⌫ ⌫ การลงทุนซื้อหุน วิธีการบัญชีที่ใชได 3 กรณีดังนี้ 1. กรณีถือหุนนอยกวา 20% ถือวาผูลงทุนไมมีอํานาจกระทํา การใด ๆ ใหใชวิธีราคาทุนหรือวิธีมูลคายุติธรรมในการ บันทึกบัญชี 2. กรณีถือหุนระหวาง 20% ถึง 50% ถือวาผูลงทุนมีอิทธิพลอ ยางมีนัยสําคัญ ใหใชวิธีสวนไดเสียในการบันทึกบัญชี 3. กรณีถือหุนสูงกวา 50% ถือวาผูลงทุนมีอํานาจในการควบ คุม ใหใชวิธีสวนไดเสียและตองจัดทํางบการเงินรวมเมื่อสิ้น งวดบัญชี
2
สัดสวนของสวนไดเสียหรืออํานาจในการควบคุมทําใหกิจการผูลงทุน ตองบันทึกบัญชีตามวิธีตาง ๆ ดังนี้ เปอรเซ็นตความเปนเจาของ 0% 20% นอยมากหรือไมมีเลย ระดับการมีอิทธิพล (Little or none) วิธีการตีราคา มูลคายุติธรรม (Fair value)
50%
อยางมีนัยสําคัญ (Significant) สวนไดเสีย (Equity) การลงทุนในบริษัทรวม
100% ควบคุม (Control) งบการเงินรวม (Consolidation) การลงทุนในบริษัทยอย
ภาพที่ 2-1 สัดสวนการซื้อหุนและวิธีการบัญชีที่ใช
กรณีถือหุนนอยกวา 20% เมื่อผูลงทุนซื้อหุนทุนนอยกวา 20% จะถือวาผูซื้อมีอิทธิพล ตอผูขายเพียงเล็กนอยหรือไมมีเลย ดังนัน้ จึงไมถือวาเปนกิจการ ที่เกี่ยวของกัน หากบริษัทผูซื้อจัดประเภทหลักทรัพยเปนเพื่อคา (Trading securities) หรือหลักทรัพยเผื่อขาย (Available for sales securities) เมื่อถึงสิ้นงวดบัญชี บริษัทผูซื้อจะตองตีราคาใหมโดย ใชวิธีมูลคายุติธรรมหรือมูลคายุติธรรม ณ วันสิ้นงวด เพื่อ สะทอนใหเห็นมูลคาที่แทจริงของเงินลงทุน ตามที่กําหนดไวใน รางมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 (ปรับปรุง 2547) เรื่อง การ บัญชีสําหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน
3
กรณีถือหุนตั้งแต 20% ถึง 50% การถือหุนตั้งแต 20% จนถึง 50% จะทําใหผูถือหุนมีอิทธิ พลอยางมีนัยสําคัญ (Significant influence)ตอการดําเนินงาน และการกําหนดนโยบายทางการเงินของกิจการที่ไปลงทุน การมี อิทธิพล อยางมีนัยสําคัญพิจารณาไดจากอํานาจในการออกเสียง ทั้งโดยทางตรงหรือทางออมของผูลงทุนในกิจการอยางนอย 20% เรียกการลงทุนนี้วา “เงินลงทุนในบริษัทรวม” มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 45 (ปรับปรุง 2550) เรื่อง เงิน ลงทุนในบริษัทรวม ใหนิยามคําศัพทตาง ๆ ไวดังนี้ บริษัทรวม หมายถึง กิจการซึ่งรวมถึงกิจการที่ไมไดกอตั้งใน รูปบริษัท เชน หางหุนสวนที่อยูภายใตอิทธิพลอยางมีนัยสําคัญ ของผูลงทุนและไมถือเปนบริษัทยอยหรือสวนไดเสียในการรวม คา อิทธิพลอยางมีนัยสําคัญ หมายถึง อํานาจในการเขาไปมีสวน รวมในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดําเนิน งานของกิจการที่ไปลงทุนแตไมถึงระดับที่จะควบคุมหรือควบคุม รวมในนโยบายดังกลาว
4
การควบคุม หมายถึง อํานาจในการกําหนดนโยบายทางการ เงินและการดําเนินงานของกิจการ เพื่อใหไดมาซึ่งประโยชนจาก กิจกรรมตาง ๆ ของกิจการนั้น การควบคุมรวม หมายถึง การมีสวนรวมในการควบคุมกิจ กรรมเชิงเศรษฐกิจตามที่ตกลงไวในสัญญา หลักฐานที่แสดงที่แสดงวาผูลงทุนมีอิทธิพลอยางมีนัยสําคัญ ไดแก 1. มีตัวแทนอยูในคณะกรรมการบริษัทหรือคณะผูบริหารที่มี อํานาจเทียบเทาคณะกรรมการของบริษัทของกิจการที่ไป ลงทุน 2. มีสวนรวมในการกําหนดนโยบาย รวมทั้งมีสวนรวมใน การตัดสินใจเกี่ยวกับเงินปนผลหรือการแบงปนสวนทุน ดวยวิธีอื่นๆ 3. มีรายการบัญชีระหวางผูลงทุนกับกิจการที่ไปลงทุนอยางมี นัยสําคัญ 4. มีการแลกเปลี่ยนเจาหนาที่ระดับบริหาร หรือ 5. มีการใหขอมูลทางเทคนิคที่สําคัญในการดําเนินงาน
5
การมีอิทธิพลอยางมีนัยสําคัญยังตองพิจารณาถึง “สิทธิใน การออกเสียงที่จะเกิดขึ้น” (Potential voting rights) ที่กิจการ ถืออยูและผลกระทบจากการใชสิทธิหรือแปลงสภาพตราสารรวม ถึงสิทธิในการออกเสียงที่จะเกิดขึ้นที่กิจการอื่นถืออยูดวย
กรณีถือหุนสูงกวา 50% หากบริษัทผูซื้อถือหุนของอีกบริษัทหนึ่งเกิน 50% ถือวากิจ การที่ลงทุนมีอํานาจเขาไปควบคุม (Control) อีกกิจการหนึ่ง บริษัทผูซื้อจะเรียกวา “บริษัทใหญ” สวนบริษัทผูขายจะเรียกวา “บริษัทยอย” มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) เรื่องงบ การเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจ ใหนิยามคําศัพทที่เกี่ยวของ ไวดังนี้ บริษัทยอย หมายถึง กิจการซึ่งรวมถึงกิจการที่ไมไดกอตั้งใน รูปบริษัท เชน หางหุนสวน ซึ่งอยูภายใตการควบคุมของกิจการ อื่น (บริษัทใหญ) บริษัทใหญ หมายถึง กิจการซึ่งมีบริษัทยอยอยางนอยหนึ่ง แหง กลุมกิจการ หมายถึง บริษัทใหญและบริษัทยอยทุกบริษัทที่ เปนของบริษัทใหญนั้น
