป็ น นายหน้ า พ่ อ ค้ า คนกลาง จะได้รับก�ำไรมาก เป็นพิเศษ การเงิน รั บ ทรั พ ย์ อ ย่ า งเป็ น กอบเป็นก�ำจากฝีมือและโชค สุขภาพ แข็งแรงดี จะอ่อนเพลีย จากการเดินทางเท่านั้น
116
ไพ่ผ่อง หรือไพ่ตอง เป็นการพนันที่ได้รับความนิยมมากในอดีต ไพ่ผ่องไทยเลียนแบบมาจากไพ่ผ่องจีน การพยากรณ์ด้วยศาสตร์ไพ่ผ่องมองชีวิต โดยอาจารย์บอย ได้รับการถ่ายทอดมาทางความฝัน โดยอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้นิมิตถึงวิธีการและการทำ�นาย จากนั้นก็จะมาช่วยผ่านทางญาณสัมผัส ในระหว่างการทำ�นาย
ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี
ท่านที่เกิดวันศุกร์
ท่านที่เกิดวันเสาร์
ไพ่ผอ่ งส่องชีว้ า่ ท่านทีเ่ ป็นโสดจะพบ เจอคนถูกใจ ท่านที่มีแฟนแล้วจะตกลง ลั่นระฆังวิวาห์ ท่านที่อยากเรียนต่อหรือ ต้องการเดินทางไปต่างประเทศจะสมหวัง การงาน ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ ติดขัดก็จะสามารถแก้ไขไปได้เป็นอย่างดี มีการปรับปรุงสถานที่ท�ำงาน ท�ำให้ดูดีขึ้น การเงิน คงต้องบอกว่าจะใช้จ่ายไปกับ เรื่ อ งส่ ว นตั ว เสี ย เยอะ จ่ า ยเพื่ อ สนอง ความต้องการส่วนตัว แต่ท่านก็มีเพียงพอ ที่จะจ่าย สุขภาพ แข็งแรงดี อาจมีอาการท้องอืด ช่วงพระจันทร์เต็มดวง
ไพ่ผอ่ งส่องชีว้ า่ การตัดสินใจในเรือ่ ง ความรักอาจจะผิดพลาดได้ ก่อนตัดสินใจ ถามคนรอบข้างแล้วน�ำมาวิเคราะห์ ท่าน ที่ก�ำลังจะศึกษาต่อ นับเป็นช่วงดีช่วงหนึ่ง ควรรีบมองหาช่องทาง การงาน ได้เลื่อนขั้น เลื่อนต�ำแหน่ง แต่ อาจจะไม่ ถู ก ใจใครบางคน คงต้ อ งนิ่ ง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ คิดเสียว่า อย่างไร เราก็ได้ต�ำแหน่งแล้ว เงินเดือนก็ขึ้นตาม ต�ำแหน่งแล้ว การเงิน รายได้ ม ากขึ้ น แต่ สิ่ ง ที่ ท ่ า น อยากได้อาจจะยังไม่ใช่ในเวลานี้ อย่าเพิ่ง ซื้ออะไรที่ไม่จ�ำเป็น สุขภาพ ระวังอาจจะถูกสัตว์เลีย้ งข่วน กัด ท�ำให้เกิดบาดแผล
ไพ่ผ่องส่องชี้ว่า ท่านที่รอมรดก รอ เงินก้อน หรือรอโบนัสใดๆ ท่านจะได้สมใจ ท่านทีม่ ปี ญ ั หาความรัก ก็จะเข้าใจกัน ท่าน ที่มองหาท�ำเลค้าขาย ก็จะได้โดยบังเอิญ การงาน มีความก้าวหน้า ธุรกิจค้าขาย รุ่งเรือง ยกเว้นธุรกิจก่อสร้าง คนงาน จะก่อปัญหา ท่านที่ต้องเดินทางไปติดต่อ กั บ ต่ า งประเทศจะประสบความส� ำ เร็ จ อย่างสูง การเงิน ลู ก หนี้ เ ก่ า กลั บ มาช� ำ ระ หาก ต้องการกู้เงินธนาคารเพื่อลงทุน หรือซื้อ อสังหาริมทรัพย์ ผ่านได้อย่างสบาย สุขภาพ โรคกระเพาะอาจจะก� ำ เริ บ กรดไหลย้อนจะรุนแรงขึ้น
117
Merit Room
