THE HOSTEL BIBLE

Page 1




The Hostel Bible ผู้เขียน : วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ และ จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์ พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฎาคม 2558 ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์. The Hostel Bible.-- กรุงเทพฯ : ซูเปอร์กรีน สตูดิโอ, 2558. 256 หน้า. 1. ที่พักนักท่องเที่ยว. I. จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์, ผู้แต่งร่วม. I. ชื่อเรื่อง. 910.46 ISBN 978-616-92219-2-0 ส�ำนักพิมพ์ SuperGreen จัดท�ำโดย : บริษัท ซูเปอร์กรีน สตูดิโอ จ�ำกัด 58/1 ซอยสามเสน 5 ถนนสามเสน เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 08-9696-9896 Email : workshopboutiquehotel@gmail.com เว็บไซต์ : www.supergreenstudio.com และ www.boutiqueking.com บรรณาธิการ : รติรัตน์ นิมิตรบรรณสาร ผู้ช่วยบรรณาธิการ : วีรภา ด�ำสนิท ออกแบบและจัดรูปเล่ม : วีรพล เจียมวิสุทธิ์ ปก-กราฟฟิก : จักรกฤษณ์ อนันตกุล ภาพประกอบหน้าเปิดบท : วีรพล เจียมวิสุทธิ์, โกวิทย์ ไพค�ำนาม พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด ภาพพิมพ์ โทรศัพท์ 0-2433-0026-7 www.parbpim.com จัดจ�ำหน่ายโดย : บริษัท ซูเปอร์กรีน สตูดิโอ จ�ำกัด โทรศัพท์ 08-9696-9896 ราคา : 420 บาท


THE HOSTEL BIBLE

3


THE HOSTEL BIBLE

4


THE HOSTEL BIBLE

5


THE HOSTEL BIBLE

6


THE HOSTEL BIBLE

7


à»ÅÕÂ è ¹ºŒÒ¹à¡‹Ò໚¹ºÙµ¤ Ô âÎàµçÅ คือ โครงการอบรมและเวิรคช็อปที่จะสอนใหคุณลงทุนในธุรกิจบูติคโฮเต็ล ดวยตัวคุณเอง อยางสรางสรรค ทํากําไร และมีคุณคาตอสังคม โดยมีปรัชญา ความเชื่อวา ทุนมนุษย ทุนธรรมชาติ และทุนวัฒนธรรม คือหัวใจสําคัญที่สุด ของธุรกิจนี้ ที่จะสามารถนําประเทศไทยใหพัฒนาอยางยั่งยืน และมีรายไดดี อยางทั่วถึง ไมวาคุณจะอยูบนตารางนิ้วใดของประเทศนี้ ไมวาคุณจะมีการ ศึกษาระดับใด และไมวาคุณจะมีเงินทุนนอยเพียงใดก็ตาม โครงการนี้เปนผลงานจากวิสัยทัศนของ วรพันธุ คลามไพบูลย กูรูบูติคโฮเต็ล สถาปนิก และเจาของ Samsen5Lodge ที่ไดรับแรงบันดาลใจในธุรกิจจาก ประสบการณในวัยเด็กที่ทางบานประกอบอาชีพทําบานเชาและโฮสเทล ประกอบกับแรงบันดาลใจจากเศรษฐกิจการพึ่งตนเองและแบงปนของ มหาตมะ คานธี รวมถึงเศรษฐกิจสรางสรรค เปลี่ยนบานเกาเปนบูติคโฮเต็ล เปดอบรมเปนครั้งแรกในวันที่ 4 เมษายน 2553 มีจํานวนผูเขาอบรมทั้งสิ้น 60 คน และไดรับการยอมรับเปนอยางสูง จนถึงป 2558 ไดทําการอบรมครั้งที่ 15 ในชื่อวา “บูติคมหาชน” มีจํานวนผู เขาอบรมถึง 900 คน รวมทั้งสิ้น 5 ปมีผูผานการอบรมไปกวา 2,200 คนจาก ทั่วประเทศ


เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล เป็นโครงการอบรมด้านบูติคโฮเต็ลโครงการเดียวในประเทศไทย ที่ รวบรวมปรัชญา วิธีคิด การวิเคราะห์ที่ตั้ง จุดขาย การตกแต่ง กลุ่มลูกค้า การเขียนแผนธุรกิจ การ ลงทุน การเงิน และการตลาด ผ่านการบรรยายจากเจ้าของบูติคโฮเต็ลที่ประสบความส�าเร็จและกูรู อันดับหนึ่งของประเทศในหลายด้าน ในรูปแบบ Business Coaching โดยมีรายละเอียดการอบรม ที่หลากหลายดังต่อไปนี้

THE GRAND HOTEL TOUR การเริ่มต้นที่ดีที่สุดส�าหรับผู้ที่จะลงทุนธุรกิจนี้คือ การไปดูงานบูติคโฮเต็ลและฟังเจ้าของกิจการที่ ประสบความส�าเร็จแบ่งปันประสบการณ์ นี่คือคอร์สที่จะพาคุณไปเยี่ยมชมและเข้าพักในสุดยอดบูติคโฮเต็ลหลายแห่ง เช่น สามเสน 5 ลอดจ์, ดิ โอลด์บางกอกอินน์, วิลล่า พระสุเมรุ, บ้านดินสอ, บ้านเตปา, บ้านนพวงศ์, จักรพงษ์วิลล่า พร้อม พูดคุยกับเจ้าของอย่างใกล้ชดิ เพือ่ รับฟังถึงกลยุทธ์ในการด�าเนินธุรกิจ อาทิ การเลือกทีด่ นิ การเลือก จุดขาย การตั้งราคา การตกแต่ง การบริหารจัดการ น�าทัวร์โดย อาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรู บูติคโฮเต็ล *** คอร์สระยะเวลา 3 วันเต็ม เปิดเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม หรือกลาง เดือนเมษายน รับเพียงรอบละ 50 คน

BRANDING AND STYLE YOUR HOTEL เมื่อคุณลงทุนในบูติคโฮเต็ล แต่ไม่สามารถขายห้องได้ราคา และโครงการของคุณไม่มีชื่อเสียงและ ไม่เป็นที่ยอมรับ หรือคุณไม่สามารถเลือกสไตล์และตัวตนของบูติคโฮเต็ลของคุณได้อย่างถูกต้อง นีค่ อื คอร์สทีจ่ ะสอนให้คณ ุ สามารถสร้างจุดเด่นและจุดขายของบูตคิ โฮเต็ลได้อย่างถูกต้องและประสบ ความส�าเร็จ สอนโดย อาจารย์โอภาส ลิมปิองั คนันต์ นายกสมาคมกราฟฟิกดีไซเนอร์แห่งประเทศไทย และอาจารย์ วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรูบูติคโฮเต็ล *** คอร์สระยะเวลา 2 วัน เปิดปีละ 3 ครั้ง ช่วงต้นและกลางปี รับเพียงรอบละ 25 คน

THE HOSTEL BIBLE

9


PRIVATE CONSULTING BOUTIQUE HOTEL เป็น Signature Course ที่ดีที่สุดของหลักสูตร และเป็นคอร์สเดียวในประเทศที่สอนให้คุณลงทุนใน ธุรกิจนี้อย่างสร้างสรรค์ ท�าก�าไร และยั่งยืน จุดเด่นคือ อาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรบู ตู คิ โฮเต็ล จะเดินทางไปดูทดี่ นิ ของท่านด้วยตัวเอง เพือ่ ท�าการวิเคราะห์ศักยภาพและน�าข้อมูลมาศึกษาความเป็นไปได้ก่อนการอบรมจริง และให้ท่านน�า โครงการลงทุนจริงมาร่วมอบรม ***คอร์สระยะเวลา 3 วัน เปิดปีละ 3 ครั้ง ช่วงต้นและกลางปี รับเพียงรอบละ 25 คน - วันแรก : บรรยายและเวิร์คช็อป ในหัวข้อ ท�าเลที่ตั้ง / งบลงทุน / สไตล์การตกแต่ง / จ�านวนห้อง / การตั้งชื่อและราคาขาย / การสร้างจุดขาย สอนโดย อาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรูบูติคโฮเต็ล - วันที่ 2 : บรรยายและเวิร์คช็อป ในหัวข้อ แผนธุรกิจและการลงทุน เป็นการน�าโครงการ วันแรกมาเขียนแผนธุรกิจและงบลงทุน / ค�านวณการคืนทุน / แผนการกูธ้ นาคาร สอนโดย เจ้าหน้าที่ ระดับผู้บริหารจากธนาคารชั้นน�า - วันที่ 3 : บรรยายและเวิรค์ ช็อป ในหัวข้อ แผนการตลาดของบูตคิ โฮเต็ลขนาดเล็ก เป็นการ น�าโครงการวันแรกและวันที่สอง มาเขียนแผนการตลาด และมีการบรรยาย ให้ค�าปรึกษา พร้อม แนะน�าเป็นรายบุคคลว่าตีแตกหรือไม่ โดย อาจารย์ ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย กูรกู ลยุทธ์การตลาดจาก รายการ SME ตีแตก พิเศษ Private Boutique Club เป็นการรวมกลุ่มเฉพาะท่านที่เรียนครบทุกหลักสูตรเท่านั้น เพื่อ ติดตามผลการลงทุนและสนับสนุนท่านในด้านข้อมูลความรูแ้ ละอืน่ ๆ เฉพาะสมาชิกในกลุม่ นี้ สามารถ พบกับกูรเู พือ่ ขอค�าปรึกษาได้ 8 ครัง้ ภายในหนึง่ ปี เพือ่ อัพเดทข้อมูลและขอค�าปรึกษาด้านการลงทุน บูตคิ โฮเต็ล เพือ่ ผลักดันให้บตู คิ โฮเต็ลของท่านประสบความส�าเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนัน้ ยังเป็นการ รวมกลุ่มท�ากิจกรรมร่วมกันอย่างใกล้ชิดและช่วยสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ที่จะลงทุนในธุรกิจ เดียวกัน ติดตามธุรกิจบูติคโฮเต็ลและข้อมูลการอบรมได้ที่ เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล และ www.เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล.com หรือส่งข้อมูลของท่านมาที่ workshopboutiquehotel@gmail.com


HOSTELLER • Service Design for Small Hotels

(2 วัน / รอบละ 25 คน / สิงหาคม 2558) เปนการบรรยายและเวิรคช็อป 2 วันเต็ม สำหรับผูที่สนใจจะทำธุรกิจที่พักสามารถนำธุรกิจที่จะทำจริง มาเปนกรณีศึกษาในการวางแผนธุรกิจ และวิเคราะหโครงสรางความสัมพันธขององคประกอบในการทำธุรกิจนี้ ทั้งหมด สอนโดย จิตติพันธ ศรีกสิกรณ ผูรวมกอตั้ง Lub d Hostel ที่เปน Hostel ระดับโลกของไทย เพียงรายเดียว

• Private Consulting for Creative Hotels and Tour (3 วัน / รอบละ 25 คน / สิงหาคมและตุลาคม 2558)

เปนการบรรยายกึ่งเวิรคช็อปสำหรับโครงการของคุณ 3 วันเต็มแบบเขมขน โดยนำเอาที่ดินสินทรัพยของคุณมาทำการวิเคราะหอยางรอบดาน ทั้งการออกแบบ การตลาด การขายและการตกแตง การสรางจุดขาย การเลือกลูกคา การเลือกสไตล การประมาณราคา แผนธุรกิจและการเงิน การตั้งชื่อ โดยผูสอนหลักคือ วรพันธุ คลามไพบูลย โอภาส ลิมปอังคนันต จิตติพันธ ศรีกสิกรณ รวมทั้งเจาของบูติคโฮเต็ลและโฮสเทลที่ประสบความสำเร็จอีกหลายทาน โดยมีอาจารยธันยวัชร ไชยตระกูลชัย กูรูการตลาดชื่อดัง จะมาบรรยายการตลาดของโรงแรมขนาดเล็ก และคอมเมนตภาพรวมของแตละโครงการเปนรายบุคคล

• Branding Small Hotels/Hostels

(2 วัน / รอบละ 25 คน / สิงหาคมและตุลาคม 2558) เปนการบรรยายและเวิรคช็อป 2 วันเต็ม สำหรับผูที่สนใจสามารถนำธุรกิจที่พักที่จะทำจริงมาสรางแบรนดิ้ง คอรสนี้คุณจะไดเรียนรูวิธีการเลือกจุดขายและสไตลการตกแตงที่เหมาะกับตัวคุณ ในแบบที่คุณบริหารจัดการ ไดจริงและงบประมาณไมแพง สอนโดย โอภาส ลิมปอังคนันต นายกสมาคมนักออกแบบเรขศิลปแหงประเทศไทย ผูอยูเบื้องหลังการสรางแบรนดดังของโรงแรมชั้นนำหลายแหง คอรสอื่นๆ ที่นาสนใจ ไดแก

• Handmade Hotel

เจาะลึกเกี่ยวกับการทำธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดโดยเฉพาะ ประกอบดวยคอรสยอย คือ Design for Non-Designer สอนใหคนที่ไมใชนักออกแบบ เพื่อใหออกแบบเปน และคอรส Start-up for Lowcost Boutique Hotel สำหรับการเริ่มธุรกิจแบบตนทุนต่ำ รับเพียงรอบละ 25 คน สอนโดย วรพันธุ คลามไพบูลย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่

089-696-9896 www.boutiqueking.com เปลี่ยนบานเกาเปนบูติคโฮเต็ล King Worapan workshopboutiquehotel@gmail.com


Çþѹ¸Ø ¤ÅŒÒÁ侺ÙÅ ¡Ùú Ù µÙ ¤ Ô âÎàµçÅ áÅÐ Samsen5Lodge 䴌ú Ñ ¤ÇÒÁʹ㨨ҡÊ×Í è µ‹Ò§æ ÁÒ¡ÁÒÂÍ‹ҧµ‹Íà¹×Í è §

สื่อตางประเทศ

ลงนิตยสารระดับโลก National Geographic Traveler ฉบับ August/September /2014 Feature

一個老城、三種感情 老 城 人 老 老 實 實 地 過 日 子, 城 外 人 卻 嚮 往 城 內 五 十 年 不 變 的 風 景, 尤 其 在 城 市 急 速 發 展 的 年 代, 曼 谷 本 色 正 一 點 一 滴 淡 化 無 痕, 唯 獨 老 城 的 腳 步 依 舊 慢 吞 吞, 讓 人 愈 發 珍 惜 。 我 們 找 來 幾 位 深 愛 老 城 的 城 外 人, 帶 我 們 探 索 他 們 心 中 舊 城 最 具 魅 力 的 一 面 ──饞 嘴 的 酒 店 主 人 最 愛 的 秘 密 美 食 選 擇、 建 築 師 最 欣 賞 的 老 好 舊 建 築、 年 輕 設 計 師 們 發 掘 趣 味 生 活 的 悠 閒 去 處,以不同方法感受老城之美。

,緊 記 要 豪 邁 地 拌 勻 才 最 好 9 港元)。

hao soi)緣自緬甸,再傳

泰北,在清邁等地是很常

卻對 Samsen Road 上的情

谷常吃到的咖喱麵通常都

家咖喱麵是奶奶介紹給我

建築師的懷古散步道

比平日在曼谷吃到的更濃

的特色。 」

為 Supap Khao Soi 的小

,除了泰皇與皇后的照片

闆的檊麵相片──老店在

,一直每天手打黃麵。咖

蛋的蜜黃麵條為主,再加

椰汁熬製的咖喱湯底,配

至金黃的脆麵。上桌前,

、酸菜與青檸三種配料,

椒醬。拌勻後,一吃,是

味道,既有咖喱香、又帶

凌厲的辣勁,加上黃麵煙

麵脆中帶軟,是令人難以

,打開味蕾之餘更是令人

,難怪是當地人早餐的醒

Soi

Phranakorn Nornlen Hotel 老闆 Ros

「這裏可以吃到很多 地方找不到的地道美 且行幾步就吃到,很

en Road, Phranakorn,

hu, Bangkok

pm

Super Green Studio 的建築師 W o r a p a n k la m p a ibo o n 對 老 城 的 愛 來 自 童 年 回 憶 :「 小 時 候 我 住 在 R a t t a na k o s in 附 近 ,媽 媽 每 逢 星 期 日 都 會 來 這 邊 的 廟 裏 拜

THE HOSTEL BIBLE

12

神, 便 讓 我 在 W a t M a h a t h a t 上 課 學 習

Local Says: Worapan Klampaiboon

佛 學 ,附 近 有 很 多 市 集 、河 流 、博 物 館 ,很

SuperGreen Studio 建築公司創辦人,從事舊

建 築 。」 當 上 建 築 師 後 , W o r a p a n 專 注 以

建築翻新及保育工程,曾參與泰國各地活化舊 建築的工程,極了解老城區的建築特色。09 年 更把老城的一楝房子,改建成只得三個房間的 小酒店 Samsen 5 Lodge。

Su perGreen Stu dio 的創辦人兼建築師 Worapan Klampaiboon 熱愛老城的建築:

熱 鬧 ,那 時 開 始 我 就 很 喜 歡 舊 城 和 傳 統 泰 式

「我自小就被老城區的建築吸引,在老城區 我們可欣賞到建築藝術之美和人們生活的 演 變 過 程 。」

翻 新 舊 建 築 的 專 案, 更 覺 得 老 城 的 重 要 性: 「因為在這裏可以看到城市發展對人們生活 的 改 變 , 還 可 從 老 建 築 中 感 受 建 築 之 美 。」 71

ลงนิตยสาร Minpao ฉบับ August 2011

64


สื่อในประเทศ

THE HOSTEL BIBLE

13


ห้องที่

1

ห้องที่

2

สารบัญ

การเดินทางของโฮสเทล 33 โฮสเทลคืออะไร วิวัฒนาการของโฮสเทล ต้นก�ำเนิดของ Youth Hostel ชีวประวัติริชาร์ด ชีร์แมน บ้านเยาวชนแบบดั้งเดิมเป็นอย่างไร

รูจ้ ก ั โฮสเทลและฟังก์ชน ั่ ต่างๆ 61 ส่วนที่ 1 รู้จักโฮสเทล -

ห้องที่

3

THE HOSTEL BIBLE

14

ประเภทของนักท่องเที่ยว แบ็กแพ็กเกอร์คือใคร ประเภทของแบ็กแพ็กเกอร์ ปัจจัยความส�ำเร็จของโฮสเทล ประเภทของโฮสเทล การลงทุนธุรกิจโฮสเทลเหมาะกับใคร รูปแบบของโฮสเทล

64

64 66 67 68 76 78 78

37 37 38 41 59

ส่วนที่ 2 ฟังก์ชน ั่ ต่างๆ ของโฮสเทล

เริ่มต้นธุรกิจโฮสเทล เจ้าของโฮสเทลต้องเป็นคนแบบไหน ทัศนคติและวิธีท�ำธุรกิจโฮสเทล ท�ำเลที่รัก คุณค่าหลักของสินค้า หาให้เจอ จุดขายของคุณคืออะไร หาให้พบ ลูกค้าของคุณคือใคร ศิลปะการครองใจ ชื่อดีก็น่านอน คีย์เวิร์ดและค�ำขวัญ

-

พื้นที่สร้างรายได้ องค์ประกอบของส่วนกลาง องค์ประกอบของส่วนห้องพัก พื้นที่ที่ไม่สร้างรายได้

95 96 98 98 100 101 106 107 108 109

84

86 86 89 93


ห้องที่

4

มาร์เก็ตติ้งคือการสื่อสาร อยากท�ำโฮสเทลต้องลงทุนเท่าไร การจัดการโฮสเทล การบริการและทีมงาน “รุ่ง” หรือ “ร่วง” ก็เพราะรีวิวนี่ละ ดังชั่วข้ามคืน ภาษีและกฎหมาย การบ�ำรุงรักษา เตรียมตัวเมื่อจะออกจากธุรกิจ

111 112 116 118 121 121 122 124 125

เคาะประตูโฮสเทล (Case Study)

127

ส�ำรวจโฮสเทลรอบกรุงเทพฯ - Lub d Hostel 128 - Saphaipae Hostel 142 - Yim Huai Khwang Hostel 154 - Bed Station Hostel 164 - The Yard Hostel 174 - Matchbox Hostel 186 - Boxpackers Hostel 194 - POD Hostel 202 - One Day l Pause & Forward 210 กรณีศึกษาโฮสเทลในญี่ปุ่น - Nui Hostel

Talk to the Expert ส่งแขก

ส�ำรวจโฮสเทลรอบสิงคโปร์ - Adler Hostel - 5footway.inn - Matchbox The Concept Hostel - Royal Hostel - Rucksack Inn - Wink Hostel - Green Kiwi Bakpacker Hostel - Gap Year Hostel - Betel Box - บทสัมภาษณ์ Adler Hostel

224 226 227 229 230 231 232 233 234 238

244

250 252

THE HOSTEL BIBLE

15


ค�ำนิยม

The Hostel Bible เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ซึ่งเน้นถึงการท�ำ Hostel โดยเฉพาะ เจาะลึกถึงแก่น หนักแน่นด้วยเนื้อหา อาจกล่าวได้ว่า เป็นต�ำรา Hostel หลากหลายรูปแบบ ทุกๆ รูปแบบสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทุกสถานที่ ทุกเวลา แต่ไม่ว่าคุณจะสนใจแบบไหน อย่าลืมใส่ “ใจ” เพราะเมื่อคุณใส่ใจ คุณจะได้ใจ คุณจะได้สิ่งที่คุณอยากได้ตามมา มาท�ำความฝันให้เป็นจริง ท�ำสิ่งที่คุณอยากท�ำกันเถอะครับ องอาจ คล้ามไพบูลย์

THE HOSTEL BIBLE

16

ประธานสมาคมบ้านเยาวชนแห่งประเทศไทย Thai Youth Hostels Association


ค�ำนิยม “แก่น”

หลายครัง้ หลายคราทีบ่ รรดาลูกศิษย์ลกู หา แม้แต่ผมเอง ก็มกั หลงไปจาก “แก่น” ซึ่งเป็น “สาระส�ำคัญ” อันเป็น “หลักชัย” ในการด�ำเนินชีวิต ซึ่งในความคิดของผมแล้ว “แก่น” นี้มีความส�ำคัญเป็นที่สุดในการพัฒนาทั้ง “วิสัยทัศน์” และ “กระบวนทัศน์” ผมมักจะย�้ำเสมอๆ ว่าให้หา “แก่น” ของชีวิตให้พบ ไม่ว่าจะท�ำการศึกษาเรื่อง ใดหรือคิดอ่านกิจการงานใด ก็เป็นเรือ่ งทีน่ า่ เศร้าครับทีใ่ นปัจจุบนั คนส่วนใหญ่มกั ใช้ระบบ ระเบียบของ “วิถคี ดิ ” แบบ “ตะวันตก” (ซึง่ จะว่าไปแล้วผมก็เคยหลงไปกับระบบระเบียบ และวิถคี ดิ แบบ “ตะวันตก”มายาวนานมาก) ก็ยงิ่ ท�ำให้หลุดและหลงไปจาก “แก่น” มากขึน้ เท่านั้น จะว่าไปแล้ว “แก่น” ของผมก็คือการหา “เหตุ” ที่แท้จริงในการลงมือกระท�ำ ในกิจการงานนั้น ส่วน “ผล” ก็ล้วนแล้วมาจาก “เหตุ” ที่มาจาก “แก่น” อันเกิดจาก การศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้เจาะลึกลงตรงไปที่ “หัวใจ” ของ “แก่น” จึงเป็นการศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติที่สัมผัสได้เพียงแค่ผิวเผิน หรืออาจจะเรียกว่า “เปลือก” หรือ “กระพี”้ ก็ได้ ท�ำให้ยงิ่ คิดว่ารูม้ าก ยิง่ หลงไปมากเกิดเป็น “มานะทิฐิ” มาก จนกลายเป็นคนประเภท “น�้ำเต็มแก้ว” ไม่รู้ว่าน�้ำที่อยู่เต็มแก้วนั้น จะน�ำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง นอกจากนั้นพอน�้ำเต็มแก้วแล้วก็มักจะปิดกั้น การ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปเสียหมด แล้ว “แก่น” คืออะไรกันแน่ นอกจากนั้นการที่จะเข้าถึง “แก่น” จะสามารถ ท�ำได้อย่างไร เมือ่ เข้าถึง “แก่น” แล้ว จะเข้าสูก่ ระบวนการแลกเปลีย่ น เรียนรู้ แบ่งปันกัน ได้อย่างไร รวมทั้งการ “ปรับประยุกต์” ใช้ “แก่น” ด้วย “สติ” และ “ปัญญา” อย่าง ไม่ประมาท และยังก่อให้เกิดประโยชน์ที่ถึงพร้อมให้กับตนเองและผู้อื่นได้อย่างไร ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากระบวนการอันจะน�ำไปสู่ “แก่น” ส�ำหรับผมแล้วจึงเป็นกระบวนการเรียน รู้และลงมือปฏิบัติจริงที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งครับ

THE HOSTEL BIBLE

17


นอกจากนัน้ ยังเป็นกระบวนการทีก่ อ่ ให้เกิดความสุข จากการได้รจู้ ากผลทีไ่ ด้รบั เป็นอย่างยิ่ง เพราะยิ่งเข้าใกล้ “แก่น” เท่าไหร่ก็ยิ่งมีความสุขมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าผล ที่ได้รับนั้นจะเป็นเช่นไร จะว่าไปแล้วผมใช้เวลากว่า 20 ปี (หลังจากที่เข้าไปศึกษาใน ระดับปริญญาเอก) ตั้งเป้าไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะหา “แก่น” ของชีวิตผมให้พบให้จงได้ ถึง แม้ในปัจจุบันจะยังไม่ถึง “แก่น” ที่ตั้งเป้าไว้ แต่ก็รู้ว่า ได้เดินมาถูกทางแล้ว หากมุ่งมั่น เดินหน้าต่อไปด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ และไม่กลัวความล้มเหลวพร้อมที่จะฝ่าฟัน อุปสรรค หากถึงพร้อมด้วยสติและปัญญา ประกอบกับโชคดีมวี าสนาก็นา่ จะค้นพบ “แก่น” ของชีวิตผมในที่สุด พอได้รบั รูเ้ ช่นนีแ้ ล้ว ควรทีจ่ ะเริม่ ตัง้ ต้นค้นหา “แก่น” แบบจริงๆ จังๆ กันได้หรือ ยัง วิธีเริ่มต้นง่ายๆ ที่ผมค้นพบคือ การ “ลองท�ำดู” ท�ำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าจะน�ำไปสู่ “แก่น” ของชีวติ ซึง่ จะว่าไปแล้ว “แก่น” ของใครก็เป็นของคนคนนัน้ ท้ายทีส่ ดุ นีข้ อเอาใจ ช่วยอาจารย์ “ขิง” ให้พบกับ “แก่น” ในเร็ววันครับ

อาจารย์เชี่ยว ชอบช่วย

THE HOSTEL BIBLE

18

(ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์)


ค�ำนิยม

ผมเป็นคนคนหนึ่งที่หลงรัก Design Hotel จะเล็กจะใหญ่ ขอเลือกที่จะพัก โรงแรมแบบนี้ เป็น Priority เสมอ เพราะด้วยเหตุผลง่ายๆ ได้เห็นไอเดียใหม่ๆ ไอเดีย น่ารักๆ จากเจ้าของไอเดีย เจ้าของโรงแรม โดยตรง ยิ่งผมได้รับเชิญเป็นกรรมการ Thailand Boutique Awards มา 3 Seasons แล้วนี่ยิ่งสนุกไปกันใหญ่ เพราะได้เยี่ยมชมโรงแรมสวยๆ ทั่วประเทศ 3 ปีเป็นร้อยโรงแรม ไอเดียบรรเจิดขึ้นไปอีก โรงแรมน้อยใหญ่ทุกโรมแรมต่างมีไอเดียที่ต่างกันในหลายๆ เหตุผล สิ่งที่ส�ำคัญที่สุดคงเป็นแรงบันดาลใจจากเจ้าของโรงแรมนั่นเอง นอกจากนีผ้ มยังได้มโี อกาสเดินทางต่างประเทศค่อนข้างบ่อย ปีหนึง่ ๆ เรียกได้วา่ ทุกเดือน ไกลบ้างใกล้บา้ ง แล้วได้มโี อกาสพักโรงแรมทีเ่ รียกว่า B&B หรือ Bed and Breakfast บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ซึ่ง 100 เปอร์เซ็นต์เป็นโรงแรมที่เจ้าของท�ำเอง ดูแลเองทัง้ สิน้ เอาบ้านตัวเองมาดัดแปลงเป็นทีพ่ กั ห้องพักน้อยๆ บางทีเ่ อาโรงนา โรงเก็บม้า มาท�ำเป็นห้องพัก หลายๆ แห่งอายุนบั ร้อยปี ส่วนใหญ่ประทับใจในสแตนด์ดาร์ดทีเ่ ขาท�ำกัน English Breakfast หน้าตาเหมือนกันทุกที่ จ�ำนวนไส้กรอก ไข่ดาว ถัว่ ต้ม ทีส่ ำ� คัญเขารักษา คาแร็กเตอร์ความเป็นอังกฤษได้ทุกแห่ง นีก่ ถ็ อื ว่าเป็นโชคดีของคนไทยทีไ่ ด้มคี นอย่างคุณวรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ทีล่ กุ ขึน้ มา รวบรวมความรู้ที่เกี่ยวกับ Hostel ขึ้นมา แถมยังได้ผู้รู้อย่างคุณตุ่ย-จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์ ณ Lab d Hostel และอีกหลายๆ ท่านทีอ่ ยูใ่ นแวดวง มาช่วยกันแชร์ประสบการณ์ ท�ำให้ หนังสือเล่มนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก

เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน

Co-CEO Index Creative Village PLC

THE HOSTEL BIBLE

19


ค�ำนิยม

จาก Youth Hostel ที่ได้พัฒนาจนมาเป็นธุรกิจ Design Hostel ในปัจจุบันนั้น ผมเห็ น ศั ก ยภาพและพั ฒ นาการของแนวคิ ด ที่ ห ลากหลาย รวมถึ ง วิ ธี ก ารน� ำ เสนอ ประสบการณ์จากผูป้ ระกอบการโฮสเทลรุน่ ใหม่ ทีเ่ ริม่ ตกผลึกและเริม่ เกิดเป็นแนวทางใน การประกอบธุรกิจโฮสเทลทีช่ ดั เจนขึน้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ กลุม่ เป้าหมายทีม่ พี ฤติกรรมใน การใช้ชีวิตที่มีรูปแบบเฉพาะตัวมากขึ้น และที่ส�ำคัญจ�ำนวนโฮสเทลมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว จนท�ำให้ธรุ กิจนีก้ ลับมาเป็นโอกาส กลับมาเป็นทางเลือกใหม่อกี ครัง้ ส�ำหรับ การลงทุนที่น่าจับตามอง และเป็นที่สนใจในกลุ่ม SME เป็นอย่างมากในปัจจุบัน เมื่อ หลายปีก่อนผมได้รับเกียรติให้ไปบรรยายและมีโอกาสได้พูดถึงแนวโน้มหรือ Trend ใน การออกแบบที่พักชั่วคราวแห่งอนาคต ซึ่งผมได้น�ำเสนอไว้หกประเภท หนึ่งในนั้นก็คือ Design City Hostel นั่นเอง ผมเองมองว่าพื้นฐานการท�ำโฮสเทล คือความตั้งใจในการที่จะสร้างพื้นที่และ เพิม่ โอกาสในการแลกเปลีย่ นเรือ่ งราว รวมถึงประสบการณ์ใหม่ มิตรภาพใหม่ สังคมใหม่ สังคมของการแบ่งปัน สังคมแห่งการให้เกียรติซึ่งกันและกัน สังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่ง แนวคิดดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นแนวคิดใหม่อะไร แต่มันเป็นแนวคิดที่กลับมาตอบโจทย์ให้กับ คนในโลกยุคปัจจุบันที่ต้องการพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว ผมเห็นว่าหากเราจะพูดถึงเรื่องราวของการพัฒนารูปแบบธุรกิจโฮสเทลในเวลา นี้ ก็คงไม่มใี ครทีจ่ ะเหมาะสมไปกว่าสองท่านนี้ คุณวรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ในฐานะทายาท ของผู้บุกเบิกธุรกิจโฮสเทลในประเทศไทยเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน ที่ได้จับมือร่วมกับพี่ตุ่ยจิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโฮสเทลต้นแบบที่ประสบความส�ำเร็จที่สุดแห่ง หนึง่ ของประเทศไทยในนาม Lub d มาร่วมกันร้อยเรียง รวบรวมเรือ่ งราว แนวคิด ความรู้ และประสบการณ์ ให้กบั ผูท้ สี่ นใจในธุรกิจโฮสเทล ผ่านหนังสือเล่มนีไ้ ด้อย่างสมบูรณ์ทสี่ ดุ เท่าที่เคยมีมา และสุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า ไม่มีชื่อหนังสืออะไรที่จะเหมาะกับหนังสือเล่มนี้ ไปกว่า The Hostel Bible อีกแล้วครับ THE HOSTEL BIBLE

20

โอภาส ลิมปิอังคนันต์

นายกสมาคมนักออกแบบเรขศิลป์แห่งประเทศไทย


ค�ำนิยม

ถ้ามีความเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว จนติดเป็นจุดหมายปลายทาง ที่ใครๆ ก็อยากมา ธุรกิจ Hostel นั่น ก็คือ ใช่เลย ! ที่คนมาเที่ยว ยังไงก็ต้องมีห้องพักเสมอ เทรนด์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ เทมาทางนี้ ทั้งฮิปสเตอร์ไทย และนอก ไม่ใช่แค่ราคาทีถ่ กู กว่าโรงแรม 4-5 ดาว แต่นนั่ มีความเท่ดว้ ย และได้เพือ่ นใหม่ๆ แนวเดียวกัน ด้วยอีกต่างหาก นัน่ จึงเป็นทีม่ าของการท�ำธุรกิจ Hostel ทีไ่ ม่ได้ลงทุนมากมายนัก แต่เก็บเกีย่ วผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง ยาวๆ หลายคนประยุกต์จากบ้านเก่าบ้าง หรือสร้างใหม่ในที่ดินที่ปล่อยไว้เปล่าๆ แล้วก็เริ่มต้น ธุรกิจที่น่ารักนี้ เสมือนเป็นเจ้าของโรงแรมฉบับย่อมๆ ได้เลย แล้วถ้าสนใจจะท�ำ Hostel จะเริ่มต้นยังไง ? หนังสือเล่มนี้ มีค�ำตอบ ด้วยการเป็นทีย่ อมรับในวงการว่าเป็น กูรบู ตู คิ โฮเต็ลคนแรกของประเทศไทย “อาจารย์ขงิ ” วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ มาถ่ายทอดแบบหมดเปลือก ชนิดเป็นไบเบิ้ล แบบบทต่อบท น่าสนใจก็ตรงทีผ่ เู้ ขียนไม่ใช่แค่นกั เคยฝากผลงานชือ่ ดัง “เปลีย่ นบ้านเก่าเป็นบูตคิ โฮเต็ล” เท่านั้น แต่อาจารย์ขิงคือตัวจริง เป็นเจ้าของ และท�ำธุรกิจนี้จริงๆ อีกด้วย และยังมีพี่ตุ่ย-จิตติพันธุ์ ศรีกสิกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Lub d Hostel จนเป็นแบรนด์ โฮสเทลระดับโลกของไทยเพียงแบรนด์เดียว มาเป็นผู้ร่วมเขียน นอกจากจะได้แค่สร้าง Hostel ควรต้องให้ Hostel ที่สร้าง ประสบความส�ำเร็จ ! ไม่อย่างนั้นคงไม่สนุกนัก เวลาต้องมาลุ้นจ�ำนวนแขกที่เข้าพักในแต่ละวัน ความรู้จึงต้องมีและควรศึกษาจากผู้มีประสบการณ์ ตั้งแต่การออกแบบให้โดนใจลูกค้า การหาจุดขายที่โดดเด่น รวมถึงการท�ำการตลาด ซึ่งล้วนแต่เป็น เรื่องส�ำคัญ รายละเอียดและข้อแนะน�ำในหนังสือเล่มนี้ จะช่วยเป็นแนวทางที่ดีของผู้ที่สนใจได้ดี และอ่านดูแล้วก็จะได้รู้ว่า จริงๆ แล้วเราก็สามารถเป็นเจ้าของ Hostel ได้เหมือนกัน

ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา

ส�ำนักพิมพ์สต็อคทูมอร์โรว์

Email, Facebook : piyaphan@stock2morrow.com Fanpage : www.facebook.com/PiyaphanMakeBillion

THE HOSTEL BIBLE

21


ค�ำนิยม

“Hostel Bible” ไม่ใช่ชื่อหนังสือที่โอ้อวดเกินตัว เพราะเนื้อหาในเล่มเสมือนเป็นคู่มือครบวงจร ของคนที่อยากเป็นเจ้าของโฮสเทล ครบถ้วนทุกกระบวนความจริงๆ ครับ

ว่ากันตั้งแต่ ใครกันจะอยากมาพักร่วมกับคนอื่น? มีตลาดอยู่จริงเหรอ? เลือกสถานที่อย่างไร? ต้องลงทุนเท่าไหร่? ก�ำไรยากง่ายแค่ไหน? อุปสรรคที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง? จะตั้งชื่ออย่างไร ท�ำการตลาด การขาย สร้างแบรนด์อย่างไรให้ติด ผมรู้สึกได้รับพลัง ทุกครั้งที่ได้รับฟังเรื่องราวของคนที่มี Passion รักในสิ่งที่เขาท�ำ หนังสือเล่มนี้มีพลังที่ว่านั้น แต่สิ่งที่ผมชอบมากกว่านั้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ชวนคุณไปฝันสวยๆ แล้วท�ำไม่ได้บนโลกจริง แต่ชวนคุณมาท�ำโลกแห่งความจริง ให้สวยๆ เหมือนในฝันของคุณ “แชร์” คือวิถีใหม่ของโลกยุคนี้ แชร์ไอเดีย แชร์ที่ท�ำงานร่วมกัน และตอนนี้เราเดินทางมาถึงโลกของการ “แชร์ที่พักร่วมกัน” เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์จากเพื่อนใหม่ทั่วโลก นั่นจึงเป็นจุดก�ำเนิดของธุรกิจที่น่าสนใจอย่าง “โฮสเทล” “Hostel Bible” ได้แชร์เรื่องราวทั้งหมดของ “โลกใบเล็ก” ในโฮสเทลไว้ “โลกใบเล็ก” ที่พาคนจาก “โลกใบใหญ่” มาพบกัน และมันคือ “โลกใบใหม่” ของคนอยากท�ำธุรกิจที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ช่างเป็นหนังสือที่น่าประทับใจจริงๆ ครับ THE HOSTEL BIBLE

22

บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ

นักเขียน Bestseller นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ www.boywisoot.com


ค�ำนิยม

ขิงคงจ�ำได้วา่ พีต่ าเป็นนักข่าวคนแรกๆ ทีเ่ ห็นการท�ำงานของขิง นับจากสามเสน 5 ลอดจ์ของขิงที่บังเอิญอยู่ใกล้บ้านพี่มาก แถวนั้นพี่มักเดินเล่นเสมอ จนเจอบูติคเล็กๆ แล้วพี่สนใจมาก ค้นหาว่าเจ้าของเป็นใคร นัดสัมภาษณ์ พี่ยังจ�ำได้ในตอนนั้นว่า ขิงเป็น SME ที่น่าสนใจมาก ใช้งบ 7 แสนบาท สร้างบูติคโฮเต็ลขนาด 3 ห้อง ความที่อยู่ใกล้กัน เราก็เจอกันโดยบังเอิญบ่อย ทัง้ ทีแ่ ถวตลาดบางล�ำพู เพราะขิงต้องไปหาซือ้ อาหารให้แขก รับประทาน และต่างคนต่างไปไหว้พระที่วัดชนะสงคราม หลังจากนั้นพี่ก็เชิญขิงเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องคอร์สบูติคโฮเต็ลของเนชั่น หลายครั้ง และบางครั้งงานที่ขิงจัดคอร์สสอนเอง พี่ก็มีส่วนร่วมบ้างเล็กๆ น้อยๆ จ�ำได้ว่าครั้งหนึ่งพี่ช่วยเชิญคุณธวัชชัย อรัญญิก อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย มาร่วมเปิดเสวนาให้ขิงด้วย และขิงเองก็เคยเชิญพี่ไปบรรยายในคอร์สด้วย เช่นกัน จนกระทัง่ พีไ่ ด้รว่ มกับคุณสถาพร สิรสิ งิ ห แห่งเคทีซี ร่วมกันคิดโครงการประกวด ไทยแลนด์ บูติค อวอร์ด จากมื้ออาหารกลางวันแห่งหนึ่ง และได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ ที่ปรึกษาโครงการ นั่นท�ำให้พี่ยิ่งมีโอกาสสัมผัสเรื่องราวของบูติคโฮเต็ลลึกซึ้ง ได้เดินทาง ไปเจอบูติคแทบจะทั่วไทย เห็นความหลากหลายของโรงแรมเล็กๆ ที่น่ารักเหล่านี้จาก เหนือจรดใต้ เป็นขณะเดียวกับที่ขิงได้สร้างฐานการเติบโตของตนเองอย่างมั่นคง ทั้งการจัด คอร์สสอนอบรมมากมาย รับเป็นที่ปรึกษาให้บูติคหลายแห่ง ออกพ็อกเก็ตบุ๊คเรื่องของ โรงแรมบูติค เรียกได้ว่าเราเดินมาคู่ขนานบนเส้นทางสายบูติคกันเลยทีเดียว แต่พี่คงต้อง ขอออกตัวว่า ไม่ได้เป็นกูรทู รี่ อบรูท้ กุ ด้านอย่างขิง ซึง่ ในผลงานเขียนพ็อกเก็ตบุค๊ ท่องเทีย่ ว ไทยทั้ง 25 เล่มของพี่ พี่เองก็มีโอกาสเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คเรื่องบูติคโฮเต็ลโดยเฉพาะ ของตัวเองมา 1 เล่มเช่นกัน ชือ่ ว่า บูตกิ โฮเต็ลมหาเสน่ห์ อาจจะยอดขายน้อยกว่าขิงเยอะ แต่เชื่อว่าสิ่งที่เหมือนกันคือ พวกเราหลงรักในความน่ารักและมีเสน่ห์ของโรงแรมเหล่านี้ THE HOSTEL BIBLE

23


ขอแสดงความยินดีกบั น้องคนนีใ้ นความส�ำเร็จหลายๆ ด้านในเส้นทางสายนี้ และ นับวันจะยิง่ ก้าวเดินหน้าต่อไปในเส้นทางสายบูตคิ โฮเต็ล ซึง่ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะ ยังมีอปุ สรรคขวากหนาม ทั้งในเรื่องกฎหมายที่เข้มงวดรัดกุม ไม่เอื้ออ�ำนวยต่อโรงแรม ขนาดเล็ก ทัง้ ภาวะเศรษฐกิจทีอ่ าจท�ำให้นกั ลงทุนหน้าใหม่ในธุรกิจนีต้ อ้ งระวังตัวมากยิง่ ขึน้ แต่เชื่อว่าความสนใจในกระแสสังคมที่มีต่อขิงจะไม่ลดน้อยถอยลงไป ส�ำหรับหนึ่งในกูรู ด้านบูติคโฮเต็ลระดับแถวหน้าของประเทศไทย อย่าง “วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์” เดินหน้าต่อไปกับการเติบโตบนถนนสายนี้นะคะ

สาธิตา โสรัสสะ

THE HOSTEL BIBLE

24

รองประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกและมติชน


ค�ำนิยม

ผมเป็นอีกคนหนึง่ ทีช่ อบเดินทางไปต่างประเทศเสมอ ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งเรียนหรือ เรื่องงานก็ตาม สมัยที่ผมเป็นนักเรียน ที่พักที่ชอบมากก็คือโฮสเทล เพราะเป็นสถานที่ที่ ท�ำให้เราได้พบเจอเพือ่ นใหม่ ได้เรียนรูส้ งิ่ ใหม่ๆ และได้เปิดโลกทัศน์กบั เพือ่ นชาวต่างชาติ ปัจจุบันในงานที่ผมท�ำอยู่ ยังคงเป็นงานที่ได้มีโอกาสเดินทางอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ ไม่ได้พักโฮสเทลบ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังจ�ำความรู้สึกและบรรยากาศได้เป็นอย่างดี ผมได้รจู้ กั พีข่ งิ -วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ มาได้เกือบหนึง่ ปีแล้ว จากหนังสือทีส่ อนให้คนทัว่ ไป ท�ำธุรกิจบูตคิ โฮเต็ลขนาดเล็กทีช่ อื่ ว่า “เปลีย่ นบ้านเก่าเป็นบูตคิ โฮเต็ล” และได้รจู้ กั มากขึน้ เมื่อพี่ขิงได้น�ำหนังสือเล่มนี้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอีบุ๊กของเรา ในมุมของผู้ที่สนับสนุนธุรกิจ SME และ START UP อย่างผมแล้ว การเริ่มต้น ท�ำธุรกิจด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของคนที่ประสบความส�ำเร็จนั้น เป็นการ ย่นเวลาและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีที่สุด ผมทราบมาว่าพี่ขิงได้ท�ำบูติคโฮเต็ล ชื่อว่า Samsen5Lodge ที่ปรับจากโรงรถมาเป็นบูติคขนาดเพียง 3 ห้อง เป็นสถานที่ที่ มีชื่อเสียงและได้รับการตีพิมพ์ไปทั่วโลก รวมทั้งยังเป็นผู้ที่สอนให้คนท�ำธุรกิจบูติคโฮเต็ล ขนาดเล็กมาแล้วจ�ำนวนมาก ผ่านคอร์สที่ชื่อ “เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล” เมื่อพี่ขิงมาเขียนหนังสือโฮสเทล “The Hostel Bible” และยังได้น�ำมาเป็น ส่วนหนึง่ ของโครงการอีบกุ๊ ของ Ookbee อีกด้วยนัน้ ผมทราบว่าหนังสือเล่มนีเ้ ขียนร่วมกับ ผูท้ ปี่ ระสบความส�ำเร็จในการท�ำธุรกิจโฮสเทลทีม่ ชี อื่ เสียงอย่าง Lub d Hostel และยังมี การเก็บข้อมูลจากเจ้าของธุรกิจโฮสเทลที่ประสบความส�ำเร็จหลายท่าน ผมเชื่อว่านี่เป็น สิง่ ทีม่ ปี ระโยชน์มากส�ำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ทตี่ อ้ งการท�ำธุรกิจโฮสเทล เพราะนีค่ อื ธุรกิจ สร้างสรรค์ที่คุณต้องใช้ความสามารถรอบด้าน ตั้งแต่การเลือกท�ำเลที่ตั้ง การออกแบบ การท�ำการตลาด และการจัดการ ในงบประมาณที่ไม่มากนัก ตรงกับลักษณะของธุรกิจ SME START UP ทุกประการ ขอให้นักลงทุนโฮสเทล START UP ทุกคนประสบความส�ำเร็จครับ!!!

ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์

ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊กบี จ�ำกัด และบริษัท IT WORKS จ�ำกัด

THE HOSTEL BIBLE

25


ค�ำนิยม

ในยุคปัจจุบนั มีผคู้ นให้ความสนใจในการลงทุนมากขึน้ ทัง้ การลงทุนในหุน้ การลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ ยิง่ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทหี่ ลายคนกังวลว่าจะต้องใช้เงินลงทุน มาก แต่ปจั จุบนั การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นนั้ มีหลากหลาย ไม่วา่ จะเป็นบ้าน คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ ซึง่ ล้วนแต่มรี ายได้เป็นรายเดือน ส่วนอสังหาริมทรัพย์ทมี่ รี ายได้เป็นรายวัน เพื่อนๆ ก็คงจะนึกถึงโรงแรมเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินสูง ! แล้วจะมีการลงทุนทีม่ รี ายได้แบบรายวันเหมือนโรงแรม แต่ลงทุนไม่มากบ้างมัย้ ? ค�ำตอบคือ มีค่ะ หลังจากที่ยุ้ยได้รู้จักกับคุณขิง-วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ท�ำให้ยุ้ยรู้ว่ายังมี การลงทุนทีใ่ ช้เงินไม่ตอ้ งเยอะ ขอเพียงแต่มไี อเดีย ความเป็นตัวของตัวเองและแรงบันดาลใจ ของเจ้าของใส่ลงไป ก็สามารถสร้างรายได้แบบรายวันได้แล้วค่ะ คุณขิงเป็นผูเ้ ปิดโลกการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รปู แบบใหม่ ในสไตล์บตู คิ โฮเต็ล ที่ดังกระฉ่อน เป็นทั้งกูรูและผู้ประสบความส�ำเร็จในการท�ำธุรกิจบูติคโฮเต็ลขนาดเล็ก ที่ชื่อว่า Samsen5Lodge ที่น�ำโรงรถมาเปลี่ยนเป็นบูติกโฮเต็ล โดยน�ำคอนเซ็ปต์การ อนุรักษ์สงิ่ แวดล้อมเข้ามามีสว่ นในการก่อสร้าง จนกลายเป็นบูตคิ ทีม่ ชี อื่ เสียงและถูกตีพมิ พ์ ไปทัว่ โลก และยังแบ่งปันความรูใ้ นรูปแบบของหนังสือและสัมมนา ทีม่ ชี อื่ ว่า “เปลีย่ นบ้านเก่า เป็นบูติกโฮเต็ล” อีกด้วย และส�ำหรับหนังสือ “The Hostel Bible” ทีอ่ ยูใ่ นมือคุณเล่มนี้ ยุย้ เชือ่ ว่าจะเป็น หนังสือคุณภาพอีกเล่ม ทีม่ ปี ระโยชน์สำ� หรับผูท้ กี่ ำ� ลังตัดสินใจในการลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะคุณขิงได้รวบรวมแนวคิดของผู้ที่ประสบความส�ำเร็จในการท�ำธุรกิจโฮสเทลที่มี ชือ่ เสียงไว้ในหนังสือเล่มนี้ เช่น พีต่ ยุ่ -จิตติพนั ธ์ ศรีกสิกรณ์ เจ้าของ Lub d Hostel และเจ้าของ ธุรกิจโฮสเทลอีกหลายท่าน หวังว่านอกจากคุณผูอ้ า่ นจะได้เรียนรูเ้ รือ่ งแนวคิดในการลงทุน ไอเดียการออกแบบ การตลาด การบริหารจัดการและเรือ่ งต่างๆ ทีจ่ ำ� เป็นจะต้องรูใ้ นการท�ำธุรกิจโฮสเทลแล้ว สิง่ ส�ำคัญทีค่ ณ ุ จะได้คอื ...ประสบการณ์ของคนส�ำเร็จ ! เพราะยุย้ เชือ่ ว่า “สุดยอดของการ เรียนรู้ คือการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนส�ำเร็จ” ค่ะ THE HOSTEL BIBLE

26

อัญพัชร์ ทรัพย์ยืนยง (ยุ้ย)

นักเขียน ผู้แต่งหนังสือ “ไม่ต้องไฮโซ ก็ลงทุนคอนโดได้” และ “ลุยคอนโด ไม่ต้องมีเงินก้อนโตก็ได้”


ค�ำนิยม

ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาท�ำโรงแรมหรือโฮสเทล ผมเรียนจบทางด้าน วิศวกรรม ท�ำงานเป็นวิศวกร ไม่เคยมีประสบการณ์การท�ำงานบริการมาก่อน จนวันหนึง่ อยากเริม่ ต้นท�ำธุรกิจ เลยมองหาจากความชอบของตัวเอง ผมชอบ เดินทาง และมีประสบการณ์การพักทั้งโฮสเทลและบูติคโฮเต็ลในยุโรป จึงมีความคิดว่า อยากจะท�ำโฮสเทลแบบทีม่ ดี ไี ซน์ หรือ Design Hostel ในกรุงเทพฯ ซึง่ ณ ขณะนัน้ ยังไม่ ค่อยมีทั้งในและต่างประเทศ ผมเริม่ ต้นจากศูนย์โดยอาศัยจากประสบการณ์ ในฐานะลูกค้า อ่านหนังสือ และ เข้าคอร์สอบรมต่างๆ ในการหาความรู้ และได้มาเจอกับอาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ (ขิง) ในเวิรค์ ช็อป “เปลีย่ นบ้านเก่าเป็นบูติกโฮเต็ล” ซึ่งได้ให้กรอบความคิดและประสบการณ์ จริงของผู้ที่ท�ำบูติคโฮเต็ล รวมทั้งให้โอกาสผมได้ไปแบ่งปันประสบการณ์ในคอร์สหลาย ครั้ง จนมาถึงปัจจุบันพี่ขิงมีความตั้งใจจะจัดท�ำหนังสือส�ำหรับโฮสเทลโดยเฉพาะ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้ซึ่งเกิดจากประสบการณ์จริงของคนท�ำโฮสเทล จะท�ำให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ และเข้าใจที่พักประเภทโฮสเทลมากขึ้น ขอให้ผู้ที่สนใจจะเข้ามาท�ำธุรกิจโฮสเทลทุกท่าน ตั้งใจและอดทนกับปัญหา ที่เข้ามา และใช้ประสบการณ์ของผมและผู้ก่อตั้งโฮสเทลหลายๆ ท่านในหนังสือเล่มนี้ ให้เป็นประโยชน์สูงสุด

โชติรัตน์ อภิวัฒนาพงศ์ ผู้ก่อตั้ง Yim Huai Khwang Hostel

THE HOSTEL BIBLE

27


ทักทาย โดย วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ โลกนีไ้ ม่มอี ะไรเป็นเรือ่ งบังเอิญ...เมือ่ 25 ปีกอ่ นตอนอยู่ ม.3 ผมใส่ขาสัน้ ช่วยพ่อหิ้ว ถังปูนส่งให้คนงานสร้างตึก 4 ชั้นหลังหนึ่งตรงเทเวศร์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นบ้านเยาวชน แห่งแรกของเมืองไทย ทีน่ นั่ ผมได้เรียนรูป้ ระสบการณ์ทมี่ คี ณ ุ ค่ามากมาย ตัง้ แต่การก่อสร้าง การเช็กอิน-เช็กเอาต์ลกู ค้า เก็บเงิน ส่งแขก ปูผา้ เก็บผ้า พาแขกไปเทีย่ ว ไล่แขกที่ไม่มีเงิน แม้กระทั่งเก็บศพแขก ถ้าไม่มีวันนั้น ผมคงไม่มีบูติคโฮเต็ลที่ชื่อ Samsen5Lodge และคงจะไม่มีคอร์ส “เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล” ในวันนี้ ในจิตทัศน์ของผม ผมมองเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ร�่ำรวยคนมีการศึกษา มีสภาพแวดล้อมและสังคมที่ดี ผู้คนมีรายได้ดี ท�ำงานในสิ่งที่ตนเองรักจากที่บ้านได้ เกิด การกระจายรายได้ ชุมชนเข้มแข็งน่าอยู่ และสุดท้ายคือ การทีม่ ผี ปู้ ระกอบการธุรกิจขนาด กลางและขนาดย่อมเกิดขึน้ เป็นจ�ำนวนมาก จนส่งผลถึงภาพรวมทีท่ ำ� ให้ประเทศไทยกลาย เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว อะไรคือความเชื่อของคุณ? ท�ำไมคุณถึงเชื่อในสิ่งนั้น? คุณแค่เชื่อ หรือคุณศรัทธาในแบบที่ตายแทนสิ่งนั้นได้? วันนีท้ กุ คนรูว้ า่ โฮสเทลเป็นธุรกิจทีก่ ำ� ลังมาแรงน่าลงทุน เต็มไปด้วยความสนุกสนาน การพบปะเพื่อนฝูงใหม่ๆ การตกแต่งที่สวยงามและไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น แต่จะมีสกั กีค่ นทีท่ ราบว่าต้นก�ำเนิดของโฮสเทลทีย่ อ้ นกลับไปได้ราวหนึง่ ศตวรรษ นัน้ เปีย่ มไปด้วยแรงบันดาลใจ ความรัก และหัวใจของความเป็นเด็กตลอดกาล ของคุณครู ผู้หนึ่งที่มุ่งหวังจะเปลี่ยนแปลงโลกผ่านการเดินทาง

THE HOSTEL BIBLE

28

เมือ่ 100 ปีกอ่ น คุณครูชาวเยอรมันท่านหนึง่ ชือ่ ริชาร์ด ชีรแ์ มน ผูร้ กั การเดินทาง เป็นชีวิตจิตใจ เพื่อเสาะแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ท่านได้ริเริ่มพานักเรียนในเมือง เดินทางไปเปิดหูเปิดตายังดินแดนชนบทในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้รู้จักชื่นชมธรรมชาติ ให้มี สุขภาพแข็งแรงและรูจ้ กั การช่วยเหลือตัวเอง รวมถึงเรียนรูก้ ารอยูร่ ว่ มกัน การเคารพสิทธิ ของตนเองและผู้อื่น


คุณครูท่านนี้พบความยากล�ำบากในการหาที่พักให้กับเด็กๆ เหล่านี้ โดยต้อง อาศัยนอนกันตามโรงเรียน โรงนา โรงงาน หรือแม้แต่โกดังเก็บของ สุดแท้แต่จะหาได้ คุณครูรชิ าร์ดเชือ่ ว่าเยาวชนควรจะมีทพี่ กั ทีส่ ะดวกสบายพอสมควร มีความสะอาด ปลอดภัยและราคาไม่แพง เพือ่ สนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรูผ้ า่ นการเดินทางไปยังสถานทีใ่ หม่ๆ และในค�ำ่ คืนหนึง่ ของการเดินทาง ขณะพาคณะนักเรียนเข้าพักค้างแรมในโรงเรียน แห่งหนึ่ง ได้เกิดพายุฝนโหมกระหน�่ำ ฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าร้องสะเทือน เลื่อนลั่นราวกับเป็นวันโลกดับ ในค�่ำคืนนั้นเอง คุณครูท่านนี้จึงเกิดแนวคิดที่จะก่อตั้งบ้านพักเยาวชนขึ้นอย่าง จริงจัง อันเป็นที่มาของบ้านเยาวชนแห่งแรกของโลกที่ประเทศเยอรมนีในเวลาต่อมา จากนั้นแนวคิดนี้ก็ได้พัฒนาจนกลายมาเป็น Hostel ของชาวโลกในปัจจุบัน ในคัมภีร์ The Hostel Bible เล่มนี้ เรื่องราวที่คุณจะได้อ่าน จะพาคุณย้อนเวลา กลับไปเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ไปยังจุดก�ำเนิดของโฮสเทลที่ทรงพลังและเต็มไปด้วย แรงบันดาลใจ และค่อยๆ ฉายภาพให้คุณเห็นถึงการเดินทางของธุรกิจนี้ในประเทศไทย ตลอดจนความหมาย วัฒนธรรมของโฮสเทล ไปจนถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ในโฮสเทล ตั้งแต่ การออกแบบ การตัง้ ชือ่ การตัง้ ราคา การท�ำการตลาด ไปจนถึงเรือ่ งราวของโฮสเทลชัน้ น�ำ หลายแห่ง ทั้งของไทย รวมถึงสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ที่ส�ำคัญ คุณจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของบรรดาเจ้าของโฮสเทลที่ โดดเด่นทีส่ ดุ ในกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง เพือ่ ย่นเวลาและลดความเสีย่ งในการลงทุนของคุณ ในการท�ำธุรกิจใดๆ ในโลกที่มีคนท�ำธุรกิจนับไม่ถ้วน แต่มีไม่กี่คนที่ประสบ ความส�ำเร็จ และยินดีที่จะถ่ายทอดและแบ่งปันเรือ่ งราวของพวกเขาให้คุณได้เรียนรู้และ ส�ำเร็จตาม ในการเริ่มต้นท�ำธุรกิจ ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่มีประสิทธิภาพและได้ผลดีเท่ากับ การเรียนรู้จากบุคคลเหล่านี้ แม้จะมีฮาวทูหรือเทคนิคมากมาย แต่โปรดจ�ำไว้วา่ นีค่ อื ธุรกิจสร้างสรรค์ ทุกอย่าง สามารถพลิกแพลงนอกกรอบได้ คนที่ฉลาดกว่า คือ คนที่ลงทุนด้วยความคิด ไม่ใช่เงิน คนที่ลูกค้ายอมควักเงินให้ คือ คนที่กล้าให้ในสิ่งที่ลูกค้าไม่สามารถปฏิเสธได้ คนที่คิดเก่งกว่าจะชนะในตอนต้น แต่คนที่บริหารเก่งกว่าจะชนะในตอนท้าย

THE HOSTEL BIBLE

29


ไม่เพียงแค่การบริหารงานให้อยูร่ อดบนสังเวียนธุรกิจเท่านัน้ ในการท�ำธุรกิจโฮสเทล คุณยังจะได้พบกับประสบการณ์แบบโหด มัน ฮา อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่เป็นสีสัน ให้ชวี ติ ดังค�ำกล่าวทีว่ า่ “ถ้าไม่อยากเห็นสันดานดิบของมนุษย์...อย่ามาเดินบนถนนสายนี”้ และหากมีปราชญ์เคยกล่าวไว้วา่ “เล่หข์ องมนุษย์ทกุ ประการอ่านได้ในสามก๊ก” ผมก็ขอกล่าวเช่นกันว่า... “ธรรมชาติของมนุษย์ทุกประการพบเห็นได้ในโฮสเทล” อาชีพ Hosteller เป็นงานที่สนุกท้าทาย ซึ่งคุณและทีมงานต้องพลิกแพลง ใช้ความสามารถรอบตัว เป็นงานที่คุณจะได้พบเจอกับผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย ได้เรียนรู้ที่จะรัก หรือชังมนุษย์ด้วยกันเอง เป็นงานทีค่ ณ ุ จะได้คน้ พบศักยภาพมากมายทีซ่ อ่ นอยูใ่ นตัวคุณ และในตัวเพือ่ นมนุษย์ ด้วยกัน ในวันทีโ่ ลกยังเต็มไปด้วยความรุนแรง การแบ่งแยก การเลือกปฏิบตั ิ และสงคราม ผมขอระลึกถึง ริชาร์ด ชีร์แมน ผู้ริเริ่มแนวคิดของโฮสเทลและที่พักนักเดินทางเยาวชน ให้เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ตลอดจนได้ เรียนรู้จากเพื่อนมนุษย์ที่มีความแตกต่าง เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน คุณครูชาวเยอรมันท่านนีม้ คี วามฝันว่า บ้านพักเยาวชนจะเป็นสถานทีท่ เี่ ยาวชน จะได้มโี อกาสได้พบปะกัน ในสถานทีท่ กี่ อ่ ให้เกิดบรรยากาศของมิตรภาพ เพือ่ ทีจ่ ะเรียนรู้ การเคารพสิทธิของการอยู่ร่วมกัน และยอมรับความแตกต่างจากวัฒนธรรม ความเชื่อ และศรัทธา ที่หลากหลาย จากชนชาติหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่งทั่วทั้งโลก เพราะทุกคนล้วนต่างก็มาจากชาติเดียวกัน นั่นคือ ชาติของความเป็นหนุ่มสาว.... ตลอดกาล

THE HOSTEL BIBLE

30

วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์


ร่วมทักทาย โดย จิตติพนั ธ์ ศรีกสิกรณ์ คุณมีความเชื่ออะไรในชีวิตบ้าง ที่จะเป็นหลัก หรือเป็นแนวทางในการท�ำงาน การใช้ชีวิต รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์กับผู้คนแวดล้อม โดยส่วนตัวแล้ว ผมมีความเชื่อหลายความเชื่อ… ความเชื่อแรก คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตั้งใจท�ำงานสักชิ้นหนึ่งอย่างมุ่งมั่นและ ทุ่มเท ใช้สติปัญญาในการคิดอย่างรอบคอบ สุดท้ายคุณไม่ต้องคาดหวังถึงผลของงาน หรอก เพราะคุณได้ผลตอบรับตั้งแต่เริ่มต้นท�ำงานนั้นอย่างตั้งใจแล้ว ตอนที่เริ่มก่อตั้งโฮสเทล “หลับดี” ผมมีความรู้สึกกลัวซ่อนอยู่ลึกๆ ว่าธุรกิจนี้ จะอยู่รอดไหม จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าหรือเปล่า แต่พลังความคิดอีกด้านหนึ่ง บอกกับผมว่า... “เฮ้ย ไม่ตอ้ งกลัวหรอก คุณท�ำมันอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ คิดอย่างละเอียด รอบคอบแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ประสบความส�ำเร็จ ก็อย่าไปเสียใจกับมัน” ผมมีความเชือ่ ว่า เมือ่ คุณท�ำมันอย่างเต็มทีแ่ ล้ว คุณจะประสบความส�ำเร็จแน่นอน ความเชื่ออย่างที่สอง ผมเชื่อว่า สินค้าและบริการทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนเป็น เครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของมนุษย์ และไม่มีสินค้าและบริการเพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง เท่านั้น ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนทุกระดับชั้นได้ ดังนั้น ไม่จ�ำเป็นต้องกลัวเรื่องการแข่งขัน ถ้าคุณมีสินค้าและบริการที่สามารถ แก้ไขปัญหาของคนกลุม่ นัน้ ๆ ได้เป็นอย่างดี ท�ำให้เขามีความสุขตลอดช่วงเวลาทีใ่ ช้บริการ สินค้าและบริการของคุณ แค่นี้คุณก็จะชนะคู่แข่งขันแล้ว

THE HOSTEL BIBLE

31


เมื่อหลายปีก่อน ผมได้รู้จักกับคุณขิง-วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรูบูติคโฮเต็ล ผูเ้ ปลีย่ นโรงรถเป็นโรงแรมบูตคิ ทีช่ อื่ Samsen 5 Lodge จนโด่งดังไปทัว่ โลก คุณขิงเชิญผม ไปร่วมสอนในคอร์สเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล จนปัจจุบันผมได้ร่วมสอนในคอร์สนี้ มาแล้วหลายครัง้ รวมถึงได้รว่ มกับคุณขิงท�ำงานด้านให้คำ� ปรึกษาในการท�ำธุรกิจโรงแรม ขนาดเล็ก ทุกครัง้ ทีส่ อนและให้คำ� ปรึกษา ตัวผมเองก็ได้รบั ความรูแ้ ละแรงบันดาลใจจาก ผูท้ มี่ าเรียนมากมายอย่างไม่นา่ เชือ่ เมือ่ คุณขิงชวนผมร่วมเขียนหนังสือ The Hostel Bible เล่มนี้ ผมจึงตอบตกลงทันที The Hostel Bible เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในการท�ำโฮสเทลของผม ซึ่งผมอยากจะแชร์ให้กับผู้ที่สนใจน�ำไปประยุกต์ใช้ในการเริ่มต้นท�ำโฮสเทลของตัวเอง จะได้รู้ถึงวิธีการ โอกาส ปัญหา และอุปสรรคที่จะต้องเจอในการท�ำธุรกิจนี้ อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ขอให้คุณลุยกับมันอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ แล้วผลตอบรับจะตามมาเอง

โชคดีครับ

จิตติภัณฑ์ ศรีกสิกรณ์ Mr. Hostel

THE HOSTEL BIBLE

32


ห้องที่

1

การเดินทางของโฮสเทล ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1909 ซึ่งเป็นวันที่ครูชีร์แมนและกลุ่มนักเรียน พบการขาดแคลนทีพ่ กั ทีต่ ำ� บลบรอลวาเล คือวันก�ำเนิดความคิดริเริม่ ของขบวนการ บ้านเยาวชนเยอรมนี ซึ่งในเวลาต่อมาท�ำให้เกิดบ้านเยาวชนแห่งแรกของโลกที่ ปราสาทอาลเตอนา เมืองเวสฟาเรีย ประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ. 1912

THE HOSTEL BIBLE

33


ถ้าพูดถึงอาชีพทีเ่ ก่าแก่ทสี่ ดุ ในโลก หนึง่ ในนัน้ ต้องมีอาชีพท�ำทีพ่ กั ให้นกั เดินทาง รวมอยู่ด้วย ที่พักที่ว่านี้มีหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในที่พักที่คนทั่วโลกรู้จักและนิยม ใช้บริการกันเป็นจ�ำนวนมาก ก็คือ ที่พักแบบห้องรวม หรือที่ปัจจุบันเรารู้จักกันในนาม โฮสเทล (Hostel) เราสามารถย้อนเข็มนาฬิกากลับไปในวันแรกที่ธุรกิจห้องพักรวมนี้ถือก�ำเนิดขึ้น เมือ่ หลายพันปีกอ่ น เมือ่ ผูค้ นเริม่ เดินทางไปมาหาสูก่ นั ระหว่างเมืองและไม่ได้เดินทางกลับ ในวันเดียวกันนั้น แต่ในสมัยแรกเริ่มที่อาชีพนี้ยังไม่เป็นธุรกิจ ไม่มีค่าบริการ นักเดินทาง จะนอนตามถนน หรือนอนตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วไป หรือตามโบสถ์ และต้อง ท�ำงานเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตัดฟืน แบกถังน�้ำ ให้อาหารสัตว์ เพื่อแลกกับที่พักและอาหาร ก่อนจะพัฒนามาเป็นธุรกิจที่พักแบบจ่ายเงิน ที่สมัยก่อนใช้ค�ำว่า Hôtel และภายหลัง ได้เปลี่ยนตัวโอมาเป็นโอปกติในภาษาอังกฤษเป็น Hotel เหมือนปัจจุบัน ค�ำว่า Hotel, Hostel หรือ Hostal มีทมี่ าจากภาษาฝรัง่ เศสซึง่ แปลว่า คฤหาสน์ ซึ่งมีรากศัพท์จากภาษาลาตินว่า Hospitale ซึ่งแปลว่า สถานที่ส�ำหรับพักผ่อน ทุกวันนี้ โฮสเทลมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยโฮสเทลที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นแห่งแรกของโลกนั้นอยู่ที่ปราสาทอาลเตอนา (Altena) ในประเทศเยอรมนี สร้างขึ้น ในปี 1912 โดยผู้ก่อตั้ง คือ ริชาร์ด ชีรแ์ มน (Richard Shirrman) จุดเริม่ ต้นมาจาก การทีเ่ ขาพานักเรียนออกไปทัศนศึกษาตามชนบท เพือ่ ให้ นักเรียนเกิดประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้ที่จะได้สัมผัส กับธรรมชาติอนั บริสทุ ธิท์ หี่ า่ งไกล จากเมืองอุตสาหกรรม ที่พวกเขาอาศัยอยู่

ริชาร์ด ชีร์แมน ผู้ริเริ่มแนวคิดในการก่อตั้งโฮสเทล THE HOSTEL BIBLE

34


ในระหว่างการเดินทางที่กินเวลานานหลายวันนั้น กลุ่มนักเรียนต้องพักกันในฟาร์มบ้าง หรือตามโรงเรียนบ้าง เพราะห้องเรียนเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน ดังนั้น เพียง แค่เอาโต๊ะออก แล้วเอาเตียงไปวาง กลุ่มนักเรียนของชีร์แมนก็สามารถเปลี่ยนห้องเรียน ให้กลายเป็นห้องพักรวมได้อย่างรวดเร็ว โฮสเทลแห่งแรก เรียกว่า Youth Hostel มีห้องนอนรวมที่มีเตียงถึง 3 ชั้น ห้องครัว และห้องน�้ำ โดยปราสาทอาลเตอนา (Altena) ยังเปิดเป็นโฮสเทลมาจนถึงทุกวันนี้

สภาพเตียง 3 ชั้นในปราสาทอาลเตอนา

Alterna Castle Hostel โฮสเทลแห่งแรกของโลก ที่ยังคงเปิดดำ�เนินการมาถึงปัจจุบัน

THE HOSTEL BIBLE

35


ก�ำเนิดของกระบวนการ Youth Hostel นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ เคลือ่ นไหวด้านการศึกษาและเยาวชนของเยอรมนีในช่วงหลังสงครามโลกครัง้ ที่ 1 ซึง่ เกิด การตั้งค�ำถามและแสวงหาถึงคุณค่าของมนุษย์ผ่านการศึกษาและการเดินทาง แนวคิดนี้ ต้องการสนับสนุนให้เด็กวัยรุ่นที่ยากจนจากเมืองใหญ่นั้น ได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัส ธรรมชาติ วัฒนธรรม และประสบการณ์ใหม่ในเมืองต่างๆ น่าสนใจว่าในปี 1919 ที่ชีร์แมนจัดตั้งสมาคมบ้านเยาวชนนั้น เป็นปีเดียวกับที่ Rudolf Stiener เปิดโรงเรียนทีเ่ น้นการศึกษาให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยเน้นจินตนาการ และการเชื่อมโยงของสรรพสิ่ง ณ เมืองสตุทการ์ท ในโรงงานบุหรี่ที่ชื่อ Waldorf-Astoria ต่อมาเรียกการศึกษาแบบนี้ว่า Waldorf และยังเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ Lord Barden Powell ได้ให้ก�ำเนิดขบวนการลูกเสือที่ประเทศอังกฤษ วัฒนธรรมบ้านเยาวชนในช่วงแรกนั้น เยาวชนหรือผู้ที่มาพักเหล่านี้ต้องดูแล จัดการที่พักต่างๆ ด้วยตนเองให้มากที่สุด เพื่อที่จะท�ำให้การเดินทางของพวกเขามีราคา ถูกลง และยังสามารถมีเวลาเหลือที่จะใช้ชีวิตกลางแจ้งได้ ดังนั้น ในช่วงเริ่มต้น Youth Hostel หลายแห่งจึงปิดท�ำการในช่วงกลางวัน เพื่อเป็นการประหยัดค่าดูแลรักษา คนที่ คอยดูแลก็ให้ไปท�ำงานอื่นก่อน เช่น ท�ำไร่ ไถนา หรือเป็นครู พอตกเย็นก็ค่อยกลับมาเปิด ที่พักอีกครั้ง เมื่อนักเดินทางกลับมาจากป่าเขากันแล้ว โฮสเทลเติบโตช้าลงในช่วงสงครามโลกครัง้ ที่ 1 และกลับมาเป็นทีน่ ยิ มอีกครัง้ ใน ช่วงปี 1960-70 ที่กิจการโฮสเทลเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันกิจการโฮสเทลที่ลง ทะเบียนเป็นสมาชิกกับองค์กรบ้านเยาวชนที่พัฒนามาจากความคิดของ ริชาร์ด ชีร์แมน มีส�ำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ คือ HI–Hostelling International ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งไม่ แสวงหาผลก�ำไร สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเยาวชน ได้เดินทางท่องเที่ยว กลางแจ้ง เพี่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ปัจจุบันมีจ�ำนวนกว่า 4,000 แห่งใน 90 ประเทศทั่วโลก

