บทที่ 1
ทอมเหลือบมองข้ามไหล่ มองเห็นชายวัยกลางคนเดินออกจากบาร์ กรีน เคจ เดินมุ่งหน้าตรงมาหา เขาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ไม่ต้องสงสัยแล้ว ชายผูน้ สี้ ะกดรอยตามมา ทอมสังเกตเห็นมันเมือ่ ห้านาทีกอ่ นหน้านี้ มันนัง่ จ้องหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย...คล้ายจะมัน่ ใจได้เต็มทีแ่ ต่กย็ งั ไม่ชดั การ เขม้นจ้องเข้มข้นพอจะท�ำให้ทอมกระดกเหล้าที่เหลือ จ่ายเงิน ผลุนผลัน ออกจากบาร์เหล้า ทีห่ วั มุมตึก ทอมยืน่ หน้าพ้นเหลีย่ มตึก วิง่ เหยาะข้ามฟิฟตธ์ แอฟวนู, ยังมีบาร์ราอูล’ส จะยอมเสี่ยง กินเหล้าอีกแก้วหรือ? ยืดอกท้าทายชะตา กรรมหรือควรจะตัดข้ามพาร์ก แอฟวนู หาทางสลัดมันให้หลุดในซอก มุมมืดของทางเดินเข้าประตู?...ทอมเดินตรงเข้าไปในบาร์ราอูล’ส เขาเดินตรงไปยังเก้าอีส้ งู หน้าเคาน์เตอร์ สายตาสอดส่ายกวาดมองไป โดยรอบ มองหาใบหน้าทีเ่ คยคุน้ ชายร่างยักษ์หวั แดง ชือ่ จ�ำไม่เคยได้ นัง่ ที่โต๊ะมุมห้องกับสาวผมบลอนด์ เจ้าหัวแดงยกมือโบกทักทาย ทอมยกมือ ปวกเปียกตอบรับ เท้าข้างหนึง่ พาดข้ามเก้าอีส้ งู หมุนตัวมองท้าทายไปยัง ประตูทางเข้า วางท่าผ่อนคลายหากแต่พร้อมรบ “ยินโทนิก” ทอมหันไปบอกบาร์เทนเดอร์ 2
นี่หรือคือคนที่พวกมันส่งมาตามล่าตัวเขา? จริงหรือ? หรือไม่จริง? จริงหรือ? หน้าตาของมันไม่คล้ายต�ำรวจ ไม่มีเค้านักสืบเอกชน หน้าตา เหมือนนักธุรกิจ เหมือนพ่อใครสักคน แต่งตัวดี กินอิ่มท้อง ขมับมีผม สีดอกเลาแต้มประดับ ท่าทางลังเลไม่มั่นใจเต็มที่นัก คนประเภทนี้หรือที่ พวกมันส่งมาท�ำงานนี?้ แต่กไ็ ม่แน่นะ ชวนพูดคุยเรือ่ งไม่เป็นเรือ่ ง ยิม้ แย้ม แจ่มใส...ตูม! มือข้างหนึ่งวางกดบ่า อีกข้างควักตราต�ำรวจยกชิดติดตา... ทอม ริปลีย์ แกถูกจับแล้ว! ทอมจ้องมองประตูทางเข้าไม่วางตา นัน่ ไง, เข้ามาแล้ว ชายผูน้ นั้ กวาดสายตามองรอบห้อง จ้องมองหน้า ทอม เบือนหน้าไปทางอื่นทันที ถอดหมวกฟางออกมาถือในมือ เดินไป จับจองเก้าอี้ที่มุมโค้งของเคาน์เตอร์ พระเจ้าช่วย! มันต้องการอะไรของมันนะ? หรือว่าไอ้หมอนีเ่ ป็นพวก วิปริตทางเพศ ทอมยกเรื่องนี้มาคิดเป็นครั้งที่สอง สมองที่เค้นคิดมาอย่าง หนัก เปล่งศัพท์ค�ำนี้ออกมาในท้ายที่สุด ประหนึ่งว่าค�ำศัพท์จะเป็นคาถา ป้องกันตัวเองได้...เป็นพวกวิปริตทางเพศ ยังดีกว่าเป็นต�ำรวจ พวกวิปริต ทางเพศรับมือง่าย เพียงแค่บอกปัดปฏิเสธ “ไม่ละฮ่ะ, ขอบคุณนะฮ้า” ยิ้มให้ แล้วก็เดินหนี ก็สิ้นเรื่องแล้ว ทอมเลื่อนตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้สูง ตั้งท่าเตรียมพร้อม ทอมมองเห็นมันโบกมือให้บาร์เทนเดอร์รงั้ มือไว้กอ่ น มันเดินตรงมาหา เอาละ, ได้เรือ่ งแล้ว ทอมเบิง่ ตามอง ชาไปทัง้ ร่าง พวกมันลากตัวยัดข้อหา ให้เขาได้ไม่มากไปกว่าสิบปี โทษจ�ำคุกสิบห้าปี ไม่มากไปกว่านั้น หาก เป็นนักโทษความประพฤติเยี่ยม ก็พ้นโทษได้ในเวลาแค่...ชายผู้นั้นเผยอ ริมฝีปาก ทอมอกกลวง เสียใจว่าน่าจะตัดสินใจเลือกอีกทาง...สายเกินไป แล้ว “ขออภัย, คุณทอม ริปลีย์ใช่ไหมครับ?” “ครับ” “เฮอร์เบิร์ต กรีนลีฟ...พ่อของริชาร์ด กรีนลีฟ” ชายคนนั้นแนะน�ำ 3
ตัว สีหน้าสับสนยิ่งไปกว่าการดึงปืนมาจ่อหน้าเสียอีก ใบหน้านั้นแย้มยิ้ม เป็นมิตร และรอคอยคาดหวัง “...คุณเป็นเพื่อนของริชาร์ด ใช่ไหม?” เกร็ดข้อมูลเกาะติดต่อเชื่อมให้ความหมายเชื่องช้า...ดิกกี กรีนลีฟ หนุ่มร่างสูง ผมทอง หมอนี่มีเงิน ทอมจ�ำได้แล้ว “โอ...ดิกกี กรีนลีฟ... ใช่ครับ” “หวังว่าคุณคงจ�ำครอบครัวชไรเวอร์ได้นะ, ชาร์ลสกับมาร์ทา ชไร เวอร์ เป็นผู้เล่าเรื่องคุณให้ฉันได้ทราบ เอ้อ...เราหาที่นั่งคุยกันดีไหม?” “ครับ” ทอมตอบรับด้วยความเต็มใจ หยิบแก้วเครื่องดื่มของตน เดินตามชายผู้นั้นไปยังโต๊ะว่างมุมห้อง...ปลอดโปร่ง โล่งอก เป็นไทแก่ตัว แล้ว ! ไม่มีใครมาลากคอเข้าคุก กลายเป็นเรื่องอื่นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เรื่องอะไร ก็คงไม่เกี่ยวกับการวางเพลิงหรือการลักลอบเปิดอ่านจดหมาย หรือข้อหาชื่อแปลก ๆ ที่พวกมันจะตั้งได้ อาจเป็นไปได้ว่าดิกกีเข้าตาจน หรือว่ามิสเตอร์กรีนลีฟต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการค�ำปรึกษา ทอมรู้วิธีว่าควรจะพูดกับมนุษย์พ่อคนแบบมิสเตอร์กรีนลีฟอย่างไร “ฉันไม่แน่ใจว่าคุณคือทอม ริปลีย์หรือไม่” มิสเตอร์กรีนลีฟเอ่ย ขึ้น “...ฉันเคยเห็นคุณครั้งเดียว คงใช่นะ, ตอนนั้นคุณไปที่บ้านพร้อมกับ ริชาร์ด จริงไหม?” “คงเป็นตอนนั้น” “ครอบครัวชไรเวอร์ บรรยายหน้าตาของคุณ เราควานหาตัวคุณ เพราะชไรเวอร์อยากเชิญพวกเราไปพบกันทีบ่ า้ นเขา มีคนบอกว่าคุณมักจะ แวะไปที่บาร์กรีน เคจ นี่เป็นคืนแรกที่ฉันออกมาตามหาคุณ โชคดีอย่าง ไม่น่าเชื่อเลย” กรีนลีฟยิ้มกว้าง “...ฉันเขียนจดหมายถึงคุณด้วยนะ เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา จดหมายอาจไม่ถึงมือคุณ” “แย่จัง...” มาร์กไม่ได้ส่งจดหมายต่อไปให้, ไอ้เลว ถ้าอย่างนั้น ก็ น่าจะมีจดหมายของป้าด็อตตี จดหมายพร้อมกับเช็กจากป้าดอตตี “...ผม เพิ่งย้ายออกจากที่นั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว” ทอมกล่าวเสริม 4
“โอ, เข้าใจละ ในจดหมายก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ขอพบคุณและ คุยอะไรด้วยสักหน่อย ครอบครัวชไรเวอร์คดิ ว่าคุณรูจ้ กั ริชาร์ดเป็นอย่างดี” “ผมจ�ำเขาได้, ใช่ครับ” “แต่คณ ุ ก็ไม่ได้เขียนจดหมายติดต่อกัน?” เสียงนัน้ แสดงความผิดหวัง “ไม่ครับ, ผมไม่ได้เจอดิกกีมาหลายปีแล้ว” “ริชาร์ดไปท่องยุโรปราวสองปี ครอบครัวชไรเวอร์กล่าวชมคุณไว้มาก และคิดว่าคุณน่าจะจูงใจริชาร์ดได้ถา้ คุณเขียนจดหมายคุยกับเขา ฉันอยาก ให้รชิ าร์ดกลับบ้าน เขามีหน้าทีร่ บั ผิดชอบทีน่ ี่ แต่เท่าทีผ่ า่ นมา เขาไม่เคย ใส่ใจรับฟังสิ่งที่ฉันกับแม่พร�ำ่ บอกเขาเลย” ทอมงุนงง “...