6
งบการเงินรวม หมายถึง งบการเงินของกลุมกิจการที่นํา เสนอเสมือนวาเปนงบการเงินของหนวยงานทางเศรษฐกิจหนวย งานเดียว (A single economic entity) งบการเงินเฉพาะกิจการ หมายถึง งบการเงินที่นําเสนอโดย บริษัทใหญ โดยผูลงทุนในบริษัทรวมหรือโดยผูรวมคาในกิจการที่ ควบคุมรวมกันซึ่งการบันทึกบัญชีเงินลงทุนเปนไปตามเกณฑของ สวนไดเสียในสวนของเจาของโดยตรง (Direct equity interest) ไมใชเกณฑของผลการดําเนินงานและสินทรัพยสุทธิของกิจการที่ ไปลงทุน
การบัญชีสาหรั ํ บการลงทุนซื้อหุน มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 45 (ปรับปรุง 2550) ยอหนา 3 กํ าหนดใหผู ล งทุ น บั น ทึกบั ญชี เงิ น ลงทุ น ในบริษั ทรวม (หรือ บริษัทยอย) ดวยวิธีสวนไดเสียในทุกกรณี ยกเวนเมื่อมีเหตุ การณใดเหตุการณหนึ่งตอไปนี้เกิดขึ้น 1. เงินลงทุนที่จัดประเภทเปนเงินลงทุนที่ถือไวเพื่อขาย ตาม มาตรฐานการบัญชีเรื่อง สินทรัพยไมหมุนเวียน ที่ถือไว เพื่อขาย และการดําเนินงานที่ยกเลิก (เมื่อมีการประกาศ ใช)
7
2. มีการนําขอยกเวนตามที่กําหนดในยอหนาที่ 5 ของมาตร ฐานการบัญชีฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) มาปฏิบัติซึ่ง อนุญาตใหบริษัทใหญที่มีเงินลงทุนในบริษัทรวมไมตอง นําเสนองบการเงินรวม หรือ 3. เมื่อมีลักษณะตามขอกําหนดทุกขอตอไปนี้ 3.1 ผูลงทุนที่มีฐานะเปนบริษัทยอยซึ่งถูกกิจการอื่น ควบคุมอยูทั้งหมด หรือเปนบริษัทยอยซึ่งถูกกิจการอื่น ควบคุมในบางสวน โดยที่ผูถือหุนอื่นของกิจการรวมทั้ง ผูถือหุนที่ไมมีสิทธิออกเสียงไดรับทราบและไมคัดคาน ในการที่ผูลงทุนจะไมนําวิธีสวนไดเสียมาปฏิบัติ 3.2 ตราสารทุนหรือตราสารหนี้ของผูลงทุนไมมีการ ซื้อขายในตลาดสาธารณะ (ไมวาจะเปนตลาดหลัก ทรัพยในประเทศหรือตางประเทศหรือการซื้อขายนอก ตลาดหลักทรัพย รวมทั้งตลาดในทองถิ่นและในภูมิ ภาค) 3.3 ผูลงทุนไมไดนําสงหรืออยูในกระบวนการของการ นํ าสงงบการเงินใหแกสํ านักงานคณะกรรมการกํ ากับ หลั ก ทรั พ ย ห รื อ หน ว ยงานกํ ากั บ ดู แ ลอื่ น เพื่ อ วั ต ถุ ประสงคในการออกขายหลักทรัพยใด ๆ ในตลาด สาธารณะ และ
8
3.4 บริษัทใหญในลํ าดับสูงสุดหรือบริษัทในระหวาง กลางของผูลงทุนไดจัดทํางบการเงินรวมเผยแพรเพื่อ ประโยชนของสาธารณชนซึ่งเปนไปตามมาตรฐานการ บัญชีที่รับรองทั่วไปแลว ดังนั้นหากผูลงทุนไมสามารถใชวิธีสวนไดเสียในการบันทึก การลงทุนได ผูลงทุนจะตองใชวิธีราคาทุน/วิธีมูลคายุติธรรม ตามที่กําหนดไวในรางมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 (ปรับ ปรุง 2547) แทน
การบัญชีสําหรับเงินลงทุนในบริษัทยอย เงินลงทุนในกิจ การที่ควบคุมรวมกัน และเงินลงทุนในบริษัทรวมในงบ การเงินเฉพาะกิจการ หากบริษัทใหญมีลักษณะเขาขายยกเวนไมตองนํ าเสนองบ การเงินรวม บริษัทใหญสามารถนํ าเสนอเฉพาะ “งบการเงิน เฉพาะกิจการ” มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) กําหนดใหบริษัทใหญตองบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทยอย เงิน ลงทุนในกิจการที่ควบคุมรวมกัน และเงินลงทุนในบริษัทรวม ดวยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้
9
1. ราคาทุน หรือ 2. วิธีการบัญชีตามที่กําหนดในมาตรฐานการบัญชี เรื่อง การรับรูและการวัดมูลคาตราสารการเงิน (เมื่อมีการ ประกาศใช) มาตรฐานการบัญชีฉบับนี้กําหนดใหกิจการตองนําเสนองบ การเงินเฉพาะกิจการเพื่อประโยชนตอสาธารณะ
ประเภทของงบการเงิน มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44 (ปรับปรุง 2550) กําหนด ประเภทของงบการเงินไว 3 คือ 1. งบการเงินรวม (Consolidated financial statement) หมายถึงงบการเงินของกลุมกิจการที่นํ าเสนอเสมือนวา เปนงบการเงินของหนวยงานทางเศรษฐกิจหนวยเดียว (Single economic entity) 2. งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีสวนไดเสีย (Financial statement in which the equity method is applied) หมายถึง งบการเงินที่นําเสนอโดยบริษัทใหญ หรือโดยผู ลงทุนในบริษัทรวม หรือโดยผูรวมคาในกิจการที่ควบคุม รวมกัน (“ผูลงทุน”) ซึ่งบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัท ยอย บริษัทรวม และกิจการรวมคา ตามวิธีสวนไดเสีย
