10
บทน�ำ
ในประวัติศาสตร์การลงทุน วอร์เร็น บัฟเฟตต์ยืนเด่นโดดเดี่ยวคนเดียว เริ่มต้นตั้งแต่เศษเหรียญ โดยเลือกหุ้นบางตัวและบางบริษัทในการลงทุน บัฟเฟตต์เป็นหนึ่งในผู้สั่งสมมูลค่าหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในศตวรรษ ที่ 20 การลงทุนต่อเนื่องสี่ทศวรรษ ยาวนานพอจะลบล้างผลพวงแห่ง โชคช่วยจากการทอยลูกเต๋าเสีย่ งทาย บัฟเฟตต์ท�ำผลงานได้ดกี ว่าตลาดหุน้ ผลต่างลิบลับ ไม่มีความเสี่ยงภัยโดยไม่จ� ำเป็น ไม่พบเจอการขาดทุน แม้แต่ปีเดียว ผลงานล�้ำเลิศที่พ่อมดตลาดหุ้น ตัวแทนค้าหุ้นวอลล์สตรีต และนักวิชาการลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ จากผลก�ำไรสะสม ต่อเนื่องยาวนาน บัฟเฟตต์มีมูลค่าสุทธิกว่า 15 พันล้านเหรียญ และเพิ่ม มากขึ้นตามกาลเวลา วอร์เร็น บัฟเฟตต์เล่นทั้งในตลาดกระทิงและตลาดหมี ผ่านช่วง เศรษฐกิจเฟื่องฟูและถดถอย จากสมัยประธานาธิบดีไอเซนฮาวเออร์ เรื่อยมาถึงคลินตัน จากทศวรรษ 1950 ถึง 1990 จากรองเท้าสองสี 11
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
และสงครามเวียดนามมาจนถึงพันธบัตรขยะและยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ อเมริกาหลังช่วงสงคราม หุ้นเติบโตโดยเฉลี่ย 11 % ต่อปี บัฟเฟตต์สร้าง ผลก�ำไรสะสมต่อปีที่ 29.2 % ความโดดเด่นของผลส�ำเร็จสุดสูงเช่นนี้ จะเป็นการยืนยันดอกผลของ แนวคิดดัง้ เดิม นัน่ คือการลงทุนระยะยาว นักการเงินวอลล์สตรีตยุคปัจจุบนั ร�่ำรวยพรวดพราดด้วยการฉกฉวยใช้ประโยชน์จากเงินสาธารณะที่ตนเอง เป็นผู้ควบคุมสั่งการ การท�ำงานจะเป็นเข้าเร็วออกเร็วขายหุ้นในจุดที่ราคา เหมาะสมที่สุด บัฟเฟตต์ไม่เหลือบแลเทคนิคเช่นนี้ ไม่สนใจแม้เทคนิควิธี ใหม่ล่าสุดที่ตลาดหุ้นสร้างชื่อให้เลื่องลือขึ้นมาได้ บัฟเฟตต์หวนกลับไป และค้นพบศิลปะแห่งทุนนิยมบริสุทธิ์...เกมกีฬาเลือดเย็น หากแต่ยุติธรรม สาธารณชนทีถ่ อื หุน้ ร่วมกับบัฟเฟตต์ ร�่ำรวยมัง่ คัง่ เช่นกัน รายได้เพิม่ มากขึน้ ตามสัดส่วนเงินลงทุนทีบ่ ฟั เฟตต์ถอื อยู่ จ�ำนวนเงินมหาศาลเกินกว่า จะท�ำความเข้าใจได้ ใครก็ตามที่ควักเงิน 10,000 เหรียญ ร่วมลงทุนกับ บัฟเฟตต์ในวันแรกที่เขาประกอบอาชีพ ท�ำงานจากห้องนั่งเล่นที่บ้านใน โอมาฮาในปี 1956 รักเดียวใจเดียวไม่ผละห่างจากเขา เมื่อถึงสิ้นปี 1995 เงินลงทุนนั้นจะมีมูลค่า 125 ล้านเหรียญ แต่ตัวเลขและจ� ำนวนเงินเพียงอย่างเดียว ไม่อาจใช้แทนค่ารัศมี เรืองรองที่บัฟเฟตต์แผ่ออกมาสู่วอลล์สตรีต เป็นประจ�ำปีละครั้ง สาวก และมนุษย์เงินตรา มุ่งหน้าตรงไปยังโอมาฮา เหมือนผู้จาริกแสวงบุญ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ชุมนุมกันรอพร้อมสดับรับฟังการสับหั่น การลงทุนยุ่งยากซับซ้อนให้แตกละเอียดเป็นเรื่องเล็กเรื่องย่อยเข้าใจง่าย การประชุมรายปีของบัฟเฟตต์กลายเป็นมหกรรมอเมริกานาไปแล้ว ไม่ ต่างไปจากการเข้าชมคอนเสิร์ตของเอลวิส หรือการร่วมฟังเพลงสวดเร้าใจ ปลุกวิญญาณ สาวกผู้คลั่งไคล้การเงินแห่มาเป็นขบวนถึงโอมาฮา โอบรับ ข้อเขียนของบัฟเฟตต์ ประหนึง่ ว่าเป็นถ้อยจารึกจากพระคัมภีรไ์ บเบิล ท่องจ�ำ ขับขานอุปมาของบัฟเฟตต์ คล้ายว่าเป็นค�ำเทศนาจากยอดเขา 12
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
การมองเห็นภาพความเป็นจริง ง่ายและงดงาม เป็นภาพฉายสดใส เกิดในทุกช่วงวัยตลอดชีวิต ก่อนจะมีการจาริกแสวงบุญมายังโอมาฮา นานแสนนานก่อนชื่อบัฟเฟตต์จะจารึกลงในบันทึก เขาจะยืนที่มุมห้องใน งานปาร์ตมี หาวิทยาลัย ตาใสหน้าอ่อน เปิดการบรรยายว่าด้วยการเงิน โดย มีเพือ่ นร่วมคฤหาสน์ปราชญ์เมามายนับสิบห้อมล้อมรอบตัวเขา ไม่กปี่ ถี ดั มา เพื่อนพ้องกลุ่มนั้นสยายปีกหางเป็นเพื่อนร่วมงานนักลงทุน เริ่มงานอาชีพ ในวอลล์สตรีต พิธกี รรมยังคงเดิม บัฟเฟตต์, หนุม่ อายุนอ้ ยทีส่ ดุ ในกลุม่ จะ นั่งเอ้เตบนเก้าอี้นวมตัวโต บรรยายกลไกความเป็นไปเรื่องการลงทุน โดย มีกลุ่มเพื่อนนั่งหน้าสลอนแทบเท้าบนพื้นห้อง ในวอลล์สตรีต กิริยาท่าทางชาวบ้านขับภาพลักษณ์โดดเด่นสะดุดตา หากเรื่องราวทางการเงินซับซ้อนแทบจะท�ำความเข้าใจไม่ได้ บัฟเฟตต์จะ อธิบายด้วยภาษาง่ายๆ เหมือนเสมียนร้านค้าชวนลูกค้าคุยเรื่องลมฟ้า อากาศ เขาไม่เคยลืมว่าฐานรากของหุ้นหรือพันธบัตรแต่ละตัวไม่ว่าจะ ซ่อนเร้นแนบเนียนเพียงใด จะมีแก่นสามัญ การด�ำเนินธุรกิจจับต้องได้ ในหมู่ค�ำศัพท์เฉพาะวงการของวอลล์สตรีต-ถนนสายการเงินดูเหมือนว่าเขา ขุดถนนสายกลางเมืองเส้นเดียวของเมืองเล็กออกมาให้เห็น เรื่ อ งเสี ย ดเย้ ย ย้ อ นแย้ ง ยิ่ ง คนอเมริ กั น สนใจการลงทุ น มากขึ้ น ตลาดหุ้นวอลล์สตรีตก็ยิ่งซับซ้อนซ่อนเร้น ยากเกินกว่าจะท�ำความเข้าใจ ได้ยงิ่ กว่ายุคไหนๆ เมือ่ ครัง้ ทีว่ อร์เร็น บัฟเฟตต์ถอื ก�ำเนิดมา เติบใหญ่กลาง ยุคเศรษฐกิจตกต�่ำ มีคนอเมริกันน้อยต่อน้อยที่มีเงินทุนและเชื่อว่าตนเอง จัดการบริหารเงินก้อนนั้นได้ การลงทุนมุ่งไปหาหลักประกันมั่นคง ซื้อหุ้น บลูชิปและพันธบัตร AAA ภาวะเศรษฐกิจตกต�่ำส่งเงาด�ำยาวเหยียด แต่ ความมัง่ คัง่ หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 บดบังความทุกข์ยากไปสิน้ ในปัจจุบนั นี้ มีคนกว่าสิบล้านคนที่มีเงินลงทุน แต่น้อยคนนักจะรู้สึกผ่อนคลายสบายตัว ในการจัดการเงินลงทุนก้อนนั้น น้อยคนยิ่งกว่านั้น มีนิสัยโบราณ ฉลาด และสุขมุ ในระดับดีทสี่ ดุ คนส่วนใหญ่จะพลิกดูหน้าการเงินในหนังสือพิมพ์ 13
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ด้วยความกระวนกระวายใจ ประหนึง่ ว่าในแต่ละวัน ข้อมูลเรือ่ งทีอ่ ยูอ่ าศัย และเงินเฟ้ออาจจะท�ำให้ ‘ค�ำตอบ’ ทีร่ อคอยมานานปรากฏให้เห็น เลวร้าย ที่สุด นักลงทุนดิ้นพล่านซื้อมาขายไปหุ้นในกองทุนรวม รวดเร็วจนคนรุ่น ปู่ย่าตายายแทบจะหัวใจวาย ในยุคสมัยยุ่งเหยิงซับซ้อน การปรับใช้ได้ผลจริงของบัฟเฟตต์ท�ำให้ ผู้คนตื่นตะลึง ทุกอย่างที่บัฟเฟตต์ท�ำ ผู้คนจะแห่ท�ำตาม (ด้วยเหตุนี้เอง ที่ฝูงชนจาริกแสวงบุญไปยังโอมาฮา) อัจฉริยภาพของวอร์เร็น บัฟเฟตต์ คือ อัจฉริยภาพของความอดทนข่มกลั้น วินัยเคร่งครัด และการตัดสินใจ ด้วยเหตุและผล คุณสมบัติสุดแสนจะสามัญ แต่หาได้ยากยิ่งในเพลิงเผา ร้อนรุ่มในโลกการเงิน คุณสมบัติที่จะขาดเสียมิได้ส�ำหรับใครก็ตามที่อยาก ลับเขีย้ วเล็บของตนในตลาดหุน้ ในแง่นี้ แก่นอัตตาและผลงานในอาชีพของ เขา เผยออกมาให้เห็นทีละน้อย ถือเป็นบทบรรยายสอนสาธารณชนว่าด้วย การลงทุนและการด�ำเนินธุรกิจเยีย่ งอเมริกนั บัฟเฟตต์รซู้ งึ้ ถึงบทบาทตนเอง ตั้งแต่แรกเริ่ม มีนิสัยประหลาดประจ�ำตัว บันทึกเรื่องราวการผจญภัย พิลึกพิลั่นตามล�ำดับช่วงปี แม้เขาจะเป็นผู้ลงมือกระท�ำทุกขั้นตอน ในฐานะนักลงทุน วอร์เร็น บัฟเฟตต์หลีกเว้นไม่เฉียดเข้าไปใกล้ ตลาดซือ้ ขายล่วงหน้า การใช้ตน้ ทุนคงทีใ่ นโครงสร้างการลงทุน การประกัน ความเสีย่ งแบบไดนามิก การวิเคราะห์พอร์ตการลงทุนสมัยใหม่ หรือกลยุทธ์ ยากจะเข้าใจของนักวิชาการ แตกต่างจากนักบริหารพอร์ตการลงทุนยุคใหม่ ซึ่งมีกรอบความคิดของนักเล่นหุ้น บัฟเฟตต์น�ำเงินทุนลงไปเสี่ยงกับการ เติบโตระยะยาวของธุรกิจไม่กี่แห่งที่เลือกสรรแล้ว ในแง่นี้เขามองตลาด การเงิน ไม่ต่างไปจากผู้ยิ่งใหญ่ในยุคก่อน, เจ. พี. มอร์แกนซีเนียร์ เจ. พี. มอร์แกนคนลึกลับซ่อนตัวในเงามืด อาจเป็นแม่พิมพ์ของ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีต แต่วอร์เร็น บัฟเฟตต์ คนพูดตรงฟังง่าย มักจะ หลุดปากด้วยถ้อยชวนคิดเสมอ เช่น “นักการธนาคารน่าจะเป็นพวกที่ สวมหน้ากากสกี (ปล้นธนาคาร) เสียเอง” หรือค�ำที่บอกกล่าวแก่เพื่อนที่ 14
