THESIAM MAGAZINE
THE SEVENTH ISSUE T H A I L IF E S T Y L E AN D C ULT URE AT IT S B E S T
2  thesiammagazine
thesiammagazine  3
WELCOME TO
THE SIAM MAGAZINE THE SEVENTH ISSUE
ASEAN Loy Krathong ลอยกระทงอาเซีย่ น
On Tak Bat Devo Day วันตักบาตรเทโว
สำ�หรับประเพณีลอยกระทงเป็น ประเพณีเก่าแก่ของประเทศตะวันออก เป็นทีน่ ยิ ม ในจีน ญีป่ นุ่ ไทย ลาว และ อินเดียเป็นหลัก
วันทำ�บุญตักบาตรในเทศกาลวันออก พรรษา ตามความเชือ่ ของชาวพุทธ ทีว่ า่ เป็นวันทีพ่ ระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ หลังจากเทศนาแก่มารดา
Buffalo Racing ประเพณีวง่ ิ ควาย ประเพณีวง่ิ ควายเป็นประเพณีทม่ี มี า แต่โบราณ เป็นหนึง่ ในประเพณีอนั เป็น เอกลักษณ์ของจังหวัดชลบุรี
contents 12 โดย เอก โคราช
Loy Krathong Festival among the ASEAN countries ลอยกระทงอาเซี่ยน
22
On Tak Bat Devo Day วันตักบาตรเทโว
28
Buffalo Racing ประเพณีวิ่งควาย 6 thesiammagazine
History of the Surin Elephant Round-Up ประวัตงิ านช้างสุรนิ ท์ งานเสดงของช้างทีจ่ งั หวัดสุรนิ ท์ ถือว่า เป็นงานประจำ�ปีของชาติ งานแรก ของ ประเทศไทย
Traditional Boat Races การแข่งเรือ
Preparing For Winter Travel เตรียมตัวเทีย่ วหน้าหนาว
Chanting into the New Year สวดมนต์ขา้ มปี
การแข่งเรือนับเป็นการละเล่นที่ สอดคล้องกับวิถชี วี ติ ความเป็นอยูข่ อง ชาวไทยในชนบททีม่ ถี น่ิ ทีพ่ กั อาศัยอยู่ ใกล้กบั บริเวณแม่นำ้ �ลำ�คลอง
การสวดมนต์ขา้ มปี จึงถือได้วา่ เริม่ จัด ขึน้ ทีว่ ดั สระเกศราชวรมหาวิหารเป็น ครัง้ แรก และ ในปีพทุ ธศักราช 2549 โดยสำ�นักงานเขตป้อมปราบศัตรูพา่ ย กรุงเทพมหานคร
การสวดมนต์ขา้ มปี จึงถือได้วา่ เริม่ จัดขึน้ ทีว่ ดั สระเกศราชวรมหาวิหารเป็นครัง้ แรก และ ในปีพทุ ธศักราช 2549 โดยสำ�นักงานเขต ป้อมปราบศัตรูพา่ ย กรุงเทพมหานคร
32
History of the Surin Elephant Round-Up ประวัติงานช้างสุรินท์
40
Traditional Boat Races การแข่งเรือ
46 Preparing For Winter Travel การเตรียมตัวเที่ยวหน้าหนาว
56 Chanting into the New Year สวดมนต์ข้ามปี
thesiammagazine 7
8  thesiammagazine
Creative without strategy is called 'art.' Creative with strategy is called 'advertising.' Jef I. Richards
thesiammagazine  9
THE SIAM
MAGAZINE
ADVERTISING SALES Luxe International Media mk.luxeintermedia@gmail.com luxeinternationalmedia@gmail.com THE TEAM Dr. Sopon Mekthon Rattanawadee Pungkam Christopher Oates Wanwilai Punnern MANAGING DIRECTOR Suebsakul Supsin PUBLISHER Siam I Am Co., Ltd.
10  thesiammagazine
thesiammagazine  11
Loy Krathong
Festival among the ASEAN countries The Association of Southeast Asian Nations or ASEAN was established on 8 August 1967. The first founding countries consisted of Thailand, Indonesia, Malaysia, Singapore and the Philippines. In 1984, Brunei Darussalam joined the ASEAN, followed by Vietnam in 1995, Burma and Laos in 1997 and Cambodia in 1999. At present, the ASEAN is made up of ten abovementioned countries plus other six countries of Partnership: China, South Korea, Japan, Australia, New Zealand and India. Loy Krathong is an old tradition in the Eastern World. It is related to Buddhism and commonly practiced in China, Japan,Thailand,Laos and India. In China and Japan, Loy Krathong festivals are religious days and a combination between Taoism and Confucianism. Chinese people will float krathongs to express memories about their deceased ancestors or relatives.
12  thesiammagazine
thesiammagazine  13
In Asia, Loy Krathong festivals are held in the following countries. 1. Myanmar As the Burmese legend says, King Asoka wished to build 84,000 stupas, but he was always stopped by Mara. The king then asked a Buddhist monk named Upaguta for help. The monk went to the Underwater World to 28 ask Naga for help. Finally, Naga could defeat Mara. The king could finish his 14  thesiammagazine
construction as desired. Since then, people have held Loy Krathong festival on the full-moon day of the twelfth lunar month to worship Naga. Some legends say that the monk Upaguata is in fact a Naga in the middle of the sea. His great power could defeat Mara. The monk Upaguta is highly revered by the Burmese and northern Thais. 2. Laos The faith in the Goddess of Rivers can be seen along
the Mekhong River since it has been feeding the Laos for a long time. All the Laos traditions can be seen from the river. The End of the Buddhist Lent Festival or the Illuminated Boat Festival is annually organized on the full-moon day of the eleventh lunar month. The activities include boat-racing, illuminated boat processions, and krathong floating. This practice is believed to show respect to the Mekhong River and worship Lord Buddha after he visited his mother in the heaven.
