ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์ อัตชีวประวัตขิ องเควิน มิตนิก ยอดแฮ็กเกอร์ทที่ างการต้องการตัวมากทีส่ ดุ จากเรื่อง Ghost in The Wire Kevin Mitnick and William L. Simon เขียน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล
มอบให้แม่และคุณยาย -เควิน มิตนิก
มอบให้แอรินน์, วิกตอเรีย, และเดวิด, เชลดอน, วินเซนต์, และเอเลนา โรส พิเศษยิ่งส�ำหรับชาร์ล็อตต์ -วิลเลียม ไซมอน
รูปของผมก่อนยุคแฮ็ก อายุราวเก้าขวบ งานอดิเรกจะเป็นการเล่นมายากล
ผมอายุยี่สิบเอ็ด ถ่ายรูปกับแม่ในสต็อกตัน, แคลิฟอร์เนีย 1984
บอนนี วิเทลโล เจ้าสาว งานเลี้ยงรับรองการสมรส มิถุนายน 1987
คู่หูแฮ็ก ลูอิส เดอ เพน ช่วงเวลานั้น เราพบจัสติน พีเตอร์สัน (เอริก ไฮนซ์) ปี 1992
จัสติน พีเตอร์สัน (เอริก ไฮนซ์) ในช่วงเป็นสายข่าวให้เอฟบีไอ รวบรวมหลักฐานเล่นงานผม ปี 1992
ซาวน์เด็กซ์ หรือภาพใบขับขี่ ของเอริก ไฮนซ์ในช่วงที่ เขาแกะรอยไล่ล่าผม
ร้านคิงโกะในสตูดิโอซิตี, แคลิฟอร์เนีย นักสืบขนส่งวิ่งไล่ผมในวันคริสต์มาสอีฟ ปี 1992
อาคารทรงเครื่องบันทึกเงินสดในเดนเวอร์ ผมท�ำงานในส�ำนักงานกฎหมายที่นั่น ด้านหน้าเป็นอพาร์ตเมนต์ที่ผมพักอาศัย
ในเดนเวอร์ ในช่วงหลบหนี เดือนเมษายน 1993 อายุ 29 ปี
อพาร์ตเมนต์ในซีแอตเติลที่หน่วยสิบราชการลับและต�ำรวจซีแอตเติลบุกค้น ปี 1994
ภาพในประวัติอาชญากรรม ถ่ายในวันที่ถูกจับตัวได้ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1995 เมืองราเลห์, นอร์ธแคโรไลนา
บัตรประจ�ำตัวนักโทษจากล็อมพ็อก เรื่องโด่งดังแพร่ไปทั่วโลกเมื่ออีเบย์ ถอนออกจากการประมูล ด้วยเหตุ ‘ขัดต่อมาตรฐานของชุมชน’ ท�ำให้ผู้คนหันมา สนใจ ได้ราคาประมูลสูงถึง 4,000 เหรียญ
การเดินขบวนประท้วงของผู้สนับสนุนผม ‘ปลดปล่อยเควิน’ หน้าอาคาร มิราแม็กซ์ ในปี 1998 ประท้วงการป้ายสีใส่ร้ายผมในภาพยนตร์ Takedown
อเล็กซ์ แคสเปอราวิเชียส ติดสติกเกอร์ ‘ปลดปล่อยเควิน’ ในปั๊มน�ำ้ มันตรงข้ามกับ เรือนจ�ำมหานครในวันที่ 6 สิงหาคม 1998 วันครบรอบวันเกิด 35 ปีของผม
ผมกดสติกเกอร์ ‘ปลดปล่อยเควิน’ แนบกระจกหน้าต่างห้องสมุดของ เรือนจ�ำมหานครในลอสแองเจลีส ต่อฝูงชนที่มาชุมนุม ในวันครบรอบวันเกิด 35 ปี ของผม
ในลานเยี่ยมผู้ต้องขังล็อมพ็อก ปี 1999 อายุ 36 ปี
วันที่ผมถูกปล่อยตัวออกจากล็อมพ็อก วันที่ 21 มกราคม 2000 อายุ 36 ปี
การ์ตูนบนกระดาษห่อ กล่อง PowerBook G4 ที่สตีฟ วอซเนียกมอบให้ผม หน้ากล้องทีวี ฉลองการ สิ้นสุดของการปล่อยตัว อย่างมีเงื่อนไข เดือนมกราคม 2003
สตีฟ วอซเนียก (ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล) ผม, เอ็มมานูเอล โกลด์สไตน์ (ผู้ก่อตั้ง นิตยสาร 2600) ในรายการโทรทัศน์ The Screen Savers ฉลองการสิ้นสุด ของการปล่อยตัวอย่างมีเงื่อนไข ผมเป็นไทอย่างแท้จริง วันที่ 20 มกราคม 2003 อายุ 39 ปี
เด็กชายก็ยังเป็นเด็กชายวันยังค�่ำ รูปของผมก่อนไซเบอร์สเปซ
ค�ำน�ำ โดย สตีฟ วอซเนียก
ผมพบเควิน มิตนิกเป็นครัง้ แรกในปี 2001 ในช่วงถ่ายท�ำภาพยนตร์สารคดี ช่องดิสคัฟเวอรี เรื่อง The History of Hacking นับจากนั้น เราติดต่อ กันเสมอมา สองปีต่อมา ผมบินไปพิตต์สเบิร์ก เพื่อกล่าวแนะน�ำตัวเขาใน การบรรยายทีม่ หาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ผมนัง่ ฟังอ้าปากค้างเมือ่ ได้ยนิ ประวัติการแฮ็กของเขา เขาเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของบรรษัท ยักษ์ใหญ่ แต่ไม่ได้ท�ำลายไฟล์ ได้หมายเลขบัตรเครดิตมานับไม่ถ้วน แต่ ไม่เคยน�ำไปใช้หรือขายหมายเลข เขาฉกซอฟต์แวร์ แต่ไม่เคยน�ำมาจ�ำหน่าย เขาแฮ็กเพื่อความสนุก เพียงสนองความท้าทายในอก ในสุนทรพจน์ของเขา เควินบรรยายรายละเอียดสุดพิลึกพิลั่น เขา เจาะเข้าไปในปฏิบัติการเอฟบีไอที่ก�ำลังล่าตัวเขา เจาะเข้าไปในปฏิบัติการ ทั้งยวง ค้นพบว่า ‘เพื่อน’ แฮ็กเกอร์ที่เพิ่งรู้จักกัน แท้จริงแล้วเป็นสายข่าว ของเอฟบีไอ เขาได้ชื่อและที่อยู่ของสายลับพิเศษเอฟบีไอทุกคนที่ทำ� งาน ในคดี ท�ำได้ถึงขั้นดักฟังโทรศัพท์และวอยซ์เมล์ของเจ้าหน้าที่ผู้รวบรวม 15
หลักฐานรวบตัวเขาเข้าคุก ระบบเตือนภัยที่เขาติดตั้ง ซึ่งจะเตือนเขาให้ รู้ตัว ในยามที่เอฟบีไอเตรียมพร้อมจะบุกมาถึงบ้าน ในยามที่ผู้ผลิตรายการทีวี Screen Savers เชิญผมกับเควินไป ร่วมแสดงในตอนใหม่ ทดสอบ GPS อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์น�ำทางที่เพิ่ง วางตลาด ผมจะเป็นผู้ขับรถไปตามท้องถนนในขณะที่พวกเขาพยายาม ติดตามเส้นทางของผม ในตอนที่ออกอากาศ เส้นทางการขับรถของผม โยงเส้นเป็นภาพ ได้ตัวอักษรว่า FREE KEVIN เราไปร่วมไมโครโฟนกันอีกครัง้ ในปี 2006 เควินเป็นผูด้ �ำเนินรายการ แทนอาร์ต เบลล์ ในรายการวิทยุ Coast to Coast AM เขาเชิญผม เป็นแขกในรายการ ถึงช่วงนั้น ผมทราบเรื่องราวชีวิตของเขามากโขแล้ว ในคืนนัน้ เขาสัมภาษณ์เรือ่ งราวชีวติ ของผม เราหัวเราะร่วนตลอดรายการ เสียงหัวเราะเป็นปกติวิสัยในยามที่เราสองคนคุยกัน เควินท�ำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป วันหนึ่ง ผมเพิ่งตระหนักว่าผมได้ รับโทรศัพท์จากเขาจากสถานที่ห่างไกล เขาอยู่ในรัสเซีย ไปบรรยายที่นั่น อยูใ่ นสเปน ไปช่วยวางระบบรักษาความปลอดภัย อยูใ่ นชิลี ให้คำ� ปรึกษา ธนาคารที่เพิ่งถูกแฮ็ก ฟังดูแล้วสุดคูล ผมไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของผม มานานกว่าสิบปีแล้ว โทรศัพท์จากเควินท�ำให้ผมคันเท้า อยากออกเดินทาง บ้าง เควินติดต่อตัวแทนผูด้ แู ลการเดินทางไปบรรยายของเขา เธอบอกผม “ดิฉนั จัดคุณเข้าไปในตารางการบรรยายด้วยอีกคน” ผมต้องขอบคุณเควิน ผมกลายเป็นนักเดินทางท่องโลกเหมือนเขาไปแล้ว เควินกลายเป็นเพื่อนสนิทของผมอีกคน ผมโปรดที่สุดที่ได้พูดคุยกับ เขา รับฟังเรื่องราวการเจาะระบบและการผจญภัยสุดระทึก เขาใช้ชีวิต โลดโผนตื่นเต้นเร้าใจเหมือนดาราในภาพยนตร์ซ่อนเงื่อน 16
บัดนี้ ท่านผูอ้ า่ นจะได้ทราบเรือ่ งทีผ่ มได้ยนิ มาทีละเรือ่ งสองเรือ่ ง ผ่าน กาลเวลามานานหลายปี ในแง่หนึ่ง ผมอิจฉาประสบการณ์การเดินทาง ท่องโลกไซเบอร์ที่ท่านผู้อ่านจะได้รับทราบ และเสพความตื่นเต้นเร้าใจใน เรื่องราวชีวิตเหลือเชื่อของเควิน มิตนิก -สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล
17
บทน�ำ
การไปเยี่ยมด้วยตนเอง : การแฝงตัวเข้าไปในอาคารของบริษัทเป้าหมาย เรื่องที่ผมไม่ชอบที่สุด เสี่ยงมากเกินไป เพียงแค่เขียนถึง ก็พอจะท�ำให้ เหงื่อเย็นเยียบผุดออกมาได้แล้ว แต่ผมก็ไปอยู่ที่นั่น ซุ่มตัวรอคอยในลานจอดรถของบริษัทมูลค่า หลายพันล้านเหรียญในย�ำ่ เย็นอบอ้าวของฤดูใบไม้ผลิ รอโอกาสอันเหมาะสม หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผมเข้าไปในอาคารกลางวันแสกๆ ท�ำท่าว่าไปส่ง จดหมายให้พนักงานของบริษัทนั้น เหตุผลแท้จริงจะเป็นการเข้าไปดูบัตร พนักงาน บริษทั วางรูปถ่ายหน้าตรงของพนักงานไว้ทมี่ มุ บนซ้ายมือ ชือ่ อยู่ ใต้รูป นามสกุลก่อนชื่อ ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ ชื่อบริษัทอยู่ด้านล่างของบัตร ตัวอักษรสีแดง ตัวพิมพ์ใหญ่เช่นกัน ผมไปที่ร้านคิงโกะ เข้าเว็บของบริษัท เพื่อดาวน์โหลดโลโก้บริษัท ผมสแกนรูปตัวเอง ใช้โฟโตชอปไม่ถงึ ยีส่ บิ นาที ได้พรินต์เอาต์บตั รพนักงาน บริษัท เหมือนของจริง ผมผนึกบัตรในซองพลาสติกซื้อจากร้านขายของ 19
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