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ได้รบั ข้อเสนอให้ไปท�ำงานการเงิน “ก็ดนี ะ เส้นทางชัน้ บนของวอลล์สตรีต การจราจรไม่แออัดนัก” มีคราวหนึง่ เขาเขียนถึงการไม่รบั ฟังความเห็นจาก นักการธนาคารในการลงทุนว่า “ฟังไปก็ไม่ตา่ งไปจากการถามช่างตัดผมว่า ผมยาวพอจะตัดแล้วหรือ?” ความเห็นชวนหัวแทงใจ กลายเป็นแม่พิมพ์ ยิ่งใหญ่กว่า เรื่องใหญ่ที่โน้มลงมาหาหลักการพื้นฐาน ย้อนกลับไปหา รากเหง้าของประเทศ ความโหยหาของคนอเมริกนั ทีอ่ ยากจะได้เห็นวีรบุรษุ ตัวจริง ชีวติ ของวอร์เร็น บัฟเฟตต์เป็นนิยายปรัมปราชัว่ กาลนานของอเมริกา คนเดิ น ดิ น สุ ด สามั ญ ละอายต่ อ บาปจากดิ น แดนมิ ด เวสต์ ที่ ห าญกล้ า ท้าทายกลุ่มคนตะวันออกหิวเงิน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ นักการธนาคารหรืออื่นๆ เขาพาอเมริกาหวนกลับไปหาจุดก�ำเนิดของ ประเทศ ความทรงจ�ำดั้งเดิม อดีตบริสุทธิ์อเมริกันที่ถูกท�ำลายไปสิ้นแล้ว ปล่อยให้ยุโรปมีเจ้าชายเจ้าหญิง อุดมคติอเมริกันสร้างประเทศจากดินแดน ของอับราฮัม ลินคอล์น, มาร์ก ทเวน และวิล รอเจอร์ส ในยุคสมัย ไร้วรี บุรษุ แก่นแท้ขอ้ นีเ้ ป็นสิง่ ทีส่ าวกผูจ้ าริกแสวงบุญมายังโอมาฮา มุง่ หน้า มาค้นหา เหมือนเช่นทีแ่ จ๊ก นิวฟิลด์เขียนถึงรอเบิรต์ เคนเนดี...วอร์เร็น บัฟเฟตต์ มิใช่วรี บุรษุ หากแต่เป็นความหวัง มิใช่นยิ ายปรัมปรา หากแต่เป็นบุรษุ ผูย้ นื บนสองขาของตนเอง แม้จะมีไหวพริบปฏิภาณเฉียบคม บ่อยครั้ง เขาทื่อด้านได้อย่างน่า ประหลาด เมือ่ ครัง้ ทีเ่ ขาอยูใ่ นปารีส เขาไม่สนใจออกมาเทีย่ วชมเมือง บอก เพียงว่าอาหารในโอมาฮาอร่อยกว่า ฝีมือล�้ำเลิศของเขาเกิดจากความคิด แล่นเพริดเป็นอิสระ และความสามารถในการทุ่มสมาธิให้กับงานที่ท�ำอยู่ ปิดโลกรอบข้างไปสิน้ คุณสมบัตทิ คี่ ล้ายเป็นเรือ่ งพิลกึ พิลนั่ มีคราวหนึง่ เขา ไปเยี่ยมแคเธอรีน แกรแฮม เจ้าของ วอชิงตัน โพสต์ ที่มาร์ธา’ส วินเยิร์ด เพื่อนออกความเห็นว่าอาทิตย์อัสดงสวยเหลือเกิน บัฟเฟตต์ตอบว่าเขา 15
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ไม่ได้ ทุ่มสมาธิ ต่อเรื่องนั้น ประหนึ่งว่าการเงยหน้าซับซาบความงามของ อาทิตย์ตกดิน เขาจ�ำเป็นต้อง ‘ทุ่มสมาธิ’ เป็นพิเศษ แม้จะไปพักที่ บ้านพักผ่อนตากอากาศชายทะเลของเขาในแคลิฟอร์เนีย บัฟเฟตต์จะ ท�ำงานทุกวันนานหลายสัปดาห์ โดยไม่ได้ย่างเท้าไปใกล้ชายน�้ำเลย เหมือนมนุษย์อัจฉริยะคนอื่นๆ บัฟเฟตต์ต้องจ่ายช�ำระด้วยเศษเสี้ยว ชีวิต เขาเกิดและเติบใหญ่มาในบ้านที่พานพบปิศาจชั่วร้าย ใช้ชีวิตอยู่ใน ป้อมปราการอึงอวลด้วยอารมณ์เดือดพล่าน มีน้อยคนในส�ำนักงานของเขา ทีจ่ ะรูจ้ กั ตัวตนทีซ่ อ่ นอยูภ่ ายใน แม้จะท�ำงานร่วมกันมานานหลายทศวรรษ แม้แต่ลกู ของเขาเอง ยังนึกไม่ออกว่ามีชว่ งใดบ้างทีเ่ ขาผุดพ้นผิวหน้าราบคาบ เงียบสงบ แสดงอารมณ์ในอกออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น แม้ส่วนหนึ่งของเขาจะเป็นครูสอนหรือนักเทศน์ แต่แก่นแท้แล้ว เขาเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว พีเตอร์ ลินช์ พ่อมดกองทุนรวม แวะไปเยือน บัฟเฟตต์ที่บ้านในทศวรรษ 1980 ตะลึงไปกับความสงบเรียบง่ายของ ใจกลางอาณาจักรของบัฟเฟตต์ หอจดหมายเหตุของบัฟเฟตต์ รวมอยู่ ในตู ้ เ อกสารเหล็ ก จั ด เรี ย งตามตั ว อั ก ษร เหมื อ นว่ า ไฟล์ นั้ น เก่ า เก็ บ ค้างกาลเวลามาตั้งแต่ยุคก่อน ไม่มีนักค้าหุ้นเป็นกองทัพ ไม่มีจอภาพ อิเล็กทรอนิกส์เรียงรายเต็มผนังห้องเหมือนห้องท�ำงานของลินช์ บัฟเฟตต์ ไม่ มี แ ผนภู มิ ร าคาติ ด ผนั ง ไม่ มี ค อมพิ ว เตอร์ มี แ ต่ เ พี ย งข่ า วตั ด จาก หนังสือพิมพ์ตั้งแต่ปี 1929 และเทปเจาะรูโบราณ เก็บไว้อวดสายตาใน ครอบแก้ว ทั้งสองเดินไปมาบนพื้นห้อง ทบทวนประวัติศาสตร์ร่วมกัน เล่าความนึกคิดในใจแบ่งปันกัน กล่าวถึงหุ้นที่เคยซื้อและขาย ลินช์เตะทิ้ง หุน้ ไร้อนาคตทุกสัปดาห์ บัฟเฟตต์ถอื หุน้ เดิมไม่กตี่ วั ปีแล้วปีเล่า ลินช์แตกตืน่ สะดุ้งใจ ประหนึ่งว่าตัวเขาหลงเวลา หลุดเข้าไปในโลกยุคโบราณ การยินยอมโอนอ่อนให้ยุคสมัยใหม่ของบัฟเฟตต์ มีเพียงเรื่องเดียว คือ เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว หากไม่นับเรื่องนั้น วอร์เร็น บัฟเฟตต์แทบไม่มี ความอภิรมย์ใดๆ จากความมัง่ คัง่ ทีเ่ ขาสัง่ สมมาก้อนโต ไม่มกี ารสะสมผลงาน 16
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ศิลปะ ไม่มีรถยนต์หรู และไม่เคยเบื่อหน่ายรสชาติแฮมเบอร์เกอร์ เขาอยู่ ในบ้านเก่าและแก่ ต้นไม้ใหญ่เรียงรายข้างถนน บนถนนสายเดียวกับ เมือ่ ครัง้ ทีเ่ ขาเริม่ งานอาชีพ ความหลงใหลคลัง่ ไคล้และความอภิรมย์ในชีวติ จะเป็นงานที่ท�ำ ค�ำเรียกขานที่เขาจ�ำกัดความคือ ผืนผ้าใบของเขา บน ผืนผ้าใบนี้ เขาจะละเลงสีสนั เผยให้เห็นเคล็ดลับเบือ้ งหลังการลงทุน และ ภาพใบหน้าตนเองที่เขาวาดให้โลกได้เห็น
17
บทที่ 1
โอมาฮา ประหนึ่งเพชรวาววับประดับมรกตสดใส เรียงรายริมฝั่งแม่น�้ำมิสซิสซิปปี โอมาฮา มหานครมหัศจรรย์แห่งดินแดนตะวันตก เลิศหรูด้วยความเจริญก้าวหน้า ศักยภาพสุกปลั่ง และการด�ำเนินธุรกิจน่าอัศจรรย์ แผ่นพับโฆษณาขององค์การโทรศัพท์ปี 1900
แทบจะนับได้ว่า ตั้งแต่วันที่หมอพอลลาร์ดท�ำคลอดเด็กทารกอวบอ้วน แข็งแรง น�ำ้ หนักหกปอนด์ คลอดก่อนก�ำหนดห้าสัปดาห์ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ โหยหิวตัวเลข เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เขากับเพื่อนสนิท, บ็อบ รัสเซลล์ ผ่านเวลายามบ่ายบนระเบียงหน้าบ้านของรัสเซลล์ มองออกไปยังสี่แยก รถราขวักไขว่ บันทึกเลขทะเบียนรถยนต์ทแี่ ล่นผ่านหน้า เมือ่ ท้องฟ้ามืดค�่ำ เด็กทั้งสองเข้าบ้านเปิดหนังสือพิมพ์ โอมาฮา เวิลด์ เฮรัลด์ ตรวจนับว่า ตัวอักษรใดพบเห็นได้บอ่ ยกว่ากัน บันทึกตัวอักษรในสมุดบันทึกเป็นอนุกรม ที่ทั้งสองถือว่าสลักส�ำคัญแทบถึงขั้นปริศนายูคลิด บ่อยครั้ง รัสเซลล์จะ เปิดหนังสือปฏิทนิ พิสดาร อ่านรายชือ่ มหานคร วอร์เร็นตอบรับด้วยจ�ำนวน 18
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ประชากร “ผมเอ่ยชือ่ มหานคร เขาสวนกลับด้วยจ�ำนวนประชากร” รัสเซลล์ ย้อนนึกเมื่อเวลาผ่านไปแล้วครึ่งศตวรรษ “ไม่เคยพลาด...ดาเวนพอร์ต, ไอโอวา; โทปีกา, แคนซัส; อาครอน, โอไฮโอ บอกเป็นสิบเมือง เขาบอก จ�ำนวนประชากรสิบเมืองทุกเมือง” ไม่ว่าจะเป็นแต้มเบสบอล แต้มต่อ ม้าแข่ง ทุกตัวเลขเป็นดินปืนจุดชนวนความจ�ำชั้นเลิศ วอร์เร็นผมหวีเรียบ เนื้อตัวสะอาดสะอ้านนั่งอยู่บนม้ายาวในโบสถ์เพรสบีเทอเรียน จะใช้เวลา ในเช้าวันอาทิตย์ ค�ำนวณอายุขัยของคีตกวีผู้รจนาเพลงศาสนา เขาจะยืน ในห้องนั่งเล่น กระเดาะลูกปิงปอง นับจ�ำนวนครั้งนานเป็นชั่วโมง เขา โปรดปรานการเล่นเกมเศรษฐี เล่นได้เล่นดี ดูเหมือนจะเล่นได้ชั่วกาลนาน นับรวมสินทรัพย์ที่เขาสั่งสมมาได้ในเกมนั้น วอร์เร็นตาสีฟ้า ผิวขาวนวล แก้มเรื่อสีชมพู ไม่เพียงอัศจรรย์ใจ ไปกับตัวเลข แต่ยังรวมถึง เงินทอง ด้วย สมบัติชิ้นแรกของเขาจะเป็น ที่เก็บเหรียญเคลือบนิเกิล อาอลิซมอบเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เขา คาดที่เก็บเหรียญติดเข็มขัดด้วยความภาคภูมิใจ เมื่ออายุได้ห้าขวบ เขาตั้ง แผงหมากฝรัง่ บนทางเท้าหน้าบ้าน ขายหมากฝรัง่ ชิเคล็ตให้คนเดินผ่านทาง หลังจากนั้น เขาไปตั้งแผงขายน�้ำมะนาว มิใช่บนทางเท้าหน้าบ้านตัวเอง แต่เป็นทางเท้าหน้าบ้านของรัสเซลล์ที่มีคนเดินผ่านมากกว่า เมื่ออายุเก้าขวบ เขากับรัสส์เก็บฝาจีบจากตู้ขายที่ปั๊มน�ำ้ มันตรงข้าม บ้านของรัสส์ ขนใส่รถเข็นเล็กลากไปเก็บไว้ในห้องใต้ดินบ้านของวอร์เร็น กองโตพูนสูง การตรวจนับฝาไม่ใช่เรื่องเล่นสนุก แต่เป็นการส�ำรวจตลาด แบบดัง้ เดิมทีส่ ดุ มีฝาออเรนจ์ครัชกีฝ่ า? โค้กกีฝ่ า? แล้วรูตเบียร์ละ่ ? แนวคิด เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือ น�้ำอัดลมตราใดมียอดขายสูงสุด? ธุรกิจใดมีผล ด�ำเนินการดีที่สุด? ในช่วงอายุไม่ถึงสิบขวบ มีเด็กน้อยคนนักที่จะรู้จักค�ำว่า ‘ธุรกิจ’ วอร์เร็นจะน�ำม้วนเทปเจาะรูของตลาดหุน้ ทีพ่ อ่ เก็บไว้ มาถอดรหัสสัญลักษณ์ จากคู่มือสแตนดาร์ดแอนพัวร์ของพ่อ เขาจะแวะไปที่สนามกอล์ฟท้องถิ่น 19
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