3. Cambodia In Cambodia, Loy Krathong festivals are held twice a year. During the first one, which is organized in the middle of the eleventh lunar month, the government will join the festival and the public will prepare small krathongs of food, but without clothing or others inside. During the second one, which is held in the middle of the twelfth lunar month, the government will prepare large krathongs of food for the deceased, whereas the public will do nothing. thesiammagazine  15
16  thesiammagazine
The Three-River Festival is annually organized in Cambodia. There will be boat-racing, fireworks displays and parades near Tonle Sap Lake. It is held from the fourteenth or fifteenth waxing moon day to the first waning moon day in November. This festival lasts three official holidays. It is similar to Thai Loy Krathong Festival. It aims to express gratitude to the Mekhong River and Tonle SapLake, which provide happiness for the Cambodians. The reason for this is that, when the tide in the Mekhong River is high, it will flow to Tole Sap Lake. On the contrary, at the end of the rainy season in November, the tide in the river will be low and flows back to the river. The Cambodians will float illuminated krathongs along the river. Meanwhile, boat-racing is held to commemorate the time when Cambodia rose to its peak in the reign of King Jaya Woraman VII or during the twelfth century. 4. India Loy Krathong festivals have long been practiced in India with unknown reasons. It aims to worship some specific gods. Indian krathongs are filled with candles and flowers. People can float krathongs anytime. Moreover, some simply place krathongs on the grounds. 5. China In China, floating colorful krathongs is an old tradition among the hans, Mongols, Pais and Miews. It is not required to holdLoy Kratong festivals during Chinese holy days. People can float krathongs at any festival. The meanings of floating krathongs
are different, depending on areas. For example, in Jiangnan, floating krathongs means disposing of illnesses along rivers, whereas along the sea coasts it means asking gods for protection and blessings. In Northern China during the flooding season, hundreds of thousands of people die in flash floods. Loy Krathong festivals in China are usually held in the seventh lunar month, which is believed to be the month of spirits. Krathongs will be floated and used as torches for stray spirits. They will lead the spirits to the heaven. Chinese krathongs will be lit and filled with food for spirits. In Vietnam, Korea and Japan, people hold ceremonies to apologize rivers and dispose of sufferings in rivers. Conclusion Loy Krathong Tradition has been apart of the Thai culture and way of living for a long time. At full moon night of the Thai twelfth lunar month (November) whole Thai people gather at the river banks and ask for blessings and forgiveness from the Goddess of the River by releasing Krathongs. Thousands of candle lights released at the same time illuminate the river brilliantly and is an eerie but beautiful spectacle. The traditional custom has become a major attraction for foreign tourist participating in the activities and enjoying Thai hospitality. However we should not forget the real message of Loy Krathong : Gratitude to the River Goddess
thesiammagazine  17
18  thesiammagazine
ลอยกระทงอาเซียน สำ�หรับประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีเก่าแก่ของประเทศตะวันออก เป็นทีน่ ยิ ม ในประเทศจีน ญีป่ นุ่ ไทย ลาว และประเทศอินเดียเป็นหลัก การลอยกระทงนัน้ เกีย่ วข้องกับพุทธศาสนา โดยในประเทศจีนและญีป่ นุ่ การลอยกระทงส่วนใหญ่เกีย่ วข้องกับวันสำ�คัญในพุทธศาสนาทัง้ สิน้ และได้ หลอมรวมวัฒนธรรมศาสนาเต๋า และลัทธิขงจือ่ ด้วย ในวันอุลลัมพนะ หรือวันสารทจีนตามศาสนาเต๋า การลอยกระทงเป็นพิธี สำ�คัญในการไว้อาลัยบรรพบุรษุ หรือญาติพน่ี อ้ งทีเ่ สียชีวติ ไปแล้ว ซึง่ ประเทศ ในแถบอาเซียนทีย่ งั สืบทอดประเพณีลอยกระทงaอยูอ่ ย่างต่อเนือ่ ง ได้แก่ ประเทศพม่า ประเทศพม่าก็มตี ำ�นานเหมือนกันว่า ครัง้ หนึง่ สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมีพระประสงค์จะสร้างเจดียใ์ ห้ครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ แต่ถกู พระยามารคอย ขัดขางเสมอ พระองค์จงึ ไปขอให้พระอรหันต์องค์หนึง่ คือพระอุปคุตช่วยเหลือ พระอุปคุตจึงไปขอร้อง พระยานาคเมืองบาดาลให้ชว่ ย พระยานาครับปากและ ปราบพระยามารจนสำ�เร็จ พระเจ้าอโศกมหาราชจึงสร้างเจดียไ์ ด้สำ�เร็จสมพระ ประสงค์ แต่นน้ั มาเมือ่ ถึงวันเพ็ญเดือน ๑๒ คนทัง้ หลายก็จะทำ�พิธลี อยกระทง เพือ่ บูชาคุณพระยานาค เรือ่ งนีบ้ างแห่งก็วา่ พระยานาค ก็คอื พระอุปคุตทีอ่ ยูท่ ่ี สะดือทะเล และมีอทิ ธิฤทธิม์ าก จึงปราบมารได้ และพระอุปคุตนีเ้ ป็นทีน่ บั ถือของ ชาวพม่าและชาวพายัพของไทยมาก ประเทศลาว มีความเลือ่ มใสในพระแม่คงคา ทีผี่ า่ นแม่นา้ํ โขงเปรียบเสมือนตัวแทนความ สัมพันธ์ของสายนํา้ ทีห่ ล่อเลีย้ งผูค้ นในประเทศมาช้านาน เราสามารถมองผ่าน ประเพณีตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วกับสายนํา้ ในประเทศนีไ้ ด้เสมอ ‘งานบุญออกพรรษา’ ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว หรือ ‘งานไหลเฮือไฟ’ (ลอยกระทงลาว) จัดขึน้ เป็นประจำ� ในวันขึน้ ๑๕ ค่ำ� เดือน ๑๑ ของทุกปี ภายในงานจะมีกจิ กรรม ประกอบด้วย ประเพณีการแข่งเรือทีร่ มิ แม่นา้ํ โขงประเทศลาว ซึง่ เป็นการบูชาแม่นา้ํ ด้วยการลอยประทีปและไหลเรือไฟ โดยเชือ่ ว่าเป็นการบูชาคแม่นำ้ �โขงที่ เลีย้ งดูประชากรมา และเพือ่ บูชาพระพุทธเจ้าซึง่ เสด็จกลับมาจากการเทศนา โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชน้ั ดาวดึงส์ ประเทศกัมพูชา มีการลอยสองครัง้ คือ ลอยกระทงกลางเดือน ๑๑ ซึง่ เป็นของราชการ ส่วน ประชาชนก็ทำ�กระทงเล็กและบรรจุอาหารใส่ไปในกระทงด้วย แต่ไม่ใส่เสือ้ ผ้า หรือของอืน่ ๆ ส่วนครัง้ ทีส่ อง คือ กลางเดือน ๑๒ จะมีกระทงของราชการเป็น กระทงใหญ่ ประชาชนจะไม่ได้ทำ�และกระทงนีจ้ ะมีอาหารบรรจุลงไปด้วย โดยมี ความเชือ่ ทีว่ า่ เพือ่ ส่งส่วนบุญไปให้แก่ผเี ปรต
thesiammagazine 19