10
3. งบการเงินเฉพาะกิจการ (Separate financial statement) หมายถึงงบการเงินที่นําเสนอโดยบริษัทใหญ หรือโดยผู ลงทุนในบริษัทรวม หรือโดยผูรวมคาในกิจการที่ควบคุม รวมกัน (“ผูลงทุน”) ซึ่งการบันทึกบัญชีเงินลงทุนเปนไป ตามเกณฑสวนไดเสียในสวนของเจาของโดยตรง
การนําเสนองบการเงิน มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 45 (ปรับปรุง 2550) เรื่อง เงิน ลงทุนในบริษัทรวม กํ าหนดใหกิจการตองบันทึกเงินลงทุนใน บริษัทรวมซึ่งผูลงทุนมีอิทธิพลอยางมีนัยสําคัญ โดยใช “วิธีสวน ไดเสีย” ในทุกกรณี การนําเสนองบการเงิน สรุปได 2 กรณี คือ 1. กรณีที่กิจการมีแตบริษัทรวม ไมมีบริษัทยอย กิจการตอง นําเสนองบการเงิน 2 งบคือ งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน ตามวิธีสวนไดเสีย และงบการเงินเฉพาะกิจการ 2. กรณีที่กิจการมีทั้งเงินลงทุนในบริษัทรวมและเงินลงทุนใน บริษัทยอย กิจการตองนําเสนองบการเงิน 2 งบคือ งบ การเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ
11
การนําเสนองบการเงินทั้งสองกรณี มีดังนี้ กรณีกิจการมีแตเงินลงทุนในบริษัทรวม งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน ตามวิธีสวนไดเสีย 31 ธค. 25+9 31 ธค. 25+8
งบการเงินเฉพาะกิจการ 31 ธค. 25+9
31 ธค. 25+8
แสดงตาม วิธีราคาทุน
แสดงตาม วิธีราคาทุน
สินทรัพย เงินสด เงินลงทุนในบริษัทรวม
แสดงตาม วิธีสวนไดเสีย
แสดงตาม วิธีสวนไดเสีย
กรณีกจิ การมีทั้งเงินลงทุนในบริษัทรวมและเงินลงทุนในบริษัทยอย งบการเงินรวม 31 ธค. 25+9 31 ธค. 25+8 สินทรัพย เงินสด เงินลงทุนในบริษัทรวม เงินลงทุนในบริษัทยอย
แสดงตาม วิธีสวนไดเสีย 0
แสดงตาม วิธีสวนไดเสีย 0
งบการเงินเฉพาะกิจการ 31 ธค. 25+9 31 ธค. 25+8
แสดงตาม วิธีราคาทุน แสดงตาม วิธีราคาทุน
แสดงตาม วิธีราคาทุน แสดงตาม วิธีราคาทุน
การบัญชีสําหรับการลงทุนซื้อหุนตามวิธีมูลคายุติธรรม/ ราคาทุนและวิธีสวนไดเสีย วิธีมูลคายุติธรรม/ราคาทุน (Fair value/Cost) จะบันทึก เงินลงทุนในการซื้อหุนไวดวยราคาทุน และบันทึกเงินปนผลที่ได รับจากการลงทุนเปนรายได เมื่อถึงสิ้นงวดบัญชีจะตองนํามูลคา ยุติธรรมมาใชในการตีราคาหลักทรัพย
12
วิธีสวนไดเสีย (Equity method) ผูลงทุนจะบันทึกเงินลง ทุนในบริษัทรวมเมื่อเริ่มแรกดวยราคาทุน เงินลงทุนจะเปลี่ยน แปลงไปตามสวนแบงกําไรหรือขาดทุนและเงินปนผล ตัวอยางที่ 2-1 แสดงการเปรียบเทียบการบันทึกบัญชีตามวิธีมูล คายุติธรรม/ราคาทุนและวิธีสวนไดเสีย บริษัท ก จะบันทึกบัญชีตามวิธีทั้งสองดังนี้ 1 กรกฎาคม บันทึกการลงทุน วิธีมูลคายุติธรรม/ราคาทุน เงินลงทุนในบริษัท ข เงินสด
100,000
วิธีสวนไดเสีย เงินลงทุนในบริษัท ข 100,000 เงินสด
100,000 100,000
1 พฤศจิกายน บันทึกการรับเงินปนผล วิธีมูลคายุติธรรม/ราคาทุน
วิธีสวนไดเสีย
เงินสด
เงินสด
4,000
เงินปนผลรับ (20,000×20%)
4,000
4,000 เงินลงทุนในบริษัท ข
4,000
31 ธันวาคม รับรูผลกําไร วิธีมูลคายุติธรรม/ราคาทุน ไมมีรายการ (สมมติวาหุนสามัญเปนหุนที่ไมอยูในความ ตองการของตลาด หรือมีมูลคายุติธรรมเทากับ 50 บาทตอหุน ดังนั้นจึงไมตองตีราคาใหม)
วิธีสวนไดเสีย เงินลงทุนในบริษัท ข 5,000 รายไดจากบริษัท ข (50,000 บาท × ½ ป × 20%)
5,000
13
สมมติวา กําไรสุทธิประจําปของ บริษัท ข เปลี่ยนเปน 30,000 บาท เงินปนผลรับ 1,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 1,000 ปรับปรุงเงินปนผลรับ และเงินลงทุนในบริษัท ข ดวยจํานวนเงินปนผลรับที่เกินสวนไดเสียในกําไรสุทธิ
วิธสี วนไดเสีย วิธีสวนไดเสียหรือที่เรียกวา One line consolidation หมาย ถึงวิธีที่สงผลใหกําไรและสวนของผูถือหุนของบริษัทใหญมีจํานวน เทากับกําไรและสวนของผูถือหุนที่ปรากฏในงบการเงินรวม
การบัญชี ณ วันที่ลงทุนซื้อหุน บริษัทที่ซื้อหุนจะบันทึกเงินลงทุนดวยราคาทุนโดยวัดมูล คาจากเงินสดที่จายซื้อ หรือ มูลคายุติธรรมของสินทรัพยหรือ หลักทรัพยที่ออกให -