เพื่ อ เก็ บ ลู ก กอล์ ฟ เก่ า แต่ ยั ง น� ำ มาขายต่ อ ได้ เขาจะไปที่ ส นามม้ า Ak-Sar-Ben* ลงไปคลานเข่าบนพื้นเปื้อนฝุ่น คุ้ยหาตั๋วแทงถูก หลุดปลิว จากมือมาปนอยู่ในกองเศษกระดาษบนพื้น ในความร้อนอบอ้าวของ ฤดูร้อนเนบราสกา เขากับรัสส์ไปแบกถุงกอล์ฟให้สุภาพบุรุษผู้มีอันจะกินที่ โอมาฮาคันทรีคลับ ได้ค่าจ้าง 3 เหรียญต่อวัน ยามพลบค�่ำ เขากับรัสส์ นัง่ ชิงช้าบนระเบียงบ้านของรัสส์ แกว่งไกวไปมาในสายัณห์นงิ่ สงบของแถบ มิดเวสต์ เหม่อมองรถแนชและสตุ๊ดเบเกอร์แล่นผ่านหน้าบ้าน การจราจร ขวักไขว่ ไม่มีที่อื่นจะไป นอกจากแล่นผ่านหน้าบ้านของรัสส์ เอเวอลีน, มารดาของรัสส์ หวนนึกในอีกห้าสิบปีให้หลัง “ผู้คนสัญจร เยอะ ขนาดนั้น เขาพูดกับฉัน น่าเสียดายเหลือเกินที่คุณไม่อาจท�ำเงินสร้างรายได้จากคน ผ่านหน้าบ้านของคุณ” ประหนึ่งว่าวอร์เร็น บัฟเฟตต์ จะตั้งด่านเก็บเงิน ค่าผ่านทางได้ “น่าอายเหลือเกิน, คุณนายรัสเซลล์” นั่นหรือ? เรื่องนั้นคือที่มาของความมั่งคั่งล้นฟ้า? วอร์เร็นเป็นลูกคนที่สองจากสามคน ลูกชายคนเดียว แม่เป็นหญิง ร่างเล็กเจ้าอารมณ์จากชนบท เมืองเล็กๆ ในเนบราสกา แม่อารมณ์ กราดเกรี้ยวร้อนแรง ซึ่งถือเป็นภาวะปกติของภรรยาที่ท�ำหน้าที่ดูแล ครอบครัว พ่อ ‘หัวไว คิดเลขเก่ง’ เป็นคนจริงจังแต่อ่อนโยน ถือเป็นคน ทีม่ อี ทิ ธิพลต่อชีวติ ของลูกชาย การเปิดโลกหุน้ และพันธบัตรให้ลกู ชายได้เห็น อาจเป็นการหว่านเมล็ดลงไว้ในใจ แต่เรื่องนั้นเป็นความรู้ที่แสวงหากันได้ ทว่า ‘การคิดเลขเก่ง’ ของพ่อ ไม่อาจเทียบได้กับลูกชาย รวมไปถึงความ หลงใหลต่อ เงินทอง แล้วอะไรกันทีเ่ ปลีย่ นวอร์เร็น เด็กเรียบร้อยมารยาทงาม จากครอบครัวสุขสบาย ให้ไปคลานเข่าบนพืน้ เปือ้ นฝุน่ กลางกองเศษกระดาษ เผื่อจะได้ไข่มุกจากเศษกระดาษที่ฉีกไม่มีชิ้นดีจากคนพลาดหวัง? อะไร อยู่เบื้องหลังการท�ำให้เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยในอีกหลายปีต่อมา มีอัน * Nebraska สะกดย้อนหลัง 20
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ต้องอ้าปากค้างเมื่อเขาค�ำนวณตัวเลขหลายสิบชุดในใจ และให้ค�ำตอบ สารานุกรมด่วนทันใจ หลุดออกจากปากเหมือนจ�ำนวนประชากรในหัวเมือง ใหญ่? รอเบอร์ตา น้องสาวของวอร์เร็นกล่าวว่า “น่าจะอยู่ในยีน” กล่าวกันว่าครอบครัวบัฟเฟตต์เป็นคนอ่อนโยนอารมณ์ดี คุณสมบัตทิ ี่ ส่งผ่านมายังไม่ขาดสาย ตระกูลบัฟเฟตต์มีหัวในการค้าขาย และไม่อยาก จ่ายเงิน บัฟเฟตต์คนแรกในอเมริกาคือ จอห์น บัฟเฟตต์ ช่างทอผ้าเสิร์จ จากฝรัง่ เศส พวกอูเกอโนต์ (นับถือนิกายโปรเตสแตนต์ มิใช่คาทอลิก) เขา แต่งงานกันฮันนาห์ ไททัสในเมืองฮันทิงตันทางเหนือของลองไอส์แลนด์ในปี 1696 ครอบครัวบัฟเฟตต์ปกั หลักประกอบอาชีพชาวนาอยูใ่ นลองไอส์แลนด์ จนถึงช่วงหลังสงครามกลางเมือง สองสามีภรรยามีความทะเยอทะยานฝันสูง ซึ่งขัดกับวิถีชีวิตกระเหม็ดกระแหม่ ในปี 1867 ซิดนีย์ โฮแมน บัฟเฟตต์ รับจ้างปู,่ เซบูรอน บัฟเฟตต์ ถางทีบ่ กุ เบิกให้เป็นไร่นา เมือ่ ได้ยนิ ว่าค่าจ้าง 50 เซ็นต์ต่อวัน ซิดนีย์ฉุนขาดโยนขวานในมือทิ้ง ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ บ้านป่าเมืองเถื่อนในดินแดนตะวันตก เขาได้งานคนขับรถม้าออกจากเมือง โอมาฮา ในปี 1869 เขาเปิดร้านช�ำ เอส. เอช. บัฟเฟตต์ โอมาฮายุคนั้น ยังเป็นป่ารกดินแดนบุกเบิก ซิดนีย์ บัฟเฟตต์ยดึ หัวหาดใจกลางธุรกิจ ร้านช�ำ ห่างจากส�ำนักงานในหมู่ไม้ร่มรื่นของคนร�่ำรวยที่สุดในอเมริกา...ในอนาคต เพียงหนึ่งไมล์ครึ่ง ยุคนัน้ โอมาฮาเป็นเพียงกลุม่ ห้องแถวไม้และท่อนซุง ปลูกพิงแผ่นผา ขรุขระริมฝั่งแม่น�้ำมิสซูรี แม้ทุ่งกว้างจะวางแผ่ต่อหน้าไกลสุดสายตา เมือง โอมาฮายั ง เป็ น เรี ย งรายลดหลั่ น กั น บนเนิ น พื้ น ที่ แ ถบนั้ น เป็ น บ้ า นป่ า เมืองเถื่อนจนถึงปี 1854 มีการท�ำสนธิสัญญากับอินเดียนแดงเผ่ามาฮา (ต่อมาเป็นเผ่าโอมาฮา) เปิดดินแดนเนบราสกาให้คนขาวมาตัง้ อาณานิคมได้ จุดเริ่มต้นของการเติบโตของโอมาฮา เกิดขึ้นในปี 1859 เมื่อทนายความ ของการรถไฟอิลลินอยส์ชื่อว่า อับราฮัม ลินคอล์น เดินทางมาที่นั่น และ 21
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
รับที่ดินหนึ่งแปลงค�้ำประกันเงินกู้ หลายปีต่อมา ประธานาธิบดีลินคอล์น ก�ำหนดให้โอมาฮาเป็นชุมทางตะวันออกของสายรถไฟยูเนียนแปซิฟิก ซิดนีย์ บัฟเฟตต์เปิดร้านช�ำในช่วงเวลาอันเหมาะสม สามเดือน หลังจากรางรถไฟต่อเชื่อมภาคพื้นทวีปให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้ โอมาฮา เป็น ‘สถานีต่อรถชั้นยอด’ รถไฟพ่นควันโขมงลากตู้โดยสารเดินทางข้าม ทุ่งกว้าง ไม่นาน ผู้คนหลั่งไหลมาชุมนุมกันในโอมาฮา คนจับจองที่ดิน ท�ำมาหากิน คนจร ทหารผ่านศึกสงครามกลางเมือง คนแสวงโชค คนรถไฟ คนขี้คุก โสเภณี ส่วนใหญ่จะแวะเข้าไปในร้านช�ำของซิดนีย์ที่มีนกคุ่ม เป็ดป่า ไก่ทุ่งวางขายบนเคาน์เตอร์ ปู่เซบูรอนไม่แน่ใจนักว่าการเปิด ร้านช�ำจะมีอนาคต เขียนจดหมายถึงหลานชาย ก�ำกับด้วยมนต์คาถา ในการด�ำเนินธุรกิจเยี่ยงบัฟเฟตต์ แกอย่าได้คาดหวังมากนัก ฉันเชือ่ ว่าธุรกิจน่าจะดีขนึ้ ในฤดูใบไม้ผลิ หากแก ไปไม่รอด เก็บข้าวของออกจากที่นั่น ปลีกเวลาจ่ายช�ำระหนี้ ให้หมดสิ้น รักษาชื่อเสียงไว้ นั่นมีค่ากว่าเงินทอง
แต่มหานครใหม่เติบโตรุ่งเรือง ซิดนีย์รุ่งเรืองไปตามมหานคร เมื่อ ถึงทศวรรษ 1870 โอมาฮามีสงิ่ ปลูกสร้างเหล็กหล่อและโรงอุปรากร เมือ่ ขึน้ ศตวรรษใหม่ มีตึกระฟ้า รถราง ประชากรเพิ่มเป็น 140,000 คน ซิดนีย์ ขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น ดึงลูกชายสองคนมาท�ำงานในร้าน ลูกชายคนเล็ก, เออร์เนสต์ ปู่ของวอร์เร็น มีหัวการค้า ทะเลาะกับพี่ชายเรื่องผู้หญิง เขา แต่งงานกับหญิงนั้น พี่น้องสองคนตัดเป็นตัดตายไม่พูดกัน เมื่อถึงปี 1915 เออร์เนสต์ออกจากร้านช�ำกลางใจเมือง ไปตั้งร้านใหม่ บัฟเฟตต์แอนด์ซัน ที่ปลายเขตเมืองทางตะวันตก อีกครัง้ การคาดคะเนของบัฟเฟตต์แม่นย�ำ อยูถ่ กู ทีถ่ กู เวลา ประชากร โอมาฮาขยายถิ่นฐานไปทางตะวันตกของแม่น�้ำ เออร์เนสต์มองเห็นโอกาส 22
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ในเขตชานเมือง เขาค้าเงินเชือ่ และบริการส่งของถึงบ้าน ไม่นานนัก แม่ครัว ของครอบครัวมีอันจะกินในเมือง โทรศัพท์มาสั่งข้าวของจากร้านบัฟเฟตต์ แอนด์ซัน กิจการเจริญรุดหน้า เออร์เนสต์ถางเส้นทางสู่วิถีตะหนี่มัธยัสถ์ ของตระกูลบัฟเฟตต์ เขาจ่ายเงินค่าจ้างให้เสมียนในร้าน 2 เหรียญต่อช่วง การท�ำงาน 11 ชั่วโมงเต็ม ก�ำกับด้วยสุนทรพจน์ด่าทอค่าแรงขั้นต�่ำ และ แนวคิด ‘สังคมนิยม’ เออร์เนสต์รา่ งสูงใหญ่ ไม่เพียงแค่ด�ำเนินธุรกิจร้านช�ำ แต่ถึงขั้นเป็นจอมเผด็จการ โฮเวิรด์ (พ่อของวอร์เร็น) ลูกชายของเออร์เนสต์ ไม่สนใจงานเจ้าของ กิ จ การร้ า นช� ำ รุ ่ น ที่ ส าม โฮเวิ ร ์ ด มี ค วามคิ ด เป็ น ของตั ว เอง (เหมื อ นปู ่ เออร์เนสต์) แต่อ่อนโยน ไม่มีค�ำดุด่าตะคอกข่มขู่ เขาท�ำงานวางท่อน�้ำมัน ในไวโอมิงระยะหนึ่ง แต่ความสนใจแท้จริงจะเป็นการใช้ความคิด ที่ มหาวิทยาลัยเนบราสกาในเมืองลินคอล์น เออร์เนสต์เป็นบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ เดลี เนบราสกัน มุ่งมั่นจะท�ำงานอาชีพผู้สื่อข่าว แม้โฮเวิร์ด จะไม่ถงึ ขัน้ หล่อเหลา ผมด�ำ แต่ตาคมล�ำ้ ลึก ในฐานะประธานสภานักศึกษา เขาจะเลือกควงคู่แม่นางเฉิดฉายคนใดก็ได้ในวงสังคม แต่ปีสุดท้ายใน มหาวิทยาลัย เขาพบแม่นางชาวนา ถึกแกร่งทนทายาด ทุกอย่างที่ไม่ใช่ การเข้าสังคมชั้นสูง ลีล่า สตาห์ลเกิดในเวสต์พอยน์ต, เนบราสกา เมืองชนบทแร้นแค้น มีประชากรเพียง 2,200 คน พ่อของเธอ, จอห์น อัมมอน สตาห์ล เป็น เจ้าของหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ คัมมิง เคาน์ตี เดโมแครต คนส่วนใหญ่ ในเมืองนัน้ มีเชือ้ สายเยอรมัน ครอบครัวสตาห์ลพูดภาษาอังกฤษเป็นคนนอก ของเมือง แม่ของลีลา่ เศร้าซึมทีถ่ กู กีดกัน ตรมใจนอนแซ่วติดเตียง ลีลา่ กับ น้องชายและน้องสาวอีกสอง ต้องดูแลตัวเอง ลีลา่ ต้องช่วยงานพ่อทีโ่ รงพิมพ์ ด้วย ตั้งแต่ชั้นประถมห้า นั่งบนม้าสูง หยิบตัวเรียงลงราง เรื่อยมาจนถึง ยุคที่ใช้เครื่องเรียงพิมพ์ ในบางคราว เธอต้องวิ่งขึ้นขบวนรถไฟหยุดจอดที่ สถานีเวสต์พอยน์ต สัมภาษณ์ผโู้ ดยสาร เพือ่ หาข่าวมาลงหนังสือพิมพ์ ทุก 23