THE HOSTEL BIBLE

36


ในยุคทีก่ ระแสการแสวงหาของเหล่าฮิปปีเ้ บ่งบาน และเมือ่ การเดินทางทางอากาศ เป็นสิง่ ทีร่ าคาถูกลง รวมถึงการเกิดขึน้ ของแนวความคิดในการแสวงหาประสบการณ์จาก การเดินทาง จากปรัชญาและภูมปิ ญั ญาตะวันออกทีแ่ พร่ไปทัว่ ยุโรป ซึง่ กระแสนีค้ อื จุดก�ำเนิด ของประชาชาวแบ็กแพ็กเกอร์ (Backpacker) ทีส่ ะพายเป้ขนึ้ หลัง แล้วออกเดินทางไปทั่วโลก อย่างเสรี ไม่มจี ำ� นนกับวันเวลาหรือเงินทองในกระเป๋า และคนกลุม่ นีก้ ค็ อื ลูกค้ารุน่ บรรพบุรษุ ของโฮสเทลในปัจจุบัน ส�ำหรับในประเทศไทยนั้น Youth Hostel หรือบ้านเยาวชน ได้ถูกน�ำเข้ามาโดย กระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่ปี 2502 แต่ไม่ประสบความส�ำเร็จ จนกระทั่งมีการรื้อฟื้นและ เปิดกิจการขึ้นใหม่โดยเอกชนเป็นครั้งแรกที่บ้านเยาวชนเทเวศร์ ในปี 2534 โดย นายสนิท คล้ามไพบูลย์ และมีจ�ำนวนเตียงทั้งสิ้น 84 เตียง โฮสเทลคืออะไร โฮสเทล คือ ที่พักที่เหล่านักเดินทางจะได้พักอาศัยร่วมกับผู้อื่นในห้องนอนรวม ที่อาจมีเตียงตั้งแต่ 2, 4, 6, 8 ไปจนถึง 30 เตียง ! โดยอาจเป็นเตียงตั้งแต่ 1, 2 ไปจนถึง 3 ชั้น ! และผู้เข้าพักสามารถจ่ายค่าที่พักได้ในราคาประหยัด เนื่องจากข้าวของเครื่องใช้ และสิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องน�้ำ ห้องส้วม ครัว ห้องนั่งเล่น ทีวี ตู้เย็น จะเป็นของใช้ร่วมกัน โฮสเทลในปัจจุบันไม่ได้มีสภาพเรียบง่าย หรือมีการผลัดเวร กันท�ำงาน เช่น ทิ้งขยะ เปลี่ยนผ้าปูเตียง หรือขัดส้วม ในแบบโบราณอีกต่อไป แต่มีการ ออกแบบที่สวยงาม จนบางครั้งท�ำให้เกินพอดีและดูแลรักษายากเกินไปด้วยซ�้ำ จ�ำนวน ไม่น้อยมีบริการที่ดีใกล้เคียงโรงแรม แต่เพิ่มความเป็นกันเอง ยืดหยุ่น ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย ทีส่ �ำคัญ ยังคงไว้ซึ่งหัวใจของโฮสเทล นัน่ คือ การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เคารพ สิทธิซึ่งกันและกัน ให้เกียรติและใช้เวลาอย่างมีความสุขกับเพื่อนที่มาจากต่างภาษาและ วัฒนธรรม วิวัฒนาการของโฮสเทล ปัจจุบันรูปแบบของโฮสเทลมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งลักษณะทาง กายภาพและวัตถุประสงค์ ในช่วงยุคบุกเบิกนับตั้งแต่สมัยของชีร์แมน โฮสเทลเน้นความ เรียบง่าย เพราะมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เยาวชนคนหนุ่มสาวได้มีสถานที่พักผ่อน ในขณะทีข่ จี่ กั รยานเทีย่ ว หรือเดินป่าปีนเขาตามชนบท และยังห้ามดืม่ แอลกอฮอล์อกี ด้วย

THE HOSTEL BIBLE

37


ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ อินเดีย ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ โฮสเทล ยังหมายถึง การให้ทพี่ กั ในช่วงระยะเวลายาวๆ ส�ำหรับการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่น หอพัก นักเรียน นักศึกษา โรงเรือนกินนอนประจ�ำ สถานพยาบาล สถานบ�ำบัดผูต้ ดิ ยา หรือโรงฝึก อาชีพ บางครัง้ โฮสเทลเหล่านีด้ ำ� เนินการโดยองค์กรด้านการเคหะและการกุศลของแต่ละ ประเทศ สหรัฐอเมริกาเป็นจุดเริม่ ของโฮสเทลสมัยใหม่ทมี่ ขี นาดใหญ่ และสามารถรองรับ นักเดินทางในคราวละหลายร้อยคน เช่น Urban Hostel กรุงวอชิงตันดีซี ที่เปิดขึ้น เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมเฉลิมฉลองในงานฉลองเอกราช 200 ปีของอเมริกา (US Bicentennial Celebration) ในปี 1976 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการท�ำกิจการ โฮสเทลขนาดใหญ่ในเมืองหลัก จุดต่างทีส่ ำ� คัญของโฮสเทลในยุคต้นต่อเนือ่ งมาจนถึงยุคปัจจุบนั นัน่ คือ โฮสเทล ยุคแรกสนับสนุนให้คนเมืองเดินทางไปเทีย่ วในชนบท และมีทพี่ กั ทีเ่ รียบง่าย สะอาด และ ปลอดภัย แต่โฮสเทลในช่วงปลายปี 60 ปรับเป็นการสร้างที่พักในเมือง เพื่อให้คนเมือง นักท่องเที่ยว และแบ็กแพ็กเกอร์มาพักในราคาที่ถูกลง จนถึงปัจจุบันโฮสเทลที่มี ชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่งมีการผสมผสานบาร์และคาเฟ่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ โฮสเทล ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ต้นก�ำเนิดของ Youth Hostel ก่อนที่จะไปท�ำความรู้จักกับธุรกิจโฮสเทลแบบละเอียดนั้น ผมอยากพาทุกท่าน ย้อนเวลากลับไปราว 100 ปีก่อน ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อมาในปี ค.ศ. 19141918 หลังสงครามโลกสงบ เป็นช่วงเวลาที่เกิดแนวคิดในการสร้างที่พักราคาประหยัดที่ ต้องการสนับสนุนให้เยาวชนได้เดินทางไปในสถานที่แปลกใหม่ เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง เรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้การเคารพสิทธิของตนเองและการอยู่ร่วมกันในสังคม

THE HOSTEL BIBLE

38

ต่อมาในยุคอุตสาหกรรม เมืองในยุโรปเต็มไปด้วยควันไฟ คนชอบหนีไปสูดอากาศ บริสทุ ธิแ์ ถบชานเมือง เริม่ เรียนรูแ้ ละเห็นความสวยงามทางธรรมชาติ โรงเรียนในเยอรมนี ได้รเิ ริม่ จัดให้นกั เรียนเดินทางไปนอกโรงเรียน เพือ่ ศึกษาธรรมชาติ ถึงแม้จะมีปญ ั หาเรือ่ ง ที่พักอยู่มาก แต่ก็ได้อาศัยโรงงาน ฉางข้าว กองฟาง เป็นที่นอนพัก ซึ่งไม่สะดวกและ


ไม่เพียงพอเท่าทีค่ วร จนกระทัง่ มีครูชาวเยอรมนีคนหนึง่ ชือ่ ริชาร์ด ชีรแ์ มน ได้พานักเรียน ในชั้นเดินทางไกลด้วยเท้าเวลา 8 วัน ระยะทาง 300 กิโลเมตร ครูและนักเรียนติดพายุ จึงได้อาศัยหลบไปพักอยู่ในโรงเรียนที่ต�ำบลบรอลวาเล ครูใหญ่ยอมให้ใช้ห้องเรียน เป็นที่พัก ชาวนาให้ฟางมาปูนอนและให้นมดื่มในตอนค�่ำ พายุโหมจัดตอนกลางคืน ขณะนักเรียนก�ำลังนอนหลับพักผ่อน แต่ครูชีร์แมนลืมตาโพลงพลางคิดว่า “ถ้าโรงเรียนในประเทศเยอรมนีจัดที่พักให้ตามหมู่บ้านต่างๆ ไว้ในระหว่าง วันหยุดเรียน ห่างกันพอใช้เวลาเดิน 1 วัน (30 ไมล์หรือ 48 กิโลเมตร) จะช่วยให้คน เยอรมนีหนุ่มสาวมีความสุขในการเดิน” ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1909 (พ.ศ. 2452) ซึ่งเป็นวันที่ครูชีร์แมนและกลุ่ม นักเรียนพบการขาดแคลนที่พัก ที่ต�ำบลบรอลวาเลนี้เอง คือวันก�ำเนิดความคิดริเริ่มของ ขบวนการบ้านเยาวชนเยอรมนี ซึ่งในเวลาต่อมาท�ำให้เกิดบ้านเยาวชนแห่งแรกของโลก ที่ปราสาทอาลเตอนา เมืองเวสฟาเรีย ประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ. 1912 (พ.ศ. 2455) ต่อมาแนวคิดนี้ได้พัฒนาเป็นที่พักแบบนอนรวมหรือโฮสเทล ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ และนี่คือเรื่องราวของคุณครูที่ท�ำให้แนวคิดนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก

THE HOSTEL BIBLE

39


บ้านเยาวชน (Youth Hostel)

คือ สะพานแห่งสันติภาพ ที่เชื่อมโยงจากชาติหนึ่งไปสู่ชาติหนึ่ง

THE HOSTEL BIBLE

40


THE HOSTEL BIBLE

41


ชีวประวัติริชาร์ด ชีร์แมน

(คัดย่อและเรียงเรียงมาจากหนังสือ ชีวประวัติ ริชาร์ด ชีร์แมน ผู้ริเริ่มองค์การบ้านเยาวชนสากล แปลและเรียบเรียงโดย ดร.จิตต์เกษม ศรีบุญเรือง)

ริชาร์ด ชีร์แมน (Richard Shirrman) เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1874 ณ เมืองกรูเนนเฟลด์ (Grunenfeld) ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาเป็นครูอยู่ที่นี่ เขาเติบโตมาท่ามกลางเด็กๆ ในโรงเรียนชนบทของบิดา เลีย้ งหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ แล้วก็วงิ่ เท้าเปล่าไปตามเรือกสวนไร่นาในป่าใกล้ๆ บ้าน พออายุได้ 13 ปี เขาถูกส่งไปอยู่กับตา ซึ่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนไอเซนเบิร์ก (Eisenberg) โรงเรียนนี้นับว่าใหญ่กว่าโรงเรียนเดิม เพราะมีห้องเรียนถึง 2 ห้อง ริชาร์ด เรียนอยูจ่ นอายุ 17 ปี จากนัน้ จึงไปเรียนต่อทีโ่ รงเรียนฝึกหัดครูใกล้ๆ ในเมืองเกอนิสเบิรก์ (Konisgberg) ทีเ่ มืองแห่งนีม้ คี รูภมู ศิ าสตร์คนหนึง่ ชือ่ ฟีเชอร์ (Herr Fischer) ซึง่ มีวธิ กี าร สอนที่สนุกสนาน และเล่าถึงการเดินทางและประสบการณ์ส่วนตัว นอกจากนั้นยังได้พา นักเรียนไปชมภูมิประเทศต่างๆ เมื่อโอกาสอ�ำนวย ครั้งหนึ่งไปถึงแถบภูเขาแอร์สเกบีร์เก (Erzgebirge) โดยริชาร์ด ชีร์แมนได้เขียนบันทึกไว้ว่า THE HOSTEL BIBLE

42


“พวกเราซึ่งอยู่ในบริเวณที่ราบ รู้จักภูเขาก็เพียงอ่านจากหนังสือเรียนเท่านั้น ข้าพเจ้ายังจ�ำได้ดีว่า เรามองภูเขาลูกแรกที่เห็นด้วยความประหลาดใจ และเอามือไป ลูบคล�ำหน้าผาเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นหินจริงๆ เราแลเห็นเมฆฝนและฟ้าแลบ ซึ่งลอยอยู่ ใต้ยอดเขาที่เรายืนอยู่ และในระหว่างก้อนเมฆนั้น เราแลเห็นหมู่บ้านสลัวๆ ไกลๆ” ใน ค.ศ. 1895 ชีร์แมนสอบได้ประกาศนียบัตรวิชาครู และได้เริ่มสอนโรงเรียน ประถมที่เมืองมาซูเรีย (Masuria) ในปรัสเซีย ภาษาพื้นเมืองของถิ่นนี้เป็นภาษาสลาฟ ในบรรดานักเรียน 60 คนนั้น มีเพียง 40 คนเท่านั้นที่พูดภาษาเยอรมนีได้ แต่ชีร์แมนใช้ ความพยายามสอนภาษาเยอรมนีแก่เด็กเหล่านีใ้ ห้มผี ลจนได้ เขาอยูท่ โี่ รงเรียนนีเ้ ป็นเวลา 3 ปี และย้ายไปสอนที่โรงเรียนประถมใกล้ๆ อีก 3 ปี วิธีสอนที่ชีร์แมนใช้ที่นี่ก็คือ พาไป สอนในท่ามกลางธรรมชาติเป็นส่วนมาก และส่วนมากก็ได้ผลสมปรารถนา แม้ว่าชีร์แมนจะชอบบ้านเกิดเมืองนอนสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่การที่ต้องอยู่ใน ปรัสเซียตะวันออกเป็นเวลานานก็ทำ� ให้เขาไม่มคี วามสุข ใน ค.ศ. 1901 เขาย้ายมาทีเ่ มือง เกลเซนกีรเ์ ชน (Gelsenkirchen) ในแดนรูหร์ (Ruhr) ซึง่ เป็นเมืองอุตสาหกรรม เต็มไปด้วย ควันถ่านหินและเขม่ามืดมิดเกือบทัว่ ทุกหนแห่ง จนกระทัง่ เขาเรียกเมืองนีว้ า่ “เมืองสีดำ� ” ชีร์แมนได้บันทึกไว้ว่า ในเมืองนี้เด็กส่วนมากถูกอบอยู่ในกองหินและเขม่าควัน ของโรงงานอุตสาหกรรม เด็กๆ ไม่เคยได้ยนิ เสียงนกร้องหรือไม่เคยเห็นทุง่ หญ้าทีเ่ ขียวขจี เลย เมื่อมีโอกาสชีร์แมนจึงพาเด็กๆ ไปเที่ยวที่เชิงภูเขาเวสต์ฟาลี (Westphalian) ซึ่งยัง ความเบิกบานให้แก่เด็กๆ เป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อเขาพาไปที่ธารน�้ำเชิงเขา ให้เด็กๆ ได้เห็นปลาเป็นๆ และว่ายน�้ำในล�ำธารเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1903 นี้เอง ชีร์แมนได้ถูกย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนในเมืองอาลเตอนา (Altena) เมืองเล็กๆ อันเต็มไปด้วยป่า ทีต่ อ่ มาคือทีต่ งั้ ของ Youth Hostel แห่งแรกของโลก “โอ้โห ช่างดีอะไรเช่นนี้ จากควันเขม่าและอากาศมืดทึบ มาสูเ่ นินเขาทีเ่ ขียวชอุม่ และอากาศสดชื่น”

THE HOSTEL BIBLE

43


แต่ทนี่ กี่ เ็ หมือนกัน เด็กๆ ไม่เคยออกไปชมภูมปิ ระเทศนอกเมืองหลวงเลย ดังนัน้ เมื่อชีร์แมนน�ำนักเรียนไปเรียนภูมิศาสตร์หรือธรรมชาติวิทยาในท่ามกลางธรรมชาติ จึงท�ำให้นักเรียนสนุกสนานและเรียนดีขึ้น เขาชอบที่จะพานักเรียนไปพักแรมเป็นระยะ เวลานานในช่วงปิดเทอม ท�ำให้ครูใหญ่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ชีร์แมนต้องย้าย ไปสอนที่โรงเรียนอีกแห่งที่มีชื่อว่าโรงเรียน เนตเต (Netter) ครูใหญ่โรงเรียนเนตเตนั้น เป็นผู้ที่มีความคิดตรงกับชีร์แมนในด้านการสอน จึงให้เขาน�ำความคิดนีข้ นึ้ เสนอต่อศึกษาธิการประจ�ำท้องถิน่ ซึง่ ได้รบั อนุญาตเป็นอย่างดี ในการพานักเรียนไปทัศนศึกษาเป็นเวลาหลายวัน ชีร์แมนได้เขียนจดหมายถึงชาวนาคนหนึ่งที่ต�ำบลเขาเจ็ดลูก เพื่อขอให้อ�ำนวย ความสะดวกด้านที่พัก ชาวนาผู้นี้ได้ติดต่อกับ จาคอบ คนิพพ์ (Jakob Knippe) เจ้าของ โรงเตีย๊ มซูร์ เลาเบ (Zur Laube) ซึง่ เป็นคนใจดี รักเด็ก แต่ไม่มบี ตุ ร ดังนัน้ จึงยินดีตอ้ นรับ นักเรียนของชีร์แมนด้วยความเต็มใจ เมือ่ ได้รบั ความสะดวกเช่นนี้ ชีรแ์ มนจึงสามารถจัดการเดินทางไกลให้กบั นักเรียน ประถมของตนได้ และยังได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปยังนักเรียนโรงเรียนอื่นๆ รวมทั้งโรงเรียน พาณิชยการด้วย ในปี ค.ศ. 1907 จึงมีนกั เรียนร่วมเดินทางท่องเทีย่ วถึง 6 คณะ และจัดเป็น คณะละ 12 คนเท่านัน้ นักเรียนเก่าคนหนึง่ ของชีรแ์ มน ชือ่ อดอล์ฟ ฮอลเวก (Adolf Hollweg) ได้บันทึกไว้ว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างชีรแ์ มนและบรรดานักเรียนสนิทสนมกลมเกลียวกันมาก จนกระทั่งข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าเขาเป็นครู เพราะว่าครูของพวกเราไม่เหมือนเขา แต่การ เดินทางท่องเที่ยวของเรานี้ ท�ำให้เราได้รับความรู้อย่างมากมาย”

THE HOSTEL BIBLE

44

ในเวลาที่ไม่มีหน้าที่จะต้องพานักเรียนไปชมธรรมชาติ ชีร์แมนก็ไปเดินเที่ยว คนเดียวในชนบทเชาเออแลนด์ (Sauer Land) ชีร์แมนให้ช่างตัดรองเท้าให้เป็นพิเศษ ในปี 1903 รองเท้าคู่นี้เป็นเพื่อนคู่ชีวิตของเขามาเป็นเวลาถึง 50 ปี เพราะเขาชอบเดิน และเดินได้ตามสบาย เขาจึงเดินจากต�ำบลอาลเตอนา (Altena) ไปถึงอาร์นสเบิร์ก (Arnsberg) ภายในวันเดียว ไปกลับเป็นระยะทางถึง 75 กิโลเมตร (45 ไมล์)


ในฤดูรอ้ นปี 1909 ชีรแ์ มนได้จดั การเดินทางไกล 8 วัน ระหว่างอาลเตอนา-อาเกน เดินผ่านเนินแถบลุ่มน�้ำไรน์ ในคืนแรกชาวนาได้ให้ชาวคณะพักที่โรงนา ให้ยืมผ้าห่ม ให้ผลไม้และนมสดรับประทาน คืนที่สองซึ่งตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1909 คณะเดินทางมาถึงต�ำบลบรอล วาเล (Bröl Valley) แม้ว่าพายุจะเริ่มตั้งเค้า ชาวนาก็ ไม่ยอมให้อาศัยในโรงนาของเขา แต่ให้ฟางไปปูนอนทีโ่ รงเรียนแห่งหนึง่ ในชนบท เคราะห์ดี ที่ภรรยาของครูประจ�ำโรงเรียนนี้อนุญาตให้เข้าไปอาศัยนอนและหลบพายุ ชีร์แมน ได้บันทึกไว้ว่า “ตลอดคืน พายุพดั มิได้ขาดสาย ทัง้ ลม ฝน และลูกเห็บ ฟ้าลัน่ และฟ้าผ่า ราวกับ วันสิ้นพิภพ ขณะที่พวกเด็กผู้ชายนอนหลับกันอย่างสบาย ฉันนอนตาสว่าง ฉันคิดว่า โรงเรียนต่างๆ ในประเทศเยอรมนีนี้ควรจะใช้เป็นที่พักในเวลาปิดภาคได้ เราควรจะมี บ้านพักส�ำหรับเยาวชนเป็นระยะๆ ห่างกันชัว่ ระยะเวลาเดิน 1 วัน เพือ่ ช่วยเหลือชาวเยอรมนี ซึ่งชอบการเดินท่องเที่ยว ในวันที่สองของการเดินไปอาเกน ตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1909 ในขณะที่เราไร้ที่พักในต�ำบลบรอล วาเล นี่แหละเป็นวันปฏิสนธิโครงการ บ้านเยาวชนของเยอรมนีและของโลก” อารมณ์ที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวเช่นนี้จะเห็นได้จากบทประพันธ์และเพลง พื้นเมืองของเยอรมนี ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากเพลงของชูแบร์ท ชื่อ วันเดอริง มิลเลอร์ (Wandering Miller) หรือบทวรรณคดีของเกอเธ่ ตั้งแต่ประมาณปี 1850 เป็นต้นมา ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของเยอรมนี โดยเฉพาะด้านสังคมเปลี่ยนแปลงและเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านอุตสาหกรรม ระบบ การรถไฟ ฯลฯ ท�ำให้เกิดการก้าวหน้า เกิดชาตินยิ มและระเบียบวินยั ในบรรยากาศเช่นนี้ อารมณ์ท่องเที่ยวย่อมจะเศร้าไป เพราะต่างคนก็ต่างจะมุ่งไปในเรื่องของวัตถุนิยม แต่เดชะบุญที่ในปี 1860 มีสมาคมหลายแห่งจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและ การไต่เขา สอนให้รู้จักการสร้างกระท่อมง่ายๆ ตามเทือกเขาเพื่อสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และท�ำทาง ท�ำเครื่องหมายเป็นระยะๆ ตลอดทางที่น�ำไปถึงจุดชมวิวต่างๆ

THE HOSTEL BIBLE

45


ในปี 1908 กีโด รอตเตอร์ นักอุตสาหกรรมชาวออสเตรีย ได้เริ่มจัดตั้งบ้านพัก ส�ำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งต่อมาได้ขยายกิจการไปทั่วเยอรมนี การจัดอ�ำนวยความ สะดวกให้แก่นักเรียนนี้ จัดให้แก่นักเรียนชายเท่านั้น โดยติดต่อกับโรงแรมทั่วๆ ไป ขอให้ เขาจัดที่พักราคาพิเศษให้แก่นักเรียน โรงแรมแต่ละแห่งอนุญาตให้นักเรียนใช้สิทธิ ในราคาพิเศษนี้ แห่งละ 8 รายเท่านั้น ชีร์แมนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และได้เขียนสดุดี กีโด รอตเตอร์ว่า “เด็กหญิงและเด็กชายต้องหาความเพลิดเพลินจากการเดินเล่น เพื่อให้สมดุล กับเวลาที่ต้องนั่งในห้องเรียน จ�ำนวนนักเรียนนี้มีมาก การจัดหาที่พักย่อมต้องอาศัย ความช่วยเหลือทั้งทางน�้ำใจและทางทุนทรัพย์ จะท�ำอย่างไรจึงจะมีบ้านพักให้เหมาะสม กับเยาวชนรุน่ ประถมศึกษา ในเมืองต่างๆ แม้แต่ในชนบท ต่างก็มโี รงเรียนด้วยกันทุกแห่ง ในภาคหยุดเรียนย่อมมีห้องว่างเปล่าเพื่อให้เด็กที่ไปพักแรมได้อาศัย ถ้าได้ใช้ห้องเรียน สัก 2 ห้องก็เพียงพอ ห้องหนึง่ ส�ำหรับเด็กผูห้ ญิง อีกห้องหนึง่ ส�ำหรับเด็กผูช้ าย เมือ่ เอาม้า และโต๊ะเรียนไปแอบไว้ที่มุมห้องแล้วก็พอมีที่ส�ำหรับวางกองฟางท�ำเป็นที่นอนได้ 15 ที่ ที่นอนหนึ่งที่ประกอบด้วยฟางหนึ่งกระสอบ หมอนหนึ่งใบ ผ้าปูที่นอนสองผืนและผ้าห่ม หนึง่ ผืน เด็กแต่ละคนมีหน้าทีท่ จี่ ะต้องรักษาทีน่ อนของตนให้สะอาดและเรียบร้อย ส�ำหรับ ผ้าปูทนี่ อนนัน้ ทางผูด้ แู ลโรงเรียนอาจให้เช่าได้ ในราคาคูล่ ะ 20 เฟนนิก ในการไปพักแรม แต่ละแห่งนี้ ครูมหี น้าทีเ่ ป็นผูด้ แู ลในด้านจัดส�ำรองทีอ่ ยู่ ดูแลความสะอาดของทีพ่ กั ทีน่ อน การใช้จ่ายต่างๆ ฯลฯ ตลอดจนการเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ไว้ในห้องเก็บของของโรงเรียน ในเมื่อหมดจากการพักแรมแล้ว ค�ำเสนอของข้าพเจ้าอาจจะมากไปใช่ไหม ในโรงเรียนสมัยใหม่จ�ำเป็นที่จะต้องมี ห้องศิลปะและห้องกีฬา ต่อไปในอนาคตแต่ละโรงเรียนควรจะมีทางจัดให้มหี อ้ งพักส�ำหรับ นักเรียนมาพักแรม ที่พักเยาวชนนี้ควรจะจัดให้มีเป็นระยะๆ ห่างกันเพียง 18-23 ไมล์ กล่าวคือ เดินถึงกันได้ภายในระยะเวลาหนึง่ วัน หรือจะให้ใกล้กว่าระยะนีไ้ ด้กย็ งิ่ ดี ข้าพเจ้า ขอวิงวอนให้เพื่อนร่วมงานและท่านเจ้าหน้าที่ของแต่ละเมือง ได้ช่วยให้โครงการบ้านพัก เยาวชน ส�ำหรับนักเรียนรุ่นประถมศึกษานี้บรรลุผลส�ำเร็จด้วย...” THE HOSTEL BIBLE

46


ชีร์แมนได้ติดต่อขอให้คณะครูจัดลงในหนังสือพิมพ์ของครูด้วย แต่ไม่มีใครรับ พิมพ์สกั ราย ซ�ำ้ บางแห่งยังต่อว่า หาว่าความคิดของเขาเป็นการถอยหลังเข้าคลองและครู ก็จะไม่ผิดไปจากภารโรง แต่ชีร์แมนก็ไม่ท้อถอย จนหนังสือฉบับหนึ่งชื่อ เกิลนิเช ไซตุง ได้ลงบทความของเขาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 1910 ประชาชนทั่วประเทศเยอรมนี ตอบรับแนวคิดของชีรแ์ มนด้วยความนิยมชมชืน่ เขาได้รบั ความช่วยเหลือทัง้ ในด้านการเงิน และเครื่องใช้ ท�ำให้เขาจัดหาเตียงและที่นอนจริงๆ แทนกระสอบฟาง เป็นที่พักของ เยาวชนที่โรงเรียนเนตเตของเขาได้ ผู้คนมาพักกันมากมายไม่ใช่แค่เฉพาะช่วงหยุดเรียน เท่านั้น ท�ำให้ชีร์แมนต้องช่วยภารโรงเก็บกวาดห้องเรียนแต่เช้ามืดอยู่บ่อยๆ เพื่อจัดวาง โต๊ะให้ทันเวลาเรียน เฮอ เฟลต์ นักเรียนหญิงคนหนึ่งในโรงเรียนอาลเตอนา ได้บันทึกไว้ว่า “เรารู้สึกอิจฉาเด็กนักเรียนที่มาพักแรมเหลือเกิน เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาที่ สนามหญ้าโรงเรียน เขาปักขนนกที่หมวกและที่กีต้าร์ หรือแมนโดรินนั้นมีริบบิ้นสีต่างๆ ประดับอย่างสวยงาม เพือ่ เป็นการประท้วงขนบธรรมเนียมก่อนสมัยสงคราม คณะท่องเทีย่ วนี้ ชอบท�ำอะไรวิตถารต่างๆ บรรดาครูรู้สึกว่าเป็นการต่อต้านอ�ำนาจของผู้ใหญ่และเกรงว่า จะเสียวินยั ถ้าบรรดาครูเหล่านีม้ อี ำ� นาจแล้ว เขาจะไม่ชอบให้เปิดทีพ่ กั เยาวชนในโรงเรียน เป็นอันขาด...” แต่บ้านพักเยาวชนย่อมๆ ที่โรงเรียนเนตเตแห่งนี้ ก็ด�ำรงอยู่ได้มาจนถึงปี 1912 ในปีนี้เองปราสาทอาลเตอนาก็เปิดใช้เป็นบ้านพักเยาวชนอย่างถาวร หลังจากที่ได้จัดตั้งหอพักที่อาลเตอนาแล้ว ชีร์แมนได้สมทบสมาคมไต่ภูเขาเซา เออแลนด์ (Sauer land Mountain Club) ซึ่งเป็นสมาคมส่วนภูมิภาคมีวัตถุประสงค์ที่ จะส่งเสริมการเดินท่องเที่ยวและการไต่ภูเขา แม้ว่าชีร์แมนจะชอบเดินเที่ยวคนเดียวหรือกับนักเรียนของเขาก็ตาม เขาได้ ยอมรับทีจ่ ะเป็นหัวหน้าพาหมูข่ องสมาคมไปเดินเทีย่ วหลายคราวและได้ทำ� บันทึกรายงาน ไว้ทุกที รายงานของการน�ำเที่ยวนี้ตกถึงมือ วิลเฮม มุนเกอร์ (Wilhem Munker) ซึ่งเป็น นายกของสมาคมแห่งฮีลเคนบาค (Hilchenbach) อยูห่ า่ งจากอาลเตอนาประมาณ 40 ไมล์ THE HOSTEL BIBLE

47


มุนเกอร์อายุเท่ากับชีรแ์ มน เขาเป็นเจ้าของโรงงานเล็กๆ ผลิตโลหะ แต่สงิ่ ทีเ่ ขาชอบ ก็คือการเดินท่องเที่ยวและชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ เมื่อได้อ่านรายงานของชีร์แมนแล้ว มุนเกอร์ก็เขียนจดหมายถึงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งมีใจความว่า “ขณะนี้ที่อาลเตอนามีนักเดินทางหน้าใหม่คนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เรา มากในเรื่องการท�ำเครื่องหมายชี้วิถีทางในป่า” และในวันอาทิตย์ตอ่ มามุนเกอร์และสหายก็ได้หวิ้ กระป๋องสีเดินมาหาทีบ่ า้ นของ ชี ร ์ แ มน ชี ร ์ แ มนสมทบกั บ คนทั้ ง สองนี้ อ อกไปท� ำ เครื่ อ งหมายชี้ ท างเดิ น ในชนบท เซาเออแลนด์ โดยเอาสีทาที่ล�ำต้นไม้หรือก้อนหินเป็นระยะๆ เป็นการบอกทางให้แก่ผู้ที่ จะเดินทางมาในย่านนี้ได้รับความสะดวก มิตรภาพระหว่างสองสหายนีก้ ม็ ไิ ด้เปลีย่ นแปลงตราบชัว่ ชีวติ ต่อมามุนเกอร์นเี่ อง ที่กลายเป็นเพื่อนรักและช่วยชีร์แมนก่อตั้งบ้านพักเยาวชนจนประสบความส�ำเร็จ เมื่อชีร์แมนได้วิ่งเต้นกับทางบ้านเมืองจนผลที่สุดได้ใช้ปราสาทอัลเตอนาเหนือ แม่น�้ำเลนเน (River Lenne) เป็นบ้านพักเยาวชน ในปี 1912 นี้ชีร์แมนจัดท�ำบ้านพัก เยาวชนถาวร โดยจัดดังนี้ มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ครัวและห้องน�้ำมีฝักบัว โดยที่นี่มีเตียงนอนรวมแบบ 3 ชั้นด้วย เครื่องเรือนเหล่านี้ท�ำเป็นแบบโบราณให้เข้ากับ แบบตึก จึงเข้าทีมาก อนึง่ นอกจากจะเป็นทีพ่ กั ค้างแรมแล้วยังมีสถานทีเ่ ตรียมไว้ เพือ่ เกือ้ กูล ให้เยาวชนมีที่พบปะสนทนากัน สถานที่นี้เหมาะสมกับสถานการณ์เพราะว่ารากฐานอยู่ ในอดีต แต่กจิ การมุง่ ไปเพือ่ อนาคต ชีรแ์ มนเป็นผูด้ แู ลด้วยตนเอง เขาอยูท่ นี่ เี่ ป็นเวลาร่วม 25 ปี (โดยไปอยู่ที่อื่นบ้างเป็นบางครั้งบางคราว) ต่อจากนี้ชีร์แมนเริ่มมีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่และชัดเจน เขาได้เสนอแผนการอัน มโหฬารเพื่อให้เยอรมนีมีบ้านพักเยาวชนเป็นระยะๆ (โดยห่างกันเป็นทางเดินประมาณ 30 ไมล์) ติดต่อกันทั่วทั้งประเทศ ความคิดนี้เป็นความคิดที่ใหม่และส�ำคัญ เป็นเรื่องของ อนาคตซึ่งอาจจะรุ่งโรจน์ ชีร์แมนมีวาทศิลป์ที่เร้าใจผู้ฟังยิ่งนัก และท�ำให้มีผู้เข้าร่วมกับ สมาคมนี้อย่างต่อเนื่อง THE HOSTEL BIBLE

48


ในปี 1912 ชีร์แมนได้ตีพิมพ์สมุดคู่มือเรื่อง “บ้านพักเยาวชนในเยอรมนี” ในสมุดเล่มแรกนี้มีบ้านพักถึง 140 แห่ง บางแห่งก็ไม่ค่อยจะสะดวกสบายนักและไม่มี บ้านพักส�ำหรับเด็กผู้หญิงเลย แต่ถึงกระนั้นก็ดี นี่เป็นครั้งแรกที่กิจกรรมนี้ได้เผยแพร่ ไปทั่วประเทศ ในปี 1913 บ้านพักเยาวชนมีจ�ำนวน 301 แห่งทั้งในเมืองและตามชนบท และในปีตอ่ ไปมีจำ� นวนถึง 535 แห่ง ชีรแ์ มนได้ทำ� บันทึกไว้ในรายงานประจ�ำปี 1913 ดังนี้ “กิจกรรมของบ้านพักเยาวชนได้เผยแพร่ไปจากจุดเริ่มต้นอย่างมากมาย ! บัดนีไ้ ด้กา้ วออกไปนอกรอบเนินเขาพนาป่าของเซาเออร์แลนด์ และความฝันของข้าพเจ้า ดูเหมือนใกล้จะเป็นความจริงแล้ว ข้าพเจ้าปรารถนาทีจ่ ะเห็นบ้านเมืองของเราทีม่ โี รงเรียน และกีฬาสถานจะต้องมีบ้านพักเยาวชนขนานไปด้วย” บัดนี้วงการของบ้านพักเยาวชนได้ก้าวไปถึงการใช้โรงทหารเป็นที่พักเยาวชน (ยังไม่มีส�ำหรับผู้หญิง) โดยทางการทหารอนุญาต ในสมั ย นั้ น ชี ร ์ แ มนเหมื อ นกั บ คนรุ ่ น เดี ย วกั บ เขาเป็ น ส่ ว นมาก (รวมทั้ ง Baden-Powell ผู้ก่อตั้งกิจการลูกเสือในอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1907 ด้วย) มีความเห็นว่า การเตรียมเยาวชนในด้านพลศึกษาเพื่อการเป็นทหารนั้นเป็นสิ่งธรรมดา และเป็นหน้าที่ ของผูท้ รี่ กั ชาติ ชีรแ์ มนได้เขียนไว้ในบทความ ซึง่ ตีพมิ พ์ในหนังสือพิมพ์ Kolnische Zeitung ว่า องค์การบ้านพักเยาวชนนีเ้ ป็นวิธกี ารวิธหี นึง่ ส�ำหรับตรวจตราความอ่อนแอของร่างกาย ซึ่งเป็นภัยต่อก�ำลังต้านทานของประเทศเยอรมนี ทั้งนี้มิได้หมายความว่าการส่งเสริม การเดินทางพักแรมของเยาวชนนีม้ วี ตั ถุประสงค์มงุ่ ไปทางการทหารก็หาไม่ ชีรแ์ มนรักเด็ก รักชีวิตใกล้ธรรมชาติและเป็นธรรมดาอยู่เองที่เขาย่อมรักความเกื้อหนุนของการทหาร เป็นปัจจัยน�ำไปสู่ความส�ำเร็จในวัตถุประสงค์ของเขา ในเดือนสิงหาคม 1914 ชีรแ์ มนเหมือนกับคนส่วนมากในยุคเดียวกับเขา ดูเหมือน ไม่ใคร่จะส�ำเหนียกถึงสถานการณ์ซงึ่ ก�ำลังก่อตัวในประเทศของตน ในยุโรป เขาถูกเกณฑ์ทหาร ตามปกติเมื่ออายุครบ 21 ปี และเมื่ออายุ 23 ปีถูกปลดอยู่ในกองหนุนของกองทัพบก ก็พอดีประกาศสงคราม เขาจึงสมัครออกรบทันทีและถูกส่งไปแนวหน้าทางทิศตะวันตก THE HOSTEL BIBLE

49


ในปี 1914 เขาได้เป็นนายทหารสัญญาบัตร เขาผ่านศึกเป็นระยะเวลา 4 ปีเต็ม และได้รบั เหรียญกล้าหาญทหารแนวหน้า ระยะเวลา 4 ปีนที้ ำ� ให้แนวความคิดในด้านโลก ของชีร์แมนผันแปรไปอย่างมาก ในปี 1915 มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งซึ่งประทับใจเขามาก ขณะนั้นเขาประจ�ำอยู่ที่ต�ำบลเบอร์นาดสไตน์ (Bernardstein) ใกล้ทิวเขาโวย์ (Vosges) แนวหน้าทหารเยอรมนีและทหารฝรัง่ เศสห่างกันเพียงระยะ No Man’s Land (เขตปลอดคน) ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใบโกร๋น พื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะลูกปืนรากไม้เสื้อฟอร์มทหาร ที่ขาดรุ่งริ่งและความรกชัฏ ขณะนั้นตรงกับวันคริสต์มาส และเมื่อระฆังโบสถ์กังวานขึ้นในหมู่บ้าน ชีร์แมนเล่าว่า “ทหารเยอรมนีและฝรั่งเศสต่างยุติการประหัตประหารซึ่งกันและกันทันที ทั้งสองฝ่ายต่างไปเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกัน โดยอาศัยเดินตามสนามเพลาะและน�ำเหล้า บุหรี่ ฯลฯ มาแลกกับขนมปังด�ำ บิสกิต และหมูแฮม จากเมืองเวสฟาเลีย (Wesphalia) ความสัมพันธ์นี้ท�ำให้เกิดมิตรภาพ แม้ว่าเทศกาลคริสต์มาสจะผ่านไปแล้ว ปฏิปักษ์ทั้ง สองฝ่ายก็ยังเป็นมิตรกัน” ต่อมาไม่นานวินัยทหารก็กลับมาสู่สภาพเดิม แต่ชีร์แมนยังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ ที่ผ่านมาและบันทึกไว้ว่า “เหตุใดทหารที่เบอนาร์ดสไตน์จึงไม่มีจิตใจที่จะรบกันหลังจากที่ได้ร่วมกัน ฉลองคริสต์มาส มิใช่เพราะความขลาดอย่างแน่นอนทีเดียว แต่เป็นเพราะมีสมั พันธ์ตดิ ต่อ กันฉันท์มนุษยชาติ สมมติวา่ ถ้าเยาวชนจากประเทศต่างๆ มีสถานทีท่ จี่ ะได้พบปะสังสรรค์ ซึง่ กันและกัน นีแ่ หละคือวัตถุประสงค์ของบ้านเยาวชน มิใช่แต่ในประเทศเยอรมนีเท่านัน้ ต้องทั่วโลก เปรียบเสมือนสร้างสะพานแห่งสันติสุขจากชาติหนึ่งไปสู่อีกชาติหนึ่ง”

THE HOSTEL BIBLE

50

ขณะทีช่ รี แ์ มนไปอยูใ่ นแนวหน้าทางทิศตะวันตก มุนเกอร์สหายรักของเขาถูกส่งไป ประจ�ำทางทิศตะวันออก ทัง้ สองคนเขียนจดหมายติดต่อกันเป็นนิจ ทัง้ ในขณะทีเ่ ป็นทหาร จนกระทั่งเลิกสวมเครื่องแบบ ทั้งสองติดต่อกันด้วยเรื่องของบ้านพักเยาวชนด้วยความ ชื่นชมและกระตือรือร้นเป็นเนืองนิจ ขณะนั้นบิดาของชีร์แมนครบเกษียณออกรับเบี้ย บ�ำนาญ จึงมาอยูเ่ ป็นผูด้ แู ล (Warden) ทีบ่ า้ นพักเยาวชน ณ อาลเตอนา และสหายของชีรแ์ มน จากสมาคมเซาเออแลนด์ชอื่ ยูเลียส์ ชูลต์ (Juluis Shultc) เป็นผูด้ แู ลประสานงานฝ่ายธุรการ ขณะนั้นสันติภาพได้กลับมาสู่โลกแล้ว และชีร์แมนมองหาหนทางที่จะน�ำกิจการบ้านพัก เยาวชนไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์


ประเทศเยอรมนีทชี่ รี แ์ มนและสหายกลับมาพบในตอนนีผ้ ดิ แผกไปจากบ้านเมือง ที่เขาเห็นและจากไปเมื่อปี 1914 เป็นอย่างมาก เป็นบ้านเมืองที่พ่ายแพ้ยากจนและมี กองทหารต่างชาติมาประจ�ำ ทางการเมืองก็ขมขื่นแตกแยกกัน อนึ่ง ทางการเงินก็ตกต�่ำ ลงเรื่อยๆ การที่จะจัดตั้งบ้านพักเยาวชนทั่วประเทศให้ประสานงานติดต่อกัน ย่อมเป็น สิ่งที่ล�ำบากยากเข็ญยิ่งนัก แต่ถึงกระนั้นก็ดีผู้ที่ท�ำงานในด้านนี้ได้พยายามก่อตั้ง “คณะ กรรมการกลางเพื่อบ้านพักเยาวชน” เป็นกรรมการอิสระ มีส�ำนักงานอยู่ที่อาลเตอนา โดยมีชีร์แมนเป็นประธาน มุนเกอร์เป็นเลขาธิการ ซึ่งมุนเกอร์ตัดสินใจเลิกบริหารกิจการ ของโรงงานอุทิศเวลาทั้งหมดให้แก่บ้านพักเยาวชนและให้บ้านของตนเองที่ฮีลเคนบาค เป็นที่ท�ำการ ส่วนชีร์แมนนั้นกลับไปรับหน้าที่เป็นครูสอนตามเดิมสอนทั้งวัน มีเวลาว่าง เมื่อใดก็สละให้องค์การทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะดูแลกิจการแล้วยังต้องแสดงปาฐกถาและ ต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยียน ฯลฯ วันหนึ่งเขาเขียนจดหมายถึงมุนเกอร์เล่าว่า “ตอนนั้นผมได้หยุดพัก 1 ชั่วโมง ได้นอนพักแล้ว บัดนี้พอจะท�ำงานต่อไปได้…” ในปี 1918 หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 1 สิน้ สุดลงนัน้ ในปีถดั มาสนธิสญ ั ญาแวร์ซาย ก็ได้เกิดขึ้น พร้อมๆ กับการจัดตั้งสมาคมบ้านเยาวชนแห่งแรกของโลกในปี 1919 โดยชีรแ์ มน และในปีเดียวกันนัน้ Rudolf Stiener นักการศึกษาเชือ้ สายออสเตรียทีม่ อี ายุ รุ่นเดียวกับชีร์แมน ก็ได้เปิดโรงเรียนการศึกษาที่เน้นจินตนาการและธรรมชาติขึ้นที่ โรงงานบุหรี่ Waldorf ในเมืองสตุทการ์ท ที่ต่อมาถูกเรียกว่า Waldorf School ในเดือนสิงหาคม 1920 ทางองค์การได้จัดตีพิมพ์สมุดคู่มือของบ้านเยาวชน เล่มแรกขึ้น มีรายชื่อบ้านพัก 700 ชื่อ ที่หน้าแรกมีสาส์นของคณะกรรมการ เขียนโดย ชีร์แมนถึงเยาวชนแห่งประเทศเยอรมนีว่า “ในขณะที่คุณเดินทางขอให้ส�ำเหนียกถึงความส�ำคัญของกาลเทศะ ขออย่าได้ ท�ำอะไรน่าเกลียด ไม่วา่ จะเป็นในด้านความประพฤติหรือในการแต่งกาย ควรจะงดเว้นเสีย ซึง่ การสูบบุหรีแ่ ละการดืม่ เหล้า สิง่ ใดทีไ่ ม่จำ� เป็นก็ขอให้งดเว้นเสียอย่างหน้าชืน่ ตาบาน…” THE HOSTEL BIBLE

51


สงครามยังผลให้เยาวชนของเยอรมนีซึ่งต้องพบกับความล�ำบากยากแค้นและ ความผิดหวังนานาประการ แต่ก็ท�ำให้เยาวชนหันมาเดินทางไปในชนบทและพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้น และหันเข้าพึ่งความงามและความสงบสุขของธรรมชาติ ในปี 1919 มีจ�ำนวน แรมคืนเท่ากับ 60,000 ในปี 1920 เท่ากับ 186,000 และปี 1921 มีมากถึง 500,000 ขณะนี้ความต้องการที่พักบ้านเยาวชนมีมาก แต่ทุนทรัพย์ยังมีไม่เพียงพอ ชีร์แมน มุนเกอร์ และเพื่อนร่วมงานต่างพยายามที่จะหาทุนทรัพย์ในคราวนี้ โดยติดต่อกับนักอุตสาหกรรม นักธุรกิจ องค์การเทศบาล หน่วยราชการส่วนภูมิภาค ตลอดจนรัฐบาลเอง ชีรแ์ มนได้บนั ทึกการเจรจากับเจ้าเมืองแบมเบอร์ก (Bamberg) ในปี 1919 ไว้ดังนี้ “หลังจากทีข่ า้ พเจ้าได้พดู ไปเพียง 5 นาทีเท่านัน้ ข้าพเจ้าก็ไม่จำ� เป็นจะต้องพูดอีก เจ้าเมืองได้พูดถึงกิจการของบ้านเยาวชนด้วยความกระตือรือร้นเสียจนกระทั่งข้าพเจ้า อยากจะพูดว่า ถ้าหากคุณไม่ได้เป็นเจ้าเมืองแล้ว ผมจะจ้างคุณให้เป็นผู้โฆษณาส�ำหรับ บ้านเยาวชน ส่งไปพูดตามสถานทีต่ า่ งๆ เมือ่ ข้าพเจ้าลากลับเจ้าเมืองพูดว่า สมควรทีบ่ า้ นเมือง จะอุดหนุนท่านและข้าพเจ้าแน่ใจว่าท่านได้รับความอุดหนุนจากบ้านเมืองจริงๆ งานที่ ท่านท�ำนีเ้ ป็นงานทีด่ งี ามและมีอนาคตอันแจ่มแจ้ง ข้าพเจ้าแน่ใจทีเดียวว่าภายในไม่ชา้ นีท้ า่ น ไม่จ�ำเป็นต้องโฆษณาเสียด้วยซ�้ำ” ในปี 1922 ชีร์แมนได้ยกเว้นการสอนประจ�ำ ท�ำให้เขามีเวลาว่างมากขึ้นและท�ำ กิจกรรมของบ้านเยาวชนโดยพร้อมมูล ตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นระยะเวลาที่ชีร์แมนขะมักเขม้น งานด้านนี้อย่างเต็มที่ และเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อพบปะและโน้มน้าวรัฐบาล เอกชน โรงงาน โรงเรียน และผูป้ กครองให้สนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมของเขา คนส่วนมากเห็นด้วย กับชีร์แมนว่ากิจกรรมบ้านเยาวชนจะช่วยฟื้นฟูการศึกษาและสุขภาพของเยาวชนในยุค หลังสงครามได้ดี เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายมาก จึงสนับสนุนเขาท�ำให้กิจการบ้านเยาวชน เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

THE HOSTEL BIBLE

52


ชีรแ์ มนได้เขียนหนังสือเล่มหนึง่ ในปี 1926 กล่าวถึงแผนผังการสร้างบ้านเยาวชน ซึ่งถือเป็นแบบฉบับต่อมา “เราไม่อยากจะสร้างปราสาทสะลึมสะลือมืดทึบแบบสมัยกลาง ที่มีราชวัง เล็กๆ พร้อมด้วยหอคอยหรือแบบโรงทหาร ฯลฯ สิง่ ก่อสร้างนีจ้ ะต้องเหมาะแก่เยาวชน คนรุน่ หลัง เรียบๆ สว่างไสว โปร่ง มีความสะดวกสบาย งดงามน่าอยู่ แบบอาคาร จะต้องให้สมกับภูมิประเทศแต่ละแห่ง บ้านเยาวชนแต่ละแห่ง จะต้องเป็นอนุสรณ์ของชนรุน่ เรา เป็นหลักเขตซึง่ ชน รุน่ หลังจะภาคภูมิใจได้ บ้านเยาวชนขนาดเล็ก ควรจะมีเตียงประมาณ 30 ถึง 40 เตียง อย่างน้อยพอ จะรับรองนักเรียนได้ 1 ห้อง ห้องนอน ควรกะให้ถูกกับจ�ำนวนแบบของเตียง ดังนั้น ก่อนที่จะวางแผนผัง ควรจะนึกถึงขนาดของเตียงเสียก่อน ขนาดที่ใช้ทั่วไปคือ 0.80 x 1.90 เมตร ในห้องพักหรือห้องประชุมหรือห้องนั่งเล่น ควรจะมีโต๊ะจัดเป็นรูปเกือกม้า เพื่อให้ผู้ที่มาพักได้อยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่ใกล้ชิดกัน…” หนังสือเล่มน้อยนีม้ รี ายละเอียดอย่างดี ซึง่ ชีรแ์ มนได้มาจากประสบการณ์ในการ จัดตั้งบ้านเยาวชนที่อาลเตอนา แม้ว่าชีร์แมนจะมีหน้าที่ในด้านโฆษณาและธุรการของ สมาคมก็ตาม ชีรแ์ มนก็ยงั เป็นผูด้ แู ลหอพักซึง่ เป็นห่วงเป็นใยในหอพัก ซึง่ อยูใ่ นภาระของ เขาอย่างยิ่ง ในปี 1925 องค์การบ้านเยาวชนของเยอรมนีได้รบั โอนสถานทีท่ คี่ รัง้ หนึง่ เคยเป็น ค่ายทหารที่เมืองสเตามูเล (Staunuhle) มีสิ่งปลูกสร้าง 25 หลัง จุเตียงได้ 1,000 เตียง ซึง่ ออกจะกว้างขวางเกินไปส�ำหรับบ้านเยาวชน แต่วา่ เหมาะสมอย่างยิง่ ส�ำหรับเป็นทีพ่ กั ของนักเรียนรุน่ เล็ก ชีรแ์ มนจึงคิดจะสร้างเมืองส�ำหรับเด็ก (Children’s Village) เพือ่ ต้อนรับ นักเรียนและครูจากเมืองอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อให้คนเหล่านี้มีโอกาส ได้พบเห็นชีวิตตามชนบท ในสมุดโครงการเมืองเด็ก ชีร์แมนได้เขียนไว้ว่า “เด็กทีอ่ ยูใ่ นเมืองใหญ่ยอ่ มกระหายทีจ่ ะเห็นแสงเดือน แสงตะวัน ต้นไม้ใบหญ้า และอากาศบริสุทธิ์ อันที่จริงเมื่อข้าพเจ้ามาที่สเตามูเลนั้น ข้าพเจ้าแสวงหาสถานที่ ส�ำหรับบ้านเยาวชน แต่เมื่อข้าพเจ้ามาพบสถานที่อันเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าอันไพศาล ที่เนินเขาและต้นไม้ที่สวยสดงดงาม

THE HOSTEL BIBLE

53


ข้าพเจ้าคิดถึงเด็กๆ มิใช่คนหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น แต่ข้าพเจ้าคิดถึงเด็ก ทั้งโรงเรียนและทุกโรงเรียน ไม่ว่าชั้นการศึกษาใด ศาสนาใด ฯลฯ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ ได้มีโอกาสมาพักผ่อนและอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดอง วันหนึ่งเขตฝึกทหารของ เยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ อิตาลี โปแลนด์ รัสเซีย อเมริกาและทั่วโลกจะ กลายเป็นเมืองเด็ก และโรงเรียนท่ามกลางธรรมชาติซงึ่ เต็มไปด้วยเยาวชนผูม้ สี ขุ ภาพ อันแข็งแรง แทนที่จะมีทหาร และสันติสุขก็จะแผ่คลุมทั่วทุกผืนดิน…” แต่ความฝันของชีรแ์ มนในเรือ่ งนี้ เพือ่ นไม่ได้เห็นด้วยหมดทุกคน เพราะค่าใช้จา่ ย สูงมากและกิจกรรมก็มิใช่เรื่องของบ้านเยาวชนโดยตรง ดังนั้น จึงต้องก่อตั้งสมาคม ต่างหาก มีกรรมการการจัดการเรือ่ งการสร้างหมูบ่ า้ นส�ำหรับเด็ก ชีรแ์ มนมีสว่ นรับผิดชอบ อยู่ไม่น้อย ขณะนั้นชีร์แมนมีภาระอยู่ 3 แห่ง คือ นอกจากจะเป็นกรรมการในชุดนี้แล้ว ยังต้องดูแลหอพักทีอ่ าลเตอนา และเป็นประธานคณะกรรมการบ้านเยาวชนแห่งประเทศ เยอรมนี ในปี 1929 ภรรยาคนแรกของชีร์แมนยอมให้หนังสือหย่าแก่ชีร์แมน เขาจึงได้ แต่งงานครั้งที่ 2 กับเอลิซาเบท บอร์แบก เลขานุการินีซึ่งมีอายุน้อยกว่าเขาตั้ง 20 ปี เธอได้ชว่ ยชีรแ์ มนในด้านจดหมายติดต่อและการนัดหมายต่างๆ มาเป็นเวลานานหลายปี ซึง่ นับว่าเป็นก�ำลังแรงและความคิดอันดีสำ� หรับชีรแ์ มน การแต่งงานครัง้ นีผ้ ใู้ หญ่ฝา่ ยหญิง ไม่พอใจ แต่ทงั้ สองคนได้ใช้ชวี ติ ร่วมกันมาอย่างผาสุก ตราบจนกระทัง่ ชีรแ์ มนถึงแก่กรรม เมื่อปี 1962 เหตุการณ์ต่างๆ ดูไม่เป็นที่น่าชื่นชมเลย หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยาวชนจาก นานาประเทศได้พากันนิยามการเดินทางแบบใหม่ จึงเป็นปัจจัยให้ได้ใช้บ้านพักเยาวชน ของประเทศเยอรมนีมากขึ้น ในปลายปี 1920 สมาคมบ้านเยาวชนในประเทศต่างๆ ก็กอ่ ตัง้ ขึน้ เป็นล�ำดับ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ ฮอลแลนด์ ฝรัง่ เศส และอังกฤษ และ ในเดือนธันวาคม 1931 เลขาธิการแห่งบ้านเยาวชนของฮอลแลนด์ อังกฤษ และสก็อตแลนด์ ได้เดินทางมาพบชีรแ์ มนและมุนเกอร์ทปี่ ระเทศเยอรมนี ทัง้ นีโ้ ดยมีวตั ถุประสงค์ทจี่ ะจัดตัง้ องค์การระหว่างชาติว่าด้วยเรื่องบ้านเยาวชน เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 1932 THE HOSTEL BIBLE

54


ในสมัยนีเ้ อง ประเทศเยอรมนีได้ประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองอย่างรุนแรง ในเดือนมีนาคม 1933 คณะพรรคการเมืองโซเซียลิสม์มีอิทธิพลอย่างมาก เพียงในเวลา เล็กน้อยก็กวาดล้างลัทธิประชาธิปไตยไปหมด ดังนั้น ระบบการศึกษาและการอบรม เยาวชนย่อมผันแปรไปด้วย เป็นปัจจัยให้เกิดระบบบังคับเรียกว่า Nation Youth Leadership ในขั้นแรก เป็นที่หวังกันว่าองค์การบ้านเยาวชน ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับการเมือง คงจะไม่ถูกกระทบกระเทือน แต่ภายในวันที่ 10 เมษายน 1933 ชีร์แมนก็ได้รับค�ำสั่ง ให้ลาออกจากต�ำแหน่งประธานบ้านเยาวชน และอีกสองวันต่อมา ชีร์แมนและมุนเกอร์ ก็ได้ถูกเรียกตัวให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ใหญ่ของทางการ ทั้งสองคนได้รับค�ำสั่งให้น�ำ บ้านเยาวชนเข้าร่วมองค์การเยาวชนแห่งชาติ และให้สำ� นักงานใหญ่ยา้ ยไปตัง้ อยู่ ณ กรุงเบอร์ลนิ ซึ่งท�ำให้กิจการบ้านเยาวชนในช่วงนี้ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการโฆษณาชวนเชื่อของ พรรคนาซี มุนเกอร์ได้ติดต่อกับทางการหลายสาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นการเปล่าประโยชน์ เขาก็ลาออกจากหน้าที่เลขาธิการบ้านเยาวชนอย่างเงียบๆ เพราะเขาแน่ใจว่า ถ้าปฏิบัติ งานต่อไปก็คงไม่ได้ผลเหมือนดังทีเ่ ขาได้ตงั้ ปณิธานไว้ ส่วนชีรแ์ มนนัน้ ยังไม่ยอมเชือ่ ในผล ซึ่งตนมิพึงปรารถนา เขายังเชื่อมั่นว่า คงจะได้ความร่วมมือจากเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก เป็นแน่ เขายังหวังอยู่เสมอว่า เมื่อร่วมงานกับรัฐบาลใหม่แล้ว เขาจะปฏิบัติงานให้ได้ผล สมใจหวัง ดังนัน้ เขาจึงรับต�ำแหน่งนายกกิตติมศักดิแ์ ห่งบ้านเยาวชนของเยอรมนี ซึง่ เป็น สิ่งที่ท�ำให้เขาได้รับความขมขื่นเป็นอย่างมากในโอกาสต่อมา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1935 รูดอฟ เฮส (Rudolf Hess) ซึ่งเป็นมือขวาของ ฮิตเลอร์ในขณะนั้น ได้ท�ำพิธีประกาศยกให้ปราสาทอาลเตอนาเป็นบ้านเยาวชนแห่งโลก งานนี้เป็นงานใหญ่งานโต มีแขกมาจากนานาประเทศ และพวกผู้น�ำของนาซีได้แสดง ให้เห็นว่า คณะของเขายกย่องชีร์แมน และเน้นความส�ำคัญขององค์การบ้านเยาวชนว่า เป็นปัจจัยในการที่จะส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างชาติ แต่แนวคิดของนาซีได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ชีร์แมนและองค์การบ้านเยาวชน ได้เป็นปัจจัยให้คณะนาซีมีชื่อเสียงดีและได้รับการยอมรับในโลกที่มิใช่นาซีในขณะนั้น แต่เมื่อได้บรรลุผลส�ำเร็จแล้วชีร์แมนก็กลายเป็นสิ่งที่น่าร�ำคาญ THE HOSTEL BIBLE

55


ในเดือนกันยายน 1936 นี่เอง ชีร์แมนทนความกดดันของคณะนาซีไม่ได้ ต้องท�ำหนังสือลาออกจากต�ำแหน่งประธานบ้านเยาวชนสากล ข้อความในหนังสือที่เขา ลาออกพอจะท�ำให้เราเดาได้ว่า เขาต้องจ�ำเป็นจ�ำใจลาออก คณะนาซียงั ได้รบิ หนังสือเดินทางของชีรแ์ มนไปอีก เพือ่ เป็นประกันมิให้ชรี แ์ มน มาติดต่อกับคนภายนอกได้ นอกจากนัน้ เขายังถูกไล่ออกจากปราสาทอาลเตอนา และถูกห้าม มิให้เหยียบย่างเข้าไปในบ้านเยาวชนของเยอรมนีแห่งไหนอีกเลย ในปี 1939 สงครามโลกครัง้ ที่ 2 ก็อบุ ตั ขิ นึ้ ในสมัยสงครามชีรแ์ มนได้รบั อนุญาตให้เป็น ครูทโี่ รงเรียนในหมูบ่ า้ นนัน้ (อันทีจ่ ริงชีรแ์ มนรับเบีย้ บ�ำนาญมาตัง้ แต่เดือนมิถนุ ายน 1934) การทีไ่ ด้งานท�ำประจ�ำอย่างนี้ ท�ำให้สถานะการเงินของครอบครัวดีขนึ้ มาก ชีรแ์ มนใช้เวลาว่าง เที่ยวเดินไปตามล�ำเนาป่าที่เทานุส ฮิล กับลูกๆ ชีร์แมนเขียนจดหมายถึงมุนเกอร์ในปี 1943 ว่า “ตลอดอาทิตย์นี้เราไม่เคยเห็นใครเดินมาทางนี้เลย เมื่อวันอาทิตย์มีครอบครัว สามีภรรยา หนุม่ สาวสองสามคู่ แต่ทว่าไม่มหี มูเ่ ยาวชน เด็กในโรงเรียนเห็นจะไม่ชอบเดิน กันแล้ว เพือ่ นร่วมงานของข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่า ท�ำไมบัดนีข้ า้ พเจ้าถึงอายุ 69 ปีแล้วยังชอบเดิน และไปค้างแรมซ�้ำยังแบกเครื่องหลังไปด้วย…” เมื่อชีร์แมนอายุได้ 70 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 1944 บรรดาเพื่อนๆ ซึ่งมีมุนเกอร์ เป็นหัวหน้าได้จดั การให้มกี ารเลีย้ งฉลอง ขณะนัน้ สงครามก�ำลังเข้มข้นมาก พวกนาซีจงึ ไม่มี เวลาที่จะคิดถึงชีร์แมนและบ้านเยาวชน ดังนั้น งานนี้จึงจัดให้มีที่ปราสาทอาลเตอนา ในปีตอ่ มา สงครามก็สนิ้ สุดลง เยอรมนีพา่ ยแพ้สงคราม และถูกพันธมิตรครอบครอง เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตของชีร์แมน ในวัย 70 กับบ้านเมืองปรักหักพัง และผู้คนยากจน ข้นแค้น ในสมัยนัน้ มีชาวเยอรมนีลภี้ ยั จากเมืองต่างๆ ในยุโรปตะวันออกเข้ามาในประเทศ เยอรมนีเป็นจ�ำนวนถึง 12 ล้านคน ซึ่งท�ำให้เหตุการณ์ในบ้านเมืองขลุกขลักยิ่งขึ้น บ้านเยาวชนต่างๆ ก็ชำ� รุดเสียหายเป็นส่วนมาก ส่วนทีเ่ หลืออยูก่ ใ็ ช้เป็นบ้านพักในยามฉุกเฉิน เป็นการยากในการทีจ่ ะฟืน้ ฟูกจิ กรรมของบ้านเยาวชนในเยอรมนี ในชัว่ ระยะเวลาอันสัน้ THE HOSTEL BIBLE

56


ถึงกระนั้นก็ดี ชีร์แมนและมุนเกอร์ก็สามารถจะติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเก่าๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี และในเดือนพฤษภาคม 1946 ชีร์แมนสามารถที่จะจัดการอบรม ผู้ที่น�ำเด็กออกเดินเที่ยว ในปีเดียวกันนั้นเอง มอนโร สมิธ (Monroe Smith) แห่งบ้าน เยาวชนอเมริกัน ได้เดินทางมาที่เยอรมนีในเดือนกรกฎาคม และได้วิ่งเต้นจนกระทั่ง ทางการเยอรมนีอนุญาตให้เขาและชีร์แมนติดต่อเรื่องการที่จะฟื้นฟูบ้านเยาวชนใน ประเทศเยอรมนีอีก นอกจากนั้น สมิธยังได้เช่าเรือบิน 1 ล�ำ พาชีร์แมนและมุนเกอร์ ไป ณ ประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อร่วมประชุมบ้านเยาวชนสากลครั้งแรก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคม 1949 ได้มีพิธีที่ปราสาทอาลเตอนา บ้านเยาวชนแห่งแรก และมีพธิ สี ถาปนาให้บา้ นเยาวชนของเยอรมนีเป็นสถาบันของชาติ เช่นเดิม และชีร์แมนได้รับเลือกเป็นประธานกิตติมศักดิ์ พร้อมด้วย ดร.มุนเกอร์ เป็นรอง ประธานกิตติมศักดิ์ อยู่ในคณะกรรมการบริหารด้วย ประเทศเยอรมนีได้ให้เหรียญความดีความชอบ (Cross of The Federal German Order of Merit) แก่ ริชาร์ด ชีร์แมน และในปี 1954 ได้มีการฉลองวันเกิดครบ 80 ปี ของชีร์แมนที่ปราสาทอาลเตอนาอย่างใหญ่โต ประธานาธิบดีของเยอรมนีได้มีสาส์น มาแสดงความยินดี เมืองอาลเตอนาได้เชิญให้ชรี แ์ มนเป็นชาวเมืองกิตติมศักดิข์ องอาลเตอนา และได้ขนานนามถนนตามชื่อของ ชีร์แมน อันที่จริงเมื่อกล่าวถึงอายุ 80 ปี โดยทั่วๆ ไปแล้ว ก็ต้องนับว่าเป็นอายุที่เข้าวัย หย่อนสมรรถภาพ แต่ชีร์แมนมีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจร่าเริงสนุกสนานเหมือน เด็กหนุ่มๆ เดินเหินก็กระปรี้กระเปร่า และยังสามารถแสดงปาฐกถาได้ 1 ชั่วโมง โดยไม่ เหน็ดเหนื่อย มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ท�ำให้ชีร์แมนร�ำคาญ คือ สายตาซึ่งนับวันก็นับแต่จะเสื่อมลง และชีร์แมนเชื่อว่า เป็นผลสะท้อนมาจากการที่เขาถูกทรมานในสมัยสงครามเมื่อ 18 ปี มาแล้ว นอกจากเรือ่ งสายตาแล้ว รูส้ กึ ว่าชีรแ์ มนมีกำ� ลังวังชาและจิตใจไม่แพ้คนรุน่ 20 ปีเลย

THE HOSTEL BIBLE

57


ครั้งหนึ่งในการกล่าวบนเวที ชีร์แมนในวัย 80 กล่าวถึงบ้านพักเยาวชนว่า “บ้านพักเยาวชน คือ บ้านพักที่พวกเยาวชนจะได้มีโอกาสพบปะกัน มีสิทธิ และหน้าที่เดียวกัน เพราะต่างมาจากชาติเดียวกัน คือ ชาติของความเป็นหนุ่มสาว” พวกเยาวชนได้ปรบมือให้กับชีร์แมนอย่างเต็มที่ ชีร์แมนเริ่มป่วยหนักในฤดูใบไม้ร่วง 1961 และต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แฟรงก์ฟอร์ต ชีร์แมนพูดถึงอนาคตและโครงการของบ้านเยาวชนอันเป็นที่รักของเขา ตราบจนวาระสุดท้าย เขาถึงแก่กรรม เมือ่ วันที่ 14 ธันวาคม 1961 พิธที ำ� ศพได้จดั ท�ำทีป่ ราสาทอาลเตอนา อันเป็นบ้านของเขาเป็นระยะเวลาแรมปี ในท่ามกลางหมู่มิตรและผู้ที่รักใคร่ของเขาเป็น จ�ำนวนมาก ชีร์แมนไม่มีรูปปั้นเป็นอนุสรณ์ไว้ แต่อนุสรณ์งานของชีร์แมนก็คือ งานของบ้าน เยาวชนทีแ่ ผ่ไปทัว่ โลก และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและจุดเริม่ ต้นของ Hostel ทัว่ โลก ในเวลาปัจจุบัน ดังที่เขากล่าวว่า “บ้านเยาวชน (Youth Hostel) คือ สะพานแห่งสันติภาพที่เชื่อมโยงจาก ชาติหนึ่งไปสู่ชาติหนึ่ง”

THE HOSTEL BIBLE

58


บ้านเยาวชนแบบดั้งเดิมเป็นอย่างไร

ข้อมูลจากเอกสารสูจิบัตรวันเปิดท�ำการสมาคมบ้านเยาวชนแห่งประเทศไทย ปี 2534

บ้านเยาวชน (Youth Hostel) คืออะไร 1. บ้านเยาวชนจัดให้มีที่พักในอัตราต�่ำ ส�ำหรับเยาวชนและสุภาพชนทั่วไปพัก ระหว่างเดินทาง 2. บ้านเยาวชนมีลกั ษณะแตกต่างกันไป แล้วแต่ประเทศจะจัด แม้แต่ในประเทศเดียวกัน ก็มลี กั ษณะแตกต่างกัน บ้านเยาวชนบางแห่งจัดขึน้ ในบ้านเก่าแก่ หรือปราสาทโบราณ หรืออยูใ่ นอาคารทันสมัยทีส่ ร้างขึน้ เป็นบ้านเยาวชนโดยเฉพาะ บ้านเยาวชนบางแห่ง จัดขึ้นให้มีที่พักอย่างง่ายๆ 3. บ้านเยาวชนจัดแยกหอนอน ที่ล้างมือ ล้างหน้า และสุขาส�ำหรับชายและหญิง เป็นสัดส่วนไม่ปนกัน ปกติที่พักซึ่งอยู่ในหอพักรวมจะมีเตียงหมู่ 4 เตียง ถึง 20 เตียง 4. บ้านเยาวชนปรกติจะมีหอ้ งรวม ส�ำหรับผูท้ พี่ กั ใช้เป็นทีพ่ บปะสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ 5. บ้านเยาวชนบางแห่งจัดอ�ำนวยความสะดวกให้แก่ผปู้ ระสงค์จะปรุงอาหารรับประทานเอง 6. บ้านเยาวชนมีผอู้ ำ� นวยการ ผูด้ แู ล หรือพ่อแม่ เป็นผูด้ ำ� เนินการ บางแห่งก็จดั จ�ำหน่าย อาหารราคาเยา ในบ้านเยาวชนขนาดใหญ่จะมีการจ�ำหน่ายแบบคาเฟทีเรีย 7. บ้านเยาวชนขนาดเล็กจะขอร้องผูพ้ กั ให้ชว่ ยท�ำหน้าทีร่ ว่ มกัน (เช่น ท�ำความสะอาดห้อง ฯ) 8. บ้านเยาวชนไม่มีความสะดวกหรือบริการให้เช่นโรงแรมทั่วไป แต่จะจัดที่พักให้ดี และอ�ำนวยความสะดวกตามสมควร การพักบ้านเยาวชนคืออะไร? การพักบ้านเยาวชน คือ วิธีการเดินทางแบบหนึ่ง ประการแรก เป็นการเดินทาง แบบประหยัด คือ การเดินทางไกล การขับขี่จักรยาน หรือการพายเรือ ประการที่สอง เป็นการเดินทางแบบกันเอง เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับประเทศของตนและประเทศอื่น เพื่อรับความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อชื่นชมกับธรรมชาติและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ต่างๆ ที่ปรากฏเข้ามาในชีวิต การพักบ้านเยาวชนนั้นเป็นการพักอย่างง่ายๆ ซึ่งเรา เรียกว่า “บ้านเยาวชน” (Youth Hostel) สถานที่ที่ช่วยให้มีการเดินทางไปได้ทั่วโลก กว่า 60 ประเทศ

THE HOSTEL BIBLE

59


บ้านเยาวชนนัน้ มีลกั ษณะแตกต่างกันอยูใ่ นประเทศต่างๆ แม้ในประเทศเดียวกัน ก็ยังมีลักษณะต่างกัน แต่โครงสร้างทั่วๆ ไปจะอยู่ในลักษณะเช่นเดียวกัน บ้านเยาวชน มีส่วนช่วยให้คนหนุ่มสาวท่องเที่ยวไปในประเทศของตนและในโลก โดยเฉพาะด้วยการ จัดสถานทีพ่ กั ผ่อนอย่างง่ายๆ คือ มีเตียง มีทนี่ อน ผ้าห่ม หอพักชาย หอพักหญิง แยกห้อง สุขา และจัดครัวพร้อมอุปกรณ์ บ้านเยาวชนแต่ละแห่งจะมีผู้ดูแล บางแห่งก็จัดอาหาร ให้ด้วย ผู้พักจะช่วยปฎิบัติภารกิจบางอย่าง เช่น ช่วยท�ำความสะอาดหรืออย่างอื่นตามที่ ผู้ดูแลเสนอแนะ

THE HOSTEL BIBLE

60


รู้จักโฮสเทล และฟังก์ช่น ั ต่างๆ ห้องที่

2


ปัจจุบันการท่องเที่ยวราคาประหยัดได้เผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยปัจจัย ส�ำคัญ 2 ประการ คือ การมีสายการบินต้นทุนต�ำ่ (Low Cost Airline) และการใช้โซเชียล มีเดียทีม่ กี ารแชร์ประสบการณ์ใหม่ๆ กันตลอดเวลา ท�ำให้คนทัว่ โลกถูกกระตุน้ ให้แสวงหา ประสบการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน และสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ในเวลา ทีต่ นพอใจ โดยไม่ตอ้ งมีการวางแผนล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานดังเช่นในอดีต นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังช่วยท�ำให้ผู้คนต้องการค้นหาความเป็นตัวตน และแบ่งปันประสบการณ์ พิเศษในสิ่งที่พวกเขาได้ค้นพบก่อนใคร สองสิ่งนี้เป็นปัจจัยหลักที่ท�ำให้ธุรกิจที่พักแบบสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นบูติคโฮเต็ล (Boutique Hotel) ดีไซน์โฮเต็ล (Design Hotel) ดีไซน์โฮสเทล (Design Hostel) รวมถึง โฮสเทล (Hostel) ในรูปแบบต่างๆ เกิดขึน้ และพัฒนารูปแบบไปอย่างหลากหลาย จนบางครัง้ มีลักษณะแปลกใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ และธุรกิจที่พักแบบสร้างสรรค์นี้มีมูลค่าถึงเกือบ ครึ่งหนึ่งของธุรกิจที่พักทั่วโลก ส�ำหรับประเทศไทย ยังมีปัจจัยเสริมที่ส�ำคัญอีก 5 ข้อ ที่ส่งเสริมให้การท�ำธุรกิจ ที่พักแบบสร้างสรรค์ โดยเฉพาะบูติคโฮเต็ลขนาดเล็กและโฮสเทลเป็นอาชีพที่น่าลงทุน ควรลงทุน และไม่มีวันเสื่อมความนิยม ตราบเท่าที่ยังมีประเทศไทยอยู่บนแผนที่โลก นั่นก็คือ 1. นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เอกลักษณ์ และวัฒนธรรม ถือเป็นนโยบายหลักของแทบทุกรัฐบาล เพราะเป็นการท่องเที่ยว ในรูปแบบทีม่ กี ารพัฒนาอย่างยัง่ ยืนควบคูก่ บั การอนุรกั ษ์ ซึง่ สามารถสร้างรายได้มหาศาล ที่ส�ำคัญคือ สามารถยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศไทย จากตลาดการท่องเที่ยว ราคาถูกเป็นการท่องเที่ยวราคาแพงได้

THE HOSTEL BIBLE

62

2. การประกอบธุรกิจสร้างสรรค์ของเจ้าของธุรกิจรายย่อย เป็นทีท่ ราบกันดีวา่ ธุรกิจรายย่อยทีม่ คี วามคิดสร้างสรรค์และมีความหลากหลายสามารถ สร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้นได้ และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตอย่างแท้จริง


