เอ่ยปาก
P O SH PING S R E V LO
0186
‘Let’s go shopping’ เชือ่ ว่าพอได้ยนิ ประโยคนีท้ ไี รหลาย คงต้องอยากยิ้มกว้าง หรือไม่ก็ตาลุกวาวด้วยความดีใจ พร้อมผุดค�ำถามขึ้นในหัวว่า คราวนี้จะหิ้วอะไรกลับ บ้านดีนะ ทว่ า ก็ ค งมี ห ลายครั้ ง อี ก เช่ น กั น ที่ พ อหิ้ ว ถุ ง ช้ อ ปปิ ้ ง แบรนด์หรู แบรนด์ที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า หรือรองเท้ากลับมาถึงบ้าน กลับรูส้ กึ เสียใจว่า ไม่นา่ ซือ้ มาเลย เสียดายเงิน หรือไม่กช็ อ้ ปเพลินเสียจนกระเป๋าแฟ้บ แทบเหลือไม่พอส�ำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ดังนั้น นิตยสารลิปส์เล่มนี้ จึงขอชวน 3 ตัวแทนของกูรู และคนที่รักเรื่องช้อปปิ้งอย่างจริงจัง ประกอบด้วย ส้ม-ชนัด ดา จิราธิวัฒน์ ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ และ วุ้น-กุลกมล ว่องวัฒนะสิน ให้มาร่วมเปิดกรุโชว์ไอเท็มเด็ดที่พวกเขาและ เธอสะสมเอาไว้ตามแบบฉบับของแฟชั่นนิสต้าที่ฉลาดใน การช้อป พร้อมพูดคุย เล่าประสบการณ์ และเผยเคล็ดลับ ดีๆ ในการช้อปปิ้งที่ขาช้อปต้องรู้ เพื่อเป็นไกด์ให้เหล่่าลิปส เตอร์ที่สนใจเรื่องแฟชั่น และชื่นชอบการช้อปปิ้งเป็นชีวิต จิตใจ จะได้ไม่ต้องเสียใจหรือผิดหวังในการหยิบจับสินค้า ต่างๆ ในครั้งต่อไป และที่ส�ำคัญที่สุด เราอยากกระซิบบอกเป็นการ ส่งท้ายจริงๆ ว่า ไม่ว่าการช้อปปิ้งอาจจะดูเหมือน เป็นสารเสพติด หรือถูกกล่าวหาว่าสามารถก่อให้เกิด อาการ Shopaholic ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากรู้จักจับ จ่ายอย่างถูกวิธี รู้จักเลือก และมีสติ ‘ความคุ้มค่าและ ความสุข’ นั่นคือสิ่งที่จะตกไปถึงมือของคุณได้อย่างไม่ เรื่อง พิสุทธิณต้ี รุอจิรงสงสั า รัชชายเลย ภาพ สมเกียรติ กฤษฎา สุทธิวัฒน์ บรรณาธิการแฟชั่น จิรวัฒน์
0187
หน้า ธีรยุทธ จันอ้น 0188
ชนัดดา จิราธิวัฒน์ เรื่อง รุจิรา ภาพ สุทธิวัฒน์
วลีที่ว่า ‘Shop till you drop’ หรือ ซื้อจนทรุด ช้อปจนหมด ไม่เคยมีอยู่ในสารบบของ ส้มชนััดดา จิราธิวัฒน์ แม้เธอจะเป็นสาวสังคม ออกงานแทบไม่เว้นวัน และปรากฏตัวในลุคที่ เป๊ะไม่แพ้แฟชั่นนิสต้าคนไหน แต่ใช่ว่าเธอจะ ยอมควักจ่ายกับเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือแอค เซสซอรี่คอลเลคชั่นใหม่ได้ง่ายๆ อะไรที่ใช้ได้ ทน และสไตล์ทใี่ ส่ได้นานนัน่ ต่างหาก ทีเ่ ธอจะ ยอมลงทุนกับสิ่งนั้นๆ ในช่วงวัยที่เรื่องของแฟชั่นเป็นสิ่งล่อตาล่อ ใจ ชนัดดาสารภาพว่าเธอก็ไม่ต่างจากสาวๆ ทั่วไป คือ ชอบแล้วก็ซื้อ โดยลืมนึกไปว่าเมื่อกลับถึงบ้าน สินค้าแฟชั่นชิ้นที่ว่าจะกลายเป็นแค่ไอเท็มรกตู้ เสื้อผ้าหรือไม่ “สมั ย ที่ อ ายุ ยั ง น้ อ ย บางที ส ้ ม ก็ ใ จง่ า ย (หัวเราะ) เห็นแล้วรู้สึกเตะตา ก็อุ๊ย! อยากได้ แต่ ตอนนี้ไม่ได้แล้วค่ะ ทุกวันนี้ จะซื้อของที ต้องดูว่า อะไรที่เป็นตัวเราเป็นหลัก อะไรที่ซื้อไปแล้ว แล้ว เราได้ใช้จริงๆ และใช้ได้นาน สมัยเป็นวัยรุ่น พวก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ก็อาจจะซื้อตามแฟชั่น ไม่ ได้รู้อะไรที่เหมาะกับเราจริงๆ มากนัก ช่วงนั้นอาจ จะยังค้นหาตัวเองยังไม่เจอด้วยมั้งคะ …พอเราอายุมากขึ้นในแต่ละช่วงวัย ความ คิดมุมมองก็จะเปลีย่ นไปตามวัย ทุกวันนีจ้ ะซือ้ อะไร ที ส้มก็จะมองทีก่ ารใช้งานเป็นหลัก สวยแล้วก็ตอ้ ง ดูว่าคุ้มหรือเปล่า วัสดุเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า ที่ส�ำคัญคือเมื่อมาอยู่บนตัวเราแล้ว เข้ากับบุคลิก และสไตล์ของเราไหม