เปลี่ยน “แว่นเก่า” ให้เป็น “แว่นใหม่”เพื่อเด็กด้อยโอกาส นอกจากปัญหาเรือ่ งต�ำราเรียน ขาดแคลน สถานทีเ่ รียนไม่เอือ้ อ�ำนวย บุคลากรไม่เพียงพอ ส�ำหรับเด็กใน วัยเรียน ปัญหาทางด้าน “สายตา” ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่อันดับ ต้ น ๆ ที่ ไ ม่ เ พี ย งส่ ง ผลต่ อ ระบบ ประสาทการมองเห็ น ในตอนโต แต่ ยั ง หมายถึ ง อนาคตทางการ ศึกษาที่ไม่สามารถพัฒนาได้อย่าง เต็มศักยภาพ ย้ อ นไปเมื่ อ ปี 2538 สมเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเงินเพือ่ จัดตัง้ กองทุนส�ำหรับ เด็ ก ที่ มี ป ั ญ หาสายตาในวั ย เรี ย น โดยผู ้ มี จิ ต ศรั ท ธาสามารถ บริจาคสมทบกองทุนเพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการออกหน่วยแพทย์ เคลื่อนที่ ให้บริการตรวจวัดสายตาแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ชนบท แต่ปัญหาที่พบคือ การเดินทางของผู้ที่จะมารับบริการนั้น ค่อนข้างล�ำบาก ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่มีไม่เพียงพอ ท�ำให้ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อตรวจวัดสายตาต้องเปลี่ยนรูปแบบ ในการให้ บ ริ ก าร เพื่ อ ให้ ส อดรั บ กั บ ความเป็ น อยู ่ แ ละแก้ ไ ข ปัญหาที่เกิดขึ้น โครงการ “แว่นเก่าเราส่งต่อ” จึงเกิดขึ้นเพื่อส่งมอบแว่นตา ให้ แ ก่ ป ระชาชนที่ ด ้ อ ยโอกาสในพื้ น ที่ ช นบท โดยนิ สิ ต คณะ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะรวบรวม แว่นตาเก่าหลากรูปแบบ ทั้งแว่นสายตา แว่นกันแดด แว่นแฟชั่น ทีไ่ ม่มคี า่ สายตา กรอบแว่นเปล่า เลนส์เปล่า และแว่นทีช่ ำ� รุดมีตำ� หนิ น� ำ ไปบริ จ าค รวมถึ ง คอนแท็ ค ท์ เ ลนส์ อั น ใหม่ ที่ ยั ง ไม่ ใ ช้ 118
ก็ ส ามารถน� ำ ไปบริ จ าคได้ เ ช่ น เดี ย วกั น ทั้ ง หมดนี้ จ ะส่ ง มอบ ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญซ่อมแซมและประกอบเป็นแว่นสายตาอันใหม่ ทีพ่ ร้อมรอส่งต่อให้กบั ผูท้ มี่ ปี ญ ั หาทางด้านสายตา แต่ดอ้ ยโอกาส และขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่ชนบท สามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ • โครงการแว่นเก่าเราส่งต่อ ตู้ ปณ. 205 ปณศ.คลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 E-mail: shareglasses@hotmail.com Facebook: www.facebook.com/shareglasses • ร้าน D-Lux Optic สาขาสยามสแควร์ ซอย 1 ข้างร้านโอเดียน (โดยแจ้งว่า น�ำแว่นมาบริจาคในโครงการแว่นเก่าเราส่งต่อ)
Thai Zone
10 สุภาษิตนี้...ท่านได้แต่ใดมา เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์