ธุรกิจการท�ำทีพ่ กั แบบสร้างสรรค์เป็นธุรกิจเดียวในประเทศทีร่ วบรวมการกระจายรายได้ ในทุกสาขาเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนเปิดบริการ เช่น การออกแบบ การรับเหมา ก่อสร้าง การตกแต่ง อุปกรณ์เครือ่ งใช้ตา่ งๆ ไปจนถึงขัน้ ตอนระหว่างและหลังเปิดบริการ เช่น การจ้างงานจ�ำนวนมาก การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ส�ำคัญยังเกิดการจ้างงาน ในท้องถิ่นน�ำไปสู่การกระจายรายได้สู่รากหญ้า นอกจากนี้ในด้านการตลาดยังมีการใช้ เทคโนโลยีการสื่อสารและมีการสร้างแบรนด์สินค้า เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลุกค้าเฉพาะ ท�ำให้เกิดวงจรธุรกิจทีแ่ ข่งขันกันด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง ต่างจากธุรกิจแบบเก่าทีม่ งุ่ เน้น สายสัมพันธ์และหลายครั้งน�ำไปสู่การคอร์รัปชั่น และปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจการท�ำที่พัก แบบสร้างสรรค์เป็นธุรกิจบริการ ซึ่งคนไทยมีทักษะสูงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม 3. การขยายเส้นทางขนส่งมวลชนระบบราง เป็นการเปิดพื้นที่ที่มี ศักยภาพใหม่ๆ ส�ำหรับการลงทุน เป็นโอกาสทีอ่ สังหาริมทรัพย์ทเี่ คยอยูห่ า่ งไกลความเจริญ อาคารเก่าและตึกแถวจ�ำนวนมากทั่วเมืองใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างและไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ น่าพอใจ จะมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล 4. เป็นอาชีพอสังหาริมทรัพย์ท่ล ี งทุนไม่มาก เพราะเป็นที่พักแบบ ขนาดเล็กหรือพักรวม ท�ำให้งา่ ยต่อการปรับปรุงอาคารสถานที่ โดยเฉพาะโฮสเทลเหมาะ ส�ำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ชอบการลงทุนในธุรกิจไลฟ์สไตล์ และชื่นชอบการสังสรรค์ และความสนุกสนานเฮฮาราวกับมีปาร์ตี้ในที่พักทุกวัน 5. ที่สำ� คัญที่สุดคือ การที่ Low Cost Airline หลายแห่ง ใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคอาเซียน ส่งผลต่อ ความต้องการทีพ่ กั แบบราคาประหยัดจ�ำนวนมาก ไม่วา่ จะเป็นบัดเจ็ตโฮเต็ล (Budget Hotels) หรือโฮสเทล นักท่องเที่ยวในโลกนีม้ จี �ำนวนมหาศาล ในแต่ละปีประเทศไทยต้องจัดเตรียมทีพ่ กั ให้กับนักท่องเที่ยวถึงราว 20 ล้านคน เราลองมาดูกันว่า นักท่องเที่ยวแบ่งเป็นประเภท ใดบ้าง และนักท่องเที่ยวแบบไหนที่จะเข้าพักในที่พักแบบที่เราก�ำลังสนใจจะลงทุน

THE HOSTEL BIBLE

63


ส่วนที่ 1 : รู้จักโฮสเทล ประเภทของนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ • Tourist (นักท่องเทีย ่ ว) คือ นักเดินทางทีม่ กั มีการวางแผนการเดินทาง ล่วงหน้า ในระยะเวลาทีแ่ น่นอน ส่วนใหญ่เดินทางกันเป็นกลุม่ พร้อมบริษทั ทัวร์ จุดประสงค์ การท่องเทีย่ วคือ ต้องการมาเปิดหูเปิดตาเห็นสิง่ ใหม่ๆได้สมั ผัสสถานทีแ่ ละสภาพแวดล้อม แปลกใหม่ โดยไม่ได้สนใจวัฒนธรรมท้องถิ่นมากนัก เรามักเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ถือกล้องถ่ายรูป ถือไกด์บกุ๊ หรือแผนทีไ่ ว้ในมือ และท่องเทีย่ วไปตามแหล่งท่องเทีย่ วหลัก ในหัวเมืองใหญ่ๆ มากกว่าเมืองเล็กๆ หรือในพืน้ ทีห่ า่ งไกลทีม่ ขี องดีหาชมได้ยาก และเลือกพัก ในสถานที่ที่มีความสะดวก เช่น โรงแรมมาตรฐาน ตัวอย่างนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เช่น กลุ่ม ทัวร์จีน กลุ่มทัวร์ยุโรป กลุ่มทัวร์รัสเซีย • Traveler (นักเดินทาง) เป็นนักเดินทางประเภทที่ต้องการสัมผัส วัฒนธรรมและธรรมชาติของท้องถิน่ สนใจเรียนรูว้ ถิ ชี วี ติ ผูค้ น ความเป็นอยู่ อาหารการกิน ของท้องถิ่น มากกว่าเดินทางมาพักผ่อนหรือมาท�ำงานในวันหยุด ส่วนใหญ่มักเดินทาง เป็นคูห่ รือแม้แต่คนเดียว เพือ่ เก็บเกีย่ วประสบการณ์ในการเดินทางอย่างแท้จริง เราจะพบ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ตามสถานที่ที่มีความเป็นท้องถิ่นสูง เช่น ตามร้านอาหารที่คนท้องถิน่ นิยมมาฝากท้อง ตามย่านร้านตลาดที่คนท้องถิ่นจับจ่ายใช้สอย คุณอาจพบนักเดินทาง ประเภทนี้ยืนถือกล้องเซลฟี่ในซอยเล็กๆ ข้างตึกแถวเก่าย่านเยาวราช หรือนั่งละเลียด เครื่องดื่มเย็นๆ ในร้านกาแฟข้างถนน พร้อมช�ำเลืองดูนักเลงหมากรุกรุ่นพ่อที่ก�ำลังโขก หมากรุ ก อยู ่ อ ย่ า งสนอกสนใจ หรื อ ขี่ จั ก รยานลั ด เลาะไปตามตรอกซอกซอยเพื่ อ สังเกตการณ์บรรยากาศชีวิตจริงของชาวบ้าน

THE HOSTEL BIBLE

64

• Backpacker (นักท่องเทีย ่ วสะพายเป้) คือ กลุม่ คนทีท่ อ่ งเทีย่ ว อย่างอิสระ โดยเอางบประมาณเป็นตัวตั้ง แบ็กแพ็กเกอร์มักมีระยะเวลาในการเดินทาง ยาวนานภายใต้งบประมาณอันจ�ำกัด บางคนอาจท�ำงานเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วยขณะเดินทาง ระหว่างท่องเทีย่ วมักโดยสารขนส่งมวลชนสาธารณะ พักในทีพ่ กั ประเภท Youth Hostel หรือ Backpacker Hostel ซึ่งมีราคาถูกกว่า ปัจจุบันแบ็กแพ็กเกอร์มีการแตกกลุ่ม แยกย่อยออกไปอีก โดยแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างอย่างชัดเจน เนื่องจากนักท่องเที่ยว ประเภทนี้เป็นลูกค้ากลุ่มหลักในธุรกิจโฮสเทล เราจะมาท�ำความรู้จักกับแบ็กแพ็กเกอร์ ให้มากขึ้นอีกนิดว่า พวกเขาเป็นใครและถือก�ำเนิดบนโลกนี้ได้อย่างไร


Tourist don’t know where they’ve been, travelers don’t know where they’re going. นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่า ตัวเองได้ไปที่ไหนมา ส่วนนักเดินทางไม่รู้ว่า ตัวเองก�ำลังจะไปไหน Paul Theroux นักเขียนแนวท่องเที่ยวชื่อดังชาวอเมริกัน จากหนังสือเรื่อง “Ghost Train to the Eastern Star”

THE HOSTEL BIBLE

65


แบ็กแพ็กเกอร์คือใคร แบ็กแพ็กเกอร์ (Backpacker) คือ ผู้ที่เดินทางไกลโดยน�ำสัมภาระในชีวิตของ พวกเขา ทัง้ เสือ้ ผ้า รองเท้า หนังสือ และความฝัน แบกไปบนเป้สะพายหลัง บุคคลทีไ่ ด้รบั การขนานนามว่าเป็น แบ็กแพ็กเกอร์คนแรกของโลก คือ Giovanni Francesco Gemelli Careri นักผจญภัยชาวอิตาเลียน ผูเ้ ดินทางรอนแรมไปตามรอยเส้นทางสายไหมเก่า (Silk Road) ในช่วงศตวรรษที่ 17 แนวคิดของการแบกเป้ออกเดินทางเพื่อแสวงหาทางจิตวิญญาณในยุคปัจจุบัน เริม่ มาจากการก�ำเนิดของฮิปปีใ้ นประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นทศวรรษ 1960 เมือ่ คน หนุ่มสาวหลังยุคเบบี้บูม (Baby Boom) เริ่มตั้งค�ำถามถึงการใช้ชีวิต หลังเกิดภาวะ เศรษฐกิจตกต�่ำและการพ่ายแพ้ในสงครามเวียดนามที่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตเป็น จ�ำนวนมาก จนมีคำ� กล่าวว่าบ้านไหนทีม่ ลี กู ชายจะต้องมีหนึง่ คนทีต่ ายในสงคราม สิง่ ต่างๆ เหล่านี้ท�ำให้เกิดขบวนการแสวงหาและแหกคอกสังคม ที่เรียกว่า ฮิปปี้ (Hippie) หรือ บุปผาชน (ชนชาวดอกไม้) ซึ่งมาจากค�ำว่า Hip ที่แปลว่า เท่ เจ๋ง เก๋า เหล่าบุปผาชนได้ออกเดินทางและสร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวทั้งหลาย ออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อค้นหาความหมายของจิตวิญญาณ หรือภูมิปัญญาที่แท้จริง โดยเฉพาะประเทศในโลกตะวันออกอย่างอินเดีย ซึ่งในยุคนั้นมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม ตะวันตกเป็นอย่างมาก และเหล่าบุปผาชนนีก้ ค็ อื บรรพบุรษุ ของ Hipster ในปัจจุบนั นัน่ เอง ในช่วงทศวรรษต่อมา เมื่อการท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชียเจริญขึ้นมาก ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางหนึง่ ของแบ็กแพ็กเกอร์ทวั่ โลก เช่นเดียวกับอเมริกาใต้และ อเมริกากลาง สวรรค์ของแบ็กแพ็กเกอร์ในเมืองไทยอยู่ที่ถนนข้าวสาร ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก ของชาวโลกในปี พ.ศ. 2525 เมื่อครั้งสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ตามมาด้วย เทศกาล Full Moon Party ที่เกาะพงัน ซึ่งกลายเป็น A Must-Visit Place ของนักเดิน ทางทั่วโลกตั้งแต่ปี 2528 จวบจนปัจจุบัน

THE HOSTEL BIBLE

66

กลุม่ แบ็กแพ็กเกอร์ตอ้ งการสัมผัสประสบการณ์จริง มากกว่าประสบการณ์ทสี่ ร้างขึน้ เพือ่ ขายให้กบั นักท่องเทีย่ ว บางครัง้ พวกเขาถูกมองว่าเป็นนักท่องเทีย่ วราคาถูก และท�ำให้ เกิดการเผยแพร่ทางวัฒนธรรมที่ไม่เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การแต่งตัว วัฒนธรรม การกินดืม่ อย่างไรก็ตาม แบ็กแพ็กเกอร์สว่ นใหญ่มนี สิ ยั ใจคอทีน่ า่ รัก และวิถแี บ็กแพ็กเกอร์ ก็ถือเป็นการเดินทางก้าวแรกที่ช่วยให้คนหนุ่มสาวจ�ำนวนมากออกเดินทางแสวงหา ประสบการณ์และเรียนรู้จากสถานที่ใหม่ๆ ไปทั่วโลก


ประเภทของแบ็กแพ็กเกอร์ แบ็กแพ็กเกอร์ในยุคแรกมีจุดเริ่มต้นมาจากการเดินทางท่องเที่ยวไปในชนบท ประเภทปีนเขา แคมปิ้ง และเดินป่า เพื่อศึกษาและใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติหรือ วัฒนธรรมท้องถิ่น ปัจจุบันรูปแบบของแบ็กแพ็กเกอร์มีการพัฒนาไป และสามารถแบ่ง ออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. Pioneer Backpacker คือ แบ็กแพ็กเกอร์แบบดัง้ เดิม ทีย่ งั มีพนื้ ฐาน ของการเป็นฮิปปี้ อยูง่ า่ ย มีสไตล์ทชี่ ดั เจน สนใจเรือ่ งจิตวิญญาณ ชอบไว้ผมทรงเดรดล็อก ห้อยลูกปัดหรือประค�ำ มีรอยสัก ชื่นชอบศิลปะสูง ชอบเดินตามตลาด ชอบพูดคุยแลก เปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนใหม่ๆ เดินทางไปเรื่อยๆ โดยไม่มีแผนการหรือก�ำหนดเวลาที่ ชัดเจน คนกลุม่ นีจ้ ะเลือกทีพ่ กั ทีม่ รี าคาถูกและตัง้ อยูใ่ กล้ศนู ย์กลางการคมนาคมเป็นหลัก เพื่อประหยัดเงินและเวลา มักเป็นที่พักประเภทตึกธรรมดาๆ มีเตียงเหล็กสองชั้นแบบ Youth Hostel ไม่มกี ารออกแบบทีโ่ ก้เก๋ เน้นบรรยากาศทีเ่ รียบง่าย ได้พบปะผูค้ น แต่ตอ้ ง ไม่อึกทึกเกินไป 2. Modern Backpacker คือ แบ็กแพ็กเกอร์ที่มีฐานะดีกว่ากลุ่มแรก และไม่ได้มงี บประมาณอันจ�ำกัด แต่มคี วามชืน่ ชอบการท่องเทีย่ วแบบอิสระและต้องการ พบปะผูค้ น นักท่องเทีย่ วกลุม่ นีแ้ ต่งตัวสะอาดสะอ้านกว่าแบ็กแพ็กเกอร์แบบดัง้ เดิม และ มีการวางแผนการเดินทางทีค่ อ่ นช้างชัดเจน ภายใต้ระยะเวลาทีก่ ำ� หนด (อาจมีปรับเปลีย่ น บ้างเล็กน้อย) และมักเลือกที่พักในย่านวัฒนธรรมที่มีทั้งความสงบและมีบรรยากาศของ การพักผ่อน เช่น ย่านเมืองเก่า ชุมชนเก่า โดยทีร่ าคาไม่จำ� เป็นต้องถูกทีส่ ดุ แบบแบ็กแพ็กเกอร์ ประเภทแรก แต่เป็นทีพ่ กั ทีด่ ดู ี มีความสงบ และออกแบบสวยงามขึน้ กว่าทีพ่ กั ของกลุม่ แรก 3. Flashpacker หรือ Hipster + Backpackers กลุ่มนี้คือ แบ็กแพ็กเกอร์สมัยใหม่อย่างแท้จริง พวกเขาชอบท่องเที่ยวแบบมีสไตล์ ขณะที่ก็ต้องมี ความสะดวกสบายไปด้วยพร้อมกัน Flashpacker แต่งตัวสวยหล่อสะอาดสะอ้าน มีรายได้ดี มีรสนิยมทางศิลปะ ชอบงานดีไซน์ ใช้กระเป๋าล้อลากแทนเป้หลัง ไม่เน้นของถูก ทีโ่ ดดเด่น คือ เป็นนักเดินทางที่เสพติดเทคโนโลยี (Techno-Traveler) พกพาอุปกรณ์ไอที กล้อง ดิจิตอล หรือสมาร์ตโฟน คนกลุ่มนี้มักสื่อสารด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่ตลอดเวลา จึงมัก ต้องการ Free Wi-Fi THE HOSTEL BIBLE

67


พวก Flashpacker จะเลือกพักที่พักประเภท Design Hostel หรือ Lifestyle Hostel ที่สะท้อนความเป็นเมืองสมัยใหม่ ที่มีการตกแต่งเก๋ไก๋ สวยงาม เพราะได้เจอ เพือ่ นหนุม่ สาวทีม่ รี สนิยมเดียวกันและชวนกันถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย ชอบลิม้ ลองอาหาร รสเลิศ กาแฟรสชาตินมุ่ เครือ่ งดืม่ ชัน้ ดี และชอบงานปาร์ตแี้ ฮงเอาต์เพือ่ พบปะเพือ่ นใหม่ มากที่สุด โฮสเทลส�ำหรับคนกลุ่มนี้มักจะรวมร้านกาแฟหรือบาร์ชิคๆ ไว้บริเวณด้านล่าง จนเกิดเป็นกระแสหลักของโฮสเทลที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันหลายแห่งของโลก ปัจจัยความส�ำเร็จของโฮสเทล โฮสเทลคือที่พักที่เหล่านักเดินทางจะได้พักอาศัยร่วมกับผู้อื่นในห้องนอนรวม ปัจจุบันโฮสเทลจ�ำนวนมากมีบริการที่ดีใกล้เคียงโรงแรม ภายใต้การตกแต่งพื้นที่อย่าง สวยงาม แต่ยงั คงไว้ซงึ่ หัวใจของโฮสเทล นัน่ คือ การเรียนรูท้ จี่ ะอยูร่ ว่ มกัน การเคารพสิทธิ และให้เกียรติกัน และการใช้เวลาอย่างมีความสุขร่วมกับเพื่อนที่มาจากต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ในธุรกิจบูติคโฮเตล มีทฤษฎี “สามห่วงทองค�ำ” ที่เป็นกุญแจสู่ความส�ำเร็จ คือ Creativity (จุดขาย) Profitability (การสร้างผลก�ำไร) และ Sustainability (การสร้าง คุณค่าให้กับสังคม) แต่สำ� หรับธุรกิจโฮสเทลนัน้ กุญแจสูค่ วามส�ำเร็จมีอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ Creativity (จุดขาย) Connecting (ท�ำเลและการตลาด) Community (การสร้างชุมชนของการ อยู่ร่วมกัน) Creativity (จุดขาย)

THE HOSTEL BIBLE

68

ธุรกิจโฮสเทลเป็นธุรกิจที่พักทางเลือกขนาดเล็กเช่นเดียวกับบูติคโฮเต็ล ดังนั้น ผู้ลงทุนควรลงทุนด้วยความคิดที่แตกต่าง ใช้ความคิดสร้างสรรค์มาสร้างเป็นจุดขายที่ โดดเด่น และมีคุณค่าต่อผู้เข้าพัก เมื่อมีจุดขายที่สร้างสรรค์แล้ว ก็จะสามารถลงทุนใน Hardware หรืออุปกรณ์ข้าวของและการตกแต่งสถานที่ ให้ประหยัดลงได้ Creativity คือ จุดเริ่มต้นของการสร้างจุดขาย (Unique Selling Point หรือ USP) จุดขายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่วา่ จะเป็นบูตคิ โฮเต็ล หรือโฮสเทล สามารถแยก ได้เป็น 2 หัวข้อ คือ Hardware และ Software


ปัจจัยความสำ�เร็จ THE HOSTEL BIBLE

69


Hardware คือ ทุกสิ่งที่คุณต้องใช้เงินซื้อและสร้างขึ้น เช่น การออกแบบ พื้นที่ส่วนกลาง รูปแบบของโฮสเทลต้องโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่ส่วนกลาง ควรสวยงาม น่านั่ง น่าชิลล์เอาต์ บาร์ต้องมีบรรยากาศสนุกสนานน่านั่ง การออกแบบ ห้องพักรวมต้องมีลักษณะของห้องนอนที่โดดเด่น นอนก็สบาย ถ่ายรูปก็สวย Software คือ สิ่งที่ได้มาด้วยความคิดและระบบการท�ำงาน เช่น กลยุทธ์ การตลาด แบรนดิ้ง (Branding) กิจกรรมและเกมต่างๆ ที่มีไว้ให้ลูกค้าเล่น การสื่อสาร การบริการที่จะมอบให้กับลูกค้า โดยทัว่ ไปในการลงทุน คนทีม่ ที นุ มากมักลงทุนด้วย Hardware คือ ก่อสร้างและ ตกแต่งอย่างสวยงาม มีอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกพรั่งพร้อม ส่วนคนที่มีทุนน้อยต้อง คิดเยอะขึ้น หรือลงทุนด้วย Software แทน โฮสเทลที่ดี ต้องหาจุดสมดุลของการใช้ทั้ง Hardware และ Software อย่างลงตัว การลงทุนด้วย Hardware อย่างเดียว เช่น การปูกระเบื้องดีๆ ใช้โถส้วมแพงๆ อาจไม่นำ� ไปสูก่ ารแข่งขันทีย่ งั่ ยืน เพราะเพียงมีผลู้ งทุนรายใหม่ลงทุนใน Hardware ทีด่ กี ว่า ก็จะชนะธุรกิจรายแรกทันที โฮสเทลหลายแห่งในปัจจุบันตกแต่งอย่างสวยงามมีสไตล์ แต่กลับไม่สามารถ ขายเตียงได้ในราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้น การลงทุนโฮสเทล (รวมถึงบูติคโฮเต็ล) ควรลงทุนด้วย Software หรือความคิด จุดขาย แบรนดิง้ ทีช่ ดั เจน เพราะนีค่ อื สิง่ ทีส่ ามารถ สร้างมูลค่าที่แท้จริง ใช้เงินน้อยกว่า และสามารถเอาชนะได้ในเชิงธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น โฮสเทลของคุณอาจไม่โดดเด่นด้านการตกแต่งที่สวยงาม แต่ใช้ บรรยากาศแบบ Original Experience ของตึกแถวเก่า แล้วสร้างจุดขายแบบ Lifestyle Hostel เน้นกิจกรรมทัง้ ทีเ่ กีย่ วกับชุมชนและปาร์ตี้ ก็สามารถประหยัดการลงทุนลงไปได้มาก THE HOSTEL BIBLE

70


และไม่ว่าจุดขายของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม จุดขายที่ยอดเยี่ยมต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อต่อไปนี้ ที่ผมขอเรียกว่า “หลัก Ir-Ir-Mar” (เออ-เออ-มา) IRRESISTABLE = ที่พักของคุณ สามารถมีข้อเสนออะไรบ้างที่ลูกค้า ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยกตัวอย่างเช่น จ่าย 500 บาทเท่ากัน แต่ทพี่ กั ของคุณได้นอนเตียง 4 ฟุต ขณะทีท่ อี่ นื่ ได้นอนเตียง 3 ฟุต หรือจ่ายเท่ากัน แต่ของคุณมีทวี สี ว่ นตัวพร้อมหูฟงั ให้ ขณะที่รายอื่นไม่มี IRREPLACEABLE = ที่พักของคุณ สามารถส่งมอบอะไรให้กับลูกค้าได้ บ้างในแบบทีท่ ี่พักอื่นไม่สามารถให้กับลูกค้าได้ เช่น ท�ำเลที่พักของคุณไกลรถไฟฟ้าแต่ ใกล้ตลาด ดังนัน้ แขกจะได้ลมิ้ รสชาติมอื้ เช้าอันแสนเอร็ดอร่อยและหาทีไ่ หนไม่ได้ ในขณะที่ แห่งอืน่ ยังคงวนเวียนกับการปิง้ ขนมทาแยมแบบเดิมๆ หรือโฮสเทลของคุณห่างไกลศูนย์กลาง ความเจริญ คุณจึงเช่ามาแบบถูกๆ การตกแต่งก็ไม่เก๋เพราะคุณไม่มหี วั ศิลป์ แต่พนักงานบริการ แบบพลีกายถวายหัว เพราะคุณมีเงินเหลือพอที่จะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้พวกเขาได้มากขึ้น หรือโฮสเทลของคุณทัง้ ใกล้รถไฟฟ้า ตกแต่งก็สวยงาม แถมราคายัง ถูกกว่าแห่งอืน่ ทีไ่ กลๆ ด้วยซ�้ำ นั่นแปลว่า คุณก�ำลังส่งมอบข้อเสนอที่ลูกค้าไม่อาจปฏิเสธ และไม่มีคนอื่นให้ แทนคุณได้ ! MARKETING = กลยุทธ์การตลาด เมื่อที่พักของคุณน่าพอใจแล้ว คุณมี วิธีบอกชาวโลกอย่างไร ให้สั้น ไพเราะ ได้ใจความ จนท�ำให้คนที่ฟังแล้วยอมจ่ายเงิน ให้กับคุณทันที สุดท้ายไม่ว่าจุดขายของคุณจะยอดเยี่ยมหรือยอดแย่แค่ไหนก็ตาม คุณต้องเปลีย่ นจุดด้อยเป็นจุดเด่นแล้วบอกให้โลกรับรู้ ผ่านสิง่ ทีเ่ รียกว่า ค�ำขวัญ (Motto) สโลแกน (Slogan) หรือ ค�ำโปรย (Tagline) ยกตัวอย่างเช่น โฮสเทลที่อยู่ห่างไกลที่สุด แต่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารเช้าที่อร่อยที่สุด หรือ ครั้งหนึ่งในชีวิต ลองมานอนโฮสเทล ที่เชยที่สุดในจักรวาล สโลแกนอาจจะเป็นค�ำง่ายๆ ตรงไปตรงมา แต่สื่อสารอย่างชัดเจน เช่น Betel Box Hostel ในย่าน Joo Chiat ของสิงคโปร์ ที่ห่างไกลจากศูนย์กลางของ เมือง มีสโลแกนที่เรียบง่ายว่า “Live a Local Life” (ใช้ชีวิตแบบชาวท้องถิ่น) เมื่อคุณ มีจดุ ขายทีย่ อดเยีย่ ม และสามารถส่งมอบคุณค่าให้ลกู ค้าตามทีส่ อื่ สารออกไป เมือ่ นัน้ ธุรกิจ ของคุณจะเจริญรุง่ เรืองได้ ไม่ว่าจะอยู่ในท�ำเลแบบไหนก็ตาม THE HOSTEL BIBLE

71


Connecting (ท�ำเลและการตลาด)

THE HOSTEL BIBLE

72

การเชื่อมโยงนั้นมีความหมายทั้งด้าน Hardware (ท�ำเลที่ตั้ง) และ Software (การตลาด) ท�ำเลที่ตั้ง ไม่ได้มีความหมายเพียงอยู่ที่ใด แต่ยังหมายความถึง การใช้ประโยชน์ จากองค์ประกอบที่มีอยู่แล้วรอบชุมชนด้วย ส�ำหรับธุรกิจบูตคิ โฮเต็ลทีเ่ น้นขายประสบการณ์และความเป็นส่วนตัวแล้ว ทีต่ งั้ ของคุณสามารถอยูม่ มุ ใดของโลกก็ได้ แต่สำ� หรับธุรกิจโฮสเทล ท�ำเลทีด่ ที สี่ ดุ ควรเป็นท�ำเล ที่ใกล้การคมนาคมหลักอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สิง่ นีจ้ ะช่วยให้คณ ุ มีลกู ค้าเดินเข้ามาหาได้โดยง่าย ไม่ตอ้ งเหนือ่ ยในการท�ำการตลาดมากนัก ตามหลักการ “จงตกปลาในที่ที่มีปลา” แต่คำ� ถามคือ ท�ำเลลักษณะนีม้ รี าคาแพงและหายาก จนคุณอาจไม่มเี งินพอทีจ่ ะ ลงทุน และทุกคนต่างก็แย่งกันตกปลาในพืน้ ทีท่ มี่ ปี ลานัน้ จนเกิดการแข่งขันตัดราคาหรือ เกิดอุปทานมากเกินไป แล้วคุณจะแข่งขันในธุรกิจได้อย่างไร? ตรงกันข้าม ความหมายของท�ำเลทองในธุรกิจที่พักแบบสร้างสรรค์คือ ท�ำเล ที่ตั้งที่มีจุดเด่นที่ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น คุณไม่ได้อยู่ใกล้จุดคมนาคม แต่อยู่ใน ย่านเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยโบราณสถาน ตื่นเช้าขึ้นมาสิ่งแรกที่มองเห็นคือ ยอดเจดีย์ เหลืองอร่าม แทนทีจ่ ะเป็นรางรถไฟฟ้าหรือป่าคอนกรีต หรือคุณอาจจะอยูห่ า่ งจากสถานี รถไฟฟ้า แต่อยูใ่ นย่านพักอาศัยทีเ่ งียบสงบ มีตลาดอยูใ่ กล้ๆ จึงสามารถละเลียดกินอาหารเช้า แบบท้องถิ่น พร้อมกับสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านอันเปี่ยมเสน่ห์ได้อย่างใกล้ชิด บางครั้ง การอยู่ในท�ำเลรองก็ท�ำให้คุณได้ราคาค่าเช่าที่ต�่ำมาก จนสามารถน�ำค่าใช้จ่ายที่ลดลงนี้ มาเพิ่มคุณค่าด้านอื่นให้กับลูกค้า แน่นอนว่าการตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางหรือติดสถานี รถไฟฟ้าย่อมเป็นเรือ่ งดี แต่นนั่ ไม่ใช่ประเด็นเดียวทีค่ ณ ุ จะน�ำมาพิจารณาในหัวข้อของการ วิเคราะห์ท�ำเล เราสามารถสรุปวิธเี บือ้ งต้นในการเลือกท�ำเลส�ำหรับโฮสเทล โดยใช้หลัก 3 L ดังนี้ Location 1 = Destination ท�ำเลของคุณ คือ จุดหมายการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวทุกคน เช่น ใกล้วัดพระแก้ว ใกล้สวนจตุจักร ใกล้แอร์พอร์ตลิงก์ Location 2 = Transportation ท�ำเลของคุณ คือ จุดที่ผู้คนสัญจร ผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา เช่น ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา Location 3 = Transaction ท�ำเลของคุณ คือ จุดที่ผู้คนมาจับจ่าย ใช้สอยกันอย่างคึกคัก เช่น ย่านสยามสแควร์ ย่านเยาวราช


คงเหมือนฝันที่เป็นจริงเลยทีเดียว หากท�ำเลของคุณมีครบทั้งสามข้อนี้ แต่ เดี๋ยวก่อน...ชีวิตจริงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น และในความเป็นจริงแล้ว ขอแค่ท�ำเลของคุณ มีคุณสมบัติแค่ข้อใดข้อหนึ่งก็เพียงพอแล้ว มีตวั อย่างทีน่ า่ สนใจเรือ่ งท�ำเลไม่ทอง แต่ธรุ กิจประสบความส�ำเร็จ อยู่ 3 โฮสเทล ที่ผมอยากจะกล่าวถึง แห่งแรกคือ Betel Box Hostel ในย่าน Joo Chiat ซึ่งเป็นธุรกิจโฮสเทล รุน่ แรกๆ ในประเทศสิงคโปร์ เปิดด�ำเนินการมาตัง้ แต่ปี 2006 โดยทัว่ ไปโฮสเทลในสิงคโปร์ จะแข่งกันตั้งอยู่ในท�ำเลทอง อันดับหนึ่งคือ ย่านไชน่าทาวน์ อันดับสองคือ Little India หรือ Lavender Street แต่ Tony Tan เจ้าของที่นี่ กลับเลือกที่จะเปิดธุรกิจในย่านที่ คนท้องถิน่ อาศัยอยูก่ นั จริงๆ อย่างย่าน Joo Chiat ซึง่ ไม่ใช่ยา่ นยอดนิยมในการเปิดโฮสเทล แต่สงิ่ ทีไ่ ด้กลับมาคือ ค่าเช่าตึกทีถ่ กู กว่าย่านกลางเมืองถึง 3 เท่า ท�ำให้เขาสามารถขายเตียง ในราคาที่ถูกกว่าโฮสเทลย่านกลางเมืองได้ถึง 3 เท่าเช่นกัน (เพียง 20 เหรียญ หรือราว 500 บาทเท่านั้น) ในปี 2007 หลังเปิดด�ำเนินการได้เพียงหนึ่งปี Betel Box Hostel ได้รับรางวัล Top Rated Hostel จาก Hostel World และในปี 2008 ยังได้รับรางวัล No1 Hostel In Singapore จาก Hostel World ปัจจุบันที่นี่ยังคงเป็นโฮสเทลยอดนิยม 1 ใน 10 แห่ง ของสิงคโปร์

Betel Box Hostel

THE HOSTEL BIBLE

73


แห่งทีส่ องคือ Le Tour Traveler’s Rest Youth House Shanghai ในเมือง เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงโรงงานผลิตผ้าขนหนูเก่า ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่ ไม่มีรถไฟฟ้าหรือรถเมล์หลายสายผ่าน แถมยังอยู่ในตรอกที่รถเข้าไม่ถึง ลึกเข้าไปเกือบ 300 เมตร และมีทางเดินแคบๆ เพียง 2 เมตรเท่านั้น ท�ำให้ราคาค่าเช่าถูกกว่าตึกริมถนน ถึง 3 เท่า แต่จุดเด่นของที่นี่คือ อยู่ไม่ห่างจากวัดจิ้งอัน (Jing’an Temple) อันเก่าแก่ และมีชื่อเสียง การเช่าทีร่ าคาถูกท�ำให้เจ้าของสามารถลงทุนกับทีมงานต้อนรับทีม่ คี ณ ุ ภาพ ส่งผล ให้ที่นี่เป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยว จนติด 10 อันดับแรกจากโฮสเทลทั้งหมด 200 กว่าแห่งในเซี่ยงไฮ้อย่างต่อเนื่องยาวนาน

Le Tour Traveler’s Rest Youth House Shanghai

THE HOSTEL BIBLE

74

ตัวอย่างสุดท้ายคือ The Yard Hostel กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 5 หรือซอยราชครู ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ ที่นี่ไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าหรือใกล้ย่าน ช้อปปิ้งยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เจ้าของจึงสามารถเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ในราคาที่ ไม่แพง รวมถึงมีสนามหญ้ากว้างขวางกลางทีพ่ กั เป็นเสมือน Common Room กลางแจ้ง ขณะที่โฮสเทลแห่งอื่นๆ ย่านกลางเมืองไม่สามารถมีได้ ท�ำให้ The Yard สามารถเก็บ ค่าที่พักได้เท่ากับโฮสเทลที่อยู่กลางเมือง ในราคา 550 บาทเท่ากัน


The Yard Hostel

โดยสรุป เราสามารถแบ่งท�ำเลที่ตั้งตามลักษณะเด่นได้ ดังนี้ - Food Destination เช่น เยาวราช วังหลัง - Nightlife Destination เช่น พัฒน์พงษ์ ข้าวสาร ห้วยขวาง - Shopping Destination เช่น สยามสแควร์ ประตูน�้ำ - Old City Destination เช่น เกาะรัตนโกสินทร์ ย่านอรุณอัมรินทร์ - Business District Destination เช่น สุขุมวิท สาทร - Market Destination เช่น ส�ำเพ็ง ปากคลองตลาด - Local Life Destination เช่น ย่านแพร่งภูษา เจริญกรุง เจริญนคร เทเวศร์ ศรียา่ น ซอยอารีย์ ดินแดง และท�ำเลอนาคตทีน่ า่ ลงทุนคือ ย่านธนบุรี และวงเวียนใหญ่ - Transportation Destination เช่น สะพานสาทร หัวล�ำโพง ปิ่นเกล้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สะพานควาย THE HOSTEL BIBLE

75


โฮสเทลเป็นธุรกิจที่ต้องตั้งอยู่ในท�ำเลที่ใกล้ศูนย์กลาง หรือเชื่อมโยงกับพื้นที่ ส�ำคัญ เช่น แหล่งท่องเที่ยว ย่านช็อปปิ้ง ย่านเมืองเก่า ย่านพักอาศัยที่ใกล้ตลาด เพื่อให้ ง่ายต่อการดึงลูกค้า รวมทั้งเพื่อให้องค์ประกอบที่มีอยู่แล้วในชุมชนเหล่านั้น เป็นตัวช่วย แบ่งเบาภาระของโฮสเทล ท�ำให้ไม่จำ� เป็นต้องลงทุนท�ำทุกอย่าง เพราะสามารถพึง่ พากับ ชุมชนโดยรอบได้ ลองพิจารณาให้ดวี า่ ท�ำเลทีค่ ณ ุ ก�ำลังสนใจลงทุนนัน้ มีขอ้ ดีอะไรบ้าง แล้วคุณจะ พบว่าทุกท�ำเลมีศักยภาพที่ซุกซ่อนอยู่ ถ้าคุณสามารถค้นพบศักยภาพนั้นก็จะลงทุนใน แบบที่ถูกลงได้ เพราะสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น Community (การสร้างชุมชนของการอยู่ร่วมกัน)

หัวใจทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของธุรกิจโฮสเทล ทีก่ ารลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทอืน่ ไม่มี คือ การสร้างชุมชนของนักเดินทาง ทีม่ คี วามแตกต่างด้านเชือ้ ชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ให้มาอยู่ร่วมกัน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตและการเคารพสิทธิของกันและกัน สิ่งนี้ยังเป็น เอกลักษณ์ของคนในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบบรรยากาศการพบปะเพื่อนใหม่อีกด้วย โฮสเทลบางแห่งตัง้ อยูก่ ลางป่า กลางทุง่ นา ตามชนบท ทีแ่ สนเรียบง่ายและไม่ได้มี ความสะดวกสบายมากนัก แต่ก็สามารถประสบความส�ำเร็จได้ ด้วยการสร้างบรรยากาศ ของการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข กล่าวโดยสรุปก็คือ แม้ว่าโฮสเทลนั้นจะไม่มีจุดเด่นข้อใดเลย ไม่ว่าจะเป็นท�ำเล ที่ตั้ง หรือการตกแต่ง แต่ถ้าสามารถสร้างชุมชนของนักเดินทางขึ้นมาได้ โอสเทลนั้นก็ยัง มีโอกาสที่จะประสบความส�ำเร็จ เพราะคุณสมบัติข้อนี้คือ กระดูกสันหลัง หรือจุดก�ำเนิด ของธุรกิจนี้อย่างแท้จริง

ประเภทของโฮสเทล

THE HOSTEL BIBLE

76

โฮสเทลสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ • Hostelling International (HI) หรือบ้านพักเยาวชนนานาชาติ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ ริชาร์ด ชีร์แมน คุณครูชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1909 มีเป้าหมายเพือ่ สนับสนุนให้คนเดินทางมีทพี่ กั ราคาประหยัด โฮสเทลประเภทนีข้ นึ้ ตรงกับ องค์กรบ้านพักนานาชาติ ซึง่ เป็นองค์กรระหว่างประเทศ โดยมีสำ� นักงานใหญ่อยูท่ ปี่ ระเทศ อังกฤษ และเป็นหนึง่ ในเครือข่ายทีพ่ กั ทีม่ สี มาชิกมากทีส่ ดุ ในโลกและมีอายุยาวนานทีส่ ดุ ของโลกด้วย


HI บางแห่งเปิดเป็นสถานที่เฉพาะกลุ่ม เช่น ส�ำหรับเด็กผู้หญิง ส�ำหรับเด็ก นักเรียน ส�ำหรับกลุ่มพ่อแม่และเด็กนักเรียน บางแห่งเปิดขึ้นเพื่ออ�ำนวยความสะดวก ส�ำหรับกลุ่มคนที่ท�ำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ เช่น ปีนเขา เดินป่า ในประเทศแถบ ยุโรปและอเมริกา HI เป็นทีพ่ กั ยอดนิยมของชาวแบ็กแพ็กเกอร์ ส่วนในเอเชีย ประเทศจีน คือประเทศที่กิจการ HI เติบโตมากที่สุด โดยมีอยู่ในทุกเมืองหลักของประเทศ ส�ำหรับ กรุงเทพมหานคร มี HI อยู่ 12 แห่ง และทั่วประเทศมีทั้งสิ้น 25 แห่ง • Independent Hostel คือ โฮสเทลที่เกิดขึ้นจากความต้องการ ในการลงทุนทางธุรกิจเป็นหลัก โดยทั่วไปแล้วโฮสเทลประเภทนี้มักอยู่ตามเมืองใหญ่ เพือ่ ตอบสนองความต้องการทีพ่ กั ราคาประหยัดของนักเดินทาง ซึง่ อาจเป็นได้ทงั้ Traveler, Tourist และ Backpacker รวมถึงผูค้ นทีเ่ ดินทางมาท�ำธุระในเมือง เช่น นักเรียนนักศึกษา ที่เดินทางมาสอบ คนต่างจังหวัดที่เดินทางมาท�ำธุระ นักธุรกิจที่ต้องการที่พักที่มีความ สะดวกสบายในราคาที่ประหยัดระหว่างมาติดต่องาน ปัจจุบนั โฮสเทลประเภทนีม้ คี วามหลากหลายมากขึน้ ส่วนหนึง่ เจาะตลาดเฉพาะ กลุม่ (Niche market) บางแห่งอาจเป็นทีพ่ กั ส�ำหรับนักธุรกิจ บางแห่งส�ำหรับแบ็กแพ็กเกอร์ โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น Generator Hostel และ Equity Point Hostel ในยุโรป ซึง่ เป็นโฮสเทลขนาดใหญ่รองรับลูกค้าหลากหลายประเภท ไม่เฉพาะแบ็กแพ็กเกอร์เท่านัน้ และมักมีกิจกรรมต่างๆ ให้แขกที่มาพักได้ท�ำร่วมกัน แนวโน้มของโฮสเทลที่ก�ำลังมาแรงมาก และโฮสเทลขนาดย่อมที่ประสบความ ส�ำเร็จระดับโลกหลายแห่งก็นิยมใช้ คือ คอนเซ็ปต์ของบาร์ หรือ Party Hostel เช่น NUI Hostel (โตเกียว) The Yellow Hostel (โรม) The Flying Pig Hostel (อัมสเตอร์ดัม) • Boutique Hostel / Design Hostel / Luxury Hostel โฮสเทลประเภทนีเ้ กิดขึน้ จากความต้องการของนักท่องเทีย่ วเฉพาะกลุม่ และความต้องการ ของผู้ประกอบการเองที่อยากจะน�ำเสนอที่พักแบบใหม่ ซึ่งยังคงจุดเด่นเดิมของโฮสเทล ในการสร้างบรรยากาศของการท�ำความรูจ้ กั กันระหว่างแขกผูม้ าพัก แต่เพิม่ ความสะดวก สบายและเพิม่ ประสบการณ์ของลูกค้าผ่านงานออกแบบทีส่ วยงามหรูหราและสิง่ อ�ำนวย ความสะดวกสบายระดับน้องๆ โรงแรม เช่น จ�ำนวนเตียงในแต่ละห้องทีน่ อ้ ยลง เตียงกว้างขึน้ ที่นอนคุณภาพดี มีอาหารพร้อม มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกส่วนกลางครบครัน แต่ยัง สามารถดึงให้คนมาท�ำกิจกรรมร่วมกันตรงพื้นที่ส่วนกลางได้

THE HOSTEL BIBLE

77


การลงทุนธุรกิจโฮสเทลเหมาะกับใคร ในแง่การลงทุนนั้น ธุรกิจโฮสเทลเหมาะกับผู้ลงทุน 3 กลุ่ม ได้แก่ - กลุม่ ผูล้ งทุนทีช่ อบลงทุนในธุรกิจไลฟ์สไตล์ ชืน่ ชอบการสังสรรค์และการพบปะ ผู้คน รักงานดีไซน์ สนใจงานอาหารและเครื่องดื่ม - กลุม่ ผูล้ งทุนทีม่ อี าคารเก่าและต้องการหารายได้จากการปรับเปลีย่ นอาคารเก่า นั้น โดยเฉพาะประเภทตึกแถวหรืออาคารส�ำนักงาน ซึ่งไม่สามารถท�ำเป็นห้องพักเดี่ยว ได้ แต่สามารถดัดแปลงเป็นโฮสเทลได้ เพราะใช้ห้องน�้ำรวมและสิ่งอ�ำนวยความสะดวก รวม ท�ำให้ใช้งบประมาณลงทุนที่ถูกลง - กลุ่มคนที่ไม่ต้องการลงทุนในรูปแบบที่เน้นการบริการแบบโรงแรม เนื่องจาก โฮสเทลเน้นการบริการตนเอง (Self-Service) โดยทีเ่ จ้าของกิจการต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ อ�ำนวยความสะดวก รวมถึงพนักงานที่ส่วนกลางไว้คอยต้อนรับและสนับสนุนลูกค้า มากกว่าจะเป็นการบริการรายบุคคลเหมือนโรงแรม ท�ำให้มีค่าด�ำเนินการต�่ำ จึงง่ายต่อ การเริ่มต้นธุรกิจมากกว่าโรงแรมหรือบูติคโฮเต็ล

THE HOSTEL BIBLE

78

รูปแบบของโฮสเทล ปัจจุบันโฮสเทลแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบดังนี้ • Basic Hostel / Budget Hostel คือ โฮสเทลทีย่ ดึ ปรัชญาโฮสเทล แบบดั้งเดิมในการด�ำเนินธุรกิจ โดยเน้นความประหยัด สะอาด เรียบง่าย และให้แขก บริการตนเอง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ การสร้างกิจกรรมในหมู่แขกที่มาพัก ตัวอย่างหนึง่ ของโฮสเทลในกลุม่ นีท้ อี่ ยากกล่าวถึง คือ Spicy Thai Backpackers โฮสเทลชือ่ ดังแห่งหนึง่ ของไทย ทีน่ ถี่ อื เป็นต้นฉบับโฮสเทลสไตล์ไทยแท้ ภายใต้สโลแกนว่า “The World is Our Home, Spicy is Our Family!” ตัวทีพ่ กั เป็นบ้านธรรมดาๆ หลังหนึง่ ไม่มีการตกแต่งเป็นพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ราคาขายต่อเตียงอยู่ที่ 220-250 บาท ซึ่งไม่สูงเลย เมือ่ เทียบกับราคาทีพ่ กั ในกรุงเทพฯ แต่ถอื ว่าได้ราคาดีสำ� หรับทีเ่ ชียงใหม่ ทีส่ ำ� คัญคือเป็น ราคาทีด่ มี ากเมือ่ เทียบกับท�ำเลและการตกแต่ง จัดเป็นโฮสเทลทีเ่ น้น Software โดยแทบ ไม่ได้ลงทุนเรื่องความสวยงามของสถานที่เลย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดขายคือ ตัวเจ้าของ โฮสเทล ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์และเจ้าของบริษัททัวร์ ด้วยบุคลิกของเจ้าของที่เป็นคน สนุกสนาน คุยเก่ง เข้าใจธรรมชาตินักเดินทางเป็นอย่างดี จึงสามารถสร้างกิจกรรมที่ ลูกค้าชอบ และสร้างรายได้จากการขายทัวร์ไปด้วยพร้อมกัน จนสามารถขยายธุรกิจ ไปได้ถึง 3 แห่ง คือ เชียงใหม่ ปาย และเกาะเต่า กลุ่มลูกค้าที่นิยมโฮสเทลประเภทนี้คือ แบ็กแพ็กเกอร์แบบดั้งเดิม


รูปประกอบ: www.spicyhostels.com

Spicy Thai Backpackers ต้นฉบับโฮสเทลสไตล์ไทยแท้

• Standard Hostel คือ โฮสเทลที่เน้นความเรียบง่าย สะดวกสบาย และมีความปลอดภัย แต่ไม่เน้นกิจกรรมระหว่างลูกค้าทีม่ าพัก เหมาะกับลูกค้าทีต่ อ้ งการ เดินทางเพือ่ มาท�ำธุระ และมองหาบรรยากาศการเข้าพักทีเ่ งียบสงบ การตกแต่งทีเ่ รียบง่าย

THE HOSTEL BIBLE

79


รูปประกอบ: www.hisukhumvit.com

ยกตัวอย่างเช่น บ้านนานาชาติ สุขุมวิท ซึ่งเป็นหนึ่งในบ้านเยาวชนที่เปิดท�ำการ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยยังคงรูปแบบที่เรียบง่ายสไตล์ที่พักแบบพื้นฐาน (Basic Accommodation) ใจกลางย่านสุขุมวิท การตกแต่งเป็นไปเพื่อการใช้งานจริงเท่านั้น เตียงนอนรวมที่นี่เป็นเตียงเหล็กแบบโฮสเทลยุคแรก และไม่ได้มีอุปกรณ์อ�ำนวยความ สะดวกเหมือนโฮสเทลในปัจจุบัน ราคาขายต่อเตียงอยู่ที่ 350 บาท บ้านพักในเครือบ้าน พักเยาวชนนานาชาติ (HI) แห่งอืน่ ๆ ก็ถอื เป็นตัวอย่างของ Standard Hostel กลุม่ ลูกค้า ทีน่ ยิ มโฮสเทลประเภทนีค้ อื กลุม่ แบ็กแพ็กเกอร์ทเี่ น้นราคาประหยัด ชอบความเรียบง่าย และยังอยู่ใกล้ย่านท่องเที่ยว

THE HOSTEL BIBLE

80

บ้านนานาชาติ สุขุมวิท


รูปประกอบ: www.hostelparis.net/oops-hostel.html

• Design Hostel คือ โฮสเทลที่สร้างจุดเด่นในการจดจ�ำโดยใช้งาน ออกแบบทีม่ เี อกลักษณ์เป็นจุดขาย กลุม่ ลุกค้าทีน่ ยิ มโฮสเทลประเภทนีเ้ ป็นกลุม่ ฮิปสเตอร์ อาร์ติสต์ คนท�ำงานอิสระ และนักเดินทางที่เสพติดเทคโนโลยี (Techno-Traveler) ที่ชอบงานออกแบบ และถ่ายรูปขึ้นโซเชียลมีเดีย

Oops Hostel เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตัวอย่างโฮสเทลประเภทนี้ เช่น POD Hostel และ Yim Huai Khwang Hostel ในกรุงเทพฯ หรือ Oops Hostel ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงตึกแถวเก่าให้กลายมาเป็น Design-Budget Hostel ที่มีชื่อเสียงล�ำดับต้นๆ ของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ ขายได้ราคา 27 เหรียญยูโร (ประมาณ 1,000 บาท) ซึ่งถือว่าได้ราคาดีทีเดียว

THE HOSTEL BIBLE

81


รูปประกอบ: www.facebook.com/kingkonghostel

• Lifestyle Hostel คือ โฮสเทลทีเ่ น้นการสร้างกิจกรรมระหว่างลูกค้า ให้เกิดความสนุกสนาน มากกว่าที่จะเน้นการตกแต่งอาคารให้สวยงาม ถือเป็นแนวทาง โฮสเทลทีน่ า่ ลงทุน เพราะไม่ตอ้ งสิน้ เปลืองงบประมาณในการออกแบบตกแต่งส่วนกลาง มากนัก ยกตัวอย่างเช่น King Kong Hostel เมืองรอตเทอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทีน่ เี่ ป็นไลฟ์สไตล์โฮสเทลชือ่ ดังใจกลางเมือง มีสโลแกนว่า “The World is Our Jungle” ด้วยการชูจุดขายการเช่าจักรยานไว้ตั้งแต่หน้าแรกของเว็บไซต์ เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้า มาใช้วถิ ชี วี ติ ชาวจักรยานทีเ่ มืองนี้ และยังมีกจิ กรรมอืน่ ๆ ไว้บริการลูกค้าอีก เช่น โปรแกรม ดินเนอร์สุดพิเศษ City Tour, Running Tour

THE HOSTEL BIBLE

82

King Kong Hostel ไลฟ์สไตล์โฮสเทลชื่อดัง ใจกลางเมืองรอตเทอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์


รูปประกอบ: www.cairnshostels.com

• Party Hostel คือ การใช้งานโฮสเทลเป็นที่จัดงานปาร์ตี้สังสรรค์กัน เป็นหลัก มักมีบาร์เป็นส่วนประกอบสำ�คัญอยูใ่ นพืน้ ทีบ่ ริเวณเดียวกับ Common Room โฮสเทลประเภทนี้มักมีการตกแต่งที่เรียบง่าย ห้องนอนไม่เป็นจุดเด่น เนื่องจากเห็นว่า ลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้ชอบปาร์ตี้ จึงไม่จำ�เป็นต้องเน้นทำ�ห้องพักให้โดดเด่นมากนัก

AsyLum Cairns Backpackers Hostel ปาร์ตี้โฮสเทลชั้นนำ�ของโลก ตัวอย่างที่น่าสนใจของโฮสเทลประเภทนี้ คือ AsyLum Cairns Backpackers Hostel ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ที่นี่จัดเป็นปาร์ตี้โฮสเทลชั้นนำ�ของโลก เนื่องจากไม่ได้อยู่ในทำ�เลที่ดี ไม่ได้มีการตกแต่งที่สวยงาม ไม่ได้มีสิ่งอำ�นวยความสะดวก ครบครัน แต่มสี ตาฟทีด่ แี ละมีปาร์ตที้ สี่ ดุ ยอด แขกส่วนใหญ่มาทีน่ เี่ พือ่ ปาร์ตกี้ นั และเพือ่ น ที่คุณจะได้เจอที่นี่ก็คือพวกขี้เมาทั้งหลาย ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของชาวปาร์ตี้อย่างแท้จริง และเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการลงทุนด้วย Software แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์

THE HOSTEL BIBLE

83


Z Hostel ออกแบบขึ้นเพื่อเป็นปาร์ตี้โฮสเทลโดยเฉพาะ

รูปประกอบ: http://zhostel.com/events.html

ดูตัวอย่างโฮสเทลที่เน้น Software กันแล้ว มาดูฟากที่เน้น Hardware กันบ้าง ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มี Luxury Design Bar Hostel ที่ชื่อว่า Z Hostel หรือ zzzzz ซึ่งมีสโลแกนว่า A Luxury Hostel for the Smart Traveler ที่นี่มีห้องพักเดี่ยว 30 ห้อง และมีเตียงทั้งสิ้น 128 เตียง เป็นโฮสเทลที่ออกแบบอย่างสวยงามเพื่อเป็นปาร์ตี้โฮสเทล โดยเฉพาะ จุดเด่นคือมีปาร์ตี้บนดาดฟ้า และมีดีเจชื่อดังมาเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ คึกคักยามค�่ำคืน

ส่วนที่ 2 : ฟังก์ชั่นต่างๆ ของโฮสเทล หลั ก การแบ่ ง พื้ น ที่ ข องโฮสเทลมี ค วามคล้ า ยคลึ ง กั บ การแบ่ ง พื้ น ที่ ใ นธุ ร กิ จ อสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เช่นกัน นั่นคือ แบ่งเป็น พื้นที่สร้างรายได้ (Saleable Area) และ พื้นที่ที่ไม่สร้างรายได้ (Non-Saleable Area) โดยหลักการมีอยู่เพียงข้อเดียว คือ THE HOSTEL BIBLE

84

ต้องพยายามท�ำให้พื้นที่ที่สร้างรายได้ มีสัดส่วนที่ มากกว่า พื้นที่ที่ไม่สร้างรายได้


THE HOSTEL BIBLE

85


พื้นที่สร้างรายได้ (Saleable Area) หมายถึง พื้นที่ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับโฮสเทล ซึ่งได้แก่ ห้องพัก (Guest Room) ห้องอาบน�้ำรวม พื้นที่ส่วนอาหารและเครื่องดื่ม (ในต่างประเทศนิยมมีบาร์ใน โฮสเทลด้วย เพราะเป็นแหล่งท�ำเงินชั้นเยี่ยม) พื้นที่ส่วนกลาง (Common Area) เพื่อให้ ลูกค้าได้ใช้เวลาอยูท่ โี่ ฮสเทล อาจจะมีแหล่งรายได้อนื่ ๆ เพิม่ เข้ามาอีก เช่น รายได้จากการ ขายพื้นที่เคาน์เตอร์ทัวร์ รายได้จากการขายคอร์สท�ำอาหาร คอร์สฝึกมวยไทย ในหนังสือเล่มนี้จะขอเจาะลึกลงไปในพื้นที่ส่วนกลาง หรือ Common Area ซึ่ง น้อยคนนักทีจ่ ะนึกถึงและให้ความส�ำคัญกับพืน้ ทีบ่ ริเวณนี้ โดยส่วนใหญ่จะมุง่ เน้น ความส�ำคัญ ไปที่ Guest Room เสียมากกว่า องค์ประกอบของส่วนกลาง (Common Area) พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วยพื้นที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. Facilitate Area เป็นจุดเชือ่ มระหว่างพนักงานของเรากับลูกค้าในการ อ�ำนวยความสะดวกระหว่างที่ลูกค้าเข้าพัก โดยใช้เป็นจุดต้อนรับและเช็กอิน-เช็กเอาต์ รวมถึงให้ขอ้ มูลต่างๆ กับลูกค้า บางแห่งรีเซปชัน่ ถูกออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์ แต่บางแห่ง เป็นเพียงโต๊ะตั้งไว้ง่ายๆ เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเองต่อแขกผู้มาพัก พื้นที่บริเวณนี้ เปรียบเหมือนเป็นหัวใจของโฮสเทลเลยก็วา่ ได้ เพราะเป็นจุดทีส่ ามารถสร้างประสบการณ์ ที่ดีและไม่ดีให้กับลูกค้า

THE HOSTEL BIBLE

86

2. Common Area หรือพื้นที่ส่วนกลาง ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจส�ำคัญของ ธุรกิจโฮสเทล คุณจะพบว่าโฮสเทลที่ประสบความส�ำเร็จหลายแห่งทั่วโลก มีห้องพักที่ ไม่ได้โดดเด่น แต่พื้นที่ส่วนกลางมีบรรยากาศที่สามารถดึงดูดให้แขกที่มาพักมีความรู้สึก สนุกสนานร่วมกัน บรรยากาศในพื้นที่ส่วนกลาง ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นห้องที่ตกแต่งสวยงาม แต่ควร เป็นห้องที่มีกิจกรรมให้แขกท�ำร่วมกันได้อย่างไม่รู้สึกเกร็ง อาจจะเป็นห้องที่รกๆ ก็ได้ โฮสเทลบางแห่งเต็มไปด้วยชั้นวางรองเท้า ชั้นวางหนังสือ โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง มุมดูทีวี ทีบ่ รรดาลูกค้ามานัง่ ดูกนั ระเกะระกะ หรือบางแห่งมีมมุ เตรียมอาหารและครัว สิง่ เหล่านี้ ล้วนเป็นองค์ประกอบทีท่ ำ� ให้บรรยากาศเกิดความมีชวี ติ ชีวา ซึง่ เป็นจุดขายทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของโฮสเทล


โฮสเทลหลายแห่งนิยมสร้างบรรยากาศใน Common Room โดยใช้คอนเซ็ปต์ Hangout Lifestyle Bar Hostel หรือ Drinking Hostel ซึง่ สามารถสร้างได้งา่ ยและเอือ้ ต่อ คนแปลกหน้าที่จะมาท�ำกิจกรรมร่วมกัน ในขณะที่โฮสเทลในรูปแบบ Luxury Hostel หรือ Design Hostel มีพนื้ ทีส่ ว่ นกลางทีป่ ระณีตสวยงาม เงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัว มากขึ้น เนือ่ งจากกิจกรรมของโฮสเทลขึน้ อยูก่ บั ประเภทของแขกและประเภทของอาคาร เป็นหลัก ดังนัน้ จึงไม่มกี ำ� หนดตายตัวว่า ขนาดของพืน้ ทีส่ ว่ นกลางควรมีสดั ส่วนเป็นเท่าไหร่ ต่อที่พักจ�ำนวนกี่คน แต่ความจริงแล้วพื้นที่ส่วนกลางก็มีสัดส่วนเช่นกัน แต่ขึ้นกับความ เหมาะสมของพื้นที่รวมและจุดขายของแต่ละโฮสเทล ทีส่ ำ� คัญคือ พืน้ ทีส่ ว่ นกลางควรเป็นพืน้ ทีท่ โี่ ปร่งโล่ง อยูใ่ นสายตาของผูด้ แู ลโฮสเทล ได้โดยง่าย ไม่ควรมีซอกมุมมากเกินไป เพื่อสะดวกในการดูแลและหลีกเลี่ยงการเกิด พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 3. Kitchen Area หรือพืน้ ทีห่ อ้ งครัว ถือเป็นพืน้ ทีท่ มี่ คี วามส�ำคัญในระดับ รองลงมา เป็นพื้นที่ที่แขกสามารถเตรียมอาหารเองได้ มักมีการใช้งานสองช่วงเวลา คือ ช่วงมื้อเช้า โดยทั่วไปเป็นการท�ำอาหารง่ายๆ เช่น ขนมปังปิ้งทาเนยหรือแยม อเมริกัน เบรกฟาสต์ และช่วงมื้อเย็น ซึ่งต้องมีตู้เย็น เตาแก๊ส หรือเตาไมโครเวฟ ส�ำหรับเตรียม หรือประกอบอาหาร ในโฮสเทลควรจะมีตู้เย็นเตรียมไว้ให้แขกสามารถแช่อาหารและ เครื่องดื่ม บางโฮสเทลใช้กิจกรรมในห้องครัวเป็นส่วนหนึ่งของการดึงลูกค้า เช่น สอนท�ำ อาหาร ท�ำขนม หรืออาจจัดแข่งท�ำอาหาร นอกจากจะท�ำให้กลุ่มลูกค้ามีกิจกรรมร่วมกัน ยังเป็นการใช้ครัวที่ลงทุนไปได้อย่างคุ้มค่า 4. Laundry Area เครื่องซักผ้าถือเป็นอุปกรณ์หลักของโฮสเทล เพราะ นักท่องเที่ยวจ�ำเป็นต้องซักเสื้อผ้าของตนเอง เครื่องซักผ้านี้ควรเป็นแบบหยอดเหรียญ และสามารถซื้อผงซักฟอกได้ที่เคาน์เตอร์ส่วนหน้า การตั้งเครื่องซักผ้าควรอยู่ในมุมที่ แยกออกมาจาก Common Area เนือ่ งจากการใช้งานเครือ่ งซักผ้าอาจเกิดเสียงดัง รวมทัง้ ควรมีราวตากผ้าและเตารีดผ้ารองรับไว้ด้วย THE HOSTEL BIBLE

87


5. Luggage Store อีกหนึ่งฟังก์ชั่นของโฮสเทลที่มีความส�ำคัญ เป็นอย่างมาก เป็นพื้นที่เก็บของที่แขกสามารถฝากกระเป๋าไว้ได้เป็นระยะเวลานานๆ โฮสเทลบางแห่งมีการเก็บค่าฝากเป็นรายวัน บางแห่งอาจฝากได้ฟรี ขัน้ ต�ำ่ 3 วัน หรือ 5 วัน บางแห่งอาจฝากได้นานถึง 2 เดือน นอกจากนัน้ บริเวณนีค้ วรเป็นพืน้ ทีท่ มี่ คี วามปลอดภัย พอสมควร ถ้าสามารถติดกล้องวงจรปิดได้จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการรับฝากกระเป๋า ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น 6. Theater Room ส�ำหรับโฮสเทลขนาดใหญ่และมีปริมาณเตียงจ�ำนวนมาก ห้องดูทวี หี รือห้องท�ำกิจกรรมพิเศษควรแยกออกมาต่างหากจาก Common Area เพราะ การดูทีวีเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เสียงดัง ห้องนี้อาจจะมีฟังก์ชั่นเป็นห้องคาราโอเกะ หรือมี โต๊ะพูลอยู่ใกล้ๆ กันได้ 7. Public Toilet & Shower ถือเป็นฟังก์ชั่นที่มีความจ�ำเป็นมาก อีกส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีห้องน�้ำและห้องอาบน�้ำในโซนพื้นที่ห้องพักแล้วก็ตาม ห้องน�้ำ ส่วนกลางก็ยงั มีความจ�ำเป็นในกรณีทลี่ กู ค้าได้เช็กเอาต์ออกไปแล้ว แต่ฝากกระเป๋าไว้และ ต้องการกลับเข้ามาเพื่อที่จะรับกระเป๋าและอาบน�้ำก่อนจะเดินทางในรอบดึก การใช้ ห้องน�ำ้ ส่วนกลางนีค้ วรเป็นบริการฟรีสำ� หรับแขกทีม่ าพัก ถึงแม้จะเช็กเอาต์ไปแล้วก็ตาม นอกจากการใช้งานบริเวณส่วนกลางแล้ว โฮสเทลบางแห่งยังเน้นกิจกรรมที่ หลากหลาย จึงอาจมีหอ้ งท�ำกิจกรรมเฉพาะ เช่น ห้องสอนท�ำสบู่ ห้องสอนเย็บปักถักร้อย ห้องสอนท�ำขนม โรงปลูกผักสวนครัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมร่วมกัน ส� ำ หรั บ พื้ น ที่ จ อดรถอาจไม่ มี ค วามจ� ำ เป็ น ส� ำ หรั บ ธุ ร กิ จ โฮสเทล เนื่ อ งจาก นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาโดยไม่ใช้ยานพาหนะส่วนตัว แต่การมีพื้นที่จอดรถด้านหน้า ยังเป็นเรื่องจ�ำเป็น เพื่อใช้รับส่งแขกหรือขนส่งข้าวของอุปกรณ์จ�ำเป็นต่างๆ

THE HOSTEL BIBLE

88


องค์ประกอบของส่วนห้องพัก (Guest Room) ห้องพัก (Guest room) ของโฮสเทลส่วนใหญ่ จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ห้องพักส่วนตัว พร้อมห้องน�ำ้ ในตัว (Private Room with Bathroom Suite) 2. ห้องพักรวม พร้อมห้องน�ำ้ รวม (Dormitory Room with Shared Bathroom) องค์ประกอบส�ำคัญที่สุดของห้องพักคือ เตียง ในส่วนของห้องพักรวม อาจมี เตียงนอนตั้งแต่ 2 เตียง 4 เตียง ไปจนถึง 6 เตียง หรือ 8 เตียง บางแห่งอาจมากถึง 20 เตียงภายในห้องเดียว การก�ำหนดจ�ำนวนเตียงในแต่ละห้องขึน้ อยูก่ บั ปัจจัยต่างๆ ดังนี้ - จุดขายของโฮสเทล บางแห่งเน้นความเงียบสงบ หรือเป็น Luxury Hostel อาจท�ำจ�ำนวนเตียงต่อห้องน้อย เพือ่ ความเป็นส่วนตัวมากขึน้ อีกทัง้ ยังสามารถขายราคา ต่อเตียงได้แพงขึ้นประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ - ลักษณะโครงสร้างเก่า ส่งผลต่อการแบ่งขนาดห้องและน�ำไปสู่จ�ำนวนเตียง ในห้อง สภาพแปลนอาคารและโครงสร้างเก่าบางแห่งเป็นตัวบังคับจ�ำนวนเตียง โดยทัว่ ไป ตึกแถวหนึ่งห้องจะแบ่งได้ 20-30 เตียง - ท�ำเลที่ตั้ง ต�ำแหน่งที่ตั้งและกิจกรรมรอบๆ ของโฮสเทลมีส่วนในการคัดเลือก ลู ก ค้ า ที่ จ ะเข้ า มาพั ก ในโฮสเทล ขณะเดี ย วกั น ประเภทของลู ก ค้ า ก็ เ ป็ น ตั ว ก�ำ หนด จ�ำนวนเตียงในแต่ละห้อง รวมไปถึงการก�ำหนดห้องพักแบบรวมเพศและแยกเพศด้วย

ทุกพื้นที่ที่มีหัวใจของความเป็นเด็กตลอดกาล ที่นั่นคือ ทำ�เลของโฮสเทล

THE HOSTEL BIBLE

89


BED

AND SETTING UP

1

1

2

2

THE HOSTEL BIBLE

90

SIDE SHELF LOCKER BED NUMBER PRIVACY CURTAIN BEDSIDE RAIL 6’- 8’ BED BEDSIDE STAIR READING LIGHT ELECTRONIC KEYCARD ELECTRICAL SOCKET HANGER & CLOTH RACK AND MORE


ประเด็ น ส� ำ คั ญ คื อ พื้ น ที่ ใ นส่ ว นห้ อ งพั ก ที่ เ ป็ น เตี ย งนอนหรื อ เตี ย งสองชั้ น ควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ • ล็อกเกอร์ ส�ำหรับเก็บของส่วนตัว เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ บางแห่งท�ำเป็นพืน้ ทีเ่ ล็กๆ ตรงหัวเตียง ท�ำเป็นถุงผ้าห้อยไว้ตรงบันไดก่อนปีนขึน้ เตียงชัน้ สอง หรือท�ำเป็นลิ้นชักเล็กๆ ไว้ใต้เตียง • โคมไฟ ส�ำหรับไว้อ่านหนังสือ ข้อควรระวังคือ ความร้อนจากต�ำแหน่งไฟ และควรเป็นหลอดไฟ LED ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้มาก • ปลัก ๊ ไฟ ส�ำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ตา่ งๆ เช่น โทรศัพท์มอื ถือ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป แท็บเบล็ต ควรเป็นปลั๊กไฟแบบที่ใช้ได้ทั่วโลก (International Plug) และไม่ ติดตั้งตรงบริเวณใกล้ศีรษะจนเกินไป • คีย์การ์ดส�ำหรับใช้ไฟฟ้า เพื่อใช้ควบคุมระบบไฟของแต่ละเตียง เพราะค่าไฟฟ้าถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถ้าคุณ ประหยัดส่วนนี้ได้ นั่นแปลว่า จะได้ก�ำไรเพิ่มขึ้น 10-15 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน • ชัน ้ วางของเล็กๆ ตรงหัวเตียง ส�ำหรับวางของเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขวดน�ำ้ หนังสือ เพื่อให้แขกสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกขณะพักผ่อนอยู่บนเตียง นอกจากนี้ ในส่วนของเตียงยังมีรายละเอียดแยกย่อยไปได้อีก ดังนี้ • เตียง ไม่ควรเป็นเตียงเหล็ก เพราะจะเกิดเสียงดังได้เวลาขึน้ ลงหรือขยับตัว นอกจากนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวแล้ว ในเตียงสองชั้นแต่ละเตียงควรมีผ้าม่านปิดด้วย เพื่อป้องกันแสงสว่างที่จะมารบกวนการนอน ปัจจุบันโฮสเทลหลายแห่งนิยมท�ำเป็น แคปซูล คือ เป็นโครงไม้อดั และมีผา้ ม่านปิด บางแห่งอาจมีผา้ ม่านสองชัน้ คือ ทัง้ ม่านทึบ และม่านโปร่ง ซึ่งจะมีราคาก่อสร้างแพงกว่าเตียงแบบปกติ และบางครั้งอาจมีปัญหา การระบายอากาศภายในเตียงเวลาปิดม่านได้ ชนิดของผ้าม่านจึงควรเป็นม่านโปร่งที่ สามารถระบายอากาศได้ • เครือ ่ งนอน ประกอบด้วยเตียง หมอน และผ้าห่ม เตียงทีใ่ ช้ในโฮสเทล มักมีความหนาประมาณ 6-8 นิว้ เตียงทีห่ นาเกินไปจะมีความหนัก แม่บา้ นดูแลได้ลำ� บาก ลักษณะผ้าปูเตียงในโฮสเทลไม่ควรมีความละเอียดเกิน 300 เส้น เนื่องจากต้องซักบ่อย ยกเว้น Luxury Hostel ที่อาจใช้ผ้าปูที่มีความละเอียดถึง 500 เส้นได้ เพื่อเพิ่มความ หรูหราในการพักผ่อน

THE HOSTEL BIBLE

91


• หมอนและผ้าห่ม เป็นสองสิ่งที่ส�ำคัญเช่นกัน โฮสเทลหลายแห่งได้รับ การแนะน�ำทีด่ จี ากแขกผูม้ าพัก เนือ่ งจากมีหมอนและผ้าห่มทีด่ มี คี ณ ุ ภาพ จนสามารถเพิม่ ราคาขายได้ เช่น ที่ Adler Hostel ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็น Luxury Hostel หรือที่ Lisbon Poets Hostel ในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และ Casa Gracia Hostel ในเมือง บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

Poets Hostel

Adler Hostel

THE HOSTEL BIBLE

92

Casa Gracia Hostel • ระบบระบายอากาศ ส�ำหรับห้องนอนรวมที่ไม่มีหน้าต่าง ควรมีพัดลม ดูดอากาศตรงประตูทางเข้า เพือ่ ให้ลมภายในห้องสามารถถ่ายเทได้ และควรมีการก�ำหนด ระยะเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศ พร้อมแจ้งให้ลูกค้าทราบชัดเจน โดยทั่วไปโฮสเทล จะก�ำหนดเวลาเปิด-ปิดเครือ่ งปรับอากาศในห้องนอน ตัง้ แต่เวลา 17.00 น. ถึง 10.00 น. ในวันรุง่ ขึน้ ระหว่างนัน้ ต้องมีพดั ลมระบายอากาศ เพือ่ ให้เกิดความเย็นขณะทีม่ ลี กู ค้าอยู่ • บันได ส�ำหรับปีนขึน้ เตียงในกรณีทเี่ ป็นเตียงนอนรวมสองชัน้ ควรระมัดระวัง ในการออกแบบให้บันไดมีความสะดวกสบายในการปีนขึ้นลง และควรมีขนาดที่ไม่เล็ก เกินไปเผื่อส�ำหรับคนตัวใหญ่ ไม่ขวางการเข้า-ออกเตียง และควรมีราวกันตกด้วย


• ห้องน�ำ้ ในโซนห้องพัก โดยทัว่ ไปถ้าเป็นโฮสเทลขนาดเล็ก ห้องน�ำ้ รวมจะ ไม่แยกชายหรือหญิง แต่จะมีการแยกห้องน�้ำและห้องส้วม หรืออ่างล้างหน้าออกจากกัน ในกรณีที่เป็นโฮสเทลขนาดใหญ่ ห้องน�้ำสามารถแยกเพศได้ นอกจากนั้นในห้องน�้ำรวม ควรแยกห้องอาบน�ำ้ ห้องส้วม และอ่างล้างหน้าออกจากกัน เพือ่ ความสะดวกในการใช้งาน ในกรณีมีพื้นที่จ�ำกัด สิ่งเหล่านี้สามารถออกแบบให้อยู่รวมกันได้ในภายในห้องเดียว โดยแบ่งรายละเอียดออกเป็น - การระบายอากาศในห้องน�้ำ ห้องน�้ำควรมีความสะอาด ไม่มีกลิ่น และ ควรมีการระบายลมและอากาศที่ดี โดยเฉพาะจากอากาศจากธรรมชาติ เนื่องจากเป็น พื้นที่ที่ลูกค้าต้องใช้เวลาอยู่ในนั้นค่อนข้างนาน - อ่างล้างหน้า อ่างขนาดเล็กมีความเหมาะสมมากกว่าอ่างขนาดใหญ่ เพื่อ ประหยัดพื้นที่ใช้สอย รวมทั้งควรมีก๊อกน�้ำทั้งน�้ำร้อนและน�้ำเย็น ที่ส�ำคัญควรใช้อุปกรณ์ ประหยัดน�้ำ เพื่อป้องกันการเปิดน�้ำทิ้ง - ห้องอาบน�้ำ ควรมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกให้ครบ เช่น ขอส�ำหรับแขวน เสือ้ ผ้า ทีว่ างอุปกรณ์อาบน�ำ้ โฮสเทลบางแห่งเตรียมสบูแ่ ละแชมพูไว้บริการลูกค้าทีม่ าพัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรท�ำ เพราะเป็นการเพิ่มมูลค่าในการขายเตียงได้ บางแห่งมีพื้นที่หรือ เตรียมกล่องไว้ให้ลูกค้าที่จะเช็กเอาต์ สามารถวางข้าวของที่ไม่ใช้แล้ว เช่น สบู่ แชมพู ครีมโกนหนวด แป้ง โลชั่น ทิ้งไว้ให้คนอื่นน�ำไปใช้ต่อได้ น่าสังเกตว่าห้องอาบน�้ำรวม ไม่เป็นที่นิยมส�ำหรับแบ็กแพ็กเกอร์สมัยใหม่อีกต่อไป นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องการห้อง อาบน�้ำส่วนตัวที่มีความสวยงามและสะดวกสบาย - ฝักบัวและการควบคุมอุณหภูมิน�้ำ โฮสเทลที่ดีและประเภทที่มีจ�ำนวน 20-30 เตียงขึน้ ไป ควรใช้ระบบต้มน�ำ้ ร้อนรวม เพราะจะท�ำให้นำ�้ ร้อนเร็ว บางแห่งสามารถ น�ำความร้อนจากเครือ่ งปรับอากาศมาใช้ตม้ น�ำ้ ร้อน ส�ำหรับประเภทของฝักบัวนัน้ ไม่ควร เป็นแบบสายยาง แต่เป็นประเภทที่ยึดติดและยื่นออกมาจากผนัง แต่สามารถปรับหัว ฝักบัวได้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน พื้นที่ที่ไม่สร้างรายได้ (Non-Saleable Area) ส่วนใหญ่องค์ประกอบของพื้นที่ที่ไม่สร้างรายได้ (Non-Saleable Area) ควรมี พืน้ ทีไ่ ม่เกิน 30-40 เปอร์เซ็นต์ของพืน้ ทีท่ งั้ หมด ประกอบด้วยทางเดินในอาคาร และห้อง ท�ำงานต่างๆ รวมถึงทางหนีไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่จ�ำเป็นมาก โฮสเทลที่ไม่เอาเปรียบลูกค้าควร มีทางหนีไฟไว้เผือ่ กรณีเกิดเพลิงไหม้ เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อความปลอดภัย ของลูกค้า