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
วันพฤหัสบดี เด็กนักเรียนสาวต้องยืนหน้าเครือ่ งฉับแกระ ดึงแผ่นกระดาษ ที่พิมพ์แล้วทีละแผ่นออกมาให้ทันเวลา ท�ำอยู่นานหลายปี ลีล่ามีอาการ ปวดศีรษะตุบๆ จังหวะเดียวกับแท่นพิมพ์ฉับแกระ อายุสิบหก ลีล่าจบชั้นมัธยมปลาย เธอต้องท�ำงานอีกนานสามปี เพื่อให้หาเงินเรียนมหาวิทยาลัย เธอเดินเข้าไปในส� ำนักงานของโฮเวิร์ด บัฟเฟตต์ ของานท�ำในหนังสือพิมพ์ เดลี เนบราสกัน สาวชาวไร่ ปากจัด และอารมณ์ขันแสบสันต์ สาวหน้าสวย สูงราวห้าฟุต ทรวดทรงองค์เอว กลมกลึง ผมสีน�้ำตาลหยักเป็นลอน เธอออกค�ำประกาศว่า “ฉันเลือกลง วิชาเอกหา ฝาละมี” ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจเลือกหลักสูตรเหมาะสม ส�ำหรับสาวน้อยที่เรียนจบแล้วจะต้องเดินทางกลับหมู่บ้านที่มีประชากร สองพันคน โฮเวิรด์ รับเธอเข้าท�ำงาน และขอออกเดตกับเธอแทบจะในทันใด แรง ดึงดูดใจเกิดขึน้ ทัง้ สองฝ่าย เมือ่ ใกล้จบการศึกษา โฮเวิรด์ ขอแต่งงานกับเธอ จอห์น สตาห์ล คนมีการศึกษา หวังอยากจะให้ลกู สาวเรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ก็อวยชัยให้พรคนทั้งสอง งานแต่งงานจัดขึ้นในเวสต์พอยน์ต หลังวัน คริสต์มาสในปี 1925 อุณหภูมิสิบใต้ศูนย์ (ฟาห์เรนไฮต์) ในบันทึกที่ลีล่า เขียนไว้ให้หลาน โฮเวิรด์ บอกเธอไว้วา่ “การที่ผมแต่งงานกับคุณ เป็นการ ตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของผม” ไม่มีแม้ความคิดเรื่องการดื่มน�้ำผึ้ง พระจันทร์ หลังงานแต่งงานสิ้นสุด ทั้งสองนั่งรถเมล์กลับมายังโอมาฮา โฮเวิร์ดได้รับข้อเสนองานหนังสือพิมพ์ งานอาชีพที่เขาฝันถึง แต่ เพื่อนของพ่อเสนองานในบริษัทประกันภัย ค่าจ้างสัปดาห์ละ 25 เหรียญ โฮเวิร์ดยอมตามไปสักช่วงหนึ่ง ลีล่าบันทึกไว้ “การยอมจ�ำนนต่อพ่อ เป็น เพราะพ่อจ่ายค่าเทอมมหาวิทยาลัยให้” สองสามีภรรยาย้ายมาอยู่ในบังกะโลไม้สีขาวสองห้องนอน เตาผิง ถ่านหิน บนถนนบาร์เกอร์ ส�ำหรับลีล่าแล้ว นับเป็นการเริ่มต้นยากสาหัส เธอเกิดและเติบใหญ่โดยไม่มีแม่คอยดูแล เธอไม่พร้อมส� ำหรับการเป็น 24
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
แม่บา้ น เมือ่ โฮเวิรด์ จ�ำเป็นต้องใช้รถ เธอเดินไปขึน้ รถราง ท�ำงานเป็นเลขาฯ หรือท�ำงานโรงพิมพ์เป็นครั้งคราว ในช่วงปีแรก เธอมีรายได้ต่อสัปดาห์ มากกว่าเขา เลิกงาน เธอเดินกลับมาหางานบ้านกองโต ในปี 1927 ลีล่า เข้ารับการผ่าตัดตา เพราะอาการปวดศีรษะตุบๆ กลับมาอีก ปีถดั มา ดอริส ลูกสาวคนแรกถือก�ำเนิด ลีล่ามีไข้สูง 105 องศา ท�ำให้ทุกคนแตกตื่นตกใจ สองปีถัดมา สองสามีภรรยาได้ลูกชาย, วอร์เร็น เอดเวิร์ด บัฟเฟตต์ ในวันร้อนอบอ้าว วันที่ 30 สิงหาคม 1930 ฝนตกหนักเหมือนฟ้ารัว่ ท�ำให้ ความร้อน 89 องศาซาลง วอร์เร็นเป็นเด็กระมัดระวังตัวตั้งแต่แรกเริ่ม ในยามหัดเดิน ขาย่อ กางออก คล้ายจะประกันให้มนั่ ใจว่าถ้าล้ม ก็ตกลงไม่สงู นัก ในยามทีแ่ ม่พา ดอริสกับเขาไปร่วมงานโบสถ์ ดอริสจะเดินเพ่นพ่านและหลงทาง วอร์เร็น จะนั่งสงบเสงี่ยมเป็นเพื่อนพี่สาว “เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เขาไม่เคยก่อปัญหา ใดเลย” ลีล่าเขียนไว้ในบันทึก รูปถ่ายอายุสองขวบ วอร์เร็นเด็กผมบลอนด์ อ้วนจ�้ำม�่ำ สวมถุงเท้า ขาว รองเท้าบูต๊ ผูกเชือกสีขาว มือถือบล็อกไม้ อมยิม้ และตาจ้องมองกล้อง เส้นผมสีบลอนด์แดง เปลี่ยนมาเป็นสีน�้ำตาลเข้มในภายหลัง แต่สภาพ อารมณ์ไม่เปลี่ยน เขาจะไม่เดินพล่านในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ไม่เคยก่อ ปัญหา ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใคร รอเบอร์ตา น้องสาวอายุอ่อนกว่าเขา 3 ปี ท�ำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองพี่ชายจากเด็กตัวแสบในละแวกบ้าน มี คราวหนึ่ง โฮเวิร์ดซื้อนวมกลับมาสองคู่ เชิญเด็กข้างบ้านมาซ้อมมวยกับ วอร์เร็น “ครั้งนั้นครั้งเดียว ไม่ได้ใช้อีกเลย” ลีล่าเขียนไว้ วอร์เร็นเป็น เด็กอ่อนโยน ลักษณะนิสัยดึงดูดใจให้น้องสาว (และคนอื่นๆ ที่พบกันใน ภายหลัง) ปลุกสัญชาตญาณปกป้องผู้อื่นขึ้นมา ดูเหมือนว่าวอร์เร็นไม่ได้ เกิดมาเพื่อต่อสู้ ขวบปีแรกของวอร์เร็น ครอบครัวบัฟเฟตต์ล�ำบาก พ่อท�ำงานเป็น พนักงานขายหลักทรัพย์ในธนาคารยูเนียนสตรีต งานที่เขามองว่าไม่ใคร่ 25
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
สุจริตนัก เขาเขียนจดหมายไปถึงพี่ชาย, คลาเรนซ์ ฉันรู้เรื่องทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับหุ้น สรุปได้ไม่กี่ค�ำว่าใครก็ตามที่เก็บออม ได้สองสามเหรียญจนอายุห้าสิบปีแล้วมาเล่นหุ้น ถือได้ว่าเป็นไอ้งั่ง ฉัน ไม่ ได้พูดด้วยนะว่าอาจจะโง่
โฮเวิร์ดเขียนไว้ที่ขอบกระดาษ “ช่วยให้ธุรกิจของฉันรุ่งเรือง” แต่ใน ปีเดียว เออเนสต์มองเห็นลางร้าย วันที่ 13 สิงหาคม 1931 สองสัปดาห์ ก่อนวอร์เร็นจะครบหนึ่งขวบ พ่อกลับจากที่ท�ำงาน บอกให้ทุกคนในบ้าน ทราบว่าธนาคารของเขาปิดตัวลง ภาพแทนค่าสะเทือนศรัทธาของช่วงภาวะ เศรษฐกิจตกต�่ำ ไม่มีงานท�ำ เงินเก็บหายวับ เออเนสต์ให้เวลาแสนสั้น แก่ลูกชายในการจ่ายช�ำระค่าของช�ำที่ซื้อเชื่อจากร้าน ยาขมที่จ�ำต้องกลืน เพราะโฮเวิรด์ มีสายเลือดบัฟเฟตต์เต็มตัว รังเกียจการกูย้ มื ‘รักษาชือ่ เสียงไว้ นัน่ มีคา่ กว่าเงินทอง’ อนาคตมืดมนถึงขัน้ ทีเ่ ขาคิดจะพาครอบครัวย้ายกลับ ไปที่เวสต์พอยน์ต แต่ไม่นานเลย โฮเวิร์ดประกาศว่าบริษัท บัฟเฟตต์ สเกลนิกกา และคณะ เปิดให้บริการในอาคารธนาคารยูเนียนสเตตบนถนนฟาร์แนม ถนนสายเดียวกับที่วอร์เร็นจะย้ายมาพักอาศัยและท�ำงาน โฮเวิร์ดกับ จอร์จ สเกลนิกกา หุ้นส่วน จะเร่ขาย ‘หลักทรัพย์การลงทุน หุ้นและ พันธบัตรของมหานคร บรรษัท และกิจการสาธารณูปโภค’ โฮเวิร์ด ต้องใช้ความกล้าหาญและจิตใจแข็งแกร่งในการค้าขาย เพราะตลาดหุ้น ล่มสลาย สัน่ คลอนความวางใจของนักลงทุน โอมาฮาเชือ่ ว่าเมืองของตนจะ ไม่มภี ยั ภาวะเศรษฐกิจตกต�ำ่ มาแผ้วพาน แต่แล้วในปี 1932 ราคาข้าวสาลี ตกต�่ำ ชาวนาต้องเข้าแถวรอรับอาหารเลี้ยงชีวิตจากโรงทาน โอมาฮา ฐานเสียงรีพับลิกัน เทคะแนนเสียงให้โรสเวลต์อย่างท่วมท้น ปีถัดมา มีผู้ลงทะเบียนกับพรรคเดโมแครตเพิ่มอีกหนึ่งพันหนึ่งหมื่นคน บริษัท 26
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ก่อตั้งในช่วงทุกข์เข็ญ ดูเหมือนว่าบริษัท บัฟเฟตต์ สเกลนิกกาจะด�ำเนิน ธุรกิจแต่ชื่อ เป็นเพียงสถานที่ที่โฮเวิร์ดจะเดินออกจากบ้าน น�ำหมวกไป แขวนทีน่ นั่ การขายชิน้ แรกใช้เวลานานก่อนจะมาถึง ค่าคอมมิสชันน้อยนิด เออเนสต์, ปู่ของวอร์เร็น ประธานสโมสรโรตารีโอมาฮา บอกกล่าวแก่ ชาวโรตาเรียนว่าลูกชายของเขาจิตใจดีงาม แต่ไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องหุ้นเลย ดังนั้น ขอเตือนไว้ล่วงหน้า ชาวโรตาเรียนอย่าได้ไปใช้บริการซื้อขาย หลักทรัพย์ที่นั่น ลีล่าท�ำงานหาเงินซื้ออาหารมาวางบนโต๊ะ บางคราว เธออดอาหารเพื่อให้โฮเวิร์ดกินอิ่มท้อง ครอบครัวบัฟเฟตต์แร้นแค้นจน ลีล่าไม่ไปร่วมกิจกรรมของโบสถ์อีกแล้ว เพื่อประหยัดเงิน 29 เซ็นต์ไว้ซื้อ กาแฟหนึ่งปอนด์ ครอบครัวบัฟเฟตต์โดนภัยธรรมชาติกระหน�่ำ จนดูคล้ายว่าการ ลงทัณฑ์จากเบื้องบนกลืนเป็นเนื้อเดียวกับภาวะเศรษฐกิจตกต�่ำ ลีล่าเขียน บันทึกไว้ว่า “ช่วงเศรษฐกิจตกต�่ำเริ่มต้นด้วยอากาศร้อนถึง 112 องศา” พายุฝุ่นทรายพัดมาจากโอคลาโฮมา ชาวเมืองโอมาฮาปิดประตูหน้าต่าง ไม่ให้ตกั๊ แตกระบาดบินเข้ามาในบ้าน งานวันเกิดครบสีข่ วบของวอร์เร็น “ลม กระโชกพัดจานกระดาษและกระดาษเช็ดปากปลิวตกจากโต๊ะ ระเบียงบ้าน จมอยู่ใต้กองฝุ่นสีแดง วอร์เร็นกับดอริสจะต้านสู้อากาศร้อนอยู่นอกบ้าน รอคอยคนขนน�้ำแข็งจูงม้าลากเกวียนน�้ำแข็งผ่านมา คนขายน�้ำแข็งปันเศษ น�้ำแข็งแตกให้เด็กดูดกินดับร้อน เลวร้ายยิ่งกว่าความร้อนจะเป็นฤดูหนาว เยือกแข็ง เด็กสวมเสื้อผ้าห่อเป็นก้อนกลม วอร์เร็นกับดอริสต้องเดินเท้า แปดช่วงตึกไปเรียนหนังสือ อากาศหนาวจัดจนพนักงานขายต้องจอดรถ ติดเครื่องทิ้งไว้ในขณะที่แวะเข้าไปคุยกับลูกค้า เพราะไม่แน่ใจว่า ถ้าดับ เครื่องแล้ว จะสตาร์ตรถติดอีกหรือไม่ ในช่วงที่วอร์เร็นเข้าโรงเรียนแล้ว ธุรกิจของพ่อกระเตื้องขึ้น วอร์เร็น อายุหกขวบ ครอบครัวของเขาย้ายไปอยู่ในตึกอิฐแดงสไตล์ทิวดอร์ โอ่โถง กว้างขวาง บ้านบนเนินเขตชานเมืองบนถนนสายเหนือที่ 53 เคราะห์เข็ญ 27