เบ็ดเตล็ด ผมท�ำบัตรเผื่อเพื่อนอีกคนผู้ยินยอมร่วมทางไปด้วย เผื่อจ�ำเป็น ต้องพึ่งเขา ข่าวล่ามาเร็ว : ไม่จ�ำเป็นต้องท�ำบัตรพนักงานสมจริงนัก เก้าสิบเก้า จากร้อยครั้ง มีเพียงการช�ำเลืองแลดูบัตร ตราบเท่าที่องค์ประกอบหลัก อยู่ประจ�ำที่ ส่วนประกอบอื่นไม่ผิดเพี้ยนจากที่ควรจะเป็น บัตรปลอม ผ่านตลอด ก็แน่นอน เว้นแต่วา่ จะมีเจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัยสุดขยัน หรือพนักงานบริษัทผู้อยากเล่นบทผู้คุมกฎขอตรวจบัตรอย่างละเอียด นั่นเป็นภัยอันตรายที่คุณอาจพบเจอได้ หากคุณใช้ชีวิตแบบผม ในลานจอดรถ ผมซ่อนตัวไม่ให้ใครพบเห็น จับตามองไฟแดงวาบจาก ปลายบุหรี่ของพนักงานที่ออกมาสูบบุหรี่ในช่วงพัก ในท้ายที่สุด ผมมอง เห็นกลุ่มคนห้าหกคนเดินกลับเข้าอาคารด้วยกัน ประตูหลังของอาคาร จะเปิดได้ถ้าพนักงานถือบัตรเปิดประตูแตะเครื่องอ่าน ในยามที่คนกลุ่มนี้ เดินเรียงหนึ่งผ่านประตู ผมเดินต่อท้าย คนที่เดินน�ำหน้าผม สังเกตเห็น ว่ามีคนเดินตาม เขาเหลือบมอง ตรวจให้แน่ใจว่ามีบัตรพนักงานคล้องคอ เขาดันประตูให้เปิดรอผม ผมค้อมศีรษะขอบคุณ เทคนิคนี้เรียกว่า ‘การเกาะท้าย’ ในอาคาร สิง่ แรกทีส่ ะดุดตา จะเป็นป้ายบนผนัง มองเห็นได้ในทันที ทีเ่ ดินผ่านประตูเข้ามา ป้ายของฝ่ายรักษาความปลอดภัย เตือนว่า อย่าได้ เปิดประตูให้ผู้อื่น พนักงานทุกคนเข้าอาคารได้โดยแตะบัตรของตัวเองที่ เครือ่ งอ่าน แต่มารยาทงามในสังคม ความเอือ้ เฟือ้ มีน�้ำใจใน ‘หมูพ่ นักงาน ด้วยกัน’ หมายความว่า ป้ายเตือนนั้นไม่มีใครใส่ใจอยู่แล้ว ในอาคาร ผมเดินไปตามช่องทางเดิน ย่างก้าวมั่นอกมั่นใจ เหมือน คนทีม่ งุ่ หน้าไปหาภารกิจส�ำคัญ แท้จริงแล้ว ผมเดินตรวจสถานที่ เสาะหา ทีต่ งั้ ของแผนกไอที ราวสิบนาที ผมทราบว่าแผนกไอทีอยูป่ กี ตะวันตกของ อาคาร ผมท�ำการบ้านมาล่วงหน้า ได้ชื่อของวิศวกรเน็ตเวิร์กมาแล้ว ผม 20
เควิน มิตนิก
เชื่อว่าเขาจะต้องมีสิทธิแอดมิน (ผู้ดูแลระบบ) ผ่านทุกระบบในบริษัทได้ ให้ตายเถอะ! ผมไปยังที่ท�ำงานของเขา ไม่ใช่ช่องฉากกั้นในห้อง โถงรวม แต่เป็นห้องท�ำงานแยกเป็นสัดเป็นส่วน...ประตูล็อก แต่ผมมอง เห็นหนทางแก้ปัญหา ฝ้าเพดานห้องใช้แผ่นกันเสียงสี่เหลี่ยม มีช่องว่าง พอให้ลอดได้ ส�ำหรับวางท่อ สายไฟ และช่องระบายอากาศ ผมโทรมือถือ แจ้งให้เพือ่ นทราบว่าผมต้องการความช่วยเหลือจากเขา ผมเดินกลับไปยังประตูหลัง เปิดประตูรับเข้ามาในอาคาร เพื่อนร่างเล็ก ผอมเกร็ง ผมหวังว่าเขาคงท�ำงานที่ผมท�ำไม่ได้ เราเดินกลับไปยังแผนก ไอที เขาปีนไปยืนบนโต๊ะ ผมรวบขาของเขา ดันร่างเขาให้สูงพอจะผลัก แผ่นกันเสียงให้เปิดแล้วดันให้พน้ ทาง ผมออกแรงดันร่างให้สงู ขึน้ เขาคว้า ท่อได้ ดึงตัวหายเข้าไปบนเพดาน นาทีถดั มา ผมได้ยนิ เสียงเขาทิง้ ตัวลงบน พื้นภายในห้องท�ำงาน ลูกบิดหมุนเปิด เขายืนคาช่องประตู ร่างมอมแมม เปื้อนฝุ่น ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผมเข้าไปในห้องท�ำงาน งับปิดประตูโดยเร็ว เราปลอดภัยแล้ว ไม่มี ใครพบเห็น ห้องท�ำงานมืด การเปิดไฟในห้องมีอันตรายยิ่ง แต่ไม่จ�ำเป็น แสงเรื่อจากจอภาพเพียงพอให้ผมมองเห็นทุกอย่างที่จ�ำเป็นต้องท�ำ ลด ความเสี่ยงไปได้ ผมกวาดสายตามองโต๊ะท�ำงาน ดึงเปิดลิ้นชักบน พลิกดู ใต้คีย์บอร์ด เผื่อว่าเขาจะเขียนรหัสผ่านทิ้งไว้เตือนความจ�ำ ไร้โชค แต่ ไม่ใช่ปัญหา จากกระเป๋าคาดเอว ผมดึงแผ่นซีดีบู๊ตเครื่องของระบบปฏิบัติการ ลินุกซ์ ในนั้นมีชุดเครื่องมือแฮ็กเกอร์ ผมสอดแผ่นเข้าไปในเครื่องอ่านซีดี และรีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ เครือ่ งมือแฮ็กเกอร์ชว่ ยให้ผมเปลีย่ นรหัสผ่านของ แอดมิน ผมเปลีย่ นเป็นรหัสของผมเองเพือ่ จะให้ลอ็ กอินได้ ผมกดคายแผ่น ออกจากเครือ่ ง รีสตาร์ตอีกครัง้ คราวนี้ ผมล็อกอินในแอกเคานต์แอดมิน ผมท�ำงานเร็วทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะท�ำได้ ติดตัง้ ‘โทรจันการเข้าถึงจากระยะ ไกล’ ซอฟต์แวร์ตัวร้ายช่วยให้ผมเข้าถึงระบบได้ทั้งมวล ผมดักจับการ 21
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
เคาะแป้น แฮชของรหัสผ่าน (hashed password รหัสผ่านที่แปลงค่า เข้ารหัสแล้ว) ท�ำได้ถึงขั้นสั่งให้เว็บแคมถ่ายรูปคนที่นั่งอยู่หน้าจอ โทรจัน ที่ ผ มติ ด ตั้ ง ลงไปในระบบ จะต่ อ เชื่ อ มอิ น เทอร์ เ น็ ต ส่ ง ข้ อ มู ล ไปยั ง คอมพิวเตอร์ที่ผมควบคุมอยู่ทุกสองสามนาที ช่วยให้ผมควบคุมระบบ ทั้งหมดของเหยื่อ เกือบเสร็จแล้ว ขัน้ ตอนท้ายสุด ผมเข้าไปในรีจสิ ทรีของคอมพิวเตอร์ ตัง้ ค่า ‘การเข้าระบบครัง้ สุดท้าย’ เป็นชือ่ ของวิศวกร จะไม่ทงิ้ หลักฐานการ เข้ามาในระบบของผมในฐานะแอดมิน ในตอนเช้า วิศวกรมาเปิดเครื่อง อาจสังเกตเห็นว่าเขาล็อกเอาต์ออกจากระบบไปแล้ว ไม่มีปัญหา ในทันที ที่เขาล็อกอิน ทุกอย่างจะเป็นปกติเหมือนที่ควรจะเป็น ผมพร้อมจะลาจากแล้ว เพื่อนของผมเลื่อนฟ้าเพดานปิดคืนที่เดิม ผมเดินผ่านประตู กดล็อกประตู เช้าวันต่อมา วิศวกรเปิดเครื่อง เวลาราว 8.30 น. การล็อกอินของเขา ต่อเชือ่ มกับแล็ปท็อปของผม ในเมือ่ โทรจันท�ำงานในชือ่ ของเขา ผมได้สทิ ธิ แอดมินเต็มรูปแบบ ใช้เวลาไม่กี่วินาที ผมควานหาโดเมนคอนโทรลเลอร์ ได้แล้ว ทีน่ นั่ รหัสผ่านของพนักงานทุกคนในคอมพิวเตอร์ชมุ นุมกันอยูแ่ ล้ว เครื่องมือแฮ็กเกอร์ที่เรียกว่า ‘fgdump’ อนุญาตให้ผมดัมป์รหัสผ่านที่ เข้าแฮชแล้วของพนักงานทุกคน ใช้เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ผมส่งบัญชีรายการแฮช ผ่าน ‘ตารางสายรุ้ง’ (ฐานข้อมูลขนาดมหึมาส�ำหรับถอดรหัสแฮช) เรียกรหัสผ่านของพนักงาน บริษัททุกคนออกมาเป็นหางว่าว ผมค้นพบเสิร์ฟเวอร์รั้งท้ายขบวน ท�ำ หน้าที่ประมวลผลการติดต่อซื้อขาย แต่หมายเลขบัตรเครดิตที่ได้มา ผ่านการเข้ารหัสแล้ว (encrypted) ไม่มีปัญหา ผมค้นหากุญแจไขรหัส หมายเลขบัตรเครดิต ซุกซ่อนไว้ในโพรซีเจอร์ในฐานข้อมูลที่เรียกกันว่า SQL server มีแต่แอดมินของฐานข้อมูลเท่านั้นที่จะเปิดเข้าไปใช้งานได้ 22
เควิน มิตนิก
หมายเลขบัตรเครดิตล้านและล้านเลขหมาย ผมพอจะจับจ่ายซือ้ ของ ได้ตลอดทั้งวัน แต่ละคราวใช้บัตรเครดิตทีละหมายเลข...ไม่มีวันจนแต้ม หาหมายเลขบัตรเครดิตไม่ได้ แต่ผมไม่ได้น�ำบัตรเครดิตนั้นไปซื้อของ นี่คือ เรื่องจริง มิใช่การฉายซ�้ำ เรื่องราวการแฮ็กที่ท�ำให้ทางการไล่ล่าผม เรื่องนี้ชอบด้วยกฎหมายอย่าง แท้จริง...ผมได้รับการ ว่าจ้าง ให้ท�ำงานชิ้นนี้ นี่คือ สิ่งที่เราเรียกว่า pen test หรือ penetration testการทดสอบการเจาะระบบ นี่คือ งานประจ�ำส่วนใหญ่ในชีวิตของผม ในยุคปัจจุบัน ผมแฮ็กเข้าไปในบรรษัทยักษ์ใหญ่ของโลก เจาะเข้าไปใน ระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาดีที่สุดแล้ว...โดยได้รับการว่าจ้างจาก บรรษัทนั้น ช่วยให้พวกเขาปิดช่องโหว่ และยกระดับการรักษาความ ปลอดภัย จะได้ไม่ตกเป็นเหยือ่ ในคราวหน้าของแฮ็กเกอร์ ผมสอนตัวเองให้ ใช้คอมพิวเตอร์ ใช้เวลานานหลายปีศึกษาเทคนิควิธี เคล็ดลับ และกลวิธี ที่จะเลี่ยงด่านรักษาความปลอดภัย ผมเพิ่มพูนความรู้ให้ตัวเอง ศึกษาว่า ระบบคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคมมีกลไกการท�ำงานอย่างไร ความหลงใหลทีม่ ตี อ่ เทคโนโลยีนี้ และความหมกมุน่ ฝังใจลากชีวติ ผม ไปตามเส้นทางขรุขระ การแฮ็กของผมกลืนกินเวลาในชีวิตไปห้าปี ถูกขัง ในเรือนจ�ำ และน�ำความกลัดกลุ้มทุกข์ตรมมาสู่ผู้คนที่รักผม นี่คือ เรื่องราวชีวิตของผม ทุกรายละเอียดแม่นย�ำเที่ยงตรงเท่าที่ ผมรวบรวมมาได้จากความทรงจ�ำ บันทึกส่วนตัว หลักฐานสาธารณะของ ศาล และเอกสารทีไ่ ด้จากรัฐบัญญัตเิ สรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล การดักฟัง ของเอฟบีไอ เทปบันทึกจากไมโครโฟนติดซ่อนในตัว การสัมภาษณ์นาน หลายชั่วโมง และการพูดคุยอภิปรายกับสายข่าวของรัฐบาล 2 คน นี่คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้ผมเป็นคอมพิวเตอร์แฮ็กเกอร์ ที่ทางการทั่วโลกต้องการตัวที่สุด 23
ภาค หนึ่ง ก�ำเนิดแฮ็กเกอร์
หนึ่ง ชีวิตล�ำเค็ญ
Yjcv ku vjg pcog qh vjg uauvgo wugf da jco qrgtcvqtu vq ocmg htgg rjqpg ecnnu?