ครอบครัวชไรเวอร์คิดอย่างนั้นจริงหรือครับ?” “ก็ อ าจจะเกิ น จริ ง สั ก หน่ อ ย ชไรเวอร์ เชื่ อ ว่ า คุ ณ กั บ ริ ช าร์ ด เป็ น เพื่อนสนิทกัน ชไรเวอร์อาจคาดไปเองว่าคุณสองคนเขียนจดหมายคุยกัน มาตลอด แย่จัง, ตอนนี้ ฉันแทบจะไม่รู้จักเพื่อนของริชาร์ดเลย” เขา เหลือบมองแก้วเหล้าของทอมประหนึ่งว่าจะขอเลี้ยงเหล้าแก้วใหม่ แต่ แก้วนั้นยังไม่พร่อง ทอมย้อนคิดถึงการไปงานเลีย้ งค็อกเทลทีบ่ า้ นชไรเวอร์ ร่วมทางไปกับ ดิกกี กรีนลีฟ แน่นอนว่า ดิกกีสนิทกับครอบครัวชไรเวอร์ การแนะน�ำให้ รู้จักกันเริ่มต้นเช่นนั้น เขาไม่เคยพบหน้าค่าตาครอบครัวชไรเวอร์เกินกว่า สามหรือสี่ครั้งในชีวิต และน่าจะเป็นคราวท้ายสุดที่เขาสร้างความประทับ ใจให้แก่ชาร์ลส ชไรเวอร์ ในค�ำ่ คืนนั้น เขารับอาสาตรวจแบบยื่นเสียภาษี เงินได้ให้แก่ชาร์ลส...ผู้อ�ำนวยการรายการโทรทัศน์ บัญชีพวกรับจ้างผลิต รายการอิสระหละหลวมสิ้นดี ชาร์ลสคงคิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะเป็นแน่เมื่อ เขาหาค่าใช้จ่ายมาหักส่วนลดจนตัวเลขยื่นเสียภาษีตำ�่ กว่าจ�ำนวนที่ชาร์ลส ประเมินไว้แล้ว...ยื่นได้ตำ�่ ไม่ผิดกฎหมายเสียด้วย อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ เองทีช่ าร์ลสออกค�ำรับรองสูงส่งต่อมิสเตอร์กรีนลีฟ อาจจะจ�ำกัดความไว้วา่ ทอม ริปลียเ์ ป็นหนุม่ เฉลียวฉลาด สภาพจิตมัน่ คงสงบนิง่ ซือ่ สัตย์เป็นทีส่ ดุ 5
และพร้อมทีจ่ ะช่วยเหลือผูอ้ นื่ เต็มที.่ ..ค�ำนิยามผิดพลาดคลาดเคลือ่ นเล็กน้อย “คุ ณ พอจะทราบบ้ า งไหมว่ า มี เ พื่ อ นคนไหนของริ ช าร์ ด ที่ น ่ า จะมี อิทธิพลจูงใจเขาได้บ้าง?” ค�ำถามของมิสเตอร์กรีนลีฟเว้าวอนน่าสงสาร ก็ยังมีบัดดี แลนเคนอ แต่ก็ไม่บังควรโยนงานสาหัสแบบนี้ให้บัดดี “เกรงว่า...จะไม่มีครับ” ทอมสั่นศีรษะ “...แล้วท�ำไมดิกกีไม่กลับบ้านล่ะ ครับ?” “เขาบอกว่าชอบชีวิตทางโน้น แต่แม่ก็ป่วยหนัก...แต่นั่นละ เป็น ปัญหาภายในครอบครัว ฉันเสียใจทีน่ ำ� เรือ่ งรกหูมาเล่าให้คณ ุ ฟัง” มิสเตอร์ กรีนลีฟยกมือขึ้นกุมพุ่มผมบางสีดอกเลาที่หวีเรียบ ท่าทางหดหู่สิ้นหวัง “เขาบอกว่าเขาสนุกกับการเขียนภาพ ซึ่งก็ไม่มีพิษมีภัยอะไร เพียงแต่ว่า เขาไม่มีฝีมือพอจะเป็นจิตรกรได้ จริงๆ แล้ว ริชาร์ดมีพรสวรรค์เรื่องการ ออกแบบเรือนะ ขอเพียงทุ่มความสนใจหน่อย ผลงานออกมาเป็นเลิศ เชียว” กรีนลีฟเงยหน้าขึ้นเมื่อบริกรเดินเข้ามาสอบถาม “...สก็อตช์โซดา, ได้โปรด, เดวาร์ แล้วของคุณล่ะ?” “ยังครับ, ขอบคุณ” ทอมตอบ มิสเตอร์กรีนลีฟมองทอมด้วยสายตาขออภัย “คุณเป็นเพื่อนของริ ชาร์ดคนแรกทีเ่ ต็มอกเต็มใจรับฟังปัญหาของฉัน พวกนัน้ มักจะมองฉันด้วย สายตาแปลกๆ กล่าวหาว่าฉันเข้าไปยุ่มย่ามบงการชีวิตของริชาร์ด” ทอมเข้าใจมุมมองนั้นได้ไม่ยากนัก “ผมได้แต่หวังว่าผมพอจะช่วย อะไรได้บ้าง” ทอมกล่าวด้วยอาการสุภาพ เขานึกได้ว่าเงินของดิกกีได้มา จากบริษทั ต่อเรือ...เรือใบขนาดเล็ก ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าท�ำไมบิดาจึงต้องการ ให้ดิกกีกลับบ้าน มารับช่วงธุรกิจครอบครัวไปสานต่อ ทอมยิ้มให้มิสเตอร์ กรีนลีฟโดยไม่มคี วามนัยใดๆ ยกแก้วขึน้ ดืม่ จนหมด ทอมเลือ่ นตัวมาทีข่ อบ เก้าอี้ พร้อมจะลุกขึน้ ยืน เดินจากไป แต่เค้าหน้าผิดหวังหดหูเ่ ศร้าสร้อยที่ ส่งข้ามโต๊ะมา เข้มข้นจนแทบจะกลัน่ เป็นหยด “เขาพักอยูท่ ไี่ หนในยุโรป?” ทอมสอบถาม ไม่สนใจห่ะว่ามันจะพักอยู่ที่ไหน 6
“หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ มอนจิเบลโล ทางใต้ของเนเปิลส์ เล็กจนไม่มี แม้แต่หอ้ งสมุด เขาเขียนมาบอกเช่นนัน้ ริชาร์ดซือ้ บ้านหลังเล็กๆ อยูท่ นี่ นั่ ใช้เวลาส่วนใหญ่แล่นเรือใบ ไม่งั้น ก็วาดรูป ริชาร์ดมีเงินได้ส่วนตัวก้อน หนึ่ง ไม่มากนัก แต่ก็พอจะจับจ่ายใช้สอยใช้ชีวิตอยู่ในอิตาลีได้ไม่ล�ำบาก นัก ก็นนั่ ละ, แต่ละคนก็มรี สนิยมความชอบของตัวเอง ฉันเองไม่รเู้ หมือน กันว่าหมู่บ้านเล็กๆ แบบนั้น จะน่าอยู่ที่ตรงไหน” มิสเตอร์กรีนลีฟดู เหมือนจะใจชื้นขึ้นมา ยิ้มเปิดเผยให้ทอม “ฉันขอเลี้ยงเหล้าคุณสักแก้ว จะได้ไหม, คุณริปลีย?์ ” เขาหันมาถามเมือ่ บริกรยกแก้วสก็อตช์โซดามาให้ ทอมอยากจะลาจาก แต่ก็ไม่อยากเห็นมนุษย์คนไหนนั่งจิบเหล้าแก้ว ใหม่เต็มแก้วตามล�ำพัง “ขอบคุณครับ, อีกสักแก้วเถอะ” เขายื่นแก้วให้ บริกร “ชาร์ลี ชไรเวอร์บอกฉันว่าคุณท�ำงานให้บริษทั ประกันภัย” กรีนลีฟ ชวนคุย หน้าตาแย้มยิ้ม “นั่นเป็นงานก่อนครับ ตอนนี้ผม...” ทอมไม่อยากบอกว่า ขณะนี้ เขาท�ำงานในแผนกสรรพากรเขต ยังไม่ควรบอกในตอนนี้ “...ผมท�ำงาน ในฝ่ายบัญชีของบริษัทโฆษณาครับ” “โอ?” นิ่งงันไปชั่วครู่ สายตาของมิสเตอร์กรีนลีฟเพ่งจ้องมองเขาไม่วางตา แววตาหิวโหยเว้าวอน ทอมเสียใจที่ไปรับเลี้ยงเหล้าอีกแก้ว จะให้เขายก เรื่องราวใดมาพูดคุยได้เล่า? “...ปีนี้ดิกกีอายุเท่าไหร่แล้วครับ?” “ยี่สิบห้า” อายุเท่ากัน ทอมคิดในใจ ดิกกีน่าจะสนุกสุดเหวี่ยง ใช้ชีวิตตาม ล�ำพังที่โน่น รายได้ส่วนตัว, มีบ้าน, มีเรือใบ แล้วท�ำไมมันอยากจะกลับ บ้านด้วยล่ะ? ภาพใบหน้าของดิกกีปรากฏชัดขึ้นในใจทีละน้อย ดิกกีมียิ้ม รื่นเริงเปิดเผย ผมบลอนด์หยักศก หน้าระรื่นขี้เล่น ดิกกีเป็นหนุ่มโชค ดี อายุก็ยี่สิบห้าเท่ากัน แล้วก็ดูสิว่าเขาต้องใช้ชีวิตอย่างไร? อดมื้อกินมื้อ 7
อยู่สัปดาห์ชนสัปดาห์ ไม่มีบัญชีเงินฝาก ต้องหลบหน้าหลบตาต�ำรวจเป็น ครั้งแรกในชีวิต จริง, เขามีพรสวรรค์เชิงคณิตศาสตร์ มีแล้วเป็นไง? เก่ง คณิตศาสตร์แล้วท�ำเงินได้อย่างนัน้ หรือ? จะหาเงินได้จากทีไ่ หน? ทอมเพิง่ ตระหนักว่ามัดกล้ามเนื้อทั่วร่างเขม็งตึง แผงไม้ขีดถูกบดขยี้จนแทบจะป่น เป็นผง เขาเบื่อถึงขนาด เบื่อห่ะริ-ยเลย อยากกลับไปนั่งที่เก้าอี้สูงหน้า เคาน์เตอร์...ตามล�ำพัง ทอมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่ “ผมยินดีจะเขียนจดหมายไปคุยกับ ดิกกี ถ้าคุณจะจดที่อยู่ให้” เขาพูดเร็วปรื๋อ “...เขาน่าจะจ�ำผมได้ เราไป งานปาร์ตที ลี่ อง ไอส์แลนด์ดว้ ยกัน ผมกับดิกกีออกไปหาหอยลาย เก็บได้ มากพอจะเอามาต้มเป็นอาหารเช้า” ทอมยิม้ กว้าง “...ดูเหมือนจะมีบางคน ท้องเสียนะครับ งานปาร์ตคี ราวนัน้ ไม่ใคร่สนุกนัก แต่กพ็ อจะจ�ำได้วา่ ดิกกี พูดถึงการเดินทางไปยุโรป เขาน่าจะออกเดินทางไปยุโรปหลังงานปาร์ตี วันนั้นไม่นาน...” “ใช่แล้ว, ฉันจ�ำได้” มิสเตอร์กรีนลีฟแทบจะตะโกนออกมา “นัน่ เป็น วันสุดสัปดาห์ทา้ ยสุดก่อนริชาร์ดจะออกเดินทาง ฉันคิดว่าเขาเล่าเรือ่ งหอย ลายให้ฟังนะ” เสียงหัวเราะของมิสเตอร์กรีนลีฟดูเหมือนจะดังจนเกินงาม “ผมไปทีอ่ พาร์ตเมนต์ของคุณบ่อยเหมือนกัน” ทอมชักจะสนุกไปด้วย “...ดิกกีเอาแบบจ�ำลองของเรือออกมาอวดด้วย แบบจ�ำลองทีเ่ ขาวางไว้บน โต๊ะในห้องของเขา” “นั่นเป็นแค่ผลงานเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก” มิสเตอร์กรีนลีฟหน้าบาน ตาเป็นประกาย “...เขาเอาแบบจ�ำลองที่ใส่กรอบแล้วมาให้ดูหรือเปล่า หรือว่าพิมพ์เขียวที่เขาเป็นคนวาด?” ดิกกีไม่สนิทกับเขาถึงระดับพิมพ์เขียว แต่ทอมก็ตอบด้วยใบหน้าแย้ม ยิ้ม “แน่นอนครับ, ลายเส้นละเอียด ตีสเกลแม่นย�ำ น่าตื่นตาตื่นใจเป็น ที่สุด” ทอมไม่เคยเห็นพิมพ์เขียวฝีมือของดิกกี แต่ก็เริ่มมองเห็นภาพได้ ชัดในใจ พิมพ์เขียวของมืออาชีพ ทุกเส้นทุกหมุด มีลูกศรโยงชี้บรรยาย 8