- คาใชจายในการจดทะเบียนและออกหุนจะนําไปลดสวน เกินมูลคาหุนนั้น ๆ - คาใชจายอื่นๆ ในการซื้อหุนจะถือเปนตนทุนของเงินลง ทุน
14
ตัวอยางที่ 2-2 สมมติวาบริษัท ก ซื้อสวนไดเสีย 30% ในหุน สามัญที่มีสิทธิออกเสียงของบริษัท ข จากผูถือหุนเดิม เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25+2 โดยจายเงินสด 2,000,000 บาท และออกหุน สามัญของบริษัทใหอีก 200,000 หุน มูลคาหุนละ 10 บาท โดย มีมูลคายุติธรรมหุนละ 15 บาท นอกจากนี้ยังจายเงินสดเพิ่มเติม สําหรับคาจดทะเบียนในการออกหุน เปนเงิน 50,000 บาท และ คาธรรมเนียมที่ปรึกษาอีก 100,000 บาท การบันทึกบัญชีของบริษัท ก มีดังนี้ 1 มกราคม 25+2 เงินลงทุนในบริษัท ข 5,000,000 หุนสามัญ สวนเกินมูลคาหุนสามัญ เงินสด บันทึกการลงทุนซื้อหุน 30% ของบริษัท ข
2,000,000 1,000,000 2,000,000
1 มกราคม 25+2 เงินลงทุนในบริษัท ข 100,000 สวนเกินมูลคาหุนสามัญ 50,000 เงินสด 150,000 บันทึกการจายเงินสดสําหรับคาใชจายในการซื้อหุน 30% ของบริษัท ข
15
การบั ญ ชี สํ าหรั บ ผลต า งระหว า งราคาทุ น กั บ ราคาตาม บัญชีของเงินลงทุน ผูลงทุนจะตองเปรียบเทียบราคาทุนและราคาตามบัญชีของ สินทรัพยสุทธิสวนที่ซื้อ และบันทึกการตัดจําหนายผลตางนี้ใน บัญชีเงินลงทุนและบัญชีรายไดจากการลงทุน
สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี สมมติตอมาวาขอมูลทางการเงินของบริษัท ข ในราคาตามบัญชี และมูลคายุติธรรม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25+1 มีดังนี้
เงินสด ลูกหนี้ – สุทธิ สินคาคงเหลือ สินทรัพยหมุนเวียนอื่นๆ อุปกรณ – สุทธิ รวมสินทรัพย เจาหนี้ ตัว๋ เงินจาย(ครบกําหนด 1 ม.ค.25+7) หุนสามัญ กําไรสะสม รวมหนีส้ ินและสวนของผูถือหุน
ราคาตามบัญชี มูลคายุติธรรม 1,500,000 1,500,000 2,200,000 2,200,000 3,000,000 4,000,000 3,300,000 3,100,000 5,000,000 8,000,000 15,000,000 18,800,000 1,000,000 1,000,000 2,000,000 1,800,000 10,000,000 2,000,000 15,000,000
16
การกระจายสวนเกินของราคาทุนของเงินลงทุนที่สูงกวาราคาตาม บัญชี มีดังนี้ บริษัท ก จํากัด และสวนไดเสีย 30% ในสินทรัพยสุทธิของบริษัท ข จํากัด เงินลงทุนในบริษัท ข ราคาตามบัญชี : 30%×สวนของผูถือหุนของบ. ข 12,000,000 บาท สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี
5,100,000 (3,600,000) 1,500,000
กระจายสวนเกินนี้ใหกับสินทรัพยและคาความนิยมดังนี้ สวนได = จํานวนที่ มูลคายุติ - ราคาตาม × ธรรม บัญชี เสีย กระจายให สินคาคงเหลือ 4,000,000 3,000,000 30% 300,000 ส/ทหมุนเวียนอื่น 3,100,000 3,300,000 30% (60,000) อุปกรณ 8,000,000 5,000,000 30% 900,000 ตัว๋ เงินจาย 1,800,000 2,000,000 30% 60,000 รวมสวนเกินที่กระจายใหสินทรัพยสุทธิ 1,200,000 สวนที่เหลือกระจายใหคาความนิยม 300,000 รวมสวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี 1,500,000
17
การตั ด จํ าหนา ยผลตา งระหวา งราคาทุน และราคาตาม บัญชี สมมติตอมาวาบริษัท ข จายเงินปนผล 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 25+2 และรายงานกําไรสุทธิ 3,000,000 บาท สําหรับป 25+2 สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตาม บัญชีจะมีการตัดจําหนายดังนี้ สวนเกินกระจายให สินคาคงเหลือ – ขายหมดในป 25+2 สินทรัพยหมุนเวียนอื่น – ใชหมดในป 25+2 อุปกรณ – ตัดคาเสื่อมภายใน 20 ป ตั๋วเงินจาย – ครบกําหนดชําระภายใน 5 ป คาความนิยม – ตัดจําหนายภายใน 20 ป
อัตราการตัดจําหนายป 25+2 100% 100% 5% 20% 5%
บริษัท ก จะบันทึกรายการรับเงินปนผลและกําไรจากบริษัท ข ดังนี้ 1 กรกฎาคม 25+2 เงินสด 300,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 300,000 บันทึกการรับเงินปนผลจากบริษัท ข 1,000,000×30% 31 ธันวาคม 25+2 เงินลงทุนในบริษัท ข 900,000 รายไดจากบริษัท ข 900,000 บันทึกสวนไดในกําไรสุทธิของบริษัท ข 3,000,000×30% รายไดจากบริษัท ข 300,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 300,000 บันทึกการตัดบัญชีสวนเกินที่กระจายใหสินคาซึ่งไดขายหมดไปในป 25+2
18