เทศกาลนํา้ เป็นเทศกาลประจำ�ปีของประเทศกัมพูชา โดยจะมีการเฉลิม ฉลองด้วยการแข่งเรือยาว การแสดงพลุดอกไม้ไฟ และขบวนพาเหรด บริเวณทะเลสาบ “โตนเลสาบ” เทศกาลนํา้ เป็นเทศกาลประจำ� ปีของ ประเทศกัมพูชา ทีจ่ ดั ขึน้ ทุกปีตง้ั แต่วนั ขึน้ ๑๔ ค่ำ� ๑๕ ค่ำ� จนถึงแรม ๑ ค่ำ� เดือนพฤศจิกายน ซึง่ ทางการกัมพูชาประกาศให้เป็นวันหยุดยาว ๓ วัน เทศกาลนีค้ ล้ายประเพณีลอยกระทงของไทย โดยประเพณีน้ี จัดขึน้ เพือ่ เป็นการระลึกถึงบุญคุณและแสดงความขอบคุณแม่นา้ํ โขง และทะเลสาบโตนเลสาบ ทีน่ ำ�ความอุดมสมบูรณ์มาสูช่ าวกัมพูชา เพราะนํา้ ในแม่นา้ํ โขงเมือ่ ขึน้ สูง จะไหลไปทีท่ ะเลสาบ เนือ่ งจากในช่วง ปลายฤดูฝนในเดือนพฤศจิกายน นํา้ ในทะลสาบลดต่ำ�ลง ทำ�ให้นา้ํ ไหลลงกลับสูล่ ำ�นํา้ โขงอีกครัง้ ชาวกัมพูชาจะร่วมกันลอยทุน่ ทีป่ ระดับ ด้วยดวงไฟ ไปตามแม่นา้ํ โขง ขณะทีก่ ารแข่งเรือ เป็นการรำ�ลึกถึง เหตุการณ์ในประวัตศิ าสตร์สมัยพระเจ้าชัยวรมัน ที่ ๗ ช่วงศตวรรษ ที่ ๑๒ ในยุคเมืองพระนคร อาณาจักรเขมรทีก่ ำ�ลังรุง่ เรืองมีชยั เหนือ อาณาจักรจาม ในการสูร้ บทางเรือ ประเทศอินเดีย เป็นเรือ่ งทีม่ มี าแต่ดกึ ดำ�บรรพ์จนไม่ทราบสาเหตุ จึงเป็นเพียงการ ปฏิบตั สิ บื กันมาเป็นประเพณีเป็นเรือ่ งบูชาพระเป็นเจ้าหรือเทวดาทีต่ น นับถือเท่านัน้ สิง่ ของทีบ่ รรจุในกระทงจึงมีแต่ประทีปและดอกไม้บชู า มากกว่าอย่างอืน่ การลอยไม่มกี ารกำ�หนดเป็น ฤดูกาลแต่อย่างใด ยิง่ กว่านัน้ หากอยูใ่ นทีส่ งู ไม่มนี ำ้ �ก็จะนำ�กระทงไปวางบนดินเฉยๆ ก็มี ประเทศจีน การลอยกระทงในประเทศจีนก็มคี วามหลากหลาย เป็นประเพณีเก่า แก่ของชน เผ่าฮัน่ มองโกล ไป๋ และเหมียว ส่วนการลอยกระทงจะไม่ จำ�กัดว่าต้องลอยในเทศกาล สารทจีน คือในเทศกาลต่างๆ ทีส่ ำ�คัญ ประเพณีลอยกระทงต่างๆเหล่านีล้ ว้ นมีความหมายในการลอยกระทง 20 thesiammagazine
ซึง่ ก็แตกต่างกันไปในพืน้ ทีต่ า่ งๆ เช่น การลอยกระทงในเขตเจียงหนาน กระทงทีล่ อยไปตามนํา้ หมายถึงว่าให้โรคภัยไข้เจ็บหายลอยไปกับน้ำ� ส่วนในเขตติดชายฝัง่ ทะเล การลอยกระทงหมายความว่าขอพรให้ เทพเจ้าแห่งทะเลช่วยปกป้องคุม้ ครองให้มแี ต่ความสันติสขุ และทาง ตอนเหนือในหน้านํา้ นํา้ ท่วมเสมอ บางปีไหลแรงมากจนทำ�ให้มคี น จมนํา้ ตายเป็นแสนๆคน ประเทศจีนจึงมักมีการลอยกระทงในช่วง เดือนเจ็ด (ตามปฏิทนิ จีน) เพราะเชือ่ กันว่าเป็นเดือนแห่งวิญญาณ มีการจุดประทีปโคมไฟลอยนํา้ เพือ่ เป็นไฟนำ�ทางแก่วญ ิ ญาณเร่รอ่ น เพือ่ มุง่ ไปสูก่ ารเดินทางของจิตวิญญาณไปยังปรโลก ในกระทงจะจุด โคมและมีอาหารบรรจุเพือ่ เป็นทานแก่ดวงวิญญาณนอกจากนีไ้ ม่วา่ จะ เป็นประเทศ เวียดนาม เกาหลีหรือญีป่ นุ่ ก็มพี ธิ กี รรมในการขอขมา และลอยทุกข์ลงในน้ำ�เช่นกัน ด้วยประวัตศิ าสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน ของประเพณีลอยกระทง ย่อมเป็นสิง่ แสดงให้เห็นว่า ประเพณีนม้ี คี วามผูกพันกับวิถชี วี ติ ของ ชาวไทยและชาวอาเซียนมาตัง้ แต่อดีต จวบจนกระทัง่ ถึงปัจจุบนั ในไทย ทุกวันเพ็ญ ขึน้ ๑๕ ค่ำ� เดือน ๑๒ อันเป็นช่วงเวลาทีพ่ ระจันทร์ เต็มดวง ทอแสงนวลอยูเ่ หนือลำ�นํา้ และขณะเดียวกัน ณ ริมฝัง่ นํา้ เราจะได้เห็นภาพของประชาชน ต่างพากันตัง้ จิตอธิษฐานเพือ่ ขอสิง่ ที่ มุง่ หวัง และขอขมาแม่นา้ํ ทีห่ ล่อเลีย้ งชีวติ มาตลอดทัง้ ปีไปกับกระทงที่ ประดิษฐ์ขน้ึ ด้วยความงดงาม เมือ่ แสงเทียนจากกระทงนับร้อยนับพัน ในกระทงลอยกระทบผิวนํา้ เหมือนจะแข่งความสว่างไสวกับแสงจันทร์ วันเพ็ญ ได้ทำ� ให้ความสวยงามของค่ำ�คืนแห่งประเพณีลอยกระทง เป็นทีโ่ จษจันไปทัว่ โลก และดึงดูดให้นกั ท่องเทีย่ วมาร่วมชืน่ ชมและสัมผัส กับวัฒนธรรมประเพณีอนั งดงามของไทย เราคนไทย จึงต้องธำ�รง รักษาสาระคุณค่าทีแ่ ท้จริง ของประเพณีลอยกระทง ประเพณีทแ่ี สดง ถึงความกตัญญูตอ่ สายนํา้ ให้คงอยูส่ บื ไป
thesiammagazine  21
22  thesiammagazine
Tak Bat
Devo thesiammagazine  23
On Tak Bat DevoDay, merit is made through offering food to monks as part of the festival celebrating the end of the Buddhist Rains Retreat (“Buddhist Lent”). According to Buddhist belief, the day marks when the Buddha descended from heaven after delivering a sermon to his mother. “Devo” is short for devorohana, which can be translated as “descending from heaven,” referring to the Buddha’s own descent from heaven. According to Buddhist lore, once the Buddha was enlightened, he gave sermons for the people in numerous lands throughout north India, from Rajgir, Varanasi, Sravasti, to the city of Kapilavastu, his birthplace. 24 thesiammagazine
Having preached to each and every member of his family, he then desired to reciprocate the sacrifice of his mother, who after a mere seven days after the Buddha was born had passed away and was reborn as a devain heaven. For the seventh rainy season after his enlightenment, the Buddha ascended to heaven to spend the rainy season preaching the Abhidharma (one of the three core parts of the Buddhist canon) to his mother for three months. After this he then descended to settle in the city of Sankassa. When the people heard the news of his arrival, they thronged en masse to have an audience with the Buddha so they could make
merit for themselves by offering food. This is thus considered the origin of the tradition of Tak Bat Devo Day. Tak Bat Devo Day in 2015 will fall on October 28th. The temple ceremonies involve installing a great Buddha image upon a pedestal which is then wheeled on a cart or litter and preceded by a huge alms bowl. This litter is pulled in front of a procession of monks and novice monks, lined up according to monastic rank, each carrying their own alms bowls. Holding items and food, the Buddhist followers are arranged in a line along the cart’s path waiting to put the offerings in the monks’ bowls. As for food popularly offered on this day, aside from the ordinary
mix of rice and meat dishes, villagers will prepare a dessert made from sticky rice, coconut, milk, salt, and sugar, which is then wrapped in tender coconut or pandan leaves and boiled till cooked. This dish is called khao tom luk yon. This is presumably because the word yon means “to throw,” and thus refers to how in the past, when crowds of people thronged around the monks, those in the back of the crowd had to throw the bundles of rice into the bowls. Tak Bat Devo is a Buddhist tradition and a major merit-making event for Buddhists. The tradition shows the faith of the Thai people in Buddhism and should be preserved on into the future as a vital part of Thailand. thesiammagazine 25