รายละเอียดไว้ครบถ้วน เขามองเห็นดิกกีกางพิมพ์เขียวออกอวดด้วยใบหน้า ยิม้ แย้ม...จะให้เขาบรรยายรายละเอียดให้มสิ เตอร์กรีนลีฟฟัง ก็นา่ จะพ่นได้ ยืดยาวหลายนาที ทอมหักห้ามใจตัวเอง “จริงด้วย, ริชาร์ดมีพรสวรรค์ในด้านการออกแบบ” มิสเตอร์กรีน ลีฟผงกศีรษะยอมรับกับตนเองด้วยความพึงพอใจยิ่ง “ผมคิดเช่นนั้นเช่นกัน” ทอมสนองรับ ความเบื่อในใจสับเฟืองเข้า เกียร์สูง ทอมรู้จักความรู้สึกเช่นนั้นดี บางคราวก็เกิดขึ้นในช่วงอยู่กลาง งานปาร์ตี ส่วนใหญ่แล้ว มักจะเกิดขึ้นในตอนนั่งกินอาหารเย็นกับคนที่ เขาไม่น่าจะไปนั่งร่วมโต๊ะตั้งแต่แรก...ค�่ำคืนสุดแสนทรมาน ยืดยาวจนดู เหมือนว่าจะไม่มวี นั จบสิน้ ในห้วงบรรยากาศเช่นนี้ เขาพอจะวางท่าสุภาพ ได้อีกชั่วโมงเต็มๆ ก่อนที่ความรู้สึกในใจจะระเบิด ส่งเขาวิ่งหนีออกพ้น ประตู “...ผมเสียใจด้วยครับ ตอนนี้ ผมยังไม่ว่างนัก หากเป็นไปได้ ผม อยากจะเดินทางไปพบดิกกีทอี่ ติ าลีดว้ ยตัวเอง ไปพบพูดคุยกันเผือ่ ว่าผมจะ อ้อนวอนให้เดินทางกลับบ้านได้ ผมเชื่อว่าน่าจะพอจูงใจให้ดิกกีคล้อยตาม ได้บ้าง” ทอมพูดออกมายืดยาว พูดในถ้อยค�ำที่มิสเตอร์กรีนลีฟประสงค์ จะได้ยินกับหู “คุณพูดจริงหรือเปล่าครับ? ฉันไม่รแู้ น่วา่ คุณวางแผน มีก�ำหนดการ จะเดินทางไปเยือนยุโรปหรือเปล่า?” “ตอนนี้ยังครับ” “ดิกกีเชื่อค�ำพูดของเพื่อนเสมอ หากคุณหรือเพื่อนคนอื่นๆ พอจะ ปลีกตัวหาวันหยุดได้ ฉันอยากจะส่งไปคุยกับริชาร์ดที่โน่นเลย ฉันเชื่อว่า น่าจะคุยกันรูเ้ รือ่ งกว่าทีฉ่ นั จะเดินทางไปด้วยตนเอง...เอ้อ...จะเป็นไปได้ไหม ว่าคุณจะลาพักร้อนในช่วงนี้...พอจะมีวันลาหยุดเหลืออยู่บ้างไหมครับ?” มิสเตอร์กรีนลีฟกระหืดกระหอบถาม หัวใจของทอมแทบจะกระดอนหลุดออกจากปาก ใบหน้าของเขา แสดงอาการครุน่ คิดตรึกตรอง แต่ในใจได้กลิน่ โอกาสทอง กระโจนเข้าขย�ำ้ 9
ก่อนสมองจะทันได้ประมวลผล...งานปัจจุบนั : ว่างงาน เขาอาจจะต้องหนี หน้าไปจากเมืองนีใ้ นไม่ชา้ อยากจะออกไปให้พน้ จากนิวยอร์ก “...ก็มที าง เป็นไปได้ครับ” ทอมพูดเชื่องช้า ประหนึ่งว่าต้องการเวลาไตร่ตรองถี่ถ้วน ประเมินความหนักเบาของเกร็ดข้อมูลนับร้อยนับพันที่จะเป็นอุปสรรคต่อ การลาพักร้อน “หากคุณสะดวกที่จะออกเดินทางได้ ฉันพร้อมที่จะรับผิดชอบค่าใช้ จ่ายทั้งหมด คงไม่ต้องเถียงกันในเรื่องนั้น คุณคิดว่าพอจะจัดการได้ไหม ครับ? จะเป็นไปได้ไหมในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้?” มิสเตอร์กรีนลีฟส�ำทับ ตอนนี้กลางเดือนกันยายนเข้าไปแล้ว ทอมเหม่อจ้องแหวนประทับ ตรา แหวนทองลายลบเลือนบนนิว้ ก้อยของมิสเตอร์กรีนลีฟ “คิดว่าน่าจะ ไม่มปี ญ ั หาอะไรนะครับ ผมดีใจทีจ่ ะได้เจอดิกกีอกี ครัง้ ...โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้าคุณเชื่อว่าผมพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง” “โอ, ช่วยได้มากทีเดียวครับ ฉันคิดว่าริชาร์ดจะต้องฟังคุณ ยิ่งคุณ ไม่สนิทกับเขาเท่าไหร่ หากคุณยืนยันหนักแน่นว่าเขาควรจะกลับบ้าน เขา ก็นา่ จะให้นำ�้ หนักต่อค�ำพูดของคุณ เขาทราบดีวา่ คุณไม่มผี ลประโยชน์ใด ๆ ที่จะชวนให้เขากลับบ้าน จะยิ่งเชื่อค�ำพูดของคุณ” มิสเตอร์กรีนลีฟถอน หายใจด้วยความโล่งอก เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผงกศีรษะจ้องทอม ริปลีย์ ด้วยความมั่นใจ “...ก็ตลกดีนะ จิม เบิร์กกับภรรยาของเขา จิมเป็นหุ้น ส่วนของฉันเอง ในคราวที่สองสามีภรรยาเดินทางผ่านมอนจิเบลโล ปีที่ แล้ว ลงเรือส�ำราญพักร้อน ริชาร์ดให้สัญญาว่าจะเดินทางกลับบ้านเมื่อ ฤดูหนาวเริม่ มาเยือน...ฤดูหนาวปีทแี่ ล้ว จิม เบิรก์ หมดหวัง เหลวตามเคย เด็กหนุม่ อายุยสี่ บิ ห้า มีหรือจะไปเชือ่ ค�ำพูดของคนแก่อายุหกสิบ? คุณอาจ ท�ำได้ส�ำเร็จในเรื่องที่คนแก่แบบพวกเราล้มเหลว!” “ผมก็หวังเช่นนั้น” ทอม ริปลีย์ตอบถ่อมตัว “ดื่มอีกสักแก้ว, ดีไหม? สั่งบรั่นดีมาล้างคอกันสักแก้ว”
10
บทที่ 2
เวลาผ่านคล้อยหลังเที่ยงคืนในตอนที่ทอมเดินกลับบ้าน มิสเตอร์ กรีนลีฟอาสาให้แท็กซี่มาส่งลงหน้าบ้าน แต่ทอมก็ไม่อยากให้ทราบว่าเขา พ�ำนักอยูท่ ไี่ หน...ห้องโกโรโกโส ตึกสีนำ�้ ตาลเก่าคร�ำคร่าระหว่างถนนสายที่ สามตัดกับสายทีส่ อง มีปา้ ย ห้องว่างให้เช่า ติดหราอวดหน้าตึก ช่วงสอง สัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมา ทอมอาศัยร่วมห้องกับบ็อบ เดแลนซีย์, หนุ่มที่เขา แทบไม่รู้จัก แต่บ็อบเป็นเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มเพื่อนของทอมในนิวยอร์ก ผู้ออกปากชวนให้มาพักร่วมห้องในยามที่เขาไม่มีที่ซุกหัวในมหานครใหญ่ ทอมไม่เคยชวนเพื่อนมาที่บ้านของบ็อบ และไม่มีวันจะบอกใครว่าเขา อาศัยอยูก่ บั บ็อบ ข้อดีของการพักในห้องของบ็อบก็คอื เขารับจดหมายใน ชื่อของจอร์จ แม็กคัลพินได้โดยไม่มีทางตรวจจับโยงมาถึงตัวเขาได้ง่ายนัก แต่หอ้ งส้วมปลายทางเดินทีส่ ง่ กลิน่ เหม็นคลุง้ ประตูทไี่ ม่มกี ลอน และห้อง โล่ง ห้องเดี่ยวหย�ำเหยอะที่มีร่องรอยของผู้คนนับพันแวะเวียนมาหยุดพัก ทิง้ ความโสโครกไม่นา่ เชือ่ ไว้เบือ้ งหลัง ไม่มแี ม้นวิ้ เดียวทีจ่ ะกระดิกยกขึน้ มา ท�ำความสะอาด กองหนังสือ โวก และ ฮาร์เปอร์’ส บาซาร์ เลื้อยเป็น หางบนพืน้ ห้อง รายล้อมโถแก้วขุน่ ฝ้าล�ำ้ สมัย วางกระจายเกลือ่ นไปทัว่ ห้อง ในโถมีเส้นเชือก ดินสอ ก้นบุหรี่และผลไม้เน่าบรรจุจนล้นปรี่ บ็อบเป็น 11
