Travelgraphy9 issuu

Page 1

FREE MAGAZINE ONLINE / ปีที่ 2 ฉบับที่ 9 / เดือนกรกฎาคม 2561






บรรณาธิการบริหาร

> วรุตม์ หนันเรือง หัวหน้ากองบรรณาธิการ

> นวพล เกษมโสภา

กองบรรณาธิกา

วรท กุมภ์ประดิษฐ์ <-> อนงค์นา ปัทมา สุรินทร์คำ� <-> ยุทธชัย ว เอกชัย สุนทรเดช <-> รัฐพล ห Ammalin PALAMY


าร

าฎ จึงมงคลสวัสด์ิ วัฒนะบุตร หงสไกร Y

T R AV E L G R A P H Y

TALK

เข้าสู่ปีที่ 2 อย่างเป็นทางการ สำ�หรับนิตยสารท่องเที่ยว ถ่ายภาพออนไลน์ Travelgraphy ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทางทีมงานพยายามคัดสรรหาสิ่งต่างๆมานำ�เสนอกับท่านผู้ อ่านทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เทคนิคการ ถ่ายภาพต่างๆ รวมถึงข่าวสารการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วน ตราบใดที่ยังมีผู้อ่านและผู้ที่ยังติดตาม ผมเองก็จะไม่หยุดทำ� นิตยสาร เพราะมันคือความฝัน ความต้องการ ที่อยากให้มี นิตยสารท่องเที่ยวถ่ายภาพเกิดขึ้น และทุกคนสามารถเข้าถึง ได้ง่าย สามารถดาวน์โหลดไปอ่านฟรีๆ ได้ทุกแห่งทั่วโลก ปีนี้ทีมงานของเราได้รับข่าวดี ซึ่งจะมีกิจกรรมที่ทางร้าน จำ�หน่ายกล้องต่างๆ ชวนไปร่วมทริปที่จัดขึ้นในทุกๆเดือน ต้องขอขอบคุณที่ให้ความสนใจมา ณ ที่นี้ด้วยครับ สุดท้าย ผมอยากขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ที่ให้เกียรติ ติดตามมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และหวังว่าจะติดตามนิตยสาร Travelgraphy ในปีถัดไป ขอบคุณครับ ... วรุตม์ หนันเรือง บรรณาธิการบริหาร

กราฟิก - ออกแบบรูปเล่ม

> วรุตม์ หนันเรือง ขอขอบคุณข่าวสาร

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช

ติดต่อ Travelgraphy

เลขที่ 8/88 ซ.ลาดพร้าว107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 E-Mail : travelgraphythailand@gmail.com

Facebook : Travelgraphy Tel. 0-2013-3754 / 08-6369-5657


CONTENT

คลิ๊กที่รูป เพื่อไปยังคอลัมน์ที่ต้องการ

T R AV E L N E W S ท่องเที่ยวเมือง อุทัยธานี กับทริป ของ Jaycamera ที่จะพาทุกท่านไปท่อง เที่ยวธรรมชาติทั้งหุบป่าตาดและยอดเขา สแกกรัง จุดชมวิวของเมืองอุทัยธานีครับ

T R AV E L A L L A R O U N D

กลั บ มาอี ก ครั้ ง กั บ สาวสวยหน้ า หวาน ครั้งนี้หยกจะพาทุกท่านไปพักกาย พักใจที่ ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก ใน ช่วงฤดูฝนแบบนี้


T R AV E L G U I D E ทะเลสวย ใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาเดิน ทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงจุดหมาย ปลายทาง “เกาะแสมสาร” จุดด�ำน�้ำ ดู ปะการัง One Day Trip

WIDE LIFE บ้านกร่างแคมป์ แหล่งดูนก ส่องไพร ที่ เ ป็ น ที่ นิ ย มของเหล่ า บรรดาช่ า งภาพ สายธรรมชาติ ด้วยที่เป็นแหล่งที่อุดมไป ด้วยธรรมชาติ จึงมีสัตว์หลายชนิดที่แวะ มาอวกโฉม ให้บรรดาช่างภาพมือเก่ามือ ใหม่ได้ลั่นชัตเตอร์กันตลอดเวลา

L I F E T R AV E L E R ภาคจบของทริปกระบี่ ครั้งนี้จะพา ทุกท่านไปด�ำน�้ำ ท่องทะเลกระบี่ 4 เกาะ ที่เป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จังหวัดกระบี่แห่งนี้