สั ญ ชาตญาณในการหลบเลี่ ย งอุ ป สรรคขวางกั้นและระบบรักษาความ ปลอดภัยของผมเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย เพียงอายุหนึ่งปีหกเดือน ผมค้นหา ทางปีนหนีออกจากอู่นอน คลานไปที่ประตูกั้นเด็ก และมองเห็นลู่ทางที่ จะเปิดประตูบานนั้น ส�ำหรับแม่ นี่เป็นการเตือนภัยปลุกให้ตื่น (ได้แล้ว) ส�ำหรับเรื่องที่จะเกิดตามมา ผมเกิดมาเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ พ่อทิง้ เราไปตอนผมอายุสามขวบ ผมกับเชลลีย์, แม่ของผมอาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์สุขสบายราคาปานกลาง ในย่านปลอดภัยของหุบเขาซานเฟอร์นันโด มีแค่สันเขากั้นจากมหานคร ลอสแองเจลีส แม่เลี้ยงดูผมโดยการท�ำงานเป็นสาวเสิร์ฟในภัตตาคาร เปลีย่ นงานจากทีน่ ไี่ ปทีน่ นั่ ภัตตาคารทีผ่ ดุ เป็นดอกเห็ดบนเส้นทางเวนจูรา บูเลอวาร์ด แล่นตามแนวตะวันออก-ตะวันตกผ่านหุบเขา พ่อย้ายไปอยู่ รัฐอืน่ พ่อยังห่วงใยผม มีสว่ นร่วมเป็นครัง้ คราวในช่วงเติบใหญ่ของผม จน กระทั่งพ่อย้ายมาไปอยู่ในลอสแองเจลีสเมื่อผมอายุ 13 ปี 27
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
แม่กับผมย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง ผมไม่มีโอกาสได้สานความเป็นเพื่อน เหมือนเด็กคนอื่น ผมใช้ชีวิตในวัยเด็กโดดเดี่ยวเดียวดาย ส่วนใหญ่อยู่ใน ท่านั่งทับบั้นท้ายตัวเอง ตอนผมไปเรียนหนังสือ ครูแจ้งให้แม่ทราบว่าผม อยูใ่ นกลุม่ 1 เปอร์เซ็นไทล์ระดับปลายยอดในวิชาคณิตศาสตร์และสะกดค�ำ ความรู้ล�้ำเกินชั้นเรียนไปหลายปี แต่เมื่อครั้งยังเล็ก ผมเป็นเด็กไฮเปอร์ ยากจะจับให้นั่งนิ่งอยู่กับที่ได้นานพอ แม่มีสามี 3 คน และเพื่อนชายนับไม่ถ้วนในระหว่างที่ผมเติบใหญ่ หนุม่ คนหนึง่ ทุบตีผม อีกคนเป็นเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ ล่วงละเมิดผม ไม่เหมือน แม่คนอืน่ ๆ ทีผ่ มเคยอ่านพบเจอ แม่ไม่เคยหลับตาเบือนหน้ามองทางอืน่ ใน ทันทีทสี่ บื ทราบว่ามีเภทภัยมาถึงตัวผม แม้แต่การดุดา่ หยาบคาย ไอ้หมอนัน่ กระเด็นออกนอกประตูไม่ได้กลับมาอีกแล้ว ใช่ว่าผมจะเสาะหาข้อแก้ตัว ผมแค่สงสัยว่าคนที่ท�ำร้ายผมในวัยเด็ก มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท้าทาย เจ้าหน้าที่ทางการผู้มีอ�ำนาจในตอนที่ผมเติบใหญ่หรือไม่ ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่แม่ทำ� งาน กะดึก มีเวลาหยุดพักกลางวัน ผมโปรดที่สุดเมื่อแม่พาผมไปว่ายน�้ำที่ ชายหาดซานตามอนิกาสุดวิเศษ แม่นอนบนผืนทราย อาบแดดและ ผ่อนคลาย มองตามผมแหวกว่ายโต้คลื่น โดนคลื่นซัดจมหายไป แล้ว โผล่กลับขึ้นมาใหม่หัวเราะปากกว้าง ฝึกการว่ายน�ำ้ ที่ผมเรียนรู้จากแคมป์ วายเอ็มซีเอ (แม่สง่ ผมเข้าแคมป์หลายฤดูรอ้ น ผมเกลียดทีส่ ดุ ยกเว้นตอนที่ พวกเขาพาเด็กแคมป์มาชายหาด) ตอนเด็ก ผมเล่นกีฬาเก่ง เล่นเบสบอลลิตเติลลีก เอาจริงเอาจังมาก พอทีจ่ ะใช้เวลาว่างในคอกหัดตีลกู แต่ความหลงใหลทีเ่ ปลีย่ นวิถชี วี ติ ของผม เริม่ ต้นตอนผมอายุสบิ ขวบ เพือ่ นบ้านทีอ่ าศัยอยูใ่ นอพาร์ตเมนต์ฝง่ั ตรงข้าม มีลกู สาวอายุรนุ่ ราวคราวเดียวกับผม ผมเดาเอาว่าผมหลงรักสาวน้อยคนนัน้ เธอรับรักผมโดยการเต้นระบ�ำเปลือยให้ผมดู อายุเพียงสิบขวบ ผมสนใจ สิ่งที่พ่อของเธอน�ำมาสู่ชีวิตของผมมากกว่าร่างเปลือยของเธอ...มายากล 28
เควิน มิตนิก
พ่อของเธอเป็นนักมายากลชือ่ เสียงโด่งดัง กลไพ่ กลเหรียญ กลย้าย วัตถุใหญ่ ท�ำให้ผมชืน่ ชมหลงใหล แต่ยงั มีอย่างอืน่ อีก อย่างอืน่ ทีส่ ำ� คัญกว่า, ผมมองเห็นผูช้ มเต็มห้อง สนุกสนาน มีความสุข จากการถูกหลอก แม้วา่ ภาพประทับใจนี้จะมิใช่จิตส�ำนึก แต่แนวคิดที่ว่าผู้คนโปรดปรานการถูก หลอกลวง อ้าปากค้างไปกับมายากลที่เกิดขึ้นใต้จมูกของตน มีอิทธิพลยิ่ง ต่อครรลองชีวิตของผม ร้านจ�ำหน่ายอุปกรณ์มายากลไม่ไกลจากบ้านนักถ้าถีบจักรยาน ร้าน มายากลกลายเป็นแหล่งสิงสถิตในยามว่างของผม มายากลเป็นทวารเปิดสู่ ศิลปะการหลอกลวงผู้คน ในบางคราว แทนทีผ่ มจะถีบจักรยาน ผมนัง่ รถเมล์ไปทีร่ า้ น วันหนึง่ ในหลายปีให้หลัง คนขับรถเมล์ชื่อว่า บ็อบ อาร์โคว์ สังเกตเห็นว่าผม สวมเสือ้ ยืด พิมพ์บนหน้าอกว่า ‘ชาวซีบเี สพสมในอากาศ’ เขาบอกผมว่า เก็บวิทยุมอโตโรลลลาของต�ำรวจได้ ผมคิดว่าเขาอาจจะฟังการสือ่ สารของ ต�ำรวจทางวิทยุ ซึง่ ก็เป็นเรือ่ งเท่เอาการ แต่ดเู หมือนว่าเขาล้อผมเล่น เขา เป็นนักวิทยุสมัครเล่นตัวยง งานอดิเรกของเขาจุดประกายความสนใจให้ผม เขาอวดวิทยุมือถือ สาธิตการโทรศัพท์ฟรีผ่านวิทยุ โดยใช้บริการ ‘ออโต แพตช์’ ฝีมือดัดแปลงของชาววิทยุสมัครเล่น โทรศัพท์ฟรี! ผมประทับใจ สุดซึ้ง ถอนตัวไม่ได้แล้ว หลังจากนั้น หลายสัปดาห์ในห้องเรียนภาคค�่ำ ผมเรียนรู้เรื่องวงจร วิทยุ และกฎเกณฑ์การใช้วิทยุมากพอจะสอบผ่านข้อเขียน เชี่ยวชาญ รหัสมอร์สพอจะผ่านเกณฑ์ได้ ไม่นานนัก บุรุษไปรษณีย์น�ำจดหมายมา ยื่นส่งให้ จดหมายของคณะกรรมการโทรคมนาคมรัฐบาลกลาง ผมได้ ใบอนุญาตนักวิทยุสมัครเล่นแล้ว วัยรุ่นน้อยคนนักจะมีใบอนุญาต ผม รู้สึกว่า ผมสร้างผลส�ำเร็จยิ่งใหญ่มหึมาได้แล้ว การลวงผู้คนให้หลงทิศด้วยมายากลให้ความอิ่มเอมใจชื่นมื่น แต่ การเรียนรู้กลไกการท�ำงานของระบบโทรศัพท์สุดแสนจะเร้าใจ ผมอยากรู้ 29
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
ทุกเรื่องของเครือข่ายโทรศัพท์ ผมอยากรู้ซึ้งแตกฉานทุกองค์ประกอบ ภายในของโทรศัพท์ ผมเรียนดีได้คะแนนสูงในระดับประถมและมัธยมต้น แต่ถึงชั้นมอสองหรือมอสาม ผมเริ่มโดดเรียน ไปสิงอยู่ที่ร้านวิทยุเฮนรี ร้านวิทยุสมัครเล่นในลอสแองเจลีสตะวันตก อ่านหนังสือทฤษฎีวิทยุได้ คราวละหลายชั่วโมง ส�ำหรับผม แทบไม่ต่างไปจากการเที่ยวดิสนีย์แลนด์ วิทยุสมัครเล่นเปิดโอกาสให้ผมช่วยเหลือชุมชนได้ บางคราว ในช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมอาสาท�ำหน้าที่ผู้สื่อสาร ช่วยเหลืองานของหน่วย กาชาดท้องถิน่ ฤดูรอ้ นครัง้ หนึง่ ผมท�ำงานอาสาด้านการสือ่ สารในสเปเชียล โอลิมปิกส์ การแข่งขันของนักกีฬา ‘พิเศษ’ การนั่งรถเมล์เที่ยวไม่ต่างไปจากการพักผ่อนสุดวิเศษส� ำหรับผม ได้เห็น ทิวทัศน์มหานครสองข้างทาง แม้เป็นภาพคุน้ ตา แต่ทนี่ คี่ อื แคลิฟอร์เนียใต้ ลมฟ้าอากาศแทบถึงขั้นสมบูรณ์แบบเกือบตลอดเวลา ยกเว้นช่วงเดียว ตอนที่สม็อกปกคลุมเมือง ในยุคนั้น เลวร้ายกว่าปัจจุบันมาก ค่ารถเมล์ 25 เซ็นต์ บวกกับ 10 เซ็นต์ถา้ ต่อรถ ในวันหยุดภาคฤดูรอ้ น แม่ไปท�ำงาน บางวัน ผมนัง่ รถเมล์เทีย่ วตลอดทัง้ วัน เมือ่ อายุได้ 12 ปี ความคิดของผม หันเหไปหาเส้นทางเจ้าเล่หแ์ สนกล อยูม่ าวันหนึง่ ความคิดวาบเข้ามาในหัว ถ้าเจาะบัตรต่อรถได้เอง นั่งรถเมล์ได้ฟรีตลอดทั้งวัน! พ่อกับลุงของผมเป็นเซลส์แมนลิ้นทอง ผมเดาเอาว่ายีนปากหวาน พูดคล่องไม่ติดขัด ถ่ายทอดมาให้ผม เติมพลังวิเศษให้ผมตั้งแต่วัยเด็ก ออดอ้อนกล่อมผู้คนให้ท�ำงานให้ผม ผมลุกจากที่นั่งไปนั่งข้างหลังคนขับ รถเมล์ ตอนที่รถติดไฟแดง ผมชวนคุย “ผมท�ำโครงงานในชั้นเรียน ผม อยากได้เครือ่ งตอกลวดลายบนแผ่นกระดาษ เครือ่ งทีค่ ณ ุ ใช้เจาะบัตรต่อรถ น่ะเหมาะที่สุด คุณพอจะทราบไหมครับว่าผมจะไปหาซื้อเครื่องแบบนั้น ได้จากที่ไหน?” ผมไม่คิดว่าเขาจะเชื่อ เพราะฟังแล้วค่อนข้างโง่ๆ อย่างไรพิกล ผม 30