นั่นล่ะค่ะ จึงจะเป็นการใช้ งานที่เกิดประโยชน์ที่สุด …ส้มอาจจะซือ้ เสือ้ ผ้าบ่อยทีส่ ดุ เพราะเป็นสิง่ ทีต่ อ้ งใช้งาน ส่วนกระเป๋าก็ซอื้ บ้าง เพราะถือว่าเป็น แอคเซสซอรีท่ ชี่ ว่ ยเปลีย่ นลุคในแต่ละวันของเราได้ เวลาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แรกเห็นเลยต้องมี ความรูส้ กึ ชอบก่อน จากนัน้ ก็คดิ ต่อเลยว่าโอกาสใช้ งานเป็นอย่างไร เป็นเสื้อผ้าส�ำหรับใส่เวลาท�ำงาน หรือส�ำหรับใส่ออกงาน ก็แยกประเภทกันไป ต่อ ไปก็ต้องดูว่าเสื้อผ้าชุดนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ไหม เช่นเสื้อตัวนี้ จับไปแมตช์กับกระโปรงตัวนั้น ได้หรือเปล่า หรือแจ็กเกตตัวนี้ สวมคลุมเดรสข้าง ในจะปรับลุคได้ไหม เดรสตัวนี้ ใส่เข็มขัดเข้าไปสัก หน่อย ก็ดูไม่ซ�้ำเดิมแล้ว …บางทีกเ็ ลือกในสิง่ ทีส่ ง่ ต่อให้ลกู ได้ดว้ ย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ส้มกับน้องแพร (พิมพิศา จิราธิ วัฒน์) เราใส่ไซส์เดียวกันได้ เพราะสมัยนี้ เสื้อผ้า นี่ราคาสูงมากนะคะ ยิ่งเป็นสินค้าแบรนด์ก็ยิ่งแพง มากขึ้นไปอีก จะซื้อทีก็ต้องทบทวนสองครั้ง สาม ครัง้ ว่าสไตล์นจี้ ะใส่ได้นานไหม ฉูดฉาดแบบใส่ครัง้ เดียวคนจ�ำได้เลยหรือเปล่า
…บางคนเขาอาจบอกว่า ซื้อของถูกๆ ไปก็ได้ พอพังก็เปลี่ยนใหม่ แต่ส้มมองกลับกัน ส้มชอบซื้อ ของที่คุณภาพดี แม้ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่เรา สามารถใช้ได้นาน เพราะของบางอย่างไม่จำ� เป็นว่า เราต้องเปลีย่ นบ่อย เอามาประยุกต์ใช้ดกี ว่า มีแจ็ก เกตตัวหนึ่ง แต่เราเปลี่ยนชุดข้างใน เพิ่มผ้าพันคอ เข้าไป ก็ใช้ได้แล้ว” ชนั ด ดานิ่ ง คิ ด เมื่ อ ถู ก เอ่ ย ถามถึ ง แบรนด์ เสื้อผ้าในดวงใจ หรือแบรนด์ที่เธอเทใจว่าคุ้มค่า กับราคาจ่ายทีส่ ดุ แล้วจึงสรุปให้วา่ เธอไม่มแี บรนด์ ใดทีช่ นื่ ชอบเป็นพิเศษ เพียงแต่ดวู า่ คอลเลคชัน่ ไหน ของแบรนด์ใดท�ำออกมาถูกใจ และช่วยเสริมบุคลิด ผู้สวมใส่ให้ดูดีขึ้น เว้นแต่กระเป๋าเดินทางที่เธอชื่น ชอบของ Louis Vitton เป็นพิเศษ “ส้มชอบกระเป๋าเดินทางของ Louis Vitton เพราะกระเป๋าของเขาทนมาก กระเป๋าเดินทางที่ ท�ำจากวัสดุทเี่ ป็นรอยง่าย หรือโดนน�ำ้ นิดเดียวก็เป็น รอยด่างแล้ว ส้มจะไม่เลือกใช้เลย เพราะกระเป๋า เดินทางต้องสมบุกสมบันประมาณหนึง่ ด้วย ฉะนัน้ วัสดุที่ท�ำมาผลิตจึงเป็นเรื่องที่ส�ำคัญมาก …ทีใ่ ส่ใจในเรือ่ งวัสดุ เพราะส้มเป็นคนรักของ อย่างใส่รองเท้าออกไปข้างนอก กลับมาแล้วต้อง เช็ด ก็เลยไปจู้จี้จุกจิกกับลูกด้วย บางทีลูกสาวมา แชร์รองเท้าใช้กับแม่ ก็จะมีบ่นบ้าง เอาไปใส่ได้นะ แต่ช่วยรักษาด้วย (หัวเราะ) เพราะไม่ชอบรองเท้า เขรอะๆ หรือบางทีส้มขับรถเอง ก็ต้องเปลี่ยนใส่ รองเท้าแตะขับรถ เพราะไม่ชอบให้รองเท้าสวยๆ ไปขูดขีดเป็นรอยตอนขับรถ …ส้มถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก ว่าซื้อมาแล้วเรา ก็ต้องรักษาของ คุณแม่ของส้มเองก็ชอบแต่งตัว ท่านก็จะพูดเสมอ เงินน่ะหามายากนะ แล้วก็จริงๆ นะคะ พอเราท�ำงานเอง รู้เลยว่ากว่าจะหาเงินมา ได้นี่ยาก แต่บางทีเราใช้ไปแค่แป๊บเดียว ฉะนั้น จะ ซือ้ อะไรต้องคิดว่าสิง่ ทีเ่ ราจะเอาเงินไปแลกมานีค่ มุ้ ค่าจริงหรือเปล่า ซือ้ มาแล้วก็ตอ้ งรูจ้ กั รักษาให้ใช้ได้ นาน แต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาว ส้มจะซื้อพวก จิวเวลรี่ เพราะมองว่าสามารถหยิบมาใช้ได้ตลอด และมีแต่มลู ค่าจะเพิม่ ขึน้ อย่างเช่นเพชร ราคาก็ขนึ้ ทุกปี ได้ใช้งานด้วย และเป็นการลงทุนในทางหนึง่ ” วิธีช้อปปิ้งแบบคุ้มค่าราคาจ่ายของคุณแม่ ถูกส่งต่อไปยังลูกๆ ทั้ง 3 ชนัดดาเล่าว่า ไม่ว่าจะ น้องแพร น้องพีช (พชร จิราธิวัฒน์) หรือน้องพาย (ศลิษา จิราธิวัฒน์) ทุกครั้งที่จ�ำเป็นต้องซื้อของใน ราคาสูงเมือ่ ไร จะต้องมาปรึกษาคุณแม่กอ่ นทุกครัง้ “ลูกๆ นี่ เวลาเขาจะซื้ออะไรที่ราคาสูงหน่อย เขาจะมาปรึกษาส้มเหมือนกันค่ะ ให้เราช่วยดูว่า เสื้อผ้าแนวนี้เข้ากับเขาไหม คุยกันว่าจะซื้อไปใช้ ในโอกาสอะไร อย่างเช่นจะซื้อเสื้อกันหนาว ส้มก็