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ที่เกิดต่อครอบครัวบัฟเฟตต์ จะไม่มีการยกมาอภิปรายพูดคุยกัน เรื่องนั้น สาปส่งให้หายไปจากห้วงความคิด แต่ดเู หมือนว่าการตกทุกข์ได้ยาก ความยากจนข้นแค้นจะฝังใจวอร์เร็น เขาหลุดจากช่วงแร้นแค้นปีแรกด้วยแรงขับเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น...จะต้องรวย ให้ได้ ร�ำ่ รวยมหาศาล เขาคิดเรือ่ งนีก้ อ่ นอายุครบห้าขวบ และนับจากวันนัน้ ไม่เคยหยุดคิด วอร์เร็นอายุหกขวบ ครอบครัวไปเทีย่ วพักผ่อน เรือ่ งทีไ่ ม่เกิดง่ายนักที่ ทะเลสาบโอโคโบจิ ทางเหนือของไอโอวา เช่ากระท่อมพักอาศัย วอร์เร็น ซื้อโคคา-โคลาแพ็กหกในราคา 25 เซ็นต์ น�ำไปเร่ขายขวดละ 5 เซ็นต์ ได้ก�ำไรแพ็กละ 5 เซ็นต์ เมื่อกลับเข้าโอมาฮา วอร์เร็นไปซื้อน�้ำอัดลมจาก ร้านคุณปู่ น�ำไปเร่ขายตามบ้านในค�่ำคืนฤดูร้อน ในระหว่างที่เด็กอายุ รุ่นราวคราวเดียวกันเล่นในท้องถนน นับจากนัน้ การค้าขายแสวงหาก�ำไรไม่เคยรามือ การท�ำมาค้าขายของ วอร์เร็นมี เป้าหมาย เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่เงินค่าขนมติดกระเป๋า แต่ จะเป็นการสะสมทุน เพื่อก้าวไปหาจุดหมายที่สูงกว่า เมื่อวอร์เร็นอายุเจ็ดขวบ ต้องเข้าโรงพยาบาล ไข้สูงโดยไม่รู้สาเหตุ หมอผ่าตัดไส้ติ่ง แต่ก็ยังป่วยจนหมอเกรงไปว่าอาจไม่รอดชีวิต แม้พ่อจะ ถือซุปเส้น อาหารโปรดของวอร์เร็นไปฝาก เขากินไม่ได้ ในยามที่นอนอยู่ ตามล�ำพัง เขามีกระดาษดินสอ เขียนตัวเลขเต็มแผ่นกระดาษ เขาบอก พยาบาล ตัวเลขพวกนี้แทนค่าเงินทุนในอนาคตของเขา “ตอนนี้ผมยังไม่มี เงินมากพอ” เขาบอกเสียงใส “แต่สกั วัน ผมจะท�ำเงินได้มากมายมหาศาล จะมีรปู ลงหนังสือพิมพ์” วอร์เร็นนอนหายใจรวยรินรอความตาย สิง่ ทีป่ ลุก เขาให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ มิใช่ซุป หากแต่เป็นความฝันเรื่องเงินทอง โฮเวิร์ด บัฟเฟตต์ตั้งใจมั่นว่าวอร์เร็นจะต้องไม่พบพานประสบการณ์ เลวร้ายเหมือนที่เขาผ่านมา และในอีกทาง ในฐานะพ่อคน เขาจะไม่มีวัน หยามหมิ่นเหมือนที่เออร์เนสต์กระท�ำต่อ ลูกชายของเขา โฮเวิร์ดเชื่อมั่น 28
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ในตัววอร์เร็นอย่างไม่มีเงื่อนไข จะท�ำทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนในทุกเรื่องที่ ลูกชายท�ำ ดังนัน้ แม้วา่ วอร์เร็นจะได้ความเด็ดเดีย่ วจากมารดา แต่เอกภพ ของเขาโคจรรอบบิดา โฮเวิ ร ์ ด ร่ า งสู ง ใหญ่ สู ง หกฟุ ต สู ง ทะมึ น ในครอบครั ว บั ฟ เฟตต์ แผ่ อ� ำ นาจควบคุ ม ทั้ ง ทางกายและด้ า นอื่ น เขาท� ำงานหนักเพื่อเลี้ยงดู ครอบครัว ไม่เพียงแค่รายได้จากค่าคอมมิสชันในการขายหุ้นและพันธบัตร เท่านั้น รายได้อีกทางมาจากโรงงานอาหารสัตว์โอมาฮาใต้ ธุรกิจเล็กๆ รองรับลานชุมนุมปศุสัตว์ในโอมาฮา โฮเวิร์ดไม่ได้ตื่นเต้นไปกับเงินทอง ความหลงใหลของเขาจะอยูท่ กี่ ารเมืองและศาสนา เขาเป็นคนเกรงกลัวบาป เคร่งศาสนา คนครองตัวในศีลธรรมดีงาม ได้ความหาญกล้าจากศรัทธา เที่ยงแท้ ยืนกรานแนวคิดอนุรักษนิยมสุดขั้ว (นายธนาคารท้องถิ่นกล่าว ‘โดยสิทธิอ�ำนาจของพระผู้เป็นเจ้า เขายกมาอ้างเสมอ’) โฮเวิรด์ เชือ่ ว่าโรสเวลต์ทำ� ลายค่าเงินดอลลาร์ เขาเปลีย่ นเงินสดให้เป็น เหรียญทองค�ำมอบให้ลกู ๆ ซือ้ หาโคมระย้าเข้ามาประดับบ้าน ซือ้ เครือ่ งเงิน มาใช้บนโต๊ะอาหาร ซื้อผืนพรมตะวันออก...ทุกอย่างที่เป็นวัตถุจับต้องได้ ย่อมมีค่ากว่าเงินสด เขาล�้ำไกลไปถึงการสะสมอาหารกระป๋อง และซื้อ บ้านไร่ไว้ เผื่อจะเป็นที่พักหลบภัยให้ครอบครัวจากเพลิงผลาญของเงินเฟ้อ โฮเวิรด์ เน้นหลักการประจ�ำใจ ความเห็นทีด่ ำ� รงยืนยาวทีส่ ดุ ในบรรดา ความเห็นอื่นที่เขาเคยกล่าวไว้ในแวดวงการเมือง นั่นคือ ความคิดอิสระ ในยามที่ลูกๆ มานั่งอิงอยู่ข้างกาย เขาจะอ่านสัจธรรมจากบทกวีของ อีเมอร์สันให้ลูกฟัง คนยิ่ ง ใหญ่ จ ะเป็ น ผู ้ อ ยู ่ ก ลางฝู ง ชน รั ก ษาเสรี แ ห่ ง ความคิ ด โดดเดี่ ย ว แสนหวานไว้ได้
โฮเวิร์ดน�ำค�ำสอนศาสนาพร�่ำบอกลูกๆ รวมไปถึงเนื้อหาวิชาการ 29
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ทางโลก เขาสอนในโรงเรียนศาสนาวันอาทิตย์ส�ำหรับผู้ใหญ่ และเป็น ประธานกรรมการสภาโรงเรียนรัฐ การย�้ำเตือนไม่เคยขาดหายไปเกินสัปดาห์ เขาจะพร�่ำบอกวอร์เร็นกับพี่สาวน้องสาวว่า หน้าที่ความเป็นมนุษย์นั้น ไม่เพียงแค่รับใช้พระผู้เป็นเจ้า แต่ต้องดูแลช่วยเหลือชุมชนเช่นกัน วลีที่ โปรดปรานที่สุด “ไม่มีใครบีบบังคับให้ลูกแบกภาระทั้งมวล แต่ลูกไม่ได้ รับอนุญาตให้ปลดภาระส่วนที่ลูกต้องแบกไว้” อาจเป็นไปได้ ไม่ใช่วิถีผิดปกติส�ำหรับผู้คนในยุคนั้น โฮเวิร์ดมิได้สอน แค่ลมปาก เขาด�ำเนินชีวิตตามค�ำที่พร�่ำสอนลูกๆ ไม่ดื่ม ไม่สูบ และใน ยามที่หลักทรัพย์ราคาตกลง ลูกค้าร�ำ่ ไห้ฟูมฟาย โฮเวิร์ดเศร้าตามไปด้วย ควักเงินส่วนตัวมารับซื้อหุ้นจากลูกค้าไว้เสียเอง ในยามที่มีคนน�ำเรื่องเสื่อมทรามในสังคมมาแจ้งให้ทราบ โฮเวิร์ดจะ ตอบไปว่า “ท่านเองก็เป็นประชาชนคนดี ท่านจะท�ำอะไรเพือ่ แก้ไขเรือ่ งร้าย นั้น?” โฮเวิร์ดนั่งในอาร์มแชร์หนังสีแดงในห้องนั่งเล่น ล�ำโพงจากเครื่องเล่น จานเสียงจ่อข้างหู เปิดแผ่นสตีเฟน ฟอสเตอร์ (เจ้าของเพลง โอ, ซูซานนาห์ และโอลด์ แบล็กโจ ราชาเพลงอเมริกัน) ฟังเพลงสวดและเพลงมาร์ชที่ โปรดปราน โฮเวิรด์ เป็นมนุษย์แห่งนิสยั จะพาครอบครัวไปกินอาหารมือ้ เย็น ทุกวันอาทิตย์ที่ยูเนียนสเตชัน จากนั้น ไปต่อที่ร้านไอศกรีมอีแวนส์บน ถนนเซนเตอร์ แม้จะสวมเสือ้ สูทสีดำ� นายหน้าค้าหลักทรัพย์ลกั ยิม้ ข้างแก้ม ยิ้มแย้มทักทายทุกคนที่เหลือบมองเห็น เฮอร์เบิร์ต เดวิส, เพื่อนร่วมงาน กล่าวถึงโฮเวิร์ด “เค้าหน้าท่าทางมีคุณสมบัติครบถ้วนที่คุณต้องการใน ตัวพ่อ” ลูกๆ ใช้ชีวิตหวาดผวา เกรงไปว่าจะท�ำให้บิดาผิดหวัง ดอริสปฏิเสธ ไม่ยอมไปนั่งโต๊ะร่วมกับเพื่อนดื่มเบียร์ ไม่อยากให้พ่อเห็นว่าตัวเธอไป เกลือกกลั้วกับเรื่องบาปผิด รอเบอร์ตาเสนอความเห็น “พ่อมีหลักการ สุดสูง เรารู้สึกว่าเรา จ�ำต้อง ท�ำตัวให้เป็นคนดี” 30
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
วอร์เร็นชื่นชมยกย่องบิดายิ่งกว่าผู้ใด เขาสนิทสนมกับพ่อ สุขกาย สบายใจเมื่ออยู่กับพ่อ ในโบสถ์ ขณะที่ร้องเพลงสวด พ่อร้องผิดคีย์ วอร์เร็นหันไปบอก “พ่อครับ ต้องให้พ่อร้อง หรือไม่ก็ผมร้อง เราร้อง พร้อมกันไม่ได้” โฮเวิร์ดยิ้มรับ หยอกเย้าลูกชายด้วยชื่อเล่นว่า “ไอ้ลูกไฟ ดวงใหญ่” เมื่อวอร์เร็นอายุสิบขวบ โฮเวิร์ดพาลูกชายไปเที่ยวมหานครนิวยอร์ก เขาพาลูกไปเที่ยวทางไกลคราวละคน นอนค้างบนรถไฟ ลีล่าไปส่งที่สถานี มองเห็นวอร์เร็น จูงมือ ‘เพื่อนสนิทที่สุด’ ไปขึ้นขบวนรถ อัลบัมแสตมป์ หนีบอยูใ่ ต้ซอกแขน ตารางการท่องเทีย่ ว เริม่ ต้นด้วยการไปดูเบสบอล ไป ดูงานแสดงแสตมป์ และที่ไหนสักแห่งที่มี ‘รถไฟไลโอเนลย่อส่วน’ เมื่อไป ถึงวอลล์สตรีต วอร์เร็นเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ วอร์เร็นหลงใหลหุ้นเข้มข้นเหมือนเด็กคนอื่นบ้าเครื่องบินจ�ำลอง เขา แวะไปหาพ่อบ่อยครัง้ พ่อเป็นนายหน้าหลักทรัพย์ทปี่ ระสบความส�ำเร็จแล้ว ย้ายที่ท�ำงานไปอยู่ในอาคารหินอ่อนของธนาคารโอมาฮาเนชันแนล ถนน สายที่ 17 ตัดกับฟาร์แนม ในห้องท�ำงานของพ่อ วอร์เร็นจะเหม่อมองใบหุน้ และพันธบัตร เก็บไว้หลังลูกกรงทาสีทอง ในสายตาของวอร์เร็น พันธบัตร พวกนั้นคล้ายมีมนต์ดึงดูดใจ บ่อยครั้งที่วอร์เร็นจะวิ่งลงบันไดมายังห้องค้า ของแฮร์รสิ อัปแฮม ซึง่ อยูใ่ นอาคารเดียวกัน ไปแหงนหน้าดูความเคลือ่ นไหว ของหุ้นบนกระดาน เจสสี ลิเวอร์มอร์ นักค้าหุ้นชื่อเสียงโด่งดังจากฝั่ง ตะวันออก แวะเข้าเมือง มาหยุดยืนหน้ากระดาน จดราคาหุ้นและลาจาก ไปอย่างเงียบเชียบ แฮร์รสิ อัปแฮมตามใจเจ้าหนูหกู าง ยอมให้เขาหยิบชอล์ก เขียนราคาหุ้นบนกระดาน ที่บ้าน วอร์เร็นเขียนตารางราคาหุ้นของตัวเอง สังเกตการณ์ราคา ขึ้นลงของหุ้น ต้องมนต์คล้ายโดนสะกดจิต มองหาโครงสร้าง เสาะหา หนทางถอดรหัส อายุสิบเอ็ดปี วอร์เร็น บัฟเฟตต์เล่นหุ้นเป็นครั้งแรก ในชีวิต ซื้อหุ้น Cities Service (หุ้นบุริมสิทธิกิจการสาธารณะ) ให้ตัวเอง 31
