เลือกผลิตภัณฑ์ เพื่อเปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย

Post by… P’PLE

เชื่อว่าหลาย ๆคน ไม่ว่าจะเป็น ชายหรือหญิง มักให้ความสาคัญกับเส้น ผมเป็นอันดับต้น ๆ อย่าง น้อยๆ ก็คง ไม่มีใครปล่อยให้ผมชี้ฟูเป็นทรงแล้วเดิน ออกจากบ้านแน่นอน ต้องหวี จัดทรง เซตผมให้ดูดีไว้ก่อน

แต่ด้วยสภาพเส้นผมของคนเรา ต่างกัน บางคนหวีสองสามทีก็อยู่ทรง บาง คนทั้งดรายทั้งใช้เครื่องหนีบด้วยความร้อนก็ ยังชี้ฟู การเลือกผลิตภัณฑ์และการดูแลเอา ใจใส่ย่อมแตกต่างเป็นธรรมดา ลองมาดู กุญแจสาคัญในการดูแลเส้นผมทุกประเภท ตั้งแต่การสังเกตุลักษณะเส้นผม เลือก ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการปรนนิบัติดูและและ การเลือกกินอาหารที่ทาให้เส้นผมสลวยสมใจ

ประเภทของเส้นผม เราเป็นแบบไหน ลองมาเช็กกัน..

ผมธรรมดา คือผมที่มีสุขภาพเงางาม ตามธรรมชาติ และไม่มันเกินไป มีน้ามันใน ปริมาณพอเหมาะ จึงอยู่ทรงและจัดทรงง่าย

ผมมัน เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ามัน ออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผมมากกว่าปกติทาให้ เส้นผมและหนังศรีษะมันเยิ้ม ดูไม่ค่อย สะอาด เส้นผมเหนียว ลีบติดหนังศีรษะ

ผมเสีย อาจเป็นผมธรรมดาที่ผ่านการ ดัด ยืด ย้อม หรือผ่านกระบวนการทางเคมี ทาให้เส้นผมแห้งเสีย แต่ยังคงมีน้ามันตาม ธรรมชาติ แต่สารเคมีก็ทาให้ผมแห้งเสียและ เปราะบาง ผมแห้ง อาจเกิดจากปริมาณน้าใน เซลล์ผมชั้นนอกไม่เพียงพอต่อมไขมันผลิต น้ามันมาหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ผมจึงขาด ความเงางาม เปราะบางและขาดง่าย จัดทรงยาก

การเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม

1. แชมพู จุดประสงค์หลัก ๆ ของผลิตภัณฑ์ชนิด นี้คือ ทาความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ เพราะในแต่ ละวันเราต้องเผชิญกับฝุ่นละออง มลพิษและสิ่งสกปรกต่าง ๆ คงไม่มีใครอยากให้สิ่งเหล่านี้สะสมอยู่ในเส้นผมของเรา แน่นอน ในแชมพูจึงจาเป็นต้องมีสารทาความสะอาดหรือ สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ที่ทาให้เกิดฟองในการ ชาระล้าง ซึ่งมีความเป็นด่าง