วันตักบาตรเทโว วันตักบาตรเทโว หมายถึง วันทำ�บุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของชาวพุทธ ที่ว่าเป็นวันที่ พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ หลังจากเทศนาแก่มารดา เทโว ย่อมาจากคำ�ว่า เทโวโรหนะ ซึ่งแปลว่า การลงมาจากสวรรค์ หมายถึง การเสด็จลงจากสวรรค์ของพระพุทธเจ้า ตามตำ�นาน กล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว ทรงเทศนาให้ประชาชน ในแคว้นต่าง ๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่ เมืองราชคฤห์ เมือง พาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นบ้านเกิด ของพระองค์ ทรงเทศนาแก่ญาติทั้งหลายอย่างถ้วนหน้า แล้วทรง ปรารถนาจะสนองพระคุณมารดาเพราะหลังพระพุทธเจ้าเกิดได้เพียง 7 วัน มารดาของพระองค์ก็เสียชีวิต และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร อยู่ในสวรรค์ ในพรรษาที่ 7 หลังจากการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ จึงเสด็จขึ้นไปจำ�พรรษาบนสวรรค์พร้อมกับเทศนาพระอภิธรรมปิฎกแก่มารดาประมาณ 3 เดือน จึงเสด็จลงมาประทับอยู่ที่เมือง สังกัสสะ เมื่อประชาชนทราบข่าวต่างก็พากันไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อ ทำ�บุญตักบาตรกันอย่างหนาแน่น จึงถือกำ�เนิดวันตักบาตรเทโวขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 26 thesiammagazine
การตักบาตรเทโวในปี 2558 ตรงกับวันพุธที่ 28 ตุลาคม โดยในพิธีทางวัดจะอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในแท่น ซึ่งตั้ง อยู่บนล้อเลื่อนหรือคานหาม มีบาตรขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งไว้หน้า พระพุทธรูป มีคนลากล้อเลื่อนไปช้า ๆ นำ�หน้าพระสงฆ์ สามเณร ซึ่งถือบาตรเดินเรียงไปตามลำ�ดับ ชาวพุทธต่างก็นำ�ข้าวของ อาหาร หวานคาว มาเรียงรายกันอยู่เป็นแถวตามแนวทางที่รถเคลื่อนผ่าน เพื่อคอยตักบาตร ส่วนอาหารที่นิยมตักในวันนั้น นอกจากข้าวและ อาหารคาวหวานธรรมดาแล้ว ยังมีขนมที่ทำ�มาจากเหนียวผัดกับกะทิ ใส่เกลือ น้ำ�ตาล ห่อด้วยใบมะพร้าวอ่อนหรือใบเตยไว้หางยาว แล้วต้มให้สุก ซึงเรียกว่า “ข้าวต้มลูกโยน” โดยสันนิษฐานว่าในอดีต ผู้คนรอใส่บาตรกันแออัดมาก ทำ�ให้เข้าไม่ถึงพระ จึงใช้ข้าวก่อ หรือ ปั้นโยนลงบาตรแทน ตักบาตรเทโวเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาและถือว่าเป็นการทำ�บุญ ครั้งใหญ่ของชาวพุทธ เป็นประเภณีที่แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใส ศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทยและควรอนุรักษ์รักษาไว้ให้ คู่กับประเทศไทยต่อไปนานเท่านาน
thesiammagazine  27
Buffalo racing Buffalo racing is an ancient tradition and a part of Chonburi province identity. The traditional buffalo races occur annually, according to the belief that in any year without them, contagion will strike the people’s cattle and numerous animals will die in mysterious ways. It’s also believed that if a buffalo becomes ill during the year, the owner will pray for its recovery and then bring it to join in the races.
28  thesiammagazine
thesiammagazine  29
30  thesiammagazine
The tradition of the running buffalo is set to occur on the day before the end of the monks’ rains retreat (also known as “Buddhist Lent”). Villagers in the capital and surrounding districts wake up early in the morning to bathe their buffaloes and adorn them in extravagant style. The buffaloes are rubbed down with oils and perfume and their hair is brushed thoroughly clean. The carts dragged by the buffaloes are decorated with hanging garlands of coconut leaves and bear agricultural goods for the villagers to buy. The farmers’ extravagant efforts to decorate their buffaloes has led to buffalo beauty pageants staged in parallel with the races. When it is time to begin the buffalo race ceremony, offerings are arranged, with savory meat dishes placed in traditional banana leaf baskets upon a table set with white cloth out in the open air. Candles and incense are lit and then invitations are made to the celestial deities and wandering spirits to feast on the offerings and to protect the people and their livestock. The participants pray for peace and prosperity in their lives and livelihoods for the coming year. After this, the long parade of decorated buffaloes then enter the city and come to a halt at the wide field of Wat Intharam, whereupon the competitions for health, strength, and beauty commence. As for the buffalo races, there are two types: “buffaloes in the water” and “buffaloes on land” with the race tracks about 100 meters long. When pairs of buffaloes are harnessed together and race through a wet field (flooded with water), it is called “buffaloes in the water.” As for the “buffaloes on land,” the buffaloes race individually on dry land. During the competition, those riding the buffaloes often can’t keep the buffaloes along the set course, and so there’s always buffaloes running off the tracks into the mud. The rules for racing the buffaloes, both on water and land, are simple: if the person riding the buffalo loses grip of the yoke and falls behind and can’t catch up, they instantly lose. The buffalo that passes the finish line first is the winner, and wins both prizes and pride. At night, after the competition has all finished up, there are religious ceremonies such as a sermon on the Buddha’s life and the sprinkling of holy water on both the buffalo and the people. Once the various ceremonies are complete, everyone parts ways to return home. This tradition of the running buffalo is given as compensation for the buffaloes to give them a chance to rest after their long hard work in the fields. This aside, the tradition of the running buffalo is also a way of showing thanks to the buffaloes, animals who have performed a good service for the farmers and the Thai people. It is also a chance for the villagers to take a break and to socialize and has kept the Thai people close to their traditions now for over 100 years.