TRAVEL NEWS เรื่อง/ภาพ : กองบรรณาธิการ


อุทัยธานี Jaycamera Photo Trip by Nikon


Jaycamera หนึ่งในร้านจ�ำหน่ายกล้องน้องใหม่ของเมืองไทย ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูสัก เท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่า Jaycamera อยู่ในเครือของ Jaymart หลายคนคงจะร้อง อ๋อ . . . เพราะ Jaymart เป็นตัวแทนจ�ำหน่ายโทรศัพท์เจ้าใหญ่อันดับต้นๆของประเทศไทย จนเมื่อ ไม่กี่ปี Jaymart เริ่มน�ำกล้องถ่ายภาพเข้ามาจ�ำหน่าย ภายใต้แบรนด์ Jaycamera ที่จ�ำหน่าย ควบคู่กันไปกับโทรศัพท์ ซึ่งนับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจการ ถ่ายภาพอย่างจริงจัง และต้องการใช้งานด้านภาพถ่าย ที่มีคุณภาพสูงดีกว่ากล้องโทรศัพท์ จนท�ำให้ Jaycamera ผุดกิจกรรมขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ Jaycamera จับมือกับ ค่ายกล้องยักษ์ใหญ่ Nikon จัดกิจกรรมที่เรียกว่า One Day Trip ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัด อุทัยธานี ในวันที่ 16 มิถุนายน 2561 และทางทีมงาน Travelgraphy ได้เข้าร่วมกิจกรรม ครั้งนี้ ไปดูกันว่ากิจกรรมครั้งนี้ มีอะไรน่าสนใจ ติดตามกันได้เลยครับ


จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดเล็กๆของภาคกลาง แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทาง ธรรมชาติที่ครบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสายน�้ำ หรือผืนป่า ครั้งนี้ Jaycamera พาเราไปทัวร์จังหวัด อุทัยธานีกันตั้งแต่เช้า โดยทริปนี้มีผู้ร่วมทริปประมาณ 30คน อบอุ่นมิใช่น้อย และเป้าหมาย แรกของเรา เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ต้องแวะทานอาหารกันสักหน่อยที่สวนอาหารนกน้อย ร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดอุทัยธานี ติดแม่น�้ำสะแกกรัง ที่มีอาหารขึ้นชื่อเป็นประเภทปลา แม่น�้ำทั้งหลาย รสชาดถูกปากยิ่งนัก ใครผ่านไปผ่านมา แนะน�ำให้แวะมาทานกันได้นะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน


ทานอาหารเสร็จ ทีมงาน Jaycamera ก็มี Mini Trip Portrait ให้ลูกค้าได้ถ่ายภาพนางแบบสาวสวย น้องเอเอกับน้องโดนัส ที่มากับเราตลอดทริป และถือเป็นการย่อยอาหารอีกอย่างหนึ่ง เพราะบรรยากาศ ร้านสวยงามอย่างลงตัว เราเลือกหามุมสวยๆ ลั่นชัตเตอร์มาเล็กๆน้อยๆ ถือเป็นการเทสแสงไปในตัวครั้บ




หุบป่าตาด เป็นผืนป่าดึกด�ำบรรพ์ มีลักษณะเป็นป่าอยู่ใน หุบเขา มีโลงจ�ำนวน 2 โถลงอยู่ภายใน การเดินทางเข้าไปจะต้อง เดินผ่านถ�้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่จ�ำนวนหนึ่ง มีไฟฉายไว้บริการ บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการ ส่องดูรายละเอียดหินย้อย และ ค้างคาว รวมถึงทางเดินที่มืดสนิท ถ้าไม่มีไฟฉาย ก็ต้องอาศัยไฟ จากมือถือนี่แหละครับ แต่ก็เป็นแค่ระยะทางสั้นๆเท่านั้นครับ 50-60เมตร โดยประมาณ ก็จะผ่านเข้ามายังหุบแรก มีทางเดินวน ตามทางไปเรื่อยๆ เป็นทางเดินที่เป็นปูน เดินสบายมากครับ เด็ก หรือคนแก่ก็เดินได้ แต่แนะน�ำ บริเวณด้านล่างของหุบป่าตาด จะ ไม่มีลมพัด เพราะอยู่ในหุบ แนะน�ำหาพัดลมมือถือหรือพัดติดไม้ ติดมือมาด้วย และภายในหุบป่าตาด ไม่อนุญาตให้น�ำน�้ำดื่มและ อาหารทุกชนิดเข้ามาบริเวณภายในครับ