เควิน มิตนิก
เดาเอาว่าเขาคงไม่อยากเชือ่ ว่าเด็กอายุสบิ กว่าปีจะจูงจมูกฉกฉวยประโยชน์ จากเขา เขาบอกชื่อร้าน ผมโทรศัพท์ไปถามที่ร้าน เขาบอกว่าเครื่อง เจาะบัตรขายในราคา 15 เหรียญ เด็กอายุสิบสองจะหาเงิน 15 เหรียญ ได้จากที่ไหน? จะออดอ้อนยกเรื่องสมเหตุสมผลวิงวอนมารดาได้อย่างไร ให้เธอควักกระเป๋า 15 เหรียญ? ไม่มีปัญหา เช้าวันถัดมา ผมเดินเข้าไป ในร้าน ซือ้ เครือ่ งเจาะบัตร แต่วา่ นัน่ เป็นขัน้ ทีห่ นึง่ ผมจะไปหาบัตรต่อรถ ได้จากที่ไหน? เหอะ, รถเมล์ไปล้างรถที่ไหน? ผมเดินไปยังอู่รถเมล์ใกล้ที่สุด มองเห็นถังขยะขนาดใหญ่ที่ทิ้งขยะจากการเก็บกวาดรถเมล์ ผมโหนตัว ปีนเข้าไปในถังขยะ แจ๊กพ็อต! บัตรต่อรถบางเล่มยังเหลือหน้าว่าง ผมเก็บบัตรจนกระเป๋าตุง ครัง้ แรก ในชีวิต และกิจกรรมที่ท�ำซ�้ำนับครั้งไม่ถ้วนในเวลาต่อมา สิ่งที่ผมเรียกว่า ‘การกระโจนเข้าถังขยะ’ ความจ�ำของผมดีกว่าเด็กรุน่ ราวคราวเดียวกัน ผมจดจ�ำตารางรถเมล์ ในหุบเขาซานเฟอร์นานโดได้จนขึ้นใจ ผมเดินทางท่องเที่ยวทั่วหุบเขา รถเมล์ไปถึงไหน ผมไปที่นั่น...ลอสแองเจลีสเคาน์ตี, ริเวอร์ไซด์เคาน์ตี, ซานเบอร์นาร์ดิโนเคาน์ตี ผมโปรดปรานการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ดูดดื่มเสพรับความงดงามของทิวทัศน์รอบตัว ในการเดินทางท่องเที่ยวของผม ผมได้เพื่อนชอบนั่งรถเมล์หนึ่งคนชื่อว่า ริชาร์ด วิลเลียมส์ ข้อแตกต่างส�ำคัญสองประการ หนึง่ นัน้ เขานัง่ รถเทีย่ วฟรี ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเขาเป็นลูกคนขับรถ ริชาร์ดได้นั่งรถเมล์ฟรี ข้อสอง ลักษณะเด่นทีแ่ ยกเราจากกัน (ในระยะแรก) คือ น�ำ้ หนักตัว ริชาร์ด อ้วนใหญ่ แวะที่ร้านแจ๊กอินเดอะบอกซ์ ซื้อทาโกขนาดยักษ์ส่งเข้าปาก วันละห้าถึงหกครั้ง ผมซึมซับนิสัยนี้ไว้ในตัวแทบจะทันที ไม่นานนัก 31
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
ส่วนเอวของผมขยายอวบอ้วน ไม่นานเลย สาวน้อยผมบลอนด์บนรถโรงเรียนบอกผม “เธอก็หน้าตา น่ารักดี แต่อ้วน น่าจะลดน�้ำหนักได้แล้ว” จ�ำเป็นด้วยหรือที่ผมควรรับฟังความเห็นเสียดแทงใจของเธอ? อย่า ได้หวัง ผมโดนท�ำโทษจากการกระโจนเข้าถังขยะ หาบัตรต่อรถมาใช้ และนัง่ รถเมล์ฟรี? นัน่ ก็ไม่ แม่คดิ ว่าเป็นการใช้ความคิดแยบยลเข้าท่า พ่อมองว่า เป็นจินตนาการบรรเจิด คนขับรถเมล์ทรี่ วู้ า่ ผมเจาะบัตรเอง มองเป็นเรือ่ ง ตลก ดูเหมือนว่าทุกคนรอบข้างผมทีร่ วู้ า่ ผมท�ำอะไร ต่างพร้อมใจกันแซ่ซอ้ ง ยอมรับความฉลาดแหลมคม แท้จริงแล้ว ผมไม่ตอ้ งการค�ำชมเชยยกย่องจากใครทีจ่ ะท�ำให้ผมเหลิง จนถล�ำเข้าไปในปัญหาขนาดใหญ่ ใครจะไปคิดว่าการเดินทางท่องเที่ยว ช้อปปิ้งในร้านจะมอบบทเรียนใหม่เอี่ยมที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของผมไปใน ทิศทางใหม่...มุ่งหน้าไปตกนรก?
32
สอง แค่มาเยี่ยม
Wbth lal voe htat oy voe wxbirtn vfzbqt wagye C poh aeovsn vojgav?
แม้แต่ครอบครัวยิวทีไ่ ม่เคร่งศาสนานัก เมือ่ ใดทีล่ กู ชายอายุถงึ เกณฑ์ จักต้อง มีการเฉลิมฉลองบาร์ มิตซวาห์ * ผมอยูใ่ นกลุม่ นี้ ผมต้องไปยืนอยูห่ น้ากลุม่ ผูร้ ว่ มพิธี อ่านเนือ้ หาจากม้วนพระคัมภีรโ์ ทราห์...ในภาษาฮีบรู แน่อยูแ่ ล้ว ภาษาฮีบรูใช้อักขระแปลกตา เช่น שּׁ, ךּ, בดังนั้น การอ่านภาษาฮีบรู ให้แตก จ�ำต้องเข้าเรียนหลายเดือน ผมสมัครเข้าโรงเรียนฮีบรูในเชอร์แมนโอ๊กส์ แต่โดนเตะโด่งออกจาก โรงเรียน เพราะแอบไปอ่านหนังสือเทคโนโลยีใต้โต๊ะ แม่ตอ้ งหาแรบไบมา สอนตัวต่อตัว หมดหวังที่จะแอบอ่านหนังสืออื่น ดังนั้น ผมเรียนรู้ภาษา ฮีบรูได้มากพอจะผ่านพิธี และอ่านเนื้อหาพระคัมภีร์โทราห์ตะกุกตะกัก ต่อหน้ากลุ่มผู้ร่วมพิธี รอดมาได้ไม่อับอายขายหน้า หลังจากนั้น พ่อแม่ล้อผมบ่อยครั้งว่าผมมีส�ำเนียงและท่าทางเหมือน * พิธีฉลองอายุสิบสามปีของเด็กชายชาวยิว 33
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
แร็บไบ จิตใต้สำ� นึกกระมัง ผมเรียนรู้ได้ในเวลาต่อมาว่าวิธีการเช่นนี้เป็น เทคนิคชั้นยอด เพราะคนเราจะสนิทใจกับคนที่มีลักษณะเหมือนเรา ผม เริ่มใช้วิธีการเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก ผู้คนรอบข้างยังไม่รู้ตัว ผมใช้วาทะและวาด สถานการณ์เทคนิคที่เรียกกันว่า ‘วิศวะสังคม’ (social engineering) การเสนอเรื่องให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้มเชื่อตามค�ำบอกกล่าว แผ่อิทธิพลจูงใจ ให้พวกเขาท�ำในเรื่องที่ปกติแล้วจะไม่ท�ำ ต้องเติมข้อมูลแนบเนียนจนผู้ฟัง ไม่เกิดความระแวงสงสัย ญาติมิตรและผู้มาร่วมพิธีมอบของขวัญให้เด็กยิวที่จะเติบโตมาเป็น ผูใ้ หญ่เต็มตัว เราจัดงานฉลองทีภ่ ตั ตาคารโอดิสซี ผมได้ของขวัญมากหลาย รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่าน่าตกใจ ผมชอบอ่านหนังสือ ความสนใจอยากรู้อยากเห็นน�ำผมไปยังร้านหนังสือ เซอร์ไววัลในฮอลลีวูดเหนือ ร้านหนังสือเล็กในย่านเสื่อมโทรม เจ้าของ เป็นหญิงผมบลอนด์วัยกลางคน เธอใจดีบอกให้ผมเรียกชื่อตัวก็พอ ร้าน หนังสือแห่งนั้นแทบไม่ต่างไปจากหีบมหาสมบัติของโจรสลัด ขวัญใจของ ผมในยุคนนั้นจะเป็นบรูซ ลี, ฮูดินี และจิม ร็อกฟอร์ด นักสืบเอกชน สุดเท่จากชุด The Rockford Files แสดงน�ำโดยเจมส์ การ์เนอร์ ร็อกฟอร์ดสะเดาะกลอนไขล็อก กล่อมผู้คนให้งงงวย และสวมบทคนอื่น ได้ในพริบตา ผมอยากท�ำทุกอย่างที่ร็อกฟอร์ดท�ำได้ ในร้านหนังสือเซอร์ไววัล มีหนังสือบรรยายขัน้ ตอนฝีมอื สุดพิเศษของ ร็อกฟอร์ด และยังมีมากกว่านั้น เริ่มต้นเมื่ออายุ 13 ปี ผมใช้เวลาหลาย สุดสัปดาห์ในร้านนั้น นั่งในร้านตลอดทั้งวัน อ่านทีละเล่มจนทะลุปรุโปร่ง หนังสือ เช่น The Paper Trip ของแบร์รี รีด บรรยายวิธีสร้างตัวตน ใหม่ขึ้นมา โดยใช้สูติบัตรของใครสักคนที่เสียชีวิตไปแล้ว หนังสือชื่อ The Big Brother Game โดยสก็อตต์ เฟรนช์ กลายเป็นคัมภีรป์ ระจ�ำตัวผม มีรายละเอียดทุกขัน้ ตอนของการเจาะเข้าไป 34
เควิน มิตนิก
ทะเบียนใบขับขี่ ทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ รายงานบัตรเครดิต รายงาน สถานะการเงินของธนาคาร เลขหมายโทรศัพท์ที่ไม่ได้บันทึกในสมุด โทรศัพท์ หรือแม้แต่การเจาะหาข้อมูลจากโรงพัก (นานหลังจากนี้ ในตอน ที่เฟรนช์เขียนเล่มสอง เขาติดต่อผม จะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะเป็นแขกรับ เชิญในหนังสือ? เขียนให้เขาสักบทว่าด้วยการวิศวะสังคมต่อบริษทั โทรศัพท์ ในช่วงนั้น ผมกับนักเขียนร่วมวุ่นอยู่กับการเขียนหนังสือเล่มที่สองของเรา The Art of Intrusion ผมไม่เหลือเวลาพอจะเขียนหนังสือให้เฟรนช์ แต่ ก็อดอมยิ้มมิได้ที่เกิดเหตุพ้องโดยบังเอิญได้ขนาดนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ที่เขาร้องขอมา) ร้านหนังสือเซอร์ไววัล มีหนังสือใต้ดินมากหลาย สอนเรื่องที่คุณ ไม่บังควรจะล่วงรู้...ของโปรดของผม เพราะผมมีแรงกระตุ้นเร้าใจให้ไป เสาะหาความรู้จากการกัดกินผลไม้ต้องห้ามแห่งสวรรค์ ผมอ่านทุกอย่างที่ ขวางหน้า จดจ�ำเรือ่ งพวกนัน้ จนขึน้ ใจ ความรอบรูท้ รงค่ายิง่ ทีจ่ ะมาช่วยผม ในยามคับขันในช่วงทีผ่ มหลบหนีการล่าตัวของเอฟบีไอ...ในอีกสองทศวรรษ ถัดมา อีกรายการหนึ่งในร้านที่ดึงดูดสายตาผมคือ เครื่องมือสะเดาะกุญแจ วางขายลดราคา ผมซื้อไว้หลายชุด ยังจ�ำได้ไหมเรื่องโจ๊กเก่าแก่ “จะท�ำ ยังไงถึงจะเข้าไปในคาร์เนกีฮอลล์ได้...ฝึก ฝึก และฝึกให้หนัก” ผมปฏิบัติ ตามค�ำสอนนั้น ฝึกการสะเดาะกุญแจจนถึงขั้นเทพ ในบางคราว ผมลง ไปยังห้องใต้ดิน ลงไปในบริเวณช่องเก็บของของผู้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ กุญแจคล้องเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ผมสะเดาะกุญแจ แล้วน�ำไปสับใส่ ช่องอืน่ ในช่วงนัน้ ผมคิดแค่วา่ เป็นตลกร้ายสนุกสุดเหวีย่ ง มองย้อนกลับ ไปในอดีต การท�ำเช่นนัน้ อาจท�ำให้หลายคนโกรธจัด ขลุกขลัก ต้องหาทาง เปิดกุญแจคนอืน่ และต้องหากุญแจใหม่มาเปลีย่ น ผมเดาเอาว่าเสียงหัวเราะ และเรื่องข�ำขันเป็นของวัยรุ่นไร้ความคิดเท่านั้น วันหนึง่ ในช่วงทีผ่ มอายุสบิ สี่ ผมออกไปเทีย่ วกับลุงมิตเชลล์ ดวงดาว 35