thesiammagazine 31
ประเพณีวิ่งควาย ประเพณีวิ่งควายเป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ เป็นหนึ่งใน ประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชลบุรี ประเพณีวิ่งควาย เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำ�ทุกปี โดยเชื่อกันว่าหากปีใดไม่มี การวิ่งควาย ปีนั้นวัวควายจะเกิดโรคระบาดทำ�ให้ล้มตายมากจนผิดปกติ นอกจากนี้หากมีควายที่เจ็บป่วยระหว่างปี เจ้าของควายก็ จะบนบานให้ควายหาย แล้วนำ�มาร่วมในประเพณี
จึงจะเริ่มการประกวดควายขึ้น ตั้งแต่การประกวดสุขภาพ ประกวดความแข็งแรง และความสวย้งาม
งานประเพณีวิ่งควายจะจัดขึ้นก่อนวันออกพรรษา 1 วัน ชาวบ้าน ในอำ�เภอเมืองและอำ�เภอใกล้เคียง จะตื่นแต่เช้านำ�ควายมาอาบน้ำ� ให้สะอาด และตกแต่งอย่างสวยงาม โดยตัวควายจะชะโลมด้วย น้ำ�มันและเครื่องหอม ขนจะถูกถูด้วยแปลงสะอาดเป็นมันทั้งตัว ส่วนเกวียนที่บรรทุก ก็จะถูกตกแต่งสวยงามด้วยซุ้มทางมะพร้าว และจะนำ�ผลผลิตทางการเกษตรบรรทุกเกวียนมาขายให้ชาวบ้าน ร้านค้าในตลาดไปพร้อมๆ กัน และจากการที่ชาวไร่ชาวนาต่างก็พา กันตกแต่งประดับประดาควายของตนอย่างสวยงามนี่เอง ทำ�ให้ เกิดการประกวดประชันความสวยงามของควายกันขึ้น พร้อมๆ กับการแข่งขันวิ่งควาย
การแข่งขันที่มีควาย 2 ตัวเทียมคราดวิ่งแข่งกันในท้องนาชุ่มน้ำ� (มีน้ำ�ขัง) เรียกว่า “ควายน้ำ�” ส่วน “ควายบก” ใช้ควายตัวเดียว วิ่งแข่งกันบนสนามแห้ง ในการแข่งขันคนขี่ควายมักจะไม่สามารถ บังคับควายวิ่งไปตามลู่ที่กำ�หนดไว้ได้ จึงมักมีการวิ่งออกลู่นอกเลนเสมอ กติกาง่ายๆ สำ�หรับการแข่งขันทั้งควายบกและควายน้ำ� กำ�หนดไว้ว่า คือ หากผู้ขี่มือหลุดจากคราดแล้ววิ่งตามไม่ทันจะถูก จับแพ้ทันที และถ้าควายตัวไหนวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนก็เป็นตัวที่ชนะ ได้รับรางวัลและความภูมิใจกลับไป
เมื่อจะเริ่มพิธีวิ่งควาย จะมีการจัดเครื่องเซ่น ซึ่งประกอบด้วย อาหารคาวหวาน ใส่กระทงใบตองวางบนโต๊ะที่ปูด้วยผ้าขาว วางไว้กลางแจ้ง จุดธูปเทียน และกล่าวคำ�อัญเชิญเทวดา ภูตผีปีศาจที่เร่ร่อนให้มากินเครื่องเซ่น และช่วยคุมครองประชาชนและ สัตว์เลี้ยงในหมู่บ้านของตน และขอให้ประสบความสุขความเจริญ ในการประกอบอาชีพแ การดำ�รงชีวิตตลอดปี ต่อจากนั้นจึงมี ขบวนแห่ควาย ที่ตกแต่งสวยงามเดินขบวนยาวเข้าไปที่ตัวเมือง ชลบุรี และจะมาหยุดชุมนุมควายกันที่ลานกว้างของวัดอินทาราม 32 thesiammagazine
ส่วนการแข่งขันวิ่งควายนั้นมี 2 ประเภท คือ “ควายน้ำ�” กับ “ควายบก” และจะใช้ระยะทางวิ่งประมาณ 100 เมตร ในการ แข่งขัน
เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลง ในเวลากลางคืนจะมีพิธีทางศาสนา เช่น เทศน์มหาชาติ และประพรมน้ำ�มนต์ให้ทั้งควายและคน เมื่อเสร็จพิธีกรรมต่าง ๆ ก็จะพากันแยกย้ายกลับบ้าน ประเพณี วิ่งควายนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการทำ�ขวัญควายและให้ควายได้พักผ่อน หลังจากการทำ�นาหนักมายาวนาน นอกจากนี้ประเพณีวิ่งควาย ยังเป็นการแสดงถึงความกตัญญู รู้คุณต่อควายที่เป็นสัตว์ที่มี บุญคุณต่อชาวนาและคนไทย อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ชาวบ้านได้มา พักผ่อนพบปะสังสรรค์กันในงาน ทำ�ให้ประเภณีอยู่คู่คนไทยและ มีการจัดงานมากว่า 100 ปีเลยทีเดียว
Be swept away from the sound of city life and busy way on nowadays. Escape to private space where making you peace, relax and rejuvenate. At Hotel Siri, it’s located on very convenience spot of Lampang province. There is 30 rooms with the Thai style accommodation, all of them is set up in stunning landscape with the green garden. Hotel Siri, where is the place you can meet of a simplicity touch.
Hotel Siri 674 High Way Lampang-Ngao. T. Pra Bat A. Muang, Lampang Tel: + 66 54 018219, Fax:+66 54 018219 Email: piyasann19@gmail.com, www.hotelsiri-lampang.com thesiammagazine  33
34  thesiammagazine
Surin
Elephant
History of the Surin Elephant Round-Up The year 1955 is considered the starting point of Thailand’s world famous elephant round-ups. At that time, in the area of Taklang Village, Tha Thum sub-district in Surin province, news of an imminent helicopter landing prompted an eager gathering of local villagers. Due to the fact that thevillagers’ primary occupation was the catching and taming of wild elephants for sale, nearly every house in the town had their own elephant for use. By the time they all arrived at the helicopter pad, more than 300 elephant were gathered together, an occurrence even more sensationalthan the helicopter itself. Until1960, the district officials of Tha Tum could only organize the elephants together on one other occasion. Seeing the increasingly difficulty of snaring elephants along the Thai-Cambodian border due to the political troubles between the two countries, the town officials thus organized an exhibition of the elephants to celebrate the new town hall built on the area of the old Tha Tum airport, an area now occupied by the Tha Tum Pracha Sermwit School. That event on November 19, 1960, included an elephant parade, elephant lassoing performances, and elephant races. Due to the event’s widespread broadcasting via television, newspapers and radio, great interest in the round-up grew both within Thailand and abroad.
thesiammagazine 35
The following year, Surin province in partnership with the Tourism Authority of Thailand, once again organized the annual elephant round-up. Since the festival received significant media interest abroad, the Tourism Authority of Thailand proposed to the Thai Cabinet that the elephant festival become an annual nationally sponsored event. The Cabinet met on November 15, 1962 and approved the Surin Elephant Festival as Thailand’s first national festival, making the tradition of the elephant round-upan important forcefor the development of Surin province up through to the present day.