ช่างศิลป์อสิ ระ รับจ้างตกแต่งหน้าต่างร้านค้าและห้างสรรพสินค้า งานเป็น ครัง้ คราวทีห่ ล่นเข้ามาในมือ จะเป็นการตกแต่งหน้าต่างร้านเครือ่ งเรือนเก่า ในย่านถนนสายที่สาม โถแก้วขุ่นฝ้าพวกนี้ น่าจะเป็นค่าจ้างในยามที่เก็บ เงินสดไม่ได้ ทอมตกตะลึงแทบจะหยุดหายใจเมือ่ เห็นความโสโครกของห้อง ในคราวแรกสุด และตกตะลึงจนแทบขาดใจเมือ่ ได้เห็นประจักษ์ตาว่า บน โลกนี้ยังมีคนใช้ชีวิตโสโครกแบบนี้อยู่จริง เขาไม่เคยเห็นคนใช้ชีวิตโสโครก แบบนี้ เขาย้ายเข้ามาพักในห้อง และมั่นใจว่า เขาคงไม่อาศัยอยู่ในห้องนี้ นานนัก บัดนี้ มิสเตอร์กรีนลีฟโผล่มาให้เห็น จะต้องมีโอกาสอันงามโผล่ มาในชีวิต...นั่นเป็นปรัชญาชีวิตของทอม ริปลีย์ ก่อนที่เขาจะย่างเท้าก้าวขึ้นบันไดหินสีน�้ำตาล ทอมหันไปมองซ้าย มองขวา ไม่มีสิ่งผิดปกติ มีเพียงหญิงชราพาหมาออกมาเดินเล่น ชาย แก่งุ่มง่าม เดินหลังโกงมาจากถนนสายที่สาม หากจะมีความรู้สึกใดที่เขา เกลียดจับจิต ก็คงเป็นความรู้สึกที่มีคนเกาะหลัง แกะรอยตามกลิ่นมาก ระชั้น...ใครก็ช่าง เกลียดทั้งนั้น ระยะหลัง ความรู้สึกนั้นเข้มข้นรุนแรง ทอมวิ่งขึ้นบันได ขยะโสโครกส่งกลิน่ บาดจมูกรุนแรงยิง่ นัก ภาพทีเ่ ห็นชวนให้รงั เกียจ ยากจะทานทน ในทันทีที่เขาได้พาสปอร์ต เขาจะลงเรือเดินสมุทร ออก เดินทางมุ่งหน้าไปยุโรป...น่าจะได้ตั๋วชั้นหนึ่ง มีบริกรสวมถุงมือขาว ถือ ถาด หลังค้อมพินอบพิเทา ส่งอาหารมาให้ในทันทีทเี่ ขากดกริง่ เรียก หรือ จะเป็นการสวมสูทหรูเต็มยศ เดินอกผายไหล่ผงึ่ เข้าไปในห้องดินเนอร์กว้าง ใหญ่ไฟสว่างละลานตา ค้อมศีรษะทักทายผูค้ นไปตลอดทางด้วยมาดสุภาพ บุรุษ เขาน่าจะปรบมือแสดงความยินดีกับตนเองในค�่ำคืนนี้ เขาวางตัวให้ เหมาะสมน่าชมเชย มิสเตอร์กรีนลีฟไม่น่าจะสะดุดความรู้สึกว่าเขาวิงวอน ขอตั๋วโดยสารเดินทางไปยุโรป ในทางตรงกันข้าม มิสเตอร์กรีนลีฟเป็นผู้ อ้อนวอน...ทอม ริปลีย์จะไม่ทำ� ให้คุณกรีนลีฟผิดหวัง เขาจะพยายามสุด ความสามารถในการชักจูงดิกกีให้เดินทางกลับบ้าน มิสเตอร์กรีนลีฟเป็น 12
คนใจงาม และเชื่อมั่นเต็มอกว่าชาวโลกทั้งมวลจะเป็นคนดีมีนำ�้ ใจดุจกัน ทอมแทบจะลืมไปแล้วว่ามีคนเช่นนี้หลงเหลืออยู่บนโลกนี้ ทอมเปลื้องสูทออกเชื่องช้า รูดปมเน็กไท สายตาจับจ้องทุกการ เคลือ่ นไหวของตนเองประหนึง่ ว่าก�ำลังมองจ้องการเคลือ่ นไหวของผูอ้ นื่ เขา ประหลาดใจที่ได้เห็นท่ายืนหลังตรงผึ่งผายยิ่งไปกว่าภาพเมื่อหลายวันก่อน ใบหน้าของเขาขณะนีฉ้ ายประกายเชื่อมั่นในตนเองเต็มเปี่ยม ใบหน้ามีสง่า ราศีแปลกตา ค�่ำคืนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คืนที่เขารู้สึกพึงใจในตนเองอย่างหา ที่เปรียบมิได้ ทอมยื่นมือเข้าไปในตู้แขวนเสื้ออัดแน่นของบ็อบ ออกแรง ดันสุดตัวเพื่อกันที่ว่างให้สูทของเขา จากนั้น เดินเข้าไปในห้องน�้ำ ฝักบัว ขึ้นสนิมส่งพวยน�ำ้ เฉไปกระทบม่านพลาสติก อีกสายยิงขึ้นผนังจนแทบจะ ไม่มหี ยดน�้ำพอท�ำให้ตวั เปียกได้...แต่กย็ งั ดีกว่าการนัง่ อาบน�้ำในอ่างสกปรก จนแทบไม่อยากก้มลงมอง เมือ่ ทอมตืน่ ขึน้ มาในตอนเช้า บ็อบไม่อยูใ่ นห้อง เพียงเหลือบมองไป ยังอีกเตียงที่มุมห้อง ก็ทราบว่าบ็อบไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน ทอมกระโดดลง จากเตียง เดินไปยังเตาแก๊ส ตัง้ น�ำ้ ต้มกาแฟ...บ็อบไม่กลับบ้านก็ถอื เป็นเรือ่ ง สุดวิเศษ เขาไม่อยากเล่าให้บอ็ บได้รบั ทราบเรือ่ งการเดินทางไปยุโรป พวก คนโซกลุ่มนี้ จะต้องเดาได้ไม่ยากว่าเป็นของฟรี แล้วก็ยังมีเอ็ด มาร์ติน, เบิรต์ เวสเซอร์และคนโซคนอืน่ ๆ ทีเ่ ขารูจ้ กั ...เขาจะไม่บอกพวกคนโซพวกนี้ จะไม่ให้พวกมันทราบเรือ่ งและแห่กนั ไปส่ง ทอมผิวปากส�ำราญใจ ค�ำ่ คืนนี้ เขาได้รบั เชิญให้ไปดินเนอร์ทอี่ พาร์ตเมนต์ของครอบครัวกรีนลีฟ ในย่านหรู ของคนรวยบนถนนพาร์ก แอฟวนู อีกสิบห้านาทีถัดมา อาบน�้ำ โกนหนวดเกลี้ยงเกลา และสวมสู ทกับเน็กไทลายทาง ที่น่าจะดูดีในรูปถ่ายติดพาสปอร์ต ทอมเดินพล่าน กลับไปกลับมา ถือกาแฟด�ำในมือ ยกขึ้นจิบเป็นระยะ รอคอยเมล์เที่ยว เช้า หลังจากได้รบั จดหมายแล้ว ก็คงไปทีเ่ รดิโอซิตี จัดการเรือ่ งพาสปอร์ต ให้เสร็จสิน้ แล้วตอนบ่ายจะท�ำอะไรดี? น่าจะแวะไปงานนิทรรศการศิลปะ 13
จะได้มีเรื่องยกมาพูดคุยกับเจ้าของบ้านได้ หรือว่าควรจะไปค้นข้อมูลของ บริษัทกรีนลีฟ-เบิร์ก วอเตอร์คราฟต์? มิสเตอร์กรีนลีฟจะได้ประทับใจว่า เขาสนใจในธุรกิจนั้น เสียงปิดฝาตู้จดหมายได้ยินแว่วผ่านหน้าต่าง ทอมเดินลงมาชั้นล่าง รอคอยจนกว่าเสียงฝีเท้าของบุรุษไปรษณีย์เดินลงบันไดหินหน้าตึก และ เดินหายลับไปแล้ว เขาเลือกจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงจอร์จ แม็กอัลพิน ฉีกเปิดซอง...นั่นไง, มีเช็กแนบมาในจดหมาย สั่งจ่ายเงินจ�ำนวนหนึ่งร้อย สิบเก้าเหรียญกับอีกห้าสิบสี่เซ็นต์ ในนามเจ้าหน้าที่สรรพากร มิสซิสอีดิธ ดับเบิลยู. ซูเปรอว์ ผู้ว่าง่าย จ่ายแต่โดยดี ไม่มีเสียงครางหงิง ไม่มีแม้ โทรศัพท์มาสอบถามยืนยัน น่าจะเป็นลางดีสำ� หรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทอมวิ่งกลับขึ้นชั้นบน ฉีกซองจดหมายของมิสซิสซูเปรอว์ทิ้งลงถังขยะ เขาเก็บเช็กของเธอไว้ในซองสีนำ�้ ตาล ในกระเป๋าเสื้อนอกตัวหนึ่ง แขวนในตู้เสื้อผ้า...เพิ่มจ�ำนวนเงินสุทธิเป็นหนึ่งพันแปดร้อยหกสิบสาม เหรียญกับสิบสี่เซ็นต์ บวกเลขง่ายดายด้วยการคิดในใจ...น่าเสียดายที่เอา เช็กไปขึน้ เงินไม่ได้ เท่าทีผ่ า่ นมา ไม่มไี อ้หน้าโง่คนไหนยอมจ่ายเป็นเงินสด หรือสัง่ จ่ายเช็กในนามจอร์จ แม็กอัลพิน ทอมมีบตั รประจ�ำตัวของพนักงาน ส่งเอกสารของธนาคาร เก็บตกได้ มีวันที่ออกบัตร ซึ่งเปลี่ยนได้ไม่ยาก น่าจะเปลี่ยนชื่อและปลอมลายเซ็นได้ แต่ก็เกรงว่าจะไม่แนบเนียนพอจะ ผ่านการตรวจสอบ ไม่น่าจะเสี่ยงน�ำเอกสารปลอมไปเป็นหลักฐานในการ ขึน้ เงินเช็ก แม้จะปลอมใบมอบอ�ำนาจจากแผนกสรรพากรยืนยันไปอีกฉบับ ก็ตามที เช็กทัง้ หมดทีอ่ ยูใ่ นซองจึงกลายเป็นแต่เพียงฝันหวานตลกร้าย...การ ส�ำแดงฝีมือให้ประจักษ์ เขาไม่ได้ขโมยเงินจากใคร ไม่ได้รีดเงินใคร ก่อน จะเดินทางไปยุโรป ทอมคิดในใจ น่าจะท�ำลายเช็กทั้งหมดให้สิ้นซาก ยังมีชอื่ บุคคลน่าเล่นอีกเจ็ดคนในรายการ ไม่ลองเล่นสักรายดูทหี รือ ในช่วงสิบวันก่อนการเดินทาง? ในตอนทีเ่ ดินกลับบ้านในคืนทีผ่ า่ นมา หลัง จากพูดคุยกับกรีนลีฟแล้ว เขาคิดว่าหากมิสซิสซูเปรอว์และคาร์ลอส เดอ 14