เราเดินเท้ามาได้สักพัก ตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติของป่าดึกด�ำบรรพ์ ก็มาถึงไฮไลท์ของ ที่นี่ครับ เป็นโถงถ�้ำ(จะเรียกเต็มปากก็ไม่เชิง) มีลักษณะเป็นผนังของภูเขามากั้นระหว่างหุบ ชั้นนอกและชั้นใน และที่นี่เองครับ เป็นจุดถ่ายท�ำละครเรื่อง นาคี ทริปนี้ Jaycamera ใจดี มีนางแบบมาให้ถ่ายภายในหุบป่าตาดแห่งนี้ด้วย และสิ่งที่เซอร์ไพรท์มากไปกว่านางแบบคือ นางแบบเตรียมชุดไทยมาถ่ายภายในหุบป่าตาดด้วย เข้ากับธีมของงานมากๆ ผมนี่รีบเปิด Google หารูปตัวอย่างของละครเรื่อง นาคี ที่นางเอกยืนอยู่บริเวณโถงถ�้ำแห่งนี้ครับ อาจ จะไม่เหมือน แต่อย่างน้อยก็ได้ฟิลลิ่งที่ใกล้เคียงกันมาก ใช้เวลาถ่ายภาพกันนานพอสมควร กว่าจะได้ภาพที่ลงตัว และแอบยิ้มว่าโชคดีที่ตอบรับเข้าร่วมทริปนี้ ดูนาฬิกาก็ปาเข้าไปบ่าย สามกว่า ทีมงานเรียกขึ้นรถที่จอดรอบริเวณด้านหน้าในเวลา 16.00น. ผมต้องเปลี่ยนจาก ถ่ายนางแบบมาเป็นถ่ายภาพธรรมชาติ สลับกันไป พร้อมทั้งหากิ้งกือมังกรสีชมพู ที่เป็นสิ่ง มีชืวิตชนิดใหม่ พบที่แห่งนี้ที่เดียวในโลก แต่ก็ต้องแห้วรับประทานครับ เดินมาเจอป้ายบอก ว่าจะพบเจอช่วงปลายฤดูฝน นี่เพิ่งต้นฤดูฝนเอง ท่องไว้ในใจ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาหาให้เจอ





สถานที่สุดท้ายที่จะไปของทริปนี้ก็คือ วัดสังกัสรัตนคีรี ที่อยู่บนเขาสะแกกรัง ภูเขา เล็กๆใจกลางเมืองอุทัยธานี นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันได 449 ขั้น หรือ จะเลือกขับรถขึ้น เราเลือกแบบเดินขึ้นครับ มาทั้งที ต้องลุยกันให้สุด โดยครั้งนี้เป้าหมายเรา ไม่ใช่ยอดเขาสะแกกรัง แต่เป็นหมุดโลกแห่งที่ 2 ของเอเชีย ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรัง แห่งนี้ โดยต้องเดินลัดเลาะสันเขาไปยังหมุดโลก จากบริเวณที่จอดรถ ประมาณ 1 กิโลเมตร ผ่านป่าไม้ และต้นหญ้าสูง ที่มีทางเดินให้เห็นเพียงทางเดียว ชั่วอึดใจไม่นานครับ ก็เดินมาถึง เป้าหมายของทริปนี้ หมุดโลกแห่งที่ 2 ของเอชีย เป็นแท่งปูนทรงสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่บนยอดเขา แห่งนี้ ใช้เวลาถ่ายรูปสักพัก ก่อนจะเดินเท้าออกมายังบริเวณวัด เพื่อถ่ายแสงเย็นที่เห็นผืน ป่าตะวันตก ไกลสุดลูกหูลูกตา เก็บเป็นภาพประทับใจก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ








นับว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง ใครจะ ไปเชื่อว่าจังหวัดที่ต้องแวะเข้าไปจากถนนสายเอเชีย มีอะไรให้น่าค้นหาขนาดนี้ นี่เป็นเพียงทริปสั้นๆ ก็คงเก็บความประทับใจมาไม่ทั่วจังหวัด คิดไปในวันหน้า ถ้ามีเวลา จะกลับไปยังจังหวัดอุทัยธานีแห่งนี้ ไปดูธรรมชาติฝั่งตะวันตก ที่เป็น ผืนป่าที่เรียกว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สุดท้ายขอขอบคุณ Jaycamera ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ให้กับลูกค้าที่ใช้กล้อง Nikon ได้มาร่วมทริป ที่สนุกแบบนี้ ขอบคุณครับ ...




TRAVEL ALL AROUND

เรื่อง/ภาพ : องนงค์นาฎ จึงมงคลสวัสดิ์ FB : Anongnard Yhok Ka























TRAVEL GUIDE เรื่อง/ภาพ : Aof Foszill


เกาะแสมสาร

ดำ�น้ำ� ดูปะการัง One Day Trip !!! ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล แล้วมีหาดทรายสวย น�้ำทะเล ใส อยู่บนเกาะ ที่สามารถด�ำน�้ำดูปะการัง อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สถานที่แรกที่ จะนึกถึงก็คือ เกาะแสมสาร สัตหีบ ที่ขับรถเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น !!!


เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ที่ต�ำบลแสมสาร อ�ำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งอยู่ในเขตการดูแล ของกองทัพเรือ เพราะฉะนั้นเลยท�ำให้เกาะแสมสารไม่สามารถพักค้างแรมได้ นักท่องเที่ยว จะต้องเดินทางเช้าไปบ่ายกลับเท่านั้น เพราะเรือที่ข้ามไปเกาะแสมสาร จะมีเรื่อยๆ แต่ไม่ มาก มาเป็นรอบๆ แต่ที่ส�ำคัญคือถ้านักท่องเที่ยวจะข้ามไปเที่ยวทะเกาะแสมสาร ต้องมารับ บัตรคิวและช�ำระค่าธรรมเนียมกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะเกาะแสมสารจ�ำกัดนักท่องเที่ยวที่จะ ข้ามไปยังเกาะเพียงแค่ 500คน/วันเท่านั้น ถ้าไม่อยากมาเสียเที่ยว แนะน�ำให้มารับบัตรคิว แต่เช้าตรูนะครับ อ๋อลืมบอกไป เกาะแสมสารห้ามน�ำสัตร์เลี้ยงและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ ทุกชนิดเข้านะครับ