หนึ่งในเอกลักษณ์ของภาษาไทยที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน ซึ่งมีไว้ ใช้ สอนลูกหลานนั่นก็คือ สุภาษิตไทย โดยอาจมีที่คุ้นหูและไม่คุ้นหูเราบ้าง คละเคล้ากันไป แต่ทกุ ค�ำล้วนมีทมี่ าทีน่ า่ สนใจ Thai Zone ฉบับนี้ จึงเลือกเอา ที่มาของสุภาษิตไทยที่เราได้ยินบ่อย ใช้บ่อย มาเล่าสู่กันฟัง ปลาหมอตายเพราะปาก ได้ ม าจากเรื่ อ งจริ ง ของปลาหมอ ที่ชอบผุดขึ้นจากน�้ำมาหายใจ ท�ำให้คน ที่ตกปลาอยู่ไม่ต้องเสียเวลารอนาน เพียง แค่หย่อนเบ็ดลงไปตรงที่ปลาหมอชอบผุด ขึ้นมาเท่านั้น ก็จะได้ปลามาเป็นอาหาร อย่างง่ายดาย สุภาษิตนี้จึงเทียบได้กับคน ที่ชอบพูดพล่อยๆ แล้วสุดท้ายก็ต้องได้รับ ความเดือดร้อนจากปากของตัวเองเหมือน อย่างปลาหมอ กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา เป็นสุภาษิตที่หลายคนได้ยินบ่อย แต่ อาจไม่เคยรูท้ มี่ าของมัน สุภาษิตนีเ้ กิดจาก การที่ ค นในสมั ย ก่ อ นนิ ย มเลี้ ย งแมวไว้ ในบ้านเพือ่ เอาไว้เป็นเพือ่ น และเอาไว้จบั หนู ทีช่ อบมากินข้าวเปลือก แต่ดว้ ยความทีแ่ มว เหล่านี้มักมีนิสัยชอบขึ้นไปถ่ายบนหลังคา เป็นประจ�ำ ท�ำให้เวลาฝนตกลงมา น�้ำฝน ก็สกปรกไปด้วยจนดืม่ ไม่ได้ จึงเปรียบได้กบั พวกคนเนรคุณที่อุตส่าห์ชุบเลี้ยงอย่างดี แต่สุดท้ายกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้ เป็นการตอบแทน กบเลือกนาย สุ ภ าษิ ต นี้ ม าจากนิ ท านอี ส ปเรื่ อ ง กบเลือกนาย โดยเนื้อเรื่องเล่าว่า วันหนึ่ง หัวหน้ากบเอ่ยว่า ตัวเองไม่มวี าสนาในการ ปกครองพวกกบทัง้ หลายได้ ควรหากบทีม่ ี
บุญญาธิการมาเป็นหัวหน้าแทน พวกกบ เลยสวดมนต์อ้อนวอนเทวดา เทวดาจึงส่ง ขอนไม้ลงมาให้ พวกกบดีใจที่ได้ขอนไม้ พากันปีนขึน้ ไปเล่น แต่ไม่นานก็เบือ่ เพราะ ขอนไม้ไม่ทำ� อะไร ได้แต่ลอยน�้ำนิง่ ๆ พวก กบเลยสวดมนต์ขอเทวดาอีกรอบ รอบนี้ เทวดาทนไม่ ไ หวจึ ง ส่ ง นกกระสาลงมา นกกระสาก็ไม่ทำ� อะไรเลยนอกจากจับกบกิน จนหมดบึ งในที่ สุ ด สุ ภ าษิ ต นี้ จึ งเปรี ย บ ได้ กั บ คนช่ า งเลื อ กที่ ไ ม่ เ คยพอใจอะไร ง่ายๆ สุดท้ายก็จะไม่เหลืออะไรที่ดีอยู่เลย เต่าใหญ่ไข่กลบ สุ ภ าษิ ต นี้ ไ ด้ ม าจากธรรมชาติ ข อง เต่า ที่จะชอบขึ้นมาคุ้ยทรายให้เป็นหลุม เพื่ อ ออกไข่ พอออกไข่ เ สร็ จ ก็ คุ ้ ย ทราย กลบเพื่อซ่อนไข่ให้พ้นจากศัตรู แปลเป็น ความหมายได้ว่า คนที่ชอบท�ำอะไรที่มี พิรุธ แล้วพยายามกลบเกลือ่ นไม่ให้คนอืน่ รู้ เหมือนอย่างเต่านั่นเอง น�้ำร้อนปลาเป็น น�้ำเย็นปลาตาย ความจริงแล้วค�ำว่า น�ำ้ ร้อนน�ำ้ เย็น ไม่ได้ หมายถึงอุณหภูมิของน�้ำ แต่หมายถึงนิสัย ของปลาที่ ช อบหลบอยู ่ ใ ต้ ร ่ ม เงาเพราะ กลัวตกเป็นเหยือ่ ซึง่ หารูไ้ ม่วา่ การอยูใ่ นทีร่ ม่ ยิ่ ง ท� ำ ให้ ถู ก จั บ ง่ า ยมากกว่ า การว่ า ยอยู ่ กลางแจ้ง สุภาษิตนี้จึงหมายถึงค�ำพูดที่ ตรงไปตรงมา บางครั้งอาจฟังไม่ค่อยถูกหู