36  thesiammagazine
thesiammagazine  37
ประวัตงิ านช้างสุรนิ ท์ ในปี พ.ศ. 2498 ถือเป็นจุดเริม่ ต้นของการก่อเกิดงานช้างระดับโลก ของไทย เนือ่ งจากช่วงเวลานัน้ ชาวบ้านได้รบั ข่าวว่าจะมีเฮลิคอปเตอร์ จะลงมาจอดทีบ่ ริเวณบ้านตากลาง อำ�เภอท่าตูม จังหวัดสุรนิ ทร์ ชาวบ้านจึงชวนกันไปดูดว้ ยความตืน่ เต้น แต่ดว้ ยเหตุทว่ี า่ ชาวบ้าน บริเวณนัน้ มีอาชีพเลีย้ งและจับช้างป่ามาฝึกขาย ทำ�ให้บา้ นแทบทุกหลัง มีชา้ งและใช้มนั เป็นพาหนะในการเดินทาง เมือ่ ไปถึงลานจอด ปรากฎว่า มีชา้ งจำ�นวนมากมายกว่า 300 เชือก มาชุมนุมเพือ่ รอดูเฮลิคอปเตอร์ ซึง่ เหตุการณ์ในครัง้ นัน้ สร้างความตืน่ เต้นประทับใจแก่ผพู้ บเห็น มากกว่าการได้ดเู ฮลิคอปเตอร์เสียอีก จนกระทัง่ ในปี พ.ศ. 2503 นายอำ�เภอท่าตูม ในสมัยนัน้ ไดน้้ ำ�ช้าง เหล่านีม้ ารวมตัวกันอีกครัง้ หนึง่ ด้วยเล็งเห็นปัญหาของชาวบ้าน เนือ่ งจากไม่สามารถเข้าไปคล้องช้างตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้อย่างเคยเพราะปัญหาการเมืองระหว่างประเทศจึงได้นำ�ช้างมาร่วม แสดงในงานฉลองทีว่ า่ การอำ�เภอหลังใหม่ ณ บริเวณสนามบินเก่า ท่าตูม คือ บริเวณโรงเรียนท่าตูมประชาเสริมวิทย์ในปัจจุบนั 38 thesiammagazine
การแสดงครัง้ นัน้ ได้จดั ขึน้ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ภายในงานมีการเดินขบวนพาเหรดช้าง การแสดงการคล้องช้าง และการแข่งขันช้างวิง่ เร็ว จากการแสดงในครัง้ นัน้ ทำ�ให้สอ่ื ต่างๆ ทัง้ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ เผยแพร่ขา่ วไปทัว่ จึงทำ�ให้ชาวไทยและ ชาวต่างประเทศเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก ในปีถดั มา จังหวัดสุรนิ ทร์จงึ ได้รว่ มกับการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย จัดงานแสดงช้างขึน้ เป็นงานประจำ�ปีของจังหวัดสุรนิ ทร์อกี ครัง้ หนึง่ ผลจากการจัดงานแสดงช้างได้รบั ความสนใจจากชาวต่างประเทศ กว่าทีค่ าดไว้อย่างมาก การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย จึงได้รายงาน เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพือ่ พิจารณาให้งานเสดงของช้างเป็นงาน ประจำ�ปีของชาติ และคณะรัฐมนตรี ได้ประชุมเมือ่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2505 อนุมตั ใิ ห้งานแสดงของช้างจังหวัดสุรนิ ทร์เป็นงานประจำ�ปีของ ชาติเป็นงานแรกของประเทศไทย และส่งผลให้งานช้างเป็นงาน ประเพณีทส่ี ำ�คัญยิง่ ต่อการพัฒนาจังหวัดสุรนิ ทร์จนถึงปัจจุบนั
AANA (meaning Elephant in Malayalam, a
native Indian Language) is situated along the most pristine area of the Klong Prao Lagoon on Koh Chang. Surrounded by lush green tropical mountains covered with forest on one side and the lagoon on the other side. Featuring 71 guestrooms, the resort is a memorable hideaway with great dining options and spa facilities also an offer.
AANA, using the concept of unique
and contemporary design in complete harmony with the environment, aims to offer a true-to-nature ambiance and a refreshingly earthy, relaxing experience for the perfect well-being.
AANA RESORT - KOH CHANG 19/2 Moo.4, Klong Prao Beach, Koh Chang, Trat 23170 Thailand Tel. +6639 551 138, Fax +6639 551 599
AANA RESORT - BANGKOK OFFICE & RESERVATION 44/68 Moo1, Soi Revadee 5, Tambon Talardkwan, Amphor Muang, Nonthaburi 11000 Thailand Tel. +662 951 4722-4 , Fax +662 951 4655 e-mail: reservation@aanaresort.com website: www.aanaresort.com
thesiammagazine  39
Traditional
Boat Races Boat racing has been a Thai pastime since the Ayutthaya period and is an enjoyable sport in harmony with the rural way of life of riverdwelling Thais.
the water levels are quite high. Village folk who lived along river ways used boats as their primary means of transportation, so when the Buddhist ceremony needed to be performed, they paraded their boats along the river in order In former times, local boat races were intended to carry the monks’ robes to the temple. Once as a way to make merit, with races conducted the ceremony was complete, a boat race would be conducted, which, through the trials of at the end of the Rains Retreat when robes are ceremonially presented to the monastics, competition, was believed to be another avenue a time between October and December when of merit making.
40  thesiammagazine
thesiammagazine  41
Some localities host annual boat races to pay respects to the local Buddha image, others as an offering to the spirits and asan homage to the sacred, and in yet other places merely for festive fun. In the past, races in the central region of Thailand were typicallyhostedannually and could be found extensively throughout the region in almost every province, including PhrachuapKhiri Khan, Ratchaburi, SamutSongkhram, SamutSakhon, SamutPrakan, Kanchanabhuri, Bangkok, Chantabhuri, Ang Thong, Suphanbhuri, and NakhonSawan. Both men and women compete in the boat races. Races are usually for adults, with a standard team for each boat, with the number of rowers dependent on the agreed upon rules and the size of the boats used, though the number is usually the same for men and woman. Some places have competitions between men and women teams with the women’s team composed of more members than the men’s team. The rules are simple: the racers paddle to the finish line with the first one to make it being the winner. However in some places, a flag is fixed to a buoy at the finish line, and the winner is the boat that first reaches out and grabs it. Some places use very long boats with as many as 20-40 rowers in a style called KhaengReuaYao(long boat racing), with a coxswain beating out the rhythm using wooden clappers, sticks or drums, so that all those in the boat row in rhythm, creating a delightfully entertaining activity for all.