เมื่อช�ำระค่าบัตรผ่านเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวต้องเดินไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือเขา หมอจอ ซึ่งตรงนี้เอง จะมีเรือข้ามไปยัง2เกาะ นั่นก็คือเกาะแสมสาร และเกาะขาม แต่ไม่ ต้องกลัวหลง เพราะที่ท่าเรือมีพี่ทหารคอยอ�ำนวยความสะดวกให้ตั้งแต่ไปยันกลับ เรียกได้ ว่าความปลอดภัยมีสูงมาก




จากท่าเทียบเรือไปยังเกาะแสมสาร ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 15นาทีเท่านั้น ก็ถึงหาดเทียน น�้ำ แต่ก่อนจะเดินทางไปอีกชายหาด นักท่องเที่ยวที่ข้ามมายังเกาะ ต้องไปนั่งฟังการบรรยาย ธรรมชาติของเกาะแห่งนี้ให้มากขึ้น ซึ่งพี่ๆที่บรรยายก็แอบพูดติดตลกบ้างบางเวลาเพื่อไม่ให้น หลังจากนั้นก็จะมีรถรางมารับนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางไปยังหาดลูกลมซึ่งเป็นหาดที่อยู่อีกฝั่งข


น ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือของเกาะแสมสาร และเป็นหนึ่งใน2ชายหาด ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เล่น ยของพี่ๆเจ้าหน้าที่ถึงประวัติต่างๆ และสภาพแวดล้อมของเกาะ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างเข้าใจ นักท่องเที่ยวเครียดจนเกินไป ฟังไปก็หัวเราะไปแถมยังได้สาระ ใช้เวลาเพียง 10นาทีเท่านั้นเอง ของเกาะ และเป็นจุดยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่จะมาเล่นน�้ำ ด�ำน�้ำดูปะการัง





หาดลูกลม ถือเป็นไฮไลท์ของเกาะแสมสารเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหาดที่ใช้ท�ำ กิจกรรมทางน�้ำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจุดเล่นน�้ำ จุดนั่งเรือกระจกดูปะการังและ ปลาต่างๆ รวมถึงเป็นจุดด�ำน�้ำตื้น ที่น่าจะถูกที่สุดในการด�ำน�้ำก็ว่าได้ แถมยังมีพี่ๆ ทหารคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เล่นน�้ำมาเหนื่อยๆ ยังมีร้านอาหารสวัสดิการไว้รองรับนัก ท่องเที่ยว 2-3ร้าน ซึ่งเพียงพอต่อนักท่องเที่ยวในแต่ละวันอยู่แล้วครับ และบริเวณ หาดยังมีจุดชมวิว ที่เป็นเนินเขา ทางเดินสุดแสนจะสบาย เป็นทางคอนกรีต สลับทาง ดินนิดๆหน่อยๆ ระยะทางเพียงแค่ 300เมตรเท่านั้นเอง ก็จะถึงจุดชมวิวตรงนี้ นับว่า หายเหนื่อยทันทีครับ วิวข้างบน มันสวยแบบบรรยายไม่ถูก ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่า ทะเลสัตหีบ ก็สวยมากถึงมากที่สุด ...











ขอขอบคุณข้อมูล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


WIDE LIFE เรื่อง/ภาพ : วรท กุมภ์ประดิษฐ์ FB : Warot Kumpradist


Photography Technique

บ้านกร่างแคมป์ ส่องธรรมชาติสามลำ�ธาร , อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน


1 2


3 4

1. จุดกางเต๊นท์บ้านกร่างแคมป์ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำ�นวนมากในการมาแคมป์ปิ้ง 2. (หมีหมา หรือ หมีคน พบเห็นบริเวณบ้านกร่างแคมป์) 3-4. ห้องนิทรรศการบ้านกร่างแก่งกระจาน ที่รวบรวมความรู้และข้อมูลสัตว์ป่ามากมายที่สามารถพบ เจอ ได้ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยได้รับการปรับปรุงให้สวยงามยิ่งขึ้นจากกลุ่ม Bird Home ขอขอบคุณแทนนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วยครับผม


บ้านกร่างแคมป์

หรือกิโลเมตรี่ 15 เป็นแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ เดินป่าศึกษาธรรมชาติเป็นที่ชื่อชอบของนักนิยม ไพร สามารถพบเห็นพันธุ์ไม้ สัตว์ป่าต่างๆ หลากหลายชนิดโดยเฉพาะผีเสื้อซึ่งมีการส�ำรวจ พบมากกว่า 250 ชนิด และนกอีกหลากหลายชนิดครับ และนอกจากนี้ยังเป็นจุดที่พัก กางเตนท์ ได้บรรยากาศที่ สงบ ร่มรื่น การเดินทางมาบ้านกร่างแคมป์นั้น จะอยู่ห่างจาก ที่ท�ำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยประมาณ 35 กิโลเมตรครับ สามารถพบเจอสัตว์ ป่าได้ตลอดทั้งวัน (มีการรายงานอยู่บ่อยครั้ง ว่าพบเสือดาวแถว กม.27 ซึ่งอยู่เกือบถึงเขา พะเนินทุ่ง ซึ่งรถที่สามารถขึ้นไปควรเป็นรถที่มีก�ำลังสูง เช่นรถกะบะ หรือรถขับเครื่องสี่ล้อ)

(เม่นใหญ่แผงคอขาว พบเห็นบริเวณบ้านกร่างแคมป์)

ที่บ้านกร่าง เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และสามารถเดินดูนกหลากหลายชนิด และผีเสื้อ ที่สามารถพบ ตลอดเส้นทาง จากล�ำธารที่หนึ่ง จนไปถึงล�ำธารที่สาม ซึ่งแต่ละล�ำธารระยะ ทางอยู่ที่ 2กิโลเมตร แต่ ควรระมัดระงวังรถยนต์จากนักท่องเที่ยวที่จะขับขึ้นไปยังเขาพะเนิน ทุ่ง ซึ่งเส้นทางจะเป็นเส้นทาง เดียวที่รถสามารถขับได้ ธรรมชาติที่นี้ ยังสมบูรณ์อยู่ถ้าโชคดี เราก็สามารถพบสัตว์ป่าต่างๆได้ ตลอดเส้นทาง


การขับรถผ่านล�ำธารอาจจะต้องใช้รถที่ยกสูงหน่อยจึงสามารถขับผ่านไปได้แบบสบายๆ แต่ถ้าใคร มีรถเก๋งก็ต้องใช้ทักษะฝีมือกันหน่อยถึงจะขับผ่านไปได้ ซึ่งถ้าน�้ำในล�ำธารเยอะและ รถของเราไม่สูง พอ ก็อาจจะท�ำให้น�้ำเข้าไปยังในรถได้




ซึ่งล�ำธารแต่ละจุดเราสามารถที่จะพบเห็นผีเสื้อได้เยอะที่สุด ซึ่งผีเสื้อจะคอยมาดูดหา แร่ธาตุใกล้แหล่งล�ำธารเพื่อเป็นอาหารและออกมารับแสงแดด


การเดินชมธรรมชาติสองข้างทางท�ำให้เราได้พบสัตว์ป่ามากมาย และ นกนาๆชนิด


1 2


3 1-2. ค่างแว่นถิ่นใต้ : สัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนมจ�ำพวกค่าง มักอาศัย อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ มีสมาชิก ประมาณ 4-30 ตัว สามารถอาศัย อยู่ได้ในป่าหลายประเภท ตั้งแต่ เทื อ กเขาสู ง จนถึ ง ชายป่ า ที่ ติ ด ริ ม ทะเล โดยมักเข้าไปอาศัยในป่าที่มี ต้นไม้สูง กินอาหามากถึงวันละ 2 กิโลกรัม เป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยคุ้น เคย กับมนุษย์มากนัก มักขี้อายและจะ หลบหนีเมื่อพบกับมนุษย์ ในขณะที่ ออกหากินเป็นฝูง จะมีอยู่ ตัวหนึ่ง ที่ท�ำหน้าที่เฝ้าคอยระวังภัยโดยนั่ง ดูเหตุการณ์บนต้นไม้เงียบ ๆ 3. นกพญาปากกว้างอกเงิน

นกรับแขกที่เราสามารถพบเจอได้ตลอดเส้นทางจาก ล�ำธารหนึ่งไปล�ำธารสาม ก็จะเป็นนกพญาปาก กว้างอกเงิน นกพญาปากกว้างสีด�ำ นกจับแมลงจุกด�ำ นกกระเต็นนาๆ ชนิด ซึ่งเมื่อถึงฤดูท�ำรังเจ้า หน้าที่ของอุทยาน ก็จะน�ำเชือก มาขึงเพื่อป้องกันการรบกวนจากนักดูนก ท�ำให้นกสามารถ เลี้ยงลูก นกได้อย่างปลอดภัยและเพิ่มจ�ำนวนประชากรนก ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของป่าแก่งกระจานท�ำให้นกบาง ชนิดที่ไม่พบเจอเป็นเวลานานหลายปี ก็ออกมา ให้พบเจอ ให้รู้ว่ายังอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ เช่น นกกระเต็นน้อยแถบ อกด�ำ ที่เจอบ่อยแถวตอนใต้ของ ประเทศไทย ตอนนี้เรา สามารถพบเห็นได้ที่ป่าแก่งกระจานแห่งนี้แล้ว