เงินลงทุนในบริษัท ข 60,000 รายไดจากบริษัท ข 60,000 บันทึกรายไดเพิ่มขึ้นจากส/ทหมุนเวียนอื่นที่ใชหมดไปในป 25+2 ตีราคาไวสูงไป รายไดจากบริษัท ข 45,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 45,000 บันทึกคาเสื่อมราคาสําหรับสวนเกินที่กระจายใหอุปกรณที่ตีราคาไวตํ่าไป 900,000/20 ป รายไดจากบริษัท ข 12,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 12,000 บันทึกการตัดจําหนายสวนเกินที่กระจายใหตั๋วเงินจายที่ตีราคาไวสูงไป 60,000/5 รายไดจากบริษัท ข 15,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 15,000 บันทึกการตัดจําหนายสวนเกินที่กระจายใหคาความนิยม 300,000/20 ป
บริษัท ก อาจเลือกบันทึกรวมเปนรายการเดียวไดดังนี้ เงินลงทุนในบริษัท ข รายไดจากบริษัท ข บันทึกรายไดจากการลงทุน
588,000 588,000
รายไดจากการลงทุนในบริษัท ข สามารถคํานวณ ไดดังนี้ สวนไดเสียในกําไรสุทธิประจําป (3,000,000×30%) การตัดจําหนายสวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี สินคาคงเหลือที่ขายหมดในป 25+2 (300,000×100%) สินทรัพยหมุนเวียนอื่นที่ใชหมดในป 25+2 (60,000× 100%) อุปกรณ (900,000 ×อัตราคาเสื่อม 5%) ตั๋วเงินจาย (60,000×อัตราตัดจําหนาย 20%) คาความนิยม (300,000×อัตราตัดจําหนาย 5%) รวมรายไดจากการลงทุนในบริษัท ข
900,000 (300,000) 60,000 (45,000) (12,000) (15,000) 588,000
19
เงินลงทุนใน บริษัท ข
จํานวนที่ยังไม ตัดจําหนาย
(1) 12,000,000
สวนไดเสีย [(30% ของ (1)] (2) 3,600,000
(3) 5,100,000
(3) – (2) 1,500,000
(1,000,000) 3,000,000
(300,000) 900,000
(300,000) 900,000
4,200,000
(312,000) 5,388,000
สวนของผูถือหุน ของบริษัท ข 1 ม.ค. 25+2 เงินปนผล ก.ค. 25+2 กําไรสุทธิ ป 25+2 ตัดจําหนาย ป 25+2 31 ธ.ค. 25+2
14,000,000
(312,000) 1,188,000
สวนเกินของราคาตามบัญชีที่สูงกวาราคาทุน ตัวอยางที่ 2-3 สมมติวาบริษัท ก จํากัด ซื้อหุนสามัญที่ออก จําหนายและมีสิทธิออกเสียง 50% ของบริษัท ข เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25+6 ในราคา 40,000 บาท การเปลี่ยนแปลงในสวน ของผูถือหุนของบริษัท ข ระหวางป 25+6 สรุปไดดังนี้ สวนของผูถือหุน 1 ม.ค. 25+6 บวก กําไรสุทธิป 25+6 หัก เงินปนผลจายเมื่อ 1 ก.ค. 25+6 สวนของผูถือหุน 31 ธ.ค. 25+6
100,000 20,000 (5,000) 115,000
20
สวนเกินของราคาตามบัญชีที่สูงกวาราคาทุนกระจายดังนี้ ราคาตามบัญชีของสวนไดเสีย 50% ในบริษัท ข (สวนของผูถือหุน 100,000 บาท × 50%) หัก ราคาทุนของเงินลงทุนในบริษัท ข สวนเกินของราคาตามบัญชีที่สูงกวาราคาทุน สวนเกินกระจายให : สินคาคงเหลือ (ตีราคาสูงไป 2,000 × 50%) เครื่องมือ(ตีราคาสูงไป 18,000 × 50%) สวนเกินของราคาตามบัญชีที่สูงกวาราคาทุน
50,000 40,000 10,000 1,000 9,000 10,000
การบันทึกบัญชีสํ าหรับการลงทุนของบริษัท ก ในบริษัท ข ระหวางป 25+6 มีดังนี้ 1 ม.ค. 25+6 เงินลงทุนในบริษัท ข 40,000 เงินสด บันทึกการลงทุนซื้อหุนสามัญ 50% ในบริษัท ข
40,000
1 ก.ค. 25+6 เงินสด 2,500 เงินลงทุนในบริษัท ข 2,500 บันทึกการรับเงินปนผล 5,000×50% 31 ธ.ค. 25+6 เงินลงทุนในบริษัท ข 10,000 รายไดจากบริษัท ข 10,000 บันทึกสวนไดในกําไรสุทธิในบริษัท ข 20,000 × 50%
21
31 ธค. 25+6 เงินลงทุนในบริษัท ข 1,900 รายไดจากบริษัท ข 1,900 บั น ทึ ก การตั ด จํ าหน า ยส ว นเกิ น ของราคาตามบั ญ ชี ที่ สู ง กว า ราคาทุ น ที่ กระจายใหกับ 1,000 บาท สินคาคงเหลือ 1,000×100% 900 เครื่องมือ 9,000×10% รวม 1,900
คาความนิยมติดลบ (Negative goodwill) มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 43 ยอหนาที่ 59 ระบุวา “ณ วัน ที่ซื้อ ผูซื้อตองบันทึกจํานวนมูลคายุติธรรมของสินทรัพยและหนี้ สิ น ที่ ร ะบุ ไ ด เ ฉพาะส ว นที่ เ ป น ของผู ซื้ อ ซึ่ ง สู ง กว าตน ทุ นการซื้ อ ธุรกิจเปนคาความนิยมติดลบ มูลคายุติธรรมของสินทรัพยและ หนี้สินที่ระบุไดตองเปนมูลคาที่วัดได ณ วันที่เกิดรายการแลก เปลี่ยน” มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 43 กําหนดใหนําสวนของคา ความนิยมติดลบที่เกี่ยวของกับการคาดการณผลขาดทุนและคาใช จายในอนาคตที่ระบุไวในแผนการซื้อกิจการของผูซื้อซึ่งสามารถ วัดคาไดอยางนาเชื่อถือ แตไมไดเปนหนี้สินที่ระบุรายการได ณ วันซื้อกิจการ ควรรับรูเปนรายไดในงบกําไรขาดทุนเมื่อมีการรับรู