แนะน�ำว่าควรจะซื้อเสื้อหนังที่ใช้ได้ในระยะยาว ต้องเลือกที่เป็นหนังแท้นะ หรือวัสดุอะไรที่ใช้ทน เก็บไว้ใช้ได้นาน …เรือ่ งการใช้เงิน ส้มจะสอนลูกๆ ตัง้ แต่เด็กๆ เช่นกัน ว่าถ้าเรามีเงินหนึ่งก้อน เราต้องแบ่งให้ เหมาะสมว่าส่วนนี้ใช้ส� ำหรับชีวิตประจ�ำ ส่วนนี้ ส�ำหรับการออมและลงทุน ส่วนที่เหลือก็ส�ำหรับ ให้รางวัลชีวิตกับตนเองบ้าง ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วใช้ กินใช้เที่ยว หรือช้อปปิ้งหมดเลย อย่างนั้นไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น และทุก ครัง้ ทีช่ อ้ ปปิง้ ต้องคิดไว้เสมอว่าอย่าให้คนอืน่ เดือด ร้อน และตัวเองเดือดร้อน ไม่ใช่ช้อปจนติดลบ หรือ Shop till you drop ส�ำหรับส้มเอง แบบนี้ไม่มีแน่ๆ รวมถึงลูกๆ ด้วย …อย่างป้าย Sale นี่ไม่ค่อยมีผลอะไรกับส้ม นะคะ อาจจะเข้าไปดูบ้าง แต่ถ้าไม่เหมาะกับเรา ถึงแม้ราคาถูกแค่ไหนก็ไม่เอา เพราะไม่อยากซือ้ มา เก็บให้รก แล้วพอเยอะเกิน ก็ต้องมาโละอีก บางที ซือ้ ของลดราคามาก็ไม่ได้ใช้อกี คือส้มผ่านจุดนัน้ มา แล้ว รู้แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย” นักธุรกิจสาวท่านนีม้ องว่าการช้อปปิ้งถือเป็น ความสุขอย่างหนึง่ ได้ และบางครัง้ ก็เป็นความสุขที่ มิใช่เพียงเพื่อตนเองเท่านั้น “การช้อปปิ้งเป็นความสนุกสนานอยู่แล้วนะ คะ ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ก็สามารถสนุกกับกิจกรรม นี้ได้ จริงๆ สนุกตั้งแต่ตอนคิดแล้ว ว่าวันหยุดนี้ เรา จะไปซื้อของ เรามีเป้าหมายจะไปซื้ออะไร บางที ท�ำงานเหนือ่ ยๆ เช่นช่วงทีผ่ า่ นมา เป็นช่วงไฮซีซนั่ ที่ งานเยอะมาก พอปิดจ๊อบได้ ก็อาจให้รางวัลตัวเอง ด้วยซื้อของสักชิ้น …แต่บางทีความสุขของการซือ้ ของก็ไม่ใช่แค่ ซือ้ ให้ตวั เองนะคะ การได้ซอื้ ของให้คนทีเ่ รารักก็เป็น ความสุขอย่างหนึง่ อย่างเช่นช่วงเทศกาล ได้ซอื้ ของ ให้ผใู้ หญ่ทเี่ คารพ ซือ้ ให้คณ ุ พ่อ คุณแม่ ซือ้ ให้เพือ่ น ก็มคี วามสุข แล้วก็พยายามหาของทีเ่ ขาน่าจะชอบ ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าซื้อๆ ไป …ทุกครั้งที่จะจ่ายเงินนะคะ คิดก่อนว่าอะไร คือสิ่งจ�ำเป็น เช่นเสื้อผ้า ผู้หญิงเราควรมีอะไร ไลฟ์ สไตล์ของเราเป็นอย่างไร สาวที่ต้องออกงานสังคม บ่อยๆ ก็ควรจะมีเดรสสีและทรงคลาสสิคติดตู้เอา ไว้ มีคลัชสักใบ มีรองเท้าดีๆ สักสองคู่ คือซื้อใน สิ่งที่ควรมี และใช้งานได้จริงก่อน และต้องคิดด้วย ว่าเรามีพื้นที่เก็บมากน้อยแค่ไหน ตู้เสื้อผ้าของเรา ใหญ่พอไหม คือถ้ามีสติในการช้อปปิ้ง เราจะไม่ เจอปัญหาซือ้ มาแล้วไม่ได้ใช้ หรือไม่มที เี่ ก็บเลยค่ะ” การช้อปปิ้งที่ดีที่สุด คือการช้อปอย่างมี สติ ชนัดดาฝากถึงสาวๆ นักช้อปเอาไว้ เธอ บอกว่าวิธีนี้ได้ผลทุกครั้ง. 0189
วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ เรื่อง รัชชา ภาพ สุทธิวัฒน์