เท่าไร แต่ยงั ดีกว่าค�ำพูดทีไ่ พเราะอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ ซึง่ เป็นภัยต่อผูฟ้ งั ในภายหลัง ได้มากกว่า ฝนตกอย่ า เชื่ อดาว มี เ มี ย สาวอย่ า ไว้ ใจแม่ยาย เป็นสุภาษิตสอนใจว่า อย่าไว้ใจอะไร จนเกินไป ซึ่งได้มาจากธรรมชาติที่แม้ว่า จะเห็นดาวอยูเ่ ต็มท้องฟ้า ไม่มที ที า่ ว่าฝนจะ ตก แต่อยูด่ ๆี ฝนก็อาจตกลงมาได้ เช่นเดียว กับที่ว่า อย่าไว้ใจแม่ยายที่มีลูกสาวสวย เพราะเขาอาจจะเอาเมียสาวของเราไปยก ให้กับผู้ชายที่มีฐานะดีกว่าก็ได้ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว หมายถึ ง การเห็ น สิ่ ง ที่ ไ ม่ ดี อ ย่ า ง “กงจักร” กลายเป็นสิ่งที่ดีอย่าง “ดอกบัว” ทีม่ าของสุภาษิตนีม้ าจากนิทานชาดกเรือ่ ง มิตตวินทุกชาดก เนือ้ เรือ่ งเล่าว่า มิตตวินทุกะมองเห็นกงจักรที่ก�ำลังหมุนปั่นศีรษะ คนจนเลื อ ดไหลแสนทุ ก ข์ ท รมานเป็ น ดอกบัวที่แสนงดงาม เขาจึงขอกงจักรนั้น มาไว้บนศีรษะตนบ้างเพือ่ เป็นเครือ่ งประดับ ท�ำให้มิตตวินทุกะได้รับความทุกข์ทรมาน นัน้ แทน เปรียบได้กบั คนทีเ่ ห็นผิดเป็นชอบ จึงต้องรับกรรมจากผลการกระท�ำผิดนัน้ ไป ตีวัวกระทบคราด ที่มาของสุภาษิตนี้มาจากคราดที่ใช้ กวาดฟางหรือหญ้าในนา โดยผูกเป็นคันยาว แล้ ว ใช้ วั ว ลาก แต่ เ มื่ อ คราดไม่ ท� ำ งาน ก็ เ ลยใช้ วิ ธี ตี วั ว ให้ ล ากคราดไปแทน วัวเลยต้องถูกตีเพราะคราด จากตรงนี้ จึ ง เอาการท� ำ งานระหว่ า งวั ว กั บ คราด มาเปรี ย บเที ย บกั บ เวลาที่ เ ราโกรธแล้ ว อยากแก้ แ ค้ น อี ก ฝ่ า ยแต่ ท� ำ อะไรไม่ ไ ด้ เราเลยไปเล่ น งานกั บ คนใกล้ ชิ ด ของ คนคนนั้นแทน เหมือนที่ตีวัวแทนคราด ตามสุภาษิตว่าไว้ 119
Delight Quiz
ค�ำถามร่วมสนุกฉบับเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2556 ค�ำถาม: โปรดท�ำเครื่องหมายกากบาท ( x ) หน้าค�ำตอบที่ถูกต้อง 1. ผลิตภัณฑ์จาก SCG Paper ชนิด idea Green เป็นกระดาษที่ผลิตจากป่าปลูกกี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือใช้เยื่อ EcoFiber ช่วยลดการใช้ต้นไม้ลงกี่เปอร์เซ็นต์ 60 เปอร์เซ็นต์/40 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์/50 เปอร์เซ็นต์ 70 เปอร์เซ็นต์/30 เปอร์เซ็นต์ 2. “ที่นี่...