นกจับแมลงจุกดำ�





นกกะเต็นน้อยแถบอกดำ� เพศผู้ : Blue-b;nded Kingfisher

นกกะเต็นน้อยแถบอกดำ� เพศเมีย : Blue-b;nded Kingfisher


อีกชนิดที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในผืนป่าแห่งนี้คือ นกกะเต็นน้อยหลังน้ำ�เงิน นกกะเต็นน้อยหลังสีน้ำ�เงิน เพศเมีย : Blue-e;red Kingfisher

นกกะเต็นน้อยหลังสีน้ำ�เงิน : Blue-e;red Kingfisher ถ่ายโดย : chote satayakul


“นกเป็นสัตว์ที่ต้องบิน” ชีวิตเค้าคือการโผบิน ไปในธรรมชาติ มีอิสระ มีครอบครัว การเอาเค้ามา อยู่ ในกรงคงไม่ต่างอะไรกับการที่มุนษย์เราโดนขัง คุกหลอกครับ ปล่อยเค้าให้อยู่ในบ้านของเค้า และ เราเป็นฝ่ายเดินไปหาเค้าในธรรมชาติ ผมว่ามัน น่าจะมีความสุขมากกว่าการนั่งมองเค้าอยู่ในกรง แน่นอน.....

หรือจะเป็นขาประจำ�ที่พบเจอได้ตลอดทั้งปี และมีประชากระเพิ่มขึ้นทุกๆปี เช่น นกกะเต็นน้อยสามนิ้ว Orient;l Dw;r


rf Kingfisher



การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ เดินทางไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี เข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี หรือจะเดินทางไปตามถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี - ปากท่อ) ถึงสามแยกวังมะนาวให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรีเช่นกัน จากนั้นมีหลายเส้น จังหวัดราชบุรี เข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี หรือจะเดินทางไปตามถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี - ปากท่อ) ถึงสามแยกวังมะนาวให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรีเช่นกัน จากนั้นมีหลายเส้น ทางที่ไป ที่ท�ำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ดังนี้ 1. เข้าทางอ�ำเภอหนองหญ้าปล้อง ไปตามทางหลวงหมายเลข 3349 ถึงบ้านท่าตะคร้อ เลี้ยวซ้ายไป ตามทางหลวงหมาเลข 3510 เมื่อถึงเส้นทางระหว่างอ�ำเภอท่ายาง - อ�ำเภอแก่งกระจาน ให้เลี้ยว ขวา เดินทางต่อไปจนผ่านที่ท�ำการอ�ำเภอแก่งกระจาน เข้าสู่บริเวณเขตเขื่อนแก่งกระจานเลียบตาม ถนน ลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ท�ำการอุทยานแห่งชาติแก่ง กระจาน เส้นทางนี้ถนนบางช่วงยังเป็นถนนลูกรัง ยังอยู่ระหว่างการท�ำถนน 2. เข้าทางสี่แยกเขาตะเครา (ก่อนเข้าตัวเมืองเพชรบุรี) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3204 ถึงเส้น ทาง ระหว่างอ�ำเภอท่ายาง - อ�ำเภอแก่งกระจาน ให้เลี้ยวขวา เดินทางต่อไปจนผ่านที่ท�ำการอ�ำเภอ แก่ง กระจาน เข้าสู่บริเวณเขตเขื่อนแก่งกระจานเลียบตามถนนลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีก ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ท�ำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 3. เข้าทางอ�ำเภอท่ายาง เมื่อเดินทางถึงสี่แยกเขื่อนเพชร ให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามเส้นทางระหว่าง อ�ำเภอท่ายาง - อ�ำเภอแก่งกระจาน เดินทางต่อไปจนผ่านที่ท�ำการอ�ำเภอแก่งกระจาน เข้าสู่บริเวณ เขตเขื่อนแก่งกระจานเลียบตามถนนลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ ท�ำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 4.รถตู้โดยสาร ประจ�ำทาง ปิยะ 666 จากกรุงเทพฯ ขึ้นบริเวณหน้าห้าง Century ซอยรางน�้ำ อนุ เสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึงหน้าสถานีต�ำรวจภูธรอ�ำเภอแก่งกระจาน - ขึ้นจากกรุงเทพฯ ติดต่อที่หมายเลข 084-4646586 - ขึ้นจากเพชรบุรี ติดต่อที่หมายเลข 089-2315810 - ขึ้นจากแก่งกระจาน ติดต่อที่หมายเลข 086-3080174




LIFE TRAVELER เรื่อง/ภาพ : วรุตม์ หนันเรือง FB : Warut Nanruang

กระบี่ ขุมทรัพย์แห่งอันดามัน(2)

“วันนี้ที่รอคอย ความฝันของผมใกล้เป็นจริง สิ่งที่ท้าทายตัวเองมานานแสน นาน จะทลายความกลัวนั้นออกไป ด้วยทริปด�ำน�้ำ ดูปะการัง และปลาสวยใต้ท้อง ทะเลของกระบี่ ตามที่ได้แพลนไว้”