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
3 หุน้ ซือ้ อีก 3 หุน้ ให้ดอริส ในราคาหุน้ ละ 38 เหรียญ “ฉันรูต้ งั้ แต่ตอนนัน้ ว่า เขารู้ว่าตัวดีว่าก�ำลังท�ำอะไร” ดอริสย้อนนึก “น้องชายคนนี้หายใจ เข้าออกเป็นตัวเลข” แต่หุ้นตกลงมาเหลือ 27 เหรียญ วอร์เร็นกัดฟันทน และเมื่อฟื้นตัว ราคาดีดกลับขึ้นมาที่ 40 เหรียญ วอร์เร็นขายหุ้น หักค่า ธรรมเนียม ได้ก�ำไรสุทธิ 5 เหรียญ หลังจากที่ขายหุ้นไปแล้ว หุ้นวิ่งต่อ ขึ้นไปถึง 200 เหรียญ นับเป็นบทเรียกแรกสุดว่าด้วยความอดทนข่มกลั้น ในสนามม้าแข่ง วอร์เร็นท�ำได้ดีกว่า เขางวยงงไปกับคณิตศาสตร์ คิดแต้มต่อของม้าแต่ละตัว เขากับรัสเซลล์ ช่วยกันคิดหาระบบบอกใบ้ ทดสอบไม่กี่วัน ระบบที่คิดขึ้นมาได้ผล ดังนั้น ทั้งสองขีดเส้นใต้ เก็งม้า เข้าวิน ตัง้ ชือ่ แผ่นพับใบ้มา้ เด็ดว่า ‘การบอกใบ้ของเด็กคอกม้า’ น�ำส�ำเนา ไปเร่ขายหน้าสนามม้า รัสเซลล์กล่าวถึงเรื่องนั้น “เราโบกแผ่นพับขวักไขว่ เร่เข้ามา ซื้อการบอกใบ้ของเด็กคอกม้า เฮ้, ขายได้ขายดีด้วย แต่เราไม่มี ใบอนุญาต สนามม้าไล่เราออกมา” การมองหาหนทางสร้างรายได้ของวอร์เร็น จะมีรากฐานจากตัวเลข เขานับถือตัวเลขเหนือสิ่งอื่นใด เหนือล�ำ้ ไปกว่าการสอนสั่งบทสวดศาสนา ในครอบครัว วอร์เร็นเชื่อมั่นในตัวเลข เชื่อมั่นในตรรกะเกินกว่าจะค้อมรับ ศรัทธาอย่างไม่มเี งือ่ นไข เขายอมรับนับถือแนวคิดจรรยาของพ่อ แต่ไม่ถงึ กับ เห็นพ้องในศรัทธาของพ่อต่อสรวงสวรรค์ แนวทางนีอ้ ยูใ่ นตัวคนซือ่ สัตย์ตอ่ ความคิดของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในร่างของเด็กชาย ตรรกะบริสุทธิ์ ปูทางไปหาความหวาดผวาต่อความตาย วอร์เร็นกลัวตาย กลัวแทบขาดใจ ตาย ทุกสัปดาห์ แม้หมิ ะจะตกหนาสูงกว่าสีฟ่ ตุ ลีลา่ กับโฮเวิรด์ จะสนับสนุน ให้ลูกไปโรงเรียนศาสนาวันอาทิตย์ แต่บรรยากาศไม่อาจแทรกเข้ามาใน ความคิดของเขาได้ ในโรงเรียนศาสนาวันอาทิตย์ วอร์เร็นจะนั่งค�ำนวณ อายุขัยของผู้เคร่งศาสนา ท�ำโดยมีวัตถุประสงค์ เขาอยากรู้ว่าศรัทธาใน ศาสนา จะช่วยให้คนเรามีอายุยืนยาวกว่าคนทั่วไปหรือไม่ เขาไม่ได้สนใจ 32
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ชีวิตใหม่หลังการตาย สนใจเพียงแค่ว่า ชีวิตนี้ จะยืนยาวได้เท่าใด เขากับบ็อบ รัสเซลล์ นั่งอยู่บนชิงช้าบนระเบียงหน้าบ้านของรัสส์ ความนิง่ เงียบงันทะลักเข้ามาทันใด ประหนึง่ โดนพายุหอบมาทิง้ ไว้ วอร์เร็น โพล่งออกมา “รัสส์, มีเรื่องเดียวที่ฉันกลัว ฉันกลัวตาย” เขายกเรื่องนี้ มาคุยกันเพื่อนสนิท ปีแล้วปีเล่า พูดบ่อยครั้งจนเรื่องนี้ผนึกข้ามกาลเวลา ไว้ในความจ�ำของรัสเซลล์ เรื่องแปลกแยกผิดเพี้ยน ไม่ใช่วิสัยของวอร์เร็น คนร่าเริงยิม้ แย้มแจ่มใส บางคราว รัสส์จะโปรยอาหารนกลงในกล่องนมเก่า เพือ่ ดักนก วอร์เร็นมักจะอ้อนวอนอย่าไปท�ำร้ายนก รัสส์ดงึ เชือกผูกฝากล่อง ปล่อยนกไป รัสเซลล์ปล่อยนกเป็นอิสระ แต่ไม่อาจปลดปล่อยเพื่อนรักให้ หลุดพ้นจากความหวาดหวั่นกลัวความตาย “ถ้าแกท�ำตามฝีมือที่พระเจ้ามอบให้แก แกจะประสบความส�ำเร็จ ช่วยเหลือผู้อื่นได้ และตายด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปาก” บ็อบ รัสเซลล์บอก เพื่อนสนิท “บ็อบ, ฉันกลัวตาย” วอร์เร็นตอบ รัสเซลล์เป็นคาทอลิก ไม่เข้าใจว่าความกลัวนั้นมาจากที่ไหน ท�ำไม คนที่มีทุกอย่างพร้อมมูล ท�ำทุกอย่างได้ราบรื่น จะกลัวมากขนาดนั้น แต่ ก็คงเป็นเพราะด้านมืดในบ้านของวอร์เร็นที่รัสส์ไม่ล่วงรู้ มองจากภายนอก บัฟเฟตต์เป็นครอบครัวสุขสันต์ รักใคร่ มั่งคั่ง มีอนั จะกิน ศีลธรรมสุดสูง ยึดสมาชิกเป็นจุดศูนย์กลาง ทุกอย่างทีก่ ล่าวมา เป็นความสัตย์จริง ลีล่ายืนยันว่าวันที่เธอพบหน้าโฮเวิร์ด “เป็นวันโชคดี ที่สุดในชีวิตของฉัน” เธอนอบน้อมนับถือสามีดุจพระราชา แม้จะเป็นราชาอ่อนโยนมีน�้ำใจ ก็ยงั ถือเป็นราชา เธอเป็นหญิงมีความคิด มีความรูเ้ รือ่ งหุน้ แต่ไม่เคยเปรย ให้เข้าหูของโฮเวิร์ด แม้ในยามที่ปวดศีรษะเต้นตุบๆ เธอระวังตัวไม่รบกวน การอ่านหนังสือของโฮเวิร์ด เธอวาดหวังจะท�ำหน้าที่ภรรยาสมบูรณ์แบบ เพื่อนของวอร์เร็นมองเห็นคุณแม่หน้าหวาน แย้มยิ้มใจดี มารยาทสังคม 33
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
งดงาม ช่างพูดจ�ำนรรจาเหมือนแม่มดใจดีจากโลกเหนือ แต่ในยามที่ภาระหนักอึ้งของการเป็นภรรยาสมบูรณ์แบบสาหัสเกิน ทานทน เธอหันมาระบายความกราดเกรีย้ วเข้าใส่วอร์เร็นกับพีส่ าวน้องสาว สาดกระหน�่ำด้วยเพลิงพิโรธของพระเจ้า ผ่าเปรี้ยงลงมาโดยไม่มีการเตือน ล่วงหน้า แม่ใจดีออ่ นหวาน กลายเป็นมารร้ายพายุเกรีย้ วกราดเกินจะหาค�ำ มาบรรยายได้ โทสะสาดกระหน�่ำลูกๆ ไม่เคยผ่อนเบา บางคราวยาวนาน ต่อเนือ่ งหลายชัว่ โมง เธอจะแผดด่าด้วยถ้อยค�ำหยาบคาย หยามหมิน่ ลูกๆ บดขยี้จนไม่เหลือค่าความเป็นคน ไม่มีสิ่งใดที่ลูกท�ำมีคุณค่าอีกต่อไปแล้ว เธอจะเปรียบเทียบลูกๆ กับเด็กคนอื่น ต�ำหนิติเตียน ขุดคุ้ยความบกพร่อง ข้อผิดพลาดขึ้นมาประจาน ในพายุ โ ทสะของลี ล ่ า ดู เ หมื อ นว่ า เธอถู ก ขั บ ไสโบยตี ด ้ ว ยความ อยุติธรรม ไม่มีการกระท�ำใดของวอร์เร็นกับพี่น้องจะหลุดรอดสายตาเธอ ไปได้ การละเมิดน้อยนิด ไม่อาจหลบเลีย่ งการพิพากษาชีฐ้ านความผิด แม้ใน ยามทีเ่ ด็กๆ ไม่ได้ทำ� ผิด จินตนาการของเธอสรรหาอาชญากรรมเหมาะเจาะ มาสวมเข้ากับเหตุการณ์นั้น เท่าที่วอร์เร็นกับพี่น้องรับรู้ได้ อารมณ์ฉุนเฉียวของมารดาไม่อาจ พยากรณ์ ดังนัน้ เมือ่ ใดทีเ่ กิดขึน้ ยิง่ สร้างความหวาดหวัน่ น่าสะพรึงกลัวยิง่ เพราะไม่มีทางหลบหนีให้พ้นไปได้ เธอเป็นสตรีแกร่ง แกร่งเท่าที่เด็ก อายุสิบเอ็ดจะควบคุมแท่นพิมพ์ หากลูกขยับตัว เธอตวาด “ฉันยังพูด ไม่จบ” รวดเร็วเหมือนตอนมา เมื่อพายุร้ายผ่านพ้น คุณแม่ใจดีร่างเล็ก ใบหน้าแย้มยิ้ม หวนกลับมาหาลูกน้อยอีกครั้ง มีคราวหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ ลูกชายของวอร์เร็นกลับบ้านในช่วง มหาวิทยาลัยปิดภาค โทรศัพท์ไปหาย่าลีลา่ เพือ่ ทักทาย เธอปลดปล่อยพายุ กราดเกรี้ยวเข้าใส่เขา ด่าด้วยชื่อหยาบคาย ตราหน้าว่าเขาเป็นคนไร้น�้ำใจ ไม่โทรฯ มาคุยให้บ่อยกว่านี้ บรรยายความบกพร่อง ข้อด้อยเรื่องเล็ก เรื่องน้อยในตัวเขานานสองชั่วโมงเต็ม เมื่อลูกชายของวอร์เร็นวางหู น�้ำตา 34
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
ไหลอาบสองแก้ม วอร์เร็นบอกลูกเพียงว่า “ลูกคงเข้าใจแล้วว่าพ่อต้อง พบเจออะไรในทุกวันของชีวิต” หลังจากที่ลีล่าเดินทางออกมาจากเวสต์พอยน์ต ครอบครัวของเธอ พบพานเรือ่ งน่าเศร้า น้องสาวคนหนึง่ ฆ่าตัวตาย น้องสาวอีกคนและมารดา ของเธอ เข้ารับการบ�ำบัดรักษาในโรงพยาบาลโรคจิต แม้จะมีเชื้อแนว ของความบ้าเสียสติหรือสมดุลบกพร่องเชิงอารมณ์ที่มีอยู่ในตัวของสตรี ครอบครัวสตาห์ล อย่างน้อยที่สุด ลีล่ายังรอดชีวิตมาได้ แต่วอร์เร็นกับพีส่ าวน้องสาว ต้องรับมือกับสะเก็ดระเบิดปลิวว่อนจาก อารมณ์ร้ายของมารดากันตามล�ำพัง ไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในครอบครัว บัฟเฟตต์ เช้าวันหนึ่ง โฮเวิร์ดเดินบันไดลงจากชั้นบน เตือนลูกชายให้รู้ตัว “แม่ออกรบอีกแล้ว” บ่อยครั้ง หลังจากที่โฮเวิร์ดออกจากบ้านไปท�ำงาน วอร์เร็นกับพี่สาวน้องสาว จะสดับน�้ำเสียงของแม่ และเตือนกันให้ทราบ ล่วงหน้า สองสามีภรรยาไม่มีความขัดแย้ง ปัญหาเกิดระหว่างแม่กับลูก สามคนเท่านั้น และเป็นความขัดแย้งที่วอร์เร็นกับพี่น้องไม่มีทางได้ชัยชนะ วอร์เร็นรับมือกับการสู้รบสิ้นหวังนี้ โดย ไม่โต้ตอบ “เขาไม่เคยโกรธ เขาเก็บทุกเรื่องไว้ในใจ” รอเบอร์ตาบอกกล่าว เจอร์รี มัวร์ เพื่อนบ้าน ฝัง่ ตรงข้าม สังเกตเห็นว่าวอร์เร็นไม่สคู้ น ไม่เคยมีเรือ่ งชกต่อยกับใคร หาก มีเรื่องเกิดขึ้น วอร์เร็นจะถอนตัวออกจากความขัดแย้ง วอร์เร็นไม่เคยปริปาก เล่าเรื่อง ‘อารมณ์ของแม่’ ให้ใครรับรู้ ไม่มี ใครคาดเดาได้จากใบหน้าแย้มยิม้ ท่าร่าเริง แต่เพือ่ นผูช้ ายหลายคนสังเกต เห็นว่าวอร์เร็นชอบมาสิงอยู่ที่บ้าน แทนที่จะกลับบ้านตัวเอง คุณนาย รัสเซลล์หยอกเย้าเสมอ “ฉันดันเขาออกจากบ้านพร้อมกับแมว และ เรียกกลับเข้ามา ล่อด้วยจานนม” ไบรอน สวอนสัน เพื่อนร่วมชั้นเรียน กลับมาถึงบ้าน ยุคโน้นยุคสงบสุขสันต์ คนอเมริกันไม่ล็อกประตูบ้าน “ผมพบวอร์เร็นนั่งยิ้มอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัว ดื่มเป๊ปซี่และกินมันฝรั่งถุง” วอลเตอร์ ลูมิสบอกว่า แม่ของเขาต้องไล่ขับวอร์เร็นออกจากบ้าน ก่อน 35