แชมพุสำหรับผมธรรมดำ สำหรับคนที่มีสภำพเส้ นผมอยู่ระหว่ำงผมมันกับผมแห้ ง จะไม่ค่อยมีปัญหำมำก นัก สำมำรถใช้ แชมพูได้ หลำยประเภท ตั ้งแต่แชมพูชนิดอ่อนใส แชมพูสำหรับผม ธรรมดำ จนถึงแชมพูที่มีสว่ นผสมของวิตำมินต่ำง ๆตำมชอบ วิธีสระผมธรรมดำ อำจสระผมสัปดำห์ละ 2-3 ครัง้ เวลำสระให้ ใช้ แชมพูเพียงครัง้ เดียว (ในกรณีที่ ผมสกปรกมำก สำมำรถสระผมได้ 2 ครัง้ และล้ ำงแชมพูออกให้ หมด แชมพูสำหรับผมแห้ ง คนผมแห้ ง เปรำะ ขำดง่ำย (อำจมีผมแตกปลำยร่วมด้ วย) ควรใช้ แชมพูชนิดอ่อน ๆ ประเภท ที่มีโปรตีน เป็ นส่วนผสมหลัก และอำจใช้ ครี มบำรุงร่วมด้ วยก็ได้ วิธีสระผมแห้ ง คนที่มีผมแห้ งและแตกปลำยควรสระผม 2-3 ครัง้ ถ้ ำแห้ งมำกควรสระ 3-4 วัน ครัง้ และไม่ควรแปรงผมขณะผมเปี ยก เพรำะจะทำให้ เส้ นผมที่เปรำะอยู่แล้ ว ขำด ง่ำยมำกขึ ้น และหมัน่ ตัดผมให้ อยู่ในระดับประบ่ำ หรื อยำว 1 ฟุต เพื่อให้ สำรอำหำร ต่ำง ๆ ไปหล่อเลี ้ยงอย่ำงทัว่ ถึง

แชมพูสาหรับคนผมมัน สาหรับคนที่ใช้นิ้วลูบหนังศีรษะแล้วรู้สึกถึงความมันและเส้นผมลีบเมื่อ สระผมไปแล้ว 2-3 วัน แสดงว่ามีเส้นผมและหนังศรีษะมัน ควรใช้ แชมพูสาหรับคนผมมันโดยเฉพาะ หรือจะใช้แชมพูชนิดอ่อนใสก็ได้ วิธีสระผมมัน คนผมมันสามารถสระผมได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่ไม่ถึง ขนาดสระวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น อย่างมากเพียงวันละครั้งก็พอ และไม่ควรหวีหรือแปรงผมบ่อย เพราะการหวีหรือแปรงจะยิ่งกระตุ้น ให้ต่อมไขมันผลิตน้ามันออกมาหล่อเลี้ยงหนังศรีษะมากขึ้น แชมพูสาหรับคนผมเสีย สาหรับคนผมเสียมักเกิดจากการใช้สารเคมีเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ผม เช่นการยืด การดัด ย้อม การทาสีผม ซึ่งผมลักษณะนี้ควรใช้ แชมพูสาหรับผมทาสี (Treated Hair) โดยแชมพูประเภทนี้จะเป็น สูตรอ่อนกว่าแชมพูอื่น ๆ เพราะจะไม่ผสมสารทาความสะอาดมาก เกินไป เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่าง ทาให้ผมแห้ง วิธีสระผมเสีย สามารถใช้แชมพูชนิดเดียวกับคนผมแห้งได้ หรือทุก ๆ 2-3 วัน ควรใช้แชมพูที่มีสีเดียวกับสีผม จะช่วยเพิ่มความเงางาม ทาให้สีผมที่ทามาติดทน สดใส เป็นประกาย

2. ครีมบารุงผม หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ครีมนวดผมบ้าง คอนดิชันเนอร์ บ้าง เป็นผลิตภัณฑ์ ทีทาหน้าที่บารุงเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่ง แยกตามประเภทของสภาพเส้นผม เช่นเดียวกับแชมพูสระผม โดยจะช่วยปกป้องรักษาสภาพเส้นผม ช่วยให้เกร็ดผมที่ด้าน นอกราบเรียบ ผมจึงไม่พันกันและจัดทรงง่าย ครีมบารุงผมเป็นครีมที่เคลือบแค่ภายนอกเส้นผมเท่านั้น ไม่ได้ซึมลึกลงไปถึงเนื้อผม ไม่ได้ช่วยสมานผมแตกปลายแต่ อย่างใด เพราะฉะนั้น เวลาที่ใช้ครีมบารุงผม จึงไม่จาเป็นต้อง หมักครีมบารุงผมไว้นานๆ เพียงชโลมไว้แล้วล้างออกก็พอ ยกเว้น ครีมบารุงผมประเภทซึมลึก ซึ่งปัจจุบันมี หลากหลายยี่ห้อ เช่น ผสมแพนทีนอล (Pan-thenol) ซึ่ง สามารถซึมลงไปในเนื้อผมได้ จึงต้องหมักไว้ระยะหนึ่งจึงล้าง ออกก็พอ