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
เจิดจรัสส่องทางให้ผมในช่วงนั้น เราแวะไปที่ส�ำนักงานขนส่ง ที่นั่นคนยืน ต่อคิวยาวเฟื้อย เขาทิ้งให้ผมยืนรอ เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ เดินหน้าตาย อย่างนั้นเลย ไม่สนใจผู้คนที่ยืนเข้าคิวยาวเป็นสาย เจ้าหน้าที่ขนส่ง สตรี หน้าบูด เงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้รอให้เธอท�ำเอกสาร ให้คนทีม่ ารับบริการเสร็จสิน้ ก่อน เขาอ้าปากส่งเสียง พูดไม่กคี่ ำ� เจ้าหน้าที่ ผงกศีรษะรับ โบกมือให้คนแรกยืนรอก่อน ดูแลเรื่องราวที่ลุงมิตเชลล์ ต้องการ ลุงมิตเชลล์มีพลังอ�ำนาจพิเศษเหนือผู้คน ดูเหมือนว่าผมมีพลังอ�ำนาจพิเศษเหนือผู้คนแบบนั้นเช่นกัน นี่เป็น ตัวอย่างแรกสุดในชีวิตของผมว่าด้วยการวิศวะสังคม คนทั่วไปมองเห็นผมอย่างไรในโรงเรียนมัธยมปลายมอนโร? ครูบอกว่าผม มักจะท�ำเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเสมอ ในขณะที่นักเรียนคนอื่น เรียนการซ่อมโทรทัศน์ในชั้นเรียน ผมด�ำเนินรอยตามสตีฟ วอซเนียกและ สตีฟ จ็อบส์ ประดิษฐ์กล่องสีฟ้าที่จะช่วยให้ผมเจาะเข้าไปในเครือข่าย โทรศัพท์ อาจถึงขั้นโทรฟรี ผมถือวิทยุมือถือติดตัวไปโรงเรียนเสมอ ใช้ วิทยุสมัครเล่นในช่วงพักกลางวันและพักชั่วโมง เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งเปลี่ยนเส้นทางชีวิตผม สตีเวน ซาลิตา คน ปากกล้าอวดผยอง วางท่าโอ่อ่าประกาศตัวว่าเป็นสายลับต�ำรวจ รถยนต์ ของเขามีเสาอากาศติดเหมือนเม่น เขามักจะอวดฝีมอื แสดงกลเม็ดเด็ดพราย กับโทรศัพท์ให้ผคู้ นตาโต ท�ำเรือ่ งน่าอัศจรรย์ใจได้จริง เขาสาธิตให้คนโทร มาหาเขาโดยไม่เปิดเผยหมายเลขโทรศัพท์ของทัง้ สองฝ่าย ผ่านวงจรพิเศษ ของเครือข่ายโทรศัพท์ที่เรียกกันว่า ‘loop around’ ลูปอะราวนด์หรือ ลูปไลน์ เขาจะโทรไปหาหมายเลขหนึ่ง อีกฝ่ายโทรมาหาอีกหมายเลข ทั้งสองฝ่ายต่อสายคุยกันได้เหมือนใช้มนต์เสกเป่า เขาค้นหาชื่อและที่อยู่ ของแต่ละหมายเลข บันทึกหรือไม่บนั ทึกในสมุดโทรศัพท์กต็ ามที โดยโทร ไปหาแผนกชื่อและที่อยู่ของลูกค้า เพียงโทรครั้งเดียว เขาได้หมายเลขแม่ 36
เควิน มิตนิก
ของผมที่ไม่มีบันทึกอยู่ในสมุดโทรศัพท์ ว้าว! เขาเรียกหมายเลขโทรศัพท์ และทีอ่ ยูข่ องใครก็ได้ แม้แต่ดาราดัง ประหนึง่ ว่าพนักงานในแผนกชือ่ และ ที่อยู่ของลูกค้า มายืนแถวรอพร้อมสนองความต้องการของเขา ผมสนใจใหลหลง และอัศจรรย์ใจไปกับฝีมือสุดพิเศษ เป็นเพื่อน ของเขาในทันใด ใคร่เรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับทุกเรื่อง แต่สตีเฟนสนใจเพียง แค่อวดฝีมือ ไม่คิดจะเปิดเผยทีเด็ดให้ผมทราบ ไม่ยอมแพร่งพรายวิธีการ เก็บทักษะวิศวะสังคมไว้เป็นความลับ ไม่ยอมบอกผมว่าเขาใช้วิธีใดในการ กล่อมผู้คนให้ท�ำในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่นานนัก ผมเก็บข้อมูลทุกอย่างว่าด้วยเรือ่ ง ‘ฟรีก’* เท่าทีเ่ ขาเปิดเผย ให้ทราบ ใช้เวลาเสาะส�ำรวจเครือข่ายโทรศัพท์ ศึกษาหาความรูด้ ว้ ยตัวเอง รู้หลายเรื่องที่เขายังไม่รู้ ฟรีกเกอร์มีสังคมของตัวเอง ผมรู้จักฟรีกเกอร์ อีกหลายคนที่มีความสนใจเรื่องเดียวกัน ไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยน ความเห็นกัน แต่กน็ ะ, ฟรีกเกอร์พวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกฟรีก (freak)ตัวประหลาดของจริง ไร้ทักษะเชิงสังคม และไม่ใคร่คูลเท่าใดนัก ดูเหมือนว่าผมมีฝีมือสุดพิเศษในด้านวิศวะสังคมของการฟรีก ผมจะ ออดอ้อนให้ช่างโทรศัพท์ขับรถไปยังตู้ชุมสาย ดึกดื่นเที่ยงคืน เพื่อสับสาย ‘วิกฤต’ เพราะเขาเชือ่ ว่าผมเป็นพนักงานโทรศัพท์จากอีกชุมสายหนึง่ หรือ เป็นช่างโทรศัพท์ทำ� งานภาคสนาม? ท�ำได้ครับ ง่ายเสียด้วย ผมรูจ้ กั ตัวเอง แล้วว่าผมมีฝีมือในเรื่องพรรค์นั้น สตีเฟนจอมกร่างเป็นผู้สอนผมให้รู้ว่า ทักษะวิศวะสังคมทรงพลังมีความส�ำคัญมากแค่ไหน เทคนิคพืน้ ฐานเป็นเรือ่ งง่ายๆ ก่อนคุณจะเริม่ การวิศวะสังคม กระท�ำ ต่อเป้าหมายหนึ่ง คุณจ�ำเป็นต้องลาดตระเวนสอดแนมเสียก่อน น�ำข้อมูล * ฟรีก มีที่มาจากค�ำว่า phone+freak กิจกรรมการเจาะเข้าเครือข่ายโทรศัพท์ กลุ่มตัวแสบ หรือตัวประหลาดพวกนี้ เรียกตัวเองว่า phreak, phreaker หรือ phone phreak ในเวลา ต่อมา การใช้อนิ เทอร์เน็ตแพร่หลาย กิจกรรมนีเ้ ปลีย่ นเป็น HP หรือ hacking and phreaking 37
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
ชิ้นเล็กชิ้นน้อยของบริษัทมาปะติดปะต่อกันให้เห็นภาพชัดเจน เช่นว่า แผนกหรือหน่วยธุรกิจนี้มีกลไกอย่างไร ท�ำงานหน้าที่ใด พนักงาน เข้าถึง ข้อมูลใดบ้าง วิถีปฏิบัติมาตรฐานในการร้องขอข้อมูล ขอจากใคร ใน สถานการณ์ใดจะยอมปล่อยข้อมูลที่ต้องการน�ำมาแจ้งให้ทราบ รวมไปถึง ศัพท์บัญญัติและศัพท์วงในที่ใช้ในองค์กร เทคนิควิศวะสังคมใช้งานได้ผลเนื่องเพราะผู้คนเชื่อมั่นวางใจคนที่ สถาปนาความน่าเชื่อถือได้ เชื่อว่าคนที่คุยด้วยเป็นพนักงานบริษัทที่มี อ�ำนาจเต็ม นี่เองที่จะได้งานวิจัยข้อมูลมา ในยามที่ผมพร้อมจะเจาะ เข้าไปหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้บันทึกในสมุดโทรศัพท์ ผมจะโทรไป หาพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทโทรศัพท์ “เจก รอเบิร์ตส์จากแผนก นอน-ผับ (ไม่เปิดเผยชือ่ ต่อสาธารณชน) ผมขอสายซูเปอร์ไวเซอร์ดว้ ยครับ” เมือ่ ซูเปอร์ไวเซอร์มารับสาย ผมแนะน�ำตัวเองอีกครัง้ “คุณได้เมมโม เรื่องการเปลี่ยนเลขหมายของเราหรือยัง?” เธอไปตรวจสอบ กลับมาอีกครั้ง “ยังค่ะ, ยังไม่ได้รับ” ผมกล่าวต่อ “คุณน่าจะใช้ 213 687-9962 อยู่นะ” “ไม่ค่ะ, เราหมุน 213 320-0055” บิงโก! “ได้เลยครับ” ผมตอบ “เราจะส่งเมมโมไปยังระดับสอง” ศัพท์วงใน ของบริษทั โทรศัพท์ หมายถึงผูจ้ ดั การ “ในระหว่างทีร่ อการเปลีย่ นเลขหมาย ใช้ 320-0055 ไปพลางก่อน จนกว่าคุณจะได้รับเมมโม” ถ้าผมจะโทรไปแผนกนอน-ผับ ผมจะท�ำอย่างไรในเมือ่ ชือ่ ของผมไม่ได้ อยู่ในรายการผู้มีอ�ำนาจในการเข้าถึงข้อมูล ซ�้ำร้าย ไม่มีหมายเลขภายใน ให้โทรกลับ? ไม่มีสองข้อนี้ พนักงานไม่ยอมแจ้งรายละเอียดลูกค้าให้ผม ทราบ มือใหม่หรือนักวิศวะสังคมสุดทึ่ม ก็คงรีบวางหู ข่าวร้าย : การท�ำ เช่นนี้ก่อความหวาดระแวงแล้ว ผมเล่นสดกลางอากาศ “ผู้จัดการของผมบอกผมว่าส่งชื่อของผม 38
เควิน มิตนิก