เซวิญญายอมจ่ายแต่โดยดี ก็จะถือเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน...ชิชะ, คาร์ลอส เดอ เซวิญญายังดื้อรั้น น่าจะกระทุ้งให้ตื่นตระหนกด้วยการโทรฯ ไปย�้ำ ให้ทราบถึงมหิทธานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง มิสซิสอีดิธ ดับเบิลยู. ซูเปรอว์จ่ายเงินง่ายเกินไป...น่าจะลองเล่นดูอีกสักราย ทอมหยิบกล่องสีแดงม่วงออกจากกระเป๋าเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า ในนั้น มีกระดาษเขียนจดหมายซ้อนเป็นปึก ด้านล่างเป็นกระดาษหัวจดหมาย แผนกสรรพากร ซึ่งฉกมาในตอนที่เป็นเสมียนห้องพัสดุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน มา ล่างสุดเป็นรายชื่อของบุคคลน่าเล่นที่เลือกสรรมาแล้ว...คนพวกนี้จะ ต้องอาศัยอยู่ในเขตบรองซ์หรือบรูกลิน ไม่น่าจะพิสมัยการเดินทางมาจ่าย เงินในส�ำนักงานเขตสรรพกรในนิวยอร์กด้วยตนเอง จะต้องเป็นผูป้ ระกอบ อาชีพอิสระ, นักเขียน, จิตรกร, ศิลปิน พวกที่ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้ และต้องมีรายได้อยูร่ ะหว่างเจ็ดพันถึงหนึง่ หมืน่ สองพันเหรียญต่อปี คน ที่อยู่ในย่านรายได้นี้คงไม่ว่าจ้างมืออาชีพมาค�ำนวณภาษีเงินได้ให้...แต่ก็มี รายได้มากพอที่จะถูกตั้งข้อกล่าวหาอย่างสมเหตุสมผลว่า หักค่าใช้จ่ายผิด ประเภท ‘สักสองร้อยหรือสามร้อยเหรียญ’ เอาละ, มีใครบ้างนะ? วิล เลียม เจ. สแลตเตอเรอร์, นักเขียนบทความในหนังสือพิมพ์; ฟิลิป โร บิลลาร์ด, นักดนตรี; ฟรีดา โฮห์น, นักเขียนภาพประกอบ; โจเซฟ เจ. เจนนารี, ช่างภาพ; เฟรเดอริก เรดดิงตัน, การ์ตนู นิสต์; แล้วก็ฟรานเซส คาร์เนจิส...ทอมมีสังหรณ์ในตัวของเรดดิงตัน หมอนี่เป็นนักเขียนการ์ตูน น่าจะไม่รู้เหนือรู้ใต้เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ทอมเลือกแบบฟอร์มที่มีหัวข้อ แจ้งความผิดพลาดในการค�ำนวณ ภาษีเงินได้ สอดแผ่นกระดาษคาร์บอนรองซ้อนหลัง คัดลอกข้อมูล การยื่นแบบเสียภาษีของเรดดิงตันลงในแบบฟอร์ม: รายได้พึงประเมิน 11,250 เหรียญ เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี: 1 ส่วนลดหย่อน: 600 เหรียญ เครดิต: ศูนย์ เงินคืนภาษี: ศูนย์ ดอกเบี้ย: ทอมชะงักชั่วครู่ 2.16 เหรียญ ยอดค้างช�ำระ: 233.76 เหรียญ จากนั้น ก็ดึงกระดาษ 15
พิมพ์ดีดที่มีหัวจดหมายของแผนกสรรพากร ที่อยู่บนถนนเล็กซิงตัน จาก กล่องกระดาษคาร์บอน ปากกาขีดฆ่าที่อยู่ทิ้งด้วยเส้นปาดครั้งเดียว พิมพ์ ข้อความลงไปด้านล่าง เรียนท่านที่นับถือ, เนือ่ งจากเหตุขดั ข้องของระบบจัดเก็บเอกสารในส�ำนักงานย่อยถนนเล็กซิงตัน ขอความกรุณาส่งค�ำตอบของท่านมายังที่อยู่ ใหม่ ส่วนเบี้ยปรับภาษี จอร์จ แม็กอัลพิน 187 ถนนสายที่ 51 ตะวันออก นิวยอร์ก22, นิวยอร์ก ขอขอบคุณ ราลฟ์ เอฟ. ฟิชเชอร์ หัวหน้ากองเบี้ยปรับภาษี
ทอมตวัดลายเซ็นพันม้วนอ่านไม่เป็นตัว น�ำแบบฟอร์มวางเก็บรวม กันไว้ในกล่อง เผื่อบ็อบจะโผล่พรวดพราดเข้ามากะทันหัน หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา เขาตัดสินใจจะกระทุ้งมิสเตอร์เรดดิงตันให้ตระหนกเป็นการเรียก น�้ำย่อยเสียก่อน หมายเลขโทรศัพท์ได้จากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแผนก สรรพากร ไม่พลาดอยู่แล้ว มิสเตอร์เรดดิงตันอยู่บ้าน ทอมอธิบาย สถานการณ์ให้ฟังคร่าว ๆ น่าแปลกเหลือเกินที่คุณเรดดิงตันยังไม่ได้รับ ใบแจ้งให้เสียค่าปรับภาษี จากส่วนเบี้ยปรับภาษี “ส่งเอกสารและรายละเอียดมาให้แล้วนะครับ เมื่อสองสามวัน ก่อน” ทอมกรอกเสียงลงไป “...คุณน่าจะได้รับวันนี้ หรือไม่ก็วันพรุ่งนี้ ระบบเอกสารที่นี่ขัดข้องยังสางไม่ออกเลยครับ” “ผมจ่ายภาษีแล้วนะ” เสียงจากปลายสายตื่นตระหนก “...ยื่นไป 16
แล้ว เสียเงินครบ...” “เรื่องปกติธรรมดาครับ ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ ประกอบอาชีพอิสระทีไ่ ม่มกี ารหักภาษี ณ ทีจ่ า่ ยไว้ เราตรวจสอบแบบยืน่ เสียภาษีเงินได้ของคุณอย่างถี่ถ้วนแล้วนะครับ, คุณเรดดิงตัน ตัวเลขต่าง กันแน่ๆ ผมไม่อยากจะกล่าวโทษว่าเป็นเจตนาของผูว้ า่ จ้างหรือตัวแทนของ คุณนะครับ...” ทอมกรอกเสียงหัวเราะอารมณ์ดี ปลอบประโลม ซึง่ ได้ผล วิเศษในทุกครา “...เราคงต้องเดินเอกสารตามกฎหมายบังคับไว้ เว้นแต่ ว่าคุณจะจ่ายภายในสี่สิบแปดชั่วโมง ผมเสียใจนะครับที่เอกสารล่าช้า ไม่ น่าถึงมือคุณก่อนหน้านี้ ก็อย่างที่บอกไว้น่ะครับ ระบบเอกสารที่นี่...” “มีใครไหมที่ผมจะคุยด้วยได้ถ้าผมจะเดินทางเข้าไปยังที่ทำ� การ? “ มิสเตอร์เรดดิงตันถามด้วยน�้ำเสียงกระวนกระวาย “...เงินมากโขอยู่นะ” “แน่นอนครับ...” ณ จุดนี้ เสียงของทอมจะเยือกเย็นอารมณ์ดี เสียงดัดให้สั่นเล็กน้อยเหมือนข้ารัฐการใกล้เกษียณ คนชราเยือกเย็น เห็นใจราษฎรผู้เสียภาษี แต่ก็หนักแน่นพอที่จะยืนยันให้ทราบว่า ถึงเข้า มาพบเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง ก็ไม่มีการลดหย่อนให้แม้สักแดงเดียว ไม่ว่าผู้ มีหน้าที่เสียเบี้ยปรับจะยกเอกสารหรือค�ำอธิบายใดๆ มากล่าวอ้างก็ตามที แน่นอนอยู่แล้ว, จอร์จ แม็กอัลพิน เป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำ� นาจเต็มของกรม สรรพากร กระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา “...ยินดีทจี่ ะรับฟังครับ คุณ เข้ามาคุยกับผมได้ทุกเมื่อ ในเวลาท�ำการ แต่ก็รับรองได้ครับ, คุณเรดดิง ตัน การตรวจสอบไม่ผิดพลาดอยู่แล้ว ผมคิดว่า ผมจะช่วยอ�ำนวยความ สะดวกให้คุณ ไม่อยากให้เสียเวลาเดินทาง จะเข้ามาคุยกันก็ได้ครับ แต่ ผมมีเอกสารทุกอย่างอยู่ในมือในขณะนี้” ความเงียบงัน...มิสเตอร์เรดดิงตันจะไม่สอบถามข้อมูลปลีกย่อยใน เอกสาร เพราะไม่ทราบว่าจะเริ่มถามที่จุดไหน แต่หากประสงค์จะแสดง ความชาญฉลาด เขาก็พร้อมจะบรรยายให้ทราบเรื่องรายได้สุทธิกับราย ได้ก่อนหักภาษี เงินเบี้ยปรับค้างช�ำระกับการค�ำนวณภาษี หรือดอกเบี้ย 17