ครีมบารุงผมสาหรับผมธรรมดา เช่นเดียวกับแชมพู สาหรับผมธรรมดาไม่จาเป็นต้องเลือกสูตรใด สูตรหนึ่ง เป็นพิเศษ อาจไม่ใช้หรือใช้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผมเสียก็ได้ วิธีบารุงผมธรรมดา หากใช้ครีมบารุงผมที่มีส่วนผสมของแพนทีนอล ควรชโลมครีมให้ทั่วเส้นผม แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้าหมาดๆ คลุมทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ให้ครีมซึม ซับเข้าไปแล้วจึงล้างออก ครีมบำรุงผมสำหรับผมมัน ไม่ควรใช้ครีมบำรุงผมเลย แต่หำกอยำกใช้จริง ๆ อำจใช้ตัวที่มี สำรประกอบจำพวกพอลิเมอร์ เช่น นำมันซิลิโคน (Silicone) ในกำร เคลือบเส้นผม เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผมแตกปลำยเพิ่มขึน วิธีบำรุงผมมัน หำกต้องกำรใช้ครีมบำรุงผมจริงๆ ควรชโลมครีมบำรุงผม เฉพำะบริเวณ เส้นผมเท่ำนัน อย่ำให้โดนหนังศีรษะ โดยกะระยะห่ำง ประมำณ 1.5-2 นิว จำกโคนผม หรือหำกแห้งเฉพำะปลำยผม ก็ลงครีมบำรุงเฉพำะที่ ปลำยเท่ำนัน

ครีมบำรุงผมสำหรับผมแห้ง ใช้ครีมบำรุงผมชนิดเข้มข้น ที่อำจมีส่วนผสมของโปรตีน (จำกพืช และสัตว์) วิตำมินอี วิธีบำรุงผมแห้ง ไม่ว่ำจะเป็นผมแห้งตลอดทังเส้น หรือผมแตกปลำย ล้วนจำเป็น อย่ำงมำกในกำรใช้ครีมบำรุงผมด้วยวิธีเดียวกับคนผมธรรมดำ ครีมบำรุงผมสำหรับผมเสีย ต้องกำรกำรบำรุงเช่นเดียวกับผมแห้ง โดยควรเลือกครีมบำรุงผมชนิด เข้มข้นสำหรับผมเสีย วิธีบำรุงผมเสีย หลังจำกชโลมครีมนวด ให้ใช้หวีซี่ห่ำงๆ หวีผมจนทั่ว ศีรษะ เพื่อให้มั่นใจว่ำครีมบำรุงผมไล่ไปถึงปลำยเส้นผม หำกไว้ผมยำว ให้หวีช่วงปลำยผมประมำณ 1 ใน 3 ของควำมยำวเส้นผมก่อน แล้ว จึงค่อยหวีจำกโคนผมลงมำ จะช่วยไม่ให้ผมพันกัน