22
ผลขาดทุนและตนทุนในอนาคตนั้น สวนคานิยมติดลบที่ไมเกี่ยว ของกับการคาดการณผลขาดทุนและคาใชจายในอนาคตที่ระบุได ซึ่งสามารถวัดคาไดอยางนาเชื่อถือ ณ วันซื้อกิจการ ควรรับรูเปน รายไดในงบกําไรขาดทุน ดังนี้ - จํานวนคาความนิยมติดลบที่ไมเกินมูลคายุติธรรมของสิน ทรัพยที่ไมเปนตัวเงินที่ไดรับซึ่งระบุรายการได ควรรับรู เปนรายไดดวยเกณฑที่มีระบบตามจํานวนถัวเฉลี่ยถวงนํ้า หนักของอายุการใชงานที่เหลือของสินทรัพยเสื่อมราคา และสินทรัพยที่มีการตัดบัญชี และ - จํ านวนคาความนิยมติดลบที่เกินกวามูลคายุติธรรมของ สินทรัพยที่ไมเปนตัวเงินที่ไดรับซึ่งระบุรายการได ควรรับ รูเปนรายไดทันที ดังนั้นคาความนิยมติดลบนี้จะนํ าไปลดมูลคาสินทรัพยไมหมุน เวียน ยกเวนเงินลงทุนระยะยาวในหลักทรัพยในความตองการของ ตลาด
การแสดงรายการคาความนิยมติดลบ ผูซื้อตองจัดประเภทคาความนิยมติดลบเปนสินทรัพยเชน เดี ย วกั บ การจั ด ประเภทค า ความนิ ย มแต ต อ งแสดงจํ านวนค า ความนิยมติดลบนั้นเปนรายการหักจากสินทรัพยในงบดุล
23
ตัวอยางที่ 2-4 สมมติวาบริษัท ก ลงทุนซื้อสวนไดเสีย 25% ของบริษัท ข ในราคา 110,000 บาท เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25+6 ในขณะที่บริษัท ข มีสินทรัพยสุทธิดังตอไปนี้
สินคาคงเหลือ สินทรัพยหมุนเวียนอื่นๆ อุปกรณ – สุทธิ อาคาร – สุทธิ หัก หนี้สิน สินทรัพยสุทธิ
ราคาตาม บัญชี 240,000 100,000 50,000 140,000 530,000 130,000 400,000
มูลคายุติ สวนเกินของ ธรรม มูลคายุติธรรม 260,000 20,000 100,000 50,000 200,000 60,000 610,000 130,000 480,000 80,000
ตารางแสดงการกระจายสวนเกินของราคาทุนสูงกวาราคา ตามบัญชี บริษัท ก และสวนไดเสีย 25% ในสินทรัพยสุทธิของบริษัท ข จํากัด ราคาทุนของเงินลงทุน ราคาตามบัญชีของสินทรัพยสุทธิของบริษัท ข (400,000×25%) สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาบัญชี
110,000 100,000 10,000
24
กระจายให สินทรัพย ตามมูลคา ยุติธรรม 5,000 สินคาคงเหลือ (20,000×25%) อุปกรณ-สุทธิ 15,000 อาคาร-สุทธิ (60,000×25%) คาความนิยมติดลบ (10,000) ส ว นเกิ น ของราคาทุ น ที่ สู ง กว า ราคา 10,000 ตามบัญชี
การกระจาย จํานวนที่กระจายให ของ คา สุทธิ ความนิยม ติดลบ 5,000 (2,000) 7,000
(2,000)* (8,000)* 10,000 -
10,000
* คํานวณตามสัดสวนของมูลคายุติธรรม : 50,000/250,000 สําหรับอุปกรณ : 200,000/250,000 สําหรับอาคาร
การบันทึกในสมุดบัญชีของบริษัท ก สําหรับการลงทุนในบริษัท ข มีดังนี้ 1 ม.ค. 25+6 เงินลงทุนในบริษัท ข เงินสด บันทึกการซื้อสวนไดเสีย 25% ในบริษัท ข
110,000 110,000
25+6 เงินสด เงินลงทุนในบริษัท ข บันทึกการรับเงินปนผล 40,000 ×25%
10,000 10,000
25
31 ธ.ค. 25+6 เงินลงทุนในบริษัท ข รายไดจากบริษัท ข
8,750
บันทึกรายไดจากการลงทุนในบริษัท ข. คํานวณไดดังนี้ 25 % ของกําไรสุทธิ 60,000 บาท 15,000 สวนเกินที่กระจายใหสินคาคงเหลือ (5,000) สวนเกินที่กระจายใหอุปกรณ (2,000/4 ป) 500 สวนเกินที่กระจายใหอาคาร (7,000/4 ป) (1,750) 8,750
8,750
บาท
การซือ้ หุนระหวางงวดบัญชี ตองคํานวณเพิ่มเติมสําหรับสวนไดเสีย ณ วันที่ซื้อหุนและ จํานวนที่จะถือเปนรายไดจากการลงทุนสําหรับป สวนของเจาของในบริษัทที่ขายหุน (ณ วันซื้อหุน) = สวนของเจาของ ณ วันตนงวด + กําไรตั้งแตตนงวดจนถึงวันที่ ซื้อหุน - เงินปนผลที่ประกาศจายกอนวันที่ซื้อหุน ขอสมมติเบื้องตน กําไรของบริษัทที่ขายหุนเกิดขึ้นสมํ่าเสมอ ตลอดทั้งป
26
ตัวอยางที่ 2-5 บริษัท ก และสวนไดเสีย 40% ในสินทรัพยสุทธิของบริษัท ข ราคาทุนของเงินลงทุน หัก สวนของผูถือหุนในบริษัท ข ณ วันที่ 1 ตุลาคม สวนของผูถือหุน 1 มกราคม 1,500,000 บวก กําไร 1 มกราคม – 1 ตุลาคม 187,500* หัก เงินปนผล (150,000) 1,537,500 บริษัท ก ซื้อหุน 40% สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี สวนเกินกระจายให : อาคาร (600,000 – 400,000) ×40% คาความนิยม (สวนที่เหลือ) สวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชี
800,000
615,000 185,000 80,000 105,000 185,000
*250,000 × 9/12 ป