THE HOSTEL BIBLE

93


พืน้ ทีใ่ นส่วนของการบริหารจัดการหลังบ้าน (Back of the House) ของโฮสเทล ได้แก่ ห้องเก็บข้าวของเครือ่ งใช้ไม้สอย ห้องเก็บผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ปลอกหมอน ห้องท�ำงาน ของฝ่ายบัญชีการเงิน งานบริการและจัดการต่างๆ จุดขนถ่ายสินค้า ห้องช่าง ห้องระบบน�ำ้ ห้องระบบไฟฟ้า ห้องเซิรฟ์ เวอร์ ระบบแอร์ และห้องพักพนักงาน เป็นต้น ขออธิบายความส�ำคัญ ของห้องต่างๆ ดังนี้ • ห้องเก็บผ้าปูเตียง อย่างน้อยควรมีชนั้ ละหนึง่ ห้อง และสามารถเก็บสต็อก ผ้าไว้ใช้ปเู ตียงได้อย่างน้อยทีส่ ดุ 1 วัน ดังนัน้ ในการออกแบบห้องเก็บผ้าปูเตียงต้องค�ำนึงถึง ชั้นวางผ้าในแต่ละชนิด เช่น ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน หมอนส�ำรอง ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม อุปกรณ์เคมีส�ำหรับท�ำความสะอาดห้องพักและห้องน�้ำรวม อุปกรณ์ส�ำหรับท�ำความ สะอาด เช่น ม็อบถูพื้น ไม้กวาด แชมพู สบู่ ส�ำหรับลูกค้า และสามารถน�ำรถเข็นส�ำหรับ แม่บ้านเข้ามาเก็บในห้องนี้ได้อย่างสะดวก ควรมีหอ้ งส�ำหรับผ้าทีใ่ ช้แล้วและรอการขนส่งไปซัก แยกออกจากห้องผ้าสะอาด อย่างสิ้นเชิง ไม่ปะปนอยู่ในบริเวณเดียวกัน • ห้องท�ำงานของฝ่ายบัญชีการเงิน ควรแยกเป็นห้องเอกเทศ เพราะ เป็นเรื่องของเงินๆ ทองๆ และระบบงานเอกสารส�ำคัญต่างๆ งานในฝ่ายบัญชี ได้แก่ การเก็บเงินสดจากการขายในแต่ละวัน การตรวจสอบยอดเงินสดของการขายห้องพัก ขายของ การท�ำเรือ่ งเบิกจ่ายในการซือ้ ของต่างๆ ของโฮสเทล ซึง่ ควรมีเซฟส�ำหรับใส่เงินสด และเอกสารส�ำคัญไว้ด้วย • ห้องเครือ ่ งและห้องช่าง ห้องเครือ่ งของโฮสเทล ได้แก่ ห้องปัม๊ น�ำ้ ไว้ส�ำหรับคงกระแสแรงดันน�้ำให้แรงและคงที่อยู่เสมอ ห้องเมนไฟฟ้า ห้องอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์ส�ำหรับระบบ PMS (Property Management System) ซึ่งในปัจจุบันมี 2 ทางเลือก คือ ระบบเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลาวด์ ในห้อง เซิร์ฟเวอร์นั้นยังสามารถเก็บอุปกรณ์อย่างอื่นได้อีก เช่น ระบบ CCTV ระบบโทรศัพท์ (PABX) • ห้องพักพนักงาน เป็นห้องส�ำหรับวางล็อกเกอร์เก็บข้าวของส่วนตัวของ พนักงาน และเป็นห้องเปลี่ยนชุดพนักงาน รวมถึงอาจเป็นห้องพักผ่อนของพนักงาน หลังเลิกงานได้อีกทางหนึ่ง THE HOSTEL BIBLE

94

ห้องต่างๆ เหล่านีค้ วรจัดวางต�ำแหน่งและมีจำ� นวนทีเ่ หมาะสม ไม่เช่นนัน้ จะท�ำให้ พนักงานเกิดความยากล�ำบากต่อการใช้พื้นที่ ซึ่งสุดท้ายย่อมส่งผลกระทบถึงการ ปฏิบัติงานโดยรวมของโฮสเทล


ห้องที่

3

เริ่มต้นธุรกิจโฮสเทล


บทนี้จะน�ำเสนอทุกเรื่องที่คนเป็นเจ้าของต้องรู้ในการท�ำธุรกิจโฮสเทล ตั้งแต่ การรูเ้ รือ่ งของตนเอง เรือ่ งการออกแบบ รูจ้ กั ลูกค้า รูเ้ รือ่ งการตลาด กฎหมาย รวมถึงการ เข้าและออกจากธุรกิจนี้ ค่อยๆ อ่านและท�ำความเข้าใจไปนะครับ เจ้าของโฮสเทลต้องเป็นคนแบบไหน คงไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่า ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของโฮสเทลได้ ขณะ เดียวกันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเจ้าของโฮสเทลได้เช่นกัน ส�ำหรับผม คนที่เหมาะจะท�ำธุรกิจนี้ต้องมี Passion 3 ข้อ หนึ่ง เขาคนนั้นต้องมี Passion ในการ เดินทาง สอง เขาคนนั้นต้องมี Passion ในการ พบปะเพื่อนใหม่ สาม เขาคนนั้นต้องมี Passion ในการ ให้บริการช่วยเหลือผู้คน

THE HOSTEL BIBLE

96


Passion ในการเดินทาง เมื่อใดก็ตามที่มี Passion ในการเดินทาง คุณจะเข้าใจหัวอกนักเดินทางด้วยกัน รู้ถึงความต้องการที่แท้จริง รู้เรื่องที่พวกเขาชอบและไม่ชอบ อย่าลืมว่า ธุรกิจโฮสเทล คือการเข้าให้ถงึ “นักเดินทางตัวจริง” ไม่ใช่นกั ท่องเทีย่ ว ที่ออกเที่ยวแค่ช่วงวันหยุดยาว หรือรอตั๋วโปรฯ ราคาถูก นักเดินทางตัวจริงที่ว่านี้ คือ บรรดาแบ็กแพ็กเกอร์ ทัง้ ทีใ่ ช้ชวี ติ ท�ำงานครึง่ ปี แล้วอีกครึง่ ปีทเี่ หลือก็ออกเดินทางรอนแรม บ้างเป็นเด็กไฮสคูลอายุไม่ถงึ 20 ทีอ่ ยากออกไปผจญโลกกว้าง กลุม่ คนเหล่านีม้ กั วางแผน การเดินทางอย่างรัดกุม เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งไว้ ดังนั้น เมื่อเราเข้าใจ ความต้องการและเข้าใจปัญหาของพวกเขาแล้ว เราก็จะสามารถออกแบบการบริการ (Design Service) ให้ตรงใจลูกค้าได้ Passion ในการพบปะเพื่อนใหม่ โดยธรรมชาติ เหล่าแบ็กแพ็กเกอร์จะมีนิสัยเป็นนักแสวงหา ไม่ชอบเที่ยวแบบ กระแสหลัก แต่จะอินไปกับบรรยากาศของสถานที่ต่างๆ ที่รายล้อม มีไลฟ์สไตล์สบายๆ เป็นกันเอง เมือ่ เข้ามาพักทีโ่ ฮสเทลแล้ว สามารถสร้างสายสัมพันธ์กบั แขกคนอืน่ จนกลายเป็น เพื่อนกันได้ ทีส่ ำ� คัญ ธรรมชาติของแบ็กแพ็กเกอร์ชอบทีจ่ ะมีเพือ่ นใหม่ ได้พดู คุยแลกเปลีย่ น ทัศนคติกนั ระหว่างวันแบ็กแพ็กเกอร์เหล่านี้อาจเดินทางท่องเทีย่ วตามล�ำพัง ดังนั้น เมือ่ กลับถึงที่พัก เขาก็อยากมีใครสักคน (หรือหลายคน) ไว้พูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ Passion ในการให้บริการช่วยเหลือผู้คน แน่นอนว่า เซอร์วิสมายด์ (Service Mind) เป็นหัวใจส�ำคัญของทุกธุรกิจบริการ แต่ส�ำหรับธุรกิจโฮสเทล คุณต้องมียิ่งกว่าการบริการ คือมีความเห็นอกเห็นใจและความ เข้าใจแขกผูม้ าพัก คุณต้องเป็นเหมือนเพือ่ นของเขา ให้ความรูส้ กึ เป็นกันเอง ให้แขกรูส้ กึ ว่า คุณคือคนในท้องทีท่ รี่ จู้ กั พืน้ ทีน่ นั้ เป็นอย่างดี คอยให้คำ� แนะน�ำ และแก้ปญ ั หาให้กบั เขาได้ อย่ามองลูกค้าว่าเป็นตัวสร้างปัญหา แต่จงมองให้ลึกลงไปว่า เขามีความวิตก กังวลทุกข์ร้อนอะไรบ้าง ถึงอยากจะมาพักกับเรา เมื่อได้ทราบแล้วว่าคนท�ำธุรกิจโฮสเทลควรมีลักษณะอย่างไร คราวนี้เราลองมา ดูกันว่า การเริ่มลงมือท�ำธุรกิจโฮสเทลต้องเริ่มที่ตรงไหน และมีขั้นตอนอะไรบ้าง

THE HOSTEL BIBLE

97


ทัศนคติและวิธีท�ำธุรกิจโฮสเทล ผมเชื่อว่าสินค้าและบริการเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น น�้ำดื่มบรรจุขวด แก้ไขปัญหาเรื่องการพกพาและความสะดวก ในการซื้อ ขณะที่บางคนอาจมองว่า เดี๋ยวฉันกรอกน�้ำใส่ขวดมาจากบ้านก็ได้ ไม่เห็นต้อง เสียเงินเลย นั่นหมายความว่า สินค้าและบริการอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถตอบโจทย์ ให้กับคนทุกคนได้ จะน�้ำขวดเล็กหรือน�้ำขวดใหญ่ ผู้บริโภคก็มีเหตุผลในการซื้อสินค้าที่ แตกต่างกัน จะเป็นความคุ้มค่า ความสะดวกในการพกพา หรืออะไรแล้วแต่ เมือ่ ใดก็ตามทีเ่ ราสามารถสร้างสินค้าทีส่ ามารถแก้ไขปัญหาให้กบั ผูซ้ อื้ ได้ สินค้านัน้ ก็จะถูกใช้ซำ�้ อยูเ่ รือ่ ยๆ สินค้าไหนทีไ่ ม่ได้แก้ปญ ั หาให้กบั ลูกค้า ก็จะหายไปในช่วงเวลาอันสัน้ เช่นเดียวกับธุรกิจโฮสเทลซึ่งเป็นธุรกิจบริการ ต้องอาศัยการท�ำแบรนดิ้งและ การสร้างอารมณ์ความรูส้ กึ เข้ามาเกีย่ วข้องอย่างมาก ลูกค้าจึงจะยอมจ่าย บางครัง้ อาจยอม จ่ายแพงกว่าด้วยซ�้ำ ท�ำเลที่รัก ในการท�ำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เราถูกสอนมาว่าความส�ำเร็จมาจากท�ำเล หรือ โลเคชั่น (Location) แน่นอนว่า โลเคชั่นส�ำคัญมากกับการท�ำโฮสเทล แต่ก็ในแง่มุมที่ แตกต่างออกไป เนื่องจากลูกค้ากลุ่มโฮลเทลนิยมเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกเพราะ มีงบน้อย และต้องการทีพ่ กั ราคาถูก เพราะต้องท่องเทีย่ วเป็นระยะเวลานาน ดังนัน้ อะไร ที่ท�ำให้สามารถลดต้นทุนในการท่องเที่ยวได้ ก็จะเป็นก�ำไรของเขา ในธุรกิจบูติคโฮเต็ล ท�ำเลที่ตั้งสามารถอยู่ไกลแค่ไหน ห่างจากสิ่งอ�ำนวยความ สะดวกมากแค่ไหนก็ได้ ตราบทีบ่ ตู คิ โฮเต็ลแห่งนัน้ สามารถเสนอประสบการณ์ทแี่ ปลกใหม่ และมีคุณค่าแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ให้กับลูกค้า แต่ในธุรกิจโฮสเทล ลูกค้าแบ็กแพ็กเกอร์จะเลือกที่พักจากองค์ประกอบ ดังนี้ หลัก 3C = Connection, Convenient, Cheap THE HOSTEL BIBLE

98


LOCATION FOR 1

3

CONNECTION

3 CHEAP

2 CONVENIENT

THE HOSTEL BIBLE

99


• Connection หรือใกล้จุดเชื่อมต่อการเดินทาง ใกล้จุดการคมนาคม ท�ำให้เดินทางง่ายและสะดวก ระหว่างที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า กับที่พักที่เมื่อ ลงรถไฟฟ้าแล้วต้องนัง่ รถต่อไปอีกเป็นชัว่ โมง นักท่องเทีย่ วจะเกิดค�ำถามว่า แล้วเขาจะต้อง จ่ายค่ารถเพิ่มอีกท�ำไม หรือจะต้องเสียเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงไปเพื่ออะไร ลูกค้าจะเริ่ม ชัง่ น�ำ้ หนักเลือกระหว่างทีพ่ กั ราคาถูกแต่เสียค่าเดินทางเพิม่ กับทีพ่ กั ทีจ่ า่ ยแพงกว่าหน่อย แต่เดินไปถึงได้ การอยู่ใกล้จุดคมนาคมจึงเป็นปัจจัยที่ส�ำคัญที่สุดข้อหนึ่ง • Convenient บางครั้งที่พักนั้นอาจไม่ได้อยู่ใกล้จุดคมนาคมมากนัก แต่ถา้ ใกล้แหล่งอาหารการกิน ตลาด ชุมชน ก็สามารถทดแทนได้ เนือ่ งจากท�ำให้นกั ท่องเทีย่ ว เกิดความสะดวกในการกินดื่มเที่ยว และถือเป็นการแบ่งเบาภาระของโฮสเทลไปด้วย เพราะลูกค้าสามารถไปนัง่ ร้านรวงรอบๆ ได้ ท�ำให้โฮสเทลไม่ตอ้ งเตรียมสิง่ ต่างๆ ไว้บริการ ลูกค้ามากมายเกินไป • Cheap เมื่อรวมแล้วราคาต้องคุ้มค่า ซึ่งไม่จ�ำเป็นว่าต้องถูกที่สุดเสมอไป บางครั้งลูกค้าอาจจ่ายเพื่อนอนที่พักที่มีราคาแพงกว่า แต่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือ จุดเชื่อมต่อการเดินทางมากกว่า

THE HOSTEL BIBLE

100

คุณค่าหลักของสินค้า ในยุคนีเ้ พียงแค่กระหายน�ำ้ ก็สามารถเดินเข้าไปร้านสะดวกซือ้ ทีม่ อี ยูแ่ ทบทุกหนแห่ง แล้วคุณก็จะได้เห็นขวดน�้ำดื่มสารพัดสีหลากหลายยี่ห้อวางเรียงรายบนชั้นวางสินค้า น�้ำดื่มเหมือนกัน แล้วอะไรล่ะที่ไม่เหมือนกัน? ลองสังเกตให้ดจี ะพบว่า น�ำ้ ดืม่ เหล่านีแ้ ทบจะไม่ได้ขายในเรือ่ งของปัจจัยพืน้ ฐาน (= น�้ำมีไว้ดื่ม) แต่ขายเรื่องของแบรนดิ้ง (Branding) ขายความรู้สึก (Feeling) ที่ท�ำให้ รู้สึกว่าน�้ำดื่มยี่ห้อนี้ช่างดีเสียจริง น่าจ่ายเงินซื้อเสียเหลือเกิน โฮสเทลของคุณก็เช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไมเราจึงต้องสร้างคุณค่าหลักของสินค้า (Product Core Value) หรือคอนเซ็ปต์ของเราขึน้ มา โฮสเทลหรือบูตคิ โฮเต็ลทีย่ อดเยีย่ มต้องมีคณ ุ ค่าหลักทีช่ ดั เจน และหนักแน่นว่า ที่พักของเราต้องการเสนออะไรให้ลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น


- Yim Huai Khwang Hostel น�ำเสนอเอกลักษณ์ไทยผ่านการออกแบบ ที่สนุกสนาน รู้สึกถึงความเป็นวัยรุ่น ความมีชีวิตชีวา บริการที่เป็นกันเอง และมีพื้นที่ ส่วนกลางที่กว้างขวาง - สะพายเป้ โฮสเทล เป็น Budget Hostel จึงมีการตกแต่งแบบง่ายๆ สไตล์ท�ำเอง ไม่เก๋มากนัก แต่มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบในพื้นที่กว้างขวางกว่าที่อื่น - The Yard เป็นโฮสเทลที่ไกลจากจุดท่องเที่ยว แต่ก็มีจุดแข็งที่ที่อื่นไม่มี นัน่ คือ มีสวนและสนามหน้าขนาดพอเหมาะเพือ่ สร้างความสดชืน่ ให้แขกผูม้ าพัก สามารถ เก็บราคาขายได้แพงกว่าโฮสเทลในเมืองเสียอีก - POD Hostel เป็น Design Hostel ทีข่ ายเอกลักษณ์ในงานดีไซน์อนั โดดเด่น แบบฮิปสเตอร์ มากกว่าเน้นกิจกรรมที่ลูกค้าจะท�ำร่วมกับพนักงาน - Lub d เป็น Thai Style Hostel ทีน่ ำ� เสนอความเป็นไทยแท้ๆ ผ่านกิจกรรม ต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น กินพริก ต่อยมวย แข่งท่องประโยค “เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด” เน้นสื่อว่ามาพักที่นี่แล้วสนุกแน่นอน - Bed Station เป็น Design + Lifestyle Hostel ที่มีทั้งความสวยงาม และกิจกรรมส�ำหรับลูกค้า บนท�ำเลดีเยี่ยม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกด้าน โดยสรุปความหมายของ Product Core Value คือ เราจะส่งมอบคุณค่าแบบไหน ให้กบั ลูกค้าได้บา้ ง ขอหลักๆ แค่ข้อเดียวก็พอ ขอเป็นแบบที่คนอื่นไม่สามารถให้ได้ยิ่งดี หาให้เจอ จุดขายของคุณคืออะไร คุณต้องตีโจทย์ให้แตกว่า ลูกค้าจะจ่ายเงินเช็กอินกับโฮสเทลของคุณด้วยเหตุผลใด วิธีการสร้างจุดขาย (Unique Selling Point หรือ USP) ในโฮสเทลมีมากมาย เช่นเดียวกับธุรกิจบูติคโฮเต็ล โดยสามารถแยกได้เป็น 3 เรื่อง คือ Hardware, Software และ Branding THE HOSTEL BIBLE

101


UNIQUE SELLING POINT

1. 2. 3.

ROOM

BED

SERVICE ACTIVITY

BATHROOM

ETC.

HUMAN TOUCH ETC.

MARKETING COMMUNICATION CONFIDENCE ETC.

THE HOSTEL BIBLE

102


Hardware คือ ทุกสิ่งที่คุณต้องใช้เงินซื้อและสร้างขึ้น เช่น สถาปัตยกรรม ของอาคาร ท�ำเลที่ตั้ง รูปแบบการจัดห้อง สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงภายหลังได้ยาก เช่น คุณไม่สามารถเปลี่ยนท�ำเลที่ตั้งของโฮสเทลได้ ดังนั้น การหาท�ำเลที่ดีซึ่งเป็นจุดที่ลูกค้า ชอบไป จะท�ำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยในการสร้างจุดขายหรือท�ำการตลาดเพื่อขายโฮสเทล การมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแปลกตาน่าสนใจ ก็สามารถสร้างเป็น USP ได้ เช่นกัน ท�ำให้คนอยากเข้ามาพัก อยากเข้ามาใช้ประสบการณ์ในโฮสเทลนัน้ ๆ อาจจะเพือ่ ถ่ายรูปอวดเพื่อนฝูงว่าฉันได้มาที่นี่แล้ว Hardware ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่สวยงาม การออกแบบที่ดูดีมีสไตล์ หรือ ท�ำเลกลางใจเมือง จะน�ำลูกค้ามาในครั้งแรก แต่เขาจะกลับมาอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ Software เป็นหลัก Software คือ การสร้างสรรค์การบริการ (Service) ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งขัน ตัวอย่างง่ายๆ คือน�้ำดื่มที่แจกในห้องพัก ท�ำไมให้แค่ 2 ขวดเล็ก ถ้าลูกค้าเป็นชาวยุโรปที่ กระหายน�้ำบ่อยเพราะเมืองไทยมีอากาศร้อน ถ้าเราบริการน�้ำดื่ม 2 ขวดใหญ่ไปเลยจะ ดีกว่าไหม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการสร้างสรรค์กิจกรรม สร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน อบอุน่ เป็นกันเอง ความสามารถในการให้ขอ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชน์กบั ลูกค้า เช่น สายรถเมล์ อาหารการกิน เคล็ดลับการต่อรองราคา แหล่งท่องเที่ยวของคนท้องถิ่น และข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่สามารถหาได้จาก Google น่าสนใจว่าโฮสเทลในปัจจุบนั มักแข่งขันกันทีก่ ารตกแต่งให้สวยเก๋ในสไตล์ตา่ งๆ แต่โฮสเทลในอดีตกลับเน้นความเรียบง่ายมีเสน่ห์แบบบ้านๆ สถานที่ออกจะดูธรรมดา แต่สะอาดโปร่งโล่ง ดูแลลูกค้าดุจญาติมิตรและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สไตล์ไทยๆ ท�ำให้ เห็นว่านีอ่ าจเป็นทางเลือกหนึง่ ในการลงทุนด้วย Software โดยไม่ตอ้ งลงทุน Hardware มากนัก ซึ่งท�ำให้สามารถลดต้นทุนได้ ที่น่าคิดอีกอย่าง คือ ในขณะที่ทุกคนแข่งขันกันสร้างจุดเด่นที่เก๋เท่มีสไตล์นั้น หากมีโฮสเทลบางแห่งที่เน้นความเรียบง่ายในแบบโฮสเทลดั้งเดิม อาจกลับกลายเป็น จุดเด่นของ “ความน้อย” ท่ามกลาง “ความมาก” ก็เป็นได้ THE HOSTEL BIBLE

103


Branding คือ ผลรวมของ Hardware และ Software ที่สามารถส่งไปยัง ลูกค้าได้ตามความเป็นจริงที่เราได้ประกาศจุดยืนไว้ ซึ่งจะท�ำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจต่อ ตัวโฮสเทล ขจัดความวิตกกังวลเรื่องมาตรฐานของที่พักและมาตรฐานการบริการ เมื่อคุณเข้าใจและเริ่มเห็นภาพแล้วว่า อยากจะเน้นการลงทุนไปที่ Hardware หรือ Software สิ่งต่อไปที่คุณต้องลงมือท�ำ คือ 1. ส�ำรวจคู่แข่ง คุณต้องไปดูคู่แข่งขันในท้องตลาดว่า เขาเสนออะไรบ้าง ให้กบั ลูกค้า ทัง้ ในรูปของสินค้าทีเ่ ป็นห้องพัก เช่น ห้องพักมีขนาดกีต่ ารางเมตร มีสงิ่ อ�ำนวย ความสะดวกอะไรในห้องพักบ้าง ทัง้ ในรูปของบริการเสริมทีม่ ใี ห้กบั ลูกค้า เช่น บริการรับส่ง จากสนามบิน การให้ใช้หอ้ งอาบน�ำ้ ได้ระหว่างรอเวลาเช็กอิน หรือการให้ลกู ค้าเข้ามาอาบน�ำ้ ก่อนออกเดินทางได้ แม้จะเช็กเอาต์ไปแล้วก็ตาม ไม่เพียงแต่ส�ำรวจโฮสเทลด้วยกัน แต่คณ ุ ควรส�ำรวจไปถึงระดับโรงแรมด้วยว่า มีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกหรือบริการอะไรบ้าง มีจุดขายและจุดอ่อนตรงไหนบ้าง 2. ส�ำรวจลูกค้า คุณต้องหาข้อมูลชนิดอินไซต์ว่า ลูกค้ามักเผชิญปัญหา (Problem) หรือมีความเจ็บปวด (Pain) แบบใดบ้างในการท่องเที่ยว แล้วก็จับช่องว่าง ตรงนัน้ มาน�ำเสนอบริการทีแ่ ตกต่างกว่า เช่น หลังจากเช็กเอาต์แล้ว โฮสเทลบางแห่งยังให้ ลูกค้าฝากของและกลับมาอาบน�้ำได้ เพราะลูกค้าอาจมีเที่ยวรอบเย็นก่อนเวลาออก เดินทาง บางแห่งมีบริการพิเศษเอากระเป๋าไปส่งให้ที่สนามบิน เพื่อให้ลูกค้าสามารถ เที่ยวได้สบายไม่หอบกระเป๋าพะรุงพะรัง หรือบางแห่งมีบริการส่งตั๋วรถไฟ/รถทัวร์มาให้ ถึงห้องพัก มีบริการพาไปท�ำกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น ตัดสูท ท�ำฟัน เสริมสวย ซึง่ กิจกรรมเหล่านีส้ ามารถสร้างผลประโยชน์รว่ มระหว่างโฮสเทลกับห้างร้านต่างๆ ได้อกี ด้วย บางครั้งคุณอาจแค่น�ำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบเดิมๆ อย่างที่ทุกเจ้า ในตลาดเขาท�ำกัน แต่ลองปรับหรือเพิม่ ฟังก์ชนั่ บางอย่าง พลิกจุดแค่นดิ เดียว แต่หากลูกค้า เกิดชอบขึ้นมาก็อาจส่งผลดีได้

THE HOSTEL BIBLE

104

ทำ�ธุรกิจโฮสเทลต้องใส่ความกล้า กล้าคิด กล้าบิดมุมมอง และกล้าเปลี่ยน


รูปประกอบ: http://generatorhostels.com/en/destinations/london/

ตัวอย่าง USP ของโฮสเทลที่มีความชัดเจน เช่น Generator Hostels ซึ่งเป็น เชนโฮสเทลขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั่วยุโรป จุดขายของที่นี่คือ เป็นทั้ง Design Hostel และ Lifestyle Hostel รวมกัน มักตัง้ อยูใ่ นท�ำเลทีด่ ี มีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกครบครัน รูปลักษณ์ ของโฮสเทลถูกแสดงออกอย่างมีสสี นั และความสนุกสนาน เนือ่ งจากเน้นกลุม่ ลูกค้าทีเ่ ป็น นักเดินทางประเภท Flashpacker USP ของ Generator Hostels คือ “Live for the Moment with Generator” (ใช้ห้วงเวลาหนึ่งของชีวิตกับ Generator) และ “Design–Led Hostels and Best Party Hostels in Europe” (โฮสเทลที่เน้นดีไซน์และมีปาร์ตี้ที่ดีที่สุดในยุโรป)

จุดขายของ Generator Hostels คือรูปลักษณ์ดีไซน์ที่มีสีสันและความสนุกสนาน THE HOSTEL BIBLE

105


รูปประกอบ: www.cairnshostels.com

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ AsyLum Cairns Backpackers Hostel ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ที่นี่เป็นที่พักแบบ Budget-Lifestyle Hostel ที่เน้นราคาถูกและมี กิจกรรมสำ�หรับคนที่อยากมาเมาโดยเฉพาะ การตกแต่งอาคารสถานที่ไม่เน้นความสวย มีสไตล์ และมีสิ่งอำ�นวยความสะดวกเพียงปานกลาง แต่การมีจุดขายชัดเจนเรื่องปาร์ตี้ ทำ�ให้โฮสเทลแห่งนี้ประสบความสำ�เร็จเป็นอย่างดี USP ของ AsyLum คือ “Enter at Your Own Risk!” (ลองมาดูสิ แต่เสี่ยง เอาเองนะ !) และ “Don’t Stay There if You’re Unsocial and Would Rather Be Alone.” (อย่ามาพักถ้าคุณไม่ชอบสังคมและอยากอยู่คนเดียว)

AsyLum มีกิจกรรมสำ�หรับคนที่อยากมาเมาโดยเฉพาะ

THE HOSTEL BIBLE

106

หาให้พบ ลูกค้าของคุณคือใคร ดังที่กล่าวไปแล้วว่า กลุ่มลูกค้าของโฮสเทลแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ Tourist, Traveler และ Backpacker โฮสเทลหลายแห่งเลือกที่จะจ�ำกัดนิยามล่วงหน้าว่า กลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยว หรือแขกผู้มาพักของเขาคือใคร บางแห่งตั้งต้นว่า แขกของเขาคือกลุ่ม Young Traveler นักเรียนไฮสคูลที่เรียนจบแล้วอยากออกไปผจญโลก บางแห่งปักหมุดกับกลุ่ม Solo Traveler หรือนักเดินทางที่ชอบการเดินทางคนเดียว หรือแบ็กแพ็กเกอร์หนุ่มเป้หนักที่ ต้องการห้องพักราคาย่อมเยา แต่ทงั้ หมดนีใ้ ช่วา่ จะเกิดขึน้ จริงเหมือนอย่างทีค่ ณ ุ คิดเสมอไป บางครั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) ก็อาจจะสนใจโฮสเทลของคุณได้เช่นกัน หรือ บางครั้งกลุ่มคนต่างจังหวัดที่จะเข้ามาท�ำธุระในกรุงเทพฯ อาจก�ำลังมองหาที่พักแบบ ของคุณอยูก่ ไ็ ด้ ขึน้ กับว่าโลเคชัน่ นัน้ ๆ สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์อนื่ ๆ ได้อกี หรือไม่


ในช่วงเริ่มต้น คุณอาจเห็นภาพลูกค้าของคุณได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เมื่อด�ำเนิน ธุรกิจไปแล้วสักพัก คุณจะมองเห็นกลุม่ ลูกค้าชัดเจนยิง่ ขึน้ บางโฮสเทลอาจค้นพบว่า กลุม่ ลูกค้า ของเขาไม่ได้เป็นกลุม่ Young Traveler อย่างทีค่ ดิ ไว้ จึงลองเปลีย่ นเป็น Bed & Breakfast เพื่อให้ต�ำแหน่งของแบรนด์ (Brand Positioning) ของตนเองชัดเจนขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ อาจท�ำให้โฮสเทลประสบความส�ำเร็จได้ ข้อควรระวังคือ บางครัง้ เมือ่ ออกแบบสินค้าและบริการ เราไม่สามารถรูล้ ว่ งหน้า ได้เลยว่า แท้จริงแล้วสินค้าหรือบริการนัน้ จะตอบสนองใคร หากเราไม่ได้ศกึ ษาพฤติกรรม ของลูกค้าให้ดกี อ็ าจจะออกแบบผิดได้ ปัญหานีเ้ กิดขึน้ ได้บอ่ ยในการท�ำโฮสเทล เบือ้ งต้น เราอาจคาดว่าแขกทีม่ าพักจะเป็นลูกค้าประเภทนี้ แต่เมือ่ เปิดด�ำเนินการไปแล้วกลับเป็น ลูกค้าอีกประเภทหนึ่ง เจ้าของโฮสเทลจึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การสื่อสารหรือ บริการให้เข้ากับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ศิลปะการครองใจ (Branding) ในมุมมองของนักลงทุน อาจมองว่าแบรนดิ้ง (Branding) คือ สินค้าที่ผลิตจาก โรงงาน แต่ส�ำหรับคนท�ำโฮสเทล แบรนดิ้ง คือ สิ่งที่ผลิตจากหัวใจ เป็นสิ่งที่ท�ำให้ลูกค้า จดจ�ำเราในใจได้ สิง่ นีจ้ ะต้องถูกถ่ายทอดออกมา เช่น ท�ำอย่างไรให้คนเห็นแบรนด์เราบ่อยๆ เพื่อให้จดจ�ำอยู่ในหัว ท�ำอย่างไรเพื่อให้คนประทับใจ นี่คือหลักการที่เรียบง่ายของการ สร้างแบรนด์ ที่ส�ำคัญ สิ่งที่ลูกค้าจดจ�ำเราได้ ต้องมีความแตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจน อย่าลืมว่า ถ้าคุณคิดหรือมองแค่ว่าการท�ำแบรนดิ้ง คือสิ่งที่ผลิตออกมาจาก โรงงาน สุดท้ายก็จะจบอยู่แค่การใช้งานเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอที่จะท�ำให้คนจดจ�ำและ นึกถึง ดังนัน้ ต้องมาคิดต่อว่า จะท�ำอย่างไรให้คนนึกถึงเรา ท�ำอย่างไรให้เขาประทับใจเรา ส�ำหรับธุรกิจโฮสเทล ท�ำอย่างไรให้แขกที่มาพักประทับใจ “อะไรคือคุณค่าของเราทีส่ ง่ มอบให้กบั ลูกค้า” สิง่ นีเ้ รียกว่า Deliver Commitment ที่คุณควรหาคุณค่านั้นให้เจอ ยกตัวอย่างเช่น Khaosan Tokyo Guesthouse เป็นโฮสเทลที่มีสาขามากที่สุด แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีการสร้างแบรนด์ผ่านสโลแกนที่ว่า “Don’t Worry Backpackers, Be Happy” (อย่าห่วงไปเลยแบ็กแพ็กเกอร์ทั้งหลาย มีความสุขกันดีกว่า) ให้คนจดจ�ำว่า เป็นแบรนด์ทอี่ บอุน่ เรียบง่าย และดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีในราคาทีป่ ระหยัด ปัจจุบนั โฮสเทล แบรนด์นี้สามารถขยายตลาดไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในรูปแบบดีไซน์ที่แตกต่างหลากหลาย ทั้ง Basic Hostel, Budget Hostel, Design Hostel, Lifestyle Hostel แต่ยังคง อยู่ภายใต้ความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ (Brand Feeling) แบบเดียวกัน นั่นคือ ความอบอุ่น เป็นกันเองที่ลูกค้าจะสัมผัสได้จากทีมงานทุกคน

THE HOSTEL BIBLE

107


หรือตัวอย่างของ Wombats Hostel ที่เป็นแบรนด์โฮสเทลของยุโรป ภายใต้ สโลแกนว่า “By Travelers for Travelers” (โดยนักเดินทาง เพื่อนักเดินทาง) ที่นี่มีจุด เด่นตรงที่มักอยู่ในท�ำเลดี สะดวกสบาย มีมาตรฐานใกล้เคียงกับโรงแรม เป็น Lifestyle Hostel ที่เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น และสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจน จนสามารถ ขยายสาขาไปทั่วยุโรป สรุปได้ว่า โดยทั่วไปแล้วลูกค้าชอบความยืดหยุ่น ไม่ชอบอะไรที่ตายตัว ไม่ชอบ เสียเงินเพิ่มกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนดูจุกจิก และชอบเจ้าของที่ใจดี ชื่อดีก็น่านอน แม้ว่าโฮสเทลจะมีหลายสไตล์ แต่การตั้งชื่อของโฮสเทลยังคงวนเวียนอยู่กับ ค�ำว่า Common Area, Fun, Friendship, Live, Cozy, Relax, Informal ถ้าเราลอง ไล่ดูรายชื่อโฮสเทลประเภทแบ็กแพ็กเกอร์ชั้นน�ำทั่วโลก จะพบว่ามีแนวการตั้งชื่อหลักๆ อยู่ 4 แบบ คือ 1. Feel Good Name หรือชือ่ ทีฟ่ งั แล้วเกิดความรูส้ กึ ดี มักใช้ตงั้ ชือ่ กลุม่ โฮสเทลทีเ่ น้นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กบั ลูกค้า และมีพนักงานทีอ่ บอุน่ เป็นกันเอง เช่น Lucky Family, Lub d (หลับดี), Yim Huaykwang (ยิม้ ห้วยขวาง), Arom d (อารมณ์ด)ี 2. Common Name หรือชือ่ สามัญทัว่ ไป เป็นลักษณะการตัง้ ชือ่ ของโฮสเทล ที่มีขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกครบ และมักมีสาขาอยู่ในหลายเมือง เช่น Home Lisbon Hostel, Travella’s House, Barcelona Central Garden 3. Fun, Funny เป็นชื่อที่สื่อถึงความสนุกสนานหรือความสดใสร่าเริง มักใช้ในกลุ่มโฮสเทลที่เน้นปาร์ตี้มากกว่ากิจกรรมประเภทอื่น เช่น The Yellow, The Flying Pig, The Naughty Squirrel Backpackers, Circus Hostel 4. Emotional เน้นการตั้งชื่อที่สะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึก มักใช้ในหมู่ โฮสเทลขนาดเล็กหรือขนาดกลางประเภท Independent Hostel มีสไตล์การตกแต่ง สวยงาม น่ารัก และมักไม่มีสาขา เช่น Soul Kitchen, The MadHouse, Saphaipae (สะพายเป้)

THE HOSTEL BIBLE

108


วิธีตั้งชื่อ มีหลักการง่ายๆ 2 ข้อ คือ 1. สั้น ง่าย ได้ใจความ คนไม่อยากจ�ำอะไรยาวๆ แต่ชอบอะไรที่สั้นกระชับ กวาดตาแวบเดียวแล้วเข้าใจได้ทันที เช่น Bounce, The Flying Pig, Wombats, The Yellow ชื่อโฮสเทลไม่จ�ำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างการตัง้ ชือ่ ของโฮสเทล “หลับดี” ชือ่ นีไ้ ม่ใช่ชอื่ แรก ตัวเลือกแรกทีต่ งั้ ไว้ คือ Blue Lamb (แกะสีนำ�้ เงิน) มาจากไอเดียทีว่ า่ เวลานอนไม่หลับก็ให้นบั แกะไปจนกว่า จะหลับ แต่บางครั้งคนอาจจะเข้าใจยากหรือแม้แต่ไม่เข้าใจเลย สุดท้ายจึงกลับไปที่ ความคิดเดิม คือ ตั้งชื่อเป็นภาษาไทย จนมาลงตัวที่ค�ำว่า “หลับดี” ซึ่งแค่ได้ยินคนไทยก็ เข้าใจได้ง่าย บอกได้ตรงตัวเลยว่าเป็นธุรกิจอะไร ส่วนถ้าเป็นต่างชาติก็อาจต้องอธิบาย ความหมายว่า ตรงกับค�ำว่า Sleep Well ซึง่ มองในแง่หนึง่ ก็เป็นจุดเริม่ ต้นในการสนทนาได้ 2. ใคร ท�ำอะไร ที่ไหน วิธีนี้คลาสสิกและใช้ได้ดีเสมอ ที่ส�ำคัญคือช่วยให้ค้นหา ทางอินเทอร์เน็ตได้ง่ายมากขึ้น เช่น New York Budget Inn, Lisbon Destination, Yes! Porto Hostel คีย์เวิร์ดและค�ำขวัญ เมือ่ ได้คณ ุ ค่าหลักของสินค้า (Product Core Value) แล้ว ขัน้ ตอนต่อไปคือ การหา ค�ำหลัก (Keyword) คีย์เวิร์ดคือ ค�ำสั้นๆ ไม่กี่ค�ำที่ช่วยอธิบายภาพในหัวที่คุณต้องการได้อย่างชัดเจน หมดจด และเมือ่ คุณอธิบายสิง่ ทีต่ อ้ งการด้วยคียเ์ วิรด์ นีแ้ ล้ว คนอืน่ ๆ ต้องเห็นภาพเดียวกัน กับคุณเช่นกัน คุณต้องหาคีย์เวิร์ดนั้นให้ได้ คีย์เวิร์ด ในรูปของสโลแกน (Slagan) / ค�ำขวัญ (Motto) / ค�ำโปรย (Tagline) เป็นค�ำทีจ่ ะถูกเขียนต่อจากชือ่ โฮสเทลของคุณทุกครัง้ ท�ำให้คณ ุ เห็นภาพชัดเจนขึน้ ว่า คุณ จะสร้างสรรค์โฮสเทลแบบไหนและจะส่งมอบอะไรให้ลูกค้า ถ้าไม่มีคีย์เวิร์ด คุณจะเกิด ความสับสนจนจินตนาการภาพไม่ออก ข้อดีของการคิดคียเ์ วิรด์ ท�ำให้รวู้ า่ เราจะต้องท�ำอะไรบ้าง และต้องสือ่ สารกับคน ที่เกี่ยวข้องอย่างไร การหาคียเ์ วิรด์ ก็เข้าท�ำนองเดียวกับการซือ้ น�ำ้ ดืม่ ในร้านสะดวกซือ้ คนเรามักซือ้ สินค้าด้วยความอารมณ์และรู้สึกเป็นอันดับต้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เหตุผลที่หลายคนเลือก ดื่มน�้ำแร่ราคาแพง เพราะรู้สึกเชื่อมั่นว่าเป็น “ของดี” ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น จึงยอมจ่ายเงิน แม้จะแพงกว่า

THE HOSTEL BIBLE

109


เมื่อเรามีภาพของลูกค้าที่จะมาใช้บริการอยู่ในหัวแล้ว จะน�ำไปสู่การคิดและ การออกแบบสินค้า/บริการได้ ดังนั้น ภาพในหัว (คีย์เวิร์ด) จึงมีความส�ำคัญมาก รูปแบบ โฮสเทลของคุณจะไม่มีวันออกมาชัดเจนได้เลย ถ้าคุณไม่มีคีย์เวิร์ดที่ชัดเจน ขั้นตอนง่ายๆ ในการหาคีย์เวิร์ด 1. ระดมความคิด ระหว่างหุ้นส่วนหรือทีมงานทุกคน ให้ช่วยกันเขียนสิ่งที่จะเป็นจุดเด่น ของโฮสเทล อาจจะเขียนเป็น Mind mapping หรือเขียนบนกระดาษเล็กๆ แล้วแปะบน กระดานก็ได้ คิดและเขียนกว้างๆ ให้ได้เยอะที่สุด 2. เมือ่ รวบรวมค�ำได้เยอะทีส่ ดุ แล้ว ให้คดั สิง่ ทีไ่ ม่ชดั เจนออกไป เกณฑ์ในการคัดออก คือ - อะไรก็ตามที่ทุกโฮสเทลมีเหมือนกันหมดให้คัดออก เช่น Feel Like Home (รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน) - อะไรก็ตามทีด่ มี าก แต่ตอ้ งขึน้ กับปัจจัยภายนอกทีค่ ณ ุ ควบคุมไม่ได้มากเกินไป ท�ำให้ ปฏิบัติจริงได้ยาก ให้คัดออก -อะไรก็ตามที่เป็นแฟชั่น มาแล้วก็ไป เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ให้คัดออก

THE HOSTEL BIBLE

110

เมื่อได้ค�ำหลักๆ ที่สะท้อนจุดเด่นของโฮสเทลแล้ว ให้เอาค�ำเหล่านั้นมาร้อยเป็น ประโยคสั้นๆ ที่น่าจดจ�ำ โดยคีย์เวิร์ดที่ดีควรมีคุณสมบัติ ดังนี้ - บ่งบอกจุดเด่นอย่างชัดเจน เห็นภาพมากที่สุด - สั้นและเข้าใจง่าย - ไพเราะรื่นหู ยกตัวอย่างโฮสเทลที่มีชื่อเสียง พร้อมสโลแกน เช่น - The Yellow Hostel (โรม, อิตาลี) : For the fun of it! Party, Relax, and Explore (สนุกสุดๆ! ทั้งปาร์ตี้ การพักผ่อน และส�ำรวจโลก) - Old Prague Hostel (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) : Cheap Accommodation, Next to the Old Town Square (ที่พักราคาประหยัด ติดกับจัตุรัสเมืองเก่า) - Flying Pig Uptown Hostel (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) : Find Us to Get Lost (มาหลงทางไปกับเรากันเถอะ) เนือ่ งจากมีจดุ เด่นอยูท่ ี่ Pig Bars และงานปาร์ตสี้ ไตล์ Amsterdam Spirit อันน่าจดจ�ำ ที่แม้แต่หมูยังบินได้ในงานนี้ !


- Plus Hostel (ยุโรป) : High Quality Accommodation with Amazing Facilities--Pools, Saunas, Bars, Fitness (ที่พักคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ชั้นเยี่ยม ทั้งสระว่ายน�้ำ ซาวน่า บาร์ ฟิตเนส) - Hotel Euler (บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์) : It’s not a Hotel, it’s a way of life (ไม่ใช่แค่โฮเต็ล แต่เป็นการใช้ชีวิต) - Astor Hostel (ลอนดอน, อังกฤษ) : Loving London (ลอนดอนที่รัก) - Nui Hostel (โตเกียว, ญี่ปุ่น) : Beyond the Borders (ก้าวข้ามพรมแดน) นอกจากนี้ยังมีสโลแกนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น The Best Value Under The Sun (คุ้มค่าที่สุดภายใต้ดวงอาทิตย์นี้), Life like a King in a Student Price (อยู่อย่างราชาในราคานักเรียน), Stay Here and Die (พักที่นี่ก่อนค่อยตาย), Your Sweetest Dream (ฝันอันแสนหวานที่สุดของคุณ) มาร์เก็ตติ้งคือการสื่อสาร เมือ่ มีแบรนด์แล้ว เราต้องมีการสือ่ สารแบรนด์อย่างต่อเนือ่ ง หลักง่ายๆ ของการ ตลาดและการสื่อสาร (Marketing & Communication) คือ ท�ำอย่างไรก็ได้ให้โฮสเทล ของเรามีการเคลื่อนไหวและมีสีสันอยู่ตลอดเวลา สาร (Message) นี้จะต้องถูกส่งต่อไป ยังกลุ่มลูกค้าในโทนที่เขาชอบผ่านช่องทางที่คุ้นเคย ถ้าเราหยุดท�ำเรื่อง Marketing & Communication กลุ่มลูกค้าที่รอรับฟังอยู่ จะเกิดการขาดตอน หรือคิดว่าเราหายไปจากตลาดแล้ว น่าสังเกตว่าหลายๆ โฮสเทลเปิดตัวอย่างอลังการ และลงทุนด้านการตลาดและ การสือ่ สารอย่างดี แต่เมือ่ เวลาผ่านไปกลับขาดการสือ่ สารและประชาสัมพันธ์กบั กลุม่ ของ ลูกค้าของตนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราต้องพยายามให้มีการติดต่อกับลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อให้เขาสามารถจดจ�ำ เราได้ อาจท�ำแคมเปญสนุกๆ ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับโฮสเทลได้ไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น The Flying Pig Hostel ในอัมสเตอร์ดมั และ The Yellow Hostel ในโรม ทัง้ สองแห่งนี้ เป็น Bar Hostel ที่ต่างก็เน้นแคมเปญที่สื่อสารเรื่องการปาร์ตี้ โดยไม่พูดถึงเรื่องอื่นเลย หรือการส่งข้อความกลับไปหาลูกค้าในวาระพิเศษเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันครบรอบ การเข้ามาพัก

THE HOSTEL BIBLE

111


อยากท�ำโฮสเทลต้องลงทุนเท่าไร หลักในการลงทุน ซึ่งสามารถน�ำไปใช้ได้ส�ำหรับทุกธุรกิจ นั่นคือ ลงทุนตามก�ำลังที่มี เพราะหากลงทุนเกินก�ำลังจะน�ำไปสู่การก่อหนี้ได้ แม้ว่าเราจะตั้งงบในใจไว้ แต่เมื่อใดก็ตามที่ใช้งบประมาณไม่ได้ตามก�ำหนดหรือ ไม่ควบคุมงบประมาณให้ดี ก็จะมีปญ ั หาเกิดขึน้ ตามมา ยิง่ ถ้าเป็นโครงการทีใ่ ช้เงินกู้ แล้วไม่ ประสบความส�ำเร็จ สิ่งนี้จะกลายเป็นภาระในอนาคต หลักการท�ำธุรกิจโฮสเทล ไม่มกี ฎการลงทุนทีต่ ายตัว แต่ให้มองง่ายๆ ว่า เมือ่ เรา ลงทุนค้าขายไป 100 บาท ก็ควรมีกำ� ไรอยูท่ ี่ 35 บาท คือ 35 เปอร์เซ็นต์ ลองน�ำตัวเลขนี้ ไปค�ำนวณความเป็นไปได้ในการลงทุน (Feasibilities) โดยธรรมชาติของธุรกิจโฮสเทล ก�ำไร 35 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นตัวเลขที่ท�ำแล้ว พอจะมีกำ� ลังใจในการท�ำงาน แต่ถา้ น้อยกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าน้อยเกินไป ไม่คมุ้ ค่า ห้ามท�ำเด็ดขาด การลงทุนในโฮสเทล สามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณีใหญ่ๆ คือ กรณีเป็นเจ้าของ อาคารอยู่แล้ว กับกรณีที่ต้องเช่าและปรับปรุงอาคารสถานที่ กรณีเป็นเจ้าของอาคารอยูแ่ ล้ว จะใช้เงินทุน รวมถึงเงินค่ารีโนเวตสถานทีท่ ไี่ ม่สงู มากนัก อาจเฉลีย่ เป็นการลงทุนต่อห้องพักอยูท่ ปี่ ระมาณห้องละ 100,000-200,000 บาท กรณีที่ต้องเช่าและปรับปรุงอาคารสถานที่ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจาก มีค่าเช่ารายเดือนเป็นค่าใช้จ่ายประจ�ำ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารอีกก้อน หนึง่ ซึง่ จะท�ำให้ตน้ ทุนการลงทุนสูงกว่าในกรณีแรก ทัง้ ค่าเซ้งอาคาร ค่าตกแต่ง ค่าอุปกรณ์ ประกอบโฮสเทล เช่น อุปกรณ์เครือ่ งนอน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์แม่บา้ น อุปกรณ์ เครื่องใช้ส�ำหรับแขก THE HOSTEL BIBLE

112


มีวิธีค�ำนวณต้นทุนต่อเตียงอย่างง่ายๆ โดยทั่วไปแล้วค่าปรับปรุงและตกแต่ง ต่อเตียง รวมค่าปรับปรุงอาคาร สามารถเริม่ ต้นได้ทอี่ ย่างน้อย 50,000 บาทต่อเตียง โดยมี ทุกอย่างครบ (แต่หอ้ งพักทีไ่ ด้จะเป็นแบบพืน้ ฐานทัว่ ไป ไม่มคี วามประณีตสวยงาม เพียงแต่ พอใช้งานได้ และขายได้ในราคาที่ค่อนข้างต�่ำคือ 250-300 บาทต่อเตียง) แต่ถ้าต้องการเพิ่มราคาขายต่อเตียง ก็สามารถเพิ่มตัวเลขการลงทุนนี้ให้สูงขึ้น ตามความเหมาะสมและก�ำลังทรัพย์ได้ โดยสามารถลงทุนได้ถึงเตียงละ 150,000200,000 บาท คุณนพดล สุเนต์ตา แห่ง สุเนต์ตาโฮสเทล เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไว้ได้อย่าง น่าสนใจว่า... “ถ้าเราลองตัง้ โจทย์วา่ โดยเฉลีย่ ต้นทุนต่อเตียงอยูท่ ี่ 50,000 บาท จะเก็บค่าเข้าพัก ได้ 350 บาท แต่ถ้าอยากได้ตัวเลขค่าเข้าพักต่อเตียงสูงขึ้นที่ 500 หรือ 550 บาท จะท�ำ อย่างไร ค�ำตอบคือ ขึ้นอยู่กับความสะอาด โลเคชั่น การสร้างคุณค่าทางสถาปัตยกรรม คุณภาพของเครือ่ งนอน ห้องน�ำ้ รวม ความเป็นส่วนตัว และบริการอาหารเช้า เพราะราคา ค่าก่อสร้างเปลีย่ นแปลงไปทุกปี ดังนัน้ ราคาต้นทุนของโฮสเทลจึงไม่ได้อยูท่ กี่ ารลงทุนกับ วัสดุของเตียงหรือจ�ำนวนเตียงเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ปัจจัยแวดล้อมด้วย ทีส่ ำ� คัญ อย่ามองแค่เพียงโฮสเทลใกล้เคียงว่าเขาตัง้ ราคากันทีเ่ ท่าไหร่ แต่ให้มอง โรงแรมบริเวณใกล้เคียงด้วย เพราะลูกค้าย่อมมีการเปรียบเทียบ ยกตัวอย่าง ห้องพักเตียงคูข่ องโรงแรม รวมอาหารเช้า ราคาต่อห้องคืนละ 1,000 บาท นอนได้ 2 คน ถ้าโฮสเทลเราท�ำเตียงอยู่ที่ราคา 500 บาท เปรียบเทียบกับการเข้าพัก โรงแรม ราคาเมื่อหารเฉลี่ยต่อ 2 คน เหลือคนละ 500 บาทเท่ากัน เราควรต้องออกแบบ ห้องพักให้คมุ้ ค่ากว่า เพือ่ ไม่ให้ลกู ค้าเกิดค�ำถามว่า “ระหว่างนอนโฮสเทลกับนอนโรงแรม จะเลือกอย่างไหนดี” อย่าลืมว่า ธุรกิจโฮสเทลเป็นธุรกิจต้นทุนต�่ำ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกของโฮสเทล สูโ้ รงแรมไม่ได้ การออกแบบให้ราคาถูกกว่าก็เป็นหนึง่ ทางเลือก หรือการออกแบบให้ราคา แพงกว่าก็ย่อมท�ำได้ แต่คุณต้องตอบตนเองให้ได้ว่า จะมีสิ่งใดเป็นพิเศษให้กับลูกค้าบ้าง ส�ำหรับธุรกิจโฮสเทล หลายครั้งความพิเศษไม่ได้อยู่ที่การลงทุน หรือเตียงนอน ที่นุ่มสบายเท่านั้น แต่ค�ำตอบอาจอยู่ที่โลเคชั่นและการออกแบบบริการได้เช่นกัน โฮสเทลเป็นธุรกิจที่พักก็จริง แต่ไม่ได้ขายแค่เตียงให้แขกมาเช่านอนเท่านั้น แต่คือการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่น่าประทับใจในการพักผ่อนให้กับลูกค้า”

THE HOSTEL BIBLE

113


ยิ่งลงทุนต�่ำ = ยิ่งคืนทุนเร็ว จ�ำไว้เสมอว่า รายได้ของเราเริ่มต้นเพียงหลักร้อย ดังนั้น อย่ามือเติบในการลงทุน ในกรณีที่ต้องเช่า อย่าให้ค่าเช่าเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ประมาณการต่อเดือน

เราลองมาค�ำนวณผลก�ำไรง่ายๆ ของโฮสเทล ด้วยหลักการดังนี้ โดยเฉลี่ย ราคาตลาดจะค�ำนวณไว้ที่เตียงละ 300 บาท ต่อคืน โฮสเทลของคุณมี 50 เตียง 1 เดือนมี 30 วัน ถ้าอัตราการเข้าพักเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยคุณท�ำรายได้ วันละ 15,000 บาท (50 เตียง X 300 บาท) ต่อเดือน 450,000 บาท (50 เตียง X 300 บาท X 30 วัน) แต่ในความเป็นจริง ให้คุณตีค่าเฉลี่ยรายรับที่แท้จริงไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ นั่นแปลว่าต่อเดือน คุณจะมีรายรับ 225,000 บาท ซึง่ รายได้ตอ่ เดือนนี้ ควรจะครอบคลุมค่าใช้จา่ ยทัง้ หมด ทัง้ ค่าน�ำ้ ค่าไฟ ค่าซักผ้า ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าซ่อมบ�ำรุง ค่าเอกสาร ค่าจิปาถะ ค่าคนท�ำบัญชี และอย่าลืมเงินเดือน ตัวเอง ทริคง่ายๆ จงขีดเดดไลน์ไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของทุกวัน ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่า ธุรกิจโฮสเทลของคุณอยู่รอดหรือไม่ รายได้จะ เพียงพอกับรายจ่ายไหม และจะเหลือก�ำไรเท่าไหร่ ในกรณีการขายโฮสเทลผ่านเอเยนซี่ โดยธรรมเนียมเอเยนซีจ่ ะหักอยูท่ ี่ 20 เปอร์เซ็นต์ นั่นแปลว่า ตั้งราคาห้องไว้ 300 บาท แต่เงินจะเหลือมาถึงคุณจริงๆ 240 บาท

THE HOSTEL BIBLE

114


THE HOSTEL BIBLE

115


การจัดการโฮสเทล เคยสงสัยไหมครับว่า การจัดการโฮสเทลแตกต่างจากจัดการโรงแรมอย่างไร จริงๆ แล้ว ศาสตร์การจัดการของโฮสเทล (Hostel Operation) มีทั้งที่เหมือน และต่างจากของโรงแรม โดยปกติแล้ว การจัดการโฮสเทลจะแบ่งการให้บริการออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน คือ หนึง่ ช่วงก่อนเข้าพัก กิจกรรมต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ได้แก่ การได้รบั บุค๊ กิง้ (Booking) จากลูกค้า การยืนยันบุ๊คกิ้งของลูกค้า การให้ข้อมูลต่างๆ กับลูกค้า เช่น เส้นทางการเดิน ทางจากสนามบินมายังโฮสเทล การให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร คุณต้อง พยายามท�ำให้แขกลดข้อกังวลใจในการเดินทางมายังโฮสเทล และตอบอีเมล์อย่างรวดเร็ว ภายใน 24 ชั่วโมง สอง ช่วงระหว่างเข้าพัก การจัดการจะเริม่ ตัง้ แต่การดูแลภาพลักษณ์ของอาคาร สถานที่และบริเวณโดยรอบให้ดูสะอาดสะอ้านน่าพัก ถัดมาเป็นบรรยากาศในตัวโรงแรม ต้องดูอบอุ่น เป็นกันเอง พนักงานต้อนรับและเช็กอินด้วยความเป็นกันเอง ห้องพักสวย จริงตามรูป เครือ่ งใช้ไม้สอยในห้องพักใช้ได้จริงตามฟังก์ชนั่ การใช้งาน ห้องน�ำ้ สะอาด ไม่มี กลิน่ เหม็น ผ้าปูทนี่ อนไม่ขาด น�ำ้ ร้อนต้องร้อน แอร์ตอ้ งเย็น ทีวตี อ้ งดูได้ ฟูกนอนนุม่ สบาย กล่องนิรภัยใช้งานได้ ประตูหอ้ งล็อกสนิท อินเทอร์เน็ตแรงไม่สะดุด เครือ่ งซักผ้าหยอดเหรียญ ต้องใช้ได้จริง บริเวณพืน้ ทีส่ ว่ นกลางบรรยากาศน่านัง่ เฟอร์นเิ จอร์ไม่แตกหักหรือสกปรก เลอะเทอะ และรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องควบคุมให้อยู่ในสภาพที่ดี สาม ช่วงหลังเข้าพัก ควรจะมีการอีเมล์ไปสอบถามคุณภาพของการให้บริการ ว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่ เพราะหากเราปล่อยให้ลูกค้าเอาเรื่องการบริการที่ไม่ดี ของเราไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จะท�ำให้ได้รบั การรีววิ ทีไ่ ม่ดี ดังประโยคทีว่ า่ “ข่าวร้าย ลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์” ดังนั้น จึงควรบริหารจัดการเสียตั้งแต่เนิ่นๆ หรือบางครั้งลูกค้า อาจลืมทรัพย์สินมีค่าไว้ที่โฮสเทล ก็ควรมีบริการส่งคืน จะช่วยท�ำให้ลูกค้าพึงพอใจ มากยิ่งขึ้น หรือยังให้บริการตอบข้อซักถามหลังจากที่ลูกค้าเช็กเอาต์ไปแล้ว เราต้องพยายามบริหารจุดสัมผัสของการบริการ (Touch Point) ต่างๆ ของโฮสเทล ให้เกิดประสิทธิภาพ ท�ำให้ลูกค้ารู้สึกดีและพยายามลดความเจ็บปวดของลูกค้าที่มีต่อ Touch Point ต่างๆ เหล่านั้น THE HOSTEL BIBLE

116


ประการส�ำคัญคือ การบริหารโฮสเทลต้องมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยน ได้เสมอ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น บางครั้งเพื่อจัดการระบบจองห้องอาจมี การเปลี่ยนให้ลูกค้าได้พักห้องที่ดีขึ้น หลายครั้งพบว่านักบริหารโรงแรมมาตรฐานไม่ ประสบความส�ำเร็จในการบริหารโฮสเทล เนือ่ งจากไม่เข้าใจธรรมชาติของลูกค้าประเภท แบ็กแพ็กเกอร์ ขณะเดียวกันต้องมีการบริหารความรูส้ กึ ของลูกค้าด้วย เช่น การส่งอีเมล์ ไปอวยพรวันเกิด หรือทักทายในวาระส�ำคัญอื่นๆ ซึ่งมีดังนี้

คราวนีเ้ ราจะมาดูระบบบริหารจัดการโฮสเทลส่วนทีเ่ ป็นซอฟต์แวร์ตา่ งๆ กันบ้าง

1. ระบบ PMS (Property Management System) เป็นระบบการบริหาร จัดการห้องพัก โดยการจัดสรรห้องพักให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งวันที่เข้าพัก ระยะเวลาที่เข้าพัก และประเภทของห้องพักที่ลูกค้าต้องการจะใช้ งาน PMS ส่วนใหญ่ จะรวมถึงระบบการบันทึกรายได้จากการขายห้องพัก และรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับส่วน ของอาหารและเครื่องดื่ม 2. ระบบ POS (Point of Sale) ระบบนี้เป็นการบันทึกรายได้จากการขาย อาหารและเครือ่ งดืม่ บางครัง้ รวมถึงรายได้จากการขายของช�ำร่วย ของทีร่ ะลึกต่างๆ โฮสเทล ส่วนใหญ่จะมีระบบ POS แยกออกจากระบบ PMS 3. ระบบ Hotel Doorlock เป็นระบบส�ำหรับการออกคีย์การ์ด ในกรณีที่ โฮสเทลนั้นใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออกประตูทางเข้าและห้องพัก 4. ระบบบัญชี (General Ledger) เป็นระบบการบันทึกบัญชีรบั -จ่ายของโฮส เทลในแต่ละวัน 5. ระบบ HR (Human Resource Management) เป็นระบบการบันทึก การท�ำงานของพนักงาน เช่น ประวัติ ผลงาน เพือ่ ใช้ในการประเมินความสามารถ ประเมิน เงินเดือน ระบบนีช้ ว่ ยในการบริหารเงินเดือนของพนักงานและบันทึกการขาด ลา มาสาย

THE HOSTEL BIBLE

117


การบริการและทีมงาน ถึงที่สุดแล้วโฮสเทลคือธุรกิจให้บริการด้านที่พัก คุณอาจตกแต่งอย่างโก้เก๋ มีท�ำเลเยี่ยม สิ่งเหล่านี้จะดึงดูดลูกค้ามาในครั้งแรก แต่สิ่งที่จะท�ำให้ลูกค้ากลับมาในครั้ง ที่สองหรือครั้งต่อๆ ไป มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือ การบริการ และการบริการที่ให้ผลลัพธ์ สูงสุดในธุรกิจโฮสเทล คือ การบริการที่ยืดหยุ่น เพื่อช่วยเหลือให้ลูกค้าได้และสมควรได้ ในสิ่งที่ต้องการ ในการท�ำอาชีพนี้ ขอบอกเลยว่าคุณจะได้พบกับทั้งประสบการณ์ที่ซาบซึ้ง ตรึงใจ และประสบการณ์ที่แสบสันต์สุดขั้วชนิดคาดไม่ถึง ซึ่งส่วนใหญ่วนเวียนอยู่กับ เรือ่ งเซ็กซ์ การขับถ่าย การขโมย การเมาแล้วรัว่ แม้แต่ความเชือ่ อันแปลกประหลาด ทีมงาน ของคุณต้องสามารถสร้างความสุขให้กบั ลูกค้าผูน้ า่ รัก ขณะเดียวกันก็พร้อมรับมือกับลูกค้า ประเภทโหด มัน ฮา ได้พร้อมๆ กัน โดยทีมงานของโฮสเทลต้องมีทกั ษะต่างๆ ดังต่อไปนี้ - ทักษะในการแก้ปัญหาแบบพลิกแพลง เพราะคุณก�ำลังจะได้เจอกับเรื่องที่ จินตนาการยังไงก็ไม่มีวันคิดออกว่าคนเราจะท�ำสิ่งนี้ได้ - ทักษะในการให้ขอ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ลูกค้า ตัง้ แต่อะไรทีไ่ หนอร่อย บาร์ทไี่ หน น่านั่ง รถเมล์สายต่างๆ ตารางเวลารถไฟ กลเม็ดต่อรองราคา ไปจนถึงค่ายสอนต่อยมวย - ทักษะในการสร้างบรรยากาศทีล่ ะลายพฤติกรรมระหว่างคนแปลกหน้า สร้าง ความสนุกสนาน และเป็นกันเอง - ทักษะในการท�ำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เล่นเกม ชงเหล้า เล่นหมากรุก อาจกล่าวได้ว่า โฮสเทลที่ดีต้องมีคนหนึ่งคนที่ท�ำหน้าที่ในการสื่อสารกับลูกค้า โดยเฉพาะ บางแห่งเรียกต�ำแหน่งนีว้ า่ Director of Possibilities, Friendship Manager หรือแม้แต่ Mr. Fun

THE HOSTEL BIBLE

118

ทีมงานแม่บ้านมีจุดขายคือความสะอาด และเป็นอีกหนึ่งหัวใจส�ำคัญที่ท�ำให้ ลูกค้าตัดสินใจมาพักโฮสเทล องค์ประกอบของความสะอาด ประกอบด้วย 1. สะอาดจากการเห็นด้วยตา หมายถึง สิ่งที่ลูกค้ามองเห็นได้ เริ่มตั้งแต่บริเวณ ทางเข้าของอาคาร ต้องสะอาด ไม่มขี า้ วของรกรุกรัง พอเดินเข้ามาในล็อบบีท้ กุ อย่างต้อง ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เคาน์เตอร์เช็กอินต้องสะดวกต่อการลงทะเบียนเข้าพัก ไม่มี อะไรวางเกะกะบนเคาน์เตอร์ บริเวณทีน่ งั่ พักในล็อบบีไ้ ม่มเี ศษขยะทิง้ เกลือ่ นกลาดอยูใ่ น บริเวณนัน้ ระหว่างเดินไปห้องพักไม่มเี สือ้ ผ้าแขวนระเกะระกะตามราวบันได พอก้าวเข้ามา ในห้องพักต้องดูสะอาดสะอ้านน่าพักผ่อน


2. สะอาดจากการสัมผัส หมายถึง สิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้จากการใช้งานจริง หรือ สัมผัสด้วยมือ เช่น เฟอร์นเิ จอร์ โต๊ะ เก้าอีไ้ ม่มฝี นุ่ เกาะ ไม่มคี ราบเหนียวเหนอะหนะ ผ้าห่ม เนื้อนุ่มผ่านการซักมาอย่างดี อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ อยู่ในสภาพดีใช้งานได้ปกติ 3. สะอาดจากการสัมผัสด้วยกลิ่น เป็นเรื่องของกลิ่นในแต่ละส่วนของโฮสเทล กล่าวโดยรวมคือ ต้องไม่มกี ลิน่ อับหรือกลิน่ เหม็น ทัง้ ในบริเวณล็อบบี้ ห้องพัก ห้องน�ำ้ ต้องมี ระบบระบายอากาศที่ดี โฮสเทลส่วนใหญ่ที่ดัดแปลงจากตึกแถวมักมีปัญหาเรื่องกลิ่น เนื่องมาจากการระบายอากาศที่ไม่ดี ดังนั้น ควรค�ำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากขึ้น 4. ใจสะอาด หมายถึง การไม่เอาเปรียบลูกค้าจนเกินไป เช่น เอาผ้าเช็ดตัวหรือ ผ้าปูทนี่ อนที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ตอ่ การใช้งานมาบริการลูกค้า เช่น มีรอยขาด รอยปะ รอยเย็บ ด้านความปลอดภัย พื้นฐานความปลอดภัยที่โฮสเทลควรมี ได้แก่ 1. ระบบป้องกันอัคคีภัย ควรมีทางหนีไฟในกรณีที่เกิดเหตุ 2. ถังเคมีดับเพลิง 3. ระบบสัญญาณแจ้งเหตุไฟไหม้ (Fire Alarm System) 4. ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) 5. ระบบควบคุมการเข้า-ออกอัตโนมัติ (Access Control System) และระบบล็อกประตูโรงแรม (Hotel Doorlock) หากมี ป ระกั น ภั ย บุ ค คลที่ ส ามส� ำ หรั บ ลู ก ค้ า ที่ เข้ า พั ก ถื อ ว่ า เป็ น โบนั ส ที่ ดี ส�ำหรับพวกเขา หลักการค�ำนวณจ�ำนวนพนักงาน มีหลักการค�ำนวณง่ายๆ เราลองมาดูจากตัวอย่างนี้กัน สมมติวา่ โฮสเทลของคุณมีจำ� นวนเตียง 100 เตียง ในขัน้ ตอนการเช็กอินต่อเตียง ต้องใช้เวลา 5 นาที ดังนั้น คุณต้องใช้เวลาทั้งหมด 500 นาที (5 นาที X 100 เตียง) หรือ เท่ากับ 8.3 ชั่วโมง (500 นาที หาร 60 นาที) ต่อพนักงานหนึ่งคน จะเห็นได้ว่า ในจ�ำนวนเตียง 100 เตียง ถ้าใช้พนักงานเพียง 1 คน จะไม่สามารถ รองรับปริมาณลูกค้าได้ (นี่แค่การเช็กอินอย่างเดียว ยังไม่รวมการเช็กเอาต์ การสอบถาม ข้อมูลและตอบค�ำถามต่างๆ !) หากคุณเพิม่ พนักงานเป็น 2 คน จะลดปริมาณงานลงเหลือ เพียง 4 ชั่วโมงต่อพนักงานหนึ่งคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ลองน�ำหลักการนี้ไปใช้กับโฮสเทลของคุณดูนะครับ แล้วคุณจะค่อยๆ พบสูตรที่ เหมาะสมส�ำหรับตัวเองในที่สุด

THE HOSTEL BIBLE

119


THE HOSTEL BIBLE

120


รุ่งหรือร่วง ก็เพราะรีวิวนี่แหละ “รีวิว” แทบจะเป็นการตลาดทางอ้อม ที่ท�ำให้ธุรกิจรุ่งหรือร่วงมานักต่อนัก เทรนด์ยคุ ใหม่เป็นยุคทีค่ นแทบจะไม่เชือ่ ผูผ้ ลิตหรือแบรนด์โดยตรง แต่ผบู้ ริโภค เลือกทีจ่ ะฟังเสียงจากปากต่อปาก ของผูท้ เี่ คยผ่านประสบการณ์จากแบรนด์นนั้ ๆ มาแล้ว ก็บอกต่อ แล้วจะท�ำอย่างไรให้ได้รีวิวที่ดี หรือมีวิธีการจัดการกับรีวิวที่ไม่ดีอย่างไร ส�ำหรับรีวิวที่ดี เราควรเข้าไปทักทาย ตอบกลับ หรือขอบคุณผู้ที่มารีวิว ส่วนจะ ท�ำอย่างไรถึงจะได้รวี วิ ทีด่ ี เคล็ดลับง่ายๆ เลย คือ “ขอ” ครับ ขอจากลูกค้าของเรานีล่ ะ เมือ่ ไหร่กต็ ามทีม่ จี งั หวะ รูส้ กึ ได้วา่ แขกของเราก�ำลังมีความสุข ควรขอให้เขาช่วย รีววิ ออนไลน์ผา่ นช่องทางอะไรก็ตามทีแ่ ขกนิยมใช้ในการจองห้องพัก เพราะเสียงตอบรับ จากลูกค้าถือเป็นหนึ่งเสียงส�ำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ตัดสินใจเลือกที่จะมาพัก กับเรา ทัศนคติของลูกค้าของเรามีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าคนอื่นๆ ที่จะตามมา ดังนั้น ค�ำเดียวเลยครับ... “จงกล้าที่จะขอรีวิวจากแขก” ดังชั่วข้ามคืน สูตรที่จะท�ำให้โรงแรมของคุณโด่งดังนั้นง่ายมาก คือ ท�ำให้ดี แล้วเดี๋ยวก็ดังเอง เช่นเดียวกับศาสตร์การท�ำก๋วยเตี๋ยวที่อย่ามัวงกเส้น ประหยัดเครื่อง ในการท�ำ ธุรกิจโฮสเทล ทีพ่ กั ต้องสะดวกสบาย คุณอยากได้แบบไหนมากกว่ากัน ระหว่างความยัง่ ยืน หรือแค่ดังวูบวาบ ถ้าท�ำโฮสเทล คนลองแล้วไม่ดีจริง ดังแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ลืม โฮสเทลหรือบูติคโฮเต็ลที่โด่งดังอย่างรวดเร็ว ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1. จุดขายมีความโดดเด่นมากๆ จนคนอื่นอยากที่จะมีจุดขายแบบนี้ อาจเป็น ได้ทั้งเรื่องท�ำเล การตกแต่ง หรือกิจกรรมส�ำหรับลูกค้า 2. จุดเด่นนั้นคนท�ำตามได้ยาก เช่น โฮสเทลทั่วไป อาหารเป็นขนมปังและแยม แต่ของคุณเป็นอาหารไทยรสดี เพราะคุณอยู่ใกล้ตลาด ท�ำให้สามารถหาซื้ออาหารได้ใน ราคาไม่แพง 3. กล้าขายข้อเสนอที่ลูกค้าไม่สามารถปฏิเสธได้ 4. จุดขายนัน้ สะท้อนเอกลักษณ์ของเมืองๆ นัน้ มีแง่มมุ ในการแบ่งปันประโยชน์ ให้สังคม (Creating Share Value) เกิดการกระจายรายได้ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ มีการจ้างงานคนด้อยโอกาส มีส่วนร่วมด้านการศึกษา การฝึกอาชีพ คุณสมบัตขิ อ้ สุดท้ายนีจ้ ะท�ำให้สอื่ มวลชน ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ รวมถึง สังคมให้ความสนใจโฮสเทลของคุณ จนคุณจะได้รับโอกาสในการออกสื่อฟรีบ่อยครั้ง อย่างแน่นอน