3 . ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่น ๆ นอกเหนือจากแชมพูและครีมบารุงผม ผลิตภัณฑ์บารุงผม และดูแลเส้นผม ซึ่งมีหน้าที่และมีวิธีใช้แตกต่างกันออกไป ต้องการผมสวยแบบไหน สามารถเลือกใช้ได้ เช่น สเปรย์และซีรั่มบำรุง เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ไม่ต้องล้ำงออกและมีสำรสกัดต่ำง ๆ เป็น ส่วนผสม เช่น โจโจ้บำออยล์ ที่ช่วยลดควำมแห้งกร้ำนของเส้นผม วิตำมินอีที่ช่วยเพิ่มควำมชุ่มชืน โปรวิตำมินบี 5 ช่วยให้ผมนุ่มลื่นมี นำหนัก และอื่นๆ แล้วแต่ควำมต้องกำรและจุดประสงค์ของผู้ใช้ วิธีใช้คล้ำยกับกำรใช้ครีมบำรุงผม คือลูบให้ทั่วเส้นผม โดยเว้นให้ ห่ำงจำกโคนผม ประมำณ 1.5-2 นิว แต่ไม่ต้องล้ำงออก และยังมี เสปรยที่ช่วยเพิ่มควำมหนำและกำรสปริงตัวของเส้นผมสำหรับคนที่มี ผมลีบติดหนังศีรษะหรือมีผมบำง โดยสำรประกอบในผลิตภัณฑ์จะ แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ไปแทรกอยู่ตำมเกล็ดผม เพื่อให้ผมดูหนำ ขึน เมื่อล้ำงออก สำรดังกล่ำวก็จะสลำยไป

4. น้ายาดัด ยืด เปลี่ยนสีผม พูดถึงผลิตภัณทาผมสวยก็ต้องมีผลิตภัณฑ์ทาผมเสีย (อย่างตั้งใจ) กันบ้าง โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ซึ่งหนังสือ ผม มงกุฎแห่งความ สง่างาม โดยนายแพทย์สมนึก อมรสิริพาณิชย์ แบ่งจุดประสงค์ในการใช้ ออกเป็น 2 ข้อใหญ่ ๆ ได้แก่

1. กัดหรือเปลี่ยนสีผม ได้แก่น้ายาเปลี่ยนสีผม กัดสีผม ไฮไลต์ น้ายา ปิดผมขาว มักมีส่วนผมของสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งมีค่าพีเอชอยู่ที่ประมาณ 8-9 มีฤทธิ์ เป็นด่างสูง จึงทาให้ผมเสียอย่างแน่นอน 2. เปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผม ได้แก่ น้ายาดัด น้ายายืด ที่จะทาให้ โครงสร้างทางกายภาพของเส้นผมเปลี่ยนแปลงเป็นแบบที่เรา ต้องการ ซึ่งจะมีฤทธิ์เป็นด่างสูงมาก โดยมีค่าพีเอช ประมาณ 99.5 เพื่อไปทาลายแรงที่ยึดเหนี่ยว ทาให้เส้นผมอ่อนตัว พร้อมต่อ การจับดัดหรือยืด เช่นสารแอมโมเนียไทโอไกลโคเลต (Ammonium thioglycolate)

ไม่ว่าผมประเภทไหน ก็ควรเลือก ผลิตภัณฑ์ดัด ยืด และเปลี่ยนสีผม ที่มีผลิตภัณฑ์บารุงหลังจาก ทาสวยมาให้ด้วย ส่วนใหญ่จะแถมครีมบารุงผมแบบเข้มข้นพิเศษ ที่มีสารสกัดที่ช่วยปรับสมดุลค่าพีเอชจากด่างให้เป็นกรด เช่น ครีมบารุงสูตรโยเกิร์ตสูตรผลไม้ เพราะจะช่วยขจัดออกไซด์ที่ เหลือค้าง ช่วยปิดเกล็ดผม และเคลือบเส้นผมให้ดูเงางาม มี โปรตีนและซิลิโคน ทาให้เส้นผมมีน้าหนัก ง่ายต่อการหวีจัดทรง และหากมีสารให้ความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผิวเคลือบของเส้นผม เช่น วิตามินอี วิตามินซี จะช่วยให้สภาพเส้นผมหลังการเปลี่ยน สี ดัด หรือยืด ดูสุขภาพดี

เมื่อรู้จักการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ เหมาะสมกับเส้นผมของแต่ละคน แล้ว ก็ทาให้การเลือกผลิตภัณฑ์ เพื่อดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่น เงางาม เป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป...

แหล่งที่มา ชีวจิต ฉบับที่ 429 (16 สิงหาคม 2559) หน้า 18-23