หากเอ่ยถึงเรื่องของแฟชั่น การแต่งตัว หรือ แม้กระทัง่ การช้อปปิง้ แน่นอนว่าคงไม่ได้จำ� กัด อยู่ในเฉพาะกลุ่มของหญิงสาวเท่านั้น ที่จะ สามารถมีความสนใจหรือให้ความส�ำคัญกับ เรือ่ งเหล่านีไ้ ด้ เพราะการรูจ้ กั แต่งตัวให้ดดู ี ถูก กาละเทศะ ย่อมเป็นสิง่ ทีพ ่ งึ ปรารถนาส�ำหรับ บุคคลทุกเพศทุกวัย ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังอาจ หมายถึงการช่วยดึงดูดเรื่องดีๆ ให้เข้ามาสู่ ตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย ดังที่ ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ พิธีกรคน เก่งแห่งวิกพระรามสี่ หรือที่คนแฟชั่นรู้จักกันดีใน นาม ‘ป็อป ดิออร์’ ผู้คร�่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มา นานในฐานะผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และ การตลาด บริษัท คริสเตียน ดิออร์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ได้พสิ จู น์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ด้วยคา แร็คเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์จากการแต่งกายที่ดู ดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นั้นสามารถน�ำมาซึ่ง ความชื่นชม รวมถึงรางวัลด้าน Best Dress ที่เจ้า ตัวกวาดมาแล้วจากหลายส�ำนัก “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้รับรางวัล เหล่านี้ เพราะจริงๆ แล้วในบ้านเรามีคนแต่งตัวดี ตั้งเยอะแยะ ทว่านี่ก็เป็นเรื่องที่บอกบางสิ่งบาง อย่างกับผมได้เหมือนกันนะ ว่าการลงทุนเรื่อง การแต่งตัวของเราที่ผ่านๆ มามันคุ้มค่า(หัวเราะ) เพราะไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้อเพื่อมาสวมใส่ แต่เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ยังเปรียบได้กับการ ลงทุนเพื่อหน้าที่การงานด้วย เนื่องจากอาชีพของ ผม ไม่ว่าจะเป็นงานที่ดิออร์ หรือบทบาททางหน้า จอโทรทัศน์ ก็ต้องอาศัยภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ ที่ ดูดีทั้งสิ้นครับ …ดังนั้น เวลาออกไปช้อปปิ้งแต่ละครั้ง ผม จึงพยายามค�ำนึงถึงเรื่องประโยชน์ใช้สอยให้มาก ที่สุด ว่าถ้าหนึ่งชิ้นใช้ได้หนึ่งครั้งเนี่ย มันอาจจะ ไม่คุ้ม แต่ถ้าซื้อมาแล้วสามารถต่อยอดให้เราได้ เช่น สามารถใส่ไปถ่ายรายการได้ ไปออกงานได้ สินค้าชิ้นนั้น ก็คงเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจมากๆ ครับ …แต่ตัวผมเองก็ไม่ค่อยได้ออกไปช้อปปิ้ง บ่อยนักหรอก เนื่องจากท�ำงานเยอะ ทว่าถ้าออก ไปครั้งหนึ่ง ก็จะเต็มที่เลย (หัวเราะ) จะวางแผน ไปอย่างดีเลยว่าจะต้องไปร้านไหนซื้ออะไรบ้าง และนอกจากเรือ่ งเงินแล้ว ผมก็จะเตรียมตัวเองให้ พร้อมด้วย กล่าวคือ จะสวมพวกเสือ้ ยืด กางเกงขา สั้น และรองเท้าที่ถอดง่ายไปเลยครับ เพราะก่อน จะซื้อเราก็ต้องถอดๆ ใส่ๆ ลองหลายๆ อย่างใช่ ไหม ซึ่งการเตรียมตัวเช่นนี้ จะท�ำให้เราเสียเวลา ช้อปปิ้งไม่มาก และได้รับความสะดวกสบายมาก ขึ้นด้วยครับ 0190
…ทัง้ นี้ ผมไม่ใช่คนทีเ่ ห็นอะไรชอบอะไรแล้ว ซื้อเลย แต่จะจ�ำๆ เอาไว้ก่อน เหมือนให้เวลาตัว เองชั่งใจสักนิด พิจารณาว่าเราชอบจริงไหม คือ ถ้าผ่านไปสักพักหนึง่ แล้วของสิง่ นัน่้ ยังอยูใ่ นความ คิดว่าอยากได้จริงๆ ก็ค่อยกลับไปซื้อรวดเดียว พร้อมกันกับชิ้นอื่นๆ ที่เราชอบเลย โดยการที่ผม ท�ำเช่นนีน้ นั้ ก็เพือ่ ป้องกันการไปซือ้ แล้วซือ้ อีกครับ เนื่องจากยิ่งไปบ่อยก็จะยิ่งเห็นของใหม่ๆ บ่อย ก็ จะยิ่งเกิดกิเลสให้อยากซื้อต่อไปเรื่อยๆ …ส่วนถ้าไปเมืองนอก ก่อนไปผมจะตั้งงบ ประมาณในใจเอาไว้ว่ามีลิมิตอยู่ที่เท่าไหร่ แล้ว