การบันทึกบัญชีของบริษัท ก สําหรับการซื้อสวนไดเสีย 40% ใน บริษัท ข มีดังนี้ 1 ตุลาคม 25+8 เงินลงทุนในบริษัท ข 800,000 เงินสด 800,000 บันทึกการซื้อหุนสามัญที่มีสิทธิออกเสียง 40% ของบริษัท ข
27
31 ธันวาคม 25+8 เงินลงทุนในบริษัท ข 25,000 รายไดจากบริษัท ข บันทึกสวนไดเสียในกําไรสุทธิ 40% ×250,000× ¼ ป
25,000
รายไดจากบริษัท ข 1,000 เงินลงทุนในบริษัท ข 1,000 บันทึกการตัดจําหนายสวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชีที่ กระจายใหอาคารซึ่งมีราคาตํ่าไป 80,000/20 ป × ¼ ป รายไดจากบริษัท ข 5,250 เงินลงทุนในบริษัท ข 5,250 บันทึกการตัดจําหนายสวนเกินของราคาทุนที่สูงกวาราคาตามบัญชีที่ กระจายใหคาความนิยม 105,000/5 ป × ¼ ป
การซือ้ หุน โดยตรงจากบริษัทผูขายหุน ตัวอยางที่ 2-6 อัตราสวนไดเสียของบริษัท ก ในบริษัท ข เทากับ 50% คํานวณไดดังนี้ (1) หุนที่ซื้อโดยตรงจากบริษัท ข 20,000 หุน (2) หุน ทีอ่ อกจําหนายทั้งหมดภายหลังการออกหุนใหม หุน ทีอ่ อกจําหนาย ณ 31 ธ.ค. 25+6 20,000 หุน ใหมที่ออกใหบริษัท ก 20,000 40,000 หุน อัตราสวนไดเสียของบริษัท ก ในบริษัท ข (1)/(2) = 50%
28
มูลคาตามบัญชีของสวนไดเสียที่ซื้อ เทากับ 400,000 บาท คํานวณไดดังนี้ สวนของผูถือหุนของบริษัท ข กอนการจําหนายหุน ใหม (หุน สามัญ 200,000 บาท + กําไรสะสม 150,000 บาท) ขายหุน 20,000 หุน ใหกับบริษัท ก สวนของผูถือหุนของบ. ข หลังการออกจําหนายหุนใหม สวนไดเสียของบริษัท ก ราคาตามบัญชีของสวนไดเสียที่ซื้อ
350,000 450,000 800,000 50% 400,000
การลงทุนซื้อหุนหลายๆ ครั้ง ตัวอยางที่ 2-7 สมมติวาบริษัท ก ซื้อหุนสามัญในบริษัท ข 10% ในราคา 750,000 บาท เมื่อวันที่ 2 มกราคม 25+2 และ ซื้ออีก 10% ในราคา 850,000 บาท เมื่อวันที่ 2 มกราคม 25+3 สวนของผูถือหุนของบริษัท ข ณ วันซื้อหุนมีดังนี้
หุนสามัญ กําไรสะสม รวมสวนของผูถือหุน
2 มกราคม 25+2 2 มกราคม 25+3 5,000,000 5,000,000 2,000,000 2,500,000 7,000,000 7,500,000
29
2 มกราคม 25+3 เงินลงทุนในบริษัท ข กําไรสะสม
45,000
ปรับปรุงบัญชีเงินลงทุนจากวิธีราคาทุนมาเปนวิธีสวนไดเสีย ดังนี้ กําไรสะสมของบริษัท ข ที่เพิ่มขึ้นระหวางป 25+2 500,000 บาท × สวนไดเสียระหวางป 25+2 10% หัก คาความนิยมตัดบัญชี สําหรับป 25+2 (ราคาทุน 750,000 – ราคาตามบัญชี 700,000 ) × อัตราการตัดจําหนาย 10% ปรับปรุงการเปลี่ยนแปลงของบัญชีปกอน
45,000
50,000
(5,000) 45,000
การจําหนายหุน เมื่อผูลงทุนขายหุนที่ซื้อบางสวนออกไปจนทําใหสวนไดเสีย ตํ่ากวา 20% หรือนอยกวาระดับที่ทําใหผูลงทุนเขาไปมีอิทธิ พลอยางมีนัยสําคัญ บริษัทผูลงทุนจะไมสามารถใชวิธีสวนไดเสีย ไดอีกตอไป การลงทุนจะตองเปลี่ยนมาใชวิธีราคาทุนแทน
หุน บุรมิ สิทธิของบริษัทที่ไปลงทุน วิ ธี ส ว นได เ สี ย สามารถนํ าไปใช ไ ด กั บ การลงทุ น ในหุ น บุริมสิทธิเชนเดียวกับการลงทุนในหุนสามัญ แตตองมีการปรับ ปรุงดังนี้
30
1. จัดสรรสวนของผูถือหุนในบริษัทที่ไปลงทุนไปยังหุนบริม สิทธิและหุนสามัญจนถึงวันที่ซื้อเพื่อคํานวณหาราคาตาม บัญชีของเงินลงทุนในหุนสามัญ 2. จัดสรรกํ าไรสุทธิของบริษัทที่ไปลงทุนไปยังหุนบุริมสิทธิ และหุนสามัญเพื่อคํานวณหากําไรในหุนสามัญที่เปนของ ผูลงทุน ตัวอยางที่ 2-9 สมมติวาสวนของผูถือหุนของบริษัท ข เทากับ 3,000,000 บาท ณ ตนป 25+3 และ 3,250,000 บาท ณ สิ้น ป 25+3 กําไรสุทธิและเงินปนผลจายสําหรับป 25+3 เทากับ 350,000 บาท และ 200,000 บาทตามลําดับ
หุนบุริมสิทธิ 10% ชนิดสะสม มูลคาหุนละ 100 บาท หุนสามัญ มูลคาหุนละ 10 บาท สวนเกินมูลคาหุนสามัญ กําไรสะสม
1 มกราคม 25+3 500,000
31 ธันวาคม 25+3 500,000
1,500,000 250,000 750,000 3,000,000
1,500,000 250,000 1,000,000 3,250,000
ถาบริษัท ก จายเงินสด 1,250,000 บาท เมื่อวันที่ 2 มกราคม 25+3 เพื่อซื้อสวนไดเสีย 40% ในหุนสามัญที่ออก จําหนายแลวของบริษัท ข บัญชีเงินลงทุนวิเคราะหไดดังนี้
31
ราคาทุนของเงินลงทุน หัก ราคาตามบัญชี (มูลคายุติธรรม) ที่ซื้อ สวนของผูถือหุนของบริษัท ข หัก สวนของผูถือหุนบุริมสิทธิ สวนของผูถือหุนสามัญ บริษัท ก ซื้อสวนไดเสีย คาความนิยม
1,250,000 3,000,000 500,000 2,500,000 40% 1,000,000 250,000