THE HOSTEL BIBLE

121


THE HOSTEL BIBLE

122

ภาษีและกฎหมาย โดยปกติการท�ำธุรกิจโฮสเทลจะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2547 โดยไม่มีการแยกประเภทว่าเป็นโฮสเทล โฮเต็ล โมเต็ล Bed & Breakfast หรือ รีสอร์ต สรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่พักประเภทใดก็ตาม ถือเป็นธุรกิจโรงแรมภายใต้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ทั้งสิ้น หากมีการน�ำอาคารเก่า เช่น ตึกแถวเก่า บ้านเก่า อาคารส�ำนักงานเก่า มาดัดแปลง เป็นโฮสเทล บอกได้เลยว่า คุณไม่มีโอกาสที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ภายใต้พระราชบัญญัติโรงแรมนี้ ทุกวันนี้โฮสเทลส่วนใหญ่ต่างด�ำเนินธุรกิจโดยไม่มีใบ อนุญาตประกอบกิจการ แต่หากคุณต้องการให้ธรุ กิจโฮสเทลของคุณถูกต้องตามกฎหมาย มีทางเดียวคือ ต้องสร้างอาคารใหม่ให้ถูกต้องตรงตามที่ก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร และพระราชบัญญัติโรงแรม เท่านั้น กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการท�ำธุรกิจโฮสเทล ที่คุณต้องรู้ไว้ มีดังนี้ • พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร โรงแรมถือเป็นอาคารสาธารณะที่อยู่ภายใต้ การควบคุมของพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ซึ่งมีข้อก�ำหนดในเรื่องการออกแบบที่ ค่อนข้างละเอียดอ่อน ประเด็นหลักคือ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งต้องใช้สถาปนิก และวิศวกรงานระบบที่มีความช�ำนาญในการออกแบบโรงแรม มาเป็นผู้ออกแบบให้ ถูกต้องตามกฎหมาย และหากคุณมีโฮสเทลตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป ต้องผ่านขั้นตอนการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment หรือ EIA) เพื่อ ตรวจสอบผลกระทบสิง่ แวดล้อมทีจ่ ะเกิดขึน้ อันเนือ่ งมาจากการก่อสร้างโฮสเทลของคุณ หากคุณท�ำโฮสเทลตัง้ แต่ 80 ห้องขึน้ ไป และผ่านกระบวนการ EIA เสร็จเรียบร้อย แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การยื่นเรื่องขอปลูกสร้างอาคาร (ใบ อ.๑) ซึ่งคุณต้องไปยื่นเรื่อง ต่ออ�ำเภอหรือเทศบาลในเขตพืน้ ทีน่ นั้ ๆ ความยากง่ายในการได้รบั ใบอนุญาตก่อสร้างขึน้ อยู่กับว่าแบบของคุณออกแบบได้ถูกต้องตรงตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารหรือไม่ และขึ้นอยู่กับความสามารถของนายหน้าที่คุณว่าจ้างไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่ออ�ำนวย ความสะดวกในทางราชการ เมื่ออาคารก่อสร้างไปได้ราว 70-80 เปอร์เซ็นต์ ขั้นตอนต่อมา คุณต้องด�ำเนิน การขออนุญาตเปิดการใช้อาคาร โดยยื่นเรื่องขอใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (ใบ อ.๖) จากเจ้าหน้าที่ที่อ�ำเภอหรือเทศบาลที่เคยไปติดต่อก่อนหน้านี้


หากโรงแรมใกล้แล้วเสร็จประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องด�ำเนินการขอใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรมจากกระทรวงมหาดไทย หรือทางจังหวัด นอกจากนั้นยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การขอใบอนุญาตขาย แอลกอฮอล์และบุหรี่จากกรมสรรพสามิต การขอใบอนุญาตจ�ำหน่ายอาหารหรือสะสม อาหารจากเทศบาล แต่ในกรณีที่น�ำอาคารเก่ามาซ่อมแซมหรือดัดแปลงอาคารนั้น (เดิมอาคารของ คุณเป็นอาคารประเภทพักอาศัย และดัดแปลงมาเป็นอาคารเพือ่ ประกอบกิจการโรงแรม) คุณต้องขออนุญาตซ่อมแซมจากเทศบาลเท่านั้น แต่ไม่สามารถขออนุญาตดัดแปลง อาคารได้ เพราะเทศบาลจะไม่สามารถอนุญาตให้คุณดัดแปลงอาคารได้ ถ้าหากสนใจศึกษาเกีย่ วกับขัน้ ตอนการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร สามารถเข้าไป ดูได้ที่ http://office.bangkok. go.th/preservices/public.htm ส่วนขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.damrongdhama. moi.go.th/PDF/dopa05.pdf ปัจจุบนั พระราชบัญญัตโิ รงแรมยังไม่ได้รองรับ หรือมีการก�ำหนดว่าห้องพักนอน รวมทีม่ ลี กู ค้าตัง้ แต่ 50 เตียงขึน้ ไป จะต้องมีหอ้ งน�ำ้ กีห่ อ้ ง ถังดับเพลิงกีถ่ งั ทางหนีไฟระยะ ขั้นต�่ำเท่าไร ฯลฯ เมื่อยังไม่มีกฎหมายที่ออกมาเฉพาะเจาะจงส�ำหรับธุรกิจโฮสเทล ค�ำแนะน�ำส�ำหรับมือใหม่ในธุรกิจนี้ คือ ลองไปปรึกษาส�ำนักเขต เพื่อรับค�ำแนะน�ำเป็น รายกรณีไป โดยคุณสามารถจดทะเบียนเป็นห้างหุน้ ส่วนจ�ำกัด บริษทั จ�ำกัด หรือเป็นบุคคล เพื่อท�ำธุรกิจโฮสเทลนี้ได้ • กฎกระทรวงส�ำหรับที่พักขนาดเล็ก หลังการออกพระราชบัญญัตโิ รงแรม พุทธศักราช 2547 กระทรวงมหาดไทยได้ออก “กฎกระทรวงก�ำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พุทธศักราช 2551” โดยก�ำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมและประเภทของโรงแรม โดยแบ่งโรงแรม ออกเป็น 4 ประเภท พร้อมก�ำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขส�ำหรับโรงแรมทุกประเภท ดังกล่าว เพือ่ ประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเทีย่ วในเชิงอนุรกั ษ์ให้ได้รบั ความนิยมมากขึน้ และให้แต่ละท้องถิน่ สามารถประกอบธุรกิจให้บริการสถานทีพ่ กั ขนาดเล็กเป็นรายได้เสริม เพื่อเผยแพร่และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น

THE HOSTEL BIBLE

123


กฎกระทรวงฉบับนี้ได้ก�ำหนดให้สถานที่พักขนาดเล็ก ต้องมีไม่เกิน 4 ห้องและ จ�ำนวนผูพ้ กั ไม่เกิน 20 คน โดยตัง้ ขึน้ เพือ่ ให้บริการแบบมีคา่ ตอบแทน และไม่เป็นโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม ส่วนการก�ำหนดประเภทโรงแรม 4 ประเภท ประกอบด้วย 1) โรงแรมที่ให้บริการเฉพาะห้องพัก 2) โรงแรมที่ให้บริการห้องอาหารด้วย 3) โรงแรมทีใ่ ห้บริการห้องพัก ห้องอาหาร และสถานบริการหรือห้องประชุมสัมมนา 4) โรงแรมทีใ่ ห้บริการทัง้ ห้องพัก ห้องอาหาร สถานบริการ และห้องประชุมสัมมนา ที่พักใดที่มีจ�ำนวนห้องพักรวมกันไม่เกิน 4 ห้องและมีจ�ำนวนผู้พักรวมกัน ทัง้ หมดไม่เกิน 20 คน จึงไม่ถอื ว่าเป็นโรงแรม ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้

THE HOSTEL BIBLE

124

การบ�ำรุงรักษา การบ�ำรุงรักษาโฮสเทลแบ่งออกได้เป็น 2 เรือ่ ง คือเรือ่ ง Hardware และ Software มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ Hardware คือ การดูแลรักษาและตกแต่งสถานที่ งานระบบน�้ำไฟ ผ้าปูเตียง พื้นที่สีเขียว ความสะอาดทั้งภายในตัวอาคารและพื้นที่ด้านหน้า เป็นต้น เนื่องจาก Hardware เป็นสิง่ ทีส่ ร้างรายได้ จึงควรปรับปรุงให้พร้อมใช้งานอยูเ่ สมอ เพราะคงไม่มลี กู ค้า คนไหนที่ต้องการมาพักในโฮสเทลที่ดูเก่าโทรมและใช้งานไม่ได้จริง การดูแลในส่วนของแม่บ้าน หัวใจส�ำคัญคือความสะอาดของห้องพักและที่นอน เช่น ผ้าขาดแล้วไม่นำ� กลับมาใช้ ฟูกเลอะต้องรีบท�ำความสะอาด อุปกรณ์ทำ� ความสะอาด ต้องพร้อมใช้งาน Software คือ การดูแลรักษาระดับการบริการ การสื่อสารกับลูกค้า การสื่อสาร ผ่านทางโซเชียลมีเดียในทุกรูปแบบ และการสื่อสารแบรนด์ที่ต้องท�ำอย่างต่อเนื่องไปใน ทิศทางเดียวกัน ที่ส�ำคัญที่สุด อย่าลืมดูแลความรู้สึกและความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ในทุกมิติ เพราะในธุรกิจที่พักนี้ คุณอาจไปรบกวนเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อสร้าง และรบกวนอย่างต่อเนือ่ งตราบเท่าทีย่ งั เปิดด�ำเนินการอยู่ ไปจนถึงวันสุดท้ายทีค่ ณ ุ จะท�ำ ธุรกิจนี้ เพราะคุณได้พาคนแปลกหน้าจ�ำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ อาจจะก่อให้เกิดมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด หรือมลภาวะทางเสียง ดังนั้น อย่าลืมที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน โดยการสื่อสารหรือมีของก�ำนัล อย่างสม�่ำเสมอ หรือแม้แต่การกระจายรายได้ให้ทั่วถึง ด้วยการดึงเพื่อนบ้านมาเป็นหุ้น ส่วนในกิจการย่อยๆ ในโฮสเทลของคุณ เพื่อสร้างความเป็นมิตรและท�ำให้พวกเขายินดี ที่จะสนับสนุนกิจการของคุณ


เตรียมตัวเมื่อจะออกจากธุรกิจ ในการท�ำธุรกิจทุกประเภท ต้องมีทงั้ การเตรียมตัวเพือ่ ทีจ่ ะเริม่ ต้น รวมทัง้ เตรียม ตัวเมื่อจะออกจากธุรกิจ ไม่ว่าจะออกโดยสมัครใจ หรือออกโดยสถานการณ์บีบบังคับ ก็ตาม โดยทัว่ ไป แม้วา่ ธุรกิจโฮสเทลก�ำลังไปได้ดี แต่เจ้าของอาจเลิกกิจการด้วยสาเหตุ 2 ประการหลักๆ คือ 1. ชอบเริม่ ต้นธุรกิจทีเ่ กีย่ วข้องกับการบุกเบิกและการสร้างสรรค์ แต่ไม่ชอบงาน บริหารโฮสเทลเพราะเป็นเรื่องจุกจิก 2. ธุรกิจไปได้สวย ถ้าขายตอนก�ำลังรุ่งก็จะมีก�ำไรเยอะ ในกรณีนี้มีทั้งที่ตั้งใจท�ำ แต่แรกเพือ่ ขาย และไม่ได้ตงั้ ใจมาก่อน แต่เมือ่ ธุรกิจไปได้ดกี ม็ กั มีนกั ลงทุนมาขอซือ้ กิจการ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เมื่อคุณต้องการไปซื้อกิจการโฮสเทลแห่งใดแห่งหนึ่งที่ เจ้าของต้องการขาย คุณต้องตรวจตราสิ่งต่างๆ ตลอดจนเอกสารและข้อมูลดังต่อไปนี้ ให้ครบถ้วน 1. อาคารต้องอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมด�ำเนินการต่อไปได้ทันที 2. เอกสารสิทธิ์ที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน 3. สถานะทางการเงิน ว่ามีการน�ำทรัพย์ไปจ�ำนองหรือใช้เป็นหลักทรัพย์ในการ กู้เงินที่ไหนหรือไม่ 4. เอกสารในการด�ำเนินธุรกิจนั้นๆ ตามกฎหมาย 5. เอกสารพิมพ์เขียว แบบแปลนการก่อสร้าง พร้อมรายละเอียดงานระบบน�้ำ และไฟ 6. รายการสินทรัพย์ที่อยู่ในอาคารทั้งหมด และสภาพความสมบูรณ์ 7. แนวโน้มและโครงการต่างๆ ในอนาคต เช่น ใน 5 ปีจะมีโครงการอะไรขึ้น ใกล้ๆ จะถูกเวนคืนไหม จะมีรถไฟฟ้าผ่านหรือเปล่า ฯลฯ 8. บัญชีกระแสเงินสด ข้อนี้ส�ำคัญที่สุด เพื่อดูผลการด�ำเนินการที่ผ่านมา ก่อนทีค่ ณ ุ จะเริม่ ธุรกิจ ควรเตรียมเอกสารเหล่านีใ้ ห้พร้อม เพราะวันหนึง่ ข้างหน้า โฮสเทลของคุณอาจจะรุ่งเรืองและโด่งดังมากจนมีนักลงทุนมาขอซื้อ จะได้ไม่เสียโอกาส นะครับ THE HOSTEL BIBLE

125


วิธีท่ีดีที่สุดก่อนที่คุณจะลงทุนซื้อสินทรัพย์ที่มีการด�ำเนินการอยู่แล้ว นั่นคือ การจ้างทีมทีป่ รึกษาเพือ่ ให้เข้าไปส�ำรวจโครงการ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้กอ่ นทีค่ ณ ุ จะลงทุนจริง ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นหลักแสน แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จะลงทุน เป็นหลักล้าน

THE HOSTEL BIBLE

126


ห้องที่

4

เคาะประตูโฮสเทล (Case Study) THE HOSTEL BIBLE

127


EVERYONE LEAVES AS A FR

THE HOSTEL BIBLE

128


RIEND

THE HOSTEL BIBLE

129


ถ้าถามว่าทีไ่ หนคือโฮสเทลทีด่ ที สี่ ดุ ในประเทศไทย หลายคนคงตอบตรงกันว่า Lub d และถ้าถามต่อว่า โฮสเทลไหนถือเป็นโฮสเทลต้นแบบ ที่ผู้เริ่มลงทุนโฮสเทลแทบทุกคน จะต้องแวะเวียนไป (แอบ) ดู หรือแม้แต่ไปลองท�ำงาน เพื่อตักตวงความรู้ ค�ำตอบก็คือ Lub d เช่นกัน ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า เวลา 7 ปีทเี่ ปิดด�ำเนินการมานัน้ Lub d (หลับดี) เป็นทัง้ โฮสเทล บุกเบิกระดับต�ำนานทีเ่ ต็มไปด้วยเอกลักษณ์แบบไทยๆ และยังคงเป็นโฮสเทลยอดนิยมที่ ครบเครือ่ งมากทีส่ ดุ ทัง้ ด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟต์แวร์ (Software) ในด้านฮาร์ดแวร์ Lub d ทั้งสีลมและสยาม ถือว่าเป็นโฮสเทลที่ออกแบบได้อย่าง สวยงาม ทัง้ ด้านการตกแต่ง รวมไปถึงงานระบบน�ำ้ ไฟ ตัง้ แต่การมีหอ้ ง Common Room ที่มีบรรยากาศโปร่งโล่ง น่านั่ง สีสันสดใส และมีห้องที่จ�ำเป็นต่างๆ ครบถ้วน เช่น พื้นที่ อินเทอร์เน็ต พืน้ ทีด่ มื่ ชากาแฟ ห้องดูทวี ี มุมขายทัวร์ และยังมีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกอืน่ ๆ เช่น ห้องฝากกระเป๋า หรือห้องอาบน�ำ้ ส�ำหรับลูกค้าทีเ่ ช็กเอาต์ออกไปแล้ว ในส่วนห้องนอนรวมนัน้ เตียงนอนของ Lub d เป็นเตียงทีถ่ กู ออกแบบมาเป็นอย่างดี เพือ่ ให้นำ� ไปใช้งานได้จริงและมี ความสวยงาม ส�ำหรับด้านซอฟต์แวร์นั้น ความโดดเด่นของ Lub d เริ่มตั้งแต่การท�ำแบรนดิ้งและ การสื่อสารการตลาดกับลูกค้าที่ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก ด้วยหนังโฆษณา ชุด 1 Sentence, 1 Night Challenge ! (ฝรั่งหัดพูดส�ำนวนไทย) เช่น เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด / ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก ยักษ์เล็กไล่ยักษ์ใหญ่ / ยายกินล�ำไย น�้ำลายยาย ไหลย้อย ถ้าใครพูดได้จะได้นอนฟรี 1 คืน แคมเปญนีท้ ำ� ให้ชอื่ ของ Lub d โด่งดังไปทัว่ โลก อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการน�ำเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยมาเป็นจุดขายได้อย่างน่าสนใจ กุญแจความส�ำเร็จที่ส�ำคัญที่สุด คือทีมงานต้อนรับลูกค้าของ Lub d ที่สามารถสร้าง บรรยากาศทีส่ นุกสนาน ผ่านกิจกรรมมากมายทีเ่ ตรียมไว้เพือ่ ละลายพฤติกรรมลูกค้า เช่น ทุกคืนวันศุกร์จะมีปาร์ตี้ยาดอง หรือการพาลูกค้าไปไหว้พระ 9 วัด THE HOSTEL BIBLE

130


Lub d มี 2 สาขา ตั้งอยู่ที่สีลมและตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ มีห้องพักราคาเริม่ ต้น ตัง้ แต่ 580-1,580 บาท ห้องธรรมดา มีทงั้ ห้องเดีย่ วและห้องรวม และห้องพักส�ำหรับสุภาพ สตรี ราคาเริม่ ต้นตัง้ แต่ 390-1,850 บาท และราคาพิเศษส�ำหรับวันหยุด ตัง้ แต่ 390-500 บาท วันนี้ Lub d ทั้งสองสาขา ไม่เพียงเป็นโฮสเทลต้นแบบของเมืองไทยที่ได้รับรางวัล ต่างๆ มากมายเท่านัน้ แต่ยงั สะท้อนเอกลักษณ์และเสน่หแ์ บบไทยๆ ได้อย่างเด่นชัด รวมทัง้ ยังเป็นโฮสเทลของไทยรายเดียวที่ได้รับการยอมรับให้เป็นโฮสเทลระดับโลกอีกด้วย โดยผมได้มีโอกาสพูดคุยล้วงลึกถึงแนวคิดในการท�ำธุรกิจโฮสเทลกับ พี่ตุ่ย-จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Lub d Hostel ให้เป็นแบรนด์ดังระดับโลก จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันครับ

THE HOSTEL BIBLE

131


1 ปัจจุบน ั (ปี 2558) ธุรกิจโฮสเทลในบ้านเรา Q มีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง A ธุรกิจโฮสเทลในประเทศไทยมีแนวโน้มเป็นธุรกิจทีค่ นรุน่ ใหม่อยาก จะก้าวเข้ามาท�ำมากขึน้ เพราะการเซ็ตอัพไม่ยงุ่ ยากวุน่ วาย ยิง่ ถ้ามีพร็อพเพอร์ตี้ อยูแ่ ล้ว ยิ่งเซ็ตอัพได้ง่าย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้มีเด็กรุ่นใหม่อายุไม่ถึง 30 ปีหลายๆ คน มีแนว ความคิดอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจโฮสเทลเยอะขึ้น และด้วยจ�ำนวนโฮสเทล ที่ เพิม่ ขึน้ นีเ้ องจะส่งผลให้ลกู ค้ามีตวั เลือกมากขึน้ พร้อมกับราคาทีจ่ ะมีการแข่งขันกันไปด้วย ในตัว ซึ่งส�ำหรับคนที่เข้ามาใหม่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมีช่องทางในการพัฒนา โปรดักต์ให้ถูกใจลูกค้ามากขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ เมื่อมีผู้เล่นมากราย มาร์จิ้นก็จะเริ่มลดลง 2 คุณคิดว่า โดยทั่วไปคนไทยมีบุคลิกลักษณะหรือนิสัยใจคอที่ เหมาะกับการท�ำโฮสเทลมากน้อยแค่ไหน ผมไม่ค่อยห่วงคนรุ่นใหม่นะ เพราะพวกเขามีจุดเด่นเรื่องของภาษาและความอยาก ที่จะเรียนรู้ มีการ Cross Culture มากขึ้น แต่ถ้าเป็นคนรุ่นเก่า ผมมองว่าอาจจะติดขัด หรือล�ำบากบ้าง เพราะคนรุ่นเก่าอาจจะไม่ชอบพูดคุยกับคนอื่น 3 แล้วกระแส AEC ล่ะ จะท�ำให้ดีมานด์ (Demand) ของโฮสเทล ชัดเจนขึ้นหรือเปล่า คนรุน่ ใหม่ในแต่ละประเทศมีความต้องการทีอ่ ยากจะหา Experience หรือ Explore ตัวเองไปยังประเทศต่างๆ เพื่อเป็นประสบการณ์ในการท่องเที่ยวของตัวเอง ดังนั้น เมื่อ เทียบระดับราคาทีพ่ กั แล้ว โฮสเทลเป็นตัวเลือกทีต่ อบโจทย์ในแง่ของบัดเจ็ตและไลฟ์สไตล์ ในการท่องเทีย่ วมากกว่าโรงแรม เพราะราคาไม่แพง แต่ได้บรรยากาศของการพบปะผูค้ น ทั้งผู้คนท้องถิ่นและผู้คนที่มาพักในโฮสเทลเดียวกัน แต่ถ้าคุณไปนอนโรงแรม บัดเจ็ตใน การท่องเทีย่ วก็จะเหลือวันทีน่ อ้ ยลง สมมติวา่ คุณมีบดั เจ็ตอยู่ 10,000 บาท ถ้าไปนอนโรง แรมอาจจะนอนได้แค่ 2 คืน แต่ถา้ ไปนอนโฮสเทล คุณจะพักอยูไ่ ด้นานขึน้ สุดท้ายโฮสเทล มันจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องของบัดเจ็ตในการท่องเที่ยวโดยตรง THE HOSTEL BIBLE

132


4 เมื่อโฮสเทลเกี่ยวข้องกับบัดเจ็ต สิ่งนี้สัมพันธ์ในแง่ผู้ลงทุน ด้วยไหมครับ เช่น ลงทุนได้ถก ู กว่า ยกตัวอย่างถ้าเรามีเงิน สามล้านบาท เราจะท�ำโรงแรมได้กเี่ ตียง และท�ำโฮสเทลได้กเี่ ตียง จริงๆ เงินสามล้านท�ำโรงแรมแทบไม่ได้เลย แต่ว่าเงินจ�ำนวนเท่ากันสามารถท�ำ โฮสเทลได้ เวลาแบ่งบัดเจ็ตในการลงทุน มักจะแบ่งออกเป็น 4 ก้อน คือ 50 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับงบในการปรับปรุงสถานที่ ซึง่ ส่วนนีอ้ าจจะต้องลงทุนมากหน่อย โดยหลักการประมาณ 50% ของเงินที่เราลงทุน จะเป็นการลงทุนกับงานระบบในการ เข้าพักให้เสถียร แอร์เย็น น�้ำอุ่น 15-20 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับ OS&E (Operating Supply and Equipment) หรือข้าวของ ที่ใช้ในการบริการแขก รวมถึงอุปกรณ์และสิ่งอ�ำนวยความสะดวกที่อยู่ในห้องพัก เช่น ฟูกลินนิ โทรทัศน์ อุปกรณ์ตา่ งๆ ในห้องพัก ถ้าเราปรับปรุงใหม่ประเมินราคาที่ 50,000– 100,000 บาทต่อห้อง ดังนั้น ถ้าคุณมีกี่ห้องก็คูณจ�ำนวนห้องไป ในระบบ OS&E ของ โฮสเทล แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อย ส่วนแรกคือ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกในห้องพักแขก (Guest Room Equipment) ส่วนทีส่ องคือ พืน้ ทีท่ ลี่ กู ค้าใช้รว่ มกัน (Public Area) และส่วนทีส่ าม งานบริการทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลัง (Back of the House) ได้แก่ พนักงานต้อนรับ พนักงานบัญชี แม่บา้ น 20 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับท�ำการตลาด เพราะเมื่อคุณสร้างโรงแรมเสร็จแล้ว แต่ไม่มีคน มาพัก มันก็ไม่มีประโยชน์ 10 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับงานระบบ Back of the House เช่น งานพนักงานต้อนรับ งานแม่บ้าน หากอุปกรณ์ในการท�ำความสะอาดไม่ครบ ก็อาจจะท�ำให้คุณภาพในการ ท�ำความสะอาดลดลง 5 มุมมองการท�ำมาร์เก็ตติ้งส�ำหรับธุรกิจโฮสเทลแตกต่างจาก ธุรกิจรูปแบบอื่นไหมครับ อยูท่ กี่ ารวางต�ำแหน่งของแบรนด์ตงั้ แต่เริม่ ต้น ส�ำหรับ Lub d เราจะแยกเป็นสองหัว ข้อใหญ่ๆ คือ มาร์เก็ตติ้ง “ออนไลน์” (Online) กับ “ออฟไลน์” (Offline) โดยเราจะให้ น�ำ้ หนักในส่วนออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ เพราะเป็นช่องทางทีจ่ ะท�ำให้ลกู ค้าตัดสินใจซือ้ สินค้าของเราได้ง่ายและเร็วที่สุด ในทางกลับกัน ส่วนของออฟไลน์เราก็ไม่ทิ้ง มาร์เก็ตติ้ง ออฟไลน์ของ Lub d ไม่จ�ำเป็นต้องไปสู่สาธารณะ อาจจะเป็นมาร์เก็ตติ้งในแง่มุมที่ท�ำให้ ลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น

THE HOSTEL BIBLE

133


ยกตัวอย่าง Lub d จะกันงบไว้สัปดาห์ละ 300 บาทเพื่อซื้อผลไม้ให้แขก นี่ก็ถือเป็น มาร์เก็ตติง้ อย่างหนึง่ เพือ่ ให้ลกู ค้าแฮปปีใ้ นระยะเวลาทีเ่ ขาอยูก่ บั เรา บางคนมองว่างบส่วนนี้ เป็นค่าด�ำเนินการ (Operation Cost) มากกว่า ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง แต่เมื่อไหร่ที่ถูก ก�ำหนดด้วยความคิดว่าเป็นมาร์เก็ตติง้ ย่อมจะท�ำให้คณ ุ มีตวั เล่นทีส่ นุกมากขึน้ สนุกทีจ่ ะ ท�ำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ลูกค้าพอใจ ไม่จ�ำเป็นจะต้องเป็นแค่ผลไม้อย่างเดียว แต่เมื่อไหร่ ที่เรามองว่าเป็น Operation มันจะถูกบล็อกด้วยความคิดที่ว่า เราต้องประหยัด หรือ ท�ำให้คุ้มค่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีงบประมาณเป็นตัวตั้ง

THE HOSTEL BIBLE

134


6 คุณมักจะพูดเสมอว่า ส�ำหรับโฮสเทลแล้ว Location = Destination แล้ว ในกรณีที่เ ราตั้งอยู่ในจุดที่ท�ำ เลไม่เอื้อ ต่อ การเดินทาง หรืออยู่ใจกลางเมือง ผู้ประกอบการควรปรับตัวอย่างไร คุณต้องท�ำตัวเองให้เป็น Destination แทน สร้างจุดขายขึ้นมาด้วยการลงทุนท�ำ มาร์เก็ตติง้ ท�ำอย่างไรก็ได้เพือ่ ให้แขกมาพัก เมือ่ คุณคิดจะท�ำธุรกิจโฮสเทล การเลือกท�ำเล ที่ดีมีผลส�ำคัญต่อการด�ำเนินธุรกิจ เมื่อคุณเลือก Destination ในจุดที่นิยมแล้ว ก็ไม่ต้อง ลงทุนเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณามาก เพราะท�ำเลที่ดี อยู่ศูนย์กลาง ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ย่อมจะขายตัวมันเองอยู่แล้ว แต่ถ้าท�ำเลอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม ก็ต้องลงทุนท�ำ โฆษณาเพือ่ ดึงคนให้เข้ามาเทีย่ วย่านนัน้ มากขึน้ พูดง่ายๆ ว่า ต้องโปรโมตให้หนักกว่าเดิม เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ อย่างแรกที่เราจะเลือกก่อน คือ ไปเที่ยวที่ไหน นอน ที่ไหน เดินทางอย่างไร เพราะในโลกของธุรกิจท่องเที่ยวจะเกี่ยวพันกับ 4 เรื่องหลักๆ คือ Destination สมมติว่าคุณจะเดินทางไปนิวยอร์ก สิ่งที่ตามมาคือ Transportation การวางแผนการเดินทาง ลงเครื่องบินที่แอร์พอร์ตแล้ว คุณจะไปยังจุดหมายในนิวยอร์ก อย่างไร ทั้งหมดนี้ต้องคิดและเตรียมตัวก่อนเสมอ ต่อมาคือ Accommodation ที่พัก และอาหารการกิน สิ่งอ�ำนวยความสะดวกระหว่างทริป และสุดท้ายคือ Lifestyle of Traveling ตัวนี้ละคือปัจจัยที่ครอบคลุมหัวใจของธุรกิจท่องเที่ยวในตอนนี้ 7 ในฐานะนักท่องเที่ยว เรามักคิดว่า เมื่อมีงบน้อยก็ต้องนอน ห่างจากใจกลางเมืองไม่ใช่หรือ โฮสเทลจึงเกิดมาเพือ่ ตอบโจทย์ตรงนี้ คือเป็นอีกตัวเลือกหนึง่ ถ้าเราเคยคิดว่า เราเป็น นักท่องเทีย่ วงบน้อย และต้องไปพักอยูไ่ กลๆ สมมติวา่ โรงแรม A ระดับ 3 ดาว อยูใ่ จกลาง เมือง ขายคืนละ 2,000 บาท โรงแรม B ระดับ 3 ดาวเหมือนกัน ท�ำเลติดกัน ขาย 2,500 แต่คุณไม่เลือกพักเป็นห้อง แต่นอนพักเป็นเตียง ที่โฮสเทลหลับดี คุณสามารถอยู่ได้ ในคืนละ 600 บาท นั่นแปลว่า คุณอยู่ในท�ำเลที่ดีได้ แต่ต้องเลือกที่จะอยู่แบบแชร์กับ คนอื่นนะ THE HOSTEL BIBLE

135


8 ในมุมมองของผู้ลงทุน เมื่อขายต่อห้องได้แพงขึ้น ท�ำราคา ต่อเตียงได้ถูกกว่า แล้วเมื่อรวมต่อตารางเมตรล่ะครับ วิธีการคิดเหมือนกันคือ เราควรจะค�ำนวณรายได้ต่อตารางเมตร ที่ Lub d ขนาดต่อ ห้องประมาณ 14 ตารางเมตร เราขายเตียงละ 600 บาท ห้องหนึ่งมี 4 เตียง 600x4 เท่ากับ 2,400 บาท นั่นแปลว่าเรามีรายได้เทียบเท่า หรือมากกว่าโรงแรม 3 ดาวด้วยซ�้ำ แต่อย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากนอนห้องดอร์ม (Dorm) ช่วงเริ่มต้นใหม่ๆ ผมท�ำ รีเสิร์ช ทุกคนบอกว่าอยากนอนห้องไพรเวตกันหมด เพราะถ้ามีเงินเขาก็จะเลือกนอน ห้องส่วนตัว ถูกไหม แต่ส�ำหรับบางคน มีงบประมาณคืนละ 1,000 บาท คุณนอนห้อง ไพรเวตไม่ได้แน่นอน ดังนั้น โฮสเทลจึงเป็นทางเลือกส�ำหรับลูกค้าที่ต้องการลดบัดเจ็ต แต่ยอมลดความสะดวกสบายลง เลือกที่จะแชร์ห้องนอน แล้วก็เอาเงินส่วนที่เหลือไป เอ็นจอยด้านอืน่ คนทุกคนมีทางเลือกทีแ่ ตกต่างกัน แต่ในขณะเดียวกัน มุมมองการบริหาร โฮสเทลก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 9 ช่วยยกตัวอย่างความไม่ง่ายนั้นให้ฟังได้ไหม คนหลายคนทีจ่ ะมานอนรวมในห้องเดียวกัน ถ้าไม่เคยเรียนรูว้ ฒ ั นธรรมการอยูร่ ว่ มกัน มาก่อน ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ ต้องเข้าใจว่าการแชร์ คือการต้องเคารพสิทธิของคนอื่น ด้วย แต่ถา้ เป็นห้องพักส่วนตัว คุณสามารถท�ำอะไรก็ได้ เสียงดังในห้องตัวเองแค่ใหนก็ได้ สิง่ เหล่านีค้ ือปัญหาที่คนท�ำโฮสเทลต้องเจอ

THE HOSTEL BIBLE

136

ความไม่ง่ายอีกข้อหนึ่งก็คือ ทีมงาน เมื่อไหร่ที่คุณเป็นเพียงโรงแรมเล็กๆ คุณจะมี ปัญหามากเรื่องการดึงดูดคนให้เข้ามาท�ำงานด้วย หนึ่งในนั้นมาจากอัตราค่าตอบแทนที่ คุณจะจ่าย คุณไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนที่ดีกว่าได้ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโรงแรม ทีม่ เี ซอร์วสิ ชาร์จ โฮสเทลไม่มเี ซอร์วสิ ชาร์จแล้วเราจะไปดึงคน ไปโน้มน้าวเขาให้มาท�ำงาน ด้วยได้อย่างไร เช่น ดึงเด็กจบใหม่มาท�ำโฮสเทล มันต้องมีหลักในการบริหาร หรือแม้แต่ แม่บ้าน จุดอ่อนที่เราต้องเผชิญคือกลไกในการรักษาคน เด็กอาจจะเข้ามาอยู่กับเรา ช่วงหนึ่งเพื่อหาประสบการณ์ แต่ในระยะยาวจะไม่นิ่ง ซึ่งจะมีผลท�ำให้คุณภาพในการ บริการไม่นิ่งตามไปด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นข้อจ�ำกัดหนึ่งในการท�ำธุรกิจโฮสเทล แม้กระทั่ง โรงแรมเอง ตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องขาดแคลนทรัพยากรบุคคลเช่นกัน


10 แล้วจะมีวิธีรับมือกับข้อจ�ำกัดนี้ได้ไหม ได้ เหมือนที่ Lub d ก�ำลังท�ำอยูต่ อนนี้ นัน่ คือท�ำอย่างไรให้เราเป็นแบรนด์ทมี่ คี ณ ุ ภาพ มากขึ้น มีระบบมากขึ้น เทียบเท่าระดับโรงแรม แต่ให้บรรยากาศเข้าพักสบายๆ เหมือน โฮสเทล 11 อะไรคือเหตุผลทีน่ า่ ดึงดูดทีส่ ดุ ในการลงทุนส�ำหรับผูท ้ อี่ ยากท�ำโฮสเทล เป็นเรื่องของกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่ลูกค้าของโฮสเทลจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่มี สีสัน คนกลุ่มนี้มีความคาดหวังในด้านการบริการไม่ค่อยมาก แต่เมื่อไหร่ที่คุณท�ำโรงแรม แล้วละก็ ความคาดหวังทุกอย่างจะสูงขึ้น เรื่องหนึ่งที่คุณต้องท�ำคือ การก�ำหนดกลุ่ม เป้าหมายและระดับของการบริการ ถ้าคุณเลือกเซอร์วิสที่เป็นสแตนดาร์ด แน่นอนลูกค้า คาดหวังว่า เข้าไปแล้วห้องจะต้องสะอาด แอร์ต้องเย็น ร้องขออะไรแล้วต้องได้รับการ แก้ไขเป็นอย่างดี หลายคนอาจจะคิดว่าท�ำโฮสเทลแล้วจะได้รบั การร้องขอการบริการจาก ลูกค้าน้อยกว่า แต่จริงๆ แล้ว ถ้าได้มาสัมผัสจริงๆ จะพบว่าลูกค้ามีความต้องการเหมือนกัน อีกกรณีทเี่ คยเจอบ่อยๆ คือ เข้าไปในโฮสเทลแล้ว บรรยากาศเงียบเหงา ดังนัน้ การบริหาร บรรยากาศให้มคี วามสนุกสนานมีชวี ติ ชีวา ให้แขกรูส้ กึ เหมือนทีน่ เี่ ป็น Social Hub ของเขา เรื่องนี้ก็ส�ำคัญ ถ้าเข้าไปในโฮลเทลแล้วต้องมีผู้คนนั่งคุยกัน นั่งให้ค�ำปรึกษากันเรื่องการ เดินทาง หรือมีกจิ กรรมทีจ่ ะท�ำให้แขกได้รจู้ กั กัน นีค่ อื การบริหารบรรยากาศ ซึง่ ค่อนข้าง ยากนะครับ ผมเชื่อว่าด้วยวัฒนธรรมของคนไทย ค่อนข้างยากในการสร้างบรรยากาศ ในการพบปะเพือ่ นใหม่ ดังนัน้ ถ้าไม่มเี จ้าบ้าน หรือคนทีค่ อยแนะน�ำให้แขกแต่ละคนได้มา รู้จักกัน ก็จะกลายเป็นขาดสีสันของความเป็นโฮสเทลได้

THE HOSTEL BIBLE

137


THE HOSTEL BIBLE

138


12 แปลว่าคีย์เวิร์ดของโฮสเทล คือ “บรรยากาศ” ใช่ครับ คือ บรรยากาศ + กิจกรรม (Atmosphere + Activity) 13 ไม่ใช่การบริการหรือครับ เซอร์วิสในห้องพักไม่ใช่เรื่องหลักในการเลือกโฮสเทลของลูกค้า ปัจจัยหลักคือเรื่อง ของบรรยากาศ เมื่อก้าวเข้าไปแล้วต้องสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของผู้คนที่สนุกสนานกับ การใช้ชีวิต นั่งคุยกัน นั่งท�ำกิจกรรมร่วมกัน ได้รู้จักเพื่อนใหม่ 14 มองในแง่การลงทุน ถ้าโฮสเทลหลับดีไม่ได้มาเปิดบนท�ำเลตรงนี้ (ย่านสยามสแควร์) คุณคิดว่าท�ำเลนี้น่าจะท�ำอะไรแล้วรวย ท�ำอะไรแล้วรวย คือท�ำอะไรก็ได้ให้เกิดการเทิร์นของรายได้หลายๆ รอบ ข้อจ�ำกัด ของธุรกิจโรงแรม คือ หนึ่ง มันมีข้อจ�ำกัดด้านสต็อก คุณเอาห้องที่เหลือจากวันที่หนึ่ง ไปขายวันทีส่ องไม่ได้ หมดรายได้จากวันนีก้ ค็ อื หมดโอกาสเลย พรุง่ นี้ นับหนึง่ ใหม่ หนึง่ เดือน มี 30 วัน ผ่านมาแล้ว 5 วันคุณยังไม่มลี กู ค้า นัน่ เท่ากับคุณเสียโอกาสไปแล้ว 5 จาก 30 เพราะสต็อกคุณเน่าแล้วนะ สอง คุณมีข้อจ�ำกัดเรื่องรอบขาย คุณขายของได้รอบเดียว ไม่เหมือนกับร้านอาหารที่คุณขายได้วันละหลายๆ รอบ 15ผมเคยเจอโรงแรมสไตล์ Take a Nap ทีญ ่ ป ี่ ุ่น เหมือนมีประชุม ตอนเช้า ช่วงบ่ายแวะเข้าไปนอนสัก 3-4 ชั่วโมง คุณว่าถ้าเป็น สไตล์นี้มาเปิดในกรุงเทพฯ จะเวิร์คไหม ก็ต้องถามว่า ใครคือผู้ใช้ ต้องถามคนอยากใช้ดูว่าเขาเป็นคนประเภทไหน แต่คน ท�ำงานออฟฟิศไม่ได้แน่นอน หลักคิดคล้ายๆ กัน คือ ต้องราคาไม่สูงมาก แต่เน้นท�ำรอบ เช่น พ่อแม่มารอรับลูกที่เรียนพิเศษ และอยากหาที่นอนใกล้ๆ แต่บางคนก็อาจจะเลือก แวะไปนวดฆ่าเวลาแทนก็ได้ อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งนะ

THE HOSTEL BIBLE

139


16 จากประสบการณ์ในการท�ำธุรกิจนีม ้ า มีโฮสเทลไหนทีค ่ ณ ุ คิดว่า เป็นต้นแบบที่ทุกคนควรจะไปพัก ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ถ้าโฮสเทลที่เน้นองค์ประกอบของความเป็นโซเชียล โรงแรมที่โดดเด่นเรื่องการสร้างบรรยากาศแบบโซเชียล ก็มี Generator Hostels ซึ่งมี หลายสาขาในแถบยุโรป อีกแห่งคือ Lisbon Lounge Hostel ประเทศโปรตุเกส ซึง่ เป็น โฮสเทลเล็กๆ แต่บรรยากาศดี กลุ่มลูกค้าจะเป็นแบบ Traveller-Host หรือลูกบ้านกับ เจ้าบ้าน ถ้าทีอ่ อสเตรเลีย ก็จะมี Stay at Base ซึง่ เน้นกลุม่ แบ็กแพ็กเกอร์ และเขาท�ำธุรกิจ ร่วมกับบาร์ด้วย พอมีบาร์ก็จะมีคนมาแฮงเอาต์นั่งพูดคุยกัน แบรนด์นี้มีหลายสาขามาก ทั้งที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ตอนเริ่มต้นท�ำ Lub d เราก็ไปดูที่ Stay at Base เป็น อินสไพเรชั่น 17 วันนีถ ้ ้าเราวาง Lub d ลงบนเชลฟ์ของโฮสเทลในโลก คุณคิดว่า Lub d อยู่ในระดับใด ในระดับต่างประเทศ กลุม่ Hostel World เราได้รบั การจัดอันดับค่อนข้างดี เหมือนกับ เป็นตัวเลือกหนึง่ ทีค่ ณ ุ ต้องมาลองพัก เมือ่ เดินทางมากรุงเทพฯ แต่ในระดับโลกโฮสเทลมีสาขา ค่อนข้างเยอะ แล้วก็โตไวมาก พูดง่ายๆ เราไม่ได้เทียบว่าตัวเองเป็นอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อ เห็นสีสันของโฮสเทลทั่วโลก ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากท�ำโฮสเทลต่อไป 18 มีประเทศไหนไหมทีเ่ ราสามารถพูดได้วา่ เป็นเมืองหลวงของโฮสเทล ยุโรปถือเป็นศูนย์กลางของโฮสเทล เพราะประเทศแถบยุโรปเทีย่ วกันเองได้ และการ เดินทางข้ามประเทศก็ค่อนข้างสะดวกสบาย บางคนข้ามจากประเทศนี้เพื่อไปดูฟุตบอล อีกประเทศหนึ่ง และการไปดูบอลก็คงไม่มีใครนอนโรงแรมเพราะมันแพง ก็เลือกไปนอน โฮสเทล เทรนด์นี้มาพร้อมกับกีฬาด้วย จ่ายตั๋วบอลแพงมานอนโรงแรมถูกๆ มากินมา ฉลองชัยชนะที่บาร์ในโฮสเทล มันเป็นวัฒนธรรมที่สอดคล้องกัน

THE HOSTEL BIBLE

140


19 มีโฮสเทลไหนที่คุณเห็นแล้วรู้สึกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ แต่กท ็ �ำมา จนได้ เช่น ท�ำเลไกลสุดๆ แต่กป ็ ระสบความส�ำเร็จสูง หรือกรณี ที่ไม่น่าเชื่ออื่นๆ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า มีโฮสเทลชื่อ Mother Land Inn สไตล์บ้านๆ ธรรมดา แต่เขาเลือกกลยุทธ์ในการขาย เพราะเขาเข้าใจถึงข้อจ�ำกัดของนักท่องเทีย่ วเวลาเดินทาง มาพม่า ยกตัวอย่างกรณีคลาสสิก เขามีบริการรถรับส่งจากสนามบินมาโรงแรม เพราะ สมัยก่อนการเดินทางในพม่าล�ำบากมาก แท็กซี่ไม่มี รถเมล์ก็อย่าไปคาดหวัง แล้วการ เดินทางจากสนามบินมาที่โรงแรม ถ้าโรงแรมไหนมีชัตเทิลบัสให้นะ ลูกค้าจองแน่นอน คุณต้องเข้าใจว่าลูกค้ามีความกังวลเรือ่ งอะไรในการเดินทาง แล้วคุณก็พยายามหาโปรดักต์ และเซอร์วิสเพื่อให้เขาไม่ต้องกังวล อันนี้คือกรณีทั่วไปซึ่งเรียบง่ายมาก ไม่จ�ำเป็นว่าต้อง เป็นโรงแรมหรู แต่เมือ่ คุณมีบริการนี้ ลูกค้าจะคิดเลยว่า ฉันไปแน่ๆ ไม่ตอ้ งกลัวถูกแท็กซีห่ ลอก เพราะโรงแรมมีชตั เทิลบัสให้ แค่นเี้ อง รวมทัง้ ทีน่ ยี่ งั มีระบบการตอบอีเมล์ทฉี่ บั ไว เพราะว่า สมัยก่อนอินเทอร์เน็ตที่พม่ายังเข้าถึงยาก แต่ที่นี่กลับบริการลูกค้าด้วยการตอบอีเมล์ ได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วผมเชือ่ ว่า บางครัง้ จุดขายง่ายๆ ก็กลายเป็นจุดแข็งทีท่ ำ� ให้เรา ได้ลูกค้าแล้ว

เซอร์วส ิ ในห้องพัก ไม่ใช่เรื่องหลักในการเลือกโฮสเทลของลูกค้า ปัจจัยหลักคือ เรื่องของบรรยากาศ เมื่อก้าวเข้าไปแล้วต้องสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของผู้คน ที่สนุกสนานกับการใช้ชีวิต นั่งคุยกัน นั่งท�ำกิจกรรมร่วมกัน ได้รู้จักเพื่อนใหม่

Lub d Bangkok – Silom

4 ถนนเดโช แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0-2634-7999

Lub d Bangkok - Siam Square

925/9 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 0-2612-4999 เว็บไซต์ www.lubd.com Facebook: LubdHostel

THE HOSTEL BIBLE

141


THE HOSTEL BIBLE

142


สะพายเป้ โฮสเทล THE BIGGEST AND THE BEST IN BANGKOK

เวลาไปพักทีโ่ ฮสเทล ส่วนมากคุณมักเจอกับอาคารทีม่ พี นื้ ทีจ่ ำ� กัด และมีหอ้ งหับต่างๆ ทีไ่ ม่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ปญ ั หานีจ้ ะหมดไป เมือ่ คุณเข้ามาพักทีส่ ะพายเป้ โฮสเทล แห่งนี้ ที่มีจ�ำนวนเตียงมากที่สุดในกรุงเทพฯ ถึง 180 เตียง ! จากอาคารเก่าที่เคยเป็นส�ำนักงานของบริษัทค้าเพชรพลอย เมื่อ 6 ปีก่อน คุณขจร ศิรพิ ลวุฒกิ ลุ ซึง่ ขณะนัน้ ท�ำอาชีพเซลส์แมนขายเม็ดพลาสติก ได้ขอเช่าต่อจากคุณพ่อของ เขาเอง เพือ่ แปลงโฉมให้เป็นโฮสเทลส�ำหรับแบ็กแพ็กเกอร์ทตี่ อ้ งการความสะดวกสบาย แบบเรียบง่ายใจกลางกรุงเทพฯ

THE HOSTEL BIBLE

143


THE HOSTEL BIBLE

144


ด้วยสถานที่ตั้งในมุมเงียบสงบบนถนนสุรศักดิ์ ระหว่างถนนสีลมและถนนสาทร สามารถเดินจากสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ได้ภายใน 5 นาที ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีต�ำรวจ ยานนาวา ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกปลอดภัยไร้กังวล อาคารมีความสูง 8 ชั้น มีเตียง ทั้งสิ้นจ�ำนวน 180 เตียง ชั้นล่างเป็นห้อง Common Room ขนาดใหญ่ ที่มีทั้ง โต๊ะพูล เคาน์เตอร์ขายทัวร์ มุมดูทวี ี มุมนัง่ เล่นและอ่านหนังสือ มุมกาแฟ ห้องประชุมขนาด 30 คน และร้านอาหาร ส่วนชัน้ สองเป็นพืน้ ทีส่ ว่ นกลาง ประกอบด้วยห้องดูทวี ี ห้องซักผ้า และห้องน�้ำรวมขนาดใหญ่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ส่วนห้องพักมีให้เลือกดังนี้ ห้องนอนรวมหญิง (4-8 เตียง ราคา 400-360 บาท) ห้องนอน รวมชาย (4-8 เตียง ราคา 425-400 บาท) ห้องนอนรวม (2-10 เตียง ราคา 380-360 บาท) ห้องคู่ส่วนตัวกับห้องอาบน�้ำส่วนตัว (ราคา 650 บาท) และห้องซูพีเรีย (superior) (ราคา 600 บาท) มีตู้เย็นและน�้ำบรรจุ 2 ขวดต่อวัน การตกแต่งในแต่ละชัน้ จะมีสไตล์ทแี่ ตกต่างกันออกไป โดยน�ำย่านทีม่ เี อกลักษณ์ของ กรุงเทพฯ มาเป็นแรงบันดาลใจ เช่น ชัน้ 2 เป็นบรรยากาศย่านสีลม ชัน้ 3 เป็นบรรยากาศ ย่านสยามสแควร์ ชัน้ 4-7 เป็นสไตล์ยา่ นจตุจกั ร เยาวราช ข้าวสาร สนามมวยลุมพินี ตาม ล�ำดับ ส่วนชั้น 8 เป็นบรรยากาศย่านเกาะรัตนโกสินทร์ จุดเด่นอีกอย่างของสะพายเป้คอื การมีทมี งานทีส่ นุกสนานเฮฮา และมีเกมสันทนาการ ให้ลูกค้าร่วมสนุก เช่น ทุกคืนวันศุกร์จะมีเกมสอนท�ำอาหารไทย โดยแบ่งกลุ่มผู้เล่นเป็น สองฝั่งแล้วแข่งกันท�ำอาหาร มีพ่อครัวคนไทยเป็นผู้ตัดสิน หลังจากนั้นก็จะรับประทาน อาหารร่วมกัน ไม่ใช่เพียงมีจ�ำนวนเตียงเยอะที่สุดเท่านั้น สะพายเป้ยังเป็นโฮสเทลที่ได้รับรางวัล โฮสเทลดีเด่นจากสถาบันนานาชาติหลายแห่งอีกด้วย

THE HOSTEL BIBLE

145


1 อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ท�ำให้คุณสนใจการท�ำโฮสเทล ผมเรียนจบทางด้านพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจากประเทศญี่ปุ่น หลังเรียนจบก็ไปท�ำงานประจ�ำเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทญี่ปุ่น อยู่ 5-6 ปี ถึงจุดอิ่มตัวก็มองเห็นช่องทางว่า อยากจะน�ำอาคารเก่า ของครอบครัวมาสร้างมูลค่า เป็นอาคารแปดชัน้ ย่านสีลม เนือ้ ทีป่ ระมาณ 200 ตารางวา (ครึง่ ไร่) เดิมเป็นออฟฟิศเก่า ผูเ้ ช่าเดิมท�ำธุรกิจจิวเวลรีซงึ่ สมัยก่อนได้รบั ความนิยมมาก แต่เมือ่ ธุรกิจนี้ เริ่มดาวน์ไซส์ และย่านสาทร-สีลมก็มีตึกใหม่ๆ ขึ้นเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้ธรุ กิจอาคาร เช่าออฟฟิศเริม่ ตกต�ำ่ ก่อนทีผ่ มจะดัดแปลงอาคารเป็นโฮสเทล ตึกนีก้ เ็ กือบร้างแทบไม่มี มูลค่าเพิ่มเลย คุณพ่อท่านคิดจะขาย ผมเลยเสนอว่า เดี๋ยวผมขอเช่าต่อจากคุณพ่อนะ ไม่ต้องขาย แล้วก็ได้ไอเดียมาท�ำธุรกิจโฮสเทล

Q A

2 คุณมองเห็นโอกาสอย่างไรในการเข้ามาท�ำธุรกิจนี้ เมืองไทยเราเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว และโรงแรมระดับกลาง ระดับบัดเจ็ตโฮเต็ล ยังมีไม่มาก ผมมองว่าพอมีชอ่ งว่างให้เราแทรกเข้าไปในธุรกิจนีไ้ ด้บา้ ง คุณพ่อท่านก็เห็นด้วย เลยลองดู เราไม่มโี นว์ฮาว (Know How) เลย แต่กพ็ ร้อมทีจ่ ะลองอะไรใหม่ๆ เพราะเชือ่ ว่า ธุรกิจการท่องเทีย่ วน่าจะไปได้ เมือ่ ก่อนนีเ้ กสต์เฮาส์หรือโฮสเทลทีม่ มี าตรฐานยังมีไม่มาก รุน่ แรกๆ ทีท่ ำ� เป็นระเบียบแบบแผน ผมว่าน่าจะเป็น Lub d ตอนนัน้ ยังไม่มผี เู้ ล่นในตลาดนี้ มากนัก เราในฐานะผูเ้ ล่นใหม่กส็ ามารถแจมเข้าไปในธุรกิจนีไ้ ด้ จนมาถึงวันนีก้ ป็ ที ี่ 5 แล้ว 3 แล้วเริ่มต้นธุรกิจอย่างไร เราต้องรูก้ อ่ นว่าโฮสเทลคืออะไร มันคือโรงแรมแบบบัดเจ็ต สมัยก่อนยังเป็นเตียงสองชัน้ ตามมาตรฐานทั่วโลก ผมก็เริ่มจากไปพัก ไปศึกษาโฮสเทลหลายๆ แห่งที่อยู่ในกรุงเทพฯ ไปเก็บข้อมูลว่า ถ้าเราเป็นแบ็กแพ็กเกอร์จะต้องการอะไรบ้าง แต่ละแห่งมีจุดดีตรงไหน และยังขาดอะไรอีกบ้าง เมื่อเก็บข้อมูลแล้วก็เอามาปรับปรุงโฮสเทลของเราให้ดีขึ้นใน ส่วนที่สามารถท�ำได้

THE HOSTEL BIBLE

146

4 ในมุมมองของคุณ โฮสเทลคืออะไร และหัวใจส�ำคัญอยู่ตรงไหน โฮสเทลคือสถานที่ที่คนแปลกหน้ามาพักรวมกัน นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากโรงแรม โดยสิ้นเชิง เปรียบเทียบกับโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นระดับไม่กี่ดาวไปจนถึง 5 ดาว ทุกห้อง เป็นห้องเดี่ยว นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นนิยามของโฮสเทล


แต่ถ้ามองกันจริงๆ โฮสเทลไม่ใช่แค่ที่พักที่มีคนแปลกหน้ามาพักด้วยกัน ไม่ใช่มีแค่ เตียงสองชั้น แต่หัวใจของโฮสเทลคือ Community คนที่มาพักเขามาหาสังคม มาหา ประสบการณ์ใหม่ๆ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าทีส่ ะพายเป้ เรามีกจิ กรรมให้แขกทีม่ าพักได้ทำ� ร่วมกัน เช่น จัดคุกกิง้ คลาส สอนร้อยพวงมาลัย ท�ำลูกชุบ ท�ำส้มต�ำ พาแขกออกไปข้างนอก พาไปสัมผัสชีวติ กลางคืน มิตรภาพทีไ่ ด้จากการเข้าพักทีโ่ ฮสเทลจะอยูก่ บั เขาตลอดไป เราต้อง ตอบโจทย์นี้ให้กับเขาได้ 5 ลูกค้าที่มาพักโฮสเทลจ�ำเป็นไหมว่าเขาต้องการประหยัดเงิน มีบา้ งไหมทีไ่ ม่ได้คำ� นึงถึงเรือ ่ งนี้ แต่เพราะชอบสังคมแบบโฮสเทล มีครับ อันนีต้ อบจากประสบการณ์ของสะพายเป้ เราจะมีหอ้ ง Mix 10, Mix 8, Mix 6, Mix 4 ส�ำหรับห้อง Mix 10 คือนอนรวมกัน 10 คน ราคาจะถูกที่สุด ความเป็นส่วนตัว จะน้อยที่สุด ส่วนห้อง Mix 4 จะแพงที่สุด มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าหน่อย แต่กลาย เป็นว่าทั้ง Mix 4 กับ Mix 10 ขายดีพอๆ กัน นอกจากนีเ้ รายังมีหอ้ งเดีย่ ว ระดับ 1,200 / 1,400 / 1,600 บาท ซึง่ ก็ขายดี ทัง้ ทีร่ าคาระดับนีส้ ามารถเข้าพักโรงแรม หรือบัดเจ็ตโฮเทล ได้เลยนะ แต่เขากลับเลือกจ่ายพรีเมียมขึ้นอีกนิดเพื่อมานอนโฮสเทล เพื่อมาหาเพื่อน มาหาสังคม แขกโฮสเทลไม่ใช่ว่าต้องติดดินเสมอไป แต่เป็นคนชอบสังคม สรุปว่าราคา ก็เป็นปัจจัยส�ำคัญ แต่ถ้าคุณมีสิ่งพิเศษให้เขามากกว่านั้น ผมว่าเขายอมจ่าย

THE HOSTEL BIBLE

147


6 อะไรเป็นจุดขายที่สะพายเป้มี แต่ที่อื่นไม่มี ผมว่าขนาดของห้องนะ เราเน้นห้องที่มีขนาดใหญ่และสะอาด โฮสเทลบางแห่งที่ผม เคยไปพักมา ห้องจะเล็ก ผมว่าเขามองข้ามไปเรื่องหนึ่งคือ แบ็กแพ็กของลูกค้ามีแต่ใบ ใหญ่ๆ ทั้งนั้น ถ้าห้องเล็กไป แค่วางกระเป๋าไว้กับพื้นก็เกะกะแล้ว ท�ำให้ห้องอึดอัด แล้ว เสื้อผ้าลูกค้าจะมีกลิน่ ค่อนข้างเฉพาะ เพราะเขาเดินทางไปมาแล้วหลายที่ มาถึงก็อาจจะยัง ไม่ได้ซกั ผ้า พาลมีกลิน่ ไปทัง้ ห้อง แต่ถา้ ล็อกเกอร์มขี นาดใหญ่ให้เก็บข้าวของได้เยอะ มีหอ้ ง มีขนาดใหญ่พอให้อากาศถ่ายเท ความสะอาด ความเฟรชของห้องก็จะดีขนึ้ ที่ส�ำคัญคือ เรามีความพร้อมเรื่องสตาฟค่อนข้างมาก เรามีแม่บ้านถึง 8 คน ผลัดกัน สแตนด์บายตลอด 24 ชัว่ โมง เพือ่ ความรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นยังมีช่างซ่อมบ�ำรุงอีก 3 คน คุณต้องยอมรับนะว่าถ้าท�ำโรงแรม แอร์ของคุณ จะไม่มีวันเสีย ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา เช่น คอมเพรสเซอร์แอร์เสีย มีน�้ำหยด ช่างของผมจะ รีบไปแก้ไขให้ภายใน 10 นาที แต่แน่นอนว่า ถ้าจ้างคนเยอะ ต้นทุนค่าจ้างย่อมสูง แต่ถ้า เราตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เขาจะแฮปปี้และกลับมาเป็นลูกค้าเราอีก หรือบอก เพื่อนต่อ สะพายเป้มีฐานลูกค้าเดิมเยอะพอสมควร เมื่อรายรับมากกว่ารายจ่าย เลี้ยงตัว เองได้ ก็ถือว่าคุ้มที่จะจ้างสตาฟจ�ำนวนเท่านี้ได้ นอกจากนัน้ เรายังมีความสนุกสนานมอบให้กบั ลูกค้า ทีส่ ะพายเป้เรามีการจัดกิจกรรม อย่างต�่ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทุกวันพฤหัสบดีเรามีคุกกิ้งคลาส เช่น สอนท�ำต้มย�ำ แกงเขียว หวาน ส่วนทุกวันเสาร์เราจะมีเวิรค์ ช็อปสอนร้อยพวงมาลัย ท�ำลูกชุบ ท�ำส้มต�ำ หรือในวัน ส�ำคัญทางศาสนา ก็จะพาไปเวียนเทียนที่วัด

THE HOSTEL BIBLE

148

ที่นี่เรามีร้านอาหารของเราเอง มีสตาฟจากร้านอาหาร มีวัตถุดิบจากในครัว ก็กลาย เป็นอาวุธลับอีกอย่าง ท�ำให้การเข้าพักที่สะพายเป้ไม่น่าเบื่อ ตอนแรกก็โชว์ท�ำอาหารให้ แขกดูก่อน จากนั้นก็สอนเขาท�ำ แนะน�ำวัตถุดิบต่างๆ ใบมะกรูด ขิง หน้าตาเป็นอย่างนี้ นะ แล้วแขกก็จะลงมือท�ำ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ทีมเอ กับทีมบี แข่งกันท�ำอาหาร โดยมี พ่อครัวของเราเป็นผูต้ ดั สินว่าของใครอร่อยกว่า นอกจากแขกจะได้ความรูจ้ ากการท�ำอาหาร ผมปรับให้เป็นเกมแข่งขันสนุกๆ ด้วย คนทีไ่ ม่เคยรูจ้ กั กัน พอจบคุกกิง้ คลาส ก็นดั ไปตรอกข้าวสาร กันต่อ แค่นี้ก็ตอบโจทย์แล้ว จับแพะชนแกะ จับนายเอกับนายบีมาเจอกัน แล้ว Mission ก็ Accomplish


7 ที่นี่น่าจะเป็นโฮสเทลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ใช่ไหมครับ ผมว่าน่าจะใหญ่ทสี่ ดุ ในเมืองไทย ณ ตอนนี้ เมือ่ ก่อนเราเคยมีถงึ 220 เตียง แต่ตอนนี้ เหลือ 180 เตียง เมือ่ มีการแข่งขันสูงขึน้ เทรนด์เริม่ เปลีย่ นแล้ว คนเริม่ ท�ำเตียงสองชัน้ มากขึน้ เราก็ตอ้ งหาจุดเปลีย่ น เมือ่ ก่อนสะพายเป้มแี ต่ดอร์ม (Dorm) กับไพรเวต รูม (Private Room) หรือห้องรวมกับห้องเดีย่ ว จนกระทัง่ สองปีทแี่ ล้วเราเริม่ ท�ำห้องไพรเวต แชร์ (Private Share) ซึง่ เป็นห้องส่วนตัว แต่หอ้ งน�ำ้ ยังแชร์กนั เหมือนดอร์ม ก่อนหน้านีเ้ รามีหอ้ ง 4 เตียง ห้อง 6 เตียง แต่เมือ่ การแข่งขันสูง โปรดักต์เริม่ ซ�ำ้ กันท�ำให้ ขายยากขึน้ ผมจึงคิดกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการเลือกปรับห้อง Mix 6 ที่ไม่ได้ป๊อปปูลาร์มาก แทนที่จะปล่อยให้เตียงว่างๆ เป็นห้องรายได้ศนู ย์บาทต่อเดือน ก็เอา 4 เตียงไปเก็บเลยนะ เหลือแค่ 2 เตียง และอัพเป็นห้องไพรเวต แชร์ คือเป็นห้องส่วนตัว แต่ห้องน�้ำแชร์ข้างนอก ก็คือดัดแปลงจากห้องรวมมาเป็นห้องเดี่ยว แล้วเพิ่มราคาจาก 420 บาทเป็น 600 บาท ต่อเตียง ท�ำให้เตียงลดลงจาก 220 เตียง เหลือ 180 เตียง เพือ่ ความอยูร่ อด ท�ำให้ห้องมัน ขายได้ เก็บได้ห้องละ 1,200 ก็ยังดีกว่าศูนย์บาท เมื่อคู่แข่งเยอะ เริ่มขายล�ำบากก็ต้องหา ความแตกต่าง 8 ท�ำเลที่ดีส�ำหรับโฮสเทลควรเป็นอย่างไร ท�ำเลมีความส�ำคัญมาก แบ็กแพ็กเกอร์ตอ้ งการอยูใ่ นย่านชุมชน ย่านใกล้ตลาด ไปไหน มาไหนง่าย ซึ่งต่างจากบูติคโฮเต็ลที่นักท่องเที่ยวต้องการความเป็นส่วนตัว ความเงียบ สงบ จะอยู่ไกลแค่ไหนก็ได้ แต่ขอให้ไม่พลุกพล่าน มีต้นไม้ อาจจะมีสระว่ายน�้ำ มีหนังสือ หนึ่งเล่มแล้วก็นั่งอ่านทั้งวัน แต่ส�ำหรับโฮสเทล ไม่ใช่แบบนัน้ กลุม่ ลูกค้าของเราเป็นวัยรุน่ ทีต่ อ้ งการจะมาเจอผูค้ น มาจีบสาว มาแฮงเอาต์ ตกเย็นจะมาถามแล้วว่า วันนีไ้ ปเทีย่ วไหน ดี มีขนมซื้อติดไม้ติดมือมาฝากพนักงานเรา ดังนั้น ในการท�ำโฮสเทล ท�ำเลจึงเป็นเรือ่ งที่ ส�ำคัญมาก อย่างสุเนต์ตา โฮสเทล ตัง้ อยูบ่ นถนนข้าวสาร หรืออย่างของเราอยูใ่ จกลางเมือง เดินไป 10 นาทีเจอท่าเรือตากสิน เดินไป 30 นาทีเจอบีทเี อส ช่องนนทรี แถมของกินก็มี เยอะแยะ แต่ถ้าบางแห่งท�ำเลอาจจะไม่ค่อยดี เซอร์วิสก็ต้องสูงหน่อย

THE HOSTEL BIBLE

149


9 การตั้งชื่อโฮสเทลควรเป็นอย่างไร ต้องเป็นชื่อที่จ�ำง่าย อย่างของสะพายเป้ ตอนตั้งชื่อเราไม่มีตัวเลือกอื่นเลยนะ นอกจากชื่อนี้ชอื่ เดียว ทีอ่ นื่ ๆ ก็ตง้ั ชือ่ กันง่ายๆ อย่าง หลับดี ไอสนุก ยิม้ ผมว่าเป็นชือ่ ที่ จ�ำง่ายดี จริงๆ สะพายเป้กไ็ ม่ได้จำ� ง่ายนะ มีฝรัง่ ถามเหมือนกันว่าแปลว่าอะไร แต่สดุ ท้าย พอเราบอกว่า แบ็กแพ็กเกอร์ เขาก็โอเค เมกเซนส์ ก็เข้าใจ ที่สำ� คัญการตั้งชื่อไม่จ�ำเป็น ต้องเป็นภาษาอังกฤษเสมอไป เป็นภาษาไทยก็ได้แต่ตอ้ งมีความหมายดี ความหมายเข้ากับ ธุรกิจ

THE HOSTEL BIBLE

150

10 หลักการท�ำการตลาดของสะพายเป้ แขกของเรา 80-90 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุม่ FIT (Freedom Independent Traveler) คือ นักท่องเทีย่ วทีเ่ ดินทางด้วยตนเอง แต่เราก็มกี ลุม่ ลูกค้าทีเ่ ป็นกลุม่ โรงเรียนด้วย ตอนท�ำตลาด เราพบว่า กลุม่ โรงเรียนแถบภาคอีสาน เวลาขึน้ มาประชุมสัมมนาทีก่ รุงเทพฯ เขาต้องการ ทีพ่ กั ทีร่ าคาไม่แพง เดินทางไปมาง่าย เด็กใช้จา่ ยได้อย่างประหยัด เราก็ทำ� จดหมายไปถึง โรงเรียนมัธยมทัว่ ภาคอีสาน มีโรงเรียนหลายแห่งทีม่ าพักกับเราทุกปี และเนือ่ งจากอาคาร เรามีพนื้ ทีเ่ ยอะ ห้องเก็บของสามารถดัดแปลงเป็นห้องสัมมนาจุได้ 30 คน บางครัง้ ก็จะมี กลุ่มบริษัทมาใช้ที่นี่เป็นสถานที่จัดประชุมแล้วก็เข้าพักด้วย เพราะเรามีทั้งห้องนอนรวม ส�ำหรับพนักงาน และห้องนอนเดี่ยวส�ำหรับผู้บริหาร คือทั้งสัมมนาและเข้าพักที่เดียวกัน ได้เลย


11 จะท�ำอย่างไรให้โฮสเทลมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ผมก็อยากให้มีคนมาสอนผมเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ถ้าถามถึงหลักการก็น่าจะ เป็นการบริการที่ดี เมื่อบริการดีแล้ว ลูกค้าก็จะบอกต่อ ส�ำหรับสะพายเป้ เรามีสัดส่วน ลูกค้าทีก่ ลับมาเป็นลูกค้าประจ�ำถึง 50-60% ซึง่ ถือว่าสูงมาก ท�ำให้เราไม่ตอ้ งเหนือ่ ยมาก กับการหาลูกค้าใหม่เพิ่ม 12 ตอนนี้มโี ฮสเทลเกิดขึ้นเยอะมาก คุณคิดว่าอะไรคือจุดดึงดูดให้ คนรุ่นใหม่หน ั มาเปิดโฮสเทลกัน วัยรุน่ เป็นวัยทีช่ อบท่องเทีย่ ว ชอบผจญภัย รักความสนุกสนาน แล้วธุรกิจโฮสเทลเป็น อะไรทีส่ นุกนะ มันไม่ใช่แบบแขกเข้าห้องปิดประตูล็อกกลอน เช็กเอาต์ จบ แต่แขกก็จะ มาชวนเราพูดคุย ตลาดน�ำ้ ไปอย่างไร เคยไปจันทบุรไี หม เคยไปกาญจนบุรไี ปเล่นน�ำ้ ตกไหม อย่างผมชอบท่องเทีย่ วอยูแ่ ล้วก็คยุ เลย น�้ำตกไทรโยคน้อยฉันเคยไปมาแล้ว คราวนี้คุยกัน ถูกคอ เริ่มเป็นเพื่อนกันแล้ว แน่นอนว่าทุกคนต้องการท�ำงานที่ได้ความสนุกด้วย ยิ่งถ้า ได้ท�ำในสิ่งที่ชอบแล้วท�ำมาหากินได้ด้วยก็ยิ่งดี นี่น่าจะเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้ประกอบการ หน้าใหม่เข้ามาท�ำธุรกิจนี้ ส่วนความเก๋ไก๋กแ็ ล้วแต่ไอเดีย ถ้ามีสถาปนิกทีด่ ี มีไอเดียทีด่ ี ก็ทำ� ให้มนั สวย ให้มนั ชิคได้ ความมีเสน่หก์ ็ตามมา ส่วนมากคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาท�ำโฮสเทล ผมสังเกตว่าเจ้าของจะพัก เองด้วย อาจจะมีตกึ แถวว่างก็เก็บไว้ให้ตวั เองห้องหนึง่ หรือบางคนช่วยกันกับแฟนเปิดเป็น โฮสเทล ก็มที อี่ ยูไ่ ปในตัวด้วย อยูบ่ า้ นตัวเองแล้วแถมได้เงินด้วย มีใครไม่อยากท�ำ ไม่ตอ้ งไป ท�ำงานบริษทั ไม่ตอ้ งไปเช่าออฟฟิศ เอาบ้านตัวเองนีแ่ หละเป็นออฟฟิศ ได้ทงั้ เงิน ได้ทงั้ ความสนุก ผมว่าจุดนีย้ งิ่ ดึงดูดให้คนอยากท�ำโฮสเทลมากขึน้ เรือ่ ยๆ บางคนอาจไม่รดู้ ว้ ยซ�ำ้ ว่า ท�ำโฮสเทลต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องวางแผนการเงินอย่างไร สัดส่วนอัตราเข้าพักเท่านี้ เมื่อเทียบกับรายรับรายจ่ายจะเหลือเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เขาสนใจน่าจะเป็นเนื้องานมากว่า 13 จะเห็นว่าเจ้าของรุ่นใหม่ๆ ออกแบบโฮสเทลได้สวย มีสไตล์มาก เป็นสิง่ ทีด่ นี ะครับ แน่นอนว่าแขกทีม่ าพักส่วนหนึง่ ก็ตอ้ งการความสวยเก๋ แต่ผมอยาก บอกน้องๆ รุ่นใหม่ที่เข้ามาท�ำธุรกิจนี้ว่า โฮสเทลเก๋ถือว่ามีชัยไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่ง หนึง่ ทีเ่ หลือคุณต้องใส่ใจด้วยนะ ไม่ใช่วา่ คุณเก๋อย่างเดียวแต่ไม่ใส่ใจ คุณปล่อยปละละเลย ไม่บริการลูกค้า ไม่รับฟังลูกค้า ไม่เป็นผู้ฟังที่ดี แก้ปัญหาได้ไม่ดี ผมว่าต่อให้เก๋ยังไง ก็อยู่ ได้ไม่นาน สะพายเป้อาจจะรู้ตัวว่าเราเก๋ไม่เท่าคนอื่น เราเลยเน้นหนักเรือ่ งบริการให้แขก ประทับใจ ทุกปัญหาเรารับฟัง ตัง้ แต่พาสปอร์ตหาย กล้องหาย พาไปต่อวีซ่า พาไปเที่ยว ปรินท์เตอร์พิมพ์ไม่ออก ส่งอีเมล์สแกนอย่างไร เรารับฟังทุกเรื่องของลูกค้า และจะรับฟัง จนนาทีสุดท้าย

THE HOSTEL BIBLE

151


14 คุณคิดว่าเจ้าของโฮสเทลควรมีบุคลิกลักษณะอย่างไร มีจิตใจรักงานบริการ เพราะคุณอาจต้องเจอกับลูกค้าประเภทที่ท�ำให้คุณปรี๊ดแตก ได้ทกุ เมือ่ หลายครัง้ ผมเคยสงสัยว่าลูกค้าท�ำสิง่ นัน้ ๆ ไปได้อย่างไร แล้วสุดท้ายก็ตอ้ งกลับมา ให้เราช่วย ยกตัวอย่างเช่น เขาไปร้านเพชรกับคนขับรถตุก๊ ตุก๊ แล้วโดนคนขับหลอก พอมาถึง โรงแรมก็ขอให้เราช่วยเอาเงินคืนให้ มีตัวอย่างท�ำนองนี้เยอะมาก ส่วนตัวผมเป็นคน สนุกสนาน ชอบรูเ้ รือ่ งคนโน้นคนนีแ้ ล้วก็คยุ กับเขาไปทัว่ ถ้าคุณไม่มใี จรักการบริการ คุณจะ ท�ำงานตรงนี้ได้ยาก 15แล้วถ้าไม่มใี จรักการบริการ แต่อยากลงทุนธุรกิจนีล้ ่ะ สามารถ ท�ำได้ไหม งานทีด่ ตี อ้ งมาจากใจรักก่อน แล้วผลงานทีด่ ถี งึ จะตามมา ถ้าคุณไม่มใี จรักการบริการ คุณจะไม่มีวันท�ำธุรกิจนี้ได้ส�ำเร็จ 16 ทราบมาว่า นอกจากลงทุนในธุรกิจโฮสเทล คุณยังเปิดบูตค ิ โฮเต็ล ช่วยเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างด้านรายได้ ระหว่างบูตค ิ โฮเต็ล และโฮสเทล ถ้าเปรียบเทียบความแตกต่างเรื่องรายได้ ราคาต่อหน่วยของโฮสเทลจะต�่ำกว่า บูตคิ โฮเต็ลอยูแ่ ล้ว สมมุตวิ า่ เป้าหมายของคุณคือรายได้ 4,000 บาท ปกติโฮสเทลจะขาย ตั้งแต่เตียงละ 400 อย่างมากสุดผมว่าไม่น่าจะเกิน 500 กว่าบาท สมมติถ้าคุณจะขาย เตียงละ 400 บาท คุณต้องมีลูกค้า 10 คน นั่นเท่ากับคุณต้องท�ำอย่างเดิมซ�้ำ 10 ครั้ง ตั้งแต่อธิบาย เช็กอิน โต้ตอบลูกค้า กว่าทีค่ ณ ุ จะได้เงินมา 4,000 บาท แล้วพอคนเยอะ ปัญหาก็เยอะ คุณต้องแก้ปัญหาให้กับ 10 คน