ห้ามเกินนี้นะ แต่ถ้าใช้น้อยก็กว่านี้ได้ก็ถือว่าดี (หัวเราะ) ประกอบกับต้องค�ำนึงด้วยว่า พวกของ ทีเ่ คยซือ้ มา ทีร่ วมๆ อยูใ่ นบ้านก็คอ่ นข้างเยอะแล้ว แล้วแฟชั่นเนี่ย มันก็จะหมุนเวียนกลับไปกลับมา เรื่อยๆ ดังนั้น อย่าปล่อยให้พวกของเก่าสิ้นมูลค่า ไป ต้องรู้จักมิกซ์แอนด์แมชของเก่าให้กลายเป็น ของใหม่ให้ได้ครับ (ยิ้ม)” แต่กว่าจะประสบความส�ำเร็จเรื่องการแต่ง ตัว และรู้จักคิด แล้วซื้อได้เช่นทุกวันนี้ ในวัยแรก รุ่นของการเริ่มเป็นนักช้อปของป๊อป วราวุธ ก็เคย ผ่านประสบการณ์ซื้อ แล้วเพิ่งคิดได้ มาไม่น้อย เลยเหมือนกัน “ตอนเด็กๆ พอชอบอะไรผมก็จะซื้อเลย ครั้ง หนึ่งไปต่างประเทศแล้วช้อปสนุกมากจนเกินบัด เจ็ท จ�ำได้ว่าพอกลับมาเมืองไทยแล้วต้องอดข้าว ไปหลายมื้อเพื่อเตรียมเงินไว้ใช้หนี้ (หัวเราะ) หรือ ตอนที่ยังเรียนอยู่ ตอนนั้นยังไม่มีตังค์ใช้เองหรอก ครับ แต่อยากของของชิ้นหนึ่งมาก จึงไปซื้อมา ตอนซื้อก็สุข แต่พอกลับมาแล้วทุกข์จริงๆ รู้สึก มึนๆ งงๆ เหมือนโดนใครตีหัว กลัวตลอดเวลาว่า จะต้องโดนพ่อแม่ด่าแน่ๆ แต่พอมาทุกวันนี้ที่ต้อง ท�ำงานหาเลี้ยงตัวเอง จึงรู้เลยว่ากว่าจะได้เงินมา แต่ละบาทมันเหนื่อยยากขนาดไหนครับ จะใช้จะ ซื้ออะไร จึงต้องไตร่ตรองให้ดีก่อน …มีของหลายชิน้ เหมือนกันทีผ่ มซือ้ แล้วรูส้ กึ ว่าพลาด ซึ่งถึงแม้จะไม่เคยได้ใช้เลย แต่ผมก็จะ เก็บพวกมันไว้ทั้งหมดนะ เพื่อเป็นเครื่องเตือน ใจตัวเองว่าช้อปปิ้งครั้งหน้าอย่าเป็นแบบนี้อีก โดยคติประจ�ำใจในการช้อปปิ้งของผมจะมีอยู่ 2 อย่างครับ คือ นกน้อยท�ำรังแต่พอตัว และ เห็น ช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง กล่าวคือ ซื้อตามที่ก�ำลังเรา มี และอย่าคิดว่าจะช้อปปิ้งไปประชันกับใคร เรา เป็นแบบคนอื่นไม่ได้ ก็จงมีความสุขกับการเป็น ในแบบของเราครับ” …โดยปกติสินค้าที่ผมชอบช้อปปิ้งมีหลาย อย่างนะครับ เช่น แว่นตา อันนี้ชอบมาก เป็นซิก
เนอจอร์คู่หน้าของผมเลย ที่ชอบอีกอย่างก็คือ พวกเสื้อนอกสวยๆ เพราะต้องใส่ถ่ายรายการ โทรทัศน์ หรือพวกเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืด ก็ชอบเหมือน กัน ซึง่ สินค้าแต่ละชิน้ ทีผ่ มจะซือ้ ไม่จำ� เป็นต้องเป็น แบรนด์เนมเสมอไปนะครับ นอกจากนี้ผมก็ยังให้ ความสนใจพวกแบรนด์ฝีมือคนไทย หรือบางทีก็ อาจจะถูกใจเสื้อผ้ายี่ห้อธรรมดามากๆ เลย ทว่า ผมจะพิถีพิถันเรื่องการจับโน่นผสมนี่ให้ออกมาดู ดีมากกว่า เพราะคิดว่าแทนทีจ่ ะสวมใส่ของแพงๆ เต็มตัว การท�ำเช่นนีด้ จู ะเป็นเรือ่ งทีน่ า่ สนุก แถมยัง ช่วยให้ประหยัดเงินได้ด้วยครับ …แต่ ถ ้ า เป็ นแบรนด์ เ นม สิ่ ง ที่ ผ มชอบซื้ อ จริงๆ จะเป็นพวกกางเกงยีนส์ เพราะใส่ได้บ่อย ซึ่งแน่นอนว่า ผมจะเลือกใส่ Dior Homme ครับ เพราะมี ก ารตั ด เย็ บ ที่ พ อดี กั บ สรี ร ะของมนุ ษ ย์ จริงๆ แต่บางคนก็สงสัยนะว่าท�ำไมซือ้ แบรนด์เนม แล้วซื้อกางเกงหล่ะ เพราะมันไม่ค่อยเห็นยี่ห้อ (หัวเราะ) แต่ผมว่ากางเกงนี่แหละเป็นตัวการเลย นะ เพราะมันเป็นตัวก�ำหนดแพทเทิรน์ ของร่างกาย เรา ถ้าได้กางเกงดี ก็คือจบ ผมจึงคิดว่านี่คือสิ่งที่ คุ้มค่ากับการลงทุนครับ …เวลาที่ผมจะซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่ง คงเป็น อารมณ์เดียวกับการที่ได้เจอคนรัก คือถ้าใช่มัน ก็ใช่ สัญชาติญาณจะเป็นตัวบอกเราเอง แล้ว ถ้าแพทเทิร์นผ่านแล้วเนี่ย ผมก็มักจะซื้อหลายๆ สีเลยนะ เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างแต่งกายด้วย แพทเทิร์นเดิมๆ เพราะไม่อยากปวดหัวเวลาจับคู่ ชุดต่างๆ ใหม่ แต่ว่าในแต่ละวาระ ก็จะมีสีสันที่ สมควรแตกต่างกันออกไปครับ …ในส่วนตัวผมเชื่อว่า ของที่ผลิตมาทุกๆ ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมหรือไม่ใช่แบ รนด์เนม เกิดจากความตั้งใจของผู้ผลิตทั้งสิ้น ดัง นั้น ผมจึงให้คุณค่าแก่งานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า แว่นตา รองเท้า หรือประเภท อื่นๆ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า แบรนด์ที่ดังๆ หรือที่ค่อนข้างมีราคาสูง นั้นมักจะมีเรื่องราว มี ประวัตศิ าสตร์ และมีความช�ำนาญการทีไ่ ด้รบั การ ยอมรับมาอย่างยาวนาน ดังนัน้ เมือ่ เราซือ้ ของจาก แบรนด์เหล่านี้ จึงเหมือนกับว่าเราไม่ได้ซื้อแค่ตัว สินค้า หากแต่ยังได้เรื่องราวทางวัฒนธรรมกลับ มาพร้อมกันด้วย ทว่าในทางกลับกัน ก็ตอ้ งยอมรับ อีกเช่นกันครับว่า ดีไซเนอร์รนุ่ ใหม่สมัยนีเ้ ก่งมากๆ และผลงานของพวกเขาก็น่าลองซื้อหามาสวมใส่ ไม่แพ้กันเลยครับ” จากค� ำ กล่ า วข้ า งต้ น เราสั ม ผั ส ได้ เ ลยว่ า ส�ำหรับป๊อป วราวุธ การช้อปปิ้งดูท่าจะไม่ได้ให้ คุณค่าแค่เพียงด้านวัตถุเท่านั้น หากแต่ยังรวมไป
ถึงคุณค่าทางด้านจิตใจด้วย ซึ่งในส่วนนี้ เจ้าตัว ได้ยกให้เป็นหนึ่งบ่อเกิดส�ำคัญของความสุขและ ก�ำลังใจเลยทีเดียว “การแต่งตัวดีทำ� ให้ผมเกิดความมัน่ ใจ ท�ำให้ มีก�ำลังใจในการเริ่มต้นวันใหม่ หรือท�ำงานได้ อย่างเต็มที่ ผมจึงเห็นด้วยกับค�ำว่า Shopping Therapy นะ เพราะส�ำหรับผมแล้วมันเป็นอย่าง นั้นจริงๆ บางทีก็ไม่ต้องคิดมากหรอกว่าเราจะซื้อ แบบฉลาดหรือไม่ฉลาด ถ้าซื้อแล้วมีความสุขก็ ซื้อไปเหอะครับ แต่ต้องสุขขณะซื้อ สุขหลังซื้อไป แล้ว และสุขขณะใช้งานด้วย แล้วก็อย่าเป็นหนี้ อย่าท�ำให้ตัวเองและคนอื่นต้องเดือดร้อน แค่นี้ก็ คงเพียงพอ …อย่างผมเองจากที่เลือกอะไรไม่เป็นเลย ก็ ลองผิดลองถูกมาเรือ่ ยๆ เรียกได้เลยว่าการช้อปปิง้ ช่วยหล่อหลอมให้เราเป็นเรา จนมีไสตล์เป็นของ ตัวเองเช่นทุกวันนี้ ...ไม่จำ� เป็นต้องเลียนแบบใคร ไม่จำ� เป็น ต้องแต่งตัวดีหรือแพงที่สุดเหมือนใครๆ ขอ แค่ให้เราแต่งแล้วมีความมั่นใจที่สุด และมี ความสุขที่สุด นั่นคือคีย์เวิร์ดที่เจ๋งสุดแล้ว ครับ” เสื้อผ้า Dior Homme หน้า-ผม ธานินท์ ขุนไกร
0191
หน้า ธีรยุทธ จันอ้น 0192
กุลกมล ว่องวัฒนะสิน เรื่อง รุจิรา ภาพ สมเกียรติ
ในภาพยนตร์เรื่อง Confessions of Shopaholic นางเอกของเรือ่ งให้เหตุผลทีเ่ ธอหลงใหล คลัง่ ไคล้ และทุ่มสุดตัวกับการช้อปปิ้งไว้ว่า “Because when I shop the world gets better.” ครั้ง หนึง่ เมือ่ นานมาแล้ว วุน้ -กุลกมล ว่องวัฒนะสิน บายเยอร์สาวแห่ง Club 21 คือสาวน้อยนักช้อป ที่มีความรู้สึกไม่ต่างจากนั้น เธอขยายความ ‘การที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ต้องการ สามารถ ท�ำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ’ วันนี้ ความรู้สึกนั้นของเธอยังอยู่ แต่ก็ควบคู่ มาด้วยความรูส้ กึ ทีด่ กี ว่า เมือ่ รูว้ า่ ตนรูจ้ กั ยับยัง้ ชัง่ ใจ ในการช้อปปิ้ง มีสติในการจับจ่าย และประเมิินก�ำ ลังทรัพย์ตัวเองได้ดีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน “ยอมรั บ เลยว่ า วุ ้ น เป็ น คนชอบช้ อ ปปิ ้ ง อยู ่ แล้ว คือซื้อได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ไปจนถึงเครือ่ งเขียน ของจุกจิก ขนม อาหาร ส�ำหรับวุ้น ทุกอย่างที่พูดมาถือเป็นการช้อปปิ้ง หมดเลยค่ะ …ที่ มี ค นเขาบอกว่ า การช้ อ ปปิ ้ ง สามารถ บ�ำบัดความเครียดได้ วุ้นก็รู้สึกว่าจริงนะคะ เพราะ เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง บางทีเครียดๆ พอได้ของที่ เราถูกใจ หรือเป็นของที่เราอยากได้มานาน ก็ช่วย ให้รู้สึกดีขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่ว่า เราได้ครอบ ครองของชิ้นนั้นแล้วนะ เป็นความรู้สึกของการได้ เป็นเจ้าของ …การท� ำ งานแบบที่ วุ ้ น ท� ำ อยู ่ ก็ เ ป็ น การ กระตุ้นให้รู้สึกอยากช้อปปิ้งเหมือนกัน (หัวเราะ) ด้วยความที่วุ้นอยู่กับของเหล่านี้ทุกวัน ก็จะล่อตา ล่อใจ แต่วุ้นท�ำงานนี้มานาน ประมาณ 6 ปีแล้ว ก็ เริ่มจะมีภูมิต้านทานขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อน ที่เรียกว่าช้อปปิ้งหนักเลย แต่พอต้องท�ำงานหาเงิน เอง เราจะรู้จักใช้จ่ายมากขึ้น …ส่วนใหญ่ การช้อปปิ้งของวุ้นจะไม่มีการ แพลนล่วงหน้า ว่าวันนี้จะไปช้อปอันนี้ พรุ่งนี้จะไป ช้อปอันนัน้ นะ จะเป็นการเดินๆ แล้วไปเจอมากกว่า แต่ถ้าเป็นช่วงที่เครียดจริงๆ จะไม่ค่อยได้ช้อปปิ้ง เลยค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีเวลาออกไปไหนอยู่ แล้ว อาจจะติดงาน หรือติดภารกิจอะไรบางอย่าง นอกเหนือจากช่วงยุ่งๆ ก็จะไม่ได้ก�ำหนดอะไรเลย ว่าเราต้องไปช้อปปิ้งตอนไหน หลังเลิกงาน หรือวัน หยุด ไม่เคยคิดล่วงหน้าขนาดนั้น …เวลาทีว่ นุ้ ได้ของอะไรกลับบ้าน จะเป็นวันที่ ไม่ได้ต้องการหาอะไรเป็นพิเศษ เดินๆ เล่นไป ก็มัก จะได้ของกลับบ้าน หรือเวลาไปท�ำงานที่เมืองนอก แล้วออกไปเดินเล่น ก็จะได้ของมาตอนนัน้ วุน้ ไม่ได้ เป็นคนทีต่ อ้ งเซตเวลาว่าเราจะช้อปปิง้ วันไหน ตอน ไหน ด้วยความที่วุ้นท�ำงานอยู่กับของประเภทนี้อยู่ แล้ว เห็นของอยู่ทุกวัน ท�ำงานก็มาท�ำที่ห้างฯ ต้อง
เข้าห้างฯ ทุกอาทิตย์อยูแ่ ล้วด้วย ก็กลายเป็นได้เห็น ของเหล่านี้ไปโดยปริยาย” แน่นอนว่า การจับจ่ายใช้สอยหลักๆ ของ แฟชั่นนิสต้าสาวอย่างวุ้น กุลกมล คงหนีไปพ้น เรื่องแฟชั่น และรองเท้าก็เป็นไอเท็มที่มักจะเรียก เงินจากกระเป๋าของเธอได้ก่อนสิ่งอื่นใด “วุ้นเป็นคนแต่งตัวหลากหลายสไตล์มากค่ะ วินเทจ คลาสสิค โมเดิร์น คอนเซ็ปต์ชวล สตรีท บางทีก็หวาน ซื้อได้ตั้งแต่หมวกแก็ป กระทั่งสไตล์ แกลม เป็นคนไม่มีสไตล์ที่ชัดเจน เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ ก็เลยค่อนข้างมีข้าวของประเภทนี้ เยอะมาก แต่ที่ชอบซื้อเป็นพิเศษคือ รองเท้า ด้วย ราคาของรองเท้า เราสามารถซือ้ ได้บอ่ ยกว่ากระเป๋า รองเท้าเป็นสิ่งที่เราต้องใช้สวมใส่ทุกวัน และวุ้น มองว่ารองเท้าเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมลุค ถ้าวันนี้เรา แต่งตัวเรียบๆ แต่ใส่รองเท้าเท่ๆ ก็ออกจากบ้านได้ แล้ว วุ้นจึงใส่ใจกับรองเท้ามากกว่าอย่างอื่น ยิ่งถ้า เพิง่ ซือ้ รองเท้าคูใ่ หม่มา จะตัง้ ใจเลยว่าจะใส่รองเท้า คู่นี้ล่ะ แล้วค่อยไปดูว่าจะใส่กับเสื้อผ้าแบบไหน …เวลาซื้อรองเท้า วุ ้นจะคิดก่อนว่ า เรามี รองเท้าสไตล์แบบนี้แล้วหรือยัง เมื่อก่อน วุ้นมัก จะซื้อรองเท้าซ�้ำ คือถ้าลองได้ชอบแบบไหน ก็จะ ซื้อแบบที่ใกล้เคียงกันมาก แค่มีอะไรที่แตกต่างไป นิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วดูเหมือนกัน พอหลังๆ ก็ เริม่ มานัง่ คิดว่า แบบนีเ้ รามีแล้วนะ ถ้าจะซือ้ รองเท้า อีกก็ไม่ควรแบบทีม่ แี ล้วล่ะ ต้องตัดใจว่ามันเหมือน กันเกินไป …แบรนด์รองเท้าทีว่ นุ้ ชอบ ก็อย่างเช่น Nicholas Kirkwood เพราะสไตล์ของเขาโดดเด่น ชัดเจน มาก มีลูกเล่น ใส่แล้วรู้เลยว่าเป็นแบรนด์นี้ แต่วุ้น ไม่มีก�ำลังซื้อ (หัวเราะ) แต่ชอบค่ะ ก็จะให้เป็นของ ที่ชอบไป แต่เราใส่คู่ที่เราจ่ายไหว คือการเลือกซื้อ รองเท้า นอกจากเรื่องแบรนด์ ความงาม เราก็ต้อง ดูราคาด้วย บวกกับดูวัสดุว่าคุ้มค่ากับราคาไหม ส่วนเรือ่ งแบรนด์ ส�ำหรับวุน้ ไม่ได้เป็นประเด็นหลัก ถ้าชอบก็ซอื้ ไม่ได้ยดึ ติดว่าต้องเป็นแบรนด์เนม ถ้า ถูกใจ วุ้นก็ซื้อ …เมือ่ ก่อนจะซือ้ รองเท้าส้นสูงเยอะ แต่พอมา ท�ำงาน ก็ไม่ค่อยได้ใส่รองเท้าส้นสูงแล้ว เนื่องจาก ว่าต้องขึ้นรถไฟฟ้า ต้องเดินเยอะ หลังๆ จึงใส่รอง เท้าแนวโลฟเฟอร์บ่อยหน่อย รองเท้ามือสอง วุ้น ก็ใส่ อย่างบูทวินเทจที่วุ้นมีก็เป็นมือสอง ที่ญี่ปุ่น ก็จะมีของวินเทจเยอะมาก น่าซื้อ เพราะคนญี่ปุ่น ใช้ของรักษาของดี และการันตีว่าเป็นของแท้จริงๆ รวมแล้ว รองเท้าของวุ้น ราคานี่ไม่กี่ร้อยก็มี ส่วนลิ มิตคือ 2 หมื่น หรือถ้าถึง 3 หมื่นนี่ต้องชอบมากๆ” สาววุน้ เสริมอีกว่า การเลือกซือ้ ของให้ตรงกับ นิสัยตัวเองก็เป็นสิ่งส�ำคัญ เธอยกตัวอย่างว่าตน
เป็นคนไม่ค่อยดูแลข้าวของมากนัก ดังนั้น รองเท้า ที่เธอจะติดมือออกมาจากชอป ต้องเป็นรองเท้า ที่ดูแลง่าย คงทน เว้นแต่รองเท้าที่ราคาสูง ใส่ใน โอกาสพิเศษจริงๆ จึงจะเก็บในถุงผ้า และน�ำออก มาท�ำความสะอาดเป็นครั้งคราว “เมื่อก่อน วุ้นจะซื้อของที ไม่ค่อยให้เวลากับ ตัวเองที่จะเลือกมากนัก แต่พอเราถึงวัยท� ำงาน ต้องท�ำงานหาเงินเอง จะกลายเป็นคนที่ค่อนข้าง เลือกไปโดยอัตโนมัติ วุ้นจะเลือกสิ่งที่เราสามารถ ใช้งานมันได้จริงๆ หรือถ้าชอบแล้วราคาโอเค ก็จะ ซื้อเลย แต่ถ้าราคาสูงไปหน่อย ก็คิดก่อน ขึ้นอยู่กับ สภาวะการเงินตอนนัน้ ด้วย ถ้าชอบมากๆ แต่ยงั ไม่ พร้อมจ่าย ก็รอได้นะ …ช่วงก่อนท�ำงาน ที่ยังไม่ได้หาเงินเอง วุ้น อาจจะจัดการเรือ่ งการช้อปปิง้ ของตัวเองไม่คอ่ ยได้ รองเท้าบางคู่ ซื้อมาก็ไม่เคยใส่ เจอส้นสูงสวยมาก พอซือ้ มาก็ไม่ใส่ เพราะใส่แล้วเจ็บ คือตอนลองใส่ที่ ร้าน เรารู้สึกโอเค แต่พอใส่จริง แล้วใส่ไม่ได้ ก็เก็บ เข้าตู้ไป แต่หลังๆ จะคิดนานขึ้นแล้ว จะซื้อรองเท้า ก็ควรที่จะใส่สบาย ใส่เดินได้หลายชั่วโมง ราคาอยู่ ในระดับทีเ่ ราจ�ำจ่ายได้ แม้กระทัง่ จะซือ้ ของขวัญให้ ใคร ก็ยังต้องคิดว่า เขาจะชอบหรือเปล่า จะใช้งาน ได้จริงหรือเปล่า เพราะไม่อยากซื้อไปแล้ว แล้วก ลายเป็นของที่วางไว้อย่างนั้น …หลักการช้อปปิ้งอย่างหนึ่งของวุ้นคือ อย่า ซือ้ เพราะราคาถูก หรือแปะป้าย Sale เราได้ของมา ในราคาถูกก็จริง แต่สดุ ท้ายอาจไม่ได้ใช้ เมือ่ ก่อนก็ มีพลาดอยู่ ด้วยราคาที่ถูกมาก อาจท�ำให้หน้ามืด เล็กน้อย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ แม้ราคาถูกมาก ก็ ต้องมองไกลๆ ว่าถูกแล้วได้ใช้จริงหรือเปล่า ใช้ได้ นานไหม เหมาะกับเราจริงๆ ไหม ไม่ใช่ว่าสินค้า แบรนด์เนมลดราคา ซื้อๆ ไปก่อนแล้วกัน อาจจะ ได้ใช้ แต่เชื่อเถอะค่ะ ค�ำว่า ‘อาจจะ’ จะแปลว่าไม่ ได้ใช้ในที่สุด ตอนนี้ค�ำว่า Sale ยังมีผลต่อวุ้นอยู่ นะ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รจู้ กั เลือก และประเมิน ความคุ้มค่าได้ดีขึ้น” บายเยอร์สาวแห่งมัลติแบรนด์ชื่อดังใน เมืองไทยฝากทิ้งท้าย ว่าทุกครั้งเมื่อซื้อ ควร ระลึกไว้เสมอ ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากของ สิ่งนั้นจริงๆ หรือไม่ และการช้อปปิ้ง จับจ่าย อาจท�ำให้เรารูส้ กึ ดีขนึ้ ก็จริง แต่หากจ่ายเกินตัว ช้อปเกินความพอดี อาจน�ำมาซึ่งการเป็นหนี้ หากเข้าข่ายนี้ การช้อปปิง้ ก็คงไม่สขุ เท่าไรนัก.
หน้า-ผม ธีรยุทธ จันอ้น 0193