หกเปอร์เซ็นต์ตอ่ ปีค�ำนวณจากวันถึงก�ำหนดช�ำระจนถึงวันช�ำระเงินครบทัง้ จ�ำนวนตามรายการในแบบยืน่ เสียภาษีทที่ า่ นได้กรอกไว้โดยละเอียดและน�ำ ส่งเรียบร้อยแล้ว การบรรยายเชื่องช้าต่อเนื่องไม่ต่างไปจากการเดินหน้า เต็มตัวของรถถังเชอร์แมน ไม่เปิดโอกาสให้ผฟู้ งั ได้กล่าวแย้งหรือขัดจังหวะ เท่าทีผ่ า่ นมา ไม่เคยมีผใู้ ดติดใจไถ่ถามขอรับฟังค�ำบรรยายกลไกการค�ำนวณ ภาษีภาคพิสดาร มิสเตอร์เรดดิงตันก็ยอมจ�ำนนเหมือนเช่นคนอื่น ๆ เขา ได้ยินส�ำเนียงนั้นในความเงียบ “เอาเถอะ ผมขออ่านรายละเอียดในเอกสารทีส่ ง่ มาให้เสียก่อน” มิส เตอร์เรดดิงตันไว้ท่าในการประกาศยอมจ�ำนน “ดีเลยครับ” ทอมตอบรับ วางหูโทรศัพท์ ทอมนัง่ นิง่ ชัว่ ครู่ หัวร่อคิกคัก ฝ่ามือบีบเข้าหากันซุกหัวเข่า จากนัน้ กระโดดลุกขึ้นยืน เก็บเครื่องพิมพ์ดีดของบ็อบกลับเข้าที่ หวีผมสีนำ�้ ตาล อ่อนหน้ากระจกเงา ออกจากห้องมุ่งหน้าตรงไปยังเรดิโอซิตี
18
บทที่ 3
“เฮล...โล, ทอม, ไอ้ลูกชาย” มิสเตอร์กรีนลีฟร้องทักทายด้วย ส�ำเนียงทีใ่ ห้สญ ั ญาว่าจะมีมาร์ตนิ เี รียกน�ำ้ ย่อยก่อนอาหารเลิศรสจากพ่อครัว ชัน้ น�ำและเตียงนอนให้พกั ค้างคืนหากเหนือ่ ยล้าเกินกว่าจะเดินทางกลับบ้าน “เอมิลี, นี่คือ ทอม ริปลีย์ !” “ดีใจเหลือเกินที่ได้พบคุณ” เธอทักทายด้วยน�ำ้ เสียงอบอุ่น “สบายดีหรือครับ, มิสซิสกรีนลีฟ?” ภาพที่เห็นไม่ต่างไปจากภาพคาดหวังที่วาดไว้...ผมบลอนด์ ร่างสูง เพรียวระหง มาดสง่างามพอจะกระหนาบให้เขาสงบเสงีย่ มเจียมกิรยิ า แต่ เธอก็ยงั มีเค้าความเขลา ‘โลกใบนีม้ แี ต่คนดี’ เช่นเดียวผูเ้ ป็นสามี มิสเตอร์ กรีนลีฟเดินน�ำเข้าไปในห้องรับแขก ใช่แล้ว, ห้องนี้เคยมาเยือนแล้ว เคย เข้ามาในห้องนี้พร้อมกับดิกกี “คุณริปลีย์ท�ำงานในธุรกิจประกันภัย” มิสเตอร์กรีนลีฟประกาศ ก็คงเป็นเพราะดื่มล่วงหน้าไปก่อนหลายแก้วแล้ว หรือไม่ก็คงประสาทตึง เขม็งเป็นพิเศษในค�่ำคืนนี้ เพราะในคืนที่ผ่านมา เขาบอกไว้ว่า ท�ำงานใน บริษัทโฆษณา “งานน่าเบื่อครับ” ทอมหันไปถ่อมตัวกับมิสซิสกรีนลีฟ 19
สาวใช้เดินเข้ามาในห้อง ถือถาดมาร์ตนิ แี ละเครือ่ งแกล้มเรียกน�ำ้ ย่อย “คุณริปลีย์เคยมาที่บ้านเราแล้วละ...ดิกกีพามาที่นี่” มิสเตอร์กรี นลีฟเพิ่มเติมรายละเอียด “จริงหรือ? ฉันไม่คดิ ว่าฉันเคยเจอคุณมาก่อน” เธอแย้มยิม้ “...คุณ เป็นคนนิวยอร์กหรือเปล่า?” “ไม่ครับ, ผมมาจากบอสตัน” ค�ำตอบรับเป็นความสัตย์จริง อีกราวสามสิบนาทีถัดมา...ห้วงเวลาอันเหมาะควร เพราะสองสามี ภรรยากรีนลีฟคะยั้นคะยอให้เขาดื่มมาร์ตินีแก้วแล้วแก้วเล่า ทั้งสามเดิน เข้าไปในห้องอาหาร ติดกับห้องรับแขก จัดจานอาหารส�ำหรับสามที่ เทียน เรียวสูงจุดกลางโต๊ะ ผ้าซับปากสีน�้ำเงินเข้ม อาหารหลักไก่หนาวทั้งตัวใน เยลลี แต่มจี านเรียกน�ำ้ ย่อยคือ เซเลอริ เรมูลาด* ทอมโปรดปรานอาหาร ชนิดนี้เป็นพิเศษ ไม่รีรอที่จะแจ้งให้เจ้าของบ้านได้รับทราบ “เยี่ยมไปเลย...” มิสซิสกรีนลีฟอุทานออกมา “...ริชาร์ดก็ชอบ อาหารจานนีเ้ หมือนกัน โปรดปรานวิธที พี่ อ่ ครัวของเราปรุงรส น่าเสียดาย ที่คุณไม่อาจถือติดมือไปฝากเขาได้” “ไม่ยากครับ ผมจะเอาซ่อนไปในถุงเท้า” ทอมตลกหน้าตาย มิส ซิสกรีนลีฟหัวเราะเสียงใส เธออยากให้เขาถือถุงเท้าขนสัตว์ของบรูกส์บรา เธอร์ส ยี่ห้อเดียวที่ริชาร์ดสวมใส่ ไปฝากริชาร์ดด้วย การสนทนาน่าเบื่อหน่าย อาหารเลิศรส เมื่อมีค�ำถามเรื่องสถาน ที่ทำ� งาน ทอมตอบมิสซิสกรีนลีฟไปว่า เขาท�ำงานให้บริษัทโฆษณาโรเธน เบิรก์ , เฟลมมิงและบาร์เตอร์ แต่เมือ่ อ้างถึงซ�้ำอีกครัง้ เขาจงใจเปลีย่ นชือ่ เสียใหม่ว่า เรดดิงตัน, เฟลมมิงและพาร์กเกอร์ ดูเหมือนว่ามิสซิสกรีนลีฟ จะไม่สงั เกตเห็นความแตกต่าง ทอมกล่าวชือ่ หลังซ�้ำอีกรอบเมือ่ เขาอยูต่ าม ล�ำพังกับมิสเตอร์กรีนลีฟในห้องรับแขกหลังอาหารเย็น * ผักเซเลอรีขูดใส่ซอสมูลาด (ผสมด้วยมายองเนส มัสตาร์ด กระเทียม และผักสมุนไพร) 20
“คุณเรียนในบอสตันหรือเปล่า?” มิสเตอร์กรีนลีฟสอบถาม “ไม่ขอรับ, ผมเข้าเรียนทีพ่ รินซตันได้ไม่กเี่ ทอม บังเอิญกลับไปเยีย่ ม คุณป้าอีกคนที่เดนเวอร์ เลยถือโอกาสเรียนที่โน่นจนจบ” ทอมนิ่งรอคอย เฝ้าภาวนาให้มิสเตอร์กรีนลีฟสอบถามรายละเอียดเรื่องพรินซตัน จนแล้ว จนรอดก็ไม่มีค�ำถาม ทอมรอพร้อมที่จะบรรยายเรื่องระบบการสอนวิชา ประวัติศาสตร์ ข้อก�ำหนดของหอพัก บรรยากาศของงานเต้นร�ำวันหยุด สุดสัปดาห์ และหรือแนวคิดทางการเมืองของสภานิสิต เรื่องใดๆ ก็ได้ ทอมมีโอกาสได้คบหาสนิทสนมกับนิสิตพรินซตันปีสามเมื่อฤดูร้อนที่ผ่าน มา หมอนั่นไม่เคยคุยเรื่องอื่นใดนอกจากพรินซตันและพรินซตัน ทอมไม่ ยอมปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ สอบถามรายละเอียดของพรินซตันใน ทุกแง่มุม คาดการณ์ว่าในอนาคตจะต้องได้ใช้ข้อมูลนี้ ทอมเล่าให้มิสเตอร์ กรีนลีฟฟังว่า คุณป้าดอตตีเป็นผู้เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ในบอสตัน พาเขา เดินทางไปยังเดนเวอร์เมื่อเขาอายุได้สิบหกปี แม้จะเรียนจบเพียงมัธยม ปลายในเดนเวอร์ แต่กม็ นี กั ศึกษาเช่าห้องพักของคุณป้าบีชอื่ ดอน ไมเซลล์ เรียนทีม่ หาวิทยาลัยโคโลราโด ทอมรูส้ กึ ประหนึง่ ว่าเขาเข้าเรียนทีน่ นั่ เช่นกัน “สนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ?” มิสเตอร์กรีนลีฟสอบถาม “ความสนใจของผมหลากหลายครับ แบ่งภาคตัวเองระหว่างสาขา บัญชีกบั การประพันธ์” ทอมตอบค�ำถามด้วยรอยยิม้ เชือ่ มัน่ ว่าค�ำตอบน่า เบื่อเช่นนั้น จะไม่มีผู้คนสนใจถามไถ่ในรายละเอียดเจาะลึก มิสซิสกรีนลีฟถืออัลบัมรูปถ่ายเข้ามาในห้องรับแขก ทอมนั่งเคียง ข้างเธอบนโซฟา รูปนี้ไง...ก้าวแรกของริชาร์ด ทารกริชาร์ดผมสีทองหยิก หยอยในชุดสีฟา้ ขยายรูปใหญ่เต็มหน้า รูปถ่ายของริชาร์ดน่าเบือ่ จนกระทัง่ เปิดมาถึงช่วงวัยริชาร์ดอายุสิบหกปี เด็กหนุ่มเก้งก้างขายาว ผมบลอนด์ หยักศก ทอมจับตาสังเกตด้วยความสนใจยิ่ง ริชาร์ดไม่เปลี่ยนไปมากนัก จากอายุสิบหกจนมาถึงยี่สิบสาม ยี่สิบสี่...รูปถ่ายขาดหายกลายเป็นหน้า กระดาษว่างเปล่า ทอมสังเกตเห็นว่ารอยยิ้มสดใส...เขลาไร้เดียงสาไม่ได้ 21