THE HOSTEL BIBLE

152

ส่วนบูติคโฮเต็ล ถ้าตั้งราคาห้องละ 4,000 บาท แขกเช็กอินหนึ่งคน คุณก็ได้แล้ว 4,000 บาท แต่แขกของบูติคโฮเต็ลก็จะเป็นอีกระดับหนึ่ง เขามีความคาดหวังที่สูงกว่า แน่นอนเตียงนอน ผ้าปู ผ้าห่มของคุณต้องมีมาตรฐาน ต้องสะอาด การบริการต้องดี พนักงานมีกิริยามารยาท คุณอาจจะพูดน้อยลงกับแขกแค่คนเดียวก็จริง แต่แขกคนนั้น คุณต้องเซอร์วิสเขาอย่างดี จะมาสบายๆ ชิลล์ๆ ไม่ได้ เพราะเขาจ่ายคุณคืนละ 4,000 นะ ขณะที่บรรยากาศของโฮสเทลมีความเป็นกันเองมากกว่า


17 แล้วแบบไหนสนุก แบบไหนเหนื่อยกว่ากัน โฮสเทลสนุกกว่าและเหนือ่ ยกว่าครับ ผมเป็นคนชอบคุยกับลูกค้า ชอบบริการ แต่แน่นอน ก็มีหงุดหงิดบ้างนะ กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่นี่กว่าจะได้เงิน 4,000 บาท ผมต้องแก้ปัญหา 10 อย่างเพือ่ คน 10 คน แน่นอนว่ามันเหนือ่ ยกว่า แต่กส็ นุกกว่า คนก็เป็นกันเองมากกว่า แขกวัยรุ่นมาก็ถามไถ่ทักทาย วันนี้ไปเที่ยวไหนดี เขาไปเที่ยวข้างนอกก็ซื้อขนมมาฝาก ซึง่ ในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว เราจะไม่ได้สมั ผัสบรรยากาศแบบนี้ พนักงานต้องใส่สทู ผูกไท ยกมือไหว้ ความสนุกสนานเป็นกันเองจะลดลง ถ้าคุณเป็นคนชอบพูดคุยหยอกล้อกับคนอืน่ ชอบแก้ปญั หา ชอบการแฮงเอาต์ ผมว่าท�ำโฮสเทลสนุกกว่า เหนือ่ ยกว่า แต่กอ็ าจจะมีความสุข กว่าด้วยนะ

หัวใจของโฮสเทลคือCommunity คนที่มาพักเขามาหาสังคม มาหาประสบการณ์ใหม่ๆ มิตรภาพที่ได้จากการเข้าพักที่โฮสเทล จะอยู่กบ ั เขาตลอดไป เราต้องตอบโจทย์น้ใี ห้กบ ั เขาได้

สะพายเป้ โฮสเทล

35 ถนนสุรศักดิ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0-2238-2322 เว็บไซต์ www.saphaipae.com Facebook : Saphaipae Hostel

THE HOSTEL BIBLE

153


THE HOSTEL BIBLE

154


Yim

Huai Khwang Hostel MEET YOUR BEST FRIENDS IN BANGKOK ไม่วา่ ใครก็คงอยากลงทุนในสุดยอดท�ำเลทอง แต่ถา้ คุณ ไม่ได้อยูใ่ นท�ำเลทีด่ ที สี่ ดุ การมีจดุ ขายทีโ่ ดดเด่นก็สามารถ ท�ำให้ธุรกิจของคุณประสบความส�ำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ได้เช่นกัน Yim Huai Khwang Hostel คือหนึ่งในตัวอย่าง ที่ ดี ที่ สุ ด ของกรณี ดั ง กล่ า ว โฮสเทลแห่ ง นี้ ตั้ ง อยู ่ ย ่ า น ห้ ว ยขวาง และเริ่ ม เปิ ด กิ จ การในช่ ว งที่ มี ก ารปฏิ วั ติ ! คุณเต็ม-โชติรัตน์ อภิวัฒนาพงศ์ เจ้าของและนักธุรกิจ รุน่ ใหม่ผมู้ วี สิ ยั ทัศน์ ได้เช่าและปรับปรุงอาคารส�ำนักงานเก่า ยุค 80 จนกลายเป็นดีไซน์โฮสเทลทีไ่ ด้รบั การกล่าวถึงมากทีส่ ดุ แห่งหนึง่ ของกรุงเทพฯ ในยุคนี้ และยังถูกกล่าวถึงหลายครัTHE ง้ ในสื่อต่างประเทศ HOSTEL BIBLE

155


THE HOSTEL BIBLE

156


จากอาคารเก่าพื้นไม้ปาร์เก้ ได้รับการรีโนเวตด้วยสไตล์ป๊อปอาร์ตสีสันสดใส น่าตื่น ตาตื่นใจ ตกแต่งด้วยศิลปะแบบคอลลาจ (Collage) มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ นาฬิกา เรือนใหญ่ ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่เลยก็ว่าได้ และหยิบเอาค�ำว่า “ยิ้ม” (Yim) มา เป็นชื่อของโฮสเทล ซึ่งเป็นชื่อที่สั้น จ�ำง่าย และสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็น อย่างดี พื้นที่ส่วนเตียงนอนมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบห้องรวม 6 เตียง (450 บาท) ห้องรวม 4 เตียง (เฉพาะผู้หญิง 550 บาท) ห้องแบบเตียงคู่ (1,560 บาท) และห้องแบบ Junior Suite (3,900 บาท) สิ่งส�ำคัญที่สุดที่แขกจะได้รับเมื่อเข้าพักที่นี่ คือบริการที่อบอุ่นเป็นกันเองอย่างมาก จากเจ้าของและทีมงาน จนโฮสเทลแห่งนี้กลายเป็นที่พักยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดย เฉพาะชาวจีน ชาวไต้หวัน และชาวอาเซียน การทีม่ กี ลุม่ นักท่องเทีย่ วเอเชียเป็นหลัก ช่วย ท�ำให้ชว่ งโลว์ซซี นั่ ของทีน่ สี่ นั้ กว่าโฮสเทลทีเ่ น้นลูกค้าจากฝัง่ ยุโรปและอเมริกา และถึงแม้ จะไม่มีที่จอดรถ การเดินทางมายัง Yim Huai Khwang Hostel ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่ อย่างใด เพราะตั้งอยู่ใกล้บริเวณสี่แยกห้วยขวาง สามารถเดินจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ห้วยขวางเพียง 50 เมตรเท่านั้น ถ้าคุณผ่านไปแถว Yim Huai Khwang Hostel และมองผ่านผนังกระจกเข้าไปด้านใน คุณจะได้เห็นคุณเต็มและทีมงาน คอยบริการลูกค้าอย่างอารมณ์ดีอยู่เสมอ เพราะที่นี่คือที่ที่คุณจะได้พบเพื่อนที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ และเรียกรอยยิ้มได้ทุกครั้ง เมื่อหวนนึกถึง

THE HOSTEL BIBLE

157


Q A

1 แรงบันดาลใจในการท�ำธุรกิจนี้ เริ่มจากผมไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน แล้วมีโอกาสไปพักโฮสเทลหลายๆ แห่ง รู้สึก ชอบสไตล์หรือวิธกี ารบริการของเขาทีม่ คี วามเป็นกันเอง เลยคิดต่อยอดว่าถ้ามาท�ำโฮสเทล ลักษณะนีท้ กี่ รุงเทพฯ บ้าง น่าจะสนุกดี ไอเดียเริม่ จากตรงนัน้ และช่วงนัน้ ผมมีโอกาสได้ไปพัก ทั้งโฮสเทลและดีไซน์โฮเต็ลหลายแห่ง ได้เห็นความแตกต่างว่า ดีไซน์โฮเต็ลจะมีความ เข้า ถึงยากเล็กน้อย ผมอยากให้ดีไซน์เข้าถึงได้ง่าย ก็เลยออกมาเป็น “Yim Huai Khwang” (ยิ้ม ห้วยขวาง) นี่ละครับ 2 ช่วยเล่าแบ็คกราวนด์ของคุณให้เราฟังสักนิด ผมเรียนจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อด้วย ปริญญาโท สาขา Management Entrepreneur วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผมช่วยที่บ้านท�ำธุรกิจผลิตขวดแก้วขวดพลาสติก มีท�ำอพาร์ตเมนต์บ้าง แต่ไม่เคยมี แบ็คกราวนด์ด้านโรงแรมหรือโฮสเทลมาก่อน

THE HOSTEL BIBLE

158

3 ตึกนี้ได้มาอย่างไรครับ แล้วท�ำไมคุณถึงเลือกท�ำเลตรงนี้ เริ่มจากผมมีโปรเจ็กต์ที่คิดไว้อยู่แล้วว่าจะท�ำโฮสเต็ล แต่พอดีมาเจอตึกนี้ก่อน ก็ลอง สอบถามดูว่าเขาให้เช่าเท่าไร ปรึกษาหลายๆ คนดู ท�ำเลที่นี่ค่อนข้างดีก็เลยตัดสินใจท�ำ


4 คุณเริม ่ ต้นท�ำธุรกิจนีป ้ ไี หน งบประมาณเท่าไร แล้วตัง้ เป้าไว้วา่ กีป ่ ี จะคืนทุน ผมตัดสินใจว่าจะท�ำทีน่ ชี่ ว่ งต้นปี 56 แล้วอีกหนึง่ ปีถดั มา เดือนมกราคมปี 57 ก็ลงมือท�ำ ช่วงระหว่างหนึง่ ปีนนั้ ก็ใช้เวลาไปกับการท�ำแบบ การก่อสร้าง การรีโนเวต ผมตัง้ เป้าไว้วา่ น่าจะคืนทุนประมาณ 4 ปี ถ้าไม่รวมค่าเช่า ก็ลงทุนไปประมาณ 6 ล้านได้มา 16 ห้อง 48 เตียง แบ่งสัดส่วนการลงทุน 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นการก่อสร้างและรีโนเวต 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นการออกแบบ ที่เหลือ 30-40 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ ค่าตกแต่ง 5 อะไรคืออุปสรรคที่ยากที่สุดตอนเริ่มต้น ขั้นตอนการตัดสินใจว่าจะลงมือท�ำเป็นสิ่งที่ยากที่สุด เพราะที่ผ่านมาผมอยู่ใน คอมฟอร์ตโซน (Comfort Zone) มาตลอด แต่พอก้าวออกมาแล้ว สิง่ ทีย่ ากทีส่ ดุ หลังจากนัน้ คือ ความกล้าเผชิญปัญหาที่จะเข้ามาเรื่อยๆ 6 ทีน ่ โ่ี ดดเด่นมากเรือ ่ งดีไซน์การตกแต่ง คุณวางคอนเซ็ปต์เอาไว้ อย่างไร เราอยากท�ำเป็นดีไซน์โฮสเทล อยากได้บรรยากาศสนุกๆ เฟรนด์ลี่ ก็ได้ไอเดียเป็นการ ตกแต่งสีสันสดใสสไตล์ป๊อปอาร์ต ส่วนภายในแต่ละห้องจะเป็นโทนเรียบๆ แนวมินิมัล ใช้สีขาว สีไม้ บางห้องก็ออกแบบให้คอนทราสต์หน่อย แต่หลักๆ แขกต้องนอนสบาย ผมเป็นนักท่องเที่ยวมาก่อน เราเข้าใจว่าแขกต้องการอะไร ถึงแม้บรรยากาศข้างนอก จะวุ่นวายแค่ไหน แต่บรรยากาศข้างในต้องเรียบง่าย มาถึงแล้วหลับสบาย ได้พักผ่อน เพราะว่าพรุ่งนี้เขาต้องออกไปเที่ยวต่อ เดินทางต่อ 7 ชื่อ Yim (ยิ้ม) ฟังแล้วสะดุดหูมาก คุณได้ชื่อนี้มาจากไหน เราคุยกันมาก่อนหน้านี้ว่า ถ้าจะท�ำโฮสเทล เราจะตั้งชื่อว่าอะไรดี ค�ำว่า “ยิ้ม” เป็น คาแร็กเตอร์ของคนไทยที่สัมผัสได้ง่าย เป็นความเฟรนด์ลี่อย่างหนึ่ง แล้วก็เป็นค�ำไทยที่ สะกดง่ายในภาษาอังกฤษ ก็เลยคิดว่าน่าจะเอามาตัง้ เป็นชือ่ โฮสเทลได้ แล้วก็เติมโลเคชัน่ เข้าไปด้วย ตรงตามสูตรการตั้งชื่อเลย “ใคร ท�ำอะไร ที่ไหน” ออกมาเป็น “Yim Hostel Huai Kwang” ได้มู้ดไทยๆ ยิ้มๆ

THE HOSTEL BIBLE

159


8 ท�ำไมลูกค้าถึงเลือกทีจ่ ะมาพักทีน ่ ี่ มีอะไรบ้างที่ Yim มี แต่ทอ ี่ น ื่ ไม่มี ความเฟรนด์ลี่ผมว่าทุกที่ก็มีนะ แต่ที่นี่มีสิ่งที่แตกต่างคือ ดีไซน์บวกความเป็นกันเอง ความเข้าถึงได้ง่ายของการตกแต่ง ท�ำให้เกิดความสนุก เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สึกว่าที่นี่เป็น เหมือนแกลอรี่ ในขณะเดียวกันที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้าน ทั้งๆ ที่ถ้าดูจากสถานที่ เหมือนว่า งานดีไซน์จะเด่นมากกว่า แต่ด้วยคาแร็กเตอร์ของทีมงานที่มีความเป็นกันเองมาก น่าจะ เป็นจุดที่แตกต่างจากที่อื่น ส่วนใหญ่เราจะรู้สึกว่า ที่ไหนก็ตามที่มีความเป็นดีไซน์มากๆ ก็จะดูเท่ๆ แต่เข้าถึงยาก ไม่ได้สัมผัสการบริการเท่าไหร่ แต่ที่นี่เราใส่ทั้งดีไซน์ ทั้งการ บริการที่เป็นกันเอง ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน 9 ด้วยราคาค่าห้องพักทีเ่ ท่ากัน คุณคิดว่าอะไรท�ำให้นก ั ท่องเทีย ่ ว เลือกที่จะพักโฮสเทล แทนที่จะพักโรงแรมสแตนดาร์ดทั่วไป เพราะคาแร็กเตอร์ทตี่ า่ งกัน ถ้าไปโรงแรม เขาจะคาดหวังมาตรฐานว่าจะต้องมีอนั นูน้ อันนี้ แต่กบั โฮสเทลมันคนละแบบ คุณจะได้การต้อนรับ การดูแล ความเอาใจใส่ทเี่ ป็นกันเอง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 10 ที่นี่มีกิจกรรมอะไรพิเศษบ้าง เราพาเดินทัวร์เป็น Walking Tour พาไปชมงานศิลปะ แกลอรี่ ไปชิลล์ที่คาเฟ่ฮิปๆ มีการจัดกิจกรรมคุกกิ้งคลาส และมี Movie Night


11 คุณคิดว่าเจ้าของธุรกิจโฮสเทลต้องมีคาแร็กเตอร์อะไร เป็นพิเศษบ้างไหม ต้องรักบริการ อย่างน้อยต้องเฟรนด์ลี่ คุยกับคนอื่นได้ง่าย อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องมี ความตัง้ ใจ ตัง้ ใจท�ำ ตัง้ ใจเรียนรู้ ผมไม่เคยท�ำอาหารเช้ามาก่อนเลยนะ และไม่เคยท�ำอะไร อีกหลายอย่าง ก็มาเรียนรู้จากที่นี่ทั้งหมด 12 สมมติว่ามีแรงบันดาลใจ มีความตั้งใจมาก แต่ได้ท�ำเลแย่ๆ แถมงบยังน้อย จะท�ำอย่างไรดี ท�ำได้ครับ จากการเคยเข้าคอร์สกับพี่ขิง (วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์) ท�ำให้ได้รู้ว่ามันมี เคสทีแ่ ปลกๆ ทีง่ บไม่เยอะ อยูท่ ำ� เลไม่ดี แต่กย็ งั ท�ำได้ เพราะแต่ละคน แต่ละท�ำเล แม้จะ ไม่เหมือนกัน แต่กม็ คี วามพิเศษบางอย่าง ท�ำเลกับงบจริงๆ แทบจะไม่ใช่ปญั หาเลย ประเด็นคือ ต้องหาความแตกต่างและสไตล์ของตัวเองให้เจอ

THE HOSTEL BIBLE

161


THE HOSTEL BIBLE

162


13 ในมุมมองของคุณ เทรนด์ของธุรกิจโฮสเทลในบ้านเรา เป็นอย่างไร ผมว่าธุรกิจนี้ยังไปได้อีก เท่าที่ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยว เขารู้สึกว่าประเทศไทย เหมือนเป็นฮับ (Hub ) เขาใช้กรุงเทพฯ เป็นจุดท่องเทีย่ วหลักก่อน จากนัน้ ฝากกระเป๋าไว้ แล้วไปเทีย่ วต่อ ไปลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย แล้วสุดท้ายก็บนิ กลับมากรุงเทพฯ ก่อนบิน กลับบ้าน ซึ่งผมว่า ความเป็นฮับนี่ละที่น่าสนใจ 14 ฝากส�ำหรับคนที่อยากจะลงทุนในธุรกิจนี้ Key of Success คืออะไร ผมว่าน่าจะเป็นความกล้าและความตัง้ ใจ เมือ่ ตัดสินใจแล้วว่าจะท�ำตรงนี้ ก็ตอ้ งลองดู ผมว่าทุกปัญหามันแก้ได้ มันมีวธิ กี าร และไม่ได้มที างออกเดียวด้วย แต่ยงั มีหลายทางออก ถ้าตัดสินใจจะท�ำโฮสเทล คุณก็แค่เชื่อในตัวเอง หาสไตล์ที่เป็นตัวเอง หาความชอบที่ เรามีแต่คนอื่นไม่มี หรือหาความกล้าความบ้าอะไรสักอย่างของตัวเอง เอามาใช้ให้เกิด ประโยชน์ เกิดเป็นจุดต่างของเรา แล้วก็ลงมือท�ำเลยครับ

ที่นี่มีสิ่งที่แตกต่างคือ ดีไซน์บวกความเป็นกันเอง ความเข้าถึงได้ง่ายของการตกแต่ง ท�ำให้เกิดความสนุก เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สก ึ ว่า ที่นี่เป็นเหมือนแกลอรี่ ในขณะเดียวกัน ที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้าน

Yim Huai Khwang Hostel

70 ถนนประชาราษฎร์บ�ำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2118-6038 เว็บไซต์ www.yimhuaikhwang.com Facebook : YimHuaiKhwang

THE HOSTEL BIBLE

163


SIMPLY “THE BEST PLACE TO REST”

THE HOSTEL BIBLE

164


คุณเพ็ญ-จารุภา สุนทรปกาสิต เจ้าของ Bed Station Hostel ได้คน้ พบตึกแถวเก่า แห่งนีท้ ยี่ า่ นราชเทวี จากการค้นหาในอินเทอร์เน็ต หลังจากมันถูกทิง้ ร้าง ไม่มใี ครเช่ามาเป็น เวลา 5 ปี และถ้ากุญแจความส�ำเร็จของโฮสเทล ประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ข้อ คือ ท�ำเลที่ ตัง้ การตกแต่ง และบริการ ที่นี่ก็คือโฮสเทลที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตั้งแต่การอยู่ในสุด ยอดท�ำเลในซอยเพชรบุรี 16 ที่สามารถเดินจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวีเพียง 2 นาทีเท่านัน้ การตกแต่งทีส่ วยงามในแบบลอฟต์โมเดิรน์ (Loft Modern) รวมถึงงานออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ ทีล่ งตัว และการบริการทีอ่ บอุน่ เป็นกันเอง ทีค่ ณ ุ จะสัมผัสได้ตงั้ แต่วนิ าทีแรกทีค่ ณ ุ เปิดประตู เข้าไป คุณจะได้พบกับเหล่า Flashpacker (หมายถึง กลุม่ นักแบกเป้ยคุ ใหม่ทมี่ กี ำ� ลังจ่าย สูงขึน้ มีสไตล์การท่องเทีย่ วทีเ่ ป็นของตัวเอง และพกพาอุปกรณ์ทนั สมัยต่างๆ เพือ่ ใช้คน้ หา ข้อมูลและการสือ่ สาร – บก.) ทีน่ งั่ รวมตัวกันอยูใ่ นห้อง Common Room บริเวณล็อบบี้ ด้านล่าง และเล่นเกมต่างๆ อย่างสนุกสนาน มีทั้งมุมจิบชา กาแฟ หรือจะนั่งอ่านหนังสือ ก็เพลิน นัง่ ท�ำงานก็ชลิ ล์ เป็นทีถ่ กู ใจของชาวฮิปสเตอร์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะลูกค้าจาก ยุโรปและอเมริกา Bed Station มีห้องพักให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ ห้องพักส่วนตัวขนาด 1 เตียงนอน ห้องพักขนาด 4 เตียงนอน ห้องพักขนาด 6 เตียงนอน โดยมีให้เลือกทัง้ แบบเข้าพักรวมกัน และห้องพิเศษส�ำหรับหญิงสาวโดยเฉพาะ และสุดท้ายเป็นห้องพักขนาด 8 เตียงนอน เหมาะส�ำหรับกลุม่ ขนาดใหญ่ ห้องพักทุกแบบมีการตกแต่งด้วยบรรยากาศและโทนสีทดี่ ู อบอุน่ ผ่อนคลายเหมาะส�ำหรับการพักผ่อน แม้จะร่วมแชร์หอ้ งกับคนอืน่ ก็ยงั ให้ความรูส้ กึ เป็นส่วนตัว สะดวกสบาย และไม่อดึ อัด จุดทีน่ า่ สนใจอีกแห่งอยูท่ หี่ อ้ งน�ำ้ ซึง่ รวมกันอยูท่ ี่ ชัน้ เดียว ท�ำให้หอ้ งน�ำ้ ของทีน่ กี่ ว้างขวางต่างจากโฮสเทลแห่งอืน่ ๆ โดยเฉพาะห้องน�ำ้ หญิง ซึ่งเป็นที่ถูกใจของลูกค้าสุภาพสตรีเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัตทิ กี่ ล่าวมาทัง้ หมด รวมถึงบุคลิกการต้อนรับลูกค้าอย่างอบอุน่ เป็นกันเอง ของเจ้าของทีส่ ามารถถ่ายทอดผ่านพนักงานได้อย่างสมบูรณ์จนท�ำให้ Bed Station กลายเป็น โฮสเทลยอดนิยมที่มียอดการจองสูงที่สุดแห่งหนึ่ง และกลายเป็นศูนย์รวมของบรรดา นักเดินทางทีต่ อ้ งการสัมผัสบรรยากาศของกรุงเทพฯ รวมถึงยังเป็นทีพ่ กั ทีช่ าว Flashpacker ปรารถนาจะมาพักมากที่สุด แม้ว่าจะเพิ่งเปิดได้เพียง 6 เดือนก็ตาม

THE HOSTEL BIBLE

165


1 ช่วยแนะน�ำตัวสักเล็กน้อย คุณเรียนจบมาด้านไหน Q เคยท�ำงานอะไรมาก่อน และเข้าสู่ธุรกิจโฮสเทล ได้อย่างไร A

ดิฉันเรียนจบปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปต่อปริญญาโททีป่ ระเทศอังกฤษ ตอนนีก้ ำ� ลังเรียนปริญญาเอกอยู่ ที่มหาวิทยาลัยเอแบค ก่อนหน้านี้เคยร่วมกับครอบครัวท�ำธุรกิจคอนโดมิเนียม ในย่าน แจ้งวัฒนะ พอดีเห็นช่องทางของธุรกิจโฮสเทล ตอนไปเรียนที่อังกฤษ เราชอบพบเจอกับ คนต่างชาติ เลยรู้สึกอยากท�ำ เลยมองหาตึก ออกหาโลเคชั่น ก็ประจวบเหมาะได้ตึกนี้มา

THE HOSTEL BIBLE

166

2 ก่อนที่จะมาเจอที่นี่ มองท�ำเลอื่นไว้บ้างหรือเปล่า มีค่ะ ก่อนหน้านี้ดูไว้ตรงถนนปั้น ย่านสีลม ซึ่งตอนนี้ก็พัฒนาเป็นโฮสเทลอีกแห่งหนึ่ง ไปแล้ว ตอนนั้นเราใช้วิธีเดินเจาะส�ำรวจแนวรถไฟฟ้าย่านสีลม แต่ก็มองว่าย่านนั้นเป็น ย่านทีฝ่ รัง่ ไปเทีย่ วกลางคืนเสียมากกว่า พอขยับมาหน่อยแถวสาทร ถ้าไม่ได้อยูใ่ นระยะเดิน จากสถานีรถไฟฟ้าได้ ก็อาจจะไกลส�ำหรับลูกค้าไปนิดหนึ่ง


เรามองว่าควรเป็นแนวรถไฟฟ้าที่ลูกค้าสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ประกอบกับเป็นเทรนด์ใหม่ จากเมือ่ ก่อนเวลาชาวต่างชาติมากรุงเทพฯ จะต้องพักอยูแ่ ถว ถนนข้าวสาร แต่เดีย๋ วนีเ้ ขาเลือกทีจ่ ะนัง่ รถไฟฟ้าเพือ่ ไปท่องเทีย่ วทีอ่ นื่ มากกว่า อาจจะอยู่ ข้าวสารแค่คืนเดียว ท�ำให้เราเห็นว่าเทรนด์ของรถไฟฟ้า ท�ำเลที่ตั้ง ไลฟ์สไตล์ และการ พักผ่อนของนักท่องเที่ยวน่าจะเป็นปัจจัยส�ำคัญ 3 พื้นฐานจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว มีส่วนช่วย ในการท�ำธุรกิจโฮสเทลของคุณมากน้อยแค่ไหน ช่วยเรื่องการก่อสร้าง เรื่องการตกแต่งมากกว่า ซึ่งแฟนจะเป็นคนดูแลเรื่องงาน ก่อสร้างอยู่แล้วก็จะมาช่วยตรงนี้ 4 โฮสเทลในความหมายของคุณคืออะไร โฮสเทลคือบ้านหลังทีส่ องของชาวต่างชาติทมี่ าท่องเทีย่ วในประเทศไทย เป็นทีพ่ กั ผ่อน ของเขาจริงๆ ที่นี่เราจะเน้นความเป็นส่วนตัวและความสบายให้กับลูกค้าค่อนข้างสูง สังเกตว่าส่วนใหญ่ลกู ค้าของเราจะไม่คอ่ ยไปไหน มักจะพักอยูท่ นี่ ี่ นัง่ เล่นนอนเล่นกันทัง้ วัน 5 คาแร็กเตอร์ของลูกค้าที่มาพักกับคุณ แตกต่างจากลูกค้าของ โฮสเทลอื่นๆ อย่างไรบ้าง ลูกค้าของเราจะมีทั้งสนุกสนานและชอบความสงบ ใครรักสนุกก็จะลงมาข้างล่าง มาเฮฮาปาร์ตี้ ส่วนใครทีร่ กั สงบก็จะอยูข่ า้ งบน แต่วา่ ทีน่ จี่ ะไม่คอ่ ยมีลกู ค้าเอเชียสักเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นฝรัง่ ทางยุโรปหรืออเมริกามากกว่า ส่วนหนึง่ อาจเป็นเพราะสไตล์ของเรา ด้วยบรรยากาศ ด้วยความสนุกสนานในตัวเอง เพราะฝรัง่ เขาชอบความสนุกสนานอยูแ่ ล้ว อย่างกลุ่มเอเชียมาก็จะไม่มาสุงสิงกับฝรั่ง เวลาไปเที่ยวเขาก็จะรวมตัวในกลุ่มกันเอง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ดึงดูดฝรั่งเข้ามามากกว่า 6 ตรงกับที่คุณคาดหวังในตอนแรกไหม ใช่ค่ะ เป็นสิ่งที่คาดไว้ตั้งแต่แรก วันแรกที่มาเช่าตึกไม่มีฝรั่งเดินมาสักคน มีแต่เอเชีย กับจีนพากันเดินไปโรงแรมข้างๆ เรายังกลัวเลยว่าจะมีแขกหรือเปล่านะ (หัวเราะ) แต่พอท�ำแล้ว กระแสตอบรับค่อนข้างดี มีแต่แขกฝรั่ง ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์

THE HOSTEL BIBLE

167


7 เป็นเพราะประสบการณ์ทค ี่ ณ ุ เคยใช้ชวี ติ อยูต่ า่ งประเทศหรือเปล่า ทีท ่ ำ� ให้คณ ุ ท�ำสินค้าออกมาตรงกับความต้องการของลูกค้าต่างชาติ จริงๆ เราก็ไม่เคยนอนที่โฮสเทลมาก่อน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าโฮสเทลเป็นอย่างไร ไม่เคย รูเ้ ลยว่าต้องใช้หอ้ งน�ำ้ รวม แต่เพราะอยากท�ำก็เลยเริม่ ศึกษา โชคดีทไี่ ด้ทมี ออกแบบ ทีมดีไซน์ โลโก้ช่วยท�ำแบรนดิ้ง พวกเขาชอบนอนโฮสเทลมาก่อนด้วย ก็เลยเอาไอเดียมารวมกัน ทั้งหมด ออกมาเป็นแนวนี้ 8 แล้วท�ำไมถึงเลือกท�ำเป็นโฮสเทล ไม่เป็นดีไซน์โฮสเทล หรือ บูติคโฮเต็ล เพราะเราชอบแขกทีส่ นุกสนานมากกว่า ถ้าเป็นบูตคิ โฮเต็ล แขกก็จะเป็นอีกแบบหนึง่ มีความเป็นส่วนตัวสูง แขกจะไม่มาคุยเล่นเฮฮาสนุกสนาน ไม่มามีปฏิสมั พันธ์กบั เรา แต่กบั โฮสเทล แขกจะนัง่ อยูก่ บั เราจนกว่าเราจะปิดเคาน์เตอร์ เราพูดคุยเล่นกับเขาจนจ�ำชือ่ กันได้ บางคนมาอยู่ 3 เดือนแล้ว จนมีความเป็นกันเองมากเหมือนเป็นบ้าน เป็นครอบครัวกันไปแล้ว 9 คนที่เหมาะจะท�ำธุรกิจโฮสเทลต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ต้องรักงานบริการสุดๆ เพราะลูกค้าถึงแม้ว่าจะเป็นกันเอง แต่เขาก็คาดหวังกับเรา 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกัน อีกอย่างคือ ต้องสนุกสนานร่าเริง ยิม้ แย้มแจ่มใส ประมาณว่า พร้อมจะยิ้มเสมอ แก้ปัญหาได้แบบทันท่วงทีตามที่ลูกค้าต้องการ 10 คุณใช้เงินลงทุนไปเท่าไร แล้วใช้เวลานานแค่ไหนในการตกแต่ง และรีโนเวต ลงทุนไปประมาณเกือบ 7 ล้าน ใช้เวลาประมาณ 4 เดือนในการรีโนเวต

THE HOSTEL BIBLE

168

11 มีวิธีการบริหารเตียงอย่างไร และห้องแบบไหนขายดีที่สุด เรามีหอ้ งพัก 5 แบบ คือ แบบ 8 เตียง (450 บาท) 6 เตียง (500 บาท) 4 เตียง (550 บาท) และห้องเดี่ยว ซึ่งแยกเป็นแบบมีห้องน�้ำในตัว (1,300 บาท) กับแบบไม่มีห้องน�ำ้ ในตัว (1,250 บาท) ทุกห้องจะหน้าตาเหมือนกันหมด ต่างกันที่จ�ำนวนเตียง มีชั้นลอยให้ลูกค้า นั่งเล่น ตีปิงปอง ดูโทรทัศน์ เล่นเกม เล่นคอมพิวเตอร์ ส่วนห้องน�้ำทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 4 แต่ในแต่ละชัน้ ก็จะมีหอ้ งน�ำ้ ให้ เราเสิรฟ์ อาหารเช้าเป็น Continental Breakfast มีขนมปัง ชา กาแฟ และคอนเฟลก


ห้องแบบทีข่ ายดีทสี่ ดุ คือ แบบ 8 เตียง แม้วา่ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าอีกระดับหนึง่ แต่เขาก็ต้องคุมเรื่องบัดเจ็ตเหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลที่เขาเลือกห้องที่ราคาถูกและมองว่า คุ้มค่า รวมทั้งลักษณะเตียงของเรามีผ้าม่านบังอยู่แล้ว แขกเลยไม่ค่อยแคร์ว่าในห้องจะมี กีเ่ ตียง ห้องทีข่ ายดีรองลงมาคือ แบบ 6 เตียง ซึง่ ราคาต่างจากห้อง 8 เตียงไม่มาก ลูกค้าบางคน ที่มีฐานะหน่อย เขาก็เต็มใจที่จะอยู่แบบคนน้อยๆ 12 การแบ่งห้องออกเป็น 8, 6, 4 เตียง มาตามโครงสร้างของตึก หรือเปล่า ใช่ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลักๆ คือ อยากจะให้มันต่างกันที่ราคา เพราะถ้าท�ำ 8 เตียง ทัง้ หมดอาจจะแออัดเกินไป เลยอยากสร้างตัวเลือกให้ลกู ค้าเยอะหน่อย อาจจะมี 6 เตียง บ้าง 4 เตียงบ้าง โดยเราจะมีห้อง 8 เตียงเยอะที่สุด ถ้าจ�ำนวนเตียงมากกว่านี้ มันเริ่มจะ ไม่ใช่ห้องนอนแล้ว 13 ช่วยเล่าถึงแนวคิดในการตั้งชื่อหน่อย ที่มาของชื่อ Bed Station Hostel มาจากจุดเด่นของเราที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า เราก็เลย เกาะค�ำว่า “Station” พอได้ค�ำนี้แล้ว ก็มาคิดต่อว่าจะใช้ค�ำว่าอะไรดีที่สื่อถึงความเป็น บ้าน ความอบอุ่น เหมือนเป็นที่นอนของเขา ก็เลยมาลงตัวที่ค�ำว่า “Bed” ก่อนหน้านี้ เคยคิดชื่อ “The Best Place” แต่ไปๆ มาๆ แล้วเรารู้สึกว่าจุดเด่นของเราอยู่ที่รถไฟฟ้า มากกว่า ก็เลยมาจบที่ Bed Station โดยสื่อออกมาเป็นโลโก้รูปบันไดปีนขึ้นไปชั้นสอง ส่วน “The Best Place” ก็กลายมาเป็นสโลแกนของเรา คือ “The Best Place to Rest” 14 จุดขายของ Bed Station คืออะไร จุดเด่นของเราอยูท่ ที่ มี งาน เราเน้นให้พนักงานทุกคนจ�ำชือ่ ลูกค้าให้ได้ เกิดความรูส้ กึ เหมือนเป็นพี่น้อง เหมือนคนในครอบครัว เวลาลูกค้าเดินไปเดินมา เราจะต้องทักทาย สร้างความสนิทสนม แม้แต่แม่บา้ นเอง ถึงจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราก็จะให้เขายิม้ แย้ม กับแขก ท�ำให้เราได้รับคอมเมนต์เรื่องพนักงานค่อนข้างดี

THE HOSTEL BIBLE

169


15 คุณฝึกอบรมพนักงานอย่างไร เราต้องท�ำเป็นตัวอย่างให้เขาดู อย่าง 3-4 เดือนแรก ดิฉันเข้ามาที่นี่ทุกวัน อยู่กับทีม ตลอดเวลา ท�ำให้ทมี ค่อยๆ ซึมซับวิธกี ารสือ่ สารกับแขกว่าต้องท�ำอย่างไร ต้องยิม้ ต้องพูด กับลูกค้าลักษณะไหน แม้จะไม่ได้เทรนโดยตรง แต่เราจะย�ำ้ กับลูกน้องเสมอว่า ต้องมีใจรัก บริการจริงๆ ต้องเห็นลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง 16 มีวิธีการท�ำการตลาดอย่างไรบ้าง ท�ำผ่านเฟซบุ๊กกับอินสตาแกรม ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบปากต่อปากมากกว่า เพื่อนมาแล้วก็บอกต่อๆ กันไป เพราะเราไม่ได้ท�ำการตลาดจริงจัง อาศัยว่าเปิดบริการ แล้วก็ค่อยว่ากัน เราเปิดไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว (2557) ซึ่งวันแรกที่เปิดปุ๊บ ก็มลี กู ค้าเลย (หัวเราะ) เขาเผอิญเดินผ่านมาเห็นตัง้ แต่วนั ที่ 18 ก็เข้ามาจอง แล้วหลังจาก นั้นเตียงก็เต็มมาตลอด

THE HOSTEL BIBLE

170


17 คุณคิดว่าธุรกิจโฮสเทลเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ไหม ตัง้ แต่เปิดโฮสเทลมา มีคนโทรมาหาหรือเฟซบุก๊ มาว่าจะขอเข้ามาคุย มาขอค�ำแนะน�ำ เรื่องโฮสเทลเยอะมาก หรือแม้แต่เข้ามาท�ำเป็นนั่งสั่งเครื่องดื่ม ซึ่งเราก็เปิดกว้างไม่ได้ว่า อะไร เราว่ามันเป็นเทรนด์ เพราะถ้าคุณมีตึกเป็นของตัวเอง ยิ่งลงทุนไม่มาก ยิ่งเป็นช่อง ทางทีน่ า่ สนใจ และเหตุผลหลักของโฮสเทลอยูท่ คี่ วามสนุกด้วย ซึง่ ดึงดูดให้คนหันมาสนใจ อาชีพนี้ โดยเฉพาะถ้าคุณชอบท�ำธุรกิจกับคน ชอบธุรกิจทีม่ สี สี นั อย่างที่ Lud d เราเข้าไปดู เฟซบุ๊กของเขาแล้วรู้สึกสนุกจัง อยากลองไปพักบ้าง 18 ท่ามกลางโฮสเทลที่เปิดใหม่เป็นจ�ำนวนมาก คุณมีวิธียืนอยู่ใน ตลาดนี้และเอาชนะคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างไร เราไม่คอ่ ยได้เปรียบเทียบตัวเองกับคนอืน่ เท่าไร แต่จะฟังสิง่ ทีล่ กู ค้าบอก เช่น ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร แล้วเอาตรงนัน้ มาปรับปรุง เดีย๋ วมันก็จะเกิดการบอกต่อ วิธที ดี่ ที สี่ ดุ คือ พยายามเก็บส่วนที่ดีๆ ไว้ และปรับส่วนที่ไม่ดี ถ้าลูกค้ามีโอกาสกลับมาที่เมืองไทย เขาก็ จะกลับมาพักกับเราอีก 19 ตั้งแต่เปิดมา อะไรคือประสบการณ์ในความทรงจ�ำที่คุณจะ ไม่มีวันลืม เคยเจอลูกค้า “โจ๊ะ” กัน (หัวเราะ) ส่วนตัวไม่เคยพักในโฮสเทลมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่า มีเรื่องท�ำนองนี้เกิดขึ้นได้ และด้วยวัฒนธรรมของคนไทยก็ไม่เหมือนกับของฝรั่ง แต่เราก็ ป้องกันได้ในระดับหนึ่ง คือไม่ให้คนนอกขึ้นไปข้างบน เพราะเรามีสตาฟอยู่ข้างล่าง

THE HOSTEL BIBLE

171


THE HOSTEL BIBLE

172


ตลอด 24 ชัว่ โมง ซึง่ ก็จะกันคนนอกไปได้ แต่สำ� หรับแขกข้างใน เราป้องกันไม่ได้จริงๆ ด้วยวัฒนธรรมของฝรั่ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นง่ายมาก แต่บางทีมันไปรบกวนแขกเตียงอื่น เราก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้ามันเสียงดังจนรบกวนเตียงข้างๆ จนมีลูกค้ารายอื่นมา ร้องเรียน เราก็ต้องขึ้นไปบอก ซึ่งอันนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ของเราจริงๆ 20 อะไรคือ Key to Success ของที่นี่ บริการด้วยใจที่เกินร้อย ลูกค้าอยากได้อะไร เราให้ได้หมด พนักงานจะมีความเป็น เพือ่ นสูง อีกเรือ่ งคือความสะอาด ทีน่ มี่ แี ม่บา้ นตลอด 24 ชัว่ โมง ดังนัน้ ถ้าลูกค้าเตียงเปรอะ ต่อให้เป็นตีสอง ตีสาม เราก็จะเปลี่ยนให้ เพราะมีแม่บ้านอยู่ตลอด สุดท้ายคือ โลเคชั่น เพราะเทรนด์ใหม่ก�ำลังมา เราอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ไปไหนมาไหนสะดวก ท�ำเลตอบโจทย์ ทุกอย่างเลย

เราเน้นให้พนักงานทุกคนจ�ำชื่อลูกค้าให้ได้ เกิดความรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้อง เหมือนคนในครอบครัว เวลาลูกค้าเดินไปเดินมา เราจะต้องทักทายสร้างความสนิทสนม แม้แต่แม่บ้านเอง ถึงจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราก็จะให้เขายิ้มแย้มกับแขก ท�ำให้เราได้รบ ั คอมเมนต์เรื่องพนักงานค่อนข้างดี

Bed Station Hostel

486/149-150 ซอยเพชรบุรี 16 ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2019-5477 เว็บไซต์ www.bedstationhostel.com

THE HOSTEL BIBLE

173


หลับสบาย เหมือนนอนบ้านญาติ ในคอนเทนเนอร์โฮสเทล กลางกรุง

THE HOSTEL BIBLE

174


ในธุรกิจที่พักแบบทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นบูติคโฮเต็ลหรือ โฮสเทลนั้น ความคิดสร้างสรรค์ที่กล้าน�ำเสนอสิ่งที่แตกต่าง ยังคง เป็นหัวใจของความส�ำเร็จเสมอ ถึงแม้วา่ จะตัง้ อยูใ่ นท�ำเลทีห่ า่ งออก มาจากศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน แต่ The Yard ที่แปลว่า “สนาม” หรือภาษาไทยพ้องกับค�ำว่า “ญาติ” ก็ใช้สิ่งนี้เป็นจุดแข็ง ด้วยการน�ำเสนอทีพ่ กั แบบโฮสเทลทีม่ บี รรยากาศเงียบสงบ มีสนามหญ้า สีเขียวสดใส ซึ่งตรงกันข้ามกับโฮสเทลแห่งอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ที่อยู่ ย่านใจกลางเมือง ซึ่งมักมีพื้นที่จ�ำกัดและยากที่จะมีพื้นที่สีเขียว The Yard เป็นโฮสเทลที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 5 หรือ ซอยราชครู ซึ่งเป็นย่านบ้านพักอาศัยที่เก่าแก่ บรรยากาศในซอย ค่อนข้างเงียบสงบ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่นี่มีห้องให้เลือกพัก 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ห้องพักรวม 4 เตียง (650 บาท) ห้องพัTHEก รวมหญิง 4 เตียง (650 บาท) ห้องรวมหญิง 6 เตียง (550 HOSTEL บาท) ห้องนอนรวม 6 เตียง (550 บาท) และห้องส่วนตัว 4 คน (2,400BIBLE บาท) 175


เจ้าของทั้งสองคนของที่นี่ มีชื่อเล่นเหมือนกันว่า ส้ม คนแรก คือ คุณส้ม- อติพร สังข์เจริญ อดีตวิศวกรทีช่ อบท�ำธุรกิจส่วนตัวมาเป็นเวลานานแล้ว โดยธุรกิจหนึง่ คือเปิดร้าน ขายเสือ้ ผ้าสตรีทสี่ วนจตุจกั ร ส่วนคนทีส่ อง คือ คุณส้ม-อมรรัตน์ อมรศิรชิ ยั รัตน์ ซึง่ เคยท�ำ ธุรกิจไพรเวตทัวร์ทพี่ านักท่องเทีย่ วไปเทีย่ วต่างจังหวัด และแวะทานอาหารไทยทีบ่ า้ นที่ คุณแม่ของเธอเป็นคนท�ำ โดยมีเมนูเด็ดคือ ต้มย�ำซีฟดู้ น�ำ้ พริกกะปิ ในราคาหัวละ 600 บาท ผ่านเว็บไซต์ withlocals.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่คนท้องถิ่นสามารถเปิดบ้านต้อนรับ นักท่องเทีย่ วให้ไปรับประทานอาหารทีบ่ า้ นได้ ตามรายการและราคาทีเ่ จ้าบ้านเป็นผูก้ ำ� หนดเอง คุณส้มทัง้ สองเป็นนักเดินทางตัวยงและมีความตัง้ ใจทีจ่ ะท�ำธุรกิจโฮสเทลมาระยะหนึง่ แล้ว กระทั่งได้มาค้นพบบ้านพร้อมที่ดินแบ่งเช่า ในซอยพหลโยธิน 5 ในระยะทางเดินทีเ่ ข้าไป ไม่ลึกนัก จึงได้ตัดสินใจลงทุนด้วยเงิน 7 ล้านบาท เพื่อเนรมิตบ้านเก่าอายุ 40 ปี ในที่ดิน ขนาดเกือบ 1 ไร่ ให้เป็นโฮสเทลที่มีพื้นที่สีเขียวกลางกรุง นามว่า The Yard

THE HOSTEL BIBLE

176


The Yard เป็นโฮสเทลทีก่ อ่ สร้างโดยการน�ำเอาตูค้ อนเทนเนอร์เก่า จ�ำนวน 8 ตู้ มาวางเรียงกันเป็นรูปตัวแอล ( L) เว้นพื้นที่ตรงกลางให้เป็นพื้นที่ของสนามหญ้าสีเขียว แบ่งเป็นห้องพัก 4 ตู้ ห้องน�ำ้ 2 ตู้ และตูท้ เี่ หลือเป็นล็อบบี้ หรือเรียกแบบกันเองว่า หน้าบ้าน ถึงแม้จะเป็นโครงสร้างเหล็ก แต่ด้วยระเบียงที่เชื่อมต่อกันแบบบ้านสไตล์ไทยๆ ท�ำให้ บรรยากาศที่นี่ดูอบอุ่น น่ารัก และมีเสน่ห์ ชื่อห้องต่างๆ ก็ถูกตั้งชื่อตามวงศาคณาญาติ อย่างเช่น พี่ ป้า น้า อา ตา ยาย ส�ำหรับ Room Type แบ่งเป็น 5 แบบคือ Private Gargen (ตา,ยาย) Private Room ส�ำหรับ 4 คน, 4 Mix Dorm, 6 Girls Dorm, 6 Mix Dorm (ลุง, ป้า, น้า, อา)

THE HOSTEL BIBLE

177


ทีน่ มี่ คี วามน่าสนใจตัง้ แต่การลงทุนทีม่ คี วามกล้าในการเลือกท�ำเลทีแ่ ตกต่าง ท�ำให้ โฮสเทลมีจดุ ขายทีโ่ ดดเด่น และท�ำให้มคี า่ เช่าทีไ่ ม่สงู มากนักเมือ่ เทียบกับพืน้ ทีท่ ไี่ ด้มา ท�ำเล และจุดขายทีไ่ ม่เหมือนใครท�ำให้ทนี่ เี่ ป็นโฮสเทลส�ำหรับฮิปสเตอร์อย่างแท้จริง เห็นได้จาก ภาพถ่ายในเว็บไซต์ที่สื่อถึงลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน รวมถึงการสื่อสารถึงกิจกรรม โดยรอบ เช่น การขีจ่ กั รยาน การดืม่ กาแฟในร้านเก๋ๆ หรือการแสวงหาย่านพักผ่อนทีเ่ งียบสงบ อีกทัง้ ยังมีกจิ กรรมทีน่ า่ สนใจจัดขึน้ เป็นระยะๆ เช่น Body Paint และ Puppet Show จากต่างประเทศ ซึง่ องค์ประกอบทัง้ หมดนีท้ ำ� ให้ The Yard สามารถขายเตียงได้ในราคา เท่ากับโฮสเทลที่อยู่ติดรถไฟฟ้าเลยทีเดียว

THE HOSTEL BIBLE

178

นอกจากนี้ The Yard ยังใช้แนวคิดด้านการอนุรักษ์ โดยการใช้วัสดุรีไซเคิลใน การก่อสร้างและใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการท�ำฉนวนกันความร้อน ผมเองได้ ไปลองพักที่ The Yard Hostel มาแล้วยังรู้สึกหลับสบาย ตื่นขึ้นมาได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่กลางกรุง เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นบรรยากาศ ของบ้านไม้เก่าๆ สองชั้น ท�ำให้รู้สึกว่าการเข้าพักในโฮสเทลแห่งนี้ท�ำให้ชีวิตหมุนช้าลง และยังท�ำให้เห็นว่ากรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองทีน่ า่ อยู่ และมีอกี หลายแง่มมุ ทีร่ อให้เราไปค้นหา


Q A

1 วางคอนเซ็ปต์ของ The Yard ไว้อย่างไร อยากได้ทที่ มี่ พี นื้ ทีส่ เี ขียวเป็นพืน้ ทีส่ ว่ นกลางใช้รว่ มกัน ไม่ตดิ แอร์ เป็นธรรมชาติ เราก็เลยมองเป็นพื้นที่ลักษณะนี้ เป็นสนาม อยากน�ำ ของเก่ามาใช้ใหม่ เพราะจริงๆ ตัวเองก็ชอบซื้อของเก่า อย่างเก้าอี้ โต๊ะ อยู่แล้ว ทุกอย่าง ก็เอามาไว้รวมกัน โดยไม่ได้มีแนวทางใดแนวทางหนึ่ง อีกทั้งเราท�ำสัญญาในลักษณะเช่า พื้นที่ จึงเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์เพราะย้ายได้ง่าย และใช้ตู้คอนเทนเนอร์มือสองสภาพดี ที่ผ่านการขัดตกแต่งใหม่ ใช้ฉนวนกระดาษรีไซเคิลบุข้างใน การตกแต่งอื่นๆ ก็อยากใช้ อะไรที่เป็นของมือสอง เพื่อยืนอยู่บนแนวคิดการรีไซเคิลของกลับมาใช้ใหม่ 2 ตอนบอกเจ้าของที่ว่าจะเช่าท�ำโฮสเทล เขารู้จักไหมว่าคืออะไร รู้จักค่ะ ก็บอกเขาว่าแปลนจะเป็นแบบนี้ๆ แต่บ้านของเขายังอยู่นะ คือเขากลัวว่าเรา จะท�ำอะไรกับบ้านของเขา แต่เราก็ยืนยันว่าบ้านยังอยู่ ก็เลยคุยกัน ตกลงกันว่าเราจะท�ำ อะไรกับบ้านเขาบ้าง สรุปตกลงท�ำสัญญาเช่ากันอยู่ที่ 6 ปี 3 คุณวางแผนทางการเงินอย่างไรบ้าง แล้วค�ำนวณไว้วา่ จะคืนทุนกีป ่ ี เราเริม่ ต้นจากท�ำ Cash Flow ง่ายๆ เองก่อน แล้วก็มเี พือ่ นทีท่ ำ� สินเชือ่ ช่วยค�ำนวณ ให้คร่าวๆ คิดไว้วา่ ประมาณสัก 3 ถึง 3 ปีครึง่ จะคืนทุน บางคนมองว่ากว่าจะคืนทุนได้ตงั้ นาน แต่ส่วนตัวเราโอเคกับท�ำเลตรงนี้ หลังจากคืนทุนที่เหลือก็เก็บ ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดนะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ ช่วงหนักสุดคือปีแรก เลยขอลองผ่านหนึ่งปีไปก่อน ถึงจะรู้ว่าไหวไหม 4 ตอนเริม่ คุณตัง้ งบประมาณไว้เท่าไร แล้วพอท�ำจริงเป็นไปตามนัน ้ ไหม ตั้งไว้ประมาณ 6 ล้าน ท�ำจริงเกินค่ะ แต่ไม่ถึงขั้นมาก ประมาณ 1 ล้าน เพราะเราก็ พยายามครอบคลุมที่สุด อย่างตู้คอนเทนเนอร์ รู้อยู่แล้วว่าราคาไม่เกินไปกว่านี้ แต่ก็จะ มีเกินบ้างในสิ่งที่เราอยากจะเพิ่ม 5 โดยนิสัยส่วนตัว คุณเป็นคนที่ชอบเที่ยวต่างประเทศอยู่แล้ว หรือเปล่า ชอบนะ แต่เทีย่ วต่างประเทศต้องใช้เงินเยอะ ก็เลยไม่ได้ไปบ่อย อย่างมากแค่ปลี ะครัง้ ส่วนใหญ่จะเที่ยวในประเทศ แต่ถ้าเที่ยวต่างประเทศก็นอนแบบโฮสเทลนี่ละ เพราะ ประหยัดด้วย แต่อาจจะไม่ได้เป็นโฮสเทลที่ราคาถูกมาก แต่ขอให้มันมีบรรยากาศหน่อย อย่างที่ Nui (นูอิ) ที่ญี่ปุ่นก็ชอบนะ

THE HOSTEL BIBLE

179


6 คุณคิดว่าอะไรคือคุณสมบัติส�ำคัญของคนที่จะท�ำโฮสเทล ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวมาก่อนไหม เที่ยวเยอะก็มีส่วนส�ำคัญเพราะจะได้มีเรื่องคุยกับแขก บางทีฝรั่งเขาจะรู้ว่าประเทศนี้ ติดประเทศนั้น ถ้าคนเที่ยวเยอะก็จะมีความรู้ในเรื่องนี้ คุยกันต่อได้ แต่อย่างเราก็ภูมิใจ น�ำเสนอประเทศไทย เอาเป็นว่าเรารู้เรื่องเมืองไทย อาจไม่รู้ทั้งหมดแต่เราหาค�ำตอบให้ ได้ แนะน�ำแขกได้ ส่วนเรือ่ งต่างประเทศก็รบู้ า้ งเป็นบางจุดทีเ่ คยดูเคยอ่าน ถามว่าคนเทีย่ ว เยอะส�ำคัญไหม ก็ส�ำคัญ แต่ที่ส�ำคัญกว่าคือมีเซอร์วิสมายด์ (Service Mind) เราอยาก ช่วยเขา ไม่ใช่แค่เรือ่ งการเข้าพัก บางทีเขามีปญ ั หาเรือ่ งอืน่ มา บางคนเดินทางมาเพือ่ ทีจ่ ะ ซื้อของแต่ติดต่อซื้อไม่ได้ เราต้องช่วยเขาในทุกเรื่อง 7 ท�ำไมถึงเลือกลงทุนโฮสเทล แทนที่จะเป็นบูติคโฮเต็ล บูติคโฮเต็ลมีลักษณะเป็นไพรเวต อาจจะอัพมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งดูแลแขกไม่มาก แต่เพราะธรรมชาติของตัวเองทีช่ อบเจอคนเยอะๆ โฮสเทลในความคิดของเราคือเจ้าของ ดูแลเอง ได้เจอผู้คน นี่จึงเป็นเหตุผลให้เลือกท�ำโฮสเทล อยากให้คนจ�ำนวนเยอะหน่อย ให้มันเกิดมีกิจกรรมท�ำกับข้าวกันกลางแจ้ง เตาปิกนิก ต่อยมวย มีเรียนนวด ปูเสื่อนอน ใช้พื้นที่ได้เต็มที่ ให้มีมูฟเมนต์ (Movement) กลางแจ้ง 8 วิธีสร้างจุดขายและจุดเด่นของที่นี่ จุดเด่นทีม่ องเห็นคือมีพนื้ ทีส่ เี ขียว จึงใช้ชอื่ ภาษาอังกฤษว่า “The Yard” ซึง่ พ้องเสียง กับค�ำภาษาไทยว่า “ญาติ” ตั้งแต่เริ่มต้นเราอยากท�ำให้คนที่มาพักรู้สึกเหมือนที่นี่เป็น บ้านญาติ เหมือนเราเป็นครอบครัวเขาที่อยู่ในประเทศไทย ชวนกันกินข้าว เขาจะไปไหน เราก็คอยถามไถ่ว่ามีอะไรให้ช่วยบ้าง อาจไม่ได้ถึงขั้นต้องดูแลกันมาก แต่ถ้าเขามีปัญหา อะไรเราช่วยได้ อย่างชื่อห้องก็จะตั้งชื่อเป็นห้องลุง ห้องป้า ห้องน้า ห้องอา ให้ความรู้สึก เหมือนมานอนบ้านญาตินนั่ เอง ถ้าเขากลับมาก็แวะมาเยีย่ มเราอีก เหมือนเราเองก็มคี วาม ฝันว่าอยากไปเทีย่ วหลายๆ ที่ เหมือนกับว่าตอนนีเ้ ราสะสมญาติอยู่ ถ้าครบ 6 ปี โปรเจ็กต์ นีจ้ บ เราก็จะหยุดตรงนีไ้ ว้กอ่ น แล้วก็แวะไปหาแขกของเราตามรายทาง เหมือนเราได้กลับ ไปเยี่ยมญาติของเราเหมือนกัน

THE HOSTEL BIBLE

180

9 ในฐานะโฮสเทลเปิดใหม่ ต้องท�ำการตลาดอย่างไรบ้าง สรุปว่ากว่าจะได้ท�ำการตลาดก็เป็นช่วงหลังเปิดบริการไปแล้ว โดยลง Booking, Agoda, Hostelworld ซึง่ ช่วยได้มาก มีเฟซบุก๊ อีกช่องทางหนึง่ แล้วก็พยายามมีกจิ กรรม ตลอดอย่างน้อยเดือนละครั้ง อย่างล่าสุดมีเพื่อนของเพื่อนเป็นชาวเนปาล เขาจะมาเล่น


ดนตรีพนื้ เมืองทีน่ ี่ เพือ่ หาเงินช่วยเหลือชาวเนปาลทีป่ ระสบแผ่นดินไหว คือเขาจะมาเล่น คอนเสิร์ตอยู่แล้ว เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ ขายอาหาร และมอบเป็นการกุศลหลังหักค่า ใช้จ่าย เราก็บอกว่าเรามีพื้นที่นะ แล้วเราก็มีเพื่อนบ้านเยอะเลย ทั้งคนต่างชาติและคน ไทย เขาก็อยากมีกจิ กรรม บางครัง้ ทีน่ จี่ ะมีเพือ่ นบ้านชาวต่างชาติทอี่ ยูค่ อนโดฯ แถวนี้ มา นั่งกินนั่งดื่ม มานั่งดูหนังที่เราจัดฉาย เหมือนที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ ด้วย 10 แขกของเราอยู่ในช่วงอายุเท่าไร บุคลิกเป็นอย่างไร แล้วท�ำไม เขาถึงเลือกมาพักที่นี่ มีตั้งแต่อายุ 20 ไปจนถึง 50-60 ปีเลย ถ้าเป็นชาวยุโรปจะมีทั้งเพิ่งเรียนจบ ท�ำงาน แล้ว และก็เพิ่งออกจากงาน บางคนมาเที่ยวคนเดียว แต่ถ้าเป็นช่วงวัยยอดฮิตจะเป็นวัย 20 ถึง 30 ปลายๆ ชาวยุโรปทีม่ าจะอายุนอ้ ยกว่าชาวเอเชีย บุคลิกลักษณะก็มหี ลายแบบ แต่เท่าทีค่ ยุ เหมือนจะดูหนังฟังเพลงแนวเดียวกัน มีบางคนมาเมืองไทยเพือ่ จะมาดูหนังที่ โรงหนังเฮาส์ อาร์ซีเอ ซึ่งไม่ใช่โรงหนังที่ฉายหนังทั่วไป อ่านหนังสือแนวเดียวกัน ฟังเพลง เฉพาะกลุม่ ซึง่ ไม่ใช่กระแสหลักเท่าไรนัก คือเป็นคนทีช่ อบอะไรเหมือนๆ กัน คุยกันถูกคอ 11 ในส่วนของทีมงานล่ะครับ มีการบริหารจัดการอย่างไร ตอนนีม้ สี ตาฟ 4 คน จากเดิมทีม่ ี 2 คน มีนอ้ งผูช้ ว่ ยคนหนึง่ ทีม่ าสมทบ แล้วก็มแี รงงาน ต่างชาติอกี คนหนึง่ คนหนึง่ อยูป่ ระจ�ำเคาน์เตอร์ อีกคนดูแลห้องพัก อีกคนประจ�ำทีห่ อ้ งน�ำ้ พองานเริ่มเยอะขึ้นก็ต้องมีคนช่วยท�ำเตียง เพื่อให้เสร็จทันเวลาที่แขกจะมา กลางคืนเรา อยู่เอง 24 ชั่วโมง เพราะบางทีลูกค้ามาตีสอง ตีห้า มาหกโมงเช้า ต้องสแตนด์บายตลอด 12 ที่นี่มีห้องกี่แบบและราคาเท่าไรบ้าง ห้องมี 5 แบบ มีไพรเวต 1 ห้อง และห้องลักษณะดอร์ม แบ่งเป็นนอน 6 คน กับ 4 คน โดยห้อง 6 คนมี 2 แบบ คือ แบบ 6 คนผูห้ ญิงล้วน กับแบบ 6 คนรวม ห้อง 4 คนก็มี 2 แบบ คือ แบบ 4 คนผูห้ ญิงล้วน กับแบบ 4 คนรวม ราคาเริม่ ทีถ่ กู สุด ห้อง 6 คน คนละ 550 บาท ต่อเตียง ห้อง 4 คน คนละ 650 บาท ต่อเตียง ส่วนห้องไพรเวต 1,500 บาทต่อห้อง นอนได้ 2 คน ทุกห้องเป็นห้องน�้ำแชร์ ใช้รวมกัน THE HOSTEL BIBLE

181


13 มีวิธก ี �ำหนดราคาอย่างไรครับ จริงๆ เราก็อยากได้ราคาที่สูง ด้วยท�ำเลตรงนี้ราคาอาจจะปรับได้ระดับหนึ่ง แต่ว่า แขกไม่ได้มาเยอะขนาดนั้น แขกที่มาเขาคาดหวังราคาถูกก็มี บางคนบอกว่าราคาแพงไป ก็มี แต่ด้วยราคาที่สูงมันก็จะคัดคนมาแล้วส่วนหนึ่ง หลักๆ เราดูเรื่องต้นทุนก่อนว่า กับราคาที่เราตั้งใจ เท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุน สรุปคือตั้งราคาที่ไม่สูงหรือไม่ต�่ำจนเกินไปจาก ที่พักบริเวณข้างเคียง และโฮสเทลลักษณะเดียวกัน 14 ถ้าเทียบกับราคาของโฮสเทลในกรุงเทพฯ แล้ว เกรดราคาของ ที่นี่ถือว่าอยู่ในระดับไหน น่าจะประมาณ B+ ระดับราคาค่อนข้างบน 15ท�ำอย่างไรให้โฮสเทลที่เปิดใหม่ๆ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่าง รวดเร็ว ตอบยาก เพราะเราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว แต่เราพยายามท�ำให้ คนรู้จัก โดยทุกอย่างที่เราสื่อต้องตรงกับทุกอย่างที่เราอยากให้เป็น สมมติว่าคอนเซ็ปต์ ของที่นี่มีพื้นที่ท�ำกิจกรรมร่วมกันและจัดกิจกรรมตลอด เราก็ต้องหาทางที่จะบอกกับ ลูกค้า อย่างในเฟซบุก๊ ก็จะสือ่ อยูแ่ ล้วว่ามีกจิ กรรมแบบนี้ อยากให้คนมีอารมณ์รว่ มแบบนี้ โปสเตอร์ทเี่ ราท�ำบางทีอาจจะต้องไปแปะตามละแวกนี้ ตามร้านอาหารทีเ่ ขาอนุญาต แถวนี้ จะมีตา่ งชาติอาศัยอยูพ่ อสมควร เขาเห็นก็จะได้แวะมา แต่สง่ิ ทีเ่ ราสือ่ ออกไปต้องเป็นตัวเรา ให้มากที่สุด แรกๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทางไหนดี แต่หลังๆ กลุ่มคนที่มาพักมันตรงกัน คือ มองอะไรด้วยสายตาแบบเดียวกัน เขาก็จะชวนเพื่อนเขามา บางทีต่างชาติมาไม่ได้เที่ยว แค่กรุงเทพฯ แต่มาแวะกรุงเทพฯ ก่อนไปลาว ผ่านไป 2 วัน เขากลับมาใหม่แล้วก็ขึ้น เชียงใหม่ตอ่ และทุกครัง้ ทีก่ ลับมากรุงเทพฯ เขาก็จะมาพักทีเ่ รา เหมือนอยูแ่ ล้วเขาสบายใจ ถ้าถามว่าท�ำอย่างไรให้มีชื่อเสียงเร็วที่สุด ตอบไม่ได้ เพราะเราก็เพิ่งเริ่ม พยายามสื่อทุก อย่างให้ตรงกับที่เราคิด นั่นแหละดีที่สุด

THE HOSTEL BIBLE

182

16 ช่วยแชร์ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ หรือเหตุการณ์ที่ ประทับใจ มีค�ำหนึ่งที่เคยพูดไว้คือ Say Hello Every Day แล้วก็ Say Goodbye Every Day คือเวลาเซย์ฮลั โหลมันก็สนุกดีนะ แต่เวลาจะบ๊ายบายต้องจากลากันก็เสียใจ ตัวเองร้องไห้ หลายครั้งเลยนะเพราะว่าบางคนอยู่นาน นานในที่นี้คือ 5-6 วัน ก็ถือว่านานแล้ว มันก็ ผูกพันไปเองโดยไม่รู้ตัว พอจะกลับก็แบบ เฮ้ย…จะกลับแล้วเหรอ แขกเองเขาก็เสียใจ เหมือนกัน


ที่นี่แขกชอบซื้อของมาฝาก มีของกินตลอด เดี๋ยวลูกค้าออกไปข้างนอกก็ซื้อของ มาฝากละ พอซื้อมาฝากเราก็จะแบ่งคนอื่นกินด้วย ล่าสุดมีสามีภรรยาซื้อมะม่วงมา เขาจะกลับแล้วก็เลยซือ้ มาฝากเรา เราก็บอกว่า เราคนไทยนะ กินมะม่วงจนเบือ่ แล้ว เขาก็ บอกว่าไม่เป็นไรเก็บไว้ให้คนอื่นก็ได้ แล้วเขาก็เขียนแปะไว้ที่มะม่วงว่า From Simon & Nina, with love เราก็เลยเอาไปให้คุณป้าอายุ 60 คนหนึ่ง คุณป้าก็เขียนตอบกลับมาว่า Thank You เรื่องที่ไม่ลืมอีกด้านก็มีเช่น แขกบางคนนอนในห้องน�้ำ หรืออ้วกอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ ถือว่าอยูใ่ นระดับทีโ่ อเค ไม่รนุ แรง เราพอรับได้ บางคนเป็นผูช้ ายคนเดียววอล์คอินมาดึกๆ เราก็แอบกลัว แอบระแวงเหมือนกัน เพราะเราก็มือใหม่ แต่สุดท้ายเขาก็น่ารักนะ 17ถ้าย้อนกลับไปได้ อยากจะแก้ไขตรงไหนบ้างไหม เราไม่ได้เป็นคนทีก่ ารค้ามาก ดังนัน้ ในอนาคตบางอย่างอาจจะต้องต่อรองมากหน่อย หรือต้องเข้มงวดมากกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น การซื้อของ การบริหารต้นทุน ถ้าเรารู้จักรอ รู้จักต่อรอง อาจจะได้ราคาที่คุ้มค่ากว่านี้ แต่บางทีรีบใช้ก็เลยรีบซื้อ ซึ่งถ้าดูให้ละเอียด มากกว่านีอ้ าจจะได้ของทีร่ าคาถูกลงก็ได้ เรือ่ งต้นทุนก็จะประหยัดได้มากขึน้ แต่กถ็ อื เป็น ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ หรืออย่างกรณีที่ส่วนกลางเราใช้ได้ถึงเที่ยงคืน ถ้าเราไม่ได้ บอกแขก เขาก็จะใช้เกินเวลา บางทีอาจจะเสียงดังรบกวนคนอืน่ หน้าบาร์เครือ่ งดืม่ ต้องปิด 4 ทุม่ ครึง่ ก็ตอ้ งเป็นเวลานัน้ จริงๆ อันไหนไม่ได้กค็ อื ไม่ได้ ต้องเด็ดขาด ต้องบอก ห้ามใจดี แต่เรื่องไหนที่เราใจดีได้ก็ใจดี เฮฮากับเขา แต่เรื่องไหนเป็นกฎก็ต้องเป็นกฎ

THE HOSTEL BIBLE

183


18 การแข่งขันในอาชีพโฮสเทลตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถามว่าคนท�ำเยอะไหม คนท�ำเยอะ แต่ทกุ คนก็มคี าแร็กเตอร์ของตัวเอง นักท่องเทีย่ ว เข้ามาเที่ยวเยอะอยู่แล้ว ลูกค้าก็จะแบ่งสันปันส่วนกันไป ไม่อยากมองว่าเป็นการแข่งขัน เพราะบางทีเราก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ ยกตัวอย่างเช่น แขกเอเชียมาครั้งหนึ่ง 7 วัน นอน 7 ที่ก็มี แขกเองก็อยากลองอะไรใหม่ๆ บางคนมาพักกับเราแล้ว ครั้งหน้าก็ไป ทีอ่ นื่ ซึง่ เราก็มที แี่ นะน�ำให้ แม้วา่ การแข่งขันมีขนึ้ เยอะ แต่ทกุ คนก็มคี าแร็กเตอร์ของตัวเอง เมื่อทุกคนมีจุดเด่นของตัวเองแล้ว แขกก็จะตามมาเอง ตอนแรกเราก็กังวลเหมือนกัน เดือนแรก เดือนที่สองยังไม่มีคนเลย แต่พอได้รับการบอกต่อก็เริ่มมีผลตอบรับที่ดีเข้ามา 19 คิดว่าอาชีพนีเ้ ป็นเทรนด์ไหมครับ เพราะช่วงนีม้ ค ี นเปิดกันเยอะมาก คิดว่าเป็นเทรนด์เหมือนกันนะคะ ถือว่าเราเข้ามาในช่วงกลางแล้ว คิดเหมือนกันว่า ถ้าท�ำช้ากว่านีอ้ าจจะเป็นช่วงปลายของธุรกิจ ก็เลยอาจจะไม่พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถา้ ใครมองเห็นภาพ มีโอกาส ถ้าอยากท�ำก็ทำ� เลย เพราะเราตอบไม่ได้วา่ ช่วงปลาย ของเทรนด์นี้ จะเป็นอย่างไร มันอาจจะเหนื่อยกว่านี้เพราะมีคนท�ำเยอะ ด้วยดีไซน์ใหม่ๆ ที่ออกมา หลายแห่งเราเองเห็นแล้วยังรูส้ กึ ว่าสวย ยังอยากไปนอนเลย ธุรกิจนีย้ งั สามารถเติบโตได้อกี นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก แล้วเทรนด์การเที่ยวก็เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ได้พักโซนใด โซนหนึ่งแค่โซนเดียว แต่จะพักกระจายทั่วกรุงเทพฯ 20 อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้ท�ำอาชีพนี้ ก�ำลังมีไฟ มีก�ำลัง ให้ท�ำอะไรสู้หมด ให้ล้างห้องน�้ำ ให้เก็บเตียง ให้ตัดหญ้า ให้นอน ดึกตื่นเช้าท�ำได้หมด คือมันเหมือนยังมีกำ� ลังอยู่ พอได้พบเจอคนก็เหมือนเป็นการเสริม สร้างก�ำลังให้กบั ตัวเองด้วย ได้เจอเพือ่ นเจออะไรใหม่ๆ บางทีวนั นีเ้ ราอาจจะห่อเหีย่ วแต่พอ ได้พดู คุยกับแขก มันเหมือนท�ำให้เรามีกำ� ลังฮึดใหม่อกี ครัง้ ก็เลยเหมือนกับมีพลังในการท�ำ

THE HOSTEL BIBLE

184


21 แล้วถ้าคนสูงอายุล่ะ จะท�ำโฮสเทลได้ไหม ท�ำได้นะ อย่างคุณแม่ตัวเองก็อายุมากแล้ว แต่ก็ยังชอบแฮงเอาต์ บางครั้งยังเคยขอ ให้คุณแม่ช่วยดูแลที่นี่ให้เหมือนกัน (ยิ้ม) 22 ฝากทิ้งท้ายถึงคนที่อยากจะเปิดโฮสเทล ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยมาก แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวเองชอบทางนี้ ไม่ได้เป็นคนขี้ร�ำคาญ และอยากช่วยเหลือคนอื่น คิดว่าน่าจะท�ำได้ และถ้าอยากท�ำก็ท�ำเลยค่ะ มันเหนื่อยมาก ก็จริง แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เราชอบก็สามารถท�ำได้แน่นอน

มีคำ�หนึ่งที่เคยพูดไว้คือ Say Hello Every Day แล้วก็ Say Goodbye Every Day คือเวลาเซย์ฮัลโหลมันก็สนุกดีนะ แต่เวลาจะบ๊ายบายต้องจากลากันก็เสียใจ ตัวเองร้องไห้หลายครั้งเลยนะ

The Yard Hostel

51 ซอยพหลโยธิน 5 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 08-9677-4050 เว็บไซต์ www.theyardhostel.com Facebook : theyardbangkok

THE HOSTEL BIBLE

185


X O B H C T MA k o k g n a B l Hoste

THE HOSTEL BIBLE

186

T R O F M O C D STAY SAFE AN F BANGKOK O T R A E H E H T IN


ถ้าคุณมีตกึ แถวเก่าทีไ่ ม่ได้ใช้งาน แม้จะมีพนื้ ทีไ่ ม่มากเพียงหนึง่ หรือสองห้องก็ตาม และคุณก�ำลังมองหาการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า การท�ำธุรกิจโฮสเทลคือทางเลือก ที่ไม่อาจมองข้าม และนี่คือตัวอย่างการลงทุนที่ดีที่สุดตัวอย่างหนึ่ง Matchbox Bangkok Hostel ตัง้ อยูใ่ นซอยสุขมุ วิท 33 เจ้าของเป็นกลุม่ นักธุรกิจ รุ่นใหม่อายุเพียง 30 ต้นๆ ประกอบด้วย คุณพัฒนพล เอมสอาด คุณพัฒนิดา เอมสอาด คุณธีธัช วรเสียงสุข คุณนรเทพ อุดมเลิศสกุล และคุณพงษ์พิชญ์ เฉลิมถิรเลิศ ได้ท�ำการ เช่าตึกแถวสองห้องที่ด้านล่างมีเพียงทางเดินเล็กๆ ทอดมายังด้านใน และปรับปรุงเป็น โฮสเทลที่มีสีสันสดใสแห่งนี้ เมื่อทีมผู้ลงทุนได้เช่าตึกนี้มาจากเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มี การปรับปรุงพืน้ ทีไ่ ปบางส่วนแล้วนัน้ ได้มอบหมายให้ คุณตัว้ -กันตศม นพวงศ์ ณ อยุธยา แห่งบ้านนพวงศ์ (บูติคโฮเต็ล) มาปรับปรุงภายในและท�ำแบรนดิ้ง จนสามารถออกแบบ ภาพรวมออกมาได้อย่างกลมกลืนสวยงามและใช้งานได้ดี ถึงแม้จะมีพนื้ ทีอ่ นั จ�ำกัด คุณตัว้ และทีมงานได้สร้างจุดเด่นให้กับอาคาร โดยการเน้นใช้สีเหลืองสดใสเป็นหลักบริเวณ ด้านหน้าของอาคารเพือ่ ดึงดูดความสนใจ ส่วนพืน้ ทีภ่ ายในแม้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ก็ ถูกจัดวางอย่างลงตัว ท�ำให้แม้ไม่มีพื้นที่ส�ำหรับกิจกรรมร่วมมากนัก แต่นักท่องเที่ยวก็ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นส่วนตัว และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยในเมืองใหญ่ พืน้ ทีห่ อ้ งนอนรวมอยูท่ ชี่ นั้ 2, 3 และ 4 ซึง่ มีจดุ เด่นทีล่ กู ค้าประทับใจเป็นอย่างมาก คือ เตียงบางส่วนจะเป็นเตียงควีนไซส์ มีตเู้ ซฟขนาดเล็กและอุปกรณ์อำ� นวยความสะดวก บริเวณหัวเตียง และทุกๆ เตียงจะมีทีวีจอ LCD ส่วนตัว พืน้ ทีส่ ว่ นกลางทีป่ ระกอบด้วย พืน้ ทีร่ บั ประทานอาหาร ตูเ้ ย็น ไมโครเวฟ เครือ่ งซักผ้า พืน้ ทีน่ งั่ เล่น ดูทีวี ถูกย้ายไปอยู่ชั้นบนสุด เพื่อให้เชื่อมกับดาดฟ้า ลูกค้าส่วนมากของ Matchbox เป็นชาวญี่ปุ่น จีน เกาหลี 40 เปอร์เซ็นต์ คนไทย 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็น ชาวยุโรปและอเมริกนั ซึง่ เป็นไปตามทีเ่ จ้าของได้คาดการณ์ไว้แต่แรก เนือ่ งจากพืน้ ทีบ่ ริเวณนี้ อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ชื่นชอบการพักใน โฮสเทลที่มีความเงียบสงบมากกว่าลูกค้าชาวยุโรป THE HOSTEL BIBLE