เข้าไปในรายการแล้ว ผมจะไปบอกเขาว่าคุณยังไม่ได้รับเมมโม” อุปสรรคหนึ่งด่าน : ผมต้องหาหมายเลขภายในของบริษัทโทรศัพท์ ที่ผมจะรับสายได้! ผมต้องโทรไปหาแผนกการตลาดสามแห่งก่อนจะได้พบระดับสอง... ผู้จัดการที่ผมจะน�ำมาอ้างชื่อได้ ผมบอกเขา “ทอม แฮนเส็นจากแผนก นอน-ผับ เราปรับปรุงรายการพนักงานที่มีอ�ำนาจในการเข้าถึงข้อมูล คุณ ยังจ�ำเป็นต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อนี้ไหม?” แน่อยู่แล้ว เขาตอบว่าจ�ำเป็น ผมขอให้เขาสะกดชื่อ และแจ้งหมายโทรศัพท์ ง่ายเหมือนแย่งขนมจากมือเด็กทารก ขั้นถัดไป ผมจะโทรไปที่ RCMAC (Recent Change Memory Authorization Center-ศูนย์อนุมัติการเปลี่ยนทะเบียน) เป็นแผนก ในบริษัทโทรศัพท์ที่ท�ำหน้าที่เพิ่มหรือลบข้อมูลลูกค้า เช่น การเพิ่มเติม คุณสมบัติพิเศษในการโทร ผมโทรไปที่นั่นในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาด ง่ายเหลือเกินทีจ่ ะจูงใจให้เสมียนโอนสายไปยังหมายเลขของผูจ้ ดั การแผนก เพราะหมายเลขนั้นเป็นของแปซิฟิก เทเลโฟน ขั้นตอนการท�ำงานโดยละเอียดมีดังนี้ ผมโทรไปหาช่างในที่ท�ำการ ส่วนกลาง เขาเชื่อว่าผมเป็นช่างซ่อมภาคสนาม เขาใช้โทรศัพท์ช่างเกาะ สายผู้จัดการ หมุนหมายเลขที่ผมบอกเขาไป ซึ่งก็จะเป็นการต่อสาย ผู้จัดการให้เขามายังลูปไลน์ ลูปไลน์เป็นวงจรพิเศษที่มีสองหมายเลขต่อ เชื่อมอยู่ เมื่อสองฝ่ายหมุนหมายเลขปลายสายของตนต่อเข้าไปในลูปไลน์ ทั้งสองคุยกันเหมือนว่าต่อสายหากันโดยตรง* * loop around หรือ loop line วงจรทดสอบโทรศัพท์ สองปลายขั้ว แต่ละปลายขั้วมี หมายเลขเฉพาะเจาะจงก�ำกับไว้ และรับผู้ใช้งานแต่ละปลายสายได้จำ� นวนหนึ่ง วัยรุ่นตัวแสบ ใช้วงจรนี้แช็ตหรือใช้เป็นปาร์ตีไลน์ 39
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
ผมหมุนหมายเลขต่อเข้าไปในลูปไลน์ โทรศัพท์ต่อสายสามทางที่จะ ดังกริ่งแล้วกริ่งเล่า เมื่อแผนกนอน-ผับโทรไปยังผู้จัดการที่มีอำ� นาจเข้าถึง ข้อมูล จะเป็นการโอนสายไปยังลูปไลน์ ผูโ้ ทรจะได้ยนิ เสียงกริง่ ผมปล่อย ให้เขาฟังเสียงกริ่งสองสามครั้งก่อนตอบรับ “แปซิฟิก เทเลโฟน, สตีฟ คาปลาน” ณ จุดนี้ เสมียนจะแจ้งข้อมูลนอน-ผับทุกอย่างเท่าที่ผมอยากทราบ จากนั้น ผมจะโทรฯกลับไปหาช่างส่วนกลาง ให้เขาปลดการโอนสาย ยิง่ ท้าทายมากแค่ไหน ก็ยงิ่ ตืน่ เต้นเร้าใจเท่านัน้ เทคนิคนีใ้ ช้งานได้ผล นานหลายปี ปัจจุบันนี้ อาจยังใช้ได้ผลก็เป็นได้! ในห้วงหลายปีในช่วงวัยรุ่นของผม ในเมื่อการขอหมายเลขคนดัง จากแผนกนอน-ผับมากเกินไป อาจท�ำให้เกิดความสงสัยได้ ผมได้เพียง หมายเลขและที่อยู่ของดาราบางคน เช่น รอเจอร์ มัวร์, ลูซิลล์ บอล, เจมส์ การ์เนอร์ และบรูซ สปริงสตีน และคนอืน่ ๆ ในบางคราว ผมโทร ไปหา และเจ้าตัวมารับสายเอง ผมส่งเสียงทักทาย “เป็นไง, บรูซ แต่ง เพลงใหม่บ้างเปล่า?” ไม่มีพิษไม่มีภัยใดๆ มีแต่ความตื่นเต้นเร้าใจที่ได้ หมายเลขทุกหมายเลขที่ผมอยากได้ โรงเรียนมัธยมปลายมอนโรมีหลักสูตรคอมพิวเตอร์ แต่ผมยังไม่ผ่านวิชา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์บางตัว แต่ครูคอมพิวเตอร์, มิสเตอร์คริสต์ เห็นความกระตือรือร้นของผม ทราบว่าผมคลัง่ ไคล้สนใจร�ำ่ เรียนเอง เขาเลย รับผมเข้าชั้นเรียนด้วย ผมคิดว่าเขาคงเสียใจที่เผลอตัดสินใจเรื่องนั้น ผมแสบเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ ผมใช้รหัสผ่านของเขาเข้าไปในระบบ มินิคอมพิวเตอร์ของเขตการศึกษาในทุกคราวที่เขาเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ เขาอัดอั้นตันใจ เชื่อว่ามีวิธีเด็ดดวงที่จะจัดการผมให้อับจนปัญญา เขาหัน ไปหาวิธโี บราณ ใช้บตั รคอมพิวเตอร์ชนิดเจาะรู ตอกลวดลายรหัสผ่าน การ ล็อกอินเพียงสอดบัตรเจาะรูเข้าไปในเครื่องอ่านบัตร ในเมื่อเป็นวิธีโบราณ 40
เควิน มิตนิก
เขาต้องเก็บบัตรเจาะรูไว้ในกระเป๋าเสื้อ ติดตัวตลอดเวลา เพื่อนร่วมชั้น ของผมช่วยเหลืออ่านลวดลายผ่านผ้าเนื้อบางของกระเป๋าเสื้อ ผมได้ รหัสผ่านใหม่เอี่ยมล่าสุดในทุกคราวที่เขาเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ ครูคริสต์ ไม่รู้ว่าพลาดที่จุดไหน ในห้องคอมพิวเตอร์มีโทรศัพท์ โทรศัพท์โบราณแบบโรตารี หมุน หมายเลขแกรกๆ โทรศัพท์มีโปรแกรมควบคุมให้โทรออกได้เฉพาะใน เขตการศึ ก ษาเท่ า นั้ น ผมใช้ โ ทรศั พ ท์ หมุนเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ของ ยูเอสซี (มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียใต้) เพื่อเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ผมยกหู บอกโอเปอเรเตอร์ว่า “ครูคริสต์, ขอสายนอกด้วย” โทรบ่อยครั้งเข้า โอเปอเรเตอร์เริ่มสงสัย ผมหันไปใช้เทคนิคฟรีก ต่อสายเข้าไปยังชุมสาย บริษทั โทรศัพท์ ยกเลิกข้อจ�ำกัดการโทรเฉพาะท้องถิน่ ผมหมุนเข้ายูเอสซี ได้โดยตรงในทุกคราวที่ต้องการ ในท้ายที่สุด มิสเตอร์คริสต์ตามทัน เดาได้ว่าผมยกเลิกการโทรเฉพาะท้องถิ่นไปแล้ว เขาเดินเข้ามาในห้อง ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เขาจัดการการโทร ไปยังยูเอสซีได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว เขายกล็อกจานหมุนให้นกั เรียนทัง้ ชัน้ ดู เสียบล็อกเข้าไปในรูเลข ‘หนึ่ง’ เพียงเท่านี้ก็หมุนจานแกรกกรากไม่ได้ เขาล็อกรูหมายเลขหนึง่ เสร็จสิน้ ผมเดินออกไปหน้าชัน้ เรียน นักเรียน ทุกคนมองตาม ผมยกหูโทรศัพท์ เคาะแคร่ เคาะเร็วเก้าครั้ง ได้เลข 9 ขอสายนอก เคาะเร็วเจ็ดครัง้ ได้หมายเลข 7 เคาะเร็วอีกสี่ ได้หมายเลข 4 ผมโทรศัพท์ติดต่อยูเอสซีได้ในชั่วพริบตา ในสายตาของผม เป็นแต่เพียงการเล่นเกมประลองไหวพริบ แต่ มิสเตอร์คริสต์ผู้น่าสงสาร ใบหน้าแดงฉาน เขาคว้าโทรศัพท์เครื่องนั้น... ทุ่มข้ามห้อง ในระหว่างนั้น ผมสอนตัวเองเรื่องระบบปฏิบัติการ RSTS/E (อ่านว่าริสทิส-อี) ของ DEC (Digital Equipment Corporation) ที่ใช้ในระบบ 41
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
มินิคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนกลางใจเมืองลอสแองเจลีส แคมปัสของ มหาวิทยาลัยแคลสเตตที่นอร์ธริดจ์ใช้ระบบปฏิบัติการ RSTS/E เช่นกัน ผมขอนัดหมายกับหัวหน้าภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่แคลสเตต, เวส แฮมป์ตัน “ผมสนใจอยากเรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ผมพอจะซื้อ แอกเคานต์เพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ที่นี่ได้ไหมครับ?” “ไม่ได้, มีเพียงนักศึกษาลงทะเบียนเรียนที่นี่ถึงมีสิทธิใช้งาน” การยอมแพ้ง่ายๆ ไม่อยู่ในความคิดของผม “ที่โรงเรียนมัธยมปลาย ของผม ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์จะปิดหลังเลิกเรียนราวบ่ายสาม ท่าน พอจะเปิดหลักสูตรพิเศษให้นักเรียนคอมพิวเตอร์มัธยมปลายได้เรียนรู้ใน ระบบของท่านได้ไหม?” เขาปฏิเสธ แต่โทรกลับมาหาผม “เราตัดสินใจที่จะอนุญาตให้เธอใช้ คอมพิวเตอร์ของเรา เราไม่อาจให้แอ็กเคานต์ได้ เพราะเธอไม่ใช่นักศึกษา ที่นี่ ดังนั้น ฉันจะให้เธอใช้แอ็กเคานต์ของฉัน ชื่อผู้ใช้ ‘5,4’ รหัสผ่าน ‘Wes’ ” นีน่ ะ! หัวหน้าภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย นีเ่ ป็น รหัสผ่านที่เขาคิดว่าปลอดภัยที่สุด! แค่ชื่อตัวเอง ใช้แค่ค�ำว่า wes ผมสอนตัวเองให้แตกฉานภาษาโปรแกรมฟอร์แทรนและเบสิก เรียน ไม่กี่สัปดาห์ในชั้นเรียนคอมพิวเตอร์ ผมเขียนโปรแกรมขโมยรหัสผ่านของ คนอื่น นักศึกษาที่ล็อกอิน จะมองเห็นช่องสี่เหลี่ยมคุ้นตา แต่แท้จริงเป็น โปรแกรมของผมที่พรางตัวเหมือนระบบปฏิบัติการ ออกแบบมาให้ลงชื่อ ผูใ้ ช้และรหัสผ่าน (เหมือน phishing ในปัจจุบนั ) แท้จริงแล้ว ผูต้ รวจสอบ ในห้องปฏิบตั กิ ารคนหนึง่ ช่วย ‘ดีบกั ’ รหัสของผม คิดว่าเป็นเรือ่ งน่าขบขัน ที่เด็กมัธยมปลายจะเขียนโปรแกรมขโมยรหัสผ่านได้ ในเมื่อโปรแกรม เล็กจิ๋วเริ่มท�ำงานแล้ว นักศึกษาคนใดที่ล็อกอิน ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจะ บันทึกลงในไฟล์ ท�ำไมหรือ? ผมกับเพื่อนคิดว่าเป็นเรื่องสุดคูลที่จะได้เก็บรวบรวม 42