เปลี่ยนไปเลย ทอมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าริชาร์ดไม่ใคร่จะฉลาดนัก หรือไม่ ก็โปรดการปั้นท่าเป็นนายแบบถ่ายรูป ฉีกยิ้มแก้มปริจากใบหูจรดใบหูอีก ข้าง ซึ่งนั่นก็ไม่ใคร่จะฉลาดนักเช่นกัน “ฉันยังไม่มเี วลาน�ำรูปพวกนีเ้ ก็บรวมไว้ในอัลบัม” มิสซิสกรีนลีฟยืน่ รูปถ่ายปึกหนึ่งให้ทอม รูปเหล่านี้เป็นรูปถ่ายในยุโรปทั้งสิ้น เริ่มน่าสนใจแล้วซี ดิกกีถ่ายรูปในคาเฟริมถนนกรุงปารีส, ดิกกีบน ชายหาด หลายรูป ดิกกีหน้านิ่วคิ้วขมวด “อ้อ, นีเ่ ป็นรูปทีม่ อนจิเบลโล...” มิสซิสกรีนลีฟกล่าวเพิม่ เติม ภาพ ดิกกีดึงเรือกรรเชียงขึ้นหาด ฉากหลังเป็นชะเงื้อมผา มีบ้านหลังเล็กสีขาว กระจายตามแนวชายหาด “อ้อ, ยายหนูคนนี้ก็เป็นคนอเมริกัน อาศัยอยู่ ในหมู่บ้านนั้นเช่นกัน” “มาร์จ เชอร์วดู ” มิสเตอร์กรีนลีฟชิงเติมข้อมูล แม้จะนั่งห่างออก ไปจนแทบจะเรียกได้วา่ ข้ามห้อง แต่กย็ งั ยืดคอยาวติดตามการดูรปู ถ่ายด้วย ความสนใจเต็มที่ สาวรุ่นในชุดว่ายน�้ำ นั่งโอบเข่าบนชายหาด พลานามัยสมบูรณ์ มี น�้ำมีนวล หน้าใสตาซื่อ หัวยุ่ง ผมบลอนด์ตัดสั้นเป็นพุ่ม ถัดจากนั้น ก็ เป็นรูปของริชาร์ด นั่งบนขอบระเบียง หน้าตายังแย้มยิ้ม หากแต่รอยยิ้ม นั้นมิใช่ยิ้มเขลาไร้สมองเหมือนก่อน ทอมสังเกตเห็นว่า ดิกกีในยุโรป มาดเข้ม วางท่าไว้ตัว ทอมสังเกตพบว่ามิสซิสกรีนลีฟเหม่อจ้องพรมปูพนื้ ปลายฝ่าเท้า เขา จ�ำห้วงสะดุดบนโต๊ะอาหาร เมื่อเธอร�ำพึงออกมาว่า “ฉันได้แต่หวังว่าฉัน ไม่เคยได้ยินค�ำว่ายุโรปแว่วเข้าหู” มิสเตอร์กรีนลีฟเหลือบมองจับตาดูด้วย ความกังวล หันมายิม้ แห้งๆ กับเขา คล้ายกับจะบอกว่าความซึมเศร้าเช่น นีเ้ กิดขึน้ บ่อยครัง้ แล้ว ขณะนี้ เขามองเห็นน�้ำตาเอ่อกลบตาของเธอ ผูเ้ ป็น สามีรีบลุกขึ้นยืน เดินตรงมาหาภรรยา “มิสซิสกรีนลีฟ...” ทอมกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “...ผมอยากบอก 22
ให้ทราบว่า ผมพร้อมจะกระท�ำทุกอย่างเท่าที่จะสามารถกระท�ำได้เพื่อจะ พาดิกกีคืนกลับบ้าน” “ขอบคุณ...ขอบคุณเหลือเกิน, ทอม” เธอบีบหลังมือของเขาทีว่ าง อยู่บนท่อนขา “เอมิล,ี ได้เวลาเข้านอนแล้วกระมัง? “ ผูเ้ ป็นสามีคอ้ มตัว กระซิบ ถามเบาๆ ทอมลุกขึ้นยืนพร้อมกับมิสซิสกรีนลีฟ “ฉันหวังว่าคุณคงจะแวะมาทีน่ อี่ กี สักครัง้ ก่อนทีค่ ณ ุ จะออกเดินทาง” มิสซิสกรีนลีฟหันมาบอก “...ไม่มรี ชิ าร์ดอยูใ่ นบ้าน เราก็แทบจะไม่มเี ด็กๆ เดินย�ำ่ เข้ามาในบ้านเป็นเทือก บ้านของเราเงียบเหงาเหลือเกิน” “ยินดีอย่างยิ่งครับที่จะมาที่นี่อีก” ทอมค้อมศีรษะรับ มิสเตอร์กรีนลีฟประคองภรรยาเดินออกจากห้อง ทอมยืนนิง่ อยูก่ บั ที่ มือห้อยอยูข่ า้ งกาย หน้าเชิดสูง จากภาพสะท้อนในกระจกเงาบานใหญ่ บนผนังห้อง เขามองเห็นเด็กหนุ่มมีค่าในตัว สง่างามคงความเป็นมนุษย์ เต็มตัว...อีกครัง้ ค�่ำคืนนี้ เขาวางตัวอย่างเหมาะสม พูดจาทุกอย่างถูกต้อง เหมาะควร แล้วท�ำไมจึงรู้สึกผิดในใจ? จากสิ่งที่บอกมิสซิสกรีนลีฟเมื่อครู่ นี้...ผมพร้อมจะกระท�ำทุกอย่างเท่าที่จะสามารถกระท�ำได้นั่นก็เป็นค�ำสัตย์ จริงนะ หมายความตามนั้นจริง ๆ เขาไม่พยายามหลอกลวงใคร ทอมรูส้ กึ ว่าเหงือ่ กาฬเม็ดโตผุดออกมา เขาสูดลมหายใจยาว พยายาม จะผ่อนคลาย วางตัวให้ใจสบาย มีอะไรก่อกวนท�ำให้กังวลใจอยู่หรือ? ค�่ำคืนนี้ ก็ท�ำทุกอย่างถูกต้องแล้วนี่นา? เรื่องเล่าที่เขากล่าวถึงป้าดอตตี นั่น... ทอมยืดตัวยืนตรง อกผายไหลผึง่ เหลือบมองบานประตู แต่ประตูก็ ยังปิดสนิท นี่เป็นเพียงครั้งเดียวที่เขามองหาประตูทางออก เป็นเพียงครั้ง เดียวทีร่ สู้ กึ อึดอัด เลือ่ นลอย รูส้ กึ กระวนกระวายเหมือนในยามทีก่ ล่าวค�ำ โกหกค�ำโต ค�ำกล่าวที่บอกออกไป ก็เป็นความจริงทั้งหมดนี่นา...พ่อแม่ 23
ของผมเสียชีวิตตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ป้าดอตตีในบอสตันเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู จนเติบใหญ่ มิสเตอร์กรีนลีฟเดินกลับเข้ามาในห้องรับแขก เรือนร่างดูเหมือนขยาย ใหญ่ ใหญ่จนแทบจะโตคับห้อง ทอมกะพริบตา ร่างนัน้ คืนกลับสภาพเดิม ทอมรู้สึกถึงความหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ แทบจะตัดสินใจจู่โจมท�ำร้าย ชายกลางคนผู้ยืนอยู่ต่อหน้าก่อนที่มันจะจู่โจมท�ำร้ายเขา “เราลองชิมบรั่นดีกันสักหน่อยไหม? “ มิสเตอร์กรีนลีฟกล่าวชวน เปิดตู้ทึบข้างเตาผิง แทบจะไม่ต่างไปจากภาพยนตร์เลยนะ ในนาทีข้างหน้า อาจเป็น มิสเตอร์กรีนลีฟหรือใครสักคน จะร้องตะโกนว่า “...ดีเลย ได้แล้ว คัต” ถึงเวลานั้น ทอมก็พบว่าตนเองมานั่งบนเก้าอี้สูงในบาร์ราอูล’ส มีแก้วยิน โทนิกวางอยู่ต่อหน้า ไม่สินะ, น่าจะเป็นบาร์กรีนเคจเสียมากกว่า “ไหวไหม? ถ้าไม่ไหว ก็ไม่ต้องฝืนนะ” มิสเตอร์กรีนลีฟแย้มยิ้ม เชิญชวน ทอมพยักหน้ารับเลือ่ นลอย ดูเหมือนว่ามิสเตอร์กรีนลีฟจะงุนงงไปกับ อาการเหม่อค้างนั้น แต่ก็รินบรั่นดีสองแก้ว ความหวาดหวัน่ เย็นเยือกอาบไปทัว่ ร่างจนตัวชา ทอมหวนนึกถึงเรือ่ ง สยองขวัญในร้านขายยาสัปดาห์ทผี่ า่ นมา แม้เรือ่ งนัน้ จะจบลงไปแล้ว และ เขาก็ไม่ได้กลัว...ไม่ใคร่จะกลัวสักเท่าไหร่ อย่างน้อย ตอนนีก้ ไ็ ม่กลัวอีกต่อ ไปแล้ว ร้านขายยาร้านนัน้ อยูบ่ นถนนสายทีส่ อง เขาให้หมายเลขโทรศัพท์ ของร้านส�ำหรับผู้ประสงค์จะโทรศัพท์กลับมาสอบถามยืนยันเรื่องการเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้ง ให้หมายเลขโทรศัพท์นั้นเป็นหมายเลข โทรศัพท์ของแผนกเบีย้ ปรับภาษี จะติดต่อได้เฉพาะบ่ายวันพุธและวันศุกร์ ระหว่างเวลาบ่ายสามครึ่งถึงบ่ายสี่ ในช่วงเวลานั้น ทอมจะไปเตร่อยู่ใกล้ โทรศัพท์ของร้านขายยา รอคอยรับโทรศัพท์ เมือ่ เจ้าของร้านขายยาเหลือบ มองด้วยสายตาประหลาดเป็นรอบสอง เขาบอกเพียงว่า ก�ำลังรอโทรศัพท์ 24