187


กลุม่ ผูเ้ ช่าได้ลงทุนเพิม่ เติมเป็นจ�ำนวน 2 ล้านบาท ต่อจากทีเ่ จ้าของตึกได้ปรับปรุง ส่วนของเตียงนอนเอาไว้แล้ว ซึ่งได้เตียงกลับมาจ�ำนวนถึง 50 เตียง Matchbox อยูห่ า่ งจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ 500 เมตร ห้องรวม Business Class (เตียงเดีย่ ว ราคา 450 บาท) ห้องรวมหญิง Business Class (เตียงเดีย่ ว 450 บาท) ห้องรวม First Class (เตียงคู่ ราคา 650 บาท) ห้องรวมหญิง First Class (เตียงเดี่ยว ราคา 550 บาท) ส�ำหรับผมแล้ว Matchbox คือการลงทุนขนาดเล็กที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านท�ำเล การตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ภายใต้การลงทุนที่ไม่สูงนัก ที่ส�ำคัญคือ สามารถตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการที่พักที่เรียบง่ายและสะดวกสบายในใจกลางเมือง ได้อย่างตรงจุด

THE HOSTEL BIBLE

188


1 อะไรเป็นจุดเริ่มต้น ที่ท�ำให้คุณสนใจการท�ำธุรกิจ โฮสเทล นรเทพ : ผมอยากสร้างอสังหาริมทรัพย์ทตี่ อบโจทย์ลกู ค้าในทุกด้าน ทั้งท�ำเล ราคา ความปลอดภัย และได้ร่วมกับคุณพงษ์พิชญ์ พร้อม เพื่อนสมัยเรียนประถมจนถึงเพื่อนมหาวิทยาลัย รวมตัวกันเป็นหุ้นส่วน กลุ่มเป้าหมายที่ เรามองไว้ ไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติ แต่รวมถึงคนไทยทีม่ าจากต่างจังหวัด นักศึกษา คนท�ำงาน ที่อยากมาท�ำธุระในเมือง หรืออยากมาเที่ยวห้าง ก็มานอนพักโฮสเทลของเราได้ พงษ์พิชญ์ : พื้นฐานที่บ้านผมท�ำธุรกิจการ์เมนต์ครบวงจร แต่คุณพ่อสนับสนุนให้ผม แตกแขนงลองไปท�ำธุรกิจด้านอืน่ ดูบา้ ง ประกอบกับมาเจอเพือ่ นกลุม่ นี้ แล้วก็นงั่ คุยกันว่า พวกเราชอบการเดินทาง และเล็งเห็นว่าเมืองไทยนั้น ธุรกิจที่สามารถท�ำรายได้มากที่สุด ก็คือธุรกิจการท่องเที่ยว ท�ำไมเราถึงไม่เปิดโอกาสให้ตัวเราเองล่ะ รวมทั้งท�ำเลที่เลือกคือ ซอยสุขมุ วิท 33 มีหา้ งเอ็มควอเทียร์ทเี่ พิง่ เปิดใหม่ น่าจะเป็นโลเคชัน่ ทีด่ ี และเหมาะส�ำหรับ นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ค�ำว่า Backpacker, Young Traveler

Q A

2 โฮสเทลในความหมายของคุณคืออะไร และแตกต่างจาก Hotel อย่างไร พงษ์พิชญ์ : โฮสเทลคือที่พักที่แขกสามารถมาพักผ่อน มาอยู่ได้อย่างสบายและ ปลอดภัย รวมทั้งเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ให้พวกเขามาเจอกัน บางคนมาคนเดียว เป็น Solo Traveler บ้างมาเป็นคู่ บ้างมาเป็นกลุ่ม แต่ทุกคนต้องมาสนุกสนานเฮฮา และมาหา เพื่อนใหม่กันที่นี่ ถ้าเป็นธุรกิจโรงแรม เจ้าของอาจไม่ได้ลงมาคลุกคลีกับลูกค้า ไม่ได้สร้างความสนิท สนมกับลูกค้าโดยตรง แต่ที่นี่เจ้าของทุกคนจะช่วยกัน มีเซอร์วิสมายด์ (Service Mind) สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า พวกเราหุ้นส่วนพยายามเข้ามาที่นี่ทุกวัน มาคุย มาแชร์ มาแนะน�ำสถานที่ ไถ่ถามลูกค้าว่า มาเมืองไทยกี่วันแล้ว มาพักกับเรากี่วัน อยู่กรุงเทพฯ กีว่ นั เราจะช่วยวางทริปให้ ท�ำให้เขารูส้ กึ ประทับใจในเมืองไทย พวกผมเห็นว่าเราท�ำอาชีพ นี้ต้องมี Service Mind เพราะมันเป็นหน้าตาของประเทศ THE HOSTEL BIBLE

189


3 วางคอนเซ็ปต์ของทีน ่ ไี่ ว้อย่างไร และอะไรคือสิง่ ที่ Matchbox มี ขณะที่โฮสเทลอื่นไม่มี นรเทพ : เราใช้ค�ำว่า Matchbox เพราะเตียงของเรามีลักษณะคล้ายกล่องไม้ขีด เราจะเน้นเตียงใหญ่ทรงยาว หน้ากว้าง มีม่านโปร่งแสง ม่านทึบแสง ค�ำว่า Matchbox จึงผุดขึ้นมาเพื่อสะท้อนการนอนพักบนเตียงทรงกล่องไม้ขีด ท�ำเลของเราอยูห่ า่ งจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ประมาณ 300 เมตร โดยมีหา้ งใหญ่ 2 ห้างอยูใ่ กล้ๆ คือ เอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ รวมทัง้ ห้างเอ็มสเฟียร์ ทีก่ ำ� ลังจะเปิดใหม่ ในอีก 1-2 ปีขา้ งหน้า ถ้าคุณมาพักแถบเส้นสุขมุ วิทจะมีเพียงโรงแรมในเรต 1,200-1,500 บาท แต่เราเป็นโฮสเทลในราคาเริม่ ต้น 450 บาท ต่อเตียง และมีทวี ี 24 นิว้ ทุกเตียง มี Security Card ทั้งหน้าประตูทางเข้า และหน้าประตูห้องพัก ตรงเตียงนอนก็ยังมี Security Card เพื่อเชื่อมระบบไฟฟ้าให้ท�ำงาน ส่วนข้างบนเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีน�้ำเปล่า น�้ำดื่มฟรี Wi-Fi ฟรีทั้งหมด THE HOSTEL BIBLE

190


4 กลุ่มลูกค้าเรามาจากแถบไหน และมีพฤติกรรมแบบใดเป็นพิเศษ พงษ์พิชญ์ : ส่วนใหญ่เป็นเอเชีย ประเทศยอดนิยม ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมทั้งคนไทย เพราะโดยธรรมชาติคนเอเชียจะให้ความส�ำคัญเรื่องความ ปลอดภัย ผมได้ยนิ ลูกค้าพูดเหมือนๆ กันว่า มาทีน่ แี่ ล้วรูส้ กึ อบอุน่ เพราะมีความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว มาตรฐานที่เรามอบให้แขกเทียบเท่าหรือให้ความรู้สึกเหมือนนอน ห้องไพรเวตในโรงแรม เพราะเรามี Safety Box ให้ ซึ่งบางแห่งอาจจะไม่มี แล้วก็มีทีวี บริการ คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเตียงๆ เดียวได้ และในระบบทีวีเราพยายามใส่ภาษา ให้หลากหลาย เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลทีวี ทั้งแขก อินเดีย ยุโรป 5 ช่วยเล่าถึงท�ำเลทีต่ งั้ การลงทุน รวมถึงการจัดสรรห้องและเรตราคา พงษ์พชิ ญ์ : Matchbox Bangkok Hostel ตัง้ อยูใ่ นซอยสุขมุ วิท 33 เดินจากปากซอย มาประมาณ 150 เมตร ติดกับร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เดิมที่นี่เคยเป็นบาร์และเจ้าของใหม่ ได้รโี นเวตตึกเพือ่ ปล่อยเช่า พวกเราจึงมาด�ำเนินการเช่าต่อ โดยลงทุนค่าเซ้ง 1.3 ล้านบาท มีค่ามัดจ�ำ 1 ล้านบาท ค่าเช่ารายเดือน เดือนละ 1.5 แสนบาท ท�ำสัญญาขึ้นราคาทุกๆ 3 ปี ปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเรตเฉลี่ยค่าเช่าในย่านนี้ ตึกมีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้น 1 คือโซนล็อบบี้ เป็นพื้นที่ส�ำหรับลูกค้าเช็กอิน-เช็กเอาต์ ชั้น 2, 3 และ 4 เป็นห้องพักลูกค้า แต่ละชั้นเราแบ่งเป็นห้อง A และห้อง B โดยห้อง A จะอยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ชั้นละ 8 เตียง ห้อง 2A เป็น Female Dorm, 3A และ 4A คือ Mix Dorm โดยสรุปทั้งหมดฝั่ง A จะมีอยู่ 22 เตียง ราคาอยู่ที่เตียงละ 450 บาท ข้ามมาฝั่ง B ซึ่งจะแตกต่างจากฝั่ง A เพราะเราจะใส่ดับเบิ้ลเบด (Double Bed) เตียง 5 ฟุตเข้าไป ส�ำหรับลูกค้าทีต่ อ้ งการนอนสองคนต่อเตียง ในราคาเตียงละ 650 บาท หรือหากลูกค้าต้องการนอนเตียงใหญ่คนเดียว ทางโฮสเทลขอคิดค่าบริการเพิม่ 100 บาท เป็น 550 บาท โดยสรุปฝั่ง B จะมีอยู่ 28 เตียง ซึ่งเทียบความนิยมตอนนี้เตียงฝั่ง A จะได้รับการตอบรับดีกว่า เพราะเตียงหน้ากว้าง ผมมองว่าฝั่ง B อาจจะยูนีก (Unique) กว่าที่อื่น และแขกอาจจะกังวลว่า สองคนนอนได้เตียงเดียวจริงหรือ ส่วนชั้น 5 คือ Facility Common Area มีอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีอา่ งล้างท�ำความสะอาด บริการจานชามช้อนส้อม และก�ำลังจะซือ้ ตูเ้ ย็นตามค�ำเรียกร้อง ของลูกค้า มีโต๊ะให้นงั่ เล่นหรืออ่านหนังสือ มีทวี ขี นาด 55 นิว้ และกล่องดิจติ อลทีวี ด้านนอก มีที่นั่งบนดาดฟ้าให้ลูกค้าได้นั่งชิลล์ๆ มี Wi-Fi บริการทั้งตึก

THE HOSTEL BIBLE

191


จากการสังเกตลูกค้าทีจ่ องมา 2 คืนมีเยอะมาก และหลายคนก็เลือกทีจ่ ะอยูต่ อ่ เพราะ เขาบอกว่าอยูต่ รงนีม้ นั สบาย มีอาหารข้างทาง และข้างๆ ก็มรี า้ นเซเว่น-อีเลฟเว่น ซือ้ ข้าว มากิน สามารถอุ่นด้านบนที่พักได้ แล้วก็เดินทางสะดวกโดย BTS ไปสยาม ไปหมอชิต ไปขนส่งเอกมัย เพื่อไปต่างจังหวัดต่อได้ 6 คุณคิดว่าเจ้าของโฮสเทลควรมีบุคลิกลักษณะอย่างไรบ้าง พงษ์พิชญ์ : ต้องเป็นคนที่มีความสนุกสนานร่าเริง และชอบพูดคุยพบปะกับผู้คน ต้องเป็นคนที่มีความคิด คิดเผื่อลูกค้าว่าเขาต้องการอะไรและเราต้องตอบสนองเขาให้ได้ เพราะลูกค้ามาจากต่างที่ต่างถิ่น นานาจิตตัง อย่างชาวเอเชียจะมีนิสัยออกไปข้างนอก แต่เช้าตรู่ กลับมาตอนเย็น มาเทีย่ วจะท�ำการบ้านมาเป็นอย่างดี แล้วคอยถามว่ามีทเี่ ทีย่ ว แนะน�ำไหม ส่วนยุโรปก็นอนไปเรือ่ ยๆ มาชิลล์ๆ พักผ่อน เขาจะไม่มาถามเรา ดังนัน้ เราต้องรู้ และเป็นฝ่ายคอยถามเขาก่อน มาอยู่กี่วัน ให้ช่วยวางแผนอะไรไหม พอเราถาม เขาก็จะ เปิดใจเอง และผมมองว่าควรจะเก่งภาษาอังกฤษ เวลาที่ลูกค้าถาม เราต้องตอบได้ทันที สังเกตจากที่คลุกคลีกับลูกค้า เขาชอบถามว่าเราเป็นใคร ผมก็จะบอกว่าเป็นผู้จัดการ เขาก็รสู้ กึ ดี หายากนะทีม่ ผี จู้ ดั การมาคลุกคลีกบั ลูกค้าแบบนี้ เขาก็รสู้ กึ อุน่ ใจทีม่ าพักกับเรา ส่วนคนทีไ่ ม่ควรท�ำธุรกิจนีค้ อื คนทีไ่ ม่มี Service Mind และยังไม่เหมาะกับคนทีเ่ งียบขรึม ถ้าคุณมีคณ ุ สมบัตคิ รบทุกอย่างแต่ไม่ชอบบริการ ไม่ชอบสังคม ผมมีคำ� แนะน�ำคือปล่อยเช่า ดีกว่า เพราะธุรกิจโฮสเทล หัวใจคือต้องสื่อสารกันฉันเพื่อน คุยกันเหมือนเพื่อน ไม่ใช่ มองเขาเป็นลูกค้า

THE HOSTEL BIBLE

192

7 คุณมีหลักการท�ำตลาด และมีวิธีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างไร ให้อยู่ในล�ำดับต้นๆ นรเทพ : การตลาดก็มีทั้งลงเฟซบุ๊ก ใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ และก�ำลังท�ำโบรชัวร์ เตรียมจะน�ำไปวางตามบริษัททัวร์และสถานที่ท่องเที่ยว ส�ำหรับวิธีการแข่งขันทางธุรกิจ คือ เราต้องดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวของเรา อีกอย่างหนึง่ คือ ต้องสร้างความแตกต่าง เราเป็นเจ้าแรกที่มีทีวีในเตียงทุกเตียง มี Double Bed ภาพที่ออกไปลูกค้าเห็นแล้ว แปลกใจว่า จ่ายแค่ 450 ท�ำไมมีทีวีในห้องด้วย หรือมีเตียงคู่ด้วย นี่คือความเป็นยูนีก


8 ในช่วง 5 ปีน้ี คุณคิดว่าธุรกิจโฮสเทลจะเติบโตไปในทิศทางใด นรเทพ : ยังเติบโตได้อีก ยิ่งถ้าเราเปิดอาเซียน จ�ำนวนนักท่องเที่ยวจะมากขึ้น และ ทางเลือกแขกก็จะมีมากขึ้น มองหาบริการในราคาที่คุ้มค่า ผมมองว่านี่ไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันเป็นโอกาสมากกว่า แต่ก่อนลูกค้าเดินทางไปต่างประเทศอาจจะมีทางเลือกแค่ โรงแรมแพงๆ แต่ตอนนี้อินเทอร์เน็ตเชื่อมโลกเข้าหากัน เราก็ใช้ช่องทางนี้มาตอบโจทย์ ผมมองว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้ากลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์ อยากใช้จ่ายกับการท่องเที่ยว มากกว่าทีพ่ กั ทีพ่ กั คือเอาไว้นอน ดังนัน้ เราต้องท�ำทีพ่ กั ทีต่ อบโจทย์การพักผ่อน อยูอ่ ย่างสบาย ปลอดภัย คุม้ ราคา ธุรกิจนีจ้ งึ น่าจะไปได้อกี ไกล ยิง่ ประเทศไทยธุรกิจการท่องเทีย่ วมาเป็น อันดับต้นๆ อยูแ่ ล้ว คนทีม่ าภูมภิ าคอาเซียนยังไงก็ตอ้ งแวะกรุงเทพฯ ผมมองว่าน่าจะเป็น โอกาสที่ดี และเจริญเติบโตได้อย่างแน่นอน

เราต้องดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวของเรา อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องสร้างความแตกต่าง เราเป็นเจ้าแรกที่มีทีวีในเตียงทุกเตียง มี Double Bed ลูกค้าเห็นแล้วแปลกใจว่า จ่ายแค่ 450 ท�ำไมมีทีวใี นห้องด้วย หรือมีเตียงคู่ด้วย นี่คือความเป็นยูนีก

Matchbox Bangkok Hostel

12/17 ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 09-1959-4644, 0-2259-0340 เว็บไซต์ www.matchboxbangkok.com Facebook : matchboxbangkok

THE HOSTEL BIBLE

193


PREMIUM CAPSULE IN THE HEART OF BANGKOK

THE HOSTEL BIBLE

194


ในซอยเพชรบุรี 15 ซึง่ เป็นย่านทีพ่ กั อาศัย รายวันที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากตั้งอยู่ ไม่ไกลจากห้างแพลทินมั และย่านประตูนำ�้ นัน้ เป็นทีต่ งั้ ของ Boxpackers Hostel โฮสเทล แคปซูลแห่งแรกๆ ของกรุงเทพฯ ทีย่ งั คงได้รบั ความนิยมอย่างสูงมาจนถึงปัจจุบนั ด้วยทีต่ งั้ ในท�ำเลชัน้ เยีย่ ม สไตล์การตกแต่งทีส่ วยงาม เรียบง่าย และใช้งานได้ดี เจ้าของคือ คุณแชมป์ ณัฐกฤต ชัยเชิดชูวงศ์ ซึง่ เคยมีประสบการณ์ ในการท�ำธุรกิจโรงแรมของครอบครัวมาก่อน ได้ปรับปรุงอาคารเก่าของทางบ้าน ซึง่ เคยเป็น อาคารเก็บสินค้าเสือ้ ผ้า ขนาด 4 x 12 เมตร ด้วยเงินลงทุน 12 ล้าน ให้เป็นโฮสเทลขนาด THE 36 เตียง

HOSTEL BIBLE

195


THE HOSTEL BIBLE

196


จากพืน้ ฐานการท�ำธุรกิจโรงแรม รวมทัง้ ยังรับหน้าทีบ่ ริหารโรงแรมของครอบครัว ชือ่ The Period Boutique Hotel ทีเ่ ปิดมาก่อนหน้า 3 ปี และตัง้ อยูต่ ดิ กันนัน้ ท�ำให้คณ ุ แชมป์ สามารถสร้างคุณภาพของงานบริการในระดับใกล้เคียงโรงแรม ส�ำหรับลูกค้าทีม่ าพักโฮสเทล ที่ไม่ต้องการมีรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากจ�ำนวนเตียงที่ไม่มากนัก ท�ำให้บรรยากาศของ Boxpackers มีความ เงียบสงบแตกต่างจากโฮสเทลแห่งอื่นๆ สิ่งนี้ถือเป็นจุดขายที่นักท่องเที่ยวและนักช็อป ชาวเอเชี ย ชื่ น ชอบ นอกจากนี้ ก ารตกแต่ ง ยั ง มี ค วามละเอี ย ดประณี ต สวยงามด้ ว ย เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เพิ่มเสน่ห์แบบตะวันออกให้กับห้องพักได้อย่างน่าสนใจ รูปแบบห้องพักประกอบด้วย ห้องรวมหญิง 4 เตียง (รวมอาหารเช้า ราคา 800 บาท) ห้องนอนรวม 6 เตียง (รวมอาหารเช้า ราคา 700 บาท) ห้องนอนรวม 4 เตียง (รวมอาหารเช้า ราคา 700 บาท) ห้องนอนรวม 12 เตียง (รวมอาหารเช้า ราคา 650 บาท) ห้องนอนรวม 10 เตียง (เตียงเดีย่ ว รวมอาหารเช้า 650 บาท) ห้องนอนรวม 10 เตียง (เตียงคู่ รวมอาหารเช้า 1,200 บาท) ห้องรวม 12 เตียง (ราคา 650 บาท) ห้องนอนรวม 10 เตียง (เตียงเดีย่ ว ราคา 650 บาท) ส�ำหรับคนทีต่ อ้ งการหลีกหนีจากทีพ่ กั อันอึกทึกคึกคัก และก�ำลังมองหาโฮสเทล ที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม ในท�ำเลสะดวกสบาย แคปซูลโฮสเทลอย่าง Boxpackers คือ ค�ำตอบที่ใช่ส�ำหรับคุณ

THE HOSTEL BIBLE

197


1 ช่วยเล่าประวัติตนเองสั้นๆ และจุดเริ่มต้นที่ท�ำให้ Q คุณสนใจธุรกิจโฮสเทล A ครอบครัวของผมท�ำโรงแรมมาก่อน ชือ่ TM LAND อยูต่ รงข้ามนิคม

อุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นลักษณะโรงแรมกับอพาร์ตเมนต์ ประมาณ 700 ห้อง เน้นกลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรต มีทั้งแบบให้พักรายวันและแบบลองสเตย์ ประกอบกับคุณพ่อของผมมีตึกอยู่ 2 ตึกในย่านนี้ (ซอยเพชรบุรี 15) จึงเอาตึกหนึ่งมาท�ำ เป็นโรงแรม ชื่อ The Period Boutique Hotel เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ย่านนี้ยังไม่มีโฮสเทล ตอนนั้นมีที่ใกล้ที่สุดอยู่แถวราชปรารภ เราจึงคิดว่ามีโอกาสที่น่าจะท�ำได้ ส่วนตัวเป็นคน ชอบโฮสเทลอยู่แล้ว เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็จะเที่ยวสไตล์แบ็กแพ็ก ท�ำให้เห็นว่า เมืองไทยน่าจะโตได้อีก จึงเป็นจุดสนใจให้มาท�ำธุรกิจโฮสเทล 2 จากประสบการณ์ทเี่ คยท�ำโรงแรมสแตนดาร์ดมาก่อน พอหันมา ท�ำโฮสเทล สามารถน�ำหลักการอะไรมาปรับใช้ได้บ้าง ในแง่การบริการ ทุกอย่างเหมือนกัน แต่ในแง่การจัดการห้องพัก การท�ำโฮสเทล ต้องลงรายละเอียดมากกว่า และทีส่ ำ� คัญ การบริหารระหว่างคนกับคน ต้องใส่ใจมากกว่า ลูกค้าแต่ละคน แต่ละประเทศ จะมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน

THE HOSTEL BIBLE

198

3 ในแง่การลงทุน การท�ำธุรกิจโรงแรมกับโฮสเทล ผลตอบแทน และโอกาสแตกต่างกันอย่างไร ถ้าถามว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน ขึ้นอยู่กับโลเคชั่น แต่ผมว่าในอนาคตโฮสเทลน่าจะ คุ้มค่ากว่าในเชิงการใช้พื้นที่ แม้ว่าเทรนด์ธุรกิจโฮสเทลจะเติบโตค่อนข้างสูง แต่ตลาดไม่ ได้โตตามเท่าที่ควร หากเปรียบเทียบกับเมืองนอก ธุรกิจโฮสเทลของเขาอยู่ได้ เพราะเขา พึ่งกลุ่มลูกค้าที่เดินทางภายในประเทศด้วย ตอนที่ผมไปพักโฮสเทลในญี่ปุ่น นอกจาก ลูกค้าต่างชาติกเ็ ห็นมีคนญีป่ นุ่ ลากกระเป๋าท�ำงานมาพักด้วยเหมือนกัน หรือตอนไปอังกฤษ ผมไปพักโฮสเทลขนาดใหญ่ก็จะเห็นคนอังกฤษที่มาเชียร์กีฬา มานอนพักหนึ่งคืนแล้วก็ กลับไป แต่เมืองไทยยังไม่เป็นแบบนั้น คนไทยแทบจะไม่รู้จักค�ำว่าโฮสเทล พอรู้ว่าเป็น ห้องพักนอนรวมก็ไม่นอนแล้ว


4 จุดเด่นของ Boxpackers Hostel และประสบการณ์แบบไหน ที่คุณอยากส่งมอบให้ลก ู ค้า ประสบการณ์ที่แขกจะได้รับจากเรา คือ ที่นี่เป็นโฮสเทลที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า โฮสเทลทั่วไป ค�ำว่า Boxpackers มาจาก Box + Backpackers สื่อถึงการนอนที่ให้ ความรู้สึกเหมือนนอนอยู่ในกล่อง แล้วก็จะมีฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่นอื่นๆ มากขึ้น ตอนแรกผมตั้งค�ำถามกับตัวเองก่อนว่า อยากได้โฮสเทลแนวไหน จนไปได้ไอเดียจาก โฮสเทลของสิงคโปร์ ซึง่ มีเทรนด์แบบแคปซูลญีป่ นุ่ แต่มพี นื้ ทีใ่ ช้งานมากขึน้ และมี Common Area ส่วนกลางเพิ่มขึ้น ต่างจากแคปซูลโฮสเทลทั่วไปที่แค่ขายให้ลูกค้าขาจรไปพักแล้ว ก็ออกไป เมื่อได้คอนเซ็ปต์แล้วว่าเราอยากท�ำกล่องประมาณนี้ ก็มาถึงเรื่องการตกแต่ง ผมอยากได้โทนทีเ่ น้นธรรมชาติ ทัง้ ภายนอกและภายใน เฟอร์นเิ จอร์ของเราจึงเน้นงานไม้ มีความเรียบง่าย พร้อมสอดแทรกแคมเปญต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มเข้าไป เช่น โปรโมชัน่ Go Green จากการจองผ่านอินเทอร์เน็ต โดยจะได้รบั ส่วนลดเมือ่ ใส่โค้ด (Code) ที่เราก�ำหนดไว้ลงไป โดยคุณต้องท�ำตามเงื่อนไขของเรา เช่น ไม่สูบบุหรี่

THE HOSTEL BIBLE

199


ด้านสิง่ อ�ำนวยความสะดวก อยากให้ลกู ค้ามาพักแล้วรูส้ กึ ว่าเราเป็น Environmental Hostel เช่น เรื่องการเปิด-ปิดแอร์ หรือระบบไฟฟ้า อย่างน�้ำร้อนที่ใช้มาจากแอร์ล้วนๆ พอแอร์ท�ำงานก็จะเอาความร้อนมาต้มน�้ำ ใช้ไฟ LED ซึ่งประหยัดไฟมากกว่า ไม่สูบบุหรี่ ภายในบริเวณอาคาร เคยมีลูกค้าของเรารีวิวในเว็บ Tripadvisor ว่าถึงปิดแอร์แล้วก็ยัง เย็นสบาย สิ่งอ�ำนวยความสะดวกภายในต้องเตรียมพร้อมให้ลูกค้า อาบน�้ำต้องมีน�้ำร้อน ไม่ใช่แค่น�้ำอุ่น ต้องมีฝักบัว ที่นอนต้องนุ่มสบาย ให้ความส�ำคัญกับแสงของธรรมชาติ จัดแสงสลัวๆ ซึ่งช่วยลดการนอนกรนของลูกค้าได้ และที่ไม่เหมือนใครคือเราเสิร์ฟ อาหารเช้า Hot Dish ทั้งสองฝั่งโฮสเทลกับโรงแรม อาหารเช้าเหมือนกันเลย สามารถ เลือกเซ็ตได้ เป็นไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ออมเล็ต เบคอน ข้าวต้ม สปาเกตตี้ 5 คาแร็กเตอร์ของลูกค้าที่มาพักที่ Backpackers เป็นอย่างไร กว่า 70 เปอร์เซ็นต์มาจากโซนเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย พฤติกรรมหลักๆ คือ ชอบมาช็อปปิ้งแล้วก็ไปเที่ยว ทางฝั่งยุโรปมีบ้างแต่ไม่มาก เพราะสไตล์โฮสเทลของเรา เน้นความเป็นส่วนตัว ซึง่ ฝรัง่ อาจไม่คอ่ ยชอบเท่าไหร่ เคยมีแขกคอมเมนต์ในเว็บว่า ได้พบ เพื่อนน้อย นั่นแปลว่าพอเราเลือกเน้นไพรเวซี่ (Privacy) ก็ไม่ได้จะมีคนชอบทุกคน แต่ เมื่อเราเปิดโรงแรม เรารูว้ า่ กลุม่ ลูกค้าหลักของเราเป็นคนเอเชีย เราก็ตอ้ งท�ำอะไรทีค่ นเอเชีย ชอบ นัน่ คือ ใส่ความเป็นส่วนตัวลงไปนั่นเอง

THE HOSTEL BIBLE

200

6 หลักการจัดสรรห้อง และการตั้งราคา เราแบ่งห้องออกเป็น 4 ราคา ตั้งแต่ 450, 500, 550 ไปจนถึง 900 บาท ซึ่งเป็น ดับเบิ้ลเบด (Double Bed) จากเดิมตึกนี้เคยท�ำโรงงานการ์เมนต์ไว้เก็บสินค้าเสื้อผ้า พื้นที่นี่หน้ากว้าง 4 เมตร ลึกประมาณ 12 เมตร มีทั้งหมด 6 ชั้น แต่ด้วยโครงสร้างเดิม ของตึกซึง่ ดีอยูแ่ ล้ว จึงไม่ตอ้ งปรับปรุงอะไรมาก แค่ตกแต่งอย่างเดียว ลงทุนทัง้ หมด 12 ล้าน ได้มา 36 เตียง จ�ำนวนห้องมีทง้ั หมด 5 ห้อง แบ่งเป็น Lady 4, Mix 4, Mix 6, Mix 10, Mix 12 ห้องราคาถูกสุดคือ Mix 10 กับ Mix 12 เริม่ ที่ 450 บาท ส่วน Mix 4 กับ Mix 6 ราคา 500 บาท ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส�ำหรับ Lady 4 จะแพงขึ้นมา หน่อยเป็น 550 บาท และเตียง Double Bed ที่นอนได้ 2 คน ราคา 900 บาท เพราะ คนเอเชียจะชอบความเป็นส่วนตัว เขายอมจ่ายเพิ่มขึ้นอีกนิดแลกกับความเป็นส่วนตัว


7 คุณมีวิธีการท�ำการตลาดอย่างไร ช่วงแรกท�ำการตลาดไม่คอ่ ยยาก เพราะไม่มคี แู่ ข่งเลย และรูปแบบโฮสเทลทีเ่ ป็นกล่องไม้ แบบเราก็ไม่มีเหมือนกัน โดยเราท�ำสไตล์และการตกแต่งให้เป็นจุดขายไปด้วยในตัว แต่ระยะหลัง พอตลาดโฮสเทลโตขึ้น เราก็จะเน้นท�ำการตลาด ท�ำเรตติ้ง ในเว็บไซต์ Tripadvisor รวมทัง้ ปรับราคาโปรโมชัน่ บ้างในบางช่วงโลว์ซซี นั่ (Low Season) ส่วนช่วง วันธรรมดาก็มอบส่วนลดให้ลกู ค้า 10 เปอร์เซ็นต์ จากการวัดการเติบโตในตลาดนี้ เมือ่ ต้น ปี 57 จ�ำนวนโฮสเทลในกรุงเทพฯ ในเว็บไซต์ Tripadvisor อยูท่ ี่ 200-300 แห่ง แต่ปจั จุบนั (กค.58) อยู่ที่ 600 กว่าแห่ง เติบโตเป็นทวีคูณเลย ดังนั้น จุดเด่นในการท�ำตลาดคือ ขายความเป็นตัวเองให้ชัดเจนที่สุด 8 ตลอด 3 ปีทเี่ ปิดบริการมา มีประสบการณ์ทสี่ ดุ แบบใดบ้างทีล่ ม ื ไม่ลง เป็นประสบการณ์ตลกๆ มากกว่า บางทีแขกเช็กเอาต์แต่เช้า ไม่มีพนักงานไปตรวจดู พอเปิดห้องเข้าไป เจอลูกค้าอึทิ้งไว้บนเตียง หรือบางคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ก็จะ อยู่กันแค่สองคนสามีภรรยา ตอนมาก็ปกติแต่สักพักเหมือนจะแอบไปผ่าตัดอะไรมาไม่รู้ ห้อยถุงเลือดแล้วไปนอนเตียงฝรัง่ พอลูกค้าฝรัง่ เปิดห้องมา เขาค่อนข้างซีเรียสเรือ่ งความ สะอาด พอเห็นก็ชอ็ กและเช็กเอาต์ไปเลย ให้เปลีย่ นเตียง เปลีย่ นห้อง ก็ไม่ยอม หรือบางคน นอนตกเตียง หรือเคยเจอล็อกเกอร์หน้าเตียงพังไม้หักกระจุยเลย นั่นแปลว่าเมื่อท�ำ โฮสเทล คุณต้องพร้อมเจออะไรที่ไม่คาดคิดและรับมือกับมันให้ได้

เมื่อต้นปี 57 จ�ำนวนโฮสเทลในกรุงเทพฯ ในเว็บไซต์ Tripadvisor อยู่ที่ 200-300 แห่ง แต่ปัจจุบัน (กค.58) อยู่ท่ี 600 กว่าแห่ง เติบโตเป็นทวีคูณเลย ดังนั้น จุดเด่นองการท�ำตลาดคือ ต้องขายความเป็นตัวเองให้ชด ั เจนที่สุด

BOXPACKERS HOSTEL

39/3 ซอยเพชรบุรี 15 ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2656-2828 เว็บไซต์ www.boxpackershostel.com Facebook : boxpackershostel

THE HOSTEL BIBLE

201


e f a C

D &

n g i es

p o h S

N G I ES

E N LA

D F TO

บริเวณ อนุสาวรียช์ ยั สมรภูมิ ถือเป็นศูนย์กลางของขนส่ง มวลชนของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นเส้นทางทีร่ ถเมล์แล่นผ่านแทบทุกสาย มีปา้ ยสถานีรถไฟฟ้า รวมทัง้ ยังมีจดุ จอดรถตูอ้ ยูร่ ายรอบ ที่น่ีอาจไม่ใช่ย่านที่น่าหลงใหลมากที่สุด ไม่ว่าจะจากมุมมอง ของชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือหนึ่งในย่าน ทีส่ ะดวกทีส่ ดุ ของกรุงเทพฯ และ POD Hostel Café & Design Shop ก็ตงั้ อยูใ่ น ย่านท�ำเลทองแห่งนี้ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทเี อสอนุสาวรียช์ ยั สมรภูมเิ พียง 3 นาทีเท่านัน้

N I L TE

P E TH

S O H

THE HOSTEL BIBLE

202

ชื่อ POD ย่อมาจาก Planet Of Design มี คุณกฤษณ์ พุฒพิมพ์ นักออกแบบมือ รางวัลเป็นเจ้าของ ด้วยหน้าทีก่ ารงานคุณกฤษณ์รบั ออกแบบทุกอย่าง ตัง้ แต่งานกราฟฟิก เฟอร์นเิ จอร์ นาฬิกา โฮสเทล ไปจนถึงจักรยาน! เขามีความตัง้ ใจทีจ่ ะเปิดโฮสเทลมาตัง้ แต่ ครัง้ ยังเป็นนักศึกษา หลังจากมีโอกาสได้ไปพักตามโฮสเทลในยุโรป และเมือ่ 3 ปีกอ่ นก็ได้ มาเช่าตึกแถว 2 คูหา สูง 4 ชั้นแห่งนี้ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของบริษัทขายสมุนไพรและถูก ทิ้งร้างมานานหลายปี วันหนึ่งคุณกฤษณ์ผ่านมาและพบว่า ตึกแถวแห่งนี้แปะป้ายให้เช่า จึงติดต่อขอเช่ากับเจ้าของตึก และใช้เวลาราว 3 เดือนกับเงินลงทุน 5 ล้านบาท แปลงโฉม ตึกเก่าให้กลายเป็น Design Hostel ขนาด 23 เตียง ซึ่งเป็นเสมือนจุดเชื่อมของคนที่ หลงใหลในงานออกแบบ ตามชื่อ Planet Of Design และอีกความหมายหนึ่งของ POD ก็คือ Sleep pod ที่แปลว่าตู้นอนนั่นเอง


เนื่องจากท�ำเลเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางของกรุงเทพมหานคร จึงท�ำให้ กลุม่ ลูกค้าทีแ่ ต่เดิมคาดว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติ กลับเป็นคนไทยมากถึงครึง่ หนึง่ ส่วนใหญ่ เป็นคนต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางมาท�ำธุระที่กรุงเทพฯ และได้รับความสะดวกจากท�ำเล ทีต่ งั้ ทีใ่ กล้รถไฟฟ้า ใกล้สถานีขนส่งหมอชิต และใกล้จดุ จอดรถตูอ้ กี เป็นจ�ำนวนมาก ส่วนลูกค้า ต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปที่ชื่นชอบในงานดีไซน์สไตล์เท่ๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Design Hostel แห่งนี้ POD มีห้องพักเดี่ยวแบบเตียงคู่และเตียงสองชั้น ส�ำหรับนักเดินทางดูโอ ในราคา คืนละ 750 บาท โดยใช้หอ้ งน�ำ้ รวม ไปจนถึงห้องนอนรวมใหญ่ทพี่ กั ได้สงู สุด 14 เตียง ซึง่ เป็น จุดเด่นทีล่ กู ค้าชอบมากทีส่ ดุ เพราะถึงแม้มจี ำ� นวนเตียงมาก แต่กม็ พี นื้ ทีน่ งั่ เล่นขนาดใหญ่ ภายในห้องนอนรวม ด้วยการจ่ายเพียง 450 บาท คุณจะได้นอนเตียงควีนไซส์ที่พื้นที่ ภายใน มีความสูงโปร่งเป็นพิเศษ ท�ำให้น่านอนและไม่อึดอัด เมื่อก้าวเข้าไปภายใน Common Room บริเวณชั้นล่าง คุณจะได้พบกับนักเรียน นักศึกษา และหนุม่ สาววัยท�ำงานทีม่ าใช้พนื้ ทีต่ รงนีใ้ นการท�ำกิจกรรมต่างๆ ทีเ่ ต็มไปด้วย ชีวิตชีวา ระหว่างรอการจราจรคลี่คลาย คุณสามารถเดินชมมุมโชว์จักรยานและกล่องใส่ จักรยานที่คุณกฤษณ์เป็นผู้ออกแบบและวางจ�ำหน่ายอยู่ การจัดแสงภายในอาคารที่ให้ บรรยากาศเหมือนก�ำลังอยูใ่ นแกลอรี่ ท�ำให้โฮสเทลแห่งนีด้ งึ ดูดลูกค้าทีช่ นื่ ชอบงานดีไซน์ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นอกจากนี้ การตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ยังท�ำให้บริเวณโดยรอบของ POD เต็มไป ด้วยสิ่งอ�ำนวยความสะดวกส�ำหรับแขกที่มาพัก อย่างเช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม และไลฟ์สไตล์อื่นๆ อีกมากมายที่สะท้อนชีวิตความเป็นไทยได้อย่างสมจริงและมีเสน่ห์ ในสายตาชาวต่างชาติ ทั้งหมดนี้ท�ำให้ POD เป็นหนึ่งในโฮสเทลที่น่าพัก สามารถตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมสูงสุดอีกแห่งหนึ่ง THE HOSTEL BIBLE

203


THE HOSTEL BIBLE

204


THE HOSTEL BIBLE

205


1 จุดเริ่มต้นที่ท�ำให้คุณก้าวมาสู่ธุรกิจโฮสเทล พืน้ ฐานผมเป็นดีไซเนอร์ จบปริญญาตรีดา้ นการออกแบบ จากสถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากนัน้ ไปเรียนต่อ ปริญญาโทด้านออกแบบที่เมือง Goldenberg ประเทศสวีเดน ระหว่างนัน้ เองผมมีโอกาสเดินทางในยุโรป ได้ซมึ ซับประสบการณ์เทีย่ วแบบแบ็กแพ็กเกอร์ นอนตามโฮสเทล ท�ำให้เกิดความประทับใจในรูปแบบธุรกิจนี้ เลยมองว่าถ้าวันหนึ่ง กลับเมืองไทย นี่เป็นธุรกิจที่น่าลอง

Q A

พอกลับมา ผมก็มาเปิดออฟฟิศเล็กๆ ชือ่ Dots Design Studio เป็นบริษทั ทีป่ รึกษา ด้านการออกแบบ ท�ำงานตกแต่งภายใน งานโปรดักต์ดีไซน์ และได้เริ่มออกแบบตกแต่ง ภายในให้กบั รีสอร์ตและห้องพักเล็กๆ บ้าง เป็นช่วงเวลาทีท่ ำ� ให้เราได้สงั่ สมประสบการณ์ ได้เดินทางท่องเที่ยว จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ความตั้งใจอยากท�ำโฮสเทลแบบในอดีตก็กลับมา อีกครั้ง ประกอบกับผมมีโอกาสได้คุยกับเจ้าของที่ตรงนี้ (ท�ำเลย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) เขาติดป้ายให้เช่าพอดี ผมก็เลยติดต่อขอเช่ากับเจ้าของตึก 2 คุณมีหลักในการเลือกท�ำเลอย่างไร เราคิดโปรเจ็กต์ไว้อยู่แล้วว่าถ้าจะท�ำโฮสเทล พื้นที่จะอยู่ย่านไหน หนึ่งในตัวเลือกที่ มองไว้คอื เส้นรถไฟฟ้า และท�ำเลทีด่ ที ส่ี ดุ ทีผ่ มอยากได้ตอนแรกก็คอื ราชเทวี ตรงแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ผมมองว่าถ้าเราเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ วิธกี ารเทีย่ วของเราจะเป็นอย่างไร ก็มองภาพว่า นักท่องเที่ยวที่ลงเครื่องบินจากสุวรรณภูมิ จากนั้นก็มาต่อแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เขาคงต้อง รู้สึกเหนื่อยมากๆ แล้วก็คงจะต้องมองหาที่พัก ถ้าได้ลงจากสถานีแล้วเจอที่พักเลยมันจะ ดีมากๆ เพราะฉะนั้นท�ำเลบริเวณนี้ถือเป็น The Best Location ส่วนท�ำเลของเราย่าน อนุสาวรียช์ ยั ฯ คือจุดเชือ่ มต่อของการคมนาคม เหมือนเป็นหัวใจของกรุงเทพฯ ไม่ได้ไกล จากแอร์พอร์ตเรลลิงก์นัก อยู่ในจุดที่เดินทางสะดวก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ก็มี สวนจตุจักร

THE HOSTEL BIBLE

206

3 เมื่อได้ทำ� เลดีตรงนี้ ท�ำไมคุณถึงเลือกท�ำโฮสเทล แทนที่จะเป็น บูติคโฮเต็ล หรือดีไซน์โฮสเทล ผมไม่ได้มองว่าจะท�ำท�ำเลตรงนี้เป็นอะไร แต่ผมมองกลุ่มเป้าหมายว่าใครคือลูกค้า ของผม ลูกค้าผมคือแบ็กแพ็กเกอร์ แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่แบ็กแพ็กเกอร์ต้องการ เวลาเรา ไปเที่ยว เราแค่ต้องการที่ซุกหัวนอน มันก็แค่มีที่พักกับที่เก็บของ นักท่องเทีย่ วเขาไม่ได้มา


แค่เที่ยวกรุงเทพฯ แต่เขามาเที่ยวประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เขาจะหยุดแวะ แฮงเอาต์ที่กรุงเทพฯ สัก 2-3 วัน จากนั้นจึงไปต่อ เพราะฉะนั้นท�ำเลของเราควรจะเป็น ที่ที่เขานอนได้ ฝากของได้ เดินทางสะดวก หรือไปแฮงเอาต์ตอนกลางคืนก็ได้ 4 หัวใจของโฮสเทลคืออะไร ทีพ่ กั ทีส่ บาย บรรยากาศรีแล็กซ์ และไร้ซงึ่ ธรรมเนียมพิธรี ตี อง เราอาจจะไม่มเี บลล์บอย ยกกระเป๋า แต่เรามีบริการที่เหมือนเพื่อนให้ ส่วนใหญ่โฮสเทลมักจะเป็นเจ้าของมารัน ธุรกิจเอง บริการเอง เทกแคร์เอง ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมอยู่ ผมจะพยายามคุยกับแขก และ ปฏิบตั ติ อ่ แขกเหมือนเพือ่ น ครัง้ หนึง่ ผมนัง่ แฮงเอาต์กบั แขก คุยไปคุยมา เขาเป็นสถาปนิก เหมือนกัน และเรามีแพลนไปเที่ยวยุโรปเหมือนกันพอดี ก็เลยสรุปว่าไปด้วยกันเลย ส�ำหรับผม โฮสเทลคือสถานที่ของการสร้างคอนเนกชั่น สังเกตว่าเวลาเราไปเที่ยว โฮสเทล คนที่มาคนเดียวก็จะไปนอนห้องพักรวม แล้วเราก็จะได้เพื่อนใหม่จากตรงนั้น เจอเพือ่ นเทีย่ วด้วยกัน โฮสเทลคือทีท่ ไี่ ด้รจู้ กั แชร์ และสร้างคอนเนกชัน่ ใหม่ๆ ส�ำหรับคน ที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกัน ชื่อ POD ย่อมาจาก Planet Of Design หรือโลกของการ ออกแบบ และอีกหนึง่ ทีม่ าก็คอื Sleep Pod หรือตูน้ อน จุดเด่นอีกอย่างหนึง่ ก็คอื เรามีตู้ นอนที่ค่อนข้างแตกต่าง ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนที่แบ็กแพ็กมาคนเดียว 5 แขกของ POD มีคาแร็กเตอร์อย่างไร ถ้า POD เป็นคน คงเป็นคนทีม่ สี ไตล์พงั้ ค์ๆ ฮิปๆ ด้วยภาพทีเ่ ราน�ำเสนอ เราจะพูดถึง อาร์ตและดีไซน์ในการตกแต่ง สิง่ ทีผ่ มสัมผัสได้คอื แขกส่วนใหญ่ทมี่ าพักกับเรา เขามาเพือ่ ลองนอนดูสวิ า่ อาร์ตและดีไซน์ในแบบ POD เป็นอย่างไร สัดส่วนคือคนไทย 50 เปอร์เซ็นต์ ต่างชาติ 50 เปอร์เซ็นต์ และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งตอนแรกคนไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย ทีเ่ รามองไว้เลย แต่ผลตอบรับท�ำให้เราเห็นว่า เราก�ำลังตอบสนองลูกค้าด้วยฟังก์ชนั่ ลูกค้า คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัดที่มาท�ำธุระในกรุงเทพฯ ช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ บ้างมาอบรม บ้างมาติดต่องาน เขาก็นงั่ รถตูม้ าลงอนุสาวรียช์ ยั ฯ จากคิวรถตูก้ เ็ ดินมาได้เลย หรือนั่ง บขส. มาลงหมอชิต แล้วก็นั่งรถไฟฟ้ามา ท�ำเลตรงนี้เหมือนเป็นศูนย์รวมของ ขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ ซึง่ ลูกค้าจะมองหาทีพ่ กั ทีป่ ระหยัดกว่า เท่าทีร่ คู้ อื ปัจจัยด้านราคา มีผลกับลูกค้าเอเชีย ลูกค้าจีนค่อนข้างมาก สิง่ หนึง่ ทีน่ า่ สังเกตคือ คนไทยทีม่ าพักล้วนจอง ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือเว็บบุ๊กกิ้งทั้งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเติมเต็มของเรา อีกกลุ่มหนึ่งที่ ก�ำลังมาคือกลุ่มคนจีน ผมมองว่าตลาดจีนมีช่องว่างให้บริการได้อีกเยอะ เพราะคนจีน ชอบมาเที่ยวไทย

THE HOSTEL BIBLE

207


6 ช่วยอธิบายรายละเอียดห้องพักแต่ละประเภทของที่นี่ POD มี 2 คูหา ทั้งหมด 4 ชั้น เฉลี่ยที่ชั้นละประมาณ 100 ตารางเมตร รวมทางเดิน และห้องน�้ำ ห้องพักของเราแบ่งเป็น 3 ประเภท (ห้องส่วนตัวมี 2 ประเภท คือห้อง Solo ส�ำหรับแขกที่พักเดี่ยว และห้อง Duo ส�ำหรับแขกสองคน) ในส่วนนอนรวม จะเป็นห้อง Sleep Pod อยูช่ นั้ บนสุด คือชัน้ 4 เพียงชัน้ เดียว Sleep Pod มี 14 เตียง เป็นเตียงสองชัน้ รวมเตียงล่างกับเตียงบนเท่ากับ 24 เตียง หลักการแบ่งโซนห้อง เรามองจากพืน้ ทีก่ ารใช้งาน เป็นหลัก ห้อง Dormitory Room มีพื้นที่ประมาณ 80 ตารางเมตร ซึ่งเรามองว่าถ้าจะ วางเตียงเข้าไปให้มากทีส่ ดุ โดยคนใช้งานไม่รสู้ กึ อึดอัด ควรจะเป็นจ�ำนวนเท่าไหร่ เลย์เอาต์ ทีล่ งตัวคือ 14 เตียง และเราจะแบ่งพืน้ ที่ Common Area ให้ดว้ ย พร้อมพืน้ ทีข่ องห้องน�ำ้ ที่ไม่ได้แออัดจนเกินไป ด้วยข้อจ�ำกัดของโครงสร้างตึก เมื่อลองค�ำนวณพื้นที่ต่อหัวต่อคน เพียงพอที่จะท�ำให้ เราจัดหาเตียงใหญ่ให้ลกู ค้าได้ สิง่ หนึง่ ทีเ่ ราต้องการน�ำเสนอคือ ความเป็นส่วนตัวของห้อง Dormitory เพราะฉะนั้นเราจะใช้เรื่องดีไซน์กับการจัดวางเข้ามาช่วย ท�ำอย่างไรให้นอน แล้วไม่รู้สึกอึดอัด ยังรู้สึกเป็นส่วนตัว 7 คุณใช้งบประมาณในการปรับปรุงเท่าไร ลักษณะการเช่า เป็นแบบใด และคาดว่ากี่ปีจงึ จะคืนทุน ตัวเลขคร่าวๆ น่าจะประมาณ 5 ล้าน เรารีโนเวตตึกโดยใช้ระยะเวลาซ่อมแซม 3 เดือน ท�ำสัญญาเซ้ง 9 ปี โดยมีราคาค่าเซ้ง 1 ล้านบาท ค่าเช่าเดือนละ 5 หมื่นบาท แต่เท่าที่ ค�ำนวณไว้ ปีที่ 3-4 น่าจะคืนทุน เพราะอัตราผู้เข้าพักอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์

THE HOSTEL BIBLE

208

8 คุณมองการแข่งขันในธุรกิจนี้ไว้อย่างไรบ้าง และธุรกิจนี้ น่าลงทุนมากน้อยแค่ไหน ผมมองว่ามันเป็นการค้าทีเ่ สรี ยิง่ มีผเู้ ล่นมาก ยิง่ ท�ำให้เราต้องกระตุน้ และพัฒนาตัวเอง ถ้าเป็นเมือ่ ก่อน ห้องเช่าก็คอื ห้องเช่า มันก็แค่มเี ตียงกับมีทนี่ อน คนจะไม่ได้สนใจเรือ่ งสไตล์ ความแตกต่าง และการบริการ แต่ตอนนีล้ กู ค้ามีทางเลือกมากขึน้ นัน่ หมายความว่า เราต้อง ไม่อยู่นิ่ง ต้องพัฒนาในมิติต่างๆ ด้วย ในความเห็นส่วนตัวของผม ต่อให้คุณไม่มีความ หลงใหลในการเดินทาง โฮสเทลมันเป็นธุรกิจที่ท�ำง่าย เหมือนเราเปิดห้องให้เช่ารายวัน ซึ่งรายได้ดีอยู่แล้ว ด้วยสเกลที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก คืนทุนเร็ว ทั้งยังสามารถขยายต่อไป ที่อื่นๆ ได้ด้วย


9 ภายใน 5 ปีน้ี คุณมอง POD ว่าจะเติบโตไปในทิศทางไหน ผมมองว่าเรายังอยากสร้างคอนเน็กชัน่ ตรงนีอ้ ยู่ สาขาแรกนีเ้ ปรียบเหมือนเป็นสถานที่ ทดลองของผม หนึ่ง คือเราทดลองเรื่องงานออกแบบของเราด้วย สอง เราทดลองเรื่อง แนวคิดการท�ำธุรกิจ ผมต้องการสร้างเน็ตเวิร์ก ในอนาคตอาจจะขยับตัวเองมาเป็นแบบ Provider ต่อไปที่ POD อาจจะขยายสาขา อาจมีเจ้าของคนอืน่ มารันธุรกิจต่อ ในลักษณะ เป็นพาร์ตเนอร์ โดยเขาเป็นคนลงทุน ส่วนเราก็ดูเรื่องของการออกแบบ การตกแต่ง การ รีโนเวต เพราะผมมองว่าประสบการณ์ในด้านการออกแบบของเราก็มพี อสมควร เอาข้อดี ข้อเสียที่เราเคยลงสนามลุยมาแล้ว ไปปรับปรุงใช้กับที่อื่น 10 สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงคนที่ก�ำลังอยู่ในธุรกิจนี้ หรือก�ำลัง จะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้บ้าง โฮสเทลเป็นธุรกิจที่เล็ก ท�ำง่าย แต่คุณต้องมีใจรักในบริการ แล้วก็สนใจกับธุรกิจนี้ จริงๆ การบริหารธุรกิจสเกลเล็กๆ ให้มันดีและอยู่รอดได้ ขึ้นอยู่กับเจ้าของและทีมงาน และอยูท่ ภี่ าพทีเ่ ราน�ำเสนอออกไป อย่าสักแต่วา่ ท�ำ สักวันมันก็จะดาวน์ แต่ถา้ เราอินกับมัน อยู่ตลอดเวลา จะท�ำให้คนรอบข้างรู้สึกไปด้วย

ผมไม่ได้มองว่าจะท�ำท�ำเลตรงนี้เป็นอะไร แต่ผมมองกลุ่มเป้าหมายว่าใครคือลูกค้าของผม ลูกค้าผมคือแบ็กแพ็กเกอร์ แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่แบ็กแพ็กเกอร์ต้องการ เวลาเราไปเที่ยว เราแค่ต้องการที่ซุกหัวนอน มันก็แค่มท ี ี่พักกับที่เก็บของ

POD Hostel

156/3 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 09-5449-8698 เว็บไซต์ www.pod-designhostel.com Facebook : POD Hostel Cafe Designshop

THE HOSTEL BIBLE

209


THE HOSTEL BIBLE

210


YOU CAN LIVE YOUR LIFE PERFECTLY IN ONE DAY

THE HOSTEL BIBLE

211


ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีโฮสเทลกว่า 600 แห่ง ในจ�ำนวนนั้น ถ้านับโฮสเทลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ อาจมีเพียง 20 แห่ง และถ้าให้เหล่านักเดินทางพูดถึงโฮสเทลที่ดีที่สุด ของกรุงเทพฯ ในวันนี้ จะต้องมีชื่อ One Day อยู่ด้วยแน่นอน One Day I Pause & Forward ไม่ได้เป็นเพียงแค่โฮสเทล แต่คือคอนเซ็ปต์ที่ ต้องการให้คนคนหนึ่งมาอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 1 วัน ตั้งแต่ลืมตา ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารดีๆ ท�ำงาน ประชุม สังสรรค์ จนถึงกลับเข้านอน จึงเป็นทีม่ าของ องค์ประกอบทีอ่ ยูร่ วมกันทัง้ หมดใน One Day ตัง้ แต่ Co-working Space ร้านอาหารดีๆ ร้านกาแฟ ห้องประชุม และที่พักอันแสนสะดวกสบาย One Day อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ตั้งอยู่ภายในอาคารเก่าซึ่งถูกทิ้งร้างมานาน เดิม เคยใช้เป็นโกดังเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือไฟฟ้าของบริษัท Black & Decker โครงสร้าง ของอาคารเก่ามีความแข็งแรงและสวยงามเป็นอย่างมาก รวมถึงรูปทรงของอาคารก็มี เอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสมัยเมือ่ 30 ปีกอ่ น ซึง่ รูปลักษณ์ทโี่ ดดเด่นของอาคารหลังนี้ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกผู้ออกแบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนคนส�ำคัญ เมื่อได้ตัวอาคารแล้ว สิ่งต่อมาที่กลุ่มผู้ลงทุนต้องช่วยกันขบคิด คือ Core Business ของธุรกิจนีท้ จี่ ะพัฒนาไปสูแ่ บรนดิง้ รวมไปถึงการออกแบบ และกิจกรรมทัง้ หมดทีจ่ ะใส่ ลงไปในนั้น ต้องสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มที่ใกล้เคียงกับฮิปสเตอร์ที่ น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี การปรับปรุงโครงการใช้เวลาทัง้ สิน้ 7 เดือน ในงบประมาณ 40 ล้านบาท รวมส่วนของ ร้านอาหาร และ Co-working Space ที่ท�ำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนท�ำงาน รุน่ ใหม่ และเมือ่ เจ้าของโครงการต้องการให้ลกู ค้าใช้ชวี ติ ในทีเ่ ดียวได้อย่างครบวงจรทัง้ วัน จึงเกิดคอนเซ็ปต์แบบเหมาจ่ายทัง้ ทีน่ อนและทีท่ ำ� งาน ใช้ชอื่ ว่า Co-Work Living ในราคา 650 บาทต่อหัว ต่อวันขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

THE HOSTEL BIBLE

212

บรรยากาศของที่พักถูกตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ (Loft) กับวินเทจ (Vintage) เพื่อให้ เข้ากับบรรยากาศของอาคารเก่า ห้องพักแต่ละห้องถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดทีแ่ ตกต่าง กันไป การเลือกใช้วัสดุตกแต่งและการให้แสงภายในห้องเป็นไปอย่างพิถีพิถัน


จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ One Day I Pause & Forward คือรูปแบบของการลงทุน โดยแบ่งกลุม่ ผูล้ งทุนออกเป็นกลุม่ ผูบ้ ริหารและกลุม่ Passive Investor ทีม่ พี นื้ ฐานมาจาก หลากหลายอาชีพ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม รับเหมาก่อสร้าง ขายผ้าม่าน อาคารนีม้ พี นื้ ที่ 1,500 ตารางเมตร บนพื้นที่เกือบไร่ โดยมีการจ่ายค่าเช่าเดือนละ 500,000 บาท ค่าเซ้งที่ดิน 3 ล้านบาทส�ำหรับสัญญา 9 ปี ถือเป็นโจทย์การลงทุนที่ท้าทายเป็นอย่างมาก คุณนอย-ยิหวา อรรถเวทยวรวุฒิ ผู้รับหน้าที่ผู้จัดการโครงการ One Day I Pause & Forward ไม่เคยมีประสบการณ์เข้าพักในโฮสเทลมาก่อน เมื่อต้องท�ำธุรกิจนี้ เธอจึง เริม่ เดินทางไปพักตามโฮสเทลต่างๆ ทัง้ ในและต่างประเทศ และได้เรียนรูก้ ารสร้างคาแร็กเตอร์ รวมถึงการบริหารงานในแต่ละสถานที่ ซึง่ เธอก็ได้นำ� มาพัฒนาให้เข้ากับระบบการบริหาร ของ ONEDAY Pause Hostel ที่นี่มีเตียงรวมทั้งสิ้นจ�ำนวน 111 เตียง จากที่เคยมี 119 เตียงในตอนเริ่มต้น ห้อง นอนรวม 8 เตียง มี 1 ห้อง (ราคา 450 บาทต่อเตียง) ห้องนอนรวม 6 เตียง มี 10 ห้อง (ราคา 500 บาทต่อเตียง) และห้องนอนรวม 4 เตียง มี 8 ห้อง (ราคา 550 บาทต่อเตียง) นอกจากนี้ยังมีเตียง Twin Bunk Bed ราคา 1,300 บาท ห้องส่วนตัวแบบไม่มีห้องน�้ำ ราคา 1,500 บาท และห้องส่วนตัวแบบมีห้องน�้ำ ราคา 2,000 บาท เมือ่ เดินเข้ามาใน Oneday คุณจะสัมผัสได้ทนั ทีถงึ บรรยากาศทีอ่ บอวลไปด้วยเสน่ห์ กลิน่ กาแฟหอมกรุน่ และผูค้ นรวมถึงการต้อนรับทีม่ ชี วี ติ ชีวา การได้มาพักหรือท�ำงานทีน่ ี่ คุณจะได้สมั ผัสประสบการณ์หนึง่ วันอันแสนสุขในแบบทีค่ ณ ุ อยากให้เป็นเช่นนีใ้ นทุกๆ วัน

THE HOSTEL BIBLE

213


Q A

THE HOSTEL BIBLE

214

1 ช่วยเล่าประวัติตัวเองให้ฟังสักนิด คุณเข้ามาสู่การท�ำ ธุรกิจโฮสเทลได้อย่างไร ดิฉนั เรียนจบปริญญาตรีดา้ นนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาโท จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ เคยท�ำงานเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ แต่อาชีพที่ท�ำนานที่สุดคือ แอร์โฮสเตสของการบินไทย ท�ำอยู่ 9 ปี หลังจากนั้นก็ลาออก มาท�ำธุรกิจอพาร์ตเมนต์ของครอบครัวสามี ชือ่ Avora 31 ในซอยสุขมุ วิท 31 ในต�ำแหน่ง Project Manager ช่วง 2-3 ปีนั้นได้เรียนรู้กระบวนการท�ำงาน การก่อสร้าง การจัดการ ต่างๆ และได้เปิดคาเฟ่เล็กๆ ชื่อ Wonderwall อยู่ใต้ตึก Avora 31 การเปิดร้านกาแฟ นี่เองท�ำให้ได้รู้จักกับผู้ถือหุ้นร้านกาแฟ Casa Lapin จากนั้นทางผู้ถือหุ้นรายนี้ได้ชวน ดิฉันท�ำโปรเจ็กต์ใหม่ในซอยสุขุมวิท 26 เพราะเห็นว่าพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ และควรเป็น สิ่งที่อิงกับธุรกิจที่เราท�ำอยู่ นั่นคือที่อยู่อาศัย แต่คงไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ เพราะต้องอาศัย การวางแผนนานพอสมควร ขณะที่เรามองว่าโซนสุขุมวิท การด�ำเนินการน่าจะเป็น พีเรียดสั้นๆ จึงเป็นที่มาของการท�ำโฮสเทล ที่แพลนว่าจะท�ำให้เสร็จใน 7 เดือน


2 จากเดิมพืน ้ ทีต่ รงนีม้ ลี ก ั ษณะอย่างไร และคุณปรับเปลีย ่ นไปอย่างไร ตึกนีอ้ ยูใ่ นซอยสุขมุ วิท 26 เป็นตึกเก่าอายุประมาณ 20-30 ปีทปี่ ดิ ร้างมานาน ด้านหน้า เป็นโชว์รูมของโครงการขายคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ขายหมดไปแล้ว ชั้น 2 เป็นออฟฟิศ ทีถ่ กู ทุบและทิง้ ร้าง มีสภาพเก่า ซึง่ โครงสร้างเก่าเป็นโครงสร้างทีแ่ ข็งแรง และมีเอกลักษณ์ สิง่ ทีเ่ รามองเห็นคือ เราต้องคงไว้ซงึ่ โครงสร้างทีแ่ ข็งแรงและสะท้อนสถาปัตยกรรมในยุคนัน้ เรื่องการตกแต่ง เราต้องยกเครดิตให้ทีมที่เป็นหุ้นส่วน เขาเป็นดีไซเนอร์จึงมองออกว่า ต้องการอะไร สิง่ ทีท่ ำ� ต่อมาคือ คอนเซ็ปต์หลักของโครงการว่าเราจะน�ำเสนอธุรกิจในรูป แบบใด จากนัน้ ก็ตอ้ งมาท�ำความเป็นไปได้ในการลงทุน (Feasibility) เราจะลงทุนเท่าไหร่ และจะคืนทุนอย่างไร ภายใต้กรอบเวลากีป่ ี แล้วก็ดำ� เนินการก่อสร้าง เรามีเวลา 6-7 เดือน คนที่บริหารจัดการการเงินก็ดูแลไป คนที่ดูแลเรื่องการก่อสร้างก็ด�ำเนินการควบคู่ไป โจทย์คือ เราไม่ได้มองไว้ว่าที่นี่จะเป็นแค่โฮสเทลอย่างเดียว แต่เราต้องการท�ำแบรน ดิ้งให้แข็งแรง เหตุผลที่เราใช้ชื่อ One Day เพราะเราต้องการให้คนที่มาอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตได้ อย่างสมบูรณ์แบบภายใน 1 วัน โดยไม่ตอ้ งออกไปไหนเลย คุณสามารถพักทีน่ ไี่ ด้ ท�ำงานที่ นีไ่ ด้ รับประทานอาหารที่นี่ได้ แล้วก็กลับขึ้นไปนอน ดังนั้น เราก็มานั่งคิดว่า ใน 1 วัน เรา จะท�ำอะไรได้บ้าง แน่นอนคือเราต้องท�ำงาน ก็เลยเกิด Co-working Space ขึ้นมา เรา จะต้องทานอาหาร เพราะฉะนั้นต้องมีคาเฟ่ มีร้านอาหารดีๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็นให้ลูกค้า นี่คือจุดเริ่มต้นของคอนเซ็ปต์ One Day โปร เจ็กต์นี้เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ท�ำสัญญาเช่าเดือนพฤศจิกายน เริ่มประชุม เริ่ม ก่อสร้างเดือนมกราคม คาเฟ่ Casa Lapin เปิดเดือนพฤษภาคม ถัดมาเปิดส่วนร้านอาหาร ในเดือนมิถุนายน เปิด Co-working space เดือนกรกฎาคม และเปิดโรงแรมด้วย วัน แรกที่ลูกค้าเดินเข้ามาคือวันที่ 20 กรกฎาคม ถ้านับว่าจากตึกที่ทิ้งร้างเป็นซากเลยถือว่า เร็วมาก 3 พื้นที่ทั้งหมดถูกจัดสรรอย่างไรบ้าง และห้องประเภทใดได้รบ ั ความนิยมสูงสุด พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ 300 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,500 ตารางเมตร เราแบ่งห้องด้านบนได้ 119 เตียงในวันแรก แต่มีปรับ ตอนนี้เหลือ 111 เตียง มีหอ้ ง Dorm แบ่งเป็น 8, 6, 4 เตียง ราคา 450-550 บาท ห้องไพรเวตมี 3 ประเภท คือ มีหอ้ งน�ำ้ ไม่มหี อ้ งน�ำ้ และ Private Dorm Bunk Bed ราคาห้องไพรเวตที่ 1,300-2,000 บาท

THE HOSTEL BIBLE

215


ช่วงแรกลูกค้าตอบรับห้องไพรเวตดีมาก อาจเพราะย่านสุขมุ วิท คนยังไม่คอ่ ยเข้าใจว่า ถ้าจะมาอยู่ Dorm จะเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ลูกค้าที่อยู่ห้องพักรวมจะเป็นลูกค้าที่เคยมี ประสบการณ์นอนพักรวมมาก่อน ดังนั้น สิง่ ทีเ่ ราต้องท�ำ คือ สร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าว่า มันไม่ได้น่ากลัว และสะอาดนะ เมือ่ ใช้เวลาสักระยะ ช่วงนีห้ อ้ งแบบ Dorm ได้รบั การตอบรับดีขนึ้ เนือ่ งจากสิง่ อ�ำนวย ความสะดวกของเรามีครบ นีเ่ ป็นข้อดีอย่างหนึง่ ของการสร้างคอนเซ็ปต์ทชี่ ดั เจนตัง้ แต่ตน้ สิ่งที่ต้องท�ำต่อไป คือ ท�ำโปรโมชั่นต่างๆ ให้เชื่อมกันให้ได้ ตอนนี้เรามีโปรโมชั่น ถ้าลูกค้า พักด้วยท�ำงานด้วย ในราคา 650 บาท ลูกค้าก็เริม่ ตอบสนองการอยู่ Dorm มากขึน้ เพราะ นอนด้วยท�ำงานด้วยวันละ 650 เอง 4 ช่วยเล่าถึงตัวเลขคร่าวๆ ในการลงทุน มีหุ้นส่วนทั้งหมดกี่หุ้น และแบ่งงานกันอย่างไร ขอบอกตัวเลขแบบคร่าวๆ นะคะ ลงทุนรีโนเวตประมาณ 40 ล้านบาท ค่าเช่าทัง้ โครงการ ประมาณ 5 แสน ปรับเป็น 1 ล้านทุก 3 ปี ท�ำสัญญาเช่าทั้งหมด 9 ปี

THE HOSTEL BIBLE

216

ผู้ถือหุ้นเราแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญงานในสาย ที่เกี่ยวกับโครงการนี้อยู่แล้วและกลุ่มนักลงทุน เรามีหุ้นประมาณ 30 คน ส่วนใหญ่ก็เป็น เพือ่ นฝูงกัน และท�ำธุรกิจส่วนตัว มีทงั้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริษทั ออกแบบ ร้านดอกไม้ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจผ้าม่าน ด้านการแบ่งงาน ตอนเปิดโครงการ เราแบ่งชัดเจนเลย ด้านการ ออกแบบคนทีเ่ ป็นเจ้าของบริษทั สถาปนิกก็ดแู ลไป อีกคนก็มาดูเรือ่ งการเงิน อีกส่วนหนึง่ จากทีม Casa Lapin ก็มาดูแลด้าน Café Management มีส่วนที่ดูแลร้านอาหาร เป็น Restaurant Consultant ส่วนของดิฉันรับหน้าที่ Project Manager ดูแลทั้งฝ่ายจัดซื้อ งานเอกสาร งานรับว่าจ้าง งานรับสมัครคนท�ำงาน


5 ลูกค้าที่เลือกมาพัก One Day มีลักษณะอย่างไร และตรงกับที่ วางกลุ่มเป้าหมายไว้ในตอนแรกไหม เราเพิง่ เริม่ ต้นได้ 1 ปีจงึ ยังไม่สามารถระบุกลุม่ ลูกค้าทีช่ ดั เจนได้ แต่โดยส่วนใหญ่ลกู ค้า จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่แตกต่างกันไป มีลูกค้าหลายคนมากที่มานั่งท�ำงานที่นี่ แล้วก็ ตัดสินใจพักต่อ โดยเฉลีย่ เป็นกลุม่ อายุไม่เกิน 40 ปี อาชีพดีไซเนอร์ หรือไม่กท็ ำ� งานฟรีแลนซ์ เป็นหลัก ซึง่ ตรงกับกลุม่ เป้าหมายทีเ่ ราต้องการ คาดว่าลูกค้าจะเป็นคนทีช่ อบงานของเรา มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง เพราะสิ่งที่เราสร้างมาตั้งแต่แรกมันลิ้งก์ให้เราได้ลูกค้าแบบนี้ ทีมสตาฟเราส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบงานศิลปะ ผู้จัดการของเราเป็นคนถ่ายรูปฟิล์ม ชอบงาน โฮสเทล น้องที่เป็นผู้จัดการแผนกต้อนรับก็เป็นนักวาดภาพประกอบ ผลงานโปสเตอร์ ทุกอย่างที่นี่ เขาท�ำหมดทุกชิ้น 6 คุณมีหลักการท�ำการตลาด และประชาสัมพันธ์อย่างไร เรื่องของการ PR เราก็มีแมกกาซีน มีบล็อกเกอร์มารีวิวบ้าง ถ้าเป็นเรื่องของการท�ำ มาร์เก็ตติง้ โดยตรง เราเลือกจะไม่ทำ� เพราะถือว่าเป็น Budget Business เราควรท�ำให้มนั เดินไปได้ดว้ ยการประหยัดงบประมาณ อย่างหนึง่ ทีเ่ ราสนใจคือการท�ำมาร์เก็ตติง้ ทางอ้อม นัน่ คือ การบริการให้ดที สี่ ดุ แล้วลูกค้าก็จะตอบเรากลับมาเอง ด้วยการรีววิ ให้หรือบอกต่อ เพื่อนให้มาพักกับเรา 7 คุณคิดว่า ผู้ทจี่ ะเข้ามาท�ำธุรกิจโฮสเทล ควรมีบค ุ ลิกและลักษณะ พิเศษอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้คดิ ว่าคนทีม่ าท�ำตรงนีต้ อ้ งมีคาแร็กเตอร์อย่างไร แต่สงิ่ แรก คุณต้องรูจ้ ัก ความแตกต่างระหว่างโฮสเทลกับโฮเต็ลก่อน โรงแรมจะมีความเป็นระบบระเบียบมากกว่า ขณะที่โฮสเทลจะมีความยืดหยุ่นบนพื้นฐานที่เราวางไว้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแขกจองมา เป็นดับเบิล้ เบด (Double Bed) โรงแรมก็จะจัดการเป็นดับเบิล้ เบดให้ แต่ถา้ มาทีโ่ ฮสเทล พอแขกมาถึงแล้วเราเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนกันสองคน นอนเตียงดับเบิ้ลอาจจะไม่สะดวก เรามีเตียงทวินให้ มันคือความยืดหยุน่ ทีเ่ รามีให้ลกู ค้าโดยทีเ่ ขาไม่ตอ้ งเอ่ยปากขอ แต่โฮสเทล เองก็จะมีมาตรฐานหลักอยู่ เช่น ความปลอดภัย ความสะอาด การบริการ วันแรกทีล่ กู ค้า ก้าวเข้ามาพักกับเรา เขาจะรู้สึกได้ถึงความเป็นเพื่อน ถึงเช็กเอาต์ออกไปแล้ว ถ้าลูกค้า กลับเข้ามาฝากกระเป๋า หรือขออาบน�้ำก่อนจะไปแอร์พอร์ต เราก็ยินดี ไม่เป็นปัญหาเลย