42 thesiammagazine
thesiammagazine  43
การแข่งเรือ การแข่งเรือ เป็นกีฬาพื้นบ้านเก่าแก่ของประเทศไทยตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา การแข่งเรือนับเป็นการละเล่นที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในชนบทที่มีถิ่นที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับ บริเวณแม่น�้ำล�ำคลอง
เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ กาญจนบุรี กรุงเทพฯ จันทบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และนครสวรรค์
การแข่งเรือจะสามารถเล่นได้ทั้งชายและหญิง ส่วนมากจะเล่นกัน การเล่นแข่งเรือของชาวบ้านในสมัยก่อนมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการ ในหมู่ผู้ใหญ่โดยจะใช้ผู้เล่นเป็นชุดหรือเป็นทีมประจ�ำเรือแต่ละล�ำ จ�ำนวนผู้เล่นแต่ละทีมจะมากน้อยแล้วเเต่จะตกลงกัน และขึ้นอยู่กับ ท�ำบุญ ท�ำกุศล คือ ชาวบ้านจะเล่นกันในเทศกาลทอดกฐิน ขนาดของเรือที่ใช้แข่งขัน แต่มักจัดผู้เล่นแต่ละทีมให้มีจ�ำนวน ทอดผ้าป่า ซึ่งจะอยู่ในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ซึ่งระยะนี้ ผู้เล่นทั้งชายและหญิงพอๆ กัน บางท้องที่อาจจัดแข่งขันในระหว่าง จะเป็นช่วงฤดูน�้ำมาก ชาวบ้านที่อยู่ตามที่อยู่ริมฝั่งแม่น�้ำจะใช้เรือ เป็นพาหนะ เมื่อมีงานพิธีท�ำบุญจะมีการแห่แหนกันทางน�้ำ เพื่อน�ำ ทีมชายกับทีมหญิง ซึ่งฝ่ายทีมชายมักจะต่อจ�ำนวนให้ผู้เล่นหญิง องค์กฐิน องค์ผ้าป่าไปยังวัดเมื่อเสร็จพิธีการทางศาสนาแล้ว ก็จะมี มีจ�ำนวนมากกว่า การเล่นแข่งเรือกัน ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ที่ร่วมแข่งขันจะได้บุญอีกด้วย วิธีเล่นนั้นไม่ยาก พายเรือให้ถึงเส้นชัยก่อนก็จะเป็นผู้ชนะ แต่บาง ในบางท้องถิ่นจะจัดให้มีการแข่งเรือในงานท�ำบุญไหว้พระประจ�ำปี ท้องถิ่นจะใช้ธงติดทุ่นลอยไว้กลางแนวเส้นชัย เรือล�ำใดพายไปถึง ของแต่ละท้องถิ่น บางแห่งก็จะมีการแข่งเรือเพื่อเป็นการบรวงสรวง ธงและคว้าธงไว้ได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ หรือบางท้องถิ่นจะใช้เรือยาว สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ หรือบางแห่งจัดให้มีการเล่น ซึ่งต้องใช้คนพายมากถึง 20-40 คน เรียกว่า แข่งเรือยาวจะมี แข่งเรือเป็นเทศกาลเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงต่างๆ เป็นต้น คนหนึ่งคอยให้จังหวะในการพาย มีการตีกรับ เคาะไม้ ตีกลอง เป็นจังหวะ เพื่อให้ทุกคนในเรือพายโดยพร้อมเพรียงกัน นับเป็น กิจกรรมที่สนุกสนานสร้างความครื้นเครงโดยทั่วกัน การเล่นแข่งเรือของชาวบ้านสมัยก่อนในภาคกลาง มักจัดเป็น ประเพณีประจ�ำปี และมีการเล่นเป็นที่แพร่หลายแทบทุกจังหวัด 44 thesiammagazine
46  thesiammagazine
PREPARING FOR
WINTER TRAVEL As winter approaches, many people begin to make plans to travel. Once your plans are all set in place though, don’t forget to make preparations for your health as well, for the weather shifts often and it would be a shame to get sick during one’s travels. Illness often comes on unexpectedly, so planning well for your travels also includes planning well for your health.
thesiammagazine 47
Easy tricks for self-care before travelling: 1. Eat nutritional food from all five food groups. 2. Drink plenty of water. Make sure that the water is clean and that the food is fresh and well cooked. 3. Rest adequately before traveling. 4. Avoid close contact with those who are sick. If contact is unavoidable, you should wear a facemask and at meals eat food while still hot, use serving spoons and wash your hands. 5. Exercise regularly. 6. Avoid smoking and drinking.
48  thesiammagazine
thesiammagazine  49
What to do if sick while traveling If sick while travelling, you should make sure to stay warm especially when in areas where the weather can turn very cold. You should conduct yourself according to these principles: • Wear thick clothing, as well as gloves, socks and hats. • After bathing, apply lotion to heal the skin. • In cases of chapped lips, you should apply lip balm and refrain from frequent licking. • For those with chronic illness, medicine should be brought along with them to be taken as per doctor’s orders. Most important of all is to never drink alcohol to warm up the body, because when drinking alcohol, 50 thesiammagazine
the capillaries expand, causing a sudden rise in body temperature. If consumed in large amounts, alcohol will sedate the central nervous system causing intoxication and possible unconsciousness. If one’s clothing is insufficient, this can cause prolonged periods of hypothermia which are potentially fatal. This winter you mustn’t be overly concerned about becoming ill—just make sure to prepare yourself well before heading out so that your trip will be a joyful one, without the burden of having to worry about one’s health. I hope you all keep your health in mind, Dr. Sophon Mekathon, M.D. Permanent Secretary of the Ministry of Public Health
thesiammagazine  51
เตรียมตัวเที่ยวหน้าหนาว เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว หลายท่านคงเริ่มมีการวางแผนท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เมื่อวางแผนเสร็จสรรพ อย่าลืม วางแผนดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าไปเที่ยวแล้วเจ็บป่วยคงไม่ดีแน่ อาการเจ็บป่วยมักจะมาแบบคาด ไม่ถึง การเตรียมตัวไปเที่ยวที่ดีควรวางแผนไปพร้อมกับการดูแล สุขภาพตนเองให้พร้อมด้วยเช่นกัน เคล็ดลับกับการดูแลตัวเองอย่างง่ายๆก่อนเดินทางท่องเที่ยว 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ 2. ดื่มน้ำ�มากๆ ดื่มน้ำ�สะอาด และรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ 3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางท่องเที่ยว 4. หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด หากหลีกเลี่ยง ไม่ได้ควรใส่หน้ากากป้องกันโรค และปฏิบัติตนด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือเสมอ 5. ออกกำ�ลังกายให้สม่ำ�เสมอ 6. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ถ้าเจ็บป่วยขณะไปท่องเที่ยวต้องทำ�อย่างไร คำ�ตอบก็คือควรดูแล ร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีอากาศ เปลี่ยนแปลงหรืออากาศหนาวมาก ๆ ควรปฏิบัติตัวดังนี้ • สวมเสื้อผ้าหนา ๆ สวมถุงมือถุงเท้าและสวมหมวก • หลังอาบน้ำ�ควรทาโลชั่น หรือครีมบำ�รุงผิว 52 thesiammagazine
• กรณีที่มีปัญหาริมฝีปากแตกควรทาด้วยลิปบาล์ม และไม่ควร เลียริมฝีปากบ่อย ๆ • สำ�หรับผู้ที่มีโรคประจำ�ตัวต้องนำ�ยาไปเพื่อรับประทานตามที่ แพทย์สั่งด้วย ที่สำ�คัญที่ควรระวังให้มากก็คือ “ห้ามดื่มสุราแก้หนาว” เพราะ เมื่อดื่มสุรา หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะขยายตัว ร่างกายร้อน วูบวาบ ส่งผลให้ความร้อนถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น โดยไม่รู้ตัว ทำ�ให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง หากดื่มในปริมาณ มาก ๆ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะกดประสาทส่วนกลางทำ�ให้มี อาการเมา อาจหลับโดยไม่รู้สึกตัว และถ้าใส่เครื่องนุ่งห่มที่ให้ ความอบอุ่นไม่เพียงพอ เป็นเหตุร่างกายตากอากาศเย็น ๆ เป็นเวลานาน อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน หน้าหนาวนี้ ท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกลัวป่วย แค่ดูแลเตรียมความ พร้อมสุขภาพก่อนออกเที่ยว ทริปนี้ก็จะเต็มไปด้วยความสุขแบบ ไร้กังวลเรื่องปัญหาสุขภาพมาให้กวนใจ ขอให้ทุกท่านอย่าลืม ดูแลสุขภาพตนเองด้วยนะครับ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
Owned and operated by a local family, everything at Woodlands Hotel & Resort and Woodlands Suites Serviced Residences are designed to make guests feel like a part of the family and at home. Thai hospitality and international-standard facilities are what you will find here. Woodlands are surrounded by a peaceful environment away from the hustle of the city, and at the same time within walking distance from shopping centers, supermarkets, restaurant and the beach. Set in a beautiful tropical garden with a wide variety of plants and trees, the resort is a peaceful retreat for frantic dwellers and happy tourists.