Day 3 ด�ำน�้ำ ชมทะเลอันดามัน และท่องถนนคนเดิน

เข้าสู่วันที่ 3 ของทริปกระบี่ แน่นอนว่าเมื่อคืนเราเดินทางมาถึงตัวเมืองกระบี่ และก็พัก ผ่อนเอาแรง นอนเต็มที่ 8 ชั่วโมงเต็ม เพราะพรุ่งนี้เช้า เรามีทริปท่องทะเล 4 เกาะ และทาง บริษัททัวร์ ก็นัดมารับตั้งแต่เช้า เพื่อไปขึ้นเรือที่จอดไว้รอ แต่ก็นึกว่าไปถึงแล้วจะได้ขึ้นเรือ เรานั่งรอเกือบชั่วโมง กว่าคนจะเต็มเรือที่จอง ครั้งนี้มีเรือให้เลือกระหว่างเรือหางยาวกับเรือ สปีทโบ๊ท เราเลือกเรือสปีทโบ๊ทครับ เนื่องจากผมเองเป็นคนที่ว่ายน�้ำไม่แข็ง และจากที่เคย นั่งเรือข้ามฟากแม่น�้ำเจ้าพรยา น�้ำมันปริ่มๆเรือ ท�ำให้ไม่ค่อยอยากนั่งเรือหางยาวสักเท่าไหร่ เรียกว่าเอาที่บายใจของเราไว้ก่อน

บริเวณที่ลงเรือ ทางทัวร์มีบริการอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้กับนักท่องเที่ยวทานรอง ท้อง แต่ถ้าจะให้ดี แนะน�ำทานอะไรมาจากที่พักเลยก็ดีครับ หลังจากรอมานานเกือบชั่วโมง ทางไกด์ก็เรียกให้ลงเรือ กรุ๊ปเรามีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศปะปนกันไปครึ่งต่อครึ่ง และ ก็ถึงเวลา 9.00น. เรือก็มุ่งหน้าออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าไปยังเกาะต่างๆตามตารางทัวร์ พูดใน ใจ “ได้เวลาสนุกแล้วสิ ได้เวลาสนุกแล้วสิ”



หาดถ�้ำพระนาง คือสถานที่แรกที่จะแวะเที่ยว และเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของทริปนี้ เนื่องจากเป็นชายหาดที่สวย น�้ำใสแล้ว ยังมีถ�้ำพระนาง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ ขอพร รวมทั้งขอลูก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายคนมาขอลูก รวมทั้งผมด้วย (และก็ต้องกลับไป แก้บน เนื่องจากตอนนี้มีข่าวดีแล้ว) นอกจากนั้นหาดถ�้ำพระนางยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ของ นักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยด้วยกีฬาปีนหน้าผา ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาปีนหน้าผา กันอย่างเนืองแน่น



เกาะไก่ จุดนี้เรือของเราจะไม่เข้าเทียบเกาะ แต่จะจอดอยู่ห่างๆ เพื่อให้นักท่อง เที่ยวได้ถ่ายรูปคู่กับเกาะที่มีรูปทรงคล้ายกับไก่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะแห่งนี้ และ เนื่องด้วยบริเวณเกาะไก่ ไม่มีชายหาด จึงไม่มีการแวะพักที่เกาะแห่งนี้ โดยทางไกด์ของ เรา จะยกเวลาจุดนี้ เพื่อไปชดเชยให้กับการด�ำน�้ำซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะไก่ จุดนี้เองจะ เป็นจุดด�ำน�้ำที่สวยงามอีกแห่งของกระบี่ ซึ่งทางไกด์ให้เวลาด�ำน�้ำเกือบชั่วโมง และการ ด�ำน�้ำครั้งนี้ เป็นการด�ำน�้ำครั้งแรกของผม ตื่นเต้นมิใช่น้อย และนับว่าเป็นการท้าทาย สภาพจิตใจของตัวเอง เนื่องจากเป็นคนว่ายน�้ำไม่เป็น แต่จากอุปกรณ์ที่ทางทัวร์เตรี ยมมไว้ให้ ก็สลัดความกลัวออกไป และสนุกกับมันเป็นอย่างมากครับ





เกาะปอดะ ไฮไลท์ของที่นี่ จุดที่ทัวร์จะให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนตาอัธยาศัย นาน ที่สุดของทริปนี้ และยังเป็นสถานที่กินข้าวเที่ยง ซึ่งทางทัวร์ของแต่ละบริษัทจะจัดไว้ให้ ของเราเป็นปาเก็ตตี้ น่องไก่ และน�้ำผลไม้ อิ่มหน�ำส�ำราญกันเต็มที่ ก่อนจะเดินเล่นชม วิวและดูนักท่องเที่ยวต่างๆบริเวณชายหาดของเกาะปอดะแห่งนี้ ก่อนที่ไกด์จะเรียกขึ้น เรือในเวลา 13.00น. เพื่อไปยังสถานที่แห่งสุดท้ายของการทัวร์ 4 เกาะ






ทะเลแหวก

ไฮไลท์เอกของการทัวร์ทะเลกระบี่ ที่มีหาดทรายขาว ทอดยาว ระหว่าง 3 เกาะระหว่าง เกาะไก่ เกาะหม้ และเกาะทับ ซึ่งเป็นสันดอนทรายขาว ละเอียด แหวกออกช่วงน�้ำลด แต่น่าเสียดาย วันที่เราไป ดันเป็นช่วงน�้ำขึ้น สันทราย ขาวสวย รูปภาพทะเลแหวกที่วาดฝัน สลายไปกับสายลมและแสงแดด ช�้ำไปหมด แล้วบอกกับตัวเอง ครั้งหน้าต้องมาแก้มือให้ได้ และนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวทะเล แหวก แนะน�ำสอบถามเวลาน�้ำขึ้นน�้ำลงกับทางบริษัททัวร์ก่อนนะครับ จะไม่ได้มา เสียเที่ยวแบบผมนะครับ




สิ้นสุดทริปเที่ยว 4 เกาะ เวลาก็ปาเข้าไปช่วงบ่ายแก่ๆ กลับมาถึงโรงแรม อาบน�้ำให้ชื่นใจ ล้างคราบน�้ำทะเลและทรายละเอียดออกจากเสื้อผ้า แล้วมุ่ง หน้าสู่ถนนคนเดิน เพราะช่วงที่เราไป ตรงกับวันเสาร์พอดี ทางจังหวัดกระบี่ จะมีถนนคนเดิน ที่จ�ำหน่ายสินค้าที่ระลึก อาหารพื้นเมือง รวมถึงข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวบนถนนใจกลางเมือง เรียกว่าละลาย ทรัพย์ก่อนกลับพระนครกันไปข้างเลยครับ





Day 4 ท่าปอมคลองสองน�้ำ

เช้านี้ เป็นครึ่งวันสุดท้าย ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร แต่ยังมีอีกสอง สถานที่ที่จะไปเที่ยว และเป็นทางผ่านที่จะออกจากระบี่ไปยังเส้นทางกลับกรุงฯ จากการหา ข้อมูลก่อน1 คืน ทริปนี้เราไม่วางแผนกันล่วงหน้ายาวๆ แต่เราจะเที่ยวแบบเสี่ยงโชค และ เมื่อคืนสุดท้าย ก็ตกลงจะไปเที่ยวที่ “ท่าปอมคลองสองน�้ำ” ที่มีลักษณะเป็นป่าพรุ ที่มีสาย ธารไหลออกมาจากต้นน�้ำ ที่อยู่ในป่าเชิงเขา ที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ การเดินทางไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย แนะน�ำเปิด GPS ในมือถือ ให้น�ำทางจะสะดวกกว่า ท่าปอมคลองสองน�้ำ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทางเดินคอนกรีตตลอดทาง ท่ามกลาง ต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่หลากหลายชนิด บริเวณช่วงกลาง จะมีจุดบริการเล่นน�้ำให้กับนักท่อง เที่ยว ที่อยากเล่นน�้ำดับความร้อน แต่ถ้าใครไม่เล่นน�้ำ ก็เลือกเดินศึกษาธรรมชาติต่อไป ครับ ซึ่งเป็นทางเดินวนตามเข็มนาฬิกา ระยะทางไม่สั้นไม่ยาว เดินสบาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ (รวมแวะถ่ายรูปตามแบบฉบับของช่างภาพด้วยนะ) เรียกได้ว่า ได้ สัมผัสกับธรรมชาติของต้นไม้ และล�ำธารสีเขียวกันเต็มอิ่ม ก่อนสุดท้ายจะแวะทานอาหาร ทะเลสดๆที่คลองกรวดซีฟู๊ด อาหารดี สด อร่อย และที่ส�ำคัญ ราคาถูกมาก เป็นร้านอาหาร เล็กๆแบบพื้นบ้าน อยู่ริมแม่น�้ำและป่าโกงกาง เหมาะแก่การพาครอบครัวหรือเพื่อนๆ ไป ทานอาหารทะเล ที่คุ้มที่สุด ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพในคืนนั้น ด้วยระยะเวลา 10ชั่วโมงเต็ม



เป็นอย่างไรบ้างครับกับทริปกระบี่ 4 วันเต็มๆ กับการทัวร์ในแบบฉบับไม่ต้องเต รียมล่วงหน้านานๆ อาศัยหาข้อมูลก่อนเดินทางแล้วมาเทียบในแต่ละอย่าง คุ้มเสียยิ่ง กว่าคุ้ม ครบทุกบรรยากาศ ทะเล ภูเขา เกาะ ป่าไม้ ชายหาด อาหารทะเล ครั้งหน้า จะกลับไปเยือนอีกครั้งแน่นอน สวัสดีครับ...




พบกันฉบับหน้า


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.