THE HOSTEL BIBLE

217


8 สโลแกนของที่นี่คืออะไร You Can Live Your Life Perfectly In One Day. อันนีค้ ดิ ขึน้ มาสนุกๆ เหมือนเป็น การตอบค�ำถามลูกค้าไปด้วยในตัว สโลแกนคือตัวช่วยทีท่ ำ� ให้คณ ุ ไม่ตอ้ งพูดยืดยาว แค่แขก อ่านสโลแกนสั้นๆ ก็เข้าใจได้เลยว่า คุณก�ำลังท�ำอะไรอยู่ 9 ส�ำหรับคุณ โฮสเทลคืออะไร โฮสเทลคือการสร้างสังคมเล็กๆ ทีน่ า่ รัก ตัง้ แต่ระดับของสตาฟเลย ทุกคนต้องมีความ เป็นกันเอง มาทีน่ ตี่ อ้ งไม่รสู้ กึ ว่ามาทีท่ ำ� งาน แต่ตอ้ งรูส้ กึ ว่านีค่ อื สังคมทีเ่ ขามาใช้ชวี ติ ร่วมกับ คนอื่น แล้วเขาก็จะส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปยังลูกค้า ลูกค้าก็จะรู้สึกได้ว่า เขาไม่ได้มาที่นี่แค่ มาจ่ายเงินเข้าพัก แต่มาหาเพื่อน มาพักผ่อน มาเจอเพื่อนใหม่ ดิฉนั เชือ่ ว่า โรงแรมสมัยก่อนก็ไม่ได้มกี ารจัดอันดับให้ดาวหรอก แต่วนั นีค้ อ่ นข้างมัน่ ใจ ว่าโฮสเทลก�ำลังจะมีดาวเช่นกัน มันอยูท่ วี่ า่ คุณจะวางตัวเองอยูต่ รงจุดไหน ถ้าคุณบอกว่า คุณอยากเป็นโฮสเทล 2 ดาว คุณไม่ต้องท�ำเยอะ ไม่ต้องมีฟรอนต์ก็ได้ แค่ทิ้งกุญแจไว้ ลูกค้าเข้ามาคุณก็บอกว่า กุญแจซ่อนอยู่ใต้พรมนะ จริงๆ ยุโรปเป็นแบบนี้นะ เหมือนที่ Airbnb ไม่เคยเจอเจ้าของเลย กุญแจอยู่ใต้พรมก็ไปหยิบเอา ของหายไม่เคยรู้ แต่ถ้าจะ อยากได้ 5 ดาว ความยากจะเพิม่ ขึน้ อย่างแน่นอน คุณต้องมีบริการทีใ่ กล้เคียงกับโรงแรม ที่ส�ำคัญต้องดูท�ำเลก่อนว่าเหมาะกับการเป็นโฮสเทลกี่ดาว ถึงจะไม่ได้มีนิยามชัดเจนว่า อะไรคือมาตรวัด แต่เราจะต้องนิยามตัวเองให้ได้ อย่าง One Day อยู่สุขุมวิท 26 เราท�ำ ที่นี่บนพื้นฐานว่าอยากให้ลูกค้ามองเราในมุมของโฮสเทล 5 ดาว

THE HOSTEL BIBLE

218


10 เมือ ่ เทียบกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รป ู แบบอืน ่ โฮสเทลเป็น ธุรกิจที่ท�ำง่ายกว่าหรือไม่ ง่ายกว่า แต่รายรับไม่ได้มากกว่านะ ยิง่ เดีย๋ วนีม้ กี ารแข่งขันสูง เราไม่ได้แข่งขันทีร่ าคา แต่แข่งกันในเรื่องของคุณภาพ เรื่องของบริการที่สูงขึ้น เราขาย 1 เตียง แต่ใช้งบด�ำเนิน การเทียบเท่าโรงแรมเลย มีการจัดการระบบบุ๊กกิ้งเหมือนกัน มีฟรอนต์ มีแผนกซักผ้า ท�ำความสะอาด เราขาย 1 เตียงแต่ได้ราคาต�ำ่ กว่า เงินทีไ่ ด้รบั กลับมามันน้อยกว่าแค่นนั้ เอง แต่ถ้าถามว่าเป็นธุรกิจที่ง่ายกว่าไหมในการเริ่มต้น ง่ายกว่า 11 Key to Success ของ One Day มีอะไรบ้าง การประสบความส�ำเร็จในธุรกิจ คือการได้มาซึ่งเงิน ซึ่งดิฉันคิดว่าเรายังอยู่ในช่วง คลานและก�ำลังตั้งไข่อยู่ แต่ถ้าในเรื่องของการรับรู้ เราสร้างคอนเซ็ปต์ที่แข็งแรงโดยท�ำ ธุรกิจที่อยู่ในไลน์เดียวกันทั้งหมด ไม่มีใครส�ำคัญกว่าใคร Casa Lapin ส�ำคัญพอๆ กับ โฮสเทล และก็สำ� คัญพอๆ กับ Co-working Space สิง่ นีน้ า่ จะเป็น Key Success Factor ในมุมของแบรนด์คอนเซ็ปต์ที่แข็งแรงว่า คุณมาใช้ชีวิตที่นี่ได้วันหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

“เหตุผลที่เราใช้ชื่อ One Day เพราะเราต้องการให้คนที่มาอยู่ที่นี่ใช้ชีวติ ได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน 1 วัน โดยไม่ต้องออกไปไหนเลย คุณสามารถพักที่นี่ได้ ท�ำงานที่น่ไี ด้ รับประทานอาหารที่นี่ได้ แล้วก็กลับขึ้นไปนอน ก็เลยเกิด Co-working Space มีร้านอาหารดีๆ นี่คือจุดเริ่มต้นของคอนเซ็ปต์ One Day”

One Day I Pause & Forward

51 สุขุมวิท ซอย 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2108-8855 เว็บไซต์ www.onedaybkk.com

THE HOSTEL BIBLE

219


Hostel Experience in Singapore ส�ำรวจโฮสเทลรอบสิงคโปร์ THE HOSTEL BIBLE

220


เหตุใดโฮสเทลในประเทศสิงคโปร์จึงได้รับความนิยม และผู้ประกอบการที่ลง สนามต่างพัฒนาธุรกิจของตนได้อย่างไร้ขีดจ�ำกัด วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ จะพาคุณเดิน ส�ำรวจโฮสเทลรอบสิงคโปร์ ประเทศทีธ่ รุ กิจโฮสเทลมีการแข่งขันสูง มีความก้าวหน้า และ ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย เพราะอะไร โฮสเทลที่นี่จงึ ได้รับความนิยม พื้นที่ของประเทศสิงคโปร์มีขนาดเล็ก ท�ำให้ธุรกิจที่พักที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม บูติคโฮเต็ล ท�ำได้ยากกว่าโฮสเทล ท่ามกลางพืน้ ทีอ่ นั จ�ำกัดแต่ตอ้ งรองรับคนจ�ำนวนมาก ประกอบกับมีระบบขนส่ง รถไฟฟ้าทีส่ ะดวก ท�ำให้ผคู้ นสามารถเดินทางไปมาถึงกันได้โดยง่าย และสามารถเชือ่ มต่อ พื้นที่ย่านธุรกิจไปยังพื้นที่ย่านวัฒนธรรมได้ทันที คนสิงคโปร์รุ่นใหม่นิยมประกอบธุรกิจแบบ SME Young Entrepreneur ส่งผล ให้เกิดความนิยมในการประกอบกิจการทีพ่ กั ขนาดเล็ก เช่น โฮสเทล ซึง่ สามารถลงทุนได้ ไม่สูงมาก สิงคโปร์มกี ฎหมายทีร่ องรับธุรกิจโฮสเทลโดยเฉพาะ มีการจดทะเบียน การยืน่ เสนอ แบบก่อสร้าง และมีการตรวจสอบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ท�ำให้ผปู้ ระกอบการสามารถ ด�ำเนินการได้อย่างโปร่งใสและถูกต้อง ซึ่งเป็นผลดีต่อการเปิดธุรกิจที่พักแนวใหม่นี้ นักท่องเทีย่ วทีเ่ ดินทางมาสิงคโปร์มคี วามเข้าใจในความจ�ำกัดของพืน้ ที่ ส่วนใหญ่ จึงนิยมพักที่พักประเภทโฮสเทล ซึ่งมีราคาถูกกว่าพักในโรงแรมใหญ่

THE HOSTEL BIBLE

221


รู้จักย่านยอดฮิต : ท�ำเลมา โฮสเทลเกิด ในจ�ำนวนพื้นที่ทั้งหมดของสิงคโปร์นั้น จะเห็นว่าย่านที่ตั้งของโฮสเทลสามารถ แบ่งได้เป็น 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ 1. ย่าน China town โดยเฉพาะถนนอนุรักษ์ อย่าง Temple Street, Pagoda Street, Mosque Street เป็นพื้นที่ที่มีราคาค่าเช่าแพงในระดับต้นของเกาะ เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ส�ำคัญ อย่างเช่นวัด Sri Mariamman มัสยิด Jama Masjid มีร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์มากมาย มีโฮสเทล ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง บางแห่งถูกดัดแปลงมาจากโรงงิว้ ในย่านเดิม พืน้ ทีน่ ยี้ งั กินบริเวณไปถึง ย่านถนนแอนเซียง (Ann Siang) ที่มีบรรยากาศคล้ายเดินอยู่บนถนนพระอาทิตย์ ย่าน บางล�ำพูบา้ นเรา เต็มไปด้วยร้านอาหารบูตคิ บาร์ เกสต์เฮาส์ ทีส่ ำ� คัญมีโฮสเทลทีน่ า่ สนใจ หลายแห่ง เช่น Matchbox The Concept Hostel น่าสังเกตว่ากลุ่มโฮสเทลในย่านนี้ สามารถเก็บค่าเตียงได้ในราคา 50-60 SGD (ราว 1,250-1,500 บาท) 2. ย่าน Lavender Street และ Little India พืน้ ทีน่ มี้ โี ฮสเทล หลายแห่ง เช่น Drop In, Gapyear, Green Kiwi, The Hive ซึ่งเป็นโฮสเทลรุ่นแรกๆ ของเกาะตัง้ แต่ ปี 2004 รวมถึง Rucksack Inn อีกหนึง่ สาขาก็ตงั้ อยูใ่ นย่านนี้ แม้วา่ ท�ำเลนี้ จะตัง้ อยูห่ า่ งออกมา ท�ำให้ราคาเตียงถูกลงตกอยูท่ ปี่ ระมาณ 30-40 SGD (ราว 750-1,000 บาท) ขณะเดียวกันก็มีข้อดีคือ มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากค่าเช่าที่ดินถูกลง อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เลือกพักในย่านนี้ไม่จ�ำเป็นต้องค�ำนึงถึงราคาที่ถูกลง เสมอไป หลายคนเลือกเพราะชอบบรรยากาศทีเ่ งียบสงบและโปร่งโล่งกว่าการพักในโฮสเทล ย่านกลางเมือง

THE HOSTEL BIBLE

222

3. ย่านนอกเขตเมือง ซึ่งมีโฮสเทลกระจัดกระจาย พื้นที่ที่น่าสนใจคือ บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมไปยังสนามบินชางฮี โดยเฉพาะย่าน Gay lang บนถนน Joo Chiat ซึ่งเป็นย่านที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรมย่านที่พักอาศัยและ ย่านการค้าเก่าของทัง้ ชาว Peranakans ชาวมุสลิม ชาวอินเดีย และชาวจีน ทีน่ เี่ ป็นทีต่ งั้ ของโฮสเทลทีเ่ ปิดมาเป็นเวลาสิบปี และมีชอื่ เสียงมากแห่งหนึง่ ของสิงคโปร์ นัน่ คือ Betel Box


THE HOSTEL BIBLE

223


ผมจะพาคุณไปท�ำความรู้จักกับโฮสเทลทั้ง 3 ย่านนี้ ย่าน China Town : ท�ำเลอันโดดเด่น ศูนย์กลางของโฮสเทลหลายๆ แห่ง ท่ามกลางการแข่งขัน พวกเขาสร้างจุดเด่นได้อย่างไร? ท�ำเลนีน้ บั เป็นหัวใจของธุรกิจโฮสเทล ถือเป็นย่านกลางเมือง เป็นพืน้ ทีท่ อ่ งเทีย่ ว ศูนย์กลางของวัฒนธรรมและแหล่งอาหารการกิน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ย่านนี้จะมี โฮสเทลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมายาวนานอยู่หลายแห่ง โฮสเทลทีโ่ ดดเด่นและมีมมุ มองด้านการลงทุนและการตลาดทีน่ า่ สนใจ ผมยกให้ Adler Hostel ซึ่งมีจุดขายคือ เป็น Luxury Hostel แห่งแรกของสิงคโปร์ Adler Hostel

เป็นลักชัวรีโฮสเทล (Luxury Hostel) ทีเ่ กิดจากการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ ดั้งเดิมของโฮสเทล นั่นคือ Community ผนวกเข้ากับการตระเตรียมสิ่งอ�ำนวยความ สะดวกทีห่ รูหราไว้บริการแขกผูม้ าพัก ภายใต้พนื้ ทีท่ ไี่ ม่แออัด เมือ่ แขกเข้าพักทีน่ ี่ เขาจะได้ แฮงเอาต์ พบเพื่อนใหม่ และสร้างคอมมูนิตี้ไปด้วย ขณะเดียวกันก็ได้รับการบริการใน มาตรฐานระดับโรงแรม เตียงนอนทีส่ ะดวกสบายกว้างขวาง มีผา้ ม่านกัน้ อย่างดี มีหอ้ งน�ำ้ รวมที่สะอาดหรูหราและมีคนจ�ำนวนไม่หนาแน่น พื้นที่ที่ไม่แออัด เมื่อผสมสองสิ่งนี้ เข้าด้วยกัน คุณจะได้ที่พักในราคาคืนละ 90 SGD (ราว 2,250 บาท) แม้หลายคนอาจจะ มองว่า เป็นราคาทีใ่ กล้เคียงกับนอนโรงแรม แต่สงิ่ ทีค่ ณ ุ จะได้เพิม่ เติม คือการมีพนื้ ทีส่ ว่ นกลาง และการได้พบปะกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ Adler ด�ำเนินการโดย Adler Poe จากการสั่งสมประสบการณ์ในวัยเด็กที่ได้ เดินทางร่วมกับคุณพ่อ (ซึ่งท�ำงานด้านสายการบิน) และมีโอกาสได้เข้าพักตามโรงแรม ระดับห้าดาวหลากหลายประเทศ เมื่อกลับมาใช้ชีวิตที่สิงคโปร์ เขาได้เช่าตึกเก่า (ในอดีต คือธนาคารเก่า) ตกแต่งภายในอย่างหรูหรา แต่เลือกคอนเซ็ปต์แบบโฮสเทล ภายใต้ชื่อ Adler Luxury Hostel THE HOSTEL BIBLE

224


Adler Luxury Hostel เกิดขึ้นด้วยหลักการที่เรียบง่ายในการลงทุน นั่นคือ หนึง่ เมือ่ คุณเช่าทีท่ ำ� เลทอง ย่อมต้องจ่ายค่าเช่าในราคาแพงและได้พนื้ ทีข่ นาดเล็ก สอง คุณต้องการได้กำ� ไรงามจากพืน้ ทีข่ นาดเล็กนี้ ถ้าท�ำเป็นห้องเดีย่ วก็ได้ไม่กหี่ อ้ ง และยังต้องท�ำงานระบบทีซ่ บั ซ้อนและมีราคาแพงมากจนไม่นา่ คุม้ ค่ากับการลงทุน ถ้าจะ ท�ำเตียงเดี่ยวแล้วขายในราคาเท่ากับโรงแรมข้างๆ ในราคา 60 เหรียญ (ราว 1,500 บาท) ก็คงอยู่ไม่ได้เพราะค่าเช่าที่ของคุณแพงกว่ามาก ทางเลือกจึงเหลือเพียงทางเดียว นั่นคือ ท�ำเตียงนอนรวมแต่ขายให้ได้แพงที่สุด Adler Poe มองว่าการท�ำธุรกิจต้องสร้างความแตกต่าง และเขายังเชื่ออีกว่า ต้องมีนกั เดินทางทีค่ ดิ แบบเดียวกับเขา นัน่ คือ ต้องการทีพ่ กั ทีส่ ะดวกสบาย มีเครือ่ งนอน อย่างดี มีอาหารเช้าพร้อมเสิรฟ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยงั สามารถพบปะผูค้ นใหม่ๆ ได้ดว้ ย Adler Luxury Hostel ประสบความส�ำเร็จได้รบั การตอบรับเป็นอย่างดี เมือ่ ด�ำเนินกิจการ ไปได้ไม่นาน Adler ก็ได้ขยายธุรกิจโดยการเช่าพืน้ ทีต่ กึ ข้างๆ เพิม่ เติม ซึง่ ห่างออกไปเพียง 3 คูหาเท่านั้น

Adler Hostel

65 South Bridge Road Singapore 058814 โทร. +65-6226-0173 เว็บไซต์ www.adlerhostel.com

THE HOSTEL BIBLE

225


5footway.inn

5footway.inn ตั้งอยู่ติดกับ Adler Hostel สาขาที่สอง และอยู่ตรงข้ามกับ ศูนย์กลางของไชน่าทาวน์ ทีน่ กี่ อ่ ตัง้ ขึน้ ในปี 2011 จุดเด่นคือ การเช่าพืน้ ทีต่ งั้ แต่ชนั้ 3 ขึน้ ไป ท�ำให้สามารถเช่าพืน้ ทีใ่ จกลางเมืองได้ในราคาทีถ่ กู ลง เมือ่ ยืนอยูด่ า้ นหน้าทีพ่ กั จะมีเพียง ประตูและบันไดเล็กๆ ทีพ่ าเราขึน้ ไปยังห้องพักด้านบน และจะต้องเดินขึน้ ไปหลายชัน้ จน แขกบางคนเกิดความสับสนว่าตัวเองมาผิดที่หรือเปล่า เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน สิ่งแรกที่จะได้พบคือ ทางเดินแคบๆ และห้องพักเรียงราย ซ้ายขวา น่าสนใจว่าต�ำแหน่งของรีเซปชัน่ จะอยูต่ รงบริเวณดาดฟ้า นัน่ แปลว่าแขกทีม่ าพัก จะได้เจอกับรีเซปชัน่ เป็นจุดสุดท้าย โดยจะต้องเดินผ่านห้องพักก่อน และพืน้ ทีส่ ว่ นกลาง ที่มีการใช้งานก็คือพื้นที่ดาดฟ้านั่นเอง THE HOSTEL BIBLE

226

ทีน่ อี่ าจจะไม่ใช่โฮสเทลทีม่ ี Common Area หรือมีกจิ กรรมทีส่ นุกสนาน ตามอุดมคติ ของโฮสเทล แต่สิ่งที่มอบให้กับแขกผู้มาเยือน คือ ที่พักอันแสนเรียบง่ายใจกลางเมือง


จะเห็นได้วา่ จุดเด่นของทีพ่ กั ย่านกลางเมืองของสิงคโปร์ คือ แม้จะไม่มกี ารสร้าง กิจกรรมร่วมกันทีโ่ ดดเด่น เนือ่ งจากพืน้ ทีไ่ ม่อำ� นวย และมีจำ� นวนห้องพักและเตียงไม่มากนัก แต่ทกุ แห่งให้ความส�ำคัญกับการออกแบบตกแต่งและแบรนดิง้ เป็นอย่างมาก ไม่วา่ จะเป็น การออกแบบโลโก้ ออกแบบกราฟฟิก การใช้งานในพืน้ ที่ รวมถึงบรรยากาศในพืน้ ทีต่ า่ งๆ ของโฮสเทล ล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์ทสี่ อื่ สารออกไปยังกลุม่ ลุกค้าได้อย่างชัดเจน ซึง่ นีค่ อื ลักษณะที่ชัดเจนของธุรกิจขนาดเล็กที่จะประสบความส�ำเร็จ 5footway.inn

เว็บไซต์ www.5footwayinn.com Facebook: 5footway

Matchbox The Concept Hostel

Matchbox เป็นโฮสเทลอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่บนถนน แอนเซียง (Ann Siang) ซึ่งเป็นย่านตึกแถวอนุรักษ์ที่กลายมาเป็นย่านกินดื่มแบบบูติค คล้ายกับย่านถนนพระอาทิตย์ของบ้านเรา Matchbox นิยามตัวเองว่าเป็น “The Concept Hostel” คือการอยู่อย่างมี เอกลักษณ์ท่ามกลางบรรยากาศเมืองเก่า จุดเด่นของที่นี่จึงเป็นการเข้าพักในบรรยากาศ ย้อนอดีต ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์ชโิ นโปรตุกสี สูงสามชัน้ เมือ่ เดินเข้าไป ภายใน พืน้ ทีด่ า้ นหน้าสุดคือห้องรีเซปชัน่ จากนัน้ ด้วยแปลนของตึกจะพาเราเดินผ่านห้องพัก โซนต่างๆ ห้องพักของที่นี่มีทั้งห้องพักรวม ห้องพักส�ำหรับสตรี ไปจนถึงห้องใต้หลังคา ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

THE HOSTEL BIBLE

227


จะเห็นได้วา่ ความโดดเด่นของทีพ่ กั ในสิงคโปร์คอื ถึงแม้วา่ เตียงจะเล็ก มีจำ� นวน เตียงน้อย หรือมีปริมาณห้องน้อยก็ตาม แต่ทุกแห่งให้ความส�ำคัญกับการสร้างแบรนดิ้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ การออกแบบการใช้งานในพื้นที่โดยใช้กราฟิกเป็นตัว สื่อสาร อีกสิ่งหนึ่งที่ Matchbox ให้ความสนใจ คือการท�ำธุรกิจแบบอนุรักษ์ควบคู่ไปกับ การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีการปรับปรุงตึกเก่าและคงเอกลักษณ์เดิมของอาคารไว้ได้ อย่างครบถ้วน Matchbox The Concept Hostel

39 Ann Siang Road, Singapore 069716 โทร. +65-6423-0237 เว็บไซต์ http://matchbox.sg/

THE HOSTEL BIBLE

228


Royal Hostel

โฮสเทลแห่งนีต้ งั้ อยูใ่ นย่านไชน่าทาวน์ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี 2013 และด�ำเนินธุรกิจโดย กลุ่มคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่นิยามโฮสเทลของพวกเขาว่าเป็น Backpacker Boutique ผมได้พบกับ ไมค์ หว่อง หนึ่งในหุ้นส่วน เขาเล่าว่าได้เซ้งกิจการนี้มาจากเจ้าของเดิม ที่ท�ำธุรกิจที่พักอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเกษียณอายุ ไมค์จึงเช่าช่วงด�ำเนินธุรกิจนี้ต่อ ด้วยงบประมาณ 20,000 SGD (ราว 5 แสนบาท) และเปิดให้พักในราคาเริ่มต้น 27 SGD (ราว 675 บาท) เมื่อเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนผ่านและมาอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ จุดเด่นที่สัมผัสได้คือ การท�ำแบรนดิ้ง ตั้งแต่เครื่องหมาย โลโก้ ลักษณะของฟอนต์ท่ีน�ำลวดลายการ์ตูนมาใช้ และใช้โทนสีขาวด�ำ องค์ประกอบเหล่านี้พบเห็นได้ในห้องพักที่เต็มไปด้วยบรรยากาศ เรียบง่าย รวมถึงบุคลิกของทีมงานที่เป็นวัยรุ่นและบริการลูกค้าอย่างเป็นกันเอง Royal Hostel ตกแต่งทีพ่ กั ในแบบโมเดิรน์ ซึง่ เป็นไปตามกระแสความนิยมของ คนสมัยใหม่ในปัจจุบนั ทีช่ อบความมินมิ ลั โดยความเห็นส่วนตัวของผม เนือ่ งจากเป็นการ ซ่อมตึกเก่าท�ำให้ไม่สามารถใส่เครื่องอ�ำนวยความสะดวกไปได้มากนัก Royal Hostel

28A Smith Street, Singapore 058942 โทร. +65-6221-5742 เว็บไซต์ www.royalhostel.com.sg

THE HOSTEL BIBLE

229


Rucksack Inn

Rucksack Inn ย่านไชน่าทาวน์ เป็นโฮสเทลที่ได้รับความนิยม และเป็นหนึ่งใน ทีพ่ กั ยุคแรกๆ ของสิงคโปร์ ทีน่ มี่ มี อตโต้คอื “A Backpackers’ Hostel by Backpackers” ความยอดนิยมของแบรนด์ Rucksack คือการขยายสาขาถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ China town, Lavender Street และ Temple Street สะท้อนความสามารถในการวางระบบ และการจัดการ เพื่ออนาคตธุรกิจที่ขยายตัว

THE HOSTEL BIBLE

230

Rucksack inn ใช้เครือ่ งหมายเป็นสีแดง มีโลโก้เป็นรูปบ้านทีด่ สู นุกสนาน มีการ สร้างจุดขายโดยน�ำชื่อต�ำบลต่างๆ ในเมืองแต้จิ๋วของคนจีน ซึ่งเป็นถิ่นก�ำเนิดของชาวจีน สิงคโปร์ มาตัง้ เป็นชือ่ ห้องต่างๆ เมือ่ เข้าไปด้านในจะเห็นว่า ทีน่ คี่ อื หนึง่ ในโฮสเทลรุน่ แรกๆ ทีค่ งบรรยากาศดัง้ เดิมเอาไว้ สถานทีย่ งั ดูรก ไม่ได้ใส่ดไี ซน์ลงไป มีโปสเตอร์แปะเต็มไปหมด แต่เน้นความมีชวี ติ ชีวา หนึง่ กิมมิกทีโ่ ดดเด่นคือ ทีน่ คี่ ณ ุ สามารถเขียนข้อความอะไรลงบน ผนังก็ได้ จะเป็นชื่อคุณ ชื่อแฟน หรือแม้แต่จะอุตริเขียนลงบนสวิตช์ไฟก็ไม่มีใครว่า ถึงแม้ว่าบริเวณหลายพื้นที่จะดูคับแคบหรือหนาแน่น แต่ที่นี่ก็มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ครบครัน เช่น ล็อกเกอร์เก็บของ ชั้นวางรองเท้า ห้องน�้ำชายหญิงก็ถูกแยกออกจากกัน เป็นอีกหนึ่งโฮสเทลที่คนไทยให้ความนิยมมาพักเป็นอย่างมาก เว็บไซต์ www.rucksackinn.com


Wink Hostel

Wink Hostel ตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์และเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงหนึ่งปี นับเป็นโฮสเทลอีกแห่งที่น่าจับตา ด้วยจุดเด่นคือความกว้างขวาง ดีไซน์ที่โปร่งตาแบบ Minimalism ตั้งชื่อห้องเป็นชื่อต้นไม้ เน้นการตกแต่งโทนสีขาวและเขียว น�ำความรู้สึก ของธรรมชาติมาสอดแทรก นอกจากเตียงเดี่ยวซึ่งเป็นจุดเด่นที่คนพูดถึง ที่นี่ยังมีเตียงคิงไซส์ส�ำหรับคู่รักที่ ถูกจัดอยูใ่ นห้องรวม ซึง่ เป็นสิง่ ทีโ่ ฮสเทลรุน่ ก่อนๆ ไม่มี ด้วยสภาพทีย่ งั ค่อนข้างใหม่ ท�ำให้ Wink เป็นที่พักอีกแห่งที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว Wink Hostel 8A Mosque Street, Chinatown, Singapore 059488 โทร. +65-6222-2940 เว็บไซต์ http://winkhostel.com/

THE HOSTEL BIBLE

231


ย่าน Lavender Street : ท�ำเลทีข่ ยับจากศูนย์กลางออกมา ด้วยราคา ที่ย่อมเยา และการสร้างคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว Green Kiwi Backpacker Hostel

ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Lavender และ Little india ห้องพักของที่นี่ เริ่มต้นเพียง 30 SGD (ราว 750 บาท) ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของย่านไชน่าทาวน์คือ 60 SGD (ราว 1,500 บาท) ทางเข้าของ Green Kiwi จะต้องเดินขึน้ บันไดไปชัน้ สอง ดังนัน้ ภาพแรกที่เห็นระหว่างเดินขึ้นบันได คือมีชั้นรองเท้าเรียงรายเต็มไปหมด (แถมยังมีกลิ่น โชยด้วย) แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพบว่าที่นี่เป็นโฮสเทลที่มีความเป็นกันเองสูง กลุ่มสตาฟเป็นวัยรุ่น มีบาร์เล็กๆ ส�ำหรับแฮงเอาต์ Green Kiwi ด�ำเนินการโดยนักธุรกิจชาวนิวซีแลนด์ซึ่งมาอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ เป็นเวลานาน ท�ำให้ที่นี่เข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวตะวันตกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่า จะเป็นพืน้ ทีส่ ว่ นรวม ห้องพัก หรือห้องน�ำ้ เน้นการให้ขอ้ มูลข่าวสารและความสะดวกสบาย การระบายอากาศทีด่ ี แม้วา่ บรรยากาศการตกแต่งจะไม่ได้คำ� นึงถึงดีไซน์มากนัก แต่หอ้ งพัก เป็นไปแบบเรียบง่าย ออกแบบมาเพื่อให้แขกสามารถใช้พื้นที่ส่วนต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า

THE HOSTEL BIBLE

232

Green Kiwi Lavender Address: 280A Lavender Street, Singapore 338800 Bugis Address: 55 Bussorah Street, Singapore 199471 เว็บไซต์ www.greenkiwi.com.sg


Gap Year Hostel

ตั้งอยู่ในย่าน Lavender Street อายุของ Gap Year Hostel อยู่ในช่วงตั้งไข่ เพราะเพิ่งเปิดได้เพียงหนึ่งปี ดังนั้นความสะอาด ความสดใหม่ จึงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ การตกแต่งมีความสวยงาม ใช้โทนสีขาวเป็นหลัก และมีภาพบอกเครื่องหมายโดยใช้ อินโฟกราฟิกเป็นช่องทางการสือ่ สาร แทนป้ายภาษาแบบโฮสเทลรุน่ เก่าทีเ่ น้นการแปะป้าย จนเต็มไปหมด โทนสีของห้องพักเป็นสีขาวด�ำ พืน้ ซีเมนต์ปนู เปลือยตัดกับผนังสีขาว และ มีการเลือกใช้ไม้เป็นหนึง่ ในองค์ประกอบของดีไซน์ทลี่ งตัว กิมมิกอีกอย่างของ Gap Year Hostel คือ ภาพถ่ายโพลารอยด์ของแขกที่มาพักที่แปะไว้ละลานตาบนฝาผนังพร้อม ข้อความแสดงความรู้สึกประทับใจ ท�ำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งโฮสเทลที่มีคาแร็กเตอร์โดดเด่น เช่นเดียวกับโฮสเทลรุน่ ใหม่ของสิงคโปร์ทจี่ ะเน้นการสร้างแบรนดิง้ ออกแบบโลโก้ มีความ สวยงามเป็นเอกลักษณ์ และสามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่จะมาพักได้อย่างชัดเจน Gap Year Hostel

322 Lavender Street Singapore 338821 โทร. +65-6297-1055 เว็บไซต์ gapyearhostel.com

THE HOSTEL BIBLE

233


ย่านนอกเมือง : เมือ่ ท�ำเลไม่ใช่จดุ ขาย และทฤษฎีคดิ นอกกรอบของโฮสเทล Betel Box

เป็นโฮสเทลรุน่ บุกเบิกทีป่ รับปรุงจากอาคารเก่า เปิดบริการในปี ค.ศ. 2006 โดย โทนี่ แทน เจ้าของที่นี่ ถือเป็นนักธุรกิจรุ่นแรกๆ ของแวดวงโฮสเทลในสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ จุดเด่นของ Betel Box คือการน�ำวัฒนธรรมท้องถิน่ ของสิงคโปร์มาผสมผสาน อีกทัง้ ท�ำเล ทีต่ งั้ อยูใ่ นย่านการค้าท้องถิน่ Joo Chiat Road ซึง่ มีราคาทีพ่ กั ต่อเตียงค่อนข้างถูก (อยูท่ ี่ 20 SGD หรือราว 500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าที่พักในย่านไชน่าทาวน์ถึง 3 เท่า) แม้จะขายเตียงได้ราคาถูก แต่ในแง่ของการลงทุน Betel Box ก็สามารถเช่าพืน้ ที่ ได้ถูกเช่นกัน ลูกค้าสามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเข้าไปในเมืองได้โดยใช้เวลา 15-20 นาที และ สามารถเดินชมย่านการค้าท้องถิน่ ขนาดเล็ก ซึง่ ไม่พลุกพล่านมากนักได้อกี ด้วย นอกจากนี้ Betel Box ยังจัดทัวร์ทไี่ ด้รบั รางวัลจากหน่วยงานด้านการอนุรกั ษ์บอ่ ยครัง้ ภายใต้แนวคิด The Thinking Traveler เพือ่ น�ำชมวัฒนธรรมต้นต�ำรับขนานแท้ในย่าน Joo Chiat อีกด้วย

THE HOSTEL BIBLE

234


โดยปกติคนท�ำโฮสเทลจะมุ่งหาท�ำเลที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตลาดมากที่สุด แต่บางครั้งในการลงทุน ผู้ลงทุนอาจไม่มีเงินทุนมากพอที่จะเช่าพื้นที่ ที่มีราคาแพงได้ Betel Box นับเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ในการลงทุนในพื้นที่ห่าง จุดศูนย์กลาง แม้เป็นท�ำเลที่ไม่ดีนัก แต่ยังคงสร้างจุดขายให้กับที่พักได้ โดยนักท่องเที่ยว สามารถมีตวั เลือกในการเลือกทีพ่ กั ราคาถูกกว่าในเมืองถึงสามเท่า และได้พกั ในย่านพักอาศัย ที่มีบรรยากาศแบบท้องถิ่นเงียบสงบ และสามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเข้าไปในเมืองได้อย่าง ง่ายดาย หากมองในแง่การแข่งขัน การท�ำธุรกิจทีพ่ กั มักถูกตีกรอบว่าต้องมองหากลุม่ คน จ�ำนวนมากที่สุดไว้ก่อน แต่ในขณะเดียวกัน ย่านที่มีคนพักมากที่สุดก็มีการแข่งขันสูงสุด เช่นกัน เช่น ในย่านไชน่าทาวน์ โฮสเทลจะกระจุกตัวอยู่บริเวณเดียวกัน หลายแห่งตั้งอยู่ ชิดติดกัน หรือกระทั่งหันหลังชนกันก็มี บางแห่งอยู่ห่างกันออกไปประมาณสามหรือ สี่คูหาเท่านั้น แต่ส�ำหรับย่าน Joo Chiat แห่งนี้ มีที่พักอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในแง่ การแข่งขันถือเป็นมุมมองทางธุรกิจส�ำหรับคนที่มีเงินทุนน้อยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเปิดบริการมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ Betel Box ยังคงมีอัตรา การเข้าพักอยู่ที่ 90-100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นหนึ่งในที่พักราคาถูกที่หาได้น้อยมาก ในสิงคโปร์ และแม้ว่าการตกแต่งไม่ได้มีดีไซน์เหมือนโฮสเทลรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ บรรยากาศทีไ่ ม่ปรุงแต่ง ตัวอย่างเช่น ชัน้ หนังสือรกๆ ชัน้ รองเท้าทีม่ รี องเท้าเรียงราย ผนังตึก ที่ทาสีแดงเข้ม เพื่อให้ง่ายต่อการท�ำความสะอาด จุดเด่นอย่างหนึง่ ของ Betel Box คือ ไม่มหี น้าร้านด้านหน้า เพือ่ เป็นการประหยัด ค่าเช่า มีเพียงบันไดเล็กๆ น�ำไปสู่โซนต้อนรับบริเวณชั้นสอง เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนจะได้ พบกับพื้นที่ส่วนกลางที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา มีชั้นหนังสือ (ที่ดูเหมือนชั้นขายของ ทีร่ ะลึกมากกว่า) มีแผนที่ มีเอกลักษณ์ของโฮสเทลทีม่ ปี า้ ยบอกค�ำแนะน�ำต่างๆ มีมมุ กาแฟ มุมไมโครเวฟ มุมเตาแก๊สเล็กๆ มุมซักผ้า ถึงแม้จะมีบรรยากาศค่อนข้างรกไปบ้าง แต่กลับ มีชวี ติ ชีวา และตอบสนองความต้องการของนักท่องเทีย่ วได้เป็นอย่างดี ท�ำให้เกิดความรูส้ กึ ว่านี่คือบรรยากาศของโฮสเทลแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง THE HOSTEL BIBLE

235


โซนห้องพักเริ่มต้นที่ชั้น 2, 3 และ 4 ห้องนอนรวมใหญ่สุดไม่แยกเพศ มีเตียง นอนรวมกันถึง 20 เตียง ในราคาเตียงละ 20 เหรียญ (ราว 500 บาท) ซึง่ แม้จะค่อนข้างรก แต่มีหน้าต่างขนาดใหญ่ระบายอากาศได้ดี สภาพเหมือนโรงนอนรวม หรือหอพักตาม โรงเรียน ชัน้ ต่อไปเป็นห้องพักย่อยๆ ทีม่ จี ำ� นวนเตียงน้อยลง ในราคา 22-25 เหรียญ (ราว 550-625 บาท) สภาพพื้นที่แน่นหนา เนื่องจากมีจ�ำนวนเตียงที่มาก และยังมีการตั้ง เครือ่ งซักผ้าไว้ในห้องอาบน�ำ้ และใช้งานพร้อมกันได้อกี ด้วย มีมมุ แขวนจักรยาน และพืน้ ที่ ตามโถง ตามบันไดจะกลายสภาพเป็นห้องเก็บของ ซึง่ เก็บอุปกรณ์ขา้ วของเครือ่ งใช้ตา่ งๆ นับเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า สิ่งที่เห็นได้จาก Betel Box คือ โฮสเทลแบบดั้งเดิมที่เจ้าของสามารถสร้าง บรรยากาศที่สนุกสนาน อบอุ่น โดยไม่จ�ำเป็นว่าจะต้องอยู่ในรูปลักษณ์ที่ดีไซน์ตามแบบ โฮสเทลสมัยใหม่ ในแง่ธรุ กิจทีน่ ถี่ อื ว่าประสบความส�ำเร็จ ตัง้ แต่การลงทุนเช่าพืน้ ทีใ่ นท�ำเล ทีห่ า่ งไกล โดยเฉพาะเมือ่ ย้อนกลับไปราวสิบปีกอ่ น โฮสเทลแห่งนีเ้ ปิดตัวในช่วงทีส่ นามบิน ชางอีเพิ่งเปิดให้บริการ และพื้นที่ตรงนี้ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ปัจจัยที่ท�ำให้ Betel Box ประสบความส�ำเร็จ คือ สามารถเช่าพื้นที่ได้ในราคา ที่พิเศษ การเช่าแต่พื้นที่ชั้นสองเท่านั้นโดยมีบันไดเล็กๆ น�ำขึ้นไปสู่ด้านบน การตกแต่งที่ เรียบง่าย เน้นการใช้งานและการสร้างบรรยากาศ ไม่ได้เน้นความสวยงามแบบทีโ่ ฮสเทล สมัยใหม่ส่วนใหญ่นิยมท�ำกัน ประการสุดท้าย ใช้พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า สิ่งเหล่านี้เอง เป็นองค์ประกอบที่ท�ำให้โฮสเทลแห่งนี้เปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ส�ำหรับบางคนแล้วอาจมองว่าที่นี่ไม่หรูหราสวยงาม แต่จากยอดผู้เข้าพักเกือบ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ย่อมยืนยันได้ว่า การท�ำธุรกิจโฮสเทลยังมีช่องว่างส�ำหรับผู้ที่มีเงินลงทุน น้อยและไม่สามารถลงทุนด้านท�ำเลได้ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้คนที่สามารถน�ำบรรยากาศ วัฒนธรรมชุมขน และความสนุกสนาน มาสร้างเป็นจุดขาย และยังสามารถแข่งขันกับ โฮสเทลที่อยู่ในท�ำเลกลางเมืองได้เป็นอย่างดี THE HOSTEL BIBLE

236


Betel Box นับเป็นตัวอย่างของโฮสเทลที่แสดงให้เห็นว่ายังมีช่องว่างส�ำหรับ ผูท้ มี่ เี งินลงทุนน้อย ทีไ่ ม่สามารถลงทุนในท�ำเลใจกลางเมืองได้ หากเพียงรูจ้ กั สร้างจุดขาย จากบรรยากาศ วัฒนธรรมชุมขน และความสนุกสนานทีม่ อบให้ลกู ค้า โฮสเทลนอกสายตา ก็กลายเป็นคู่แข่งรายส�ำคัญสูสีกับโฮสเทลท�ำเลกลางเมืองได้เป็นอย่างดี Betel Box

200 Joo Chiat Road, Singapore 427471 โทร. +65-6247-7340 เว็บไซต์ www.betelbox.com THE HOSTEL BIBLE

237


THE HOSTEL BIBLE

238


Adler Hostel FIRST LUXURY HOSTEL IN SINGAPORE ​

Luxury Hostel แห่งแรกบนเกาะสิงคโปร์ ก่อตัง้ ในปี 2012 โดยยึดมัน่ แนวคิดต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวสไตล์ Flashpacker (นักท่องเที่ยวที่มีก�ำลัง การจ่ายสูง แต่อยากท่องเทีย่ วในสไตล์แบ็กแพ็กเกอร์) โดยดัดแปลงตึกเก่าสไตล์ Art Deco ใจกลางย่านไชน่าทาวน์ และน�ำงานดีไซน์ที่เรียบหรู พรั่งพร้อมด้วย สิ่งอ�ำนวยความสะดวกมาไว้บริการแขกเหรื่อ

THE HOSTEL BIBLE

239


Q A

1 จุดเริ่มต้นที่ท�ำให้คุณเข้ามาท�ำธุรกิจโฮสเทล เราเป็นโฮสเทลแห่งแรกที่จ�ำกัดนิยามว่าเป็น Luxury Hostel ของสิงคโปร์ เริ่มเปิด ด�ำเนินการในเดือนธันวาคมปี 2012 แม้วา่ ครอบครัวของเราไม่มปี ระสบการณ์ทำ� โรงแรม โดยตรง แต่คณ ุ พ่อของผม ซึง่ เคยท�ำงานทีส่ ายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ และผมมักจะต้อง เดินทางไปพร้อมกับคุณพ่อและลูกเรือคนอื่นๆ อยู่เสมอ เราได้มีโอกาสไปพักตามโรงแรม ห้าดาวหลายๆ แห่งทัง้ ทีย่ โุ รปและเอเชีย ได้สมั ผัสประสบการณ์การบริการระดับพรีเมียม จึงอยากน�ำประสบการณ์นี้มาปรับใช้กับโฮสเทลดูบ้าง ถึงแม้ว่าโฮสเทลของเราอาจยังไม่ ถึงกับเรียกได้ว่าเป็น Quality Standard แต่เราก็พยายามที่จะเจาะกลุ่มตลาดนี้ 2 คุณให้นิยามค�ำว่า “Luxury Hotel” อย่างไร เวลาที่พูดถึงโฮสเทล เรามักนึกถึงสถานที่ที่มีเตียงนอน 2 ชั้น มีหมอน เป็นสถานที่ ส�ำหรับพักผ่อน แต่ถ้าลองนิยามส�ำหรับค�ำว่า Luxury มันก็คือการยกระดับขึ้นจาก มาตรฐาน ทั้งเรื่องดีไซน์และความสะดวกสบาย ที่ Adler เราเลือกอัพไซส์ทุกอย่าง จาก หมอนธรรมดา เราก็ใช้เป็นหมอนขนเป็ดแทนนุ่น เราใช้ผ้าลินินปูเตียง เตียงนอนของเรา เลือกใช้สไตล์ Train Cabin Bed Design ทุกเตียงมีม่านปิด ลูกค้าชาวไทยรายหนึ่งเคย คอมเมนต์ว่า แม้จะนอนในห้อง 16 เตียง แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนนอนในห้องส่วนตัว เพราะได้นอนในเตียงแคปซูล มีมา่ นปิด ขนาดสูง และกว้างขวาง มีตเู้ ก็บของบรรจุในเตียง นั้นด้วย หรืออาหารเช้า เรามีแซนด์วิชเสิร์ฟ นี่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราใส่ใจ และนิยามมันว่าเป็น “Luxury” THE HOSTEL BIBLE

240

3 กลุ่มลูกค้าของคุณแตกต่างจากโฮสเทลอื่นๆ อย่างไร แรกเริม่ เราวางกลุม่ ลูกค้าไว้ทชี่ ว่ งอายุประมาณ 25 ถึง 55 ปี รองรับไปถึงกลุม่ Senior Traveler, Business Traveler ไปจนถึงกลุ่ม Urban Traveler แต่ลูกค้าอายุน้อยที่อยู่ ในช่วง 25 ถึง 30 ปี กลับให้ความสนใจมากกว่า


4 สไตล์การตกแต่งของ Adler เป็นอย่างไร และใส่ความเป็น Luxury ในงานดีไซน์อย่างไรบ้าง สไตล์ของโรงแรมคือ Colonial Eclectic Mix โดยใส่ความเป็นโคโลเนียลผสมเข้าไป และคัดสรรองค์ประกอบที่ดีที่สุดมาเป็นส่วนผสม ส่วนตัวผมชอบเฟอร์นิเจอร์มาตั้งแต่ เด็กๆ จึงคัดเลือกเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงทุกชิ้น เป็นชนิดแบบเดียวชิ้นเดียว มีแหล่งที่มา แตกต่างกัน ธุรกิจสาขานี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้น คุณต้องสร้างคาแร็กเตอร์ให้ ชัดเจน เพื่อให้ยากต่อการเลียนแบบหรือท�ำซ�้ำ น่าสังเกตว่าโฮสเทลที่เปิดใหม่ๆ มักจะให้ ความสนใจไปที่ดีไซน์เฉพาะตัว หรือเลือกเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่ซึ่งมีราคาสูง แต่เราเลือกที่ จะใช้ของเดิมๆ แต่นำ� มาใช้ในรูปแบบใหม่ เฟอร์นเิ จอร์บางชิน้ ลูกค้าบอกว่าไม่เคยเห็นจาก ที่ไหนมาก่อน 5 โลเคชั่นจ�ำเป็นส�ำหรับธุรกิจโฮสเทลมากน้อยแค่ไหน โลเคชั่นเป็นปัจจัยส�ำคัญอันดับต้นๆ ของธุรกิจนี้ Adler อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ ท่ามกลางบรรยากาศย้อนอดีตแบบโคโลเนียล ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิม ของสิงคโปร์ รายล้อมด้วยภัตตาคาร ร้านอาหารจีน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ของชาวตะวันตก ท�ำเลสะดวกใกล้รถไฟฟ้า และใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาที ไปยังย่าน ธุรกิจ และไปยัง Marina Bay ในเวลาเพียง 20 นาที ส�ำหรับผม ท�ำเลนีค้ อื ท�ำเลทีน่ า่ ตืน่ เต้น ส�ำหรับนักท่องเที่ยว 6 คุณมีวิธีท�ำการตลาดและประชาสัมพันธ์โฮสเทลอย่างไร มองการคืนทุนของธุรกิจนี้ไว้ก่ป ี ี คิดว่าน่าจะคืนทุนทีร่ าวๆ 5 ปี จนถึงตอนนีก้ ย็ า่ งเข้าปีที่ 3 แล้ว ส�ำหรับอัตราการเข้าพัก เราคิดเฉลี่ยที่คืนละ 65-120 SGD (ราว 1,625-3,000 บาท) แต่เรื่องของคุณภาพเมื่อ เทียบกับโรงแรมในระดับเดียวกัน เราคิดว่าเราน่าจะให้การบริการได้ใกล้เคียง ในวันแรก ที่เปิดบริการมีลูกค้าจองผ่านออนไลน์เข้ามาทันที เราแทบไม่ได้ให้ความส�ำคัญกับการ โฆษณาและท�ำตลาดอะไรเท่าไรนัก แต่ช่องทางที่ได้ผลที่สุด คือจองผ่านทางออนไลน์ เช่น Agoda และ Booking.com ท�ำให้เราได้รับผลตอบรับที่ดี อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างกระแส ได้ดีคือ ฟีดแบ็กและคอมเมนต์จากลูกค้าที่แบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ดีๆ ที่น่าสนใจ เพื่อบอกต่อให้ลูกค้าคนอื่นๆ ที่ก�ำลังมองหาที่พักได้รับรู้ 7 คุณคิดว่าลักษณะเฉพาะของคนท�ำโฮสเทลต้องเป็นอย่างไร ต้องเป็นคนทีส่ นใจในการบริการ พบปะผูค้ น และรูว้ า่ แบรนด์ของเรามีจดุ เด่นอย่างไร และจะขายให้กับใคร มองหาตลาดกลุ่มเป้าหมายให้เจอ หากมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจ ก็ถอื เป็นเรือ่ งดี ซึง่ เรามี แม้เราเองค่อนข้างเป็นผูเ้ ล่นหน้าใหม่ แต่เรารูจ้ กั สร้างความแตกต่าง

THE HOSTEL BIBLE

241


สิ่งที่เราหยิบยื่นให้ลูกค้าต้องเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนกับโรงแรมอื่นที่เขาเคย พักมาเราพยายามสร้างบรรยากาศในการเข้าพักให้มรี ะดับสูงขึน้ มาอีกนิด ออกแบบใกล้เคียง ดีไซน์โฮเทล คุณต้องกล้าแตกต่าง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความแตกต่าง ในฐานะผู้เล่นหน้าใหม่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคิดว่ามันง่ายมากที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ แต่ตอนนี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะเริ่มมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง และลูกค้าก็มีตัวเลือก อยูห่ ลายแห่ง อย่างน้อยหากเขามาพักทีส่ งิ คโปร์ เขาท�ำการบ้านมาแล้วว่า Top 5 ของโฮสเทล ยอดนิยมมีทไี่ หนบ้าง แล้วบรรดาโฮสเทลเหล่านัน้ ก็คว้าลูกค้าไปได้หมด ดังนัน้ การจะเข้ามา มีส่วนร่วมในธุรกิจสายนี้จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากส�ำหรับน้องใหม่ 8 อะไรคือกุญแจสู่ความส�ำเร็จของ Adler การบริการ การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งเรา ไม่ได้เป็นฝ่ายรอให้ลกู ค้ามาขอความช่วยเหลือ แต่เราจะเป็นฝ่ายเดินไปหาลูกค้า และพูดคุย กับเขาเอง การบริการที่ฉับไวนี้เองถือเป็นความภาคภูมิใจของเรา 9 ถ้ามีคนไม่คน ุ้ เคยกับการแบบพักโฮสเทล คุณจะบอกพวกเขาว่า? ครั้งแรกที่ผมทดลองเดินทางแบบแบ็กแพกเกอร์ ผมก็มีโอกาสได้พบกับเพื่อนใหม่ มากมาย สมัยนัน้ เราต่างก็มองหา “ประสบการณ์ใหม่ๆ” แต่หากเลือกพักโรงแรมแบบเดิมๆ เราก็จะได้รับสิ่งเดิมๆ มีแค่ก�ำแพง เตียง คุณแค่เข้ามานอนพักแล้วก็จากไปในวันรุ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นโฮสเทล เราจะได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้คนที่มาจากสถานที่ ทีม่ วี ฒ ั นธรรมไม่เหมือนกัน เป็นบรรยากาศทีเ่ ป็นกันเองมากกว่า คนมาพักก็ได้แลกนามบัตร ท�ำความรูจ้ กั กัน คุณมาพักหนึง่ ที่ แต่ได้รจู้ กั เพือ่ นใหม่ๆ อีกมากมาย ผมเชือ่ ว่าเทรนด์ของ นักท่องเทีย่ วทัว่ โลกตอนนี้ ต่างก็มองหาสิง่ แปลกใหม่ และการพัฒนาเปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ

“หากเราเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการนี้ เราก็ต้องรู้จักสร้างความแตกต่าง สิ่งที่เราหยิบยื่นให้ลูกค้าต้องเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เหมือนกับโรงแรมอื่นที่เขาเคยพักมา”

Adler Hostel

65 South Bridge Road Singapore 058814 โทร. +65-6226-0173 เว็บไซต์ www.adlerhostel.com


Case Study Hostel in Japan กรณีศก ึ ษาโฮสเทลในญีป ่ น ุ่ THE HOSTEL BIBLE

243


THE HOSTEL BIBLE

244


NUI Hostel Tokyo, Japan NUI Hostel เป็นโฮสเทลที่ประสบความส�ำเร็จระดับโลก จากการใช้แนวคิด ของบาร์ร่วมกับโฮสเทล จนที่นี่มีอัตราการเข้าพักเต็มตลอด และกลายเป็นสถานที่ ท่องเทีย่ วแห่งหนึง่ ของเมืองโตเกียว ประเทศญีป่ นุ่ แม้วา่ จะอยูใ่ นท�ำเลทีไ่ ม่ดนี กั ก็ตาม โดย NUI Hostel ตัง้ อยูใ่ นย่านโกดังเก่าใกล้กบั สถานี Kuramae ซึง่ อยูถ่ ดั จากสถานี Asakusa มาหนึ่งสถานี

THE HOSTEL BIBLE

245


NUI (นูอิ) แปลว่า พรมที่ถักทอ ซึ่งมาจากมอตโต้ของโฮสเทลที่ว่า “Beyond All Borders” หรือการเชือ่ มโยงผูค้ นทีญ ่ ปี่ นุ่ และทัว่ โลกเข้าด้วยกัน NUI Hostel ใช้เวลา 6 เดือน ในการปรับปรุงซ่อมแซม และเปิดท�ำการในปี 2012 เจ้าของ NUI Hostel ซึง่ มีอาชีพเป็นเซลส์แมน ได้คน้ พบโกดังเก่าแห่งนีท้ ถี่ กู ทิง้ ร้างไว้ จึงตัดสินใจที่จะปรับโฉมอาคารนี้ให้เป็นโฮสเทล และใช้ชื่อว่า NUI Hostel จุดเด่นอยู่ที่ คาเฟ่และบาร์ด้านล่างที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มานั่งจิบ กาแฟและดืม่ เบียร์ชลิ ล์ๆ รวมไปถึงมีมมุ ถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ได้กดชัตเตอร์กนั อย่างจุใจ ทีน่ ยี่ งั เป็น ที่พักราคาประหยัด แถมยังเดินทางสะดวก เหมาะทั้งทริปท่องเที่ยวและทริปธุรกิจ ตัวอาคารมีทั้งหมด 6 ชั้น มีลิฟต์ไว้ให้ลูกค้าใช้บริการตั้งแต่เวลา 8.00-24.00 น. สไตล์การตกแต่งเป็นแบบอินดัสเตรียลที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับตัวอาคาร ซึ่งเคยเป็น โกดังเก่าและมีความสูงจากพืน้ ถึงเพดานค่อนข้างมาก จุดเด่นคือการใช้ตน้ ไม้และท่อนซุง แบบดิบๆ มาตกแต่งบริเวณบาร์

THE HOSTEL BIBLE

246


ปัจจุบัน NUI Hostel มี 3 สาขา สาขาแรกที่ Kuramae แห่งนี้ สาขาที่สองใช้ชื่อ Toco อยู่ใกล้กับสถานี Iriya บรรยากาศที่พักของที่นี่เป็นแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “Tokyo Heritage Hostel” และสาขาน้องใหม่ทเี่ พิง่ เปิดตัวไปไม่นาน ตัง้ อยูท่ ี่ เมืองเกียวโต ใช้ชอื่ ว่า Len Kyoto โดยยังคอนเซ็ปต์ของ Hostel+Bar และเพิม่ Dining เข้าไป โฮสเทลทั้ง 3 แห่ง ด�ำเนินการโดยบริษัท Backpackers Japan การขยายกิจการ ถึง 3 แห่งในรอบ 3 ปี ของ NUI Hostel สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการสร้าง สินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ โดยการผสมผสานไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ชอบ บรรยากาศแฮงเอาต์ของบาร์และปาร์ตี้เข้าด้วยกัน

THE HOSTEL BIBLE

247


ทีพ่ กั แต่ละสาขาของ NUI มีจดุ เด่นอยูท่ บี่ าร์ ขณะทีส่ ไตล์การตกแต่งห้องพักก็เป็นไป แบบเรียบง่าย และมีความสะดวกสบายปานกลาง ส่วนที่ยังมีข้อบกพร่อง เช่น ผนังที่ ไม่เก็บเสียง จึงสามารถได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ เล็ดลอดเข้ามาขณะที่คุณก�ำลังพักผ่อน นอนหลับได้ ลูกค้าหรือแม้แต่พนักงานของที่นี่ต่างยอมรับว่า จุดเด่นของ NUI Hostel และที่พักในเครือเดียวกัน อยู่ที่บรรยากาศของบาร์ หาใช่ห้องพักไม่ NUI Hostel มีหอ้ งพักให้เลือกทัง้ หมด 4 แบบ คือ ห้องพักรวม ราคา 2,700 - 2,800 เยน ต่อคืน (พักรวมกันไม่เกิน 8 คน) ห้องพักหญิง ราคา 3,000 เยนต่อคืน (พักรวมกันไม่เกิน 8 คน) ห้องพักเตียงเดี่ยว 2 เตียง ราคา 6,800 - 7,000 เยนต่อคืน (พัก 2 คน) ห้องพัก เตียงคู่ 1 เตียง ราคา 6,800 - 7,000 เยนต่อคืน (พัก 2 คน) ส่วนห้องน�ำ้ และสุขาจะเป็นแบบ รวมทัง้ ชายและหญิง เวลาเช็กอินตัง้ แต่ 16.00 น. - 23.00 น. ส่วนเวลาเช็กเอาต์ คือ 11.00 น. ที่น่าสนใจคือ Common Area ของที่นี่จะอยู่ชั้นบนสุด มีทั้งห้องครัวที่สามารถ ท�ำอาหารได้ มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ห้องสมุด และมีคอมพิวเตอร์ไว้บริการ การเดินทางมายัง NUI Hostel มีรถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน 2 สาย สามารถเดินทางไปยัง ทีต่ า่ งๆ ได้สะดวก รวมทัง้ ยังสามารถเดินเลียบแม่นำ�้ Sumida เพือ่ ไปเทีย่ วย่าน Asakusa ได้ นอกจากนีใ้ กล้ๆ ทีพ่ กั ยังมีซเู ปอร์มาร์เก็ตเปิดให้บริการอีกด้วย

THE HOSTEL BIBLE

248


ปัจจัยที่ท�ำให้ NUI Hostel

ประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างมาก สรุปได้ดังนี้ 1. ความสามารถในการเสาะหาอาคารทีถ่ กู ทิง้ ร้าง ในท�ำเลทีด่ แี ค่ระดับพอใช้ ท�ำให้ สามารถลดงบลงทุนไปได้เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ จากการใช้งานอาคารเก่าและจากการ เช่าที่ในราคาไม่แพง 2. เมื่อได้ท�ำเลแล้ว สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ท�ำเลและบรรยากาศแบบนี้เหมาะกับ คนกลุ่มไหน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่กลุ่มลูกค้า Mass ที่ชอบพักอยู่ตามย่านศูนย์กลาง พลุกพล่าน แต่เป็นกลุ่มฮิปสเตอร์ กลุ่มคนชอบงานศิลปะ กลุ่มฟรีแลนซ์ ที่ชอบค้นหา มุมส่วนตัวที่สงบเงียบในย่านเก๋ๆ จึงสามารถท�ำสินค้าคือ Bar Hostel ให้ออกมาตรง กับความต้องการของกลุ่มลูกค้า 3. สามารถแยกแยะได้ว่าเมื่อมีงบประมาณจ�ำกัด ล�ำดับความส�ำคัญในการลงทุน ควรเป็นเช่นไร โดยเน้นลงทุนในส่วนที่จะสร้างแบรนดิ้งและรายได้ นั่นคือ ตัดสินใจ ลงทุนในบาร์จนสวยงามน่าดึงดูด ต่างจากส่วนห้องพักที่เน้นความเรียบง่าย เพราะ ผ่านการวิเคราะห์แล้วว่า บาร์จะเป็นตัวสร้างแบรนดิง้ และจุดขายให้กบั โฮสเทลได้เป็น อย่างดี 4. มีมุมมองที่แตกต่าง กล้าที่จะเอา Common Room ประกอบด้วย ห้องครัว เครือ่ งซักผ้า ห้องสมุด และคอมพิวเตอร์ ทีป่ กติจะอยู่ด้านล่างไปไว้ชนั้ บนสุด โดยเพิ่ม จุดขายเป็นวิวดาดฟ้า 5. การสื่อสารกับลูกค้ามีความชัดเจนมาก ทั้งด้าน Hardware คือการตกแต่ง ภายใน และ Software คือการบริการ การสร้างบรรยากาศ แบรนดิง้ มอตโต้ เว็บไซต์ ที่มีความชัดเจนว่าเป็นสถานที่ส�ำหรับใคร Nui Hostel & Bar Lounge

111-0051 2-14-13, Kuramae, Taito-ku, Tokyo, Japan โทร. +81-3-6240-9854 เว็บไซต์ http://backpackersjapan.co.jp/nui_en/

THE HOSTEL BIBLE

249


Talk to the Expert คุณวรุณ โพธิ์แก้ว

Hosteller ที่ปรึกษา และ Guest Relationship แห่ง Lub d และสะพายเป้ โฮสเทล 1 Key to Success ของธุรกิจโฮสเทล คือ การสร้างคอมมูนติ ี้ ไม่วา่ จะเป็น ออนไลน์หรือออฟไลน์ นีเ่ ป็นสิง่ ทีส่ ำ� คัญมาก เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สงั คม ทุกคนต้องสือ่ สารกัน ถ้าสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแกร่งได้ ธุรกิจก็ไปได้ และแม้ว่าจะมีสิ่งผิดพลาดหรือความ ไม่สมบูรณ์แบบบางอย่างเกิดขึ้น ลูกค้าก็จะไม่ค่อยใส่ใจ เพราะเขารู้จักกับเราแล้ว รู้สึกดี กับเราแล้ว ความสัมพันธ์ทเี่ กิดขึน้ มันช่วยบดบังความไม่เต็มร้อยบางอย่างทีโ่ ฮสเทลบางแห่ง ไม่สามารถเติมเต็มได้ 2 Senior Hostel เทรนด์นี้น่าจับตา ผมมองว่า ถ้าเราท�ำธุรกิจให้เป็น Senior Hostel คือโฮสเทลส�ำหรับนักเดินทางสูงอายุได้จะเป็นเรื่องดี เพราะแนวโน้ม สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก และผมก็เห็นผู้สูงอายุเดินทางกันมากขึ้น แต่ยังไม่มี ใครท�ำโฮสเทลส�ำหรับคนกลุม่ นี้ ทัง้ ๆ ทีท่ กุ วันนีเ้ ราเข้าสูย่ คุ สังคมผูส้ งู อายุแล้ว แต่ไม่มใี คร คิดจะท�ำ ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้นที่อยากไปเที่ยว คนวัยเกษียณมีเงินมากกว่าวัยรุ่นเสียอีก เขาก็อยากมีสังคมเหมือนกัน ไม่มีใครอยากเดินทางคนเดียว ไม่มีใครอยากอยู่คนเดียว โดยไม่มเี พือ่ น คนวัยนีเ้ ขาก็อยากเจอเพือ่ นคอเดียวกันเหมือนกับเรา แต่ไม่มใี ครสร้างทีพ่ กั แบบโฮสเทลให้เขา ตลาดโฮสเทลบ้านเรายังแคบและยังจ�ำกัดอยู่เฉพาะกลุ่ม ส่วนมาก เน้นแนวปาร์ตี้เสียส่วนมาก ผมมองว่าเทรนด์นี้มันเป็นโอกาสนะ

THE HOSTEL BIBLE

250

3 อย่ามองข้าม Family Hostel อีกกลุ่มหนึ่งที่พบได้บ่อย คือ นักท่องเทีย่ วแบบครอบครัว เกิดเป็น Family Hostel นีค่ อื เทรนด์ทกี่ ำ� ลังเกิดขึน้ ถึงแม้วา่ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักเลือกพักห้องเดี่ยว แต่เวลาลงมาที่พื้นที่ส่วนกลาง เขาก็ต้องการ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกที่ตอบสนองความต้องการของเขาเช่นกัน แต่โฮสเทลส่วนใหญ่ ไม่ได้มีพื้นที่ให้เด็กๆ 100 เปอร์เซ็นต์ บางโฮสเทลตัดลูกค้ากลุม่ นีท้ งิ้ ไปเลย ทัง้ ๆ ทีม่ กี ลุม่ ครอบครัวเดินทางเยอะมาก โดยเฉพาะลูกค้ากลุม่ สแกนดิเนเวียทีม่ กั จะเดินทางพร้อมกัน ทั้งครอบครัว เขาพาลูกเล็กๆ มาเที่ยว แค่มีที่ให้เด็กๆ มาเล่นด้วยกันก็เยี่ยมแล้ว


4 รู้จักตัวเอง ถ้าคุณจะท�ำอะไร สิ่งแรกคือ ต้องรู้จักตัวเอง ตั้งต้นให้ดีว่า ท�ำเลคุณจะอยู่ตรงไหน แล้วลูกค้าจะเป็นใคร เช่น ถ้าอยู่ตรงข้าวสาร ลูกค้าก็จะเป็นฝรัง่ แต่ถา้ คุณเปิดโฮสเทลแถวประตูนำ�้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุม่ เอเชียทีม่ าช็อปปิง้ ดังนั้น สิ่ง อ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ต้องเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า 5 ท�ำเล การเลือกท�ำเลถือเป็นสิง่ ทีส่ ำ� คัญมาก คุณจะเหนือ่ ยหรือไม่เหนือ่ ย หลังจากนี้อยู่ที่ท�ำเลเป็นหลัก ยิ่งถ้าท�ำเลของคุณเป็นที่รู้จักก็ยิ่งดี คงไม่มีใครมาเที่ยว กรุงเทพฯ แล้วคิดจะไปพักแถวหลักสี่ มันต้องแถวข้าวสาร สุขุมวิท สีลม ต้องเป็นย่านที่ รู้จักของลูกค้าต่างชาติ ไม่ใช่เป็นที่รู้จักของคนไทยกันเอง 6 ดีไซน์ VS ฟังก์ชน ั่ หลายคนท�ำธุรกิจโฮสเทล แค่อยากท�ำให้มนั สวยงาม แต่ไม่ได้มองเรื่องฟังก์ชั่นของสิ่งนั้น หรือฟังก์ชั่นที่จะเกิดในสถานที่นั้นๆ 7 ธุรกิจนี้...ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือก ผมมองว่าธุรกิจโฮสเทลเป็นธุรกิจ ที่ผู้หญิงเป็นคนตัดสินใจเลือก ส่วนผู้ชายตรงไหนก็นอนได้ ก็เลยต้องตามใจผู้หญิง ดังนั้น Facility ต่างๆ ต้องท�ำให้ผู้หญิงรู้สึกดี ที่เรียกกันว่า Women Friendly ไม่จ�ำเป็นต้อง ออกแนวหวานแหวว แค่ให้ดูประณีตหรูหรา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิง เช่น กระจกต้องบานใหญ่ๆ ถ้าบานเล็กไป ผู้หญิงจะไม่มีความสุขเท่าไหร่ อะไรที่ผู้หญิงชอบ เราต้องโฟกัสตรงนั้น โดยเฉพาะผู้หญิงไทยหรือผู้หญิงเอเชีย ถ้าอะไรที่รู้สึกว่าน่ากลัว เขาจะไม่เลือกพัก ค�ำว่า “กลัวผี” นีก่ ส็ ำ� คัญ ถ้าเกิดโฮสเทลเราดูทมึ ๆ ทึบๆ เกิดความรูส้ กึ วังเวง ผู้หญิงจะไม่นอน เรื่องจิตวิทยาพวกนี้เป็นสิ่งส�ำคัญมาก โฮสเทลจ�ำนวนไม่น้อย อาจไม่ได้โฟกัสตรงนี้ แค่ดูภายนอกตกแต่งสวยงามก็พอแล้ว ส่วนตัวผมไม่คอ่ ยเห็นด้วย กับการออกแบบที่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า บางแห่งออกแบบมาสวยมาก แต่ล็อกเกอร์เล็ก แขกที่พักในห้อง Dorm ไม่สามารถเอากระเป๋าใส่ไว้ในล็อกเกอร์ได้ ต้องวางระเกะระกะ บนพื้น ตกดึกกลับมาที่ห้องสะดุดกระเป๋า หรือเหยียบกันเองบ้างก็มี

THE HOSTEL BIBLE

251


ส่งแขก

Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.

ใช้ชีวิตดังวันนี้คือวันสุดท้าย เรียนรู้เสมือนดังคงอยู่ชั่วนิรันดร์ มหาตมะ คานธี ผู้กล่าวประโยคนี้ ซึ่งเป็นประโยคที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผม อย่างมากมาย โดยเฉพาะวันที่ผมไปเยือนอาศรมของท่านที่เมืองอาเมดาบัด ผมได้เห็น การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่มนุษย์จะด�ำรงอยู่ได้ แต่สิ่งที่คานธีได้ให้กับชาวโลกนั้น กลับมีคุณค่ายิ่งใหญ่เกินบรรยาย ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต คุณจะท�ำอะไร สิ่งไหนคือเดิมพันในชีวิตของคุณ? ช่วงปีที่ผ่านมา ผมมีความเชื่อและความฝันมากมายที่ไม่มีวันที่จะประสบความ ส�ำเร็จ ผมขอขอบคุณอย่างที่สุด ต่อบุคคลต่อไปนี้ พี่ตุ่ย-จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์ มิสเตอร์ โฮสเทล ผูร้ ว่ มก่อตัง้ Lub d Hostel ให้เป็นแบรนด์ดงั ระดับโลก และยังเป็นพีช่ ายทีแ่ สนดี ทีใ่ ห้เกียรติรว่ มเขียนคัมภีร์ The Hostel Bible เล่มนีร้ ว่ มกับผม และช่วยเหลือผมในทุกเรือ่ ง รวมถึงทีมงาน Lub d ทุก อาจารย์เชี่ยว-ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์ ผู้ซึ่งเป็นทั้งพี่ เพื่อน ครู และให้ก�ำลังใจผมตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อาจารย์โอภาส ลิมปิอังคนันต์ นายกสมาคม นักออกแบบเรขศิลป์แห่งประเทศไทย และนักสร้างแบรนดิ้งโรงแรมชื่อดัง ที่ได้ช่วยให้ ค�ำแนะน�ำถึงเรื่องหลักสูตรและร่วมเดินทางตลอด 30 ปีที่ผ่านมา อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย กูรูด้านการตลาดที่คอยแนะน�ำกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจให้กับผมตลอดเวลา 5 ปีที่มานี้ พี่บอย-วิสูตร แสงอรุณเลิศ ผู้กรุณาให้ค�ำแนะน�ำและเขียนค�ำน�ำให้กับหนังสือ ทุกเล่มของผม คุณนพดล สุเนต์ตา จาก สุเนต์ตา โอสเทล น้องเต็ม-โชติรตั น์ อภิวฒ ั นาพงศ์ นักธุรกิจหนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์และหลงรักการเดินทางจาก ยิ้ม ห้วยขวาง โฮสเทล คุณขจร ศิริพลวุฒิกุล จากสะพายเป้ โฮสเทลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ที่กรุณามาแบ่งปันความรู้ อย่างหมดเปลือกและมันส์มากทุกครั้งในเวิร์คช็อปของผม THE HOSTEL BIBLE

252


และยังมี น้องเพ็ญ-จารุภา สุนทรปกาสิต จาก Bed Station Hostel น้องแชมป์ณัฐกฤต ชัยเชิดชูวงศ์ จาก Boxpackers Hostel คุณกฤษณ์ พุฒพิมพ์ จาก POD Hostel คุณอติพร สังข์เจริญและคุณอมรรัตน์ อมรศิริชัยรัตน์ จาก The Yard Hostel Bangkok คุณนรเทพ อุดมเลิศสกุลและคุณพงษ์พิชญ์ เฉลิมถิรเลิศ จาก Matchbox Bangkok Hostel และคุณยิหวา อรรถเวทยวรวุฒิ จาก Oneday Pause and Forward Hostel ที่กรุณาให้เกียรติมาแบ่งปันความรู้ในธุรกิจโฮสเทลในหนังสือเล่มนี้ ผมขอขอบพระคุณทุกท่านทัง้ ทีเ่ ป็นพีแ่ ละเพือ่ น ทีไ่ ด้กรุณาเขียนค�ำนิยมให้หนังสือ เล่มนี้ พี่องอาจ คล้ามไพบูลย์ พี่ชายของผม พี่หมอก-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน จาก Index Creative Village ทีไ่ ด้คอยสนับสนุนทางความคิด พีป่ อ้ ม-ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา จาก Stock Tomorrow ทีไ่ ด้ให้คำ� ปรึกษาตลอดเวลา พีต่ า-สาธิตา โสรัสสะ รองประธานชมรม สือ่ มวลชนส่งเสริมการท่องเทีย่ ว และคอลัมนิสต์คมชัดลึกและมติชน ทีไ่ ด้ชว่ ยให้ผมเริม่ ต้น ในธุรกิจสัมมนา คุณยุย้ -อัญพัชร์ ทรัพย์ยนื ยง นักลงทุนคอนโดฯ ชือ่ ดัง และผูแ้ ต่งหนังสือ “ไม่ตอ้ งไฮโซ ก็ลงทุนคอนโดได้” ทีค่ อยแบ่งปันมุมมองดีๆ เสมอมา รวมทัง้ คุณหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ จาก OOKBEE ที่ช่วยท�ำให้หนังสือทุกเล่มของผมมีครบทั้งเสียงและภาพ ขอขอบคุณกลุม่ เพือ่ นชาว O.M.D., One Million Dollar Club ทีค่ อยให้กำ� ลังใจ กลุ่มเพื่อนชาว AEC และ ปนป. ของสถาบันพระปกเกล้า และกลุ่มเพื่อนทุกสถาบัน ทั้ง โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา วิทยาลัยช่างศิลป์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กลุ่มเพื่อนโรงแรมเล็กในเมืองเก่าหรือ S.H.O.B ทีมงานทุกคนของ Supergreen Studio และทีมงานผู้ผลิตหนังสือเล่มนี้ ขอบคุณมหาตมะ คานธี และโมฮัมเหม็ด ยูนสุ ผูเ้ ป็นเสมือนแรงบันดาลใจ ราจ รีวลั เจฟฟรีย์ บาวา และอาจารย์องอาจ สารทพันธุ์ สามปรมสถาปนิกทีเ่ ป็นครูของผม รวมทัง้ ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.จิตต์เกษม ศรีบุญเรือง ผู้ที่ได้กรุณาแปลชีวประวัติ ริชาร์ด ชีร์แมน ผู้ก่อตั้งองค์การบ้านเยาวชนสากล เป็นภาษาไทย และผมได้น�ำเนื้อหาบางส่วน มาเรียบเรียงและตีพิมพ์ลงในหนังสือเล่มนี้ และยังมีเจ้าของโฮสเทลชั้นน�ำอีกหลายแห่ง ในสิงคโปร์ที่กรุณาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และขอขอบคุณลุกค้าทุกคนของ Samsen5Lodge และทุกคนที่มาเรียนในคอร์สบูติคโฮเต็ลของผม พวกคุณคือแรงบันดาลใจของ ผมอย่างแท้จริง

THE HOSTEL BIBLE

253


ขอขอบคุณร่างกายและจิตวิญญาณของผมที่ได้เป็นเพื่อนและรับใช้ผมตลอดมา ขอขอบคุณแม่ ชฎา คล้ามไพบูลย์ ผู้ให้ก�ำเนิดผม และขอบคุณครอบครัวของผม ที่ได้ให้การสนับสนุนในทุกเรื่อง ขอขอบคุณพ่อ สนิท คล้ามไพบูลย์ ผู้เป็นเจ้าของ Youth Hostel ย่านเทเวศร์ ซึง่ นับเป็นโฮสเทลแห่งแรกในประเทศไทย เมือ่ 25 ปีกอ่ น และเป็นก้าวแรกในชีวติ ของผม ในวัย 15 ปี ที่ได้เริ่มเรียนรู้วิถีชาวโฮสเทล ก่อนที่ผมจะได้เดินทางไปทั่วโลกและเข้าพัก ในโฮสเทลหลายประเทศ ทัง้ ในยุโรป จีน และอินเดีย และเป็นจุดเริม่ ต้นทีท่ ำ� ให้ผมก้าวเข้าสู่ มรรควิถีแห่งบูติคโฮเต็ล จนมีทุกวันนี้

THE HOSTEL BIBLE

254





Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.