เควิน มิตนิก
รหัสผ่านของทุกคน ไม่มแี ผนร้าย ไม่มวี ตั ถุประสงค์ชวั่ ร้ายใดๆ ผมท�ำเพียง เพื่อความสะใจของตัวเอง ท�ำเนื่องเพราะท�ำได้ เรื่องท้าทายที่ผมทุ่มตัว เข้าเกลือกกลั้วตลอดชีวิตช่วงต้นของผม นับตั้งแต่ผมรับชมการแสดง มายากลเป็นครั้งแรกในชีวิต ผมแสดงกลแบบเดียวกันได้หรือไม่? ผม เรียนรู้วิธีหลอกผู้คนให้งวยงงหลงทิศได้ไหม? ผมสั่งสมพลังอ�ำนาจที่ผม ไม่พึงมีไว้ในมือตัวเองได้เชียวหรือ? หลังจากนั้น ผู้ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์บางคนแอบ ไปฟ้องแอดมิน ผมเงยหน้าขึ้นมา ต�ำรวจมหาวิทยาลัยสามนายบุกเข้ามา ในห้องปฏิบัติการ ต�ำรวจคุมตัวไปกักไว้ รอให้แม่มารับตัว หัวหน้าภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ผู้อนุญาตให้ผมใช้แอ็กเคานต์ ของเขา เดือดดาลเป็นที่สุด แต่ท�ำอะไรผมไม่ได้ ในยุคโน้น ยังไม่มี กฎหมายคอมพิวเตอร์ ไม่มีข้อหาใดที่จะเอาผิดผมได้ แต่ก็นะ, ผมโดน เตะโด่งออกจากห้องคอมพิวเตอร์ มีค�ำสั่งห้ามขาด อย่าได้โผล่ไปแถวนั้น แม่ได้รับค�ำบอกกล่าว “เดือนหน้า แคลิฟอร์เนียจะผ่านกฎหมาย ฉบับใหม่ สิ่งที่เควินท�ำจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย” (รัฐสภาอเมริกันไม่ผ่าน กฎหมายคอมพิวเตอร์จนอีกสี่ปีให้หลัง ดูเหมือนผลงานที่ผมท�ำลงไป จะ ได้รับการหยิบยกมาเป็นตัวอย่างน่าสะพรึงกลัว โน้มน้าวให้วุฒิสมาชิกลง คะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้) เกิดเรื่องเลวร้าย ผมเข็ดไหม? ไม่เลย, ผมไม่สนใจค�ำขู่การคุกคาม ไม่นานหลังจากเจ้าหน้าที่มาขู่แม่ของผม ผมเสาะหาวิธีโอนสายจากแผนก บริการให้ความช่วยเหลือผูใ้ ช้โทรศัพท์ในโรดไอส์แลนด์ สายเรียกเข้าจะต่อ ตรงมาถึงผม คุณจะเล่นสนุกกับคนที่อยากได้หมายเลขโทรศัพท์อย่างไร? ลองตามดูนะครับ ผม : ประสงค์จะติดต่อเมืองไหนครับผม? ผู้ขอใช้บริการค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ : โพรวิเดนซ์ 43
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
ผม : ขอชื่อด้วยครับผม ผู้ขอใช้บริการฯ : จอห์น นอร์ตัน ผม : ธุรกิจหรือที่พักอาศัยครับผม? ผู้ขอใช้บริการฯ : ที่พักอาศัย ผม : หมายเลขโทรศัพท์คือ 836, 5 เศษหนึ่งส่วนสอง 66 ถึงจุดนี้ คนที่โทรเข้ามา ไม่งุนงงก็เดือดจัด
การตอบสนองจนหูชา ชวนหัว ขบขันจนท้องคัดท้องแข็ง
ผู้ขอใช้บริการฯ : ชั้นจะหมุนหมายเลขเศษหนึ่งส่วนสองได้ยังไงยะ? ผม : ท่านต้องหาโทรศัพท์เครือ่ งใหม่ทมี่ เี ลขเศษหนึง่ ส่วนสองครับผม
ในยุคโน้น บริษัทโทรศัพท์ขนาดใหญ่สองบริษัทให้บริการประชาชนในเขต ลอสแองเจลีส เจเนอรัล เทโลโฟน แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ปเรชัน (GTE) ดูแลพืน้ ทีท่ างเหนือของหุบเขาซานเฟอร์นนั โด ย่านทีผ่ มอาศัยอยู่ โทรศัพท์ ห่างไกลออกไปเกิน 12 ไมล์ ถือเป็นโทรศัพท์ทางไกล คิดอัตราค่าโทร ทางไกล แน่อยู่แล้ว ผมไม่อยากเพิ่มค่าโทรศัพท์ให้แม่ หากโทรทางไกล ผมจะใช้ออโตแพตช์ผ่านวิทยุมือถือ วันหนึ่ง ในระหว่างการสื่อสารทางอากาศ ผู้ควบคุมรีพีตเตอร์ตีตรา ‘การโทรพิลึก’ ของผม เขาสังเกตเห็นว่าผมป้อนเลยหมายเลขหลายตัว เกินไปในขณะที่ผมใช้ออโตแพตช์ ผมให้ค�ำอธิบายว่าตัวเลขหลายตัวจะ เป็นการโทรฟรีทางไกล ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์ทางไกล MCI เขาไม่รู้ว่า ผมพูดถึงเรื่องอะไร แต่ไม่ชอบการใช้งานออโตแพตช์พิลึกพิลั่นที่ผมท�ำอยู่ นักวิทยุสมัครเล่นคนหนึ่ง รับฟังการพูดโต้ตอบกันอยู่ ติดต่อผม บอกว่า เขาชื่อ ลูอิส เดอ เพน เขาบอกหมายเลขโทรศัพท์ของเขา ผมโทรไป หาเขาในเย็นวันนั้น ลูอิสบอกว่างุนงงไปกับการใช้งานออโตแพตช์ของผม 44
เควิน มิตนิก
เรานัดพบกัน และเป็นเพื่อนสนิทกัน ความสัมพันธ์ยาวนานกว่า ยี่สิบปี ลูอิสมีเชื้อสายอาร์เจนตินา ร่างผอม หน้าตาพิลึก ผมด�ำตัดสั้น เกรียน แต่ใส่ครีมให้ราบ แล้วหวีปัดไปข้างหลัง แถมด้วยหนวดเรียวบน ริมฝีปาก เขาอาจเชื่อว่าท�ำให้เค้าหน้าของเขาคล้ายผู้ใหญ่ ในโครงการ แฮ็กนับครัง้ ไม่ถว้ น เขาเป็นคนเดียวในโลกนีท้ ผี่ มเชือ่ ใจวางใจ เขามาพร้อม กับบุคลิกภาพแย้งกันในตัว สุภาพแต่ชอบเอาชนะ เด็กเรียนแต่กิริยา มารยาทงาม เลือกเสือ้ ผ้าพิลกึ เช่น เสือ้ คอเต่ากับกางเกงขาบาน ไม่แสดงตัว แต่อวดกร่างวางอ�ำนาจ ลูอิสกับผมมีอารมณ์ขันแนวเดียวกัน ชอบเล่นตลกร้าย ผมคิดว่า งานอดิเรกใดทีไ่ ม่สนุก ไม่ท�ำให้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาได้เป็นครัง้ คราว ไม่ถอื เป็นงานอดิเรกอันควรเสียเวลาและพลังงานในการสานต่อ ลูอสิ กับผม จูนคลื่นตรงกัน เหมือนการแฮ็กแม็กโดนัลด์ เราดัดแปลงวิทยุสองเมตร ให้ เ สี ย งของเราดั ง ออกล�ำ โพงส� ำ หรั บ ลู ก ค้ า ที่ ขั บ รถมาเที ย บสั่ ง อาหาร บริโภคด่วน เราเดินทางไปยังร้านแม็กโดนัลด์ จอดรถใกล้พอจะมองเห็น เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใกล้จนคนสังเกตเห็น เราจูนคลื่นวิทยุให้ตรงกับ คลื่นของร้าน รถต�ำรวจแล่นมาเทียบ เมื่อหน้าต่างรถเคลื่อนมาถึงล�ำโพง ลูอิส หรือผมจะประกาศให้ทราบชัด “ร้านนี้ไม่ขายของให้ต�ำรวจ ไสหัวไปหา อะไรกินที่แจ็กอินเดอะบอกซ์” มีคราวหนึ่ง สตรีนางหนึ่งแล่นรถมาเทียบ ล�ำโพง เสียงของผมดังออกมา “เปิดนมให้ดู บิ๊กแม็กจะเป็นของคุณโดย ไม่คิดมูลค่า” เธอไม่ตลกด้วย ดับเครื่อง เปิดประตูรถลงมา เปิดท้ายรถ ถือไม้เบสบอลย่างสามขุมเข้าไปในร้าน “น�้ำแอปเปิลแจกฟรี” มุขสุดโปรดของผม เมื่อลูกค้าสั่งอาหารแล้ว ผมจะอธิบายว่าวันนี้เครื่องท�ำน�้ำแข็งช�ำรุด ดังนั้น ร้านของเราจะมอบ น�้ำผลไม้เป็นอภินันทนาการแด่ลูกค้า “เรามีน�้ำส้มโอ น�้ำส้ม และ...โอ, ขอประทานโทษ ส้มโอหมด ส้มก็ไม่มี ท่านจะรับน�้ำแอปเปิลได้หรือไม่?” 45
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