Woodlands Hotel & Resort Pattaya-Naklua Road Pattaya City,Chonburi Thailand Tel. +66 (0) 3842 1707, Fax. +66 (0) 3842 5663, Email: res@woodland-resort.com, www.woodland-resort.com
Chanting into the
New Year 56 thesiammagazine
Each time the New Year approaches, you may find yourself wondering where you’ll go for the year’s end party or where you’ll be for the countdown. If you’re bored of all this though, you might stay at home watching on TV the various celebrations all across the world. But what if there’s something out there a bit more unusual?
In Thailand, in addition to the nighttime festivities which are just as crazy as anywhere else in the world, there’s another excellent activity which Thai people enjoy doing as they cross into the new year: “chanting through to the new year.” What is “chanting through to the new year”? Chanting through to the new year has been a popular tradition for Thai people since long ago. Monks, before the end of the year, would goto perform
chanting at the Public Relations Department where they would wait until midnight to broadcast the chanting across the whole country. After this, the Supreme Patriarch of Thailand, leader of the Thai monastic clergy, would lead the sangha of monks to WatSaket and begin the chanting ceremony at the temple hall, as was tradition since the time of Rama III who conducted ceremonies there during the Songkhran festival, the traditional New Year for Thais. thesiammagazine 57
“Chanting through to the new year” is thus considered to have first begun at WatSaket, and in 2006,in cooperation with the Office of PomPrapSattruPhai district, the municipality of Bangkok recognized the importance of this event, and thus together with the monastic sangha at WatSaket, made chanting through to the new year an official event. Why should we chant as we cross into the New Year? We should chant because the new year is one of the best times of the year; chanting is thought to bring good luck to our new beginnings as well as on into the rest of the year. Chanting through to the new year is considered by Thais to be an excellent activity and should be instilled into the younger generation so they practice it regularly, because chanting boosts mindfulness, concentrates the mind, and calms the heart. Thus,chanting as you cross into the new year is another intriguing activity for New Year’s day because in addition to saving oneself money, it also reduces accidents and other dangers,and can be seen as a way to perform good in adieu of the old year and in welcoming of the new. So do you want to give it a try?
58 thesiammagazine
thesiammagazine  59
สวดมนต์ข้ามปี ใกล้ปีใหม่เข้ามาทุกที คุณอาจกำ�ลังคิดถึงสถานที่สำ�หรับการ Countdown หรืองานปาร์ตี้ในคืนส่งท้ายปีเก่าอยู่ หรือถ้าหาก คุณเบื่อหน่ายกับสิ่งเหล่านี้คุณก็คงต้องนอนอยู่บ้านนั่งดูทีวี ฟังข่าวการเฉลิมฉลองปีใหม่จากที่ต่างๆทั่วโลก แล้วถ้ามันมีอะไรที่แปลกกว่านั้นละ ?
การสวดมนต์ข้ามปี เริ่มจัดขึ้นที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2549 โดยสำ�นักงานเขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ได้เห็นความสำ�คัญของ การสวดมนต์ข้ามปีจึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์วัดสระเกศจัดสวดมนต์ ข้ามปีขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในประเทศไทยนอกจากการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานไม่แพ้ที่อื่นๆ ในโลกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่คนไทยทำ�กันในช่วงคืน ข้ามปีเก่าก็คือ “การสวดมนต์ข้ามปี”
ทำ�ไมต้องสวดมนต์ข้ามปี...? เพราะช่วงเวลาดี ก็คือ ช่วงเวลาของปีหม่ ดังนั้นการสวดมนต์ ข้ามปี จึงถือได้ว่าเป็นสิริมงคลต่อการเริ่มต้นใหม่ และถือว่าเป็น สิริมงคลไปตลอดทั้งปีอีกด้วย การสวดมนต์ข้ามปี ถือว่าเป็นสิ่ง ที่ดีงาม และเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับลูกหลานให้ปฏิบัติอย่าง สม่ำ�เสมอ เพราะการสวดมนต์จะทำ�ให้มีสติ ทำ�ให้จิตเกิดสมาธิ จิตใจสงบเป็นสุข ด้วยเหตุนี้เอง การสวดมนต์ข้ามปีจึงเป็นอีก หนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในวันขึ้นปีใหม่ เพราะนอกจากจะช่วย ประหยัดเงิน ช่วยลดอุบัติเหตุ และอันตรายต่างๆ ยังถือเป็นการ ทำ�ความดีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีกด้วย
การสวดมนต์ข้ามปี คืออะไร ? การสวดมนต์ข้ามปีนั้นเป็นประเพณีนิยมของชาวไทยมาแต่เดิม โดยก่อนสิ้นปี พระสงฆ์จะไปสวดมนต์ที่กรมประชาสัมพันธ์ จาก นั้นก็จะรอเวลาเที่ยงคืนเพื่อสวดมนต์ออกอากาศไปทั่วประเทศ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ต่อมา เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้นำ�คณะสงฆ์วัดสระเกศ ประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปีขึ้น ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศ โดยทำ�ตามประเภณีโบราณ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่เคย ประกอบพิธีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีปีใหม่ของ ไทยที่มีมาแต่เดิม 60 thesiammagazine
คุณอยากจะลองไปสักครั้งมั้ยละ ?
cascade resort & spa
A romantic retreat like no others or even for non-lovers! Always a place of bliss; always a pleasure to visit and stay in!
12/2 M.8, T.Maeram, A.Mae Rim, Chiangmai, 50180, Thailand Phone: (66)81-8811444, (66)81-8816570 Fax: (66)81-8817404 info@sukantara.com l www.sukantara.com
64  thesiammagazine
Welcome to Aurora spa! Royal Pavilion Hua Hin
Discover Aurora spa at Royal Pavilion Hua Hin, where an array of fun and easy treatments awaits you. Let us send you to a peaceful state of body and mind, to help you to rejuvenate from the rigors of everyday life. Located on the second floor, our contemporary spa features two tranquil rooms, perfect for you to relax and revitalize Custom-designed spa treatments echoing your personal needs and desires allow you to create the treatment journey that is best suited to your own body, mind and spirit. Our highly skilled therapists have been nurtured to harness the instinctive art of natural energy and deliver a long lasting result.
Phone: 032 513 188, 083-294 4326 Fax: 032 512 666 E-mail: sale@royalpavilionhunhin.com 40/88 Phetkasem Rd., Hua Hin, Prachuabkhirikhan 77110
www.royalpavilionhuahin.com thesiammagazine  65
66  thesiammagazine