กําไรสุทธิของบริษัท ก จากการลงทุนในบริษัท ข สําหรับป 25+3 คํานวณไดดังนี้ กําไรสุทธิของบริษัท ข ในป 25+3 หัก: กําไรสุทธิที่เปนสวนของหุนบุริมสิทธิ (500,000×10%) กําไรสุทธิที่เหลือเปนของหุนสามัญ สวนไดเสียในกําไรสุทธิของบริษัท ข (300,000×40%)
350,000 บาท 50,000 300,000 120,000 บาท
รายการพิเศษและผลของรายการปรับปรุงในงวดบัญชี กอน ผูลงทุนจะตองบันทึกสวนไดกําไรสุทธิของบริษัทที่ไปลงทุน ดวย และในกรณีที่บริษัทผูขายหุนมีกํ าไรขาดทุนจากรายการ พิเศษ หรือรายการปรับปรุงตางๆ บริษัทผูลงทุนจะตองบันทึก รายไดจากการลงทุนแยกออกมาเปน รายไดตามปกติ รายไดจาก รายการพิเศษ หรือ รายไดเนื่องจากรายการปรับปรุง
32
ตัวอยางที่ 2-10 สมมติวา บริษัท ก เปนเจาของหุนสามัญที่ออก จําหนายแลวของบริษัท ข 40% กําไรสุทธิของบริษัท ข สําหรับป 25+5 ประกอบไปดวยรายการตอไปนี้ กําไรกอนรายการพิเศษ รายการพิเศษ-ขาดทุนจากไฟไหม (หลังหักภาษีเงินได 50,000 บาท) กําไรสุทธิ
500,000 50,000 450,000
บริษทั ก จะบันทึกรายไดจากการลงทุนในบริษัท ข ดังนี้ เงินลงทุนในบริษัท ข 180,000 ขาดทุนจากรายการพิเศษ-บริษัท ข 20,000 รายไดจากบริษัท ข 200,000 บันทึกรายไดจากการลงทุนในบริษัท ข
การเปดเผยขอมูล 1. ขอมูลทางการเงินโดยสรุปของบริษัทรวม 2. เหตุผลที่ขอสันนิษฐานที่วาผูลงทุนไมมีอิทธิพลอยางมีนัย สําคัญถูกพิจารณาวาไมเปนจริง ในกรณีที่ผูลงทุนมีอํานาจ ในการออกเสียงหรืออํ านาจในการออกเสียงที่จะเกิดขึ้น (Potential voting power) ทั้งทางตรงหรือทางออมโดย ผานบริษัทยอยอื่นในกิจการที่ไปลงทุนนอยกวารอยละ 20 แตมีขอสรุปวาผูลงทุนมีอิทธิพลอยางมีนัยสําคัญ
33
3. เหตุผลที่ขอสันนิษฐานที่วาผูลงทุนมีอิทธิพลอยางมีนัย สําคัญถูกพิจารณาวาไมเปนจริง ในกรณีที่ผูลงทุนมีอํานาจ ในการออกเสียงหรืออํ านาจในการออกเสียงที่จะเกิดขึ้น (Potential voting power) ทั้งทางตรงหรือทางออมโดย ผานบริษัทยอยอื่นในกิจการที่ไปลงทุนเทากับหรือมาก กวารอยละ 20 แตมีขอสรุปวาผูลงทุนไมมีอิทธิพลอยางมี นัยสําคัญ 4. วันที่ในงบการเงินของบริษัทรวม เมื่อผูลงทุนใชงบการ เงินของบริษัทรวมนั้นในการนําวิธีสวนไดเสียมาปฏิบัติซึ่ง มีวันที่ในงบการเงินหรืองวดบัญชีแตกตางจากวันที่ในงบ การเงินของผูลงทุน รวมทั้งเหตุผลในการใชวันที่ในงบ การเงินหรืองวดบัญชีที่แตกตางกัน 5. ลักษณะและขอบเขตของขอจํากัดใด ๆ ที่มีสาระสําคัญ (เชน ผลจากขอตกลงในการกูยืมหรือเงื่อนไขใด ๆ ทาง กฎหมาย) ตอความสามารถของบริษัทรวมในการโอนเงิน ทุนใหแกผูลงทุนไมวาจะเปนในรูปของเงินปนผล หรือ การจายคืนเงินกูยืมหรือเงินทดรองจายลวงหนา
34
6. สวนแบงในผลขาดทุนของบริษัทรวมซึ่งยังไมไดรับรู ทั้ง ยอดที่เกิดขึ้นสํ าหรับงวดบัญชีและยอดสะสมในกรณีที่ผู ลงทุนหยุดรับรูผลขาดทุนของบริษัทรวมในสวนที่เปนของ ผูลงทุน 7. ขอเท็จจริงที่บริษัทรวมไมนําวิธีสวนไดเสียมาปฏิบัติ 8. ขอมูลทางการเงินโดยสรุปของบริษัทรวม ไมวาจะเปนขอ มูลรายบริษัทหรือขอมูลของทั้งกลุมบริษัท ที่ผูลงทุนไมนํา วิธีสวนไดเสียมาปฏิบัติ รวมทั้งมูลคาของสินทรัพยรวม หนี้สินรวม รายได และผลกําไรหรือขาดทุน
ภาพที่ 2-2 การบัญชีสําหรับการลงทุนซื้อหุน
35
เริ่ม
ไม
ลงทุนซื้อ หุนสามัญ?
บันทึกสินทรัพยสุทธิที่ไดมาดวย มูลคายุติธรรม
ใช บริษัทที่คงอยูจะบันทึกสินทรัพย สุทธิที่ไดมาดวยมูลคายุติธรรม ถาใชวิธีซื้อหรือราคาตามบัญชีถา ใชวิธีรวมสวนไดเสียและจะไมมี บัญชีเงินลงทุน
ใช
บริษัทที่ขาย หุนลมเลิก?
ไม ลงทุนซื้อ หุนสามัญ > 20?
บันทึกการลงทุนดวย วิธมี ลู คายุติธรรม/ราคาทุน
ไม
ใช บันทึกการลงทุนโดยวิธีสวนไดเสีย
การลงทุนเปน ไปตามเงื่อนไข วิธีรวมสวนได เสีย?
ใช
บัญชีเงินลงทุนจะถูกบันทึกดวย ราคาตามบัญชีของสวนไดเสียที่ ซือ้ (90% หรือมากกวา)
ไม เงินลงทุนจะถูกบันทึกดวยมูลคา ยุตธิ รรมของสินทรัพยหรือหลัก ทรัพยที่ออกใหสําหรับสวนได เสียที่ซื้อ
ลงทุนซื้อ หุนสามัญ
ใช
> 50%? ไม บันทึกเงินลงทุนในงบการเงิน ของผูลงทุน (One-line consolidation)
ควบคุมชั่วคราว หรือไมมีสิทธิออก เสียงสวนใหญ ?
ไม
ใช เงินลงทุนจะถูกรายงานในงบการ เงินดวยวิธีมูลคายุติธรรม/ราคา ทุนหรือวิธีสวนไดเสีย
จัดทํางบการเงินรวมสําหรับ กลุม กิจการในฐานะหนวย งานบัญชีเดียวกัน