เมื่อลูกค้าตอบตกลง เราเปิดเทปเสียงคนฉี่ลงแก้วน�้ำ และส่งเสียงไปว่า “น�้ำแอปเปิลของท่านพร้อมแล้ว ขอเชิญไปรับที่หน้าต่างถัดไป” เราคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องสนุกถ้าเราท�ำให้ลูกค้าประสาทกระเจิง สั่ง อาหารยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ในเมื่อเรายึดครองล�ำโพงได้แล้ว ทุกคราวที่ลูกค้า สัง่ รายการอาหาร เราจะให้เพือ่ นชาวอินเดียทวนค�ำสัง่ ซือ้ ด้วยภาษาอังกฤษ ส�ำเนียงฮินดี แต่ละค�ำแทบฟังไม่ออกว่าพูดถึงเรื่องใด ลูกค้าจะบอกว่า ไม่เข้าใจ เพื่อนชาวอินเดียของเราจะพูดเรื่องอื่นที่ฟังไม่เข้าใจหนักกว่าเดิม พูดซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าจนลูกค้าฉุนขาด ขับรถหนีไป คนแล้วคนเล่า ฝีมือโดดเด่นที่สุดของเราอยู่ที่การควบคุมล�ำโพงนอกอาคารไว้ได้โดย สิ้นเชิง พนักงานร้านไม่อาจแก้ไขอะไรได้ ในบางคราว เรามองเข้าไป เห็นคนทีน่ งั่ รับประทานอาหารนอกร้าน หัวร่อต่อกระซิก ไม่มใี ครรูว้ า่ เกิด เรื่องราวใด มีคราวหนึ่ง ผู้จัดการร้านเดินออกมาดูว่าใครแก้ไขล�ำโพงให้ผิดเพี้ยน เขากวาดสายตามองรอบลานจอดรถ ยกมือเกาหัวแกรกๆ ไม่มีใครอยู่ แถวนัน้ รถทุกคันทีจ่ อดอยูว่ า่ งเปล่า ไม่มใี ครซ่อนตัวอยูห่ ลังป้าย เขาเดิน ตรงมาที่ล�ำโพง โน้มตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หยีตามอง ประหนึ่งว่าจะได้ พบเห็นคนตัวเล็กซ่อนอยู่ในนั้น สาด, แกจ้องดูเชีย’ไรกัน? ผมแผดเสียงแหบพร่าตะโกนเข้าไป เขาน่าจะกระโดดถอยหลังไกลสิบฟุต บางคราวที่เราเล่นตลกเรื่องนี้ คนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใน ละแวกนัน้ ออกมายืนบนระเบียง หัวเราะลงลูกคอ แม้แต่คนเดินบนทางเท้า หน้าร้าน ก็ยังหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ผมกับลูอิสพาเพื่อนไปรับชมด้วย หลายคน เพราะเป็นเรื่องตลกสุดเดช โอเค, เล่นเหมือนเด็ก แต่ช่วงนั้น ผมอายุแค่สิบหกหรือสิบเจ็ดปี การเล่นสนุกของผมในบางคราวก็ไม่ไร้เดียงสานัก ผมตั้งกฎประจ�ำตัวไว้ 46
เควิน มิตนิก
เลยเชียว ห้ามขาดการเดินเข้าไปในอาคารของบริษทั โทรศัพท์ทไี่ หนๆ แม้ จะเย้ายวนใจยิง่ ได้ไปพบเห็นระบบนัน้ ด้วยตาตัวเอง หรืออาจถึงขัน้ ได้อา่ น คู่มือเทคนิคของบริษัท แต่ก็เป็นอย่างที่เขาพูดกัน กฎเกณฑ์เคร่งครัดใน สายตาของผม เป็นแต่เพียงข้อเสนอชี้แนะ คืนหนึ่งในปี 1981 ผมอายุ 17 ปี ผมเตร็ดเตร่อยู่กับเพื่อนฟรีก คนหนึ่งชื่อว่า สตีเวน โรดส์ เราตัดสินใจจะบุกเข้าไปในที่ท�ำการกลาง ซันเซ็ต-กาวเออร์ของแปซิฟิก เทเลโฟน ในฮอลลีวูด ในเมื่อเราเป็นพวก โฟนฟรีกชั้นแนวหน้าแล้ว...การแฮ็กเข้าไปในฐานที่ตั้งของบริษัทโทรศัพท์ ถือได้ว่าเป็นการแฮ็กระดับสุดเลิศ เราผ่านประตูเข้าไปโดยกดรหัสตัวเลข หน้าประตู ผมวิศวะสังคมจนได้รหัสประตูนั้นมาแล้ว พระเจ้าเป็นพยาน! ตื่นเต้นเร้าใจสุดยอด ส�ำหรับพวกเรา ที่นั่นเป็น สนามเด็กเล่นบนสวรรค์ แต่เราจะมองหาอะไรหรือ? ชายร่างยักษ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจอาคาร เขา เดินมาพบพวกเรา ร่างของเขาสูงใหญ่ กล้ามปูดโปนเหมือนไลน์แบ็กเกอร์ อเมริกันฟุตบอล...น่ากลัวเหลือเกิน เขายืนนิ่ง มือห้อยข้างกาย เพียง เท่านั้น ก็คุกคามพวกเราแทบขาดใจตายได้แล้ว แต่ทว่า ยิ่งสถานการณ์ คับขัน ผมก็ยิ่งสงบเยือกเย็น หน้าตาของผมไม่แก่พอจะเป็นพนักงานประจ�ำของบริษัท แต่ผม กระโจนไปรับค�ำท้า “สวัสดีครับ เป็นไงบ้างคืนนี้?” “ดีครับผม ขอดูบัตรพนักงานด้วย ได้โปรด” ผมตบกระเป๋า “ตายห่ะ, น่าจะลืมไว้ในรถยนต์ ผมออกไปหยิบมา ให้นะ” เขาไม่หลงกล “ไม่ครับ, เชิญทุกท่านไปชั้นบนกับผม” เราไม่โต้เถียง เขาพาพวกเราไปยังศูนย์ควบคุมการท�ำงานของชุมสายบนชัน้ เก้า ทีซ่ งึ่ พนักงานท�ำงานกันอยู่ 47
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
หัวใจเต้นตูมตาม หอบหายใจอกยุบอกพอง ช่างเทคนิคควบคุมชุมสายเดินมาสอบถามว่ามีเรื่องราวใด ทางเลือก เดียวในความคิดของผมคือ วิ่งหนีออกจากที่นั่น โอกาสน้อยนิดที่หนีรอด จากมือยักษ์ใหญ่ตนนั้น ผมจนปัญญา รู้สึกว่าความหวังริบหรี่กางกั้น ระหว่างตัวผมกับเรือนจ�ำ มีเพียงแค่ทักษะวิศวะสังคม ถึงตอนนี้ ผมรู้ชื่อและต�ำแหน่งของหลายคนในแปซิฟิก เทโลโฟน พอจะถางทางรอดให้ตัวเองได้ “ผมท�ำงานที่ COSMOS ในซานดิเอโก ผมแค่อยากจะพาเพื่อนมาดูว่าที่ท�ำการกลางหน้าตาเป็นอย่างไร คุณ โทรศัพท์ติดต่อซุปเปอร์ไวเซอร์ของผมก็ได้” ผมบอกชื่อซูเปอร์ไวเซอร์ของ COSMOS ขอบคุณพระเจ้าที่ผมมีความจ�ำดีเยี่ยม แม้ว่าผมจะรู้ว่าหน้าตา ของเราเด็กเกินไป และเรื่องที่ยกมาอ้างป้อแป้ไร้น�้ำหนัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยน�ำชื่อของซูเปอร์ไวเซอร์ไปตรวจใน รายชื่อพนักงานระหว่างสาขา พบหมายเลขโทรศัพท์บ้านของเธอ เขา ต่อสาย กริ่ง กริ่ง กริ่ง เขาเริ่มการสนทนาด้วยการขอโทษขอโพยที่โทร มากลางดึก อธิบายสถานการณ์ให้เธอฟัง “ขอผมพูดสายกับเธอ” ผมบอก เขายืน่ โทรศัพท์ให้ ผมกดหูโทรศัพท์แนบหู ภาวนาขออย่าให้ไอ้ยกั ษ์ ได้ยินเสียงของเธอ ผมแต่งเรื่อง “จูดี, ผมเสียใจส�ำหรับเรื่องนี้ ผมพา เพื่อนมาดูที่ท�ำการกลาง ศูนย์ควบคุมชุมสาย ผมลืมบัตรพนักงานทิ้งไว้ ในรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องการการยืนยันว่าผมท�ำงานที่ COSMOS ในซานดิเอโกจริง ผมหวังว่าคุณคงไม่ต�ำหนิผมในเรื่องนี้” ผมรอคอยอึดใจใหญ่ ท�ำท่าเหมือนรับฟังเสียงของเธอ เสียงทีล่ อยมา ตามสาย “คุณเป็นใครกัน? ฉันรู้จักคุณด้วยหรือ? คุณไปท�ำอะไรที่นั่น?” ผมเริ่มใหม่ “ยังไงผมก็ต้องเข้ามาท�ำงานที่นี่ในตอนเช้าอยู่แล้ว มาร่วมประชุมเรื่องคู่มือการฝึกอบรมน่ะ ผมนัดคุยกับจิมวันจันทร์ตอน สิบเอ็ดโมงเผือ่ ว่าคุณอยากมานัง่ ฟังด้วย คุณยังไม่ลมื นะ นัดอาหารกลางวัน 48
เควิน มิตนิก
วันอังคาร?” ผมนิ่งไปอีกนาน เธอโวยวายเสียงหลง “แน่อยู่แล้ว ขอโทษครับที่โทรมากวนคุณกลางดึก” ผมกรอกเสียง ตอบลงไป ผมวางหู เจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัยกับเจ้าหน้าทีศ่ นู ย์ควบคุมงุนงง พวกเขา คาดว่ า ผมจะยื่ น โทรศั พ ท์ ใ ห้ เ จ้ า หน้ า ที่ รั ก ษาความปลอดภั ย คุ ย กั บ ซูเปอร์ไวเซอร์ เธอจะได้ยืนยันว่าไม่มีเหตุผิดปกติ ใครก็คงเห็นสีหน้า ของเจ้าหน้าที่ร่างยักษ์นายนั้น...เอ็งจะกล้าโทรไปกวนใจเธอ เป็นครั้งที่สอง เชียวหรือ? ผมบอกไอ้ยกั ษ์ไปว่า “เธอเดือดจัดทีเดียวเชียวทีต่ อ้ งตืน่ มาตอนตีสอง ครึ่ง” จากนั้น ผมบอกต่อ “มีอีกสองสามอย่างที่ผมอยากพาเพื่อนไปดู ขอเวลาผมอีกสักสิบนาทีนะ” ผมเดินออกจากห้อง โรดส์เดินตามหลัง เห็นได้ชัดว่าผมอยากออกวิ่งสุดฝีเท้า แต่ก็รู้ว่าท�ำไม่ได้ เราเดินมาถึงลิฟต์ ผมกดปุม่ ลงไปชัน้ ล่าง เราหายใจออกมาด้วยความ โล่งอกเมือ่ หลุดออกมายืนนอกอาคาร กลัวจนอาหารในท้องหักกลางเพราะ ฉิวเฉียดที่สุด ดีใจเหลือเกินที่ได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ผมรู้ว่าเกิดเรื่องใดบ้าง สุภาพสตรีนางนั้นข่มตาหลับไม่ลงแล้ว เธอโทรศัพท์จ้าละหวั่น ใครรู้หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยทีศ่ นู ย์ควบคุมซันเซ็ต-กาวเออร์บา้ ง ต้องค้นหาให้ได้กลางดึกคืนนี้ เราเข้าไปนั่งในรถ ผมขับมาเกือบพ้นช่วงตึกโดยไม่เปิดไฟหน้า ดับ เครื่อง รออยู่ในรถ ชะแง้มองประตูหน้าของอาคาร ราวสิบนาที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างยักษ์เดินออกมา เหลียวซ้ายแลขวาทุกทิศทุกทาง แน่ใจแล้วว่าป่านนีเ้ ราคงเผ่นกันไปไกลลิบ 49
ตามล่ายอดแฮ็กเกอร์
แล้ว เขาคิดผิด ผมรอจนเขาเดินกลับเข้าไป สตาร์ตเครือ่ ง พารถเคลือ่ นออกจากทีน่ นั่ เปิดไฟหน้าเมื่อรถแล่นอ้อมโค้งออกจากบริษัทโทรศัพท์ ฉิวเฉียดเกินงามไปแล้ว ถ้าเขาโทรเรียกต�ำรวจ ก็คงเป็นข้อหางัดแงะบุกรุก หรือเลวร้ายกว่านัน้ ขโมยทรัพย์สนิ ในยามวิกาล ผมกับสตีฟคงโดนลากตัว ไปเข้าสถานพินิจ ผมไม่มีวันเดินเข้าไปในอาคารบริษัทโทรศัพท์อีกแล้วในอนาคตอัน ใกล้นี้ แต่ผมตื่นตัวเตรียมพร้อม มองหาอะไรบางอย่าง...เรื่องขนาดมหึมา ที่พอจะท้าทายความฉลาดปราดเปรื่องของผมได้
50