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
พ่อจะกลับเข้ามา เพื่อสมาชิกในครอบครัวจะได้กินอาหารเย็น (มองย้อน กลับไปในอดีต ลูมิสให้ความเห็น “แย่จังที่เราต้องไล่เขาออกจากบ้าน”) ในเวลาต่อมา พีเตอร์ ลูกชายของวอร์เร็น บัฟเฟตต์ เกิดความ สงสั ย ว่ า ความส� ำ เร็ จ ของบิ ด าอาจมาจากแรงขั บ ที่ ไ ล่ เขาให้ อ อกมาอยู ่ นอกบ้าน ค�ำถามที่ไม่อาจหาค�ำตอบได้ แต่วอร์เร็นได้แรงขับจากที่ไหน สักแห่ง วอร์เร็นนั่งที่บันไดหนีไฟของโรงเรียนประถมโรสฮิลล์ บอกกลุ่ม เพื่อนสนิทว่าเขาต้องสร้างฐานะให้รวยก่อนอายุ 35 ปี วอร์เร็นไม่ใช่คน โอ้อวด หรือหลงเพ้อจนสมองพองโต ความเห็นจากครอบครัวรัสเซลล์ “หมวกแก๊ปสวมหัวเขาได้พอดี” วอร์เร็นเพียงแค่รู้ มองเห็นภาพความ มุ่งมั่นในใจของตน วอร์เร็นอ่านหนังสือเล่มโปรดไม่รู้เบื่อ หนึ่งพันวิธีที่จะสร้างรายได้ 1,000 เหรียญ การเคี่ยวกร�ำมหาเศรษฐีร็อกกีเฟลเลอร์คนใหม่ ด้วยหัวข้อ เช่น ‘นมปั่นในบ้านสร้างตัวเป็นธุรกิจได้’ และ ‘คุณนายแม็กโดกัลล์เปลี่ยน เงินทุน 38 เหรียญให้เป็นเงินล้าน’ วอร์เร็นมองเห็นภาพได้อย่างไรว่า คนตัวจิ๋วในกองเงินเหรียญท่วมหัว อิ่มสุข สนานยิ่งกว่าเด็กชายผู้นั่งบน ภูเขาขนมหวาน? แน่อยู่แล้ว เขาเป็นผู้อ่านในภาพฝันของบรรณาธิการ เขาโอบรับค�ำแนะน�ำจากหนังสือ ‘เริม่ เลย! ลงมือทันที!’ จะท�ำโครงการใด ด้วยวิธีใด มัวรอช้าไปใย? บนถนนสายที่ 53 ผู้คนรู้จักวอร์เร็นในฐานะหนอนหนังสือ กลาย เป็นต�ำนานในละแวกบ้านว่าเป็นคน ‘มีความจ�ำเหมือนกล้องถ่ายรูป’ ร่าง สูงใหญ่เกินอายุ ชอบเล่นกีฬา แต่เทอะทะงุ่มง่าม แต่ถ้าได้พูดถึงเรื่อง การเงิน เขาพูดคล่องน�้ำไหลไฟดับ ทุกคราวทีเ่ ขาพูด เพือ่ นพ้องหูผงึ่ รับฟัง เขาไม่ได้ชักชวนเพื่อนให้มาร่วมเสี่ยงด้วย เหมือนที่พ่อของเขากล่าวไว้ ไอ้ลูกไฟดวงใหญ่ ชวนเพื่อนบินเข้ากองไฟ วอร์เร็นเกณฑ์แค่เพื่อนสนิท บ็อบ รัสเซลล์, สจวร์ต เอริกสัน และไบรอน สวอนสัน ไปคุย้ กองกระดาษ หาตั๋วรางวัลในสนามม้า เขาว่าจ้างเด็กครึ่งละแวกบ้านไปเก็บลูกกอล์ฟ ไม่ 36
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
นานนัก เขามีลกู กอล์ฟเต็มถังใหญ่ในห้องนอน เขาคัดแยกตราและติดราคา บิล พริตเชิร์ด เพื่อนบ้านกล่าวถึง “เขามอบลูกกอล์ฟให้เราคนละโหล ผมเอาไปขาย เขารับแค่สว่ นแบ่ง” วอร์เร็นกับเอริกสันเปิดแผงขายลูกกอล์ฟ ทีเ่ อล์มวูดพาร์ก ธุรกิจไปได้ดมี าก เอริกสันเล่า จนกระทัง่ “ใครสักคนเอา เรื่องของเราไปฟ้องคันทรีคลับ มือโปรไล่พวกเราออกจากที่นั่น” นิตยสาร แซตเทอร์เดย์ อีฟนิง โพสต์ วาดภาพโอมาฮาในยุคนั้น ว่าเป็นมหานครแล้งผาก...อยู่ทางตะวันตกของอารยธรรม ซึ่งสิ้นสุดที่ เมืองเดมอยส์ มลรัฐไอโอวา และอยูท่ างตะวันออกของทิวทัศน์สดุ สวย ซึง่ เริ่มต้นที่เทือกเขาร็อกกี โดดเด่นสถานเดียวที่ ‘ความเสมอต้นเสมอปลาย’ ของลมฟ้าอากาศกราดเกรีย้ วสุดขัว้ ตัวอารยธรรมทีพ่ อจะหยิบยกได้ มีเพียง แค่ดินเนอร์สวอนสัน ซ�้ำเติมความขาดไร้ของโอมาฮาด้วยภาพสุดแสน โรแมนติกทีว่ า่ โอมาฮาเป็นแหล่งหลบภัยของคนบาปจากตะวันออก เมือง เรียบง่าย ทุ่งหญ้าส�ำหรับสัตว์เมือง แม้จะมีเศษเสี้ยวความจริงอยู่บ้างแต่ก็ ขยายใหญ่จนผิดเพีย้ น ภาพบิดเบีย้ วทีฝ่ งั ใจผูค้ นไปแล้ว ขีดแนวโน้มให้ผคู้ น แต้มแต่งมนต์วเิ ศษให้วอร์เร็น บัฟเฟตต์ แทนทีจ่ ะเห็นฝีมอื และความเข้าใจ ทะลุปรุโปร่ง คนเมืองนิวยอร์กขนานนามบัฟเฟตต์ว่า ‘เทพพยากรณ์แห่ง โอมาฮา’ หรือทีน่ ยิ มกันมากทีส่ ดุ ‘พ่อมดแห่งโอมาฮา’ (พ่อมดแห่งออซ มี ต้นตอมาจากโอมาฮาเช่นกัน) แต่โอมาฮาไม่แล้งอารยธรรมส�ำหรับวอร์เร็น ครอบครัวบัฟเฟตต์และ เพือ่ นบ้านเป็นผูม้ กี ารศึกษา เป็นคนเมือง และอยูใ่ นวัฒนธรรมกระแสหลัก เฟรด แอสแตร์, นักเต้นเท้าไฟ ร�ำ่ เรียนที่เชมเบอร์ส อะคาเดมีบนถนน ฟาร์แนม เฮนรี ฟอนดา, เด็กท้องถิ่น แสดงละครเวทีครั้งแรกในโอมาฮา แม้โอมาฮาของวอร์เร็นจะมีประชากรเพียง 220,000 คน แต่หาใช่มหานคร ขนาดเล็ก คาร์ล แซนด์เบิร์ก, ท�ำเหมืองถ่านหินที่นั่นเรียก “โอมาฮา, นักเลงโต ส่งอาหารเลี้ยงกองทัพ กินและสบถจากใบหน้ามอมแมม” ฤดูร้อนปีที่วอร์เร็นอายุครบสิบเอ็ดปี โฮเวิร์ดอยากให้ลูกๆ ได้รับ 37
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ประสบการณ์บา้ นไร่บริสทุ ธิ์ ลงโฆษณาเสาะหาบ้านไร่ในชนบท ไม่กสี่ ปั ดาห์ วอร์เร็นกับดอริสไปพักอาศัยในบ้านไร่ของเอลเมอร์ เบนเน วอร์เร็นชืน่ ชอบ ขนมพายของคุณนายเบนเน แต่ไม่แยแสวัวหรือข้าวโพด ไซโลเก็บธัญพืช เป็นภาพแปลกตา ไม่ตา่ งไปจากตึกระฟ้ากลางเมืองโอมาฮา ในสายตาของ เด็กชาวไร่ วอร์เร็นเป็น เด็กเมือง บนถนนสายที่ 53 วอร์เร็นรูจ้ กั ผูค้ นในบ้านทุกหลัง บ้านเรือนหน้าตา คล้ายกัน จัว่ คู่ อิฐสีนำ�้ ตาล ประตูหน้าอยูต่ รงกลาง เขาจ�ำรถบรรทุกขนม รอเบิรต์ สได้ จ�ำเสียงรถราง และเสียงขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าไม่หา่ งไกลนัก กลิ่นหอมอบอวลจากโรงงานคั่วกาแฟ และในยามค�่ำคืนร้อนอบอ้าว ลม ทางใต้พัดกระโชก หอบกลิ่นโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์มาบาดจมูก ไม่ว่าจะ เดินเท้าขี่จักรยานสามเกียร์ หรือขึ้นรถราง เขาเดินทางไปทุกมุมเมืองได้ ไปสนามกอล์ฟ ไปส�ำนักงานของพ่อ และร้านช�ำของคุณปูห่ ากจะมีปญ ั หากับ อารมณ์แปรปรวนของมารดา หรือทัณฑ์ทรมานในโรงเรียนศาสนาวันอาทิตย์ โอมาฮา, มหานครของเขา เป็นมิตรแท้เฝ้าปลอบประโลม ทว่า เรื่องสะเทือนขวัญอเมริกาในเดือนธันวาคม ปี 1941 คุกคาม ชีวิตของวอร์เร็นในโอมาฮาเช่นกัน วันอาทิตย์หฤโหดแห่งเพิร์ล ฮาร์เบอร์ (ญี่ปุ่นบุกมาทิ้งระเบิดฐานทัพเรือสหรัฐที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์) ครอบครัว บัฟเฟตต์ไปเยีย่ มคุณตาสตาห์ลในเวสพอยน์ต ในรถยนต์เทีย่ วขากลับ วิทยุ เปิดเพลงปลุกใจ ในอีกไม่กี่เดือนถัดมา อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ชีวิตของวอร์เร็นยังด�ำเนินไปตามปกติ แต่ในปี 1942 พรรครีพับลิกันหาตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรส�ำหรับเขตสองของมลรัฐเนบราสกาไม่ได้ ไม่มีใครกล้า หาเสียงแข่งกับพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโรสเวลต์ ประธานาธิบดี ช่วงสงครามได้รับความนิยมสูงสุด ในเมื่อสิ้นหวัง พรรคหันมาหาคนชิงชัง รังเกียจแผนพัฒนาห้าปีของโรสเวลต์เข้ากระดูกด�ำ : โฮเวิร์ด บัฟเฟตต์ โฮเวิร์ดโดดเดี่ยว ไร้สมัครพรรคพวก ไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะ ขึ้น 38
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
เวทีปราศรัยหาเสียง เขาไม่ได้พ่นพิษประณามฮิตเลอร์หรือมุสโสลินี เขา จิกกัดแฟรงคลิน โรสเวลต์ ผมตระหนักแล้วถึงแต้มต่อของผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกันใน วันนี้ เขาต้องต่อสู้กับทรราชเล่นพรรคเล่นพวกกินสินบนเลวทรามทรงพลัง ทีส่ ดุ เท่าที่ โลกเคยพบเห็นมา กลุม่ นักเลงหัวไม้ ใต้เสือ้ คลุมการท�ำศึกสงคราม วางแผนที่จะล่ามโซ่พันคอ ลากอเมริกาไว้เป็นทาส