จากเพื่อนหญิง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในตอนที่เขาเข้าไปรับโทรศัพท์ มี เสียงผู้ชายดังมาตามสาย “...แกก็รู้ว่าเราก�ำลังคุยเรื่องอะไรกัน จริงไหม? เรารู้ว่าแกอยู่ที่ไหน ถ้าแกอยากจะให้เรามาเยี่ยมถึงที่พัก...เรามีของเตรียม ไว้ให้แล้วนะ ถ้าแกเตรียมของทางฝ่ายแกไว้เรียบร้อยแล้ว” เสียงกร้าวแต่ ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องราวใด ในตอนแรก ทอมคิดว่าเป็นการเล่นตลกของผู้ ที่เขาส่งจดหมายไปให้เสียภาษีเพิ่มเติม แต่ทว่าประโยคถัดมา “...ฟังนะ, เราจะเดินทางไปบ้านของแกเดี๋ยวนี้เลย” ทอมรู้สึกเหมือนกันว่า ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนปวกเปียกแทบจะ พยุงร่างไว้ไม่ได้ในตอนที่เดินออกจากตู้โทรศัพท์ แต่แล้วก็มองเห็นสายตา ของเจ้าของร้านขายยา...ตาเบิกโพลง ตืน่ ตระหนก บทสนทนาทีเ่ ขาเพิง่ จะ ได้ยินกับหู อธิบายตัวเองได้อย่างแจ้งชัด เรื่องนี้นี่เอง เจ้าของร้านขายยา ...ยาเสพติด มันกลัวว่าเขาจะเป็นสายสืบหรือต�ำรวจนอกเครื่องแบบที่มา ดักรอฟังการติดต่อ ทอมระเบิดเสียงหัวเราะ หัวเราะออกมาเต็มเสียงใน ขณะทีเ่ ดินออกจากร้าน เดินโซเซเพราะขาสองข้างยังเหลวเป็นน�ำ้ จากความ หวาดกลัวที่พุ่งฉีดฉับพลัน “ก�ำลังคิดเรื่องยุโรปหรือไง? “ มิสเตอร์กรีนลีฟสอบถาม ทอมอมยิ้ม ยื่นมือไปรับแก้วบรั่นดี “...ใช่ครับ” “ฉันได้แต่หวังว่าคุณคงจะเดินทางด้วยความเบิกบาน และน่าจะ ช่วยกล่อมริชาร์ดให้เดินทางกลับบ้าน อ้อ, เกือบลืมบอกไป เอมิลีชอบ คุณมาก เธอบอกออกมาเองนะ ฉันไม่ได้ถามเธอเลย” มิสเตอร์กรีนลีฟ แกว่งหมุนแก้วบรัน่ ดีในอุง้ มือ “...ภรรยาของฉันป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ขาว, ทอม” “โอ, โรคร้ายไม่ใช่หรือครับ? “ “ใช่, เธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงสิ้นปีนี้” “ผมเสียใจที่ได้ยินเช่นนั้น” ทอมค้อมศีรษะแสดงความเสียใจ มิสเตอร์กรีนลีฟดึงกระดาษออกจากกระเป๋า “ฉันได้รายชื่อเรือเดิน 25
สมุทรมาแล้ว ดูเหมือนเรือเชอร์บวร์กจะเร็วที่สุด และน่าจะดีที่สุด ขึ้น ฝรั่งเศสแล้วก็นั่งรถหวานเย็นเข้าปารีส จากนั้น ก็เดินทางด้วยตู้นอนผ่าน เทือกเขาแอลป์ไปยังโรมและเนเปิลส์” “ยอดไปเลยครับ” ทอมตอบรับ ชักเริ่มสนุกขึ้นมาทีละน้อย “พอไปถึงเนเปิลส์ ก็นั่งรถเมล์ต่อไปยังหมู่บ้านของริชาร์ด ฉันจะ เขียนไปบอกริชาร์ดล่วงหน้า แต่ก็คงไม่บอกว่าคุณเป็นทูตมาเจรจาความ เมือง...” มิสเตอร์กรีนลีฟยิม้ กริม่ “...ฉันก็คงบอกเพียงแค่วา่ เราบังเอิญเจอ กัน ริชาร์ดก็คงไม่รงั เกียจทีจ่ ะให้ทพี่ กั หรือถ้าไม่สะดวก ก็ยงั มีโรงแรมพอ จะพักอาศัยได้ ฉันไม่ห่วงเรื่องนั้น เชื่อแน่ว่าคุณไปเจอกับริชาร์ดเมื่อไหร่ก็ คงคุยกันถูกคอ แล้วเรือ่ งเงิน...” มิสเตอร์กรีนลีฟเปล่งยิม้ ของคนเป็นพ่อ ออกมาเข้มข้น “...เงินติดกระเป๋าสักหกร้อยเหรียญ ออกเป็นเช็กเดินทาง ไม่นับรวมกับค่าตั๋วนะ คงไม่ขัดข้องนะ เงินหกร้อยเหรียญ คงพอจะคุ้ม ค่าใช้จ่ายที่โน่นสักสองเดือน และหากจ�ำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มเติม ก็เพียง แค่โทรเลขมาบอก ฉันจะรีบส่งไปให้ทนั ที, ไอ้ลกู ชาย เพราะคุณไม่ใช่เด็ก หนุ่มประเภทไร้ความคิดหว่านโปรยเงินลงท่อระบายน�้ำ” “เหลือเฟือ, ขอรับ” มิสเตอร์กรีนลีฟแช่มชื่นรื่นเริงตามปริมาณจิบบรั่นดี ส่วนทอมพูด น้อยลงทุกขณะ หงุดหงิดขุ่นเคืองใจ เขาอยากจะผละหนี เดินให้พ้นจาก อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากเดินทางไปยุโรป และอยาก ให้มสิ เตอร์กรีนลีฟนิยมชมชอบในตัวเขา ห้วงเวลาแต่ละนาทีทนี่ งั่ พูดคุยกัน ทีโ่ ซฟา ช่างทุกข์ทรมานยิง่ ไปกว่าการดืม่ พูดคุยกันในบาร์เหล้าในคืนทีผ่ า่ น มา เพราะเมื่อเกิดความเบื่อหน่ายแล้ว ก็ไม่อาจสับเกียร์เปลี่ยนรอบให้สูง ขึ้น หลายครั้งหลายคราที่ทอมลุกขึ้นจากโซฟา เดินตรงไปยังเตาผิงแล้ว ย้อนกลับมานั่งที่โซฟาอีกครั้ง กระจกเงาบานใหญ่ติดผนัง สะท้อนภาพ มุมปากที่กดหยักลงล่างแสดงความเบื่อหน่ายสุดชีวิต มิสเตอร์กรีนลีฟพล่ามพูดถึงริชาร์ดด้วยความสุขใจหาที่เปรียบมิได้ 26
เล่าเรือ่ งริชาร์ดกับพ่อในปารีส ครัง้ นัน้ ริชาร์ดอายุเพียงสิบขวบ เรือ่ งไม่นา่ สนใจเอาเสียเลย หากมีตำ� รวจมากวนใจในอีกสิบวันข้างหน้า ทอมแน่ใจว่า มิสเตอร์กรีนลีฟพร้อมอ้าแขนรับเขาเข้ามาอาศัยที่นี่ เขาอาจอ้างว่ามีเพื่อน เดือดร้อน จ�ำเป็นต้องแบ่งห้องเช่าให้เพือ่ นกะทันหันหรืออะไรสักอย่าง...เขา จะได้ที่ซ่อนตัวชั้นเยี่ยม ทอมรู้สึกปวดมวนไปทั่วช่องท้อง คราวนี้ ออก อาการทางร่างกายแท้จริง “มิสเตอร์กรีนลีฟ ผมคิดว่า ผมคงต้องลาแล้วครับ” “ตอนนี้เลยเหรอ? ฉันอยากจะเอาอะไรมาให้ดู...เอ้อ, เอาไว้คราว หลังก็แล้วกัน” ทอมพอจะอ้าปากถามแสดงความสุภาพว่า “มีอะไรหรือครับที่คุณ อยากจะเอามาให้ดู? “ กัดฟันอดทนข่มกลั้น รับชมด้วยอาการนิ่งสงบ แต่ก็ทำ� ไม่ได้ “อ๋อ, แน่นอน ฉันอยากจะให้คณ ุ ไปเยีย่ มชมอูต่ อ่ เรือของเรา” มิสเตอร์ กรีนลีฟคุยอวดด้วยความปราโมทย์ “...คุณว่างพอจะไปได้เมื่อไหร่? หรือ จะไปตอนพักเที่ยง? คุณน่าจะแวะไปดูสักหน่อย จะได้เล่าให้ริชาร์ดฟังได้ ว่าอู่ต่อเรือของเราสมัยนี้อยู่ในระดับไหนแล้ว” “ได้เลยครับ, ผมพอจะปลีกตัวได้ตอนพักเที่ยง” “ดีเลย, โทรศัพท์มาบอก หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวอยู่ในนามบัตร ที่ฉันให้ไปแล้ว บอกฉันล่วงหน้าสักครึ่งชั่วโมง ฉันจะส่งรถไปรับ เราหา แซนด์วิชรองท้องในตอนเดินชมโรงงาน ไม่นานหรอก, หลังจากนั้น รถก็ จะส่งคุณกลับไปท�ำงานได้ทันเวลา” “ผมจะโทรฯ บอกนะครับ” ทอมรูส้ กึ ว่าหากรัง้ อยูใ่ นห้องโถงมืดสลัว นานกว่านี้ ก็คงเป็นลมสิ้นสติอย่างแน่นอน มิสเตอร์กรีนลีฟดูจะไม่สังเกต เห็นความผิดปกติ ยังหัวเราะระรืน่ สอบถามเขาว่าเคยอ่านผลงานประพันธ์ ของเฮนรี เจมส์ผ่านตามาบ้างหรือไม่? “เสียดายครับ ยังไม่เคยผ่านตาเลย...เล่มนี้ยังไม่เคยอ่าน” 27
“ช่างมันเหอะ” มิสเตอร์กรีนลีฟยิ้มปากกว้าง ชายสองวัยสัมผัสมือ แรงบีบฝ่ามือที่สุดแสนจะทรมานจนใจแทบ ขาด จากนั้น ก็เสร็จสิ้น แต่ใบหน้าที่สะท้อนจากกระจกเงาในลิฟต์เลื่อน ลงสู่ชั้นล่าง ก็ยังเป็นใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกอมทุกข์ ทอมทิ้งน�้ำหนักตัวพิง มุมลิฟต์ หมดเรี่ยวหมดแรง เขาทราบดีว่าในทันใดที่ประตูลิฟต์เปิดออกสู่ ห้องโถงชัน้ ล่าง เขาก็คงเผ่นออกประตู วิง่ เต็มฝีเท้า วิง่ และวิง่ ไม่หยุดไป ตลอดทางจนกว่าจะถึงบ้าน
28