ทุกค�ำถามมีค�ำตอบเพื่อบ้านคุณ เพราะเราคือศูนย์บริการและรวมสินค้าเรื่องบ้าน ครบวงจร นวัตกรรมการบริการรูปแบบใหม่ One Stop Solution โดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึกรู้จริง ในระบบสินค้าจาก SCG ครอบคลุมทุกองค์ประกอบ ทั้งหลังคา ฝ้าผนัง วัสดุกรุผิว ห้องน�้ำ ห้องครัว และภูมิทัศน์ภายนอก” ศูนย์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร Innovation Center Home Solution Center Health Care Center 3. อาคารส�ำนักงานใหญ่ 3 เป็นอาคารส�ำนักงานแห่งใหม่ของ SCG (บางซื่อ) บนพื้นที่ 36,000 ตารางเมตร มีอาคารจอดรถ 10 ชั้น จอดรถได้ประมาณ 900 คัน ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาคารประหยัดพลังงาน” สูงทั้งหมดกี่ชั้น 20 ชั้น 21 ชั้น 22 ชั้น
ผู้ โชคดีจะได้รับหนังสือ SCG 100 ปี แห่งนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน จ�ำนวน 100 รางวัล
• รับรางวัลได้ที่ SCG Experience ในส่วนของพืน้ ที่ Crystal Design Center (CDC) ถนนเลียบทางด่วน เอกมัย - รามอินทรา ตั้งแต่วันที่ 15 - 31 มกราคม 2557 • ประกาศรายชือ่ ผูโ้ ชคดีในนิตยสาร SCG Delight ฉบับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2557 ขอสงวนสิทธิก์ ารตอบค�ำถามเฉพาะผูถ้ อื หุน้ กูเ้ อสซีจ ี เท่านัน้ • กรุณากรอกชือ่ - ทีอ่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์ทตี่ ดิ ต่อสะดวก ให้ชดั เจน และส่งค�ำตอบของท่านมายัง แผนกบริหารความสัมพันธ์หนุ้ กู้ ส�ำนักงานการเงิน บริษทั ปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) เลขที่ 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซือ่ กรุงเทพฯ 10800 ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 120
เฉลยค�ำถาม SCG Delight ฉบับเดือนกันยายน - ตุลาคม 2556 1. พ.ศ. 2519 2. อุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่ง จากไวนิล (Vinyl) 3. 0-2229-2888 30 รายชื่อผู้โชคดี จะได้รบั ถุงผ้าสีสดใส จ�ำนวน 30 รางวัล 1. คุณลออ บูรณะนิตย์ 2. คุณตปนีย์ อิสริยาพันธุ์ 3. คุณวินิจ คงวัฒนานนท์ 4. คุณบุษกร งามพสุธาดล 5. คุณสาริน พรศาศวัต 6. คุณอภิชาติ ว่องคงคาทอง 7. คุณอนงค์ ลิ้มชาวฟ้า 8. คุณอัจฉรา ชุณหนิรันฤทธิ์ 9. คุณสุพรทิพย์ สวนดอก 10. คุณมนธิสา ประเวศทองโสภณ 11. คุณมนัส บุญธรรมมา 12. คุณอรชร วิวิธอ�ำพน 13. คุณบรรจงลักษณ์ ลิ้มชาวฟ้า 14. คุณวิเชียร เปาอินทร์ 15. คุณสุวิมล สุขพัฒน์ 16. คุณนวพร พินัยทรัพย์ 17. คุณปราณี พิพัฒนสกุล 18. คุณวิชิต อัศวพิชญโชติ 19. คุณภัทรวรรณ วรรณสาธพ 20. คุณประณีต หล่อศรีศุภชัย 21. คุณสุย หลินปิยวรรณ์ 22. คุณอรทัย ทองมีอาคม 23. คุณเกียรติศักดิ์ คุณาจิตพิมล 24. คุณสุวิวรรณ์ ปานวัชราคม 25. คุณนิ่มนวล โอกูม่า 26. คุณสุจิตรา มาพฤกษา 27. คุณสุดา หวังสุข 28. คุณพิรพร ลิมปพยอม 29. คุณยาดา สิริมานุวัฒน์ 30. คุณนิพนธ์ เตยวงศ์ศักดิ์