ในการระเบิดอารมณ์รุนแรงต่อต้านเงินเฟ้อและรัฐบาลเผด็จการ โฮเวิร์ดล�้ำยุคล่วงหน้าไปกว่าสี่สิบปี แต่ในโอมาฮา เขาได้รับความนิยม เป็นการส่วนตัว เขามีเงินน้อยนิด ใช้เงินหาเสียงเพียง 2,361 เหรียญ แต่ ตระเวนปราศรัยหาเสียงไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย ในวันเลือกตัง้ เขาพิมพ์คำ� ปราศรัยรับความพ่ายแพ้ไว้แล้ว เข้านอนราว สามทุม่ รุง่ เช้า เขาทราบข่าวว่าเขาได้รบั เลือก โฮเวิรด์ ถือว่า “เป็นหนึง่ ใน เซอร์ไพรส์แสนสุขในชีวิต” วอร์เร็นเพิ่งมองเห็นชะตาชีวิตพลิกผันของตน เป็นครั้งแรกในชีวิต สิบสองปีเศษของเขาทีจ่ ะได้เดินทางออกจากโอมาฮา ในภาพถ่ายครอบครัว ถ่ายรูปหลังการเลือกตั้ง วอร์เร็นเค้าหน้าอึดอัด ตาเขม้นจ้องไม่สบายใจ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้น เผยอเพียงนิดให้เห็นว่าเป็นรอยยิ้ม ในช่วงสงคราม ทีพ่ กั อาศัยในวอชิงตันหาได้ยากยิง่ โฮเวิรด์ เช่าบ้านสวย แต่อยูห่ า่ งไกลในเมืองเฟรเดอริกสเบิรก์ , เวอร์จเิ นีย บ้านบนเนิน มองลงมา เห็นแม่นำ�้ แร็บปาฮันน็อก บ้านสีขาวสไตล์อาณานิคม มีระเบียงด้านหน้าและ แปลงกุหลาบ ในสายตาของรอเบอร์ตา ‘เหมือนหลุดเข้าไปในฉากภาพยนตร์’ วอร์เร็นเกลียด บ้านสวยกลางทิวทัศน์ตระการตา แต่เฟรเดอริกสเบิร์กโดดเดี่ยว บรรยากาศภาคใต้ และไม่เคยคุ้น ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่สบอารมณ์ 39
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
วอร์เร็นแน่นอน แต่การเปลีย่ นทีอ่ ยูค่ รัง้ นีพ้ ลิกโลกของเขาให้คว�ำ่ ไม่เพียงแค่ ถูกลากตัวพรากจากเพือ่ นและละแวกบ้านแสนสุข แต่ในช่วงวันท�ำงาน จะ ไม่ได้พบเจอพ่อ ผู้ไปพักในโรงแรมด็อดจ์ในวอชิงตัน ห่างออกไปห้าสิบไมล์ ส.ส. หน้าใหม่บอกครอบครัวว่าจะอยู่ในรัฐสภาเพียงแค่วาระเดียว แต่ ค�ำกล่าวไม่ได้ช่วยให้วอร์เร็นสบายใจ ห่างจากโอมาฮา ห่างจากทุกอย่าง ที่เขารู้จัก วอร์เร็น ‘คิดถึงบ้าน’ แม้เขาอยากจะหนีจากทีน่ นั่ แต่ไม่ใช่วสิ ยั ของเขาทีจ่ ะเผชิญหน้าพ่อแม่ เขาบอกพ่อเพียงว่า เขาเป็นโรค ‘ภูมิแพ้ลึกลับ’ นอนไม่หลับตอนกลางคืน แน่อยูแ่ ล้ว มาดนิง่ เฉยเหมือนเข้าภวังค์ของเด็กน้อย ท�ำให้พอ่ แม่เป็นกังวล เขากล่าวในภายหลัง “ผมบอกพ่อแม่ไปว่าผมหายใจไม่ออก บอกพ่อว่า ไม่ต้องห่วง ขอให้พ่อแม่นอนหลับให้สบาย ผมจะยืนอยู่อย่างนั้นตลอด ทั้งคืน” เป็นธรรมดาอยู่เอง พ่อแม่ร้อนใจ* ในระหว่างนั้นวอร์เร็นเขียน จดหมายถึงคุณปู่ บอกว่าอยู่ที่นี่ไม่มีความสุขเลย เออร์เนสต์ตอบกลับ เสนอแนะว่า น่าจะส่งวอร์เร็นกลับมาพักกับปูแ่ ละอาอลิซ วอร์เร็นมาเรียน มอสองในโอมาฮาได้ หลังพ�ำนักอยูใ่ นเฟรเดอริกสเบิรก์ ไม่กสี่ ปั ดาห์ พ่อแม่ ยินยอมปฏิบัติตามความเห็นของปู่ วอร์ เร็ น เดิ น ทางกลั บ ทางรถไฟในตู ้ น อนร่ ว มกั บ ฮิ ว จ์ บั ต เลอร์ วุฒิสมาชิกเนบราสกา เช้าวันใหม่ วุฒิสมาชิกบัตเลอร์สังเกตเห็นว่า หนูนอ้ ยหลับสนิททัง้ คืน “อ้าว, ไหนว่านอนไม่หลับ ต้องยืนตลอดทัง้ คืน?” วอร์เร็นยิ้มกว้างร่าเริง “ผมรักษาหายขาดตั้งแต่พ้นเพนซิลเวเนียแล้ว” ในโอมาฮา วอร์เร็นกลับมาเป็นคนเดิม แช่มชื่นมีชีวิตชีวา อาอลิซ ครู ส อนคหกรรมศาสตร์ เป็ น ผู ้ ดู แ ลชั้ น เยี่ ย ม เธอใส่ ใจในตั ว วอร์ เร็ น เหมือนเช่นครูทุกคน ความสดใสร่าเริง ความสนใจใคร่รู้ของเด็ก มัดใจ * สอบถามในภายหลังว่าวอร์เร็นยืนอยู่ทั้งคืนหรือไม่ ดอริสไขปริศนา “อุ๊ยว้ายตายแล้ว ไม่เลยค่ะ เขานอนหลับปุ๋ยทั้งคืน” 40
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
คุณครูได้เสมอ คุณปู่เออร์เนสต์ ผู้มีวิญญาณครูในสายเลือด ใส่ใจดูแลวอร์เร็น เช่นกัน คุณปู่รวบรวมข้อมูลเขียนหนังสือ ทุกคืนจะบอกให้วอร์เร็นจด คราวละสองสามหน้า ชือ่ หนังสือคือ ‘เคล็ดลับการบริหารร้านช�ำ และเรือ่ ง ทีฉ่ นั เรียนรูใ้ นการตกปลา’ แก่นเนือ้ หาของหนังสือเล่มนี้ ปรากฏในจดหมาย ของคุณปู่ ผู้ประกาศอย่างมั่นใจว่าซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นแต่เพียงความนิยม วูบวาบฉาบฉวย โครเกอร์ มอนต์ โกเมอร์แอนด์วอร์ด และเซฟเวย์ ฉันเคยเห็นจุดสูงสุด ของร้านพวกนีม้ าแล้ว แต่นตี้ อ่ ไปเครือข่ายห้างสรรพสินค้าพรรค์นี้ จะสะดุด ล้มลุกคลุกคลาน
โชคดีทหี่ นังสือ ‘เคล็ดลับการบริหารร้านช�ำ’ ไม่สำ� เร็จเป็นรูปเล่มและ ออกวางแผงอวดสายตาผู้อ่าน วอร์เร็นไปท�ำงานในร้านบัฟเฟตต์แอนด์ซนั เขาสดับรับรูแ้ ก่นความคิด ของคุณปู่ด้วยตนเอง คุณปู่หักเงินวันละ 2 เพ็นนี จากค่าจ้างน้อยนิดของ วอร์เร็น...หักเป็นสัญลักษณ์ ควบคู่ไปกับค�ำบรรยายสอนจรรยาการท�ำงาน ประสงค์ จ ะให้ ว อร์ เร็ น เห็ น ต้ น ทุ น โง่ ง ่ า วของโครงการที่ รั ฐ บาลผลั ก ให้ ประชาชนรับภาระ เช่น การประกันสังคม ส�ำหรับเด็กอายุสิบสอง งานร้านช�ำเป็นงานหนัก เขาต้องยกหีบห่อ ยกลังน�้ำอัดลม วอร์เร็นไม่ชอบ งานประเภทนี้ เขา เกลียด กลิ่นร้านช�ำ หากผลไม้เน่าเสีย เขาต้อง ท�ำความสะอาดถังบรรจุ แต่เขาชอบร้าน ร้านช�ำบัฟเฟตต์แอนด์ซันอบอุ่นสุขสบาย พื้นไม้ ส่งเสียงเอียดออด พัดลมส่ายติดเพดาน ชั้นไม้สูงจรดเพดาน หากลูกค้า อยากได้กระป๋องจากชัน้ บน วอร์เร็นหรือเสมียนคนอืน่ จะเลือ่ นบันได ปีนไต่ ไปหยิบกระป๋องนั้นลงมา 41
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ : อภิมหาเศรษฐีใจบุญ
ร้านช�ำเป็นธุรกิจประสบความส�ำเร็จแห่งแรกทีว่ อร์เร็นได้เห็น อาเฟรด ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ โปรยค�ำหวานทักทายลูกค้า กลิ่นขนมปังอบใหม่ เนยแข็งบ่มได้ที่ คุกกี้และขนมหวานห่อกระดาษแก้ว บัฟเฟตต์แอนด์ซัน ให้บรรยากาศพิเศษ อาจเป็นความกระเหม็ดกระแหม่ของคุณปู่ เห็นคุณค่า เงินทุกเหรียญเล็กเหรียญน้อยที่ดึงผู้คนให้กลับมาซื้อของในร้าน ชาร์ลี มังเกอร์ หุน้ ส่วนธุรกิจของวอร์เร็นในอนาคต ท�ำงานในวันเสาร์ (ได้พบหน้ากันในอีกหลายปีให้หลัง) มังเกอร์มองเห็นการเผยแผ่วัฒนธรรม เฉพาะตัวของร้าน บรรยากาศเหมือนภาพเขียนของนอร์แมน ร็อกเวลล์ พนักงานในร้านไม่มีใครอู้งาน “ห่ะ, ท�ำงานไม่ได้เงยหน้าตั้งแต่ชั่วโมงแรก ที่เข้างาน” เมื่อบิล บัฟเฟตต์ ลูกพี่ลูกน้องของวอร์เร็นมาท� ำงานสาย สองสามนาที ปู่ผมขาวมายืนรอ นาฬิกาพกในมือ ตะเบ็งเสียงลงมาจาก ระเบียงชั้นสอง “บิลลี, ตอนนี้ เวลา เท่าไหร่แล้ว?” ในช่วงที่เขาพักอยู่กับคุณปู่ วอร์เร็นจะกลับไปกินอาหารกลางวันที่ บ้านของคาร์ล ฟอล์ก หุ้นส่วนธุรกิจของพ่อในขณะนั้น เขาแทบลืมเวลา นอนอ่านหนังสือการลงทุนของฟอล์ก เรื่องราวที่เขาชื่นชอบมากกว่าการ บริหารร้านช�ำ อ่านหนังสือรอในระหว่างที่คุณนายฟอล์กท� ำอาหาร มี คราวหนึ่ง ในขณะที่ซดซุปไก่ใส่เส้น เขาเงยหน้าบอกคุณนายฟอล์ก “ผม จะเป็นเศรษฐีตอนอายุสามสิบ ถ้าท�ำไม่ได้ ผมจะกระโดดตึกสูงที่สุดใน โอมาฮา” แมรี ฟอล์กผวา บอกหนูน้อยว่าอย่าได้หมกมุ่นคิดเรื่องนั้น อย่าได้ พูดอย่างนัน้ อีก วอร์เร็นเงยหน้ามองแล้วหัวเราะ บ้านของครอบครัวฟอล์ก เปิดรับเด็กน้อยร่าเริงหน้าตาแย้มยิม้ คุณนายฟอล์กเป็นคนแรกทีต่ งั้ ค�ำถาม “วอร์เร็น, ท�ำไมหนูอยากได้เงินทองมากนัก?” “ผมไม่ต้องการเงิน” วอร์เร็นตอบ “แต่เป็นความสนุกที่หาเงินได้ และเห็นเงินงอกเงยเป็นก้อนโต” ช่วงเดือนสุดท้ายของชั้นเรียนมอสอง วอร์เร็นได้เวลาชื่นมื่นของการ 42
รอเจอร์ โลเว็นสไตน์
บรรเทาโทษ เขาหวนกลับมาพูดคุยติดต่อเพือ่ นสนิทอีกครัง้ เดินทางพล่าน ไปทัว่ มหานคร จากร้านบัฟเฟตต์ในเขตชานเมืองทางตะวันตกไปยังถนนปูหนิ กลางใจเมือง ตลาดกลางแจ้งผู้คนจอแจ อาคารอิฐแดง และคลังสินค้า โครงสร้างเหล็กหล่อ จุดที่ซิดนีย์, บัฟเฟตต์คนแรกมาเปิดร้านในโอมาฮา เมือ่ เจ็ดสิบห้าปีกอ่ น เขาเป็นบัฟเฟตต์รนุ่ ทีส่ ใี่ นโอมาฮา สุขกายสบายใจทีน่ ี่ ท่าร่างผ่อนคลายไม่เป็นทางการของคนเมือง ภาษาพูดส�ำนวนท้องทุง่ แพร์รี ใบหน้าแย้มยิ้มซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้ภายใน ภาพที่ผู้คนมองเห็น หาใช่ ‘ชาวบ้านสามัญ’ หากแต่เป็นอรุณรุง่ แห่งการรูจ้ กั ตนเอง ความทะเยอทะยาน ก�ำกับด้วยความฉลาดรอบคอบ เค้าหน้าสงบเรียบเฉย ใบหน้าของคนแถบ มิดเวสต์ขนานแท้ อนิจจา, ลุถงึ ฤดูใบไม้รว่ งปี 1943 วอร์เร็นไม่เหลือข้ออ้างทีจ่ ะเลีย่ งหลบ การเดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวในวอชิงตัน ห้วงเวลาพักผ่อนจากการ บรรเทาโทษสิ้นสุดลงแล้ว
43